พิมพ์หน้านี้ - Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: aimer ที่ 25-05-2015 20:52:49

หัวข้อ: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 25-05-2015 20:52:49
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 25-05-2015 21:07:22
Stay Gold: 1

บนโลกนี้มีคนอยู่ประมาณ 7 พันล้านคน แต่ละคนต่างมีเรื่องราวเป็นของตัวเอง ผ่านทุกข์ สุข ทั้งพลาดพลั้งหรือประสบความสำเร็จแตกต่างกัน


แต่เรื่องนี้จะเป็นเพียงเรื่องของคน 2 คนกับคนรอบๆ ตัว ที่คุณอาจจะเจอพวกเขาอยู่ในสังคมหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง คุณอาจพบเจอพวกเขามาแล้ว ในห้างสรรพสินค้า บนถนนที่วุ่นวาย คนที่ต่อคิวข้างๆ หรืออาจจะเป็นคนที่คุณคิดว่าพบเจอได้แต่ในนิยายเท่านั้น


เรื่องของพวกเขาก็เหมือนคนทั่วไป ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบหรือขวากหนาม เป็นคนปกติๆ ธรรมดาๆ หาพบได้ตามท้องถนน ถ้าพูดให้เฉพาะเจาะจงหน่อย ก็เป็นผู้ชายสองคน ที่รักกัน อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตเรียบง่ายธรรมดา ไม่ต่างจากคนทั่วไป


เรื่องนี้เป็นเรื่องราวง่ายๆ แบบนี้


และมันเริ่มจาก...



โรงเรียนรัฐบาลขนาดใหญ่ใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง ในโรงเรียนนี้มีนักเรียนหลายพันคน ครูอีกหลายร้อยคน และในจำนวนคนมากมายเหล่านี้ ไม่มีใครไม่รู้จัก 'ฟงอวิ๋น' นักเรียนชั้นม. 4/8 สายวิทย์-คณิต ทั้งๆ ที่เจ้าตัวไม่ได้เรียนดี เป็นที่รักใคร่ของคุณครู หรือหน้าตาดี หล่อลากจนสาวกรี๊ดหรือนิสัยดี มีความเป็นผู้นำ ในทางกลับกัน กลับเป็นที่ส่ายหน้าของครูอาจารย์ หน้าตาก็ธรรมดาๆ ตามประสาลูกคนจีนทั่วไป ไม่มีอะไรโดดเด่น ผลการเรียนก็ดิ่งลงเหว สาวดีๆ ก็พากันเบือนหน้าหนี นิสัยก็เกเรจนเล่าลือไปจนถึงภารโรงและผู้ปกครอง


เพราะเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด โด่งดังที่สุดในเรื่องที่ไม่ดีๆ ทั้งหลาย... กินเหล้าเมายา ยกพวกชกต่อย ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเสพยาเสพติดหลายชนิด ดื่มเหล้าหัวราน้ำ มีเรื่องชู้สาวไม่เว้นวัน ทะเลาะชกต่อยกับคนโน้นคนนี้ไปทั่ว... แต่บรรดาครูก็พากันเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ตราบใดที่ยังไม่มีหลักฐานมัดตัวชัดเจน ไม่ว่าครูหรือนักเรียนคนไหนก็ไม่มีใครอยากเอาไม้สั้นไปรันขี้... หรือไปยุ่งด้วยเท่าไหร่นัก


...เพราะเขารวยที่สุดในโรงเรียน พ่อแม่ตามใจมากที่สุดในโรงเรียน และเอาแต่ใจที่สุดในโรงเรียน!







และแล้ววันหนึ่ง ฟงอวิ๋นที่กร่างที่สุดในโรงเรียนเดินออกจากห้องพักครูด้วยอารมณ์คุกกรุ่น ถึงจะตาลอยเพราะฤทธิ์ยา แต่การโดนเรียกไปต่อว่าเพราะมีคนปากมากไปฟ้องกับฝ่ายปกครองว่าเขาเสพยานั้น ก็ทำให้อารมณ์ที่ไม่มั่นคงอยู่แล้วพาลจะระเบิดง่ายๆ หลังจากมีปากเสียงกับครูประจำชั้นแล้ว เขาก็รีบเดินออกจากตึก และได้พบกัน...


'รักครั้งแรก'


มันกระเด็นเข้าตาจังๆ


สำหรับนายยุทธจักร นิคเนมฟงอวิ๋น วัยสิบหกปี นักเรียนชั้นมอสี่แล้ว รักครั้งแรกคงหน้าตาแบบนี้แหละ...


...ขายาว ตาคมหวาน ผิวสีน้ำผึ้ง จมูกโด่ง ปากอิ่ม รูปร่างผอมบาง


ถึงจะใส่กางเกงสามส่วนกับเสื้อคอโปโลสีเทาก็ยังเห็นสรีระชัดเจนอยู่ดี


สำหรับเขาแล้ว คนสวยมีสองประเภท ประเภทแรกคือสวยแบบแรดๆ หน้าตาสวยดีหรอก แต่เห็นก็รู้ว่าแรด แบบที่สอง คือสวยแบบไม่ต้องพยายาม สวยผุดผาด บาดตา ไม่ว่ามองมุมไหนก็สวย... คนตรงหน้านี้เป็นแบบที่สอง แบบที่หาได้ยากเต็มที


ร่างผอมเล็กเห็นเอวคอด บั้นท้ายงอน ไม่เข้าใจว่ากินอะไรเข้าไปถึงหุ่นดีขนาดนี้ ถึงหน้าอกจะแบน... อืม ช่างมันเถอะ มีใครในโลกบ้างที่เพอร์เฟค... แค่นี้ก็พาลให้น้ำลายไหลแล้ว


สีผิวน้ำผึ้งนวลแบบที่ไม่เหมือนคนไทยเลย ไม่ได้ดำหรือขาวจั๊วะแบบเขา แต่สีนวลเนียนแปลกตา เส้นผมสีดำขลับปรกใบหน้าเล็กเท่ากำปั้น แลให้เห็นจมูกโด่งรำไร เมื่อคนสวยเงยหน้าขึ้นมาก็สบตาเข้ากับตาตี่ๆ ของเขาพอดี


ดวงตานั้น... แค่มองผ่านๆ ก็สวยแล้ว ยิ่งดูก็ยิ่งสวย ตาเรียวรูปอัลมอนด์สองชั้นได้รูป ขนตาบนและล่างแผ่ออกจากกันงอนงาม สีตาดำขลับที่สะท้อนแสงแดดยามเย็นย่ำวิบวับ


เด็กน้อยที่สวยเกินวัยเดินตรงมาหาเขา ฟงอวิ๋นมั่นใจว่าไม่ใช่ภาพหลอนผลพวงจากโคเคนหรือไอซ์แน่นอน


"ขอโทษนะ..." เสียงก็ยังหวานสมตัว สุภาพ อ่อนโยน เมื่อเข้ามาใกล้จึงเห็นคิ้วเข้มโค้งสวย ร่างกายไร้ที่ตินั้นสูงแค่หน้าอกเขาเท่านั้นเอง

"ห้องพักครูไปทางไหน..."


ใบหน้าจืดชืดของคนฟังมีวี่แววงุนงงเหมือนต้องมนตร์ นัยน์ตาสวยตรงหน้าเหมือนจะสยบร่างยักษ์ให้อยู่หมัด ฟงอวิ๋นกระแอมสองสามครั้ง ผิวขาวอย่างลูกคนจีนร้อนฉ่า หัวใจเต้นรัวอย่างไร้ที่มาที่ไป


"ห้องพักครูไหนล่ะน้อง ? มาหาใคร ?"


คิ้วสวยเลิกขึ้นนิดๆ ท่าทางเยือกเย็นแต่สุภาพ ไว้ตัวนั้นยิ่งทำให้ฟงอวิ๋นอยากจับมาไว้ใต้ร่าง ซุกไซ้ซอกคอชื้นเหงื่อนั่นดูสักครั้ง...

"มาหาแม่... ครูนาถลดา"


ยักษ์ใหญ่ฟังแล้วขมวดคิ้วบ้าง ครูนาถลดา...


ภาพของครูจอมเฮี้ยบวัยกลางคนแล่นเข้าในสมอง คนที่เพิ่งดุด่าเขามา... คนเดียวที่กล้าดุด่าเขาก็คนนี้แหละ!


สีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยเปลี่ยนไปทันที ก่อนถามเสียงห้วน "นาถลดาไหน ?"


เด็กตรงหน้าขบริมฝีปากน้อยๆ กับท่าทางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ก็ยังคงตอบกลับอย่างสุภาพ "ครูนาถลดา... ที่สอนภาษาไทยมอสี่"


ชัดเลย!


เหมือนล้มทั้งยืน!


นาถลดาพาทัวร์นรก... นาถลดาดาวศัตรูข่มชีวิตวัยรุ่นของนายฟงอวิ๋น เป็นทั้งครูประจำชั้น ครูสอนภาษาไทยและครูฝ่ายปกครอง ทั้งดุ ทั้งเฮี้ยบที่สุดในโรงเรียน เป็นครูคนเดียวที่ไม่เกรงกลัวอำนาจเงินและพยายามเอาตัวเด็กหนุ่มออกจากวงจรชั่วร้าย อย่างเหล้า บุหรี่ ผู้หญิง... หรือยา


แต่อย่างไรฟงอวิ๋นก็เรียกตัวเองว่ายังเรียกไม่ได้ว่าเสพจริงจัง... เขาใช้ไอซ์บ้าง โคเคนบ้าง กัญชาบ้าง ถึงจะยังไม่ได้ขายและเสพเต็มตัว แต่เงินที่พ่อแม่ให้ก็หายไปกับยาไม่น้อย


"อ้อ..." คำตอบยานคางอย่างยียวน อารมณ์แปรเปลี่ยนฉับพลัน "แต่ได้ยินว่าครูมีแต่ลูกชาย..."


"เราเป็นผู้ชาย... ลูกชาย!" คำตอบเสียงดังโดยไม่รู้ตัว ริมฝีปากอิ่มสวยเม้มแน่น ตาวาว ท่าทางเหมือนแมวน้อยโดนแกล้งแต่ก็ยังดูยโส ไว้ตัวอยู่ ฟงอวิ๋นถึงจะแปลกใจที่ 'สาวสวย' ตรงหน้าเป็นผู้ชาย แต่ท่าทางแบบนี้ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีอย่างประหลาด


เด็กหนุ่มอายุมากกว่าพยักหน้า "อ้อ..."


"ตกลงว่าไปทางไหน...." เสียงค่อนข้างห้วน "ครับ..." แต่ก็ยังคงความสุภาพ ฟงอวิ๋นจึงพยักหน้าน้อยๆ อารมณ์ขุ่นมัวจางหายไปรวดเร็วเหมือนสายลม


เด็กคนนี้ยิ่งมองยิ่งสวย... ยิ่งนิสัยยิ่งน่ารัก


แต่เอาเถอะ... จะสวยขนาดไหนก็เป็นผู้ชาย เขาคิดแล้วไหวไหล่

"น้องเดินตรงไป จะเจอโรงอาหารแล้วเลี้ยวซ้าย..."








กลิ่นน้ำหอมฟุ้งตลบ ยิ่งเหงื่อออกมาก กลิ่นยิ่งแรง สาวน้อยเอวบางใกล้ตัวเขาพลิกกาย เสียดสีหน้าอกขนาดมหึมาพลางหัวเราะคิกคัก ร่างสูงใหญ่คร้านจะพูดอะไร ได้แต่หยิบบุหรี่ข้างหัวเตียงและผลักเธอออก


ยังช็อกไม่หาย...


...สวยขนาดนั้น...

เท้าเหยียบถุงยางอนามัยใช้แล้ว ไอ้ยักษ์ร้องลั่นอย่างรังเกียจ "ริน! มาเก็บซะ!"


สาวน้อยบนเตียงทำปากยื่น "ก็ของตัวเองนั่นแหละ ยังมาทำเป็น..."


"เก็บกวาดให้กูด้วย" เขาไม่ฟังต่อ เปิดประตูห้องนอนออกไปเพื่อพบกับกลุ่มเด็กวัยรุ่นหญิงชายแยกเป็นกลุ่มๆ ทั้งห้องมีกลิ่นยาไอซ์คละคลุ้ง ข้างๆ กันเป็นแก้วเหล้าเย็นชืดหลายสิบแก้ว บางคนนอนระเกะระกะ บางคนเอาตัวพาดกับโซฟาราคาแพง บางคนกำลังสูดไอซ์เข้าจมูก ฟงอวิ๋นหัวเราะท่าทางน่าสมเพชเหล่านั้น


...แค่โยนเงินเข้าไป จะเอาอะไรก็มีหมด


สาวสวยร่างกายซูบผอมสูดยาจากหลอดดูดพลาสติกจากขวดยาคูลท์เล็กๆ ท่าทางชวนสังเวช เธอเงยหน้าขึ้นอย่างสุขสม ร่างกายผอมผ่ายสั่นระริก


หลังไอซ์... ก็เซ็กส์


ฟงอวิ๋นก้าวไปหาหล่อน มือคีบบุหรี่ก่อนพ่นควันออก หยิบถุงยางที่วางกระจัดกระจายมาชิ้นหนึ่ง เธอช่วยคลานขึ้นมาสวมให้




ระหว่างที่เสพสมกับร่างเหมือนผีดิบ เขายกมือขึ้นเคล้นหน้าอกอิ่มจากพลาสติกเป็นพิเศษ... คล้ายกับพยายามโยนใบหน้าหวานคมสวยและท่าทางไว้ตัวนั้นออกจากสมอง









ฟงอวิ๋นปาร์ตี้หนักมาสามวันแล้ว ตอนกลับคอนโดส่วนตัวที่พ่อแม่ประเคนหามาให้ยังต้องใช้คนหาม... ไม่ใช่ใคร ก็ลิ่วล้อทั้งหลายที่มาตามกลิ่นเงินนั่นแหละ


เริ่มอยากยาขึ้นเรื่อยๆ


ทุกครั้งที่หลับตา จะเห็นแต่หน้านั้น...


ภาพหลอนลอยฟุ้ง เขาคว้าเอาเกย์สาวหน้าตาน่ารักมาใช้ระบายแทน ก็ใช้ได้ไม่เลว... ถึงจะไม่นมไม่มีก้นเหมือนผู้หญิงก็ตาม


แรงขับเคลื่อนเบื้องต่ำยิ่งรุนแรง อยากกระแทกกายเข้าไปให้ใบหน้าสวยนั่นเหยเก อยากทำให้ร้องคราง...


พวกลิ่วล้อพอเดาอาการเขาได้ วันหนึ่งในผับ บนตักมีผู้หญิงถูไถ ปากพ่นควันจากกัญชานั้น ไอ้หน้าแหลมคนหนึ่งก็สะเออะพูดขึ้นมา


"ลูกอีนาถสวยชิบหาย"


"คนไหนวะ"


"นาถลดา ที่สอนภาษาไทย"


เสียงหัวเราะไร้ความหมายดังขึ้นรอบวง ฟงอวิ๋นละมือจากผู้หญิงที่ไม่รู้ชื่อโดยไม่รู้ตัว

"เป็นผู้ชายนี่ ?"


"เออ แต่สวยมากกกกกกกก" ลากเสียงยาวด้วยแววตาหื่นกระหาย "กูว่าจะจับมาเอาให้หายแค้น อีห่าแม่มันเสือกเรื่องพวกเรานัก!"


เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้ง ฟงอวิ๋นปากัญชาในมือใส่ไอ้คนพูด ใบหน้าล่องลอยเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียม "มึงพูดถึงใครนะ!"


"อีน้ำแกง กูว่ามันต้องเป็นตุ๊ดแน่ๆ เลยฟง ลูกชายอีนาถลดาไง!"


"มาเอาซักทีเป็นไง!" เสียงพูดโลดโผน


ใบหน้าหวานโผล่ขึ้นมาในสมอง... ที่แท้คนสวยคนนั้นชื่อน้ำแกง...



...ชื่อประหลาด...



แต่สวย... สวยโดดเด่นเกินใคร... ถึงจะเป็นผู้ชายก็ตาม



"พวกมึงห้ามยุ่ง!" คนตัวยักษ์คำราม ผลักผู้หญิงออกจากตัก "คนนี้ของกู!"


พวกลูกน้องสะดุ้งเฮือก ก่อนจะรีบพยักหน้าเอาใจ "ได้อยู่แล้ว... มีอะไรดีๆ ก็ต้องให้ฟงก่อนอยู่แล้ว..."







ฟงอวิ๋นนอนกลิ้งบนเตียง พวกลิ่วล้อออกไปจากคอนโดแล้ว ใบหน้าเขาเยิ้มด้วยความสุขสม...


...น้ำแกง... น้ำแกง... อา... ชื่อเพราะจัง


พวกลูกกระจ๊อกให้คำมั่นว่าจะจับน้ำแกงมาให้เขา... อา... เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างมีความสุข แก่นกายชูชันทั้งจากอารมณ์และฤทธิ์ยา


จะกระแทกเข้าไปในก้นสวยๆ จะเอาให้ร้องครางหาแม่ ใบหน้าสูงส่งนั่นจะถูกทำจนร่านราคะ จะกระแทกกระทั้นจนเอวหัก ให้รูก้นฉีก จะจูบจนปากบวม....


"น้ำแกง... น้ำแกง..." ครางเรียกชื่อคนในฝันจนคอแหบแห้ง มือสากหนารูดรั้งอย่างรุนแรง...


...ชั่วขณะที่ถึงจุดสุดยอด เขามองเห็นใบหน้านั้นเบือนกลับมาสบ... มอบรอยยิ้มหวานใสสะอาดให้ พร้อมเสียงหวานที่ดังข้างหู...


เขามั่นใจว่าเป็นภาพหลอน...


'รัก...'









อาจเป็นโชคของน้ำแกงที่ไม่ต้องถูกฟงอวิ๋นข่มขืน เพราะอีกสองสัปดาห์ต่อมา สารวัตรนักเรียนก็จับพวกเขาได้คายาไอซ์ที่ห้องน้ำหลังโรงเรียน


ฟงอวิ๋นและพวกถูกเรียกผู้ปกครองด่วน ใบหน้าของบิดามารดาที่เห็นเข้าพร้อมของกลางนั้น... เขาจำได้จนตาย



ฟงอวิ๋นเป็นลูกคนเล็ก พ่อแม่มีเขาตอนที่อายุมากแล้ว เพราะอายุห่างจากพี่ๆ เลยทำให้ถูกโอ๋ ตามใจที่สุด ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวใหญ่ มีอากงอาม่าครบ มีพี่ชายสองคน พี่สาวหนึ่งคน พี่คนโตจบนิติศาสตร์แต่ทำงานสืบต่อธุรกิจจากบิดามารดาและทำได้ดี ส่วนพี่คนรองช่วยธุรกิจเรื่องส่งออก พี่สาวคนที่สามก็เรียนจบด้านนิเทศศาสตร์ แต่มาเป็นดีไซเนอร์ มีสตรีทแบรนด์เป็นของตัวเอง ธุรกิจไปได้ดีทีเดียว เรียกได้ว่าทุกคนประสบความสำเร็จกันหมด จึงไม่ค่อยมีใครคาดหวังอะไรกับลูกคนเล็กนัก ในทางกลับกัน กลับโอ๋และตามใจเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าฮ่องเต้น้อยอยากได้อะไร ต้องมีพี่หรือญาติๆ สักคนประเคนมาให้ ฟงอวิ๋นจึงเป็นเด็กที่ไม่เคยขาด ตามใจตัวเอง อารมณ์ร้าย ไม่ชอบรอและไม่ค่อยมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นเท่าใดนัก


เรื่องของฟงอวิ๋นไม่ใช่เพราะไม่มีใครในครอบครัวสนใจ แต่เป็นเพราะรักมากไป... อาป๊าอาม๊าของเขาก็กลัวว่าจะถูกลูกตัวเองเกลียดหากดุด่ามากไป ส่วนพี่ๆ ก็กลัวหัวใจเปราะบางของน้องชายจะสลาย ทั้งครอบครัวเลยได้แต่มอบความรัก... จนมากเกินไป จนเขาไม่รู้ว่าความรักคืออะไร ไม่เห็นคุณค่าของครอบครัวและใช้ชีวิตเยี่ยงราชามาตลอด


พอเข้ามัธยม ชีวิตของฮ่องเต้น้อยก็ดิ่งลงเหว พ่อแม่ทั้งตามใจ เอาใจ จะโดดเรียนหรือไม่สนใจการเรียนก็ได้แต่ตักเตือนเล็กๆ น้อยๆ เพียงเพราะคิดว่าตัวเองเข้มงวดกับลูกทั้งสามก่อนหน้ามาแล้ว จึงไม่อยากให้ลูกคนเล็กต้องเครียดอีก พอฟงอวิ๋นเอ่ยปากขอคอนโดส่วนตัว ทั้งๆ ที่อายุแค่ 15 ถึงอากงอาม่าจะคัดค้าน แต่เพราะรักลูกจนหน้ามืดตามัว ป๊าม๊าก็ซื้อคอนโดหรูให้อยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวกสบาย พี่ๆ ก็กลัวน้องจะลำบากเพราะการเดินทาง ก็ซื้อรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ยี่ห้อหรู ราคาเหยียบล้านให้ใช้งาน ถึงจะกำชับว่าอย่านำไปใช้แข่งหรือขับเร็วนัก แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากจริงจังอยู่ดี


และถึงทุกคนจะรู้ว่าฮ่องเต้ของพวกเขาเสพยา... แต่ก็กลับคิดว่า... เป็นลูกผู้ชาย หากเล็กๆ น้อยๆ ก็ปล่อยไป เป็นแค่ช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น...


...เรื่องชกต่อย ก็ช่างมันเถิด ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ตุ้งติ้ง ลูกผู้ชายต้องกร้าวแกร่ง


...เรื่องการเรียน อย่าไปจ้ำจี้จ้ำไชนัก ไหนๆ ฟงอวิ๋นก็เกิดขึ้นบนกองเงินกองทอง คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนมากมายเหมือนพี่ๆ ใช้ชีวิตให้มีความสุขดีกว่า


...เรื่องผู้หญิง นี่สิถึงเรียกว่าลูกผู้ชาย... ขอแค่อีกฝ่ายไม่ท้องหรือติดโรคมาก็เป็นอันใช้ได้



ในวันเกิดเหตุ ครูนาถลดาฟังบิดามารดาและพี่ๆ ของลูกศิษย์แล้วได้แต่ส่ายหน้า... ที่ลูกชาย น้องชายตัวเองเดินทางผิดมาจนถึงขนาดนี้... ไม่ใช่เพราะเลี้ยงลูกผิดๆ หรอกหรือ ?



ขนาดรู้ว่าลูกตัวเองผิด ป๊าม๊าที่รักลูกดั่งดวงใจก็ยังเถียงแทนลูกชาย มีเพียงพี่ชายคนโตที่ช่วยปรามและก้มหน้ายอมรับผิด



...ฟงอวิ๋นเป็นดวงใจของบ้าน และดวงใจของบ้านก็ทำให้หัวใจทุกคนแตกสลาย



พี่สาวคนที่สามเมื่อเริ่มยอมรับก็หลั่งน้ำตา ขอร้องไม่ให้ทางโรงเรียนไล่น้องชายออก ดีที่ครูนาถลดา ครูประจำชั้นที่ฟงอวิ๋นทั้งเกลียดทั้งกลัวเห็นใจ จึงช่วยพูดและรับรองให้ อีกทั้งยังช่วยครอบครัวปลอบประโลมเมื่อนายยุทธจักรรี่ตรงเข้ามาจะทำร้าย พี่ชายคนโตและคนรองรีบตะครุบตัวก่อนจะทำร้ายครูสำเร็จ ครูเพียงแต่ถอนหายใจ และสอนครอบครัวไปด้วย พลางมองเด็กหนุ่มร่างซูบผอมด้วยฤทธิ์ยาอย่างสะท้อนใจ


"...หลังจากนี้ ครูจะติดต่อสถานบำบัดให้นะคะ"


ทั้งครอบครัวได้แต่พยักหน้า รู้ซึ้งถึงคำว่า 'ครู' ที่แท้จริง


ครูนาถลดาไม่เพียงแต่ช่วยฟงอวิ๋นออกมาจากวงจรอุบาทว์หรือช่วยรับรองไม่ให้ตี๋น้อยต้องเสียอนาคต เธอยังช่วยครอบครัวให้ตาสว่าง ใช้ความรักในทางที่ถูกต้อง


นอกจากนั้น ครูนาถลดายังช่วยเป็นผู้รับผิดชอบติดตามเรื่องฟงอวิ๋นเพื่อนำไปรายงานให้โรงเรียนทราบอีกด้วย ทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องติดตามตัวปัญหาอย่างเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย


ด้วยคำแนะนำจากครู ครอบครัวแซ่เอ็งจึงตัดสินใจพักการเรียนลูกชายคนเล็กไม่มีกำหนด และส่งกลับบ้านใหญ่เพื่อตัดขาดจากวงจรเพื่อนเดิมๆ ส่วนการบำบัดนั้น ฟงอวิ๋นได้รับการบำบัดจากสถานบำบัดแห่งหนึ่ง และใช้เวลารักษาตัวอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ บิดามารดาเขาได้แต่ยอมรับความจริงและจัดหาทุกอย่างเพื่อนำลูกชายกลับมา









ในตอนนั้น น้ำแกงหรือเด็กชายอักขระอายุ 15 ปี เป็นเด็กนักเรียนที่เด่นดังเช่นเดียวกับฟงอวิ๋น... ถึงจะอยู่ในโรงเรียนขนาดกลางๆ แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามเลยทีเดียว


น้ำแกงเป็นเด็กหน้าตาสะสวย ถูกเข้าใจผิดบ่อยๆ ว่าเป็นผู้หญิง ผิวสีน้ำผึ้งนวลดูไม่เหมือนคนไทย หน้าตาคมซึ้ง ดวงตาหวานฉ่ำ ผลการเรียนยอดเยี่ยม มีความรับผิดชอบสูง สุภาพอ่อนโยน มารยาทงาม เฉลียวฉลาด ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นที่รักของเพื่อนๆ และครูบาอาจารย์


เด็กชายอยู่คนละโรงเรียนกับฟงอวิ๋นและมารดา ในวันที่เขาพบรุ่นพี่ตัวปัญหานั้น โรงเรียนของเขาหยุดเพราะจัดกิจกรรมวิชาการ หลังจากแข่งขันคณิตศาสตร์เสร็จก่อนเวลาจึงตัดสินใจมาหาแม่ที่โรงเรียน เขาเปลี่ยนเสื้อผ้า ยัดชุดนักเรียนใส่เป้แล้วจึงนั่งรถเมล์มาลงที่โรงเรียนของฟงอวิ๋น เพราะไม่อยากโทรไปรบกวนตอนเวลาแม่ทำงานจึงเดินตามหาห้องพักครูด้วยตัวเอง และมาพบกับรุ่นพี่... ที่ไม่น่าเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย


ตัวฟงอวิ๋นตอนนั้น... ไม่น่าคบหา ตาขวางเหมือนคนบ้า ตัวสูงแต่ผอมกะหร่อง ใต้ตาดำคล้ำ ใบหน้าซีดเซียวเหยเก... น้ำแกงถึงกับคิดแวบหนึ่งว่า... เหมือนคนติดยา


แต่เพราะหลงทางและไม่เจอใครอื่น เขาจึงจำเป็นต้องถามทางจาก 'คนติดยา'


ฟงอวิ๋นน่าจะบ้าจริงๆ เพราะมองเขาแล้วก็เหม่อลอย ตอบสนองช้า แต่ถึงยังไงก็บอกทางให้เด็กชายไปหาแม่ได้ถูกต้อง... น้ำแกงจึงพูดขอบคุณเสียดิบดี


พอหันหลังให้... เด็กชายขนลุกน้อยๆ คล้ายสายตาของรุ่นพี่นั้นจะมองมาแปลกๆ... ไม่น่าไว้ใจ







น้ำแกงรับฟังเรื่องราวของฟงอวิ๋นระหว่างทางกลับบ้าน เพราะเป็นตัวปัญหาของแม่ เขาจึงอดโกรธไม่ได้ ระหว่างขับรถ ครูนาถลดาก็ลูบศีรษะลูกชายไปด้วย


"อย่าโกรธพี่เค้านะลูก คนเรามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก... ที่หลงทาง เดินทางผิดกันทุกคน นี่เป็นหน้าที่ของแม่ที่ต้องช่วยลูกศิษย์ให้กลับมาเป็นคนดี... ไม่อย่างนั้น ครูก็ไม่ใช่ครู เป็นแค่คนสอนหนังสือเท่านั้นเอง"


น้ำแกงฟังแล้วพยักหน้า แต่ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก บางครั้งเขาก็อยากให้แม่เลิกเป็น 'ครู' จะได้ไม่ต้องกังวลกับลูกคนอื่น...



...คิดแล้วก็เกลียดตัวเองนัก เด็กชายเกลียดตัวเองที่คิดอะไรในแง่ลบแบบนี้...


........

// แก้ไขค่ะ เปลี่ยนโทนการเล่าเรื่องดูู ส่วนตัวชอบเขียนเรื่องรักสบายๆ อยู่แล้ว ดังนั้น ฟงแกงไม่ดราม่าแน่นอนค่ะ เรื่องนี้เป็น spin-off ของพี่เสือต่ายน้อย อีกเรื่องหนึ่งของเรานะคะ หากติดใจพี่น้ำแกงหรือฟง สามารถกลับไปติดตามพี่เสือต่ายน้อยได้ค่ะ หรือใครยังไม่ได้เสือต่าย ก็สามารถอ่านเรื่องนี้ได้เลยค่ะ มีตัวละครจากเสือต่ายมาแจมบ้าง แต่ก็ไม่มีเนื้อหาส่วนไหนต่อกันค่ะ

ตอนน้ำแกงยังเอ๊าะๆ ยังไม่มีเขี้ยวเล็บนี่น่ารักอ๊าาา เขียนเองแล้วรักเอง เป็นเด็กดี ซื่อๆ มากเลยค่ะ 555

ขอบพระคุณที่กดเข้ามาอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-05-2015 21:26:59
อร๊ายยยย เหี้ยฟงจริงๆ ติดยา 555
น้ำแกง อย่าไปยุ่งกะมัน

ชอบ เคะ ราชินี แบบ แกง
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-05-2015 21:46:19
น่าสนๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 25-05-2015 21:51:05
ลองเขียนแนวอย่างที่คนเขียนว่าก็น่าสนุกดีค่ะ รออ่านนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 25-05-2015 22:03:43
น้ำแกงกับฟง!!!

ขอบคุณค่าาาาาาาา  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-05-2015 22:12:55
ชอบๆๆคู่นี้ รอค่าา
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 25-05-2015 22:22:34
มีความสุข
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-05-2015 22:42:49
โห่ ชีวิต
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 14-07-2015 04:13:32
เอฟซีราชินีแกงค่ะ หึ้ยยยยยยย
มาลงชื่อรอคู่นี้ค่ะ  :man1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 16-07-2015 01:03:56
อยากอ่านต่อเเล้ววววว มาต่อเถอะพลีสสส
เรารักน้ำเเกง 555
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 16-07-2015 01:13:35
รอตอนต่อไปจ้า อยากอ่านน้ำแกงเร็วๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 04-08-2015 01:12:50
หายไปไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 08-08-2015 20:03:38
รอน้าาา
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 18-08-2015 00:23:10
เป็นเรื่องที่น่าติดตามมาก น่าสนใจสุดๆ อยากรู้แล้วสิว่าอนาคตฟงหลังจากบำบัดแล้วจะเป็นยังไง จะดีขึ้นหรือเลวลง รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: anandawan ที่ 19-08-2015 11:18:53
ดมกลิ่น ตามมาอ่านจากพี่เสือกับต่ายน้อย

อัพบ่อยๆนะคะ ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 21-08-2015 04:05:06
มารอดูกำเนิดฟงอวิ๋น หัวหน้าแอดมินเพจพ่อบ้านใจกล้า ค่ะ
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-08-2015 11:08:55
 :กอด1: ตามมาจากพี่เสือน้องต่าย รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-08-2015 12:05:49
มารอน้ำแกง
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 26-08-2015 13:18:08
กำลังติดตาม และจะสนับสนุนต่อไปค่ะ เผี่อมีพี่เสีอน้องต่ายโผล่มาบ้าง  :m32:

 :katai3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 26-08-2015 13:53:26
น่าสนใจและน่าสนุกมากค่ะ

กดบุ๊คมาร์กไว้รออ่าน
หัวข้อ: Re: Stay Gold
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 26-08-2015 17:07:08
ถึงกับไปย้อนไปอ่านพี่เสือน้องต่ายใหม่ 5555555555555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 28-08-2015 22:44:49
ฟงอวิ๋นตอนนั้นกับฟงอวิ๋นในพี่เสือน้องกระต่ายนี่คนละขั้วมากค่ะ ตอนนี้นี่แบบ... เอ็ง ถ้าไม่มีครูนาถเอ็งจะไปจบชีวิตที่ไหนเนี่ย สำนึกบุญคุณซะ! น้องแกงทำบุญมาดีจริงๆค่ะ รอดพ้นมือมารมาได้ เอ... ที่ฟงอวิ๋นหงอได้ขนาดนี้ในปัจจุบันนี่เป็นเพราะน้ำแกงได้นิสัยคุณแม่มาคอยคุมรึเปล่าคะ? หงอมาก 5555555555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 29-08-2015 07:30:50
อยากอ่านต่อ หลังเลิกได้เฮียฟงจะดีขึ้นไหมนะ

แล้วน้ำแกงจะรักเฮียฟงได้ไง เริ่มก็เกลียดแล้ว 55555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 29-08-2015 13:22:43
โอ๊ย แค่พี่น้ำแกงโผล่มาฉากแรกนี่ก็ปาหัวใจใส่รัวๆแล้วค่ะ 555555 ติดตามจากเรื่องพี่เสือมา ชอบนางมากก เคะราชินีนี่สิคู่ควร แต่พี่ฟงอดีตเลวร้ายน่าดูเลยนะคะ แต่ถ้าดูจากการเลี้ยงลูกในลักษณะพ่อแม่รังแกฉันก็ไม่แปลกเลย ยังดีเนาะได้ครูนาถไม่งั้นป่านนี้พี่ฟงคงไม่ได้ไปโผล่เรื่องนั้นแน่ๆ  :ling1: รอดูพัฒนาการของเด็กติดยาต่อไปค่ะ 555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 29-08-2015 17:14:14
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 10-09-2015 23:45:17
อยากอ่านแย้ว
หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-09-2015 22:39:10
Stay Gold 2


สำหรับฟงอวิ๋นแล้ว การติดยาไม่ใช่นรก แต่นรกที่แท้จริงคือการบำบัดหลังจากนั้น สีหน้าและแววตาของทุกคนในบ้านทำให้เด็กหนุ่มก้มหน้าอย่างรู้สึกผิดชั่วครู่ แต่พอหยุดเรียนและต้องไปหาหมอ เขาก็อาละวาดเต็มที่


อาการของฟงอวิ๋นนั้น หมอวินิจฉัยและบอกว่า ไม่ได้ถลำลึกนัก สามารถเลิกยาได้โดยไม่ทิ้งผลข้างเคียงเช่นโรคจิตเภท และใช้เวลาไม่นานเสียด้วยซ้ำ หากเจ้าตัวให้ความร่วมมือ


ป๊าม๊าฟังแล้วได้แต่ลูบอกลูบหลังลูกชายคนเล็ก พาลูกกลับบ้าน เป็นกำลังใจและจัดหากิจกรรมทุกอย่างที่หมอแนะนำโดยเคร่งครัด ไม่กล้าตามใจตี๋น้อยเหมือนเช่นเคย


แต่ลูกหรือจะรู้สำนึก ถึงจะนึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้สงบเสงี่ยม เขาทั้งดื้อรั้น เอาแต่ใจ อาละวาดเมื่อบิดาไม่ยอมให้ออกนอกบ้าน


"ลื้อจะไปไหนไม่ได้! อั๊วไม่ให้ไปเจอไอ้เพื่อนเลวๆ พวกนั้น!" เสียงตวาดลั่นบ้าน เป็นครั้งแรกที่อาป๊าที่แสนใจดีจะขึ้นเสียงกับลูก เมื่อลูกชายหันไปหามารดา อาม๊าที่โอ๋เขายิ่งกว่าอะไรก็พยักหน้ารับสามี


"นั่นแหละ! โซ้ยตี๋! ที่อาม๊าอาป๊าทำก็เพื่อลื้อนะ ฟังอาป๊าหน่อยนะลูก"


ฟงอวิ๋นแสนจะขัดใจ เขากระทืบเท้า...


บ้าชิบหาย! ไอ้ห่าพวกนั้นกำลังจะลากคนงามมาประเคนให้เขาแล้ว! ถ้าไม่ติดที่พ่อแม่!


"ฟงจะไป!" ลูกชายตะโกนตอบอย่างกราดเกรี้ยว มือปาข้าวของใส่บุพการี แล้วกวาดเอาของตกแต่งทำจากคริสตัลและแก้วเจียระไนลงจากโต๊ะ เสียงดังเคร้งคร้างลั่น


พี่ชายทั้งสองพยายามเข้ามาปราม เคราะห์ดีที่ครอบครัวเด็กหนุ่มมีเชื้อสายจากบรรพบุรุษที่อยู่นอกด่าน ตัวจึงสูงใหญ่ แข็งแรงกำยำกันทุกคน พี่คนโตกระโดดเข้าล็อกแขนซ้าย พี่คนรองล็อคแขนขวา พี่สาวคนที่สามน้ำตานองน้ำ พยายามเกลี้ยกล่อม


"โซ้ยตี๋เชื่อเจเจ๊นะ อย่าออกไปเลย... นอกจากเรื่องยา เรื่องเพื่อนแล้ว โซ้ยตี๋อยากได้อะไร เจเจ๊จะให้ทุกอย่างเลย"


"อาย้ง! อาครูแกบอกให้อย่าตามใจนะ!" มารดาอุทานลั่น แต่ลูกสาวส่ายหน้า ร้องไห้โฮ


"โฮฮ ม๊า อั๊วใจจะขาดแล้ว! อั๊วทนไม่ไหวหรอก" พี่สาวที่ตัวสูงใหญ่ไม่แพ้คนอื่นๆ ในบ้านเบือนหน้าหนีแล้ววิ่งหนีออกจากห้อง มีบิดามารดามองตามอย่างเป็นห่วง


"โซ้ยตี๋ ลื้อกลับไปคอนโดไม่ได้หรอก" จั่นเจาหรือยุทธการ พี่ชายคนโตกดเสียงต่ำ


"ม๊าขายคอนโดที่นั่นทิ้งไปแล้ว" พี่ชายคนรองพูดต่อ


ฟงอวิ๋นเงยหน้ามองพี่ชายทั้งสองที่เหงื่อท่วมตัว แล้วแผดเสียง "อะไรนะ! กล้าดียังไงมาขายคอนโดอั๊ว!"


"เงินอั๊ว! อั๊วจะขายหรือจะทำอะไรก็เรื่องของอั๊ว!" มารดาตอบเสียงแข็ง


ลูกชายคนเล็กฟังแล้วอ้าปากค้าง ไม่เคยเลยที่มารดาจะใช้เสียงแบบนี้... หรือตอบแรงๆ เช่นนี้ พี่ชายทั้งสองพอเห็นน้องคนเล็กอ่อนแรงลงก็ค่อยปล่อยมือ แต่ยังยืนคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ


ฟงอวิ๋นทรุดลงกับพื้น พึมพำ "ป๊า... ม๊า... ไม่รักฟงแล้วเหรอ... ตั่วเฮีย ยี่เฮีย... ?"


คนทั้งครอบครัวถอนหายใจ ในยามนี้ฟงอวิ๋นช่างเหมือนเด็ก ไม่ต่างจากเด็กชายฟงอวิ๋นที่แสนน่ารักในอดีตแม้แต่น้อย เมื่อโดนขัดใจ หลังจากอาละวาดแล้วก็จะทำเสียงเศร้า ออดอ้อนพี่ๆ และบุพการี


เป็นอาป๊าที่ยอมแพ้ก่อน เจ้าสัวฮงก้าวไปหาลูกชาย โอบกอดอย่างอ่อนโยน เสียงผู้เฒ่าสั่นเครือ น้ำตาคลอดวงตา "อาฟง... ลื้อก็รู้ว่าทุกคนรักลื้อ... รักใจจะขาด... หยุดออกไปสักพัก เลิกคบเพื่อนพวกนั้น... เลิกยาเถอะนะ..."




เพราะสัมผัสอุ่นชื้นเป็นวงที่บ่า... หัวใจของลูกอกตัญญูจึงอ่อนยวบยาบ



เจ้าสัวฮงผู้แข็งแกร่งในวงการธุรกิจ เฉียบขาดและโหดร้ายไม่น้อยนั้นกำลังร้องไห้... ร้องไห้ให้ลูกชายไม่เอาไหน



ฟงอวิ๋นพยักหน้ารับเบาๆ








คุณครูนาถลดามาเยี่ยมลูกศิษย์หลังจากที่นายยุทธจักร ลูกศิษย์ตัวดียอมเข้ารับการบำบัดได้สองสัปดาห์ ฟงอวิ๋นยังอยู่ในสภาพผอมผ่าย แต่ดวงตามีชีวิตชีวาขึ้น หลังจากพูดคุยเล็กน้อย เด็กนักเรียนของเธอก็เริ่มมีอาการหงุดหงิดบ้าง แต่ยังไม่ถึงกับคลุ้มคลั่ง ทำให้ครูยินดีมาก เธออวยพรให้ลูกศิษย์และให้กำลังใจ ก่อนจะออกมาคุยกับผู้ปกครอง

"ยินดีด้วยนะคะ ดูดีขึ้นเยอะเลย"


คุณนายจูพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มอ่อนเพลีย


"ขอบคุณค่ะ ยังดีที่มันยังพอรู้ดีรู้ชั่วนะอาคุณครู" ตอบแล้วน้ำตาพาลจะไหลเอา... ไม่นึกเลยว่าลูกที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจจะทำกันได้ขนาดนี้ โชคดีอย่างหนึ่งที่ฟงอวิ๋นไม่ใช่คนเลวโดยกมลสันดาน เนื้อแท้ด้านในก็ยังเป็นโซ้ยตี๋ที่น่ารักอยู่ สองสัปดาห์มานี้ฟงอวิ๋นจึงไม่เกเร อาละวาดมากนัก


"ค่ะ แล้วดิฉันจะรายงานความคืบหน้าให้โรงเรียนทราบนะคะ คุณแม่ก็อย่าเพิ่งท้อนะคะ ไม่ว่ายังไงก็ต้องเอาฟงอวิ๋นกลับมาให้ได้ค่ะ"


คุณนายมองคุณครูอย่างซาบซึ้ง นางหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตา "ค่ะ ขอบคุณอาคุณครูมากๆ เลยนะคะ ถ้าไม่ได้ลื้อ ป่านนี้อาฟงคง..."


"ไม่หรอกค่ะ" คุณครูยิ้มให้กำลังใจ กุมมือมารดาลูกศิษย์ "ความรักของคุณแม่และครอบครัวจะเป็นส่วนสำคัญช่วยให้ยุทธจักรก้าวต่อไปค่ะ"


"คุณครูดีจริงๆ... ขอบคุณนะคะ"


หลังจากปลอบโยนผู้ปกครองแล้ว คุณนาถลดาก็ขอตัวกลับบ้าน คนในตระกูลให้เกียรติถึงขนาดอากงอาม่าและทุกคนในครอบครัวมายืนส่งเสียด้วยซ้ำ ระหว่างที่คนขับรถไปวนรถมาให้คุณครู ย้งยี้ พี่สาวคนที่สามก็เอ่ยปากทัก

"ได้ยินว่าคุณครูมีลูกชายด้วยใช่ไหมคะ ?"


"ใช่ค่ะ ปีนี้ก็ 15 แล้วค่ะ"


"ลูกคุณครูเป็นยังไงบ้างคะ ?" คุณนายถามต่อ คุณนาถลดายิ้มน้อยๆ ตอบ แฝงไว้ด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวลูกชายไม่น้อย


"เป็นเด็กดีค่ะ... เอาจริงเอาจัง ขยันเรียนทีเดียว" ลูกชายอย่างน้ำแกง... ไม่ว่าจะตอบใครก็อดจะอวดนิดๆ ไม่ได้


"ดีจังเลยนะคะ" ย้งยี้พึมพำ คุณนาถลดาได้ยินจึงหยิบรูปจากกระเป๋าเงินให้ดู


"นี่ค่ะ ลูกชายดิฉัน ชื่อน้ำแกง"


บนรูปถ่ายครอบครัวขนาดพกพา มีผู้ชายตัวผอม ผิวคล้ำที่น่าจะเป็นสามีคุณนาถลดา ตัวคุณนาถลดาและเด็กตัวผอม ตาคมซึ้ง ใบหน้าสวยผุดผาดยิ้มร่าอยู่ระหว่างบิดาและมารดา ท่าทางทุกคนในรูปมีความสุขจนคนดูรู้สึกได้

"อ๊ะ ลูกชาย..."


"ลูกชาย!?"


"ค่ะ ลูกชาย" คุณครูหัวเราะเบาๆ พลางเก็บรูปใส่กระเป๋าเงิน "แกหน้าตาสะสวยน่ะค่ะ เลยเป็นปมด้อยมาจนโต ทุกวันนี้ใครชมว่าสวยแกจะโมโหมากเลยค่ะ ดิฉันเองก็คงอบรมลูกไม่ดีพอ"


"หน้าตาสวยก็ดีแล้วนะคะ ดีกว่าน่าเกลียด"


"ขอบคุณค่ะ" คุณครูพยักหน้ารับ และรถก็วนมาถึงพอดี ครอบครัวแซ่เอ็งพากันล่ำลาอีกครั้ง คนนั้นคนโน้นยกมือไหว้จนคุณครูเองก็จำไม่ได้แล้วว่ามีใครบ้าง


คุณครูรีบยกมือไหว้รับอากงที่ดูอายุน่าจะเกิน 80 ปีแล้วแต่ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง และเมื่อเปิดประตูรถ อากงจึงเอ่ยปากว่า

"เหล่าซือ... รบกวนลื้อมากแล้ว ยังให้เหล่าซือมาเองอีก เด็กๆ พวกนี้ใช้ไม่ได้จริงๆ คราวหน้าให้ทางนี้เอารถไปรับเหล่าซือดีกว่า เหล่าซือจะสะดวกหรือเปล่า"


คุณครูรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน เมื่อคนในครอบครัวต่างก็พยักหน้า ส่งเสียงกันเซ็งแซ่ แต่เสียงข้างน้อยย่อมแพ้เสียงข้างมาก ยิ่งในเมื่ออีกฝ่ายคือครอบครัวคนจีนที่ยึดมั่นในความกตัญญูและบุญคุณเป็นที่สุด ในที่สุดก็ต้องยอมผู้เฒ่า คุณนาถลดาพนมมือไหว้อากงแล้วตอบ "ขอบคุณค่ะ ต้องรบกวนทางนี้แล้ว"


อากงอาม่าพยักหน้าอย่างพอใจ โบกไม้โบกมือตอบ "ไฮ้ อะไรกัน เหล่าซือขับรถดีๆ นะคะ"


ต้องใช้เวลาอีกเกือบห้านาที กว่าจะล่ำลาอีกครั้งและตอบทุกคนได้ครบถ้วน คุณครูนาถลดาจึงปิดประตูรถ นั่งหลังพวงมาลัยได้ เธอถอนหายใจเบาๆ รู้สึกยินดีแทนลูกศิษย์


มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้... ลูกศิษย์ของเธอต้องกลับมาได้ในเร็ววันแน่ๆ








'ฟง เอาเงินมา เดี๋ยวกูจัดให้'
'เลี้ยงเหล้าหน่อยสิวะ'
'ฟง ฟง ลึกอีกสิคะ'
'ฟง... ซื้อกระเป๋าให้หน่อยสิคะ'



สารพัดเสียงหลอกหลอนอยู่ในหู กลางดึกคืนหนึ่ง... หนึ่งในคืนที่ไร้ดวงดาว คฤหาสน์เปิดเพียงไฟด้านนอก ฟงอวิ๋นลุกพรวดขึ้นมา ดวงตาเหม่อลอย เสียงยังไม่เบาลงเลย มีทั้งเสียงครางหวานกระเส่า เสียงแหบห้าว เสียงทั้งหมดนั้นเรียกชื่อเขา


'ฟง... ฟง...'


ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แค่หลับตาลง หลังเปลือกตาก็มีใบหน้าที่ปราศจากชื่อ อ้าปากหวีดร้องเรียกชื่อและขอสิ่งของต่างๆ ไม่ต่างจากผีเปรต เด็กหนุ่มสะบัดศีรษะ แล้วภาพตรงหน้าก็หมุนวนรวมกัน พร้อมกับเสียงหัวเราะไร้ชีวิต


ฟงอวิ๋นลุกขึ้น สองขาสั่นระริก พยายามเรียกเอาสติกลับคืนมา


หมอเองก็บอกว่าระยะนี้ยังมีภาพหลอน...


...เด็กหนุ่มคู้ตัวลง เสียงหลอนหลอกเปลี่ยนเป็นกระซิบกระซาบ


ไปให้พ้น!


สุดจะหลีกหนี ร่างผอมแห้งคืบคลานเข้าห้องน้ำ เปิดเอาน้ำเย็นราดศีรษะ คุดคู้อยู่เพียงลำพัง ในร่างกายร้อนแต่ตัวกลับสั่นระริก... ผิวหนังหนาวเย็นยะเยือก ปากอ้าค้างก่อนใบหน้าและสีสันมากมายในหัวจะหมุนวนอีกครั้ง


สัมผัสของเหลวอุ่นๆ ตรงริมฝีปาก น้ำลายหยดย้อย


และแล้วเขาก็อาเจียนออกมา...




ภาพสุดท้ายที่เห็น... เสียงสุดท้ายที่ได้ยิน


เด็กชายผิวเข้มนวลเนียน ดวงตากลมโตหวานซึ้งพราวระยับด้วยความรัก




'รักนะ...'










ในเช้าวันต่อมา แม่บ้านกรีดร้องลั่นห้อง แล้วรีบไปตามคุณท่านทั้งหลายมา วันนี้พี่ชายคนโต - จั่นเจาและพี่รอง - บ่อกี้ต้องเข้าบริษัท พี่สาวคนที่สามก็ต้องไปธุระ ส่วนบิดามารดาต้องไปเคลียร์เรื่องธุรกิจที่เมืองจีน


...ไม่มีใครอยู่บ้านเลย นอกจากสองผู้เฒ่าอย่างอากงและอาม่า


อากงยืนถือไม้เท้าหัวทองคำอย่างสังเวชใจ ขณะมองภรรยาชี้นิ้วให้คนสวนที่ยังแข็งแรงช่วยประคองคุณหนูคนเล็กลุกจากมุมห้องน้ำ

"อาตี๋เอ๊ย... เป็นเวรเป็นกรรมอะไรของลื้อนะ... คบแต่เพื่อนชั่วๆ..."




ฟงอวิ๋นไข้ขึ้นสูงในเวลาต่อมา หมอประจำตระกูลถูกตามตัวด่วน หลังจากฉีดยาลดไข้และให้ยาแล้ว สองสามชั่วโมงหลังจากนั้น ย้งยี้ พี่สาวคนที่สามที่ใจร้อนเป็นไฟจึงกลับถึงบ้าน


หญิงสาวถอนหายใจ มองเด็กหนุ่มบนเตียงแล้วนั่งลงข้างๆ สองมือกุมประสานกันด้านหน้าอย่างไร้เรี่ยวแรง


อาตี๋น้อย... ผอมผ่าย ใบหน้าซูบตอบหายใจเชื่องช้า ทรวงอกขยับขึ้นลง


วันนี้เธอไปจัดการบรรดาเพื่อนๆ ของน้องชายมา ด้วยความร่วมมือของโรงเรียน เพื่อนๆ ของฟงอวิ๋นที่เหลือจากเมื่อวันที่โดนสารวัตนักเรียนจับถูกรายงานความประพฤติและเรียกผู้ปกครองมาทั้งหมด เธอแนะนำแกมข่มขู่บรรดาผู้ปกครองจนค่อยๆ ทยอยพาบุตรหลานลาออกจากโรงเรียน

เพื่อนของฟงอวิ๋นส่วนใหญ่เป็นลูกคนมีเงิน แต่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ จึงพากันเกเรออกนอกลู่นอกทาง บางคนขนาดนัดพบผู้ปกครองด้วยเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ยังส่งเลขามาแทนเสียด้วยซ้ำ ครูนาถลดาได้แต่ส่งจดหมายฝากไปทางเลขาอย่างหดหู่

ไม่ต้องพูดถึงเพื่อนที่มาเยี่ยม แค่จัดการเรื่องของตัวเองก็ลำบากแล้ว เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ถูกส่งเข้าสถานบำบัด มีน้อยนักที่จะถูกส่งกลับมาดูแลที่บ้านเหมือนฟงอวิ๋น


มือหนาอูม ขาวจัดของพี่สาวหยิบผ้าขนหนูซับน้ำแล้วเช็ดตัวให้น้องชาย จนเสร็จเรียบร้อย เธอนั่งลงข้างเตียง เม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาเล็กหยียิ่งหรี่ลงอย่างอย่างใช้ความคิด


...อาตี๋น้อยของเจเจ๊








วันเวลาแห่งความทรมาน ทุกข์ท้อของทั้งครอบครัวและตัวฟงอวิ๋นเองผ่านไปอย่างเชื่องช้า ราวสองเดือนต่อมา ครูนาถลดาก็มาเยี่ยมอีกครั้ง ครั้งนี้เด็กหนุ่มดูดีขึ้นบ้าง เริ่มมีเนื้อหนังขึ้น พี่ชายและบิดาพาฟงอวิ๋นไปออกกำลัง เข้าสังคมทีละน้อยๆ อาหารการกินก็มีอากงอาม่าปรนนิบัตรดูแลไม่ให้บกพร่อง ทั้งครอบครัวรักและเอาใจใส่ไม่ต่างจากฮ่องเต้น้อยคนเดิม ฟงอวิ๋นจึงดีวันดีคืน ไม่ตื่นขึ้นมาคลุ้มคลั่งแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงหลอนอยู่บ้างนานๆ ครั้ง หลังจากอ่านจดหมายจากจิตแพทย์แล้ว คุณครูก็เก็บใส่แฟ้มรวมกับเอกสารอื่นๆ ของลูกศิษย์


ไม่ใช่แค่ฟงอวิ๋นคนเดียวที่คุณครูนาถลดาติดตามดูแล แต่เป็นเด็กนักเรียนเกือบ 10 คนที่มีปัญหาเรื่องยาเสพติด ถึงแม้จะทำให้เธอไม่มีเวลาพักผ่อนหรือต้องทำงานหนักขึ้น แต่คุณครูก็ไม่เคยเหน็ดเหนื่อยที่จะดูแลเด็กๆ อีกทั้งยังไปสอนทุกวันไม่ได้ขาดและยังติดตามผลการเรียนเด็กๆ คนอื่นอย่างใกล้ชิดอีก


ตระกูลเอ็งของฟงอวิ๋นนับถือครูนาถลดาด้วยใจจริง ในการพบปะครั้งที่สอง ฟงอวิ๋นคุยกับครูนานขึ้น ทั้งเรื่องอาการประสาทหลอน ความลำบากในการฟื้นฟูตัวเอง

"ผมเห็นหน้าแม่ หน้าพ่อ... ลอยมาตลอดเวลา" เสียงแหบๆ ของเด็กหนุ่มสั่นเครือน้อยๆ "...มันทรมาน ตัวสั่นไปหมด อย่างกับไม่ใช่ตัวผม"


"เธอเป็นเด็กดีนะ" คุณครูปลอบประโลม "เด็กที่หันกลับมาได้ ต้องใช้ความกล้า ความอดทนมากรู้ไหม เธอพยายามได้ดีแล้ว ขอให้สู้ต่อไป เพื่อตัวเอง เพื่อพ่อแม่"


ฟงอวิ๋นรับรู้เรื่องของครูมาจากครอบครัวแล้ว เขายกมือไหว้ "ขอบคุณครับ"


"ครูคิดว่า เธอน่าจะกลับมาเรียนได้ไวกว่าเพื่อนๆ นะ ไว้หมอรับรองเมื่อไหร่ ครูจะคุยกับผู้ใหญ่เรื่องกลับมาเรียนให้"


เด็กหนุ่มนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบช้าๆ "ผมยังไม่พร้อมกลับไปเรียนครับ... ถึงจะกลับไปเรียน... ก็คงไม่ทัน..."


"อืม..." ใช่ว่าเกรดของลูกศิษย์จะดี ช่วงเวลาที่เกเรไปก็ไม่ใช่น้อย ครูนาถลดาจึงพยายามเสนอทางเลือก "ถ้าอย่างนั้น... ถ้าอาการดีขึ้น ในช่วงที่พักฟื้นน่ะ ลองปรึกษาพ่อแม่ดูนะ ว่าจะเรียนพิเศษได้ไหม"


รอยยิ้มแห้งผากปรากฏบนใบหน้า "ผมไม่อยากเรียนแล้ว... ไม่อยากกลับไปเจอแบบเดิมๆ อีก"


'แบบเดิมๆ' ที่ว่า คงหมายถึงสังคมเดิม ถ้าหากฟงอวิ๋นกลับไปเรียน และกลับที่สังคมเดิมๆ การบำบัดครั้งนี้ก็ไม่มีความหมาย
"แต่ว่า... เพื่อนๆ เธอครูก็ติดตามอยู่ ทุกคนได้รับการบำบัดแล้ว บางคนก็ย้ายไปเรียนที่อื่น มีอีกไม่กี่คนที่ต้องใช้เวลาหน่อย กว่าจะออกจากสถานบำบัดได้"


"ผมไม่ได้หมายถึงเพื่อนกลุ่มเดิม" ฟงอวิ๋นก้มหน้า ที่ผ่านมาเขามีสติขึ้นมาก หลังจากใคร่ครวญดีแล้ว... จึงรู้ว่า ที่เขาเดินทางผิดมาถึงขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะเพื่อน แต่เป็นเพราะ...
"ผมหมายถึงตัวเอง"
"ผมควบคุมตัวเองไม่ได้... ผมมีเงินอยู่ในมือ เหมือนมีโลกทั้งใบ เพื่อนเลวๆ ต่อให้อยู่ที่ไหนก็มี ผมไม่กลัวพวกมัน... ผมกลัวแค่ตัวเอง... จะกลับไปเป็นแบบเดิมๆ อีก"


คุณครูรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่ใช่แค่ต้องฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ แต่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิถีชีวิตด้วย ฟงอวิ๋นจึงจะมีภูมิคุ้มกันต่อโลก

เงินเมื่อมีมากเข้า... เป็นได้ทั้งยาพิษและยารักษา


ฟงอวิ๋นนับว่าเข้าใจโลกไม่น้อยจึงจะคิดจนตกตะกอนเช่นนี้ได้ ที่ผิดไม่ใช่เพื่อนฝูงที่รายล้อมหรือเงินในมือหรือครอบครัว แต่เป็นตัวเขาเองล้วนๆ ที่ทำให้ผิดพลาด


ครูยิ้มน้อยๆ "ครูไม่ทิ้งเราหรอก... ค่อยๆ ปรับตัวไป ครูจะคอยให้คำแนะนำ คำปรึกษาตลอด"


เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า ชั่วแวบหนึ่งที่คิดถึง 'ลูกชาย' ของผู้มีพระคุณ


...เด็กคนนั้นเป็นเด็กดี ใบหน้าอ่อนเยาว์มีเค้าไร้เดียงสา... หากเป็นเด็กคนนั้น...


เขาสะบัดหน้า ก่อนจะยิ้มตอบ แล้วยกมือไหว้ "ขอบคุณครับ"







ทั้งครอบครัวมายืนส่งครูนาถลดาอย่างอุ่นหนาฝาคั่งเช่นเคย ครั้งนี้คนขับรถจากตระกูลไปรับและไปส่งถึงที่บ้าน ผู้เฒ่าขอบอกขอบใจจนคุณครูเกรงใจ ระหว่างรอรถ คุณนายจูก็ชวนคุยเรื่องสัพเพเหระ ครั้งนี้สีหน้าของมารดาลูกศิษย์ดูดีขึ้นมาก ท่าทางไม่อมทุกข์เช่นครั้งก่อนแล้ว

"อาหมอบอกให้อาฟงเข้าสังคมบ้าง ตอนนี้ทุกอาทิตย์ก็เข้ากลุ่มบำบัดที่โรง'บาล มีพวกคนที่กำลังบำบัดคล้ายๆ กับแกมาคุยกัน"


"ดีแล้วค่ะ ต้องค่อยๆ ทีละนิดๆ ให้แกปรับตัวค่ะ" คุณครูตอบ คุณนายพยักหน้ารับและบ่นเนือยๆ


"แต่ยังไง อั๊วก็อยากให้อีมีเพื่อนดีๆ บ้าง... แต่อาฟงแกเป็นลูกหลง เรามีแกตอนที่พี่ๆ โตหมดแล้ว พี่ๆ ก็พยายามพาไปเจอเพื่อนๆ แต่ก็แก่กว่าอีเยอะ คุยกันไม่สนุก ไม่ค่อยรู้เรื่อง อาฟงเองก็บ่นๆ ว่าเข้ากับเพื่อนพี่ๆ ไม่ได้ จะเพื่อนอาปาหรืออั๊วรึก็คนละรุ่น แต่จะปล่อยให้อีไปไหนคนเดียว ก็กลัวซ้ำรอยเดิม กลัวเด็กคนอื่นจะไม่เข้าใจแกอีก"


"ถ้าลองไปเรียนพิเศษล่ะคะ ?"


"ไฮ้... หมายถึงที่เรียนพิเศษเด็กเยอะๆ น่ะเหรอ ?"


"ค่ะ แกจะได้ลองเข้าสังคมแล้วก็จะได้เรียนเพิ่มในช่วงที่ขาดไปด้วย"


"ตอนแรกหนูก็คิดแบบนั้นค่ะครู" ย้งยี้ พี่สาวคนที่สามตอบ "แต่หมอกลับไม่แนะนำให้ไปเจอคนเยอะๆ ทีเดียวเลย เพราะถ้ามีอะไรขึ้นมา... อย่าง... อย่าง... เช่น ถ้าฟงคลุ้มคลั่งขึ้นมา หรือเพื่อนรับไม่ได้ หรือฟงปรับตัวไม่ได้... อาจจะยิ่งแย่น่ะค่ะ"


"แกไม่มีเพื่อนดีๆ ที่โรงเรียนเลยรึเหล่าซือ ?"


คุณครูฟังแล้วนิ่งคิดไปชั่วครู่ แล้วยิ้มแห้งๆ "คิดว่า... ไม่มีค่ะ" เพื่อนที่โรงเรียนนั้น ถ้าไม่เกลียดหรือกลัวฟงอวิ๋นก็พินอบพิเทา หาประโยชน์เข้าตัวเองหรือพาไปในทางที่ผิดทั้งนั้น


ครอบครัวพากันถอนหายใจ


เด็กดีๆ ที่อายุใกล้เคียงกับฟงอวิ๋น... เพื่อให้ฟงอวิ๋นค่อยๆ ปรับตัวได้...


...เด็กที่รักเรียน ไว้ใจได้ เข้ากับคนง่าย


"...เอ่อ... ถ้าเป็นลูกดิฉันล่ะคะ ?"


"เอ๋ ?"


"ลูกชายดิฉันน่ะค่ะ อายุใกล้เคียงกับยุทธจักร ถ้าให้มาเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาหรือช่วยเรื่องเรียนก็น่าจะได้นะคะ คุณแม่คิดว่ายังไงคะ ?"


"อา... ลูกคุณครู" คุณนายจูขมวดคิ้ว คิดถึงเด็กชายในรูปที่ใบหน้าสะสวยหมดจด ท่าทางเรียบร้อย "เอ่อ... แล้วคุณครูจะว่ายังไงคะ ทางนี้ยินดีมากค่ะ อา... ถ้าจำไม่ผิดลูกคุณครูอายุน้อยกว่าอาฟงปีนึง ?"


"ใช่ค่ะ"


"นั่นสินะ... ดีจริง ถ้าอย่างนั้น ในเมื่ออาฟงเองเรียนไม่ดีตั้งแต่พื้นฐาน ทางนี้ก็จะจ้างครูมาสอนติวเดี่ยว แล้วรบกวนลูกครูมาเรียนด้วยดีไหมคะ ?"


"เอ่อ..." น้ำแกงไม่เคยเรียนพิเศษมาก่อน เพราะเด็กน้อยรับผิดชอบตัวเองได้ตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยให้พ่อแม่ต้องกังวล และความตั้งใจของคุณนาถลดาคือ ให้ลูกชายมาเป็นเพื่อนคุยลูกศิษย์และค่อยๆ พาเข้าสังคมเท่านั้นเอง


กับเด็กนักเรียนคนอื่นๆ คุณนาถลดาก็ตั้งใจเช่นนี้ แต่น่าเสียดายที่มีแค่ครอบครัวฟงอวิ๋นเท่านั้นที่เอาใจใส่ลูกขนาดนี้ จนตัวคุณนาถลดาเองก็ไว้ใจครอบครัวนี้กระทั่งยอมให้ลูกชายมาเกี่ยวข้อง


"เรื่องค่าใช้จ่ายทางนี้ออกเองทั้งหมดครับ จะไปรับไปส่งน้องอย่างดี" จั่นเจาพี่ชายคนโตพูดอย่างมั่นคง


"ถ้าคุณครูไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะครับ" เสียงสุภาพดังมาจากพี่ชายคนที่สอง บ่อกี้


"เอ... เรื่องนี้คงต้องถามเจ้าตัวน่ะค่ะ" คุณครูตอบแบ่งรับแบ่งสู้ "ถ้ามาคุยเล็กๆ น้อยๆ แก้เหงาน้ำแกงน่าจะทำได้ แต่ถ้ามาเรียนด้วยกันเลย อาจจะ...."


ใบหน้าของทั้งคนหนุ่มและชราเต็มไปด้วยความคาดหวัง คุณนาถลดาจึงกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วพูดต่อจนจบ

"น้ำแกงอาจจะมารบกวนได้น่ะค่ะ... ไว้จะลองถามเจ้าตัวก่อนนะคะ"









หัวข้อ: Re: Stay Gold Edited Ch1 28/8/15
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 17-09-2015 22:39:36
น้ำแกงนั่งเล่นเกมอักษรไขว้อยู่กับพ่อในครัว ในวันหนึ่งที่มารดาเลิกงานช้า ท่านผู้พิพากษาไกรสร บิดาของเขาเป็นคนไปรับที่โรงเรียน และทำอาหารง่ายๆ ให้กิน สองพ่อลูกคุยกันเบาๆ ก่อนที่มารดาจะกลับมาด้วยหน้าตาอิดโรย


ลูกชายคนเดียวของบ้านเป็นคนเดินไปรับมารดาถึงประตูรถ คุณนาถลดายิ้มน้อยๆ ให้ กล่าวชมลูกชาย "ขอบใจนะลูก"


น้ำแกงเป็นปลื้ม ช่วยแม่หอบหิ้วเอกสารออกจากรถ พอขึ้นบ้าน ก็หาน้ำหาท่าให้กิน


"กินอะไรมาหรือยัง ?" ท่านผู้พิพากษาถาม ภรรยาส่ายหน้า


"กินขนมมานิดหน่อยค่ะ"


"วันนี้พ่อทำกับข้าวด้วย" น้ำแกงรีบบอก "แม่จะกินก่อนไหมครับ ?"


"ไปอาบน้ำแป๊บนึงนะลูก น้ำแกง... ไม่สิ พ่อช่วยอุ่นข้าวให้หน่อยนะ อย่าให้แกงทำล่ะ เดี๋ยวไมโครเวฟระเบิดอีก"


ลูกชายฟังแล้วหน้าง้ำ บิดาหัวเราะเบาๆ ขยี้ศีรษะลูกชายแล้วรับคำ


ทำไมหนอ... ก็พอน้ำแกงจะแค่อุ่นอาหารง่ายๆ ไมโครเวฟดันระเบิดทุกครั้งเลย แค่ทำไข่ต้มแค่นั้นเอง ไม่ต้องพูดถึงทำกับข้าว ทั้งบิดามารดาเขาทำกับข้าวเป็นกัน มีแต่เขานี่แหละที่ทำไม่เป็น


"น้ำแกงเป็นเด็กดีแล้วล่ะ" พ่อเห็นลูกชายหน้ามุ่ยจึงปลอบใจ "ไปเอาการบ้านมาทำเถอะลูก"


"ครับ"


เด็กชายอักขระหรือน้ำแกงของคุณพ่อคุณแม่เป็นเด็กดี ทั้งเรียนเก่ง มารยาทดี มีน้ำใจ ว่านอนสอนง่าย ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องลำบากใจ มีก็แต่งานบ้านงานเรือนนี่แหละที่ฝึกเท่าไหร่ก็ไม่เก่งเสียที


ลูกชายกลับเข้ามาในครัวแคบๆ พร้อมกับสมุดหนังสือ ครูนาถลดานั่งกินข้าวอยู่แล้ว


คนบ้านนี้มีลักษณะนิสัยคล้ายๆ กัน คือไม่ว่าจะกิน จะนอน จะนั่งหรือพูดคุย จะมีลักษณะนุ่มนวลเหมือนผู้ดี แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงเสียด้วย ครูนาถลดามีเชื้อสายจากในรั้วในวัง เช่นเดียวกับท่านผู้พิพากษาที่สืบเชื้อสายจากตระกูลขุนนางเก่าแก่ อีกทั้งตระกูลของบิดายังรับราชการทดแทนคุณแผ่นดินกันทุกรุ่นและตระกูลนี้ก็ขึ้นชื่อเรื่องความซื่อสัตย์ รักศักดิ์ศรี สมเป็นคนของตระกูลเก่าแก่ แต่ถึงอย่างไร สองสามีภรรยาก็นับได้ว่าเป็นปลายของตระกูล ไม่มียศฐาหรือทรัพย์สมบัติใดๆ แล้ว แต่ก็ถูกอบรมสั่งสอนและมีกริยามารยาทเช่นผู้ดีในอดีต


คุณนาถลดาคุยกับสามีเบาๆ ลูกชายก็นั่งทำการบ้านเงียบๆ มีพูดคุยกับบิดามารดาเป็นระยะ จนกระทั่งบทสนทนามาถึงเรื่องเด็กนักเรียน


ท่านผู้พิพากษาไกรสรเองก็ทำงานเกี่ยวข้องกับเด็กๆ ท่านประจำอยู่ศาลเยาวชน จึงเห็นเรื่องราวต่างๆ ของเด็กๆ มาไม่น้อย หลังจากฟังภรรยาเล่าเรื่องนักเรียนในปกครองแล้วก็ถอนหายใจ

"ในสถานพินิจฯ น่ะ พอเด็กเข้าไป แล้วออกมาก็ซ้ำรอยเดิม ผมว่าพ่อแม่ควรจะดูแลลูกมากกว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูหรือตำรวจ"


ภรรยาท่านพยักหน้ารับ "นั่นสิคะ น้ำแกงก็ฟังไว้นะลูก" ยังไม่วายอดสอนลูกชายไปด้วยไม่ได้


น้ำแกงเงยหน้าขึ้นจากสมุดการบ้าน ส่งยิ้มให้มารดา รับคำสุภาพ "ครับ"


สองสามีภรรยาฟังแล้วอดยิ้มตามไม่ได้ ก็ลูกชายของท่านน่ะ... เป็นเด็กดีเสียขนาดนี้ พ่อแม่ที่ไหนก็ภูมิใจทั้งนั้น คุณนาถลดาจึงหัวเราะเบาๆ

"มา มาให้แม่กอดหน่อย"


ลูกชายลุกขึ้นไปกอดมารดาอย่างว่าง่าย มือของแม่พิมพ์ของชาติโอบรอบเอวบาง แล้วลูบกระหม่อม "เป็นเด็กดีจัง แม่รักน้ำแกงนะลูก"


"น้ำแกงก็รักแม่" เด็กชายน้ำแกงพูดอย่างอ้อนๆ


"ขี้อ้อนจัง เป็นหนุ่มแล้วนะเรา" คุณพ่อส่ายหน้าให้


"น้ำแกงก็รักพ่อนะครับ"


"ไม่ต้องอ้อนพ่อเลย... ตัวเท่าเมี่ยง เมื่อไหร่จะโตน้อ..."


"นั่นสิลูก" มารดาลูบเอวและท่อนแขนบอบบาง "ตัวบางจนเหมือนผู้หญิงไปแล้วเนี่ย... คนอื่นเค้าจะว่าพ่อแม่เลี้ยงไม่ดีหรือเปล่าฮึ ?"


น้ำแกงหัวเราะ "ก็แกงกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนนี่ฮะ"


"เออ จะว่าไป คุณยังไม่ได้เล่าถึงเด็กที่พ่อแม่พาไปบำบัดเลยนะ" ท่านผู้พากษารีบเปลี่ยนเรื่อง ก่อนสองแม่ลูกจะคลอเคลียกันจนไม่ได้ทำอะไร


คุณนาถลดาปล่อยเอวบาง ก่อนกำชับ "แกงไปทำการบ้านก่อนนะลูก ไม่ต้องไปไหน นั่งตรงนี้นี่แหละ มีอะไรจะได้ถามพ่อแม่ได้"


"ครับ"


รอจนลูกชายกลับไปนั่งเรียบร้อยแล้ว คุณครูจึงตอบสามี "เรื่องตายุทธจักรน่ะหรือคะ ?"


"อ้อ ใช่ คุณเคยบอกว่าเด็กชื่อนี้ทางบ้านตามใจมาก"


โดยปรกติแล้ว ทั้งคุณนาถลดาและสามีจะพูดคุยกัน จนไปถึงปรึกษาเรื่องงาน เรื่องเด็กๆ เนื่องด้วยทั้งสองท่านมีจิตใจเมตตา ทั้งยังมุ่งมั่นทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ทุ่มเท จึงมีไม่น้อยเลยที่จะเหน็ดเหนื่อยจนต้องปรับทุกข์กัน

"คุณพูดขึ้นฉันถึงนึกขึ้นได้ค่ะ สักสองสัปดาห์ก่อนทางครอบครัวแกเอารถมารับฉันเลย รถยี่ห้อหรูเสียด้วย"


"แล้วเป็นยังไงบ้าง ?"


คุณนาถลดาทบทวนความจำสักครู่ก่อนตอบ "ครอบครัวให้ความร่วมมือดีมากค่ะ พากลับไปบำบัดที่บ้าน มีคนดูแลตลอด"


"ถ้าเป็นแบบนั้นก็คงหายไว"


"ค่ะ เห็นบำบัดถึงขั้นที่ 2 หรือ 3 แล้วค่ะ อีกไม่นานน่าจะกลับมาเรียนได้"


"แต่จะกลับมาเรียนที่เดิมเหรอ ? สังคมเดิมๆ มีโอกาสเสี่ยงให้กลับไปติดยาได้นะ"


"นั่นสิคะ แต่พวกเพื่อนๆ แกก็ทยอยลาออกไม่ก็ย้ายไปเกือบหมดแล้วค่ะ... เห็นว่าพี่สาวแกมาจัดการเรียบร้อย"


"มีเงินก็ดีอย่างนี้แหละน้า..." น้ำแกงฟังแล้วอดเบะปากไม่ได้


"อย่าไปพูดอย่างนั้น" คุณแม่เขม้นตามองใส่ "ลูกใครใครก็รักแหละลูก"


น้ำแกงฟังแล้วก็ปิดปาก ทำการบ้านต่อไปเงียบๆ


"ถ้าอย่างนั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง"


"ค่ะ อ้ะ เกือบลืม ทางนั้นมีเรื่องขอร้องพวกเรามาด้วยค่ะ"


คุณพ่อเลิกคิ้ว "หืม ?"


"เรื่องน้ำแกงน่ะค่ะ" คุณแม่ตอบแล้วลุกขึ้นรวบรวมจาน มีลูกชายคอยช่วย "ทางนั้นจะให้น้ำแกงไปช่วยเป็นเพื่อนเรียนพิเศษน่ะค่ะ"


"ทำไมเป็นลูกเราล่ะ ?"


น้ำแกงเองก็สงสัย ไหงจู่ๆ เด็กนักเรียนของแม่ถึงมาเกี่ยวข้องกับเขาได้


"แกงเอาไปล้างให้แม่หน่อยนะ อ้อ... เพราะว่าตายุทธจักรไม่มีเพื่อนดีๆ เลยน่ะสิคะ แล้วดันเป็นลูกหลง พี่ๆ ก็โตกันหมดแล้ว คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง ครั้นจะให้ไปเรียนพิเศษเลย บ้านนั้นก็กลัวว่าจะมีเรื่องหรือซ้ำรอยเดิมอีก เลยจะขอน้ำแกงไปเป็นเพื่อนน่ะค่ะ"


"อ้อ... ช่วงระยะที่ 3 สินะ" ท่านผู้พิพากษาฟังแล้วก็พยักหน้า ก่อนหันไปถามลูกชาย "แกงล่ะ ว่ายังไง ?"


"ช่วงระยะที่ 3?" น้ำแกงทวนคำ มือบีบฟองน้ำปาดบนจาน "คุณพ่อหมายถึงช่วงระยะฟื้นฟูระยะที่ 3?"


"ใช่แล้วลูก"


ช่วงระยะที่ 3 ที่คุณพ่อพูดถึง หมายถึงช่วงระยะที่ผู้ติดยาเสพติดบำบัดถึงระยะที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บำบัดจะเริ่มเข้าสังคม ฟื้นฟูสมรรถภาพ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อเลิกยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ฟงอวิ๋น นักเรียนของคุณแม่เริ่มเข้าสู่ช่วงนี้แล้ว


"ไปเรียนนี่หมายถึงยังไงฮะ ?" เสียงลูกชายยังเอื่อยๆ ปนอิดออดอยู่


"ทางนั้นจะจ้างครูมาปูพื้นฐานใหม่น่ะ เลยขอร้องให้น้ำแกงไปเรียนเป็นเพื่อน ไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วย" คุณแม่มีท่าทางคิดหนัก "จริงๆ มันก็ดีกับแกงเอง นอกจากจะได้ช่วยเหลือคนอื่นแล้วยังได้เรียนพิเศษฟรีๆ แต่แม่ก็ไม่ค่อยอยากให้ลูกไปคลุกคลีนัก ใจจริงอยากแค่ให้น้ำแกงไปคุยแก้เหงาแป๊บๆ กับพี่เค้านานๆ ทีเท่านั้นเอง"


"เอ้อ... แล้วลูกศิษย์คุณแม่ นายยุทธ..."


"พี่ยุทธจักร" มารดาแก้ทันที เพราะไม่ชอบให้ลูกชายเสียมารยาททั้งต่อหน้าและลับหลังผู้อื่น


"ฮะ... พี่เค้าไม่คลุ้มคลั่งทำร้ายแกงหรอกเหรอ ?" น้ำแกงแก้อย่างขอไปที มือเช็ดจานจนแห้งแล้วเก็บใส่ตู้


"เท่าที่แม่ประเมิน... เค้าดีขึ้นมากแล้วนะ มีสมาธิมากขึ้น คุยได้นานขึ้น แล้วถ้าแกงจะไปจริงๆ แม่จะขอให้บ้านนั้นช่วยดูแกงให้ด้วย"


"แต่ก็แล้วแต่แกงนะ" คุณพ่อแทรก


"..." ลูกชายนิ่งไป ไม่ตอบทันที คุณแม่จึงบอกยิ้มๆ


"ไม่ต้องเครียดลูก... พ่อกับแม่ไม่บังคับ แล้วแต่น้ำแกง"


แต่คิ้วสวยของลูกชายก็ยังขมวดเข้าหากันอยู่ดี...









อาจจะเพราะชะตาลิขิตหรือความเป็นลูกกตัญญูของน้ำแกงก็ไม่อาจรู้ได้ วันถัดมา หลังจากคุณนาถลดากลับจากสถานบำบัดยาเสพติดที่ต่างจังหวัดด้วยความเหน็ดเหนื่อยแล้ว น้ำแกงจึงตัดสินใจได้

"แม่ครับ แกงจะไป"


"ไปไหน ?" มารดาล้าจนตามไม่ทัน เธอนั่งเอนกายพิงโซฟา จิบส้มคั้นเปรี้ยวอมหวานเย็นๆ และมีลูกชายคอยบีบนวดข้างๆ ให้คลายความเหนื่อยอ่อนได้บ้าง


"เรื่องลูกศิษย์ของแม่น่ะครับ... ที่คุยกันวันก่อน..."


"อ้อ..." คุณแม่ตอบเสียงยาว "ขอบใจมากจ้ะ แต่แปลกๆ นะเรา ทำไมจะไปล่ะ ?"


น้ำแกงถอนหายใจ "...แกงไม่อยากให้คุณแม่เหนื่อยน่ะครับ อย่างน้อยถ้าพี่คนนั้นอาการดีขึ้น ภาระแม่ก็จะน้อยลง"


มารดายิ้มน้อยๆ ลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู "แกงเอ๊ย... เป็นเด็กดีจริงๆ"


แต่ถึงกระนั้น หลังจากปรึกษากับสามีแล้ว เธอก็บอกลูกชายว่า "แกง... ถึงพ่อกับแม่จะเห็นใจเด็ก แต่พ่อกับแม่ก็รักลูกมากกว่า... เราตกลงกันแล้วว่า จะรอให้ตายุทธจักรอาการดีขึ้นกว่านี้ก่อน... อาจจะซักอีกเดือนสองเดือน แม่ถึงจะให้ลูกไปนะ"


"ครับ" น้ำแกงตอบอย่างเป็นเด็กดี








ฟงอวิ๋นเลิกยาได้ 4 เดือนแล้ว...

เพราะอาม๊าบอกเขาว่า หากอาการดีขึ้น เขาจะได้เริ่มเรียนพิเศษ... แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ สาระอยู่ที่ 'เพื่อนร่วมเรียน' ต่างหาก!

น้ำแกงจะมาเรียนกับเขา!


ถึงจะโดนลดชั้นไปหนึ่งปีเพื่อปรับพื้นฐานชดเชยกับเวลาที่เสียไป แต่ฟงอวิ๋นไม่เสียใจแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่เคยเจอกันเพียงครั้งเดียว พูดคุยกันไม่ถึงสิบประโยค แต่ฟงอวิ๋นก็ตั้งเด็กชายผิวสีน้ำผึ้งเป็นเข็มทิศไว้ในใจ


อยากเจอ...


ถ้าหากเลิกยาได้... ใบหน้าสะสวยนั้นก็จะโผล่มาให้เห็นอาทิตย์ละ 4 วัน หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี... ฟงอวิ๋นอาจจะได้เห็นน้ำแกงมากกว่านั้น เสียงหวานนั้นอาจจะอ่อนลง... ริมฝีปากอิ่มจะยิ้มให้เขา... บางที...


บางที...


...เขาอาจจะได้สัมผัสเรือนผมสีดำขลับสลวย ใบหน้านวลคมหวาน ได้สบสายตาคมซึ้ง...


ความลิงโลดผุดขึ้นในใจเงียบๆ ฟงอวิ๋นไม่ได้ใช้ชีวิตจมอยู่กับความทรมานอยู่บนเตียงเพียงอย่างเดียว แต่เขารับปากแพทย์ ปรับตารางการใช้ชีวิตอย่างเคร่งครัด


อยากดูดี...


ไม่ใช่ผอมโทรม ใบหน้าคล้ำ ไม่อยากให้เด็กน้อยเห็น 'พี่ฟง' ในสภาพเดิม



เขาตื่นเช้า ช่วยแม่ครัวทำอาหาร ใส่บาตร กับอาม่าและมารดา แม้อารมณ์จะไม่คงที่ มีระบายอารมณ์กับคนในบ้านบ้าง แต่คนงานทุกคนก็ได้รับการอบรมจากพี่สาวคนที่สามมาอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเงินก้อนใหญ่ที่ทำให้พวกเขามีความอดทนสูงเป็นพิเศษ


หลังจากนั้น เด็กหนุ่มจะไปวิ่งจ๊อกกิ้งกับพี่สาว สูดกลิ่นหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่ๆ ในตอนเช้า บางวันช่วยคนสวนตัดหญ้าบ้าง พอได้เหงื่ออารมณ์ก็ดีขึ้นไม่น้อย แล้วเขาจึงไปทานอาหารเช้ากับครอบครัว


หลังอาหารเช้า มีไปโรงพยาบาลตามนัดหมอ หรือไปร่วมกลุ่มบำบัดกับเพื่อนๆ ที่กำลังบำบัดด้วยกัน ฟงอวิ๋นไม่ได้สนิทกับใครมากนัก แต่ทางโรงพยาบาลก็มีกิจกรรมหลากหลายให้เข้าร่วม เขาเริ่มกลับมาอ่านหนังสือได้ กระวนกระวายน้อยลง คุยกับเพื่อนๆ ได้มากขึ้น สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนหลากหลายในกลุ่มบำบัด


แต่กับเพื่อนกลุ่มเดิมนั้น... เขาทำตามคำแนะนำของคุณครู


'เลิกคบไปให้หมด ตัดให้ขาด!'


เปลี่ยนเบอร์โทร อีเมล์ เปลี่ยนทุกช่องทางการติดต่อ อุปกรณ์ที่สามารถชักนำเข้าสู่วังวนเดิมหรือแม้กระทั่งวิสกี้ของบิดาก็ถูกเก็บเข้าชั้นใต้ดิน ปิดมิดชิด ไม่มีใครดื่มแอลกลอฮอล์ในช่วงนี้เลย แม้กระทั่งไฟแช็กหรือบุหรี่ก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เอาเข้ามาในบริเวณบ้าน


บางวันที่ว่าง เขาใช้เวลาไปกับการออกกำลังและเทรนกล้ามเนื้อ มีทั้งว่ายน้ำ หรือเข้าฟิตเนส พี่สาวเขาที่กังวลเรื่องรูปร่างตามประสาผู้หญิงมีเทรนเนอร์ส่วนตัวอยู่แล้ว บางครั้งมีการโทรเรียกเทรนเนอร์ของพี่สาวมาเทรนที่ฟิตเนสที่บ้าน


เมื่อตกเย็นจึงไปกินข้าว อ่านหนังสือ ดูทีวีกับครอบครัว แม้จะถูกคั่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด เสียงตะคอก หรือความเศร้าโศกบ้าง แต่เด็กหนุ่มก็พยายามหาทางอื่นระงับ อาจจะไปสวดมนตร์กับอาม่าหรือไปว่ายน้ำอีกครั้งหนึ่ง


ชีวิตที่เป็นระเบียบ ทำให้ภาพหลอนลดลง เสียงกระซิบก็แทบไม่มี ฟงอวิ๋นดูดีขึ้นมาก...



...ถ้าไม่ใช่เพราะคนงามจับใจคนนั้นแล้ว การบำบัดของฟงอวิ๋นอาจจะไม่รุดหน้าขนาดที่หมอยังเอ่ยปากชมเช่นนี้หรอก



เด็กหนุ่มมองตัวเองในกระจกและยิ้มให้กับกล้ามเนื้อที่เริ่มแข็งแรงขึ้น



...ไม่ใช่เกย์ ไม่ใช่พวกโฮโมซักหน่อย แต่ใบหน้านั้นก็ไม่อาจลืมเลือน... แค่ได้ยินชื่อ รู้ว่าจะมาอยู่ใกล้ๆ ก็พาลให้ใจเต้นผิดจังหวะ...



...น้ำแกง...มาหาพี่ฟงเร็วๆ เถอะ



ริมฝีปากของหนุ่มตี๋ในกระจกโค้งเป็นเสี้ยวจันทร์โดยไม่รู้ตัว...

__________


// อัพละค่า ปาดเหงื่อแป๊บ บทนี้ช้าตรงหาข้อมูลนี่แหละค่ะ ส่วนใหญ่อ้างอิงจาก http://board.thanyarak.go.th/index.php?topic=460.0;wap2 และ http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2012/03/W11847792/W11847792.html ค่ะ แต่จะไม่ได้พูดถึงขั้นตอนบำบัดมากนัก คือแค่แตะผิวๆ ก็รู้สึกตัวเองเดินบนเส้นลวดแล้วค่ะ กลัวข้อมูลจะผิดสุดๆ  :sad4: ถ้าใครมีข้อแนะนำเรื่องเนื้อหายังไง รบกวนด้วยนะคะ

ตอนนี้น้ำแกงออกแค่ไม่กี่ฉาก  :hao3: คุณแม่เด่นมากกว่า 555 ไว้น้ำแกงจะค่อยๆ มีบทบาทเรื่อยๆ ค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  :pig4: :L1: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 17-09-2015 22:58:07
อยากเห็นน้ำแกงอยู่กับฟงอวิ๋นจัง จะเป็นแบบไหนนะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-09-2015 23:03:33
อ่านง่าย  เหมือนอ่านการ์ตุน   :-[
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 17-09-2015 23:12:22
ฮือออ ไม่รู้จะคอมเม้นอะไรเลยค่ะ

 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: Piima ที่ 17-09-2015 23:44:29
เพราะคู่กันรึเปล่าน้าาา
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 18-09-2015 01:53:40
เข้าใจเลยว่าทำไมบ้านฟงจะหลงน้ำเเกงยิ่งกว่าลูกเเท้ๆ ก็ดีเลิศขนาดนี้
รออ่านฟง สมาชิกพ่อบ้านใจกล้า 555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-09-2015 05:51:10
น้ำแกงน่ารักอ่ะ ต่างจากที่เห็นตอนโตเลย คอนที่อ่านพี่เสือ คิดว่า น้ำแกงเป็นคนใจดี แต่ดุมาก(กับฟง) นะเนี่ย ตอนเด็กๆน่ารักแบบนี้นีเอง ชอบน้ำแกงจังเลย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-09-2015 09:26:34
เอาใจช่วย ฟง อยากให้เจอน้ำแกงไวๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 18-09-2015 10:20:44
กรี๊ดด จะเจอกันอีกแล้วเคะราชินี ของชั้นนน
ไม่อยากให้หมาฟงแตะต้องเลย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: Vanillaเปรี้ยว ที่ 18-09-2015 10:32:28
สู้ๆนะฟง กลับมาหายให้ได้นะ 
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 18-09-2015 17:44:49
ชีวิตดีได้เพราะน้ำแกงเลย 55555555555

ฟงมันเพ้อๆ เหมือนเราเลย  นี้เพ้อเหมือนกัน อยากเห็นเค้าเจอกันอีกเร็วๆ  :hao7:   

หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 18-09-2015 20:53:38
มาต่อเร็วๆเถอะนะคนเขียน ชอบแนวนี้ง่า ใจจะขาด เอาใจช่วยน้า กดรีเฟรช กับ F5 บ่อยเพราะเรื่องนี้นี่พูดเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: rungkyjang ที่ 18-09-2015 22:33:22
ปูเสื่อรอค่าาา
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 20-09-2015 21:48:36
อนาคตพ่อบ้านรำไรมาเลยค่ะพี่ฟง 5555555 เราปลื้มกับครอบครัวน้ำแกงมาก ดีงามจริงๆเลยค่ะ ลูกชายน่ารัก คุณครูก็สมเป็นแม่พิมพ์ของชาติและคุณพ่อก็เป็นคนดีจังค่ะ ส่วนครอบครัวพี่ฟงก็น่ารักนะ อบอุ่นดี อยากให้น้องแกงกับพี่ฟงเจอกันแล้วอ่ะ อยากรู้ว่าพี่ฟงจะเป็นยังไง น้องแกงจะเกลียดพี่ฟงมั้ย 555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 20-09-2015 22:06:43
ตามมาช้าไปหลายวันเลยยย เราว่าฟงนี่โชคดีมากนะคะที่ที่บ้านรักมากขนาดนี้ มีครูดีอีกต่างหาก เราเชื่อว่าฟงต้องทำได้ ยิ่งมีน้ำแกงเป็นจุดหมายฟงต้องทำได้แน่นอน ส่วนน้ำแกง... น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกก ฮืออออ เด็กดีอะไรแบบนี้ นึกภาพไม่ออกเลยว่าอะไรไปจุดประกายให้น้ำแกงโหดขึ้นมาได้ในตอนหลัง 5555 เราหวังว่าฟงจะไม่ทำอะไรน้ำแกงคนน่ารักนะคะ แงงงง ทำให้เค้ารักให้ได้ก่อนแล้วค่อยทำนะคะ(?)

ปล. เราชอบชื่อคนตระกูลฟงมากค่ะ รู้เลยว่าติหนังจีนมาก 555555555 ชอบค่ะ ดีนะนี่หนังจอมยุทธ์ ถ้าหนังวัยรุ่นนี่มีหวังกลายเป็นพี่น้อง F4 ฮือออออ น้ำแกงต้องเปลี่ยนชื่อเป็นซันไช่  :mew3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 21-09-2015 00:20:11
คุณครูผู้ให้
ผู้พิพากษาผู้กรุณา

อ่านแล้วนึกขอบคุณคนอีกมากมายที่จิตใจเมตตาและปราถนาดีกับเพื่อนมนุษย์

น้ำแกง...ยาใจของพี่ฟงแท้ๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 21-09-2015 03:45:15
อ่า คิดถึงจริงๆ พี่ฟงสู้สู้ๆ
 :z2: :z2: :z2:
มาอัพบ่อยๆนะคะ สนุกก ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 25-09-2015 23:17:21
อยากอ่านพี่ฟงกับน้องแกงแล้วนา :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 29-09-2015 01:29:23
เรานี่รอตอนพี่ฟงเจอน้ำแกงเลยค่ะ
(ตั้งตารอ หางกระดิกริกๆ น้ำยายไหยเยิ้มย้อย...เฮ่ย! ไม่ใช่ล่ะ!!)

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch2 17/9/15
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 06-11-2015 21:42:42
Stay gold: 3

โชคชะตาช่างตลกนัก


เด็กชายไม่รู้ว่าหากวันนั้นไม่ตอบรับมารดาไป จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต


ทุกๆ การตัดสินใจ ไม่ว่าเล็กน้อยเพียงใด อาจมีผลกระทบเพียงเบาบางราวระลอกคลื่นกระทบชายฝั่งหรือกลายเป็นพายุใหญ่ เปลี่ยนแปลงทุกอย่าง


การตัดสินใจเพียงเล็กน้อยของน้ำแกงในวันนั้น ก็ส่งผลให้เขานั่งอยู่บนรถกับมารดาในวันนี้




หลังจากตอบตกลงมารดา น้ำแกงก็เกือบลืมเรื่องไป'เรียนพิเศษ'ไปเลย เพราะฟงอวิ๋นต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกหลายเดือน กว่าจะจำได้อีกครั้ง คุณนาถลดาก็เป็นคนเตือนให้เขารีดเสื้อเชิร์ตสำหรับไปเรียนพิเศษแล้ว


ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกที่บ้านสกุลเอ็งจะเห็นลูกชายคนสวยของคุณครู


น้ำแกงปิดเทอมแล้ว ควรจะคิดเรื่องเรียนต่อได้แล้ว เพราะฤดูร้อนหน้า เด็กชายก็จะต้องเรียนต่อชั้นมัธยมปลาย ซึ่งมารดาไม่ค่อยเป็นห่วงนัก เพราะโรงเรียนที่น้ำแกงอยู่มีชั้นมัธยมปลาย หรือถ้าลูกชายต้องการเรียนต่อโรงเรียนดังก็คงไม่ลำบากเท่าใด ทั้งบิดาและมารดาให้อิสระในการตัดสินใจเต็มที่


น้ำแกงยังลังเลอยู่ระหว่างจะเรียนต่อที่เดิมหรืออีกแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในระดับสูงกว่า แต่เพราะบุพการีทั้งสองไม่ได้เร่งเร้าอะไร ซ้ำยังบอกให้ค่อยๆ คิด เขาจึงไม่ได้เครียดนัก







บ้านของ 'พี่ฟงอวิ๋น' ใหญ่โตมาก มารดาพาเขาไปพบกับมารดาของลูกศิษย์ หลังจากแนะนำตัวและทักทายกันแล้ว น้ำแกงจึงสังเกตร่างอ้วนท้วนสูงใหญ่อย่างคนโหงวเฮ้งดีอย่างคุณนายจู ใบหน้าของนางกลมป้อม โหนกแก้มสูง ดวงตาเล็กหยี หน้าผากกว้าง จมูกกว้าง ท่าทางมีราศี 'คนรวย'

"อาน้ำแกงสวยกว่าในรูปอีกนะ" คุณนายยิ้มให้ ยิ่งทำให้ตาแคบลงไปอีก น้ำแกงสะดุ้ง ยิ้มรับแหยๆ คุณนายจึงชวนคุย

"มานี่สิลูก ตัวเล็กจังเลย... บ้านนี้ตัวใหญ่กันหมดทุกคนนะ ทางอาป๊าแกมีเชื้อสายพวกมองโกล"


น้ำแกงยืนเหนียมๆ ให้คุณนายดูตั้งแต่หัวจรดเท้า คล้ายแม่ผัวสังเกตลูกสะใภ้ชอบกล


"น้ำแกงแกตัวเล็กตั้งแต่เกิดแล้วน่ะค่ะ" คุณแม่ตอบแทน


คุณนายจูจุ๊ปาก "สวยจริงๆ นะคะเหล่าซือ หน้าก็คม จมูกก็โด่ง ตาก็ไม่เหมือนคนไทยเลย"


คุณแม่แค่ยิ้มๆ "แล้วนี่จะเริ่มเรียนกันกี่โมงคะ ?"


"อ้อ ใช่ๆ" คุณนายตบมือฉาด แล้วจับจูงมือน้ำแกงอย่างสนิทสนม "ติวเตอร์มาแล้วล่ะค่ะ แกมาตั้งแต่เก้าโมงครึ่ง... ไม่ต้องห่วงนะคะอาเหล่าซือ มื้อเที่ยงก็ให้อาน้ำแกงกินที่นี่ก็แล้วกัน ตอนเย็นทางนี้จะไปส่งค่ะ"


"เอ่อ ได้ค่ะ ต้องรบกวนคุณนายแล้วนะคะ"


"ทางนี้ต่างหากค่ะ" นางฉีกยิ้มอวดฟันปลอมขาวสะอาด แล้วผงกศีรษะให้คุณครู "ขอบคุณนะคะที่พาอาน้ำแกงมา"







แม่กลับไปแล้ว น้ำแกงถูกจับจูงไปยังชั้นสองของบ้าน ด้านปีกตะวันตก คุณนายเป็นคนคุยเก่ง ยิ่งเจอเด็กน้อยหน้าตาน่ารักสะสวยแบบนี้ ยิ่งถูกใจเข้าไปใหญ่

"อาน้ำแกงไม่ต้องห่วงนะ เฮียฟงเค้าอาการดีขึ้นแล้ว"


"เอ่อ..." ตลอดทางมา คุณนายผูกขาดบทสนทนาคนเดียวเลย น้ำแกงที่เด็กกว่าและถูกสอนมาอย่างดีจึงหาจังหวะแทรกไม่ได้


"แต่ม๊าจะให้เปิดประตูทิ้งไว้ มีคนรับใช้เฝ้าด้วย เผื่อว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น..."

"เอ้อ... แล้วอาน้ำแกงนี่ได้ใครมา ? ได้คุณพ่อมาเยอะเหรอ ? ไม่ค่อยคล้ายแม่เลยนะ"

"ดูสิ... โหงวเฮ้งดี เป็นนักปราชญ์ ผู้มีปัญญา ตาก็คม ผิวก็สวย ท่าทางก็ฉลาด"

"จริงสิลูก เที่ยงนี้กินอะไรดี ? อาฟงแกชอบอาหารจีน น้ำแกงกินได้ไหม ? หม่ายนา... ม๊าจะเตรียมอาหารไว้สองชุดนะลูก เผื่อแกงไม่ชอบอาหารจีน"


"เอ่อ... ขอบคุณครับ... คุณป้า" กว่าจะเว้นวรรคได้ น้ำแกงยกมือไหว้ขอบคุณ คุณนายโบกไม้โบกมือ


"เรียกอาม๊าเหมือนฟงเถอะ" ยิ่งดูยิ่งถูกชะตา... ท่าทางนอบน้อม สง่างามเหมือนลูกผู้ดีทุกระเบียบนิ้ว ทั้งวิธีการพูดการจา น้ำเสียงก็อ่อนโยน หน้าตาก็ยิ่งสวย ผิวก็เป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน ไม่มีอะไรให้ขัดตาแม้แต่น้อย


"ครับ อาม๊า" เป็นเด็กดีอีกด้วย ไม่เหมือนพวกเด็กสมัยนี้ที่ถูกตามใจจนเหลิง เออ จะว่าไปก็ลูกหล่อนเองนี่นา


คุณนายหัวเราะอย่างพึงพอใจ นัยน์ตาหรี่ลงเล็กน้อย... จะดีกว่านี้ถ้าเป็นผู้หญิง จะได้จับคู่ให้กับอาฟงเสียเลย... คุณนายผ่านโลกมามาก ทำไมจะไม่เห็นแววตาระริกระรี้ของลูกชายยามพูดถึงลูกชายคนงามของอาเหล่าซือเล่า


ถึงน้ำแกงจะเป็นเด็กผู้ชาย แต่ก็ดูไม่ออกเท่าใดนัก เหมือนเด็กหญิงที่สวยเฉียบคนหนึ่งมากกว่า


อาฟงคงจะติดใจความงามนี้ไม่น้อย


"ไม่เป็นไรลูก มีอะไรก็เรียกพี่ๆ เค้าได้นะ" คุณนายชี้ไปยังคนรับใช้สองสามคนที่ยืนด้านหน้าห้อง มีชายฉกรรจ์สองคน และสาวใช้อีกคน


"ครับ"


"ตั้งใจเรียนนะลูก"


"ครับ"


"แหม... น่ารักจริงเชียว มาเป็นลูกสะใภ้บ้านนี้ไหม ?"


"คะ... อ๊ะ..." เกือบตอบรับด้วยความเคยชินเสียแล้ว น้ำแกงเงยหน้ามองหญิงสูงวัยอย่างฉงน คุณนายจูยิ่งเอ็นดู


ถ้าบ้านนี้ได้น้ำแกงมาเป็นสะใภ้ คงจะดีกับฟงอวิ๋นไม่น้อยทีเดียว... คุณนายคิดเช่นนั้น



แต่ถึงอย่างไร น้ำแกงก็เป็นผู้ชาย... และรักของวัยรุ่นมักจะจบอย่างรวดเร็วเสมอ หากในอนาคต ทั้งสองได้เป็นเพื่อนกันต่อไป ก็ยังนับเป็นเรื่องดี



น้ำแกงคงจะเป็นมิตรสหายที่ดีและช่วยเกื้อหนุนลูกชายนางไม่น้อย








ฟงอวิ๋นตื่นแต่เช้า ทั้งคืนแทบนอนไม่หลับ แต่ตื่นขึ้นมาก็กระปรี้กระเปร่า ร่าเริงสดใส อะไรๆ ก็ดูดีไปเสียหมด หลังจากไปวิ่งรอบสวน กินข้าวเช้ากับครอบครัวแล้ว เขาก็หอบสมุดหนังสือเครื่องเขียนมาเตรียมไว้รอท่า ท่าทางเหมือนเด็กไปโรงเรียนวันแรก


ลูกชายคนเล็กของบ้านเป็นคนดูออกง่าย ทั้งบ้านมองหน้ากัน พี่ชายทั้งสองทำท่าเหมือนไม่รู้อะไร แต่พี่สาวขยับปากจะพูด แต่แล้วก็เงียบ...


...ฟงเอ๊ย... เค้ารู้กันทั้งบ้านแล้วว่าตัวเองน่ะ... แอบชอบลูกชายครูนาถลดาขนาดไหน!


นับเป็นเรื่องแปลก ที่ทั้งอากงอาม่า พี่ๆ และบุพการีไม่ได้เอ่ยปากอะไร พวกเขาแค่มองหน้ากันแล้วยิ้มนิดๆ เท่านั้น


บ้านนี้ไม่ได้รังเกียจรักร่วมเพศ กระทั่งคุณนายจูเองก็มีเพื่อนหลายคนที่เป็นเกย์ และอาม่าอากงก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา


ถ้าหากตี๋เล็กจะเป็นเกย์จริงๆ... พวกเขาก็ขอให้... อีกฝ่ายเป็นคนผิวนวลๆ หน้าตาสะสวย ท่าทางสง่างาม.... เอาแบบลูกครูนาถลดาก็แล้วกัน!








รอน้องน้ำแกงมาครึ่งชั่วโมงแล้ว ช่วยไม่ได้ที่เขาตื่นเช้าเกินไป แต่ฟงอวิ๋นก็ไม่ได้หงุดหงิดแม้แต่น้อย ทั้งยังรอด้วยความอดทน พอติวเตอร์เข้ามา เขาก็ทักทายอย่างดี


รออีกราวยี่สิบนาที เด็กน้อยที่อยู่ในความฝันมาตลอดก็ก้าวเข้าห้องมาพร้อมกับมารดา


น้ำแกงดูไม่เปลี่ยนไปเลย... มีแค่สวยขึ้นเท่านั้น


ใบหน้าที่เห็นเพียงครั้งเดียวแต่ไม่สามารถลืมเลือนได้นั้นเข้ามาใกล้ เด็กชายยกมือไหว้คุณครูก่อน หลังจากอาม๊าแนะนำตัวน้ำแกงกับติวเตอร์แล้ว น้ำแกงก็ยกมือไหว้ฟงอวิ๋น เสียงใสๆ จากริมฝีปากสวยๆ เอ่ยอย่างไพเราะ

"สวัสดีครับ พี่ฟงอวิ๋น"


อิ่มอกอิ่มใจเหลือเกิน... ภายในอกพองฟู ฟงอวิ๋นยิ้มรับแก้มแทบแตก ใบหน้าคมซึ้งหันไปคุยกับมารดาเล็กน้อยแล้วจึงนั่งลง... นั่งที่เก้าอี้ข้างๆ เขา


กลิ่นเด็กน้อยหอมหวาน ฟงอวิ๋นสมาธิกระเจิง ไม่สามารถละสายตาจากใบหน้าสะสวยนั้นได้เลย

น้ำแกงรู้สึกแปลกๆ ปนไม่มั่นใจ ฟงอวิ๋นจ้องเขาเขม็ง... เหมือนมีอะไรแปลกไป


มีอะไรติดหน้าหรือเปล่านะ... เด็กน้อยนิ่งคิด แต่แล้วก็ส่ายหน้า พยายามควบคุมสีหน้าให้สงบนิ่ง


มือเรียววางสมุดดินสอบนโต๊ะ วิชาแรกเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ติวเตอร์เป็นครูสอนพิเศษที่มีชื่อในขณะนี้ คุณนายจูจ้างมาด้วยราคาสูงลิบลิ่ว


ร่างอ้วนกลมของครูสอนพิเศษวัยกลางคนกระแอมเบาๆ เรียกความสนใจจากลูกศิษย์ทั้งสอง "ครูชื่ออ้วนนะคะ มาแนะนำตัวกันก่อนเนอะ เริ่มจากพี่ใหญ่นะคะ"


ฟงอวิ๋นไม่อยากถอนสายตาจากใบหน้างดงามนั้นเลย เขาเก็บความหงุดหงิดไว้ในใจ "ฟงอวิ๋นครับ มอสี่"


"แล้วน้องล่ะคะ ?"


"น้ำแกงครับ" น้ำแกงตอบเบาๆ สุภาพเรียบเรียบร้อย "มอสาม"


"สวัสดีค่ะน้องฟงอวิ๋น น้องน้ำแกง วันนี้ครูอ้วนจะเริ่มสอนคณิตศาสตร์นะคะ เรามาเริ่มทบทวนกันก่อน จะได้รู้พื้นฐานของแต่ละคน"


ครูอ้วนเริ่มตั้งแต่บทที่ 1 ของชั้นมอ 1 น้ำแกงเรียนอย่างกระตือรือร้น เพราะรู้ดีว่าติวเตอร์คนนี้คิวทอง สอนเก่งและราคาแพงมาก นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาเรียน








สองชั่วโมงผ่านไป... ครูอ้วนเก็บหนังสือแล้วยิ้มให้ลูกศิษย์ทั้งสอง "เก่งมากค่ะน้องน้ำแกง น้องฟงอวิ๋นก็สู้ๆ นะคะ อย่าลืมทำการบ้านด้วยนะคะทั้งสองคน"


"ครับ" เด็กนักเรียนทั้งสองตอบรับพร้อมกัน


วันแรกค่อนข้างง่าย เพราะเป็นการปูพื้นฐาน แต่แค่เลขคณิตมอหนึ่งฟงอวิ๋นก็แทบเอาตัวไม่รอด น้ำแกงสงสัยเหลือเกินว่าฟงอวิ๋นสอบผ่านจนมาถึงมอสี่ได้อย่างไร


สาวใช้หน้าห้องเดินเข้ามาเรียกให้ไปพัก ตอนนี้เที่ยงกว่าแล้ว ได้เวลากินข้าวเที่ยงพอดี น้ำแกงตอบรับสาวใช้อย่างสุภาพ พร้อมจัดแจงเก็บสมุดหนังสือใส่กระเป๋า


ตอนนี้เหลือกันอยู่สองคนแล้ว เด็กชายไม่รู้เลยว่าฟงอวิ๋นตื่นเต้นขนาดไหน ฝ่ามือหนาชื้นเหงื่อไปหมด


อา... ต้องพูดอะไรสักอย่าง ฟงอวิ๋นรู้สึกแบบนั้น ต้องชวนคุย...

"อะ... ของ..."


"ครับ ?" น้ำแกงหันกลับมา เรือนผมที่เริ่มยาวสะบัดนิดๆ ยิ่งพากลิ่นหอมหวานเข้าจมูก


ฟงอวิ๋นกระแอม หน้าแดงแจ๋ "ของน่ะ เอาไว้ตรงนี้ก็ได้นะ"


"อ้อ... ขอบคุณครับ" ยามยิ้มรับคำช่างสดใส.... เด็กหนุ่มมองคนอ่อนกว่าอย่างเคลิบเคลิ้ม


สวย... ช่างต่างจากใบหน้างอๆ และไว้ตัวเมื่อคราวที่แล้วเหลือเกิน เด็กทั้งคู่เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนคนแก่กว่าจะพูดเบาๆ


"เอ่อ... ปะ... ไปกินข้าวกันเถอะ"


"ครับ" น้ำแกงชักจะหน้าแดงตามเสียแล้ว คนอะไร... สติดีอยู่หรือเปล่า... ถึงจะเคยติดยามาก็เถอะ แต่มารดาเขาและคุณนายจู เอ้อ อาม๊าก็บอกแล้วว่าฟงอวิ๋นตอนนี้หายดีเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่คนปกติจะหน้าแดงแจ๋ขนาดนี้หรือ ?


"พี่... ครับ" น้ำแกงลองเรียกดู คนแก่กว่าหันมามอง ท่าทางดีอกดีใจอย่างเห็นได้ชัด น้ำแกงก็สังเกตเหมือนกัน ฟงอวิ๋นดูเปลี่ยนไปมากจากที่พบกันคราวที่แล้ว เจ้าตัวตัวสูงอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งไม่ได้ผอมแห้ง ร่างกายหนาขึ้นมาก กล้ามเนื้อเป็นลอนเรียงสวย ผมเผ้าตัดเรียบร้อย ผมคล้ำขึ้น ท่าทางสดใสร่าเริง ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มวัยเดียวกัน


"ว่าไงครับ ?" ยังขัดเขินอยู่บ้าง ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงไปที่ห้องทานอาหารหรูหรา


"เอ่อ สุขภาพดีขึ้นมากเลยนะครับ แล้วก็... ขอบคุณมากนะครับที่ชวนมาติว"


มือหนาเกาศีรษะอย่างเขินๆ "มะ... ไม่เป็นไร เราคุยกันตามปกติเถอะ เรียกพี่แล้วไม่ค่อยชิน"


"ถ้าอย่างนั้น ให้น้ำแกงเรียกพี่ว่าอะไรดีครับ ?" ใบหน้าสะสวยเงยขึ้น เพราะส่วนสูงที่ต่างกันมาก ฟงอวิ๋นจึงต้องก้มลงคุยกับเขา


ในใจของคนตัวโตเต้นถี่ เสียงร้องบ้าคลั่งดังซ้ำๆ ว่า


น่าร้ากกก น่ารักเหลือเกินนนนนนนนนนนน!!!


จะดีแค่ไหนนะ ถ้า... "เรียกชื่อก็ได้"


"ฟงอวิ๋น" เสียงจากริมฝีปากสวยก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆ แต่มันชวนให้ชุ่มชื่นหัวใจเหลือเกิน


ตัวก็เล็ก เอวก็บาง ฟงอวิ๋นอยากลองโอบเอวนั่นดูสักครั้ง...


...แต่ตอนนี้... ยังไม่ได้ ต้องทำความสนิทสนมให้มากกว่านี้ก่อน


"เรียกชื่อเฉยๆ ก็ได้ งะ...งั้นพี่... เอ๊ย ฟงจะเรียกว่าน้ำแกงนะ"


"ครับ เอ้อ... ได้สิ"


ได้รับอนุญาตให้เรียกชื่อแล้ว ช่างน่ายินดีจริงๆ ในใจเรียกชื่อนั้นไม่ได้ขาด



น้ำแกง... น้ำแกงของฟง... น้ำแกงตัวน้อย น้ำแกงน่ารัก....




"ฟง..." นิ้วเรียวสะกิดเบาๆ ปลุกเขาจากฝันกลางวัน "พี่เค้าเรียกน่ะ"


เด็กน้อยหมายถึงสาวใช้ที่ขัดจังหวะ "คุณฟงอวิ๋นจะรับกลางวันที่ไหนคะ ? คุณนายสั่งไว้สองชุดค่ะ"


"อ้อ ที่สวนก็ได้ ตอนนี้ร้อนมากไหม ?" ฟงอวิ๋นสวมบทคุณหนูอย่างน่าชื่นชม แต่เห็นคิ้วเรียวสวยของคนข้างๆ ขมวดน้อยๆ จึงอดถามไม่ได้ "มีอะไรเหรอน้ำแกง ?"


"เปล่าครับ" ตอบเบาๆ แล้วเขย่งตัวกระซิบ ฟงอวิ๋นต้องย่อตัวลง ยิ่งริมฝีปากใกล้หูเขายิ่งจะระเบิด "เอ่อ ฟงพูดไม่สุภาพกับพี่เค้าจะดีเหรอ..."


เสียงใสชิดใกล้ ส่งตรงสู่สมอง... เขาจินตนาการไปไกลว่าตอนนี้น้ำแกงกำลังกระซิบรักอย่างเขินอาย...

"พี่เค้าดูแก่กว่าพวกเรานะ"


ฟงอวิ๋นฟังแล้วกระแอมอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้น..." ยืดตัวขึ้นเล็กน้อย น้ำแกงถอยหนีไปแล้ว น่าเสียดาย...

"ที่สวนล่ะครับ ?"


สาวใช้กระพริบตาปริบๆ ปกติคนบ้านนี้พูดจาไม่มีหางเสียงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะเย่อหยิ่งหรือดูถูกคนรับใช้อย่างในละคร แต่เป็นเพราะความคุ้นเคยมากกว่า พวกหล่อนจึงไม่มีใครติดใจอะไร

"นั่งริมสวนก็ได้ค่ะ น่าจะร่มอยู่"


"ถ้าอย่างนั้นที่สวนก็ได้.... ครับ"








น้ำแกงเป็นเด็กดีเหลือเกิน เข้ากับคนง่าย พอคุ้นเคยแล้วก็พูดคุยกับเขาอย่างไม่เก้อเขิน เป็นเด็กน่ารัก ร่าเริงมาก ฟงอวิ๋นเองก็ผ่อนคลายขึ้น มื้อเที่ยงธรรมดาๆ จึงกลายเป็นมื้อแสนพิเศษ


"แล้วคุณป้า... เอ้อ ม๊าไม่มาทานด้วยกันเหรอ ?" น้ำแกงเด็กดี ขนาดกับแม่ของฟงอวิ๋นที่เจอกันครั้งเดียวยังเป็นห่วงเป็นใย


"ไปทำงานน่ะ" ฟงอวิ๋นตอบสบายๆ ในใจยิ้มแย้ม ฝึกไว้นะแกง... ต่อไปจะต้องได้เรียกแน่ๆ


น้ำแกงพยักหน้าแล้วชวนคุยเรื่องอื่น "แล้วการบำบัดเป็นยังไงบ้าง ?" 


ฟงอวิ๋นเคี้ยวข้าวพลางตอบ "ดีขึ้นมากแล้วล่ะ น่าจะกลับไปเรียนได้เทอมหน้า"


"ฟง... ตอนพูดอย่าเคี้ยวข้าวสิ" คนตัวเล็กทำหน้ามุ่ย ทั้งๆ ที่ถูกเด็กดุ แต่ฟงอวิ๋นกลับยิ้มหวานเหมือนกลับไปเมากัญชา ตอบรับซื่อๆ


"ครับ"


"อ๊ะ ไม่สิ ต้องขอโทษด้วย แกงเด็กกว่าแต่กลับพูดจาไม่สุภาพ ขอโทษนะครับ" เสียงหวานร้อนรน แต่ฟงอวิ๋นกลับส่ายหน้า


อา... ช่างเป็นเด็กดีอะไรขนาดนี้นะ


"ไม่เป็นไรๆ" เขาโบกมือตอบ "บ้านนี้อยู่กันสบายๆ น่ะ อาจจะไม่เคร่งมารยาทเท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะ"


"ถึงเป็นอย่างนั้นแต่ถ้าไปข้างนอกต้องเคี้ยวข้าวก่อนนะ แล้วค่อยพูด" ใบหน้าเล็กเยาว์วัยขึงขัง ฟงอวิ๋นอมยิ้ม


"นั่นสินะ ขอบคุณน้ำแกงที่เตือน"


เด็กน้อยแม้กระทั่งนั่งกินข้าวก็ยังนั่งหลังตรง ท่าทางสง่างามเลย ฟงอวิ๋นหัวเราะเบาๆ

"แล้ว... ฟงจะกลับไปเรียนที่เดิมเหรอ ?"


"อืม... ต้องคิดดูก่อนน่ะ ไม่อยากกลับไปสังคมเดิมๆ"


"พ่อแกงก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน"


"อาจจะได้ซ้ำชั้นก็ได้ ช่างเถอะ น้ำแกงลองกินนี่ดูสิ" ร่างสูงยักไหล่แล้วตักติ่มซำในเข่งให้เด็กชายชิม น้ำแกงทำหน้านิ่ว บ่นเล็กน้อย


"ฟงอ่ะ... ตักให้แกงกินจนเต็มจานแล้ว ฟงก็กินบ้างนะ แม่บอกว่าตอนพักฟื้นต้องกินอาหารดีๆ มีประโยชน์" ท่าทางเหมือนผู้หญ่กำลังดุเด็ก ฟงอวิ๋นยิ่งขำ รับคำอย่างซื่อๆ เช่นเคย


"ครับ"


"แล้วก็... ถ้าซ้ำชั้น.... ก็อยู่ชั้นเดียวกับแกงน่ะสิ"


คนฟังโคลงศีรษะ "คงใช่"


"อืม แต่บ้านฟงรวย จะเข้าเรียนที่ไหนก็ได้ แต่ตอนนี้ต้องตั้งใจเรียนก่อนนะ!"


"ครับ..." ตอบคำเดิม... โถ... เด็กน้อย แค่รู้จักกันไม่กี่ชั่วโมง น้ำแกง 'สั่งสอน' เขาตั้งกี่เรื่องแล้ว ในบ้านนี้ ไม่สิ ในโลกนี้แทบไม่มีใครสั่งสอนเขาได้ แต่ฟงอวิ๋นที่เอาแต่ใจ ร้ายกาจ ไม่เชื่อฟังใครกลับตอบครับๆ เดินตามเด็กน้อยตัวเล็กๆ ต้อยๆ


ไม่ถงไม่เถียงสักคำ!








ในภาคบ่ายเป็นวิชาสังคม เริ่มจากมอหนึ่งเช่นเคย และได้ติวเตอร์อีกคนหนึ่งที่ขึ้นชื่อในวิชาสังคม เช่นเดียวกับติวเตอร์คนอื่นๆ ติวเตอร์คนนี้คิวทอง จองเรียนยาก ราคาแพงและสอนเก่งมาก เด็กทั้งสองคืบหน้าไปไม่น้อย








ตกเย็น คุณนายจูกลับมาจากออฟฟิศ สอบถามความคืบหน้าของลูกชายอย่างกระตือรือร้น พอได้ยินติวเตอร์รายงานก็ยิ้มยินดี


ตามคาด... ฟงอวิ๋นใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ เล่นมีคนสวยที่แอบชอบมานั่งข้างๆ ตลอดทั้งวัน คงไม่มีเด็กหนุ่มคนไหนตั้งใจเรียนได้


คุณนายไม่โทษน้ำแกง กลับขอบคุณเสียอีก หากไม่มีเด็กน้อยหน้าคมหวานคนนี้ ลูกชายคนเล็กคงไม่สามารถนั่งเรียนได้ทั้งวันแน่นอน

"แน่ใจละลูก ว่าจะไม่กินข้าวด้วยกัน ?" คุณนายถามซ้ำ มีลูกชายลุ้นจนตัวโก่งอยู่ด้านหลัง แต่เด็กน้อยส่ายหน้าตอบอย่างสุภาพ


"ขอบคุณครับ แต่ที่บ้านทำกับข้าวไว้แล้ว"


คุณนายระบายลมหายใจพรู "ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยไม่ได้... ไว้วันหลังจะชวนพ่อแม่น้ำแกงไปทานข้าวนะ"


"ครับ"


"ดีจริงๆ เอาล่ะ เดี๋ยวม๊าโทรบอกที่บ้านให้นะลูกว่าแกงจะกลับบ้านแล้ว"


"ขอบคุณครับ" น้ำแกงยืนเก้ๆ กังๆ อยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง ฟงอวิ๋นก็พูดขึ้น


"ถ้าอย่างนั้น ฟงไปส่งแกงได้ไหม... ครับ" คำลงท้ายเล่นเอาคุณนายแทบทำโทรศัพท์ตกพื้น


เจ้าพระคุณรุนช่อง ลูกชายคุณนายพูดจามีหางเสียงไพเราะเพราะพริ้ง เป็นไปได้อย่างไร!? ถึงที่บ้านจะเป็นคนจีน ไม่ได้เคร่งครัดเรื่องมารยาท และในธรรมเนียมจีน ก็ไม่มีการพูดหางเสียงหรือยกมือไหว้เหมือนคนไทย แต่เธอก็เคยปากเปียกปากแฉะสอนตี๋น้อยให้เข้ากับธรรมเนียมคนไทย ซึ่งถ้าฟงอวิ๋นไม่เถียง ก็ฟังหูซ้ายทะลุหูขวา...


...แต่นี่อะไรกัน แค่วันเดียวเท่านั้น เกิดอะไรขึ้น!?


"ดะ... ได้สิลูก ม๊าก็จะไปเหมือนกัน นี่ตาจั่นไปวนรถแล้ว น้ำแกงไปกับพี่เค้านะลูก"


"ครับ" น้ำแกงรับคำ ท่าทางสุภาพแบบนี้... ลูกชายนางคงจะเลียนแบบมาไม่ใช่น้อย


คุณนายจูกลอกตา ขณะใช้ความคิด


อืม... ถ้าน้ำแกงเป็นเด็กมีความอดทนพอที่จะสอนฟงอวิ๋นได้ หวังว่าฟงอวิ๋นคงไม่ดีแตกไปก่อนหรอกนะ...







ฟงอวิ๋นและคุณนายจูทักทายคุณพ่อคุณแม่น้ำแกงเสร็จ คุณนาถลดาก็ชวนคุณนายกินข้าวเย็นตามมารยาท ฟงอวิ๋นขยับปากจะตอบตกลงอย่างกระตือรือร้น คุณนายรีบหยิกลูกชายแทบไม่ทัน


บางทีฟงอวิ๋นก็ซื่อเกินไป


ก่อนจะขึ้นรถกลับบ้าน น้ำแกงแสนน่ารักยังบอกฟงอวิ๋นด้วยว่า "ฟง อย่าลืมทำการบ้านด้วยนะ"


คนฟังยิ้มแต้ มารดาอย่างคุณจูก็แอบอมยิ้มด้วย น้ำแกงเป็นเด็กดีจริงๆ


"อืม ไม่ลืมหรอก เอ่อ... แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"


"อื้ม เจอกัน อ๊ะ สวัสดีครับม๊า เดินทางปลอดภัยนะครับ" ลูกชายของคุณครูยกมือไหว้ผู้สูงวัยอย่างมีมารยาท


"จ้า พรุ่งนี้ม๊าจะเตรียมกับข้าวอร่อยๆ ให้นะลูก"


"ขอบคุณครับ" น้ำแกงยิ้มหวานตอบ โบกมือโบกไม้ให้ฟงอวิ๋น ซึ่งคนที่นั่งในรถนอกจากจะโบกมือตอบแล้ว ยังชะเง้อคอจนสุด กระทั่งเห็นแค่หลังคาบ้านลิบๆ ก็ยังไม่ยอมหยุด



อาม๊าละม้ายคล้ายจะเห็นหางเป็นพุ่มฟูๆ พองๆ เหมือนหางหมาสะบัดพั่บๆ ชอบกล พอรถขับมาไกลแล้ว หางก็ค่อยๆ ตกลง

"อาฟง"


"หือ ?" ปากตอบ แต่ยังเกาะกระจกดูยอดต้นมะม่วงของบ้านน้ำแกงอยู่


"กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าชอบลูกชายเค้าน่ะ ?" ม๊าอดเขม่นไม่ได้ ตีแขนลูกชายไปทีหนึ่ง "แล้วนี่ยังไง เค้าชวนกินข้าวตามมารยาทนะ อย่าทำเป็นไม่รู้"


"ก็... รู้มั้ง... เฮ้ยยย แล้วม๊ารู้ได้ไงว่าฟงชอบแกง"


โถ... พ่อหนุ่ม คุณนายพ่นลมหายใจอย่างอ่อนใจ ดูหน้าแดงๆ กับท่าทางเขินอายเป็นสาวน้อยแล้วหมั่นไส้เหลือเกิน


"กระดิกหางขนาดนี้แล้วไม่รู้ก็โง่เต็มทีล่ะ"


"อ๊ะ ม๊า แล้วม๊าไม่ว่าอะไรเหรอ ?" เด็กหนุ่มถามเสียงค่อย ไม่กล้าสบตามารดา


คุณนายหัวเราะ มือลูบศีรษะลูกชาย "จะไปว่าอะไรได้ ฟงชอบม๊าก็ชอบด้วย อีกอย่างอาแกงแกเป็นเด็กดี ม๊าห่วงอย่างเดียวว่าฟงจะจีบติดหรือเปล่าก็เท่านั้น..."


"ม๊าอ่ะ..." ทำท่าสะบัดสะบิ้งใส่แม่จนน่าถีบ คุณนายส่ายศีรษะให้ลูกชายอย่างอ่อนเพลีย


........

// หมาฟงมาแล้วค่าา น้ำแกงน่าร๊าากกกกก อ๊ายยย ไม่รู้ทำไมยิ่งโตยิ่งดุหว่า  :ling3: :ling3: เช่นเคยนะคะ รายสะดวกค่ะ 555 เจอกันปีทีปีหน้า (?) :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:  ว๊ายย ไม่ใช่ค่ะ นานไป เอาเป็นว่าน่าจะเดือนหน้าโน่นนนนนนนนนนนนว์อ่ะค่ะ  :katai5: :katai5:

ชอบคุณที่ติดตามนะคะ (ไม่ได้พิมพ์ผิด ชอบคุณจริงๆ  :-[ :-[)

ส่วนพี่เสือต่ายน้อย ตอนนี้ทาง Hermit รับต้นฉบับไปจัดการแล้วค่าาา ติดตามที่เพจสนพ หรือเพจเราก็ได้นะคะ

ขอบคุณค่า :3123: :L2: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 06-11-2015 23:11:15
น่ารักอ่ะ :hao7: :hao7: รักใสใส วัยขบเผลาะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 06-11-2015 23:13:42
โอ้ยยยน่ารักมากๆ น่ารักมากๆ
เป็นนิยายที่รอคอย แต่ละทีแสนเนิ่นนาน แต่มาทีก้ อ้ายยยยยยยย

ฟงน่ารัก น่ารักก
ขอบคุณมากกกกๆ นะคะ  :mew1:
จะรายอาทิตย์ รายเดือน รายปี ฉันก็จะรอที่ท่าน้ำนะคะ  อย่าทิ้งน้า
 :mew2: :mew6:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 07-11-2015 00:03:16
 :hao3: แสดงออกขนาดนี้ไม่รู้เลยว่าชอบน้ำแกง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-11-2015 00:13:24
กลัวเมียแต่เริ่มเลยนะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 07-11-2015 00:25:45
อ่านจนจะจำได้ทุกตัวอักษรเเล้ว >< เพิ่งต้นเดือนเอง เดือนหน้าเลยหรอ TT

หลงน้ำเเกงจริงจัง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 07-11-2015 00:47:49
ฟงโดนถอดเขี้ยวซะแล้ว หุหุ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 07-11-2015 01:35:02
สนุกมาก ชอบเรื่องของฟงกับแกงจัง. รอนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 07-11-2015 03:26:22
ฟงนี่มีแววตั้งแต่วันแรกเลยนะ.. นี่ขนาดน้ำแกงยังไม่ค่อยดุเทาไหร่ 555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 07-11-2015 07:24:35

ฟงเอ๋ย... รีบกดไลค์เพจพ่อบ้านใจกล้ารัวๆเลยลูก
ซ้อมเอาไว้นะครับ อีกหน่อยตอนทำงานบ้านและทำกับข้าว
ฟงจะได้เป็นราชสีห์เพื่อเมียได้อย่างเต็มภาคภูมิ!!

แกงก็ราชินีมากลูก... ถ้ารู้ตัวว่าชอบฟงเมื่อไร
คงได้โดนต้อนเข้าบ้านตระกูลเอ็งแบบปิดประตูตีแมวแหงๆ

รออ่านตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^

หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 07-11-2015 09:21:44
แววมาฟง 55555 แกได้อยู่ในกำมือน้ำแกงแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 07-11-2015 12:02:16
น้ำแกงไม่น่าใจอ่อนเลยยย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-11-2015 16:09:18
แค่เริ่มวันแรกน่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-11-2015 19:58:56
น่ารักกกกกกกกกกก

หมาน้อยตัวโต555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 08-11-2015 18:19:42
น้ำแกงน่ารัก เป็นเด็กดี
ฟงต้องพยายามมากๆนะ สู้ๆๆๆๆๆๆ

แวะมารอคะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: thetrips ที่ 08-11-2015 22:55:10
 :-[ :-[ :-[น้ำแกงน่ารักมากเลย ส่วนฟงก็ไม่ค่อยดี้ด้าเลย ฟงค่ะเก็บอาการด้วย :hao3:
สนุกมากเลยอยากอ่านต่อเร็วๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 09-11-2015 21:40:15
มาให้กำลังใจและมารอค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 12-11-2015 10:58:31
เย้...มาแล้ว

มาได้เมื่อไรก็มาเถอะ รออยู่ตรงนี้นะจ๊ะ ติดหนึบมาตั้งแต่ต่ายน้อยแล้วค่ะ

เรื่องนี้อ่านแล้วสบายใจ อ่านไปยิ้มไปจนตีนกาเกาะขอบตาแระ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 12-11-2015 18:48:32
ฟงทำได้~ เพื่อน้ำแกง~

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 14-11-2015 09:29:28
คิดถึงพี่ฟงกะน้องน้ำแกง
รอนะคะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 18-11-2015 22:05:30
น้ำแกงน่ารัก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: lollita ที่ 18-11-2015 23:25:40
เดือนหน้าก็รอจ้า
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 19-11-2015 20:41:42
มาลงชื่อรอค่ะ ถ้าเรียนชั้นเดียวกัน ก็ต้องอยู่ รร.เดียวกัน ห้องเดียวกันสิ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 24-11-2015 10:59:25
น่าร้ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 29-11-2015 04:28:25
น้ำแกงจะมีหมาตัวโตมาเป็นเพื่อนแล้วนะ 5555  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 05-01-2016 21:42:33
รอน้า จะนานแค่ไหนก็รอ
จะนานแค่ไหน ก็จะแวะมางอแงบ่อยๆ    :a1:


"เจอกันทีปีหน้า" จริงๆด้วย เฮ้อ ปีนี้นะคะ มาอัพเถอะ คิดถึงมากๆ
นานเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 08-01-2016 19:33:26
หมาฟงน่าเอ็นดูวววววววววววววววววววว
ชอบคู่นี้มาตั้งแต่พี่เสือน้องต่ายแล้วค่ะ นี่ก็อ่านซ้ำมา3รอบแล้วด้วย ชอบความหมาน้อยของพี่ฟงมากๆเลย ถึงจะหลงผิดไปบ้าง แต่สุดท้ายก็เป็นพี่ฟงคนดี เป็นพ่อบ้านใจกล้าของน้องน้ำแกงเนาะ อร้ายยยยย
รออ่านตอนต่ออยู่นะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ
ปล.สวัสดีปีใหม่นักเขียนด้วย ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใสตลอดปีเลยค่า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch3 6/11/15 P.2
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 11-01-2016 19:52:15
Stay Gold 4


มีใครสักคนกล่าวไว้ว่า บุคลิก อุปนิสัย อารมณ์ต่างๆ นั้นถูกขัดเกลาโดยครอบครัว


ดังเช่น น้ำแกง เด็กน้อยที่ฟงอวิ๋นหลงรักนั้นได้สร้างความพึงพอใจให้กับครอบครัวคุณนายจูเป็นอย่างมาก น้ำแกงมาเรียนทุกวันไม่ได้ขาด มาตรงเวลา พูดจาสุภาพ ท่าทางสง่างาม ยิ่งทำให้ฟงอวิ๋นกระตือรือร้น ไม่กล้าเกียจคร้านเหมือนในอดีต เห็นได้ชัดว่าได้รับการอบรมสั่งสอนมาอย่างดี


น้ำแกงกลายเป็นที่รักใคร่ของคนในบ้าน มีหลายครา ที่เด็กน้อยถูกคนในบ้านยิ้มแปลกๆ ให้ เมื่อไปถึงบ้านหลังโตแล้ว ไม่พบฟงอวิ๋นก็บ่อย อาม๊ามักยิ้มจนตาหยีให้ นางกระชับกระเป๋าเอกสารในมือและบอกว่า

"เฮียฟงยังไม่ตื่นเลยลูก น้ำแกงไปปลุกเฮียหน่อยนะ"


จริงๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่ประการใด ฟงอวิ๋นก็เป็นผู้ชาย น้ำแกงก็เป็นผู้ชาย ผู้ชายจะเข้าห้องนอนผู้ชายก็ไม่ได้น่าเกลียด น้ำแกงรับคำแล้วยกมือไหว้อาม๊าที่ออกไปทำงาน ก่อนจะเดินตามสาวใช้ไปยังชั้นสอง





ห้องนอนของฟงอวิ๋นกว้างขวางมาก มีหน้าต่างยาวสีขาวจรดพื้น สามารถเปิดออกไปนอกระเบียงเพื่อชื่นชมสระว่ายน้ำสีฟ้าใสและพุ่มเฟื่องฟ้าออกดอกบานสะพรั่ง ทั้งยังติดกับต้นประดู่ให้ร่มเงาเย็นสบายอีกด้วย


ฟงอวิ๋นก็สมเป็นลูกคนรวย นอกจากห้องกว้างแล้วยังตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์โทนสีฟ้ามีรสนิยม ของตกแต่งเป็นโมเดลรถยนต์ เครื่องบินหลายขนาด แต่ละชิ้นมีรายละเอียดสมจริงจนน้ำแกงอดชื่นชมไม่ได้ แล้วยังมีเครื่องเสียง ลำโพงขนาดใหญ่ ทีวีรุ่นใหม่ล่าสุด เครื่องเล่นเกม โซฟาดีไซน์เรียบง่ายสีทึบแต่นุ่มสบาย โต๊ะเขียนหนังสือกว้างสีดำและเก้าอี้เข้าชุด ตู้หนังสือราคาแพงที่เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูน ซีดีและแผ่นเสียงหลากสีสันวางเรียงรายอย่างเป็นระเบียบในตู้กระจกเข้าชุดกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ


น้ำแกงมองของเหล่านี้อย่างอิจฉาน้อยๆ มีของเล่นอีกหลายชนิดอยู่ในตู้กระจก แต่ละชิ้นราคาแพงและเป็นของฟุ่มเฟือยที่น้ำแกงไม่กล้าแม้แต่จะขอแม่ แต่ฟงอวิ๋นมีครบทุกรุ่น ทุกชิ้น ทุกสี!


เด็กชายกัดริมฝีปาก ถึงจะเป็นเด็กดีน่าชื่นชมเพียงใด แต่เขาก็ยังเป็นเพียงเด็กน้อยอายุสิบห้าเท่านั้น ยังรักการเล่นสนุกและของเล่นผู้ชายอยู่ น้ำแกงข่มความอิจฉาในใจแล้วเดินไปปลุกรุ่นพี่ที่นอนอุตุบนเตียงคิงไซส์ ร่างสูงใหญ่ม้วนตัวอยู่ในผ้าห่มอย่างดีทั้งๆ ที่เปิดแอร์แรงจนรู้สึกหนาว


แรกๆ น้ำแกงก็ปลุกดีๆ อยู่หรอก แต่ฟงอวิ๋นตื่นยากมาก คุณนายจูจึงอนุญาตให้น้ำแกงใช้วิธีอะไรก็ได้เพื่อปลุกฟงอวิ๋น น้ำแกงจึงเอาความอิจฉามาแกล้งฟงอวิ๋นเสียเลย






สิ่งหนึ่งที่น้ำแกงค้นพบคือ ฟงอวิ๋นเป็นคนขี้ร้อนระดับไม่ธรรมดา เป็นลูกคุณหนูตัวจริงที่ชอบอยู่ห้องแอร์ น้ำแกงจึงใช้วิธีปิดแอร์ แล้วเปิดหน้าต่างทุกบานให้ลมเย็นๆ ด้านนอกพัดเข้ามาแทน เพียงเท่านี้คุณหนูที่นอนสบายอุราก็รู้สึกร้อนจนรู้สึกตัวตื่นแล้ว


ท่าทางสะบัดผ้าห่มออก แล้วโผล่หน้ายุ่งๆ ออกมา ผมเผ้ารุงรังเป็นรังนกเล่นเอาน้ำแกงหัวเราะคิก ด้านคนตัวโตที่หงุดหงิดเต็มที่พอเจอคนน่ารักนั่งอยู่ปลายเตียง ริมฝีปากมีรอยยิ้มบางๆ ชวนฝันก็ทำให้ยิ้มตามไปด้วย ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะโมโหโกรธาอีกต่อไป


แล้วฟงอวิ๋นจะรีบไปอาบน้ำ มีน้ำแกงชวนคุยเจื้อยแจ้วและช่วยพับผ้าห่มให้


เสียงหวานๆ ดังประสานกับเสียงน้ำกระทบกระเบื้อง ชวนให้คิดไปเลยเถิดว่า ถ้ามีคนตัวบางๆ ปลุกให้ตื่นทุกเช้า ชวนคุยกันทุกวัน ช่วยเขาพับผ้าห่ม ตื่นขึ้นมาก็เจอหน้า... จะดีเพียงใด


แต่ความคิดก็คือความคิด ในที่สุดฟงอวิ๋นก็ต้องสวมเสื้อผ้าราคาแพง ยี่ห้อที่ดังในหมู่วัยรุ่นแล้วลงไปกินข้าวเช้ากับน้ำแกง








"ฟงต้องพับผ้าห่มบ้างนะ" น้ำแกงสั่งสอนเหมือนเช้าที่ผ่านๆ มา ฟงอวิ๋นรับคำอือออ แสร้งทำเป็นยังไม่ตื่นดี คนตัวเล็กกว่าจึงได้แต่ถอนหายใจ


...ก็ตอนน้ำแกงพับผ้าห่ม ตบหมอนให้ฟูน่ะ... น่ารักเหลือเกิน เหมือนภรรยาแสนดีคอยช่วยสามีเก็บเตียงเลย ฟงอวิ๋นจะยอมพลาดภาพนั้นไปได้อย่างไร และหลังจากที่ลงไปชั้นล่างแล้ว แม่บ้านจะเข้ามาทำความสะอาดห้องตามปกติ แต่ฟงอวิ๋นไม่ยอมให้ใครมาแตะเตียงนอนเด็ดขาด ทุกๆ วันเขาจะเข้านอนบนเตียงนอนที่จัดโดยฝีมือคนสวย... แค่นี้ก็ฝันดีแล้ว



เป็นเช่นนี้ได้ทุกวัน ถึงน้ำแกงจะระอา แต่ก็ปล่อยให้ที่นอนของรุ่นพี่ระเกะระกะไม่ได้ เขาจึงต้องพับเก็บให้เรียบร้อยอยู่ทุกวี่ทุกวัน








หลายวันมานี้ อากาศร้อนจัด จนตอนเรียนภาคบ่าย ลูกศิษย์ทั้งสองมีอาการง่วงเหงาหาวนอนบ้าง อาหารบ้านฟงอวิ๋นมีแต่ของอร่อย ขนมหวาน ไอศกรีมจากต่างประเทศหลากหลายชนิดเล่นเอาเด็กทั้งสองหนังท้องตึง และหนังตาก็หย่อนตามมา น้ำแกงยังดีกว่าเจ้าบ้านที่ตาเยิ้มจะหลับแหล่ไม่หลับแหล่ แต่เด็กน้อยก็แอบใจลอย มีหลายครั้งที่แอบเหม่อจากห้องเรียนไปยังนอกหน้าต่าง มองสวนสวยตัดเล็มเป็นระเบียบเรียบร้อย ยิ่งอากาศร้อน ภายในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นสบายก็ยิ่งชวนให้ง่วง ดวงตาคู่สวยแอบมองไปยังสระน้ำที่อยู่ไม่ไกลนัก


เพราะบ้านของฟงอวิ๋นสร้างขึ้นตามหลักฮวงจุ้ย นอกจากน้ำพุหน้าบ้านแล้ว ด้านข้างยังขนาบด้วยสระเลี้ยงปลามงคล นอกจากนั้นยังมีสระว่ายน้ำในร่มและกลางแจ้งอีกด้วย จากหน้าต่างของน้ำแกง เด็กน้อยเห็นร่มไม้และสระเลี้ยงปลา น้ำใสสะอาดจนน่าไปแหวกว่าย แต่พอรู้สึกตัวก็แอบสะดุ้ง รีบสะกิดให้พี่ชายข้างๆ ตื่นจากฝัน มาเรียนต่อ


แต่ดวงตาใสแจ๋วยังจับจ้องสระว่ายน้ำสีฟ้าสดใสอยู่ไม่คลาย








โถ เด็กน้อย ฟงอวิ๋นแอบยิ้มเมื่อจบคาบเรียน น้ำแกงถอนหายใจพร่างพรู อากาศร้อนจัด และแสงแดดระยิบระยับก็สะท้อนจากสระว่ายน้ำสีฟ้าจนตาพร่า


ถ้าได้ลงไปแหวกว่ายจะดีสักเพียงไหนหนอ...


คิดได้แล้วก็ก้มหน้างุด


น้ำแกงช่างไร้มารยาทเสียจริง แค่มานั่งเรียนกับฟงอวิ๋นทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติหรือเพื่อนก็แย่อยู่แล้ว ยังจะอยากว่ายน้ำเล่นสระบ้านคนอื่นอีก!


ตำหนิตัวเองแรงๆ ในใจแล้วเด็กน้อยก็สะบัดหน้า รีบเก็บข้าวของใส่กระเป๋าเมื่อคาบสุดท้าย วิชาสังคมศึกษาผ่านพ้นไป







น้ำแกงและฟงอวิ๋นยกมือไหว้ติวเตอร์ ก่อนสีฟ้าใสแจ๋วระยิบระยับนอกหน้าต่างจะดึงดูดความสนใจอีกครั้ง

"น้ำแกง ไปกันเถอะ เดี๋ยวฟงไปส่ง" ฟงอวิ๋นเรียกคนตัวเล็กที่ใจลอย แต่เด็กน้อยก็ยังยืนอยู่ข้างหน้าต่างกระจกใส จับจ้องอยู่ที่สระว่ายน้ำ

"น้ำแกง ?" ฟงอวิ๋นเรียกเสียงดังขึ้นอีก คนใจลอยสะดุ้งเบาๆ แล้วยิ้มแหยๆ ให้


"อะ อืม"









วันพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ คุณนายจูหยุดให้เด็กๆ ได้พักผ่อน น้ำแกงเก็บข้าวของพร้อมลาบิดา มารดา พี่ๆ ของฟงอวิ๋นอย่างสุภาพเรียบร้อย แต่ในใจเด็กน้อยยังคิดถึงความเย็นสบายในสระน้ำ นึกเสียดายที่แถวบ้านไม่มีสระว่ายน้ำ ไม่เช่นนั้นคงจะขอคุณแม่พาไปเล่นน้ำได้

โดยปกติแล้ว คุณนาถลดาและสามีเป็นคนอยู่ติดบ้าน ไม่ชอบออกไปไหน วันหยุดก็พักผ่อนสบายๆ แทนที่จะออกไปเที่ยว น้ำแกงออกจะเสียใจอยู่ไม่น้อย เพราะช่วงปิดเทอม น้ำแกงก็ไม่ค่อยได้ไปไหนเหมือนคนอื่นเค้า อย่างมากก็ติดตามคุณพ่อไปราชการต่างจังหวัดหรือไปบ้านท่านย่าเท่านั้นเอง ไม่ค่อยได้เที่ยวเล่นเหมือนเพื่อนๆ

เมื่อคิดถึงวันหยุดในวันพรุ่งนี้แล้วก็ได้แต่ห่อเหี่ยว ก็คงเหมือนทุกๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา ทุกวันอาทิตย์ น้ำแกงตื่นสายได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องตื่นมาตักบาตรกับคุณแม่ พอสายๆ ถึงจะกลับไปนอนหรือดูทีวีได้ ตอนเที่ยงถ้าอ้อนคุณพ่อคุณแม่ ก็อาจจะได้ไปเที่ยวห้าง ไปกินข้าวร้านหรูๆ เหมือนคนอื่น และเย็นๆ ก็ค่อยฝ่ารถติดกลับบ้าน


วันอาทิตย์นี้คุณแม่จะออกไปซื้อของไหมนะ... ถ้าออกไป น้ำแกงจะซื้อหนังสือมาตุนเยอะๆ ถึงจะเสียดายที่ไม่ได้ไปว่ายน้ำ แต่ก็ช่างเถอะ...


"น้ำแกง ?" เสียงเรียกปลุกให้เด็กน้อยตื่นจากภวังค์


"ครับ ?" น้ำแกงสะดุ้ง เงยหน้ามองพี่ชายตัวสูงข้างๆ


น้ำแกงกับฟงอวิ๋นกำลังรอรถ เมื่อสักครู่คุณนายจูจะมาส่ง แต่น้ำแกงทัดทานไว้ เนื่องจากมารดาของฟงอวิ๋นคงเหนื่อยจากที่ทำงานไม่น้อย

"พรุ่งนี้น้ำแกงจะทำอะไรเหรอ ?"


"เอ๋... เอ่อ คงตักบาตร... แล้วไปร้านหนังสือมั้ง" น้ำแกงตอบอย่างไม่แน่ใจ แต่คำตอบทำให้ฟงอวิ๋นยิ้มพราว


"ถ้างั้นก็ไม่ได้ออกไหนใช่ไหม ?"


คนฟังพยักหน้า รุ่นพี่ยิ่งยิ้มกว้าง จนตาหยี "งั้น... มาเล่นบ้านฟงไหม ?"


"เอ๋ ?"


ฟงอวิ๋นเห็นใบหน้างงๆ แสนสวยแล้วรีบพูดต่อเสียงรัวเร็ว หน้าแดงจัด "ก็... เอ่อ ฟงก็ไม่ได้ไปไหน..." หยุดแค่วันเดียว จะไปฮ่องกงหรือญี่ปุ่นตามคำชวนพี่สาวก็คงนั่งเครื่องเมื่อยเปล่าๆ "น้ำแกงมาเล่นบ้านนี้ไหม ฟงเองก็เบื่อๆ ไม่มีคนรุ่นราวคราวเดียวกันเลย..."


จริงๆ น้ำแกงเกือบปฏิเสธไปแล้ว เพราะแค่มารบกวนสัปดาห์ละ 6 วันตั้งแต่เช้าจรดเย็น แถมยังรบกวนให้ทางนี้ไปรับไปส่งอีก แต่เพราะเสียงหงอยๆ ตรงประโยคสุดท้ายทำให้น้ำแกงนึกถึงคำของมารดา


...เพราะฟงอวิ๋นเป็นลูกหลง พี่ๆ ก็โตกันหมดแล้ว คงจะเหงาไม่น้อย


น้ำแกงเข้าใจความเหงาดี เพราะเขาเองก็เป็นลูกคนเดียว

คิดได้ดังนั้นจึงพยักหน้า "ถ้าอย่างนั้น.... รบกวนด้วยนะ"


จากหน้าแดงอยู่แล้ว ยิ่งแดงเข้าไปอีก ฟงอวิ๋นพยักหน้ารัวๆ "อะ อืม ได้อยู่แล้ว พรุ่งนี้ฟงจะไปรับนะ กี่โมงดี ? มากินข้าวเช้าด้วยกันนะ"


เพราะพูดเร็วปรื๋อ น้ำแกงไม่ทันปฏิเสธ รถก็แล่นมาเลียบตรงปากประตูแล้ว ฟงอวิ๋นรีบวิ่งไปคุยกับคนขับรถและจูงมือน้ำแกงขึ้นรถ


"แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตอาม๊าเลย" น้ำแกงพูดเบาๆ อย่างกังวล ฟงอวิ๋นชะงัก น้ำแกงเข้าใจว่าเขาคงลืมขอ แต่จริงๆ แล้วจริงๆ แล้วฟงอวิ๋นชะงักในความน่ารักของคนตัวน้อย เขาปิดประตูรถแล้วนั่งลงข้างๆ


เป็นเด็กดี มีมารยาทอะไรแบบนี้นะ... ฟงอวิ๋นคิดตาลอย ปากก็บอก


"ม๊าเป็นคนชวนให้น้ำแกงมาเอง ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวฟงจะขออนุญาตคุณครูนาถลดาให้แกงเองนะ" คุณนายจูเคยพูดไว้นานแล้ว... ให้ชวนน้ำแกงมาเล่นที่บ้านบ้าง แต่ตี๋น้อยเองนั่นแหละที่กระบิดกระบวน มัวแต่เขิน...

...วันนี้ได้ฤกษ์ดี เห็นคนสวยจ้องสระว่ายน้ำตาไม่กระพริบ ทำให้เข้าใจว่าคงอยากเล่นน้ำ จึงมีกำลังใจชวน








เมื่อถึงบ้านหลังกะทัดรัด ฟงอวิ๋นช่วยน้ำแกงถือกระเป๋าลงจากรถ ยกมือไหว้คุณนาถลดาและขออนุญาตให้เด็กน้อยมาเล่นที่บ้าน

"จะไม่รบกวนบ้านเธอเหรอ ?" คุณนายถาม


"ไม่ครับ คือคุณแม่ก็อยากให้น้ำแกงมาเล่นบ้าง... เพราะผมก็อยู่คนเดียว..." ประโยคเด็ดของฟงอวิ๋นอยู่ตรงนี้ คุณนาถลดาขมวดคิ้วน้อยๆ แต่ก็พยักหน้า "ได้สิ น้ำแกงก็เป็นลูกคนเดียว มีพี่ชายเพิ่มก็ดีเหมือน เจ้าแกง ขอบคุณพี่เค้าหรือยัง ?"


น้ำแกงยืนอยู่ข้างๆ คุณแม่ หน้าแดงน้อยๆ เมื่อได้ยินว่าพี่ชาย "ขะ ขอบคุณครับ" เสียงหวานตะกุกตะกักเล็กน้อย พร้อมมือน้อยๆ ยกพนมขึ้นไหว้ ทำเอาคนฟังหัวใจพองฟูล่องลอยจนติดยอดต้นมะม่วง


"ได้เสมอครับ พรุ่งนี้ฟงจะมารับประมาณ 9 โมงนะ"


"อื้ม" น้ำแกงพยักหน้า หน้าแดงไปถึงหู ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอายด้วย


"ถ้าอย่างนั้น ผมลาละนะครับคุณครู" ฟงอวิ๋นยกมือไหว้อย่างกระชดกระช้อย จนคุณครูหรี่ตาลง มองแผ่นหลังกว้างของลูกศิษย์กับลูกชายที่กอดเอวอย่างใช้ความคิด



ไม่แน่ว่า...


ฟงอวิ๋น... จะชอบ... น้ำแกง ?


แต่ทั้งคู่ก็เป็นผู้ชาย... ไม่น่าจะเป็นไปได้ คุณครูถอนหายใจ แล้วตัดสินใจไม่ชี้โพรงให้กระรอก ถ้าหากฟงอวิ๋นจริงใจกับลูกชายนางจริงๆ คงทำทุกวิถีทางให้ใกล้ชิด ถึงตอนนั้นค่อยกังวลยังไม่สาย



เพราะตอนนี้... คุณครูก้มลงมองลูกชายที่กอดกระเป๋า หน้าแดง ก้มหน้าเดินงุดๆ ขึ้นบ้าน


...น้ำแกงก็มีความสุขดี



แถมยัง... เจ้าลูกศิษย์ตัวดีส่ายหางพั่บๆ เหมือนเจ้าไมโล หมาพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวโตที่อยู่ข้างบ้านชอบกล!








สัปดาห์นี้เจ้าลูกคนเล็กบอกอาป๊า อาม๊าว่าไม่มีนัดหมอหรือกิจกรรมกลุ่มผู้บำบัด เจ้าตัวส่ายหางระริกระรี้พาคนสวยมาที่บ้านแต่เช้าตรู่ ใกล้เคียงกับคำว่าฉุดเลยทีเดียว น้ำแกงยังเพิ่งจะงัวเงียตื่น ช่วยคุณแม่บรรจุแกงร้อนๆ ใส่ถุงเพื่อไปตักบาตรอยู่เลย รถยุโรปคันงามสีดำปลาบก็แวะมาจอดหน้าบ้าน หมาตัวโตเห่าโฮ่ง เอ๊ย ตะโกนเรียกลูกชายคุณแม่แข่งกับเสียงหมาๆ ตัวจริงที่เห่าขรม เหมือนจะไล่ให้เจ้าหมาแปลกหน้าไปให้พ้นจากเจ้าหญิง เอ๊ย เจ้านายของตัวเอง


น้ำแกงเดินลงบ้านช้าๆ ขยี้ตามองคนนอกรั้ว เสื้อนอนเป็นเสื้อยืดตัวเก่าของคุณพ่อที่คอย้วย จนเห็นไหล่มนที่เป็นสีน้ำผึ้งนวลๆ กางเกงหูรูดขาสั้นอวดเรียวขาสวยๆ ในมือเจ้าหญิงของบรรดาตูบถือกะละมังข้าวคลุกมาด้วย

"ฟง... เหรอ"


"น้ำแกง" คนนอกรั้วตะโกนอย่างดีใจ แทบกระโดดหยองแหยงแข่งกับเจ้าสี่ขาเกือบสิบตัวที่ตะกุยขาเรียว

หนอย... อย่าคิดว่าเป็นหมาแล้วจะอ้อนคนสวยได้


น้ำแกงครางอืออาในลำคอให้กับบรรดาลูกสมุน ก่อนจะไล่ให้เจ้าตูบพ้นทาง จึงค่อยมาเปิดประตูรั้ว

"ทำไมมาเช้าจัง" ท่าทางงัวเงียช่างน่ารักนัก... ถึงในมือจะถือกะละมังข้าวหมาก็เถอะ


ฟงอวิ๋นระริกระรี้ "ก็จะชวนแกงไปที่บ้าน ไปกินข้าวเช้าด้วยกัน"


"อ้อ" คนฟังพยักหน้าหงึกๆ อย่างง่วงๆ พอดีกับเสียงเรียกจากบนบ้าน


"แกง ให้ข้าวหมาด้วยนะลูก นั่นใครมาน่ะ"


น้ำแกงแหงนหน้ามองคนตัวสูงที่ยิ้มเจิดจ้า หางโบกพั่บๆ... ก่อนจะขยี้ตา อ้อ ตาฝาดไป... เขางึมงำ "แต่ว่าให้ข้าวหมา..."


"เดี๋ยวฟงช่วย" ตอบอย่างใจดีแล้วแย่งกะละมังในมือมาถือไว้ "แกงไปหาครูเถอะ"


น้ำแกงลังเลครู่หนึ่ง "งั้นก็... ฝากด้วยนะ" แล้วเจ้าตัวก็วิ่งขึ้นเรือน ไปรายงานบุพการีว่าผู้บุกรุกแต่เช้าตรู่ไม่ใช่ใครอื่น


คุณนาถลดาฟังแล้วขมวดคิ้ว ตาหรี่ลงอย่างไม่ชอบใจนัก แต่ก็พยักหน้าให้ "ถ้าอย่างนั้นแกงก็ไปเรียกพี่เค้าขึ้นบ้าน แล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะลูก อย่าให้พี่เค้าคอย"


"ครับ" น้ำแกงเด็กดี วิ่งลงบ้านอีกรอบเพื่อพบกับ...

"คิก" เสียงหัวเราะหลุดออกมาเบาๆ คุณชายขาวตี๋ในชุดเสื้อเชิ้ต กางเกงยีนสุดเท่ ถูกบรรดาเจ้าตูบตะกุยจนเละ ฟงอวิ๋นหน้ามุ่ย ท่าทางไม่ถูกกับบรรดาหมาๆ เท่าใดนัก

"ฟง เสร็จแล้วขึ้นบ้านไปหาแม่หน่อยนะ"


"อะ... อืม..." ฟงอวิ๋นสะดุ้ง แอบเสียฟอร์มไปหน่อยที่ให้คนสวยมาเห็นท่าทางเละๆ นี้ได้








หลังจากน้ำแกงขึ้นบ้านไปแล้ว ฟงอวิ๋นจึงเทข้าวผสมเนื้อไก่และอาหารเม็ดในกะละมังอันหนักอึ้งลงในถาดอาหารของหมาทุกตัวสำเร็จ เขาช่วยเปลี่ยนน้ำให้ด้วย ส่วนคุณนายมายืนที่ระเบียง สังเกตเจ้าหนุ่มที่บังอาจมาสอยดอกฟ้าของนาง


ครูนาถลดามือเทอาหารแมวใส่จานถาดอาหารแมว ตาจ้องนายฟงอวิ๋นเขม็ง จวบจนเด็กหนุ่มบ่นไป ปัดหมาๆ ไป เทข้าวไปจนเสร็จ เขาจึงเดินขึ้นบันไดมาทักทาย

"สวัสดีครับ คุณครู" คุณนายพยักหน้ารับอย่างเสียไม่ได้


"ไหว้พระเถอะลูก"


"เอ่อ... ผมมารับน้ำแกง..."


"อืม เธอบอกฉันแล้วเมื่อวาน"


"..." ฟงอวิ๋นนิ่งไปสักพัก ก่อนฉีกรอยยิ้มให้กับบรรยากาศมาคุ เขาเป็นลูกชายคนเล็ก จึงถนัดการเข้าหาผู้ใหญ่เป็นพิเศษ "ท่านผู้พิพากษาไปไหนเหรอครับ ?"


"คุณไกรสรยังไม่ตื่นน่ะ" คุณนายถอนหายใจ "ไหนว่านัดน้ำแกงไว้ 9 โมง นี่พระเพิ่งบิณฑบาต ทำไมมาเช้าขนาดนี้"


ฟงอวิ๋นยิ้มเขินๆ เกาศีรษะ "คือ เอ่อ... เห็นน้ำแกงเป็นคนตื่นเช้า เลยอยากมาให้ทันน่ะครับ" จะบอกได้อย่างไรล่ะ... ว่านอนไม่หลับทั้งคืน ลองชุดเกือบหมดตู้ กว่าจะได้ชุดที่หล่อสมใจมารับคนสวยไปเดท








คุณนาถลดาชวนขึ้นบ้าน พลางถามเรื่องการบำบัดไปด้วย ดูเหมือนฟงอวิ๋นจะไปด้วยดี ตอนนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือเรียนต่อ แต่จะซ้ำชั้นม.4 อีกครั้ง และจะติวไปจนกว่าจะถึงช่วงสอบเข้า


ได้ยินลูกศิษย์ตอบฉะฉาน สุภาพเรียบร้อยผิดกับที่โรงเรียนลิบแล้วครูนาถลดาก็ยินดี เธอเอ่ยชมอย่างหาได้ยาก "ดีมาก มีเป้าหมายแบบนี้ ต้องประสบความสำเร็จแน่ๆ"


"ขอบคุณครับ" ฟงอวิ๋นยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ตาแลไปยังผักสดผลไม้จำนวนมากในครัว ครูสังเกตเห็นจึงถาม


"อยากกินเหรอ ? ปอกเป็นมั้ย ? น้ำแกงปอกให้ได้นะ แต่จะเหลือแต่แกน หรือจะเอาไปกินที่บ้าน ?"


"อ้อ เปล่าครับ" ฟงอวิ๋นปฏิเสธทันควัน "คือจะทำอาหารเหรอครับ ?"


"จะปอกใส่กล่องเก็บไว้น่ะ อีกส่วนก็จะเอาไปใส่บาตร น้ำแกงล้างไว้แล้ว แต่ก็..." คุณนายถอนหายใจเบาๆ "ได้แต่ล้างล่ะนะ น้ำแกงน่ะทำอาหารไม่ได้เรื่องเลย ขนาดไมโครเวฟยังระเบิดมาแล้ว"


ฟงอวิ๋นหัวเราะ ไม่คิดว่าคนสวยนิสัยดี ดูสมบูรณ์แบบไปหมดยังมีจุดอ่อน "ถ้าอย่างนั้นผมช่วยไหมครับ ?"


ผู้สูงวัยมองผ่านแว่น "เธอทำได้เหรอ ?"


"ได้ครับ ผมทำอาหารเป็น" ไม่ใช่เรื่องโกหก ฟงอวิ๋นเป็นคนช่างกิน คนช่างกินก็ช่างทำอาหารด้วย ตอนเด็กๆ เขาชอบอยู่ในครัว เพราะเป็นลูกหลง ไม่มีคนเล่นด้วย พี่ๆ ก็ไปทำงานหมด เขาจึงมักไปขลุกอยู่ในครัว เพราะในครัวคนเยอะ ครื้นเครง สนุกสนาน วุ่นวายตลอดเวลา จึงพลอยได้วิชาทำครัวมาด้วย


"เก่งนะ..." คุณครูชมอีกคำรบ ก่อนตอบ "เอ้า มาสิ"


ฟงอวิ๋นหยิบมีดดูเก้ๆ กังๆ ในตอนแรก แต่ก็สามารถปอกผลไม้ได้โดยไม่มีการเสียเลือดเนื้อหรือเหลือแต่แกนอย่างลูกชาย ถึงไม่เนี้ยบแต่ก็ดูออกว่าทำครัวเป็น คุณครูจึงยกหน้าที่ปกแอปเปิ้ล สาลี่ สัปปะรดให้


"ทำอาหารเป็นแบบนี้ต่อไปก็สบาย" ครูสอนไป เด็ดยอดผักไป "ไม่ต้องพึ่งอาหารถุง ไม่เหมือนเจ้าแกงเลย รายนั้นจะทำงานบ้านหรือทำอาหารก็แย่พอๆ กัน ยังดีว่าเป็นผู้ชาย..."


"ผู้ชายเดี๋ยวนี้ก็ต้องทำอาหารเป็นแล้วครับ ผู้หญิงจะได้ไม่เหนื่อย" ฟงอวิ๋นชวนคุยอย่างเป็นธรรมชาติ


"นั่นสินะ คุณไกรสรก็ทำงานบ้าน ทำอาหารเป็นเหมือนกัน" ครูนาถลดารำพันแล้วถอนหายใจ


ฟงอวิ๋นปอกสาลี่ไปได้สองตะกร้าเล็กๆ น้ำแกงก็แต่งตัวเรียบร้อย มองภาพในครัวอย่างกระหลาดใจ "เอ๋ แม่ครับ ?"


"อ้อ น้องมาแล้วน่ะ ยุทธจักร" คุณครูเรียกลูกศิษย์ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงมาก


"น้ำแกง" ฟงอวิ๋ยิ้ม เสียงเพ้อ น้ำแกงก็เหมือนเดิม... ใส่เสื้อยืดเรียบๆ กางเกงสามส่วนสีเขียวขี้ม้า ท่าทางทะมัดทะแมง แต่ทำไมดูสวยกว่าเด็กผู้ชายคนอื่นๆ นักนะ


"ไปกันยัง ?" น้ำแกงถาม เดินเข้าไปจับข้อมือรุ่นพี่ คุณแม่ร้องเสียงหลง


"น้ำแกง ไปจับมือถือแขนได้ยังไง ในมือพี่เค้ามีมีดนะลูก ระวังผีผลักเอา"


ลูกชายจึงปล่อยมือ หัวเราะแหะๆ นั่งแปะอยู่ใกล้ๆ ฟงอวิ๋นยิ้มหวานจนแสบตา รีบปอกสาลี่ฉ่ำน้ำในมือจนหมด แล้วจึงเก็บใส่กล่องถนอมอาหารให้เรียบร้อย ก่อนจะล้างมือและลาคุณนาย


"งั้นพวกเราไปก่อนนะครับ คุณครูู"


"ไปก่อนนะครับแม่"


"เอาเถอะๆ ไปดีมาดีนะลูก" คุณนายโบกมือไล่


เด็กชายทั้งสองเดินจูงมือกันลงจากเรือนไปแล้ว คุณนายดูเศษเปลือกที่เก็บกวาดในถังขยะ และผลไม้ในกล่องพลาสติกใสอย่างใช้ความคิด


...ถ้าเป็นแบบนี้... คงจะไม่เป็นไรกระมัง....

....

// สั้น... 555  :ling3: :ling1: ฟงรุกหนักค่ะ เข้าทางแม่ แต่คุณนายดูออกตั้งแต่แรกเลยวุ้ย 555







หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 11-01-2016 20:12:33
หวานมากกกกก   

หนังลูกแกะที่คลุมหมาป่าฟงใกล้หลุดยังเนี่ย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: NINEWNN ที่ 11-01-2016 20:18:58
แหม่ ไม่ใีห้มีปัญหา ลูกเขยเข้ากะแม่ไม่ได้นะคะ ฮ่อลลลล
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 11-01-2016 22:46:21
คุณแม่ไม่ต้องห่วงลูกสาว(?)คุณแม่นะคะ สามีของลูกคุณแม่ทำอาหารเป็นค่ะ อิอิ  o13 o13
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 11-01-2016 23:24:09
น้ำแกงจะอยู่ดีมีสุขเพราะสามีรวยและทำอาการเป็นค่ะคุณแม่

กร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-01-2016 23:30:30
หางสะบัดแรงมากจนใครๆก็มองออก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 11-01-2016 23:54:17
โอ้ย น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก
น้ำแกงก็ดูใสๆ นะ ไม่น่าเชื่อว่าจะดุผัว
555555555555555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-01-2016 00:30:52
ว้ายยยย คุณแม่ไฟเขียวแล้ว55555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 12-01-2016 07:17:06
เข้าทางแม่ซะแหล่ววว 5555 น้ำแกงน่ารักก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 12-01-2016 10:48:09


ได้กัน ได้กัน ได้กัน ได้กัน ได้กัน!
ไหน ๆ บ้านฟงก็ไฟเขียว ส่วนคุณครูนารถลดาก็อ่านเกมออกแต่เนิ่น ๆ
เพราะฉะนั้น ส่งเสริมให้เด็กทั้งสองได้กันในเร็ววันเถอะค่ะ
เพื่อความสุขของอีป้าและนักอ่านทั่วหล้า... เนอะ เนอะ

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^  :mew1:


หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 12-01-2016 12:42:27
อะไรจะน่ารักปานเน้!!!

อ่านไปยิ้มไป น่ารักจริงๆเลยเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 12-01-2016 13:43:55
ครอบครัวฟงดูออกหมดเลยว่าที่แม่ยายก็มองออกเหลือแต่น้ำแกงเนี่ยจะดูออกตอนไหน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 12-01-2016 14:37:31
อั๊ยยยย น่ารักกกกกกกกกกกกกกก งื้ออออออ ฟงหลังเข้ารับการบำบัดนี่คือดีอ่ะค่ะ น่ารักกกก ส่วนน้ำแกงน่ารักยังไงก็ยังน่ารักอย่างนั้น ฮืออออ คนสวยพัปผ้าห่มให้ด้วยอ่ะะะะ แหมๆๆ ฝันดีเลยสิคะพ่อหนุ่ม แล้วโมเม้นเขินกันไปเขินกันมานี่คืออะไรรรร คุณครูคะ คุณครูคงต้องยอมอ่ะค่ะ ลูกชายคุณครูก็เขินเค้าเหมือนกันนนนน ตอนหน้ามาเล่นน้ำกันแล้วสินะคะ กรี๊ดดดดดด เรารอดูคนแหวกว่ายในน้ำเชื่อมนะคะ กอดดดด ขอบคุณสำหรับตอนนี้ค่าาา  :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: littlegift ที่ 12-01-2016 20:03:23
ฟงทำตัวน่ารักใสใสผิดกับเมื่อก่อนมาก น้ำแกงก็น่ารัก ฟงสู้ๆผ่านแม่ยายไปให้ได้ ><
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 12-01-2016 21:35:08
ทำไมฟงน่ารักแบบนี้ :impress2: น้ำแกงก็ช่างอ่อนหวาน นุ่มนิ่ม เย้ายวนใจเหลือเกิน แบบนี้ฟงจะทนต่อไปได้ยังไง ฮือๆๆๆๆๆๆ :man1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 22-01-2016 02:10:52
คุณแม่อย่าดุมากนะคะ พี่หมาฟงเชื่องแล้วไม่กัดแล้ว ยกลูกชายให้เลยค่าา อิอิ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 28-01-2016 07:37:13
ตามลุ้นให้เจ้าหมาตัวใหญ่พิชิตหัวใจเจ้าหญิงของมันได้ในเร็ววันนะ มีความสุขจัง ได้อ่านต่ออีกตอนนึงแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 12-02-2016 16:59:53
คิดถึงน้ำแกงกะเฮียฟง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nice_nice ที่ 23-02-2016 09:22:40
 :กอด1: :กอด1:  คิดถึงน้ำแกงพี่ฟ่งจังเลย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: zerofata ที่ 13-03-2016 17:31:15
น่ารักค่ะ ฟงน่ารักมากๆเลยยย ทำอย่างกับจีบสาวครั้งแรก 555555 โอ๊ยชอบ
ขอบคุณนะคะ รออ่านต่อๆไปค่ะ ><
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 15-03-2016 01:03:13
งุ้ยยย น่ารักมากๆ เลยค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 19-03-2016 01:16:26
คิดถึงจุง :impress2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 22-03-2016 22:51:17
น่ารักมากค่ะ ตามมาจากพี่เสือกะต่ายน้อย ^^
มาเป็นกำลังใจให้จอมยุทธฟงอวิ๋น พิชิตใจนายน้อยน้ำแกง ^^
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 14-04-2016 14:59:00
เมื่อไหร่หนอที่เธอจะกลับมา
คอยนับวันเวลาเธออัพตอนใหม่
หายไปนานแล้วทำไมไม่มาอัพใหม่
มาต่อจนจบได้ไหมฉันเฝ้ารอ

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: monday012 ที่ 14-04-2016 16:30:53
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 24-04-2016 21:26:59
5

ความเยาว์นั้นแสนสั้น จงรักและถนอมมันให้ดี เพื่อที่จะไม่เสียใจภายหลัง


จงเที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์ พบปะผู้คน พบเจอสิ่งใหม่ๆ เปิดโลกให้กว้าง เปิดใจให้กว้างยิ่งกว่า ลิ้มรสอิสระ ตกหลุมรักและใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพราะเมื่อเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะต้องกลับไปอยู่ในกฏระเบียบของสังคม สวมหน้ากากและหัวโขน ใช้ชีวิตที่เหลือกับสังคมหลอกลวง


ถึงจะสืบเชื้อสายจีนมาเต็มตัวร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่สกุลเอ็งก็สอนบุตรหลานอย่างชาวตะวันตก ในช่วงวัยเยาว์ของลูกๆ คุณนายจูจึงเฮี้ยวกันไม่น้อย แต่เมื่อโตขึ้น ก็ทำงานกันอย่างแข็งขัน มีเพียงพี่ชายคนรองที่เอาการเอางานตั้งแต่เด็ก


ดังนั้น การที่ฟงอวิ๋นจะตกหลุมรักบุตรชายของผู้มีพระคุณจึงไม่มีใครห้ามปราม เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ไม่ให้ล้ำเส้นเกินไปนัก


เรื่องรักๆ ใคร่ๆ เป็นเรื่องคู่กับวัยรุ่น จะหลงรักข้างเดียว จะอกหักหรือหวานชื่น ต่างก็เป็นอารมณ์เพียงชั่วครู่ชั่วยามของเด็กๆ คุณนายเห็นเป็นเรื่องขบขันและไร้เดียงสา


ถึงอีกฝ่ายจะเป็นผู้ชาย แต่บ้านนี้ก็พึงพอใจไม่น้อย ฟงอวิ๋นมีสาวสวยมาติดพันมากมาย แต่ไม่เคยพาใครมาที่บ้าน ไม่ได้พูดถึงใครเป็นพิเศษ แต่กับเด็กน้อยหน้าคมคนนี้ นอกจากจะให้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนตัวที่หวงแสนหวงกระทั่งมารดาแล้ว ยังพามาที่บ้าน ใส่ใจดูแล พูดถึงไม่หยุดปาก ซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นเด็กหน้าตาสะสวย ถึงจะเป็นผู้ชายก็มีรูปร่างแบบบาง สูงโปร่ง หน้าตาคมหวาน ดวงตาสวยซึ้ง จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่ม ใบหน้าเพรียวแปลกตา ผิวสีผิวแปลก ที่ไม่ถึงกับขาวหรือน้ำผึ้งจัด กลับผสมน้ำตาล แดงและเหลืองอ่อนๆ ดูคล้ายชาวต่างชาติพวกละตินหรือชนเผ่าลึกลับบนเกาะแปซิฟิกอันห่างไกล

น้ำแกงน่าจะเป็นลูกผสมเชื้อชาติใดเชื้อชาติหนึ่งหรือสืบเชื้อสายจากฝั่งใดฝั่งหนึ่งของบิดามารดา







วันนี้เด็กน้อยเดินเคียงข้างฟงอวิ๋น ร่างกายที่ค่อนข้างโปร่ง และดูว่าคงจะสูงได้อีกไม่ได้ดูขลาดกลัวหรือหยิ่งผยอง กลับสง่างามสุภาพเรียบร้อย เหมือนผู้ดี

ร่างเล็กยกมือไหว้ญาติๆ เรียบร้อย เช้าวันอาทิตย์ญาติๆ ฟงอวิ๋นต่างอยู่พร้อมหน้า เป็นครั้งแรกที่น้ำแกงเห็นพี่ๆ ของฟงอวิ๋นครบทุกคน

พี่ชายคนโตของฟงอวิ๋นรูปร่างใหญ่ ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม ดวงตาโปน ริมฝีปากหนา จมูกแบน ท่าทางมุทะลุ ชื่อว่าจั่นเจา อายุราวๆ สามสิบปลายๆ

พี่คนรองชื่อบ่อกี้ รูปร่างเล็กที่สุด เล็กกว่ามารดาเสียอีก แต่ก็ยังสูงกว่าน้ำแกงหลายช่วง รูปร่างอ้วนท้วน มีใบหน้าค่อนข้างกลม ตาเล็กหยี ท่าทางจริงจังและอ่อนโยน

พี่สาวคนที่สาม น้ำแกงคุ้นเคยที่สุด คือพี่ย้งยี้ เป็นหญิงสาวร่างกายสูงใหญ่ มือและเท้ากว้าง ริมฝีปากกว้าง ดวงตาเป็นขีดเส้นเดียวตวัดขึ้น จมูกและหน้าผากกว้างอย่างผู้มีวาสนาดี

พี่ชายทั้งสองแต่งงานแล้ว และอาศัยอยู่บ้านเล็กในเขตคฤหาสน์กับครอบครัว ส่วนพี่ย้งยี้ยังอาศัยอยู่กับบิดามารดา

พี่ๆ พยักหน้าอย่างเป็นกันเอง พลางชักชวนให้น้ำแกงทานข้าวเช้าด้วยกัน






มื้อเช้ายังคงอลังการเช่นเดียวกับทุครั้ง โจ๊กหอมเนื้อเนียนกับเครื่องเคียงหรูหราอย่างเป๋าฮื้อและหอยเชลล์ มีทั้งขนมจีบ ซาลาเปาทั้งใส้เค็มและหวาน เกี๊ยวนึ่งในเข่งสาน เสี่ยวหลงเปาน้ำซุปกระดูกหมูร้อนๆ และแป้งแผ่นกลมๆ บางๆ กินกับหมูพะโล้เคี่ยวจนนิ่ม หรือบะหมี่น้ำซุปใส และที่ขาดไม่ได้ น้ำเต้าหู้หอมกรุ่นและปาท่องโก๋ตัวยาวกรุบกรอบ


น้ำแกงมากินอาหารเช้าที่บ้านฟงอวิ๋นก็บ่อย แต่วันนี้อาหารหลากหลายเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันพักผ่อนของทุกคน ลูกๆ ของคุณนายและเจ้าสัวจึงมารวมตัวกันกินอาหารอย่างอบอุ่น ขาดก็เพียงแต่เหล่าลูกสะใภ้เท่านั้น


"พวกซ้อจะมาตอนอาหารเย็น ก็นะ... เช้าๆ แบบนี้เด็กๆ ก็ยังไม่ตื่นกันหรอก" ย้งยี้บอก พลางชี้ให้สาวใช้รินน้ำเต้าหู้ควันฉุยให้แขก


"น้ำแกงกินอาหารจีนได้หรือเปล่า ?" จั่นเจา พี่คนโตถามอย่างใส่ใจ


"กินได้ครับ" น้ำแกงอ้อมแอ้มตอบ ถึงจะมีบางอย่างไม่เคยเห็นก็เถอะ เจ้าสัวเห็นท่าทางแล้วหัวเราะจนพุงกระเพื่อม


"ผอมจริงๆ นะอาน้ำแกง ฟง ช่วยน้องตักไข่เยี่ยวม้ากับโจ๊กซิ เห็นอาม๊าบอกน้ำแกงชอบ"


น้ำแกงหน้าแดง จริงๆ เขาก็คนไทย แทบไม่เคยกินอาหารจีนอื่นๆ นอกจากก๋วยเตี๋ยว แต่พอมาอยู่บ้านฟงอวิ๋น ถึงรู้ตัวว่าตัวเองก็โปรดปรานอาหารจีนไม่น้อย โดยเฉพาะไข่เยี่ยวม้าของบ้านนี้ ที่คัดแต่ไข่เป็ดฟองใหญ่ พันธุ์ดีและนำมาดองเอง จึงได้รสชาติกว่าที่ขายทั่วไปมาก


"กินเยอะๆ ลูก" คุณนายบอกอย่างปราณี เหลือบตาดูลูกชายคนเล็กกุลีกุจอตักโจ๊กกระดูกหมูใส่ถ้วย ตักหอยเชลล์ เป๋าฮื้อ เป็นเครื่องเคียงอย่างสวยงาม บริการเต็มที่ ขนาดที่คนในครอบครัวยังไม่มีใครเคยเห็น


บ่อกี้กระแอม จิบชาล้างปาก แล้วรับผ้าอุ่นๆ จากสาวใช้มาเช็ดมือ พลางบอก "วันนี้น้ำแกงจะมาเล่นที่นี่สินะ ไว้อยู่รอเล่นกับหลานๆ โซ้ยตี๋ด้วยสิ"


"นั่นสินะ" ย้งยี้พยักหน้า "เด็กๆ ไปเรียนพิเศษกันวันนี้ คงจะค่ำๆ หน่อย น้ำแกงอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันเลยดีกว่า"


น้ำแกงได้แต่มองฟงอวิ๋นคีบอาหารต่างๆ มาวางไว้ตรงหน้าจนพูน แต่อาม๊า อาป๊ายังไม่พอใจนัก ทำเสียงจิ๊จ๊ะกับเอวบางร่างน้อย แขนขานวลเนียนที่ผอมเพรียว


เด็กน้อยปฏิเสธเสียงเบา "คือ... ขอบคุณครับ แต่..." มากินฟรี อยู่ฟรีจนแทบจะทุกวันอยู่แล้ว ยังจะอยู่กินข้าวเย็นอีก! น้ำแกงรู้สึกตัวเองหน้าหนาเกินไปแล้ว

ก็กับข้าวบ้านฟงอวิ๋นอร่อย หรูหรา แปลกตา ต่างกับที่บ้านที่กินอะไรง่ายๆ ดีต่อสุขภาพ อย่างน้ำพริกมะขามแกล้มผักปลูกเอง ปลาตะเพียนปิ้งแห้งๆ แกงไตปลารสไม่จัดนัก กินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยดีหรอก แต่พอมาเจอความหรูหราที่บ้านนี้เข้าไป กลายเป็นว่าน้ำแกงอดจะติดอกติดใจอาหารไม่ได้


ประมุขของบ้านอย่างเถ้าแก่ส่ายหน้าให้คำปฏิเสธ "กินเสียที่นี่แหละ ลื้อตัวผอมๆ ต้องกินเยอะๆ อาฟงตักพะโล้ใส่แป้งให้น้องซิ"


"ครับ" ฟงอวิ๋นรับคำอย่างแข็งขัน หยิบแป้งย่างกลมๆ คล้ายขนมปังร้อนๆ ผ่าตรงกลางแล้วยัดหมูพะโล้แสนอร่อยเข้าไปด้านใน


น้ำแกงกัดไปคำหนึ่งอย่างเสียไม่ได้ แต่น้ำตาแทบไหลเพราะความอร่อย!

อื้ม! พะโล้นุ่มหวาน ไม่เหม็นเครื่องเทศ ละลายในปาก เข้ากันได้ดีกับแป้งย่างร้อนๆ เพราะปากมัวแต่เคี้ยว จึงไม่ได้ปฏิเสธผู้เฒ่า เถ้าแก่ฮงยิ้มอย่างเอ็นดูพลางจิบชาร้อน


ถือว่าตี๋น้อยสายตาไม่เลว...









หลังอาหารเช้า ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงขึ้นห้องทันที พี่ๆ พากันกลั้นยิ้มอย่างรู้ทัน เห็นจะมีแต่พี่ย้งยี้ที่ทำหน้าพิกลๆ เท่านั้น

น้ำแกงนั่งตรงโซฟาตัวนุ่ม ห้องฟงอวิ๋นนั้น เขาขึ้นมาบ่อยแล้ว ระหว่างที่นั่งชมตัวต่อกันดั้มในตู้กระจกสุดเท่ เจ้าของห้องก็กุลีกุจอเปิดตู้เย็นในห้องนอนมาเสิร์ฟน้ำ แล้วต่อเกมเข้ากับทีวี

เมื่อหันกลับมา รุ่นพี่ก็ยื่นจอยให้แล้ว ฟงอวิ๋นยิ้มจนตาหยี "มาเล่นเกมกัน"







เครื่องเล่นวิดีโอเกมราคาแพงแบบนี้ น้ำแกงเคยเห็นในห้าง เคยได้ยินเพื่อนๆ พูดคุยกัน แต่ไม่เคยเล่นเองเสียที จอยที่ฟงอวิ๋นว่าตัวใหญ่ ปุ่มใหญ่ให้กดสะดวก เล่นอยู่สองสามตาน้ำแกงก็จับจุดได้ ฟงอวิ๋นแอบยิ้มในใจ ก่อนจะแกล้งแพ้ไปบ้าง เพื่อไม่ให้หัวคิ้วสวยๆ มุ่นไปมากกว่านี้


หลังจากชนะฟงอวิ๋นไปบ้างแล้ว น้ำแกงก็รู้สึกเบื่อ หันหน้าเข้าหาเจ้าของบ้าน ทำปากอูด "ฮื่อ เบื่อแล้ว"


ดูเหมือนวันนี้น้ำแกงจะผ่อนคลายมาก คนตัวเล็กนั่งอยู่บนพรม เอนหลังพิงโซฟา เหยียดแข้งขาเต็มที่ คงจะลืมตัวไปกระมัง เพราะปกติน้ำแกงจะเป็น 'ผู้เฒ่าน้อย' ผู้แสนเคร่งครัดมารยาท ฟงอวิ๋นปิดเกม ก้มหน้าลงถามเด็กน้อยที่นั่งด้านล่าง "แล้วจะทำอะไรดี ?"


"ฟงเป็นเจ้าของบ้าน... ฟงแนะนำสิ" คำพูดเอาแต่ใจที่ฟงอวิ๋นไม่ค่อยได้ยินนัก ถึงแม้น้ำแกงจะเคยไหว้วานเขาให้ทำโน่นทำนี่บ้าง แต่มักจะมาในรูปแบบคำพูดเพราะๆ เกรงอกเกรงใจจนเหมือนคนไม่รู้จักกัน ฟงอวิ๋นหัวเราะ ชอบใบหน้าสะสวยที่มีสีหน้าของเด็กเอาแต่ใจยิ่งกว่าสีหน้าสงบเสงี่ยม มีมารยาทเสียอีก


เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะเด็กน้อย "อืม... แกงอยากทำอะไรล่ะ ว่ายน้ำไหม ?"


ได้ผล... นัยน์ตาคมสีดำขลับเป็นประกายทันที "เอาสิ... แต่แกงไม่มีชุดว่ายน้ำ"


"ฟงมี น่าจะเก็บไว้นะ" คนตัวโตตอบ แล้วทำท่าจะกดกริ่งเรียกสาวใช้ แต่น้ำแกงรีบคว้ามือเอาไว้ก่อน หน้าแดงจัด ส่ายหน้ารัว


"มะ ไม่ต้องเรียกพี่เค้ามาหรอก ถ้าฟงไม่ว่าอะไร แกงช่วยฟงหาให้ก็ได้นะ"


ฟงอวิ๋นลูบคาง "เอางั้นก็ได้"







ประตูที่น้ำแกงเห็น เมื่อเปิดออกจะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบวอล์ก-อิน น้ำแกงเคยเห็นในทีวี แต่ไม่คิดว่าชีวิตจริงจะมีคนที่มีเสื้อผ้ามากมายขนาดนี้ ตรงกลางห้องเป็นที่นั่งไม่มีพนักสีเทา ฟงอวิ๋นหยิบรีโมทขึ้นมากดเบาๆ ราวเสื้อผ้าก็เลื่อนช้าๆ เด็กหนุ่มเดินเข้าเดินออกตู้โน้นตู้นี้ น้ำแกงจึงลุกไปช่วย


ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ริมสุดใหญ่เสียจนน้ำแกงและฟงอวิ๋นมุดเข้าไปอยู่ได้


ในความมืด แทนที่จะเป็นกลิ่นอับของเสื้อผ้า แต่กลับเป็นกลับกลิ่นอ่อนๆ ของน้ำยาปรับผ้านุ่ม ฟงอวิ๋นหัวเราะเบาๆ คว้าไหล่น้ำแกง

"แกงเข้ามาทำไม ?"


หัวไหล่ชนแผ่นอกกว้าง น้ำแกงหน้าแดงจัด ตอบเสียงแผ่ว "ก็... ก็... เข้ามาช่วย"


"เด็กดี..." ฟงอวิ๋นชม เสียงก้องในที่แคบๆ หัวใจคนฟังยิ่งเต้นระรัว "เดี๋ยวฟงหาสวิตช์ก่อน"


ในตู้เสื้อผ้ายังต้องมีสวิตช์ไฟ! น้ำแกงอุทานในใจ


มือยาวๆ ข้างหนึ่งโอบไหล่บางไว้ อีกข้างเอื้อมไปยังศีรษะน้ำแกง จึงดูเหมือนว่า น้ำแกงถูกโอบกอดแนบแผ่นอกไว้...

...จะไม่ให้เขาใจเต้นตึกตักได้อย่างไร ใกล้เสียยิ่งกว่าใกล้ ใกล้จนได้กลิ่นหอมๆ ของเสื้อผ้า รับรู้ถึงความร้อนของลมหายใจแผ่วๆ

แผ่นอกฟงอวิ๋นแข็งจัง... กว้างด้วย...


ในความมืด เด็กน้อยจ้องเสื้อเชิ้ตสีขาวลางๆ ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย แล้วไหล่กว้างนั้นก็เอื้อมถึงสวิตช์ไฟ พลันภาพตรงหน้าสว่างไสว และแผ่นอกกับไหล่ตรงหน้าก็กว้างเสียยิ่งกว่าที่เห็นในความมืดเสียอีก

น้ำแกงยิ่งหน้าแดงจัด ก้มหน้าก้มตาดูชั้นวางเสื้อผ้าเป็นระเบียบเรียบร้อยตรงหน้า เสียดายที่ฟงอวิ๋นไม่ใช่คนละเอียดอ่อน ไม่เช่นนั้นคงไม่พลาดใบหน้าสีน้ำผึ้งนวลที่กลายเป็นสีแดงก่ำแล้ว







ชุดว่ายน้ำตัวเก่าของฟงอวิ๋นซักเรียบร้อย พับอย่างดีอยู่บนชั้นวาง เมื่อน้ำแกงลองแล้ว ก็หลวมไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย

น้ำแกงออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้ามาพร้อมกับถือเสื้อผ้าของตัวเองในมือ ฟงอวิ๋นจับจ้องอกนวลๆ ที่อยู่ใต้เสื้ออย่างเสียดาย

อุตส่าห์เลือกกางเกงเซิร์ฟให้... นึกว่าจะได้เห็นของสวยๆ งามๆ!

ช่างเถอะ! ไม่ว่ายังไง ตอนลงน้ำก็ต้องถอดเสื้ออยู่ดี

เด็กหนุ่มกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ หยิบผ้าเช็ดตัวไปเผื่อเด็กน้อยแล้วเดินนำลงไปชั้นล่าง








วันนี้อากาศร้อน ไม่เหมาะจะเล่นน้ำกลางแจ้ง พี่สาวของฟงอวิ๋นมองตาน้องชายที่เอาแต่จ้องเด็กข้างกายแล้วถอนหายใจ บอกเด็กทั้งสอง

"ไปเล่นที่สระในร่มนะ เล่นน้ำกลางแดดจัดเดี๋ยวจะไม่สบาย" เธอยื่นครีมกันแดดให้น้ำแกง "ถึงจะอยู่ในร่มก็ต้องทาครีมกันแดดนะ อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกฟง"


"ขอบคุณครับ" น้ำแกงยกมือไหว้ ย้งยี้อดยิ้มตอบไม่ได้







สระในร่มของบ้านฟงอวิ๋นขนาดเล็กกว่าสระกลางแจ้ง มีสระตื้นปรับอุณหภูมิแยกออกไปต่างหาก ฟงอวิ๋นบอกว่าสำหรับอากงอาม่าซึ่งจะชวนเพื่อนๆ มาออกกำลังใต้น้ำทุกวันอังคาร ส่วนสระที่ลูกหลานใช้เป็นทรงกลม พื้นใต้สระเป็นสีฟ้าสด ตกแต่งด้วยภาพปลามงคลสีทองและแดงดูเหมือนมีชีวิตจริงใต้น้ำ


เด็กหนุ่มเดินลงสระไปแล้ว น้ำแกงจึงถอดเสื้อพับไว้ที่เก้าอี้ผ้าใบใกล้ๆ บ้าง โดยไม่รู้เลยว่า... สายตาลามกจ้องอยู่ตาเป็นมัน


น่ารัก... ฟงอวิ๋นได้แต่พร่ำในใจ อกบางสีน้ำผึ้งนวลไร้ไฝฝ้า ประดับด้วยอัญมณีสีชมพูจางๆ สองแขนเรียวยาวก็กลมกลึง เอวบอบบางคอดเหมือนเด็กผู้หญิง เสียดายที่สะโพกกลมถูกปกคลุมไว้ด้วยกางเกงเซิร์ฟตัวใหญ่สีดำ


"อ๊ะ" เสียงหวานอุทานเบาๆ เมื่อปลายเท้าสัมผัสกับน้ำ "เย็นจัง"


ฟงอวิ๋นว่ายเข้าไปใกล้ แกล้งดึงแขนคนตัวเล็กให้ลงน้ำ "ลงมาเดี๋ยวก็ชิน"


"อ๊ะ ฟง อย่าเพิ่งสิ" คนถูกแกล้งกลั้วหัวเราะ ยอมให้ฟงอวิ๋นรวบเอวลงน้ำโดยไม่คิดอะไร


บรรดาสาวใช้ที่นำน้ำและของว่างมาเสิร์ฟคุณหนูพากันอุทานในใจ


ช่างเหมือนตัวเงินตัวทองลากเหยื่อลงน้ำเสียนี่กระไร...







จากการว่ายน้ำเมื่อสาย ทำให้ฟงอวิ๋นเรียนรู้อีกข้อเกี่ยวกับคนสวย...


คนสวยว่ายน้ำไม่เป็น...


เป็นน่ะเป็นในระดับลูกหมาตกน้ำ ร่างสูงกลั้นหัวเราะจนตัวโยนเมื่อเห็นท่าทางวักน้ำ ใบหน้างามที่เสมองทางอื่น พวงแก้มสีนวลขึ้นริ้วแดงก่ำ ดูหวานฉ่ำ ฟงอวิ๋นฉวยโอกาสจูงมือเล็กเกาะขอบสระ พยายามปั้นหน้าขรึม

"แกงว่ายน้ำไม่เป็นเหรอ ?"


"อะ..." เสียงติดขัด หันหน้าหนี "ปะ... เป็น! แต่ก่อนพ่อเคยสอน..."


คงนานไปกระมัง ฟงอวิ๋นหัวเราะลั่นอย่างสุดกลั้น น้ำแกงหน้าร้อนฉ่าอยู่ในสระคนเดียว

คนบ้าอะไร...! ชวนเค้ามาเล่นน้ำแล้วหัวเราะเยาะ!

เพราะความร้อนในตัว... หรืออะไรก็ตาม ทำให้น้ำแกงมีกริยาที่ไม่เคยทำมาก่อน...

แขนผอมๆ ยกขึ้นแล้วตบหลังคนตัวสูงดังป้าบ ตามมาด้วยเสียงดังอีกหลายป้าบ ฟงอวิ๋นไม่สะเทือน แต่ก็ก้มตัวหลบมือบางๆ พัลวัน "พอแล้วๆ ยอมแล้วๆ"


น้ำแกงตีรุ่นพี่จนเหนื่อย เจ้าตัวหอบฮักแล้วยิ้มอย่างพอใจในท่าทางแหยๆ ยอมแพ้ของคนสูงกว่า


"หึ..." พ่นลมหายใจสำทับ ฟงอวิ๋นจึงยืดตัวขึ้นแล้วจับมือทั้งสองข้างให้แตะขอบสระ "งั้นฟงสอนนะ"


"เห..." ริมฝีปากเม้มเข้าหากันน้อยๆ ก่อนจะพยักหน้า "งั้น... ก็ได้"







ผ่านไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น...


สวรรค์......! ฟงอวิ๋นร้องหาบรรพบุรุษเมื่อช่วยคนสวยฝึกตีขา น้ำแกงลอยตัวได้แล้ว แลกมาด้วยการถูกแต๊ะอั๋งนิดๆ หน่อยๆ มือหนาๆ ลูบไปทั่วหน้าท้องแบนๆ เจ้าของทำหน้าตายแล้วบอกว่า "ช่วยให้แกงลอยตัว"


น้ำแกงสงสัย... แต่ไม่ถาม เพราะอย่างไรเสียก็เป็นผู้ชายด้วยกัน มีอะไรน่าอายกันเล่า เขาได้เพียงพยักหน้า แล้วสูดลมหายใจลึกตามที่ฟงอวิ๋นสอน


ผิวน้ำแกงนวลเนียน... แน่นเด้งติดมือมาก ฟงอวิ๋นไม่อยากเชื่อว่าเด็กผู้ชายจะมีผิวดีขนาดนี้ ยิ่งตอนลอยตัวเอวบาง แผ่นหลังและบั้นท้ายอวดให้เห็นเต็มตา น้ำแกงก้นกลมมาก... เด้งไหวๆ เหมือนก้นผู้หญิง ยิ่งเอวเล็กยิ่งทำให้สะโพกชัด ยิ่งส่ายยิ่งเด้ง ฟงอวิ๋นหอบหายใจหื่นกระหาย ก้นแบบนี้ ผู้หญิงยังหายาก แต่นี่ไม่น่าเชื่อว่าเป็นสัดส่วนของผู้ชาย ถึงจะเล็ก... เต็มก็เต็มไม้เต็มมือ!


"ฟง..." น้ำแกงหอบ ตะโกนถาม "พอได้หรือยัง ?" เสียงหอบแฮ่กยังรื่นหู ฟงอวิ๋นฟังเพลินจนลืมตัว...


...แล้วก็... พลั่ก!


"โอ๊ย!"


พลั่ก!


"โอ๊ย!"


เท้าที่วักน้ำดีดใส่คางคนคิดไม่ซื่อติดกัน ฟงอวิ๋นถูกเสยจนหน้าหงาย


พลั่ก!


"โอ๊ย! พอแล้วๆ อย่าเตะฟง"


น้ำแกงถูกปล่อยเสียที ขาเรียวที่ตีน้ำแทบเป็นตะคริว เมื่อยจนขาอ่อนยวบ ดีที่ฟงอวิ๋นช่วยคว้าเอวไว้ แล้วอุ้มขึ้นนั่งบนขอบสระ ร่างเล็กบ่นหงุงหงิง "เมื่อยจังเลย... เมื่อยขา... เมื่อยเอว"


"วันแรกก็แบบนี้แหละ" ฟงอวิ๋นปลอบ กลัวว่าน้ำแกงจะเข็ด แล้วจะอดลูบไล้ผิวนวลอีก "วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้มาต่อนะ"


ใบหน้างามง้ำน้อยๆ "พรุ่งนี้... อีก ? เมื่อยจะตายอยู่แล้ว"


ฟงอวิ๋นลูบคางที่โดนเตะ "งั้นให้พักกล้ามเนื้อก่อน มะรืนค่อยต่อ ดีไหม ?"


บ่นอีกหน่อย แม้จะไม่ใช่นิสัย แต่น้ำแกงก็บ่น บ่นจนเมื่อปาก ฟงอวิ๋นก็ยื่นแก้วน้ำผลไม้เย็นชื่นใจให้ น้ำแกงจึงหยุดบ่น ปากงับหลอดแทน


เพราะการฝึกว่ายน้ำนี่เอง... นี่ช่วยให้น้ำแกงใกล้ชิดฟงอวิ๋นมากขึ้น นอกจากฟงอวิ๋นจะได้แอบจับ แอบแตะแล้ว ยังได้เห็นมุม 'เด็กดื้อ' ที่ไม่ใช่น้ำแกงที่แสนดี แสนเรียบร้อยของคุณแม่ แต่เป็นตัวน้ำแกงจริงๆ ที่ทั้งดื้อ ทั้งขี้บ่น ทั้งชอบเถียง ทั้งชอบใช้กำลัง... และ...


...โคตรน่ารัก!


ฟงอวิ๋นคิดพลางดูคนเอวบางทำปากจู๋ ดูดน้ำแข็งในแก้วเสียงดัง ส่วนตัวเขา... ลูบคางที่โดนเตะไปหลายดอก



ถึงจะเจ็บไปหน่อย แต่ก็คุ้ม!

เห็นตัวบางๆ แบบนี้ เท้าหนัก มือหนักใช่เล่น!







อาหารเที่ยงแสนอร่อย ไม่หนักเท่ามื้อเช้า ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงไปทักทายอากงอาม่าที่กำลังจะออกไปเยี่ยมเพื่อนฝูง อากงอาม่าของฟงอวิ๋นต่างก็ตัวสูงใหญ่ไม่แพ้ลูกหลาน ท่าทางอารมณ์ดีและทันสมัยไม่น้อย


อาม่าชอบใจน้ำแกงจนควักขนมในกระเป๋าให้ น้ำแกงรับมาอย่างมารยาทงาม ยิ่งทำให้หญิงสูงวัยยิ้มแก้มปริ "อาแกง ไว้เย็นนี้กินข้าวด้วยกันนะ"


ผู้ใหญ่ชวนถึงขนาดนี้แล้ว น้ำแกงได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนที่สองผู้เฒ่าจะออกจากบ้านไป


ฟงอวิ๋นผิวปากดังเมื่อเห็นขนมในมือ "อาม่าท่าจะชอบน้ำแกงมาก"


"เอ๋ ?" ขนมที่อาม่าให้เป็นชอคโกแลตเบลเยี่ยมอย่างดี กล่องเล็กสีขาวประณีต น้ำแกงแกะกล่องอย่างเบามือ "ทำไมล่ะ ? แกงไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย ?"


"ก็อาม่าจะแจกขนมให้ต่อเมื่อหลานๆ ทำอะไรดีๆ อย่างสอบได้ที่ 1 อะไรแบบนี้น่ะ"


"อ๊ะ งั้นแย่แล้ว... แกงยังไม่ได้ขอบคุณอาม่าเป็นเรื่องเป็นราวเลย..." ใบหน้าสวยมีรอยวิตก ท่าทางจะวิ่งตามอาม่าออกไปขอบคุณอีกครั้ง แต่ฟงอวิ๋นดึงแขนไว้


"ไม่ต้องหรอก ป่านนี้อาม่าออกไปแล้วล่ะ อีกอย่าง แกงก็ขอบคุณไปแล้วนี่"


"...จริงเหรอ"


"จริงสิ ไม่เป็นไรหรอก" อดจะดึงแขนบางๆ ให้อยู่ในอ้อมแขนไม่ได้ อา... น้ำแกงตัวโปร่ง ศีรษะจึงอยู่ประมาณคาง ชวนให้รู้สึกว่าช่างพอเหมาะพอดีอะไรอย่างนี้


น้ำแกงถูกดึงแขนให้ชิดใกล้ก็หน้าแดงระเรื่อ... ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกัน แต่เขาก็ไม่เคยใกล้ชิดกับคนอื่นขนาดนี้เลย...

ดวงตามองเห็นไหล่แข็งแรงในระยะประชิดเด็กน้อยขบริมฝีปากเบาๆ ไหล่กว้างจริง... ไม่เหมือนคนที่กำลังบำบัดเลย ไม่สิ กล้ามเนื้อขนาดนี้ต้องออกกำลังเป็นประจำแน่ๆ


ความเงียบอันประดักประเดิกเข้าครอบคลุมเด็กทั้งสอง ฟงอวิ๋นเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองดึงคนสวยมาใกล้แค่ไหน ฝ่ายน้ำแกงก็เอาแต่จ้องไหล่กว้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย

เขินอาย... และอิจฉา


"เอ่อ..." เสียงทุ้มดังขึ้นเหนือศีรษะ น้ำแกงรีบผละตัวออก เบือนหน้าหนีเพื่อซ่อนหน้าแดงๆ

"เอ่อ... บ่ายแล้ว แกงชอบอ่านหนังสือใช่ไหม ? เดี๋ยวฟงจะพาไปห้องสมุดของพ่อ" ฟงอวิ๋นกล่าวรัวเร็ว จ้องแก้มแดงตรงหน้า


"อะ อืม" น้ำแกงตอบรับด้วยอาการเดียวกัน แล้วก็ยอมให้ฟงอวิ๋นจับจูงมือไปยังอีกด้านของตัวบ้าน







บ้านของฟงอวิ๋นกว้างมาก กว้างจนน้ำแกงสามารถทำกิจกรรมได้ทั้งวัน มีสระน้ำฝีมือคนขุดอยู่ทางทิศใต้ ล้อมรอบด้วยสวนสวย มีคอกม้า สนามฟุตบอล สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล ส่วนชั้นใต้ดินมีทั้งห้องเก็บไวน์และห้องฟิตเนส ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงไปยังห้องสมุดของบิดาที่เป็นห้องสองชั้น ประกอบด้วยบันไดวนหรูหราไปยังชั้นลอย ตู้หนังสือไม้แกะสลักสูงจรดเพดาน หนังสือหลากหลายชนิดทั้งภาษาไทยและภาษาจีนอัดแน่นเรียงรายอยู่เต็มชั้น ยังมีกองหนังสือวางระเกะระกะอีกหลายกอง แต่ละกองสูงเท่าเอวน้ำแกงเลยทีเดียว


"กำลังจะต่อเติมน่ะ เลยไม่ค่อยเรียบร้อย" ฟงอวิ๋นบอก "ฟงไม่ค่อยได้เข้ามาเท่าไหร่ มีแต่พี่ๆ กับป๊าที่ชอบอ่านหนังสือเลยช่วยกันซื้อมาเติมตลอด"


"ว้าว..." น้ำแกงอุทาน เงยหน้ามองหนังสือที่โอบล้อมตัวเองอย่างยินดี "เยอะจังเลย"


"หยิบอ่านได้เลยนะ บางเล่มสภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ บ้านฟงไม่ค่อยรักษาของหรอก พับได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ"


ช่างแตกต่างกับบ้านน้ำแกง อาจจะเพราะที่บ้านนั้นไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเท่าฟงอวิ๋น จึงไม่ใช่แค่หนังสือที่ต้องใช้อย่างทะนุถนอม แต่รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างด้วย ในขณะที่บ้านฟงอวิ๋นใช้ของอย่าง 'สุดๆ' ทุกอย่าง ถ้ากินต้องกินให้ดีที่สุด ให้อิ่มที่สุด ข้าวของเครื่องใช้ก็ใช้อย่างดีและใช้จริงจัง เพราะถือว่าของซื้อมามีไว้ใช้ ไม่ทะนุถนอมเท่าใดนัก

น้ำแกงคิดพลางเดินวนรอบห้อง แล้วจึงเจอหนังสือประเภทที่ตนชอบ อัดแน่นเต็มตู้ เยอะจนตาลาย


"ถ้าหยิบไม่ถึงบอกฟงนะ มีบันได" ฟงอวิ๋นเดินตามอย่างเอาใจใส่ น้ำแกงมองหนังสืออย่างตื่นเต้น แล้วชี้ที่สันหนังสือสีขาวเล่มที่อยู่มุมชั้นบน


"เล่มนั้น"


"โห สูงแฮะ" ฟงอวิ๋นว่า เดินไปเลื่อนบันไดที่สร้างติดรางเลื่อนจากมุมห้อง "เล่มไหนนะ ?"


"เล่มนั้น" น้ำแกงย้ำ


ร่างสูงเลื่อนบันไดจนได้ตำแหน่งที่ต้องการแล้วจึงล็อกล้อกับราง เริ่มปีน


"สันสีขาวนะฟง" น้ำแกงตะโกนบอก


"ครับๆ" ตอบแล้วก็หยิบออกมา ได้ยินเสียงอุทานเบาๆ


"อ๊ะ มีของนักเขียนคนนี้ด้วยเหรอ" สายตาเฉียบคมมองเห็นหนังสืออีกเล่มที่ต้องการ "เล่มที่สันสีเขียว อยู่เหนือฟงไปสองชั้น"


ฟงอวิ๋นคราง เงยหน้ามอง


อีกสองชั้น... ก็ชั้นสูงสุด... น้ำแกงเห็นได้ยังไงกัน


แต่จะทำอย่างไรได้ ฟงอวิ๋นคาบหนังสือไว้ในปากแล้วปีนขึ้นไป หยิบผิดหยิบถูกจนน้ำแกงที่อยู่ข้างล่างทำหน้าบูด

"ฟง ไม่ใช่เล่มนั้น ไปทางซ้ายอีก..."

"ไม่ใช่...."

"ขวาๆ"

"เล่มที่หกจากเล่มสีขาวน่ะ ที่สันเขียนว่า..."

"ไม่ใช่!"

"ไม่ใช่!"

"อ๊ะ นั่นแหละๆ ย้อนกลับไปสองเล่ม อ๊ะ ใช่แล้ว!"


ฟงอวิ๋นถอนหายใจ มือที่จับบันไดชาดิก ในที่สุดก็ได้หนังสือที่คุณชายท่านต้องการ


"ฟง โยนลงมาเลย เดี๋ยวแกงรับให้"


เขาจึงโยนทั้งสองเล่มลงไปแล้วค่อยๆ ปีนลงมา ลงทุนลงแรงไปขนาดนี้... หวังจะได้ยินเสียงหวานซึ้งขอบอกขอบใจบ้าง แต่น้ำแกงตาเป็นประกาย รีบเดินไปยังโซฟาแล้วเปิดหนังสืออย่างตื่นเต้นเสียจนลืมขอบคุณ


เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง... ปกติน้ำแกงเป็นเด็กดี เคร่งมารยาทมาก... แต่คงจะตื่นเต้นจนไม่สนใจคนที่ปีนขึ้นไปหยิบหนังสือให้อย่างยากลำบาก...


ฟงอวิ๋นครวญในใจ ดูเอาเถอะ... ขนาดแค่อาม่าให้ชอกโกแลตกล่องเดียว น้ำแกงยังขอบคุณเสียงหวาน แต่เขาทั้งลงแรง เสี่ยงอันตราย (?) ปีนจนมือชาขนาดนี้ สักคำยังไม่ออกจากปาก!


น้ำแกงใจร้าย!










หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch4 11/1/16 P.3
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 24-04-2016 21:27:32
ฟงอวิ๋นหน้าบูดไปตลอดบ่าย น้ำแกงก็ดันไม่ทันสังเกต เขายังคงอ่านหนังสือในมืออย่างมีสมาธิ จนกระทั่งฟงอวิ๋นเหนื่อยไปเอง หลังจากทำหน้าไม่สบอารมณ์ใส่คนสวยที่นั่งเรียบร้อย เข่าชิดกัน อ่านหนังสือบนเก้าอี้นวมตัวใหญ่จนเมื่อย ในที่สุดเขาก็ต้องยอมแพ้ นิสัยลูกคนเล็กใช้ไม่ได้กับลูกคนเดียวอย่างน้ำแกง


"แกง ไม่เบื่อเหรอ ?" ฟงอวิ๋นยกธงขาว น้ำแกงช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย... ขนาดโกรธใส่ยังทำหน้าสวย เงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ ผมที่เริ่มยาวปรกหน้าปรกตา หน้ามันย่อง แต่ก็ยังสวยคมคาย


"เบื่อ ? ฟงเบื่อเหรอ ? อ๊ะ แกงอ่านเพลินไปหน่อย ขอโทษนะ" เด็กน้อยรีบกระวีกระวาดเก็บหนังสือ มือเล็กกรีดหน้าปกที่ยับย่นให้เรียบ ฟงอวิ๋นจึงถอนหายใจ


"ไม่เป็นไร อ่านไปเถอะ แต่ไปล้างหน้าล้างตาหน่อยก็ดีนะ"


น้ำแกงหน้าแดง ลูบจมูกมันแผล่บแล้วยิ้มเขิน "จริงด้วย"


ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงเข้าห้องน้ำใกล้ๆ ห้องสมุด น้ำแกงเริ่มชินกับความหรูหราที่ตนเองไม่เคยเห็นแล้ว จึงไม่ได้อ้าปากค้างกับห้องน้ำปูหินอ่อนขัดมัน ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกและอ่างล้างหน้าที่ทำจากเครื่องลายคราม แต่ด้วยส่วนสูงของสมาชิกในครอบครัวนี้ที่สูงใหญ่กันทุกคนไม่เว้นกระทั่งอากงอาม่า ทำให้อ่างล้างหน้าวางค่อนข้างสูง น้ำแกงต้องเขย่งเท้าเพื่อโน้มตัวลงเปิดก๊อกน้ำสีทองอร่ามล้างหน้า


ฟงอวิ๋นยืนรออยู่หน้าประตูกระจก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าดูผู้ชายด้วยกันเข้าห้องน้ำมันน่าดูตรงไหน แต่ท่าทางเขย่งเก็งกอยจนสุดปลายเท้าของน้ำแกงก็น่ารักเสียจนลืมความขุ่นมัวเมื่อครู่ไปสิ้น

เขาไม่คิดเลยว่าส่วนสูงของตนและครอบครัวจะกลายเป็นปัญหาสำหรับคนอื่น หรือถ้าเป็นคนอื่น... ฟงอวิ๋นคงไม่กระทั่งสังเกตด้วยซ้ำ

"ให้ช่วยไหม ?"


น้ำแกงเงยหน้าจากก๊อกน้ำที่ติดตั้งสูงกว่าปกติ "ช่วย ?"


"เห็นแกงเขย่ง..." ตลก... แต่ก็น่ารัก


คนฟังหน้าแดงอีกแล้ว ทั้งๆ ที่น้ำแกงไม่ใช่เด็กขี้อาย แต่พออยู่สองต่อสองกับคนตัวสูงทีไร... หน้าแดงง่ายๆ ทุกที


"มะ... ไม่เป็น... อ๊าาา!" เสียงหวานอุทานลั่น เจ้าของบ้านไม่สนใจคำปฏิเสธ เขาโอบกระชับเอวบางจากด้านหลังด้วยมือข้างเดียวแล้วยกขึ้นอย่างง่ายดาย

อุ้มด้วยท่าทางราวกับอุ้มเด็ก.... น้ำแกงหน้าแดงไปถึงหู เท้าลอยจากพื้นจนรู้สึกโหวงๆ

ทั้งๆ ที่เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ๆ


"สะดวกขึ้นไหม ?" เสียงถามจากด้านหลัง เพราะถูกอุ้ม ระยะห่างจากความต่างของขนาดตัวจึงสั้นลง น้ำแกงรีบตอบ


"อื้ม" มือเปิดก๊อก วักน้ำล้างหน้าอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่โตมาก็ไม่เคยมีใครอุ้มน้ำแกงมาก่อนเลย... แล้วยัง... ใกล้ชิดขนาดนี้ ฟงอวิ๋นไม่รู้จะเมื่อยไหม จึงรีบทำธุระให้เสร็จ แล้วถามคนอุ้มอย่างเกรงใจ

"ฟง เมื่อยไหม เสร็จแล้ว"


ฟงอวิ๋นกลั้นยิ้ม เอวน้ำแกงบางมาก... จนเหมือนเด็กผู้หญิง ตัวก็เบาหวิว เหมือนบรรดาหลานๆ ตัวแสบของเขาจะหนักกว่าเสียอีก ไม่รู้กินแล้วเอาไปไว้ไหนหมด


เด็กหนุ่มวางคนในมือลง เห็นท่าทางโล่งอกโล่งใจแล้วชวนให้แกล้งนัก


เขาหยิบผ้าขนหนูพับเรียบร้อยจากตู้อีกด้านให้ "เช็ดหน้าหน่อย"


"ขอบคุณนะ" เสียงหวานแผ่ว แก้มยังแต้มสีหวาน ฟงอวิ๋นหัวใจพองลม ต้องสะกดอารมณ์ที่อยากจะโอบคนตรงหน้าเข้าแนบอกแล้วพรมจูบแก้มกลมๆ หวานๆ ให้ช้ำ


"มะ... ไม่เป็นไร"







น้ำแกงยังคงกลับไปอ่านหนังสือต่อที่ห้องสมุด ส่วนฟงอวิ๋นก็ให้สาวใช้ยกขนมขบเคี้ยวและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ ตัวเขาเองก็นั่งใกล้ๆ น้ำแกง ในมือมีเกมกดราคาแพง


ห้องสมุดอันกว้างขวางเงียบลง มีเพียงเสียงพลิกเปิดหน้าหนังสือ เสียงปุ่มกดจากเกมกดเท่านั้น ฟงอวิ๋นไม่เคยชินกับความเงียบนัก เพราะเมื่ออยู่ที่คอนโด มักจะมีลูกไล่เดินเข้าออกเสมอ เพลงที่เปิดลั่นห้องก็เป็นเพลงเน้นบีทส์ สาวๆ พากันเต้นยั่วยวน พร้อมกลิ่นบุหรี่ เหล้าและไอซ์คละคลุ้ง


แต่ตอนนี้... กับคนตัวบางที่นั่งสบายๆ บนกองหมอนรองนั่ง ในมือมีหนังสือ ไม่ใช่แก้วเหล้าชั้นดี ทั้งเขาและน้ำแกงหันหลังให้กันก็จริง แต่มีกองขนมและแก้วน้ำส้มเย็นเจี๊ยบอยู่ตรงกลาง ดังนั้น... บางครั้งที่เอื้อมมือมาหยิบขนมหรือน้ำส้ม มือก็สัมผัสกันโดยไม่ตั้งใจ ทั้งๆ ที่เป็นสัมผัสเล็กๆ น้อยๆ ในความเงียบสงบนั้น... ฟงอวิ๋นกลับใจเต้นระรัว หน้าแดงไปถึงหู หัวใจเหมือนถูกฉีดลมจนพองฟูล่องลอยไปถึงยอดหลังคาบ้าน


รู้สึกดี... สงบและสบายใจเหลือเกิน ฟงอวิ๋นพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ วางเกมกดในมือลง


ในห้องเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจอย่างตื่นเต้นของน้ำแกงที่จดจ่อกับหนังสือ ฟงอวิ๋นยิ้ม ทั้งๆ ที่เงียบเช่นนี้ ไม่มีบทสนทนาใดๆ แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย


เขาหาว เครื่องปรับอากาศทำหน้าที่ของมันอย่างเงียบกริบ มื้อเที่ยงก็กินจนอิ่มแปล้ ยามบ่ายเช่นนี้ชวนง่วงไม่น้อย ฟงอวิ๋นมองคนตัวเล็กแล้วเอื้อมมือไปดึงหนังสือในมือออกช้าๆ


"อ๊ะ!" น้ำแกงร้อง มองคนที่แย่งหนังสือไปตาเขียว แต่ฟงอวิ๋นกลับระบายยิ้ม บอกคนรักหนังสือเอื่อยๆ


"ฟงง่วง"


"ง่วงก็ไปนอนสิ" เสียงหวานหงุดหงิด จ้องหนังสือในมือคนตัวสูงเขม็ง


"เอางั้นก็ได้" ตอบแล้วก็ล้มตัวลงนอนบนตักน้ำแกง เล่นเอาน้ำแกงเบิกตากว้าง อุทานอีกครั้ง


"ทำอะไรน่ะ!"


"นอนไง"


"นอน... นอนตักแกงเนี่ยนะ!"


"อืม ง่วงแล้ว" ฟงอวิ๋นเกเร เอามือขยี้ตา พลิกตัวมองใบหน้าสวยคมจากด้านล่าง แม้กระทั่งจากมุมนี้... คางยังได้รูป จมูกแคบโด่ง ลูกกระเดือกเล็กๆ ติดบนลำคอเพรียว ผิวสีเข้มดูราวกับจะส่งกลิ่นเย้ายวน หวานอร่อยยิ่งกว่าชอกโกแลตจากเบลเยี่ยมที่อาม่าชอบพกติดตัวเสียอีก


น้ำแกงพยายามทั้งผลักและดันคนเกเร แต่ตัวผอมๆ อย่างเขาน่ะหรือจะทำได้ ในที่สุดก็ยอมแพ้ ถอนหายใจเบาๆ แล้วหยิบหนังสือมาอ่านต่อ ปล่อยคนนิสัยไม่ดีนอนบนตักสบายอารมณ์







จริงๆ แล้วฟงอวิ๋นแค่จะแกล้งคนสวยเท่านั้น แต่ไปๆ มาๆ ไม่รู้ทำไม... ทั้งๆ ที่ฝ่ายตรงข้ามก็เป็นผู้ชายแท้ๆ ควรจะเหม็นเหงื่อหรือน่ารังเกียจ แต่กลับมีกลิ่นหอมหวานที่อธิบายไม่ถูก ชวนให้รู้สึกสงบ บรรยากาศรอบข้างก็เงียบ ตักที่ควรจะแข็งก็อ่อนนุ่ม บางครั้งน้ำแกงลืมตัว ลูบไล้หน้าผากและเส้นผมอย่างอ่อนโยน ยิ่งทำให้รู้สึกง่วงขึ้นมาจริงจัง ความคิดสุดท้ายของเด็กหนุ่มคือ


...แย่แล้ว... หลงเกินไปแล้ว


แล้วเขาก็ค่อยๆ เข้าสู่นิทรา...







"ฟง ตี๋เอ๊ย!" เสียงปลุกแว้ดๆ ดังข้างหู เสียงน้ำแกงไม่แหลมขนาดนี้นี่นา...

ฟงอวิ๋นขมวดคิ้ว พลิกตัวบนที่แคบๆ เหมือนหมอนจะเปลี่ยนไป

หมอนก็ไม่ได้หอมขนาดนี้นี่...


"โถ แกง หนักไหมลูก ?"


"อา... ก็เริ่มชาๆ น่ะครับ"


"โซ้ยตี๋นี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ มานอนตักน้องได้ยังไง" เสียงนั้นดังลั่น ฟงอวิ๋นรำคาญจนต้องปัดมือเชิงไล่ แต่แล้วความเจ็บก็แล่นปลาบเข้าที่ใบหู


"โอ๊ย!" คราวนี้ลืมตาได้เสียที ตาตี่ๆ ของพี่สาวลอยอยู่ตรงหน้า ท่าทางขึงขัง


"ลุกย่ะ!" ย้งยี้แผดเสียง ฟงอวิ๋นจึงรีบเด้งลุกขึ้น จึงพบว่าตัวเองนอนตักน้ำแกงไปจริงๆ


"หนอย นอนทับน้องจนน้องแบน! ยังมีหน้ามาทำหน้าบูดอีก!" พี่สาวเท้าสะเอวบ่น ช่วยน้ำแกงตะเกียกตะกายลุกขึ้น


ฟงอวิ๋นมองคนสวยตัวบางที่ชาไปทั้งเอว คิ้วเรียวสวยที่ขมวดมุ่นชวนให้เจ็บปวดไปด้วย


"เจ็บไหมแกง ?"


น้ำแกงหน้าเฝื่อน "จะ... เจ็บครับ"


"ฟงตัวมันอย่างกับยักษ์ นอนทับตั้งนาน ไม่เจ็บก็แย่ล่ะ" ย้งยี้ถอนหายใจ จนกระทั่งน้ำแกงลุกขึ้นยืนได้ในที่สุด แล้วค่อยหันขวับมาหาน้องชาย


"ฟง มาช่วยพยุงน้องไปกินข้าว!"


"ครับ!" ฟงอวิ๋นรีบกุลีกุจอไปพยุงเอวบางๆ แขนเรียวค่อยๆ คล้องคอ น้ำแกงบอกเบาๆ


"ไม่เป็นไร... รอแป๊บก็ค่อยยังชั่วแล้ว"


ไม่รู้ทำไม... ฟงอวิ๋นได้ยินแล้วถึงรู้สึกโกรธตัวเองนัก อย่างที่ย้งยี้พูด เขาตัวปานหมีควาย น้ำแกงถึงจะไม่ใช่ไซส์มินิ แต่ก็บางกว่าหลายเท่า ถูกเขานอนตักคงปวดไม่น้อย


"ทำไมไม่ปลุกฟงล่ะ ?"


"ก็... ท่าทางหลับสบายนี่" น้ำแกงตอบง่ายๆ แม้ตัวเองจะเจ็บตัว แต่พอเห็นฟงอวิ๋นหลับปุ๋ยเหมือนเด็กก็อดเอ็นดูไม่ได้ จึงทนเจ็บปล่อยให้คนตัวยักษ์หลับต่อไป


"ใจดีเกินไปแล้ว" ฟงอวิ๋นพูดเบาๆ ช่วยพยุงน้ำแกงเดินตามพี่สาวไปจนถึงห้องอาหาร


ฟงอวิ๋นและน้ำแกงในตอนนั้นไม่มีวันรู้เลย... ว่าน้ำแกงก็ยังเป็นเช่นนี้ ยังคงทำเช่นนี้ มีนิสัยแบบนี้... นิสัยที่แม้ตัวเองจะเจ็บปวด แต่พอเห็นคนรักมีความสุข เขากลับยอมอดทน สิ่งที่ลอดริมฝีปากออกมาไม่ใช่คำพูดทวงบุญคุณ และไม่เคยมีคำบ่นว่า มีเพียงคำพูดเดิมๆ ที่บอกฟงอวิ๋นว่า 'ไม่เป็นไร'







มื้อเย็นผ่านไปอย่างเชื่องช้า น้ำแกงยังปวดไม่น้อย ทั้งปวดจากฝึกว่ายน้ำอยู่แล้ว พอโดนฟงอวิ๋นทับตลอดบ่ายก็ยิ่งทรมาน แต่ใบหน้าสวยยังมีรอยยิ้มสุภาพให้ทุกคน


สมาชิกทุกคนในตระกูลเอ็งมากันครบ กว่าจะแนะนำตัวแต่ละคนจนหมด น้ำแกงก็หัวหมุน พี่สะใภ้ของฟงอวิ๋นมีสองคน สะใภ้ใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ท่าทางปราดเปรียว พูดภาษาไทยไม่ชัด ชื่อเจสซี่ พี่สะใภ้รองเป็นคนไทย หน้าตาธรรมดาๆ พูดน้อยและไม่ค่อยยิ้ม ชื่อพี่วรรณ หลานๆ ของฟงอวิ๋นมีทั้งหมดสามคน น้ำแกงจำไม่ค่อยได้ว่าคนไหนมาจากบ้านไหน มีเด็กผู้ชายหนึ่งคนและเด็กผู้หญิงสองคน เด็กๆ ซุกซนกันมาก มีแค่เด็กผู้ชายที่ค่อนข้างนิ่ง


เพราะทุกคนมารวมตัวกัน มื้อเย็นจึงครึกครื้น อากงอาม่าก็ถูกหลานๆ ชวนคุยจนตอบไม่ทัน ส่วนคนอื่นๆ นั้นดูยินดีและกระตือรือร้นต้อนรับน้ำแกงมากทีเดียว หลานสาวใจกล้าคนหนึ่งของฟงอวิ๋นเงยหน้ามองน้ำแกง จ้องเขม็งจนมารดาต้องดุ เด็กน้อยยิ้มอวดฟันหลอให้น้ำแกงแล้วชี้พลางพูด "ม่าม๊า พี่เค้าเป็นตุ๊ตาเหรอ เหมือนตุ๊ตาบาร์บี้ของหนูเลย"


คนถูกเรียกว่าตุ๊กตาหน้าแดง พอจะเอ่ยปาก เด็กน้อยอีกคนก็ขัด คราวนี้เป็นเด็กชายที่ไม่ได้เจื้อยแจ้วเหมือนพี่น้อง


"ใครบอกเม่ยเม่ย พี่เค้าเป็นแฟนพี่ฟงต่างหาก" คำตอบช่างแก่แดดแก่ลมเสียนี่กระไร


"เฮียเจเจ พี่เค้าจามาเป็นซิ้มเราเหรอ" เด็กหญิงอีกคนถาม ดูท่าทางเด็กชายจะเป็นพี่ใหญ่ เขาตอบน้องสาวทั้งสองอย่างหนักแน่น


"ใช่สิ"


เด็กน้อยที่ฟังทั้งสองกระโดดโลดเต้นบนเก้าอี้ ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด "เย้! พี่ตุ๊ตาจะมาเป็นซิ้มของเม่ยเม่ยล่ะ"


"พี่ตุ๊กตาของเจ๊อันอันต่างหาก!" สองสาวน้อยรีบจับจองน้าสะใภ้อย่างรวดเร็ว น้ำแกงอ้าปากค้าง หันมองรอบด้าน ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนช่วยเขาเลย


เด็กชายได้ฟังน้องสาวแล้วปราม "ไม่ใช่! พี่ตุ๊กตาเป็นของเจ็กฟงต่างหาก"


ได้ฟังแล้ว อาเจ็กวัยรุ่นก็ยิ้มกริ่ม หัวเราะหึๆ มีเพียงย้งยี้ที่เห็นบทสนทนาของเด็กๆ เริ่มเลอะเทะ "นี่ เด็กๆ พูดอะไรกันน่ะ พี่เค้าเป็นผู้ชายนะ"


คราวนี้พี่สะใภ้ทั้งสองซ่อนรอยยิ้ม ส่วนอากงอาม่าก็หัวเราะฮ่าๆ "เป็นผู้ชายก็เป็นซิ้มให้ได้ จริงไหม ?"


น้ำแกงยิ่งตาเบิกถลน แทบหลุดจากเบ้า


"เหล่ากงเหล่าม่า ผู้ชายเป็นซิ้มได้ด้วยเหรอ ?"


"ได้ซี้" อากงตอบ


"ได้อยู่แล้ว" อาม่าเสริม พลางหลิ่วตาให้ทั้งน้ำแกงและฟงอวิ๋น


"ม๊าก็พูดไปเรื่อย" มารดาฟงอวิ๋นรีบเบรก โบกมือให้เด็กๆ นั่งประจำที่ "น้ำแกงทำหน้าไม่ถูกแล้ว"


พอเย้าหลานเสร็จ สองผู้เฒ่าก็เปลี่ยนไปแกล้งเหลนแทน บ่อกี้ส่ายหน้า บอกน้ำแกงค่อยๆ

"อย่าถือสาเลยนะน้ำแกง อากงอาม่าชอบพูดเล่นน่ะ"


น้ำแกงไปไม่ถูก ได้แต่ตอบรับ "คะ... ครับ"


อาหารยังคงเสิร์ฟเรื่อยๆ จนเต็มโต๊ะ น้ำแกงกินจนอิ่ม รู้สึกสนุกสนานไปกับบทสนทนาบนโต๊ะ สมาชิกทุกคนต่างพูดคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา ไม่เหมือนที่บ้านน้ำแกงที่เงียบกริบ เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ชอบให้พูดทั้งๆ ที่มีข้าวอยู่ในปาก แต่ดูเหมือนที่นี่ไม่ได้เคร่งครัดอะไรเลย เด็กๆ กินหกเลอะเทอะ ผู้ใหญ่เพียงแค่ตักเตือน แล้วก็ปล่อยให้กินเอง สะใภ้ทั้งสองพูดคุยกันเบาๆ มีหันมาคุยกับคนอื่นๆ บ้าง ดุเด็กๆ บ้าง พี่ๆ ของฟงอวิ๋นก็คุยเรื่องงาน ไม่ก็หันมาชวนน้ำแกงและฟงคุยบ้าง ช่างครึกครื้นราวกับงานเทศกาล แล้วยังอาหารจำนวนมหาศาล หลากหลายชนิดอีก มื้อเช้าเรียกว่าเยอะแล้ว มื้อเย็นยิ่งอลังการ ยิ่งเยอะเข้าไปอีก ผู้ใหญ่ต่างชวนน้ำแกงกินโน่นกินนี่ไม่หยุด ทั้งคีบอาหารส่งให้ ทั้งบอกให้เติมข้าว น้ำแกงสังเกตว่า คนที่บ้านนี้คีบอาหารให้กันเป็นเรื่องปกติ แม้กระทั่งเด็กๆ ก็ยังตักเนื้อปลาหิมะนึ่งให้อากงอาม่า โดยไม่ใช้ช้อนกลาง! ทุกคนบนโต๊ะใช้ตะเกียบกันคล่องแคล่วมาก มีแต่น้ำแกงที่ใช้ช้อนอยู่คนเดียว


ระหว่างที่คิดว่าควรตักอาหารให้ผู้ใหญ่ด้วยดีไหม... เพราะน้ำแกงกลัวว่าตัวเองจะเสียมารยาทอะไรไป ฟงอวิ๋นก็ทัก

"แกง เอาส้อมไหม ?"


น้ำแกงดูถ้วยข้าวของตัวเอง หัวเราะแหะๆ รู้สึกไม่ชินเลย ทุกคนใช้ตะเกียบพุ้ยข้าวกัน น้ำแกงกลับใช้ช้อนตักทีละคำๆ


"ไม่เป็นไรหรอก คงไม่ชินสินะ" คุณนายจูสังเกตเห็นพอดี "ใครก็ได้ เอาจานกับส้อมมาหน่อย"


น้ำแกงกล่าวขอบคุณ รู้สึกได้ว่า... บ้านฟงอวิ๋นนั้น ไม่เพียงแต่ยินดีต้อนรับเขา แต่ยังส่งความห่วงใยมาให้ด้วย...


มื้อนั้นนอกจากอิ่มท้องแล้ว... น้ำแกงยิ่งอิ่มใจ...

รู้สึกดีใจแทนฟงอวิ๋น ที่มีครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้



และยิ่งดีใจ...




เมื่อตอนฟงอวิ๋นไปส่งที่บ้าน หลังทักทายคุณพ่อคุณแม่แล้ว ฟงอวิ๋นก็คว้าตัวน้ำแกงไว้ยามคุณนายนาถลดาเผลอ ในความมืดนั้น น้ำแกงเห็นแก้มคนตัวสูงแดงน้อยๆ


ใบหน้าตี๋ สุดแสนจืดชืดนั้นโน้มตัวลง กระซิบข้างหู "แกง... ฟง... ชอบแกง..."


พูดเสร็จ เขาก็หันหลังกลับ ขึ้นรถอย่างเงอะงะ ทิ้งไว้แต่คนงามหน้าแดงจนถึงใบหู ลามจนถึงคอ...

จนกระทั่งมารดาเรียกนั่นแหละ ถึงจะได้สติ

"แกง เข้าบ้านสิลูก เดี๋ยวก็ยุงหามหรอก"


น้ำแกงตอบรับอะไรไป... เขาจำไม่ได้แล้ว แม้กระทั่งตัวเองช่วยมารดาเลื่อนประตูมาล็อกหน้าบ้านอย่างไร ก็นึกไม่ออก...

...น้ำแกงเดินล่องลอยขึ้นบ้าน และยังคงล่องลอยไปจนเข้านอน หูได้ยินแต่คำพูดซ้ำๆ



'แกง... ฟง... ชอบแกง...'


'ฟง... ชอบแกง...'







'ชอบแกง...'

.....

// หายไปน๊านนาน ขอโทษค่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 24-04-2016 22:05:13
คือกรี๊ดมากจริงๆค่ะ ฮืออออออ โอ๊ยยยย นี่ลืมภาพฟงในตอนต้นๆไปเลย ไหนนะคนติดยา ไหนนะคนเกเร ที่เห็นตรงนี้มีแต่คนหลงน้ำแกงหัวปักหัวปำ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด น้ำแกงจากตอนแรกดูไม่ค่อยชอบก็คอยๆสนิทกับฟงแล้วนะคะ เราชอบที่น้ำแกงเริ่มเอาแต่ใจและแสดงความเป็นใหญ่ออกมา 555555 เหมือนกับว่าตัวตนที่แท้จริงถูกเปิดเผยอ่ะ อยู่กับผู้ใหญ่น้ำแกงจะแบบนึง พอมาอยู่กับฟงก็อีกแบบ ความเกรงใจเริ่มหดหาย แต่เราขอบ่นนิดนึงค่ะ โอ๊ยยยย ตอนนี้หิวมากกกก ทำไมต้องทำร้ายเราขนาดนี้คะ อาหารมาเต็มอ่ะ แอบอิจฉาน้ำแกง เราอยากกินน ข้ามเรื่องนี้ไปค่ะ ตอนนี้นี่ถึงน้ำแกงจะเอาแต่ใจขึ้นแต่ก็ดูยอมฟงขึ้นมากนะคะ ตั้งแต่ที่ฟงชวนทำอะไรก็ทำ ขนาดฟงนอนหนุนตักจนขาชายังยอมเลยอ่ะ น่ารักเหลือเกินนน แบบนี้ใครจะไม่หลงได้คะ แล้วแบบ ตอนไปว่ายน้ำ... เราขำพวกคุณแม่บ้าน เหมือนตัวเงินตัวทองลากเหยื่อลงน้ำ ก๊ากกกกกกกกกกกก โอ๊ยยยยยยยยยย เห็นภาพ แต่ฟงก็จ้องจะกลืนกินน้ำแกงจริงๆนะคะ แน่ะ ลวนลามไปซะเยอะ รู้เลยว่าจากนี้ฟงจะชวนน้ำแกงมาว่ายน้ำบ่อยๆ ที่บ้านฟงทุกคนก็ยอมรับน้ำแกงกันเต็มที่มาก ฮืออออ ขอให้คุณพ่อคุณแม่น้ำแกงยอมรับได้ด้วยนะคะถ้าถึงเวลาที่น้ำแกงรู้ใจตัวเองแล้วว นี่คือเขินฟงตลอดอ่ะ แต่ฟงก็ทำตัวให้น้ำแกงน่าจะเขินอ่ะค่ะ เราว่าน้ำแกงน่าจะรู้สึกได้ มันไม่ใช่ความใกล้ิดแบบพี่ชายมีให้อ่ะ เหมือนฟงมาจีบ 555555555 ใช่ค่ะน้ำแกง ฟงมาจีบบ ยิ่งประโยคสุดท้ายนี่... งื้อออออ ถามใจตัวเองได้แล้วนะคะน้ำแกง จะได้มีเวลาคิดได้นานๆ  :mew3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 24-04-2016 22:10:02
 :o8: ฟงรุกหนักแระ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-04-2016 22:20:15
โอย.....ฟงมันน่ารักน่าเอ็นดู
น้ำแกงเวลาเอาแต่ใจดูมีชีวิตชีวามาก

ยินดีที่กลับมานะ :)
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 24-04-2016 22:39:35
น้ำแกงน่าร๊ากกกกก

ไม่อยากจะพูด แต่ก็ต้องยอมรับว่าฟงก็น่ารักเหมือนกัน ><

ในอนาคตพี่ย้งยี้จะขัดคู่นี้มั้ยน้า 

ปล.อย่าหายไปนานอีกนะคะ  เกือบลืมไปแล้วเนี่ย  ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 24-04-2016 22:39:57
โอ้ยยยยยยยย หายไปนานนนนแต่กลับมายาวมากกก ชื่นใจมากกกกก น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณนะคะ สมกับที่รอคอย ฟงน่ารัก แกงก็น่ารักกกก อ้าย

มีความสุข ขอบคุณจริงๆน้า ขอให้มีอารมณ์เขียนบ่อยๆ
ส่งความคิดถึงไปให้ทุกวันเลยยย~ <3

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :pig4: :man1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 24-04-2016 22:53:02
น้ำแกงน่ารักกกกกกกกกกกกชอบบบบ อ่านแล้วแอบขำนิดนึง น่ารักๆ
บ้านฟงต้อนรับน้ำแกงดีมากเลย อิอิ มาบ่อยๆได้น้าา อิอิ จะรอค่าาา ร้ากก  :กอด1: :impress2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: jejiiee ที่ 24-04-2016 23:30:05
งุ้ยยยยย หายไปนานมากกแต่ยังรอเสมอนะคะะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-04-2016 00:37:16
มายาวมาเต็มเหนี่ยว ปลื้มปริ่มมากๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: zerofata ที่ 25-04-2016 01:11:15
กลับมาแล้ววว คิดถึงฟงแกงงง โอ๊ย น่ารักไปหมดเลยค่าาาา
เอาจริงๆ อย่าว่าแต่น้ำแกงจำชื่อไม่ได้เลย เราอ่านก็จำไม่ได้เหมือนกัน ครอบครัวฟงจะเยอะเกินไปแล้ว ฮาา ดูมีความสุขจริงๆ
ชอบฉากฟงงอนแต่น้ำแกงไม่รู้ตัวนี่น่ารักโพดๆ ยังไงก็อยากให้เป็นรักใสๆน้าา ดราม่าได้แต่อย่าเยอะเลยนะคะ (จะมีมั้ยนะ55)
ขอบคุณมากนะคะ จะติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-04-2016 01:54:09
หางกระดิกแรงมากพี่ฟง 555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 25-04-2016 02:20:17
กลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 25-04-2016 05:45:41
ตาฝาด


เอ้ย ไอ้ฟงเด็ดติดยาตาลอยหายไปไหน !!!
พี่ย้งยี้คิดไงนะ ท่าจะค้านในใจอยู่
แกงสาวมาก หน้าแดงแปร๊ด
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 25-04-2016 07:12:29
กรี๊ดดดด น้ำแกง ยกขันหมากไปสู่ขอเลยข่ะ!!
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 25-04-2016 09:28:19
นิสัยที่แม้ตัวเองจะเจ็บปวด แต่พอเห็นคนรักมีความสุข เขากลับยอมอดทน สิ่งที่ลอดริมฝีปากออกมาไม่ใช่คำพูดทวงบุญคุณ และไม่เคยมีคำบ่นว่า มีเพียงคำพูดเดิมๆ ที่บอกฟงอวิ๋นว่า 'ไม่เป็นไร'
 
ประโยคนี้ทำให้นึกถึงมาม่า เพียงแต่จะม่าน้ำใสหรือน้ำข้น

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 25-04-2016 10:57:41
ตัวเงินตัวทองลากเหยื่อลงน้ำ เข้าใจเปรียบเทียบจริงๆ
อ่านไปฟินไป ยิ่งตอนฟงบอกชอบแกงนี่แบบ เฮ้ยยยย.....โคตรฟิน
อยากอ่านตอนต่อๆไปมากๆๆๆๆๆๆยอมรับเลยว่าติดเรื่องนี้มากจริงๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 25-04-2016 15:53:56
"ช่างเหมือนตัวเงินตัวทองลากเหยื่อลงน้ำเสียนี่กระไร..." ขำกับตรงนี้นานมากกกก
ตอนนี้น้ำแกงก็เริ่มแสดงความเป็นใหญ่กับฟงที่ละนิดๆ แล้ว 555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 25-04-2016 17:34:25
 :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: sikamkanda ที่ 25-04-2016 19:15:55
กรี้ดดดดดด เราชอบฟงงงงงงง งื้อตัวขาวๆล่ำๆหน้าจืดๆ หื่นๆด้วย
สเปคเราเลยยย นานๆจะมีพระเอกหน้าจืดสักที
ขอบคุณที่มาต่อนะคะสนุกเหมือนเดิม :pig4: :impress2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 25-04-2016 22:47:27
อยากเห็นน้ำแกงเรียกฟงว่าเฮีย ต้องน่ารักแน่ๆ ในอนาคตต้องมีดราม่าแน่ๆเลอ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: chaweewong19841 ที่ 26-04-2016 02:42:58
 :katai1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: maytarapat ที่ 28-04-2016 10:09:29
รอเฮียฟง กะน้ำแกงคนสวย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 30-05-2016 09:50:54
 :L2:  กลับมาแล้ว :L1: :L1: :L1:

กลับมาให้ชื่นใจ และพาฟงกับน้ำแกงมาให้ได้เจอยาวๆ เต็มอิ่มเลย อืม...ดีงามเหลือเกิน

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหมาตัวใหญ่ที่บุกเข้าไปหาเจ้าหญิง จะเป็นตัวเงินตัวทองที่ลากเหยื่อตัวน้อยแสนน่ารักลงน้ำ จะเป็นหมีควายตัวเบิ้มที่ตีมึนนอนตักทับคนสวยจนแทบจะแบนแต๊ดแต๋ เอวเคล็ดสะโพกยอก หรือจะกลายร่างเป็นตัวประหลาดตัวไหนออกมาอีกในอนาคตก็ตามแต่ คุณค่าที่น้ำแกงคู่ควรก็อยู่ตรงนี้....ประโยคเดียว ชัดๆ อัดหมัดตรง....."ฟง ชอบ แกง"    ฮิ้วววววว :hao6:
ฟินกันสิคะ...จะรออะไร
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-05-2016 18:26:13
รอ ฟง กับ แกง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 5 24/4/16 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 28-06-2016 21:14:03
6.


ช่วงเวลาที่หอมหวาน... คือเวลาแห่งการตกหลุมรัก


น้ำแกงกลับมาเรียนในเช้าวันจันทร์ด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ อากัปกริยาท่าทางดูเงอะงะชอบกล ยิ่งอยู่ต่อหน้าฟงอวิ๋น ยิ่งซุ่มซ่าม ทำช้อนหล่นบ้าง ทำของหล่นบ้าง ช่างน่ารักจนฟงอวิ๋นอยากรวบตัวเข้ามาจูบแรงๆ


คุณนายจูและพี่ๆ ไม่ได้นำเรื่องตี๋น้อยตกหลุมรักลูกคุณครูมาเป็นเรื่องใหญ่โตอยู่แล้ว จึงได้แต่มองอย่างขำขันปนเอ็นดู


กระทั่งหมดวัน น้ำแกงค่อยพอรวบรวมสติได้ เด็กน้อยหยิบสมุดการบ้านและชีทเรียนใส่กระเป๋าอย่างเป็นระเบียบ เรือนผมที่เริ่มยาวปรกหน้าผากนวล ฟงอวิ๋นแอบยื่นหน้าเข้าไปใกล้ หวังจะเขี่ยปอยผมเล็กๆ นั้นออกให้


ทว่า น้ำแกงกลับเงยหน้าขึ้นมาพอดี ดวงตาคู่คมสวยสบกับตาไม่มีเหล่าเต๊งของคนตรงหน้า ถึงดวงตานั้นจะเป็นขีดเส้นเดียวจนแทบมองไม่เห็น แต่ก็ทำให้ใจเต้นระรัว หน้าเห่อร้อน


ฟงมาอยู่ใกล้เกินไปแล้ว...









เด็กทั้งสองได้แต่ผลัดกันบิดตัวเขิน จริงอยู่ที่บ้านฟงอวิ๋นทำเป็นเอาหูไปนา เอาตาไปไร่ ถือคติว่าอย่าชี้โพรงให้กระรอก เดี๋ยวกระรอกทั้งสองตัวจะแก่แดดแก่ลม และถ้าผู้ใหญ่เต้นไปก่อน ก็น่ากลัวว่าจะโดนบ้านน้ำแกงมาถอนหงอกเอา


ทั้งอากงอาม่า คุณนายจูและเจ้าสัวจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นไม่เห็นกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ที่แล่นเปรี๊ยะๆ ระหว่างทั้งคู่ ไม่ว่าจะตอนกินข้าวแล้วมือแตะกันโดยบังเอิญ ตอนที่ก้มเก็บของแล้วใบหน้าชิดกันโดยบังเอิญ หรือจะตอนที่ปากฟงอวิ๋นไปแตะแก้มเนียนโดย 'บังเอิญ'


พี่ชายทั้งสองได้แต่เอามือก่ายหน้าผาก จะแต๊ะอั๋งทั้งที ไม่มีความเนียนเลยแม้แต่น้อย ถ้าหากน้ำแกงเป็นลูกสัตว์ตัวเล็กคงได้เฉามือเป็นแน่แท้ หรือถ้าเป็นสมัยโบราณ บ้านตระกูลเอ็งต้องยกขันหมากไปขอลูกชายคุณนายเพราะน้ำแกงโดน 'ผิดผี' บ่อยเหลือเกิน


ฟงอวิ๋นอาจทำเนียนแอบหอมแก้ม จับมือ กอดเอวได้ แต่คุณนายจูทำเนียนไม่รู้ไม่เห็นอีกต่อไปไม่ได้ ลูกชายคนเล็กของนางคล้ายสุนัขเดือนสิบสองเข้าไปทุกวันๆ แทบจะกระโดดปล้ำคนตัวผอมได้ทุกเวลา แต่จะกระโตกกระตากก็ออกไปกระไรอยู่ ได้แต่กลัดกลุ้มให้ทั้งสองตกร่องชิ้นปล่องกันเสียที จะได้ทำเรื่องให้ถูกต้องตามประเพณี


ใช่ว่าคุณนายจูจะลำบากใจฝ่ายเดียว ฝ่ายคุณนายนาถลดาก็ถอนหายใจเฮือกๆ ได้แต่ใช้สายตาเหล่มองลูกชายถูกจับโน่นโอบนี่ น้ำแกงก็ช่าง... นัก... แทนที่จะปัดป้อง กลับบิดตัวเขินเป็นสาวน้อย พออยู่ในสายตาคุณนาย นายฟงก็ค่อยเก็บไม้เก็บมือไม่ทำรุ่มร่ามบ้าง แต่ไม่อยากจะคิดเลยว่า พออยู่ไกลหูไกลตากันสองคน เด็กทั้งสองจะไปไกลกันถึงไหน


ดังนั้น เพื่อหาทางออก คุณนายจึง 'ชวน' ฟงอวิ๋นมาเล่นที่บ้านบ้าง หวังว่าพออยู่ในสายตาผู้ใหญ่ ฟงอวิ๋นคงจะเกรงใจ


เมื่อโทรไปขออนุญาตคุณนายจู สองมารดาก็ถอนหายใจพร้อมๆ กัน แต่ไม่มีใครเปิดปากพูด ฝ่ายคุณนายจูก็เกรงว่าจะเสียผู้ใหญ่ แถมลูกชายนางยังเป็นฝ่ายเริ่มก่อน... ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเป็นลูกชายผู้มีพระคุณแท้ๆ ฝ่ายคุณนาถลดาก็กลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าลูกชายนางไปยั่วยวนลูกชายอีกฝ่าย


เงียบไปสักพัก หญิงทั้งสองจึงเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันอย่างกระอักกระอ่วน


"เอ่อ..."


"คือ..."


"อ๊ะ เชิญๆ อาเหล่าซือก่อน..."


"เอ่อ... เชิญคุณแม่ก่อนเถอะค่ะ"


"เชิญอาเหล่าซือ..."


"เชิญคุณแม่..."


"...."


"..."


"...เฮ้อ"


"เฮ้อ..."


คุณนายจูถอนหายใจพร้อมกับปลายสาย ก่อนจะตัดสินใจพูดก่อน เพราะเชื่อว่าลูกชายตนเป็น 'ฝ่ายชาย' ดังนั้นคงไม่ดีนักหากให้ 'ฝ่ายหญิง' เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา


"คืออาเหล่าซือ... อาแกงเป็นเด็กดีมาก... อาฟงขยันมากขึ้นทีเดียว" เกริ่นอย่างอ้อมโลก กระแอมเบาๆ "แฮ่ม เอ่อ... อั๊วเชื่อว่า... ทางอาเหล่าซือคงเห็น เอ่อ... สถานการณ์ของเด็กๆ ตอนนี้แล้ว"


พออีกฝ่ายเปิดช่องให้ คุณนายจึงมีโอกาสพูด "ดิฉันก็ตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับคุณแม่เหมือนกัน"


"อ้อ..."


"ค่ะ..."


วินาทีแห่งความกระอักกระอ่วนคืบคลานไปอย่างเชื่องช้า คุณนายจูสูดจมูกแรง ตัดสินใจพูดอย่างเด็ดขาด "ทางนี้ยินดีมากๆ ที่น้ำแกงจะมาเป็นลูกอีกคน"


"ขอบคุณคุณแม่และครอบครัวที่เอ็นดูค่ะ แต่น้ำแกงยังเด็ก..."


"เด็กสิลี... เอ๊ย ถ้าอาเหล่าซือไม่ว่าอะไร... ทางนี้จะช่วยดูแลให้"


"น้ำแกงยังไม่เต็ม 15 เลยค่ะคุณนาย... คือบางทีขอเวลาให้แก..." จะพูดไปตรงๆ ก็เกรงใจ แต่ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกรักชอบเพศเดียวกันหรอก ถึงบ้านฟงอวิ๋นจะไม่ซีเรียส แต่ทางบ้านคุณนาถลดาก็มีน้ำแกงเป็นลูกชายแค่คนเดียว "ให้แกกับฟง... ค้นหาตัวเอง"


"อ้อ ทางนี้ก็ไม่ได้เร่งรัด..." คุณนายจูฟังแล้วก็เข้าใจ มือขยับขอบเอวกางเกงขาก๊วยอย่างอึดอัด "แต่ถ้ายังไง ทางนี้รับผิดชอบเต็มที่ เพราะยังไงก็รัก เอ็นดูอาน้ำแกงแกอยู่แล้ว"


"ขอบคุณค่ะ" เสียงปลายสายเบาหวิว "ทางดิฉันก็อยากให้ทางคุณแม่เข้าใจว่าทางนี้ก็ไม่ได้บังคับฝืนใจอะไร แกอยากเป็นอะไรก็เป็น เพียงแต่เด็กทั้งสองคนยังเด็กเหลือเกินค่ะ..."


คล้ายจะต่อว่ากลายๆ ที่คุณนายปล่อยให้น้ำแกงโดนจับจูบลูบคลำจนช้ำไปหมด คุณนายจูจึงกล่าวอย่างร้อนรน "ตอนแรกทางนี้ก็ไม่คิดว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้... แต่ต่อไปนี้ ทางนี้จะช่วยดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในสายตาตลอดค่ะ"


"ขอบคุณค่ะ ถ้าอย่างนั้นดิฉันขออนุญาตให้ยุทธจักรมาเล่นที่บ้านบ้าง..."


"ได้ค่ะได้" มารดาฟงอวิ๋นตอบทันที "ให้แกอยู่ในสายตาผู้ใหญ่อย่างคุณนาถลดาก็ยิ่งดีค่ะ" สรรพนามเรียกขานเปลี่ยนไป คุณนายจูรู้ว่าคุณนาถลดาไม่ได้โง่พอที่จะไม่เอะใจว่าฝ่ายนางเร่งร้อนอยาก 'ดอง' กับอีกฝ่ายมากขนาดไหน


"ขอบคุณค่ะ สวัสดีค่ะ" คุณนาถลดาวางโทรศัพท์ลงแล้วถอนหายใจยาวๆ จนสามีที่นั่งข้างๆ หัวเราะ


"หัวเราะอะไรคะคุณ" คุณครูถามอย่างหงุดหงิด คุณไกรสรจึงส่ายหน้าเบาๆ


"อย่าคิดอะไรมากเลยคุณ เด็กๆ ก็แบบนี้แหละ ประเดี๋ยวประด๋าว..."


"นั่นสิคะ ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะค่ะ" นางตอบ ถอนหายใจยาวอีกครั้ง







บ้านน้ำแกงเป็นบ้านไม้เดี่ยวยกใต้ถุนหลังกะทัดรัดแปลกตาสำหรับบ้านในเมือง ตัวบ้านประกอบด้วยสองห้องนอน สองห้องน้ำ รายล้อมด้วยต้นไม้ของท่านไกรสรและพืชผักของคุณนาถลดา เป็นอาณาบริเวณกว้างขวาง ใต้ถุนมีคอกหมาและแมวจรที่ท่านทั้งสองเมตตาเก็บมาจากข้างทาง บางตัวก็พิการหรือป่วยหนัก บิดามารดาน้ำแกงพาไปรักษาจนหาย หรือหากไม่หายก็ยังคงดูแล ป้อนยา อาบน้ำให้เป็นอย่างดี คอกหมาของบ้านน้ำแกงสะอาดสะอ้าน ไม่มีกลิ่นเหม็นสกปรก


พอเจ้าพวกหมาๆ เห็นเจ้านายอย่างน้ำแกงเดินนำหน้าหมาแปลกหน้าที่เคยเห็นก็ส่งเสียงทักขรม คุณนาถลดาพอได้ยินเสียงจึงเดินลงมาดู เจอลูกชายและลูกศิษย์ฝ่าวงล้อมฝูงสี่ขา น้ำแกงชวนฟงอวิ๋นเล่นกับหมาอยู่ตรงริมทางเดิน


"น้ำแกง อย่าเพิ่งเล่นกับหมาลูก ล้างมือแล้วพาพี่เค้าขึ้นมากินน้ำกินท่าก่อน" นางร้องบอก


น้ำแกงตอบรับเสียงแจ๋ว พาฟงอวิ๋นขึ้นบ้าน








"แล้ววันนี้จะไปเล่นอะไรกัน ?" คุณนายถามเมื่อเห็นน้ำแกงเตะขาฟงอวิ๋นเล่นใต้โต๊ะ คนแก่กว่ายื่นขายาวๆ ไปเตะคืนเบาๆ เล่นเอาลูกชายทำหน้าบูด


"แถวๆ นี้แหละครับ" น้ำแกงอ้อมแอ้มตอบ คุณนายจนใจจะท้วงเด็กทั้งสอง ได้แต่พยักหน้า


"อย่าไปไหนไกลก็แล้วกัน..." ไม่อยากให้ไกลหูไกลตา ไม่รู้กระรอกน้อยสองตัวจะแอบเข้าโพรงโดยไม่ต้องมีคนชี้นำหรือเปล่า








น้ำแกงเด็กดีเชื่อฟังคุณแม่ พาฟงอวิ๋นลงบ้านมาใช้งานหน้าตาเฉย คนตัวเล็กเท้าสะเอวสั่งฟงอวิ๋นช่วยจับหมาอาบน้ำด้วยเสียงเจื้อยแจ้วราวกับเคยชิน


แหม อาทิตย์นี้น้ำแกงต้องทำความสะอาดกรงนี่นา ไหนๆ ฟงอวิ๋นก็มาแล้ว มาช่วยน้ำแกงอาบน้ำหมาดีกว่า คิดแล้วก็มุดตัวเข้าไปทำความสะอาดกรง ส่วนฟงอวิ๋นที่ยืนบื้อก็โดนน้ำแกงสั่งไม่ยั้ง

"ฟง จับเก้าแต้มดีๆ มันดุนะ"


ช้าไปแล้ว เจ้าหมาพันธุ์ทางหันกลับมาแง่งใส่ คนจับหมาสะดุ้งเฮือก ชักมือกลับแทบไม่ทัน น้ำแกงหัวเราะ เงยหน้าจากสายยางในมือ

"ฟง มาล้างกรงแทนดีกว่า ไม่ต้องกลัวอุนจิ เจ้าพวกนี้มีห้องน้ำอยู่ท้ายสวนแน่ะ"


ฟงอวิ๋นรีบสไลด์ตัวเองออกจากสายตาเก้าแต้มที่จ้องตัวเองตาเป็นมัน แล้วไปรับสายยาง


"เอาไอ้นี่ขัดนะ" เจ้าของบ้านยื่นแปรงขัดส้วมพร้อมผงซักฟอก ปากสั่งไม่หยุด "ใส่ผงซักฟองนะ เดี๋ยวแกงไปอาบน้ำหมา"


ฟงอวิ๋นพยักหน้ารับบื้อๆ อ้าปากพะงาบๆ ใจอยากถามเรื่องคำตอบจากอีกฝ่ายใจจะขาด แต่ไม่เจอจังหวะเหมาะๆ เสียที พอมาถึง ก็เจอบุพการีน้ำแกง ตอนนี้อยู่สองต่อสองก็จริง แต่รอบตัวรายล้อมไปด้วยหมาแมวที่ร้องเสียงขรม... ช่างโรแมนติกเหลือเกิน


ฟงอวิ๋นปาดน้ำตาที่คลอเบ้า ชูแปรงขัดส้วมขึ้นฟ้าอย่างฮึกเหิม


เอาก็เอาวะ!


ทำดีต้องชนะใจอยู่แล้ว! เขาไม่เชื่อหรอกว่าน้ำแกงจะไม่หวั่นไหวเลยน่ะ! แก้มแดงๆ นั่นบอกอะไรได้หลายอย่าง ถึงจะไม่ได้เอ่ยออกมาเป็นคำพูด แต่เด็กหนุ่มก็เชื่อว่าตัวเองมีหวังเต็มเปี่ยม!








กรงหมาบ้านน้ำแกงสะอาดสะอ้านอยู่แล้ว ฟงอวิ๋นจึงไม่ต้องเปลืองแรง คุณชายน้อยที่เกิดมาอย่าว่าแต่ล้างกรงหมาเลย ผงซักฟอกเป็นยังไงยังไม่เคยเห็นต้องยืนกลั้นหายใจอยู่หน้ากรง แล้วตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวด้วยความเป็นลูกผู้ชาย.... เทผงสีขาวกลิ่นฉุนตามที่น้ำแกงสอน ราดด้วยน้ำแล้วใช้แปรงในมือขัดให้มีฟอง!


ขัด! ขัด! ขัด! มันเข้าไป! ผู้ชายยังชอบผู้หญิงมีสเน่ห์ปลายจวักเลย น้ำแกงก็ผู้ชาย ทำไมจะไม่ชอบ...


...เดี๋ยว ทำไมตรรกะมันแปลกๆ ?


ไอ้หมาบื้อตัวโตยืนเกาหัวกับความคิดฟุ้งซ่าน โดนเสียงคนตัวเล็กที่รบรากับเจ้าพวกสี่ขาร้องบอก

"ฟง! รีบๆ ล้างสิ"


"ครับ!" เผลอตอบรับไปโดยไม่ทันคิด... ก้มตัวลงขัดต่อไปตามคำสั่งโดยปราศจากการต่อต้าน


ฮึ่ย! ถ้าไม่อยากได้เจ้านายของไอ้เก้าแต้ม คุณชายไม่มีทางมาลงแรงขัดกรงหรอก! ฟงอวิ๋นคิดแค้นๆ เงยหน้ามองไอ้เก้าแต้มกับเจ้านายมัน


แหม... ทีกับน้ำแกงล่ะไอ้หมาโคตรดุที่แยกเขี้ยวใส่กลับไปนัวเนียร่างบางๆ ทั้งตัวเปียกๆ น้ำแกงหัวเราะเสียงใส อาบน้ำไป ดุไป


แคว่ก! แคว่ก!

เสียงแปรงขัดดังสะท้านใต้ถุนบ้าน ฟงอวิ๋นจ้องคนตัวบางกับบรรดาหมาประหนึ่งทรามวัยกับไอ้ตูบไปเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันไป


หนอย....! ไม่เกิดเป็นไอ้เก้าแต้มให้มันรู้ไปโว้ย!








"โห ฟงแรงเยอะจัง ขัดจนสะอาดเลย" น้ำแกงมุดหน้าเข้าไปในกรงแล้วเอ่ยชม คนขัดยิ้มแต้รับ ไม่กล้าบอกความจริงว่าที่แท้ขัดด้วยแรงอาฆาตไอ้พวกหมาๆ บวกกับตั้งใจจะชนะใจเจ้านายไอ้เก้าแต้มด้วยกรงหมา

"ฟงชอบทำงานบ้านเหรอ ?" น้ำแกงยื่นผ้าให้เช็ดตัว


งานบ้าน ? มันมีอะไรบ้างหว่า ? "ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยทำ"


"ขัดกรงจนสะอาดเลย ต้องทำงานบ้านเก่งแน่ๆ" น้ำแกงพูดอย่างอิจฉา ไปนั่งแปะตรงบันไดขึ้นบ้าน "แกงทำงานบ้านไม่เก่งเลย โดนแม่ดุประจำ ที่ทำได้มีแต่อาบน้ำไอ้พวกนี้แหละ"


น้ำแกงคงจะอาบน้ำให้หมาจนเทิร์นโปร ฟงอวิ๋นที่ตอนแรกคิดอกุศลว่าอย่างน้อยอาจจะได้เห็นลูกไม้สีชมพูเม็ดน้อยๆ แนบติดเสื้อยืดที่เปียกชื้นนั้น... พลันฝันสลาย เพราะขนาดอาบน้ำให้หมาไปจนครบคอก เสื้อยังไม่เปียก มีแค่ขากางเกงที่ชื้นๆ


"ไม่เห็นเป็นไรเลย" เขาตอบ ยักไหล่ให้ น้ำแกงทำงานบ้านไม่เก่งไม่เป็นไร อาบน้ำหมาเก่งก็พอ เดี๋ยวเขาจะเป็นหมาให้เอง!


เดี๋ยว! ฟงอวิ๋นชะงัก ชักกลัวความคิดตัวเองชอบกล


น้ำแกงฟังแล้วยิ้มให้ทั้งปากทั้งนัยน์ตา "นั่นสิเนอะ เป็นผู้ชายนี่นา"








หลังจากนั้น น้ำแกงที่ยิ้มแต้ ก็พาเขาไปกินขนมและน้ำหวาน แขกหน้าจีนมัวแต่ดีอกดีใจ ตีปีกสะบัดหางกระดี๊กระด๊าที่ได้นั่งสองต่อสองอยู่ดีๆ จู่ๆ คุณไกรสรที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ก็มาหยิบหนังสือพิมพ์แล้วนั่งใกล้ๆ น้ำแกง


ปากที่อ้าจะเอ่ยแทะโลมเด็กต้องหุบลง นั่งหน้าตูมดูดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในต่อไป


คุณนายที่ยืนดูไกลๆ หัวเราะในลำคอหึๆ


น่าเอ็นดูจริง จริ๊ง... เจ้าเด็กพวกนี้








บรรยากาศแสนอึดอัดของน้ำแกงกับพ่อและฟงอวิ๋นดำเนินไปช้าๆ มีแค่เสียงดูดน้ำจากแก้วของฟงอวิ๋นเท่านั้น คุณพ่อก็ทำหน้าตาเฉยราวกับไม่รับรู้อะไร เปิดหนังสือพิมพ์อ่านอย่างเรียบร้อย กริยามารยาทคล้ายลูกชายราวกับพิมพ์เดียว


น้ำแกงเหลือบตาดูพ่อกับคนตรงหน้าสลับกัน ไม่รู้จะพูดอะไรดี...


หางใหญ่ๆ ของเด็กหนุ่มลู่ลง น้ำแกงจึงเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาอย่างประดักประเดิก "เอ่อ... คุณพ่อดื่มกาแฟไหมครับ ?"


คุณไกรสรเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือพิมพ์ ก่อนพับมุมเก็บให้เรียบร้อย "ไม่ต้องหรอกลูก แล้วนี่มานั่งเป็นเพื่อนคนแก่กันทำไม ไม่พาพี่เค้าไปเล่นในสวนล่ะลูก"


ก็นั่งสองต่อสองอยู่ดีๆ จนกระทั่งคุณพ่อมาแทรกนี่แหละครับ... ฟงอวิ๋นคิดในใจ


น้ำแกงหัวเราะแหะๆ "งั้นแกงพาฟงไปสวนนะครับ"


"ไปเถอะลูก หาหมวกให้พี่เค้าใส่ด้วย ระวังจะเป็นลมแดด"


"ครับ"


คุณไกรสรหมดบทสนทนาเพียงเท่านี้ แต่ก็แอบส่งรอยยิ้มเห็นใจให้เจ้าหมาตัวโตที่มาเฝ้าลูกชาย










เมื่อได้รับอนุญาต น้ำแกงจึงพาฟงอวิ๋นไปเดินเล่นในสวน

บ้านน้ำแกงมีอาณาบริเวณกว้างขวาง ปลูกต้นไม้ร่มรื่น ทางเดินปูซีเมนต์รอบตัวบ้าน ถึงจะไม่กว้างเท่าสวนของฟงอวิ๋น แต่ก็มีพันธุ์ไม้หลากหลาย ส่วนใหญ่เป็นไม้ผลที่ออกผลดก


"อันนั้นขนุน" น้ำแกงชี้ที่ขนุนต้นเตี้ย "ตอนเด็กๆ แกงเคยเอายางมาเล่น เลอะเสื้อผ้าหมด โดนแม่ตีตั้งหลายที" ริมฝีปากสวยอมยิ้มน้อยๆ


ฟงอวิ๋นประหลาดใจ ไม่คิดว่าน้ำแกงที่แสนเรียบร้อยจะมีมุมซุกซนเหมือนกัน


ดวงตากลมโตใสแจ๋วเงยขึ้นสบตาตี่ๆ แสงระยับพราวในนัยน์ตาช่างชวนให้หัวใจเต้นแรง


น่ารัก...


...อยากอยู่ใกล้ๆ


...อยากครอบครอง ปกป้อง


...อยากเป็นเจ้าของ


...อยากจับมือนั้นไปจนสุดทาง


ภายใต้แสงอาทิตย์อันร้อนแรง ฟงอวิ๋นฝันกลางวันถึงผู้ชายสองคนที่อยู่เคียงข้างกัน


ทั้งๆ ที่ยืนเหม่อ แต่สายตากลับมองเห็นแค่คนตรงหน้าชัดเจน


น้ำแกงที่หัวเราะเสียงดัง


น้ำแกงที่มีรอยยิ้มเขินอาย


น้ำแกงที่สง่างาม


น้ำแกงที่เยือกเย็น


...น้ำแกง น้ำแกงของฟงเท่านั้น




หากนี่ไม่ใช่ความรัก... แล้วมันคืออะไรกัน ?



เด็กหนุ่มกระพริบตามองภาพตรงหน้าอีกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าร่างเล็กที่ยืนไขว้แขนไว้ด้านหลังนั้นไม่ใช่ภาพฝันแล้ว... เขาจึงคิดว่า ไม่สิ ตัดสินใจว่าควรพูดออกไป...


"ฟงชอบแกง..." อา ไม่ไหวแล้ว... หยุดไม่ได้แล้ว ใบหน้าตี๋จืดสนิทแดงก่ำจนไปถึงคอ เหมือนกับในอกแน่นตื้อ ความรัก... ล้นทลายไปหมด ได้แต่มองใบหน้าสีน้ำผึ้งยวลใจ ปากและหัวใจก็ทำงานตรงกันอีกครั้ง

"ฟง... รักแกง"


ใบหน้าคมซึ้ง ดวงตาสวยใกล้เข้ามา... น้ำแกงขยับเข้ามาใกล้ทีละก้าวๆ


เด็กหนุ่มกังวลใจ คิ้วขมวดทั้งๆ ที่หน้าแดง หัวใจเต้นรัว


แล้วรอยยิ้มบางๆ ก็จุดขึ้นที่ปลายริมฝีปากอิ่ม


น้ำแกงค่อยๆ พูด... ในวินาทีนั้น ราวกับภาพสโลว์โมชันในหนัง ฟงอวิ๋นได้ยินทุกคำพูดชัดเจน ฝังลึกอยู่ในสมอง


ประโยคสั้นๆ ประกอบด้วยคำไม่กี่คำนั้น...


"แกงก็ชอบฟง"


ทำให้ไอ้ตี๋ไม่เอาไหนกลายเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลก ทำให้เขาก้าวเข้าไปใกล้ มองใบหน้าสวยแดงก่ำไม่แพ้กันอย่างมีความสุข และทำให้เขาราวกับเดินอยู่บนก้อนเมฆ


'แกงก็ชอบฟง...'


'แกงชอบฟง...'


'ชอบฟง...'


'ชอบ...'


อา... ฟงอวิ๋นไม่เสียแรงที่เกิดมาแล้วจริงๆ








เด็กสองคนจูงมือกันกลับจากสวนด้วยใบหน้าแดงฉาน คุณนายกลอกตาขึ้นฟ้า คุณไกรสรหัวเราะเบาๆ

"น่า คุณนาถ เด็กๆ ก็แบบนี้..."


"เฮ้อ แก่แดดแก่ลมกันจริง เจ้าแกงนะเจ้าแกง อายุแค่นี้..." บ่นงำงัมแล้วก็ถอนหายใจ ถอดแว่นตาเพื่อนวดขมับ


เอาเถอะนะ... อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด


ถ้าแกงมีความสุข แม่ก็มีความสุข



คุณนายได้แต่คิดอย่างปลงๆ ขณะมองภาพลูกชายและลูกศิษย์พูดคุยกันด้วยท่าทางเขินอายจากหน้าต่าง


..............

// อ่าวเหวย น้ำแกงใจแตกแล้วค่ะคุณขา ตอนนี้สั้นมาก จะเห็นในมุมมองผู้ใหญ่ที่มีทั้งลุ้น ทั้งปราม ทั้งหนักใจไปด้วย คือปกติเราไม่ค่อยเห็นนิยายวายมีบทของพ่อแม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็เพื่อจุดดราม่าไม่ก็เดินผ่านกล้อง แต่ในความเห็นเรา ทั้งฟงและแกงเติบโตมาด้วยความรัก ความเอาใจใส่ ที่บ้านก็ดูแลอย่างดี ดังนั้น เป็นไปไม่ได้ที่พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายจะไม่สนใจลูกเลย เราคิดแบบนี้ค่ะ

นิยายเรื่องนี้ไม่ค่อยมีอะไรนะคะ จีบกันไป เขินไป ไม่มีดราม่า ไม่มีตัวร้าย ไม่มีพ่อแม่มาขวาง แต่จะค่อยๆ ไป ท่ามกลางความรักของคนรอบข้างค่ะ (นิยายโลกสวย)

ตอนนี้อาจเริ่มสัมผัสความเป็นราชินีในตัวแกงได้แล้ว 555

ขอบคุณที่ติดตามค่า  :mew1: :pig4: :pig4: :3123: :L1: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 28-06-2016 21:33:28
เห้ยยยยย แกงใจแตก ง่าย มากกกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 28-06-2016 21:36:06
ฮ่อยยยยยยย เป็ฯการรอคอยที่คุ้มค่าค่ะ ทำเราเขินตามทั้งตอนเลยอ่ะ เราชอบที่คุณแม่เขาพูดไม่ออกกันทั้งคู่นะคะ 5555555 นี่แหละ สัมผัสที่หกของความเป็นแม่ นี่เชื่อว่าคุณแม่รู้ตัวกันก่อนคุณลูกจะรู้ตัสอีกมั้งคะ แต่ดีนะคะ แบบนี้เหมือนอยู่ในสายตาผูใหญ่ตลอดอ่ะค่ะ นิยายโลกสวยเราก็ชอบนะคะ แอร๊ยยยย เราเชื่อว่าตอนนี้ฟงโดนกัดตายก็ไม่เสียแายชีวิตแล้วอ่ะค่ะ ฮื้อออออ แต่ฟงคะ น้ำแกงบอกแค่ชอบนะคะ ยังไม่รักค่ะ ขอให้เอาความดีในการทำงานบ้านเข้าสู้ต่อไปนะคะ ตอนนี้เป็นที่มาที่ตอนหลังฟงเป็นคนทำงานบ้านหมดทุกอย่างสินะคะ แหม อยากมัดใจน้ำแกงนี่เอง 5555555555 ดีแล้วค่ะ เป็นแม่บ้านแม่เรือนสามี(?)จะได้รักจะได้หลง ฮืออออออ

เรารอตอนต่อไปนะค้าาาาา  :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 28-06-2016 21:40:44
ต่างฝ่ายต่างบอกชอบกันแล้วว :katai2-1: :katai2-1:
ว่าแต่ไม่มีมาม่า ไม่มีตัวร้ายจริงๆนะ  :กอด1: :กอด1:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 28-06-2016 22:11:10
อ๋อยยยยยยยย คุ้มค่าค่ะ ;-;  คุ้มค่ากับการรอมากๆ 5555555555
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ คิดถึงฟงแกงมากๆแง้
น้ำแกงน่ารักมากๆเลย ตอนเม้นนี่ยังยิ้มไม่หุบเลย ถึงรู้แหละว่าเดี๋ยวต้องมีดราม่าแน่ๆ (เอ้ะหรือปล่าวนะ)
แต่ตอนนี้มีความสุขชะมัด ขอบคุณนะคะ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-06-2016 22:16:08
 o13
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 28-06-2016 22:29:55
น้ำตาจะไหล
 :hao5: :hao5: :hao5:

น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: room ที่ 28-06-2016 22:35:06
ตาตี่สารภาพรักได้แมนมากๆ เลยอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 28-06-2016 23:25:10
อ่านแล้วหลับฝันดี

หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 28-06-2016 23:59:39
ขอบคุณค้าที่มาต่อ เย้ๆๆ
รอนานแต่คุ้มค่า น่ารักจุงคู่นี้ ชอบนางพญาแกงจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-06-2016 00:05:43
มดเต็มสวนแล้ว
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 29-06-2016 07:58:45
น่ารักกกก
ฟงทำงานบ้านเก่งเพราะแกงใช้งานตั้งแต่เด็กๆนี่เอง 5555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: NINEWNN ที่ 29-06-2016 09:42:01
นี่ไวฟง สาเหตุที่ฟงโตมาทำงานบ้านเก่ง....
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 29-06-2016 11:13:49
อืม...จริงๆ นะ นาทีที่คนที่เรารักก็รักเราตอบนี่ มันเป็นนาทีที่รู้สึกโชคดีที่สุดจริงๆ
หัวใจเบ่งบานไปกับฟงในตอนนี้มากเลย

ฟงรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่สุดในโลกตอนน้ำแกงรับรัก แต่จริงๆแล้วทั้งฟงและน้ำแกงโชคดีมาตั้งแต่เกิดแล้วล่ะ เพราะเติบโตมากับ
ความรักและความอบอุ่นของครอบครัวของพวกเขาแบบนี้

ชอบมากนะ ที่ผู้เขียนสร้างพื้นที่ให้สถาบันครอบครัว น่าประทับใจมาก และจริงๆ คุณค่าเหล่านี้เราเห็นผู้เขียนบรรจงแทรกเสริมไว้
ในงานเขียนมาตั้งแต่พี่เสือกับน้องกระต่ายน้อยแล้วแหละ มันยิ่งทำให้เรื่องราวกลมกล่อมละเอียดละออครบรสรอบด้าน คุ้มค่ากับ
การรอคอยและการใช้เวลาค่อยๆ อ่านแล้วซึมซับความหมายต่างๆ ที่ผู้เขียนตั้งใจสื่อออกมา

รอตอนต่อไปด้วยใจเป็นสุข :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 29-06-2016 14:28:41
อ่านแล้วเขินจัง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-06-2016 15:44:37
อมยิ้มแก้มตุ่ย
ปวดแก้มไปหมดแล้วค่า
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Supparang-k ที่ 29-06-2016 19:21:46
น่ารักมากเลย  อ่านแล้วอารมณ์คุณแม่ แบบว่ามองลูกจีบกัน แล้วคอยลุ้นเบาๆ

คือฟิลลิ่งไม่แรงเหมือนเรื่องอื่นแต่ละมุนละไมอ่านได้ไม่เบื่อ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-06-2016 19:44:34
ชอบนิยายโลกสวย อ่านแล้วเพลิน ฟินได้ตลอด อิอิ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: misaki takahashi ที่ 30-06-2016 05:48:20
2 เดือนที่ได้รอมา :hao5: เค้าจาเอาอีกกกกก รีบมาต่อเร็วๆน้าา  :z13:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-06-2016 06:51:46
โง่ววว~~. งุงงิ้งมุงมิ้ง~~ หวานแหววว~~ :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 05-07-2016 01:13:57
ในที่สุด ความพยายามของหมาฟงก็สำเร็จ....มันให้อารมณ์สบายๆ น่าอ่าน น่ารัก น่าติดตามจริงๆ ^__^~
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-07-2016 21:09:13
7.


เป็นแฟนกันแล้ว!



ฟงอวิ๋นกลับบ้านด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มจนอาป๊าอาม๊ากลัวว่าลูกชายจะกลับไปเสพกัญชาอีก


คืนหลังจากวันบอกรัก ฟงอวิ๋นก็นับชั่วโมงรอเพื่อที่จะได้เจอแฟนหมาดๆ อีกครั้ง




แต่ในขณะเดียวกัน อีกบ้านหนึ่ง น้ำแกงที่หน้าแดงจัดเข้านอนด้วยอารมณ์เบลอราวกับมีไข้ ส่วนคุณนายนาถลดาปรึกษากับสามีนานทีเดียว ในที่สุดจึงได้ข้อสรุป


เธอเคาะประตูเรียกลูกชายเบาๆ น้ำแกงค่อยๆ แง้มประตูออกมา อุทานเสียงค่อย "คุณแม่"


"ขอแม่เข้าไปได้ไหมลูก ?" คุณครูตัดสินใจแล้ว ในเมื่อกระรอกทั้งสองตัวเห็นโพรงและชี้ชวนกันเข้าไปแล้ว คนเป็นแม่ก็มีหน้าที่ดูแลลูกกระรอกให้อยู่ในสายตาและคอยประคับประคองกระรอกน้อยไร้เดียงสาให้ปลอดภัยตลอดรอดฝั่ง


แม้ในใจจะไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่าลูกชายจะพร้อมสำหรับความรัก ทว่า ในโลกนี้มีอะไรที่เป็นไปตามใจต้องการบ้าง ถึงเป็นแม่ แต่ก็ไม่ได้ต้องการขัดขวางลูก ได้แต่คอยห่วงใยเท่านั้น


น้ำแกงจะพร้อมแล้วหรือ...


รักแรก... กับเพศเดียวกัน




...รักแรกนั้น ย่อมเจ็บเสมอ


ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกเจ็บเท่าใด ลูกยิ่งรั้นเท่านั้น บางครั้งคนเป็นแม่ก็ต้องปล่อยให้เรื่องโหดร้ายเกิดกับลูก เพื่อให้กระรอกน้อยเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น


เมื่อหยุดความรู้สึกระหว่างเด็กสองคนไม่ได้ ก็ควรจะปรามให้ลดลง


คุณนายจึงปั้นยิ้มบางๆ บนใบหน้า แม้ในใจจะเจ็บปวด "แกงครับ... มาคุยกับแม่หน่อยนะ เรื่องพี่ฟง..."








น้ำแกงใกล้เปิดเทอมแล้ว คำถามเรื่องอนาคตถูกยกมาถามฟงอวิ๋นบ่อยๆ

"ฟงจะทำยังไงต่อไป ?"


"ฟงจะไปเรียนกับแกง" คำตอบทื่อๆ ตั้งใจจะทำตาหวานเยิ้มให้แฟนคนสวย แต่น่าเสียดายที่ตาตี่ๆ มีพื้นที่น้อยไปนิด คนฟังเลยไม่ทันสังเกตเห็น


"จะดีเหรอ" น้ำแกงกลับกังวลใจแทน หันกลับมามองคนตรงหน้า


จริงๆ ก็เป็นแฟนกันแล้วนะ พ่อแม่น้ำแกงก็รับรู้ ฝั่งทางฟงอวิ๋นก็พยักหน้าให้ แต่ทำไม้ ทำไมน้ำแกงกลับรู้สึกว่าไม่ต่างจากตอนเป็นแค่น้ำแกง - ฟงอวิ๋นเลยล่ะ


ฟงอวิ๋นไปเข้ารับการตรวจครั้งสุดท้าย และอาการก็ดีขึ้นจนไม่ต้องกินยาจิตเวช คุณหมอประเมินให้ตี๋สามารถกลับเข้าสู่สังคมได้แล้ว แต่ควรอยู่ในการดูแลของครอบครัวและทางศูนย์จะติดตามการรักษาไปประมาณหนึ่งปี


ฟงอวิ๋นไม่ดีใจมาก ครอบครัวก็พาลูกชายคนเล็กไปเลี้ยงฉลองที่เยาวราช โดนไม่ลืมที่จะหนีบน้ำแกงไปด้วย


ถึงจะไม่มีใครพูดตรงๆ ระหว่างมื้ออาหาร แต่ท่าทางเอาอกเอาใจ คำพูดเป็นนัยๆ ของผู้ใหญ่ก็ทำให้น้ำแกงหน้าร้อนผ่าว


ทั้ง 'ต้องขอบคุณน้ำแกงที่ทำให้ฟงกลับตัวได้' บ้างล่ะ

หรือ 'ทำไมน้ำแกงไม่มาเป็นลูกบ้านนี้' บ้าง


น้ำแกงฟังแล้วไม่ใคร่เข้าใจนัก การที่ฟงอวิ๋นเลิกยาและเข้ารับการบำบัดนั้น เกี่ยวอะไรกับน้ำแกงด้วย แต่เมื่อผู้ใหญ่ชม แม้จะประดักประเดิก น้ำแกงก็ยกมือไหว้รับด้วยรอยยิ้มแหยๆ


จนตอนนี้ ฟงอวิ๋นควรจะคิดเรื่องอนาคตได้แล้ว แต่น้ำแกงกลับรู้สึกว่าแฟนหนุ่มยังไม่ได้เรื่องได้ราวเหมือนเดิม

อีกทั้งความสัมพันธ์ที่เหมือนจะรุดหน้า แต่แท้จริงแล้วกลับยังย่ำอยู่ที่เดิม







น้ำแกงคิดแล้วถอนหายใจ "ฟง จริงจังหน่อยสิ"


"ก็จริงจังแล้วไง" ตอบพลางยกเวย์โปรตีนขึ้นดื่ม ท่าทางไม่ทุกข์ร้อนอะไร น้ำแกงยิ่งเห็นยิ่งเดือดปุดๆ


คนคนนี้นี่ ทำไมไม่คิดอะไรเลยนะ!


"ฟง! แกงซีเรียสนะ"


"ก็ฟงบอกแล้วไงว่าจะไปเรียนกับแกง ตอนสอบเที่ยวแล้วคะแนนฟงเยอะกว่าแกงอีกไม่ใช่เหรอ ?" คำตอบเล่นเอาคนฟังจุก


วันก่อนมีเทสต์ย่อยวิชาคณิตศาสตร์ ฟงอวิ๋นที่ท่าทางไม่เดือดไม่ร้อนกลับทำคะแนนได้เกือบเต็ม จนไม่น่าเชื่อว่าเมื่อตอนเริ่มคอร์ส แม้กระทั่งดุลสมการหนึ่งตัวแปรเขายังทำไม่ได้

อีกทั้งเมื่อรับข้อสอบมอปลายของโรงเรียนดังไปทำ วิชาอื่นๆ ก็ทำได้ดีจนน่าตกใจ น้ำแกงอิจฉาไม่น้อย


"ก็เพราะเรียนดีนั่นแหละ! ฟงหัวก็ดี ทำไมไม่ไปเรียนที่อื่นล่ะ ?"


ฟงอวิ๋นขมวดคิ้ว "ทำไม ? ทำไมไม่อยากให้ฟงไปเรียนกับแกง ?" ตาที่เล็กอยู่แล้วหรี่ลงจนเกือบมิด "หรือว่าแกงมีใครอยู่แล้ว ?"


คงจะมีแค่เรื่องนี้กระมังที่สมเป็นแฟนกัน น้ำแกงฟังแล้วลมแทบจับ หึงเรื่องบ้าๆ คิดไปเองได้อยู่เรื่อย จนอยากเฉาะกะโหลกดูว่าในหัวมีเรื่องอะไรอยู่บ้าง

"พูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง!?" ชักจะโมโหเหมือนกันแล้ว ตาสวยตวัดมองเอาเรื่อง "จะดูถูกแกงใช่ไหม!?"


"ถ้าไม่มีใครทำไมไม่อยากให้ฟงไปเรียนด้วยล่ะ"


"ก็เพราะเป็นห่วงน่ะสิ! ระดับฟงเข้าโรงเรียนดังๆ หรือไปเมืองนอกได้สบายอยู่แล้ว!" เสียงหวานเกือบแหว แต่ยังยั้งตัวเองไว้ได้


ทั้งๆ ที่เป็นคนใจเย็นแท้ๆ แต่พอเกี่ยวกับฟงอวิ๋นทีไร น้ำแกงกลายเป็นคนใจร้อนขึ้นมาเลย

ส่วนฟงอวิ๋นเล่า ที่เคยใจร้อน พอเห็นท่าทางเดือดเป็นไฟกลับเย็นลงทันที เด็กหนุ่มหัวเราะลั่น

"ขอบคุณครับ"


"ขอบคุณอะไร ?"


"ขอบคุณที่เป็นห่วงกัน... รักนะ"


ใบหน้าสะสวยพลันชะงัก "อึ่ก..."


"แกงไม่ต้องเป็นห่วงฟง... ฟงคุยเรื่องนี้กับแม่แล้ว แม่ก็เห็นด้วย อันที่จริงแค่ฟงคิดจะเรียนต่อเค้าก็ดีใจมากแล้วล่ะ"


"แต่..." น้ำแกงน้ำท่วมปาก เมื่อฟงอวิ๋นยกผู้ใหญ่มาอ้าง เขาก็จนปัญญาจะแย้ง


"ไม่มีแต่" รอยยิ้มปรากฏมุมปากของใบหน้าธรรมดาๆ จืดชืด ฟงอวิ๋นยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ "ฟงตัดสินใจแล้ว แกงไม่ต้องเป็นห่วงนะ"


ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากัน หน้าแดงไปถึงหู บ้าจริง... "ถะ ถ้าฟงคิดดีแล้ว..."


"คิดดีแล้ว คิดอย่างจริงจังตั้งแต่ตอนบำบัดแล้ว"


"อะ อื้อ ก็ฟงท่าทางลอยชายน่ะ แกงก็เลย..." เด็กน้อยหลุบตาลง ไม่กล้าสบตา ทั้งๆ ที่ตาแฟนหนุ่มก็ตี่จนแทบมองไม่เห็นอยู่แล้ว


มือใหญ่ลูบศีรษะน้อย ช่วงเวลาสั้นๆ ที่ลูกคนเดียวที่แสนเป็นผู้ใหญ่กลายเป็นเด็ก และลูกคนเล็กที่แสนเป็นเด็กกลายเป็นผู้ใหญ่


ฟงอวิ๋นใจเย็นลงมาก รอยยิ้มมุมปากเต็มไปด้วยความอ่อนโยน "อาจดูเหมือนไม่คิดอะไร แต่ฟงคิดตลอดว่าอยากอยู่กับแกงนะ อยากเป็นคนที่แกงภูมิใจ เป็นคนที่แกงรักได้ไม่อายใคร"


น้ำแกงก้มหน้างุด สัมผัสอุ่นร้อนและท่าทางที่ปฏิบัติต่อเขาเหมือนน้องน้อยนั้นแปลกใหม่...


...ที่บ้าน น้ำแกงถูกอบรมอย่างเข้มงวด จึงต้องเป็นผู้ใหญ่ก่อนวัย

แต่เมื่ออยู่กับฟงอวิ๋น... น้ำแกงเอาแต่ใจได้ เป็นเด็กได้ ไม่ต้องทำตัวเป็นเด็กดีตลอดเวลา



มือของฟงอวิ๋นใหญ่ ชวนให้รู้สึกดี เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แนบใบหน้าสะสวยกับฝ่ามือ ดวงตาหลับลงช้าๆ




รู้สึกดีจัง...








ฟงอวิ๋นจะเข้าสอบต่อมอปลายในฤดูร้อนหน้า ส่วนน้ำแกงก็กำลังจะเริ่มเทอมสองแล้ว วันเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าโดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อาจมีสาวใช้หรือพี่ๆ ของฟงอวิ๋นที่ 'บังเอิญ' ผ่านมาเมื่อเด็กทั้งสองอยู่สองต่อสองบ่อยๆ หรือสัมผัสระหว่างทั้งสองที่มากขึ้นเรื่อยๆ


ไร้เดียงสาแต่ชวนจั๊กจี้หัวใจ


ฟงอวิ๋นจิ๊ปากทุกครั้งที่พอจะจับแฟนหนุบหนับ ก็มีสาวใช้ยกน้ำมาเสิร์ฟทั้งๆ ที่ในแก้วก็ยังไม่พร่อง พอจะจูบ พี่ชายก็ปล่อยหลานๆ เข้ามาเล่นในห้องหน้าตาเฉย


น้ำแกงจึงยังอยู่รอดปลอดภัยทุกประการ สัมผัสระหว่างฟงอวิ๋นและเขานั้นยังอยู่ในระดับ 'แม่ปลื้ม' และปลอดภัย ฟงอวิ๋นไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่าจับแก้ม กุมมือ ลูบหัว ริมฝีปากอิ่มสวยถูกนิ้วแตะบ้างเป็นบางครั้ง แต่ก็ยังไม่ถูกจูบเสียที


แรงหนุ่มจึงผลักดันแสนงุ่นง่าน น้ำแกงก็หน้าแดงจัด ไม่เอ่ยปากอะไร


ยอมรับว่าหวั่นไว... คาดหวัง...

แต่จะให้พูดออกมาได้ยังไงกัน! น้ำแกงอายจนจะมุดดินหนีอยู่แล้ว!










วันหนึ่งหลังเลิกเรียน ฟงอวิ๋นไปส่งน้ำแกงที่บ้านเหมือนเคย ระหว่างที่นั่งอยู่เบาะหลัง แม้จะไม่มีผู้ใหญ่นั่งมาด้วยแล้ว แต่คนขับรถประจำบ้านก็ยังทำหน้าที่อย่างเคร่งครัด เมื่อใดที่ตี๋น้อยจะลวนลามคนสวย คุณลุงจะกระแอมทีหนึ่ง เป็นนัยว่าเห็นนะ...


ฟงอวิ๋นจะกล้าได้ยังไง ถ้าเกิดครูนาถลดาไม่พอใจเขาขึ้นมาแล้วสั่งให้น้ำแกงเลิกคบ น้ำแกงเด็กดีก็คงไม่กล้าค้าน เส้นทางฟงอวิ๋นก็ยิ่งมืดบอดแน่ๆ


คิดอย่างปวดหัว ได้แต่นั่งคุยกันเบาๆ กุมมือเรียว


น้ำแกงชวนคุยเรื่องแมวที่บ้านอย่างออกรส ฟงอวิ๋นได้แต่ใช้สายตาโลมเลียตั้งแต่ตาโตโฉบเฉี่ยว จมูกโด่ง ริมฝีปากนุ่มนิ่ม ใบหน้าเรียวสีน้ำผึ้ง แต่ไม่วาย...

"อะแฮ่ม"


หนอย....! แค่มองก็ยังไม่ได้!


หมาบ้าหน้าบูด น้ำแกงจึงหยุดพูด กระพริบตาปริบๆ "ฟงเบื่อเหรอ ?"


"เปล่า... แกงพูดถึงแมวสีส้มที่หลงมาใช่ไหม ?"


"ก็ฟังอยู่นี่นา ทำไมทำหน้าบูดๆ"


จะบอกได้ยังไงว่าอัดอั้นเหลือเกิน อยากกระโจนเข้าใส่แล้วจูบหน้าเล็กๆ จับเอวบางๆ มานั่งตัก ซุกไซ้เรือนผมสีดำขลับ ดมกลิ่นหอมหวานของเด็กน้อย

"ไม่มีอะไร... แกงเล่าต่อสิ"


"แกงอยากให้ชื่อว่าการ์ฟิลด์ เพราะมันอ้วนเหมือนตัวการ์ฟิลด์น่ะ แต่แม่บอกว่าอาจจะเป็นแมวหลงเลยไม่ให้เลี้ยง พรุ่งนี้แม่จะเอาไปถามแถวบ้านเผื่อมันหลุดมา... ทำหน้าแบบนั้นทำไม ?"


สีหน้าที่มองน้ำแกง... ลุงคนขับกระแอมอีกทีจนน่าให้จอดรถซื้อยาแก้ไอชวนป๋วยปีแป่ก่อเสียจริง


น้ำแกงยังเด็ก ตอนนี้ยังไม่เข้าใจสีหน้าของผู้ชายที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายได้ จึงโน้มตัวเข้ามาใกล้ ยกมือขึ้นอังหน้าผาก ด้วยเข้าใจว่าฟงอวิ๋นคงไม่สบาย


เหมือนหางไม่รักดีของไอ้หมาตัวโตสะบัดแรง แรงหนุ่มก็ร้อนรุ่มส่วนล่าง ยิ่งได้กลิ่นหอมจางๆ ของสบู่อาบน้ำเด็ก มือนุ่มๆ และใบหน้าที่ขยับเข้ามาจนใกล้ ส่วนกลางร่างกายก็เริ่มจะแข็ง


เพราะกลัวน้ำแกงจะตกใจ เด็กหนุ่มจึงได้แต่หยิบกระเป๋าขึ้นมาปิดบนตักอย่างเนียนๆ


"อะแฮ่ม!" ลุงกระแอมเป็นรอบที่สิบ


"ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา เป็นอะไรไป ? ฟงไม่ชอบแมวเหรอ ?" เพราะฟงอวิ๋นตัวสูงใหญ่ และเมื่อน้ำแกงเข้ามาใกล้ เสื้อยืดคอกว้างจึงต่ำลง... แลเห็นแผ่นอกบางๆ และลูกไม้เม็ดเล็กๆ วับแวม


"แฮ่มๆๆๆๆ" ทีนี้ไอรัวเลย ฟงอวิ๋นหน้ามืด เกือบจับจูบ จับจูบ ลูบๆ คลำๆ แล้ว น้ำแกงที่แสนดีหันกลับไปหาลุง ยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงเหมือนเดิมแล้ว


ถึงจะเสียดาย แต่ก็แอบโล่งใจ...


"คุณลุงไม่สบายเหรอครับ ?"


"ครับ เป็นหวัดนิดหน่อย" คุณลุงหน้ามึนตอบหน้าตาเฉย ฟงอวิ๋นได้แต่กัดฟันกร้วมๆ


"ระวังด้วยนะครับ ทำไมช่วงนี้มีแต่คนไม่สบายกัน ฟงกลับไปก็กินยาด้วยนะ" ท่าทางสั่งสอนเหมือนอายุมากกว่าทั้งน่าขันและน่ารัก เด็กหนุ่มค่อยยิ้มได้ รีบเปลี่ยนเรื่องคุยก่อนที่น้ำแกงจะเข้าใจผิดจริงๆ ว่าบ้านเขาเป็นแหล่งรวมโรคหวัด


"แกง จะไปรับเกรดเมื่อไหร่เหรอ ?"


"อ๋อ วันเสาร์หน้าน่ะ ต้องไปซื้อหนังสือด้วย แต่คุณแม่ต้องไปเยี่ยมลูกศิษย์ที่บำบัด ส่วนคุณพ่อต้องไปต่างจังหวัดน่ะ"


"อ้าว แล้วแกงจะไปยังไง ?"


เด็กน้อยทำท่าคิด "คุยๆ กับแม่อยู่ว่าคงต้องไปเอง แต่หนังสือก็หนัก ขากลับคงต้องพึ่งแท๊กซี่"


เป็นโอกาสอันดี หูหมาตั้ง หางสะบัด ฟงอวิ๋นรีบคว้าไว้ทันที "ให้ฟงไปส่งไหม ?"


"แต่... แกงเกรงใจ" น้ำแกงพูดเสียงค่อย


"ให้ฟงไปเถอะ จะได้ช่วยน้ำแกงถือหนังสือ" เหตุผลสามารถงัดออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว "เถอะน่า..."


"จะดีเหรอ รบกวนขนาดนั้น"


"ไม่เป็นไรหรอก ฟงจะได้ไปดูโรงเรียนที่จะเข้าด้วยไง" เหตุผลทำให้น้ำแกงเขว


"ก็จริง... เดี๋ยวแกงถามแม่ก่อน ถ้าแม่อนุญาต ฟงก็ลองถามม๊าดูนะ" คำตอบทำให้ฟงอวิ๋นยิ้มกว้าง ยิ่งน้ำแกงเรียกคุณนายจูว่าม๊าเหมือนเขาแล้วยิ่งชอบใจ


ก็เหมือนน้ำแกงเป็นสะใภ้ตระกูลเอ็งเลยนี่นา









คล้ายคุณนาถลดาจะปลงตก หรือเมาน้ำลายลูกศิษย์ก็ไม่ทราบ หลังจากนายฟงอวิ๋นยกมือไหว้ปะหลกๆ เหมือนไหว้นักมวยแล้ว ก็เริ่มขออนุญาตพาแฟนไปรับเกรด


รู้สึกเหมือนมีอะไรผิดชอบกล แต่ตอนนั้นคุณแม่ก็บอกไม่ถูกว่าผิดตรงไหน


ไอ้หมาตัวยักษ์ยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้าง จนคุณครูต้องยกมือห้าม "พอก่อนยุทธจักร"


"ครับ ครู"


"ฉันน่ะอนุญาตให้น้ำแกงไปกับเธอได้ แต่เธอห้ามขับรถเองและต้องไปขออนุญาตแม่ด้วย"


เกือบหลุดปากไปแล้วต้องมีใบอนุญาต 'พาน้ำแกงออกนอกสถานที่' ด้วยไหม แต่ฟงอวิ๋นยั้งปากไว้ทัน ขืนกวนส้นเท้าคุณนายอาจจบไม่สวย "ครับ"


"แล้วต้องพาน้ำแกงกลับมาก่อนหกโมง"


"ครับ"


"ห้ามไปที่ลับตาคน ห้ามไปที่ไกลๆ ห้ามพาน้ำแกงไปหาเพื่อน จะไปไหนต้องคอยบอกผู้ใหญ่ตลอด เข้าใจไหม ?"


ลูกศิษย์ดีใจจนเนื้อเต้น "ครับ!"


"แล้วก็ ว่ายังไงก็ให้แม่เราโทรมาบอกด้วย"


"ครับ ครับ!"


"ครับครั้งเดียวพอ" ตาหลังเลนส์หรี่ลงอย่างหมั่นไส้ หางพุ่มๆ สีทองสะบัดจนแทบหลุดออกจากก้นเชียวไอ้หมาเอ๊ย...


"ครับ! เดี๋ยวผมไปบอกแม่เลย ขออนุญาตครูพาน้ำแกงไปกินข้าวเย็นด้วยได้ไหมครับ ?"


"ก็ได้... ฉันน่าจะกลับค่ำ ไม่อยากให้น้ำแกงหิ้วท้องรอเหมือนกัน แต่ตอนจะกลับให้โทรหาฉัน เข้าใจไหม ?" ท่าทางคุณแม่ยายอ่อนลงมาก


"ครับ ครับ ครับ!"


น้ำแกงกระพริบตาปริบๆ คุณแม่ก็อนุญาต ฟงอวิ๋นก็พล่าม ไม่มีใครสนใจเจ้าทุกข์อย่างเขาเลย


"เอ้า กลับไปได้แล้ว ค่ำแล้วเกรงใจคุณลุงเค้า" คุณนายไล่ทางอ้อม หมั่นไส้เจ้าว่าที่ลูกเขยเหลือเกิน "เจ้าแกงก็ขึ้นบ้านได้แล้ว ไหว้ลาคุณลุง พี่เค้าหรือยัง ?"


ลูกชายว่านอนสอนง่าย ยกมือไหว้คุณลุงคนขับรถ "ขอบคุณครับ" แล้วยกมือไหว้แฟนหนุ่ม "สวัสดีครับ"


ฟงอวิ๋นเป็นปลื้ม คงไม่คิดหรอกว่าหลังจากนั้นแล้ว... อย่าว่าแต่จะยกมือไหว้ น้ำแกงแทบจะกินหัวเขาแล้ว แต่นั่นก็เกิดขึ้นในอนาคต ตอนนี้ปล่อยให้เด็กหนุ่มฝันหวานถึงแฟนคนงามที่แสนเรียบร้อยดังผ้าพับไว้ หัวอ่อนแสนซื่อไปก่อน


เด็กหนุ่มกลับบ้านด้วยความอิ่มเอม...









วันเสาร์ถัดมา ฟงอวิ๋นก็หน้าบานยิ่งกว่าจานดาวเทียมมารับ หน้าแบนๆ ที่ยิ่งบานอยู่แล้วก็ยิ่งบานสะพรั่ง คุณนายหน้าหงิกดูไอ้ตูบส่ายหางพั่บๆ จับมือจับไม้น้ำแกงของนางขึ้นรถ


เด็กหนุ่มมายกมือไหว้แผล็บๆ ให้ผู้ปกครองทั้งสองแล้วตีหน้ามึนกินข้าวเช้าด้วยกัน ทั้งๆ ที่คำถามว่า "กินข้าวไหม ?" ของคุณไกรสรนั้นเป็นคำถามตามมารยาทเท่านั้น แต่คิดไม่ถึงว่าแขกหน้าจีนจะคดข้าวใส่จาน ร่วมโต๊ะหน้าตาเฉย


ผู้ใหญ่อย่างคุณไกรสรจึงต้องลุกขึ้นไปตักไข่พะโล้ในหม้อมาเพิ่มให้ คุณนายก็ต้องเปิดตู้กับข้าวหยิบปลาทอดเพิ่มให้อีกตัว เพราะดูแล้ว แค่กับข้าวพื้นๆ ไม่กี่อย่างของสามคนพ่อแม่ลูกคงจะไม่พอแน่ๆ


กินจนอิ่มหมีพีมัน แขกก็เร่งน้ำแกงเย้วๆ ไปโรงเรียน ไม่รู้เพราะตื่นเต้นที่จะได้เห็นโรงเรียนใหม่หรืออยากพ้นสายตาผู้ใหญ่กันแน่


น้ำแกงรับคำด้วยรอยยิ้มสวย แล้วปล่อยให้แฟนหนุ่มจับมือจับไม้ออกจากบ้าน ยังดีที่น้ำแกงยังมีมารยาท ยกมือไหว้ให้คุณพ่อคุณแม่ก่อนไป


คุณครูสวมแว่นตา คว้ากระเป๋า มองลูกชายกับแฟนอย่างกรุ่นๆ


น้ำแกงมีความสุขแม่ก็ดีใจ คงเพราะไม่ค่อยได้ออกไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เท่าไหร่ พอมีคนชวนก็ตื่นเต้น


แต่ไปกับแฟนหนุ่มแบบนี้ แม่ไม่ค่อยจะปลื้มเท่าไหร่เลย!










ช่วงสายๆ ลุงคนขับรถที่ได้เงินทำขวัญไปรักษา 'คอ' ก็พาเด็กทั้งสองมาถึงโรงเรียน ค่อนข้างไกลจากบ้านน้ำแกงพอสมควร ฟงอวิ๋นจึงถาม

"ทำไมเข้าโรงเรียนไกลจัง ไม่เรียนที่โรงเรียนครูสอนล่ะ ?"


น้ำแกงหันมาตอบยิ้มๆ หลังจากยกมือไหว้ขอบคุณคุณลุงแล้ว "ก็แม่บอกว่า ถ้าเรียนที่เดียวกับที่แม่ทำงาน แกงอาจจะเหลิงได้น่ะสิ... เพราะเป็นลูกครู"


"สมกับเป็นครู" ฟงอวิ๋นพึมพำ ขนาดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ยังไม่ยอมให้ลูกชายเลย


โรงเรียนของน้ำแกงเป็นโรงเรียนสหศึกษาขนาดกลาง มีเกณฑ์การสอบติดมหาวิทยาลัยกลางๆ การแข่งขันเข้าโรงเรียนก็อยู่ระดับกลางๆ ไม่สูงไม่ต่ำ ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดไม่มีใครรู้จัก บรรยากาศไม่หรูหราเท่าโรงเรียนเก่าฟงอวิ๋น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่สะดวกสบาย มีตึกสูงใหญ่ โรงอาหารสองแห่ง ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ สระน้ำเลี้ยงปลา สนามกีฬาสามสี่แห่ง ลู่วิ่ง โรงยิมขนาดใหญ่ ที่ขาดก็คงมีแต่สระว่ายน้ำ อีกทั้งยังมีสวนและต้นไม้รายล้อม ร่มรื่นจนน่าแปลกว่าอยู่ในเมือง


ทั้งคู่มาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย น้ำแกงจึงพาฟงอวิ๋นเดินดูรอบๆ โรงเรียน วันนี้เป็นวันรับเกรด ซื้อหนังสือและพบปะเล็กๆ น้อยๆ ของผู้ปกครอง เด็กจึงค่อนข้างบางตา ฟงอวิ๋นรู้สึกแปลกอยู่บ้างที่เห็นเด็กผู้หญิงผูกเปียเดินเต็มโรงเรียน


เด็กหนุ่มชะเง้อคอดูกระโปรงสีกรมจีบรอบตัวจนลับสายตา ทำให้แฟนคนสวยกางเกงสีกากีหน้ามุ่ย

"ชอบเหรอ ?" เสียงหวานถามเบาๆ


"เอ๊ะ ?" หันกลับมาแทบไม่ทัน "อะไรนะ ?"


"ชอบเหรอ ? เดี๋ยวเปิดเทอมก็จะมีเด็กผู้หญิงน่ารักๆ เอวบางๆ เต็มไปหมด ฟงคงชอบสินะ"


"หา ?" ก็แค่มองเพราะรู้สึกแปลก นี่เด็กน้อยคิดไปไกลถึงไหนแล้ว "แกงเป็นไร ?"


น้ำแกงเมินคำถาม ยกนาฬิกาขึ้นดู "ใกล้ได้เวลาแล้ว ฟงนั่งรอแถวนี้นะ... 'สาวๆ' ผ่านมาเยอะ"


"เดี๋ยว ฟงไปด้วย ขืนปล่อยแกงไปคนเดียว ครูเล่นงานฟงตายเลย" เด็กหนุ่มคว้าข้อมือแทบไม่ทัน น้ำแกงหันขวับกลับมา จ้องคนตัวสูงตาเขียวปั๊ด


"ปล่อย" เสียงเย็นๆ หน้าเฉยๆ ทั้งสง่างามและเย็นชา อาการ'คุณชาย' ของน้ำแกงโผล่มาอีกแล้ว


"ไม่ปล่อย ไปด้วยกันนี่แหละ"


"ปล่อย!"


"น้ำแกง อย่าดื้อ! เป็นอะไรอีก ทำไมต้องหาเรื่องทะเลาะกันด้วย ?"


ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น ตาเหลือบมองปลายคางแฟน "ก็ได้... ไปก็ไป จะทำอะไรก็ทำ จะเลิกกันเมื่อไหร่ก็บอกด้วยก็แล้วกัน"


"หา!" ฟงอวิ๋นร้องเสียงสูงแทบแต๋วแตก อะไรกัน เพิ่งเป็นแฟนกันได้ไม่กี่อาทิตย์ จะโดนบอกเลิกแล้วเรอะ! แก้มยังไม่ได้หอม ปากยังไม่ได้จูบ ยังไม่ได้สบตากันซึ้งๆ เลย!

"โกรธอะไรกัน น้ำแกง"


เด็กชายในชุดนักเรียนไม่ตอบ แต่เดินดุ่มๆ ขึ้นตึก ปล่อยให้คนตัวโตไล่ตาม



ขายาวๆ เพรียวๆ ดูไม่น่าจะแข็งแรง แต่ทำไมเดินฉับๆ ไวขนาดนี้เนี่ย!










น้ำแกงไม่มีสมาธิฟังครูเลย หลังจากทักทายพอเป็นพิธีแล้ว คุณครูก็แจกสมุดพกและหนังสือเรียนสำหรับภาคเรียนที่ 2 ให้ผู้ปกครอง


ฟงอวิ๋นมองรอบตัว ห้องเรียนของน้ำแกงอยู่ชั้น 6 ไม่มีลิฟต์ กว่าจะขึ้นมาถึงก็หอบแฮ่ก แต่น้ำแกงวิ่งขึ้นมารวดเดียวไม่มีพัก ไม่มีอาการหอบให้เห็น ทั้งๆ ที่ดูเหมือนไม่ค่อยออกกำลังแท้ๆ แต่ทำไมแข็งแรงขนาดนี้


คนสวยยังเมินเขา ท่าทางเหมือนงอน แต่ไม่ใช่งอน สำหรับน้ำแกงต้องเรียกว่าโกรธมากกว่า ถ้างอนคนสวยก็น่าจะค้อนขวับๆ เป็นสาวน้อยให้ ไม่ใช่มองตาเขียวแล้วเมิน สวมหน้ากากเย็นยะเยือก


แต่น้ำแกงกลับทักทายผู้ปกครองและเพื่อนร่วมชั้นด้วยรอยยิ้มละมุน ต่างกับที่ปฏิบัติกับแฟนหนุ่มราวฟ้ากับเหว ท่าทางน้ำแกงคงเป็นขวัญใจเพื่อนๆ มีแต่คนเข้ามาทักไม่ได้ขาด


มีเด็กบางคนที่มาเอง ไม่ได้พาผู้ปกครองมา น้ำแกงก็เข้าไปช่วยหยิบหนังสือ หาสมุดพกให้อย่างมีน้ำใจ พร้อมส่งรอยยิ้มสวยหวาน หรือช่วยพาผู้ปกครองไปลงชื่อกับคุณครู ช่วยคุณครูแจกเอกสาร ทุกอย่างไหลลื่น ไม่ได้ดูประจบประแจง ราวกับว่าเป็นสิ่งที่น้ำแกงทำอยู่ประจำอยู่แล้ว


ฟงอวิ๋นถึงโดนทำเย็นชาใส่ แต่ก็ตกหลุมรักคนตัวเพรียวที่เดินแจกเอกสารอีกครั้ง


น้ำแกงเป็นเด็กดีจริงๆ ด้วย ทั้งยิ้มหวาน ทั้งมีน้ำใจ มีมารยาท ไม่ว่าผู้ปกครองหรือเพื่อนๆ ก็รัก





ต่างกับเขาเหลือเกิน...








หลังจากเด็กคนสุดท้ายรับเกรดออกไปแล้ว น้ำแกงก็รวบรวมของใส่ถุงเอกสารให้คุณครูและ ช่วยเสนอตัวไปส่งที่ห้องเอกสาร แต่ครูสาวกลับปฏิเสธ

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวครูถือไปเอง แกงถือหนังสือเยอะแล้ว รีบกลับไปเถอะ"


"ไม่เป็นไรครับคุณครู"


"น้ำแกงเด็กดี" คุณครูประจำชั้นยิ้มแต้ ภาคภูมิใจลูกศิษย์ตัวน้อยมาก "รีบกลับบ้านนะ พี่ชายแกงรอแล้วไม่ใช่เหรอ ?"


ถึงหน้าจะไปกันคนละพื้นทวีป น้ำแกงหน้าตาคมคายเหมือนพวกเนทีฟ อเมริกันผสมกับชาวคอเคเชีน แต่กลับมีกลิ่นอายเอเชียแปซิฟิก หากจะเรียกว่าโพคาฮอนทัสก็คงได้ ทั้งผิว ทั้งรูปหน้าสวยหมดจดทั้งเนื้อทั้งตัว ส่วนฟงอวิ๋นนั้นจีนจ๋าร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่คุณครูก็นึกความสัมพันธ์ของเด็กผู้ชายตัวโตกับลูกศิษย์เป็นอย่างอื่นไม่ออก


"ไม่ใช่พี่ชายหรอกครับ" น้ำแกงตอบด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ฟงอวิ๋นที่หิ้วหนังสือเดินตามเต็มสองแขนยืดตัวขึ้นอย่างลำพอง


ถึงน้ำแกงจะโกรธ แต่ยังไงเขาก็เป็นแฟนเชียวนะ!


น้ำแกงปรายตามองคนข้างหลังแล้วตอบเต็มปากเต็มคำ "คนใช้น่ะครับ" ปิดท้ายด้วยยกมือไหว้คุณครู


ปล่อยให้คนเบ่งกล้ามถือหนังสือข้างหลังห่อไหล่เป็นลูกโป่งฟีบๆ






น้ำแกงยักยิ้ม สมน้ำหน้า!










"แกง... มื้อเที่ยงกินอะไร ?" ฟงอวิ๋นถามหวาดๆ นึกกลัวสายตาเยือกแข็งเจ้าพ่อประคุณเสียจริง


"กลับบ้าน" คำตอบชัด 'คนใช้' ไม่กล้าขัดทันที แต่เปิดประตูรถให้คนมีน้ำโหก่อน แล้วค่อยขึ้นตาม


"แกง โกรธอะไร ?"


"ไม่ได้โกรธ" มือยื่นออกมารับหนังสือหนักอึ้ง ฟงอวิ๋นส่งให้แต่โดยดี


"โกรธสิ"


"ไม่ได้โกรธ"


"น้ำแกง!" เด็กหนุ่มดุ จับไหล่บางให้หันมามองกันตรงๆ "น้ำแกง อย่าทำตัวแบบนี้ โกรธอะไรให้บอก ไม่อย่างนั้นฟงก็ไม่รู้ เข้าใจไหม ?"


ดวงตาทรงอัลมอนด์ล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนากระพริบปริบๆ แล้วทำปากยื่น "ไม่บอก"


"งั้นแสดงว่าโกรธจริง อย่าดื้อสิแกง ฟังเฮียนะครับ"


น้ำแกงฟังแล้วหน้าง้ำ น้ำแข็งค่อยๆ ละลาย อุบอิบตอบเสียงค่อย "ก็ฟงชอบผู้หญิงนี่..."


"...?" หน้าคนฟังยังดูโง่ๆ เหมือนเดิม เด็กชายจึงพูดเสียงดังขึ้น


"ก็ ก็... ชอบผู้หญิงไม่ใช่เหรอ ก็เลิกกับแกงไปสิ!" ฟังแล้วชวนสับสน แต่แล้วฟงอวิ๋นก็ระลึกชาติได้ เขาร้องดังอ๋อแล้วหัวเราะลั่น


"โธ่เอ๊ย แค่ฟงมองไม่ได้แปลว่าชอบสักหน่อย"


"ก็เห็นจ้องเอาๆ..."


"เปล่าเลย ฟงชอบผู้หญิง เดี๋ยว อย่าเพิ่งทำหน้าแบบนั้น" รีบคว้าเอวบางมากอด ไม่สนใจคุณลุงที่กระแอมจนลูกกระเดือกจะหลุดไปติดกระจกหน้าแล้ว


"ฟงชอบผู้หญิง แต่ชอบแกงมากกว่า.... ที่มองเพราะฟงเคยอยู่โรงเรียนชายล้วน พอเห็นผู้หญิงอยู่ในโรงเรียนก็เลยรู้สึกแปลกๆ... เท่านั้นเอง"


น้ำแกงหน้าร้อนฉ่า เหมือนเขางี่เง่าไปเองเลย... "งั้น... งั้น..."


"ไม่ได้ชอบใครนอกจากแกงทั้งนั้น" คำพูดยืนยันหนักแน่น ตาจ้องคนฟัง น้ำแกงยังเด็ก ไม่รู้หรอกว่าสายตาคู่นั้นแปลว่าอะไร




รู้แต่... ชอบและเขิน... ที่สุด



มือใหญ่ค่อยๆ ละออกจากเอวบาง กลัวว่าคุณลุงจะกระแอมจนแสบคอไปเสียก่อน เขาร้องสั่งให้ขับไปยังห้างใกล้ๆ เพื่อกินอาหารเที่ยง มือยื่นออกไปคว้ามือน้อยกุมแนบแน่น


น้ำแกงก็ไม่รู้ด้วยว่า หัวใจที่เต้นแรงขนาดนี้ เป็นเพราะอะไร...


...แต่มันเป็นอะไรไปได้ล่ะ นอกจาก....




...ชอบฟง...


...ชอบมากๆ...







หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 6 28/6/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 18-07-2016 21:09:37
ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงมาที่ห้างใกล้ๆ เพื่อกินข้าวกลางวัน น้ำแกงดูตื่นเต้นมากที่ได้กินอาหารญี่ปุ่นจานร้อน


"ปกติแกงไม่ได้มากินเหรอ ?" ร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วนราคาไม่แพงนัก เหมาะกับเด็กๆ มอปลาย ฟงอวิ๋นเองก็มากินประจำ แต่คนที่นั่งตรงข้ามส่ายหน้า


"แม่บอกว่าไม่มีประโยชน์ เลยไม่ให้กิน" ช่่างสมเป็นคุณครูจริงๆ มิน่าล่ะ อาหารบ้านน้ำแกงถึงได้จืดชืดไร้สีสันขนาดนั้น


ไข่พะโล้ ปลาทอดแห้งๆ น้ำพริก แกงจืด ผักลวก ผัดผัก เหมือนจะเป็นอาหารสามัญประจำบ้าน ทุกอย่างสด สะอาด ทำเอง เต็มไปด้วยคุณค่าโภชนาการ แต่พอกินบ่อยๆ เข้าก็น่าเบื่อไม่น้อย น้ำแกงบอกว่านานๆ ครั้งจะได้กินอาหารจานด่วนพวกก๋วยเตี๋ยวหรืออาหารตามสั่ง


คนตาคมดูเมนูสีสันสดใสอย่างสนใจ ตาหวานเป็นประกายน่ารัก พวกสาวๆ ที่ฟงอวิ๋นเคยพามา มีแต่ทำหน้าบูดที่ 'เสี่ย' อย่างเขาพามาเลี้ยงอาหาร 'ถูกๆ'


"แกงไม่เคยกินแมคเลยนะ แม่บอกว่าอาหารขยะ กินไปมีแต่อ้วน แกงอยากกินสักครั้งจัง"


แมคเนี่ยนะ... ฟงอวิ๋นสำลัก จะพาคนสวยขนาดนี้ ท่าทางสง่างามเป็นผู้ดีไปนั่งกินแฮมเบอร์เกอร์กับเฟรนช์ฟรายดูจะไม่เข้ากันเกินไป ถ้าพาไปจริง ก็เหมือนฟงอวิ๋นจะดูถูกความงามของแฟนคนสวยเกินไปแล้ว


"แต่เคเอฟซีเคยทานนะ ท่านยายเคยสั่งให้ทานกับเป๊ปซี่ตอนปีใหม่ แกงดีใจมากเลยล่ะ แต่กลับมาก็โดนดุ ต้องคัดลายมือว่า ต่อไปนี้ผมจะไม่กินอาหารขยะ ตั้งห้าร้อยครั้งแน่ะ"


ฟงอวิ๋นฟังแล้วฉงน นี่น้ำแกงโตมาแบบไหนกัน บ้านน้ำแกงไม่ได้ร่ำรวย แต่ทั้งพ่อและแม่ต่างก็เป็นข้าราชการระดับสูง มีบ้านมีที่ดินอยู่ใกล้เมือง ฐานะค่อนข้างดี ไหนจะชาติสกุลที่เรียกยายว่า 'ท่านยาย' ใช้คำว่า 'ทาน' แทน 'กิน' ก็พอเดาได้ว่าคงอยู่ในตระกูลผู้ดี แต่ทำไมแค่อาหารพื้นๆ ทั่วไปกลับไม่เคยกิน


คุณไกรสรและคุณครูคงจะเข้มงวดเกินไปแล้ว


ในที่สุดน้ำแกงก็เลือกจานเนื้อวัวกระทะร้อน ฟงอวิ๋นเลือกหมูและของกินเล่นสองสามอย่างที่น้ำแกงไม่เคยกินให้


น้ำแกงคล้ายเด็กน้อยที่เพิ่งลืมตาดูโลก เขาสั่งน้ำอัดลมอย่างกระตือรือร้น ดวงตามีความรู้สึกผิดจางๆ

"แม่จะดุไหม..."


"ไม่หรอก เดี๋ยวฟงช่วยเก็บเป็นความลับ"


"แต่แกงไม่เคยโกหกแม่..."


ฟงอวิ๋นยิ้มขำ น่ารักน่าชังเหลือเกิน "งั้นก็ฟงจะบอกครูว่าฟงบังคับแกงกิน ดีไหม ?"


"แต่... จะดีเหรอ ?" คิ้วเรียวสวยขมวดน้อยๆ คนตัวโตถึงเพิ่งสังเกตเห็น คิ้วของน้ำแกงไม่ได้รับการตกแต่งเลย คิ้วได้รูปดกดำเข้ม โค้งเฉียงตวัดปลายเหมือนลายเส้นพู่กันจีน เข้ากับดวงตาโต ทรงเรียวเหมือนอัลมอนด์ ปลายแคบ คมคายและหวานฉ่ำด้วยขนตาดกหนา ดูยั่วยวนรับกับทรงหน้าเพรียวสีน้ำผึ้งปนแดง จมูกโด่งแคบได้รูป ริมฝีปากอิ่ม สวยหมดจดไปทั้งหน้า เหมือนฟงอวิ๋นมีแฟนเป็นสาวลูกครึ่งละติน-เนทีฟ อเมริกันสุดเซ็กซี่มากกว่าเด็กผู้ชายอายุสิบสี่


น้ำแกงประสานมือไว้บนโต๊ะ หลังตรง ทรวดทรงโค้งสวยเหมือนประติมากรรมอยู่ภายใต้ชุดนักเรียนเรียบง่าย เรือนผมสีดำมันขลับยาวกว่าเด็กชายวัยเดียวกันระแก้มใสสีน้ำผึ้งเต่งตึง ไม่น่าเชื่อว่าคนสวยระดับนางฟ้าวิคตอเรีย ซีเคร็ตจะมาเป็นแฟนกับไอ้ตี๋หน้าจืด แถมเคยติดยามาก่อนอย่างเขาได้


"แกง วันนี้แกงอยากทำอะไร... ฟงจะพาแกงไปทำทุกอย่างเลย อะไรที่แกงไม่เคยทำแล้วกลัวแม่ดุ ฟงจะไม่ห้าม ดีไหม ?" ชั่วอึดใจนั้น คำสัญญาเรียบง่ายดังขึ้นในหัวไอ้ตี๋


อยากทำให้น้ำแกงมีความสุข... ไม่ต้องอยู่ในกรอบน่าอึดอัด


อยากให้มีความสุขมากๆ อยากให้ดวงตานั้นเป็นประกาย อยากให้ริมฝีปากอวบอิ่มมีรอยยิ้มจนแก้มบุ๋ม อยากให้น้ำแกงมีชีวิตชีวา ออกปากเอาแต่ใจ ไม่ว่าจะโกรธหรือแง่งอนก็น่ารักทั้งนั้น ไม่ใช่ตุ๊กตาแสนสวยที่อ่อนหวาน อ่อนโยน มีมารยาทเหมือนที่บิดามารดากำหนด


น้ำแกงฟังแล้วตาวาว "จริงนะ!?"


ฟงอวิ๋นหัวเราะ "ฟงไม่เคยโกหกน้ำแกงอยู่แล้ว"









อาหารญี่ปุ่นกระทะร้อนอร่อย น้ำแกงกินเนื้อจนหมด ดูดน้ำจนเกลี้ยง กวาดของกินเล่นจนไม่เหลือ ตัวบางๆ ผอมๆ นิดเดียวแต่ไม่รู้เอาไปเก็บที่ไหนหมด


"อยากกินไอติม" น้ำแกงเร่งยิกๆ อยู่หน้าเคาเตอร์ แฟนหนุ่มยังจ่ายไม่ทันเสร็จ คนตัวเล็กก็จ้องบูธไอศกรีมตาเป็นมันแล้ว


"ครับ ครับ" ยื่นบัตรเครดิตให้รูดดังขวับๆ น้ำแกงหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาจะจ่ายให้ แต่ฟงอวิ๋นส่ายหน้า


"ไม่ต้องหรอก วันนี้มาเดทกัน ฟงเลี้ยงเอง"


เดท... คำนี้เคยห่างไกลกับน้ำแกง เคยได้ว่าเป็นการที่คนสองคนไปกินข้าวด้วยกัน เดินเที่ยวด้วยกัน แต่เมื่อก่อน สำหรับน้ำแกงนั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คิดว่าคงไม่มีทางได้ใช้คำนี้

แต่ตอนนี้มาเดทล่ะ...

ได้กินของอร่อยที่แม่ไม่เคยให้กิน ได้ดื่มน้ำอัดลมที่แม่ห้าม แล้วต่อไปอะไรอีกนะ ?



ฟงอวิ๋นซื้อไอศกรีมชอกโกแลตยื่นให้


ใช่! ไอศกรีมที่แม่บอกว่าไม่มีประโยชน์ แต่มันทั้งหวาน ทั้งหอมอร่อย ท่านยายเคยบอกน้ำแกงว่า แม่เลี้ยงน้ำแกงเคร่งครัดเกินไป ท่านจึงคอยแอบเอาของอร่อยๆ ให้น้ำแกงกินอยู่บ่อยๆ


ปกติแล้วน้ำแกงจะไปที่บ้านใหญ่ของท่านยายทุกวันหยุดยาว ดังนั้น ทุกครั้งที่ไป จึงเหมือนเป็นวันพิเศษ เพราะท่านยายให้เล่นแท็ปเลตของท่าน ให้กินของแปลกๆ ได้เล่นเกมคอมพิวเตอร์


มาเดทกับฟงอวิ๋นแบบนี้ น้ำแกงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนพิเศษในวันพิเศษเลย


พอบอกรุ่นพี่ที่ยืนดูโปรแกรมหนังใกล้ตัวแบบนั้น ฟงอวิ๋นก็หัวเราะ



น้ำแกงพูดอะไรตลกไปนะ ?



"มีแต่แกงรู้ไหม ที่ดีใจกับของง่ายๆ แบบนี้"


"แล้วมันไม่ดีเหรอ ?"


"ดีมากๆ ต่างหาก" มือใหญ่จับมือน้อย หัวใจเจ้ากรรมเต้นระรัว


เหมือนฟงอวิ๋นตกหลุมรักอีกครั้งแล้วสิ


"แล้วต่อไปจะทำอะไร ? ดูหนังเหรอ ?"


"อืม แกงอยากดูเรื่องอะไร ?"


เด็กชายตัวเพรียวแลบลิ้นเล็กๆ เลียไอศกรีม ลิ้นสีชมพูน้อยๆ ไม่ได้ตั้งใจให้คนดูชวนคิดลึก แต่ฟงอวิ๋นก็รีบเบือนหน้าหนี

"ดูหนังแฟนตาซีไหม ?"


"ไม่เอาอ่ะ..." หนังเด็กน้อย... เพราะกลัวฟงอวิ๋นจะว่าแบบนั้นจึงส่ายหน้า


"หนังรัก..." ชี้ที่หนังไทยอีกเรื่อง น้ำแกงรีบส่ายหน้า ก็ผู้ชายสองคนมาดูหนังหวานแหววมันแปลกจะตาย


"แกงอยากดูหนังผี" นี่คุณแม่ก็ห้าม เพราะกลัวว่าน้ำแกงจะเก็บเอาไปฝันร้าย แต่น้ำแกงชอบหนังผีที่สุด


"เอางั้นก็ได้ มีรอบบ่ายพอดี แกงไม่กลัวแน่นะ ?"


คนสวยส่ายหน้า "ไม่กลัว"


"ถ้ากลัวก็บอกฟง เราออกก่อนหนังจบก็ได้" คำพูดเอาใจใส่ น้ำแกงดีใจมาก กระตุกชายเสื้อคนตัวสูง


"ครับ ?"


"ฟงมาใกล้ๆ หน่อย" เพราะตัวเล็กกว่าแฟนหนุ่ม น้ำแกงจึงต้องเขย่งเท้า


"มีอะไร ?"


น้ำแกงแอบยิ้มมุมปาก กระซิบกระซาบข้างหู "มีอีกอย่างที่แม่ห้าม แต่แกงอยากทำน่ะ..."


"?"


รอยยิ้มหวานคลี่บนใบหน้า "แกงอยาก...."








ฟงอวิ๋นกุมขมับ นั่งบนม้านั่งยาวกับแฟนคนสวย


ระหว่างที่รอหนังเข้าฉาย ยังเหลือเวลาอีกเล็กน้อย ฟงอวิ๋นแวะซื้อโค้กแก้วโตและป๊อปคอร์นให้ น้ำแกงถือแก้วน้ำอัดลมอย่างกระตือรือร้น แก้วพลาสติกแข็งสกรีนลายหนังดังที่เพิ่งเข้าฉายนั้นใหญ่จนคนตัวบางต้องโอบไว้ทั้งสองมือ ดูแล้วก็อดคิดลึกอีกทีไม่ได้


ถ้าเป็นของฟง... น้ำแกงก็ต้องโอบไว้สองมือแบบนี้เหมือนกัน ลิ้นเล็กๆ นั่นคงได้แต่เลีย เพราะเข้าปากไปไม่หมด


แต่แล้วน้ำแกงดับฝันเขาอย่างโหดร้าย เมื่อรับเอาไส้กรอกหน้าโรงมากัดขาดเป็นสองส่วน ฟงอวิ๋นสะดุ้งตื่นจากฝันกลางวัน อยากแอบคลำหว่างขาดูว่ายังสมประกอบอยู่ไหม


แล้วทั้งคู่ก็พากันมานั่งรอที่ม้านั่งนุ่มๆ บริเวณหน้าโรง


วันนี้เป็นวันธรรมดา คนจึงไม่มาก มีเด็กนักเรียนโรงเรียนเดียวกับน้ำแกงอยู่บ้าง


น้ำแกงกระซิบกระซาบกับแฟนอย่างตื่นเต้น "ฟง คนนั้นน่ารักนะ" มือชี้ไปยังสาวน้อยกางเกงขาสั้น  ผมดัดลอนสวย ใส่เสื้อกล้ามรัดหน้าอกโตๆ จนแทบปลิ้น

"คนนั้นล่ะ ? ฟงไม่ชอบแบบนั้นเหรอ ?" พี่สาวมหาลัยอกอึ๋มในกระโปรงสั้นจู๋

"แกงชอบแบบนั้น" สาวสวยอกโตในชุดเดรสสีชมพู

"...." ฟงอวิ๋นเงียบงัน พูดไม่ออกบอกไม่ถูก



...นี่คือสิ่งที่น้ำแกงขอ คือสิ่งที่ครูนาถลดาห้าม


และทำให้ฟงอวิ๋นปวดหัว...





น้ำแกงอยากเหล่สาว!








น้ำแกงชี้ชวนดูสาวสวยที่เดินผ่านไปมาได้เกือบห้านาทีแล้วลดมือลง ทำหน้ามุ่ย "ฟง ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ ?"


"..."


"เบื่อเหรอ ? อยู่กับแกงแล้วเบื่อหรือเปล่า ?"


"..."


"...เบื่อใช่ไหม เรากลับกันก็ได้นะ เดี๋ยวแกงจ่ายค่าหนังคืนให้ ค่าป๊อปคอร์นด้วย" ทำท่าจะหยิบกระเป๋าเงินขึ้นมาจริงๆ มือใหญ่จึงต้องยื้อไว้


"ไม่ใช่ เพียงแต่..."


"แต่ ?" กระพริบตาปริบๆ สวยหวานยิ่งกว่าสาวๆ ที่น้ำแกงว่าน่ารักเสียอีก


เข้าใจแล้วว่าทำไมคุณครูถึงห้ามน้ำแกงทำแบบนั้น เพราะเป็นการลบหลู่ความงามของน้ำแกงแน่ๆ และผู้หญิงคงไม่ชอบใจนักที่มีคนสวยกว่ามาชมว่าน่ารัก


"เพียงแต่ไม่มีใครทำแบบนี้ตอนมาเดทหรอกนะ..." รุ่นพี่สอนช้าๆ ถอนหายใจยาว "ถ้าฟงทำแบบแกง แกงจะรู้สึกยังไง ?"


"ถ้าฟงชวน แกงก็ไม่โกรธ" ตอบตรงๆ เอียงคอมองโดยไม่ได้ตั้งใจ ดวงตาช้อนขึ้นสบคนตัวสูงกว่าคล้ายกับเชิญชวน คล้ายแมวน้อยช่างอ้อน ยั่วเย้า


ฟงอวิ๋นเลียริมฝีปาก กลั้นอารมณ์เบื้องล่างไม่ให้ฉุดคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำแล้วฉีกเสื้อผ้าออกแล้วชื่นชมร่างกายสีน้ำผึ้งนวลเต่งตึงด้วยมือและริมฝีปาก


"แต่ฟงโกรธ แกงเป็นแฟนฟง ฟงไม่ชอบให้แกงมองคนอื่น เข้าใจไหม ?" สั่งสอนเสียงนุ่ม เหมือนพี่ชายสอนน้องน้อย น้ำแกงฟังเงียบๆ แล้วตอบช้าๆ เชยตาขึ้นออดอ้อน เหมือนเด็กหนุ่มเห็นหางเพรียวสะบัดตวัดน้อยๆ กลางอากาศ ทำให้ต้องรีบขยี้ตา


อ้อ... คงเป็นตาคมหวานคู่นั้นที่คล้ายแมวน้อยแน่ๆ


"งะ งั้นเหรอ... แกงขอโทษครับ" มือยกขึ้นไหว้แนบอกแกร่ง อารมณ์ฟงอวิ๋นพุ่งจากหว่างขาทะยานขึ้นติดเพดาน


อ๊ากก น่ารัก! น่ารัก! น่ารัก!


อยากเก็บแมวน้อยใส่กระเป๋า เอาไว้กอด ไว้หอม ไว้รักแค่คนเดียว ขังไว้ในห้องนอนหรูหรา ให้สวมเสื้อผ้าสวยๆ บางเบา ประดับผิวสีนวลด้วยอัญมณีเม็ดโต ที่ข้อเท้ากลมกลึงไร้ที่ติจะต้องคล้องกำไลติดกระดิ่งทองคำ สลักลวดลายซับซ้อน เวลาที่แมวตัวสวยขยับตัว กระดิ่งจะได้ดังกรุ๊งกริ๊งล้อกับสายลม...



อ๊าา สัญชาติญาณ 'เสี่ย' ช่างรุนแรงจนแทบคว้าเอวคนตรงหน้าแล้วลักพาตัวกลับบ้าน


น้ำแกงเองก็เหมือนเห็นภาพหลอนเป็นหางโตๆ สะบัดพรึ่บพรั่บอีกแล้ว ใบหน้าสวยเอียงน้อยๆ ได้ยินเสียงฟงอวิ๋นระบายลมหายใจพรืด

"แกง รู้ตัวไหมว่าน่ารัก ?"


เด็กชายที่เกือบถูกข่มขืนทำตาโต ส่ายหน้า มีรอยยิ้มแสนซนบนริมฝีปาก


"เฮ้อ น่ารักจริงๆ นะ" ไม่รู้ว่าฟงอวิ๋นรู้สึกอย่างไรกันแน่ ดูหน้าตาทั้งมีความสุขและทุกข์ไปพร้อมกัน


"น่ารักจริงๆ" คนตัวโตจูงมือพาน้ำแกงเข้าโรงหนังแล้ว ยังคงพึมพำ ทอดถอนใจ










ก็แค่แกล้งเล่นเฉยๆ

น้ำแกงหัวเราะให้ตัวเองระหว่างดูเงาหน้ากระจกสะท้อนกลับมาในห้องน้ำโรงหนัง หลังหนังจบ

หน้าตาสะสวยคมคายในกระจกยิ้มตาม ตัวเล็กๆ แบนๆ ผิวก็สีเข้มกว่าชาวบ้านเค้า น้ำแกงไม่พอใจร่างกายตัวเองเลย

เพราะวันนี้ฟงอวิ๋นใจดีมาก ใจดีกว่าคุณแม่เสียอีก ปฏิบัติกับน้ำแกงเหมือนเป็นเด็กผู้หญิง ถึงไม่ชอบแต่ก็ดีใจ ได้ทำอะไรที่คุณแม่ห้ามตั้งหลายอย่าง ทว่าพอมองร่างกายสูงใหญ่และมาเทียบกับตัวเองแล้ว น้ำแกงรู้สึกอิจฉาเหลือเกิน


อยากตัวโตๆ แบบนี้บ้าง จะได้เป็นที่พึ่งพาของคุณพ่อคุณแม่


เลยหลุดปากไปว่าอยาก 'เหล่สาว' ทั้งที่จริงๆ แล้วไม่ค่อยชอบเท่าไหร่หรอก น้ำแกงคิดว่าเป็นการไม่ให้เกียรติผู้หญิงเลย แต่ที่พูดออกไปเพราะอยาก 'แมน' เหมือนฟงอวิ๋นบ้าง


แต่ปฏิกิริยาฟงอวิ๋นช่างตลก ทำเอาน้ำแกงอารมณ์ดี


ยิ่งเข้าโรงหนัง ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นห่วงว่าน้ำแกงจะกลัวผีในหนังแท้ๆ แต่ร่างสูงใหญ่กลับแอบหลับตาเมื่อฉากที่มีผีโผล่มา


น้ำแกงไม่กลัวผีตุ้งแช่ ไม่กลัวแมลงสาบ ไม่กลัวหนอน ไม่กลัวความสูง ไม่กลัวแมลง ไม่กลัวความมืด แทบไม่กลัวอะไร มีเพียงไม่กี่สิ่งที่น้ำแกงกลัวจริงๆ บนโลก


และฟงอวิ๋นก็ไม่จำเป็นต้องรู้ตอนนี้หรอก


น้ำแกงยิ้มปลอบใจคนตัวโตใจมด แต่ก็แกล้งดูไปจนกระทั่งหนังจบ ไม่ยอมลุกหนี








"แกง เสร็จหรือยัง ?" ฟงอวิ๋นเดินมาซ้อนหลัง ตาละห้อย ท่าทางเสียขวัญจากหนัง หางพุ่มโตๆ ตกลู่ น้ำแกงหัวเราะเบาๆ


"ไปสิ จะไปไหนต่อดี ?"


"ฟงจะไปดูกางเกงหน่อย แกงเอาอะไรไหม ?"


น้ำแกงส่ายหน้า พอมือใหญ่ยื่นมาจะจับมือราวกับคุ้นเคยดี เด็กชายก็สะบัดมือหนี ทำตาดุ เสียงดุ "เข้าห้องน้ำแล้วล้างมือหรือยัง ?"


ฟงอวิ๋นย่นคอ "ล้างแล้วครับ ใส่สบู่ด้วย ร้องเพลงแฮปปี้ เบิร์ธเดย์จนจบเลย"


น้ำแกงเป็นผู้ชายรักสะอาด หากทำตัวซกมกเหมือนปกติล่ะก็ อย่าว่าแต่มือไม่ได้จับ หน้าคนสวยก็ไม่มอง


น้ำแกงถึงพยักหน้าให้ ยื่นมือออกไปกุม ยิ้มสวยบาดตา "ไปกันเถอะ"










ฟงอวิ๋นเป็นผู้ชายชอบชอปปิ้ง เขาแวะไปยังร้านเสื้อผ้าวัยรุ่นแบรนด์พี่ย้งยี้ ทักทายพนักงานอย่างสนิทสนมแล้วพาน้ำแกงเข้าอีกร้าน ออกอีกร้านจนน้ำแกงตาลาย


แต่ฟงอวิ๋นได้กางเกงยีนส์ที่หน้าตาเหมือนๆ กันกลับมาเกือบทุกร้าน


"ร้านนี้ทรงเดฟสวย แกงขาเล็กๆ แบบนี้ลองใส่ดู" เด็กชายรับกางเกงที่ขายาวไปมากแล้วตาเหลือก


ไอ้เลขศูนย์ที่ตามหลังมานั่นมันอะไรกัน!


ตอนแรกคิดว่าฟงอวิ๋นใส่เสื้อผ้าวัยรุ่นทั่วไป เพราะเขาแต่งตัวเรียบๆ ไม่ได้เวอร์อลังการอะไร แต่พอดูราคาที่ป้ายแล้วก็ต้องสะดุ้ง


ขายาวๆ เต็มไปด้วยมัดกล้ามคู่นั้นใส่กางเกงยีนส์ฟอกราคาหมื่นกว่าทั้งนั้น!


"ไปลองดูก่อน สีนี้สวย" รุนหลังแฟนตัวเล็กที่ยืนแข็งค้างไปด้านหลังร้านเพื่อลองกางเกง


น้ำแกงดูกางเกงยีนส์ในมืออย่างพิจารณา เขาไม่เคยใส่กางเกงยีนส์รัดติ้วแบบนี้มาก่อน แต่พอดูตัวเองในกระจกก็รู้สึกเข้าทีเหมือนกัน น้ำแกงขายาวเพรียวสวยอยู่แล้ว จึงเน้นความบางนั้น ดูสูงขึ้นเยอะ ก้นก็กลม แต่น้ำแกงไม่ทันสังเกต


"ไหน ดูหน่อย" ฟงอวิ๋นรูดม่านเข้ามา มองดูเอวบางกับกางเกงสกินนี่ ก้นน้ำแกงกลมเด้งน่าจับสุดๆ


"มันรัดๆ ไหม ?" น้ำแกงหันหลังให้ เหลียวกลับมาดู เด็กหนุ่มต้องรีบเบือนสายตาไปมองขอบกระจก


ยุบหนอ... พองหนอ... เด้งหนอ...


"ไม่รัดหรอก พอดีตัวแล้ว"


"เดี๋ยวแม่บอกว่าเป็นกางเกงขาจิ้งเหลน" ทำปากอูด ท่าทางคล้ายแมวเหมียวตัวน้อยยั่วเจ้านาย ฟงอวิ๋นเกือบร้องดังครับ แล้วอุ้มคนเอวบางก้นแน่นไปทำมิดีมิร้าย


"ไม่หรอก..."


"แต่ยังไงก็เถอะ แพงขนาดนี้แกงซื้อไม่ไหวหรอก" น้ำแกงถอนหายใจ ดูขาเรียวของตัวเองในกระจก


ดีจัง เหมือนสูงขึ้นเลย...


เสียดายที่ถึงจะขี้แกล้ง แต่ก็ยังเด็กเกิน จึงไม่ทันเห็นสายตาหื่นกระหายที่เอาแต่จ้องบั้นท้าย...










น้ำแกงไม่ได้ซื้อกางเกงยีนส์กลับมาด้วย แต่ฟงอวิ๋นรูดบัตรซื้อเสื้อเชิร์ตให้ตัวหนึ่ง ก่อนที่คนสวยจะพลิกป้ายราคา ป้ายกระดาษที่ติดอยู่ก็ถูกตัดฉับ น้ำแกงรับมางงๆ ไม่มีโอกาสได้ถาม แล้วทั้งคู่ก็ตัดสินใจไปหาข้าวเย็นกิน


"แกงอยากลองกินแมค" หางเรียวสวยคล้ายสะบัดอ้อนเจ้านาย ฟงอวิ๋นตาโต มองไล่ตั้งแต่เรียวขาสีน้ำผึ้งเนียนใต้กางเกงสีกากีจนไปถึงท่อนแขนนุ่ม


"ปะ ไปสิ..."


"ฟงหน้าแดงๆ นะ ?"


"ไม่มีอะไร" ฟงอวิ๋นส่ายหน้า คว้ามือน้อยมากุม ส่งสายตาเอาเรื่องให้บรรดาชายหนุ่มที่เหลียวมามอง


ถ้าน้ำแกงใส่กางเกงสกินนีคงน่าดูกว่านี้ ขาเรียวกับก้นกลม หน้าตาสวยคม ถ้าบอกว่าเป็นนางแบบก็คงไม่มีใครค้าน แต่นั่นก็คงทำให้หนุ่มๆ หันกลับมามองยิ่งกว่านี้ แค่ตอนนี้เริ่มเลิกงาน คนชักเยอะ หนุ่มๆ สาวๆ ก็พากันจ้องขาสวยๆ กับเอวบางแล้ว เด็กหนุ่มไม่เคยรู้สึกหวงอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย


ดังนั้น พอเดินผ่านร้านฟาสต์ฟู๊ดก็รีบจับแฟนยัดเข้าไปในร้านทันที


คนตัวเล็กถูกฉุดมานั่งริมกระจก เงยหน้าดูเมนูต่างๆ ที่บูธ แล้วสั่งชุดอาหารแถมของเล่น แม้มีหน้าตาและร่างกายยั่วยวนจนคนต้องเหลียวมอง แต่น้ำแกงก็ยังเป็นเด็ก ดวงตาสวยคมเป็นประกายเมื่อฟงอวิ๋นยกถาดมาให้


"การ์ฟิลด์!" มือสวยหยิบของเล่นในถุงพลาสติกเป็นอย่างแรก "ขอบคุณนะฟง แกงชอบการ์ฟิลด์มาก อ๊ะ จำเจ้าการ์ฟิลด์ที่เล่าให้ฟังได้ไหม ?"


การ์ฟิลด์ที่ว่าคงเป็นแมวหลงตัวอ้วนตุ้บสีส้มที่น้ำแกงเคยบอก


"จำได้ แกงจะเลี้ยงจริงๆ เหรอ ?"


"อื้ม" มือสวยชี้กล่องกระดาษห่อไก่และแฮมเบอร์เกอร์ ฟงอวิ๋นแกะให้อย่างเป็นธรรมชาติ "แม่ให้แกงเลี้ยงแล้ว แกงสงสัยว่ามันท้องล่ะ... อ้วนขนาดนั้น"


มือฟงอวิ๋นชะงักกึก มองคนสวยกับของเล่น "แกง... มันเป็นตัวผู้"


"แม่ก็บอกแบบนั้น.... แต่แกงว่าเป็นตัวเมีย"


ตัวเมียอะไร... ไข่ใหญ่ขนาดนั้น! เจ้าแมวอ้วนสีส้มคำรามเหมียวๆ แยกเขี้ยวใส่เขาตอนที่ไปรับน้ำแกง ท่าทางหวงน้ำแกงยิ่งกว่าเจ้าเก้าแต้ม


ยังไม่พอ ด่าเขาไม่หยุดด้วยเสียงต่ำๆ ว่า 'ง่าว ง่าววว ไอ้หมาจั๊ดง่าววว'


ฟงอวิ๋นส่ายหน้า น้ำแกงไม่สนใจ ปากสั่ง "ฟง เทซอสให้ด้วยสิ เอาซอสมะเขือนะ พูนๆ เลย"


ร่างสูงทำตามนายท่านสั่งอย่างว่าง่ายแล้วค่อยกินของตัวเองบ้าง น้ำแกงแกะขนมปังออกจากแฮมเบอร์เกอร์ หยิบกินแต่ใส้เหมือนเด็ก


ส่วนไก่ทอดก็ลอกหนังกรอบๆ ออก กินแต่เนื้อขาวๆ ด้านใน ยิ่งดูดน้ำหวานเสียงดังยิ่งเหมือนเด็กน้อย


ฟงอวิ๋นยื่นมือออกไปเช็ดซอสข้างแก้มให้ ดูขัดกันไม่น้อยเมื่อใบหน้างดงามนั้นเลอะซอสสีแดง ร่างกายที่ยังเยาว์นั่งหลังเหยียดตรงสง่างามในร้านอาหารจั๊งค์ฟู๊ด


แต่ก็น่ารัก... ทั้งน่ารักทั้งเซ็กซี่ ดูซุกซนแต่ไร้เดียงสา


น้ำแกงหลุบตาลง ยิ้มเขิน ดูราวกับเป็นคนละคนที่ออดอ้อนขอซื้อชุดของเล่น


น้ำแกง... น้ำแกงของฟง


น้ำแกงถ้วยนี้... ฟงจะไม่มีวันแบ่งใคร...!
[/b]








คุณนาถลดากลับมาตอนหกโมงกว่า นางกังวลใจจนโทรหาฟงอวิ๋นทั้งวัน เมื่อเห็นลูกชายลงจากรถ (ที่มีแฟนหนุ่มเปิดประตูให้) จึงค่อยโล่งใจ

"น้ำแกง"


ลูกชายคนงามยิ้มหวาน ยกมือไหว้คุณแม่ "สวัสดีครับ คุณแม่"


ฟงอวิ๋นยกมือไหว้ตาม "สวัสดีครับ คุณแม่" ทวนคำเป๊ะๆ แต่ได้รับตาเขียวขุ่นขลั่กลอดเลนส์แว่นตอบแทน


"ยัง! ชักจะลามปามนะยุทธภพ!"


ฟงอวิ๋นทำคอย่น หันกลับไปหาแฟนคนสวย "งั้นฟงกลับก่อนนะครับ คนดี" ทิ้งท้ายด้วยชื่อเรียกแสนหวาน คุณนาถลดาคำรามฮึ่มๆ


"อะไรนะ ?"


"อ๊ะ เอ่อ คุณแม่ วันนี้แกงสนุกมากเลยล่ะ ดึกแล้ว ฟงรีบกลับเถอะ" น้ำแกงรีบขวาง พููดเร็วปรื๋อ ส่วนฟงอวิ๋นเกือบยักคิ้วใส่คุณครูแล้ว ติดแค่กลัวว่าอาจจะได้รับฝ่ามือพิฆาตแทนจึงยกมือไหว้คุณครูอีกครั้งอย่างเรียบร้อย


"งั้นผมลาละนะครับครู"


"ไปเถอะพ่อ" พูดไม่พอ โบกมือไล่ด้วย มืออีกข้างรีบโอบลูกชายอย่างกลัวว่าจะมีชิ้นส่วนไหนโดนหมาคาบไปแทะ


"บาย แกง ไว้ไปเที่ยวกันอีกนะ"


น้ำแกงโบกมือให้ "อื้ม วันนี้ขอบคุณมากนะ" ลูกชายมารยาทงามยกมือไหว้แฟนหนุ่มด้วย จะปราดเข้าไปบอกว่าไม่ต้องไหว้ก็กระไร คุณนาถลดาได้แต่กลอกตา


แล้วฟงอวิ๋นก็ช่วยน้ำแกงลากรั้วมาปิดบ้าน บรรดาหมาๆ แมวๆ ร้องเสียงขรมไม่หยุด


เด็กหนุ่มได้แต่ชะเง้อชะแง้มองคนสวยที่เดินขึ้นบ้านกับมารดาหลังรั้วเหล็ก หัวใจยังเต้นตึกตัก


เขาได้ยินเสียงพูดคุยเบาๆ ว่า "โดนหมา... โดนนายยุทธจักรทำอะไรหรือเปล่า ?"

"มัน... นายคนนั้นจับตรงไหนแกงบ้าง ?"

"หืม ? มันทำอะไรนะ!?"

แล้วเสียงค่อยดังขึ้นเรื่อยๆ "อะไรนะ! ถึงกับกล้าจับเอวลูกเลยเหรอ!?"







ฟงอวิ๋นฟังแล้วชักไม่ค่อยดี รีบมุดตัวขึ้นรถเผ่นกลับบ้านทันใด




.........


// น้ำแกงน่ารักโนะ ส๊าว สาว สาวจนเรากลุ้มใจ ลูกชายชักจะสาวขึ้นทุกวันๆ เดี๋ยวหลังมีผัวก็แมนเองค่ะ  o13

ช่วงนี้พยายามมาไวขึ้นแล้วนะ  :katai4: อย่าเพิ่งเลิกอ่าน เลิกรักน้ำแกงเลยนะคะ น้ำแกงยังสาวได้อีก (!?) ความเป็นราชินีก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกวันๆ 555

รักนะยูวว์ ทิ้งคอมเมนต์ไว้เยอะๆ น้า ชอบอ่านมากค่ะ อาจไม่มีเวลามาตอบเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังอ่านทุกคอมเมนต์นะคะ นี่แอบกลับไปอ่านคอมเมนต์เสือต่ายด้วย ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ

ส่วนหนังสือเสือต่ายยังมีนะคะ หาซื้อได้ที่เวบเฮอร์มิตเลยค่า <3

ไปแล้วนะคะ ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าน้า CU

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ  :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 18-07-2016 21:40:44
ขำ น้ำแกงพาซื่อ แม่ถามอะไรตอบหมด ฟงจะตายมั้ย เนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Janny ที่ 18-07-2016 21:52:43
โอ๊ยยยยยยยยยยยยย น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก คือจุดนี้เราเข้าใจฟงมากค่ะเอาจริงๆ หรือมันเป็นการมองผ่านมุมของฟงกันคะน้ำแกงถึงได้น่าขย้ำขนาดนี้ ฮือออออ เรารักน้ำแกงตามฟงแล้วค่ะเนี่ย แต่ฟงต้องสู้นะคะ อดทนไว้ค่ะ อย่าขย้ำน้อง น้องยังเด็กนะคะ อดเปรี้ยวไว้กินหวานนะคะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 18-07-2016 22:03:33
อยากเห็นแกงร้ายๆ อย่ายอมฟงง่ายๆนะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 18-07-2016 22:05:33
สงสารฟงจะทำอะไรก็มีคนคอยขัดตลอดขนาดคุณลุงคนขับรถยังไอซะถี่เชียว

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 18-07-2016 22:38:15
โอ้ยยยยน้ำแกงน่ารักมากเลยค่ะ  :-[ :-[ :-[ :-[
ถึงจะรอนาน แต่อัพที ชุ่มชื่นหัวใจมาก
ยังมีแฟนๆรอติดตามเรื่องราวอยู่นะคะ ไม่ทิ้งหายไปแน่นอน

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 18-07-2016 22:57:13
เหตุไฉนหนอ น้ำแกงถึงเปลี่ยนไป ฮ่าาาาา  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 19-07-2016 06:28:44
อีกไม่นานก็จะกำเนิดผัวทาสเมียราชินีแล้ว อยากให้ถึงตอนน้ำแกงจิกหัวใช้ฟงเร็วๆจัง 55555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Thanking ที่ 19-07-2016 07:55:11
"ยุบหนอ...พองหนอ...เด้งหนอ..."
ชาวเราคนอ่านทางนี้ก็ "ฟินหนอ......ลุ้นหนอ......ขำหนอ......."

อาหารที่บ้านน้ำแกงทำให้นึกถึงเพลงเก่าเมื่อราว 40 ปีก่อน ก่อนเราเกิดอีก ที่ร้องว่า "กินข้าวกับน้ำพริกหรือจ๊ะ ถึงได้สะได้สวย" นี่สินะเคล็ดลับความงามทั้งผิวพรรณทรวดทรงองค์เอวของน้ำแกง มาจากอาหารคลีนของคุณแม่นี่เอง

ท่านยายใจดีและ young at heart ฟงจะได้มีโอกาสไปเจอท่านยายม้้ยนะ

ขอให้กำลังใจคุณนาถที่ต้องต่อสู้กับความห่วงหวงดวงใจของแม่ให้รอดพ้นปากเหยี่ยวปากกา...ปากหมาหางฟูสีทองๆ ถึงแม้ลึกๆ แล้วเราเองก็แอบชอบใจเวลาเจ้าหมามันได้ใกล้ชิดเจ้าหญิงของมัน อิอิอิ

รักเรื่องนี้นะ ยังรักและยังรอ และจะรออ่านต่อไปจนจบ ไม่ทิ้งกันไปไหนหรอกจ้ะ :กอด1:   
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 19-07-2016 09:59:34


ไม่ว่ายังไงเราก็จะรออ่านความเป็นทาสเมียของฟงต่อไป
ใครใช้ให้พ่อมีแฟนเป็นถึงเคะราชินีตัวแม่อย่างน้ำแกงล่ะจ๊ะ...

แต่ป้าเชื่อว่าตอนที่พ่อได้ซดน้ำแกงจริง ๆ พ่อจะรู้สึกยิ่งกว่าถูกหวยแจ็กพ็อต
ระหว่างนี้ก็ท่องเอาไว้ก่อนว่า การลงทุนมีความเสียว โปรดศึกษาดูใจสักพักแล้วค่อยหาโอกาสเหนี่ยวลงเตียงแล้วกด วะฮ่า ฮ่า

รอติดตามค่ะ ^^  :L2:


หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-07-2016 13:02:33
ชอบบบบ มีจริตบ้าง ไม่น่ารำคาญเลย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: ZYSQ_ ที่ 20-07-2016 00:20:09

เห็นจากในบรรดาเม้นแล้วเดาได้ว่าเฮียฟงน้องแกงคงไปโผล่ในอีกเรื่องนึงตอนโตแล้ว
เลยวางแพลนว่าจะตามอ่านเรื่องนี้ไปจนจบแล้วค่อยไปอ่านเรื่องนั้นต่อ

ทั้งคู่น่ารักใสๆมากเลยค่ะ อาจเพราะว่าเป็นเด็กอ่าเนอะ
อ่านแล้วอมยิ้มตลอด น้ำแกงนี่เป็นที่ชื่นชอบของครอบครัวแฟนเพราะเป็นเด็กดี
เฮียฟงเอง ถึงจะเคยริเสพยาเที่ยวผู้หญิง แต่จริงๆก็ยังเป็นเด็กน้อยซื่อๆคนนึงเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: misaki takahashi ที่ 20-07-2016 01:42:24
5555+ ตลกฟง ส่วนนํ้าแกงน่ารักอ่ะ  :man1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-07-2016 15:24:59
ขำการหวีดของฟง55555555
น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัก น่ารัด เอ๊ะ!?!
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: inspyme.glamour ที่ 24-07-2016 00:57:20
จะดีกับใจอะไรเบอร์นี้หนอ
เราชอบคู่นี้มากมากมากมากมากมากกกกกกกตั้งแต่อ่านพี่เสือต่ายน้อยแล้วล่ะค่ะ อยากรู้ว่าก่อนจะมาเป็นพ่อบ้านใจกล้า พี่หมาฟงต้องเจอะเจออะไรบ้าง เหมือนได้ทำความรู้จักตัวละครมากขึ้น เวลาอ่านก็ยิ่งอิน ยิ่งเห็นโลกของฟงกับแกงชัดขึ้นๆในทุกตอน
เป็นกำลังใจให้คนเขียนเงียบๆตรงนี้นะคะ เวลาว่างๆเราก็แว้บมาอ่านเรื่องนี้ อบอุ่นใจทุกที วนอ่านตอนละหลายๆรอบเลย มาต่อไม่ต้องบ่อยก็ได้แค่อย่าหายไปนานมากก็พอค่ะ คิดถึงหมาฟงกับน้ำแกง
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ : )
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 24-07-2016 10:43:23
อยากให้ค่อย ๆ โต ค่อย ๆ จีบกันแบบนี้ไปนาน ๆ
อยากเห็นแกงเติบโตไปเป็นคู่ชีวิต อยากเห็นฟงเติบโตเป็นผู้นำครอบครัว

....ก่อนที่ฟงจะกลายเป็นทาสอย่างถาวร ฮ่าฮ่าฮ่า
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 26-07-2016 18:52:45
ตามทันเเล้ว เพื่อนเเนะนำเเกมไล่ให้มาอ่าน
ทีเเรกบอกพระเอกชื่อ ฟงหวิ๋น ถามกลับมา หนังจีนหราว่ะ
พอได้มาอ่าน เอ่ออ ชอบก็ได้ว่ะ เห็นเค้าคนทาสเมียลอยมาไกลๆ ชมคนเเต่ง เเต่งได้ละมุนดี นิยายโลกสวย อ่านเเล้วเพลินจิตใจ ไม่ต้องอะไรมาก ชีวิตคนเราก็แบบนี้ ค่อยๆดำเนิน เเละเรียนรู้กันต่อไป
 :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-07-2016 21:15:56
น่าสงสารฟง  :hao7:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 30-07-2016 10:09:44
 :katai1: น้ำเเกง กลับมาได้เเล้ว คิดถึงงงงงงง

บอกเเม็กซ์ กับ ข้าว ให้ไปฮานีมูนกันก่อนไป๊ เพื่อ ข้าวคนอวดผัว *เสียงสูง* 555555555

 :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:  :katai5:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-08-2016 20:42:16
8.

น้ำแกงใกล้จะเปิดเทอมแล้ว แต่หลังจากที่ไปเดทกับฟงอวิ๋น คุณนาถลดาก็ไม่อนุญาตให้ลูกชายออกไปไหนสองต่อสองกับลูกศิษย์อีก เดือดร้อนคุณนายจูต้องมาเยี่ยมเยียนเป็นการบอกกลายๆ ว่าฟงอวิ๋นและน้ำแกงยังอยู่ในสายตาและการควบคุมของผู้ใหญ่


แต่กระนั้น คุณนาถลดาก็ไม่ไว้ใจไอ้หมาตัวโตจนยอมปล่อยทั้งสองไปด้วยกันอีก เมื่อบอกไป คุณนายก็หันกลับมาดูลูกชายที่ทำหน้าหงอยๆ บอกมารดาเสียงอ่อยๆ ว่า


'แต่แกงก็สนุก... ที่ได้อยู่กับฟง...'


นางจึงถอนหายใจ ยอมผ่อนปรน


ความสัมพันธ์ของไอ้หมากับแมวน้อยอยู่ในระดับแม่ปลื้มก็จริง แต่สำหรับฟงอวิ๋นเล่า


หมาตัวโตยิ้มค้าง

...แล้วเมื่อไหร่จะได้หอมแก้ม จะได้กอดให้เต็มแขน จะได้จูบริมฝีปากนุ่มๆ กัน


นายฟงครวญครางอยู่บนเตียงคนเดียว จนพี่สาวและพี่ชายที่นั่งคุยกันด้านล่างตกใจ ร้องถาม

"เป็นอะไรโซ้ยตี๋!?"


คำถามห่วงใย เสียงฝีเท้าดังตุบๆ ตับๆ ดังตามทางเดินมา ฟงอวิ๋นครางฮือๆ กับหมอน จะบอกพี่ๆ ได้ยังไงว่าอยากจุ๊บ อยากกอดคนงามน่ะ!


"อาฟงเอ๊ย!" ไม่เรียกเปล่า พี่ย้งยี้ยังใช้เท้าเตะประตูเรียกน้องชาย กลัวว่าน้องคนเล็กจะคิดสั้น


"ไม่ต้องเข้ามา!" ตะโกนตอบกลับไป แต่พี่ๆ ที่แสนห่วงใยกลับไม่นำพา


"อาฟง เปิดสิ มีอะไรบอกเฮียเร็ว!"


"เฮียจั่นใจเย็นๆ" มีเพียงพี่คนรองที่มีสติครบถ้วน "ย้งด้วย เลิกเตะประตูเถอะ ประตูถลอกหมดแล้ว"


"กี้ ถ้าไอ้ตี๋เป็นอะไรไปล่ะ!" พี่คนโตร้อนรน แต่เฮียบ่อกี้กลับอมยิ้ม ทำหน้ามึนตอบ


"เฮีย ย้ง พวกลื้อก็รู้แล้วว่าอาฟงอีมีแฟน... แล้วแฟนก็แม่ดุ ไม่ได้หอม ไม่ได้กอด ไม่ได้มาง่ายๆ เหมือนผู้หญิงคนก่อนๆ นะ แล้วอาฟงจะไม่อึดอัดเหรอ"


เป็นย้งยี้ที่เข้าใจเป็นคนแรก ชักเท้ากลับมา "เออ..."


จั่นเจาเข้าใจถัดในเวลาถัดมา จะว่าไปเสียงครางน้องคนเล็กมันก็เหมือนกำลัง... จริงๆ นั่นแหละ


ฟงอวิ๋นที่นอนอยู่ด้านในได้ยินข้างนอกเงียบไปก็โล่งใจ นึกว่าพี่ๆ ไปกันหมดแล้ว แต่แล้วเสียงพี่สาวก็ดังลอดประตูไม้หนาหนักเข้ามา


"ฟง เจ๊ขอโทษ ฟงค่อยๆ ชักว่าวไปนะ อย่าให้เจ็บตัว"


ฟงอวิ๋นร้องหนักกว่าเดิม เอามือกุมหัว


โอ๊ยย ฟงอยากตาย!


แกงจ๋า แกงอยู่ไหน มาให้ฟงซุกหน้ากับอกแบนๆ หน่อย!!










คุณนายนาถลดามองดูปฏิทิน อีกไม่กี่วันลูกชายนางจะเปิดเทอมแล้ว ช่วงนี้คล้ายปล่อยผี น้ำแกงไป'เดท'แทบทุกวัน ครั้นนางจะห้ามหรือ ก็กลัวจะยิ่งยุ น้ำแกงน่ะเห็นเงียบๆ แต่แท้จริงแล้วดื้อไม่แพ้ใคร


ลองได้ปักใจกับอะไรสักอย่างแล้ว จะไม่มีวันเปลี่ยน จะว่าอคติไปเลยก็ได้ แต่มันช่างผิดกับวัยที่สมควรจะสดใส ร่าเริงกว่านี้


นางถอนหายใจ


ตอนนี้น้ำแกงมีรอยยิ้ม เด็กติดยาคนนั้นทำให้เด็กน้อยของนางที่ใจแข็ง มีเพียงรอยยิ้มเยือกเย็นคนนั้นยิ้มได้จากใจ คนเป็นแม่ควรต้องการอะไรมากกว่านี้อีก ?


แต่เรื่องน่าปวดหัวยังรออยู่ในอนาคต


ตอนนี้ความสัมพันธ์ทั้งสองยังอยู่ในช่วงเติบโตเป็นลูกเจี๊ยบ ไร้เดียงสา บริสุทธิ์ โลกมีแต่ความสวยงาม แต่ทั้งคู่ยังต้องโตขึ้น พบเจอคนมากขึ้น แล้วไหนยังฮอร์โมนปั่นป่วนของเด็กชายทั้งสองอีกเล่า ?


ทั้งสองจะคงความบริสุทธิ์ ปั๊บปี้เลิฟแบบนี้ได้นานแค่ไหนกัน ?


นางลังเล...


หรือควรสอนเรื่องเพศให้น้ำแกงมากกว่านี้ ?


แล้วจะสอนอย่างไร ? ควรสอนอะไร ? เพศสัมพันธ์ระหว่างหญิงชายหรือเพศเดียวกัน ?


ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว คุณครูเอนหลังพิงพนัก ท่าทางเหนื่อยล้า

ช่างเถิด ตอนนี้ควรกังวลกับปัญหาตรงหน้ามากกว่า...


ดวงตาภายใต้เลนส์แว่นเหลือบแลไปยังโทรศัพท์บ้าน


...ถ้าน้ำแกงรู้ต้องหน้างอแน่ๆ









ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักของลูกชายที่หน้าบ้าน น้ำแกงคงกลับมาแล้วหลังจากไปเที่ยวกับฟงอวิ๋นมาทั้งวัน


คุณนาถลดายอมรับว่าที่ผ่านมานางเลี้ยงน้ำแกงอย่างเข้มงวด แต่นั่นก็เป็นเพราะรัก ถึงแม้จะตีลูก แต่ก็ไม่เคยใช้ไม้เรียว คุณนาถลดาใช้มือตัวเองตีมือลูก ถ้าลูกเจ็บแม่ก็ขอเจ็บด้วย คงเพราะเหตุนี้น้ำแกงจึงไม่ซุกซนเหมือนเด็กอื่นๆ


แฟนลูกชายตัวสูงใหญ่เดินขึ้นเรือนมายกมือไหว้ทักทายแผล็บเหมือนลิงหลอกเจ้า คุณนาถลดาตีหน้านิ่งเสีย รับไหว้ลูกศิษย์


เด็กทั้งสองเดินไปนั่งคุยกันที่ระเบียงบ้านเบาๆ ได้ยินว่าวันนี้ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงไปเที่ยวสวนสัตว์... เป็นเดทที่น่ารักไม่น้อย น้ำแกงผิวคล้ำลง มีหมวกใส่เพิ่มมาอีกหนึ่งใบ คงเป็นฟงอวิ๋นที่ซื้อให้ ความเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ ทำให้คุณนาถลดาพอใจเงียบๆ


ดีแล้วที่น้ำแกงอารมณ์ดีกลับมา...









ฟงอวิ๋นอยู่กินข้าวกับสองแม่ลูก วันนี้คุณไกรสรออกต่างจังหวัดอีกแล้ว กับข้าวง่ายๆ เหมือนจะถูกใจหนุ่มตี๋ไม่น้อย น้ำพริกปลา ปลาทูทอดกินกับผักตะกร้าใหญ่ ไข่เจียวใส่หมู หมูรวนเค็มๆ หวานๆ ต้มยำน้ำใสใส่เห็ดและกุ้ง กินกับข้าวสวยร้อนๆ ฟงอวิ๋นลุกขึ้นไปเติมข้าวจนพื้นแทบสึก


น้ำแกงก็กินเก่ง เด็กน้อยอยู่ในวัยกำลังโต คุณนาถลดาปล่อยให้เด็กๆ คุยกันระหว่างที่เอากับข้าวใส่ทัปเปอร์แวร์ไปฝากคนขับรถของฟงอวิ๋น


เย็นมากแล้ว คุณลุงคงหิวไม่แพ้กัน


จนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ผู้ใหญ่คนเดียวในบ้านจึงไล่ลูกศิษย์กลับบ้าน สั่งให้ลูกชายไปอาบน้ำเสีย ส่วนตัวเองมานั่งรอคุยกับลูกที่หน้าทีวี


น้ำแกงอาบน้ำเสร็จตัวหอมฟุ้ง เดินฝีเท้าเงียบกริบ เพราะถูกสั่งสอนว่าอย่าเดินเสียงดังบนเรือนมานั่งแปะใกล้ๆ แม่ ปากอิ่มคุยเรื่องที่ไปเที่ยวมาไม่หยุด


โทรทัศน์ทำหน้าที่ของมันในความเงียบ สองแม่ลูกไม่มีสมาธิดูนัก มัวแต่คุยกันเพลิน ในที่สุดคุณนาถลดาจึงบอกลูกชาย

"แกง ไปบ้านท่านยายนะ"


ลูกชายเงยหน้าขึ้นจากตัก ดวงตาคู่คมหวานที่ไม่เหมือนใครในบ้านเงยขึ้นสบ "ครับ แล้วพวกเค้า...."


"มาจ้ะ เห็นว่าจะมากราบท่านยาย พี่ไตรเค้าก็ใกล้จะเปิดเทอมเหมือนกัน" คุณนาถลดาเว้นความจริงที่ว่า สำหรับ 'พี่ไตร' ที่อยู่มหาวิทยาลัยแล้วนั้น กว่ามหาวิทยาลัยจะเปิดก็อีกเดือนกว่า


น้ำแกงหน้าเฝื่อน ริมฝีปากอิ่มขบเบาๆ "แกงไม่..."


"แกงไม่อยากเจอท่านยายเหรอ ?" มือนุ่มของมารดาลูบเรือนผมเหมือนลูบขนแมวตัวสวย น้ำแกงถอนหายใจ


"ครับ"


"แล้วแกงไปเรียนท่านด้วยนะ ว่าแกงมีแฟนแล้ว" คุณแม่บอก ลูกชายดีดผึงขึ้นจากตัก


"อะไรนะครับ!?"


"ตกใจอะไรกัน ลูกคนนี้" คุณนาถลดาดุ ตีหลังลูกชายเบาๆ


น้ำแกงหน้าซีด "ก็... ก็... ทำไมต้องบอก..."


คนเป็นแม่หรี่ตาลง "หรือลูกกับนายยุทธจักรจะคบกันเล่นๆ ?"


"ปะ เปล่า..."


"แล้วทำไมถึงบอกไม่ได้ ?"


"ก็... ก็... ฟงเป็น..." ปากสวยอ้าพะงาบๆ แล้วหุบฉับ กลืนน้ำเอื๊อก ไม่กล้าสบตามารดา "เป็น... ผู้ชาย"


มือนุ่มของมารดาโยกศีรษะลูกชาย "แม่รู้ แล้วมีปัญหาอะไร ?"


"แกงก็เป็นผู้ชาย..." คำตอบเบา ลูกชายก้มหน้างุด


น้ำแกงเอ๊ย... มารดาถอนหายใจ แค่เริ่มต้นก็หวั่นไหวเสียแล้ว "ผู้ชายแล้วยังไง ?"


"ก็... ก็ ผู้ชายทั้งคู่..."


ดูท่าบทสนทนาจะพายเรือในอ่าง "แม่ยังไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย หรือน้ำแกงมีปัญหา ? ก็ดีนะ จะได้เลิก" หยอดเข้าไปนิด ลูกชายก็ยืดหลังตรง สบตามารดาแน่วแน่


"แกงไม่เลิก"


"นั่นสิ แล้วทำไมกลัวล่ะลูก ?"


น้ำแกงขบริมฝีปาก "ก็แกงกลัวท่านจะรับไม่ได้..."


"กลัวอะไรไม่เข้าท่า" คุณนาถลดาถอดแว่น นวดหัวตา "อย่าตีตนไปก่อนไข้ ไปนอนเสียเช้าๆ พรุ่งนี้จะได้ไปทันใส่บาตรกันท่านยาย"


น้ำแกงยังยึดชายกางเกงมารดาแน่น ตากลมคมหวานสบอย่างออดอ้อน "แม่ครับ..."


คุณนายอมยิ้ม ก็เป็นเสียแบบนี้ล่ะ แมวน้อยของแม่ "แกง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แม่ยังรักลูกเหมือนเดิม เข้าใจไหม ?"


ลูกชายกระพริบตาปริบๆ


"แม่ยังอยู่ข้างลูก เหมือนวันแรกที่ลูกเกิด เข้าใจไหมครับ ?"


ดวงตาที่งามเด่นบนใบหน้าสวยนั้นมีน้ำตาร้อนหลอ น้ำแกงยกมือขึ้นพนม กราบแม่บนตัก


"อ้อนจริง เป็นหนุ่มแล้ว มีแฟนแล้วนะเรา" ถอนหายใจคล้ายเหนื่อยใจ แต่ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม









น้ำแกงตื่นตั้งแต่เช้า อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว คุณนาถลดาอยู่ในครัวให้น้ำแกงกินขนมปังที่ฟงอวิ๋นซื้อมาเอาใจว่าที่แม่ยายกับนมสดรองท้องแล้วจับลูกชายยัดใส่รถเก๋งคันเก่า


น้ำแกงคาบหลอดในกล่องนมอย่างระมัดระวังไม่ให้เปื้อนรถคุณแม่ ปากยังหาวหวอดๆ


"แกงนอนไปก่อนก็ได้นะ" คุณแม่บอก เอื้อมมือมาปรับแอร์ "เอาผ้าห่มมาคลุมเสีย เดี๋ยวจะเป็นหวัด"


"ครับ" น้ำแกงรับคำอย่างว่าง่าย คลานไปเบาะหลังหยิบผ้าห่มมาคลุม นอนลงอย่างสบายใจ


กินนมแล้วก็นอน สำหรับคุณนาถลดาแล้ว ลูกชายอย่างไรก็ยังเป็นเด็ก








ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าก็มาถึงบ้านท่านยาย น้ำแกงตื่นเพราะเสียงรั้วไม้ดัง ใบหน้าสะสวยงัวเงียขึ้นมาจากเบาะ คุณแม่หัวเราะขัน "เดี๋ยวไปล้างหน้าล้างตาก่อน วันนี้รถติด มาไม่ทันท่านยายใส่บาตรแล้ว"


รถค่อยๆ แล่นเข้าไปภายในบริเวณบ้าน


บ้านท่านยายเป็นเรือนไม้ทรงไทย มีอาณาบริเวณกว้าง หลังบ้านติดกับแม่น้ำไหลเอื่อยสีน้ำตาล น้ำแกงเคยมาหัดว่ายน้ำกับคุณพ่อที่นี่แหละ


รอบๆ บ้านร่มรื่นด้วยไม้ยืนต้น ทั้งไม้ผลและไม้ใบ มะม่วงห้อยเป็นพวงระย้าเต็มต้น กล้วยก็สุกได้ที่เหลืองอร่าม มีกระทั่งต้นลิ้นจี่และลำไยจากทางเหนือ แต่เสียที่ไม่ใคร่ติดลูกนัก


น้ำแกงมองมะม่วงตาเป็นมัน ท่านยายปลูกมะม่วงไว้เกือบทุกพันธุ์ ทั้งมะม่วงแรด มะม่วงน้ำดอกไม้ มะม่วงมหาชนก มะม่วงอกร่อง ออกทีก็ดกจนกินไม่ทัน ต้องเอาไปกวนเป็นมะม่วงแผ่นบ้าง มะม่วงกวนบ้าง หรือที่น้ำแกงชอบกินก็แยมมะม่วงสดใหม่ หวานหอม


คิดว่าครั้งนี้ท่านยายน่าจะทำแยมมะม่วงให้น้ำแกงแน่ๆ ก็ติดลูกเสียขนาดนี้


เด็กน้อยคิดอย่างเพลิดเพลิน ลืมไปว่ามีญาติมาเยี่ยมท่านยายเหมือนกัน จนกระทั่งเห็นรถบีเอ็มคันงามสีดำเงาปลาบ น้ำแกงถึง
หันไปถามมารดา "นั่นรถป้าจีเหรอครับ ?"


"เห็นว่ารถพี่ไตรน่ะลูก ป้าจีซื้อให้ นี่คงขับมาอวดท่านยายกระมัง" คุณแม่ตอบ ไม่มีวี่แววอารมณ์ใดๆ ในน้ำเสียง คล้ายบอกเล่าเรื่องธรรมดา "แกง หยิบขนมที่อยู่ท้ายรถมาให้ท่านยายกับป้าจีหน่อยนะลูก"


น้ำแกงลุกขึ้นไปหอบกล่องขนมโดนัทชื่อดังมาจากท้ายรถ ส่วนคุณแม่ก็หอบหิ้วผ้าไหมที่คุณพ่อซื้อมาฝากท่านยายอีกถุงหนึ่ง


เด็กรับใช้รีบลงจากเรือนมารับสองแม่ลูกพร้อมๆ กับหญิงวัยกลางคนอีกคนหนึ่ง น้ำแกงยกมือไหว้ทั้งๆ ที่ถือของเต็มมือ คุณแม่ส่งเสียงทัก "อ้าว พี่นวล มารับเองเลยเหรอ ?"


ป้านวลช่วยคุณแม่ถือถุงกระดาษ ตอบอย่างเบื่อหน่าย "เบื่อคุณจีน่ะสิ นี่พี่รอนาถมาตั้งกะเช้า ทำไมมาช้าล่ะแม่ ? รถติดหรือ ?" ป้านวลเป็นพี่เลี้ยงของคุณนาถลดาและลูกๆ ของคุณหญิงแสม... ท่านยายของน้ำแกง นางเกิดที่เรือนนี้ มารดาของนางก็เป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยงของคุณหญิงมาช้านาน


ในเรือนยังมีคนรับใช้เก่าแก่อีกมาก หลายคนอยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นทวด แต่งงานแต่งการก็อาศัยเรือนคุณหญิงเจียดที่เป็นเรือนหอ คู่ครองก็ผู้ใหญ่อย่างคุณหญิงหาให้ก็มาก ลูกๆ หลานๆ ได้รับความเมตตาจากคุณหญิงอีกจำนวนไม่น้อย


'สมบัติมีเท่าไหร่ก็ขายมาเลี้ยงพวกขี้ข้าเสียหมด' ป้านวลเคยบอกน้ำแกงแบบนั้น แต่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความจงรักภักดี 'ผู้ดีเค้าเป็นแบบนี้นะลูก คิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ ไม่บ้าสมบัติ ไม่ไร้มารยาท ไอ้ที่เห็นในทีวี ผู้ดีกรี๊ดๆ น่ะมีที่ไหนกัน'


คุณนาถลดาหัวเราะหึๆ "มิน่าล่ะ ถึงว่าวันนี้พี่นวลแต่งตัวสวยเชียว มาอวดพี่จีนี่เอง"


ป้านวลฟังแล้วค้อนให้ "แม่นาถอย่าพูดให้พี่โมโห เฮ้อ ไม่ถูกกันมาแต่เล็กแต่น้อย ตอนนี้เค้าก็ยังอิจฉาแม่นาถอยู่"


"ไฮ้ เค้าจะมาอิจฉาอะไรฉัน พี่เค้ามีสามีเป็นประธานบริษัทโอ่อ่าเชียว"


บทสนทนาของป้านวลและคุณนาถลดาเป็นกันเอง เพราะโตไล่ๆ กันมา ทั้งคนรับใช้และลูกๆ คุณหญิงจึงสนิทสนมกันดี


"พูดแล้วหงุดหงิด คุณท่านฟังเธอฝอยจนแทบหลับ น่าสงสารคนแก่... แนน พาคุณน้ำแกงไปล้างหน้าล้างตาหน่อยสิ"


เด็กสาวที่โตกว่าน้ำแกงนิดหน่อยตอบรับเสียงแจ๋ว ชม้อยตามองหลานคุณท่าน แต่โดนเสียงดุๆ จากป้านวลกระหนาบเสียก่อน "อย่าริอาจเชียวนะนังแนน!"


เด็กแนนทำหน้ากระเง้ากระงอดใส่ป้านวล แล้วหันมายิ้มหวานให้เด็กชายหน้าสวยผิวเข้ม "มาทางนี้ค่ะ"


น้ำแกงยกมือไหว้ "สวัสดีครับพี่แนน รบกวนพี่แนนแล้ว"


แนนอมยิ้มแก้มปริ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครยกมือไหว้ พูดจาด้วยน้ำเสียงสุภาพหวานหยดแบบนี้มาก่อน มิน่าล่ะ ป้านวลถึงอวดนักอวดหนาว่าหลานคนนี้ของคุณท่านเป็นสุภาพบุรุษ


อย่างกับท่านชายจุฑาเทพ! สาวแนนฝันหวาน ลืมแฟนหนุ่มที่ชอบขี่มอร์เตอร์ไซค์เสียสนิท





แนนดูแลน้ำแกงจนเด็กชายต้องรักษาระยะห่าง พอมือสาวน้อยเอื้อมมาถึง เด็กชายก็พลิ้วหนีอย่างสุภาพ รอยยิ้มบางๆ เจือบนหน้า




จนน้ำแกงบ้วนปาก ล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย ก็ยกมือไหว้ขอบคุณพี่สาวที่เขินตัวบิดอีกครั้งหนึ่ง แนนจึงยอมปล่อยให้หลานคนเล็กของคุณท่านขึ้นเรือนอย่างเสียดาย





น้ำแกงยืดตัวเมื่อเท้าก้าวขึ้นเรือน หลังเหยียดตรงเหมือนทหาร สง่างามและสุภาพเรียบร้อย ระมัดระวังกระทั่งเสียงฝีเท้าแม้จะเหยียบบนเรือนไม้ก็ตาม


ที่ชานเรือนมีต้นหางนกยูงต้นใหญ่แผ่กิ่งก้านอยู่นั้น ท่านยายของเขากึ่งนั่งกึ่งนอนบนตั่งไม้ฝังมุก หมอนสามเหลี่ยมผ้าไหมวางไว้ชิดสำหรับพิง ใบหน้าหญิงชรามีเค้าความงามเมื่อยังสาว ท่าทางสง่างาม หลังไม่งอ ดวงตาเป็นประกายสดใส ท่านสวมเสื้อผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดและผ้าถุงสีกรม ดูคล้ายกับน้ำแกงเดินเข้าไปในละครย้อนยุคสมัยโบราณ หากในมือท่านจะไม่มีแทปเลตยี่ห้อผลไม้ ข้างๆ ตั่งก็เป็นแอร์เคลื่อนที่ให้ความเย็น


ลูกสาวทั้งสองของคุณหญิงแสมนั่งพับเพียบบนเบาะบนพื้นกระดาน ด้านซ้ายคือคุณแม่ ด้านขวาคือญาติผู้ใหญ่ที่น้ำแกงไม่อยากเจอ... ป้ารุจีรา ถัดจากป้าคือลูกชายของป้า ลูกพี่ลูกน้องของน้ำแกง อายุมากกว่าน้ำแกงห้าปี ปีนี้เรียนอยู่ชั้นปีที่สองของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐชื่อดัง


"แน่ะ มาแล้ว เจ้าลูกกาเหว่า" เสียงป้ารุจีราดังขึ้นคล้ายสัพยอก แต่น้ำแกงไม่ขำแม้แต่น้อย เด็กชายยกมือไหว้ผู้อาวุโสในห้องจนครบแล้วคลานเข่าไปหาท่านยาย


"ไม่ทักป้า ทักพี่ก่อนเหรอ ?" ป้ารุจีรายังคงไม่ยอมแพ้ ปรายตามองหลานชาย น้ำแกงหันกลับไปยิ้มหวานให้ ยกมือไหว้อีกครั้งอย่างนอบน้อม


"สวัสดีครับป้าจี สวัสดีครับพี่ไตร"


ไตรภพ บุตรชายของป้าจีถอนหายใจกับกริยาของมารดา โบกมือให้ "ไปกราบท่านยายก่อนเถอะแกง"


น้ำแกงก้มลงกราบท่านยาย คุณหญิงแสมวางแทปเลตในมือลงแล้วลูบศีรษะน้อยอย่างเอ็นดู "ไหว้พระเถอะพ่อ แล้วเป็นยังไง จะขึ้นมอปลายแล้วหรือยัง ?"


หลานชายนั่งเอี้ยมเฟี้ยม ไม่ขัดตาแม้แต่น้อยแม้จะนั่งท่าพับเพียบ ต่างจากลูกพี่ลูกน้องที่แสดงอาการเมื่อยอย่างชัดเจน


"ปีหน้าจะขึ้นมอสี่ครับท่านยาย"


"ทำไมไม่เข้าโรงเรียนนานาชาติที่ป้าบอกล่ะแกง" ป้าจีขัด ถอนใจคล้ายเหนื่อยหน่ายหลานชายหัวดื้อ "แกงเรียนเก่ง ป้าล่ะเสียดาย หรือแม่เราเค้าไม่มีเงินส่ง ? ป้าบอกแล้วให้มาอยู่กับป้า มีทั้งคนขับรถ มีทั้งครูมาสอนที่บ้าน จริงไหมเจ้าไตร ?"


คุณนาถลดาถูกหยามฐานะตรงๆ แต่กลับไม่มีอาการโกรธขึงใส่พี่สาว กลับส่ายหน้าตอบตามตรง "นาถยังไม่เห็นความจำเป็นที่ต้องฟุ่มเฟือยขนาดนั้นค่ะ แกงอยู่โรงเรียนรัฐก็สบายดีอยู่แล้ว"


"เฮ้อ สมถะพอๆ กับคุณไกรสรจริงๆ" พี่สาวส่งยิ้มให้ "แต่พี่ว่า เจ้าแกงยังไปได้ไกลนะ จริงไหมคะแม่ ?"


ท่านยายที่ถูกเอ่ยถึงเงยหน้าจากแทปเลต "ว่าอะไรนะแม่จี"


"คุณแม่ จีบอกว่าให้ส่งเจ้าแกงมาอยู่กับจี จะได้เรียนหนังสือที่ดีๆ"


"แม่นาถเค้าเป็นครู เค้ารู้หรอกว่าอะไรดีกับลูก" ท่านยายกวักมือเรียกหลานๆ "ไตร แกงมาหายายซิ ไอ้แอดเฟรนด์นี่ทำยังไง ?"


น้ำแกงกลั้นยิ้ม คลานเข่าเข้าไปหาพร้อมๆ กับพี่ไตร สองหลานและยายสุมหัวกันอยู่หน้าจอแทปเล็ต


"ยายเล่นแคนดี้ครัชไม่ผ่านเสียที ต้องส่งหัวใจไปให้เพื่อนใช่ไหม ?"


น้ำแกงตอบ "ครับ คือเพื่อนที่เล่นก็จะส่งกลับมาให้..."


"ท่านยายมีเฟซบุ๊กด้วยหรือครับ ?" ไตรภพถาม ท่าทางตื่นเต้นกว่าคนแก่เสียอีก


"มีสิ แต่พวกแกไม่ต้องแอดมานะ ฉันจะคุยกับเพื่อนๆ ฉัน" ตอบกลับอย่างกระฉับกระเฉงแล้วยื่นแทปเลตให้ไตรภพ "แอดเจ๊เป้าให้ยายหน่อย อ้าว แม่นาถกับแม่จีเป็นอะไรกัน..."


ลูกสาวทั้งสาวนั่งเงียบกริบ คนหนึ่งทำตาวาวๆ โกรธเกรี้ยวอย่างชัดเจน ส่วนอีกคนตีหน้าเรียบเฉย กริยานั้นเหมือนน้ำแกงไม่มีผิด


"คุณแม่ นาถน่ะไม่สนใจความหวังดีของจี..."


"คุณแม่ พี่จีน่ะ..."


ท่านยายยกมือห้าม "ฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้น พวกหล่อนทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว คิดว่าฉันไม่รู้หรือไง ฉันจะถามว่า พวกหล่อนเป็นอะไรกัน ถึงต้องไลน์ส่งดอกไม้มาให้ฉันทุกเช้า ?"


ไตรภพกับน้ำแกงหลุดเสียงหัวเราะ


"พวกคนแก่นี่จริงๆ เลย ชอบรูปดอกไม้มากัน" คุณหญิงแสมต่ออย่างอ่อนใจ ราวกับว่าตัวเองเป็นเด็กวัยรุ่น "มาหาแม่ทั้งที ลูกสาวฉันก็มานั่งทะเลาะกัน สู้หลานๆ ก็ไม่ได้ จริงไหม ?" เอ่ยถามหลานชายทั้งสองพลางพยักเพยิด ไตรภพและน้ำแกงมองหน้ากัน ไม่กล้าตอบรับหรือปฏิเสธ


"...."


"...."


ทั้งป้าจีและคุณแม่ได้แต่หุบปาก ปล่อยยายหลานคุยกันสนุกแค่สามคน


"อ้อ เจ้าแกง เจ้าไตร กินขนมหน่อยไหม ? แม่นาถซื้อโดนัทมานี่ เอามากินกับไอติมดีกว่า" คุณหญิงเงยหน้าจากแทปเลตอย่างพึงพอใจหลังแอดเพื่อนๆ ได้ครบ น้ำแกงกับพี่ไตรดูอายุอานามเพื่อนในลิสต์ของท่านยายแล้ว น่าจะพอๆ กับอายุกรุงรัตโกสินทร์

"แม่นาถ ไม่ต้องขัดลูกนะ ฉันจะเลี้ยงหลานฉัน" ท่านยายก้าวลงจากตั่งอย่างกระฉับกระเฉง ไม่ต้องให้คนพยุง "แกง ได้กินขนมนมเนยบ้างไหม จั๊งค์ฟู๊ดล่ะ ?"


น้ำแกงกลั้นยิ้มแทบไม่ไหว ท่านยายตามใจหลานๆ ตลอด "ทานครับ"


"อ้าว นี่แม่เรายอมให้กินแล้วเหรอ ? เห็นเลี้ยงลูกอายุสิบกว่าอย่างกับเลี้ยงตาแก่"


น้ำแกงไม่กล้าตอบว่าไปกินกับแฟนในทันที แต่เมื่อเหลียวมองมารดา... คุณแม่ยิ้มน้อยๆ อย่างให้กำลังใจ จึงรู้ว่าเป็นโอกาสอันดี ควรเรียนท่านยายเสีย


เด็กชายสูดลมหายใจลึก ตอบเบาๆ "ไปกินกับแฟนครับ"


คราวนี้ทั้งป้านวลที่ถือโดนัทเข้ามา สาวแนนที่หอบหิ้วเครื่องดื่ม ป้าจีและพี่ไตรต่างชะงักกันถ้วนหน้า


ตุบ!


เสียงกล่องขนมตกดังขึ้นในความเงียบชั่วขณะ ป้านวลครวญออกมาเบาๆ "ทูนหัวของป้า..."


ท่านยายก็อึ้ง ท่านกลับไปนั่งที่ตั่ง คว้ายาดมยาหอมมาดมสมวัยเป็นครั้งแรก "แกงมีแฟนแล้ว ?"


น้ำแกงตัวเกร็ง ขบริมฝีปาก มือสั่นน้อยๆ "ครับ"


คุณหญิงมองหลาน สบตาลูกสาว แล้วหันกลับไปมองหลาน ก่อนจะค่อยๆ เรียก "มานี่สิแกง"


น้ำแกงคลานเข่าเข้าไปหา น้ำตาแทบจะหยดออกจากดวงตาคู่งาม กลัวจับใจ...


มือเหี่ยวย่นของท่านยายเอื้อมลงมาจับมือที่สั่นระริกอย่างอ่อนโยน "สั่นอะไรนักหนา แค่มีแฟนเอง... เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็มี พี่ไตรของเราเห็นเงียบๆ น่ะ มีแฟนก็ไม่เคยมาบอกยายหรอก"


ไตรภพสะดุ้ง ยิ้มแหยๆ ให้ รุจีราหันกลับมามองหน้าลูกชายเขม็ง คงจะยังไม่รู้เหมือนกัน

"ท่านยายรู้ได้ไง..."


"เดา" คุณหญิงตอบหน้าตาเฉย "เป็นหนุ่มขนาดนี้ไม่มีแฟนก็แปลกแล้วล่ะ แต่ไม่คิดว่าจะเดาถูก แม่จีก็ไม่รู้สินะ ?"


ป้าจีส่ายหน้าหวือ ปากคอสั่น "ตาไตร..."


น้ำแกงหลุบตาลง แม้ท่านยายจะอ่อนโยน แต่ในใจน้ำแกงก็ยังกลัวเหลือเกิน


หัวใจดวงน้อยสั่นหวิว ถ้าท่านยายรู้... ท่านจะเกลียดน้ำแกงไหม...


...ถ้าท่านไปรู้จากคนอื่นล่ะ จะไม่ยิ่งเกลียดน้ำแกงหรือ ?


ความคิดยิ่งวิ่งวุ่นวาย น้ำตาที่คลอก็หยดลงมาจนได้ ท่านยายยื่นกระดาษให้เช็ดหน้า "จะร้องไห้ทำไม ? บอกยายซิลูก"


น้ำแกงซุกหน้ากับกระดาษ ไม่กล้าสบตา ไม่กล้าสู้หน้าหญิงชราผู้ป็นที่รัก


"แกง... มีอะไรจะบอกยายใช่ไหม ?"


หลานชายกัดปากจนเลือดซึม สองมือสั่นจนไม่อาจควบคุม เสียงที่หลุดรอดออกมาเบาหวิว "แฟนแกง... เป็นผู้ชาย..."


คราวนี้ทั้งชานบ้านเงียบอีกครั้ง


ผ่านไปนานทีเดียว กว่าคุณหญิงจะตั้งสติได้ "แกงหมายถึง แกงเป็นกะเทยเหรอลูก ?"


น้ำแกงส่ายหน้า เดาน้ำเสียงท่านยายไม่ออก เด็กน้อยคู้ตัว ซุกหน้าลงกับอก พึมพำไม่หยุด "แกงขอโทษครับ... แกงขอโทษ..."


หญิงทั้งหมดบนเรือนเงียบสนิท มีเพียงไตรภพที่ขยับปากจะช่วยน้อง แต่มารดาส่งเสียงหวีดร้องเสียก่อน "งามหน้าแล้วไหมล่ะแม่นาถ! มีลูกเป็นกะเทย!"
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 7 18/7/16 P.5
เริ่มหัวข้อโดย: aimer ที่ 16-08-2016 20:48:38
คุณนาถลดาได้ยินเต็มสองหู เธอเหยียดหลังตรง หันมาปะทะพี่สาว "งามอะไรกันพี่จี แฟนแกงเข้าตามตรอกออกตามประตู ผู้ใหญ่รับรู้ทั้งสองฝ่าย" น้ำเสียงคุณครูค่อนแคะและเต็มไปด้วยโทสะ "น้ำแกงเป็นเด็กดี มีอะไรก็บอกนาถทุกอย่าง นาถไม่เห็นว่าจะงามหน้าตรงไหน!"


น้ำแกงยิ่งเห็นแม่ปกป้องยิ่งสะอื้นหนัก ร่างเล็กๆ ร้องไห้จนตัวโยน


"หนอย... มีลูกผิดเพศจะไม่งามหน้าได้ยังไง! ฉันบอกแล้วว่าเอาลูกเขามาเลี้ยง เอาเมี่ยงเขามาอม นี่คงแรดๆ หาผู้ชายเหมือนแม่มันสินะ!"


"แม่จี!" คุณหญิงตวาดลั่น ประคองหลานชายให้ขึ้นมานั่งบนตั่ง "หุบปากไม่สร้างสรรค์เดี๋ยวนี้นะ!"


"คุณแม่! แล้วพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน! มีหลานนอกใส้ไม่พอ ยังมาวิปริตอีก!"


"ก็เอาไว้ที่เดิมนั่นแหละ!" หญิงชราตอบทันควัน "หน้าหล่อนก็เหี่ยวเท่าเดิม นิสัยก็เสียเหมือนเดิม ฉันไม่เห็นว่าการที่ 'หลานฉัน' มีแฟนเป็นผู้ชายแล้วมันจะทำให้หล่อนเป็นอะไรไป!" คุณหญิงเน้นที่คำว่าหลาน


"คุณแม่ก็เข้าข้างทั้งนาถทั้งลูก! ทั้งๆ ที่ไม่ใช่หลานคุณแม่..."


ยิ่งป้าจีพูด ยิ่งคุณยายและคุณแม่ปกป้อง น้ำแกงยิ่งทรมาน เด็กชายอยากหายตัวไปจากที่นี่เหลือเกิน


อยากลบความจริงที่ว่าไม่ใช่ลูกคุณแม่ไปเสีย...


เป็นลูกกาเหว่าให้แม่กาฟักไม่พอ... ยังหน้าไม่อายอีก



น้ำแกงเพิ่งตระหนักถึงความผิดตัวเองได้เพราะป้าจี ที่ผ่านมา ทั้งคุณพ่อคุณแม่รักและถนอมน้ำแกงมาตลอด น้ำแกงจึงเอาแต่ใจ ไม่สนใจใคร ตอนนี้น้ำแกงสำนึกแล้ว...


"พอเถอะครับ" ไตรภพโพล่งเสียงดัง ดึงแขนมารดาเชิงปราม "แม่พอเถอะ เรากลับกันก่อนวันนี้"


"ตาไตร!"


"ไตร พาแม่แกไปสงบสติอารมณ์ก่อนเถอะ" คุณหญิงโบกมือไล่


ร่างสูงของหลานชายดึงมารดาออกจากเรือนไป ได้ยินเสียงก่นด่าของรุจีราดังไม่ขาดสาย คุณหญิงถอนหายใจ ลูบหัวหลานชายในอ้อมแขนเบาๆ


"เลิกร้องเถอะ"


"แกง... ขอโทษ..." ภาพตรงหน้าพร่ามัว มองเห็นเพียงหยาดน้ำตา น้ำแกงโบยตีตัวเองด้วยคำพูดเจ็บแสบ รังเกียจตนเองสุดใจ ทว่าอ้อมแขนกลับอ่อนโยน ท่านยายที่ทั้งๆ ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใดๆ ช่วยหลานชายซับน้ำตา


"ขอโทษยายทำไมลูก"


"กะ... แกงรักผู้ชาย... แกงไม่ใช่ลูก..." เสียงขาดห้วง ก้อนสะอื้นจุกที่คอจนพูดต่อไม่ได้ คำพูดของป้าจียังกรีดลงบนหัวใจดวงน้อย


ลูกกาเหล่าที่ดีแต่ทำเรื่องงามหน้า...
บางทีถ้าน้ำแกงไม่เกิดมาเสีย...



ป้านวลได้ยินเข้าจึงได้สติ ส่งเสียงร้องดังอย่างสงสาร "โถ คุณน้ำแกงของป้า"


น้ำแกงไม่อาจสู้หน้าใครได้ แม้คุณแม่จะส่งเสียงปลอบ แต่ร่างโปร่งบนตั่งกลับยังร้องไห้เงียบๆ จนได้ยินเสียงสะอึกสะอื้น คุณหญิงแสมดูคนเอวบางที่ตาแดง ก้มหน้าร้องไห้ไร้เสียงแล้วชวนให้คิดถึงบุตรสาว... คุณนาถลดาก็ร้องไห้เช่นนี้ ร้องคนเดียวเงียบๆ ไม่ต้องการให้ผู้ใดเห็น ไม่ต้องการคำปลอบโยนหรือความสงสาร แต่น้ำตาแต่ละหยดที่หลั่งรินกลับเสียดแทงได้เจ็บปวดนัก


น้ำแกงเหมือนแม่มาก แม้ไม่มีเลือดหยดใดที่เกี่ยวข้องกันเลย


คุณหญิงลูบศีรษะน้อย "นวล ไปเอาน้ำหวานมาให้หลานฉันที ร้องจนสะอึกแล้ว" ป้านวลรับคำคุณท่านแล้วลากเด็กแนนเดินตุ้บตั้บออกไป เมื่อทั้งสองลงจากเรือนไปแล้ว ท่านยายจึงหันกลับมาปลอบเด็กน้อยในอ้อมแขน


น้ำแกงของยาย... น่ารักน่าสงสารเสียจริง เหมือนวันแรกที่ยายเห็นไม่มีผิด ทารกน้อยผิวเข้มตาคมผมยาวมองท่านแป๋วแหววมาจากห่อผ้า บุตรสาวผู้เข้มแข็งของท่านประกาศกับทุกคนว่าจะเลี้ยงดูเด็กน้อย


เด็กทารกคนนี้ส่งยิ้มให้ท่านอวดเหงือกแดงแจ๋ ไม่รับรู้ว่าผู้ใหญ่เดือดร้อนกันขนาดไหน ท่านที่เคยนึกชังเด็กน้อยมาก่อนก็ค่อยๆ ยิ้มตาม เคยได้ยินฝรั่งเล่าว่า ทุกครั้งที่ทารกหัวเราะ จะเกิดเทวดาขึ้นหนึ่งองค์ ก็คงเป็นเช่นนี้ ทารกน้อยช่างน่ารัก บริสุทธิ์ดังผ้าขาว แม้ใครๆ จะพากันค่อนขอดว่ารูปชั่วตัวดำ แต่ท่านก็นึกรักทันทีที่เห็น ผิวของน้ำแกงเป็นสีน้ำผึ้งนวลเนียน ตาหวาน ขนตางอนหนา รูปงามตั้งแต่ยังแบเบาะ เมื่อน้ำแกงตัวน้อยของท่านโตขึ้นก็ยิ่งน่ารัก ใบหน้าสะสวยโฉบเฉี่ยวจนโดดเด่นที่สุดในหมู่หลานๆ กริยามารยาทไม่มีที่ติ นิสัยใจคออ่อนหวาน จึงทำให้ญาติๆ และคนรอบตัวถูกดึงดูดเข้าหา


แม้จะเป็นลูกกาเหว่า แต่เป็นกาเหว่าที่เป็นที่รัก ใครเห็นก็เกลียดไม่ลง


ท่านยิ้มปลอบใจ โอ๋หลานชายคนเล็กเหมือนเมื่อตอนยังอ้อแอ้ "ยังร้องไม่หยุดอีก แกงรักผู้ชายแล้วยังไง ยายไม่สนหรอก แกงเป็นเด็กดี เป็นหลานยาย... อย่าร้องนะลูก"


"แต่... แต่..." เด็กน้อยช้อนตาชุ่มน้ำขึ้นมอง ใบหน้าที่งดงามอยู่แล้วบวกกับกริยาที่ไร้เดียงสายิ่งทำให้ชวนสงสาร


"แมวน้อยของยาย... ใครเค้าไม่รักลูก ยายจะรักเอง เข้าใจไหม ? ใครเค้าจะว่ายังไง ยายไม่สน" น้ำแกงเห็นรอยยิ้มเอ็นดูผ่านม่านน้ำตา


"ดีแล้วที่กล้ามาบอกยาย ยายรักน้ำแกง ยายไม่อยากได้ยินจากคนอื่น... น้ำแกงกล้าหาญมาก ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น ดีเสียอีก ยายจะได้หลานชายเพิ่มอีกคน" ท่านดึงแก้มนุ่มๆ หยอกล้อ "ยิ้มหน่อยแมวน้อย อย่างนั้น... เด็กดี"


น้ำแกงยิ้มตามอย่างง่ายดาย... ตั้งแต่เล็กๆ ท่านยายมักจะเรียกน้ำแกงว่าแมวน้อยเสมอ... จนกระทั่งน้ำแกงโต ท่านยายจึงหยุดเรียก โดยบอกว่าน้ำแกงเป็นหนุ่มแล้ว ไม่ควรเรียกเป็นเด็กเล็กอีก


น้ำแกงรักท่านยาย รักคำเรียกแมวน้อยของท่านยาย ถึงจะรู้สึกเหงา แต่ก็ฝืนบอกตัวเองว่าเพราะท่านยายเป็นห่วง เพราะอยากเป็นหลานรักของท่านยาย เพราะไม่อยากให้ใครๆ ด่าว่าเป็นหลานนอกใส้หรือลูกกาเหว่าอีก น้ำแกงจึงฝืนตัวเองเรื่อยมา


ฝืนทำตัวเข้มแข็ง ทั้งที่จริงแล้วอยากร้องไห้
ทำตัวสุภาพเรียบร้อย ทั้งที่อยากเล่นซุกซนเหมือนคนอื่นๆ
เป็นเด็กดีของใครๆ ทั้งที่น้ำแกงก็อยากอาละวาด อยากกรีดร้องบ้าง


จนกระทั่งได้พบฟงอวิ๋น... ถึงรู้ตัวว่าตัวเองฝืนแค่ไหน



และเป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำแกงจึงเปิดหัวใจให้พี่ชายแปลกหน้าอย่างง่ายดาย



อยู่กับฟงอวิ๋น น้ำแกงไม่ต้องฝืนอะไรทั้งนั้น... จะเอาแต่ใจแค่ไหนก็ได้ จะแกล้งฟงอวิ๋นแค่ไหนฟงก็ไม่ว่า

น้ำแกงถึงรักฟง... เพราะอยู่กับฟง... แกงสบายใจ







น้ำแกงซุกหน้ากับอกท่านยาย ท่านตบหลังแปะๆ แล้วบอกให้ดื่มน้ำ น้ำแกงจึงค่อยสงบใจลง

"ไหน เล่าเรื่องแฟนเราให้ยายฟังซิ เป็นคนที่ไหนยังไง มีหัวนอนปลายเท้าไหม ?"


เด็กน้อยยิ้มเขิน ดวงตาหวานเป็นประกายด้วยความสุข ตอบช้าๆ "เป็นลูกศิษย์คุณแม่ครับ..."


คุณหญิงนั่งฟังหลานชายเล่าถึงแฟนหนุ่มอย่างเพลิดเพลิน ท่านซักถามหลานราวกับเป็นสาวรุ่น ท่าทางยินดีเมื่อหลานชายมีความสุข


น้ำแกงปาดน้ำตา...


...แกงโชคดีกว่าใครรู้ไหมฟง มีคุณแม่ที่รักแกงขนาดนี้ มีท่านยายที่รับแกงได้...


...แล้วแกงก็มีฟง...


...แกงมีความสุขจังเลย...









ก่อนจะกลับ คุณหญิงให้ป้านวลตักขนมจีนน้ำยาปูใส่กล่องถนอมอาหารฝากให้ครอบครัวน้ำแกงไปกินที่บ้าน


หลานชายท่านตาแดงๆ กอดเอวท่านแน่น จนผู้เป็นยายต้องเตือน "กลับบ้านได้แล้วแกง"


"ท่านยาย..."


มือของผู้ชราตบที่ไหล่ปลอบประโลม "อย่าคิดมากเลย ป้าจีเค้าก็ปากอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วเค้ารักน้ำแกงไม่แพ้ใครนะ"


น้ำแกงรู้ดี... เพราะรู้ว่าป้าจีมีนิสัยแบบนี้นั่นแหละ ถึงเกลียดไม่ลง หลายครั้งที่คุณป้าพูดจาทำร้ายหลานโดยไม่รู้ตัว อีกวันมาก็รีบส่งขนมนมเนย ของเล่น เสื้อผ้าดีๆ มาง้อหลานเสียทุกครั้ง หลานชายพยักหน้ารับ แล้วยกมือไหว้ท่านยาย


"ไปก่อนนะครับ ท่านยาย"


"รีบกลับเถอะลูก เดี๋ยวค่ำรถจะติดอีก" รอยยิ้มอ่อนโยนวาดบนใบหน้า น้ำแกงรู้สึกขอบตาร้อนชื้น น้ำตาพาลจะไหลลงมาอีกเสียให้ได้


คุณแม่แตะศอกลูกชายเบาๆ แล้วพาลูกขึ้นรถ


ในความเงียบระหว่างทางกลับบ้านนั้น คุณแม่เพียงยิ้มให้ "แกงกล้าหาญมากลูก เก่งมากคนดี"


น้ำแกงยิ้มทั้งน้ำตา "ขอบคุณคุณแม่ครับ... ขอบคุณที่อยู่ข้างแกงเสมอ"


"แม่เป็นแม่น้ำแกงนี่ลูก ต่อให้คนทั้งโลกเป็นศัตรูกับลูก แม่ก็จะอยู่ข้างลูกเอง"


ก้อนสะอื้นจุกอยู่ที่คอ น้ำแกงหลุบตาลง ความรักอันดีงามรายล้อมน้ำแกง ทั้งคุณพ่อคุณแม่ ท่านยาย พี่ไตร ฟงอวิ๋น หรือกระทั่งป้าจี...









ป้าจีแล่นมาหาน้ำแกงตั้งแต่เช้าในวันถัดมาอย่างที่ท่านยายบอก พี่ไตรเป็นคนขับรถมาส่งด้วยตนเอง


แม้ปากจะบอกว่า 'แค่นึกได้ว่าผ่านมาทางนี้ เลยมาขอโทษ' แต่ข้าวของของใช้ที่น้ำแกงชอบกลับกองพะเนินอยู่ด้านหลังรถ


ป้าจียังคงเป็นป้าจี ปากร้ายใจดี ท่าทางเย่อหยิ่งราวกับเกลียดชังทุกคนบนโลก น้ำแกงยกมือไหว้ขอบคุณคุณป้า แล้วปล่อยให้ป้าจีกอดๆ หอมๆ แก้ม ก่อนผู้เป็นป้าจะปรู๊ดปร๊าดออกจากบ้านไป รวดเร็วปานสายฟ้าแลบไม่แพ้ขามา


คุณแม่ช่วยน้ำแกงขนของเข้าห้อง แยกของใช้เป็นกองๆ มีเสื้อใหม่สองตัว กางเกงยีนส์แบบที่น้ำแกงเคยเห็นฟงอวิ๋นใส่หนึ่งตัว หนังสือสามเล่ม


"แกง ป้าจีถามมา" คุณแม่ช่วยเอาหนังสือใส่ชั้น หันมาคุย


"ครับ ?"


"ป้าจีชวนน้ำแกงไปอยู่บ้านโน้นจริงๆ เพราะใกล้กับโรงเรียนนานาชาติ เห็นว่าพี่ไตรไปอยู่คอนโดแล้ว ป้ากับลุงเลยเหงาน่ะ"


น้ำแกงส่ายหน้ารัวเร็ว คุณนาถลดาหัวเราะขำ "นี่ยังกลัวฝีปากป้าจีอยู่สิเนี่ย เอาเถอะนะ แล้วนี่นายยุทธจักรจะมารับกี่โมง ?"


ลูกชายดูนาฬิกา "อีกสักพักก็คงมาครับ"


"อืม งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ไปดูที่เรียนกันดีๆ ล่ะ อย่ามัวแต่เที่ยวเล่น"


"ครับ คุณแม่"








วันนี้น้ำแกงใส่เสื้อเชิ้ตตัวสวยที่ฟงอวิ๋นให้มา พอลองสวมคู่กับกางเกงยีนส์ที่ป้าจีเพิ่งเอามาไถ่โทษก็เข้ากันดี คุณนาถลดาใจไม่ดีเมื่อเห็นเอวคอดกิ่วและสะโพกกลมเด้งของลูกชาย


แต่... จะทักก็ใช่ที่ เรื่องบางเรื่องไม่ควรให้ลูกชายรู้ตัว


ไม่นานนัก ฟงอวิ๋นก็มารับตรงเวลา เด็กหนุ่มเข้ามาไหว้คุณนายแผล็บๆ เหมือนทุกทีแล้วรีบควงแฟนคนสวยขึ้นรถ







ฟงอวิ๋นชอบใจนักที่เห็นร่างโปร่งสวมเสื้อผ้าที่ซื้อให้ "แกง ใส่แล้วดูดีมากเลย"


"จริงเหรอ" น้ำแกงหน้าแดง ดึงเสื้อเบาๆ อย่างไม่มั่นใจนัก "เสื้อที่ฟงซื้อให้ไง ขอบคุณมากนะ"


"เข้ากับแกงก็ดีแล้ว" ฟงอวิ๋นพูดสบายๆ "วันนี้เราลองไปแวะดูที่เรียนก่อนไหม แล้วค่อยไปหาของกิน ?"


น้ำแกงพยักหน้ารับ ไม่เถียงสักคำ







เด็กทั้งสองมาถึงย่านพลุกพล่านเกือบเที่ยง ทั้งฟงอวิ๋นและน้ำแกงตั้งใจจะมาตระเวนดูสถานที่เรียนพิเศษสำหรับเปิดเทอม


วันก่อน มารดาฟงอวิ๋นมาถึงบ้านอีกครั้งเพื่อชวนน้ำแกงไปเรียนพิเศษที่สถาบันสอนพิเศษโดยเฉพาะ ตอนนี้ฟงอวิ๋นเรียนทันหลักสูตรที่โรงเรียนแล้ว แต่นางคิดว่าไม่ควรปล่อยให้ลูกชายใช้เวลาโดยไร้ประโยชน์ นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้าน อย่างน้อยถ้าไปเรียนพิเศษก็จะได้เข้าสังคมบ้าง


หรือพูดให้ตรงคือ... ฟงอวิ๋นอยากเจอน้ำแกง พอเปิดเทอมมา น้ำแกงก็ต้องไปเรียน ช่วงเย็นๆ ก็คงยากที่คุณนาถลดาจะปล่อยลูกชายให้ออกไปตะลอนกับเด็กหนุ่ม ดังนั้น ทางแก้ที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้เจอคนงาม พ่อแม่ไม่หนักใจและคุณนาถลดาอนุมัติ จึงเป็นการเรียนพิเศษ


คุณนาถลดารู้ทันลูกศิษย์ดี แต่ทนการรบเร้าของลูกชายไม่ไหว แล้วไหนทางนั้นจะส่งแม่มาชักชวนอีก


อย่างน้อยๆ ถ้ามารดาฟงอวิ๋นรับรู้ ติดตามให้อยู่ในสายตาตลอดก็ยังดีกว่าให้เด็กทั้งสองไปลอบเจอกัน


คิดแบบนั้น... โดยที่นางเองก็ไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกหรือผิด







ฟงอวิ๋นมีรายชื่อสถาบันสอนชื่อดังอยู่แล้วสองสามแห่ง หลังจากจูงมือแฟนเข้าที่นั่น ออกที่โน่น ก็ถูกใจบรรยากาศและการสอนของสถาบันแห่งหนึ่ง ทั้งเขาและน้ำแกงลงทะเบียนเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์สำหรับมอปลาย น้ำแกงค่อนข้างตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะต้องเรียนหลายวิชาขนาดนี้ ที่ผ่านมา น้ำแกงทบทวนบทเรียนด้วยตัวเองมาตลอด


เมื่อชำระเงินและจองที่นั่งแล้ว ฟงอวิ๋นก็ชวนน้ำแกงออกไปกินข้าวเที่ยงที่ห้างใกล้ๆ


"แกงอยากกินอะไร ?" ฟงอวิ๋นยืนถาม ช่วยคนตัวเล็กบังแดด ให้คนสวยยืนด้านหลังในร่ม ส่วนตัวเองยืนอยู่ริมฟุตบาธ


น้ำแกงหน้าแดงเพราะความร้อน เหงื่อเม็ดน้อยหยดลงบนแพขนตาหนาเหมือนน้ำค้างต้องกลีบดอกไม้ แก้มนวลสีน้ำผึ้งขึ้นสีระเรื่อน่ารัก ใครเดินผ่านก็อดมองไม่ได้


ผิวสีเข้มแปลกจากคนไทย ใบหน้าคมหวาน ดวงตาทรงอัลมอนด์ แผ่นหลังเหยียดตรง ท่วงท่าการเดินสง่างาม ดูอย่างไรก็เหมือนชาวต่างชาติ... ราวกับเป็นนางแบบหรือเจ้าหญิงจากแดนไกล


"กิน... กระทะร้อนได้ไหม ?" น้ำแกงเงยหน้าขึ้นถาม ยื่นทิชชู่ออกไปให้ฟงอวิ๋นหยิบเพื่อซับเหงื่อ แต่คนตัวสูงกลับเจ้าเล่ห์ บุ้ยปากให้


"เช็ดให้หน่อยสิ"


"แต่..." จะทำอย่างไรดี ผู้ชายสองคนจะมาซับเหงื่ออะไรกันหน้าธารกำนัล แต่จะให้มายื้อยุดกันตรงนี้ก็ยิ่งน่าอาย น้ำแกงจึงตัดสินใจ เขย่งตัวเพื่อใช้ทิชชู่ซับเหงื่อให้ใบหน้าตี๋จืด


พอทั้งคู่อยู่ใกล้กัน ยิ่งเห็นความต่างชัดเจน คนหนึ่งผิวขาวจัด ตาเป็นขีดเดียว โหนกแก้มสูงกว้าง กรามใหญ่ จมูกบานและปากหนา หน้าตาดูอย่างไรก็ไกลกับคำว่าหล่อ แต่อีกคนมีผิวนวลสีน้ำผึ้ง ตาคมหวาน จมูกโด่งเรียว ปากอิ่ม สวยเฉียบโดดเด่น คนเดินผ่านไปมาจึงพากันชะงักมอง


น้ำแกงข่มความอาย ใช้ทิชชู่เช็ดให้จนหมด พอกำลังจะหยุดมือ เสียงทักก็ดังขึ้น


"อ้าว นั่นฟงไม่ใช่เรอะ ?"


ใครกัน... ? หน้าสวยขมวดมุ่น รีบทิ้งทิชชู่ลงถังขยะใกล้ๆ


ฟงอวิ๋นมีสีหน้าน่ากลัว น่ากลัวยิ่งกว่าเจอน้ำแกงครั้งแรก ตาขีดเดียววาวโรจน์ "ชิน กาญจน์"


เด็กสาวท่าทางเปรี้ยวที่เดินคู่กันมากับคนแปลกหน้านั้นส่งยิ้มให้ หล่อนเข้ามาทักอย่างสนิทสนม... เกาะไหล่ฟงอวิ๋น "โฮ้ย ไม่เจอกันนานนะฟง เห็นว่าโดนตำรวจซิว ?"


ผู้ชายอีกคนที่ตามมาหน้าตาดี แต่ใบหน้าลึกตอบ ขอบตาคล้ำ ตัวผอมผ่าย ผิวเหลืองซีด น้ำแกงเห็นแล้วนึกถึงฟงอวิ๋นเมื่อเจอกันครั้งแรก


...หรือว่า... จะติดยา ?


ฟงอวิ๋นถามเสียงต่ำ "มีอะไร ?"


"แหมๆ ทำเป็นห่างเหิน" ผู้ชายคนนั้นยิ้มกริ่ม เห็นใบหน้าซูบผอม ดวงตาลึกโหลจนน่ากลัว เสียงแหบแห้งเหมือนเล็บขูดนั้นดังต่อไป "ออกจากโรงเรียนแล้วเหรอ ? บ้านมึงรวยนี่ ไม่แบ่งเพื่อนฝูงยืมใช้สักหน่อยเหรอ ?"


น้ำแกงเข้าใจในทันที ขบริมฝีปาก คว้าแขนคนตัวสูงแล้วกระตุกเบาๆ "ฟง ไปเถอะ"


เด็กสาวที่ใบหน้าดูแก่โทรมไม่แพ้กันนั้นหันกลับมาหา ส่งเสียงอุทานเสแสร้ง "อ้าว คนสวยนี่ใครจ๊ะ ? อ๊ะ ผู้ชายนี่หว่า อย่าบอกนะว่าเมียมึงน่ะฟง" หล่อนเหยียดยิ้ม หัวเราะเสียงดังเรียกความสนใจ มือเลื่อนออกไปหมายจะคว้าคนตัวบาง แต่น้ำแกงถอยหนีทัน ฟงอวิ๋นรีบเอาตัวมาบัง หล่อนหัวเราะเสียงแห้ง ดวงตาไร้แววนั้นมองร่างงามตั้งแต่หัวจรดเท้า


"โถ อีตุ๊ด ทำเป็นสะดิ้ง... อะไรกันวะฟง ที่ออกจากโรงเรียนไปเพราะได้เมียเป็นตุ๊ดหรือไง!"


เด็กหนุ่มไม่ทนอีกต่อไป หมัดหนักเงื้อขึ้นจะทำร้าย ฟงอวิ๋นแม้จะเคยติดยา แต่ก็ได้รับการบำบัด ออกกำลังอย่างหนักจนร่างกายแข็งแรงกำยำ เรี่ยวแรงย่อมมากกว่า เด็กสาวเมื่อเห็นเช่นนั้นก็หวีดร้องรีบหลบ น้ำแกงต้องรีบคว้าแขนคนรักไว้


"อย่านะฟง!"


เรื่องราวชักไปกันใหญ่ เมื่อผู้ชายอีกคนเข้ามาร่วมวง ผลักอกฟงอวิ๋น น้ำเสียงยียวน "หวงอะไรวะ กะอีแค่ตุ๊ด มึงติดใจตูดก็ไม่บอก ว่าไงล่ะน้อง สวยขนาดนี้กูก็โอเคนะ" เขาจ้องตรงมาที่น้ำแกงด้วยสายตาโลมเลีย


น้ำแกงที่ถูกมองอย่างจาบจ้วงกลับสบตากลับ ไม่มีหลบ ดวงตาคู่งามไม่มีร่องรอยความกลัว ปากอิ่มสวยค่อยๆ เผยรอยยิ้มบางๆ ชวนขนลุก มองคนทั้งด้วยสายตาสูงส่ง ผู้มาใหม่ทั้งสองขนลุกเกรียว ผงะโดยไม่รู้ตัว


แค่รอยยิ้มเดียวกลับทำให้คนถอยกรูดได้... แฟนฟงช่างไม่ธรรมดา


แล้วเด็กหนุ่มก็ค่อยๆ แตะที่ศอกคนรัก พูดเบาๆ "ไปกันเถอะ ฟง"


ฟงอวิ๋นพยักหน้า แม้จะไม่พอใจ แต่ก็เห็นด้วยกับน้ำแกง... ทั้งชินและกาจญ์เมื่อเห็นเหยื่อกำลังจะหนี ร่างผอมแกร็นของชินจึงรีบกระชากแขนบางจากคนตัวโต ร่างน้ำแกงเซถลา ฟงอวิ๋นปฏิกิริยาไวกว่า เขาดึงน้ำแกงกลับมาทันที ร่างเล็กๆ ที่ถูกยื้อยุดไปหยุดอยู่ที่แผ่นหลังแฟนหนุ่ม ฟงอวิ๋นก้าวขึ้นมาข้างหน้า มือปัดชายหนุ่มออกอย่างแรง ส่งเสียงคำราม


"ไสหัวไป... อย่ามายุ่งกับคนของกู"


ชินส่งเสียงหัวเราะลั่น แม้ดวงตายังดูหวาดกลัวคนตัวเล็กที่ยืนด้านหลังเด็กหนุ่ม "ฮ่าๆ คนของมึง... สวยก็จริง แต่มีคว*! ว่าไงจ๊ะ สวยแบบนี้เป็นเมียไอ้ฟงมันเหรอ ?" ชินยื่นหน้ามาใกล้ๆ น้ำแกง เด็กน้อยเพียงขมวดคิ้ว ริมฝีปากอ้าขึ้นจะกล่าวอะไรสักอย่าง แต่ฟงอวิ๋นกลับหมดความอดทน ร่างสูงใหญ่ชกหน้าซูบผอมโดยที่น้ำแกงห้ามไม่ทัน คนรอบๆ พากันส่งเสียงร้องอุทาน น้ำแกงตกใจจนรีบดึงแฟนหนุ่มไว้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าไม่ทันเสียแล้ว...


แย่แล้ว...

สายตาที่ทุกคนมองฟงอวิ๋นนั้นไม่ดีเลย 


น้ำแกงไม่ชอบ...

ไม่ชอบเลย... ดวงตาคมกวาดมองดูคนรอบตัว เลื่อนมือกุมฝ่ามือใหญ่ไว้ ถ้ายังปล่อยไว้แบบนี้ เรื่องต้องถึงตำรวจแน่ และถ้าเป็นอย่างนั้น... ฟงอวิ๋นจะเดือดร้อน


ฟงอวิ๋นอาจเคยมีอดีตที่ไม่ดีมาก่อน แต่เขาก็เอาชนะมันได้ กลับตัวกลับใจเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ น้ำแกงจะยอมให้อดีตมันกลับมาฉุดดึงเขาไปอีกไม่ได้


เด็กชายก้าวมาข้างหน้า ร้องบอกกับคนที่ยืนมุงว่า "ช่วยด้วยครับ! คนพวกนี้มาหาเรื่องแฟนผม!"


ดูอย่างไรก็ผู้ชายทั้งคู่ แต่ท่าทางที่เด็กคนสวย ตัวเพรียวบางกุมมือกับเด็กตัวโตอีกคนนั้นน่าสงสารกว่า อีกทั้งการแต่งตัว ท่าทางก็เป็นผู้ดี ใครคนหนึ่งในฝูงชนเสริมขึ้นว่า


"ผมเห็นตั้งแต่ต้น เด็กสองคนนั้น" ชี้ไปที่คู่กาจญ์และชิน "มาหาเรื่องเด็กพวกนี้"


"เด็กสองคนนั้นเพิ่งออกจากสถาบันเรียนเสริมนี่ ?"


"นั่นสิ เด็กดีๆ ต้องมาถูกหาเรื่อง"


"น่าสงสาร..." เสียงพึมพำเริ่มดังไปทั่ว ความเห็นใจและความคิดเห็นเริ่มเหมือนไฟลามทุ่ม น้ำแกงรีบพยักหน้า ก่อนปล่อยประโยคเด็ด "ใครก็ได้! ช่วยเรียกตำรวจทีครับ!"


พอได้ยินคำว่าตำรวจ ชินและกาจญ์ก็หน้าซีด เด็กทั้งสองรีบผลักคนที่มุงอยู่โดยรอบออกแล้วเผ่นหนี ยิ่งทำให้ฝูงชนเข้าข้างน้ำแกงและฟงอวิ๋น แม้กระทั่งป้าที่ขายล็อตเตอรีข้างๆ ก็เข้ามาช่วยพยุงเด็กทั้งสองพร้อมปลอบใจ


"ขวัญเอ๊ยขวัญมา เจอพวกขี้ยาเข้าล่ะสิลูก พวกนี้อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับมันนะ เดี๋ยวมันทำร้ายเอา"


ทั้งน้ำแกงและฟงอวิ๋นยกมือไหว้ขอบคุณคุณป้า ยิ่งสร้างความประทับใจมากขึ้น "นี่แหละนะ พวกเด็กดีๆ ก็พลอยอันตรายไปด้วย แย่จริงๆ"


ตำรวจมาหลังจากนั้น น้ำแกงและฟงอวิ๋นยืนยันว่าไม่ต้องการมีเรื่อง จึงไม่แจ้งความ แต่ทั้งสองก็ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ ก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณลุงตำรวจ


ฟงอวิ๋นพาน้ำแกงออกเดินจากสน. ด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง...









"ไม่ถามเหรอแกง ?" ฟงอวิ๋นพูดหลังจากที่ทั้งสองเงียบกันมาสักพัก น้ำแกงพาฟงอวิ๋นไปที่ร้านอาหารญี่ปุ่นกระทะร้อน เด็กชายสั่งอาหารของตัวเองและแฟนหนุ่มให้ หลังจากนั้นก็นั่งเงียบๆ โดยที่ไม่ได้กดดันหรือเร่งเร้า


ไม่มีร่องรอยความโกรธเคืองหรือไม่มีพอใจ... ฟงอวิ๋นสัมผัสได้เพียงความเป็นห่วงและความรัก จนเขาเกลียดตัวเอง... หากน้ำแกงโกรธโวยวายคงดีกว่านี้


น้ำแกงยิ้ม "แกงรอให้ฟงเล่า"


เด็กหนุ่มตัวโตท่าทางเงอะงะ รอยยิ้มของน้ำแกงหวานบาดใจ... สวยจนเขาเผลอไป ตาชั้นเดียวหลุบลง ยิ่งน้ำแกงสวยเท่าใด แสนดีเท่าใด ฟงอวิ๋นก็ยิ่งละอายใจ


เขาเริ่มต้นเล่าช้าๆ ทั้งๆ ที่ยังหลบตา "กาจญ์กับชินเป็นเพื่อนเก่าฟง... ที่โรงเรียนเก่าน่ะ"
"ค่อนข้างสนิทกัน..."
"ฟงเคยนอนกับกาจญ์"
"แต่ไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกนะ" รีบเงยหน้าขึ้นดูคนตรงหน้า แต่น้ำแกงยังคงสงบ พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงบอกให้เล่าต่อ

"ตั้งแต่ฟงลาออกมา ก็ไม่เคยเจอทั้งคู่เลย... ฟงขอโทษนะ" เสียงเด็กหนุ่มเบาหวิว น้ำแกงเลื่อนมือออกไปแตะหลังมือคนตรงหน้าเบาๆ


"ฟงขอโทษอะไร ?"


"ขอโทษที่ทำให้แกงลำบาก... ทั้งๆ ที่แกงไม่ควรเจอเรื่องพวกนี้แท้ๆ... ฟงขอโทษ..." ดวงตาใสกระจ่างตรงนี่คืออะไรกัน น้ำแกงมองเขาด้วยความสงบนิ่ง ไม่ต่างจากนางฟ้าผู้บริสุทธิ์ ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร ทั้งๆ ที่ฟงอวิ๋นเป็นคนลากน้ำแกงให้เจอกับอันตราย...


...ตอนนั้นที่น้ำแกงถูกชินกระชากตัวหรือกาจญ์เข้ามาใกล้นั้น หัวใจเขาหลุดจากขั้ว สองมือรีบตะเกียกตะกายหา ทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดมา ฟงอวิ๋นไม่เคยใจหายขนาดนี้มาก่อน ราวกับที่ชินดึงไปนั้นไม่ใช่ตัวน้ำแกง แต่เป็นหัวใจของเขาเอง


ฟงอวิ๋นรักน้ำแกงกว่าที่ตัวเองคาดไว้เสียอีก รักจนทนไม่ได้ที่เห็นคนรักตกอยู่ในอันตราย


สองไหล่หนาสะท้อน จินตนาการไปถึงว่า... ถ้าน้ำแกงไปตกอยู่ในเงื้อมมือชินจริงๆ เขาคงสู้ตาย ไม่สนใจอนาคตที่เพียรสร้างมา ไม่สนใจบิดามารดาคนรอบข้าง ไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บหรือ รู้เพียงแค่ต้องเอาน้ำแกงกลับมา!


"ฟง... ฟงฟังแกงนะ" ปลายนิ้วสวยเคาะหลังมือเบาๆ "เงยหน้าขึ้นมาสิ"


ฟงอวิ๋นเงยหน้าขึ้นมองตามคำเรียก เจอกับใบหน้าหวานสดใส แจ่มแจ้ง กล้าหาญ แผ่นหลังน้ำแกงยังคงเหยียดตรงสง่างาม สูงส่งต่างจากคนทั่วไป สำหรับฟงอวิ๋น... น้ำแกงเป็นเช่นนั้นจริงๆ


"ฟงรักแกงไหม ?" น้ำแกงถาม แก้มสวยขึ้นริ้วสีแดง ฟงอวิ๋นปากคอแห้งผาก ยิ่งคิดว่าคนสวยขนาดนี้ หากถูกชินกระชากไป...


...ไม่เอา ไม่เอาเด็ดขาด!


กลัว... กลัวเหลือเกินว่าน้ำแกงจะเป็นอะไรไป
กลัวว่าจะได้รับบาดเจ็บ ไม่ว่าจะมากหรือน้อย... ล้วนทำให้ฟงอวิ๋นคลุ้มคลั่งได้ทั้งสิ้น


"ฟง ?"


ฟงอวิ๋นสูดลมหายใจลึก ตอบตามตรง "ฟงกลัว... กลัวว่าแกงจะเป็นอะไร เพราะรัก... เลยกลัว"


รอยยิ้มบนใบหน้าอ่อนละมุน ดวงตานั้นสบตรงมาที่เขาโดยไม่ลังเล "แล้วฟงจะปกป้องแกงไหม ? เหมือนที่ฟงทำเมื่อกี้ ?"


เด็กหนุ่มตอบทันที "ฟงต้องปกป้องแกงอยู่แล้ว... ไม่ว่าอะไร...ใคร... ฟงจะไม่ยอมให้มาทำอะไรแกงเด็ดขาด!"


น้ำแกงรวบมือใหญ่ทั้งสองไว้ในอุ้งมือน้อย "ถ้าอย่างนั้นแกงก็ไม่กลัว... ถ้าหากฟงจะรักจะปกป้องแกง แกงก็จะรักและปกป้องฟงเหมือนกัน" เด็กชายยิ้มกว้าง ดวงตาหวานระยิบระยับ "เราเป็นแฟนกันนะฟง เราจะผ่านมันไปด้วยกัน"


มือทั้งสองของฟงอวิ๋นสั่นระริก ความรู้สึกท่วมท้นจากใจ ไม่คาดคิดเลยว่าชีวิตอันเละเทะของเขาจะมีสิ่งดีงามเกิดขึ้นมา และพร้อมยอมอยู่เคียงข้าง


คนที่เกิดมาเพื่อฟง เพื่อดูแลกันและกัน


ฟงอวิ๋นยังเด็ก แต่รู้ดีว่า คนเช่นน้ำแกง ต่อให้หาทั้งชีวิตก็คงไม่มีวันพบอีก



ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด... ให้คนอื่นได้สัมผัสความอ่อนโยนและเข้มแข็งนี้ไม่ได้เด็ดขาด ฟงรักแกง แกงเป็นของฟงเพียงคนเดียวเท่านั้น


เด็กหนุ่มกระพริบตาปริบ มีเพียงมือที่กระชับมือน้อยแน่นเข้าและเสียงแผ่วเบาที่เล็ดลอดออกจากปากเท่านั้น


"แกง... ได้โปรด... อยู่กับฟง..."


น้ำแกงยิ้มสวยแทนคำตอบ...

...

// มาล้าววว แก้หลายรอบมากตอนนี้ ไม่นึกว่าความลับของน้ำแกงจะแตกไวขนาดนี้ แต่คิดว่าหลายคนคงเดาได้เหมือนกัน ถึงกริยา ท่าทางอะไรของน้ำแกงจะเหมือนแม่มาก แต่จริงๆ แล้วคุณนาถเอามาเลี้ยงตั้งแต่เป็นเบบี๋ค่ะ น้ำแกงถึงได้สวยไม่เหมือนคุณนาถเลย พอดีกับช่วงวันแม่พอดี เลทนิดหน่อยไม่ว่ากันนะคะ สำหรับน้ำแกง คุณนาถก็คือแม่แท้ๆ ถึงจะไม่มีสายเลือดเดียวกันเลยค่ะ

คิดว่าคงมีคนเกลียดป้าจี จริงๆ แล้วป้าจีไม่ใช่ตัวร้ายนะคะ แค่ปากร้ายแต่ใจดี เป็นคนที่คิดยังไงก็พูดยังงั้น ปากไม่ค่อยดี ชอบเอาชนะ ไม่ค่อยถูกกับน้องสาว(คุณนาถ) แต่รักน้ำแกงค่ะ ที่จะพาน้ำแกงไปเรียนก็ตั้งใจจริงๆ

รอบตัวน้ำแกงมีแต่คนรักเนอะ ทั้งท่านยาย คุณแม่ ป้าจี พี่ไตร ป้านวล เพราะเป็นเด็กดีมาตลอดนั่นแหละค่ะ ผู้ใหญ่ท่านถึงว่าไว้ว่า ความดีจะเป็นเกราะคุ้มภัย ค่ะ

ตอนนี้จะเห็นได้ว่าจริงๆ แล้วน้องใจแข็ง ใจเด็ดมาก ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น ตัดสินใจลงไปแล้วก็ไม่กลัวอะไร ออกมาปกป้องฟงด้วย ประมาณว่า ผัวข้าใครอย่าแตะ 555 ส่วนฟงก็ไม่มีงบค่าตัว ออกมาแป๊บๆ หลบอยู่หลังเมีย

ไว้เจอกันตอนหน้านะคะ  :pig4: :3123: :L1:

ปล เจ้ากาเหว่า มาจากบทอาขยานสมัยก่อนค่ะ เผื่อใครไม่รู้จักเนอะ

'เจ้านกกาเหว่าเอย
ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก
แม่กาก็หลงรัก
คิดว่าลูกในอุทร
คาบเอาข้าวมาเผื่อ
ไปคาบเอาเหยื่อมาป้อน
ถนอมไว้ในรังนอน
ซ่อนเอาเหยื่อมาให้กิน'



หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 16-08-2016 21:28:22
งื้อออออ
น้ำแกงคนดี อย่าปล่อยตัวปล่อยใจกะไอ้ฟงง่ายๆสิ เล่นตัวอีกหน่อย
 :ling1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 16-08-2016 21:28:41
ฟง แกงไป สยาม จับโปเกม่อนไหม
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-08-2016 22:05:53
น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: room ที่ 16-08-2016 22:11:51
ฟงอ่าาา เท่จังเลย :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-08-2016 22:16:03
ประทับใจ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 16-08-2016 22:21:47
ดีงามพระรามไนน์มากจ้ะ
สมกับที่เฝ้ารอ

แต่แบบอ่านเจอบรรยายหน้าฟงตอนนี้ ป้าถึงกับเครียด ตอนแรกก็มโนไปเองตอนอ่านพี่เสือน้องต่ายว่าฟงนี่ก็ตี๋ล่ำไสยไสยสไตล์เกาหลี แต่นี่มาแบบ กรามใหญ่ ตาตี่ จมูกบาน ปากหนาาาาาาา ป้าเครียดเบยยยยยยย แต่นะ ขอมโนต่อว่า ฟงนั้นเหมือนรยูจุนยอลละกัน ตามที่บรรยายเป๊ะ แต่เอ๊ะ ทำไมมีเสน่ห์

ส่วนแกง พาลให้นึกถึงโพคาฮอนทัสไงไม่รู้อะจ้ะ รักน้องอะ น้องดูแพง ดูเริ่ดหรู คุณหนูเชื้อสายผู้ดีมากกกกกกกก

เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะจ๊ะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 16-08-2016 22:35:49
เกลียดป้าจีตอนว่าน้ำแกงที่มาสารภาพว่ามีแฟนเป็นผู้ชายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่พอรู้ว่าเป็นคนปากร้ายใจดีค่อยโอเคหน่อย
อดีตของฟงเริ่มกลับมาสร้างปัญหาแต่ดีที่แกงเข้มแข็งมาก o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 16-08-2016 23:03:30
ท่านยาย คุณแม่ คุณพ่อ เป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถืออย่างแท้จริง

แกงโชคดีและดีสมกับที่เป็นที่รัก
ฟงก็โชคดี

หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: hpimmc ที่ 16-08-2016 23:05:03
นิไม่เคยคิดว่าแกงไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของครูนาถเลยนะ มาตอนนี้อึ้งอยู่เหมือนกัน

"ฟง เจ๊ขอโทษ ฟงค่อยๆ ชักว่าวไปนะ อย่าให้เจ็บตัว"

ตลกอันนี้ 55555555555555555555555555555555

น้ำแกงใจเด็ดใจแข็งจริงๆ นิคงเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟงยอมแกงแทบทุกอย่างสินะ
ยอมเพราะแกงจะได้เป็นตัวของตัวเอง ยอมเพราะว่าแกงจะได้ไม่ทิ้ง
โอ้ววววว ดีจริงๆ โชคดีนะที่เจอคนของตัวเอง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 17-08-2016 07:58:04
แกงfc เลยค่าาา นางแมนมากกกก โอ้ยยยย สครีมมากกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-08-2016 08:01:51
อ่านตอนนี้เหมือนผีเข้า
มีอารมณ์หลากหลาย555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 17-08-2016 09:42:31


อ่านไปแรก ๆ ก็หงุดเงี้ยวเป็นเพื่อนฟง เพราะอยากให้พ่อพระเอกได้ยกเสาลงหลุมอย่างเป็นทางการเสียที
แต่พออ่านต่อไปเรื่อย ๆ ก็อดสงสารแกงไม่ได้ - แต่ถึงอดีตหนูจะเป็นอย่างไร ป้าเชื่อเหลือเกินว่าที่ ๆ หนูอยู่ตอนนี้ ดีกับหนูมากที่สุดแล้วจ๊ะ

ส่วนตอนท้าย ป้าก็อดใจหายแทนฟงไม่ได้
สิ่งที่คนล้มแล้วพยายามลุกหวาดกลัวที่สุด น่าจะเป็นอดีตที่คอยตามมาหลอกหลอนแบบไม่เลือกเวล่ำเวลานี่แหละ
แต่ฟงโชคดีที่ฟงมีแกง เพราะหลังจากนี้ ฟงจะเปลี่ยนจากเด็กขึ้ยา เป็นราชสีห์ข้าทาสเมียเต็มตัว - ถือเป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติสูงสุดของชีวิตรุกคนหนึ่งจะพึงมีเลยนะพ่อ (ตบหลังฟงปุ ๆ )

รอตอนต่อไปค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ^^ สู้ ๆ !  :กอด1:

หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: imymild ที่ 17-08-2016 15:59:54
หลงรักน้ำแกงมากอะ ดีงามจริงๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 17-08-2016 16:10:59
ต้องสะกิดน้ำเเกงคนงาม ให้นังข้าวมาลงในเล้าเป็ดซะเเล้วล่ะ เเล้วจะหลงรัก นังข้าวคนอวดผัว 5555555

 :z2:  :z2:   :z2:   :z2:   :z2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ดาวโจร500 ที่ 17-08-2016 18:10:11
รอค่าาา น้องแกงน่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 17-08-2016 20:35:01
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 18-08-2016 00:02:13
สนุกมากเลยค่ะ จะติดตามตอนต่อไปนะคะ ชอบตัวละครทุกตัวเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: มาโซซายตี้ ที่ 19-08-2016 17:34:23
ในเรื่องเสือต่าย จำได้ว่าอิพี่ฟง หล่อล่ำสไตล์เกาหลีนี่นา
ทำไมมาเป็นพระเอกเรื่องนี้ จึงได้ ตาตี่ กรามใหญ่ ปากหนา หน้าบาน 555
แหม เนอะ ยังไงก็พระเอกล่ะน่า

รักน้องแกง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 19-08-2016 17:38:01
ชอบตั้งแต่อ่านเสือกับต่าย ยิ่งได้มาอ่านพาร์ทเฉพาะของฟงกับแกง ก็ยิ่งชอบทั้งคู่มากๆเลยค่ะ
อ่านแล้วทั้งยิ้มทั้งร้องไห้ พร้อมกับหลงน้ำแกงขึ้นไปอีกสิบเลเวล
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-08-2016 22:29:54
 :z13:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: aommama ที่ 20-08-2016 09:10:04
ในเรื่องเสือต่าย จำได้ว่าอิพี่ฟง หล่อล่ำสไตล์เกาหลีนี่นา
ทำไมมาเป็นพระเอกเรื่องนี้ จึงได้ ตาตี่ กรามใหญ่ ปากหนา หน้าบาน 555
แหม เนอะ ยังไงก็พระเอกล่ะน่า

รักน้องแกง

อาจจะ เเต่ดูรวมๆเเล้วมีเสน่ห์เหลือเกินนนนนน  55555555555555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: dradareal ที่ 20-08-2016 10:41:24
ชอบนายเอกแบบน้องน้ำแกงมากกก จริตแบบนี้แหละ ที่ตามหามาเนิ่นนานน
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: pui ที่ 20-08-2016 21:09:15
ดีอ่ะดีมากๆๆๆๆๆ รอตอนต่อไปนะคะ ^ ^
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 31-08-2016 15:07:14

อดีตที่ตามหลอกหลอนฟง
ด้วยเหตุนี้น้ำแกงเลย"ทั้งแมน..ทั้งโหด"เพื่อปกป้องหมาฟงใช่ไหม??
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 02-09-2016 06:43:15
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Onlylyn ที่ 03-09-2016 08:36:48
ดันมาอ่านเรื่องนี้ก่อนเสือต่าย
น้ำแกงและฟงเข้มแข็งมากๆ ทั้งที่ฟงเคยผ่านชีวิตแบบสุดขั้วมาก่อน ดีที่ได้น้ำแกงเป็นยาแรง
ตอนที่น้ำแกงบอกเรื่องแฟนน้ำตาซึมไปด้วยเลยค่ะ ยังเด็กแต่ต้องมาพูดเรื่องหนักใจแบบนี้ แถมตัวเองยังไม่ใช่ลูกหลานจริงๆอีกต่างหาก เป็นเราไม่กล้าบอกแน่ๆ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 03-09-2016 09:59:13
ดีงามเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 02-10-2016 10:17:05
คิดถึงฟงจังงง :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: todiefor ที่ 02-10-2016 11:01:16
 :mew2: คิดถึงนุ้งแกงคนสวยยยย และอินังฟง คนหน้าเหียกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 02-10-2016 20:45:25
สนุกมาก ชอบคู่นี้อยู่แล้วด้วย
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 03-10-2016 00:39:32
ละมุนขอบอก อ่านได้เรื่อยๆ เพลินค่ะ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: nijikii ที่ 09-10-2016 19:22:10
อ่านในเรื่องพี่เสือน้องต่ายก่อน
แล้วพึ่งได้มาเจอเรื่องแยกของพี่ฟงน้องแกง
โอ้โหววว
นี่มันเรื่องคนละขั้วเลยนะเนี่ย
อย่างกับหนังคนละม้วน
55555555555555

แต่อ่านแล้วน้ำตาซึม
กว่าจะเป็นฟงอวิ๋นน้ำแกงได้ ต้องผ่านอะไรมาเยอะจริงๆ
นับถือน้ำแกงที่รับฟงอวิ๋นได้ บางคนไม่มีหรอกจะให้โอกาสคนที่เคยทำผิดพลาด
เข้าใจแล้วว่าทำไมฟงถึงได้เป็นพ่อบ้านใจกล้าขนาดนั้น
555555555555555
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: mkianit ที่ 11-10-2016 03:29:45
หลงรักฟงและน้ำแกง น่ารักอะไรขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 12-10-2016 09:32:05
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 24-10-2016 23:06:37
น้ามแกงงงงงงงง กระดึ้บๆ :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Storm_Dragon ที่ 22-12-2016 16:08:42
โอ้ยยยยน้ำแกงลูกกกก /ลูบหัวโอ๋ๆ

เด็กน่ารักเด็กดีมีเสน่ห์มีแต่คนอยากดีด้วยจริงๆนั่นแหล่ะค่ะ

ยกเว้นแต่พวกบัวจมโคลนต่ำตมพวกนั้น ฮึว์! /เบ้ปากมองแรง

สู้เขาลูกสาววว
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 22-12-2016 22:08:22
คิดถึงหนองหนามแก่งงว :ling1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: now43 ที่ 24-12-2016 20:36:45
รอ ฉันรอเธออยู่ อยากบอกให้รู้ เธอได้ยินไหมมมมมมมม :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 05-02-2017 22:50:49
ชั้นคิดถึงเด็กน้อยจัง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Lufylove ที่ 19-03-2017 16:44:33
แต่งต่อเลยได้มั้ย อิอิ เพิ่งมาอ่านน้องน้ำแกงน่ารักมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: MOMAMi_96 ที่ 22-03-2017 03:35:54
คุนพรี่ขาหนูคิดถึงน้องงงงง
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 05-02-2018 21:35:24
พึ่งเข้ามาอ่านน อยากอ่านต่ออ
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: por_pla4u ที่ 03-06-2018 23:34:57
รอฟงแกงอยู่นะเออ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Stay Gold Ch 8 16/8/16 P.6
เริ่มหัวข้อโดย: cirrus ที่ 22-07-2018 22:30:31
ชื่อเรื่องดึงดูดเรามากกกก
//ยองวอนี stay gold รออ่านนะคะ