พิมพ์หน้านี้ - <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 28-09-2015 13:41:26

หัวข้อ: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-09-2015 13:41:26


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0) 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0) 
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   


เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว


บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
   (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail   
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข  17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com.......................................                                                             

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย 

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
           
                                              :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:


แจ้งให้ทราบ

ฟิคเล่นกับไฟ ย้ายมาจากอีกเว็บหนึ่ง เพื่ออรรถรสในการอ่าน

โดยไม่ต้อง Cut

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

Belove

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-09-2015 13:47:41


                                        เล่นกับไฟ


                                          บทที่ 1


           ร่างผอมเพรียวนั่งเคาะนิ้วอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ สายตาจ้องอยู่กับตัวเลขข้อมูลรายรับของประเทศพลางครุ่นคิดถึงสกู๊ปข่าว

เศรษฐกิจในรอบไตรภาคแรกของปีที่ตนเองรับผิดชอบอยู่ คิ้วโก่งเรียวขมวดนิดๆพาดอยู่เหนือดวงตาหวานและจมูกได้รูปรับกับปากสี

แดงเรื่อธรรมชาติ ยิ่งเมื่อสวมใส่เสื้อเชิ้ตเนื้อดีตามสไตล์ของผู้สื่อข่าวด้านเศรษฐกิจ ทำให้ปาร์คจินยองเป็นชายหนุ่มหน้าหวานดูดีสะดุด

ตาคนมอง


         เสียงเอะอะดังขึ้นอยู่ตรงทางเข้าออฟฟิศสำนักข่าวชื่อดังของประเทศก่อนที่เจ้าของเสียงจะก้าวดุ่มๆไปที่โต๊ะของบรรณาธิการแล้ว

ยื่นรูปถ่ายในจอโทรศัพท์มือถือให้เจ้าของโต๊ะได้เห็น


         “คนโดดตึกฆ่าตัวตายอีกแล้วหัวหน้า”


           แดเนียล เฮนรี่ บรรณาธิการของสำนักข่าวเหลือบตามองภาพนั้นแล้วจึงเลิกคิ้วมองชายหนุ่มที่ทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม


           “คนตายสำคัญมากขนาดนายต้องเอามาให้ฉันดูเชียวรึ แจ็คสัน”


           “โห เจ้านาย ถ้าไม่สำคัญเจ้านายจะไม่ชายตามองเลยใช่ไหม”


           แจ็คสัน ผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรมส่งเสียงค่อนขอดเจ้านาย ก็แน่ล่ะ ถ้าคนตายเป็นแค่คนธรรมดาเขาก็คงไม่กล้านำเสนอให้

บรรณาธิการแสนเขี้ยวอย่างแดเนียลได้มองสภาพศพเป็นขวัญตาหรอก


           “นายคิมฮานิล เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ระดับประเทศโดดลงมาจากดาดฟ้าชั้น12ของตึกตัวเองตายคาที่ สำคัญพอจะให้

เจ้านายล้วงลูกหน่อยไหม”


           จินยองหูผึ่งขึ้นมาทันที ก็ใครเล่าจะไม่สนใจในเมื่อนายคิมฮานิลคนนี้เป็นนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งในสังคม แต่ได้ข่าวมาว่าบริษัท

ของนายคิมฮานิลกำลังเข้าสู่ยุควิกฤติเมื่อผประกอบการย่ำแย่ จินยองรู้ข่าวมาพักใหญ่แต่ไม่นึกว่ามันจะย่ำแย่ขนาดเจ้าของบริษัทถึงกับ

ฆ่าตัวตาย ชายหนุ่มขยับตัวหันไปเงี่ยหูฟังบทสนทนาที่มีต่อไป


           “ธุรกิจล้มละลายมั้ง ก็เลยแบกรับไม่ไหว”


           แดเนียลยกมือลูบคางอย่างใช้ความคิดแต่แจ๊คสันส่ายหน้าทันที


           “ไม่เชิงล้มละลายหรอกเจ้านาย ข่าวแว่วมาว่าโดนล้วงลูกจากบริษัทอื่น ให้ทายว่าใคร”


           “ใครกัน ถึงขนาดทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่ล้มครืนได้” แดเนียลมองลูกน้องอย่างสงสัย


           “ใครล่ะจะกล้า นอกจากอาณาจักรอันใหญ่โตของนายอิมแจบอม”


           อิมแจบอม!


         ปาร์คจินยองเงยหน้าขึ้นมาทันที ร่างสูงเพรียวลุกพรึบก้าวตรงไปร่วมวงสนทนาจนแจ็คสันเหลือบมองพลางอมยิ้ม


           “หึหึ นึกว่าจะไม่มาเสียแล้วจินยอง ชื่อของนายอิมแจบอมนี่เรียกนายได้เสมอนะ”


           จินยองยิ้มแค่มุมปาก เขาเอ่ยถามทันทีเมื่อเดินมาถึงโต๊ะของแดเนียล


           “อิมแจบอมเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับคิมฮานิล”


           แจ๊คสันยักไหล่


           “เฮ้ย! นี่นักข่าวอาชญากรรมโว้ย จะไปรู้ขนาดนั้นได้ไง ไอ้ที่รู้มานี่ก็ฟังมาจากสายสืบอีกทีแต่จะให้รู้ลึกไปถึงขนาดนั้นน่ะไม่รู้หรอก”


           “อิมแจบอมงั้นเหรอ” แดเนียลขมวดคิ้ว


           “ทายาทรุ่นปัจจุบันของตระกูลอิม ตระกูลที่เคยโด่งดังในเรื่องธุรกิจมืดที่ไม่เคยมีใครรู้ว่าทำอะไรกันแน่”


           จินยองกล่าวกับเจ้านายด้วยน้ำเสียงเฉยชา


           “ตระกูลที่เคยได้ชื่อว่าใช้อิทธิพลแหย่ขาเข้าไปในบริษัทต่างๆทะยอยซื้อหุ้นทีละนิดแล้วบ่อนทำลายก่อนเทคโอเวอร์จนบริษัท

เหล่านั้นปิดตัวลง”


           “จินยองรู้ละเอียดจังว่ะ” แจ็คสันกล่าวชมเพื่อนอย่างนึกทึ่ง “ไม่รู้ว่านายรู้เรื่องพวกนี้ด้วย”


           “รู้สิ ทำไม่จะไม่รู้ล่ะ” ดวงตาคู่หวานทอแสงวาบขึ้นมาทันที


           “น่าสนใจนะ ไม่เคยมีใครเจาะเข้าไปได้เลยงั้นหรือ แม้แต่หน้าตาของอิมแจบอมคนนี้ก็ยังไม่เคยมีใครเห็นนะว่าหน้าตายังไง”

แดเนียลเอ่ยด้วยน้ำเสียงกระตือรือล้น 


           “ถ้าใครสามารถล้วงความลับตระกูลนี้ได้ คงได้ข่าวเด็ดๆมาแน่ๆ”


           จินยองหันขวับไปหาแดเนียลทันที


           ภาพชายสูงอายุใช้ปืนจ่อขมับตนเอง ดวงตาสิ้นหวังหันมามองเด็กชายวัยสิบขวบที่วิ่งเข้ามาหาก่อนจะลั่นไกจนโลหิตคลุ้ง

กระจายแวบขึ้นมาในความทรงจำ จินยองกัดฟันแน่นขอบตาร้อนผ่าว


           “ถ้าเจ้านายต้องการ ผมจะเป็นคนทำข่าวเรื่องนี้เอง”







           “เอาจริงเร้อ เสี่ยงมากเลยนะเว้ยจินยอง”


           แจ็คสันเอ่ยปากทักท้วง เขานั่งอยู่บนขอบโต๊ะทำงานของปาร์คจินยองเพื่อนสนิทตั้งแต่มหาวิทยาลัยและได้มาทำงานด้วยกันที่

สำนักข่าวแห่งนี้


           “ไม่เสี่ยงแล้วจะได้ข่าวมาได้ไง” จินยองกล่าวเสียงเรียบในขณะที่สายตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์


           ข้อมูลของอิมแจบอม ทายาทคนปัจจุบันตระกูลอิมปรากฏอยู่หน้าจอแต่เขายังค้นหาภาพถ่ายไม่ได้แม้แต่ภาพเดียว ผู้ชายคนนี้

มีชื่อเสียงในวงสังคมถึงความหล่อเหลาและร่ำรวยแต่ยากที่จะเข้าถึงหากอิมแจบอมไม่ต้องการให้เข้าใกล้ ไม่มีใครรู้ว่าอิมแจบอมทำ

ธุรกิจอะไรกันแน่ รู้กันเพียงแต่ว่าเขามีทั้งเงินและอิทธิพล ยิ่งน่ากลัวก็ยิ่งอยากจะมีคนเข้าใกล้ยิ่งไม่รู้ก็อยากจะค้นหา แต่ยังไม่เคยมีใคร

ทำได้สำเร็จ


           มันต้องมีสักทางสิน่า ที่จะเข้าไปในบ้านหลังนั้น บ้านตระกูลอิม


           จินยองยกนิ้วขึ้นมากัดเหมือนทุกครั้งที่เขาใช้ความคิด


           “ทำไมอยากทำข่าวไอ้หมอนี่จังวะ” แจ็คสันพยักเพยิดไปที่จอคอมพิวเตอร์


           “อยากกระชากหน้ากากมันออกมาไงล่ะ ว่าสิ่งที่พวกมันทำลงไปเลวร้ายแค่ไหน  แจ็คสัน นายไม่รู้หรอกว่าตระกูลอิมน่ะทำลาย

ผู้คนไปมากมายเท่าไหร่”


           “แล้วทำไมนายต้องเป็นเดือดเป็นแค้นด้วย ไม่เข้าใจเลยจินยอง อ๊ะ! เลื่อนไปดูหน้าเมื่อกี้สิ”


           “รับสมัครครูพี่เลี้ยงเหรอ”


           ดวงตาคู่หวานเบิกกว้างเมื่ออ่านรายละเอียดของข่าวสารจากตระกูลอิม


           “คุณสมบัติต้องเป็นผู้ชาย และต้องเข้าไปพักอาศัยในบ้านตระกูลอิมได้”


           “จินยอง อย่าบอกนะโว้ยว่านายจะ…”


           มุมปากคลี่ยิ้มอย่างถูกใจ ดวงตาเต็มไปด้วยหมายมาด


           “ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะได้ลูกเสือหรือแจ็คสัน”







           ในที่สุดปาร์คจินยองก็มาหยุดยืนอยู่หน้าตึกสูงที่ทำการใหญ่ของตระกูลอิม เมื่อเขาติดต่อผ่านบริษัทจัดหางานจนกระทั่งผ่านการ

คัดเลือกให้มาที่นี่ นายหน้าจัดหางานบอกเขาว่าเคยส่งครูผู้หญิงเข้าไปแล้วหลายคนแต่ไม่มีใครอยู่ได้เกินสามเดือนสักคน จนกระทั่ง

คราวนี้อิมแจบอมต้องการให้ส่งครูผู้ชายเข้าไปแทน นายหน้าคนนั้นดีใจยกใหญ่ที่เขามาสมัครงานเพราะชื่อเสียงความร้ายกาจที่ครูแต่ละ

คนได้รับเมื่อกลับออกมาทำให้ไม่มีใครกล้ามาสมัครอีก แต่ก่อนจะได้งานจินยองต้องมาให้คนของตระกูลอิมสัมภาษณ์ก่อน


           สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆเรียกความมั่นใจตรวจดูเอกสารสมัครงานในมือก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปภายในตึกใหญ่ ประชาสัมพันธ์

สาวสวยแนะทางให้เขาก้าวไปที่ลิฟท์ หัวใจของจินยองเต้นตุบๆอย่างตื่นเต้นเมื่อประตูลิฟท์เปิดที่ชั้น7


         เงียบ!


         เขาก้าวออกมายืนงงอยู่หน้าลิฟท์


           มีแต่ทางเดินร้างผู้คน ทั้งที่ชั้นอื่นคราคร่ำไปด้วยพนักงาน แต่ชั้นนี้กลับแตกต่างจนจินยองต้องกลืนน้ำลาย ชายหนุ่มรวบรวม

ความกล้าก้าวเดินไปตามทาง


           “ผิดชั้นหรือเปล่า ชั้นนี้ไม่เห็นจะมีใครเลย”


           พึมพำกับตัวเองเมื่อมองไม่เห็นใครจนมาถึงทางเลี้ยว เขาตัดสินใจเดินต่อ


           “โอ๊ะ!”


           จู่ๆจินยองก็หงายหลังไปกองกับพื้นเมื่อเดินเลี้ยวไปชนกับอะไรบางอย่าง เขาสะบัดหน้ายกมือกุมหน้าผากพร้อมกับที่เงยหน้า

มองต้นเหตุ


           อ่า


         ใครวะ


         ผู้ชายร่างสูงพอกับเขาแต่ว่าไหล่กว้างกว่าซ่อนอยู่ในชุดสูทเรียบหรูที่ยิ่งส่งเสริมให้หน้าขรึมดูดีกว่าเดิมจนเรียกได้ว่าหล่อเหลา

หากไม่ติดว่าดวงตาคู่นั้นจะดุกร้าวเมื่อก้มหน้ามองเขาโดยที่ไม่คิดแม้แต่จะช่วยให้จินยองลุกขึ้นมา จนคนที่กองอยู่กับพื้นต้องกระเสือก

กระสนลุกขึ้นมาเองพร้อมสีหน้าไม่พอใจ


           “นี่ไม่คิดจะขอโทษสักคำเลยหรือไง เสียมารยาท”


           เงียบ!


         มีแต่สายตาดุที่มองหน้าเขาอย่างคาดเดาความรู้สึกไม่ถูกทำให้จินยองยิ่งเดือดเข้าไปอีก


           “จ้องเข้าไป หน้าผมไปเหมือนญาติฝ่ายไหนของคุณเนี่ย พนักงานที่นี่ไร้มารยาทแบบนี้หรือ อ๊ะ!”


         อุทานด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆท่อนแขนถูกกระชากพร้อมทั้งปลายคางก็ถูกบีบจนหน้าเหยเก จินยองอ้าปากจะโวยวายแต่เมื่อเห็น

นัยน์ตาดุที่จ้องมาทำให้เขาต้องงับปากตัวเองลง


           น่ากลัวชะมัด


           “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ให้ใครก็ได้มาเดินเล่น”


           เสียงก็ดุ


           “ผมไม่ได้มาเดินเล่น ผมมาสมัครเป็นครูไปสอนที่บ้านคุณอิมแจบอมเจ้านายของคุณ ปล่อยผม”


           “ครูงั้นรึ”


           “ก็ใช่น่ะสิ ปล่อยได้หรือยังไอ้คนมารยาททราม”


           พยายามสะบัดท่อนแขนแต่มือแกร่งนั้นบีบแน่นราวกับคีมเหล็ก มือที่กระชับปลายคางก็ยิ่งแน่นหนาจนไม่สามารถเบือนหน้าหนี

จินยองใจเต้นอย่างระส่ำระสายเมื่อริมฝีปากของคนตรงหน้าคลี่ยิ้มออกมา


           นิดเดียว นิดเดียวจริงๆ สำหรับรอยยิ้มจากคนที่มีทีทีท่าโอหังก่อนจะกลับคืนสู่สภาพเดิมทันที


           “ครูอะไรปากเสีย”


           “นี่ นาย!”


           จินยองชักโมโห อารมณ์คุกรุ่นเบียดบังความตื่นกลัวออกไปจนกล้าขึ้นเสียง


           “ปากผมเสียเฉพาะกับคนไม่มีมารยาทอย่างนายเท่านั้นแหละ ปล่อยสิวะ”


           ดวงตาดุเรืองแสงขึ้นมาเมื่อเห็นพยศของจินยองที่ทั้งสะบัดแขนไปมาและพยายามก้มหน้ามากัดนิ้วของเขาจนสำเร็จ หน้าดุนิ่ว

หน้าเมื่อหนุ่มอีกฝ่ายยังกัดอยู่ที่นิ้วเขาไม่ยอมปล่อยก่อนเขาจะตัดสินใจปราบพยศเจ้าหนุ่มแปลกหน้า


           ปาร์คจินยองตัวแข็งทื่อดวงตาเบิกโพลงอย่างตื่นตะลึงเมื่อเอวคอดถูกรวบเข้าไปเบียดกับร่างที่ฟิตด้วยกล้ามเนื้อและนิ้วที่เขากัด

อยู่ก็กระชากออกแล้วกลีบปากของเขาถูกปิดกั้นคำด่าไว้ด้วยปากของหมอนั่น


            “อื้อ!”


           ยิ่งดิ้นวงแขนก็ยิ่งรัดแน่น เรียวปากแม้จะเม้มหนีแต่ก็ยังถูกตามราวีไม่เลิกรา อ้าปากจะด่าก็ยิ่งสบโอกาสให้ลิ้นร้อนผลุบเข้ามา

ตวัดเกาะเกี่ยวไปกับลิ้นของเขาดูดกลืนแย่งอากาศจนจินยองแทบขาดใจ ขอบปากถูกไล่ขบเม้มจนหมดแรงดิ้นรน ปล่อยให้คนฉวย

โอกาสตักตวงจูบแรกไปจนพอใจและผละปากออกเอง พร้อมมองเขาด้วยสายตาที่จินยองอยากจะกลายเป็นอากาศแล้วหายวับไปจาก

ตรงนี้เสียให้ได้


           ไม่ทงไม่ทำแล้ว ครูบ้าบอ


           จินยองตวัดมือเข้าหน้าดุดังฉาด ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปที่ลิฟท์ตัวเดิมที่ยังคงหยุดอยู่แค่ชั้นนี้ โดยไม่ทันได้เห็น คนหน้าดุเลิกคิ้ว

น้อยๆเมื่อยกมือลูบหน้าตัวเอง ร่างสูงก้มลงเก็บเอกสารสมัครงานที่ตกกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาอ่าน


                       “ปาร์คจินยองงั้นหรือ”








           “เรื่องสมัครเป็นครูพี่เลี้ยงอ่ะ ถึงไหนแล้วจินยอง”


           ชายหนุ่มเม้มปากเมื่อแดเนียลเอ่ยถามความคืบหน้าเมื่อเขามาทำงานตามปกติ เหตุการณ์ที่ตึกตระกูลอิมทำให้ใบหน้าร้อนเห่อ

ขึ้นมา


           “คงไม่สำเร็จครับแดเนียล เดี๋ยวผมจะลองหาวิธีอื่น”


           เสียงข้อความดังเตือนจากโทรศัพท์มือถือ จินยองหยิบมันขึ้นมาอ่าน ข้อความจากนายหน้าจัดหางานทำให้เขากระพริบตาปริบๆ


           “ยินดีด้วยคุณปาร์ค คุณได้รับงานครูพี่เลี้ยงที่บ้านตระกูลอิมแล้ว”





TBC



หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-09-2015 14:15:57
อื้อหือ ตอนแรกก็ส่อแววจะโดนไฟซะแล้ว
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-09-2015 15:24:34


                                เล่นกับไฟ

                                  บทที่ 2


     “เอาแน่หรือ ไปแน่ๆใช่ไหม  ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ”


           แจ็คสันเอ่ยถามในขณะนั่งมองเพื่อนเก็บของลงกระเป๋า ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรมากมายนอกจากเสื้อผ้าไม่กี่ชุดและ

อุปกรณ์มือถือแท็บเล็ตกับแล็ปท็อปรุ่นเก่าตัวเก่งเท่านั้น สายตาของเขามองจินยองอย่างห่วงใย


           ใช่! ดูเหมือนว่าจะห่วงใยเป็นพิเศษ เขาถอนหายใจออกมาเมื่อยอมรับความรู้สึกของตนเอง เขารู้ตัวมานานแล้วว่า

สิ่งที่มีให้จินยองนั้นมันเกินความเป็นเพื่อนมาโดยตลอด


           เขาหลงรักปาร์คจินยอง


           หลงรักทั้งหน้าตา หลงรักทั้งนิสัยอ่อนโยนแต่เข้มแข็ง เขาเก็บมันไว้ภายในใจเท่านั้นเพราะรู้ดีว่าจินยองไม่ได้มี

ความคิดเช่นเดียวกับเขา แจ็คสันดูออก สิ่งที่ทำได้คือมอบความห่วงใยในฐานะเพื่อนอย่างเช่นตอนนี้เมื่อจินยองกำลัง

เก็บของเตรียมตัวไปทำงานที่บ้านตระกูลอิม


           “โอกาสครั้งเดียว ถ้าไม่คว้าไว้ก็จะชวดทุกอย่างนะ”


           จินยองพึมพำเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า มือเรียวคว้ารูปเก่าสีจางจากสมุดบันทึกเล่มหนึ่งขึ้นมาแล้วจ้องพัก

ใหญ่ก่อนสอดกลับไว้ที่เดิม ดวงตาชื้นกระพริบเบาๆ ไล่หยดน้ำ


           “จินยอง” แจ็คสันก้าวเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้า “ระวังตัวด้วย นายจะต้องเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ ถ้าเกิดอะไรขึ้น

คิดถึงเราเป็นคนแรกนะ รู้ไหม”


           จินยองพยักหน้ารับ ริมฝีปากแดงเรื่อคลี่ยิ้มให้เพื่อนสนิท เขาพร้อมแล้วที่จะไปเผชิญกับสิ่งที่คาดเดาไม่ออก แต่

เขาจะเปิดโปงมันออกมาให้ได้กับการกระทำอันเลวทรามของตระกูลอิม



           ปาร์คจินยองลากกระเป๋าเดินทางมาหยุดอยู่ที่หน้าตึกบัญชาการที่เคยมาเมื่อหลายวันก่อน เขาได้รับการนัดหมาย

จากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งให้มารออยู่ที่นี่ ยืนรอไม่นานนักรถยุโรปสีดำขัดเงาจนมันปลาบก็แล่นมาหยุดอยู่ตรงหน้า


           “คุณปาร์คจินยองใช่ไหม”


           หนึ่งในสองของบุรุษที่นั่งอยู่ตอนหน้าของรถก้าวลงมาแล้วเอ่ยถาม จินยองพยักหน้ารับ ชายคนดังกล่าวยก

กระเป๋าของเขาใส่ไว้ท้ายรถก่อนจะก้าวมาหยุดยืนเบื้องหลังของเขา แล้วทันใดนั้นผ้าสีดำก็คาดมาที่ดวงตา


           “อะไรกันเนี่ยคุณ”


           “ช่วยยืนนิ่งๆด้วยครับ เราจำเป็นต้องปิดตาคุณ”


           ร่างเพรียวของจินยองถูกดันให้ก้มหัวเข้าไปนั่งอยู่บนรถ จินยองได้แต่เม้มปากอย่างขัดใจ


           แม้แต่ทางไปบ้านหลังนั้นยังถูกปิดบังไม่ให้จำได้ นี่มันมาเฟียชัดๆ!


           รถยนต์ขับไปอย่างนิ่มนวลและปราศจากเสียง สองคนด้านหน้าไม่มีคำพูดใดๆแม้แต่คำเดียว จินยองต้องทน

อึดอัดกับความเงียบและความมืดจากผ้าคาดตาจนเผลอหลับไป ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนไหล่ของเขาจึงได้ถูก

สะกิดเบาๆ


           “คุณปาร์ค ตื่นได้แล้วครับ มาถึงคฤหาสถ์อิมแล้ว”


           สะดุ้งตื่นขึ้นมา จินยองกระชากผ้าปิดตาออกแล้วรีบลงมาจากรถ ทันใดนั้นเขาก็ต้องตะลึงเมื่อมองเห็นสิ่งก่อสร้าง

ที่ตั้งอยู่เบื้องหน้า ท่ามกลางภูเขาสูงที่ตั้งอยู่เบื้องหลัง บริเวณบ้านมีเนื้อที่หลายร้อยเอเคอร์ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่

จินยองหันกลับไปมองทางสำหรับรถแล่นยังมองไม่เห็นประตูรั้วเสียด้วยซ้ำ


          ตัวบ้าน ไม่สิ คฤหาสถ์งดงามตั้งเด่นเป็นสง่า หน้ามุขบนสุดของชั้นบนมีระเบียงยื่นออกมาให้เจ้าของห้องได้ออก

มายืนมองสวนกว้างที่ตกแต่งไปด้วยพันธุ์ไม้นานาพรรณ จินยองอ้าปากค้างกับความโอ่อ่าพักใหญ่กว่าจะรู้สึกตัวและก้าว

เข้าไปด้านในการตกแต่งก็ช่างงดงาม บรรดาสาวรับใช้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เหมือนกันกำลังทำความสะอาดอย่างขมัก

เขม้น มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนเด่นเป็นสง่าคอยควบคุมการทำงานอยู่ หญิงสาวคนนั้นหันมามองจินยองทันทีที่ก้าวไปถึง

สายตาเฉยชามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า


             “คุณเป็นใคร”


              “ผมเป็นครูพี่เลี้ยงที่ถูกส่งมาครับ” จินยองตอบกลับพร้อมรอยยิ้มผูกมิตรแต่ได้รับแต่ความว่างเปล่ากลับมาเมื่อ

เจ้าหล่อนไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม


             “ไม่รู้ว่าคุณชายแจบอมจะคิดถูกหรือคิดผิดที่ส่งครูพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ชายมาดูแลคุณหนู”


             เสียงบ่นพึมพำจนทำให้เจ้าตัวดูสูงอายุเกินวัย ทั้งที่ความจริงก็ยังงดงามในวัยสาวใหญ่ จินยองยังไม่เข้าใจนัก

ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าเขาจะต้องมาเป็นครูให้ใครในเมื่อไม่มีคำอธิบายให้รู้สักนิด เขารู้มาจากนายหน้าจัดหางานเพียงแค่

ว่าเคยส่งครูผู้หญิงไปหลายคน ถ้าไม่กลับมาพร้อมกับอาการหวาดกลัวบางคนก็หายไปจากคฤหาสถ์โดยตามหาตัวไม่พบ

ครั้งนี้ทางตระกูลอิมจึงขอให้หาครูพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ชายส่งไป นักเรียนที่เขาต้องมาสอนอาจจะเป็นลูกชายของอิมแจบอม

ก็ได้ จินยองได้แต่คาดเดา


           “ก็หวังว่าคงจะอยู่ได้นานกว่าแม่พวกสาวๆพวกนั้นนะ เอาล่ะ ฉันชื่อ ยูริ เป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่ ตามฉันมาที่ห้องพัก

ของคุณ…”


           “ผมชื่อปาร์คจินยอง”


           ยูริหันขวับมาจ้องหน้าจนจินยองอึดอัดก่อนจะหันกลับไปด้วยอาการคอแข็งเช่นเดิม


           “ไม่มีอะไรหรอก ฉันเคยรู้จักใครคนหนึ่งในอดีตที่นามสกุลเดียวกับคุณ”


           จินยองใจเต้น ใครกันนะที่ยูริบอกว่าเคยรู้จัก เขาก้าวตามยูริขึ้นไปบนชั้นสอง ยูริเดินนำเขาไปตามปีกทางเดินฝั่ง

หนึ่งของคฤหาสถ์ จินยองลอบสังเกตจึงเห็นว่าห้องหับที่นี่มีมากมายหลายห้องเสียเหลือเกิน มันทำให้เขานึกหนักใจใน

การตามล่าหาความจริง


           ยูริหมุนลูกบิดประตูห้องหนึ่งแล้วผลักประตูก่อนก้าวเข้าไป จินยองเดินตามมาหยุดอยู่กลางห้อง มันเป็นห้องที่ไม่

ได้ใหญ่โตมากแต่ก็ยังหรูหรากว่าห้องแคบๆของอพาร์ตเมนท์ที่เขาอาศัยอยู่


           “นี่คือห้องของคุณ อีกหนึ่งชั่วโมงออกมาพบกับฉันตรงลานหน้าบันได ฉันจะพาคุณไปพบคุณหนูที่คุณต้องดูแล”


           พูดจบยูริก็เดินออกไป จินยองรีบก้าวไปล็อคประตูแล้วก้าวไปยังกระเป๋าเดินทางที่ตั้งไว้อยู่ตรงปลายเตียง นี่คน

ของอิมแจบอมคงยกขึ้นมาจากรถยนต์คันนั้นมาไว้ที่นี่ เขารีบเปิดกระเป๋ากางออกก่อนจะตกใจเมื่ออุปกรณ์หากินอย่าง

แล็ปท็อปกับแท็บเล็ตอันตรธานไปจากกระเป๋าเสียแล้ว


           “เฮ้ย มันหายได้ไงวะ” สบถอย่างหงุดหงิด แต่อย่างน้อยก็ยังมีโทรศัพท์มือถือที่เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงที่ยังอยู่

กับตัว จินยองรีบจัดเสื้อผ้าไม่กี่ตัวเข้าตู้พลางซ่อนสมุดบันทึกไว้ในช่องลับของกระเป๋าเดินทาง ไม่ทันถึงหนึ่งชั่วโมงเขาก็

มารอยูริอยู่ตรงหน้าลานอเนกประสงค์หน้าบันไดทางลงไปชั้นหนึ่ง ไม่นานยูริก็ก้าวขึ้นมา


           “ตรงเวลาดีนี่”


           “ของบางอย่างหายไปจากกระเป๋าเดินทางของผม”


           ยูริขมวดคิ้ว


           “เราจำเป็นต้องยึดไว้ ที่นี่ไม่อนุญาตให้นำอุปกรณ์คอมพิวเตอร์มาใช้นอกจากเป็นอุปกรณ์ที่มีอยู่แล้วในคฤหาสถ์

แห่งนี้”


           การป้องกันเป็นเยี่ยม ถ้าเขาใช้คอมพิวเตอร์ที่มีในบ้านก็ไม่รู้ว่าจะมีตัวกรองอะไรหรือเปล่า นึกหนักใจครามครัน

กับอุปสรรคตั้งแต่ก้าวแรกในบ้านหลังนี้ แต่จินยองก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ


           “ได้เวลาที่คุณจะได้พบคุณหนูแล้ว ตามฉันมา”


           คุณหนูที่ว่า หากเป็นลูกของอิมแจบอมจริงคงจะยังเป็นเด็กเล็กมาก อาจจะป้องกันลูกตนเองจากบุคคลภายนอก

จึงจำเป็นต้องให้เรียนหนังสืออยู่แต่ในบ้าน จินยองคาดคะเนพร้อมกับเดินตามหลังยูริจนไปทางอีกปีกหนึ่งของคฤหาสถ์

ยูริหยุดเดินหน้าประตูบานหนึ่ง หล่อนสูดหายใจเข้าปอดแล้วจึงเคาะประตูก่อนจะผลักเข้าไป


           “คุณหนูคะ คุณครูคนใหม่ของคุณหนูมาแล้วค่ะ อุ๊บส์ ทำไมคุณหนูทำอย่างนี้ล่ะคะ จะปาตุ๊กตาใส่ยูริทำไม คุณหนู

แบมแบม”


           ทุกอย่างที่จินยองคาดการไว้ผิดถนัด คุณหนูที่เขาต้องมาเป็นครูพี่เลี้ยงไม่ใช่เด็กเล็ก หากแต่เป็นหนุ่มน้อยหน้า

ตาดีร่างบอบบางที่นั่งทรงตัวอยู่บนรถเข็นต่างหาก!


           ยูริหน้าบึ้ง หล่อนก้มลงเก็บตุ๊กตาที่คุณหนูของหล่อนขว้างใส่ก่อนแนะนำด้วยเสียงห้วนสนิท


           “คุณหนูแบมแบม เป็นน้องชายของคุณชายแจบอม คือคนที่คุณครูจะต้องดูแลนับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป”


           ยูริก้าวออกไปจากห้องพร้อมเสียงปิดประตูดังปัง ทิ้งไว้ให้จินยองเผชิญหน้ากับคุณหนูแบมแบมตามลำพัง จิน

ยองใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการสังเกตนักเรียนของเขา


           หน้าเรียว จมูกโด่งตาคม ถ้ายิ้มเสียหน่อยจะน่ารักมาก หากแต่นักเรียนของเขากลับหน้าบึ้งเหมือนเด็กถูกขัดใจ

ร่างผอมทรงตัวอยู่บนรถเข็นที่หยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าต่างห้อง เพื่อมองออกไปเบื้องนอกซึ่งก็คือสวนของบ้านนั่นเอง


           “สวัสดีครับคุณหนูแบมแบม ครูชื่อ…”


          “ออกไป!”


        “เรามาทำความรู้จักกันก่อนดีไหม”

 
          “บอกให้ออกไปจากห้องไงเล่า”


          เสียงตะโกนอย่างเอาแต่ใจทำให้จินยองอยากจะส่ายหน้า นี่ดีว่าเขาเป็นคนใจเย็นพอ ถ้าหากว่าคุณหนูแสนดื้อ

คนนี้ได้เจอกับคนใจร้อนอย่างแจ็คสันเพื่อนเขา ก็คงจะมีเรื่องกันตั้งแต่คำทักทายประโยคแรกทีเดียว

           รถเข็นไฟฟ้าราคาแพงถูกบังคับโดยเจ้าของให้เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ แบมแบมยกมือผลักไสคุณครูคนใหม่ของเขา


          “ไม่อยากเรียนอะไรทั้งนั้น เบื่อ ไม่ต้องมาสอน ทุกคนก็เห็นเราเป็นแค่คนพิการ เราไม่อยากเจอหน้าใคร”


           “แต่ว่าคุณหนู”


           “ไปให้พ้น”


          จินยองยกมือปัดป้องเมื่อแบมแบมใช้มือผลักไสพลางส่งเสียงตะโกนลั่น แบมแบมผลักเขาจนล้มลงอยู่กับพื้น

และยังคงไม่หยุดมือจนกระทั่งเสียงบานประตูถูกผลักเข้ามาหยุดการกระทำของแบมแบมลงได้

           จินยองเงยหน้ามองบุคคลที่ก้าวเข้ามาในห้อง ร่างสูงที่ยืนอย่างสง่าทำให้จินยองอ้าปากค้าง เขารีบลุกขึ้นยืน

ก่อนมองคนมาใหม่อย่างกรุ่นโกรธ


           “นายคนนั้น”


           นายคนนั้น คนที่พบกันที่ตึกบัญชาการตระกูลอิม คนมารยาททรามที่โขมยจูบแรกไปจากเขา


           “นายมาที่นี่ได้ยังไง ห้องนี้มันห้องของ…”


          “พี่ชาย วันนี้พี่ชายกลับมาหาผมแล้ว”

           จินยองนิ่งอึ้ง เบิกตากว้าง

           ไอ้คนมารยาททราม ไอ้คนที่ทำให้เขาต้องเก็บไปคิดถึงจูบอันหนักหน่วงอยู่หลายวัน

           คนๆนั้นคือพี่ชายของคุณหนูแบมแบม


           งั้นผู้ชายคนนี้ก็คือ อิมแจบอม งั้นหรือ                  



TBC


หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 28-09-2015 18:55:25
ตามมาจากทวิตแล้วนะคะ สมัครสมาชิกเรียบร้อย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-09-2015 20:43:01
เรื่องใหม่มาอีกแล้วววว
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 3 #BNior
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-09-2015 21:08:41
                                   
                                           เล่นกับไฟ

                                             บทที่ 3


           ปาร์คจินยองก่นด่าตนเองที่พลาดจากการสังเกต เขาควรจะรู้ว่าชั้นบนสุดของตึกใหญ่ตระกูลอิมที่เกือบจะร้าง

ผู้คนนั้นเป็นเพราะอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะทั้งชั้นมีเพียงผู้ชายคนนี้ครอบครองอยู่ต่างจากชั้นอื่นๆที่มีพนักงานทำงานกันให้

ขวักไขว่

           และที่สำคัญ ผู้ชายที่เขาต้องการมาสืบข้อมูลนั้นเป็นคนที่ชิงจูบไปจากเขา

           ราวกับจูบที่ผ่านมาหลายวันนั้นเพิ่งเกิดเพียงไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา เมื่อจินยองได้สบตากับดวงตาดุริมฝีปากของเขา

ก็ร้อนเห่อขึ้นมาจนต้องเม้มปากแน่น

           หัวใจของเขาเต้นโครมครามเมื่ออิมแจบอมเริ่มก้าวเดิน เดินตรงเข้ามา ใกล้มาก ใกล้จนได้กลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆ

ลอยเข้าจมูกเมื่อเขาเผลอสูดลมหายใจเข้าจากการกลั้นใจอยู่พักใหญ่ และเขาก็ถึงกับสะดุดลมหายใจของตนเองเมื่อร่าง

สูงนั้นเดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่มีคำทักทายใดๆทั้งสิ้น


           “ว่าไงหนุ่มน้อยของพี่ วันนี้เป็นเด็กดีหรือเปล่า”


           อิมแจบอมเดินผ่านเขาเข้าไปโน้มตัวลงกอดร่างบอบบางที่นั่งอยู่บนรถเข็น ใบหน้าที่ก้มลงมองน้องชายกลับอ่อน

โยนจนไม่นึกว่าจะเกิดขึ้นได้ รอยยิ้มเพียงเล็กน้อยทำให้ใบหน้านั้นสว่างไสวจนหัวใจของจินยองกระตุกแปลกๆ


           “ดีอยู่แล้วครับ แบมไม่ดื้อ”


           หน้าเรียวหวานราวกับเด็กผู้หญิงยู่หน้าใส่พี่ชายจนคนเป็นพี่ต้องโคลงหัวพลางวางมือไว้บนศีรษะน้องชายแล้ว

โยกเบาๆ


           “แต่ยูริบอกพี่ว่าแบมแบมไม่ยอมกินข้าว”


           “ยูรินิสัยไม่ดีชอบฟ้อง พี่แจบอมต้องเชื่อน้องชายสิครับ”  แบมแบมหน้าบึ้งเหมือนเด็กที่ถูกขัดใจ


           “เอาเถอะ อย่าว่ายูริเลย แบมแบมดูทีวีต่อเถอะนะ พี่ชายจะขอคุยกับคุณครูคนใหม่ของแบมแบมหน่อย”


           จินยองสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆตาดุก็หันขวับมาทางเขา


           “ตามมา” แถมด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนจะก้าวกลับไปทางประตูแล้วเดินออกไป จินยองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

เรียกความมั่นใจกลับคืนมา


           เมื่อเขากล้าที่ก้าวเข้าสู่ถ้ำเสือ เขาก็ต้องกล้าที่จะต่อสู้กับมัน


           คุณครูคนใหม่รีบก้าวเดินตามไปภายนอกห้องของคุณหนูแบมแบม แจบอมก้าวเร็วจนเขาอยากจะต่อว่า แทบจะ

วิ่งตามอยู่แล้วเมื่อแจบอมเลี้ยวเข้าไปยังประตูบานหนึ่ง จินยองที่ก้าวตามเข้าไปต้องชะงักเมื่อเขาเลี้ยวเข้าประตูและชน

เข้ากับแผ่นหลังกว้างที่หยุดยืนนิ่ง


           ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนสักนิดแม้ว่าเขาจะชนอย่างแรง แผ่นหลังกว้างค่อยหันมามองด้วยแววตาที่จินยองเดาไม่ถูก

ก่อนเขาจะก้าวไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ของห้อง ถึงตอนนี้เขาเพิ่งสบโอกาสลอบมองไปทั่วๆ จึงพอเดาได้ว่าห้องนี้น่าจะ

เป็นห้องทำงานเนื่องเพราะโต๊ะทำงานที่มีเอกสารว่างอย่างไม่เป็นระเบียบนักและคอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ด้านข้างของโต๊ะ

ทำงาน ฝั่งผนังอีกด้านมีเก้าอี้โซฟาตั้งอยู่ แจบอมหยิบเอกสารชุดหนึ่งมาถือไว้ในมือก่อนจะหันหน้ามามองจินยอง


            “ปาร์คจินยอง”


           เขาก้มหน้าอ่านชื่อจากเอกสารในมือ จินยองเชิดหน้าสูงรับชื่อตัวเอง


           “นายลืมเอกสารสมัครงานไว้ที่บริษัท”


           ไม่ได้ลืม แต่ไม่ได้ใส่ใจเมื่อมันตกกระจายอยู่บนพื้นในวันนั้นต่างหาก ก็เพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้านั่นแหละ

ทำให้เขาลืมทุกสิ่ง


           “แต่ก็ดี มันทำให้ฉันได้อ่านมันอย่างละเอียดจนตัดสินใจรับนายมาเป็นครูคนใหม่ของแบมแบม”


           “ทำไมคุณถึงเลือกผม” จินยองถามเสียงเข้ม ทำให้แจบอมก้าวเดินมายังเขาแล้วจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา มุม

ปากกระตุกยิ้มเพียงเล็กน้อย เขากระชากไหล่จินยองเข้าใกล้จนจินยองต้องรีบฝืนตนเองไว้


           คุณพระ!

           หัวใจของเขาเต้นเร็วเหลือเกิน


           “เหตุผลคือปากของนายเชิญชวนให้ฉันจูบนาย เหมือนอย่างตอนนี้”


           จินยองหยุดหายใจดวงตาเบิกโพลงเมื่อแจบอมดึงไหล่เขาเข้าไปหาก่อนเลื่อนหน้าเข้ามาจนริมฝีปากประกบกัน

แน่น จินยองพยายามดิ้นรนหนีแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อแจบอมเลื่อนมือไปที่แผ่นหลังแล้วดันเข้ามาให้ร่างกายผอมบางของจิน

ยองแนบชิดไปกับร่างของเขา


           “ปล่อย ปล่อยนะ อะ อึก”


           วินาทีที่จินยองเปิดปากเพื่อส่งเสียงห้ามปลายลิ้นชื้นก็ผลุบเข้ามา ร่างบอบบางถึงกับหอบตัวโยนเมื่อลิ้นนั้นกวาด

ไล้ไปทั่วโพรงปาก แทบขาดใจกว่าที่แจบอมจะถอนลิ้นและผละริมฝีปากออกไป จินยองหอบหายใจถี่ยิบกว่าจะเรียกสติ

กลับคืนมาได้ เขาผลักไสให้แจบอมปล่อยเขาแล้วจึงก้าวถอยหลังหนีพลางจ้องมองอย่างเคียดแค้น


           “ผมจะไม่ทำงานที่นี่ ผมต้องการกลับไปในเมือง”


           รอยยิ้มหยันเกิดขึ้นบนใบหน้าสงบนิ่ง


           “ไม่มีใครไปจากที่นี่ได้ถ้าฉันไม่ได้สั่ง ปาร์คจินยอง นายต้องเลือกว่าจะทำงานเป็นครูสอนหนังสืออยู่ที่นี่ หรือจะ

ออกไปจากบ้านหลังนี้เพียงร่างกายที่ไม่มีลมหายใจ”


           “ผมรู้แล้วว่าทำไมไม่มีครูคนไหนทนทำงานที่บ้านหลังนี้ได้”


           จินยองกัดฟันเถียง เขาไม่อยากให้อิมแจบอมรู้ว่าเขาเริ่มหวาดหวั่นเมื่ออยู่ใกล้ชายคนนี้ แจบอมเลิกคิ้วใส่แทน

คำถามเขาเองก็อยากจะเห็นฤทธิ์ของคนตัวผอมๆบางๆอยู่เหมือนกัน


           “ก็เพราะว่าไม่มีใครทนได้หรอกกับเจ้าของบ้านที่บ้าอำนาจป่าเถื่อนและเอาแต่ใจตัวเองขนาดนี้”


           บ้าอำนาจ ป่าเถื่อน เอาแต่ใจตัวเอง


           อิมแจบอมมองใบหน้าเรียวสวยที่มีปากอิ่มเย้ายวนประกอบอยู่บนใบหน้านั้นอย่างนึกทึ่ง ไม่เคยมีใครกล้าต่อว่า

ด่าทอเขาได้อย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้ ก็ใครเล่าจะกล้าหาญชาญชัยกับคนกุมอำนาจสูงสุดของตระกูลอิมได้


           จะมีก็แต่ชายหนุ่มรูปร่างเพรียวบางที่เดินหลงออกมาจากลิฟท์ด้วยใบหน้างงงันแล้วเดินสะเปะสะปะไม่รู้ทิศทาง

จนกระทั่งเดินชนเข้ากับเจ้าของตึกแต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังไม่รู้


           แจบอมนึกถึงแวบแรกที่เขาได้สบตากับดวงตาเรียวนัยน์ตาดำขลับราวกับลูกกวางน้อยที่กำลังหลงทางอยู่ในป่า

มันทำให้เขารู้สึกแปลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ยิ่งได้จ้องมองปากอิ่มสีแดงเรื่อที่กำลังขยับเพื่อต่อว่าต่อขานเขานั้น

ยอมรับเลยก็ได้ว่ามันยั่วยวนให้เขาดึงร่างบางนั้นเข้ามาแล้วกระทำการอุกอาจด้วยการชิงจูบหนักหน่วงลงไป รสชาติแสน

อร่อยยามที่เขาได้ครอบครองลิ้นเล็กในโพรงปากนั่นทำให้เขาแทบจะหยุดตัวเองไม่ได้ เขาจูบจนอีกฝ่ายหมดแรงขัดขืน

อยู่ในอ้อมกอดนั่นแหละจึงได้ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ


           แถมดวงตาระส่ำระสายปนเปกับความหวาดหวั่นตามเมื่อมองมาหลังจากเขาจูบนั่นอีกเล่า ฝ่ามือนุ่มที่ฟาดลงมา

บนซีกหน้าไม่ได้ทำให้คนอย่างเขาเจ็บปวดแม้แต่น้อย มันยิ่งทำให้ความสนใจในตัวร่างแพรียวบางมากขึ้นไปอีกจนเขา

ต้องเก็บเอกสารที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาอ่าน


           ปาร์คจินยอง


           ชื่อนี้จึงติดอยู่ในสมองของเขาอย่างสลัดไม่หลุด จนกระทั่งวันนี้วันที่เขาได้พบและได้ลิ้มลองจูบหวานอีกครั้งและ

มันยิ่งพิสูจน์ให้เขารู้ว่าเขาติดใจกลีบปากอิ่มนั่นเพียงใด


           จู่ๆดวงตาแสนดุก็เปลึ่ยนเป็นพราวระยับเมื่อมองมามันทำให้จินยองนิ่งอึ้งและงงงัน ราวกับผู้ชายน่ากลัวกำลังกลั้น

ยิ้ม ใบหน้าของจินยองร้อนเห่อแดงซ่านจนต้องเม้มปากแน่นเมื่อเห็นใบหน้าดุนั้นพลันสว่างไสวขึ้นมา


           ไม่ได้นะ ปาร์คจินยอง


           นายจะหวั่นไหวไปกับคนที่นายกำลังมาสืบค้นหาความจริงคนนี้ไม่ได้ ก็เพราะคนตระกูลนี้มิใช่หรือที่ทำให้ชีวิต

ของนายพลิกผัน อย่าลืมสิ!


           “กล้าหาญเหลือเกินนะลูกกวางน้อย นายเป็นคนแรกที่กล้าเอ่ยปากต่อว่าอิมแจบอม เอาเถอะนะ ฉันยังอารมณ์ดี

พอที่จะรับฟังมันได้อย่างไม่มีปัญหา วันนี้ฉันอนุญาตให้นายพักผ่อนได้อีกหนึ่งวัน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานสอนหนังสือให้

แบมแบม”


           เสียงพูดเนิบนาบแต่ยังเปี่ยมด้วยเสน่ห์ทำให้หัวใจของปาร์คจินยองเต้นเร็วเหลือเกิน เร็วจนเขากลัวว่าแจบอมจะ

ได้ยิน ขาของเขาแข็งเกินกว่าจะก้าวเดินออกไปได้เมื่อแจบอมสืบเท้าเข้ามาใกล้พลางยกปลายนิ้วขึ้นมาแตะไล้อยู่ที่

ปลายคางของเขา


           “ทำไมยังไม่กลับไปห้องของตัวเองล่ะปาร์คจินยอง หรือว่ารอให้ฉันจูบลานายอีกรอบ”


           จินยองสะดุ้งเฮือกพลันได้สติขึ้นมา เขารีบหันหลังและก้าวหนีออกไปจากห้องทำงานเจ้าของบ้านอย่างรวดเร็ว

ก่อนจะรีบวิ่งกลับไปห้องของตนเองที่อยู่อีกปีกหนึ่ง และทันทีที่ก้าวเข้าห้องจินยองรีบปิดประตูล็อคก่อนหันหลังพิงไปกับ

ประตู ร่างบอบบางทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง         


           มือเรียวยกขึ้นลูบไล้เรียวปากตนเองอย่างเผลอไผล ความเร่าร้อนบาดลึกจนหัวใจเต้นโครมครามไปหมด


           บ้าที่สุด


           จินยองใช้หลังมือป้ายปากไปมาเพื่อจะเช็ดกลิ่นไอของอิมแจบอมให้หมด แต่เช็ดเท่าไหร่มันก็ยิ่งร้อนเห่อราวกับ

เจ้าตัวมาบดทับความรู้สึกให้จดจำอยู่ในหัวใจ

         ตอนนี้จินยองเพิ่งจะรู้ตัวว่าผู้ชายคนนั้นน่ากลัว

         อิมแจบอมช่างเป็นผู้ชายที่น่ากลัวเหลือเกิน



TBC



ป.ล. ขอบคุณคนอ่านที่ตามมาจากที่เก่านะคะ ขอลงเรื่อยๆอีกนิดแล้วจะเริ่มแต่งเพิ่มค่ะ

ป.ล. อีกที เรื่องนี้ก็ไม่เชิงเรื่องใหม่ซะทีเดียว แต่งได้ 12 บทแล้ว แค่หอบจากที่เก่ามาลงที่นี่จ้า

 :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 3 #BNior [28/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 29-09-2015 09:28:42
จริงๆเราไม่ชอบอ่านอะไรที่เป็นเกาหลี แต่เรื่องนี้สนุกดี เราจะลองติดตามดูนะจ๊ะ :really2:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 3 #BNior [28/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 29-09-2015 13:14:11
น่าติดตามแบมแบมะร้ายขนาดไหน



จะปราบได้อยู่หมัดไหมละเนี่ยรออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-09-2015 18:52:23



                                        เล่นกับไฟ

                                          บทที่ 4


           ลูกบิดประตูไม่ได้ล็อคเมื่อปาร์คจินยองหมุนมันอยู่ในมือ หลังจากที่คนงานหญิงคนหนึ่งเดินนำเขามาและบอกว่า

นี่คือห้องสำหรับคุณหนูแบมแบมเรียนหนังสือ จินยองสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆกับงานใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น เขาหมุน

ลูกบิดและผลักมันเข้าไปพลางสืบเท้าเข้าไปภายในห้อง แต่ยังไม่ทันจะทำอะไรมากกว่านั้นตุ๊กตาสีตุ่นมัวตัวหนึ่งก็ลอยละ

ลิ่วแหวกอากาศมาปะทะใบหน้าของเขา


           ฤทธิ์เดชแรกของคุณหนูแบมแบมสินะ


           ใบหน้าขาวใสก้มลงมองตุ๊กตาที่ร่วงหล่นอยู่ที่พื้นก่อนจะเงยหน้ามองนักเรียนของเขาที่นั่งหน้าง้ำอยู่บนรถเข็น

ไฟฟ้า ตาต่อตาสบกันราวกับจะลองเชิง


           “วิชาแรกจะเริ่มเรียนอะไรดีครับ”


           ปาร์คจินยองเอ่ยถามเสียงเรียบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แถมยังยกเท้าก้าวข้ามตุ๊กตาตัวนั้นอีกต่างหาก การกระทำ

ดังกล่าวทำให้แบมแบมเม้มปากอย่างขัดใจ


            “บังอาจก้าวข้ามชิโร่อย่างนั้นได้ยังไง”


           จินยองเลิกคิ้ว ริมฝีปากสีแดงคลี่ยิ้มกับอาการหวงของที่ลูกศิษย์แสดงออกมา เขาหันกลับไปคว้าเจ้าตุ๊กตาสุนัขสี

มอจนแทบมองสีเดิมไม่เห็นขึ้นมาถือไว้ในมือ


           “ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ แบมแบมเองก็คงจะไม่ต้องการเจ้าชิโร่ตัวนี้แล้ว”


           “รู้ได้ยังไง”


           เสียงเล็กดังขึ้นมาอย่างเอาแต่ใจเมื่อได้ยินคำตอบโต้ของคุณครูคนใหม่ จินยองยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีก


           “ก็ถ้าแบมแบมรักเจ้าชิโร่จริงคงจะไม่โยนมันทิ้งอย่างไม่เห็นคุณค่าอย่างนี้หรอกใช่ไหมครับ”


           คุณหนูแบมแบมกดปุ่มบังคับรถเข็นไฟฟ้าให้เคลื่อนที่มาหยุดต่อหน้าคุณครูคนใหม่พลางเงยหน้ามองอย่างไม่

ชอบใจ


            “เอาชิโร่ของผมคืนมา”


           “ขอโทษครูก่อนที่ทำผิด”


           “ผมไม่ได้ทำอะไรผิด อย่ามาบังคับนะ”


           ร่างผอมที่นั่งอยู่บนรถเข็นเม้มปากดวงตาแดงก่ำ เขามองปาร์คจินยองอย่างเจ็บใจที่อีกฝ่ายไม่ยอมทำอะไรตามที่

เขาสั่ง ทั้งที่คุณครูคนอื่นไม่เคยมีใครกล้าขัดใจ มือบางยกขึ้นไขว่คว้าตุ๊กตากลับคืนมา แต่จินยองกลับยิ่งส่ายมือที่ถือ

ตุ๊กตาหนี


           “ผมบอกให้คืนชิโร่มาให้ผมไงล่ะ ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”


           “ถ้าไม่ขอโทษครูก็จะไม่คืนให้ และยังจะเก็บชิโร่ไว้บริจาคให้กับเด็กคนอื่นที่ไม่มีตุ๊กตาเล่น”


           จินยองยื่นคำขาดเสียงเฉียบจนแบมแบมต้องเม้มปากแน่น


           “ชิโร่เป็นตุ๊กตาที่แม่ให้ จะเอาไปให้คนอื่นไม่ได้”


           “งั้นก็ขอโทษครูสิครับแบมแบมแล้วสัญญาด้วยว่าจะไม่ทำแบบนี้กับชิโร่อีก”


           “ขะ ขอโทษ เอาคืนมาสิ”


           แบมแบมพยายามพุ่งตัวมากระชากตุ๊กตาสีมอไปจากมือจินยองจนกระทั่งร่างผอมนั้นร่วงลงมาจากรถเข็น จินยอง

ตกใจไม่น้อยที่เห็นแบมแบมนอนกองอยู่กับพื้น เขารีบทรุดตัวลงนั่งประคองแบมแบมไว้ด้วยความเป็นห่วง


           “แบมแบมเป็นอะไรหรือเปล่า”


           “ปล่อยนะ อย่ามายุ่ง เกลียดผมเกลียดตัวเอง เป็นบ้าอะไรวะถึงเดินไม่ได้ เกลียดที่สุด”


           กำปั้นน้อยๆ ทุบลงไปที่ต้นขาตนเองพลางร้องไห้ตัวโยน ใบหน้าเจ็บช้ำของลูกศิษย์ทำให้จินยองสงสาร


จับใจ


           “อย่าคิดอย่างนั้นสิครับแบมแบม อย่าเกลียดตัวเอง ถ้าเราไม่รักตัวเองแล้วใครจะมารักเรา”


           จินยองลูบผมแบมแบมแล้วปลอบอย่างอ่อนโยน


            “คนเราต้องมีความหวัง แบมแบมต้องเดินได้”


           “ไม่ต้องมาให้ความหวัง ถ้าผมทำได้จะมานั่งเป็นไอ้ง่อยอยู่บนรถเข็นให้คนอื่นมองอย่างสมเพชแบบนี้

หรือไง”


           จินยองถอนหายใจออกมา เขาพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมแบมแบมถึงต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในบ้าน ไม่ได้ไป

โรงเรียนอย่างเด็กวัยรุ่นคนอื่น มันเป็นเพราะแบบนี้นี่เอง


            “ในเมื่อยังมีลมหายใจก็ต้องมีความหวัง ครูไม่รู้หรอกนะว่าทำไมแบมแบมถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ครูจะช่วยทุกทาง

ให้แบมแบมกลับมาเดินได้”


           แบมแบมเงยหน้ามาสบตา เสียงสะอื้นแผ่วยังมีให้ได้ยินแต่อาการเกรี้ยวกราดกลับน้อยลงจนจินยองดีใจ


           “จริงหรือ ครูจะทำให้ผมเดินได้ ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม”


           “ครูพูดจริง ครูจะหาวิธีเรื่องกายภาพบำบัดมาช่วย”


           จินยองดึงเอวของแบมแบมให้ขึ้นมานั่งบนรถเข็นอีกครั้ง เมื่อทรงตัวได้แบมแบมกลับมองเขาด้วยสายตาไม่เชื่อ

ถือพลางผลักจินยองออกห่าง


           “ผมไม่เชื่อ ใครๆก็พูดอย่างนี้กันหมด สงสารบ้างล่ะ อยากจะช่วยบ้างล่ะ แต่ทุกคนก็หวังแค่จะเข้ามาเอาใจเพื่อ

หาทางใกล้ชิดพี่แจบอมทั้งนั้น รวมทั้งคุณด้วย”


           “แบมแบม!”


           รถเข็นไฟฟ้าถูกเจ้าของบังคับให้เคลื่อนที่ออกจากห้อง และด้วยความชำนาญแบมแบมจึงนำไปไกลกว่าจินยอง

จะวิ่งตามได้ทัน ทุกคนในบ้านไม่มีใครกล้าขวางเมื่อนายน้อยพุ่งตัวออกไปเช่นนั้น จนกระทั่งรถเข็นพาแบมแบมออกมาถึง

หน้าบ้านที่มีสวนสวยอยู่เบื้องหน้า


           “คุณหนูแบมแบมอย่าไปครับ เรากำลังขุดลอกสระน้ำ”


           เสียงคนสวนสูงวัยตะโกนห้ามแต่รถเข็นก็ยังไม่หยุด แบมแบมสีหน้าตกใจสุดขีดเมื่อรถเข็นกำลังพุ่งตัวอย่าง

รวดเร็วไปทางขอบสระ


           “ช่วยด้วย ผมหยุดรถไม่ได้”


           รถเข็นกระแทกเข้ากับดินแข็งตรงขอบสระส่งผลให้ร่างผอมบางลอยละลิ่วลงไปในสระน้ำจนน้ำกระจาย แบมแบม

ผลุบลงไปใต้น้ำในขณะที่คนงานในสวนกำลังตกตะลึง


           ตูม!!


           จินยองที่วิ่งตามมาถึงกระโดดลงไปในน้ำอย่างรวดเร็ว เขาคว้าร่างที่กำลังจะจมลงไปแล้วดึงเข้าหาขอบสระ เดชะ

บุญที่ไม่ใช่สระน้ำขนาดลึกจึงไม่ยากที่จะดึงแบมแบมขึ้นมา แต่เมื่อเขาพาแบมแบมขึ้นมานอนแผ่อยู่ที่ขอบสระได้ก็ต้อง

ตกใจเมื่อเห็นแบมแบมหมดสติไปแล้ว








           อิมแจบอมเดินลิ่วๆมาที่ห้องพักของน้องชาย ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นใจและกังวลเมื่อยูริโทรศัพท์ไป

บอกเขาว่าแบมแบมตกลงไปในสระน้ำ เขาจึงทิ้งงานทั้งหมดแล้วขับรถยนต์กลับบ้านอย่างรวดเร็ว


           เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องมองเห็นร่างกายบอบบางของแบมแบมนอนหลับอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมอยู่ถึง

หน้าอก แจบอมรีบก้าวเข้าไปทรุดตัวลงนั่งแล้วลูบผมอย่างห่วงใย


           เสียงประตูห้องน้ำที่เปิดออกพร้อมทั้งปาร์คจินยองที่เพิ่งก้าวออกมาหลังจากนำกะละมังน้ำและผ้าเช็ดตัวไปเก็บ

ทำให้แจบอมหันขวับไปมอง จินยองถึงกับสะดุ้งเมื่อแจบอมจ้องมายังเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว เจ้าของบ้านลุกขึ้นยืนเพื่อ

จะก้าวมากระชากต้นแขนของจินยองแล้วบีบแน่นจนเจ้าตัวนิ่วหน้า


           “ปล่อยนะ ผมเจ็บ”


           “ฉันจ้างนายมาดูแลแบมแบม แล้วทำไมมันถึงเกิดเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรกที่นายทำงาน”


           “มันเป็นอุบัติเหตุ” จินยองที่พยายามผลักข้อมือแกร่งออกพูดตอบโต้


           “รถเข็นนั่นเบรคไม่อยู่ตอนที่แบมแบมบังคับมัน”


           “รถเข็นคันนั้นได้รับการตรวจเช็คสภาพอย่างดี เป็นไปไม่ได้ที่จะเบรคไม่อยู่”


           แจบอมตะคอกเสียงต่ำ ดวงตาคู่ดุมองจินยองอย่างขุ่นเคือง


           “เป็นเพราะนายดูแลแบมแบมไม่ดี”


           “ไม่ใช่นะครับ!”


           เสียงเล็กดังมาจากบนเตียง แบมแบมลืมตาขึ้นมาแล้วรีบพูดเสียงดังทั้งที่ตนเองกำลังเป็นไข้


           “ครูช่วยผมขึ้นมาจากสระน้ำ พี่ชายอย่าต่อว่าครูเลย”


           แจบอมที่ยังคงยึดร่างของจินยองไว้หันมามองน้องชาย เขายอมปล่อยจินยองให้เป็นอิสระแล้วก้าวมาหาแบม

แบมพลางลูบผมอ่อนโยน


           “เป็นไงบ้างน้องพี่”


           แบมแบมคว้ามือของแจบอมไปจับไว้พลางพูดชี้แจงให้พี่ชายหายโมโห


           “ผมดื้อเองทั้งที่ครูเตือนแล้ว ถ้าไม่ได้ครูช่วยไว้ผมคงตายอยู่ในสระน้ำ พี่ชายอย่าว่าครูเลยครับ


เอ่อ..ครูครับ”


           ปลายเสียงที่เรียกทำให้จินยองรีบก้าวมาทางอีกฝั่งของเตียงนอนพลางกุมมืออีกข้างของแบมแบม


           “ผมขอโทษที่เอาแต่ใจ ขอบคุณที่ครูช่วยผมไว้ ผมจะเชื่อฟังครูนะครับเพราะครูไม่เหมือนคนอื่นๆที่ผมเคยเจอ”


           แจบอมมองทั้งคู่อย่างแปลกใจที่เห็นแบมแบมอ่อนข้อให้จินยอง เขาไม่เคยเห็นน้องชายตนเองยอมใครง่ายๆ

แบบนี้มาก่อน


           “ครูจะช่วยให้ผมเดินได้จริงๆใช่ไหมครับ”


           เสียงอ่อนจากแบมแบมทำให้จินยองยิ้มอย่างอ่อนโยนจนแจบอมเผลอมองใบหน้าหวานนั้น


           “ใช่สิครับแบมแบม เรามาร่วมมือกันเถอนะ แบมแบมจะต้องเดินได้”






           จินยองยิ้มกับตัวเองที่สามารถเอาชนะใจคุณหนูเอาแต่ใจอย่างแบมแบมได้ด้วยความจริงใจของเขา ร่างเพรียว

เดินออกจากห้องแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง


           “หยุดก่อน ปาร์คจินยอง”


           จินยองหันขวับไปสู้ตากับคนที่กำลังปิดประตูห้องของแบมแบมแล้วก้าวมาชิดเขาอยู่ตรงหน้าห้อง สายตาที่มอง

มาทำให้จินยองใจสั่นและยิ่งเต้นโครมครามเมื่ออิมแจบอมใช้มือเหนี่ยวเอวเขาเข้าใกล้จนใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ


           “เสน่ห์ของนายนี่มันล้นเหลือจริงๆเลยนะ แม้แต่กับแบมแบมนายก็ทำให้เขาชอบนายได้”


           ปลายนิ้วที่ลูบไล้อยู่ตรงริมฝีปากกำลังทำให้จินยองหวั่นไหวเหลือเกิน


           “อยากจะรู้นักว่าเสน่ห์ของนายจะทำให้ใครตกหลุมได้อีก จินยอง”



 TBC


 
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 29-09-2015 19:55:15
อย่ายอมง่ายๆนะน้องเนียร์  ใจแข็งเข้าไว้   
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-09-2015 20:23:15
คุณพี่ชายแอบหวงคุณครูหราาาาา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-09-2015 21:09:40
จินยองมีพรรคพวกแล้ว
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: WilpeR ที่ 29-09-2015 21:46:50
จินยองสู้ๆนะ มีน้องแบมเป็นพวกแล้ว
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 5-6 #BNior [01/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-10-2015 13:56:41


                                      เล่นกับไฟ

                                        บทที่ 5


           ปาร์คจินยองฝืนความหวั่นไหวสู้ตาคมคู่นั้นของอิมแจบอมที่ยังคงจ้องมองไม่วางตา ใบหน้าหวานเชิดสูงพลาง

เม้มปากหนีปลายนิ้วที่ยังคงเกลี่ยไล้ราวกับจะหยอกล้อ ก่อนจะคลี่ยิ้มท้าทาย


           “จะใครก็ช่าง แต่หวังว่าคงจะไม่เป็นคุณที่มาตกหลุมเสน่ห์ของผม แต่ก็นะ คุณชายอิมผู้แสนจะฉลาดปราดเปรื่อง

จะมาตกหลุมที่ตัวเองก็มองเห็นอยู่ได้ยังไง จริงไหมครับ คุณชายอิม”     


           “ปาร์คจินยอง!”


           มือแกร่งที่โอบรั้งอยู่ตรงเอวออกแรงกระชับเข้าหาตัวจนจินยองต้องยกมือขึ้นดันแผ่นอกแกร่งให้ห่างออก แต่ก็ไม่

เป็นผลเมื่อลำตัวของเขายังแนบแน่นอยู่กับอิมแจบอม คางเรียวถูกอีกฝ่ายใช้ปลายนิ้วบีบให้อยู่นิ่ง ดวงตาที่จ้องมาทั้งดุ

ทั้งกราดเกรี้ยวจนจินยองผวา


           “ปล่อยนะ”


           “นายกำลังท้าทายฉันอยู่”


           “ผมไม่ได้ท้าทาย ก็แค่พูดความจริง” จินยองพูดเสียงสั่น “คุณนั่นแหละที่ไม่ยอมรับความจริง อะ อย่านะ อึก…”


           แม้จะเบนหน้าหนีแต่ก็หลบไม่พ้นเมื่อท้ายทอยถูกมือที่แข็งราวกับคีมเหล็กคว้าไว้และบังคับให้อยู่นิ่งเมื่อริมฝีปาก

อิ่มถูกรุนรานจากเจ้าของบ้านอีกครั้ง จินยองพยายามจะเม้มปากให้สนิทแต่แจบอมก็ยิ่งกดน้ำหนักลงมาบังคับกลีบปาก

ของเขาให้เปิดออก

           ลิ้นร้อนสอดลึกกวาดไปทั้งโพรงปากอย่างหนักหน่วง จินยองฝืนไว้จนแทบหมดแรงเมื่อลิ้นเล็กถูกตวัดเกี่ยวจน

เกือบจะหมดอากาศหายใจ แต่ในขณะที่เขากำลังเจ็บร้าวไปทั้งกลีบปากจูบนั้นกลับลดระดับความรุนแรงลงและสิ่งที่เพิ่ม

ขึ้นมันคือการเรียกร้องให้จินยองเคลิ้มไปกับมัน


           “อะ อื้อ…”


           ริมฝีปากล่างของจินยองถูกเม้มเบาๆก่อนผละออกแล้วแนบเข้ามาใหม่ แจบอมกวาดลิ้นไปใต้ลิ้นนุ่มแสนหวานที่

เขากำลังตวัดขึ้นเพื่อชิมรสอย่างติดใจ ปาร์คจินยองเผลอไผลตวัดลิ้นตอบโต้ มือเรียวที่ผลักดันแผ่นอกออกห่างหมดแรง

จนต้องคว้าปกเสื้อสูทแล้วกำมันไว้แน่น


           “นายชอบจูบของฉัน”


           เสียงทุ้มลึกดังขึ้นแผ่วเบา แจบอมวนเวียนขบเม้มกลีบปากเย้ายวนไม่ขาดระยะ


           “ฮึก..อะ..ไม่”


           เสียงสั่นพร่าปฏิเสธออกมาทั้งที่ยังหายใจหอบไปกับจุมพิตที่เรียกร้องนั่น อิมแจบอมได้ยินก็ยิ่งเม้มปากลงไป

ราวกับจะตอกย้ำ


           “แต่นายกำลังจูบตอบฉันอยู่ รู้ตัวหรือเปล่า หืม…”


           นั่นแหละ สติเพิ่งจะกลับคืนมา จินยองกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะเอียงหน้าหนีจนพ้น เขาอ้าปากหอบหายใจเข้า

ปอดถี่ยิบ ใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำเมื่อเห็นสภาพว่าตนเองกำลังเป็นฝ่ายคว้าปกเสื้ออิมแจบอมไว้ ร่างโปร่งรีบปล่อยมือและก้าว

ออกห่าง เขายกหลังมือเช็ดคราบน้ำลายบนเรียวปากอย่างเจ็บใจ


           “คุณมันคนเจ้าเล่ห์”


           จินยองชี้หน้าต่อว่า แต่คนถูกต่อว่ากลับเลิกคิ้วสูงแล้วยิ้มขำ


           “อีกข้อแล้วหรือ บ้าอำนาจ ป่าเถื่อน เอาแต่ใจ แถมยังเจ้าเล่ห์อีกด้วย เฮ้อ..ไม่มีข้อดีเลยสินะ”


           แจบอมก้าวตามเข้ามาใกล้จนจินยองต้องก้าวถอยหนี


           “ระวังไว้ก็แล้วกันนะลูกกวางน้อย อย่าได้มาตกบ่วงของนายพรานเจ้าเล่ห์อย่างฉันก็แล้วกัน”


           “บ้า ไม่มีวันซะหรอก”


           จินยองวิ่งหนีไปตามทางเดินเพื่อเข้าห้องตัวเอง เสียงหัวเราะในลำคอของแจบอมยังติตตามมาย้ำเตือนแม้กระทั่ง

เขาเข้ามาในห้องตัวเองแล้วทุ่มตัวลงกับเตียงพลางใช้ท่อนแขนฟาดไปกับที่นอนเพื่อระบายอารมณ์


           “เกลียด ฉันเกลียดนายที่สุดอิมแจบอม ไม่มีทางที่ฉันจะหลงกลนายหรอก ไม่มีทาง”









          “เล่าให้ครูฟังได้ไหมว่าทำไมแบมแบมถึงเดินไม่ได้”


           จินยองลูบผมแบมแบมอย่างอ่อนโยน แบมแบมที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงในเช้าวันต่อมาถอนหายใจเฮือกใหญ่


           “ถ้าสะเทือนใจมากก็ไม่ต้องเล่าหรอกนะ”


           รอยยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจทำให้แบมแบมยอมเล่าเรื่องราวต่างๆ


           “เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อห้าปีที่แล้วครับครู  ผมกำลังจะไปต่างจังหวัดกับพ่อและแม่ รถยนต์ที่นั่งไปวันนั้นเบรคแตก

มันไถลลงไปในเหว”


           แบมแบมสั่นสะท้านไปทั้งตัว ดวงตาเรียวแดงก่ำจนกระทั่งหยาดน้ำไหลรินลงมา ปาร์คจินยองดึงหนุ่มน้อยไปกอด

ไปอย่างสงสาร


            “โธ่ แบมแบม”


           “ทุกคนในรถตายหมด ทั้งพ่อและแม่ แม่ที่กอดผมไว้เพื่อไม่ให้ผมเป็นอันตราย ทำไมครู ทำไมต้องเป็นผมคน

เดียวที่รอด ทำไม”


           เสียงสะอื้นทำให้จินยองแทบจะร้องไห้ตาม เขากอดแบมแบมจนกระทั่งหนุ่มน้อยเริ่มคลายความเศร้าลง         


          “ตั้งแต่วันนั้น เมื่อฟื้นที่โรงพยาบาลผมก็เดินไม่ได้อีก ทั้งที่หมอก็บอกแล้วว่ากระดูกสันหลังหรือเส้นประสาท

ของผมมันก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่ทำไมผมเดินไม่ได้ก็ไม่รู้ครับครู”


           จินยองเดาว่าน่าจะเป็นเพราะจิตใจของแบมแบมที่ยังเสียใจจากเหตุการณ์ในวันนั้น แบมแบมจึงเดินไม่ได้ เขา

นึกสงสารแบมแบมจับใจ


           “คนที่น่าสงสารอีกคนก็คือพี่ชาย”


           อิมแจบอมน่ะหรือที่น่าสงสาร ข้อนี้จินยองขอเถียงอยู่ในใจ ทีท่ายะโสนั่นไม่เห็นจะชวนให้น่าสงสารสักนิด       


         “พี่ชายถูกเรียกให้กลับมาจากเมืองนอกทั้งที่ยังเรียนปริญญาโทอยู่เพื่อมารับตำแหน่งต่อจากพ่อทั้งที่พี่ชายไม่

เต็มใจสักนิด พี่ชายทะเลาะกับพ่อบ่อยๆ เพราะไม่ค่อยทำอะไรตามใครพ่อ”


           จินยองตั้งใจฟัง เขาแทบจะกลั้นหายใจเมื่ออยู่ๆ เบาะแสแรกที่เขาเสี่ยงเข้ามาในบ้านหลังนี้กำลังจะหลุดมา

จากลูกศิษย์ของเขา


           “จริงๆแล้วพี่ชายก็รักพ่อมาก แต่เพราะเป็นทายาทที่จะต้องสืบทอดได้เพียงคนเดียว แม้แต่จะร้องไห้เสียใจที่พ่อ

ตาย พี่ชายยังทำไม่ได้เลย”


           เอะใจเมื่อได้ยินประโยคนั้น ปาร์คจินยองเริ่มขมวดคิ้ว


           “ทำไมนาย เอ่อ พี่ชายของแบมแบมถึงเป็นทายาทเพียงคนเดียวล่ะครับ ในเมื่อก็มีแบมแบมเป็นลูกอีกคนนี่นา”


          แบมแบมส่ายหน้า


           “พ่อของผมมีภรรยาที่ถูกต้องคือแม่ของพี่ชายครับ ส่วนแม่ของผมน่ะเป็นภรรยารองที่เป็นคนไทย ผมไม่มีสิทธิ์

อะไรทั้งนั้น ถ้าหากพี่ชายจะไล่ผมออกจากบ้านก็ได้ แต่เขาก็ไม่ทำ ครูครับ…”


           แบมแบมช้อนสายตามอง


           “พี่ชายน่ะน่าสงสารนะครับครู ผมอยากให้พี่ชายมีใครสักคนอยู่เคียงข้าง ใครที่รักพี่ชายจริงๆ ไม่ได้หวังแต่ผล

ประโยชน์อย่างที่ผ่านมา ผมอยากให้คนๆนั้นเป็นครูจังเลย”


           “แบมแบม!”


           ใบหน้าร้อนเห่อจนขึ้นสีจัดเมื่อได้ยินคำพูดของแบมแบม จินยองเม้มปากแน่น

           จะเป็นเขาได้อย่างไร ในเมื่อจุดประสงค์ที่มาที่นี่ก็คือเปิดโปงความเลวร้ายในอดีตที่ผ่านมาของตระกูลอิม       


TBC


                                                   





 
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 5-6 #BNior [01/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-10-2015 14:04:53


                          เล่นกับไฟ

                           บทที่ 6

 

          “ครูว่าเราอย่าเพิ่งพูดในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้นตอนนี้ดีกว่านะ”


           ปาร์คจินยองเอ่ยกับลูกศิษย์


           “พี่ชายของแบมแบมอาจจะไม่ได้คิดเรื่องนี้ก็ได้ ครูไม่อยากให้แบมแบมคิดอะไรแทนพี่ชาย ครูว่าเรามาจัดตาราง

เรียนกันดีกว่า ไหนบอกครูหน่อยว่าที่ผ่านมาเรียนเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง”


           เปลี่ยนเรื่องคุยเพราะเขาเองไม่อยากหวั่นไหวไปกับคำพูดของแบมแบม ยิ่งพูดถึงอิมแจบอมมากเท่าไหร่ภาพ

ของผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งปรากฏเด่นชัดในมโนสำนึก


           “เราจะเรียนหนังสือกันวันละสามชั่วโมง เรียนศิลปะสัปดาห์ละสองวัน และในทุกๆวันช่วงบ่ายครูจะพาแบมแบมลง

ไปเดินเล่นที่สวนหน้าบ้าน แบมแบมจะต้องได้รับอากาศบริสุทธิ์และฝึกกายภาพกล้ามเนื้อ ตกลงไหมครับ”


           จินยองปล่อยให้แบมแบมได้พักผ่อนหลังจากนั้นเพื่อร่างกายจะได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เขาเดินกลับเข้าไปในห้อง

ส่วนตัวแล้วหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าแก่ที่รอดพ้นจากการยึดไปออกมา


           “จินยอง นายเป็นไงบ้าง” ปลายทางที่จินยองโทรหารีบส่งเสียงทันทีเมื่อโทรติด


           “ที่สำนักข่าวเป็นห่วงนายกันทุกคน โดยเฉพาะ เอ่อ .. เราเป็นห่วงนายมากนะ”


           จินยองยิ้มกับตัวเองเมื่อได้ยินเสียงกระตือรือล้นของแจ็คสัน


           เขารู้ดีว่าชายหนุ่มแสนห้าวที่เลือกทำงานนักข่าวสายอาชญากรนั้นคิดอย่างไรกับเขา  นึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่เขา

ไม่ได้นึกรักแจ็คสันในแบบคนรัก เรื่องหัวใจไม่สามารถบังคับได้จินยองทำได้เพียงเป็นเพื่อนที่ดีของแจ็คสัน


           “ปลอดภัย แต่การติดต่อออกไปภายนอกลำบากมาก ทั้งโน้ตบุ๊ค แทปเล็ตโดนพวกนั้นยึดเอาไปหมด เหลือแค่

โทรศัพท์เครื่องเก่าที่ยังซ่อนไว้ได้อยู่”


           “บ้านตระกูลอิมอยู่ที่ไหน” แจ็คสันเอ่ยถาม “ไม่มีใครเคยรู้ที่ตั้ง”


           “ไม่รู้เหมือนกัน” จินยองสบถเบาๆ “การคุ้มกันอำพรางแน่นหนามาก ตอนเดินทางเราถูกปิดตามาตลอด เท่าที่รู้

คือเดินทางลงมาทางทิศใต้ราวหนึ่งชั่วโมง”


           “อิมแจบอมตัวจริงล่ะ เป็นไงบ้าง”


           จินยองสะดุ้ง เขาควรจะตอบแจ็คสันอย่างไร ตอบว่าประธานหนุ่มของตระกูลอิมทำให้เขาหวั่นไหวอย่างนั้นหรือ


           “ก็เป็นแค่คนๆหนึ่งที่ดูดีเท่านั้นแหละ แล้วมีเรื่องอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม”


           จินยองเบนความสนใจของแจ็คสันออกไปจากอิมแจบอม


           “ตระกูลอิมเข้ามาถือหุ้นในบริษัททางการเงินบริษัทนึง และดูเหมือนว่ากำลังจะล้วงลูกในการประชุมผู้ถือหุ้นถึง

การหมกเม็ดที่บริษัทที่ว่าเคยทำไว้จนกลายเป็นเรื่องฮือฮามาก”


           จินยองขมวดคิ้ว เขาไม่เข้าใจว่าทำไมอิมแจบอมจะต้องทำอย่างนั้น เพราะเท่ากับเป็นการเปิดโปงบริษัทที่ตนเอง

เพิ่งเข้าไปถือหุ้นอยู่ เขาเดาใจผู้ชายหน้าดุไม่ถูกเลย


           เสียงกุกกักภายนอกห้องทำให้จินยองตกใจ เขารีบเอ่ยลาเพื่อนสนิทด้วยเสียงกระซิบ


           “แค่นี้ก่อนนะแจ็คสัน เดี๋ยวจะหาโอกาสโทรหาใหม่”


           จินยองรีบวางสายและก้าวไปเปิดประตูห้องจึงเห็นว่ายูริกำลังคุมคนงานผู้หญิงทำความสะอาดอยุ่ที่ทางเดิน


           “อ้าวคุณครุของคุณหนูแบมแบม”


           ยูริทักทายด้วยใบหน้าเฉยเมยดังเช่นเคย จินยองฝืนยิ้มออกไป


           “สวัสดีครับคุณยูริ”


           สาวใหญ่ทำเพียงแค่ปรายตามองอย่างไม่สนใจอีก จินยองจึงได้ก้าวกลับเข้ามาในห้อง เขาคว้าสมุดบันทึกออก

มาเพื่อวางแผนสืบเรื่องราวต่างๆ จินยองจะไม่ยอมผิดพลาดเด็ดขาด





           “ท่านประทาน”


           เสียงลูกน้องคนสนิทเรียกเบาๆ เมื่อเขาพยักหน้าอนุญาตจึงได้เดินเข้ามาในห้อง


           “มีอะไรงั้นหรือ”


           “ตามที่ประธานสั่งให้จับตามองไว้ครับ คุณปาร์คจินยองใช้โทรศัพท์ในบ้านพักเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา นี่คือคำ

สนทนาที่เราถอดออกมาได้”


           อิมแจบอมก้มหน้าลงอ่าน เมื่ออ่านจบดวงตาคู่ดุก็วาววับขึ้นมา


           ปาร์คจินยอง เข้ามาสมัครงานเพื่อหาข้อมูลอะไรบางอย่าง มันเป็นเรื่องที่เขาสงสัยตั้งแต่แรก เพียงแต่ยังไม่รู้ว่า

เจ้าของเรียวปากที่เขาติดใจกำลังอยากรู้เรื่องอะไรกันแน่


           แต่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามหากปาร์คจินยองอยากจะรู้ เขาจะต้องแลกมันมาอย่างสาสม
           








           ห้องเก็บหนังสือขนาดใหญ่จนขนาดมันเท่ากับห้องสมุดย่อมๆเป็นเป้าหมายสำคัญที่ปาร์คจินยองหมายตาเอาไว้

เขาถือโอกาสในเวลาที่อิมแจบอมออกไปทำงานและยังไม่ได้สอนหนังสือแบมแบมอย่างจริงจังเพื่อลอบเข้าไปภายในนั้น

           ประตูไม่ได้ล็อก ร่างโปร่งมองซ้ายขวาหน้าห้องก่อนจะเร้นกายเข้าไปภายใน มองสำรวจโดยรอบจินยองตื่นตากับ

หนังสือจำนวนมากมายที่ตั้งอยู่ในชั้นวางอย่างมีระเบียบ ด้านหนึ่งมีโซฟาตัวยาวและโต๊ะเล็กๆตั้งไว้เคียงคู่สำหรับอ่าน

หนังสือ ใกล้กันนั้นมีคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานเครื่องหนึ่ง


            จินยองกัดริมฝีปากอย่างใช้ความคิด ก่อนที่เขาจะก้าวไปยังตู้ที่มีป้ายบอกไว้ว่าเป็นหนังสือประวัติของตระกูลอิม

เขาควรจะเริ่มต้นรู้จักคนที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงอันเลวร้ายเสียก่อน เมื่อยืนพิจารณาอยู่พัก

ใหญ่หนังสือปกแข็งเล่มหนาจึงได้ถูกหยิบมา จินยองทรุดตัวลงนั่งลงบนเก้าอี้โซฟาและพุ่งสมาธิไปกับประวัติของตระกู

มอิมตั้งแต่รุ่นบิดาของอิมแจบอมยังคงเป็นหนุ่มและเริ่มก่อร่างสร้างตัวด้วยชีวิตที่ผ่านความยากลำบากมาอย่างโชกโชน จิ

นยองก้มหน้าอ่านมันเกือบจบจนไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานเท่าใดแล้ว


           เนื้อหาที่อ่านผ่านไปทำให้จินยองต้องส่ายหน้าเพราะมันยังไม่ใช่ข้อมูลที่เขาต้องการเมื่อมันถูกเขียนจนดูสวยหรู

เขาถอนหายใจออกมาแล้วลุกขึ้นยืนเพื่อจะหนังสือเล่มนั้นไปเก็บเข้าที่ แต่ปาร์คจินยองก็ต้องสะดุดตัว


           ปึง!


           หนังสือเล่มหนาร่วงลงพื้นทันทีเมื่อเขามองเห็นใครอีกคนที่ยืนสงบนิ่งอยู่ที่หน้าประตู


           อิมแจบอม!


           ร่างสูงยืนกอดอกมองมายังเขา ดวงตาคู่ดุบอกให้จินยองรู้ว่าอิมแจบอมกำลังมีอารมณ์ขุ่นมัว จินยองภาวนาขอให้

สาเหตุไม่ใช่จากเขา


           แล้วผู้ชายคนนี้เข้ามายืนอยู่ภายในห้องซ้ำยังปิดประตูกันทางออกไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมเขาถึงไม่ได้ยินเสียงสัก

นิด จินยองนึกโมโหความสะเพร่าของตัวเอง แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือยืนตัวแข็งเมื่ออิมแจบอมกำลังก้าวช้าๆตรงมาทาง

เขา


           หายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออิมแจบอมหยุดยืนอยู่ตรงหน้า หน้าดุจ้องสบตาก่อนจะก้มลงไปคว้าหนังสือที่ตกอยู่บนพื้น

ขึ้นมามองหน้าปกแล้วจึงเลิกคิ้วสูง


           “คุณเข้าในห้องตั้งแต่ตอนไหน ทำไมผมไม่ได้ยินเสียง”


           จินยองฝืนยิ้มหน้าซีดเอ่ยถาม แจบอมยักไหล่เมื่อได้ยิน


           “การที่เจ้าของบ้านจะไปไหนมาไหนในบ้านตัวเองไม่ได้งั้นหรือ หรือจะต้องให้ฉันขออนุญาตนายก่อน”


           แจบอมกรีดหนังสือในมือไปมา นัยน์ตาดำสนิทจ้องมองจินยองจนเป้าสายตาแอบสะดุ้งอยู่ในใจ


           “ไม่นึกว่าจะสนใจประวัติครอบครัวของฉันด้วยนะ ปาร์คจินยอง”


           หน้าหวานเม้มปากแน่น จินยองซ่อนความหวาดหวั่นไว้แล้วเชิดหน้าอย่างถือดี


           “การที่ลูกจ้างอย่างผมอยากจะรู้ประวัติของนายจ้างไม่ได้งั้นหรือ หรือจะให้ผมทำงานโดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้จัก

ใคร”


           แจบอมตาลุกวาบ เขาโยนหนังสือลงบนโต๊ะก่อนจะคว้าเอวจินยองไว้พลางบีบคางเรียวด้วยมือของเขา


           “อวดเก่งและปากร้าย”


           “ผมจะถือว่าเป็นคำชม”


           จินยองคลี่ยิ้มและมองย้อนอย่างท้าทาย แจบอมมองใบหน้าหวานที่แสนจะดึงดูดสายตานั่น


           ถ้าหากว่าปาร์คจินยองจะทำตัวไม่มีเลศนัยอย่างที่ทำอยู่ เขาเองก็คิดไว้ว่าอยากจะเริ่มสานสัมพันธ์ด้วย แต่ตอนนี้

เขากำลังสงสัยอะไรบางอย่างว่าปาร์คจินยองไม่ได้มาสมัครเป็นครูอย่างบริสุทธิ์ มันทำแจบอมต้องมองเจ้าของริมฝีปากสี

แดงเรื่อที่ยั่วเย้าอยู่ตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจ


           “ก็ขอให้เป็นแค่อยากรู้จักอย่างเดียวก็แล้วกัน แต่อย่าให้รู้ว่านายคิดอะไรไม่ดีกับครอบครัวของฉัน”


           จินยองประสานสายตาสู้ ดวงตาหวานจ้องมองอิมแจบอมอย่างโกรธแค้น


           “ทำไมล่ะ ถ้าผมคิดไม่ดีกับครอบครัวของคุณคุณจะฆ่าผมงั้นสิ มีแต่พวกคุณสินะที่มีสิทธิ์จะคิดไม่ดีกับครอบครัว

ของคนอื่น อะ…อึก”


           กลีบปากที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นลงเพราะด่าทอกลับถูกปิดลง อิมแจบอมกดริมฝีปากแนบแน่นในขณะที่จิน

ยองต้องดิ้นรนอย่างหนัก มือเหนียวที่โอบอยู่ตรงเอวแข็งแกร่งจนสะบัดไม่หลุด ซ้ำร้ายจูบนั้นยิ่งรุนแรงกว่าที่เคยจนจิน

ยองน้ำตาซึมออกมาอย่างเจ็บใจ


           แจบอมใช้กำลังโถมกายจนร่างโปร่งบางของจินยองหงายหลังลงไปบนโซฟา ร่างกายที่เต็มไปด้วยพลกำลังทาบ

ทับแน่นหนาอยู่เบื้องบน แจบอมเม้มปากเข้าหากลีบปากนุ่มจนอีกฝ่ายสะดุ้งก่อนที่แจบอมจะฉกลิ้นเข้าไปควานเซาะอยู่

ในโพรงปากหวานอย่างกระหาย มือเรียวทุบตีอยู่ตรงต้นไหล่หนาถูกอิมแจบอมยึดไว้ด้วยมือเดียวแล้วล็อคไว้เหนือหัว

ส่วนอีกมือเขาสอดมันเข้าไปในชายเสื้อบีบเค้นไปตามผิวหนุ่มจนจินยองผวา


           “อื้อ ปละ ปล่อย”


           น้ำตาไหลเป็นทางเมื่อลิ้นร้อนผละออกจากปากแต่กลับลากลงมาจนถึงซอกคอเนียนนุ่ม แจบอมเม้มปากลงไป

แรงเรียกเสียงครางแผ่วเบาจนยากจะห้ามใจ แต่เขายังไม่อยากที่จะทำอะไรรุนแรงไปมากกว่านี้จึงได้ตัดใจปล่อยริมฝีปาก

ออกทิ้งรอยแดงเรื่ออยู่ตรงผิวกายขาวผ่อง


           “คนเลว”


           “เลวได้มากกว่าที่นายคิดไว้อีก”


           แจบอมมองจินยองสายตากร้าว เขาลุกขึ้นจากร่างกายบอบบางที่สั่นไหวเพราะแรงสะอื้นแล้วก้าวดุ่มๆออกไปจาก

ห้อง เสียงประตูดังสนั่นที่ปิดตามหลังทำให้จินยองกัดฟันด้วยความเจ็บใจ


           อิมแจบอมร้ายกาจเกินไปแล้ว



     TBC

                                                                                                                                         
 
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ ึ7-8 #BNior #JackBam [03/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-10-2015 09:55:26


                                เล่นกับไฟ

                                 บทที่ 7


           “สมการข้อนี้ต้องใช้สูตรไหนครับครู ครู ครูจินยอง”


           ปาร์คจินยองถึงกับสะดุ้งเมื่อมือเรียวของแบมแบมเขย่าแขนของเขาเพื่อเรียกสติคืนจากการเหม่อลอย จินยอง

สะบัดหน้าเบาๆหันความสนใจมาหานักเรียนที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าแล้วคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้


           “ขอโทษทีที่ครูมัวแต่คิดถึงเรื่องอื่นอยู่เลยไม่ได้ฟังที่แบมแบมถาม”


           “ไม่เป็นไรครับครู” แบมแบมยิ้มตอบ หลายวันที่ได้ใกล้ชิดกับคุณครูคนใหม่ทำให้เด็กหนุ่มอารมณ์ดีขึ้นมาก เขา

สนิทสนมกับครูจินยองจนเกิดความไว้วางใจเป็นพิเศษ


           “ว่าแต่ครูคิดเรื่องอะไร สงสัยว่าจะเป็นเรื่องไม่ดีเพราะดูครูเครียดจัง”


           หนุ่มน้อยหน้ามุ่ยจนจินยองต้องวางมือลงไปบนศีรษะแล้วลูบเบาๆ


           “ครูกำลังคิดว่าแบมแบมควรจะมีเพื่อนคุยบ้าง”


           “ไม่เห็นอยากคุยกับใครเลย มีแต่คนไม่จริงใจทั้งนั้น ผมมีครูคนเดียวก็พอแล้ว”


           แบมแบมประท้วงอย่างขัดใจ


           “แบมแบมฟังครูนะ โลกนี้มันกว้างใหญ่กว่าที่แบมแบมรู้จัก แบมแบมจะขังตัวเองอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ได้ แบมแบม

ต้องมีอนาคตที่ไกลกว่านี้เข้าใจไหมครับ”


           จินยองกล่าวเสียงนุ่มรั้งอารมณ์กรุ่นของลูกศิษย์ให้เย็นลง     


           “แล้วผมจะไปหาเพื่อนที่ไหนล่ะครับครู”


           “แล้วเอ่อ…แบมแบมไม่มีเครื่องมือสื่อสารบ้างหรือ พี่ชายของแบมแบมเขาขัดขวางทุกคนเพื่อขังให้อยู่แต่บ้านหลังนี้หรือไง”


           น้ำเสียงที่ติดจะค่อนขอดทำให้แบมแบมต้องรีบกุมมือจินยองไว้ แล้วแก้ตัวแทนพี่ชาย


           “ครูอย่าต่อว่าพี่ชายเลยครับ พี่ชายจำเป็นต้องทำเพราะว่ามีคนหวังร้ายต่อพวกเราก็เยอะ พี่ชายทำไปก็เพื่อความ

ปลอดภัยทั้งนั้น”


           ฮึ ความปลอดภัย โหดร้ายและป่าเถื่อนมากกว่า


           จินยองนึกถึงใบหน้าที่ทำให้เขาหวาดหวั่นแม้ว่าจะไม่ได้พบหน้ากันหลายวันแล้ว เพราะอิมแจบอมไปดูงานต่าง

เมือง มันทำให้จินยองมีอิสระอยู่บ้างแต่การได้ลอบเข้าไปในห้องสมุดอีกหลายครั้งเขาก็ยังไม่ได้ข้อมูลที่ต้องการ


           บางทีเขาอาจจะต้องใช้ตัวช่วย


           “ผมเองก็มีสมาร์ทโฟนนะ”


           รถเข็นไฟฟ้าถูกเจ้าของบังคับให้เคลื่อนที่ไปยังหัวเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือมาอวดคุณครู


           “เพียงแต่ผมไม่ค่อยได้ใช้มันเท่านั้น ผมไม่รู้จะใช้เพื่อทำอะไรนอกจากโทรหาพี่ชาย”


           ความคิดหนึ่งสว่างวาบเข้ามาในสมองของปาร์คจินยอง ก็ในเมื่อห้ามนักเขาก็ต้องหาหนทางอื่นที่จะติดต่อกับโลก

ภายนอกโดยที่ไม่ให้เจ้าของบ้านจับได้


           “หากใช้อย่างระมัดระวังมันก็จะมีประโยชน์อย่างเช่นถ้าเราได้ติดต่อโลกภายนอกบ้างเพื่อหาความรู้หรือหาเพื่อน”


           “หาเพื่อนหรือครับครู”


           แบมแบมเอียงคอถามด้วยความสงสัย เขาไม่เคยรู้จักสังคมออนไลน์เลยสักนิด จินยองพยักหน้ารับ


           “ใช่ มาสิครูจะสอนให้ อันดับแรกแบมแบมต้องมีอีเมล์สำหรับการสื่อสารก่อนนะ”


           จินยองจัดการสมัครให้แบมแบมแม้กระทั่งการสมัครเฟสบุ๊ค ในขณะที่แบมแบมเองก็มองอย่างตื่นเต้น


           “นี่ไงเราเข้าเฟสบุ๊คได้แล้ว คราวนี้อยากจะเข้าไปหาความรู้ในกลุ่มไหนก็ได้อย่างเช่นกลุ่มนี้ที่ครูแนะนำ”


           แบมแบมมองจอโทรศัพท์ไม่วางตา


           “กลุ่มคนรักต้นไม้นี่น่ะเหรอครับครู”


           “ใช่แล้ว ถ้าแบมแบมอยากคุยกับใครเรื่องไหนเป็นพิเศษก็ใส่แฮชแท็กลงไปแบบนี้ ครูจะลองให้ดู”


           #ต้นหลิวต้นเก่า


         ทันใดนั้นสมาร์ทโฟนในมือก็ส่งเสียงเตือนจนเจ้าของสะดุ้ง เมื่อแบมแบมเปิดอ่านคิ้วโก่งก็ขมวดอย่างสงสัยเมื่อมีบุคคลหนึ่งส่งคำขอเป็นเพื่อนมาคนแรก


           “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์”


           แบมแบมอ่านชื่อคนๆนั้น


           แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เขาเป็นใครกันนะ


           “แล้วผมต้องทำยังไงครับครู”   


           หน้าตาเหรอหราน่าเอ็นดูของแบมแบมทำให้จินยองอมยิ้ม ความจริงแล้วแบมแบมไม่ใช่เด็กดื้อเลยเพียงแต่ขาด

ความอบอุ่นเท่านั้น


           “กดรับเขาเป็นเพื่อนสิครับ”


           ดวงตากลมโตของแบมแบมส่องประกายเพราะความตื่นเต้น ตั้งแต่เด็กจนโตเขาไม่เคยมีเพื่อนเลยแม้แต่คนเดียว

ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่เขาเปิดโลกส่วนตัวออกไปพบโลกกว้าง และไม่นานหลังจากที่เขากดรับคนที่ใช้ชื่อว่า “แจ็คผู้ฆ่า

ยักษ์” มาเป็นเพื่อนคนแรกก็มีข้อความส่งเข้ามาทันที

แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์: สวัสดีนะ ผมชื่อแจ็คสัน


                 “ครูครับ เขาคุยกับผมด้วย” แบมแบมตาโตจ้องมองโทรศัพท์สลับกับมองจินยองอย่างคนไม่มั่นใจ จินยอง

ทรุดตัวลงนั่งใกล้ๆและกุมมือบางไว้


           “ก็คุยกับเขาสิครับเด็กน้อย คิดว่าเขาเป็นเพื่อนของแบมแบมคนหนึ่ง”


           อาจเป็นเพราะความตื่นเต้นทำให้แบมแบมลืมสังเกตว่าจินยองพูดเหมือนรู้จักเพื่อนใหม่ของเขา แบมแบมยิ้ม

รับคำก่อนจะก้มหน้าลงไปกดโทรศัพท์
2BAM: เราชื่อแบม


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: = ชื่อน่ารักจัง ต้องเป็นเด็กสาว

                         ที่น่ารักแน่ๆ


           แบมแบมกลั้นหัวเราะ จินยองไม่ได้ใส่รูปของเขาลงไปในเฟสบุ๊ค โดยใส่เป็นรูปตุ๊กตาหมีน้อยน่ารักลงไปแทน

เพื่อป้องกันอันตรายให้เขามันทำให้เพื่อนใหม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แบมแบมยิ้มกว้างอย่างนึกสนุกที่จะตอบโต้


           จินยองมองเห็นรอยยิ้มสดใสนั้นอย่างเอ็นดู อย่างน้อยคนคุยเก่งอย่างแจ็คสันน่าจะช่วยให้เด็กน้อยที่น่าสงสารได้

กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง


           “วันนี้เรียนมาเยอะแล้ว แบมแบมพักผ่อนด้วยการคุยกับเพื่อนใหม่ตามสบายนะ”


           จินยองออกจากห้องไปแล้วแบมแบมจึงได้ก้มหน้าไปมองจอโทรศัพท์อีกครั้ง
2BAM: ทำไมล่ะ ถ้าไม่น่ารักจะไม่คุยด้วยหรือไง


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย

คุยได้หมดแหละแค่คิดว่าต้องน่ารักแค่นั้นเอง


                รูปอีโมติค่อนหน้าคนแลบลิ้นถูกส่งมาให้ แบมแบมจึงส่งรูปหน้ายิ้มคืนกลับไป
2BAM: เป็นผู้หญิงใส่แว่น


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ว้าวชอบๆ สาวแว่น


แบมแบมถึงกับหัวเราะคิก เพื่อนใหม่ทำให้เขาอารมณ์ดีได้อย่างน่าประหลาด แบมแบมคุยตอบโต้อย่างไม่รู้สึกเบื่อ เขา

นึกขอบคุณจินยองที่เปิดโลกแห่งการสื่อสารให้เขา ต่อจากนี้แบมแบมคงจะไม่นึกเหงาอีกแล้ว








           อิมแจบอมนั่งนิ่งอยู่ด้านหลังของรถยนต์คันหรู ใบหน้าเคร่งขรึมบอกให้รู้ว่าเขากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลัง

จากที่สงสัยในพฤติกรรมของปาร์คจินยองเขาก็ไม่ได้หยุดหยุดอยู่เพียงแค่นั้น เขาใช้ในลูกน้องคนสนิทไปสืบหาข้อมูล

ทันที


           “เป็นเด็กที่เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าครับ ทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบปริญญาตรีและเมื่อจบมาก็เข้าทำงานที่

สำนักข่าว…”


           “อะไรนะ เป็นนักข่าวงั้นหรือ”


           คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อได้ยิน เขาเงยหน้าขอคำยืนยันจากลูกน้องที่พยักหน้ารับแข็งขัน


           “ไม่ผิดแน่ครับนาย ปาร์คจินยองเป็นนักข่าวสายเศรษฐกิจ หากนายจะลองอ่านในเว็บไซส์ของสำนักข่าวแห่งนี้ก็

จะเจอบทความเก่าๆที่เขาเคยเขียนไว้ด้วย”


           ไม่พลาดที่อิมแจบอมจะเปิดอ่านตามที่ลูกน้องของเขาบอกไว้ เขาถึงกับต้องใช้ปลายนิ้วลูบคางในขณะที่อ่านผล

งานของจินยองเพราะบทความนั้นเขียนได้ดีทีเดียว


           นักข่าวสายเศรษฐกิจปลอมตัวมาเป็นคุณครูเพื่อแฝงตัวเข้ามาในบ้านของเขางั้นหรือ ปาร์คจินยองต้องการมาสืบ

เรื่องอะไรกันแน่


           ร่างสูงก้าวลงมาจากรถยนต์เมื่อเทียบจอดอยู่หน้าตัวบ้าน เขาเดินเข้าไปในบ้านท่ามกลางการทำความเคารพจาก

คนในบ้านก่อนจะมาหยุดยืนกลางห้องโถง


           “สวัสดีค่ะนายท่าน”


           ยูริก้าวเข้ามาค้อมศีรษะพลางยิ้มแย้มเมื่อเห็นเขา แจบอมส่งเสื้อสูทให้ยูริรับไปถือแล้วออกคำสั่ง


           “ไม่ได้กินอาหารเย็นที่บ้านนานแล้ว รบกวนคุณยูริช่วยตั้งโต๊ะด้วย อ้อ! ตามแบมแบมกับคุณครูของเขามาด้วยนะ บอกพวกเขาว่าผม


หิวมาก”


           คำสั่งนั้นเองที่ทำให้จินยองต้องมายืนหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ที่โต๊ะอาหารทั้งที่เขาพยายามจะปฏิเสธแต่ยูริก็ยังยืน

กรานด้วยใบหน้าเฉยชา


           “คำสั่งนายท่านถือเป็นสิทธิ์ขาดค่ะ นายท่านบอกให้คุณไปร่วมโต๊ะอาหารคุณก็ต้องไป”


           จินยองก้าวเข้าไปในห้องอาหาร เขาเห็นร่างสูงสง่านั่งหันหลังอยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง เขาพยายามก้าวให้ช้าที่สุดแต่ก็

ต้องตกใจเมื่อมืออุ่นๆของแบมแบมกุมมือของเขาไว้


           “ครูครับไปกันเร็ว ผมไม่ได้ร่วมโต๊ะอาหารกับพี่ชายมานานแล้ว”


           แบมแบมฉุดแขนให้เขาเดินตามรถเข็นไฟฟ้าอย่างรวดเร็วจนกระทั่งดวงตาดุมองตรงมาเมื่อหยุดยืนอยู่หน้าโต๊ะ

อาหาร


           “พี่ชาย คิดถึงจังเลย”


           แบมแบมยกสองแขนโอบกอด อิมแจบอมยิ้มอ่อนโยนเมื่อกอดคนเป็นน้องชายกลับ


           “เป็นเด็กดื้อหรือเปล่าครับแบมแบม”


           “ไม่ดื้อครับ เป็นเด็กดีตั้งใจเรียน ไม่เชื่อถามครูได้ ครูครับมานั่งตรงนี้เร็ว”


           แบมแบมบังคับรถเข็นออกห่างแล้วดึงแขนให้จินยองนั่งลงตรงตำแหน่งติดกับพี่ชาย


           “เอ่อ เดี๋ยวครูไปนั่งอีกฝั่งดีกว่า”


           “อย่าเลยครับครู ให้ผมนั่งคนเดียวดีกว่าครูจะได้ไม่รู้สึกรำคาญรถเข็น นั่งข้างพี่ชายน่ะดีแล้ว”


           แบมแบมบังคับรถเข็นให้เคลื่อนที่ไปยังฝั่งตรงข้าม ปล่อยให้จินยองหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อต้องนั่งใกล้ชิดอยู่กับ

อิมแจบอม


           มันใกล้จนต้นแขนเสียดสี ใกล้จนหัวใจของเขาเต้นเร็วและแรงเมื่อรู้สึกได้ถึงรังสีร้อนแรงจากอิมแจบอม

           
           
                       
           

 
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ ึ7-8 #BNior #JackBam [03/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-10-2015 10:08:52


                                   เล่นกับไฟ

                                     บทที่ 8           


           เสียงพูดคุยดังเจื้อยแจ้วมาจากแบมแบมที่ชักชวนพี่ชายพูดคุยในขณะที่ปาร์คจินยองนั่งตัวแข็งนั่งตักอาหารเข้า

ปากอย่างไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติของอาหารแม้แต่นิดเดียว การที่ต้องนั่งตัวแข็งเพื่อระวังมิให้ร่างกายแตะต้องซึ่งกันกับ

เจ้าของบ้านทำให้จินยองใจเต้นโครมคราม แต่อย่างน้อยอิมแจบอมก็ยังไม่ได้หันเหความสนใจมาทางเขาในเมื่อต้องยิ้ม

รับกับคำพูดของน้องชายตนเอง


           “อ๊ะ จานนี้อร่อยมาก ครูลองหรือยังครับ”


           จินยองสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆแบมแบมก็เงยหน้ามาหา หนุ่มน้อยหน้าใสยิ้มแป้นพลางพยายามจะเอื้อมมือตักอาหาร

ส่งให้จนกระทั่งได้ยินเสียงยับยั้งจากพี่ชาย


           “เดี๋ยวพี่จะตักให้คุณครูของแบมแบมเอง”


           “ไม่ต้องหรอกครับ ผมตักเองได้”


           “จะเป็นอะไรไปเล่าคุณครู ผมต้องบริการคนสำคัญของแบมแบมอยู่แล้ว”


           จินยองเม้มปากแน่นกับโทนเสียงประชดประชันนั่น เขาใช้หางตาชำเลืองท่อนแขนแกร่งที่เคยดึงรั้งร่างกายของ

เขาเข้าไปหาขณะนี้กำลังใช้ช้อนตักอาหารจานดังกล่าวมาใส่ที่จานของปาร์คจินยอง


           “อาหารที่บ้านของผมพอจะทำให้คุณ “อิ่ม” บ้างไหม”


           สะดุดหูจนต้องขมวดคิ้ว จินยองหันขวับไปหาจนได้สบตากับแววตาดุที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้ว


           “หมายความว่าไง”


           โต้ตอบเสียงต่ำอยู่ในคอเพราะแบมแบมยังนั่งเพลิดเพลินกับมื้ออาหารแสนอร่อย จินยองเม้มปากอย่างขัดใจเมื่อ

เห็นแจบอมเหยียดยิ้มอยู่ตรงมุมปาก


           “ก็ตามที่พูด ผมจะไปรู้ได้ไงว่าคุณอยากกินอะไรจะได้ป้อนให้ถูกปาก”


           “อย่าหาเรื่องกันดีกว่า”


           จินยองกัดฟันพูดเสียงเบาพลางชำเลืองมองแบมแบมที่หันไปพูดคุยกับสาวใช้

อิมแจบอมยักไหล่กรอกตาขึ้นบนอย่างคนยั่วโมโห


            “ไม่ได้หาเรื่องแต่เรื่องมันแส่เข้ามาหาเองต่างหาก”


           “นี่นาย!”


           “มีอะไรกันหรือเปล่าครับพี่ชายกับครูจินยอง”


           ผู้ใหญ่สองคนที่กำลังปะทะอารมณ์กันทางสายตาพากันชะงักงัน จินยองกัดฟันหันมาฝืนยิ้มเมื่อเห็นสายตาช่าง

สงสัยจ้องมองอยู่


           “ไม่มีอะไรหรอกแบมแบม คุณครูของแบมแบมคงจะรู้สึกเผ็ดกับอาหารจานนี้ไปหน่อย ไม่เป็นไรอาหารอย่างอื่น

ยังมีอีกเยอะกินกันต่อเถอะ”


           น้ำเสียงยั่วเย้าพร้อมยักไหล่เบาๆช่างขัดสายตา แต่ปาร์คจินยองก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าอดทนตักอาหารเข้า

ปากจนกระทั่งมื้อเย็นนั้นจบลง






           ปาร์คจินยองถอนหายใจโล่งอกเมื่อผ่านพ้นเวลาแห่งความอึดอัดนั้นมาได้ เขารีบกลับเข้าห้องส่วนตัวอาบน้ำชำระ

ร่างกายจนสะอาดเอี่ยม ก่อนที่ร่างโปร่งในชุดนอนเนื้อดีจะนั่งเตรียมการสอนให้แบมแบมในวันรุ่งขึ้น แต่ติดที่จินยองยังไม่

ค่อยมั่นใจในข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ที่กำลังเตรียมอยู่ เขานึกถึงคอมพิวเตอร์ในห้องสมุดเพื่อที่เขาจะหาข้อมุลเพิ่มเติม

ทางอินเตอร์เน็ตได้


           กริ่งเกรงที่จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของบ้านอีกแต่เพราะความจำเป็นจินยองจำต้องไป เมื่อแหงนหน้ามองนาฬิกา

แล้วอิมแจบอมอาจจะหลับไปแล้วก็ได้เมื่อมันเดินทางเข้าสู่ยามดึกจนทั่วทั้งบ้านไร้ซึ่งเสียงใดๆ จินยองตัดสินใจจรดเท้า

ออกจากห้องมุ่งหน้าไปยังห้องหนังสือที่อยู่ไม่ไกลห้องของเขานัก ปิดประตูสนิทแล้วเดินไปนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อจะ

เชื่อมต่อหาข้อมูลการสอนที่ต้องการ


           เมื่อสิ่งที่ต้องการได้จนครบแล้วจินยองจึงปิดจอเว็บเบราเซอร์ลง แต่เรื่องส่วนตัวที่อยากรู้มันทำให้เขาอดใจไม่อยู่

ที่จะลองค้นหาข้อมูลที่คาดว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้อาจจะมีบ้าง มือเรียวที่กุมเมาส์จึงเลื่อนให้มันไปคลิกให้ตัวจัดเก็บ

ข้อมูลในเครื่องให้เปิดหน้าต่างขึ้นมาทีละหน้า


           ดวงตาของเขาเพ่งมองหน้าจอจนมันค่อยๆเบิกกว้าง โฟลเดอร์หนึ่งที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “Ann” เรียกความสนใจ


จากสายตาจนต้องคลิกเข้าไปดู แต่เมื่อเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในนั้นซึ่งมีเพียงรูปถ่ายเพียงรูปเดียว


           จินยองถึงกับงงงันเมื่อเห็นรูปนั้นเต็มตาในเมื่อบุคคลในรูปเป็นบุคคลที่เขาคุ้นเคยที่สุดในชีวิตนั่นก็คือแม่ของเขา

ในวัยสาว จินยองไม่เข้าใจว่าทำไมรูปถ่ายนี้จึงได้มาปรากฏอยู่บนจอคอมพิวเตอร์ในบ้านของตระกูลอิม


           ข่มความสงสัยลงเมื่อนาฬิกาบอกว่าเวลาล่วงเลยเข้าวันใหม่ จินยองปิดคอมพิวเตอร์พลางสะบัดหน้าขับไล่ความ

มึนงง เขาลุกจากที่นั่งเดินตรงไปยังประตูเพื่อจะกลับห้อง แต่พลันที่ประตูเปิดออกจินยองก็ถึงกับสะดุ้งสุดตัว


           อิมแจบอมยืนจังก้าอยู่หน้าประตู เขาสวมใส่เสื้อกล้ามสีขาวอวดช่วงต้นแขนให้เห็นกล้ามเนื้อเด่นชัด สีหน้าจริงจัง

ที่จ้องมองทำให้จินยองถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง


           “หลีกทาง ผมจะกลับห้อง”


           “แอบมาหาข้อมูลอะไรของครอบครัวฉันอีก”


           น้ำเสียงเย็นเยียบทำให้จินยองหนาวไปถึงกระดูก


           “ผมมาหาข้อมูลที่ต้องสอนแบมแบม ไม่ได้มาทำอะไรอย่างที่คุณกล่าวหา”


           ข่มใจโต้ตอบพลางเชิดหน้าสูงทั้งที่หัวใจเต้นรัว


           “ผมบอกให้หลีกทาง”


           ดวงตาสองคู่ปะทะกันอีกครั้งก่อนที่แจบอมจะขยับตัวเพียงเล็กน้อย จินยองรีบเบี่ยงตัวแล้วก้าวลิ่วเดินหนีโดยมี

สายตาคมจ้องมองตามหลัง อิมแจบอมขมวดคิ้วเมื่อเสียงเตือนจากโทรศัพท์ที่พกอยู่ในกางเกงดังขึ้น เขารีบคว้ามาดูสิ่งที่

ลูกน้องคนสนิทส่งมาให้จึงได้รู้ว่าสำนักข่าวที่สงสัยว่าจินยองทำงานให้เพิ่งจะโพสข่าวเรื่องที่บริษัทของเขาเข้าไปข้อง

เกี่ยวกับการล้มละลายของบริษัทที่เขาเข้าไปร่วมทุนด้วยเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา         


ใบหน้าที่เคร่งขรึมอยู่แล้วยิ่งดุดันเมื่ออ่านข้อมูลจากโทรศัพท์ เขาเงยหน้ามองแผ่นหลังที่กำลังเดินหนี แจบอมไม่รอช้า

เขาก้าวลิ่วๆตรงไปกระชากแขนของจินยองจนเสียหลักก่อนที่เขาจะคว้าร่างเพรียวขึ้นบ่าแล้วจ้ำพรวดกลับมายังห้อง

หนังสือ เขาโยนร่างของจินยองลงไปกับโซฟาที่ตั้งอยู่กลางห้อง


           “จะบ้าหรือไง ทำอะไรของคุณ อ๊ะ!”


           กลีบปากถูกครอบครองรวดเร็วและรุนแรง ปาร์คจินยองเบิกตากว้างพลางใช้มือทุบถองกำแพงยักษ์ เจ็บจนน้ำตา

ซึมเมื่อมันร้อนผ่าวไปรอบริมฝีปาก เขาดิ้นไปมาอยู่ภายใต้ร่างแกร่งที่กดน้ำหนักทาบทับจนเขาหมดแรงดิ้นรน


           “ปล่อย!”


           ฝ่ามือนุ่มลอยไปกระทบซีกหน้าของอิมแจบอมเสียงดังสนั่น แจบอมขบฟันจนสันกรามขึ้น เขาคว้าข้อมือของจิน

ยองด้วยแรงบีบมหาศาลก่อนจะล็อคไว้อยู่เหนือหัวพลางก้มหน้ามองใบหน้าซีดเผือดของจินยองด้วยดวงตาคุโชน


           “สารภาพมาว่านายมาทำอะไรที่นี่”


           เสียงต่ำคำรามอยู่ด้านบน จินยองถึงกับปากคอสั่นเมื่อสบตา


           “ก็มาสอนหนังสือน้องชายของคุณไงเล่า ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ โอ๊ย!”


         คางถูกบีบด้วยมือข้างที่เหลือ เจ็บจนน้ำตาซึมแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจ
         

          “โกหก” แจบอมตะคอก


           “นายมีจุดประสงค์อื่น นายต้องการมาทำลายครอบครัวของฉันเหมือนอย่างที่คนอื่นๆทำใช่ไหมปาร์คจินยอง”


           “กลัวด้วยหรือไง”


           จินยองข่มความกลัวเถียงกลับ เขาจะไม่ยอมให้แจบอมขู่เขาได้ฝ่ายเดียวเด็ดขาด


           “ถ้าไม่มีความลับแล้วทำไมถึงได้กลัวการเปิดโปงล่ะคุณชายอิม”


           “ปาร์คจินยอง!”


           ดวงตาแข็งกร้าวจ้องมองราวกับจะให้คนใต้ล่างมอดไหม้ไปกับสายตา มือที่บีบอยู่ตรงคางเปลี่ยนเป็นกระชากชุด

นอนจนขาดติดมือเผยให้เห็นเนื้อเนียนขาวผ่องที่ซ่อนอยู่


           “จะบ้าหรือไง ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ อะ อึก….”


           เรียวปากถูกครอบครองอีกครั้ง คราวนี้ยิ่งเพิ่มความหนักหน่วงดุดันจนจินยองกลั้นหายใจจนสุดแรงกลั้น เขาผวา

หอบหายใจเปิดโอกาสให้ลิ้นร้อนหลุดรอดตามเข้าไปกวาดต้อนในโพรงปากจนหมดทางหนี ร่างกายนุ่มมือถูกบดเบียด

และคลำเค้นด้วยฝ่ามือร้อนให้จินยองสะดุ้งวาบไปทั่วทุกจุดที่แจบอมสัมผัส


           “อื้อออ”


           ครางออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อความร้อนแรงกลับปลุกเร้าให้ร่างกายของเขาเดือดพล่านไปด้วยแรงกระตุ้นทั้งที่

หัวใจของจินยองตะโกนสั่งห้าม แต่ร่างกายของเขากลับตอบรับอย่างน่าละอาย จินยองหมดแรงที่จะห้ามปรามเมื่อแจบ

อมเลื่อนตัวลงไปฝังใบหน้ากับแผ่นอก จินยองร้อนวาบตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อยอดอกสีชมพูถูกเม้มงับแล้วดูดดุนจนต้อง

แอ่นอกตามริมฝีปากนั้น


           “ฮัก ฮัก ไม่ อย่า…”


           ดวงตาเบิกกว้างเมื่อมือแกร่งที่ล็อคข้อมือของเขาคลายออกมอบอิสระให้ แต่กลับย้ายที่ไปคว้าหมับลงบนจุดอ่อน

ไหวแล้วกอบกุมผ่านเนื้อผ้าของกางเกงนอน  จินยองผวายกสองแขนคล้องไปรอบคอของแจบอมโดยอัตโนมัติเมื่อถูก

โจมตีทั้งด้านบนและด้านล่าง จุดซ่อนเร้นถูกบดคลึงด้วยปลายนิ้วที่สัมผัสอยู่ภายนอกแต่จินยองกลับตื่นตระหนกเมื่อเมื่อ

ปลุกให้เขามีความต้องการอย่างง่ายดาย


           “อา ไม่นะ”


           เสียงห้ามจากหัวใจปนเปกับเสียงครางแผ่ว จินยองสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อมือร้อนโยกรั้งอย่างเชี่ยวชาญ ยอดอก

สีสวยกลับแดงเรื่อเปียกชื้น จินยองกัดฟันจนน้ำตาชื้นเมื่อแจบอมทำให้เขาทะยานอยากจนกระทั่ง


           “ฮึก อ่า อิมแจบอม!”


           กรีดร้องอย่างเจ็บใจเมื่อจุดอ่อนไหวถูกกระทำจนต้องปลดปล่อยออกมาอย่างหน้าอับอาย   จินยองหอบหายใจหน่วงหนัก


ใบหน้าแดงก่ำเมื่อเขาสะอื้นออกมาอย่างอับอาย


           อิมแจบอมคว้าใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาให้เผชิญหน้า ดวงตาดุดันจ้องมองด้วยนัยน์ตาที่จินยองเดาไม่ถูก


           “นี่คือบทเรียนแรกที่นายควรจะรับรู้ปาร์คจินยอง อย่าริอ่านเล่นกับไฟ”


           


TBC



ที่เก่าลงไว้ 12 บท

เดี๋ยวลงในเล้าเท่าที่แต่งไว้ครบเมื่อไหร่จะแต่งเพิ่มทันทีเลยน้า

หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 9-10 #BNior #JackBam [05/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-10-2015 20:56:40

                                    เล่นกับไฟ

                                     บทที่ 9


      ร้ายกาจ!

           ดวงตาคู่หวานบอกเขาแบบนั้นเมื่อปาร์คจินยองจ้องมองกลับมา มันทำให้อิมแจบอมนึกสงสารอยู่ไม่น้อย บางที

เขาอาจจะทำเกินเลยกับเรือนร่างงดงามที่ไหวสะท้านอยู่ใต้ล่าง

           บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงลงมือทำแบบนี้ หากเป็นคนอื่นที่แฝงตัวเข้ามาอิมแจบอมก็แค่บอกลูกน้องให้

จัดการโดยไม่จำเป็นต้องเหนื่อยเสียด้วยซ้ำ แต่สำหรับปาร์คจินยองกลับแตกต่างนอกจากจะยังมีลมหายใจอยู่ก็ยังทำให้

เขาอยากจะครอบครองเป็นเจ้าของเสียเหลือเกิน

            ยิ่งจินยองขัดขืนก็ยิ่งท้าทายและเรียกร้องให้เขาสนใจมันช่างแตกต่างจากคนอื่นๆที่พร้อมจะพลีกายให้ แต่

สายตาจงเกลียดจงชังของจินยองปลุกนิสัยนักล่าของเขาขึ้นมาหลังจากมันหลับใหลเนิ่นนาน

           แต่ยังก่อน ยังไม่ใช่ตอนนี้ที่จะจัดการกับลูกกวางที่หลงมาติดบ่วง อิมแจบอมยังอยากจะรู้จุดประสงค์ที่แท้จริง

ของจินยองว่ากล้าหาญบุกเข้าถ้ำเสือมาด้วยเหตุใดกันแน่ ร่างสูงจึงลุกขึ้นจากการกดทับมานั่งทอดสายตามองจินยองที่

ยันกายลุกนั่งอย่างยากเย็น มือเรียวพยายามดึงเสื้อที่ขาดวิ่นมาบดบังเนื้อตัวแต่ก็ไม่สำเร็จจนต้องสบถออกมาอย่าง

หงุดหงิด


           “โธ่โว้ย!”


           กลายเป็นว่าแจบอมต้องซ่อนรอยยิ้มเอาไว้ให้ลึกที่สุดเมื่อเขากำลังจ้องมองใบหน้าแดงก่ำและปากแดงจัดนั่น มัน

ช่างก่อกวนอารมณ์ได้ดีจริงๆ


           “จะไปไหนก็ไปคุณครูปาร์คจินยอง”


           คำพูดอย่างไม่ยี่หระยิ่งสร้างความขุ่นมัวให้แก่ปาร์คจินยองเป็นอย่างมาก เจ็บใจตนเองเหลือเกินที่เป็นฝ่ายพ่าย

แพ้จนต้องปลดปล่อยออกมาเพียงแค่ปลายนิ้วที่อิมแจบอมล่วงเกิน


           “เลว”


           “เคยบอกหรือว่าเป็นคนดี ในสายตานายฉันก็เลวอยู่แล้วนี่นา”


           “ผมเกลียดคุณ!”


           อิมแจบอมกัดฟันแน่น เขากระชางคางเรียวของจินยองให้เข้ามาใกล้ ปากที่แดงเห่อบอบช้ำกลับถูกจูบหนักๆซ้ำ

ลงไปอีกครั้งก่อนที่มันจะเจือจางความเร่าร้อนลงและเพิ่มความอ่อนโยนทดแทนทีละน้อย

           จินยองไม่รู้ตัวเลยว่ามันกลายเป็นจูบที่เรียกร้องหาความหวานไปตั้งแต่เมื่อไหร่  เขาหลับตาลงปล่อยใจให้เตลิด

และเผลอตัวตวัดลิ้นเล็กจูบตอบ มือทั้งสองยกขึ้นวางอยู่บนบ่ากว้างมือเรียวบีบกระชับจนปลายเล็บจิกลงไปบนเนื้อแน่น

ของร่างกายแข็งแกร่ง

            หอบหนักดวงตาลอยคว้างเมื่อแจบอมคืนอิสระให้อย่างอ้อยอิ่ง ดวงตาสองคู่ประสานกันอย่างค้นคว้าอยู่ในความ

เงียบสงัดยามดึก แจบอมใช้ปลายนิ้วกวาดเช็ดน้ำลายใสที่ติดค้างอยู่รอบกลีบปากแล้วจึงเอียงหน้าไปกระซิบที่ข้างหูของ

จินยอง


           “เกลียดเสียให้พอแล้วอย่าได้เผลอรักฉันก็แล้วกัน เพราะถ้านายรักฉันเมื่อไหร่รับรองว่านายจะไม่มีวัน

เลิกรักฉันได้เลยปาร์คจินยอง”



           จินยองอ้าปากค้างอย่างตกตะลึงพร้อมกับที่อิมแจบอมลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทิ้งให้จินยองหลั่งน้ำตาแห่ง

ความอดสูออกมาอยู่เพียงคนเดียว
2Bam: หายไปไหนหลายวัน

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ทำงานหาเงินสิฮะ ต้นไม้ที่บ้านไม่ได้ออกดอกเป็นแบงค์นะ ^^ คิดถึงอะดิ
2Bam: บ้า ใครคิดถึง หลงตัวเองชะมัด

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
:ปากก็ว่าไม่แต่ใจคิดถึงจะขาดรอนนนนนน



           บ้าจริงๆ

           แบมแบมหัวเราะคิกออกมาจนได้ ร่างบางเกลือกกลิ้งอยู่บนที่นอนนุ่มพลางจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่

คลาดสายตา เมื่อได้อ่านข้อความจากเพื่อนทางเฟสบุ๊ค

           ชีวิตที่เคยสุดแสนจะน่าเบื่อหายไปเพราะได้พูดคุยกับเขา ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้า ผู้ชายที่ยังคงนึกว่าเขาคือสาว

น้อยถักเปียใส่แว่นหนาเตอะ แต่มันก็ทำให้แบมแบมสบายใจที่จะพูดคุยกับเพื่อนใหม่ที่ชื่อแจ็คสันได้อย่างสบายใจและไร้

ซึ่งกังวล


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: บ้านอยู่แถวไหนน่ะสาวน้อย
2Bam: ทำไม จะมาหาเหรอ

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ไปหาได้ปะล่ะ
2Bam: หมาดุ

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ฮึ่ยยย คุยกะหมารู้เรื่อง เพื่อนกัน
2Bam: จะมาถูกเหรอ อยู่ริมทะเล

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ว้าว ทะเลแถวนั้นสวยนะ ตอนที่พระอาทิตย์ตกน้ำน่ะ




           ใบหน้าที่ยิ้มแย้มอยู่กลับเศร้าลงทันที พระอาทิตย์ตกน้ำงั้นหรือ นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้เห็น ก็คงนานเท่ากับที่

แบมแบมต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นนี่แหละ


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: เอาไว้เราไปดูพระอาทิตย์ตกน้ำด้วยกันนะสาวน้อย
2Bam: พระอาทิตย์ตกน้ำงั้นหรือ คงจะไม่มีวันนั้นหรอก

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: อ้าวทำไมล่ะ ทำไมพูดแบบนั้น

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: แบม แบม แบม ตอบหน่อย หายไปไหน

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
:แบม  แบม  T^T


           แบมแบมทิ้งตัวลงนอนซุกตัวเข้าหากองผ้าห่มผืนหนาแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างปวดร้าวเมื่อคิดถึง

ความหวังที่ไม่มีวันเป็นจริง

           เขาคงไม่มีโอกาสได้ไปดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าลงสู่ผืนทะเลสีครามกับใครทั้งสิ้น






          “ครูว่าผมจะมีโอกาสหายแล้วเดินได้ไหมครับครู ครูจินยอง”


          จินยองสะดุ้งสุดตัวเมื่อท่อนแขนถูกมือของแบมแบมเอื้อมมาแตะเพื่อเรียกเมื่อเขายืนเหม่อ เขาหันไปฝืนยิ้มให้

แบมแบมที่นั่งอยู่บนรถเข็นท่ามกลางสวนสวยกว้างขวางเมื่อเขาพาแบมแบมมาในยามบ่าย


           “ขอโทษทีแบมแบม ครูมัวแต่คิดเรื่องอื่นอยู่ แบมแบมว่าไงนะ”


          แบมแบมมองคุณครูของตนอย่างค้นคว้า


          “ครูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ผมเห็นครูหน้าซีดและขมวดคิ้วตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว”


          ปาร์คจินยองยกมือลูบใบหน้าพลางทอดถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยามดึกทำให้เขาไม่

สามารถข่มตาให้หลับลงได้ จินยองทั้งเจ็บใจ แค้นใจ แต่ความรู้สึกแปลกแยกที่เพิ่มเติมมาคือความน้อยใจที่เขาไม่นึกว่า

มันจะผุดขึ้นมาในความรู้สึก


          คำว่าน้อยใจ มันมีไว้สำหรับคนที่มีความรู้สึกพิเศษลึกซึ้งต่อกันเท่านั้น จินยองกำลังกลัวใจตัวเองเหลือเกินกับ

แรงดึงดูดที่ยากเกินจะห้ามใจจากอิมแจบอม


        “ครูไม่เป็นไรหรอกครับแบมแบม ขอบใจนะที่เป็นห่วง ครูแค่มีเรื่องกังวลที่ยังคลายปมไม่ออกแค่นั้นเอง”


        “เรื่องกังวลงั้นหรือครับ” หนุ่มน้อยเอียงหน้ามองครูของตนอย่างสงสัย พลางสอดมือประสานกับมือนุ่มของจินยอง

อย่างสนิทสนม


           “ถ้ามีอะไรให้ผมช่วยได้ก็บอกนะครับครู ผมไม่อยากเห็นหน้าครูเศร้าแบบนี้ อยากให้ครูยิ้มแย้มมีความสุขมากกว่า

พี่ชายของผมจะได้ยิ้มได้ด้วย”


           ปาร์คจินยองชะงักงัน กลีบปากสีแดงเม้มแน่นอย่างขัดใจ


           “ทำไมครูจะต้องยิ้มให้พี่ชายของแบมแบมมีความสุขด้วย ไม่เห็นจะเกี่ยวกันสักนิด”


           “โธ่ครู…” แบมแบมอมยิ้ม “ผมไม่ได้ตาบอดนะถึงไม่เห็นว่าพี่ชายน่ะแอบมองครูบ่อยแค่ไหน แล้วสายตาที่มองครูก็แทบจะกลืนลงคออยู่แล้ว”


           ฮึ จ้องจะทำร้ายจิตใจกันสิไม่ว่า


           จินยองนึกเถียงคำพูดของลูกศิษย์อยู่ในใจ ในขณะที่แบมแบมก็ยังยิ้มล้อเลียนไม่เลิก


           “ส่วนครูน่ะรู้ตัวไหมครับ เวลาอยู่กับพี่ชายครูจะแก้มแดงเป็นมะเขือเทศเลย”


           “เหลวไหลน่าแบมแบม”


           ดุออกไปแต่ใบหน้ากลับร้อนเห่อจนแบมแบมยิ้มขำที่คุณครูจินยองไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองน่ารักแค่ไหน ขนาดเขายัง

ยอมลงให้แล้วมีหรือที่พี่ชายของเขาจะไม่ชอบ


           “ว่าแต่เมื่อครู่ที่ครูบอกว่ามีเรื่องที่ยังคลายปมไม่ออกน่ะคือเรื่องอะไรหรือครับ เผื่อผมจะช่วยได้”


           จินยองฉุกใจคิด บางทีลูกศิษย์ของเขาน่าจะช่วยได้


           “เมื่อคืนครูเข้าไปหาข้อมูลในห้องหนังสือมาสอนแบมแบมวันนี้แล้วบังเอิญเปิดไปพบกับรูปถ่ายของคนรู้จักใน

คอมพิวเตอร์ ครูแค่สงสัยว่าทำไมรูปนั้นถึงได้มาอยู่ในคอมที่บ้านนี้ได้”


           แบมแบมเลิกคิ้วอย่างสงสัย


           “คนรู้จักของครูหรือครับ แปลกจัง ปกติห้องหนังสือจะเป็นห้องที่คุณพ่อใช้เป็นประจำเมื่อก่อนน่ะครับ แล้วทำไม

ถึงมีรูปคนรู้จักของครูได้นะ”


           จินยองสะกิดใจทันที เขาย่อตัวลงให้อยู่ระดับเดียวกับแบมแบมบนรถเข็น


           “คุณพ่อของแบมแบม ประธานอิมที่เสียชีวิตไปงั้นหรือ”


           “ใช่ครับ ตอนที่พ่อยังอยู่มักจะอยู่ในห้องนั้นผมเองยังเข้าไปอยู่กับพ่อบ่อยๆ ผมจะลองช่วยครูหาคำตอบดีไหม

ครับ”


           หัวใจของจินยองเต้นราวกับมีกลองอยู่ในนั้น เขามองแบมแบมอย่างมีความหวัง เบาะแสที่ตามหาว่าครอบครัวที่

ถูกทำลายจนทิ้งไว้เพียงตัวเขาให้กลายเป็นเด็กกำพร้านั้นใกล้เข้ามาทุกที

           หากต้นเหตุเกิดจากตระกูลอิมจริงๆ ปาร์คจินยองสัญญาว่าเขาจะทวงความยุติธรรมคืนให้พ่อและแม่ของเขาอย่าง

แน่นอน
           



แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ :เมื่อคืนอยู่ๆก็หายไป เกิดอะไรขึ้นเหรอ สาวน้อย
2BAM: ง่วงจนเผลอหลับไปน่ะไม่มีอะไรหรอก

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: จริงอะ อย่าโกหกกันนะแบม รู้ปะว่ามีคนเป็นห่วง
2BAM: ทำไมต้องห่วง ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: อ้าว ที่คุยกันทุกคืนนี่ไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นสิ?



           แบมแบมอมยิ้มให้กับอีโมติค่อนใบหน้าคนแยกเขี้ยวที่ถูกส่งมาให้ ยิ่งได้คุยกันบ่อยครั้งแบมแบมก็ยิ่งคิดถึง

ข้อความที่เพื่อนใหม่ส่งมาให้



แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: เพื่อนก็ต้องเป็นห่วงเพื่อนอยู่แล้วล่ะ
2BAM: เราเป็นเพื่อนกันได้เหรอ

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: แบม นี่เราก็เป็นเพื่อนกันอยู่นะ มีอะไรก็บอกกันได้

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: แบม หายไปอีกแล้ว ตกลงเป็นอะไร
2BAM: เปล่า แค่ดีใจที่มีเพื่อน ขอบคุณนะแจ็ค ขอบคุณจริงๆ
           


           น้ำตาซึมอย่างซึ้งใจที่คนอย่างเขาจะได้มีเพื่อน แม้ว่าจะไม่เคยเห็นหน้าหรือได้ยินเสียงแต่อย่างน้อยถ้อยคำที่

คอยให้กำลังใจก็ทำให้แบมแบมได้ซึมซับมันเอาไว้ และทำให้เขานอนหลับฝันดีตลอดคืน









หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 9-10 #BNior #JackBam [05/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-10-2015 21:03:25
เริ่มมีหลายป่มละ
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 9-10 #BNior #JackBam [05/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-10-2015 21:05:10


                                 เล่นกับไฟ

                                 บทที่ 10


           “ใต้ไฟล์ภาพนี้มีรหัสอยู่ฮะครู”


           แบมแบมชี้ให้ปาร์คจินยองมองเห็นตัวเลขที่ต่อจากตัวหนังสือ จินยองขมวดคิ้วอย่างงงงัน


           “บ้านของเรามีข้อมูลต่างๆมากมายครับทั้งเรื่องปกติและความลับ เราจะใช้รหัสใส่ไว้เพื่อการสืบค้น อย่างรูปของ

คนที่ครูรู้จักใช้เลขนี้ เดี๋ยวเราไปดูกันดีกว่าว่าทำไมพ่อถึงมีรูปผู้หญิงคนนี้ในคอมพิวเตอร์ได้”


           แบมแบมบังคับให้รถเข็นเลื่อนไปหยุดเบื้องหน้าภาพวิวที่ใส่กรอบไว้ที่ผนังด้านหนึ่ง เขาล้วงไปด้านหลังภาพดัง

กล่าวแล้วกดปุ่ม หลังจากนั้นจินยองถึงกับตาโตเมื่อเห็นผนังปูนเลื่อนออกจากกันและปรากฏเป็นช่องเล็กๆหลายอยู่

ภายใน


           แบมแบมมองหมายเลขที่ติดไว้ด้านหน้าช่อง เขาหยิบกล่องจากช่องนั้นมาตั้งไว้ที่โต๊ะเล็กหน้าโซฟาอ่านหนังสือ

หนุ่มน้อยเปิดฝากล่องนั้นแล้วเรียกจินยองมาดู


           “ครูลองดูสิครับว่ามีเรื่องอะไรในนั้น”


           “จะดีเหรอแบมแบม มันอาจเป็นความลับของพ่อของแบมแบม”


           “คุณพ่อเสียชีวิตไปนานแล้วครับ และผมไว้ใจครูว่าจะไม่ทำให้ตระกูลของผมเสียชื่อเสียง”


           “ขอบใจนะแบมแบม เด็กดีของครู”


           จินยองดึงแบมแบมมากอดแทนคำขอบคุณ ก่อนจะพุ่งความสนใจไปยังแผ่นกระดาษสีเก่าคร่ำคร่าที่อยู่ภายใน

กล่อง เขาหยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวังแล้วพิจารณาทีละแผ่น


           มันเป็นจดหมายที่เขียนโต้ตอบกันระหว่างเศรษฐีอิมในวัยหนุ่มและผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่ออันนา จินยองพยายามไล่

เรียงความเป็นมาจนกระทั่งจับใจความได้ว่าฝ่ายหญิงเขียนจดหมายคร่ำครวญการตัดสินใจที่ผิดพลาดในการเลือกผู้ชาย

มาเป็นคู่ชีวิตส่วนประธานอิมก็ปลอบโยนจนในที่สุดเรื่องก็ดำเนินมาถึงการนัดหมายพบเจอกันหลังจากนั้น

           ปาร์คจินยองกัดริมฝีปากจนแทบห้อเลือด ภาพในวัยเด็กที่บิดามารดาทะเลาะกันโดยที่เขาไม่เข้าใจสาเหตุผุดขึ้น

มาจนหัวใจปวดร้าว ภาพบิดาที่ฟุบหน้าลงกับท่อนแขนแล้วร้องไห้ในขณะที่มารดายืนหันหลังให้นั้นทำให้จินยองในวัย

เด็กที่แอบอยู่ข้างประตูถึงกับน้ำตาไหล


           “ผู้หญิงแพศยา ผู้หญิงเลวที่ไปมีชู้กับชายอื่น”


           ในตอนนั้นจินยองไม่เข้าใจ แต่บัดนี้เขากระจ่างแล้ว น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจนแบม

แบมตกใจ


           “ครูเป็นอะไรครับ ร้องไห้ทำไม”


           จินยองรีบเช็ดน้ำตา เขาหันมาฝืนยิ้มให้แบมแบม


           “ครูเพ่งอ่านตัวหนังสือจนแสบตาน่ะไม่มีอะไรหรอก”


           “ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ แล้วสรุปว่าผู้หญิงที่ครูรู้จักเป็นอะไรกับพ่อหรือครับ”


           ปาร์คจินยองถอนหายใจ เมื่อเอ่ยตอบเสียงสั่นพร่า


           “ดูเหมือนว่าเขาจะรู้จักกันและปรึกษาปัญหาความรักกัน ดูแบมแบมไม่แปลกใจเลยนะที่ได้ยิน”


           แบมแบมยิ้มอ่อนดวงตาเรียวสลดไปเล็กน้อย


           “พ่อเป็นพ่อที่ดีและรักผมมาก แต่ก็ต้องยอมรับว่าพ่อมีผู้หญิงเยอะจนนับไม่ถ้วนแม้แต่แม่ของผม”


           “โธ่ แบมแบม”


           จินยอมกอดแบมแบมเพื่อปลอบโยน ทั้งที่ในใจของจินยองเต็มไปด้วยความแค้น


           ผู้ชายตระกูลอิมทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกแยก
           






           ร่างสูงของอิมแจบอมก้าวลงจากรถยนต์ในยามดึกหลังจากที่เพิ่งเสร็จงาน และทันทีที่ก้าวเข้ามาในบ้าน ยูริ แม่

บ้านสาวใหญ่ก็รีบก้าวเข้ามาโค้งคำนับและรับเสื้อสูทไปถือไว้


           “มีอะไรหรือเปล่าคุณยูริ”


           “ตามที่คุณชายได้สั่งไว้ค่ะ” ยูริรายงานเสียงเรียบ “ตู้นิรภัยสำหรับเก็บเอกสารในห้องหนังสือมีร่องรอยการถูกเปิด

ออกในวันนี้”


           อิมแจบอมขมวดคิ้ว เขาหันไปหาแม่บ้านยูริอย่างใคร่รู้


           “ใครเข้าไปในห้องนั้นบ้าง อย่าบอกนะว่า…”


           “ค่ะ คุณครูจินยองเข้าไปกับคุณหนูแบมแบม”


           กัดกรามกรอดเมื่อได้ยิน คนหน้าซื่อแต่ใจคิดจะล้วงความลับโดยใช้น้องชายที่ใสซื่อของเขาเป็นเครื่องมือ

ปาร์คจินยองร้ายเกินกว่าที่เขาจะไว้ใจ

           แจบอมโบกมือให้ยูริกลับไปพักผ่อนก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นไปยังชั้นบนของตัวบ้านที่เงียบสงัด แล้วไปหยุดอยู่ที่

หน้าประตูห้องส่วนตัวของปาร์คจินยอง เขาล้วงกุญแจดอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง กุญแจที่เขาเก็บไว้แต่ยังไม่

เคยคิดจะใช้จนกระทั่งวันนี้ เขาจัดการเสียบมันเข้ากับลูกบิดประตูห้องและเปิดมันเพื่อจะก้าวเข้าไป

           มีเพียงห้องที่ว่างเปล่าแต่อิมแจบอมได้ยินเสียงสายน้ำแว่วมาจากห้องน้ำที่ปิดประตูอยู่ ร่างสูงยืนรออย่างใจเย็น

จนในที่สุดประตูห้องน้ำก็เปิดออกและร่างขาวที่ซ่อนกายอยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำจะเดินออกมาจากห้อง

           ปาร์คจินยองยังไม่ทันตั้งตัวเขาก็ถูกกระชากแขนเข้าหา แขนทั้งสองถูกอิมแจบอมยึดไว้ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลแต่

จินยองก็ยังดิ้นรนอย่างตกใจ


           “ปล่อย จะมากเกินไปแล้วนะ คุณมีสิทธิ์อะไรเข้ามาในห้องส่วนตัวของผม”


           “แล้วนายล่ะ มีสิทธิ์อะไรถึงได้เข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่น”


           ปาร์คจินยองนิ่งงันก่อนจะตั้งสติแล้วแค่นหัวเราะใส่หน้าเจ้าของบ้าน


           “ทำไม กลัวหรือไง กลัวว่าผมจะรู้ความลับดำมืดในสิ่งที่ครอบครัวของคุณปกปิดไว้งั้นสิ”


           “หยุดเดี๋ยวนี้นะปาร์คจินยอง!”


           ตวาดใส่หน้าพลางขบกรามจนขึ้นเป็นสันเมื่อเห็นใบหน้างดงามที่กำลังเลิกคิ้วท้าทายอยู่


แจบอมกำลังจะทนไม่ไหว!


           “ไม่หยุด ทำไม กลัวนักหรือว่าคนอื่นเขาจะรู้ว่าพ่อของคุณมันเลวแค่ไหนที่ไปเป็นชู้กับผู้หญิงที่มีสามีแล้ว โอ๊ย!”


           จินยองอุทานอย่างตกใจเมื่อร่างเพรียวถูกเหวี่ยงจนถลาไปกระแทกกับเตียงนอนก่อนที่เขาจะตกใจซ้ำหนักกว่า

เก่าเมื่ออิมแจบอมกระโจนลงมาคร่อมอยู่บนตัว จินยองดิ้นรนขัดขืนแต่แล้วข้อมือเล็กก็ถูกคว้าไว้และถูกเชือกจากชุดคลุม

อาบน้ำนั่นเองมามัดรวบเข้าด้วยกันจนดิ้นไม่หลุด


           “ปล่อย คนเลว จะทำอะไร”


           คราวนี้จินยองตกใจจริงๆเมื่ออิมแจบอมตวัดปลายเชือกที่เหลืออยู่ไปผูกไว้กับหัวเตียงจนแขนทั้งสองถูกดึงรั้งไว้

อยู่เหนือหัว ชุดคลุมอาบน้ำแยกออกจากกันจนเผยให้เห็นเนื้อตัวขาวผ่องอวดแสงไฟ อิมแจบอมลุกยืนแล้วปลดกระดุม

เสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดอวดช่วงกายฟิตเฟิร์มและในที่สุดเขาก็ปลดกางเกงออกจากตัวจนเหลือเพียงกายสมบูรณ์แบบ


           “ไม่!”


           พยายามกระถดตัวหนีแต่ช้ากว่าอิมแจบอมที่โถมกายลงมาทาบทับอีกครั้ง กายแกร่งออกแรงแค่เล็กน้อยจินยองก็

เกือบจะหายใจไม่ออก จินยองผวาเมื่อซอกคอเนียนนุ่มถูกขบเม้มอย่างแรงจนเหลือรอยแดงไว้อยู่บนเนื้อขาว


           “ต้องการแบบนี้ไม่ใช่หรือ เรียกร้องความสนใจจากฉันนัก ก็เหมาะแล้วกับคนอย่างนาย”


           คางเรียวถูกบีบจนจินยองน้ำตาซึม กลีบปากนุ่มถูกบดเบียดจากอิมแจบอมอย่างรุนแรงราวกับเขากำลังขยี้กลีบ

กุหลาบในมือให้แหลกคามือ ปลายลิ้นร้อนสอดลึกตวัดไปมาดูดอากาศจากจินยองให้ทรมานจนเกือบสำลัก มือสากร้อน

ผ่าวลากไล้ไปตามเนื้อตัวอย่างจาบจ้วง


           “อื้ออออ ไอ้คนเลว”


           จุดอ่อนไหวถูกกอบกุมอย่างรู้เชิง ปาร์คจินยองสะดุ้งสุดตัวเมื่อนิ้วร้อนเค้นคลึงไม่หยุดหย่อน อีกมือบีบเค้นยอด

อกจนแข็งขืนก่อนที่แจบอมจะยอมสละปากนุ่มเพื่อเปลี่ยนมาครอบครองมัน ปากเม้มดึงส่วนลิ้นก็โลมเลียจนปาร์คจินยอง

ต้องแอ่นกายตามติด


           “นายรู้ว่าฉันเป็นไฟแต่นายก็ยังกล้าเสี่ยง”


           เสียงต่ำลึกดังแว่วมาจากท้องน้อยเมื่ออิมแจบอมเลื่อนตัวลงต่ำ เนินเนื้อสามเหลี่ยมกลายเป็นเป้าหมายใหม่จน

ปาร์คจินยองเผลอครางอย่างน่าอาย เจ็บใจเหลือเกินที่ร่างกายของเขากลับร้อนผ่าวราวกับผู้ชายกักขฬะกำลังปลุกให้ตื่น

ขึ้นมา


           “แล้วนายจะได้รู้ว่าการมาล้อเล่นกับเปลวไฟมันจะแผดเผานายแค่ไหน


           “อย่า!”


           ต้นขาทั้งสองถูกยกให้สูง อิมแจบอมกัดลงไปที่หลังต้นขาอ่อนก่อนที่เขาจะยันกายอวดกายแกร่งที่ตื่นขึ้นมาเต็ม

ตัว ปาร์คจินยองเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่ออิมแจบอมจ่อมันเข้ากับช่องทางแล้วดันกายสอดเอวเข้ามาในที่สุด

           ราวกับโลกทั้งใบกำลังถล่มลงมา ความเจ็บปวดเมื่อกล้ามเนื้อถูกกระแทกแล่นวาบตั้งแต่หัวจรดเท้า ปาร์คจินยอง

อ้าปากค้างกลั้นใจกับความเจ็บแปลบที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ในขณะที่อิมแจบอมเองก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อพบกับความคับ

แน่นรัดรึงที่โอบล้อมเขาอยู่


           บริสุทธิ์เหลือเกิน!


           อิมแจบอมรู้ เขาเป็นคนแรกที่ได้สัมผัสช่องทางอันอ่อนนุ่มนี้ เขากัดฟันมองใบหน้าที่ยังเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

เบื้องล่างและก้มลงไปครอบครองกลีบปากนุ่มที่ช้ำจากฝีมือของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้ลิ้นร้อนตวัดพิ้นลิ้นเล็กอย่างรุ่มร้อน

จนจินยองถึงกับตาพร่าและเผลอตวัดลิ้นตอบจนได้ยินเสียงครางลึกจากแจบอม เขาถือโอกาสดันเอวเข้าไปทีละน้อย


           “อะ อึก อื้ม”


           เสียงร้องดังเพลงอึกอักอยู่ในลำคอที่ถูกแจบอมเรียกร้องความสนใจ มือหนากอบกุมยกสะโพกนุ่มมือขึ้นสูงเพื่อที่

จะรับท่อนเนื้อของเขาให้แทรกกายเข้าไปจนหมด ความคับแน่นร้อนระอุทำให้แจบอมยากจะถอนกายถอนใจออกเพราะ

มันยิ่งเร่งเร้าให้เขาขยับเอวเข้าออกจนเสียดสีอยู่ในช่องทาง


           “เจ็บ อะ ผมเจ็บ”


           น้ำตาหลั่งไหลราวสายน้ำ มันเจ็บจนอยากจะผลักคนที่กำลังขับเคลื่อนให้กระเด็นแต่อีกใจหนึ่งก็กลับโหยหา

อยากให้เขาแทรกกายประสานสอดลึกกว่านี้ ยิ่งเมื่อท่อนเนื้อเหมาะมือของเขาตกอยู่ในอุ้งมือที่กำลังกอบกุมเค้นคลึงอีก

ครั้งคราวนี้ปาร์คจินยองก็ยอมแพ้


           ร่างเพรียวเด้งเอวตอบรับให้อิมแจบอมกระแทกเอวเข้าหา ปาร์คจินยองร้องไห้ออกมาเมื่อหัวใจกับร่างกายช่าง

สวนทางกัน เขากำลังหลงไปกับการกระทำที่แจบอมกำลังสั่งสอน และตอนนี้ร่างกายของเขากำลังจะทะยานไปสู่ห้วง

สุดท้าย


           ปาร์คจินยองบิดตัวพล่านปล่อยเสียงครางหวานไม่ขาดระยะขณะขยับเอวตอบรับก่อนจะเกร็งกายปลดปล่อย อิม

แจบอมคำรามลั่นพลางสาวเอวเต็มที่หลังจากนั้น เขาแช่ค้างเอวไว้เมื่อน้ำคาวขุ่นอัดแน่นอยู่ในช่องทางจนไหลทะลัก

เปรอะเปื้อน ปาร์คจินยองสะอื้นพลางทุบถองแผ่นหลังกว้างจนหมดแรง


            “เลวที่สุด


            เสียงก่นด่าพร้อมทั้งน้ำตาที่รินไหลจากความเจ็บปวดก็ยังไม่สามารถหยุดความกักขฬะของผู้ชายอย่างอิมแจ

บอมได้ ปาร์คจินยองต้องนอนครางฮืออย่างหมดเรี่ยวแรง ครางเพราะเจ็บปวดครางเพราะยิ่งเจ็บก็ยิ่งกระตุ้นให้เผลอ

คล้อยตามร่างแกร่งที่ยิ่งลงน้ำหนักกับร่างกายของเขาอีกครั้ง


           “เจ็บก็ร้องออกมาสิปาร์คจินยอง


           เขากระซิบเสียงหนักอยู่แถวใบหูก่อนที่จะขบเม้มมัน


            “ในเมื่อนายรู้ว่าไฟมันร้อน นายก็ต้องพร้อมที่จะเจอกับการเผาไหม้


            “แล้วนายก็จะได้รู้ว่าไฟอย่างฉันพร้อมแค่ไหนที่จะแผดเผานายให้เป็นจุล
 



                                                          :ling1: :ling1: :ling1:





หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 11-12 [09/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-10-2015 18:39:52

                                    เล่นกับไฟ
           
                                    บทที่ 11
           


               ร่างกายอันบอบบางและแสนบริสุทธิ์นอนหลับสนิทคุดคู้ราวกับเด็กทารกอยู่ข้างกาย  อิมแจบอมนอนตะแคง

ใช้มือรองศีรษะเพื่อมองใบหน้าเนียนที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของ ปาร์คจินยอง อดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปเช็ดมันจากคนที่

ยังสะอื้นไห้แม้จะยังหลับอยู่ด้วยความอ่อนเพลียกับการกระทำอันป่าเถื่อนของเขาตลอดทั้งคืน

               ป่าเถื่อน ร้ายกาจ ใช่! เขายอมรับมันอย่างหน้าชื่นตาบาน

               เขาทำร้ายและยัดเยียดความเจ็บปวดให้แก่ปาร์คจินยองแม้ว่ามันจะบรรเทาลงด้วยความหวานฉ่ำที่แทรกเข้า

มาในอารมณ์จนกลายเป็นว่าเขากำลังมัวเมาไปกับการกระทำของตัวเอง ยิ่งได้ยินเสียงครางหวานจากจินยองเข้าก็ยิ่ง

ได้ใจและยิ่งตักตวงจากผู้ชายอ่อนไหวตรงหน้า ร่างกายของปาร์คจินยองช่างตอบสนองและกระตุ้นให้คนอย่างเขาหลง

อยู่ในวังวนเสน่หาจนต้องกัดกรามกรอดเพื่อยั้งหัวใจของตัวเอง

               อย่าเชียวนะ อิมแจบอม นายจะหลงใหลได้ปลื้มคนที่กำลังคิดไม่ซื่อกับครอบครัวของนายไม่ได้

         
ใบหน้างดงามที่แจบอมจ้องมองขยับช้าๆ ดวงตาคู่หวานกระพริบถี่ก่อนจะปรือสู้แสงแดดยามสาย ปาร์คจินยอง

ถอนสะอื้นเมื่อความเจ็บปวดร้าวระบมพาดผ่านไปทั่วทั้งร่างยืนยันให้รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน เขาตกเป็นเบี้ยล่าง

ของอิมแจบอมชายโฉดที่กระทำย่ำยีทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งลืมตาขึ้นเห็นใบหน้าคมตาดุที่จ้องอยู่ จินยองก็เม้มปากด้วย

ความคับแค้นก่อนที่จะออกแรงผลักไสอย่างเจ็บใจ


               “ไปให้พ้นไอ้คนสารเลว”


               “ตื่นขึ้นมาก็พยศทันทีเลยนะ”


               มือที่แข็งราวกับคีมเหล็กจับข้อมือเล็กไว้อย่างง่ายดายราวกับรำคาญเต็มทีส่วนอีกมือเขาดึงผ้าห่มออกเผยให้

เห็นเรือนร่างบอบบางที่ยังมีร่องรอยที่เขาทิ้งไว้เป็นหลักฐานเต็มไปทั่วตัว อิมแจบอมเลิกคิ้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้ม

อยู่แค่มุมปาก


               “หรือว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามันยังไม่ถึงใจ อยากให้จัดการอีกสักรอบ”


               “บ้า เลว ร้ายกาจที่สุด กูจะฆ่ามึงด้วยมือของกู”


               แค้นจนต้องตะโกนใส่หน้าและดิ้นพล่านทันทีที่แจบอมสอดมือดึงเอวบางเข้าแนบชิดพลางบีบคางมนแล้วจับ

ล็อคให้อยู่นิ่ง


               “ถ้าทำได้ก็ลองสิ แต่ก่อนจะถึงตอนที่นายฆ่าฉัน ฉันก็จะจัดการให้นายส่งเสียงครางจนสะใจยิ่งกว่าที่ผ่านมา

และต้องเรียกร้องหาจนตัดใจฆ่าไม่ลง”


               “ไม่มีทางเสียล่ะที่ฉันจะคิดอย่างนั้น นายมันก็แค่คนสวะที่ผ่านมาแล้วก็จะผ่านไปเหมือนคนอื่นๆ”


               อิมแจบอมเกือบจะหลุดขำออกไปเมื่อได้ยินคำพูดของจินยองที่พยายามจะทำให้ตนเองนั้นดูกร้าวแกร่งและ

ไม่แคร์กับเรื่องที่เกิดขึ้น ดูเหมือนคุณครูของน้องชายของเขาจะไม่รู้ตัวเลยว่าร่างกายของตนช่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแต่

กลับเรียนรู้ได้เร็วจนทำให้อิมแจบอมแทบไม่อยากห่างจากร่างกายนี้


               “งั้นหรือ เก่งเรื่องบนเตียงมากนักสินะ งั้นลองกันอีกสักยกเป็นไง”


               “อย่า อื้อ...”


               คางถูกดึงเข้าหาพร้อมกับที่แจบอมยื่นใบหน้าเข้ามาชิด กลีบปากที่ยังช้ำเห่อจัดถูกปิดลงอีกครั้ง จินยองเม้ม

ปากแน่นแต่ก็รั้งไม่อยู่เมื่อแจบอมแกล้งใช้ฟันขบเข้าใส่จนเผลอไผลให้ลิ้นชื้นเข้าโรมรันอย่างชำนาญ


               “อา...จะ แจ บอม”


               สติเตลิดจนหลุดชื่ออีกฝ่ายออกจากปาก อิมแจบอมคำรามลึกอย่างได้ใจพลางเบียดกายกอดรัดแน่นหนา

ผิวหนังร้อนผ่าวเสียดสีปลุกเร้าจนยากที่เขาจะหยุดยั้งได้อีก

               
ก๊อก ก๊อก
               


          “ครูครับ ตื่นหรือยัง ได้เวลาเรียนแล้วนะครับ”


          เสียงคุ้นหูของน้องชายดังแว่วมาจากหน้าประตูพร้อมเสียงเคาะเรียก อิมแจบอมอยากจะสบถออกมาดังๆเมื่อเขา

ยังตวัดลิ้นกอบโกยความหวานจากปาร์คจินยองยังไม่สาแก่ใจ ปากเล็กพยายามเอนหนีแต่เขาก็ยังประกบมันแนบแน่น


           “ครูเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไม่สบายหรือเปล่า”


          “โธ่โว้ย”


            ผละปากออกมาอย่างขัดใจในขณะที่ดวงตาของจินยองยังลอยคว้าง แจบอมตวัดผ้าเช็ดตัวคลุมท่อนล่างแล้ว

ก้าวดุ่มไปที่ประตูพลางเปิดออกอย่างรวดเร็วจนแบมแบมที่นั่งอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าชะงักมือที่กำลังจะยกเคาะไว้แล้วเงย

หน้ามองพี่ชายตาค้าง

             แบมแบมเหลียวมองทางเดินก่อนมองพี่ชาย ไม่ผิดแน่ๆ ก็นี่มันห้องส่วนตัวของคุณครูของเขา แล้วอะไรคือการ

ที่แจบอมที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปิดบังอยู่กำลังยืนกอดอกมองเขาอย่างหงุดหงิด


         “พี่ชาย นี่มันห้องครู ทำไมพี่ชายถึงมาอยู่ในห้องนี้หรือว่า...”


         แบมแบมเบิกตากว้างอ้าปากค้าง อิมแจบอมมองน้องชายสายตาดุ


           “งดเรียนหนึ่งวัน แบมแบม”


          “เกิดอะไรขึ้นกับครูครับ”


            แบมแบมผลักพี่ชายให้พ้นทางอย่างดื้อรั้นแล้วจึงบังคับรถเข็นไฟฟ้าให้เข้าไปภายในห้อง  ตกใจไม่น้อยเมื่อเห็น

จินยองซ่อนกายอยู่ในกองผ้าห่มท่ามกลางเตียงนอนยับย่นที่ยังมีร่องรอยความสูญเสียกระจัดกระจายให้เห็น แบมแบม

มองคุณครูของเขาอย่างเห็นใจ


          “แบมแบม อย่าเข้ามา อย่า...”


         “โธ่ครูครับ พี่ชายเกิดอะไรขึ้น บอกผมมาทีว่าครูเต็มใจหรือว่าพี่ทำร้ายจิตใจของครู”


             ไม่เคยเลยสักครั้งที่แบมแบมจะเสียงดังใส่แจบอม แต่ครั้งนี้เขาทนไม่ไหวเมื่อเห็นสีหน้าอับอายและเจ็บช้ำของ

จินยอง แบมแบมเคลื่อนรถเข็นเข้าไปข้างเตียงเอื้อมมือไปแตะต้องตนแขนของจินยองเพื่อปลอบโยน


             “ครูครับ โธ่ ตัวร้อนจี๋เลย พี่ชายใจร้ายที่สุด”


            แบมแบมหันไปต่อว่าจนอิมแจบอมชักจะหมั่นไส้ที่เห็นน้องชายตัวเองเข้าข้างคนอื่น


         “แบมแบม เดี๋ยวนี้ไม่เชื่อฟังพี่แล้วใช่ไหม”


           “เพราะพี่ชายทำผิด คราวนี้ผมโกรธ”


           แจบอมมองตาดุเมื่อแบมแบมพูดเสียงแข็งใส่เขา


            “คุณครูของแบมเขากำลังหลอกให้แบมหลงเชื่อแล้วล้วงความลับครอบครัวของเรา เขาเป็นคนหลอกลวงนิสัย

ไม่ดี นี่ดูไม่ออกเลยงั้นหรือ”


            แบมแบมมองหน้าพี่ชายและจินยองสลับกันไปมา เขานิ่งคิดและกัดฟันแน่นเมื่อตัดสินใจ

       
            “ถึงครูจะทำแบบนั้น แต่ผมไม่คิดว่าครูจะทำไปเพื่อทำร้ายพวกเรา ครูทำให้ผมมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้ ถ้าครูเป็น

คนไม่ดีครูจะทำแบบนั้นทำไม”


            “แบมแบม ขอบคุณที่เชื่อครู”


            จินยองมองแบมแบมอย่างตื้นตันที่แบมแบมยังคงไว้ใจ ส่วนอิมแจบอมได้แต่ยืนมองอย่างนึกเคืองที่น้องชาย

ตนเองกลับไปเข้าข้างคนที่เข้ามาในบ้านอย่างคลุมเครือในวัตถุประสงค์


         “หึ เชื่อกันเข้าไป รักกันเข้าไป วันไหนที่คนหลอกลวงคนนี้แสดงธาตุแท้ออกมาแล้วจะเสียใจ”


         อิมแจบอมเค้นเสียงพูด เขาเรียกชื่อแม่บ้านยูริที่เพิ่งจะมาถึงหน้าห้องเพราะเสียงโต้เถียงของสองพี่น้องดังไปถึง

ภายนอก สาวใหญ่มองสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วขมวดคิ้วเมื่อพอจะเดาเหตุการณ์ออก


           “อีกสักพักคุณยูริช่วยคุณครูของแบมแบมย้ายข้าวของของเขาไปอยู่ห้องของผมด้วยนะครับ”


          “ไม่ ไม่มีทาง”


          จินยองขึ้นเสียงแต่อิมแจบอมกลับยิ้มยั่วอารมณ์กรุ่นโกรธ


          “เพราะการกระทำของนายไม่น่าไว้ใจ ต่อไปนี้นายจะต้องอยู่ในสายตาของฉันโดยไม่มีข้อแม้จนกว่านายจะ

สารภาพความจริง”


            ร่างสูงของอิมแจบอมก้าวเดินออกไปจากห้อง แม่บ้านยูริทิ้งสายตาเฉยชาระคนดูแคลนจนเลือดแล่นขึ้นเป็นริ้ว

อยู่บนใบหน้าของจินยองก่อนที่ยูริจะปิดประตูทิ้งให้จินยองอยู่กับแบมแบมเพียงลำพัง


         “ครูครับ”


            แบมแบมดึงผ้าห่มออกจากกายของจินยองเมื่อมองเห็นร่างกายขาวที่มีร่องรอยแดงเป็นจ้ำจากฝีมือของพี่ชาย

ตนเองเขาก็อุทานอย่างนึกสงสาร จินยองสั่นสะท้านเพราะพิษไข้และความร้าวระบมไปทั้งตัวแต่เขาก็เอื้อมมือไปวางบน

ศีรษะแบมแบม


          “ขอบคุณนะแบมแบม ครูขอโทษที่ใช้แบมแบมเป็นเครื่องมือหาข้อมูล”


          แบมแบมสบตากับจินยองอย่างค้นคว้า


           “ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะตัดสินใจถูกหรือเปล่า แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าครูเป็นคนดี”


          หนุ่มน้อยถอนหายใจออกมากับการตัดสินใจอันยากลำบาก


         “พี่ชายรุนแรงกับครูจังเลยทั้งที่ใจของพี่ชายก็รักครู”


         จินยองสบถเบาๆ น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างน้อยใจ


         “เขาข่มขืนครู นี่คือสิ่งที่คนที่เขารักกันจะทำกันแบบนี้หรือ แบมแบมเข้าใจผิดแล้ว พี่ชายของแบมแบมเกลียดครู

และต้องการทำร้ายให้ครูเจ็บปวด”


           แบมแบมส่ายหน้าให้กับคนปากแข็งทั้งคู่ ทำไมจะดูไม่ออกว่าพี่ชายเองก็มีใจให้ไม่เช่นนั้นจะสั่งให้จินยองเข้าไป

อยู่ในห้องของเขางั้นหรือ จุดประสงค์ก็เพื่อความใกล้ชิดของหัวใจนั่นแหละ ถ้าไม่เป็นเพราะชอบป่านนี้คุณครูของเขา

คงจะไร้ลมหายใจไปตั้งแต่วันแรกที่แจบอมสงสัย


            “โลกของผู้ใหญ่นี่เข้าใจยากซะจริง เฮ้อ! ลุกไหวไหมครับครู มาเถอะผมจะช่วยคุณครูเอง แล้วครูจะได้ทานยาพัก

ผ่อน”






           แบมแบมหยุดนิ่งอยู่บนรถเข็นอย่างเงื่องหงอยเพียงลำพังกลางสวนสวยของบ้านในยามบ่าย ปาร์คจินยองยังคง

สลบไสลหลังจากที่เขาช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวและป้อนยาลดไข้ ในวันนี้เขาจึงต้องลงมาที่สวนเพียงคนเดียว

           นายต้องสู้นะแบมแบม

           เขาปลุกกำลังใจให้ตนเองเมื่อคิดถึงอนาคต เมื่อก่อนเขาอาจจะหมดหวังที่จะเดิน แต่ในวันนี้ความฝันที่จะก้าวย่าง

ไปตามชายหาดเพื่อมองดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้ามันเป็นแรงใจทำให้เขาลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง

         โดยเฉพาะแบมแบมอยากจะเดินมองภาพนั้นกับใครบางคนที่ไม่เคยเห็นหน้านอกจากบทสนทนาทางโซเชียลมี

เดีย

               ร่างผอมบอบบางตัดสินใจยันมือกับที่วางแขนแล้วออกแรงดันเพื่อจะยืนขึ้นมา แต่แม้จะออกแรงจนสุดตัวแต่

เพราะเท้าที่ยังไม่มีแรงจึงทำให้แบมแบมทรุดฮวบเสียหลักลงไปนอนกับพื้นหญ้าสีเขียวทันที


               “โธ่โว้ย แค่ยืนยังไม่ได้เลย”

               น้ำตาไหลอย่างเจ็บใจพลางใช้กำปั้นทุบดินไปมาเมื่อทำไม่ได้อย่างใจคิด แม้จะทรงกายขึ้นมาก็ยังยาก

ลำบากจนกระทั่งมีสองมือยื่นเข้ามาช่วยดึงเขาให้ขึ้นมานั่งบนรถเข็นได้สำเร็จ แบมแบมเงยหน้ามองคนแปลกหน้าในชุด

เครื่องแบบหมีสีเข้มอย่างแปลกใจ


               “ขอบใจนะที่ช่วย แต่ว่านี่คุณเป็นใคร เข้ามาในบ้านหลังนี้ได้ยังไง”

 
             ใบหน้าของชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างสดใสเวลายิ้มแย้ม แบมแบมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงอยากจะยิ้มตามไป

ด้วยทันทีแม้จะยังนึกแปลกใจที่เห็นเขาในเขตบ้านอันเข้มงวดต่อคนแปลกหน้า


               “ผมเป็นพนักงานจากบริษัทที่รับจ้างมาดูแลต้นไม้ในสวนพวกนี้ไงล่ะ”


               แบมแบมพยักหน้าหงึกๆ พื้นที่สวนรอบตัวบ้านมันกว้างขวางขนาดที่ต้องจ้างบริษัทจัดสวนเข้ามาดูแล

สัปดาห์ละสองวัน


               “ผมตัดแต่งกิ่งไม้อยู่ทางโน้น เห็นคุณล้มลงไปจากรถเข็นก็เลยมาช่วย”


               “ผมอยากจะลองเดิน แต่มันเดินไม่ได้”


               “ดีนะที่คุณล้มบนหญ้าก็เลยไม่บาดเจ็บ คราวหน้าคุณต้องหาคนมาช่วยนะ”


               พูดเก่งจังแฮะ


               แบมแบมชักเพลินเมื่ออีกฝ่ายชวนพูดคุยจนลืมเรื่องหนักใจไปบ้าง จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากเพื่อน

นักงานคนอื่น เขาก็ยิ้มกว้างให้แบมแบม


               “ยิ้มได้แล้วสินะ ตะกี้หน้าบึ้งอย่างกับตูดเป็ด”


               แบมแบมเพิ่งได้สติและเพิ่งรู้ว่าตนเองกำลังยิ้มก็ตอนนี้นี่เอง


               “จะไปแล้วเหรอ จะมาอีกหรือเปล่า”


               “มาสิ ไม่มาก็ตกงาน อีกสองวันจะมาอีก ผมจะมาช่วยคุณฝึกเดินดีไหม เรานัดกันที่นี่นะ”


               เขาคนนั้นยิ้มสดใสให้แบมแบมอีกครั้งก่อนหันหลังก้าวเดินจากไป แบมแบมชะงักเมื่อนึกขึ้นได้จึงตะโกนถาม

              “คุณชื่ออะไร”


               เขาหันกลับมาถอดหมวกแก็ปแล้วโค้งอย่างงดงาม และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาเขาก็ตะโกนตอบ


               “ผมชื่อหวังเจียเอ๋อร์”



 
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 11-12 [09/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-10-2015 18:58:06


                                เล่นกับไฟ

                                บทที่ 12



ปาร์คจินยองกัดริมฝีปากตนเองเมื่อความไม่พอใจแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว ใบหน้าดูแคลนของแม่บ้านยูริ

ยามบังคับให้เขาย้ายห้องมายังห้องนอนของอิมแจบอมทำให้เขาเคืองเหลือเกิน


“ครูต้องมาอยู่ที่ห้องของคุณชายตามคำสั่ง”


“ผมไม่ต้องการไปอยู่ห้องของเขา”


ค้านเสียงเข้มแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือมุมปากยิ้มเยาะและสายตาดูถูกของยูริ


“เก็บความต้องการของครูไว้เถอะ คำสั่งของคุณชายถือเป็นเด็ดขาด”


ยูริดับความหวังของจินยองจนหมดสิ้น ก่อนจะปิดประตูห้องกว้างตามหลังให้เหลือแต่ความเงียบงันในยามค่ำ

ปาร์คจินยองกวาดสายตามองไปรอบห้องที่เขาเพิ่งเคยเข้ามาเป็นครั้งแรก


ห้องกว้างขวางอยู่ตรงตำแหน่งใจกลางของบ้านเหมาะกับผู้นำของตระกูล มีประตูเปิดไปที่ระเบียงด้านนอก


ซึ่งเป็นหน้ามุขมองเห็นไปรอบทิศ กลางห้องมีเตียงขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นเน้นสีดำและขาว


เรียบขรึมแต่ดูดีจนปาร์คจินยองต้องยอมรับ


ผนังห้องฝั่งตรงข้ามกับเตียงมีโทรทัศน์และเครื่องเสียงยี่ห้อชั้นนำ รวมถึงใกล้กับหน้าต่างห้องที่มองออกไป

เห็นสวนกว้างด้านล่างก็มีโต๊ะเก้าอี้ไว้ให้นั่งเล่นอีกด้วย


หรูหราเหลือเกินนะ กับเงินที่ได้มาจากธุรกิจที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน


จินยองค่อนขอดอยู่ในใจก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูบานหนาถูกเปิดเข้ามา

และเมื่อหันขวับไปมองก็เห็นร่างสูงสง่าของอิมแจบอมยืนพิงกรอบประตูมองมาด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา


ดวงตาคมดุจ้องมองร่างเพรียวที่เขารู้ว่านุ่มมือแค่ไหนกำลังยืนตัวสั่นอยู่กลางห้อง แม้จะยังไม่วางใจกับ

จุดประสงค์ที่ปาร์คจินยองก้าวเข้ามาสู่บ้านของเขาแต่อิมแจบอมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่เห็นจินยอง

เข้ามาอยู่ในห้องนี้มันทำให้ความรู้สึกของเขากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง


ยังไม่อาจลืมบทรักที่เพิ่งผ่านไปไม่ถึง 24 ชั่วโมง ความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองร่างกายอันแสนบริสุทธิ์

ยังล้นปรี่อยู่ในส่วนลึก และยิ่งจินยองเผลอไผลตอบรับด้วยแรงอารมณ์มันก็ยิ่งกระพือไฟปรารถนา

จนยากที่จะยับยั้งได้ อิมแจบอมยังกระหายในเรือนร่างนี้จนแทบจะทำงานไม่รู้เรื่องและรีบกลับมาบ้าน

ในเวลาที่เร็วกว่าปกติ


เขาอยากที่จะตักตวงความหวานจากลูกกวางน้อยที่หลงมาติดกับนายพรานอย่างเขา


ก้าวเข้าไปช้าๆพร้อมดวงตาคมปลาบ จินยองเนื้อตัวสั่นสะท้านเมื่อก้าวถอยหลังหนีจนกระทั่งไปชนเข้ากับ

เก้าอี้นั่งเล่นและเสียหลักทรุดลงไปนั่งตัวลีบเงยหน้ามองอิมแจบอมที่หยุดยืนค้ำหัวก้มหน้าประสานสายตาลงมา

นิ้วมือของแจบอมค่อยๆไล้ไปตามกรอบหน้าเรียวก่อนจะบีบแน่นที่ปลายคางเพื่อไม่ให้จินยองหลบจากสายตา


“ปล่อยนะ!”


เสียงหวานขู่ฟอดไม่ได้ทำให้เขานึกกลัวสักนิดแต่ยิ่งเรียกร้องให้แจบอมต้องโน้มตัวลงไปปิดปากเล็กด้วยปาก

ของเขา ไออุ่นเบียดจนอุ่นร้อนเมื่อขบเม้มดูดดุนไปทั่วเรียวปากแล้วสอดลิ้นหยุ่นเข้าไปคลุกเคล้ากับลิ้นเล็ก

ที่พยายามหลีกหนี


“อื้อ”


แรงทุบถองที่ต้นแขนเบาลงจนแทบไม่รู้สึก ปกเสื้อของอิมแจบอมถูกขยุ้มด้วยกำมือของจินยองที่กำลังเตลิด

ไปกับรสจูบเรียกร้องจนไม่รู้เลยว่าอิมแจบอมช้อนท่อนแขนเข้าใต้เข่าและใต้ไหล่เพื่ออุ้มร่างเพรียวมาวางไว้

บนเตียงอย่างง่ายดายตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวอีกครั้งก็ตอนที่แผ่นหลังสัมผัสกับที่นอนนุ่มและแจบอมเป็นฝ่าย

ถอนลิ้นออกจากปากของเขา


“เกลียดกันนักก็อย่ามายุ่งสิ”


ตวาดด้วยความน้อยใจอย่างไม่รู้ตัว อิมแจบอมซ่อนรอยยิ้มไว้จนเหลือเพียงนัยน์ตาวาววับขณะนอนตะแคง

เคียงข้างและก้มหน้าสบตา


“นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเพราะตอนนี้นายเป็นสมบัติของฉันแล้วปาร์คจินยอง”


“ไม่มีวันที่ผมจะยอมเป็นสมบัติของคุณหรอก อิมแจบอม”


จินยองเริ่มพยศขึ้นมาอีกครั้ง ร่างนุ่มนิ่มดิ้นรนจนแจบอมต้องตรึงแขนทั้งสองข้างไว้กับที่นอนนุ่ม


“เมื่อไหร่ที่ผมพ้นจากคุณไปได้ ผมจะทำให้คุณเจ็บปวดจนต้องคลานมาขอร้องผม”


“งั้นเลยเหรอ” อิมแจบอมยักไหล่


“ฉันจะรอวันที่ต้องคลานไปขอร้องนายก็แล้วกัน แต่ว่าตอนนี้ เวลานี้จงสำนึกเข้าไปในหัวใจของนายว่า

นายคือสิ่งที่ฉันครอบครองอยู่”


“ไม่มีทาง!”


ดิ้นรนขัดขืนแต่เรี่ยวแรงกลับพ่ายแพ้ให้แก่ร่างแกร่งที่ขยับเข้าทาบทับ ซอกคอเนียนที่ยังหลงเหลือรอยแดงจางๆ

ถูกขบเม้มซ้ำรอยเดิมให้ยิ่งเจ็บช้ำ แต่ยิ่งดิ้นจินยองก็ยิ่งรู้ว่าเขาตกเป็นเบี้ยล่างของอิมแจบอมอย่างชัดเจน

เสียงเคาะประตูดังขื้นขัดจังหวะอิมแจบอมสบถอยู่ในลำคอก่อนจะตะโกนถามออกไป


“ใคร”


“แบมแบมครับพี่ชาย”


เสียงเล็กที่ดังลอดประตูเข้ามาทำให้แจบอมขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด


“พี่ชายยังไม่ว่างคุยกับแบมแบมนะครับ”


“ไม่เป็นไรครับเพราะผมมีธุระคุยกับครูต่างหาก


ประตูถูกผลักเข้ามา แจบอมนึกตำหนิตนเองอยู่ไม่น้อยที่พลั้งเผลอลืมล็อคประตูไว้ ร่างเล็กบนรถเข็นไฟฟ้า

ยิ้มกว้างราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้จะเห็นพี่ชายกำลังโอบรัดคุณครูของตนอยู่บนเตียงนอน


“แบมแบม!”


นึกขอบคุณลูกศิษย์เหลือเกินที่เข้ามาขัดจังหวะในเวลานี้ จินยองผลักไสแผงอกแน่นของแจบอมออก

แล้วรีบเด้งกายออกจากภาวะเบี้ยล่างลงมาหาแบมแบมทันที


“มาหาครูมีอะไรหรือเปล่า”


“มีสิครับครู ผมทำโจทย์เลขไม่ได้”


“แบมแบม!”


คราวนี้เป็นเสียงเรียกชื่อจากพี่ชายที่ลุกขึ้นยืนเท้าเอวมองอย่างรู้ทัน แบมแบมหันไปทำหน้าเหรอหรา

กับพี่ชายพร้อมอมยิ้มอยู่ในสีหน้า


“ทำไมเหรอครับพี่ชาย”


“นี่มันใช่เวลาสอนการบ้านไหม”


เสียงเข้มดุและคิ้วขมวดเป็นปมขณะลุกขึ้นมายืนเท้าเอวมองทำให้แบมแบมอยากจะหัวเราะออกมา

แต่ก็ต้องเก็บอาการไว้ พี่ชายของเขากำลังอาการหนักเข้าขั้นโดยที่เจ้าตัวไม่ยอมรับความจริง

นึกหมั่นไส้จนอยากจะแกล้ง แบมแบมตีสีหน้าไร้เดียงสาและจูงมือจินยองให้เดินตามรถเข็นมาตรง

ชุดโต๊ะเก้าอี้แล้วกางสมุดหยิบติดมือมาด้วยให้จินยองสอน


“ยังสอนกันไม่จบหรือไง”


เจ้าตัวคนหงุดหงิดนั่งกระสับกระส่ายอยู่ขอบเตียงพลางมองนาฬิกาเป็นการเตือน เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่

แต่ทั้งครูและลูกศิษย์ดูเหมือนจะไม่ยอมเลิก คุณครูจินยองหันหน้ามามอง


“โจทย์ข้อนี้ยากมาก อีกนานกว่าแบมแบมจะแก้โจทย์ได้”

“ก็เอาไปทำพรุ่งนี้สิ”


“ผมอยากจะแก้โจทย์ให้ได้วันนี้นี่ครับพี่ชาย ไม่งั้นมันคาใจ”


“โธ่โว้ย”


สบถออกมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น แจบอมรับโทรศัพท์พูดคุยอยู่พักใหญ่เมื่อลูกน้อง

ติดต่อเรื่องงานที่มีปัญหา เขาตวัดสายตามองก่อนจะกล่าวเสียงเข้ม


“พี่จะไปคุยเรื่องงานที่ห้องรับแขก และเมื่อพี่ขึ้นมาอีกครั้งไอ้โจทย์เลขเฮงซวยนี่มันต้องเสร็จนะแบมแบม”


หนุ่มน้อยบนรถเข็นหัวเราะเบาๆตามหลังเมื่อพี่ชายกระแทกเท้าก้าวปึงๆออกไปจากห้อง จินยองถอนหายใจ

ออกมาเฮือกใหญ่


“ขอบใจนะแบมแบมที่มาช่วย”


“ไม่เป็นไรครับครู” แบมแบมหลิ่วตาให้


“อันที่จริงผมก็ไม่อยากทำตัวเป็นก้างขวางคอพี่ชายหรอก แค่หมั่นไส้คนปากแข็งก็เท่านั้นเอง”


“พูดอะไรอย่างนั้นนะ ก้างอะไรกัน”


ผิวหน้าขาวขึ้นสีแดงก่ำอย่างไม่รู้ตัว แบมแบมมองคุณครูของเขาแล้วคลี่ยิ้มออกมา เขาดึงมือนุ่มของจินยองมากุมไว้


“แม้ผมจะยังไม่รู้ว่าที่ครูมาที่นี่ทำไม แต่อย่างน้อยผมก็ดีใจนะครับที่ครูทำลายกำแพงในหัวใจของพี่ชายลงได้


พี่ชายของผมไม่เคยเชื่อมั่นในเรื่องความรักแต่เป็นเพราะครูที่ทำให้พี่ชายเปลี่ยนไป”


เปลี่ยนไปงั้นหรือ?


คำพูดของแบมแบมจี้ใจของเขาเป็นอย่างยิ่ง สักวันหนึ่งหากจินยองมีโอกาสเปิดโปงความเลวร้ายที่ซุกซ่อน

อยู่ในตระกูลนี้ วันนั้นจินยองไม่อาจคาดการได้เลยว่าพี่น้องคู่นี้จะคิดกับเขาเช่นไร จินยองได้แต่ฝืนยิ้มให้แบมแบม


“ขอบคุณนะแบมแบม ขอให้เชื่อว่าครูจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น”








กว่าจะจัดการเรื่องงานที่ลูกน้องหอบหิ้วมาให้เคลียร์ถึงบ้านเวลาก็ผ่านไปจนดึกดื่น อิมแจบอมก้าวพรวดๆ

กลับเข้ามาในห้องเพื่อที่จะเห็นว่าคนที่คอยรบกวนจิตใจนอนหลับคุดคู้อยู่บนเตียงกว้างเสียแล้ว


ถอนหายใจระบายความหงุดหงิดพลางก้าวขึ้นไปนอนขนาบข้างใช้ฝ่ามือดันศีรษะตนเองเพื่อมอง

ใบหน้าหวานให้ชัดเจน นิ้วเอื้อมมาแตะไล้บางเบาปัดไล่ปอยผมที่ตกลงมาให้พ้นกรอบหน้างดงาม


“จุดประสงค์ของนายคืออะไรกันแน่ ปาร์คจินยอง”


นึกแปลกใจตนเองอยู่เหมือนกันที่ยังเก็บคนตรงหน้าไว้ใกล้ตัว เขาเผยรอยยิ้มเมื่อคิดถึงวาจาต่อว่าเขาฉอดๆ

ที่ไม่เคยมีใครกล้าหาญกระทำดังเช่นนี้ หัวใจที่เคยแข็งกระด้างพลันอ่อนยวบเมื่อเห็นคราบน้ำตาเกาะ

อยู่ตรงหางตา แจบอมใช้ปลายนิ้วเช็ดมันและก้มหน้าลงไปกดจูบแผ่วเบา


ไม่รู้ตัวเลยว่าสายตาตนเองที่จ้องมองคนกำลังหลับสนิทนั้นอ่อนโยนแค่ไหน แจบอมวาดแขนไปโอบแผ่นหลัง

ให้จินยองเข้ามาในอ้อมกอด


“ฉันควรจะโกรธและเกลียดนายสินะ แต่ทำไมมันถึงไม่เป็นแบบนั้นล่ะ”


ถามใจตนเองอย่างไม่เข้าใจ อิมแจบอมดึงร่างนุ่มนั้นให้ซุกกายอยู่กับอกของเขาก่อนหลับตาลงตาม


“ขอแค่ตอนนี้ ขอแค่ให้นายไม่ได้คิดร้ายกับครอบครัวของฉัน จินยอง”






แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: คิดถึงจัง


2Bam: เชื่อตายละ


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ :  โห เชื่อกันบ้างสิ คิดถึงจริงๆ

เห็นรูปดอกไม้ที่ส่งไปหรือเปล่า รู้ไหมว่าชื่อดอกอะไร


2Bam: ก็ดอกลิลลี่ไง ไม่เห็นยากเลย


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: แต่มันเป็นลิลลี่สีส้มนะ

ไม่รู้ความหมายเลยเหรอ T^T


2Bam: แล้วมันหมายถึงอะไรล่ะ

เริ่มยากแล้วนะ (_ _)


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์:  มันมีความหมายว่า

สุขใจที่ได้ใกล้เธอ ยังไงล่ะแม่สาวน้อยใส่แว่น




รอยยิ้มผุดขึ้นจนใบหน้าสดใสแม้ว่าจะเป็นยามดึกที่ได้แชทคุยกับใครบางคน รูปดอก

ลิลลี่สีส้มที่ได้รับถูกตั้งเป็นภาพหน้าจอ แบมแบมหลับตาลงและจินตนาการถึงเม็ดทรายทใต้ฝ่าเท้า

ยามเขาเดินชมพระอาทิตย์ตกดินกับใครบางคนที่หาดทรายสวย


แบมแบมอยากให้มันกลายเป็นความจริงเมื่อเขาลืมตาตื่นเหลือเกิน



---------------------------------TBC------------------------------------



ลงเท่ากับที่เดิมแล้ว บทถัดไปจากนี้จะเริ่มแต่งใหม่แล้วนะคะ


o18 o18 o18

หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 11-12 [09/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-10-2015 20:26:39
แจ็คก็จะเป็นคนเดียวกับคนมาทำสวนไหมนะ
แต่พี่ชายนี่แบบ ปากแข็งมากกกกกกกกก จริงๆ
ต้องให้แบมแบมเข้ามาขัดคอบ่อยๆ คึคึ
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-10-2015 23:26:08


                                                               เล่นกับไฟ

                                                                บทที่ 13


               เมื่อลืมตาตื่นมาในยามเช้าตรู่ปาร์คจินยองก็ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าตนเองกำลังตะแคงตัวซุกหน้าอยู่กับอ้อมอกของ

ชายโฉดที่ชื่ออิมแจบอม วงแขนที่วางพาดอยู่บนลำตัวกลับทำให้เขาอบอุ่นจากความหนาวเย็นของเครื่องปรับอากาศ เขา

ถึงกับต้องกัดริมฝีปากไว้เพื่อห้ามความคิดนั้น


               ไม่ได้!

               จะรู้สึกดีกับผู้ชายที่ทำร้ายจิตใจเขา ผู้ชายที่เป็นคนในตระกูลที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าไม่ได้เด็ด

ขาด

               จินยองยกท่อนแขนที่วางพาดมาอย่างเบามือก่อนจะค่อยๆขยับตัวออกมา เขาลอบผ่อนลมหายใจแผ่วเบาแล้ว

จึงรีบเข้าไปในห้องน้ำ กระจกบานใสแผ่นใหญ่สะท้อนร่องรอยที่ยังคงทิ้งไว้จางๆให้หัวใจเจ็บแปลบเล่นๆ จินยองไม่อยาก

จะยอมรับว่าเขาตกเป็นของประธานตระกูลอิมเสียแล้ว

               ถึงปากจะบอกว่าแจบอมข่มขืนแต่จินยองรู้ดีว่าร่างกายของเขาเองกลับตอบรับกับความเย้ายวนของแรง

ปรารถนาที่แจบอมจุดมันขึ้นมา แจบอมลากเขาไปสู่ดินแดนที่เขาไม่เคยรู้จักจนจินยองนึกหวั่น


               เขาหวั่นว่าจะกลายเป็นแมลงที่หลงไปกับความร้อนแรงของกองไฟกองนี้


               หันหลังให้กับภาพสะท้อนร่างกายตนเองแล้วเปิดสายน้ำให้มันช่วยลดความร้อนรุมในหัวใจ จินยองปล่อยให้

ความเย็นฉ่ำรินรดตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้าจนกระทั่งรู้สึกหนาวจึงยอมปิดมันและสวมเสื้อคลุม มือเรียวจับลูกบิดประตู

และดึงมันให้เปิดออกเพื่อที่จะพบว่ามีใครบางคนยืนขวางทางอยู่หน้าประตูนั่นเอง

               อิมแจบอมนั่นเอง ร่างฟิตเฟิร์มเปลือยท่อนบนอวดมัดกล้ามส่วนท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันไว้หมิ่นเหม่ แขน

ข้างหนึ่งดันกรอบประตูไว้ คิ้วเข้มเลิกขึ้นนิดๆขณะที่นัยน์ตาคมไล่มองจินยองตั้งแต่ใบหน้าลงไปถึงเนื้อตัวเปียกชื้นที่ซ่อน

อยู่ในเสื้อคลุมหลวมๆตัวนั้น จินยองหน้าร้อนวูบจนต้องรีบกระชับเสื้อแม้ว่ามันจะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นเลย


               “หลีกทางให้ผม”


               กลั้นใจส่งเสียงเข้มออกไป หารู้ไม่ว่ามันเป็นแค่เสียงของแมวตัวน้อยที่ทำท่าพองตัวยามหวาดกลัวในสายตา

ของแจบอมเท่านั้น


               “ผมบอกให้หลีกไงล่ะ”


               นิ่งราวกับรูปสลัก จินยองเม้มปากจนเป็นเส้นตรงก่อนจะออกแรงผลักแขนที่ขวางอยู่ให้พ้นทาง ร่างเพรียวรีบ

ก้าวหนีความใกล้ชิด แต่แล้วเขากลับถูกรวบเอวแล้วดันให้ก้าวกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง


               “ปล่อยนะ อุ๊บส”


               ร้องออกมาเมื่อถูกผลักจนแผ่นหลังกระแทกกับผนังห้องน้ำเปียกชื้น เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งเขาก็ต้องปะทะ

สายตาวาววับที่จ้องมอง จะขยับตัวก็ลำบากเมื่อท่อนแขนแกร่งของแจบอมล็อคต้นแขนไว้


               “จะหนีไปไหนอีก”


               แจบอมส่งเสียงยั่วเย้าก่อกวนพร้อมกดยิ้มลึกที่มุมปาก


               “คราวนี้หวังจะให้ใครมาช่วยมิทราบคุณครูจินยอง”


               “คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้”


               จินยองกัดฟันข่มความหวาดหวั่นเชิดหน้าเถียงจนแจบอมนึกขำที่เห็นลูกกวางขู่ฟอดทั้งที่หลังชนฝาแบบนี้ อด

ไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วลูบไปตามกรอบหน้าจนมาหยุดบีบปลายคางมนเพื่อล็อคหน้าหวานมิให้หันหนีไปจากเขาได้


               “ไม่ต้องเรียกร้องหาสิทธิ์ก็ได้ เอาเป็นว่าฉันจะทำแบบนี้เพราะพอใจที่จะทำ”


               เรียวปากช่างต่อว่าถูกปิดไว้สนิท จินยองเม้มปากหนีแต่ก็ถูกบังคับให้เปิดทางรับลิ้นร้อนจนได้ เขายกมือผลัก

ไหล่หนาแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำร้ายมือทั้งสองข้างกลับถูกแจบอมตรึงกับผนังห้องน้ำไว้เหนือหัวด้วยมือแกร่งเพียงข้างเดียว

เสื้อคลุมถูกกระชากให้เปิดเผยเนื้อเนียนขาวผ่อง มือข้างที่ยังว่างของแจบอมลากไปตามกึ่งกลางลำตัวสร้างความร้อน

วูบวาบไปตามสัมผัสนั้น


               “อื้อ”


               สำลักอากาศเกือบขาดใจกว่าเขาจะยอมผละลิ้นออกมาให้จินยองผวาเฮือก ลำคอระหงถูกขบทิ้งรอยแสดง

ความเป็นเจ้าของก่อนที่แจบอมจะเปลี่ยนจุดหมายไปยังยอดอกสีสวย เขาเม้มกลืนมันด้วยริมฝีปากจนกลายเป็นสีแดงก่ำ

ชูชันขึ้นมา


               “บอกสิว่านายไม่ได้ต้องการฉัน จินยอง”


               “ไม่ ฮื้อ ผม ผมไม่ต้องการคุณ”


               กัดฟันกลั้นเสียงครางหวิวพลางกระแทกศีรษะใส่ผนังปูนเย็นเฉียบเผื่อว่าความเจ็บปวดจะช่วยบรรเทาความ

ต้องการที่แจบอมกำลังปลุกเร้า ตำแหน่งที่สะท้อนภาพจากกระจกพอดีทำให้จินยองมองเห็นใบหน้าตัวเองว่ามันเต็มไป

ด้วยความต้องการจนน่าอับอายเป็นที่สุด เขาหลับตาหนีภาพนั้นพยายามตั้งสติอันน้อยนิดต่อสู้กับไฟอย่างแจบอมแต่ดู

เหมือนว่าเขากำลังจะพ่ายแพ้


               “ยะ อย่า อะ ตรงนั้น”


               ต้นขาเต็มไปด้วยพลกำลังเบียดแทรกเข้ามาระหว่างขา เสียดสีถูไถเนื้ออ่อนจนร้อนระอุ จินยองผวาแอ่นกาย

เข้าหาอย่างลืมตัวเรียกเสียงต่ำลึกในลำคอจากปากที่ยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวยอดอก ทันใดนั้นร่างกายขาวโพลนก็ถูกจับให้

หันหน้าเข้าหาผนังและยกแขนดันมันไว้ จินยองหมดแรงห้ามปรามเมื่อแจบอมผลักดันความแข็งแกร่งเข้ามาในร่างกาย

ของเขาในที่สุด


               “ไหนว่าไม่ต้องการ แต่ร่างกายนายเปิดทางให้ฉันอยู่รู้บ้างไหม”


               น้ำเสียงห้วนแต่กระเส่าไปด้วยพายุอารมณ์กระซิบอยู่ตรงหลังใบหูและงับเข้าไป มือเรียวของจินยองที่ดันผนัง

ห้องน้ำสั่นระริกไปหมด ความคับแน่นภายในหมุนวนกระแทกจุดไวสัมผัสจนปวดมวนท้อง เขาได้แต่แนบแก้มลงกับผนัง

ชื้นเมื่อเอวแกร่งของแจบอมเริ่มขับเคลื่อนอยู่กับร่างของเขา


               “อื้อ ฮึก อา แจบอม”


               น้ำเสียงกระเส่าที่เรียกชื่อของเขาจากกลีบปากอิ่มที่ขบเม้มกลั้นอารมณ์ทำให้ความอดทนของแจบอมขาด

สะบั้น เขาแผดเสียงคำรามสะท้อนห้องน้ำ มือขยำบั้นท้ายนุ่มมือจนเป็นรอยนิ้ว แจบอมกระแทกกายเข้าหารวดเร็วรุนแรง

เหลือเกิน


               “อา วิเศษ ตอดอีกจินยอง บีบรัดแบบนั้นแหละที่ฉันต้องการ”


               “อ๊า เสียว อึก แจบอม”


               กล้ามเนื้อภายในทั้งรัดทั้งเค้น แจบอมสอดแขนไปคว้าท่อนเนื้ออุ่นร้อนของจินยองไว้ในอุ้งมือแล้วสาวรูดไม่

ยั้ง จินยองหอบถี่จนอกกระเพื่อมเมื่อร่างกายเกร็งค้าง แจบอมปลดปล่อยเขาให้สมปรารถนาไปก่อนล่วงหน้า ท่อนเนื้อ

แข็งขันเร่งจังหวะไม่ยอมหยุดจนกระทั่งแจบอมฉีดอัดมันเข้าไปในช่องทางลึก เขาเงยหน้าเปล่งเสียงอย่างพอใจแล้วจึง

ซบหน้ากับลาดไหล่ของจินยองที่ใกล้จะหมดแรงเต็มที


               “ว่าไง ยอมรับหรือยังว่านายหลงไปกับไฟอย่างฉันแล้ว หือ ปาร์คจินยอง”

               จินยองอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีแรงร้อง ปากบอกว่าเกลียดแต่ความสุขสมที่เกิดขึ้นมันทำให้เขาเจ็บใจเหลือ

เกิน


               “คนเลว!”


               ได้แต่บริภาษออกไป ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วมาจากด้านหลัง ท่อนเนื้อที่แทรกกายอยู่ถูกดึงออกจนโหวงว่าง 

จินยองนึกว่าเขาจะร่วงลงไปกองกับพื้นเสียแล้วหากว่าแจบอมจะไม่ช้อนร่างของเขาอุ้มไว้ในอ้อมแขนเสียก่อน


                “ไหนๆก็เลวแล้ว คนเลวคนนี้ขอเลวให้หนำใจก่อนจะไปทำงานก็แล้วกันนะ”


               “ไม่นะ ผมไม่ไหวแล้ว อื้อ”


               ปากเล็กถูกปิดจนได้ และในที่สุดจินยองก็ต้องปล่อยให้แจบอมอุ้มไปวางบนเตียงนุ่มก่อนจะตักตวงความสุข

จนเขาพอใจ








               “หวังเจียเอ๋อร์”


               เมื่อเห็นใบหน้าสดใสที่อยู่ในชุดพนักงานจัดสวน แบมแบมก็คลี่ยิ้มออกมา


               “เจอกันอีกแล้วนะ”


               “วันนี้มาช้า”


               ร่างผอมบางที่นั่งอยู่บนรถเข็นต่อว่า หวังเจียเอ๋อร์แสร้งถอนลมหายใจออกมา


               “โธ่ งานการมีทำนะ ผมไปตัดกิ่งไม้อยู่ด้านหลังโน่น ก็บ้านนี้น่ะโคตรกว้างเลย ไหนเดินได้หรือยัง”


               หนุ่มน้อยบนรถเข็นสีหน้าสลดลงทันที


               “ยังเลย ทำยังไงก็เดินไม่ได้สักที”


               “ผมช่วยคุณนะ”


               แบมแบมเอียงคอมองคนที่เสนอตัวช่วยเหลือ”


               “ไหวเหรอ”


               “ถามตัวเองเหอะว่าสู้หรือเปล่า ตัวผอมอย่างนี้ผมไม่ปล่อยให้คุณล้มไปหรอกน่า”


               “ชัวร์นะ”


               “ชัวร์ดิ”


               แบมแบมสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจพลางใช้มือดันที่เท้าแขนของรถเข็นแล้วออกแรงดันกายขึ้นมา หวัง

เจียเอ๋อร์ค่อยๆสอดแขนโอบรอบลำตัวบางๆไว้


               “ลองยืนดูก่อน”


               แค่ยืนก็ตื่นเต้นแล้ว แบมแบมยิ้มกว้างเมื่อฝ่าเท้าสัมผัสผืนหญ้านุ่ม


               “หญ้านุ่มและเย็นจัง”


               “ใช่ไหมล่ะ รู้สึกดีใช่ไหมที่ยืนได้”


               “ใช่ เจียเอ๋อร์ ยืนได้แล้ว ผมยืนได้”


               ด้วยความดีใจจนลืมตัว แบมแบมเสียทรงการทรงตัวจนหงายหลัง หวังเจียเอ๋อร์ที่โอบรอบลำตัวจึงเสียหลักไป

ด้วย เขาได้แต่ใช้ฝ่ามือประคองไปที่ศีรษะของแบมแบมกันกระแทกกับพื้น

               ตุ๊บ!

               หงายหลังลงไปนอนแผ่กับพื้นยังไม่ตกใจเท่ากับริมฝีปากของคนที่ล้มทับตามลงมากลับประทับมาบนกลีบ

ปากอิ่มด้วย ดวงตากลมโตเบิกโพลงหัวใจยิ่งเต้นระส่ำระสาย หวังเจียเอ๋อร์เองก็ตกใจไม่แพ้กันเขารีบลุกขึ้นมานั่งและดึง

ให้แบมแบมลุกตามขึ้นมา

               มองหน้ากันแทบไม่ติด ใบหน้าหวานของแบมแบมขึ้นสีแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัดในขณะเดียวกันหวังเจียเอ๋อร์ที่

ยังไม่หายตื่นเต้นก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน


               “ผมขอโทษ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”


               หนุ่มน้อยก้มหน้างุดพลางส่ายหน้าเร็วๆ แบมแบมรู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุแต่เขาก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้เมื่อนี่คือ

ครั้งแรก ริมฝีปากของเขายังร้อนเห่อไม่หาย


               “ไม่เป็นไร ขอบใจนะที่ช่วย ไม่งั้นหัวคงฟาดพื้นแล้ว”


               พูดงุบงิบเสียงเบาน่าเอ็นดูจนหวังเจียเอ๋อร์อดยิ้มออกมาไม่ได้  เขาประคองร่างผอมให้ขึ้นไปนั่งบนรถเข็น

แบมแบมถอนหายใจออกมาอย่างเสียดาย


                “อย่างน้อยก็ยังได้ยืน”


               พึมพำปลอบใจตัวเอง หวังเจียเอ๋อร์วางมือมาบนมือนุ่มของเขา


               “ทำได้น่า วันนี้ยืน ต่อไปก็เริ่มก้าวเท้าได้”


               รอยยิ้มของหวังเจียเอ๋อร์ทำให้แบมแบมมีกำลังใจจนยิ้มตามได้ อารมณ์ของแบมแบมปลอดโปร่งเหลือเกิน


               “เออนี่ บ้านหลังนี้ใหญ่มากเลยนะ ของเศรษฐีคนไหนรู้หรือเปล่า”


               ความไร้เดียงสาบวกกับความดีใจที่ยืนได้ทำให้แบมแบมขาดความระวังตัว เขาจึงหลุดคำพูดออกไปอย่าง

ไม่ทันคิด


               “เศรษฐีอิมไงล่ะ”


               หวังเจียเอ๋อร์ชะงัก ดีว่าแบมแบมไม่ทันสังเกต เขาจึงไม่ได้เห็นคิ้วเข้มที่ขมวดลงทันที


               ในที่สุดเขาก็คลำทางมาถูก นี่คือบ้านของตระกูลอิมที่ไม่มีใครเคยรู้จัก

               แล้วคนที่เขาเป็นห่วงตอนนี้อยู่ที่ไหนในบ้านหลังนี้

                เขาต้องสืบให้ได้ว่าปาร์คจินยองอยู่ที่ไหน




TBC
เม้นท์ให้เค้าบ้างเน้อ เห็นยอดเม้นท์น้อยแล้วใจหวิวๆ :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-10-2015 23:35:26
ถ้าแค่มาหลอกน้องเฉยๆ นี่สงสารแบมน๊าา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 16-10-2015 02:12:25
ใครจะหลงรักใครก่อนกันนนนนน
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-10-2015 03:09:17
หลอกกันหมด ยกเว้นแบมแบมสินะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: janamanza ที่ 16-10-2015 03:38:01
ร้อนแรงมากกกกก ไม่ได้อ่านฟิคมานานมา พอมาอ่านเรื่องนี้แล้วคิดถีงสมัยติ่ง  5555 ดูแก่มาก ภาษาใช้ได้เลย  พัฒนาต่อไป สู้ๆค่าาา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Apg ที่ 16-10-2015 16:30:33
แจบอมใจร้ายที่สุด สงสารจินยอง
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 13 [15/10/15]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 16-10-2015 16:32:26
ขนาดแบมยังดูออกเลยว่ารักกันแล้ว มีแต่เจ้าตัวเนี่ยแหละนะใครเป็นจินยองก็ต้องพยศทั้งนั้นแหละ ดูแจบอมทำแต่ละอย่างแต่ก็นะจินยองเองก็เข้ามาในบ้านนี้แบบไม่บริสุทธ์ใจจริงๆ นั่นแหละ แล้วแจบอมเป็นคนฉลาดด้วยยั่วถูกจุดมากจินยองมีแต่เสียเปรียบทุกทางจริงๆ ใครจะบ้ายอมรับว่าต้องการกันอะคะของแบบนี้ก็รู้ๆ กันเนอะ ส่วนแบมกับเจียเอ๋อร์บรรยากาศสีชมพูน่ารักมากค่ะ ลึกๆ ก็เริ่มชอบน้องแล้วแหละแต่จุดประสงค์หลักคือมาตามหาจินยองอะนะ งานนี้ความวุ่นวายคงเพิ่มมากขึ้นๆ ก็ขอให้จินยองเข้าใจผิดไปเองแล้วกัน ไม่อย่างนั้นแบมจะน่าสงสารมาก
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 14 [25/10/15] นานๆที จัดตอนหวานๆให้แม่ยกซะเลย^^
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-10-2015 21:23:10


                                                         เล่นกับไฟ

                                                           บทที่ 14



           กว่าจะจัดการงานทั้งหมดเสร็จสิ้นเวลาก็ผ่านไปจนถึงเวลาเย็น อิมแจบอมนึกเคืองที่ตนเองได้แต่นึกถึงใบหน้า

ของปาร์คจินยองตลอดทั้งวันจนแทบไม่มีสมาธิและยิ่งทำให้งานช้าออกไปอย่างน่าหงุดหงิดจนกระทั่งรถยนต์ประจำ

ตำแหน่งขับกลับมาถึงบ้านในยามโพล้เพล้


           “บ้าไปแล้วอิมแจบอม นายจะปล่อยให้คนเจ้ามารยาคนนั้นมามีอิทธิพลเหนือนายไม่ได้”


           สมองสั่งการเช่นนั้นแต่ยากเย็นเหลือเกินที่จะขจัดจินยองไปพ้น ร่างกายนุ่มที่ได้สัมผัสกลิ่นกายหอมเมื่อได้ลิ้มชิม

รสตราตรึงเกินกว่าที่เขาจะลืมได้ มันเย้ายวนราวกับเขากลายเป็นแมลงที่หลงอยู่ในความหอมหวานจากเกสรดอกไม้

           ดวงตาแสนหวานที่มองมาอย่างตัดพ้อเมื่อยามเช้าก่อนที่เขาจะออกจากห้องทิ้งให้ร่างบอบบางนอนทอดกาย

อย่างหมดแรงเพียงลำพังนั้นสร้างความห่วงใยมากเกินไป มันมากจนแจบอมกำลังนึกหวั่น


            เขากำลังหวั่นใจว่าจินยองกำลังก้าวมาควบคุมจิตใจของเขา


           ก้าวเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบพลางส่งเสื้อสูทตัวนอกให้แม่บ้านยูริพร้อมกับเอ่ยถามทันที


           “คุณครูจินยองล่ะ”


           “อยู่แต่ในห้องของคุณชายค่ะ”


           “เขากินอะไรบ้างหรือเปล่า”


           น้ำเสียงกังวลเกินกว่าที่ควรนั้นทำให้ใบหน้าเรียบเฉยของยูริต้องเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจแวบหนึ่งก่อนจะ

จางหายไป


           “ให้เด็กยกเข้าไปให้แล้วแต่อาหารแต่ละมื้อไม่พร่องเลยค่ะ”


           “บ้าจริง!”


           ไม่เป็นห่วงตัวเองเลยสักนิด


           แจบอมขมวดคิ้วด้วยความโมโหเมื่อเข้าใจว่าจินยองอดข้าวอดน้ำเพื่อประท้วงเขา ขายาวก้าวสวบๆตรงดิ่งไปยัง

ห้องพักของตนเองทันที


           “ใครใช้ให้นายทำตัวอย่างนี้ปาร์คจินยอง จินยอง!”


           ชะงักพลันเมื่อเห็นอีกฝ่ายนอนซมอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าอิดโรย เปลือกตาที่ปิดอยู่สั่นระริกพร้อมกับกัดฟันจน

ได้ยินเสียง ความเป็นห่วงแล่นเข้ามาจับหัวใจโดยไม่รู้ตัวจนแจบอมรีบนั่งลงที่ขอบเตียงและเอื้อมหลังมือไปสัมผัสกับ

หน้าผากเกลี้ยง

           สะดุ้งไปกับความร้อนราวกับไฟ แจบอมดึงไหล่ทั้งสองให้จินยองพลิกกายนอนหงายก่อนจะสำรวจไปทั่วร่างกาย

ที่มีแต่ชุดลำลองบางเบา ร่างกายของจินยองสั่นสะท้านจนแจบอมต้องประคองให้อยู่ในอ้อมกอด


           “ปาร์คจินยอง ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้”


           เค้นเสียงปลุกให้ตื่น แต่เปลือกตาก็ขยับได้แค่ช้าๆกว่าจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองได้ จินยองยกมือเรียวขึ้นมา

อย่างยากเย็น


           “ปละ ปล่อย ออกไป”


           เสียงนั้นเพียงแค่ผ่านริมฝีปากแตกระแหงออกมาจนต้องก้มหน้าฟัง แจบอมพะวักพะวงครู่หนึ่งจึงได้วางร่างบาง

ลงตามเดิม เขาเดินดุ่มออกไปนอกห้องเพื่อจะตะโกนออกคำสั่ง


           “ยูริ ให้ใครยกอาหารอ่อนๆและยาลดไข้มาเดี๋ยวนี้”


           รีบก้าวกลับเข้าไปในห้อง แจบอมคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดตรงมาที่เตียง เขาประคองจินยองขึ้นมาอีก

ครั้ง แล้วจึงใช้ผ้าขนหนูเช็ดใบหน้าขาวซีดเพื่อลดไข้


           “อย่า หนาว”


           จินยองผลักไสจนแจบอมต้องคว้ามือเรียวอุ่นจัดนั้นไว้และดุเบาๆ


           “อย่าดื้อได้ไหม ตัวร้อนเป็นไฟขนาดนี้แล้ว”


           เขาบังคับใช้ผ้าเช็ดใบหน้าและลำคอก่อนจะเลื่อนต่ำ เสื้อผ้าที่จินยองสวมใส่เป็นอุปสรรคจนแจบอมพยายามถอด

มันออกจากร่างกายร้อนรุม


           “ไม่ อย่านะ”


           สติที่เริ่มกลับมาทีละน้อยทำให้จินยองทัดทาน แต่แจบอมก็ไม่ปล่อยให้เขาทำสำเร็จ เสื้อยืดตัวบางถูกดึงผ่าน

ศีรษะอย่างรวดเร็วก่อนที่แจบอมจะใช้ผ้าเช็ดไปตามเนื้อตัวโดยไม่ได้ล่วงเกินมากกว่านั้น


            “ปล่อยให้ผมตายไปสิ”


           “ยังจะปากเก่งอีก เดี๋ยวก็จะปล่อยให้ตายเสียจริงๆหรอก”


           แจบอมชักโมโหเมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันนั่น ขนาดว่าไม่สบายยังต่อปากต่อคำไม่เลิก


           เสียงเคาะประตูดังขึ้นเมื่อแจบอมเอ่ยปากอนุญาตประตูจึงได้เปิดให้แม่บ้านยูริยกถาดอาหารเข้ามาพร้อมถ้วย

ใส่ยาลดไข้


           “ขอบใจมากยูริ วางไว้ที่โต๊ะก่อน”


           “ค่ะคุณชาย”


           ยูริลอบมองความสนิทสนมนั้นและร่างกายบอบบางที่ยังคงเหลือร่องรอยทำให้คิ้วของหล่อนขมวดลงโดยที่

แจบอมไม่ทันได้มอง


           “ให้ดิฉันช่วยเช็ดตัวให้คุณครู...”


           “ไม่ต้อง ฉันจะทำเอง มีอะไรทำก็ไปเถอะ”


           เจ้าของบ้านมุ่งความสนใจอยู่แต่ร่างเพรียวจนยูริกัดฟันแน่น หล่อนเดินกลับออกไปจากห้องอย่างเงียบเชียบ และ

แจบอมยังคงเช็ดตัวจนแน่ใจว่าความร้อนของร่างนั้นลดลงแล้วเขาจึงคว้าเสื้อของจินยองที่กองอยู่ข้างตัวมาสวมคืนให้


           “ใส่ซะ ก่อนจะหนาวตาย”


           ดวงตาหวานตวัดใส่ จินยองรีบสวมเสื้อกลับคืนอย่างรวดเร็วระหว่างนั้นเจ้าของบ้านก็เดินไปยกถาดอาหารมาที่

เตียง


           “กิน!”


           ตักอาหารมาจ่ออยู่ที่ปากซีด จินยองเอียงหน้าหนี


           “ผมไม่หิว”


           “นี่นายกินอากาศแทนข้าวหรือไง ฉันบอกให้นายกินนายก็ต้องกิน เกลียดฉันแต่นายก็ควรจะรักตัวเองบ้างไม่ใช่

ปล่อยให้แย่ไปยิ่งกว่านี้”


           เสียงดุดังอยู่ใกล้ๆ จินยองรู้สึกแปลกหูที่เขาจับสัมผัสห่วงใยอยู่ในคำพูดนั้นได้ เขาช้อนตามองอย่างแปลกใจจึง

ได้สบตากับดวงตาคมที่จ้องมองอย่างจริงจังกับสิ่งที่แจบอมกำลังทำอยู่ และมันก็ทำให้เขาต้องอ้าปากรับอาหารที่แจบอม

ป้อนเข้ามาอย่างยอมจำนน


           “ร้อน!”


           สะดุ้งกับความร้อน แจบอมดึงช้อนออกมาใกล้ปากแล้วเป่าเบาๆจนไอร้อนจางหาย


           “ไม่ร้อนแล้ว กินซะ”


           น้ำเสียงอ่อนโยนลงทำให้จินยองกลับไม่กล้าดื้อดึง เขาอ้าปากรับการป้อนจากแจบอมจนอาหารหมดไปเกินครึ่ง


           “พอแล้ว อิ่มแล้ว”


           ตอบเสียงเบาพลางยกมือดันปลายช้อนไว้ แจบอมมองราวกับกำลังมองเด็กน้อย


           “กินแค่นี้เมื่อไหร่จะหาย ทำเหมือนแมวดม”


           “ก็มันอิ่มแล้วจริงๆนี่นา”


           จินยองฝืนเถียงออกไปหน้าง้ำจนอีกฝ่ายส่ายหน้าอย่างระอาแต่ก็ยอมวางลงและหยิบยาส่งให้ คนป่วยทำตาปริบๆ

แต่ก็ต้องยอมรับยามากินอย่างว่าง่าย


           “นายนี่นะ”


           แจบอมมองใบหน้าซีดที่เริ่มจะมีสีเลือดขึ้นมาบ้างแล้ว


           “ถ้าไม่ดื้อก็จะน่ารักอยู่หรอก”


           “ก็ไม่ได้อยากให้ใครมารักนี่”


           คนหน้าดุถึงกับถอนหายใจเมื่อคนป่วยยังไม่ยอมแพ้ เขายอมเก็บปากเพราะคร้านที่จะเถียงอีกและยกหลังมือขึ้น

แตะที่หน้าผาก จินยองเอียงหน้าหนีแต่กลับถูกนิ้วมือล็อคใบหน้าไว้ให้อยู่นิ่ง


           “อยู่เฉยๆได้ไหม จินยอง”


           จินยองเม้มปากแน่นเมื่อถูกดุ หลังมือแตะลงบนหน้าผากของเขาอย่างนุ่มนวลจนจินยองใจสั่น


           “ไข้ลดแล้วนะ”


           น้ำเสียงนั่นก็อีก ทำไม่มันไม่ดุอย่างเช่นเคย การกระทำของแจบอมกำลังทำให้กำแพงในหัวใจแทบจะล้มครืนลง

มา

           สบตากันใกล้ชิด ประสานนัยน์ตากันอย่างค้นคว้า ความหวั่นไหวกำลังมีอิทธิพลดึงดูดให้ช่องว่างลดลงเรื่อยๆจน

กระทั่งในที่สุดมันก็ไม่มีเหลือเมื่อแจบอมประทับริมฝีปากของเขาเข้ากับปากอิ่มที่ยังแตกแห้ง และแจบอมก็เติมความชุ่ม

ชื้นด้วยจูบของเขา

            ท้ายทอยถูกบังคับให้แหงนรับปลายลิ้นที่สอดลึกเข้าไป มันนุ่มนวลและอ่อนหวานจนจินยองแทบละลาย เขา

เผยอปากรับเมื่อแจบอมคลุกเคล้าคลอเคลียลิ้นนุ่มให้เผลอไผลตอบรับ มือซนลูบไล้เนื้อตัวอุ่นพลางดึงเข้าหาก่อนสอด

เข้าไปในเนื้อผ้าเพื่อจะสัมผัสเนื้อเนียนที่แจบอมเฝ้าคิดถึงมาตลอดทั้งวัน


           “อืมม อย่า”


           จินยองรีบวางมือไปบนมือของแจบอมที่กำลังจะถอดเสื้อของเขาทั้งที่ยังจูบติดพัน


           “ทำไม”


           แจบอมถามเมื่อเขายอมผละปลายลิ้นออกแต่ก็ยังพรมจูบไปตามกรอบหน้า


           “คุณถอดเสื้อผมออกและเพิ่งจะใส่คืนให้ แล้วนี่คุณยังจะถอดมันออกอีกหรือ”


           “ก็มันคนละเรื่องกันนี่”


           คราวนี้แจบอมเถียงบ้าง


           “ตะกี้ถอดออกเพื่อจะเช็ดตัวลดไข้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่”


           หยอกเย้าจนใบหน้าเนียนของจินยองขึ้นสีแดงก่ำ จินยองโทษไปที่พิษไข้ที่ยังรุมเร้าไม่ใช่เพราะเขาเขินหรอกนะ


           “น่านะ อย่าดื้อเลย”


           กระซิบอยู่ตรงข้างหูอย่างออดอ้อนจนจินยองหน้ามืดหลังจากนั้นเขาก็ไม่รู้เลยว่าแจบอมจัดการอย่างไรเพราะกว่า

จะรู้สึกตัวเขาก็สัมผัสลงไปกับที่นอนนุ่มด้วยเนื้อกายล้วนๆโดยมีมีร่างเฟิร์มของแจบอมที่ไร้ซึ่งเสื้อผ้าล้มลงมาทาบทับ


           แจบอมพรมจูบไปทั่วตัวแม้แต่ปลายเท้า เขาสัมผัสไปทุกสัดส่วนอย่างอ่อนหวานแต่ก็แฝงไปด้วยความกระหาย

ความหนาวเย็นจากพิษไข้ของจินยองกลับกลายเป็นความร้อนวูบวาบไปทุกจุดที่แจบอมสัมผัส


           “เจ็บตรงไหน ตรงนี้หรือเปล่า”


           รอยฟันของแจบอมที่ยังทิ้งไว้ถูกจูบและเม้มด้วยริมฝีปากราวกับจะล้างความรุนแรงที่เคยกระทำ จินยองหลับตา

พริ้มพลางโอบกอดร่างแกร่งอย่างลืมตัว


           “อา แจบอม”


           สองมือลูบไล้เลื่อนต่ำไปตามร่องลึกกดเบียดเข้าไปเปิดทาง จินยองสะท้านไปทั้งตัวเมื่อนิ้วนั้นวนเวียนนวดเฟ้น

เค้นคลึงเพื่อให้เขาพร้อมถึงที่สุดก่อนที่แจบอมจะดันกายเข้าหา ความอุ่นร้อนคับแน่นเรียกความปรารถนาในตัวอีกฝ่ายจน

ต้องส่งเสียงครางหวานลอดริมฝีปากออกมา


           “แจบอม แจบอม”


           จะเรียกว่าหลงก็ได้ ถ้าเขาจะใช้คำนั้น ตอนนี้แจบอมไร้ซึ่งคำพูดใดๆอีกแล้วเมื่อเขากำลังถลำลึกไปกับร่างกายนุ่ม

ที่ขยับรับการมาเยือนของเขา เรียวขาเล็กยกพาดอยู่บนบ่าขณะที่เขาขยับเอวเข้าหาจนลึกสุดโคน สัมผัสเสียดสีภายใน

กำลังทำให้แจบอมต้องส่งเสียงออกมาบ้าง


           “จินยอง โอ หวานเหลือเกิน”


           กดน้ำหนักลงไปจนกระทั่งใบหน้าใกล้ชิดอีกครั้ง ต่างปรือตามองซึ่งกันด้วยความต้องการไม่หยุดยั้ง แรงดึงดูดที่

มีมากล้นจนไม่อาจห้ามใจอยู่ เมื่อแจบอมกำลังจูงมือให้จินยองก้าวตามไปแตะห้วงหฤหรรษ์


           ในตอนนี้หัวสมองของจินยองไม่มีอะไรอีกแล้วนอกจากเขากำลังตกหลุมแห่งความร้อนแรงของ

อิมแจบอม




TBC



วันนี้วันบีเนียร์แห่งชาติ อิอิ ฟินเฟร่ออออ

 :o8: :o8: :o8:
           

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 14 [25/10/15] นานๆที จัดตอนหวานๆให้แม่ยกซะเลย^^
เริ่มหัวข้อโดย: toto2you ที่ 26-10-2015 00:18:51
งื้อ~ สนุกมากเลย ปกติไท่ค่อยชอบอ่านอะไรที่น่าจะมีแววดราม่าเลยนะ แต่เรื่องนี้เขียนได้ดีจังค่ะ กระชับไม่เยิ่นเย้อ ดำเนินเรื่องได้ไวดี แต่ก็ไม่สะดุดกับความสัมพันธ์ของตัวละคร
คาแร็คเตอร์อิมแจบอมกับปาร์คจินยองคือเหมาะมากอ่ะ อ่านแล้วฟินดีแท้ ยิ่งมาอ่านวันนี้ที่เพิ่งฟินกับคู่นี้ยิ่งอินหนักเข้าไปใหญ่ 5555 ขอบคุณสำหรับฟิคสนุกๆนะคะ จะคอยติดตามอ่านเรื่อยๆนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 14 [25/10/15] นานๆที จัดตอนหวานๆให้แม่ยกซะเลย^^
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 26-10-2015 01:22:16
ปกติจะไม่อ่านอะไรที่มันเกาหลีๆอ่ะ ไม่ค่อยอิน 555
แต่เรื่องนี้สนุกดีค่ะ ติดตามจ้าาาาา
เป็นกำลังใจให้คุณBeloveค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 14 [25/10/15] นานๆที จัดตอนหวานๆให้แม่ยกซะเลย^^
เริ่มหัวข้อโดย: Apg ที่ 26-10-2015 22:57:39
โอยยยยน่ารักหวานเวอร์ ลดฐิถิแลีวเปิดใจหากันนะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 14 [25/10/15] นานๆที จัดตอนหวานๆให้แม่ยกซะเลย^^
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 27-10-2015 09:48:04
ถึงกับป่วยเลยทีเดียว เกือบจะดีแล้วค่ะคุณอิมเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้ป้อนข้างป้อนยา อ่อนโยนขึ้นเยอะมากแต่ไหงช่วยลดไข้ให้ขนาดนั้นคะ ช่วยขับเหงื่อแบบนี้จะได้หายเร็วๆ ใช่ไหมคะ ความแค้นเริ่มลดลงแล้วเนอะจุดนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าต่างฝ่ายต่างมีความต้องการ แล้วก็รู้สึกดีต่อกันมากขึ้นทุกทีๆ อาจจะยังใช้คำว่ารักไม่ได้แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่ได้รู้สึกอะไร
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 15.1 [06/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-11-2015 00:06:45


                                                             เล่นกับไฟ

                                                             บทที่ 15.1


           คืนนี้เป็นคืนที่สองแล้วที่ปาร์คจินยองต้องมาอาศัยอยู่ในห้องนอนของอิมแจบอมประธานกลุ่มธุรกิจตระกูลอิม มัน

กลายเป็นความคุ้นชินเมื่อเขาลืมตาตื่นมาแล้วพบตนเองนอนซุกอยู่ในอ้อมกอดของแจบอม                                                                                                                                                                                                                                                               
            จินยองลอบมองใบหน้าที่ยังหลับอยู่ ราวกับสิงโตที่กำลังหลับใหลหลังจากได้กินเหยื่ออันโอชะ หน้าหวานเม้มริม

ฝีปากอย่างนึกเจ็บใจเมื่อตนเองกลายเป็นเหยื่อตัวนั้น


           เหยื่อที่เดินมาให้สิงโตขย้ำด้วยตนเอง


           เหยื่อที่ติดใจในคมเขี้ยวจนยากจะถอนตัว


           ขยับกายเบาๆด้วยเกรงว่าอีกฝ่ายจะตื่น แต่แล้ววงแขนที่พาดอยู่บนลำตัวก็กลับกอดรัดเขาไว้จนจินยองต้องซุก

กายอยู่ในอ้อมอกอีกครั้ง


           “จะรีบตื่นไปไหน ยังเช้าอยู่เลย”


           ทั้งที่ยังหลับตาแต่น้ำเสียงของอิมแจบอมกลับไม่ได้งัวเงียสักนิด จินยองมองอย่างหมั่นไส้พลางใช้ปลายนิ้วหยิก

ไปที่ลอนหน้าท้องแข็งนั่นจนแจบอมต้องยอมลืมตาในที่สุด


           “กล้าลงมือทำร้ายฉันงั้นหรือ”


           น้ำเสียงดุแต่ตรงข้ามกับดวงตาที่มองมา มันวิบๆวับๆจนจินยองใจสั่น


           “คุณเองก็ทำร้ายผมตั้งหลายครั้ง”


           ตอบโต้ด้วยน้ำเสียงแง่งอนอย่างไม่รู้ตัว แจบอมกลั้นยิ้มจนเกือบไม่อยู่


           “อ้าว งั้นหรือ งั้นฉันก็เข้าใจผิดสินะ ที่นายร้องเรียกชื่อฉันทั้งคืนนั่นก็เพราะเจ็บเหรอ งั้นฉันก็ขอโทษก็แล้วกันที่

ทำให้นายต้องร้องทั้งคืน”


           “บ้า คุณมันบ้า”


           จินยองหน้าร้อนเห่อ เขาทุบแผ่นอกของแจบอมดังพลั่กก่อนจะชิงก้าวลงจากเตียงแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว

ร่างเพรียวเข้าไปยืนสำรวจตัวเองจากกระจกที่สะท้อนกลับมา


           ร่องรอยสีกุหลาบยังคงทิ้งไว้กระจายอยู่ทั้งตัว แต่เมื่อนึกถึงที่มาที่แสนจะรัญจวนจินยองก็เผลอยิ้มออกมา แต่

พอได้สบตากับตัวเองเขาก็ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้ม


           อย่าลืมว่าที่บุกมาเล่นกับไฟเพราะเหตุใด


           ดวงตาหวานพลันอ่อนแสงลง ดวงตาแดงเรื่ออย่างเจ็บใจเมื่อต้องยอมรับกับตัวเอง


           เขากำลังหลงรักลูกชายของคนที่ทำร้ายครอบครัวของเขา


           “มันเป็นไปไม่ได้ปาร์คจินยอง อย่าลืมสิว่าใครที่ทำให้ครอบครัวเราต้องแตกแยก ใครกันที่ทำให้เราต้องกลายเป็น

เด็กกำพร้า”


           น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมาจากความสับสนที่ต้องต่อสู้กับความคิดของตัวเอง จินยองยกมือขึ้นปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะ

เตือนตัวเองให้เลิกอ่อนแอ เขาเปิดสายน้ำให้ไหลผ่านจนกระทั่งแจ่มใสขึ้นบ้างจึงได้คว้าผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมมาใส่แล้ว

ก้าวออกจากห้องน้ำ

           ก้าวออกมาเพื่อจะพบกับแม่บ้านยูริที่เข้ามาถึงภายในห้องของอิมแจบอม คิ้วโก่งของจินยองขมวดลงอย่างไม่

ตั้งใจ


           “คุณยูริ”


           ท่าทางเฉยชาแต่ตวัดสายตามองอย่างดูถูกดูแคลนของยูริทำให้ความไม่พอใจฉายอยู่บนใบหน้าหวานแวบหนึ่ง

จินยองพยายามควบคุมอารมณ์ให้กลับมานิ่งอย่างยากเย็น


           “วันนี้คุณชายต้องไปงานเลี้ยงที่สมาคมหอการค้า ดิฉันจะจัดชุดให้...”


           “ไม่ต้องหรอกยูริ”


           อิมแจบอมขัดขึ้นจนยูริชะงัก


           “ทำไมล่ะคะ มันเป็นหน้าที่ของดิฉัน”


           “คุณยูริงานหนักอยู่แล้วที่ต้องดูแลบ้านหลังนี้ ต่อจากนี้ไปให้คุณครูจินยองมาแบ่งเบาภาระบ้าง ให้เขาเป็นคนจัด

เสื้อผ้าให้ฉัน”


           “อะไรนะ!”


           จินยองร้องเสียงหลง


           “ผมเนี่ยนะต้องจัดเสื้อผ้าให้คุณ”


           บ้าไปแล้ว แจบอมต้องบ้าแน่ๆ แต่ใบหน้าดุไม่ได้ดูเหมือนพูดเล่นสักนิด และนั่นยิ่งทำให้ยูริหน้าตึงขึ้นเรื่อยๆ


           “รวมถึงดูแลฉันจนกว่าจะออกไปทำงาน เข้าใจไหมคุณครูปาร์คจินยอง”


           กองไฟที่เกิดขึ้นกองใหม่คือไฟในดวงตาของยูริที่ไม่รู้ว่าแจบอมจะสังเกตเห็นหรือเปล่า แต่จินยองมองเห็น ยูริ

ตวัดสายตาใส่ก่อนจะก้าวออกไปจากห้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง จินยองได้แต่ลอบถอนหายใจเมื่อรู้สึกว่าจะมีศัตรูคนใหม่โดย

ไม่ทันตั้งตัว


           “ยืนนิ่งอยู่ทำไมล่ะ ไปเตรียมบีบยาสีฟันใส่แปรงให้ฉันสิ”


           “หือ นั่นก็ต้องทำรึไง มือคุณพิการเหรอถึงทำเองไม่ได้”


           จินยองส่งเสียงเอะอะเมื่อได้ยินหน้าที่ใหม่ของตัวเอง แจบอมกดยิ้มก่อนจะให้คำตอบอย่างชัดแจ้ง


           “นายต้องทำเพราะฉันสั่ง เพราะงั้นรีบไปจัดการได้แล้ว”


           จินยองได้แต่บ่นเบาๆเมื่อจำใจกระแทกเท้าเดินเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่รู้เลยว่าแจบอมถึงกับหลุดหัวเราะออกมา

เบาๆเมื่อเห็นท่าทางหัวเสียของจินยอง


           ความจริงการแหย่ให้จินยองหัวเสียก็สนุกดี




        TBC   

หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.1 [06/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 06-11-2015 20:41:35
 :sad4: ตามเรื่องนี้อยู่เข้าแท๊กบีเนียร์มาดูทุกวันเลยว่าไรท์มาอัพหรือยัง งานดีที่สุดฮ่ะไรท์ มาอัพต่อไวๆ น้าาา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.1 [06/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 06-11-2015 21:35:57
คุณยูริก็แอบชอบแจบอมเหมือนกันเหรอ???
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.1 [06/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-11-2015 09:50:40
น่ารักอ่ะ แต่เดี๋ยวต้องดราม่าแน่ๆ T__T
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 15.2 [07/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-11-2015 20:23:28


                                                      เล่นกับไฟ

                                                      บทที่ 15.2
       
            ร่างสูงเดินตามเข้าไปในห้องน้ำ มองเห็นจินยองกำลังบีบยาสีฟันใส่แปรงให้เขาด้วยสีหน้างอง้ำ


           “เช้าๆอย่างนี้จะทำหน้างอทำไม ยิ้มให้ฉันหน่อยสิ”


           จินยองเลยหันหน้ามาหาแล้วแยกเขี้ยวใส่ แจบอมถึงกับหัวเราะอยู่ในลำคอก่อนรับแปรงสีฟันมาจากจินยองที่

ตวัดสายตาค้อนแล้วรีบเดินหนีออกไป


           ไม่อยากจะคิดเลย


           การที่ต้องมายืนจัดเนคไทน์ให้อิมแจบอมช่างเป็นอะไรที่ชวนให้ขัดเขิน ยิ่งสายตาที่มองมาแม้จะไม่ได้แสดง

ความรู้สึกมากนักแต่มันก็ทำให้จินยองถึงกับหลบสายตา

           ก็ดูแต่ละอย่างที่สั่งให้เขาทำสิ ทั้งบีบยาสีฟัน ทั้งเลือกเสื้อผ้าและยังต้องมาช่วยแต่งตัวมันช่างเหมือนสิ่งที่ภรรยา

ทำให้สามีทั้งนั้น


           สามีภรรยางั้นหรือ


           เลือดบนใบหน้าวิ่งพล่านร้อนเห่อขณะที่แจบอมยกปลายนิ้วเชยคางให้เขาผินหน้ากลับมาหา


           “จูบฉันด้วย”       


           “มากไปแล้วนะ”


           ประท้วงออกไปด้วยใบหน้าแดงก่ำ แต่ใบหน้าจริงจังของแจบอมบอกให้รู้ว่าเขาควรจะทำตามคำสั่งนั้น ใบหน้า

หวานเม้มปากนิ่งก่อนจะยื่นหน้าออกไปจนจมูกชนกับแก้มของแจบอม


           “มั่นใจว่านี่เรียกจูบ”


           คิ้วเข้มเลิกขึ้นราวกับจะล้อเลียนจนจินยองมองตาคว่ำ


           “มากกว่านี้คุณจะได้กำปั้นผมแทนนะ”


           “ก็ลองดูสิ”


           จินยองมองอย่างขัดเคือง กำปั้นเล็กส่งออกไปแต่แจบอมกลับยึดข้อมือเล็กไว้ได้และดึงจินยองเข้าหาตัวพลาง

โอบเอวค่อดไว้ เขาเป็นฝ่ายจูบที่ปากแดงฉ่ำด้วยความรวดเร็ว จินยองได้แต่ยืนนิ่งให้แจบอมได้ตักตวงความหวานจน

กระทั่งแจบอมยอมปล่อยและมองสบตาด้วยนัยน์ตาที่ชวนให้จินยองหวั่นไหว


           “เย็นนี้ฉันจะรีบกลับมากินอาหารเย็นกับนาย”


           “คุณต้องไปงานเลี้ยงที่หอการค้า...”


           “ไม่สำคัญเท่าอาหารเย็นกับนาย รอฉันนะจินยอง”


           ปลายเสียงทอดหวานเกินไป คราวนี้หัวใจของจินยองเต้นจนแทบจะหลุดออกนอกอกเมื่อแจบอม

หอมเขาที่หน้าผากอย่างอ่อนโยนอีกครั้งจึงได้เดินออกไปนอกห้อง ทิ้งให้จินยองหมดแรงจนต้องทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงแล้ว

ยกมือกุมหน้าอกข้างซ้ายเพื่อจะห้ามให้มันหายสั่น


            อ่อนโยนเกินไป

           อ่อนหวานเกินไป


          ไฟร้อนของแจบอมกำลังทำลายกำแพงของเขาลงจนเกือบจะไม่มีเหลือ จนจินยองต้องคิดหาหนทางสร้างมันขึ้น

มาใหม่

          ลุกขึ้นไปที่ระเบียงเพื่อมองรถยนต์ของประธานตระกูลอิมกำลังแล่นออกไปจากรั้วบ้านไกลลิบ  จินยองรีบเดินกลับ

มาค้นกระเป๋าเดินทางของเขาที่มีโทรศัพท์เครื่องเก่าคร่ำคร่าที่ซุกอยู่ซอกมุมหนึ่งออกมาทันที เมื่อกดโทรออกรออยู่ไม่

นานปลายทางก็รับสาย


         “จินยอง นี่นายเป็นไงบ้าง”


         แจ็คสันเพื่อนสนิทรีบพูดออกมาอย่างตื่นเต้น จินยองดีใจเหลือเกินที่เขาติดต่อกับโลกภายนอกได้อีกครั้ง


         “สบายดี นายล่ะแจ๊คสัน”


         “เฮ้ย เราเก่งอยู่แล้ว”


          เมื่อได้ยินเสียงสดใสของแจ็คสันจินยองก็สบายใจขึ้นมาก แต่เวลาไม่มากพอที่จะคุยกันมากกว่านี้


           “เหตุการณ์เป็นไงบ้าง”


           “ไอ้นายอิมแจบอมอะไรนั่นเข้าเทคโอเวอร์บริษัทขนาดกลางอีกสองบริษัท แต่ที่น่าแปลกคือทั้งสองบริษัทเจ้า

ของน่ะเคยข้องเกี่ยวกับตระกูลอิมตั้งแต่รุ่นพ่อแล้วแยกตัวออกมา คล้ายกับว่านายอิมแจบอมกำลังตามเก็บงานเลยนะ แต่

ที่แปลกกว่าคือการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งก่อน ตัวแทนของอิมแจบอมมันมาซักถามเรื่องความไม่โปร่งใสจนกลายเป็น

ว่าหุ้นของบริษัทนั้นมันตกฮวบๆ”


            จินยองฟังอย่างประหลาดใจ ในฐานะนักข่าวเศรษฐกิจการกระทำดังกล่าวมันคล้ายกับการเข้าไปแทรกแซง

ข้อมูลของบริษัทเพื่อตีแผ่ความเน่าเหม็นขององค์กร แล้วอะไรคือจุดมุ่งหมายที่อิมแจบอมต้องการกันเล่า


           “จินยอง นายต้องระวังตัว รู้ใช่ไหมว่าเราเป็นห่วงนายมาก”


          แจ็คสันเอ่ยด้วยเสียงร้อนรนจนจินยองต้องลอบถอนใจ


           “เรารู้แจ็คสัน เราจะระวังตัว แค่นี้ก่อนนะเราต้องวางแล้ว”


            “เดี๋ยวสิ จินยอง จินยอง”


              สัญญาณที่ตัดลงไปทำให้แจ๊คสันนึกเป็นห่วงเพื่อนสนิทขึ้นมาจับใจ จินยองห่างหายกับการติดต่อไปเกือบ

เดือนจนเขาต้องสืบหาวิธีเข้าไปในบ้านของตระกูลอิมแม้ว่ามันจะยากเย็น จินยองส่งข้อมูลมาให้เขาเพียงแค่เด็กน้อยคน

หนึ่งที่เข้ามาในกลุ่มทางเฟสบุ๊คด้วยโค้ดลับที่มีเพียงเขาและจินยองเท่านั้นที่รู้ แต่ดูเหมือนแจ็คสันก็ยังไม่ได้ข้อมูลอันใด

เพิ่มเติมนอกจากความผูกพันกับเพื่อนใหม่ที่ไม่เคยเห็นแม้แต่รูปถ่าย

             เขาหาข้อมูลจากเด็กคนนั้นจนรู้ว่าบ้านที่กินพื้นที่บริเวณกว้างจะมีบริษัทรับจัดสวนเข้าไปดูแลต้นไม้สัปดาห์จะ

สองถึงสามครั้ง ทำให้แจ๊คสันแอบไปสมัครงานเพื่อแฝงตัวเข้าไปได้ในที่สุด


            “ฉันเข้าใกล้นายได้มากขึ้นแล้วนะจินยอง”


             พึมพำอย่างเป็นห่วงขณะลุกขึ้นแต่งตัวด้วยชุดพนักงานดูแลต้นไม้ แต่สิ่งหนึ่งที่แจ๊คสันไม่เข้าใจคือสิ่งที่เริ่มเข้า

มารบกวนจิตใจของเขาเมื่อไม่นานมานี้

              เด็กผู้ชายรูปร่างผอมแต่มีใบหน้าน่ารักราวกับเด็กผู้หญิงที่ต้องทรงตัวอยู่บนรถเข็นไฟฟ้าตลอดเวลานั่นเองที่

ทำให้แจ็คสันเป็นเช่นนั้น

              ภาพความพยายามในการลุกขึ้นยืนแล้วล้มลงไปทำให้แจ๊คสันสงสารตั้งแต่แรกเจอ และยิ่งได้พูดคุยเขาก็รู้ว่า

จิตใจของเด็กคนนั้นช่างบอบบางเหลือเกินทั้งที่เขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กคนนั้นเป็นใครและอยู่ในบ้านหลังใหญ่ในฐานะ

อะไร

             มันน่าทะนุถนอมราวกับแก้วเจียรนัยที่ต้องคอยประคับประคองไว้

            บางทีการลอบเข้าไปในบ้านตระกูลอิมอาจจะมีจุดประสงค์อื่นนอกจากตามหาปาร์คจินยอง

            แจ็คสันนึกถึงความรู้สึกในวันที่เขาล้มลงไปจนกระทั่งประทับรอยจูบลงบนปากเล็กนั่น
           

             รอก่อนนะเจ้าตัวเล็กบนรถเข็น วันนี้ฉันจะไปช่วยนายหัดเดินแล้ว




TBC

หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.2 [07/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 07-11-2015 21:00:39
 :-[ เขินแทนจินยองงี่   :pig4:ที่อัพค่ะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.2 [07/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 07-11-2015 23:15:18
อยากให้หวานกันอีกหลายๆตอน ก่อนดราม่า ได้ไหมค๊าาาา (T_T)
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.2 [07/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 08-11-2015 13:50:32
กำแพงไม่มีเหลือแล้วหล่ะค่ะ วิธีการก่อกำแพงขึ้นมาใหม่คือการสืบข้อมูลแทนเนอะจินยอง คุณยูรอนี่แอบรักคุณแจบอมอยู่เหรอคะงานนี้จะออกฤทธิ์กับจินยองคงจะยาก เพราะคุณแจบอมเลื่อนฐานะจากคุณครูมาเป็นผู้ช่วยไปแล้วนะคะ นอนก็นอนห้องเดียวกัน ข้าวยังต้องรอกินพร้อมกันเลย ส่วนแจ็คสันไม่รู้ว่าแบมคือเด็กที่คุยในแชทแต่ชอบน้องแล้วใช่ไหมหล่ะ จะได้ตัดใจจาหจินยองเนอะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 15.2 [07/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-11-2015 14:05:19
เผลอใจไปแล้วสินะจินยอง
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-11-2015 23:13:47


                                                   เล่นกับไฟ

                                                    บทที่ 16


           “พอแค่นี้ก่อนนะครับแบมแบมเดี๋ยวจะปวดหัวไปยิ่งกว่านี้”


           คุณครูปาร์คจินยองเอ่ยปากพร้อมรอยยิ้มให้กับหนุ่มน้อยที่นั่งหน้ามุ่ยเพราะโจทย์เลขที่แก้ปัญหาไม่ได้เสียที


           “เฮ้อ สมองเกือบระเบิดแน่ะ ขอบคุณนะครับที่เว้นช่วงให้ผมบ้าง ว่าแต่ช่วงนี้พี่ชายยังทำให้ครูลำบากใจอีกหรือ

เปล่าครับ”


           “แบมแบม”


           ประโยคล้อเลียนพร้อมหลิ่วตาทำให้จินยองหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูทันที แบมแบมถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็น

คุณครูของเขาเขินจัด


           “ไม่ล้อครูแล้วก็ได้ งั้นผมลงไปในสวนนะ”


           แบมแบมบังคับรถเข็นให้ตรงลิ่วไปที่สนามหน้ากลางสวนสวย เขาเห็นหวังเจียเอ๋อร์กำลังใช้กรรไกรแต่งกิ่งไม้อยู่

มุมหนึ่งแบมแบมจึงตรงเข้าไปหา


           “หวังเจียเอ๋อร์”


           “อ้าว คุณ”


           แจ็คสันหันมามองแล้วยิ้มตอบกลับพลางเหลียวซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจก็หันกลับและเดินตามหนุ่ม

น้อยบนรถเข็นไปที่สนามหญ้า


           “เดินได้หรือยัง”


           “มันไม่ง่ายสักหน่อย”


           แบมแบมถอนหายใจจนแจ็คสันต้องยิ้มปลอบโยน


           “ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากหรอก วันนี้ผมจะช่วยให้คุณยืนได้นะ”


           แจ็คสันส่งมือไปให้แบมแบมจับแล้วดึงให้แบมแบมลุกขึ้นยืน แบมแบมทำตามอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อเท้าได้สัมผัส

พื้นเขาก็นึกกลัวว่าจะร่วงลงไป แต่แจ็คสันไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้นเมื่อแจ็คสันใช้ท่อนแขนโอบกอดแบมแบมเอาไว้แนบ

อก


           “เอ่อ...”


           ใกล้ชิดเสียจนใบหน้าร้อนเห่อไปหมด แบมแบมได้แต่ก้มหน้าหลบตาแจ็คสัน


           “ขอบคุณ”


           “ด้วยความยินดี ว่าแต่ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยหนุ่มน้อย”


           “....แบมแบม ผมชื่อแบมแบม....”


           คำตอบนั้นทำให้แจ็คสันชะงัก คิ้วเข้มขมวดเป็นปมเมื่อจ้องมองแบมแบมอย่างแปลกใจ


           “คุณ...คือแบมแบม”


           แจ็คสันกำลังสงสัยว่าชื่อแบมแบมนั้นจะใช่ชื่อเดียวกับนามแฝงที่แชทคุยกับเขาหรือเปล่า เพียงแค่ชื่อนั้นคือ

2Bam


           “นี่มีญาติพี่น้องเป็นเด็กผู้หญิงใส่แว่นถักเปียไหม”


           เพราะคำถามทำให้แบมแบมลืมความขัดเขินไปได้ชั่วขณะ เขาเอียงคอมองแจ็คสันด้วยความสงสัย


           “ไม่มีหรอก ทำไมถามแบบนั้นล่ะ”


           แจ๊คสันรีบส่ายหน้าเพราะยังไม่อยากเปิดเผยความจริงให้มากกว่านี้ แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้ว่าคนที่คุยกับเขามา

ตลอดนั้นไม่ใช่เด็กผู้หญิง หากแต่เป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่หน้าตาหวานไม่แพ้ผู้หญิงที่ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นนี่ต่างหาก


           “ไม่มีอะไรหรอก ผมว่าคุณลองก้าวช้าๆตามผมมาดีกว่านะ”


           แบมแบมคลี่ยิ้มสดใสเมื่อเขาค่อยๆก้าวเดินทีละก้าวโดยมีแจ็คสันคอยช่วยเหลือ








            จินยองใช้เวลาที่ว่างจากการสอนแบมแบมนั่งอ่านจดหมายที่แม่ของเขาเขียนมาถึงประธานอิมคนเก่าตามลำดับ

เวลาที่เขียนไว้ และพยายามเดาเหตุการณ์กับเรื่องที่เกิดขึ้นในวัยเด็ก ในจดหมายแม่ของเขาคร่ำครวญถึงความผิดหวังที่

ตัดสินใจเลือกพ่อของจินยองเป็นคู่ชีวิตแทนที่จะเป็นประธานอิม

            จินยองย้อนนึกไปถึงวันที่เขายังเด็กและได้ยินเสียงถกเถียงกันของผู้ใหญ่ ร่างเล็กของจินยองแอบอยู่ตรงหน้า

ประตูห้องเขาเห็นผู้ชายแปลกหน้ายืนพูดคุยอะไรบางอย่างในขณะที่พ่อของเขามีท่าทีหัวเสียพลางด่าทอชายแปลกหน้า

คนนั้น ส่วนแม่ของเขากำลังยืนร้องไห้อยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ไม่นานนักผู้ชายคนนั้นก็จากไปด้วยรถยนต์คันใหญ่ เมื่อพ่อ

กับแม่อยู่กันเพียงลำพังเสียงทะเลาะเอะอะโวยวายยิ่งดังลั่น มันรุนแรงเสียจนจินยองในวัยเด็กตกใจและต้องวิ่งหนีไปซุก

ตัวอยู่ใต้โต๊ะและยกมือปิดหูตัวเองไว้ เด็กน้อย  จินยองเผลอหลับไปใต้โต๊ะ พอรู้ตัวอีกทีก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อบ้านทั้ง

หลังกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้ว

            จินยองร้องไห้อย่างหนักเมื่อนักดับเพลิงอุ้มเขาออกมา ระหว่างทางเขาเห็นศพพ่อและแม่ถูกไฟเผาไหม้อยู่ใน

ห้องรับแขกนั่นเอง เด็กน้อยกลายเป็นเด็กเงียบขรึมเมื่อถูกส่งไปอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งเติบโตขึ้นมา

พร้อมกับปมชีวิตที่ยังไม่มีใครมาไขให้กระจ่างจนกระทั่งวันนี้

               เขารู้แล้วว่าชายแปลกหน้าคนนั้นเป็นใคร เขาคือประธานอิมคนเก่าบิดาของอิมแจบอม คนที่ทำให้พ่อกับ

แม่ทะเลาะกันจนเกิดเรื่องเลวร้ายจนกระทั่งชีวิตของจินยองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

              แล้วเขาควรจะทำเช่นไรกับผู้สืบทอดอำนาจจากประธานอิมคนเก่าเล่า

              ใบหน้าของอิมแจบอมลอยเด่นขึ้นมาในความเจ็บช้ำของเขา จินยองกำลังใคร่ครวญอะไรบางอย่างก่อนที่เขา

จะตัดสินใจ








           “คุณปาร์คจินยองใช้โทรศัพท์โทรออกอีกครั้งครับเมื่อตอนสายของวันนี้"


           ทันทีที่ขึ้นไปนั่งบนรถยนต์ประจำตำแหน่งเพื่อกลับบ้านคนสนิทของเขาก็เอ่ยรายงาน หัวคิ้วของอิมแจบอมจึง

แทบจะชนกัน


           “คราวนี้ตามรอยเบอร์ปลายทางได้หรือเปล่า”


           “ไม่ได้ครับ เวลาที่ใช้โทรน้อยเกินกว่าจะที่ตามรอยเจอไปแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น”


           ลอบถอนหายใจระบายความหงุดหงิดเมื่อยังจับไม่ได้ว่าจินยองกำลังติดต่อใคร มันทำให้ความคลุมเครือยังไม่ถูก

ไขปริศนาให้แตก และแจบอมมั่นใจว่าจินยองปากแข็งเกินกว่าจะสารภาพความจริง

           เขาควรจะทำเช่นไรกับผู้ชายคนนั้น คนที่ทำให้เขากระวนกระวายอยากจะกลับมาเจอหน้า ใบหน้าหวานที่เฝ้าปั่น

ป่วนหัวใจจนเกือบจะนั่งฟังการประชุมไม่จบ

           บางทีเขาอาจจจะต้องแกล้งโง่บ้าง เพื่อจะให้จินยองเผลอไผลเปิดเผยความลับทั้งหมดด้วยตัวเอง แต่ระหว่าง

นั้นแจบอมก็หวั่นใจอยู่ลึกๆ

           หวั่นใจว่าตัวเองอาจจะถลำใจลึกไปกับจินยองโดยถอนตัวไม่ขึ้น


              คิดวนเวียนกลับไปกลับมาจนกระทั่งรถยนต์แล่นมาจอดถึงหน้าบ้าน ร่างสูงสง่าก้าวเดินเข้าไปท่ามกลางการ

ทำความเคารพของคนในบ้าน ไม่นานนักแม่บ้านยูริก็รีบออกมาต้อนรับด้วยสีหน้าบึ้งตึง


          “คุณครูจินยองล่ะ”


          “อยู่ที่ห้องอาหารค่ะ”


            หล่อนอยากจะฟ้องนักว่าอยู่ๆวันนี้คุณครูจินยองนั่นลงมาก้าวก่ายการทำหน้าที่ตั้งโต๊ะอาหารของหล่อนทั้งที่ไม่

เคยทำมาก่อน และเมื่อหล่อนเอ่ยคำพูดประชดประชันออกไปก็ได้รับคำตอบที่ทำให้คอแข็งกลับมา


            “คุณยูริไม่ได้ยินที่เจ้านายของคุณสั่งไว้หรือครับ เขาสั่งให้ผมดูแลเขาตั้งแต่ตื่นนอนรวมทั้งดูแลเมื่อเขาจะกลับ

มารับประทานอาหารเย็นกับผม”


            “แต่คุณไม่เคยทำ คุณชายชอบอะไรบ้างคุณเองก็ยังไม่รู้แล้วจะมาดูแลคุณชายได้ยังไง”


            หล่อนโต้ตอบเสียงแข็ง แต่รอยยิ้มบาดลึกกลับเกิดขึ้นบนใบหน้าที่สวยยิ่งกว่าสตรีรวมทั้งวาจาเชือดเฉือนจน

ความโกรธแล่นมาเป็นริ้ว


              “อย่างน้อยผมก็รู้ว่า คุณชายของคุณเขาชอบให้ผมอยู่ใกล้ตัวเขา คุณคิดเหมือนผมไหมครับคุณแม่บ้านยูริ”


              ยูริอยากจะส่งเสียงกรีดร้องออกมานักแต่หล่อนก็ต้องอดกลั้นเมื่อคุณหนูแบมแบมบังคับรถเข็นไฟฟ้าเข้ามา

เป็นกองหนุน

             นี่ก็อีกคน

             ยูรินึกเคืองนัก เป็นแค่ลูกเมียน้อยแต่กลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากคุณชายอิมและทั้งที่เมื่อก่อนก็รังเกียจ

คุณครูทุกคนที่เข้ามาสอนในบ้าน แต่กับจินยองกลายเป็นสนิทสนมเป็นพวกพ้องเดียวกันและที่สำคัญคือชักจูงคุณครูของ

ตนให้กับพี่ชายอีกต่างหาก

              ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงขณะเดินตามเจ้านายของหล่อนไปยังโต๊ะอาหารที่มีทั้งจินยองและแบมแบมคอยอยู่


             “พี่ชายกลับมาแล้ว”


            เสียงสดใสของน้องชายเอ่ยทักทายรวมทั้งใบหน้าหวานที่เฝ้ากวนใจเขาอยู่ทั้งวันเรียกรอยยิ้มเล็กๆได้บนใบหน้า

ขรึม แจบอมหันไปหายูริแล้วเอ่ยปาก


             “ไปพักผ่อนเถอะยูริ เหนื่อยกับงานบ้านมาทั้งวันแล้วนี่”


              “แต่ว่า...”


             “ไปเถอะครับคุณยูริ เดี๋ยวผมกับครูจะดูแลพี่ชายเอง”


              นั่นแหละยูริถึงได้ยอมกัดฟันเดินออกมาจากห้องอาหารอย่างไม่เต็มใจเหลือเพียงบุคคลทั้งสาม แบมแบมรีบ

เอ่ยปากบอกพี่ชาย


            “ไปนั่งข้างครูสิครับพี่ชาย”


            “แบมแบม”


             จินยองปรามเสียงเบาใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูเมื่อแจบอมเดินอ้อมโต๊ะมาทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างเขา


            “มีอะไรกินบ้างล่ะ”


            เสี้ยวหน้าด้านข้างเหลือบตาขึ้นมองก่อนจะลุกขึ้นตักอาหารใส่จากให้เขา เสียงน้องชายพูดคุยเจื้อยแจ้วทำให้

แจบอมสะท้อนใจ

               จะดีแค่ไหนหากชีวิตจะเป็นเช่นนี้ไปทุกวันเมื่อเขาได้กลับมาเจอปาร์คจินยองคนนี้ที่บ้าน มันเป็นชีวิตแสนสงบ

ที่เขาเฝ้าใฝ่หาไม่ใช่หรือ

              แจบอมถามตัวเองจนกระทั่งมื้ออาหารสิ้นสุดลง






             “คุณ...จะอาบน้ำให้สบายตัวเลยไหมหรือว่าจะพักผ่อนก่อน”


              น้ำเสียงที่ไม่แข็งกระด้างเช่นที่ผ่านมาทำให้แจบอมนึกแปลกใจอยู่ครามครันเมื่อเขาและจินยองอยู่เพียงลำพัง

ในห้องส่วนตัว มือเรียวกำลังปลดเนคไทน์ของเขาออกให้และปลดกระดุมเม็ดบนออกจากลำคอของเขา


               “ทำไมวันนี้พูดดีกับฉันได้ หืม...คุณครูจินยอง”


              คิ้วเข้มยกสูงประกอบคำถามเรียกเลือดมาเลี้ยงบนใบหน้าผู้ถูกถามได้ จินยองกระแทกข้อนิ้วเข้าใส่แผ่นอก

กว้างพลางตวัดหางตาใส่


                “นี่ผมไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหมในสายตาของคุณทำดีด้วยกลับถูกกล่าวหาว่าประชดเสียอีก”


                 “คนเราหว่านพืชมันก็ต้องหวังผลอยู่แล้ว หรือนายจะปฏิเสธ”


                “คุณนี่นะหาเรื่องผมอยู่เรื่อย”


                 จินยองสะบัดหน้าเตรียมก้าวหนีแต่เอวของเขากลับถูกคว้าเข้าไปชิดใกล้ คางเรียวถูกล็อคด้วยปลายนิ้วให้

สบตากับดวงตาดุที่วันนี้กลับมองด้วยความรู้สึกล้ำลึกยากจะคาดเดา


                “ถ้านายหยุดขยันสร้างเรื่อง ฉันก็จะหยุดหาเรื่องนาย”


                 “ผมไม่เคยสร้างเรื่องให้คุณมีแต่คุณที่ขยันสงสัยเรื่องไม่เป็นเรื่อง”


                  จินยองตอบโต้อย่างใจเย็น ดวงตาหวานมองตอบอย่างท้าทายยิ่งทำให้ใบหน้าของจินยองเต็มไปด้วยเสน่ห์

เย้ายวน แจบอมอดใจไม่อยู่จนต้องใช้ปลายนิ้วลากไล้ไปตามกรอบหน้าก่อนจะหยุดที่ริมฝีปากแดงเรื่อแล้วกดลงไปแผ่ว

เบา


           “จะต้องทำยังไงถึงจะให้คุณเลิกเป็นคนขี้สงสัยเสียที”


           เสียงเบาสั่นพริ้วเมื่อแจบอมโน้มใบหน้าเข้าใกล้ทุกทีจนตอนนี้แทบจะไม่เหลือช่องว่าง กลีบปากของจินยองถูก

จมูกโด่งของแจบอมสัมผัสแผ่วเบา


           “ก็แค่ทำให้ฉันพอใจ”


           เขางับริมฝีปากล่างเข้าไปช้าๆและผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง


           “ส่วนจะทำยังไง ฉันว่านายรู้อยู่แก่ใจแล้วนะปาร์คจินยอง”



TBC

 :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 17-11-2015 00:58:21
เง้อออออ. อดีตรุ่นพ่อแม่ช่างเป็นอะไรที่ทิ่มแทง
ความจริงทั้งหมดจะเป็นไงน๊าาาา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-11-2015 09:24:06
ถอนหายใจหนักๆ เลย เห้ออออ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 17-11-2015 11:10:24
 ทิ้งท้ายอย่างฟินเลยค่ะไรท์ อิมแจเข้มสุดๆ :heaven
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 17-11-2015 21:11:42
ต่างคนต่างไม่ไว้ใจกันนะ แต่ใจเนี่ยไปแล้วทั้งคู่เรื่องของพ่อแม่จินยองเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ถึงพ่อแจบอมจะมีส่วนเกี่ยวข้องมันก็ไม่เกี่ยวกับตัวลูกชายไหมอ่ะ ปัญหาโลกแตกมาก ส่วนแจ็คสันตอนนี้ก็รู้แล้วว่าแบมคือคนที่คุยด้วยงานนี้ไม่ง่ายเหมือนกัน ใจเริ่มไปแล้วเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 19-11-2015 08:49:24
ถนอมๆ บ้างนะบี๋
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 16 [16/11/15]
เริ่มหัวข้อโดย: angelnan ที่ 19-11-2015 15:10:12
เมื่อไหร่จะมาต่อน้า รอนานแล้ว อยากเหนพระเอกรักนายเอกจัง จะเป็นงัยต่อไป อิอิ ชอบแนวนี้จัง ส่วนแม่บ้านแก่แล้ว แต่จะเอา พระเอกทำสามีหรอจ๊ะ
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-11-2015 21:18:54

                                               เล่นกับไฟ

                                                 บทที่ 17


          นัยน์ตาดุของอิมแจบอมท้าทายอยู่ในทีเมื่อประสานสายตากันในระยะใกล้ หากเป็นก่อนหน้านี้แค่ไม่กี่ชั่วโมง

จินยองคงจะสบตาด้วยความหวาดหวั่น หากแต่การตัดสินใจเมื่อรับรู้เรื่องราวในอดีตนั้นทำให้เขาเปลี่ยนไป

          เขาควรจะทำเช่นไรกับบุตรชายของคนที่ทำให้ครอบครัวของเขาพังลง

          อิมแจบอมคือไฟร้อนที่แผดเผาให้เขาหลงไปกับความร้อนแรง ไฟที่จินยองยอมเสี่ยงกระโดดเข้าหา ทำให้เขา

เกือบจะหลงลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ตั้งใจไว้หากไม่ยั้งหัวใจไว้ด้วยความแค้น และเพียงสิ่งเดียวที่จะทำลายไฟอย่าง

แจบอมได้ก็คือไฟที่ร้อนแรงกว่า

          จินยองตัดสินใจแล้วว่าเขาจะกลายเป็นกองไฟที่เผาไหม้ผู้ชายตรงหน้าให้เป็นจุล

          แล้วอะไรที่จะร้อนแรงไปกว่าไฟแห่งเสน่หาเล่า

          มันเป็นสิ่งเดียวที่จะล่อหลอกให้ผู้ชายอย่างอิมแจบอมร่วงลงมาสู่หลุมที่เขาต้องการ และเมื่อไหร่ที่แจบอมก้าวลง

สู่หนทางนั้น จินยองก็จะทำให้ผู้ชายตรงหน้ารับรู้ถึงความเจ็บปวด จินยองจะหยิบยื่นมันเข้าไปในหัวใจของผู้ชายตระกูล

อิม

          กลีบปากอิ่มคลี่ออกช้าๆเผยให้เห็นฟันขาวเรียงกันอย่างเป็นระเบียบขณะที่มือเรียวขยับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของ

แจบอมออกทีละเม็ด จินยองจงใจให้หลังมือสัมผัสไปกับแผงอกแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อและเลื่อนสายตามองตามลงไป

เขาเอนกายเข้าไปใกล้พร้อมกับดึงเสื้อเชิ้ตตัวนั้นออกจากแขนของแจบอมแล้วทิ้งลงกับพื้น


         
          “ความพอใจของคุณมันเยอะจนผมอาจจะทำได้ไม่หมด”



          ขยับปลายนิ้วลากไล้ไปตามขอบกางเกงสแล็คเนื้อดีจนมาถึงเข็มขัดหนังที่แจบอมใส่อยู่ จินยองปลดหัวเข็มขัดให้

คลายออกก่อนที่เขาจะรูดซิปกางเกงลงช้าๆ


          “แต่ถ้าผมไม่เริ่มต้นก็คงไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดมันอยู่ตรงไหน”


          เชิดหน้าขึ้นพลางสบตาด้วยความมั่นใจ สองมือของจินยองดึงกางเกงชั้นในสีขาวให้หลุดออกจากท่อนขาแข็งแรง

พร้อมกับกางเกงสีดำ จินยองย่อตัวลงต่ำตามลงไปจนกระทั่งทั้งหมดลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้าและใบหน้าหวานของ

จินยองหยุดอยู่ตรงจุดอ่อนไหวที่กำลังรอให้เขาเอื้อมมือไปสัมผัส

          นิ้วเรียวยาวแตะต้องแผ่วเบาก่อนจะเพิ่มน้ำหนักขึ้นจนกระทั่งยึดโคนไว้ได้ จินยองช้อนสายตาขึ้นมองนัยน์ตาที่

แสดงความสงสัยอยู่ในขณะนี้ เจ้าของร่างสูงฟิตเฟิร์มที่ยืนนิ่งเป็นหุ่นคงกำลังสงสัยว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่

จินยองไม่รอให้ความสงสัยเกิดขึ้นนานนักเมื่อใบหน้าหวานโน้มเข้าใกล้และเผยอปากแตะปลายลิ้นลงที่ปลายยอด เขา

ค่อยๆเม้มปากลงช้าๆแล้วลากกลีบปากไปตามความยาวทีละนิดให้มันสัมผัสไปกับความชื้นในช่องปาก ลิ้นเล็กตวัดโลม

เลียหนักเบาอยู่ภายในปลุกให้สิ่งนั้นตื่นจากหลับไหลและผงาดคับแน่นอยู่ในช่องปาก


          “ปาร์คจินยอง รู้ตัวใช่ไหมว่าทำอะไรอยู่!”


          อิมแจบอมก้มหน้ามอง เขาเม้มปากเมื่อกำลังถูกปลุกให้ตื่น ลิ้นเล็กภายในโลมเลียกอบกลืนเข้าไปทีละน้อยและ

ในที่สุดมันก็ผลุบหายเข้าไปทั้งหมด จินยองเม้มปากออกแรงจนแก้มตอบเมื่อเขาลากปากออกมาและขยับใบหน้าเข้า

ออกช้าๆ แจบอมกัดฟันแน่นเมื่อความต้องการของเขากำลังถูกปลุกขึ้นมา เขาถึงกับสอดมือเข้าไปในกลุ่มผมเส้นเล็กที่อยู่

เอวแล้วกระแทกมันเข้าไปจนถึงลำคอ จินยองทำท่าจะสำลักแต่เขาก็รับมือกับมันได้ หน้าหวานเร่งจังหวะเลื่อนหน้าเข้า

ออกจนรู้สึกได้ว่าท่อนเนื้อในช่องปากได้ตื่นขึ้นมาสมบูรณ์แบบแล้ว

          จินยองคายมันออก เมื่อเหลือบตาขึ้นมองหน้าดุเขาจึงเห็นแจบอมหายใจเร็วขึ้นและมองกลับด้วยความเสียดาย

ร่างโปร่งบางลุกขึ้นยืนและเขาก็ออกแรงผลักให้อิมแจบอมขยับถอยหลังไปนอนอยู่บนที่นอนกว้าง จินยองดึงกางเกงที่ยัง

ติดอยู่ตรงปลายเท้าให้หลุดออกและเหวี่ยงมันทิ้ง ตอนนี้แจบอมอวดร่างกายหนั่นแน่นสมบูรณ์แบบอยู่กลางเตียง

ตอนนี้แจบอมได้แต่ทอดสายตามองเมื่อจินยองที่ยังคงยืนอยู่ตรงปลายเท้าค่อยๆดึงเสื้อยืดออกผ่านหัว แผ่นอกเรียบ

เนียนขาวผ่องอวดโฉมน่ามองหลังจากนั้นจินยองจึงได้ถอดกางเกงออกจนไม่เหลือสิ่งใดปกปิดเสมอกันกับเขา ดวงตาที่

เคยหวาดหวั่นยามสบตาบัดนี้กลับมองมายังเขาอย่างท้าทาย

          จินยองก้าวขึ้นมาบนเตียงและมาหยุดนั่งอยู่ตรงปลายเท้าของแจบอม มือนุ่มวางลงที่ข้อเท้าทั้งสองข้างพลางลาก

ไล่ลงน้ำหนักขึ้นมาจนถึงต้นขาแข็งแกร่งและบีบเฟ้นอยู่ตรงทางแยก


          “นายกำลังยั่วฉัน”


          แจบอมกัดฟันด้วยความอดทนในขณะที่จินยองเลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม


          “ลองดูว่าผมจะยั่วขึ้นหรือเปล่า”


          มือเรียวคว้าท่อนเนื้อที่เขาเพิ่งจะปลุกเร้าจนตอนนี้ชูกายผงาดเป็นเส้นตรงชี้หน้า จินยองขยับกายขึ้นวางเข่าทั้ง

สองคร่อมอยู่กับเอวหนา เขาข่มความอายที่เกิดขึ้นสูดลมหายใจเพิ่มความมั่นใจพร้อมกับกดเอวของตัวเองเพื่อให้ความ

เป็นชายของแจบอมสอดลึกเข้าไปในร่างกายของเขาทีละนิด


          “อื้มมม...”


          จินยองนิ่วหน้าพ่นเสียงครางแผ่ว เขาเองก็ไม่นึกว่าท่อนเนื้อจะเสียดแทงได้ล้ำลึกเช่นนี้ ปลายมนขยับถูไถอยู่

ภายในชนเข้ากับผนังด้านหลัง มันทำให้จินยองถึงกับสะดุ้งเฮือกกับความเสียวซ่านที่พุ่งขึ้นมา ความชื้นฉ่ำหล่อเลี้ยงโอบ

รอบให้เขาได้กดเอวลงมาง่ายขึ้นและในที่สุดจินยองก็ถึงกับเป่าปากเมื่อเขาสามารถนั่งลงบนเอวแกร่งเมื่อเขากลืนมัน

เข้าไปได้จนหมด


          “อือ เสียว”


          หลับตาพริ้มคิ้วโก่งย่นเข้าหากันริมฝีปากสั่นระริกไปด้วยความต้องการ จินยองกดสะโพกลงคลึงเค้นเป็นวงกลมให้

ท่อนเนื้อหมุนคว้างอยู่ภายใน ร่างบางแอ่นกายพลางยกฝ่ามือลูบไล้ตัวเองไปมา แจบอมมองภาพนั้นอย่างหลงใหล

เขายื่นมือเข้าหาแผ่นอกนวลเนียนปัดมือของจินยองออกไปและแทนที่ด้วยมือร้อนของเขา แจบอมขยำมือเข้าใส่ยอดอกสี

สวยที่แสนล่อตา เขาดึงมันด้วยปลายนิ้วสลับกับบีบเค้นจนเป็นรอยมือเรียกเสียงครางอื้ออึงจากร่างเพรียวที่ยังไม่เลิกบด

เบียดสะโพกลงมา ความคับแน่นในช่องทางกำลังบีบเค้นให้เขาทนไม่ไหว

          เลื่อนมือลงมาที่เอวคอดของจินยองและยึดด้วยสองมือของเขา แจบอมออกแรงแค่นิดเดียวเพื่อยกร่างจินยองให้

สูงขึ้นก่อนที่เขาจะรั้งเอวบางให้กระแทกลงมาพร้อมกับที่เขาสวนเอวเข้าใส่จนท่อนเนื้อกระแทกวาบเข้ากับช่องทางคับ

แน่น


          “โอ๊ะ!”


          “อ๊า!”


          อุทานออกมาพร้อมกันกับความแรงกระแทก แต่มันยิ่งดึงความต้องการให้ยิ่งพุ่งพรวด แจบอม กระแทกซ้ำเข้าไป

อีกครั้งจนจินยองบิดกายให้พล่าน มือเรียวดันไว้กับไหล่กว้างของแจบอมเป็นหลักยึดเมื่อจินยองกำลังโยกเอวขึ้นลงรับ

แรงกระแทก ตอนนี้เขาหน้ามืดไปหมดแล้วเมื่อร่างกายกำลังบีบคั้นรุนแรง


          “อา อีกนิดจินยอง นายกำลังจะทำให้ฉันขาดใจ”


          ลมหายใจร้อนผ่าวชนอยู่ตรงหน้าเมื่อจินยองโน้มกายลงไป แจบอมผลักหน้าของเขาให้ตั้งตรงเพื่อที่จะบดเบียด

ริมฝีปากเข้าหา ปลายลิ้นถูกตวัดเกี่ยวพันดูดดุนจนแก้มตอบพร้อมกับที่แจบอมยังคงรัวเอวขึ้นมาและกดเอวจินยองให้เขา

ได้กระหน่ำใส่


           “อื้อ ไม่ไหวแล้ว”


            จินยองคว้าท่อนเนื้อตนเองปลุกปั่นเร็วรี่ ความปวดร้าวบังเกิดไปทั่วตัวก่อนที่เขาพุ่งปล่อยความรู้สึกออกมาจน

เปียกชุ่มมือตนเอง จินยองกลั้นหายใจเมื่อความอัดแน่นทั้งปวงได้ปลดปล่อยจนร่างเบาหวิว ปล่อยให้ช่องทางนั้นตอดรัด

แจบอมจนหน้ามึด


           “ซี้ด เสียวมาก”


          คำรามก้องทั่วห้องเมื่อภายในของจินยองกำลังบีบเค้นยาวนาน แจบอมต้องการจินยองมากเกินกว่าจะหยุดยั้งแล้ว

เขาโอบร่างบางเปลี่ยนท่าให้จินยองนอนคว่ำไปกับเตียงนุ่มแล้วจับท่อนขาของจินยองแยกออกจากกัน แจบอมคุกเข่ายัน

ฝ่ามือคร่อมร่างนั้น เขาใช้ปากงับลงไปที่แผ่นหลังเนียนปราศจากไฝฝ้าทันที


           “อา แจบอม แจบอม”


            จินยองครางไม่เป็นภาษา  เขาซุกหน้าลงกับหมอนสองมือกำผ้าปูที่นอนจนยับย่นเมื่อรู้ได้ว่าตอนนี้แจบอมกำลัง

ลากปลายลิ้นไปทั่วแผ่นหลัง แรงขบเม้มด้วยปากและปลายฟันกำลังปลุกความเสียวสะท้านที่เพิ่งจะหมดไปให้เกิดขึ้นมา

อีกครั้ง

           แจบอมเลื่อนเอวออกมาจนหมิ่นเหม่และดันเอวกลับเข้าไป น้ำรักฉ่ำชื้นทำให้บทรักยิ่งเร่าร้อน เขาออกแรง

กระแทกจนจินยองได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันเป็นจังหวะดังแว่วเข้าหูอย่างน่าอาย กลิ่นคาวของเหงื่อและคราบคาวคละ

คลุ้งทั่วห้องแต่เขาก็หยุดอะไรไม่ได้แล้วเมื่อตอนนี้แจบอมกำลังตกอยู่ในหลุมแห่งไฟที่เขาเป็นคนจุดมันขึ้นมา


             “สุดยอดจริงๆ อา ... จินยอง”


         ได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาดังด้วยเสียงกระเส่าจากเบื้องหลังเมื่อแจบอมกำลังตะกายขั้นสุดท้าย แรงเสียดลึก

ทำให้ร่างกายของจินยองเผลอไผลเช่นกัน เขาโก่งสะโพกยกสูงเพื่อให้ท่อนเนื้อได้สัมผัสเต็มที่ จินยองกัดฟันแน่นอยู่กับ

หมอนเมื่อแจบอมกำลังทำให้เขาปลดปล่อยออกมาเป็นรอบที่สองจนคราวนี้มันเปียกรดอยู่บนที่นอน


          “แจบอม ได้โปรด แรงๆตรงนั้น อะ อ๊า...”


          “โอ จินยอง”


             รอบนี้ร่างกายของจินยองยิ่งบีบรัดหนักกว่าเดิม แจบอมยันกายสูงพลางดันขาของจินยองให้กว้าง เขากลั้นใจ

ซอยเอวถี่ยิบก่อนจะหยุดแช่ค้างในท่วงท่าที่ลึกที่สุดเมื่อเขาฉีดอัดน้ำคาวอยู่ในช่องทางแสนหวานที่กำลังบีบรีดผลผลิต

ของเขาเข้าไปทุกหยาดหยด แจบอมเงยหน้าสูดหายใจถี่ยิบก่อนจะทิ้งกายลงไปบนแผ่นหลังเนียนนุ่ม

             รอจนหายเหนื่อยและร่างกายคลายตัวแจบอมจึงได้ดึงเอวออกมาจนเสียงดังฝุบ จินยองถึงกับใจหายกับความ

โหวงว่างที่เกิดขึ้น แจบอมขยับตัวลงจากร่างนุ่มแล้วจึงพลิกตัวของจินยองให้ตะแคงหันหน้ามาหาเขา

ความเงียบเข้าปกคลุมเมื่อต่างสบตาลึกล้ำ ใบหน้าเหนื่อยอ่อนของจินยองตกอยู่ในอุ้งมือของแจบอมที่ลากปลายนิ้ว

สัมผัสช้าๆ ในหัวสมองของจินยองกำลังว่างเปล่าไปแล้วตอนนี้ เขาลืมคิดไปชั่วขณะถึงจุดประสงค์ที่เขากำลังทำอยู่

มองอย่างค้นคว้าราวกับจะให้มันลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

จินยองเปิดทางรับจุมพิตหวานที่บรรจงแนบลงมา บางทีเขาอยากจะหยุดเวลาไว้เพียงแค่นี้


           “รัก...”


          แจบอมพึมพำไม่ได้ศัพท์เพราะกำลังตวัดปลายลิ้นพัวพัน แต่จินยองก็ไม่ทันได้ถามเมื่อกำลังมัวเมากับจูบนั้นที่

แจบอมกำลังกล่อมให้เขาหลับตาในอ้อมกอด จินยองหลับใหลด้วยความอ่อนเพลียไออุ่นจากชายที่นอนเคียงข้างยังตาม

ไปในฝันจนเขาไม่อยากจะตื่นขึ้นมารับรู้ความจริงอันโหดร้ายเลย








แจ็คผู้ฆ่ายักษ์  คิดถึงจัง
                                                       
                                                             2Bam ทำไมชอบพูดอะไรให้มันเลี่ยนนะ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ โห เสียใจเลย อุตส่าห์คิดถึง

                                                                                  2Bam รู้แล้วน่า
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ว่างๆไปเดินเล่นที่ชายหาดกันนะ


แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เงียบอีกแล้ว ใจคอไม่ดีเลย

                                                          2Bam คงไปด้วยไม่ได้หรอก ไม่อยากให้หวัง
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ความหวังมันผิดตรงไหน ตราบใดมีความหวังตราบนั้นก็มีกำลังใจ

                                                                   2Bam กลัวเจ็บไง ผิดหวังมันเจ็บนะ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ เชื่อมั่นในตัวผมไหมล่ะ ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังหรอกนะ

                                                                              2Bam ขนาดนั้นเชียว

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ สัญญากับผมว่าจะไปเดินเล่นที่ชายหาดด้วยนะ นะแบม





            หนุ่มน้อยนิ่งงัน แบมแบมจ้องจอโทรศัพท์ ดวงตาหวานครุ่นคิดจนกระทั่งได้ยินเสียงข้อความเตือนอีกครั้ง




แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ นะแบม

                                                                                2Bam ก็ได้ ผมสัญญา





                                                       TBC
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 25-11-2015 10:44:54
เริ่มรักกันแล้วแต่ไม่รู้ตัวทั้งคู่สินะ พอถึงเวลาที่รู้ความสึกดราม่าหนักแน่เลย. ฮืออแจบอมอย่าโกรธจินยองแรงนะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 25-11-2015 22:01:40
โฮๆๆๆๆ แค่นึกก็เศร้าแล้ว (T_T)
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 27-11-2015 10:29:19
ความจริงใกล้เข้ามาแล้า  ปาดน้ำตารอเลยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-11-2015 11:07:10
มีแววน้ำตาท่วมแน่
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 17 [ 23 / 11 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 30-11-2015 20:17:15
จินยองไม่ต้องทำอะไรแล้วแค่นี้แจบอมก็ไปไหนไม่รอดแล้วค่ะ ระวังใจของตัวเองไว้ให้ดีเถอะไฟมันร้อนก็ยังไปยุ่งกับมันผลสุดท้ายก็ไม่พ้นเผาตัวเอง เจ็บกันทั้งคู่ถ้าไม่รู้จักปล่อยวางอดีต ส่วนแจ็คแบมออร่าสีชมพูนี้น้องคิดไปแล้วนะ อยู่ที่แจ็คแล้วแหละว่าหยอดเล่นๆ หรือจริงๆ แล้วก็ชอบแต่เลี่ยนมากจริงๆ ค่ะ  :hao7:
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-12-2015 22:31:30


                                                          เล่นกับไฟ

                                                           บทที่ 18


           “...บอม แจบอม ตื่นได้แล้ว”


           เปลือกตาของอิมแจบอมขยับช้าๆจนมันถูกปิดอีกครั้งด้วยความนุ่มของริมฝีปากเจ้าตัวจึงได้ยอมลืมตาตื่นขึ้นมา

เต็มที่จนได้เห็นใบหน้าแสนหวานที่คลี่ยิ้มให้เขาอยู่ใกล้ๆ เขากระพริบตาอย่างงงงันเมื่อภาพดังกล่าวราวกับอยู่ในความฝัน


           “คุณกำลังจะไปทำงานสายนะถ้ายังขี้เซาอยู่แบบนี้”


           เสียงหวานทำให้แจบอมรู้ว่านี่คือความจริงเมื่อเห็นกลีบปากสีแดงฉ่ำขยับเคลื่อนไหวตรงหน้า เขาจึงตอกย้ำการ

รับรู้ด้วยการยื่นหน้าเข้าไปจูบที่กลีบปากนั่น


           “ฮื้อ บ้าจริง ปากยังอมขี้ฟันอยู่เลย ลุกไปแปรงฟันเดี๋ยวนี้นะ”


           เสียงกลั้วหัวเราะพลางเบนหน้าหนีสร้างความสดชื่นให้เขาในยามเช้า อิมแจบอมขยับแขนดึงเอวเล็กเข้าหาตัว

พลางส่งเสียงนุ่มอย่างที่ไม่เคยใช้มาก่อน


           “ยังไม่อยากตื่นเลย อยากจะนอนกอดอยู่อย่างนี้”


           “นี่คุณกำลังขี้เกียจไปทำงานใช่ไหม บอกมาตรงๆเลยดีกว่า อย่ามัวงอแงลุกไปอาบน้ำเร็วๆเลยผมเตรียมเสื้อผ้า

ไว้ให้แล้ว”


           จำใจต้องลุกขึ้นตามแรงฉุดที่คนตัวผอมออกแรงจนกระทั่งดึงให้เขาลุกจากเตียงนุ่มจนได้แถมยังรุนหลังให้เขา

ก้าวเข้าไปในห้องน้ำพลางปิดประตูไล่หลัง แจบอมยืนนิ่งอึ้งอยู่หน้ากระจกเมื่ออุปกรณ์ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ให้เขาพรั่ง

พร้อม ไม่ว่าจะเป็นแปรงสีฟันที่มีเนื้อยาสีฟันอยู่ด้านบน โฟมล้างหน้า หรือแม้แต่เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า แจบอมเผลอยิ้ม

กับเงาตนเองในกระจก

           การที่มีปาร์คจินยองอยู่ใกล้ๆกำลังสร้างความมีชีวิตชีวาให้เขาเกินกว่าที่คาดไว้

           แจบอมผิวปากอย่างอารมณ์ดีจนกระทั่งเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างสดชื่น เขาเห็นจินยองยืนมองเสื้อผ้าที่เตรียม

ไว้ให้อย่างลังเลใจ เมื่อเห็นเขาเดินออกจากห้องน้ำใบหน้าหวานจึงหันมาขอความเห็นจากเขา


           “คุณอยากใส่ชุดไหน ชุดนี้หรือว่าชุดนี้ดี ผมไม่รู้ว่าคุณจะไปที่ไหนบ้างเลยไม่รู้ว่าจะจัดชุดไหนให้ถึงจะเหมาะกับ

งานของคุณ”


           แจบอมเผลอคลี่ยิ้มออกมาอีกแล้ว รู้สึกว่าช่วงนี้เขาจะใช้โควตารอยยิ้มบ่อยเกินความจำเป็น ร่างสูงที่มีเพียง

ผ้าเช็ดตัวห่อกายท่อนล่างเดินตรงเข้ามาโอบเอวบางจากทางด้านหลังแล้วขโมยหอมแก้มฟอดใหญ่


           “ชุดไหนก็ได้ ฉันไม่ใช่คนเรื่องมากสักหน่อย”


           จินยองหันมาถลึงตาใส่เมื่อสองแขนที่โอบร่างเขาอยู่นั้นทำท่าจะไม่ยอมปล่อย เขาดึงแขนที่แข็งแรงราวกับคีม

เหล็กออกจากตัวอย่างยากเย็นก่อนจะหันมาหาแล้วผลักแผงอกล่ำให้ห่างออกจากตัว


           “อย่ามาทำรุ่มร่ามตอนเช้า รีบแต่งตัวเร็วๆเข้าผมหิวแล้ว”


           “แต่งตัวให้หน่อยสิ”


           “เป็นง่อยหรือไง”


           “แล้วแต่งตัวให้ฉันมันจะยากอะไรนักหนา”


           “คุณนี่มันกวนโมโหเสียจริงๆ”


           ย่นจมูกใส่เมื่ออีกฝ่ายบังคับขู่เข็ญแต่จินยองก็ยอมทำตามจนกระทั่งขยับเนคไทเข้ากับลำคอของแจบอม ตลอด

เวลานั้นดวงตาคมดุมองด้วยนัยน์ตาล้ำลึก จินยองได้แต่ข่มความอายจนกระทั่งใบหน้าแดงก่ำ


           “เสร็จแล้ว พอใจหรือยัง”


           พูดน้ำเสียงกระแทกกระทั้นแต่คราวนี้แจบอมทนได้ เขาไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อส่งมือเข้าประสานกับมือเรียวแล้วดึง

เบาๆให้ก้าวตามไปยังห้องอาหาร




           แบมแบมนั่งรอประจำที่อยู่แล้วที่โต๊ะอาหาร เมื่อเห็นพี่ชายเดินกุมมือมากับคุณครูของตนเขาถึงกับยิ้มแก้มปริและ

หลิ่วตาล้อเลียน


           “นี่ไม่ทะเลาะกันแล้วหรือครับ พี่ชายใช้วิชาอะไรในการเจรจากับครูกันน้อ ครูของผมถึงได้ยอมใจดีด้วยแบบนี้”


           “แบมแบมครับ วันนี้วิชาเลขครูจะให้แบมแบมแก้โจทย์แคลคูลัสสิบข้อ”


           “โอ๊ย ครูคร้าบ กลัวแล้วผมจะหุบปากนั่งกินอาหารเงียบๆไม่ล้อไม่เป็นก้างขวางคอเด็ดขาด”


           ท่าทางของน้องชายที่กำลังล้อเลียนทำให้คนเป็นพี่ชายโคลงศีรษะอย่างระอา เขานึกดีใจที่น้องชายกลับมาเป็น

เด็กหนุ่มที่สดใสอีกครั้งหลังจากกลายเป็นเด็กเจ้าอารมณ์อยู่พักใหญ่ บรรยากาศรื่นรมย์ในยามเช้าทำให้คนที่เดินนำสาว

รับใช้เข้ามาเสิร์ฟอาหารถึงกับชะงัก

           ความริษยาแล่นมาเป็นริ้วเมื่อยูริไม่เคยได้รับโอกาสนั้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่หล่อนอยู่ในบ้านนี้มาเนิ่นนาน

ตั้งแต่มารดาแท้ๆของอิมแจบอมไปเก็บหล่อนมาเลี้ยงตั้งแต่ตอนที่หล่อนเริ่มโตเป็นสาวและคุณชายอิมยังเป็นเด็ก ยูริเฝ้า

มองคุณชายอิมเติบโตก่อนที่จะไปเรียนต่อที่เมืองนอกและกลับมาเป็นชายหนุ่มที่แสนสง่างาม ยูริเฝ้าซื่อสัตย์และหวังว่า

สักวันหนึ่งคุณชายอิมจะลดตัวลงมองหล่อนบ้างแต่ก็ไม่เคยมีสักครั้ง

           ที่ผ่านมายูริก็ยังพอมีความหวังเมื่อคุณชายอิมไม่ได้มีสายตามองใคร แต่เมื่อคุณครูคนใหม่ที่ชื่อปาร์คจินยองก้าว

เข้ามาในบ้านทุกอย่างก็พลันเปลี่ยนไป

           ยูริกัดริมฝีปากแทบห้อเลือดเมื่อเห็นภาพความสนิทสนมของคนทั้งสามราวกับจินยองได้ก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง

ของครอบครัวโดยสมบูรณ์แล้ว ความอิจฉาริษยาทำให้หล่อนยืนนิ่งไม่อาจก้าวเข้าไปภายในเพื่อดูแลคุณชายของหล่อน

ได้อย่างทุกวันจนกระทั่งอาหารมื้อเช้าสิ้นสุดลง







           “มื้อเย็นฉันจะไม่กลับมาที่บ้าน”


           อิมแจบอมกล่าวกับเขาเมื่อจินยองเดินมาส่งถึงรถยนต์ที่มีคนขับและบอดี้การ์ดรออยู่แล้ว เมื่อได้ยินดังนั้นใจของ

จินยองถึงกับกระตุก

           ก็เขาเริ่มคุ้นชินกับการที่มีแจบอมอยู่ใกล้ๆ เพียงแค่อีกฝ่ายจะห่างไปไม่นานแต่มันกลับทำให้หัวใจระส่ำระสาย

เพราะความน้อยใจได้ไม่ยาก


            “งั้นหรือครับ ก็แล้วแต่คุณสิ”


           น้ำเสียงคงแสดงออกถึงอารมณ์ชัดเจนจนแจบอมต้องมองด้วยประกายตาระยับพลางขยับเข้าใกล้และสอดแขน

ไปรอบเอวเพื่อดึงคนที่กำลังงอนเข้าประชิดตัวจนจินยองตกใจกับการกระทำของแจบอมที่แสดงออกโดยไม่สนว่าตอนนี้

ไม่ได้อยู่เพียงลำพังกันแค่สองคน


           “ปล่อยนะ อิมแจบอม นี่เราอยู่ต่อหน้าลูกน้องของคุณนะ”


           เอ็ดเสียงเขียวพลางดึงท่อนแขนออกแต่ไม่สำเร็จ แถมยังทำให้อ้อมกอดยิ่งกระชับจนดิ้นไม่หลุด


           “จะไม่ถามหรือไงว่าฉันจะไปไหน”


           ไม่สนใจที่เขาพูดสักนิดแถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนจมูกโด่งเฉียดแก้มของเขาไปอย่างจงใจ

จินยองได้แต่เอียงหน้าหนีด้วยความยากลำบาก


            “ไม่ถาม ทำไมต้องถาม อยากจะไปไหนก็ไปสิ”


           “อยากไปดินเนอร์กับนายไง”


           จินยองชะงัก ดวงตาเรียวเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น เขาหันขวับไปสบตาคมอย่างลืมตัว


           “ว่าไงนะ”


           “เย็นนี้ฉันจะไม่กลับบ้าน เพราะจะรอไปดินเนอร์กับนายข้างนอก”


           เสียงนั้นนุ่มกว่าปกติเรียกเลือดร้อนมาเลี้ยงใบหน้าจนร้อนเห่อไปหมด จินยองเผลอสบตาล้ำลึกคู่นั้นขณะที่

ใบหน้าของแจบอมขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ


           “แต่งตัวหล่อๆแล้วฉันจะให้รถมารับนายตอนเย็นเพื่อออกไปดินเนอร์กับฉัน”


           พูดจบริมฝีปากของเขากับประทับแผ่วบนกลีบปากที่แดงเรื่อที่เขาติดใจ ความหวานยังคงกรุ่นอยู่ในความรู้สึกเมื่อ

แจบอมเพิ่มน้ำหนักรสจูบหนักหน่วงจนส่งลิ้นอุ่นเข้าไปหาเศษหาเลยในโพรงปากหวานที่เปิดรับอย่างลืมตัวว่ากำลังถูกจูบ

ต่อหน้าลูกน้องของอิมแจบอม กว่าแจบอมจะพอใจจินยองก็ถูกจูบจนแทบหมดอากาศหายใจ เมื่อได้สติจินยองก็พูดอะไร

ไม่ออกเมื่อเห็นเหล่าลูกน้องของแจบอมที่ยืนนิ่งต่างพากันกลั้นยิ้มอย่างยากเย็น

           ตัวต้นเหตุก้าวหนีขึ้นรถยนต์อย่างรวดเร็วปล่อยให้จินยองยืนอึ้งหน้าแดงก่ำ เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ

แม่บ้านยูริที่แอบมองมาจากตัวบ้าน หล่อนซ่อนกายอยู่หลังผ้าม่านผืนหน้าที่ถูกกำไว้แน่นด้วยความเกลียดชัง







           “ครูหายโกรธหายเกลียดพี่ชายแล้วใช่ไหมครับ”


           หลังจากที่จบวิชาสุดท้ายในยามบ่ายแบมแบมก็เอ่ยกับคุณครูของเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จินยองยิ้ม

ตอบอย่างอ่อนโยนระคนเก้อเขิน


           “ทำไมแบมแบมถึงคิดอย่างนั้นล่ะ”


           “ดวงตาของครูมันฟ้องครับ มันบอกว่าครูเองก็กำลังมีใจให้พี่ชาย”


           กล่าวตอบอย่างเด็กแก่แดดจนจินยองนึกขำ แบมแบมขยับเข้าโอบกอดเอวของจินยองพลางเงยหน้าออดอ้อน


           “พี่ชายน่ะใจดีใช่ไหมครับพอเขาถอดหน้ากากผู้นำออกแล้ว ผมอยากให้ครูมองให้เห็นถึงหัวใจของพี่ชายจริงๆ

ไม่ว่าครูจะเข้ามาที่นี่เพื่ออะไรก็ตามแต่ผมอยากให้ครูโยนมันทิ้งแล้วเริ่มต้นใหม่ พี่ชายน่ะรักครูนะครับ”


           “เด็กคนนี้นี่ จะชงพี่ชายตัวเองไปถึงไหนกัน”


           โยกหัวพร้อมหัวเราะอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นพ่อสื่อตัวดีกำลังโน้มน้าวให้เขาเชื่อ อันที่จริงหัวใจของ

จินยองก็อ่อนลงไปเยอะเมื่อแจบอมยอมลงให้เขา


            “แบมแบมพักผ่อนเถอะ ครูขอตัวก่อน”


           “ครูจะรีบไปไหนครับ”


           หนุ่มน้อยถามอย่างสงสัยเพราะทุกวันคุณครูของเขาไม่มีทีท่าตื่นเต้นแบบนี้


           “ครู เอ่อ... จะไปแต่งตัวน่ะสิ ก็พี่ชายตัวดีของแบมแบมเขาจะส่งรถมารับครูไปกินอาหารเย็นข้างนอก”


           “นั่นแน่ะ สวีทนะครู”


           “แบมแบม!”


           จินยองเก็บความเขินไม่อยู่จนแบมแบมหัวเราะลั่น แต่ถึงจะขัดเขินจินยองก็ยังไม่วายห่วง


           “แบมแบมอยู่คนเดียวได้ใช่ไหมครับถ้าครูไม่ได้อยู่เป็นเพื่อน”


           “โธ่ครูครับ อย่าเป็นห่วง ผมอยู่คนเดียวจนชินก่อนหน้าที่ครูจะเข้ามาที่นี่เสียอีก และถ้าครูจะไม่อยู่เพราะเรื่องนี้

ด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง กรุณาไปเดทกับพี่ชายอย่างสบายใจเถอะครับ”


           คราวนี้จินยองเองก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาพูดคุยกับแบมแบมอีกครู่หนึ่งจึงเอ่ยลาและก้าวออกมานอกห้อง

เมื่อเดินมาถึงบันไดจินยองก็ต้องชะงักเมื่อเห็นยูริที่ก้าวขึ้นมาพอดี

           อึดอัดเหลือเกินกับสายตาจงเกลียดจงชังคู่นั้น จินยองรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้น่ากลัวจนไม่น่าเข้าใจแต่เขาก็ต้องฝืน

ยิ้มออกไปด้วยมารยาทในขณะที่ยูริกลับไม่ยอมรักษามารยาทกับเขา


           “คุณยูริ”


           เอ่ยทักทายออกไปเมื่อเจ้าตัวก้าวช้าๆเข้ามาหาและจ้องหน้าเขาด้วยนัยน์ตาอาฆาต


           “เลิกยุ่งกับคุณชายซะ”


           เสียงกร้าวข่มขู่ทำให้จินยองกัดฟัดเชิดหน้าขึ้น  เขาไม่ชอบให้ใครมาพูดเช่นนี้กับเขา


           “ถ้าผมเลิกยุ่งกับเขา แล้วเขาจะเลิกยุ่งกับผมไหมล่ะครับ”


           จินยองกดยิ้มลึกตอบกลับ ยูริยิ่งโกรธจนควันออกหู


           “ช่วยไม่ได้นะครับ ผมเองก็ไม่ได้อยากจะให้เขามายุ่งสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนคุณชายของคุณยูริยิ่งไล่ก็ยิ่งเกาะ

ติด”


           “ปาร์คจินยอง ฉันขอเตือน ถ้าแกไม่เลิกยุ่งกับคุณชายอิมรับรองว่าแกจะต้องได้รับบทเรียนอย่างสาสม”


           จินยองส่ายหน้าด้วยความระอา แม้จะสงสารที่เดาได้ว่ายูริคงจะคิดเกินเลยกับเจ้านาย แต่ด้วยสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้

กำลังแสดงออกมันทำให้ความสงสารเห็นใจละลายลงไปได้ไม่ยาก

           จินยองก้าวเดินผ่านหน้ายูริไปยังห้องของอิมแจบอมอย่างไม่สนใจอีก จึงไม่เห็นนัยน์ตาโชนแสงด้วยความเกลียด

ชังของยูริ





มีต่ออีกนิด....


หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-12-2015 22:37:13


ต่่อกันตรงนี้...





แจ็คผู้ฆ่ายักษ์:วันนี้ครูสอนวิชาอะไร
2Bam: สอนเลขอีกแล้ว ไม่เคยทำได้เลย T^T

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: นี่ครูคงเก่งเลขล่ะสิ แล้วครูหน้าตาสวยปะล่ะ
2Bam: ทำไม จะจีบหรือไง ครูเป็นผู้ชาย เสียใจด้วยนะ

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ผู้ชายก็จีบได้ถ้าชอบจริงๆอะ ^^
2Bam: ไม่ได้ ครูมีแฟนแล้ว ครูเป็นแฟนพี่ชายเรา
2Bam: แจ็ค
2Bam: แจ็ค เป็นอะไร หายไปไหน

แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: เปล่าๆ แค่คิดอะไรเพลินไปหน่อย เออ ครูของสาวน้อยผมเปียชื่ออะไร
2Bam: ครูชื่อจิน... เดี๋ยวนะ มีคนมาเคาะประตูห้อง
         
           

           วางมือจากการแชทแล้วบังคับรถเข็นเพื่อไปเปิดประตู แบมแบมตกใจเมื่อเห็นลูกน้องตัวใหญ่ของอิมแจบอมมา

ยืนอยู่หน้าประตูห้องทั้งที่คนเหล่านี้แทบจะไม่เคยย่างกรายขึ้นมาชั้นสองถ้าไม่จำเป็น


           “เกิดอะไรขึ้น!”


           “พวกผมมาดูว่าคุณจินยองอยู่กับคุณหนูในห้องหรือเปล่าครับ”


           “ไม่นี่ ผมแยกกับครูตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้ว มีอะไรกันแน่บอกผมมานะ”


           และแล้วคำตอบก็ทำให้หนุ่มน้อยตกใจแทบสิ้นสติ


           “พวกผมมารับคุณจินยองตามคำสั่งท่านประธานแต่กลับหาตัวคุณจินยองไม่พบ ตอนนี้คุณจินยองหายตัวออกไป

จากบ้านครับคุณหนู”




TBC


 :katai1: :katai1:



หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-12-2015 22:56:21
ยูริทำอะไรน่ะะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: JUJU ที่ 04-12-2015 00:05:32
ยูริจะทำไรจินยองอ่ะ  :katai1: อยากอ่านต่อแล้ว แงงง :mew2:  ฉากสวีทก็ทำเอาอินและเขินมากๆฮืออ :hao6: :pighaun: ชอบการบรรยายมากค่ะอ่านแล้วเห็นภาพตามเลยสนุกมากๆเราติดตามอยู่นะคะมาอัพบ่อยๆนะคะไรท์เตอร์ :mew2: :mew2: :mew2: 
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 04-12-2015 14:04:12
โอ๊ยยย จินย งหายไปไหนกันนะ
แม่บ้านยูริแน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 18 [ 03 / 12 / 15 ]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 05-12-2015 17:29:15
 นังยูริทำกับจินยองได้ไง :beat:
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-12-2015 00:06:36


                                                             เล่นกับไฟ

                                                               บทที่ 19           


           ประธานตระกูลอิมอยากจะหายตัวได้แล้วมาโผล่ที่บ้านเสียเหลือเกินตั้งแต่รู้ข่าวจากลูกน้องว่า  ปาร์คจินยองหาย

ออกไปจากบ้าน แต่เมื่อทำไม่ได้แจบอมจึงได้แต่วิตกอยู่ภายในรถยนต์ที่คนขับรถเหยียบคันเร่งปานจะเหาะได้เพื่อให้เจ้า

นายของเขามาถึงบ้านหลังใหญ่ให้เร็วที่สุด

           รถยนต์พุ่งเข้าจอดยังไม่ทันจะสนิทหน้าบันไดทางขึ้นบ้านแจบอมก็เปิดประตูกระโจนออกมาทันที เขาเพิ่งรู้ใจ

ตนเองว่าเขาเป็นห่วงจินยองมากมายเหลือเกิน


            “พี่ชาย!”


           แบมแบมหน้าตื่นรออยู่แล้ว เมื่อเห็นแจบอมจึงรีบบังคับรถเข็นให้ตรงมาหา แจบอมก้าวพรวดๆเข้ามาถึง เขารีบ

เอ่ยถามทันที


           “แบมแบมอยู่กับครูครั้งสุดท้ายตอนไหน”


           “ตอนบ่ายสามครับ ครูสอนวิชาสุดท้ายแล้วก็ไปแต่งตัว บอกว่าพี่ชายจะส่งรถมารับ แต่พอรถมาครูก็หายไปแล้ว

พี่ชาย ครูจะเป็นอะไรไหม หรือว่าจะหายไปเหมือนครูผู้หญิงคนเก่าที่เคยหายไป”


           ดวงตาเรียวหวานของแบมแบมบัดนี้ตื่นตระหนกไปหมดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าครูคนเก่าที่เคยมาสอนเขาหายตัวไปแบบ

นี้ถึงสองคนโดยที่ยังหาร่องรอยไม่พบ แจบอมกัดฟันจนคางขึ้นเป็นสันเมื่อความเป็นห่วงจินยองแล่นเข้ามาจนหัวใจ

ร้อนรนไปหมด

           แจบอมเพิ่งจะยอมรับกับตัวเองได้ว่าเขารักจินยอง มันเป็นความรักที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครทั้งสิ้น แม้จะยังกังขาถึง

จุดประสงค์ที่จินยองเดินเข้ามาในบ้านหลังนี้ แต่ถึงอย่างไรก็ปฏิเสธหัวใจตนเองไม่ได้ว่าจินยองสามารถทำลายไฟร้อน

ของเขาลงได้ราบคาบ


           “ครูของแบมแบมจะต้องไม่เป็นอะไร พี่จะตามหาเขาให้พบ”


           แจบอมคุกเข่าลงจนกระทั่งใบหน้าเสมอกับน้องชาย เขาสบตาแทนคำมั่นสัญญา จากนั้นร่างสูงจึงได้ลุกขึ้นถอด

เสื้อสูทออกจากตัว ตอนนั้นเองที่แจบอมเอะใจ


           “ยูริหายไปไหน”


           เพราะทุกครั้งคนที่มาวนเวียนดูแลตั้งแต่ลงจากรถยนต์ก็คือยูริ แต่วันนี้เขายังไม่เห็นแม้แต่เงาของแม่บ้านที่มารดา

ของเขาเก็บมาเลี้ยง แจบอมคิดจนคิ้วเข้มขมวดเป็นปม อะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในลางสังหรณ์เขาเงยหน้าขึ้นแล้วออกคำ

สั่ง


           “สั่งให้คนของเราออกตามหาครูจินยองโดยด่วน มีคนอยู่เท่าไหร่ให้มาทำงานนี้ให้หมดตามหาให้ทั่วรอบทิศจาก

บ้านหลังนี้ โดยเฉพาะตรงแถวหน้าผาสูงริมทะเล”


           หัวใจของแจบอมเต้นเร็วด้วยความหวาดกลัวเป็นครั้งแรก

           เขากลัวจะสูญเสียจินยองไปจากชีวิตของเขา






           แพขนตางอนกระพริบถี่ๆแล้วจึงเปิดขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดระบมไปทั้งตัว จินยองเรียกสติกลับคืนมามองรอบ

ตัวเขาจึงได้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังนอนตัวงออยู่บนพื้นเดินแข็งๆแขนทั้งสองข้างถูกดึงไพล่หลังและมัดข้อมือทั้งสองข้างติด

กันไว้อยู่ตรงเอว ได้ยินเสียงคลื่นซัดสาดเสียงโครมครามมาจากด้านหลังนี่เอง

           ที่นี่ที่ไหน และเขามาทำอะไรที่นี่ ในเมื่อความทรงจำครั้งสุดท้ายคือตอนที่เขาแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าตัวเก่งเดินออก

มาจากห้องของแจบอม จินยองก้าวลงบันไดมาถึงชั้นล่างเตรียมจะไปนั่งรอรถที่แจบอมส่งมา แต่แล้วอยู่ๆก็มีอะไรบาง

อย่างกระแทกเข้ากับต้นคอของเขา และสติของจินยองก็ดับวูบลงตั้งแต่ตอนนั้น

           จินยองดันกายลุกขึ้นนั่งอย่างยากเย็นพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ ใครที่ทำร้ายและลากเขามาอยู่ที่นี่ หน้าผา

สูงชันที่ด้านล่างเป็นทะเลลึก เสียงคลื่นที่จินยองได้ยินเมื่อครู่คือเสียงคลื่นจากทะเลซัดเข้าหาโขดหินเบื้องล่างและ

หน้าผานั่นเอง

           เสียงฝีเท้าเดินย่ำพื้นในความมืดมิดของบรรยากาศยามค่ำทำให้จินยองจ้องมองอย่างระมัดระวัง และทันทีที่

เจ้าของฝีเท้าก้าวเข้ามาใกล้จินยองก็ถึงกับเบิกตากว้าง


           “คุณยูริ!”


           ใบหน้าเฉยชาบัดนี้บิดเบี้ยวไปด้วยความเกลียดชัง ดวงตาชั้นเดียวปูดโปนด้วยไฟริษยาเมื่อก้าวเข้ามาหาจินยอง

ด้วยกิริยาคุกคามจนจินยองที่นั่งอยู่ต้องขยับเท้าถีบพื้นเพื่อถอยหนีแต่ก็ไม่มีประโยชน์เมื่อยูริตรงเข้ามากระชากเส้นผม

ของจินยองจนแทบจะหลุดติดมือ


           “โอ๊ย!”


           “ไม่ปากเก่งเหมือนเดิมแล้วหรือ คุณครูปาร์ค”


           แบะปากแสยะยิ้มราวกับแม่มดจนจินยองขนลุกชันไปทั้งตัว เขามองเห็นแต่ความเกลียดชังจากดวงตาที่มองเขา

อย่างกินเลือดกินเนื้อ


           “ทำร้ายผมทำไม คุณต้องการอะไรจากผม”


           “กูบอกให้มึงเลิกยุ่งกับคุณชายอิม ทำไมมึงยังไม่เลิก”


           ตวาดเสียงดังก้องพลางดึงเส้นผมของจินยองในมือจนหน้าหงาย


           “มึงรู้หรือเปล่าว่ากูรักคุณชายแค่ไหน รักมาตั้งแต่ยังเด็ก คุณชายต้องเป็นของกูไม่ใช่คนร่านอย่างมึง”


           “คุณยูริ ใจเย็นลงก่อน โอ๊ย!”


           ฝ่ามือกระแทกเข้ากับซีกแก้มจนเห็นดาวเดือนในความมืด จากนั้นยูริก็กระโจนเข้าใส่ หลานผลักร่างของจินยอง

ให้หงายกลับลงไปและขยับขึ้นทับร่างของจินยองด้วยเข่า มือสากทั้งสองกดลังไปตรงลำคอของจินยองที่กำลังดิ้นรนไป

มา ดูเหมือนยูริจะสติจะหลุดลอยไปแล้วเมื่อกำลังพร่ำบ่นด่าทอหยาบคายขณะทำร้ายจินยอง


           “แต่ละคนที่เข้ามาใกล้คุณชาย มีแต่คนแพศยาทั้งนั้นนังพวกครูของไอ้เด็กพิการนั่นแหละ ระริกระรี้อยากจะให้

คุณชายมองเห็น หึหึ เป็นไงล่ะ วิ่งแจ้นกลับไปแทบไม่ทัน แล้วไอ้พวกหัวแข็งอย่างมึงก็ต้องเจอกู ต้องขอบใจกูนะที่กูช่วย

สงเคราะห์ไปนอนเล่นน้ำทะเลจนติดใจไม่กลับขื้นมา”


           จินยองอ้าปากค้างเมื่อนึกถึงคดีที่แจ็คสันตามสืบอยู่ ผู้หญิงสองคนที่เข้ามาทำงานในบ้านตระกูล  อิมหายไป

อย่างไร้ร่องรอย ไม่นับพวกที่รีบลาออกหลังจากทำงานไม่นาน และไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถึงสิ่งที่ทำให้พวกเธอนั้นอยู่ไม่

ได้ คดีที่คนในสังคมต่างพุ่งเป้าไปที่อำนาจมืดของประธานอิม ไม่มีใครคิดจะสืบมันเพราะกลัวอิทธิพล แต่วินาทีนี้จินยองรู้

แล้วว่ามันเป็นฝีมือของยูรินี่เอง


           “เลว เลือดเย็นเหลือเกิน”


           ยูริเงยหน้าหัวเราะราวกับคนเสียสติก่อนจะสะบัดฝ่ามือตบหน้าของจินยองซ้ำที่เดิม


           “ด่าสิ ด่าไปเลย ก่อนที่จะไม่ได้ด่า เข้าใจง่ายดีนี่ กูทำได้ทุกอย่างเพื่อให้คุณชายเป็นของครูคนเดียว มึงไม่รู้

หรอกว่ากูทำอะไรได้บ้างกูแกล้งพวกครูที่มาทำใกล้ชิดกับคุณชาย อีสองตัวนั่นที่ทำเก่งกูก็โยนมันทิ้งลงไปข้างล่างนี่

แหละ กูทำแม้แต่ทำให้รถเข็นของไอ้เด็กง่อยนั้นมันเสียจนมันลงไปในสระน้ำนั่นแหละ กูเกลียดมัน มันมัวแต่ทำตัวออด

อ้อนคุณชายอิม”


           แรงกดที่คอมากขึ้นทุกทีจนอากาศที่กักเก็บไง้ลดน้อยลงไป ใบหน้าหวานซีดเผือดทุรนทุรายอย่างทรมาน


           แจบอม...

           แจบอม...

           ใบหน้าดุของแจบอมล่องลอยอยู่ในมโนสำนึก จินยองรู้ตัวเองว่าแรงกดบีบที่คอกำลังทำให้เขาขาดอากาศหายใจ

หรืออาจจะคอหักได้ สติของจินยองเริ่มดำมืดพร้อมกับที่หัวใจเต้นอย่างอ่อนแรงแต่มันกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผุดขึ้น

มา


           ความรู้สึกที่ทำให้จินยองยอมรับว่าเขารักแจบอมจนหมดหัวใจ

           รัก จินยองรับแจบอมไปแล้ว รักจนเขาคิดถึงเป็นคนแรกยามอยู่ในความวิกฤติ และจะรักจนลมหายใจสุดท้ายที่

ใกล้เข้ามาทุกที


           “ตายเสียเถอะ”


           “อึก”


           อ้าปากงับอากาศแต่มันก็ไม่สำเร็จ ดวงตาหวานหรี่ปรือลมหายใจขาดสั้นเป็นห้วงๆ มือเรียวที่จับข้อแขนของยูริ

หมดแรงลงจนกระทั่งร่วงหล่น


           “ตายซะ”


           “ปล่อยจินยองเดี๋ยวนี้”


           “อ๊ะ คุณชาย โอ๊ย!”


           จินยองผวางับอากาศเมื่อมือของยูริหลุดไปจากคอของเขา ร่างบางถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นจนจินยอง

ตัวสั่น เขาปล่อยให้น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลรินออกมาในขณะที่แจบอมช่วยแก้มัดที่มือให้เขา


           “แจบอม แจบอม”


           “ไม่เป็นอะไรแล้วจินยอง”


           มืออุ่นลูบผมอ่อนโยนโดยไม่สนใจยูริที่ถูกลูกน้องของเขาเข้าจับกุมตัวไว้


           “คุณชาย ปล่อยยูริ ยูริทำเพราะรักคุณชายนะคะ รักตั้งแต่แรกเห็น”


           หล่อนคร่ำครวญอย่างเสียสติขณะที่แจบอมกัดกรามค้าง เขาประคองให้จินยองลุกขึ้นยืนพิงอกโดยมีวงแขนของ

เขาโอบกอดอยู่


           “ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเป็นคนของแม่ ยูริ”


           เอ่ยเสียงเย็นเยียบจนหนาวไปถึงสันหลังเมื่อยูริที่ถูกควบคุมตัวได้สบตากับแจบอม ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเด็ด

ขาดไม่ต่างอะไรจากบิดาประธานอิมรุ่นก่อน ยูริถึงกับเข่าอ่อนน้ำตาไหลพราก


           “คุณชาย ยูริผิดไปแล้ว”


           น้ำตาของยูริไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อแจบอมยังคงนิ่งในท่าเดิม


           “เธอฆ่าครูของแบมแบมไปถึงสองคน จนคนอื่นคิดว่าเป็นฝีมือฉัน ซึ่งนั่นไม่เท่าไหร่ แต่ที่สำคัญคือเธอกำลังจะฆ่า

คนที่ฉันรักที่สุดซึ่งฉันไม่อาจอภัยให้เธอได้”


           ดวงตาของยูริเบิกกว้าง ความตื่นตระหนกฉายชัดอยู่บนใบหน้าเมื่อได้ยินคำตัดสินชี้ขาด หล่อนทรุดฮวบลงไป

ทันทีเมื่อคำสั่งสุดท้ายดังจากปากของอิมแจบอม


           “ส่งแม่บ้านยูริลงทะเล อย่างที่เขาทำกับคนอื่น”


           เสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อลูกน้องตัวใหญ่ของแจบอมหิ้วปีกของยูริก้าวตรงไปที่หน้าผาสูงชัน จินยองเองแม้จะยังสติ

ลางเลือนแต่ก็ยังตกใจไม่น้อย เขาห้ามไม่ทันเมื่อลูกน้องของแจบอมโยนร่างของยูริลอยละลิ่วลงไป ได้ยินเสียงร้อง

โหยหวนแข่งกับเสียงคลื่นและค่อยๆจางลงจนกระทั่งจินยองหลับตาลงเมื่อเสียงของยูริหายไปในที่สุด


           เหลือเพียงเสียงคลื่นที่สาดซัดโขดหินโสโครกและหน้าผาสูงชัน จินยองใจหายกับชะตากรรมของผู้หญิงคนหนึ่ง

ที่มีความรักและทำร้ายคนอื่นโดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมาเลย

           ความเงียบเข้าครอบคลุม มีเพียงความอบอุ่นในวงแขนที่กระชับร่างของเขาราวกับจะปลุกปลอบให้หายหวาดกลัว

แจบอมจูบเบาๆที่ขมับแล้วจึงเชยคางให้จินยองสบตากับเขา

           ดวงตาดุนั้นจริงจังเหลือเกินขณะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของจินยอง จนเขาสะท้านไปทั้งตัวด้วยความรู้สึกล้ำลึก

อบอุ่นที่แจบอมส่งมาให้


           “ฉันรักนาย ปาร์คจินยอง”


           จินยองชะงักค้าง ดวงตาเบิกกว้างริมฝีปากสั่นระริก น้ำตาแห่งความตื้นตันคลอเอ่อก่อนจะร่วงลงมาเปียกแก้ม เขา

ผวาเข้ากอดคอแจบอมไว้แน่นพลางสะอื้นอยู่ตรงบ่ากว้างในขณะที่แจบอมก็ลูบหลังปลอบโยน ต่างคนต่างนึกยินดีที่

เหตุการณ์นี้ทำให้เข้าใจกันมากขึ้น


           “คนบ้า คนใจร้าย ผมก็รักคุณ คุณเป็นคนเดียวที่ผมนึกถึงก่อนที่จะขาดใจตายนะ รู้หรือเปล่า”


           แจบอมปล่อยให้จินยองร้องไห้พักใหญ่จึงดึงไหล่บางออกจากตัว เขาจ้องมองใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยคราบ

น้ำตาก่อนจะโน้มหน้าตนเองเข้าไปประทับรอยจูบลงบนกลีบปากนุ่ม คราวนี้จินยองไม่อายอีกแล้วแม้ว่าจะมีลูกน้องของ

แจบอมยืนกระจายตัวอยู่ เขายกมือคล้องคอและจูบตอบอย่างกระหายจนแจบอมต้องเป็นฝ่ายผละปากออกแล้วมองด้วย

นัยน์ตาหวานเชื่อม


          “จูบแค่นี้ก่อน เดี๋ยวคนเก่งจะขาดอากาศหายใจไปอีกรอบ”


           “บ้า ปากเสียที่สุดเลย”


           จินยองเม้มปากพลางตวัดสายตาใส่จนแจบอมต้องดึงเอวเข้าใกล้


           “ปากเสียแบบนี้แต่จูบเก่งใช่ไหม ใครบางคนถึงกับเคลิ้มตาม”


           “อิมแจบอม!”


           หน้าแดงก่ำเมื่อถูกยั่วเย้า แจบอมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะจริงจังขึ้น


           “กลับกันเถอะ นายควรจะให้หมอตรวจสักหน่อย”


           เพิ่งรู้ว่าร่างกายบอบช้ำไปทั้งตัว แจบอมมองอย่างเข้าใจ เขาตวัดท่อนแขนเข้าใต้เข่าและแผ่นหลังยกร่างเพรียว

จนลอยจากพื้นอย่างง่ายดาย เหล่าบรรดาลูกน้องกรูมาอารักขาพร้อมเพรียงให้เจ้านายอุ้มคุณครูปาร์คจินยองเดินไปจนถึง

รถยนต์ที่จอดห่างออกไปและก้าวเข้าไปในรถ


           ขบวนรถยนต์แล่นออกไป เหลือทิ้งไว้เพียงเสียงคลื่นที่ยังคงสาดซัดไม่เลิกรา



TBC


หลังจากนี้ก็เตรียมชามมาม่าชามใหญ่ๆกันไว้ด้วยล่ะ :fire: :fire:


หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 11-12-2015 01:33:42
เศร้าใจไปกับชะตากรรมของแม่บ้านยูริ ไม่น่าเลย

รอตอนต่อไปค่ะ มาม่าไม่ต้องชามโตก็ได้นะ เอายำๆช้างน้อยก็พอ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 11-12-2015 10:32:19
งือออ ไรท์มาต่อไวๆน้า (ฮรึกกกก น้ำตาจิไหล)  :katai2-1: ดีกับใจสุดๆ แหม่..แต่ยัยแม่บ้านนี่ไม่น่าให้ตายเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-12-2015 10:47:51
ยูริตายสนิทมั้ย เอ้ะะะ เราถามโหดไป 5555555
จากนี้ก็จะเป็นเฉยแล้วรึป่าวว ถึงได้มีมาม่าชามใหญ่ง่าา
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: idimi ที่ 11-12-2015 22:22:49
โหดมากผลักลงผาเลย
รักกันแล้วแท้ๆแต่จะม่าแล้ว ฮื่อ (ขอน้ำตาร่วงเลยนะคะ ฮิๆๆ)

ติดตามอยู่น้า ♥
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Apg ที่ 11-12-2015 22:48:57
โอยยย รักกันแล้ว ดีใจจัง
แต่จะมีมาม่าอะไรอีกเหรอ โอยยยย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 12-12-2015 16:08:58
กำลังจะไปได้ดีเลยนะไหนจะเพราะแจบอมเลิกทำตัววางอำนาจไม่จ้องจับผิดแบบตอนแรกๆ แล้วจินยองเองก็อ่อนลงไปเยอะไหนจะมีแบมที่คอยประเคนพี่ชายให้คุณครูตลอดเวลา แม่บ้านยูรินี่ก็กล้าคิดเนอะว่าแจบอมจะมีใจให้ตัวเอง นางต้องเป็นคนลักพาตัวจินยองไปแน่ๆ เลย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 12-12-2015 16:18:27
ยูริใจคอโหดเหี้ยมมากอ่ะฆ่าครูคนก่อนหน้า 2 คนแถมเกือบฆ่าแบมด้วย งานนี้เค้าสารภาพรักกันไปแล้ว ทำไมู้สึกกลัวสปอยล์ว่ามาม่ากำลังจะมา เอาเนอะยังไงมันเป็นเรื่องของรุ่นพ่อรุ่นแม่ถ้าเคลียร์กันได้อย่างน้อยก็ไม่ต้องมีอะไรตอดค้างกันอีก
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: JUJU ที่ 15-12-2015 22:27:55
แงงง สนุกอ่ะ แจบอมคือโหดมากแต่กับจินยองคือหวานมากกก :katai2-1: อยากอ่านต่อแล้ววววว :katai4:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 19 [ 11 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 15-12-2015 23:55:28
สารภาพรักกันแล้วอ่ะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-12-2015 21:01:38


                                                      เล่นกับไฟ
                                                     
                                                       บทที่ 20
     

      นายแพทย์ประจำตระกูลอิมถูกเรียกตัวอย่างด่วนที่สุดเพื่อให้มาตรวจร่างกายของปาร์คจินยองที่ครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่

บนเตียงภายในห้องของอิมแจบอมท่างกลางความห่วงใยของสองพี่น้องแม้คนเจ็บจะเพียรบอกว่าไม่เป็นอะไรก็ไม่มีใคร

เชื่อ


           “โห ครูครับ มันจะไม่เป็นอะไรได้ยังไง ดูสิ รอยมือยายแม่มดยูริเต็มรอบคอของครู ไหนจะรอยฝ่ามือที่ถูกตบอีก

สงสารครูจังเลย เกลียดยูริที่สุด”


           “แบมแบมครับ อย่าพูดอย่างนั้น”


           จินยองรีบเอ่ยอย่างตกใจ


           “อย่าเป็นคนที่เกลียดชังใครและแค้นใครเลย ยูริเขาได้รับผลกรรมของเขาแล้ว”


           พูดจบก็ชะงักงันกับคำพูดตนเองที่หลุดออกไป


           แล้วตัวเขาเล่า มันต่างอะไรกับคำที่เขาสอนลูกศิษย์เมื่อสักครู่ จุดประสงค์ที่ก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้เพื่อสืบหา

ความจริงและแก้แค้นมิใช่หรือ

           ความคิดหยุดลงเมื่อแจบอมพาคุณหมอมาตรวจอาการ ซึ่งก็มีเพียงการบาดเจ็บจากการฟกช้ำและความตกใจกับ

เหตุการณ์ร้ายแรงเท่านั้น เมื่อคุณหมอกลับออกไปแจบอมจึงถอนหายใจเบาๆด้วยความโล่งใจ


            “ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”


           อิมแจบอมทรุดตัวลงนั่งเคียงข้างพลางเอื้อมมือเชยคางเพื่อมองร่อยรอยบาดเจ็บของจินยองด้วยความห่วงใย


           “ฉันไม่ไว้ใจ นายเจ็บแบบนี้จะไม่ให้ฉันเป็นห่วงได้ยังไง”


           “อะแฮ้ม!”


           แบมแบมกระแอมขัดคอพี่ชายเมื่อได้ยินเสียงนุ่มที่แจบอมใช้กับคุณครูของเขา


           “น้อยๆหน่อยก็ได้ครับคุณชายอิม มีน้องชายนั่งเป็นก้างขวางคออยู่ตรงนี้ทั้งคน นี่ผมเขินนะครับพี่ชาย”


           พี่ชายถึงกับหลุดหัวเราะออกมาเมื่อเห็นน้องชายทำหน้าทะเล้นใส่ ร่างสูงลุกยืนแล้วเข็นรถของน้องชายออกจาก

ห้องด้วยตัวเอง


           “รู้ว่าเขาจะจู๋จี๋กันก็รีบออกไปสิครับแบมแบมจะได้ไม่เขิน อ้อ...แล้วพรุ่งนี้คุณครูลาป่วยหนึ่งวันนะครับคงไปสอน

แบมแบมไม่ได้ พี่อนุญาตให้ครูลาป่วยแล้ว”


           “พี่ชายขี้โกง เก็บครูไว้คนเดียว ไปก็ได้ขี้เกียจทำตัวขัดคอใครแล้ว แบร่...”


           แลบลิ้นใส่ประธานตระกูลอิมได้แบมแบมก็รีบบังคับรถเข็นหนีไปจากหน้าท้องด้วยเสียงหัวเราะ แจบอมปิดประตู

ล็อคห้องตามทันทีก่อนจะก้าวกลับมานั่งที่เดิมและมองจินยองอย่างสงสาร จินยองรีบสั่นหน้าและคลี่ยิ้มเพื่อให้แจบอม

คลายความวิตกกังวล


           “เจ็บนิดหน่อย อย่าห่วงนักเลย”


           “จะไม่ห่วงได้ยังไง คนรักทั้งคน”


           ยิ้มบนใบหน้ากลายเป็นความขัดเขิน และแม้แก้มจะบวมและเขียวช้ำแต่ก็ปิดร่องรอยสีแดงเรื่อที่กระจายเต็มพื้นที่

ไม่ได้


           “อย่าหวานนักเลยครับ ผมไม่ชิน”


           ดวงตาคู่ดุยามสั่งโยนคนลงทะเลบัดนี้กลับกระจ่างพราวจนใบหน้านั้นสว่างไสว แจบอมยกปลายนิ้วแตะลงตรง

รอยเขียวช้ำอย่างเบามือแทนการปลอบใจ


           “นายชอบให้ฉันดุนายงั้นสิ”


           “เปล่าสักหน่อย”


           จินยองมองกลับด้วยนัยน์ตาหวานไม่แพ้กัน เขายกมือเรียววางแนบไปกับมือของแจบอมเพื่อที่เขาจะได้แนบแก้ม

ลงไปกลางฝ่ามือใหญ่ได้ถนัด


           “ผมแค่บอกว่าผมไม่ชินเวลาคุณหวานใส่เท่านั้น ก็ถ้าคุณหวานบ่อยๆอีกหน่อยผมก็ชินไปเอง”


           “ปากเก่งเหมือนเดิมนะคุณครูจินยอง”


           ปลายนิ้วลูบไล้อยู่ตรงริมฝีปากช่างเจรจา แม้จะมีรอยฟกช้ำแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่าชิมลดน้อยลงสักนิด แจบอม

โน้มตัวเข้าใกล้กดจูบแผ่วเบาที่รอยช้ำสีเขียวเข้มแล้วไล่เล็มทีละนิดจนครอบครองกลีบปากอิ่มไว้จนหมด ครั้งนี้เป็นครั้ง

แรกที่จินยองหลับตาพริ้มเผยอริมฝีปากรับด้วยความเต็มใจเพื่อให้แจบอมได้ส่งผ่านความรู้สึกลงไปกับจุมพิตหวาน


           “รัก...มากนะ”


           เสียงทุ้มพึมพำดังอยู่ในลำคอแต่จินยองก็ได้ยินชัด ช่างอบอุ่นอยู่ในหัวใจจนน้ำตาเอ่อท้น ปลายลิ้นอุ่นตวัดคลอ

เคลียช้าๆพาให้ใจหวั่นไหวจนต้องขยับเบียดกายเข้าหา จินยองวางมือแนบท้ายทอยเมื่อเขากำลังตวัดลิ้นเล็กตอบอย่าง

โหยหา


           “รัก..มากเหมือนกันครับ”


           “...ได้ไหม”


           “อะ...อะไรนะครับ”


           “ถ้าจะ...ตอนนี้นายจะไหวหรือเปล่า”


           เสียงกระซิบความต้องการแผ่วเบาอยู่ตรงใบหูทำให้จินยองถึงกับต้องยกมือทุบไหล่คนพูดเพราะความหมั่นไส้


           “ก็ถ้าเบาๆมันก็ไม่น่าจะเป็นอะไร”


           กล่าวตอบจบก็มุดหน้าซบลงตรงบ่าเพื่อปิดบังความกระดากที่ตอบไปเช่นนั้น แจบอมลอบยิ้มอย่างชอบใจ เขาดึง

ไหล่บางออกเพื่อจะมองใบหน้าหวานแดงเรื่อให้ชัดเจน


           “ฉันจะถนอมนายให้มากที่สุด”


           มือร้อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ดเผยให้เห็นเนื้อนวลขาวพ้นสาบเสื้อ จินยองเขินจัดจนไม่กล้าสบตาได้แต่

จ้องอยู่ตรงลำคอของแจบอมที่ถอดเสื้อของเขาออกตามด้วยกางเกง จินยองไม่ได้ห้ามปรามอีกแล้วเมื่อแจบอมจัดการ

ตนเองตามจนกระทั่งเหลือเพียงกายกำยำที่ขยับเข้าใกล้และล้มทับร่างของเขาให้แผ่หงายไปบนเตียงกว้าง

           ซุกหน้าไปกับลำคอระหงกดเม้มรอยจางสีกุหลาบฝากรักก่อนจะลากไล้ลงมาช้าๆ แจบอมปรนจูบสัมผัสอ่อนโยน

แม้กระทั่งตรงรอยฟกช้ำจากการถูกทำร้ายเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจบอบช้ำ จินยองได้แต่พริ้มตาแอ่นกายให้แจบอมกระทำ

เช่นนั้นจนกระทั่งสัมผัสหนักหน่วงมากขึ้นเรื่อยๆ


           “อา...แจบอม”


           หายใจขัดขึ้นมาทันทีเมื่อปลายลิ้นหยอกล้ออยู่ตรงแอ่งเนินเหนือท้องน้อยแล้วลากผ่านสามเหลี่ยมจนถึงจุดอ่อน

ไหว ลิ้นร้อนแตะเบาทักทายพลางโลมเลียรสหวานจนเจ้าของถึงกับปรือตายกเอวสูงด้วยความต้องการที่แจบอมกำลัง

ปลุกเร้าขึ้นมา ปลายยอดแสนนุ่มถูกแจบอมงับเม้มเข้าไปแล้วเขาก็รูดเรียวปากลงอย่างรวดเร็ว


           “ฮึก อื้อ...”


           เสียงครางหวานดังลอดริมฝีปากออกมาแม้จินยองจะกัดมันไว้ แต่เพราะความเสียวซ่านเมื่อ

แจบอมกลืนกินเข้าไปสร้างความกระสันเหลือเกิน จินยองยกมือคว้าหัวเตียงไว้เป็นหลักยึดเมื่อเขาห้ามใจตนเองไม่อยู่

กระแทกเอวเข้าหาให้แจบอมได้จัดการมอบความสุขแรกให้เขา


           “หมดบทโหมโรงแล้ว”


           ร่างสูงเต็มไปด้วยพลกำลังยกกายขึ้นคร่อมเหนือร่างบางของเขา จินยองปรือตามองหวานฉ่ำพลางแยกขาให้

แจบอมที่กำลังจ่อความเป็นชายไว้อยู่ปากทางสีหวาน แจบอมขยับตัวดันร่างเข้าไปช้าๆเพื่อให้สัมผัสนั้นอ่อนโยนต่อ

ร่างกายที่เพิ่งจะผ่านเรื่องร้าย สองแขนยันพื้นเตียงอยู่ข้างหูเมื่อเขาสบตาหวานฉ่ำของจินยองขณะแทรกกายเข้าไปทีละ

นิด


          “อืม...ขยับตามสิครับจินยอง ดีมาก อย่างนั้นแหละ”


           ความคับแน่นภายในกระตุ้นแจบอมจนเขานึกอย่างจะกระทำให้แรงกว่านี้ แต่เมื่อมองเห็นร่องรอยบนร่างขาว

โพลนความสงสารก็ยิ่งบังเกิด แจบอมก้มหน้าลงไปจูบที่ปากอิ่มเย้ายวนพลางขยับเอวเข้าออกเนิบนาบ


           “อื้อ...เสียวจังครับ”


           ความอ่อนหวานยิ่งทำให้จินยองหน้ามืด สัมผัสภายในไม่ได้รุนแรงเมื่อแจบอมเน้นสัมผัสจุดไวต่อสัมผัส จินยอง

ถึงกับห่อปากเมื่อความรู้สึกปะทุจนอยากจะปลดปล่อยอีกครั้ง


           “แจบอม ได้โปรด...”


           กลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอและยกสะโพกรับเมื่อแจบอมเร่งจังหวะให้เขา มือร้อนกอบกุมท่อนเนื้อพอเหมาะไว้

ในมือบีบเค้นช่วยเหลือจนจินยองบิดกายด้วยความเสียวซ่าน


           “อืม....แน่นมาก รัดมาก เยี่ยมมากจินยอง”


           อดเปล่งเสียงออกมาไม่ได้เมื่อร่างกายจินยองทั้งบีบทั้งตอดถี่  แจบอมยิ่งกัดฟันสาวเอวเน้นความลึกจนจินยอง

ครางลั่น


           “อ๊า... บอม แจบอม ไม่ไหวแล้ว อึก...”


           ร้องคำสุดท้ายพร้อมกับบิดกายค้างเมื่อความสุขสมบังเกิด แจบอมส่งจินยองถึงฝั่งแล้วเขาก็ช้อนเอวบางให้ยิ่งสูง

สะโพกหนาเร่งจังหวะอีกแค่ไม่กี่ครั้งแจบอมก็เกร็งกายค้างพลางเงยหน้าสูดลมหายใจเข้าปอด เมื่อเขาพ่นน้ำรักอยู่ใน

ช่องทางจนเปียกชื้น

           มันเป็นครั้งแรกที่เขาและจินยองได้กระทำกันด้วยความรักอย่างแท้จริง มันทั้งอ่อนหวานและเปี่ยมไปด้วยความ

ตื้นตันใจเมื่อได้สบตา แจบอมนอนกอดร่างเพรียวเพื่อขับกล่อมจนกระทั่งจินยองหลับใหลและฝันดีอยู่ในอ้อมกอดของ

เขาตลอดคืน

           




           แจ็คสันได้ข้อมูลมาใหม่ มันเป็นข้อมูลธุรกิจที่ตระกูลอิมภายใต้การปกครองของอิมแจบอมกำลังดำเนินการอยู่

และแจ็คสันก็ยังแปลกใจว่าอิมแจบอมกำลังคิดอะไรอยู่

           บริษัทที่แจบอมเข้าไปเทคโอเวอร์และส่งคนเข้าไปบริหารกลับถูกเปิดเผยข้อมูลลับด้วยคนของแจบอมนั่นเอง

ข้อมูลลับที่ว่าคือเส้นทางกลโกงธุรกิจของเจ้าของเดิมที่มีต่อลูกค้า และตอนนี้เจ้าของเดิมก็ถูกจับตัวไปดำเนินคดี กลับ

กลายเป็นว่าแจบอมเข้ามาเปิดเผยความดำมืดและคืนแสงสว่างให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยเรียกความนิยมไปได้อีกอักโข

           อะไรทำให้อิมแจบอมทำเช่นนี้

           อยากเจอจินยองเหลือเกิน อยากจะรู้ว่าป่านนี้เพื่อนสนิทจะเป็นเช่นไรบ้างและสืบข่าวที่ต้องการในบ้านหลังใหญ่

ที่เขาทำได้แค่เพียงมองอยู่ตรงสนามหญ้าและจ้องเข้าไปในตัวบ้านเท่านั้น

           ทำอย่างไรจึงจะได้พบหน้าจินยองเสียที

            เสียงทักแชทในมือถือดังออกมา เมื่อเห็นว่าใครที่เป็นคนส่งข้อความแจ็คสันจึงคลี่ยิ้มเมื่อคิดถึงความน่าเห็นใจ

ของหนุ่มน้อยบนรถเข็นที่ตอนนี้ฝึกเดินได้หลายก้าวแล้ว รอยยิ้มยินดียามฝ่าเท้าสัมผัสพื้นสร้างความผูกพันจนแจ็คสันนึก

กลัว

           แจ็คสันนึกกลัวเมื่อทุกวันนี้เขาเริ่มคิดถึงดวงตากลมโตที่มองเขาอย่างสดใส แจ็คสันกลัวว่าอีกไม่นานหนุ่มน้อย

น้าหวานจะเข้ามาแทนที่จินยองอยู่เต็มหัวใจของเขา ซึ่งมันไม่ดีเป็นแน่ในเมื่อเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแบมแบมอยู่ในฐานะ

อะไรในบ้านหลังนั้น แต่ก็คงสำคัญน่าดูเพราะถึงกับต้องจ้างครูสอนพิเศษเป็นการส่วนตัวส่วนตัว



          แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: ว่าไงสาวน้อยผมเปีย
          2Bam: หายไปไหนช่วงนี้ เงียบไปเลย

          แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ทำงานสิ หาเงินพาสาวไปเที่ยวทะเล
          2Bam: ยังจำได้อยู่เหรอ

          แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
: ไม่เคยลืมสัญญาหรอกนะ



                ตัวการ์ตูนยิ้มแป้นที่ส่งมาทำให้แจ็คสันต้องอมยิ้มเมื่อคุยด้วยตัวหนังสือกับแบมแบมจนดึกดื่น





                แบมแบมชะเง้อมองประตูรั้วอย่างกระสับกระส่ายจนกระทั่งมองเห็นรถของบริษัทรับจ้างทำสวนขับตรงเข้ามา

จอดหนุ่มน้อยก็ยิ้มแก้มปริ คนที่เขากำลังรอลงมาจากรถพร้อมเครื่องมือแต่งสวนแล้วก้าวเดินไปทำงานพร้อมกับคนอื่น

แบมแบมได้แต่แอบมองอยู่ไกลๆ

                หวังเจียเอ๋อร์ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป ด้วยความสดใสมีชีวิตชีวามันทำให้หัวใจอ่อนเยาว์คล้อยตามได้ไม่

ยาก หวังเจียเอ๋อร์เป็นกำลังใจให้เขาจนสามารถก้าวเดินได้แม้จะแค่ไม่กี่ก้าว แต่มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แบมแบมยังไม่

อยากบอกให้พี่ชายของเขารู้เรื่องนี้ อยากจะเดินให้มั่นคงเสียก่อนพี่ชายจะได้ดีใจ

           แบมแบมเลือกไม่ถูกว่าระหว่างเพื่อนที่ไม่เคยเห็นหน้าอย่างแจ็คผู้ฆ่ายักษ์กับหวังเจียเอ๋อร์ที่มองเห็นอยู่ไกลๆนั้น

ใครจะทำให้เขามีความสุขมากกว่ากัน เพราะแจ็คเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้แบมแบมอยากจะเดินได้แต่หวังเจียเอ๋อร์คือ

กำลังใจให้เขาลุกขึ้นมาทุกครั้งที่ล้ม บางครั้งแบมแบมก็นึกอยากจะให้ทั้งคู่เป็นคนเดียวกันเพื่อเขาจะไม่ต้องมาเปรียบ

เทียบให้ปวดหัวเช่นนี้ และลักษณะบางอย่างของหวังเจียเอ๋อร์ก็ช่างคล้ายคลึงกับคนที่แบมแบมรู้จักผ่านตัวหนังสือมาก

เหลือเกิน

            ยกมือขึ้นโบกไปมาเมื่อเห็นหวังเจียเอ๋อร์มองมาทางเขา ชายหนุ่มในชุดสีเข้มมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นเพื่อนร่วม

งานไม่ได้สนใจจึงได้เดินตรงมาหาแบมแบม


           “ว่าไง ทำไมวันนี้มาอยู่ในสวนตั้งแต่ตอนนี้ได้ล่ะ ทุกทีเห็นลงมาช่วงบ่าย”


           “วันนี้หยุดเรียนไงล่ะ ครูลาป่วย”


           แบมแบมมองเห็นหวังเจียเอ๋อร์ชะงักแวบหนึ่ง


           “ทำไมครูถึงลาป่วยล่ะ อย่างนี้ก็แย่สิเดี๋ยวเรียนหนังสือขาดช่วงหรอก”


           “ให้ครูพักเถอะ ครูเพิ่งเจอเรื่องไม่ดีมา”


           คิ้วเข้มของหวังเจียเอ๋อร์ขมวดจนแทบจะชนกัน


           “มีอะไรกันเหรอ ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว”


           “ก็นิดหน่อย ก็ครูเป็นแฟนพี่ชายใช่ไหมล่ะ แล้วคนที่แอบชอบพี่ชายน่ะเขาทำร้ายครูน่ะสิ”


           แบมแบมตกใจที่อยู่ๆหวังเจียเอ๋อร์ก็ลุกพรวดกำหมัดแน่นและเสียงที่เอ่ยมาก็ทำให้เขานึกกลัว”


           “แล้วตอนนี้ครูอยู่ไหน บอกมาสิว่าครูอยู่ที่ไหน”
           



TBC


อยากรวมเล่มหนังสือจังเน้อ

ไม่รู้คนอ่านอยากไหม

แต่คนแต่งอยากมาก

ทำปกเสร็จแล้วด้วย

แต่ฟิคยังไม่จบ

ก๊ากกกกกกกกกกก
           
            :ling1: :ling1: :ling1:

           
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-12-2015 21:44:53
ความจะแตกไหมงานนี้
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 16-12-2015 23:14:23
 :sad4: :hao7: :haun4: ไรท์อย่าม่าเยอะเลยนะ เอาแบบเนี้ย มันคือดีงามสวาปามฟาร์มสุขมากอ่ะ วุ้ยยยย เขิลลล อ่านทวน3รอบถึงค่อยมาเม้น รอบเดียวไม่อิ่ม  :z1:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: wijii ที่ 17-12-2015 01:11:23
กลัวแจ็คสันจะไปบอกจังเลยว่าจินยองเป็นใครเข้ามาในบ้านนี้ทำไม กำลังหวานแล้ว ไม่อยากซดมาม่าเลยค่ะฮือออ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 18-12-2015 13:04:16
กรี๊ดดดดดด มาม่ารออยู่ใช่ม๊ายยย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: JUJU ที่ 24-12-2015 21:10:21
 :katai2-1: :katai2-1: ฟินมากกก  อยากจะบอกไรท์ว่าเรารอซดมาม่านะ5555
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 20 [ 16 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 26-12-2015 07:15:27
คนรักกันจริงจัง เหมือนเริ่มจะลืมๆ ความแค้นความไม่เข้าใจกันไปแล้วแต่แจ็คสันค่ะ สืบจนได้ข้อมูลใหม่ๆ มาแล้วยิ่งมารู้ว่าจินยองโดนทำร้ายแบบนี้ งานนี้ยังไงก็ต้องม่าเข้าใจอารมณ์อ่ะความเป็นห่วงมีมากอยู่แล้ว พอมารู้แบบนี้ยิ่งต้องหาทางเจอจินยองให้ได้ ทางแจบอมก็มีโอกาสเข้าใจผิดอยู่แล้วทั้งเรื่องที่มาสืบข้อมูล ทั้งการมาของแจ็คสัน
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-12-2015 22:54:41


                                                        เล่นกับไฟ

                                                         บทที่ 21


           การหมกตัวอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมเป็นสิ่งทรมานใจสำหรับปาร์คจินยองเป็นอย่างยิ่ง ทั้งๆที่เขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร

มากนอกจากตกใจในเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ว่าเขาจะยังหวั่นใจกับความเด็ดขาดของอิมแจบอมอยู่บ้างที่สั่งฆ่าคนได้อย่างไม่

สะทกสะท้านแต่เมื่อคิดถึงสถานะที่แจบอมที่เป็นถึงประธานตระกูลอิมอันยิ่งใหญ่สิ่งเดียวที่จินยองทำได้คือทำใจยอมรับ

ความจริงนั้นให้ได้

           เพราะแจบอมสั่งให้เขาหยุดสอนหนังสือแบมแบมหนึ่งวันตอนนี้จินยองจึงว่างจนรู้สึกเบื่อ เขารอให้

แจบอมออกไปทำงานแล้วจึงค่อยเดินออกมายืดเส้นยืดสายนอกตัวบ้าน ไร้ซึ่งแม่บ้านยูริแล้วความน่าอึดอัดหวาดกลัวก็

จางหายลงไป จินยองนึกอยากจะดูแลให้บ้านนี้สดใสขึ้นมาให้มากกว่านี้เหลือเกิน

           สะดุดกับความคิดตัวเองเมื่อกลายเป็นว่าจินยองรู้สึกราวกับตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลังนี้ทั้งที่เขามาเพื่อ

ทำลายมันให้ย่อยยับ ความตั้งใจดั้งเดิมถูกทำลายลงสิ้นเชิงเพราะไฟร้ายอย่างอิมแจบอมที่เข้ามาก่อกำเนิดไฟรักจนยาก

ที่ถอนใจ

           เดินทอดน่องใจลอยครุ่นคิดเรื่องต่างๆนานาจนพ้นจากตัวบ้านหลังใหญ่เข้าสู่สวนกว้างด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่ได้

รับการจัดแต่งอย่างงดงามจากบริษัทรับเหมาดูแล จินยองเดินผ่านไปถึงลานเล็กๆก่อนถึงสระน้ำ สติของเขาถูกดึงกลับมา

เพราะเห็นแบมแบมที่นั่งอยู่บนรถเข็นกำลังพูดคุยกับใครบางคนที่อยู่ในชุดสีเข้มของคนงานจัดสวน คิ้วโก่งมองด้วยความ

สงสัยเพราะจินยองไม่เคยเห็นแบมแบมสนิทสนมกับใครอื่น ความสงสัยนั้นเองที่ทำให้จินยองสืบเท้าเข้าไปหาคนทั้งคู่
           


           “ครูก็พักผ่อนอยู่ที่ห้องน่ะสิ ทำไมถึงต้องจริงจังขนาดนั้นล่ะ หวังเจียเอ๋อร์”


            แบมแบมขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยในท่าทีของอีกฝ่ายที่ดูจริงจังเหลือเกินเมื่อพูดถึงคุณครูของเขา ดูเหมือน

หวังเจียเอ๋อร์จะรู้สึกตัวจึงฝืนยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำถามของแบมแบม


           “ผมก็แค่เป็นห่วง ก็ตะกี้บอกว่าครูถูกทำร้ายไม่ใช่เหรอ”


           “แต่ครูก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนี่นา พี่ชายไปช่วยไว้ทันและลงโทษคนทำผิดไปแล้ว ไม่มีใครมาทำอะไรครูได้หรอก

น่า อ้าว ครู ทำไมไม่พักผ่อนล่ะครับ”


           หวังเจียเอ๋อร์หันขวับไปทันทีเมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามาให้วงสนทนา ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อในที่สุดเขาก็ได้

พบคนที่เป็นจุดมุ่งหมายในการลอบเข้ามาที่นี่


           “จิน...”


           “แจ็ค...”


           “นี่ไงครูของเรา”


           แบมแบมบังคับรถเข็นไฟฟ้าให้เคลื่อนที่ไปหาจินยองที่ยังตกตะลึงสบตากับหวังเจียเอ๋อร์  หนุ่มน้อยคล้องแขน

จินยองอย่างสนิทสนมและเอ่ยแนะนำด้วยความภาคภูมิใจ


           “ครูชื่อจินยอง เป็นครูที่สอนเก่งที่สุดในโลก และตอนนี้ครูก็เป็นแฟนกับพี่ชายด้วย ทั้งคู่รักกันจนน่าอิจฉามากเลย

ล่ะ ใช่ไหมครับครู”


           ใบหน้าขาวยิ่งซีดลงอีกเมื่อจินยองสบตากับเพื่อนใหม่ของแบมแบม ส่วนหวังเจียเอ๋อร์ก็ไม่ต่างกัน ใบหน้าที่เคย

สดใสยิ้มแย้มกลับเคร่งเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด


           “งั้นหรือครับ น่าอิจฉาจริงๆด้วย อยากรู้จังเลยว่าคนที่โชคดีคนนั้นเป็นใคร”


           ความยินดีที่ได้เจอหน้าเพื่อนสนิทที่เขาแอบหลงรักหายวับไปทันทีเมื่อแจ็คสันหรือคนเดียวกับหวังเจียเอ๋อร์ได้

ข้อมูลมาใหม่ล่าสุด

           ปาร์คจินยองมีคนรักแล้ว คนรักของจินยองคือพี่ชายของหนุ่มน้อยบนรถเข็นที่กำลังยิ้มกว้างอยู่ข้างๆกันนั่นเอง


           “พี่ชายเราก็ประธานอิมไงล่ะ รู้จักหรือเปล่าหวังเจียเอ๋อร์ พี่ชายเราคืออิมแจบอม”


           “แบมแบม!”


           จินยองห้ามไม่ทันเมื่อแบมแบมเอ่ยออกไปอย่างใสซื่อ เขาตกใจเมื่อเห็นแจ็คสันยืนอึ้งและมองมาทางเขาด้วย

สายตาผิดหวัง


           “มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะแจ็ค...”


           “ผมต้องไปทำงานต่อแล้ว เดี๋ยวเขาจะรู้ว่าผมอู้”


           แจ็คสันเมินสายตาของจินยองแล้วฝืนยิ้มให้แบมแบมด้วยความรู้สึกปวดร้าว คนที่เขาแอบรักกลับกลายเป็นคนรัก

ของจุดหมายที่มาสืบข้อมูลข่าว ส่วนอีกคนที่เขาเริ่มรู้สึกดีด้วยแท้จริงแล้วคือน้องชายของคนที่ช่วงชิงหัวใจของเขาไป

ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังถล่มมาทับร่างของเขาจนอึดอัดไปหมด


           “ไม่อยู่คุยกันอีกสักหน่อยเหรอ”


           แบมแบมผู้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของเหตุการณ์อึมครึมรั้งไว้อย่างเสียดายจนแจ็คสันเองก็ใจอ่อนยวบ แต่เป็นเพราะ

ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะทำอะไรทั้งสิ้น แจ็คสันย่อตัวลงฝืนยิ้มให้กับแบมแบม


           “ให้ผมไปทำงานนะ แล้วอีกไม่กี่วันผมจะกลับมาใหม่”


           อะไรบางอย่างทำให้แบมแบมสังหรณ์ใจลึกๆ อาจเป็นเพราะแววตาเศร้าที่เขาเพิ่งเคยเห็นจากผู้ชายตรงหน้า มัน

ทำให้แบมแบมใจหายเมื่อเห็นเขายืดกายขึ้นพลางหันไปมองจินยองอีกครั้งก่อนที่จะหมุนตัวเดินจากไป


           “หวังเจียเอ๋อร์ นายต้องมาจริงๆนะ”


           ตะโกนออกไปเมื่อเห็นแผ่นหลังนั้นไม่หันกลับมามอง จินยองเอื้อมมือมาวางบนไหล่ของแบมแบมแล้วกระชับ

เบาๆ


           “เขาต้องกลับมาหาแบมแบมแน่ๆ”


           “จริงนะครับครู ทำไมผมรู้สึกว่ามันมีอะไรแปลกๆ”


           จินยองถอนหายใจ เขาเข้าใจความรู้สึกของแจ็คสันดีว่าตอนนี้เพื่อนสนิทยังช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะแม้แต่ตัว

จินยองเองแม้จะยอมรับว่ารักอิมแจบอมเต็มหัวใจแต่ส่วนหนึ่งก็ยังเตือนว่ามันไม่ใช่สิ่งถูกต้อง


           “เชื่อครูเถอะ แต่ว่าตอนนี้แบมแบมขึ้นไปบนบ้านก่อนดีกว่าแดดแรงมากแล้ว เดี๋ยวครูจะตามไปนะ”
           




           “แจ็คสัน”


           เสียงเรียกอันคุ้นหูดังขึ้นเบื้องหลังขณะที่เขากำลังตกแต่งกิ่งต้นไม้ แจ็คสันนิ่งงันพักใหญ่จึงหันกลับมาเผชิญหน้า

เพื่อนสนิท


           “สบายดีใช่ไหม แบมแบมบอกว่าถูกทำร้าย เป็นอะไรมากหรือเปล่า”


           แจ็คสันฝืนความรู้สึกพูดออกไปเหมือนอย่างปกติ เขาไม่มีสิทธิ์จะโกรธเคืองใดๆทั้งสิ้นในเมื่อสถานะของเขากับจิ

นยองคือเพื่อนเท่านั้น


           “ขอบใจนะที่มาตามเรา แล้วก็ขอโทษนะ”


           “ขอโทษเรื่องอะไร”


           “เรื่องอะไรก็ได้ที่เราทำให้นายผิดหวัง”


           จินยองพูดออกไปด้วยความจริงใจ เขาเองก็รู้สึกไม่ดีที่ทำให้แจ็คสันผิดหวัง แต่เรื่องความรักมันบังคับกันไม่ได้

ทั้งที่จริงจินยองก็อยากจะรับความรักของแจ็คสันเหลือเกิน จินยองรับรู้ถึงความรู้สึกของแจ็คสันที่เป็นห่วงจนต้องเสี่ยง

มาตามหาด้วยกันปลอมเป็นพนักงานดูแลสวน นั่นเองที่ทำให้เขายิ่งรู้สึกผิดต่อแจ็คสันเป็นอย่างมาก


           “แค่เห็นนายปลอดภัยเราก็ดีใจแล้ว เพียงแค่เราไม่นึกว่านายจะมารักกับอิมแจบอมได้”


           “เราก็ไม่ได้คิด แต่มันก็...เฮ้อ ช่างเถอะ”


           “แสดงว่าเขาก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คาดไว้สินะ อิมแจบอมน่ะ”


           แจ็คสันยังไม่วายห่วงใย


           “เขาอาจจะเลวกับคนอื่น แต่เขาดีกับเรา”


           นั่นสินะ ไม่อย่างนั้นคงจะพิชิตใจเพื่อนสนิทของแจ็คสันไม่ได้ แจ็คสันถอนหายใจแผ่วเบาแล้วเงยหน้ามายิ้มให้

จินยองด้วยความจริงใจ


          “มัวแต่มีความรักแล้วจะกลับไปทำงานหรือเปล่า แดเนียลบ่นใหญ่แล้วว่าขาดคนเขียนสกู๊ปข่าวเศรษฐกิจฝีมือดีไป

ทุกคนที่สำนักข่าวยังรออยู่นะ”


          “อีกไม่นานหรอกน่า เรายังอยากทำงานอยู่ ว่าแต่นายเถอะจะมาที่นี่อีกหรือเปล่า ดูเหมือนแบมแบมจะติดนาย

มาก”


           ใบหน้าหวานเกินเด็กผู้ชายผุดขึ้นมาจนแจ็คสันอมยิ้ม


           “แบมแบมน่าสงสารนะ ขาดพ่อแม่เพราะอุบัติเหตุที่มีตัวเองรอดมาคนเดียวจนหมดกำลังใจที่จะเดิน แต่ว่าช่วงนี้

แบมแบมดูสดใสมากเลยที่ได้เจอนาย”


           “อย่าเพิ่งบอกแบมแบมว่าแจ็คสันกับหวังเจียเอ๋อร์เป็นคนเดียวกัน ขอเวลาอีกสักพักแล้วเราจะบอกแบมแบมเอง

จินยอง เราต้องไปแล้ว”


           แจ็คสันเอ่ยขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากรถยนต์ของบริษัทดูแลสวน เขาสบตากับจินยองด้วยความห่วงใย


           “ดูแลตัวเอง ขอให้สิ่งที่ตัดสินใจเลือกทางเดินคือสิ่งที่ถูกต้อง”


           จินยองคลี่ยิ้มแล้วจึงโผเข้าไปกอดแจ็คสันด้วยมิตรภาพที่มีมาเนิ่นนานแทนคำขอบคุณ แจ็คสันยิ้มตอบกลับก่อน

จะก้าวจากไป








           อิมแจบอมอยากจะกลับบ้านตั้งแต่ตอนกลางวันแล้วหากไม่ติดว่างานที่ทำนั้นล้นมือ ด้วยความเป็นห่วงจินยอง

นึกแปลกใจตนเองที่รักใครบางคนมากมายขนาดนี้ทั้งที่ผ่านมาเขาไม่เคยเชื่อเรื่องความรัก แต่จินยองคือคนที่ทำให้เขา

ต้องทำลายกำแพงทั้งหมดลงและมอบหัวใจให้

           ใกล้จะถึงบ้านเต็มทีตอนที่ลูกน้องที่นั่งอยู่ข้างคนขับส่งโทรศัพท์มือถือมาให้เขา


            “รูปจากกล้องวงจรปิดที่บ้านครับ”


           แจบอมรับมาดู เมื่อเห็นรูปที่ถูกส่งมาหัวใจของเขาก็กระตุกวูบ


           “คนคุมกล้องบอกว่าเห็นคุณครูจินยองยืนคุยกับคนงานจากบริษัทดูแลสวนอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นทั้งคู่ก็กอดกัน

อย่างที่เห็นในรูปครับ”


           กล้องซูมใบหน้าผู้ชายคนนั้นไว้ได้เกือบจะชัดเจน แจบอมไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแค่คนงานดูแลสวน

เท่านั้น


           “ส่งรูปไปหาข้อมูลว่ามันเป็นใคร ข้อมูลเบื้องต้นจะต้องได้ก่อนที่รถจะขับถึงบ้าน”


           น้ำเสียงกรุ่นโกรธของเจ้านายทำให้ลูกน้องรีบทำงานอย่างรวดเร็ว และไม่นานนักทันก่อนที่รถจะขับไปถึงประตูรั้ว

บ้านลูกน้องก็รีบรายงานทันที


           “มันชื่อแจ็คสันครับ เป็นนักข่าวอาชญากรรมอยู่สำนักข่าวเดียวกับคุณครูจินยอง”


           แจบอมกัดกรามกรอด โมโหทั้งเรื่องความหละหลวมที่ปล่อยให้นักข่าวเข้ามาในบ้านและเรื่องที่ จินยองไปกอด

กับคนอื่น จนเมื่อรถจอดเทียบอยู่หน้าบันได้ขึ้นตัวบ้านแจบอมก็รีบก้าวพรวดๆไปยังห้องของเขาทันที

           คนที่ทำให้โมโหนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงโต๊ะริมหน้าต่าง หน้าหวานที่ยังมีรอยช้ำจางๆหันมายิ้มหวานให้เขา


           “กลับมาแล้วหรือครับ งานยุ่งมากไหม”


           ร่างโปร่งลุกขึ้นยืนแล้วก้าวมาหา แต่เมื่อเห็นดวงตากร้าวของแจบอมจินยองก็ชะงัก


           “เกิดอะไรขึ้นครับ”


           แจบอมไม่ตอบ แต่เขาชูรูปในโทรศัพท์มือถือให้จินยองมองเห็น จินยองกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อสบตากับแจบอม

อีกครั้ง


           “ให้ผมได้อธิบายก่อน มันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด”


           แจบอมกระตุกยิ้มอยู่ตรงมุมปาก คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อเขาพูดขึ้นมา


           “ได้สิ งั้นก็อธิบายมาว่าทำไมนายถึงไปกอดกันกลมกับไอ้นักข่าวจากสำนักข่าวชื่อดัง”


           จินยองสะดุ้งวาบกับคำพูดของแจบอม ดวงตาหวั่นไหวเมื่อต้องสบตากับตาดุคู่นั้น


           “คุณรู้”


           แจบอมขยำรูปนั้นขว้างลงพื้น เขายกมือบีบต้นแขนของจินยองจนหน้านิ่ว


           “รู้มากกว่าที่คิดด้วย คุณปาร์คจินยอง บทความเศรษฐกิจชิ้นล่าสุดของนายประทับใจฉันมาก”


           “แจบอม!”


           หน้าซีดเผือดแทบจะเป็นกระดาษเมื่อรู้ว่าความลับนั้นไม่ใช่ความลับอีกต่อไป สายตาผิดหวังของ แจบอมทำให้

จินยองเสียใจมากกว่าที่คิดไว้


          “นายจงใจหลอกลวงตั้งแต่ต้น ต้องการอะไรกันแน่ปาร์คจินยอง”


           เสียงเครียดตวาดใส่หน้าจนจินยองตัวสั่น ใบหน้าของแจบอมน่ากลัวเหลือเกิน เมื่อแจบอมผลักเขาออกห่าง

จินยองถึงกับกลั้นสะอื้นด้วยความเสียใจ


           “ผมไม่ได้...”


           “นายเอาตัวเองเข้าแลก หลอกให้ฉันหลงรัก ฉันนึกว่านายก็รักฉันเหมือนกันแต่ที่ไหนได้ นายนัดให้คนของนาย

มาเหยียบศักดิ์ศรีฉันถึงในบ้าน”


           “ไม่ใช่นะแจบอม ฟังก่อน”


           เพล้ง!!!


           เสียงอะไรบางอย่างลอยละลิ่วกระทบกรอบรูปที่แขวนอยู่บนผนังด้วยฝีมือของแจบอม มันแตกละเอียดกระจายอยู่

เต็มพื้นก่อนที่แจบอมจะก้าวหนีออกไปจากห้องเมื่อเขาทำร้ายจินยองไม่ลง ทั้งรักทั้งโกรธประดังกันอยู่ในความรู้สึกจน

ต้องหนีไปสงบสติตัวเองทิ้งให้จินยองยืนคอตกอยู่ภายในห้องเพียงลำพัง

           ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่แจบอมรู้ความจริง แต่ความเจ็บปวดมันมากเกินกว่าที่คาดไว้จนจินยองเกลียดตัวเองอยู่

ครามครัน


           ท่ามกลางความเสียใจแต่สายตากลับสะดุดเมื่อเห็นว่ากรอบรูปที่แตกกระจายและเอียงบิดเบี้ยวนั้นปิดบังอะไรบาง

อย่างไว้ จินยองหักห้ามความเสียใจก้าวเข้าไปดู เขายกกรอบรูปนั้นออกเผยให้เห็นช่องเล็กๆที่เจาะเข้าไปในผนังปูน

ภายในนั้นมีกล่องไม้ขนาดย่อมวางอยู่ใบหนึ่ง จินยองรีบดึงมันออกมาวางที่โต๊ะริมหน้าต่างทันที

           เมื่อเปิดกล่องออก จินยองพบว่าข้างในบรรจุดซองจดหมายและรูปถ่ายเก่าคร่ำจำนวนหนึ่ง ลายมือนั้นคุ้นตาว่า

เป็นลายมือของประธานอิมผู้เป็นบิดาของแจบอม หัวใจของจินยองเต้นแรงเมื่อเห็นบุคคลในรูปถ่าย เมื่อส่วนหนึ่งเป็นรูป

แม่ของเขาถ่ายคู่กับประธานอิม และอีกส่วนหนึ่งมีพ่อของเขารวมอยู่ด้วยเป็นสามคน จินยองรีบอ่านข้อความในจดหมายที่

เพิ่มเติมข้อมูลจากที่เขาพบในห้องหนังสือ และทั้งหมดมันช่วยให้เขาปะติดปะต่อเรื่องราวได้สำเร็จในที่สุด

           ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไร




TBC


 :ling1: :ling1:



             
           
           
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-12-2015 23:08:53
โอ้ยยยยย คืออัลลัยยยยย ลุ้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 29-12-2015 01:44:48
แง๊... น้ำตาซึม (T_T)
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Apg ที่ 29-12-2015 22:47:29
อร๊ายยยย คืออะไร ค้างคา
ฮรอลลลลล. แจบอมอย่าโกรธคุณครูเลยนะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 29-12-2015 23:27:17
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :a5:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-12-2015 21:04:55
ฮืออออ จินยองรู้อะไร
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 04-01-2016 21:11:20
จดหมายนั่นคืออะไร~~~~
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 21 [28 / 12 / 15 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: JUJU ที่ 04-01-2016 22:11:52
สนุกมากเลย  อยากรู้แล้วว่าจินยองรู้อะไร
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 22 [ 04 / 01 / 2016 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-01-2016 23:21:26

                                                                เล่นกับไฟ
     
                                                                 บทที่ 22


          “พี่ชาย”


           แบมแบมทักทายอย่างดีใจเมื่ออิมแจบอมมาหาเขาถึงห้องพัก เมื่อร่างสูงของแจบอมเดินเข้าไปกอดแบมแบมที่

กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียงเขาก็ถอนหายใจ

           อย่างน้อยก็ยังมีน้องชายเป็นกำลังใจยามเหนื่อยล้า

           แจบอมนั่งลงบนเตียงและวางมือบนกลุ่มผมนุ่มของแบมแบมอย่างที่เคยทำทุกครั้ง มีเพียงรอยยิ้มฝืดที่แตกต่าง

จนน้องชายจับสังเกตได้


           “พี่ชายเป็นอะไรครับ สีหน้าไม่ดีเลย มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า”


           “รู้ดีจริงนะเรา”


           ถอนหายใจแผ่วเบาพลางขยับเข้าไปนั่งเคียงข้างน้องชายและวางมือโอบบ่าเล็กไว้กล่าวตอบด้วยเสียงอ่อนล้า


           “ถ้าวันหนึ่งแบมแบมมีความรักและรู้ว่าคนที่เรารักหลอกเรา แบมแบมจะรู้สึกยังไง”


           แบมแบมฉุกคิด เขาเอียงหน้าไปมองพี่ชายจึงเห็นรอยหมองชัดเจนบนใบหน้า นึกรู้ทันทีว่าแจบอมคงจะมีปัญหา

กับจินยอง เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น


           “พี่ชายมีปัญหากับคุณครูหรือครับ เรื่องอะไรกันแน่”


           แจบอมนิ่งคิดว่าควรจะเล่าให้แบมแบมฟังหรือไม่ แต่เพราะแบมแบมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นสมควรจะต้องรับรู้เรื่องราว

ต่างๆที่เกิดขึ้นแล้วเขาจึงเล่าให้น้องชายฟัง


           “เราทั้งคู่ต่างก็รู้ว่าคุณครูจินยองไม่ได้เข้ามาในบ้านเพียงเพราะจะมาสอนแบมแบมอย่างเดียว แต่มาเพื่ออะไรนั้น

เป็นเรื่องที่เราต้องค้นหาแม้ว่าพี่จะรักเขามากแต่อย่างไรความจริงก็ต้องปรากฏ และตอนนี้พี่ก็รู้แล้วว่าคุณครูของแบมแบม

ที่แท้เป็นนักข่าวจากสำนักข่าวใหญ่แห่งหนึ่ง”


           “นักข่าว!”


           แบมแบมอุทานอย่างตกใจ เขารู้ดีว่าตระกูลของเขาเป็นสิ่งที่บุคคลภายนอกแสวงหาข้อมูลแค่ไหน และการที่มี

นักข่าวลอบเข้ามาในบ้านได้เป็นสิ่งที่อันตรายยิ่ง ที่สำคัญนักข่าวคนนั้นคือคนที่รักอยู่กับประธานตระกูลอิม แจบอมพยัก

หน้าอย่างอ่อนล้า


           “ใช่ พี่กำลังหลงรักนักข่าว ซึ่งเป็นตัวอันตรายสำหรับครอบครัวของเรา โดยที่ยังไม่รู้อีกต่างหากว่าข้อมูลที่จิน

ยองต้องการมาสืบคืออะไร”


           แบมแบมกุมมือพี่ชายด้วยความเห็นใจ


           “แต่ครูก็ไม่ใช่คนเลว ไม่อย่างนั้นพี่ชายคงไม่รักครู ครูอาจจะทำไปเพราะเป็นอาชีพที่ต้องทำ ผมอยากให้พี่ชาย

ลองคิดดูให้ดีๆ ความจริงแล้วพี่ชายก็รู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือครับว่าการที่ครูเข้ามาในบ้านเราเพื่อจุดประสงค์บาง

อย่าง แต่พี่ชายก็ยังรัก แสดงว่าพี่ชายสามารถมองข้ามเรื่องนี้ไปได้ไม่ใช่เหรอ”


           เพราะความน่ารักของจินยองทำให้แบมแบมยังคงคิดในแง่ดี ถึงอย่างไรเขาก็อยากให้แจบอมมีความสุขเช่นคน

อื่นเสียที  แต่พี่ชายของเขากลับมีสีหน้าเคร่งเครียดยิ่งกว่าเดิม


           “พี่อาจจะมองข้ามถ้าวันนี้ไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น”


           แจบอมยื่นโทรศัพท์ให้น้องชาย มันมีภาพที่ทำให้โลกอันสดใสของแบมแบมแทบพังทลาย คุณครูของเขากำลัง

กอดกับชายอื่น ชายที่แบมแบมก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี ชายที่ทำให้หัวใจของแบมแบมสั่นไหวยามอยู่ใกล้ เสียงพึมพำหลุด

ออกจากปากแผ่วเบาเกินกว่าแจบอมจะจับใจความได้


           “หวังเจียเอ๋อร์”


           “เขาเป็นนักข่าวเหมือนกัน ทำงานที่เดียวกัน ตอนนี้บ้านของเรามีนักข่าวลอบเข้ามาได้ถึงสองคนโดยที่พี่ไม่รู้ว่า

ทำไมถึงหละหลวมเช่นนี้ และที่สำคัญท่าทางทั้งคู่จะสนิทกันน่าดู”


           แจบอมพูดโดยไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างกับน้องชายที่กำลังกลั้นก้อนสะอื้นลงคอ เขากำลังประมวลภาพยามที่

ผู้ชายคนนั้นรู้ว่าจินยองบาดเจ็บ ตอนนี้แบมแบมรู้แล้วว่าทำไมหวังเจียเอ๋อร์จึงได้ห่วงใยคุณครูของเขาทั้งที่ทั้งคู่ไม่เคยพบ

หน้ากัน แต่ความจริงแล้วคือหวังเจียเอ๋อร์และจินยองสนิทสนมกันมาก่อนหน้านี้

           สนิทกันถึงขั้นกอดกันได้

           น้ำตาเอ่อคลอเต็มดวงตาเรียวของแบมแบมเมื่อหัวใจของเขาเจ็บปวดเหลือเกิน เจ็บทั้งที่ถูกหลอกว่า

หวังเจียเอ๋อร์เป็นคนรับจ้างจัดสวน เจ็บทั้งที่รู้ว่าหวังเจียเอ๋อร์น่าจะมีเยื่อใยกับจินยองเป็นพิเศษ


          “พี่ควรจะทำยังไงกับเขาดี  รักทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาต้องการสิ่งอื่นนอกเหนือจากความรักของเราหรือเปล่า”


           เป็นไม่กี่ครั้งที่แจบอมเผยความทุกข์ให้น้องชายฟัง แสดงถึงความรู้สึกอัดอั้นอยู่ในใจ แบมแบมสงสารทั้งพี่ชาย

และตนเองจนต้องสวมกอดและซุกหน้าลงกับบ่ากว้าง น้ำตาของหนุ่มน้อยซึมอยู่ตรงหางตาเมื่อมันกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

           เสียงลูกบิดประตูหมุนดังคลิกและผลักเข้ามา คนที่อยู่ในบทสนทนาก้าวเข้ามายืนเด่นกลางห้อง แต่บัดนี้ดวงตา

ของจินยองเต็มไปด้วยความเจ็บช้ำจนมันแดงก่ำไปหมด


           “คุณเคยถามว่าผมมาทำไมที่นี่”


           จินยองกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า


           “คุณคงนึกว่าผมจะมาหาข้อมูลว่าพวกคุณทำอะไรผิดกฏหมายบ้างและคงกลัวว่านักข่าวอย่างผมจะเอาไปตีแผ่ให้

โลกรู้ แต่ความจริงแล้วผมไม่ได้มาเพื่อสิ่งนั้น”


           แจบอมลุกขึ้นยืน เขาก้าวมายืนเผชิญหน้ากับจินยอง ต่างก็จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความเจ็บปวด


           “พูดเหมือนนายพร้อมแล้วที่จะบอกจุดประสงค์ของนายที่เข้ามาในบ้านหลังนี้”


           จินยองไม่ตอบ แต่เขาชูทั้งจดหมายและรูปถ่ายในมือขึ้นต่อหน้าแจบอมที่มองสิ่งเหล่านั้นอย่างกังขา


           “สิบกว่าปีก่อนหน้า ประธานอิมพ่อของคุณเข้าไปข้องเกี่ยวกับครอบครัวเล็กๆครอบครัวหนึ่งที่ประกอบด้วยพ่อ แม่

และลูกชายอีกหนึ่งคน พ่อของคุณและพวกเขารู้จักกันมาก่อนหน้านี้เพราะเป็นเพื่อนสมัยเรียนด้วยกันแต่ผู้หญิงเลือกที่จะ

แต่งงานกับสามีของเธอ”


          “แต่หลังจากนั้นธุรกิจของครอบครัวก็เริ่มตกต่ำสามีของเธอเริ่มหันไปดื่มเหล้าด้วยความกลัดกลุ้ม ครอบครัวเริ่มระ

หองระแหงมากขึ้น จังหวะนั้นเองที่พ่อของคุณเริ่มเข้าไปยุ่งกับพวกเขาด้วยการเข้าไปปลอบใจผู้หญิงคนนั้น ดูได้จาก

ถ้อยคำที่ตอบโต้ต่อเนื่องในจดหมายเหล่านี้”


           จินยองปาจดหมายใส่แจบอมด้วยความปวดร้าว น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมา


           “เหตุการณ์เลยเถิดเมื่อสามีระแคะระคายว่าภรรยากำลังมีชู้ ผู้หญิงคนนั้นเก็บจดหมายพวกนี้ให้พ่อของคุณมาเก็บ

ไว้เพราะทำใจทำลายหลักฐานแห่งความรักไม่ลง  แต่สามีของเธอกลับจับได้ว่าทั้งคู่มีอะไรเลยเถิดกันแน่ๆ พวกเขาจึง

ทะเลาะกันและผู้หญิงคนนั้นก็ตัดสินใจขอเลิกกับสามีเพื่อจะไปอยู่กับชายชู้”


           ความเจ็บช้ำเกาะกินหัวใจของจินยองเมื่อภาพแห่งความหลังกลับมาเยือนอีกครั้ง เขาถึงกับยกหลังมือป้ายน้ำตา


           “สามีของเธอตามพ่อของคุณให้มาเคลียร์ปัญหาที่บ้าน แต่ก็ตกลงกันไม่ได้ ทั้งคู่ทะเลาะกันยกใหญ่จนในที่สุด

สามีของเธอก็กินเหล้าจนเมามายขาดสติ เขาจุดไฟเผาบ้านก่อนจะยิงตัวตายหลังจากที่ยิงภรรยาของเขา...”


           ภาพที่พ่อของเขาจ่อปืนที่ขมับแล้วเหนี่ยวไกโดยที่เด็กน้อยวิ่งเข้าไปห้ามไม่ทันกลับมาฉายซ้ำจนหัวไหล่ไหว

สะท้าน


           “ที่เล่ามาทั้งหมดต้องการจะบอกอะไรกับฉัน”


           เสียงนิ่งเรียบของแจบอมดังขึ้นเมื่อทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบพักใหญ่ มีเพียงเสียงสะอื้นของ

จินยองที่ดังแผ่วเท่านั้น จินยองกลั้นสะอื้นเงยหน้ามาสบตาแจบอม ดวงตาคู่นั้นโชนไปด้วยความแค้นเขาตะโกนก้องใส่

หน้าแจบอมทันที


           “ผมก็จะบอกคุณว่า ผมคือเด็กคนนั้น เด็กในครอบครัวที่พ่อของคุณหลอกทำลายด้วยความเจ้าชู้ เด็กที่ต้องเห็น

พ่อของตัวเองฆ่าตัวตายกับตา เห็นไฟไหม้บ้านตัวเองต่อหน้ากับศพพ่อกับแม่ที่ถูกเผาอยู่ในกองไฟไงล่ะ”


           “ครูครับ!”


           “จินยอง!”


           แจบอมโผเข้ากอดจินยองที่ทำท่าจะทรุดฮวบลงไป จินยองทั้งผลักไสทุบตีแต่แจบอมก็ไม่ยอมปล่อย


           “ปล่อยผม ผมเกลียดพวกคุณทุกคน”


           คำพูดนั้นเองที่ทำให้แจบอมยอมปล่อย จินยองต้องฝืนยืนด้วยขาของตนเองเพียงลำพังพร้อมกับสายตาเสียใจ

และตัดพ้อของแจบอม


           “นายคือเด็กคนนั้นนั่นเอง เด็กที่พ่อตามหา ถ้านายจะฟังเรื่องที่พ่อ...”


           “ผมไม่ต้องการฟังอะไรทั้งนั้น”


           จินยองขัดขึ้น


           “สิ่งที่ผมต้องการคือไปจากบ้านที่น่ารังเกียจหลังนี้ให้เร็วที่สุด”


           “นายยังไม่พร้อมจะกลับไปตอนนี้หรอก”


           “ผมต้องการไปเดี๋ยวนี้ หากคุณจะกรุณากับคนอย่างผมที่พวกคุณเคยทำลายชีวิตไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็แค่ปล่อยให้

ผมกลับไปโดยไม่ต้องทนอยู่กับพวกคุณอีก”


           “แต่ครูยังไปไม่ได้นะครับ ครูยัง...”


           “ปล่อยเขาไปเถอะแบมแบม”


           ในที่สุดแจบอมก็ถอนหายใจออกมา


           “หากว่าเขาต้องการที่จะไป พี่จะไม่รั้งเขาไว้”


           “แต่พี่ชายรักเขานะครับ”


           แบมแบมค้านเสียงดัง แจบอมนิ่งงันด้วยความเด็ดเดี่ยว


           “ใช่ พี่รักเขา แต่พี่พร้อมจะปล่อยเขาไปหากเขาหมดใจกับพี่แล้ว”


           ดวงตาที่ประสานกันในตอนนี้ปนเปกันไปหมดทั้งรักและผิดหวัง แจบอมกัดฟันจนสันกรามขึ้นเป็นทาง


           “ผมจะให้รถไปส่งคุณในเมือง พรุ่งนี้ของใช้ของคุณจะถูกส่งตามไปให้ทีหลัง”


           แม้แต่สรรพนามก็ยังเปลี่ยนไป จินยองสะอึกกับท่าทีของแจบอม จินยองเม้มปากแน่นก่อนจะหันหลังกลับไปทาง

ประตู


           “เดี๋ยวครับคุณปาร์ค”


           เสียงแบมแบมนั่นเองที่ยั้งเขาไว้


           “คุณกับหวังเจียเอ๋อร์เป็นอะไรกัน”


           คำถามคลางแคลงใจดังขึ้นด้านหลัง จินยองเอ่ยโดยไม่คิดจะหันหลังกลับไปมองหนุ่มน้อยที่น่าสงสาร


           “เราเป็นเพื่อนกัน แต่ผมก็รู้ดีว่าแจ็คสันหลงรักผมมาโดยตลอด”


           แบมแบมขมวดคิ้วกับคำพูดของจินยอง


           แจ็คสัน

           หวังเจียเอ๋อร์

           ต้นหลิวต้นเก่าในเฟสบุ๊ค

           ล้วนแล้วแต่เป็นเขาที่ถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือ


           แบมแบมเชิดหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เขาเป็นลูกชายของประธานอิม จะต้องเข้มแข็ง


           “ลาก่อนครับคุณครูปาร์ค”
           



           จินยองนั่งนิ่งอยู่ด้านหลังของรถยนต์ที่กำลังขับออกมาจากบ้านหลังใหญ่

           บ้านที่ในวันแรกเขาต้องถูกปิดตาเพื่อไม่ให้จดจำเส้นทาง

           แต่มาวันนี้ เป็นตัวเขาเองที่ต้องหลับตาลงเพราะไม่อยากจะจดจำความรู้สึกดีๆทั้งสิ้น

           ดีใจสิจินยอง!

           นายควรจะดีใจที่ไขปัญหาได้ว่าครอบครัวนี้ทำเลวอะไรไว้กับนายบ้าง

           นายควรจะบอกหัวใจตัวเองให้เลิกคร่ำครวญได้แล้ว

           ทำสิ!

           จินยองหลั่งน้ำตาตลอดเส้นทางที่ยาวไกลนั้น





           ร่างเพรียวเดินทอดน่องอยู่ริมถนนเมื่อลงจากรถยนต์ คราบน้ำตายังเกาะเต็มใบหน้า สายตาของจินยองทอดมอง

ผู้คนที่ยังไม่หลับใหลท่ามกลางแสงไฟของเมืองใหญ่จนกระทั่งมอเตอร์ไซค์คันใหญ่วิ่งมาจอดอยู่เคียงข้างและแจ็คสันที่

เป็นคนขี่รีบก้าวมาหา

           ปาร์คจินยองทรุดลงไปนั่งร้องไห้ต่อหน้าแจ็คสันที่ทำได้เพียงปลอบโยนเท่านั้น



                                                  TBC


ใกล้จบแล้วนะคะ

มีแบบสอบถามมาให้กรอกเรื่องการรวมเล่มค่ะ

อ่านแล้วช่วยกันตอบคำถามในลิงค์ด้วยนะคะ

http://goo.gl/forms/vR6LBzqhTm (http://goo.gl/forms/vR6LBzqhTm)

            :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:



หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 22 [ 04 / 01 / 2016 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-01-2016 23:29:01
ทำไมจินยิงไม่รอฟังก่อนว่าเดิดอะไรขึ้น :(
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 22 [ 04 / 01 / 2016 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 05-01-2016 01:51:22
โฮๆๆๆๆๆ อิคนอ่านน้ำตาไหลพราก (T_T)
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 22 [ 04 / 01 / 2016 ] #Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: idimi ที่ 05-01-2016 03:18:14
คุณแจบอมรีบตามมาง้อเร็ว
มาบอกให้คุณครูเข้าใจนะ รั้งเขาไว้สิ
;^;
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-01-2016 21:19:44
             

                      ก่อนอ่านช่วยตอบแบบสอบถามด้วยนะคะ
   

       รักฟิคเรื่องนี้ อยากเห็นเป็นรูปเล่มพร้อมตอนพิเศษฟินๆ

                             
                       ต้องช่วยกันอุดหนุนนะคะ

                     

                       http://goo.gl/forms/ppy51AfgID (http://goo.gl/forms/ppy51AfgID)



                                                      เล่นกับไฟ

                                                         บทที่ 23         
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: ทำอะไรอยู่สาวน้อย
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: แบม อยู่หรือเปล่า

2Bam
: ผมไม่ใช่สาวน้อยของคุณ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: หืม พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ นี่มุกหรือเปล่า

2Bam: จะต้องเล่นละครไปอีกนานเท่าไหร่ถึงจะพอใจ


          หวังเจียเอ๋อร์
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: รู้แล้วสินะ ผมขอโทษ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์:  แบม แบมแบม ผมไม่เคยคิดจะโกหกคุณเลย

                                                                                                                     ผมแค่...



2Bam: แค่เห็นผมเป็นเครื่องมือสืบข่าวคนที่คุณรักใช่ไหม
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: เรื่องนั้นมันก็ใช่ แต่ว่า...ผมเองก็จริงใจกับคุณนะ
                                                                                                                 
                                                                                                                  ได้โปรดเข้าใจด้วยเถอะ



2Bam: หรือว่าคุณจะเรียกคำว่าจริงใจของคุณเป็นคำว่า


          เวทนาคนพิการอย่างผมดีล่ะ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: ผมไม่รู้ว่าควรจะอธิบายยังไงให้คุณเข้าใจ

2Bam:
ก็ไม่ต้องอธิบาย ผมเข้าใจกระจ่างแล้ว นี่คงจะเป็น



         การสื่อสารกันครั้งสุดท้ายของคุณกับผม
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: ไม่สิแบมแบม มันต้องไม่เป็นอย่างนั้น

                                                                                                                       ผมไม่ยอมหรอกนะ



2
Bam: ฝากบอกคนที่คุณหลงรักด้วยก็แล้วกันถ้าหากเขา
         
         อยู่ใกล้ๆคุณ
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: คนที่ผมหลงรัก?

2Bam: ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จักโลกมากขึ้น หวังว่าเขาจะมี



          ความสุขกับสิ่งที่เขาเลือก


2Bam: ลาก่อนแจ็คสัน ไม่สิ หวังเจียเอ๋อร์
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: เดี๋ยวก่อนแบมแบม แบมแบม!
แจ็คผู้ฆ่ายักษ์: ไม่ว่าคุณจะคิดยังไง แต่ผมจะรักษาสัญญาของเรา
ผมจะรอไปเดินที่ริมชายหาดชมดวงอาทิตย์ตกน้ำกับคุณ





            ไม่มีตัวอักษรตอบกลับบนหน้าจอ รวมถึงไม่มีสัญลักษณ์บอกให้รู้ว่าข้อความสุดท้ายได้ถูกอ่านแล้ว มันทำให้


แจ็คสันต้องถอนหายใจออกมา

          เขาโล่งอกที่จินยองออกมาจากบ้านหลังนั้นตอนที่ไปรับเพื่อนสนิทที่ข้างถนนในตัวเมือง แต่เมื่อแจ็คสันพา

จินยองมาที่ห้องพักของเขา สภาพของจินยองยิ่งทำให้แจ็คสันเป็นกังวล


          จินยองนั่งนิ่งเหม่อลอยราวกับหุ่นพักใหญ่กว่าจะยอมเฉลยเรื่องทั้งหมดให้แจ็คสันฟังว่าแท้จริงแล้วจุดประสงค์ที่

เขาเข้าไปในบ้านตระกูลอิมเพื่ออะไร แจ็คสันจึงได้รู้เรื่องราวในอดีตของจินยองที่ไม่เคยปริปากเล่าให้ใครฟัง แจ็คสัน

แปลกใจที่เขาสงสารทุกฝ่ายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทั้งที่เขาควรจะดีใจที่จินยองออกห่างอิมแจบอมเสียได้ แต่เขากลับไม่

นึกเช่นนั้น


           “แบมแบมไม่ตอบกลับมาใช่ไหม”


           จินยองเอ่ยถาม น้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แจ็คสันจับกระแสห่วงใยได้


           “ใช่ เขาไม่ตอบ ท่าทางโกรธมาก”


           ใช่สิ ใครบ้างจะไม่โกรธ


           จินยองเข้าใจดี โกหกใจตัวเองไม่ได้ว่าเขารู้สึกผิดที่เอ่ยคำพูดบาดหัวใจของแบมแบม


           “เด็กคนนั้นไม่ผิดอะไร”


           จินยองพูดพลางก้มหน้าซ่อนความรู้สึกในขณะที่แจ็คสันหันมามองเขา


           “แบมแบมไม่ผิดอะไร ก็เหมือนนายอิมแจบอมอะไรนั่นก็ไม่ได้ผิดอะไร เรื่องร้ายแรงที่เกิดขึ้นก็เกิดในสมัยพ่อของ

เขา”


           จินยองกัดริมฝีปาก จิตใจส่วนลึกบอกเช่นนั้นเหมือนกันแต่เพราะเรื่องราวในอดีตเข้ามายืนขวางจนเขาไม่อาจ

ยอมรับใจตนเอง


           “นายพูดเหมือนไม่ใช่แจ็คสันที่เราเคยรู้จัก”


           “นายต่างหากที่เปลี่ยนไป” แจ็คสันท้วง  “เราก็แค่ยอมรับความจริงเท่านั้น”


           ความดื้อดึงทำให้จินยองต่อต้าน เขาขยับเข้าหาแจ็คสันพลางมองด้วยนัยน์ตารั้น


           “ยอมรับความจริงว่าเรากลับมาแล้ว และถ้าหากนายยังคิดกับเราเหมือนเมื่อก่อน”


           ร่างโปร่งเบียดกายเข้าหา จินยองแนบไหล่นิ่งเบียดแจ็คสัน เขายกมือวางอยู่บนบ่าแข็งแรงและช้อนตาขึ้นมอง

ท้าทาย


           “เราก็พร้อมถ้านายต้องการ”


           สบตากันอย่างค้นคว้า แจ็คสันมองจินยองด้วยความสับสน ใบหน้างดงามอย่างที่เขาเคยวาดฝันบัดนี้อยู่ใกล้แค่

ปลายนิ้ว หากอะไรบางอย่างรบกวนอยู่ในส่วนลึกแม้ว่าเขากำลังเลื่อนหน้าเข้าหาและประกบปากของเขาลงไปกับกลีบ

ปากนุ่มที่ไม่ได้ปฏิเสธเมื่อแจ็คสันแตะลิ้นอุ่นลงไป

           แจ็คสันรั้งเอวจินยองไว้ เขาครองครองริมฝีปากนุ่ม หากแต่ในจินตนาการกลับมีใบหน้าของหนุ่มน้อยคนหนึ่งเข้า

มาฉายชัดจนเขาต้องทอดถอนหายใจและผละจากริมฝีปากนั้น แจ็คสันดันหัวไหล่ของจินยองที่สภาพไม่ได้ต่างกันออก

ห่าง ต่างคนต่างมองอีกฝ่ายด้วยความเข้าใจจิตใจตนเองจนทะลุปรุโปร่ง


            “ขอโทษ เรา...”


           “นายไม่ได้ผิดอะไร” จินยองเอ่ยขึ้น เขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกับแจ็คสัน จูบนี้ทำให้จินยองไม่อาจปฏิเสธหัวใจ

ตนเองได้อีกต่อไปว่ามันมีผู้ใดถือครองอยู่อย่างถาวร


           “ขอบใจนะแจ็คสัน นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเราจริงๆ”


           แจ็คสันคลี่ยิ้มสดใสอย่างที่เคยทำมาตลอด เขาแนบหน้าผากของเขากับหน้าผากของจินยองก่อนจะหอมแก้มจิน

ยองอีกครั้งเพื่ออำลาความรักของเขาที่หมดลงไปแล้วสำหรับจินยอง ต่อจากนี้จะมีเพียงมิตรภาพของเพื่อนอย่างแท้จริง


           แจ็คสันรู้ใจตนเองแล้วว่าตอนนี้มันกำลังถูกใครบางคนเข้าครอบครองอยู่
           





           แม้ว่าจินยองจะออกมาจากบ้านหลังใหญ่ของตระกูลอิมได้แล้ว แต่แจ็คสันกลับเสี่ยงที่จะเข้าไปพร้อมกับรถของ

บริษัทจัดสวนอีกครั้ง เพียงแต่จุดประสงค์ที่เขาเสี่ยงมามันแปรเปลี่ยนไป

           แจ็คสันก้าวลงจากรถและคว้ากรรไกรแต่งกิ่งต้นไม้อันใหญ่ไปถือไว้ ทำทีเป็นวุ่นวายกับการทำงานเช่นเคยแม้ว่า

สายตาจะสอดส่องหาจุดมุ่งหมายจนหงุดหงิดที่ไม่เห็นแม้แต่เงาจนกระทั่งถึงยามบ่ายที่รถจัดสวนใกล้ถึงเวลากลับ เขา

มองซ้ายขวาก่อนก้าวเดินไปยังบ้านหลังใหญ่ช้าๆ บันไดหน้าบ้านอยู่แค่เอื้อม

         แจ็คสันตัดสินใจจะก้าวเข้าไป แต่แล้วเขาก็ต้องหยุดเท้าลงเมื่ออยู่ๆก็มีบอดี้การ์ดหน้าดุกลุ่มหนึ่งจู่โจมล้อมรอบเขา

ในที่สุดแจ็คสันก็ประสบความสำเร็จในการบุกถ้ำเสือด้วยการถูกหิ้วปีกให้มานั่งหน้าจ๋อยอยู่ในห้องรับแขก ไม่นานนักก็

ปรากฏร่างสูงของเจ้าของบ้านที่แจ็คสันเพิ่งจะเคยเห็นหน้าเป็นครั้งแรก โดยมีรถเข็นไฟฟ้าเคลื่อนที่ตามมาติด


                “แบมแบม”


               แจ็คสันยิ้มอย่างดีใจที่เขาได้เห็นหน้าหนุ่มน้อยอีกครั้ง แต่รอยยิ้มก็หดลงเมื่อเห็นแบมแบมหน้าบึ้งใส่เขา อิม

แจบอมนั่งลงตรงกันข้าม ใบหน้านิ่งเรียบมองแจ็คสันจนเจ้าตัวหนาวสันหลัง


              “คุณคงไม่ได้คิดว่าบ้านของผมเป็นห้างสรรพสินค้าให้คุณมาเดินเล่นแน่ๆ”


               ภาพผู้ชายตรงหน้าสวมกอดจินยองยังคงกรุ่นอยู่จนแจบอมนึกอยากจะหักคอแจ็คสันเล่น เรื่องของจินยอง

ทำให้เขาหงุดหงิดจนไม่อาจไปทำงานได้ และยิ่งสาเหตุหลักลักลอบเข้ามาเช่นนี้ยิ่งทำให้แจบอมอารมณ์เสีย


                “ใช่ไหมคุณนักข่าวแจ็คสัน”


                 แจ็คสันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ อิมแจบอมเป็นบุคคลลึกลับที่น้อยคนนักจะเคยเห็น ตอนนี้แจ็คสันเข้าใจ

แล้วว่าทำไมประธานตระกูลอิมจึงเป็นที่เลื่องลือถึงกิตติศัพท์ ก็แค่สบตาดุแจ็คสันยังถึงกับหนาว แต่เขาก็ต้องทำใจดีสู้

เสือเมื่อพูดออกไป


              “ผมแค่จะมา เอ่อ...ผมมาหาแบมแบม ผมมีเรื่องที่ต้องเคลียร์กับแบมแบม”


              คิ้วเข้มของแจบอมขมวดด้วยความสงสัย เขาหันไปมองน้องชายที่ตอนนี้กระพริบตาปริบๆและเม้มริมฝีปากแน่น


              “รู้จักเขาด้วยหรือ ทำไมพี่ไม่รู้”


               แบมแบมมองพี่ชายและแจ็คสันสลับกัน ใจหนึ่งก็ดีใจที่แจ็คสันกล้าเสี่ยงมาหา แต่อีกใจหนึ่งที่อยู่ข้างความขุ่น

เคืองก็ยังตามประกบจนหนุ่มน้อยไม่รู้จะเลือกฝั่งไหน


             “เขาเป็นเพื่อนในเฟส...”


              แบมแบมยอมเอ่ยความจริงต่อหน้าพี่ชาย


              “แต่ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นนักข่าวจนกระทั่งพี่ชายบอก เขาปลอมตัวเข้ามาที่นี่เพื่อหาทางเจอคุณครู”


                หนุ่มน้อยหันขวับไปหาแจ็คสัน ดวงตาเรียวมองแจ็คสันอย่างตัดพ้อ


                “คุณใช้ผมเป็นเครื่องมือจนได้พบกับครูแล้วนี่ ตอนนี้คุณได้ครูกลับคืนไปแล้ว คุณจะมาที่นี่อีกทำไม หรือว่าจะ

มาสมน้ำหน้าคนหน้าโง่ที่ให้คุณทั้งคู่รวมหัวกันหลอกใช้ได้”


                “ผมมาเพื่อขอโทษ ผมไม่ได้คิดว่าคุณเป็นเครื่องมืออะไรทั้งนั้น”


                วินาทีนี้แจ็คสันลืมไปแล้วว่าเขากำลังพูดต่อหน้าประธานตระกูลอิมที่ยังคงนิ่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แจบอม

ไม่เคยรู้เลยว่าน้องชายที่อยู่แต่ในบ้านจะรู้จักกับคนอย่างแจ็คสันด้วย และยิ่งไม่นึกว่าผู้ชายตรงหน้าจะกล้าบ้าบิ่นถึงขั้น

เสี่ยงเข้ามาเพื่อพบหน้าแบมแบม


               “อีกอย่างที่ผมอยากพูดคือผมรักคุณ”


                หากมีเข็มสักเล่มตกลงพื้นก็คงจะได้ยินกันถ้วนหน้าเมื่อตอนนี้ทั้งห้องเงียบกริบ แจบอมเลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินที่

แจ็คสันโพล่งออกมา ส่วนคนถูกบอกรักโดยไม่ทันตั้งตัวกำลังนิ่งอึ้ง แบมแบมเบิกตากว้างอ้าปากค้างจนกระทั่งสมองเริ่ม

ประมวลผลได้แก้มใสก็เริ่มฉีดสีแดงก่ำ


               “พูดบ้าอะไรแจ็คสัน คนที่คุณรักคือคุณครูต่างหาก ลืมไปแล้วเหรอ”


                 แบมแบมโต้เสียงดังอย่างลืมตัวว่าตนเองก็ยังอยู่ต่อหน้าพี่ชาย ภาพที่แจ็คสันกอดจินยองกลับมารบกวน

จิตใจจนดวงตาแดงเรื่อ


                 “ผมรักจินยองแต่ผมก็รักคุณด้วย ก็คุณอยากน่ารักทำไมล่ะ คุณทำให้ผมตกหลุมรักคุณรู้ไหม”


                 “หยุด!”


                เสียงเฉียบดังขึ้นจนทั้งคู่สะดุ้ง แจ็คสันและแบมแบมหน้าจ๋อยเมื่อแจบอมมองอย่างคาดคั้น


                 “ไปรักกันตอนไหน แบมแบม ตอบพี่เดี๋ยวนี้”


                 “พี่ชายอะ ผมจะตอบได้ไงเล่า”


              เขินจนหน้าแดงก่ำ คำบอกรักอย่างไม่มีอ้อมค้อมทำให้แบมแบมทำอะไรไม่ถูกได้แต่หันไปมองแจ็คสันตาเขียว

ที่ก่อเรื่อง


              “บ้า ห่ามไม่เข้าเรื่อง”


             ปากต่อว่าแต่แบมแบมกลับเผลอยิ้มออกมา แจบอมหันขวับไปหาแจ็คสันทันที


           “คุณบอกว่ารักน้องชายของผม แล้วคุณเอาจินยองไว้ไหน”


           “จินยองก็อยู่ที่เดิมนั่นแหละครับ” แจ็คสันตอบด้วยความจริงใจ


           “ผมก็ยังคงรักเขา เพียงแต่ความรักมันเปลี่ยนรูปแบบของมัน ผมกับจินยองเหลือแต่คำว่าเพื่อนเพราะเขาเองก็

ตัดใจจากคุณไม่ได้เหมือนกัน”


           หัวใจของแจบอมกระตุกเมื่อเขาได้ยินคำพูดของแจ็คสัน


           “จินยองเองก็เสียใจไม่น้อยกว่าคุณหรอกครับคุณอิม เขารักคุณมากเพียงแต่ตอนนี้ยังมีทิฐิค้ำคอเขาอยู่ เพื่อน

ของผมแบกหน้าเศร้าไปทำงานทุกวันจนผมคิดว่าคุณกับจินยองควรจะปรับความเข้าใจกันได้แล้ว ทำไมต้องห่างกันแบบ

นี้ทั้งที่รักกันแทบตาย”


           “เขาเป็นฝ่ายจากไป”


           “แล้วคุณก็ปล่อยให้จินยองจากไป โอ๊ย...ผมควรจะพูดอะไรกับคุณดีเนี่ย”


           “แจ็คสัน” แบมแบมปรามเสียงหนักเมื่อเห็นแจ็คสันเริ่มแหย่เสือบาดเจ็บ แจ็คสันเริ่มรู้สึกตัวจึงได้ยิ้มแหยออกมา


           “ผมแค่อยากให้เพื่อนมีความสุขเสียที ชีวิตของจินยองผ่านความเศร้ามามากพอแล้ว และเผื่อว่าความหวังดีของ

ผมจะทำให้คุณเห็นใจเปิดโอกาสให้ผมได้คบกับแบมแบมน้องชายของคุณ”


           “ใครจะไปคบกับคุณ พูดดีๆนะ”


           แบมแบมเอะอะทั้งที่หน้าแดงจัดลามไปถึงใบหู แจบอมรู้ทันทีว่าน้องชายของเขามีใจให้แจ็คสันอยู่ไม่น้อย เขา

เองยังไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปสนิทสนมกันตอนไหนแต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่แจบอมจะไปล้วงความจริงจากน้องชายภายหลัง หากแต่

ตอนนี้เขาต้องจัดการกับไอ้หนุ่มตรงหน้าที่กล้าเหยียบหางเสือเสียก่อน


           “แบมแบมยังเด็ก”


           “คุณจะอุ้มแบมแบมไปถึงเมื่อไหร่ล่ะครับ”


           เพื่อนกัน ปากจัดเหมือนกันไม่มีผิด แจบอมคิดถึงอีกคนที่ช่างสรรหาคำต่อว่ามาเถียงเขา


           “ก็จนกว่าแบมแบมจะโต”


           คำตอบกำปั้นทุบดินจากปากแจบอมทำให้แบมแบมหัวเราะคิก ความขุ่นเคืองมลายไปหมดแล้วเมื่อแจ็คสันกล้า

หาญถึงกับเสี่ยงมาหาเขาถึงบ้าน แบมแบมเหลือบตามองหน้าเหวอของแจ็คสันเมื่อถูกพี่ชายของเขากวนกลับ


           “สมน้ำหน้า”


           “ไม่ช่วยแล้วยังซ้ำเติมอีก”


           แจ็คสันอวดครวญ เขาตัดสินใจเลื่อนตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นจนแบมแบมตกใจ


           “แจ็คสัน ทำอะไร!”


           “ผมขอแค่โอกาส ขอให้ผมได้ดูแลแบมแบม คุณจะให้โอกาสผมได้ไหม”


           


   



มีต่ออีกนิด...

หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-01-2016 21:37:08
ต่อกันตรงนี้...


                                    สบตากันอย่างลูกผู้ชาย พักใหญ่กว่าที่แจบอมจะถอนหายใจออกมา
           
         
           “คุณกล้าขอผมก็จะให้ แต่คนที่จะให้โอกาสคุณอย่างแท้จริงคือแบมแบมไม่ใช่ผม”
           

           แบมแบมมองพี่ชายด้วยความตื้นตัน เขาบังคับรถเข็นให้เข้าใกล้แจบอมอีกเล็กน้อย ร่างบางดันกายขึ้นจากรถ

เข็นแล้วยกเท้าก้าวไปหาแจบอมอย่างไม่มั่นคงนัก แจ็คสันลุกขึ้นด้วยความเป็นห่วง


           “ไม่ต้อง ผมจะเดิน”


           แบมแบมย่างก้าวช้าๆ จนกระทั่งถึงแจบอมที่ลุกยืนรอรับร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอย่างแปลกใจและดีใจพร้อมๆ

กัน


            “เดินได้แล้วทำไมไม่บอกพี่”


           “อยากให้พี่ชายเซอร์ไพร้ส์ครับ” แบมแบมมองแจบอมด้วยความรักและสำนึกในบุญคุณ


           “เขาเป็นกำลังใจให้ผมเดินได้ ขอบคุณนะครับพี่ชายที่ให้โอกาสเราทั้งคู่”


           แบมแบมร้องไห้อย่างตื้นตัน หนุ่มน้อยกอดอกซุกหน้ากับอกของแจบอมโดยมีแจ็คสันที่ยืนยิ้มอยู่ไม่ห่าง แจบอม

สะท้อนใจเมื่อคิดเรื่องของตนเอง


           แจบอมเดาไม่ถูกว่าชีวิตรักของเขาจะลงเอยอย่างไร






           แจบอมนั่งตรวจสอบรายงานการประชุมที่ลูกน้องหอบมาวางไว้ให้เต็มโต๊ะที่ห้องรับแขกยามค่ำ ขณะที่เขากำลัง

ใช้สมาธิกับงานลูกน้องที่ยืนรออยู่ก็เรียกให้เขาต้องเงยหน้า


           “มีข่าวจากสำนักข่าวลงในเว็บไซต์ครับ เป็นข่าวพร้อมทั้งสกู๊ปบทความที่เขียนถึงประธานอิมคนเก่า”


           รับแท็ปเลตมาจากคนสนิทและอ่านข่าวอย่างรวดเร็ว อิมแจบอมถึงกับนิ่งงัน


           มันเป็นสกู๊ปข่าวที่กล่าวถึงประธานอิมคนเก่าบิดาของเขาว่าใช้อำนาจเงินเข้าไปกว้านซื้อบริษัทเล็กๆเพื่อนำมา

ฟอกเงินจากธุรกิจมืดผิดกฏหมาย ข่าวนั้นถูกแชร์อย่างรวดเร็วเพียงแค่ไม่กี่นาที และสิ่งที่ทำให้แจบอมถึงกับกัดฟันเมื่อ

เขาเห็นว่าเจ้าของสกู๊ปข่าวนั้นเป็นใคร


           คนที่เขียนโจมตีตระกูลของเขาคือปาร์คจินยอง!
           


        TBC

 :3123: :3123:


หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Apg ที่ 12-01-2016 21:47:12
โอยยยย จินยอง. ไปทำร้ายแจบอมทำไั้มงั้นอ่า รีบคืนดีกันเถอะนะ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 12-01-2016 22:21:12
อื้อหือ ดีงามพระรามแปดที่สุดไรท์ แต่ไหงยัยจินยองเล่นตลกอะไรอีกเนี่ย  :mew2:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: JUJU ที่ 13-01-2016 18:39:36
จินยองคือแสบมากกกถ้าจะโจมตีขนาดนี้  อยากรู้ว่าแจบอมจะทำยังไงต่อไป   
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-01-2016 19:42:04
โถ่ววว จินยอง
เห้อออ
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 13-01-2016 21:22:16
จินยองอ่า~~  :mew4:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-01-2016 21:31:47
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-01-2016 11:21:47
งืัอออ.. (T_T)
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 23 [12 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 17-01-2016 22:18:29
อ่านรวดเดียวกี่ตอนเข้าไปคู่แจ็คแบมเคลียร์ง่ายเชียว ส่วนจินยองเนี่ยลงข่าวแบบนั้นไปแล้วมันยากที่จะทำความเข้าใจกันไหมอ่ะ จินยองไม่ฟังอะไรเลย จริงๆ แจบอมกับแบมไม่ได้ผิดอะไรเลยนะจะโทษแต่พ่อแจบอมก็ไม่ได้หรอกของแบบนี้ ถ้าแม่จินยองเองไม่ได้เต็มใจเรื่องแบบนี้มันคงไม่เกิดขึ้นหรอก
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-01-2016 00:05:05


                                                         เล่นกับไฟ

                                                          บทที่ 24


           “มั่นใจแล้วเหรอถึงได้เขียนสกู๊ปแบบนั้น”


           แดเนียลสอบถามจินยองในสิ่งที่ทำลงไปแม้ว่าเขาที่เป็นบรรณาธิการจะไม่ได้ห้ามปราม ผลงานการเขียนที่เพิ่งจะลงไปเมื่อวานที่

ผ่านมาในเมื่องานของจินยองออกมาดีเกินกว่าที่เขาจะปฏิเสธได้ ไม่เคยมีใครตีแผ่ตระกูลอิมได้สนุกเท่างานเขียนชิ้นนี้อีกแล้ว


           “แล้วหัวหน้าไม่มั่นใจหรือครับ แต่ว่าหัวหน้าก็อนุมัติให้มันลงไปแล้วนะครับ และก็มีคนสนใจมากทีเดียว”


           เป็นจริงอย่างที่จินยองพูดแค่เพียงคืนเดียวยอดแชร์ถล่มทลายเกินข่าวหัวข้ออื่น ทำให้รู้ว่าแวดวงธุรกิจสนใจความเป็นมาของตระ

กูลอิมแค่ไหน

           แจ็คสันเปิดประตูเข้ามาในสำนักงาน เขากวาดสายตามองหาจินยอง เมื่อเห็นว่านั่งอยู่ที่โต๊ะ       แดเนียลเขาจึงรีบเดินลิ่วๆตรง

มาหา


           “จินยอง ทำแบบนี้เพื่ออะไร”


           จินยองเหลือบตามองแจ็คสัน นัยน์ตาสีดำขลับวูบแสงลงไปแวบหนึ่งก่อนจะกลับมาถือดีอีกครั้ง


           “นี่มันงานของเรานะแจ็ค นายลืมไปแล้วหรือไงว่าเราเป็นนักข่าวเศรษฐกิจ”


           แจ็คสันขยับปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ายังมีแดเนียลนั่งมองอย่างงงๆอยู่ด้วยอีกคนเขาจึงดึงแขนของจิน

ยองให้ลุกขึ้นมา


           “หัวหน้า ยืมตัวพ่อนักข่าวดีเด่นสักครู่นะครับ”


           ลากแขนจินยองมายังห้องประชุมเล็กแล้วปิดประตูตาม เมื่อมั่นใจว่าอยู่กันเพียงลำพังแล้ว แจ็คสันถึงกับมองเพื่อนสนิทด้วย

ความอ่อนใจ


           “ทำแบบนี้เพื่ออะไรจินยอง รู้ทั้งรู้ว่ายิ่งทำแบบนี้คุณชายอิมเขาก็ยิ่งโกรธ แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกันเสียที”


           แววตาหวานวูบไหว แต่จินยองกลับยักไหล่ เขาเมินสายตาคาดคั้นของแจ็คสัน


           “จะโกรธก็โกรธไปสิ เราไม่ได้เป็นอะไรกับเขาแล้วนี่”


           แจ็คสันส่ายหน้าระอา เขาจับต้นแขนของจินยองแล้วเขย่าเรียกสติ


           “หลอกใครได้ก็หลอกไป แต่จะหลอกใจตัวเองไปถึงไหน ดูหน้าตัวเองในกระจกบ้างหรือเปล่าว่ามันทั้งเศร้าทั้งหมอง เมื่อไหร่จะ

เลิกเสียทีไอ้ทิฐิมานะบ้าๆเนี่ย”


           จินยองขยับปากจะเถียงแต่ก็ไม่ทันได้ทำตามใจ ประตุห้องประชุมเปิดผลัวะเข้ามาด้วยฝีมือของคนที่จินยองไม่พร้อมจะเผชิญ

หน้าตอนนี้


           “คุณ ผมบอกแล้วไงว่าเข้าไปไม่ได้ หวา... อย่าทำร้ายผมนะ”


           แดเนียลที่รีบตามเข้าถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกบอดี้การ์ดของผู้ชายมาดเนี้ยบหน้าดุหิ้วปีกไว้ แดเนียลกลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความ

หวาดหวั่น


           “ไม่รู้พวกนี้เป็นใคร อยู่ๆก็บุกมาที่สำนักงานและถามหานาย ฉันบอกแล้วว่าห้ามบุกรุกแต่เขาก็ยังบุกเข้ามา ปล่อยผมสิวะ”


           จินยองนิ่งงัน เขาสบตากับดวงตาดุเอาเรื่องนั้นด้วยหัวใจไหวระรัว


           “แจบอม”


           “หา ว่าไงนะ” แดเนียลตาเหลือกเมื่อได้ยินชื่อที่จินยองหลุดปากมา ตอนนี้เขาเองก็หน้าซีดเผือดแทบเป็นกระดาษ


           “อย่าบอกนะว่า คุณคนนี้คือ...”


           “ออกไปก่อน”


           เสียงเฉียบขาดดังขึ้น จนแดเนียลต้องกลืนน้ำลาย


            “ผมขอคุยกับลูกน้องของคุณเป็นการส่วนตัวสักครู่”


           ไม่รอคำตอบจากแดเนียล ลูกน้องของอิมแจบอมลากตัวของแดเนียลออกไป แจ็คสันมองทั้งคู่สลับกันไปมาก่อนถอนหายใจ


           “อย่ารุนแรงกันเลยนะครับ อย่าลืมว่าทั้งคู่รักกันมากแค่ไหน”


           แจ็คสันก้าวตามแดเนียลออกไป เขาปิดประตูตามหลังทิ้งให้แจบอมอยู่เพียงลำพังกับจินยอง 


แจบอมก้มหน้าลงก่อนเงยหน้าจ้องมองจินยองจนเจ้าตัวสะดุ้ง


           “ไม่นึกเหมือนกันว่าคุณจะเกลียดชังพ่อของผมถึงขนาดนี้”


           น้ำเสียงฟังดูห่างเหินไว้ตัวจนจินยองใจหาย เขาได้แต่เชิดหน้าเพื่อปกปิดความรู้สึกของตนเอง


           “ผมแค่ทำตามหน้าที่ อย่าลืมว่าผมเป็นนักข่าว”


           แจบอมเหยียดยิ้มแต่ดวงตากลับไม่ยิ้มตามสักนิดยามจ้องมองหน้าซีดของจินยอง


           “พ่อแม่ของคุณกับพ่อของผมเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย”


           เสียงดุเริ่มต้นเอ่ยประโยคที่ทำให้จินยองไม่กล้าขัด เขาได้ยืนนิ่งฟังแจบอมพูด


           “ผู้ชายสองคนหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน พ่อของคุณมีฐานะร่ำรวยในขณะที่พ่อของผมไม่มีอะไรเลย ช่วงแรกฝ่ายหญิงยังไม่เอน

เอียงไปทางไหน แต่เพราะพ่อของผมเข้าไปช่วยเหลือผู้หญิงที่ต้องดูแลดูแลแม่ที่เจ็บป่วย ผู้หญิงจึงเริ่มมีใจมาทางพ่อของผม เมื่อพ่อ

ของคุณรู้เข้าเขาก็หลอกแม่ของคุณและข่มขืนเธอ”


           “ไม่จริง!”


           จินยองตัวสั่น เสียงที่หลุดออกมาสั่นพร่า แต่สีหน้าของแจบอมไม่ได้บอกว่าเขาพูดเล่น


           “พ่อของคุณใช้อิทธิพลข่มขู่บังคับให้แม่ของคุณแต่งงานด้วย พ่อของผมตัดใจจากแม่ของคุณและด้วยเหตุนั้นทำให้พ่อของผม

ทำทุกอย่างเพื่อถีบตัวเองออกมาจากความยากจน พ่อไม่เคยเจอครอบครัวของคุณอีกหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อไปพบผู้หญิงที่เขา

เคยรักเดินซังกะตายอยู่ริมถนน แม่ของคุณเล่าให้ฟังว่าพ่อของคุณใช้เงินมือเติบและบริหารกิจการที่เป็นมรดกไว้ไม่ได้ เงินทองในบ้าน

ร่อยหรอลง มิหนำซ้ำเขายังเล่นการพนันและดื่มเหล้า เวลาเมาก็จะทุบตีแม่ของคุณเป็นประจำ”


           เสียงกรีดร้องของแม่ดังแว่วเข้าหูยามจินยองยังเป็นเด็ก รอยช้ำตามเนื้อตัวที่จินยองเห็นบ่อยครั้งผุดขึ้นมาในความทรงจำ เขา

หลับตาลงด้วยความปวดร้าว


           “ตอนนั้นพ่อของผมก็แต่งงานกับแม่ซึ่งเป็นลูกสาวของแก๊งมาเฟียอยู่แล้ว แต่เพราะเยื่อใยที่ยังตัดไม่ขาดและความสงสาร ทำให้

พ่อของผมกับแม่ของคุณทำผิดด้วยการมีความสัมพันธ์เกินเลยกัน พ่อของคุณที่ตอนนั้นไม่เหลือสมบัติอะไรอีกแล้วระแคะระคายเรื่องนี้

เขาทำร้ายแม่ของคุณจนแทบยืนไม่ไหวและเรียกให้พ่อของผมไปตกลงกันที่บ้าน พ่อยื่นข้อเสนอให้พ่อของคุณเลิกกับแม่ของคุณและ

ยินดีจะรับเลี้ยงคุณด้วยแลกกับเงินก้อนหนึ่งเพราะไม่อยากเห็นผู้หญิงคนเดียวที่พ่อรักทรมานอีก แต่พ่อก็ไม่นึกว่าเขาจะคลุ้มคลั่งจนก่อ

เหตุร้าย”


           น้ำตาของจินยองไหลอาบแก้มเมื่อความเป็นจริงอีกมุมหนึ่งถูกเปิดเผย ดวงตาของแจบอมอ่อนแสงลงเมื่อเห็นสภาพของจินยอง


           “พ่อตกใจมากเมื่อรู้เหตุการณ์ที่บ้านคุณหลังจากพ่อกลับไปแล้ว พ่อโทษว่าทุกอย่างเป็นความผิดของพ่อ พ่อพยายามตามหาตัว

ของคุณแต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พ่อยังเชื่อว่าคุณยังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งและคิดจะไถ่โทษ”


           อิมแจบอมหยิบซองเอกสารออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูทวางไว้บนโต๊ะประชุม


           “พ่อแบ่งหุ้นของบริษัทจำนวนหนึ่งไว้ให้คุณ ผมเองก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเพราะมันนานมาก แต่เมื่อคุณกลับมาแสดงตัวผมจึง

นึกขึ้นได้ และตอนนี้ผมขอมอบสิทธิ์นี้คืนให้แก่คุณ หุ้นสิบเปอร์เซ็นของกิจการจากตระกูลอิม”


           จินยองมองกระดาษแผ่นนั้น กระดาษมอบโอนกรรมสิทธิ์หุ้นให้เด็กชายปาร์คจินยอง สิบเปอร์เซ็นจากกิจการตระกูลอิมทำให้เขา

กลายเป็นเศรษฐีย่อยๆคนหนึ่ง แต่จินยองไม่ได้นึกดีใจสักนิด


           “และถ้าคุณสงสัยว่าผมทำอะไรเรื่องงาน ผมจะบอกคุณก็ได้ว่าผมกำลังไถ่โทษคืนให้พ่อ บริษัทไหนที่พ่อเคยทำผิดด้วยการ

รับจ้างเทคโอเวอร์แย่งชิงจากเจ้าของเดิมมาถือให้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ ผมจึงเข้าไปช้อนซื้อหุ้นและเปิดโปงความทุจริตเพื่อให้หุ้นตกและขาย

คืนให้เจ้าของเดิมในราคาไม่แพง ถ้าคุณจะเอาไปเขียนข่าวล่ะก็ผมอนุญาต”


           พูดกลั้วหัวเราะเสียงปร่า แต่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเมื่อแจบอมเปิดเผยความจริงทุกอย่างให้จินยองรับรู้


           “ผมมาแค่นี้ มาเพื่อเคลียร์เรื่องของพ่อ พ่ออาจจะทำเลวกับคนอื่นแต่มีอยู่คนเดียวที่เขาไม่เคยคิดร้ายก็คือแม่ของคุณ”


           ตาต่อตาประสานกันด้วยความปวดร้าว แจบอมมองใบหน้าหวานนิ่งนานก่อนที่เขาจะตัดใจหันหลังเปิดประตูและเดินจากไป

จินยองนึกอยากจะรั้งร่างนั้นไว้แต่ก็ปากหนักเกินกว่าจะทำได้ เขาได้แต่ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้กอดไหล่ตัวเองไว้และปล่อยโฮออกมา

          แจ๊คสันรีบก้าวเข้ามาในห้อง เขาตกใจเมื่อเห็นเพื่อนสนิทร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แจ็คสันปล่อยให้จินยองร้องไห้พักใหญ่ เขา

ได้แต่ลูบหลังลูบไหล่ปลอบใจทั้งที่ยังไม่รู้สาเหตุจนกระทั่งจินยองเริ่มควบคุมสติได้จึงเงยหน้าสบตากับแจ็คสัน


           “แจ๊ค เราทำอะไรลงไป เรื่องทั้งหมดมันไม่ใช่อย่างที่คิด”


           แจ็คสันจับไหล่ของจินยองไว้พลางเตือนสติ


           “คนเราทำผิดกันได้ อยู่ที่ว่าเราจะแก้ไขมันให้ถูกหรือเปล่า”


           แก้ไขสิ่งผิดให้เป็นสิ่งถูกงั้นหรือ

           ทั้งที่เขาทำร้ายจิตใจแจบอมตั้งหลายเรื่อง

            แจบอมอาจจะโหดร้ายในสายตาผู้อื่น แต่จินยองเชื่อว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่ทำร้ายเขา

           ผู้ชายคนนั้นจะยกโทษให้จินยองหรือไม่


           “ถ้าหากว่าเขาไม่ยกโทษให้ล่ะแจ๊ค ถ้าหากว่าเขาเกลียดเราแล้ว”


           “เราไม่เชื่อว่าเขาจะเกลียดนาย  ไม่มีทาง เขาอาจจะโกรธแต่เขาไม่ได้เกลียด ก็อยู่ที่นายแล้วล่ะ

จินยองว่าจะอดทนรอให้เขาหายโกรธได้หรือเปล่า”


            แจ็คสันยิ้มกว้างให้เพื่อนสนิท


           “ไปง้อเขานะจินยอง ไปง้อให้เขาหายโกรธ ความรักไม่ควรมีทิฐิต่อกัน เราอยากให้นายมีความสุข”


           เพราะทิฐิมานะตัวเดียวที่ทำให้เรื่องมันรุนแรงขนาดนี้ จริงอย่างที่แจ็คสันเตือนสติ จินยองตัดสินใจในทันที


           เขาจะทำให้อิมแจบอมหายโกรธให้ได้







           ไม่กี่วันหลังจากนั้นปาร์คจินยองจึงปรากฏตัวขึ้นที่ตึกใหญ่ของตระกูลอิมที่เขาเคยมาตั้งแต่วันแรก  บรรดาลูกน้องของอิมแจบอม

ต่างก็รู้ว่าเขาเป็นใคร ดังนั้นจึงไม่มีใครคิดขัดขวางเมื่อเขาแจ้งว่าต้องการพบกับคนที่ใหญ่ที่สุดในตึกหลังนี้

           จินยองก้าวเดินอย่างมั่นใจออกจากลิฟท์ชั้นเจ็ด ชั้นที่ไม่มีใครกล้าเดินหากไม่มีคำสั่ง แต่จินยองกล้า เขาเดินมาหยุดหน้าประตู

บานใหญ่และผลักเข้าไป

           อิมแจบอมนั่งอยู่บนเก้าอี้หนังตัวใหญ่หลังโต๊ะทำงานยุ่งเหยิง เขาเหลือบตามองแวบหนึ่ง จินยองอ่านได้ถึงความแปลกใจและ

ดีใจระคนกันแต่เพียงเสี้ยววินาทดวงตาคู่นั้นก็กลับไปดุและเย็นชาเช่นเดิม


           “ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่ให้ใครก็ได้มาเดินเล่น”


           ประโยคเดิมกับที่เคยพูดครั้งแรกเมื่อเจอกัน ดูเหมือนเสียงจะดุกว่าวันนั้นด้วยซ้ำแต่จินยองก็ไม่สน เขาตรงมานั่งที่เก้าอี้ตัวตรง

ข้ามกับอิมแจบอมพลางยิ้มหวานออกมา


           “ผมก็ไม่ได้มาเดินเล่น ผมมาสมัครเป็นครูไปสอนที่บ้านของคุณอิมแจบอม”


           แจบอมชะงัก เขาหรี่ตามองจินยองด้วยความสงสัย ร่างสูงทิ้งกายพิงพนักเก้าอี้พลางเอ่ยเสียงเย็น


           “ไม่จำเป็น”


           “จำเป็นสิครับ ผมได้ยินว่าที่นั่นขาดครู และผมพร้อมที่จะไปทำงานที่นั่นเต็มที่”


           “แต่คุณเป็นนักข่าว”


           “ผมลาออกแล้ว”


           จินยองยื่นใบผ่านงานวางบนโต๊ะ


           “ถ้าคุณไม่จ้างผม ผมจะต้องอดตายแน่ๆ”

       
            แจบอมรู้สึกเหมือนเจ้าของหน้าหวานกำลังเล่นตลกกับเขา คิ้วเข้มขมวดลงทันที
           

              “จะเล่นอะไรอีกปาร์คจินยอง ผมไม่มีเวลามาเป็นตัวตลกให้คุณหรอกนะ"


           จินยองกลั้นยิ้ม เขายักไหล่น้อยๆเมื่อเห็นท่าทางของแจบอม จินยองแกล้งยิ้มหวานพลางขยิบตาให้แจบอมก่อนจะพูดประโยค

ที่ทำให้อิมแจบอมถึงกับอึ้ง


            “ได้ข่าวว่าเจ้าของบ้านหลังนั้นทั้งหล่อทั้งรวยทั้งเร้าใจ ผมก็เลยจะสมัครเข้าไปเผื่อฟลุคจะได้จับเขาเป็นแฟน คุณคิดว่าผมจะมี

สิทธิ์ไหมครับ”




          TBC


ใกล้จบแล้วน้า บทหน้าแล้วมั้ง

ทำแบบสอบถามกันได้แล้วจ้า

ถ้าอยากอ่านฟิคฟินๆเรื่องนี้

http://goo.gl/forms/Vogxv3wb6J (http://goo.gl/forms/Vogxv3wb6J)


ตอบแบบสอบถามด้วยนะ!!!
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-01-2016 00:18:03
คดีพลิกซะแล้วววว
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 20-01-2016 19:42:45
ยัยลูกพีชอ่อยแรงมาก
ง่อวววววววว
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดขี้อาย ที่ 20-01-2016 19:43:59
จินยองงี่ เดินหน้าเต็มที่เลย  สู้เขานะ :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 23-01-2016 11:04:20
จะโกรธได้นานไหมหล่ะนั้น วิธีการง้อของคุณนักข่าวไม่ธรรมดาเลยสักนิด จริงๆ เรื่องในอดีตเจ็บปวดกันทุกคนนะฝั่งแจบอมเองก็โตมากับความรู้สึกที่ว่าพ่อแม่ไม่รักกันไม่ต่างจากจินยองเลย
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 24 [20 / 01 / 2016 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-01-2016 14:03:26
ขอให้จบด้วยดีค่าาาา ^^
หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 25 [25 / 01 / 2016] จบบริบูรณ์ รบกวนย้ายห้องค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-01-2016 17:24:10


                                                               เล่นกับไฟ

                                                                บทที่ 25


             “ไม่”


             เอ่ยรวบรัดสั้นๆง่ายๆ ได้ใจความจากนั้นอิมแจบอมก็ก้มหน้าอ่านเอกสารในมือหมดความสนใจ ปาร์คจินยองได้

แต่เม้มปากครุ่นคิดถึงแผนการที่ต้องทำต่อไป

            รู้อยู่แล้วว่าคนอย่างประธานตระกูลอิมต้องโกรธมากแน่ๆในสิ่งที่เขาทำลงไป เจ็บปวดที่สุดก็คือทำให้บิดาของ

เขาเสียชื่อเสียง ไม่ว่าใครก็ต้องขุ่นเคืองทั้งนั้นแม้ว่าจะรักกันแค่ไหนก็ตาม สิ่งเดียวที่ทำได้คือ จินยองจะต้องทำให้

แจบอมหายโกรธ เขาตัดสินใจลุกจากเก้าอี้และคุกเข่าลงบนพื้นห้องหน้าโต๊ะทำงานของแจบอมนั่นเอง


           “แจบอม ผมขอโทษ”


           เอ่ยออกไปด้วยความสำนึกผิด ดวงตาหวานอ้อนวอนขอให้อีกฝ่ายยกโทษให้


           “ผมรู้ตัวแล้วว่าทำผิด ยกโทษให้ผมได้ไหม”


           ไม่มีคำตอบจากร่างสูงที่วางหน้านิ่งสนิทก้มหน้าก้มตาอยู่กับกองเอกสารตรงหน้าราวกับไม่มีอีกคนที่ยังหายใจอยู่

ในห้องเดียวกัน จินยองก้มหน้านิ่งด้วยความอดทน เขารอคอยแม้ว่าเวลาจะผ่านไปด้วยความเงียบงัน ท่อนขาทั้งสองชา

จนแทบไม่รู้สึก เขาได้แต่มองเข็มนาฬิกาที่หมุนไปช้าๆราวกับจะขาดใจ

           แจบอมคงโกรธมาก แค้นมาก จินยองปวดหนึบไปทั้งร่างที่ต้องคุกเข่าอยู่บนพื้นแข็งหลายชั่วโมง เขาอดทนจน

น้ำตารื้นเมื่อในที่สุดแจบอมก็ผุดลุกขึ้นยืน


           “ลุกขึ้น”


           “ผมไม่ลุกจนกว่าคุณจะยอมรับข้อเสนอของผมวันนี้”


           จินยองเอ่ยอย่างดื้อดึงทั้งที่รู้ว่าร่างกายตนเองล้าเต็มที


           “ดื้อไม่เข้าเรื่อง ถ้านายไม่ลุกขึ้นมางั้นก็หาทางไปบ้านเองเถอะ”


           หูไม่ฝาด!

           จินยองถึงกับหงายหลังลงไปนั่งกับพื้นแข้งขาสั่นและเมื่อแจบอมก้าวเดินผ่านไปยังประตูห้อง   จินยองก็ยิ่ง

ลนลานลุกขึ้นจากพื้นทันที


           “ว่าไงปาร์คจินยอง จะไปหรือไม่ไป”
           




           ประตูรั้วตรงหน้าทำให้จินยองน้ำตาซึมเมื่อได้มาที่นี่อีกครั้ง

           ครั้งแรกเขาผ่านมันไปด้วยความมืดมน หวาดกลัว แค้นเคือง เพื่อเข้าไปสู่ไฟร้อนด้านใน

           แต่ครั้งนี้เขามาด้วยความหวังและไฟรัก จินยองหวังว่าผู้คนในบ้านจะยกโทษให้กับสิ่งที่เขาทำลงไป แม้ว่าจุดมุ่ง

หมายของเขาจะยังนั่งนิ่งรักษาท่าทีอยู่เคียงข้างกันบนเบาะรถยนต์ขณะขับไปจอดเทียบบันไดขึ้นสู่ตัวบ้านก็ตาม

           ทันทีที่รถจอดสนิทอิมแจบอมก็เปิดประตูก้าวออกไป ทิ้งให้เขายังนั่งงงอยู่ที่เดิมจนกระทั่งประตูรถฝั่งที่เขานั่งถูก

เปิดออกเพราะคนขับรถที่เป็นบอดี้การ์ดของแจบอมด้วย ลูกน้องของแจบอมยืนยิ้มและโค้งศีรษะให้เมื่อจินยองก้าวลง

จากรถ


           “ง้อท่านประธานให้ได้นะครับคุณครูปาร์ค พวกเรารอเลี้ยงฉลองอยู่”


           จินยองยิ้มเจื่อน เขาก็นึกอยากจะให้เป็นเช่นดังคำอวยพรเหมือนกัน จินยองค่อยๆก้าวเดินขึ้นบันไดทีละขั้นด้วย

ความคิดถึงจนกระทั่งมันสิ้นสุดและทางเข้าคฤหาสถ์ก็แสดงอยู่ตรงหน้า จินยองเดินเข้าไปอย่างคุ้นเคยและพบว่ามีใครอีก

คนที่เขาต้องขอโทษนั่งบนเก้าอี้รถเข็นรออยู่แล้วที่ห้องนั่งเล่น


           “แบมแบม”


           หนุ่มน้อยสบตากับเขา มันเป็นแววตาที่ทำให้จินยองนึกอายกับสิ่งที่ทำลงไป อิมแจบอมนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้

ตัวถัดไป ดวงตาดุกำลังจ้องมองในสิ่งที่จินยองกำลังทำ จินยองก้าวไปแล้วย่อตัวลงตรงหน้าแบมแบม


           “ครูขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป” จินยองถอนหายใจ


           “แม้ว่ามันเหมือนจะง่ายที่พูดคำนี้ แต่ครูอยากให้แบมแบมยกโทษให้”


           แบมแบมสบตากับจินยอง เขาเห็นความจริงใจและร่องรอยสำนึกผิดอยู่บนใบหน้าหวานจนนึกสงสาร อาจจะนึก

เคืองอยู่บ้างที่กลายเป็นเครื่องมือให้จินยองแต่เมื่อเขาคิดถึงสิ่งที่เกิดกับจินยองในวัยเด็กแล้ว ไม่แน่ว่าถ้าเป็นตัวเองแบม

แบมอาจจะทำยิ่งกว่า และที่สำคัญการหลอกลวงของจินยอง อย่างน้อยก็ทำให้เขาได้รู้จักกับแจ็คสัน

           และที่สำคัญ แบมแบมรู้ว่าพี่ชายรักคุณครูของเขาแค่ไหน


           “ผมไม่โกรธครูแล้วครับ”


           “อ้าว ง่ายๆแบบนี้เลยรึ”


           คนนั่งนิ่งถึงกับเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจเมื่อกลายเป็นว่าเห็นน้องชายตัวเองกับคนที่พากลับบ้านมาด้วยกอด

กันกลม แถมแบมแบมยังมองเขาตาขวางอีก


           “แล้วจะโกรธกันให้มันได้อะไรครับพี่ชาย แค่นี้ครูก็เสียใจมากพอแล้ว จะซ้ำเติมกันไปถึงไหน”


           “แบมแบมใจเย็นเถอะ แค่นี้ครูก็ดีใจแล้ว”


           มือเรียวลูบผมแบมแบมอย่างอ่อนโยน แบมแบมยิ้มกว้างส่งให้เขาอย่างที่เคยทำ


           “ผมเองก็ดีใจที่ครูมา โจทย์เลขข้อสุดท้ายที่ครูทิ้งไว้ ทำยังไงผมก็ยังแก้สมการไม่ได้มันคาใจผมมาก ยังไงคืนนี้

ผมต้องให้ครูสอนผมด้วยนะครับ”
           






           อิมแจบอมกำลังหงุดหงิด

           หงุดหงิดที่น้องชายตัวดียังไม่ยอมคืนตัวคุณครูคนเก่งออกมาจากห้องเสียทีทั้งที่หายไปด้วยกันตั้งแต่หลังอาหาร

มื้อค่ำแล้ว

           การที่มีคนๆนั้นมาอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันทำให้แจบอมอุ่นใจอย่างไม่เคยนึกมาก่อน ส่วนเรื่องความโกรธน่ะ

หรือ มันหายไปตั้งแต่เห็นยิ้มหวานที่จินยองส่งให้ในห้องทำงานแล้วแต่เขาก็ต้องทำเป็นไม่สนใจเเพราะไม่อยากให้คน

หน้าหวานได้ใจมากเกินไป และยิ่งต้องทำใจแข็งเมื่อแกล้งให้ร่างเพรียวนั่นคุกเข่าลงกับพื้นแข็งๆเป็นเวลานาน เขานึก

สงสารยามร่างกายนั่นสั่นเพราะความเมื่อยล้าแต่เพราะอยากจะทดสอบความอดทนของจินยองทำให้แจบอมต้องแกล้ง

ทำเมิน

           ความอดทนของจินยองทำให้เขายอมแพ้ จินยองคงจะไม่ยอมลุกจากพื้นถ้าเขาไม่เอ่ยปากอนุญาตให้กลับมาที่

บ้านนี้ได้ แจบอมรู้ว่าแบมแบมใจอ่อนหายโกรธตั้งนานแล้วเพียงแต่เขาไม่นึกว่าน้องชายจะยึดตัวจินยองไว้นานขนาดนี้

           เสียงฝีเท้าคุ้นหูดังใกล้เข้ามารวมถึงเสียงลูกบิดประตูถูกหมุนเบาๆ แจบอมชะงัก เขารีบเดินไปที่เก้าอี้ตัวเล็กแล้ว

ยุ่งอยู่กับแท็ปเล็ตแม้ว่าร่างเพรียวที่เขารอคอยจะเดินมาหยุดยืนจนมองเห็นท่อนขาอยู่ใกล้แค่เอื้อมมือคว้า


           “ดึกแล้ว คุณยังไม่เลิกยุ่งเรื่องงานอีกหรือ ผมว่าคุณน่าจะอาบน้ำและพักผ่อนได้แล้ว”


           เสียงเตือนด้วยความเป็นห่วงดังขึ้น แจบอมเหวี่ยงแท็ปเล็ตลงบนโต๊ะ เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคู่หวานจน

จินยองสะดุ้ง ข้อมือเล็กถูกกระชากให้ล้มลงมาบนตักของแจบอม เขาตรึงไหล่ของจินยองเอาไว้แล้วกระชากเสียงถาม


           “กลับมาทำไมจินยอง กลับมาปั่นหัวให้ฉันหลงนายเล่นอีกใช่ไหม”


           จินยองรีบส่ายหน้า มือเรียวยกขื้นวางแนบแก้มที่เริ่มมีไรหนวดขึ้นจางๆ ริมฝีปากสั่นระริกยามเอื้อนเอ่ยตอบ


            “ผมกลับมาเพื่อผมรักคุณ อยากอยู่ใกล้ๆคุณ และทนไม่ได้ที่คุณจะหมางเมินใส่ผม แจบอมได้โปรด...”


           น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาเปื้อนแก้มของจินยอง เขามองแจบอมด้วยประกายตาสำนึกผิดอย่างแท้จริง


           “ยกโทษให้ผม นะครับ”





มีต่ออีกนิด..........





หัวข้อ: เล่นกับไฟ บทที่ 25 [25 / 01 / 2016 ] จบบริบูรณ์ รบกวนย้ายห้องค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-01-2016 17:29:49


ต่อกันตรงนี้....




             ปลายเสียงออดอ้อน วอนขอ มันทำให้แจบอมทนไม่ได้อีกต่อไป เขาอุ้มจินยองแล้วเหวี่ยงลงบนเตียงก่อนจะ

โถมร่างลงไปนอนทาบทับ ปลายนิ้วร้อนลากไล้กรอบหน้านั้นช้าๆ


           “นายรู้ใช่ไหมว่ากำลังเล่นอยู่กับไฟ ไฟร้อนที่เผานายได้”


           ดวงตาหวานมองตอบโต้อย่างไม่หวาดหวั่น จินยองเชิดหน้าขึ้นเอ่ยอย่างมั่นใจ


           “ผมมาที่นี่เพื่อให้ไฟอย่างคุณแผดเผา”


           แจบอมคำรามลึก มือแกร่งกระชากเสื้อผ้าของจินยองขาดหลุดลุ่ยไม่มีชิ้นดี ร่วงขาวนวลนอนอวดสายตาให้เขา

ยิ่งรุ่มร้อนไปด้วยความคิดถึง แจบอมระดมจูบไปทั่วทั้งร่างกายนั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า จินยองไม่ขัดขวางซ้ำยังให้ความร่วม

มือด้วยการช่วยถอดเสื้อผ้าให้แจบอมอีกต่างหาก

           โผเข้าหากันกลางเตียงกว้างอย่างลืมตัว แจบอมบดเบียดปากลงกับริมฝีปากอิ่ม ลิ้นร้อนเบียดแทรกรอยแยกของ

ปากเข้าไปตวัดฟื้นความทรงจำอยู่ในโพรงปากหวาน จินยองเงยหน้ารับจูบเขาเองก็พลิ้นลิ้นโต้อย่างไม่หวั่นเกรง เนื้อตัว

เปล่าเปลือยบดเบียดร้อนวูบวาบปลุกเร้ากันและกันด้วยความโหยหา


           “ฉันจะไม่มีวันปล่อยนายไปอีก”


           เสียงเข้มดังลอดออกมาเมื่อแจบอมผละปากออกแต่เขาก็ทาบปากลงไปอีกคำรบ มือร้อนวางแนบบีบเค้นเนื้อนุ่ม

ไปทุกสัดส่วนจนจินยองถึงกับครางแผ่ว


           “ผมเองก็ไม่มีทางปล่อยคุณให้หลุดมือไปเด็ดขาด”


           ดวงตาหวานมองยั่วเย้าทำให้แจบอมถึงกับสติหลุด เขาจับร่างเพรียวให้หันหลังคุกเข่าสี่ขาโดยที่ตัวเองทรงตัว

อยู่เบื้องหลัง แจบอมไล่สายตาตั้งแต่ไหล่เปลือยจนมาถึงร่องกระดูกสันหลังลึกเป็นแอ่งมาจนถึงบั้นท้ายงอนยั่วตา เขา

พ่นเสียงออกมาคำหนึ่งก่อนใช้มือทั้งสองบีบเค้นลงไปบนเนื้อแน่น


           “อื้อ”


           ร่างบางสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงการทักทายบนแก้มก้น ท่อนเนื้อแข็งแกร่งฟาดลงไปทักทายดังเผียะราวกับเป็นการลง

ทัณฑ์ มือร้อนแหวกทางก้อนเนื้อให้กว้างพลางถูไถแก่นกายลงไปตามร่องลึก จินยองเม้มกลีบปากตั้งรับเมื่อปลายมนเริ่ม

เบียดแซะและผลักดันรุกล้ำเข้ามาในกายทีละน้อย


           “อึก อื้ม...”


           แจบอมโน้มตัวมากัดที่ไหล่ของเขา จินยองสะท้านเฮือกยามที่ปลายฟันและลิ้นร้อนลากไล้เสียดสีอยู่บนแผ่น

หลังขณะเบื้องล่างก็กำลังถูกเติมเต็มจนไม่เหลือช่องว่างให้ขยับ ท่อนเนื้ออัดแน่นพอดีอยู่ในช่องทางภายในร้อนรุมอึดอัด

เร่งเร้าให้แจบอมต้องดึงออกมาและดันเอวแทงลึกเข้ามาใหม่เมื่อมันช่างดึงดูดเหลือเกิน


           “ตอดดีนัก จะฆ่าผัวใช่ไหม”


           สบถออกมาเมื่อทางรักบีบเค้นหนักหน่วง แจบอมยึดเอวของจินยองไว้แน่นแล้วเดินเครื่องเต็มสูบ เสียงหายใจ

กระเส่าปะปนกับครางหวานดังมาจากจินยอง ร่างเพรียวสั่นคลอนไปทั้งตัวจนท่อนแขนเรียวแทบจะหมดแรงทรงตัว แจบ

อมต้องสอดแขนไปใต้เอวและถือโอกาสคว้าท่อนเนื้อพอดีมือที่แกว่งไกวของจินยองไปโยกรั้งเข้าจังหวะ


           “โอ๊ว....ฮัก ฮัก แจบอม อ่า ...ตรงนั้น เสียวมาก ได้โปรด...”


           หันหน้ากลับมาครวญครางวอนขอ แจบอมดึงหน้านั้นมาจูบพร้อมกับกระแทกเอวจัดหนักตามคำขอ เขารู้สึกถึง

การตอดรัดถี่เร็วมากขึ้นทุกทีจากช่องทางรัดรึง แจบอมสวนเอวดันลึกโยกรั้งไม่หยุดหย่อนจนกระทั่งจินยองสะดุ้งสุดตัว


           น้ำรักของจินยองพุ่งพรวดเต็มกำมือ ร่างกายของเขาสั่นเทิ้มไปหมด กลิ่นเหงื่อปะปนกับกลิ่นคาวอบอวลยิ่ง

กระตุ้นอารมณ์ดิบของแจบอมให้กระพือออกมา

           ดึงเอวจินยองให้ลุกจากคลานเข่ามาทรงตัวด้วยเข่าเฉกเช่นเดียวกับเขา แจบอมดันท่อนขาเรียวให้ยิ่งเปิดกว้าง

พลางซ้อนท่อนขาแข็งแกร่งเบื้องหลัง ท่อนเนื้อของเขายังทำงานได้ไม่หยุดพร้อมกับนิ้วมือที่เอื้อมมาที่แผ่นอกของจิน

ยองและบดบี้เค้นคลึงจนแดงก่ำ จินยองกัดฟันด้วยความต้องการครั้งใหม่ เขาสวนเอวตอบรับประสานกับแจบอมอย่างไม่

ย่อท้อ


            “มาสิครับ อย่าได้ยั้ง คุณแรงมาผมก็จะแรงกลับ”


           ท้าทายเสียงกระเส่าพลางรั้งสะโพกของแจบอมให้ยิ่งฝังตัวแน่นยามกระแทกเข้ามา แจบอมเงยหน้าส่งเสียง

คำรามลั่นก่อนจะซอยเอวไม่ยั้งแรงจนเตียงสั่น


           “ตอดอีก เอาอีก ดีมากจินยอง นายกำลังทำให้ฉันบ้า”


           “คุณเองก็เหมือนกัน เพราะคุณ คุณคนเดียวที่ทำให้ผมแทบคลั่ง ฮึก โอ้ จะแตก...”


           ไม่ทันตั้งตัว จินยองก็ปลดปล่อยพรวดพราดหยาดหยดเป็นสาย แจบอมโอบเอวบางไว้แน่นเมื่อเขาเด้งเอวจังหวะ

สุดท้าย และเมื่อลึกที่สุดแล้วกล้ามเนื้อของเขาก็เกร็งสุดตัวอัดผลผลิตออกมาจนเต็มช่องทาง

และล้นออกมาเมื่อเขาดึงท่อนเนื้อออกก่อนจะพากันล้มตัวลงไปบนที่นอนและแย่งกันหอบหายใจจากความสุขสม


            “นายมันบ้า”

           แจบอมบีบจมูกจินยองจนอีกฝ่ายนิ่วหน้า


           “ก็บ้าตามคุณนั่นแหละ บ้ารักคุณ”


           แจบอมซ่อนยิ้ม เขาค่อยๆพลิกกายบางให้หันเข้าหาเขาและเก็กหน้าดุ


           “ต่อไปจะดื้ออีกไหม”


            จินยองยิ้มอ่อนดวงตาเป็นประกายพร่างพราวเมื่อยกท่อนแขนโอบรอบลำคอของแจบอมไว้


             “ใครจะกล้าดื้อกับคุณชายอิม”


             แจบอมมองใบหน้านั้น ในที่สุดเขาก็หลุดยิ้มออกมา


           “นายนี่นะ”


             “นั่นแน่ะ ยิ้มแล้ว หายโกรธแล้วใช่ไหมครับ”


              จินยองยื่นนิ้วก้อยออกมาตรงหน้าแล้วคลี่ยิ้มหวานจนแจบอมตาพร่า


            “ดีกันนะ”


            แจบอมถอนหายใจเฮือกใหญ่ สุดท้ายก็ต้องยอมยกนิ้วก้อยมาเกี่ยวไว้แล้วจึงพรายยิ้มเจ้าเล่ห์


            “ความจริงนายดื้อบ่อยๆก็ดีนะ...”


             ใบหน้าหวานเอียงมองอย่างไม่เข้าใจ


            “...เพราะว่าฉันจะได้ลงโทษนายบ่อยๆแบบนี้ไงล่ะ”


               พูดจบแจบอมก็ซุกหน้าลงไปตักตวงความหวานจากร่างกายของจินยองอีกครั้ง
                       
                                                 


                                              The End




ในที่สุดก็จบแล้ว

ปลื้มปริ่ม

ถูกใจแม่ยกบีเนียร์กันบ้างไหมเนี่ย


ถ้าอยากอ่านต่อ อย่าลืมกดตอบคำถาม

การรวมเล่ม

ถ้าได้ทำเล่มนะ

ตอนพิเศษฟินๆ ทั้งบีเนียร์และแจ็คแบมรอท่านอยู่นะครัชชช

http://goo.gl/forms/dBcX1APtB6


จองฟิคกันเถอะ

หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> [25 / 01 / 2016]
เริ่มหัวข้อโดย: KaewGurlie ที่ 29-01-2016 00:01:34
กว่าจะรักกันได้แถมต่างฝ่ายต่างเจ็บปวดหายโกรธง่ายๆ ก็ดีแล้วค่ะคุณชายอิม งานนี้มีเปิดศึกแย่งคุณครูปาร์คกับน้องชายแน่นอนโชคดีแล้วที่มีแจ็คสันนะคะ ไม่งั้น 2 พี่น้องมีตีกันเบาๆ ใครๆ ก็เอาใจช่วยคุณครูปาร์ค กดจองไปแล้วนะคะลุ้นให้เกิน 20 คน
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> [25 / 01 / 2016]
เริ่มหัวข้อโดย: prajan ที่ 31-01-2016 11:06:42
 :sad4: :hao7: :oo1: ปลื้มปริ่มค่ะแอด ดีงามพระรามแปดมากกกก ถ้ารวมเล่มแล้วแอดต้องมีspecial extra เยอะๆเลยน้า กดจองรัวรัว
หัวข้อ: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam [เปิดจองฟิค 11เม.ย-11พ.ค.59]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-04-2016 19:04:04
เปิด Pre order จ้า


ไปที่แฟนเพจเลยน้า จิ้มข้างล่าง ใต้เม้นท์เลย





[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam [เปิดจองฟิค 11เม.ย-11พ.ค.59]
เริ่มหัวข้อโดย: gloyjai ที่ 16-09-2016 14:27:46
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เล่นกับไฟ บทที่ 4 #BNior [29/9/15]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 30-10-2016 14:13:01
กือรี๊ดดดดด  :z1: :z3: แจ็คแบม บีเนียร์ของพี่
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 19-08-2018 03:25:35
เรื่องนี้ไม่มาต่อแล้วเหรอคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Zhilan ที่ 19-08-2018 07:17:30
ไม่นึกว่าจะมาเจอฟิคbniorที่รังรักเก่าแห่งนี้ ฟินสุดตามมาตากเด็กดีจ้า ชอบฟิคแจบอกฮอต โหด รุนแรง แบบนี้จังอ๊าย จินยองก็แซบมากเวอร์ เข้าคู่กันสุดๆ
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 20-09-2018 13:55:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-10-2018 21:29:35
เคยตามเรืีองนี้ แต่เหมือนจะไม่ได้อ่านตอนจบไงไม่รู้ งงๆ
รอบนี้อ่านใหม่แต่ต้นจนจบ
ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Keane ที่ 25-11-2018 12:04:18
 :L2:
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-11-2018 13:32:12
มันช่างร้อนแรงงงงงง :hao7:

อยากมีตอนพิเศษ

หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 29-11-2018 23:31:40
 :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-03-2022 22:36:23
กลับมาอ่านอีกรอบ ^^
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 11-04-2022 19:44:24
เรื่องนี้เห็นผ่านตาบ่อยมาก
แต่ไม่คิดจะอ่านเพราะเห็นเป็น  Fic
แต่สรุปพอเข้ามาอ่านแล้วติดงอมเลยจ้า
อ่านแล้ววางไม่ลง สนุกมาก
หัวข้อ: Re: <<เล่นกับไฟ>> Fic Got7 #BNior #JackBam
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 24-08-2023 22:54:22
ขอบคุณค่ะ