พิมพ์หน้านี้ - เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Pawaree ที่ 07-01-2015 22:47:55

หัวข้อ: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 07-01-2015 22:47:55
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)







******************************************************************




พบเจอกับกระผมอีกแล้วนะครับ แหะๆ วันนี้เอานิยายอีกเรื่องมาฝาก


ออกแนวคู่รักโคตรนิ่งกับชีวิตในรั่วมหาลัย


ไม่รู้ว่าจะเบื่อแนวนี้กันมั้ย แต่ผมว่ามันก็ค่อนข้างต่างนะ


เพราะอีกเรื่องนึงเป็นแนวผู้ชายท้องได้ แต่เรื่องอิงความเป็นจริงมากกว่า อิอิ


ยังไงก็ ขอฝากฝังนิยายเรื่องนี้ให้คุณผู้อ่านได้ติดตามด้วยนะครับ







นิยายที่ Pawaree แต่ง


นี่แหละ...ที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
[/size]

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบคุณ คุณผู้อ่านที่น่ารักอย่างคุณmonetacaffeine ด้วยนะครับ ที่ใจดีทำสารบัญมาให้ ทำให้นิยายเรื่องนี้มีสารบัญแล้วครับ ต้องขอบคุณมากๆจริงๆครับ :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


สารบัญ

บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2925490#msg2925490)
ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2926092#msg2926092)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2929476#msg2929476)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2932704#msg2932704)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2934895#msg2934895)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2936683#msg2936683)
ตอนที่ 6 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2944516#msg2944516)
ตอนที่ 6 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2947791#msg2947791)
ตอนที่ 7 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2953408#msg2953408)
ตอนที่ 7 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2965407#msg2965407)
ตอนที่ 8 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2969138#msg2969138)
ตอนที่ 8 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2974183#msg2974183)
ตอนที่ 9 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2975992#msg2975992)
ตอนที่ 9 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2977844#msg2977844)
ตอนที่ 10 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2979187#msg2979187)
ตอนที่ 10 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2984009#msg2984009)
ตอนที่ 11 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2985635#msg2985635)
ตอนที่ 11 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2989073#msg2989073)
ตอนที่ 12 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2990916#msg2990916)
ตอนที่ 12 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2992957#msg2992957)
ตอนที่ 13 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2994060#msg2994060)
ตอนที่ 13 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg2997656#msg2997656)
ตอนที่ 14 (ครั้งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3004807#msg3004807)
ตอนที่ 14 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3007340#msg3007340)
ตอนที่ 15 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3011350#msg3011350)
ตอนที่ 15 (ครึ่งหลัง) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3016872#msg3016872)
ตอนที่ 16 (ครึ่งแรก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3027459#msg3027459)
ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3032712#msg3032712)
ตอนที่ 17 ครึ่งแรก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3038316#msg3038316)
ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3042500#msg3042500)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3047512#msg3047512)
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3049837#msg3049837)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3053191#msg3053191)
ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3054536#msg3054536)
ตอนที่ 22 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3056970#msg3056970)
ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3058369#msg3058369)
ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3059416#msg3059416)
ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3060230#msg3060230)
ตอนที่ 26 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3063684#msg3063684)
ตอนที่ 27 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3068663#msg3068663)
ตอนที่ 28 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3078255#msg3078255)
บทส่งท้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.msg3086962#msg3086962)





TBL-425-920

เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่ วันที่ 24 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2558
เริ่มจัดส่งหนังสือให้ตั้งแต่ วันที่ 20 กันยายน – 5 ตุลาคม 2558
ระยะเวลาที่จะได้รับหนังสือโดยประมาณ วันที่ 25 กันยายน - 12 ตุลาคม 2558

(http://image.goosiam.com/imgupload/e/gHFzI05INjsX.jpg)




รายละเอียดหนังสือ

                              ขนาด A5 จำนวนเล่ม 1 เล่ม

                              ราคา 425 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียน/ห่อกันกระแทกใส่ซอง)

                              ของแถม จะแจ้งอีกครั้งที่หน้าเว็บ

                              สั่งจองได้ที่  Pre-order เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว  (http://www.nana-naris-ybooks.com/product/23/pre-order-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88-apos%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81apos-%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%8B%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-by-pawaree)

                              และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)









จุ้บ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 07-01-2015 22:54:29
บทนำ










ขาเรียวยาวก้าวลงจากแท็กซี่ สัมภาระทั้งหมดที่ตัวเองมีถูกวางอยู่ข้างๆกายของเขา ตรงหน้าคือบ้านหลังขนาดกลาง แต่พื้นที่รอบบ้านค่อนข้างเยอะกว่าบ้านหลังอื่นๆ




สายตาของร่างสูงจับจ้องไปยังภาพเบื้องหน้า นี่คือบ้านหลังใหม่ของเขา พี่สาวของเขาได้แต่งงานกับแฟนหนุ่ม และกำลังตั้งท้องได้สามเดือน และเมื่อแต่งงานแล้วย้ายเข้ามาอยู่บ้านที่เป็นเรือนหอ พี่สาวของเขาก็ชวนเขามาอยู่ด้วย เนื่องจากเหลือกันแค่สองคน แต่เขาก็ไม่ได้ย้ายมาทันที เพราะว่าค่าห้องก็พึ่งจะจ่ายไป เลยขอผลัดมาเป็นสิ้นเดือน แล้วค่อยย้ายออกจากหอที่อยู่ใกล้มหา’ลัยกับพี่สาว และก็พี่เขย แม้ในใจไม่ค่อยอยากจะมา เพราะอยู่แถวนั้นก็สะดวกดี แต่เห็นว่าพี่สาวตัวเองกำลังท้องกำลังไส้ เลยไม่อยากขัด กลัวว่าจะมีผลกระทบถึงหลาน




ร่างสูงโปร่งหายใจเข้าเรียกความมั่นใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปกดกริ่งหน้าบ้าน ไม่นานนัก ร่างสูงของพี่เขยก็เดินออกมารับเขา




“ตาลกำลังนอนพักอยู่นะ ‘ติณณ์’ เข้ามาก่อนเลย เดี๋ยวพี่ช่วยขนของ” พี่เขย หรือ ‘ปาร์ตี้’ เอ่ยขึ้นพลางยกยิ้ม เพราะทุกวันนี้ภรรยาของเขาเอาแต่นั่งรออย่างใจจดใจจ่อว่าเมื่อไหร่น้องชายของตนจะมาสักที




“ครับ ขอบคุณครับ” คนพูดน้อยอย่างติณณ์พูดแค่นั้น ก่อนจะขนของเข้าบ้าน




“ตาลได้บอกติณณ์มั้ย ว่าพี่ก็จะพาน้องชายพี่เข้ามาอยู่ด้วย แต่ว่า...น้องพี่นอนห้องเดียวกันกับติณณ์นะ ติณณ์คงจะไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” ปาร์ตี้เอ่ยอย่างเกรงใจ เพราะตอนแรกที่แพลนเอาไว้ จะมีเพียงติณณ์เท่านั้นที่เข้ามาอยู่ เขาจึงทำบ้านให้มีแค่สองห้องนอน แต่เมื่อไม่นานมานี่ หอพักที่น้องชายของเขาพักอยู่เกิดไฟไหม้ คนเป็นพี่อย่างเขาจึงชวนน้องชายเข้ามาอยู่ด้วย อีกนัยนึงเขาก็อยากอยู่กับน้องชายของเขาบ้าง เนื่องจากพ่อและแม่แยกทากันตั้งแต่ยังเล็กๆ คนเป็นพี่ไปอยู่กับพ่อ คนเป็นน้องไปอยู่กับแม่




“ครับ” ติณณ์ตอบอย่างไม่เรื่องมาก เพราะเขาเป็นเพียงผู้อาศัย




“ดีเลย น้องพี่มันก็เป็นคนไม่ค่อยพูดเหมือนติณณ์น่ะนะ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนะ” ปาร์ตี้รีบสปอยน้องชายของเขาให้ติณณ์ฟัง ส่วนติณณ์ก็ตอบกลับมาแค่เพียงว่า




“ครับ”




ติณณ์เดินสำรวจไปรอบๆบ้าน นี่คือบ้านใหม่ของเขา




ติณณ์เดินมาหยุดอยู่ที่สวนหน้าบ้าน ในใจพลางคิดถึงน้องชายของพี่เขยว่าจะเป็นคนยังไง หน้าตาแบบไหน และภาวนาเพียงว่า...




...ขอให้อย่ามาวุ่นวายกับชีวิตเขาก็พอ









****************************************************



ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ

FANPAGE
https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)


หากมีคำผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ




หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 07-01-2015 23:37:16
จิ้มๆๆๆปูเสื่อรอจร้า :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-01-2015 03:39:15
สุดท้ายก็ได้กัน 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 08-01-2015 05:26:42
อั้ยย น่าติดตาม  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 08-01-2015 12:28:46
ว๊ายยๆๆๆๆเรื่องใหม่เพิ่งเห็น
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 08-01-2015 12:35:06
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
สังสัยจะพูดน้อยต่อยหนักกันทั้งคู่ :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทนำ 7/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 08-01-2015 13:19:35
อึนๆค่อยๆรักกันเบาๆก็ดีนะคะลุ้นดี ติดตามตอนต่อไปนะคะ :impress3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 08-01-2015 17:52:56
ตอนที่ 1














“น้องติณณ์ วันนี้อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย เดี๋ยวพี่ทำให้” เสียงพี่สาวผมเอ่ยขึ้นอย่างอารมณ์ดี เมื่อกี้ตอนที่พี่สาวผมตื่นมา แล้วรู้ว่าผมมานานแล้วก็โวยวายพี่ปาร์ (ปาร์ตี้) ใหญ่เลย ว่าทำไมถึงไม่ยอมปลุก ส่วนพี่ปาร์ก็ขอโทษและออดอ้อนไปตามระเบียบครับ ดูๆไปพี่ตาลกับพี่ปาร์ก็เหมาะสมกันดีนะครับ อ้อนกันไปอ้อนกันมา แต่ผมไม่อิจฉาหรอกนะ เพราะผมยังไม่อยากมีความรัก ผมคิดว่ามันคงวุ่นวายน่าดูถ้าเราต้องแบ่งเวลาว่างของตัวเองไปให้คนอื่น ทำอะไรร่วมกับคนอื่น ผมไม่ค่อยชอบ




คงจะสงสัยสินะ ว่าผมมีเพื่อนรึเปล่า คำตอบคือมีครับ แต่พวกนั้นก็เข้าใจว่าผมเป็นยังไง เวลาจะไปไหนกันก็จะชวนผมไปด้วยตลอด แม้จะรู้ว่าผมคงจะต้องตอบปฏิเสธ แต่ผมก็ดีใจนะ ที่พวกนั้นไม่ลืมผมน่ะ




“อะไรก็ได้ น้องติณณ์กินได้หมดแหละ ถ้าพี่ตาลเป็นคนทำ” ผมตอบอย่างเอาใจพี่สาวตัวเองนิดๆ คนกำลังท้อง ต้องอารมณ์ดีเข้าไว้ หลานผมจะได้แข็งแรง




“วันนี้ปากหวานนะ อยากได้อะไรรึเปล่าเนี่ย” พี่ตาลว่าอย่างยิ้มๆ




“ไม่หนิ”




“งั้นเดี๋ยวพี่กับพี่ปาร์จะออกไปซื้อของมาทำข้าวเย็นนะ น้องติณณ์อยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย”




“...ได้ฮะ” ผมอายุยี่สิบแล้วนะ ตอนอยู่ที่หอผมก็อยู่คนเดียวไม่เห็นเป็นไร




“โอเค เดี๋ยวพี่ไปก่อนนะ อ้อ...ถ้าน้องของปาร์ ...พี่หมายถึง ‘โปเต้’ น่ะ ถ้าโปเต้มาก็ฝากดูแลหน่อยแล้วกัน พี่ไปแหละ” พี่ตาลว่าก่อนจะเดินออกไป เพราะพี่ปาร์ออกไปสตาร์ทรถรอแล้ว




ว่าแต่ว่า...โปเต้? น้องชายพี่ปาร์เป็นแบบไหน แล้วหน้าตายังไงหว่า???




ผมไม่ได้สนใจเขาหรอกนะ เพียงแต่ว่าพี่ปาร์บอกว่าจะให้ผมกับน้องชายพี่เขานอนด้วยกัน ซึ่งเมื่อกี้ตอนผมไปจัดของ ก็พบว่ามันเป็นเตียงเดี่ยว (แม้ว่าจะเป็นคิงไซส์)  และผมก็ต้องนอนกับเขาทั้งๆที่ไม่เคยต้องนอนกับใครยกเว้นพี่ตาล




มันรู้สึกแปลกๆ ที่ต้องมานอนกับใครก็ไม่รู้ที่ไม่รู้จัก




แต่ว่า...ผมอาจจะเคยเห็นน้องชายพี่ปาร์มั้งนะ เพราะวันงานแต่งพี่ตาลกับพี่ปาร์ผมก็ไป น้องพี่ปาร์ต้องเป็นใครสักคนที่มาร่วมงานนั่นแหละ




ผมเดินไปนั่งที่โซฟาตรงห้องนั่งเล่น ก่อนจะเอางานขึ้นมาทำ ผมเรียนสถาปัตย์ปีสาม งานก็เยอะพอสมควร การบ้านก็มีอีกเพียบ เหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็สนุกดี




อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด




มีคนมากดออดหน้าบ้านในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ ในใจผมคิดว่าคงต้องเป็นน้องชายพี่ปาร์แน่ๆ ผมจึงเดินออกไปที่หน้าบ้าน เห็นผู้ชายผิวขาวค่อนข้างสูง ใบหน้าหวาน แต่กลับมีสายตาที่ดุดัน ดูน่าเกรงขามและไม่น่าคบในเวลาเดียวกัน




ถ้าหากว่าผมเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายด้วยกัน ผมอาจะหลังใบหน้านั้นเข้าให้อย่างจัง แต่ผมไม่ใช่...ผมไม่ได้พิศวาสผู้ชาย แต่ก็ไม่เคยมีแฟนเหมือนกัน ผมไม่ชอบแบ่งเวลาตัวเองให้กับใครนอกจากคนในครอบครัวหรือเพื่อนที่สนิทกันจริงๆเท่านั้น




“นายคงเป็น...โปเต้?” ผมถามเสียงเรียบ ใบหน้านั้นมีเคล้าโครงพี่ปาร์หน่อยๆ




“.....” ดวงตาโตดำขวับมองมาที่ผม รู้สึกเสียวสันหลังนิดๆ เพราะสายตาที่มองมานั้น จะเรียกว่าอะไรดี ‘เย็นชา’ ‘เยือกเย็น’ หรือว่า ‘ไร้ความรู้สึก’




“.....”




“.....” เขาไม่ตอบอะไร แต่ชี้มาที่ประตูเหมือนจะบอกให้ผมเปิด




“.....” ผมมองหน้าหวานๆที่นิสัยไม่เข้ากันกับหน้า ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้ พอเดินมายืนใกล้กัน ทำให้ผมพึ่งสังเกตเห็น ว่าหน้าหวานๆแบบนี้ ดันสูงกว่าผม และตัวหนากว่าผมเสียอีก ผมสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเจ็ด ส่วนคนตรงหน้าเหมือนจะสูงกว่าผมเกือบสิบเซ็นต์เลยมั้งเนี่ย




“นำไปสิ” เสียงทุ้มๆน่าฟังถูกเปล่งออกมา ราวกับออกคำสั่ง ผมมองหน้าเขาอย่างขัดใจก่อนจะเดินนำไป




รู้จักกันมั้ย?... ก็ไม่! แล้วยังจะมาออกคำสั่งอีก แต่ผมจะไปว่าอะไรก็ได้ เพราะเขาเป็นน้องชายพี่ปาร์ พี่ปาร์ก็เป็นเจ้าของบ้าน ส่วนผมเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น




ผมเดินนำเขาขึ้นมายังชั้นสอง แล้วบอกให้เขารออยู่ตรงนั้น ก่อนจะเดินลงมาที่ห้องเก็บของเพื่อที่จะเอาไม้แขวนเสื้อไปให้เขา แล้วจัดการขยับเสื้อผ้าของตัวเองไปไว้ที่ฝั่งหนึ่ง




“เต้ารีด โต๊ะรีดผ้า” ผมพูดก่อนจะชี้ไปยังมุมห้อง ซึ่งเป็นของที่ผมขนมาจากหอพักเก่า แต่มันพึ่งซื้อได้ไม่นาน สภาพเลยยังดูใหม่มากๆ โปเต้เขามองตามแล้วหันไปเปิดกระเป๋าของตัวเอง ส่วนผมก็เดินลงมายังห้องนั่งเล่นเพื่อที่จะทำงานต่อ




“.....” ผมนั่งลงได้แป๊บเดียว โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นครับ และคนที่โทร.เข้ามาก็คือ ‘หลุยส์’ เพื่อนของผมเอง




(ไอ้ติณณ์ วันนี้พวกกูจะไปดูหนังกัน มึงจะไปมั้ย)




“...งานยังไม่เสร็จ” ผมตอบปฏิเสธแบบอ้อมๆ




(เหรอ เหลืออีกเยอะป่ะ)




“พอสมควร”




(โอเคๆ เอาไว้คราวหน้าล่ะกัน ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ แค่นี้แหละ บาย)




และหลุยส์มันก็วางสายไป บางทีผมก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นเพื่อนที่แย่นะ ที่ไม่เคยไปไหนกับเพื่อนๆเลย แต่ว่า...ถ้าหากว่าตอนนี้ไม่มีงานอะไรให้ผมต้องทำ ผมอาจจะไปก็ได้ เพราะเวลาที่ว่างจริงๆ ส่วนใหญ่จะหมดไปกับการนอน และพอผมว่าง พวกเพื่อนๆผมก็ดันไม่ว่าง เวลาของเราเลยไม่ค่อยจะลงตัวแม้ว่าจะเรียนคณะเดียวกันสาขาเดียวกันก็ตาม




ผมนั่งทำงานไปสักพัก โปเต้ก็เดินลงมา ตรงมานั่งที่โซฟาแล้วเปิดทีวี ส่วนผมนั่งที่พื้นครับ และทำงานของตัวเองต่อไป




“หิว” เสียงทุ้มๆของคนที่นั่งบนโซฟาข้างๆผมเอ่ยขึ้น




“.....” ผมชะงักมือที่กำลังร่างแบบ ก่อนจะหันไปมองโปเต้ ประมาณว่าเมื่อกี้เขาพูดกับผมใช่มั้ย




“...หิว” เขามองหน้าผมกลับก่อนจะพูดอีกครั้ง แล้ว...แล้วมาบอกผมทำไม ทำกินเองไม่เป็นรึไง




“....”




“.....”




ผมกับเขานั่งจ้องตากันสักพัก และเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายยอมแพ้ วางงานลงบนโต๊ะ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปในครัว หาดูว่ามีอะไรกินบ้าง พลันสายตาเหลือบไปเห็นขนมปังสอดไส้ครีมอยู่สองชิ้น เลยหยิบมา ก่อนจะหันไปเปิดตู้เย็นหยิบขวดน้ำมาเทน้ำใส่แก้ว




ผมเดินเอาแก้วน้ำไปวางไว้ตรงหน้าเขา ก่อนจะยื่นขนมปังไปให้




“โปเต้” ผมเรียกชื่อเขาเมื่อเขาทำเพียงแค่มองหน้าผมพลางขมวดคิ้ว




“.....”




“พี่ปาร์กับพี่ตาลออกไปซื้อของมาทำข้าวเย็น กินอันนี้รองท้องไปก่อน” ผมไม่เคยต้องมาอธิบายอะไรยาวๆให้ใครฟังเลยนะ




“.....” เขารับไปก่อนจะแกะกิน ส่วนผมที่ไม่มีสมาธิในการทำงานก็เก็บของแล้วเดินเอาขึ้นไปเก็บไว้ข้างบน ก่อนจะเดินกลับลงมา เห็นโปเต้กำลังนั่งดูทีวีอยู่เหมือนเดิม แต่มีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป สิ่งมีชีวิตที่นั่งอยู่บนตักของโปเต้...




...หมา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




หมาพันธุ์ชิวาวา วัยกำลังซน นั่งอยู่บนตักของโปเต้ และที่สำคัญ...มันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก




แต่การแสดงอารมณ์ทางสีหน้าของผมมันค่อนข้างที่จะติดลบ เพราะงั้นผมจึงมีสีหน้าเรียบเฉยแทบจะตลอดเวลา




แต่ว่านะ...ทำไมผมถึงพึ่งเห็นเจ้าหมาตัวนี้ล่ะเนี่ย ก่อนหน้านั้นไปอยู่ไหนมา???




“โปเต้ ลูกหมาของใคร” ความสงสัยที่มีมากเกินทำให้ผมเอ่ยถามไอ้คนหน้านิ่งที่นั่งอยู่ที่โซฟา




“...พี่ปาร์” โปเต้ตอบผมเสียงเรียบ ก่อนจะอุ้มเจ้าหมาตัวน้องลงจากตักแล้วปล่อยลงพื้น




“.....” ผมค่อยๆเดินไปหา แต่ท่าทางเจ้าหมาน้อยคงจะยังไม่คุ้นชินกับผม เลยส่งเสียงขู่ใส่ และตั้งท่าเหมือนจะเข้ามากัด เอ่อ...เอาไงอ่ะ อยากเล่น




“ระวังมันกัด” คนหน้านิ่งเอ่ยเตือนผม แล้วจะให้ผมทำยังไง อีกอย่างผมก็ยังต้องอยู่ที่นี่นะ ก็ต้องเป็นพันธมิตรก็น้องหมาตัวน้อยนี่สิ




“.....”




“.....” อยู่ๆโปเต้ก็ลุกมาหาผม




“.....” ผมมองไปที่เขาอย่างงงๆ




“ทำความคุ้นเคยกับมันก่อน มันถึงจะไม่กัด” โปเต้พูดประโยคยาวๆระหว่างผมกับเขาเป็นครั้งแรก (ยาวแล้วเหรอ?)




“แล้วถ้ามันกัดก่อนล่ะ” ผมว่าอย่างชั่งใจ อยากจับ แต่กลัวมันกัดอ่ะ




“ยื่นมือไปหามันช้าๆ ให้มันทำความคุ้นเคย”




“.....” ใครจะไปกล้าว่ะ ก็เจ้าหมาน้อยข้างหน้านี่ยังขู่ผมฟ่อๆอยู่เลย




“นั่งลงสิ” โปเต้ว่าก่อนจะนั่งยองๆลงที่พื้น




ผมมองการกระทำอย่างงงๆ แต่ก็ทำตาม




“.....”




“ค่อยๆยื่นมืออกไปหา” โปเต้ว่าก่อนจะทำให้ผมดู ซึ่งเจ้าหนูน้อยก็กระดิกหางวิ่งเข้าไปหาโปเต้ แต่ก็ยังไม่วายหันมาขู่ผมต่อ




“.....”




“ทำสิ”




“.....” ผมหายใจเข้าลึกๆเรียกความกล้าแป๊บ ก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปหาเจ้าหนูน้อยชิวาวา แต่ก็ต้องรีบชักกลับ เพราะเจ้าหนูน้อยทำท่าจะเข้ามากัดผม




“อันปัน” เสียงโปเต้เรียกเจ้าหนูน้อย ชื่ออันปันหรอ ...ชื่อน่ารักนะ




“อย่าดุหมาสิ” ปากผมไวกว่าใจคิด เพราะผมคิดว่า หมามันคงทำไปเพราะผมเป็นแปลกหน้าสำหรับมัน




“.....” โปเต้มองหน้าผมด้วยสายตาดุๆ (ซึ่งเขาก็มีสายตาแบบนี้ตลอดตั้งแต่เจอกันกับผม)




“เอามือมานี่” โปเต้ว่าก่อนจะแบมือตรงหน้าผม




“ทำไม” ผมถามอย่างไม่ไว้ใจ เจอหน้ากันไม่ถึงสองชั่วโมงจะให้มาจับมือ ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ก็เถอะ แต่...มันก็ไม่มีผู้ชายคนไหนจะมาจับมือถือแขนกันอยู่แล้ว




“จะเล่นกับอันปันมั้ย” โปเต้ว่าพลางขมวดคิ้ว




“.....” ผมมองหน้าโปเต้ แต่แววตาเขา...มันเหมือนกลับกำลังปิดกั้นความรู้สึก เพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกของตัวเอง ผมว่าแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ มันทำให้ดูไม่น่าคบ




แต่...สิ่งที่ผมมองหา มันแบบ...ว่า ประมาณว่าโปเต้มีอะไรแอบแฝงในการขอจับมือผมรึเปล่า แต่ดูแล้ว...ไม่มี ท่าทางเขาเหมือนจะหงุดหงิดผมด้วยซ้ำ ผมไม่ได้ดูออก แต่ผมรู้สึกได้




“.....”




“.....”




แปะ




ผมวางมือของผมลงบนมือเรียวยาวของโปเต้ มือโปเต้ใหญ่กว่าผม แต่ดูเหมือนจะนุ่มกว่าเสียอีก นุ่มกว่าพี่ตาลด้วยซ้ำ คงเป็นเพราะแต่ก่อนตอนที่พ่อกับแม่พวกเราเสียใหม่ๆ พี่ตาลพึ่งเรียนจบก็ทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำ ผมที่ตอนนั้นอายุห่างจากพี่ตาลสิบปี กำลังเรียนชั้นประถมอยู่ เลยช่วยงานพี่ตาลได้ไม่มากนัก




“...ไม่ต้องเกร็ง” น้ำเสียงทุ้มน่าฟังแต่ไร้ซึ่งความรู้สึก ราบเรียบ จนคนฟังอาจจะรู้สึกขนลุก เพราะมันดูน่ากลัว และไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด




“....” ผมพยายามที่จะทำตามที่โปเต้บอกนะ




โปเต้จับฝ่ามือของผมให้หงายขึ้นโดยที่มือของเขาประคองอยู่หลังมือของผม และค่อยๆเอื้อมมือไปให้อันปันมันดม




อันปันทำถ้าจะกัด โปเต้เลยเอื้อมมือไปลูบหัวมัน ก่อนจะกลับมาจับมือผมแล้วยื่นไปให้อันปันดมอีกครั้ง โดยที่อันปันเลือกที่จะดมมือโปเต้ก่อน ก่อนจะหันมาดมมือผมบ้าง




มือผมสั่นเล็กน้อยจากความเกร็ง เพราะผมกลัวโดนอันปันตัวน้อยมันกัด




“ทำอะไรกันน่ะ” เสียงพี่ตาลทักครับ ทำเอาผมสะดุ้ง จนมือผมไปโดนปากอันปัน และด้วยความตกใจหรืออะไรก็ไม่รู้ อันปันตัวน้อยเลยงับเข้าที่มือผมอย่างจัง ทั้งๆที่มือโปเต้ก็จับมือผมอยู่ แต่ไม่โดนกัด




งับ!!




“โอ๊ย!” ผมร้องก่อนจะดึงมือตัวเองมากลับมา ผมโดนหมางับนิ้ว




“ว๊าย น้องติณณ์ เป็นอะไรมากมั้ย” พี่ตาลรีบเดินเข้ามาดูผม




“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบพลางดูมือตัวเอง เลือดไหลเล็กน้อย  หวังว่าอันปันคงฉีดยาป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแล้วนะ




“แต่เลือดไหลนะ ปาร์...พาน้องติณณ์ไปหาหมอกัน เร็วๆ” พี่ตาลว่าอย่างรนๆ




“พี่ตาลๆ ใจเย็นก่อน น้องติณณ์ไม่เป็นอะไรหรอก พี่ตาลอย่าเครียด มันส่งผลกระทบถึงเด็กในท้องนะ” ผมรีบห้ามพี่สาวตัวเองไม่ให้รนรานไปมากกว่านี้




“แต่...”




“เอางี้ตาล เดี๋ยวปาร์ให้เต้พาติณณ์ไปหาหมอนะ ตกลงมั้ย” พี่ปาร์ว่าอย่างสรุป




“แต่ตาลห่วงน้องนะปาร์”




“ติณณ์ไม่เป็นอะไรหรอกตาล เต้...เต้พาติณณ์ไปหาหมอ...ได้ใช่มั้ย” พี่ปาร์หันไปถามน้องชายตัวเอง




“ครับ” โปเต้เพียงแต่พยักหน้า ก่อนจะยื่นมาไปรับกุญแจรถที่พี่ปาร์ส่งมาให้




“.....” เขามองหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะใช้มือดันหลังผมให้เดิน




“พี่ตาล พี่ตาลทำกับข้าวเลยนะ” ผมหันไปบอกพี่ตาลก่อนจะก้าวเดินอีกครั้ง เมื่อเห็นอีกคนกำลังเดินไปไม่รอผมเลย




ระหว่างที่ไปคลินิกใกล้ๆ ก็ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย แน่ล่ะ ผมเองไม่ค่อยจะมีเรื่องอะไรให้พูด ส่วนอีกฝ่ายก็ดูเหมือนกลัวน้ำลายจะไม่บูด เอาแต่เงียบ รู้สึกกดดันนิดๆนะ บรรยากาศมาคุชวนให้อึดอัด ปกติผมก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก ถ้าไอ้คนข้างๆไม่แผ่รังสีไม่น่าเข้าใกล้ออกมาแบบนี้




พอมาถึงคลินิก โปเต้ก็เดินไปนั่งและเล่นเกมรอ ผมเลยเป็นฝ่ายจัดการทุกอย่างเอง หลังจากที่ทำแผลและฉีดยาเสร็จ ก็ฟังหมออธิบายอะไรอีกนิดหน่อย เราก็ออกมาจากคลินิก ดีนะที่อันปันฉีดยามาแล้ว




“โปเต้...ช่วยแวะเซเว่นหน่อย” ผมบอกเมื่อเห็นเซเว่นอยู่ไม่ไกล




“.....” คนขับไม่พูดอะไร เพียงแต่ตีไฟเลี้ยวแล้วจอดหน้าเซเว่นให้ผม




ผมเป็นคนชอบกินขนมขบเคี้ยว วันไหนไม่ได้กินแล้วใจจะขาด ตอนสำรวจดูในครัวก็ไม่มีขนมที่ผมอยากกินเลย




ผมหอบเอาขนมต่างๆมาที่เคาน์เตอร์ พนักงานตาโตเล็กน้อยก่อนจะคิดเงิน ระหว่างนั้นมีก็ล้วงมือจะหยิบกระเป๋าตังค์มาเพื่อจะเอาเงินมาจ่าย แต่ว่า...




ว่างเปล่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




จริงสิ...ผมเอากระเป๋าตังค์ไว้บนห้อง ตอนออกมาก็ออกมาแบบปุบปับ ให้ตายสิ แล้วจะเอาเงินจากที่ไหนไปจ่ายเขาล่ะเนี่ย




“ทั้งหมด สี่ร้อยห้าสิบห้าบาทครับ” พนักงานบอกกับผม




“เอ่อ...” ถ้าจะออกไปนอกเซเว่นนี่เขาจะว่าอะไรรึเปล่า ผมกะว่าจะไปยืมเงินโปเต้ (เพราะโปเต้เป็นคนออกเงินค่ารักษาที่คลินิกให้ผม)




“เงินไม่พอหรอครับ”




“ลืมเงินไว้ที่รถน่ะครับ เดี๋ยวมา” ผมว่าก่อนจะหันตัวแล้วเดินไปที่รถ แต่ก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อหันปุ๊บ ก็เกือบจนชนเข้ากับร่างสูงหนาของโปเต้ ...เข้ามาตอนไหนเนี่ย




“โปเต้ ...ผมยืมเงินหน่อย” ผมพูดเสียงเรียบ ยืมเงินกับคนพึ่งรู้จักกัน มันออกจะแปลกๆ แต่เราอยู่บ้านเดียวกัน ยังไงผมก็คืนเขาแน่นอน




“เท่าไหร่” โปเต้หันไปถามพนักงานเสียงเรียบ แต่สายตานี่ดุชะมัด




“เอ่อ...สี่ร้อยห้าสิบห้าบาทครับ” พนักงานตอบโปเต้เสียงสั่นเล็กน้อย




“.....” โปเต้ยื่นแบงค์ห้าร้อยไปให้พนักงานก่อนจะเดินออกไป ส่วนผมก็ยืนรอรับเงินทอน ก่อนจะหอบถุงขนมออกตามโปเต้ไป




“กลับไป เดี๋ยวเอาเงินคืนให้” ผมพูดขึ้นเมื่อเข้ามานั่งในรถ




“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สตาร์ทรถ แล้วขับออกไปทันที




พอมาถึงที่บ้าน ก็พบว่าพี่ตาลกำลังทำกับข้าว เป็นอย่างสุดท้าย นั้นก็คือไข่เจียวหมูสับ โปเต้เดินไปหาพี่ปาร์ที่ห้องนั่งเล่น ผมเอาพวกขนมขึ้นไปเก็บไว้บนห้อง กลับลงมาก็เห็นอันปันนั่งอยู่ตรงบันไดขั้นสุดท้าย และเมื่อมันเห็นผมก็ส่งเสียงเห่าและกระดิกหาง




เอ่อ...นี่เป็นสัญญาณที่ดีรึเปล่า




“ติณณ์ ลงมาสิ อันปันไม่กัดหรอก” พี่ปาร์เดินมาเรียกผม




“.....” แต่ผมก็ยังลังเลอยู่ดี




“.....”




และเมื่อหันไปสบตากับชิวาวาตัวน้อย ความลังเลเมื่อกี้ก็หายไป ก่อนที่ผมจะเดินลงไปหาชิวาวาอันปัน เจ้าหนูน้อยก็ดูท่าจะไม่กัดผมแล้ว ตอนนี้แลดูเชื่องเสียมากกว่า




“.....” ผมตาวาวอย่างดีใจนิดๆที่เจ้าหนูน้อยไม่กัดผม




“มากินข้าวกันเถอะ เสร็จแล้วนะ” เสียงพี่ตาลเรียกครับ




ผมขอตัวไปกินข้าวก่อนล่ะกันนะครับ









****************************************************


เอาตอนที่ 1 มาฝากกันก่อนนนนนน


FanPage
https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)


หากมีคำผิดก็ขออภัยด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-01-2015 20:05:30
น่ารักดีนะ
มาต่ออีกนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 08-01-2015 20:48:47
ชอบชอบ มาต่ออีกนะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 08-01-2015 21:06:09
 :impress2: อร้ายยยย อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 10-01-2015 01:26:46
ชอบชื่อพระเอก(หรือเปล่า)โปเต้ ซึนได้อีกสงสัยจะรอสองคนนี้ชอบกันอีกนาน  ลุ้นๆๆๆ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: RedQueen ที่ 10-01-2015 03:40:32
ชอบเลยอะ จะรอตอนต่อไปนะคะ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-01-2015 08:45:39
ถึงบรรยากาศจะดูน่าอึดอัดไปบ้างแต่ติณนางดูน่ารักอ่ะ

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 10-01-2015 16:01:38
ซึนกะซึนมาชนกัน
มันส์ล่ะงานนี้

55555

ติดตามๆ
มาต่อเร็วน้าาาาาา
รอๆ
 :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 1 8/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 10-01-2015 19:34:57
ใครจะเปฺนพระเอก เต้นั่นเอง อิอิ
ลุ้นต่อจร้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 11-01-2015 21:36:17
ตอนที่ 2
















ผมนั่งทำงานจนถึงตีสี่ ก็เอาหัวพิงขอบเตียงเพื่อพักสายตา ส่วนโปเต้ที่ต้องนอนกับผมนั้น ก็นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนั้นแหละ แต่ว่าผมพักสายตาอีท่าไหนก็ไม่รู้ หลับยาวเลย รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีคนมาปลุก




“นี่”




“หืม...อะไร” ผมถามเสียงงัวเงียทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา




“ไปนอนดีๆ” เสียงทุ้มๆแบบนี้ ...ใครว่ะ ขอนึกแป๊บ




“อืม” ผมครางตอบรับในลำคอ ก่อนจะค่อยๆเคลิ้มหลับต่อ แต่...




“นี่ ...ไปนอนบนเตียงดีๆ” อยู่ๆก็มีแรงสัมผัสมาที่หัวไหล่ของผม ทำให้ผมต้องลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พบว่าเป็นผู้ชายหน้าหวานคนนึงกำลังทำตาดุๆใส่ผม




เอ่อ...ไม่ใช่สิ โปเต้ครับ โปเต้นั่งที่บนเตียงข้างๆผม หัวผมแทบจะซบที่เข่าเขาอยู่แล้ว




“...กี่โมงแล้ว” ผมถามพลางมองหาโทรศัพท์




“แปดโมง”




แปดโมง ...ตายห่า ผมมีเรียนตอนสิบโมงนี่ กว่าจะอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปยืนรอรถเมล์นี่ผมจะทันเปล่าว่ะเนี่ย




“.....” ผมรีบลุกขึ้นจะไปอาบน้ำ แต่ก็เกิดหน้ามืดกะทันหัน คงเป็นเพราะนอนน้อยด้วยล่ะมั้ง




“.....” โปเต้เข้ามารับตัวผมได้อย่างหวุดหวิด แล้วประคองให้ผมนั่งลงบนเตียง โดยที่ตาก็ยังจ้องผมอยู่แบบนั้น




“.....” มองกันไปมองกันมา จนกลายเป็นผมเองที่ละสายตาก่อน




คนอะไร...สายตาดุชะมัด!!!




สักพักโปเต้ก็หยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องไป (พึ่งสังเกตว่าโปเต้ใส่ชุดนักศึกษาแล้วเรียบร้อย) ผมนักอยู่สักพักจนรู้สึกว่าตัวเองปกติดีแล้ว จึงรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ พยายามอาบน้ำแต่งตัวให้เร็วที่สุด




“น้องติณณ์ มาพอดีเลย กินข้าวก่อนสิ” พี่ตาลเรียกผมเมื่อเห็นผมเดินลงบันไดมา ผมจึงเดินเข้าไปหา แต่ผมคงจะไม่ได้กินข้าวเช้าแล้วล่ะ เพราะกว่าจะเดินไปหน้าหมู่บ้าน รอรถเมล์อีก กว่าจะเดินเข้ามหาลัยไปคณะตัวเอง จะทันรึเปล่าก็ยังไม่รู้




“แต่น้องติณณ์สายแล้วนะ” เมื่อกี้ก่อนลงมาก็เสียเวลาหางานหาการบ้านตั้งนาน ตอนนี้ก็จะเก้าโมงแล้วด้วย




“นี่...โปเต้เขาก็เรียนมหาลัยเดียวกันกับเรานะ ไปพร้อมกันก็ได้ ใช่มั้ยเต้” พี่ตาลหันไปถามโปเต้ที่นั่งกินข้าวต้มอยู่




“...ครับ” โปเต้ตอบเพียงแค่นั้น ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวก่อน




“แต่น้องติณณ์รีบ น้องติณณ์มีเรียนตอนสิบโมงนะ”




“โปเต้เขาก็มีเรียนตอนสิบโมงกัน เห็นปาร์บอกว่าตารางเรียนเหมือนกัน”




หืม???




ผมกับโปเต้มองหน้ากันโดยมิได้นัดหมาย ตารางเรียนเหมือนกัน??? งั้นก็หมายความว่าเขาก็อยู่มหาลัยเดียวกันกับผม คณะและสาขาเดียวกัน แล้วทำไม...ทำไมผมถึงไม่เคยเห็นหน้าเขาอ่ะ ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีคนชื่อโปเต้อยู่ในคณะผมด้วย และยิ่งหน้าตาแบบโปเต้ มันก็จะต้องเป็นที่กล่าวถึงไม่เว้นวันแน่ๆ แต่เท่าที่ผมได้ยินมา คนที่ป็อปยิ่งกว่าเดือนคณะเขาชื่อนภัทร ไม่ว่าจะไปตรงไหนของมหาลัยก็จะได้ยินคนพูดถึงเขา




“อ้าว...นี่ไม่รู้เหรอว่าเรียนที่เดียวกัน” พี่ตาลพูดขึ้นเมื่อเห็นปฏิกิริยาจากผม




“ไม่รู้อ่ะ” ผมเป็นคนตอบเองครับ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา พบว่าเก้าโมงแล้วครับ




“พี่ตาล น้องติณณ์ไปก่อนนะ ช้ากว่านี้สายแน่” ผมว่าก่อนจะเดินไปหอมแก้มพี่ตาลทีนึง ก่อนจะรีบเดินไปใส่รองเท้า




ตุบ!




ในขณะที่ผมกำลังนั่งใส่รองเท้า ก็มีรองเท้าคู่นึงกระแทกลงบนพื้น ผมจึงเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นโปเต้




“.....” ผมยืนขึ้น มองหน้าเขานิดหน่อย ก่อนจะเดินเพื่อที่จะออกจากบ้านไปรอรถหน้าหมู่บ้าน แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน





“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ชี้ไปที่รถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบท์ราคาไม่รู้กี่แสน คันสีแดงของตัวเอง




“.....” เหมือนจะบอกว่าให้ผมไปด้วยกัน แต่...ผมไม่มีหมวกกันน็อคนี่




“.....” โปเต้เดินไปที่รถ แล้วหยิบหมวกกันน็อคยื่นมาให้ผม ส่วนผมก็เลยรับมาอย่างงงๆ




“.....”




โปเต้เดินไปคร่อมรถ ก่อนจะค่อยๆถอยรถแล้วมองมาที่ผม แล้วชี้ไปที่ประตูบ้าน อ่า...จะบอกให้ผมไปเปิดประตูบ้านสินะ




“.....” ผมเดินไปเปิดประตูบ้าน โปเต้สตาร์ทรถแล้วขับออกมาจอดที่หน้าบ้าน ผมจึงหันไปปิดประตูแล้วเดินไปหาเขา ก่อนจะยื่นหมวกไปให้เขา




“นายเป็นคนขับ ผมว่านายใส่จะดีกว่า” ผมพูดขึ้น




“.....” โปเต้มองหน้าผมก่อนจะถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะดึงมือผมให้ผมขยับเข้าไปใกล้ เอาหมวกกันน็อคจากมือผมไป แล้วสวมลงที่...หัวผม




โปเต้เอาหมวกกันน็อคมาสวมให้ผม ...เพื่อ?




“ขึ้นมาเร็ว เดี๋ยวสาย”




“.....” ผมยืนชั่งใจอยู่พักนึงก่อนจะก้าวขาขึ้นคร่อมบิกไซต์ของโปเต้




โปเต้พาผมขับรถ...อืม ก็นับว่าเร็วอยู่นะ พาเลี้ยวเข้าซอยนู้นออกซอยนี้ แต่จากบ้านไปมหาลัยมันก็ไม่ได้ไกลมากนักหรอก มันจะเสียเวลารถติด ตรงทางก่อนถึงหน้ามหาลัย เพราะนอกจากจะเป็นมหาลัยขนาดใหญ่ รอบมหาลัยก็ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นดีเลยล่ะ ผับ บาร์ ร้านอาหาร นู้นนี่นั้นสารพัด คนนี่พลุกพลานทั้งวันทั้งคืน




โปเต้วนรถเข้ามาในที่จอดรถของคณะ คนแถวนั้นหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว อาจจะเป็นเพราะรถ ...หรือไม่ก็เพราะหน้าตาคนขับ (ยอมรับตามตรงว่าโปเต้หล่อมาก)




“.....” ผมก้าวลงจากรถ ก่อนจะพยายามถอดหมวกกันน็อคออก แต่...ถอดไม่ออกอ่ะ แก้สายรัดไม่ได้สักที




“.....” โปเต้ลงจากรถ แล้วเอนตัวกึ่งนั่งกึ่งพิงลงที่เบาะนั่ง มองผมอยู่พักนึง ก่อนจะเอื้อมมือมาถอดหมวกกันน็อคให้




ผมแอบเห็นคนรอบข้างทำหน้าตกใจเมื่อเห็นว่าคนที่ใส่หมวกกันน็อคปกปิดใบหน้าอยู่คือผม และคนที่ถอดหมวกให้ก็คือโปเต้ (เห็นผมแบบนี้ ก็รู้นะครับว่าตัวเองเป็นที่กล่าวถึงอยู่เหมือนกัน)




“เอาโทรศัพท์มา” โปเต้พูดขึ้นก่อนจะแบมือตรงหน้าผม




“.....” ผมมองหน้าโปเต้อยู่พักนึง ก่อนจะล้วงมือเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมา แล้วว่าไปบนมือของโปเต้




“.....” โปเต้กดอะไรสักพักก่อนจะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น แต่ไม่ใช่ของผมหรอก ของโปเต้ต่างหาก เขาคงจะกดเบอร์ตัวเองแล้วโทร.เข้าเครื่องตัวเพื่อที่จะเอาเบอร์ผม...ล่ะมั้ง




“ตอนเย็น...กลับด้วยกัน” โปเต้ว่าเสียงเรียบ คือผมก็มีปัญญากลับบ้านเองนะ




“...อืม” ผมพยักหน้ารับก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองจากมือโปเต้ ที่ผมตกลงก็เพราะสายตากดดันจากโปเต้นั่นแหละ




“จะกลับตอนไหน ก็โทร.มา” โปเต้พูดเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินแยกไป ส่วนผมก็เดินไปยังจุดบริเวณที่ประจำของผมกับเพื่อนๆ แต่ยังไม่ทันจะพ้นลานจอดรถ ก็เจอพวกเพื่อนที่ยืนมองผมอยู่ไม่ไกลนัก พอลองสังเกตดูรอบๆ ทำไมผมถึงรู้สึกว่าคนมันเยอะผิดปกติ รอบบริเวณลานจอดรถมีแต่คน และเหมือนจะมองมาที่ผม และบางส่วนก็เหมือนจะมองไปที่โปเต้ที่กำลังเดินไปยังโรงอาหารของคณะ




“ไอ้ติณณ์ มีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยว่ะ” เสียง ‘แลนด์’ เพื่อนของผมพูดขึ้น




“.....” คุย? คุยเรื่องอะไร การบ้านเหรอ???




“...ใช่ว่ะติณณ์ มีเรื่องที่พวกเราสงสัยเยอะเลย” คราวนี้เป็นเสียง ‘นิดา’ เพื่อนผู้หญิงในกลุ่มผมครับ




“ก็ว่ามาสิ” ผมเอ่ยขึ้น อยากรู้เหมือนกันว่าพวกนั้นหมายถึงเรื่องอะไร




“มึงกับนภัทรเป็นอะไรกันว่ะ” หลุยส์ ถามพลางทำหน้าอยากรู้จริง ว่าแต่...นภัทรไหน???




“นภัทร???”




“ก็คนที่มึงซ้อนบิ๊กไบท์เขามาไงว่ะ” หลุยส์พูดขึ้น เดี๋ยวนะ...นภัทรที่พวกนี้หมายถึง...คือคนที่เป็นเจ้าของรถบิ๊กไบท์สีแดงที่ผมซ้อนมาเมื่อกี้




งั้น...นภัทรกับโปเต้ ...ก็เป็นคนๆเดียวกัน




หรอว่ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




“ไอ้ติณณ์ ทำไมต้องขมวดคิ้วแบบนั้น” เสียง ‘จีน่า’ ถามอย่างงงๆปนสงสัย




“ก็...อืม...จะว่าไงดี โปเต้เป็น..”




“เดี๋ยวนะ” แลนด์ขัดขึ้นก่อนที่ผมจะได้พูดอะไร อะไรว่ะไอ้นี่ -_-




“.....”




“มึงเรียกนภัทรว่าอะไรนะ”




“...โปเต้” ผมตอบเสียงเรียบ ทำไมอ่ะ...ก็เขาชื่อเล่นว่าโปเต้ ผมจะเรียกโปเต้แล้วมันผิดตรงไหน???




“ตอนมึงเรียกเขาครั้งแรกนี่ ไม่โดนต่อยปากหรอว่ะ” หลุยส์ถามพลางสำรวจหน้าผม




“ไม่หนิ” ตอนผมเรียกเขาว่าโปเต้ เขาก็มีท่าทีเฉยๆ ไม่เห็นจะแสดงความไม่พอใจหรืออะไรเลยนะ




“เหลือเชื่อ!” เสียงพวกเพื่อนผมมันอุทานครับ ทำไม...มีอะไร??




“อะไร” ผมล่ะไม่เข้าใจพวกมันจริงๆ




“ก็ไอ้นภัทรมันไม่เคยให้ใครเรียกชื่อเล่นมันเลย แม้แต่เพื่อนมันเอง คนล่าสุดที่ไปเรียกชื่อเล่นมันโดนต่อยดั้งยุบ ฟันหน้าหัก” แลนด์เล่าพลางทำท่าสยอง




อะไรกัน...กะอีแค่เรียกชื่อเล่น ทำไมโปเต้ต้องไปทิฐิขนาดนั้นล่ะ แต่...ผมไม่โดนชกนี่ ...หมายความว่าโปเต้อนุญาตสินะ




“เดี๋ยวๆ ประเด็นแรกยังไม่เคลียร์นะ” นิดาว่า




“อะไร” ประเด็นอะไร




“ทำไมถึงมากับนภัทร”





“.....”




จะบอกว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน...เหรอ พวกนี้ก็ไม่รู้ว่าพี่สาวผมแต่งงานกับพี่ชายโปเต้ แล้ว...โปเต้เขาอยากจะให้คนอื่นรู้รึเปล่าว่าเราอยู่บ้านเดียวกัน อันนี้ผมก็ยังไม่ได้คุยกับโปเต้เลย





แต่ถ้าจะตอบว่าบังเอิญเจอ ...พวกนี้ก็จะต้องถามเยอะแน่ๆ และผมก็ขี้เกียจตอบ




แล้ว...ผมควรจะตอบว่าอะไรดี




“...ก็ไม่มีอะไรมาก” ผมตอบแค่นั้นก่อนจะเดินนำพวกนั้นไปยังห้องเรียนเลย




แน่นอนว่าพวกนั้นตามมาถามอีกหลายคำถาม แต่ผมไม่ตอบ พอมาถึงห้องเรียนผมก็เดินไปนั่งเงียบๆของผม จนพวกนั้นเลิกล้มความพยายามในการอยากรู้เรื่องของผมไปเอง




แต่ผมยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะ ได้นอนไปนิดเดียวเอง ตอนนี้ก็ง่วงจะตายอยู่แล้ว หิวด้วย




วันนี้ผมเรียนไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ เพราะว่าหิวด้วยล่ะมั้ง พอเรียนคาบนี้เสร็จผมก็เก็บกระเป๋าเสร็จก่อนใครเพื่อนเลย ผมเลยบอกเพื่อนว่าจะออกไปก่อน เพราะพวกนั้นโดนอาจารย์เรียกไปคุยเรื่องงาน (ส่วนของผมผ่านครับ) แต่ยังไม่ทันจะได้ออกจากห้อง ก็มีคนมาขวางอยู่ตรงหน้าผมเสียก่อน




โปเต้นั่นแหละ




พวกนั้นหยุดดูผมกับโปเต้สักพัก ก่อนที่จะเดินไปหาอาจารย์ที่หน้าห้อง เพราะว่าถ้ามัวแต่หยุดมองผม พวกนั้นคงโดนด่าเละ






“...อะไร”




“ได้บอกพวกนั้นรึเปล่า” โป้เตถามเสียงเรียบ




“เรื่อง”




“เรา” พูดจาซะกำกวม โปเต้คงจะหมายถึงเรื่องที่เราอยู่บ้านเดียวกันน่ะนะ




“เปล่า”




“...อืม”




“.....”




“.....”




เขามีเรื่องจะถามแค่นี้ใช่มั้ย ผมจะได้ไปกินข้าวสักที หิวจะตายอยู่แล้ว




“ถ้า..”




“เลิกเรียน...”




ผมกำลังจะพูดขอตัวไปกินข้าว แต่โปเต้ก็ดันพูดขึ้นพร้อมผม ว่าแต่...เลิกเรียนอะไร ทำไม




“อะไร”




“เลิกเรียน...ไปร้านพี่นาย” ไปร้านพี่นาย พี่นายเป็นใคร แล้ว...มาบอกผมทำไม




“บอกทำไม”




“จะให้ไปด้วย”




ห๊ะ!?! ให้ไปด้วย เพื่อ???




“ทำไม”




“ถ้าให้กลับเอง เดี๋ยวพี่ตาลจะว่าเอา”




“แต่...” ผมไม่เคยเที่ยวเลยนะ




“มีที่ชาร์ตแบตสำรองมั้ย” อยู่ๆก็เปลี่ยนเรื่องซะงั้น




“ก็...มี”




“ฝากชาร์ทหน่อย” ว่าจบ โปเต้ก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ผม ยังดีที่เราใช้โทรศัพท์รุ่นเดียวกัน เลยไม่ต้องวุ่นวายหาสายชาร์ต




“...อืม”




“เลิกเรียนแล้วรอก่อน” โปเต้พูดแค่นั้นก่อนจะเดินไปหาเพื่อนอีกสองคนที่ยืนรออยู่ตรงประตูห้อง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนผมเดินมาพอดี




“ติณณ์ นภัทรมันมาคุยอะไรกับมึงว่ะ” แลนด์ถามผมเป็นคนแรกเลยครับ




“ก็แค่ฝากชาร์ทแบตฯโทรศัพท์” ผมว่าก่อนจะยกโทรศัพท์ของโปเต้ให้ดู




“นภัทรมันไม่ใช่คนแบบนี้ ปกติมันไม่เคยสนใจชีวิตใครเลยนะ และมันก็ไม่อยากให้ใครยุ่งกับของส่วนตัวของมันด้วย” พวกมันว่าพลางจ้องผมอย่างจับผิด อะไรอ่ะ ไม่เข้าใจ แล้วจะมาจับผิดกันทำไม ผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ถ้าเป็นผู้หญิงมันก็น่าคิดอยู่หรอก




“แล้วยิ่งมันให้มึงเรียกชื่อเล่นแบบนั้น ก็ยิ่งน่าสงสัย” หลุยส์ว่าพลางหรี่ตามองผม




“จะไปกินข้าวมั้ย ถ้าไม่...กูไปก่อน” ผมว่าก่อนจะเดินนำพวกนั้นออกมา ทำเอาพวกนั้นวิ่งตามผมแทบไม่ทัน นึกว่าผมโกรธ ขอโทษผมกันยกใหญ่ ส่วนผมก็บอกปัดไป คนยิ่งแต่หิวๆอยู่




พอมาถึงโรงอาหาร ผมก็เดินไปซื้อข้าวทันที โดยมีนิดาเดินตามผมมา




“ติณณ์ อันนี้กูขอถามตรงๆเลยนะเว้ย ในฐานะที่กูคบกับมึงมาตั้งแต่อนุบาล กูสัญญาเลยก็ได้ว่าจะไม่บอกใคร แต่กูอยากรู้จริงๆ” นิดาว่าอย่างจริงจัง




“…..” ผมหันหน้ามามองหน้ามัน นิดาเป็นคนที่เก็บความลับอยู่ แต่...ก็โปเต้เขาทำท่าเหมือนไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราอยู่ด้วยกัน ไม่สิ...ว่าเราอยู่บ้านหลังเดียวกัน




“กูกับโปเต้ ไม่ใช่อย่างที่พวกมึงคิด” นี่คงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดแล้ว




“แต่...”




“ถ้าไม่เชื่อ ไปถามโปเต้ดูก็ได้” ผมตอบหน้าจริงจัง




“นภัทรมันคงจะยอมบอกหรอกนะ”




“.....”




“เฮ้อ...โอเคๆ ตอนนี้กูจะไม่ถามอะไรมึงก็ได้” คำพูดของนิดาฟังดูแปลกๆนะ





“.....”




“แต่ถ้ามีเรื่องให้ผิดสังเกตมากกว่านี้ เตรียมตอบคำถามกูดีๆล่ะ” นิดาว่าก่อนจะหันไปซื้อข้าวบ้าง ส่วนผมก็เดินไปหาเจ้าพวกนั้นที่โต๊ะ แล้วลงมือกินอย่างเงียบๆ




อ่า...แต่ดูเหมือนสวรรค์จะอยากกระตุ้นต่อมอยากรู้ของเพื่อนผมมากขึ้นซะงั้น




เมื่ออยู่ๆโต๊ะข้างๆผม ที่บังเอิญว่ามันว่าง แล้วบังเอิญว่ากลุ่มของโปเต้เดินมานั่งโต๊ะตัวนั้น บังเอิญว่าโปเต้นั่งซ้ายสุดของโต๊ะ และบังเอิญว่าผมดันนั่งขวาสุดของโต๊ะเช่นกัน กลางเป็นว่าเราข้างกัน เพียงแต่มีระยะห่างของโต๊ะเป็นตัวคั้นกลางเอาไว้




เฮ้อ...ดูสิ สายตาที่เพื่อนผมมองมา ธรรมดาที่ไหน คำถามและความอยากรู้ออกมามากกมายเอ่อล้นซะขนาดนั้น




“.....” ผมก็กินไป โดยพยายามที่จะไม่สนใจอะไร ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตา (แต่นิดาบอกผมว่า ผมหน้าตาค่อนข้างดี จะเป็นที่น่าจับตามองก็ไม่แปลก)




เพียงแต่...มันไม่ใช่สายตาของพวกเพื่อนผมอย่างเดียว คนรอบๆนี่ก็มองด้วย ถ้ามองผมอย่างเดียว หรือโปเต้อย่างเดียวผมก็ไม่ว่าเลยนะ แต่นี่มองพวกผมสลับกันแล้วหับไปซุบซิบกันนี่ดิ ผมไม่ชอบ




สงสัยเพราะเรื่องเมื่อเช้าแน่เลย แล้วไงอ่ะ ผู้ชายสองคนซ้อนมอ’ไซต์มาด้วยกันมันแปลกหรอ หรือเพราะว่าเป็นผมกับโปเต้มันถึงแปลก อะไรอ่ะ ...ไม่เข้าใจเลย




“ไอ้ภัทร มึงไม่กินอะไรหรอ” เสียงเพื่อนโปเต้ที่หน้าตาตี๋ๆพูดขึ้น




“คนมันเยอะ รอก่อน” โปเต้พูดนิ่งๆ ก่อนจะทำถ้าล้วงกระเป๋ากางเกงก่อนจะชะงัก




“.....”




“เซย์ ยืมโทรศัพท์หน่อย”




“ของมึงอ่ะ” ผู้ชายที่ชื่อเซย์เงยหน้าจากชามก๋วยเตี๋ยวถามโปเต้ แต่ก็ล้วงเอาโทรศัพท์ตัวเองยื่นให้โปเต้




“ชาร์ตอยู่ไง”




“มึงเอาไปชาร์ตที่ไหน”




“.....” โปเต้ไม่ตอบ เพียงแต่เหล่มองผมนิดนึงแล้วก็หันไปสนใจโทรศัพท์ของเพื่อนตรงหน้า




ผมกินข้าวในจานต่อจนหมด แต่รู้สึกยังไม่อิ่ม เลยลุกไปเก็บจาน แล้วเดินเตลิดไปยันร้านน้ำแข็งใส




“ป้าครับ/ป้าครับ” เสียงผมเรียกป้าคนขาย แต่ว่า...ก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นด้วยเช่นกัน และเมื่อผมหันไปดู ก็พบว่าเป็น...




...โปเต้




เอ่อ...จะมายืนข้างๆทำไมนี่ ยิ่งแต่ไม่อยากตกเป็นประเด็นขี้ปากชาวบ้านอยู่




“อ้าว ว่าไงหนุ่มหล่อทั้งสอง” ป้าคนขายทักอย่างอารมณ์ดี




“ผมเอาวุ่นมะพร้าวกับขนมปังครับ/ผมเอาวุ่นมะพร้าวกับขนมปังครับ” ผมกับโปเต้ตอบพร้อมกันอีกแล้ว ผมเหลือบตามองคนแถวนั้น จ้องพวกผมเป็นตาเดียวเลย ผมจึงขยับออกห่างจากโปเต้เล็กน้อย




“แหม ...ใจตรงกันจัง” ป้าแกแซวเล็กน้อยก่อนจะลงมือทำน้ำแข็งใส




“ว่าแต่พ่อหนุ่มรู้จักนภัทรกับติณณ์มั้ยลูก” ป้าแกชวนคุยครับ แต่...ป้าถามถึงผมกับโปเต้ทำไม




“ครับ” โปเต้ตอบเพียงสั้นครับ




“ป้าก็พอจะรู้ว่าสองคนนี้น่ะดังนะ แต่เห็นว่าเมื่อเช้าสองคนนี้มาด้วยกันน่ะ สาวๆนี้กรี๊ดแทบสลบ บางคนก็บอกว่าจะ...อะไรน้า...จิ้ม เอ่อ...จิ้น! ใช่...เห็นบอกว่าจะจิ้นสองคนนี้ด้วยล่ะ” ป้าแกชวนคุยสนุกปากเลยครับ ส่วนผมก็เขยิบห่างจากโปเต้อีกก้าวนึง ไม่อยากโดนหาว่าเป็นคู่จิ้นกัน ผมไม่ชอบ ผมเป็นผู้ชาย โปเต้เองก็เป็นผู้ชาย




“หรอครับ” คราวนี้ผมตอบป้าแกบอก





“แล้วพ่อนุ่มจะราดน้ำอะไรจ๊ะ”




“น้ำแดง/น้ำแดงครับ”




อ่า...ตอบพร้อมกันอีกแล้ว




“ใจตรงกันจังนะ” ป้าแกแซวอย่างยิ้มๆครับ อะไรครับป้า ป้ายิ้มอะไรครับ!




“.....” ผมเหลือบตามองหน้าโปเต้เล็กน้อย เห็นว่าโปเต้ก็มองผมอยู่เหมือนกัน




“.....” เรามองหน้ากันพักนึง แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร




“นี่จ๊ะ คนละสิบห้าบาท” ป้าแกวางถ้วยน้ำแข็งใสไว้ตรงหน้าพวกผม ผมจึงล้วงมือหาตังค์ แต่...ล้วงมามีแต่แบงค์พัน (ผมเป็นพวกขี้เกียจพกกระเป๋าตังค์ติดตัวอ่ะนะ)




“ป้าครับ ผมมีแต่แบงค์พันอ่ะครับ” ผมบอกป้าแกครับ ถ้าเป็นเศษเหรียญน่าจะมีอยู่ในกระเป๋าตังค์




“ว๊าย...ป้าไม่มีตังค์ทอนหรอกลูก”




เอาไงอ่ะ หรือผมจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ไปหาเศษเหรียญ




“นี่ครับ” โปเต้ยื่นเหรียญไปให้ป้าเขา เอ่อ...สามสิบบาท??




เขาจ่ายให้ผมหรอ




“จ่ายรวมกันเลยใช่มั้ยจ๊ะ”




“ครับ” โปเต้พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหยิบถ้วยน้ำแข็งใสแล้วเดินไป




“.....” ผมจึงหยิบถ้วยน้ำแข็งใสแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ




พวกเพื่อนผมกับเพื่อนโปเต้กำลังซุบซิบกัน แต่เมื่อเห็นผมสองคนก็ผละออกจากกัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น




“.....” ผมนั่งลงที่โต๊ะ แล้วเอื้อมมือไปควานหากระเป๋าตังค์ในกระเป๋าสะพายของตัวเอง หาเศษเหรียญแล้วแต่มันไม่พอ เลยหยิบแบงค์ยี่สิบออกมา




“...โปเต้” ผมหันไปเรียกโปเต้ เห็นเพื่อนเขาเงยหน้ามองผมอย่างอึ้งๆ  ส่วนโปเต้เพียงแค่มองผมเฉยๆ




“.....”




“.....” ผมยื่นแบงค์ยี่สิบไปให้




“...ไม่เอา”




“...ต้องเอา” ผมไม่ชอบติดหนี้ใคร




“.....” โปเต้มองหน้าผมพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะรับเงินของผมไป แล้วหันไปกินน้ำแข็งใสต่อ




“.....” ส่วนผมก็หันมากินของตัวเองบ้าง





เฮ้อ...ผมเกลียดการตกเป็นเป้าสายตาจริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 11-01-2015 22:27:50
เฮ้ยๆๆ!
น่ารักจังเลยนายโปเต้ ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 11-01-2015 22:58:17
โอ้ยยยยยยยยยย นภัทร ถ้า(แอบ)น่ารักขนาดนี้ก็จะยอม :hao5: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-01-2015 23:31:19
ชอบอะไรๆๆเหมือนกันด้วยอ่ะ จีบกันแบบเงียบๆๆ รอลุ้นต่อๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 11-01-2015 23:50:32
อ่านไปกรี๊ดไป กัดหมอนกัดผ้าห่มแทบขาด พวกเขาน่ารักกันทั้งคู่จริงๆ :-[
ปล. แต่ไม่ค่อยชอบเลยที่ว่าโปเต้หน้าหวาน คือเราไม่ค่อยชอบเมะหน้าหวานอะ มันจิ้นยังไงก็ไม่ฟิน ความเห็นความชอบส่วนตัวเนอะ อย่าว่ากัน :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-01-2015 00:06:35
ฟินอ๊ะ  ไปแบบเงียบๆงงๆเนี่ย รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 12-01-2015 00:13:52
 :impress2: อร้ายยยย  ยย อ่านไปทำไมเขินไป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 12-01-2015 03:14:23
ความแตกเพราะเอ็งนั่นแหล่ะตินเอ๊ย กันไปเรียกโปเต้ต่อหน้าเพื่อน (เป็นคนอื่นคงโดนกระทืบไปแล้ว) คืนให้ที่บ้านก็ด้ายยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 12-01-2015 15:13:40
ชอบโมเม้นต์เวลาที่เค้าอยู่ด้วยกันหรือว่าอยู่ใกล้ๆกัน
มันให้ความรู้สึกเหมือนบรรยากาศของคนที่สนิทกัน
ทั้งๆที่ทั้งสองไม่ได้พูดกันด้วยซ้ำ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 2 11/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Babelilong ที่ 14-01-2015 13:27:50
ยิ่งอ่านยิ่งชอบ
ฟินเบาๆ เวลาอยู่ด้วยกัน

รอออออออออออออออ
มาต่อไวๆเด้อ

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 14-01-2015 20:42:59
ตอนที่ 3
















วันนี้ผมมีเรียนถึงหกโมงเย็น และอีกสิบนาทีก็จะหมดชั่วโมงสุดท้ายแล้วครับ




“วันนี้ครูจะปล่อยก่อนเวลานะ ไปคิดทบทวนเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเธอเลือกมาดีๆก็แล้วกัน ติดขัดตรงไหนก็ปรึกษาครูได้”




อาจารย์พูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกจากห้องไป แต่ผมและเพื่อนๆยังไม่เก็บของเลย เนื่องจากเป็นวิชาสุดท้าย ขอเอ้อระเหยกันแป๊บนึงล่ะกัน




“ติณณ์” เสียงทุ้มๆเรียกผม ทำให้ทุกสายตาหันไปมองเสียงนั้นโดยมิได้นัดหมาย




โปเต้ครับ...โปเต้กำลังเดินมาหาผม




“.....”




“รีบเก็บของ” โปเต้ว่าพลางเหลือบตามองสมุดหนังสือบนโต๊ะผมที่ยังไม่เก็บเข้ากระเป๋า




“ไม่ไป...ไม่ได้เหรอ” ผมถามโปเต้ ผมไม่อยากไปอ่ะ อยากกลับบ้านไปนอนมากกว่า อย่าลืมสิว่าผมมานอนเอาตอนเช้ามืด ง่วงมากๆเลยนะขอบอก




“...เก็บของ”




ไม่ฟังกันเลย




“.....” ผมมองหน้าโปเต้พักนึงก่อนจะเก็บของตามที่โปเต้บอก




“.....”




“กูกลับล่ะ” ผมหันไปบอกพวกเพื่อนผม พวกนั้นก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ (แม้จะทำหน้าอยากรู้ก็กันเถอะ) ก่อนจะพากันเก็บของเหมือนกัน




“ถ้าไม่อยากให้ผมกลับเอง ก็พาผมไปส่งที่บ้านเถอะ ผมอยากนอน” ผมบอกโปเต้เมื่อเราเดินออกมาจากห้องเรียน




“ผมขี้เกียจ เตลิดไปร้านพี่นายแป๊บเดียวแล้วค่อยกลับบ้าน” โปเต้ว่างเสียงเรียบ




“แต่...”




“อย่าดื้อนักเลย เร็วๆ ...เดี๋ยวจะพาไปซื้อหมวกกันน็อคให้ก่อน” โปเต้ว่าเสียงดุ หน้าตาก็ออกจะหวาน เสียงก็หน้าฟัง แต่ไหงกลับกลายเป็นคนแบบนี้ล่ะเนี่ย ดุกว่าเจ้าอันปันที่บ้านอีก




“.....” ช่างเหอะ โปเต้บอกไปแป๊บเดียวนี่นา




ก็ขอให้มันแป็บเดียวจริงๆก็แล้วกัน




หลังจากที่โปเต้พาผมซื้อหมวกกันน็อค เขาก็พาผมไปร้านพี่นายอะไรก็ไม่รู้ของเขา เมื่อมาถึงก็พบว่ามันเป็นร้านอาหารที่มีคาราโอเกะ มีด้วยกันสองชั้น




“ห้องวีไอพีสองครับ” โปเต้บอกกับพนักงาน





พนักงานพาพวกผมขึ้นมายันชั้นสอง ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายมาแต่ไกล




“โปเต้ ให้ผมนั่งรอข้างนอกเถอะ” ผมเอื้มมมือไปคว้าแขนโปเต้ไว้ เมื่อโปเต้กำลังจะเปิดประตูห้องนั้น




“เข้ามาเถอะ”




“ผมไม่ชอบเสียงดัง”




“พูดเหมือนผมชอบ” โปเต้ว่าพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย ถ้าไม่ชอบแล้วจะมาทำไม




“งั้นกลับกัน”




“วันนี้เลี้ยงสายรหัสผมกับเพื่อน ถ้าผมไม่มาก็โดนด่าเละ” โปเต้อธิบาย แต่...แล้วจะเอาผมมาด้วยทำไมว่ะ




“.....”




“.....”




“...งั้นก็รีบกลับล่ะกัน” ผมว่าก่อนจะเดินตามโปเต้เข้าไปในห้อง เจอพวกเพื่อนโปเต้กลุ่มนั้นด้วย




“เฮ้ยยย ...นภัทรพาเมียมาเฝ้าหรอว่ะ” เสียงของพี่ผู้ชายคนนึงที่ในมือมีไมค์อยู่พูดขึ้น ทำให้ทุกคนในห้องหันมามองพวกผมทั้งสองคนเป็นตาเดียว




“.....”




“วิ้วววววววววววววววววว/กิ้วววววววววววววววววววววววว” มาเลยครับ เสียงมาทุกรอบทิศ อะไรกันเนี่ย ใครเป็นเมียโปเต้กัน




“โปเต้ ผมอยากกลับแล้ว” ผมร้องขอโปเต้ทันที ผมไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตา ผมเกลียดบรรยากาศแบบนี้ที่สุด




“.....” โปเต้มองหน้าผมเล็กน้อย ก่อนจะจับแขนให้ผมเดินตาม แล้วเดินไปนั่งที่โซฟาใกล้ๆ




“มึงอ่ะ...ติณณ์ใช่ป่ะ” ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาถามผม




“...ครับ” ผมมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ




“เอาอะไร เดี๋ยวกูให้น้องมันชงให้”




“ผมขอน้ำเปล่า” ผมตอบเสียงเรียบ ผู้ชายตรงหน้าดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด




“เฮ้ย...ไอ้นภัทรมันพามาเปิดตัวทั้งที ก็แดกเหล้าฉลองดิ”




“ผมไม่ได้เป็นแฟนเขา” ผมแก้ตัว เพราะผมไม่ชอบให้ใครเข้าใจอะไรในตัวผมผิด




“เอาน่า ไม่ต้องอายหรอก พวกกูรับได้ มึงก็คนดัง ไอ้นภัทรก็คนดัง คนดังคบกันเองไม่น่าเกลียดหรอก” ตรรกะไหนของเขาล่ะนั้น




“แต่ว่าผม...”




“พอ...ไม่ต้องปฏิเสธอะไรหรอก แค่เรื่องเมื่อเช้าก็เป็นเครื่องยืนยันได้ละว่าพวกมึงคบกัน” เรื่องเมื่อเช้า??? เรื่องที่ผมนั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์เขชามาน่ะนะ เฮ้ย...แค่ซ้อนมอเตอร์ไซต์กันก็เป็นแฟนกันได้แล้วเหรอ คิดได้ไงเนี่ย




“.....” อธิบายไปก็ไม่ฟัง ไม่พูดแล้วก็ได้ว่ะ




“.....”




ผู้ชายคนนั้นเอาแก้วเหล้าสองแก้วมาวางไว้ตรงหน้าผมกับโปเต้ เฮ้อ...อยากรู้จังว่าเป็นสายรหัสใคร ทำไมหน้ามึนขนาดนี้ ดูแล้วน่าจะเป็นรุ่นเดียวกันไม่ก็รุ่นพี่ (แม้ว่าหน้าเขาจะล้ำอายุไปไกลก็ตามเถอะ)




“โปเต้ จะกลับตอนไหน ผมง่วงนอน” ผมหันไปถามเขา




“อีกสักชั่วโมง” เขาตอบเสียงเรียบ




“งั้นผมกลับก่อนนะ” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น ทำให้บางส่วนที่อยู่ในห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว




“พูดให้ฟัง ...นั่งลง” โปเต้พูดหน้านิ่ง แต่สายตาเย็นชาสิ้นดี ดูหน้ากลัวกว่าตอนที่เจอกันครั้งแรกเสียอีก




น่ากลัวกว่าหลายเท่าเลยล่ะ




“.....” ผมยืนลังเลอยู่ในใจ ว่าจะเดินออกไป หรือนั่งลงต่อดี




แต่...มันเรื่องอะไรที่ผมจะต้องฟังเขาล่ะ




“...ผมจะไม่ทำให้นายโดนพี่ตาลหรือพี่ปาร์ว่าหรอก” ว่าจบ ผมก็เอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพายของตัวเอง แต่ก็โดนโปเต้กระชากข้อมืออย่างแรง จนผมเซล้มลงบนตักเขา




“เฮ้ยๆๆ อย่าทะเลาะกันนะเว้ย”




“อย่าไปรุนแรงกับติณณ์สิวะ” เสียงคนรอบข้างตะโกนบอกโปเต้




“เงียบ!” โปเต้สั่งเสียงเฉียบขาด ไม่ได้ตะโกนแต่อย่างใด แต่ทุกคนทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องต่างก็เงียบกันตามที่โปเต้บอก




“.....”




มีเพียงเสียงเพลงคาราโอเกะเท่านั้นที่ยังดังอยู่




“โปเต้ ผมเจ็บ” ผมร้องบอกเมื่อโปเต้กำข้อมือผมแน่น จนผมรู้สึกเจ็บ




“พูดดีๆแล้วฟังมั้ยล่ะ” โปเต้ย้อนถามเสียงเรียบ




“แล้วทำไมนายถึงไม่ฟังผมบ้าง” เขาไม่ฟังผม ตั้งแต่บังคับให้ผมมาที่นี่แล้วนะ




“.....”




“ปล่อย ผมจะกลับ”




“โกธรเหรอ” โปเต้ถามผม




“....” โกธร? ไม่ถึงกับโกธรหรอก ไม่เข้าใจและไม่พอใจนิดหน่อย




“.....”




“.....”




“เฮ้ยๆ ถ้ามีธุระหรือปัญหาอะไรกันก็กลับไปก่อนก็ได้นะนภัทร พี่ไม่ว่า” รุ่นพี่คนนึงพูดกับโปเต้




“งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ” ว่าจบ โปเต้ก็ลุกขึ้น ทั้งๆที่ผมยังนั่งอยู่บนตักเขาอยู่ เกือบได้ลงไปกองกับพื้นแล้ว ดีนะที่โปเต้คว้าผมเอาไว้ได้เสียก่อน




“สวัสดีครับ” พูดจบ โปเต้ก็เดินออกจากห้องโดยลากข้อมือผมให้เดินตามไปด้วย




ทำไม...ผมถึงรู้สึกแปลก เหมือน...โปเต้กำลังดีใจที่ออกมาจากร้านนั้นได้




“โปเต้...” ผมเรียกชื่อโปเต้เอาไว้เมื่อเราเดินมาถึงที่รถ




“.....”




“นายคิดเอาไว้แล้วใช่มั้ย กับเรื่องเมื่อกี้”




“.....”




“.....”




“...ฉลาดหนิ”




ใช่จริงๆด้วย เขาคิดเอาไว้แล้วว่าถ้าเอาผมที่อยู่ในสภาพอยากกลับบ้านเต็มทน ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นแบบนี้




เหอะ...ช่างมันเถอะ ตอนนี้สิ่งที่ผมคิดถึงมากที่สุดคือเตียงนอนนนนนนนนนนนนนน



















พอมาถึงบ้านผมก็หลับเป็นตายเลย ตื่นมาอีกทีก็เจ็ดโมงเช้า แต่...วันนี้เป็นวันหยุด ผมเลยกะว่าจะนอนต่อ แต่ก็ต้องตื่นอย่างเต็มตา เมื่อพบว่าผม...ดันไปนอนกอดเอวโปเต้ แถมยังเอาหน้าซุกไว้ที่เอวเขาแบบนั้นอีก




และผมจะไม่รู้สึกอายมากขนาดนี้ ถ้าโปเต้ยังหลับอยู่ แต่นี่...โปเต้ตื่นแล้ว แต่กำลังนอนเล่นไอแพดอยู่




“.....” ผมรีบลุกขึ้นนั่ง แต่คงลุกเร็วไปหน่อย หน้ามืดอีกแล้ว และโปเต้ก็ยังช่วยประคองผมให้นอนลงอีกครั้ง




“ดูนี่...” โปเต้ว่าก่อนจะยื่นไอแพดมาให้ผมดู




พบว่าเป็นแฟนเพจที่ตั้งชื่อว่า ‘คู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร<3ติวาลิน’ ที่เอาชื่อจริงของผมและโปเต้มาตั้ง (ติวาลินเป็นชื่อจริงของผม) คนกดไลค์เป็นพันทั้งๆที่เพจพึ่งสร้างเมื่อวาน โพสต่างๆมีมาให้อ่านอีกเพียบ รวมทั้งรูปของผมและโปเต้ด้วย ทั้งรูปเดี๋ยวรูปคู่




“นี่มันอะไรน่ะ” ผมพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ คู่เลิฟมาดนิ่ง เหอะ...เอาตรงไหนมองว่าผมเป็นแฟนกัน




“...เรื่องตลกไง”




“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ ผมไม่ชอบกับการถูกเข้าใจผิด แล้วนี่...ยิ่งในโลกโซเชียลที่เปิดเผยแบบนี้ รู้ไปทั่วแล้วมั้งเนี่ย




“นอนต่อไปเถอะ” เสียงโปเต้พูดเสียงเรียบ




“.....” ผมไม่ตอบอะไร เพียงแต่ค่อยๆลุกขึ้นแล้วเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วเดินลงไปยันข้างล่าง เห็นพี่ปาร์กับพี่ตาลนั่งคุยกันอยู่




“อ้าวน้องติณณ์ ตื่นเร็วจัง เห็นเมื่อวานหลับเป็นตาย นึกว่าวันนี้จะสาย” พี่ตาลทักผมครับ ผมเลยเดินไปหาพี่ตาล




“ไหนๆก็ตื่นแล้วน่ะ ก็เลยตื่นดีกว่า ไม่อยากนอนต่อ” ใครจะไปกล้าบอกว่า ที่หลับต่อไม่ลงเพราะตื่นมาแล้วดันเห็นตัวเองไปนอนกอดเอวน้องพี่ปาร์กันล่ะ




“พี่ไม่ได้ทำข้าวเผื่อน่ะ”




“น้องติณณ์ทำเองก็ได้”




“น้องติณณ์ ...พี่ได้บัตรดูหนังฟรีสองไป แต่พี่ไม่อยากให้ตาลไปอยู่ในห้องมืดๆเสียงดังๆน่ะ วันนี้เราเอาไปดูกับเจ้าเต้ล่ะกันนะ หนังเข้าใหม่ด้วย”  พี่ปาร์ว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบตั๋วที่อยู่บนหนังสือบนโต๊ะ แล้วยื่นมาให้ผม แต่...เรียกผมว่าน้องติณณ์แบบนี้มันแปลกๆแฮะ สงสัยติดมาจากพี่ตาลแน่ๆเลย แต่ก็นะ...ช่างเถอะ




“.....” ผมรับมาโดยไม่พูดอะไร วันนี้ก็ว่าง ไปดูหนังก็แล้วกัน รอบบ่ายโมงซะด้วย แต่...จะให้ชวนโปเต้ไปดูด้วยกันเนี่ยนะ โปเต้จะไปรึเปล่าเหอะ




“.....”




“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวน้องติณณ์ไปหาอะไรกินก่อนนะ” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น




“น้องติณณ์ ฝากทำเผื่อเต้ด้วยนะ” พี่ปาร์บอกครับ




“ครับ” ว่าจบ ผมก็เดินไปในครัว เปิดหาดูของในตู้เย็นว่าพอจะมีอะไรเอามาทำได้บ้าง




“...หิว”




“.....” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ก็ได้ยินเสียงคนพูด แต่ไอ้วลีสั้นๆแบบนี้ โปเต้แน่นอน




“...มาไม่ให้สุ่มให้เสียง” ผมบ่นเล็กน้อย นี่ถ้าผมกำลังหั่นอะไรอยู่ คงบาดมือตัวเองไปแล้ว เห็นผมนิ่งๆแบบนี้ก็ตกใจง่ายนะครับ




“...หิว”




“...จะกินอะไร” ผมถาม เพราะตัวผมเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไรกิน




“ผัดผัก ข้าวผัด ไข่เจียว ...เอากระเพราด้วย”




เอ่อ...นี่กะจะกินแค่มื้อเช้ามื้อเดียวรึไงกัน สั่งซะเยอะเลย




“เอาจริงอ่ะ”




“อืม”




“ถ้าอยากกินเร็วๆก็มาช่วยกัน” ผมว่าก่อนจะหันไปหยิบของมาทำ





“ทำไม่เป็น” โปเต้ตอบ




“...หั่นผักเป็นมั้ย”




“น่าจะทำได้นะ” โปเต้ตอบแบบนี้แสดงว่าไม่เคยทำ ช่างเถอะ...สอนก็ได้เรื่องแค่นี้เอง





“เดี๋ยวผมสอน” ผมว่าก่อนจะเตรียมอุปกรณ์




ตอนนี้ผักไม่มีครับ มีแต่คะน้ากับกระเพราแล้วก็แครอท ผัดผักเป็นอันต้องตัดทิ้งไป ผมเลยให้โปเต้หั่นแครอทเพื่อที่จะใส่ในข้างผัด ซึ่งโปเต้ก็ทำได้ดีนะครับ แม้จะเล็กบ้างใหญ่บ้าง แต่หั่นครั้งแรกแล้วมีดไม่บาดมือก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ




“ตักข้าวรอเลย ของผมแค่ทับพีเดียวพอ” ผมให้โปเต้ตักข้าว เพราะผมเจียวไข่กับทำผัดกระเพราเสร็จแล้ว เหลือข้าวผัด ส่วนผมไม่กินข้าวผัดหรอก และที่เห็นกินข้าวน้อยแบบนี้ไม่ใช่อะไรหรอก ผมเป็นคนชอบกินกับมากกว่าข้าวน่ะ




“.....” โปเต้วางจานข้าวตัวเองไว้ใกล้ๆมือผม




แล้วอยู่ก็มีเสียงอันปันตัวน้อยเห่าครับ โปเต้เลยหันไปเล่นกับมัน ส่วนผมก็ทำข้าวผัดไป เมื่อเสร็จแล้วก็ยกไปที่โต๊ะกินข้าว เดินกลับมาก็ยังเห็นโปเต้นั่งเล่นกับอันปันอยู่ที่เดิม




“โปเต้ ไปล้างมือแล้วไปกินข้าว” ผมบอกโปเต้ก็จะเดินไปหยิบแก้วน้ำและน้ำไปที่โต๊ะกินข้าว ส่วนโปเต้ก็เดินไปล้างมือแล้วตามผมมาอย่างว่าง่าย วันนี้ไม่ค่อยทำตาดุเลยแหะ สงสัยคงกำลังอารมณ์ดีอยู่




“โปเต้” ในระหว่างที่เรากินข้าวใกล้หมดแล้วผมก็เรียกโปเต้ครับ (โปเต้กินเก่งมาก ข้าวที่โปเต้ตักให้ผมไปทำข้าวผมก็พูนเต็มจาน แถมยังหันไปตะโกนถามพี่ปาร์เลยว่าเค้กเมื่อวานเหลือมั้ย ...กินเก่งจริงๆแหะ)




“...ว่า”




“พี่ปาร์ให้ตั๋วหนังมาสองใบ เข้าใหม่วันนี้รอบบ่าย”




“ชวน?”




“แล้วจะไปมั้ย” ลดโลกร้อนรึไง (เกี่ยว?) ประหยัดคำพูดอยู่นั่นแหละ




“...อืม” โปเต้พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกินต่อ ส่วนผมน่ะกินหมดแล้ว เลยรอเก็บจาน




“เดี๋ยวล้างเอง” โปเต้เหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้น




“.....”




“.....”





“...ผมล้างเอง” ผมเป็นผู้อาศัยนะฮะ ต้องล้างเองสิถึงจะถูก




“อย่าดื้อ”




“ไม่ได้ดื้อ”




“.....”




“.....”




“...ตามใจ”




แล้วหลังจากที่โปเต้กินเสร็จ ผมก็ยกจานไปล้างโดยที่โปเต้ช่วยยกจาน และยืนดูตอนผมล้างจนกระทั่งผมล้างเสร็จ





อืม...ไปดูหนังบ่ายนี้ ขออย่าให้เจอคนรู้จักเป็นพอ สาธุ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 14-01-2015 21:32:37
ไม่รอดหรอกจ๊ะ!
คนรู้จักเพียบ!! ฮ่าาา
"คู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร ติวาลิน" เพจนี้อยู่ไหนน้อ~ จะเข้าไปถูกใจสักหน่อย :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lightseeker ที่ 14-01-2015 23:05:48
ตามไปชงแล้วดื่ม :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 15-01-2015 00:14:03
เรื่องมันอึนดี......ชอบบบบอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 15-01-2015 01:38:52
 :katai5: ค่อยๆ กระดึ๊บๆ ปายย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-01-2015 09:03:09
ไม่รอดแน่ๆรูปเดทเต็มเพจแน่ละคราวนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 15-01-2015 10:54:08
 :m1: เนื้อเรื่องน่ารัก ชอบโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 15-01-2015 11:29:38
เป็นคู่ที่เงียบ  แต่เหมาะมาก ตินดื้อสิน่ะ เลยโดนโปเต้แกล้งดุตลอด น่ารัก คู่เลิพ ติวาลิน ณภันร  กดไลฟ์รัวๆๆๆ :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-01-2015 12:05:22
ฟินแบบเงียบๆ
ดูทั้งคู่ไม่ค่อยคิดเล็กคิดน้อยดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 15-01-2015 13:17:17
เงียบดีจัง55555 น่ารักดีจ้ ชอบนายเอกจ้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 15-01-2015 20:50:45
ยังกะคู่รักแต่งงานอยู่ด้วยกันอ่ะ
เจอคนรู้จักที๋โรงหนังแน่ๆๆๆฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 15-01-2015 21:05:42
ติดตามค้าบบบ ชอบป้อจายมาดนิ่งๆ หุๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 15-01-2015 21:50:10
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 16-01-2015 04:58:48
เป็นนิยายที่ใช้  "......."  เยอะดีนะคะ  :hao3:
โปเต้ - ติณณ์ ในความเงียบงัน เราสัมผัสได้ถึงความลงตัวอย่างเป็นธรรมชาติ
คาดว่าต่อไป เมื่อสองคนใกล้ชิด สนิทสนมกันมากเท่าไร อาจจะมี "........" มากขึ้น ( รึเปล่า? )
เพราะ คู่นี้คงไม่ต้องพูดกัน แบบแค่มองตาก็รู้ใจ  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 16-01-2015 13:11:46
น่ารักจังคู่นี้  o13 :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 3 14/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-01-2015 14:15:12
 :katai2-1: เปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการแค่วันเดียวก็มีแฟนเพจซะแล้ว
แล้วยังไปดูหนังสองต่อสองอีก มันต้องมีรูปหลุดสิ 55555
แฟนเพจคือเรื่องตลกที่ดีงาม คู่นี้เค้าไม่เน้นคำพูดแต่เน้นภาษากายเนอะ

รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 16-01-2015 21:33:50
ตอนที่ 4
















ตอนนี้ผมกับโปเต้มาอยู่ที่หน้าโรงหนังแล้วครับ คนเยอะมากๆ ผมก็แอบมีเหลือบๆมองซ้ายมองขวาอยู่นะ กลัวจะเจอพวกเพื่อนๆ ไม่ใช่อะไรหรอก...แค่ขี้เกียจตอบคำถามมันน่ะ และก็คอยระวังคนที่มีท่าทีแปลกๆด้วย ผมกลัวโดนแอบถ่ายแล้วเอาไปลงเพจคู่เลิฟบ้าบออะไรนั่นน่ะ




ตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วน่ะนะ สงสัยผมสองคนจะมาเร็วเกินไป เพราะหนังจะเริ่มตอนบ่ายโมง




“โปเต้ ผมว่าเราไปหาอะไรกินเถอะ จะเที่ยงแล้ว” ผมหันไปชวนโปเต้




“...อืม”




โปเต้เดินนำผมมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งในห้างฯนั้น พอนั่งปุ๊บ เขาก็สั่งแหลกเลยครับ เหมือนไม่ได้กินข้าวมาสักสามวันแล้วกำลังหิวโซ ส่วนผม...สั่งแค่ราเม็งกับชาเขียว แค่นั้นแหละ ปกติผมก็ไม่ใช่คนที่จะมากินอะไรเยอะแยะมากมาย กระเพาะผมไม่ใช่หลุดดำเหมือนโปเต้ที่เอะอะก็ยัดเอาๆ (ไม่ได้ประชดนะ ตอนแรกที่กินข้าวด้วยกันครั้งแรก ผมก็คิดไปว่าเขาแค่หิว แต่พอมาถึงเรื่องเมื่อเช้า ก็ทำให้ผมตระหนักได้ว่า กระเพาะของโปเต้เป็นหลุดดำ)




“กินแบบนี้เดี๋ยวก็อ้วน” ผมอดไม่ได้ที่จะประชด




“กินแบบนั้นก็ผอมตายพอดี” โปเต้ตอบเสียงเรียบ แววตาดุขึ้นเล็กน้อย แต่...ประเด็นหลักคือเขาประชดผมกลับ




“ก็กระเพาะผมไม่ได้ใหญ่หนิ”




“...แต่กระเพาะของผมก็ไม่ได้เล็กนะ” โปเต้ตอบพลางยิ้มมุมปาก แม้จะเป็นยิ้มแรกที่เขายิ้มให้ผม แต่มัน...เป็นรอยยิ้มที่กวนตีนสุดๆเลย




“ขอโทษนะคะ” อยู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงที่...ใส่ชุดนักเรียนหญิงม.ปลายเดินเข้ามาทัก แต่...ผมไม่รู้จักอ่ะ อาจจะเป็นคนรู้จักของโปเต้ก็ได้





“.....” ผมหันไปมองหน้าโปเต้ ซึ่งโปเต้ก็มองหน้าผม คิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย




“คือ...เพื่อนหนูคนนั้นน่ะค่ะ ชอบพี่...หนูเลยจะมาขอเบอร์พี่ไปให้เพื่อนหนูได้มั้ยคะ” เด็กคนนั้นพูดกับโปเต้อย่างมั่นใจ ผมหันไปมองเด็กผู้หญิงที่น้องคนนี้อ้างว่าให้มาขอเบอร์ เห็นน้องเขานั่งหน้าแดงบิดไปบิดมาราวกับเขินอาย




“.....” โปเต้หันไปมองทางเพื่อนน้องก่อนจะหันกลับมองหน้าน้องนิ่งๆ สายตาดุขึ้นจากเดิมเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ จนหน้าน้องเขาซีดไปเลย




“.....”




“...ติณณ์” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผม




“.....”




“อยากให้ผมให้เบอร์กับเด็กคนนี้มั้ย” โปเต้ถามเสียงเรียบ แต่ก็ทำให้น้องที่ยืนหน้าซีดยกมือปิดหน้าหน้าแดงจัด อะไรอ่ะ...งงกับท่าทีน้องเขาน่ะนะเนี่ย




...งงกับท่าทีของโปเต้ด้วย




“...เรื่องของนายสิ” มาถามผมทำไมว่ะ




“อย่าหึงสิ”




“ผมไม่ได้หึง!” ผมกระแทกเสียงใส่โปเต้ ทำไมชอบทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่เรื่อย เมื่อวานก็ทีนึงแล้วนะ




“เอ่อ...ขอโทษนะคะ หนูไม่รู้ว่าพี่สองคนเป็นแฟนกัน หนูขอตัวนะคะ” ว่าจบ น้องคนนั้นก็รีบเดินกลับโต๊ะตัวเองไป ก่อนจะที่ผมจะเห็นน้องเขาจะพูดอะไรสักอย่างกับเพื่อน ก่อนจะพากันตรงใจแล้วมองมาที่พวกผม ยิ้มแหย่ๆให้นิดนึงแล้วก็พากันออกนอกร้าน




อะไรว่ะ????




“.....”




“.....”





ผมหันกลับมองหน้าโปเต้ เห็นโปเต้ยิ้มมุมปากนิดๆ นี่อย่าบอกนะ...ว่าเป็นแผนไล่เด็กคนนั้นทางอ้อม ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง...แล้วทำไม...ทำไมต้องเอาผมไปเกี่ยวด้วยเล่า





“เลิกเอาผมเป็นไม้กันหมาสักที”





“.....” โปเต้ยักไหล่เล็กน้อย ราวกับจะบอกประมาณว่า ..ก็มันช่วยไม่ได้





“...นิสัยเสียชะมัด” ผมอดไม่ได้ที่จะบ่น เราไม่สนิทกับดีถึงขนาดจะมาแอบอ้างว่าเป็นแฟนกันซะหน่อย





แล้วหลังจากนั้นอาหารก็มาเสริฟ ผมกับโปเต้เลยไม่ได้คุยอะไรกันอีก กินอย่างเดียว และเมื่อกินเสร็จ เราจ่ายเงินโดยที่โปเต้เป็นคนเลี้ยงผม ตอนแรกผมก็ไม่ยอม แต่ว่าก็ไม่ทันโปเต้ที่ยื่นเงินไปให้พนักงานแล้ว พอผมเอาเงินส่วนนั้นยื่นให้โปเต้ โปเต้ก็ไม่ยอมรับ จนผมรู้สึกแบบ...เออ ได้ อยากเลี้ยงก็เลี้ยงไปเลย




ตอนนี้เรากลับมาที่หน้าโรงหนังแล้วครับ คนเยอะพอสมควร





“โปเต้ นายจะไปไหน” ผมถาม เมื่อเห็นว่าโปเต้กำลังจะเดินแยก





“ซื้อน้ำ” โปเต้ตอบก่อนจะเดินไปต่อคิวซื้อน้ำ ส่วนผมก็...ยืนรอมันตรงนั้นแหละ เพราะตอนนี้คนก็แน่นมากๆ ที่นั่งรอก็ไม่มีเลย





“ขอโทษนะคะ” อยู่ๆก็มีผู้หญิงตัวเล็กๆเดินเข้ามาหาผม





“...ครับ?”





“คือ..พอดี อยากจะขอเบอร์น่ะค่ะ แบบว่า...อยากคุยด้วยน่ะค่ะ” เธอว่าอย่างตรงไปตรงมา จะว่าไป...เธอก็น่ารักดีอยู่หรอกนะ แต่...ผมไม่ชอบ ผมไม่รู้จัก และไม่มีธุระที่จะต้องคุยด้วย ...ทำไมผมจะต้องให้เบอร์เธอด้วย





“ขอโทษนะครับ แต่คงไม่ได้” ผมตอบปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุด





“เอ่อ...โอเคค่ะ” เธอหน้าจ๋อยลงไปนิดนึงก่อนจะเดินไป





“.....” ผมยืนเฉยๆจนเริ่มทำตัวไม่ถูก เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเกมรอโปเต้ อีกประมาณสิบห้านาทีก็จะถึงเวลาแล้วล่ะครับ





“เอ่อ...ขอโทษนะครับ” เสียงผู้ชายทักผม เมื่อผมเงยหน้าก็พบว่าเป็นผู้ชายที่...สูงกว่าผม...น่าจะสูงพอๆกับโปเต้ แต่กล้ามนี่ใหญ่อยู่มาก เหมือนออกกำลังกายฟิตกล้ามมาพอสมควร หน้าตาก็...ตี๋ขาวครับ นับว่าดูดีมาก





“...ครับ?” ว่าแต่...จะมาเรียกผมทำไม





“คุณชื่อติณณ์ใช่มั้ยครับ” เขา...รู้จักชื่อผมได้ยังไงน่ะ





“.....”





“อย่ามองหน้าผมเหมือนไม่ไว้ใจแบบนั้นสิครับ ผมชื่อเฟียสครับ อยู่มหา’ลัยเดียวกันกับคุณ แต่คนละคณะกันครับ” เขาแนะนำตัว






“...ครับ” แล้วไง ...แค่อยากทัก หรือแค่อยากแนะนำตัวเฉยๆ




“ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับ”




“.....”




“...ผมชอบคุณ”




อืม...




....





.......ห๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!




“...!” ผู้ชายไซส์บิ๊กแบบนี้มาบอกชอบผม บ้าป่ะ ...คือ ใช่ว่าผมจะไม่เคยถูกผู้ชายจีบหรือบอกชอบหรอกนะ เพียงแต่ ...คนพวกนั้นมักจะตัวเล็กๆ น่ารักๆทั้งนั้นเลย แต่นี่...ลักษณะแบบนี้ ...เอ่อ...เฟียสเขาเป็นคนแรกเลยน่ะหนิ




“ผมชอบคุณ...คุณจะให้โอกาสผมได้ทำความรู้จักคุณ...ได้มั้ยครับ เอ่อ...แม้ว่าตอนนี้คุณจะมีข่าวลือว่าคบกับนภัทร เอ่อ...แม้ว่ามันจะน่าสงสัยจริงๆ แต่...ถ้าคุณบอกผมว่าคุณคบกับนภัทรจริงๆ ผมก็จะพยายามทำใจครับ”





“เอ่อ...” ผมควรจะพูดอะไรดีเนี่ย โว้ย...มาไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ผมก็ไปไม่ถูกหรอกนะ




“.....”




“ผม...ไม่มีแฟน” ผมขอแก้ปัญหาความเข้าใจผิดนี้ก่อนเลยก็แล้วกัน




“งั้นแสดงว่าผมจีบคุณได้ ...ขอบคุณจริงๆนะครับ” เฟียสว่าก่อนจะรวบมือผมเข้าไปกุมไว้




“นี่คุณ! ...ปล่อยมือผมนะ” ผมร้องบอกอย่างตกใจ รู้สึกขนลุกแปลกๆที่มีผู้ชายมาจับมือแบบนี้




“เอ่อ..ขอโทษครับ ผมคงดีใจมากไปหน่อย”




“แต่...ผมไม่ได้บอกว่าจะให้คุณจีบผมสักหน่อย”




“โธ่...คุณ ไม่เป็นไร ถ้าคุณไม่อนุญาต ผมก็จะตื้อคุณอยู่นั้นแหละ”




“.....” ฟังกันบ้างมั้ยเนี่ย




“...ติณณ์” เสียงทุ้มๆที่เริ่มจะชินหูดังขึ้น โปเต้เรียกผมก่อนจะเดินมายืนหยุดอยู่ที่ข้างๆผม




“....” ผมไม่ได้พูดอะไร โปเต้มีสีหน้านิ่งๆเหมือนอย่างเคย แต่แววตาดุดันแปลกๆ ส่วนเฟียสก็มองหน้าโปเต้นิ่งๆเหมือนกัน




ให้ความรู้สึกเหมือนแมวกับหมาขู่กันยังไงไม่รู้ (ดูมันเปรียบเทียบ)




“ที่คุณบอกผมเมื่อกี้ ผมจะเชื่อนะครับ แม้ว่าคุณจะมากับ ‘เขา’ ก็ตาม” เฟียสบอกกับผมด้วยสีหน้าจริงจัง




“..คุยอะไรกัน” โปเต้ถามเสียงเรียบ แต่ไม่ได้มองหน้าผม ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่เหมือนโปเต้กำลังโมโหยังไงไม่รู้




แต่...เขาจะมาโมโหผมเรื่องอะไรล่ะ




หรือไม่ก็...อีกกรณีนึงที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือ...โปเต้อาจจะไม่ชอบขี้หน้าเฟียสก็เป็นได้ ถ้าหากว่าโปเต้มีนิสัยคล้ายๆพวกอันธพาลน่ะนะ แต่...ผมกับโปเต้พึ่งรู้จักกัน ผมไม่สามารถรู้ถึงนิสัยจริงๆของเขาได้หรอก เพราะงั้น...ผมจึงขอสันนิฐานว่า โปเต้อาจจะไม่ชอบเฟียสอยู่ก่อนแล้วก็เป็นได้




“โปเต้...” ผมเรียกชื่อโปเต้เบาๆพลางเอื้อมมือไปจับแขนโปเต้ แต่ก็ถูกโปเต้สะบัดออก ทำเอาผมเริ่มหงุดหงิดแล้วล่ะนะ




“.....”




“...นายเป็นอะไรของนาย” ผมถามอย่างไม่เข้าใจ




“ผมถามว่าคุยอะไรกับมัน” โปเต้หันมามองผม สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด




“นภัทร ผมกับติณณ์จะคุยอะไรกันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ” เฟียสเอ่ยขัดขึ้น แต่ผมกลับรู้สึกไม่เห็นด้วยที่เฟียสจะพูดอะไรตอนนี้ ดูก็รู้ว่ายิ่งเฟียสพูด โปเต้ก็ยิ่งโมโห




“อย่าเสือก!” โปเต้ตอบกลับแบบทันทีด้วย




“เฟียส ...ผมขอร้อง คุณช่วย...” ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ เฟียสก็พูดขัดขึ้นก่อน




“โอเคครับ ผมจะไปก่อนจะไปก่อนก็ได้ ไว้คืนนี้ผมจะ...”




“จะอะไร!” โปเต้ตะคอกเสียงใส่เฟียส ท่าไม่ดีแล้วแหะ ไปกินอะไรผิดสำแดงมารึไง ก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีกวนประสาทผมได้อยู่เลย




“โปเต้ มานี่” ผมทนไม่ไหว เข้าไปลากแขนโปเต้แล้วพาไปที่อื่นทันที ไม่ดงไม่ดูมันแล้วหนังอ่ะ




“ปล่อย” โปเต้ว่าก่อนจะสะบัดแขน เมื่อเราเดินออกมาจากบริเวณโรงหนัง




“นายเป็นอะไรของนาย ผมไปทำอะไรให้ ทำไมต้องมาโมโหใส่กันแบบนี้ แล้วก็เรื่องเฟียส...ผมไม่รู้หรอกนะ ว่านายกับเฟียสเคยมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า แต่เมื่อกี้ผมกับเฟียสกำลังคุยกัน แล้วนายก็มาทำแบบนี้...มันเสียมารยาทนะรู้มั้ย” นี่คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดของผมเลยล่ะมั้ง แต่...ผมไม่ชอบสถานการณ์แบบนี้เป็นที่สุด ใจจริงก็ไม่ได้อยากจะสนใจหรอกนะ ถ้าตอนนั้นมันไม่ได้มีแค่เรื่องของผมเข้าไปเกี่ยว แต่...มันก็ไม่เชิงเรื่องของผมเสียทีเดียวหรอก




“แตะมันไม่ได้เลยรึไง”




“โปเต้ สงบสติตัวเองก่อนจะได้มั้ย อย่ามาพาล ผมไม่ชอบ”




“.....”




“แล้วนายเป็นอะไร จะมาโมโหผมที่คุยกับเฟียสทำไม” ผมกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย เขาจะมาแสดงท่าทีแบบนี้มันก็แปลกๆนะ




“.....”




“...โปเต้”




“.....”




“ถ้ายังไม่พูด ผมจะกลับ” ผมว่าเสียงเรียบ




“ผมไม่ชอบขี้หน้ามัน” ในที่สุดโปเต้ก็บอกผม แต่...เฮ้อ ช่างมันเถอะ




“ก็แค่นั้น”




“ต่อไปคุณห้ามยุ่งกับมัน”




“นี่...ผมกับเฟียสเราไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน”




“ถือว่าผมขอ”




“.....” อะไรของเขากันเนี่ย




“.....”




“ผมคงทำตามไม่ได้หรอก”




“.....”  โปเต้เริ่มหน้าบึ้งอีกครั้ง




“ผมกับเฟียสเราพึ่งรู้จักกัน และเขายังไม่ได้ทำอะไรที่ทำให้ผมต้องเลิกยุ่ง เข้าใจมั้ย”




“...ไม่”




“ผมไม่อยากพูดกับนายแล้ว” พูดไปก็ไม่ฟัง คนอะไรเนี่ย




“เฮ้อ” โปเต้ถอนหายใจเบาๆ




อะไร ถอนหายใจทำไม ผมสิที่ต้องเป็นคนถอนหายใจ




“.....”




“จะดูมั้ย ...หนังอ่ะ” โปเต้ถามเสียงเรียบ แต่ทำไมผมรู้สึกว่า...น้ำเสียงนั่นดูอ้อนๆแหะ




“ไม่...หมดอารมณ์” ไม่อยากดูอะไรทั้งนั้นอ่ะ อยากกลับบ้านแล้ว




“งั้นไปเดินเล่นกันเถอะ”




“ไม่...จะกลับบ้าน” ผมพูดโดยไม่มองหน้าโปเต้เลยสักนิด




“ติณณ์”




“.....” ไม่ต้องมาเรียกเลย




“ติวาลิน”




“จะเรียกทำไมนักหนา ...นภัทร”




“อย่ามางอนไร้สาระน่า”




ผมเนี่ยนะงอนเขา บ้ารึเปล่า เอาอะไรมอง ผมก็แค่...ผมก็แค่ไม่อยากพูดกับคนไม่มีเหตุผล ก็เท่านั้น




“จะกลับมั้ย” ผมถาม ถ้าเขาอยากจะเดินต่อผมก็ไม่ว่า แต่ผมคงต้องขอกลับก่อน กลับบ้านไปนอนดีกว่า




“ไปเดินเล่นกัน” โปเต้ว่าก่อนจะดูดน้ำจากแก้วน้ำในมือที่พึ่งไปซื้อมาเพื่อจะเข้าโรงหนัง




“ไม่เอา”




“...ไปกัน” เหมือนโปเต้จะไม่ฟังผม เอื้อมมือมาจับข้อมือผม แล้วลากให้ผมเดินตามเฉยเลย




“โปเต้ จะไปไหน ...กลับบ้านกันเถอะ” ผมว่าพลางขืนตัวไว้ แต่สู้แรงโปเต้ได้ที่ไหนกัน




“ไปซื้อของขวัญวันเกิดให้พี่ปาร์” โปเต้พูดเสียงเรียบ




“...ใกล้จะวันเกิดพี่ปาร์แล้วเหรอ” ผมถามอย่างสงสัย




“อีกสามวัน”




“ทำไมไม่มีใครบอกเลย” ผมบ่นเบาๆ




“ก็บอกอยู่นี่ไง”




“...รู้แล้วน่า”




สุดท้ายผมก็ยอมเดินตามโปเต้จนได้ ส่วนโปเต้ก็เปลี่ยนจากจับข้อมือผมมากอดคอผมแทน โดยให้เหตุผลที่ว่า...กลัวหลง




ประสาทเหอะ ...ถึงผมจะไม่ค่อยได้เที่ยว แต่ก็ไม่โง่จนเดินหลงกับโปเต้หรอก




“โปเต้ พี่ปาร์ชอบอะไรหรอ” ผมเลิกขืนตัวแล้วปล่อยให้โปเต้กอดคอ ก่อนจะถาม ผมไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับพี่ปาร์มากนัก ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับพวกพี่เขา ผมเคยเจอหน้ากันแค่สี่ครั้ง ส่วนครั้งที่ห้าก็งานแต่งเลย




“ไม่รู้เหมือนกัน”




“เป็นพี่น้องกันจริงๆรึเปล่าเนี่ย”




“...พ่อแม่ผมแยกทางกันตอนผมยังเด็ก พี่ปาร์อยู่กับพ่อ ส่วนผมไปอยู่กับแม่ที่รัสเซีย ...พึ่งกลับมาตอนเข้ามหา’ลัย ผมเลยไม่ค่อยสนิทกับพี่ปาร์”




“...ขอโทษนะ” ผมรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่โปเต้เองคงไม่อยากจะพูดถึงนักหรอก แต่...พึ่งย้ายกลับมา แต่พูดไทยได้ชัดและคล่องปรือเลยนะเนี่ย




“ช่างเถอะ”




“ผมจะซื้อนาฬิกาให้พี่เขาล่ะกัน” ผมว่า เมื่อเหลือบไปเห็นร้านเครื่องประดับ




“อืม ...ช่วยกันออกดีมั้ย”




“ทำไม”




“ก็ผมว่าจะซื้อนาฬิกาให้พี่ปาร์เหมือนกัน”




“เอางั้นก็ได้” ผมว่าก่อนจะเข้าร้านเครื่องประดับที่ผมเล็งเอาไว้




เราใช้เวลาเลือกกันสักพักใหญ่ๆเลยล่ะ เพราะเราไม่รู้ไซส์ของพี่ปาร์ แต่โปเต้ก็ตัวพอๆกับพี่ปาร์ ข้อมือน่าจะพอๆกันมั้ง (ข้อมือผมเล็กนิดเดียวเอง เมื่อเทียบกับข้อมือของโปเต้อ่ะ ทั้งๆที่ผมก็สูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเซ็นต์ จัดว่าสูงอยู่นะ ควรที่จะตัวหนากว่านี้นะเนี่ย)




“.....”




“.....” ระหว่างที่ให้โปเต้เป็นคนพิจารณานาฬิกาอยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นแหวนวงนึงที่มันสะดุดตามผมมากๆ ดีไซน์มันแปลกดี ทรงมันแบบ...เหมือนปลายเถาวัลย์มาชนกัน โดยมีเพชรเม็ดเล็กๆอยู่ตรงที่มันชนกันพอดี สวยอ่ะ...ผมชอบ




“พี่ครับ ผมขอดูวงนี้หน่อย” ผมบอกพี่พนักงาน




“ได้ค่ะ” เธอยิ้มนิดๆก่อนจะหยิบออกมาให้ผม แต่...เธอหยิบออกมาให้สองวง แต่เหมือนกัน




“เอ่อ...ผมขอดูวงเดียวครับ”




“มันเป็นแหวนเซ็ทคู่น่ะค่ะ”




“..แหวนคู่เหรอครับ”




“ค่ะ”




“เอ่อ...ถ้าผมจะซื้อแค่วงเดียวล่ะครับ”




“คงจะไม่ได้น่ะค่ะ”




“.....” ผมเม้มปากเล็กน้อยอย่างขัดใจ ผมอยากได้...ซึ่งนานๆทีผมจะมาซื้อของแบบนี้ ทำให้มีเงินเก็บเยอะอยู่ และเยอะมากพอที่จะซื้อแหวนวงนี้ แต่...ดูจากราคาแล้ว วงเดียวอ่ะไหว แต่ถ้าสองวงนี้คงโดนพี่ตาลบ่นไปสามวันแปดวันแน่เลย




“อยากได้เหรอ” โปเต้เดินมาหาผม เหมือนจะซื้อเสร็จแล้ว (คือโปเต้บอกว่าเดี๋ยวจะออกให้ก่อน แล้วผมค่อยเอาเงินให้เขาอีกที)




“อืม แต่มันต้องซื้อสองวง” ผมว่าอย่างเสียดาย




“ก็ซื้อสิ”




“แล้วอีกวงนึงผมจะเอาไปไปทำไมเล่า”

 


“สองวงนี้เท่าไหร่ครับ” โปเต้หันไปถามพนักงาน




“โปรโมชั่น จากสองหมื่นเก้าพันเก้าร้อยบาท เหลือสองหมื่นห้าพันบาทค่ะ”




“.....” ถ้าวงเดียวก็ครึ่งราคา ผมก็สู้นะ...แต่ให้ซื้อสองวงคงต้องขอบายยยยย




“เอาสองวงนี้แหละครับ”




“ค่ะ เดี๋ยวต้องขอวัดไซต์ด้วยนะคะ”




“โปเต้ ...นายจะซื้อหรอ” ผมหันไปถาม เมื่อกี้นาฬิกาก็ห้าพันกว่าบาทไปแล้ว (ซึ่งผมว่ามันก็แพงอยู่นะ) แล้วแหวนนี่ก็ตั้งสองหมื่นห้าอ่ะ ใช้เงินเกินตัวไปรึเปล่า




แต่...ดูๆแล้ว ทั้งทางพ่อและแม่ของโปเต้ก็รวยใช่เล่น




“คนละครึ่ง” โปเต้ว่าเสียงเรียบ




นี่เขาเห็นว่าผมอยากได้ จนต้องซื้ออีกวงให้เลยเหรอ บ้าแล้ว...อะไรเนี่ย วันนี้โปเต้เป็นอะไรเนี่ย ไอ้ขี้เก๊กมาดดุคนนั้นหายไปไหนอ่ะ




“...อื้ม ขอบคุณมากนะ”




“อืม”




แต่...ในที่สุดก็ได้แหวนมาครอบครอง ดีใจจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 16-01-2015 21:56:09
โห โปเต้มีพิรุจมาก
อย่าบอกน่ะว่าแอบชอบติณณ์
แล้วติณณ์ก็เนื้อหอมมาก
ทั้งหญิงและชายเลยที่มาขอเบอร์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 16-01-2015 21:56:56
  โปเต้เนียนเนอะใส่แหวนคู่กะติน  แถมหึงโหดสะด้วยตินจารอดไม่เนี่ย  :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-01-2015 22:05:19
 :impress2:  ฟินอะ แหวนคู่นี่ถือว่าจองแล้วใช่มะโปเต้ อิอิ
เฟียสกล้าดีนะ. / ตบบ่าแปะๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-01-2015 23:08:46
โปเต้....แสดงตัวนิดหน่อยนะ  แบบเงียบๆ เฟียสนี่ท่าทางจะมาป่วน

แหวนคู่เดี่ยวเป็นกระแสแน่ๆ ประกาศตัวเป็นแฟนโดยไม่ต้องพูดอะไรก้ได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 16-01-2015 23:28:02
คนเงียบสองคนมาเจอกัน พออยู่ด้วยกันแล้วติณณ์ที่เงียบน้อยกว่าเลยดูพูดเยอะเท่าคนปกติเลย เพราะต้องคอยพูดคอยถามโปเต้ตลอด
ไม่รู้นะ ถึงจะเงียบๆแบบนี้ก็เหอะ แต่พอแสดงออกแต่ละอย่างแล้วอิอ๊างน่ากรี๊ดมากเลยให้ตายสิ
จากคำบอกเล่าของคนรอบข้าง รู้สึกได้ว่าติณณ์เนี่ยจัดอยู่ในตำแหน่งที่พิเศษสำหรับโปเต้นะ (ชอบฟีลคนพิเศษแบบนี้อ่ะ)
เพราะดูจะได้อภิสิทธิ์ทำในสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้หรือได้ในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้รับ
หลายๆสิ่งดูผิดวิสัยที่คนอย่างโปเต้จะทำ แต่พอเป็นติณณ์แล้วกลับอยู่นอกเหนือเงื่อนไขเหล่านั้นหมดเลย
ตอนนี้ก็มาถึงคิวของแหวนคู่แล้ว อุกรี๊ดดด ถ้าใส่ไปพร้อมกัน สงสัยเป็นข่าวดังเว็บเพจถล่มทลายแน่ๆ
โป้เต้เป็นรุกหน้าหวาน เย็นชา พูดน้อย และโหดดด เป็นความขัดแย้งที่เราชอบมากนะเนี่ย
ชอบตอนที่โปเต้พูดว่า 'หิว' คำเดียวสั้นๆแล้วติณณ์ก็ต้องลุกไปทำไปหาอาหารมาให้ แล้วก็ชอบตอนที่โปเต้(ดูเหมือนจะ)หึงติณณ์ด้วย อิอิ
รอตอนต่อไปนะค้า
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 16-01-2015 23:31:58
โปเต้เห็นนางเงียบๆนางเก็บทุกรายละเอียดนะคร้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 16-01-2015 23:47:32
รุกเงียบครับ 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 17-01-2015 00:30:06
คนเงียบๆ มาอยู่ด้วยกันแล้วมันน่ารักแบบนี้นี่เอง
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 17-01-2015 01:05:45
ติณณ์น่ารักกกกก โปเต้ก็เนียนนะ :hao7: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-01-2015 07:14:11
เฮ้ยยยโปเต้ นายแอบรู้จักติณมาก่อนหน้าใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 17-01-2015 10:10:10
  แหวนคู่่่ o13 o13 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 17-01-2015 14:34:16
น่ารักจังเลยค่ะคู่นี้ :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-01-2015 15:49:13
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 17-01-2015 17:12:23
นั่นแน่มีซื้อแหวนคู่ใส่ด้วยกันด้วย ไม่ใช่แฟนก็เหมือนแฟน นอนห้องเดียวกัน กินข้าว ดูหนัง อยู่ด้วยกัน โปเต้คงชอบตินแล้วแหล่ะ หึงคนมาจีบซะขนาดนั้น :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-01-2015 19:00:17
โปเต้เนียนมาก จีบเนียนๆ หึงเนียนๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 17-01-2015 23:30:57
อ้ายยยนี้มันคือการล่อหลอก การล่อหลอกสินะ :hao6:หลอกด้วยของแล้วค่อยจับกิน...ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 4 16/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-01-2015 12:56:48
ดูท่าว่าพระเอกของเราจะแอบรักติณณ์มานานแล้วละม้างงง (เดาฝุดๆ) โปเต้นี่น่ารักจังเลยละน้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 18-01-2015 16:20:52
ตอนที่ 5

















“ติณณ์ ทำไมมึงดูมีความสุขแปลกๆว่ะ” เสียงแลนด์ทักผม ตอนนี้เรานั่งเล่นอยู่โต๊ะไม้หินอ่อนหน้าคณะ อีกชั่วโมงนึงกว่าจะถึงเวลาเรียน พวกผมเลยมานั่งรับลมอยู่ตรงนี้ดีกว่า




“กูก็ปกติ” ผมไม่เห็นจะมีอะไรที่ผิดปกตินี่




“ไอ้ติณณ์ แหวนมึงสวยดีว่ะ เท่าไหร่เนี่ย” นิดาที่นั่งข้างๆผมเอ่ยถาม คือผมวางมือไว้บนหนังสือที่อยู่บนตัก ไม่แปลกที่นิดาจะเห็น




“ก็...แพงนิดนึง” ผมไม่ค่อยอยากจะบอกราคาเท่าไหร่ ความจริงผมเป็นคนไม่ค่อยสนใจพวกเครื่องประดับสักเท่าไหร่ ถ้าอันไหนไม่สะดุดตาจริงๆ ก็อย่าหวังว่าจะได้เงินจากผม




“ไหนๆๆ ขอกูดูหน่อย” จีน่าว่าก่อนเอื้อมมือผ่านโต๊ะ (จีน่านั่งอยู่ตรงข้ามกับผม) คว้ามือผมขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ ทำให้พวกที่เหลือมองกันใหญ่




ผมใส่ไว้ที่นิ้วนางข้างขวา เพราะผมเป็นคนถนัดซ้าย ใส่ข้างซ้ายแล้วกลัวว่าจะเขียนหนังสือไม่ถนัด ความจริง...ผมก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าคนทั่วไปเวลาเลือกแหวนที่ชอบมาใส่ จะใส่นิ้วไหน แต่สำหรับผม ผมคิดว่า...ในบรรดานิ้วทั้งห้า ผมว่าใส่ที่นิ้วนางแล้วมันดูสวยที่สุด ...ในความคิดผมนะ




“สวยว่ะ แต่...เหมือนก็เคยเห็นร้านในเน็ตเคยเอาลงนะ” จีน่าว่าพลางทำหน้านึก




“ตัวเองเคยเอารูปมาให้เค้าดูไม่ใช่เหรอ ลองเปิดดูดิ น่าจะยังไม่ได้ลบนะ” นิดาบอกจีน่า ไม่ต้องแปลกใจที่ว่าทำไมนิดาถึงพูดแบบนี้กับจีน่า มันเป็นเพราะว่า สองคนนี้เขาเป็นแฟนกัน ...อืม....อ่านไม่ผิดหรอก สองคนนี้เขาเป็นแฟนกันตั้งแต่ม.4 ซึ่งพวกผมก็รับได้น่ะนะ ความสุขของเพื่อน อีกอย่างมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร




“เดี๋ยวเค้าดูก่อน”




“ไอ้ติณณ์ ทองคำขาวป่ะเนี่ย” ไอถามเมื่อใช้นิ้วลูบแหวนของผมเบาๆ




“...อืม”




“แพงเชี่ยๆ” เสียงหลุยส์ และแลนด์สบถขึ้นพร้อมกัน




“นี่ๆ ร้านเอ็กซ์พรีเซ็นต์ใช่ป่ะ” จีน่าว่าพลางยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู อืม...ใช่ ผมซื้อที่ร้านนั้นแหละ จะว่าไปร้านนี้เขาก็ดังเหมือนกันนะ ผมพึ่งรู้




“มันเป็นแหวนคู่ ราคาสองหมื่นเก้าพันเก้าร้อย และที่สำคัญ ขายเป็นเซ็ทคู่ ไม่แยกขายเป็นวง” จีน่าอ่านรายละเอียด




“มึงซื้อมาสองวงเลยเหรอว่ะ”




“เอ่อ....”




“ทำไมต้องอ้ำอึ้ง” หลุยส์ถามอย่างจับผิด




“ก็...พี่ตาลช่วยซื้ออีกวงน่ะ” ขอโทษนะครับพี่ตาล ที่น้องติณณ์เอาชื่อพี่มาแอบอ้างแบบนี้




“แค่นี้...อ้ำอึ้งทำไม” หลุยส์ว่าอย่างเซ็งๆ เหมือนกำลังลุ้นอะไรสักอย่างแล้วมันไม่เป็นไปตามคาด




“ก็...ไม่มีอะไร” ผมตัดบทก่อนจะเปิดหนังสือที่วางอยู่บนตักของผมเปิดอ่านขึ้นอีกครั้ง




“ติณณ์ครับ” อยู่ๆก็มีคนมาเรียกผม ผมจึงเงยหน้าขึ้นมอง ก็พบว่าเป็น...เฟียส ผู้ชายที่ผมเจอที่หน้าโรงหนัง เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนนิ่งเฉยอย่างโปเต้หงุดหงิดขึ้นมาได้




“....” ผมมองแต่ไม่ได้พูดอะไร และไม่ได้ทักกลับ




“คือ...ผมซื้อน้ำผลไม้มาฝาก ไม่รู้ว่าติณณ์จะชอบรสไหน ก็เลยซื้อมาเยอะเลย ลองทานดูนะ” เฟียสบอกผม ก่อนจะว่างถุงที่บรรจุขวดน้ำผลไม้หลายขวดไว้บนโต๊ะตรงหน้าผม




“ขอบคุณ ...แต่วันหลังหรือไม่ว่าจะวันไหน ...ไม่ต้องก็ได้” ผมบอกเขาไป ที่ผมทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะให้เขาล้มเลิกความคิดที่จะจีบผมซะ ไม่อยากให้เขาต้องพยายามให้มากไปกว่านี้ เพราะผมมั่นใจว่ายังไงก็ไม่มีทางชอบเขาหรอก




“แต่ผมเต็มใจ”




“นี่นาย...ไม่เห็นหรอ ว่าเพื่อนฉันไม่เล่นด้วยน่ะ” นิดาเริ่มออกตัวแทนผม




“มันก็ยังไม่แน่เสมอไปหนิครับ ถ้าเกิดผมพยายามแล้วมันสำเร็จล่ะ” เฟียสหันไปบอกกับนิดา




“เลิกพยายามเถอะ ผมว่า...มันเป็นไปไม่ได้หรอก” ผมเอ่ยบอกเขาไป แม้คำพูดมันจะทำร้ายใจเขา แต่มันก็ดีกว่าปล่อยให้เขาอยู่กับความหวังลมๆแล้งๆ




“ทำไมครับ ...หรือว่าคุณจะเว้นที่ไว้ให้ไอ้นภัทรมันจริงๆ”




พูดกับคนแบบนี้ไปมันก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาสินะ




“.....” ผมมองหน้าเขานิ่งๆ ไม่อยากจะพูดอะไรจนกลายเป็นต้องเข้าตัวเอง เงียบไว้...มันคงจะดีกว่า




“ติณณ์...” อยู่ๆก็มีเสียงคนเรียกผม และแน่นอน...เป็นคนที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนมาไหน ก็จะต้องมีคนจับจ้องตลอดเวลา




...โปเต้




“...อะไรเหรอ” ผมถามเขากลับ




“....” โปเต้ไม่ตอบ แต่ยื่นโทรศัพท์ของเขามาให้ผม ผมรับมาก่อนจะมองหน้าเขา แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไร ผมจึงก้มหน้าลงมามองโทรศัพท์ ลองกดเปิดหน้าจอดูก็พบว่ามืดสนิท แบตคงจะหมด แล้วเขาคงจะมาฝากผมชาร์ตแน่ๆ




ผมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของตัวเอง หยิบที่ชาร์ตแบตสำรองออกมาแล้วชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้โปเต้ แน่นอนว่าผมรู้ว่าทั้งเพื่อนผมและคนรอบข้างต่างก็มองการกระทำแบบนั้นของผม แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ผมกับโปเต้เราไม่ได้ทำอะไรที่มันผิดแปลกไปสักหน่อย




“หวงก้างจริงๆ” เฟียสสบถออกมาเบาๆ แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้โปเต้ยิน สรุปสองคนนี้เขาเคยมีปัญหามาก่อนใช่มั้ยเนี่ย เจอกันก็เหมือนพร้อมจะต่อยกันได้ทุกเมื่อเลย




“.....” โปเต้ยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะหันทำตาดุใส่เฟียส




“.....” เฟียสเองก็มองกลับอย่างไม่ยอมแพ้เหมือนกัน อะไรของสองคนนี้เนี่ย




“โปเต้ นั่งก่อนสิ เราเรียนวิชาเดียวกันหนิ อีกตั้งนานแหนะ กว่าจะถึงเวลาเรียน” จีน่าพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มมาคุ ก่อนที่นิดาจะลุกขึ้นไปนั่งข้างๆจีน่า ทำให้ข้างๆผมมีที่ว่าง




“.....” โปเต้ไม่พูดอะไร เพียงแต่เดินมานั่งข้างๆผม




“...ติณณ์ครับ วันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน ไว้วันหลังผมจะมาใหม่” ว่าจบ เฟียสก็เดินออกไปทันที อยากจะบอกว่าวันหลังไม่ต้องมาก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าพูดไปก็เท่านั้น




จนกระทั่งเฟียสเดินไป ในโต๊ะของผมก็ยังไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งเพื่อนของโปเต้เดินมา




“เอ่อ...ขอพวกเรานั่งด้วยได้ป่ะ” คนที่ผมจะจำได้ว่าชื่อเซย์เอ่ยขึ้น




“ได้ดิ นั่งเลยๆ” นิดาเป็นคนบอก เซย์เลยนั่งลงข้างๆแลนด์ ส่วนเพื่อนของโปเต้อีกคนนึงก็เดินไปนั่งข้างๆหลุยส์




 ทุกคนคุยกันสนุกสนาน ยกเว้นผมกับโปเต้ ด้วยความที่ผมไม่ค่อยจะยุ่งเกี่ยวกับบทสนทนาของเพื่อนอยู่แล้ว ส่วนโปเต้ก็รู้ๆกันอยู่อะนะ เขากำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ของเพื่อนเขา ส่วนผมก็นั่งอ่านหนังสือของผมไป อ้อ...แล้วส่วนน้ำผลไม้ที่เฟียสเอามาให้ผม พวกเพื่อนของผมและเพื่อนของโปเต้ก็จัดการมันไปแทนผมเรียบร้อย





“แค่กๆ” เสียงไอที่ดังขึ้นเบาๆ สามารถเรียกความสนใจจากคนทั้งโต๊ะได้เลยครับ




นั่นคงเป็นเพราะ ต้นเสียงมันมาจากโปเต้นั่นเอง




“แค่กๆ” โปเต้ก็ไอเบาๆออกมาอีก




“.....” ผมไม่ได้ถามอะไร แต่ถือวิสาสะ (แบบลืมตัว) เอื้อมมือไปตะหน้าผากของโปเต้เบาๆ พบว่ามันก็ไม่ได้ร้อนอะไร




“คอแห้งน่ะ” โปเต้พูดบอกเบาๆ แต่ตายังสนใจไปที่เกมในโทรศัพท์(ของเพื่อน)ในมือ ไม่มีสนใจจะเงยหน้าขึ้นมาหาน้ำกินเลยสักนิด ผมจึงหันไปหยิบน้ำเปล่าที่อยู่ในกระเป๋าของตัวเองออกมา เอื้อมมือไปหาหลอดในถุงที่ใส่ขวดน้ำผลไม้ที่เฟียสเอามาให้ เมื่อหยิบมาได้ ก็เอาเปิดฝาขวดน้ำเปล่า เสียบหลอดลงไป แล้วยื่นไปจ่อปากโปเต้




ยอมรับเลยว่าผมลืมตัว เพราะช่วงนี้โปเต้เริ่มแสดงอาการดื้อเงียบ ถ้าผมไม่เริ่มนำก่อน เขาก็จะไม่ค่อยทำ เมื่อคืนเขายังจะไม่อาบน้ำเลย แต่ผมดักเขาด้วยการยื่นผ้าเช็ดตัวให้เขา ผลักเขาไปที่หน้าห้องน้ำ แล้วพูดดักด้วยการบอกว่าจะหาชุดนอนให้ สุดท้ายโปเต้ก็เดินเข้าห้องน้ำไป ก็เข้าใจว่ามันใกล้หน้าหนาวแล้ว ช่วงนี้ตอนกลางคืนมันก็เริ่มหน้ากว่าที่ผ่านมา จะทำให้ไม่อยากอาบน้ำมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ไม่ไหวนะ เพราะเราต้องนอนเตียงเดียวกัน เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ถ้าผมไม่ป้อน เขาก็ไม่มีทางจะไปหาน้ำมากินแน่ๆ




“.....” แม้จะคิดไปว่าตัวเองพลาดที่ลืมตัวแสดงกริยาเหมือนอยู่บ้านกับโปเต้ต่อหน้าทุกคน แน่นอนว่าคนรอบข้างต่างมองมาที่ผมสองคน แต่จะให้ผมชักมือออกก็คงไม่ทันแล้ว เพราะโปเต้เงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม ก่อนจะดูดน้ำจากหลอดในขวดน้ำที่ผมยื่นไปให้




“ดูแลกันดีจริงๆ” มาแล้วครับ เสียงจากนิดา ส่วนผมก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นแก้ตัว เอ๊ะ...หรือผมควรพูดหว่า?




“ก็...เปล่า” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะเก็บทั้งขวดน้ำและหนังสือของตัวเองลงกระเป๋า




“แต่ที่เห็นมัน...” นิดาทำท่าจะพูดต่อ แต่โปเต้ที่นั่งเงียบมาตลอดก็แย้งขึ้น




“จะถึงเวลาเรียนแล้ว” โปเต้พูดก่อนจะเงยหน้ามองหน้าทุกคน ก่อนที่ตัวเขาเองจะลุกขึ้น แล้วเดินออกไปเลย ผมเองก็ไม่รอช้า ลุกตามไปติดๆเหมือนกัน ไม่อยากถูกถามมาก เพราะผมก็ไม่มีคำตอบให้พวกนั้นหรอก ผมไม่ได้เป็นอะไรกับโปเต้ ผมย้ำกับพวกนั้นไปหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ฟังกันเลย




แต่ผมก็ไม่ชอบการถูกเข้าใจผิดนะ























ตอนนี้ก็ถึงเวลาเลิกเรียนล่ะครับ ผมกับเพื่อนๆของผม และรวมไปถึงโปเต้และเพื่อนของเขา กำลังเดินลงบันไดของอาคารเรียน วันนี้เลิกเรียนช้าไปสักหน่อย ทำให้ทุกคนในตอนนี้อยู่ในสภาพหิวมากๆ และตกลงกันว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนกลับบ้าน และดูเหมือนตอนนี้กลุ่มของผมกับกลุ่มของโปเต้จะรวมตัวกันไปโดยปริยาย




“เอ่อ ...ขอโทษนะคะ” อยู่ก็มีผู้หญิงคนนึงมาขวางหน้าพวกเราเอาไว้ ดูท่าจะเป็นรุ่นน้อง




“มีอะไรเหรอครับ” หลุยส์เอ่ยถามน้องเขาซะเสียงหวาน แน่ล่ะครับ ก็น้องเขาน่ารักนี่นา




“คือ...หนูมีเรื่องอยากจะขอร้องพี่นภัทรน่ะค่ะ” น้องเขาบอกก่อนจะมองไปที่โปเต้ ที่เดินรั้งท้าย




“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองหน้าน้องเขานิ่งๆ




“คือ...หนูไม่ได้จะมาสารภาพรักนะคะ พี่ติณณ์อย่าเข้าใจผิด พอดี...หนูมีโปรเจ็คที่ต้องทำส่งอาจารย์น่ะค่ะ และอยากจะได้พี่นภัทรเป็นนายแบบ” น้องเขาหันมาบอกกับผม ก่อนจะหันไปพูดกับโปเต้ นี่เข้าใจว่าผมกับโปเต้คบกันจริงๆเหรอ




“..ทำไมต้องเป็นผม” โปเต้ถามเสียงเรียบ




“คือ...ก็...พี่นภัทรเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากๆคนนึงเลยน่ะค่ะ ขนาดรูปแอบถ่ายก็ยังดูดี หนูเลยคิดว่าถ้าได้พี่มาเป็นนายแบบให้หนู งานของหนูจะต้องออกมาเพอร์เฟ็คมากๆเลยน่ะค่ะ” น้องเขาพูดถึงเหตุผลที่มาขอโปเต้ไปเป็นนายแบบให้




“ไปหาคนอื่นเถอะ” โปเต้พูดเรียบๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกถึงอารมณ์




“โหยยย...พี่คะ ถือว่าช่วยหนูเถอะนะ สักครั้งเถอะนะคะ” น้องเขาว่าเสียงอ่อน แถมยังทำหน้าอ้อนวอนสุดๆ ไม่พอแต่เพียงเท่านั้น น้องเขายังเดินเข้าไปเขย่าแขนโปเต้อีกต่างหาก ถือว่าเป็นผู้หญิงที่กล้ามากๆคนนึงเลยนะ




“ปล่อยผมก่อน” โปเต้บอกน้องคนนั้นเบาๆ แต่ก็ไม่เชิงกับดุ แค่เอ่ยออกมาเรียบๆ




“พี่ติณณ์ พี่ช่วยพูดกับพี่นภัทรให้หนูหน่อยนะ นะคะ ...หนูอยากให้งานหนูออกมาดีที่สุดน่ะค่ะ นะคะ...” น้องเขาเดินมาดึงแขนผม แล้วลากไปหยุดอยู่หน้าโปเต้ และเขย่าแขนโปเต้เบาๆ น้ำเสียงน้องเขาอ้อนวอนมาก และทำหน้าเหมือนถ้าหากผมไม่ช่วย น้องเขาก็จะร้องไห้เสียอย่างนั้น




“...ว่าไง” โปเต้เอ่ยถามผมเบาๆ สถานการณ์อย่างนี้คุ้นๆนะ เหมือนเคยเกิดขึ้นมาแล้วสองครั้ง ดูท่าว่าโปเต้จะเล่นมุกนั้นอีกล่ะ




“ขอโทษนะ ..ให้โปเต้เขาตัดสินใจเองเถอะ” ผมว่าก่อนจะเดินออกมา ไม่ใช่อะไร ผมหิวมาก แล้วบังเอิญเหลือบไปเห็นร้านขายขนมพอดี ว่าจะไปซื้อขนมปังมากินรองท้อง อีกอย่างผมก็ไม่อยากจะมีส่วนร่วมกับเรื่องนี้ แค่นี้เขาก็เข้าใจผิดคิดว่าผมคบกับโปเต้ไปค่อนมหาลัยแล้ว ถ้าผมยังไปตัดสินใจแทนโปเต้แบบนั้นอีก ผมว่ามันไม่ควรสุดๆ




“เฮ้...” แต่เพียงแค่หันหลังแล้วกำลังจะก้าวขา ข้างมือของผมก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้เสียก่อน พร้อมๆกับเสียงเฮ้เบาๆ




“ปล่อยผม” ผมจะไปซื้อขนมปัง มาจับไว้ทำไมเนี่ย




“ว๊าย พี่ติณณ์ โกรธหนูที่จับแขนพี่นภัทรเหรอคะ หนูขอโทษนะ หนูไม่ได้ตั้งใจ” น้องคนนั้นที่กำลังจับแขนโปเต้อยู่ รีบปล่อยมือออก ก่อนจะขอโทษผมเสียยกใหญ่




“เปล่าหรอก” ผมตอบน้องเขา เพราะผมแค่จะไปซื้อขนมปัง ไม่ได้โกรธอะไรใครเลย




“หรือว่าไม่พอใจที่พี่นภัทรโดนผู้หญิงคนอื่นถูกเนื้อต้องตัว งั้นหนูก็ต้องขอโทษนะคะ หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูแค่อยากได้พี่นภัทรมาเป็นนายแบบให้หนู พี่ๆอย่าทะเลาะกันเลยนะคะ หนูไม่ได้คิดอะไรกับพี่นภัทร หนูมีแฟนอยู่แล้ว เอ่อ...ถ้างั้น ...หนูไม่ตื้อพี่นภัทรให้ไปเป็นนายแบบแล้วก็ได้ค่ะ พวกพี่จะได้ไม่ต้องลำบากใจ” น้องคนนั้นพูดด้วยสีหน้าที่ดูเศร้า เอาอีกแล้วนะโปเต้ ไอ้วิธีแบบนี้ทำไมชอบใช้จัง แถมยังใช้ผมเป็นเครื่องมือด้วย ชอบใช้ประโยชน์จากเรื่องที่คนอื่นเข้าใจเราสองผิด  ชิ...ผมไม่ยอมให้มีครั้งที่สามหรอกนะ




“ตกลง” ผมเอ่ยบอกกับน้องเขา




“ค่ะ..คะ???” น้องเขาทำสีหน้างงๆ




“โปเต้...จะไปเป็นนายแบบให้น้อง ..ตกลงนะ” ประโยคหลังผมพูดพร้อมกับสบตาโปเต้ แผนที่เขากำลังใช้มันไม่ได้ผลหรอก




“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากๆค่ะพี่ติณณ์ ขอบคุณนะคะพี่โปเต้ ไว้พรุ่งนี้หนูจะมาหาใหม่นะคะ” ว่าจบ น้องเขาก็รีบวิ่งไปหาเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนที่คอยยืนดูท่าทีอยู่ไม่ไกล




“เล่นอย่างงี้เลยหรอ” โปเต้ถามผม น้ำเสียงสูงขึ้นเล็กน้อย




“นายทำก่อนนะ ...ปล่อยมือ” ผมบอกให้เขาปล่อยมือที่จับข้อมือผมเอาไว้ ซึ่งเขาก็ปล่อยแต่โดยดี




“นิสัยเสีย” โปเต้ว่าผมก่อนจะเดินนำไป เหอะ...เขามากกว่านะนั้น ที่นิสัยเสีย เจอเอาคืนหน่อยก็ไม่ได้




ตอนนี้พวกเรากำลังมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่อยู่หลังมหาลัย แต่พอเห็นร้านนมที่อยู่ข้างๆ ทุกคนก็ตัดสินใจเข้าร้านนมแทน ทั้งๆที่ผมอยากกินข้าวแทบตาย แต่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะร้านนั้นก็มีข้าวขายเหมือนกัน




“ไอ้ภัทร แล้วแกจะไปถ่ายแบบให้น้องเขาป่าวว่ะ” เสียงของเซย์เพื่อนของโปเต้เอ่ยถามโปเต้




“ใครตกลงก็ไปถ่ายเองสิ” โปเต้พูดลอยๆ แต่กระทบผมเต็มๆ




“.....” ผมไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะตักข้าวที่เหลือไม่กี่คำเข้าปาก




“ก็มึงถามความเห็นจากนติณณ์ไม่ใช่เหรอ”





“ก็ไม่ได้บอกให้ตัดสินใจให้” นี่เขาเรียกว่ากวนตีนใช่มั้ย ก็พอจะรู้อยู่หรอกว่าเห็นเงียบๆแบบนี้ แต่ไอ้เรื่องกวนชวนให้โดนตีน โปเต้ก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน




“นิดา เดี๋ยวกูกลับก่อน จะไปซื้อของ อ่ะนี่เงิน” ผมยื่นแบงค์ร้อยไปให้นิดา แม้ว่าทั้งค่าข้าวและค่านมจะไม่ถึงก็เถอะ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะตอนนี้ผมไม่มีแบงค์เศษเลย และที่กลับก่อนก็ไม่ใช่อะไร ว่าจะไปร้านหนังสือเจ้าประจำ แถวหอพักเก่าของผม แต่มันอยู่คนละทางกับที่จะไปบ้าน ผมไม่อยากรบกวนโปเต้ ผมว่าผมไปเองดีกว่า




“อ่าว แล้วนภัทรล่ะ นี่มึงโกรธนภัทรจริงๆเหรอ” นิดาถามผมเสียงดังจนทุกคนเงยหน้าขึ้นมามองผม




“เปล่า ...ไปล่ะ” ผมบอก ก่อนจะเดินออกมาโดยไม่ได้ฟังเสียงคนอื่นทักท้วง คือมันก็เย็นมากแล้ว กลัวร้านเขาจะปิด




ผมเดินออกมารอแถวบริเวณป้ายรถเมล์ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านที่พึ่งออกมามากนัก แต่ว่าผมยืนรอได้ประมาณห้านาที ก็มีเสียงมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบท์มาขับมา ก่อนจะมาจอดข้างฟุตบาทตรงที่ผมยืนอยู่ ...คงไม่ต้องบอกสินะ ว่าคนขับคือใคร




“ขี้งอนเหรอ” โปเต้ถามผมเสียงเรียบ




“ใคร” ใครงอน? หรือเขาจะคิดว่าผมงอนเขา บ้าเหรอ




“ยังจะถามอีก ขึ้นรถ” โปเต้สั่งก่อนจะหยิบหมวกของผมขึ้นมาแล้วส่งให้




“ขึ้นทำไม ไม่ได้กลับตอนนี้”




“แล้วจะไปไหน”




“ร้านหนังสือ” ผมตอบไปตามตรง




“เดี๋ยวพาไป ขึ้นรถ”




“แต่...”




“เร็วๆ เห็นมั้ยว่ารถเมล์กำลังจะจอด” โปเต้เร่งผม ซึ่งมันก็จริง เพราะรถเมล์กำลังขับมาและใกล้ถึงป้ายแล้ว แต่มีรถของโปเต้ขวางอยู่




และสุดท้าย ผมก็ต้องก้าวขึ้นรถไปกับโปเต้ และตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาที่อยู่แถวนั้นจนได้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 18-01-2015 17:26:39
บรรยากาศมันฟรุ้งฟริ้งกุ๊งกิ๊ง มากกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 18-01-2015 17:43:39
เห็นเงียบๆๆแต่เก็บทุกรายละเอียดเชียวนะโปเต้  เงียบๆแต่ฟินนะเค๊อะ  บ่งตรง :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-01-2015 17:52:30
 :katai2-1:   แอบเอาแหวนไปเก็นที่ไหนนะโปเต้ ห้อยคออะเปล่า

แบบนี้เรียกพาไปเดทพร้อมง้อไปด้วยใช่ไหมเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-01-2015 18:27:52
มันมุ้งมิ้งจี้หัวใจมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 18-01-2015 18:30:23
ก็เหมือนซะขนาดนั้นจะไม่ให้คนอื่นเข้าใจตามที่เห็นได้ยังไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 18-01-2015 18:46:38
ร้ายกาจทั้งคู่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 18-01-2015 18:52:46
อ๊อกกกก!!บรรยากาศฟรุ้งฟริ้งมันกระแทกตาช้านน
ฮ่าๆๆๆๆๆๆ :hao7:น่าร้ากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 18-01-2015 18:56:58
555 โปเต้โดนเอาคืน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 18-01-2015 19:07:49
เป็นคู่ที่น่ารักอะ  :o8: :o8: :-[ :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: yupa ที่ 18-01-2015 20:01:10
สนุกจ้า   รอตอนต่อไปจ้า :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 18-01-2015 20:31:20
คือ พูดก็ไม่ค่อยจะมีแต่ทำเราเขินได้อะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 18-01-2015 21:34:00
ในความเงียบมันมีความกวนตีนอย่างเจ้าเล่ห์ของโปเต้ซ่อนอยู่ แต่ตินกลับไม่คิดอะไร ไม่เต้นตามเกมของโปเต้นี่สิ ที่น่าสนใจมากกว่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 18-01-2015 21:38:28
มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กระดุ๊งกระดิ๊ง กรุ๊งกริ๊ง กันจริง หวานเงียบนะตัวเทอร์วววว :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 18-01-2015 23:12:45
เผลอใจรักเรื่องนี้ไปล้ะ ติณกะโปเต้น่าร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 19-01-2015 00:26:31
ตินนายชอบโปเต้โดยไม่รู้ตัวแล้วแหล่ะ แต่โปเต้คงจะรู้ตัวว่าชอบตินแล้ว อ๊ายย น่ารักมุ้งมิ้ง ที่สุด :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 19-01-2015 11:53:09
สองคนทำตัวเหมือนเป็นแฟนกันโดยไม่รู้ตัวจริงๆ  :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-01-2015 13:24:42
โปเต้รุกเงียบ เราก็ฟินเงียบๆ จิกหมอนกันไป
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 5 18/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 24-01-2015 08:14:35
ไม่ลืมตัวเลยติน ฮ่าๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 25-01-2015 21:10:10
ตอนที่ 6











(ไงติณณ์ ตกลงงอนนภัทรจริงๆเหรอ) เสียงนิดาแซวมาตามสายโทรศัพท์ครับ ตอนนี้ก็สองทุ่มกว่าๆแล้ว ผมกลับเข้าบ้านมาได้สักพัก นิดาก็โทร.มา




“เปล่าหนิ” ผมตอบ ก่อนจะหันไปหยิบหนังสือที่พึ่งซื้อมาวันนี้มาเปิดดูไปพลาง




(จริงเหรอ) นิดาทำเสียงเหมือนไม่เชื่อผม




“เคยโกหกหรอ” ผมถามกลับ ทำไมอ่ะ ทำไมคนอื่นๆถึงชอบจับคู่ให้ผมกับโปเต้อยู่เรื่อยเลย ผมไม่เข้าใจ




(ก็ไม่เคย แต่มีอะไรไม่ชอบบอก นั้นน่ะ นิสัยมึงเลย)




“นิดา กูกับโปเต้เราไม่ได้เป็นแฟนกันอย่างที่มึงคิด”




(มันก็ไม่แน่หรอกว่ะติณณ์ มึงไม่รู้หรอกว่าเวลามึงสองคนอยู่ด้วยกันแล้วแม่ง เคมีตรงกันโคตรๆ มุ้งมิ้งแบบเงียบๆ ให้คนรอบข้างได้ฟินอ่ะ มึงพอจะนึกภาพออกป่ะ) นิดาร่ายยาวจนผมแทบฟังไม่ทัน




“ไม่” ผู้ชายกับผู้ชาย แถมยังเป็นผมกับโปเต้อีก ใครจะไปนึกภาพผู้ชายสองคนมุ้งมิ้งใส่กันออก




“ติณณ์ ไปอาบน้ำ” อยู่ๆโปเต้ที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เอ่ยปากบอกผม ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่...ตอนนี้ผมยังคุยโทรศัพท์กับนิดาอยู่ไง




(กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด...ฉันได้ยินเสียงผู้ชาย ผู้ชายคนนั้นคือนภัทรอย่างแน่นอน นี่มึง...กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด...) นั่นคือเสียงนิดาที่ดังขึ้นหลังจากประโยคของโปเต้เมื่อกี้




“นิดา แค่นี้ก่อนนะ” ผมชิ้งวางสายโทรศัพท์โดยไม่รอฟังคำนิดา




“.....” โปเต้ที่ไม่รู้ความผิดของตัวเอง เดินมาล้มตัวลงบนเตียงเฉยเลย




“.....” ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร เลยลุกขึ้นแล้วเดินไปอาบน้ำ




และเมื่อผมอาบน้ำเสร็จ แล้วเดินออกมา ก็พบว่าโปเต้หลับไปแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่สามทุ่มเลยด้วยซ้ำ เกิดอะไรขึ้น...ไม่สบายรึเปล่าหว่า??




ผมเดินไปนั่งลงบนเตียง ขยับตัวเข้าไปใกล้ๆเขา ก่อนจะถือวิสาสะแตะไปที่ตัวของโปเต้ คือ...อย่ว่าผมเลยนะ พอดี...ผมเป็นคนที่ไม่สบายง่ายมากๆ ผมกลัวว่าถ้าโปเต้ไม่สบาย ผมจะเป็นไปด้วยน่ะ




ตัวโปเต้ก็...ไม่ร้อนนะ สงสัยอาจจะง่วงมาก หรือไม่ก็เหนื่อยก็ได้ล่ะมั้ง




เอาเถอะ..ไหนๆโปเต้ก็หลับไปแล้ว ผมว่าผมปิดไฟแล้วนอนเลยดีกว่า เพราะต่อให้ตื่นก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี












เช้าวันต่อมา ผมตื่นตั้งแต่หกโมงเช้า ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะเมื่อคืนนอนเร็วกว่าปกติมากก็เป็นได้ แต่ว่าวันนี้มีเรียนตั้งสิบโมง ...จะนอนต่อดีรึเปล่าเนี่ย




“กี่โมงแล้ว..” เสียงงัวเงียงุ้งงิ้งเหมือนพึ่งตื่นนอนแบบนี้ แน่นอนว่านี่ไม่ใช่เสียงของผม




“พึ่งหกโมงอยู่เลย จะนอนต่อก็ได้” ผมหันไปบอกโปเต้ที่ลืมตาได้แค่ครึ่งเดียว ท่าทางจะง่วงจริงไรจริง




“อืม...ปลุกด้วยล่ะ” ว่าจบ โปเต้ก็หันข้างไปกอดหมอนที่ตัวเองหนุนอยู่ แล้วหลับต่อ ซึ่งโมเม้นต์แบบนี้ ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆนะครับ เพราะปกติโปเต้จะตื่นก่อนผมตลอด




ผมลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่าง พบว่าก็ยังไม่มีใครลงมาเลย มีแต่เจ้าอันปันที่ตอนนี้เป็นพันธมิตรกับผมแล้ว มันรีบวิ่งมาหาเมื่อเห็นผม สงสัยอยากได้เพื่อนเล่นด้วย




ผมนั่งเล่นกับอันปันได้สักพักใหญ่ๆ พี่ตาลก็ตื่นแล้วลงมาข้างล่างพร้อมๆกับพี่ปาร์ แต่ไม่ได้ลงมาตัวเปล่า มีกระเป๋าเดินทางมาด้วย พี่ปาร์บอกว่าจะต้องไปทำธุระที่หัวหิน ก็เลยจะพาพี่ตาลไปด้วย เพราะหลังจากทำธุระเสร็จก็กะว่าจะอยู่เที่ยวต่อสักหน่อย เลยฝากผมไปบอกโปเต้ด้วย เนื่องจากมันกะทันหันมากจริงๆ ผมเองก็รับปากไป แล้วบอกให้พี่ทั้งสอง กับลูกน้อยที่อยู่ในท้องให้เดินทางปลอดภัย




แต่ว่า...กระเป๋าใบใหญ่ขนาดนั้น จะไปกันกี่วันว่ะเนี่ย




ผมยืนคิดอะไรเพลินๆไปสักพัก ก็นึกออกว่าตัวเองต้องไปปลุกโปเต้ จึงเดินขึ้นมาบนห้อง พบว่าโปเต้ยังคงหลับสนิท




“โปเต้ ...ตื่นได้แล้ว” ผมเรียกโปเต้ สักพักเจ้าตัวก็ค่อยๆลืมตาขึ้น แต่ยังไม่ยอมลุก




“.....”




“ไปอาบน้ำได้แล้ว” ผมบอกเขา เขาพยักหน้าสองสามที ก็จะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ส่วนผมก็ลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋า แล้วเดินลงมารอข้างล่างแล้วนั่งเล่นกับอันปันรอ




รอนานเท่าไหร่ผมก็ไม่ได้นับหรอก จนกระทั่งโปเต้เดินมาสะกิดบอกให้ผมไปล้างมือ ส่วนตัวเองก็เดินออกไปที่รถ ผมจึงเดินไปล้างมือแล้วเดินไปใส่รองเท้า ก่อนจะเดินไปที่ประตูรั้วแล้วเปิดประตูให้โปเต้เอารถออกเหมือนอย่างทุกที




เหมือนผมจะทำแบบนี้จนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้วแหะ




และเมื่อพวกเรามาถึงมหาลัยกัน ผมกับโปเต้ก็เดินไปโรงอาหารทันทีโดยที่ไม่ได้พูดหรือคุยอะไรกัน แน่นอนว่าพวกผมจะไปหาข้าวกินกัน




พวกผมกินข้าวโดยไม่ได้คุยอะไรกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จนกระทั่งพวกเพื่อนๆของผมค่อยๆทยอยมากัน




“ไอ้ติณณ์ ตกลงเมื่อคืนมึงอยู่กับใคร” อยู่ๆ นิดาก็โพล่งขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย




“หือ!?!” เสียงคนอื่นๆร้องขึ้นอย่างตกใจ




“อะไรว่ะนิดา” แลนด์ถามนิดาเหมือนยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องมากนัก




“ก็เมื่อคืนอ่ะดิ กูคุยโทรศัพท์กับมัน แล้วอยู่ๆก็มีเสียงผู้ชายดังขึ้นจากฝั่งมัน แล้วมันก็ชิ้งวางสายกูไปเลย” นิดารีบเล่าให้เพื่อนฟังทันที




“อ่าว ยังไง” หลุยส์รีบเสริมทับทันที




ตอนนี้ทุกคนหันมามองหน้าผม ย้ำนะว่าทุกคน รวมไปถึงโปเต้ด้วย แล้วโปเต้จะมามองหน้าผมทำไม อยากรู้มากเหรอว่าผมจะตอบยังไง




“.....”




“.....”




“กู...” ผมควรจะตอบยังไงดี ถ้าบอกว่าจริงๆตอนนี้ผมอยู่บ้านหลังเดียวกันกับโปเต้ แล้ว...โปเต้อ่ะ อยากให้คนอื่นรู้รึเปล่า แต่ถ้าผมพูดไป ผมก็ต้องมานั่งอธิบายตั้งแต่ต้นอย่างนั้นเหรอ แล้วคนอื่นจะไม่เข้าใจผิดไปมากกว่านี้เหรอ แล้วถ้า...




“กะแล้วว่าพวกมึงอาจจะอยู่ที่นี่” แต่ดูเหมือนพระเจ้าอยากจะให้เวลาในการคิดของผม เพราะอยู่ก็มีคนเข้ามาทักพวกผม




เธอชื่อ ‘มิว’ จำได้ว่าเป็นประธานรุ่น เรียนปีเดียวกันกับพวกผม




“อะไรของมึง ขัดจังหวะจริงเชียว” นิดาหันไปถามมิวอย่างไม่สบอารมณ์สุดๆ




“จังหวะเชี้ยอะไรของมึงกูไม่สน แต่กูมีเรื่องจะบอกก็คือมะรืนนี้พวกเราจะไปทัศนะศึกษากัน” มิวพูดอย่างภูมิใจนำเสนอมาก ไอ้เรื่องทัศนะศึกษามันน่าตื่นเต้นตรงไหนเนี่ย




“ที่ไหนว่ะ” แลนด์เอ่ยถามถึงสถานที่ที่จะไป




“เขาใหญ่ ไปห้าวันสี่คืน ไปกันทั้งคณะเหมือนเดิม ...ไอ้ติณณ์ ‘พี่เฟรม’ พี่รหัสสุดหล่อสุดสวาทของมึงไปป่ะ” มิวหันมาถามผมถึงพี่รหัสผม




“ไม่รู้” ผมตอบไปตามความจริง ความจริงพี่เฟรมก็เป็นพี่รหัสที่ดีนะ ช่วยเหลือผมทุกอย่าง แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยอยากจะเข้าใกล้พี่เขาสักเท่าไหร่ พี่เขามักจะมีท่าทีแปลกๆ ชอบถึงเนื้อถึงตัวทุกครั้งเวลาที่เจอผม




“อะไรย๊ะ เป็นสายรหัสกันยังไงเนี่ย”




“โหยยย...ไอ้มิว พี่เฟรมแกม่อขนาดนั้น ไอ้ติณณ์มันไม่สนใจหรอก” หลุยส์หันไปบอกมิว




“แหม...แต่พี่เฟรมเขาก็หล่อนะ กูยังอยากให้เขาม่อใส่กูบ้างเลย” มิวพูดอย่างไม่มีเขินอาย ซึ่งมันขัดกับหน้าตาน่ารักๆของเธอมาก




“แรดจริงๆเลยมึง” แลนด์หันไปผลักหัวมิวเบาๆเพราะอยู่ใกล้สุด




“แน่นอน อ่อ...สี่โมงเย็นประชุมกันที่ใต้ตึกคณะ ไปกันให้ตรงเวลาด้วยนะจ๊ะ” ว่าจบ มิวก็เดินไปหาเพื่อนอีกกลุ่มที่นั่งอยู่ไม่ไกล ก่อนจะพูดอะไรสักอย่าง คงจะบอกเรื่องการไปทัศนะศึกษาล่ะมั้ง




“ไอ้มิวไปแล้ว กลับมาที่เรื่องของ...” นิดาหันมาพูดถึงประเด็นที่ค้างอยู่




“อย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ” ก่อนที่นิดาจะได้ถามอะไร และก่อนที่ผมจะทักท้วง ก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยขึ้นเสียก่อน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 25-01-2015 21:25:02
เฮ้ยยยยยยโปเต้ออกตัวแร้งงงงงงงอ่ะ
สงสารจะแอบคิดเรื่องพี่รหัสติณรึป่าวนิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-01-2015 21:33:13
 :katai2-1:   จัดไปเลยโปเต้. ก่อนจะมีใครมางาบคนฮ็อตของเราไป

ถ้าอิชั้นเป็นนิดาโมเม้นตรงหน้าคงทำเอาฟินลืมโลก ขนาดเสียงแค่ไม่กี่พยางค์ลอดมาในสายนางยังกรี้ด

รอส่องทริปเขาใหญ่จ้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 25-01-2015 21:45:37
เสียงโปเต้แน่ๆเลย มาต่อเร็วๆน้าค้างงงงงง :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 25-01-2015 21:54:50
กรี๊ดดดดดดด โปเต้ นายออกตัวตลอดเลยนะ
ปิดทางหนุ่มอื่นด้วย ร้ายกาจๆ
ส่วนติณณ์ อย่างที่เพื่อนบอกเลยค่ะ
ดูแลกันขนาดนี้ เคมีเข้ากันจนอ่านไปเขินไป น้องติณณ์ไปไตร่ตรองใหม่นะคะ
เริ่มชอบแล้วแน้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 25-01-2015 22:09:26
โปเตตตตตต้! ไปตอบอย่างงั้นคนอื่นเขาเข้าใจผิดหมดอะสิ ตั้งใจใช่มั้ย ใช่มั้ย?!    :mew3: :hao3:แน่เลย  ติณณ์ทำใจนะลูกหนูหลุดไม่พ้นข้อหานี้หรอก
มาต่อเร็วๆน้าาาาา~ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-01-2015 23:39:40
เข้าใจอารายเหรอโปเต้ มาพูดให้จบก่อน
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-01-2015 23:45:21
โปเต้ตอบแทนอ่ะ กริ๊ดเบาๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 26-01-2015 04:01:50
 :a5:ห้ะ!!!!!เข้าใจอัลไร๊!!?? แล้วใครพูดเนี้ย?
ตัดได้โดนขั้วหัวใจมาก ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 26-01-2015 14:00:59
 :hao6: :katai4: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 26-01-2015 15:12:26
 :hao7: :hao7: อร๊ายย ย ย ย ย โปเต้นายแน่มากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-01-2015 20:16:56
โปเต้ นายแน่มาก 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 28-01-2015 01:46:09
รอแบบเคืองๆๆๆๆๆนานแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-01-2015 08:21:44
มารอครึ่งหลังง่า  :katai5:   
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งแรก 25/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-01-2015 09:42:41
คู่นี้มันน่าร๊ากกก :)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 28-01-2015 21:22:07
ตอนที่ 6 (ครึ่งหลัง)











“อย่างที่คุณเข้าใจนั่นแหละ”




คงไม่ต้องบอกใช่มั้ย ว่าคนที่พูดประโยคนี้เป็นใคร




“หมายความว่ายังอ่ะนภัทร สรุปคือนายอยู่กับติณณ์เมื่อคืนนี้ใช่มั้ย แล้วทำม??...นี่ตกลงคบกันหรอ อะไรยังไง” นิดายิงคำถามมาเป็นชุด




“ผมจะพูดแค่ครั้งเดียว ...ผมกับติณณ์ เราอยู่บ้านเดียวกัน เพราะพี่ชายของผม กับพี่สาวของติณณ์แต่งงานกัน” โปเต้พูดเสียงนิ่งๆ




“เดี๋ยวนะ อยู่บ้านเดียวกัน... ทำไมไม่เห็นบอกพวกเราตั้งแต่แรกล่ะ” จีน่าเอ่ยถาม




“ผมจะอยู่ที่ไหนกับใคร ...ต้องบอกคนอื่นด้วยอย่างนั้นเหรอ” โปเต้ถามกลับ แต่ทำเอาคนถามหน้าเจือนไปเลย แต่ผมคิดว่ามันก็จริงอย่างที่โปเต้พูดนะ




“งั้นแปลว่าที่รับ-ส่งกันทุกวันนี้...เพราะอยู่บ้านเดียวกัน” หลุยส์ถามขึ้นบ้าง




“..อืม”




“งั้นก็แปลว่าไม่ได้คบกัน” นิดาถาม แต่ทำไมถึงต้องทำหน้าเสียดายแบบนั้นล่ะ




“คบ...”




“ห๊ะ!!” เสียงของทุกคน...รวมถึงผมด้วย




อะไรของโปเต้อ่ะ ผมไปตกลงคบกับโปเต้ตอนไหนเนี่ย




“...เป็นเพื่อน” แล้วโปเต้ก็พูดต่อหลังจากที่ปล่อยให้ทุกคนอึ้งค้างประมาณสามวิ




เหอะ...ทำไมต้องพูดให้คนอื่นคิดลึกด้วย นิสัยเสียจริงๆ




“นภัทรอ่ะ ...ทำเราลุ้นฟรีเลย” จีน่าบ่นเล็กน้อยพลางทำหน้างอ




“.....” โปเต้ไม่ได้ตอบอะไร ก่อนจะลุกขึ้น เอาจานข้าวที่กินหมดแล้วไปเก็บ ผมจึงลุกขึ้น แล้วเอาจานข้าวไปเก็บบ้าง




“ติณณ์...” อยู่ๆโปเต้ก็ส่งเสียงเรียกผม ในขณะที่ผมกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ




“...อะไร” ผมถามเขาเบาๆ




“โกรธมั้ย”




“เรื่อง?” ผมต้องโกรธเขาเรื่องอะไรอ่ะ




“ที่บอกทุกคนไปแบบนั้น”




“ไม่หนิ” ทำไมผมจะต้องไปโกรธเขาล่ะ ความจริงมันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย อีกอย่างเราก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ และผมก็ไม่ใช่คนคิดเล็กน้อย จะไปโกรธทำไมกับอีแค่เรื่องที่อยู่บ้านเดียวกันกับโปเต้ เพราะยังไงมันก็คือเรื่องจริง




“เหรอ...”




“อืม ...ไปกันเถอะ” ว่าจบ ผมก็เดินกลับไปที่โต๊ะ โดยมีโปเต้เดินตาม ก่อนที่พวกเราทุกคนจะตรงไปยังห้องเรียนเลย















“ต้องมาก่อนหกโมงเช้า โอ๊ย...มาเรียนตามปกติกูยังสายเลย” เสียงแลนด์พูดขึ้น เมื่อจบการประชุม




“นั่นดิ” ตามมาด้วยเสียงของจิน เพื่อนอีกคนของโปเต้




“คงต้องให้พี่ปาร์มาส่ง” โปเต้หันมาบอกผม แต่ว่า...




“พี่ปาร์กับพี่ตาลไปหัวหิน...” ผมรีบบอกโปเต้ จะว่าไปก็ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิทเลย




“.....” โปเต้ทำหน้างงระคนหน้ายู่หน่อยๆอย่างขัดใจ




“โทร.เรียกแท็กซี่เอาล่ะกัน” ผมบอกโปเต้ เพราะดูท่าว่าโปเต้คงไม่อยากจะจอดรถทิ้งไว้ที่มหาลัยสักเท่าไหร่นัก




“อืม...กลับเถอะ” โปเต้พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะชวนผมกลับบ้าน




“อืม ...พวกมึง กูกลับล่ะ” ผมหันไปบอกพวกเพื่อนๆของผม ก่อนที่ผมกับโปเต้จะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่รถ แต่เมื่อไปถึงที่บ้าน ก็ต้องมีเรื่องให้คิดหนักซะแล้วสิ




ว่าจะทำอย่างไรดี กับเจ้าอันปันตัวน้อย




“โปเต้ เราไม่อยู่ตั้งหลายวัน พี่ปาร์พี่ตาลก็ไม่อยู่ แล้วอันปันล่ะ” ผมหันถามโปเต้ ก่อนที่จะเดินไปอุ้มเจ้าอันปันตัวน้อยมาไว้ในอ้อมแขน




“.....” โปเต้หันมามองหน้าผมนิดหน่อย ก่อนจะเดินหนีเข้าไปในครัว อารมณ์ไหนของเขาเนี่ย




“โปเต้ ผมถามว่าเราจะทำยังไงกับอันปันตอนที่เราไม่อยู่”




“...หิว” โปเต้หันมาบอกผมหน้านิ่ง แต่...มันเกี่ยวกับสิ่งที่ผมได้ถามเขาไปมั้ยเนี่ย




“อย่าพึ่งนอกเรื่องสิ”




“จริงจังกับอันปันไปป่ะ”




“เอ้า ก็อันปันมันหากินเองได้ที่ไหนล่ะ”




“...ตอนนี้ผมก็หากินเองไม่ได้ ทำอะไรให้กินหน่อยสิ”




นี่โปเต้กำลัง...กวนตีนผมอยู่ใช่มั้ย




“.....” นี่ผมกำลังจริงจังนะ เขาจะมากวนผมเลยอย่างนี้ได้ยังไง รู้เวลาบ้างสิ




“.....”




“.....”




“.....”




“.....”




“...เฮ้อ.. เดี๋ยวเอาไปฝากที่โรงพยาบาลสัตว์แถวนี้ก็ได้หรอก” ในที่สุดโปเต้เอ่ยออกมา เหอะ...แค่นั้นก็จบ




“ก็แค่นี้” ผมว่า ก่อนจะปล่อยอันปันให้ลงเดินเอง




“เดี๋ยวดิ” โปเต้เอื้อมมือมาคว้าแขนผมเอาไว้ เมื่อผมกำลังจะเดินออกตามอันปันไป ..รู้สึกว่าพักนี้ถึงเนื้อถึงตัวบ่อยนะ




“.....” ผมหันกลับมามองหน้าเขา




“หิว”




“...ทำกินเองสิ”




“ไม่”




“งั้นก้ไม่ต้องกิน” ผมเอ่ยเบาๆ




“หิว” โปเต้พูดคำเดิมๆออกมา อย่างกับเด็กก็ไม่ปาน




“.....”




“ติณณ์..”




“รู้แล้วๆ”




เหอะ...สุดท้ายผมก็ต้องยอมแพ้เขา เพราะอะไรกันว่ะเนี่ย!?!

















“ใกล้จะถึงแล้ว”




(เร็วๆดิ ตอนนี้เขามาครบกันแล้วนะเว้ย เหลือแค่มึงกับนภัทรนี่แหละ)




“จะถึงแล้ว ติดไฟแดงอยู่”




(เร็วๆ พี่ปีสี่จะแดกหัวพวกกูอยู่แล้วเนี่ย)




“เออ”




แล้วผมก็ตัดสายนิดาทิ้งไป ตอนนี้ผมกับโปเต้อยู่บนแท็กซี่ครับ กำลังมุ่งหน้าไปยังมหาลัย วันนี้เป็นวันเดินทาง ที่เราจะไปทัศนะศึกษากัน แต่ผมสองคนดันมีปัญหานิดหน่อย ที่วันนี้โปเต้เกิดเป็นอะไรไม่รู้ ไม่ยอมลุกจากที่นอน ทำให้พวกเราต้องมาสายกว่าเวลาที่ตั้งกันเอาไว้




“พี่ครับ เลี้ยวเข้าไปเลยนะครับ” ผมบอกพี่คนขับแท็กซี่ให้เลี้ยวเข้าไปในมหาลัย ก่อนจะบอกทางไปคณะของผม




และเมื่อแท็กซี่มาจอดยังบริเวณหน้าคณะ ซึ่งเป็นจุดรวมพล ผมก็รีบออกมาจากรถ ก่อนที่จะยกกระเป๋าทั้งของผมและของโปเต้โดยมีพี่คนขับแท็กซี่ช่วย




“เท่าไหร่ครับพี่”




“ร้อยห้าสิบครับน้อง”




ผมยื่นเงินไปให้พี่คนขับแท็กซี่ ก่อนจะเดินไปหาพวกเพื่อนที่โบกมือเรียกผม แต่ว่าพี่คนขับแท็กซี่ก็เรียกผมเอาไว้




“น้องๆ เดี๋ยวก่อน”




“ครับ?”




“เพื่อนน้องอ่ะ เขาไม่ไปด้วยเหรอ”




เพื่อน?...




...โปเต้




อ้าว ...ยังไม่ลงมาจากรถอีกหรอ




“โปเต้ ...เฮ้ย หลับเหรอ ตื่นก่อน..” ผมเดินมาที่รถแท็กซี่คันเดิม ก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าตัวโปเต้ที่หลับอยู่




“หืม?” โปเต้ปรือตามองผมเล็กน้อ ยก่อนจะทำท่าเหมือนจะหลับต่อ




“อย่าหลับนะ ลงมาก่อน” ผมว่า ก่อนจะดึงแขนโปเต้ให้ลงจากรถ




“.....” โปเต้ขมวดคิ้วเหมือนขัดใจ แต่ก็ยอมเดินลงมาจากรถแต่โดยดี




แล้วแท็กซี่คันนั้นก็ออกไป ผมจึงหันไปลากกระเป๋าตัวเอง แล้วเดินไปหาเพื่อน โดยมีโปเต้ลากกระเป๋าแล้วเดินเอื่อยๆตามมา




“มากันครบแล้วนะ งั้นเราก็ไปขึ้นรถกันเลยแล้วกัน” เสียงพี่เฟรม ซึ่งเป็นพี่รหัสของผมพูดขึ้น ความจริงแล้วพี่เฟรมเขาก็เป็นประธานคณะด้วยนะเนี่ย




“.....”




“เอ่อ...น้องติณณ์” พี่เฟรมเดินมาหาผมครับ




“...ครับ”




“เรื่องที่ว่าน้องติณณ์กับ..นภัทรคบกันน่ะ เรื่องจริงเหรอ”




“...เขาเป็นเพื่อนผม”




“จริงเหรอครับ” พี่เฟรมยิ้มกว้างราวกับดีใจอะไรสักอย่าง




“ครับ ..ผมขอตัวก่อนนะ” ว่าจบ ผมก็เดินหนีพี่เขาออกมาเลย ก่อนจะเดินขึ้นไปยังรถของปีสาม ซึ่งพวกเพื่อนๆของผมก็ขึ้นกันไปตั้งนานแล้ว (ก่อนที่นิดาจะโทร.หาผมเสียด้วยซ้ำ)




ผมเดินมามองหาที่นั่งแถวเพื่อนของผม แต่...แลนด์นั่งกับหลุยส์ นิดานั่งกับจีน่า แต่ก็...ไม่เป็นไร ผมไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้ว นั่งคนเดียวก็ได้ จะได้เหยียดขาสักหน่อย




“ไอ้ติณณ์ ที่มึงอยู่ข้างๆนภัทรนู้น” นิดาตะโกนบอกเมื่อเห็นผมเดินขึ้นรถมา และเมื่อสิ้นเสียงนิดา เสียงคนอื่นๆก็เริ่มดังขึ้น ผมจะไม่ว่าอะไรเลย ถ้ามันไม่ใช่เรื่องของผมกับโปเต้น่ะ




“.....” ผมได้แต่ไม่สนใจ ก่อนจะเดินไปแถวกลางๆคันรถ เห็นโปเต้นั่งอยู่ริมหน้าต่าง ผมจึงนั่งลงข้างโปเต้ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเสียบหูฟัง ฟังเพลงและหลับตาลง




เฮ้อ...ผมเบื่อการเข้าใจผิดจริงๆ และดูเหมือนไอ้คนที่นั่งข้างๆผมก็จะไม่ซีเรียสสักเท่าไหร่ ที่ตัวเองเป็นหัวข้อในวงสนทนา




ความจริง...บางคนอาจจะไม่ซีเรียส แต่นี่...ถูกเข้าใจผิดว่าคบกันเลยนะ ถ้าหากผมกับโปเต้สนิทกันมาสักสิบปี ผมก็คงจะไม่อะไรหรอก




แต่...จะไปห้ามไม่ให้คนอื่นพูดก็คงไม่ได้ล่ะนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 28-01-2015 21:31:20
โปเต้มัวแต่เฉื่อยอยู่นั่นละ
เดี๋ยวพี่เฟรมก็ฉกติณไปหรอก
ใจเย็นเกิ๊นนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 28-01-2015 21:33:02
ไม่เป็นไรหรอก ติณณ์ เดี๋ยวมันก็เป็นเรื่องจริงแล้วล่ะ  :hao6: o13 :laugh: :laugh: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-01-2015 21:36:13
โปเต้ทำอะไรบ้างสิ คู่แข่งมาแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-01-2015 21:37:38
ติณไม่ต้องไปสนใจหรอก คนไม่มีแฟนมีอิสระ จะพิจารณาใครก็ได้เนอะ

 :hao3: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-01-2015 21:44:05
พี่เฟรมมาแล้วคู่แข่งโปเต้อีกหนึ่งคน
โปเต้ต้องทำไรบ้างแล้วนะ ติณณ์ไม่รู้หรอก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 28-01-2015 23:29:11
ชอบมากอ่ะมีให้ลุ้นตลอดมาต่ออีกไวๆนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 28-01-2015 23:57:55
โปเต้เหมือนเด็กเลย หิวก็วันเหวี่ยง นอนก็ขี้เซาไม่อยากตื่น เดี๋ยวได้ลำบากตินอีกทริบนี้ แต่เราก็ชอบก็ฟินตามเรื่องตามราว :-[ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 29-01-2015 00:56:09
ไปค่ายจะมีไรสนุกๆไหมนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 29-01-2015 01:32:45
อืม!ติณณ์! ไหนๆคนเขาก็เข้าใจผิดๆกันไปแล้ว...นายก็ทำให้เป็นจริงเลยดิ จะได้สบายใจ ฮ่าๆๆๆๆ
#แหมะมีแต่คนรักคนหลงนะจ้ะพ่อหนุ่ม หึหึหึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 29-01-2015 02:00:42
ชอบอะ
ฟินเเบบมึนๆ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-01-2015 03:13:51
โถๆ เราก็คิดว่าโปเต้จะไม่อธิบายเพิีม
ปล่อยให้เพื่อนจิันกันไปไกลกว่านี้ซะอีก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 29-01-2015 08:41:18
แหม โปเต้ปากแข็ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 29-01-2015 09:44:28
ไม่ได้เป็นไรกันจริงจริ๊งงง แค่ทำทุกอย่างเหมือนแฟนกันแค่นั้นเอ๊งงงง  :katai3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 29-01-2015 10:39:23
ตามนั้น ตามไหน กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 29-01-2015 21:27:52
เพิ่งเข้ามาอ่าน น่ารักดีอ่ะเรื่องนี้

เรามีความรู้สึกว่า โปเต้! นายแอบชอบติณณ์อยู่ก่อนแล้วใช่ม๊ายยยยยย

แบบว่านายเนียนได้อีกอ่ะโปเต้ แต่เอาเหอะ เนียนแบบน่ารัก ทำให้เกิดความมุ้งมิ้ง ให้คนอ่านอย่างเราฟินๆ ก็โอละ

ส่วนติณณ์ คิดอะไรกับโปเต้หน่อยเหอะ เวลานายปฏิเสธโปเต้แล้วเราเศร้าใจ ถึงนายจะมีการสร้างโมเม้นไม่รู้ตัวกับโปเต้บ่อยๆก็เหอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 31-01-2015 09:14:52
โหยยยยย ท่ามากๆปแล้วพ่อคุ๊นนนนน มีถามวีาโกรธมั้ยดัวย ที่จริงอยากให้เค้าโกรธที่ตัวเองบอกว่าเป ้นแคีเพืีอนละสิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 31-01-2015 15:22:56
น้ำตาลขึ้นนนนร
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 31-01-2015 17:11:22
น่ารักมากเลยค่าาาาา  :-[ :-[ชอบมากกกก  o13 o13 แลดูฟุ้งฟิ้งจิงกะเบลมั่กกกๆๆ  :katai2-1: :katai2-1:
มาต่อไวๆน้ะค่าาาาา รออยู่ววววว :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 31-01-2015 21:36:08
ตามมาจากโพสต์นิยายแนะนำ
มันมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งฟินเฟ่อร์มากค่ะ  อ่านแล้วช่วยเยียวยาจิตใจที่ห่อเหี่ยวจากการอ่านแนวพระเอก ข่มขืน/ข่มเหง/ข่มขู่ นายเอก ได้ดี
ชอบโมเม้นท์ที่สองคนนี้เขาอยู่ด้วยกัน >_<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 31-01-2015 21:50:47
น่ารักและสนุกดี อ่านแล้วฟินอย่างยิ่ง 55555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Orange151987 ที่ 03-02-2015 18:36:13
 o13 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 03-02-2015 22:08:33
พริกเกลือพร้อม เตาถ่านพร้อม คนเขียนพร้อมลงตอนใหม่?
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 6 ครึ่งหลัง 28/1/2558
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-02-2015 22:23:33
เห้ยน่ารักมากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 03-02-2015 22:42:33
ตอนที่ 7 (ครึ่งแรก)













ตอนนี้เขาจอดให้พวกนักศึกษาได้มาเข้าห้องน้ำ หรือยืดเส้นยืดสายแถวปั้มแห่งหนึ่งครับ ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคือที่ไหน




พวกคนอื่นๆในรถต่างก็พากันทยอยลงจากรถ จนเหลือเพียงแค่ผมกับโปเต้ที่ยังนั่งอยู่ ผมน่ะขี้เกียจลงไป เพราะอีกชั่วโมงกว่าก็ถึงแล้ว ไว้ค่อยลงทีเดียวก็ได้




“จะเอาอะไรมั้ย” โปเต้ถามก่อนจะลุกขึ้นยื่น ผมจึงลุกขึ้นจากที่นั่งตัวเอง แล้วออกมา เพื่อให้โปเต้เดินออกมาได้




“....” ผมส่ายหัวเบาๆ




“.....” โปเต้ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเดินลงจากรถไป ผมเลยนั่งลงแล้วเขยิบไปนั่งแทนที่ของโปเต้ ปกติผมชอบนั่งติดหน้าต่างมากกว่า แต่ก็ไม่ได้เรื่องมากถึงขนาดจะต้องนั่งที่นั่งติดหน้าต่างเท่านั้น




ผ่านไปสักประมาณสิบนาที พวกปีสามก็พากันขึ้นมาบนรถ รวมถึงโปเต้ด้วย




“อะไร?” ผมเอ่ยถามโปเต้อย่างงงๆ เมื่อโปเต้ยื่นถุงเซเว่นมาให้ผม




“รองท้อง” โปเต้ว่าก่อนจะนั่งลงตรงที่นั่งของผม




“...แล้วนายล่ะ” ผมรับถุงนั้นมา ก่อนจะถามโปเต้




“กินไปเถอะ” โปเต้ว่าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเล่นเกม




ผมก้มลงเปิดถุงก็พบว่ามีนมขวดใหญ่สองขวด แซนวิชสี่ชิ้นกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด




“.....” ผมหยิบแซนวิชออกมาชิ้นนึง แล้วกินอย่างเงียบๆ




เมื่อไหร่จะถึงเขาใหญ่เนี่ย...อยากไปนอนแผ่บนเตียงใหญ่ๆจะแย่












ในที่สุดเราก็มาถึงแล้วครับ กว่าจะมาถึงได้ก็เล่นเอาลำบากอยู่เหมือนกัน ผมนี่ก็เมารถจนอ้วกแตกไปเลยทีเดียว เพราะผมเป็นเพียงไม่กี่คนที่ตื่นอยู่ นอกนั้นก็พากันหลับตั้งแต่เข้ามาถึงปากช่องแล้วครับ แถมยังบอกอีกว่า ห้ามปลุกตอนรถขึ้นเขาเด็ดขาด ตอนแรกผมก็ไม่เข้าใจ แต่พอได้ขึ้นเขาก็พอจะรู้แล้วครับว่าเพราะอะไร




“ไหวมั้ย” นิดาถามผมที่พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ คงไม่ต้องบอกนะ ว่าผมเข้าไปทำอะไร




“เออ” ผมตอบเสียงแผ่ว แน่ล่ะ...เล่นออกมาหมดไส้หมดพุงเลย แซนวิชที่กินไปก็ออกมาหมด




“วันนี้อาจารย์จะให้พักกันก่อน กูให้พวกผู้ชายเอากระเป๋าพวกเราไปเก็บที่ห้องพักแล้วนะ อีกสักพักก็คงจะกลับมา” จีน่าบอกก่อนจะยื่นผ้าเช็ดหน้าของตัวเองมาให้ผมเช็ดหน้าที่เปียกเพราะพึ่งล้างหน้ามา




“อืม”




“ไง ไอ้ติณณ์โอเคยัง” แลนด์ที่เดินมาถึงเอ่ยถามครับ ก่อนจะตามด้วยหลุยส์ และเพื่อนของโปเต้ก็คือเซย์ กับจิน




แล้ว...โปเต้ล่ะ




“ดีขึ้นล่ะ” ผมตอบแลนด์ แต่ไม่ได้มองหน้าแลนด์เลย




ทำไมผมต้องมาหาโปเต้ด้วยเนี่ย เพราะอะไร? ...หรือเป็นเพราะช่วงนี้ผมกับโปเต้ตัวติดกันตลอด???




ผมขอคิดว่าเป็นแบบนั้นก็แล้วกัน ...แม้ในใจจะบอกว่าไม่ใช่ก็เถอะ




“นภัทรมันโดนอาจารย์เรียกน่ะ” เซย์หันมาบอกผม




“...เหรอ” ผมนิ่งไปสักพัก ก่อนจะส่งเสียงออกไป




ผมก็แค่สงสัยว่าโปเต้หายไปไหนเฉยๆ ทำไมทุกคนต้องมองผมด้วยสายตาแบบนั้นด้วยเนี่ย




“คิดถึงแฟนมึงอ่ะดิ” นิดาว่าก่อนจะยิ้มแซว




“ใช่ซะที่ไหน” ผมว่าเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเลี่ยงออกมา




ผมเดินออกมาไม่ไกลจากที่บริเวณที่พักสักเท่าไหร่ แต่อยู่ๆก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมต้องสนใจและหันไปมอง คือ...มันมีต้นมะขามต้นใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง แถมรอบๆต้นก็มีทั้งอาจารย์และนักศึกษายืนล้อมรอบกันอยู่เต็มไปหมด โดยที่ทุกคนก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนต้นมะขามนั้น




ตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจหรอก เพียงแต่...




“นภัทร! ขึ้นไปอีก แล้วใช้เท้าขย่มกิ่งเลย” เสียงอาจารย์คนหนึ่งตะโกนขึ้นไปบอกคนที่ (เหมือนจะ) ปีนอยู่บนต้นมะขาม




ก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าในคณะมีคนชื่อนภัทรอีกมั้ย แต่ว่า...เท่าของผมก็เดินเข้าไปในฝูกชนที่ยืมล้อมรอบต้นมะขามนั่นซะแล้ว




อืม...แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิด โปเต้อยู่บนต้นไม้ โดยที่ใส่แค่กางเกงยีนสีดำตัวเดียว ส่วนเสื้อนักศึกษาที่ใส่มาก็ถูกถอดออก (และพบว่ามันถูกพาดอยู่บนบ่าของอาจารย์ที่ตะโกนคุยกับโปเต้เมื่อกี้) และสิ่งที่โปเต้กำลังทำก็คือ ...ใช้เท้าขย่มกิ่งมะขาม เพื่อให้มะขามมันหล่นลง ให้คนที่ยืนรอข้างล่างเก็บ




เชื่อสิ...ว่าล้านเปอร์เซ็นต์ โปเต้ต้องโดนอาจารย์ใช้ให้ทำแบบนี้แน่ๆ




“นภัทรๆ พอล่ะๆ” เสียงอาจารย์คนเดินตะโกนบอกโปเต้ ผมเห็นโปเต้มองหน้าอาจารย์เล็กน้อยก่อนจะค่อยๆปีนลงมา




“มึง...พี่นภัทรหุ่นดีมากเลยอ่ะ”




“ใช่ ...กูนี่หลงพี่เขาตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า เสียดายอ่ะ ได้ข่าวว่าคบกับพี่ติณณ์สุดหล่อของยัยส้มอ่ะมึง”




“สรุปนี่ว่าจริงใช่ป่ะ”




“เห็นว่าใช่ ไอ้บลูมน้องรหัสพี่นภัทรมาเล่าให้ฟังว่าวันเลี้ยงสายรหัส พี่นภัทรพาพี่ติณณ์ไปด้วย แล้วเห็นว่าเหมือนจะทะเลาะกันนะ พี่นภัทรกระชากแขนพี่ติณณ์ให้นั่งลงบนตักตัวเองด้วย”




จำได้ว่าโปเต้แค่กระชากแขนผมแล้วผมเสียหลักล้มไปเองนะ...




“โหยยย...เสียดายอ่ะ”




“กูก็เสียดาย แต่ไม่เป็นไร คู่นี้มองแล้วก็ฟินไปดิ กูกดไลค์เพจพวกพี่เขาด้วยนะมึง”




ผมเดินหนีน้องผู้หญิงสองคนนั้นออกมา ตอนแรกตั้งใจว่าจะเดินหนีไปทางอื่น แต่บังเอิญหันไปเห็นโปเต้ที่กำลังมองมาทางผมพอดี




“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่กวักมือเรียกผม...รึเปล่าหว่า




“.....” ผมเองที่ไม่มั่นใจก็เลยเอานิ้วชี้ไปที่ตัวเอง เห็นโปเต้พยักหน้าเบาๆ ก็เลยเดินเข้าไปหา




“มีอะไร” ผมเอ่ยถามเบาๆ




ทำไมผมรู้สึกแปลกๆว่ะ คือ...เอาตามตรงเลยนะ ผมไม่เคยเห็นโปเต้ตอนถอดเสื้อเลย เวลาจะอาบน้ำโปเต้ก็จะเอาผมขนหนูพันส่วนล่างแล้วถอดกางเกงออก ส่วนเสื้อก็ใส่เข้าห้องน้ำ เวลาอาบน้ำเสร็จ โปเต้จะเอาเสื้อผ้าเข้าไปใส่ในห้องน้ำด้วย




แล้วนี่คือ...ผมก็ไม่เข้าใจว่าตัวเองเป็นอะไรเหมือนกัน อาจจะไม่ชินเพราะไม่เคยมีใครมาเปลือยท่อนบนต่อหน้าก็ได้มั้ง




แต่ยอมรับว่าหุ่นโปเต้ดีจริงๆ และขาวมากๆจริงๆ




“แสบหลัง” โปเต้บอกผมก่อนจะหันหลังให้ผม ผมเลยได้เห็นรอยกิ่งไม้ขูด ไม่ยาวมาก แต่เลือดซิบอ่ะ




“ถลอกน่ะ มีเลือดซิบนิดหน่อย ไปล้างแผลเถอะ” ผมบอกโปเต้





“แผลไม่ใหญ่ ช่างเถอะ” โปเต้บอกเหมือนไม่ใส่ใจมากนัก




“ช่างไม่ได้ ไปล้างแผล” ผมบอกโปเต้




“แค่ถลอกไม่ใช่เหรอ”




“ก็ใช่ไง แต่ก็ต้องล้างแผลดิ เศษเปลือกไม้ก็มีติดอยู่ ...ไม่ต้องดื้อได้มั้ย” ผมว่าก่อนจะดึงแขนโปเต้ให้เดินตาม




“.....” โปเต้ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่ยิ้มนิดๆเพียงมุมปากให้ผม




ไม่รู้ว่าคนอื่นจะรู้กันมั้ย ว่าผู้ชายที่หน้าหล่อออกแนวหวาน ที่เงียบๆ นิ่งๆ เหมือนไม่สนใจอะไรตรงหน้าผมนี้น่ะ...




ดื้อเป็นที่หนึ่ง!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-02-2015 22:52:21
โปเต้แกล้งสำออย อ้อนติณณ์ตลอดอะ แล้วจะไม่ให้คนอื่นเข้าใจถูกได้ไงเนี่ย  :hao3: :hao7: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 03-02-2015 22:59:06
ไม่ต้องดื้อได้มั้ย แววมาละ แววจะควบคุมแฟนหรือสามีในอนาคตไง 5555
ติณน่ารัก เป็นห่วงคนอื่นตลอดล่ะ เขาถึงหลงรักกันไง๊ รีบสิคะโปเต้รีบบบบบ
มคปด ไม่รู้นะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 03-02-2015 23:00:10
มโนว่าตัวเองเป็นกองจิ้นแถว ๆ นั้นแล้วนะ กัดปากกรี๊ดแป๊บ โปเต้ หล่อนหาเรื่องอ้อนติณใช่มั้ยย๊าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 03-02-2015 23:14:46
จะรู้ไหม... ว่าเขาไม่ได้ดื้อ!!

แค่อยากให้ตัวเอาใจ อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-02-2015 23:23:49
มีทำแผลให้กันด้วย. กิ้วๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maxiyorka ที่ 03-02-2015 23:27:25
น่ารักมากค่ะ  ฟิน อ่านไปอมยิ้มไปตลอด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: FarawayII ที่ 04-02-2015 01:05:37
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ คนนิ่งมาเจอกัน น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 04-02-2015 01:06:38
ใครให้โปเต้ขึ้นต้นไม้เนี้ยยยยเด๋วตกลงมาน้า


น่ารักตอนนี้เอาอีกๆๆๆ :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-02-2015 01:31:10
แค่เขาเดินจูงมือ คนนอกก็ฟินแล้ว 555
(เหมือนตินณ์จะตกหลุมพรางโปเต้ ยังไงไม่รู้)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 04-02-2015 05:59:04
โปเต้น่ารักเนาะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-02-2015 06:13:02
เด็กดื้อเอ๊ย. จะซึนอีกนานไหมโปเต้

ตอนนี้นารักจังค่ะ ดูแลกันดีจริงๆ มีแฟนเพจด้วยนะเนี่ย. อยากกดไลค์ให้แรงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-02-2015 09:16:55
น่ารักจะตายยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 04-02-2015 09:23:31
โปเต้ทำเนียนเพื่อที่จะอ้อนติณอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 04-02-2015 09:34:07
งุ้งงิ้งกันอยู่สองคนนนน  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 04-02-2015 09:56:48
เรียกร้องความสนใจ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 04-02-2015 13:05:25
5555 โปเต้แผนสูงอ่ะ มาต่ออีกนะ รอเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicedog ที่ 04-02-2015 14:19:04
น่ารักมุ๋งมิ๋งมากเลยค่าเรื่องนี้

มาต่อเยอะไนะค่ะ

รออยู่ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 04-02-2015 14:46:32
อยู่แถวนั้นคงกรี๊ดในใจจนเสียงแหบ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 04-02-2015 15:11:01
โอ้โห แบบนี้เค้าเรียกว่า เรียกร้องความสนใจค่ะติณณ์
ตัวเองก็สนใจเขามากกว่าคนอื่นด้วยละเนอะ
ไม่ยอมรับซะที ฮี่ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 04-02-2015 17:41:16
อย่าดื้อสิโปเต้ อิอิ
น่าร๊ากกกกอ่ะเรื่องนี้ มุ้งมิ้งจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 04-02-2015 17:50:11
งื้ออออ ชั้นฟิน มันเหมือนจะไม่มีอะไรนะ แต่มุ้งมิ้งได้อีก แบบโปเต้ แกเรียกร้องความสนใจได้น่ารักมากอะ เนียนๆ
ติณณ์นี่ก็นะ เคยชินขนาดนี้ ดูแลใส่ใจขนาดนี้ เป็นแฟนกันเหอะะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 04-02-2015 21:43:20
แม่ะ ติณ หนูบอกไม่คิดอะไร แต่การกระทำหนูมันไม่ใช่แล้วววว  :hao6:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 04-02-2015 21:47:10
 :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-02-2015 09:42:01
ฟินกันไปดิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 05-02-2015 17:53:37
ง่อออออออ มันน่ารักฟรุ้งฟริ้งให้ดิ้นตายมาก :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 05-02-2015 19:51:55
ฮือออออ น่ารักอะไรขนาดนี้
เป็นคู่ที่ไม่ค่อยมีอะไรแต่อ่านแล้วรู้สึกเขินนนน
โปเต้น่ารักกกกกกก อ้อนติณท์ตลอดเลยยยย
 

โปเต้ไม่ใส่แหวนหรอออ หรือเพื่อนมองไม่เห็น

ต้องใส่นะจะได้คู่กับติณท์


มาต่อเร็วๆๆนะค่ะ  เป็นกำลังใจให้  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: VentoSTAG ที่ 05-02-2015 20:16:19
อ๊ากกก!!! ทำแผล ใส่ยา ลูบไล้
เอ๊ะ! ทำไมเราเริ่มหื่น  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 05-02-2015 23:51:10
มุ้งมิ้งกระดิ่งแมวมาก ๆ ค่ะเรื่องนี้ ติดซะแล้วสิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 06-02-2015 00:13:51
โปเต้ฉลาดโคตรๆอะ ใช้นิสัยความอ่อนโยน เอาใจใส่คนในครอบครัว แล้วไม่ชอบปล่อยผ่านของติณท์ให้ คอยทำโน่นทำนี่ให้ o18 :laugh:
มันมุ้งมิ้งมากอีตรงที่ทั้งคู่ไม่ต้องเอ่ยปากพูดอะไรให้มากความ แค่คำสองคำ พวกเขาก็เข้าใจกันแล้วอะ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 06-02-2015 02:30:29
ตามทันแล้วๆๆๆ
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากๆๆๆเลย

ชอบความเงียบของสองคนนี้
เคยคิดว่าถ้าจะมีแฟน อยากได้คนที่แบบไม่ต้องพูก็เข้าใจ
แอร๊ยยยยยยยยยยยย :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 06-02-2015 11:49:22
อ่านไปได้2 ตอนแล้วน่ารัก น่าค้นหาดีคะ โปเต้กับติณณ์
มีอะไรที่ซ่อนไว้กันนะนภัทร หลงรักติณณ์ไปแล้วรึเปล่าเนี่ย คิคิ
ว่าแต่ ระยะห่าง ระหว่างบรรทัด มันห่างไปนิดนึงอะค่ะ
เดี๋ยวไปอ่านต่อก่อนนะค่ะ

***********
อ่านถึงตอนล่าสุดแล้ว น่ารักมุ้งมิ้งมากเลยค่ะ
ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 06-02-2015 17:31:36
ชอบสองคนนี้มากกกกกกก น่ารักสุดๆค่ะ เคมีตรงกันโคตรๆจริงๆ - /////////////// -
แบบ โปเต้(ชื่อน่ารักมุมิไม่เหมาะกับความดุอย่างแรง 555555555) จริงๆแล้วคงมีลับลมคมในล่ะสิ๊
ตอนแรกก็ลังเลอยู่ค่ะว่าหรือพ่อคุณจะไม่คิดอะไรจริงๆ ถือว่ามีข่าวไปก็ไม่เสียหายแถมใช้ประโยชน์ได้อีกเลยไม่แคร์
แต่เอ๊ะ . ไหงตอนมีคนมาจีบติณณ์ถึงกับออกอาการเวิ่นเว้อเชียวนะ แบบนี้ไม่ใช่แค่ใช้ผลประโยชน์หากินแล้วม้างงง = .... =
แอบสะใจนิดๆที่ติณณ์เอาคืนเรื่องไปเป็นนายแบบน่ะค่ะ 55555555555555 มันต้องแบบนี้สิ ถึงจะเอาอยู่ ฮิๆ ~

ชอบอีกอย่างตอนที่พวกเค้าเผลอดูแลกันแบบเป็นธรรมชาติน่ะค่ะ อย่างตอนที่ติณณ์ป้อนน้ำโปเต้งี้ - / -
เขินนนนนเลย จริงๆมันอะไรยังไงตั้งแต่ชื่อแล้วแหละเนอะ ถึงจะเป็นน้องของพี่สะใภ้ แต่ก็ใช่ว่าจะห้ามเรียกชื่อเล่นไม่ได้ซะหน่อย
อีกอย่างติณณ์ดูเป็นคนเข้าใจง่ายจะตาย แค่บอกว่าไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกชื่อเล่นก็ยอมแล้ว
แถมอีกอย่างเรื่องดูคาติ แน่นอนเลยว่าต้องไม่เคยมีใครได้ซ้อนคุณนภัทรแหงแก๋ ~~

อยากอ่านอินไซด์ฝั่งนภัทรบ้างแล้วค่ะว่าจริงๆแล้วเจ้าตัวคิดอะไร แอบชอบน้องติณณ์ตอนไหนรึเปล่าาา - ..... -

เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก น่ารักสุดๆเลยค่ะ ชอบบรรยากาศเงียบๆแบบนี้มากเลยฮือ ; ;
(ซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นกับเราแหงเพราะแค่เราก็พูดมากจะตายแล้ว ไม่โรแมนติกเอาซะเลย T _______ T)
จะรอติดตามตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะ ~ สู้ๆน้า ♡
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 06-02-2015 21:04:54
เราชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกก

เราชอบความเงียบของทั้งสองคนเลย อ๊างงง

มาต่อเถอะค่ะ รอๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 07-02-2015 01:22:53
ซึนจริงเล้ยหนูติณ

โปเต้เค้าจีบเนียนๆ ยังไม่รู้เรื่องอีก

ฟินไปสามโลกแล้วค่าาาาา คึคึ

หนูติณนี่ฮอตจริงๆเลย มีแต่คนมารุมจีบ

โปเต้นายต้องรุกกว่านี้นะเฮ้ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Brow_Ney ที่ 07-02-2015 21:19:00
เป็นคู่ที่ค่อยๆรักกัน น่ารักมุ้งมิ้งดี
ไม่รู้อีกนานมั้ย กว่าที่ทั้งคู่จะยอมเปิดปากบอกรักกันได้อ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 07-02-2015 21:22:52
โงยยยยยยยยยย เมื่อไหร่คนแต่งจะมาต่อ
คิดถึงความอ้อนแบบเงียบๆของโปเต้อ่าาาาาาาาาา
อยากให้ชอบกันเร็วๆๆๆ
ถือว่าเป็นคู่ที่ดหมาะสมมม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 08-02-2015 00:54:28
 :mew3: อ่านแล้วติดหนึบ
ชอบที่เขาคุยกัน พูดเพราะทั้งคู่
นานๆจะเห็นพระนายฉบับนักศึกษาไม่กูมึงทั้งคู่ รึไม่ก็คนหนึ่งพูดเพราะอีกคนกูมึง
กดไลค์ค่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 08-02-2015 12:08:13
อยากอ่านต่อแบ้ววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 08-02-2015 15:17:19
โปเต้กับติณน่ารักง่า เคมีตรงกันจริงๆ
แต่โปเต้นี้เหมือนชอบติณอยู่ก่อนแล้วเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 08-02-2015 20:11:12
มาเม้นให้ถูกวันนน
คืออยากอ่านต่อ
ว่าโปเต้ติดติณแล้ว
เราก็ติดฟิคเรื่องนี้เหมือนกันนน
คือหนังสือไม่อ่านน
เรารออยู่นะคนแต่งงงงงงง



หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 08-02-2015 23:23:15
งุงิ มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง คริคริ~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 10-02-2015 14:16:33
คิดถึงจัง เมื่อไรจะมาต่อเน้อออออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 10-02-2015 16:25:14
คิดถึงตินกะโปเต้จัง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 11-02-2015 20:04:54
เรื่องนี้น่ารักมากกกกกกก คือเหมือนมันไม่มีอะไรมากแต่อ่านแล้วเขินบอกไม่ถูก 55555
มาต่ออีกนะคะ รออยู่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 11-02-2015 22:57:47
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 12-02-2015 14:44:40
เพิ่งตามมาอ่านค่า สนุกมากค่า

ชอบความเงียบของสองคนนี้จริงๆ

มันฟินมากอ่ะ ไม่ต้องพูดเยอะก็เข้าใจกัน

โปเต้แอบเจ้าเล่ห์อีกต่างหากชอบบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-02-2015 15:25:08
เรื่องน่ารักดีค่ะ ใส ๆ ไร้มลพิษ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: MuSicALone ที่ 12-02-2015 16:58:06
ฟินนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 13-02-2015 08:14:17
มาไหมน้อวันนี้
รอรอรอรอค่ะ
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 13-02-2015 22:34:51
งื้ออออออออออออ  รออยู่น้าาา  เมื่อไรจะมาอัพน้อออวววว :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Raccoooon ที่ 13-02-2015 23:38:43
แง้งงงง สนุกมากค่ะ
เราคิดมาตลอดเลยว่าทำไมไม่เคยเจอเรื่องที่เมะเคะเงียบๆ แบบเงียบชนเงียบมาเจอกันงี้
(หรือมันมีแต่เราไม่เคยเจอ แต่ถึงมีก็น้อยมากเลยค่ะ  :hao5: )

ก่อนจะมานึกขึ้นได้ว่า..คาแรคเตอร์มันน่าจะแต่งยาก
แต่เรื่องนี้โดนใจมากๆๆๆๆ เลยค่ะ แต่งดีมากกกก แงงงงงงงงงงงงง  o13
ชอบมาก ฟินแบบเงียบๆ555555
น่ารักกันทั้งคู่เลยแงแงแงแงแง

ติดตามนะคะะะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งแรก 3/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 14-02-2015 18:59:19
คิดถึงติณกับโปเต้แล้วววววววสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 14-02-2015 19:14:10
ต้องขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้อัพนานไปหน่อย คือตอนนี้มีเรื่องมากมายเข้ามาในชีวิตน่ะครับ และผมก็อยากได้คำปรึกษามาก

คือพี่สาวของผม มีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชาย ก็สนิทกันมากอ่ะครับ เพราะในห้องเรียนพี่สาวมีผู้ชายน้อย

แล้วทุกเย็น พี่สาวผมกับเพื่อนคนนั้น ก็จะไปวิ่งออกกำลังกายกันทุกวัน

แต่มีอยู่เย็นวันนึง เพื่อนพี่สาวบอกว่าขอนอนก่อน สักหกโมงเย็นค่อยไปวิ่ง พี่สาวผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยให้นอน

ก็นอนเตียงเดียวกัน เพื่อนพี่สาวก็เข้ามากอด แต่พี่สาวก็ไม่ได้ว่าอะไร

เพราะในกลุ่มเพื่อน เรื่องกอดเรื่องจับมือมันเป็นเรื่องธรรมดาอ่ะครับ คนอื่นๆเขาก็ทำ

แต่ทีนี้ พี่สาวผมก็นึกสนุก หัรไปกวนเพื่อนที่กำลังหลับ จนเพื่อนพี่สาวตื่น แล้วก็นอนเล่นกัน

แล้วพอนานเข้า เพื่อนพี่สาวก็บอกว่า ถ้าไม่หยุด จะจูบนะ ซึ่งพี่สาวผมก็คิดว่าแค่พูดเล่น คงไม่กล้าทำหรอก

แต่เพื่อนพี่สาวกลับทำจริงๆ พี่สาวผมตอนนั้นก็อึ้งบนช็อค เลยไม่ได้ว่าอะไร ได้แต่ทำตัวบ้าๆบอๆกลบเกลื่อนไป

แล้วอีกวันนึง เพื่อนพี่เขาก็ทำแบบนั้นอีก ทำให้ทั้งสองคนไม่ได้ไปวิ่งเหมือนอย่างทุกวัน แต่ว่าเขาสองคนได้แต่จูบกันนะครับ

และดูเหมือนวันนั้น พี่สาวผมจะไม่สบายด้วย เพื่อนพี่สาวก็ทำท่าเป็นห่วง คอยจับตัวตลอด

วันต่อมาเป็นวันสอบครับ อาการไม่สบายของพี่สาวผมก็ดีขึ้น ก็ขับรถไปโรงเรียนได้ พอไปเจอเพื่อนๆ (รวมถึงพี่คนนั้นด้วย)

เพื่อนพี่สาวคนนั้นก็ทำตัวตามปกติ ไม่ได้เข้ามาแสดงท่าทีแบบเวลาที่อยู่กันสองคนเลย พี่สาวผมเองก็เลยเฉยด้วย

แต่พอจะเดินขึ้นห้องสอบ พี่สาวผมที่เดินรั้งท้ายก็เดินตามเพื่อนคนอื่นๆไป อยู่ๆเพื่อนพี่สาวคนนั้นก็เดินเข้ามาแตะตัวพี่สาว

แล้วพูดประมาณว่า ตัวก็ไม่เห็นร้อนหนิ เหมือนไม่อยากจะให้คนอื่นสังเกตุเห็นอะไรประมาณนั้นอ่ะครับ

พี่สาวผมเล่าให้ฟังว่า ตอนอนู่ที่โรงเรียน พี่คนนั้นจะสนิทกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึง ได้ข่าวว่าคุยโทรศัพท์กันทุกวัน

อยู่โรงเรียนก็ชอบงุงงิงใส่กัน ถือกระเป๋าให้กันอะไรประมาณนี้อ่ะครับ

พี่สาวผมเองก็พอจะรู้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่คนอื่นก็สังเกตุได้อ่ะครับ เข้ามาถามว่าเป็นอะไร ทำไมดูเศร้าๆ

พี่สาวผมก็ไม่ได้บอกอะไรพวกเพื่อนไป และทุกวันก็เป็นประมาณนี้แหละครับ ตอนอยู่ต่อหน้าคนอื่นก็เป็นอีกแบบนึง

อยู่ด้วยกันสองคนก็เป็นอีกแบบนึง จนกระทั่งมาถึงวันนี้ เพื่อนพี่สาวคนนั้นกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนนึงก็ไปดูหนังกัน

พี่สาวผมพยายามจะปลอบใจตัวเองว่าคงไม่มีอะไร เพราะสองคนนั่นก็ชอบไปดูหนังออกใหม่ด้วยกัน

จนกระทั่งตอนเย็น พี่สาวผมขับรถไปรับพี่คนนั้นเพื่อจะไปวิ่ง พอไปถึงพี่สาวผมก็เดินเล่นคนเดียว ส่วนเพื่อนพี่สาวก็ไปถ่ายรูป

สักหกโมงเพื่อนพี่สาวก็โทร.มาหา บอกว่าจะกลับก่อน ไปกับเพื่อน (ผู้ชาย) ที่เจอกัน เห็นว่าจะไปร้านนมกันต่อ

ทั้งสองคนก็ชวนพี่สาวขอผมนั่นแหละแต่พี่ผมปฏิเสธ พี่สาวบอกผมว่ารู้สึกเหนื่อยรู้สึกแย่รู้สึกหนักๆที่หัวใจเลยขอที่จะไม่ไปดีกว่า

แต่อยู่พี่สาวผมก็เกิดทนไม่ไหว ถามเพื่อนพี่สาวคนนั้นว่า 'จูบกูทำไม'

เพื่อนพี่สาวคนนั้นเลยบอกว่า 'ก็..เฉยๆอ่ะ ทำไม รู้สึกไม่ดีเหรอ'

พี่สาวผมเลยบอกว่าเปล่าแล้วชิ้งวางสายไป พี่สาวบอกตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก น้ำตาไหลแบบห้ามไม่อยู่

จึงรีบเดินกลับไปที่รถแล้วขับรถกลับบ้าน ร้องไห้อย่างเดียว

ความจริงสักตอนม.5 พี่สาวผมก็เคยชอบพี่คนนั้นด้วยนะ แต่พี่คนนั้นก็คือไม่ได้ชอบ แต่ทั้งคู่ก็คุยกันแบบปกติ

จนพี่สาวผมตัดใจได้ แล้วก็มาเริ่มสนิทกันมากขึ้นคือตอนไปวิ่งด้วยกัน ทำแบบนั้นไปได้ครึ่งเดือนก็เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น

คือ...ผมไม่รู้จะทำยังไงอ่ะครับ ให้คำปรึกษาอะไรไม่ได้เลย ทำเอาผมรู้สึกไม่ดีไปด้วยเลย ผมเลยอยากให้คุณที่อ่านทุกคน

ช่วยแสดงความคิดเห็นได้มั้ยครับ ถือว่าผมขอร้อง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 14-02-2015 19:20:29
อย่าไปยุ่งกับคนแบบนั้นเลย
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
คืออยากบอกเลยว่าเพื่อนคนนั้นต้องให้เขาเป็นแค่เพื่อน
อย่าให้เป็นเพื่อนสนิท(สนิดดดดดดด)อีกเลย
ฟังแล้วแบบรู้สึกหน่วงมากเลย
สู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 14-02-2015 19:31:23
เอามาเป็นพล็อตนิยายได้เลยนะเนี่ย
ความเห็นคือ มันเผื่อเลือกแล้วก็เป็นความเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ ยิ่งไม่พูดไม่ว่า มันก็ยิ่งคิดว่าอะไรก็คงยอม ประมาณว่าของตายอะ
แล้วห่างออกมาหรือเลิกคบไม่ได้เหรอ คนแบบนี้ ถ้ามันรักมันชอบจริงมันก็ต้องทำเหมือนที่ทำกับอีกคนสิ ออกหน้าออกตาน่ะ
อย่างนี้เหมือนว่า หมาหยอกไก่ ให้ก็เอา ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร ไม่ได้คิดอะไรด้วย ดูเหมือนจะไม่แคร์พี่สาวเราด้วยนี้ว่าจะรู้สึกยังไง
เป็นเรา เลิกคบแม่ง :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 14-02-2015 19:35:42
ผู้ชายเห็นแก่ตัว  ออกห่างดีกว่าค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-02-2015 19:38:24
ยังจะมีหน้ามาถามอีกนะ. บอกเลยว่าเลว
เล่นกับความรู้สึกของคนอื่นได้ขนาดนี้ถือว่าไม่มีความจริงใจเลย ทั้งกับพี่สาวคุณและคนที่ะค้าคบด้วย
กับอีกคนก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล. มันก้อเลวจริงถึงทำได้

อยากแนะนำว่าอย่าไปไหนด้วยกันสองคนอีกค่ะ. พูดให้ชัดไปเลยว่าเราไม่ชอบนะที่จูบเพราะมันดูเล่นๆไม่จริงจัง รับไม่ได้ แล้วตัดเลยว่าถ้าจะเป็นเพื่อนกันต่ออย่าล้ำเส้นและอย่าพูดเรื่องนั้นอีกโดยเฉพาะการเล่าให้คนอื่นฟัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 14-02-2015 19:41:25
ไม่ว่าในแง่ไหน ผช.คนนั้นก็เห็นแก่ตัว ไม่น่าคบ ไม่น่าเป็นเพื่อนสนิทด้วย ควรห่างๆนะคะ 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 14-02-2015 19:42:41
เราว่าให้พี่สาวออกห่างมาจากผู้ชายคนนั้นไปเลยดีกว่า ไม่ต้องไปยุ่งเพราะจะทำแต่ให้พี่สาวเจ็บ เลิกไปเลยดีกว่าผู้ฃาสยแบบนี้เห็นแก่ตัวอ่ะ เป็นเพื่อนยังเป็นไม่ได้เลย เพราะถ้าเห็นว่าเราเป็นเพื่อนคงไม่ทำอะไรแบบนี้ให้เราเสียความรู้สึกหรอกเหมือนนี่ไม่แคร์เลยแม้แต่ในฐานะเพื่อน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-02-2015 20:01:43
พี่สาวควรเอาใจเอาตัวออกห่างจากเพื่อนคนนั้นซะ
ออกให้พ้นคำว่า "มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน"ซะ
ทำมาเป็นหมาหยอกไก่ เอาไว้เป็น 1 ในตัวเลือก
แต่สุดท้ายก็ไม่เลือก เพราะเขาเลือกอีกคนไปแล้ว
ตัดไฟแต่ต้นลม จะได้ไม่ต้องเจ็บซ้ำๆ สงสารจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 14-02-2015 20:08:29
ผู้ชายคนนี้ไม่จริงใจหรอกคะ  ที่จูบเพราะถ้าเรายอมมันก็จะกินฟรี แค่สันดานผู้ชายเลวๆๆไม่รู้จักพอ แนะนำอย่าอยู่ด้วยกันสองต่อสองหรือไม่ก็ห่างกันไปเลย  ผูชายดีๆมีเยอะอย่าไปแคร์กับคนเลวๆเลยคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 14-02-2015 20:33:34
ผู้ชายคนนั้นเห็นแก่ตัว
บอกให้พี่สาวเลิกคุยกะ
ผู้ชายคนนี้เถอะค่ะตัดใจ
ตอนนี้ก่อนที่จะถลำลึก
ไปทั้งตัวและใจมากกว่านี้
เพราะผู้ชายคนนี้ไม่สมควร
ที่จะได้รับความรักเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 14-02-2015 20:49:31
โห เป็นนิยายได้เลยนะคะเนี้ย(ก็นิยายมันมาจากเค้าความจริงนิ  :mew5:)
ออกห่างๆจากเขาเถอะค่ะ อยู่ใกล้ไปก็รังเเต่โดนเอาเปรียบ ถ้าตัดใจไม่ได้คงเป็นได้เพื่อธรรมดาๆสนิทแบบเดิมคงไม่เหมาะและคงต้องใช้เวลาสักหน่อยนะคะ แต่เราคิดว่าทางที่ดีที่สุดคือต้องถามใจเราว่าอยากทำไงกันแน่ ถึงจะบอกให้ออกห่างจากเขาแต่ใจเรามันไม่คิดแบบนั้นก็คงยากอยู่นะคะ :mew6:  พยายามต่อไปเน้อ!!ตัดมันให้ขาดดดทำมาได้ตั้งครั้งหนึ่งแล้ว อีกสักครั้งทำไมจะทำไม่ได้ สู้ๆ!!! :a2: o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tawanchai ที่ 14-02-2015 20:58:37
ห่างออกมาดีกว่าครับ พยายามอย่าอยู่ด้วยกันสองคน และเปิดใจมองคนอื่นด้วย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 14-02-2015 21:41:44
เราว่าเรื่องนี้พูดยากค่ะ เราว่าถ้าเราเป็นพี่สาวคุณ เราจะเคลียค่ะ
แบบคุยกันตรงๆมาถึงจุดนี้ยังไงก็ไม่ใช่เพื่อนกันเหมือนเดิมแล้วค่ะ
เพื่อนกนเค้าไม่จูบกันนะ แล้วไม่จูบโดยที่ไม่อะไรด้วย
เราว่ามันดีกว่าถ้าคุยกันไปตรงๆเลย
จะเอาไงก็ว่ามา ถ้าแม่งเลวจริงก็เลิกคบ ถ้าจะคบกันต่อก็เอาดีๆ
อย่าให้มันคาราคาซังทำร้ายหัวใจตัวเองเปล่าๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 14-02-2015 23:13:17
ไม่เปนไรค่ะไ้ว้ว่าแล้วค่อยมาอัพใหม่


ส่วนเรื่องพี่สาวเราพอเข้าใจนะว่าพี่สาวเคยชอบเขามาก่อนและยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนทั้งสองคน  ก็ถือว่าไม่ผิดนะถ้าเกิดเหตุการแบบนี้ แต่ถ้าเค้าไม่รู้สึกอะไรพี่สาวควรถอยห่างดีกว่ายิ่งอยู่ใกล้จะยิ่งเจ็บเราไม่ใช่เมียน้อยทำอะไรทำไมต้องแอบต้องหลบถ้าเขาชอบเราเขาควรชัดเจน  ถ้าไม่ชอบก็ควรปกติเหมือนเพื่อนหรือคุยให้เคลียร์ไปเลยถ้ายังมาเจาะแจ๊ะอีก อย่าทำให้เค้าเห็นว่าเรายอมค่ะ เค้าจะได้ใจ ยังไงก็สุดแท้แต่พี่สาวจะตัดสินใจค่ะ ยังดีที่เค้าไม่เกินเลยคงเครียดกว่านี้มากๆ


เป็นกำลังใจให้นะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 14-02-2015 23:48:32
ผู้ชายเห็นแก่ตัวสุดๆค่ะ คือเราเข้าใจนะว่าผู้หญิงจะค่อนข้างคิดมากกับการสกินชิพ แบบหวั่นไหวมากกว่าผู้ชายที่เป็นคนทำ
อย่างคนที่เรามีใจให้ แค่มาใกล้ หรือจับมือ โดนกันนิดหน่อยก็เพ้อแล้ว นี่ถึงขั้นจูบเลยใช่ไหมล่ะ
แต่ประเด็นคือผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ได้คิดแบบนั้นไงคะ เราเองก็เคยมีสถานะที่ไม่ชัดเจนกับรุ่นพี่คนนึงเหมือนคล้ายๆแบบนี้แหละค่ะ
อยู่กันสองคนแบบนึง อยู่กับคนอื่นๆก็อีกแบบนึง พอไปเดินห้างด้วยกันสองคนแล้วบังเอิญเจอเพื่อนของพี่เค้า
พี่เค้าก็จะรีบบอกว่า รุ่นน้องสายรหัส คือเราก็นอยด์ๆนะว่าแบบ ที่เราเป็นมันใช่แค่นั้นหรอ ? ทำไมต้องรีบปฏิเสธขนาดนั้น ?
เลยสืบดูค่ะ สุดท้ายก็รู้ว่าพี่เค้าเผื่อเลือกจริงๆ คือจีบเราไปงั้นๆอ่ะ =_____= .. เราก็บ๊ายบายเลยค่ะ
คือเราทุกคนมี "คุณค่า" ในตัวเองนะคะ เราเชื่อว่าพี่สาวคุณก็ไม่ได้ถึงขนาดจะหาผู้ชายคนอื่นไม่ได้หรอกจริงๆ
เพราะฉะนั้นคนแบบนี้ไม่มีค่าพอสำหรับเราหรอกค่ะ ออกห่างให้ไวจะดีกว่า ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนก็แยกๆออกมาแล้วคบห่างๆพอ

เอาใจช่วยนะคะ ขอให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 15-02-2015 00:52:30
เราคิดแบบนี้นะว่าฝ่ายผู้ชายไม่ได้เสียหายอะไร
ใกล้ชิดเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกันมากๆ
ตอนที่มานอนด้วยกันเราคิดว่าผู้ชายเริ่มคิดแล้ว
ทำแบบหมาหยอกไก่คือเตือนทีเล่นทีจริงว่าไม่งั้นจะจูบนะ
ฝ่ายหญิงไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำก็ไม่หยุด
ร้อยทั้งร้อยฝ่ายชายจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าฝ่ายหญิงเต็มใจ
แม้ว่าทางผู้หญิงจะไม่ได้มีความคิดในแง่นั้นเลยก็ตาม

ขอบเขตของความเป็นเพื่อนมันเริ่มไม่ชัดเจนแล้ว
แนะนำนะว่าให้พี่สาวคุยตรงๆกับเพื่อนคนนั้นที่บอกว่าไม่ได้คิดอะไร
บอกไปเลยว่าไม่ต้องการให้ทำอีก
คิดแบบเพื่อนก็อย่าข้ามเส้น
ที่มาจูบหรือแตะต้องตัวก็ไม่ชอบให้หยุดทำเสีย
ไม่งามเพราะว่าเราเสียหาย
นายเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรา
บอกขนาดนี้แล้วก็คงมองหน้ากันติดยาก
หรือถ้าหากว่าฝ่ายเพื่อนผู้ชายทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็อย่าอยู่ใกล้ด้วยกันสองต่อสองอีก
สงสัยต้องลดระดับที่คบกันลงเป็นแค่คนรู้จักหรือเพื่อนในกลุ่มเฉยๆ

คิดว่าเขาเห็นพี่คุณเป็นโอกาสที่จะเก็บแต้ม
ถ้าหากว่าเขายังไม่หยุดก็ควรจะหลีกไปเลย
ถ้ายังมีตามมาทำก็ให้บอกเพื่อนในกลุ่ม ให้คนอื่นช่วยสังเกตุ
เกิดขึ้นต่อไปก็ดำเนินการทางผู้ใหญ่หรือทางกฏหมายไปเลย

เอาใจช่วยค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว 14/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ♥MPEGz♥ ที่ 15-02-2015 10:13:54
น่ารักชอบเรื่องนี้จัง >_<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 15-02-2015 17:49:03
ตอนที่ 7 (ครึ่งหลัง)













“ไง ..ไอ้ติณณ์ ได้ข่าวว่าโชว์สวีตกับนภัทรหรอว่ะ” เสียงแซวคนที่หนึ่ง




“สวีตอะไรหลุยส์ พูดดีๆ” ผมถามกลับนิ่งๆ ...แม้ใจจะไม่ค่อยนิ่งก็เถอะ เพราะผมรู้สึกว่า กระแสเรื่องของผมกับโปเต้มันชักจะแรกขึ้นทุกวัน




“พูดเรื่องจริงไง” ตามด้วยแลนด์ที่เดินมาสมทบ




“เฮ้อ...” ผมไม่รู้จะบอกกับคนอื่นๆว่ายังไงแล้วนะเนี่ย




“แค่นี้ก็ต้องถอนหายใจด้วย อะไรกันเนี่ย” หลุยส์ว่าพลางยิ้มขำ




“นี่...พูดมากจังนะ” ผมเอ็ดไปนิดหน่อย




“เขินอ่ะดิ” แต่ใช่ว่าทั้งสองคนจะยอมหยุด




“ไปไหนก็ไปเลยพวกมึง” ผมออกปากไล่พวกมันสองคนนะ แต่เป็นผมที่เดินหนีพวกมันออกมา เพราะรู้ว่า...พวกมันไม่มีทางทำตามที่ผมบอกแน่ๆ




ผมเดินออกมาได้ไม่ไกลนัก ก็ดันมาเจอคนที่ไม่ค่อยอยากจะเจอเสียเท่าไหร่...ก็คือพี่เฟรมนั่นแหละ




ผมกำลังจะหมุนตัวกลับ แต่พี่เฟรมดันหันมาเห็นผมซะก่อน




“อ้าว ติณณ์” พี่เฟรมเรียกก่อนจะเดินมาหาผม




“...ครับ”




“มาทำอะไรแถวนี้เหรอ”




“ก็...มาเดินเล่น” ผมตอบเสียงเรียบ




“เหรอ พอดีเลย งั้นไปเล่นกันพี่ป่ะ”




“ไม่เป็นไรครับ ผมว่าจะกลับไปหาเพื่อน”




“อะไรอ่ะ กับพี่นะเนี่ย ยังหยิ่งใส่ได้ลงคอเลยเหรอ” พี่เฟรมพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ซึ่ง...ผมฟังแล้วจั๊กจี้แปลกๆ




“ผม..เปล่า”




“งั้นก็ไปเดินเล่นกัน” ว่าจบ พี่เปรมก็ตีเนียนมาโอบไหล่แล้วออกแรงให้ผมเดิน




“.....” ตัวผมนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พี่เปรมนี่...ผมไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ ก็พี่เขาชอบทำท่าทีแปลกๆกับผมอ่ะ




พี่เปรมพาผมเดินไปเรื่อยเปื่อย ชวนคุยนี่นั่นไปทั่ว ผมก็ตอบบ้างเงียบบ้าง พอไม่ให้เสียมารยาท




“เอ้อ ติณณ์ ...พี่มีเรื่องจะถาม” พี่เปรมพูดขึ้นเมื่อเราเดินออกมาไกลจากที่พักมาก




“ครับ?”




“เอ่อ...คือ...ติณณ์คบกับนภัทรจริงๆหรอ”




“.....” ถ้าเป็นคนอื่นถาม ผมคงจะปฏิเสธทันที แต่...ตอนนี้ผมเกิดอาการชั่งใจ เพราะว่า...ถ้าผมบอกว่าคบ พี่เปรมอาจจะเลิกทำท่าทางแปลกๆใส่ผมก็ได้ แต่ว่า...แบบนั้นก็จะกลายเป็นว่าผมแอบอ้างชื่อโปเต้น่ะสิ แต่ว่า...ทำไงดีอ่ะ รู้สึกหนักใจสุดๆเลย




“ทำไมติณณ์ต้องคิดนานด้วยล่ะ”




“.....”




“.....”




เอาไงดีว่ะ...




“ครับ”




ตอบออกไปแล้ว..




“ครับนี่คือ...ติณณ์เป็นแฟนกับนภัทรจริงๆเหรอ!!” พี่เฟรมตะโกนเสียงดัง และทำหน้าแบบ ช็อคสุดๆ




“...ครับ” ผมได้แต่แอบขอโทษโปเต้ในใจที่เอาชื่อโปเต้มาแอบอ้างแบบนี้ แต่ว่า... เอ่อ...จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ ใช้ผลประโยชน์จากกระแสข่าวผิดๆที่คนเขาลือกันไปเอง...ล่ะมั้ง




“เอ่อ ตั้งแต่ตอนไหนติณณ์ ทำไมพี่ไม่รู้ และดูเหมือนติณณ์จะไม่ได้ชอบเพศเดียวกันหนิ ทำไมล่ะ...ทำไม” เอ่อ...ตอนนี้สติพี่เฟรมยังอยู่ครบป่ะเนี่ย




“เอ่อ...”




“ติณณ์ไม่รู้เหรอว่าพี่ชอบติณณ์มากขนาดไหน ทำไม...ทำไมต้องเป็นนภัทรล่ะ พี่หล่อสู้มันไม่ได้เหรอ”




เอ่อ...พี่เฟรมหล่อนะ แต่ให้พูดตรงๆ โปเต้ก็หล่อกว่าพี่เฟรมจริงๆ




“...ครับ”




“โธ่เว้ย! โคตรจะเฟล” พี่เฟรมทำหน้าหงุดหงิดเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับมามองหน้าผม




“.....”




“เอ่อ...ขอโทษนะครับ ที่แสดงกิริยาแบบนี้ แต่...ติณณ์เข้าใจพี่นะ” พี่เฟรมกลับไปใช้น้ำเสียงแบบเดิมที่ชอบใช้กับผม




“ครับ”




“แต่...พี่ชอบติณณ์จริงๆนะ”




“ครับ”




“ไม่คิดจะเก็บพี่ไว้พิจารณาสักหน่อยเหรอ”




“ไม่ครับ”




“สักนิดนึง”




“ไม่ครับ”




“ใจแข็งจัง ...งั้น ...วันไหนที่นภัทรมันทำให้ติณณ์เสียใจ ติณณ์ช่วยนึกถึงพี่เป็นคนแรกได้มั้ย”




“...ครับ” ผมจะพยายามก็แล้วกัน เพราะพี่เฟรมคือหนึ่งเปอร์เซ็นต์ในเมมโมรี่ความจำของผมเลย




“เลิกกันเมื่อไหร่ ก็มาหาพี่ พี่รอเสียบอยู่นะ” พี่เฟรมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเน้นตรงคำว่าเสียบ ทำเอาผมต้องเดินถอยห่างออกมาก้าวนึง เอ่อ...ก็พี่เฟรมดูไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้




“.....” ผมไม่ได้ตอบอะไร เพราะจริงๆแล้ว ผมกับโปเต้ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย




“นะครับ”




“คงจะไม่ได้หรอกพี่”




“ทำไมล่ะติณณ์ พี่คิดว่าติณณ์ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าพี่ชอบติณณ์มานานแล้ว”




“พี่เฟรมครับ ผมต้องขอบคุณความรู้สึกที่พี่มีให้นะครับ แต่ผมคงรับเอาไว้ไม่ได้ ที่ผมมีให้พี่คือ...นับถือพี่เหมือนพี่ชายก็เท่านั้น ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อน” ว่าจบ ผมก็รีบเดินออกมาเลย จะให้ยืนต่อก็กระไรอยู่ พี่เฟรมจะทำอะไรผมรึเปล่าก็ไม่รู้ ยิ่งแต่เป็นพวกประเภทปากว่ามือถึงอยู่ด้วย




ผมเดินกลับคนละทางกับที่พี่เฟรมพามาในตอนแรก เพราะยังไม่อยากกลับไปหาพวกเพื่อนๆ อยากหาที่เงียบๆอยู่คนเดียวมากกว่า




“นี่...” อยู่ๆก็มีเสียงคนดังขึ้น ทำเอาผมสะดุ้งสุดตัว เพราะคิดว่าแถวนี้ไม่มีใคร และเมื่อหันกลับไปก็พบว่าเป็นโปเต้




เฮ้ย! เขามาอยู่ตรงนี้ได้ไงเนี่ย




แล้ว...เขาได้ยินที่ผมกับพี่เฟรมคุยกันรึเปล่าเนี่ย!!!




“.....”




ผมหันกลับไปมองยังตรงที่ผมคุยกับพี่เปรมเมื่อกี้ พบว่าพี่เปรมไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คงจะกลับไปแล้วล่ะมั้ง




“ทำไม...มาอยู่ตรงนี้ล่ะ” สุดท้ายก็เป็นผมเองที่เอ่ยปากถามโปเต้ก่อน




“อยากรู้จริงๆเหรอ” โปเต้ถามผมกลับ เอ่อ...ความจริงผมก็ไม่ค่อยอยากจะรู้สักเท่าไหร่อ่านะ




“.....”




“ว่าไง” โปเต้ถามเสียงเรียบ ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้ามาหาผม




“ก็...ไม่ต้องบอกก็ได้นะ”




“เหรอ”




“อืม”




“หึ...งั้นผมจะไปบอกพี่คนนั้น ว่าผมกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน” โปเต้พูดก่อนทำท่าจะเดินไป แต่ผมรีบคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน




โปเต้จะทำแบบนั้นไม่ได้นะ แบบนั้นพี่เฟรมก็จะไม่เลิกยุ่งกับผมสักทีน่ะสิ แต่เอ๊ะ! ...ทำไมโปเต้ถึงพูดแบบนี้ นี่หมายความว่าโปเต้ได้ยินมันทั้งหมดเลยใช่มั้ยเนี่ย!!!!




“เอ่อ...นาย ได้ยินมันทั้งหมด?” ผมเอ่ยถาม




“หึ...ใช่”




“เอ่อ...ผม...ขอโทษก็แล้วกัน ที่เอาชื่อนายไปแอบอ้าง”




“ผมไม่ชอบให้ใครเอาไปแอบอ้าง” โปเต้พูดเสียงเรียบ จนผมเริ่มรู้สึกผิด ที่ไม่บอกให้เจ้าตัวรู้เรื่องก่อน




“ผมขอโทษ แต่ว่า...มันจำเป็น”




“.....”




“โปเต้ นายต้องช่วยผมนะ” เป็นครั้งแรกที่ผมเอ่ยขอร้องคนอื่น แต่ว่า...มันจำเป็นนี่นา ผมไม่อยากให้พี่เฟรมมาตอแย




“.....”




“จะให้ผมทำอะไรก็ได้อ่ะ แต่ต่อหน้าพี่เฟรม ช่วยแกล้งเป็นแฟนกับผมหน่อย”




“ทำไมผมต้องแกล้งหลอกคนอื่นด้วย ผมไม่เห็นได้อะไรเลย”




“แล้วนายจะเอายังไง จะเป็นแฟนจริงๆกับผมรึไง” ผมถามอย่างฉุนเฉียว อะไรกัน ช่วยกันแค่นี้ก็ไม่ได้รึไง




“...น่าสนนะ”




ห๊ะ! ...เมื่อกี้โปเต้ว่าไงนะ




“หมาย...หมายความว่าไง”




“ก็อย่างที่พูด”




“.....” โปเต้หมายถึง ...จะให้ผมไปเป็นแฟน ...ที่เป็นแฟนจริงๆอ่านะ บ้าเหรอ อะไรของเขาน่ะ



“ผมไม่ชอบหลอกใคร ...ขอตัว”



“เดี๋ยว!” ถ้าโปเต้บอกพี่เฟรม ผมก็จะต้องโดนพี่เฟรมรุกหนักกว่าเก่าแน่ เอาไงดีว่ะ ถึงมันจะเป็นแค่เรื่องแค่นี้ก็เถอะ แต่มันทำให้ต้องหลบพี่เฟรมเท่าที่จะทำได้มาเป็นปีๆเลยนะ




“.....”




“ผมไม่มีทางเลือกหนิ”




“.....”




“ผมตกลง” เอาว่ะ ยอมข่มความอายพูดออกมาเลยนะนั่น




“ตกลงเรื่อง?”




“เอ้า โปเต้ อย่ามาเล่นลิ้นนะ ผมไม่ชอบ”




“จะขอร้องคนอื่น ต้องทำยังไง” โปเต้พูดพลางยิ้มมุมปาก ฮึ่ย...เจ้าเล่ห์ชะมัด




“.....”




“.....”




“.....”




“ไม่พูดก็ตามใจ”




“เดี๋ยวสิ ...ใจร้อนจริง”




“.....”




“.....”




“.....”




เอาว่ะ พูดก็พูด!




“โปเต้...”




“.....”




“...เป็นแฟนกันผมนะ”




พูดออกไปแล้ว ตลอดชีวิตยี่สิบปี ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องจะมีแฟนเลยนะ แล้วดูนี่ ผมมาขอพูดชายหน้าหวาน พูดน้อย แต่กวนตีนเงียบๆ เป็นแฟน เหอะๆ




“หึๆ ...ตกลง”











*********************************************************

ต้องขอโทษที่เมื่อวานผมนอกเรื่องนะครับ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ

ตอนนี้พี่สาวผมก็ยังคงสับสนอยู่ แต่ไม่ร้องไห้หนักเหมือนที่ผ่านมาแล้วครับ

พี่สาวผมฝากมาขอบคุณทุกคน ที่มาแสดงความเห็นด้วยนะครับ มันทำให้พี่ผมมองเห็นอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น


และผมก็ต้องขอบคุณทุกๆคนมากนะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 15-02-2015 17:55:54
ติณณ์ หลงกลโปเต้สะแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 15-02-2015 18:24:39
 :-[
พี่สาวสู้ๆ ค้า
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-02-2015 18:28:55
 :pig4:  มีคพผิดชื่อพี่เฟรม เขียนเป็นเปรมหลายจุด
โปเต้วางแผนมาดีนะ. ไม่ต้องขอเป็นแฟนเองด้วย. เดาว่างั้นนะ ร้ายลึก

ขอบคุณที่มาอัพต่อจ้ะ
เอาใจช่วยให้คุณพี่สาวด้วยนะ.  ก็ยังดีที่ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ค่อยเสียใจ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: หมูราชา ที่ 15-02-2015 18:30:59
ฟินๆกันไปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 15-02-2015 18:54:20
อ๊ายยยยย น่ารัก เค้าเป็นแฟนกันแล้ววววววว

 แบบถูกล่อลวงเบาๆ สมใจเลยดิโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 15-02-2015 19:01:19
นุ้งติณณ์โดนล่อลวง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-02-2015 19:27:01
โปเต้เนียนอ่ะที่จริงชอบเค้าอ่ะดิ
เรื่องพี่สาวสู้ๆนะค่ะเป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 15-02-2015 19:30:23
คบกันร้าวววว  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-02-2015 19:37:24
ตินณ์ติดกับดักโปเต้แล้ว โปเต้เจ้าเล่ห์มากกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 15-02-2015 19:50:49
ติดกับดักโปเต้แล้วววววว

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 15-02-2015 19:58:39
โปเต้เจ้าเล่ห์สุดๆอ่ะ

เค้าเป็นแฟนกันแล้ว วิ้วววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 15-02-2015 20:03:03
เข้าทางเลยดิ๊โปเต้
พี่เฟรมแอบน่ากลัวตรงรอเสียบ 5555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-02-2015 20:05:22
แผนสูงจริงนะ โปเต้~!!!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 15-02-2015 20:23:58
ว๊ายๆ ยังไม่ทันจะจีบเลย ตกลงเป็นแฟนไปซะละ~



ขอให้พี่สาวของคุณเข้มแข็งขึ้นในเร็ววันนะคะ อย่าได้ไปแคร์ผู้ชายโลเล มาทำหมาหยอกไก่ หลบไปเสียใจเงียบๆจนพอใจ แล้วมาสวยสะบัดบ๊อบใส่ดีกว่าค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 15-02-2015 20:27:31
โอ๊ะโอ นายร้ายกาจมากนะโปเต้
ได้เป็นแฟนแบบที่เป็ยฝ่ายถูกขอด้วย หึหึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-02-2015 21:07:53
หึ โปเต้นายน่ะแผนสูงไปนะ แต่เราชอบ อิอิ

ปล.เรื่องพี่สาว ในมุมเรา เราว่าผู้ชายแบบนี้เห็นแก่ตัว
แต่ในมุมของพี่สาวคุณ เขาอาจจะมีมุมอื่นๆ อีกก็ได้
แค่มุมที่เราเห็น เราว่ามันก็น่าจะพอกับการตัดใจ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 15-02-2015 21:09:03
กีสสสสสสสสสส
โปเต้ร้ายกาจมากกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 15-02-2015 21:16:45
โปเต้อะ ให้ติณณ์ขอเป็นแฟน เจ้าเล่ห์ที่สุดอะ  :ling1: :ling1: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 15-02-2015 21:21:54
โปเต้ ร้ายกาจจจ หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 15-02-2015 23:34:46
อเมซิ่งอินเล้าเป็ดมากกกกกกก


ทำไมตอนนี้มันน้อยอย่างนี้้้้้้้้้้้


พี่สาวคนแต่ง  สู้ๆนะค่ะะะ  ชีวิตคนเรามันก็อย่างนี้ละค่ะ ผู้ชายดีๆที่รักเราจริงๆมันหายากก ผู้ชายสุภาพบุรุษก็มีน้อยยย

อย่าไปแคร์ผู้ชายแบบนี้เลยนะค่ะ  มองในแง่ร้ายมันเห็นแก่ได้ อารมณ์แบบล่าแต้ม เล่นกับความรู้สึกคนอื่น แบบคิดว่าทำแบบนี้แล้วคิดว่าตัวเองเจ๋ง   มองในแง่ดีมันอาจจะปากไม่ตรงกับใจ บอกเฉยๆแต่อาจจะรู้สึกดี //แต่ความเป็นจริงแล้ว มันก็เห็นแก่ได้นั้นแหละะค่ะ    เราอินมากกก ถ้าเป็นเรานะค่ะะ ด่าแม่มันไปแล้ววว เอาเวลาร้องไห้มาคิดแผนแก้แค้นให้มันเจ็บปวดดีกว่า(นี่สายเอส)   :m16: :m31: :fire: :angry2:


สู้ๆนะค่ะะ   ชีวิตเราอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายค่ะ :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 16-02-2015 00:52:06
ชั้นชอบผู้ชายแบบโปเต้~~~~  :L2: :3123: :L1:
ฟินอ่ะ อ่านละฟินกันไป จริงๆ โปเต้ชอบติณณ์เหอะ คนอ่านรู้ แต่เจ้าตัวไม่รู้ ฮ่าๆๆๆๆๆ
ขอให้น้องติณณ์ตกหลุมพราง เอ้ย หลุมรักของโปเต้เร็วๆ นะคะ เจ้อยากจิฟินมากกว่านี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 16-02-2015 01:06:11
นายมันร้ายยย โปเต้นายร้ายมาก 55555

ล่อลวงติณแบบนี้ได้ไง

อยากเป็นแฟนเขาละไม่ยอมขอเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 16-02-2015 01:15:23
น่ะๆๆๆ ทำไมมันร้ายยยยยแบบนี้ห้ะนายโปเต้ 5555555555555
กลายเป็นติณณ์เป็นฝ่ายขอเป็นแฟนก่อนซะงั้นอ่ะ สถานการณ์พลิกผันชิงลงมือก่อนได้เปรียบ(?)สินะนาย
เอือมมมม คนกวนตีนหน้านิ่ง คนเจ้าเล่ห์ขี้เอาเปรียบ เอือมมมมมม 5555555555 #แซวด้วยความรักนะตัวเอง

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วฮือ สถานการณ์จะเปลี่ยนไปเป็นเช่นไร คราวนี้โปเต้จะถือสิทธิ์ขาดในตัวติณณ์แล้วหรือไม่
เพื่อนๆพอรู้ข่าวแล้วจะเป็นยังไง จะบอกพี่ๆของทั้งสองคนไหม ไหนจะเรื่องนอนห้องเดียวกันอีก! :hao7:
แงงงง ไม่อยากรอแล้วค่ะ เรื่องนี้สนุกมากกกก อัพปุ๊บพุ่งเข้าอ่านแบบรัวๆเลยจริงๆนะคะ T - T

เป็นกำลังใจให้คนเขียนสุดใจเลยค่าาา มาอัพตอนต่อไปไวๆน้า *บีบๆนวดๆ* (ฮา)
สู้ๆค่ะ ~ ♡
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bigbeeboom ที่ 16-02-2015 01:19:11
มาลงชื่อด้วยคนจ้ะ น่าติดตามมาก สนุกๆ โปเต้ต้องชอบแกล้งติณแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 16-02-2015 01:37:13
555 ขอเป็นแฟนกันแบบมึนๆเลยแหะ
โปเต้นายวางแผนจะขอเป็นแฟนกับติณตั้งแต่แรกแล้วใช่มิ๊
ร้ายมากเลยโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 16-02-2015 02:25:04
ผมนี้แทบกระอักเลยครับ มาสั้นๆแต่ได้ใจความ
...สั้นๆ งือออ :hao5:
#คุณพี่สาวสู้ต่อไปนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าจู ที่ 16-02-2015 03:31:13
แอร๊ยยยยยยยย น่ารักเกินไปแล้ว

โปเต้นายโคตรเนียนอ่ะ หลอกให้เขาขอคบ

ร้ายกาจจริงๆเล๊ย

ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกหลงรักตัวละคร เงียบทั้งคู่

แต่มีเสน่ห์สุดๆอ่ะ

เป็นนิยายที่ใช้"..."เยอะมาก แต่อ่านแล้วไม่ติดขัดหรือน่าเบื่อเลย

มาต่อเร็วนะคะ :mew2:

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-02-2015 06:55:49
เจ้าเล่ห์นะโปเต้หลอกให้ติณน์เอ่ยปากขอคบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 16-02-2015 10:22:16
เข้าทางโปเต้

ปล.เรื่องพี่สาวคนเขียนถ้าสะดวกที่จะเล่าก็มาอัพเดทเรื่องราวได้นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 16-02-2015 10:36:49
OMGนึกว้ฝ่าเรื่องนี้จะตามสูตรนิยายแบบว่าหลอกว่าเป็นแฟนกัน ที่ไหนได้ โปเต้อาศัยจังหวะนีเหลอกล่อติณน้อยให้เป็นจริงซะได้ แหมมมมม คนอ่่นก็ฟินไปสิคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 16-02-2015 11:44:23
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ღiสุดขอบiღ ที่ 16-02-2015 15:47:11
โปเต้ร้ายกาจนะเธอ ผลักตินตกหลุมแบบไม่รู้ตัวเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sb_ng ที่ 16-02-2015 19:38:44
มาขอติดตามด้วยคนค่าาาาา
น่ารักกกกกก อึนๆมึนๆเงียบๆแต่มันมีความมุ้งมิ้ง
น่ารักทั้งคู่เลย เวลาติณณ์เอาใจใส่นี่มุ้งมิ้งเชียว
โปเต้บ่นหิวก็งุ้งงิ้งดูขี้อ้อนเล็กๆ น่ารัก ชอบๆ
ส่วนติณณ์ก็แพ้ทางตลอด 555555555

รอติดตามต่อจ้า สู้ๆค่ะคนเขียน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 16-02-2015 21:10:01
คนเจ้าเล่ห์ o13 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kyungploy ที่ 16-02-2015 22:32:17
ฟินง่อววววววววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: FarawayII ที่ 17-02-2015 00:01:41
หว่ายยยย ติณณ์ติดกับซะแล้ว นายณภัทรเจ้าเล่ห์จริงๆ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 17-02-2015 02:11:54
โปเต้เจ้าเล่ห์มากอ่ะ ร้ายอ่ะร้าย 5555555 ติณเราไม่ใช่แค่พี่เฟรมที่ไม่น่าไว้ใจนะโปเต้ก็เหมือนกันเผลอๆไม่น่าไว้ใจมากกว่า 55555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PsychicLine ที่ 17-02-2015 08:03:47
เต้เจ้าเล่ห์ ตินก็ดีเกิน เป็นเราหน่อยไม่ได้ หึหึ

เรื่องพี่สาวก็คอยดูคอยกันไว้บ้างนะ ผู้ชายน่ะอาจเป็นคนดีหรือไม่ดีก็ได้
แต่เรื่องแบบนี้เป็นทัศนคติของแต่ละคน ถ้าไม่อยากกลายเป็นทางผ่านของใคร ก็ต้องใจแข็งเข้าไว้
คนที่เป็นเพื่อนแท้ได้กับทั้งหญิงและชายนั้นมีอยู่ แต่ผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่เพศตรงข้ามก็มีอยู่จริง
ใช่ว่าใครดีใครเลว มันอยู่ที่มุมมอง บอกพี่สาวไม่ต้องเสียใจ รู้ทัน ดีกว่าเสียรู้ เชิดไว้น้อง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: milo_oleang ที่ 17-02-2015 10:12:14
เรามีประสบการณ์เดียวกันกับพี่สาวคุณเลยค่ะ
เราเพื่อนสนิทเป็นผู้ชาย เราเป็นสาวห้าว กินเที่ยวเมา นอนเตียงเดียวกันบ่อยๆ
วันนึงมันคงอยาก  มาวุ่นวายกับเรา  เราก็ปัดป้อง  แต่ไม่ได้ด่า ว่าอะไร  เห็นแก่ความเป็นเพื่อน และคิดว่าเมา
แล้วก็มีวันอื่นๆ  เป็นงี้อีก  ทั้งที่ไม่เมา และเมา  เราก็ปัดป้องเหมือนเดิม  แล้วเราก็คิดละ  หรือมันจะชอบเรา
แต่มันมีแฟนแล้วนะ  อยู่ต่างจังหวัด ตอนนั้นเริ่มเขวเหมือนกัน คิดว่าตัวเองชอบมันด้วย เลยถามตรงๆ
มันบอก มันรักแฟนมันมาก  แต่มันก็รักเราด้วย (แบบเพื่อน)
5555 จบเลย  เราไม่ไปไหนมาไหนกับมันอีก  คิดว่ามันหลอกฟันตรูเพราะใกล้มือแน่ๆ

ทุกวันนี้เลิกคบกันแล้ว  เพราะเรียนจบแยกย้ายกันไป  งานเลี้ยงรุ่นเราก็ไม่ไป เพราะไม่อยากเจอ


เรื่องของพี่สาวคุณ  ดูดีๆ นะคะ  ว่าเค้าเจตนายังไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-02-2015 11:13:53
โปเต้เจ้าเล่ห์มากอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 7 ครึ่งหลัง 15/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 17-02-2015 21:46:18
โปเต้ร้ายอ้ะะะ ร้ายแบบนิ่งๆเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 19-02-2015 23:22:49
ตอนที 8 (ครึ่งแรก)












ตอนนี้ผมกับโปเต้กำลังเดินกับไปที่พักกันครับ โดยที่ผมทั้งคู่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน




...นี่ผมกับโปเต้กำลังเป็นแฟนกันจริงๆเหรอ เพื่อที่ผมจะกันพี่เฟรมออกจากวงจรชีวิตผม ผมถึงกับต้องมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเลยเหรอ




ผมยังไม่ทันตั้งตัวเลยอ่ะ รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆแหะ




“ฮั่นแน่ ทำเป็นเดินหนีพวกกู ที่แท้ก็หายไปกับนภัทรนี่เอง” พอผมเดินมาถึงที่ที่พวกเพื่อนๆอยู่ แลนด์ก็แซวผมก่อนใครเพื่อนเลยครับ




“เสียงดัง” ผมบ่นเบาๆ




“เขินอ่ะ” จีน่าแซวผมบ้าง เหอะ!




“.....” ผมไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆเซย์ เพื่อนของโปเต้ เพราะมันว่างอยู่ตัวเดียว




“.....” ส่วนโปเต้ก็เดินหายไปไหนไม่รู้ แบบ...อยู่ๆก็เดินออกไปเลย อะไรของเขาเนี่ย บทจะไปก็ไปแบบไม่บอกอะไรใคร




“นภัทรมันเป็นอะไรเหรอติณณ์” จิน เพื่อนของโปเต้หันมาถามผม




“...ไม่รู้” ผมไม่รู้จริงๆว่าโปเต้เป็นอะไร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ยังมีท่าทางที่อารมณ์ดีอยู่เลย




“ทะเลาะอะไรกันเหรอ” นิดาถามผมบ้าง




“เปล่า”




ผมตอบนิดาไปไม่ถึงหนึ่งนาที โปเต้ก็เดินกลับมา พร้อมกับน้ำเย็นหนึ่งขวด ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังผมแล้วเปิดฝาขวดน้ำ แล้วดื่มมันตรงนั้น ท่ามกลางสายตาของเพื่อนเขาและเพื่อนของผม ...อ่ะ รวมผมไปด้วยก็ได้




“...มีอะไร” โปเต้พูดขึ้นเบาๆ แถมยังมองทุกคนด้วยหน้าดุๆอีก สงสัยนิสัยนี้จะแก้ไม่หาย




“ก็เปล่า เห็นอยู่ๆมึงก็เดินหายไปเลย” เซย์เป็นคนตอบ




“...หิวน้ำ” โปเต้ตอบแค่นั้น ก่อนจะยื่นขวดน้ำที่เหลืออีกครึ่งขวดมาให้ผม ผมก็รับมาถือไว้




“ก็แล้วไป นึกว่าไปอารมณ์เสียมาจากไหนซะอีก”




“ก็เปล่า”




แล้วพวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อย ...เอ่อ ผมหมายถึงเพื่อนผมกับเพื่อนโปเต้น่ะนะ ส่วนผมกับโปเต้ไม่ได้มีบทพูดในการสนทนาทั้งหลายเหล่านั้นเลย ได้แต่นั่งฟังเขาพูดๆกันไป คือ...พวกนั้นคุยกันนานมาก จนเขาเรียกให้ไปกินข้าวเย็นเลยทีเดียว














ตอนนี้ก็เป็นเวลาสามทุ่มกว่าๆแล้ว ในห้องนี้นอนทั้งหมดหกคน มีผม แลนด์ หลุยส์ จิน เซย์ และโปเต้ เพราะเขาให้เลือกห้องนอนกันเอง พวกผมก็เลยเลือกที่จะนอนด้วยกัน ที่จริงห้องนี้มันเป็นเตียงคู่ แต่เนื่องจากนักศึกษามีเยอะ จะให้นอนห้องละสองคนมันก็ไม่พอ อาจารย์เลยให้นอนห้องละหกคน




ผมกำลังยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง โปเต้อาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ ส่วนพวกที่เหลือก็นั่งเล่นไพ่ครับ (เด็กๆไม่ควรทำนะครับ)




“นภัทร เสร็จยัง” แลนด์เดินไปเคาะประตูห้องน้ำ แล้วเรียกโปเต้




“เสร็จแล้ว” โปเต้เปิดประตูก่อนจะตอบแลนด์ แล้วเดินมาหาผม มือนึงก็เช็ดผมไปด้วย และที่สำคัญ ...โปเต้ไม่ใส่เสื้อครับ




“เสื้อล่ะ” ผมถามโปเต้ครับ




“ในกระเป๋า”




“ไปเอามาใส่สิ อากาศเริ่มเย็นแล้ว” ผมบอกโปเต้ มายืนตากลมตรงนี้ก็กลัวว่าจะไม่สบาย




“เช็ดผมก่อน”




“อืม” มันไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะไปเซ้าซี้ อีกอย่างก็ไม่ใช่คนชอบยุ่งอะไรมากอยู่แล้ว




“ไอ้ติณณ์ มึงลืมแหวนไว้ในห้องน้ำเหรอว่ะ” แลนด์เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินมาหาผม




“แหวนอะไร” ผมถามแลนด์




“แหวนที่มึงชอบใส่บ่อยๆอ่ะ ..เนี่ยไง” แลนด์ว่าก่อนจะแบมือตรงหน้าผม ซึ่งมันก็มีแหวนอยู่ในมือแลนด์




“.....” ผมยกมือตัวเองขึ้นดู ก็พบว่าตัวเองก็ใส่แหวนอยู่ งั้น...




“มึงก็ใส่อยู่หนิ แล้ว...”




“ของผม” โปเต้พูดขัดขึ้นก่อนที่แลนด์จะพูดจบ ก่อนจะหยิบแหวนที่อยู่ในมือแลนด์มาใส่นิ้วตัวเอง ...จริงสิ โปเต้ก็มีแหวนที่เหมือนผมอยู่วงนึงนี่นา





“เดี๋ยวนะ! ...เอ่อ ติณณ์มึงก็มีแหวนลายนี้หนิ” แลนด์ถามก่อนมองหน้าผมอย่างขอคำตอบ




“ก็...ใช่” ผมว่าก่อนจะชูมือให้แลนด์ดูแหวนที่ผมสวมอยูที่นิ้ว




“แล้วทำไมนภัทรก็มี” แลนด์ถามเสียงดัง จนทุกคนที่อยู่ในห้องต่างหันมามองกันหมด




“ก็แหวนคู่” โปเต้ตอบเสียงเรียบ




“แหวนคู่ ...นี่ตกลง ...คบกันจริงๆเหรอ” คราวนี้เป็นเสียงของเซย์ที่ถามอย่างอึ้งๆ




“.....” ผมทั้งคู่เงียบก่อนจะมองหน้ากัน ถามว่าคบกันอยู่มั้ย สถานะตอนนี้ก็เรียกว่าแฟน ก็แปลว่าตอนนี้พวกผมกำลังคบกันนั่นแหละ แต่ว่า...




จะให้บอกคนอื่นๆเหรอ ผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแหะ




จะคบกันใครอะไรยังไง เราต้องบอกคนอื่นด้วยเหรอ ส่วนตัวผมคิดว่ามันไม่จำเป็น




“เฮ้ย! อย่าเงียบดิ รอฟังอยู่” หลุยส์ร้องบอก




“ก็...ใช่” สุดท้ายก็เป็นผมเองที่เป็นคนตอบ




“.....” เงียบกันทั้งห้อง




โปเต้มองผมแล้วยิ้มนิดๆ ก่อนจะเดินไปที่กระเป๋าเสื้อผ้า แล้วหยิบเสื้อตัวนึงออกมาใส่




“เฮ้ย!!!” แล้วอยู่ๆสี่คนนั้นก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน




“คบกันตอนไหน!”




“เจอกันที่ไหน!”




“เรื่องมันเป็นมายังไง...!@#%^&*(*&^%$#@!...”




แล้วก็อีกหลายคำถามที่ตามมาอย่างรัวๆ ที่ทุกคนต่างก็เข้ามาถามผม จนผมตั้งตัวไม่ทัน




แต่จะให้บอกคนอื่นๆ เรื่องที่ผมขอโปเต้คบ ...บอกไว้เลยว่าใจไม่กล้าพอ ไม่ใช่ว่าอายหรือรังเกียจจนไม่กล้าเล่า แต่..คือ แบบ... ยังไงดีล่ะ




“นี่...ถ้าไม่เล่นไพ่ ก็ไปปิดไฟซะ” โปเต้พูดก่อนจะเดินมานั่งที่เตียง (พวกผมจัดการลากเตียงมาต่อกัน แล้วกะว่าจะนอนเบียดกันหกคนบนเตียงนั่นแหละ)




“มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เล่ามาเลย” เซย์หันไปพูดกับโปเต้บ้าง




“จำเป็น?” โปเต้ถามก่อนจะยักคิ้วขึ้นข้างนึง ...แลดูกวนตีนสุดๆ




“เออ!!” สี่คนนั้นตอบพร้อมกัน




“นี่...จะอยากรู้กันทำไม” ผมถามขึ้นก่อนจะนั่งลงข้างๆโปเต้ ...ไม่ใช่อะไร จะนอนแล้ว




“เฮ้ย! นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะ ใครๆเขาก็อยากรู้กันทั้งนั้น ตอนแรกก็นึกว่าแค่จีบกันตามสไตล์คู่นิ่ง แต่นี่คบกันจริงๆ โดยที่ไม่บอกให้ใครรู้เลย พวกกูก็ต้องอยากรู้ความเป็นมาดิว่ะ” แลนด์ร่ายยาวอย่างอยากรู้จริงๆ




“รู้ไปแล้วจะทำอะไรต่อ” ผมถามอีก




“ถามแปลกๆ ก็ต้องกระจายข่าวดิว่ะ” คราวนี้หลุยส์เป็นคนตอบ




“.....”




“.....” โปเต้มองพวกนั้นก่อนจะล้มตัวลงนอน




“ไอ้ภัทร มึงอย่าพึ่งนอนดิว่ะ” เซย์หันไปเรียกเพื่อนตัวเอง




แต่ก็ใช่ว่าโปเต้จะฟังนะ




อืม...ผมว่าผมนอนดีกว่า




“ไอ้ติณณ์ อย่าหนีดิว่ะ” แลนด์เดินเข้ามาก่อนจะฉุดแขนผมเอาไว้ไม่ให้ผมล้มตัวลงนอน




“ปล่อยกู” ผมว่า แต่ก็ไม่ได้สะบัดออก




“มาคุยให้รู้เรื่องก่อน คาใจนะเว้ย” แลนด์มันไม่ยอมครับ




“.....” โปเต้ที่อยู่ก็ลุกขึ้นมา มองแลนด์แบบดุๆ แต่แลนด์ก็ยังไม่ยอมปล่อยผม




“....”




“.....”




สองคนนั้นมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนที่จะ...




“โอ๊ย!!” เสียงแลนด์ร้องก่อนจะรีบปล่อยมือจากแขนผมครับ อยากรู้มั้ยว่าทำไมแลนด์ถึงร้อง และทำไมถึงยอมปล่อยแขนผม




นั่นเป็นเพราะ...เจอโปเต้ดีดมะกอกที่มือ ดังปั้กเลย ท่าทางจะเจ็บมากด้วย




“ขี้หวงจริงเลยมึง” แลนด์แอบบ่นเบาๆ




“ไอ้ภัทร ...มึงนี่ ขี้หวงจริง แต่ว่า...ไม่คิดจะเล่าให้พวกกูฟังหน่อยเลยหรอว่ะ อยากเสือกจริงๆนะหนิ” เซย์พูดกับโปเต้ครับ




“อยากรู้มาก?” โปเต้ถาม




“เออ!!!!” ทั้งสี่คนตอบพร้อมกันอีกแล้ว




“หึ...ดูปากนภัทรนะครับ ...ไม่ บอก เว้ย!”








***********************************




ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 19-02-2015 23:38:10
มาแล้ว แต่เราอินเรื่องพี่สาวอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-02-2015 23:43:20
อิอิ เพื่อนๆขี้เสือก  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 19-02-2015 23:50:16
ชอบเรื่องนี้มากกกกก
นิ่งกะนิ่งมาเจอกันนี่มันฟินจังเลย โปเต้นี่น่ารักสุดๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-02-2015 00:01:01
 :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 20-02-2015 00:11:02
อ้ายยย~พ่อหนุ่มขี้หวง กลัวคนมาเเย่งหนมเหรอจ๊ะ กิ๊วๆ กร้ากๆๆๆ :hao7:
#คุณพี่สาวคะ ตอนจบค่อยคิดอีกทีแล้วกันเนอะ ตอนนี้เราก็เรียนๆไป~อ่านนิยายรอไป~...รออยู่นะ พูดจริงๆนะ ฮ่าๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 20-02-2015 00:12:51
มาให้กำลังใจคนแต่งค่าา
เรื่องน่ารักมากเลยมาเรื่อยๆ นิ่งๆค่อยเป็นค่อยไป
โปเต้น่ามึนมากๆ ติณนี่เงียบๆแต่แอบน่ารักดี อิอิ ชอบนายเอกนิ่งๆ  :-[

 :pig4: รออ่านตแนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-02-2015 01:00:26
โปเต้กวนอ่ะ รออ่านตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 20-02-2015 01:07:10
เราชอบโปเต้ง่าาาาาาาาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 20-02-2015 02:05:37
โปเต้เริ่มออกอาการหวงแล้วสิ

เรื่องคุณพี่สาว
เราว่าที่เพื่อนพี่สาวแสดงออกก็ชัดแล้วนะ
้เขาอยากเป็นเพื่อนกับพี่สาวคุณมากกว่า
ุถึงได้ถอยออกไปไม่ล้ำเส้นอีก
ใกล้จบแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป
ถ้าหากว่าไม่อยากคาใจถามไปก็ดีเหมือนกัน
ไปต่อยังไงก็ขึ้นอยู่กับคำตอบ

ไม่ว่าพี่สาวจะเจออะไร จะสุขหรือทุกข์
ที่สำคัญคือมีคุณที่เป็นน้องช่วยซัพพอร์ท
อาจจะช่วยอะไรไม่ได้แค่อยู่ด้วยยามที่พี่สาวต้องการหลักทางใจก็ช่วยได้มากโขนะ
Just be there for her.
เอาใจช่วยนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 20-02-2015 02:12:26
คนแต่งดูปากเรานะคะ ทำ ไม ตอน สั้น จัง

อ๊ากกกกกกกกก อยากอ่านต่อๆ งื่อออ รักโปเต้ น่ารักกกก

เป็นกำลังใจให้คนแต่งและพี่สาวนะคะ (เห็นด้วยกับโพสข้างบนนะคะ )

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 20-02-2015 03:06:09
ฟินมากถึงมากที่สุดที่สุดของที่สุด :o8:


เรื่องพี่สาวเราว่าทำแบบปกติดีกว่าแต่ถ้าอยู่ใกล้กลัวห้ามใจไม่ได้ก็ห่างซะเลยดีกว่า เราเคยเป็นเมื่อนานมาแล้ว  ไม่รู้ผิดป่าวเป็นเพื่อนค่อนข้างสนิทแล้วชอบเค้านะแต่เค้าไม่ชัดเจนเหมือนจะชอบเราแต่ก็ไม่จีบไม่อะไรทั้งๆที่ไม่มีแฟนทั้งคู่ เขาทำอะไรไม่รู้ให้เราโกรธ(ตอนนั้นเด็กมาก)เราก็เลยห่างแบบไม่คุยกับเค้าอีกเลยซึ่งเค้าก็มึนไม่ปรับความเข้าใจกับเราแสดงว่าไม่ได้ชอบเราจริง  ก็ไม่ได้คุยกันจนปัจจุบันนี้  แล้วเท่าที่อ่านเราว่าพี่สาวเธอคิดกับเค้าเกินเพื่อนแคร์เค้ามากถ้าเค้าไม่คิดอะไรถ้ายิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งเจ็บนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 20-02-2015 03:28:51
ตอนนี้สั้นจังเลยอ่า ..... T ________ T
รู้สึกทุกอย่างดูเป็นแผนของโปเต้มากๆค่ะ 55555555 ช่างเป็นผู้ชายที่ร้ายกาจ!เหลือเกิน
ทั้งล่อให้ติณณ์ขอคบก่อน ทั้งเงียบเพื่อให้ติณณ์เป็นคนพูดว่าคบกัน (แถมยังมีแอบยิ้มดีใจอีก ดูคนเรา!) 555555555
แต่ก็ชอบพระเอกแบบนี้จริงๆนะคะ ติณณ์ดูเหมือนจะพูดน้อย นิ่งๆไม่ต่างจากโปเต้แต่จริงๆนิสัยต่างกันเยอะเลยค่ะ
ดูจะต้องเป็นฝ่ายยอม(และเดินตามเกม)พ่อพระเอกตลอดเลยสิน่า.. เริ่มสงสารขึ้นมานิดนึงแล้วแฮะ ; ___ ;


ส่วนเรื่องคุณพี่สาว อ่า .. เราว่าทางนั้นก็ดีนะคะที่ทำแบบนี้ คือเฟดตัวออกไปให้รู้เป็นนัยๆว่า "ระหว่างเราคืออะไร"
ที่จูบนั้นก็คงเพราะไม่ได้ตั้งใจจริงๆแหละค่ะ ถ้าอยากพัฒนาไปมากกว่านี้ก็คงไม่ดร็อปลงแบบนี้แน่นอนอยู่แล้ว
แต่เราถือว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนดีระดับนึงนะคะ อย่างน้อยเค้าก็ไม่มาหาเศษหาเลยกับพี่สาวคุณนะ ยังขีดเส้นชัดเจนอยู่
ก็น่าจะหมายความว่าเค้าเองก็เห็นพี่สาวคุณเป็นเพื่อนที่ดีคนนึงที่อยากคบ(ในฐานะเพื่อน)ต่อไปเช่นกัน ..
ส่วนเรื่องจะพูดมันขึ้นมาดีไหม เอาจริงๆถ้าให้ตอบตามสถานการณ์ก็ไม่น่าอ่ะค่ะ เพราะฝั่งนั้นก็ชัดแล้ว ฝั่งเราก็ทำลืมๆไปดีกว่านะ
แต่ก็เข้าใจว่าในความจริงการจะไม่ให้ถามเนี่ย มันช่างยากเย็นเหลือเกิน .. เพราฉะนั้นถามก็ได้ค่ะ
(แต่อย่าลืมว่าต้องรับความเสี่ยงกับคำตอบและพฤติกรรมที่อาจเปลี่ยนไปหลังจากนั้นด้วยนะคะ)

ยังไงก็สู้ๆนะคะ แค่รักคนที่เค้าไม่ได้รักเราชีวิตก็ไม่พังหรอกค่ะ ยังมีครอบครัว มีน้องชายที่รักและหวังดี คอยเป็นห่วง
มีเพื่อนๆที่อยู่รอบๆ กับความรักในเชิงนี้มันไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตนะคะ อยากให้คุณพี่สาวเลิกคิดเรื่องนี้ดีกว่าค่ะ ^^
เป็นกำลังใจให้นะคะ ทั้งนักเขียนและคุณพี่สาวเลยค่ะ ♡

ปล. มาอัพตอนใหม่ไวๆน้า เค้ารอเรื่องนี้ตลอดเลยรู้ไหม ; _ ;
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-02-2015 07:29:32
โปเต้ก็ยังคงเป็นโปเต้.  :katai2-1:     o13.
คิดอยู่แล้วว่าแหวนคู่ติดตัวตลอด ก็คู่กันอะเนอะจะห่างกันได้ไง

เอาใจช่วยคุณพี่สาวนะคะ. ถ้าเราระวังตัวมันก็ไม่น่าจะมีอะไรหรอก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 20-02-2015 10:15:45
ว้ายยยยยโปเต้ ขี้หึงขี้หวงนะเนี่ยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 20-02-2015 10:22:58
กิ้วๆ ณภัทรขี้หวง
เพื่อนก็นะ อยากรู้
เพื่อจะได้ไปกระจาย

เรื่องพี่สาว ก็ดีแล้วค่ะ ที่รักษาระยะห่าง
พี่สาวเองจะได้ไม่ถลำไปมากกว่านี้
และเพื่อนจะได้ไม่มาทำเล่นๆด้วย
อย่าไปเปิดโอกาสให้กับคนที่ไม่ได้รักเราเชียว
เพราะถ้ามันเกิดอะไรขึ้น เขาจะไม่แคร์เราเลยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 20-02-2015 11:44:31
โปเต้ขี้หวงมาก
ส่วนเรื่องพี่สาวเราว่าปล่อยให้เรื่อง
มันเงียบและก็เป็นความลับของสอง
คนไปเลยดีกว่าเพราะพี่สาวยังอยาก
เป็นเพื่อนกับคนนั้นอยู่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-02-2015 17:26:29
แหวนนี่วางแผนไว้ใช่ไหมโปเต้!!!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-02-2015 19:07:27
ซะได้ เพื่อนเห็นแหวนแล้วซะได้ อิอิ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 20-02-2015 19:29:11
เป้นเรื่องที่อ่านได้เรื่อยๆ
น่ารักแบบเบาๆ
ชวนให้จิ้นมาก
แต่ขัดใจสรรพนามเรียกกันนิดแบบบุคลิกพระเอกนี่ คิดว่าจะแทนตัวว่าฉันมากกว่าผม5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 20-02-2015 20:11:57
 :o8: :-[ โปเต้ น่ารัก ติณน์ก็นะ ไม่ค่อยทันเลย แต่เหมาะกันดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 20-02-2015 21:03:29
ว้าาาาา เพื่อนรู้ซะแล้ว
แต่ก็ยังกวนเหมือนเดิมนะ ไม่ยอมเล่าอะไรต่อ 555

ส่วนเรื่องพี่สาว ถ้ากลัวการเปลี่ยนแปลง
ก็ทำเป็นเฉยๆไปแบบนี้ แล้วมันจะเงียบหายไปเองค่ะ
แต่ ถ้าสักวันนึงที่ต้องจากกัน แยกย้ายกันไปจริงๆ
ให้เลิกติดต่อไปพักใหญ่ๆก่อนเลยนะ
ไปมีโลกใหม่ แล้วอะไรจะดีขึ้นมากกว่านี้อีกเยอะค่ะ
ถึงตอนนั้น ค่อยว่ากันอีกทีว่ายังอยากติดต่อกับเขาอีกรึเปล่า
สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 20-02-2015 21:04:46
โปเต้ใจร้าย เพื่อนอยากรู้ก็บอกหน่อยเถอะ

เพราะเราก็อยากรู้ เหมือนกัน ฮ่าๆๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 20-02-2015 21:05:16
โงยยยยยยยยยยยยยยย
โปเต้ชอบติณณ์ละสิ
ฮิฮิ

รอติดตามจ้าาาาาาาาา

ส่วนเรื่องพี่สาวคนแต่ง  เราว่าเลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นเถอะค่ะ  สถานะแบบนี้โครตน่าอึดอัดดด  เหมือนเราเป็นของตุ๊กตาที่รอให้ผู้ชายคนนั้นมาเล่นเลยยยย(อันนี้ไม่ได้ว่าพี่คนแต่งนะค่ะ)  คืออเราว่ามันแบบไม่ใช่อะะะ  อย่าปล่อยให้เขาทำแบบนี้กับเรานะค่ะะ  มันไม่โอเคเลยย  เราเรียนอยู่หญิงล้วนมา คือเพื่อนในห้องเคยบ่นแล้วครูได้ยินว่า  เรียนไปก็โง่หาผัวดีกว่า  ครูเลยบอกว่า เป็นผู้หญิงคิดแบบนี้ไม่ได้นะ  ถ้าเราโง่ผู้ชายก็ไม่อยากได้  เพราะขนาดเรายังอยากได้คนฉลาดๆ  แล้วครูก็บอกว่าเป็นผู้หญิงอย่ารอพึ่งผู้ชาย  แล้วโรงเรียนเราก็สอนให้รู้ว่าเราไม่จำเป็นต้องมีผู้ชายเลย เพราะงานแบกหามตัดไม้ปีนนั่งร้าน  เราก็ต้องทำเอง เพราะ โรงเรียนเราไม่มีผู้ชาย  ที่เราพูดมาทั้งหมดเพื่อจะบอกว่า  ชีวิตเราอยู่ได้เพราะขาเราเอง เพราะตัวของเราเอง  ไม่ใช่เพราะผู้ชาย  ขาดเขาไป เราก็ยังยืนได้ด้วยขาของเรา ผู้ชายคนนั้นก็เหมือนโครตร้ายที่มาทำให้ขาพี่คนแตางอ่อนแรง  อ่อนล้า ที่จะยืน  แต่สมัยนี้เรามีการพัฒนาทางแพทย์ที่ดีขึ้นแล้วนะค่ะะ  หาแคลเซียม หายามากินเพื่อรักษาโรคนั้นซะ  อย่าปล่อยให้มันมาทำร้ายเรา

สู้ๆๆนะค่ะะะ  ผู้ชายมีเป็นล้านบนโลกใบนี้  และก็คงจะมีผู้ชายสักคนที่เกิดมาเพื่อเราจริงๆ  o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-02-2015 22:20:29
โปเต้เนียนแบบนิ่งๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 21-02-2015 13:48:30
โปเต้ตั้งใจลืมแหวนไว้ใช่มั้ยยยยยยยยยยยย ใช่แน่ๆอ่ะ โปเต้เจ้าเล่ 5555555555
รู้สึกอยากอ่านพาทของโปเต้ขึ้นมาเลย จะมีใช่มั้ยคะ ต้องมีนะคะะะ :ling1:
ตอนนี้สั้นอ่ะ มาต่อเร็วนะคะ นะคะ มันแบบ.. :katai4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าจู ที่ 22-02-2015 00:17:53
เว้ยๆๆๆ มันน่ารักอะไรแบบนี้  :ling1:

ทำไมสั้นจังอ่า เอาอีกๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 22-02-2015 18:03:45
โปเต้นายร้ายมากอ่ะ  :laugh: อยากเป็นแฟนเขาแต่ไม่ยอมเป็นฝ่ายขอก่อน  o22 :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-02-2015 18:32:18
ตั้งใจใช่ไหมโปเต้ แหวนอะ ตั้งใจทิ้งไว้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 22-02-2015 18:51:10
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 22-02-2015 19:45:05
 :z13:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 22-02-2015 20:15:17
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วบรรยากาศหวานวิ๊งงุ้งงิ้งมากๆ

ส่วนเรื่องพี่สาวเราว่าปล่อยให้เวลาผ่านๆไปมันก็จะดีขึ้นเองเพราะจะห่างกันไปเรื่อยๆหลังเรียนจบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งแรก 19/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 23-02-2015 13:19:37
สนุกมากกกกกค่ะ ชอบแนวนี้นะค่ะ ดูอึนๆ มึนๆกันทั้งคู่เลยค่ะ แต่เราว่าโปเต้นี่ต้องชอบน้องติณมาก่อนแน่ๆเลยค่ะ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 24-02-2015 22:04:41
ตอนที่ 8 (ครึ่งหลัง)













วันนี้เป็นวันที่สี่ที่พวกผมมาทัศนะศึกษาแล้วครับ ก็ถือว่าสนุกดี มีกิจกรรมตลอด และก็ไม่ค่อยเหนื่อยมาก ทำกิจกรรมก็แบ่งกลุ่มคละชั้นปีกันไป




และวันนี้พวกเราคณะสถาปัตย์ก็จะต้องเดินทางไปที่อุทยาน เพราะมีกิจกรรมเดินป่า และผมก็ถือว่าตัวเองโชคดีนะเนี่ย ที่ใส่ร้องเท้าผ้าใบมา เพราะผมแอบเห็นบางคนใส่ร้องเท้าแตะมาครับ เดินป่าลำบากเลย




“ติณณ์ ไม่มีกางเกงตัวอื่นแล้วเหรอ” โปเต้หันมาถามผม เมื่อเห็นชุดที่ผมใส่วันนี้ คือเสื้อยืด กางเกงสั้นประมาณเข่า แล้วก็ร้องเท้าผ้าใบ ...ซึ่งผมก็ใส่แบบนี้ออกจะบ่อย




“มีกางเกงยีนตัวนึง จะใส่พรุ่งนี้” ผมตอบโปเต้




“ไปเอากางเกงยีนมาใส่ไป”




“ทำไม” โปเต้เป็นอะไรของเขา อยู่ๆก็มาสั่ง เป็นแฟนกันได้วันเดียวก็สั่งเลยเหรอ มันใช่เรื่องมั้ยเนี่ย




“บอกให้ทำก็ทำเถอะ”




“ไม่อ่ะ ขี้เกียจ” ว่าจบ ผมก็เดินออกมาจากห้อง ไปหาพวกเพื่อนๆที่อยู่ห้องอาหารครับ




“นภัทรอ่ะ” นิดาถามผม เมื่อเห็นว่าผมเดินมาคนเดียว




“แต่งตัวอยู่” ผมบอกก่อนจะเดินไปหยิบชามข้าวต้ม แล้วมานั่งโต๊ะเดียวกันกับพวกเพื่อนๆ




ไม่นานโปเต้ก็เดินเข้ามาครับ เดินไปหยิบชามข้าวต้มแล้วเดินไปนั่งข้างจินเพื่อนของเขา แล้วกินข้าวต้มไปอย่างเงียบๆ




“น้องๆครับ กินเสร็จก็เดินไปเข้าแถวตามชั้นปีเลยนะ” พี่ปีสี่ตะโกนบอกทุกคนที่อยู่ในห้องอาหาร ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่โต๊ะ ดูเหมือนโปเต้จะมากินอาหารเช้าเป็นคนสุดท้าย พวกผมเลยรีบกิน เพราะไม่อยากจะสาย




และเมื่อทุกๆคน ไปพร้อมกันที่ลานกว้างใกล้ๆกับที่จอดรถ พวกพี่ๆก็พูดถึงที่ที่เราจะไป โดยกำชับว่าคุยกันได้ แต่อย่าเสียงดังมาก เพราะเราไปเดินป่า ให้เกรงใจเจ้าป่าเจ้าเขา แล้วก็พูดอะไรอีกก็ไม่รู้ ยาวมาก แต่ผมไม่ได้ฟัง จนกระทั่งพวกเราขึ้นรถแล้วตรงไปยังอุทยานนั่นแหละ




“ใบปีหนึ่ง ปีสอง ปีสาม แบ่งกลุ่มเอาเองเลยนะ ว่าอยากอยู่กับใคร พวกน้องๆแบ่งสิบห้าคนนะ แล้วเดี๋ยวจะมีพี่ปีสี่อีกห้าคนไปกับน้องๆ ส่วนอาจารย์ก็แล้วแต่จะศรัทธาครับ” เสียงพี่เฟรมตะโกนบอกทุกคน รวมไปถึงอารจารย์ด้วย




แน่นอนว่ากลุ่มกับกลุ่มโปเต้จับกลุ่มอยู่ด้วยกัน เป็นแปดคน ก่อนจะมีพวกน้องปีหนึ่งมาเพิ่มอีกเจ็ด ก็เป็นอันครบสิบหน้าคนพอดี




แล้วทีนี้เขาก็ค่อยๆทยอยไปกันทีละกลุ่มโดยกลุ่มนึงจะมีเจ้าหน้าคนนึง เป็นคนนำทาง พวกผมเลือกที่จะไปกลุ่มสุดท้าย ซึ่งน้องปีหนึ่งก็เห็นด้วย




“โปเต้ ฝากขวดน้ำหน่อยได้มั้ย” ผมหันไปถามโปเต้ เพราะโปเต้เอากระเป๋าสะพายข้างใบไม่ใหญ่มากมาด้วย ผมเลยจะขอฝากขวดน้ำ เดินป่ามันต้องเหนื่อยและกระหายน้ำแน่นอน




“.....” โปเต้ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่คว้าขวดน้ำในมือผม แล้วเอาใส่กระเป๋าสะพายของเขา




ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่านะ แต่ดูเหมือนโปเต้จะดูเงียบกว่าปกติ ...โกรธอะไรผมรึเปล่าหว่า แต่ก็ไม่น่าจะใช่...มั้ง




“ดีใจจัง ได้เดินป่ากับติณณ์ด้วย” เสียงพี่เฟรมดังขึ้นครับ ผมหันไปดูพี่เฟรมก่อนจะหันไปดูรอบๆ ...ปีสี่ก็เหลือแค่กลุ่มพี่เฟรมกลุ่มเดียว




“...พี่ไม่ต้องไปกับพวกอาจารย์เหรอ” ผมเอ่ยถาม ...ประเด็นคือไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกับพี่เขา




“ไม่น่ะ พวกอาจารย์ขอไปแค่กรุ๊ปอาจารย์ นักศึกษาไม่เกี่ยว”




“...ครับ” หมดเรื่องจะพูดต่อ




“น้องๆ พร้อมยังครับ” พี่เจ้าหน้าที่ที่ต้องเป็นคนนำทางกลุ่มผม หันมาถามครับ เพราะกลุ่มก่อนหน้านี้ไปกันได้สักพักใหญ่แล้ว




“เอ่อ พร้อมแล้วครับ” พี่เฟรมหันไปตอบ ก่อนที่จะเดินตามพี่เจ้าหน้าที่ไป พวกผมและน้องปีหนึ่งเลยเดินตามโดยมีพี่ปีสี่ที่เหลือเดินรั้งท้าย





นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้มาเดินป่า เรียกได้ว่า...ลำบากสุดๆ ทางลำบากมาก เกือบจะสะดุดหลายรอบ โปเต้เลยให้ผมเดินนำหน้าเขา บอกว่าถ้าผมสะดุดอีกจะได้คว้าเอาไว้ทัน




แต่ต้องขอบอกไว้เลยว่าการเดินป่าครั้งนี้ถือว่าคุ้มจริงๆ เพราะมันสวยมากๆ รู้สึกสดชื่น ตลอดทางเราจะเดินผ่านธารเล็กๆมาเยอะมาก ผมลองก้มลงแตะน้ำ ผมพบว่าเย็นมาก น้ำใสมากๆ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ลองกวักน้ำใส่หน้า ผมลองทำบ้าง พบว่ารู้สึกสดชื่นมากๆ




“ลองดูมั้ย” ผมหันไปถามโปเต้ที่นั่งยองๆอยู่ข้างๆ ตอนนี้เรากำลังนั่งพักกันอยู่ พี่เจ้าหน้าที่บอกให้พักเอาแรงกันสักหน่อย เพราะหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล




“.....” โปเต้ไม่ตอบ เพียงพยักหน้าเบาๆ แล้วหลับตาลง เห็นอย่างนั้นผมเลยเอามือทั้งสองข้างแตะน้ำ แล้วลูบหน้าโปเต้เบาๆ แม้จะสงสัยว่าทำไมถึงไม่ทำเอง แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร




“เป็นไง” ผมถามเบาๆ




“ก็ดี” โปเต้ตอบก่อนจะยิ้มนิดๆมุมปากให้ผม




อ่า...รู้สึกหน้าร้อนๆแปลกๆแฮะ




“...ก็ ...ดีแล้ว” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดน้ำที่เกาะอยู่ตรงขนตาแพหนายาวของโปเต้




“วู้ๆๆๆ มาสวีทอะไรกันตรงนี้ เกรงใจพวกน้องๆปีหนึ่งมันบ้าง” แลนด์ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ พูดขึ้นซะเสียงดัง จนพวกปีสี่ที่อยู่ไม่ไกลหันมามองพวกผม




“สวีทอะไร” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะหันไปมองพวกน้องๆปีหนึ่ง พบว่ามองพวกผมอยู่จริงๆ บางคนก็ยกโทรศัพท์ข้างไว้ราวกับกำลังถ่ายรูปอยู่




“แหมมมม...อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย”




“.....”




“น้องๆ ครับ เราจะเดินต่อแล้วนะครับ” เสียงพี่เฟรมตะโกนบอก ผมเลยเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ ตามมาด้วยโปเต้แลนด์




“ทางข้างหน้าอาจจะลำบากหน่อย ระวังพวกทากจะเกาะ หรือกิ่งไม้จะเกี่ยวด้วยนะครับ” พี่เจ้าหน้าที่บอกก่อนจะมองมาที่ผม แล้วลากต่ำไปที่ขาของผม




เอ่อ...จะว่าไป ทุกคนเขาก็ใส่ขายาวกันหมดเลยนี่นา




“บอกแล้วให้ใส่ยีนส์” โปเต้พูดขึ้นเบาๆ




“ก็...ผมถามนายแล้วว่าทำไม แล้ว...นายก็ไม่บอกผม”




“บอกแล้วไม่ฟัง ก็ให้มาเจอกันตัวสิ”




“.....” ก็ได้ ผมผิดก็ได้




แล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อครับ หนทางมันช่างลำบากเสียจริง แล้วก็ทำให้ทุกๆคนเหนื่อยกันมากๆ




“โอ๊ย!” ผมร้องขึ้น รู้สึกเจ็บที่ขาเหมือนโดนอะไรบาด




“โหยย...เลือดไหลเลยว่ะ” หลุยส์ก้มมองก่อนจะบอกผม




“แผลน่าจะลึกนะครับ” พี่เจ้าหน้าที่เดินมาดูเอ่ยบอก




“แลนด์ ประคองติณณ์ให้หน่อย” โปเต้หันไปบอกแลนด์ที่อยู่ข้างๆผม ก่อนจะที่โปเต้จะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าผม แล้วอยู่ๆก็ยกขาข้างที่เจ็บของผมไปวางพาดไว้บนขาของเขาที่ชันเขาขึ้นข้างนึง




โปเต้หยิบขวดน้ำที่อยู่ในกระเป๋าออกมาแล้วราดตรงแผลของผม ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาพับคล้ายๆผ้าพันคอลูกเสือ แล้วอันพันที่ขาผมอย่างเบามือราวกับกลัวว่าผมจะเจ็บ




“...ขอบคุณ” ผมเอ่ยขอบคุณโปเต้เบาๆ หลายครั้งแล้วที่ผมได้รับความช่วยเหลือจากเขา




“บอกแล้ว...ว่าให้ใส่ยีนส์”




“ขอโทษ คราวหลังจะฟังนาย จะไม่ขัดแล้ว” ผมพูดเบาๆ




“น้องไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ เดินไหวมั้ย” พี่เจ้าหน้าที่ถามผม




“ไหวครับ”




“ให้พี่ช่วยพยุงมั้ย” พี่เฟรมเอ่ยถามผม พร้อมๆกับสายตาที่บ่งบอกได้ว่าเป็นห่วงผมจริงๆ




“ไม่เป็นไรครับ” โปเต้เป็นคนตอบแทนผม ก่อนจะลุกขึ้นแล้วโอบเอวผมอย่างโจ่งแจ้งมากๆ เอ่อ...กูพอจะรู้ว่าคนเป็นแฟนกันโอบเอวกันมันไม่แปลก แต่ผู้ชายกับผู้ชายที่แมนๆด้วยกันทั้งคู่ โอบเอวกันแล้ว...มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ




“นั่นน้องรหัสพี่”




“แต่นี่แฟนผมครับ” โปเต้ตอบเสียงเรียบ แต่ตานี่ดุอย่าบอกใคร




แต่ผมนี่...อยู่ๆก็เกิดอาการประหม่า ไม่กล้าสู้หน้าคนรอบข้างขึ้นมาเสียดื้อๆ รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า ...นี่ผมเป็นอะไรเนี่ย แผลติดเชื้อเหรอ =///=??






*********************************************


สั้นไปหน่อย ไว้ตอนต่อๆไปจะแต่งให้ยาวขึ้นนะครับ


เรื่องพี่สาวผม ตอนนี้พี่โอเคขึ้นมากแล้ว ดูเหมือนเพื่อนพี่คนนั้นกับเพื่อนผู้หญิงอีกคนจะชอบกันจริงๆ

พี่ผมเลยไม่อยากนอยแบบนี้ต่อไป เลยตัดใจไปแล้วครับ บอกว่าไว้ไปหาผัวในรั้วมหาลัยเอาก็ได้

ผมก็รู้นะครับว่าพี่เขาก็เจ็บ แต่เห็นเขากลับมาร่าเริงผมก็เบาใจไปได้แล้วเปราะนึง ก็ได้แต่หวังว่าเขาจะได้คนดีๆเข้ามาในชีวิตบ้าง


ขอบคุณที่ติดตามนะครับ :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 24-02-2015 22:36:01
เขินแทนติณน์ >///<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 24-02-2015 22:44:00
นี่แฟนผม กรี๊ด โปเต้ตรงมาก ชนะเลิศไปเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 24-02-2015 22:49:38
ติดเชื้อรักน่ะสิติณณ์ รีบๆให้นภัทรเลียแผลรักษาให้นะ จะได้หายไวๆ
นภัทร ออกหน้าออกตามากอะเรา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 24-02-2015 22:51:51
ค่ะๆๆๆนาย
แฟนนายนี่ นายจะ
โอบจะกอดจะหอมก็ได้
คนอ่านไม่ว่า5555 5 5
มีคำผิดค่ะ .กูพอจะรู้ว่าคนเป็นแฟนกันโอบเอวกันมันไม่แปลก  = ก็พอจะรู้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 24-02-2015 22:54:15
ติณนี่ดื้อจนโปเต้แอบงอนเลย แต่ก็งอนไม่นานหรอกคนมันรัก
ขี้หวงซะด้วยนะ แต่พี่เฟรมแกก็ดูจะเอาจริง เขาเป็นแฟนกันแล้วค่ะพี่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 24-02-2015 23:13:14
โปเต้น่ารักมากๆอ่ะแบบดูนิ่งๆแต่ใส่ใจทุกรายละเอียด :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 24-02-2015 23:20:00
ดูมุ้งมิ้งแบบเงียบดีอ่ะ  ประมาณว่ามองตาก็รู้ใจ   ชอบๆๆๆๆ :-[

ปล.   เอิ่ม ถ้าพี่สาวคนแต่ง ยังไม่เรียนมหาลัย 
 แสดงว่า คนแต่งยังเรียนมัธยมอยู่หรอคะ 
อึ้งนิดๆ  เขียนเรื่องได้ดีจริงๆค่ะ 
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 24-02-2015 23:28:13
คู่นี้จะน่าร๊ากกกกกันไหนนนนน :-[ :impress2: สู้ๆนะคะทัังพี่สาวคนแต่งและคนแต่งค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: วิบวับ ที่ 24-02-2015 23:32:56
แผลไม่ได้ติดเชื้อหรอก
ใจติดเชื้อต่างหากเล่า :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 24-02-2015 23:36:13
โปเต้แอบงอนนนติณ ฮ่าๆ

 :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 24-02-2015 23:50:40
สั้นมว้ากกก แต่ดีใจที่ไม่ลืมกันค่ะ โปเต้เป็นห่วงเป็นใยติณมากเลยชอบตังผู้ชายแบบนี้ ส่วนติณดื้อแต่น่ารักโคตรรร เป็นใครใครก็หลงอะ อิอิ เสน่ห์แรงอย้าบอกใคร โปเต้หนักใจแน่ๆ 5555

เรื่องพี่สาว เวลาจะเยียวยาทุกสิ่งค่ะ ตอนนี้กลับมายิ้มร่าเริงได้ก็ดีใจด้วยค่ะ อย่างว่าแหละ หาปั๋วในมหาลัยก็ล่ายย เราสวย ต้องชิคๆเข้าไว้จ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 24-02-2015 23:53:06
โปเต้นี่เนียนนะ เนียนหลายรอบละ ติณนี่ไม่เคยจะตามทัน 55555555555
"แต่นี่แฟนผมครับ" ค่ะลูก เต็มปากเต็มคำเลยลูก ขี้หวงจริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 25-02-2015 00:02:36
อ่าาา    โปเต้หึงออกหน้าออกตามากๆ. อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-02-2015 00:49:37
โปเต้มีหึงอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 25-02-2015 01:08:59
โปเต้นี่ออกตัวแรงนะ น้องรหัสพี่ แต่นี่แฟนผม  :laugh:


เรื่องพี่สาวคงเคลียร์แล้วเนอะ ชอบอ่ะที่บอกเดี๋ยวไปหาเอาในรั้วมหาลัย 555

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 25-02-2015 02:03:05
โปเต้เค้าหึงสินะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 25-02-2015 04:57:27
ติดเชื้อแบบเฉียบพลัน อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 25-02-2015 06:20:27
อือหือสุดๆเลยหวานแบบเนิบๆ



รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 25-02-2015 06:43:43
โปเต้คือดีงาม  o13.  o13.   :mew1:

มุ้งมิ้งดูแลกันแบบนี้จะต้องรู้กันทั้งมหา'ลัยแน่นอนจ้า. ติณน้อยโอ๋ๆนะถึงจะเจ็บตัวแต่ถือว่าหนูพลาดได้ดี
อีพี่เฟรมไปไกลๆเลยปะ

คุณพี่สาวคะ ขอให้แกร่งขึ้นเข้าใจโลกมากขึ้น ขอให้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาค่ะ.  เพิ่งจะเรียนมัธยมยังมีเวลาอีกเยอะกว่าจะเจอคู่ชีวิต
 ป้าเอาใจช่วยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 25-02-2015 07:12:47
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 25-02-2015 09:12:19
โอ๊ยยยยยฟินกับประโยคนี้ "แต่ผมเป็นแฟน"
พี่เฟรมนี่เงิบไปไม่เป็นเลยเจอประโยคนี้เข้าไป
ส่วนเรื่องพี่สาวสู้ๆค่ะดูเหมือนพี่สาวจะเข้มแข็ง
อยู่นะค่ะสามารถพูดแบบตัดใจได้ถึงแม้จะเจ็บ
ไปบ้างแต่ต่อไปอนาคตมันจะดีกว่านี้ค่ะ :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 25-02-2015 11:02:35
โปเต้น่ารักจัง เอาใจใส่ติณณ์สุดๆเลย

ติณณ์ก็ดื้อจนเจ็บตัวเลยน่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 25-02-2015 11:36:40
โปเต้
ชอบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 25-02-2015 12:19:37
อร๊ายยยย  โปเค้  สู้สู้  วี๊ดดดดดดด  :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ: :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 25-02-2015 16:18:40
โปเต้ไม่ค่อยพูด แต่พอพูดนี่ก็จัดหนักเลยนะค่ะ^^//ขอบคุณนะคร้าาาา กำลังสนุกเลยค่ะ มาต่อไวๆนะคร้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 25-02-2015 18:03:21
อ๊อกกกกกก!! แหมมาแต่ละทีนี้ กระอักเลยกร้ากๆๆ :impress2: คิลมี~~สั้นๆแต่เร้าใจฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 25-02-2015 18:46:59
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pui_noizๆ ที่ 25-02-2015 18:57:01
ก่อนอื่นต้องขอบคุณผู้แต่งก่อนนะฮะ

เรื่องสนุก น่ารักดี รู้สึกเหมือนตัวบ้างเพราะจริงๆ เราก็เป็นคนที่นิ่งๆ เหมือนกัน

ถัดมาเป็นเรื่องของพี่สาวคุณ

ดีใจด้วยฮะ ที่ก้าวข้ามผ่านไปได้ อาจขลุกขลักบ้างแต่มันก็ทำให้เราเรียนรู้กับการแก้ปัญหาของชีวิต
และเป็นบทเรียนสำหรับการก้าวไปเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว

ถ้าคิดว่าสิ่งที่เจอมามันใหญ่แล้ว เชื่อเราเถอะว่าวันข้างหน้าจะมีปัญหาที่มันใหญ่กว่านี้อีกมากที่ต้องเผชิญ

และเมื่อมองย้อนกลับไปจะพบว่าปัญหาก่อนหน้านี้มันช่างเล็กน้อยเหลือเกิน ตอนนั้นเราคิดอะไรถึงมองว่ามันเป็นเรื่องใหญ่นะ

แต่เป็นธรรมดานะที่พอเมื่อเราเจอปัญหาไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็ตามก็จะเราก็จะรู้สึกว่ามันใหญ่เสมอ และดูเหมือนจะไม่มีทางออก

ทั้งๆ ที่สุดท้ายทุกคนก็จะสามารถผ่านมันไปได้ เพียงแต่ใครจะใช้วิธีไหน และได้ผ่านการตรึกตรองอย่างมีสติมากแค่ไหน เท้านั้น

ไม่เคยมีปัญหาใดทำร้ายใครได้จริงๆ หรอก มีเพียงแต่เราเท่านั้นที่ทำร้ายตัวเองโดยเอาปัญหาเป็นข้ออ้าง

เพราะงั้นถ้าคิดจะทำอะไร ก็ต้องทบทวนให้ดีๆ นึกถึงผลลัพธ์สุดท้ายที่อยู่ปลายทางด้วยว่าอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด

และเมื่อได้ตัดสินใจทำอะไรไปแล้ว ก็ไม่ต้องมานึกเสียใจหรือเสียดายว่ารู้งี้ทำอย่างงั้นอย่างงี้ดีกว่า เพราะนั่นหมายถึงไม่ได้คิดให้ดีก่อนทำ ถ้าทำดีที่สุดแล้วอะไรจะเกิดก็ต้องปล่อยตามนั้น ฝืนไม่ได้

อะนะ...เหมือนเราจะไปไกลถึงดาวอังคารแล้วนะฮะ 555+ แล้วทั้งหมดนี้มันเกี่ยวกับพี่สาวคุณมั้ยละนี่ เอ๊ะยังไง...มองว่าเกี่ยวแล้วกันนะฮะ 555+

สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้ทั้งคุณและคุณพี่สาว ให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ด้วยดี

อีกนิดนึง...เหรียญมี 2 ด้านเสมอนะฮะ ในข้อดีย่อมมีข้อเสีย และในข้อเสียย่อมมีข้อดี...

หามันให้เจอนะฮะแล้วการใช้ชีวิตจะเป็นสุขขึ้น.... :bye2:


หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 25-02-2015 21:41:52
โปเต้ขี้หวง เล่นประกาศแบบนั้นน้องติณคงหน้าแดงเป็นลูกตำลึงแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 25-02-2015 22:10:57
555โปเต้ พูดน้อยต่อยหนัก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 25-02-2015 22:15:38
อะไรจะหวานกันขนาดนั้น

เขินแทนเลยอ่ะ >///<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 25-02-2015 23:08:23
ทำแบบโปเต้ก็ดีไป งี้ติณณ์คงไม่ดื้ออีกเลยอ่ะมาเจอกับตัว

ปล.เรื่องพี่สาวปล่อยให้เวลาช่วยรักษาเถอะ แล้วจะดีขึ้นเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 25-02-2015 23:13:42
แสดงความเป็นเจ้าของนิสนึง 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: FarawayII ที่ 26-02-2015 19:26:02
แผลติดเชื้อมันจะไปร้อนที่หน้าได้ยังไงกันละคะ แหม่ 5555  :-[

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 8 ครึ่งหลัง 24/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 26-02-2015 20:52:02
น่ารักกกกกกกก มุ้งมิ้งละเกินนนนนนนน

 :ling1: :ling1: :ling1:

ขอให้พี่สาวสู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 26-02-2015 22:36:27
ตอนที่ 9 (ครึ่งแรก)













พวกเรากลับมาจากเขาใหญ่กันเมื่อวาน วันนี้ไม่ใช่วันหยุด แต่ผมและเพื่อนก็พร้อมใจกันหยุดซะอย่างนั้น ไปทัศนะศึกษามันสนุกก็จริง แต่ก็เหนื่อยสุดๆไปเลย ขอพักหยุดแล้วนอนสักวันจะดีกว่า




ส่วนโปเต้ก็หยุดเหมือนกัน แต่ว่าพอตื่นมาอีกทีตอนบ่าย ก็ลุกขึ้นอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกว่าจะไปรับอันปันกลับบ้าน ตอนแรกเขาก็ชวนผมนะ แต่ผมไม่ไหว เหนื่อยมาก เลยขอนอนต่อ โปเต้เองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร




แต่ว่า...นี่โปเต้ก็ออกไปได้เกือบสามชั่วโมงแล้วนะ ทั้งๆที่ความจริงแค่ครึ่งชั่วโมงก็น่าจะกลับมาได้แล้ว เพราะโรงพยาบาลสัตว์ที่เอาอันปันไปฝากมันก็ไม่ได้ไกลมาก




หายไปไหนของเขาว่ะ???




ผมที่นั่งคิดไปเรื่อย ก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆ เสียงโทรศัพท์ของตัวเองก็ดังขึ้น และคนที่โทร.มาก็คือนิดา




“ว่าไง” ผมรับสายก่อนจะถามนิดา




(ไม่ว่าไง ตอนนี้กูกำลังจะถึงบ้านมึง ออกมาเปิดประตูให้ด้วยนะ จุ้บ) ว่าจบ นิดาก็วางสายไปทันที แต่ว่า...จะมาบ้าน? บ้านที่ผมอยู่ตอนนี้น่ะนะ???




นิดาจะรู้จักบ้านหลังนี้ได้ยังไง ผมยังไม่เคยบอกใคร หรือพาใครในกลุ่มเพื่อนมาเลยนะ แล้วนิดาจะมาได้ยังไง แล้วถ้าจะมา นิดาจะมาทำไม???




และดูเหมือนนิดาอาจจะรู้บ้านของผมจริงๆก็ได้ เพราะสักพักก็มีเสียงรถยนต์มาจอดที่หน้าบ้าน ผมจึงเดินออกไปก็พบว่าเป็นรถของนิดาคันนึง แล้วก็ตามมาด้วยรถของแลนด์ และรถอีกคนที่ผมไม่เคยเห็น (และไม่รู้ว่าตามรถของพวกเพื่อนๆผมมารึเปล่า)




“รู้ได้ไงน่ะ” ผมถามเมื่อนิดาเดินลงจากรถมาหยุดอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน




“เจ้าของบ้านบอกมา เปิดประตูดิ”




“.....” ผมเดินไปเปิดประตู ทั้งที่ยังไม่หายสงสัย




ตอนนี้ห้องนั่งเล่นก็เต็มไปด้วยฝูงลิง ทั้งนิดา จีน้า หลุยส์ แลนด์ จินและเซย์ (เจ้าของรถอีกคันที่ผมไม่เคยเห็น)




“โปเต้ล่ะ” นิดาเอ่ยถามผม




“ไม่รู้” ผมตอบเสียงเรียบ ตอนแรกก็รู้นะว่าจะไปรับอันปัน แต่หายไปเกือบสามชั่วโมง เลยไม่รู้ว่าตอนนี้โปเต้อยู่ไหน ทำอะไร




“อ้าว ไหนวันนี้โปเต้ก็ไม่ไปมหาลัยไง” เซย์ถามผมพลางทำหน้างง




“ก็ใช่ ...แล้ว...มาที่นี่ได้ไง”




“อ้อ คือ...วันอาทิตย์ก่อนจะไปทัศนะศึกษา ตอนแปดโมงเรามาเอางานกับนภัทรมัน ก็เลยรู้จักบ้านมันน่ะ แต่แปลกที่ไม่เห็นติณณ์” เซย์เอ่ยบอกกับผม วันอาทิตย์ ก็คือวันหยุด วันหยุดผมตื่นเที่ยงครับ ไม่แปลกที่เซย์จะไม่เห็นผม




“คงหลับอยู่” ผมตอบก่อนที่จะเดินไปในครัว หาน้ำมาให้ทั้งหกคนนั้นดื่ม




“แล้วพี่ตาลล่ะมึง” นิดาถามผมหลังจากดื่นน้ำเข้าไปอึกใหญ่




“ไปเที่ยวกับพี่ปาร์ ...พี่ชายของโปเต้น่ะ” ผมตอบก่อนจะนั่งที่โซฟาเดี่ยว ที่มันว่างอยู่แค่ตัวเดียว




“อ่อ แล้วนี่มึงอยู่กับนภัทรแค่สองคน?” นิดาถามผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความล้อเลียน




“.....” ผมไม่ได้ตอบ แต่พยักหน้าเบาๆแทน




“กูว่าเราเข้าเรื่องเหอะนิดา” อยู่ๆแลนด์ก็พูดขึ้น เข้าเรื่อง? พวกเขามีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกับผมเหรอ??




“ก็ได้ คืองี้นะติณณ์ พวกกูมีเรื่องที่โคตรจะสงสัยเลยว่ะ คืองี้นะ ตอนที่พวกกูรู้ว่ามึงกับนภัทรอยู่ด้วยกัน นภัทรกับมึงยืนยันกับพวกกูว่าเป็นเพื่อนกัน แต่แล้วทำไมตอนเดินป่า แล้วมึงโดนกิ่งไม้บาดขาอ่ะ ทำไมนภัทรถึงได้บอกว่ามึงเป็นแฟนเขา แล้วไหนจะเรื่องแหวนคู่อีก” นิดายิงคำถามมายาวมาก




แล้ว...ผมมีเหตุผลที่จะต้องตอบคำถามพวกนั้นด้วยเหรอ ก็ไม่หนิ




“....”




“ไอ้ติณณ์ พวกเราอยากรู้” จีน่าถามผมด้วยสีหน้าที่อยากรู้เสียเต็มประดา




“ทำไมต้องอยากรู้ ว่าทำไมพวกกูถึงเป็นแฟนกัน” อันนี้ไม่ได้จะยียวน หรือกวนตีนนะ คือผมไม่เข้าใจจริงๆ ขนาดตัวผมเองยังไม่อยากรู้เลย ใครจะคบใคร คบกันได้ยังไง ทำไมต้องไปอยากรู้ด้วยล่ะ




“แหมมมม... ผู้ชายมาดนิ่งแสนเงียบอย่างมึงกับคุณชายหน้าหวานผู้เย็นชา หยิ่งและโคตรเงียบอย่างนภัทรมาคบกัน ใครๆมันก็ต้องอยากรู้ที่มานั่นแหละ”




“.....” เหรอว่ะ!?!




แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไร ก็มีเสียงรถมาจอดที่หน้าบ้าน คาดว่าหน้าจะเป็นรถของโปเต้ เพราะเมื่อตอนบ่ายโปเต้เอารถยนต์ของตัวเองขับออกไป




และมันก็คงจะจริง เพราะผมได้ยินเสียงประตูบ้านเปิด สักพักเจ้าหมาตัวน้อยที่น่ารักของบ้านก็รีบวิ่งมาหาผม




ไปตั้งสามชั่วโมง ไปรับอันปันหรือไปทัวร์พัทยา??




บ็อก! บ็อก!




เสียงอันปันเห่าพวกเพื่อนๆของผม คงเพราะมันเห็นคนแปลกหน้า




“...มาทำไม” โปเต้ที่เพิ่งเดินเข้ามาเอ่ยขึ้น ไม่น่าจะถามทุกคน น่าจะถามพวกเพื่อนของเขามากกว่า




“ว่าง” เซย์เป็นคนตอบ




“.....” โปเต้มองนิ่งๆ ก่อนจะก้มลงแล้วอุ้มเจ้าอันปันที่ส่งเสียงเห่า แล้วเดินหายออกไปยังทางที่พึ่งเข้ามาเมื่อกี้





“อันปันล่ะ” ผมเอ่ยถามเมื่อโปเต้เดินกลับเข้ามา




“ฝากนิกกี้เลี้ยง” นิกกี้ หมาพันธุ์โกเด้นที่สนิทกันอันปัน ซึ่งเป็นหมาของคุณบ้านข้างบ้าน




“...แล้วหายไปไหนมาตั้งสามชั่วโมง” ผมเอ่ยถาม ไม่ได้จะหายเรื่องนะ แค่อยากรู้ว่าแค่ไปรับอันปัน ทำไมต้องไปตั้งสามชั่วโมง




“ไปทำธุระให้พี่ปาร์”




“อืม” ที่แท้ก็ไปทำธุระให้พี่ปาร์




“กินอะไรยัง” โปเต้ถาม




เอ่อ...เหมือนว่าผมสองคนจะคุยกันจนลืมอีกหกคนที่นั่งหายใจมองพวกผมคุยกันโดยไม่พูดอะไร แต่..ช่างเหอะ




“ยัง”




“ทำไม”




“พึ่งตื่น”




“งั้นก็ไปหาอะไรกิน ...ไปมั้ย” ประโยคถัดมาเขาหันไปถามคนอื่นๆ




“เอ่อ ...เอาดิ” นิดาเป็นคนตอบครับ




สรุปพวกเราก็ขับรถออกจากบ้าน ทั้งที่พวกเพื่อนๆผมพึ่งจะเข้ามาในบ้านได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง และอาหารของเรามื้อนี้ก็คือ..อาหารญี่ปุ่นครับ




ระหว่างกิน พวกเพื่อนๆก็คุยกันบ้าง เล่นมุกใส่กันบ้าง คงจะมีแค่ผมกับโปเต้ที่ไม่มีบทพูด อ้อ ...แล้วก็มีจิน ที่จริงจินไม่ได้มีลักษณะแบบผมหรือโปเต้หรอก แต่เหมือนจินจะเป็นขี้อายและพูดน้อย ส่วนมากจะชอบยิ้มแล้วนั่งฟังแทนซะมากกว่า




และเมื่อกินเสร็จ พวกเราก็สรุปว่าจะเดินเล่นย่อยอาหารก่อน แล้วคิ่ยคิดอีกทีว่าจะกลับบ้านหรือไปเที่ยวที่ไหนต่อ




“ทำอะไร?” ผมร้องถาม เมื่ออยู่ๆโปเต้ก็ยกมือขึ้นโอบเอวผม




“โอบเอว” กวนตีนล่ะ




“โอบทำไม” ผมว่าก่อนจะดึงมือโปเต้ออก แล้วเจ้าตัวไม่ยอม โอบเอวผมซะแน่นจนตัวผมและตัวเขสชิดกันมาก




“ก็มีแต่คนมอง” โปเต้ว่าก่อนจะทำตามดุใส่ผม เมื่อผมหยิกมือของเขา




“คนมีตาเขาก็มองสิ”




“ก็ไม่อยากให้มอง”




“บ้าล่ะ”




“นี่...”




“..อะไร”




“ผมเป็นคนขี้หวงนะ”




“แล้ว?”




“แฟนผมทั้งคน ผมก็ต้องหวงสิ แถมไอ้พวกที่มอง ก็มองด้วยสายตาอยากทำความรู้จักคุณทั้งนั้น จะไม้ให้ผมรู้สึกอะไรเลยเหรอ”




“.....” เอ่อ...บางทีผมก็อยากให้เขาเงียบๆ เหมือนที่เขาเป็นอยู่ทุกทีนะ




สารภาพเลยล่ะกัน ...เออ ผมกำลังเขินกับคำพูดเมื่อกี้ของโปเต้ ให้ตายเหอะ นี่ผมกำลังเขินผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะ




“ถ้าไม่อยากให้จับ ก็ขอโทษล่ะกัน” โปเต้ว่า ก่อนจะปล่อยมือที่โอบผมอยู่จริงๆ และทำท่าจะเดินนำผมไป




แต่ว่า....




หมับ!




“.....” โปเต้หยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม



แน่ล่ะ ...ก็เพราะอยู่ๆผมก็เอื้อมมือไปจับมือโปเต้นี่นา




ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน แต่อยู่ๆก็รู้สึกไม่อยากให้โปเต้ทำกับผมแบบนี้ ปล่อยมือแล้วทำท่าจะเดินหนี บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบ ไม่เอาอ่ะ...ไม่เอาแบบนี้




“แค่จับ ไม่ต้องถึงกับโอบ...นะ” ผมเอ่ยบอกเสียงเบา รู้สึกประหม่าปนเขินที่ต้องพูด




“...ครับ” โปเต้ตอบรับ ก่อนจะกระชับมือผมแน่นไปอีก




แฟนกัน...ก็คงจะประมาณนี้สินะ








******************************************

ตอบคำถามที่บางคนสงสัย

ผมเรียนอยู่มัธยมครับ แต่อยู่ชั้นเดียวกันกับพี่สาว เพราะผมเข้าเรียนก่อนเกณฑ์

พี่สาวผมตอนนี้โอเคแล้ว ซ้ำยังฝากขอบคุณทุกๆคนที่มาคอมเม้นต์แนะนำแล้วให้กำลังใจด้วยนะครับ


ขอบคุณที่ติดตามนิยายของผมครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-02-2015 22:46:53
 :katai2-1:  เขินเหลือเกินเจ้าข้าเอ๊ยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 26-02-2015 22:48:10
สองคนนี้ทำอะไรก็น่าเอ็นดูไปหมดเลยเย่ ชอบมากกกกสองนิ่งเนี่ย5555 โปเต้ขี้หึงขี้หวง เจอแฟนหน้าตาโคตรดีต้องทำใจนะครัชตัวเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-02-2015 22:52:42
ว้ายยยยโปเต้ คนปากกับใจตรงกัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 26-02-2015 22:55:40
 ประหยัดคำพูดกันจริงๆเลยสองคนนี้

มีองมีโอบกันด้วย พัฒนาๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-02-2015 22:58:52
โปโต้ หวานจังอิอิ หึงตินณ์ด้วยยยยยยย :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 26-02-2015 22:59:28
โป้เต้ขี้หึงนะ  เริ่มแสดงออกแล้ว
เวลาที่โปเต้กับตินณ์อยู่ด้วยกันลืมคนรอบข้างประจำเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 26-02-2015 23:10:21
น่ารักมากกกกกๆ เลยอ่ะ โอ๊ยยยยยย :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 26-02-2015 23:11:42
น่ารักที่ซู้ดดดดด  โปเต้เนียนเนอะ เป็นแฟนกันหลอกๆนะจ๊ะโปเต้

ปล.ไม่รู้ใช่คำผิดหรือเปล่า   คุณบ้านข้างบ้าน ,   ผมไม่ไหว ง่ายมาก  ง่ายเลยหรอจ๊ะติน อิอิ


 :L2:


หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 26-02-2015 23:18:09
มาแบบนิ่งๆ แต่โคตรหวานอ่ะ

เขินแทนติณเลยยยยยยยย

 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-02-2015 23:23:43
โอ้ย...น่ารักอ่ะ แหมๆๆหนูอย่าขี้หวงมากนักนะโปเต้ ปล่อยๆติณน์เค้าบ้าง

ปล.เค้าอยากอ่านอีกเรื่องอ่ะ คิดถึงนิคแอล เนลเนส แล้วก็มาร์เจกับโช เอ๊ะใช่ชื่อนี้มั้ยนะจำไม่ได้แล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 26-02-2015 23:43:29
โปเต้วววววว น่าร๊ากกก มีหงมีหึงด้วยเว๊ะ
เพื่อนๆนี่ขี้เสือกระดับเทพจริงจังเลย55555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 27-02-2015 00:02:31
จบได้ฟินกว่าncร้อนๆเป็นร้อยเท่า

บทนี้งานละเมียดมากกกกกกกอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 27-02-2015 00:08:52
น่ารักจังเลยยยยย มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 27-02-2015 01:05:23
ชอบบรรยากาศฟินๆแบบลืมคนรอบข้าง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 27-02-2015 01:23:16
หวานอ่ะ

ถึงจะเงียบๆแต่หวงนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-02-2015 04:30:28
เป็นเเฟนกันแบบเนียนๆ :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 27-02-2015 05:13:13
เบื่อเพื่อน วุ่นวายตอนอยู่กันสองคนละมุนมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 27-02-2015 06:03:52
 :o8:เค้าเขินเหมือนที่ติณน์เขินเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 27-02-2015 06:52:53
คู่นี้ คนอื่นยังจำเป็นอยู่ไหม 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: dekzappp ที่ 27-02-2015 07:16:24
อ๊ายยยย เขินนนนน >////<
เขารักกันเงียบๆดีเนอะ มุ้งมิ้งกันอยู่ 2 คน รู้สึกตั้งแต่เป็นแฟน ติณณ์ดูเปิดเผยมากขึ้นนะ น่ารักขึ้นด้วย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 27-02-2015 07:29:25
ไม่ใช่แฟนหลอกๆแล้วติณณ์ หวงกันขนาดนี้
ฝากถึงพี่สาว ด้วยนะ เชิดๆเริดๆเข้าไว้ ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุธทรา หาเอาข้างหน้าดีๆอาจมีของเราอยู่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 27-02-2015 08:50:52
 :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 27-02-2015 09:05:34
โปเต้น่ารักอ่ะขี้หวงสุดๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 27-02-2015 16:08:18
คู่นี้หวานมากกกกกก หวานในแบบฉบับของคู่นี้ ไม่ได้สวีทมากอะไรเลยนะ แต่เขินอ่ะ
"ผมเป็นคนขี้หวงนะ" นี่กรี๊ดกับประโยคนี้ของโปเต้มาก 555555555
แล้วสองคนนี้หวานกันแบบไม่สนใจคนรอบข้างเลย โลกนี้มีเพียงเราสองคน 555555
อยากลองอ่านมุมของโปเต้บ้าง จะมีมั้ยคะ :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 27-02-2015 20:35:12
 อิจฉาาาาาาาาติณณ์
อยากได้แบบโปเต้

งื้อออ คนแต่งอายุน้อยจังงงงงง  เราก็มัธยมนะ กำลังขึ้น ม.6 เลยยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าจู ที่ 28-02-2015 01:35:12
มันสั้นไปนะ ตอนนี้มาเงียบๆแต่เขินจิกหมอนนะครับ  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 28-02-2015 07:48:19
อู้ววว~หวานกันแบบไม่แคร์สื่อเลยนะหนุ่มๆ คุคุคุ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งแรก 26/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 28-02-2015 08:18:40
คิดถึงงงงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 28-02-2015 22:05:53
ตอนที่ 9 (ครึ่งหลัง)









[Pota’s part]







ผมเดินไปพลางเหลือบตามองคนข้างๆ โดยที่เขาไม่ทันได้สักเกตุ ผู้ชายที่เตี้ยกว่าผม ผู้ชายที่เป็นเจ้าของมือที่อบอุ่น ...ผู้ชายที่ผมกำลังเดินจับมืออยู่ตอนนี้




...ติณณ์




ติณณ์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากๆ มากเสียงจนผมอยากจะให้ติณณ์อยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกมาเจอผู้คน และผมรู้ว่าถ้าหากทำแบบนั้น ติณณ์ก็คงเกลัยดผมแน่ ติณณ์ไม่ชอบให้ใครมากบังคับ แต่เขาจะชอบตามใจคนอื่นๆโดยที่เจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้




2 ปีแล้ว ...ที่ผมเอาแต่เฝ้ามองคนๆนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้




ผมหลงเสน่ห์เขาตั้งแต่วันแรกที่พบหน้า...เมื่อตอนรับน้อง




ติณณ์มีใบหน้าที่หล่อเหลาและโดดเด่น บุคลิกที่น่าค้นหา และความสันโดษที่แผ่ออกมาจนคนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้ ใบหน้านิ่ง...และไม่มีรอยยิ้ม




จนกระทั่งวันนั้น...วันที่ผมมองติณณ์เปลี่ยนไป จากที่คิดว่าแค่หลงเสน่ห์ ต้องแปรเปลี่ยนไปใช้คำว่า ... ‘หลงรัก’





วันนั้นฝนตกหนัก แต่ผมหิว เลยเดินออกจากหอ กางร่มเดินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อที่อยู่ไม่ไกล แต่อยู่ๆก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น มีรถยนต์คันนึงขับรถมาและคาดว่าคงมองไม่เห็นแมวตัวนึง ที่กำลังเดินข้ามถนน รถคันนั้นชนแมวตัวนั้นเข้าอย่างจัง แล้วก็ขับหนีไปโดยไม่ยอมจอดลงมาดูว่าตัวเองได้ชนกับอะไรเข้า




แมวตัวนอนอาบเลือดอยู่บนพื้นถนน ผมเองก็ทนดูไม่ได้ กำลังจะเดินไปหาแมวตัวนั้น เพราะแถวนั้นมีโรงพยาบาลสัตว์ที่อยู่ใกล้ๆ




แต่อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงในชุดไปรเวท เดินลงไปบนถนนอย่างไม่กลัวถูกรถชน และทันทีที่เห็น ผมก็จำได้ทันทีว่าคนนั้นๆคือใคร




ติณณ...อุ้มแมวตัวนั้นขึ้นมา ก่อนจะรีบวิ่งไปที่โรงพยาบาลสัตว์ และแน่นอนว่าผมเองก็รีบตามติณณ์ไป




ผมยืนกางร่มมองเข้าไปในห้องกระจกที่ไม่ใหญ่มาก ผมเห็นติณณ์กำลังยืนอยู่และมองไปยังประตูที่ปิดสนิท ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองมั้ย ติณณ์เป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ใดๆ ซึ่งมันก็ไม่ต่างจากผม ติณณ์เหมือนเป็นคนไม่สนใจอะไร แต่ตอนนี้ผมกลับรู้สึกว่า...




...ติณณ์กำลังเศร้า




และมันก็ทำให้ผมเศร้าไปด้วย




ผมยืนมองติณณ์อยู่อย่างนั้น จนกระทั่งหมอออกมา ผมไม่รู้ว่าทั้งสองคนคุยอะไรกัน รู้เพียงแค่ว่า หมอส่ายหน้าเบาๆ แล้วเอามือตบบ่าติณณ์




หมายความว่าเจ้าแมวนั้นคงไม่รอดสินะ




ติณณ์พยักหน้าเบาก่อนล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบเงินออกมา คาดว่าคงจะเป็นค่ารักษา แต่หมอคนนั้นส่ายหน้าเบาๆ เหมือนไม่รับเงินนั้น แล้วก็พูดอะไรอีกสองสามประโยค ติณณ์ยกมือไหว้หมอก่อนจะเดินออกมาจากโรงพยาบาลสัตว์นั้น แล้วเริ่มออกเดิน ส่วนผมก็ได้แต่เดินตามด้วยความเป็นห่วง อยากจะเดินเข้าไปกางร่มให้ แต่ผมก็ไม่กล้า ได้แต่เดินตามไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงหอพักที่อยู่เยื่องๆกันกับหอพักที่ผมอยู่ และมันก็น่าจะเป็นหอพักที่ติณณ์พักอยู่




เห็นท่าทางเศร้าๆของติณณ์แล้วผมก็อยากจะเข้าไปกอด รู้สึกไม่อยากให้ผู้ชายคนนี้ต้องมีอาการแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก




แต่แล้วก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโชคชะตากำลังเข้าข้าง หรือตัวเองทำบุญมาเยอะรึเปล่า




ผมกดออดหน้าบ้านของพี่ชายของผม พี่ปาร์ตี้...เขาขอให้ผมมาอยู่ด้วย หลังจากที่สร้างบ้านของตัวเองเสร็จ พี่ปาร์อยู่บ้านหลังนี้กับพี่ตาล ภรรยาของพี่เขา แต่เขาก็อยากให้ผมเข้ามาอยู่ด้วย เพราะพ่อกับแม่พวกเราแยกทางกันไปนานแล้ว พี่ปาร์บอกกับผมว่า ไหนๆก็มีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ก็อยากจะให้ผมเข้ามาอยู่ด้วย เพราะผมกับพี่ปาร์เราก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันมานานมากแล้วเหมือนกัน นับตั้งแต่ที่พ่อกับแม่แยกทางกัน




ผมกดออดของบ้านหลังนี้ไปได้ไม่นาน ก็มีคนเดินออกมา ทายสิ...ว่าผมเจอใคร




ติณณ์ ...เดินออกมาเปิดประตูบ้านให้ผม และติณณ์ก็คงจะเป็นน้องชายของพี่ตาล อย่างที่พี่ปาร์ได้บอกไว้ ซึ่งผมก็พึ่งรู้ และก็ยังสงสัยว่าทำไมตอนงานแต่งพี่ปาร์ ผมถึงไม่ได้เจอกับติณณ์




‘นายคงเป็น...โปเต้?’ เสียงนุ่มน่าฟังติดแหบนิดๆ ของติณณ์เอ่ยถามผม แถมยังเรียกผมด้วยชื่อเล่นที่ผมไม่เคยให้คนอื่นนอกจากคนในครอบครัวเรียก ไม่อยากนั้นผมคงเข้าไปต่อยแล้ว ขนาดเพื่อนสนิทผมยังไม่ให้มันเรียกเลย แต่สำหรับติณณ์ ...มันเป็นข้อยกเว้น




‘…..’ ผมไม่ตอบ ทำแค่เพียงยืนมองติณณ์นิ่งๆ นี่เป็นครั้งแรก ที่ผมได้ยืนใกล้ติณณ์ขนาดนี้ ใจผมเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว แต่ผมก็อาศัยความนิ่งเป็นนิสัยของตัวเองเข้าช่วย ก่อนจะชี้ไปยังประตู เพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้เขาเปิด




ติณณ์มองตามมือผมก่อนจะเปิดประตูให้ ผมเดินเข้าไป ทำให้ใกล้ติณณ์มากขึ้น ติณณ์ผมตั้งแต่เท้าจรดหัว ไม่รู้ว่าเขาจะรู้ตัวมั้ย แต่คิ้วของเข้าขมวดเล็กน้อย ติณณ์เตี้ยกว่าผมเกือบสิบเซนต์เห็นจะได้ ไม่ก็มากกว่านั้น




‘นำไปสิ’ ผมเอ่ยบอกกับติณณ์ มันเป็นครั้งแรกที่ผมพูดกับเขา ทำให้เสียงผมแข็งเกินไปซะอย่างนั้น ติณณ์มองหน้าผมอย่างขัดใจราวกับไม่พอใจนิดๆ แต่ก็เดินนำผมเข้าไปในบ้าน ผมอยากจะตบปากตัวเองชะมัด ไปพูดด้วยน้ำเสียงแบบนั้นกับติณณ์ได้ยังไงกัน




‘รออยู่นี้ เดี๋ยวมา’ ติณณ์พาผมขึ้นมายังห้องนอน ก่อนที่จะเดินออกไป ทำให้ผมได้มีเวลาสำรวจ พบข้าวของเครื่องใช้ที่มันเป็นของติณณ์ และผมก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ ...อยากจะรู้ว่าผมไม่ได้ฝันไป ผมกำลังจะได้นอนห้องเดียวกันกับติณณ์ ได้นอนเตียงเดียวกัน




ติณณ์เดินกลับมาพร้อมกับไว้แขวนเสื้อที่เยอะพอสมควร เดินเอามาวางไว้ที่เตียง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วขยับเสื้อผ้าของตัวเองที่แขวนอยู่ ให้ไปชิดริมฝั่งนึง




‘เต้ารีด โต๊ะรีดผ้า’ ติณณ์บอกผมก่อนจะชี้ไปยังมุมห้อง ผมมองตาม ก่อนจะหันไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเอง หันมาอีกีติณณ์ก็หายไปแล้ว ผมจึงรีบจัดเสื้อผาของตัวเองเข้าตู้เสื้อผ้า




และเมื่อจัดของทุกอย่างเสร็จ ผมก็เดินลงมาข้างล่าง เห็นติณณ์นั่งที่พื้น เหมือนกำลังทำงานอยู่ ผมเลยเดินไปนั่งที่โซฟาก่อนจะเปิดทีวี




และดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรผมเลย ...ทำเอาเฟลไปนิด แต่แล้ว...ความกล้าบางอยู่ที่อยู่ในตัวผมก็ผุดขึ้นมาอย่างแรงกล้า แล้วหลุดปากพูดออกไป....




‘หิว’




พูดไปแล้ว....และเสียงแข็งอีกแล้ว




‘.....’ ติณณ์ชะงักมือที่กำลังร่างแบบ ก่อนจะหันหน้ามามองผม




‘...หิว’ ผมมองหน้าเขา ก่อนจะพูดคำนั้นอีกครั้ง เอาว่ะ...ไหนๆก็ไหนๆ กล้าๆหน่อยสิมึง




แล้วเราก็จ้องตากันอยู่อย่างนั้นสักพัก บอกตามตรงว่าใจสั่นโคตรๆ และสุดท้ายติณณ์ก็ทิ้งงานในมือแล้วเดินออกไป ซึ่งไปไหนก็ไม่รู้ อ่า...เขาโกรธอะไรผมรึเปล่าเนี่ย




แต่อยู่ก็มีแก้วน้ำมาวางลงตรงหน้าผม และเสียงเรียกเบาๆ




‘โปเต้’ ติณณ์เรียกผม พร้อมกับมือที่ยื่นขนมปังมาให้




นี่ติณณ์...ไปหาอะไรมาให้ผมกินเหรอเนี่ย




ปลื้มว่ะ...เขินด้วย




และแล้วก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องเขินมากกว่านั้น เมื่อหมาน้อยชิวาวาของพี่ชายผมวิ่งมานั่งบนตักผมตอนที่ติณณ์หยิบงานของเขาแล้วเดินออกไป




และดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เคยเห็นเจ้าอันปัน ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่ติณณ์กำลังตื่นเต้นกับเจ้าลูกหมาตัวน้อย ทำให้ผมสรุปไปเองเลยว่า ...ติณณ์ชอบสัตว์น่ารักๆ




ผมนั่งมองติณณ์ที่พยายามจะเข้าไปเล่นกับอันปัน ซึ่งอันปันตัวน้อยทำท่าจะไม่เล่นด้วย แถมยังจะกัดติณณ์อีก ผมจึงเป็นคนไปช่วยกระชับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่อันปันก็ยังทำท่าจะกัดติณณ์อีก ผมเลยเรียกอันปันเสียงดุ แต่ติณณ์กลับห้ามผมว่าอย่าดุหมา ติณณ์สนใจหมามากกว่าผมเสียอีก และความกล้าของผมมันก็มาอีกครั้ง เมื่อผมขอมือติณณ์ แน่นอนว่าตอนแรกเจ้าตัวก็ไม่ให้หรอก แต่ผมเอาอันปันไปอ้าง ทำให้ติณณ์ยอมวางมือนุ่มๆของเขาลงบนมือของผม มือติณณ์เล็กกว่าผมมาก ความนุ่มของผิวมือติณณ์ แม้จะไม่นุ่มเท่ามือของผม แต่ก็ทำให้ผมอยากจับไปนานๆ แต่ผมทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่อยากนั้นติณณ์จะต้องไม่ให้ผมเข้าใกล้เขาแน่ๆ แต่อยู่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เจอ ติณณ์โดนอันปันกัด เพราะตกใจเสียงพี่ตาลเลยทำให้มือไปโดนเจ้าอันปัน ส่วนเจ้าหมาน้อยก็งับที่นิ้วติณณ์เต็มๆ และเป็นผมที่เป็นคนพาติณณ์ไปหาหมอ




วันนั้นเป็นวันที่ผมนอนไม่หลับ คิดดูสิ...คนที่ชอบมานอนอยู่ข้างๆ ใครจะไปกล้าหลับกัน ผมใจเต้นจะตาย ทั้งเขินทั้งประหม่า




แต่แล้วมันก็มีเรื่องที่น่ายินดีสำหรับผมเกิดขึ้น ข่าวว่าผมกับติณณ์กำลังคบกันดังไปทั่วคณะ เพียงเพราะติณณ์มาเรียนพร้อมกับผม แค่นั้น ...ซึ่งนั้นมันก็ดี แล้วมันก็ทำให้ผมตัดสินใจกับตัวเองแล้วว่า...




...ผมจะจีบติณณ์ ...แบบเนียนๆ




เจอหน้ากันทุกวัน นอนด้วยกัน อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น แล้วความพยายามในการที่ผมจะดันตัวเองให้เข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตติณณ์อย่างเนียนๆ




จีบไม่ติดก็ให้มันรู้ไป




**********************************************

เห็นมีแต่คนอยากอ่านพาร์ทของโปเต้ เลยจัดให้สักหน่อย และแน่นอนว่ามันไม่ได้มีแค่ตอนเดียว

หวังว่าจะถูกใจกันนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-02-2015 22:08:54
 :katai2-1:  ถูกใจมากค่ะ ในที่สุดก็ได้อ่านความคิดโปเต้ นายจีบติดแน่ๆบอกเลย
แต่อย่าแกล้งติณน้อยมากล่ะ

ขอบคุณค่ะ. อยากอ่านอีกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 28-02-2015 22:15:36
 :-[ถูกใจมากๆๆ อยากอ่านความรู้สึกของโปเต้นานแล้วอ่า
ชอบบบบ จะรอตอนต่อไปน้า

+1 ค่ะโทษฐานเรื่องน่ารักโดนใจมชอบพี่นิ่ง+พี่นิ่ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-02-2015 22:29:29
ได้อ่านพาร์ทของโปเต้แล้วว

ที่แท้โปเต้ก็แอบชอบ(?) ติณน์มานานแล้วนี่เอง  :hao3:



 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-02-2015 22:39:26
 :katai1: :katai1: :katai1: โปเต้ชอบติณณ์มานานแล้ว คริคริ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 28-02-2015 22:39:38
ที่แท้ก็แอบชอมานานแล้วนี่เอง แหมๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 28-02-2015 22:56:16
โหวววว โปเจ้ก็เนียนได้อีกอะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 28-02-2015 23:11:33
โป้เต้ร้ายนะเรา555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 28-02-2015 23:18:06
ถูกใจที่สู๊ดดดดดดดดด

โป้โต้น่ารักมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 28-02-2015 23:19:40
ชอบมากเลยค่ะโปเต้พาร์ทเนี่ย โห เขาแอบหลงรักมานานมาก ถึงว่าดูมีท่าทีหลายอย่าง
ที่แน่ๆ คือติณเป็นพิเศษมากๆ รักมากก็หวงมากเนอะ คนอ่านเข้าใจและชอบมากกกก
อีกนิดก็จะได้ใจแล้ว สู้ๆ นะโปเต้ ฟินอ่ะะะะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-02-2015 23:20:37
ถูกใจมากค่ะสำหรับตอนนี้

ที่แท้โปเต้กลงรักตินมาตั้ง 2 ปีแล้วอ่ะ
มิน่ารีบรุกจีบแบบเนียนๆเลยนะ กิ้วกิ้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 28-02-2015 23:29:12
โปเต้แอบหลงรักติณณ์มาตั้ง2ปี
เนียนเชียวพ่อคนเงียบ ในที่สุดก็ได้ติณณ์แฟน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: crystal_on ที่ 28-02-2015 23:48:10
ติดเรื่องนี้เข้าแล้วสิ ฟินแบบเงียบๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 01-03-2015 00:25:58
ชื่อเรื่องหมายถึงโปเต้นี่เอง เราก็นึกว่านายอึนมาตั้งนาน โอ้ยน่าร๊ากกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pakbung Mazo ที่ 01-03-2015 00:28:57
กรี้ดดดดดดดด โปเต้!!! อ้ายยยยยยยยย แกรคืองานดีอะ สมหวังเลยสิ งือออออ #ทีมโปเต้ ฮ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 01-03-2015 00:51:26
หึยยย แอบชอบเค้ามานานนี่เอง
โธ่ว พ่อคุณ พ่อโปเต้ มีการจะแอบจีบเค้าเนียนๆด้วย
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 01-03-2015 01:11:45
บอกแล้วว่าโปเต้หน่ะร้ายยย หึหึ

จีบแบบเนียนๆสินะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 01-03-2015 01:19:48
โถๆ หน้านิ่งแต่มีประหม่าในใจ  น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 01-03-2015 01:53:42
เรื่องนี้น่ารัก ชอบจัง มาต่ออีกนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-03-2015 07:33:46
เนียนโน๊ะะะะ 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-03-2015 08:30:17
ว่าแล้วววววที่ชอบทำเนียนๆเนี่ย
มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 01-03-2015 09:29:25
จีบแบบเนียนๆ
ติณณ์เลยเสร็จแบบ งงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 01-03-2015 09:44:25
สั้นอะ สั้นมากๆๆๆๆด้วยยยย

แต่ไม่เป็นไรรรรรร เราจะรออออออ


โปเต้น่ารักกกกกกก

โปเต้เมะ ติณณ์เคะใช่มั้ยยยยย

โปเต้ดูเคะอะ  แต่ติณณ์นิสัยเคะกว่าาาา


สับสนๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 01-03-2015 10:44:15
เนียนมากกกจริงๆ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 01-03-2015 14:04:48
ถูกใจมากกกเลยค่าาาา ขอบคุณนักเขียนค่ะ รู้ใจจริงๆ555 โปเต้เอ๊ยย รักเขามานานแล้วก็ไม่บอก ซึนจริงจริ๊งงงงงงง อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 01-03-2015 15:29:18
#8 เป็นหว่งเขาแต่ไม่บอก ติณณ์จะรู้มั้ย :ruready
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 01-03-2015 15:32:21
#9 โปเต้ นายเป็นผู้ชายขี้อายเหรอเนี้ย :a5: :laugh:
หลอกล่อให้ติณณ์มาขอตัวเองเป็นแฟนทั้งที่ชอบเขาก่อน :ruready
นายน่ารักไปนะ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bluelatte ที่ 01-03-2015 18:13:56
น่ารักแบบนิ่งเนียน(?)มาก  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-03-2015 20:14:34
เรื่องนี้น่ารักกกกกกกก เชียร์โปเต้สุดชีวิต
ติณณ์เริ่มอ่อนลงละนะ
รอตอนต่อไปปปปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 01-03-2015 21:36:23
ถูกใจอย่างแรงค่ะ 
แหมๆ โปเต้นี่เก็กชิบหาย เจอกันครั้งแรก จำได้ว่าสายตาแกดุโคตรๆ จนติณณ์ยังขยาดอะ พอตัวเองเล่าทำไมมันดูเหมือนพวกเหนียมๆไม่เข้ากับหน้าตาตัวเองเลยล่ะ
 o13 o13 o13 o13 o13 :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 01-03-2015 22:39:52
โปเต้เนียนสุดๆไปเลยน่ะ

แอบชอบตินณ์มาตั้งสองปี

ตีหน้านิ่งเก่งจริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 01-03-2015 22:48:39
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 01-03-2015 22:53:43
อ่านแล้วไม่ฟิน แบบว่าไงอะ รู้สึกมาเฉื่อยๆ แบบคนไม่ได้หลงรักมากๆไงไม่รู้

แต่ก็ขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักๆมาให้อ่านนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 9 ครึ่งหลัง 28/2/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 02-03-2015 00:52:28
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากกกกกกกกกกก
ว่าแล้วว่าโปเต้ต้องชอบติณก่อน แล้วก็จริงๆด้วยชอบมาตั้งสองปี
โปเต้นายจีบเนียนสมดังที่นายอยากได้ดีมาก 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 02-03-2015 00:56:24
ตอนที่ 10 (ครึ่งแรก)











[Pota’s part]










บางทีผมก็เคยคิดนะ ว่าอยู่ด้วยกันขนาดนี้ ติณณ์จะคิดอะไรกับผมบ้างมั้ย ถ้าไม่...แล้วเขาจะรำคาญผมรึเปล่า




ผมไม่เคยจีบใคร ไม่เคยสนใจความรัก แต่พอเห็นติณณ์ครั้งแรกหัวใจผมก็เต้นผิดจังหวะ



...อยากอยู่ใกล้ๆ



...อยากกอด




...อยากคุย



...อยากจะทำอะไรที่มากกว่าที่เป็นอยู่ แต่ก็คิดว่าคงทำไมไม่ได้




จนกระทั่งผมคิดว่า การที่ผมได้ก้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในชีวิตของติณณ์ มันก็ไม่ได้เปล่าประโยชน์ไปเสียทีเดียว




ติณณ์ใส่แหวนที่ซื้อด้วยกันกับผม ติณณ์พยายามใจเย็นยามที่ผมมีอารมณ์ร้อนอยู่ในตัว ทั้งที่ติณณ์จะทำเป็นไม่สนใจก็ได้ ติณณ์ป้อนน้ำผม เมื่อเห็นผมไอเพราะคอแห้ง ติณณ์ไปหาอะไรมาให้ผมกินเพียงเพราะผมบอกว่าหิว ติณณ์บอกผมในสิ่งที่ควรทำทั้งที่ถ้าปล่อยผ่านไปก็คงไม่เป็นไร ติณณ์ใส่ใจผมอย่างเปิดเผย จนผมเองและคนรอบข้างยังรู้สึกได้ ติณณ์ไม่ชอบหากจะถูกเข้าใจผิด แต่ติณณ์ก็ไม่เคยปฏิเสธอย่างจริงจังในเรื่องของเรา ติณณ์เป็นคนที่เมินเฉยมาก แต่เขากลับใส่ใจผมมากขึ้น ติณณ์ไม่โกรธที่ผมแกล้งแหย่เขาเพื่อให้คนอื่นคิดว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อน




ระหว่างเรา แม้ว่าผมจะไม่พูดอะไร แต่ติณณ์กลับรู้ว่าผมต้องการอะไร




ติณณ์ห่วงผมแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย




มันไม่ผิดใช่มั้ย ที่ผมจะขอคิดเข้าข้างตัวเองไปว่า ติณณ์เองก็เริ่มมีใจให้ผมแล้วเหมือนกัน




เรื่องของติณณ์อยู่ในหัวผมตลอดเวลา เวลาติณณ์ทำหน้าไม่เข้าใจตอนอยู่ในคลาส ก็อยากจะถามเขาว่าไม่เข้าอะไรตรงไหน ตอนที่ต้องรีบวิ่งขึ้นคลาสเรียนเพราะมาสาย ก็อยากจะถามว่าเหนื่อยมั้ย อยากเข้าไปเช็ดเม็ดเหงื่อที่ซึมอยู่ที่ใบหน้า อยากจะหยิบสมุดสักเล่มขึ้นมาพัดให้ ผมแอบถ่ายรูปตอนที่เจ้าตัวไม่รู้ไว้เสียเต็มเครื่อง และไม่อยากให้เขารู้ กลัวเขาจะคิดว่าผมเป็นโรคจิต




อย่างที่เคยได้บอกไป ติณณ์เป็นผู้ชายที่หล่อ ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มันก็จะดูน่ามองไปซะหมด และนั่นมันก็ทำให้ผมเริ่มหนักใจ เมื่อมีคนเริ่มแสดงตัวว่าชอบติณณ์นอกจากผม คนพวกนั้นเริ่มแสดงท่าทีอย่างชัดเจน มันทำให้ผมอิจฉาอยู่นิดๆ ผมใจไม่กล้าพอที่จะจีบแบบตรงๆ ผมยังไม่มั่นใจเต็มร้อยว่าติณณ์ชอบผม แล้วถ้าหากผมทำแบบนั้นและติณณ์ไม่ได้ชอบผม ติณณ์อาจจะถอยห่างจากผม




คนแรกที่ผมอยากจะซัดให้กระเด็นก็คือไอ้เฟียส มันจีบติณณ์อย่างโจ่งแจ้ง และพยายามจะเข้าใกล้ แต่ยังดีที่ติณณ์ปฏิเสธอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนมันจะไม่ยอม




คนที่สองคือพี่เฟรม พี่รหัสของติณณ์ และดูเหมือนพี่เขาจะชอบติณณ์มานานแล้วเหมือนกัน แถมยังชอบเนียนเข้ามาใกล้ๆติณณ์ (เหมือนผม) คนนี้ผมหนักใจมาก เพราะเขาเป็นถึงพี่รหัสของติณณ์ ติณณ์คงไม่มีทางไล่พี่รหัสของตัวเองแน่ๆ




ผมอาจจะเหมือนคนเห็นแก่ตัว ที่ไม่อยากยกติณณ์ให้ใคร ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้มีสิทธิ์อะไร ผมเองก็ไม่ต่างจากคนพวกนั้น แต่เรื่องอะไรผมจะยอมแพ้ด้วยเรื่องแค่นี้




ผมพึ่งเข้าใจว่าการจะจีบคนๆนึง มันดูยากไปเสียหมด ผมไม่รู้วิธีการอะไรเลย เพราะไม่เคยคิดถึงเรื่องความรักมาก่อน ผมเลยใช้วิธีทำในสิ่งที่อยากทำ แต่ดูเหมือนว่า ติณณ์จะไม่เข้าใจ เขาคงจะเข้าใจแค่ว่า ...ผมทำไปเพราะอาจจะเห็นเขาเป็นเพื่อน




ตอนไปทัศนะศึกษา ผมแทบบ้าเมื่อเห็นติณณ์เดินหายไปกับพี่เฟรม และแน่นอนว่าผมแอบตามไป




‘เอ่อ...คือ...ติณณ์คบกับนภัทรจริงๆหรอ’




พี่เฟรมถามติณณ์ คำถามนั่นทำเอาผมลุ้นไปด้วย ติณณ์เงียบไปสักพักก่อนจะตอบ




‘ครับ’




ติณณ์ตอบพี่เฟรมไปอย่างนั้น ผมรู้สึกดีใจที่ติณณ์เลือกที่จะอ้างผม แต่อีกใจกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น ผมไม่อยากให้ติณณ์เป็นแฟนปลอมๆ ที่ติณณ์เอาไปแอบอ้าง ผมไม่โกรธติณณ์...แค่น้อยใจว่าผมเป็นได้แค่นั้นจริงๆน่ะเหรอ




‘ทำไมล่ะติณณ์ พี่คิดว่าติณณ์ก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะว่าพี่ชอบติณณ์มานานแล้ว’




นั่นคือเสียงพี่เฟรม ที่พูดกับติณณ์ราวกับตัดพ้อ ผมเลือกที่จะแอบอยู่แถวนั้นเพื่อดูท่าที ถ้าเกิดพี่เฟรมทำอะไรติณณ์ขึ้นมา ผมจะได้ไปช่วยทัน เพราะดูจากปัจจัยหลายๆอย่าง ติณณ์สู้แรงพี่เฟรมไม่ได้แน่ๆ




‘พี่เฟรมครับ ผมต้องขอบคุณความรู้สึกที่พี่มีให้นะครับ แต่ผมคงรับเอาไว้ไม่ได้ ที่ผมมีให้พี่คือ...นับถือพี่เหมือนพี่ชายก็เท่านั้น ขอโทษนะครับ ผมขอตัวก่อน’




ว่าจบ ติณณ์ก็เดินหนีพี่เฟรมออกมา ผมเห็นพี่เฟรมมองตามติณณ์อย่างขัดใจ ก่อนที่พี่เฟรมจะหมุนตัวเดินหนีไปอีกทาง




ตอนนั้น...อยู่ๆก็มีความคิดบางอย่างผุดเข้ามาในหัวผม คิดแค่ว่าจีบไปขนาดนั้นติณณ์ยังไม่รู้ ก็คงต้องลองใช้วิธีนี้




‘นี่...’




ผมส่งเสียงออกไป ติณณ์สะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบหันมาทางผม ติณณ์มีสีหน้าที่ตกใจอย่างเห็นได้ชัดที่เห็นผม และสุดท้ายติณณ์ก็เป็นคนเอ่ยปากพูดขึ้นก่อนหลังจากที่เรายืนจ้องตากัน ผมอยากจะรู้จังว่าในสายตาติณณ์ เห็นผมเป็นคนแบบไหน ทำไมเขาถึงมีท่าทีแบบนั้น




‘หึ...งั้นผมจะไปบอกพี่คนนั้น ว่าผมกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน’




ตอนที่พูดออกไป ผมโคตรจะไม่มั่นใจเลย กลัวติณณ์จะไม่แคร์แล้วให้ผมไปบอกพี่เฟรมจริงๆ แต่แล้วผมก็ต้องหยุดความคิดนั่น เมื่อติณณ์คว้าแขนของผมเอาไว้ ติณณ์ถามก่อนจะขอโทษผมเรื่องที่เอาชื่อผมไปแอบอ้าง อยากจะบอกว่าไม่ได้โกรธ เพียงแต่ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องหลอกๆ




มันเป็นนิสัยของคนเราอยู่แล้ว ที่จะหวัง...หวังว่าคนที่เรารักจะสนใจ หวังว่าเขาจะรับรักเรา หวังว่าเขาจะไม่อายหากต้องบอกคนทั้งโลกว่ารักเรา




และตอนนี้ผมก็หวัง หวังว่าคนตรงหน้าผมจะยอมคบกับผม แบบจริงๆ ...ไม่ใช่เพื่อหลอกคนอื่น ผมไม่อยากเป็นแฟนกำมะลอ กลัวว่าถ้าหากเมื่อถึงจุดๆนึง แล้วสรุปว่าติณณ์ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นแฟนกำมะลอเพื่อหลอกคนอื่น ผมทำใจไม่ได้




เพราะงั้นผมจึงไม่ตกลงที่จะเป็นแฟนแบบหลอกๆของติณณ์อย่างแน่นอน




‘แล้วนายจะเอายังไง จะเป็นแฟนจริงๆกับผมรึไง’




ดูไม่น่าเชื่อว่าประโยคนี้จะหลุดออกมาจากปากของติณณ์ มันทำให้ผมอยากบอกกับติณณ์จริงๆว่า ใช่...ผมอยากเป็นแฟน แฟนจริงๆ...ที่ไม่ต้องหลอกคนอื่น




แต่แล้วท่าทางลังเลของติณณ์ก็ทำเอาผมใจแป้ว บางทีสิ่งที่ผมคิดเข้าข้างตัวเองมาตลอดมันคงจะไม่ใช่ ติณณ์คงไม่ได้รู้สึกอะไรกับผม




ผมรู้สึกอยากร้องไห้มากๆ ณ จุดนั้น รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อคิดว่าจริงๆแล้วติณณ์ไม่ได้ชอบผมแบบนั้นเลย แต่...




ติณณ์ก็พูดคำๆนึงออกมา ที่ทำให้หัวใจของผมเต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง ติณณ์ตอบตกลง ตกลงที่จะเป็นแฟนกับผม แฟน...ที่ไม่ใช่แฟนหลอกๆ




ผมอยากจะยิ้มกว้างๆ แต่ต้องวางฟอร์มยิ้มเพียงมุมปาก




ในที่สุด...ผมก็ได้เป็นแฟนกับติณณ์ มันทำให้ผมอารมณ์ดี และดีใจยิ่งกว่าถูกรางวัลแจ็กพลอต ทำเอาผมนอนไม่หลับเลยล่ะ อยากจะประกาศให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าผู้ชายที่ชื่อติวาลิน...เป็นแฟนกับนภัทร แต่คนอย่างติณณ์ ไม่มีทางที่จะมาประกาศบอกคนอื่นหรอก




ผมจึงต้องคิดแผน ที่จะให้คนอื่นรู้ ...ใช่ เรื่องแหวน




ผมไม่ได้ลืมแหวนไว้ในห้องน้ำหรอก แต่ผมจงใจถอดแล้ววางไว้ ประจวบเหมาะที่แลนด์มาเรียกผมหน้าประตูห้องน้ำพอดี




และก็คิดไม่ผิด แลนด์รู้โลกรู้




วันต่อมามีกิจกรรมที่ต้องไปเดินป่า แต่ติณณ์กลับใส่ขาสั้น แม้จะไม่มาก แต่มันก็โชว์ขาเรียวขาวๆของติณณ์ ไม่ได้ๆ..ผมจะให้คนอื่นเห็นได้ยังไง




ผมจึงบอกให้ติณณ์ไปเปลี่ยนกางเกง แต่เจ้าตัวไม่ยอม กลับถามผมว่าทำไม จะให้ผมตอบเหรอว่าไม่อยากให้ใครเห็นขาขาวๆของติณณ์ ตอบแบบนั้นติณณ์ก็รู้หมดสิว่าผมก็มองขาของติณณ์ด้วย อีกอย่างเดินป่านะ พวกทากพวกกิ่งไม้มันก็ควรระวัง




แต่ดูเหมือนติณณ์จะไม่เข้าใจจุดประสงค์ของผม ผมจึงได้แต่ปล่อยติณณ์ อย่าลืมว่าติณณ์เองก็เป็นผู้ชาย บางทีก็ต้องให้เจอกับตัว ถึงจะรู้




และแล้วมันก็เกิดเหตุการณ์ที่ผมคิด ติณณ์โดนกิ่งไม้บาดขา แผลไม่ลึก...แต่เลือดก็ไหลอยู่ ผมเลยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ติณณ์ไปก่อน พี่เฟรมทำท่าจะเข้ามายุ่งกับติณณ์ และนั้นมันทำให้ผมเผลอออกตัวแรง ประกาศว่าตัวเองเป็นแฟนติณณ์ และเมื่อพูดเสร็จผมก็พึ่งคิดได้ ผมกลัวติณณ์จะไม่ชอบให้ผมทำแบบนี้ แต่ผมก็โล่งใจเมื่อติณณ์ไม่ได้ว่าอะไร และเหตุการณ์นั้นก็อาจจะเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับผม ติณณ์หน้าแดงและแสดงออกอย่างเห็นได้ชัดว่าเขิน กับการที่ผมบอกว่าผมเป็นแฟนติณณ์ เห็นท่าทีติณณ์แบบนั้น ทำเอาผมประหม่าและเห่อร้อนที่หน้าเหมือนกัน




ทำไมติณณ์ถึงได้ทำตัวน่ารักแบบนี้เนี่ย ผมยังอยากดูดีในสายตาเขาอยู่นะ ไม่อยากจะแสดงออก...




...ว่าตัวเองก็แอบคิดเรื่องหื่นๆกับติณณ์อยู่เหมือนกัน

















****************************************************

น้อมรับทุกคำติชมครับ ยอมรับเลยว่าการแต่งในมุมมองของนภัทร มันช่างยากเสียเหลือเกิน

ต้องแต่งให้รับรู้ว่านภัทรของเราชอบติณณ์ แต่ต้องไม่ทิ้งความเป็นนภัทรไป

เพราะนภัทรก็คือนภัทร คนที่ไม่เคยมีความรัก

แต่ติณณ์ คือผมแต่งในมุมมองของเขามาตั้งแต่ต้น มันเลยซึมซับและเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของติณณ์มากกว่า


ขอบคุณที่ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: สายลมที่หวังดี ที่ 02-03-2015 01:36:31
รู้สึกรักโปเต้มากขึ้น อิจฉาติน :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 02-03-2015 01:37:14
มาต่อรวดเร็วมาก o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ShiRaZ_Prime ที่ 02-03-2015 01:38:45
เพิ่งอ่านตอนที่9ไป ตอนที่สิบมาแล้ว ผิดไหมที่จะเขินโปเต้ ทำเป็นซึน :hao3:

คนแต่งเวลาอัพรบกวนใส่เลขหน้าให้ด้วยสิ ขอบคุณน้า

อัพบ่อยๆดีแล้ว เค้าชอบ o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 02-03-2015 01:45:30
นั่นไง โปเต้ตั้งใจแรื่องแหวนจริงๆด้วย
โปเต้น่ารักอ่ะ ชอบติณมากขนาดนั้น แต่ก็ยังอายยังเขิน น่ารักอ่ะ! 55555
เห็นโปเต้นิ่งๆแบบนั้น แต่ก็แอบคิดหื่นเหมือนกันเนาะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 02-03-2015 01:47:47
ขำอีตรงยิ่มมุมปากตอนเขาตกลงเป็นแฟนนี่แหละ
ใจจริงคงอยากลุกขึ้นมารำแก้บน โถ พ่อเอ๊ย จะยิ้มก็ยิ้มเถอะพ่อ
จะทำอะไรก็ทำ แต่เขาแผนการเยอะนะ น่าเอ็นดู

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 02-03-2015 03:05:47
โปเต้น่าฮักขนาดดดด อารมณ์สาวน้อยมาก5555

ติดตามต่อไปค่ะ ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 02-03-2015 04:37:56
โปเต้เนี่ยวางแผนได้เนียนมากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-03-2015 05:11:29
ณภัทรเขาไม่ถนัดแสดงความรู้สึกตรงๆล่ะซิ
ก็พ่อเล่นมาดขรึมจนใครๆที่อยากเข้าไกล้
กลัว ไม่กล้าเข้าไกล้เลยนั่นแหล่ะ
แล้วมาเจอติณ ที่ไม่ค่อยจะคิดอะไรมากด้วยแล้ว
ก็เลยเข้าทางพ่อณภัทร้ขาเลยแหล่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 02-03-2015 06:11:48
 :hao3:เรื่อวแหวนนะกะแล้วว่าโปเต้เจตนา คึคึ พัฒนาความสัมพันธ์เร็วก็ดีนะ อยากอ่ามุมหวานๆบ้าง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 02-03-2015 06:29:46
 o13. ยกนิ้วให้คนเขียน

แหม เป็นโปเต้นี่มันเหนื่อยจังเนอะ คนเขียนยังออกตัวบอกว่าเขียนยาก

ซึนนานๆไม่ดีนะคะโปเต้ มัวเขินหลบในมากๆอกจะแตกตายเอา  :katai3:   
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 02-03-2015 08:05:37
ตลกโปเต้อ่ะ ดูเป็นพวกคิดมากขัดกับท่าทางเลยน่ะ

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 02-03-2015 08:25:45
ได้เป็นแฟนตามที่วางแผนไว้แล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 02-03-2015 09:50:29
นภัทรผู้ไม่ประสีประสาาาา :mew4: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 02-03-2015 11:47:06
แอบชอบเค้านี่เอง กิ๊วๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-03-2015 13:36:24
เห็นหน้านิ่งๆที่จริงดีใจมากๆสินะ

น่าร๊ากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 02-03-2015 13:41:30
เชียร์นภัทรสุดใจเลยค่ะ ให้ติณณ์เขินนนนนเข้าไปเหอะ
เดี๋ยวก็รู้ใจตัวเอง รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 02-03-2015 13:54:03
โปเต้จ๋า ดูเหมือนจะรักจะหลงติณ(โคตรรรรร)พอสมควรเลยละสิ น่าร้ากกกกกกกกกสู๊ดดดดดด โปเต้ดูจะจริงใจและรักเดียวใจเดัยวมากๆ โอ้ยชอบบบ เอาใจไปเลยจ้าล้านดวง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 02-03-2015 15:55:53
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: ฟินได้อีก :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 02-03-2015 19:14:02
555+ สงสารโปเต้ อยากแสดงออกมากแต่ต้องแอ๊บไว้
น่าร๊ากกด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: panpraserd ที่ 02-03-2015 19:37:35
โปเต้ดูเด็กน้อย ต่างกับที่แสดงออกมากเลย
เอารางวัลเก๊กนิ่งดีเด่นไปเลยลูก ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: KimGeeHu ที่ 02-03-2015 20:45:08
อ๊ากกกก...โปเต้ ขอฟินนน...แป๊ป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 02-03-2015 22:10:44
โปเต้นางก็รักของนางแบบซึนๆนะ
น้องติณจะรู้เรื่องบ้างไหมน้า
ว่ามีคนแอบถ่ายรูปเต็มมือถือ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rk ที่ 02-03-2015 23:13:36
นั้นไง ว่าแล้วโปเต้ ต้องแอบคิดไม่ซื่อ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 03-03-2015 00:43:52
โอ้ยยยยย ณภัทร จะน่ารักไปไหนเนี่ยยย

นายมันร้ายๆๆ หุหุ

ติวาลินนายติดกับแล้วละ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 03-03-2015 01:19:13
พึ่งได้เข้ามาอ่าน พอได้อ่านแล้วก็นึกเสียดายปล่อยผ่านมาตั้ง 10 ตอนได้ไงเรา สนุกมากน่ะเราชอบเป็นพระนายที่แปลกแต่ในความแปลกพอมาเข้าคู่กันนี่มันน่ารักอ่ะ ทั้งที่พูดน้อยและเงียบทั้งคู่ แต่มันก็ดูแบบมีอะไรๆดี ชอบสุดๆ   :-[
สมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้เลย :mc4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 03-03-2015 01:20:03
คือแบบ ......

โปเต้หลงติณมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอ่ะ

อ่านแล้วโคตรที่จะเขินแทนติณเลย 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: £.Ma|e¥ ที่ 03-03-2015 01:26:14
โอ้ยยยยย โปเต้ขาาา จะน่ารักไปถึงไหนคะเนี่ยย :impress2: น่ารักน่าขบซะจิงจริ๊งงง :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 03-03-2015 04:39:37
โปเต้ ทำไมนายโคตรน่ารักขนาดนี้อ่ะเนี่ย
นายเก็บความรู้สึกเก่งไปไหม นี่ถ้าไม่ได้อ่านมุมของนายก็คงไม่รู้ว่าจริงๆนายคิดอะไรมั้งนะเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 03-03-2015 15:24:46
เป็นกำลังใจให้โปเต้น้าาาาา สู้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 04-03-2015 00:06:36
โปเต้น่ารักมากกกก
ขอแบบนี้คนนึงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 04-03-2015 16:54:49
แหมโปเต้~นายนี้แหววจริง ฮ่าๆๆๆๆ :hao7:

สวดยอดดดเเล้วครับคนแต่ง

 แต่ละตอนของคุณนี้ทำผมเหมือนคนบ้าไปเลยอ่ะ แบบเพื่อนเดินผ่านก็'เมิงเป็นบ้าเหรอ ยิ้มอยู่คนเดียวนะ!'ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 04-03-2015 20:28:39
โอ้ยๆ โปเต้ฮามาก ผิดคอนเซปต์ภายนอก 90%

แถมแผนสูงอีกต่างหาก

(เอาใจช่วยหนูโปเต้นะจ๊ะ)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 04-03-2015 20:47:29
คิดถึงนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งแรก 2/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: นิรนาม ที่ 06-03-2015 10:10:33
ชอบๆ มาต่อเร็วๆน้าาาา   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 07-03-2015 00:39:34
ตอนที่ 10 (ครึ่งหลัง)












[Pota’s part]







วันนี้ผมและติณณ์มาที่มหาลัยกันแต่เช้า และผมก็เลือกที่จะขับรถยนต์อีกคันของตัวเองมา ช่วงนี้ฝนมันตก ผมว่าเอารถยนต์มานั่นแหละดีที่สุด




และหลังจากที่เราเอารถยนต์มามหาลัย แค่สามวัน สามวันเท่านั้น...ทั้งงานทั้งหนังสือเรียนก็กองเต็มหลังรถทั้งของผมและของติณณ์ ท้ายรถก็มีพวกเสื้อผ้า รองเท้า และผ้าเช็ด ที่ต้องเอามาเผื่อเกิดต้องตากฝนตัวเปียกอะไรประมาณนั้น




“แค่กๆ” เสียงคนข้างๆผมไอครับ เมื่อวานพี่ตาลบอกผม ว่าอย่าให้ติณณ์โดนฝน ติณณ์เป็นคนไม่สบายง่ายมากๆ แพ้ฝนแพ้ละอองฝน (ตอนไปเขาใหญ่ก็ต้องกินยาดักไว้) เพราะเมื่อวานตอนที่ยืนรอให้ฝนซา เหมือนว่าละอองฝนมันจะกระเด็นเข้ามาโดนติณณ์เยอะเหมือนกัน พอกลับไปบ้านติณณ์ก็มีอาการเหมือนจะไม่สบาย




“.....” ผมเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของติณณ์เบาๆ พบว่าตัวรุมๆ ยังไม่ร้อนมาก แต่มันยังไม่น่าไว้วางใจ




“.....” ติณณ์ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่มองผมด้วยสายตานิ่งๆ




“หนาวมั้ย” ผมถามอย่างเป็นห่วง




“ไม่อ่ะ”




“หิวน้ำมั้ย เดี๋ยวไปซื้อให้” ตั้งแต่อยู่ในสถานะที่เรียกว่าแฟนของติณณ์ ผมเองก็กล้าที่จะทำหน้าที่ดูแลติณณ์มากขึ้น




“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมไปซื้อเอง” ติณณ์ปฏิเสธ และทำท่าจะลุกขึ้น




“ไม่ต้อง นั่งเถอะ”




“แต่..”




“ผมเป็นแฟนคุณนะ ผมก็ต้องดูแลคุณสิ” ผมบอกเสียงเรียบ แม้จะแอบเขิน แต่ผมเป็นห่วงคนตรงหน้ามากกว่า เขาดูแลผมมาก็เยอะ ผมอยากจะดูแลเขาบ้าง อยากให้เขาพึ่งผมให้มากกว่านี้




“ผมดูแลตัวเองได้” ติณณ์พูดเหมือนจะไม่ยอม ความจริงติณณ์ก็แอบดื้อเงียบหน่อยๆนั่นแหละ เพราะเขาเป็นพวกไม่ค่อยชอบพึ่งพาใคร




“.....” ผมไม่อยากจะเถียงต่อ เดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงลุกขึ้นไปซื้อน้ำให้เขาเลย




แต่แถวมันยาวหน่อย ก็เลยอาจจะนานไปนิด กลับมาก็เห็นว่าเพื่อนของติณณ์คนอื่นๆก็มากันแล้ว




“นภัทร โกรธอะไรไอ้ติณณ์มันเหรอว่ะ” แลนด์ถามผม




โกรธ? โกรธอะไร?? ทำไมคนพวกนี้ถึงเข้าใจไปแบบนั้นล่ะ




“ไม่หนิ” ผมตอบก่อนจะมองหน้าติณณ์ ที่มองมาที่ผมเหมือนกัน




“ไปไหนมา” ติณณ์ถามผมเสียงเรียบ แต่คิ้วขมวดเล็กน้อย ...ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย เสียงติณณ์เริ่มแหบแล้ว




“ซื้อน้ำให้คุณไง” ผมบอกติณณ์ ผมว่าหน้าติณณ์เริ่มแดงๆแล้วนะ ไข้ขึ้นรึเปล่าว่ะ




“...เหรอ” ทำไมติณณ์ดูเหวอๆอ่ะ นี่อย่าบอกนะ ว่าติณณ์นึกว่าผมโกรธเลยลุกเดินออกไปอ่ะ




..ทำไม




ถึงได้น่ารักแบบนี้ว่ะ!!!!!!!!!!!




“...คิดว่าผมโกรธ?” ผมลองเชิงถาม ทั้งที่ในใจยิ้มร่า




“ปะ..เปล่า” ติณณ์ตอบก่อนจะเสมองไปทางอื่น




ชัวร์ ...ติณณ์คิดว่าผมโกรธชัวร์ ถึงว่าทำไมก่อนที่ผมจะเดินมาถึงโต๊ะ คนอื่นๆถึงได้มีสีหน้าเคร่งเครียด




“จริงเหรอครับ” ผมก้มหน้าลงไปให้อยู่ในระดับเดียวกันกับหน้าของติณณ์ ก่อนจะถาม




“...อืม”




“.....”




ผม ...อยากหอมแก้มขาวๆติดอมชมพูตรงหน้านี้จัง




“ไหน...น้ำ” ติณณ์หันมาแล้วพูดกับผม ...เสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย




“.....” ผมยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะยื่นขวดน้ำไปให้ติณณ์ ก่อนที่พวกเราจะขึ้นไปเรียนกัน















“น้องติณณ์ ไข้ขึ้นใช่มั้ยเนี่ย” เสียงพี่ตาณเอ่ยถามติณณ์ เมื่อทั้งผมและติณณ์กลับมาถึงบ้าน อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเรียบร้อย




“เหมือนจะเป็นอย่างนั้น” ติณณ์บอกพี่ตาลด้วยน้ำเสียงแหบๆ




“เดี๋ยวกินข้าวกินยาแล้วนอนเลยนะ” พี่ตาลบอกก่อนจะจูงมือติณณ์ไปนั่งที่โต๊ะ




“ครับ”




ระหว่างที่กินข้าว ผมก็คอยนั่งสังเกตติณณ์ไปด้วย ติณณ์กินช้ากว่าเดิมและน้อยมาก แล้วมันก็ทำให้ผมเป็นห่วงเขามากเหมือนกัน จนกรัทั่งติณณ์บอกว่าขอตัวขึ้นไปนอนก่อน ผมได้แต่คิดอย่างลังเลว่าควรจะตามติณณ์ขึ้นไปเลยดีมั้ย พี่ปาร์กับพี่ตาลก็ยังอยู่ตรงนี้ ผมไม่รู้ว่าพวกเขาจะคิดยังไงกับเรื่องระหว่างผมกับติณณ์




“โปเต้ อิ่มแล้วเหรอ” พี่ตาลทักเมื่อเห็นว่าผมหยุดกิน




“...ครับ”




“ทำไมวันนี้กินน้อยจัง กับข้าววันนี้ไม่อร่อยเหรอ”




“...อร่อยครับ แต่...ผมขอตัวก่อนนะ” เรื่องพี่ตาลกับพี่ปาร์ก็เอาไว้ก่อน เรื่องติณณ์ตอนนี้มันสำคัญกว่า




ผมรีบเดินขึ้นห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบว่าติณณ์กำลังจะนอน




“...นายกินข้าวเสร็จแล้วเหรอ” ติณณ์ถามผมทั้งๆที่ตาของเขามันจะปิดอยู่แล้ว




“อืม” ผมตอบเพียงแค่นั้น ก่อนจะเดินไปขึ้นเตียงอีกฝั่งนึง




“.....”




“กินยายัง” ผมอ่ยถาม เพราะเมื่อกี้ติณณ์เดินขึ้นมาข้างบนเลย




“กินแล้ว”




“ตอนไหน”




“เมื่อกี้” ติณณ์ตอบก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วห่มผ้าห่มจนเห็นแค่ดวงตา




“งั้นก็นอนซะ” ผมบอกติณณ์ ก่อนที่จะเดินไปปิดไฟในห้องให้ ก่อนที่จะเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ในห้องแทน เพื่อที่จะเขียนรายงานต่อ




แทบจะทุกสิบนาทีเลยก็ว่าได้ ที่ผมเดินไปแตะตัวติณณ์เพื่อวัดไข้ และแน่นอนว่าติณณ์หลับสนิทมาก ไม่รู้สึกตัวเลย นี่ถ้าผมลักหลับเขาจะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย




อย่ามองผมแบบนั้น ...เรื่อลักหลับแบบนั้นผมไม่ทำหรอก ....ตอนนี้ผมยังห้ามใจตัวเองได้อยู่














เมื่อคืนผมแทบจะไม่ได้นอน เอาแต่พะวงและเป็นห่วงคนข้างๆ แต่พอเช้ามาติณณ์ตัวไม่ร้อนเหมือนเมื่อวานผมก็ค่อยยังชั่ว คงเป็นเพราะกินยาดักไว้ด้วยล่ะมั้ง แต่ก็ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ ติณณ์ยังมีอาการคัดจมูก เจ็บคอ และไอเป็นระยะๆ




“ไหวมั้ยน้องติณณ์ ถ้ายังไงพรุ่งก็หยุดเรียนเถอะ” พี่ตาลเอ่ยถามติณณ์อย่างเป็นห่วง เมื่อผมสองคนเดินลงมาเพื่อกินข้าวเที่ยง




“น้องติณณ์ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ไม่ต้องถึงกับหยุดเรียนก็ได้” ติณณ์ว่าก่อนจะยิ้มนิดๆให้พี่ตาล




ถ้าผมจะบอกว่าผมอิจฉาพี่ตาล ผมจะผิดมั้ย ...ก็ในเมื่อผม ...อยากให้ติณณ์ยิ้มให้ผมบ้าง




“เป็นไรทำหน้ามุ่ย” พี่ปาร์เอ่ยทักผม




“เปล่าครับ” ผมตอบเบาๆ ก่อนจะนั่งลงข้างๆติณณ์ แล้วเราทั้งสี่คนก็ลงมือกินข้าว




วันนี้ผมกับติณณ์แทบจะไม่ได้คุยกันเลย รีบเร่งทำรายงานกันทั้งคู่ แต่ผมก็ไล่ให้ติณณ์ไปนอนตอนสามทุ่ม กลัวว่าโหมใช้ร่างกายมากๆ เดี๋ยวไข้จะกลับ ตอนแรกติณณ์ก็ไม่ยอม พอผมเริ่มนิ่งแล้วไม่พูดอะไรนั่นแหละ เจ้าตัวถึงยอมทำตาม ไปนอนแต่โดยดี แต่กลับยื่นคำขาดว่า ถ้าจะให้เขานอน ผมก็ต้องมานอนด้วยกัน




ผมแกล้งทำเป็นเหมือนโดนขัดใจ ทั้งที่ในใจนี่ลิงโลดเลยเชียว ขอคิดเข้าข้างตัวเองนะว่าติณณ์เป็นห่วงผม ไม่อยากให้ผมนอนดึก




“ทำไมไม่นอน” ติณณ์เอ่ยถาม เมื่อเขาพลิกตัวมาทางผมแล้วเห็นว่าผมยังไม่หลับ คงเป็นเพราะแสงไฟสลัวๆจากหัวเตียง เลยทำให้ติณณ์มองเห็นหน้าผม และผมเองก็มองเห็นหน้าติณณ์




“แล้วทำไมติณณ์ไม่นอน” ผมไม่ตอบ แต่ถามกลับ




“ผมถามนายก่อนนะ”




“ขี้เกียจหลับ” ผมตอบเสียงเรียบ จะให้ตอบว่าอยากมองหน้าติณณ์นานก็ใจไม่ด้านพอ




“กวนตีน” ติณณ์บอกก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาหยิกแก้มผม ...แรงอยู่นะ




“เจ็บ” ผมบอกเสียงเบา ...ถือว่าเป็นการอ้อนแบบเนียนๆ




“อย่าสำออย” ติณณ์ว่า ก่อนจะเอามือออก แต่ผมกลับมือเร็วคว้ามือของติณณ์เอาไว้ ทำให้มือติณณ์ยังแตะอยู่ที่แก้มของผม




“.....” ติณณ์ตาโตขึ้นเล็กน้อยจากการกระทำของผม




“.....” ใช่ว่าผมจะไม่เขิน แต่ถ้าผมไม่รีบรุกทำคะแนน มันก็แย่น่ะสิ




“จับทำไม” ติณณ์ถามเสียงเบา แต่ก็ไม่ยักกะดึงมือออก




“จับไม่ได้เหรอ”




“ก็แล้วจะจับทำไมล่ะ”




“อยากจับมือแฟน” ผมตอบก่อนจะยิ้มนิดๆ มีแต่คนบอกว่าผมเป็นผู้ชายหน้าหวาน ที่มองบางมุมก็หล่อบางมุมก็ดูสวย ติดที่ว่าไม่ค่อยยิ้ม แต่คนพวกนั้นก็บอกว่า ถ้าผมยิ้ม แม้จะแค่นิดเดียว ก็ทำเอาหัวใจคนอื่นละลายได้




“.....” ติณณ์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่เม้มปากเข้าหากันเล็กน้อย แล้วเสตามองไปทางอื่น




“เขินเหรอ” ถามเองแต่ก็เขินเองเหมือนกันนะ




“...ใครจะไปเขิน ...นอนได้แล้ว”




“คุณก็นอนไปสิ” ผมบอกเขา




“งั้นก็ปล่อยมือสิ”




“ไม่”




“โปเต้ อย่ากวนๆ”




“กวนที่ไหน พูดจริง”




“เหอะ ...อยากทำอะไรก็ทำ” ติณณ์ว่าก่อนจะเปลี่ยนท่าเป็นนอนหงาย แต่ก็ยังถูกผมจับมือค้างเอาไว้อยู่




ด้วยอารมณ์ไหนก็ไม่รู้ ผมเกิดรู้สึกหมั่นไส้ แก้มเนียนตรงหน้าขึ้นมาเสียได้ และผมก็ได้รู้ตัวว่าผมทำอะไรลงไป ก็ตอนที่ปากผมจรดไปที่แก้มนิ่มๆของติณณ์




“.....” ติณณ์มองผมด้วยความอึ้ง อยากจะบอกว่าผมเองก็อึ้งกับการกระทำของตัวเองเหมือนกัน




เอาว่ะ ...ไหนๆมันก็มาถึงขนาดนี้ล่ะ ด้านได้อายก็อด เขินก็อด ต้องเอาความด้านเข้าว่า




“หอมแก้มก่อนนอนน่ะ ...ฝันดีนะ”




*********************************************

FANPAGE

https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046
 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 07-03-2015 00:47:12
โปเต้รุกแล้ว!! ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ติณณ์จะใจอ่อน สู้ๆนะน้องเอ้ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-03-2015 00:50:54
คืนนี้จะฝันดีเหมือนโปเต้ มั๊ยน้อ... :-[ อิจฉาว่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-03-2015 00:57:17
กิ้ดดดดโปเต้เริ่มด้านแย้ว555555 แอบเขินแทนติณณ์ตอนที่ทั้งคู่จีบกันงุ้งงิงน่าร๊ากกกก อยากมีส่วนร่วมกัลทั้งคู่จังเลยยยอิอิ (แกเปนชะนีนะยะ  จะไปเป็น3พีกับเค้าอี๊กกกก #ผลั้วะ)

รอตอนต่อไปเจ้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 07-03-2015 01:05:36
อ๊ายย เขาจีบกันมุ้งมิ้งน่ารักเป็นบ้าาาาาาา

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ รอหน้าเล้าทุกวันเลย

รอตอนต่อไปนะคะ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 07-03-2015 01:49:35
น่ารักอ่ะ
โปเต้ รุกอีกๆ เค้าชอบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 07-03-2015 01:52:05
 :hao6:แฮ่ๆๆๆเริ่มแล้วสินะ
หนุ่มซึนอั๊ยยะ! :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-03-2015 03:01:11
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 07-03-2015 03:17:52
โปเต้น่ารักมากกกกกกกกกกกก เขินแทนติณณ์เลย โอ้ยยยย ชอบอ่ะชอบ 5555555 เค้าจีบกันเงียบๆแบบนี้ น่ารักดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 07-03-2015 05:42:34
โปเต้รุกแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 07-03-2015 05:58:36
 :-[ เขาหอมกันแน่แล้ว เขาหอมกัน อร้ายตอนหน้าจูบเลยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-03-2015 06:49:09
 :katai2-1:  โปเต้ รุกอีกๆ
อันนี้คือเริ่มทนไม่ไหวแล้วล่ะสิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-03-2015 07:12:20
น้องติณณ์กับโปเต้น่ารักสุดยอดไปเลย :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-03-2015 07:21:45
เนียนดีมากพ่อคุณ :D
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-03-2015 07:34:49
เขินตัวระเบิด!!! รุกเข้าไปนภัทร!!!
น้องติณณ์มีใจให้แน่ๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 07-03-2015 08:07:44
โปเต้`~~~~~~~~~~~!!  แหม่~~~~~ เนียนได้อีก แอ็บขรึมตลอดดดดดอะ :hao6: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 07-03-2015 08:36:11
โปเต้น่ารัก ทำเนียนไปเรื่อยเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-03-2015 09:31:42
ถ้าโปเต้จะน่ารักขนาดนี้ก็นะ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 07-03-2015 10:06:32
เนียนตลอด  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 07-03-2015 10:11:47
ทำไมน่ารักขนาดนี้~~~~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 07-03-2015 10:45:32
ไม่มีจูบราตรีสวัสดิ์หรอ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-03-2015 15:27:55
อุ้ยเขิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 07-03-2015 16:11:40
โปเต้เนียนน่ะ :m1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 07-03-2015 22:36:03
อ่านไปอมยิ้มไป ติณทำเป็นนิ่งที่จริงเขินกระจาย
โปเต้หัดจะหยอดแล้วหอมแก้มอีก ทำดีค่า น่ารักกกกก

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 07-03-2015 22:51:31
เขินอ่ะ :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 10 ครึ่งหลัง P.14 7/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 08-03-2015 10:08:09
จับมือ หอมแก้มกันแล้วววววววววว >< เขิลลลลลลล
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 08-03-2015 16:37:55
ตอนที่ 11 (ครึ่งแรก)











วันนี้เป็นวันหยุด แต่ผมกลับไม่ได้หยุด นั่นเป็นเพราะ ...โปเต้มีถ่ายแบบ ที่น้องแป้งขอร้อง (น้องคนที่มาขอให้โปเต้ไปเป็นนายแบบ) แล้วโปเต้ก็ลากผมมาด้วย บอกว่าผมเป็นคนรับปาก แล้วผมก็ต้องมา




เราอยู่ที่สตูลดิโออะไรสักอย่างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าพี่ชายของแฟนน้องแป้งเป็นเจ้าของ ซึ่งมันก็ใหญ่อยู่นะ




ผมกำลังนั่งมองโปเต้ที่กำลังแต่งหน้าอยู่ ภาพเซ็ทแรก โปเต้จะใส่เพียงกางเกงยีนส์ตัวเดียว เปลือยท่อนบนโชว์กล้าม ทำเอาน้ำลายคนแถวนั้นหกกันเป็นแถว แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมไม่หื่นขนาดนั้น




และวันนี้ทั้งวันก็ชุลมุนวุ่นวายกันไปเลยทีเดียว โปเต้ต้องถ่ายทั้งหมดสามเซ็ท ผมที่ยืมมองก็พอจะเข้าใจว่าทำไมน้องแป้งถึงเลือกโปเต้มาเป็นนายแบบ นั่นก็เพราะ...โปเต้หล่อทุกมุมจริงๆ ไม่ได้อวยเพราะรู้จักกันนะ แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ แม้ว่าทุกรูปที่ถ่าย หน้าของโปเต้จะไม่มีรอยยิ้มสักรูปเลยก็ตาม




“พี่ติณณ์ค่ะ หนูวานไปซับเหงื่อพี่นภัทรให้หน่อยได้มั้ยคะ” น้องแป้งที่เป็นคนถ่ายภาพหันมาบอกผม




“พี่?” ผมน่ะเหรอ??




“ค่ะ”




ผมเหรอ ...เออ ผมก็ได้




ผมเดินไปหยิบดึงทิชชูจากกล่องแถวนั้นออกมาสองแผ่น ก่อนจะเดินไปหาโปเต้ ตอนนี้โปเต้อยู่ชุดเซ็ทที่สาม เซ็ทสุดท้ายแล้วครับ ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กับกางเกงขาเดฟสีดำเข้ารูป ดูเท่ไปอีกแบบ ทั้งที่โปเต้ไม่ต้องแต่งตัวอะไรมากเลยแท้ๆ แต่ทำไมมันดูดีจังว่ะ




“จะซับเหงื่อนะ” ผมบอกโปเต้เป็นเชิงขออนุญาตก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปซับเหงื่อที่หน้าของโปเต โดยที่โปเต้ก็ก้มหน้าลงมาให้ผมเช็ดสะดวกขึ้น




“.....”




“นี่!” ผมร้องขึ้นเบาๆ จะไม่ให้ร้องได้ไง ก็โปเต้เอาแต่จ้องหน้าผมอ่ะ




“.....” โปเต้เลิกคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะถามว่ามีอะไร




“จ้องทำไม”




“จ้องไม่ได้??”




“ก็แล้วจะจ้องทำไมล่ะ”




“จ้องหน้า ‘แฟน’ ไม่ได้เหรอ”




“.....” อ่า...ไปไม่เป็นเลยผม




“.....” แล้วโปเต้ก็เอาแต่จ้องผม ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก




ทำหน้าราวกับกำลังสนุกที่เห็นผมไปไม่เป็น




เพี๊ยะ!




“โอ๊ะ!” โปเต้ร้องโอ๊ะเบาๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้นเต้มความสูง นั่นเป็นเพราะผมดีดหน้าผากเขาครับ เหอะๆ สมน้ำหน้า




“หึ...” หัวเราะหึเดียว แล้วผมก็เดินออกมา เพื่อให้น้องแป้งได้ถ่ายโปเต้ต่อ แต่น้องแป้งกลับบอกว่าเสร็จแล้ว




“เดี๋ยวพี่นภัทรเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะคะ เอ่อ...ตอนนี้หนูยังมีเงินไม่เยอะ คงไม่มีค่าตัวให้พี่ ยังไงก็ให้หนูได้เลี้ยงข้าวพี่นะคะ”




“ไม่เป็นไร ไม่ต้องหรอก” โปเต้ตอบน้องแป้ง



“ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะ ให้หนูเลี้ยงข้าวสักมือนะคะ” น้องแป้งทำหน้าอ้อนวอนสุดๆ คงจะเกรงใจโปเต้มากๆเลยทีเดียว




“ถามติณณ์” โปเต้บอกน้องแป้งอย่างนั้น ก่อนจะหันไปหากระจกแล้วเช็ดเอาเครื่องสำอางที่หน้าออก




“พี่ติณณ์คะ นะคะ...ให้หนูเลี้ยงข้าวพวกพี่นะ”




“ก็ได้ครับ” เลี้ยงข้าวมันก็ไม่ได้น่าเสียหาย ไม่เห็นต้องคิดหนัก แล้วทำไมโปเต้ต้องให้น้องเขามาถามผมด้วยเนี่ย




“ดีมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูขอออกไปโทร.หาแฟนหนูก่อน เราจะได้ไปพร้อมกันเลย




“...ติณณ์” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผม




“.....” ผมหันไปดูก็พบว่าโปเต้กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า มันเป็นแบบผ้ากั้นเอาไว้รูด ไม่ใช่เป็นห้องแบบบานประตู




“มานี่” โปเต้เรียกผม ทำเอาช่างแต่งหน้าแถวนั้นมองเราเป็นตาเดียว




“อะไร” ผมเดินไปใกล้ๆก่อนจะถาม




“....” โปเต้ไม่ตอบ แต่ดึงผมให้เข้าไปด้วยกันแทน ก่อนจะรูดม่านปิด แอบได้ยินช่างแต่งหน้ากรี๊ดเบาๆ




“...จะทำอะไรน่ะ” ผมรีบถามโปเต้ แต่ไม่กล้าเสียงดัง




“...ซิปรูดไม่ได้” โปเต้บอกผม



เอ่อ....แล้วจะให้ผมทำยังไงอ่ะ




“ลองรูดแล้วรึยัง” ผมถามเสียงเบา




“ลองแล้ว”




“...เฮ้อ ไหนผมขอดูหน่อย” ผมว่าก่อนจะก้มไปดู อืม...มันก็เหมือนซิปนะ




“...ช่วยหน่อย” โปเต้เอ่ยบอกผม ...ว่าอะไรนะ?




“ห๊ะ?”




“ช่วยหน่อย เจ็บนิ้วหมดแล้ว” โปเต้ว่าก่อนจะโชว์มีที่มีรอยแดงเถือกให้ผมดู




“...เอาจริงดิ” ผมถามย้ำ คือผมไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ ...ไม่ได้คิด ...มั้ง




“อืม”




“เอ่อ ...งั้น ขอโทษนะ” ผมเอ่ยบอกโปเต้ ก่อนจะเอื้อมมือไปช่วยรูดซิป




เออ ...ไม่ออกจริงๆว่ะ




“ทำไมไม่ออกล่ะ” ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ




“...ไม่ออกเหรอ” โปเต้เอ่ยถามผม




“ไม่ออกอ่ะ แป๊บนะ” ผมพยายามช่วยแกะ ทั้งงัด ทั้งพยายามดึง ทั้งพยายามรูด ...เอ่อ หมายถึงรูดซิปกางเกงนะ อย่าคิดเป็นอื่นเด็ดขาด




“ติณณ์ ...ได้มั้ย”




“ยัง ...อย่าเร่งสิ”




ทำไมในนี้มันร้อนจังว่ะ ทั้งเหงื่อผมแล้วเหงื่อของโปเต้ไหลออกมาอย่างกับเขื่อนแตก




และในที่สุด...




“ไม่ออกอ่ะ” ผมร้องขึ้น เมื่อพยายามเท่าไหร่ก็รูดซิปไม่ได้สักที




“ทำไงดี” เป็นครั้งแรกที่โปเต้พูดด้วยน้ำเสียงที่เซ็งสุดๆ




“เดี๋ยวผมออกไปขอให้คนอื่นช่วย” ผมยืดตัวขึ้นเต็มความสูง แล้วเงยหน้าพูดกับโปเต้




“ออกไปด้วยกันนี่แหละ” โปเต้ว่าก่อนจะรูดม่านออก แต่ก็ต้องผงะ เมื่อช่างแต่งหน้า คอสตูม น้องแป้ง และแฟนของน้องแป้งดันอยู่ตรงหน้าพวกผม




อย่าบอกนะว่าก่อนหน้านี้ สี่คนนี้แอบฟังพวกผมน่ะ




“เอ่อ...คือ พวกเราจะมาตามพวกพี่น่ะค่ะ เห็นว่าหายกัน....ไปนาน” น้องแป้งเป็นคนตอบ ด้วยท่าทางที่รนรานสุดๆ อืม...น่าเชื่อถือมาก แต่ก็ช่างมันเถอะ




“คือ...ซิปกางเกงขอโปเต้มันรูดไม่ได้ ใครก็ได้ช่วยหน่อย” ผมเอ่ยบอกกับทุกคน พลางปาดเหงื่อที่อยู่บนหน้า




“...ซิปรูดไม่ได้?” ทั้งสี่เอ่ยทวน ก่อนที่จะหน้าแดงกันในเวลาต่อมา




เฮ้ย! คิดไปถึงไหนว่ะ




“คือโปเต้เขาจะเปลี่ยนเสื้อน่ะ แต่รูดซิปไม่ได้ เลยเรียกให้ผมช่วย ...แต่ซิปมันก็ยังรูดไม่ได้อยู่ดี” ผมรีบบอกกับทุกคน ก่อนที่ทุกจะจิ้นกันไปไกล




“...เอ่อ เหรอคะ?” เป็นน้องแป้งที่พูดขึ้นคนแรก




“ครับ”




และสุดท้ายทุกคนยกเว้นน้องแป้ง (น้องเขาเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวครับ) ก็ช่วยกันรูดซิปกางเกงที่โปเต้ใส่อยู่ กว่าจะรูดได้ก็นานอยู่เหมือนกัน พบว่าซิปบางซี่มันแตกออกมา เวลารูดแล้วมันติด เลยทำให้รูดซิปไม่ได้




และเรื่องนี้มันก็ทำเอาโปเต้หงุดหงิดไปเหมือนกัน น้องแป้งเองก็ได้แต่ขอโทษ แม้ว่าโปเต้จะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่สีหน้านี่ไม่ใช่เลยครับ ผมเลยบอกน้องแป้งว่าเรื่องจะเลี้ยงข้าวไว้ค่อยเป็นวันหลังก็แล้วกัน เพราะวันนี้โปเต้เองก็เหนื่อยมากแล้ว เดี๋ยวจะพาลอารมณ์เสียหนักกว่าเดิม ซึ่งน้องแป้งเองก็เห็นด้วยมากๆ




“ผมขับให้มั้ย” ผมเอ่ยถามโปเต้เมื่อเราเดินมาที่รถ




“ไม่เป็นไร” โปเต้ตอบก่อนจะแทรกตัวเข้าไปนั่งที่คนขับ ผมจึงต้องขึ้นรถตามเขา




“หิวมั้ย” โปเต้เอ่ยถามผมหลังจากที่เราออกมาจากสตูลดิโอของแฟนน้องแป้งแล้ว




“นิดหน่อย”




“หาอะไรกินก่อนก็แล้วกัน”




“ก็ดี”




“อยากกินอะไร”




“...อะไรก็ได้” ผมตอบเพราะไม่อยากเรื่องมาก ความจริงคือนึกไม่ออกด้วยแหละว่าอยากจะกินอะไร




“มันมีขายที่ไหน” โปเต้ถามกลับเสียงเรียบ แต่รูปประโยคนี่กำลังกวนตีนผมเลย




ได้ ...เล่นอย่างงี้ใช่




“ในโลกมนุษย์นี่แหละ หาไม่ยาก” ผมก็ตอบเขาด้วยสีหน้านิ่งๆเหมือนกัน




“คงไม่ใช่ใต้ฟ้าบนดิน มีถนนหน้าร้านหรอกนะ” โปเต้ว่าอย่างดักทาง




“ใต้ฟ้าบนดินแต่อยู่ติดแม่น้ำต่างหาก”




หลังจากนั้นเราทั้งสองก็มองหน้ากัน




โปเต้ยิ้มมุมปากให้ผม



ส่วนผมก็ยิ้มแบบขำๆให้โปเต้




เป็นครั้งแรกที่เราต่างคนต่างยิ้มให้แก่กันและกัน ...











***************************


FANPAGE


https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-03-2015 16:48:08
 :-[

แหม่ นึกว่าโปเต้จะมาเหนือเมฆทำสำออยซิปติด

ปรากฏว่าติดจริงแฮะ แต่แค่นี้บรรดาไทยมุงข้างนอกก็ฟินกันไปยกนึงละ (แน่นอนคนอ่านก็ด้วย)

ไม่หื่นเลยกรูววววว

 :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 08-03-2015 16:52:57
เขากวนกับแบบนิ่งๆ  5555555

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-03-2015 16:58:47
 :L1:   เข้าใจหัวอกคนที่แอบฟังเลยอะ คู่นี้มุ้งมิ้งแบบหน้าตายนะ

ลุ้นจูบแรกอยู่นะคะ รอฟิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 08-03-2015 16:59:33
โอ้ยยยให้จิ้นต่ออีกนี๊สสสกะไม่ได้  ตินรีบเฉลยปายยยหนายยย :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าจู ที่ 08-03-2015 17:01:11
ก็ยังมาเงียบๆเหมือนเดิม ดูมีพัฒนาการขึ้นนิดหน่อยรึเปล่านะ

มีต่อมุก มีส่งยิ้มให้กันด้วย :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 08-03-2015 17:07:21
คู่นี้เขาพัฒนาทีละน้อยๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-03-2015 17:12:50
ว่าละทำไมคู่นี้อยู่ด้วยกันได้ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 08-03-2015 17:16:42
หวานนนนนนนนนนน~ :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 08-03-2015 17:19:05
นี่เล่นมุกกันหน้านิ่งๆงี้เลยนะ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 08-03-2015 17:35:59
มาเร็วทันใจ  แต่สั้นไม่สะใจอ่ะ  อร๊ายยยยย  หลบก้อนหิน  แปร๊บบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 08-03-2015 17:37:20
มาเร็วทันใจ  แต่สั้นไม่สะใจอ่ะ  อร๊ายยยยย  หลบก้อนหิน  แปร๊บบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 08-03-2015 18:09:39
พาคนเขาจิ้นไปไกลเลยน้าาา   :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 08-03-2015 18:11:26
ผู้ชายนิ่งๆ2คนหยอกกันน่ารักเกิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 08-03-2015 18:30:36
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 08-03-2015 18:53:54
เมื่อไหร่จะเป็นแฟนกันจริงๆน๊า :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 08-03-2015 19:06:52
โอ๊ยยยยยย เค้าฟินอ่ะ ทำให้คิดไปไกลเลย แต่แค่ซิปติด เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-03-2015 19:25:19
พวกเด็กหน้านิ่งเอ้ย กวนกันได้น่ารักจริงๆ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-03-2015 20:12:26
แค่รูดซิป ซิปมันรูดไม่ขึ้น คิดกันไปไกล
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-03-2015 20:46:53
แหมๆ เริ่มยิ้มให้กันแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 08-03-2015 20:54:49
 :mew1: อิอิ ซิป มันติดขัด หุหุ ช่วยรูดกันเพลินนเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 08-03-2015 21:18:29
โปเต้กะติณณ์นี่เป็นคู่ที่ นิ่งๆ เงียบๆ ปน มึนๆ อึนๆ นะ
แต่เป็นอะไรที่ลงตัวที่สุด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-03-2015 21:41:05
กับติณโปเต้จะใจดีมาก อารมณ์ดีมาก ก็คนพิเศษนี่เนอะ
หยอดตลอด จีบตลอด ติณก็เขินตลอด น่ารักกกกก
ฮาตอนทุกคนมาร่วมด้วยช่วยฟัง 555

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 08-03-2015 22:11:52
 :impress2: คู่นี้มุ้งมิ้งตลอด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 08-03-2015 22:29:15
โปเต้นี่ความพยายามสูงมาก
ที่จะทำให้เค้ามีส่วนร่วมใน
ชีวิตของตัวเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-03-2015 22:58:11
คู่นี้เค้ามาแบบละมุนละไม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 08-03-2015 23:18:45
โง๊ะ!!! ทำไม(ซิป)อึดจัง รูดไม่ออกซะที ฮ่าๆๆๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-03-2015 00:46:04
55555 สี่คนนั้นคงฟิน อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-03-2015 01:23:23
หวานละมุนละไมมาก ๆ ค่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 09-03-2015 02:12:29
แหมถ้าหากว่าเป็นผ้าขึงไว้แล้วแสงผ่านด้านหนึ่งให้เห็นเป็นเงานะ  คนข้างนอกจะมองเห็นติณณ์ที่กำลังก้มหรือนั่งหน้าซิปโปเต้แบบ........

ป้าฟินเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 09-03-2015 02:20:33
มันละมุนหง่ะ มีต่อมุกกันด้วย :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-03-2015 06:20:08
คู่นี้น่ารักตลออดดดดดด มาย้งมายิ้มให้กัน
วุ๊ยยย คนอ่านเขินแทน
รอตอนต่อไปนะะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 09-03-2015 10:31:09
น่ารักกก :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 09-03-2015 11:38:04
ตามอ่านทันแล้ววว  กำลังฟินเลยครคับ
น่ารักดีครับ ตามอ่านตอนต่อไปครับผม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 09-03-2015 13:52:18
คนแอบฟังก็คิดกันไปไกลเลย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: crosentmaxcis ที่ 09-03-2015 20:51:42
มันน่ารัก มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง กรุบกริบ อร้ายยยย อยากจะรูดซิบลงให้จริงจริ้งงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: MRchai ที่ 09-03-2015 21:51:46
น่ารักทั้งคู่เลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 10-03-2015 20:23:28
โหวววววว หวานกันได้อีก มดจะขึ้นแล้ววว  :-[ :o8: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 11-03-2015 13:42:05
พึ่งเข้ามาอ่านค่าาา ชอบบบบบ รอตอนต่อไปปปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งแรก P.15 8/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 11-03-2015 15:45:24
โอ้ยยยยยยยย

น่ารักอ่ะ  ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 12-03-2015 00:47:15
ตอนที่ 11 (ครึ่งหลัง)













สุดท้ายเราก็แวะห้างฯ ใกล้ๆเพื่อกินข้าวกัน กินเสร็จก็คิดตรงกันว่าอยากจะเดินเล่นสักหน่อย เพราะเราก็ใช่ว่าจะมาเดินเที่ยวกันบ่อยๆ ผมกับโปเต้มีนิสัยเดียวกันคือไม่ค่อยออกจากบ้าน ถ้าไม่จำเป็นหรืออยากไปไหนจริงๆ




“โปเต้ ขอซื้อนมแป๊บนึง” ผมหันไปบอกโปเต้เมื่อหันไปเจอค็อฟฟี่ช็อป อยู่ๆก็อยากดื่มนมสดปั่นสักแก้ว




“จะกินในร้านหรือเดินไปกินไป” โปเต้ถามผม




“...เดินไปกินไปเหอะ”




“เดี๋ยวรออยู่นี่ ..ฝากซื้อโกโก้ปั่นด้วย” ว่าจบ โปเต้ก็หยิบเงินให้ผมห้าร้อย แล้วยืนรออยู่หน้าร้าน




ผมใช้เวลาซ้อไม่นาน เพราะคนไม่ค่อยเยอะ เดินกลับมาหาโปเต้ ก็เห็นว่าเจ้าตัวกำลังคุยโทรศัพท์อยู่พอดี เลยยังไม่ส่งเสียงเรียก




“อยู่ XXX ...กับติณณ์ ...เออ แล้วไง” โปเต้หันหลังกลับมาพอดี เขามองหน้าผมก่อนจะเอื้อมมืออีกข้างดันหลังให้ผมเดินต่อ




“กี่โมง ....ที่ ...เออ ...เออ” แล้วโปเต้ก็วางสาย ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้าในกระเป๋ากางเกง




“มีอะไรรึเปล่า” ผมเอ่ยถาม ก่อนจะยื่นแก้วโกโก้ปั่นไปให้เขา




“วันเกิดจินน่ะ เซย์โทร.มาบอกว่าจินจะเลี้ยงเนื้อย่างที่คอนโดมัน ให้ผมซื้อเค้กไปให้” โปเต้บอกผมก่อนจะดูดโกโก้ในมือ




“กี่โมง”




“หกโมงเย็น”




“นี่ก็ห้าโมงครึ่งแล้วหนิ รีบไปซื้อแล้วเอาไปให้เพื่อนสิ” ผมบอกเมื่อดูเวลาในนาฬิกาข้อมือของตัวเอง




“ไปด้วยกัน”




“ซื้อเค้กเหรอ ก็ไปสิ”




“หมายถึงคอนโดจิน ไปด้วยกัน”




“ไปทำไมอ่ะ”




“ไป”




“...อืมๆ ไปก็ไป”




สุดท้ายผมก็พาโปเต้ไปซื้อเค้กก่อน ก่อนที่พวกเราจะไปคอนโดของจินกัน เค้กที่ซื้อเป็นเค้กไอศกรีม เหตุผลเพราะ โปเต้อยากกิน ...แค่นั้น




“กำลังจะถึงคอนโด ลงมารับด้วย” ในระหว่างที่ขับรถ โปเต้ก็กดโทรศัพท์โทร.ออก คาดว่าคงโทร.หาจินล่ะมั้ง ก่อนจะพูดประโยคสั้นๆแล้ววางสายไป




สักพักโปเต้ก็เลี้ยวรถเข้าไปในคอนโดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นับว่าหรูใช่ได้เลยนะเนี่ย คอนโดนี้เป็นระบบแบบสแกนคีย์การ์ดต้องแต่ประตูทางเข้า และคนที่จะมีคีย์การ์ดนั้นก็ต้องเป็นคนในคอนโดเท่านั้น




และคนที่มารอรับเราก็คือเซย์




“เค้กก้อนใหญ่จัง พอดีเลย ...พวกไอ้แลนด์ก็อยู่นะติณณ์” เซย์พูดกับโปเต้ ก่อนจะหันมาพูดกับผม




พวกแลนด์มางานวันเกิดจิน ก็ไม่น่าแปลก ...เพราะพวกเพื่อนๆผมกับเพื่อนโปเต้ก็สนิทกันมากพอสมควร ...อาจจะสนิทมากกว่าผมแล้วมั้ง




“ไงทั้งสอง ...ถ่ายแบบเป็นไงบ้าง” จีน่าเป็นคนแรกที่ทักเมื่อพวกผมเข้ามาในห้อง




“ถามโปเต้สิ”




“ว่าไง” จีน่าหันไปหาโปเต้




“ก็วุ่นวายดี” โปเต้ตอบเบาๆ ก่อนจะเดินหายไปกับเซย์ ผมจึงเดินไปนั่งกับพวกเพื่อนๆ




“ไง ติณณ์” จินเดินออกมาทักผมครับ พร้อมกับยกจานอาหารออกมาด้วย




“สุขสันตืวันเกิด เดี๋ยวในของขวัญย้อนหลังนะ” ผมเอ่ยบอกกับจิน




“ไม่เป็นไร แค่มานี่ก็ดีใจแล้ว” จินว่าก่อนจะยิ้มตามสไตล์ของเขา




“.....” ผมไม่ได้พูดอะไร




“ดอมินิก นี่ติณณ์...เพื่อนอีกคนนึง ติณณ์ ...ดอมิกนิก แฟนเราเอง” จินแนะนำผู้ชายที่เดินตามจินมา ใบหน้าออกแนวฝรั่ง อาจจะเป็นลูกครึ่ง สูงน้อยกว่าจินเล็ก (จินก็สูงพอๆกับโปเต้เลย) ตัวบางกว่า และดูท่าทางจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับผม ...หมายถึงหน้านิ่งๆไม่ค่อยพูดน่ะ




“.....” ดอมินิกยิ้มให้ผมนิดๆ ส่วนผมเองก็ยิ้มตอบ ผมว่าใบหน้าของดอมินิกมีเสน่ห์มากๆเลยนะ (เพราะหน้าเขขาหล่อมาก) ตาสีสวยและใสมาก เหมือนลูกแก้วเลย




สงสัยเหรอว่าทำไมผมถึงไม่ตกใจที่จินมีแฟนเป็นผู้ชาย




แล้วผมจะตกใจทำไม ในเมื่อแฟนผมตอนนี้ก็เป็นผู้ชายนี่หว่า





ผมว่าทั้งคู่ก็ดูเหมาะกันมากๆเลยนะ ดอมินิกเองดูนิ่งๆ เงียบๆ แต่ก็อยู่ไม่ห่างจากจินเลย ส่วนจินเองก็ดูใส่ใจดอมินิกมากนะ ตามสไตล์ผู้ชายอบอุ่นแบบที่เขาเป็นอยู่นั่นแหละ




เพล้ง!




อยู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากทางครัวในห้องของจิน ต้องขอบอกว่าห้องของจินใหญ่มาก และแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน ไม่แปลกถ้าจะมีห้องครัวในตัว




“เดี๋ยวเรามานะ” จินพูดก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปในครัว จะว่าไป..คนที่อยู่ในครัวตอนนี้ก็มีเซย์กับโปเต้นี่นา




“เรื่องแค่นี้ ทำเป็นตกใจกันไปได้” อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงเดินออกมาจากห้องครัว แถมในอ้อมแขนยังมีแมวเปอร์เซียตัวใหญ่สีขาวด้วยตัวนึง




ผมจะไม่แปลกใจเลย ถ้าคนที่กำลังเดินมา ...กับผู้ชายที่นั่งถัดจากผมไป จะหน้าเหมือนกัน!!!




นี่พวกเขาเป็นฝาแฝด?




“เกิดอะไรขึ้น” ดอมินิกหันไปถามผู้ชายที่กำลังอุ้มแมวอยู่




“ก็เซย์น่ะสิ ตกใจที่คุณชายกระโดดใส่ เลยไปชนนภัทร มือนภัทรก็เลยไปปัดโดนแก้ว...แก้วแตกเบยยยยยยย” ผู้ชายคนนั้นตอบก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆดอมินิก ว่าแต่... ‘คุณชาย’ นี่...ชื่อของแมวตัวนั้นเหรอ




“นี่ไง...ติณณ์” ดอมินิกพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะชี้มาที่ผม




“หืม...ติณณ์คนดังของสถาปัตย์ ...คนนี้น่ะเหรอ หวัดดี เราชื่ออลันนะ เป็นพี่ชายฝาแฝดของดอมินิก ...นายใช่มั้ย แฟนของนภัทร” ผู้ชายที่อุ้มแมวหันมาหาผม ก่อนจะแนะนำตัว ดูไปดูมา แฝดคู่นี้หน้าตาเหมือนกันมากนะ แต่คนที่ชื่ออลันดูมีชีวิตชีวา ยิ้มง่ายและพูดเก่ง ดอมินิกก็อย่างที่บอก นิ่งๆ พูดน้อย แถมตัวของอลันก็ดูมีเนื้อมีหนังมากกว่าดอมินิกด้วย




“อืม”




“ไปดูนภัทรมันหน่อยสิ เห็นว่าโดนแก้วบาด”




โปเต้โดนแก้วบาด?




แค่แก้วบาด คงจะไม่เป็นอะไรมากหรอก




...แม้จะคิดแบบนั้น แต่ตอนนี้ผมได้มาอยู่ในครัวของห้องของจินเรียบร้อย เห็นจินกำลังแผล และเซย์ก็กำลังกวาดเศษแก้ว




“อ้าว ติณณ์ ...จะเอาอะไรเพิ่มเหรอ” เซย์ที่เห็นผมเอ่ยทัก




“เอ่อ...อลันบอกว่าโปเต้โดนแก้วบาด” ผมบอกก่อนจะเดินไปหาโปเต้ พบว่า...โดนบาดที่ปลายนิ้วนางข้างขวา ...ก็ข้างที่ใส่แหวนน่ะนะ




“อ๋อ...ที่แท้ก็เป็นห่วงมันนี่เอง” เซย์ว่าอย่างยิ้มๆ




“ก็...มาดูว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า ...แค่นั้น” แล้วผมจะร้อนรน รีบแก้ตัวด้วยเนี่ย




“เศษแก้วบาดนิ้วนิดหน่อย มันไม่เป็นอะไรหรอก” จินตอบผมอย่างยิ้มๆ




“เซย์ เก็บแก้วเสร็จยัง กูอยากกินปลาหมึก รีบไปซื้อกันเหอะ” อลันเดินเข้ามาก่อนจะบอกเซย์ (ไม่ต้องแปลกใจที่ผมแยกฝาแฝดออก เพราะว่าสองคนนี้ท่าทางแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง)




“มึงก็ไปซื้อเองดิ กูล่ามโซ่มึงไว้ไง?” เซย์หันไปตอบอลัน




“ไอ้ห่า ตามใจกูหน่อย นี่กูแฟนมึงนะ” หืม? ...อลันเป็นแฟนเซย์???




คนนิสัยแบบเซย์นี่มีคนเอาด้วยเหรอ




เอ่อ...ผมหมายถึง เขากวนตีนเกินไป ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนรับได้ก็เท่านั้นเอง




“ครับๆ เสร็จแล้ว อยู่กวนตีนไอ้ภัทรมันเฉยๆ” เซย์ว่าก่อนจะเดินไปเก็บไม้กวาด แล้วออกจากครัวไปกับอลัน




ก่อนจะตามด้วยจิน ที่เดินยิ้มออกไป




“.....”




“.....”




“.....”




“.....”




ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากพวกเราสองคน ผมกับโปเต้เพียงแค่มองหน้ากันนิ่งๆ ไม่มีใครพูดอะไร




ผมไม่รู้ว่าทำไมโปเต้ถึงมองผมแบบนี้ หรือว่าเขาไม่ชอบให้เพื่อนแซว ...ตัวผมเองถึงจะไม่ว่าถ้าเพื่อนจะแซว แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้แซวกันสักเท่าไหร่ อ่า...โปเต้จะคิดแบบนั้นมั้ยนะ




“.....” เมื่อไม่มีใครพูดอะไร ผมจึงคิดว่า ...เราควรจะออกไปหาคนอื่นๆได้เลย เราหมุนตัวกลับจะเดินออกไป




แต่ก็ถูกใครบาง (ที่มีอยู่คนเดียว) ดึงแขนจนตัวผมเซไปหาเขา




“...ดึงทำไมเนี่ย” ผมเอ่ยถามก่อนจะเงยหน้ามองหน้าเขา โปเต้ดึงจนผมเซมาชนตัวเขาเลย




“.....” โปเต้ไม่พูด เอาแต่มองหน้าผมอย่างเดียว




“.....”




“.....”




“โปเต้” ผมเรียกเขา




“เป็นห่วงผมเหรอ”




“.....” อยู่ๆก็มาถามอะไรเนี่ย




“.....”




“.....”




“.....”




“...อะไร” เมื่อเขาเห็นว่าผมไม่ตอบ ก็เอาแต่จ้องหน้าผม จนเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายหลบตาเขาเอง




“เป็นห่วงผมเหรอ” โปเต้ถามซ้ำคำเดิม




“...เปล่าสักหน่อย” ผมตอบเสียงเบา ก่อนจะถอยห่างจากโปเต้




แต่อยู่ๆโปเต้ก็ตวัดแขนกอดเอวผมเสียแน่น




“.....”




“โปเต้ กอดผมทำไม” ผมว่าก่อนจะดันอกเขา




“เป็นห่วงผมเหรอ” คำถามเดิม อะไรของเขาว่ะ




“โปเต้ ปล่อยผมนะ”




“ผมถาม ...ว่าเป็นห่วงผมเหรอ” โปเต้ถามอีกครั้ง ก่อนจะก้มหน้าลงมาให้ใกล้หน้าผม จนหน้าผากเราชนกัน




“...ถามอะไรของนาย” ผมไม่ตอบ ได้แต่เสตามองไปทางอื่น




“ก็แค่ถาม แล้วทำไมคุณถึงไม่ตอบ” โปเต้ไม่ยอม รุกถามผมอย่างเดียว




“ก็ตอบไปแล้วว่าเปล่า”




“งั้นมาที่นี่ทำไม?”




“ก็...อลันบอกว่านายโดนแก้วบาด ก็เลยมาดูเฉยๆ” ผมตอบก่อนจะเม้มปากแน่น ให้ตายเหอะ ...ยอมรับเลยว่าตอนนี้รู้สึกเขินโคตรๆ




คิดดูสิ โดนจ้องหน้าซะแทบจะติดขนาดนี้ โดนถามด้วยเสียงแบบนี้ เป็นใครมันก็ต้องเขินทั้งนั้นแหละ




“อ่อ แค่มาดูเฉยๆ แต่ไม่ได้เป็นห่วง”




“ใช่ แค่มาดูเฉยๆ”




“ผมไม่เชื่อ”




“เอ๊ะ!” ผมส่งเสียงไม่พอใจไป อะไรของเขา อยู่ก็มากวนตีนกัน




“เอ๊ะอะไร”




“อย่ามากวนตีนนะ” ผมว่าก่อนจะหันหน้าไปมองโปเต้




จนปลายจมูกเรา ...แตะกัน




“ไม่ได้กวน” โปเต้พูดโดนที่ไม่ได้หันหน้าหลบไปไหน




และยิ่งพูด ...ปากเราก็ยิ่งใกล้กัน




“.....”




“.....”




ยังไม่ทันที่จะมีใครพูดอะไร ...




โปเต้ ...ก็เลื่อนหน้าเข้ามาใกล้หน้าผม จน...




ริมฝีปากของเรา ...แตะกัน...




...ไม่มีการรุกล้ำ...




...มีเพียงแค่ริมฝีปากของเรา ที่แนบติดกันเท่านั้น...




ก่อนที่ความรู้สึกบางเบา จะแปรเปลี่ยน เมื่อโปเต้กดริมฝีปากให้หนักกว่าเดิม ลิ้นร้อนๆค่อยๆแตะที่ริมฝีปากผมเบาๆเป็นเชิงขออนุญาต สลับกับบดคลึงริมฝีปากของผมเบาๆ ลิ้นร้อนแตะอีกครึ่ง ก่อนจะตัดสินใจผ่านริมฝีปากของผมเข้ามา แตะทักทายกับริมฝีปากของผมเบาๆ




มือไม้ของผมสั่นไปหมด ...ยอมรับว่าไม่เคยจูบ จูบที่ดีเป็นยังไงก็ไม่เคยรู้ แต่คนๆนี้กำลังทำให้ผม..




...เสียศูนย์....




ผมแทบจะยืนไม่อยู่ เพราะจูบของโปเต้




มือของโปเต้เริ่มอยู่ไม่สุก มือของข้างหนึ่งเลื่อยเข้ามาในเสื้อ ก่อนจะลูบแผ่นหลังของผม ส่วนอีกข้างอยู่ที่...ก้น




ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เรายืนจูบกัน น่าแปลกที่ผมไม่รังเกียจ ทั้งที่เป็นผู้ชายด้วยกัน แถมยังยอมเขาโดยไม่มีการขัดขืน




ใจของผม ...เต้นแรกจนหน้าตกใจ และมือของผมที่สัมผัสอยู่ที่อกของโปเต้ ก็รู้สึกได้ ...ว่าหัวใจของเขาก็เต้นแรกเหมือนกัน โปเต้หายใจหอบเสียงดัง และแน่นอนว่าผมเองก็ไม่ต่างกัน




แต่ทุกอย่างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อ...




“อุ่ย!!!” เสียงร้องอย่างตกใจ ...เป็นเสียงผู้หญิง ...ต้องเป็นจีน่าแน่ๆ




“!!!!” ผมรีบผละตัวออกจากโปเต้ ก่อนจะเช็ดมุมปากที่มีน้ำลายไหลออกมานิดๆ ไม่รู้ว่าเป้นของผมหรือของโปเต้




“เอ่อ คะ..คือ มาเอาแก้วเพิ่มนะ ไม่ได้ตั้งใจจะมาขัด ....ดะ ได้แก้วแล้ว ต่อเลย เดี๋ยวดูต้นทางให้” จีน่าพูดไปก่อนจะเดินหยิบแก้วทั้งที่มือสั่น แล้วรีบเดินออกไป ไม่เปิดโอกาสให้ผมหรือโปเต้ได้พูดอะไร




“เอ่อ ....คือ ...ผมว่าเรา ...ออกไปหาพวกนั้นดีกว่า” ผมบอกทั้งที่ไม่กล้ามองหน้าโปเต้ เป็นครั้งแรกที่เสียงผมสั่นได้ขนาดนี้




ผมกำลังประหม่า เขิน อาย และอะไรไม่รู้ที่มันตีกันอยู่ในอก




“เอ่อ...ติณณ์ ...” ดุท่าว่าโปเต้ก็ไม่ต่างจากผม เสียงสั่นอย่างที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน




โปเต้ ...เอื้อมมือมาจับมือผม ก่อนที่จะกอดผมจากทางด้านหลัง




“โกรธมั้ย” โปเต้ถามผมเบาๆ หน้าของเขาวางอยู่ที่ไหล่ของผม ปากของเขาแทบจะติดหูผมอยู่แล้ว




“...เปล่า” อันนี้ผมพูดจริง ผมไม่ได้โกรธ ...ไม่มีความรู้สึกนั้นเลยด้วยซ้ำ




“ขอบคุณนะ” โปเต้ว่าก่อนจะกระชับกอดผมแน่นขึ้น




“ผมว่าเรา ...ออกไปข้างนอกกันเถอะ เดี๋ยวมีใครโผล่มากอีก”




“หืม...กลัวโดนขัดจังหวะ”




“บะ..บ้า!!!”




เชื่อสิว่าเสียงของผมดังไปถึงคอนโดชั้นสามสิบ




ให้ตายเหอะ ...เพราะโปเต้ เพราะเขาคนเดียวเลย




ที่ทำให้ผมเขินได้ขนาดนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 12-03-2015 00:56:23
น่ารักจริงๆเลยยนย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 12-03-2015 01:03:58
แหม๋ๆๆ โปเต้ ~~~  :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 12-03-2015 01:13:01
เขินตัวแตกแล้ววววววววววววว~~~~~~~~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 12-03-2015 01:25:39
น่ารักมากกกกกอ่ะ

แต่แบบว่านิ่งเกิ๊นนนนนนนนนนนน

ไม่ไหวๆๆๆๆ เจ้หัวใจจะวาย

555555555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 12-03-2015 01:28:43
เค้าจูบกันแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววว
พัฒนาการของคู่นี้ดีขึ้นเรื่อยๆเลย ฮือออออ เขินอ่ะ
โปเต้นี่ก็นะ เห็นนิ่งๆแบบนั้น แต่ก็... หึๆ  :katai3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 12-03-2015 01:34:38
ถึงเนื้อถึงตัวแบบเนียนๆ
อีกแล้วนะโปเต้ :-[ :-[  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 12-03-2015 01:49:07
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 12-03-2015 02:05:52
เขาจูบกันแล้ว น่ารักที่สุดเลย

คิดถึงคนแต่งที่สุด ขอบคุณที่มาต่อนะคะ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 12-03-2015 02:09:06
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 12-03-2015 06:17:57
 :-[ :-[ :-[ :-[ พี่นี่ได้แต่เขินนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 12-03-2015 06:37:45
เขิลลล
ค่อยๆรักกันเบาๆ ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 12-03-2015 07:14:27
จูบกันแล้ววววววว เริ่มมีพัฒนาการ
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 12-03-2015 07:16:39
มันเป็นอัลไรที่ปริ่มมากๆๆๆๆๆๆเขินตัวแตกอีกครั้ง.........เขียนแบบนี้เยอะๆนะไม่ต้องncก็ฟินีะเบิดทีเดียว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-03-2015 07:22:08
เห็นนิ่งๆนี่ มือไวใช้ได้เบย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 12-03-2015 07:25:31
เขินง่ะ งืออออออ นิ่งๆแต่แบบฟิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 12-03-2015 07:27:38
หวานละมุนอุ่นในหัวใจกริ๊วกร๊าววววชอบบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-03-2015 07:29:54
อุ๊ยยยยยย อยาเป็นฝุ่นในห้องจัง จะได้ดูชิดติดขอบ
มีขงมีเขินนนนน แบบนี้ก็ลุ้นไม่ยากละ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 12-03-2015 07:34:59
 :กอด1: น่ารักน่าหยิก อยากเป็นจีน่า อยากเห็นเองกับตา 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-03-2015 07:59:29
 :-[. กรี๊ด.  สุดยอดของความฟิน นี่คือไม่คิดจะทนแล้วสินะโปเต้.
จูบซะขาอ่อนยวบเลยแต่ถือว่าเป็นจูบแรกที่น่าจดจำมากเลย

เพื่อนๆนี่ก็เปิดตัวกันใหญ่เชียว. ว้าว

ลุ้นครั้งต่อไปว่าจะเป็นที่ไหน.  :z1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 12-03-2015 08:24:25
มีพัฒนาการ

แต่ว๊ายมีคนเห็นอ่ะ

เขินแทนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-03-2015 08:29:51
คือ แบบอยากจะขรรม

อยากรู้ว่าโปเต้กว่าจะกัดฟันข่มอายมาทำหน้านิ่งจับๆจูบๆได้เนี่ย ตั้งสมาธินานไหมคะ?

(หลังอ่านพาร์ทโปเต้ไปนี่แบบว่าข้างในพี่แกคนละอย่างกะภายนอกเลย)

 :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 12-03-2015 08:31:36
น่ารักอ่ะ เขินแทนเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 12-03-2015 08:55:26
รุก ไลค์ เลิฟ  :-[  :z1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 12-03-2015 09:00:05
 :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: เจ็ดสองหนึ่งสี่ ที่ 12-03-2015 09:25:27
จูบกันแล้ววววว แอร๊ยยย :o8:  :z2:
อ่านไปมือจิกเคสมือถือจะทะลุอยู่ละ เขินแทน  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 12-03-2015 09:41:45
 :-[  o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 12-03-2015 09:53:50
อ่านละเขินนนน :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-03-2015 10:08:10
เห็นนิ่งๆความจริงในใจนี่เต้นแท้งโก้ฉลองเลยป่ะโปเต้ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-03-2015 10:26:07
โปเต้น่าตีจริงเชียว
ทำติณณ์คนนิ่งไปไม่เป็น
แต่เขาจูบกันแล้วนะ ฟินไปโลกหน้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 12-03-2015 10:35:15
จูบกันแล้วๆๆๆๆๆ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 12-03-2015 11:18:09
เค้าจูบกันแล้ววววววววววววววว :-[ :-[ :-[
ถ้าไม่มีคนมาขัดจะขนาดไหนเนี่ย :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 12-03-2015 12:08:20
 :hao3: แหมๆๆๆ โปเต้ เนียนเลยนะ เอาตรงๆ เรายังแอบงงชื่อตัวละครนะคะ จำไม่ทัน 55555 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 12-03-2015 12:23:41
แหม่ๆๆๆๆๆ จูบกันแล้วเหวยยยยย :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 12-03-2015 13:33:50
ค่อยเป็นค่อยไปอย่างน่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: baipai_bamboo ที่ 12-03-2015 14:07:48
อ่าว พี่อลันก่ะน้องดอมมาแจมเรื่องนี้ด้วย5555
เขาจูบกันแล้นนนนนนนน อั๊ยๆๆๆๆๆๆๆ :-[ :-[ :-[

ปล รออ่านทั้งสองเรื่องอยู่นะตัวเอง o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 12-03-2015 14:42:14
โปเต้มาแบบเนียนๆ แต่ก็ทำให้ติณณ์ เผลอใจรักไปซะแล้ว  เป็นเรื่องที่อ่านไป ยิ้มไป สนุกดีค่ะ


ชื่นชมคนเขียนแต่งได้ดี  แต่อยากให้ตรวจคำผิดด้วย 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ป้าจู ที่ 12-03-2015 15:22:09
เขาจูบกันแล้วล่ะเธออออ :o8:

อ่านแล้วนึกถึงเพลงกำลัง พัฒนาเลย

คนแต่งสู้นะคะ o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 12-03-2015 15:22:34
อูยยยยยย หวานจุง โปเต้รุกใหญ่เบยยยยยยยยยยย ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 12-03-2015 15:29:32
 :jul1: อู้ววว หวานกันไม่กงไม่เกรงใจคนอ่านกันเล๊ยยยยยย มดต้วมเตี้ยมเต็มจออิเจ๊แล้วจ้าาา  o18
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: boombimjubu ที่ 12-03-2015 16:30:52
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-03-2015 16:37:38
คนอ่านก็เขินอ่าาาา :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 12-03-2015 17:00:55
เขิลจุง  :-[

อลันกับดอมินิก  นี่ลูกของแอลตันกับนิโคลัส ใช่ไม๊   
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 12-03-2015 19:45:20
ติณณ์เขินอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 12-03-2015 21:08:47
ฟินนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 12-03-2015 21:14:36
จูบกันแล้ววก้าวหน้าขึ้นมาก
โปเต้ทำดี ทำต่อไปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-03-2015 21:21:24
ขอแบบโปเต้คนนึงงงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 12-03-2015 21:24:10
ถั่มไมไม่กลับมาจู๋จี๋ที่บ้าน นั่นห้องเพื่อนนะ คู่นี้หวานขึ้นทุกวัน
โปเต้หลงติณมาก มากกกๆๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 12-03-2015 21:33:05
 :impress2: เค้าจุ๊บกันแย้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 12-03-2015 21:53:26
ได้จูปแล้วนะโปเต้ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 12-03-2015 22:43:48
ฟิน มากมาย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 12-03-2015 23:31:02
น่ารักจังเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 13-03-2015 11:37:39
ตามทันแล้ววว เย้เย้ :mc4:
เขินอ่ะ  ใครบอกความเงียบมันอึดอัด เพิ่งรู้เหมือนกันว่าความเงียบมันมุ้งมิ้งขนาดเน้~
รอนะรอออออ  :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-03-2015 15:26:34
กรี๊ดดดด >\\\\\<
อยากจิกหมอน!!! ขอหมอนหน่อยคร้าาาาา
เรื่องนี้น่ารักมากๆเรยอ่ะ คือทั้งคู่ดูสมกันมาก คุยกันทางกระแสจิตตลอด ไม่ค่อยอาศัยคำพูด 5555
โปเต้ จีบแบบมึนๆ  ติณณ์ ก้อตกหลุมไปแบบมึนๆนะ
ชอบบบบบบ ^0^

ปล. พึ่งมาอ่านคร้า ฝากเนื้อฝากตัว
ชอบภาษาของคนเขียนนะคะ สวย สื่ออารมณแบบนิ่งๆ นิ่มๆ แต่แอบหวานอ่ะ รังสีชมพูแผ่กระจาย ♡
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 11 ครึ่งหลัง P.16 12/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 13-03-2015 16:35:03
ถึงว่าทำไมดอมินิกถึงชื่อคุ้นจัง

ลูกของนิคกับแอลนี้เอง5555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 14-03-2015 00:15:30
ตอนที่ 12 (ครึ่งแรก)














ผมกับโปเต้เดินออกมาจากห้องครัว เดินมานั่งล้อมวงกินเนื้อย่างกับพวกนั้น แน่นอนว่าพวกเพื่อนมองผมแต่ไม่พูดอะไร จีน่าต้องมากระจายข่าวแล้วแน่ๆ




“คุณชาย ...อย่าซนสิ ไม่งั้นจะให้ไปอยู่ในห้องตัวเดียวนะ” จินหันไปพูดกับแมวเปอร์เซีย ที่สรุปว่าชื่อคุณชายจริงๆ




“คุณชายไม่ซนหรอก” ดอมินิกที่โดนคุณชายนั่งตักเอ่ยขึ้นพลางลูบหัวเบาๆอย่างเอ็นดู




“เอ็นดูคุณชายจังนะ” จินแขวะเบาๆ ..ล่ะมั้ง




“ก็คุณชายน่ารัก”




“จินก็น่ารักนะ” จินบอกอย่างนั้นกับดอมินิกก่อนจะยิ้มกว้างให้ ...ผมว่าจินเป็นคนที่ใช้ยิ้มได้เปลืองมากเลยนะ




“หรอ” ดอมินิกหันมองหน้าจินก่อนจะยิ้มให้




อ่า ...ผมเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าเวลาทุกคนจิ้นผมกับโปเต้แล้ว ว่ามันรู้สึกยังไง




“อยากได้น้ำจิ้มซีฟู๊ดมากินกับหมึกย่างอ่ะ ใครทำเป็นมั้ง” อยู่ๆอลันก็เอ่ยขึ้นกลางวงซะเสียงดัง




“ไม่อ่ะ”




“ไม่เป็น”




“ไม่”




แต่ละคนรีบตอบปฏิเสธ ไม่ก็ส่ายหัว




“ไม่มีเลยเหรอ อยากกินอ่ะ” อลันว่าพลางทำหน้างอ




“...เราทำเป็นนะ” ผมเอ่ยขึ้นเบาๆ แต่ทุกสายตาที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ หันมามองผมเป็นตาเดียว




“ติณณ์ทำเป็นหรอ ทำให้เรากินหน่อยดิ อยากกินโคตรๆอ่ะ” อลันบอกผมก่อนจะยิ้มกว้าง เขานี่ช่างต่างกับน้องชายฝาแฝดของเขาเสียจริง




“อืม...ได้” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น แล้วเดินเข้าไปในครัว




ผมหาพวกกระเทียมพวกพริก ซึ่งโชคดีที่มันยังมีอยู่ แต่โชคร้ายคือไม่มีครก ถึงมันจะใช้เครื่องปั่นแทนได้ แต่ผมว่าใช้ครกทำมันคลาสสิคกว่า




“ติณณ์ มีอะไรให้ช่วยป่ะ” อลันเดินตามเข้ามาก่อนจะพูดขึ้น




“ไม่เป็นอะไร”




“งั้นเราขอดูวิธีทำนะ ไม่อยากไปซื้อกิน”




“อืม”




แล้วผมก็ทำพร้อมกับอธิบายขั้นตอนต่างๆให้อลันฟัง ซึ่งอลันก็ตั้งใจฟังมากๆ แทบจะหยิบกระดาษมาจดเลยทีเดียว




“เอ้อ...ติณณ์ เราขอถามอะไรหน่อยดิ” อยู่ๆ อลันก็พูดขึ้น หลังจากที่เขาขอให้ผมทำยำปลาหมึกให้เขาด้วย




“...อืม”




“ติณณ์กับภัทรเป็นแฟนกันได้ไงอ่ะ”




“.....” คำถามนี้อีกล่ะ




“อย่าหาว่าเราเสือกเลยนะ คือเราก็รู้จักภัทรมาก็นาน ตั้งแต่ก่อนคบกับเซย์อีก มันก็ดูนิ่งๆของมัน เหมือนจะไม่สนใจอะไร แล้วอยู่ๆพอมีข่าวว่าเป็นแฟนกันกับติณณ์ เราก็เลยสงสัยนะ”




“ก็...ไม่มีอะไรมากหรอก” ผมตอบในขณะที่หั่นปลาหมึกไปด้วย




“ภัทรมันเปลี่ยนไปมากเลยนะ หมายถึงแต่กับติณณ์นะ กับเพื่อนหรือคนอื่นๆมันก็ยังเหมือนเดิม มันดูติดติณณ์มากๆเลยนะ”




“เราว่าโปเต้ก็เหมือนเดิมนะ” ผมพูดออกไปอย่างที่ใจคิด โปเต้ก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยน อาจจะกวนตีนผมมากขึ้น พูดกับผมมากขึ้น แต่มันก็แค่นั้น ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงสักหน่อย โปเต้ก็ยังเป็นโปเต้นี่นา




“อยู่กับมันทุกวัน ติณณ์ก็ต้องคิดว่ามันไม่เปลี่ยนไปอ่ะดิ แต่ว่าก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนไปในทางที่แย่หรอกนะ มันก็ดูสนใจอะไรๆมากขึ้น ไม่ทำหน้าตายอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน”




“โปเต้เป็นแบบนั้นมาตลอดเลยหรอ” ผมเอ่ยถาม




“ใช่อ่ะดิ มันชอบทำหน้าดุ ไม่ค่อยยิ้ม บางวันก็หน้าบึ้งด้วยซ้ำ ตอนที่จินจีบดอม ...หมายถึงดอมินิกน้องของเราอ่ะ เราก็มีโอกาสไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนของจิน เราก็เห็นนภัทรมันเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่แย่โคตรๆ แต่พอรู้จักกันมากขึ้น เราก็ยังเห็นว่ามันเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์แย่อยู่ดี”




“.....”




“แต่พออยู่ๆกันไปก็รู้ว่าภัทรมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น มันก็แค่เป็นคนนิ่งๆ ไม่ค่อยพูด ชอบทำหน้าดุขัดกับหน้าหวานๆของมันมาก มันก็แค่ไม่ชอบยุ่งด้วยกับคนที่ไม่รู้ กับคนที่รู้จักกันดี มันก็จะเฉยๆ แต่มีปัญหาอะไรก็บอกมันได้ ถ้าช่วยได้มันก็ช่วย”




“...เหรอ”




“ก็ดีนะ ที่มีคนรับนิสัยมันได้ ถึงขนาดอยู่ในฐานะแฟนได้”




“โปเต้ก็...ไม่ได้แย่นะ” ผมบอกก่อนยิ้มนิดๆ เมื่อนึกถึงโปเต้ ก็จริงๆหนิ โปเต้ก็ไม่แย่อะไร แค่เข้าใจตัวเขา ผมว่าใครหลายๆคนก็น่าจะเข้าถึงตัวเขาไม่ได้ยาก




“แหม่ อวยแฟนตัวเองเชียว” อลันแซวผมอย่างยิ้มๆ




“เปล่า” ผมไม่ได้อวยโปเต้สักหน่อย




“ฮ่าๆๆๆ หน้านิ่งพูดน้อยเหมือนกันจริงๆ ถึงว่าทำไมอยู่ด้วยกันได้” อลันหัวเราะกับท่าทีของผม




“เสียงดังไปจนถึงข้างนอกเลย” อยู่ๆเซย์ก็เดินเข้ามาก่อนจะพูดขึ้น




“อะไรของมึง เข้ามาทำไม” อลันหันไปถามเซย์




“ก็เข้ามาดูไงว่าทำไมหายไปนาน ไอ้ภัทรมันกลัวมึงทำอะไรติณณ์มั้ง กูเห็นหันหน้าหันหลังอยู่นั้น กูเลยเดินเข้ามาดูให้” เซย์ก่อนจะขยี้หัวอลัน




“กูขอให้ติณณ์ช่วยทำยำปลาหมึกให้ ก็กูอยากกินอ่ะ”




“รบกวนติณณ์จริงๆเลยมึงหนิ”




“ก็กูอยากกินอ่ะ มึงแม่งก็เสือกทำกับข้าวไม่เป็น แม่เปิดร้านอาหารแท้ๆ” อลันเถียงกลับอย่างไม่ยอม




“แต่กูไม่ได้เป็นพ่อครัวแม่ครัวร้านแม่กูหนิ ทำไมกูจะต้องทำเป็น”




“ไม่ต้องเถียงกัน” ผมเอ่ยขึ้น เมื่อไม่เห็นวี่แววว่าใครคนใดคนหนึ่งจะหยุด




“.....” ทั้งสองหันมามองหน้าผม




“.....” ผมยื่นจานยำปลาหมึกไปให้อลัน และยื่นถ้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดไปเซย์ แล้วผมก็เดินออกมา




เอิ่มมม ...ผมรู้สึกว่าผมเข้าไปในครัวไม่นานนะ ทำไมเปิดเหล้าขวดที่สองกันแล้วล่ะ




“ดื่มเยอะมั้ย” ผมนั่งลงข้างๆโปเต้ก่อนจะถาม




ไม่ใช่ว่ากลัวจะขับรถไม่ไหวหรอกนะ เพราะผมเองก็ขับรถเป็น แต่ที่ถามเพราะโปเต้ตัวใหญ่จะตาย ผมเองคงแบกเขาไม่ไหว แม้จะเป็นผู้ชายด้วยกัน แต่โปเต้นั้นตัวใหญ่กว่าผมมาก ใครจะไปแบกไหว




“.....” โปเต้ส่ายหัวเบาๆ เป็นคำตอบ ผมเกือบจะเชื่อเขาอยู่แล้วเชียว ถ้าจินไม่พูดขึ้นก่อน




“อย่าไปเชื่อมันนะติณณ์ เหล้าขวดแรกหมดเร็วก็เพราะมันเลย กินเพรียวๆกับน้ำแข็ง น้ำกับโซดาไม่ต้อง”




“.....” ผมฟังจินก่อนจะหันกลับมามองหน้าโปเต้อีกครั้ง




“.....” โปเต้มองหน้าผมก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย




...กวนตีน




“เมารึไง” ผมลองแหย่ถาม ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่ม ....น้ำอัดลมครับ ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่ใช่ว่าดื่มไม่ได้ แต่วันนี้ไม่ดื่มดีกว่า เพราะโปเต้ดื่มไปเยอะแล้ว เดี๋ยวไม่มีคนขับรถกลับบ้าน




“ไม่หนิ” โปเต้ตอบก่อนจะยกแก้วของเขาขึ้น กระดกน้ำเมาในแก้วเข้าปาก




“แต่หน้าเริ่มแดง” อาจเพราะโปเต้เป็นคนขาวมากๆล่ะมั้ง ถึงได้เห็นว่าหน้าของเขาเริ่มแดง




“ไม่เมา” โปเต้ย้ำอีกครั้ง




“เออ รู้ว่าไม่เมา ย้ำมากๆจะไม่เชื่อนะ” ผมว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ อดไม่ได้ที่จะหยิกแก้มที่เริ่มแดงของโปเต้ เริ่มหมั่นไส้ในความกวนตีนของเขา





“เจ็บ ...มือหนักตลอด” โปเต้สะบัดหน้าตัวเองออก ก่อนจะบ่นผมเบาๆ แต่ผมได้ยิน




“ก็มือผู้ชาย”




“ผมยังไม่เคยทำคุณแรงเลย” รู้สึกมั้ยว่าโปเต้เริ่มพูดมากขึ้น???




“ลองดิ”




“อย่าท้า” พูดกับผมด้วยสีหน้าแน่วแน่มาก เหล้าเข้าปากแล้วนิสัยเปลี่ยนกันทุกคนเลยรึเปล่านะ




“จะทำไม” แต่ผมก็รู้สึกสนุกดีกับโปเต้เวอร์ชั่นนี้ ผมเชื่อว่าเขายังไม่เมา อาจจะแค่เริ่มมึน ปากเลยเริ่มรั่ว




“ก็ไม่ทำอะไรไง”




“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะเบาๆ




“แหมมมม...สวีตหวานไม่เกรงใจเพื่อนเลยนะ” หลุยส์ออกปากแซว ทำให้ผมรู้ตัวว่า ตอนนี้ผมกับโปเต้ไม่ได้อยู่กันแค่สองคน




“ห้องไอ้จินมีห้องว่างนะ เอากุญแจมั้ย เดี๋ยวไปหยิบให้” ตามมาด้วยเซย์




“เว่อร์น่า” ผมบอกก่อนจะทำเป็นคีบหมูในกระทะย่างมาใส่จานตัวเอง




“วู้ๆๆๆ ไอ้ติณณ์เขินว่ะ” แลนด์ผิวปากอย่างชอบใจ เหอะ!




“โคตรอัศจรรย์ใจเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ” นิดาหัวเราะ




ครับ...อยากทำอะไรก็ทำเถอะ ปฏิเสธอะไรไม่ได้หนิ เดี๋ยวหาว่าแก้ตัว




“ติณณ์ เราว่าปล่อยให้โปเต้เมาไปเถอะ” จินหันมาบอกผม ทำทุกคนหันมองหน้าจิน ยกเว้นเซย์




“ทำไมอ่ะ” อลันเอ่ยถามครับ




“เพราะเวลามันเมา มันจะ...”




“...?”





“มันจะบอกหวยแม่น!!”









******************************************

FANPAGE

https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 14-03-2015 00:29:03
เตรียมปากกา กระดาษจด พร้อมค่ะ มอมเหล้าโล้ดดด  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-03-2015 00:30:03
เห้ย!!!

โปเต้บอกหวยแม่นจริงดิ  :a5:

ขอเลขท้ายด่วนค่ะ

กร๊ากกกกกกกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2015 00:40:19
กรี๊ดดดด อยากเห็นโปเต้เมาอะ คริคริ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nootopazzz ที่ 14-03-2015 00:56:42
ถ้าอย่างนั้นก็มอมเหล้าโปเต้กันเถอะ แต่เราว่าครั้งนี้มันต้องมีมากกว่าบอกหวยแม่นนะ 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-03-2015 00:59:24
โปเต้ตินณ์ชอบเข้าโหมดส่วนตัวเวลาที่อยู่ด้วยกัน
เวลาที่โปเต้เมาจะเป็นไงนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 14-03-2015 01:06:06
จริงดิ ใบ้หวยแม่นเนี่ยะนะ ขอ 3 ตัวตรงๆเลยนะโปเต้ ตอนแรกนึกว่าเมาแล้วชอบจูบซะอีก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 14-03-2015 01:21:30
ผมนี่วิ่งหากระดาษกับปากกาเลย :a5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 14-03-2015 01:50:28
เดี๋ยวววววววววววววววววววววววววววว ทำไมถึงท้ายไว้แบบนี้ 555555555
อยากเห็นโปเต้เมาอ่ะ นอกจากใบ้หวยแม่น แล้วจะเป็นยังไงอีกอ่ะ อยากรู้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 14-03-2015 03:40:56
ตอนหน้าต้องเตรียมกระดาษกับปากกา

เผื่อโปเต้จะให้หวย

รอค้าาาาา เตรียดจด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-03-2015 06:17:12
บอกเลยโปเต้ วันจันทร์หวยออกพอดี :jul3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-03-2015 06:18:03
บอกหวยแม่นหรือเริ่มรั่วกันแน่ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-03-2015 06:41:49
งั้นครึ่งหลังขอวันที่15นะคะจะได้ซื้อหวยทัน. 5555
ลกลัวว่าจะเมาแล้วจับคนบางคนปล้ำมากกว่าน่ะสิ

ตอนนี้ออร่าเคะจับมากค่ะหนูติณณ์.  :mew1: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-03-2015 07:10:49
นี่โปเต้มหัศจรรย์ขนาดนั้นนนนนน
ปล่อยให้เมาไปเลยค่ะ คนเมาพูดทุกอย่างจริงหมด
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-03-2015 07:17:37
มาต่อพาร์ทสองก่อนวันจันทร์นะ เตรียมกระดาษจดละ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-03-2015 07:51:07
จริงดิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-03-2015 08:03:08
มอมโลดค่ะ
ไปหยิบกระดาษปากกาแป๊บ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 14-03-2015 08:24:21
หวานๆน่ารักมุ้งมิ้งกันมาดีๆ
แต่มาตายกะประโยคสุดท้ายเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 14-03-2015 08:27:49
ขุ่นพระเตรียมปากกากระดาษก่อนคร่า
โปเต้น่ารักนะติณเปิดใจแล้ว กิ้ววววว.

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-03-2015 08:45:53
ขอ 3 ตัวตรงๆ เลย  :call:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 14-03-2015 09:03:09
รอ หวย โป้เต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-03-2015 09:32:17
สองคนนี้เวลาอยู่ด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน เหมือนมีโลกส่วนตัวคุยกันสองคนมุ้งมิ้ง ฟุ้งฟิ้ง จนเพื่อนๆ จิ้นกันไปไกล

โปเต้เวอร์ชั่นนี้ก็น่ารักดี เมาแล้วพูดมากกว่าเดิม แต่คู่นี้เป็นแฟนกัน แต่ก็ยังไม่เคยบอกรักกันเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 14-03-2015 10:18:12
อ่ะจริงดิ ขอมั่งดิกำลังร้อนเงิน 3 ตัวท้ายนะ
ตอนบิกแก้มกันน่ารัก ผมยังไม่เคยทำคุณแรงเลย งุงิงุงงิง
ฮาโปเต้อ่ะ เฉยชาสุดๆ เว้นแต่กับติณคนเดียว ก็คนพิเศษนี่

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 14-03-2015 11:12:35
อ่านทันล่ะ
อ่านแล้วเขินแทน ฮื้ออออออออออออ ชอบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 14-03-2015 11:30:49
อ่ะ  เตรียมปากกาจดเลขโปเต้อีกคน  เอาเจ๋งๆเลยนะ แต่ไม่น่าใช่ 55555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-03-2015 12:22:01
เอิ่มมมมมม ทำไมถึงหวยเเม่น!!
Why~~~~~~????
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 14-03-2015 12:31:15
บอกหวย!!!!!!!
55555555555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 14-03-2015 12:31:52
เมาแล้วบอกหวยแม่นเลยเหรอโปเต้

รอจดหวย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 14-03-2015 13:12:28
มารอเลขเด็ด 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fondue1 ที่ 14-03-2015 14:47:25
รอด้วยๆๆๆ :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 14-03-2015 14:51:38
ใกล้ วันที่สิบหกแล้ว บอกมาเลย
หวยแม่นเหรอ?นึกว่าหื่นมาก ซะอีก :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 14-03-2015 15:30:36
ขอแค่ 3 ตัว ตรงๆ เลยนะโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 14-03-2015 16:23:40
ต่างคนต่างพูดน้อยเนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 14-03-2015 16:24:10
รอตอนหน้าไม่ไหวละ555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2015 17:03:18
ขอเลขท้าย 3 ตัวตรงนะโปเต้

5555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 14-03-2015 17:08:05
ขอด้วนนะงวดนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 14-03-2015 18:03:26
น่ารักกกกกกก^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 14-03-2015 19:14:34
 :laugh: ใบ้เลยๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 14-03-2015 20:34:04
เห้ย เอาจริงดิ! บอกหวยแม่นใช่ป่ะโปเต้ ไหนคอนโดไหน เดี๋ยวเจ๊แวะเข้าไป 5555  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งแรก P.18 14/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 14-03-2015 20:39:07
ใช่หรอออออออ :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: หวยแม่นจริงอะ :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 15-03-2015 22:58:40
ตอนที่ 12 (ครึ่งหลัง)













สุดท้ายพวกผมก็ต้องนอนคอนโดจินจนได้ โปเต้ดื่มหนักมาก ผมเลยโทร.ไปบอกพี่ตาลว่าจะนอนคอนโดเพื่อนโปเต้ พี่ตาลก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะงั้นผมจึงเข้าไปร่วมวงด้วยตอนสี่ทุ่ม




ตอนนี้ผมกับโปเต้ แลนด์ หลุยส์ เซย์ และอลัน เข้ามานอนอัดกันในห้องนอนอีกห้อง โดยที่แลนด์กับหลุยส์ที่เข้ามาก่อนยึดเตียง ผมกับโปเต้นอนพื้นฝั่งซ้ายของเตียง เซย์กับอลันนอนฝั่งขวาของติด ส่วนเจ้าของห้องก็ไปนอนห้องตัวเองกับดอมินิก แฟนตัวเองครับ




ผมยกขึ้นโทรศัพท์ขึ้นดูเวลา ...ตอนนี้ตีสามแล้วครับ




ยังดีที่พรุ่งนี้ไม่มีเรียน นอนยาวได้สบายๆเลย




“โปเต้ นอนเฉยๆ” ผมเอ็ดโปเต้ เมื่อมือเขาเริ่มไม่อยู่สุก เลื่อนมาลูบสะโพกผมเฉยเลย




“หืมมม...” โปเต้ขานรับ แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือ ตอนนี้เรานอนหมอนใบเดียวกัน หน้าของเขาแทบจะติดกับหน้าผมอยู่แล้ว





“ผมบอกให้นอนเฉยๆ ..อ๊ะ” ผมเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆโปเต้ก็เงยหน้าขึ้นมา แล้วหอมแก้มผมเฉยเลย




“หอม” หอมแก้มผมเสร็จก็พึมพำเบาๆอย่างพอใจ แต่บังเอิญว่ามันใกล้หูผม ผมเลยได้ยินว่าโปเต้พูดว่าอะไร




“ไม่ต้องมาหอม หวยก็ไม่บอก นอนไปเลย”




“ไม่เอา ...หอมก่อน” โปเต้ว่าก่อนจะกอดเอวผมแน่น ส่วนแขนอีกข้าง ก็สอดเข้ามารองหัวผม ให้ผมนอนหนุนแขนเขา ก่อนจะกอดเสียแน่น




“อย่า” ผมยกมือขึ้นปิดปากเขา




งือ...โปเต้เปลี่ยนไป ไอ้หื่นนี่มันเป็นใครว่ะ!




“อืมมมม” โปเต้ส่งเสียงอย่างขัดใจ แถมยังพยายามสะบัดหน้าหนีออกจากมือผม แต่เขาก็ยังกอดผมอยู่นะ




“เมาก็นอน ผมก็เมาเหมือนกัน อยากนอนแล้ว” ผมเอ่ยบอก เพราะผมก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว ดื่มไปเยอะ จนรู้ตัวเองเลยว่าเมาแล้ว




“ก็นอนไปดิ” โปเต้บอกผม




“อื้อ!” ผมผลักตัวแล้วดันตัวออกโปเต้ เมื่อมือข้างนึงลูบก้นผม ส่วนอีกข้างก็ลูบหลังผม




“ติณณ์..” โปเต้เรียกผมเสียงอ่อน ก่อนจะกอดผมแน่น จนหน้าผมจะจมไปกับอกของเขาอยู่แล้ว ก่อนที่เขาจะเอาขาข้างหนึ่งพาดทับขาของผม




“โปเต้ ...ปล่อยผมก่อน”




“อืม...หอมจัง” โปเต้ก้มหน้าลงมาหอมแก้มผม ไม่สิ เรียกว่าเอาปากมากระแทกกับแก้มจะดีกว่า




แต่แล้วอยู่ๆ โปเต้ก็ต้องทำผมตกใจอีกครั้ง




เมื่อเข้าพลิกตัวขึ้นมานอนทับตัวผมเฉยเลย บอกตามตรงว่าหนักมากจนขยับไปไหนไม่ได้




“อือ! ..อือออ..” ผมร้องประท้วง เมื่อโปเต้ก้มหน้าลงมากดริมฝีปากลงมาที่ริมฝีปากของผม และมือของเขาก็ไม่อยู่สุก ลูบไปลูบมาอยู่แถวๆสะโพกผมนั่นแหละ




จูบของเราเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยอารมณ์และความต้องการของแต่ละฝ่าย ยอมรับว่าเต็มใจและรู้สึกดีจนไม่อยากผะออกเหมือนกัน เสียงจ๊วบจ๊าบยังคงดังขึ้นเป็นระยะ สัมผัสครั้งนี้ทำให้ผมลืมไปหมดทุกสิ่ง ลืมแม้กระทั่งที่ว่า ตัวเองไม่ได้อยู่กับโปเต้แค่สองคน ยังมีอีกสี่ชีวิตที่เหลืออยู่ในห้อง




และได้แต่บอกตัวเองในใจว่าสี่คนนั้นเมาหลับไปแล้ว




“แฮ่ก...ฟอด” โปเต้ถอนริมฝีปากออก ก่อนจะเลื่อนหน้าไปหอมแก้มผมหนักๆอีกหลายที เขาหายใจหอบ และเมื่อยังคงลูบไล้ไปตามตัวผมไม่หยุด




“โปเต้ ...อ๊ะ” ผมร้องเสียงหลง เมื่อโปเต้สอดมือเข้ามาลูบไล้ผิวหลังของผม ไม่พอ...ยังไปสะกิดยอดอกผมอีกต่างหาก เป็นใครก็ต้องร้องอ่ะ




“ติณณ์..”




“อ๊ะ ..เจ็บ” ผมร้อง เมื่อโปเต้ซุกไซร้ไปที่คอของผม ก่อนที่จะขบเม้มจนผมรู้สึกเจ็บและเสียววาบไปพร้อมๆกัน




ผมว่า...




...ผมว่ามันชักจะเลยเถิดมากไปแล้วนะ ผมว่าผมควรจะหยุด




ใช่...ผมควรหยุด และควรบอกให้โปเต้หยุดด้วยเหมือนกัน




“โปเต้ อย่า” ผมเอ่ยห้าม พร้อมกับผลักหน้าอกคนที่นอนทับอยู่ให้ออก




“หยุดทำไม” โปเต้เอ่ยถาม ก่อนที่จะกัดคอผมอย่างแรง




“โอ๊ยย...เจ็บ ไม่เอา ปล่อยนะ” ผมเริ่มที่จะดิ้นแรงขึ้น




“โอ๊ย ...ดิ้นทำไม” โปเต้ร้องเมื่อมือผมฟาดไปโดนคางของเขา




“ก็ลุกออกไปจากตัวผมสิ ไปนอนได้แล้ว”




“ไม่เอา”




“โปเต้ อ๊ะ ...เอามือออกไปนะ ผมจะนอน” ผมดิ้นอีกครั้ง เพราะโปเต้ยังไม่เอามืออกจากหน้าท้องของผม ซ้ำยังลูบเบาๆอีกต่างหาก





“ก็นอนไปสิ”




“อย่า” ผมดิ้นไป ดิ้นจนเหนื่อย แต่โปเต้ก็ยังไม่เห็นทำตามที่ผมบอกสักที ไอ้บ้า ...ยิ่งแต่เมาๆสติไม่เต็มร้อยอยู่ แรงก็หาย สู้แรงโปเต้ไม่ได้แน่นอนอ่ะ




แต่ทำไม...ทำไมโปเต้ไม่เห็นฟังผมเลย




เป็นแฟนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงไม่ฟังที่ผมพูดบ้าง




ใช่ว่าจะเมาจนไม่รู้เรื่อง รู้นะ...ว่าโปเต้กำลังทำอะไร และถ้าหากไม่ห้าม ...มันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้




เรื่องแบบนั้น ..มัน ...ผมยังไม่ได้เตรียมใจ และ...มัน ...




โว้ย ...อธิบายไม่ถูกเว้ย!




“โปเต้ ...ผมจะโกรธนะ” ผมลองขู่เขาด้วยวิธีนี้ดู ถ้าเขาแคร์คำพูดผม เขาก็จะทำตามที่ผมบอก




เฮ้ย...ได้ผลว่ะ




“...โกรธจริงๆเหรอ” โปเต้ถามผมเสียงเบา แค่บอกว่าจะโกรธนี่ถึงกับมีสติเลยเหรอ




“.....” ผมไม่ตอบ แต่หันหน้าหนี ไม่ตอบ และไม่ดิ้น ไม่โวยวายอะไร ...ไม่ได้ทำจริงจังหรอก แต่ที่ทำไปเพื่ออยากให้โปเต้หยุด




“ติณณ์ ...ขอโทษ อย่าโกรธดิ”




“ก็ลุกออกไปจากตัวผมสิ”




“.....” โปเต้ทำตามอย่างว่าง่าย แต่ยังกอดผมอยู่




“ปล่อย จะมากอดทำไม”




“ไม่เอา เดี๋ยวติณณ์หนี”




ผมไม่ได้โกรธเขาจริงๆสักหน่อย ไม่เห็นจะต้องแสดงอาการขนาดนี้เลย















ผมตื่นตอนเก้าโมงในวันต่อมา อาจะเป็นเพราะนอนต่างที่ต่างถิ่น ผมเลยนอนไม่หลับ พอตื่นมาอีกที เลยตัดสินใจไม่นอนดีกว่า




ผมเดินออกมาข้างนอก ก็พบว่าข้าวของทุกอย่างถูกเก็บไปแล้วเรียบร้อย ทั้งยังเห็นดอมินิกยื่นอยู่ในห้องครัว




“...ตื่นแล้วเหรอ” ดอมินิกเอ่ยทัก เมื่อผมเดินเข้าไปใกล้เขา




“อืม”




“คนอื่นๆล่ะ”




“ยังน่ะ”




“.....”




“....”




“....”




“...อาบน้ำมั้ย” ดอมินิกถามผม ในขณะที่เขากำลังหั่นหมูอยู่ เหมือนจะทำกับข้าวอะไรสักอย่าง




“ไม่มีชุด” ผมตอบ เพราะไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยน




“ใส่ชุดเราก็ได้ ตัวเราไม่น่าจะต่างกัน”




“งั้นรบกวนด้วย”





ดอมินิกวางมือจากของตรงหน้า ก่อนที่จะเดินล้างมือ แล้วเดินนำผมไปที่ห้องนอนของจิน




“เดี๋ยว ...ให้เราอาบที่ไหน” ผมเอ่ยถามเมื่อดอมินิกเดินเข้าไปในห้อง แต่ผมหยุดอยู่หน้าห้อง




“ห้องน้ำในห้องนี้แหละ เดี๋ยวเราเอาชุดให้” ว่าจบ ดอมินิกก็หันไปเปิดตูเสื้อผ้า หาเสื้อผ้าพร้อมผ้าเช็ดตัวมาให้ผม ก่อนจะเดินนำผมไปที่ห้องน้ำ




ผมแอบเหลือบมองไปที่เตียง พบว่าจินนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาหันมายิ้มให้ผมก่อนจะก้มหน้าอ่านหนังสือต่อ




ทำไมจินตื่นเช้าจัง เมื่อคืนก็ดื่มไปเยอะไม่ใช่เหรอ? ...แต่ก็ช่างเถอะ แค่สงสัยแต่ก็ไม่ได้อยากได้คำตอบ




“นี่แปรงสีฟันอันใหม่” ดอมินิกยื่นแปรงสีฟันอันใหม่มาให้ผม ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินออกไป ผมจึงปิดประตูแล้วอาบน้ำ




ผมอาบน้ำเสร็จ ก็เดินกลับมาที่ห้องครัว คาดว่าดอมินิกน่าจะอยู่ที่นั้น และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เหมือนเขากำลังทำกับข้าว




“เรากำลังทำให้จิน นายจะเอาด้วยมั้ย”




“อืม ..มีอะไรให้ช่วยมั้ย”




“ไม่เป็นไร”




“อืม” ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไร ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องที่นอนเมื่อคืน พบว่าสภาพทุกคนทุเรศมากๆ แลนด์มันนอนกลับหัวเอาเท้าวางไว้บนหน้าหลุยส์ ...ผมเห็นแต่ขี้เกียจจะช่วยยกเท้ามันออก ไว้ให้พวกผมตื่นมาโวยวายกันเองก็แล้วกัน เดินมาจนเกือบสุดของห้อง เห็นผู้ชายหัวยุ่งกำลังนั่งอยู่ ในสภาพที่เหมือนกำลังเบลอสุดๆ




“ตื่นแล้วเหรอ” ผมเดินเข้าไปหาเขาก่อนจะนั่งยองๆลงข้างๆ




“.....”




“เหวอ..” ผมร้องออกมาเมื่อเสียการทรงตัว นั้นเป็นเพราะอยู่ๆโปเต้ก็โถมตัวใส่ผมก่อนจะกอดผมเสียแน่น




“หายไปไหนมา” โปเต้ถามผมเสียงอู้อี้ เพราะหัวเขาซบอยู่ที่อกผม




“อาบน้ำ แล้วนี่เป็นอะไร” ผมงงกับท่าทีของโปเต้จริงๆนะเนี่ย




“ก็นึกว่าโกรธ...จนหนีไปแล้ว”




ห๊ะ!?! นึกว่าโกรธ???




เฮ้ย...จริงจังขนาดนั้นอ่ะ




“ไม่ได้โกรธ คิดมากไปป่ะ”




“ไม่รู้” โปเต้ตอบเสียงสะบัดหน่อยๆอย่างที่ไม่เคยเป็น




“อย่างอแง” ผมบอก แต่มือก็ลูบหัวเขาไปด้วย นี่คงเป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์ที่โปเต้เป็น ทำไมมันแตกต่างกับตอนปกติแบบนี้ว่ะ




“เปล่า” โปเต้ว่าก่อนจะผละออกจากตัวผม




“ไม่ล้างหน้าแปรงฟันซะ เดี๋ยวหาอะไรให้กิน” ผมว่าก่อนจะลุกขึ้น ส่วนโปเต้ก็ลุกขึ้นตาม แล้วเราก็เดินออกมาจากห้อง





โดยที่ไม่รู้เลยว่า...อีกสี่ชีวิตได้ตื่นมาฟังบทสนทนาเมื่อกี้จนจิ้นกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว :hao6:









*********************************************************


หวายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย...นภัทรไม่บอกหวยซะงั้น อดเบยงวดนี้ :hao6: :hao6:


FANPAGE

https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-03-2015 23:03:18
แหม่ โปเต้ไม่บอกเลขเหรอคะ รอกินเหล้าครั้งหน้าก็ได้

(แต่จะเนื้อแนบเนื้อกันนี่เกรงใจเพื่อนบ้างงงง กลับห้องตัวเองด่วน!!  :hao6:)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: AppleBerry ที่ 15-03-2015 23:10:03
อร๊ายยยย โปเต้ทำอะไรตินน่ะ :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lazyvespa ที่ 15-03-2015 23:22:31
ตั้ลล้ากกกกกกกกก  ดูมุ้งมิ้งจิงเกอเบล ฝุดๆๆ :-[ :-[
ติดเรื่องนี้ไปแล้ววว อัพบ่อยมากกตั้ลลากกก :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 15-03-2015 23:26:28
 :z3:โถๆๆๆ อุตส่าห์มาส่องว่า โปเต้ บอกหวยหรือเปล่า เสียดายอ่ะ เอาว่ะไปฝันเอาก็ได้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 15-03-2015 23:27:42
เราจะบอกความจริงว่่า...
อันที่จริงเราก็อยู่ในห้องนั้นนะ
รวมเป็นห้าชีวิต !!

โปเต้น่ารัก มุ้งมิ้ง กุ้งกิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง มากเลยลูกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-03-2015 23:42:22
โปเต้โหมดนี้น่ารัก แต่น่าจะบอกหวยก่อนนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 15-03-2015 23:46:12
นึกภาพโปเต้ โหมดอ้อน
เจ้ฟิน ไปดาวอังคาร 55555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 15-03-2015 23:51:45
ติณท์แม่งฮาไปละ 555555555555555555555555555

แต่โปเต้มุมนี้แบบว่ามุ้งมิ้ง น่ารัก มีแอบหื่นด้วย ติณท์ท่าจะรับมือลำบากพอควร คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nootopazzz ที่ 15-03-2015 23:54:24
โอ่ยยยย ชอบโปเต้โหมดนี้ นั๊ลลัคคคคคคค อ้อนกันกุ๊งกิ๊งมาก  :-[

4คนในห้องเห็นช็อตเด็ดเลยง่ะ อิจฉาเบาๆ เค้าเห็นทั้งภาพและเสียง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 15-03-2015 23:57:15
ดมาแล้วหื่นหรอโปเต้ แต่รึแกล้งเมา ไม่เบาๆๆ 5555

มาต่อไวๆนะคะ รอตอนต่อไปค่ะ

 เป็นกำลังใจให้คนเขียน :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-03-2015 00:01:38
โปเต้เมาแล้วหื่น  เกือบไป ดีนะที่ตินณ์หยุดโปเต้ได้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 16-03-2015 00:01:51
หวยออกวันนี้ กะรอเลขเด็ด โปเต้ไม่ใบ้ซะงั้นนนนน ฮื้อๆ

คนในห้องจิ้น แต่คนอ่านนี่ทั้งจิ้นและฟินตามๆกันเลยจ้าาาา555555555 เขินมากกกตอนนี้ น่ารักอะ โปเต้ขี้อ้อนเหมือนน้องหมาตัวเล็กๆเลย (ชมค่ะชม ชอบพระเอกขี้อ้อนแบบนี้สุดๆ) ส่วนน้องติณเหมือนผู้ฝึกน้องหมาแลัะเจ้าของ น่าร๊ากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 16-03-2015 00:02:58
นี่คือธาตุแท้ของโปเต้สินะ
5555555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-03-2015 00:21:28
โปเต้หื่นนนนน. อิอิ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-03-2015 00:40:29
พวกเพื่อนน่าจะได้ยินตั้งแต่เมื่อคืนแล้วป่าวติณณ์ :m20:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 16-03-2015 00:52:21
น่ารักมากตอนนี้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 16-03-2015 00:59:15
โปเต้ขี้อ้อน น่ารักอ่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-03-2015 01:07:33
 :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 16-03-2015 01:22:11
โปเต้เห็นเงียบๆนิ่งๆแบบนี้ แต่ทำไมหื่นนนนนนนนนนน
นี่ถ้ากลับห้องไปอยู่กันสองต่อสอง จะเกิดไรขึ้น 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-03-2015 01:57:06
ป้าเกาะอยู่บนข้างฝา
เมื่อคืนเกือบตกมาจากผนังแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-03-2015 06:20:39
โปเต้เมาแล้วหื่นแตกเหรอ :hao6:
ปล.อุตส่าห์เตรียมกระดาษมาจดหวยเลยน่ะโปเต้ไม่บอกซะงั้น :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-03-2015 07:04:42
ทำไมนภัทรไม่บอกหวยยยยยย
เจ๊รอเอาไปแทงอยู่นะลูก!!!!
แต่สวีทไม่แคร์สื่อแบบนี้พอทดแทนกันดร๊ายยย
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 16-03-2015 07:25:57
เกือบไปแล้วววววว
อีกไม่นานคู่นี้คงปั่มปั๊มกัน 55555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 16-03-2015 07:31:12
ติณห์น่ารักขนาดนี้จะไม่ให้โปเต้หลงได้ไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-03-2015 07:39:12
 :-[   เราว่าสี่ชีวิตคงแกล้งหลับมาตลอดอะ  :laugh:

โปเต้อ้อนว่าที่เมีย ไม่ได้หวยก้อไม่เป้นไร
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 16-03-2015 07:53:10
ณภัทรโหมดขี้อ้อน  คริคริคริ
ติณณ์เหมือนมีลูกชายซะมากกว่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 16-03-2015 08:06:06
เพื่อนๆน่าจะถ่ายคลิปมาด้วย เอาไปขายคงได้กำไรงาม 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-03-2015 08:42:49
สงสัยว่า สี่คนที่เหลือในห้องจะได้ยินตั้งแต่เมื่อคืนด้วยหรือเปล่า

โปเต้อนาคตกลัวเมียแน่ๆ 555 แค่ติณณ์ทำเสียงแข็งหน่อยเดียวหงอไปเลย  แต่โปเต้เวลาเมานี่หื่นใช่เล่นนะ ถ้าติณณ์ไม่ห้าม มีหวังสี่คนในห้องได้เลือดกำเดาไหลแน่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-03-2015 08:59:04
ตอนนี้น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 16-03-2015 09:15:46
พ่อคุณหื่นไม่เกรงใจเพื่อนเบยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 16-03-2015 09:59:52
 :hao7: อร้ายยยย น่ารักเกินไปละโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 16-03-2015 12:17:03
แก้ลงเมาหรือเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-03-2015 12:25:12
โดนนนนหลอกไหนว่าเมาแล้วจะบอกหวยไง  :sad11:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: minenat ที่ 16-03-2015 15:19:52
 :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 16-03-2015 20:29:57
เมาจริงหรือเมาดิบไม่รุ หื่นเชียวโปเต้ ก็ติณน่ากินคนอ่านก็พอจะเข้าใจ
นี่ถ้าบ้านสงสัยจะเรียบร้อย 5555 แววนางพญมาแหล่ว แฟนรัก แฟนหลง แฟนกลัว
บอกจะโกรธปุ๊ย หยุดกึ้ก!!! เยี่ยมค่ะติณ โปเต้แบบงุงงิงงอแงน่ารักผิดมาดปกติมาก คนอ่านชอบบบ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-03-2015 21:04:34
แวะมาเม้ามอย นี่ถ้าวันนี้ออก19(เลขดัง)ตามหน้าเพจที่อัพตอนล่าสุดนี่จะถือว่าคนเขียนใบ้หวยแทนโปเต้

แต่ดีแล้วที่ไม่ใช่ รอจ้า   :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 16-03-2015 21:17:05
โดดดดดดด่วววววววววววว  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:  :z2: :z2: :z2:จะปล้ำติณณ์หรอออ :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 12 ครึ่งหลัง P.19 15/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 16-03-2015 22:42:20
โปเต้อ้อนนนน น่าร้ากกกกกกก ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 17-03-2015 02:17:13
ตอนที่ 13 (ครึ่งแรก)













“ติณณ์ นี่น้ำกับผลไม้ ผมซื้อมาฝาก”




“ติณณ์ พี่ซื้อขนมมาฝาก”




“ติณณ์ไม่ต้องไปกินขนมหรอก กินผลไม้ดีกว่า”




“แกมีสิทธิ์อะไรมาบังคับติณณ์ว่ะ”




“นั่นมันเรื่องของผม”




สงสัยใช่มั้ย ว่าสองเสียงนั่นเป็นเสียงของใคร ใครกับที่เอาน้ำกับผลไม้มาให้ผม และใครกับที่เอาขนมมาให้ผม




พวกคุณลองทายดูสิ




“โถ่วววววววว ...จะมายืนทะเลาะอะไรกับ เอาใจไอ้ติณณ์มันไปก็เท่านั้นแหละ มันไม่สนใจหรอก ทั้งชีวิตมันสนใจแฟนมันคนเดียว” หลุยส์คงจะทนไม่ไหว ถึงได้พูดแทนผม




“ผมแค่ซื้อมาฝากในฐานะเพื่อน” เฟียสตอบหลุยส์หน้าซื่อ




“พี่เอามาฝากในฐานะพี่รหัส” พี่เฟรมแอ๊บตอบได้กวนตีนมากๆ




“เหรออออออออออออออออออออออออออ” เพื่อนผมทั้งสี่ลากเสียงยาวอย่างประชดใส่สองคนนั่น




“ติณณ์ ...กูสังเกตนานล่ะ ที่คอมึงอ่ะ โดนใครหยิกมาเหรอ” แลนด์หันมาถามผม น้ำเสียงดูสงสัยนะ แต่ตานี่...ไม่ใช่อ่ะ




เดี๋ยวนะ...รอย??? ที่คอ???




เฮ้ย! ...รอยที่โปเต้ทำไว้เมื่อวันก่อนนี่หว่า!!!




ไม่แปลกที่ใครๆจะเห็น ก็มันเล่นอยู่ตรงที่สะดุดตามากๆ แถมมันยังช้ำม่วงจนน่ากลัว แม้ว่าจะเป็นจุดเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่เพราะผมเป็นคนขาว มันเลยตัดกัน จึงทำให้เห็นชัดมาก




และผมก็ลืม...ว่ากระแสระหว่างผมกับโปเต้มันก็ยังแรงดีไม่มีตก ถ้ามีข่าวเรื่องรอยที่คอ มันจะต้องมีข่าวแปลกๆออกมาแน่ๆ




แต่จะให้หาอะไรมาปิด อย่างเช่นพลาสเตอร์เหมือนพวกผู้หญิงทำ ...ผมว่ามันออกจะสาวแตกไปมั้ย ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น




ครับ...ผมไม่ซีเรียสเรื่องรอยที่คอ แต่ผมซีเรียสเรื่องที่จะต้องบอกเพื่อนว่ารอยนี้ได้มาแต่ใดต่างหาก บอกตามตรง ...ยางอายผมยังมีอยู่




“จริงด้วย ช้ำมากเลยติณณ์ ใครหยิกเหรอ” เฟียสเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วย นี่เขาคิดว่าโดนหยิกจริงๆเหรอ




“.....” ผมไม่ตอบ ก่อนจะหยิบหนังสือตรงหน้าขึ้นมาอ่านแทน




นี่ถ้าโปเต้อยู่ด้วย ...อาจจะได้วางมวยกับเฟียสไปแล้วมั้ง เพราะโปเต้มักจะน็อตหลุดเวลาเฟียสมาหาผม (แต่เฟียสเองก็แปลก รู้ว่าผมมีแฟนแล้วก็ยังมาเทคแคร์ ชอบมากวนตีนโปเต้บ่อยๆ)




ถ้าจะถามว่าโปเต้ไปไหน บอกไว้เลยว่าผมไม่รู้ เพราะเมื่อมาถึง อยู่ๆจินกับเซย์ก็มาลากตัวโปเต้ไป บอกกับผมว่าขอยืมตัวโปเต้แป๊บนึง แล้วก็หายกันไปเลยสามคน




“สมน้ำหน้า ติณณ์เมินแก” เสียงพี่เฟรมหันไปเย้ยเฟียสครับ




“เหอะ ติณณ์เขาก็เมินพี่เหมือนกัน” เฟียสว่ากลับอย่างไม่ยอมแพ้




“แกคนเดียวเถอะ”




“พี่ด้วยต่างหาก”




“แกคนเดียว”




“พี่ด้วย”




“บอกว่าแกก็แกคนเดียวดิว่ะ!”




เดี๋ยวนะๆ ...ตกลง ...สองคนนี้มาหาผมหรือมาทะเลาะกันเอง อย่างกับผัวเมียเถียงกัน




“แหมมมมมมม ...เถียงกันขนาดนี้ ลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆเลย” เสียงนิดาเอ่ยขึ้นอย่างขำๆครับ




“เหยดดดดดดดดดดดดดด ...น้องนิดา ตบปากเลยยยยยยย ...พี่รับไม่ได้กับคำที่น้องกล่าวมามากๆ” เสียงพี่เฟรมบอกนิดา ประมาณว่า ...พี่แกรับได้จริงๆ




“ผมเองก็รับไม่ได้เหมือนกัน ที่จะต้องเอาผู้ชายปากสุนัขเป็นเมีย” เฟียสว่าอย่างไม่ยอม พร้อมแขวะพี่เฟรมไปพร้อมๆกัน




“ใครเป็นเมียแกว่ะ ต่อยกันเลยมั้ยเฮ้ย!” พี่เฟรมหันไปเอาเรื่องกับเฟียส




“ผมไม่นิยมทำร้ายคนแก่ที่ไม่มีทางสู้หรอก” เฟียสว่าอย่างเย้ยๆ แม้ว่าพี่เฟรมจะสูงและล้ำยังไง ก็สู้เฟียสไม่ได้หรอก




ดูจากปัจจัยหลายๆอย่างอ่ะนะ




“ไอ้!..” พี่เฟรมดูท่าว่าจะไปต่อไม่ถูก คงไม่รู้จะหาคำไหนมาด่าเฟียส




“เฮ้ย! ไอ้ติณณ์ ทำไมแฟนมึงเดินหน้ามุ่ยมาแบบนั้นว่ะ” อยู่ๆ จีน่าก็ร้องทักซะเสียงดัง




“.....” ผมเงยหน้ามองไปหาโปเต้ พบว่ากำลังเดินมาที่โต๊ะ แต่สีหน้าบ่งบอกได้เลยว่ากำลังหงุดหงิดสุดๆ แล้วพอมาใกล้ๆ ...ผมก็สังเกตุได้ถึงสิ่งผิดปกติที่อยู่บนใบหน้าหวานๆนั่น




รอยแดงที่โหนกแก้ม ที่อีกไม่นานต้องกลายเป็นรอยช้ำ กับแผลปริแตกเล็กๆที่มุมปาก ยังมีคราบเลือดติดอยู่ บ่งบอกได้ว่ายังไม่ได้ทำแผล




ไปทำอะไรมาน่ะ?




“.....” โปเต้เดินมานั่งข้างๆผม แต่ยังไม่ปริปากพูดอะไร และผมเองก็ยังไม่พูดอะไรเช่นกัน




ทั้งโต๊ะเงียบ ...รวมไปถึงสองคนที่พึ่งตีกันอย่างเฟียสกับพี่เฟรมด้วย




“.....” โปเต้ไม่ยอมมองหน้าผม เขามองก้มลงมองพื้น แต่มือที่วางอยู่ที่หน้าขากำลังกำแน่น ราวกับกำลังระงับอารมณ์




“.....” ผมเอื้อมมือไปแตะเบาๆ ที่มือของโปเต้ ก่อนจะค่อนๆเปลี่ยนๆเป็นกุมมือ




“.....” โปเต้หลับตาก่อนจะถอนหายใจเบาๆ มือของเขาคลายออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับมือผมแทน




“...เป็นอะไร” ผมถามเบาๆ




“...ไม่มีอะไรหรอก” โปเต้ตอบ ...แต่ไม่มองหน้าผม




“เป็นอะไร” ผมยังคงถามคำถามเดิม




“ไม่มีอะไร”



“โปเต้”




“ไม่มี”




“โปเต้ เป็นอะไร” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมถามเขา แล้วเขาจงใจปฏิเสธที่จะบอกผมอย่างเห็นได้ชัด ดูก็รู้ว่าไปมีเรื่องมา




ผมรู้ว่าโปเต้เป็นคนอารมณ์ร้อน เขามักจะฟิวส์ขาดทุกครั้งที่โมโหถึงขีดสุด อย่างน้อยก็ครั้งนึงตอนเฟียสเข้ามาขอจีบผม แต่ครั้งนั้นผมห้ามทัน




แล้วครั้งนี้ล่ะ ..ไม่มีเรื่องมาแน่นอน แถมยังเจ็บตัวมาด้วย




ผมสารภาพเลยว่าผมเป็นห่วงเขา ผมก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆอ่ะ ที่ไม่อยากให้แฟนตัวเองเจ็บตัว อยากรู้ว่าเขาไปทำอะไรมา




“ไม่ได้เป็นอะไร”




“.....”




“อยู่นี่เอง อ่ะนี่...ทำแผลซะ กูอุตส่าห์ขับรถออกไปซื้อที่ร้านยาหน้ามหาลัยให้” เซย์เดินมาอย่างรีบๆ ก่อนจะวางกล่องปฐมพยาบาลเล็กๆไว้ตรงหน้าโปเต้




“ทำไมดู...ซีเรียสกันจัง” จินที่เดินตามมาเอ่ยทัก




ผมไม่หันมองหน้าคนอื่นๆ ผมยังมองอยู่ที่โปเต้ ที่ยังไม่ยอมพูดอะไร




ผมรู้สึก...อึดอัด แน่นๆที่อก หายใจไม่ทั่วท้อง ...ผมเจ็บ




...เห็นเขาเจ็บตัว ...ผมเองก็เจ็บไปด้วย ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำไมถึงรู้สึกแบบนี้




เจ็บ...ที่เห็นเขาเจ็บตัว เจ็บ...ที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เจ็บ...ที่ไม่รู้ว่าเขาไปมีเรื่องกับใครมา เจ็บ...ที่ไม่รู้อะไรเลย เจ็บ...ที่เขาไม่ยอมบอกอะไร เจ็บ...




เจ็บจริงๆ ผมไม่อยากรู้สึกแบบนี้




แต่ผมก็ไม่อยากบังคับโปเต้ ถ้าเขาอยากบอกให้ผมได้รับรู้ เขาก็ต้องบอกผมแล้ว




แม้ว่าใจจะคิดแบบนั้น แต่ทำไม...ผมถึงรู้สึกอยากร้องไห้ว่ะ




ผมไม่เคยคิดที่จะเข้าใจอารมณ์ผู้หญิง เวลาที่แฟนมีเรื่องชกต่อยแล้วมานั่งร้องไห้




แต่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพวกเธอรู้สึกยังไง เพราะผมเองก็รู้สึกแบบนั้นไม่ต่างกัน ผมไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไม่เคยร้องไห้มานานมากแล้ว...ล่าสุดคงเป็นตอนที่พ่อแม่เสียชีวิต




แค่ผมเห็นโปเต้มีแผล ผมก็เจ็บแทน อีกทั้งยังไม่ยอมบอกอะไรอีก ความรู้สึกอยากร้องไห้ผมก่อขึ้นอยู่ในอกผม มันน้อยใจ อึกอัด เป็นห่วง อยากรู้...เพราะอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง แม้จะแค่เรื่องเล็กก็ต้องบอก ยิ่งเรื่องใหญ่ยิ่งต้องบอก




นี่ผมกำลัง ‘แคร์’ โปเต้อยู่ใช่มั้ย




ผมไม่ได้กำลังงี่เง่า ...ผมไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเป็นอะไร




“.....” ผมค่อยๆเลื่อนมือออกจากมือใหญ่ที่จับมือผม โปเต้ทำท่าจะคว้ามือผม แต่ก็ต้องชะงักลง เมื่อเห็นผมหันไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลขนาดเล็กมาวางไว้บนตัก ก่อนจะเปิดออก หยิบสำลีและยาขึ้นมา




“.....” โปเต้มองการกระทำของผมอย่างเงียบๆ และผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน




“.....”




“ซี๊ดดด..” โปเต้ร้องเบาๆ เมื่อสำลีที่ชุบยาในมือผมโดนแผลที่มุมปากของเขา ทำเอาผมชะงักมือ




“.....” ผมเม้มปากแน่น ก่อนจะค่อยๆแตะสำลีลงไปที่มุมปากที่ปริแตกของโปเต้อย่างเบามือกว่าครั้งก่อน




มือผมสั่นจนตัวผมเองยังรู้สึก ...ภาพตรงหน้าค่อยๆพร่ามัว




หยาดน้ำตาเม็ดใสร่วงหล่นจากดวงตาของผมราวกับมีคนมาเปิดก๊อก ไม่มีเสียงสะอื้นใดๆ มีเพียงน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ผมไม่ได้อยากงี่เง่า... ผมไม่ได้เป็นคนที่ร้องไห้ง่าย แต่น้ำตา...มันไหลออกมาเอง อารมณ์ผมตอนนี้มันอ่อไหนไปหมด เพียงแค่มีอะไรมาสะกิดนิดเดียว ...มันก็พร่อมที่จะพรั่งพรูออกมา




“เจ็บมั้ย” ผมเอ่ยออกมาเบาๆ เสียงสั่นแบบที่ว่าห้ามไม่อยู่ ผมเป็นห่วงเขา ไม่อยากให้เขาเจ็บ




“ติณณ์...” โปเต้รวบมือผมที่ทำแผลให้เขาด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ยกขึ้นปาดน้ำตาให้ผมอย่างเบามือ




และมือโปเต้เอง...ก็สั่นไม่แพ้กัน




“...เจ็บมั้ย” ผมเอ่ยถามซ้ำ




“ไม่ ...ไม่เจ็บ ขอโทษ ...อย่าร้อง” ดูท่าโปเต้จะเริ่มเรียบเรียงคำพดไม่ถูก แต่ผมรู้ว่าเขาพยายามปลอบผม




“.....” ผมค่อยๆก้มหน้าลงมองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่ของโปเต้กุมเอาไว้




“ก่อนจะเดินมาหา ...บังเอิญไปเจอพวกปากหมาเข้า ...มันดูถูกติณณ์ มันหยามติณณ์ มันพูดถึงติณณ์ในทางไม่ดีต่อหน้าผม ...ผมทนไม่ได้ ที่จะต้องมีคนพูดถึงติณณ์แบบนั้น เลยมีเรื่องกันนิดหน่อย ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก ผมไม่อยากบอก กลัวว่าติณณ์จะไม่สบายใจ ...รอยที่คอ จะไม่ทำแล้ว มันทำให้ติณณ์โดนมองไม่ดี ...ขอโทษนะ” นี่คงเป็นประโยคที่ยาวที่สุดที่โปเต้เตยพูดเลยก็ได้ แต่มันทำให้ผมดีใจอยู่นิดๆ




เขาแคร์ผม ...และพยายามปกป้องผม




“โปเต้...เรื่องแค่นั้นเอง ไม่ต้องไปสนใจก็ได้”




“ไม่ได้หรอก มันดูถูกติณณ์”




“คนมีปากก็เอาไว้พูดอ่ะ ไม่ต้องไปสนใจหรอก ผมไม่อยากเห็นนายเจ็บตัว เพราะผมเองก็เจ็บไปด้วย ...นะ อย่ามีเรื่องเพราะผมอีกเลย”




“ไม่รับปาก ถ้าทำให้ได้ก็จะทำ” โปเต้ตอบเสียงเรียบ แต่รอยยิ้มนิดๆที่มุมปากที่เขาส่งมาให้ มันทำให้ผมมั่นใจว่า โปเต้จะต้องพยายามให้เกิดเรื่องแบบนี้ให้น้อยที่สุด



“.....”




“เลิกร้องได้แล้ว”




“.....” ผมได้แต่เงียบ ...เพราะความเขิน




ดันมาร้องกลางคณะซะได้ เริ่มรู้สึกอายๆขึ้นมาล่ะ




ผู้ชายอย่างผม มานั่งร้องไห้ให้ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าแฟนกลางคณะ ...คงได้มีข่าวใหม่อีกแน่ๆ




แต่ว่านะ ...การเป็นแฟนกับโปเต้นี่มันก็...โอเคอ่ะ




เอ...ดูเหมือนผมจะลืมสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเพื่อน รุ่นพี่ และชายต่างคณะอีกแปดชีวิตไปเลยแหะ








*******************************************************

FANPAGE

https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 17-03-2015 02:23:55
 :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 17-03-2015 03:31:00
น่ารักอ่ะะะะะ นับวันติณณ์ยิ่งน่ารักขึ้นเรื่อยๆ ถ้านี่เป็นโปเต้ก็หลงเหมือนกัน
เฟียสเฟรมชื่อคล้องจองกันดีนะ 55555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-03-2015 03:42:25
อุ้ยยยย โปเต้โหดอะ แต่ชอบๆอิอิ ปกป้องติณด้วย ดีใจแทนติณ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-03-2015 05:29:40
สร้างโลกส่วนตัวตลอด :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 17-03-2015 05:35:43
บ่อน้ำตาแตกซะงั้น



น่ารักจริงๆเลยโปเต้ปกป้องคนที่รัก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: haemin ที่ 17-03-2015 06:00:36
 :-[ :-[ :-[ :-[ ประหนึ่ง กำลังโดนโปเต้จีบ เอง  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-03-2015 06:03:14
 :hao5:   น้ำตาซึมก็ฟินได้. เชื่อแล้วว่าโปเต้ขี้หวงมากจริงๆ.
พอกุมมือกันแล้วใครๆรอบตัวกลายเป็นอากาศไปเลยจ้า
ติณณ์น้อยรู้ตัวแล้วสินะว่าเผลอใจรักแฟนคนนี้ไปตั้งนานแล้ว

 o13.  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-03-2015 06:39:23
คนมุงเต็มโต๊ะ แบบนี้มีเขินนนนนนนนน
ช่วงนี้อัพถี่จังงงง ดีใจจจจจจจ ขอบคุณมากน้าาา
รอตอนต่อไปเน้ออออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 17-03-2015 06:55:07
กรี้ดดดด หวานออกสื่อคร่า ชอบอ่าติณน่ารักมากเลย
โปเต้ปกป้องสุดๆ ขอบคุณนะ ไว้มาต่ออีกน๊าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 17-03-2015 06:56:45
สร้างโลกส่วนตัวตลอดอ่ะสองคนนี้ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-03-2015 06:59:33
ติณณ์อ่อนไหวมากเลยนะเนี่ย ช่วงนี้จขกท.มาไว ขอบคุณนะค้า

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 17-03-2015 07:07:57
555555 ชอบคู่นี้อ่ะ เวลาคุยกันลืมรอบข้างไปเลยอ่ะ
อย่าให้เจอพวกที่ว่าติณติณนะ พ่อจะกระทืบซ้ำแม่มเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 17-03-2015 07:10:51
ฮาโหลลลลล พวกกุยังอยู่นะ พวกกุนั่งอยู่ตรงนี้!! :z3:/เหล่าผองเพื่อนทั้งหลาย

กรี๊ดดดดดดดด! พี่ติณณ์กะพี่นภัทรเค้าปลอบใจกันด้วยล่ะ อ่อยยพี่ติณณ์ร้องไห้เเล้วน่ารักจังเลย :impress2:    /เหล่าสาววายที่อยู่แถวนั้น


แหะแหะแหะ :hao6: เอาอีกเซ่เอาอีก กร้ากกกก/me

#เรายังรอนายบอกหวยอยู่นะโปเต้ เอิ้กกก :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-03-2015 07:12:35
เวลาสองนี้คุยกันจะเข้าโหมดโลกนี้มีเราสองคน 555555 สงสารเพื่อนๆเบาเบาโดนลืม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 17-03-2015 07:15:51
อ้ากกกกสองคนนี้หลุดเข้าไป
ในโลกส่วนตัวอีกแล้วน่าสงสาร
มนุษย์เพื่อนทั้งหลายที่ต้องนั่ง
มองฉากหวานสุดซึ้งนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-03-2015 07:31:36
ติณณ์น่ารักขึ้นทุกวัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 17-03-2015 08:20:14
ไม่ร้องไห้ง่ายๆ
แค่โปเต้เจ็บตัว
ก็ร้อง
ไม่เป็นไรเต้ทำเพื่อติณณ์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 17-03-2015 08:33:49
สองคนนี้เวลาเข้าสู่โหมดโลกส่วนตัวนี่ลืมสิ่งรอบข้างตลอดน่ารักจริงๆ
 :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QueenPedGabGab ที่ 17-03-2015 09:08:03
น่าร้ากกกกกกกกกก♥
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-03-2015 09:14:05
ว้ายยยยย แก้มจะแตกแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2015 09:33:09
น่ารักมากกกกกกกก ♥
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-03-2015 09:50:20
ผู้ชายข้าใครอย่าแตะ  ไม่งั้นมีเรื่อง  โปเต้กล่าวไว้


ติณห์ถึงกับร้องไห้ให้โปเต้ขนาดนี้ หวังว่าเฟียสกับพี่เฟรม คงยอมถอนตัวนะ และเชียร์ให้เฟียสมาจีบพี่เฟรมแทนจะดีกว่า เพราะยังไงติณห์ก็คงให้ได้แค่คำว่าพี่และเพื่อนเท่านั้น
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-03-2015 09:53:56
โลกนี้มีแค่เราสองคนตลอดอ่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 17-03-2015 10:08:23
555555 หนูลืมโลกกันบ่อยไปแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 17-03-2015 10:51:03
ติณณ์น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 17-03-2015 11:15:43
โอ๊ยยย น่ารักกันจิงๆคู่นี้  :m3:
รอนะฮะ :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 17-03-2015 11:16:16
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 17-03-2015 11:59:45
ตายกลางเที่ยงขัาวยังไม่ได้กิน แต่รู้สึกโดนแท่นฟินกระแทกพุงตายกลางอากาศ.......
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 17-03-2015 12:08:38
เพิ่งมาอ่าน จิกหมอนหนักมากกกกกก คือฟิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 17-03-2015 12:09:55
เค้าเขินแทนเลยอ่ะ  :o8: :-[ :o8: :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 17-03-2015 12:25:08
คิดว่าอยู่กันแค่สองคนเรอะแล้วเฟียสเฟรมนี่แปลกๆนะคะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 17-03-2015 12:47:44
เค้าแคร์กันมากจริงๆ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 17-03-2015 13:21:13
น้องติณณ์ สาวน้อยมากค่ะลูก
อิอิ แต่ก็ชอบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 17-03-2015 13:30:15
หวานกันไม่แคร์เพื่อนรอบข้างเลยย

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 17-03-2015 14:31:32
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2- :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
รักก็แบบนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 17-03-2015 16:32:40
โลกนี้มีแค่สองเราพูดเลยยยยยย 55555 +1 ให้กับความขยัน Up ค่ะ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-03-2015 19:04:48
เม้นสองตอนรวดคร้าาาา
ทั้งตอนที่ 12+13 นี่รู้สึกว่าสองคนจะสร้างโลกส่วนตัวกันตล๊อดๆๆๆ ไม่สนใจคนอื่นเรย
ซึ่งคนอ่านชอบบบบบ 55555  ^0^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 17-03-2015 19:50:42
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 17-03-2015 20:30:12
 :-[ เขินแทนเลย โปเต้ติณณ์มีข่าวใหม่แน่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 17-03-2015 21:57:39
ไหนๆ ใครว่าติณ คนอ่านจะไปรุมตื้บ แต่เวลาเรารักใครเราจะเป็นแบบนั้นจริงๆ
เห็นเขาเจ็บเราเน็บด้วย ต่อไปโปเต้คงใจเย็นกว่านี้ เขารักกันแล้วนะ เป็นขนาดนี้อ่ะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 17-03-2015 22:46:05
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-03-2015 23:19:52
คู่นี้โลกส่วนตัวสูง ลืมคนรอบข้างประจำ
โปเต้ใจเย็นๆ ตินณ์เป็นห่วง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 17-03-2015 23:46:08
โอ้ยยตายยๆๆๆๆๆ

ขอแฟนแบบโปเต้สักคนค่ะ

อิจฉาติณละเกินนนนนน

 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 17-03-2015 23:52:31
ใจละลายละค่ะ เขิน  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งแรก P.20 17/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 18-03-2015 13:25:07
ถ้าเป็นเราคงได้นั่งแก้มแดงกันไปแล้วล่ะ โอ้ยยย...มุ้งมิ้งแบบนี้ เขินแทนโว้ยยยยยยยย..ยย.ยยย.ยยย..!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 20-03-2015 21:49:23
ตอนที่ 13 (ครึ่งหลัง)











ตกเย็นโปเต้พาผมมาเดินตลาดนัดแถวมหาลัย คนกำลังเยอะเลย อาการก็ร้อนมาก แต่เห้นโปเต้สนุกกับการซื้อของกิน ผมว่าบรรยากาศแบบนี้มันก็โอเคเลยอ่ะ เราไม่ได้มาเดินกันสองคนนะ มีจิน ดอมินิก เซย์ อลัน และสองคู่ซี้ (?) อย่างเฟียสกับพี่เฟรมก็มา อันนี้ไม่ได้ชวนมานะครับ เฟียสมากับเพื่อนเขา ส่วนพี่เฟรมเห็นว่ามาช่วยเพื่อนขายของ แต่พอทั้งคู่เห็นผม ก็หนีเพื่อนมาเดินตามผมซะงั้น แต่เหมือนไม่ได้มาเดินตามผมอ่ะ เหมือนมาเดินทะเลาะกันมากกว่า




ผมว่าสองคนนี้ดูเข้ากันแปลกๆนะ




ผมควรจะยุให้เขาจีบกันดีมั้ย เขาจะได้ไม่ต้องมาตามตื้อผม




“ติณณ์ กินมั้ย” โปเต้ถามผม หลังจากที่เขาแวะซื้อไอศกรีมกะทิที่เขาตักใส่กะลามะพร้าวอ่ะครับ




เขาถามผมนะ แต่มือเขาตักไอศกรีมมาจ่อปากผมแล้ว ผมจะทำอะไรได้นอกจากอ้าปากงับช้อนที่เขาป้อนมา




“โว้ยๆๆๆ หวานไม่เกรงใจสื่อเลย” เซย์เอ่ยแซวทั้งที่เขากำลังเดินโอบไหล่อลัน ส่วนจินกับดอมินิกก็เดินจับมือกันไปเงียบๆ




 คงจะมีแค่สองคนที่ส่งเสียงทะเลาะกันตลอดทาง




“ไปกินก๋วยเตี๋ยวกัน” โปเต้เอ่ยบอกกับทุกคน ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งโดยไม่ได้ถามความเห็นจากใคร แต่ทุกคนก็เดินตามโปเต้เข้าไป




“เอากี่ชามครับ” น้องเด็กเสริฟเดินมาถามพวกผม




“แปดครับ” พี่เฟรมเป็นคนตอบ ผมพึ่งสังเกตว่ามันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ




“เดี่ยวพี่เลี้ยงทุกคนเองนะ สั่งได้ตามสบายไม่ต้องเกรงใจ ..ส่วนแกก็จ่ายเอง” พี่เฟรมพูดกับพวกผม ก่อนจะหันไปบอกเฟียสว่าพี่เฟรมจะไม่ออกเงินให้




“อะไรกันอ่ะพี่ ถึงจะคนละคณะแต่ก็สถาบันเดียวกันไม่ใช่เหรอ” เฟียสแย้ง




“ก็ฉันจะเลี้ยงน้องในคณะ”




“พี่แม่งสองมาตราฐานว่ะ”




“เรื่องของฉัน”




แล้วพวกผมก็นั่งฟังสองคนนั้นเถียงกันจนเขาเอาก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟ กินเสร็จแล้วก็เรียกเก็บเงิน สองคนนั้นก็ยังไม่เลิกเถียงกัน แต่สุดท้ายพี่เฟรมก็จ่ายค่าก๋วยเตี๋ยวให้เฟียสจนได้




เดินต่อกันอีกสักพักก็แยกย้ายกันกลับ




“ติณณ์ พรุ่งนี้ผมต้องซ้อมบาส” โปเต้บอกผมในขณะที่ตัวเองกำลังเช็ดผมที่พี่งสระอยู่




“งานกีฬาน่ะเหรอ”




“อืม”




“เราแข่งกับคณะไหน”




“เกษตรฯ” โปเต้ตอบ ก่อนที่จะเดินเอาผ้าเช็ดตัวไปตากไว้ที่ราวตากผ้า แล้วเดินมาล้มตัวลงนอนลงบนเตียง




“อืม”




“ไปดูผมซ้อมนะ”




“...อืม”




“หนังสือน่ะ เลิกอ่านได้แล้ว นอนเถอะ” โปเต้เอือมมือมาดึงหนังสือที่ผมอ่านอยู่ออกเฉยเลย




“ผมอ่านอยู่นะ”




“นอนกัน” โปเต้พูดพลางจ้องผม ...ตาแป๋ว?




ไม่รู้จะใช้คำนี้ได้รึเปล่า แต่ผมรู้สึกแบบนั้นจริง




“...อืม” ผมจำต้องเดินไปปิดไฟ ก่อนจะเดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน เฮ้อ...นอนก็นอนว่ะ













“นายไปก่อนเลย เดี๋ยวผมตามไป” ผมบอกกับโปเต้เมื่อตอนนี้เรากำลังเดินออกจากห้องเรียน ซึ่งมันเป็นวิชาที่เรียนสุดท้ายของวันนี้




“จะไปไหน” โปเต้ถามผมเบาๆ พอให้ได้ยินกันแค่สองคน




“จะไปซื้อของกิน”




“ไปกับใครล่ะ”




“ว่าจะชวนแลนด์กับหลุยส์ไป” ผมบอกแบบนั้น เพราะผมยังไม่ได้ชวนทั้งคู่เลย




“อืม ซื้อเยลลี่มาฝากด้วย”




“.....” ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปชวนหลุยส์กับแลนด์ไปซื้อของกินแถวๆมหาลัย




“อ้าว ไม่ไปดูนภัทรมันซ้อมเหรอ” แลนด์ถามผม พลางทำหน้างง




“ไปซื้อของกินก่อนไง”




“อ่อ เอาดิ ...หลุยส์ วันนี้มึงเอามอเตอร์ไซต์มา เอารถมึงไปนะ”




“งั้นมึงก็เอารถกูไปกันสองคนไป กูจะไปหาที่นอนแถวๆสนามบาสแล้วกัน” หลุยส์ว่าก่อนจะยื่นกุญแจรถไปใหแลนด์ แล้วเขาก็เดินไป สงสัยจะง่วงจริงๆ




“งั้น...เราไปกันเหอะ” แลนด์เอ่ยบอกก่อนจะเดินนำผมไป




แลนด์พาผมไปซื้อของกินหลายๆอย่าง ก่อนที่ผมจะให้แลนด์แวะร้านเบเกอรี่




“มึงจะซื้ออะไรอีกเหรอ นี่ก็เยอะแล้วนะ” แลนด์ถาม แต่ก็ยอมพาไปร้านเบเกอรี่ที่ใกล้ที่สุด




“ว่าจะไปซื้อเค้ก...กับเยลลี่”




“เยลลี่?” แลนด์ทวนคำ




“อืม”




“มึงไม่ชอบกินไม่ใช่เหรอ”




“ก็ใช่”




“แล้ว..”




“ซื้อให้โปเต้”




“.....”




แล้วแลนด์ก็ไม่ได้ถามอะไรผมอีก จนกระทั่งถึงร้านเบเกอรรี่แล้วกลับไปมหาลัย




ผมกับแลนด์จอดรถแถวๆโรงยิม ก่อนจะเดินเข้าไป เห็นเขากำลังซ้อมบาสฯกันอยู่ เห็นโปเต้ก็วิ่งๆอยู่ในนั้นด้วย




“มึงๆ นั่นไงไอ้หลุยส์” แลนด์สะกิดผม แล้วชี้ไปทางคนที่นอนอยู่ตรงอัฒจันทร์ ผมกับแลนด์เห็นอย่างนั้น จึงเดินเข้าไปหา




“ไงมึง ไปทำไรมา ...ทำไมหลับแบบนี้” แลนด์เดินเข้าไปปลุกหลุยส์ก่อนจะถาม




“หืมมม...ไม่มีอะไรหรอก แล้ว...ซื้ออะไรมาบ้าง” หลุยส์ชะงักก่อนจะตอบแล้วเปลี่ยนเรื่อง ผมกับแลนด์สบตากันเงียบๆ แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยปากถามอะไรหลุยส์ต่อ เพราะไม่อยากบังคับ รอให้มันบอกเอง




“รื้อๆเอาดูในถุง” แลนด์บอกก่อนนั่งลงข้างๆหลุยส์




“แล้วจีน่ากับนิดาไปไหน” ผมเอ่ยถามหลุยส์




“มันขอกลับก่อน เห็นว่าจะไปกินข้าวกับแม่ไอ้นิดา” หลุยส์บอกพลางจิ้มทาโกยากิเข้าปาก




“.....” ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ก่อนจะหันกลับไปมองในสนาม




ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องบาสเก็ตบอล จึงไม่รู้ว่าในห้าคนนั้นมีตำแหน่งในการเล่นเป็นอะไรบ้าง จะว่าไป...ในสิบคนที่วิ่งอยู่ในสนาม โปเต้สูงที่สุดเลยแหะ แล้วผิวขาวๆของเขามันก็ทำให้เขาดูเด่นไปโดยปริยาย มือใหญ่ๆของเขากำลังเลี้ยงลูกบาส หลบคนที่เข้ามาแย่งได้พลิ้วและเร็วมาก




สิ่งหนึ่งที่ผมควรจำอีกอย่าง คือ โปเต้เล่นบาสฯเป็น...สินะ




“จ้องตาไม่กระพริบเลยนะ”




“......” ผมหันไปมองทางต้นเสียง พบว่าแลนด์กับหลุยส์มองผมพลางยิ้ม ยิ้มได้เจ้าเล่ห์มากๆ




“.....”





“ก็...เปล่า” ผมตอบเบาๆ




“ไม่น่าเชื่อเลยนะ ...ว่าในวันนึงมึงจะมีแฟน” แลนด์ว่าพลางยิ้มขำ




“มัน...ก็จริง” ผมเองก็คิดไม่ต่างจากแลนด์ ผมก็ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเหมือนกัน ว่าวันหนึ่งผมเองจะมีแฟน แถมแฟนผมยังเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน ทั้งหล่อ หยิ่ง นิ่ง เงียบ แถมยังชอบหน้าดุอีกต่างหาก




“แรกๆมึงเห็นมันเป็นยังไง แล้วทำไมถึงคบกันได้ล่ะ” หลุยส์ถามผมบ้าง




“แรกๆ ...หยิ่ง นิ่ง เงียบ ชอบทำหน้าดุ ชอบสั่ง ไม่ค่อยพูด หึๆ...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบไปได้ไง” ผมขำเมื่อนึกไปถึงวันแรกที่เราเจอกัน โปเต้เป็นแบบนั้นจริงๆจนผมแอบหมั่นไส้นิดๆ นี่ผมชอบไปได้ยังไงกันนะ




เอ๊ะ...




เมื่อกี้...ผมพูดไปว่า ‘...ไม่รู้เหมือนกันว่าชอบไปได้ไง’




ชอบ???




ผมชอบโปเต้ ...แถมยังพูดออกไปแบบไม่รู้ตัวอีก




เฮ้ย ...เดี๋ยวก่อนๆๆๆๆ นี่ผม...ชอบโปเต้หรอ??? ชอบโปเต้อย่างที่ปากตัวเองเผลอพูดออกไปน่ะเหรอ???




ที่เราเป็นแฟนกัน นั่นเป็นเพราะผมจะหาทางกันพี่เฟรมออก ไม่ให้มาตื้อผม แต่โปเต้ไม่ยอมคบกันแบบหลอกๆ เราเลยต้องคบกันแบบจริงๆ ไม่ใช่เป็นเพียงข้อตกลงที่สร้างขึ้น มันไม่แปลกที่ผมจะทำตัวในฐานะแฟน และปฏิบัติแบบคนพิเศษกับโปเต้ แต่...ผมไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อโปเต้เลยสักนิด




เฮ้ย! ...ผมชอบโปเต้จริงๆอ่ะ ...ใครรู้ช่วยบอกผมที!?!




“ฮั่นแน่ๆ ...หลุดปากออกมาแล้ว” แลนด์ยิ้มอย่างผู้มีชัยที่ได้ยินประโยคนั้นจากผม




“โอ๊ยยยยย..กูโคตรจิ้นเลยว่ะ” หลุยส์เองก็อีกคน




“...เงียบน่า” ผมพูดได้แค่นั้น เนื่องจากเกิดอาการคิดคำพูดไม่ออก




“ติณณ์...” อยู่ๆโปเต้ก็โผล่มา เขาให้พักแล้วเหรอ เมื่อกี้ยังเห็นวิ่งๆอยู่ในสนามอยู่เลย




“...เขาให้พักแล้วเหรอ” ผมตั้งใจเมินสายตาล้อเลียนของหลุยส์และแลนด์ ก่อนจะหันกลับมาถามโปเต้




“อืม ...ไหนเยลลี่” มาถึงก็ถามหาของกินเลย




“อยู่นั่น” ผมชี้ไปทางข้าวของที่รกๆอยู่ข้างตัว ที่มันรกก็เพราะฝีมือหลุยส์กับแลนด์นั่นแหละ ลื้อของได้ไร้อารยธรรมมากๆ




“.....” แล้วโปเต้ก็หันไปสนใจกันการตักเยลลี่สตรอเบอรี่เข้าปาก




“ไม่ต้องรีบก็ได้ เดี่ยวติดคอ” ผมเอ่ยบอก เมื่อเห็นโปเต้ตักเอาๆ




“เข้าให้เวลาพักแค่สามนาที อีกอย่าง...มันอร่อย”




“....” ผมได้แต่มองเขาตักเยลลี่เข้าปากอย่างเงียบๆ ท่าทางจะอร่อยจริงๆ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันอร่อยยังไง เพราผมไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่




“นภัทรๆ เขาเรียกซ้อมแล้ว” แลนด์หันมาบอกติณณ์ เมื่อเห็นนักกีฬาคนอื่นๆ วิ่งไปหาพี่ปีสี่ที่เป็นคนคุมทีม เอ๊ะ...เหมือนว่าพี่เฟรมก็เป็นนักกีฬาบาสฯของคณะด้วยนี่ เห้นวิ่งอยู่แวบๆ




“อืม” โปเต้พักหน้าก่อนจะวางถ้วยเยลลี่ที่หมดแล้วลง




“ไปล่ะนะ” โปเต้บอกผมก่อนจะทำในสิ่งที่ผมไม่คิดว่าโปเต้จะทำ




เขาก้มลงจูบปากผมแรงๆหนึ่งที ก่อนจะวิ่งเข้าไปในสนาม




“โถ่ว ...ไอ้สัส ทำไมกูเขินว่ะ!”




“กูจิ้นโว้ยยยยยยยยยยยยยยย”




เสียงของแลนด์กับหลุยส์กำลังโวยวาย แต่ผมไม่ได้สนใจ




คนอยู่ก็ตั้งเยอะ ต้องมีหลายคนที่เห็นเหตุการณ์เมื่อกี้แน่ๆๆๆๆๆๆ




แม่งงง...เขินจนตัวจะแตกอยู่แล้ว โปเต้นะโปเต้ ทำอะไรประเจิดประเจ้อจริงๆ คราวหลังคงต้องดุ จะได้ไม่ทำอีก




ฮึ่ย...




แต่...ผมว่าครั้งนี้...




รสชาติของเยลลี่ก็ไม่ได้เลวร้ายนะ...




...มันก็...อร่อยดี






***************************************************

FANPAGE

https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046 (ftp://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 20-03-2015 22:06:40
 :katai2-1:    โปเต้ ทำดีมาก
 o13.

ขอบคุณที่มาต่อค่ะ.

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 20-03-2015 22:15:49
โปเต้ ร้ายกาจจจจจ
มาจุ๊บโชว์แบบนี้
รับรองทุกคนจะพูดถึง ข่าวสะพัดไปไกลกว่าเดิมแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 20-03-2015 22:33:17
โปเต้ขโมยจูบแบบเนียนๆเลย  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 20-03-2015 22:35:30
ติดใจเลลี่แล้วอะดิ :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 20-03-2015 22:35:38
โคตรน่ารักเลย จุ๊บรสเยลลี่ โปเต้ประเจิดประเจ้อว่ะ ฟินรัวๆ
ติณก็แบบบอกว่าชอบไม่รู้ตัว น่ารักมากเลยคู่นี้

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 20-03-2015 22:36:11
ง่อวววววนภัทรชอบกินเยลลี่...โดยเฉพาะเยลลี่บนหน้าติณณ์ ฮิ้วววววววว :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 20-03-2015 22:42:36
อร๊ายยยย  พี่ก้อฟิน  จร้าน้อง  เข้าๆออกเล้า  จนได้อ่านต่อจนได้ขอบคุณที่มาต่อนะคะ  ฟินไปดิ  ก่อนนอน  รักคนเขียนนะคะ  จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 20-03-2015 22:45:07
ใจง่ายนะคะน้องติณณ์ เผลอบ่อยๆแบบนี้ เดี๋ยวมียุให้ลากเข้าห้อง
อุ๊ฟฟฟฟฟฟ พูดอะไรออกไปปปปป ฮี่ๆๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปนะะะะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 20-03-2015 22:49:04
หวานกันตลอดๆๆ หวานขึ้นเรื่อยๆ. เบาหวานขึ้นตาแล้วเนี่ยะ. อิอิ :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 20-03-2015 22:52:33
เดี๋ยวนี้โปเต้ไม่แคร์สื่อแล้วนะจ๊ะ~
รุกคืบๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rainbowbim ที่ 20-03-2015 22:54:12
โปเต้ ร้ายกาจจจจจ55555555
อ่านกี่ทีๆก็เขินแทนติณน์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 20-03-2015 22:56:35
หลุดปากออกมาว่าชอบแล้ว
จูบรสเยลลี่ ฟินนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 20-03-2015 23:04:24
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยย ฟินนนนนนนนนนน เขิลลลลลลลลลลลล โปเต้อ่าาาา น่ารักไปแล้วน้าาาา ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 20-03-2015 23:07:16
เอ๊ะ ทำไมเราเขินตาม :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 20-03-2015 23:11:06
สั้นจุง   :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: num-arch52 ที่ 20-03-2015 23:12:57
 :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 20-03-2015 23:19:00
ระเบิดตัวตาม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 20-03-2015 23:21:05
อยากกินเยลลี่เลยอ่า น่ารักชะมัด :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 20-03-2015 23:22:43
เอ๊ะๆๆ!!! ยังไงๆๆ เยลลี่อร่อยหรือปากคนอร่อยยยยย :hao6: :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-03-2015 23:23:25
ร้ายกาจมากกกกกกกกก~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-03-2015 23:39:16
อยากจะแปลงร่างเป็นจิ้งจก เป็นยุง เป็นไรก็ได้เข้าไปอยู่ในโรงยิมจริงๆเลย โปเต้กับติณณ์น้อยสวีทกันสุดๆ :o8:
แต่จะว่าไป เข้าไปแบบคนก็ได้นี่ ทำไมต้องแปลงร่างด้วยก็ไม่รู้ :m20:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 21-03-2015 00:08:17
โปเต้ o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 21-03-2015 00:10:42
นั่นแน้ติณห์ไหนว่าไม่ชอบเยลลี่ไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 21-03-2015 00:50:15
ฟินและจิ้นกระจายไปไกลเลยละค่ะ  :hao7:  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-03-2015 01:12:45
จุ๊บรสเยลลี่ หวานซ่อนเปรี้ยว
โปเต้ทำแบบนี้กะประกาศตัว แสดงความเป็นเจ้าตินณ์
ร้ายนะเรา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-03-2015 01:35:52
แหมๆ มีจูบกันต่อหน้าเพื่อนๆ แบบไม่อายด้วย ฟินกันไป อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 21-03-2015 01:41:59
ยิ่งอ่านยิ่งเขินนนนน ทำไมโปเต้ขยันทำให้เขินจริง เขินแทนติณไปหมดแล้วเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-03-2015 02:07:58
กิ้วๆ ติณชอบเยลลี่รสปากโปเต้เหรอ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 21-03-2015 08:57:23
"นอนกัน"  ประโยคนี้ของโปเต้ นึกว่าจะได้ฟินมากกว่าเดิม

แสดงว่าติณณ์ก็ชอบโปเต้มาตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรกแต่แบบไม่รู้ตัว

ตอนนี้ขอตั้งฉายาโปเต้ว่า  นายเนียน  เนียนมันทุกเรื่องที่เกี่ยวกับติณณ์     

เห็นด้วยกับติณณ์ ที่ยุให้ เฟียสกับพี่เฟรมคู่กัน ว่าแต่ให้เฟียสจีบพี่เฟรมดีกว่า  ดูแล้วมุ้งมิ้ง ฟุ้งฟิ้งดี   
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 21-03-2015 12:42:01
ว้ายๆ โปเต้ทำอะไรเนี่ยเขินแทนติณณ์เลย

ติณณ์รู้ตัวแล้วสิน่ะว่าชอบโปเต้อ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 21-03-2015 12:51:38
อิจฉาติณณ์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 21-03-2015 13:08:23
โอ๊ยๆ อารมณ์เดียวกับหลุยซ์กับแลนด์เลย เขินนนน   :-[
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 21-03-2015 13:33:18
เยลลี่อร่อยงั้นกินบ่อยๆนะ แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 21-03-2015 14:55:05
ร้ายกาจ ประกาศต่อหน้าฝูงชนเลยนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-03-2015 18:45:00
ฟินเว้ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 21-03-2015 21:47:51
งื้ออออออ
ชอบตอนนี้อ่าาาาาาาาาาาาาา
เป็นฉากที่สวีทกันได้น่ารักกมาก คือแบบไม่หวือหวา ดูเหมือนความรักของผู้ชายดี
รีบมาต่อเร็วๆนะค่ะัะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 22-03-2015 04:06:42
เขินมากค่ะ อ่านเรื่องนี้แล้วเขินมากๆ ><เป็นนักอ่านเงามาตั้งนาน อยากคอมเม้นท์ให้แต่มันค่อนข้างยากเพราะเล่นในมือถือน่ะค่ะ
ขอบคุณค่ะสำหรับนิยายเรื่องนี้  :hao7:  o13
ฟินมากนะบอกเลย xD
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 22-03-2015 14:42:53
โอ๊ยยยยย อิจฉาอ่า
จุ๊บกันต่อหน้าคนเยอะแยะๆ >\\\\\\<
อยากอ่านอีกน๊าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-03-2015 17:58:43
ถึงจะแก่ แต่ก็ชอบอ่านเรื่องเด็กๆนะ มันช่วยให้หัวใจเป็นหนุ่มเป็นสาวขึ้นเยอะ :katai3:

ป.ล.
อัฒจันทร์ 
                    ที่นั่งเป็นขั้น ๆ สําหรับดูการแสดงมีลักษณะเป็นรูป ครึ่งวงกลม,
                       ชั้นที่ตั้งของขายหรือก้าวขึ้นลงทําเป็นขั้น ๆ, อรรธจันทร์ ก็ว่า.
อัศจรรย์   
                    แปลก ประหลาด.
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 22-03-2015 19:11:08
หนุ่มซึนเรื่องนี้ร้าย
ขโมยใจไปเนียนๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 22-03-2015 20:51:10
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 22-03-2015 21:37:50
ชอบกันแล้ว เผลอชอบกันไปแล้ว แล้วเราคนอ่านก็เขินแล้ว คึคึ  :-[  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 23-03-2015 00:24:31
ขยันสร้างโลกส่วนตัวกันจริงๆเลยนะ เขินแทนเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 23-03-2015 00:41:21
โปเต้ทำดี
ควรทำต่อไป5 5 55 5
น้องติณณ์เป็นแฟนโปเต้แล้วมุ้งมิ้งขึ้นมากกกกกกกกก
สองนคนมีบรรยายกาศที่งายๆ สบายๆ
แบบอยู่ด้วยกันแล้วน่ารัก สบายๆดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 23-03-2015 01:37:05
โปเต้ทำดีๆๆๆ
เฟียสเฟรมน่าลุ้นนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 23-03-2015 01:48:55
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ T //////////// T .. แบบอ่านซ้ำเท่าไหร่ก็ไม่พอจริงๆ ; - ;
โปเต้สวีทมากกกกกกกไม่เกรงใจใครเลยนะ ฮรึก ชอบ .. แง ; ; ชอบอ่า... ชอบติณณ์ด้วย ชอบมากๆๆๆๆๆๆเลยค่ะ
#เม้นเพ้อสติไม่เต็มกราบขออภัยเดี๋ยวมาอีดิทนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 23-03-2015 19:11:18
สวีทกันมากกกกก :-[ อ่านแล้วอิจฉาอยากได้อย่างนี้บ้าง :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-03-2015 19:56:29
ไม่ไ้อ่านตั้งนานมาอ่านทีนี้ยาวเลย เขินตลอด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 25-03-2015 23:23:23
คิดถึงนะ รู้ยัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 26-03-2015 10:11:06
รออยู่นะรู้ยัง คิคิ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 13 ครึ่งหลัง P.22 20/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gigigeam ที่ 27-03-2015 04:31:55
อยากบอกให้คนเขียนรู้ว่า รอ 555555
อ่านวนมาหลายรอบแล้ว รีบมาต่อนะ!!! :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 27-03-2015 21:35:56
ตอนที่ 14 (ครึ่งแรก)













หลังจากที่เมื่อวานมีทอล์คออฟเดอะทาวน์ที่โปเต้จูบผมในโรงยิม เลยทำให้วันนี้ผู้คนมากันเต็มโรงยิมเลย แถมยังมีแต่ผู้หญิง และสาวสองทั้งนั้น นิดาเลยไปหาถามจากหนึ่งในนั้น ก็พบว่าเหตุผลที่แห่กันมาก็เพราะจะมาดูฉากจิ้นของผมกับโปเต้




เออ...เป็นเอามากนะพวกนั้น




“ไงมึง...วันนี้จะโชว์จิ้นอะไรให้ดูอีกล่ะ” แลนด์เอ่ยถามพลางยิ้มอย่างล้อๆ




“โชว์เหี้ยไร” ผมถามเสียงเรียบ




“อุ่ย ...น้องติณณ์ หยาบคายจังเลย ทุกทีไม่ค่อยพูดคำหยาบไม่ใช่เหรอ” หลุยส์กระแดะใส่ผมได้น่าเตะมาก




“.....” ผมส่ายหน้าเบาๆให้พวกนั้น




“นั่นๆ นภัทรกำลังเดินมาหามึงหนิ” จีน่าบอกก่อนจะชี้ให้ผมดู





“....” ผมหันไปดูก็พบว่าโปเต้กำลังเดินมาหาผมจริงๆด้วย แต่อยู่ๆก็มีผู้หญิงสามสี่คนเดินไปขวางหน้าโปเต้




ผม ...ไม่สิ เรียกได้ว่าทุกคนที่นั่งเต็มอยู่บนแสตนด์เชียร์ หันไปมองเหตุการณ์นั้นทุกคน บรรยากาศเงียบมากๆ




ผู้หญิงคนนึงยื่นของบางอย่างให้โปเต้ ...ดูเหมือจะเป็นขวดน้ำกับผ้าขนหนู ดูท่าว่าจะเป็นคนที่สวยมากๆเลยนะนั่น




“นั่นดาวคณะบริหารเลยนี่หว่า ได้ข่าวว่าเป็นคุณหนู ขี้วีน เอาแต่ใจโคตรๆ” เสียงหลุยส์ดังขึ้นเบาๆ ราวกับจะบอกผม




ผมยืนมองนิ่งๆ เห็นผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรสักอย่าง โปเต้หันมองแว๊บนึง แล้วทำในสิ่งที่ทำให้ผมยิ้มออกมานิดๆ คือเขาเมินผู้หญิงคนนั้น แล้วเดินมาหาผม




เขาเดินมาหาผม ฝากผ้าขนหนูของเขาไว้ที่ผม แล้วเดินไปซ้อม เพียงแต่...ก่อนที่เขาจะเดินไป เขาได้กระซิบเบาๆพอแค่ให้ผมได้ยินแค่คนเดียว




‘...ผมมองแค่คุณคนเดียว’




เออ ...เอาดิ ผมก็นั่งเขินไปดิ















พักครึ่งโปเต้เดินมาหาผมที่นั่งอยู่ตรงสแตนด์เชียร์




“วันนี้อยากไปไหนมั้ย” เขาถามก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆผม




“ก็ไม่ ...ทำไม” ผมถามกลับ




“อยากกินสเต็ก” เขาพูดก่อนจะหันมามองหน้าผม แล้วยกขวดน้ำในมือขึ้นดื่ม




“ก็ไปสิ” แล้วเขาจะมาถามผมทำไมว่าอยากไปไหนรึเปล่า




“อืม แต่จะกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำก่อน”




“ก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” ผมว่าก่อนจะปากเหงื่อที่จะไหลลงมาจนจะเข้าตาเขาอยู่แล้ว




แต่...จากที่มีแค่เสียงคนคุยกัน ไหงถึงมีเสียงกรี๊ดตามมาว่ะ




“รังเกียจรึไง ตัวผมไม่เหม็นหรอก” โปเต้บอกผมเสียงเรียบ แต่ทำไมผมถึงคิดว่าเขากำลังกวนตีนผมด้วยคำพูด?




“มั่นเน๊าะ” ผมพูดใส่เขา ไอ้เรื่องที่ว่าตัวไม่เหม็นน่ะ ผมเชื่อ นี่ขนาดเหงื่อเต็มตัวขนาดนี้ โปเต้ยังไม่มีกลิ่นตัวเลย




“ก็ตามหน้าตา” นี่เขารู้จักพูดเล่นแบบนี้ด้วยเหรอ?? หรือว่าอันที่จริงเขากำลังหลงตัวเองกันแน่เนี่ย




“หลงตัวเองจริงๆเลย” ผมหมั่นไส้เขาจนอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มที่แดงนิดๆเพราะเล่นกีฬาของเขา




“เจ็บ...มือหนักตลอด” เขาบ่น แต่ก็ไม่ได้ปัดมือผมออก




“แก้มนายนิ่ม” ผมบอกไปตามความจริง แก้มโปเต้นิ่มมาก มันน่าหยิกมากๆ ก็แก้มเขามันนิ่มๆนุ่มๆ และก็หยุ่นๆนี่นา




“หรอ” โปเต้เลิกคิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมทั้งสองข้าง




“อื้อออ..ปล่อย” ผมละมือออกจากแก้มของเขา แล้วเปลี่ยนมาจับข้อมือของเขาที่หยิกแก้มผมอยู่ออก แน่ล่ะ ก็เขามือผู้ชายนี่นา มาหยิกแก้มผมแบบนี้ผมก็เจ็บนะ




“แก้มคุณก็นิ่มหนิ ผมก็อยากหยิกบ้าง”




“เจ็บ ...จะปล่อยมั้ย”




“ไม่”




“.....” ผมไม่ห้ามต่อ ก่อนจะเอื้อมมือไปตะปบที่แก้มของเขา ก่อนจะโยกหัวเขาไปมาอย่างแรง




“ปล่อยแล้วๆ” โปเต้ยอมปล่อย แน่ล่ะ...ก็เพราะเขาเป็นคนเวียนหัวง่าย อย่างหมุนรอบตัวเองสามรอบก็เวียนหัวแล้ว นับประสาอะไรกับการโยกหัวแรงแบบนี้




“สมน้ำหน้า”




“ซ้อมไม่ไหวแล้ว” เขาพูดก่อนจะเอนหัวลงมาซบไหล่ผม ...เป็นครั้งแรกที่เขาแกล้งสำออยอย่างเห็นได้ชัด




“อย่าๆ รีบไปซ้อมต่อเร็ว เขาเรียกแล้วน่ะ” ผมหันไปบอกโปเต้ พอหันมาก็พบว่าหน้าเราอยู่ใกล้กันมาก และผมรู้สึก...ใจเต้นแรง




...และหน้าผมเริ่มร้อนแปลก แค่กับการเห็นหน้าโปเต้ระยะใกล้




อีกล่ะๆ ไข้ขึ้นรึไงกันเนี่ย




...ปากของผม แทบจะติดจมูกโด่งๆของเขาอยู่แล้ว




“.....” เขามองผม...ตาแป๋วอีกแล้ว




“ไปซ้อม เร็ว” ผมว่าก่อนจะดันหน้าเขาออก




“ครับๆ” โปเต้รับคำ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินลงไปในสนาม




ผมได้แต่มองตามเขานิ่งๆ จน...




“ไอ้ติณณ์ๆ เก็บอาการหน่อย หน้าแดงหมดแล้ว” แลนด์เอ่ยเตือนผม แต่...




ทำไมผมรู้สึกว่าหน้าตัวเองมันร้อนๆขึ้นว่ะ


















ร่างสูงในชุดนักกีฬาบาสเก็ตบอลกำลังเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ บนทางเดินในมหาลัย




ใบหน้าหล่อเหลาที่มักจะประดับไปด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนนี้กลับเศร้าหมอง ความคิดหลายๆอย่างกำลังวนเวียนอยู่ในหัวขอเขาไปหมด




ใครจะเชื่อว่าคนร่าเริงอัธยาศัยดี จนหลายๆคนคิดว่าเขาเจ้าชู้ ก็มีบางมุมที่...ค่อนข้างจะอธิบายยาก




เขาชอบรุ่นน้อง ...ที่ดันเป็นน้องรหัส เขาคอยห่วง คอยดูแลอยู่ห่างๆ แต่บางทีก็เกินหน้าเกินตาจนคนรอบข้างจับความรู้สึกของเขาที่มีต่อน้องคนนั้นได้ เพียงแต่...ชีวิตนี้เขาคงเกิดมาอาภัพรักเสียจริง ชอบเขามาก็ตั้งนาน อยู่ดีๆก็ดันมีคนเข้ามาเอาน้องรหัสคนนั้นไปจากเขา แต่จะให้เขาโวยวายตามแย่งก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะทั้งตัวเขาและน้องรหัสที่แสนจะมีเสน่ห์คนนั้นก็ไม่ได้เป็นอะไรกันเลย




และที่ตามเอาน้ำเอาขนมไปให้ ก็แค่อยากทำ ไม่ได้มีเจตนาอะไรแอบแฝงเลย ตามประสาของคนที่ยังตัดใจไม่ได้ แม้จะทำใจเอาไว้นานแล้ว แต่พอถึงเวลามันก็ยังตัดใจไม่ได้อยู่ดี




“เฮ้อ...” เฟรมถอนหายใจเบาๆให้กับความคิดของตัวเอง




“เอาน่าเฟรม...ฌดี๋ยวมึงก็ทำใจได้ คนที่ใช่สำหรับเราจริงๆ อาจจะกำลังมาก็ได้” ร่างสูงของเฟรมได้แต่บ่นให้กำลังใจตัวเองเบาๆ




“บ่นไรอ่ะพี่”




“เฮ้ย!!!” เฟรมร้องขึ้นอย่างตกใจ เมื่อได้ยินเสียงคนพูดขึ้นอยู่ที่ข้างหูของเขา




“จะตกใจอะไรขนาดนั้น” ร่างสูงกว่าเอ่ยอย่างติดตลก




“ตกใจแกไง ไอ้บ้า...มาไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วนี่แกมาอยู่ได้ยังไง ตามฉันมาเหรอ” เฟรมเอ่ยถามคนที่สูงกว่า แต่มีศักดิ์เป็นรุ่นน้อง




“อะไร ตามที่ไหน ...เนี่ยมันคณะนะผม พี่ต่างหากมาแถวนี้ทำไม”




“ฉันจะกลับหอ”




“อ๋อ..กลับหอ แต่ทางที่พี่จะไป มันมีแต่ไร่มีแต่สวนของคณะเกษตรนะ ...หรือว่าพี่นอนในกระท่อมกลางสวนของคณะผมอ่ะพี่” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างทะเล้น




“ห่ะ..ห๊ะ!?!” เฟรมส่งเสียงออกไปอย่างงงๆ นี่เขาเดินเหม่อจนมาโผล่ที่คณะเกษตรฯเลยเหรอ โธ่...แล้วถ้าจะเดินกลับไปหอพัก ที่เป็นหอในรั้วมหาลัย ก็ต้องเดินย้อนกลับไปอีกตั้งไกล ฮือ...ฆ่ากันเลยดีกว่าแบบนั้นน่ะ




“เหอะ เอาแต่เหม่อล่ะ ผมเห็นพี่เดินเหม่อมาแต่ไกลล่ะ” ร่างสูงกว่าเอ่ยอย่างล้อๆ




“เรื่องของฉัน แล้ว...ทำไมนายแต่งตัวแบบนี้” เฟรมเอ่ยถามอีกฝ่าย เมื่อเห้นว่าร่างสูงกว่านั้นใส่ชุดนักกีฬาบาสเก็ตบอล




“ผมเป็นนักบาสของคณะ ผมก็ต้องใส่ชุดนี้ซ้อม ....แล้วพี่แต่งชุดนักบาสเหมือนกัน อย่าบอกนะว่าเป็นนักกีฬาเหมือนกัน?”




“ก้ใช่น่ะสิ”




“โห...อย่างงี้แข่งรอบแรกก็ต้องเจอกันอ่ะดิ ผมเรียนเกษตรฯ พี่เรียนสถาปัตย์ฯอ่ะ”




“เหอะ...เวรกรรมน่ะสิ” เฟรมบ่นเบาๆ แต่อีกคนกลับได้ยิน




“แหนะๆ บ่นอะไร ผมได้ยินนะ แล้วนี่...ฑี่จะกลับหอยังไงล่ะเนี่ย”




“เดินสิ ถามมาได้” เฟรมตอบอีกคนด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด




“เอางี้ป่ะ เดี๋ยวผมไปส่ง วันนี้ผมเลิกซ้อมแล้ว แต่เห็นคนบางคนเดินเหม่อ เลยเข้ามาทัก”




“ไม่ต้อง ฉันมีปัญญากลับเอง”




“เดินกลับเอง สองทุ่มก็ยังไม่ถึงมั้ง เอาน่า...ไม่ต้องมาหยิ่งตอนนี้ ไปๆ เดี๋ยวผมไปส่ง” ว่าจบ เฟรมก็โดนอีกคนลากไปที่รถยุโรปคันหรูอย่างบีเอ็มดับเบิลยูสีขาวทันที




ระหว่างที่อยู่ในรถ ต่างก็ไม่มีใครพูดอะไร ตนกระทั่งมาถึงหอพัก เฟรมก็เปิดประตูลงจากรถ แล้วเดินเข้าหอพักโดยไม่กล่าวขอบคุณอีกฝ่ายเลยแต่อย่างใด จนกระทั่ง...




“นี่! แกจะเดินตามฉันมาทำไม” เฟรมสุดจะทน เมื่อเดินมาจนถึงหน้าห้องตัวเองแล้ว อีกฝ่ายก็ยังเดินตามเขามาอยู่ได้




“ใครว่าผมเดินตามพี่” ร่างสูงกว่าถามด้วยน้ำเสียงยียวน




“แล้วแกขึ้นมาทำไม ทำไมไม่กลับบ้านไปนอน” เฟรมถามกลับอย่างไม่เข้าใจ




“พี่อยู่ห้อง ‘304’ ส่วนนี่...ห้องของผม ‘306’ อยู่ถัดจากห้องของพี่ไปสองห้อง” ว่าจบ ร่างสูงกกว่าก็ชูกุญแจห้องของตัวเองให้เฟรมดู




“นี่แก...ก็อยู่หอนี้ด้วยเหรอ” สาบานได้ว่าเฟรมไม่เคยรู้มาก่อน แต่...ดูจากรถ ข้าวของและกระเป๋าที่ใช้ ชายตรงหน้าก็ท่าทางดูรวยใช่เล่น แล้วจะมาเช่าหอในของมหาลัยทำไม แม้ว่าหอนี้จะแพงที่สุด เพราะเป็นหอที่เลือกนอนคนเดียวได้ มีห้องน้ำในตัว และมีแอร์ แต่ว่าคนตรงหน้า ...น่าจะไปหาหอนี้ที่ดีกว่า สะดวกในเรื่องเวลาเข้าออก และกว้างกว่านี้ได้ไม่ใช่เหรอ




“ผมก็อยู่มาตั้งนานล่ะ เห็นพี่ก็หลายครั้ง พี่ต่างหาก...ไม่เคยเห็นผมเลยรึไง?” อีกฝ่ายถามกลับอย่างเข้าใจ แต่เขาก็คิดว่า มันก็เป็นไปได้ที่รุ่นพี่ต่างคณะนี้จะไม่เห็นเขา เพราะท่าทางซื่อ เอ๋อๆ ที่เจ้าตัวมักจะแสดงออกมาเวลาไปไหนมาไหนคนเดียว อาจจะไม่ทันสังเกตเห็นเขาก็เป็นได้




“เอ่อ...ไม่ว่ะ” อยู่มาสี่ปี...สารภาพตามตรงว่าไม่เคยเห็น




“เฮ้อ..เชื่อเลย แต่ก็สมกับเป็นพี่ดี” อีกฝ่ายพูดเสียงเบาท้ายประโยคจนเฟรมไม่ได้ยิน แต่ก็ไม่คิดที่จะถาม




“เหอะ...ซวยจริงๆ” เฟรมบ่นเสียงดังก่อนจะหันไปไขกุญแจห้องตัวเอง




“เดี่ยวสิ ...เมื่อกี้ผมก็ขับรถมาส่ง คำขอบคุณสักคำนี่ไม่คิดจะพูดหน่อยเหรอ” ร่างสูงกว่าเดินเข้ามาจับมือของเฟรมที่กำลังไขกุญแจ




“เฮ้ยๆ มาจับอะไรเนี่ย ปล่อยๆ” แน่นอนว่าเฟรมสะบัดแทบจะทันที




“ไหนล่ะคำขอบคุณผม”




“ไม่”




“อะไรเนี่ย มารยาทอ่ะ รู้จักป่ะ”




“ปากดีจริงๆ เออๆๆๆ ขอบคุณ ...พอใจยัง”




“หึ ก็แค่นั้น” ร่างสูงกว่ายิ้มอย่างพอใจ แม้ว่คำขอบคุณนั้นจะพูดออกมาเพราะต้องการประชดเขาก็ตาม




“ชิ”




“อ้อ...แล้วอีกอย่าง...”




“อะไรอีก”




“เอาแต่เรียกผมว่าแกๆๆ อยู่นั้น ผมมีชื่อนะ”




“เออ บอกทำไม” เฟรมถามกลับอย่างไม่เข้าใจ




“ก็เปล่า...แค่จะบอกว่าผมชื่อ เฟียส ...เลิกเรียกผมว่าแกได้ล่ะ ไปล่ะ...ฝันดีล่วงหน้า” ว่าจบ เฟียสก็ใช้มือขยี้ผมอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปเข้าห้องของตัวเองโดยไม่ทันฟังอีกฝ่ายด่าให้จบ




“แก...ไอ้บ้า ฉันเป็นรุ่นพี่นะเว้ย มาเล่นหัวกันอย่างนี้ได้ไง กลับมาก่อนนะโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”








*************************************************


มาแล้ว สำหรับ 7 วันที่หายไป อิอิ...ขอโทษนะครับที่ปล่อยให้รอนาน พอดีติดธุระนิดหน่อย


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-03-2015 21:47:06
 :katai2-1:  พี่เฟรมค้นพบขั้วของตัวเองแล้วสินะ. เคะแตกมากเลย

นี่ลุ้นให้คู่หลักได้กันอยู่เนี่ย. สงสัยคู่รองจะแซงล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Veesi3 ที่ 27-03-2015 21:47:57
คู่ติณเค้าก็หวานกันเหลือเกิน แต่เฟียสเฟรยสเฟรนี่มาแร๊งงงง ง ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-03-2015 21:55:25
เปิดตัวคู่ใหม่!!!! ที่มีแววมาตั้งแต่ตอนที่แล้ว
คู่หลักก็เริ่มหวานไม่เกรงใจ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-03-2015 21:55:59
คือ เขินนนนนนน :-[
อยากไปนั่งดูคู่จิ้นเค้าหวานกันด้วยคนอ่ะ แอร๊ย :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 27-03-2015 22:10:18
พลิกล็อคหลาย เฟรมจะกลายเป็นเคะเหรอคะนี่  o22
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: zeroj ที่ 27-03-2015 22:15:09
เพิ่งอ่านครั้งแรกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อยากจะกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ติดใจเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-03-2015 22:20:29
เฟรมมีคู่แว้ววววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 27-03-2015 22:26:42
ติณห์กะโปเต้เวลาอยู่ด้วยกันเนี่ย
ทั้งสองชอบสร้างโลกส่วนตัวให้
คนรอบๆข้างได้อิจฉาตลอดคู่นี้
ส่วนอีกคู่อ่ะคนอกหักจากติณห์
มาคบกันเองใช่ไหมพี่เฟรมกะเฟียสอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-03-2015 22:27:14
หว๊ายยยยยยยยยยยยยยๆๆๆๆๆ ติณณ์ ขี้เขิลจังงงง :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 27-03-2015 22:34:04
แอร๊ยยยยย เขิลอ่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 27-03-2015 22:35:17
ยังไม่หายคิดถึงโปเต้กับติณณ์เลยค่ะ ฮรึก T ______________ T ....
ผิดที่เราอ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอรึเปล่าคะเนี่ย สองคนนี้น่ารักเกิ๊นนนน > /////////// <
ชอบจริงๆเวลาสวีทแบบไม่แคร์สื่อเนี่ย! ก็แหม เป็นคนดังแบบไม่สนใจความดังตัวเองทั้งคู่แต่แรกแล้วนี่เนอะ
กับแค่คนจะเอาไปจิ้นหรือจะแอบส่องแอบกรี๊ดเนี่ย ไม่ครณามือสองคนนี้หรอกมั้งงง ไม่สนใจเลย 5555555555555
อิจฉาบรรดาคนที่อยู่ในโรงยิมจังเลยค่ะ เล่นกันมุ้งมิ้งโฮกกกกกกก

นี่ขนาดยังไม่สารภาพรักกันนะเนี่ย! ไม่อยากจะคิดถึงตอนรักกันแล้วเลย ; /////////// ; ..
จะรอตอนนั้นนะคะ! *O* .. เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์เสมอค่า ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกก ก ล้านตัวเลย TTTT
อ่านซ้ำรอมาหลายรอบแล้วค่ะ (ยิ่งกลับไปอ่านพาร์ทโปเต้ยิ่งเขิน หนุ่มซึน /ฮา พามาเสิร์ฟบ่อยๆนะคะ ><)
จะติดตามรอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อเลยค่ะะะะ! ♡
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 27-03-2015 22:48:09
เรื่องนี้ยังคงความนิ่งและน่ารัก บวกกับความชัดเจนของทั้งคู่ตลอดเลยยยยยย เขินนนอิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 27-03-2015 22:57:27
เราต้องเป็นหนึ่งในบรรดากองทัพจิ้นที่สนามบาสนั่นแน่นอน  :-[  ฟินนน
คู่หลังนี่ก็เหมือนจะสปาร์กหน่อย ๆ แล้ว  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-03-2015 23:32:06
หมาน้อยขี้อ้อนนนนน
“ซ้อมไม่ไหวแล้ว” เขาพูดก่อนจะเอนหัวลงมาซบไหล่ผม
(http://image.dogilike.com/shareimg/contentimg/2014/pungpond/6-57/11-6/6_4_14-Dogs-and-Cats-Who-Love-to-Cuddle3-590x440.jpg)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D ที่ 27-03-2015 23:44:19
น่าร้ากกกกก มาต่ออีกๆๆๆๆๆๆ
อบโมเม้นทั้งสองคู่เลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 27-03-2015 23:45:01
รออ่านอยู่เลยยยยย~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gigigeam ที่ 27-03-2015 23:52:04
นภัทรพูดแบบนี้มันน่ารัก!!!!!!! :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 28-03-2015 00:11:43
คิดว่าโลกนี้มีกันอยู่สองคนเหรอคะอิจฉานะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 28-03-2015 00:12:44
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 28-03-2015 01:16:18
คู่นี้ก็ท่าจะมัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 28-03-2015 01:50:29
คู่หลักทำเราเขิน สร้างโลกส่วนตัวตลอดๆ :-[
ในที่สุดคู่รองก็มาแล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 28-03-2015 02:13:40
เฟียสเฟรมแฮะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 28-03-2015 02:19:36
นั่นไง เฟียสเฟรมจริงๆด้วย ไม่เสียแรงที่ติณนายเอกของเราชงคู่นี้เมื่อตอนก่อนๆ 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 28-03-2015 03:11:19
ขอบคุณที่มาต่อนะคะ #ยิ้มแรง

ติณณ์โปเต้หวานขึ้นทุกวัน น่ารักมาก อยากอยูบนสแตนด์ด้วยจัง  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: FarawayII ที่ 28-03-2015 03:16:27
ว่าแล้วว่าพี่เฟรมต้องไม่ช้ำรักนาน 55555
คู่ติณก็หวานซะ อิจฉาจริงง  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 28-03-2015 08:35:18
‘...ผมมองแค่คุณคนเดียว’   เขินแทนติณณ์เลยอ่ะ ต่อให้อีกกี่สิบดาว ก็สู้ติณณ์หนุ่มพูดน้อย ต่อยหนักไม่ได้หรอก โปเต้ยืนยันเพราะเจ็บจริง 555

พี่เฟรมสิ่งที่บ่นไว้  ได้กลายเป็นจริงแล้ว อยู่หอเดียวกัน ห้องก็ใกล้กัน แล้วแบบนี้จะหนีไปไหนพ้น คู่มาอยู่ข้างๆ แล้ว แต่ตอนนี้พี่เฟรมออกอาการเคะมากค่ะ

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 28-03-2015 11:30:58
แน่ะๆ พี่เฟรมกับเฟียสนี่มีซัมติงกันสิน้าาา   :hao6:
รอนะฮะ :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 28-03-2015 14:35:56
กรี๊ดดดด เค้ามุ้งมิ้งกันจังเลย

มีหยิกกงหยิกแก้มกันด้วยน่ารักสุดๆ

เฟียสเฟรมจริงๆสิน่ะชูป้ายไฟรอเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-03-2015 15:48:00
หวานกันไปตามระเบียบ

พี่เฟรมเพิ่งอยู่ถูกขั้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 28-03-2015 18:56:53
เฟรมจะเทิร์นเคะแล้ว น่าติดตามๆ
คู่หลักนี่เข้าโหมดโลกส่วนตัวมีดอกไม้เป็น BG ตลอด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 28-03-2015 21:56:57
โอ๊ยยยยยย ชอบบบบบบบ
โปเต้ติณ น่าร๊ากกกกกก ^////////^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 28-03-2015 22:42:31
อูยยยยยย เดี๋ยวนี้โปเต้กะติณณ์แสดงออกกันแบบธรรมชาติแระเน้อออ หวานแบบไม่ต้องตั้งใจทำ น่าร้ากกกกก ตอนนี้รอลุ้นคู่เฟียสเฟรมมมม ค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งแรก P.24 27/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 28-03-2015 22:53:25
โปเต้ไม่แคร์สื่อประกาศตัวว่างั้นเหอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 30-03-2015 02:26:05
ตอนที่ 14 (ครึ่งหลัง)












[Frame’s part]








วันนี้วันหยุด ซึ่งมันเป็นวันที่น่าเบื่อมาก เพราะผมต้องนั่งๆนอนๆอยู่ในห้องคนเดียว วันหยุดแบบนี้พวกเพื่อนๆของผมต่าง็พากันไปเที่ยวกันแฟนพวกมันกันหมด จะให้ผมไปเป็นก้างคอยขัดเวลาเขาสวีตกันมันก็ไม่ใช่เรื่อง เห็นผมเป็นแบบนี้ ความเกรงใจผมก็มีเหมือนกัน




แม่ง...ทำอะไรดีว่ะ




ผมเงยหน้าไปมองนาฬิกาที่อยู่ตรงหัวเตียง ...จะเที่ยงล่ะ คงต้องเดินออกไปหาอะไรกินแถวหน้ามหาลัย แต่...ผมไม่มีรถ แล้วไอ้หอพักนักศึกษาแม่งก็เสือกอยู่ซะหลังมหาลัย (แต่คะละฝั่งกันคณะเกษตรฯที่ผมหลงเดินไปเมื่อวาน)




นี่คือผมต้องเดินไปสินะ




เอาว่ะ...ของในตู้เย็นก็ไม่มีอะไรเลย ออกไปซื้อของมาตุนไว้ก็ดี




ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่กันแดด และหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ และกุญแจห้อง ก่อนที่ผมจะเดินออกจากห้อง




“นี่กูต้องเดินจริงๆเหรอว่ะ” ผมอดที่จะบ่นไม่ได้ เมื่ออกมายังหน้าหอพัก แล้วเห็นแดดเมืองไทยที่แรงไม่แพ้ชาติใดในโลก ทุกทีถ้าจะออกไปข้างนอกในวันหยุด ผมอาจจะโทร.ให้เพื่อนผมพาไปบ้าง ติดรถเพื่อนร่วมหอไปบ้าง แต่นี่...ลงมาก็ไร้วี่แววคนที่พอจะขอความช่วยเหลือได้




ต้องเดินจริงๆอ่ะ




และถ้าจะคิดว่าเรื่องนี้มันจะนิยายขนาดเดินไปกลางทางแล้งบังเอิญเจอคนรู้จักผู้แสนใจดีขับรถออกไปส่งผมล่ะก็ บอกได้เลยว่าคิดผิดถนัด เพราะตอนนี้ผมได้ออกมานั่งอยู่ในร้านอาหารตามสั่งใกล้ๆมหาลัยเรียบร้อย ผมนี่แถบจะกราบร้านนี่ที่มีที่นั่งเหลือให้ผมได้พักพิงและอาหารพอประทังชีวิตต่อไป




“ป้าครับ ข้าวผัดหมูพิเศษที่นึงครับ” ผมตะโกนสั่งป้าเจ้าของร้านที่กำลังยืนผัดกระเพราอยู่




“รอแป๊บนึงนะลูก อ้อ..บริการน้ำด้วยตัวเองนะ” ป้าตะโกนตอบกลับผม ผมจึงเดินไปตรงโต๊ะที่มีแก้วเปล่าและกระติกน้ำวางไว้ ตักน้ำใส่แก้วแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมานั่งเล่นเกมฆ่าเวลา




“ป้าครับ เอาข้าวผัดหมูพิเศษจานนึง” มีผู้ชายคนนึงสั่งข้าวป้าแก ผมไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้เงยหน้าขึ้นดู แต่...เสียงคุ้นๆนะ




“หาที่นั่งรอเลยลูก” เสียงป้าตอบกลับไป แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ยังคงเล่นเกมในโทรศัพท์ตัวเองต่อไปอย่างเมามันส์




“นั่งด้วยคนนะครับ” อยู่ๆก็มีคนมาขอนั่งโต๊ะเดียวกันกับผม ผมไม่ทันได้เงยหน้าขึ้นมองหรอก แต่ก็คิดอยู่ในใจว่า...ทำไมเสียงคุ้นจังว่ะ



“เชิญครับ” ผมตอบก่อนจะเล่นเกมต่อ




“.....”




“.....”




ความเงียบเกิดขึ้นสักพัก แต่แล้วมันก็พังทลายลง เมื่อ...




“สนุกมั้ย?” มีเสียงๆหนึ่งเอ่ยถามผม แต่ผมรู้สึกฟังดูเหมือนมันอยู่ใกล้ๆ ซ้ำยังมีลมอุ่นๆมาปะทะหน้าผม




“สนุก..เฮ้ยยย!” ผมตอบ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ต้องร้องอย่างตกใจ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบใบหน้าของผู้ชายคนนึง ที่มันเสือกยื่นหน้าเข้ามาใกล้ซะชิดหน้าผมเลย



เวร...เมื่อกี้ปากมันแตะจมูกผมด้วย




“ตกใจอะไรขนาดนั้นอ่ะพี่?”




“ไอ้เฟียส!” มันยังมีหน้ามาถามอีกว่าตกใจอะไร




“จำชื่อผมได้สักทีนะพี่”




“เหอะ ...ก็ไม่ได้อยากจำ” นี่มันเป็นวันอะไรเนี่ย ...เจอแต่เรื่องเซ็งๆ แล้วยังต้องมาเจอหน้าไอ้บ้านี้อีก




“เหรอ” มันทำเสียงเหมือนไม่เชื่อ



“นี่จ้ะ ข้าวผัดหมู” ยังไม่ทันที่จะได้เถียงอะไรกันต่อ ป้าเขาก็เอาข้าวผัดมาเสริฟ...ทั้งของผมแล้วก็ของมันนั่นแหละ




“ป้า...เอากระเพราหมูกรอบต่อเลยนะ จะได้ไม่ขาดช่วง” เฟียสมันหันไปสั่งข้าวกับป้าแก




“ได้จ้ะๆ แล้วก็ไม่สั่วตั้งแต่แรก”




“ก็ผมกลัวมันหายร้อนหนิป้า” มันตอบป้าแก ก่อนจะหันไปลงมือกินข้าวผัดของมัน




“.....” ผมก็กินข้าวผัดของผมไปอย่างเงียบๆ ขี้เกียจคุยขี้เกียจเถียงกับมัน




“พี่เฟรม เขี่ยทำไมอ่ะพี่” ผมนั่งเขี่ยมะเขือเทศออกจากจานอยู่ดีๆ เฟียสมันก็ถามผม




“ไม่กิน” ผมตอบ ผมไม่ชอบกินมะเขือเทศ มันเปรี้ยวแปลกๆ ผมไม่ชอบ




“มะเขือเทศดีออกพี่ ทำให้แก้มชมพูนะ” เฟียสมันบอกผม




“หรอ” พยักหน้าไปงั้น แต่ก็ยังเขี่ยออกจากจานอยู่ดี ก็คนมันไม่ชอบอ่ะ




“โหยพี่ ...เสียดาย ถ้าไม่เอาทำไมไม่บอกป้าแกตั้งแต่แรกอ่ะพี่” เฟียสมันยังคงเสือกกับการเขี่ยผักของผมไม่หยุด




“ก็ฉันลืม”




“เสียดายอ่ะ มาๆ..ผมกินเอง” ว่าจบ มันก็เอื้อมมือมาตักมะเขือเทศที่ผมเขี่ยออกไปไว้ขอบจานเข้าปากตัวเอง ผมเองก็ไม่ว่าอะไร เพราะมันไม่ได้ตัดแล้วเขวี้ยงใส่หัวผมสักหน่อย




“.....” ผมก็กินต่อ ไม่ได้พูดอะไร




ผมเป็นคนกินช้า เคี้ยวช้า จนพวกเพื่อนๆผมบอกว่าผมเป็นสัตว์เคี้ยวเอื้อง กินอะไรก็ช้ากว่าคนอื่นเขาตลอด อย่างเช่นตอนนี้ ไอ้คนตรงหน้าผมมันเริ่มกินข้าวกระเพราหมูกรอบของมันล่ะ




“ทำไมพี่กินช้าจัง” เฟียสมันเงยหน้าขึ้นมาถามผม




“...ก็ไม่ได้กินเร็ว” ผมเคี้ยวให้หมดก่อนจะตอบมัน




“ขอบคุณสำหรับคำตอบ” มันขอบคุณผมด้วยสีหน้าเซ็งๆ




“หึๆ” ผมหลุดขำออกมาหน่อยๆ กับท่าทางของมัน




“แล้วนี่...กินเสร็จพี่จะไปไหนต่อป่ะ” มันถามผม




“แล้วทำไมฉันต้องตอบแกด้วย” ผมถามมันกลับ ...ใช่ ทำไมผมจะต้องตอบมันด้วย เราไม่ได้สนิทอะไรกันขนาดนั้น




“ตอบผมหน่อยดิ” มันยังมีหน้ามาทำเสียงอ่อนใส่ผมอีก




“.....”




“พี่เฟรมมม...”




“..จะไปซื้อของที่ห้างฯแถวนี้สักหน่อย” ผมจำต้องตอบ มันเป็นอะไรของมันเนี่ย มาอยากรับรู้อะไรชีวิตของผม




“ก็แค่นั้นแหละ” เหมือนมันจะพอใจกับคำตอบ แล้วหันไปกินข้าวต่อ




“นี่...” ผมส่งเสียงเรียกมัน




“ห๊ะ?” มันเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม




“ถามยุ่งกับฉัน ...ถามจริง คิดอะไรป่ะเนี่ย” ผมถามมันอย่างอยากรู้จริงๆ อยู่ๆมันก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิตผม ทั้งที่แรกๆก็เขม่นใส่กับ เพราะชอบติณณ์เหมือนกัน (แม้ว่าตอนนี้ผมจะทำใจและพยายามตัดใจอยู่)




“.....” มันเงียบ ไม่ยอมตอบ เอาแต่มองหน้าผม




“.....”




ไอ้บ้าเฟียส อย่าเงียบดิ ..ใจคอไม่ดีเลย




“ฮ่าๆๆๆๆ หน้าพี่แม่งโตตรตลกเลยว่ะ” อยู่ๆไอ้เฟียสมันก็หัวเราะซะเสียงดัง ทำให้ผมรู้ว่าเมื่อกี้ผมโดนมันแกล้ง



“ไอ้เด็กเวร” ผมด่ามันอย่างไม่สบอารมณ์ เมื่อกี้มันจงใจแกล้วผม ทำเอาใจหายใจคว่ำหมด




“ฮ่าๆ เวลาพี่เหวี่ยงแล้วแม่งตลกดีว่ะ” มันว่าพลางจ้องหน้าผม




“ประสาทรึไง”




“เฮ้ๆๆๆ งอนหรอพี่” มันยังมีหน้ามาทำหน้าทะเล้นใส่ผมอีก




“บ้านแกสิ”




“แหนะๆ เหวี่ยงอีกล่ะ” ดูเหมือนเฟียสมันจะสนุกมากเลยนะนั่น




“ชิ ฉันไปล่ะ” พูดบอกมัน ไม่ใช่ว่าจะหนีอะไรหรอก แต่ผมกินข้าวเสร็จพอดี




“อะไรอ่ะพี่ รีบหรอ”




“เออ” ผมตอบมันก็จะเดินไปหาป้าเจ้าของร้าน จ่ายเงินกับป้าแกแล้วก็เดินออกไปยังป้ายรถเมล์














เฟียสมองตามหลังรุ่นพี่ไปอย่างขำๆ รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งคนตรงหน้า เขาไม่ได้พิศวาสอะไรเฟรมหรอก เพียงแต่เวลาที่เฟรมทำท่าหงุดหงิดเสียเต็มประดาเวลาอยู่กับเขา เขารู้สึกว่ามันตลกดี ก็เลยชอบกวนอีกฝ่ายก็เท่านั้น




ในความคิดของเขา เขาว่าเฟียสก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่ อาจจะปากไวไปไหน แต่มันก็ดูตลกดีอะนะ




“ป้าครับ เก็บตังด้วยครับ” เฟียสตะโกนเรียกป้าเจ้าของร้านอาหารตามสั่งที่เขานั่งทานอยู่




“อ่อ...พ่อหนุ่มที่เดินออกไปก่อนเขาจ่ายให้แล้วจ้ะ” ป้าตะโกนตอบกลับเฟียส ทำเอาเจ้าตัวขมวดคิ้วฉงนใจ ก่อนจะเผยยิ้มนิดๆ




อืม...รุ่นพี่คนนี้ กไม่ได้เลวร้ายอะไรจริงๆนั่นแหละ







*****************************************************************************


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-03-2015 02:46:06
แกล้งกันไป โวยกันมาเดี๋ยวก็ได้รักกัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 30-03-2015 05:47:03
แหมคู่นี้น่ารักดีทะเลาะกันไปมาให้จิตแจ่มใส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-03-2015 06:20:38
แหม. พี่เฟรมก็ไม่คิดอะไรเลยดิถึงเลี้ยงข้าวเด็กเฟียสไปสองจาน. ฮิ้วววว.
ชงคู่นี้ด้วย. ตีกันแบบนี้มันส์.  :hao6: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 30-03-2015 07:10:56
คู่รองเปิดตัวทีไร ลุ้นกว่าคู่หลักทู๊กกกกที
พี่เฟรมน่ารักอะดิ รอตอนตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 30-03-2015 11:56:55
 :katai5: :katai5:  รอโปเต้ติณณ์ :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 30-03-2015 12:16:21
เหย้าหยอกกันไป :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 30-03-2015 12:19:57
หร๊าาาาาาาาาาาเฟียสไม่ได้คิดอะไรจริงดิ จะคอยดู
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-03-2015 14:13:49
แน่ใจหรอ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 30-03-2015 14:26:55
หยอกกันไปเย้ากันมา เดี๋ยวก็อินเลิฟเอง อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 30-03-2015 15:04:47
เมื่อไหร่จะรักกันอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 30-03-2015 15:41:41
จะคอยดูคนที่บอกว่าไม่คิด พิสวาสอะไร  แต่คอยแกล้ง คอยแหย่ นี่มันคืออะไรนายเฟียส  เดี๋ยวจะเข้าทำนอง รักดอกจึงหยอกเล่น

 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 30-03-2015 20:32:02
น่ารักจริงๆคู่นี้
 :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 30-03-2015 20:52:12
แค่รู้สึกอยากแกล้ง
ต่อไปก็คงรู้สึกอยาก.......รัก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nincja ที่ 30-03-2015 21:33:13
แหมๆ พี่เฟรมแอบจ่ายตังส์ให้น้องเฟรียสด้วยอ่า
น่ารักจริงๆ  เชียร์ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 30-03-2015 22:56:50
แค่รู้สึกอยากแกล้งอีกหน่อยก็รู้สึกอยากรักสินะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 31-03-2015 07:20:31
จร้าๆๆๆ ไม่ได้คิดอาราย
จะรอดูต่อไป ว่าจะไม่คิดอะไรอีกนานไหม 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 31-03-2015 08:00:59
แน่ะๆ มีจ่ายตงจ่ายตังให้กันด้วย กิ้วๆ  :laugh:
รอตอนต่อไปนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 31-03-2015 22:53:21
พึ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมาก นิ่งๆ แต่ได้ใจ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 01-04-2015 03:22:53
เขียนเรื่องได้น่ารักมากเลยค่ะ >< อั้ยยย  :hao7:
คิดถึงโปเต้กับติณณ์นะ โปเต้พูดทีนี่มดหยุบหยั่บเลย 5555555555 น่ารักกกก   :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 01-04-2015 05:33:59
คู่แรกน่ารักนิ่งๆ
คู่สองนี้ก็น่าลุ้นนะ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 14 ครึ่งหลัง P.25 30/3/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 01-04-2015 18:27:13
แกล้งไปแกล้งมาเดียวก็ตกหลุมรักหรอก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 03-04-2015 02:07:02
ตอนที่ 15 (ครึ่งแรก)












วันนี้ก็มาถึงวันแข่งขันบาสเก็ตบอลที่โปเต้ต้องแข่งแล้วครับ เริ่มแข่งตอนเก้าโมงเช้า แข่งกับคณะเกษตรฯ โดยที่นักกีฬาต้องไปถึงที่มหาลัยก่อนเจ็ดโมงครึ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมและวอร์มร่างกาย ปีนี้คึกกันเป็นพิเศษ เพราะได้แข่งคณะเกษตรฯที่เป็นรองแชมป์ปีที่แล้ว ส่วนที่หนึ่งไม่ได้พูดถึงครับ คณะศึกษาศาสตร์ที่เอาพวกสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬาลง เลยได้เป็นแชมป์ไป




“ติณณ์ ผมจะไปวอร์มร่างกาย คุณไปหาอะไรกินก่อนมั้ย” โปเต้เดินมาถามผมหลังจากที่รุ่นพี่เขาเรียกรวมไปคุยอะไรสักอย่าง ตอนนี้เรายังอยู่ที่โรงยิมของคณะสถาปัตย์ครับ แต่สนามที่เราจะแข่ง เราจะไปแข่งที่สนามบาสฯของคณะวิศวะฯ ไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมแต่ล่ะคณะถึงมีโรงยิมประจำแต่ละคณะ นั่นเป็นเพราะมหาลัยนี้ใหญ่และกว้างมาก แต่ละคณะก็อยู่ห่างกันมาก ถ้าจะเดินก็ไกล ถ้าจะให้สะดวกก็ต้องใช้รถ ไม่ก็มินิบัสของมหาลัยที่วิ่งตลอด เวลาก็สิบห้านาทีต่อคัน จึงไม่แปลกที่นักศึกษาของที่นี่ส่วนใหญ่จะมีรถเป็นของตัวเอง




“แล้วจะไปวิศวะฯกันตอนไหน” ผมถามก่อนจะก้มดูนาฬิกาข้อมือของตัวเอง พบว่าตอนนี้ใกล้จะแปดโมงแล้ว ต้องรายงานตัวก่อนแปดโมงครึ่งนี่




“เดี๋ยวก็ไป ยืดหยุ่นวอร์มร่างกายแป๊บนึง แล้วรุ่นพี่เขาก็จะให้วิ่งไปคณะวิศวะฯ เป็นการวอร์มไปในตัวน่ะ” โปเต้อธิบายให้ผมฟังรวดเดียว จนผมไม่มีคำถามที่จะถามเขา




“อืม ...งั้นเดี๋ยวผมจะไปซื้อข้าว แล้วขับรถไปที่วิศวะฯเลยแล้วกัน” ผมบอกเขา




“อืม โทร.หาพวกแลนด์ด้วยล่ะ ผมไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียว” โปเต้พูดไปทั้งที่ยังมองตาผม ทำเอาผมรู้สึกเขินแปลกๆ ก็เขาพูดประโยคเมื่อกี้ด้วยแววตาจริงจัง เหมือนเป็นการย้ำว่าเขาไม่อยากให้ผมไปอยู่ในคณะวิศวะฯเพียงคนเดียว




“อืม” ผมพยักหน้า ก่อนจะเดินไปที่รถของโปเต้ที่จอดอยู่ไม่ไกล ก่อนจะขับไปยังคณะวิศวะฯ ผมคิดว่าผมค่อยไปหาข้าวกินที่โรงอาหารคณะนั้นก็แล้วกัน




ผมวนหาที่จอดรถสองรอบ สุดท้ายก็ได้จอดเสียบแทนรถที่พึ่งขับออกไปอย่างโชคดี ผมเอาของทุกอย่างไว้ในนรถ ยกเว้นโทรศัพท์และเงินติดตัวอีกสองร้อยบาท




“.....” ผมลงจากรถ แล้วมุ่งหน้าเดินไปยังโรงอาหารของคณะนี้ เพียงแต่ว่ายังไม่ทันจะได้ไปไหนไกล ก็ถูกเรียกเอาไว้เสียก่อน




“ติณณ์ ติณณ์จริงๆด้วย แล้วภัทรล่ะ” อลันนั่นเองที่เป็นฝ่ายเข้ามาทักผม ก่อนที่ดอมินิกน้องของเขาจะเดินตามมาหยุดอยู่ข้างๆเขา




“พวกรุ่นพี่จะให้วิ่งมาที่คณะน่ะ เราเลยมาก่อน แล้วพวกนายล่ะ” ผมตอบ ก่อนจะถามกลับ




“เรากับดอมเรียนวิศวะฯไง แล้วนี่จะไปไหนล่ะ โรงยิมของคณะเราอยู่ทางนั้นนะ” อลันว่าก่อนจะชี้ไปอีกทางที่ผมควรจะเดินไป




“เราจะไปหาอะไรกินก่อนน่ะ”




“หรอ อยากไปเป็นเพื่อนอยู่นะ แต่เราเป็นพิธีกรภาคสนามน่ะ ดอม...ไปเป็นเพื่อนติณณ์หน่อยสิ” อลันหันไปบอกน้องชายฝาแฝดเขา




“ได้” นั่นคือคำตอบของดอมินิก




“ไม่ต้องหรอก ...เกรงใจ”




“ไม่เป็นไร” ดอมินิกตอบหน้าตาย




“งั้นเราไปก่อนนะ” ว่าจบ อลันก็รีบเดินไปทันที เหลือเพียงแค่ผมกับดอมินิก




“ไปเถอะ” ดอมินิกหันมาบอกผม ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำ ผมจึงเดินตามเขาไปอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าตลอดทางไม่มีใครพูดอะไรกันทั้งนั้น ผมเองก็ไม่ใช่คนช่างพูด ดอมินิกเองก็ไม่ต่างกัน ผมซื้อข้าวโดยให้เขาใส่กล่องโฟม ก่อนที่ผมกับดอมินิกจะพากันไปสนามบาส ตอนนี้คนดูเริ่มจะมาเยอะล่ะ ส่วนมากจะเป็นคณะเกษตรฯกับคณะสถาปัตย์ฯ แล้วก็มีคณะอื่นปะปนอยู่บ้าง




ผมกับดอมินิกเดินมานั่งที่สแตนด์เชียร์ โดยเลือกนั่งขั้นสุดท้าย เพราะมันง่ายต่อการลุก ยังดีที่เขาไม่ระเบียบมากนักกับการนั่งเป็นผู้ชมของนักศึกษา จึงไม่ต้องมานั่งจัดระเบียบเป็นแถวเพื่อความเรียบร้อย มือนึงผมถือกล่องข้าว อีกมือก็ตักข้าวเข้าปาก ผมเห็นบางคนแอบถ่ายรูปผมที่กำลังกินข้าวแบบนี้ ตอนแรกผมกะจะห้าม และมันหลายคนเกิน เลยคิดว่าช่างมันเถอะ มันก็ไม่ได้ก่อกวนการกินข้าวเช้าของผมสักเท่าไหร่




“สวัสดีนะครับ ผมอลันครับ จากคณะวิศวกรรมศาสตร์”




“สวัสดีครับ ผมเซย์ครับ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์”




มีผู้ชายสองคนเดินมาหยุดอยู่กลางสนาม ก่อนจะแนะนำตัว นั่นก็คือเซย์ เพื่อนของโปเต้ และก็อลัน ผมพึ่งรู้นะว่าเซย์ก็เป็นพิธีกรภาคสนามด้วยน่ะ




“ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยนะครับ ผมอยู่คณะวิศวะฯ และคำพูดของผมจะไม่เข้าข้างฝ่ายไหนทั้งนั้นนะครับ” อลันออกตัวก่อน




“อ๊ะๆ ถึงผมอยู่สถาปัตย์ฯ แต่ความยุติธรรมผมมีนะ ผมไม่พากย์เพื่อให้เกิดความร้าวฉานหรอก” เซย์เองก็รีบพูดทันที




“ครับ ตอนนี้นักกีฬาของทั้งสองคณะก็มาถึงที่นี่แล้วนะครับ ดูเหมือนทั้งสองคณะจะฟิตจัดเลยนี่ครับ ได้ข่าวว่าวิ่งกันมาจนถึงที่นี่จากคณะตัวเองกันเลยทีเดียว”




“ครับ...ผมว่าเราลองมาสัมภาษณ์นักกีฬาหน่อยเป็นไงครับ ...ขอเป็นคนที่ผมรู้จักก็แล้วกัน เวลาผมกวนตีนเขา เขาจะได้ไม่ไล่กระทืบผม” เซย์พูดติดตลก ก่อนจะเดินไปหา...จิน?




จินเขาเป็นนักกีฬาบาสฯด้วยเหรอ? ทำไมผมพึ่งเห็นเขา???




“สวัสดีครับคุณจิรวัฒน์” เซย์เอ่ยทักจิน ก่อนจะยื่นไมค์ไปหาจิน เนื่องจากในมือของเซย์และอลันต่างก็มีไมค์ลอยอยู่ในมืออีกคนละหนึ่งตัว เหมือนเตรียมการมาอยู่แล้ว




“สวัสดีครับ คุณนครินทร์” จินตอบกลับก่อนจะยิ้มขำๆ




ความจริงผมก็พึ่งเคยเห็นพิธีกรภาคสนามเดินมาสัมภาษณ์นักกีฬาเป็นครั้งแรกนะเนี่ย แต่พวกอาจารย์เขาไม่ได้ว่าอะไรหรอก มันเป็นกีฬา ถ้ามันทำให้บรรยากาศมันมีสีสัน พวกอาจารย์เขาก็ไม่ขัด




“การเตรียมตัวของพวกคุณวันนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ”




“ก็...พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าโม้ เอาไว้รอดูตอนลงแข่งดีกว่าครับ” จินตอบอย่างถ่อมตัวนิดๆ ดูเหมือนคงไม่อยากจะพูดให้ดูเหมือนเป็นการข่มอีกฝ่ายล่ะมั้ง




“แหม...ไว้จะรอดูแล้วกันนะครับ วันนี้ได้ข่าวว่าแฟนคุณก็มาเชียร์คุณด้วยนี่ครับ อยากจะขอกำลังใจอะไรจากแฟนคุณหน่อยมั้ยครับ”




“ก็...อยากจะขอนะครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะให้รึเปล่า” จินว่าอย่างยิ้มๆ แต่ตานี่มองมาทางดอมินิกที่นั่งอยู่ข้างๆผมอย่างไม่วางตาเลยล่ะ




“อะไรกันครับ คุณอยากขออะไรเหรอ” อลันเป็นฝ่ายถามจินบ้าง




“ผมจะกล้าบอกได้ยังไง ว่าตอนนี้ผมอยากจูบเขา”




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




สิ้นเสียงของจิน ทุกเสียงกรี๊ดจากคนในนี้ก็ดังระงม เหอะ แก้วหูแทบแตก แต่ก็นะ...จินดูหล่อ แถมยังมีมาดผู้ชายอบอุ่นอีก มาพูดแบบนี้ เป็นใครก็ต้องกรี๊ดแหละครับ




แม้แต่ดอมินิกยังหน้าแดงลามไปถึงคอเลย




“อุย...เรทแปดสิบบวก คุณพูดอะไรออกมาเนี่ยคุณจิรวัฒน์ ผมว่าเราข้ามไปที่คณะเกษตรฯดีกว่านะครับ” อลันแก้สถานการณ์โดยการเดินไปหานักบาสฯของอีกคณะนึง เซย์หันไปแท็กมือกับจิน




“สวัสดีครับ ชื่ออะไรครับ”




“ชื่อธนรัตน์ครับ ชื่อเล่นชื่อเฟียส” และคนที่อลันเข้าไปสัมภาษณ์ ก็คือเฟียสที่มาตามจีบผมนั่นแหละ




“ครับ ทีมของคุณเตรียมตัวมาอย่างไรบ้างครับ”




“ก็ทุกคนก็ซ้อมมาเต็มที่นะครับ เอาไว้รอดูตอนแข่งจริงจะดีกว่า”




“แหม...รองแชมป์ปีที่แล้วพูดจาซะถ่อมตัวเลย แต่นี่...ไม่ทราบว่าคุณมีแฟนแล้วรึยังเนี่ย” เซย์เป็นคนถามครับ




“ยังครับ ผมโสด แม้ว่าหน้าตาผมจะไม่ดีเท่าไหร่ แต่ผมก็รักจริงนะ” เฟียสตอบก่อนจะยิ้มทะเล้น




“แหมมมม...รีบโฆษณาตัวเองเลยเชียว ผมว่าคุณก็หน้าตาดีมากๆเลยนะ” อลันแซวก่อนจะชมเฟียสออกไมค์




“คุณอลัน ผมหึงนะครับ”




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




คำพูดนั้นขอเซย์สามารถเรียกเสียงกรี๊ดที่ดังกระหึ่มได้ เหมือนตอนที่จินบอกว่าอยากจูบดอมินิกเลย อาจจะเป็นเพราะทั้งคู่ไม่ได้ปิดบังเรื่องที่คบกัน ทำให้คนทั่วทั้งมหาลัยรู้ แล้วนี่เขายังมาหยอดใส่กันอีก




“อ่ะแฮ่มๆ เอ่อ...คุณเฟียสครับ อยากจะขอกำลังใจจากใครสักคนรึเปล่า สามารถพูดได้เลยนะ” อลันรีบเปลี่ยนเรื่อง




“เอ่อ...ครับ ก็...ผมก็ขอกำลังใจจากคนที่เชียร์ผมด้วยนะครับ ผมจะพยายามทำมันให้เต็มที่ แล้วก็...” เขาพูดพลางกวาดตามมองไปทั่ว ก่อนจะหยุดมองมาที่ผม เฮ้ย...ขอร้องล่ะ อย่าเอ่ยถึงผมเป็นอันขาด




“ก็อะไรครับ คุณกำลังมองหาใครอยู่หรอ” อลันถามเหมือนลุ้นไปด้วย




“ผมสามารถพูดชื่อออกไมค์ได้ใช่มั้ยครับ” เฟียสหันไปถามอลันสลับกับมองไปที่เซย์ แล้วก็ไม่ได้หันกลับมามองที่ผม ทำเอาผมโล่งใจ บางทีเขาอาจจะเลิกชอบผมไปแล้วก็ได้




“ได้ครับ แต่อย่าออกแนวหื่นแบบคุณจิรวัฒน์เมื่อกี้ก็พอ” เซย์เป็นคนตอบแบบจิกเพื่อนตัวเองนิดๆ




“ครับก็ ...เอาเป็นว่าผมขอท้วงสัญญาแล้วกัน ...พี่เฟรมครับ ถ้าผมชนะก็อย่าลืมที่สัญญากันไว้นะครับ อ้อ...แล้วก็...มือหอมดีนะครับ” เฟียสพูดก่อนจะหันไปมองพี่เฟรมที่อยู่อีกฝั่งของสนาม ซึ่งตอนนี้กำลังยืนคุยอยู่กับนักกีฬาคนอื่นๆในทีม โปเต้บอกผมว่าพี่เฟรมเป็นกัปตันทีม




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




มาอีกละเสียงกรี๊ด ในนี้มันมีแต่คนที่เชียร์ให้ชายรักชายรึไงกัน???




ผมเห็นเฟรมยกมือแล้วตะโกนอะไรสักอย่าง แต่ไม่ได้ยิน เพราะเสียงกรี๊ดมันกลบหมด




“อ๊ะๆ ดูเหมือนคุณเฟรมเขาอยากจะพูดอะไรอยู่นะครับ ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบด้วย” เซย์พูดผ่านไมค์ ก่อนจะเดินไปหาพี่เฟรมพร้อมยื่นไมค์อีกตัวนึงให้




“ครับ ก็...”




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




ยังไม่ทันที่พี่เฟรมจะพูดอะไร คนในสนามก็กรี๊ด ความจริงพี่เฟรมเขาก็ดังไปทั่วมหาลัยนั่นแหละ เพราะความอัธยาศัยดียิ้มง่ายของพี่เขา ซ้ำยังป็อปในหมู่สาวสองมากๆ (อันนี้จีน่าเคยบอกผมมา)




“ฟังผมก่อนแล้วกันนะที่รัก” พี่เฟรมปากหวานออกไมค์ แน่นอนว่ามีเสียงกรี๊ดตามมา พี่เฟรมจึงรอให้เสียงกรี๊ดมันเงียบแล้วค่อยพูด




“ครับ ก่อนอื่นเลยต้องขอแก้ข่าวก่อนนะครับ เรื่องที่ไอ้...เอ่อ เฟียสเขาบอกว่ามือผมหอม ทุกคนอย่าเข้าใจผิดกับการกวนประสาทของเขานะครับ เมื่อเช้าเขามาพูดจากวนประสาทใส่ผม ผมเลยเอื้อมมือไปปิดปากของเขาเท่านั้น” พี่เฟรมพูดพลางกวาดตามองทุกคน แต่ไม่มองเฟียสเลย




“หรอครับ แต่ผู้ชายใช้มือปิดปากกันเพราะอีกฝ่ายเข้ามากวนนี่...มันชวนจิ้นไปมั้ยครับ ทุกคนคิดว่าไง” อลันที่ยืนอยู่ข้างๆเฟียสเอ่ยปากถามออกไมค์




“ใช่ๆๆๆๆๆ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!” นี่คือเสียงของคนดูที่ตอบกลับมาครับ เหมือนอะไรเขาจะแกล้งแหย่กึ่งๆช่วยสร้างกระแสให้คู่นี้นะ




“.....” พี่เฟรมเม้มปากนิดๆ เหมือนไม่รู้จะพูดยังไง แต่ว่าเขาหูแดงอย่างเห็นได้ชัด เพราะตรงที่ผมนั่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากที่พี่เขายืนสักเท่าไหร่




“อย่าไปพูดแบบนั้นสิครับ พี่เฟรมเขาเสียหายนะ” เฟียสยกไมค์ขึ้นพูด แต่เหมือนมันไม่ได้ช่วยให้อะไรมันดีขึ้นเลย




“โอ้ว ...ถึงกับออกตัวแทนกันเลย ยังไงกันครับคู่นี้” เซย์เป็นคนแซวบ้าง




“.....” แล้วพี่เฟรมก็ทำให้ทุกคนกรี๊ดหนักกว่าเดิม เมื่อเขาส่งไมค์คืนเซย์ แล้วรีบเดินกลับไปยังกลุ่มนักกีฬาของสถาปัตย์




มันน่าสงสัยนะ???




“เอ่อ ...เป็นกำลังใจให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีแบบนั้น เฟียสเลยเอ่ยทิ้งท้าย




“ขอกำลังใจจากทุกคนหรอครับ” อลันถามกลับอย่างยิ้มๆ




“ขอจากพี่เฟรมน่ะครับ”










**********************************************


อะไรของคู่นี้กันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน


เอาเข้าไป จิ้นกันไปดิ ....แต่งเองอ่านเองก็จิ้นเองอะนะ



แฟนเพจจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา ตามทวงนิยาย เข้าไปพูดได้ ที่นี่ (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 03-04-2015 02:31:48
จะเอาคู่หลัก จะเอาคู่หลักกกก ฮรึกกกกกก เค้าคิดถึงโปเต้กับติณณ์อ่าาาา ไม่พอออ TTTTTTT
ต้องย้อนกลับไปอ่านตอนแรกๆอีกกี่รอบ แง น้ำตานอง ; ____ ; .... ชอบจริงๆนะคะ
รอดูนภัทรพูดถึงติณณ์ออกไมค์บ้างอะไรบ้างงงงงง *O*
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 03-04-2015 02:35:59
กรี๊ดทุกคู่   :-[
และรอกรี๊ดโปเต้ติณณ์ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 03-04-2015 02:44:21
รอๆๆๆๆ รอนภัทรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :katai5: :katai5: :katai5: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 03-04-2015 02:46:49
เอ๊ะๆ อะไรกันน้าาาคู่นี้ เฟียส พี่เฟรม  :hao3:

 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 03-04-2015 02:47:12
คิดถึง ติณณ์โปเต้ มากๆๆๆๆ มาต่อไวๆนะคะ

รอกรี๊ดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 03-04-2015 02:52:21
คู่หลังนี้ออกตัวแรงมากกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 03-04-2015 02:56:49
โอ้ยยย เฟียสเฟรมชักจะข้ามหน้าข้ามตาคู่หลักไปละนะ ฮืออออ น่ารักมากกกกกกก
เฟียสจะแกล้งพี่เค้าหรือจะเอาจริงลูกกกก จีบเลยสิจีบจริงๆเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-04-2015 03:26:32
จะได้แข่งไหมอะกีฬา เห็นแต่คนจีบกัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 03-04-2015 03:42:01
อร๊ายยย. แต่ละคู่หวานเวอร์ๆ. ฟินจุงเบย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-04-2015 05:49:19
 :katai2-1:  กรี้ดมันทุกคู่. ถ้าได้อยู่ที่สนามคงหูดับไปแล้วแน่เลย
คิดถึงโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 03-04-2015 06:52:09
แหมๆ รุกเข้าไปค่ะพ่อคุณ
แบบนี้อย่ายอมแพ้นะพี่เฟรม สู้ๆ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 03-04-2015 07:12:21
อยากจะรู้แล้วว่าโปเต้จะอ้อนติณห์ยังไง :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 03-04-2015 07:22:34
เต้ติณล่ะค่ะะะะะะะ
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-04-2015 07:41:20
ถ้าได้ไปเชียร์ด้วย คงได้กรี๊ดคอแทบแตกแน่นอน :laugh:
ไม่คุ้นคำว่า "พิธีกรพากย์สนาม" เลย น่าจะเป็นคำนี้หรือเปล่าคะ "พิธีกรภาคสนาม"  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 03-04-2015 09:11:05
แหมมมมม เฟียสเล่นมากๆระวังจะเข้าตัวนะจ๊ะ อิอิอิ
คู่อื่นก้อหวานไม่เคยสื่อเรยอ่ะ
ก้อนะ พอดีสื่อส่วนมากเป็นสาววาย 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 03-04-2015 09:13:59
รอสัมภาษณ์ช็อตเด็ดจากโปเต้  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 03-04-2015 09:41:44
ว่าแต่เซย์ - อลัน จะมีใครกล้าสัมภาษณ์โปเต้หรือเปล่า  อยากรู้ว่าโปเต้จะพูดถึงติณณ์ว่าไง

เฟียส ไหนแกบอกไม่คิดพิสวาสพี่เฟรมไง  แต่นี่หวานออกสื่อประกาศให้คนทั้งมหาลัยรู้เลยนะนี่  เล่นเอาพี่เฟรมไปไม่เป็นเลย

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 03-04-2015 10:58:13
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gigigeam ที่ 03-04-2015 11:10:59
กรี๊ดดดดดดดด  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 03-04-2015 11:26:00
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 03-04-2015 11:26:35
กำลังใจดีสถาปัตย์ชนะแน่เลยใช่มั้ยโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 03-04-2015 12:34:43
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 03-04-2015 13:43:34
อ๊าาาาาาาา พี่เฟ :hao7:รมกะเฟียส น่าร๊ากกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 03-04-2015 13:54:15
แข่งบาส หรือแข่งดันจีบแฟน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-04-2015 14:40:10
คนอ่านยังจิ้นคิดดูละกัน

#ทีมน้องเฟียส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-04-2015 19:36:46
เฟรมเฟียสนี่ข้ามหน้าข้ามตาคู่หลักไปเยอะเลยนะเออ  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-04-2015 19:37:48
เฟียสนายออกตัวแรงเพื่อกันคนอื่นๆ
หรือเพราะแค่อยากแกล้งพี่เฟรมล่ะ
แต่ทำเอาจิ้นไปไกลแบบกู่ไม่กลับเลยนะ
ว่าแต่โปเต้จะมีขอกำลังใจจากติณผ่านไมล์ป่าวนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 03-04-2015 19:57:11
อย่างนี้มันต้อง กรี๊ดดดดดดดดดดดด ให้สลบ  ฮ่าๆ   :m20:
อยากจะไปนั่งอยู่ในสนามด้วยจังงง   :impress2:
มาต่อไวๆนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 03-04-2015 20:50:44
รอให้โปเต้  หยอดติณณ์ออกซื่อบ้างไรบ้าง  รอฟิน  อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 04-04-2015 15:24:08
อยากรู้คู่นิ่งเขาจะจีบกันออกสื่อยังไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 04-04-2015 16:19:29
มันชวนจิ้นจริงๆเลยคู่นี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 04-04-2015 16:50:41
 :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-04-2015 23:55:47
 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 07-04-2015 17:53:53
คิดถึงนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งแรก P.26 3/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 07-04-2015 18:46:20
คิดถึงแล้ววว  :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 08-04-2015 02:19:02
ตอนที่ 15 (ครึ่งหลัง)













“เอ่อ ...เป็นกำลังใจให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ”




“ขอกำลังใจจากทุกคนหรอครับ”




“ขอจากพี่เฟรมน่ะครับ”




.




.




.




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!” เสียงกรี๊ดจากทั่วทุกสารทิศดังขึ้น จนผมต้องเอามือยกขึ้นปิดหู




คูนี้เขาจะจริงจังใช่มั้ย ผมจะได้เตรียมตัวไปอวยพร




“โปรดอยู่ในความสงบด้วยครับ” เซย์จำต้องเอ่ยขึ้นเมื่อเสียงกรี๊ดนั้นไม่มีทีท่าว่าจะหยุด




“ครับ ...เอาไว้ไปกรี๊ดตอนที่เขาจีบกันข้างนอกเน๊าะ ...เรากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงกันก่อน อย่าพึ่งจิ้นกันไปไกล”




“ใช่ครับ ในสนามนี้เราก็มีคู่จริงเหมือนนะ เก็บเสียงไว้รอกรี๊ดกันดีกว่า อย่าพึ่งใช้หมด” เซย์ว่าก่อนจะเหล่ตามองมาที่ผม เอ่อ...ผมควรจะแกล้งเดินลุกไปทิ้งขยะดีมั้ย




“คู่จริง??? ใครเหรอครับคุณเซย์” อลันถามอย่างยิ้มๆ




“ก็เราสองคนไงครับ” เซย์ว่าก่อนจะเดินไปกอดเอวอลัน แน่นอนว่าเรียกเสียงกรี๊ดได้ ทำเอาผมถอนหายใจเบาๆ นึกว่าเซย์จะหันมาเล่นผมซะอีก




“เฮ้ย ...ผิดบทบ่หนิ?” อลันเอ่ยถามออกไมค์แถมหน้ายังแดงอีก แสดงว่าเหตุการณ์เมื่อกี้คงไม่ได้เตี้ยมกันไว้




“ฮ่าๆๆๆๆ แฟนผมหน้าแดงว่ะ ...เอาล่ะๆๆๆ ใกล้เวลาจะแข่งแล้ว ต่อไปก็...ขอสัมภาษณ์คนที่มีคนขอเข้ามาเยอะที่สุดล่ะกัน”




“...ใช่ครับ หลังจากที่รู้ว่าจะมีการสัมภาษณ์ก่อนการแข่งขัน ก็มีคนมาขอให้ไปสัมภาษณ์คนๆนี้เยอะมากเลย จริงๆก็มีมาสองคนแหละครับ การเรียกร้องตีคู่มาสูสีมากๆ และผมกับเซย์ก็ได้ตัดสินใจเลือกคนใดคนหนึ่ง” อลันว่าพลางกวาดตามองไปรอบๆ




“เข้าเรื่องกันเลยเน๊าะ ...คือ ผมขอตัวแทนจากฝั่งกองเชียร์คณะสถาปัตย์พูดให้กำลังใจคณะตัวเองละกัน” ว่าจบ เซย์ก็เดินมาทางผมพร้อมกับไมค์อีกตัวที่ยื่นมาให้ผม




กะแล้วว่าต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ รู้งี้ลุกขึ้นไปทิ้งขยะก่อนซะก็ดี




“.....” ผมนั่งหน้านิ่ง มองหน้าเซย์และไม่ยอมรับไมค์จากเขา




“ติณณ์ รับไปดิ” เซย์เอาไมค์ออกจากปาก แล้วกระซิบบอกผม




“.....” ผมส่ายหัว จะให้พูดออกไมค์ต่อหน้าคนในโรงยิมนี่ก็ไม่ไหวนะ อีกอย่างผมไม่เคยพูดให้กำลังใจใครด้วย




“เราว่านภัทรมันก็อยากให้นายพูดให้กำลังใจมันนะ” ดอมินิกหันมาป้องปากกระซิบที่ข้างหูผม ผมจึงเงยหน้าขึ้นไปมองโปเต้ พบว่าโปเต้มองมาที่ผม




ผมก็อยากจะพูด อยากจะให้กำลังใจโปเต้ แต่จะให้พูดต่อหน้าคนอื่นเหรอ




โว้ยยย...เอาไงดีว่ะ




“....” สุดท้ายผมก็ยอมรับไมค์ที่เซย์ยื่นมาให้ ก็แค่พูดให้กำลังใจ ...รีบๆพูดไป เขาจะได้เริ่มแข่งสักที




“.....” ผมยืนขึ้น แต่ยังไม่ได้พูดอะไร ปกติก็ไม่ใช่คนช่างพูดหรือว่าพูดเก่งอะไร ถ้าไม่มีเรื่องให้พูด ผมก็ไม่พูด เอาไงดีว่ะ ...คิดคำไม่ออก




แถมทุกคนที่อยู่ในนี้ยังพร้อมใจกันเงียบ ราวกลับรอฟังคำพูดที่จะออกจากปากผม




“ผม...ติณณ์ สถาปัตย์ปีสาม ก็...อยากจะให้ช่วยเชียร์พวกเราคณะสถาปัตย์ด้วย ผมดูพวกเขาซ้อมทุกวัน ก็เห็นว่าพวกเขาตั้งใจและซ้อมหนักมาก...” เมื่อผมเริ่มวรรคตอน ก็เริ่มมีเสียงกรี๊ดเบาๆ และเสียงคนคุยกัน




“กรี๊ด พี่ติณณ์เขาบอกว่าไปทุกวัน ไปดูพี่นภัทรซ้อมทุกว่ะอ่ะแก”




“ก็เขาต้องกลับพร้อมกันไง พี่เขาก็เลยไปนั่งเฝ้าพี่นภัทรซ้อม”




“อยากมีโมเม้นต์นี้บ้างอ่ะ”




“ซุบซิบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”




เฮ้ยๆ เดี๋ยว!!! ...สนใจผิดประเด็นไปรึเปล่า ผมแค่อยากจะสื่อความหมายว่า ผมเห็นเองกับตาว่าพวกทีมบาสฯปีนี้ตั้งใจกันมากแค่ไหน เอาใหม่ๆ ต้องคิดให้ดีก่อนพูดล่ะ




“ก็...ขอให้ทุกคนทำให้เต็มที่ ทำมันให้ดีอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แล้วกัน...ครับ” ว่าจบ ผมก็ยื่นไมค์คืนไปให้เซย์ แต่เซย์ไม่รับ ก่อนที่เขาจะยกไมค์ของตัวเองขึ้นมาจ่อปาก แล้วถามผม




“ผมว่า...ยังมีคนนึง ที่เขาอยากจะให้คุณพูดให้กำลังใจเขานะ” เซย์ว่าพลางทำตาเจ้าเล่ห์ใส่ แต่ผมไม่ได้สนใจ ฟังดูก็รู้ว่าอยากให้ผมพูดให้กำลังใจใคร




“.....”




“.....”




ผมหันไปมองโปเต้ที่มองมาทางผมอยู่แล้ว ...อืม ก็...ให้ๆเขาหน่อยล่ะกัน




“สู้ๆ” พูดพร้อมชูสองนิ้วไปให้โปเต้




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!!”




“พี่เขานิ่งมาก แต่ฉันโคตรจิ้นว่ะแก”




“โอ๊ยยยยยย ...โบยข้าเถิดนายท่าน ถ้าจะทำให้จิ้นกันแบบนี้”




“ไม่ไหวแล้ว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




ผมรู้สึกเลยว่าตัวเองหน้าแดง ไอ้เมื่อกี้น่ะ ผมเขินนะ ...และยิ่งเขินหนักกว่าเดิม เมื่อเห็นว่าโปเต้แอบหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยกมือปิดปากเมื่อผมถลึงตาใส่




มาหัวเราะอย่างนี้ได้ยังไง อุตส่าห์ชูสองนิ้วให้เลยนะ




“ติณณ์ หน้าแดงหมดแล้ว” ดอมินิกเอ่ยบอกผม จนผมรู้สึกตัวว่า ...ควรจะนั่งลงที่เดิมได้แล้ว ส่วนเซย์กับอลันก็เดินไปสัมภาษณ์นักศึกษาทางฝั่งคณะเกษตรฯ




“ดอมินิก ถ้าเราเดินออกไปตอนนี้ มันจะเป็นการเสียมารยาทมั้ย” ผมถามพร้อมกับลูบหน้าตัวเองแก้เก้อ




“ใจเย็นๆ” ดอมินิกว่าก่อนจะตบบ่าผม




-^-




“เอาล่ะครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะได้เวลาแข่งขันกันแล้ว อยู่ในความสงบกันก่อนน้าาา...”




“อยากจิ้นมากกว่านี้ เข้าไปในเพจคู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร-ติวาลิน ก็แล้วกันนะครับ แอบกระซิบ...แอดมินเพจนี้เขาฝากมา” เซย์พูดเสียงกระซิบตอนท้าย แต่...กระซิบออกไมค์??? ไม่มีใครได้ยินเลยเน๊าะ




“ผมมีรูปเด็ดด้วย ด้วยจะไปโพสต์ในเพจ เตรียมติดตามดูกันได้นะครับ” อลันเองก็อีกคน




ผมควรจะสั่งห้ามสองคนนั้นไม่ให้เอารูปผมไปให้เพจอะไรนั่นจะดีมั้ย เพราะยังไงมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล เขาทำแบบนี้โดยไม่ขออนุญาตจากผมได้ยังไง -*-




“กินมั้ย?” ดอมินิกถามผม พลางยื่นกล่องป็อกกี้ที่แกะแล้วมาให้ผม




“ขอบใจ” ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือหยิบป็อกกี้ออกจากกล่อง ก่อนจะหันหน้าไปมองในสนาม ทุกคนดูจริงจังกับการแข่งตรงหน้านี้มาก




“รู้รึยัง...ว่าพวกนั้นมีแพลนจะไปเที่ยวกัน” ดอมินิกเอ่ยถามผม แต่ตายังมองไปในสนาม ที่ตอนนี้เริ่มแข่งกันแล้ว ขอสารภาพเลยนะ ว่าผมไม่ค่อยชอบดูกีฬาเท่าไหร่ อย่างบาสฯนี้ก็ไม่เคยคิดที่จะดู คนตั้งเยอะวิ่งไปวิ่งมาเพื่อนแย่งลูกบาสลูกเดียว บอกตามตรงว่าผมเวียนหัว




“...ยัง”




“เห็นว่ากันว่า...จะจัดทริป เอาบิ๊กไบร์ทของตัวเองไปน่ะ” ดอมินิกว่าก่อนจะกัดป็อกกี้ที่อยู่ในมือไปด้วย




“ไม่เห็นโปเต้บอกอะไร” ผมว่าก่อนจะหยิบป็อกกี้มากินอีก




“อยากจะเซอร์ไพร์สมั้ง จะไปวันที่เขาให้หยุดอาทิตย์นึงเพราะพวกอาจารย์มีอบรมไง”




“ไม่รู้สิ โปเต้อาจจะอยากไปกับแค่พวกเพื่อนก็ได้นะ”




“นภัทรติดนายจะตาย เขาต้องพานายไปด้วยอยู่แล้ว”




“คิดว่างั้นเหรอ??” โปเต้เนี่ยนะติดผม? งั้นเหรอว่ะ???




“ใช่”




“ไม่มั้ง” ผมมีอะไรให้หน้าติด ผมเป็นผู้ชาย ผมพูดน้อย วันๆนึงก็คุยกันแค่เรื่องที่ต้องคุย คุนเรื่องทั่วๆไปนี่ไม่เคยอ่ะ อย่างมากก็คุยเล่นกันสองสามประโยค แค่นั้น




“จริงๆนะ นายไม่รู้ตัวเลยหรอ”




“ไม่นะ ก็ตั้งแต่รู้จักกันมาก็แค่อยู่ด้วยกัน...ตลอด...” เอ๊ะ...หรือว่าพวกผมจะตัวติดกันตลอดจริงๆว่ะ??




“นั่นไง” ดอมินิกว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ แต่ทำไมผมรู้สึกว่าเขากำลังยิ้มขำใส่ผมว่ะ




“.....”




“เอาไว้นายค่อยไปถามนภัทรเองละกัน”




“อืม...เฮ้ย!!!” เมื่อหันไปมองในสนามผมก็ต้องร้องอย่างตกใจนิดๆ เมื่อผมเห็นพี่เฟรมกำลังเลี้ยงลูกด้วยความเร็ว ก่อนที่เฟียสจะวิ่งเข้ามาแย่ง แต่...เหมือนผมจะสังเกตได้ว่า เฟียสลื้น ทำให้ร่างสูงใหญ่ของเขา โน้มไปหาพี่เฟรมอย่างรวดเร็ว เร็วมากจนรู้สึกตัวอีกที่ทั้งคู่ก็ล้มนอนลงไปบนพื้นสนามเรียบร้อย




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




ทุกคนจะไม่กรี๊ดดังขนาดนี้ ถ้าหากเฟียสไม่พลิกตัวเองแล้วเป็นฝ่ายลงไปนอนกระแทกพื้นแทนที่จะเป็นพี่เฟรม ถ้าหากเฟียสไม่ทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเสียสละตัวเองให้เป็นเบาะ เพื่อที่ตัวพี่เฟรมจะได้ไม่กระแทกพื้น ถ้าหาก...ริมฝีปากของทั้งคู่ตอนนี้...ไม่ได้ประกบกันอยู่




เฮ้ย! เขาจูบกัน!!




จูบกันยังว่าน่าตกใจแล้ว แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่า เมื่อในเวลาต่อมา พี่เฟรมดีตัวเองออกจากเฟียส มองหน้าอีกคนอย่างอึ่งๆ ก่อนที่ตัวเองนั้นจะ...สลบไป




กองเชียร์ในสนามต่างก็พากันกรี๊ดและตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า พวกนักกีฬาในสนามเองก็เหมือนกัน




สุดท้ายพี่เฟรมก็ถูกเปลหามออกไป เพื่อตรงไปยังห้องพยาบาลของคณะนี้




แต่เฟียส...คนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก กลับวิ่งตามกลุ่มคนที่หามพี่เฟรมออกไป โดยไม่ฟังเสียงใคร ทำให้ทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวและเริ่มแข่งกันในเวลาต่อมา


















สุดท้าย...สถาปัตย์ฯแพ้ครับ แต่ทุกคนก็ไม่ติดใจอะไรอะไร แข่งกีฬามันก็ต้องมีแพ้มีชนะ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะทางเกษตรฯก็เป็นตัวเต็งอยู่แล้ว แต่คะแนนสูสีก็นับว่าทุกคนเองก็พยายามกันอย่างเต็มที่แล้ว




“ไม่เป็นไรนะ” ผมบอกกับโปเต้หลังจากที่รุ่นพี่เรียกคุยเสร็จ




“อืม...ก็ไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว” โปเต้ตอบก่อนยิ้มให้ผม ...เอ่อ ยิ้มให้ค่อนข้างนานเลยทีเดียว




“นี่ ...ถูกลูกบาสอัดใส่หัวมารึไง” ผมถามกลับอย่างงงๆ วันนี้ยิ้มนานกว่าปกติ แปลกๆแหะ




“หึๆ เปล่า” เขาปฏิเสธทั้งที่ยังยิ้มอยู่




“พูดมา” ผมทำเสียงเข้มใส่เขา




“ก็....” โปเต้ลากเสียงยาว ก่อนจะยกมือขึ้นมาไว้ข้างแก้ม แล้วชูสองนิ้วก่อนจะพูดว่า




“.....”




“สู้ๆ ไง ...คิดได้ไงเนี่ย มุ้งมิ้งไปมั้ยสำหรับติณณ์”




“ปะ..โปเต้!!!!” ผมแห้วเสียงดังด้วยความเขินและความอาย นี่เขากล้าล้อผมได้ยังไง




“หน้าแดง” โปเต้บอกผมก่อนจะยิ้มอย่างขำๆ




“...ฮึ่ย!” พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เถียงสู้ไม่ได้




“หึๆ” โปเต้หัวเราะสองหึก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผมเสียฟอดใหญ่ และแช่ไว้นานมาก




“อื้อ...ไม่ต้องมาหอมเลย อุตส่าห์ชูสองนิ้วให้กำลังใจ ยังจะมาล้อกันอีก” ผมว่าก่อนจะดันหน้าโปเต้ออก แต่ตัวนี่ขยับไปไหนไม่ได้ ก็โปเต้เล่นกอดผมเอาไว้แน่น




“ก็มันแบ๊ว” โปเต้ว่าก่อนจะฟัดแก้มผมอีกข้างจน...




“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”




“แชะ! แชะ! แชะ!”




คาดว่าคนพวกนั้นคงเพิ่งจะเดินออกมาจากโรงยิมของวิศวะฯ แล้วบังเอิญมาเห็นช็อตนี้ของพวกผม เลยทำให้มีทั้งเสียงกรี๊ดและเสียงถ่ายรูปดังขึ้นปนๆกันไป




“โปเต้ ...ปล่อย คนเยอะแยะ” ผมพูดบอกกับโปเต้แข่งกับเสียงกรี๊ด แต่ไอ้คนทำมันกลับไม่สนใจ ฟัดแก้มทั้งสองข้างของผมอยู่นั้น ...โปเต้หน้าด้านขึ้นป่ะเนี่ย อื้อ..แก้มผมช้ำหมดแล้ว




“หึๆ” ยังมีหน้ามาหัวเราะอีก ไอ้โปเต้บ้า




งื้อ...ผมไม่อยากเป็นข่าวอีกอ่ะ ...ไหนบอกจะไม่ทำอะไรประเจิดประเจ้อไงว่ะ






*******************************************************************




งืมๆ ...ถึงบาสจะแพ้ ...แต่เจอฉากหลังจากนั้นก็ไม่เป็นไรเน๊าะ


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 08-04-2015 02:44:18
น่ารักที่สุดโปเต้ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 08-04-2015 02:50:16
โปเต้มึนได้อีก ถึงจะแพ้ แต่กำลังใจก็ยังดีเนาะ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-04-2015 02:59:56
เป็นพลุแตกเลยแต่ละคน เสียงกรี๊ดมาเต็มอย่างนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-04-2015 03:21:55
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 08-04-2015 04:20:10
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 08-04-2015 04:30:06
อื้อหืออออออออออออออ เขินง่ะ
มุ้งมิ้งกันสุดๆ 55555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pungpondppp ที่ 08-04-2015 06:18:32
 :o8: :z3: :hao7: :hao5: เพิ่งมาอ่านเรื่องนี้คือสนุกมากกกกกกกกก เขินมากกกกกกกกก
คนนิ่งนี่มันนิ่งจริงๆๆนะ แต่ก็น่ารักกกกจีบแบบเนียนนนนนนนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รอๆๆตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-04-2015 06:45:11
ถึงแพ้แต่ก็มีรางวัลปลอบใจสินะโปเต้ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 08-04-2015 06:58:29
ฟินได้อีก
คู่หลักมุ้งมิ้ง. คู่รองรุนแรง.
พี่เฟรมฟื้นแล้วต้องมีจูบแก้ตัวนะจ๊ะ   :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-04-2015 07:15:50
โอ้ยยยย ฟินเล็กๆแต่เช้า อิอิ

แต่กำลังสงสัยว่ากองเชียร์ผญที่ม.นี้เปนสาววายหมดเลยหรือเปล่านะ

ปอลิง เฟียส เฟรม แบบว่าพลิกล็อกมาก เหมือนทุกอย่างจะเปนใจให้คุ่นี้เลยนะ คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 08-04-2015 07:38:41
หึหึ  โปเต้นี่เจ้าเล่ห์หน้ามึนจังนะ   :hao6:
มาต่อไวๆนะฮะ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 08-04-2015 08:06:45
 :impress2: ฟินฝุดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 08-04-2015 08:33:20
โปเต้กล้านะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 08-04-2015 08:51:18
น่าร๊ากกกกกกกกกกกก~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 08-04-2015 08:56:00
ตั้งใจรึป่าวโปเต้ แสดงความเป็นเจ้าของออกสื่อ
อยู่ด้วยกันลืมตัวอยู่เรื่อยๆ โปเต้สุดยอด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 08-04-2015 08:59:11
โอ๊ยยย เขิน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 08-04-2015 09:05:08
รางวัลปลอบใจๆๆๆๆๆ o18
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 08-04-2015 09:10:19
ถึงบาสจะแพ้ แต่กำลังใจชนะคนอ่านค่าาาาา อร๊ายยยยย~~~  กรี๊ดดดดดด~~~  :o8: :jul1: :-[ :hao7: :m25: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 08-04-2015 10:14:19
อร๊ายยยยโปเต้ทำมึนทำเนียนตัลลอดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-04-2015 10:33:35
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้กับติณกับโปเต้

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ให้กับพี่เฟรมกับเฟียส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 08-04-2015 11:07:31
น่ารักชะมัด :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ฝัullล้วlv ที่ 08-04-2015 11:23:03
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนหน้านิ่งก็แบ๊วได้ ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pandorawht ที่ 08-04-2015 11:28:12
โอ้ยชอบ เป็นคู่ที่ดูไม่เวอร์ไป ธรรมดาๆแต่ดีอะ
อ่านแล้วละมุน ไม่รู้รุ้สึกไปเองมั้ย 5555 อ่านแล้วยิ้ม
อัพต่อเร็วๆนะคะ รออยู่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยค่ะ ฮ่าาาา
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 08-04-2015 11:59:02
โอ้ยยยย ฟินเล็กๆแต่เช้า อิอิ

แต่กำลังสงสัยว่ากองเชียร์ผญที่ม.นี้เปนสาววายหมดเลยหรือเปล่านะ

ปอลิง เฟียส เฟรม แบบว่าพลิกล็อกมาก เหมือนทุกอย่างจะเปนใจให้คุ่นี้เลยนะ คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 08-04-2015 12:14:32
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

อ่านไปเขินไป

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 08-04-2015 13:57:06
กรี๊ดและฟินไปกับ "สู้ๆ" ของติณณ์ด้วยอีกคน

ถึงบาสจะแพ้  แต่คนดูก็ฟินไปกับฉากหลัง ที่ทำให้มดกัด หวานไม่แคร์สื่อจริงๆ คู่นี้
 
ที่พี่เฟรมเป็นลม นี่คงไม่ใช่หกล้ม แต่คงตกใจกับจูบแรกที่เสียให้เฟียสไปป่าวนิ  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 08-04-2015 14:01:51
อยากไปนั่งเชียร์ด้วยจังเลย ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 08-04-2015 14:59:35
กรี๊ดทั้งสองคู่ อยากจะเป็นคนดูในสนามจริงๆ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 08-04-2015 15:00:12
ฟินทุกคู่เลยจ้าาาา น่ารักมากกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: slurpee04 ที่ 08-04-2015 17:33:01
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 08-04-2015 18:25:07
งื้ออออออออ
อ่านไปอมยิ้มไป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 08-04-2015 19:05:11
โอยยยยยยยยยยยยยยยยยยย โปเต้ หวานเกินไปละ
น่ารักจนมดกันละเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-04-2015 19:51:07
หวานละมุนละไมอยู่ในทุกตอนจริงๆ

ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก มุ้งมิ้งน่ารักสุดๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 08-04-2015 20:47:27
กรี๊ดดดดดดดดดดด
ไม่เปนข่าวไม่ได้เเร้วนะคะ ติณ!!
เรื่องแบบนี้มันต้องขยายให้ฟินโดยทั่วกันนนนน
>\\\\\\\\< ♡♡
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 08-04-2015 22:23:06
ฟิน ฟิน ฟิน 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-04-2015 23:39:10
งือออ ติณน่ารักจัง โปเต้ปลื้มจะแย่แล้ว คนอ่านก็ด้วย
หลังแข่งก็มีหวีดหวานกันอีก เพจนี้ดังมากแน่ๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 09-04-2015 00:44:43
โอ้ยยยยยย ฟินสุดดดด ฮืออออ :hao5: :hao5:

ฝันดีแล้ววววว แอร๊ยยยยย :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 09-04-2015 02:02:03
เฟียสเฟรม แย่งซีน พี่เฟรมถึงกับสลบ 55555555
เราก็อยากเ็นติณแบ๊วชูสองนิ้วให้เราบ้างงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 09-04-2015 05:52:24
แพ้แต่ได้ใจกองเชียร์นะเนี่ย


อวยกองเชียร์ด้วยฉากหวาน



ทำเอาฟินกันไปหมดอิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 09-04-2015 23:27:17
เพิ่งได้มาอ่านอ่ะ น่ารักเว่อๆๆๆอ่ะ
ชอบสุดๆ อยากกดไลสักพันครั้ง
อยากอ่านแบบไม่ต้องหยุดเลยได้มะ
จิ้นเว่อวังอ่ะ กรี๊ดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-04-2015 15:17:22
อยากจะไปนั่งเกาะขอบสนามเชียร์บาสจริงๆ ให้ดิ้นตาย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 12-04-2015 02:09:36
คิดถึงจังเลยยยยยยย  :mew6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-04-2015 13:16:26
แล้วแลนด์คู่ใครอ่ะ





โอ๊ยยยยย   ฟินกันทุกคู่เลยยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 12-04-2015 13:40:05
โปเต้กำลังใจเธอดีอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 13-04-2015 00:35:29
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 13-04-2015 18:16:56
แสดงความเป็นเจ้าของที่สุดดดดด  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: basza2x ที่ 13-04-2015 21:28:09
 :haun4: :haun4: น่ารัก มุ้งมิ้งมากๆๆอ่ะ จะมีดราม่าน้ำตาไหลไหมครับ คนเขียน  :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 15-04-2015 17:50:06
คิดถึงนะคะ รออยู่นะคะ คนแต่งงงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Lichtmonz ที่ 15-04-2015 18:17:22
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด ก็ว่าอยู่ว่าคู่นี้หายไปไหนจากสต๊อกของชั้นนนน (ตอนนั้นยังมิได้สมัคร...) ไม่เอาล่ะ เม้นต์ก่อนเ ดี๋ยวหายอีก หาไม่เจอออ  :hao5:  คู่หลักนี่ตั้ลล้ากกกกกกกกกก ฮื่ออ เขิลแทนพี่ติณณ์  :-[ ส่วนคู่รองนี่มาแร๊งมาแรง เค้ามีจง
มีจุ๊บกันแหล่วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mixxa ที่ 16-04-2015 21:41:31
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 15 ครึ่งหลัง P.27 8/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: พายุ ที่ 17-04-2015 11:55:36
คนเขียนคร้าบบบบบบบ อยู่ไหนน้อ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.28 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 17-04-2015 19:09:31
ตอนที่ 16 (ครึ่งแรก)














“ติณณ์ ผมอยากกลับบ้าน” โปเต้ร้องบอกผม ขณะที่เขากำลังฟุบหน้าลงบนโต๊ะในโรงอาหารของคณะ




“เดี๋ยวจีน่ากับนิดาจะแข่งวอลเล่บอล ผมจะกลับได้ยังไง” ผมเอ่ยบอกโปเต้ เพราะตอนบ่ายจีน่ากับนิดามีแข่งวอลเล่บอล ซึ่งทั้งสองก็อยากจะให้เพื่อนๆอยู่เชียร์ ถ้าผมหนีกลับบ้านต้องโดนงอนยาวแน่ และผมก็ไม่รู้จะง้อยังไงด้วย




“แต่ผมง่วงอ่ะ” โปเต้เริ่มงอแง อาจเป็นเพราะเหนื่อยจากการแข่งด้วยล่ะมั้ง เพราะเวลาซ้อมเสร็จ โปเต้จะรีบกลับบ้าน กินข้าวแล้วก็อาบน้ำนอนเลย




“เหลืออีกสองชั่วโมงกว่าๆ นายนอนตรงนี้ก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมปลุกเอง” ผมบอกเขาก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบพัดของนิดามาพัดให้ตัวเอง แม้ว่าลายของพัดจะเป็นคิตตี้และมีสีชมพู ซึ่งมันดูแต๋วไปหน่อยก็เถอะ แต่อากาศมันร้อนขนาดนี้ ผมจะมองข้ามมันไปล่ะกัน




“.....” โปเต้พยักหน้าเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้น เปลี่ยนจากฟุบกับโต๊ะ มาเป็นนอนหนุนตักผมแทน แล้วนอนยาวไปกับเก้าอี้ของโรงอาหาร ดีนะที่มันเป็นแบบเก้าอีกยาว แต่ยังไงขาของโปเต้ก็ยาวกว่าอยู่ดี




ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้เขานอนไป เข้าใจว่าเขาง่วงจริงๆ




“ทำไมแม่งร้อนอย่างนี้ว่ะ พวกมึง...กูจะไปซื้อไอติม มีใครจะเอาป่ะ” หลุยส์พูดขึ้น ก่อนจะเอามือพัดหน้าตัวเอง แสดงให้เห็นว่า วันนี้อากาศมันร้อนจริงๆ




“เอาๆๆๆๆๆๆ” แล้วก็แย่งกันพูดแทบไม่ทัน




“กูเอารสส้มนะ ...แล้วก็ซื้อน้ำแดงมาให้ด้วยแก้วนึง” ผมบอกหลุยส์ ก่อนจะยื่นเงินไปให้




“นภัทรล่ะ”




“ปล่อยให้นอนเถอะ”




“เคๆ ...ไอ้แลนด์ ไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ”




“ไปไหน” แลนด์เอ่ยถาม ทั้งที่เขายังเอาแต่เล่นโทรศัพท์ ช่วงนี้ผมว่าเขาติดโทรศัพท์มากเลยนะ เล่นแต่ไลน์ ทั้งตอนเรียน ตอนกินข้าว หรือตอนที่เขาว่าง ช่วงนี้คงจะมีสาวล่ะมั้ง




“ไปซื้อไอติม มึงก็อย่ามัวแต่เล่นไลน์ดิว่ะ ติดสาวในนั้นรึไง ไหนๆ กูดูหน่อย”




“สาวที่ไหน คุยกับเพื่อนเว้ย ผู้ชายๆ” แลนด์รีบบอก แต่ไม่ยอมให้หลุยส์ดูโทรศัพท์ ทั้งที่ปากบอกว่าแค่เพื่อน อืม..น่าคิดนะ




“อะไรๆ เพื่อนผู้ชายก็เอามาให้กูดูสิ”




“ดูอะไร ไปๆ ไหนจะไปซื้อไอติม” แลนด์พูดก่อนจะรีบลุกแล้วเดินออกไป จนกลายเป็นหลุยส์ที่ต้องรีบเดินตามไป




“ช่วงนี้แลนด์มันดูแปลกๆนะ” เซย์หันมาพูดกับผม




“อืม”




“มัน...มีแฟนเหรอ”




“ไม่รู้เหมือนกัน”




“ฮื่อ!” ผมกับเซย์ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง




พบว่าเป็นเสียงของโปเต้นั่นแหละ เหมือนตอนนี้เขาจะสะลึมสะลือ หน้าเขามีแต่เหงื่อ ไม่สิ...ทั้งที่คอและตัวเขาด้วย จริงสิ...โปเต้เป็นคนขี้ร้อนนี่นา




เหงื่ออกเยอะมาก จนผ้าบางๆของเสื้อนักศึกษามันเปียกจนแนบตัวเขา




“.....” ผมเห็นอย่างนั้นก็ทนไม่ได้ เอื้อมมือไปลูบผมหน้าม้าที่เปียกเพราะเหงื่อ เพื่อไม่ให้มันเกะกะหน้าเขา ก่อนจะหันไปขอทิชชู่จากนิดา มาเช็ดหน้าให้โปเต้




ผมเปลี่ยนจากที่พัดให้ตัวเอง ไปพัดให้เขาแทน และดูเหมือนโปเต้จะสบายตัวขึ้นมานิดนึง เพราะเขาหลับไปอีกครั้ง




จริงๆเลยนะโปเต้ ต้องคอยให้ดูแลอยู่เรื่อยเลย




“ติณณ์...” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผมทั้งๆที่ยังไม่ลืมตา




“หืม?”




“ร้อน...หลังเปียกหมดแล้ว” เขาเอ่ยบอกกับผมด้วยน้ำเสียงยานคางนิดๆ




“งั้นลุกขึ้นมาก่อน” ผมบอกเขา ก่อนจะดันหัวเขาที่หนุนตักผมอยู่ออกเบาๆ




“ติณณ์...ร้อน แต่ก็ง่วง” โปเต้บอกผมเสียงอ้อน ก่อนจะซบหน้าลงบนไหล่ผม เฮ้อ...ไอ้การอ้อนแบบนี้เขาไปเอามาจากไหนกันเนี่ย ทำเอาผมใจเต้นแรงทุกทีเลย




“ก็พัดให้อยู่นี่ไง” ผมบอกเขาพลางพัดให้เขาไปเรื่อยๆ




“.....” โปเต้เริ่มเงียบอีกครั้ง เขาคงหลับคาไหล่ผมไปแล้ว




ผมนั่งฟังคนอื่นๆคุยกันไปสักพัก ก็พบว่ามีผู้ชายคนนึงมายื่นอยู่ตรงโต๊ะของผม ทำให้บทสนทนาทั้งหมดต้องหยุดลง แล้วทุกคนก็หันไปให้ความสนใจกับบุคคลที่มาใหม่




ซึ่งเป็นใคร...ผมเองก็ไม่รู้ ตัวเล็กกว่าผมเยอะอยู่ หน้าตาก็น่ารักดี ในแบบผู้ชายน่ะนะ




“เอ่อ...มาหาใครหรอ” นิดาเป็นคนเอ่ยถาม




“.....” ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบ เขามีท่าทีลังเล เหมือนกำลังไม่มั่นใจอะไรสักอย่าง




แล้วในมือของเขาถือถุงบางอย่างอยู่ด้วย




“นาย...ชื่อดินใช่มั้ย” จีน่าเอ่ยถามหลังจากที่จ้องหน้าผู้ชายคนนั้นอยู่นาน ว่าแต่...จีน่ารู้จักด้วยเหรอเนี่ย




“.....” ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าเบาๆ




“นายมาหาใครหรอ อ่ะนี่...พิมพ์ใส่นี่มาก็ได้” จีน่าเอ่ยอย่างเป็นมิตร ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ตัวเองไปให้เขา




แต่...ทำไมต้องพิมพ์? แล้วทำไมเขาถึงไม่พูด? หรือจะเป็นใบ้? ...แต่ ...เขาก็ได้ยินที่จีน่าถามนี่นา




“.....” ผู้ชายคนนั้นรับโทรศัพท์มือถือของจีน่าไปพิมพ์อะไรสักอย่าง ก่อนจะส่งลับมาให้เธอ




“...แลนด์? ...มาหาแลนด์หรอ”




“.....” ผู้ชายคนนั้นพยักหน้าก่อนจะยิ้มให้




“แลนด์มันไปซื้อของกับเพื่อนอีกคนนึงน่ะ นายก็นั่งรอก่อนสิ มาๆ..มานั่งตรงนี้” จีน่าว่าก่อนจะชี้ไปยังที่ที่แลนด์เคยนั่งอยู่ก่อนที่จะไปซื้อของกับหลุยส์




“.....” ผู้ชายที่ชื่อดินพยักหน้าก่อนจะเดินไปนั่ง ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาเล่นๆ กดๆ อะไรก็ไม่รู้




“อ้าว...ดิน มาแล้วเหรอครับ” แล้วแลนด์กับหลุยส์ก็กลับมา ก่อนที่แลนด์จะเข้าไปทักดิน




“.....” ดินเงยหน้ามองแลนด์ก่อนจะยิ้มให้ แล้วพยักหน้าเบาๆ




“แล้วนี่เดินมาหรอ เหนื่อยมั้ย แล้วกินอะไรมายัง ...แลนด์บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวแลนด์ไปรับก็ได้” แลนด์พูดก่อนจะนั่งลงข้างๆผู้ชายที่ชื่อดิน ทำเอาดินดูตัวเล็กนิดเดียวไปเลย




“.....” ดินยิ้มให้แลนด์ก่อนจะพิมพ์อะไรสักอย่างกับโทรศัพท์ของตัวเอง แล้วยื่นไปให้แลนด์ดู




“ครับๆ ...แล้วนี่ทำอะไรมาให้แลนด์กิน ไหนขอดูหน่อย” แลนด์ว่าก่อนจะเปิดถุงที่ดินถือมาด้วย พบว่าเป็นกล่องข้าวที่...ใหญ่อยู่เหมือนกัน




“เอ่อ...ขอขัดแป๊บนึงนะ” จีน่าเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแหว๋วๆแปลกของแลนด์และดิน




“.....” ทั้งคู่หันมามองจีน่า




“แลนด์...แฟนมึงเหรอ” จีน่าถามได้ตรงประเด็นมากครับ




“เฮ้ย...ไม่ใช่ เพื่อนกันๆ” แลนด์รีบตอบ




“อ่าห๊ะ...” จีน่าเหล่ตามองอย่างไม่เชื่อสุดๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แล้วหันไปซุบซิบกับนิดาสองคน




“...ไอ้ติณณ์ นี่ไอติมมึง นี่..น้ำแดง” หลุยส์ยื่นไอติมแท่งรสส้มกับน้ำแดงมาให้ผม




“กินม่ะ” ผมถามโปเต้ ที่ลืมไปว่าเขาหลับอยู่ แต่ก็นั่นแหละ อาจเป็นเพราะหลับๆตื่นๆ เขาจึงค่อยๆลืมตามองหน้าผม




“กิน” โปเต้ตอบ ก่อนจะค่อยๆยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมเฉยเลย




“โปเต้ ...จะกินก็กินดีๆ” ไอ้เรื่องกิน ผมหมายถึงไอติมแท่งในมือนะ




“.....” เขาไม่ตอบ แต่กลับก้มหน้าลงไปงับไอติมแท่งที่อยู่ในมือผม งือ...หายไปครึ่งนึงเลย กินยังไงว่ะเนี่ย




“โหย..โปเต้ พอเลย...กินเยอะว่ะ” ผมบอกเขาก่อนจะรีบยัดไอติมเข้าปากจนหมด ...ก็กลัวเขาแย่งผมนี่หว่า




“โหยติณณ์...แค่นี้ไม่พอหรอก เอาที่เหลือมาให้ผมเถอะ” โปเต้ว่าก่อนจะดึงไม้ไอติมที่คาปากผมเฉยเลย สุภาพบุรุษมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก




“เฮ้ย ผมอมแล้วนะ” ผมรีบโวยมือโปเต้ดึงไอติมออกมาจากปากผม แล้วเอาเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย




“อ่ะ..คืน” โปเต้รูดไม้ไอติมออกจากปาก แล้วยื่นไม้เปล่าๆมาคืนผม คนอะไรกินไวจัง




“ไอ้หน้าหวาน...ทำไมเป็นคนแบบนี้ฮะ” ผมว่าก่อนจะหยิกแก้มโปเต้อย่างหมั่นไส้




“โอ๊ย..ไอ้หน้าหล่อ ผมเจ็บนะ” โปเต้ร้องก่อนจะดึงมือผมที่หยิกแก้มเขาออก แล้วเลื่อนมือมากอดเอวผมด้วยหน้านิ่งๆ




จะเนียนไปมั้ย???








*****************************************************


ขอโทษฮะที่มาช้า (หลบตีนแป๊บ)



สั้นไปหน่อย...อย่าตีผมนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 17-04-2015 19:15:26
ดินแลนด์เจ้สัมผัสได้นะ. อิอิ. อีกหน่อยก็เป็นดินแดนเดียวกันล่ะมั้ง
ไอติมนี่หวานไปถึงลำไส้แล้ว. อิจฉามากค่ะโปเต้. หน้าหวานหน้าหล่อเค้าบิดแก้มกันในที่สาธารณะ. เฮือก ขอฟินแปรป :heaven 

ขอบคุณที่มาต่อจ้ะ รอที่เหลือนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 17-04-2015 19:33:19
มุ้งมิ้งกัน น่ารักอ่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: michiri.sama ที่ 17-04-2015 19:37:39
สร้างโลกส่วนตัวสีจมปูวกันตลอดดดด สองคนนี้ 5555555
อย่าลืมสิว่านั่งอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆนะ

ดินแลนด์นี่ยังไงค้าสา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 17-04-2015 19:40:29
หวานกันจริงๆ ชอบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 17-04-2015 19:49:14
หวานแบบนี้ให้อภัยที่ช้าค่ะ แต่มาต่อไวๆน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 17-04-2015 19:49:21
คือเหมือนการกระทำที่แบบแสดงออกอย่างธรรมชาติ
แต่ถ้าเห็นแบบนี้เจ๊ฟินนนนนนนนนนนนน
ตายแป๊บ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 17-04-2015 19:50:00
กะลังสงสัยแลนด์กะดิน เจอโปเต้แย่งซีนอีกแล้ว สร้างโลกส่วนตัวได้ทุกที้ทุกเวลาเลยนะ แอร๊ยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 17-04-2015 19:50:48
แลนด์ดินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 17-04-2015 19:55:10
 :sad4: :sad4: :sad4:

ยังไม่สาแก่ใจ รอครึ่งหลังนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 17-04-2015 20:02:00
สั้นจุง  :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:

ยิ่งนานวันเข้าโปเต้กับติณท์ก็ยิ่งหวานกันไม่เกรงใจเพื่อนที่นั่งด้วยกันเลย

เจ้อิจฉาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 17-04-2015 20:12:09
รางวัลพระเอกจอมเนียนชนะเลิศได้แก่......
คุณโปเต้เลยคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ว่าแต่ว่าจะมีดอมกะอลันมาแจมไหมอ่ะ
ครึ่งหลังนะเพราะตอนนี้รู้สึกว่าจะครบแกงค์ละ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nootopazzz ที่ 17-04-2015 20:18:15
ติณณ์กับโปเต้สร้างโลกส่วนตัวไม่สนเพื่อนตลอดๆ แต่หวานอ๊าาาาาา เราชอบ ตอดนิดตอดหน่อย ฟินนนนน

แลนด์ดินมันต้องคู่กันแล้วแหละ น่าเป็นปึกแผ่นมากๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 17-04-2015 20:29:52
 :-[ :-[ :-[
โปเต้ โปเต้ โปเต้ น่ารักง่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 17-04-2015 20:36:01
เรื่องนี้ห้ามทีncนะ ขอมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวกิงกองแก้วกาบกาบแบบนี้ต่อไปจนจบนะ ....... เดี้ยนนี้ฟินหนักมาก......
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 17-04-2015 21:04:49
โปเต้เนียนมากเลยนะ เล่นจูบผ่านไอติม

เปิดตัวคู่ใหม่  แลนด์-ดิน แต่มาเจอหน้าหล่อ กะ หน้าหวาน แย่งซีนไปซะงั้น

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 17-04-2015 21:17:28
เฮ้ยๆๆ โปเต้เนียนหลายอย่างเลยนพ

ดินแลนด์แน่ๆ มันแผ่รังสีฟรุ้งฟริ้ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-04-2015 21:42:27
จอมเนียน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 17-04-2015 22:04:40
เนียนตลอดอ่ะโปเต้ น่ารักกันจริงๆเลยนะ

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ คิดถึงคนเขียนมากกกกก

รอครึ่งหลังค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 17-04-2015 22:13:37
มุ้งมิ้งกันกลางโรงอาหารเลยนะ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 17-04-2015 22:14:40
โลกส่วนตัวตลอด โปเต้เนียนตลอดดดดดดด :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 17-04-2015 22:29:05
อร๊ายยย. อีโปเต้ขี้อ้อนเกินไปละ หมั้นไส้ คริคริ เอาอีกๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 17-04-2015 22:30:04
คู่นี้เขาเข้าโลกส่วนตัวกันอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gigigeam ที่ 17-04-2015 22:44:28
โลกส่วนตัวตลอดเลย ฮี่ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 17-04-2015 22:53:07
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 17-04-2015 22:59:31
อะไรมันจะหวานแหวว มุ้งมิ้งไม่แคร์สื่อขนาดเน้~~!!!!
ดูแร้วอิจฉา + ฟินนนนนน 5555

อันแน่ เเลนด์มีซั่มติงสินะ ^๐<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Lichtmonz ที่ 17-04-2015 23:08:26
จอมเนียนหวานได้ไม่แคร์สื่อกันจริงๆ กลางโรงอาการเลยนะพวกนาง ฮึ่ยยย เขิลล์  :-[

ส่วนดินแลนด์...หึ...หึหึหึหึ...แค่เพื่อนจริงๆ เร้ออออออออออออออออออออออออออออออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-04-2015 23:32:55
ลืมว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยรึยังสองคนนี้ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-04-2015 23:35:32
ถ้ามุ้งมิ้นกันได้น่ารักขนาดนี้ก็นะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 17-04-2015 23:42:16
แปะไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 17-04-2015 23:43:35
คู่นี้สวีทกันในที่สาธารณะอยู่เรื่อย ชอบลืมตลอดอะว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคน :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-04-2015 23:49:13
สร้างโลกส่วนตัวไม่สนเพื่อนฝูงเลย โปเต้นี่ทำเนียนตลอดเลยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sittawan ที่ 18-04-2015 00:05:18
ฟินเฟ่ออออ o13 o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 18-04-2015 01:16:57
มุ้งมิ้งสุดดดแต่ก็สั้นสุดดดด งอแงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pungpondppp ที่ 18-04-2015 02:32:33
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 18-04-2015 07:50:33
น่ารักอ่ะ จิ้นคู่ดินกับแลนด์ นี้ขนาดยังไท่เป้นแฟนนะยังขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนแล้วตะขนาดไหนเนี้ย โอ้ยน้ำตาลพี่จะขึ้นอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 18-04-2015 14:46:19
โปเต้เป็นคนหรือเป็นแมวคะ ขี้อ้อนไปไหนนนน น่ารักกก :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 18-04-2015 22:08:49
โปเต้กับติณณ์นี่มุ้งมิ้งงุ้งงิ้งกันสองคน  :o8:
ดินกับแลนด์! แค่ชื่อยังมีความหมายคล้ายๆกันเลย คิคิ  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 19-04-2015 12:11:02
นัวเนียกันมากคู่นี้ โปเต้ขี้อ้อนสุดๆ เวลาอยู่กับติณ
สรุปว่าน่ารักมากๆ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-04-2015 12:43:47
เฮ้ยแลนด์ เพื่อนจริงเหรอ จริงอ่ะ แน่ใจ๊? หึหึ

อีกคู่นี้ก็หวานกันจริงอะไรจริง จากอายๆตอนเเรกนี้ เลิกเเล้วใช่ป่ะ ฮ่าๆๆๆ

#อย่างสั้นอ่ะ กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 20-04-2015 08:31:24
อ๋อยยย จะหวานกันเกินไปแล้ววว  :m3:
รออออ  มาต่อไวๆนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 20-04-2015 12:22:56
จะน่ารักเกินไปแล้วนะ  :m25: หน้าหวาน หน้าหล่อ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 20-04-2015 17:54:04
ตามสองหนุ่มแฝดมาค่ะ
เจอเรื่องนี้เข้าไป จิกหมอนๆ  :o8:
นึกถึงเพลง"เบา เบา"เลย
เนื้อหาเพลงก็เข้าก๊านเข้ากัน ค่อยๆรักกันเบาๆ
รอครึ่งตอนหลังอยู่นะคะ  :z2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 20-04-2015 21:19:07
โปเต้เนียนตัลหลอดดดดดดดดดดด 5555555 น่ารักมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 21-04-2015 07:42:43
น่าร้ากกกก อ้อนกันเข้าไป  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo ที่ 21-04-2015 20:09:50
น่ารักจัง อยากอ่านอีกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งแรก P.29 17/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 22-04-2015 02:14:51
ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมาก อยากอ่านคู่เฟรมมมม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 22-04-2015 05:06:16
ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง












[Fiesta’s part]




“เอ่อ...”




“.....”




“.....”




“.....”




“พี่... คือ...ผม...” ผมเกิดอาการพูดไม่ออกครับ เมื่อคนที่ผมทำเขาสลบไป ตอนนี้นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอยู่บนเตียงในห้องพยาบาลของคณะวิศวะฯ




“.....” แถมพี่เฟรมยังไม่ยอมมองหน้าผมด้วย งื้อ




“พี่เฟรม ไม่เอาดิพี่ อย่าเงียบดิ ...ใจคอไม่ดีเลย” ผมไม่ได้จะพูดกวนประสาทเขานะ แค่ไม่รู้จะพูดคำไหนให้เขายอมฟังผม




คือ...มันก็พูดยากน่ะนะ ไอ้ตอนแข่งบาสเมื่อกี้ ผมลื่นตอนจะเข้าไปแย่งลูกบาสในมือพี่เขา มันก็เลยทำให้ผมเสียหลักไปชนพี่เฟรมเข้าอย่างจัง แล้วมันพลิกล็อคไปหน่อยตรงที่...ผมดันไปจูบเขาเสียอย่างนั้น แต่...ถ้าจะพูดให้ถูกก็เป็นพี่เฟรมนั่นแหละ ที่ล้มทับลงมาจูบผมเอง แต่ต้นเหตุมันก็มาจากผม มันก็ต้องความผิดของผม แล้วตอนนี้...เหมือนพี่เฟรมจะเกลียดขี้หน้าผมไปแล้วง่ะ ผมควรทำยังไงดี แม้ว่าผมกับพี่เฟรมจะไม่ได้สนิทกันมาก แต่เวลาผมแกล้งพี่เฟรมแล้วมันสนุกดีนี่นา ถ้ามาถูกเกลียดขี้หน้าแล้วไม่คุยกันอีก ผมก็ทำใจไม่ได้เหมือนกันนั่นแหละ




“โว๊ยยยยย...น่ารำคาญ ฉันยิ่งแต่ปวดหัวอยู่” ในที่สุดพี่เฟรมก็ยอมพูด ...ไม่สิ เขาตะคอกใส่ผมต่างหาก




“ก็พี่เอาแต่เงียบนี่นา ผมก็นึกว่าพี่โกรธ”




“เออ ฉันโกรธ”




เอ้า...ทำไมเป็นงั้นล่ะ




“โธ่...พี่ พี่ก็น่าจะรู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ผมไม่ได้ตั้งใจ แล้วพี่จะซีเรียสทำไมเนี่ย ก็แค่จูบอ่ะ มันก็ปากแตะปากอ่ะพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริง แล้วถ้าหากว่ามันเป็นจูบแรกของพี่ ผมก็ต้องขอโทษด้วยแล้วกัน” ผมร่ายยาวและพยายามพูดให้พี่เฟรมเข้าใจ




“.....”




แต่ดูเหมือนพี่เฟรมจะชะงักไปกับประโยคสุดท้ายที่ผมพูดนะ




จูบแรก...จริงดิ???




“ผม...ขโมยจูบแรกพี่ระ..โอ๊ย!” ยังพูดไม่ทันจบ ผมก็โดนฝ่ามือของพี่เฟรมตบเข้าที่ปากอย่างจัง สีหน้าก็ดูตื่นๆนิดๆ ชัวร์...จูบแรกชัวร์เลย




นี่ผมขโมยจูบแรกของชายบริสุทธิ์หรือนี่...




แต่ก็น่าจะเป็นจูบแรกจริงๆ แม้ว่าพี่เฟรมจะดูกระล่อน ขี้หลี แซวสาวไปทั่ว ...แต่ผมว่าจริงๆแล้วพี่เฟรมเป็นครซื้อบื้อมากๆเลยนะ




“พูดมาก!” พี่เฟรมตะคอกใส่หน้าผมก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง ...จะหนีล่ะสิ ไม่ให้ไปหรอก ถ้าพี่เฟรมหนีแล้วผมจะแกล้งใครล่ะ




“เดี๋ยวดิพี่ จะรีบไหน” ผมรีบคว้าตัวพี่เขาไว้เลย




“เฮ้ยๆ กอดฉันทำไม ปล่อยนะเว้ย” แน่นอนว่าพี่เฟรมดิ้นทันที




“แล้วพี่จะไปไหนล่ะ”




“กลับหอ จะไปนอน”




“งั้นเดี๋ยวผมไปส่ง”




“ไม่ต้อง” พี่เฟรมรีบตอบปฏิเสธผมอีกแล้ว




“เอาน่าพี่ ให้ผมไปส่งเถอะ”




“เฟรม เป็นไงบ้างว่ะ” อยู่ก็มีพี่ผู้ชายคนนึงเดินเข้ามาหาพี่เฟรม ดูท่าว่าจะเป็นเพื่อนกัน




“มาพอดีเลยไอ้โน่ ไปส่งกูที่หอหน่อยดิ” พี่เฟรมรีบเดินไปหาเพื่อนแก โธ่...พี่โน่ เข้ามาขัดทำไมว่ะ




“เออ เอาดิ ...แล้วเราล่ะ ให้พี่ไปส่งป่ะ” พี่โน่แกเผื่อแผ่ความใจดีมาถึงผม




“ถ้าไม่ลำบากพี่มากเกินไป ช่วยไปส่งผมที่คณะหน่อยได้มั้ยครับ” ผมไม่ได้เอารถมา โทรศัพท์ก็ไม่มี ติดรถพี่เขาไปก็ดีเหมือนกัน




“กลับเองสิ” พี่เฟรมหันมากระชากเสียงใส่ผม




“ผมติดรถพี่คนนี้ไป ไม่ได้ติดรถพี่เฟรมไปสักหน่อย”




“เฟียสต้า ฉันไม่รู้นะ ว่าแกต้องการอะไรจากฉัน แต่ถ้าจะมายุ่งวุ่นวายชีวิตฉันเพื่อความสนุก ฉันว่าแกหยุดเถอะ” ว่าจบ พี่เฟรมก็เดินออกไปจากห้อง พร้อมกับลากแขนเพื่อนไปด้วย




อ่า...นี่ผมโดนพี่เฟรมเกลียดขี้หน้าแล้วใช่มั้ยเนี่ย




พี่เฟรมคงจะรำคาญผมมาก คงจะไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผม แต่ว่า...




ถ้าพี่เฟรมไม่ได้สนใจอะไรผมจริงๆ ทำไมถึงรู้จักชื่อเล่นแบบเต็มๆของผม ทั้งที่มีคนรู้น้อยคนมากๆ...???










[Tin’s Part]







“เห็นดอมินิกบอกว่าจะไปเที่ยวกัน” ผมเอ่ยบอกถามโปเต้ที่กำลังเช็ดหัวตัวเอง หลังจากที่กลับบ้านมา เขาก็วิ่งเข้าไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้มานอนตากแอร์เย็นๆในห้อง (ตอนแรกโปเต้ก็จะนอนทั้งๆที่ผมเปียกนั่นแหละ แต่ผมห้ามเอาไว้ได้ทัน)




“???”




“ทริป”




“อ๋อ...ก็ใช่ ไปทุกปีน่ะ”




“อ๋อ...”




“นอนก่อนนะ ไม่ไหวแล้ว” โปเต้เอ่ยบอกผม หลังจากที่เดินเอาผ้าขนหนูไปตากที่ราวตากผ้าเรียบร้อยแล้ว




“อืม เดี๋ยวผมจะออกไปซื้อของหน่อยนะ” ผมบอกเขา ก่อนจะเดินไปหยิบกุญแจรถกับกระเป๋าสตางค์ แล้วเดินออกจากห้องมา




ผมขับรถมายังซุปเปอร์ฯที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก พี่ปาร์กับพี่ตาลไม่อยู่ แถมพี่ตาลก็ยังเอาเจ้าอันปันไปเที่ยวด้วย ทำให้ตอนนี้ผมอยู่ด้วยกับโปเต้แค่สองคนจริงๆ ขอในตู้เย็นก็หมดเกือบทุกอย่างแล้ว แต่ก็ยังดีที่พี่ตาลให้เงินตรงส่วนนี้ไว้เยอะอยู่ เพราะลำพังแค่ปริมาณต่อมื้อของโปเต้คนเดียว ก็เหมือนผมสามคนรวมกันอ่ะ




ผมวนรถประมาณสองรอบก็ได้ที่จอด ซึ่งมาได้ที่จอดตรงกลางแจ้ง แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีที่จอดรถล่ะนะ ตอนแรกผมก็กะว่าจะมาซื้อแล้วก็กลับ แต่เมื่อเข้ามาแล้วเห็นร้านเบเกอรี่ ก็เกิดอารมณ์อยากนั่งชิลๆตากแอร์เย็นๆสักหน่อย




“รับอะไรดีครับ” พนักงานเดินมาถามเมื่อผมหย่อนก้นนั่งลงเก้าอี้ของร้าน




“นมสดเย็นกับ...ฮันนี่โทสต์”




“ครับ นมสดเย็นกับฮันนี่โทสต์นะครับ กรุณารอสักครู่นะครับ” พนักงานทวนรายการที่สั่ง ก่อนจะเดินไป




คือ...สารภาพตามตรงนะ ไม่ได้จะงี่เง่าอะไรหรอก ก็เรื่องที่โปเต้จะไปออกทริปกับเพื่อนๆเขานั่นแหละ เอ่อ...จะบอกว่ายังไงดีล่ะ เอาเป็นว่า...ผมก็แค่อยากให้เขาชวนผมบ้าง ถึงขนาดเอ่ยปากลองเชิงถามดู แต่โปเต้ก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร ซึ่งมันก็... ยังไงดีล่ะ




โอเค ช่างมันเถอะ ผมไม่อยากงี่เง่า บางทีเขาก็อาจจะไปแค่หมู่เพื่อนของเขา อย่างที่เคยทำมาในทุกปีก็ได้




ผมไม่ได้อยากจะเก็บมาคิดเล็กคิดน้อยอะไรหรอกนะ แต่...ผมเป็นแฟนเขาไม่ใช่เหรอ แฟนกันมันก็ควรให้ความสำคัญซึ่งกันและกันบ้าง ถ้าตอนที่ผมถาม แล้วเขาเอ่ยชวนผมนี่...ผมจะไม่มานั่งคิดอะไรแบบนี้หรอกนะ แต่มันก็...เฮ้อ ...ช่างเถอะ เพราะตั้งแต่แรกที่เราตกลงคบกัน มันก็ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมต้องการให้พี่เฟรมหรือใครหลายๆคนเลิกยุ่งกับผม และมันก็ทำให้ผมกับโปเต้ ได้เลื่อนขั้นจากสถานะไปเป็นแฟนจริงๆ เราไม่ได้เริ่มต้นกันเหมือนแฟนคู่อื่นๆ เพราะงั้นโปเต้อาจจะไม่จริงจังกับสถานะนี้มากก็ได้




แต่...




โปเต้กล้าที่จะประกาศต่อหน้าคนอื่นว่าผมกับเขาเป็นแฟนกัน ทั้งที่มันจำเป็นมั้ย...ก็ไม่




โปเต้กล้าที่จะเดินจับมือผมกลางห้าง ทั้งที่เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ แต่เขากลับไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง




โปเต้บอกกับผมตรงว่าตัวเองเป็นคนขี้หวง เขาบอกว่าเขาหวงผมเพียงแค่มีคนมองผม




โปเต้ทำหน้าที่ของแฟน โดยการบอกว่าจะดูแลผม ตอนที่ผมไม่สบาย




โปเต้ไปมีเรื่องชกต่อย เพียงเพราะคนพวกนั้นนินทาว่าร้ายผมอย่างเสียๆหายๆ




เขากอดผม หอมแก้มผม จูบผม ...ทั้งที่ตัวผมเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกับเขา แต่เขากลับไม่เคยแสดงท่าทีรังเกียจ




ความรู้ของผมตอนนี้ มันอาจจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อก่อน ผม...เขิน กับการกระทำของเขาที่มันแสดงให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นสำคัญ




บางที...ผมอาจจะ ‘ชอบ’ เขา อย่างที่เคยหลุดปากบอกแลนด์ไปก็ได้ และบางที ...โปเต้เองก็อาจจะ...




...ผมไม่อยากคิดไปเอง บางทีผมควรจะถามเขา หรือไม่ก็รอให้เขาพูดมันออกมา ถึงการกระทำมันจะชัดเจน แต่บางทีคนเรามันก็อยากที่จะฟังคำเพียงไม่กี่คำ เพื่อให้ตัวเราเองนั้นมีกำลังใจที่จะทำแบบนี้อยู่ด้วยกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ




เอาเถอะ...มานั่งคิดฟุ้งซ่านไปเองมันก็ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นหรอก ไปคิดแทนคนอื่นมันจะได้ประโยชน์อะไรขึ้น คิดนู้นคิดนี้ไปเรื่อยแล้วมานอยด์เองแบบนี้ รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลยแหะ




“ติณณ์ ...ขอนั่งด้วยคนนะ” อยู่ๆก็มีคนพูดกับผม ก่อนจะนั่งลงตรงหน้าผม พบว่าเป็น...เฟียสครับ แถมยังใส่ชุดนักบาสอยู่ด้วย




“.....” ผมมองหน้าเขานิ่งๆ เขาพูดกับผมเหมือนขออนุญาต แต่ที่เขาทำอยู่เหมือนพูดเพื่อเป็นมารยาทเฉยๆ ต่อให้ผมปฏิเสธยังไงเขาก็นั่งอยู่ดี




“พี่ครับ ขอคาปูชิโน่เย็นแก้วนึง” เฟียสหันไปตะโกนบอกพนักงาน ก่อนจะหันหน้ากลับมามองผม




ไม่คิดว่าจะมาเจอในสถานที่แบบนี้




“.....”




“ติณณ์มาทำอะไรที่นี่เหรอ” เฟียสถามผมก่อนจะยิ้มให้ผม




“ซื้อของ” ผมตอบเสียงเรียบ




“มาคนเดียวเหรอ แล้วนภัทรล่ะ ทุกทีเห็นตัวติดกันไม่ใช่เหรอ”




“จำเป็นมั้ย...ที่จะต้องตอบ” ผมไม่ตอบ แต่ถามกลับ




“เห...ทะเลาะกันเหรอ”




“.....” ผมเลือกที่จะไม่ตอบเขาดีกว่า ไม่ได้อัธยาศัยดีขนาดนั้น




“โอเคๆ ผมคงยุ่งเรื่องของคุณมากไปสินะ ความจริง...คุณก็ไม่ต้องตั้งแง่กับผมก็ได้ ผมชอบคุณก็จริง แต่ผมทำใจและพยายามตัดใจอยู่ ดูก็รู้ว่าคุณกับนภัทรคงรักกันมาก มากจนไม่มีที่ว่างให้ผม พี่เฟรม หรือแม้แต่ใครก็ตามที่คิดจะเข้ามาแทรกกลางระหว่างคุณสองคน” เฟียสเอ่ยบอกผมด้วยท่าทีสบายๆ




“.....”




“บังเอิญมาเจอคุณก็ดี ผมมีเรื่องอยากจะถามอะไรคุณหน่อยน่ะ” อยู่เฟียสก็โพล่งขึ้นมา ก่อนจะทำสีหน้าเหมือนหนักใจอะไรสักอย่าง




“พี่เฟรมเป็นอะไรเหรอ” ผมลองเชิงถาม




“เขาก็งอนผมยะ...เฮ้ย! ผมไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะถามเรื่องพี่เฟรม” เฟียสรีบแก้ตัวทั้งๆที่หลุดปากออกมาเต็มๆ




“.....”




“เอ่อ...”




“.....”




“โอเค ยอมรับก็ได้ ผมจะถามคุณเรื่องพี่เฟรมเนี่ยแหละ เห็นว่าพี่เฟรมเป็นพี่รหัสของคุณ คุณก็น่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับพี่เฟรมบ้าง”




“...ผมจำเป็นต้องตอบ?”




“ได้โปรดตอบผมเถอะ ก็ผมไม่อยากโดนพี่เฟรมเกลียดขี้หน้านี่นา”




“ลองพูดมา แล้วจะพิจารณาดู” นี่ถือว่าผมมีน้ำใจสุดๆเลยนะเนี่ย




“คือ...ตอนนี้เหมือนพี่เฟรมเขาจะเกลียดผมไปแล้ว เพราะผมดันไปพรากจูบแรกของพี่เขา แถมยังต่อหน้าสาธารณชนอีก ทำให้แม้แต่หน้าผมตอนนี้พี่เฟรมเขายังไม่มองเลย คือ...ผมไม่รู้จะง้อยังไง ก็เลย...อยากจะถามใครสักคนที่สนิทกับพี่เฟรม แล้วบังเอิญมาเจอคุณ...” เฟียสเล่าพลางเสตาหลบตาผม คิดดูสิ...ผู้ชายตัวใหญ่ๆมาทำท่าทีแบบนี้ มันน่าขนลุกขนาดไหน




“.....”




“.....”




“.....”




“ติณณ์ ...ได้โปรดช่วยผมเถอะ”




“เฮ้อ...” ผมถอนหายใจออกมาเบาๆ นี่เรียกได้ว่าเป็นคนแรกเลยนะ ที่มีคนมาปรึกษาเรื่องแบบนี้




“.....”




“บอกก่อนจะ ผมจะพูดแค่ครั้งเดียว ...ผมไม่ได้สนิทอะไรกับพี่เฟรมมากนัก แต่ผมว่าคนอย่างพี่เฟรมน่ะ ตื้อไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็หายเองนั่นแหละ” ผมตอบออกไปอย่างที่คิด




“มัน...จะได้ผลเหรอ”




“พี่เฟรมน่ะ จริงๆแล้วเป็นคนซื่อบื้อจะตาย แถมยังเชื่อคนง่ายอีก คุณต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจ และเจตนาจริงๆของคุณให้พี่เฟรมได้รับรู้”




“เหรอ ...แล้วผม...ต้องใช้วิธีไหนอ่ะ”




“สมองน่ะ...มีมั้ย?” ผมถามอย่างประชด




“อุย...แรง” เฟียสสบถเบาๆ แต่ผมได้ยิน




“บางที...ผมว่าคุณสนิทกับพี่เฟรมมากกว่าผมอีกนะ คุณไม่ต้องไปหาวิธีอะไรเพื่อมาทำให้พี่เฟรมเชื่อ แต่คุณต้องทำให้พี่เฟรมเห็นในสิ่งที่คุณต้องการจะง้อเขา”




“เหรอ อืม...เฮ้ย! ผมไม่ได้จะง้อเขาสักหน่อย”




“ไม่ได้ง้อ?”




“ใช่ ผมก็แค่...หาทางที่จะให้เรากลับมาคุยกันเหมือนเดิม แต่ผมไม่ได้ง้อเขานะ...ไม่ได้เป้นแฟนกันแล้วจะง้อทำไม” ประโยคหลังเฟียสบ่นอุบอิบ




“อืม นั่นมันก็เรื่องของคุณ”




“ยังไงก็...ผมก็ต้องขอบคุณคุณนะติณณ์ ที่ให้คำปรึกษาผม” เฟียสว่าก่อนจะยิ้มให้ผม




“อืม”




“เรื่องคุณน่ะ ผมทำใจและตัดใจแล้ว บอกนภัทรด้วยว่าเวลาเห็นผมก็ไม่ต้องแยกเขี้ยวใส่ผม”




“โปเต้ของผมไม่ใช่หมานะ” ผมรีบแย้ง




“ครับๆ...ไม่ใช่หมา หึๆ ผมขอตัวก่อนนะ อ่ะนี่...ค่ากาแฟ” เฟียสวางเงินไว้ให้ผม ก่อนที่ตัวเขาจะลุกขึ้น บังเอิญเป้นวลาเดียวกันที่พนักงานเอาเครื่องดื่มมาเสริฟพอดี เฟียสเลยเอื้อมมือไปหยิบแก้วคาปูชิโน่เย็นของตัวเองแล้วเดินถือออกไป (มันเป็นแก้วพลาสติกแบบเอากลับบ้านได้)




ผมว่าตัวผมก็รีบกินรีบดื่ม แล้วไปซื้อของจะดีกว่า มาคนเดียวแบบนี้แล้วมันรู้สึกโหว่งๆยังไงไม่รู้ สงสัยผมจะตัวติดกับโปเต้มากเกินไปล่ะมั้ง มาคนเดียวแบบนี้...รู้สึกเปลี่ยวๆยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 22-04-2015 05:30:59
มาแล้วๆ
โชคดีที่ยังไม่นอน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 22-04-2015 06:19:00
 :กอด1:  ขอบคุณค่ะคนเขียน แต่ครึ่งหลังก็แอบสั้น ฮ่า  เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เฟรมน่ารักน่าแกล้ง. เฟียสอ่าแกอย่าซื่อบื้อไปด้วยนะ
งานนี้เฟียสกับโปเต้ต้องง้อแฟนแล้วล่ะ.
คนเค้างอนก็แปลว่าเขาแคร์นะ     :really2: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 22-04-2015 07:21:06
แหม่ๆๆ เฟียส ทำไมตัวต้องไปง้อพี่เฟรมด้วยล้า    :hao6:
รออออ มาต่อไวๆนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 22-04-2015 08:32:03
โถถถ พ่อหนุ่มน้อย เพิ่งเสียจูบแรก

 :hao7:

ปอลอ ตอนสั้นจังค่ะ T T
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 22-04-2015 08:52:25
ติณณ์ เริ่มน้อยใจล่ะ  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-04-2015 08:56:14
ติณมาสั้นมว้ากกกก แม่ยกแทบใจสลาย (เว่อไป5555) โปเต้รีบมาง้อติณเลย แฟนคิดมากอยู่คนเดียวแล้วน้าาาา หรือนางจะนอนไม่รู้ตัวอยู่นะ? 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: MRchai ที่ 22-04-2015 08:59:39
 :L1:มาสั้นจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 22-04-2015 09:07:22
อร๊ายยยยยโปเต้ของผม
อย่างเต็มปากเต็มคำเลยน้าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 22-04-2015 09:38:37
โปเต้ต้องพาติณณ์ไปด้วยอยู่แล้วล่ะอย่านอยด์เลยน่ะ

เฟียสตลกอ่ะติดใจพี่เฟรมแล้วอ่ะดิ

ปล. ตอนนี้สั้นจุง :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 22-04-2015 10:12:12
ติณณ์อย่าเพิ่งนอยด์ หรือคิดเอง เออเองนะ  โปเต้อาจจะง่วงนอนมาก จนไม่คิดอยากพูดอะไร  รอให้ฟื้นคืนสติมาก่อนแล้วค่อยถามอีกทีก็ได้

เห็นติณณ์เงียบๆ พูดน้อย  แต่พูดออกมาทีเล่นเอาเฟียสหงายเงิบไปเลย

เฟียสปากกับใจ เอาให้มันตรงกันหน่อย ทำแบบที่ติณณ์แนะนำ นั่นแหละดีที่สุด

--------------------------------------
ปล. ขอแสดงความคิดเห็นต่อคนเขียนว่า ไม่อยากให้แยกเป็นครึ่งแรก ครึ่งหลัง  เพราะส่วนที่แยกบางครั้งอ่านแล้วมันดูสั้น และมันค้างคา อยากให้เขียนจบเป็นตอนไปเลย เพราะคนเขียน เว้นที่ไว้แต่ละตอนเหลือเยอะมาก   แต่ชอบวิธีการเขียน  เนื้อเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกดี

ขอบคุณมากนะคะ  ที่เขียนนิยายสนุกๆ ให้พวกเราได้อ่าน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 22-04-2015 11:05:50
จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 22-04-2015 11:53:45
เริ่มนอยยยยยยยยยแล้วววววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 22-04-2015 12:15:02
โปเต้ของผมมมม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 22-04-2015 12:17:33
ง้อดีๆละตาเฟียส รอฉากหวานๆของเฟียสเฟรมอยู่นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 22-04-2015 12:45:33
รีบกลับบ้านเถอะ เดี๋ยวหมาตัวโตตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอนะ
รอตอนต่อไปเนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-04-2015 14:50:06
เอิ่มมม ติณ มีน้อยจงน้อยใจอ่ะ
ว่าแต่เฟียสนายจริงจังใช่มั้ย
เขินแทนพี่เฟรม โดนพรากจูบแรก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 22-04-2015 15:03:18
รักติณณ์ :hao7: :hao7:

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 22-04-2015 16:53:27
มีนอยด์แล้ว ชอบตรงโปเต้ของผม  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-04-2015 18:57:49
ทำไมโปโต้ไม่ชวนติณละ หรือลืม หรือไรอะ. ติณน้อยใจแล้วนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 22-04-2015 20:57:25
โอ๊ะ โอ  อ่าน รวดดดเดียวหมดเลยยยยยยยยยยยยยยยยย
55555555555555
ยังไงก็มา ต่อ บ้างก้อไดด้ นะ อย่า ปล่อยไห้แฟนคลับอนาน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 22-04-2015 21:50:47
 :hao3:
........................ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 22-04-2015 23:05:36
ติณท์ติณท์นอยซ์แล้วอ่ะ  :ling3: :ling3: :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-04-2015 06:57:40
"โปเต้ของผมไม่ใช่หมานะ" โปเต้ของผมมมมมมม -////////-
เขินเเปปนะ อ๊ายยยยยย

แร้วเฟียสของเราก้อยังมาหาวิธีง้อพี่เฟรมอีกอ่ะ
ถึงนางจะไม่ยอมก้อเห๊อะ หมั่นไส้!!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: พันวา ที่ 23-04-2015 09:04:40
ไม่เคยเม้นท์ในเรื่องใดๆ เรื่องนี้เรื่องแรกเลยนะนี่.. :heaven
ชอบแนวนี้มากมายเลย อย่ามีมาม่าเยอะนะเค้าทำใจไม่ได้  :o12:
 ชอบแบบนี้หวานๆฟินๆ ในแบบนิ่งๆ ..อ่า..มันรู้สึกดีโคตร :o8:

รีบๆมาต่อนะจ้ะๆรออยู่น๊า   :hao5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 24-04-2015 23:31:09
โปเต้โดนงอนแบบไม่รู้ตัว แล้วจะได้ง้อไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 16 ครึ่งหลัง P.30 22/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BoolinMini ที่ 25-04-2015 00:40:19
พออ่านจบร้อง อ้าว เลยอ่ะ 555

สงสัยสั้นไป  :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 27-04-2015 14:40:13
ตอนที่ 17










“ตกลงวันเสาร์นี้ไปนะ” จินพูดสรุป หลังจากที่เขาเอ่ยชวนทุกคนไปเล่นน้ำที่สระว่ายน้ำในคอนโดของเขา พร้อมกับปาร์ตี้ต่อในห้องของเขา ผมพึ่งมารู้ว่า พวกโปเต้ไม่ชอบเที่ยวสถานบังเทินตอนกลางคืน แต่จะเลือกบ้านใครสักคนและไปนั่งกิน (เหล้า) กันเอง และโดยส่วนมากก็จะเป็นห้องของจิน เพราะตอนที่โปเต้ยังอยู่หอ หอก็เล็กไป ส่วนเซย์ก็อาศัยอยู่กับครอบครัว เดี๋ยวมันจะรบกวนผู้ใหญ่




“จิน เราสองคนคงไปไม่ได้อ่ะ วันเสาร์ครอบครัวเรากับครอบครัวนิดานัดกินข้าวเย็นกันน่ะ” จีน่าเอ่ยบอกกับจิน และทั้งจีน่ากับนิดาก็ทำสีหน้าเสียดายสุดๆ เพราะพวกเธอเป็นคนติดเพื่อน เห็นเพื่อนไปสนุกก็อยากจะไปร่วมด้วยบ้าง




“ไม่เป็นไร วันหลังก็ได้ เรื่องเหล้าขอให้บอก เราจัดได้ทุกวัน” จินว่าพลางยิ้มหวาน ขัดกับคำพูดมากๆ




ตอนนี้พวกนั่งเล่นอยู่แถวๆคณะ รออลันกับดอมินิกที่ยังไม่เลิกเรียน วันนี้เซย์ จิน อลัน และดอมินิกขะไปกินข้าวบ้านผม ส่วนพวกเพื่อนผม ผมก็ชวนนะ แต่ไม่มีใครว่าง จีน่ากับนิดาจะไปทำธุระให้แม่ของจีน่า หลุยส์มันหายหัวไปตั้งแต่เลิกเรียน ส่วนแลนด์บอกมีนัดกับดิน แล้วก็ชิ้งไปแล้ว




“ติณณ์ ช่วงนี้มีเรื่องอะไรรึเปล่า” อยู่ๆคนที่นั่งข้างๆผมก็เอ่ยขึ้น




“...เปล่า” ผมตอบปฏิเสธไป ทั้งที่จริงๆแล้วผมยังคาใจเรื่องที่พวกโปเต้จะออกทริป แล้วเขาไม่ชวนนั่นแหละ เพราะดูเหมือนว่าอลันกับดอมินิกจะไปกับเซย์และจินด้วย




“ผมว่าช่วงนี้คุณดูเงียบๆนะ” เขาบอกกับผมราวกับว่าเขาสังเกตผมอยู่




“ผมก็ไม่ใช่คนพูดมากนี่”




“ดูแปลกๆด้วย”




“แปลกยังไง ไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย นายคิดไปเองรึเปล่า” ผมตอบเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระป๋องน้ำอัดลมขึ้นมาดื่ม




“คุณ...เอ่อ คือ...ผมทำอะไรให้คุณโกรธรึเปล่า?” โปเต้ถามผมพลางขมวดคิ้ว สีหน้าเหมือนแบบว่า...จะดูกลัวๆก็ไม่ใช่ ดูกังวลก็ไม่เชิง




“...เปล่าหนิ” ก็ไม่เชิงกับโกรธ แค่รู้สึกนอยด์นิดๆ แต่ก็ไม่ได้มากพอที่จะเอามาตั้งประเด็นเป็นปัญหาสักหน่อย




“...จริง?” โปเต้เอ่ยก่อนจะค่อยๆก้มหน้าเข้ามาใกล้ผม




“อืม...” ผมตอบ แล้วสักพักก็ต้องย่นคอนิดๆ เมื่อโปเต้ดันเป่าลมใส่หูผมเบาๆ ซะอย่างงั้น




“มีอะไรก็บอก” โปเต้กระซิบเบาๆที่ข้างหูผม




“อื้ม ...อย่า จั๊กจี้” ผมบอกพลางดันหน้าโปเต้ออก ก็เขาเอาจมูกมาคลอเคลียที่หูผมอยู่นั่นน่ะ แถมมือนี่จะเร็วไปไหน กอดเอวผมซะแน่นเลย




“วันนี้ข้าวเย็นติณณ์จะทำอะไร”




“ก็...ยังไม่รู้ ต้องไปซื้อของก่อนกลับใช่มั้ย ไว้เดี๋ยวค่อยไปคิดเอาตอนนั้นแล้วกัน”




“อยากกินเทมปุระ” โปเต้เสนอ




เทมปุระเหรอ ...ก็ไม่ได้ยาก




“อืม...ได้”




“หมูมะนาว”




“ได้”




“ไก่ไม่มีกระดูกชุบแป้งทอด”




“ได้”




“คะน้าหมูกรอบ”




“...ได้”




“ต้มยำกุ้ง”




“...น่าจะได้”




“เหล้า”




“ไม่ได้!” ผมรีบตอบเสียงเข้มเมื่อได้ยินคำนี้ เพราะตั้งแต่งานวันเกิดจินจนถึงวันนี้ ผมห้ามไม่ให้โปเต้กินเหล้าโดยเด็ดขาด ก็ดูอย่างคราวก่อนสิ ยังดีที่ยังพอมีสติฟังผมอยู่บ้าง พอเหล้าเข้าปากแล้วกลายเป็นไอ้หื่นเฉยเลย แบบนี้ผมรับมือลำบากนะ บอกเลยว่ายังไม่พร้อม เหตุผลก็เพราะ...ผมยังไม่พร้อมไง




“...อีกล่ะ” โปเต้ว่าพลางทำปากยื่นนิดๆ ทำให้หน้าหวานๆของเขาดูแบ๊วขึ้นอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์




“เป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มรึไง ไม่ได้ก็คือไม่ได้” ผมหันไปจ้องหน้าเขา ...ที่ห่างจากหน้าผมประมาณสองเซนต์ เอ่อ...ใกล้ไปมั้ย?




“ทำไมล่ะ”




...ยังจะมีหน้ามาถาม




“ก็ไม่ได้ไง”




“ตอบแบบนี้ทุกที”




“อื้อ!” ผมร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆโปเต้ก็กัดจมูกผม แม้ว่ามันจะเบาๆก็เถอะ แต่คนมันตกใจนี่หว่า




“หน้าติณณ์ตลกว่ะ” โปเต้ยืดตัวขึ้นก่อนจะบอกผมอย่างขำๆ




“สนุกมากใช่มั้ย” ผมว่าพลางหงิกแก้มเขา กล้าดียังไงมาแกล้งผมเนี่ย




“เอ้อ..ติณณ์ ตกลงทริปที่จะไปวันจันทร์ที่จะถึงนี้ นายไปด้วยใช่มั้ย ไอภัทรมันยังไม่เห็นบอกอะไรพวกเราเลย” อยู่ๆเซย์ก็เอ่ยถามขึ้น




เอ่อ...ช่างเป็นคำถามที่แทงใจผมตอนนี้มากเลย ...ยิ่งๆแต่นอยด์ๆกับเรื่องนี้อยู่




“...ไปทำไม” ผมพูดเสียงเรียบ ใช่...ผมจะไปทำไม ก็ในเมื่อเจ้าตัวยังไม่ชวนผมเลย



“เอ้า...นี่ยัง...ไม่ได้คุยกันเหรอ” เซย์ถามพลางทำหน้าตาเหลอหลา




“.....”




“.....”




“ตกลงยังไงภัทร” จินหันมาถามโปเต้




“ก็...ยังไม่ได้ชวน” โปเต้ตอบราวกลับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร




มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยนะ ถ้าเราไม่ได้อยู่ในสถานะที่เรียกว่าแฟน แค่ผมรู้จากปากคนนี้อื่นมันก็น่าน้อยใจพอดูแล้วนะ




“เอ้า...อะไร ยังไงว่ะ ไอ้ภัทร อธิบายดิ อีกสี่วันนะเว้ย” เซย์ถามอีกคน




“มันยังไม่ถึงวัน ก็เลยยังไม่ได้พูดเรื่องนี้ ก็เลยยังไม่ได้ชวน” โปเต้ตอบสองคนนั่น




“แล้วคิดจะชวนติณณ์เมื่อไหร่”




“...วันเสาร์มั้ง ...แต่ก็นะ...” โปเต้พูดก่อนจะเงียบไป แล้วหันกลับมามองหน้าผม ปากของเขายิ้มนิดๆ




“แค่อยากจะแกล้งคนปากแข็งเท่านั้นเอง” โปเต้ว่าอย่างยิ้มๆ แต่ไอ้ที่ว่าแกล้งนี่...ใคร ผมอย่างนั้นเหรอ




“ใครปากแข็ง” ผมถามเสียงเข้ม แม้จะรู้ในใจว่าเขาหมายถึงผมก็เถอะ แล้วผมไปปากแข็งใส่เขาตอนไหน




“ก็ใครล่ะ...ที่เกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน อยากให้ผมชวนล่ะสิ อยากไปด้วยทำไมไม่บอกล่ะ”




“ใครอยากไปด้วย” ผมพูด...แต่ไม่เต็มเสียงนัก




“อ้าว นี่ไม่อยากไปด้วยเหรอ เสียใจจัง”




มีใครเคยบอกมั้ยว่าโปเต้เป็นผู้ชายที่พูดคำว่าเสียใจได้หน้าระรื่นเป็นที่สุด




“อย่ามากวนตีนน่า ปล่อยผมนะ” ผมว่าพลางแกะมือโปเต้ที่กอดผมอยู่ออก นี้มือคนหรือตีนตุ๊กแกว่ะ เหนียวจริง แกะไม่ออกเลย




“อย่าปากแข็งไปเลยน่า คุณก็น่าจะรู้ว่าผมยังไงผมก็ต้องชวนคุณอยู่” โปเต้ว่าหน้านิ่ง แต่สายตานี่...ไม่ใช่อ่ะ




“ใครจะรู้เล่า!”




“นี่...คุณก็รู้ว่าตัวผมติดคุณจะตาย ไปทริปตั้งหลายวัน ไม่เอาคุณไปด้วยก็เฉาตายพอดี”




“-/////-”




ไอ้หน้าหวานปากหวานนี่มันเป็นใคร ยังใช่ผู้ชายที่ชื่อนภัทรที่ได้ขึ้นชื่อว่าหน้านิ่งพูดน้อยโคตรหยิ่งคนนั้นอยู่รึเปล่า!?!




นี่เขาเริ่มพูดแบบนี้เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครสั่งใครสอนเนี่ย




รู้บ้างมั้ยว่าหัวใจของผมมันจะเต้นเป็นจังหวะแทงโก้อยู่แล้ว




“ตกลงไปนะ”




“พึ่งจะมาชวน” ผมพูดเสียงเบา




“หึๆ ก็เพราะรู้ไง ว่ายังไงติณณ์ก็ไปด้วยอยู่แล้ว”




“ไปเอาความมั่นใจนั้นมาจากไหน” ผมถามกลับแทบจะทันที แม้ว่ามันจะเป็นจริงอย่างที่โปเต้ว่า แต่...จะให้ผมยอมรับเลยนี่มันก็...




“อยู่กับติณณ์ทุกวัน...ทำไมจะไม่รู้...”




“อย่ามั่นใจตัวเองไปหน่อยเลยน่า”




“ปากแข็งจังนะ”




“เออ ปากผมแข็ง ไม่ต้องมาจูบอีกนะ” ผมว่าเสียงเหวี่ยงหน่อยๆ




พรู๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!




ยังไม่ทันที่โปเต้จะได้พูดอะไร ก็มีเสียงประหลาดๆดังขึ้นเสียงก่อน




ดังมาจากเซย์ครับ เมื่อกี้เขาพ่นน้ำที่พึ่งยกดื่มออกมาเป็นละอองเลยทีเดียว




เออ...ผมผิดเอง ลืมตัวทุกทีว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันแค่สองคน














ตอนนี้พวกเราอยู่กันที่ซุปเปอร์ฯใกล้บ้านผมกันครับ มีผม ดอมินิก และอลัน ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็กลับบ้านไปก่อนครับ ทั้งสามคนบอกว่าจะเคลียร์พื้นที่ให้ (จริงๆคือต่อให้มาก็ช่วยอะไรไม่ได้มากอยู่ดี พวกนั้นเลยเลือกที่จะไปรอที่บ้านมากกว่า) จริงๆโปเต้จะมากับผมด้วย แต่โดยเซย์กับจินลากกลับบ้านไปด้วย ผมเองก็ไม่ได้จะขาดใจกับแค่ไม่ได้มาซื้อของกับโปเต้ ไม่ต้องตัวติดกันบ้างก็ดี โปเต้จะได้ไม่กวนผมเวลาซื้อของ




“ติณณ์ กินเนื้อย่างกันเหอะ ...เนี่ย มีหมูสไลด์สำเร็จด้วย” อลันว่าพลางหยิบถุงหมูสไลด์สำเร็จรูปให้ผมดู




“.....” ผมพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะชูสามนิ้วให้อลัน บอกเป็นนัยๆว่า ให้หยิบมาสามถุง แล้วเดินต่อ




“ติณณ์ อยากกินยำทะเลด้วยอ่ะ” อลันเรียกบอกผม ก่อนจะชี้ไปยังกุ้งและปลาหมึก




ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ตามใจเขา เพราะผมก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะทำอะไรกินดี และสุดท้ายก็กลายเป็นแบบนี้...




“ติณณ์ เนี่ย...ไก่ทอดน้ำปล ถ้าติณณ์ทำมันต้องอร่อยมากแน่ๆเลย”




“ติณณ์ กุ้งเผาก็น่าสนนะ เราไปเอากุ้งเพิ่มอีกดีกว่า”




“ติณณ์ @#$%^&**&^%$#@!”




และสุดท้าย ทุกเมนูก็กลายเป็นเมนูที่อลันเลือก โดยที่ผมกับดอมินิกได้แต่ยืนมองอย่างเงียบๆ และไม่สามารถแย้งอะไรได้ =_=




จะว่าไป อลันนี่ก็พูดเก่งจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-04-2015 14:46:17
 :hao7:  งานหนักเลยนะพ่อศรีเรือนของเพื่อนๆ

ถ้าเราอยู่ตรงนั้นเราก้อลงไปดิ้นอะ หวานออกสื่อ โลกส่วนตัวตัลหลอดอะ  :o8:

ขอบคุณค่ะ รอครึ่งหลัง ดูซิว่าเหล้าจะได้เข้าปากโปเต้หรือไม่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bowtotay ที่ 27-04-2015 14:53:52
จะบอกว่าขอไปนัางกินด้วยคนได้ไหม
อาหาราจะทำแต่ละอย่างนี้ น่ากกินที่ซู๊ดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 27-04-2015 15:12:56
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: โปเต้ขี้แกล้งเนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 27-04-2015 15:46:07
ติณณ์งอนเลยยยยยยยยยยย
อยากรู้นักโปเต้จะทำยังไง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pupae2528 ที่ 27-04-2015 15:55:37
งอลและง้อได้น่าตบเล็กน้อยนะโปเต้ :hao3: แต่เห็นว่าน้องตินณ์น่ารักนะเลยให้อภัย :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-04-2015 16:20:16
มีแอบนอยด์นะตินณ์ โปเต้ง้อแบบกวนน่ารักดี
พออยู่ด้วยกันหลุดไปอยู่โลกส่วนตัวตลอด

แน่ใจนะว่าซื้ออาหารมาทำกินแค่ไม่กี่คน นึกว่าเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-04-2015 16:21:05
โปเต้ ร้ายมากกกกก 555. สงสารติณณ์โดนแกล้งตลอดเลยอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-04-2015 16:33:29
โปเต้แกล้งติณน์มากๆ ระวังโดนโกธรเข้าจริงๆ นะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 27-04-2015 16:42:52
มีแต่ของน่ากิน ฮ่าๆ #เล็งไปของกิน  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 27-04-2015 17:03:27
อยากเห็นอิมเมจอลันมากอ่ะ
เพราะอ่านตั้งแต่พาร์ทตอน
เป็นเด็กแล้วคุณอลันเค้าน่ารักซนๆ

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 27-04-2015 17:14:49
ติณณ์ แล้วที่โปเต้อยากกินล่ะลูกกกก  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 27-04-2015 17:17:21
เป็นการง้อที่น่ารักมาก รู้ใจไปซะทุกเรื่อง

ติณณ์แล้วอย่าลืมทำเมนูที่โปเต้บอกด้วยล่ะ  เดี๋ยวจะต้องเป็นคนง้อแทน เพราะดันทำแต่เมนูของอลันอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 27-04-2015 17:31:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 27-04-2015 17:37:09
ติณณ์นอยด์นะโปเต้ รีบตามไปง้อเร้วว  :o8:
ติณณ์น่ารัก แม่ศรีเรือนสุดๆ มีเสน่ห์ปลายจวัก ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 27-04-2015 17:55:34
น่ารักกกกกกกกกกกกกกก

มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 27-04-2015 18:39:13
น่ารักขึ้นทุกวันเลยคู่นี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 27-04-2015 18:59:31
กลัวเสียตัวอะดิไม่ใหโปเต้กินเหล้า :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cbqx ที่ 27-04-2015 19:56:16
แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 27-04-2015 20:13:21
น่ารักจริงๆเลยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 27-04-2015 20:28:46
โปเต้ขี้แกล้งสิน๊าาาาา ><
ไม่เปนไรๆ ง้อน่ารักให้อภัย อิอิ
แต่ถ้าทุกคนจะให้ติณณ์ทำกับข้าวขนาดเน้ เปิดร้านเรยไหมคะ 55555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-04-2015 20:41:05
ตินติน เหนื่อยแย่เลย
จะมีเวลาจู๋จี๋กับโปเต้มั่ยน้อ
รอจู๋จี๋ตอนไปทริปก็ได้เนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-04-2015 20:57:55
โอ๊ยน่ารักกกกก น่ารักขึ้นทุกวันนะคู่นี้  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-04-2015 21:02:53
อหมมม ยิ่งนานยิ่งหวานนะคูนี้
รอตอนต่อไปเน้อออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 27-04-2015 22:14:45
อยู่กับติณ โปเต้กลายเป็นคนขี้อ้อนไปเลยอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 27-04-2015 22:22:35
สร้างโลกส่วนตัวได้ทุกที่ ทุกเวลา และทุกสถานการณ์จริงๆ

น่ารักกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 27-04-2015 23:02:21
555
ปากแข็งก้ไม่ต้องมาจูบ
หลุดอารายออกมาเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 28-04-2015 00:04:33
หวานมากมายยยยย. หวานจนบิดตัวเขินไปล้านอปดตลบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-04-2015 00:55:59
น่ารักตลอดอ่ะคู่นี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-04-2015 10:20:14
ท้องร้องแล้วเนี่ย หิว!!!
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: taoru ที่ 29-04-2015 22:18:59
น่ารักเว่อร์ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 30-04-2015 01:11:05
โปเต้ชอบแกล้งติณอ่าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 30-04-2015 11:36:58
น่ารัก-/- ดูแบบชินกันเวลาอยู่สองคนจะสร้างโลกส่วนตัวตลอด
น่าจิ้นอ่ะ555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 30-04-2015 15:15:36
ถ้าได้ไปนั่งตรงนั้นคงฟินบินไปไกล
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 30-04-2015 15:52:40
หวานจริง  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 30-04-2015 17:39:42
โปเต้ขี้แกล้งจังน่ะรู้ด้วยว่าติณณ์อยากไป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งแรก P.31 27/4/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 30-04-2015 21:00:49
มีนง มีนอยยยยยย โถ่ตินนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 01-05-2015 01:28:06
ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง









สุดท้ายมือเย็นก็เป็นเนื้อย่าง และอาหารอีกหลายๆอย่าง คนคิดเมนูก็เป็นอลันกับโปเต้นั่นแหละ และคนที่กินเยอะที่สุดก็เป็นสองคนนั่น ไม่รู้ว่ากระเพาะเป็นหลุมดำรึเปล่า กินกันเข้าไปได้ยังไงเนี่ย ผมล่ะนับถือจริงๆ




และสุดท้าย กินเสร็จก็เก็บของกัน ผมยืนล้างจานอยู่กับดอมินิกสองคนในครัว ได้ยินเสียงเฮฮาอยู่ข้างนอกมาเป็นระยะๆ เสียงที่ดังที่สุดคงจะเป็นเสียงของเซย์กับอลัน




“ขอโทษนะ ที่อลันเสียงดังไปหน่อย” ดอมินิกพูดขึ้นในขณะที่เรากำลังช่วยกันล้างจาน




“ไม่เป็นไร” ผมตอบสั้นๆ คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง ถ้าข้างบ้านจะปาพวกหม้อกระทะใส่เพราะเสียงดัง ยังไงซะก็ไม่ใช่ผมที่เป็นคนโดน




“เราแอบเห็นจินถือเหล้ามาด้วย ตอนนี้คงกำลังนั่งกินกันอยู่มั้ง” ดอมินิกบอกผมหน้านิ่ง ก่อนจะล้างมือเมื่อเขาล้างเสร็จแล้ว (เขาล้างน้ำยา ผมล้างน้ำเปล่า)




เหล้า...




...ป่านนี้โปเต้คงนั่งร่วมวงอยู่ด้วยมั้งเนี่ย




“.....” เมื่อล้างจานเสร็จ ผมกับจินก็เดินออกมาจากห้องครัว พบว่าพวกนั้นกำลังนั่งกินเหล้าอยู่จริงๆด้วย




ผมเดินไปนั่งลงข้างๆโปเต้ (ทุกคนนั่งพื้นหมดครับ โดยการเลื่อนโต๊ะไปไว้มุมห้องแล้วมานั่ง เพราะเมื่อก็เราใช้พื้นที่ตรงนี้ในการกินเนื้อย่าง)




แต่มีบางอย่างที่แปลก ...แก้วโปเต้ดูแปลกๆ




เฮ้ยยยยยยยยยยยยยย...น้ำเปล่าเฉย




“ไม่กิน?” ผมถามโปเต้เบาๆ




“ก็ติณณ์ไม่ให้กินนี่” โปเต้ตอบก่อนจะมองหน้าผมอย่างงงๆ ว่าทำไมผมถึงถามเขาแบบนั้น




แต่ว่า...




เขาแคร์คำพูดของผม ...น่ารักว่ะ




“น่ารักมาก..” ผมว่าก่อนจะจุ๊บจมูกเขา ...อย่าลืมตัว




“โอ๊ยยยย...สวีทไม่เกรงใจกันเลย อิจฉาเว้ย...เฮ้ย อลัน!” เซย์ว่าก่อนจะหันไปเรียกอลันที่เพิ่มเดินออกจากห้องน้ำ




“เฮ้ยพ่องมึงดิ!” แน่นอนว่าอลันสวนกลับมาทันที




“ไม่มีอะไรคร้าบบบ ขอโทษคร้าบบบบ ...ช่วยมานั่งให้ผมสีหน่อยคร้าบบบ” เซย์ว่าอย่างกวนๆ




“มาสีกับตีนกูนี่”อลันว่าว่าก่อนจะนั่งลงข้างๆ เซย์ และปล่อยให้เซย์สีโดยที่ด่าไปด้วยขัดไปด้วย




แต่ว่านะ...อย่าพึ่งไปสนใจคู่นั้นเลย มาสนใจไอ้คนข้างๆผมก่อน หลังจากโดนจุ๊บเมื่อกี้ ดูเหมือนว่าเครื่องจะช็อตไปแล้ว นิ่งค้างเลย




“โปเต้ ...เฮ้ย!” ผมเรียกก่อนจะใช้มือตบแปะๆที่หน้าเขาเบาๆ ทำไมแน่นิ่งแบบนั่นอ่ะ




แต่เอ๊ะ...อ๋อ ผมรู้ล่ะ ว่าทำไม...




มาคิดๆดูแล้ว ผมไม่เคยเป็นฝ่ายหอมแก้มก่อน ไม่เคยกอดเขาก่อน ไม่เคยจูบเขาก่อนเลย มันก็อาจจะเป็นธรรมดา ที่จะทำให้โปเต้อึ้งก็เป็นได้




แต่ว่า...หน้าแดงหูแดง ลามไปจนถึงคอเลยเนี่ยนะ




โปเต้เขินขนาดนั้นอ่ะ???




“เฮ้ย!” ผมเรียกเขาเสียงดัง โปเต้เม้มปากก่อนจะหันหน้าหนีผม ...มันเขินขนาดนั้นอ่ะ!




อย่าทำแบบนี้สิ...นี่ก็ทำเองชักเขินเองแล้วเหมือนกันนะ




“เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ ไอ้ภัทรหน้าแดงว่ะ!!” เสียงเซย์ตะโกนขึ้น ก่อนที่คนอื่นๆที่สนใจอย่างอื่นอยู่จะรีบหันมามองหน้าโปเต้




“ไอ้ภัทรหน้าแดง ต้องรีบถ่ายรูปเว้ย!” อลันว่าก่อนจะหาโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่แถวนั้น




“กูเมา ไม่ต้องมายุ่งกับกู” โปเต้ว่าเสียงอู้อี้ นั่นเป็นเพราะทันทีที่เซย์ตะโกนขึ้น เขาก็กระโจนเอาหน้ามาซุกอกผมโดยเร็ว




“เมาอะไร มึงยังไม่ได้แดกสักหยด” จินว่าอย่างขำๆ




“กูจะส่งไปให้แอดมินเพจ ฮ่าๆๆๆๆ” อลันว่าอย่างสุขใจ แม้ว่าเขาจะถ่ายได้เพียงเสี้ยวหน้าและติดหูแดงๆไปก็ตาม (เขาหันโทรศัพท์มาให้ผมดูก่อนน่ะ)




และคืนนี้ก็คุยกันด้วยเรื่องที่โปเต้เขินจนหน้าแดงเนี่ยแหละ




หึๆ...น่ารักจังน้า ไอ้หน้าหวาน













วันนี้พวกนั้นขอนอนที่นี่ครับ เพราะเซย์กับจินกินเหล้ากันหนักมาก คงจะกลับกันไม่ไหว และอลันกับดอมินิกก็ไม่แรงจะแบกสองคนนั่นเหมือนกัน



ผมกับโปเต้เลยทำความสะอาดพื้นในห้องนั่งเล่นให้ ก่อนะที่จะเอาฟูกเอาผ้าห่มเอาหมอนมาให้พวกนั้น เพราะบ้านนี้มีห้องนอนแค่สองห้อง ห้องพี่ปาร์พี่ตาลพวกผมก็ไม่กล้าหรอก ส่วนห้องผมมันก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก จะให้นอนอัดกันหกคนก็คงไม่มีทางเดินกันพอดี




“จะเอาพัดลมมั้ย” ผมถาม เพราะดูท่าแล้วพวกนั้นน่าจะเป็นคนขี้ร้อน แอร์ของห้องนี้ไม่รู้จะเย้นถึงใจรึเปล่า




“ไม่เป็นไร แค่นี้ก็เกรงใจแล้ว” ดอมินิกเป็นคนตอบ เพราะเซย์กับจินหลับกันไปแล้ว




“งั้น...ถ้ามีอะไรก็เรียกล่ะกัน” ผมว่าก่อนจะเดินขึ้นห้อง




เข้ามาในห้องก็พบว่าโปเต้อาบน้ำอยู่ ผมเลยเดินไปนั่งเล่นรอบนเตียง




แต่จะว่าไป...ผมพึ่งเคยเห็นโปเต้มาดหลุดก็วันนี้เนี่ยแหละ ทุกทีเวลาทำนี่ไม่เคยอ่าน หอมแก้มผม จูบผม กอดผมต่อหน้าคนอื่นในมหาลัยเขาก็ทำโดยไม่มีท่าทีกระดากอายเลยสักนิด มีแต่ผมเนี่ย...ที่ทั้งอายทั้งเขินอยู่คนเดียว แบบนี้มันน่าจะแกล้งกลับซะให้เข็ด ว่าแล้วก็...เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยดีกว่า หึๆ




ผมนั่งรอจนโปเต้ออกมา แล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำ โดยไม่มีใครพูดอะไร จนระทั่งออกมา ผมก็เห็นโปเต้เขานอนหงายเล่นไอแพดของเขาอยู่บนเตียง




เอาไงดีว่ะ ...อยากจะแกล้งเขา แต่ก็เขินตัวเอง




แต่ผมก็อยากเห็นไอ้หน้านิ่งๆของโปเต้ ตอนที่ทำอะไรไม่ถูกอยู่นะ เอาว่ะ...ด้านๆเนียนๆหน่อย ยังไงคนตรงหน้ามันก็แฟนผมอ่ะ




“ทำอะไรน่ะ” ผมเอ่ยถามก่อนจะนั่งลงบนเตียง




“ดูรูปที่ไอ้อลันมันเอาลง ...เลวจริงๆ” โปเต้ว่าก่อนจะสบถเสียงต่ำ ผมว่าเขาต้องหาทางเอาคืนอลันอยู่แน่ๆ




“ก็อยากจะเขินหน้าแดงทำไมล่ะ” ผมว่าอย่างขำๆ




“ก็...” โปเต้ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แล้วก็เงียบไป แถมยังหันหน้าหนีผมด้วย




“นี่...ยังเขินอยู่อีกเหรอ” ผมถามเขา ก่อนจะค่อยๆคลานเข้าไปใกล้ๆ




“อะไร ใครเขิน” โปเต้พูด แต่ไม่ยอมมองหน้าผมเลย




“ไม่เขินก็หันหน้ามาสิ” ผมเกยอยู่บนตัวโปเต้ไปครึ่งตัว ซึ่งโปเต้ก็สะดุ้งนิดหน่อยตอนที่ผมถูกตัวเขา จะเรียกว่าเกยอยู่ดีมั้ย...หรือจะเรียกว่าผมนอนทับอยู่บนอกเขาดี




“กินเหล้ามารึไง?” โปเต้ถาม แต่น้ำเสียงเหมือนถามกึ่งประชด




“แล้วเห็นว่ากินป่ะล่ะ” ผมถามกลับ รู้สึกแปลกตาที่เห็นโปเต้เป็นแบบนี้ แต่ก็อย่างที่บอก...หน้าหวานๆแบบนี้ เวลาเขินแล้วมันดูน่ารักดีนะ




“.....” โปเต้เหล่ตามองผม หน้าผมอยู่ตรงคางของเขาพอดี เลยเอาจมูกไปเขี่ยเบาๆที่คางของเขา ที่หนวดมันเริ่มจะขึ้น เจ็บนิดๆ แต่มันรู้สึกสนุกดี




“มาอ้อนอะไรเนี่ย” โปเต้ว่าก่อนที่จะตวัดแขนกอดผม




ผิดแผนล่ะ ทำไมโปเต้มันไม่เขินว่ะ แล้วทำไมมันถึงกลายเป็นผมที่เขินแทน!




แต่ว่า...อ้อนเหรอ




ตั้งแต่เกิดมา นอกจากพ่อแม่และพี่ตาลแล้ว ผมก็ไม่เคยอ้อนใครเลยนะ




แล้วที่ผมทำอยู่นี่น่ะเหรอ ที่โปเต้เรียกว่าอ้อน




เอาเถอะ ...อ้อนแฟนบ้างมันจะเป็นอะไร ผมเห็นเซย์กับอลันเดี๋ยวอ้อนเดี๋ยวด่ากันทุกวัน




“...เปล่า” ผมว่าก่อนจะกัดคางโปเต้เบาๆ




“หรอครับ” โปเต้ว่าก่อนจะยิ้มให้ผม




อยู่ๆโปเต้ก็พลิกตัวตะแคงข้าง ทำให้ผมหล่นจากตัวเขามานอนข้างๆเขาแทน แต่ก็ไม่ได้พลิกตัวแบบรุนแรงอะไรหรอก เขาค่อยๆพลิกตัวทั้งที่ยังกอดผมอยู่




“วันนี้ดูอ้อนแปลกๆ อยากได้อะไรรึเปล่า” โปเต้ถาม...ด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากเดิม ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่มันดู...นุ่มนวล อ่อนโยน เอาเป็นว่า...มันทำให้คนฟังอย่างผมเขินก็แล้วกัน




“แค่อารมณ์ดี” ผมบอกอย่างยิ้มๆ พลางเอื้อมมือไปลูบแก้มโปเต้เล่นๆ โดยที่หน้าของเราห่างกันแค่ไม่กี่เซนต์ จนถึงขนาดสัมผัสลมหายใจของกันและกันได้




“เรื่อง?” โปเต้ถามพลางเลิกคิ้วขึ้นข้างนึง ดูกวนตีนไม่น้อยเลยล่ะ




“วันนี้โปเต้เขินจนหน้าแดง” ผมพูดไปด้วย ลูบแก้มเขาเล่นไปด้วย แก้มโปเต้นิ่มมากๆเลยนะ เพราะอย่างนี้ไง ผมถึงชอบจับแก้ม ชอบหยิกแก้มเขา




“มันใช่เรื่องมั้ย” โปเต้ว่าก่อนจะก้มหน้าลงมา หอมแก้มผมฟอดใหญ่




“ใช่ดิ ผมไม่เคยเห็นนายเขินเลยนะ เรียกเป็นบุญตารึเปล่า” ผมพูดแหย่เขา




“มากไปครับ เลิกล้อได้แล้วน่า” โปเต้บอก แต่ยังลากจมูกเขี่ยแก้มผมเลยเบาๆ จนรู้สึกเห่อร้อนที่หน้า




“ไม่ได้ เรื่องใหญ่เลยนะ”




“เหรอ” โปเต้เงยหน้ามามองผมอย่างยิ้มๆ แล้วก็จูบปากผมเบาๆ ซ้ำๆหลายที




“พอแล้ว” ผมว่าก่อนจะปิดปากโปเต้ เข้าบรรยากาศแบบนี้ทีไร หื่นแตกตลอด




“หึๆ เขินไง...หน้าแดงเลย” โปเต้พูดอย่างยิ้มๆ




เหมือนโดนเยาะเย้ยเลย ...ว่ามั้ย?




“...พอเลย จะนอนแล้ว ไปปิดไฟด้วย” ผมว่าก่อนจะดันตัวเองออกจากโปเต้ ซึ่งโปเต้ก็ปล่อยผมแบบง่ายๆ แต่มุมปากเขาเจือไปด้วยรอยยิ้ม ...ช่วงนี้ยิ้มบ่อยขึ้นนะ




“ครับๆ” โปเต้ลุกไปปิดไฟแล้วเดินกลับมาล้มตัวลงนอน




“อ๊ะ...จะทำอะไร” ผมถาม เมื่อโปเต้ล้มตัวลงนอนข้างๆผม ก่อนที่ผมจะรู้สึกได้ว่า มีแขนข้างหนึ่งของโปเต้กอดเอวผม




“คืนนี้...”




“.....”




“ขอนอนกอดได้มั้ย” โปเต้ถามผมเสียงนุ่ม ผมว่าถ้าพวกผู้หญิงในมหาลัยได้ยิน คงกรี๊ดกันตายเลย




“...อืม”




“หันมาทางนี้ด้วย”




“ได้คืบจะเอาศอกนะ” ผมบ่นเบาๆ แต่ก็ยอมพลิกตัวหันไปหาโปเต้




“หึๆ” โปเต้หัวเราะเบาๆ ก่อนจะใช้แขนอีกข้างสอดเข้ามารองใต้คอผม จนกลายเป็นว่าตอนนี้ผมนอนหนุนแขนเขา




ผมรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แตะเบาๆที่หน้าผากของผม




“ฝันดีครับ” โปเต้บอกก่อนจะกระชับแขนให้แน่นขึ้น




“อืม ฝันดี” ผมตอบกลับไป




เป็นครั้งแรกเลย...ที่มีผู้ชายมานอนกอดแบบนี้ แถมผู้ชายตรงหน้ายังเป็นแฟนผมอีก มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก




แต่ที่แน่ๆเลย คือรู้สึกว่า ...อยากจะรู้สึกแบบนี้ไปอีกนานๆเลย




อยากจะให้กอดกันอยู่แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรุ่งนี้หรือวันไหน




หรือว่า...ผมจะเผลอใจไปแล้วจริงๆ




ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ...ถ้ามันเกิดขึ้นกับคนๆนี้




ผมว่ามันก็ไม่เลวหรอก ...ดีเสียด้วยซ้ำ




แต่ว่า...เราโปเต้ล่ะ? ...จะรู้สึกแบบเดียวกันมั้ย ...จะให้ถาม ผมก็ใจไม่กล้าพอ แต่การกระทำที่โปเต้แสดงออก มันก็... -///-




เอาเถอะ... บางทีก็ไม่ต้องไปหาคำตอบ ไม่ต้องไปคิดมาก แค่โปเต้ยังแคร์ผม แสดงออกแบบนี้กับผม มันก็ถือว่าดีแล้ว




ผมเองก็ไม่เคยมีความรักซะด้วยสิ ไม่รู้หรอกว่าคนรักกันมันจำเป็นที่ต้องพูดคำๆนั้นออกมามั้ย




ถ้าหากการกระทำมันชัดเจนมากพอที่จะไม่ทำให้ใจต้องรู้สึกสงสัย รอไปอีกหน่อยก็คงไม่เป็นไร ก็นี่มันโปเต้นี่นา




ตอนนี้แค่ยังมีกัน อยู่ด้วยกัน ผมก็รู้สึกมีความสุขจนจะล้นแล้ว มีเรื่องอะไรที่อยากจะบอก อยากจะให้อีกฝ่ายทำให้ ก็บอกมันไป ดีกว่าไปบอกในวันที่ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้บอก




อย่างเช่น...




“โปเต้...พรุ่งนี้นายโกนหนวดด้วยนะ” ผมว่านวดเขามันเริ่มยาวแล้วจริงๆ หลักฐานคือมันกำลังทิ่มที่หน้าผากผมอยู่ตอนนี้ไง





***********************************************************************************

FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
นี่แหละ...ที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-05-2015 01:46:57
เค้าพัฒนาขึ้นเยอะเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 01-05-2015 03:16:17
โอ้ยฟินนนนน ไอ้หน้าหวานเขินนนน อร๊างงงงง :impress2: :impress2: :hao7:

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 01-05-2015 04:05:42
ฟินจ้าาาา :pighaun:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 01-05-2015 05:19:50
อุ่ยตาย หวานเว่อร์ค่าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-05-2015 06:03:10
เขินระเบิดดดด อายแทนโปเต้
รอตอนต่อไปเนอะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 01-05-2015 06:19:59
แย่งกันเขินนะตอนนี้ คนอ่านก็เขิน ฮรือออ >///<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-05-2015 06:37:02
 :katai2-1:   กะรี้ดดด. เล่นเอาเขินกันถ้วนหน้าเลยจ้า

นอนกอดกันไปก่อนนะ. ค่อยๆรักกันนี่แหละฟินสุด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 01-05-2015 07:00:14
น่ารักหนักมาก เขินหนักมาก แอร๊ย :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-05-2015 07:13:05
เขาผลัดกันเขินหน้าแดง  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 01-05-2015 08:14:29
ตอนนี้รู้สึกเหมือนโดนมดกัดด้วย มดเยอะมากกกกกก หวานนนนน น่ารักมุ้งมิ้งฝุดๆ อร๊ายยยย :o8: :katai2-1: :hao7: :hao7: :mew3: :mew1: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 01-05-2015 08:22:17
เรียนรู้กันมากขึ้นแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-05-2015 09:46:29
เขินแทนทั้งคู่  หวานเวอร์มาก  นานๆ ติณณ์จะแสดงออก  เลยทำให้โปเต้อึ้ง งงไปเลย แถมยังมาอ้อนใส่อีก 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 01-05-2015 09:51:01
อบอวลด้วยไอหวาน ชอบๆๆๆฟฟ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 01-05-2015 09:58:59
น่ารัก แหมเค้าผลัดกันเขิน
คนอ่านก็อ่านด้วย >///<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-05-2015 10:11:44
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 01-05-2015 10:50:30
อ๋อยยยย รู้สึกว่าเขาจะหวานกันขึ้นทุกวันๆนะ   :m3:
รออออ มาต่อไวๆนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-05-2015 12:19:26
ฟินอ่าาาาาา
อะๆรจะรักกันมุ้งมิ้งขนาดเน้ >\\\\\<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 01-05-2015 12:38:14
เขินแตกเพราะประโยคสุดท้ายเนี่ยะแหละ5555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlackClover ที่ 01-05-2015 13:53:51
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอิ่มเอม มากกกกกก
คือทั้ง 2 คนยังเรียนอยู่ ถึงจะระดับ มหาลัยแล้วก็เถอะ
แต่เป็นคนมีเหตุผลในความรัก ไม่ง๊องแง๊งจนน่ารำคาญ
เรื่องราวเรียบๆ แต่อบอวนไปด้วยความรู้สึกดีๆ
#ฟินมากบ่องตง ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-05-2015 14:17:47
น่ารัก  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 01-05-2015 14:23:22
หวานหยาดเยิ้ม รอเอ็นซี เมื่อไหร่น้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 01-05-2015 14:47:57
โปเต้เขิลน่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: numilddy ที่ 01-05-2015 16:12:07
โอ้ยฟินตัวแตกน่ารักทั้งคู่เลบ
อิจฉาคนได้ดูรูปตงิดๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 01-05-2015 16:40:18
เวลาคู่ซึนมุ้งมิ้งนี้มัน "น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก" :o8: :o8: :o8: :impress2: :impress2: :impress2: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 01-05-2015 18:20:12
ฟินง่ะจิกหมอนแทบขาด :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 01-05-2015 19:57:16
เงียบๆแบบนี้ทำไมเขินน่ารักกันจังงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 01-05-2015 20:25:59
คู่นี้น่ารัก
โป้เต้เวลาเขินนี่น่ารัก
ติณณ์ขี้อ้อนเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 01-05-2015 21:27:57
ไม่ไหวละ เมื่อยแก้ม ยิ้มไม่หุบเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 01-05-2015 21:29:47
แหม่ มาแบบหวานนิ่งๆ น่ารักกกกกกกกกกกกกกกชะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 01-05-2015 21:47:52
โปเต้น่ารักกกกกกก :man1: :man1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 01-05-2015 22:20:24
เขินๆๆๆๆๆ เขินแล้วเขินอีกเขินจนตัวจะแตก  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 02-05-2015 04:30:58
โปเต้ เขินน่ารักอ่ะ :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: barbiehateken ที่ 04-05-2015 17:30:59
โอ๊ยสนุกมากค่ะ คั่นไว้ที่ตอน 4 ก่อน
ชอบฟีลแบบนี้มากกกกกกกกกกกกกกก
คู่พูดน้อย ทำให้แต่ละคำพูดที่พูดออกมามันแปลว่าสำคัญและมีความหมายมากกว่าแค่คำพูดสั้นๆ 555555
ชอบที่นายเอกไม่เคะตัวน้อยเกินไป ไม่ขี้โวยวาย ไม่เด็กน้อย
ชอบที่พระเอกนิ่งแต่ดุ หน้าหวานแค่ไหนแต่ตาดุก็ต้องสยบนายเอกได้
ชอบมากกกกกกกก สนุกจังงงงงงงงงงงง
จิ้นกันเยอะๆๆๆๆๆนะ กรี๊ดๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 04-05-2015 19:21:04
เหยยยยยยยย น่ารักขึ้นขั้นแมกซ์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 17 ครึ่งหลัง P.32 1/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 04-05-2015 22:06:37
เขิลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 05-05-2015 02:11:09
ตอนที่ 18









เรื่องรูปของโปเต้ที่อลันเอาลงโลกโซเชี่ยล กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก ณ ตอนนี้ ยอดไลค์และคอมเม้นต์เข้ามามาก และส่วนมากจะเป็นผู้หญิงและเพศที่สามทั้งนั้นเลย แถมตอนนี้ในคณะ บางทีโปเต้ยังโดนตามถ่ายรูปจนเจ้าตัวเกิดอาการฟิวด์ขาดไล่ตะเพิดคนพวกนั้นไปเลยเหมือนกัน




“.....” และไอ้คนที่พึ่งจะตวาดด่าคนไปเมื่อกี้ ก็กำลังนั่งกินเยลลี่แก้เซ็งอยู่




“ไอ้ภัทรแม่งดังกว่าแต่ก่อนอีกว่ะ แม่งมีสโตกเกอร์ด้วย” เซย์ว่าอย่างยิ้มๆ




“สนุกมั้ย?” โปเต้ถามเสียงเรียบ แต่แววตาน่ากลัวใช้ได้




“มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เซย์ลากเสียงยาวอย่างจงใจกวนประสาท โปเต้ส่ายหน้าหน่อยๆก่อนจะหันไปกินเยลลี่ต่อ




ตอนนี้เราอยู่ที่มหาลัยกัน นั่งรอเวลาเรียน จินกับเซย์ที่กินเหล้าจนเมาแอ๋ก็ยังอุตส่าห์มาเรียน ทั้งที่วันนี้น่าจะหยุด เห็นเซย์บอกว่า จะมาดูกระแสตอบรับรูปของโปเต้ ดูท่าทางว่าจะเป็นเอามาก




“มาแล้ว ...อ่ะ เอาไป” จีน่ากับนิดาที่ไปซื้อของกินกลับมาพร้อมส่งเสียงบอก ก่อนที่จีน่าจะยื่นข้าวที่ผมฝากซื้อมาให้




“แลนด์กับหลุยส์ล่ะ” ผมถาม




“นั่งเฝ้าดินน่ะ ไอ้แลนด์มันไปลากดินมากินข้าวด้วย แล้วดินมันยังกินไม่เสร็จ พวกกูที่กินเสร็จแล้วกลัวพวกมึงหิวก็เลยมาก่อน” นิดาว่าก่อนจะยื่นข้าวกล่องไปให้เซย์กับจิน




“.....” ผมรับมาก่อนจะหยิบของตัวเองออกมากล่องนึง แล้วยื่นอีกสองกล่องไปให้โปเต้ เรายังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลย เพราะมีแต่คนมามองมาถ่ายรูปจนโปเต้หงุดหงิดแล้วตวาดคนพวกนั้นไปนั่นแหละ โปเต้เลยเลือกที่จะไม่ไปไหนเลย ผม เซย์ และจินเลยนั่งอยู่เป็นเพื่อนเขา ส่วนพวกเพื่อนๆผมก็ไปกินข้าวและจะซื้อข้าวมาให้พวกผมแทน




“.....” ผมกินข้าวไปอย่างเงียบๆ ส่วนโปเต้ที่กินเยลลี่รองท้องไปหลายชิ้น ก็ลงมือกินข้าวแล้วเหมือนกัน และแน่นอนว่าข้าวสองกล่องมันไม่ใช่ปัญหาสำหรับโปเต้ เพราะต่อให้เขากินมันจนหมด เขาก็ยังสามารถกินได้อีกเรื่อยๆ




ผมกินไปได้ครึ่งกล่องก็ทำท่าจะปิดกล่องข้าว คือมันก็ยังไม่ถึงขั้นอิ่มหรอก แต่ผมอยากกินขนมด้วย เลยกินข้าวแค่นี้ เพราะกระเพาะผมไม่ได้เป็นหลุดดำแบบโปเต้ ถึงจะยัดอะไรลงไปได้หมด ถ้าทำแบบนั้นผมก็อ้วกแตกตายพอดี




“อิ่มแล้วเหรอ” โปเต้หันมาถามผม




“ยัง”




“แล้ว...”




“จะกินขนมกับจีน่า” ผมบอกเขา ก็ผมชอบกินนี่นา เห็นจีน่ามันนั่งกินล่อหน้าล่อตาแล้วมันก็อยากกิน




“กินข้าวให้อิ่มก่อน” โปเต้ว่าเสียงเรียบ




“แต่ผมอยากกินขนม” ผมยังคงยืนยันความต้องการของตัวเองต่อไป




“ติณณ์ ที่ห้ามเพราะเป็นห่วงนะ” โปเต้หยุดกินแล้วหันมาบอกด้วยสีหน้าจริงจัง




“...เข้าใจแล้ว” ผมได้แต่ยอมแล้วกินข้าวของตัวเองให้หมด ไม่ใช่ทำไปเพราะจำยอมหรือประชด แต่จะไม่ให้ทำแบบนี้ได้ยังไงล่ะ ก็ไอ้คนพูดน้อยมันเล่นพูดมาซะแบบนี้ เขินนะ แต่ไม่อยากแสดงออก




จนกระทั่งพวกผมกินข้าวเสร็จ ก็ใกล้จะถึงเวลาขึ้นเรียนพอ  พวกเราทั้งหมดเลยเรื่องที่จะขึ้นไปนั่งรอกันบนห้องครับ โดยที่ไม่รอแลนด์กับหลุยส์ ผมว่าแลนด์มันต้องชอบดินแน่ๆเลย แต่มันซึน เอาแต่บอกว่าเป็นเพื่อนๆ




ผมว่าถ้ามันปากแข็งแบบนี้มากๆ อีกฝ่ายก็คงจะเกิดอาการอยากเป็นเพื่อนขึ้นมาจริงๆซะล่ะมั้ง




“ติณณ์ อันไหนสวย” โปเต้ที่นั่งข้างๆผมเอ่ยถาม ก่อนที่จะยื่นโทรศัพท์ของนิดามาให้ผมดู มันเป็นร้านค้าในอินสตาร์แกรมน่ะครับ โปเต้คงไปยื่นโทรศัพท์นิดามาเปิดดู (อินสตาร์แกรมโปเต้เขาก็มีนะครับ แต่ติดตามแค่หมู่เพื่อนเท่านั้น)




เขาให้ผมดูสายรัดข้อมือที่มันเป็นหนังน่ะครับ บางอันก็ดูเท่ๆดี บางอันก็ดีวินเทจดี




“ก็สวยทั้งนั้นแหละ อยากได้เหรอ” ผมตอบก่อนจะถามกลับ




“อืม อยาก” โปเต้ตอบก่อนจะเลื่อนดูไปเรื่อยๆ




“จะซื้อจากในนี้เหรอ” ผมถามย้ำอีกครั้ง




“ก็ถ้ามันสวยถูกใจน่ะนะ”




“ผมว่าไปที่ร้านเลยไม่ดีกว่าเหรอ เผื่อสังมาแล้วมันใส่ไม่ได้” ผมบอกเขา เพราะโปเต้เป็นคนตัวใหญ่ ข้อมือก็ใหญ่มาก คราวที่แล้วก็สั่งมา แต่กลับใส่ไม่ได้ จนผมได้อนิสงค์มาใส่เองครับ บังเอิญมันพอดีข้อมือผม




“วันนี้พาไปหน่อย” โปเต้เงยหน้าขึ้นมาบอกผมอย่างกระตือรือร้น




“พูดเหมือนผมเป็นคนขับรถเน๊าะ นายจะไปไหนผมก็ไปด้วยอยู่ดีนั้นแหละ” ผมตอบก่อนจะยิ้มให้นิดนึง เวลาเขาจะให้ผมไปไหนด้วยกัน ผมก็ไม่เห็นจะเคยขัดเขาสักที




“หึๆ” โปเต้หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะส่งโทรศัพท์กลับคืนไปให้นิดา




“.....”




“.....” แล้วโปเต้ก็เอื้อมมือมาเล่นมือผม เขาเล่นข้างที่ผมใส่แหวนไว้ นั่งเล่นไปอมยิ้มไป ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ แต่ดูโรคจิตแปลกๆ




แต่ก็ช่างเหอะ มีความสุขก็ทำไป















ผมนั่งมองไป ดูดนมสดปั่นในมือไป ตอนนี้ผมกับโปเต้อยู่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งโปเต้ก็กำลังเลือกสายรัดข้อมืออยู่ ส่วนผมก็นั่งรออยู่ในร้านนั่นแหละ ยังดีที่ร้านนี้จัดเก้าอี้ไว้ให้ลูกค้านั่งด้วย ตัวเจ้าของร้านก็สุภาพดี แม้ว่าแขนทั้งสองข้างจะมีแต่รอยสัก แถมยังไว้หนวด แต่ด้วยความที่เป็นคนรูปร่างดี และหน้าตาดี มันเลยไม่ทำให้ภาพพี่เขาดูติดลบไป ออกจะเท่ด้วยซ้ำนะผมว่า




“เส้นนี้เท่าไหร่ครับพี่” โปเต้ถามพลางชูสร้อยข้อมือเส้นเล็กๆถามพี่เขา มันเป็นเหมือนโซ่เงินน่ะครับ สวยดีนะผมว่า




“สองร้อยห้าสิบน่ะน้อง แก้ไซด์ได้นะ จะเอายาวขึ้นหรือว่าสั้นลงก็ได้” พี่เขารีบขายของทันทีเลย




“...ติณณ์” โปเต้พยักหน้ากับคำพูดของพี่เขา ก่อนจะหันมาเรียกผม เหมือนจะให้เดินไปหา




“.....” ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาโปเต้ โดยทิ้งแก้วน้ำไว้ตรงเก้าอี้ก่อน




“.....” ผมมองหน้าโปเต้ประมาณว่าเรียกทำไม




“เอามั้ย” โปเต้ถามก่อนจะยื่นสร้อยข้อมือที่เขาถืออยู่มาให้ผมดู




“ก็สวยดี” ผมตอบเขาไป




“ผมถามว่าเอามั้ย” โปเต้ถามย้ำอีกรอบ




“จะเข้ากับผมเหรอ” ผมถามอย่างไม่ค่อยมั่น ปกติไม่ค่อยได้ใส่อะไรพวกนี้หรอก เพราะไม่ค่อยได้ไปไหน ตอนอยู่หอก็สิงอยู่ที่หออย่างเดียว จะมาเที่ยวบ่อยก็ตอนเป็นแฟนกับโปเต้นี่แหละ เดี๋ยวก็ชวนไปนู้นไปนี่




“ลองได้มั้ยครับ” โปเต้หันไปถามพี่เจ้าของร้าน




“ตามสบายเลยน้อง แล้วนี่เป็นแฟนกันเหรอ” พี่เขาว่า ก่อนจะถาม แต่สีหน้าพี่เขาดูชิลๆ ไม่ได้จะประชดหรือว่าอะไรเลย ดูเป็นมิตรมากครับ




“ครับ” โปเต้ตอบพี่เขา ก่อนจะหันมาจับมือผมขึ้นมาแล้วใส่สร้อยข้อมือให้ผม คือผมก็เป็นผิวขาวอ่ะนะ พอมาใส่อะไรที่มันเป็นเงินๆมันก็เลยทำให้ดูสว่างมากขึ้น ประมาณว่าช่วยขับผิวอ่ะครับ แถมมันยังพอดีข้อมือผมด้วย




“เฮ้ย ใส่แล้วสวยนะ เข้ามากๆเลย” พี่เจ้าของร้านพูดเชียร์ครับ




“สวยจริง ...ผมเอาสองเส้น” โปเต้หันไปบอกก่อนจะยื่นไปให้พี่เขา




“น้องก็ใส่ด้วยใช่มั้ย มา...เดี๋ยวพี่วัดข้อมือให้” พี่เขาว่าก่อนจะหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นมาทาบที่ข้อมือของโปเต้ ก่อนจะเดินไปที่เคาน์เตอร์ของที่ร้าน




“เดี๋ยวของผมจ่ายเองนะ” ผมบอกกับโปเต้ เพราะตั้งแต่เป็นแฟนกันมา ผมแทบจะไม่เคยต้องจ่ายอะไรเองเลย (เว้นแต่ว่าผมจะไปซื้อของกับพวกแลนด์แล้วซื้อของกินกลับมาฝากเขา อะไรแบบนี้) เวลาผมซื้อของ เขาชอบชิงจ่ายตัดหน้าผม ไม่ก็เวลาบอกว่าจะไปซื้อของมาทำงาน โปเต้ก็ชอบเอาเงินตัวเองมาใส่กระเป๋าสตางค์ผม แล้วหยิบเงินของผมออกไปใส่ในกระปุกออมสินในห้องแทน บางทีไปซื้อของด้วยกันก็ยื่นเงินใส่มือผมเลย แน่นอนว่าผมปฏิเสธทุกครั้ง แล้วก็แพ้สายตาดุๆของเขาทุกครั้งเลย




“ผมจ่ายให้” โปเต้บอกก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์จากกระเป๋ากางเกง




“แต่อันนี้ผมใส่ มันก็กลายเป็นของผม เดี๋ยวผมจ่ายเองดีกว่า” ผมบอกด้วยเหตุผล




“ทำไม”




“ก็มันเป็นของผมไง”




“แล้วทำไมไม่ทำให้มันเป็นของเราล่ะ” โปเต้ว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ




“.....” เออครับ...ช่วงนี้ขยันหยอดจริงๆ




“ผมจ่ายนั่นแหละ ดีแล้ว...ติณณ์คนเดียวผมเลี้ยงไหว”




“แต่นายจ่ายทุกอย่างเลยนี่นา ถามจริง...ไปเอาเงินมาจากไหน”




“เงินรายเดือนจากของพ่อ และของแม่ แล้วก็รับจ้างออกแบบให้บริษัทของแม่ แล้วก็เงินปันผลที่เปิดรีสอร์ทที่หัวหินกับพี่ปาร์” โปเต้บอกผมอย่างยิ้มๆ บอกตามตรงว่าผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ย




เออ ...โปเต้เขาหาเงินได้ แต่ผมนี่สิ ได้แค่เงินรายเดือนจากพี่ตาลที่ส่งเข้าบัญชีให้ทุกเดือน จากธุรกิจส่วนตัวของพี่ตาล และที่พี่ตาลทำร่วมกับพี่ปาร์ ซึ่งมันก็เป็นสองธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาก




“.....”




“ให้ผมจ่ายนั่นแหละ ไว้ผมจน ติณณ์ก็ค่อยเลี้ยงผม”




“ก็ได้” แล้วผมก็เถียงแพ้เขาอีกจนได้




“อ่ะนี่ สองเส้นพี่ลดให้เหลือสี่ร้อย” พี่เจ้าของร้านที่แก้ไซด์ซ้อนข้อมือของโปเต้เสร็จ ก็ยื่นมาให้โปเต้ลองใส่ดู




“ขอบคุณครับ”




“ว่าแต่น้องชื่ออะไรล่ะ” พี่เจ้าของร้านถามโปเต้




“นภัทร” โปเต้ตอบในขณะที่ใส่สร้อยข้อมือไปด้วย




“พี่ชื่อวิน พี่บอกตามตรงว่าพี่ถูกชะตาเอ็งว่ะ ดูนิ่งๆขรึมๆ ไม่ค่อยพูดดี แต่มีเสน่ห์มาก” พี่เขาพูดพลางมองหน้าโปเต้ และสรรพนามที่ใช้เรียกก็เปลี่ยน ราวกลับทำให้ดุสนิทขึ้น แต่...ถูกชะตานี่หมายถึงลักษณะไหนว่ะ




“.....” และโปเต้ก็คงจะสงสัยเหมือนผมเพราะเขาเงยหน้าขึ้นมามองพี่เขาทันที




“เฮ้ย ทำไมมองกันแบบนั้น พี่หมายถึงแบบ...ยังไงดีว่ะ ดูแลน่าจะคุยกันได้ไรงี้ ไม่ใช่เชิงชู้สาวนะเว้ย” พี่เขารีบแก้ตัว แต่หัวเราะไปด้วย




“.....” โปเต้พยักหน้าประมาณว่าเข้าใจ




“เอ้อ...เอ็งมีไลน์มั้ยนภัทร เอาไว้ของใหม่ลง หรือว่าพี่คิดแบบใหม่ได้ จะส่งให้เอ็งดูเป็นคนแรกเลย” พี่เขาว่า ซึ่งดูก็รู้ไม่น่าจะจีบโปเต้อะไรหรอก ดูเหมือนว่าพี่เขาจะถูกชะตาโปเต้จริงๆ




“ครับ” โปเต้ว่า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองไปให้พี่วิน (ขอเรียกพี่เขาแบบนี้ก็แล้วกัน)




“ดูท่าว่าเอ็งจะชอบของแบบนี้ใช่มั้ยว่ะนภัทร” พี่วินคุยกับโปเต้ในขณะที่กำลังแอดไลน์




“สนใจเสื้อป่าว เนี่ยแฮนด์เมท ส่วนลายนี่พี่คิดเอง ลองดูก่อนมั้ยล่ะ” พี่เขาว่าก่อนจะยื่นโทรศัพท์คืนไปให้โปเต้ ก่อนจะชี้ไปยังอีกมุมนึงของร้านที่มีพวกเสื้อผ้ากางเกง กระเป๋ารองเท้าอะไรอย่างงี้




“ครับ ...เดี๋ยวไปดูเสื้อก่อน” โปเต้ตอบพี่วิน ก่อนจะหันหน้ามาบอกผม แล้วเดินไปดูเสื้อของร้านนี้




“เอ็งชื่อติณณ์หรอว่ะ” พี่วินหันมาถามผม




“ครับ” ผมตอบพี่เขา ก่อนจะหยิบพวงกุญแจที่มันเป็นแฮนด์เมทที่อยู่บนเคาน์เตอร์มาดู ...สวยดีว่ะ




“ยังเรียนอยู่หนิ คณะอะไรล่ะ” พี่วินเริ่มชวนผมคุย




“สถาปัตย์ครับ ...อันนี้เท่าไหร่” ผมตอบ ก่อนจะถามถึงราคาพวงกุญแจ




“ร้อยห้าสิบ ...เรียนสถาปัตย์ แปลว่าชอบออกแบบอ่ะดิ”




“ครับ”




“ทั้งสองคนเลยใช่ป่ะ”




“แล้วเมื่อกี้เห็นนภัทรมันพูดว่ารับจ้างออกแบบด้วยใช่ป่ะ”




“ครับ รับจ้างออกแบบให้บริษัทแม่ของเขาน่ะ” ผมตอบก่อนจะวางพวงกุญแจรวมกับสร้อยข้อมือสองเส้นที่พวกผมจะซื้อ




“แล้วพวกสถาปัตย์นี่ออกแบบพวกสินค้า หรือผลิตภัณฑ์อะไรด้วยป่ะว่ะ”




“พวกผมเรียนออกแบบภายใน”




“อ๋อ โทษที พอดีพี่จบศิลปกรรมมาน่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับคณะอื่นหรอก แต่พวกเอ็งก็มีหัวศิลป์เหมือนกันสินะ ชอบออกแบบใช่ป่ะ” พี่วินถาม ส่วนมือพี่เขาก็กำลังทำสายรัดข้อมืออยู่ ดูเหมือนว่าของในร้านทั้งหมดนี่ พี่วินน่าจะเป็นคนทำน่ะ แม่งเจ๋งดีว่ะ




“ครับ”




“ถ้าพี่จะจ้างให้มาออกแบบของในร้านนี่ จะรับงานป่ะ” พี่วินถามผม




“จะดีเหรอพี่”




“เออดิ เนี่ย...ลูกค้าแม่งเริ่มบ่นพี่ล่ะ ว่าของให้ร้านมีแต่แนวเดิมๆ ก็พี่เป็นคนออกแบบใช่มั้ยล่ะ พี่ก็ชอบสไตล์นี้ สไตล์อื่นพี่คิดไม่ออก จะไปหาจ้างใคร พี่ก็ไม่รู้ว่าจะยังไง เพื่อนพี่ที่เปิดร้านแบบพี่มันก็มี แต่จะให้มันช่วยเดี๋ยวมันจะซ้ำกับของในร้านมัน ส่วนคนอื่นแม่งก็ธุรกิจรัดตัวจริง แค่งานของพวกมันพี่ก้ว่าก็หนักมากแล้ว ก็พวกมันเล่นชิ้งแต่งงานกันหมด จนต้องหาเงินเลี้ยงทั้งลูกเลี้ยงทั้งเมีย ไหนจะตัวเองอีก แล้วยังต้องส่งเงินให้ที่บ้านอีก พี่ก็ไม่อยากจะไปรบกวนมัน เพราะแค่พี่เอ่ยบอก มันต้องยอมช่วยพี่แน่นอน แล้วทีนี้พวกมันแม่งก็จะไม่มีเวลาพักน่ะ” พี่วินเล่าให้ผมฟังราวกับเราสนิทกันมาก ทั้งที่ความจริง พึ่งจะรู้จักชื่อของกันและกันเมื่อกี้นี่เอง




“ให้ออกแบบพวกอะไรล่ะพี่” ผมถามพี่วิน ซึ่งตัวผมเองก็ดีเหมือนกัน ถ้าได้ทำงาน จะได้มีเงินเก็บเยอะขึ้น ไม่อยากจะรบกวนพี่ตาลมาก




“ก็เนี่ย...ของขายในร้านนี่แหละ เอ็งก็ดูว่ามันมีแต่แนวๆเดียวกันใช่ป่ะ แล้วตอนนี้ลูกค้าส่วนใหญ่ก็อยากได้แบบ...ที่มันคนละสไตล์ที่พี่ออกแบบว่ะ แต่เอาแบบที่ว่า ...ใส่แล้วมันแมชกับของเดิมด้วย ...พี่คิดว่ามันก็ดี มันอาจจะช่วยเรียกลูกค้าหน้าใหม่เข้าร้านได้บ้าง”




“แต่ผมไม่ได้เรียนออกแบบผลิตภัณฑ์นะพี่ ถ้าผมทำงานพี่เสียล่ะ”




“เฮ้ย ของแบบนี้มันอยู่ที่จิตรนาการเว้ย มันไม่มีขอบเขตอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะเอามาประยุกต์ใช้ยังไงต่างหาก” พี่วินว่าพลางยิ้มขำ




“.....” ผมยังไม่ทันจะพูดอะไร โปเต้ก็เดินกลับมา พร้อมกับเสื้อสองตัว กางเกงสามตัว




“มาพอดีเลย ได้ยินเรื่องที่พี่พูดกับแฟนเอ็งป่ะนภัทร” พี่วินหันไปถามโปเต้




“จ้างออกแบบของ??” โปเต้บอกพี่วิน




“เออ นั่นแหละ ว่าไง เอ็งสนใจด้วยมั้ย...เนี่ย พี่จ้างสองคนเลย” พี่วินว่าอย่างพยายามเต็มที่ เหมือนอยากให้พวกผมรับงานนี่มาก




“ผมไม่มั่นใจหรอก ว่าจะทำได้มั้ย เอาไว้ร่างแบบแล้วส่งให้ในไลน์ล่ะกัน ถูกใจพี่ก็จ้าง ไม่ถูกใจไว้จะแก้งานให้” โปเต้ว่าราวกับต่อรองธุรกิจ




“เออ ก็ดีว่ะ เอ็งแม่ง...เป็นคนตรงดีว่ะ เนี่ย...พี่ถูกชะตาคนแบบเอ็งสองคนมากว่ะ คุยถูกคอดี” พี่วินว่าอย่างขำๆ ก่อนจะรับเสื้อกับกางเกงจากมือโปเต้มาใส่ถุง




“.....” ผมสองคนไม่ได้ตอบอะไร




“สร้อยข้อมือสองเส้น พวงกุญแจสองอัน เสื้อสองตัว กางเกงสามตัว ...ทั้งหมดสองพันแปดห้าสิบ เห็นว่าคุยถูกคอดี พี่ลดให้เหลือสองพันห้าล่ะกัน”




“ขอบคุณครับ” โปเต้เอ่ยขอบคุณพี่วิน ก่อนจะยื่นเงินไปให้พี่เขาสามพัน




“อ่ะ เงินทอน” พี่วินทอนเงินให้โปเต้ ก่อนจะยื่นถุงเสื้อผ้ามาให้ และถุงใบเล็กๆที่ใส่พวงกุญแจครับ ส่วนสร้อยข้อมือที่ซื้อ ผมสองคนหยิบมาใส่เรียบร้อยแล้วครับ




“อีกสองวัน รองเท้าจะเข้าร้าน แน่นอนว่าพี่ออกแบบเอง ไว้จะส่งไปให้ดูในไลน์ แล้วนี่บัตรส่วนลด ถ้าซื้อเกินสองพันบาทขึ้นไป จะได้ส่วนลดสองร้อย ถ้าสามพันก็สามร้อย ถ้ามากกว่านั้นจะมีข้อแถม” พี่วินว่า ก่อนจะยื่นบัตรส่วนลดไปให้โปเต้




“ครับ”




“เออ ไว้ว่างๆจะโทร.ชวนไปกินข้าว” พี่วินว่าอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะหันไปสนใจกันงานของพี่เขาต่อ ส่วนผมสองคนก็เดินออกมาจากร้านครับ




“ไปกินเค้กกัน” โปเต้หันมาชวนผม




“อืม”




โปเต้พาผมมาที่ร้านเค้กที่อยู่ในห้างฯนั่นแหละ ซึ่งเขามาบ่อยมากๆ เนื่องจากเครื่องดื่มที่นี่อร่อย ของหวานก็ถูกปาก มันเลยกลายเป็นร้านประจำของโปเต้ไป




“ติณณ์เอาไร” โปเต้หันมาถาม เมื่อเรานั่งลงที่โต๊ะในร้าน และพนักงานก็มายื่นรอจดเมนู




“ชามะนาวเย็น” ผมตอบโปเต้ เพราะตอนที่ซื้อของร้านพี่วิน ผมก็กินนมสดปั่นไปแก้วนึงล่ะ เฮ้ย...ผมลืมแก้วไว้ในร้านพี่วินนี่หว่า




...ช่างเหอะ ให้พี่วินเก็บไป คิดซะว่าผมลืม (ก็มันลืมจริงๆ)




“เอาชามะนาวเย็น ชาเขียวนมสดปั่น สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ฮันนี่โทสต์ พายแอปเปิ้ล สามอย่างนี้กินที่นี่ แล้วก็เอาสตรอเบอร์รี่พานาคอตต้า บราวน์นี่สองชิ้น มาการองสามกล่อง (ที่นี่เขาขายเป็นกล่องครับ กล่องละห้าชิ้น) เครปเค้กหนึ่งชิ้น ชูครีมสองชิ้น แล้วก็พุดดิ้งสามชิ้น ...กลับบ้าน” โปเต้ยาวเยียด จนพนักงานเร่งจดแบบกลัวจดไม่ทัน




“เอ่อ...ทวนรายการนะค่ะ ที่ทานที่นี่ก็มีชามะนาวเย็น ชาเขียวนมสดปั่น สตรอเบอร์รี่ชีสเค้ก ฮันนี่โทสต์ แล้วก็พายแอปเปิ้ล แล้วที่เอากลับบ้านก็มีสตรอเบอร์รี่พานาคอตต้าหนึ่งชิ้น บราวน์นี่สองชิ้น มาการองสามกล่อง ชูครีมสองชิ้น แล้วก็พุดดิ้งสามชิ้นนะคะ” พนักงานเอ่ยทวนรายการ




“เครปเค้กด้วยหนึ่งชิ้น” โปเต้เอ่ยบอก เมื่อพนักงานไม่ได้ทวนชื่อรายการนี้




“อ๋อ ค่ะๆ” พนักงานรีบจดเพิ่มทันที ก่อนจะเดินไป




“วันนี้ใช้เงินเก่งนะ” ผมเอ่ยบอกเขา แม้ว่าในแต่ละเดือน (น่าจะ) มีเงินเข้าบัญชีเขามาเยอะ แต่ผมก็ไม่อยากให้เขาใช้เงินเยอะๆแบบนี้บ่อยอ่ะ เดี๋ยวเขาจะใช้เพลินจนลืมเก็บ




“นานๆทีน่ะ” โปเต้ตอบผมเสียงเรียบ




“ถ้าเรื่องซื้อเสื้อผ้าหรือพวกของที่ซื้อจากร้านพี่วินวันนี้น่ะ ไม่เถียง ...แต่ไอ้เรื่องของกินเนี่ย ซื้อเยอะไปนะผมว่า...” ผมบอกเขา เพราะเขาหมดเงินไปกับร้านเบเกอรี่ วันนึงก็ไม่ต่ำกว่าสามร้อยอ่ะ




“ก็ผมชอบ” โปเต้ตอบพลางเบะปากนิดๆ มันดูน่ารักและน่าเตะไปในเวลาเดียวกัน




“ไว้ผมทำให้กินเอามั้ย” ผมเสนอ เพราะไอ้ของพวกนี้ ผมก็พอทำเป็นอยู่บ้าน เพราะตอนเด็กเคยช่วยพี่ตาลทำทุกวัน หลังกลับจากโรงเรียน ตอนที่เราสองพี่น้องยังลำบากกันอยู่ ยังไม่ได้มีกินมีใช้อย่างทุกวันนี้ ตอนนี้พี่ตาลทำขนมส่งไปขายที่ร้านเบเกอรี่ในหมาลัยตัวเอง




“ทำเป็น?”



“อืม” ผมว่าทำเองมันน่าจะถูกกว่าซื้อเขากินอ่ะ




“เอาอย่างงั้นก็ได้ วันหลังนะ วันนี้สั่งเขาไปแล้ว”




“อืม แต่คงจะทำให้หลายๆอย่างไม่ไหวหรอกนะ อยากมากก็อย่างสองอย่างอ่ะ” ผมบอกเขา เพราะถ้าผมคนเดียวเป็นคนทำ มันก็ต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน




“ครับ” โปเต้ว่าก่อนจะยิ้มให้ผม




....ช่วงนี้นี่ยิ้มบ่อยเหลือเกินนะ




พอกลับมาถึงบ้าน พวกผมก็ขึ้นห้องไปนอนแผ่อยู่บนเตียงเลยครับ รู้สึกว่าเดินเยอะมาก จนเริ่มปวดขาล่ะ




“โปเต้ ไปอาบน้ำก่อน” ผมบอกโปเต้ที่นอนอยู่ข้างๆกัน ทั้งที่ผมยังหลับตาอยู่




“ติณณ์ก่อนเลย”




“โปเต้นั่นแหละ”




“ติณณ์ก่อน”




“เอ๊ะ...” ผมส่งเสียงอย่างขัดใจหน่อยๆ ลืมตาแล้วหันไปมองหน้าเขา ที่มองมาทางผมอยู่ก่อนแล้ว




“หรือจะอาบด้วยกัน” โปเต้ถามก่อนจะยิ้มนิดๆ




“ไม่” แน่นอนว่าผมปฏิเสธ เกิดมายังไม่เคยอาบน้ำกับใครเลย




“ทำไมล่ะ...” โปเต้ถามแบบลากเสียงยาวในตอนท้าย ก่อนจะพลิกตัวมานอนทับผม




“จะอาบก็อาบคนเดียวสิ” ผมตอบพลางเบี่ยงหน้าหลบปากโปเต้ที่กำลังก้มลงมาจูบผม ทำให้เขาพลาดไปจูบแก้มผมแทน แต่โปเต้ไม่หยุดแค่นั้น เพราะเขากัดแก้มผมเบาๆซ้ำๆ จนผมรู้สึกจั๊กจี้




“โปเต้...อย่า จั๊กจี้” ผมเอ่ยบอก แต่เขาไม่ยอมหยุด ผมเลิกใช้มือกำเส้นผมของโปเต้ แล้วจิกเขาขึ้นมาเลย




“โหย...เดี๋ยวนี้จิกหัวเลยเหรอ” โปเต้ว่าก่อนจะจับข้อมือผมที่จิกหัวเขาอยู่นั้นออก ก่อนจะกดข้อมือทั้งสองข้างของผมลงบนเตียง




“ปล่อยผม แล้วไปอาบน้ำได้แล้วววววว” ผมส่งเสียงพร้อมทั้งบิดข้อมือไปด้วย แต่ทำได้ยังมันก็ไม่หลุดอ่ะ




“ม่ายยยยย” โปเต้ลากเสียงยาวตามผมปาก ก่อนจะก้มลองมาประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผม ก่อนจะค่อยๆ บดเบียดมันให้แนบชิดกว่าเดิม ลิ้นร้อนๆค่อยๆแตะที่ริมฝีปากผมเบาๆ ราวกลับขออนุญาต และมันก็ทำสำเร็จ จนตอนนี้ได้เข้ามาสำรวจในปากของผม โปเต้บดจูบและเกี่ยวตวัดลิ้นจนเรี่ยวแรงผมหายไปหมด




“แฮ่กๆ” นั่นคือเสียงหอบของผม หลังจากที่โปเต้ถอดถอนปากตัวเองออกจากปากของผม




“.....” โปเต้ยิ้มนิดก่อนจะพรมจูบไปทั่วใบหน้าของผม




“พอแล้ว” ผมบอกเสียงอ่อน




“หึๆ ...ไปอาบน้ำก่อนนะ” โปเต้กระซิบบอกผม ก่อนจะลุกขึ้น แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ทิ้งผมให้นอนหอบแหกๆอยู่คนเดียว




แต่ว่า...ความรู้สึกอุ่นๆ ที่ริมฝีปาก มันยังคงอยู่




“.....” ผมยกมือขึ้นแตะปากตัวเองเบาๆ




และนั่น...ทำให้ผมยิ้มกว้างโดยไม่รู้ตัว ...ไอ้บ้า ชอบมาทำให้เขิน -////-






*********************************************************************



FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL) พึ่งเล่น ไปฟอลโล่กันหน่อยยยยยยย
นี่แหละ...ที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 05-05-2015 02:39:21
มาดึกอ่ะ :ruready ดีนะทำงานอยู่เลยได้ฟินตอนดึก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 05-05-2015 02:45:59
เรื่อยๆสบายๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 05-05-2015 02:49:15
น่ารักกกกกกกกกกกกก :hao7: :hao7: รักติณณ์มากกกกกกกกกกก มากกกกกกกกก โปเต้อย่าต่อยเรานะ ขอรักด้วยคน55555555 :hao5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-05-2015 03:27:18
โปเต้น่ารักกก. ฟินอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 05-05-2015 07:29:47
โปเต้บทจะดื้อก็ดื้อ บทจะเสี่ยวก็เสี่ยว


ฮาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-05-2015 07:33:04
โปเต้น่ารักอ่ะเทคแคร์ติณน์น่าดูเลย มีฟินเบาๆ ตอนจบด้วย โอ๊ยคู่นี้จะน่ารักไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-05-2015 07:54:23
น่ารัก อบอุ่น นี่นึกไม่ออกว่าจะมีเรื่องอะไรมาทำให้งอนหรือทะเลาะกันเลย มือที่สามก็คงไม่แน่นอน :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-05-2015 08:18:59
งุ้ยยย น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-05-2015 08:27:50
หวานได้อีอี๊กกกกกคู่นี้ ชอบมากๆๆๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 05-05-2015 08:58:27
โปเต้กินเก่งสุดๆเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 05-05-2015 09:13:11
พอได้เป็นแฟนกันแล้วโปเต้หวานตลอดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-05-2015 09:16:28
อ่านแล้วอิจฉาโปเต้หลายๆแง่. แกมีกะเพราะหลุมดำที่สูบของหวานทุกอย่างได้. !!!  แถมติณณ์น้อยก็จะทำขนมให้กินด้วย
ที่อิจฉาที่สุดคือตบท้ายของหวานด้วยการดูดปากน้อง. แกเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำอย่างเดียวเหรอโปเต้.   :hao6:
คบกันมาสักพักแล้วแต่ดูโปเต้ถนอมน้องมากๆเลย. แกทนยังไงเนี้ยตั้งนานแถมนอนกอดกันทุกวัน

น้องติณน่ารักที่สุดแบบฉุดไม่อยู่. มีแฟนแล้วมุ้งมิ้งขึ้นเป็นกอง อย่าให้คลาดสายตาเลยนะพ่อโปเต้คนดัง
ยิ่งมีคนมาสนใจก็อาจจะมีพวกชอบแย่งชอบทดสอบความรักของคนอื่นมาวุ่นวาย.
แต่ของหวานๆแบบนี้เถอะค่ะคนเขียน. คู่ดินแลนด์แดนแห่งความรักนั่นน่ะต้องขยายอีกสักคู่.  ขอบคุณค่ะ.  :mew1: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 05-05-2015 09:23:53
ตอนนี้หว๊านหวานอะ จะเป็นเบาหวานมั้ยเนี่ย อิอิ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 05-05-2015 09:28:33
น่าร้ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-05-2015 09:42:53
คู่นี้หวานขึ้นทุกวัน  เดี๋ยวนี้โปเต้ทำตินณ์เขินบ่อยๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 05-05-2015 09:51:42
ฟังชื่อขนมที่โปเต้สั่งแล้ว นึกภาพแล้วอยากกินมากกกกกกกกก

โปเต้นี่รวยไม่ใช่เล่นนะ มิน่าถึงบอกว่าติณณ์คนเดียวเลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว 

คู่นี้คงไม่มีมาม่าเกิดขึ้น อยากรู้ว่าถ้าพี่ปา กับพี่ตาลรู้เรื่องของทั้งคู่จะเป็นไงบ้าง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-05-2015 10:08:53
น่ารักกันจริงเชียว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 05-05-2015 10:31:13
ฟินอ่าาาาาาาา >\\\\\<
ฟินมันทู๊กตอน คราวนี้มาเต็ม 100% ด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 05-05-2015 10:51:16
เรื่อยๆรอคอยช่วงโปเต้หื่นแตกอยู่ :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 05-05-2015 11:27:40
น่าร๊ากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-05-2015 11:51:32
คนอ่านสิเขินนนนนนนนนนนน
รอวันไปเที่ยวอยู่น้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 05-05-2015 12:25:15
คู่นี้เขาก็หวานกันเรื่อยๆ   :o8:
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 05-05-2015 13:22:34
สวีทหวานกันไปมั้ยยย  เปิดตัวชิวๆไม่กั๊กกันเลยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 05-05-2015 14:06:45
รู้สึกว่าช่วงนี้โปเต้กรุ้มกริ่มบ่อย ติณเขินแย่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 05-05-2015 17:53:19
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 05-05-2015 18:22:06
หวานไปอีก. โอ๊ยๆๆๆ น่ารักมากกก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 05-05-2015 18:28:08
น่ารัก หวานเบาๆเหมือนเดิม โปเต้น่ารักขึ้นทุกวัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: chisarachi ที่ 05-05-2015 19:17:51
โปเต้นี่รวยจริง
อยากถวายตัวใส่พานให้โปเต้เลี้ยงบ้าง555555555  (เขาจะเอาไหม)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 05-05-2015 19:36:47
ตั้ลล้ากกกกกก ทำไมชอบขยันทำให้เขิน ฮืออออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 05-05-2015 21:03:20
นับวันยิ่งน่าร้ากกกกกกกก ชอบตอนโปเต้เขิลลลลล
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 05-05-2015 21:49:12
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 05-05-2015 21:58:00
น่ารักมากขึ้นทุกวัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 06-05-2015 11:51:39
โปเต้ น่าย๊ากกกกกกก :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 18 P.33 5/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 06-05-2015 11:52:16
โอยยย เขินจนจะเป็นลม  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 07-05-2015 01:18:08
ตอนที่ 19










“ไอ้ติณณ์ ไอ้ภัทร ไม่ลงมาเล่นด้วยกันเหรอว่ะ” เสียงแลนด์ตะโกนเรียกผมกับโปเต้ที่นั่งอยู่ริมสระของคอนโดจิน




วันนี้พวกเรามาเล่นน้ำที่คอนโดจินกันครับ แต่จะใช้ว่าเรามันก็ไม่ถูก เพราะผมกับโปเต้ไม่ได้ลงเล่น ผมนอนอ่านหนังนิยายฆาตกรรมที่เอามาด้วย ส่วนโปเต้นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์ พวกที่เหลือก็ลอยคออยู่สระน้ำกันครับ




“.....” ผมกับโปเต้พากับส่ายหน้า คือ...ตอนนี้มันยังมีแดดอยู่ไงครับ ผมยังไม่อยากลง อีกอย่างโปเต้ก็บอกยังไม่ให้ลง เดี๋ยวจะไม่สบาย ไว้แดดร่มกว่านี้ก่อน




“ติณณ์ อยากนอน” โปเต้ที่นั่งอยู่บนเสื่อกับพื้นเอ่ยบอกผม (ผมนอนอยู่บนเก้าอี้นอนครับ ซึ่งก็อยู่ข้างๆกันนี่แหละ)




“ก็นอนสิ” ผมตอบเขา เพราะจินเอาเสื้อกับหมอนเล็กๆมาให้ด้วย เผื่อใครจะนอนรับลม ซึ่งมันก็มีทั้งลมทั้งแดด แต่ยังดีที่สระน้ำนี้มีร่มด้วย อ้อ...คุณชาย (แมว) ก็มาด้วยนะครับ อยู่นิ่งมากๆเลย ไม่ซนไม่วิ่งครับ นอนอยู่บนเก้าอี้ตัวถัดไปจากผม




“อยากนอนกับติณณ์”




“ผมอ่านหนังสืออยู่” ผมบอกโดยที่ตายังไม่ละไปจากหนังสือ




“.....” โปเต้เงียบไป ผมเอาต้องหยิบที่คั่นหนังสือมาคั่นหน้าที่อ่านค้างเอาไว้ ก่อนจะวางไว้ที่โต๊ะเล็กๆข้างๆ แล้วหันไปดูคนที่นอนลงไปบนเสื่อ แต่หันหลังให้ผมครับ ...งอนเหรอว่ะ?




เฮ้ย...เอาจริงดิ???




“โปเต้...” ผมเรียกเขา




“.....” เงียบครับ ไม่หันด้วย ผมรู้หรอกว่าโปเต้ยังไม่หลับ




“โปเต้” ผมเรียกอีก คราวนี้เอื้อมมือไปสะกิดด้วยเลย และผลที่ได้คือ ไม่หันครับ แถมยังขยับตัวหนีอีก



“.....”




“งอนเหรอ?” ผมแกล้งแหย่ถาม แน่นอนว่าไม่มีเสียงตอบกลับมา




“.....”




“นี่...เรื่องแค่นี้เนี่ยนะ”




“.....” ยังเงียบอีก




“โปเต้...”




“.....”




สุดท้ายไม่ว่าผมจะเรียกเขายังไง เขาก็ไม่หันมาหาผมเลยครับ ผมเลยลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปหาเขาเอง พบว่าโปเต้ไม่ได้หลับหรอก นอนตะแคงข้างแต่ก็ยังลืมตาอยู่




“มาๆๆ มานอนกัน” ผมเอ่ยบอก ...เหมือนกำลังง้อเด็กอยู่เลย ว่าม่ะ




“.....” โปเต้ตอบ ก่อนทำท่าจะพลิกตัวหนีผม แต่ผมจับตัวเขาเอาไว้ไม่ให้พลิกหนี




“อย่ามาทำตัวเป็นเด็กนะ..เหวอ” ผมพูดก่อนจะร้องออกมาอย่างตกใจ เมื่อโปเต้ฉุดแขนผม ทำให้ผมเสียหลักล้มลง นอนทับบนอกเขา ก่อนที่โปเต้จะกอดผมเอาไว้นอน หน้าผมนี่แทบจะติดกับหน้าเขาอยู่ล่ะ




“หึๆ” โปเต้ยิ้มๆนิด ก่อนจะหัวเราะในลำคอ ตานี่เจ้าเล่ห์มาก นี่เขาหลอกว่าเขางอนผมเหรอ ไอ้หน้าหวานเจ้าเลห์!




“โปเต้ ...อะไรเนี่ย แผนนายใช่มั้ย ปล่อยเลยนะ” ผมเริ่มโวยวายนิดหน่อยเมื่อรู้ตัวว่าเสียรู้เขาเสียแล้ว




“ใช่ แต่...ไม่ปล่อย” โปเต้บอกผมอย่างยิ้มๆ ก่อนจะขโมยหอมแก้มผมหน้าตาเฉย




“อื้อ! ...อย่า เพื่อนก็อยู่ตั้งเยอะนะ!” ผมเอ็ดเขา ...ทั้งที่จริงน่ะผมเขิน




“คนกันเองทั้งนั้น”




“ไม่เอา ปล่อยเลยนะ” ผมพูดเสียงเข้ม




“จูบก่อน” โปเต้ว่าอย่างยิ้มๆ แต่...จูบเนี่ยนะ




“ไม่จูบ ปล่อยเลย” ผมว่าพลางดิ้น และรู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ




“ไม่ จูบก่อน” โปเต้ว่าพลางทำปากจู๋ได้น่าถีบมาก วันนี้อะไรเข้าสิงเขาเนี่ย กวนตีนพิลึก




“อ่ะ ...จะจูบก็จูบ” ผมบอกอย่างว่าง่าย ก่อนจะตั้งท่าให้เขาจูบผม ...ดูสิโปเต้จะมีปฏิกิริยายังไง (ถ้าเป็นปกติเขาจะรุกจูบผมก่อนอยู่เสมอ)




“ติณณ์นั่นแหละ จูบผม”




“เอ๊ะ!” ผมส่งเสียงอย่างขัดใจ อะไรของเขาเนี่ย ชอบมากรึไงที่จะทำให้ผมเขินเนี่ย




“จูบ” พูดไม่พอ ยังทำปากจู๋ใส่อีก




“....”




“...อื้อออออ!” แน่นอนว่าผมก้มลงไปจูบเขา แต่สิ่งที่ทำมากว่านั่นคือ ผมพ่นลมใส่ปากเขา




“หึๆ” ผมถอนริมฝีปากออก ก่อนจะหัวเราะอย่างสะใจนิดๆ




“แค่กๆ ...เลยอะไรเนี่ย” โปเต้คล้ายๆจะสำลักลมที่ผมเปาใส่ปากเขา ก่อนจะถาม




“จูบไง หึๆ ...แดดร่มแล้ว ผมไปเล่นน้ำนะ” ผมเอ่ยบอกเมื่อหัวไปมองท้องฟ้า ที่แดดเริ่มจะค่อยๆหายไป แน่ล่ะ ก็มันเป็นเวลาเย็นของวันแล้วหนิ




“ได้ แต่...” โปเต้ว่าก่อนยิ้มนิดๆ และแล้วเขาก็ทำให้ผมตกใจ เมื่ออยู่ๆ เขาก็เด้งตัวขึ้นมา ก่อนจะรวบตัวผมแล้วอุ้มผมขึ้น ราวกับผมตัวเบา ทั้งที่จริงผมก็หนักมากเลยแน่ (แน่สิ ก็ผมผู้ชายนี่หว่า ไม่ใช่ผู้หญิง)




“เฮ้ย! อุ้มไหวได้ไงเนี่ย” ผมร้องถามอย่างตกใจ แขนนี่ก็กอดคอโปเต้เอาไว้แน่น กลัวตก




“แข็งแรงไง” โปเต้ตอบก่อนจะเดินไปที่สระไว้น้ำ ที่แค่สามก้าวก็ถึงแล้ว




“โปเต้...ไม่เล่นนะ” ผมบอกเขา ...เดินมาแบบนี้ รู้เลยว่าจะทำอะไร




“เมื่อกี้ทำอะไรไว้” โปเต้ถามพลางมองอย่างเจ้าเล่ห์




“เฮ้ย! ไอ้ภัทร! ...โยนลงมาเลย” เสียงเชียร์จากหลุยส์ครับ




“เออๆ โยนมาเลยๆ กูอยากเห็น ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” แน่นอนว่าแลนด์มันยุเพิ่ม ไม่มีหรอกครับที่จะห้ามน่ะ




“ไม่เอา โปเต้! ไม่เอา!!!” ผมบอกเสียงดัง พลางกอดคอเขาแน่นขึ้น เอาสิ ...ถ้าเขาโยนผม เขาก็ต้องตกไปกับผมด้วย




“ยังไม่ได้เอา แค่จะเล่นน้ำ” โปเต้พูดเสียงดัง จนพวกเพื่อนๆต่างก็หัวเราะซะเสียงดัง




“คนละเอาแล้วไอ้บ้า!” ผมตะโกนตอบกลับ ก่อนจะใช้มือสองข้างผลักหน้าเขาที่ทำท่าจะเข้ามาใกล้หน้าผม




แต่ว่า...




ตู้ม!!!!




แล้วก็เสียรู้จนได้ เมื่อโปเต้อาศัยจังหวะที่ผมปล่อยมือจากคอเขา มาผลักหน้าเขาออก เขาก็โยนผมลงน้ำทันที ด้วยความที่เอาหลังลง แม่งโคตรเจ็บเลย




“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สมน้ำหน้าไอ้ติณณ์” พวกเพื่อนก็ใช้ว่าจะมีคนเห็นใจเข้ามาดูผมนะ มีแต่หัวเราะและซ้ำเติมผมทั้งนั้น รวมทั้งดอมินิกที่กอดคอจินอยู่ก็ด้วย ขนาดว่าดอมินิกเป็นคนเงียบๆ มีมารยาทที่สุดแล้วนะนั่น




แล้วสุดท้ายโปเต้ก็ตามลงมาเล่นน้ำด้วย สนุกสานเฮฮากันไปครับ มันเป็นวันที่ผมรู้สึกว่ามีความสุขมากๆวันนึงเลยนะ เพราะผมไม่เคยได้มาเล่นมาหัวเราะกับเพื่อนแบบนี้เลย ทำให้ผมเริ่มคิดว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมเอาแต่คิดถึงตัวเองมากไป จนไม่ได้มองคนรอบข้าง ที่เขาพร้อมจะใช้เวลาร่วมกันกับผม ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือว่าแฟนก็ตาม















ผมเล่นน้ำได้ประมาณสิบนาที โปเต้ก็ให้ขึ้น เพราะเดี๋ยวผมจะไม่สบาย ดอมินิกเองก็ถูกบังคับให้ขึ้นเหมือนกัน (อลันเคยเล่าให้ผมฟังว่าดอมินิกร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ยิ่งตอนเด็กๆเป็นหนักกว่านี้อีก) ส่วนที่เหลือขอเล่นต่อ เลยมีแค่ผม โปเต้ ดอมินิก และจิน ที่ขึ้นมาอาบน้ำที่ห้องของจิน แน่นอนว่าผมเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยน เพราะในใจก็อยากจะเล่นอยู่แล้ว โปเต้เองก็เอามาเหมือนกัน




ห้องของจินมีห้องน้ำอยู่สองห้อง ห้องนึงอยู่ในห้องนอนของจิน ส่วนอีกห้องอยู่ข้างๆกับห้องครัว จินกับดอมินิกเข้าห้องนอนของตัวเองไป ส่วนผมกับโปเต้เลยว่าจะมาอาบอีกห้องนึง แต่ว่า...




“เข้ามาทำไมเนี่ย” ผมถามโปเต้อย่างงงๆ เมื่อผมเดินเข้ามาในห้องน้ำ แต่พอจะหันไปปิดประตู ก็พบว่าโปเต้เดินตามเข้ามาด้วย แถมยังปิดประตูล็อคกลอนพร้อมซะเสร็จสรรพ




“อาบน้ำไง” ตอบหน้าซื่อได้น่าตบมาก




“เฮ้ย ...ผมอาบก่อน นายไปรอข้างนอก” ผมร้องบอก ก่อนจะจับมือโปเต้ที่กำลังจะถอดเสื้อตัวเอง มือไวจริงๆ




“หนาวจะตาย”




“งั้นนายไปอาบ ผมจะไปรอข้างนอก” ผมบอกก่อนจะเดินไปที่ประตู แต่ติดตรงที่โปเต้ขยับตัวมายืนขวางผม (คือห้องน้ำนี้มันใหญ่พอที่ผู้ชายตัวควายสองคนจะมายืนเบียดกันอยู่หรอก)




“ไปรอทำไม” โปเต้ว่าก่อนจะกักตัวผมไว้ในอ้อมแขนของเขา




“เอ้า!” ผมส่งเสียงอย่างขัดใจ




“อาบด้วยกัน” ว่าจย ก็ขโมยหอมแก้มผมไปทีนึง




“ไม่เอา” แน่นอนว่าผมปฏิเสธทันที จะบ้าเหรอ...ฌกิดมายังไม่เคยอาบน้ำกับใครเลย ไปค่ายก็แอบหลบไปอาบคนเดียวตลอด




“ต้องเอาแล้วแหละ มาๆเดี๋ยวช่วยถอด” โปเต้ว่าก่อนจะจับชายเสื้อของผมแล้วจะถอดให้จริง ผมนี่รีบตะปบมือโปเต้ไว้เลยครับ




“ไม่เอา นายจะอาบก็อาบไปคนเดียวสิ”




“ทำไม...รังเกียจเหรอ” โปเต้เอ่ยเสียงเรียบ แถมแววตายังดุขึ้นมายี่สิบเปอร์เซ็นต์




“ก็...เปล่า” ผมตอบไปแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก




“แล้วทำไม...”




“ก็ผมไม่เคยอาบกับใคร ผมอาย” ผมบอกไปตามตรง




“หึๆ” นั่นคือเสียงตอบกลับของโปเต้ ...ยังมีหน้ามาหัวเราะใส่อีก




“หัวเราะอะไร” ผมฟาดมือไปที่แขนของเขา




“เปล่า ...นี่ ผมไม่ทำอะไรหรอกน่า” โปเต้บอกก่อนก้มหน้าลงมาหอมแก้มผม ...นี่ขนาดยังไม่อาบน้ำ




“ก็มัน..ฮัดชิ่ว!” ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรเลย ผมก็จามใส่หน้าโปเต้ซะอย่างนั้น




“.....” โปเต้ไม่พูดอะไร แต่ยืนหลับตากันน้ำลายกระเด็นใส่ตาเขาอยู่




“เฮ้ย! ผมขอโทษ” ผมว่าก่อนจะใช้มือเช็ดหน้าให้เขา ไม่รู้หรอกว่ากระเด็นโดนมั้ย ผมเช็ดไปมั่วๆ




“ไม่เป็นไรๆ แต่ผมว่ารีบอาบน้ำเถอะ”




“ตกลง...จะอาบน้ำกันจริงอ่ะ” ผมถามย้ำ อย่างต้องการความแน่ใจ




“ไม่จริงมั้ง” โปเต้ตอบก่อนจะถอดเสื้อตัวเองออก ผมนี่รีบหันหลังด้วยความตกใจ เพราะเริ่มรู้สึกเห่อร้อนที่หน้าเอามากๆ




“หันหลังทำไม รีบถอดเสื้อเร็ว” โปเต้เอ่ยบอก แต่เมื่อเห็นผมยังยืนนิ่ง เขาเลยจัดการถอดเสื้อให้ผมเองเลย




เอาว่ะ จะอายทำไม ผู้ชายด้วยกัน ...ก็แค่ผู้ชายตรงหน้า มันเป็นแฟนผมด้วยเท่านั้นเอง




อืม...อาบน้ำกับแฟน




-////-




แต่ผมก็ยังอายว่ะ!




“จะให้ผมถอดกางเกงให้ด้วยมั้ย” โปเต้กระซิบถามทั้งทีผมยังยืนหันหลังให้เขาอยู่




“.....”




“.....” เมื่อเห็นผมเงียบ โปเต้เลยเอื้อมมือมาแกะกระดุมกางเกงของผม




“อ๊ะ! อุบ!” ผมรีบยกมือปิดปาก เมื่อรู้ตัวว่าส่งเสียงน่าอายออกไป เมื่อกี้...มือเย็นๆของเขาบังเอิญมาโดนราวสะดือของผม มันเลยทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ที่ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงเหมือนกัน




“หึๆ เป็นอะไร” โปเต้กระซิบถามข้างหู ลมหายใจอุ่นๆมันเป่ารดที่ต้นคอ ทำเอาผมต้องย่นคอหนี




“ปะ..เปล่า ดะ..ดะ เดี๋ยวผมถอดเอง” ผมบอกโปเต้ก่อนจะจัดการถอดกางเกงเอง แล้วเดินไปยังใต้ฝักบัว คือห้องน้ำนี่มันมีบานเลื่อนเอาไว้กั้นระหว่างที่อาบน้ำกับชัดโครก แต่พอมายืนแล้ว ถ้าปิดบานเลือน ตรงที่อาบน้ำมันจะดูแคบไปเลย




ผมเปิดฝักบัว แล้วปรับอุณหภูมิของน้ำในมันอุ่นๆ ก่อนที่ประตูบานเลื่นจะเปิดออก พลางกับอีกคนที่อยู่ในห้องน้ำก่อนหน้านี่อยู่แล้ว โปเต้เดินเข้ามาซ้อนหลังผม ก่อนจะปิดประตูบานเลื่อน อะนะ...ผมนี่ไม่กล้าหันไปมองเขาเลย




“เดี๋ยวถูหลังให้” โปเต้กระซิบบอกที่ข้างหูของผม แล้วจูบเบาๆที่หูของผม ใช้จมูกโงๆองเขาลากลงมาอย่างอ่อยอิ่ง แล้วจูบเบาๆที่ต้นคอของผม จากนั้นก็หยิบขวดครีมอาบน้ำ ที่ผมเอามาจากบ้านในมือของไป




ผมได้ยินเสียงบีบครีมอาบน้ำ ก่อนจะรู้สึกถึงสัมผัสที่แตะเบาๆที่แผ่นหลังของผม ความลื่นของครีมอาบน้ำ สัมผัสแผ่วจากฝ่ามือของโปเต้ ทำให้ผมเกิดความรู้สึกแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยเป็น




ประหม่า เขินอาย ใจเต็นแรง...และอะไรหลายๆอย่างที่มันตีรวนในอกไปหมด




ผมรู้สึกเหมือนโปเต้กำลังหายใจหอบ สักพักก็หยุดเหมือนกลั้นหายใจ ทำแบบนี้สลับไปสลับมาจนกระทั่ง...




“....!” ผมตัวแข็งทื่อ เมื่ออยู่โปเต้ก็กอดผมพร้อมกับลมหายใจที่หอบราวกับไปวิ่งมาสักสิบกิโลฯ




“ขออยู่แบบนี้ ..นะ ไม่ทำอะไรหรอก” โปเต้บอกเสียงแหบพลางหายใจหอบ ...เขากอดผมแน่นและเกร็ง ผมรู้เลยว่าตอนนี้เขากำลังเผชิญอะไรอยู่ อะไรบางอย่างที่แนบอยู่ตรงเหนือก้นผมไปนิดนึง อะไรบางอย่างที่แข็งตัวขึ้นด้วยแรงอารมณ์




ความต้องการ ที่เขาอยากจะปลดปล่อย แต่กลับเลือกที่จะไม่ทำ ผมไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมโปเต้ต้องทรมานตัวเองแบบนี้ สารภาพเลยว่า ไอ้การมีอารมณ์แบบนี้น่ะ ผมก็เคยมี เป็นตอนอยู่ม.ปลายแล้วเพื่อนในห้องมันดันชวนดูคลิปโป๊ตอนที่อาจารย์ไม่มาสอน ผมเองก็ดูๆเพราะความอยากรู้ สุดท้ายก็ได้รู้จักการช่วยตัวเองเป็นครั้งแรก แน่นอนว่ามันไม่มีครั้งต่อไป เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ




และตอนนี้ผมก็รู้ว่าคนที่กอดผมอยู่นี้...กำลังต้องการอะไร ผมรู้ว่าเขาทรมาน แต่...จะให้ผมช่วยเขา ผมก็อายเป็นเหมือนกัน ผมไม่เคย อีกอย่างก็เป็นผู้ชายด้วยกันทั้งคู่ และผมไม่รู้จ่วยเขาวิธีไหน ทางที่ดีที่สุด คงต้องเอาออกใช้มั้ย ผมจำได้ว่าตอนนั้นในคลิป ผู้หญิงก็กำลัง...เอ่อ...นั่นแหละ กำลังใช้มือและปากทำไอ้นั่นกับของผู้ชาย แต่ว่า...ผู้ชายกับผู้ชาย ทำวิธีนั้นด้วยรึเปล่า อันนี้ผมเองก็ไม่แน่ใจว่ะ ...คิดหนักนะเนี่ย




“โธ่เว้ย...” นานนับหลายนาที โปเต้กัดฟังพูดเสียงสั่น ดูเหมือนความต้องการของเขาจะมีไม่ลดละ ผมควรจะทำไง ควรช่วยเขาใช่มั้ย???




“โปเต้...” ผมเรียกเขาเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปแตะที่แขนของเขาที่กำลังกอดเอวผมอยู่




“ไม่เป็นไรหรอก ติณณ์...ออกไปรอข้างนอกก่อนได้มั้ย” เขาบอกผมเสียงสั่น และแหบพล่า ฟังดูแล้วแปลกหูไปอีกแบบ




“....” ผมขยับตัวออกเล็กน้อย เมื่อโปเต้คลายกอดผม แต่ผมไม่ได้เดินออกไปตามที่โปเต้ขอ ผมหันหน้ามาหาเขา และก็ต้องตกใจกับขนาดที่...เอ่อ มันออกจะ...เอ่อ...ใหญ่เกินตัวเขา...คือ ...โว้ยยยย ไอ้ตัวผมเองจะมาอธิบายอะไรตอนนี้ก็ไม่ได้แล้ว สติกระเจิงหมดแล้วเนี่ย




แต่...มาถึงขั้นนี้ล่ะ ทำอะไรเพื่อโปเต้หน่อยละกัน




“ติณณ์ อื้อ!” ในจังวะที่โปเต้กำลังพูด ผมก่อนยืดตัวขึ้นประกบปากของเขา รู้สึกใจกล้าขึ้นมาทันที




“.....” โปเต้ที่ตอนแรกเหมือนจะตกใจ ตอนนี้เขาก็รุกจูบผมกลับ




ด้วยอารมณ์ หรือด้วยอะไรก็ไม่รู้ ทำให้ผมเอื้อมมือไปจับตรงนั้นของเขา




โปเต้หายใจสะดุดไปนิดนึง ก่อนจะกลับมารุกจูบผมหนักกว่าเดิม




ผมแตะเบาๆ ก่อนจะค่อยรูดลงอย่างไม่ประสา แน่ล่ะ...ทฤษฎีผมไม่เคยรู้เลยสักอย่าง เห็นภาพมันก็หลายปีมาแล้ว วิธีทำจริงๆก็ไม่รู้




“อึก..อืมมม” โปเต้ครางเสียงต่ำในลำคอ มือของเขาเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไปทั่วแผ่นหลังของผม ก่อนจะค่อยๆลางลงมา คลึงแก้มก้นของผมจนผมรู้สึกวูบๆแปลกๆที่ท้อง ก่อนที่เขาจะละมือข้างนึง เลื่อนมาจับตรงนั้นของผม ทำเอาสะดุ้งโหย่ง เพราะไม่เคยมีใครมาจับตรงนั้นของผมเลย




“อ๊ะ...อื้มมม...อืมมมม!!!” ผมหลุดเสียงร้องคางออกมา เมื่อโปเต้ก็ทำแบบเดียวกันกับที่ผมกำลังทำให้เขา




ความรู้แปลกใหม่ที่แผ่ส่านเข้ามาในร่างกาย มันให้ความรู้สึกดีกว่าตอนที่ทำเองเสียอีก ซ้ำรสของจูบยังช่วยปลุกปั่นอารมณ์ได้เป็นอย่างดี




และด้วยความที่ผมไม่ประสา แถมยังไม่เคยถูกใครทำแบบนี้ อารมณ์มันจึงปลุกพล่านมากอย่างที่ไม่เคยเป็น




หัวผมโล่ง...พร้อมกันน้ำบางอย่างที่พุ่งออกมาเปอะมือโปเต้ และหน้าท้องของผมทั้งสองคน




โปเต้รูดรั่นอีกสามสี่ครั้ง ก่อนจะหยุดมือจากตรงนั้นของผม เพราะผมเสร็จจนเลอะเราทั้งคู่ไปหมด แต่ผมยังหยุดไม่ได้ ...เพราะโปต้ยังไม่เสร็จ




ผมรูดขึ้นรูดลงอย่างไม่ชำนาญมากนัก มันใหญ่มากขนาดมือผมยังกำไม่รอบ ก่อนที่ผมจะเริ่มเร่งจังหวะให้เร็วกว่าเดิมมากขึ้น พอๆกับมือโปเต้ที่เริ่มขย่ำก้นผมแรงขึ้นเหมือนกัน




เสียงน้ำจากฝักบัวที่ราดรดตัวสองคน และเสียงน้ำที่กระทบพื้น อุณหภูมิของน้ำ ที่บรรยากาศมันรุนแรงมากขึ้น




และด้วยอารมณ์ของผมที่เริ่มจะพลุกพล่าน ไม่รู้ไปรวบรวมความกล้ามากไหน




“....” ผมถอนจูบจากโปเต้ ก่อนที่จะนั่งคุกเขาลงไปกับพื้นห้องน้ำ โปเต้มองตาผม แต่ไม่ได้พูดอะไร แววตาเขาดูเปลี่ยน...มันเยิ้มเสียจนคนที่พบเห็นยังรู้สึกเขิน




ผมมองมือตัวเองที่กำลังรูดรั้งปลุกปั่นอารมณ์กับตรงนั้นของโปเต้ ก่อนจะค่อยๆเอนหน้าเข้าไปใกล้ ...จูบเบาๆตรงส่วนหัวราวกลับถนอมมันมาก (ตอนนั้นมันมีอารมณ์ครับ ทำไปด้วยความคึกคะนองของตัวเองล้วนๆ)




ปากของผมครอบลงไปตรงส่วนหัวของตรงนั้น โปเต้สะดุ้งเล็กน้อย




“ติณณ์...ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้” โปเต้บอกเสียงกระเส่า




“.....” ผมเหลือบตามองหน้าเขา ก่อนที่จะกดหัวตัวเองลงไปเรื่อยๆ แล้วรูดขึ้น...และรูดลง ผมไม่สามารถที่จะครอบครองตรงนั้นของโปเต้ได้หมด ผมทำได้แค่เพียงส่วนหัวลงมาไม่มาก ยังไม่ถึงครึ่งเสียด้วยซ้ำ จึงใช้มือช่วยอีกแรง




ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่ผมทำแบบนั้น...จนกระทั่ง...




“ติณณ์ ...พอแล้ว เอาออก” โปเต้บอกผม ผมเหลือบตามองอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้หยุด ...จนกระทั่ง...




“อื้อ...!” ผมร้องอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ก็มีน้ำบางอย่างพุ่งลงคอผม มันเยอะมากจนมีบางส่วนไหลย้อนออกมาที่มุมปากของผม ค่อยๆไหลออกมาจนถึงคาง และลงไปที่คอ




โปเต้เหมือนจะตกใจ รีบถอดถอนของตัวเองออกจากปากผม




“ติณณ์ คายออกมา” โปเต้รีบจับตัวผมที่กำลังไอเพราะสำลักให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะรีบบอกผม แต่...มันทันมั้ย ...กลืนลงคอจนเกือบหมด มีแค่บางส่วนที่ไหลออกจากมุมปากเท่านั้น




“แค่กๆ ทันมั้ย?” ผมถามเขา ประชดนิดๆ




“ขอโทษ” เขาบอกผมทั้งคำพูด สีหน้าและแววตา




แต่...ผมไม่ได้โกรธเขาหรอก แค่ตกใจนิดหน่อย




“มะ...ไม่ได้โกรธหรอก ระ...รีบอาบน้ำเถอะ” ผมบอกเสียงสั่น เมื่อกิจทุกอย่างเสร็จ สติเริ่มกลับมาเต็มร้อย จนรับรู้ได้ว่า..ตัวเองพึ่งจะทำอะไรลงไป




-/////-




ไม่สามารถบอกเป็นคำพูดได้ แต่ทั้งเขินทั้งอาย ทั้งไม่กล้าสู้ แถมยังประหม่าอีก




“เป็นอะไร โกรธเหรอ ขอโทษ ติณณ์...ผมขอโทษ” โปเต้ที่เข้าใจผิดรีบขอโทษผมเสียงอ่อน




“ไม่ได้โกรธ -///-”




“ผมไม่เชื่อ”




“โว้ยยย...ไม่ได้โกรธ แต่มันเขินเว้ยยย!-////-” ผมหลับตาบอกโปเต้อย่างหลุดมาด ให้ตายสิ ...การกระทำเมื่อกี้ มันทำให้ผมเริ่มคิดว่าตัวเองก็หื่นไม่ต่างจากโปเต้เหมือนกัน




“...หึๆ” โปเต้ดูอึ้งไปเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ




“.. -////-”




“ผมว่าคราวนี้ต้องอาบน้ำจริงๆแล้วแหละ” โปเต้ว่าอย่างขำๆ




“มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” ผมว่าเสียงเรียบ ทั้งที่ใจไม่ได้เรียบเฉยย่างเสียงเลย มันเต้นแรงจนจะทะลุออกมาอยู่แล้วเนี่ย!




ฮึ่ย! เขินโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!





***********************************************************************************



FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 07-05-2015 01:35:22
:haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 07-05-2015 01:40:09
อ๊ากกกกกกกก

นู๋ติณณ์ ทำโปเต้หลง โงหัวไม่ขึ้นแล้ววววววว

รอเวลาอารมณ์พาไปอีก เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 07-05-2015 01:44:34
ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ กรี๊ดมากกกกกกกกกก โอ้ยยยยยยยยย เขาฟินกันแล้วนะคุณขาาาาาาา  :hao7: :hao7:

ฮืออออติณณ์น่ารักมากกกกกก โปเต้นี่ดี๊๊๊๊๊๊๊ดี 5555555 เขินมากกก ฟินแรงงงง

ดีนะเห็นแปะในเฟส พรุ่งนี้มีกำลังใจสอบแล้วววววว :hao7: :impress2:

ขอบคุณครับบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-05-2015 01:55:20
พัฒนาไปอีกขั้น
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 07-05-2015 02:01:16
 :pighaun: :haun4: :jul1:   วรั๊ยยยยยย  ขอเลือดด่วนครับบบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 07-05-2015 02:06:00
ติณณ์ค๊าาาาาาาาาาาา คุณทำอะไรลงไป  :-[

นิดๆหน่อยกำลังน่ารักเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 07-05-2015 02:15:54
ติณณ์ แรงมากกก ได้ใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 07-05-2015 02:40:18
อร๊ายยยยย. ฟินพะยะคระ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 07-05-2015 02:48:31
ตอนนี้เค้ามีพัฒนาการกันไปไกลมากกกกกกกกกกกกก  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Echizen14 ที่ 07-05-2015 02:53:06
ฟินโฮกกกกก :o8: :jul1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 07-05-2015 06:37:41
แหม ยังดีที่เป็นข้างนอกนะ
ไม่งั้นวันนี้ไม่ได้เที่ยวละ ไม่ใช่ๆ นี่มันบ้านคนอื่นนนนนน
รอกลับบ้านตัวเองก่อนสิ ฮิๆๆๆ
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-05-2015 06:39:35
ฟินหนัก.  :jul1:  แค่เขาช่วยกันก็ลงไปละลายกับพื้น หนูติณณ์สุดยอดมาก. ประสบการณ์ครั้งแรกจากการดูคลิปครั้งเดียวของหนูทำโปเต้หลงหนักเข้าไปอีก. ต่อไปโปเต้จะทนไหวเหรอถามจริง. แฟนดีขนาดนี้. แต่เราสัมผัสได้นะว่าโปเต้ถนอมติณณ์มากพยายามมาตลอด เคยพอใจแค่ตอดเล็กตอดน้อย
ห้องน้ำสองห้องคงไม่ว่างไปสักพักอะ. แอร๊ยแก๊งนี้มันคือดีจริงๆสนับสนุนความฟินของเพื่อนๆ

ไม่ได้อยากจะหวังอะไรมากตอนไปเที่ยวกันเลย หวงติณณ์นะ ไม่อยากเห็นน้องเจ็บตัว แต่ก็อยากฟิน 555.  :impress2: 
ขอให้โปเต้เล่าบ้างได้ไหมอ่าเคยอ่านแล้วก๊าวใจสุดๆ. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 07-05-2015 07:01:06
อ๊ากกก ปิดตาตัวเองแป๊บ >///< เค้าไม่เห็นแล้ว จะต่อกันอีกก็ได้นะ 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-05-2015 07:03:48
พี่จะเฝ้ารอวันนั้นเลยนะคะน้องติณณ์ น้องโปเต้ พี่ไม่หื่นค่ะ :oo1: :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 07-05-2015 07:17:32
อะไรจะฟินขนาดนี้ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 07-05-2015 07:23:16
โอ้เย้ ก้าวไปอีกขั้นแล้ว :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 07-05-2015 07:46:15
 :haun4: :haun4: :haun4:
เขินแทนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: jaja-jj ที่ 07-05-2015 08:41:56
หนูยั่วมากค่ะลูก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 07-05-2015 08:49:04
ติณณ์แซ่บนะเรานะ   :hao6:
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-05-2015 08:56:48
มีพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมมากเลยค่ะ ฮ่าาาาาา :haun4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 07-05-2015 09:05:05
ก้าวไปอีกขั้น อีกไม่นานฝันโปเต้จะเป็นจริง อิอิ
 :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 07-05-2015 09:12:17
โถ่เอ้ย55555555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 07-05-2015 09:14:02
 :jul1: :jul1: :jul1:อีโมนี้ให้กะโปเต้เลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 07-05-2015 09:31:12
เขย่งก้าวกระโดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 07-05-2015 09:34:15
ตาย ตาย ตาย...... มันใหญ่มากเลยเหรอนู๋ติณท์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: จุ๊บจิ๊บจ๊ะจ๋า ที่ 07-05-2015 10:00:10
 :haun4: :pighaun: หนูติณของเจ้ น่ารักเกินไปละ ทีนี้โปเต้ก็ไปไหนไม่รอดแล้วดิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 07-05-2015 10:28:30
ก้าวหน้าไปอีกขั้น นะคู่นี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 07-05-2015 10:55:16
คิดว่าโปเต้หื่นแล้วนะ  ตอนนี้เราว่าติณณ์หื่นกว่าอีก :z1:


---------------------------------
 :pig4: :L2: ขอบคุณคนเขียนที่รับฟังความเห็นของคนอ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Justlove_Kad ที่ 07-05-2015 11:28:09
ฟินนนนนมากกก!!! แต่อยากอ่านด้านของโปเต้มั่งอ่ะ คิดถึงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: LikeU ที่ 07-05-2015 13:57:01
ติณณ์เอ๊ยย
แค่นี้โปเต้ก็รักก็หลงจะแย่แล้ว

เขินแทน 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 07-05-2015 14:22:53
ช่วยกันเบา แต่เล่นเอาใจสั่นเลย กรี๊ดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 07-05-2015 15:05:38
หนูติณณ์ หนูกล้ามากลูก  :m25:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-05-2015 16:45:52
หนูติณน์ค่ะหนูตินณน์ หนูจะหื่นไปมั้ยค่ะนี่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 07-05-2015 17:13:57
ติณณ์เร่าร้อนนนนมากกก หนูกล้าาาาา อร๊ายยยยยย เลือดหมดตัววว :jul1: :jul1: :jul1: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 07-05-2015 19:10:16
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 07-05-2015 20:28:11
กรี๊ดดดดดดดดดดดด หนูติณชนะเริศศศศศศศ เก๋จุงเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 07-05-2015 20:32:09
ติณณ์น้อยเขิน น่ารักอ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 07-05-2015 20:32:42
 :m10: :give2: :pighaun: :haun4: :m25:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 07-05-2015 22:41:12
โอยยย พัฒนาไปใหญ่ละคู่นี้
น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 07-05-2015 23:47:54
 เริ่มพัฒนาขึ้นแย้วววววววว  :katai2-1: :katai2-1:
 
 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 08-05-2015 00:13:03
ฟินนนนนนนนนน  :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 08-05-2015 16:18:42
 :z1: :z1: :z1: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-05-2015 19:20:42
โอ๊ย ตายๆๆ ติณณ์ สุดยอดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 08-05-2015 21:47:41
ติณจะทำให้โปเต้หลงไปถึงไหนกันจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 08-05-2015 23:01:47
คู่นี้น่ารักมาขึ้นทุกวัน -/////-
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 09-05-2015 15:33:16
จะติดตามต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 19 P.35 7/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 09-05-2015 21:06:01
ก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้ว

ติณณ์หื่นจริงๆน่ะแหละ หุหุ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 09-05-2015 22:06:35
ตอนที่ 20









ตั้งแต่เหตุการณ์ในห้องน้ำนั้นผ่านมา ผมก็ตีเนียนทำหน้านิ่ง ทั้งที่ใจมันไม่นิ่งเหมือนหน้าเลย ยอมรับเลยว่าเวลามองหน้าโปเต้แล้วมันเขินๆ อายๆยังไงไม่รู้ -/////-




“ติณณ์ ไปอาบน้ำ” โปเต้บอกผมเมื่อเขาเดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วกำลังจะแต่งตัว




และนี่ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ผมแทบบ้า เพราะเมื่อก่อนโปเต้จะแต่งตัวในห้องน้ำ และจะเรียบร้อยเมื่อออกมา แต่มันก็สักพักแล้วที่โปเต้เลือกที่จะออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าขนหนูเพียงผืนเดียว แล้วพอมาเกิดเรื่องในห้องน้ำเมื่อวันก่อน มันทำให้ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองหน้าบางขึ้นเยอะ




“....” ผมพยักหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำอย่างที่โปเต้บอก วันนี้เป็นวันจันทร์ ซึ่งก็เป็นวันออกทริปของพวกผมนั่นแหละ เป็นครั้งแรกเลยนะ ที่ผมได้ทำอะไรแบบนี้




ผมอาบน้ำไม่นานก็เสร็จ ทาครีมกันแดด ก่อนจะใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ที่เอาเข้ามาด้วย (ผมไม่กล้าออกไปแต่งตัวข้างนอกทั้งที่มีโปเต้อยู่หรอกครับ) ส่องกระจกดูความเรียบร้อยนิดนึง แล้วเดินออกมา




ผมกับโปเต้ใช้เป้ใบเดียวกันครับ ซึ่งมันออกจะใหญ่กว่ากระเป๋าเป้ทั่วไปนิดหน่อย โดยที่เลือกเอากางเกงยีนส์คนละสองตัว ซึ่งตัวนึงก็คือตัวที่ใส่อยู่ สองที่เหลือก็เอาใส่กระเป๋า แล้วเอาพวกเสื้อยืดที่ไม่หนามากไปคนละสี่ตัว ผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืน (ใช้ด้วยกัน) เพื่อลดพื้นที่ในกระเป๋า ซึ่งมันก็ช่วยได้พอสมควร และแจ็คเก็ทคนละตัวที่มันหน้าพอที่จะกันแดดกันฝน แถมโปเต้ยังบังคับให้ผมทาครีมกันแดด และเอาครีมกันแดดไปด้วย บอกกว่าเดี๋ยวผมจะเสีย ซึ่งความจริงผมก็ไม่ได้ซีเรียสน่ะ ผิวจะดำจะด่างหน่อยก็คงไม่เป็นไรหรอก ผมเป็นผู้ชาย ไม่ได้จะเอาผิวไปอวดใครสักหน่อย แต่ก็ขัดไม่ได้ เพราะผมเถียงแพ้ตลอดเลย ผมว่านับวันโปเต้เริ่มพูดมากขึ้นแล้วนะ...รวมถึงบ่นมากขึ้นด้วย




โปเต้ให้ผมยืมเสื้อแจ็คเก็ทของเขา มันเป็นสีแดงครับ (สีเจ็บมาก) มีฮูท ซึ่งผมว่ามันสวยมากเลยนะ ถ้าผมเป็นคนแต่งตัวจัดกว่านี้ ผมคงจะขอเขา แต่นี่ขอยืมก็พอ เกรงใจ ดูท่าทางว่าจะแพงเสียด้วย




“ติณณ์จะกินข้าวก่อนมั้ย” โปเต้เอ่ยถามเมื่อผมเดินลงมายังชั้นล่าง พวกผมโทรไปบอกพี่ปาร์กับพี่ตาลแล้วล่ะครับ ว่าจะไปออกทริปกัน เพราะมันก็ใกล้วันที่พวกพี่เขาจะกลับมาบ้าน เดี๋ยวจะงงว่าทำไมถึงไม่มีใครอยู่บ้าน แต่กลายเป็นว่าเข้าทางทั้งคู่ พี่ปาร์ดันจะพาพี่ตาลไปเที่ยวเหนือต่อ ผมก็ไม่ได้ห้าม แต่ก็เตือนว่าให้ระวัง เพราะพี่ตาลก็ท้องสี่เดือนจวนจะห้าเดือนแล้ว แม้ว่าใจจริงอยากจะให้พี่ตาลอยู่แต่บ้านก็เถอะ แต่ว่าถ้าให้พี่ตาลอยู่แต่ที่บ้าน พี่ตาลก็จะเครียดเพราะมัวแต่อุดอู้อยู่แต่ในบ้าน จะว่าไปแล้ว...ไปเหนือก็ดีเหมือนกันนะ อากาศที่นั้นคงกำลังดี..ล่ะมั้ง




“ถ้ากินที่นี่ผมว่าสายแน่เลย” ผมว่าเมื่อมองนาฬิกาที่ฝาผนังของบ้าน ก็พบว่ามันใกล้เวลานัดแล้ว เดี๋ยวก็ต้องขับรถไปเจอกันที่สถานที่นัดอีก




“งั้นดื่มนมรองท้องซะ” โปเต้ว่าก่อนจะเปิดตู้เย็นหยิบกล่องนมแล้วส่งมาให้ผม ผมก็รีบมาก่อนจะแกะหลอด จิ้มกล่องแล้วดูด สักพักก็หมด ก่อนที่เราจะเดินสำรวจบ้านว่าล็อคประตูหน้าต่างดีแล้ว และปิดไฟปิดแอร์กันหมดแล้วหรือยัง เมื่อเช็คจนแน่ใจแล้ว ผมสองคนเลยเดินไปใส่รองเท้าผ้าใบ ก่อนที่โปเต้จะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบร์ทของเขา ส่วนผมก็สะพายเป้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูบ้านให้




“ติณณ์ ใส่นี่” โปเต้ที่รอผมล็อคประตูบ้านจนเสร็จเรียกผม ก่อนจะยื่นถุงมือที่เป็นแบบเดียวกันกับเขามาให้ผมใส่ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงต้องใส่ทั้งที่เป็นแค่คนซ้อนท้าย แต่ก็รับมาและใส่โดยไม่ได้ถามอะไร ก่อนจะใส่หมวกกันน็อคแล้วก้าวเท้าขึ้นซ้อนท้ายทันที




โปเต้นัดกับเพื่อนไว้ที่ไหน อันนี้ผมก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้ถาม




“อะไร” ผมถามโปเต้อย่างงงๆ (ไม่รู้ว่าจะได้ยินมั้ย เพราะหมวกกันน็อคพวกผมหนามาก) เมื่อเขาไม่ยอมออกรถสักที แต่กลับเอื้อมมือมาคว้ามือผม ก่อนจะดึงไป...กอดเอวเขา?




“กลัวตก” โปเต้ตอบกลับ ซึ่งมันก็เบาอยู่นะ แต่ยังพอฟังออก




“ไม่ตกหรอก นั่งบ่อยแล้วหนิ” ผมบอกกลับ ผมว่าไม่จำเป็นที่ผมจะต้องกอดเอวโปเต้เลยนะ นั่งก็บ่อย ตกรถก็ไม่เคยสักหน่อย




“กอด ...เร็วๆ” โปเต้ไม่ฟัง กลับตอบกลับเสียงเข้ม




“.....” ผมไม่คิดที่จะตอบอะไร พูดมากกว่านี้เดี๋ยวโปเต้จะให้ผมอยู่เฝ้าบ้าน (เห็นแบบนี้ผมก็อยากเที่ยวเหมือนกันนะ) เลยทำตามที่เขาบอก




โปเต้พาผมออกไปทางนอกเมือง ซึ่งผมก็ไม่ค่อยรู้ทางแถวนี้เลย ไม่เคยมาอ่ะนะ จะไปถามโปเต้ก็กลัวว่าจะกวนสมาธิของโปเต้เขา เลยได้แต่นั่งซ้อนท้ายเงียบๆ มองทางไป จนกระทั่วโปเต้เลี้ยงเข้าปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง เขาเข้าไปจอดรวมกับบิ๊กไบร์ทอีกสามคันที่จอดอยู่ก่อนแล้ว ดูท่าว่าคจะเป็นของพวกเซย์กับจินล่ะมั้ง ...แล้วอีกคันนึงนี่ของใครว่ะ




“มา...” โปเต้แย่งกระเป๋าเป้ที่ผมสะพายอยู่ไปสะพายแทน ก่อนจะหันมาจับมือผม แล้วเดินจูงพาผมเข้าไปในร้านกาแฟที่อยู่ในปั้มน้ำมัน ซึ่งมันก็อยู่ตรงหน้าผมนี่แหละ (อธิบายทำไมว่ะ?)




เมื่อเข้าไปก็พบเซย์ จิน อลัน และดอมินิกนั่งคุยเล่นกันอยู่ก่อนแล้ว




“โหยมึง กว่าจะมาถึงเน๊าะ” เสียงเซย์บ่นเป็นคนแรกเลย




“ก็ดีกว่าไม่มา” โปเต้ว่าก่อนจะใช้ช้อนตักเค้ก (ของใครก็ไม่รู้) ที่อยู่บนโต๊ะเข้าปากเฉยเลย คงหิวล่ะมั้ง เพราะทั้งเขาและผมยังไม่ได้กินข้าวเลย




“แล้วกินข้าวกันมายังเนี่ย” อลันหันหน้ามาถามผมครับ




“.....” ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบ ก่อนจะอ้าปากรับเค้กที่โปเต้ตักมาป้อนผม แม้ว่าผมจะชอบพวกขนมขบเคี้ยวมากกว่า แต่พวกเค้กผมก็กินบ้าง




“จะกินอะไรก่อนมั้ยล่ะ” เซย์ถามผมกับโปเต้




“.....” ผมมองหน้าโปเต้ ประมาณว่าให้เขาตัดสินใจ เพราะผมยังไงก็ได้ ปกติข้าวเช้าก็กินไม่ค่อยทันนักหรอก กินทีก็เที่ยงเลย




“กินก่อนมั้ย ตอนนี้ปวดท้องรึเปล่า” โปเต้ถามผม




“แล้วแต่ แค่แซนวิชเซเว่นก็ได้ นายล่ะ” ผมบอก เพราะไม่อยากให้เสียเวลามากนัก เพราะขับมอเตอร์ไซต์ออกต่างจังหวัด มันไม่ได้เหมือนรถยนต์นะ ที่จะขับยาวเลย มันต้องมีแวะพักเป็นระยะๆ




“เอางั้นก็ได้ ...ออกไปรอที่รถเลยก็ได้ ไม่นาน” โปเต้หันไปบอกคนอื่นๆ ก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินนำผมไป




โปเต้เอาเป้ไปวางพิงไว้กับรถ ก่อนจะหันมาจูงมือผมแล้วเดินไปเซเว่นที่อยู่ในปั้มน้ำมันแห่งนี้ด้วย ซึ่งมันก็อยู่ไม่ไกลจากร้านกาแฟหรอก แค่คนลฝั่งของพื้นที่บริเวณปั้มเท่านั้นเอง




“นี่ ผมไม่หลงหรอก ไม่ต้องจูงก็ได้” ผมเอ่ยขัด ปกติเวลาไปไหนเราไม่ค่อยเดินจูงมือกันหรอก (ยกเว้นไปตลอดนัด) แต่บางทีก็มีบ้าง เมื่อโปเต้เห็นว่ามีคนจะเข้ามาหาผม อะไรประมาณนี้




“อยากจับ” โปเต้ตอบเบาๆ โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าผม




อะนะ...อยากจับก็จับไป




ผมซื้อแซนวิชชิ้นนึง ส่วนโปเต้ซื้อแฮมเบอร์เกอร์สองชิ้น (เชื่อสิ...ว่านั่นมันแค่รองท้อง) พร้อมกับน้ำหนึ่งขวด เราเดินกลับมากินกันที่รถครับ และผมก็รู้แล้วว่าบิ๊กไบร์ทอีกคันนึงเป็นของอลันครับ ก็พอจะเข้าว่าทำไมถึงไม่ซ้อนท้ายกันมา คู่นี้เขาลุยๆ แมนๆ อยู่แล้วครับ เอ๊ะ...แต่ผมว่าผมก็แมนนะ ...งั้นมันคงไม่เกี่ยวกันก็แล้วกันเน๊าะ




“กินดีๆ” ผมบอกโปเต้เบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเช็ดมุมปากให้ เมื่อมันเลอะซอสนิดๆ




“กินแฮมเบอร์เกอร์” ตอบกลับทั้งที่กำลังเคี้ยว เหอะ...ขอให้ติดคอซะ ....เฮ้ย...ไม่เอาๆๆ ติดคอขึ้นมาก็ลำบอกผมอีก




“.....” ผมเคาะหัวเขาเบาๆ ไม่แรงหรอก ไม่อยากโดนเอาคืน




“เดี๋ยวโดน..” โปเต้ขู่ผมเบาๆ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากินแฮมเบอร์เกอร์ต่อไป




“.....” ผมก็ตีหน้าเนียน (แบบที่โปเต้ชอบทำ) ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป




“โอเค พร้อมกันยัง” อลันเอ่ยถาม หลังจากที่พวกกินกันเสร็จแล้ว หมายถึงผมกินแซนวิช แล้วโปเต้กินแฮมเบอร์เกอร์นะ




“พร้อม ไปกัน” เซย์บอกก่อนจะใส่หมวกกันน็อคเป็นคนแรก




แล้วพวกเราก็เริ่มออกเดินทางครับ โดยที่เซย์เป็นคนขับนำ ตามด้วยอลัน จิน และโปเต้ตามลำดับ ผมกับดอมินิกทำหน้าที่ซ้อนท้ายครับ เราจะไปสระบุรีกันค แต่จะแวะตามที่ต่างๆที่ผ่าน ถามว่ารู้ทางมั้ย บอกเลยว่าไม่รู้ ...ไม่ใช่หมายถึงผมนะ หมายถึงทุกคนเลยต่างหาก แม้ว่าพวกเราจะเคยมาเขาใหญ่ตอนเปิดเทอมได้ไม่นาน แต่ตอนนั้นบอกเลยว่าแข่งกันหลับ แต่อลันก็ปลอบทุกคนว่า มันมีป้ายตลอดทาง ดูๆไปตามป้ายก็แล้วกัน




อะนะ ...ช่วยให้มั่นใจขึ้นเยอะ =_=




เราขับกันมานานพอดู ยังดีที่วันนี้แดดไม่ค่อยแรง (แต่ผมกลัวว่าฝนมันจะตกซะมากกว่า) เลยไม่ทำให้รู้สึกร้อนเท่าไหร่ แถมแต่ละคนนี่บิดรถราวกลับผู้ร้ายหนีตรวจกันทั้งนั้น ก็พอจะเข้าใจว่ามันต้องขับเร็ว แต่ความเร็วของมอเตอร์ไซด์ขนาดนี้ ผมไม่ชินนี่




ขับมาจนผมเห็นป้ายว่าเรากำลังจะเข้าสู่อำเภอวังน้อย ซึ่งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผมรู้ว่าอำเภอนี้ อยู่ในจังหวัดนี้ แต่ผมไม่รู้หรอกว่า...มันมีสถานที่ท่องเที่ยวอะไรบ้าง แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรต่อ เซย์ที่เป็นคนขับนำ ก็เปิดไฟเลี้ยวซ้าย ก่อนจะค่อยๆชะรอรถ ซึ่งข้างหน้าไม่ไกลมันมีปั้มน้ำมัน คนอื่นที่ขับตามก็เปิดไฟเลี้ยวตาม แล้วเซย์ก็เข้าปั้มน้ำมันตรงหน้า ...มีอะไรรึเปล่าหว่า??




“.....” เซย์ไม่ได้พูดหรือบอกอะไร เขาจอดรถที่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะถอดหมวก วางกระเป๋าเป้แล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปเลย





“ขี้แตกรึไงว่ะ” เสียงอลันบ่นน้อยๆ ก่อนที่เราจะพากันมานั่งตรงฟุตบาทขอเซย์ครับ




“เมื่อยมั้ย” โปเต้หันมาถามผม




“เมื่อยก้น” ผมบอกไปตามความจริง พึ่งจะรู้ว่านั่งมอเตอร์ไซด์นานๆแล้วมันเป็นอย่างนี้นี่เอง




“มา....นวดให้” โปเต้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะที่เอื้อมมือมาจับที่ก้นผมทันที




“เฮ้ย!” อารามตกใจ ทำเอาผมร้องเสียงหลง ไม่นึกว่าโปเต้จะกล้า เพราะนี่มันที่สาธารณะ (เออ...แต่จูบกลางโรงยิมของคณะเขาก็ทำมาแล้วนี่หว่า แต่เฮ้ย! นี่มันไม่เหมือนกันนะ) จนคนอื่นๆหันมามอง รวมถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วย




“เฮ้ย จะสวีทอะไรก็เกรงใจกูบ้าง” จินหันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าหมั่นไส้




“ก็ติณณ์เมื่อย เลยจะนวดให้” โปเต้หันไปตอบเสียงเรียบ แต่มือยังจับก้นผมอยู่ ทั้งที่ผมพยายามจะดึงมือเขาออก แต่เขาขืนไว้ ทำไมหน้าด้านอย่างนี้ว่ะ ดูสิ...คนที่เดินผ่านไปผ่านมามองกันใหญ่แล้ว




“เมื่อยตรงไหนเหรอติณณ์” อลันถามพลางยกยิ้ม ทั้งที่เขาก็เห็นว่ามือของโปเต้อยู่ตรงไหนของร่างกายผม




“ก้น” แน่นอนว่าไม่ใช้เสียงผม เสียงของไอ้คนหน้านิ่งที่เริ่มหน้าด้านนี่แหละ




“ฮ่าๆๆๆๆๆ มึงก็ตรงเกิ๊น” อลันหัวเราะชอบใจ รวมถึงจินและดอมินิก (ที่ยิ้มนิดๆ)




“ปล่อย” ผมบอกก่อนจะพยายามดึงมือโปเต้ออก




“...นวดให้ไง” พูดอย่างเดียวไม่พอ ยังจะมาขยำอีก




“ไม่เอา คนมอง” ผมกระซิบบอก




“มองก็ดิสิ จะได้ไม่มีใครยุ่ง” ไม่มีสลด แถมยังหวงเกินหน้าเกินตาอีก เออ...อยากจับก็จับ ห้ามไม่ได้หนิ




“อ่า...โล่งงง” เสียงของเซย์ที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ




“ขี้แตกรึไง???” อลันถามก่อนเป็นคนแรกเลยครับ




“แค่ปวดฉี่โว้ย แต่หิวน้ำว่ะ เดี๋ยวขอไปซื้อน้ำแป๊บนึง” เซยืว่าก่อนจะกอดคออลันไปด้วย




“เฮ้ย! เกี่ยวอะไรกับกู” อลันถาม แต่ก็ยอมให้กอดคอแล้วเดินไปด้วยกัน




“ดูแลผัวหน่อย ขี้โวยวายจริงเลยมึง”




“กูรู้ไง ว่ามึงดูแลตัวเองได้”




แล้วสองคนนั่นก็เดินเถียงกันไป พวกเขาก็ดูรักกันดีนะ แม้จะชอบเถียงและเสียงดังกันไปหน่อยก็เถอะ




“หิวน้ำมั้ย” โปเต้ถามผมบ้าง




“ไม่อ่ะ” ผมปฏิเสธก่อนเอนหันไปซบไหล่โปเต้ ก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวไปทางโปเต้ทั้งหมด เออ...แบบนี้ก็สบายดีว่ะ




“นอนเลยมั้ยครับ” โปเต้ถามอย่างประชด




“ไม่เอา เดี๋ยวเสื้อเปื้อน” ผมตอบก่อนจะหัวเราะในลำคอเล็กน้อย




“เดี๋ยวกูดูแผนที่ดีกว่า ว่าแถวนี้มีที่เที่ยวมั้ย จะได้แวะแล้วหาอะไรกินกัน ขับรถนานๆแม่งโคตรเมื่อยเลย หิวด้วย” ผู้ชายมาดอบอุ่นเพียงคนเดียวในนี้บ่นขึ้นซะยาวเยียด ก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ของตัวเอง แล้วหยิบไอแพดออกมา คงจะเปิดดูแผนที่ล่ะมั้ง




“เฮ้ย ไอ้ภัทร ตรงไปไม่ไกล มีตลาดน้ำทุ่งบัวชมว่ะ แวะป่ะ...เห็นว่าก็เป็นที่พูดถึงเหมือนกัน” จินว่าก่อนจะยื่นไอแพดมาให้โปเต้ดู




“อืม ก็แวะ...บอกไอ้เซย์ด้วย” โปเต้เหลือบตามมองจอไอแพดเล็กน้อย ก่อนจะบอกจิน




สุดท้ายก็ตรงกันว่าจะแวะที่ตลาดน้ำทุ่งบัวชม ก่อนที่จะบอกเซย์กับอลันที่เดินกลับมา โดยที่อลันยื่นน้ำให้ดอมินิก ก่อนจะหันมายื่นให้ผม คือเขาซื้อมาแค่สองขวดอ่ะครับ




ผมก็รับมา แล้วดื่มพอเป็นพิธี ก่อนจะยื่นไปให้โปเต้ ฝ่านนั้นกระดกอย่างเดียวเลยครับ




“งั้นมึงนำนะ” เซย์บอกจิน ที่บอกเขาเรื่องว่าเราจะแวะตลาดน้ำทุ่งบัวชมกันก่อน




“เออ งั้นก็ไปกันเถอะ” จินว่าก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่รถทันที




แล้วพวกเราก็ออกจากปั้มกันครับ ขับออกมาไม่ไกล ก็เจอตลาดน้ำเลยครับ ก่อนที่พวกจะเลี้ยวเข้าไปแล้วจอดรถ และดูท่าว่าคนที่ตื่นเต้นมากที่สุดน่าจะเป็นอลันครับ เขาดูอเลิร์ทมาก




“เซย์ มึงดูดิ หลักกิโลอันเบ้อเร้อเลย”




“เซย์ ทรานฟอร์เมอร์ๆๆๆๆ”




“เซย์ !@#$%^&*&*^%$#@!@#$%^&^&” นั่นเป็นเสียงของอลันเพียงคนเดียวเลยครับ




พวกเรายืนรอให้อลันได้ถ่ายรูปจนเสร็จ ก่อนที่เราจะเดินเข้ามาในตลาดกัน ของเยอะมาก ทั้งของขาย กิ๊ฟช้อป ของที่ระลึก เสื้อผ้า ของใช้ของเล่น เยอะแยะมากมาย โปเต้นี่หลุดแวะซื้อของกินตลอดทางพอๆกับจิน ดูท่าว่าทั้งคู่จะหิวจริงอะไรจริง ผมเลยปล่อยให้ไปเดินด้วยกัน แล้วผมมาเดินกับดอมินิกแทน




ผมว่าคนเยอะมากเลยนะ แถมยังร้อนมากๆด้วย




“โอ๊ะ ขอโทษครับ เอ่อ I’m sorry” อยู่ก็มีคนมาเดินชนดอมินิก จนเขาเซมาชนผม เมื่อผมหันไปดูก็พบว่าเป็นผู้ชาย ดูแล้วน่าจะอยู่มัธยมอยู่เลยมั้ง ตัวสูงคงอกผมเอง หน้าตาก็น่ารักอะนะ แต่...ท่าทางดูเชิญชวนแปลกๆ




“ครับ” ดอมินิกว่าก่อนจะเหล่มองเล็กน้อย ก่อนจะเดินต่อ แต่ผู้ชายคนนั้นก็คว้าแขนของดอมินิกเอาไว้




“คุณพูดไทยได้หนิ อ๊ะ...คือขอโทษนะครับ คุณโกรธเหรอ หรือว่าบาดเจ็บอะไรตรงไหน” ผู้ชายคนนั้นรีบถาม ท่าทางรนๆ พลางมองสำรวจดอมินิก




“เปล่า ...ปล่อยแขน” ดอมินิกว่าเสียงเรียบ ซึ่งมันก็เป็นปกติของเขา แต่อาจจะผิดปกติสำหรับคนอื่น




“คุณต้องโกรธผมแน่ๆเลย เอางี้มั้ย ...ให้ผมเลี้ยงข้าวคุณนะ” ผู้ชายคนนั้นว่าก่อนจะยิ้มหวาน แค่นั้นก็พอจะรู้จุดประสงค์ของเขาแล้ว แต่ว่า...มาอ้างแบบนี้ เพราะแค่เดินชนกันเนี่ยนะ ...ฟังยังไงผมก็ว่ามันตลกไปนะ




“ไม่จำเป็น” ดอมินิกว่าก่อนจะดึงแขนผู้ชายคนนั้นออกทันที




“อะไรกันคุณ ไม่เห็นต้องทำอย่างนี้เลย ไม่ไปก็ไม่ไปสิ” ผู้ชายคนผู้อย่างหน้าเสียเมื่อเห็นดอมินิกทำแบบนั้นใส่




“ขอโทษนะ แต่ก็ปฏิเสธตั้งแต่แรกแล้วหนิ การประมวลผลขัดข้องรึไง” ดอมินิกว่ากลับ ...ผมว่ามันก็แรงอยู่นะ




“เอ๊ะ ...นี่คุณ!” ผู้ชายคนนั้นขึ้นเสียง พลางหน้าแดง ที่ผมคาดว่าเขาคงโกรธ




“นี่...จะเงียบเองแล้วเดินไปดีๆมั้ย” ผมพูดขึ้นบ้าง รู้สึกรำคาญอย่างบอกไม่ได้




“เงียบไปเลยนะ หน้าตาดีแต่ไม่ใช่สเป็คหรอก” พูดได้มั่นหน้ามาก แค่หน้าตาน่ารักหน่อยเดียว ...เลยมีนิสัยแบบนี้น่ะเหรอ




“มั่นใจดีนี่ สงสัยที่บ้านไม่มีกระจก ...ขอตัว” ผมพูดเสียงเรียบ ก่อนจะยกมือขึ้นโอบไหล่ดอมินิกแล้วเดินออกมาจากตรงนั้น แอบเหล่ไปมองก็เห็นผู้ชายคนนั้นอ้าปากหวอเมื่อเห็นผมยกมือขึ้นโอบไหล่ดอมินิก เอ๊ะ...หรือว่ากำลังงที่ผมแอบด่าแล้วเดินหนีออกมาเฉยเลย แต่ก็นะ...ตลกดีว่ะ




“ตลกดีนะ” ดอมินิกพูดขึ้น หลังากที่เราเดินมาได้สักพัก และแน่นอนว่าเราเดินแบบปกติ ไม่ได้โอบไหล่กันอย่างเมื่อกี้




“คนแบบนี้ก็พึ่งเคยเจอนี่แหละ” ผมบอกเขา ก่อนแตะแขนเขาเบาๆ ว่าผมจะแวะซื้อน้ำ




“แล้วไม่เคยเจอผู้ชายจีบเหรอ” ดอมินิกถามผมบ้าง




“เคย แต่ไม่กระแดะแบบนี้” ผมบอกก่อนจะยื่นเงินไปให้คนขาย ก่อนที่อีกมือจะรับน้ำมา ก่อนจะดูดไปอึกใหญ่ เป็นน้ำมะพร้าวครับ ก่อนจะยื่นไปให้ดอมินิก ที่รับไปก่อนจะดูดพอแก้กระหาย




“นั่นสิ แบบนี้ก็พึ่งเคยเจอเหมือนกัน” ดอมินิกว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ และก่อนที่เราจะได้คุยอะไรกัน โทรศัพท์ของดอมินิกก็ดังขึ้นเสียก่อน




“ว่าไง ...อืม ...อืม เดี๋ยวถามคนแถวนี้เอาก็ได้ ...อืม ...โอเค”




“.....”




“คนอื่นๆรอกันอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๊ยวน่ะ บอกให้เราไปหา” ดอมินิกว่าพลางเก็บโทรศัพท์




“แล้วรู้จัก?” ผมถามเขา




“ถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้เอาอ่ะ ...รีบไปเถอะ จินบอกภัทรมันหน้าหงิกจะตายอยู่แล้วที่นายไม่อยู่ด้วย”




“พูดซะเห็นภาพเลย” ผมว่า ก่อนจะเดินตามดอมินิกไป แน่นอนว่าเราถามพ่อค้าแม่ค้าแถวนั้น เรียกได้ว่าถามกันแทบจะตลอดทาง เพราะแม่ค้าบางคนอาจจะพึ่งมาอยู่เลยไม่รู้จัก ทำให้บอกทางเราผิด เรียกได้ว่าหลงกันเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็หาเจอครับ




“โหย ...กว่าจะมา” อลันแซวพวกเราเป็นคนแรกเลยครับ




“หลงนิดหน่อยนะ” ดอมินิกว่า ก่อนจะนั่งลงข้างจิน ที่ดูเหมือนจะสั่งเอาไว้ให้ดอมินิกแล้ว




“.....” ผมนั่งลงข้างโปเต้ พบว่าเขาก็ส่งให้ผมแล้วเหมือนกัน แต่ชามตรงหน้าเขาก็ยังไม่พร่องไปเหมือนกัน แต่พอผมนั่ง โปเต้ก็หยิบตะเกียบ แล้วคีบเส้นในชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้าแทบจะทันที




“รอเหรอ” ผมถามพลางเริ่มกินบ้าง




“อืม” โปเต้ตอบเบาๆ




แม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่า...มันก็ทำให้ผมกินไปยิ้มไปน่ะนะ





******************************************************************




FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-05-2015 22:31:53
 :pig4: :pig4:

โปเต้ดูแลติณณ์ระดับพรีเมี่ยมจริง หัวจรดเท้าโฮะๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 09-05-2015 22:34:30
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

มาต่อไวไวน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 09-05-2015 22:47:26
โอ๊ยยยยยย ๆๆๆ หวานกันมากขึ้นทุกตอนเลย :impress2:
อยากอ่านต่อแล้วรีบมาต่อน้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 09-05-2015 22:51:50
 :110011: :z7: :110011: :z7: :110011: :z7: :110011: :z7: :110011: :z7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-05-2015 23:00:59
โปเต้เทคแคร์ติณน์อย่างเวอร์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 09-05-2015 23:04:39
หวานขึ้นทุกวันๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-05-2015 23:07:21
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 09-05-2015 23:31:22
น้องดอมน่าร้ากกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 09-05-2015 23:33:32
ระดับความหวานยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง :-[
ติณณ์นี่ปากร้ายเหมือนกันนะ :laugh:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-05-2015 23:50:46
แสดงออกมากขึ้นเรื่อยๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 09-05-2015 23:57:20
ชีวิิตมุ้งมิ้งฟุ้งฟิ้งไปแล้วววววว น่าร๊ากกกกกกกกกกกก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 10-05-2015 00:01:42
หวานจริง :heaven
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 10-05-2015 03:03:52
โปเต้น่าร๊ากกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 10-05-2015 03:11:07
โดนมดแทะจนพรุนแล้วเจ้าค่าาาาา

หวานเกิ๊นนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rotedump ที่ 10-05-2015 06:08:22
แอบหวานเบาๆ :mew3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-05-2015 06:39:53
น่ารักอ่ะะะะะะะ นับวันยิ่งชัดเจนนะคู่นี้
เสียดายอิเด็กแรดนั่นไม่เจอทั้งแก็งค์
รอตอนต่อไปน้อออออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 10-05-2015 06:48:59
 :-[.  ฟรุ้งฟริ้งสุดๆอะตอนนี้
เราคิดว่าโปเต้น่ารักมากเลยไม่แปลกใจที่ติณณ์ตกหลุมรักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัว แถมขี้อ่อย ขี้เอาใจ เป็นคนติดแฟนมากนะเราอะ เมื่อก้นเลยบีบนวดให้ซะเลย ไม่แคร์สายตาใครอีกแล้วครับท่าน
ติณณ์แอบคิดถึงโปเต้น้อยตลอดตอนหลังอาบน้ำ 555 ติดตาล่ะสิ ก็แวะไปทักทายมันบ้างสิ.  :hao6:

ถ้าโปเต้รู้เรื่องเด็กยั่วคนนั้นจะหึงไหมนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 10-05-2015 08:45:51
เดี๋ยวนี้โปเต้เริ่มพูดเยอะขึ้นจิงๆล่ะ ถึงจะนิดนึงก็เถอะนะ  :laugh:
มาต่อไวๆนะฮะรออออ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 10-05-2015 10:12:00
สะใจจริงที่ ผู้ชายคนนั้นโดนติณณ์กับดอมินิก ตอกจนหน้าหงาย   

ตอนนี้ต้องเรียกว่าโปเต้เซอร์วิส  เพราะบริการทุกระดับประทับใจ เหมือนโลกนี้มีแค่เราสองคน

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-05-2015 11:15:51
โปเต้น่ารักตลอดดดดดด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 10-05-2015 12:06:59
น่ารักทั้งคู่ เริ่มแสดงออกเยอะขึ้นแล้วววววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 10-05-2015 14:44:29
เพิ่งเข้ามาอ่าน อ่านรวดเดียวเลย ชอบมาก เรื่องรักในรั้วมหาลัยแบบนี้ เพราะใกล้ตัวมากๆ
เรื่องสนุก อ่านละเพลินมากๆ :)

มาต่อไวๆนะครับ รอติดตาม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 10-05-2015 14:50:14
ฮือ ไม่ได้แวะเข้ามาซะนานเลย T _____ T .. ดูอีกทีก็หลายตอนเข้าไปแล้ว
ขอโทษด้วยนะคะ แง ; - ; .. สำหรับตอนล่าสุดนี่น่ารักมากกกกกกกก จริงๆก็น่ารักมาหลายตอนแล้วแหละ 5555555
ตลกคนมาจีบดอมินิกจัง ส่วนติณณ์นี่โชว์แมนไปเลย 55555555 แหม ไม่มีโปเต้อยู่หน่อยก็หล่อเชียว
โปเต้ก็ยังน่ารักเหมือนเคยเลยค่ะ ชอบที่ดูเอาใจใส่ติณณ์มากกกกก อิจฉาเลย~ มีคนดูแลเป็นห่วงมากขนาดนี้นะ
อย่างฉากในห้องน้ำเราชอบมากเลยค่ะ โปเต้ดูห่วงติณณ์แบบมากๆๆๆ แคร์สุดๆ >_____<

เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์เหมือนเดิมนะคะ ~ หลังจากนี้จะพยายามไม่พลาดอีกค่ะ OTL ขอโทษอีกครั้งเน้อ T T
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 10-05-2015 15:59:27
โปเต้น่ารักกกกกก มีนวดก้นให้ติณณ์ด้วยยย ง่อววววว  :-[ :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 10-05-2015 18:42:13
เริ่มออกเดินทางกันแล้ว ตามไปเที่ยวด้วยคนเน้อ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-05-2015 19:00:14
คนที่โดนติณณ์ด่านี่ต้องพิจารณาตัวเองด่วนๆเลยนะ :m20:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-05-2015 20:49:35
ก๋วยเตี๋ยวไม่ต้องเติมน้ำตาลเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 20 P.36 9/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 10-05-2015 21:18:56
เรื่องเล็กๆน้อยๆนี่แหละสำคัญ ยิ้มหน้าบานเลยเหรอติณณ์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 10-05-2015 23:00:21
ตอนที่ 21









ตอนนี้เราออกมาจากตลาดน้ำทุ่งบัวชมแล้วครับ และกำลังมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ โดนที่เซย์เป็นคนนำทางเหมือนเดิม ตอนนี้เราก็ขับกันมาไกลมากและนานพอสมควร ผมที่มองทางมาตลอดก็มองป้ายทันบ้างไม่ทันบ้าง ตอนนี้รู้เพียงว่าเราเข้ามาในเขตอำเภอเมืองสระบุรีแล้ว ก้นผมนี่ชาไปหมดจนแทบจะไม่รู้สึกอะไรแล้วเนี่ย




ก่อนจะออกมาจากตลาดน้ำทุ่งบัวชม เราก็คุยกันว่าวันนี้เราจะหาที่พักในอำเภอเมืองนี่แหละ เจอที่ไหนก็จอดแวะเช็คอินเข้าพักกันเลย เพราะการนั่งมอเตอร์ไซด์มันเหนื่อยก็การนั่งรถยนต์เอามากๆ และคนขับเองก็คงไม่ต่างกัน เพราะเราจึงแวะร้านกาแฟที่อยู่ข้างทางเป็นการพัก โดยที่อลันเป็นคนอาสาไปถามคนในร้านถึงโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากนี้




“เหนื่อยมั้ย” ผมเอ่ยถามโปเต้ ทั้งที่ตัวเองก็เหนื่อย




“เหนื่อย แต่เมื่อยมือมากกว่า” เขาว่าก่อนจะแบมือให้ผมดู




“.....” ผมยิ้มนิดๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเขา แล้วบีบๆ นวดๆ ให้




“....” โปเต้ยิ้มให้ผมเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆเอนหัวลงมาซบลงบนไหล่ผม ตาก็มองมือผมที่นวดมือเขาอยู่




“.....”




“.....”




ไม่มีใครพูดอะไร จนกระทั่งเขาเอาของที่พวกผมสั่งมาเสริฟ โปเต้สั่งเค้กตั้งสองชิ้นแหนะ แต่ครั้งนี้ถืออนุโลมให้ เห็นว่าขับรถเหนื่อยๆ อยากจะกินก็กินไป ส่วนผมสั่งแค่นมสดปั่นอย่างเดียว




“กินมั้ย” โปเต้ถามก่อนจะตักเค้กบลูเบอรี่มาจ่อที่ปากผม เอ่อ...ถ้าจะจ่อปากขนาดนี้ ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง




“.....” ผมอ้าปากกินเค้กที่โปเต้ป้อน ก่อนที่จะชะงักเมื่อเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นน้องแป้งโทร.เข้ามาครับ ยังจำน้องเขาได้มั้ย ที่น้องเขามาขอให้โปเต้ไปถ่ายแบบให้น้องเขาน่ะ




“.....” โปเต้มองหน้าผมนิดนึง ก่อนจะหันกลับไปให้ความสนใจกับเค้กของเขาต่อ




“ฮัลโหล” ผมรับสาย




(พี่ติณณ์ ฮัลโหลๆ อยู่ไหนคะเนี่ย หนูเห็นพี่โปเต้ลงรูปพี่ในไอจี แคปชั่นว่าออกทริป) น้องแป้งพูดรั่วและเร็วจะผมฟังแทบไม่ทัน




“ตอนนี้พี่อยู่สระบุรีครับ” ผมตอบก่อนจะหันไปสะกิดโปเต้ว่าอยากกินพายแอปเปิ้ลของอลัน ซึ่งโปเต้ก็เอื้อมมือไปตักพายแอปเปิ้ลของอลันให้ผม โดยไม่ได้ขอเจ้าของก่อน แน่นอนว่าโดนอลันโวยวายใส่ แต่เมื่อเห็นว่าเขาเอามาป้อนผม อลันก็ไม่ว่าอะไร บอกว่าถ้าเป็นผมกินก็ไม่เป็นไร




(สระบุรีเหรอพี่ โหย...อยากไปจังเลย เนี่ย...หนูต้องมานั่งทำโปรเจ็คที่อาจารย์สั่งเนี่ย เยอะจนกองท่วมหัวหนูแล้ว) น้องแป้งคงได้ที เลยบ่นให้ผมฟัง




“ตั้งใจๆ” ผมบอกน้องไป คือน้องก็เป็นเพียงคนไม่กี่คนที่ผมสนิทด้วย ดูไม่มีพิษภัยอะไร ผมเลยไม่ค่อยรำคาญเท่าไหร่เวลาน้องโทร.มาคุยมาบ่นให้ฟัง แนะนำอะไรได้ผมก็แนะนำ แนะนำไม่ได้ก็ฟังน้องเขาอย่างเดียว




(เอ้อ...รูปพี่นภัทรอ่ะ หนูเอาไปส่งอาจารย์แล้ว ผ่านด้วยนะพี่ติณณ์ เนี่ย...อาจารย์บอกรูปดูเป็นธรรมชาติมากเลย อาจารย์จะให้หนูส่งเข้าประกวดด้วยนะ แต่หนูล้างรูปเผื่อพี่ติณณ์ไว้แล้ว ไว้พี่กลับมาก็บอกหนูนะ เดี๋ยวหนูเอาไปให้)




“ครับ”




(งั้นหนูไม่กวนแล้วดีกว่า ...เที่ยวให้สนุกนะคะ)




“ครับ” แล้วผมก็วางสายจากน้องแป้ง




รังสีความอยากรู้เริ่มแผ่ออกมาจากพวกเซย์ จนผมรู้สึกได้




แต่ก่อนอื่นผมมีเรื่องต้องการอยากรู้ตอนนี้ก่อน




“.....” ผมเมินสายตาคนอื่นๆ ก่อนจะรีบเปิดโทรศัพท์กอดเข้าไปที่อินสตาร์แกรมในโทรศัพท์ของตัวเอง ก่อนจะกดเข้าไปดูอินสตาร์แกรมของโปเต้




ชัดเลย...โปเต้เอารูปผมลง เป็นรูปที่ผมกำลังอ้าปากกัดเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่กินตอนอยู่ตลาดทุ่งบัวชม คนไลค์ไปหมื่นสอง (นี่เป็นดาราบ่หนิ?)  และโพสต์ใต้รูปที่เป็นรูปผมที่เอาลงในอินสตาร์แกรมของเขาว่า




napattiwa.pt ทิ้งให้เราเดินกับเพื่อน ตัวเองหาย พอมาถึงก็กินอย่างเดียวไม่สนใจกันเลย ท่าทางจะหิวจัด #ไม่เป็นไร #ติณณ์ดูแลเรามาตลอด #วันนี้ให้เขาหน่อยจะเป็นไรไป #ไม่รักไม่ทำนะหนิ #ออกทริป




#ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ... #ไม่รักไม่ทำนะหนิ...



โอ๊ยยยยย นี่มันอะไรกันเนี่ยยยยย...หน้าจะไหม้แล้ววววววว ...หัวใจเต้นเป็นจังหวะแทงโก้แล้วววววววววว




แม้ว่าผมอยากจะได้ยินเป็นคำพูด แต่แบบ...แค่นี้ก็รู้สึกดีใจโคตรๆแล้ว ทำไงดีๆๆ เขินโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!




ผมกดแคปหน้าจอ แต่ยังไม่กล้าหันไปมองหน้าโปเต้ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนอ่านคอมเม้นต์ ...โว๊ย! มือสั่นอีก!




“ติณณ์ เป็นไรอ่ะ หน้าแดงแจ๋เลย” แต่แล้วอลันก็ทักผมขึ้นซะเสียงดัง จนทุกคนหันมามองหน้าผมเป็นตาเดียว




“ปะ..ปะ เปล่า” ผมบอกเสียงสั่น ซ้ำยังตะกุกตะกักอีก ก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าตามเดิม คงสร้างความสงสัยให้พวกเขามากขึ้น




“เป็นอะไร มีอะไรรึเปล่า” โปเต้หันมาถามผม คำพูดที่ราบเรียบ แต่กลับทำให้ผมใจเต้นแรงเอาซะง่ายๆ เขาถามแบบนี้ เขาเป็นห่วงผมใช่มั้ย




“เปล่าหรอก” ผมตอบเสียงเบา




“แล้วใครโทร.มา” โปเต้ถาม ไม่ใช่น้ำเสียงไม่พอใจ เพียงแต่ถามเหมือนอยากรู้มากกว่า




“น้องแป้งน่ะ” ผมเอ่ยบอกเขา ซึ่งเขาก็พยักหน้า เพราะเขาเองก็เคยคุยกับน้องแป้ง เวลาที่น้องโทร.เข้ามาหาผมเหมือนกัน (น้องแป้งไม่กล้าโทร.หาโปเต้ เธอบอกว่าผมใจดีกว่า)




“.....” โปเต้พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะหันไปแย่งเค้กของจินที่เขาเพิ่มเอามาเสริฟ




“รีบๆ กินกันให้เสร็จสักทีสิ อยากอาบน้ำแล้วนอนจะแย่” เสียงอลันเริ่มบ่น ผมเห็นว่าเขานั่งท้าวคางมองทุกคนมาสักพักแล้ว สงสัยคงจะอยากพักจริงๆ




“จะเสร็จแล้ว นอนรอไปเลยไป” เซย์หันไปบอก ซึ่งอลันก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะจริงๆ ไม่รู้ว่าประชดหรืออะไร




เพียงเวลาไม่นาน พวกเราก็ออกมาจากร้านกาแฟครับ อลันดูดี๊ด๊ามาก คงเพราะจะได้ไปนอนพักสมใจเขาล่ะมั้ง




อลันเป็นคนขับนำพวกเราครับ เพราะเนื่องจากว่าเขาเป็นไปถามคนในร้านกาแฟถึงโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากนี้ แต่ขอที่มันดีๆหน่อย เตลิดร้านกาแฟมาไม่ไกลก็เจอโรงแรมระดับสามดาว ซึ่งก็ถือว่าโอเคเลยครับ ดูสะอาด เรียบๆ และไม่อุดอู้ พวกเราจองกันสามห้อง ซึ่งก็คงจะรู้อยู่แล้วใช่มั้ยครับ ว่าใครนอนกับใครบ้าง




“ติณณ์จะอาบน้ำมั้ย” โปเต้เอ่ยถามผม ในขณะที่เขากำลังนั่งถอดรองเท้าอยู่ปลายเตียง แต่ผมนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้วครับ เสื้อแจ็คเกทก็ถอดพาดไว้กับเก้าอี้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งเรียบร้อย ผมอยากถอดกางเกงด้วยเหมือนกัน แต่เกรงใจโปเต้




“ไม่เอา อยากนอน” ผมบอกก่อนจะหลับตา




“.....” โปเต้ไม่พูดอะไร แต่แล้วผมก็ต้องลืมตาขึ้นอย่างตกใจ เมื่อ...




“เฮ้ย...โปเต้ ผมทำเองได้” ผมรีบร้องบอก เมื่อโปเต้ที่นั่งอยู่ปลายเตียง (ซึ่งก็อยู่ปลายเท้าผมนั่นแหละ) เอื้อมมือมาถอดถุงเท้าให้ผม คือแบบ..นั่นเท้าเลยนะ มันไม่ควรจะมาให้คนอื่นทำให้ ผมทั้งเกรงใจทั้งเขินแล้วเนี่ย




“ไม่เป็นไร” โปเต้ตอบก่อนจะถอดถุงเท้าให้ผมทั้งสองข้าง พร้อมกับก้มลงไปเก็บร้องเท้าที่ผมถอดอยู่กับพื้นตรงปลายเตียง ไปวางไว้หลบทางเดินแล้วเอาถุงเท้าผมวางพาดเอาไว้บนรองเท้าของผม บอกเลย...ตอนนี้รู้สึกเกรงใจแบบโคตรๆ เพราะทุกทีผมเป็นคนทำอะไรเรียบร้อย แต่คือตอนนี้มันเหนื่อยไง เลยขี้เกียจไปซะทุกอย่าง




“เดี๋ยวผมอาบน้ำนะ ติณณ์นอนเถอะ” โปเต้ว่าก่อนจะถอดเสื้อออก ผมนี่รีบหันหน้าหนีอย่างเร็วเลยครับ ไม่ชิน...ยังไงก็ไม่ชิน   




งื้อ...นอนดีกว่า เหนื่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก












[Pota’s part]





ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็พบว่าติณณ์หลับไปแล้ว ท่าทางจะง่วงมากๆ เขาคงจะเหนื่อยน่ะนะ การนั่งมอเตอร์ไซด์นานๆ มันก็เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ อันนี้ผมก็พอจะเข้าใจ ...ผมเดินมานั่งบนเตียงขนาดควีนไซด์ที่ติณณ์นอนอยู่ ก่อนจะค่อยโน้มตัวลงไปนอนตะแคงข้าง จ้องหน้าเขายามหลับ ในความคิดของผม ผมรู้สึกว่ามันน่ารักมาก มากจนผมอยากจะฟัดแก้มทั้งสองข้างของติณณ์ให้หายหมั่นเขี้ยว แต่ก็ต้องห้ามใจตัวเอง เพราะตอนนี้เขาเหนื่อยจากการเดินทาง และต้องการพักผ่อน




ติณณ์เขาให้ผมมาเยอะมาก ดูแลผมดีทุกอย่าง จนผมคิดว่าโชคดีจริงๆที่เราได้เป็นแฟนกัน โชคดีที่ตอนนั้นผมตามติณณ์ที่เดินหายไปกับพี่เฟรม และโชคดี...ที่ติณณ์ยอมตกลงเป็นแฟนผมจริงๆ ไม่ใช่แค่อ้างชื่อผมเอาไว้หลอกพี่เฟรม




แม้ตอนแรกที่ติณณ์คบผม เขาคงคิดแค่เพียงว่า ต้องการจะกันพี่เฟรมออกจากชีวิตเขา แต่ตอนนี้...ผมรู้ว่าความรู้สึกของติณณ์ที่มีให้ผมมันเปลี่ยนไป ไม่ใช่ว่าผมจะเข้าข้างตัวเองหรอกนะ แต่มันก็เห็นๆกันอยู่ การกระทำทุกอย่าง คำพูดทุกคำ อย่างที่ไม่ต้องเอ่ยคำว่ารัก แต่รู้สึกได้ถึงรัก




ยิ่งตอนในห้องน้ำ มันเริ่มจากที่ว่าผมเองที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ทั้งที่เป็นคนดึงดันจะเข้าไปอาบน้ำด้วยกันกับเขาแท้ๆ แต่กลับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และติณณ์ก็ทำให้ผมต้องตกใจ เมื่อเขาหันหน้ามาหาผม เมื่อเขาหันมาช่วยผม การสกัดกลั้นอารมณ์เมื่อมีความต้องการ มันทรมานมาก และเขาไม่เลือกที่จะมองข้าม ผมยังคิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะใช้ปากกับตรงนั้นของผม โดยที่ไม่รังเกียจ แถมยังกลืนน้ำบางอย่างของผมไปซะเกือบหมด ติณณ์ทำแบบนี้แล้วผมจะไปไหนรอด ผมทั้งเขินทั้งดีใจ ดีใจจริงๆที่เราใจตรงกัน




และการมาออกทริปครั้งนี้ ผมก็เทคแคร์ดูแลติณณ์เป็นอย่างดี ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง แต่นั่นเป็นเพราะผมอยากทำ แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายแมนๆเหมือนกันผม แต่ผมก็อยากทำ ผมอยากแสดงให้เขารู้ ว่าผมรักและให้ความสำคัญกับเขามากแค่ไหน ผมน่ะทั้งรักทั้งห่วงทั้งหวง ยิ่งตอนที่ติณณ์แยกไปเดินกับดอมินิกสองคนแล้วปล่อยให้ผมเดินกับจิน ยอมรับว่าในหัวตอนนั้นคิดอะไรเยอะแยะเต็มไปหมด คนก็เยอะ เบียดก็เบียด คิดว่าติณณ์จะร้อนมั้ย อยากจะไปเดินพัดให้เขา คิดว่าถ้าติณณ์ถูกจีบล่ะ ผมจะทำยังไง ผมไม่อยากให้คนที่หวังจะจีบติณณ์มาคุยมาใกล้ติณณ์ คิดว่าเขาจะหลงทางรึเปล่า คิดว่าเขาจะหิวมากมั้ย เพราะกินแค่แซนวิชรองท้องก่อนออกมา แล้วถ้าเกิดหน้ามืดหรือเป็นลมขึ้นมาล่ะ จะทำยังไง และอะไรอีกหลายๆอย่าง ที่ผมเริ่มกังวลและวิตกเมื่อเริ่มไม่เห็นติณณ์ คิดไปเรื่อยว่าอยากจะดูแลเทคแคร์เขา อยากให้ติณณ์สนุกกับการมาเที่ยวด้วยอยากจะให้เขารู้สึกสบายใจหากมีผมอยู่ข้างๆ และนี่...แค่ห่างจากติณณ์แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผมนี่จะดิ้นตายอยู่แล้วเนี่ย เพราะตั้งแต่คบกันมา...ไม่สิ ตั้งแต่ผมและติณณ์ย้ายเข้ามาอยู่กับพี่ตาลพี่ปาร์เลยก็ว่าได้ เราอยู่ด้วยตลอด ไปเรียนพร้อมกัน กลับบ้านพร้อมกัน เวลาจะไปซื้อของก็ไปด้วยกัน ผมไม่ได้โอเว่อร์หรืออะไรหรอก แต่ว่าการมีคนๆนึง อยู่ข้างๆเรามานานเป็นเดือนๆแบบนี้ แถมยังเป็นคนที่เราอยากเห็นหน้าเขาตลอดเวลาอีก พอแค่ติณณ์หายไปจากระยะสายตาของผม ใจผมก็กระวนกระวายแล้ว




ผมอดไม่ได้ที่จะหันไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาถ่ายรูปติณณ์เก็บเอาไว้ ก่อนที่จะมองหน้าติณณ์...ใบหน้าที่หล่อเหลาและมีเสน่ห์ดึงดูดกับทุกเพศ ...มันเริ่มทำให้ผมเห็นแก่ตัว ไม่อยากให้ใครเข้ามาใกล้ติณณ์เลย ...จริงๆนะ




ผมเปิดกล้องหน้าก่อนจะยื่นแขนออกไป กดชัตเตอร์ถ่ายรูปผมและติณณ์ที่กำลังหลับ แต่กดชัตเตอร์ในจังหวะที่ผมก้มหน้าลงจูบริมฝีปากนุ่มๆของติณณ์เบาๆ และอดไม่ได้ที่จะประกาศให้โลกรู้ ว่าคนๆนี้ คือแฟนผม




“.....” ผมอัพรูปลงอินสตาร์แกรมของตัวเอง ทั้งที่ตอนอยู่ตลาดน้ำทุ่งบัวชมก็อัพไปแล้วรูปนึง คือรูปตอนที่ติณณ์กำลังกินก๋วยเตี๋ยวอย่างตั้งอกตั้งใจ จนไม่ทันสังเกตว่าผมถ่ายรูปเขา ไม่ได้แอบด้วย ยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายแบบโต้งๆเลยล่ะ




napattiwa.pt




ชื่ออินสตาร์แกรมของผม ที่เปลี่ยนตอนที่พึ่งคบกับติณณ์แรกๆเลย โดยใช้ชื่อผมคือ Napat และชื่อของติณณ์คือ Tiwalin แต่ผมอยากให้มันมีแค่สองพยางค์ เลยเอาให้เหลือแค่ Tiwa ก็พอ ส่วน pt ก็คือโปเต้ติณณ์ไงครับ แต่ไม่เขียนว่า ptt เพราะผมอยากให้เราเป็นหนึ่งเดียว เลยรวมเป็นตัวย่อตัวกัน โดย t ตัวสุดท้ายก็คือ เต้ติณณ์ นั่นแหละครับ เป็นไง...ความคิดผม ผมว่ามันดูแหว๋วมากเลยนะ แต่อะไรที่ประกาศให้โลกรู้ได้ว่าผมกับติณณ์มีความสัมพันธ์กันยังไง ผมก็ทำหมดแหละ




ผมโพสต์ใต้ภาพเสร็จ ก็กดอัพรูปลงทันที โดยที่เขียนเอาไว้ว่า...




napattiwa.pt เดินทางมาเหนื่อยๆ ไอ้หน้าหล่อหลับไปแล้ว หลับไม่รอกันเลย แบบนี้ต้องลงโทษ #อย่าทำให้เป็นห่วงมากนัก #ไปไหนก็ไปด้วยกันสิ #ห่างกันแป๊บเดียวใจมันจะขาดอยู่แล้ว #รู้มั้ย #ฝันดีครับ




นั่นคือโพสต์ใต้ภาพในอินสตาร์แกรมของผม และผมก็รู้ว่าที่เขาหน้าแดงที่ร้านกาแฟก่อนจะมาที่นี่ เป็นเพราะเขาเข้าไปดูอินสตาร์แกรมของผมที่ลงรูปเขา (บังเอิญผมเห็นพอดี) และได้ทันเห็นว่าติณณ์แคปหน้าจอ หึๆ ...แบบนี้มันน่าปลื้มใจจะตาย




“.....” ผมล้มตัวลงนอนข้างๆเขา ก่อนที่จะค่อยสอดแขนไปใต้คอของเขา เพื่อให้เขามานอนหนุนแขนผม แต่ก็พยายามทำเบาๆ ไม่อยากให้ติณณ์ตื่น เมื่อสำเร็จ ผมว่าวาดแขนอีกข้างกอดเอวเขาเลยครับ หึๆ...แบบนี้สิถึงจะฝันดี











ผมหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อไอ้คนที่ผมนอนกอดอยู่เขาขยับตัวนี่แหละ ผมหรี่ตามองเขา พบว่าเขากำลังถอดกางเกงตัวเองทั้งที่ยังไม่ยอมลืมตา และเขาก็ถอดมันสำเร็จ ก่อนจะใช้เท้าถีบกางเกงให้ออกจากตัว คงจะอึกอัดและนอนไม่สายตัว ปกติติณณ์ไม่เป็นแบบนี้หรอก แต่นี่เขาคงเหนื่อยเลยทำให้ขี้เกียจที่จะลุกขึ้นมาทำอะไรให้มันเรียบร้อย




“.....” ผมรีบหลับตาอย่างตกใจ เมื่อเขาลืมตาขึ้นมา ผมรู้สึกได้ว่าหัวของเขาที่นอนหนุนแขนผมอยู่ขยับขึ้น ก่อนจะนอนทับลงมาใหม่ รู้สึกได้ถึงแก้มนิ่มๆที่แนบอยู่ที่แขนของผม




“ทำไมไม่ใส่เสื้อนอนล่ะเนี่ย เปิดแอร์ก็เย็น เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เสียงติณณ์พูดขึ้นเบาๆ ก่อนจะที่ผมจะรู้สึกได้ว่า มือของเขากำลังลูบแก้มผมเบาๆ อย่างกลัวผมตื่น สัมผัสที่แผ่วเบาของมือนุ่มของติณณ์ มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก




“นึกยังไงมานุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวนอนเนี่ย” ติณณ์พูดแค่นั้น ก่อนจะค่อยลุกขึ้น ทำให้มือผมที่กอดเอวเขา เลื่อนลงไปวางแหมะอยู่ที่สะโพกของเขาแทน แต่ติณณ์ก็ไม่ยักกะเอาออก




และผมก็รู้สึกได้ถึงผ้าห่มผืนไม่หนามาที่มาคลุมตัวผม (ที่ติณณ์ถีบให้มันไปอยู่ปลายเตียงตั้งแต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปอาบน้ำเสียด้วยซ้ำ) และหัวของติณณ์ที่นอนหนุนแขนผมอีกครั้ง รู้สึกว่าเขาจะหันหน้ามาทางผมด้วยล่ะมั้ง ...การแกล้งหลับนี่เป็นอะไรที่ยากเหมือนกันนะ




“ขอบคุณที่ทำทุกอย่างให้เพราะรัก” จบคำพูดของติณณ์ ผมก็รู้สึกถึงหัวของติณณ์ที่ผละออกจากแขนของผม ก่อนจะตามมาด้วยสัมผัสนุ่มๆที่แตะมาที่ริมฝีปากของผม ...ติณณ์เขาแอบลัก (แกล้ง) หลับผมมมมมมมม ...โอ๊ย...หวังว่าติณณ์จะไม่ได้ยินเสียงหัวใจของผม ที่มันเต้นแรงจะแทบจะหลุดกระเด็นออกมาอยู่แล้วเนี่ย




“ฝันดีนะ ...ทุกอย่างที่ทำให้ ...ก็เพราะรักเหมือนกัน” ว่าจบ ผมก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมๆของยามสระผมที่เราใช้กับประจำทุกวัน ใบหน้าหล่อที่นิ่งสงบตอนนี้ซบลงไปที่อกของผม แขนเรียวขาวที่ผมไม่เคยที่จะจับแรงเพราะกลัวช้ำ ตอนนี้กำลังกอดเอวผม




และเหนือสิ่งอื่นได้ คำสารภาพที่เขาได้พูดมันออกมา แม้ว่าเขาจะนึกว่าผมหลับ แต่ทุกสิ่งที่ผมได้ยินมันชัดเจน และเป็นความจริง




ติณณ์เขาบอกว่าเขารักผม!!!




ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทุ่มเทให้เขามันไม่ศูนย์เปล่า แต่ผลลัพธ์มันกลับดีเกินคาด คำพูดที่คิดว่า ต่อให้ติณณ์ไม่พูดออกมาก็ไม่เป็นไร ขอแค่ยังมีกัน แต่ว่าเขาก็พูดมันออกมา




แม้เขาจะนึกว่าผมหลับก็ไม่เป็นไร ตอนนี้ผมก็มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ ทั้งการกระทำที่ผ่านมา และคำพูดเมื่อกี้ มันทำให้ผมมั่นใจและรู้สึกดีใจอย่างไม่เคยเป็น




ทุกสิ่งทุกอย่าง มีไว้...เพื่อให้ผมรู้ว่าคนนี้แหละใช่ คนนี้แหละที่ผมรัก ผมพร้อมจะหยุดที่เขา คนนี้คนเดียวที่ใจบอกว่าใช่ คนนี้แหละที่อยากจะฝากหัวใจเอาไว้ คนนี้แหละที่อยากจะอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ ผมคงไม่มีหลักประกันใดๆ มาเป็นหลักฐานว่าเราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป จะมีก็คงมีแค่ใจ ที่พร้อมจะดูแลติณณ์ให้ดีที่สุด แม้ว่าจะถึงวันที่ติณณ์ไม่ต้องการผมแล้ว แต่ผมก็จะไม่เสียใจ หากผมทำมันให้ดีดูแลให้ตั้งแต่ตอนนี้ มันก็คงจะดีกว่าไปทำในวันที่ไม่มีโอกาสได้ทำอีกแล้ว




ถามว่าถ้าถึงวันนั้นตัวผมเองจะเป็นยังไง บอกไว้เลยว่าไม่รู้ และไม่จำเป็นต้องคิดถึงมัน ผมขออยู่กับปัจจุบันและทำมันให้ดี ซึ่งผมว่ามันดีว่าเอาแต่คิดถึงเรื่องอนาคต แต่ปัจจุบันกลับละเลย ซึ่งผมก็จะไม่ให้มันต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน




ผมเชื่อมาตลอด ตั้งแต่ก่อนจะเจอติณณ์...ว่าถ้าเราเกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน เกิดมาเพื่อดูแลหัวใจอีกดวงของใครอีกคนที่เราเต็มใจรับดูแล เกิดมาเพื่อรักแค่ใครคนนั้น ...สักวันผมก็จะมีใครคนนั้นอยู่เคียงข้าง




และผมมั่นใจ ...ว่าใครคนนั้นของผม ก็คือติณณ์นี่แหละ




หึๆ...รักนะครับ ไอ้หน้าหล่อของผม


***************************************************************************************




FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: qilarsy39 ที่ 10-05-2015 23:14:03
 :-[ :-[ น่ารักกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 10-05-2015 23:16:57
 :o8: :o8: :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 10-05-2015 23:18:59
ใครว่าคนเงียบๆหวานไม่เป็นล่ะจ๊า  :-[ :-[ :-[ :-[ หวานได้มุ้งมิ้งมาก อิจฉา :katai1:   :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Gapompom ที่ 10-05-2015 23:21:14
กรี๊ดดดดดดดดดด
หวานเวอร์ น่ารักๆ  :mew1: :mew1:
ยิ่งอ่านยิ่งจิ้นยิ่งฟินนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 10-05-2015 23:22:09
 ฟินเว่อร์ ~~~ :-[ :-[ :-[

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 10-05-2015 23:22:55
แอบน่ารัก ตอนลักหลับกันดีจริงๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 10-05-2015 23:26:58
เขินแทน ทั้งสองคน
อร๊ายยยยยยย >///<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 10-05-2015 23:27:37
ยิ่งอ่านยิ่งอิจฉา อยากได้แบบนี้จะเอาแบบนี้

อ่านไปเขินไป อ่านไปมุดผ้าห่มไป

อะไรจะหวานขนาดนั้นนนนนนนน

สงสารคนอ่านเถอะ เขินจนตัวจะแตก อิจฉาจนไฟลุกท่วมตัวหมดละ   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 10-05-2015 23:28:00
เอิม....ขัดใจเจ๊มากตอนนี้

ไอ็ซกมก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pandorawht ที่ 10-05-2015 23:28:47
PT <3  :hao7: :hao7: :hao7: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 10-05-2015 23:29:38
มีคำผิดนิดนึงแต่ว่าอ่านแล้วขำนะค่ะ
สงสัยรีบปั่นเกินไป
กินแซนด์วิช รองท้อง นะค่ะไม่ใช่ รองเท้า
แล้วก็ มั่นใจ ไม่ใช่ มั่นได้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 10-05-2015 23:39:58
เขินเชียว 5555555  โอ้ยพวกแกจะะาฟินไปไหนนิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: aornarak ที่ 10-05-2015 23:42:30
อ๊ายย.  ชอบอ่ะโปเต้ชัดเจนมาก น่าร๊ากกก โอ้ยเขินนน
ส่วนติณก็น่ารักมากกก อิอิ แอบหน้าแดงแจ๋. เป็นใครก็เขินอ้ะแบบนี้
เดี๋ยวรอติณมาดูอินสตราแกรมล่าสุดก่อนเหอะ. 555+ หน้าระเบิดแน่ไอ้หน้าหล่อ
มาต่อไวๆนะคะ

+1 ค่าชอบอ้ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 10-05-2015 23:47:38
กรี๊ดดดดดดด โอ้ย โปเต้หวานมากกกก
ตินก็หวานมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 10-05-2015 23:55:41
โปเต้ประกาศความเป็นเจ้าของได้น่ารักอ่ะ
คนอ่านนี่เขินเลย :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 10-05-2015 23:59:46
ถ้าจะหวานกันแบบนี้นะคะะะะะะะะะะ :katai1:
เจ้อิจฉาจนไฟลุกท่วมตัว!!!!!! :fire: :fire: :fire:
ผช.แบบนภัทรมีจำหน่ายที่ตลาดไหมคะะะะะะะะ :z3:
เหมาซักสามชาติ ขอให้เจอแบบนี้
รอตอนต่อไปน้าาาาา ช่วงนี้มาต่อเร็วจัง ดีใจจจจจ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-05-2015 00:15:32
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยย   :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-05-2015 00:16:17
โอ๊ยยยยย หวานนนนนนนนน :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-05-2015 00:18:34
ถึงหลับก็สามารถสวีทได้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 11-05-2015 00:56:01
กด+ ให้เลยค่ะ มาต่อเร็วมากกก สมใจคนรอ อิอิ

คู่นี้เขาน่ารักกันขึ้นทุกวัน แสดงออกมากขึ้น ไม่ค่อยแคร์ใคร มันน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกก

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 11-05-2015 00:58:28
ขอบคุณนะค่ะที่ทำให้เค้านอนหลับฝันดี จะหลับไปพร้อมกับสองคนนี้เลยยยย ^^ Good Night kaaaa  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 11-05-2015 02:19:33
รักกันเว่อร์วังมากอ่ะนภัส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pupae2528 ที่ 11-05-2015 02:39:55
ว้ายยยยย หวานมากกกก :mew3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 11-05-2015 03:16:33
1 2 3 ......
กรี๊ดดดดดดดดดดดด รกืนก้รนืรยด้ขตด่บน่ำยราำชจืำนีิกตี ฟินมว๊ากกกกกกกกกกก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
เขินจังเลย ติณณ์นี่โชคดีมาก โปเต้ก็น่าร๊ากกกกกกกก  :hao5:
โอ้ยนอนตายตาหลับบบ

ขอบคุณครับ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-05-2015 06:04:52
ฮืออ เขินนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 11-05-2015 06:50:48
โอ้ยยยยยย. ฟินตัวแตกค่ะ. นี่แค่ลักหลับกันเบาๆ บอกรักกันจุ้บๆ. โปเต้โรแมนติกมากๆอะให้ตายเถอะ
 :ling1:    :impress2:   
เราแอบจิ้นต่อว่ามันจะมีซัมติงเกิดขึ้นในคืนนั้น อร้าก หัวใจโปเต้เต้นรัวขนาดนั้นหนูติณณ์ซบอกไม่ได้ยินก้อแปลกแล้วจ้า
ผ้าเช็ดตัวผืนนึง บ็อกเซอตัวนึงและเสื้อ ใต้ผ้าห่มอันอบอุ่นนั้นอาจมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้ #อิป้านี่สติไปหมดแระ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 11-05-2015 08:02:31
ฟรุ้งฟริ้งกระดิ่งแมวมากค่าาา

อิจฉาได้อี๊กกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 11-05-2015 08:20:24
ง่อวว อะไรมันจะหวานจนมดขึ้นปานนั้น :กอด1:
เราชอบเรื่องนี้เพราะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีเสน่ห์ยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 11-05-2015 09:53:04
แอร๊ยๆ ตอนนี้อ่านแล้วแอบเขินอ่ะ  :-[
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 11-05-2015 10:56:04
แคปชั่นแต่ละอันของโปเต้ ทำเอาติณณ์เขินหน้าแดง  แต่ยังไงก็สู้คำบอกรักที่ออกจากปากติณณ์ไม่ได้ เพราะมีแต่โปเต้ที่ได้ฟังเพียงคนเดียว

ตอนอ่านว่า ptt ย่อมาจากอะไร  ตอนแรกนึกว่าโปเต้จะเล่นมุกว่า กลัวคนอ่านไอจีจะนึกว่าย่อมาจาก ปตท. ซะอีก เลยต้องย่อเหลือเพียง pt เท่านั้น
 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shinachan ที่ 11-05-2015 11:18:43
โอ้ย น่ารักมากๆเลยค่ะ เขิน ♥
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 11-05-2015 12:37:16
กรี๊ดดดดดด
คืออ่านแล้วเขิน อ่านแล้วจิกหมอน
โปเต้เปนคนที่การกระทำลึกซึ้งและมีที่มาที่ไปสุดๆอ่ะ
ติณแอบบอกรักด้วยยย ฟอนแทนโปเต้ >\\\\\\\<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 11-05-2015 14:35:22
ฟินโลกแตก  :heaven
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: LoogCHoop ที่ 11-05-2015 15:33:18
โอ้ยยย ปลื้มปริ่มมากตอนนี้ น่ารักมากเลย pt
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 11-05-2015 17:23:04
หวานแหวว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: lnudeel ที่ 11-05-2015 18:42:37
พอตอนหน้าแต่งเลยซินะ ขนาดนี้แล้ว เดี๋ยวท้องก่อนแต่ง!! :ling1: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 11-05-2015 19:03:29
เขินเขินเขินเขิน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 11-05-2015 20:55:34
 :mew1:  มีความสุขจังเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อ่านไป   เขินไป
ขอบคุณผู้แต่งมากๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 11-05-2015 21:10:12
อ่านอีกรอบ ฟินยาวๆๆไปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Noina_Pn ที่ 11-05-2015 21:43:26
ตามทันแล้ววววว :hao7: มาต่อเร็วๆน่ะเค้ารออยู่ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 21 P.37 10/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 11-05-2015 22:39:59
น่ารักกกกกกกกก ใจเต้นตึกตัก  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 12-05-2015 19:23:36
สาระแท้จริงไม่มีอยู่เลย 1





ติณณ์ : โปเต้ เรามาที่นี่ทำไมเหรอ

นภัทร : ไม่รู้

ติณณ์ : แล้วไอ้คนที่นัดเมื่อไหร่จะมาเนี่ย! (หนุ่มหน้านิ่งเริ่มที่จะบ่นออกมา)

นภัทร : เรากลับกันเถอะ

...แต่ยังไม่ทันจะได้ลุกขึ้น บุคคลที่ได้นัดพวกเขาทั้งสองไว้ ก็เดินมาด้วยท่าทีหวาดๆ

Pawaree : เอ่อ...ขอโทษนะครับที่มาช้า พอดีหลงทางนิดหน่อยน่ะครับ

นภัทร : ... (มองหน้านิ่งๆ แต่ไม่พูดอะไร)

ติณณ์ : ... (ไม่ได้สนใจถึงการมีตัวตนของอีกฝ่ายเลย)

Pawaree : เอ่อ...งะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า...นะครับ T^T (เสียใจที่ถูกเมิน)

Pawaree : สวัสดีครับ (หันมาที่กล้อง) ตอนนี้เราก็มีอยู่กับเหล่าตัวละครจากเรื่อง “เผลอใจ ‘รัก’ ไปซะแล้ว” นะครับ วันนี้แขกรับเชิญของเรา แน่นอนว่าต้องเป็นพระ-นายของเรื่อง คุณติณณ์แล้วคุณโปเต้คระ..!!!

ผัวะ!

...ยังไม่ทันที่จะได้พูดจบ และยังไม่ทันได้สัมภาษณ์ พิธีกรก็ถูกชกจนล้มหน้าหงายตกจากเก้าอี้ ที่ล้มกลิ้งลงมานอนเล่นเป็นเพื่อนอยู่ข้างกัน นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ยยยยยยยยยย!!!

Pawaree : คุณมาชกผมทำไมเนี่ยยย! ซี๊ด! (ซี๊ดเบาๆก่อนจะเดินไปหยิบเก้าอี้ที่ล้มขึ้นมาตั้ง แล้วนั่งต่อ)

นภัทร : ใครอนุญาตให้คุณเรียกผมด้วยชื่อเล่น? (ถามกลับหน้านิ่ง)

Pawaree : ขอโทษครับบบบบบบบบบ (แทบจะยกมือขึ้นไหว้ท่วมหัว)

นภัทร : ...

ติณณ์ : ...

Pawaree : เอ่อ...ไม่คิดจะพูดอะไรกันหน่อยเหรอครับ ทักทายผู้ชมได้นะครับ

นภัทร : ... (นิ่ง)

ติณณ์ : ... (ไม่สนใจ มองบรรยากาศรอบๆ)

Pawaree : เอ่อ...งั้นเรามาเริ่มที่คำถามแรกก่อนเลยดีกว่า จากตอบ #1131 ของคุณ poppycake ที่มาคอมเม้นต์ว่า ตัวของคุณโป...อะแฮ่ม! ตัวของคุณนภัทรนั้น เป็นคนที่มีการกระทำลึกซึ้งและมีที่มาที่ไป คุณคิดว่าตัวเองเป็นอย่างนั้นหรือไม่ครับ

นภัทร : ... (นิ่ง เงียบ)

Pawaree : ได้โปรดให้ความร่วมมือในการตอบคำถามด้วยครับ

นภัทร : ...เฮ้อ (ถอนหายใจราวกับเหนื่อยหนาย)

Pawaree : ...(ไม่ต้องมาถอนหายใจแบบนี้เลยนะ ฉันก็เหนื่อยที่จะพูดกับแกเหมือนกัน T^T)

นภัทร : ตอบก็ได้ เลิกทำหน้าตาให้ดูน่าสงสารทั้งที่มันทุเรศลูกกะตาสักทีเถอะ

Pawaree :...(ก่อนจะตอบ มันยังมาแอบเหน็บกันอีก)

นภัทร : ถามว่าลึกซึ้งมั้ย อันนี้ผมก็ไม่รู้ ...แต่ว่าถ้าเป็นคนที่การกระทำมีที่มาที่ไปมั้ย ก็คงจะใช่

Pawaree :...ช่วยยกตัวอย่างได้มั้ยครับ

นภัทร : ไม่ยก มันหนัก

Pawaree : ...เอ่อ ครับ (วอนซะแล้ววว เดี๋ยวหาพระเอกใหม่เลยหนิ)

นภัทร : ...

ติณณ์ : ...

Pawaree : งั้นเรามาถามคำถามต่อไปกันเลยดีกว่า คุณนภัทรครับ มีหลายความเห็นที่เห็นพ้องต้องกันว่าคุณน่ารัก ทั้งจากคุณ tempo_oil คุณ chisarachi คุณ no.fourth และอีกหลายๆคุณ (ขออภัยที่ไม่สามารถนำชื่อมาอ้างอิงได้หมด) สำหรับตัวคุณแล้ว คุณคิดยังไงครับ

นภัทร : ผมว่าผมหล่อนะ

Pawaree : เอ่อ.. ผมหมายถึงว่าให้คุณแสดงความเห็นถึงเรื่องที่ว่ามีหลายคนชมว่าคุณน่ารักน่ะครับ คุณคิดยังไงกับคำชมเหล่านั้น

นภัทร : ไม่คิดยังไง ก็บอกแล้วว่าผมหล่อ ข้ามไปข้อต่อไป

Pawaree : ครับๆ งั้น...

นภัทร : เดี๋ยว...

Pawaree : ห๊ะ..ครับ? (อะไรของมันว่ะ??)

นภัทร : หมดอารมณ์จะตอบ หิว..ป่ะ ติณณ์

...ว่าจบก็ลุกขึ้นซะดื้อ ทั้งพระ-นาย แล้วทั้งคู่ก็เดินออกไป โดยทิ้งความสงสัยไว้ให้ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ว่า...ที่นัดทั้งคู่มาวันนี้ ประโยชน์ที่ได้มันคืออะไร แล้วไอ้การตอบคำถามแบบนี้ เป็นไปได้ก็อย่าตอบมันเลยยยยยยยยย

ย๊ากกกกกกกก...ปวดหัวกับไอ้คู่นี้จริงๆโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!! กลับมาก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!




****************************************************************

เอามาลงเล่นๆ คั้นเวลา รอเนื้อเรื่องหลักมา อันนี้แต่งไว้เล่นๆเฉยๆน้าาาาาาาา :mew3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 12-05-2015 19:26:15
ห๊ะ ติณณ์ยังไม่โดนสัมภาษณ์เลยนะ จะไปไหน๊ๆๆๆ  :ling2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-05-2015 19:29:27
ชัดเลย. โปเต้หวงติณณ์ล่ะสิ.
สาระไม่มีมีแต่หมัดฮุก. สงสารจัง. สู้ๆค่ะคนเขียน. 5555

โหวตแล้วจร้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 12-05-2015 19:52:01
เออคือ ณภัทร คือ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-05-2015 19:57:57
เออ สาระไม่มีจริงๆด้วย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 12-05-2015 20:30:00
หาสาระไม่ได้จริงๆ :m20:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 12-05-2015 21:04:37
 :hao7:  รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ
รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ รอ... ติณณ์ กับโปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 12-05-2015 21:32:09
5555555โอ้ย สงสารมากค่ะที่ต้องโดนไปสัมภาษณ์สองคนนี้ นิ่งท๊างงงคู่5555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 12-05-2015 21:43:30
ติณณ์นี่ยังไม่ได้พูดสักคำเลย 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bumzaza258 ที่ 12-05-2015 21:48:19
คนตัวสูงใหญ่ดันหน้าหวาน คนตัวเล็กกว่าดันหน้าหล่อ ใครจะรุกนะ สลับกันดีมั้ย อยากเห็นโปเต้โดนเสียบ อยากเห็นเวลาเขิน อิอิ.  :hao7:
#รออุดหนุนหนังสืออ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-05-2015 22:00:31
คุณคนเขียนโดนต่อยฟรีไหมคะ เหมือนไม่ได้อะไรเลย แถมเจ็บตัวอีกต่างหาก :m20:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 12-05-2015 22:19:37
ต้องตัดค่าตัวออกค่ะ โทษฐานกระด้างกระเดื่อง :laugh: :laugh:
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 12-05-2015 22:28:31
55555555 โปเต้โครตเกรียนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 12-05-2015 22:38:53
555 นิ่งกันจริงๆนะคู่นี้
ลองปิดห้องให้อยู่กัน 2 คนดูซิ
มดจะตามมากินน้ำหวานกันทั้งรัง อิอิ

รอตอนมีสาระนะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว สาระไม่มีอยู่จริง 1 P.39 12/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-05-2015 22:44:57
โอ๊ยยยยยย ชอบคู่นี้จริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 13-05-2015 00:01:12
ตอนที่ 22










[Pota’ part]






ก๊อก! ก๊อก!




...เสียงอะไรว่ะ หนวกหู




“ไอ้ภัทรโว้ยยยยยยยยยยยยยยย เปิดประตูหน่อย”




ไม่พอ...ยังมีโหวกเหวกน่ารำคาญดังเข้ามาอีก อะไรว่ะเนี่ย คนจะหลับจะนอน




“โปเต้...ไปดูสิใครมา...” เสียงยานคางของคนในอ้อมกอดของผม และกำลังกอดผมอยู่เหมือนกัน เอ่ยบอกกับผม




“ติณณ์ก็ลุกขึ้นไปดูสิ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างกัน ก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น




“ไม่เอา...โปเต้ก็ลุกไปสิ” ติณณ์บอกก่อนจะกอดผมแน่นขึ้นไปอีก เออ...เอาสิ แล้วจะลุกกันยังไงล่ะทีนี้




“ม่ายยยยยย” ผมลากเสียงยาว ก่อนจะเอาขาก่ายขาติณณ์




“ไอ้ภัทร! ติณณ์! ค่ำแล้วนะเว้ย!!! จะแดกมั้ยข้าวอ่ะ!!!” ผมจำได้ นี่เป็นเสียงของเซย์




แล้วเสียงของเซย์ก็เงียบไปสักพัก กลายเป็นเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นมาแทน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าของใครดังเพราะไม่ได้หันไปมอง (ผมกับติณณ์ใช้เสียงริงโทนเดียวกันครับ)




“.....” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง หันไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่มันหลุดตอนไหนก็ไม่รู้มาพันส่วนล่าง ก่อนจะเดินไปเปิดประตูในสภาพที่หัวชี้ฟูชนิดที่แบบว่า แทบจะดูไม่ได้




“.....” ผมกระชากประตูให้เปิดออกด้วยความหงุดหงิดที่ถูกปลุก




“ขุนพระ!!!” เสียงไอ้เซย์ร้องอย่างตกใจบนวิบัตภาษาที่เห็นผมมาเปิดประตูสภาพนี้




“มีอะไรว่ะ” ผมถามเสียงห้วน




“กะ..กู ...คือ...” แต่ไอ้เซย์ยังมาทำตัวน่าหงุดหงิดโดยการมายืนอ้ำๆอึ้งๆอยู่ได้ เดี๋ยวพ่อก็จัดให้สักเปรี้ยงสองเปรี้ยงเลยหนิ




“.....” ผมมองมันด้วยสายตาประมาณว่า ถ้ามึงยังไม่พูดก็จะกระทืบมึงล่ะนะ




“พวกกูจะชวนมึงไปกินข้าวเว้ย นี่ก็ค่ำแล้วด้วย ไม่ไกลจากนี้มีร้านอาหารน่ากินอยู่ กูกับอลันพึ่งไปสำรวจมา” สุดท้ายมันก็พูดออก ก็แค่เนี่ย...จะอ้ำๆอึ้งๆทำไมว่ะ




“ลงไปรอข้างล่าง ...สิบนาที” ผมว่าก่อนจะปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามา พบว่าติณณ์ยังนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ผมเลยเข้าไปอาบน้ำประมาณสามนาที ก่อนจะเดินออกมาแต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วเดินมาปลุกติณณ์




“ติณณ์ ...ติณณ์ ตื่นก่อน” ผมเรียกพร้อมกับเขย่าตัวเขาไปด้วยเบาๆ




“อืมมม...ติณณ์ยังเมื่อยตัวอยู่เลยยยย...” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงยานคาง และยังไม่ยอมลืมตา




ตึกตัก...ตึกตัก




ใจผมเต้นแรงและรู้สึกเห่อร้อนที่หน้าอย่างรวดเร็ว ...เมื่อติณณ์ แทนตัวเองว่า ‘ติณณ์’




แม้มันดูไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ว่าแบบ...คือก็อย่างที่รู้ๆกันอยู่ ว่าติณณ์เป็นคนยังไง ไม่อ่อนหวาน แม้จะละเอียดอ่อนในบางเรื่อง แต่ก็นับว่าแข็งกระด่างตามนิสัยผู้ชายค่อนข้างจะมากอยู่ แล้วมันน่าดีใจมั้ยล่ะ...ที่เขาแทนตัวเองว่า ‘ติณณ์’ กับผม แม้ว่าสติเขาจะยังไม่เต็มร้อยก็เถอะ แต่เสียงแบบนี้ แทนตัวเองแบบนี้ คำพูดแบบนี้ มันเหมือนว่าเขากำลังอ้อนผมอยู่เลย




“รู้ครับว่าเมื่อย แต่ก็ต้องไปอาบน้ำกินข้าว” เสียงผมอ่อนไปเองอย่างไม่รู้ตัว




“.....” ติณณ์ค่อยๆลืมตาขึ้น ก่อนจะกระพริบตาอยู่สองสามที ให้ตายเหอะ...ทำไมมันน่ารักอย่างนี้ว่ะ!




“ไปอาบน้ำ” ผมบอกย้ำเขาอีกครั้ง




“เมื่อย” เขาพูดเสียงเรียบกับผม ซึ่งมันก็เป็นปกติของพวกผมอยู่แล้วที่คุยกันด้วยน้ำเสียงแบบนี้ (แม้ว่าหลังๆมาจะเริ่มมีน้ำเสียงอื่นเข้ามาใช้บ้างก็เถอะ)




“รู้ไง แต่ต้องหาอะไรกินก่อน” ผมว่าก่อนจะฉุดแขนติณณ์ในลุกขึ้นจากเตียง ซึ่งเขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี




ติณณ์เดินเข้าไปอาบน้ำ แต่เขากลับไปเอาอะไรเข้าไปด้วยเลย คงเป็นเพราะความที่ยังเซ่อนอนอยู่ แต่ผมเองก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร ใครจะว่าผมเป็นโรคจิตก็ช่าง แต่ช่วงนี้ผมรู้สึกอยากเห็นติณณ์เวลาเขินเวลาอายบ่อยๆ มันให้ความรู้สึกแบบว่า...แฟนผมน่ารัก ...อะไรประมาณนี้ล่ะมั้ง อีกอย่างเวลาที่เขาเขิน เขาก็น่ารักมากจริงๆนี่




ผมได้ยินเสียงน้ำ คาดว่าเขาคงจะกำลังเริ่มอาบน้ำ แต่...นี่เขาลืมคิดจริงๆเหรอ ว่าตัวเองไม่ได้เอาผ้าเช็ดตัวเข้าไปด้วยน่ะ เอาสิ...อยากรู้เหมือนกันว่าติณณ์จะทำยังไง



ถามว่าเขินมั้ย กับการที่ผมไปตอดเล็กตอดน้อยกับติณณ์ บอกตามตรงเลยว่าเขิน แต่ว่ามันอดใจไม่ไหวจริงๆ เพราะเขาน่ารักจริงๆ ถามว่าอยากทำมากกว่านี้มั้ย บอกเลยว่าอยาก ผมเคยถามเรื่องนี้กับอลัน ตอนที่เซย์ไม่อยู่ ว่าครั้งแรกมันเจ็บมั้ย ซึ่งมันก็โวยวายไม่ยอมตอบ ทั้งที่แสดงตัวว่าเป็นอะไรกับเซย์ซะขนาดนั้น แต่พอถามก็เสือกเขิน ไม่ตอบซะอย่างนั้น ผมเลยไปถามดอมินิกแทน ไอ้นี่มันเป็นคนเงียบๆ นิ่งๆ คล้ายกับผมนี่แหละ แล้วก็เป็นคนตรงๆด้วย ยางอายไม่มี ผมถามอะไรมันก็ตอบหมด จนได้ข้อมูลมาพอสมควร และคงจะต้องหาเพิ่ม บอกไว้ก่อนว่าผมไม่เคยกับผู้ชายหรอกนะ ส่วนผู้หญิงน่ะเคยตอนสิบสี่สิบห้า ตอนที่อยู่กับแม่ที่ต่างประเทศ แต่แค่ไม่ถึงสิบครั้งก็เลิก เพราะผู้หญิงพวกนั้นพยายามทำตัวเป็นเจ้าของผม จนผมรำคาญ




อืม...แต่ว่า ครั้งแรกนี่มันเจ็บมากเลยเหรอ ดอมินิกบอกว่าต้องมีการเตรียมตัวให้ติณณ์ด้วย




แล้ว...เตรียมตัวยังไงว่ะ!?!




ถามว่าเคยดูคลิปเกย์คลิปอะไรอย่างนี้มั้ย เคยครับ ตอนคบกับติณณ์แล้วด้วย คือ...อารมณ์ตอนนั้นมันประมาณว่าอยากรู้ไง เลยไปหามาดู ดูได้แป๊บเดียว แค่มันกอดจูบลูบคลำกัน ผมที่ถึงกับวิ่งอ้วก แต่ตอนที่ผมกับติณณ์ทำแบบนั้นไม่เห็นจะน่าขยะแขยงอย่างตอนดูคลิป กลับรู้สึกว่าอยากให้ทำอีกเสียด้วยซ้ำ แค่คิดก็เริ่มเขินแล้วเนี่ย




เอ่อ...ผมว่าเราพักเรื่องนี้ไว้ก่อนดีกว่า




“.....”




เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไปแล้วครับ ผมที่ถือผ้าเช็ดตัวอยู่ มองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างเงียบๆ และเสียงในห้องน้ำก็เงียบเหมือนกัน




“โปเต้...” เสียงติณณ์ที่ตะโกนออกมาจากห้องน้ำครับ



“....” ผมค่อยๆเดินไปหลบตรงตูเสื้อผ้า เพราะมันชิดกับผนังห้องน้ำอีกฝั่ง ดังนั้นถ้าติณณ์ออกมา ติณณ์ก็จะไม่เห็นผม




“โปเต้ ยังอยู่ในห้องมั้ย” เสียงติณณ์ตะโกนในห้องน้ำดังขึ้นอีกครั้งก่อนจะเงียบไป



สักพักผมก็ได้ยินเสียงประตูเปิด คาดว่าติณณ์คงลองเสี่ยงเปิดประตูออกมา เพื่อดูว่าผมอยู่มั้ย




“ไปแล้วเหรอว่ะ” ผมได้ยินเสียงติณณ์พูดขึ้นเบาๆ แม้จะไม่ดังมาก แต่ก็ได้ยินเพราะตอนนี้ห้องนี้มันเงียบมาก




ติณณ์ค่อยเดินมา คาดว่าคงจะหนาวด้วย เพราะตัวสั่นเชียว และแน่นอนว่าติณณ์ ยังไม่ทันหันมาหาผม เขาเดินไปที่เตียง ผมเลยค่อยๆเดินไปหาเขา แล้วกอดติณณ์จากทางด้านหลัง ให้ตายเหอะ ติณณ์แม่งโคตรขาวเลย ผิวขาวๆที่มีหมดน้ำเกาะอยู่นั่นมัน... >///<




“เหี้ย!!!” อื้อหือ...เต็มหน้ากูเลย




“อะไรนะ” ผมแกล้งแหย่ถาม กอดจะจูบที่ท้ายทอย ผิวติณณ์ลื่นและนุ่มมาก อาจจะไม่นุ่มเหมือนผิวผู้หญิง แต่มันก็ไม่ได้แข็งแบบกล้ามเนื้อของผู้ชาย แบบนี้สิดี จับทีก็เต็มไม้เต็มมือดี




“อื้ออออ ปล่อยผม เอาผ้าเย็น เอ๊ย! ผ้าเช็ดตัวมานะ!” ติณณ์ที่พูดผิดพูดถูกทำท่าจะแย่งผ้าเช็ดตัวในมือผม แต่ผมไวกว่าที่ขว้างมันไปที่มุมห้อง




“ตัวหอมจังเลย” ผมพูดเพื่อจะแกล้งให้ติณณ์หน้าแดง ทั้งที่ตัวเองก็เขินเหมือนกัน แต่ด้านได้อายอดครับ คตินี่ผมยึดถืออย่างจริงจังมาก ณ ตอนนี้




“โปเต้...ไม่เอา ไม่เล่น ผมโป๊อยู่ ...จะไปแต่งตัว” ติณณ์ทั้งบอกทั้งดิ้น แต่เขาสู้แรงผมไม่ได้หรอก




“โป๊สิดี ไม่เสียเวลาถอด ไหนๆ...แก้มหอมมั้ย” ผมพยายามที่จะหอมแก้มเขา แต่ติณณ์พยายามหันหน้าหนี ผมเลยเปลี่ยนไปจูบที่คอที่บ่าของเขาแทน




“ไม่เอา ไม่เล่น ปล่อยยยย...เฮ้ย!” ติณณ์ร้องอย่างตกใจ เมื่อเขาพยายามจะหนี แล้วดันไปสะดุดปลายเตียง ทำให้เราล้มไปบนเตียงกันทั้งคู่ ท่าทางติณณฺตอนนี้ดูน่ารักดีนะ เขาดูตื่นๆ และพอผมได้เห็นหน้าก็พบว่าเขาหน้าแดงมาก น่ารักจริงๆ นี่เขาไม่รู้เลยใช่มั้ย ว่าผมแค่แกล้งเท่านั้น




“หน้าแดงทำไม” ผมแกล้งถาม และอดไม่ได้ที่จะจรดริมฝีปากลงไปบนแก้มนิ่มๆของติณณ์




“ยังจะถาม ปล่อยได้แล้ว ไม่เล่นแล้ว จะไปแต่งตัว” ติณณ์บอกเสียงอ่อน พร้อมกับมือขาวๆที่พยายามผลักผมให้ลุกออกจากตัวเขา




“ไม่เล่น เอาจริง” ผมว่าก่อนจะแกล้งเลื่อนมีลงไปลูบที่สะโพกติณณ์เบาๆ ติณณ์สะดุ้งทันทีที่มือผมแตะโดนเขา และเขาก็พยายามขยับตัวหนี




นี่ผมจะอดใจไม่ไหวจริงๆแล้วนะเนี่ย!!!




“โปเต้...” ติณณ์เรียกผม เสียงประมาณแบบ อ่อนใจมาก ไม่รู้จะพูดยังไง ...ผมเดาจากหน้าเขาน่ะนะ




“ครับ” ผมขานรับ อดไม่ได้ที่จูบปากเขาเบาๆ




“อึก...อื้อออ ...ฟังกะ...อื้ม ฟังก่อน” ติณณ์พยายามจะพูด แต่ผมพยายามจะจูบ เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น




“นิดเดียว” ผมผละริมฝีปากออก ก่อนจะเอ่ยบอกเขา แต่ความจริงประโยคนี้มันเป็นประโยคขออนุญาตนั่นแหละ




“ไม่เอา...ไหนจะไปกินข้าว” ติณณ์ตอบพลางหลบริมฝีปากของผมที่หมายจะจูบปาก ทำให้พลาดไปโดนแก้ม




“นิดเดียวไง นะครับ” ผมว่าด้วยน้ำเสียงที่คิดว่า นี่แหละที่เขาเรียกว่าอ้อน และดูเหมือนจะได้ผล เมื่อติณณ์ชะงักและหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ




ผมได้โอกาส จึงค่อยๆเลื่อนริมฝีปากของตัวเองไปประทับที่ริมฝีปากของติณณ์เบาๆ เพื่อที่จะไม่ให้เขาตกใจ และก็เป็นไปตามคาด ปฏิกิริยาแบบนี้แปลว่าติณณ์ยอม และผมก็ไม่พลาดที่จะค่อยแทะเล็มริมฝีปากของติณณ์อย่างละเมียดละไม บดคลึงอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะค่อยส่งลิ้มร้อนๆเข้าไปหยอกล้อกับลิ้นเล็กๆของติณณ์ ที่แตะลิ้นของผมอย่างกล้าๆกลัวๆ และสุดท้ายก็กลายเป็นผมที่ต้องรุกจูบเขา บดเบียดริมฝีปากให้มันค่อยๆรุนแรง จนกลายเป็นเร้าร้อน




มือหนาของผมลูบไล้ไปที่สะโพกของติณณ์ อย่างห้ามมือตัวเองไม่ได้ ทั้งที่บอกกับติณณ์ไว้ว่าขอแค่นิดเดียว




“อึก...อืมมม” เสียงครางในลำคอของคนใต้ร่างมันแบบ ...อีกนิดเดียว




อีกนิดเดียวก็จะทนไม่ไหวแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!




แต่ก่อนที่มันจะเกิดอะไรขึ้น ก็กลับกลายเป็นว่า...




ปั้ง!!!




“ไอ้ภัทรโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เมื่อไหร่จะ...ตาเถรยายชีกระหล่ำปลียัดไส้!” ไอ้เซย์ครับ ไอ้เซย์มันผลักประตูเข้ามา ทำให้ผมพึ่งนึกได้ว่าลืมล็อคประตูห้อง แล้วตอนนี้มันก็เดินเข้ามา...เห็นทุกอย่าง




ทุกอย่าง...




...เฮ้ย!!!




ผมรีบถอนจูบติณณ์ เอาตัวเองบังร่างเปลือยเปล่าของติณณ์เอาไว้ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าผ้าห่มคลุมตัวติณณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า




“ออกไปก่อน” ผมไล่ให้ไอ้เซย์มันออกไปก่อน ซึ่งมันก็ออกไปทั้งที่ยังทำหน้ามึนๆเอ๋อๆอยู่




“.....” ผมมองมัน จนกระทั่งมันออกจากห้องไปแล้ว ก่อนจะหันกลับหาติณณ์




ชะอุ่ย...สีหน้าที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อผมเลยนะหนิ




“นี่แหนะ!...”




ผัวะ




เสียงแรกคือเสียงติณณ์ครับ เสียงสองก็มาจากติณณ์เหมือนกัน ไม่ต้องเดากันไป เดี๋ยวผมบอกเอง ...ผมโดนติณณ์ตบหัว!!!!




แม้จะไม่แรงมาก แต่ก็สะเทือนนิดหน่อย เขาคงไม่ได้จะตบผมแบบจริงจังหรอก คงจะเป็นแบบ ลงโทษผมทั้งที่ตัวเองก็อายจนมือไม้สั่น




“เพราะโปเต้นั่นแหละ ...ไอ้บ้า ฮือ...เซย์เห็นหมดแล้ว เห็นผมโป๊ด้วย ผมอายนะโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” ติณณ์โวยวายอย่างหลุดมาด ...หลุดจริงๆ หลุดในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่คิดว่าจะได้เห็นด้วย




“โอ๋ๆ” ผมกอดติณณ์เบาๆ อย่างขำอยู่นะ เพราะมันตลก แต่เดี๋ยวมันจะมีมากกว่าตบหัวน่ะสิ




“ไม่ต้องมาโอ๋เลย ออกไปเลยนะ จะแต่งตัว” ติณณ์ว่าก่อนจะดันหน้าผมออก




“ครับๆ รออยู่หน้าห้องนะ” ผมบอกก่อนจะลุกขึ้นยืน




“.....” ติณณ์พยักหน้าทั้งที่ยังหน้าแดง ส่วนผมก็เดินไปหยิบกระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ กุญแจรถและหมวกกันน็อค ก่อนจะเดินออกจากห้อง มาเจอเซย์ที่มันยังยืนทำหน้าเอ๋ออยู่หน้าห้อง




ดูเหมือนว่าผมมีเรื่องต้องเคลียร์กับไอ้เซย์ก่อนแล้วสิ














“เซย์ ...ทำไมหน้าผากเป็นงั้นว่ะ ไปโดนอะไรมา” เสียงของอลันที่เอ่ยถาม หลังจากที่ผมทั้งสามคนเดินลงมายังล็อบบี้ของโรงแรม โดยที่พวกมันนั่งรออยู่




“เอ่อ...เปล่าว่ะ” ไอ้เซย์ตอบเสียงอ้อมแอ้ม รอยที่หน้าผากก็เป็นฝีมือผมเองนั่นแหละ ผมแค่ถามมันว่าเห็นอะไรบ้าง มันก็เสือกบอกว่าอย่าไปต่อยมัน ขอเปลั้ยนเป็นดีดหน้าผากแทน ผมก็ไม่ขัดศรัทธาครับ จัดไปเต็มแรง เพราะถ้ามันพูดมาแบบนี้แปลว่าเห็นหมด




บ้าจริง...ผมไม่อยากให้ใครเห็นติณณ์ในสภาพแบบนั้นเลยนะ อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่คบกับติณณ์แรกแล้วว่า ผมเป็นคนหวงแฟน และขี้หวงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก (อาจะเป็นตอนเด็ก พี่ปาร์ชอบแกล้งผมด้วยการแย่งของเล่นบ่อยๆ ผเลยกลายเป็นคนหวงของ แต่ตอนนี้ผมหวงคนมากกว่า)




แน่นอนว่าผมสั่งไอ้เซย์ว่าไม่ให้มันพูดเรื่องนั้นต่อหน้าและลับหลัง มันก็สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ ก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่เผลอพูดให้อลันฟัง เพราะอลันรู้โลกรู้




“เปล่า ...กูว่าเราไปกันเถอะ” ไอ้เซย์เลี่ยงตอบได้โคตรมีพิรุธเลย =_=




“มีอะไรกันว่ะ” ไอ้จินคงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาบ้าง




“เปล่า” ผมตอบเสียงเข้ม ประมาณว่าอย่าถามอีก พวกนั้นก็มองแบบว่าอยากรู้ แต่มันก็ไม่กล้าที่จะถามกัน




“.....” ส่วนติณณ์ที่อยู่ข้างๆก็ไม่พูดอะไร ผมรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธ แต่คงอายที่เซย์มาเห็นตอนที่เขากำลังโป๊อยู่ก็เท่านั้น




“ไปกันเถอะ” ดอมินิกพูดขึ้นหลักจากที่เงียบอยู่สักพัก หลังจากนั้นพวกเราทุกคนก็เดินไปยังรถของพวกเรา แล้วขับตามเซย์ที่เป็นคนนำ มันรู้ว่าเป็นร้านไหน เพราะมันบอกว่ามันไปสำรวจมากับอลันเรียบร้อยแล้ว




“ติณณ์...” ผมเอ่ยเรียกติณณ์ก่อนเราจะเดินตามพวกนั้นเข้าไปในร้านอาหาร




“หืม” ติณณ์หันมามองหน้าผม ก่อนจะเม้มปากแน่น




“ไม่ต้องคิดมากหรอก เซย์มันไม่เอาไปพูดหรอก”



“ไม่ได้กังวลเรื่องนั้น...ก็แค่ มันน่าอายนี่นา นอกจากนายผมไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าใครหนิ” ติณณ์ก่อนที่หน้าของเขาจะเริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง




เป็นแบบนี้แล้วผมจะไปไหนรอดว่ะเนี่ย!




“ผมก็ไม่ชอบให้คุณไปแก้ผ้าต่อหน้าใครนอกจากผมเหมือนกันนั่นแหละ”




“ทะลึ่ง” ติณณ์ทำท่าเหมือนจะด่า แต่ว่ามุมปากเขายกยิ้ม




“แค่คุณคนเดียว” วันนี้ขอปากหวานสักหน่อย ติณณ์อุตส่าห์บอกรักตอนผม (แกล้ง) หลับเลยนะ อ้อนเขานิดนึงจะเป็นไรไป




“ครับ ...ครับ” เหมือนจะไม่เชื่อ แต่สีหน้านี่บอกได้เลยว่าติณณ์กำลังเขิน อยากบอกติณณ์จังว่าผมก็เขินอยู่ลึกๆในใจ




“ไปเถอะ รีบกิน...วันนี้จะได้นอนพัก พรุ่งนี้เดินทางแต่เช้านะ” ผมบอกก่อนจะจูงมือติณณ์เข้าไปในร้าน




เมื่อกินข้าวเสร็จ คนอื่นๆว่าจะไปขับรถเที่ยวในตัวเมืองกัน แต่ผมกับติณณ์ของกลับมานอนที่ห้อง ผมก็สงสารเขานะ พึ่งเคยมาทริปแบบนี้ครั้งแรก มันก็คงจะทรมานร่างกายเขาน่าดู และผมรู้ว่าติณณ์อยากนอนพัก เพราะเขาเป็นคนนอนเยอะ (ตอนเวลาต้องเร่งทำงานส่งอาจารย? ติณณ์นี่จะไม่นอนเลยด้วยซ้ำ)




“ทำอะไร” ติณณถามผม หลังจากที่เรากลับมาที่โรงแรม พอติณณ์เข้าห้องมา ก็ถอดกางเกงยีนส์ออกเหลือแต่บ็อกเซอร์กับเสื้อยืด แล้วกระโดดขึ้นเตียงทันที แล้วเขาก็หันมาถามผม นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆเขา




“จะเล่นเกม” ผมบอกติณณ์ พลางจะกดเข้าแอปพิเคชั่นเกม แต่โดนติณณ์แย่งดทรศัพท์ไปเสียก่อน




“จะเล่นอะไรนักหนา ไหนว่าพรุ่งนี้ออกเดินทางเช้าไง” ติณณ์บอกก่อนจะเอาโทรศัพท์วางไว้ที่หัวเตียง




“ก็...” วันนี้ผมยังไม่ได้เล่นเกมเลยนะ




“นอนๆ ...นอนเฉยๆ นอนแบบนอนหลับ” ติณณ์ว่าก่อนจะตบเตียงนอน เหมือนจะบอกให้ผมนอน แต่ยังไม่วายดักทางผมอีก




“รู้ทันอีก” ผมบ่นแบบจงใจให้เขาได้ยิน ก่อนจะเดินไปปิดไฟ แล้วเดินกลับมานอน




“.....” ผมขยับตัวเข้าไปนอนกอดเขา




“กอดทุกวันไม่เบื่อบ้างเหรอ” ติณณ์ถามขึ้นเบาๆ แต่ก็เห็นจะยกแขนผมออก




“ไม่” ผมตอบโดยแทบจะไม่ต้องคิด




“หึๆ” เสียงติณณ์หัวเราะเบาๆครับ ก่อนที่ติณณ์จะพลิกตัว แม้มันจะมืดเพราะผมปิดไฟแล้ว แต่ตาที่เริ่มชินกับความมืดบวกกับแสงอ่อนที่รอดผ่านม่านมา ทำให้ผมเห็นว่าติณณ์หันหน้ามาหาผม




“.....” ผมกระชับกอดแน่นขึ้น ก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าไปหา และจูบเบาๆที่ริมฝีปากบางที่ได้ลิ้มลองอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยเบื่อและไม่มีเคยคิดที่จะเบื่อเลย




“ฝันดีครับ”




“อืม ฝันดีนะ”




*******************************************************************************

ช่วยกันโหวตหน่อยนะ ขอแค่ไปดูโพลล์กดว่าจะเอาอันไหน แค่นั้น ง่ายๆเอง ผมอยากได้คำตอบภายในวันศุกร์นี้นะครับ ช่วยกันหน่อยน้าาาาาาาาา


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 13-05-2015 00:09:39
โปเต้ขี้หวงมากกกกกกกกกกด

เซย์เข้ามาขัดทำมายยยยยย :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 13-05-2015 00:22:01
มาแล้นนนนนนนนนนนนนน เร็วทันใจ
ฮาเซย์มากกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-05-2015 00:29:18
เซย์นายโดนแค่ดีดหน้าผากยังน้อยไป :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 13-05-2015 00:33:38
เซย์จ๋าาาาาาาา ขัดจังหวะอ่าาาาาาาาา :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 13-05-2015 00:38:05
ตอนสั้นๆ มีuse เราด้วย :-[

โปเต้ที่ฉันบอกแกน่ารักเพราะนิสัยแกนะ

ฉันรู้แล้วแหละว่านาย หล่อมากกกก หล่อวัวตายควายล้ม 5555

'เหี้ย!!!" ของติณณ์ ทำเราสะดุ้งเลย 55555 ปกติติณณ์ไม่หยาบ ตกใจเล็กน้อย ถถถ

มาต่อไวมาก ปลื้มมากค่ะ ถ้าทำหนังสือเราซื้อแน่นอน

 รอตอนต่อไปค่ะ

ป.ล. อยากจะสิงร่างเซย์ ได้เห็นเรือนร่างของติณณ์ 555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 13-05-2015 00:40:54
แอบอยากเห็นติณณ์แก้ผ้าบ้าง  :hao7: :hao7:
โปเต้น่ารักสุดๆไปเล้ยยยยย :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 13-05-2015 00:58:47
เขินแทนเลยอ่ะ 5555+
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-05-2015 01:36:40
ไม่น่ามาขัดเลย เสียดาย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-05-2015 02:51:18
เซย์มาขัดจังหวะอย่างแรงอ่ะ
โปเต้เด็กขี้หวง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 13-05-2015 05:28:40
 :mew1:  ฟินเว่่อร์     ขอบคุณมากๆๆๆๆ   U make my day ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 13-05-2015 06:24:06
ไม่น่าเปิดประตูเข้ามาเลยอะเซย์ :z3:
โดนดีดมะกอกไป เอ๋อไปแล้วมั้ง
คู่เลิฟมาดนิ่งนี้ก็สวีททททท นี่มันมาออกทริปหรือฮันนิมูนกันแน่ :-[
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 13-05-2015 07:11:07
โหวตแบ้วซื้อแน่นอนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-05-2015 07:23:32
งานนี้ขอสิงโปเต้ได้ไหม. เซย์แค่ได้เห็นแถมเจ็บตัวบวกน้ำท่วมปากอีก อึดอัดล่ะสิ

โปเต้นอนกอดติณณ์พักหลังนี่มีจูบและลูบสะโพกตลอดๆนะ. แหมๆ. ไปหาข้อมูลเชิงลึกมาก่อนนะค่อยลงมือ.  :mew1: 
ลุ้นๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 13-05-2015 08:07:56
หวานฟินมากกกก แอร๊ เซย์อะะะ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 13-05-2015 08:45:27
เซย์ วันหลังเคาะประตู แล้วรอเจ้าของห้องอนุญาตก่อนเข้าไปนะ
โปเต้กำลังฟัดตินณ์ตอนโป๊อยู่ด้วย กำลังฟิน เสีย'รมณ์

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 13-05-2015 08:59:14
ตอดเล็กตอดน้อยนะโป้เต้ เจ้าเลห์อะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 13-05-2015 09:54:02
โปเต้ขี้หวงงงง (เรียกชื่อเล่น จะโดนต่อยเหมือนนักเขียนหรือเปล่านะ55555) ติณณ์ขี้อายยย

โหวตให้แล้วนะคะ ถ้าทำเล่มจริงๆเราก็ซื้อนะ เรื่องนี้อ่านแล้วรู้สึกสบายๆไม่เครียด หยิบมาอ่านได้บ่อยๆแน่นอนอะ สู้จ้านักเขียน^__^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 13-05-2015 09:58:50
อ๋อยยยยยย เซย์เข้ามาขัดทำไมมมมมมมมมมม   :z3: o18
มาต่อไวๆนะฮะรออออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 13-05-2015 10:04:57
เซย์เข้ามาทำมายยยยยย  :z3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 13-05-2015 10:10:41
เขินมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 13-05-2015 10:30:01
อยากเป็นเซย์ที่ได้เห็นติณณ์  แต่ไม่อยากโดนโปเต้ดีดหน้าผาก

หวังว่าทริปปนี้คงยังไม่มีอะไรเกินเลยนะ  เพราะสงสารติณณ์ที่ต้องนั่งซ้อนท้ายมอไซด์ มันต้องเจ็บมากแน่ๆ 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 13-05-2015 11:41:41
อยากเป็นเซย์อ่ะ อยากเห็นติณติณโป๊ คึคึ 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 13-05-2015 13:19:55
แฟนใคร ใครก็หวงเนอะโปเต้เนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 13-05-2015 14:19:39
เซย์ขัดจังหวะทำไมเนี่ย อีกนิดเดียวเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 13-05-2015 17:30:49
เอร้ยยยยย เขินอ่ะ มาจู๋จี๋กันตอนแก้ผ้า -.,-
โดนเซย์เหนหมดอ่ะ 5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 13-05-2015 18:46:37
เซย์ขัดจังหวะอ่ะ กำลังฟินเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 13-05-2015 23:24:41
 :n1:  รอตอนต่อไป......อย่างใจจดใจจ่อ  เข้าอินเตอร์วันละหลายครั้ง  เพื่อดูว่ามีตอนใหม่หรือยัง
มีความสุขจังที่ได้อ่านเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 13-05-2015 23:35:21
อูยยยยย โปเต้รุกติณใหญ่เลยน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 22 P.39 13/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kimkibog ที่ 14-05-2015 00:23:45
เดี๋ยวจูบเดี๋ยวหอม ติณณ์ละลายหมด  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 14-05-2015 05:07:08
ตอนที่ 23








[Frame’s part]






ผมล่ะเบื่อไอ้บ้าเฟียสมันจริงๆ อะไรของมันก็ไม่รู้ ตามมายุ่งกับผมอยู่นั่นแหละ ทั้งที่ผมพยายามจะหนีมันตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มันก็ยังไม่เลิก จนตอนนี้มันลามไปถึงเพื่อนของผม เวลามันหาผมไม่เจอก็จะไปขอความช่วยเหลือจากพวกเพื่อนๆของผม แล้วไอ้พวกเพื่อนตัวดีก็ดันเป็นใจ ให้ความร่วมกับมันอีก




“พี่เฟรมมมมมมมมม...” ตายยากจริงๆ กำลังนินทาอยู่ในใจ มันก็ดันโผล่มาซะได้




“.....” ผมเดินหนี ไม่อยากคุย ไม่อยากเห็นหน้า ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกันมัน อยู่กับมันแล้วมีแต่เรื่อง




“ยังไม่หายงอนผมอีกเหรอออ” ไอ้หมาบ้าตัวโตถามเสียงหงอยๆ เมื่อเห็นผมเมินหน้าหนี




“.....” ผมไม่ตอบ ก่อนจะเดินหนีมัน ตอนนี้มันก็เย็นพอสมควร ผมพึ่งเลิกเรียน และกำลังจะเดินกลับหอ




“พี่เฟรมกำลังจะกลับหอเหรอ งั้นกันด้วยกันนะ นะๆๆๆๆ” มันพูดพลางพยายามที่จะเข้ามาแย่งหนังสือห้าหากเล่มในมือผมไปถือเอง




“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้” ผมว่าพลางเบี่ยงตัวหนี ก่อนจะเดินต่อ แต่ไอ้เฟียสมันก็ยังไม่หยุด




“โธ่...พี่ ไปกับผมนี่แหละ ผมไม่ทำอะไรพี่หรอก” มันพูดไปด้วยและพยายามจะแย่งหนังสือในมือผมไปด้วย และสุดท้ายมันก็ทำสำเร็จ มันยิ้มนิดๆที่แย่งหนังสือจากมือผมไปถือเองได้




“เอาหนังสือฉันคือมา ฉันจะรีบกลับห้องไปอ่านหนังสือ” ผมว่าก่อนจะพยายามแย่งหนังสือของตัวเอง (ที่พึ่งไปยืมมาจากเพื่อนและห้องสมุด) กลับมา




“ถ้ารีบก็กลับผมสิ ป่ะ” มันถือวิสาสะเอื้อมมือมาจับมือผม และลากไปที่รถมัน




“ปล่อยฉันนะเว้ย! ใครใช้ให้แกมาถูกตัวฉัน!!!” ผมพยายามสะบัดข้อมือออกจากมือมัน แต่นี่มือคนหรือคีมเหล็กว่ะเนี่ย!!




“จูบยังเคยมาแล้วเลย” มันพูดอย่างลอยหน้าลอยตา




“ไอ้เฟียส!” ผมแห้วเสียงใส่เสียงดัง ทำไมมันถึงได้พูดดออกมาหน้าด้านแบบนั้นว่ะ!




“ขึ้นรถเถอะพี่ ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” คราวนี้มันใช้น้ำเสียงราบเรียบราวกับว่ากำลังจริงจัง ไม่มีความขี้เล่นหลงเหลืออยู่เลย




ผมงงกับมันที่อยู่ๆก็เปลี่ยนท่าที อะไรว่ะ กูปรับอารมณ์ตามไม่ทันนะเว้ย




“ฉันไม่มี” ผมบอกมันและพยายามจะสะบัดข้อมือออก




“.....” ไอ้เฟียสมันไม่พูดอะไร ลากผมไปที่รถของมัน มันเอาหนังสือของผมวางไว้บนหลังคารถ ก่อนที่จะหยิบกุญแจรถจากกระเป๋าของมันมากดปลดล็อครถ มันเปิดประตูหลังแล้วโยนหลังสือผมทั้งหมดไว้ที่เบาะหลัง โดยที่อีกมือมันก็ยังจับข้อมือผมแน่น จนผมรู้สึกเจ็บที่ข้อมือ




“เฟียส แกเป็นอะไร ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ!” ผมโวยวายเมื่อสู้แรงผู้ชายตัวควายๆอย่างมันไม่ได้




“พี่เฟรม พี่อย่างี่เง่าไปหน่อยเลย โตๆกันแล้ว ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” มันพูดไปพลางยัดผมเข้าไปในรถมัน ย้ำนะว่ายัด และแน่นอนว่าผมดิ้นสุดแรงเกิด




“ฉันไม่มีอะไรจะคุย ฉันเกลียดแก! ได้ยินมั้ยว่าฉันกะ..” คำพูดของผมสะดุดลง พร้อมกับที่ตาของผมได้เห็นหน้าไอ้เฟียสแบบระยะใกล้อีกครั้ง ลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดที่ใบหน้าของผม ความใกล้ของใบหน้า มันใกล้จนรู้สึกถึงความนิ่มของอะไรบางอย่างที่มันแนบอยู่ที่ริมฝีปากของผม ณ ตอนนี้




มันจูบผมอักแล้ว!!!




“.....” ผมนั่งนิ่งหลังจากที่มันผละริมฝีปากออกแล้ว มันอธิบายความรู้สึกไม่ถูก จะว่ายังไงดีอ่ะ มันช็อคจนผมทำอะไรไม่ถูกเลย




แล้วไอ้ความรู้สึกปั่นป่วนในท้องนี้คืออะไร ไหนจะอาการมือไม่สั่นจนทำอะไรไม่ถูกอีก




“...ช่วยนั่งนิ่งๆ แล้วไปกับผมนะ” ไอ้เฟียสที่ถอนจูบออกแต่ยังไม่ยอมเอาหน้าออกไปห่างจากหน้าของผมเอ่ยบอกกับผม ก่อนที่มันจะทำให้ผมต้องใจกระตุกเมื่อจมูกโด่งๆของมัน ประทับลงมาที่ข้างแก้มอย่างผมอย่างจงใจ แล้วมันจึงยืดตัวขึ้นปิดประตูรถ แล้วเดินไปยังอีกฝั่งก่อนจะขึ้นมาประจำที่คนขับ สตาร์ทรถและขับออกไปทันที




ตลอดทางนั้นไม่มีใครพูดอะไร มันได้แต่ขับรถไปอย่างเงียบๆ ส่วนผมก็นั่งมองทางที่มัน...ไม่ใช่ทางไปหอนี่ นี่มันเป็นทางไปหน้ามหาลัยนี่หว่า!?!




“เฟียสต้า แกจะพาฉันไปไหน” ผมรีบร้องถาม




“ไปหาที่คุย” มันตอบก่อนจะขับรถต่อไปเหมือนไม่สนใจว่าผมจะโวยวายมั้ย




“เฟียส แกจะมายุ่งอะไรกับฉันอีก เราไม่ได้สนิทกันตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง เราไม่มีเรื่องที่จะต้องเจอต้องคุย หรือจะต้องทักกันเสียหน่อย” ผมว่าอย่างอ่อนใจ ผมไม่เข้าใจกับการกระทำของมัน และก็ไม่เข้าใจว่ามันจูบผมทำไม ครั้งนี้มันไม่ใช่อุบัติเหตุเหมือนครั้งก่อน แต่มันตั้งใจ




สำหรับคนอื่นผมไม่รู้หรอกนะ ว่าคิดยังไงกับเรื่องจูบ แต่สำหรับผม...เรื่องจูบมันเป็นเรื่องที่สำคัญ ถ้าไม่รักกันก็ไม่ควรจูบกัน และผมก็จะไม่จูบกับคนที่ผมไม่ได้รักโดยเด็ดขาด มันขยะแขยงจะตาย




แต่เมื่อมานั่งคิดดู ผมกลับไม่รู้สึกรังเกียจจูบของมัน มันเป็นเพราะอะไรกัน เพราะมันเป็นจูบแรกของผมเหรอ อันนี้ผมก็ยังไม่รู้แน่ชัด มันเป็นเพราะอะไรผมก็ยังไม่สามารถรู้ได้




“.....” ผมเผลอกัดปากตัวเองอย่างเป็นนิสัย เมื่อเวลาที่ตัวเองนั่งคิดมาก มันจะเป็นไปเองโดยไม่รู้ตัว จนเพื่อนหรือคนอื่นๆทักนั่นแหละ




“พี่เฟรม กัดปากทำไม” เฟียสมันทักผม ทำให้ผมรู้ตัวว่าเผลอกัดปากตัวเองอีกแล้ว จับคลายออกแล้วหันหน้าหนีมัน




ถามว่าเกลียดมันมั้ย ก็คงตอบได้เลยว่าไม่ได้เกลียด แต่ที่ไม่อยากเห็นหน้ามัน ก็คงจะเกี่ยวกับเรื่องจูบของมันนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าโกรธตรงที่จูบ ผมรู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุ แต่ผมโกระตรงที่มันขอโทษเหมือนไม่ใส่ใจ มันพูดมาได้ว่ามันเป็นแค่ปากแตะปาก ผมจะซีเรียสทำไม เหอะ...คนอย่างมันคงผ่านมาเป็นร้อยแล้วสิ ถึงได้ไม่ให้ความสำคัญ แต่กับผมมันไม่ใช่ จูบสำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องสำคัญนะ และผมก็เก็บไว้ให้คนสำคัญ แต่มันดันมาขโมยไปซะได้ (ได้ข่าวว่าแกล้มลงไปจูบเด็กมันเองนะ)




“.....” ผมไม่ได้ แต่หันหน้าหนีออกไปมองทางข้างนอกทั้งที่มันไม่เห็นมีอะไรดึงดูดตาเลย




“...เฮ้อ..” ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจเบาๆ และคงจะหันไปตั้งใจกับการขับรถต่อ




“แกจะพาฉันไปไหน” นิ่งเงียบอยู่นาน ผมอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่ามันเริ่มที่จะไกลจากมหาลัยมามากแล้ว




“ไปหาที่คุยไงพี่” เสียงมันกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม เมื่อเห็นว่าผมเริ่มที่จะคุยกับมันก่อน เหอะ...ไม่เห็นจะต้องทำท่าทีแบบนั้นเลย ไม่เข้าใจมันจริงๆ




“.....” ผมไม่ได้ถามอะไรต่อ มันคงไม่ลากผมไปฆ่าหมกป่าหรอกมั้ง (คิดดีเข้าไว้)




ผมนั่งมองทางโดยที่ไม่พูดอะไร รู้เพียงแค่ว่า...ไกล




มันเริ่มไกลจากมหาลัยมากขึ้นไปทุกที ...นี่มันจะพาผมไปไหนกัน?




แต่ผมคงไม่ต้องเสียเวลาถามเมื่อมันเลี้ยวรถเข้าไปยังหมู่บ้านที่ผมเคยเห็นยินมาว่ามันแพงมาก และการรักษาความปลอดภัยก็แน่นหนา มีแต่บ้านคนใหญ่คนโต ไม่ก็พวกที่รวยมากๆเท่านั้นที่มาอยู่




แล้ว...มันพาผมมาที่นี่ทำไมกัน




“สวัสดีครับ” มันเปิดกระจกเมื่อรปภ.เรียกให้มันจอด




“นี่ครับ” มันหยิบบัตรอะไรไม่รู้ส่งไปให้รปภ. ก่อนที่รปภ.จะยื่นใบที่มันส่งไปกลับคืน และตะเบะให้




“.....” เฟียสมันปิดกระจกก่อนที่จะขับรถเข้ามาในหมู่บ้าน เลี้ยวรถสองแยกมันก็มาจอดตรงหน้าบ้านหลังใหญ่ (มาก) หลังหนึ่ง




เฟียสบีบแตรติดกันสองที ก่อนที่ประตูใหญ่ของบ้านนี้จะค่อยๆเปิดออกด้วยความเร็วสม่ำเสมอ คาดว่ามันคงเป็นประตูเลื่อนเปิดอัตโนมัติ ไม่ก็เปิดด้วยรีโมท




มันขับรถเข้ามาจอดในโรงรถของบ้านนี้ที่มีรถยนต์จอดอยู่...เก้าคัน! รวมของมันด้วยก็เป็นสิบพอดี มีทั้งรถยุโรปหรูกับรถญี่ที่ราคาก็แพงหูฉีกเหมือนกัน




“นี่บ้านใคร” ผมถามเมื่อมันจอดรถและดับเครื่องเรียบร้อยแล้ว




“ลงมาสิ เดี๋ยวพี่ก็รู้” มันพูดจบ ก็ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลงไปจากรถเลย




“.....” แต่ผมไม่ยอมลง จับสายเข็มขัดนิรภัยไว้แน่นเลย จนไอ้เฟียสมันเดินอ้อมรถมาเปิดประตูรถฝั่งผม




“ลงมาเถอะพี่เฟรม เร็วๆ นี่ก็เย็นมาแล้ว” มันไม่พูดเปล่า ยื่นทั้งตัวแล้วหน้าเข้ามาในรถด้วย




“เฮ้ย! จะทำอะไรว่ะ!” ผมปล่อยมือจากสานเข็มขัดแล้วเปลี่ยนมาผลักมันแทน และคงได้จังหวะมัน เมื่อมันได้โอกาสก็ปลัดสายเข็มขัดนิรภัยออก ก่อนจะดึงตัวผมออกมาจากรถทันที




“ปล่อยฉันนะ! แล้วนี่มันบ้านใครเนี่ย!” ผมพยายามกระชากมือตัวเองออก ก่อนจะหันไปดูรอบๆ นี่บ้านหรือวังว่ะ ทำไมมันใหญ่อย่างนี้เนี่ย




“บ้านผมนี่แหละ ไม่งั้นผมจะเข้ามาได้ยังไง” มันตอบก่อนจะลากผมในเดินเข้าไปในบ้าน แต่ผมขืนตัวไว้




ก็พอจะรู้ว่ามันคงจะรวย นี่ดูจะบ้านแล้วนี่มันเกินคำว่ารวยไปไกลแล้วเนี่ย ระดับเศรษฐีแล้วมั้ง




แล้วมันพาผมมาบ้านมันทำไมว่ะ ไม่เข้าใจ




“แล้วพาฉันมาทำไม ปล่อยยย”




“นิ่งๆสิพี่ อ้าว...พี่ฟี ออกมารับเฟียสเหรอ” มันพูดกับผม ส่วนอีกประโยคนึงมันหันไปพูดกับใครก็ไม่รู้ที่เดินออกมาจาตัวบ้าน เป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ น่าจะพอๆกับเฟียสเลย และถ้าหากมองดูดีๆ ก็จะพบว่า หน้าเหมือนเฟียสแบบเป๊ะๆ ราวกับฝาแฝด แต่ติดที่ว่าผู้ชายคนนี้ดูเป็นผู้ใหญ่และดูมีภูมิฐานมากกว่าเฟียสเยอะเลย




“เออสิ คุณแม่ตื่นเต้นจะตายที่แกบอกว่าวันนี้จะมาบ้าน แล้วนั่นใคร” ผู้ชายที่เฟียสเรียกว่าพี่ฟีพูดกับเฟียส ก่อนจะถามเฟียสแล้วหันมามองหน้าผม




“รุ่นพี่ที่มหาลัยน่ะ ชื่อเฟรม ...พี่เฟรม คนนี้พี่ชายคนโตของผม ชื่อฟีฟ่า” เฟียสแนะนำผม ก่อนจะแนะนำพี่ชายตัวเองให้ผมได้รู้จัก




“.....” ผมยกมือไหวเขา เพราะดูแล้วน่าจะอายุมากกว่าผม...หลายปีเลยล่ะมั้ง




“เข้าบ้านเถอะ ...เฟียส พี่ว่าเราปล่อยมือเฟรมเขาก็ได้มั้ง เขาคงไม่หนีเฟียสไปไหนหรอก” พี่ฟีฟ่าเอ่ยบอกกับเฟียส ก่อนจะชี้มายังข้อมือผมที่ถูกเฟียสมันจับไว้ซะแน่นเลย ช้ำหมดแล้วมั้งเนี่ย เพราะมันกระชากลากถูผมตั้งแต่อยู่ที่มหาลัยล่ะ




“ใครบอกล่ะพี่ฟี คนนี้เนี่ย...เอะอะก็หนี แถมยังดุโคตรๆ”




“ฉันไม่ใช่หมานะ” ผมแห้วเสียงใส่ทันที ก่อนจะดึงมือตัวเองออก ...แต่มันไม่หลุดเลย แม่ง...เจ็บข้อมือแล้วนะ




“ผมไม่ได้ว่าพี่เป็นหมาสักหน่อย เข้าบ้านกัน” เฟียสว่าก่อนจะเดินลากผมเข้าไปในตัวบ้านที่ใหญ่โคตรๆ โดยมีพี่ฟีฟ่าเดินตามหลังมา




“เฟียสต้า โอ้โห...ดำขึ้นเยอะเลยะนลูก มาๆ ไหนแม่กอดหน่อย” เสียงผู้หญิงตัวเล็กๆ พูดก่อนจะวิ่งเข้ามากอดไอ้เฟียส ที่มันก็กอดตอบด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ยังจับข้อมือเอาไว้แน่น อะไรมันจะขนาดนั้นว่ะ!!!




แต่ว่าผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ เป็นแม่มันหรอว่ะ! โคตรจะไม่เหมือนกันเลย แถมท่านยังดูสาวมากๆ ยังดูไม่ค่อยเหมือนมีอายุสักเท่าไหร่ หน้าเด็กๆเลยล่ะ




“แล้วนี่...เฟรมใช่มั้ยจ๊ะ” แม่มันหันมาถามผม




“สวัสดีครับ” ผมนกมือไหว้แม่มันอย่างมีมารยาท แต่ไอ้ตัวลูกมันยังเสียมารยาทจับข้อมือผมไว้อีก ดูมันเป็น ...ว่าแต่ แม่มันรู้จักผมได้ยังไง




“หน้าตาหล่อเหล่าอย่างที่เฟียสเคยบอกแม่จริงด้วย ว่าแต่...เราน่ะ จะจับข้อมือพี่เขาอีกนานมั้ย ปล่อยได้แล้ว” มันโดนแม่มันเอ็ด จนมันต้องปล่อย แต่ก็ยังมีอิดออด




“โธ่..คุณแม่ ก็พี่เฟรมเขาดื้อจะตาย ชอบหนีผมนี่นา กว่าจะพามาได้ก็ลำบากนะคุณแม่” มันพูดกับแม่มันเสียงง่องแง่งราวกับเด็ก...เด็กที่ตัวใหญ่กว่าควายน่ะนะ




“เรานั่นแหละดื้อ ดูสิ...ข้อมือพี่เขาแดงหมดแล้วเนี่ย” แม่ของเฟียสว่า ก่อนจะจับข้อมือผมขึ้นมาดูแล้วลูบเบาๆ




“แดงจริงด้วย ผมขอโทษนะพี่เฟรม ไม่นึกว่าผิวพี่จะบาง” มันว่าก่อนจะแย่ข้อมือผมจากมือแม่มาจับไว้เอง แล้วลูบเบาๆ




“บางอะไรล่ะ แกกำลังข้อมือฉันแรงจะตาย ไม่คิดจะถามเลยรึไงว่าเจ็บมั้ย” มันอดไม่ได้ที่พูด ก่อนจะดึงมือกลับ แต่นึกขึ้นได้ว่าแม่มันก็ยืนอยู่ด้วย เลยหันไปขอโทษแม่มันเบาๆ ที่พูดจาเสียมารยาทต่อหน้าเขา




“ไม่เป็นไรหรอกลูก เรื่องนี้เฟียสเป็นคนผิด เฟรมจะต่อว่าเฟียส แม่ก็ไม่ว่าหรอก ดุด่าได้เต็มที่เลย แม่อนุญาต” แม่ของเฟียสพูดอย่างยิ้มๆ




“ครับ” ผมยิ้มตอบ เห็นแบบนี้ผมก็เป็นคนมีมารยาทกับผู้ใหญ่นะครับ




“ผมว่าเราไปทานข้าวกันเลยเถอะ หิวจะแย่แล้ว” พี่ฟี่ฟ่าที่ยืนเงียบเอ่ยขึ้นบ้าง




“จริงสิ เฟรม...วันนี้อยู่ทานข้าวกับแม่น้า แม่มีเรื่องอยู่คุยกับเฟรมเยอะเลย” แม่ของเฟียสมาบอกผม




“เอ่อ...ครับ” ผมพยักหน้าก่อนปล่อยให้ตัวเองโดนแม่ของเฟียสลากไป




แม่ของเฟียสพาผมเข้ามาในห้องหนึ่ง พบว่าเป็นห้องที่ดูเหมือนจะเป็น...ห้องอาหารของบ้านนี้มั้งครับ ไม่แน่ใจเหมือนกัน เคยเห็นแต่ในละครอย่างเดียว




“คนนี่พี่สาวของเฟียสอีกคน ชื่อแฟร์รี่จ้ะ ส่วนคนนั่นก็คุณพ่อ” แม่มันแนะนำอีกสองคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่ก่อนแล้ว




“.....” ผมยกมือไหว้ทั้งสองคน พี่สาวของเฟียสยิ้มอย่างเป็นมิตรให้ผม พ่อมันก็เหมือนกัน




“นั่งลงสิ เฟรมใช่มั้ย” พ่อมันเอ่ยถามผม




“ครับ”




“มานั่งตรงนี้สิ” พ่อมันชี้บอก...ว่าให้ไปนั่งข้างๆพ่อของมัน คือ...พ่อมันนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะ และชี้มายังเก้าตัวถัดจากพ่อของมัน ซึ่งที่อยู่ทางขวามือของท่าน




“เอ่อ...ครับ” ผมว่า ก่อนจะเดินไปนั่งตามที่ท่านบอก แล้วแม่ของเฟียสก่อนเดินมานั่งข้างๆผม ...ทำไมผมรู้สึกเกร็งขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกว่ะ ทั้งที่คนอื่นๆก็ดูมีท่าทีที่สบายๆกันทั้งนั้น




“คุณแม่...เฟียสอยากนั่งใกล้พี่เฟรมอ่ะ ที่ของคุณแม่อยู่ข้างคุณพ่อฟังนู้นต่างหาก” ไอ้โวยวายหน่อยจากเฟียสครับ




“ก็วันนี้แม่จะนั่งตรงนี้ เราน่ะไปนั่งข้างพี่แฟร์แทนแม่สิ” แม่มันไม่ยอมครับ จนมันต้องเดินไปนั่งที่ที่ดูเหมือนแม่ของมันจะนั่งเป็นประจำ...มั้ง




“ป้าน้อย ตักข้าวเลยค่ะ” พี่แฟร์เอ่ยบอกป้าที่ยืนอยู่มุมห้อง ดูท่าว่าน่าจะเป็นแม่บ้านของบ้านนี่ล่ะมั้ง




สุดท้ายก็คือ...ผมอยู่กินข้าวเย็นที่บ้านของเฟียส เมื่อกินเสร็จแทนที่จะได้กลับ ก็โดนคนในบ้านมันถามนู้นถามนี้ จนกระทั่งมาถึงคำถามที่ทำเอาผมเผลอปล่อยแก้วน้ำในมือลงพื้นจนแก้วแตกกระจาย




คือ...แม่มันถามผมว่าเป็นแฟนกับเฟียสมันมานานรึยังไง




ผมนี่ตกใจจนมือไม้อ่อนเลยครับ




“ว้าย! ตายแล้ว... ป้าน้อยไปตามคนมาเก็บเศษแก้วที เฟรมอย่าพึ่งขยับนะลูก เดี๋ยวแก้วบาด” แม่ของเฟียสอย่างตกใจ แม้ว่าผมจะโดนบาดนิดหน่อยที่เท้าไปแล้ว แต่ก็ไม่ขยับตัวไปไหนอย่างที่แม่เฟียสร้องบอกไว้




จนกระทั่งมีคนมาเก็บกวาดเช็ดถูกเสร็จ แม่ของเฟียสให้ผมย้ายไปนั่งข้างๆท่าน จนกายเป็นว่าผมมานั่งระหว่างกลางทั้งพ่อและแม่ของเฟียสมัน




“เอ่อ...ไม่ต้องตกใจหรอกนะเฟรม แม่กับพ่อก็พอจะรู้ว่าเฟียสเขามีรสนิยมแบบไหน” แม่มันพูดบอกกับผม




“ผมกับเฟียสเราไม่ได้เป็นแฟนกันนะครับ” ผมรีบปฏิเสธ กว่าท่านทั้งสองจะเข้าใจผิด




“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ จะคบกันแม่ก็ไม่ว่าหรอก เห็นว่ามีงอนๆกันอยู่เหรอ เฟียสเขาโทร.มาปรึกษาแม่บ่อยมากเลย”




ผมไม่รู้ว่ามันคุยอะไรกับแม่มันเรื่องผม แต่ที่ทำให้คนที่บ้านมันคิดว่าผมกับมันเป็นแฟนกันนี่...มันทำไปเพื่อนอะไร มันต้องการอะไร เราไม่มีความเกี่ยวข้องกันไม่ใช่เหรอ อาจจะใช่ที่ตอนหลังเราก็เริ่มจะไม่ค่อยตีกัน เจอกันก็คุยกันบ้าง ทักกันบ้าง หรือแม้แต่ไปกินข้าวด้วยกันก็เถอะ แต่...ทำไม มันทำไปเพื่ออะไร เพื่อความสนุกของตัวมันเองที่ได้แกล้งผมเหรอ




“เปล่าหรอกครับ แต่ว่า...วันนี้ผมก็ต้องขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้มีสอบย่อย จะกลับไปอ่านหนังสือน่ะครับ”




“นอนที่นี่ก็ได้นะลูก”




“ห๊ะ! ...ครับ?” ผมตกใจกับสิ่งที่แม่มันพูด นอนที่นี่?...งั้นเหรอ??




“นอนที่นี่แหละจ้ะ มันไกลจากมหาลัย ตอนนี้ก็ค่ำแล้วนะลูก นอที่นี่แหละจ้ะ” แม่มันพูดเหมือนจะมัดมือชกผม




“ไม่ดีกว่าครับ เกรงใจ ผมกลับแท็กซี่เองดีกว่า”




“ได้ยังไงลูก กลางค่ำกลางคืนอันตรายจะตาย นอนที่นี่แหละ”




“แต่...”




“นอนที่นี่แหละเฟรม” คราวนี้พ่อมันพูดขึ้นบ้าง ท่านก็ไม่ได้เป็นคนนิ่งๆแบบนภัทรหรือติณณ์หรอกนะ เพียงแต่ว่า...น้ำเสียงที่ใช้พูดมันดูน่าเกรงขามจนผมไม่กล้าขัดเลยล่ะ




“.....” ผมเงียบอย่างชั่งใจ




“มีปัญหาอะไรก็เคลียร์ๆมันซะวันนี้เถอะลูก เรื่องมันจะได้ไม่บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ โตๆกันแล้วนะ” พ่อมันพูดอีกจนผมไม่กล้าพูดอะไรต่อ




“เอ่อ...สรุปพี่เฟรมนอนนี้นะ งั้นเฟียสขอตัวพี่เฟรมเลยล่ะกัน คุณพ่อคุณพ่อยึดตัวพี่เฟรมนานไปแล้วนะครับ” เฟียสมันพูดขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นเดินมาจับข้อมือผมแล้วลากให้เดินตามมันไป




“พี่พรครับ เดี๋ยวช่วยไปเอากระเป๋ากับหนังสือที่อยู่ในรถให้หน่อยนะครับ” มันลากผมออกมา ก่อนจะเรียกพี่ผู้หญิงที่ดูแล้วก็คงจะเป็นแม่บ้านของที่นี่อีก ก่อนที่มันจะให้พี่เขาไปเอาของในรถของมัน




“เราไปหาที่คุยกันดีกว่า” มันหันมาบอกผม ก่อนจะลากให้ผมเดินขึ้นบันไดตามมันไป โดยที่คราวนี้มันไม่ได้จับแน่นเหมือนที่ผ่านมา




มันพาผมมาที่ห้องๆหนึ่ง พอได้เข้ามาก็พบว่าเป็นห้องนอนครับ ดูท่าว่าจะเป็นห้องนอนของมันล่ะมั้ง ดูเรียบร้อยสะอาดตาดี คงจะมีคนเข้ามาทำความสะอาดให้ตลอดล่ะมั้ง




“.....” มันพาผมมาที่โซฟาของห้องนี้ ก่อนที่เราทั้งคู่จะเงียบและไม่พูดอะไรกัน




“พี่เฟรม...” เฟียสเอ่ยเรียกชื่อผมเบาๆ




“.....”




“เรื่องจูบน่ะ มันเป็นอุบัติเหตุ ผมขอโทษนะที่วันพูดขอโทษแบบส่งไป ผมพึ่งคิดได้ตอนโทร.มาปรึกษาคุณแม่ เรื่องจูบสำหรับใครบางคนมันน่าจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ใช่มั้ยพี่?”




“เออ” ผมตอบมัน ใช่...เรื่องจูบสำหรับผมมันใหญ่มาก ผมควรจะเก็บมันไว้ให้คนที่ผมชอบสิ




“แล้วก็นะ...พี่เฟรม ...ผมมีเรื่องจะสารภาพ”




“.....” ผมเงียบและรอฟังว่ามันจะพูดว่าอะไร




“พี่...ผมชอบพี่”




อืม...มันบอกชอบผม




...ว่าไงนะ!!!!




“.....” ผมว่าหน้าผมตอนนี้ต้องประหลาดมากๆแน่เลย แต่ว่า...ฌมื่อกี้มันพูดว่ามันชอบผม อะไรยังไง อะไรว่ะ..เฮ้ย! เดี๋ยว กูงง?




“ผมชอบพี่นะพี่เฟรม แม้ว่าตอนแรกผมจะสนุกกับการแกล้งพี่ แต่ว่ามันไม่ใช่อ่ะ...พี่ทำให้ชีวิตของผมมีสีสัน พี่อาจจะไม่เชื่อนะ...แต่ว่า ผมชอบพี่จริงๆ รู้ตัวอีกทีก็มองหาแต่พี่ อยากไปไหนด้วยกัน อยากจะอยู่ด้วยกัน อยากคุยอยากจะเจอทุกวัน ผมยอมรับเลยว่าอยู่กับแล้วพี่มีความสุขมาก จนไม่อยากจะมองใคร ไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับใคร ตอนที่พี่หลบหน้าผม ผมร้อนใจเป็นบ้า พยายามคิดหาวิธีทำทุกอย่างให้พี่หายโกธร ผมแทบจะขาดใจเลยตอนที่พี่บอกว่าเกลียดผม รู้ป่ะว่าตอนนี้ผมเกือบจะร้องไห้เลยนะ” แล้วมันก็แร็ปยาวใส่ผมจนแทบจะฟังไม่ทัน แต่...




มันชอบผมจริงๆเหรอว่ะ ผมจะเชื่อมันได้เหรอ




แล้วไอ้หัวใจกูเนี่ย...มึงเป็นอะไร เต้นแรงหาพ่องมึงเหรอ หน้ากูก็เหมือนกัน จะรู้สึกร้อนๆทำไม แอรืในห้องนี้มันก็เย็นจะตาย!




“พี่เฟรม...พูดอะไรบ้างดิพี่ อย่าเงียบดิ” ไอ้เฟียสมันถาม เมื่อเห็นผมเงียบไป




“..แก ...ชอบ ...ชอบ เอ่อ...” ปากผมขยับไม่ได้ดั่งใจไปชั่วขณะ




“ผมชอบพี่ ...เฟียสชอบพี่เฟรม ...ชัดยัง?”




“เออ...ชัด” ยิ่งมันพูดย้ำว่าชอบ ผมก็ยิ่งเขิน เป็นอะไรว่ะกู




เฮ้ย..ผมคงแค่เขินเพราะมีคนมาบอกชอบ...ล่ะมั้ง




“ผมจีบพี่ได้ใช่มั้ย”




“เออ ...เฮ้ย! ไม่ๆๆๆๆๆ” ผมเผลอตอบก่อนจะรีบร้องปฏิเสธ





“ไม่สน พี่ตอบผมมาแล้วว่าอนุญาตให้ผมจีบ”




“ไม่!” ถ้าผมอนุญาตก็แปลว่าผมมีใจให้มันน่ะสิ




“พี่เฟรม...ผมจริงจังนะ” มันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แบบว่า ...บอกให้รู้ว่ามันจริงจังจริงๆ จนผมไม่กล้าที่จะโวยวายใส่มันต่อ




“.....”




“ผมรู้ว่าพี่อาจจะรับได้ยาก แต่ว่า...พี่ก็ไม่ควรจะปิดกันทั้งตัวเองและก็ผม...”




“ฉันไม่ได้ปิดกั้น...” ผมพูดเสียงเบา




“ยังไง”




“ฉัน...ฉัน ...จะให้ฉันมั่นใจในตัวนายได้ยังไง ว่านาย...ไม่ได้หลอกฉัน” ผมพูดเสียงเบาในตอนท้าย




“โหยพี่...จนผมพาพี่มาที่บ้านเพื่อให้เห็นความบริสุทธิ์ใจ นี่พี่ยังไม่เข้าใจอีกเหรอ”




“...หา!?!” ผมหน้าเหวอทันที อะไรนะ??




“จริงๆ”




“.....”




“.....”




“เออ จะจีบก็จีบ ติดไม่ติดก็อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน” แม้ว่าผมจะไม่รู้ว่ามันพูดจริงมากน้อยแค่ไหน แต่ว่า...ในเวลามันพิสูจน์ก็แล้วกัน บอกไว้ก่อนเลยนะ...ว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับมันเลย




ไม่ได้คิด...




...แม้ว่าจะไม่ได้รังเกียจจูบของมันเลยก็เถอะ -////-




*************************************************************

จะว่าอะไรมั้ย ถ้าจะบอกว่าคู่นี้จบแค่นี้ เพราะวางพล็อตเรื่องสองคนนี้ไม่ให้เด่นออกมามาก เอาให้แค่จิ้นต่อว่าเขาจะเป็นยังไง ส่วนถ้าอยากให้มีของคู่นี้ต่อก็คงจะถูกยกไปไว้เป็นเรื่องอื่นแล้วอ่ะนะ ก็ต้องดูความต้องการของคนอ่านด้วยว่าอยากจะอ่านของคู่นี้กันอ่ะเปล่าาาาาาาาาา

ช่วยกันโหวตหน่อยนะ ขอแค่ไปดูโพลล์กดว่าจะเอาอันไหน แค่นั้น ง่ายๆเอง ผมอยากได้คำตอบภายในวันศุกร์นี้นะครับ ช่วยกันหน่อยน้าาาาาาาาา


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-05-2015 06:45:36
 :katai2-1:  เฟียสตีหัวเข้าบ้านเลยจ้า.555 เอ้ยไม่ใช่สิแค่จูงมือก็ตามเด็กมันมาแล้ว
พี่เฟรมก็ค่อยๆคิดไปนะว่าทำไมไม่รังเกียจจูบของเฟียส. จูบกันจนชอบไปเลยจ้า.

จบตรงนี้ก็ไม่ค้างคาหรอกเราอยากฟินคู่หลักยาวๆ.  :L1:  สู้ๆค่ะขอให้ยอดซื้อพุ่งๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: LoogCHoop ที่ 14-05-2015 07:01:40
จบคู่นี้ก็ดีครับ เพราะอย่างไรก็อยากอ่านคู่หลักมากกว่า คู่รองไม่จำเป็นต้องเยอะหรอก แค่เป็นสีสันเล็กก็พอ ผู้แต่งสู้ๆ นะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 14-05-2015 09:53:46
555 พี่เฟรมโดนเฟียสหลอกมาเปิดตัวเฉยเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 14-05-2015 10:24:19
555555 มัดมือชกสไตล์เฟียสต้าาาาาาา
หน้าพี่เฟรมของเราคงเหวอมากๆอ่ะ อย่างฮาเรยทีเดียว
ยังไงๆก้อยอมๆน้องมันเหอะ พี่เฟรม พามาพบคุณพ่อคุณแม่ขนาดเน้ จริงจังซะ!! อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 14-05-2015 10:51:12
เฟรมเอ๋ยยอมๆเด็กมันไปนั่นแหละดีแล้ว
ต่อไปคู่หลักแบบเต็มสูบอดใจรอฟินเต้ติณณ์ไม่ไหวแล้วววว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 14-05-2015 11:15:45
มัดมือชกพาเข้าบ้านแบบนี้จะไปไหนรอด จิงไหมเฟียส
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 14-05-2015 11:31:26
เอาคู่นี้มาเป็นแค่คู่ตัวประกอบแบบคู่เซย์-อลัน  หรือจิน-ดอมินิกก็โอเคนะ   เพราะยังไงก็อยากให้ยึดคู่หลักไว้ก่อน

แต่เฟียสคงต้องใจเย็นขึ้นเยอะเลย  เพราะดูท่าพี่เฟรมแกจะขี้โวยวาย ยังไม่ทันฟังอะไรก็โวยวายไปก่อน

-------------------------
ปล.อยากให้คนเขียนตรวจทานก่อนมาลงหน่อยค่ะ  เพราะรู้สึกว่าตอนนี้พิมพ์ผิดเยอะมาก  :L2:  เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 14-05-2015 11:50:48
พี่เฟรมเสร็จเฟียสแน่ ฮ่าๆ  :laugh: o18
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 14-05-2015 12:13:40
ครอบครัวเฟียสน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 14-05-2015 12:43:04
ฟินดีอ่าาา อีกคู่อ่ะ มันให้อารมณ์แบบขี้อ้อนคนแก่ไรอย่างงี้5555 เอาๆอยากอ่านๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 14-05-2015 12:43:56
คู่นี้เอาแค่นี้ก็ได้ค่ะ อย่างที่บอก เดี๋ยวเด่นเกินคู่หลักเหมือนกรณีเนส :laugh:
หรือถ้ากลัวคนอ่านค้าง ก็นานๆเอามาคั่นทีก็ได้ค่ะ
รอตอนต่อไปเนอะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 14-05-2015 13:23:39
เอาจริงๆนะ เราไม่ชอบเฟียสอ่ะ มัดมือชกแบบนี้มันไม่ดีเลย
เฟรมจะปฏิเสธก็พูดไม่ออก บอกพ่อกับแม่ว่าเป็นแฟนกันแล้วทั้งที่คุยกันยังไม่เท่าไหร่
ถ้าเราเป็นเฟรมเราไม่โอเคอ่ะ แต่ดูท่าแล้วเฟรมคงจะโอเค
ทั้งที่เราว่าเฟียสยังไม่ได้ทำอะไรที่ดูดีสำหรับเฟรมเลย งง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-05-2015 15:01:13
อร๊ายยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-05-2015 15:55:45
สำเร็จ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mommymint ที่ 14-05-2015 17:31:20
รอๆๆ โปเต้ ติณณ์  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 14-05-2015 17:54:14
พี่เฟรม โดนมัดมือชก ถึงกับเหวอ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 14-05-2015 19:04:49
 :n1: รอติณณ์กับโปเต้   ตื่นนอนหรือยัง (ตอนล่าสุด หลับอยู่)   :mc4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-05-2015 19:11:24
ยอมน้องมันไปเถอะพี่เฟรม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 14-05-2015 20:45:52
 :hao3:
ยอมๆน้องเต๊อะะะะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 23 P.40 14/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 15-05-2015 03:15:36
มัดมือชก พามาบ้านแบบงงๆ 55555555555
โอ้ยยยยย พี่เฟรมดูมึนๆนะ 555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 15-05-2015 04:47:57
ตอนที่ 24











เราไปเที่ยวสระบุรีกันทั้งหมดสี่วัน ก่อนจะพากันกลับ ทริปแรกของผม เรียกได้ว่าสนุกมากๆ ถ้าตัดตอนที่เซย์มาเห็นผมโป๊ออกไป (จนตอนนี้ผมก็ยังอายๆเซย์อยู่) เราไปเที่ยวกันหลายที่มากๆ ผมชอบสุดคือตอนไปไร่องุ่น ได้มองดูคนอื่นๆวิ่งเล่นกันเป็นเด็กก็นึกอยากจะชวนเพื่อนตัวเองมาเที่ยวบ้าง (คงจะต้องลองชวนพวกนั้นดู) แถมโปเต้ยังไปแอบเด็ดองุ่นเขากินน่าตาเฉย ดีนะที่ผมไปห้ามทัน ก่อนที่มันจะหมดพวง ตลอดทริปโปเต้เขาดูแลผมดีมากๆ เทคแคร์ผมทุกอย่าง อย่างเช่นตอนนี้...




เรานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกัน เรากลับมาถึงกันเมื่อวาน แน่นอนว่าหลับเป็นตาบ พึ่งจะตื่นตอนห้าโมงเย็นนี่เอง ตื่นมาก็หิวเลยลงมาหาอะไรกินกัน เมื่อกินเสร็จก็ย้ายตัวออกมานั่งดูโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่นกัน โดยที่ผมยังปวดต้นขา เนื่องจากนั่งรถมอเตอร์ไซด์นานๆ ไม่รู้ว่ามีใครเป็นแบบผมมั้ย คือเวลานั่งรถแล้วขามันชอบเกร็งเองอ่ะครับ ทำให้ปวดขามาก




และตอนนี้ก็ได้หมอนวดประจำตัวครับ โปเต้นั่งนวดขาผมไป ผมนั่งเฉยๆ แต่ตาเราทั้งคู่ก็สนใจรายการในโทรทัศน์ วันนี้ก็ไม่มีอะไรทำเลย พวกเราเลยมานั่งดูโทรทัศน์กัน รอพี่ปาร์กับพี่ตาล ที่โทร.มาบอกว่าวันนี้ก็จะกลับมาแล้วเหมือนกัน 




“ติณณ์ ...วันนี้อยากกินพายแอปเปิ้ล” โปเต้เอ่ยบอกผมในขณะที่กำลังนวดขาผมไปด้วย น่ารักจริงๆ แฟนใครว่ะเนี่ย




“ไม่มีของทำ” ผมตอบ เพราะตอนทำกับข้าวก็สำรวจของในตู้เย็นแล้ว แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกัน




“ออกไปซื้อกัน” โปเต้ชวนผมครับ




“ผมปวดขามากเลยนะ” ผมละสายตาจากจอโทรทัศน์ แล้วหันกลับมามองหน้าเขา




“งั้นคุณจดมา เดี๋ยวผมไปซื้อเอง” โปเต้ว่าอย่างจริงจัง ก็จะลุกออกไปหาประกากับกระดาษ เรื่องของกินนี่จริงจังตลอด




“....” ผมมองเขาอย่างเงียบๆ บางทีบางมุมโปเต้ก็ดูเหมือนเด็กไปนะ แต่ก็...ไม่ใช่ว่าจะไม่ดีหรอก มันก็น่ารักดี ...ถ้าหน้าหวานๆของเขาจะยิ้มกว้างสักครั้ง มันก็คงจะดีไม่ใช่น้อย




“อ่ะ” แล้วเขาก็เดินกลับมาพร้อมกับปากกาและกระดาษมาให้ผม ผมจึงเขียนวัตถุดิบที่ต้องใช้ให้เขา ก่อนจะยื่นกระดาษกลับไปให้โปเต้




“.....” โปเต้รับการดาษจากผมก่อนจะก้มลงดู




“จะไปคนเดียวจริงเหรอ” ผมถามเพื่อความแน่ใจ ไม่อยากใจร้ายปล่อยให้เขาไปคนเดียวเลย




“ได้ ผมไม่บ้าพอจะให้คุณไปด้วยหรอก ล้มกลางห้างนี้ผมแบกไม่ไหวนะ” โปเต้ว่าก่อนจะยิ้มนิดๆ เหมือนจะล้อผม




“ผมไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นสักหน่อย” ผมเถียงกลับ




“แล้วใครกันที่แทบจะกลิ้งลงมาจากบันไดน่ะ” โปเต้พูดพลางยิ้มอย่างล้อๆ คือเมื่อเช้าผมเดินลงจากบันไดมาด้วยสภาพที่ทุเรศพอสมควร ขึ้นบันไดว่าทรมานแล้ว ลงบันไดมันยิ่งกว่า มันปวดกึ่งเจ็บนิดๆตรงบริเวณต้นขาเวลาก้าวลง เกือบจะล้มกลิ้งตกบันไดเหมือนกัน ดีที่โปเต้ช่วยจับเอาไว้ทัน แล้วช่วยประคองให้ผมเดินลงมาโดยสวัสดิภาพ




“ไปซื้อของได้แล้วไป” ผมไล่เขาแก้เขิน โปเต้ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไป ส่วนผมก็หันมาให้ความสนใจกับโทรทัศน์ต่อ




ผ่านไปครู่ใหญ่ ผมก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูรั้วของบ้าน ไม่รู้ว่าเป็นโปเต้หรือพี่ตาลกับพี่ปาร์ แต่ผมว่าโปเต้ไม่น่าจะซื้อของทั้งหมดภายในเวลาแค่นี้หรอก ผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่ตาลกับพี่ปาร์มากกว่า




ผมขอเป็นเด็กไม่ดีไม่ลุกไปหาพี่สาวสักวันล่ะกัน ไม่ไหวจริงๆ ยังคิดอยู่ว่าถ้ายืนทำขนมนี่ผมจะรอดมั้ย




“อ้าว น้องติณณ์ เป็นไง ไปเที่ยวสนุกมั้ย” พี่ตาลเดินมาหาผม ท้องพี่ตาลใหญ่มาจนผมเองยังตกใจเลย ตอนไปอัลตราซานด์ก่อนจะไปหัวหิน หมอบอกว่าได้แฝดครับ แต่ยังไม่ระบุเพศ หมอบอกน้องขี้อาย เอาขาปิดไว้ พี่ปาร์กับพี่ตาลก็เลยรอลุ้นเอาทีเดียวตอนคลอดเลยครับ



“ติณณ์ พี่ฝากดูแลตาลหน่อยนะ ขอไปนอนสักงีบ” พี่ปาร์ที่เดินมาพร้อมกับพี่ตาลเอ่ยบอกผม ก่อนจะเดินออกไป คาดว่าคงจะไปนอนบนห้องนั่นแหละ




“...ก็สนุกดี แต่ตอนนี้น้องติณณ์ปวดขามากเลย” ผมว่าก่อนจะกอดพี่ตาลทีนึง ต่างคนต่างพากันไม่อยู่บ้าน รู้สึกคิดถึงเลยแฮะ




“ไปทำอะไรมาล่ะ เดินเที่ยวเยอะเหรอ”




“อันนั้นส่วนนึง แต่น้องติณณ์ชอบเกร็งขาเวลานั่งรถมอเตอร์ไซด์น่ะ ตอนนี้มันเลยปวดขามาเหมือนระบมเลย” ว่าแล้วก็ขออ้อนพี่สาวตัวเองสักหน่อย




“เหรอ ทายารึยังไง”




“ทาแล้ว โปเต้ก็คอยนวดให้...” พูดยังไม่ทันจบประโยคดี ผมก็ชะงักปากตัวไว้ทัน ทั้งพี่ตาลและพี่ปาร์ยังไม่รู้ว่าผมกับโปเต้คบกัน เพราะงั้นการที่คนนิ่งๆแบบเราทั้งคู่จะมาใส่ใจกันเกินเพื่อน มันก็จะดูน่าสงสัยเกินไป ไม่ใช่ว่าผมยังไม่พร้อมที่จะบอก แต่เป็นเพราะพี่ตาลท้องอยู่ต่างหาก หากพี่เขาเกิดรับไม่ได้แล้วเครียดจนเด็กในท้องเป็นอะไรขึ้นมา แบบนั้นแล้วผมจะทำยังไงล่ะ




“หืมม...โปเต้คอยนวดให้เหรอ สนิทกันดีจังนะ แล้วนี้โปเต้หายไปไหนซะล่ะ” พี่ตาลเอ่ยถาม ยังดีที่พี่เคยไม่สะกิดใจกับคำพูดเมื่อกี้ของผม




“โปเต้ไปซื้อของ น้องติณณ์ว่าพี่ตาลน่าจะไปนอนพักนะ เดินทางมาเหนื่อยๆหนิ”




“พี่พักมาตลอดทางแล้ว ให้ปาร์เขาไปพักบ้างดีกว่า รายนั้นเหนื่อยกว่าพี่อีก ทั้งขับรถทั้งดูแลพี่” พี่ตาลพูดอย่างยิ้มๆ ใบหน้าที่มีความสุขของพี่สาวคนนี้ทำให้ผมยิ้มอย่างสบายใจ ที่พี่ตาลโชคดีมีคนที่รักและพร้อมจะดูแลพี่เขาไม่ว่าจะเวลาไหน




บางทีผมก็คิดว่าตัวเองก็โชคดีเหมือนกัน...ที่ในวันนั้นตัดสินใจขอโปเต้เป็นแฟน แม้ในตอนแรกไม่คิดว่าทุกอย่างจะกลายมาเป็นแบบนี้ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่ดี มันดีมากราวกลับกำลังฝันอยู่เลยล่ะ โปเต้ดูแลผมดีมาก ผมเองก็คอยดูแลเขาเช่นกัน บางทีผมก็คิดว่าเราทั้งสองต่างก็รู้ใจกัน ทั้งที่บางทีมันก็ไม่ต้องใช้คำพูดะไรในการบอกอีกฝ่าย แค่สายตากันหรือการกระทำที่แสดงออกมา เราก็รับรู้กันและกันว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรหรือจะทำอะไร




“น้องติณณ์ มีเรื่องอะไรรึเปล่า” พี่ตาลคงเห็นว่าอยู่ๆผมก็เงียบไป จึงเอ่ยถาม




“ตอนที่...พี่ตาลคบกับพี่ปาร์ ...เป็นยังไงเหรอ” ผมเอ่ยถามพี่ตาล บางทีผมก็คิดว่าตัวเองอาจจะไม่เข้าใจความหมายคำว่า ‘รักจนอยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต’ มันคืออะไรที่ผมเองก็ไม่รู้จัก แต่กำลังคิดว่าตอนนี้กำลังเข้าใกล้มันมากขึ้น ผมเอง...ก็รู้ตัวว่ารักโปเต้ จนรู้สึกอยากให้มันเป็นแบบนี้ไปทุกๆวัน




แต่ผมก็เคยได้ยินคำว่า ‘ชินกับการมีกันและกันอยู่’ ผมรู้ว่าคำนี้ ...มันก็มีความคล้ายๆกับว่า ‘รักจนอยากจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต’ เลยนะ การชินกับการมีกันคืออยู่ไปเพราะความเคยชิน ส่วนอีกอย่างนึงคืออยู่กันไปด้วยความรักที่มีต่อกัน ไม่รู้ว่าผมเข้าใจมันถูกมั้ย




ผมไม่ได้สงสัยในความรักของเรา เพียงแค่...มันก็แค่ความรู้สึกอยากรู้และอยากทำความเข้าในความหมายของรักมากขึ้นก็เท่านั้น




“คบกัน...หมายถึงก่อนแต่งงานน่ะเหรอ?” พี่ตาลถามผม




“ครับ”




“นึกยังไงถึงมาถามกันล่ะเนี่ย” พี่ตาลว่าพลางยิ้ม ประมาณว่า ทำไมถึงมาสนใจเรื่องแบบนี้




“ก็...มันอยากรู้”



“อืม...ตอนที่พี่คบกับปาร์เหรอ ก็ไม่เป็นยังไงนะ ก็...เหมือนแฟนกันทั่วไปนั่นแหละ”




“แล้วแฟนกันนี่...เขาต้องทำอะไรบ้างเหรอ” ปากผมไวกว่าที่ใจคิด เผลอถามออกไปซะได้




“.....” พี่ตาลหันมาหรี่ตาใส่ผมอย่างจับผิด




“.....” ผมเม้มปากแล้วเสมองไปทางอื่น




“หึๆ ...ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พี่ก็ดูแลปาร์เขาในทุกๆเรื่อง พยายามที่จะหาเวลาอยู่ด้วยกัน คอยช่วยเหลือกันในทุกๆเรื่องที่พอจะช่วยได้ แต่ถ้ามันเกินกำลังพี่ก็จะให้กำลังใจปาร์ ทำให้ปาร์รู้ว่าปาร์ยังมีพี่อยู่ข้างๆ เวลาทะเลาะกัน...เราสองคนก็จะพยายามตั้งสติ หรือถ้าไม่ได้ก็แยกกันไปสงบสติอารมณ์ก่อนแล้วค่อยกลับมาคุยกัน แต่เราจะต้องคุยกันภายในวันนั้น ยกเว้นว่า...เรื่องไหนที่มันร้ายแรงและต้องใช้เวลาจริงๆ อืม...แล้วพี่สองคนก็...เวลามีอะไรก็เลือกที่จะพูด จะถามกันตรงๆเสียมากกว่า เพราะมันจะได้ไม่คาใจ แล้วก็...แสดงความรักให้อีกฝ่ายได้รับรู้ แม้ว่าจะไม่ค่อยได้บอกรักกัน แต่ก็จะใช้การกระทำเป็นตัวช่วยประคองชีวิตคู่น่ะ ว่าแต่...น้องติณณ์ถามพี่แบบนี้ ...แสดงว่ามีคนมาขอคบ หรือไม่ก็...แอบมีแฟนโดยที่ไม่บอกพี่ใช่มั้ย”




“เอ่อ...ก็ไม่เชิง” ผมไม่ได้ปฏิเสธ เพราะผมไม่เคยมีความลับกับพี่ตาลอยู่แล้ว




“ใครกันล่ะ” พี่ตาลถามพลางทำหน้าอยากรู้อย่างไม่ปิดบังเลยครับ




“เอ่อ...ก็ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้” ผมบอกความจริง เพราะตอนนี้ผมยังบอกไม่ได้จริงๆ




“โอเค พี่ไม่เซ้าซี้น้องติณณ์หรอก แต่แปลกจังที่น้องติณณ์มีความรัก” พี่ตาลยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวผมราวกับเอ็นดู ผมเลยเอนตัวลงไปซบลงบนไหล่ของพี่ตาล ความกลัวที่มีในใจเริ่มมีมากขึ้น



กลัวว่าถ้าหากพี่ตาลรู้ความจริง แล้วมือที่อบอุ่นนี้จะหายไป กลัวพี่ตาลจะรังเกียจ กลัวว่าพี่ตาลจะโกธร




มันเป็นธรรมดาที่ผมจะกลัว ทั้งชีวิตตอนนี้ผมเหลือแค่พี่ตาลเพียงคนเดียว พ่อกับแม่ก็เสียไปนานมากแล้ว ญาติพี่น้องของพวกเราก็ไม่มีเลย แล้วผมยังจะมาคบกับผู้ชายด้วยกันอีก




“วันนี้อ้อนพี่แปลกๆนะ อยากได้อะไรรึเปล่า” พี่ตาลถามพลางลูบหัวผมไปด้วย




“อยากให้หลานออกมาเร็วๆ น้องติณณ์อยากเห็น” ผมว่าพลางลูบท้องใหญ่ๆของพี่สาวตัวเองไปด้วย




“พี่เองก็อยากเห็น เนี่ย...กำลังคิดกับปาร์อยู่เลยว่าจะให้ลูกชื่ออะไรดี น้องติณณ์อยากให้ลูกพี่ชื่ออะไรเหรอ”




“น้องติณณ์ไม่รู้นะ แต่อยากให้หลานมีชื่อเป็นต.เต่า” ผมบอกไปตามสิ่งที่ผมคิด




“ทำไมล่ะ”




“ก็ครอบครัวเรามีแต่คนชื่อต.เต่าหนิ ปาร์ตี้ โปเต้ ติณณ์ ตาล น้องติณณ์ว่าใช่ต.เต่ามันก็ดีนะ” ผมอธิบาย สักพักก็ต้องเงยหน้ามองพี่ตาลที่อยู่เงียบไป แล้วก็พบว่าพี่ตาลกลับมานั่งน้ำตาคลอเสียนี่ เป็นอะไรไปน่ะ




“.....”




“พี่ตาล เป็นอะไรเหรอ”




“เปล่าหรอก...”




“แล้วพี่ตาลร้องไห้ทำไม” ผมถามอย่างร้อนรน




“พี่แค่ดีใจน่ะ”




“ดีใจ?”




“ใช่ น้องติณณ์รู้มั้ยว่าพี่กังวลมากเลยนะ กลัวว่าน้องติณณ์จะไม่ยอมรับปาร์กับโปเต้ พี่ไม่อยากให้นอนติณณ์คิดว่าเราไม่เหลือใคร อยากให้น้องติณณ์คิดว่าตอนนี้พวกเราอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ พวกเราคือครอบครัวเดียวกัน พี่ดีใจที่ติณณ์ยอมรับพวกเขา” พี่ตาลอธิบายให้ผมฟังด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ที่บ่งบอกว่าได้ว่าพี่ตาลดีใจจริงๆ




“น้องติณณ์ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองขนาดนั้น” ผมว่าอย่างยิ้มๆพลางปาดน้ำตาให้พี่สาวของตัวเอง




“ตอนนี้พี่รู้แล้ว ดีใจจัง” พี่ตาลยิ้มกว้างอย่างดีใจ




“อีกสองเดือนกว่าน้องก็ออกมาแล้วใช่มั้ยครับ” ผมถามพี่ตาล เพราะเมื่อมานึกๆดูแล้ว ท้องของพี่ตาลก็หกเดือนกว่าแล้ว (นี่ผมย้ายมาอยู่ที่นี่สามเดือนแล้วเหรอเนี่ย)




“ใช่... แล้วน้องติณณ์ก็ต้องช่วยพี่เลี้ยง ตกลงเอาชื่ออะไรดี”




“น้องติณณ์ไม่รู้ว่าน้องเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”




“ก็ตั้งเผื่อๆไว้ก่อนไง อืม ...ถ้าเป็นชื่อผู้หญิง เอาชื่อ...” แล้วพี่ตาลก็นั่งไล่ชื่อที่ตัวเองอยากจะตั้งให้ลูกของพี่ตาล




ผมกับพี่ตาลนั่งคุยกันอยู่นานพอสมควร ก็ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้าบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดประตูรั้ว คาดว่าโปเต้คงจะกลับมาแล้ว




“ซื้ออะไรมาเยอะแยะเหรอโปเต้” พี่ตาลทักทันทีที่เห็นโปเต้เดินเข้ามา




“สวัสดีครับ พี่ปาร์ล่ะครับ”




“นอนอยู่ข้างบนน่ะ ...แล้วยังไม่บอกพี่เลยว่าซื้ออะไรมา” พี่ตาลถามย้ำ




“ซื้อของที่จะมาทำพายแอปเปิ้ลน่ะครับ ขอเอาของไปไว้ในครัวนะครับ” โปเต้ตอบก่อนที่จะขอตัวเดินไปทางครัว ดูท่าว่าของน่าจะหนัก และมันมีอย่างอื่นที่ไม่ใช่แค่วัตถุดิบทำพายเสียด้วย นี่ต้องแอบไปซื้อพวกของหวานแน่ๆเลย




“น้องติณณ์จะทำพายเหรอ” พี่ตาลหันมาถามผมครับ




“ครับ พอดีโปเต้อยากกิน แล้วบังเอิญว่าน้องติณณ์ทำเป็น เดี๋ยว...น้องติณณ์ไปในครัวก่อนนะ ถ้ามีอะไรพี่ตาลก็เรียกนะครับ” ผมเอ่ยบอกพี่สาว ก่อนจะค่อยๆลุก แล้วเดินตามหลังโปเต้ไปในครัว




“ไหวมั้ยเนี่ย” โปเต้เอ่ยถามทันทีที่เห็นผม ก่อนจะเดินเข้ามาช่วยประคอง แต่ผมยกมือห้ามเอาไว้เสียก่อน




“อย่า เดี๋ยวพวกพี่ๆเขาเห็น” ผมร้องห้ามเบาๆ




“ไม่เห็นหรอก พี่ตาลก็นั่งอยู่ในครัว พี่ปาร์ก็นอนอยู่” โปเต้ว่าก่อนจะเข้ามาช่วยประคองผมให้เดินเข้ามาในครัวโดยที่ไม่ล้มไปเสียก่อน




“.....” ผมดูของที่โปเต้ซื้อมาไปเรื่อยๆว่าซื้อมาครบมั้ย ส่วนโปเต้ที่ยืนอยู่ข้างๆผมก็ช่วยผมหยิบนู้นหยิบนี้ออกมาโดยไม่ได้พูดอะไรกัน




สุดท้ายผมก็ไม่สามารถยืนนานๆได้ครับ เลยให้โปเต้เป็นคนทำ แล้วผมนั่งบอกอยู่ข้างๆ ดูวุ่นวายอยู่บ้าง ท่าทางของโปเต้ตั้งอกตั้งใจมากๆเลยทีเดียว แต่ไม่รู้จะออกมาสำเร็จหรือเปล่า และก็มาถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการอบพายครับ เมื่อเอาพายเข้าเตาอบเรียบร้อย โปเต้ก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเลยครับ




“เหนื่อยรึไง?” ผมถามพลางยิ้มขำ เพราะเขายืนทำ ยืนนวดแป้ง ทำนู้นทำนี่เอง ก้มๆเงยๆตลอด สำหรับคนที่พึ่งทำครั้งแรกก็คงจะเหนื่อยอะนะ




“เหนื่อย” ตอบออกมาตามตรง ไม่มีเก๊กเลยครับ




“อีกนิดเดียวก็ได้กินแล้ว” ผมบอกพลางลูบผมนิ่มๆของโปเต้ที่เอนหัวลงมาซบลงบนขาของผม




“ติณณ์” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผม เหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง




“.....” ผมเงียบเผื่อที่จะรอฟังเขา




“เมื่อไหร่...”




“.....” เมื่อไหร่???




“เมื่อไหร่...จะบอกพี่ปาร์กับพี่ตาล” โปเต้ถามพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตาผม ผมรู้ว่าเขาหมายถึงเรื่องของเรา




“.....”




“.....”




“ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้าหรืออยากจะปิดพวกพี่ๆเขาหรอกนะ” ผมบอกพลางยิ้มให้โปเต้




“.....”




“แต่ว่า...ตอนนี้พี่ตาลท้องอยู่ โปเต้เข้าใจผมใช่มั้ย ผมอยากจะรอให้พี่ตาลคลอดก่อน ...ผมคิดว่าเมื่อถึงวันนั้น เราค่อยบอกกับพวกพี่ๆเขา ...ผมไม่รู้ว่าพี่ตาลจะรับได้มั้ย แล้วถ้าหากบอกออกไปตอนนี้แล้วพี่ตาลรับไม่ได้ แล้วเด็กในท้องเกิดเป็นอะไรขึ้นมาล่ะ หลานของเราเลยนะโปเต้” ผมอธิบายให้ฟัง แต่ไม่ได้โกธรหรือเคืองอะไรโปเต้หรอก ผมเข้าใจว่าเขาเป็นคนยังไง เขาไม่ชอบโกหก และไม่ชอบที่เราจะทำตัวเหมือนแอบคบกันเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ตาลกับพี่ปาร์ ผมเองก็ไม่ชอบเหมือนกัน แต่ว่า...มันยังไม่ถึงเวลา




“อืม ...เข้าใจ ขอโทษที่งี่เง่า” โปเต้ขอโทษเสียงอ่อน ก่อนจะค่อยก้มหน้าลงมาจูบที่หัวเข่าของผม มันเป็นการกระทำที่อ่อนโยน และผมไม่เคยคิดว่าโปเต้จะทำ




“นายไม่ได้งี่เง่าหรอก ผมเข้าใจ” ผมยิ้มให้เขา ผมเข้าใจว่าเขารู้ยังไง




“.....”




“.....”




“.....”




“...ว่าแต่ ทาร์ตไข่ของใครอยู่ในตู้เย็นเหรอ” ผมเอ่ยถามอย่างนึกขึ้น ตอนหันไปเปิดประตูตู้เย็นเพื่อที่จะดื่มน้ำ




“...เอ่อ อันนั้นแค่อยาก เลยซื้อมาเฉยๆ” โปเต้รีบสารภาพ จริงๆผมก็ไม่อยากห้ามหรอก แต่โปเต้กินของพวกนี้เยอะเกินไป




แต่ครั้งนี้...ถือว่าไม่เป็นไรล่ะกัน




“ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย แค่จะบอกน่ากิน ขอชิ้นนึงสิ” ผมเอ่ยบอก อยากจะหัวเราะกับสีหน้าโปเต้ตอนนี้มาก ตอนแรกก็ทำหน้าเหมือนกังวลราวกลับว่าจะถูกตี แต่ตอนนี้ดันทำหน้าโล่งใจเสียอย่างนั้น




“ได้สิ” ว่าแล้วก็รีบเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบกล่องทาร์ตไข่จำนวนหกชิ้นออกมา ก่อนที่โปเต้จะเดินกลับมานั่งที่เดิม เปิดกล่องแล้วยื่นมาให้ผมหยิบเอง




“นายจะกินก็ได้ วันนี้ผมไม่ว่า” ผมเอ่ยบอกเป็นเชิงอนุญาต




“.....” โปเต้ไม่ได้ว่าอะไร แต่ยิ้มนิดๆก่อนจะหันไปสนใจขนมในมือแทบจะทันที




หึๆ ...ผมถึงได้บอกไง ว่าบางทีโปเต้ก็มีนิสัยเหมือนเด็กๆ โดยเฉพาะเรื่องของกินนี่แหละ








********************************************************************************






FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-05-2015 05:23:43
พี่ตาลไม่ว่าหรอกติณณ์ พี่ตาลใจดี :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 15-05-2015 06:15:54
หวังว่าพี่ตาลจะเข้าใจนะ โปเต้เด็กจริงๆด้วยเรื่องขนมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 15-05-2015 06:34:56
พี่ตาลต้องเข้าใจน้องอยู่แล้วล่ะค่ะ
เด็กนี่น่าร๊ากกกกกกกกกกก
ลูกแฝดออกมานี่ก็อายุเป็นลูกติณน์กับโปเต้เลยเนาะ :laugh:
หน้าต้องคล้ายๆกันอีกต่างหาก :hao7:
รอตอนต่อไปน้าาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 15-05-2015 06:40:29
อยากให้พี่ตาลดราม่าใส่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 15-05-2015 07:05:50
เราว่าพี่ปาร์น่าห่วงกว่านะ ไหนจะทางบ้านเขาอีก แต่คนรวยอะนะเดาใจยาก
มันก็ดีที่ดองกัน รักกัน ทายาทก็มีสองแฝดแล้ว ชิลๆ
ทำไมโปเต้ไม่บอกกบพี่ปาร์ก่อนล่ะจะได้มีแนวร่วม คลอดแล้วก็จะได้บอกพี่ตาลทีเดียว ถ้าเข้าใจก็แฮปปี้กันทุกคน
คนเขียนมาต่อบ่อยๆสะใจจังแต่ใกล้จบแล้วสินะ. จะเอาอีกเยอะๆ.  :bye2:    :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 15-05-2015 07:12:41
หวังว่าถ้าบอกพี่ตาล กับ พี่ปาร์ไปแล้ว
ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีน๊าาาา
ขอให้พี่เข้าใจ ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 15-05-2015 07:23:10
ยิ่งคบนานยิ่งขี้อ้อนนะโปเต้เนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 15-05-2015 07:36:27
น่ารักกกกก ครอบครัว ต.เต่า :)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-05-2015 08:45:07
เชื่อว่าพี่ตาลจะเข้าใจในความรักของณภัทรติวา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 15-05-2015 08:48:33
น่ารักกันตลอดดดด  :hao6:
มาต่อไวๆนะฮะรออออ  :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 15-05-2015 08:59:07
โปเต้มุ้งมิ้งจัง 555555 ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 15-05-2015 09:32:46
โปเต้น่ารัก ขี้อ้อน  :o8:
พี่ตาลกับพี่ปาร์คงเข้าใจน้องๆอยู่แหละ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 15-05-2015 09:47:24
 :-[ น่ารักตลอดเลยคู่นี้  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 15-05-2015 09:49:36
ดูรักกันดีแบบนี้รอเวลาหาเวลาบอกพี่ๆเค้าคงไม่ว่าอะไรหรอกใจเย็นหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-05-2015 10:01:06
อิจฉาทั้งคู่เลย หวีดหวานกันจริงๆ

ลุ้นให้เป็นแฝดหญิงชาย
พี่ตาลจะได้มีเพื่อนช๊อปบ้าง
(คนอ่านก็อยากได้แฝดบ้างอ่ะ)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 15-05-2015 10:13:09
ขอบครัวต.เต่าคร้าบบบบ :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 15-05-2015 10:16:19
พี่ตาลคงบอกฝากดูแลแถมข้าวสารถังนึงให้ด้วยมั้ง  :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 15-05-2015 10:44:56
หวังว่าพี่ตาลกับพี่ปาร์คงเข้าใจน้าาา  :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 15-05-2015 11:29:58
เราว่าพี่ตาลไม่ว่าหรอก  เพราะดูจะดีใจด้วยซ้ำที่ติณณ์ยอมรับว่าโปเต้ และพี่ปาร์เป็นคนในครอบครัวเดียวกับติณณ์  เพราะครอบครัวติณณ์ก็เหลือแค่พี่ตาลเพียงคนเดียว  และพี่ตาลต้องดีใจด้วยซ้ำไปที่ได้โปเต้มาเป็นน้องเขย


ติณณ์จะได้หลานแฝด  ขอร่วมตั้งชื่อว่าผู้หญิงให้ชื่อน้องใบเตย  ผู้ชายชื่อน้องตาว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 15-05-2015 11:36:58
หวังว่าพี่ๆจะเข้าใจนะ สู้ๆนะโปเตติณ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 15-05-2015 12:14:05
พี่ตาลกับพี่ปาร์คงไม่ว่าหรอกมั้ง
น่ารักจังคู่นี้อบอุ่นละมุนละไม :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 15-05-2015 12:27:04
ได้หลานแฝดด้วยอะ.  พี่ตาลกะพี่ปาร์จะว่าไงนะ ถ้ารู้ว่าคบกัน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-05-2015 13:12:34
บ้าขนมหวานจริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 15-05-2015 13:30:57
พี่ๆเขาไม่ว่าหรอกน้องติณณ์  เปิดตัวเลย   :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: monetacaffeine ที่ 15-05-2015 14:54:56
พี่ๆน่าจะเข้าใจนะะะ ยิ่งเหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้องแบบนี้แล้วด้วย
อะไรที่เป็นความสุขของน้อง เราว่าพี่สาวก็ไม่ขัดหรอก เราเห็นเพื่อนๆที่มีพี่น้องเวลามีเรื่องอะไรที่เป็นความลับ(กับพ่อแม่)
แต่ก็จะมาคุยมาปรึกษาพี่น้องอยู่นะ เพราะงั้นอันนี้ก็น่าจะเหมือนกันแหละะะะ
เป็นครอบครัวเดียวกันเต็มๆแบบนี้น่ารักจะตายไป ><
โปเต้กับติณณ์จะได้ช่วยกันเลี้ยงหลานด้วยยย

ชอบที่ติณณ์เรียกว่าหลานของเราจังเลยค่ะ ดูน่ารักมากเลย ~

จะรอตอนต่อไปนะคะ <3
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 15-05-2015 15:31:15
น่ารักอ่ะ พี่ตาลไม่ว่าติณติณหลอกเชื่อสิ อาจจะดีใจด้วยซ้ำ คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 15-05-2015 22:25:34
โปเต้น่ารักอ่า
ลุ้นให้พี่ๆยอมรับล่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 15-05-2015 22:46:26
ชอบที่ติณณ์แทนตัวเองว่าน้องติณณ์ตอนคุยกับพี่ตาล น่ารัก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 15-05-2015 22:47:56
เดาว่าพี่ๆคงรู้อยู่แล้วๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 24 P.41 15/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 16-05-2015 00:08:52
น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 16-05-2015 00:28:31
ตอนที่ 25










“กินข้าวดีมั้ยว่ะพวกมึง มันจะทันมั้ยว่ะ” เสียงจีน่าเอ่ยขึ้นพลางดูเวลาไปด้วย วันนี้อาจารย์ปล่อยเลทมาก อีกประมาณสิบนาทีก็จะบ่ายแล้ว แล้วพวกผมมีเรียนตอนบ่ายกันต่อ คนอื่นๆคงพอทนได้เพราะพึ่งกินข้าวกันไปก่อนเข้าเรียนเมื่อตอนเก้าโมงเช้า แต่ผมกับโปเต้คือแบบซวยมาก วันนี้ตื่นสายไงครับ แค่ทันคาบแรกของวันนี้แบบฉิวเฉียด คือออกจากลิฟต์พร้อมอาจารย์ครับ (อาจารย์ก็ออกจากลิฟต์เฉพาะอาจารย์ แต่ผมสองคนออกจากลิฟต์นักศึกษานี่แหละครับ) พอหันไปเห็นอาจารย์พวกผมก็รีบวิ่งไปที่ห้องเรียนเลย คือถ้าเข้าห้องก่อนอาจารย์ยังไงก็คือไม่สายครับ




“จะกินอะไรทันล่ะมึง อยากมากแค่ขนมปังกับนมสักกล่อง แต่นี่จะเดินไปโรงอาหารเพื่อซื้อแล้วเดินกลับมาขึ้นอาคารเรียน มึงคิดว่าจะทันมั้ย” หลุยด์อธิบาย ซึ่งความเป็นไปได้ก็คือ ยังไงก็ไม่ได้กินข้าว




“กูไม่กินนะ ขึ้นไปเรียนก่อน” แลนด์เอ่ยบอก แต่ตามองโทรศัพท์มือถือและมือก็กดไปด้วย เชื่อเถอะว่ามันคุยกับดิน




“กูก็เหมือนกัน”




“กูด้วย”




ตามมาด้วยเซย์และจิน ทำเอาจีน่าและนิดามองหน้ากันว่าจะเอายังไง ผมก็พอจะเข้าใจนะ ว่ามันหิวขนาดไหน ผมเองยังเริ่มปวดท้องหน่อยๆแล้ว มันเป็นเพราะนิสัยเสียตั้งแต่เข้าปีหนึ่งนั้นแหละครับ กินข้าวไม่ตรงเวลาก็อย่างนี้แหละ




และสรุปก็คือพวกเราเลือกที่จะไม่กินข้าวเที่ยง แล้วพากันเดินไปยังห้องห้องเรียน พวกผมน่ะไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้คนที่กินมากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัวนี่สิ ออร่าดำทะมึนแพร่กระจายเลยทีเดียวเชียว ไม่ต้องหันไปมองก็ยังสัมผัสได้ จนแม้แต่พวกเพื่อนกันเองยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย โปเต้หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดทางจนมาถึงห้องเรียน ยังดีห้องนี้เป็นห้องแอร์ ซึ่งมันอาจจะช่วยให้อารมณ์โปเต้เย็นลงก็ได้...มั้งนะ ผมเองยังไม่ค่อยมั่นใจเลย




“อย่าหงุดหงิดน่า” ผมเอ่ยบอกพลางขยี้หัวโปเต้เบาๆ ที่ตอนนี้ฟุบหน้าลงไปบนโต๊ะ




“ผมหิว” โปเต้หันหน้ามาหาผมก่อนจะพูดเสียงเบา




“รู้แล้ว ผมก็หิว ...แต่เรียนก่อน” ผมบอกก่อนจะเลื่อนมาจากผมนุ่มๆของโปเต้ มาเป็นแก้มของเขา ก่อนจะหยิกเบาๆ ...นิ่มจริงๆ




“ผมหิว ผมหิว ผมหิว ผมหิว ..อุ๊บ!” อยู่ๆโปเต้ก็เกิดการอาละวาดแหกปากซะอย่างนั้น ทำเอาผมเอามือปิดปากแทบไม่ทัน คนในห้องหันมามองโปเต้เป็นเดียวก่อนจะหันไปกระซิบกัน บ้างก็กระซิบกันแล้วหัวเราะ บ้างก็กระซิบกันแล้วดิ้นไปดิ้นมา ผู้ชายบางคนที่อยู่ในห้องก็ทำท่าหมั่นไส้โปเต้




“เงียบ” ผมสั่งเขา หิวมากแล้วสมองเบลอรึไงเนี่ย




“...งับ!” โปเต้ไม่พูดอะไร แต่เขาจับมือผมไว้ก่อนจะกัดนิ้วผมเฉยเลย เจ็บอยู่นะนั่น




“โปเต้ ปล่อย..อ๊ะ” ผมรีบยกมือปิดปากเมื่อเผลอส่งเสียงแปลกออกไป จนพวกเพื่อน (ที่หูดีเป็นทุนเดิม) หันมามองผมสองคนโดยมิได้นัดหมาย




แล้วจะไม่ให้ผมร้องได้ยังไง เมื่อโปเต้เขาไม่ได้กัดนิ้วผมเพียงอย่างเดียว แต่กลับดูดด้วย (โปเต้กัดนิ้วกลางกับนิ้วนางของผม) ไม่พอยังเอาลิ้นร้อนๆมาดุนดันตรงปลายนิ้วผมเล่นอีก มันรู้สึกแปลกๆอ่ะ แล้วยิ่งเขาทำไปแล้วมองหน้าแบบนี้มัน...ผม ...ผมเขินด้วย!!! ...อายด้วย!!!




“โปเต้...ปล่อยยย...” ผมว่าพลางดึงนิ้วตัวเองออก แต่โปเต้ไม่ยอม จับมือผมไว้แน่นอนเลย (เข้าใจกันมั้ยครับ เขาจับมือผม ส่วนปากเขาก็กัดนิ้วผม)




“อ่ะ..” ว่าแล้วเขาก็ยอมคลายนิ้วผมออก แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือผม




“เล่นอ่ะเนี่ย อร่อยมั้ยล่ะ” ผมถามอย่างประชด




“ไม่เห็นอร่อยเลย เค็มก็เค็ม ตอนเข้าห้องน้ำดะ..พรืดดด..” ยังไม่ทันที่โปเต้จะพูดจบ ผมก็เอามือไปป้ายลิ้นเขา




“เค็มแล้วดูดทำไม” ผมถามพลางเอามือไปถูกทั่วใบหน้าของโปเต้ จนเขายอมปล่อยมือผม แล้วเปลี่ยนมาเช็ดหน้าตัวเอง




“อี๋..” เสียงโปเต้ร้องออกมาเบาๆ แต่...นั่นมันน้ำลายเขาเองนะ เฮ้อ...พอเหอะเถอะ ผมว่าเราเล่นอะไรที่มันสกปรกเกินไปล่ะ




“.....” ผมดึงมือตัวเองกลับ ก่อนจะเช็ดมือกับกางเกงตัวเอง ...และยังไม่มีใครจะได้ทันพูดอะไร ทุกอย่างก็ต้องหยุดและเงียบลง เพราะอาจารย์ได้เดินเข้าห้องมาเรียบร้อยแล้ว ทุกคนจึงอยู่ในความสงบ และตั้งหน้าตั้งตาพร้อมที่จะเรียน ...ยกเว้นโปเต้ ที่เหมือนจะพยายามหาอะไรทำ (นอกจากฟังอาจารย์สอน) เพื่อไม่ให้ตัวเองหงุดหงิดไปมากกว่านี้ ผมก็ได้แต่ปล่อย แล้วหันมาตั้งใจเรียน




นักศึกษา (เกือบ) ทุกคนพร้อมที่จะเรียน และตั้งใจฟังอาจารย์สอนกันอย่างเงียบๆ แต่ก็มีเสียงซุบซิบถามกันบ้าง เสียงฉีกกระดาษที่ดังแบบไม่เกรงใจใคร ไม่มีมารยาทจริงๆ คนจะเรียนนะเว้ยยย ...ฮึ่ย! เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ ยิ่งแต่หิวๆอยู่




“.....” มีอะไรไม่รู้มาสะกิดที่แขนของผม พอหันไปดู พบว่าเป็นกระดาษที่โปเต้ยื่นมาให้ อ๋อ...ไอ้เสียงฉีกกระดาษที่ดังไม่เกรงใจชาวบ้านนี่มันมาจากโปเต้นี่เอง แอบด่าในใจไปซะแล้วสิ โทษทีล่ะกัน




“.....” ผมรับกระดาษแผ่นนั้นมาจากโปเต้ ก่อนจะก้มดู พบว่าโปเต้เขียนอะไรบางอย่างให้ผมดู




‘ผมหิว!!!’




นี่เขาจะเล่นส่งข้อความกระดาษกับผมเหรอ เป็นเด็กรึไงกันเนี่ย




“.....” ผมก้มหน้าเขียนตอบ ก่อนจะส่งคืนไปให้โปเต้ ...ผมเขียนไปว่า ‘ทนหน่อย เรียนก่อน’




“.....” สักพักโปเต้ก็ยื่นกลับมาให้ผมอีก




‘เลิกเรียนแล้วไปกินพิซซ่ามั้ย???’




“.....” เขาพึ่งพาผมไปกินพิซซ่าเมื่อวานเองนะ ผมไม่อยากกินอ่ะ




‘ไม่เอา พึ่งกินไปเมื่อวาน’




“.....” เขียนเสร็จผมก็ส่งคืนให้เขา




‘งั้นกินอะไรดี’




‘แล้วแต่นายสิ’




‘ครั้งนี้ผมตามใจคุณ’




‘ผมก็เห็นนายตามใจผม แล้วชวนผมไปร้านที่ตัวเองอยากกินตลอด’




‘ก็ติณณ์จะกินแต่ผัดกระเพรานี่’




‘ก็มันคิดอะไรไม่ออกนี่’




‘เลือกมาเถอะ ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงผมก็เลี้ยงคุณอยู่แล้ว’




‘นายนั่นแหละ เลือก’




พรึบ!




“....” นั่นคือคำตอบที่ผมเขียนเสร็จและกำลังจะยื่นให้โปเต้ แต่แล้วมันก็ถูกใครบางคนดึงไปจากมือผม พอเงยหน้ามองดูดี...อาจารย์นี่หว่า




ซวย!!!!




“คุณนภัทร คุณติวาลิน ...อาจารย์รู้นะคะ ว่าเธอทั้งสองรักกันมากกกกกกกกกกก ...แต่ว่าตอนนี้มันเป็นเวลาเรียนนะคะ ทำไมถึงเสียมารยาทใส่เวลาเรียนแบบนี้!” เสียงอาจารย์พูดเสียงเข้มใส่พวกผมสองคน เรื่องนี้ผมไม่ผิดนะ เพราะผมไม่ได้เริ่มก่อน




“.....”




“.....”




“ลุกขึ้น แล้วไปอยู่ตรงนั้น” อาจารย์เอ่ยเสียงเข้มก่อนจะชี้ไปยังมุมห้องที่ติดกับกระดานไวท์บอร์ด




“.....” ผมกับโปเต้จำต้องลุกขึ้นทำตามที่อาจารย์สั่ง เพราะว่าผิดจริงๆ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของโปเต้คนเดียวเลยอ่ะ




“เอ้า...หันหน้าเข้าหากัน กางแขนออก แล้วยกขาขึ้นข้างนึง” อาจารย์สั่งครับ แม้ว่าจะไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำ เดี๋ยวอาจารย์แกจะตัดคะแนนผมจนเหลือศุนย์ แบบนั้นมันแย่มากๆเลยนะ




“.....” ผมทำตามครับ ส่วนโปเต้ทำแบบอิดออดมาก แต่สุดท้ายก็ยอม




“คาบไว้” อาจารย์ม้วนกระดาษ ที่ผมกับโปเต้เขียน ก่อนจะหันปลายด้านหนึ่งมาให้ผมคาบเอาไว้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ให้โปเต้คาบเอาไว้เหมือนกัน แล้วก็ตามมาด้วยเสียงกรี๊ดและเสียงแซวจากคนในห้อง ให้ตายเหอะ...ผมเริ่มอายแล้วนะ ทั้งที่ปกติผมเป็นคนไม่สนใจอะไรเลยแท้ๆ ทั้งหมดมันก็เพราะโปเต้นั่นแหละ




“อาจารย์รู้ค่ะว่าทั้งคู่อยากจะจ้องตากันทั้งวัน อาจารย์เลยจัดให้ ยืนอย่างนั้นจนกว่าจนหมดชั่วโมงนะคะ ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนขา” อาจารย์ว่าจบก็หันไปสอนต่อ




ขอบคุณครับอาจารย์ มันโรแมนติกสำหรับผมมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ...แม้จะรักขนาดไหน แต่จะให้มายืนกระต่ายขาเดียวกางแขนกางขาแบบนี้ มันทรมานนะครับคุณ ทั้งหมดมันเป็นเพราะโปเต้เลย คอยดูผมจะสั่งอดขนมเขาเดือนนึง!














ในที่สุดก็ได้มากินข้าวเสียที!!!




หลังจากที่หมดชั่วโมงเรียน ผมแทบจะกู่ร้องด้วยความดีใจ ยืนกระต่ายขาเดียวๆนานๆนี่มันโคตรล้าเลย เกือบล้มอยู่หลายรอบ ดีที่โปเต้ช่วยจับเอวไว้ อาจารย์ที่เห็นอยู่นั้นเลยใจดีครับ อนุญาตให้เปลี่ยนข้าง (แทนที่จะปล่อยให้กลับไปนั่งเรียนเหมือนเดิม) สรุปผลที่ออกมาคือเมื่อยทั้งสองข้างเลยครับ และเมื่อมาถึงโรงอาหาร แต่ละคนนี่ไม่พูดไม่จา กินอย่างเดียว ไม่อิ่มมีเบิ้ลสองก็มี อย่างโปเต้นี่กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จยังไปซื้อข้าวมากเพิ่มเลย (มันเป็นปกติของเขาอยู่แล้วนี่หว่า) ไม่ก็ไปซื้อขนม ของหวาน หรือน้ำแข็งใสกันครับ




“เฮ้อ...อิ่มโว้ยยยยยยย” นิดาร้องขึ้นเมื่อมันกินข้าวไปจานนึงกับน้ำแข็งใสสองถ้วย เป็นผู้หญิงที่ตะกละดีนะ




“ไม่อิ่มสิแปลก แดกเข้าไปได้ยังไงเนี่ย” หลุยส์ว่าพลางเอื้อมมือไปผลักหัวนิดา




“มึงไม่ดูตัวเองเลย ของมึงนี่แดกหรือยัดห่า ...ห๊ะ!” นิดาส่วนกลับ ทำเอาฮานิดๆ




“ส่วนมึงอ่ะ เล่นแต่ไลน์อยู่นั้น พิมพ์อยู่นั่นแหละ ดินเขาพิมพ์ตอบจนมือหงิกแล้วมั้ง” หลุยด์หันไปเล่นแลนด์ที่นั่งกดโทรศัพท์ไปด้วย กินไปด้วย




“เรื่องของกู สัด!” แลนด์เงยหน้าขึ้นมาด่า ก่อนจะก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์เหมือนเดิม




“ไหน! ดูดิ! ...โหยยยยย แลนด์ทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย แล้วที่บอกว่าจะดูแลเรานี่แลนด์จะทำได้เหรอ ...ดินแม่งน่ารักว่า แบ๊วๆซื่อๆดี ไหนๆ มึงตอบเขาว่าไง เอ๊ะ! ยังไม่ได้ตอบนี่หว่า มาเดี๋ยวกูตอบให้” หลุดย์อ่านไลน์ในโทรศัพท์มือถือของแลนด์ซะเสียงดัง พลางหลบมือแลนด์ที่พยายามจะแย่งคือสองสาวสองคนในกลุ่มที่สงสัยว่าความอยากรู้คงจะพุ่งปรี๊ด นิดากับจีน่าหันไปร่วมมือกับหลุยด์จับตัวแลนด์เอาไว้




“ไอ้หลุยส์! ไอ้เพื่อนเวร อย่านะเว้ย!!” แลนด์ตะโกนเรียกหลุยส์ที่กำลังวิ่งหนี หน้าเขาแดงมากจนลามไปถึงหู ไม่รู้ว่าโกรธหรือเขินกันแน่




“กูจะกดส่งแล้วนะ” หลุยส์ที่วิ่งหนีตะโกนกลับมา ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีอย่างจริงจัง เมื่อแลนด์สลัดจีน่ากับนิดาหลุด แล้ววิ่งตามหลุยส์ไปจนออกไปนอกโรงอาหาร หึๆ...เล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้




“ไอ้จิน ปิดเทอมนี่สองแฝดมันจะไปอังกฤษเหรอว่ะ” เซย์เงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือแล้วหันมาถามจิน สองแฝดที่ว่าคงหมายถึงอลันกับดอมินิกล่ะมั้ง




“เออ ไปเยี่ยมตากับยาย เนี่ย...กูว่าขอแด๊ดดี้ของดอมตามไปด้วย” จินเอ่ยบอกกับเซย์




“มึงมั่นใจเหรอ ถึงแด๊ดดี้กับหม่ามี้จะเห็นดีเห็นงามให้สองแฝดคบกับพวกเรา แต่ตากับยายเขานี่แทบจะกินพวกเราเลยนะเว้ย”




“ก็นี่ไง ถึงจะไปเพื่อเอาใจ เผื่อเขาจะชอบกูบ้าง”




“เออ ก็จริงว่ะ เดี๋ยวจะลองขอพ่อกับแม่กูดู”




“ติณณ์...” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผม ผมเลยเงยหน้าจากถ้วยน้ำแข็งใสขึ้นมองหน้าเขา




“....?”




“เปล่า” โปเต้บอกผมพลางยกยิ้มมุมปาก




“.....” แล้วจะเรียกทำเพื่อ?




“ติณณ์” โปเต้เรียกผมอีกล่ะ




“...อะไร”




“เปล่า”




“.....” เป็นอะไรของเขาว่ะเนี่ย กินอื่นเกินไปเหรอ




“ติณณ์” เรียกอีกล่ะ




“.....” คราวนี้ผมไม่หันครับ ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วหันมาสนใจกับถ้วยน้ำแข็งใสอย่างเดียว




“อย่าเมินดิ แหย่เล่นเฉยๆ” โปเต้ว่าอย่างอารมณ์ดี (รู้ได้ไงว่ะ!)




“ทำไม จะเอาอะไร” ผมถามกึ่งประชด




“เอาติณณ์”




ขวับ!




ผมหันขวับคอแทบหลุด เมื่อกี้มันพูดอะไรออกมาเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย




“นี่! พูดอะไรน่ะ!” ผมว่าก่อนจะตีปากเขา ไม่แรงหรอก




“หึๆ ก็อยากเห็นติณณ์เขินนี่” โปเต้หัวเราะในลำคอ ใช่สิ...เขาทำสำเร็จแล้วนี่ ตอนนี้หน้าผมแดงอย่างกับลูกตำลึง




“แล้วเป็นไง!” ผมถาม ไม่ใช่อะไรหรอก มันรู้สึกเขินจนทำอะไรไม่ถูกเลยแกล้งพูดกระแทกเสียงใส่ ...ก็แค่นั้น




“ก็สำเร็จไงครับ น่ารักจัง” โปเต้ว่าก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มผมหน้าตาเฉย ยางอายเดี๋ยวนี้น่ะไม่มีหรอก เมื่อก่อนว่าหนักแล้ว ตอนนี้หนักยิ่งกว่าเก่าอีก




“อย่า เพื่อนอยู่” ผมเอ่ยห้าม ไม่ได้อายเพื่อนหรอก อายตัวเองนี่แหละ ที่ดันมารู้สึกชอบที่จะให้โปเต้ทำแบบนี้นี่สิ ...มันน่าอายกว่าเป็นไหนๆ




“ช่างหัวมันตัว ตัวติณณ์นุ่มนิ่มดี” ไม่พูดอย่างเดียว เข้ามากอดผมด้วย ช่วงนี้ขี้อ้อนแปลกๆ จะเอาอะไรรึเปล่าเนี่ย




“ผมไม่ใช่ผู้หญิง ตัวจะได้นุ่มนิ่ม”




“นิ่มสิ ดู” โปเต้ว่าก่อนบีบเนื้อที่แขนผมที่มันเลนนิดๆ ไม่เหมือนแขนโปเต้ที่มีแต่กล้ามเนื้อ




“อ้วนขึ้นแน่เลย” ผมบ่นออกมาเบาๆ




“แก้มก็ย้วยขึ้นด้วย” โปเต้ไม่ว่าเปล่า เอื้อมมือมาบีบแก้มผมเบาๆ




“จริง ...หน้าบวมมากมั้ย” ผมรีบถาม เห็นแบบนี้ผมก็อยากให้ตัวเองดูดีอยู่นะ




“อืม...มาก” โปเต้มองหน้าผมนิดนึงก่อนจะตอบ เฮ้ย...จริงดิ




“จริงดิ”




“จะกังวลทำไม ผมว่าแบบนี้ดีออก เมื่อก่อนมันผอมไป” เหมือนโปเต้จะพยายามพูดปลอบ แค่ยังไงความจริงก็คือผมอ้วนขึ้น ถึงผมไม่จะชอบเล่นกีฬาสักเท่าไหร่ แต่คือสมัยนี้ไม่ว่าใครๆก็อยากให้ตัวเองออกมาดูดีกันทั้งนั้น รวมถึงผมด้วย




“พูดแบบนี้แปลว่าผมอ้วนขึ้นมากๆแน่เลย” ผมว่าก่อนจะลองบีบเนื้อที่แขนตัวเอง มันนิ่มจนเลนจริงๆด้วย




“ไม่ได้บอกว่าเป็นแบบนั้นสักหน่อย อย่างกังวลเกินเหตุสิ”




“พอเลย ต่อไปจะไม่กินของหวานกับนายแล้ว ...นายก็ห้ามกินของหวานด้วยเหมือนกัน” ผมว่า ก่อนจะหันไปสั่งเขา




“เฮ้ย เกี่ยวไรกัน”




“เกี่ยว นายเองก็กินของหวานเยอะ เดี๋ยวก็อ้วนกันพอดี อีกอย่างวันนี้นายทำให้ผมโดนทำโทษ แถมยังอายคนทั้งห้องด้วย ห้ามกินของหวาน...นี่คือการลงโทษ” ผมบอกเสียงเรียบ




“ไม่ยุติธรรม” โปเต้ประท้วง




“แล้วอะไรคือความยุติธรรมของนาย”




“ไม่ต้องห้ามไม่ให้ผมกินของหวานไง อนุญาตให้กินทุกวัน นี่ไงความยุติธรรมที่ผมต้องการ”




“แล้วก็จะได้อ้วนเป็นหมูอ่ะเหรอ”




“ไม่เห็นหมูเลย ทุกวันนี้ก็ไม่อ้วน เห็นมั้ย”




“ถ้านายไม่พาอันปันออกไปวิ่งเล่น นายก็กินแล้วนอนนั่นแหละ”




“อย่าเอาความจริงมาพูดสิ”




...นี่เรา กำลังเถียงกันเรื่องอะไรอยู่ว่ะ ทำไมรู้สึกไร้สาระแปลกๆ =_=




“.....”




“.....”




“โอเค เป็นอันยกเลิก” ผมว่าก่อนจะตักน้ำแข็งใสของตัวเองเข้าปาก




“กินมั้ง” โปเต้เอ่ยบอกก่อนจะอ้าปากรอ




“.....” ผมจึงตักน้ำแข็งใสใส่ปากเขาบ้าง สลับกันกินจนหมด แล้วก็นั่งเล่นกันสักพักผมกับโปเต้ก็ขอตัวกลับบ้าน รู้สึกเมื่อยขาและอยากนอนมากๆ




“ติณณ์..” ในระหว่างที่ขับรถอยู่ โปเต้ก็เอ่ยเรียกผมเบาๆ




“อะไร” คงไม่ใช่แกล้งแหย่ผมอีกนะ ถ้าเป็นแบบนั้น พ่อจะตบบ้องหูเข้าให้




“พูดจริงนะ ไม่ต้องลดน้ำหนักหรอก”




“ทำไม”




“ก็...เวลาจะทำอะไรแล้วมันเหมาะมือดี”




เพี๊ยะ!




“ทำอะไร!” ผมตีไหล่เขาก่อนจะถาม




“ตีทำไมเนี่ย เจ็บ... แค่จะบอกว่าผิวแบบนี้มันน่านอนกอด”




“...แล้วไป” ไอ้ตัวผมก็คิดไปนู้น ...เอ่อ คือ...นั่นแหละ -////-




“คิดเรื่องลามกอยู่อ่ะดิ”




“ไม่ใช่โว้ยยยยยยย -////-” ไม่ได้คิด...นิดเดียว แต่คิดไปไกลเลยแหละ ไอ้บ้า!!







*******************************************************************************




FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 16-05-2015 01:03:48
มันจะน่ารักเกินไปแล้วนะคู่นี้ :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 16-05-2015 01:06:49
 :impress2:  น่ารักกกกกกกกกกกกก   อ่านแล้วมีความสุขมากกกกกกกกกกก    คืนนี้คงฝันดี  ขอบคุณนะ   :n1:

 :L3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 16-05-2015 01:24:38
 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 16-05-2015 01:38:22
โอ้ยเขินนน ตามองตาสายตาก็จ้องมองกันนน :hao7: :hao7:
ขอบคุณที่มาครับ นี่รออยู่จริงๆ 555 :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-05-2015 01:38:53
เมื่อไหร่จะได้กันอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-05-2015 02:59:30
เมื่อไร   :hao6: จะมา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-05-2015 03:16:46
ตายจริงอาจารย์มหาลัยไทยลงโทษแบบนี้เลยเหรอ?  มหาลัยเราอาจารย์ไม่เคยว่าแรงๆ มีแต่ นี่พวกเธอฟังหน่อย  ที่มันส์กว่านั้นก็คือพวกเสียงดังจะโดนเพื่อนในห้องด่าแทน เช่น รู้ไหมว่าฉันลงทุนลงแรงมาเรียนนะ พวกเธอไม่อยากเรียนก็ออกไปก็อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา  เงียบกรึ๊บเลย อาจารย์ยิ้มแล้วก็สอนต่อ

คู่นี้หวานมากขึ้นเรื่อยๆจะปิดพี่ชายกับพี่สาวได้หรือ?  แค่มองตามมดก็รู้แล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 16-05-2015 03:19:37
น่ารักมากกกกกกกก~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 16-05-2015 06:04:21
คู่นี้เค้าน่ารัก..ชวนจิ้นชวนฟินนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 16-05-2015 06:13:44
อาจารย์ทำโทษได้โหดร้ายมากกกกกกกกก
โถๆ อ้วนก็ยังน่ารักนะจ๊ะ
รอตอนต่อไปน้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-05-2015 06:26:42
ตัวนุ่มนิ่มน่ากอด อยากกอดติณณ์บ้างอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 16-05-2015 06:36:32
คู่นี้มันจะน่ารักหวานแหว๋วเกินไปแล้วนะ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-05-2015 06:48:48
น่ารักจริงโว้ยคู่นี้ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-05-2015 07:00:08
 :-[. โปเต้แม่มร้ายยยยย. เด็กอะไรกินเก่งแถมเกเรอีก
แต่ละคำที่หยอดมานี่นะโปเต้  ถ้าเราเป็นติณณ์กลับถึงบ้านแล้วจะลงโทษให้หนักเลย.
โทษฐานที่ทำให้เขินอายต่อหน้าธารกำนัล
ลึกๆแล้วที่ชวนกินนั่นนี่เพราะอยากให้เหมาะมือดีใช่ไหม
รู้นะว่าชอบแอบบีบตรงไหน.  :impress2:

คู่ดินแลนด์มุ้งมิ้งแย่งซีนได้อีก. แชทจีบกันอยู่นั่นแหละ
ไปคุยเลยจะภาษากายหรือภาษามือก็ดีทั้งนั้น จะได้ดูแลไปด้วยในตัว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 16-05-2015 08:00:21
หึหึ ติณระวังไว้นะ ดูโปเต้เริ่มจะหื่นขึ้นทุกวัน ฮ่าๆ  :m20: o18
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: becrazie ที่ 16-05-2015 08:31:53
อาจารย์ช่วยสนับสนุนความมุ้งมิ้งให้คู่นี้เหรอคะ!?! :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 16-05-2015 08:54:18
โง้ยยยยย น่ารักกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 16-05-2015 09:27:06
เถียงกันมุ้งมิ้งงงงง น่าร๊าก~~~!!♡
แต่โปเต้ก้อแอบทวีความหื่นขึ้นที่ละนิด อย่างเนียนๆอ่ะน๊าาาา อิอิอิ ^.,^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 16-05-2015 10:03:35
สงสัยว่าอาจารย์จะเป็นสาววาย เลยจับทั้งคู่มาลงโทษ หน้าห้องเรียน ให้เพื่อนนักศึกษาได้จิ้นกันกระจาย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 16-05-2015 10:53:47
หวานขึ้นทุกวัน  :katai2-1: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 16-05-2015 11:39:59
น่ารักอ่ะ ตั้งแต่คบกันโปเต้ก็น่านักขึ้นเรื่อยๆๆ แถมยังปากหวานขี้อ้อนด้วยอ่ะ คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-05-2015 12:15:00
ฉันไม่เชื่อนายหรอกนะโปเต้
ที่คิดจะแค่นอนกอนติณน่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 16-05-2015 12:34:04
น่ารักเกินไปละคู่นี้  :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 16-05-2015 13:21:37
น่ารักเกินไปแล้วคู่นี้ ยิ่งนับวันยิ่งน่ารักอ่ะ แล้วยังงี้จะปิดพวกพี่ๆ ได้นานแค่ไหนกันเชียว

ยังไงก็เอาใจช่วยให้ปิดเรื่องไปได้จนพี่ตาลคลอดหลานๆ นะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-05-2015 13:45:17
อ๊ายยยยยยยยยยยยย หวานเกินไปแล้วววววว :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 16-05-2015 14:53:38
ถึงทีโปเต้เมื่อไหร่ ติณณ์โดนจัดหนักอย่างแน่นอน หึหึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 16-05-2015 16:36:47
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-05-2015 19:52:09
เราก็คิดเหมือนติณนะ 555555+
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 16-05-2015 21:08:46
คนเจียนน่ารักมาอัพบ่อยๆ นิยานก็น่ารักอ่านไปก็เขินไปปปป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 16-05-2015 21:59:38
เค้าหยอกกันแกล้งกันน่ารักมากค่า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nnutchachar ที่ 17-05-2015 14:08:31
เพิ่งตามอ่านจนจบค่ะ น่าร๊ากกกกกกกกกก
ไม่รู้จะบรรยายอะไรดี ปกติไม่ค่อยชอบเมะหน้าหวาน เคะหน้าหล่อนะ
แต่นิสัยของทั้งคู่โอเคเลย ลงตัวมากแงง มุ้งมิ้งๆๆ
หวังว่าจะยังไม่มีดราม่านะ ยังไม่พร้อม ยังอยากให้งุ้งงิ้งกันต่อไป ///-

ตอนล่านี่โปเต้ขี้อ้อนจัง น่ารักมาก หมดมาดจากตอนแรกๆเลย ติณก็เคะขึ้นเรื่อยๆ โง้ยจะบ้า
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจัง อยากจะเป็นเพื่อน หรือแอดมินเพจก็ยังดี...
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่านกันนะคะ จะติดตามค่ะ
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 25 P.42 16/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-05-2015 01:52:04
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 19-05-2015 01:53:43
ตอนที่ 26













“วันนี้ร้อนจังวะ” ผมเปรยๆขึ้นเบาๆ ในระหว่างที่กำลังพาอันปันออกมาวิ่งเล่น ที่สวนสาธารณะของหมู่บ้าน ซึ่งถ้าเดินไปมันก็ไกลนิดหน่อย ถ้าขับรถไปก็แป๊บเดียวถึง ตอนนี้ทุกคนในบ้านต้องสลับพากับพาอันปันออกไปวิ่ง เนื่องจากครั้งแรกที่เจ้าหมาน้อยตัวนี้ ได้ออกไปวิ่งเล่นโดยที่พี่ปาร์เป็นคนพาไป แล้วเกิดอาการติดใจซะอย่างนั้น ถ้าไม่มีใครพามาก็จะเห่าไม่หยุดแล้ววิ่งซ่านไปทั่วบ้าน หรือบางวันที่คนในบ้านกลับดึก จนเลยเวลาที่จะพาอันปันออกมาเดินเล่น เจ้าตัวหมาน้อยอันปันก็จะงอนจนไม่ยอมกินข้าวเลยทีเดียว




แล้ววันนี้ก็เป็นเวรผมที่ต้องพาเจ้าอันปันออกมา โปเต้ก็มาด้วยนะ กำลังวิ่งแข่งกับอันปันอยู่ ตอนแรกเป็นผมที่เป็นคนวิ่งกับอันปัน วิ่งเพื่อออกกำลังกายครับ หลังจากที่เมื่อประมาณเดือนก่อน ผมตัดสินใจชั่งน้ำหนัก จากที่ตอนก่อนจะคบกับโปเต้ ผมสูงร้อยเจ็ดสิบเจ็ดเซนต์ น้ำหนักผมอยู่ที่ประมาณหกสิบห้ากิโลกรัม ตอนนี้มันขึ้นมาเป็นเจ็ดสิบสามครับ เจ๊กสิบสามเลยนะ!!!




ผมอ้วนขึ้นตั้งแปดโล ..แปดกินโลเชียวนะ!




บอกเลยว่ารับไม่ได้อย่างแรง




หลังๆมานี่ถ้าเป็นไปได้ผมขออาสาพาอันปันมาวิ่งเล่นเองเลยครับ จะได้ออกกำลังเพื่อลดน้ำหนักให้ตัวเองด้วย แต่ตอนนี้พักเหนื่อยก่อน ตอนแรกเจ้าอันปันมันก็ไม่ยอม เห่าอยู่นั่นแหละ โปเต้ก็เลยต้องไปเล่นกับมันแทนผม




แต่วันนี้อากาศมันร้อนจริงๆนะเนี่ย ยังดีที่แดดไม่ค่อยมีแล้ว




“แฮ่ก..เหนื่อย” เสียงโปเต้ที่วิ่งกลับมาหาผม ก่อนจะล้มตัวลงนอนที่ตักของผมหน้าตาเฉย โดยไม่แคร์สายตาคนรอบข้าง (ซึ่งปกติโปเต้ก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว)




“ดื่มน้ำมั้ย?” ผมถามพลางชูขวดน้ำที่ผมถือตืดมือจากบ้านมา




“เดี๋ยวก่อน..” โปเต้บอกก่อนจะหลับตาลง ลมเย็นๆเริ่มพัดผ่าน มันทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น อันปันที่คงเหนื่อยไม่ต่างกัน วิ่งกลับมาแล้วล้มตัวนอนซบแขนของโปเต้ที่นอนกางแขนกางขาอย่างหมดสภาพ แต่ออร่าความดูดียังคงแผ่กระจายไม่มีหาย




“.....” ผมนั่งมองวิวรอบๆไปเรื่อยๆ คนในหมู่บ้านก็มาเดินเล่นบ้าง ส่วนมากก็มาเป็นครอบครัว หรือไม่ก็พาหมามาวิ่งอย่างพวกผมก็มีนะ




“.....”




“.....” มองวิวจนพอใจก็ก้มหน้าลงมองคนที่นอนหนุนตักตัวเอง ก็พบว่าโปเต้ลืมตามองหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว




“อะไร” ผมเอ่ยถาม เพราะเขามองผมด้วยสายตาแปลกๆ




“เปล่า ...ไอ้อ้วน” ว่าจบก็ยิ้มมุมปาก ตลอดอ่ะ...เดี๋ยวนี้ชอบแซวด้วยคำนี้ตลอด




“ปากแบบนี้ อย่ามีมันเลยดีกว่ามั้ย??” ผมถามอย่างยิ้มๆ แต่มือนี่บีบปากโปเต้ไปด้วยจนเจ้าตัวถึงกับร้องโอดโอย สมน้ำหน้า




“โอ๊ย! ..เอ็บๆ (เจ็บๆ)” โปเต้ร้องบอก ผมเลยยอมปล่อยมือออก




“สมน้ำหน้า!”




“ติณณ์ไม่อ้วนหรอก ไม่ต้องลดน้ำหนักนะ...ตัวนิ่มๆแบบนี้ดีจะตาย เมื่อก่อนมันผอมไปรู้ตัวมั้ย” โปเต้ว่าก่อนจะเอื้อมมือขึ้นมาหยิกแก้มผมเบาๆ




“แต่ตอนนี้มันอ้วนไป หน้าผมบานจะตาย” ผมพูดไปอย่างที่คิด เพราะแก้มผมมันยุ้ยๆขึ้นจริงๆ




“กังวลเกินไปแล้ว ป่ะ...กลับบ้านกัน” โปเต้ว่าก่อนจะลุกขึ้น และจงใจแกล้งเจ้าอันปันที่นอนเอาหัวหนุนแขนโปเต้อย่างน่าเอ็นดู จนมันสะดุ้งตื่น แต่กลับไม่ยอมลุกขึ้น ก่อนมันล้มตัวลงนอนต่อ เป็นแบบนี้ทุกที เพราะวิ่งเล่นจนพอใจจนมันเหนื่อย ก็จะเอาแต่นอนอย่างเดียว ช่วงเป็นหมายที่เอาแต่ใจจริงๆ




และสุดท้ายพวกเราก็กลับบ้านกัน โดยโปเต้เป็นคนอุ้มเจ้าอันปันกลับบ้าน แต่ผมเห็นนะ ว่ามันแอบลืมตาขึ้นมองหน้าโปเต้แล้วทำท่าจะหลับต่อ เนียนจริงๆ ...เนียนเหมือนคนที่กำลังอุ้มมันอยู่เลย














“ไง พี่ติณณ์ ไม่ได้เจอกันนานเลย” น้องแป้งเดินเข้ามาก่อนจะทักผม วันนี้น้องแป้งบอกจะเอาอัลบั้มรูปของโปเต้ที่ถ่ายวันนั้นทักหมดมากให้ เลยให้ผมกับโปเต้อยู่รอก่อน




“ไง” ผมเอ่ยทักน้องเขาบ้างก่อนจะยิ้มให้นิดๆ




“อ้วนขึ้นป่ะหนิ”




“.....” หุบยิ้มเลยผม ทำไมต้องทักเรื่องนี้ว่ะ




“อย่าทักเรื่องนี้สิ” โปเต้เอ่ยบอกแทนผม




“อุ่ย ...แหะๆ หนูไม่รู้อ่ะ แต่พี่ติณณ์...หนูว่าแบบนี้ดีกว่าเมื่อก่อนอีกนะ” น้องแป้งพูดก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้ผม




“ไหนอัลบั้มรูป” ผมถาม ...ความจริงก็คือเปลี่ยนเรื่องนั่นแหละ




“นี่ค่ะ หนูล้างมาให้หมดแล้ว แต่เดี๋ยวหนูต้องไปก่อนนะ แฟนหนูรอนานล่ะ...ไปนะคะ สวัสดีค่ะ” น้องแป้งบอกก่อนจะยกมือไหว้ผมกับโปเต้ แล้วรีบเดินไปขึ้นรถที่ตัวเองพึ่งจะลงมาไม่ถึงห้านาที




“เรากลับกันเลยมั้ย” โปเต้หันมาถามผม




“รีบเหรอ” ผมถามกลับ ก็มันพึ่งจะเลิกเรียนเองนี่นา เขาจะรีบไปไหนของเขาน่ะ




“ผมหิว จะไม่ไหวแล้ว” พูดอย่างเดียวไม่พอ เอาหน้ามาคลอเคลียที่แขนผมด้วย




“อืมๆๆๆ ไปก็ไป” สุดท้ายผมก็ตามใจเขา เราออกจากมหาลัยแล้วตรงดิ่งกลับบ้านเลยครับ คือไม่อยากทิ้งพี่ตาลไว้คนเดียวด้วย ท้องใหญ่ๆแบบนั้นจะเดินไปไหนมันก็ไม่ค่อยสะดวก เป็นไปได้ผม โปเต แล้วก็พี่ปาร์ก็พยายามที่จะกลับบ้านให้เร็วที่สุด แม้ว่าตอนนี้จะมีคุณแม่ของโปเต้และพี่ปาร์มาอยู่เป็นเพื่อนในตอนที่คนอื่นๆในบ้านไม่อยู่ก็ตาม แต่ท่านก็เป็นผู้หญิงอ่ะนะ อย่างน้อยคือก็น่าจะมีพวกผมสักคนอยู่ เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้ช่วยกันทัน



บอกเลยว่าตอนที่เจอคุณแม่ของโปเต้ครั้งแรก (ที่ท่านมาหาที่บ้าน) โคตรตื่นเต้นอ่ะ ผมรู้ว่าคุณแม่ของโปเต้จะมา ก็ตอนที่ท่านมาถึงบ้านแล้ว ท่านบอกว่าจะมาช่วยดูแลพี่ตาลให้ ส่วนเรื่องงานก็ประสานงานกับเลขาฯทางโทรศัพท์เอา ถ้ามีเอกสารที่ต้องเซ็นต์ ท่านก็จะให้เลขาฯ ของท่านเอามาให้เซ็นต์ที่บ้าน คุณแม่ของโปเต้เป็นผู้หญิงที่ตัวเล็กมาก สูงประมาณอกของโปเต้เอง และยังดูสาวและแต่งตัวได้เปรี้ยวมาก และก็รู้มาว่าท่านมีลูกไว เพราะผมก็เคยคุยกับท่านมาบ้างตอนงานแต่งของพี่ตาลกับพี่ปาร์




แต่...เวลาที่โปเต้อยู่ข้างๆคุณแม่ ผมนี่แทบตาลาย โปเต้หน้าเหมือนคุณแม่แบบ ...พิมพ์เดียวกันเป๊ะๆ




“กลับกันมาแล้วเหรอ วันนี้แม่ทำชูครีมด้วย มาทานกันสิ” คุณแม่เรียกพวกเราเมื่อเห็นพวกเราเดินเข้ามาในบ้าน




“.....” โปเต้ที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดนี่เปลี่ยนทิศทางแทบไม่ทัน




“ไหนครับคุณแม่ เยอะมั้ยอ่ะ” โปเต้ถามคุณแม่ของเขา (บอกไว้ก่อนว่าที่ผมเรียกท่านว่าเป็นคุณแม่เป็นเพราะท่านขอเอาไว้ ตั้งแต่ที่เจอผมแรกๆนู้นน่ะ)




“เยอะสิ แม่รู้ไงว่าโปเต้ชอบของหวานจะตาย ติณณ์ก็มาทานด้วยกันสิจ้ะ” คุณแม่เอ่ยชวนครับ ผมก็เดินไปหาและหยิบมาทานชิ้นนึงตามมารยาท




“ไอ้อ้วน” โปเต้หันมาพูดใส่ผมหลังจากที่ผมหยิบชูครีมของคุณแม่ขึ้นมา ผมหยิบตามมารยาทหรอก ไม่อยากให้คุณแม่เสียน้ำใจ




“.....” ผมถลึงตาใส่เขา




“เดี๋ยวเถอะโปเต้ ไปว่าติณณ์เขาแบบนั้นได้ยังไง ไม่น่ารักเลยนะคะ” คุณแม่ว่าก่อนจะตีไปที่แขนของโปเต้ไม่แรงนัก...รึเปล่าหว่า




“โอ๊ย...คุณแม่ ตีผมทำไม ผมแค่แกล้งแหย่ติณณ์เล่นเฉยๆ” โปเต้ร้องบอกคุณแม่ทันทีที่ถูกตี




“หน้านิ่งๆแบบนี้ ใครจะไปนึกว่าล้อเล่นกันล่ะคะลูก หน้าแบบอื่นมีมั้ย ช่วยทำให้หน้าหวานๆที่แม่อุตส่าห์ให้มันดูร่าเริงกว่านี้ได้มั้ย” คุณแม่ว่าก่อนจะหยิกแก้มของโปเต้ ผมว่าพี่ปาร์นี่ได้นิสัยของคุณแม่มาเต็มๆเลยนะเนี่ย และจากที่ผมก็เคยเจอคุณพ่อของโปเต้ (ที่หน้าเหมือนกันกับพี่ปาร์) ก็พบว่าทั้งบุคลิก ท่าทาง และการแสดงอารมณ์นี่เหมือนโปเต้มากๆ นิ่งๆ แต่ดุดัน และน่าเกรงขามไปในเวลาเดียวกัน จะว่าเป็นเพราะถูกเลี้ยงมาแบบนั้นก็ไม่ใช่ เพราะผมจำได้ว่า คุณพ่อกับคุณแม่ของทั้งคู่เลิกกันตอนที่ทั้งคู่ยังเด็ก โปเต้ไปอยู่กับคุณแม่ ส่วนพี่ปาร์ก็ไปอยู่กับคุณพ่อ โปเต้หน้าเหมือนคุณแม่ พี่ปาร์หน้าเหมือนคุณพ่อ แต่นิสัยโปเต้กลับเหมือนคุณพ่อ และนิสัยพี่ปาร์กลับเหมือนคุณแม่ มันช่างเป็นความต่างที่ลงตัวในแบบแปลกๆ




“เรื่องร่าเริงยกให้พี่ปาร์เถอะครับ”




“จะทำตัวเหมือนคุณพ่อไปทำไม”




“ผมก็เป็นของผมแบบนี้อยู่แล้ว” โปเต้ตอบคล้ายๆกับไม่สนใจ เพราะมือเขาเอาแต่หยิบชูครีมที่คุณแม่ทำเข้าปากอยู่นั่นแหละ




“แล้วแต่ เอาที่สบายใจเถอะค่ะคุณลูก ...ติณณ์ ไม่ทานอีกเหรอคะ ขนมคุณแม่ไม่อร่อยเหรอ” คุณแม่ว่าอย่างประชดใส่โปเต้ ก่อนจะหันมาถามผม




“อร่อยครับ แต่ผมกลัวจะกินข้าวไม่ไหวน่ะครับ” ผมตอบก่อนจะยิ้มให้คุณแม่นิดนึง ขนมของคุณแม่อร่อยจริงๆนั่นแหละ แต่เดี๋ยวก็จะได้เวลากินข้าวเย็นแล้ว




“นั่นสินะ ...แต่แม่ว่าขนมของแม่คงจะอร่อยไม่เท่าขนมที่ติณณ์ทำหรอกมั้ง ติณณ์ทำขนมทีไร โปเต้ก็หวงไม่ยอมให้ใครทานด้วยเลย” คุณแม่ว่าอย่างแซวๆโปเต้ ซึ่งมันก็จริงครับ ผมทำขนมทีไร โปเต้จะกลายเป็นเด็กขี้หวงไม่ยอมแบ่งให้ใครเลย จนหลังๆมาผมต้องทำแยกเอาไว้




“ก็ติณณ์เขาบอกว่าจะทำให้ผม ผมก็นึกว่าให้ผมแค่คนเดียวน่ะสิ” โปเต้บอกหน้าตายได้หน้าตบมาก เพราะมันเหมือนเขากำลังแกล้งทำหน้านิ่งๆอย่างใสซื้อ ทั้งที่จริงมันไม่ใช่เลย ดูก็รู้ว่าเขาแกล้งทำ




“ไม่ใช่ว่าโมเม แล้วตัวเองจะฮุบไว้คนเดียวเหรอค่ะ” คุณแม่ว่าอย่างหมั่นไส้




“เรื่องจริง ใช่มั้ยอ้วน?” โปเต้ตอบคุณแม่ ไม่พอ...ยังจะให้ผมไปช่วยยืนยันอีก แต่ไอ้คำที่ใช้เรียกผมนี่สิ จาก ‘ไอ้หน้าหล่อ’ ตอนนี้ก็ลายมาเป็น ‘อ้วน’ ไม่ก็ ‘ไอ้อ้วน’ แล้ว




“ไม่จริง” ผมตอบหน้านิ่ง




“เห็นมั้ย โปเต้น่ะชอบโมเม ...แม่ไปทำข้าวเย็นดีกว่า” ว่าจบ คุณแม่ก็ลุกขึ้น ลูบหัวโปเต้สองสามทีก่อนจะเดินออกไป




“.....”




“.....”




“.....”




“.....” และแล้วความเงียบก็บังเกิดขึ้นกับพวกผมสองคน ไม่มีใครพูดอะไร สายตาผมจับจ้องไปยังโทรทัศน์ในห้องนั่งเล่น โปเต้เองก็เอาแต่สนใจขนม




“อ้วน” แต่แล้วอยู่ๆ โปเต้ก็เอ่ยขึ้น




“.....” ผมไม่หัน เพราะมันไม่ใช่ชื่อผม




“หึๆ ติณณ์” ผมได้ยินเสียงโปเต้หัวเราะในลำคอ ผมจึงหันกลับไปมองเขา




“...อะไร”




“มานั่งนี่สิ” โปเต้เอ่ยบอกก่อนจะตบที่ว่างข้างๆตัวเบาๆ




“.....” แม้จะไม่เข้าใจ แต่ผมก็ยอมลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งข้างๆเขา




“.....”




“.....”




แล้วเราก็เงียบ ไม่มีใครพูดกันอีก ผมก็ดูโทรทัศน์ไป โปเต้ก็ดูโทรทัศน์ไปด้วย กินขนมไปด้วย จนกระทั่งผมรู้สึกว่าโปเต้เริ่มขยับตัวเข้ามาใกล้ผมนี่แหละ ผมจึงหันไปมองหน้าเขาอย่างสงสัย




“.....” โปเต้ที่มองผมอยู่ก่อนแล้วยิ้มนิดๆ




“อะไร” ผมถามอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก




“เปล่า แค่อยากนั่งใกล้” โปเต้เอ่ยบอก ซึ่งผมก็พอจะรู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร ช่วงนี้เรียนหนัก งานก็เยอะ นอนดึกแทบทุกคืน เตียงนี่แทบไม่มีรอยยับ เพราะพวกผมจะนั่งทำงานที่พื้นห้อง และในทุกๆวันก็จะอยู่กับพื้นห้องในแต่ละมุม แล้วแต่วันว่าจะเลือกนั่งตรงไหน และที่ผ่านมาผมไม่ค่อยเข้าใกล้โปเต้มากนัก เพราะว่ามีคุณแม่เข้าๆออกๆในบ้านนี่บ่อย ไม่อยากอยู่ใกล้ กลัวจะเผลอทำอะไรรุ่มร่าม ที่มหาลัยอย่างมาก็จับมือไม่ก็นอนซบกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ได้ถี่แบบทุกวันเหมือนเมื่อก่อน




“นั่งตักผมเลยมั้ย” ผมเอ่ยถามอย่างประชด จริงๆก็รู้สึกเหมือนกัน ไม่ต่างจากโปเต้หรอก อยากกอดโปเต้มากๆ




“ได้เหรอ” โปเต้ถามพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้




“คุณแม่คะ วันนี้ทำอะไรทานเหรอคะ หอมเชียว” แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งและเด้งตัวออกห่างจากกันเมื่อได้ยินเสียงพี่ตาล ก่อนที่พี่ตาลจะเดินผ่านห้องนั่งเล่น แล้วตรงไปยังห้องครัว




เกือบไปแล้ว














“เฮ้ย! ...ตกใจหมด ทำอะไรเนี่ยโปเต้” ผมร้องอย่างตกใจ เพราะเมื่อผมเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็ถูกไอ้หน้าหวานนี่รวบตัวเข้าไปกอดเสียแน่น




“ทำอย่างที่เคยทำ” โปเต้ว่าก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มเสียฟอดใหญ่




“มาไม้เนี่ย ปล่อยได้แล้ว ผมจะนอน” ผมว่าเสียงอ่อน




เออ...ยอมรับอย่างลูกผู้ชายเลยก็ได้ ว่าอยากให้กอดต่อ -////-




“ไม่ คิดถึงจะแย่ ไม่ได้กอดมาเป็นอาทิตย์แล้ว” โปเต้ว่าก่อนจะจับผมหมุนตัวให้หันหน้าเข้าหาเขา




“รู้” ผมตอบก่อนจะยิ้มเขิน อาจจะเป็นเพราะห่างหายจากความรู้สึกนี้ไปเป็นสัปดาห์ แล้วพอมาเจอแบบนี้ ไอ้อาการเขินมันก็ยิ่งจะมีแต่ปะทุมากขึ้นเรื่อยๆ




“หึๆ...” โปเต้หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่เราจะเอาแต่จ้องหน้ากันอย่างเงียบๆ ก่อนที่โปเต้จะค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นเรื่อยๆ จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ที่เป่าพัดหน้าผม ผมค่อยหลับตาลง รอสัมผัสที่ห่างเหินไปเพราะยุ่งๆด้วยกันทั้งคู่




สัมผัสที่นุ่มและอ่อนโยน ที่โปเต้มอบให้ มันทำให้รู้สึกคิดถึง และไม่อยากละไปจากความรู้สึกนี้เลย ริมฝีปากที่แตะกันอย่างแผ่วเบา ราวกลับว่ามาทำความคุ้นเคยกันอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไป รสจูบที่เริ่มทวีความรุนแรงและเร่าร้อน มันเกือบจะทำให้ผมสติแตกเอาง่ายๆ แข้งขานี่อ่อนแรงไปหมด




“.....” เราผละริมฝีปากออกจากกัน ผมมองหน้าโปเต้ด้วยความรู้สึกที่...มันยังไม่พอ ผมจึงเอื้อมมือไปคว้าต้นคอของโปเต้ลงมา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายเริ่มเอง และแน่นอนว่าโปเต้ไม่มีปฏิเสธ เขาคว้าเอวของผมไว้ ก่อนจะค่อยๆดันตัวผมให้ผมเดินถอยหลัง โดยที่ริมฝีปากยังแนบชิดติดกันอยู่ จนกระทั่งขาผมสะดุดเข้าที่เตียงจนล้มลงไป




“.....” โปเต้มองผม ด้วยสายตาที่แบบว่า...มันทำให้ผมต้องหลบสายตาเขาด้วยความเขิน




“.....”




“ติณณ์...” โปเต้ตามมาคร่อมตัวผม ก่อนจะก้มหน้าลงมากระซิบเรียกชื่อผม ที่ข้างหูของผม




“หืม” ผมร้องขานรับในลำคอ




“คิดถึง...” โปเต้พูดเสียงอ้อน ก่อนจะค่อยๆบรรจงจูบที่คอผมแบบเน้นๆ แต่ไม่ได้ทำรอยเอาไว้ แล้วลากริมฝีปากลงมาเลื่อยๆ จนถึงบริเวณไหปลาร้า




“อ๊ะ! อย่าบีบสิ” ผมร้องเสียงหลงเมื่อมือของโปเต้ไม่อยู่สุก บีบมาที่ก้นผมทั้งสองข้างโดยที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว จนเกิดความรู้สึกแปลก และไหนจะไอ้อาการวูบๆวาบๆในท้องนี่อีก




“คิดถึงมาก รู้มั้ย” โปเต้พูดอีก ก่อนจะบดเบียดริมฝีปากลงมาจูบผมอีกครั้ง ซึ่งผมก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ




แม้จะอยู่ใกล้กัน แต่ต่างคนต่างก็ต้องหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ แม้ว่าพวกผมจะไม่ได้เป็นพวกคู่รักหวานแหววที่ต้องคอยเอาใจ คอยจู๋จี๋กันตลอดเวลา ผมคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำมันคือการแสดงความรู้สึกที่มีต่อกันมากกว่า และเราไม่อายที่จะทำ แม้ว่าจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็ตาม แต่ว่า...ตอนนี้รู้สึกได้เลย ความตัวผมเองก็โหยหาโปเต้มาก ไม่ต่างอะไรโปเต้ที่เอาแต่พร่ำบอกว่าคิดถึง ทั้งที่อยู่ใกล้กัน ไม่ใช่ว่าจะหื่นกันทั้งคู่หรอกนะ แต่เพราะเราทำแบบนี้ด้วยกันมาตลอด พอมันไม่ได้ทำ มันก็รู้สึกโหยหาเหมือนกัน เอ๊ะ...หรือนี่จะเรียกว่าหื่นว่ะ??




“.....” ผมยกมือขึ้นโอบรอบคอโปเต้ไว้แน่น หลับตาเผื่อรอรับความสัมผัสและความรู้สึกที่กำลังมอบให้กัน




“น้อง...ติณณ์...” เสียงเรียกอย่างอ่อนแรง มันทำให้ผมกับโปเต้รีบผละออกจากกัน เพราะมันไม่ใช่เสียงของโปเต้ และก็ไม่ใช่เสียงของสิ่งลี้ลับอะไรทั้งนั้น




หันไปหาทางต้นเสียง เสียงที่คุ้นเคย เสียงที่ได้ยินมาตลอดแทบทั้งชีวิตตอนนี้




“พี่..ตาล” ผมแทบจะเสียงของตัวเองไม่เจอ เห็นหมดแล้ว พี่ตาลเขาเห็นหมดแล้ว




ผม...ผมจะทำยังไงดี ...ผม...




“อ่ะ...โอ๊ย!!!” อยู่ๆพี่ตาลร้องอย่างเจ็บปวดก่อนเอามือจับที่ท้องใหญ่ของตัวเอง แล้วทรุดตัวนั่งลง พี่ตาลเป็นอะไรน่ะ!




“พี่ตาล! พี่ตาลเป็นอะไร ปวดท้องเหรอ!!” ผมร้องถาม มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย เพราะพี่ตาลเข้ามาเห็นผมกับโปเต้ แล้วอยู่ๆพี่ตาลก็ร้องอย่างปวดท้อง มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย เพราะผมรึเปล่า




“น้องติณณ์ พะ...พี่ ปวด...โอ๊ย!” พี่ตาลหน้าซีด ก่อนจะเอื้อมมือมากำเสื้อผมเอาไว้แน่น




“พี่ตาล! โปเต! ...พาพี่ตาล! ไปหาหมอสิ!!!” ผมร้องบอกโปเต้ ตอนนี้มือไม้สั่น หัวสมองตื้อไปหมด




“เกิดอะไรขึ้น ตาล! ตาลเป็นอะไร! ปวดท้องเหรอ!!!” พี่ปาร์ที่เดินขึ้นบันไดมารีบเดินเข้ามาหาพี่ตาล




“ปาร์ ปาร์ ฮึก...ตาลปวดท้อง” พี่ตาลร้องบอกทั้งน้ำตา สีหน้าดูเจ็บปวดแล้วทรมานมาก




“ตาล...จะคลอดเหรอ โปเต้รีบไปสตาร์ทรถ เร็ว!!” พี่ปาร์หันมาสั่งโปเต้ โปเต้จึงลุกขึ้นดึงมือผมให้รีบลงไปข้างล่าง




และสุดท้ายเราก็รีบพาพี่ตาลมาที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด




“โปเต้...พี่ตาลจะเป็นอะไรมั้ย” ผมร้องถาม ตอนนี้ผมกับโปเต้ และพี่ปาร์นั่งรออยู่หน้าห้อง




พี่ตาลต้องเห็นว่าผมกับโปเต้กำลังจูบกันแน่ๆ แล้วอยู่ๆก็ปวดท้องกะทันหัน มันเป็นเพราะผมใช่มั้ย พี่ตาลเลยปวดมัน มันส่งผลกระทบใช่มั้ย มันเป็นเพราะผม...เพราะผมใช่มั้ย




“ไม่หรอก ใจเย็นๆ” ติณณ์ดึงผมเข้ามากอด ตอนนี้ผมสั่นไปหมด ทำอะไรไม่ถูกเลยสักอย่าง




“พี่ตาลต้องเห็นแน่ๆ ฮึก...แล้วพี่ตาลก็ล้มลงอ่ะโปเต้” ผมสะอื้นไห้ออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ที่พี่ตาลปวดท้องมันจะต้องเป็นเพราะผมแน่ๆ เพราะผม...มันเลยส่งผลกระทบให้พี่ตาลปวดท้อง แล้วหลานผมจะเป็นอะไรมั้ย พวกเขาจะเป็นอันตรายรึเปล่า




“ไม่ใช่หรอก ใจเย็นๆ ไม่เอา...ไม่คิดมานะ” โปเต้กอดผมพลางลูบหัวอย่างปลอบๆไปด้วย แต่มันไม่ทำให้ใจของผมสงบลงได้เลย




พี่ตาล...อย่าเป็นอะไรนะ





**************************************************



อารมณ์ของติณณ์ เราก็พอจะเข้าใจอยู่ เคยเป็นเหมือนกัน อารมณ์แบบว่าทำอะไรไม่ถูก กลัวว่าอีกคนจะเป็นอะไรมั้ย จะปลอดภัยรึเปล่าอะนะ วันนี้มาซะดึกเบย (ความจริงก็ดึกตลอด) ไปนอนล่ะ พรุ่งนี้จะไปหาหมอแต่เช้าาาาาาาาาาาา




FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 19-05-2015 02:09:45
โอ่ๆๆ ติณณ์ไม่เป็นไรนะ อย่าร้องๆ :sad11: :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-05-2015 02:27:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 19-05-2015 02:41:21
ติณณ์ไม่ร้องน่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 19-05-2015 02:48:07
เราอ่านแล้วเราตกใจไปด้วยเลย

 ตอนอ่านก็กำลังคิดว่าจะมีใครเข้ามาเห็นรึป่าว เพราะช่วงนี้คุณแม่มาบ่อย นึกว่าจะเป็นคุณแม่ แต่เป็นพี่ตาล

พี่ตาลท้องด้วย ตอนปวดท้องงี้ เราใจไม่ดีแทนติณณ์เลย แต่เราว่าพี่ตาลต้องเข้าใจติณณ์ ขอให้พี่ตาลปลอดภันนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 19-05-2015 03:09:14
ทุกอย่างมันต้องดีสิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-05-2015 03:11:12
คลอดแล้ววววว. เป็นคุณอากะคุณน้ากันแระ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 19-05-2015 03:36:48
เราว่าพี่ตาลต้องเข้าใจติณณ์แหล่ะ

อย่าคิดมากเลยเนอะๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 19-05-2015 06:12:44
:L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 19-05-2015 06:14:17
จงดราม่าาาาาาาาาาว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 19-05-2015 06:18:59
ไม่มีไรหรอกน่า. อย่าคิดมากเนาะ. อย่างที่โปเต้บอกแหละ
หลานแฝดก็แบบนี้ คลอดก่อนกำหนดง่าย จะได้เห็นหน้าหลานเร็วๆเนาะ
คนเขียนสู้ๆจ้า ดูแลสุขภาพด้วย.  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 19-05-2015 06:25:03
อย่ากังวลไปค่ะอ้วน เดี๋ยวก็ดีเอง
รอตอนต่อไปน้าา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 19-05-2015 06:34:59
หวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 19-05-2015 06:45:15
โอยยย ต้องไม่เป็นไรสิต้องไม่เป็นไร พี่ตาลสู้ๆนะคะ น้องติณณ์ก็สู้ๆน้าา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 19-05-2015 08:41:38
แฝดมักจะคลอดเร็วอย่างนี้แหล่ะติณ
สงสารติณตอนนี้จัง คงเอาแต่โทษตัวเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 19-05-2015 10:10:16
ติณณ์ใจเย็นๆ ตาลท้องใกล้คลอดแล้ว มันถึงเวลามันก็คลอดนั่นแหละจ้าอย่าคิดมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cross ที่ 19-05-2015 10:19:24
พี่ตาล คลอดแล้วขอให้ปลอดภัย
ติณใจเย็นๆๆนะ อย่าคิดมาก เชื่อว่าพี่ตาลจะเข้าใจน้องๆ สู้ๆๆน๊า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 19-05-2015 10:30:56
เราว่าพี่ตาลคงแค่ตกใจมากกว่า  แต่คงไม่โกรธติณณ์หรอกที่เป็นแบบนี้  ส่วนคุณแม่เราว่าท่านก็ไม่น่าจะห้าม เพราะที่เมืองนอกมันมีให้เห็นอยู่แล้ว

ตอนนี้เป็นห่วงแค่ว่าให้หลานแฝดปลอดภัยก็พอ  ส่วนเรื่องอื่นเดี๋ยวค่อยๆ เคลียร์  เราว่าพี่ตาลเข้าใจอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ยินดีที่ได้รู้จัก ที่ 19-05-2015 10:45:35
คือตลอดเวลาที่อ่านช่วงที่อยู่ในห้องนอนจะคิดตลอดว่า ล็อคห้องยังๆเพราะสังหรณ์ใจว่าต้องมีใครมาเห็น และก็ตึ่งโป๊ะ จริงๆด้วยค่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 19-05-2015 13:17:43
ง่าาาาาา อย่ามาม่าเลยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 19-05-2015 13:18:01
โอ๋ๆๆๆ พี่ตาลต้องไม่เป็นไรแน่ๆ ติณณ์อย่าโทษตัวเองเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-05-2015 13:31:21
แจ็คพอตจนได้ ขอให้พี่ตาณปบอดภัย
ตินณ์เข้มแข็งไว้นะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 19-05-2015 14:35:15
กลัวจะมีมาม่าบอกเลยยย

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-05-2015 14:53:16
พี่ตาลจะยอมให้รักกันไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-05-2015 16:41:40
 :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 19-05-2015 17:44:50
งื้ออออ ไม่อยากกินมาม่าง่าา~
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 19-05-2015 18:36:02
โอ๊ยยย พี่ตาลมาปวดท้องอะไรตอนนี้เนี่ยยย ติณจิตตกเลย  :z3:
มาต่อไวๆนะฮะรอออออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 19-05-2015 18:41:45
ติณณ์ไม่ร้องน้าาาา :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 19-05-2015 19:18:17
ติณณ์อย่าโทษตัวเอง
ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 19-05-2015 20:45:45
ติณอย่าร้องนะ มีโปเต้อยุ่
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 19-05-2015 21:30:41
เราเชื่อว่าพี่ตาลจะเข้าใจและยอมรับได้  :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 19-05-2015 21:53:20
โอยยยยยยยย  ><
พี่ตาลอย่าเปนไรนะคะ คลอดน้องปลอดภัย
แล้วก้อยอมรับเรื่องติณกับโปเต้ด้วยเท้อออออ
รอตอนถัดไปอย่างเคร่งเครียด -"-
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 20-05-2015 05:38:10
ต้องไม่เป็นอะไรสิ TWT
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 21-05-2015 18:57:28
ว่าแล้ว...มันต้องเป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 21-05-2015 19:55:00
ไม่ใช่เพราะติณณ์หรอกน่าอย่าคิดมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fabaceae ที่ 21-05-2015 23:34:26
โบกธงเชียร์โปเต้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 26 P.43 19/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Flirter_kung ที่ 22-05-2015 14:50:56
จิ้น เอ้ยๆๆๆ จิ้ม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 23-05-2015 12:18:13
 ตอนที่ 27









“ปาร์ตี้! โปเต้! หนูตาลเขาเป็นยังไงบ้างลูก!” เสียงของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ผมที่ซบอยู่ที่อกของโปเต้จำต้องเงยหน้าขึ้น




“อยู่ข้างในแล้วครับ ต้องผ่าคลอด คุณแม่ใจเย็นๆนะครับ ค่อยๆหายใจ” พี่ปาร์ที่เป็นคนโทร.ไปบอกคุณแม่รีบเข้าไปประคองท่าน ก่อนจะเอ่ยบอกอย่างเป็นห่วง เพราะคุณแม่ท่านวิ่งมาราวกลับรีบมาก




“โปเต้ ...ปล่อย...” ผมรีบดิ้นออกจากอ้อมกอดของโปเต้ เมื่อคุณแม่มองมาทางพวกเราสองคน




“ติณณ์...” โปเต้เรียกชื่อผมเสียงเข้ม มือข้างนึงของกอดเอวผมไว้แน่น ส่วนอีกข้างนึงก็จับมือผม ที่เอาแต่ผลักอกเขา




โปเต้ไม่เห็นรึไง! ว่าคุณแม่เขากำลังมองมาที่พวกเราสองคนน่ะ!!!




“โปเต้...ฮึก ปล่อยผมก่อน”




“ติณณ์ ใจเย็นๆก่อน”




“ติณณ์ลูก...ไม่เป็นไรๆ ใจเย็นๆก่อนนะ” คุณแม่ว่าก่อนจะเดินเข้ามาหา ท่านยกมือลูบหัวผม




ท่าทีแบบนี้...มันอะไรกัน?




“.....” ผมมองหน้าโปเต้ที คุณแม่ทีอย่างไม่เข้าใจ




“ดูท่าว่าแม่คงจะต้องพูดอะไรสักหน่อย ...ตอนนี้ตาลไม่เป็นอะไรแล้ว พี่เขาคงปวดท้องคลอด ลูกไม่ต้องร้องไปนะ พี่เขาไม่เป็นอะไรแล้ว และลูกก็ไม่ต้องไปผลักใสโปเต้เขาหรอกจ้ะ ไม่ต้องมีท่าทีกลัวแม่ขนาดนั้น ติณณ์ลูก...แม่รู้เรื่องหมดแล้ว แม่ไม่ได้ว่าอะไร ลูกไม่ต้องกังวลนะ” คุณแม่เอ่ยบอกกับผมเสียงอ่อน ที่ฟังดูแล้วอบอุ่น ก่อนที่ท่านจะยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆ




“.....” ผมรีบหันกลับมามองหน้าโปเต้อย่างไม่เข้าใจ ทำไมคุณแม่ถึงรู้ แล้วทำไมท่าทางของพี่ปาร์ถึงไม่มีท่าทีตกใจอะไรเลย นี่มันอะไรกัน ผมงงไปหมดแล้ว



“...มา มานั่งตรงนี้ก่อนดีกว่า” คุณแม่ว่าจะจะจับมือผม แล้วจูงให้ผมไปนั่งกับท่านที่เก้าอี้ที่ไม่ไกลมากนัก ซึ่งโปเต้ก็ยอมปล่อยตัวผมอย่างง่ายๆ ก่อนที่จะเดินตามมาเหมือนกัน




“.....” ผมทรุดตัวนั่งลงข้างคุณแม่ โปเต้เองก็นั่งลงข้างๆผมเช่นกัน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือมาจับมือผมเอาไว้แน่น




“ติณณ์ลูก แม่รู้ว่าลูกกำลังกลัว กลัวที่ว่าแม่ พี่ตาล พี่ปาร์ หรือใครหลายๆคนจะไม่ยอมรับ ที่แม่พูดมามันถูกต้องใช่มั้ย?” คุณแม่พูดพลางยิ้มให้กับผม




“...ครับ” ใช่ ผมกำลังกลัว กลัวมันทุกอย่าง กลัวว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับ แล้วจะห้ามไม่ให้ผมกับโปเต้คบกัน ถ้ามันเป็นแบบนั้น ผมก็คง...




“จริงๆแล้วแม่ก็พึ่งมารู้ตอนที่มาช่วยดูแลหนูตาลนี่แหละ คนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้กัน มันดูออกง่ายจะตาย เพราะงั้นแม่เลยแอบไปถามกับโปเต้ตรงๆ และโปเต้เขาก็ยอมรับกับแม่ออกมาตรงๆเหมือนกัน ติณณ์...สำหรับแม่แล้ว ถ้าพวกลูกจะคบกัน แม่ไม่ห้ามหรอก แม่ไม่ใช้พวกหัวโบราณที่จะมารับไม่ได้กับเรื่องพวกนี้ แค่เห็นลูกๆของแม่มีความสุข แม่ก็พอใจแล้ว แถมคนที่ทำให้คนที่ไม่สนใจอะไรอย่างโปเต้กล้าจะเปิดใจในเรื่องความรักด้วยแล้ว แม่ยินดี แล้วยิ่งคนๆนั้นเป็นติณณ์แม่ก็ยิ่งยินดีมากขึ้นไปอีก” คุณแม่เอ่ยบอกกับผมด้วยรอยยิ้ม ท่าทางท่านดูไม่ซีเรียสกับเรื่องพวกนี้จริงๆ




“.....” น้ำตาผมไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความรู้สึกดีใจมันแผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ ดีใจที่คุณแม่ยอมรับ ดีใจที่ท่านไม่รังเกียจ




“แม่ดีใจนะ หากว่าติณณ์จะอยู่ดูแลและมีความรู้สึกดีๆให้กันกับลูกชายที่แสนจะดื้อคนนี้ของแม่ แม่รู้ว่าติณณ์จะต้องทำให้คนที่ติณณ์รักมีความสุข และถ้าหากว่าโปเต้ได้เป็นคนๆนั้นของติณณ์ แม่เชื่อว่าลูกชายของแม่จะมีแต่ความสุข แม่รู้ว่าติณณ์เป็นเด็กดี ติณณ์เป็นคนขยัน และรักพี่สาวของติณณ์มาก ติณณ์ไม่เคยทำให้พี่ตาลผิดหวังหรือเสียใจ เพราะงั้น...อย่ากังวลไปเลยนะลูก แม่เชื่อว่าพี่ตาลจะต้องเข้าใจ และยินดีกับลูกนะติณณ์” คุณแม่ยิ้มอย่างอ่อนโยนและอบอุ่น มันทำให้ผมคิดว่าพี่ปาร์กับโปเต้โชคดีจริงๆที่ได้ผู้หญิงคนนี้มาเป็นแม่ ถ้าแม่ของผมยังอยู่ ผมคิดว่าท่านก็น่าจะใจดีเหมือนคุณแม่ของโปเต้ล่ะมั้ง




“ฮึก..ขอบคุณ...ครับ” ผมพนมมือยกขึ้นไหว้ ก่อนจะกราบลงไปที่ตกของท่าน ซึ่งคุณแม่เองก็ลูบหัวผมเบาๆ




“ไม่เอานะลูก ไม่ร้อง” คุณแม่พูดเหมือนกำลังปลอบผม และมันคงจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ




“ฮึก...แต่ ผมไม่รู้ว่า...พี่ตาลจะยอมรับได้มั้ย...ฮึก บางที...ผมอาจจะทำให้พี่ตาลผิดหวังก็ได้” ผมพูดพลางกลั้นเสียงสะอื้น ผมพูดอย่างที่คิดจริงๆ เพราะตั้งแต่พ่อแม่ของพวกเราตายไป ผมก็พยายามที่จะทำตัวไม่ให้พี่ตาลต้องทุกข์ใจ พยายามทำตัวดี ขยันเรียน และช่วยพี่ตาลทำงานมาโดยตลอด ผมไม่เคยขัดใจพี่ตาล และไม่เคยทำให้พี่ตาลผิดหวัง แต่ว่าเรื่องในครั้งนี้ ผมไม่รู้ว่า...พี่ตาลจะเห็นด้วยมั้ย ไม่รู้ว่าพี่ตาลจะยอมรับได้รึเปล่า




“ตาลเองเขาก็รักติณณ์มากเหมือนกัน พี่เชื่อว่าตาลจะต้องเข้าใจ” พี่ปาร์เดินมา ก่อนจะลูบหัวผมเบาๆ




“พี่ปาร์...ก็รู้?” ผมถามอย่างสงสัย เพราะท่าทีของพี่ปาร์เองก็ไม่ได้ตกใจอะไรเลย




“เห็นแบบนี้แต่พี่กับเต้ไม่เคยมีความลับกันหรอก มีอะไรมันก็บอกพี่หมดแหละ โปเต้ส่งข้อความมาบอกพี่ตั้งแต่ที่พวกนายคบกันวันแรกตอนที่อยู่เขาใหญ่นั่นแหละ” พี่ปาร์เฉลย จนผมอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้าโปเต้ ...ทำไมเขาถึงไม่บอกผม ปล่อยให้ผมกังวลใจทำไมตั้งนาน




“ไม่ใช่ว่าอยากจะปิด แต่อยากให้ติณณ์บอกพี่ตาลก่อน ผมถึงจะบอกติณณ์ ก็เท่านั้น” โปเต้บอกผมก่อนจะยิ้มนิดๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาปาดน้ำตาให้ผม และผมก็ไม่ใช่คนงี่เง่าที่จะมางอนด้วยเรื่องแบบนี้ แต่ตอนนี้ผมโล่งใจมากกว่าที่ทางฝั่งโปเต้ เข้าใจและยอมรับผม ว่าแต่...ขนาดพี่ปาร์และคุณแม่ยังรู้ และคุณพ่อล่ะ?




“แล้วคุณพ่อล่ะ? คุณพ่อล่ะครับ ท่านรู้รึเปล่า” ผมรีบหันไปเอ่ยถามคุณแม่




“ลูกคงต้องไปถามเขาเองแล้วล่ะจ้ะ แม่ไม่อยากสุงสิงกับผู้ชายนิสัยแบบนั้น” คุณแม่ว่าอย่างหมั่นไส้อยู่ในทีเมื่อเอ่ยถึงคุณพ่อ ผมไม่รู้หรอกว่าพวกท่านเลิกกันเพราะเหตุผลอะไร และผมก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปถาม เพราะว่ามันเป็นเรื่องของท่านทั้งสอง แต่เท่าที่สังเกตดู ผมว่า...ท่านก็ไม่ได้เกลียดกันหรอกนะ




แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไร ประตูสีขาวบานนั้นที่พวกเรานั่งเฝ้ารอคอยก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงของคุณหมอที่เป็นคนคนทำคลอดพี่ตาลออกมา พวกเราทุกคนจึงรีบลุกขึ้นและรีบเดินเข้าไปหาคุณหมอ




“คุณหมอครับ ภรรยากับลูกของผมเป็นไงบ้างครับหมอ” พี่ปาร์เอ่ยถาม เสียงติดดูจะร้อนรนและตื่นเต้นไปพร้อมกัน




“ตอนนี้ทั้งสามปลอดภัยแล้วครับ คุณได้แฝดผู้ชายนะครับ หมอยินดีด้วย” คุณหมอเอ่ยบอกก่อนจะยิ้มให้พี่ปาร์




“ขอบคุณครับหมอ ขอบคุณจริงๆครับ”




“เดี๋ยวหมอจะย้ายภรรยาของคุณไปไว้ที่ห้องผู้ป่วย...”




“เดี๋ยวค่ะ ดิฉันขอเป็นห้องพิเศษได้มั้ยคะ?” คุณแม่เอ่ยขัดคุณหมอ




“ได้ครับ เดี๋ยวหมอจะจัดการให้ แต่ตอนนี้หมอขอตัวก่อนะครับ” คุณหมอยิ้มให้พวกเราทุกคนก่อนจะเดินไป




“.....” ผมได้แต่ยิ้มเมื่อได้ยินว่าพี่ตาลและหลานของผมปลอดภัย




“เลิกร้องได้แล้ว ผมไม่ชอบน้ำตาคุณเลยนะ ถ้าดีใจก็ควรจะยิ้มมากๆสิ” โปเต้ที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยบอกก่อนจะเช็ดน้ำตาให้กับผม ผมจึงยิ้มให้โปเต้ ไม่ว่าผมจะเป็นยังไง กังวลเรื่องอะไร จะเครียด จะสุข จะทุกข์ เขาก็อยู่ข้างๆผมตลอด จนผมคิดว่าดีแล้ว...ที่วันนั้นผมเอ่ยขอเขาเป็นแฟน




พวกเราตามบุรุษพยาบาลที่เข็นเตียงพี่ตาลเพื่อมายังห้องพักผู้ป่วย ซึ่งมันก็เป็นห้องพิเศษอย่างที่คุณแม่ไปจัดการมา ผมนั่งมองพี่ปาร์ที่นั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้างเตียงพี่ตาลไม่ไปไหน มือทั้งสองข้างของพี่ปาร์ยังคงกุมมือพี่ตาลไม่ปล่อย สายตาที่ห่วงใยมองพี่ตาที่ยังคงหลับนิ่งเพราะดมยาสลบ มันทำให้ผมรู้ว่าพี่ปาร์รักพี่ตาลมากจริงๆ และมันดีแล้วที่ทั้งได้พบได้เจอกัน ได้อยู่ด้วยกันจนถึงขั้นตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน




“ขอโทษที่พ่อมาช้านะครับปาร์ เป็นไงบ้าง” คุณพ่อที่พึ่งมาถึงเดินเข้าไปถามพี่ปาร์ที่นั่งกุมมือพี่ตาล




“ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกครับ อีกไม่นานพยาบาลเขาคงพาลูกผมขึ้นมา” พี่ปาร์ว่าพลางยิ้มให้คุณพ่อ




“ดีแล้ว หลานพ่อแข็งแรงดีใช่มั้ย” คุณพ่อเอ่ยถามเสียงเรียบ ถ้าเดาไม่ออกว่าเป็นยังไง ก็ลองนึกภาพท่าทางของโปเต้แต่เป็นหน้าหล่อๆของพี่ปาร์แทน ...มันก็คงจะประมาณนั้นแหละครับ




“ครับ ได้แฝดผู้ชายด้วยนะครับ ผมเจ๋งใช่มั้ยล่ะ” พี่ปาร์ยิ้มจนแก้มจะฉีกอยู่แล้ว ดูท่าว่าทารกน้อยที่เพิ่มจะออกมาสู่โลกภายนอกทั้งสอง จะเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ของพี่ปาร์จริงๆ




“ครับ เลี้ยงเขาให้ดีเหมือนที่พ่อเลี้ยงปาร์ก็แล้วกัน” คุณพ่อเอ่ยก่อนจะหันมาทางโซฟาของห้องที่มีคุณแม่ โปเต้ แล้วก็ผมที่นั่งเรียงกันอยู่




“คุณก็มาด้วยเหรอ” แน่นอนว่าประโยคนี้ คุณพ่อเอ่ยถามคุณแม่ครับ




“ทำไมคะ ฉันมาไม่ได้หรือไง” คุณแม่เอ่ยถาม แต่ปลายเสียงกลับออกจะสะบัดนิดๆ




“ผมก็แค่ถาม อย่ามาหาเรื่องกันหน่อยเลยน่า” คุณพ่อเอ่ยเสียงเรียบหน้านิ่ง




“ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม” คุณแม่เถียงกลับ




“ผมก็ไม่ได้เป็นคนเริ่มเหมือนกัน” คุณพ่อก็ว่ากลับอย่างไม่ยอม




“เอ่อ...ผมว่าอย่าพึ่งทะเลาะกันเลย รบกวนพี่ตาลเขา” โปเต้เอ่ยขัดขึ้น เมื่อเห็นว่าทั้งคุณพ่อและคุณแม่เริ่มที่จะเถียงกัน โปเต้จังเอ่ยขัดขึ้นอย่างเบาๆ แต่ก็ทำให้ทั้งคู่เงียบทันที




“โปเต้ แม่ไม่ผิดนะคะ ก็เขาพูดจาไม่เข้าหูแม่” คุณแม่หันมาพูดกับโปเต้ แต่เสียงเบาลง คงเกรงใจพี่ตาลที่กำลังหลับอยู่




“ครับๆ”




“โปเต้ พ่อไม่ได้หาเรื่องแม่เขานะครับ คุณแม่นั่นแหละ คิดไปเอง” พ่อของโปเต้เอ่ยขึ้นบ้าง




“นี่คุณ...” คุณแม่จิกตาโตๆของตัวเองใส่คุณพ่อทันที




“อย่าพึ่งตีกันเลยนะครับ ผมห้ามไม่ไหว” โปเต้เอ่ยเสียงเบา ทั้งคู่จึงได้แต่เงียบ แม้จะมีท่าทีฮึดฮัดใส่กันบ้าง ความจริง...พวกท่านก็ดูไม่เหมือนคนเกลียดกันเลยแม้แต่น้อย แต่มันเหมือนปฏิกิริยาพ่อแง่แม่งอนกันเสียมากกว่า




“ติณณ์ อยากกินหรืออยากดื่มอะไรมั้ย เดี๋ยวผมลงไปซื้อให้” โปเต้หันมาเอ่ยถามผม




“ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมลงไปซื้อเองดีกว่า คุณพ่อ คุณแม่ พี่ปาร์ อยากได้อะไรมั้ยครับ” ผมเอ่ยบอกก่อนจะหันไปถามทั้งสามคน




“ให้เต้เขาไปซื้อเถอะ ติณณ์อยู่ที่นี่รอดูตาลเขาดีกว่า เต้...ขอกาแฟร้อนให้พ่อสักแก้วก็แล้วกันนะครับ” คุณพ่อเอ่ยบอกกับผม ก่อนจะหันไปหาโปเต้




“ครับ คุณแม่จะกับพี่ปาร์ล่ะครับ”




“อะไรก็ได้จ้ะ เอามาเถอะ” คุณแม่บอกกับโปเต้ ก่อนจะหันไปเปิดกระเป๋าใบไม่ใหญ่มากของตัวเองแล้วหยิบเอากระเป๋าสตางค์ขึ้นมา หยิบแบงค์สีเทาขึ้นมาแล้วยื่นให้โปเต้ แน่นอนว่าโปเต้รับเงินจากคุณแม่ เพราะว่าทั้งตัวผม โปเต้ และพี่ปาร์ ออกจากบ้านกันมาแบบเร่งด่วนมาก ไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาเลย ตอนที่พี่ปาร์โทรศัพท์ไปหาคุณพ่อคุณแม่ ก็ต้องขอใช้โทรศัพท์ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของโรงพยาบาลแทน




“ของพี่อะไรก็ได้นะ” พี่ปาร์ว่า ก่อนจะหันไปกุมมือพี่ตาลอย่างเดิม




“.....” แล้วโปเต้ก็ลุกออกไปอย่างเงียบๆ ผมจึงลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเดินไปหาพี่ตาลที่นอนอยู่บนเตียง และอีกนัยนึงก็คือ ผมลุกขึ้นเพื่อที่จะได้ให้คุณพ่อได้นั่งครับ จะให้ผู้ใหญ่ยืนแบบนั้น ผมว่ามันไม่เหมาะสมสักเท่าไหร่




ใบหน้าสวยหวานของพี่ตาลซีดลงกว่าปกติที่เป็นอยู่เล็กน้อย ท้องป่องๆยุบลงไปเยอะ แต่ยังมีนูนๆออกมาให้เห็นอยู่




ผมได้แต่มอง พลางใช้ความคิด บางที...คงไม่ต้องรอให้พี่ตาลถามอะไร มันควรจะเป็นผมเองมากกว่า ที่ควรจะพูด ควรจะพูดสารภาพออกมาเสียให้หมด












“คุณแม่ ลูกผมหน้าเหมือนผมจริงๆด้วย” เสียงดีใจของพี่ปาร์ที่ได้อุ้มลูกของตัวเอง




ตอนนี้พี่ตาลฟื้นแล้วครับ พอฟื้นขึ้นมาก็ถามหาสองแฝดทันทีเลย และพี่ตาลก็เลือกที่จะตั้งชื่อลูกทั้งสองของพี่เขา ด้วยชื่อที่ผมเสนอ คือแฝดคนพี่นี่ชื่อ ‘แสตมป์’ ส่วนคนน้องชื่อ ‘สตางค์’ ผมเคยบอกพี่เขาไปตั้งแต่เรายังรู้เพศของทั้งสองแฝดนี่เลย เพราะผมคิดว่าสองชื่อนี้มันตั้งได้ทั้งชื่อผู้ชายและชื่อผู้หญิง และผมก็ไม่คิดว่าพี่ตาลจะเอามาตั้งเป็นชื่อลูกของพี่เขาจริงๆ




“หน้าตีจริงๆ โดยเฉพาะแก้มยุ่ยๆตรงนี้เนี่ย” คุณแม่ว่าก่อนจะจับแก้มของแสตมป์ แฝดคนพี่อย่างหมั่นเขี้ยว




“ฮ่าๆ นั่นสิคะคุณแม่” พี่ตาลที่อุ้มแฝดขึ้นน้องว่าอย่างยิ้มๆ




“อาหารมากแล้วครับ” โปเต้ที่ลงไปซื้ออาหารเที่ยง เข้าในห้องมาก่อนจะเอ่ยขึ้น ตอนแรกผมก็ว่าจะไปด้วย แต่โปเต้ก็บอกให้ผมอยู่ที่นี่ คงอยากจะให้ผมคุยกับพี่ตาลล่ะมั้ง แต่หารู้ไม่ว่าตั้งแต่โปเต้ออกจากห้องไป ผมยังไม่แม้แต่จะปริปากพูดสักคำ




ไม่ใช่ว่าผมไม่กล้า แต่ผมต้องการให้โปเต้อยู่ในห้องนี้ อยากให้เขาอยู่ฟังในสิ่งที่ผมจะพูดด้วย




“งั้นเรามาทานอะไรกันก่อนมั้ย โปเต้...เดี๋ยวแม่จัดการเองลูก” คุณแม่ว่าก่อนจะเดินไปเอาอาหารใส่จานแทนโปเต้ พวกเราทุกคนในนี้ต่างก็พากันกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันแล้วครับ ยกเว้นพี่ปาร์ที่พวกผมเอาเสื้อผ้ามาให้พี่เขาที่นี่




“ติณณ์ ผมซื้อมักกะโรนีมาให้นะ กินซะหน่อย ...เมื่อเช้าติณณ์ก็ไม่ยอมกิน” โปเต้เดินมานั่งที่ข้างๆผมก่อนจะเอ่ยบอกผม มักกะโรนีเป็นของโปรดของผม และเมื่อเช้าโปเต้คงเห็นว่าผมไม่ยอมกินอะไรเลย เลยซื้อของที่ผมชอบมาให้




“...กินสิ ตอนนี้หิวมากๆเลย” ผมตอบก่อนจะยิ้มให้เขา ผมไม่อยากให้เขาไม่สบายใจไปกับผมด้วย




“น้องติณณ์...” เสียงพี่ตาลเอ่ยเรียกชื่อผม ผมจึงรีบลุกแล้วเดินไปหาพี่ตาล นี่เป็นเสียงแรกของวันนี้ที่พี่ตาลใช้เอ่ยเรียกผม




“.....” ผมเม้มปากนิดๆ ก่อนจะมองหน้าพี่ตาล




“มีอะไรอยากจะบอกพี่มั้ย ดูท่าว่า...ถ้าไม่พูดให้เคลียร์ดูท่าว่าจะกินข้าวไม่อร่อยนะ” พี่ตาลพูดกับผม มันยิ่งทำให้ผมเม้มปากแน่นขึ้น และหลบตาพี่ตาลอย่างช่วยไม่ได้




พี่ตาลรู้ ...พี่ตาลโกรธผมมั้ย อันนี้ผมไม่รู้ เพราะน้ำเสียงที่พี่ตาลใช้ มันก็เป้นเพียงน้ำเสียงปกติที่พี่เขาใช้กับผมมาโดยตลอด จะติดก็แต่ว่า...พี่ตาลไม่ยิ้มเลยก็เท่านั้น มันเลยทำให้ผมเริ่มที่จะไม่มั่นใจว่าพี่ตาลจะรับได้




แล้วถ้าหากพี่ตาลรับไม่ได้ล่ะ ถ้าพี่ตาลให้ผมเลิกคบกับโปเต้ ผมจะทำยังไงล่ะ ผมไม่รู้เลยจริงๆ ผมรักพี่ตาลนะ แต่จะให้เลิกกับโปเต้ผมเองก็ทำไม่ได้




เอาเถอะ เรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่พูดออกไป แล้วมันจะรู้มั้ยล่ะ ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป




“พี่ตาล...”




“.....”




“.....”




“.....”




“น้องติณณ์...กำลังคบกับโปเต้”






**********************************************************************************





FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 23-05-2015 12:27:22
รักแม่กับพี่ปาร์จัง :hao5:
ตัดฉึบได้น่าตบมาก555555 ค้างแรงงงงง :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 23-05-2015 12:33:06
 เย่ๆ พี่ตาลคลอดแล้วววว  :katai2-1: :katai2-1:
 หวังว่าพี่ตาลคงจะเข้าใจน้องติณณ์น้าาา  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 23-05-2015 12:48:41
บอกออกไปแล้วสินะคราวนี้ก็รอดูว่าพี่ตาลจะว่าอย่างไร :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-05-2015 12:53:37
โล่งไปนะที่ปลอดภัยทั้ง 3 คน
พี่ตาลจะว่าอย่างไรบ้างนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 23-05-2015 13:16:27
พี่ตาลๆ ว่าไงล่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-05-2015 13:17:39
พี่ตาลต้องเข้าใจอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-05-2015 13:22:36
แสตมป์ สตางค์. ชื่อเพราะจัง. พี่ตาลคงไม่ว่าอะไรเหรอกกกนะติณณ์ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 23-05-2015 13:28:56
 :mc4:   มาฉลองกันเถอะ. วันครอบครัวชัดๆ. ติณณ์อย่าคิดมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 23-05-2015 13:47:33
พี่ตาลไม่โกรธหรอกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 23-05-2015 13:51:43
คุณพ่อคุณแม่เข้าใจแล้วเหลือแค่พี่ตาณสิน่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 23-05-2015 13:52:37
หุ้ววววว คุณ Pawaree ฟิตหลาย


 :กอด1:


หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 23-05-2015 14:02:54
ดีใจที่ครอบครัวโปเต้เข้าใจ  :กอด1:
เหลือแต่พี่ตาณ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 23-05-2015 14:31:17
เราเชื่อว่าพี่ตาลจะเข้าใจค่ะ
ครอบครัวเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตเราค่ะ
รอตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 23-05-2015 14:33:38
:ling1:  มันค้าง คนเขียนเล่นตัดฉับไปเลย

บอกแล้วว่าครอบครัวโปเต้รับได้อยู่แล้ว เหลือก็แต่พี่ตาล  แต่รับรองได้ว่าพี่ตาลคงไม่ใจร้ายกับน้องชายที่น่ารักแบบติณณ์หรอก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: odakiri ที่ 23-05-2015 14:48:50
อ่าเพิ่งมาเจอเรื่องนี้อ่านทีรวดเดียวจนถึงตอนนี้ อิอิ คือการดำเนอนเรื่องน่ารักคะ
ดูมุ่งมิ้งตลอดเรื่องเลยถือว่าเป็นนิยายที่สบายเบาดีไม่หนักหน่วงดีเราชอบมากกอ่านไปยิ้มไป
ส่วนตอนล่าสุดนี้เราคิดว่าคงไม่มีดราม่าเพราะตาลกับติณเหมือนมีกันอยู่สองคน
พี่ตาลที่รักน้องต้องเข้าใจน้องอยู่แล้วเนอะอิออ. รอตอนครอบครัวสุขสันต์ล่วงหน้าเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 23-05-2015 15:12:06
แง่ม พี่ตาลอย่าดุน้องน้าาา   :hao7:
มาต่อไวๆนะฮะรอออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 23-05-2015 15:19:57
เชื่อว่าพี่ตาลคงเข้าใจเนอะ ความสุขของน้องทั้งคน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-05-2015 15:46:07
พี่ตาลใจดี คงแค่รอตินณ์บอก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-05-2015 16:05:28
แล้วไงต่อค้าาา
พี่ตาลจะตอบว่ายังไง
สองแฝดดดด จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-05-2015 16:07:51
พี่ตาลรักน้องติณณ์ พี่ตาลไม่ดุน้องติณณ์หรอก :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-05-2015 16:25:20
ติณณ์อย่ากลัวไปเลยพี่ตาลต้องเข้าใจอยู่แล้ว มีกัน 2 พี่น้องเองนี่ถ้าไม่เข้าใจกันก็แย่แล้ว

ครอบครัวโปเต้นี่ดีจัง เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าใจกันดีจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 23-05-2015 17:11:41
พี่ตาลเข้าใจแน่นอน เต้ติณณ์สู้ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-05-2015 17:29:46
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 23-05-2015 18:24:48
ตัดฉับได้โหดร้ายมากกกกกกก
พี่ตาลใจดี คงยอมรับเรื่องติณ กะ โปเต้ใช่ไหม ปิ๊ง!! *0*
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pupae2528 ที่ 23-05-2015 19:22:57
พี่ตาลต้องไม่ว่าอะไรแน่ น้องติณน์อย่าคิดมากลูก :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-05-2015 20:05:40
มีกันอยุ่ 2 คน ตาลก็คงจะไม่ใจร้ายกับน้องหรอก อีกอย่างทุกฝ่ายก็โอเคแล้ว   เอ๊ะ คุณพ่อโอเคไหม?   ตลกอ๊ะ   พ่อแม่มากัดกันต่อหน้าลูกที่ต้องทำหน้าที่ห้ามศึกแทน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 23-05-2015 21:04:34
มาต่อเลยยยยยยย

ค้างงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: IaminLove ที่ 23-05-2015 22:25:11
บอกไปเลยนะติณณ์ไม่ต้องปิดแล้ว จะได้คบกันอย่างมีความสุขไม่ต้องปิดบังใครแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 24-05-2015 00:02:46
พี่ตาลอย่าดุน้องน้าาา น้องติณณ์เป็นเด็กดีตลอด แล้วก็แคร์พี่สาวมากด้วย ยอมรับรักน้องเถอะน้าา

ปล.เรื่องนี้ไม่เคยทำให้เราไม่ขาดตอนเลย รู้สึกรักนักเขียนมากเลยจ้า >w<
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 24-05-2015 19:58:03
น้องติณท์อย่าคิดมากกกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Mickey199663 ที่ 25-05-2015 03:57:40
แง่งงงงงงงงงงงงงงง ค้างงงงงงง
เราว่าพี่ตาลคงไม่โกณธหรอก พี่ตาลรักติณมากนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 25-05-2015 20:32:45
ตามอ่านจนทันแล้ววว

บอกเลย ทุกตอนนี่ ฟินตัวแตกกกก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: rp.ppch ที่ 27-05-2015 07:11:21
กำลังตามอ่านอยู่ ;3;
คือพอมาถึงตอนออกทริปละโปเต้แอบจุ้บ ละสักพักติณก็ทำมั่ง
โอ๊ย เขินมาก :o12: :sad4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 27 P.44 23/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 27-05-2015 11:03:18
เข้ามารอ  มาต่อด่วนนนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 27-05-2015 19:40:18
ขอลา 3 วันเน้ออออออ ไปทำธุระที่ต่างจังหวัดจ้าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 27-05-2015 19:42:14
ห๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! o22 o22 o22 o22
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 27-05-2015 19:43:14
จะขาดใจจจ แงงงงง :o12:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 27-05-2015 19:43:34
ห๊ะ!!! รับทราบ :)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ciaiwpot ที่ 27-05-2015 19:53:37
รอรอรอค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Rumraisin ที่ 27-05-2015 20:20:59
รับทราบค่ะ  :a11:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 27-05-2015 20:28:51
รับทราบ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: penneeamoon ที่ 27-05-2015 20:47:29
รับทราบ  และรอนะคะ  เดินทางปลอดภัยค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-05-2015 20:48:50
ตั้ง 3 วันแน่ะ คิดถึงติณกับโปเต้แย่เลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 27-05-2015 21:05:17
รับทราบจะรอน้า กลับมาขอยาวๆเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 27-05-2015 21:30:50
เข้าใจแล้ว จะรอน้าาาาา
เดินทางปลอดภัยค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: aornain ที่ 27-05-2015 22:32:16
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 28-05-2015 11:57:38
น่ารักมุ้งมิ้งมากเลยเรื่องนี้ ไม่มีความเครียดใดๆมากล้ำกลายได้นาน ดีค่ะชอบ  o13
รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ ให้กำลังใจคนแต่งด้วย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 28-05-2015 16:24:14
 :katai3:  รอเสมอค่ะ แต่มาคราวนี้ขอยาวๆนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-05-2015 17:21:01
รับทราบค่าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 29-05-2015 08:58:46
:yeb:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บอกกล่าว P.45 27/5/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 31-05-2015 15:27:44
จะติดตามต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 01-06-2015 00:51:03
ตอนที่ 28








“พี่ตาล...”




“.....”




“.....”




“.....”




“น้องติณณ์...กำลังคบกับโปเต้”




ผมตัดสินใจเอ่ยบอกออกไปที่สุด เป็นไงเป็นกัน จะช้าหรือเร็วพี่ตาลก็ต้องรู้อยู่ดี และยิ่งพี่ตาลพูดแบบนี้ แสดงว่าเขาต้องการที่จะได้ยินจากปากของผมเอง




“ตั้งแต่ตอนไหน” พี่ตาลเอ่ยถามผม อยากจะบอกว่าตอนนี้ผมเดาใจพี่ตาลไม่ออกเลย คือแบบ...สีหน้าพี่ตาลยังเหมือนเดิม เหมือนไม่ได้โกรธหรือรับไม่ได้อะไรเลย มันเริ่มทำให้ผมไม่มั่นใจว่า ตกลงพี่ตาลรับได้รึเปล่า หรืออาจจะรับไม่ได้ แต่ยังไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาก็เท่านั้น




“ก็...ตั้งแต่ตอนที่ไปเขาใหญ่แล้ว” ผมตอบออกไปเสียงเบา และรู้เลยว่าเสียงตัวเองกำลังสั่นอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ มันช่วยไม่ได้หนิ ผมกลัวว่าพี่ตาลจะผิดหวัง และเสียใจเพราะผม




“นานขนาดนั้น น้องติณณ์ไม่คิดจะบอกพี่หน่อยเหรอ”




“ไม่ใช่นะพี่ตาล ไม่ใช่ว่าน้องติณณ์อยากจะปิดนะ” ผมรีบบอกปฏิเสธ ผมไม่คิดจะปิดพี่ตาลจริงๆ แต่มันยังไม่ถึงเวลาอ่ะ ผมไม่รู้หนิ ว่าพี่ตาลจะรับได้หรือเปล่า แถมตอนนั้นพี่ตาลก็ยังท้องอยู่อีก ถ้าเกิดมันส่งผลกระทบกับเด็กในท้องล่ะ แบบนั้นมันจะไม่ยิ่งแย่กว่าเหรอ




“.....”




“คะ..คือ ก็ตอนนั้นพี่ตาลท้อง น้องติณณ์รู้ไง ...ว่าพี่ตาลจะรับได้รึเปล่า ถ้าพี่ตาลรับไม่ได้แล้วลูกพี่ตาลเป็นอะไรขึ้นมา แบบนั้นมันก็จะมีแต่แย่กับแย่ไม่ใช่เหรอ ...น้องติณณ์ไม่ได้อยากจะเปิดเลยนะ ...จริงๆ” ผมพยายามอธิบาย ซึ่งไม่รู้ว่าพี่ตาลจะเข้าใจมั้ย แต่ยังไงผมก็ต้องพูด ผมไม่อยากให้มันค้างๆคาๆอยู่แบบนี้




“เด็กโง่...ถ้าน้องติณณ์ไม่บอกพี่ ไม่ถามพี่ ...แล้วน้องติณณ์จะรู้เหรอ ว่าพี่รับได้หรือไม่ได้” พี่ตาลเอ่ยบอกกับผมก่อนจะยิ้มให้ รอยยิ้มที่อ่อนโยนที่พี่ตาลมักจะมีให้ผม




อะไรกัน...ไม่มีท่าทีที่โกรธ หรือจะรับไม่ได้




แล้วไอ้ท่าทางยินดีแบบนั้น ...มันคือ ...พี่เขาไม่ห้ามผมใช่มั้ย???




“พี่ตาล...ไม่โกรธน้องติณณ์ใช่มั้ย!?!” ผมร้องถาม เสียงดังขึ้นนิดหน่อย ช่วยไม่ได้ ก็คนมันตื่นเต้นนี่นา




“พี่จะไปโกรธน้องติณณ์ทำไม ไม่ว่าน้องติณณ์จะเป็นอะไร...พี่ก็รับได้ทั้งนั้นแหละ” คำตอบของพี่ตาลทำเอาผมยิ้มกว้างก่อนจะหันไปมองหน้าโปเต้ ที่เดินมาอยู่ข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้




“.....” โปเต้ไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ยกยิ้มมุมปากให้ผมเท่านั้น แต่แววตาที่ระยิบระยับของเขา มันก็ทำให้ผมรู้ว่าโปเต้เองก็ดีใจไม่ต่างจากผมเหมือนกัน




“น้องติณณ์ ...เราเหลือกันแค่สองคนนะ พี่ไม่มีทางจะรังเกียจน้องติณณ์หรอก อีกอย่างโปเต้เขาก็เป็นคนดี พี่เชื่อว่าโปเต้จะดูแลน้องติณณ์แทนพี่ได้ ความจริงพี่ก็พอจะรู้มาสักพักแล้วน่ะนะ น้องติณณ์เป็นน้องของพี่ ทำไมพี่จะไม่รู้ ปกติน้องติณณ์เคยสนใจใครที่ไหร่ แล้วพอวันนั้นที่น้องติณณ์มาปรึกษาพี่ พี่ก็มั่นใจได้ทันที ว่าน้องติณณ์ต้องแอบอะไรๆกับโปเต้แน่ๆ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วย” พี่ตาลว่าอย่างยิ้มๆ




เอ่อ...สรุปคือก็รู้เรื่องกันหมดแล้ว มีผมที่วิตกอยู่คนเดียว




เฮ้อ...แต่ถ้ามันมาลงเอยแบบนี้ มันก็ยิ่งกว่าโอเคเสียอีก




“ผมนึกว่าทุกคนจะไม่ยอมรับเสียอีก” ผมพูดออกมาเบาๆ มันเป็นความในใจที่ผมเฝ้าคิดมาตลอดหลายเดือน




“ทำไมพวกเราถึงจะไม่ยอมรับล่ะติณณ์” คุณพ่อเอ่ยขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นจากโซฟา แล้วเดินตรงมาหาผม




“ก็ผมกับโปเต้เป็นผู้ชายหนิครับ” ผมตอบออกไปเบาๆ เพราะผมทั้งสองคนเป็นผู้ชาย การที่จะให้คนในครอบครัวมายอมรับนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆเลยนะ




“ใช่ว่าคนทุกคนจะคิดเหมือนกันนะติณณ์ แต่ถ้าเป็นพ่อ ไม่ว่าลูกของพ่อจะเป็นอะไร พ่อก็รับได้ทั้งนั้น ขอแค่ใครคนนั้นเขารักลูกพ่อจริงๆก็พอ เพราะพ่อไม่สามารถสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ให้ลูกทั้งสองของพ่อได้ เพราะงั้น...ถ้าเขาคิดจะรักใคร และใครคนนั้นจริงใจกับลูกๆของพ่อ พ่อก็รับได้ทั้งนั้น อีกอย่างติณณ์ก็เป็นเด็กดี ที่ผ่านมาติณณ์ก็สามารถดูแลและอยู่เคียงข้างโปเต้ได้ เท่านี้พ่อก็พอใจแล้ว และพ่อก็ขอให้ทั้งคู่ดูแลกับแบบนี้ไปเรื่อยๆเลยนะครับ” คุณพ่อเอ่ยบอกกับผมพลางลูบหัวผมอย่างเบาๆไปด้วย คำพูดของท่านมันทำให้ผมซึ้งใจมาก เพราะล้มเหลวในชีวิตรัก ท่านจึงไม่คิดที่จะบังคับใจใคร คงเป็นเพราะความเจ็บปวดนั้น คุณพ่อเองก็คงจะรู้ดีเป็นที่สุด




“ขอบคุณคุณพ่อมากครับ ...คุณแม่ก็ด้วย” ผมยกมือไหว้ท่านทั้งสอง




“...พี่ตาลกับพี่ปาร์ด้วยนะครับ” แล้วผมก็หันมายกมือไหว้พี่ตาลและพี่ปาร์ ที่พวกเขาทั้งหมดอนุญาตให้ผมคบกันกับโปเต้




ถ้ารู้ว่าสารภาพออกไปแล้วมันเป็นแบบนี้ ...ผมพูดออกไปตั้งนานแล้ว ไม่ปล่อยให้อึดอัดใจตัวเองมาหลายเดือนแบบนี้หรอก เฮ้อ...




“จริงสิ...น้องติณณ์มีเรื่องจะถาม ถ้าพี่ตาลรับได้อยู่แล้วเรื่องผมกับโปเต้ งั้นทำไม เอ่อ...ตอนที่พี่ตาลเปิดประตูห้องพวกเรา แล้ว...” ผมเริ่มพูดไม่ออก เมื่อจะถามถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่พี่ตาลปวดท้องคลอด ก็มัน...มันเป็นฉากที่ไม่กล้าพูดนี่หว่า




“อ๋อ ตอนนั้นน่ะ...น้ำคล่ำพี่ไหลแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกปวดท้อง แล้วพอดีปาร์เขาอยู่ด้านล่างไง พี่ไม่รู้จะทำยังไง เลยจะเดินออกไปเรียกปาร์ แล้วบังเอิญพี่เห็นว่าห้องน้องติณณ์น่ะ..มันเปิดแง้มๆไว้ แล้วอยู่ๆมันก็เริ่มปวดท้อง พี่ก็เลยจะเรียกน้องติณณ์ พอผลักประตูห้องน้องติณณ์ไปก็เจอฉากเด็ดพอดี” พี่ตาลเล่าอย่างยิ้มๆ ตกลงคือ...พี่ตาลปวดท้องอยู่แล้ว แต่ผมคิดไปเองว่ามันเป็นเพราะผม




“.....” ผมได้แต่พยักหน้าเบาๆ สรุปคือมันไม่มีอะไรเลย ผมกังวลไปเองคนเดียว




“เห็นมั้ย บอกแล้วว่าใจเย็นๆ อย่าคิดมาก” โปเต้เอ่ยบอกพลางลูบหัวผมเบาๆ




“...ก็ตอนนั้นมันตกใจหนิ” ผมว่าพลางเบะปากเล็กน้อย




“หึๆ ตกใจจนกลายเป็นเด็กขี้แงเลยรึไง”




“เลิกล้อได้แล้วน่า” ผมว่าพลางยันศอกใส่โปเต้ แต่เหมือนเจ้าตัวจะรู้ทัน เบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว ผมเลยหวืดไป




“สบายใจแล้วใช่มั้ยจ๊ะติณณ์ แม่ว่าตอนนี้เรามาทานข้าวกันดีกว่านะ” คุณแม่เอ่ยบอกอย่างยิ้มๆ จากนั้นพวกเราทุกคนก็มาทานข้าวด้วยกัน เป็นมื้อแรกที่ผมรู้ว่ามันช่างมีความสุขกว่าครั้งไหนๆเสียจริง












ตอนนี้พี่ตาลและสองแฝดได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วกลับมาอยู่บ้านแล้วครับ ตอนที่พวกผมกับพี่ปาร์ไม่อยู่ คุณพ่อคุณแม่ก็จะคอยมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ตาล ส่วนผมกับโปเต้ ตอนนี้เราก็ไม่ค่อยจะว่างกันสักเท่าไหร่ อยู่ในช่วงทำโปรเจ็คครับ งานหินอยู่เหมือนกัน เหนื่อยนะ แต่ก็สนุกดี




“ติณณ์ โปเต้ มานี่สิลูก” คุณแม่เรียกผมสองคนทันทีที่เห็นผมสองคนเดินเข้าบ้านมา




“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อและคุณแม่ โปเต้เองก็ทำเหมือนกัน ก่อนที่ผมจะเดินไปนั่งลงระหว่างกลางคุณพ่อกับคุณแม่ ส่วนโปเต้นั่งที่พื้นตรงหน้าคุณพ่อครับ ที่นั่งไม่พอ เพราะโซฟาอีกสองตัวก็มีพี่ปาร์และพี่ตาลนั่งอยู่




“ติณณ์ ติณณืว่าบ้านหลังนี้สวยมั้ยจ๊ะ” คุณแม่ว่าก่อนจะยื่นไอแพดมาให้ผมดู พบว่าเป็นรูปบ้านที่คล้ายๆกับบ้านที่พวกเรากำลังอยู่เลยครับ แล้วพอเลื่อนรูปมาเรื่อยๆ ก็พบว่ามันเหมือนกับบ้านหลังตรงข้ามเลย ซึ่งบ้านหลังนั้นมันยังไม่มีใครอยู่ครับ นั่นเป็นเพราะหมู่บ้านที่เราอยู่นี่เป็นโครงการใหม่ครับ คนที่เข้ามาอยู่ก็มีประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นต์




“นี่เป็นบ้านหลังตรงข้ามบ้านนี้ใช่มั้ยครับ” ผมหันไปเอ่ยถามคุณแม่ และไม่ค่อยจะเข้าใจว่าท่านเอามาให้ผมดูทำไม




“ใช่จ๊ะ ติณณ์ว่าบ้านหลังนี้สวยมั้ย แต่ยังไม่ได้ตกแต่งภายในอะไรเลย” คุณแม่ว่าอย่างยิ้มๆ




“.....” ผมก้มดูภาพ เป็นภาพภายในของบ้านที่ยังไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย แต่ก็นับว่าแบ่งเป็นสัดส่วนได้ดีทีเดียว อาจจะคล้ายๆกับบ้านหลังนี้ แต่ก็ไม่ได้เหมือนไปซะทุกอย่าง




“ก็สวยดีครับ”




“แล้วติณณ์อยากอยู่มั้ย?”




“...?” คำถามของคุณแม่ทำเอาผมต้องขมวดคิ้ว ถามแบบนี้หมายความว่ายังไงกัน




“บ้านหลังนี้ แม่ยกให้ติณณ์ ถือว่าเป็นของขวัญจากแม่ ที่ได้ติณณ์เป็นลูกชายอีกคนก็แล้วกันนะจ๊ะ”




“เอ่อ อะไรกันครับ?” ผมถามออกมาพลางมองหน้าทุกคน นี่มันอะไรกันอ่ะ




“รับขวัญลูกสะใภ้อีกคนไง” พี่ปาร์ว่าอย่างยิ้มๆ ลูกสะใภ้? ใคร? ...ผมเหรอ?




“เอ่อ...ผมกับโปเต้เป็นแค่แฟนกันนะครับ ...อีกอย่าง...ผมคงรับไว้ไม่ได้หรอกครับ มันมากเกินไป แค่ที่คุณแม่ให้มามันก็มากพอแล้วนะครับ” ผมปฏิเสธคุณแม่ไป บ้านทั้งหลังเลยนะ ผมรับไว้ไม่ได้หรอก




“ทำไมล่ะจ๊ะ”




“คือ...นี่บ้านเลยนะครับ แพงก็แพง ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ”




“มันไม่ได้แพงอะไรสำหรับแม่หรอกจ้ะ แม่อยากให้ เพราะตอนนี้ก็เท่ากับว่าติณณ์เป็นลูกชายของแม่อีกคน แม่ก็อยากจะให้ของขวัญเล็กๆน้อยๆกับติณณ์ก็เท่านั้น อีกอย่างบ้านหลังนี้น่ะ แม่ก็ให้ติณณ์กับโปเต้อยู่ด้วยกันนะคะ”




“แต่ผมรับไว้ไม่ได้จริงๆครับ” ยังไงผมก็รับบ้านหลังนี้เอาไว้ไม่ได้จริงๆ




“งั้น...โปเต้ แม่ให้บ้านหลังนี้กับลูกก็แล้วกัน เอาไว้อยู่กับติณณ์นะ” คุณแม่ยิ้มหวานก่อนจะหันไปบอกโปเต้ ที่นั่งฟังอย่างเงียบๆ ก่อนจะพยักหน้าสองทีทันทีที่คุณแม่บอกจะยกบ้านหลังนั้นให้ แต่...แบบนี้ผลลัพธ์มันก็ไม่ต่างกันเลยนะ ทำไมผรู้สึกว่าครอบครัวนี้เขาเจ้าเล่ห์กันทั้งบ้านยังไงก็ไม่รู้




“มัดมือชกกันนี่ครับ” ผมท้วงออกไปเบาๆ




“ก็ติณณ์ไม่ยอมรับเองนี่คะ แม่ก็ต้องใช้วิธีนี่สิ”




“งั้นรถคันนี้พ่อให้เราแล้วนะครับโปเต้ เพราะถ้าให้ติณณ์ ติณณ์ก็คงจะไม่เอาเหมือนกัน” คุณพ่อว่าก่อนจะยื่นกุญแจรถยี่ห้อหรูไปให้โปเต้ อย่าบอกน่าไอ้รถหรูราคาหลายล้านป้ายแดงที่จอดอยู่หน้าบ้านนี่คือรถที่คุณพ่อจะเอามาให้ผมเหมือนกัน




“ต่อให้คุณพ่อให้ติณณ์ ยังไงผมก็เป็นคนขับ” โปเต้ตอบหน้าตายก่อนจะหันมายักคิ้วให้ผมทีนึง




แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมท่านทั้งสองถึงต้องให้ของที่มีมูลค่ามากมายแบบนี้กับผมด้วย




“แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนะครับ ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ทำไมต้องเอาของมาให้ผมด้วย” ผมเอ่ยถามออกไปตรงๆ ขี้เกียจจะมานั่งสงสัยในใจแล้ว




“ก็เพราะติณณ์เป็นผู้ชายที่ลูกชายแม่รัก แค่นี้ก็เหมือนเป็นลูกชายอีกคนของแม่แล้ว แม่ก็อยากจะให้อะไรๆกับติณณ์บ้างยังไงล่ะจ๊ะ”




“ของพวกนี้มันไม่มากไปหรอกครับติณณ์ เป็นรางวัลขอบคุณที่ทำให้ลูกพ่อมีความสุข แถมติณณ์ก็ยังเป็นน้องของตาลอีก ก็เท่ากับว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ ของแค่นี้ก็รับไปเถอะครับ พ่อให้ได้ พ่อรวย”





ถึงกับพูดไม่ออกก็ไอ้ตรงพ่อรวยเนี่ยแหละครับ




“นะจ๊ะติณณ์ ตอนนี้ทั้งรถทั้งบ้านก็เป็นของโปเต้แล้วหนิ งั้นติณณ์ก็ไปอยู่กับโปเต้ก็แล้วกันนะ”




แหม คุณแม่เล่นพูดมาแบบนี้ ผมจะค้านอะไรต่อไปล่ะครับ




“.....” ผมหันไปมองหน้าพี่ตาล ก็พบว่าพี่ตาลเพียงแค่ยิ้มให้ก็เท่านั้น ราวกลับว่าเรื่องนี้ให้ผมตัดสินใจเอง




“...ก็ได้ครับ” สุดท้ายก็ต้องตอบคำนี้แหละครับ รู้เลยว่าการโน้มนาวใจของบ้านนี้ช่างไม่ธรรมดา โน้มน้าวใจไม่สำเร็จก็มัดมือชกกันอย่างเดียว =_=









“เป็นไงลูก ช่วงนี้ไม่ค่อยได้นอนเหรอครับ” เสียงคุณพ่อเอ่ยทักผมที่เดินลงมาจากบันไดในสภาพที่ไม่ต่างอะไรกันกับซอมบี้เลย




“สวัสดีครับคุณพ่อ ผมพึ่งได้นอนตอนตีสี่นี่เอง แต่วันนี้มีเรียนเก้าโมงน่ะครับ ต้องรีบตื่นไปเรียน ขาดไม่ได้” ผมตอบคุณพ่อ ในทุกๆวัน ถ้าเป็นไปได้ คุณพ่อกับคุณแม่จะมาทานข้าวเช้าด้วยกันครับ และอยู่กับพี่ตาลถึงเที่ยงบ้าง มาตอนบ่ายบ้าง แล้วแต่ว่าท่านจะปลีกตัวจากงานมาได้ ตอนแรกพี่ตาลก็ไม่เห็นด้วย กลัวจะทำให้ท่านสองคนเสียงเวลาน่ะครับ แต่ท่านทั้งสองไม่ยอม จนสุดท้ายแล้วพี่ตาลก็ต้องยอม แต่ว่า...เวลาคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยกันทีไร ก็ชอบทะเลาะกันทุกทีเลย




“เดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเองแหละลูก ตั้งใจๆ ...แล้วโปเต้ล่ะลูก”




“กำลังแต่งตัวอยู่ครับ”




“ครับ แล้ว...”




“ลูกๆจ๊ะ แม่มาแล้ว” ยังไม่ทันที่คุณพ่อจะได้พูดอะไร กำด้ยินเสียงคุณแม่ตะโกนตั้งแต่ประตูบ้าน




“เสียงดังจังนะคุณ” เป็นคุณพ่อครับที่เอ่ยทัก (?) คุณแม่ก่อน




“เอ๊ะ! นี่คุณมาอีกแล้วเหรอ ถึงว่าล่ะ...ถึงได้จอดรถขวางทางชาวบ้านชาวช่องเขา” คุณแม่ตอบกลับแทบจะทันที




“ผมว่าผมจอดดีแล้วนะ คุณต่างหากที่ชอบจอดรถขวางประตูบ้าน”




“แล้วจะให้ฉันไปจอดหน้าบ้านคนอื่นเขารึไง ประสาทจริง...ฉันไปหาลูกของฉันดีกว่า” ว่าจบ คุณแม่กระสะบัดบ็อบใส่คุณพ่อ แล้วเดินไปทางครัวของบ้าน




“.....” คุณพ่อไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองตามหลังคุณแม่ไป ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ คล้ายๆกลับเหนื่อยหน่าย แต่รอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ราวกลับเอ็นดูในท่าทีของคุณแม่แบบนั้น มันทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้




ดูเหมือนคุณพ่อก็จะยังรักคุณแม่อยู่เลย แถมคุณแม่เองก็เหมือนจะไม่ได้เกลียดคุณพ่อ อาจจะยังรักอยู่เหมือนกัน แต่ทั้งคู่กลับชอบเถียงและทะเลาะกันทุกครั้งที่เจอหน้าตลอด อาการคล้ายกลับพ่อแง่แม่งอนกันเสียมากกว่าทะเลาะกันแบบจริงจัง




ผมก็ไม่รู้หรอก ว่าท่านทั้งสองหย่ากันด้วยเพราะอะไร แต่ยังไงซะ ท่านทั้งสองก็คงจะมีเหตุผลของท่านล่ะนะ




ฟอด!




“อ๊ะ!..” ผมร้องออกมาอย่างตกใจเบาๆ เมื่อไอ้คนที่มันน่าจะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่บนห้อง กลับแอบเข้ามาจากทางข้างหลังแล้วหอมแก้มผมหน้าตาเฉย




“เหม่ออะไร” โปเต้เอ่ยถามผม




“ไม่ได้เหม่อ แล้วก็...อย่าทำอย่างนี้อีกนะ คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่” ผมเอ่ยบอกพลางเตือนเขา ถึงทุกคนจะอนุญาตให้ผมกับโปเต้คบกัน แต่ก็ใช่ว่าเราจะมาทำอะไรรุ่มร่ามประเจิดประเจ้อแบบนี้ในบ้านสักหน่อย




“...นิดเดียวเอง”




“นิดเดียวก็ไม่ได้ ..ไปกินข้าวกัน เดี๋ยวไปเรียนสายหรอก” ผมว่าก่อนจะเดินนำโปเต้มาที่โต๊ะกินข้าว ที่มีพี่ปาร์นั่งอยู่ก่อนแล้ว




“ไง ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้าทั้งคู่เลย” เสียงพี่ปาร์เอ่ยแซวพวกผมสองคนครับ




“นอนน้อยนิดหน่อยครับ” โปเต้เป็นคนตอบก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ ผมจึงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆเขา




“ไม่นิดแล้วมั้งคะลูก” คุณแม่ที่ถือหมอข้าวต้มออกมาเอ่ยทักก่อนจะวางหม้อข้าวต้มลงบนกลางโต๊ะกินข้าว โดยมีคุณพ่อถือถ้วยชามเดินตามหลังมา




“.....” ผมกับโปเต้ได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนไปให้ ตอนนี้รู้สึกว่าสมองมันเบลอไปหมด คิดอะไรไม่ค่อยออกแล้ว




หลังจากที่ทานกันเสร็จ ผมกับโปเต้ก็รีบไปเรียนเลยครับ แต่คุณพ่ออาสาจะไปส่ง เพราะกลัวว่าจะไปไม่ถึงมหาลัย ซึ่งผมกับโปเต้ก็ตอบตกลงแทบจะทันที เพราะโปเต้เองก็ไม่มั่นใจสภาพตัวเองตอนนี้เหมือนกันว่าจะสามารถขับรถไปเรียนได้ไหวมั้ย เพราะเหมือนเขาจะได้นอนประมาณสองชั่วโมงเองมั้ง




“ถ้าจะให้พ่อมารับ ก็โทร.บอกพ่อนะครับ วันนี้พ่อว่างทั้งวัน” คุณพ่อเอ่ยบอก เมื่อท่านจอดส่งพวกผมที่หน้าคณะ




“ครับ สวัสดีครับ” โปเต้ว่าก่อนจะยกมือไหว้คุณพ่อ




“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้คุณพ่อก่อนที่จะลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปในคณะกับโปเต้ มุ่งหน้าไปยังห้องเรียนเลยครับ เพราะมันใกล้ที่จะได้เวลาเรียนแล้ว




“....” ในระหว่างที่กำลังเดินไปตึกเรียน อยู่ๆโปเต้ก็เอื้อมมือมาจับมือผมซะอย่างนั้น




“...อะไร” ผมเอ่ยถาม เพราะเมื่อหันไปมองหน้าเขา ก็พบว่าโปเต้กำลังมองผมพลางอมยิ้ม




“เปล่า...ก็แค่คิดว่า ดีจริงๆ”




“?”





“ดีจริงๆ ที่ในวันนี้เรายังจับมือกันอยู่”




“.....”




“ผมจะไม่มองไปในอนาคตที่มันอยู่ไกลและไม่มีทางรู้ เพียงแต่ว่า...”




“.....”




“ขอแค่ในวันพรุ่งนี้ ตื่นมาแล้วเจอติณณ์นอนอยู่ข้างๆ และเรายังจับมือกันแบบนี้ ...ก็พอแล้ว”




ผมว่าในวันนี้ ...มันต้องเป็นวันที่ผมโชคดีมากแน่ๆ




เพราะคนที่กำลังจับมือผมอยู่นี้ กำลังยิ้มกว้างให้ผมด้วยแหละ ^_^







*******************************************************************



FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 01-06-2015 01:10:19
อร๊ายยย.  หวานนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 01-06-2015 01:11:01
เป็นปลื้มเลยทีเดียว ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: fonqfeliqz ที่ 01-06-2015 02:01:20
คิดถึงมาก คนเขียนหายไปนาน :hao5:

มาต่อแล้วก็หวายหยดย้อยชะมดเช็ดเลยทีเดียว :hao7:
คุณพ่อคุณแม่ใจดีมากกกกก บอกแล้วพี่ตาลต้องเข้าใจน้องติณณ์

เขินมากกกก :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 01-06-2015 02:05:02
ครอบครัวสุขสันต์

น่ารักทั้งบ้านเลยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Siwa Deva ที่ 01-06-2015 02:11:09
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-06-2015 02:18:59
น่ารักกก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 01-06-2015 02:20:14
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 01-06-2015 06:19:05
 :o8:    o13.  คือดีงามตามครรลองจริงๆค่ะ
รับขวัญสะใภ้พ่วงตำแหน่งลูกชายคนใหม่พร้อมหลานแฝดทีเดียวเลย. สุดยอด

ที่เหลือก็แค่รักกันไปนานๆจนแก่เฒ่านะลูกเอ๊ย เตรียมขันหมากเลยโปเต้เรือนหอก็พร้อมแล้ว  :impress2: 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 01-06-2015 06:36:31
รับขวัญลูกสะใภ้ได้อลังมากกกกก
ชอบคุณพ่อคุณแม่จัง น่ารักดี
รอตอนต่อไปน้าาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 01-06-2015 06:46:24
มีความสุข :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 01-06-2015 08:03:42
ดีจังที่ครอบครัวยอมรับ อบอุ่นละมุนละไม  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: icecreamii8_ ที่ 01-06-2015 08:52:28
ครอบครัวสุขสันต์ แฮปปี้ๆๆ  :-[ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 01-06-2015 09:15:02
น่ารักจริงๆครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-06-2015 09:27:25
เย้ ๆ แฮปปี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 01-06-2015 09:38:29
อ๋อยยยย น่ารักจิงๆคู่นี้  :m3:
มาต่อไวๆนะฮะรออออออ   :')
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 01-06-2015 09:39:20
ลงตัวแล้ว ครอบครัวสุขสันต์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 01-06-2015 10:38:56
ว่าแล้วว่าพี่ตาลคงไม่ใจร้ายกับน้องชายคนเดียวได้หรอก  ยินดีกับติณณ์และโปเต้ด้วย

คุณพ่อ-คุณแม่โปเต้รับขวัญลูกสะใภ้แบบอลังการทั้งบ้านและรถ เหมือนเป็นเรือนหอและค่าสินสอดเลย

เห็นด้วยกับโปเต้ว่า แค่จับมือไปด้วยกัน ไม่ว่าอนาคตจะเป็นยังไง ขอแค่จับมือ และร่วมเดินไปด้วยกัน แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-06-2015 11:05:01
ราบรื่น
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 01-06-2015 12:09:34
ครอบครัวนี้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: miya_pp ที่ 01-06-2015 12:45:52
:L2: :pig4
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 01-06-2015 13:02:35
55555 เจ้าเล่ห์เหมือนกันทั้งบ้านเลยสินะ o13
หุๆๆ ได้เรือนหอแล้วนิ รอวันแต่งเข้าใช่ม่ะ :-[

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 01-06-2015 13:17:55
ชีวิตดีแล้วนะติณณ์555555555555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Shonteen ที่ 01-06-2015 13:44:59
นิยายเรื่องนี้ต้องจบตอนแก่เฒ่าชราภาพนะ........และฉากncต้องมาตอนเรียนจบแล้ว.
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 01-06-2015 14:25:33
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุข
เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วสินะ อิอิ

ครอบครัวโปเต้น่ารักจริงๆ :)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 01-06-2015 17:41:36
น่ารักกันทั้งครอบครัว
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-06-2015 18:23:08
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 01-06-2015 19:34:35
เป็นครวบครัวที่น่ารกกกกกเนอะะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 01-06-2015 20:53:47
เย้ๆๆๆ เห็นไหมว่าพี่ตาลใจดี เข้าใจอยู่แร้น
ที่ตกใจนี่มาจากเหตุผลอื่นนะคร้า 5555
ราบรื่นๆๆ ดีจุง ^0^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 01-06-2015 20:59:59
อิจฉาาาาาาาาา น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 01-06-2015 22:21:02
เป็นครอบครัว ต ที่อบอุ่นแะรักกันมากๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: smilepengy ที่ 02-06-2015 21:05:58
น่ารักทั้งคู่  :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: DESZCZ ที่ 02-06-2015 23:33:24
โอ๊ยย น่ารักสุดๆ ชอบความรู้สึกแบบเรื่อยๆ ไม่หวือหวาแบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 03-06-2015 12:06:43
โอ๊ยย อิจฉาไฟลุกตาพรึ่บๆ น่ารักน่าหยิกกันจริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-06-2015 13:23:48
น่ารักอ่ะ เรื่องนี้ไม่เหมาะกับดราม่าจริงๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนที่ 28 P.46 1/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: baseballPB ที่ 04-06-2015 15:34:31
มันดีดีจริงๆเลยนะ ที่ครอบครัวรับเรื่องนี้ได้อ่ะ ฮือออออออออ อบอุ่นจัง  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 09-06-2015 15:30:08
บทส่งท้าย









“ไปกินชาบูกันเถอะ อยากกินมากๆๆๆๆๆๆๆ” เสียงของนิดาดังขึ้นหลังจากที่เราเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เสร็จ




“เอาดิ อยากกินเหมือนกัน” หลุยส์ว่าขึ้นอย่างเห็นด้วย




“ชวนดินไปด้วยดิแลนด์” จีน่าหันไปบอกแลนด์




“อืม” แลนด์รับคำก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา




และสุดท้ายพวกผมก็ไปร้านชาบูอย่างที่นิดาอยากไปครับ โดยที่เซย์และจินก็โทร.ชวนอลันกับดอมินิกมาด้วย และแลนด์ก็พาดินมาด้วยเช่นกัน จนกลายเป็นว่านักศึกษาสิบเอ็ดคนพากันมาถล่มร้านเขาเสียอย่างนั้น ลำบากพนักงานต้องมาช่วยกันต่อโต๊ะให้พวกผมอีก นิดานำพวกเรามายังร้านชาบูแถวมหาลัยครับ เป็นแบบบุฟเฟ่ ...แบบนี้ก็เข้าทางโปเต้น่ะสิ




“เฮ้ย ...นภัทร มาอยู่นี้เอง พี่ก็ตามหาซะทั่ว” พอพวกเรานั่งกันไปได้สักพัก ก็มีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาทักโปเต้




“สวัสดีครับ” โปเต้ยกมือไหว้รุ่นพี่คนนั้น ก่อนที่พี่เขาจะแนะนำตัวว่าเป็นสายรหัสปีห้าของโปเต้




“ศุกร์นี้พี่จะจัดงานวันเกิดว่ะ ที่ผับ XXX และพี่ขอบังคับเลยว่านภัทรต้องไป เพราะนภัทรเป็นสายรหัสของพี่งานนี้ใครไม่ไป พี่โกรธยันชาติหน้าเลย”



“...ครับ พี่เต ...ผมไป” โปเต้หยุดคิดนิดนึง ก่อนจะพยักหน้าตอบตรงลงพี่เขาเสียงเรียบ



“ดีมากน้องรัก มันต้องอย่างนี้สิ” พี่เตว่าพลางตบบ่าโปเต้อย่างพอใจ



“ผมเอาแฟนไปด้วยได้มั้ย” โปเต้เอ่ยถามพี่เตครับ ไอ้คำว่าแฟนเนี่ย กล้าเรียกโดยไม่กระดากปากเลยนะ แต่จะว่าไป...โปเต้เขาก็กล้าเรียกผมว่าแฟนตั้งแต่แรกๆที่ตกลงคบกันแล้วนี่เนอะ อยากรู้เหมือนกันนะ ว่าตอนนั้นโปเต้คิดอะไรอยู่ และทำไมเขาถึงไม่อายที่จะเรียกผมว่าแฟน ทั้งที่เราก็ไม่น่าจะมีความรู้สึกรักกันเหมือนอย่างตอนนี้




“ได้ดิ ...น้องๆทุกคนก็มาได้เลยนะ พี่เลี้ยงเต็มที่” ว่าแล้วพี่เตก็หันมาชวนพวกผมที่ทำได้แค่นั่งฟังเฉยๆ




“ผมไปอยู่แล้วแหละ จะเอาให้พี่หมดตัวเลย” เซย์ว่าอย่างยิ้มๆ ดูท่าว่าจะสนิทกันพอสมควร




“ระดับพี่ เลี้ยงคนทั้งผับก็ยังได้ว่ะไอ้น้อง” พี่เตเอ่ยออกมาราวกลับมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ คาดว่าพี่เขาคงรวยและใจปล้ำพอสมควร




“ได้ๆ เดี๋ยวผมพาพวกปีสามไปทั้งคณะเลย”




“เฮ้ย ...เยอะไป” พี่เตว่าก่อนทำท่าจะตบหัวเซย์ แต่เซย์หลบได้ทันเสียก่อน




“ฮ่าๆๆๆ หน้าซีดเลยอ่ะดิ”




“เออ ขำเข้าไป พี่ไปก่อนดีกว่า ...อย่าลืมนะนภัทร งานเริ่มตอนสองทุ่ม ไปล่ะ” พี่เตหันมาย้ำกับโปเต้อีกครั้ง ก่อนที่พี่เตและเพื่อนอีกสองคนจะเดินออกจากร้านไป ดูท่าว่าพี่เขาก็คงจะมากินที่นี่เหมือนกัน




“ติณณ์...” อยู่ๆโปเต้ก็เรียกผม




“หืม?” ผมขานรับ แต่ตายังจ้องไปที่หม้อต้ม ที่ผมพึ่งใส่กุ้งลงไป ต้องจ้องเอาไว้ครับ นิดามันชอบแย่งผม




“ไปด้วยกันนะ”




“งานวันเกิดพี่คนเมื่อกี้น่ะเหรอ”




“อืม”




“ไปก็ได้” จะว่าไปแล้วผมไม่ค่อยได้ไปสถานที่แบบนี้เลยนะเนี่ย รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน




“งั้นวันนี้พาไปซื้อเสื้อหน่อย”




“ก็ได้อยู่หรอก ..เฮ้ย!” ผมที่กำลังคุยกับโปเต้อยู่ ต้องเผลอร้องออกมา เมื่อกี้คลาดสายตาจากหม้อต้มไปแป๊บเดียว กุ้งที่ผมเล็งเอาไว้โดนนิดาแย่งไปซะงั้น นิสัยเสียจริงๆ




“สั่งใหม่ก็แล้วกันนะเพื่อนรัก” นิดาว่าก่อนจะคีบกุ้งเข้าปาก เหมือนต้องการจะเยาะเย้ยผม




“ไอ้เพื่อนเลว” ผมด่ามันนิดหน่อย ก่อนจะหันหน้าพนักงาน แต่ยังไม่ทันเรียก คนข้างๆผมก็คีบอะไรบางอย่างมาใส่ในจานของผม




กุ้ง...




“กินของผมก่อนก็ได้ ...เดี๋ยวผมสั่งให้ใหม่” โปเต้ว่า ก่อนจะหันไปเรียกพนักงานแล้วสั่งให้ผมใหม่




“อิจฉาคนมีแฟนจริงๆ” หลุยส์ร้องขึ้นมาเบาๆ จริงสิ ...มันเป็นคนเดียวที่ยังโสดนี่หว่า




“มึงก็รีบหาซะสิ” จีน่าที่นั่งอยู่ข้างๆมันหันไปบอก




“หาอยู่ แต่แม่งไม่เจอสักที” หลุยส์เอ่ยบอกราวกลับไม่ซีเรียสอะไร




“อ่าว แล้วคนที่มาส่งมึงเมื่อเช้านี่ไม่ใช่แฟนมึงเหรอวะ?” แต่แล้วแลนด์ก็ดันไปพูดกระตุ้นต่อมอยากรู้ของคนอื่นๆซะงั้น ว่าแต่...ใครกันวะ ที่มาส่งหลุยส์ จะว่าไป...ช่วงนี้มันไม่ค่อยขับรถมาเรียนเองเลยนี่หว่า




“มึงเห็น! เอ้ย! ไม่ใช่!...อันนั้นน่ะพี่เว้ย” หลุยส์หลุดปากบอกก่อนจะแก้ตัว




“พี่เหรอ...” ว่าแล้วทุกคนก็ต่างพากันมารุมหลุยส์คนเดียว จนมันแกล้งเมินทำเป็นไม่สนใจ ไม่ได้ยิน จนพวกผมเลิกที่จะถามมันครับ




“ดินกินกุ้งมั้ย เดี๋ยวแลนด์แกะให้” แลนด์หันไปเอ่ยถามดินที่นั่งอยู่ข้างๆซะเสียงหวานเลยครับ จะว่าไปแล้ว...เวลาผมกับโปเต้คุยกัน เคยคุยกันด้วยน้ำเสียงแบบนี้บ้างมั้ยเนี่ย ไม่เคยจะสังเกตเลยนะเนี่ย




“ขมวดคิ้ว” มาแต่เสียงยังไม่พอครับ มาพร้อมกับนิ้วที่จิ้มมาที่ตรงหว่างคิ้วของผมด้วย




“โปเต้ เราเคยพูดกันด้วยน้ำเสียงแบบนั้นกันมั้ย?” ผมเอ่ยถามออกไปตรงๆ




“น้ำเสียงแบบไหน?”




“แบบที่แลนด์พูดกับดินน่ะ” อันนี้ผมแค่สงสัยครับ ไม่ได้จะหาเรื่องอะไรหรอก




“น่าจะไม่ ...ทำไม อยากให้ผมพูดกับคุณแบบนั้นเหรอ” โปเต้ถามพลางยิ้มนิดๆ แววตาดูกำลังดีใจกึ่งล้อเลียน




“ไม่ใช่แบบนั้น” ผมปฏิเสธไปด้วยความเขินบวกอายนิดๆ ผมรู้เลยว่าตอนนี้ตัวเองต้องกำลังหน้าแดงแน่ๆ ผมล่ะหมั่นไส้โปเต้จริงๆ คอยดูเถอะ ผมจะหาเรื่องแกล้งให้เขาหน้าแดงบ้าง ...ชอบๆจริงเลย ที่จะแกล้งผมแบบนี้




“หึๆ” โปเต้หัวเราะนิดๆ ที่แกล้งผมให้หน้าแดงได้สำเร็จ




จะว่าไป...ถ้าโปเต้พูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบนั้น มันก็คงจะดีไม่น้อยเลยล่ะมั้ง




แต่ว่า...เท่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ มันก็ดีอยู่แล้วน่ะนะ












“จะหล่อไปไหนเนี่ย” ผมเอ่ยถามออกมากึ่งประชดนิดๆ เมื่อโปเต้อาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย ตอนนี้ก็ใกล้จะสองทุ่มแล้วครับ แต่ว่าพวกผมก็คงจะไปเลตหน่อย เพราะผมยังไม่ได้แต่งตัวเลย




แต่ว่า...วันนี้โปเต้ดูแปลกตาไปเยอะเหมือนกัน ใส่เสื้อยืดคอวีสีแดง สวมทับด้วยเสื้อกันสีดำมีฮูท กางเกงยีนส์สีสีด และรองเท้าหนังคู่โปรดของเขา รู้สึกว่าเขาจะจัดเต็มมาก ไม่รู้จะใส่ไปโชว์ใคร




บอกได้คำเดียว่า หล่อ!




“ทำไมมองแบบนั้น?” โปเต้เอ่ยถาม




“จัดเต็มไปป่ะ” ผมเอ่ยถามออกไปตามตรง แล้วผมจะใส่อะไรไปดีวะเนี่ย ที่จะไม่ให้เดินคู่กับโปเต้แล้วตัวเองดูเหมือนคนใช้อ่ะ




“ก็ไปผับ ไม่ได้ไปตลาดที่จะได้ใส่กางเกงเจเจกับแตะหูหนีบนี่นา” โปเต้ว่าอย่างขำ ก่อนจะเดินไปที่หน้ากระจกเพื่อเซ็ทผม ...นี่ยังจะเซ็ทผมอีกหรอ!!!




“.....” ผมเบะปากนิดๆใส่เขาด้วยความหมั่นไส้ ก่อนที่ตัวผมเองจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า จะแต่งแบบไหนดีหว่า




คิดหนักเหมือนกัน เพราะผมไม่ค่อยแต่งตัวมากนัก ชอบแต่งแบบสบายๆมากกว่า




“เดี๋ยวผมเลือกให้” ว่าแล้วโปเต้ก็เดินมาอยู่ข้างๆผม แล้วเลือกเสื้อผ้าให้ ก็ดีเหมือนกัน ดูท่าว่าโปเต้เองก็แต่งตัวเก่ง และแต่งออกมาแล้วดูดี




“ใส่สีแดง จะได้เหมือนกัน” โปเต้หยิบเสื้อคอวีสีแดงของผมออกมาแล้วยื่นมาให้ผม มันเป็นเสื้อที่มีลายเดียวกันกับตัวที่โปเต้ใส่อยู่ มันไม่ใช่เสื้อคู่อะไรหรอก เพียงแค่ลายมันสวยดี โปเต้เลยซื้อ และก็ซื้อตัวที่เหมือนกันแต่ไซส์เล็กกว่ามาให้ผม




“.....” ผมรับมา และสวมใส่ทันทีอย่างไม่คัดค้านอะไร ยังดีนะที่ผมผิวขาวอ่ะ พอใส่เสื้อสีสดแบบนี้แล้วเหมือนมันจะช่วยขับผิวผมให้สว่างยื่งขึ้น




“เอากางเกงตัวนี้ก็แล้วกัน” โปเต้หยิบกางเกงยีนส์สีเข้มให้ผม




“.....” ผมก็รับมา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของโปเต้




“ให้ผมเลือกกางเกงในให้มั้ย?”




“ใส่แล้วเหอะ!” ทะลึ่งจริงๆ




พอแต่งตัวเสร็จก็เดินมาดูตัวเองในกระจกที่อยู่ในห้องน้ำ อืม...มันก็ดูดีน่ะนะ หรือเป็นเพราะว่าผมหน้าตาดี???




“ติณณ์ ผมเซ็ทผมให้เอามั้ย?” โปเต้เดินมาถามผม ที่ยังคงดูความเรียบร้อยของตัวเองอยู่ในห้องน้ำ




“...เอาสิ” ผมเดินตามโปเต้ออกมา แล้วให้โปเต้จัดการเซ็ทผมให้




“เซ็ทผมเก่งนะเนี่ย ขอบคะ...” ผมมองกระจก ก่อนจะหันหน้าไปหาโปเต้ กำลังจะพูดขอบคุณเขาเสียหน่อย แต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค โปเต้ก็ก้มหน้าลงมาแล้วจูบผมเสียก่อน




“จะขอบคุณ ก็ต้องขอบคุณแบบนี้สิ” โปเต้ว่าพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์




“ฉวยโอกาสตลอด” ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกแก้มเขา




“ใส่เสื้อนี่ด้วย เผื่อข้างในมันหนาว” โปเต้เอื้อมมือไปหยิบเสื้อกันหนาวสีดำของผมมา แล้วยื่นให้ผมใส่




“.....” ผมรับมาโดยไม่พูดอะไร ก่อนที่เราสองคนจะสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง แล้วค่อยออกจากบ้านกัน ตอนออกมาก็โดนพี่ปาร์กับพี่ตาลแซวนิดหน่อย ก่อนพวกพี่ๆเขาจะเตือนว่าให้ขับรถกันระวังๆหน่อย ถ้าเมาก็ไปนอนกับเพื่อน หรือหาที่พักแถวนั้นเอาไปก่อนก็ได้




“รู้สึกไม่อยากพาติณณ์มาเลยแหะ” อยู่ๆโปเต้ก็พูดขึ้น เมื่อเราเดินพ้นประตูของผับแห่งนี้เข้ามา คนเริ่มเยอะแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากคนที่มาร่วมง่านวันเกิดของพี่เตก็เป็นได้ อีกอย่างเรามาเลตไปเกือบชั่วโมงแล้ว




แต่ผมก็ยังไม่เข้าใจประโยคที่โปเต้พูดอยู่ดี




“ทำไมล่ะ” ผมเอ่ยถาม ตอนนี้ในผับแห่งนี้ยังเปิดเป็นเพลงเบาๆ ฟังสบายๆ อยู่ คนที่อยู่ในผับนี้จึงพากันนั่งอยู่ที่โต๊ะของตัวเองเสียมากกว่า




“ก็ติณณ์หล่อซะขนาดนี้ ก็ต้องมีคนอยากเข้าหาน่ะสิ” โปเต้ว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือผม แล้วก่อนจะพาเดินไปหากลุ่มคนที่กำลังส่งเสียงเฮฮากันอยุ่ ณ ตอนนี้




“ถ้าอย่างนั้นผมก็ยิ่งต้องมาน่ะสิ” ผมเอ่ยบอกอย่างยิ้ม จนโปเต้หันมามองหน้าผมแบบทันที แถมยังขมวดคิ้วทำหน้าดุอีกต่างหาก




“.....”




“ก็หน้าอย่างโปเต้เนี่ย ถ้ามีใครมาคาบไปแล้วผมจะทำยังไง ก็ต้องตามมาเฝ้าสิ” ผมว่าก่อนจะใช้มือข้างที่ว่างหยิกแก้มเขา




“.....” โปเต้ยิ้มนิดๆ ก่อนจะกระชับมือผมให้แน่นขึ้น ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินไปหากลุ่มคนที่กำลังส่งเสียงดังและเจี๊ยวจ๊าวมากๆ




“โหยยยย...ใส่เสื้อคู่กันมาแบบนี้ เดินจับมือกันขนาดนี้ แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่เลยนะ /ฮิ้ววววววววววววว” เสียงของเซย์ครับ เขาแซวทันทีที่พวกผมเดินไปถึง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงเฮจากคนอื่นๆ ที่ทั้งรู้จักและไม่รู้จัก




“แน่นอน” โปเต้ตอบกลับไป ก่อนจะหาที่นั่งให้ผม โดยให้ผมไปนั่งกับดอมินิกที่คาดว่าคงเป็นจินที่พามา ส่วนตัวเองก็เดินไปหาพี่เต เจ้าของวันเกิด คาดว่าคงจะเอาของขวัญไปให้พี่เขาล่ะมั้ง




“กินอะไรมารึยัง?” ดอมินิกเอ่ยถามผม




“รองท้องมาแล้ว” ผมตอบ ก่อนที่เราทั้งคู่จะเงียบกัน และนั่งดูบรรยากาศรอบๆ หันไปมองโปเต้ก็เห็นว่ากำลังดื่มอยู่กับพวกพี่ๆเขาอยู่




จากเพลงเบาๆฟังสบาย ก็แปรเปลี่ยนเป็นท่วงทำนองที่หนักหน่วงและเร้าใจ เรียนให้นักท่องราตรีต่างออกมาโชว์สเต็ป ผู้คนเริ่มเยอะขึ้น จนใกล้จะเต็มแถบทุกโต๊ะของร้าน งานวันเกิดพี่เตไม่ได้เตรียมเค้กมาแจกทุกคน แต่แฟนพี่เขากลับเซอร์ไพรส์ด้วยการถือเค้กมาให้พี่เต จนเรียกเสียงแซวจากคนอื่นๆได้ แฟนพี่เขาน่ารักดีครับ สวยมากๆ ตัวเล็กนิดเดียว เห็นว่าเรียนอยู่คณะบัญชีและเคยเป็นดาวมหาลัยด้วย




“ไง ติณณ์ มาด้วยเหรอ ไม่เห็นบอกพี่บ้างเลย” แขกผู้ใหม่เดินเข้ามาทักผม แทนที่จะทักเจ้าของงาน และใครคนนั้นก็คือพี่เฟรมนั่นแหละครับ




“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่เฟรม




“แล้วแฟนติณณ์ล่ะ ทำไมมันปล่อยให้ติณณ์นั่งคนเดียว” พี่เฟรมเอ่ยถาม แต่...ผมนั่งคนเดียวซะที่ไหน ผมนั่งกับดอมินิกอยู่ต่างหาก




“กินเหล้าอยู่กับพวกรุ่นพี่ตรงนั้น” ผมบอกพี่เฟรมพลางเพยิดหน้าไปทางโปเต้ ที่กินเหล้าอยู่กับพวกพี่เคและยื่นคุยอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้




“อ๋อ แล้ว...”




“พี่เฟรม ไหนจะเอาของขวัญมาให้พี่เตไง มาทำอะไรตรงนี้” ยังไม่ทันที่พี่เฟรมจะพูดอะไรต่อ ก็มีคนมาเรียกพี่เขา ซึ่งใครคนนั้นก็คือเฟียส ไม่รู้ว่าสองคนนี้เขาตกลงปลงใจกันหรือยัง แต่ก็เคยเห็นนะ ว่าเฟียสมารับพี่เฟรมกลับหอหลายครั้งอยู่เหมือนกัน อาจจะกำลังจีบกันอยู่ก็ได้ล่ะมั้ง




“มาทักทายน้องเฉยๆ” พี่เฟรมดีดตัวไปยื่นข้างๆเฟียสอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ทั้งคู่จะขอตัวไปหาเจ้าของงานกันครับ อะนะ...ดูท่าว่าทางพี่เฟรมเองก็คงจะมีใจให้เฟียสไม่น้อยเลยล่ะ ก็ขอให้ทั้งคู่คบกันไวๆก็แล้วกัน




ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้วครับ เห็นเขาบอกว่าจะเป็นเวลาของวงดนตรีขึ้น แต่ผมเองก็ไม่ค่อยรู้สึกตื่นเต้นเท่าไหร่ เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาเช็คนู้นเช็คนี้ไปเรื่อย ฆ่าเวลาเล่นก็เท่านั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่โปเต้จะกลับ ผมชักจะเริ่มง่วงหน่อยๆแล้ว เมื่อเช้าผู้ต้องตื่นเช้า เพราะมีเรียนตั้งแปดโมง




กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!




เสียงกรี๊ดของผู้คนที่อยู่ในผับดังมาก บวกกับที่มีเสียงผู้ชายร้องโห่ด้วย คาดว่าวงนี้ต้องมีใครสักคนที่หน้าตาดีมากๆจนทำให้ผู้หญิงกรี๊ดและผู้ชายโห่ได้ขนาดนี้ หรือไม่ก็ผู้ชายที่โห่อาจจะเป็นเพื่อนกับหนึ่งในพวกวงดนตรีก็เป็นได้




มีต่อจ้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 09-06-2015 15:57:18
“ติณณ์ ดูที่เวทีก่อน” ดอมินิกสะกิดเรียกผม




“หืม?” ผมเงยหน้าแล้วหันไปมองเขา แต่ดอมินิกเพยิดหน้าให้ผมมองไปอีกทาง




และเมื่อผมหันหน้าไปอีกทาง ก็พบว่ามันเป็นเวทีของทางผับที่เขาให้วงดนตรีขึ้นเล่น แต่ว่า...คนที่ยืนอยู่ในตำแหน่งนักร้อง...กลับเป็นคนที่ผมรู้จัก รู้จักดีซะด้วย!




...โปเต้!!!




ขึ้นไปทำอะไรวะ?




“สวัสดีครับ ผมชื่อนภัทร เอ่อ...ก่อนอื่นเลยต้องขอบอกว่าผมเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด หากผมพูดอะไรออกไปแล้วมันออกจะงงๆก็อย่าถือสาผมเลย” โปเต้เอ่ยบอกผ่านไมค์เสียงเรียบ ผมแอบได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดให้เขาด้วย




“ก่อนอื่นเลย วันนี้เป็นวันเกิดพี่เต พี่ชายของผม ยังไงก็สุขสันต์วันเกิดนะครับ มีความสุขมากๆ เรื่องเจ้าชู้ก็ลดลงบ้าง พี่ป่าน (แฟนพี่เต) จะได้สบายใจ” สิ้นคำพูดของโปเต้ ก็มีเสียงจากกลุ่มพวกพี่เตดังขึ้น ส่วนมากก็เป็นเพื่อนพี่เขาที่หัวเราะชอบใจราวกลับชอบคำพูดของโปเต้




“หึๆ ...ที่จริง ที่ผมขอพวกพี่ๆเขาขึ้นมาในวันนี้ มันมีเรื่องที่สำคัญกว่านั้น” พูดจบ โปเต้ก็หันไปทำมือโอเคทางข้างเวที สักพักก็มีรูปขึ้นที่จอโปรเจ็คเตอร์ขนาดใหญ่ที่อยู่เหนือหัวโปเต้ไปพร้อมกับทำนองดนตรีคลอๆเบาๆ มันเป็นรูปผู้ชายคนนึงที่ยืนหันหลัง และผู้ชายคนนั้น...ผมก็รู้จักเขาเป็นอย่างดี




เขาก็คือ...ตัวผมเอง




มันเป็นรูปผมสักตอนปีหนึ่ง น่าจะเป็นตอนรับน้อง เพราะสภาพผมแบบเละมาก




แล้วเขา...มีมันได้ยังไง ตอนนั้นผมและเขายังไม่ได้รู้จักกันเลยหนิ




“อย่าหาว่าผมเยอะเลยนะ ผมก็แค่อยากทำอะไรให้เขาบ้าง เพราะเขาทำเพื่อผมมาเยอะแล้ว ...แม้แต่ความรู้สึกที่ผมมีต่อเขา ผมก็ยังไม่เคยพูดออกจากปากเลยสักครั้งเดียว” โปเต้พูดก่อนจะเม้มปากแน่น ทุกคนในที่นี่ต่างพากันเงียบ ราวกลับตั้งใจฟังในสิ่งที่เขากำลังพูด




“เฮ้ย! ดอมินิก จะพาเราไปไหน” ผมร้องออกมา ในขณะที่กำลังตั้งใจดูโปเต้อยู่นั้น ดอมินิกก็ฉุดมือผมให้ลุกขึ้น แล้วลากให้ผมเดินตาม...จนมาถึงหน้าเวลา และเมื่อมาถึง...ทุกคนที่อยู่หน้าเวทีก็ถอยออกเป็นวง เพื่อให้ผมได้อยู่ตรงกลางวงกลมนั้น นี่มันเรื่องอะไรกัน ผมงงตั้งแต่โปเต้ขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้วนะ




“.....” ผมได้แต่จ้องหน้าโปเต้ที่อยู่บนเวทีโดยพูดอะไร รู้เลยว่านี้ต้องเป็นแผนของเขาแน่ๆ ผมจึงกอดอกยืนมองเขานิ่งๆ อยากจะรู้ว่าเขาจะทำอะไร




“ผม...แอบชอบเขามาตั้งแต่ตอนปีหนึ่ง เจอเขาครั้งแรกตอนที่รับน้อง ...ตอนนั้นผมไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ ว่าเผลอมองเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกที ก็คอยมองหาแต่เขา แอบตามถ่ายรูปเขา จนเคยคิดว่าตัวเองเป็นโรคจิตรึเปล่า...” โปเต้พูดไป แต่ตาของเขาจ้องมองมาที่ผม ภาพในจอก็เริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ราวกลับค่อยช่วยเล่าเรื่องราวไปในตัว



ผมพึ่งรู้เลยนะเนี่ย ...ว่าโปเต้เขา ...ชอบผมก่อน




“แล้วต่อมาวันนึง ...ฝันของผมก็ได้เป็นจริง วันที่ผมได้คบกับผู้ชายคนนี้ ...แม้ว่าการคบกันของเรานั้น มันเป็นการรักข้างเดียวและแผนการของผม แต่ว่า...ผลลัพธ์ที่ออกมาตอนนี้ มันก็ทำให้ผมคิดว่า ดีจริงๆ... ที่วันนั้นผมยอมข่มความอายเพื่อเสนอของแลกเปลี่ยนที่มันจะดูโกงผู้ชายคนนี้ไปเสียหน่อย ใจสั่นเหมือนกัน...กลัวว่าเขาจะไม่ตอบรับ”




“.....” ผมหัวเราะออกมาหน่อยๆด้วยความเขิน แน่นอนว่าผมจะต้องเขิน ก็ตอนนี้โปเต้ทำเหมือนราวกลับว่า กำลังสารภาพความในใจทั้งหมดกับผม โดยมีคนทั้งผับเป็นพยาน




“ติณณ์ครับ ...ผมรู้ว่าผมเอาแต่ใจ อาจจะชอบบังคับติณณ์ หึงติณณ์ หวงติณณ์มากไปหน่อย แต่ผมก็ไม่เคยอยากจะทำให้ติณณ์เสียใจ ผมรู้ว่าติณณ์ก็ทำให้ผมมามาก ติณณ์ยอมผมทุกอย่าง คอยช่วยเหลือผม คอยสอนผมในอะไรหลายๆอย่าง เป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ ทั้งผู้ปกครอง และคนรักของผมในเวลาเดียวกัน ...ผมทำตัวหวานๆไม่เป็น ผมเป็นคนกระด่าง และออกจากแข็งกร้าว แต่คุณก็ยังยอมอยู่กับผม เพราะงั้นผมเลย...ผม...” อยู่ๆโปเต้ก็หยุดพูดไป กรอกตาไปมาราวกลับลังเลอะไรสักอย่าง




“.....” ผมยิ้มให้เขา ยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจ ให้เขารู้ว่าผมยังฟังอยู่ และยังอยากฟังในสิ่งที่เขาอยากจะพูด




“ผมถามคนอื่นๆ ว่าผู้ชายโรแมนติก มันต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งพวกนั้นก็เสนอความคิดที่ทั้งดีและไม่ดี แต่ส่วนมากจะเอียงไปทางไร้สาระมากกว่า ดังนั้นผมก็เลย...ผม ...ผมร้องเพลงไม่เก่ง และไม่รู้ว่ามันจะเป็นผู้ชายโรแมนติกให้ติณณ์ได้หรือเปล่า แต่...ช่วยรับฟังหน่อยนะครับ” แอบมีเสียงโฮ่เบาๆ เมื่อโปเต้พาดพิงถึงคนอื่น ซึ่งมันก็ดังมากจากพวกเซย์และกลุ่มรุ่นพี่ของโปเต้ทั้งนั้น




อินโทรเพลงค่อยดังขึ้น มันเป็นเพลงที่ผมรู้จัก เป็นเพลงที่มีความหายลึกซึ้ง เป็นเพลงที่...ผมชอบเปิดให้เขาฟังบ่อยๆ...




“...เธอคือทุกสิ่ง ในความจริงในความฝัน
คือทุกอย่างเหมือนใจต้องการ
เธอเป็นนิทาน ที่ฉันอ่าน ก่อนหลับตาและนอนฝัน...”




โปเต้ร้องเพลง...พลางยิ้มให้ผม




คนบ้า...ไหนว่าร้องเพลงไม่เป็นไง ...เพราะจะตาย




เสียงของเขาน่าฟังและมีเสน่ห์ ...สายตาหยาดเยิ้มและใบหน้าหวานของเขา มันทำให้ผมใจเต้นแรง...




“...เธอคือหัวใจ ไม่ว่าใครไม่อาจเทียมเทียบเท่าเธอ
ช่างโชคดีที่เจอ ได้ตกหลุมรักเธอ
ได้มีเธอ เคียงข้างกัน

คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ...”




“.....” ผมยิ้มให้เขา ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ ผมไม่เคยคิดและไม่เคยหวังว่าโปเต้จะมาทำอะไรแบบนี้ให้เลย และสิ่งที่เขากำลังทำมันอยู่ตอนนี้มันก็...บอกตามตรงว่าเกินคาด




“...เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียงคนเดียว...”




เสียงร้องเฮดังขึ้นเมื่อจนท่อนนั้น มันทำเอาเขินอายหนักกว่าเก่า ไอ้หน้าหวาน ไอ้เนียน ไอ้บ้า ...ชอบมาทำอะไรให้เขินอยู่นั่นแหละ




“...เธอคือรักจริง ฉันยอมทิ้งทุกๆ อย่างเพียงเพื่อเธอ
ดั่งฟ้าให้มาเจอ ให้เธอคู่กับฉัน
ให้เราได้เดินเคียงข้างกันนับจากนี้

คงจะมีเพียงเธอทำให้โลกนั้นหยุดหมุน เพียงเธอสบตาฉัน
คงจะมีเพียงเธอที่หยุดหัวใจของฉันไว้ตรงนี้ ตรงที่เธอ

เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง...”




โปเต้ร้องเพลงและจ้องมาที่ผมเพียงคนเดียว เพื่อสื่อความหมายให้ชัดยิ่งขึ้นว่า...เขาร้องเพลงนี้ให้ผม




แต่แล้วก็มีเสียงกรี๊ดดังขึ้น เมื่อนักร้องของวันนี้กลับกระโดดลงจากเวทีมา ...แล้วค่อยๆเดินมาหาผมอย่างช้าๆ ทั้งที่ปากก็ยังคงร้องเพลงอยู่




มือผมสั่น มันทั้งตื่นเต้น เขิน ประหม่า ดีใจ อะไรหลายๆอย่างมันตีกันมั่วไปหมด




ในที่สุด โปเต้ก็เดินมาหยุดตรงหน้าผม เขายิ้มให้ผมนิดนึง ก่อนจะเอื้อมมือมาจับแขนของผม แล้วดึงผมเข้าไปกอด หน้าของผมจมอยู่กับอกของเขา ผมกอดเขากลับแน่นมาก ผมดีใจนี่นา...ดีใจและตื้นตัน




“...จะทุกข์หรือยามที่เธอนั้นสุขใจ
ยามป่วยไข้หรือสุขกายสบายดี
ฉันอยู่ตรงนี้และจะมีเพียงเธอทุกวินาที
จะอยู่ใกล้ไม่ห่างไกล จะเคียงชิดไม่ห่างไป ไม่ไปไหน...”




ราวกับว่าโปเต้เขากำลังร้องอยู่ที่ข้างหูผม เพื่อบอกว่า...เขาอยากจะบอกกับผมด้วยประโยคนี้จริงๆ




ก่อนที่เขาจะผละออก แต่ยังไม่เดินหนีไปไหน เขาจ้องหน้าผม...แล้วก็...




“...เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอที่ต้องการ
ฉันจะทำทุกๆ ทางด้วยวิญญาณและหัวใจ
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
ทั้งหัวใจฉันมีเธอเพียง

เธอเพียงคนเดียวและเพียงเธอ เพียงเธอที่รอ
ฉันขอภาวนาต่อหน้าฟ้าอันแสนไกล
นั่นคือฉันจะรักเธอไม่ว่าเป็นเมื่อไรสถานใด
เกิดชาติไหนฉันมีเธอ มีเธอเพียง คนเดียว....”




มีเสียงกรี๊ดและเสียงเฮดังขึ้นทันทีที่โปเต้ร้องเพลงจบ แต่เหมือนทุกอย่างไม่ได้อยู่ในความสนใจของผมเลย สายตาผมจ้องมองแค่เพียงคนตรงหน้า




“ติณณ...ผมรักคุณ รักคุณคนเดียว รักคุณมาตั้งนานแล้ว ...แล้วคุณ ...จะรักผู้ชายเอาแต่ใจคนนี้ได้มั้ย?”




“.....” ผมหลุดหัวเราะออกมาด้วยความเขิน เมื่อเขาเล่นบอกรักผมทั้งที่ไมค์ยังจ่อปากเขาอยู่ แบบนั้นคนอื่นๆเขาก็ได้ยินกันหมดน่ะสิ




“.....” โปเต้ยิ้มให้ผม เป็นยิ้มที่อบอุ่น จนผมอยากจะเห็นแก่ตัวให้โปเต้ยิ้มให้ผมแค่คนเดียว




“...ผมรักนาย รักที่สุด” ผมเอ่ยบอก เสียงลอดผ่านไมค์ไปนิดนึง แต่ผมไม่ได้สนใจ ผมไม่จำเป็นต้องอายที่จะบอกให้ใครต่อใครรับรู้ว่าผมรักใคร




โปเต้ยิ้มกว้างมากที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น ก่อนจะก้มลงมา แล้วประกบที่ริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว และผมก็เต็มใจที่จะรับ




แค่ผู้ชายคนนี้ แค่มีเขาอยู่เคียงข้าง เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว




อยู่ด้วยกันนานๆนะ




ทำให้เผลอใจ ‘รัก’ ไปขนาดนี้แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบด้วยนะรู้มั้ย




ผมรักนาย...ไอ้หน้าหวาน






.
.
.
.
.
.
.
คู่เลิฟมาดนิ่ง นภัทร<3ติวาลิน
9 มิถุนายน เวลา 23:17 น.

เจ๊นี่อยากจะเป็นลม คู่นิ่งเขาบอกรักกันค่าาาาาา เจ๊นี่อยากจะเป็นลมสักสิบแปดตลบ
ถามว่าตอนนี้เจ๊อยู่ที่ไหน บอกเลยว่าอยู่ในอากาศ เพราะเจ๊ฟินจนตัวลอยเลยค่ะ
ขอยาดมให้เจ๊ด่วน กรี๊ดจนตาลายแล้วค่าาาา

ปล.ได้ข่าวว่าหนุ่มหล่อมีชื่อเป็นดินแดน เพื่อนสุดสนิทของหนุ่มติวาลิน
จะแอบมีข่าวกิ๊กกั๊กกับหนุ่มน้อยน่ารัก เจ๊นี่แทบจะปีนรั้วบ้านเข้าไปถามเลยจ้ะ
ใครที่อยากจะรู้เรื่องราวของสองคนนี้ อินบล็อกมาถามได้นะคะ หรือใครที่รู้
เกี่ยวกับข่าวนี้ ก็ช่วยบอกเจ๊ที เจ๊ว็อทมากค่าาาาาาา




The end

*****************************************************************************
จบแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

ไม่ได้ล้อเล่น แต่มันจบจริงๆจ้า ขอบคุณที่ติดตามกันมานะครับ ขอบคุณทุกๆคอมเม้นต์เลย

ขอบคุณมากๆจริงๆ รักคนอ่านทุกๆคนนะครับ

ยังไงก็ฝากติดตามผมงานอื่นของผมด้วยนะครับ


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
Twitter (https://twitter.com/Pawaree_BL)
นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0)
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
รักนี้...ต้องลอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47260.0)
(เรื่องใหม่)





ทิ้งท้ายอีกนิด ผมเปิดนิยายเรื่องใหม่อีกหนึ่งเรื่อง คือ รักนี้...ต้องลอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47260.0) ฝากติดตามด้วยนะครับ




อีกนิดนึง...หลังจากนี้ แต่ไม่รู้ว่านานมั้ย แต่...ใครที่อยากจะติดตามคู่อื่นๆ จาก เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว

สามารถติดตามกันได้ โดยผมจะใช้ชื่อเรื่องว่า [ซีรี่ย์ เผลอใจ 'รัก' หมดใจ] เมื่อวันใดหากท่านเห็นชื่อนี้ นั่นหมายความว่าเรื่องราวของคู่อื่นกำลังมานะครับ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-06-2015 16:06:52
 :o8:  หวานซึ้งน้ำตาซึมสุดๆ โปเต้คือดีงาม โรแมนติกจัง ทุกคนที่นั่นต้องอิจฉาติณณ์มากๆแน่

จบแล้วเหรอ ฮือ  :hao5: 
จะติดตามเรื่องอื่นๆค่ะ ว่าแต่ขอตอนพิเศษด้วยนะคะ  :L1: 

ปล. เรายังเจอคำผิดอยู่หลายจุดนะคะ ตกหล่นบ้าง ลองทวนอีกทีนะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-06-2015 16:23:41
หวานแย่งซีนเจ้าของวันเกิดหมด
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kaokorn ที่ 09-06-2015 16:23:59
จบซะแล้ว ชอบฮะ เรื่องนี้หวานๆกันทุกคู่เลย
ขอบคุณนะฮะที่แต่งเรื่องสนุกๆให้ได้อ่าน  :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-06-2015 16:34:56
เป็นตอนจบที่แฮปปี้สุดๆ หวานมากครับ

สนุกๆ มากๆ เรื่องนี้ :)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: tempo_oil ที่ 09-06-2015 16:35:26
หวานมากกกก สรุปงานวันเกิดพี่เต
กลายเป็นเวทีบอกรักของคู่มาดนิ่งซะงั้น

น่ารัก หวานมากเลยโปเต้ นายนั้นแหละผู้ชายโรแมนติก

ติดตามมาหลายเดือน จบซะแล้ว

ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆค่ะ :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 09-06-2015 16:51:01
โอ๊ยยยยยใจละลายแทนติณเลย
มาร้องเพลงนี้โอ๊ยยยยฟินมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆและ
ก็น่ารักเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ
แล้วก็ขอบคุณคนเขียนมากๆคร้าา :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 09-06-2015 16:52:40
บอกรักกันหวานมาก  ซึ้งมาก  :pig4: :กอด1:
จบแล้วรู้สึกใจหาย  ยังไงก็ขอตอนพิเศษด้วยน้า
 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gookgik ที่ 09-06-2015 16:55:18
:o8: สรุปไม่ใช่งานวันเกิดพี่เต แต่เป็นงานบอกรักของโปเต้ กะติณณ์ ชิมิ

จบได้โรแมนติกมาก    :pig4: ที่แต่งนิยายสนุกๆ ให้ได้อ่านค่ะ  รออ่านผลงานเรื่องต่อไป
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 09-06-2015 16:56:12
ใครบอกโปเต้ไม่โรแมนติกแล้วนี้อะไร ใครก็ได้ตอบเค้าหน่อยซิ
ทำไมมันหวานและฟินเวอร์ขนาดนี้เนี่ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-06-2015 17:15:14
หวานส่งท้าย :-[
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 09-06-2015 18:00:08
แฮปปี้เอ็นดิ้งง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: bpyt ที่ 09-06-2015 18:25:53
กรี๊ดดดด~ นภัทรหวานป๊ายยยยย~ แอบอิจฉาติณณ์
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-06-2015 18:44:31
เป็นตอนจบที่มีความสุขมากค่า กอดคนเขียน :กอด1:
ขอบคุณสำหรับความรักของโปเต้และติณณ์นะคะ ตามไปอ่านเรื่องใหม่อย่างด่วนๆเลย :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pupae2528 ที่ 09-06-2015 19:13:38
คู่นิ่งหวานนนนนนนนมากลูก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-06-2015 20:04:31
อร๊ายยยย. โปเต้จัดเต็มจริงๆ. หวานเวอร์ๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-06-2015 20:17:01
บอกรักหวานๆ
 :-[ :-[

ปล.ขอบคุณที่แต่งนิยายมาให้ฟินนะจ๊ะ
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 09-06-2015 20:23:58
รักกันแบบนิ่งๆ เงียบๆ มาตลอด
แต่ตอนบอกรักกันนี่รู้กันทั้งบาง
บอกรักกันครั้งนี้ครั้งแรก กะว่า
ไม่ต้ิงบอกรักกีนอีกนานเลยนะนั่น
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 09-06-2015 20:37:37
 :heaven :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 09-06-2015 20:45:04
ติณณ์ โปเต้

น่ารักมากกกกกกค่ะ

ขอบคุณมากๆจริงๆนะคะ ตอนท้ายนี่แทบจะละลายตอนที่โปเต้ร้องเพลงให้เลย โรแมนติกจริ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 09-06-2015 20:58:12
อะฮือ จบแล้วววว  หวานทุ่มทุนสร้างงงงงง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-06-2015 21:21:36
มีความสุขอบอุ่นมากค่ะ
ใจจริงยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ ยังอยากให้อยู่ไปนานๆมีต่อไปเรื่อยๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ๐๐ตะวัน๐๐ ที่ 09-06-2015 21:26:11
จบได้หวานสุดๆไปเลยอ่านไปเขินไป

มโนว่าตัวเองเป็นติณณ์เลยฮ่าๆๆ

ขอบคุณมากค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 09-06-2015 21:48:02
หวานมากกกกกก  :-[
ยังไม่ตอนนี้กให้จบเลย ขอตอนพิเศษด้วยน้า :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 09-06-2015 21:54:39
หวานกันมาก เขินจริงจัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 09-06-2015 22:01:14
ชอบนิยายคุณทุกเรื่องเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดี
ขอบคุณสำหรับความน่ารักของคู่รักมาดนิ่ง
รอติดตามผลงานต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: brave ที่ 09-06-2015 22:11:24
 :o8: :o8: :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 09-06-2015 23:31:11
หวายและน่ารักมากเลย เขิลลลลลลล ล ล ล ล ล ล ล  :o8:
จบซะแล้ว จบแบบนี้น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 10-06-2015 02:00:16
อันนี้ พรี-เวดดิ้งใช่ไหมเนี่ย?
ยินดีด้วยที่จบอีกเรื่องหนึ่ง   หวานล้ำเหลือล้นมากๆค่ะ

ใจปล้ำ - ใจป้ำนะคะ   ถ้ามีล.ลิงก็แบบคิดมิดีมิร้ายค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 10-06-2015 11:45:47
จะมีตอนต่อไปอีกไหมคะ ใจหายมากติดตามมาตั้งแต่เริ่มเรื่อง จนตอนนี้จบแล้ว ต้องคิดถึงทั้งคู่มากแน่ๆเลย T^T
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 10-06-2015 14:34:53
หวานมากกกกกกกกกโปเต้ :-[
จบซะแล้ว คงคิดถึงเจ้าหน้านิ่งสองคนนี้แน่เลยอ่ะ :mew6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poppycake ที่ 10-06-2015 14:46:22
กรี๊ดดดด ฟินม้วกๆๆๆ >\\\\\<
จบได้งดงามลงตัวสุดๆไปเรยอ่ะ
ปล. เราจะตามไปอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ ต่อไปนะจ๊ะ ^3^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nicksrisat ที่ 10-06-2015 22:56:25
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 11-06-2015 01:33:26
ตัดสินใจอ่านเรื่องนี้ก็ตอนที่มันจบแล้ว
 :hao5:
ชอบมากกกก น่ารักมากกกกกกก  :katai1:
อยากอ่านพิเศษจังเลยจ้ะคนเขียน  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 11-06-2015 03:17:23
จบแล้วววววววววว  หวานมากกกเป็นตอนจบที่หวานมากมายอ่ะ  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 11-06-2015 08:35:43
อ่อยยยยย  จบซะแล้ววว   :hao7:
แต่รอซีรี่ย์คู่นี้น้าาา    :katai5:
 :L2: :L2: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Sweet Coffee ที่ 11-06-2015 10:02:51
ว๊า!!จบซะแล้ว คู่นี้นิ่งๆแต่หวานมาก อยากให้มีตอนพิเศษจัง  :-[ :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 11-06-2015 10:16:46
 จบแล้วอ่ะ o13 :katai2-1: :mew1: :mew1:

หวานสุดๆเลยน้าตอนจบเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 11-06-2015 18:08:20
ไหนบอกโรแมนติกไม่เป็นไงโปเต้ แอร๊ยยยยย ฟินไปไกล
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: poterdow ที่ 11-06-2015 20:35:04
รอเรื่องต่อเลยจ้าาาา
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 12-06-2015 10:15:38
 :laugh: กรีดร้องงงงงงงง
โปเต้ นายหื่นเงียบใช่มั้ย
แตะนิดแตะหน่อย ติณณ์ก็สมยอมม ฮ่าาาา
ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 12-06-2015 12:16:55
 :m1: :m1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: no.fourth ที่ 12-06-2015 12:24:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mooaum ที่ 12-06-2015 21:24:42
เขินตัวแตก .... ประหนึ่งว่า ตัวเองอยู่ตรงนั้นด้วยย อร๊ายยยย!!! ...... เรื่องสนุกมากจริงๆ  :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-06-2015 22:16:12
จิกหมอน ฟินนนน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 14-06-2015 02:01:20
น่ารักมากๆๆๆๆเลย  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 14-06-2015 07:27:27
เป็นเรื่องที่สุดยอดเลย ขอบคุณคนแต่ง
รู้สึกตกหลุมรักนภัทรกับติณณ์  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 14-06-2015 09:40:52
 o13 :heaven
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 14-06-2015 10:43:57
ตอนอ่านแรกๆ ก็คิดอยู่ว่าโปเต้น่าจะชอบติณอยู่แล้ว แล้วก็จริง จีบแบบเนียนๆ เป็นแฟนกันหลอกๆ ก็เป็นแฟนกันจริงๆ
ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ตัว เพราะเนียนไปหมด
ดีที่ที่บ้านรับได้กันทุกคน เป็นครอบครัวสุขสันต์เลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 14-06-2015 17:44:45
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ  รักคู่นิ่ง  ฟินเฟ่อร์  ชอบคู่นี้มากๆ เค้ารักกันแบบนิ่งๆ อยู่กันแบบเงียบ  แต่มันอ่านแล้วฟินโดยเฉพาะเวลาเค้ามุ้งมิ้งกันสองคน แบบลืมคนรอบข้าง สถานที่อะไรงี้ โปเต้ขี้อ้อนเบาๆติณก็ยอมตลอดเป็นคู่ที่ลงตัวมากๆๆๆ  อ่านแล้วยิ้มทั้งเรื่องอ่ะ มีความสุขมากกับเรื่องนี้สุดๆ  ขอบคุณมากๆเลยนะคะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-06-2015 21:07:16
จบแล้วๆ ขอบคุณเรื่องราวของ โปเต้-ติณณ์ นะครับ น่ารักมากๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 14-06-2015 23:38:54
 :o8: ต่างคนต่างเงียบๆ เดา อารมณ์ไม่ได้เลยเว้ยยยยยยยยยยยย ฟินๆๆว่ะ :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 15-06-2015 00:25:28
 :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8: :-[ :o8:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 15-06-2015 09:00:27
 :hao6: :hao6: :hao6: แข่งบาสแล้วยังมีแรงอีกนะ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: llmup ที่ 15-06-2015 10:14:30
 :katai2-1: คุณพระะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะะ ดีงามมากใน8โลก
ไม่ดราม่า หวาน หวาน หวาน เราชอบทุกคู่เลยค่ะ แอร้ยยยย
แนะนำเลยต้องอ่านเท่านั้น ใครไม่ชอบเรื่องหนักๆแนะนำเลย

การดำเนินเรื่องการบรรยายทำได้ดีไม่น่าเบื่อหรือดึงเรื่องจนมากเกินไป  o13
ทำไมน่ารักงี้เป็นอีกคู่ที่ลงตัวมากๆ จบซะแล้วอยากอ่านอีกเยอะๆเลยอ่า ใจจะจขาด
เป็นครอบครัวสมัยใหม่ที่รับในสิ่งที่ตัวเองชอบได้ดีมากเลยค่ะ เราว่าสมัยนี้แล้วเนอะ
การจะมาปิดกั้นมันก็ไม่ใช่แล้วละ สมัยนี้เราต้องโอเพนนิ่งค่ะ555  :laugh:

ขอบคุณคนแต่งมากๆเลยค่ะ รักเลยยย จะแวะมาอ่านอีกนะค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 16-06-2015 00:11:23
ขอบคุณค่า ชอบเรื่องมากๆ  :m3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 16-06-2015 03:28:52
ชอบค่ะ ไม่ค่อยพูด น่ารักดี ขอสารภาพว่าอ่านเจอบทโปเต้กิน/สั่งขนมทีไร หวานจุกคอเลยค่ะ เค้กเยอะมาก 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 16-06-2015 09:19:59
 :hao7: :hao7: :hao7: รักกันแบบเนียนๆๆ เป็นแฟนกันแบบเนียนๆๆ โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยอิจฉาโว้ยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 16-06-2015 18:54:16
ชอบมากกกกก ชอบเรื่องนี้นะ หวานละมุน ไม่ต้องมีดราม่าก็สนุกได้
อบอุ่น ซึ้ง ใครอยากเสพย์อะไรหวานๆน่ารักๆ ห้ามพลาดเรื่องนี้เด็ดขาด
ขอบคุณคนแต่งมากครับสำหรับเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 20-06-2015 07:29:37
น่าร๊ากกกกกกกกกกก โปเต้ น่ารักมากกกกก  :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pittabird ที่ 20-06-2015 09:27:13
น่ารักมากค่ะ. รักกันแบบใสใส  ชอบโมเม้นท์ที่อยู่ในโลกส่วนตัวกันสองคน.  ดูจริงใจมาก

อยากอ่านตอนพิเศษที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้ว.   อย่าลืมมาต่อตอนพิเศษนะคะ.  ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-06-2015 11:34:08
หวานมากกกก ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: THESUNINSSH ที่ 21-06-2015 08:39:54
น่ารักมากกกกกกกกกก   
หวานมากคู่นี้
 :mew3:
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆๆแบบนี้ให้อ่านคะ  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 21-06-2015 16:03:55
น่ารักมากกกกกกก


น่าจะมีตอนเด็กแฝดโตเนอะ แบบช่วยกันเลี้ยงหลาน

ฮ่าๆๆๆ

 :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-06-2015 04:17:09
ติวาลิน กับ ณภัทร นิยายเรื่องนี้น่ารักมากๆค่ะ อ่านแล้วแบบฟินตลอด :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว บทส่งท้าย P.47 9/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 23-06-2015 22:30:16
รักได้หวานมากก สวีททุกตอน ชอบๆๆๆ อ่านไปเขิลไป ตลกด้วย  :ling2: :ling2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 24-06-2015 18:49:04
ตอนพิเศษ เมื่อไอ้หน้าหวานป่วย











   “โปเต้ นายเป็นอะไรหรือเปล่า?” ผมเอ่ยถามคนข้างกาย ที่วันนี้มาเรียนด้วยท่าทีที่ไม่เบิกบานใจเสียเท่าไหร่





“เปล่า แค่ง่วงน่ะ” โปเต้ตอบก่อนจะหันมายิ้มให้ผม





“นาย...ไม่สบายหรือเปล่า?” ผมเอ่ยถามออกไปตามตรง





“เปล่า ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”





“จริงๆนะ”





“จริงสิ”





“นี่...ถ้าไม่สบายหรือเป็นอะไรก็ต้องบอกผมนะ เรื่องที่จะไปดูหนังตอนบ่ายเรายกเลิกกันไปก่อนก็ได้” ผมเอ่ยออกไป
ความจริงช่วงนี้ผมกำลังโปเต้เรายุ่งกันมากๆ แทบจะไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นหรือทำอะไรเลย การเป็นนักศึกษาปีสี่นี่มันไม่ง่ายเลย
สักนิด แต่เพราะงานมันเยอะมาก พวกผมจึงพยายามกันเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้คือเรียนเสร็จ แล้วกลับไปบ้านอย่างเดียว
แม้จะอยู่ห้องเดียว นอนด้วยกัน แต่เราแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันสักเท่านั้น เอาแต่เร่งทำงานกัน เพราะอยากให้มันเสร็จเร็วๆ
แต่วันนี้คาบบ่ายอาจารย์ยกเลิศคลาสไป ทำให้พวกเราว่าง เนื่องจากพึ่งจะส่งงานไปเมื่อวาน แต่ถึงจะส่งงานเดี่ยวกันไปแล้ว
พรุ่งนี้ก็ต้องไปทำงานกลุ่มกันอีก และคงจะยาวติดต่อกันเป็นสัปดาห์เลย ทำให้เวลาว่างที่มีอยู่ คือวันนี้ตั้งแต่บ่ายโมงเป็นต้นไป
ผมจึงชวนโปเต้ไปดูหนังที่พึ่งเข้าใหม่ แต่ผมอยากดู ซึ่งโปเต้ก็ตอบตกลง





“ผมไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ ติณณ์ขี้กังวลเกินไปแล้ว” โปเต้ว่าก่อนจะยิ้มให้ผม





“ก็...”





“ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ เพราะงั้น...บ่ายนี้ไปดูหนังกันนะ” โปเต้ว่าเสียงอ้อน อ่า...ให้ตายสิ เขาต้องรู้ว่าผมแพ้ทางเขา
แพ้น้ำเสียงอ้อนๆของเขาแน่ๆ   





“อืม ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ผมก็แค่เป็นห่วง”





“หึๆ ขอบคุณครับ” โปเต้ยิ้มให้ผมอีกทีนึง ก่อนจะหันกลับไปตั้งใจเรียน












“ในที่สุดก็ว่างสักที!” เสียงหลุยส์ตะโกนเมื่อออกมาจาห้องเรียน





“เออ กูจะได้กลับบ้านไปนอน” จีน่าว่า ส่วนนิดาก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย





“พวกมึง เดี๋ยวกูขอตัวก่อนนะ” แลนด์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนกดโทรศัพท์อยู่พักนึง คาดว่าคงจะคุยกับดินนั่นแหละ
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ทั้งสองคนจะเป็นแฟนกันสักที เห็นตามดูแลกันยิ่งกว่าคู่ของผมกับโปเต้เสียอีก





“ไปหาแฟนเหรอวะ?” เซย์เอ่ยแซว





“ยังไม่ได้เป็นเว้ย!” แลนด์เอ่ยปฏิเสธ เหอะๆ ปากพูดอีกอย่าง แต่การกระทำอีกอย่าง มันน่าเชื่อมากกก





“ก็รีบๆเป็นสักทีดิวะ เอาแต่บอกว่าเป็นเพื่อน ระวังเถอะ เดี๋ยวดินเกิดอยากเป็นแค่เพื่อนจริงๆแล้วมึงจะร้องไห้ขี้มูกโป่ง”





“เดี๋ยวก็เป็นน่า ไปล่ะ รีบไปทำคะแนนก่อน” ว่าจบ แลนด์เดินไป คงจะไปหาดินอย่างไม่ต้องสงสัย





“งั้นกูไปล่ะนะ” ผมเอ่ยบอกกับพวกเพื่อน ก่อนจะเดินแยกออกมา ผมกับโปเต้เราคุยกันไว้ว่าจะไปหาข้าวกินก่อน
แล้วค่อยไปดูหนังกัน





“โปเต้ ทำไมมือนายร้อนๆล่ะ” ผมเอ่ยถาม เมื่อเขาเอื้อมมือมาจับมือผม และเรากำลังเดินไปที่ลานจอดรถ





“หืม?...ก็ไม่หนิ”





“โปเต้ ผมว่านายไม่สบายนะ ตอนนี้ปวดหัวหรือเจ็บคอหรือเปล่า?” ผมรีบเอ่ยถาม ก่อนจะดึงมือโปเต้ให้เขาหยุดเดิน
ผมเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากและลำคอของโปเต้ พบว่ามันร้อนผิดปกติ





นั่นไง มันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริงๆด้วย แล้วทำไมโปเต้ถึงไม่ยอมบอกผมตรงๆล่ะ ทำไมต้องเอาแต่บอกว่าไม่เป็นไรด้วย





“ติณณ์ ผมไม่ได้เป็นอะไร” โปเต้ว่าก่อนจะรวบมือของผมทั้งสองข้างที่แตะอยู่ที่หน้าเขาลงมา แล้วจับมือผมเอาไว้





“โปเต้ ตอนนี้นายมีไข้ ทำไมจะต้องบอกผมว่าไม่เป็นไรด้วยล่ะ” ผมถามเขาอย่างไม่เข้าใจ





“ก็...ติณณ์อยากดูหนัง”





“โปเต้ ผมไม่ได้อยากดูถึงขนาดนายป่วยแล้วจะลากนายไปดูด้วยสักหน่อย นายไม่สบาย ...และเราจะกลับ ไม่ไปดูหนังอะไร
ทั้งนั้นแหละ” ผมว่าก่อนจะลากโปเต้ให้เดินตาม





“แต่หนังเรื่องนี้ติณณ์อยากดูมากนี่ แล้วเราก็ว่างแค่วันนี้นะติณณ์” โปเต้ยังคงพูดเหมือนไม่ยอม





“ระหว่างหนังกับนาย ผมเลือกนายนะ” ผมบอกด้วยสีหน้าจริงจัง ตั้งแต่ที่ผมกับโปเต้คบกันมา ตอนนี้มันก็ปีกว่าๆแล้ว
พวกเราต่างคนก็ต่างที่จะเริ่มพูดมากขึ้น กล้าพูดในสิ่งที่คิดมากขึ้น อาจเป็นเพราะเราเคยคุยเปิดใจกัน
แบบว่า...คุยกันทุกอย่าง คุยกันทุกเรื่อง เพื่อที่เราจะได้รู้ถึงจุดบกพร่องต่างๆ ที่สมควรแก้ไข้ และมันก็ทำให้ความสัมพันธ์
ของเราทั้งคู่เหนียวแน่นมากยิ่งขึ้น





“แต่...”





“ไม่มีแต่ เอากุญแจรถมา ผมขับเอง” ผมเอ่ยบอกเมื่อเราเดินมาถึงที่รถพอดี





“ผมขับได้”





“เต้” ผมเรียกเขา และถ้าหากครั้งไหนที่ผมเรียกเขาแบบนี้ เขาก็จะต้องฟังผมแบบไม่มีข้อโต้แย้ง และผมเองก็เหมือนกัน
หากโปเต้เรียกผมว่า ‘ติณณ์’ ด้วยน้ำเสียงเดียวกันอย่างที่ผมเรียกเขา ผมก็ต้องฟังเขาอย่างไม่มีข้อโต้แย้งด้วยเหมือนกัน





“.....” โปเต้มองหน้าผมนิ่งๆก่อนจะยื่นกุญแจรถมาให้ผม ก่อนจะเดินไปนั่งฝั่งข้างคนขับ ส่วนผมเองก็เปิดประตูรถ
แล้วสอดตัวลงไปนั่งที่เบาะคนขับ ก่อนที่จะขับรถออกจากมหา’ลัยทันที





ผมจอดแวะซื้อยาและแผ่นเจลลดไข้ที่ร้านขายยาในระหว่างทางกลับบ้าน ตอนนี้ผมกับโปเต้ย้ายออกมาจากบ้านพี่ปาร์กับพี่ตาล
และมาอยู่ที่บ้านที่คุณแม่ซื้อให้ ซึ่งมันก็อยู่หลังตรงข้ามกับบ้านพี่เขานั่นแหละครับ





“อยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไหม?” ผมเอ่ยถาม เพราะเขามีไข้ ถ้าจะให้นอนเลยก็กลัวว่าจะไม่สบายตัว แม้ว่ามันพึ่งจะเที่ยงกว่าๆ
ก็เถอะ





“อยาก”





“นายจะอาบน้ำหรือเช็ดตัว” ผมเอ่ยถามพลางจูงมือโปเต้เข้ามาในบ้าน





“อาบดีกว่า”





“งั้นก็รีบไปอาบ อาบน้ำอุ่น เช็ดตัวให้แห้งและรีบแต่งตัว”





“ครับแม่”





“ไอ้บ้า!” ผมตีเข้าไปที่แขนของโปเต้ไม่แรงนัก แม่อะไรกันล่ะ ผมเป็นผู้ชายนะ





“หึๆ” โปเต้หัวเราะนิดๆ ก่อนจะขึ้นบันไดไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนผมก็จะเดินเข้าไปในครัวเพื่อทำข้าวเที่ยง แต่ก็มีเสียง
ตะโกนของโปเต้ดังลงมาจากตรงบันได





“ติณณ์! ผมไม่เอาพวกข้าวต้มหรือโจ๊กนะ!”





“รู้แล้วๆ” ผมตะโกนตอบกลับ เขาก็เป็นอย่างนี้ทุกทีแหละครับ เวลาไม่สบาย แต่ไม่ชอบทานพวกโจ๊กหรือข้าวต้ม
บอกว่าไม่อยากซ้ำกับคนอื่น อยากจะคิดต่างว่าคนป่วยไม่จำเป็นต้องกินของพวกนี้อะไรประมาณนั้นน่ะครับ
ตอนที่ได้ฟังครั้งแรกผมก็ขำนะ แต่ก็พอจะเข้าใจแหละครับ เพราะถ้าผมไม่สบาย ผมก็ไม่อยากกินของพวกนี้เหมือนกัน





แต่ว่า...ก็คิดไม่ออกอยู่ดีว่าจะทำอะไรให้เขากินดี???





เอ...เอาอะไรดีน้า???





คิดไม่ออก...งั้น ...เอาอาหารที่ติดอันดับคนกินมากที่สุดก็แล้วกัน...





...ผัดกระเพรา












“ผัดกระเพรา?”





“ใช่ ผัดกระเพรา รีบมากินสิ เดี๋ยวเย็นหมด” ผมว่าก่อนจะตักข้าวใส่จาน แล้ววางจานข้าวไว้ตรงหน้าโปเต้ ก่อนจะกลับมา
ตักข้าวให้ตัวเอง





“หึๆ พอจะรู้ว่าติณณ์จะไม่ทำพวกข้าวต้มหรือโจ๊กแน่ๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นผัดกระเพรา” โปเต้ว่าอย่างขำๆ





“ทำไม?”





“ก็มันสิ้นคิด ..โอ๊ย!” สิ้นคำพูดเขาเท่านั้นแหละ ผมก็เตะขาเขาจากใต้โต๊ะทันทีเลยครับ จะป่วยอยู่หรือไม่ป่วย ยังไงผมก็ไม่สน





“สมน้ำหน้า”





“ล้อเล่นน่า กินเถอะๆ” โปเต้ว่าก่อนจะลงมือกิน ผมจึงกินบ้าง





พอกินข้าวเที่ยงเสร็จ ผมก็ให้เขากินยาที่ซื้อมาจากร้านขายยา ก่อนจะไล่ให้เขาไปแปรงฟัน แล้วมานอนที่เตียง





“.....”





“ตัวนายรุ่มๆ นอนพักก็แล้วกัน” ผมเอ่ยบอกพลางเพิ่มแอร์มาเป็นยี่สิบห้าองศา (ปกติเปิดยี่สิบองศา ไม่ก็ต่ำกว่านั้น)





“แล้วติณณ์จะไปไหน?” โปเต้เอ่ยถามเมื่อเห็นผมลุกขึ้น





“จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง วันนี้อากาศร้อน เหงื่อเต็มตัวผมเลย” ผมว่าพลางแกะกระดุมเสื้อไปด้วย เรื่องแบบนี้พวกผมไม่
อายกันแล้วครับ





“ครับ”





“ฝันดีนะ” ผมว่าก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากของโปเต้เบาๆ





“ครับ” โปเต้ยิ้มให้ผมก่อนที่จะหลับตาลง ส่วนผมก็เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ







บ่ายนี้ว่าง ผมเองก็ไม่รู้จะทำอะไรดีเหมือนกัน เล่นเกมในโทรศัพท์ก็แล้ว (ผมเริ่มติดเกมก็เพราะโปเต้นี่แหละ)
อ่านหนังสือก็แล้ว ทำโมเดลจนเสร็จ ...จนตอนนี้ว่างจัดอย่างไม่รู้จะทำอะไรดี






มัน...ว่างจริงๆนะ






ผมเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา พบว่าสี่โมงครึ่งแล้ว ผมว่าผมควรจะไปทำข้าวเย็น เพื่อให้โปเต้ได้กิน แล้วกินยา




 
“.....” ผมเดินแตะตัวโปเต้ที่นอนหลับอยู่ พบว่าตัวร้อนจี๋เลย แปลว่าผัดกระเพราไม่ช่วยอะไรเลย (เกี่ยว?)





ผมจึงรีบไปหาผ้ามา ชุดน้ำในห้องน้ำ บิดพอให้มันหมาดๆ แล้วเอามาเช็ดตัวให้โปเต้ อาจเป็นเพราะพิษไข้รุมเร้า
คนตื่นง่ายอย่างโปเต้กลับไม่มีท่าทีที่จะตื่นเลย ทั้งๆที่ผมกำลังเช็ดตัวให้อยู่ และเมื่อผมเช็ดตัวให้โปเต้เสร็จ ผมก็เอา
เจลลดไข้ที่ซื้อมาพร้อมกับยา มาแปะที่หน้าผากของโปเต้ ก่อนจะเดินออกจากบ้านตัวเอง ตรงไปยังบ้านพี่ตาล





“ติณณ์/ติณณ์” เสียงสองแฝดแสตมป์สตางค์เรียกผมครับ และที่สองแฝดเรียกผมว่า ‘ติณณ์’ แทนที่จะเรียกน้า
นั่นเป็นเพราะว่าเขาเรียกตามพี่ปาร์น่ะครับ สอนให้เรียกน้าก็ไม่เรียก ผมเลยปล่อยเลยตามเลย ส่วนโปเต้นั้น
สองแฝดจะเรียกเขาว่า ‘เต้’ ตามที่พี่ปาร์เรียกเหมือนกัน





“ไงครับ” ผมทักก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มสองแฝดคนละฟอด ตอนนี้ทั้งคู่ก็อายุขวบนึงแล้วครับ ยังพูดได้เป็นคำๆอยู่เลย
แต่พวกเขาก็เรียบร้อยนะครับ ไม่ดื้อ แต่ซนและขี้อ้อนมากๆ





“เต้ ...เต้” สตางค์คงจะเอ่ยถามหาโปเต้ครับ อยากจะบอกว่าสตางค์ติดโปเต้มากๆ ทั้งที่ไอ้หน้าหวานของผมก็ชอบทำหน้านิ่ง
หน้าดุใส่หลาน แต่หลานก็ไม่ยักจะกลัวกันเลย





“เต้ไม่สบายครับ” ผมตอบหลาน ก่อนจะจูงมือสองแฝดแล้วเดินไปหาพี่ตาล สองแฝดพึ่งจะเดินได้ไม่นาน แต่คลานเก่ง
และเร็วมากครับ ผมกับโปเต้ยังเคยวิ่งตามจับเพราะความซนของทั้งสองแฝดนั่นแหละ





“อ้าวติณณ์ โปเต้ล่ะ?” พี่ตาลเอ่ยทักเมื่อเห็นผมเดินมาคนเดียว





“โปเต้ไม่สบายน่ะครับ ให้กินยาแล้วนอนตั้งแต่เที่ยงแล้ว แต่ไข้กลับขึ้นเฉยเลย” ผมเอ่ยบอกอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี





“อ้าว เป็นหนักหรือเปล่า”





“พึ่งมีอาการเมื่อตอนไปเรียน ตัวเริ่มรุมๆก็ตอนเที่ยง น้องติณณ์เลยพากลับมาบ้านให้กินข้าวกินยา แล้วให้นอนเลย
 ก่อนออกมาน้องติณณ์ก็พึ่งเช็ดตัวกับแปะเจลลดไข้ให้” ผมบอกพี่ตาลไป





“งั้นเดี๋ยวพี่ทำโจ๊กให้ ติณณ์เอาไปให้โปเต้กินซะนะ กินยา ให้โปเต้นอน แล้วติณณ์ก็ต้องคอยเช็ดตัวให้โปเต้ด้วย”





“พี่ตาล โปเต้เขาไม่อยากกินโจ๊กกับข้าวต้มน่ะครับ” ผมรีบเอ่ยบอก





“ต้องกินจ้ะ เดี๋ยวพี่ไปทำมาให้” ว่าจบ พี่ตาลก็เดินเข้าไปในครัว ผมจึงห้ามอะไรไม่ได้  เลยได้แต่นั่งเล่นอยู่กับแสตมป์สตางค์ไป





“ติณณ์...เต้” สตางค์ดึงขากางเกงผม ก็จะชี้ออกไปมั่วๆ คงอยากจะให้ผมพาไปหาโปเต้ล่ะมั้ง





“ตอนนี้ติณณ์ยังพาไปไม่ได้นะ เต้ไม่สบาย” ผมว่าก่อนจะลูบหัวสตางค์เบาๆ





“..แอะ ...เต้” สตางค์คงจะเสียใจที่ผมพาไปหาโปเต้ไม่ได้ แต่ก็เท่านั้นแหละครับ พอแสตมป์ชวนเล่นด้วย
สตางค์ก็ลืมเรื่องโปเต้แล้วหันไปเล่นกับแสตมป์





ผมนั่งรอสักพักใหญ่ๆ พี่ตาลก็เดินมาหาผมพร้อมกับถ้วยโจ๊กในมือ





“เอาให้โปเต้กิน แล้วก็ทำตามที่พี่บอกนะ”





“ครับ ขอบคุณนะครับ” ผมรับมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณพี่ตาล





“ติณณ์ไปก่อนนะ” ผมหันไปลาสองแฝด ก่อนจะเดินออกมาจากบ้านพี่ตาลไปบ้านของตัวเอง





พอเข้าห้องมาก็ยังเห็นว่าโปเต้ยังคงหลับอยู่ ผมจึงตัดสินใจปลุกเขา





“โปเต้ ...โปเต้ ตื่นก่อน” ผมเรียกพลางเขย่าตัวเขาไปด้วย





“.....”





“โปเต้...ตื่นก่อน มากินข้าวกินยาก่อน”





“หืม??” เสียงโปเต้ครางในลำคอ แต่ยังไม่ยอมลืมตา อาจะเป็นเพราะพิษไข้ ทำให้โปเต้ที่มักจะตื่นง่ายกลับตื่นยาก





“ลุกขึ้นมากินข้าวก่อน”





“หืม...ไม่กินได้ไหม” โปเต้บอกผม และยังคงไม่ยอมลืมตาหรือลุกขึ้นนั่งเลย





“โปเต้ ไม่เอาไม่งอแง” ไม่กี่ครั้งหรอกที่โปเต้จะงอแงแบบนี้ ส่วนมากก็จะเป็นตอนที่เขาไม่สบายนั่นแหละ หรือไม่ก็ตอนที่ง่วงจัด
เท่านั้น ในเวลาปกติอย่าหวังเลยครับว่าจะได้เห็นน่ะ





“ติณณ์ ไม่กินนะครับ...นะ” โปเต้บอกผมเสียงอ้อน ก่อนจะค่อยๆเลื่อยตัวเข้ามากอดเอวผม หัวก็ซุกอยู่ที่ท้องของผม
ออดอ้อน อย่างที่บอกว่าเราคบกันมากเป็นปีๆ เปิดใจคุยกันมากแล้ว ไอ้กิริยาออดอ้อนแบบนี้ผมไม่อายที่จะทำหรอกครับ
โปเต้เองก็เหมือนกัน





“ไม่ได้ ต้องกิน อย่างอแง ผมไม่ใจอ่อนหรอกนะ” ผมว่าเสียงเข้ม ผมจะใจอ่อนมาตามใจโปเต้แบบนี้ได้ยังไง
ที่ผมทำก็เพื่อตัวเขาทั้งนั้น





“ที่รัก...” โปเต้ว่าเสียงอู้อี้ แต่ผมก็ยังได้ยิน ให้ตายเหอะ...ชอบใช้จริงๆ ไอ้วิธีอ้อนผมแบบนี้น่ะ ก็รู้ๆกันอยู่ว่าผมแพ้ทาง
แบบนี้ของเขา





“ผมไม่ใจอ่อน อย่าดื้อ” ผมบอกกับเขาเสียงอ่อน เฮ้อ...ผมแกล้งทำเป็นดุเขาไม่ได้นานจริงๆ





“เต้ไม่อยากกินเลย” โปเต้ว่าด้วยเสียงที่แหบผิดปกติของเขา แต่ก็ค่อยๆยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งโดยมีผมคอยประคอง





“เต้ต้องกิน ไม่งั้นเต้ก็จะไม่หาย ไม่งอแงนะ เดี๋ยวติณณ์มีรางวัลให้” ผมว่าเสียงอ่อน ทุกทีแหละ เวลาอ้อนกันเรามักจะ
แทนตัวเองด้วยชื่อ และเวลาโปเต้อ้อนมันน่ารักมาก เมื่อมองหน้าเขาพร้อมกับฟังเขาอ้อนไปด้วยพร้อมๆกัน





“จริงหรอ?” โปเต้ปรือตามองผมก่อนจะยิ้มนิดๆ





“ติณณ์เคยโกหกหรอ ...มาๆ ติณณ์ป้อน” ผมว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถ้วยโจ๊ก





“โจ๊ก?” โปเต้เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นถ้วยโจ๊กในมือของผม





“พี่ตาลทำมาให้ กินซะ” ผมว่าก่อนจะตักโจ๊กขึ้นมาครึ่งช้อน ก่อนจะเปาให้มันหายร้อนแล้วป้อนโปเต้





“ไม่เห็นอร่อยเลย” คงเพราะไม่สบาย ทำให้ลิ้นโปเต้จืด เลยกินอะไรก็ไม่อร่อย





“กินไป จะได้กินยา” ผมว่าพลางป้อนเขาต่อ





โปเต้กินไปได้ไม่กี่คำ ก็ร้องขอผมว่าไม่เอาแล้ว ผมจึงยอมและให้เขากินยา ก่อนจะเดินไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวโปเต้
ส่วนเจ้าตัวน่ะเหรอ พอหัวถึงหมอนก็หลับทันทีเลย





เมื่อเช็ดตัวให้เขาเสร็จ ผมก็เดินไปอาบน้ำ แล้วมานอนข้างๆเขา และคงเป็นเพราะมีผมมานอนข้างๆ โปเต้ที่ไม่สบาย
เลยหาที่อุ่นๆ โดยการค่อยๆขยับเข้ามาหาผม แล้วเอาหน้าซุกที่คอของผม ผมจึงกวาดมือไปโอบกอดเพื่อให้ความอบอุ่น
กับเขา





ฝันดีนะครับไอ้หน้าหวาน หายไวๆนะ







อาจเป็นเพราะผมบอกให้เขาหายไวๆแน่ๆเลย ตื่นเช้ามาโปเต้หายดีราวกลับไม่เคยเป็นไข้มาก่อน โปเต้ตื่นก่อนผมเสียอีก
ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเตรียมไปมหา’ลัย ผมจึงรีบลุกและไปอาบน้ำแต่งตัวบ้าง ข้าวเช้าวันนี้ผมกับโปเต้ไปฝากท้อง
ที่บ้านที่ปาร์พี่ตาลครับ แสตมป์สตางค์ดีใจใหญ่เลยที่ได้เห็นโปเต้ โดยเฉพาะสตางค์ที่กอดโปเต้ไม่ปล่อยเลย





และแม้ว่าโปเต้จะหายไข้ดีแล้ว ผมก็ยังคงให้เขากินยาหลังอาหารอยู่ กลัวไข้กลับ ตอนแรกโปเต้ก็ประชดผมด้วยนะ
ว่าทำไมไม่เอาเจลลดไข้มาแปะที่หน้าผากเขาเลยล่ะ ซึ่งผมก็เป็นพวกบ้าจี้ครับ ตอนจะไปมหา’ลัยกันผมก็เข้าไปในบ้าน
หยิบเจลลดไข้มาแปะที่หน้าผากของโปเต้ แน่นอนว่าเจ้าตัวเบี่ยงตัวหลบครับ แต่ผมไม่ยอม จนเขาต้องยอมให้ผมแปะ
เจลลดไข้ที่หน้าผากของเขาครับ และวันนี้ผมก็เป็นคนขับรถ ให้โปเต้นั่งเฉยๆไป





“ติณณ์...ไหนรางวัลล่ะ ผมเป็นเด็กดีแล้วนะ”โปเต้ทวงรางวัลครับ เมื่อผมเลี้ยวรถเข้ามาในมหา’ลัย





“เดี๋ยวซื้อเค้กให้ชิ้นนึง”





“ไม่เอาแบบนั้น”





ก็ใช่ว่าผมจะไม่รู้น่ะนะ ว่าโปเต้อยากได้รางวัลแบบไหนจากผม แต่เรื่องแบบนี้ ขอเล่นตัวหน่อย จะให้ยอมง่ายๆ
มันก็ทั้งเขินทั้งอายอ่ะ





“ไม่อยากกินเค้กเหรอ ผมให้สองชิ้นเลยก็ได้” ผมว่าพลางมองหน้าที่จอดรถ





“ผมรู้นะ ว่าติณณ์รู้ว่าผมอยากได้รางวัลแบบไหน” โปเต้ว่า น้ำเสียงเขาดูไม่น่าไว้ใจ





“ตอนนี้ไม่ได้หรอก เรานัดพวกเพื่อนไว้ตอนเก้าโมงหนิ นี่ก็จะเก้าโมงแล้วนะ” ผมบ่ายเบี่ยง





“ได้สิ”





“ไม่ดะ..!” ผมปฏิเสธ...ไม่ได้ครับ เมื่อโปเต้คว้าต้นคอผมเอาไว้ ก่อนจะโน้มหน้าลงมากดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปาก
ของผม ลิ้นร้อนๆของเขาแทรกผ่านริมฝีปากของผมเข้ามาก่อนจะเกี่ยวตวัดลิ้นของผมอย่างเอาแต่ใจ แต่...ผมก็เต็มใจ
ให้เขาเอาแต่ใจน่ะนะ





“อื้ม! อ๊ะ! ...อย่าทำรอยนะ” ผมร้องห้ามเมื่อโปเต้ละริมฝีปากจากปากของผม แล้วลากลงไปยังซอกคอ





“อืม” โปเต้ส่งเสียงมา ผมรู้สึกจั๊กจี้และวู่วาบ เมื่อลิ้นของเขาแตะลงที่คอของผม แรงดูดดึงเบาๆ มันทำให้ผมต้องกลั้นหายใจ





“ทำแค่นี้ก่อน คืนนี้จัดหนักแน่” โปเต้กระซิบที่ข้างหูของผมก่อนจะขโมยหอมแก้มผมอีกทีนึง จากนั้นเขาก็ผละออก
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนั้นมันน่าตีจริงๆ





“คิดว่าผมยอม?” ผมว่าอย่างท้าทาย





“คุณปฏิเสธผมไม่ได้หรอก...ที่รัก”





อ่า...โอเค





... ผมยอมแพ้แล้ว ขยันจริงๆที่จะให้ผมเขินน่ะ







********************************************************************************

แอบแวะมาลงตอนพิเศษ พร้อมกับแจ้งข่าวเรื่องหนังสือจ้าาาาาาาาาาา




TBL-425-920

เปิดจองและโอนเงินตั้งแต่ วันที่ 24 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2558
เริ่มจัดส่งหนังสือให้ตั้งแต่ วันที่ 20 กันยายน – 5 ตุลาคม 2558
ระยะเวลาที่จะได้รับหนังสือโดยประมาณ วันที่ 25 กันยายน - 12 ตุลาคม 2558

(http://image.goosiam.com/imgupload/e/gHFzI05INjsX.jpg)




รายละเอียดหนังสือ

                              ขนาด A5 จำนวนเล่ม 1 เล่ม

                              ราคา 425 บาท (รวมค่าส่งแบบลงทะเบียน/ห่อกันกระแทกใส่ซอง)

                              ของแถม จะแจ้งอีกครั้งที่หน้าเว็บ

                              สั่งจองได้ที่  Pre-order เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว  (http://www.nana-naris-ybooks.com/product/23/pre-order-%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%88-apos%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81apos-%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%8B%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-by-pawaree)

                              และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)







************************************************************************************


FANPAGE (https://www.facebook.com/pages/Pawaree/1548716445345046)
 นี่แหละที่เขาเรียกว่า 'ความรัก' (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43692.0)
เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45051.0) จบแล้ว
ถ้ามันเรียกว่ารัก...อืม รักก็ได้ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46486.0)
รักนี้...ต้องลอง (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47260.0)

หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 24-06-2015 19:00:55
 :ruready
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 24-06-2015 19:36:06
 o13.  ยั่วน้ำลายสุดๆอะ
สอยแน่นอนจ้าเล่มนี้.
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: patchamai28 ที่ 24-06-2015 19:38:21
โปเต้น้ารัก ขี้อ้อนมากก  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 25-06-2015 09:22:24
โปเต้ขี้อ้อน
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 25-06-2015 13:21:48
ตอนพิเศษ  กรี๊สสสสสสส

เด็กแฝดออกตอนเดียว  แต่คือหลงมากกกก

คือชอบนิยายที่มีเด็กด้วย ฮ่าๆๆ
 
ชอบมาก ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cass-meyz ที่ 25-06-2015 13:39:57
น่ารักอ่า  :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 26-06-2015 14:34:50
ขี้อ้อนกันจริงๆ เลยน้า
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-06-2015 21:34:53
ว้ายๆๆๆ โปเต้นายอะจึ๊กๆติณณ์แล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 28-06-2015 10:27:59
แอร๊ยยยยยยยย อยากกรีดร้องให้ก้องโลกกกกกก
อ่านคู่นี้นี่มันทำให้ฟินนนนนนนนนเวอรรรรรรรร์ :impress2: :-[ :man1:
ชอบมากกกกกกกก เด่วจะรีบไปจองหนังสือเลยค่ะ. หุหุ :กอด1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 28-06-2015 18:05:43
ฟินนนนนกระจายยยย  :ling1:
น่ารักอ่ะ ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: QXanth139 ที่ 28-06-2015 22:15:48
น่ารักมีเรียกกันว่าที่รักด้วย :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 28-06-2015 22:22:58
 :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 29-06-2015 00:01:08
 :L1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 29-06-2015 23:09:59
อ่านรวดเดียวจบเลยจ้าา
สนุกมากกกกก คู่รักมาดนิ่งสุดๆ
เก็บตังก่อนจะไปจับจองนะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Fragrant ที่ 01-07-2015 17:55:22
นะน่ารักมากไปแล้วนะ!!!  :jul1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: littlepink ที่ 02-07-2015 15:36:47
น่ารักทุกตอนเลยย อ่านสบายๆ ไม่ดราม่า ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 04-07-2015 17:26:03
เนื้อเรื่องสนุก  ดำเนินเรื่องได้น่ารักมาก


อบอุ่นใจกับครอบครัวน้อยๆของทั้งคู่จัง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 06-07-2015 18:29:44
น่ารักมากกกกกกก
ชอบคาแรกเตอร์ตัวละครเรื่องนี้สุดๆๆๆเลยค่าาา
ทั้งโปเต้และก้ติณณ์ด้วย เนื้อเรื่องก้สนุก
ปลอดดราม่า ดีมากมายยย
อ่านตอนแรกๆก้แบบเอ้ยยนิสัยติณณ์เหมือนเราเลย
55555555 เพื่อนชวนไม่ไป โลกส่วนตัวสูง จมกองนิยาย
อยากได้แบบโปเต้ซักคนนน คงจะดี ♥
 
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 08-07-2015 17:03:41
อ่านจบแล้ว คู่นี้น่ารัก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 08-07-2015 17:13:30
เต็มอิ่มมาก o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 13-07-2015 15:29:11
:m1: :m3: :m1: :m3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว ตอนพิเศษ+แจ้งข่าว P.49 24/6/2558
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-07-2015 20:47:10
 :mew1: สนุกดีค่ะ อ่านแล้วชอบ ค่อยๆเติมเต็มกันดี
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Pawaree ที่ 18-07-2015 17:41:28
TBL-425-920

ร่วมสนุกกับกิจกรรม

รางวัล แจก! หนังสือ 1 เล่ม เรื่อง เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว

ร่วมสนุกกันได้ที่
Pawaree Fanpage (https://www.facebook.com/1548716445345046/photos/a.1549098331973524.1073741828.1548716445345046/1628750030675020/?type=1&theater)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: กวังกีเมย์บี ที่ 19-07-2015 13:21:02
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 21-07-2015 14:47:17
เค้านึกออกแล้ว
คุ้นชื่ออลันกับหนูดอมมาก
ที่แท้ก็ลูกพ่อแอลตันกับพ่อนิคนี่เอง

น่ารักมากๆเลย ชอบตัวละครทุกตัวเลยค่าขุ่นน้อง
อ่านแล้วมีความสุข
ว่าแล้วก็คิดถึงแอลตันกับหนูนิคของเจ๊ :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 22-07-2015 11:36:34
หวานได้อีกกกกกกกกกก :mew2: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 11:45:08
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mmilds ที่ 29-07-2015 20:34:24
อ่านเรื่องนี้ วันเดียวตั้งแต่ต้นยันจบ เช้ายันมืดเลยค่ะ 55555555555555555555555
อ่านตามๆที่เค้าแนะนำมาให้ห้องแนะนำนิยาย จนได้คนพบว่า
ตั้งแต่ตอน1 ถึง บทส่งท้ายนี่ไม่หุบยิ้มซักกะตอนเลย กร๊ากกกกกก
ทำไมโปเต้เป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลขนาดเนนนนน้ (นี่เรียกโปเต้คงไม่โดนเตะใช่ปะ ถถถถถถถ)
คือน่ารักอะ ไม่รู้จะพูดยังไง แต่ชอบมาก ๆ แบบ มว้ากกกกก ตั้งแต่ตอนหนึ่ง ก็ยิ้มนิดๆ
พอตอนจะจบนี่ปากฉีกจนถึงหูแล้วจริงๆ 55555555555 อ่านแล้วเขินได้ทุกตอนเลย
ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องมันจะไม่ได้มีอะไรมาก เหมือนอ่านไดอารี่คนรักกันธรรมดาๆ แต่ว่าในทุกๆตอนมันแบบ
อร้ากกก น่ารักจุงเบยย ความธรรมดา ไม่มีแก่นสาร มีแต่ความเขินที่เป็นตัวนำพา 55555555
นี่ก็เป็นความชอบของเรา เราชอบน้าาา อิอิ ไม่ค่อยมีอะไรให้เครียดดี อ่านได้สบายๆเลย :3
ความจริงแล้วชอบติณณ์ด้วยนะคะ ชอบชื่อจริงติณณ์ด้วย นัลลั่คค อิอิ

แต่ในความรู้สึกเรามีตะหงิดๆนิดนึงคือ เวลาที่ติณณ์เรียกตัวเอง ผม แล้วเรียกโปเต้ว่า นาย
มันดูแปลกๆ แบบ ผมกับนาย ดูไม่ใช่คำที่เรียกคู่กันเท่าไหร่ อาจจะมั่วๆไปเอง ถถถถถถถ
ชอบเวลาที่โปเต้เรียกติณณ์ว่าคุณ มันทั้งดูน่ารักและก็ให้เกียรติดีค่ะ คึ

ขอบคุณที่แต่งนิยายน่ารักๆแบบนี้ให้อ่านนะคะ

ปล. อยากอ่านคู่จิน กับคู่ของเซย์จุงกะเบยย -,.- ชอบเซย์กับอลัน ฮาร์ดคอร์ดี ตล๊กก 5555555

ขอเพิ่มนิดนึงงง แอบเสียดายว่า เอออ๊ น้องติณณ์นี่ไม่โดนทำอะไรเลยหรอคะ คึคึคึ
โปเต้อดทนเก่งมั่ก!! แต่ไอตอนที่บอกว่า เจ็บก้นๆ ที่เดินตกบันไดอะไรนี่
คือไม่ได้มีเหตุการณ์แอบแฝงเน้อออ คึคึ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: mypink801 ที่ 31-07-2015 22:48:42
คู่รักนิ่งๆแต่น่ารักมากกก ขอบคุณค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 06-08-2015 19:58:55
กรี๊ดดดดดดดดด!! อ่านจบแล้วโว้ยยยยย!!
แรกๆที่เพิ่งรู้จักกันนี่ คือแบบนิ่งมากกกก ไม่ค่อยพูด ใครพูดไร ช่างเหอะ ไม่แคร์
พอหลังๆที่คบกันนี่เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยเหอะ อ้อนได้เป็นอ้อน หยอดได้เป็นหยอด เขิลแทนติณณ์เลยอ่ะ
แม่ค่ะขอโปเต้กลับบ้านห่อนึงค่ะ อยากได้เว่อร์
น่ารักนะ napattiwa.pt❤ ปลื้มมมมม
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 14-09-2015 09:47:46
เพิ่งได้เข้ามาอ่านชอบจังพระ-นายแบบนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-09-2015 18:45:27
ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้อ่านแล้วมีความสุข (⌒_⌒)
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 28-09-2015 04:12:53
เพิ่งได้อ่านค่าาา....เค้าอยากได้หนังสือ  มาไม่ทันอ่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 01-10-2015 17:44:42
เพิ่งเริ่มอ่านไป 3 ตอน บอกเลยว่าฟินนนนน :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 02-10-2015 21:58:24
อ่านจบแล้ว ยิ้มตลอดเรื่องเลย ยิ้มแก้มจะแตกอยู่แล้ว :-[ :-[ :-[

ว่าแต่เรื่องอื่นที่ลงให้ทำไมมันเข้าไม่ได้อ่ะคับ เข้าได้เรื่องเดียวเอง
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 03-10-2015 19:48:13
เผลอใจรักเรื่องนี้เข้าเต็มๆ
โปเต้มาเนียนๆ ... o13
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว แจ้งข่าว P.50 18/7/2558
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 09-10-2015 23:04:12
เข้ามาทักทายคนเขียนค่ะวันนี้เราได้รับหนังสือแล้วนะคะ ได้ไวมากๆวันเดียวถึงมือเลย
เราชอบตอนพิเศษนะ เพื่อนๆมากันคึกคักดี มีอีกหลายคู่หลายแนวให้ตามต่อด้วยค่ะ
ยังไงก็รออ่านนะคะ ขอบคุณอีกครั้งที่เขียนนิยายน่ารักๆเรื่องนี้ออกมา
เราได้อ่านหน้ารองสุดท้ายความในใจของคนเขียนแล้วเราชอบ ที่บอกว่าตั้งใจให้สองคนนี้ โปเต้กับติณณ์ไม่พูดคำหยาบต่อกันเลย เออเราว่าจริงด้วย นึกย้อนไปตั้งแต่เขาเจอกันจนรักกันแล้วก็เสมอต้นเสมอปลาย.  :mew1: 
มีแค่ความหวานที่มากขึ้น จุดนี้โดนใจดีค่ะ ขอสักคู่เนอะที่ละมุนแบบนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 23-10-2015 23:22:04
 :-[ โปเต้ติณณณณ แอร๊ย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 07-12-2015 21:18:58
อ่านรอบที่สามมมม......อยากได่หนังสือจุง :hao5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-12-2015 21:57:51
สนุกมาก อ่านแล้วมีความสุขตลอดเลย
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: san ที่ 06-01-2016 12:28:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Snimsoi ที่ 10-01-2016 23:51:59
มันอิ่มเอมมากเลย   :-[ ขอบคุณที่แต่งเรื่องนี้มาให้อ่านกันนะคะ น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 31-01-2016 10:07:39
ถ้าใครชอบแนวอิ่มเอมเปรมฤทัยก็คงจะชอบ แต่สำหรับเรา เราว่าเนื้อเรื่องมันขาดสีสันด้านๆอื่นๆของชีวิตคนรักกันไปน่ะ คนรักกันจริงๆไม่ได้รักกันหวานชื่น มีความสุขสมหวังแต่อย่างเดียวแบบนี้หรอก มันต้องมีอารมณ์อื่นๆมาแทรกแซงด้วย คือเราว่ามันน่าจะมีเรื่องราวของความทุกข์ การหึงหวง การเข้าใจผิด การผิดหวังมามีเพิ่มเติมให้เป็นสีสันบ้าง เพราะมันเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่น่ะ แต่นี่มันมีสุขสมหวังแฮปปี้ทุกเรื่อง มันเลยทำให้เนื้อเรื่องดูเรื่อยๆมาเรียงๆไปหน่อย

 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Elle ที่ 07-02-2016 22:14:27
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ ฟินๆ  นะคะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 25-02-2016 23:14:46
 แวะมาบอกว่ากำลังเปิดรีปริ้นท์นะคะ......ดีใจสุดๆ ^^ #หลงรักเต้ติณท์  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: TuiLoveKhaKing ที่ 27-02-2016 23:12:49
เรื่องนี้น่ารักกก ชอบโปเต้มากก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Seilong2 ที่ 29-02-2016 08:04:53
น่ารักน่าหยิก
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-05-2016 07:00:28
รอบ2แล้วว
5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 18-05-2016 11:10:22
รอบ2แล้วว
5555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-05-2016 22:34:51
หนุ่มหล่อได้กันเองเป็นสิ่งที่สาว(วาย)ฟินมากจ้า :impress2:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: God ที่ 02-06-2016 18:27:17
สนุกค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 05-06-2016 13:32:19
ตอนจบเนี่ยโรแมนติกมาก...^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: บีเวอร์ ที่ 27-06-2016 02:11:19
เข้ามาอ่านกี่รอบก้ชอบบบบบบ :katai5:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 28-06-2016 18:41:22
3ตอนแรกอิแม่ก็ปลื้มปริ่มคู่รักมาดนิ่งคู่นี้แล้วค๊าา :mew1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 28-06-2016 20:18:42
ตัล ลาลา นังโปเต้มันน่าร๊ากก :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 28-06-2016 21:03:46
เวลาโปเต้กับติณอยู่ด้วยกันนี่เขาจะสร้างโลกส่วนตัวกันอยู่2คนอื่นๆนี่เป็นอากาศกันไปเลยนะค๊าา  :impress2: แต่โปเต้ยิ่งนานวันยิ่งขี้อ้อนม๊ากมาก น่ารักน่าเอ็นดูค๊าลูกเขย :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 29-06-2016 11:17:49
เป็นนิยายที่ไม่มีnc แต่อ่านแล้วฟินได้ฟินดีแต่ต้นยันจบเลยค๊าา  :o8: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 03-07-2016 14:37:11
โอ้ยยยยย อยากได้ผู้ชายแบบโปเต้  :hao3:

คือน่ารักมากเรื่องนี้

อ่านไปเขิลไป

น่ารักมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกันทั้งเรื่องเลยอ่ะ  :กอด1:

ฟินนนนน  :impress2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 04-10-2016 21:46:07
ขอบคุณค่ะ
มาอ่านรอบที่สองแล้ว
เรื่องนี้อ่านแล้วมีความสุขมากๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Pakeleiei ที่ 04-04-2017 11:34:44
มาอ่านรอบสองแล้ว
น่ารักมากน่ารักเหมือนเดิม :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Monkey D lufy ที่ 05-04-2017 07:02:43
คู่นี้เขามาแบบนิ่งๆเรียบๆแต่หวานนะค่าาาาา
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Premo1492 ที่ 05-04-2017 17:40:11
 :pig4: :pig4: :o8: :L2:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 07-05-2017 21:55:35
น่ารัก อ่านไปเขินไป :กอด1: :กอด1: อะไรมันจะละมุนขนาดนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 11-06-2017 14:18:02
รอบสามแล้ว
มีความสุขมากจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 11-06-2017 19:35:05
อ่านจบแล้วววว
น่ารักมากเลย ฮือ ทั้งโปเต้ ทั้งติณน์
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่นำมาแบ่งปันนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Napa ที่ 12-06-2017 17:05:56
้สนุกค่ะ  น่ารัก  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: norimaki ที่ 10-07-2017 14:46:16
อ่านจบแล้วไม่อยากให้จบเลยนั้นคือสิ่งที่คิดตอนที่อ่าน
หลงรักไปแล้วอยากอ่านไปเรื่อยๆเลย ชอบความรักของทั้งสองคนมาก
เวลาเข้าโหมดรักแล้วตัดขาดจากโลกภายนอกตลอดฟินมากๆ
ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องน่ารักๆดีต่อใจแบบนี้
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-07-2017 14:37:29
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 26-07-2017 20:50:16
รักกกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: cookie8009 ที่ 27-07-2017 10:56:04
จนบซะ เป็นงานแต่งงานเลยนะเนี่ย 555
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 09-08-2017 00:21:21
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้
น่ารักกกก ไม่ม่าเลย สนุกดีค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ

ปล.เข้าไปจิ้มลิงค์จะอ่านเรื่องอื่นๆ มันเข้าไม่ได้แล้วอ่ะค่ะ ><
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 15-11-2017 15:24:38
 o13 :pig4: o13
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 08-03-2018 18:22:50
รอบสี่แล้วค่ะ
เรื่องนี้ดีต่อใจจริงๆ ^^
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nobodylove ที่ 18-03-2018 15:31:21
 o13 ชอบมากกกกกกกกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: memozy ที่ 09-04-2018 00:10:01
ฟินมากก
  o13 :mew3: :-[
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: nutae or ที่ 09-04-2018 14:20:10
นิยายฟิลกู๊ด....น่ารักสไตล์คนพูดน้อย ชอบค่ะ...แอบบอกว่า เค้ามีหนังสือแล้วนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: q.tr ที่ 30-05-2018 16:50:38
ชอบที่คนนิ่งทั้งสองจีบกัน น่ารักมาก หวานเวอร์  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 31-05-2018 21:38:26
 :o8: บรรยากาศรอบตัวช่างเป็นสีชมพู  :mew1:
หัวข้อ: Re: เผลอใจ 'รัก' ไปซะแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: TuEyyy ที่ 03-01-2019 22:38:32
คือ ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ ว่า

ทำไม ต้องเงียบ ทำไมต้องน่ารัก

แล้วทำไม ต้องฟินนน ชอบเขินอยู่คนเดียว แก้มจะแตก

ขอบคุณนะคะ  :o8: :o8: :o8: