ข้อตกลงเล้าเป็ด และก่อนโพสนิยาย กรุณาอ่านและปฎิบัติตามนะครับ
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
นิ ย า ย เ รื่ อ ง อื่ น
[เรื่องสั้น] BITE (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57436.0)
[เรื่องสั้น] แฟนดีดี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57121.0)
☆•.:*´¨ ก ร ะ ท ง วิ ศ ว ะ ¨`*:•.☆ (http://i65.tinypic.com/2uzta35.jpg)
เป็นเรื่องสั้นที่มีหลายภาค จะพยายามเขียนออกมาให้อ่านอีกนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ♥
ภาค ฤดูหนาว (จบ)
#1 RE.51 #2 RE.66 #3 RE.88
(http://i65.tinypic.com/2uzta35.jpg)
กระทงวิศวะ "ฤดูหนาว"
#1
12 ธันวาคม
"เฮียจูนเร็วๆ เพื่อนโทรมาหลายรอบแล้วนะ" น้องสาวคนเดียวยืนเท้ากรอบประตูห้องน้ำตั้งท่าเตรียมบ่นผมเต็มที่ ผมพยักหน้าหงึกเปิดสวิตซ์ยัดแปรงสีฟันใส่ปาก
พ่อบอกว่าน้องก็เหมือนแม่คนที่สอง อย่าหือให้อือๆออๆอย่างเดียวพอ
ตอนนี้วงจรชีวิตนักศึกษาปี3 อย่างผมกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วครับ ปิดเทอมแล้วเลยกลับมาอยู่บ้าน แต่นอนสบายได้ไม่ถึงอาทิตย์ ก็มีงานให้ต้องทำอีกแล้ว
งานออกค่าย ช่วยน้องซ่อมโรงเรียน
ค่ายวิศวะสถาปัตย์อาสา ปีที่ 11 ที่ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าไปลงชื่อเข้าด้วยตอนไหน แถมมีใบขออนุญาตผู้ปกครองใส่ในกระเป๋าเป้ให้ผมเรียบร้อยอีก แต่ก็นั่นแหละ มันคือวันนี้
"ล้างหน้าเสร็จรีบอาบน้ำเลย เดี๋ยวแจนจัดกระเป๋าให้"
"เฮียเอาเป้เดินทางไปละกัน แบบเคสไม่เหมาะจะไปบุกป่าฝ่าดงเท่าไหร่"
อยากจะบอกน้องว่า จริงๆเฮียไปโรงเรียนตระเวนชายแดน มันไม่ได้ระเบิดเขา เผากระท่อมอะไรขนาดนั้น แต่นี่แจนนะ อย่าหือกับแจน
"เสื้อผ้าเอาไปเก้าชุด จะได้ไม่ต้องใส่ซ้ำ เอาเสื้อยืดไปเยอะๆเลย เวลาเหงื่อออกจะได้มาเอาเปลี่ยนนะ"
"เสื้อหนาวไว้ใส่ตอนกลางคืน แล้วเกงยีนส์เฮียห้ามไปให้ใครยืมใส่อีกล่ะ น่าเกลียด ทำไมมีแต่ตัวตูดขาดเนี่ย กางเกงตัวเองก็ตั้งแพง ไม่รู้จักดูแลของเลย..."
อันนี้ไม่รู้ว่าน้องรู้ได้ยังไงว่าเพื่อนเอากางเกงผมไปใส่ จริงๆเพื่อนมันไม่ได้ยืมหรอก มันเอาไปใส่เลยต่างหาก แล้วเพื่อนนี่คือเพื่อนผู้หญิงนะครับ เอ่อ มันใส่กางเกงไซส์ผู้ชายได้ยังไงวะ สงสัย
แต่งตัวออกมาจากห้องน้ำ แจนกับกระเป๋าผมก็หายไปแล้ว เสียงเครื่องยนต์บ่งบอกว่า น้องไปสตาร์ทรถรอผมเรียบร้อย
"ถ้าตกรถนะ เค้าบอกรวมตัวหกโมงเช้า นี่จะหกโมงครึ่งละเฮียยังเมาขี้ตาอยู่เลย ช้าขนาดนี้ใครเขาจะมามัวรอตัวอยู่คนเดียว"
น้องบ่นไปก็ช่วยเอามือไถหัวผมให้เข้าที่เข้าทางด้วย ผมไว้ผมยาวเกือบเท่าบ่าแหนะ จริงๆคือไม่มีเวลาไปตัด แล้วไปไปมามามันสะดวกเวลานั่งทำนู่นทำนี่แล้วรำคาญก็จับรวบซะ ไม่ได้เป็นคนผมตรงมาก แต่ก็ไม่ถึงกับหยิก เอาเป็นว่ามันเส้นเล็กเลยไม่ได้มีน้ำหนักพอจะให้ยาวสลวย
"ตกรถก็ดีดิ เฮียจะได้ไม่ต้องไป"
"ยัง ยังไม่สำนึก"
ฮือ ขอโทษครับ
ผมนั่งหน้าอึนอยู่เบาะข้างคนขับน้องก็บ่นๆไปตามประสา ผมนั้นเถียงคนไม่เก่งเอาเลยจึงได้แต่เงียบ ใบขออนุญาตผู้ปกครองของผมน้องก็เป็นคนเซ็นให้ครับเพราะแม่กับพ่อผมไปเยี่ยมอาม่าที่ภูเก็ต ค่ำๆนู่นแหละถึงจะกลับ
เห็นขี้บ่นแบบนี้จริงๆแล้วแจนเพิ่งอายุสิบเจ็ดเอง ยังเรียนมัธยมอยู่ แต่แม่ชอบด่าผมว่านิสัยความคิดความอ่านของน้องนั้นโตมากกว่าผมที่อายุยี่สิบปีซะอีก
โอ้ เป็นคำพูดที่เจ็บปวดดีนะครับ
พอจะเข้าใจที่มาของชื่ออันติ๋มของผมหรือยัง
ผมเกิดเดือน มิถุนายน
น้องเกิดเดือน มกราคม
เรามาถึงมหาวิทยาลัยในเวลา 6 โมง 57 นาที โดยฝีมือการขับรถของน้องที่เหี้ยมากๆ ผมกำลังสะลึมสะลืออยู่คือหายง่วงเป็นปลิดทิ้งเลย ตอนน้องหวิดจะไปจิ้มเอาตูดรถลัมโบกินีคันข้างหน้าตรงสี่แยกเมื่อกี้ให้ได้ ปากก็สบถมาตลอดทางว่าเขาขับกวนตีน
หัวใจจะวาย
รถบัสมหาลัยสีเขียว 2คัน จอดต่อกันอยู่หน้าตึกอธิการบดี คนมากันเยอะคึกคักแล้วครับมีพวกสันทนาการทั้ง2คณะกำลังเต้นแร้งเต้นกากันอย่างสนุกสนานเมามันส์ ชาวค่ายเกือบเจ็ดสิบชีวิตกำลังขนของขึ้นรถกันอยู่ เฉลี่ยจำนวนแล้วมีหญิงชายครึ่งต่อครึ่งได้เลย ตอนแรกผม (ที่ไม่เคยออกค่ายเลย) คิดว่ากิจกรรมแบบนี้จะมีแต่พวกผู้ชายกับผู้หญิงถึกๆแบบเพื่อนสาขาผมมาซะอีก
มีผู้หญิงมาเยอะๆก็ดี บรรยากาศจะได้สดใสไม่ป่าเถื่อน
โดนน้องสาวไล่ลงจากรถเสร็จก็เดินหิ้วกระเป๋าหมอนผ้าห่มแบกกระเป๋าเป้เข้าไปหาพวกมันหลังแทบหัก น้องแจนมันยัดตู้เย็นมาให้ผมด้วยหรือเปล่าวะ
เพื่อนผมหาไม่ยาก เพราะมีอยู่2คน และมันมักจะอยู่ที่ที่เป็นจุดสนใจของผู้คนเสมอ เช่น ตรงไหนที่เสียงดังเอ็ดตะโรที่สุด เป็นต้น
เคยมีเพื่อนเป็นคนโรคจิตมั้ยครับ มันจะชอบแหย่ให้ได้อายตลอด
"เฮ้ย นะนะนั่น จูนจูนมาหว่ะ"
"ไม่เจอกันสี่ห้าวัน น่ารักขึ้นน้าเนี่ยยยย"
“ขาน้องขาวกระชากใจพี่มากเลยครับ”
"ฮิ้ววววว"
พ่อง
ข้างๆที่เพื่อนผมยืนอยู่คือแก๊งไอ้อ๋าเพื่อนสาขาเดียวกัน มันเป็นสันทนาการคณะ กลุ่มมันเลยมีกลองสองใบประจำกลุ่มด้วย พอผมเดินเข้าไปในคลองสายตาพวกมันก็ตีกลองโห่ใส่ คนแถวนั้นหันมามองกันเต็มจนผมอยากไถหน้าไปกับพื้น
เท่านั้นไม่พอยังโดนเพื่อนในกลุ่มเหยียบซ้ำอีก
"มาสักที เค้ารอมึงอยู่คนเดียวเลยไอ้จูน ตามตัวยากกว่านายกสโมฯอีกนะมึงเนี่ย"
มีการจิกกัดพาดพิง และคำผรุสวาท ไร้ความรับผิดชอบ นิสัยไม่ดี และอีกมากมายตามมาเป็นขบวนจนผมต้องยกมือไหว้
"เพื่อน กูผิดไปแล้ว เลิกด่ากูเถอะ"
พวกมันสองคนหัวเราะก๊ากเลยครับที่ทำให้ผมรู้สึกผิดได้ พวกนี้แม่งชอบรุมผม
เอาของไปใส่ท้องรถและยืนคุยเล่นกันสักพักก็ได้เวลาอาจารย์ที่ปรึกษากล่าวเปิดค่าย ประธานค่ายชี้แจงรายละเอียดการเดินทาง แบ่งว่าใครขึ้นรถคันไหน แจกป้ายชื่อ
พวกผมได้นั่งรถคันที่ 2 เพราะลงชื่อเป็นกลุ่มท้ายๆ (ความผิดผมเอง เพราะผมมาสายไง) ก็ขึ้นไปเลือกหาที่นั่งกันตามสบายเลยครับ รถว่างมากเพราะเป็นรถพัดลมแถมรถเก่าหน่อย คนเค้าไม่ค่อยอยากนั่ง ก็เลยไปออกันอยู่คันหน้าแทน
ฝ้ายมันนั่งยิ้มเหมือนได้รับมงกุฎและสายสะพายเพราะมันไปเค้นเอากับคนเขียนชื่อ สรุปเค้าเขียนป้ายชื่อว่า 'ดาวิกา' ให้มันสมใจ
ส่วนไอ้ปิ๊ก ไอ้ปิ๊กมันเป็นขวัญใจน้องผู้ชายคนรับลงทะเบียนครับ น้องเค้าเขียนชื่อให้มันว่า 'พี่ปิ๊ก ของน้องวิว' มันยืนหน้าซีดเหงื่อซึมใหญ่เลย ก็น้องเขาพยายามลูบไล้มันหน่ะ ฮ่าๆ
"กูหิวข้าวว่ะ มีไรให้กินมั้ย"
"แดกแซนวิชไข่มั้ยอ่ะ แฟนคลับกูเอามาให้เมื่อกี้ แต่มันดูแห้งๆไงไม่รู้ สยองขวัญ" ไอ้ปิ๊กยื่นแซนวิชในห่อพลาสติกมาให้ผมจากเบาะหน้า น้องวิวไงครับ ตามเทคแคร์มันเหมือนปรสิตเพื่อนรักเขมือบโลก
ผมส่ายหัว
"มีอย่างอื่นป่ะ"
"ไปถามพวกไอ้อ๋าข้างหน้ารถไป กูเห็นมันมีกล่องข้าวเหนียวมาด้วย กินได้มั้ยอ่ะมึง ข้าวเหนียวรู้จักเปล่า" มันทำท่าหนักใจกับผมเอามากๆ
แต่โทษนะ ในโลกนี้มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักข้าวเหนียวบ้างวะ
"อ๋าๆ จูนมันหิวข้าว หาข้าวให้มันแดกมั่งดิ"
สรุปในสายตามึงกูเป็นหมาหรือตัวอะไร ฝ้ายตอบกูสิ ฮื้ออออ
ได้ของประทังชีวิตแล้วครับ ก็ข้าวเหนียวธรรมดาเนี่ยแหละ แต่ยังร้อน หอม และนุ่ม ได้ความว่าพวกมันไปเหมาร้านเค้ามาทั้งกระติกน้ำเลย (พยายามนึกภาพตามนะครับ ร้านหมูปิ้งเค้าจะมีกระติกวางอยู่ ไม่ใช่กระติกใส่น้ำ แต่ข้างในเป็นข้าวเหนียว) ก็ตั้งวงจกอยู่ตรงเบาะที่มันนั่งกันเลย มีหมูปิ้ง มีไก่ย่างห้าดาวด้วย 2ตัว ขอบคุณที่มันยังเกรงใจไม่ซื้อส้มตำ ยำหน่อไม้มาด้วย และดีหน่อยที่รถเป็นพัดลม สามารถเปิดกระจกไล่กลิ่นได้
นั่งไปก็เพลินดี พวกกลุ่มนี้มันชอบเล่าเรื่องตลกแล้วหัวเราะกันเหมือนเมาดิบอ่ะ ตาที่เยิ้มแดงเพราะอดนอนช่วงไฟนอลโปรเจ็คตอนนี้ดูเหมือนเมาสารเคมีธรรมชาติอะไรสักอย่าง
ข้าวอบกัญชามั้ยเนี่ยมึง
"เอ้าจูน กูให้ปีกไก่ของดี"
"หื่อ กูไม่กินหว่ะ"
"กินไปเถอะ ตัวมึงแห้งเท่านี้ มะ กินไปๆ แม่ไม่รู้หรอก"
ผมยิ้มแหยให้ไอ้ปามเพื่อนสาขาอื่นที่อยู่แก๊งเดียวกับไอ้หมาอ๋า สื่อสัญลักษณ์แทนความหมายว่าอย่าคะยั้นคะยอเลยกูแดกไม่ได้จริงๆ
บ้านผมเป็นมังสวิรัติ กินปลากินไข่ไม่กินเนื้อ ก็จะมีของที่กินได้อยู่ไม่กี่อย่าง แต่เพราะเกิดมาก็กินแบบนี้แล้วมันเลยไม่รู้สึกอะไรเวลาเห็นคนอื่นกินพวกหมูหรือเนื้อครับ เหมือนกับว่าเราไม่เคยกินมันเลยไม่มีความรู้สึกโหยหารสชาติ
"โถถถ เด็กน้อยจริงๆ กินแต่ข้าวเปล่านี่มึงอร่อยมากมั้ย"
หลอกเช็ดมือกับหัวกูอีกเปล่าวะ
ปึ่ก!
ผมเบี่ยงหัวหลบมือไอ้ปาม กลายเป็นว่าไปชนกับใครไม่รู้ด้านหลัง
"อ ..อ้าว"
"ขอโทษครับ ขอเข้าไปข้างในหน่อย"
เป็นเสียงโมโนโทนของไอ้เด็กออร่า ที่เห็นหน้าแค่ครั้งเดียวก็จำได้ เจ้าของกระทงดอกแก้วเมื่อเดือนที่แล้วยังไงล่ะ เจ้าตัวยืนนิ่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างหลังผม
ผมขยับหลบให้ตามคำ อีกคนทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่ผมแล้วแทรกตัวผ่านไป ผมก็เดินตามเพื่อจะกลับที่นั่งตัวเอง เด็กนิ่วหน้า แล้วหันกลับมามองผมอีกครั้ง
“พี่จูนจะไม่ทักกันสักนิดหนึ่งจริงๆเหรอ”
เอ้า ก็กูนึกว่าคุณมึงรีบ
“ไง นึกว่ารีบ”
เด็กกระพริบตาช้าๆมองหน้าผม “ไง ไงแค่เนี้ย คนรอมาทั้งเดือน”
“ผมแค่หงุ-ไม่สิ อิจฉ- ผม เอาเถอะ”
ไอ้น้องรวยดูสับสนในตัวเองยังไงไม่รู้ สักพักก็ยืนถุงพลาสติกมาให้ ผมรับถุงมาแหวกดู หน้ากล่องเขียนว่าขนมจีบสูตรเจ ชิ้นใหญ่หน้าตาโคตรน่ากิน
“ผมซื้อมาฝาก คิดว่าพี่กำลังหิว”
“ขนมจีบ?”
“ใช่ ผมจีบ” / "พี่จูนนนนนน หวัดดีค่า พี่ๆสวัสดีค่ะ แหม โชคดีจัง"
น้องกิ๊ฟผมหน้าม้าสีทองคนเดิม เพิ่มเติมคือแฟชั่นการแต่งตัวแฟนซียากจะเข้าใจหอบเป้ขึ้นรถตามมา ข้างหลังก็เป็นพวกเพื่อนๆเขาหล่ะ น้องวิ่งตรงเข้ามาจับมือผมเขย่า สกินชิพตลอด
“บังเอิญกว่าที่ตั้งใจไว้อีกนะเนี่ย ไม่คิดว่าพี่จูนจะมาจริงๆด้วย” ตกลงมันคือบังเอิญหรือตั้งใจ หรือพี่งง ผมหัวเราะแห้งๆตอบน้อง
"ฮ่าๆ มาสิ แล้ว มาค่ายอาสาแบบนี้เหมือนกันเหรอเรา"
"ค่ะ หนูตั้งความหวังจากค่ายนี้ไว้มาก อ้อ ได้ชั่วโมงกิจกรรมตั้ง 5ชั่วโมง และ อ้อ มัน มีคนงอแงอยากมาใจจะขาดเลยต้องมาเป็นเพื่อนมัน แล้วนี่พี่จูนอยู่ฝ่ายไหนหรอจ้ะ"
“งานตอกๆเลื่อยๆพวกนั้นอ่ะครับ”
"วู้ว เท่จังเลย พวกหนูอยู่ฝ่ายครัวนะคะ พี่อยากกินอะไรเป็นพิเศษบอกพวกหนูได้เลยนะคะ ทำได้อร่อยเด็ดทุกอย่างรับรอง..."
พวกเพื่อนน้องคนอื่นก็บอกอย่าไปเชื่อมัน เปิดเตาแก๊สยังไม่เป็นเลย เตรียมยาแก้ท้องเสียมาด้วยหรือยัง อะไรประมาณนี้อ่ะครับ
คุยกันเพลินจนลืม คนขับรถมาเราเลยเดินกลับไปนั่งที่ใครที่มัน เตรียมออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน
ครับ
ฟังไม่ผิด
มุ่งหน้าสู่จังหวัดน่าน จังหวัดเกือบเหนือสุดของประเทศไทย ก็แปลกใจว่าอยู่ว่าทำไมจะต้องหอบสังขารไปกันไกลอะไรขนาดนั้น โรงเรียนที่ขาดแคลนใกล้ๆไม่มีเหรอ
"มึง หนุ่มข้างหลังนวลมากเลยอ้ะ"
"หือ ตื่นอยู่เหรอ แล้วหลับตาทำไม"
"กูแกล้งหลับจา มีเพื่อนโง่มากๆฝ้ายก็เพลียนะ" โดนมันด่าอีกแล้ว "มึงหันไปดูดิ เบาะหลังฝั่งเราเลย ถัดไปสามที่นั่ง หล่อออร่าอะไรขนาดนั้นอ่ะคนหรือเทวดา เราสัมผัสกันได้ไหม"
มันว่าแถมเอามือผมไปจับแล้วถูๆเหมือนจินตนาการว่านี่คือมือของน้องที่ว่า
“อ้าว หนมจีบคุณช้อนไฮโซววว มึงไปเอามาจากไหน”
ผมก้มมองถุงขนมจีบในมือ
เออ เมื่อกี้ผมลืมไปว่ากำลังคุยกับเด็กรวยอยู่นี่นา
ผมลุกขึ้นจากเบาะหันไปมองที่นั่งด้านหลัง คนที่มองหานั้นนั่งอยู่ตรงจุดที่ฝ้ายบอกอย่างไม่ต้องสงสัย เด็กกำลังนั่งมือหนึ่งกอดอกอีกมือหนึ่งเล่นมือถืออยู่ สักพักเงยหน้าขึ้นมาเจอผมมองอยู่พอดี
“ขอบคุณนะเว้ย” ผู้ยิ้มชูถุงขนมให้อีกฝ่าย
น้องมองผมนิ่ง ถอนหายใจแล้วหันหน้าหนีไปเลย
...
หา ?
ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ...
tbc.
#3
‘เมื่อกี้ผมบอกว่า ผม ชอบพี่จูน ถ้ายังไม่มีแฟนขอจีบนะครับ’
‘แก้มแดงๆนี่คือตกลงหรือเขิน’
‘ไม่ให้จีบ’
‘ไม่เอา คิดก่อน คิดใหม่ พี่จะปฏิเสธทั้งที่หน้าแดงขนาดนี้ไม่ได้ดิ’
มันคืออะไรหือ มันคือการถามความสมัครใจกูจริงไหมเนี่ยไอ้เด็ก
‘บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ดิ ชอบผู้หญิง เข้าใจไหมเนี่ย’
‘พี่คิดยัง?’ มันเลิกคิ้วใส่เว้ย!
‘นายเป็นเกย์หรือไงวะ มาขอจีบผู้ชายด้วยกันอยู่ได้’
‘ทำไมอ่ะ ผมแค่ชอบพี่เอง’
‘แต่พี่เป็นผู้ชายโว้ย ไม่ได้หรอก พี่มีไข่เข้าใจไหม’
‘เดี๋ยว พี่จูน ฮ่า พี่ พี่ทำหน้านิ่งแล้วพูดคำว่าไข่ออกมาแบบนี้ไม่ได้ดิ’
ผมถลึงตามองคนที่ขำจนตัวงอ เด็กกลั้นหัวเราะสูดหายใจเข้าเสียงดัง
‘ขอจีบนิดเดียวเอง หึ มีไข่ก็ไม่เป็นไร ผมก็มี’
‘นะครับ’
‘สัญญาว่าผมจะไม่ทำอะไรให้พี่ลำบากใจ ไว้ถ้าไม่ชอบพี่ค่อยบอกผมตอนไหนก็ได้’
‘พี่ไม่ต้องทำอะไรลำบากเลย ผมจีบพี่เดี๋ยวผมทำเอง’
‘นะ ได้ไหม’
‘นิ่งไม่ตอบแบบนี้ผมแปลว่าตกลงนะ’
ด้วยความตกใจผมเลยโพล่งประโยคหนึ่งออกไปอย่างไม่ทันคิดว่าเอากลับคืนมาไม่ได้แล้ว
‘เฮ้ย! จีบไม่ติดอย่ามาโทษนะเว้ย’
‘อ่าครับ’
‘พี่จูนไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก เชื่อผมมั้ย’
วินาทีนั้นที่รอยยิ้มกว้างทั้งตาทั้งปากฉายขึ้นบนใบหน้าเหมือนไร้เดียงสา ในหัวผมมีแต่คำว่า ซวย ซวย ซวย
เมื่อกี้ที่พูดคือมันหมายความได้ว่าผมตกลงให้มันจีบชัดๆ
… จูนมึงตาย มึงกากมาก
หลังจากทุกคนได้กินข้าวเย็นกันอย่างเอร็ดอร่อยเย็นย่ำค่ำแล้วก็ได้เวลาส่วนตัวสำหรับอาบน้ำพักผ่อนของวันสักที
ผมบิดตัวด้วยความเมื่อยขบระหว่างนั่งรอพวกผู้หญิงกลับมาจากลำธารต้นน้ำอยู่ในเต็นท์นอน
อากาศตอนนี้เย็นกำลังได้ที่ เอาโทรศัพท์มาเช็คอุณหภูมิก็ไม่ได้ ลำพังสัญญาณโทรศัพท์ยังติดๆดับๆ
สัญญาณอินเตอร์เน็ตอย่าพูดถึง ให้ผมประมาณคงสัก สิบหกสิบเจ็ดองศานี่แหละ
เหตุผลที่ต้องพากันไปอาบน้ำที่คลองต้นน้ำก็เพราะท่อน้ำใช้ในโรงเรียนมันดันมาแตกเอาตอนเย็นที่จะอาบน้ำกัน
ทั้งครูที่โรงเรียนทุกคนก็ต้องไปอาบน้ำที่นั่นกันหมด จะแบกน้ำมาใส่ห้องน้ำก็ไม่ไหวเพราะห้องน้ำเป็นพื้นที่เนิน
และไกลจากลำคลองมากพอสมควร เลยต้องไปพึ่งเอาแหล่งน้ำธรรมชาติแทน
โดยพวกเรามีการจัดการให้พวกผู้หญิงส่วนหนึ่งทยอยไปอาบก่อนเป็นกลุ่มๆ แล้วพวกผู้ชายรอไปอาบรอบหลัง
แน่นอนว่ามันมีบางคนที่พอพลบค่ำอากาศเย็นก็ทำท่าจะลักไก่ไม่อาบน้ำ อย่างเช่นไอ้ปิ๊กเป็นต้น
ผมซึ่งปวดเมื่อยไปทั้งตัวนอนพะงาบๆเหมือนปลาตีนขาดโคลนอยู่ในเต็นท์
“ปิ๊ก ถ้าไปอาบน้ำปลุกด้วยนะ”
“เออ นอนไป ให้จูบขมับไหม”
“ขมับพ่อง” ผมถีบเพื่อนตัวโย่งไปที อีกคนหัวเราะร่วนด้วยความสนุกมากที่ได้แกล้ง
เป็นซาดิสม์ยังไงก็ไม่รู้นะเพื่อนผมเนี่ย
‘พี่จูนไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก เชื่อผมมั้ย’
เชื่อผมมั้ย
เชื่อผม
เชื่อ
ไม่ กูไม่เชื่อโว้ยยยย!
ว่าก็ว่าเถอะ ตอนนั้นผมเขินทำไมไม่เข้าใจตัวเองเลย ปากมีทำไมไม่ปฏิเสธมันไป
ปล่อยให้อีกคนพูดเองเออเองจนกลายเป็นแบบนั้นไปได้
ทำไมต้องหน้าร้อน
ไอ้จูนมึง... โอ้ย หงุดหงิดดดด
“มึงเป็นอะไร ปวดเยี่ยวก็ไปเยี่ยวดิ บิดไปบิดมาอยู่ได้”
ไอ้ปิ๊กที่นอนเล่นเกมส์ในพีเอสพีอยู่ข้างๆเอาเท้าใหญ่เท่าใบพายของมันเขี่ยผม
“ไม่ได้ปวด ไม่ได้เป็นไร มึงเบาเสียงเกมดิ๊ กูรำคาญ จะนอน”
“อ่า โอเคๆ กินปลาทูแล้วดุเว้ย”
ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน มาสะดุ้งตัวตื่นอีกทีก็ตอนที่ข้างนอกแดดร่มแล้ว
แสงสีส้มสะหลัวจากภายนอกส่องเข้ามาเห็นเงาตะคุ่มๆจากข้างนอกเต็นท์
ผมกระวีกระวาดควานโทรศัพท์มากดดูนาฬิกาเพิ่งจะ6โมงเย็นกับอีก2นาทีก็โล่งใจ
ส่วนไอ้ปิ๊กนั้นอันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วพร้อมกองหมอนและผ้าห่มของมัน
“จูน...”
“จูน”
ตอนแรกผมนึกว่าหูแว่ว พอลองฟังดีๆกลายเป็นเสียงกระซิบแหบพร่ามาจากเงาหน้าเต็นท์
เสียงโรคจิตแม้ไม่ได้เห็นตัวก็รู้ว่าเป็นใคร
“ไอ้จูน...”
“มีไร”
“มึงหลับหรือตาย กูเรียกตั้งนาน” ดูคำพูดคำจาฝ้ายดิ
“นี่มันเต็นท์ผู้ชายมาทำอะไรแถวนี้”
“เพราะเต็นท์ผู้ชายนี่แหละกูถึงมา จูนมึงเอายากันยุงมาไหม เอามายืมบ้าง”
“ไอ้ปิ๊กมันหายไปไหนก็ไม่รู้”
“กูรู้ มันเล่นไพ่อยู่เต็นท์พวกไอ้อ๋านู่น มึงจะออกมาได้ยัง”
“แป้ปนะ”
“งุ่มง่ามอยู่ได้ เร็วๆ”
ผมรีบคว้าขันสบู่แปรงสีฟันมาถือไว้แล้วรีบรูดซิปเต็นท์ออกทันทีไม่ให้โดนด่าเป็นครั้งที่สอง
“แก้ผ้าทำไมเนี่ย แล้วไปเอาผ้าขาวม้ามาจากไหน มึงนี่ดูกลมกลืนกับอะไรแบบนี้ดีเนอะ”
ฝ้ายรับชวดสเปรย์ฉีดกันยุงไปฉีดเจื้อยแจ้วถามผมง
ก่อนที่ใครจะเข้าใจผิดว่าผมมาทำอนาจารกลางป่ากลางเขา
ตอนนี้ผมใส่เสื้อกล้ามตราห่านตัวที่ใช้ใส่ซับใน กับท่อนล่างนุ่งผ้าขาวม้าของพ่อ
ที่แจนใส่กระเป๋ามาให้เหมือนมีญาณทิพย์ว่าจะต้องได้ใช้ปกปิดมิดชิดพอสมควร
ไม่ได้โป๊เปลือยแบบที่ฝ้ายมันกล่าวแต่ประการใด
“เดี๋ยวจะไปอาบน้ำยังไม่ได้อาบน้ำเลย”
คนฟังทำตามองบนใส่ผม “ไอ้เอ๋อฟ้าจะมืดแล้วอาบตอนนี้ไข่แข็งพอดี”
“เอ้า เขิน พูดแค่นี้ก็เขิน ทำมะๆ เซนซิทีฟกับ ไข่ เหรอมึง”
ฝ้ายแม่งงงง
“อ้ะ ขอบใจมาก กูไปละ นัดไปเม้าท์มอยหอยสังข์กับพวกอิจ๋า เดี๋ยวมันจะรอ”
พอได้สมใจเค้าก็วิ่งจู้ดไปเลย
ผมรวบผ้าขนหนูกับขันใส่อุปกรณ์อาบน้ำเดินออกมาจากโซนกางเต็นท์ตามทางเดินจากดินเส้นแคบๆไปที่ลำคลอง
“พี่จูน! อาบน้ำหรอพี่ ป่ะ อาบพร้อมกันๆ” กลุ่มเด็กปีสองน้องในภาคกวักมือเรียกผมเลยเดินไปพร้อมกับพวกมัน
“ทำไมมาอาบตอนนี้อ่ะ”
“หลับเพลิน พี่ล่ะ”
“พอกัน”
“ว้าย ผู้ชายแก้ผ้า อูยย ขาวๆๆ” ผู้หญิงกลุ่มใหญ่ที่กำลังตากผ้าอยู่ชี้ชวนกันมองมาทางพวกเรา
เล่นเอาผมรีบก้มหน้างุดเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งเร็วๆแทน แว่วเสียงหัวเราะคิกคักมาตามลมฟังดูสะท้านหัวใจยิ่งนัก
“ผู้หญิงสมัยนี้แม่งน่ากลัว”
เออ พี่เห็นด้วยกับเอ็ง
คลองที่ผมว่านั่นเรียกว่าลำธารธรรมชาติดูจะเข้ากับสภาพจริงมากกว่า
มีสะพานทอดยาวเป็นทางเดินทำจากไม้ไผ่ส่งเสียงแกรกกรากเหมือนจะหักอยู่ใต้ฝ่าเท้า
น้ำใสแจ๋วมีปลาตัวเล็กๆว่ายวนอยู่บนผิวน้ำ
ต้นไม้รายรอบทำให้ทั้งบริเวณดูร่มรื่นเหมือนฉากในหนังระเบิดภูเขาเผากระท่อมของคุณฉลองที่เคยดูสมัยตอนเด็ก
ตื่นเต้นดีว่าอาบๆน้ำอยู่จะมีเสือหรือตัวอะไรโผล่มางาบมั้ย
ผมนั่งลงลองเอาเท้าแหย่ๆน้ำดูขนงี้ลุกซู่ขึ้นมาเลยจะบอกก็ไม่ทัน
ไอ้พวกน้องสามสี่คนที่มาด้วยกันกระโดดตู้มลงไปนู่นแล้วง
“กรี๊ดดดด เย็นไข่สัด” เด็กผู้ชาย เอ่อ กรี๊ด?
“ไอ้วินรับไปคลื่นกัมปนาท ย้ากก”
“ไอ้ห่าน้ำเข้าจมูก จะเล่นใช่ไหมมึง ได้ไอ้สัดได้”
“กรี๊ดดด”
ผมมองไอ้พวกน้องปี2โตแต่ตัวเล่นกดหัวกันลงน้ำอย่าสนุกสนานเหมือนเด็กๆอย่างปลงๆ
เมื่อพอใจแล้วก็วางขันใส่บรรดาอุปกรณ์ในการอาบน้ำลงบนขอบสะพาน
หย่อนขาลงนั่งเท้าแช่น้ำ เพื่อให้ร่างกายปรับอุณหภูมิ เอาขันจ้วงตักน้ำขึ้นมาล้างหน้าล้างตา
บีบโฟมยี่ห้อภาษาญี่ปุ่นที่แจนเตรียมให้ใส่มือแล้วเอามือถูๆจนเป็นฟองแล้วโปะเข้าที่หน้า
ขัดๆถูๆให้สะอาด พอขัดถูหน้าจนพอใจคิดว่าสะอาดดีแล้วก็วักน้ำขึ้นมาล้างหน้า
ขั้นตอนนี้ควรจะหลับตาไว้ถ้าไม่อยากได้แสบ
เสร็จแล้วก็ไถตัวลงน้ำ ความลึกระดับเลยอกขึ้นมานิดหน่อย
ตักน้ำรดศีรษะแล้วชะโลมแชมพูขวดสีชมพูกลิ่นน่ากินที่แจนก็เป็นคนเลือกให้อีก คนให้ทั่วศีรษะแล้วขยี้เบาๆ
อา ผมชอบเวลานี้จัง
เหมือนความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าที่ผจญมาทั้งวันค่อยถูกชำระออกไปทีละนิด
วันนี้ผมทำอะไรบ้างนะ นั่งรถกระบะบนทางวิบากเข้าไปเอาไม้ในเมือง ยกเสา แบกถังสี แบกไม้ เลื่อยไม้ตอกไม้
ทำแทบจะทุกอย่างที่มนุษย์ผู้ชายสามารถทำได้ กล้ามเนื้อตรงบ่างี้ตึงไปหมดเลย
“จูนจูน ติดต่อญาณแม่อีกแล้ว”
ผมลืมตาหันขวับทันที
น้องรวยมันนั่งตาแป๋วบนสะพานข้างผมตั้งแต่เมื่อไหร่ คนหรือผีวะเนี่ย อยู่ดีๆโผล่มาเงียบแบบนี้ได้เหรอ
“มาตั้งแต่ตอนไหนวะเนี่ย!”
ผมกวาดมองท่าทางผมเปียกหมาดๆ
ไม่มีผ้าขนหนูหรืออุปกรณ์อาบน้ำอื่นก็สำนึกได้เองว่าเด็กคงจะอาบน้ำเสร็จไปแล้วเรียบร้อย
ทำไมยังมาเพ่นพ่านแถวนี้อีกล่ะนี่?
“มาตั้งแต่พี่ยิ้มงึมๆงำๆกับตัวเองนั่นอ่ะครับ” เด็กยิ้มล้อเลียน “ไม่เคยอาบน้ำคลองหรือไง”
“เคย”
“อ้อครับ ถึงว่าดูไม่ตื่นเต้นเนอะ เสียดายที่ไม่ได้พกห่วงยางมา”
“กวนตีนละๆ”
ผมแยกเขี้ยวทำท่ามะเหงกใส่ เด็กก็หัวเราะตาหยีแจกบรรยากาศสดใสกลับมา
เป็นยิ้มที่ทำอะไรมันไม่ได้เลย ไร้ซึ่งความสะทกสะท้าน
“ผมช่วยสระผมไหม”
“ไม่อ่ะ ทำเองได้”
“ผมสระผมเก่งนะ นวดศีรษะได้ด้วย เคยนวดให้ตาบ่อยๆ”
“ไม่เป็นไร ชอบแบบสระเองมากกว่า”
“โห ท่าทางระวังตัวนั่นอะไรอ่ะ”
“ผมไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย”
“พี่จูนอย่าไปไกล ตรงกลางมันลึก”
ปล่อยเด็กเจื้อยแจ้วไปคนเดียว
เงียบไปได้พัก เสียงชวนคุยก็มาอีก
“พรุ่งนี้เช้าพี่อยากกินอะไร”
“อะไรก็กินได้”
ยาสระผมยี่ห้อนี้หอมจังเลย ผมชอบมาก น้องแจนนี่มือโปรของแท้
ผมใช้วิธีเอียงคอไปด้านหลังให้ศีรษะแช่น้ำแล้วขยี้ๆล้างฟองออกจนหมด
“กินได้แน่นะ”
“อือ”
“เนื้อก็กินได้เหรอ”
“ไก่ด้วยอ่ะนะ”
จิ๊
“วอแวทำไมเนี่ย!” ผมตะโกนใส่ไอ้คนที่มันนั่งเกยคางกับราวสะพานมองมา
“ฮ่าๆ พี่หน้าแดงไปถึงหูแล้วรู้มั้ย”
“แก้มแดงแจ๋เลย”
“ก็ใครใช้ให้มึงแก้ผ้าโชว์หัวนมนุ่งแต่กางเกงมานั่งพูดแจ้วๆจ้องหน้าคนอื่นอยู่ตรงนี้ล่ะวะ ไม่รู้จักอายบ้างเรอะ”
ว่าจะไม่ด่าแล้วนะ
“เอ้า มีไข่เหมือนกันอายอะไรอ่ะ”
“ไอ้นั่น ไอ้นี่ ก็มีเหมือนๆกัน”
ทำท่าไอ้นั่น ชี้ไปที่เม็ดสีแดงบนหน้าอก และไอ้นี่ ชี้ไปที่เป้ากางเกงตัวเองประกอบ
ด้วยหน้าตากวนเส้นประสาทเบื้องล่าง
มึง อย่าอยู่เลยมึงไอ้น้องรวย ไอ้เด็กผีบ้า
ผมจ้วงตักน้ำขึ้นมาได้เต็มขันก็สาดโครมไปที่คนผิวสว่างออร่าที่นั่งยิ้มอยู่บนสะพาน
ที่ตั้งใจคือกะจะให้แค่น้ำที่ปลิวแต่สงสัยหนักมือไปหน่อยขันเลยบินไปด้วย
โพละ
“โอ้ย!”
เต็มๆที่หน้าเลยแหละ
“สม”
“รังแกเด็กนี่”
“เด็กโข่งสิไม่ว่า”
“คอนแทคเลนส์หลุดเลย” เด็กขยี้ตา หัวหูเปียกไปหมด
“พูดว่าอะไรนะ”
“คอนแทคเลนส์ผมหลุด”
“มองไม่เห็น”
อ้าวเวร ผมรีบล้างสบู่ออกจากตัวว่ายไปเกาะสะพานไม้ไผ่ที่เด็กนั่งหย่อนขาลูบหน้าลูบตาอยู่ ตางี้เริ่มแดง หน้าผากขาวที่โดนขันฟาดขึ้นเป็นรอยแดงอย่างชัดเจน
ใครเห็นก็คงบอกว่าน่าสงสาร
กลายเป็นคดีรังแกเด็กจริงๆด้วยคราวนี้ไอ้จูน
“ไหนดูหน่อย มืออยู่เฉยๆ อย่าขยี้ดิ เช็ดหน้าก่อน”
ผมคว้าเอาผ้าขนหนูตัวเองเช็ดหน้าให้น้อง ระวังไม่ให้ไปโดนรอยแดงที่หน้าผาก รอยเป็นปื้นใหญ่ ก็เห็นใส่รีสแบนด์เขาชนไก่ แสดงว่าต้องเคยเรียนรด.มาดิ ทำไมผิวขาวบางขนาดนี้ล่ะ
โดนอะไรนิดอะไรหน่อยไม่ได้เลย
“มองไม่เห็นเลยหรอ ใกล้ขนาดนี้พอเห็นไหม”
เด็กส่ายหน้า ผมขยับเข้าไปชิดอีก
“ใกล้เท่านี้อ่ะ”
ยังคงส่ายหน้า นี่ก็ใกล้แบบโคตรใกล้แล้วนะ สายตาสั้นหรือตาบอดเนี่ยเอ็ง
“เห็นยัง”
“เบลอ หน่อยๆ”
เชื่อว่าจริงๆคงเบลอมากเลยแหละเพราะสายตามองลอกแลกเหมือนหาจุดโฟกัสไม่เจอนั้นอ่ะ
ผมได้ยินความคิดด้านสำนึกดีของตัวเองตำหนิเป็นเสียงน้องแจนว่า ‘อายุก็เยอะกว่า เล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลยเนี่ย ทำลูกคนอื่นเขาหัวแตกจะว่ายังไง’
หน้าหดเหลือสองนิ้วเลยสิทีนี้
“ขอโทษนะเว้ย พี่ทำแรงเกินอ่ะ”
ผมกล่าวขอโทษ เด็กฟังก็อมยิ้ม
นี่ก็ชาวซาดิสม์อีกคนหรือไงวะ ได้เจ็บแล้วหน้าระรื่นเนี่ย
“ตลกอะไร รู้สึกผิดจริงๆนะเว้ย เมื่อกี้ก็ตั้งใจอ่ะ แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น”
“เดี๋ยวๆ สรุปคือตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ”
“ก็ตั้งใจจะสาดน้ำไง แต่ไม่ได้คิดว่าใส่คอนแทคเลนส์และจะทำคอนแทคเลนส์หลุด แล้วไม่ได้ตั้งใจให้ขันไปฟาดโดนหัว”
“พี่จูนใจเย็น ไม่เป็นไรหรอกครับ ไม่ได้โกรธ เล่นกันเฉยๆนี่นา ผมไม่ได้เจ็บอะไรขนาดนั้น”
“ไม่เจ็บจริงดิ”
“จริงครับ”
ดี ไม่เจ็บก็ไม่เจ็บ เป็นลูกผู้ชายต้องอดทน
“แถมเวลาพี่จูนโกรธก็น่ารักซะขนาดนี้...จะอดใจไม่แกล้งยังไงไหว”
“พูดว่าอะไรนะ”
“ผมถามว่า พี่จูน เวลากี่โมงแล้วตอนนี้ เดี๋ยวค่ำมองไม่เห็นทาง จะเดินกลับไม่ไหว”
“เอ่อ หลายโมงมั้ง” ไม่มีนาฬิกาจะรู้เหรอ
“หึ หึ ครับ หลายโมงก็หลายโมง”
ผมดึงตัวเองขึ้นบนสะพานรวบเก็บของใช้ทั้งหมดของตัวเองใส่ขันคว้าเอาผ้าขนหนูมาพันห่มตัวไว้
พอดีตาเหลือบไปเห็นดอกไม้สีแดงวางอยู่บนรองเท้าแตะที่ผมถอดเอาไว้พอดี
“ดอกอะไร ของนายเหรอ”
“ของพี่”
“เอ้ย ไม่ใช่ พี่ไม่ได้เก็บมานะ ของใครก็ไม่รู้”
“ผมเก็บมาเองแหละ” “เอามาให้พี่เลยเป็นของพี่ไง”
ผมนึกตามคำพูด เออ จริงของมัน ถ้าให้ผมก็คงเป็นของผมสิ
“งั้นก็ขอบใจนะ” ผมก้มมองดอกไม้สีแดงดอกเล็กๆมีเกสรยาวออกมาจากกลีบดอกที่รวมเป็นช่อทรงกลมในมือ
หน้าตาแปลกประหลาดที่ผมไม่รู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นมาก่อน สวยดี ผมชอบ แต่ไม่ได้ชอบมากขนาดนั้นนะ ชอบนิดๆ
“รู้มั้ยว่าชื่อดอกไม้อะไร”
“รู้”
“ชื่ออะไร”
“ไม่บอก”
“อ้าว”
สาบานว่าไอ้ท่ายิ้มแจกบรรยากาศสดใสตรงหน้าที่ผมเห็นมันดูเจ้าเล่ห์แสนกลขึ้นมา
“อยากรู้ต้องไปหาเอง”
เอออ ไม่อยากรู้ก็ได้โว้ย
“ป่ะ ไปยัง”
“รวย เดินนำนั่นมองเห็นทางเหรอ” ผมทักเด็กเลยชะงัก
“เห็นลางๆ” “เอะ เจ็บหน้าผากยังไงไม่รู้ เหมือนหัวจะโน”
“เดี๋ยวกลับไปใส่ยาให้ เดินตามอย่างเดียวพอ” ผมพูดไปแบบนั้นน้องคว้ามือผมไปจับเองอย่างแน่นเลยนะ ไม่รอให้พูดจบหรอก
“มือพี่จูนเล็กจัง...ไม่แบกผมหน่อยเหรอ” ได้คืบจะเอาศอกแน่ะ
“สายตาสั้นหรือขาขาด”
“หึหึ ขาผมยังอยู่ครับ แค่อยากขี่หลังเหมือนในละครเฉยๆ”
“ตัวใหญ่ขนาดนี้แบกได้ก็ยอดมนุษย์แล้ว”
ผมแยกเขี้ยวใส่ มืออีกข้างน้องก็มาวางแหมะลงบนหัว
ผมปัดออก มันก็เอามาวางใหม่แถมหัวเราะหึหึใส่ด้วย
“นี่ต้องบอกกี่ครั้งว่าอายุมากกว่าเนี่ย!”
“อ้าว เหรอครับ”
“เออดิ”
.
.
.
.
.
.
.
“...แล้วทำไมขนาดโลกทั้งใบของผม พี่จูนถึงแบกไหวอ่ะ”
จบภาค "ฤดูหนาว"
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โลกทั้งใบให้นายคนเดียว❤ วอแวแบบนี้คือวอนโดนอีกขันใช่ไหม 555
น้องวินเดือนมอกับผองเพื่อนปี2ยังจำเป็นอยู่เปล่านะ ได้ออกแป้ปเดียวเอง
*หน้าตาดอกไม้ที่น้องรวยให้พี่จูนเป็นแบบนี้ ชื่อดอก รักแรกพบ พี่จูนจะรู้จักมั้ยน้อ
(http://i67.tinypic.com/6zv7uh.jpg)
สุดท้ายขอโทษที่ให้รอนานนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
สุขสันต์วันฝนตกค่ะ❣