พิมพ์หน้านี้ - <<เพลิงพ่าย>>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 29-08-2014 18:57:51

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-08-2014 18:57:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ   
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0) 
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0) 


ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด 


2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
 หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
 หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
 และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด   
 
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ 
เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 


4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 


5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม 


6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 


7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
       7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
       7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
       7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
             - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 


9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 


10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวปhttp://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 


11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
 
 บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
 นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 


13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 


14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 


15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
 (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
 (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
 


16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข 


17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)   


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม



สารบัญ

บทนำ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2800395#msg2800395 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2800395#msg2800395)

บทที่ 1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2804206#msg2804206 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2804206#msg2804206)

บทที่ 2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2807905#msg2807905 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2807905#msg2807905)

บทที่ 3 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2813125#msg2813125 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2813125#msg2813125)

บทที่ 4 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2824058#msg2824058 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2824058#msg2824058)

บทที่ 5 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2830874#msg2830874 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2830874#msg2830874)

บทที่ 6 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2841028#msg2841028 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2841028#msg2841028)

บทที่ 7 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2848488#msg2848488 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2848488#msg2848488)

บทที่ 8 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2853391#msg2853391 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2853391#msg2853391)

บทที่ 9 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2860891#msg2860891 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2860891#msg2860891)

บทที่ 10 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2863650#msg2863650 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2863650#msg2863650)

บทที่ 11 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2868457#msg2868457 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2868457#msg2868457)

บทที่ 12 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2871578#msg2871578 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2871578#msg2871578)

บทที่ 13 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2872780#msg2872780 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2872780#msg2872780)

บทที่ 14 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2875819#msg2875819 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2875819#msg2875819)

บทที่ 15 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2879599#msg2879599 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2879599#msg2879599)

บทที่ 16 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2886197#msg2886197 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2886197#msg2886197)

บทที่ 17 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2889506#msg2889506 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2889506#msg2889506)

บทที่ 18 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2893591#msg2893591 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2893591#msg2893591)

บทที่ 19.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2898414#msg2898414 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2898414#msg2898414)

บทที่ 19.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2900864#msg2900864 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2900864#msg2900864)

บทที่ 20 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2905051#msg2905051 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2905051#msg2905051)

บทที่ 21 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2912044#msg2912044 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2912044#msg2912044)

บทที่ 22.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2918416#msg2918416 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2918416#msg2918416)

บทที่ 22.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2918861#msg2918861 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2918861#msg2918861)

บทที่ 23 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2928959#msg2928959 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2928959#msg2928959)

บทที่ 24 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2936864#msg2936864 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2936864#msg2936864)

บทที่ 25 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2945857#msg2945857 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2945857#msg2945857)

บทที่ 26 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2965697#msg2965697 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2965697#msg2965697)

บทที่ 27.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2976106#msg2976106 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2976106#msg2976106)

บทที่ 27.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2976779#msg2976779 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2976779#msg2976779)

บทที่ 28.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2987905#msg2987905 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2987905#msg2987905)

บทที่ 28.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2991331#msg2991331 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg2991331#msg2991331)

บทที่ 29  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3001294#msg3001294 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3001294#msg3001294)

บทที่ 30  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3016248#msg3016248 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3016248#msg3016248)

บทที่ 31 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3024154#msg3024154 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3024154#msg3024154)

บทที่ 32 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3034250#msg3034250 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3034250#msg3034250)

บทที่ 33 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3042493#msg3042493 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3042493#msg3042493)

บทที่ 34.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3046657#msg3046657 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3046657#msg3046657)

บทที่ 34.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3050679#msg3050679 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3050679#msg3050679)

บทที่ 35.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3060234#msg3060234 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3060234#msg3060234)

บทที่ 35.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3063437#msg3063437 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3063437#msg3063437)

บทที่ 36.1 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3073741#msg3073741 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3073741#msg3073741)

บทที่ 36.2 http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3073963#msg3073963 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3073963#msg3073963)

บทที่ 37  เพลิงพ่าย บทที37 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3082952#msg3082952)

บทที่ 38 เพลิงพ่าย บทที่ 38 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3090711#msg3090711)

บทที่ 39 เพลิงพ่าย บทที่ 39 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3100669#msg3100669)

บทที่ 40 The End เพลิงพ่าย บทที่ 40 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3101695#msg3101695)


บทพิเศษ บทพิเศษ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.msg3138633#msg3138633)
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-08-2014 19:03:05



                            เพลิงพ่าย
       
                             บทนำ


ถ้ามีใครมาชี้หน้าปราบในตอนนี้ว่าเป็นไอ้เลว ไอ้ชาติชั่ว ปราบจะโค้งหัวน้อมรับ

เขาเองก็ไม่เคยบอกใครว่าตัวเองเป็นคนดี

ถ้าการเป็นคนดีคือสิ่งที่ต้องยอมให้ผู้อื่นมากระทำให้เขาเสียใจเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

ปราบขอเป็นคนเลวจะดีกว่า

โดยเฉพาะในตอนนี้ กับร่างกายขาวโพลนนวลเนียนน่าลูบไล้ที่กำลังเปลือยกายเนื้อตัวสั่นเทา

อยู่บนที่นอนนุ่ม เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำกับแสงเพียงสลัวเลือนรางกลับยิ่งกระตุ้นให้ร่างกาย

ของปราบร้อนรุ่ม

ปราบยิ่งไม่อยากเป็นคนดีเลยแม้แต่นิดเดียว

“เมตตาผม อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ คุณปราบ”

มือเรียวบางยกขึ้นพนมอยู่กลางหน้าอก แต่ปราบก็ไม่ได้สนใจสักนิด เขาสนใจแต่ยอดอกเม็ดงามสี

สวยที่ตั้งอยู่ขนาบข้างมือที่ยกขึ้นมาไหว้ขอความเมตตาจากเขาต่างหาก มันช่างล่อตาล่อใจจนเขา

ต้องส่งปลายนิ้วไปบดบี้เค้นคลึงแล้วกอบมือขยำกล้ามเนื้อนั้นขึ้นมาจนอีกฝ่ายน้ำตาไหลพรากด้วย

ความอดสู

ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

รอคอยมานานแค่ไหนกว่าที่จะได้ ปมุต อนันตกุล นักร้องไอดอลชื่อดังของเมืองไทยวัยยี่สิบปี

ให้มาเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ต่อหน้าและเอนร่างทอดกายให้เขาได้ลูบไล้แบบนี้

ปากบางเฉียบอย่างนักเจรจาชั้นยอดก้มลงไปครอบลานนมสีหวานแล้วดูดเม้มราวกับเป็นลูกกวาด

แสนอร่อย มือสากลูบไล้ไปตามเนื้อตัวนุ่มมือก่อนที่จะมาหยุดและกอบกุมแก่นกายพอดีมือนั้นให้อยู่

ในอุ้งมือ ยิ่งอีกฝ่ายผวาเขาก็ยิ่งรัวลิ้นอย่างได้ใจ

มืออีกข้างบีบที่คางเรียวแล้วบังคับให้สบตากับเขาที่ยืดตัวขึ้นมาจ้องหน้าหวานตาไม่กะพริบ

ปราบพิจารณาดวงหน้างดงามจนไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นชายหนุ่มนั่นอีกครั้ง

ใบหน้าแสนหวานที่เป็นส่วนผสมอย่างลงตัวของลูกเสี้ยวทางยุโรปและไทยจีน ทำให้ปมุตเป็น

ชายหนุ่มที่เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ ผมสีน้ำตาลเข้มตามธรรมชาติปล่อยยาวเคลียบ่าล้อมกรอบ

ใบหน้ารูปหัวใจ ดวงตากลมโตที่มีนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน คิ้วโก่งที่พาดอยู่ด้านบนก็เรียงเส้นเป็น

ระเบียบ ไหนจะจมูกโด่งได้รูปรับกับปากอิ่มที่มักจะยิ้มอย่างเชิญชวนเวลาถ่ายแบบต่างๆ 

สิ่งดีๆ เหล่านี้มารวมกันอยู่ในตัวคนเดียวที่ทำให้ผู้หญิงค่อนประเทศเพ้อพกใฝ่ฝันหาเวลาที่

ปมุต ขึ้นไปจับไมค์ร้องเพลงให้ความบันเทิงอยู่บนเวที

“นี่นายกำลังขอร้องใครอยู่ รู้หรือเปล่า”

เสียงทุ้มของปราบส่งไปเขย่าขวัญก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปบดจูบเร่าร้อนในโพรงปากหวาน

ที่เขาเฝ้ารอ

อา…

หวานเหมือนเดิมไม่มีผิดเพี้ยน หวานเหมือนที่เขาเคยลิ้มลองเมื่อนานมาแล้ว

มันทำให้เขาตื่นตัว

และยิ่งเพิ่มน้ำหนักกระตุ้นที่อุ้งมือจนจุดอ่อนไหวนั่นเริ่มตื่นไปพร้อมกับเขา

“อ้าขาออก”

เขาตวาด

“ไม่…”

ปมุตโต้กลับ น้ำตานองหน้า

แล้วจะให้ปราบทำอย่างไรได้ล่ะ นอกจากใช้สะโพกกดลงตรงกลางระหว่างตัวบังคับให้ปมุต

แยกขาออกจากกันก่อนที่เขาจะใช้นิ้วเสียบเข้าไปที่ช่องทางลับ

“อ๊ากสส”

ปมุตร้องลั่นเด้งตัวหนีแต่ปราบก็ชิงกดตัวลงไปทาบทับและปิดปากที่กำลังตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ด้วยปากของเขา

ร่างกายที่เพรียวบางแบบนี่น่ะหรือจะมาต่อกรกับร่างสูง 185 เซ็นติเมตร ที่ผ่านการออกกำลัง

ทุกวันจนมัดกล้ามเต็มตัวอย่างเขา ปราบวนนิ้วมือจนช่องทางเริ่มหยาดเยิ้มชื้นแฉะและเจ้าของ

ช่องทางหอบกระเส่าไปกับการกระตุ้น เขาชักมือออกมาและชิงสอดแท่งร้อนที่แข็งขันรออยู่

นานแล้วเข้าไปอย่างรวดเร็ว

“อื้มมมม!!”

ร่างกายบอบบางดิ้นพล่าน เสียงร้องที่ถูกเขาปิดไว้ยังลอดออกมาให้ได้ยินอยู่ใกล้หู มือเรียว

จิกอยู่ตรงหัวไหล่ของปราบจนเล็บฝังลึก ปราบคิดว่ามันอาจจะมีเลือดไหล แต่วินาทีนี้อะไร

ก็หยุดเขาไม่ได้ เมื่อเขาได้แทรกกายเข้าไปในช่องทางที่แสนคับแน่น มันอุ่นจนร้อนเรียกร้อง

ให้เขาดันตัวเข้าไปจนสุดตัว

“เจ็บ!!”

เมื่อเขายอมปล่อยกลีบปากนุ่มให้เป็นอิสระปมุตก็ตะโกนลั่น ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

และความโกรธแค้น

เอาสิ…โกรธอีก เกลียดอีก

ปราบคำรามลั่นเมื่อเคลื่อนที่เข้าออกอยู่ในร่างกายนี้

โกรธเกลียดเสียให้พอ เพราะนี่เป็นแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น แล้วนายจะต้องยิ่งเกลียดฉันมากไป

กว่านี้อีกหลายเท่าตัว

เมื่อนายรู้ความจริง

ว่านายน่ะ คือน้องชายแท้ๆ ของฉัน ที่ฉันไม่เคยคิดว่านายเป็นน้องเลยแม้แต่นิดเดียว



---------------------------------- TBC--------------------------------


ขอบคุณทุกท่านนะคะ ที่ติดตามเรื่อง ร้ายซ่อนรัก

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0)

จนกระทั่งจบเรื่อง

วันนี้คนแต่งนำเรื่องใหม่ที่มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่องร้ายซ่อนรักมาแต่ง

เป็นผลงานเรื่องใหม่ คือ เพลิงพ่าย เรื่องนี้นั่นเอง หวังว่าจะมอบความสุขให้ผู้อ่านกันได้นะคะ

แล้วอย่าลืมไปอ่านเรื่องสั้นแสนหื่นผลงานอีกชิ้นของคนแต่ง ก็คือ

X-Theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้ X

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)

กันด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ


 :mew1: :mew1:   
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 29-08-2014 19:06:03
ดราม่าสุดๆแอบสงสารน้องเคะมาก :hao5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 29-08-2014 20:12:50
 :sad4:  ไม่เคยได้คอมเมนท์นิยายเรื่องไหนเร็วขนาดนี้   :laugh:  ตามมาติด ๆ เพราะรอคู่นี้อยู่   :mc4:  ที่สำคัญรอตาแก่แดนด้วย  ว่ามาแล้วแค้นไม่หาย   :3125:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-08-2014 20:14:24
ได้ฤกษ์คลอดคู่นี้ซะที  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 29-08-2014 20:15:32
ปราบใจร้าย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 29-08-2014 21:09:08
 :katai1: :katai1: :katai1:โหดร้ายที่สุด :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: McKnight ที่ 29-08-2014 21:14:04
ตามมาเรื่องใหม่แล้วนะครับ
โหวว.......แค่บทนำนะเนี่ย  #งานดราม่ามาเต็ม #แต่ชอบบบบบบ.....

คือ....พระเอก-นายเอก Incest หรือครับ ?????
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-08-2014 22:13:40
โอ๊ะะะะ ปราบ ปมุต เป็นพี่น้องกันด้วยยย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 29-08-2014 23:12:42
งานดราม่าต้องมา
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: shizuruviola ที่ 30-08-2014 09:38:59
ตามมาจากร้ายซ่อนรัก อิอิ
อยากอ่านน้องปมุตตั้งแต่เรื่องที่แล้วละจ้า
จะคอยเป็นกำลังใจให้นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 30-08-2014 11:18:27
ตามมาเจิมเรื่องนี้ก่อน เดี๋ยวกลับไปอ่านร้ายซ่อมรักให้จบต่อ   :katai4:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 30-08-2014 11:46:56
รอค่ะ    :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 30-08-2014 13:54:07
คู่นี้มาแว้วววววววว ตอนแรกก็ดราม่าซะแล้ว สงสารปมึตจัง อะไรยังไงน้องชายยยย


รอตอนแรกค่า
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 30-08-2014 16:46:39
มาติดตามแล้วนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: bloodั ที่ 30-08-2014 20:29:00
 :katai2-1: ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 01-09-2014 16:25:05
พี่ปราบมาแล้วว ชอบคู่นี้มากๆเลย  :pig2:

ร้ายซ่อนรักก็ยังอ่านไม่จบมาเม้นท์พี่ปราบก่อน
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 ) จากผู้แต่งเรื่อง ร้ายซ่อนรักค่ะ ... ^^
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 01-09-2014 18:23:03
เจิมๆๆๆๆ  :katai3:
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-09-2014 22:04:28



                              เพลิงพ่าย
                               ภาคต้น
                               บทที่ 1

ถ้าจะถามว่าชีวิตของผมมันเริ่มต้นเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็คงต้องตอบว่าคงเป็นช่วงอายุ 13 ปีกว่าๆ

ผมเรียนอยู่มัธยมชั้นปีที่1 ในโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่มีการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาลยันม.6

สีสันของชีวิตมันเริ่มต้นขึ้นในขณะที่ผมกำลังยืนเคี้ยวขนมอยู่แถวหน้าโรงเรียนแล้วสายตาดันไปสะดุดกับ

เด็กน้อยในชุดอนุบาลที่กำลังนั่งเหงาหงอยอยู่ตรงชิงช้าของเด็กเล็ก

น่ารักชะมัด

ผมเผลอมองเด็กชายตัวน้อยแก้มยุ้ย ผมสีน้ำตาลอ่อนเนื้อตัวสะอาดน่าจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวจนลืมที่จะ

เคี้ยวขนมในปาก และอะไรก็ไม่รู้ที่ออกคำสั่งให้เท้าของผมเคลื่อนเข้าไปหาเด็กน้อยที่น่ารักคนนั้น

“สวัสดีครับสุดหล่อ พี่นั่งด้วยคนได้ไหมครับ”

ผมก้มลงไปยิ้มทักทาย เจ้าตัวเล็กเงยหน้ามามอง แวบหนึ่งที่นัยน์ตาสีน้ำตาลบอกถึงความไม่มั่นใจก่อนที่

ปากจิ้มลิ้มจะคลี่ยิ้มกว้างให้ผม

โอ…แค่ยิ้ม โลกมนุษย์ยามบ่ายจัดนี่ก็ช่างสวยงามแล้วครับ

“ได้สิครับ นั่งเป็นเพื่อนป้องนะ ป้องเหงา”

ชื่อป้อง

ผมเมมชื่อของเทวดาตัวน้อยไว้ในใจ

“รู้จักคำว่าเหงาด้วยเหรอ เราน่ะ”

ผมถามเมื่อนั่งลงที่ชิงชาตัวใกล้กันพลางเอื้อมมือไปลูบที่กลุ่มเส้นผมนุ่มลื่นนั่นเบาๆ แก้มยุ้ยหันมามอง

แล้วยิ้มให้ผมอีกครั้ง

เด็กอะไร ยิ้มง่ายขนาดนี้

แล้วทำไมผมต้องใจสั่นด้วยวะ

“แม่บอกว่าเวลาอยู่คนเดียวมันเหงา ตอนนี้ป้องก็อยู่คนเดียว”

ปากอิ่มพูดเจื้อยแจ้วให้ผมได้มองเพลินๆ

“งั้นให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อนทุกวันไหมล่ะ”

“จริงเหยอ พี่จะเป็นเพื่อนป้องจริงเหยอ”

เพราะความที่ยังพูดไม่ชัด และเจ้าตัวที่ทำท่าดีใจสุดๆ มันทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะอุ้มร่างเล็กเนื้อนุ่มขึ้นมานั่ง

อยู่บนตักก่อนที่ผมจะฝังจมูกลงไปบนแก้มนุ่มอย่างห้ามใจไม่อยู่

ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยนะ กับเด็กคนอื่นผมก็เฉยๆ ออกจะเป็นคนถือตัวนิดๆด้วยซ้ำในสายตาคนอื่น

ยกเว้นกับป้อง ที่ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงนึกเอ็นดูตั้งแต่แรกเห็น

“จริงดิ งั้นพี่จะมาที่นี่เป็นเพื่อนป้องทุกเย็นเลยดีไหม”

“เย้ๆ ป้องจะมีเพื่อนแล้ว”

แขนกลมตันชูขึ้นสุดตัวบอกให้รู้ว่าเจ้าตัวดีใจแค่ไหน ร่างป้อมดุ๊กดิ๊กอยู่บนตักของผมเมื่อหันมามองหน้า

แล้วเอ่ยถาม

“พี่ชื่อไรอ่ะ”

“พี่ชื่อเดี่ยวครับ”

“พี่เด่ว”

“ไม่ใช่ครับป้อง ออกเสียงชัดๆนะครับ พี่เดี่ยว”

“พี่เด่ว พี่เด่ว”

“ว้า เปลี่ยนชื่อให้พี่ซะละ”

ผมหัวเราะร่วนอย่างชอบใจ ซึ่งน้อยครั้งนักที่จะทำอย่างนี้

ผมเล่นกับป้องอยู่พักใหญ่ จนรถของที่บ้านมารับผมจึงได้มองป้องอย่างเป็นห่วงที่ยังไม่มีใครมารับแม้ว่า

เด็กคนอื่นจะทยอยกลับกันไปเยอะแล้ว

“พ่อแม่ของป้องยังไม่มาเหรอ”

ป้องหน้าเสียลงเมื่อผมวางร่างป้อมไว้ที่ชิงชาตัวเดิมแล้วลุกขึ้นยืน

“แม่บอกว่าจะมาช้าหน่อยอ่ะครับ”

ผมเป็นห่วงป้อง น่าแปลกที่ความรู้สึกนี้ชัดเจนมาก

“แม่มารับช้าแบบนี้ทุกวันเลยหรือ”

หน้ากลมพยักรับน้อยๆ ทำให้ผมต้องก้าวกลับไปนั่งยองๆ เบื้องหน้าร่างเล็ก

“งั้นเอางี้ ตั้งแต่พรุ่งนี้พี่เดี่ยวจะมาอยู่เป็นเพื่อนป้องจนกว่าแม่จะมารับ ดีไหมครับ”

ป้องยิ้มแก้มแทบปริพลางยกแขนป้อมขึ้นโบกมือบ๊ายบายให้ผมที่กำลังเดินไปที่รถยนต์ของทางบ้าน

ฐานะทางบ้านของผมจัดว่าดี ไม่อย่างนั้นคงส่งให้ผมเรียนที่โรงเรียนราคาแพงอย่างนี้ไม่ได้

คุณตาของผมเป็นนักธุรกิจฝีมือดีที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากทุนจำนวนน้อย เรียกได้ว่าท่านเป็นคนเก่ง

จนกระทั่งสร้างฐานะได้เป็นปึกแผ่น น่าเสียดายที่ท่านจากผมไปแล้ว

กว่าที่จะมีแม่ ทั้งคุณตาและคุณยายก็อายุมากแล้วด้วยความที่มีลูกยาก ทั้งคู่เพียรพยายามอยู่นานจนได้

แม่มา ก่อนที่คุณยายจะเสียชีวิตตั้งแต่แม่ของผมยังเด็กด้วยโรคร้ายที่คร่าชีวิตไป หลังจากคุณยายเสียชีวิต

คุณตาก็ไม่ยอมมีใครใหม่ กัดฟันทำงานและเลี้ยงแม่ของผมเพียงคนเดียว จนกระทั่งแม่ของผมเติบโตมา

เป็นสาวสวยที่เชื่อมั่นในความรัก

เป็นสาวที่บูชาความรักในอุดมคติ ถ้าจะพูดง่ายๆนะ

ธุรกิจของตาเติบโตขึ้นมากเมื่อแม่เรียนจบมหาวิทยาลัย พอถึงตอนนี้คุณตาก็อายุเยอะ และเริ่มมีโรคภัย

ถามหา คุณตาคงจะเป็นห่วงแม่ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวมากและในตอนนั้นพ่อก็เริ่มเข้ามาในชีวิตแม่

พ่อเป็นพนักงานคนเก่งของบริษัท หน้าตาดีขาว หล่อ อย่างคนที่มีเชื้อสายคนจีน พ่อขยันทำงานและ

ทำรายได้ให้กับฝ่ายการตลาดจนคุณตาถึงกับเรียกไปชมเชย และในวันนั้นเป็นวันที่แม่ไปทำงานที่บริษัท

เป็นวันแรก

คุณตามอบหมายให้พ่อเป็นคนสอนงานด้านการตลาดให้กับแม่ สาวน้อยที่แสนน่ารัก ก็อย่างที่ผมเล่าไปว่า

แม่บูชาความรักมาก ไม่นานนักแม่ก็ตกหลุมรักพ่อ ความรักของแม่กับพ่ออยู่ในสายตาของคุณตาที่ไม่ได้

ห้ามปราม แม้ว่าพ่อจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่ร่ำรวย แต่คุณตาก็ไม่ได้รังเกียจแถมยังเปิดโอกาสให้คนหนุ่ม

รุ่นใหม่ไฟแรงได้คบหากับลูกสาวของตัวเอง

พ่อกับแม่ดูใจกันไม่กี่ปี จนเมื่อพ่อได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จัดการคุณตาก็จัดงานแต่งงานให้ แม้ว่าคนอื่นจะ

ค่อนขอดว่าพ่อตกถังข้าวสารแต่แม่ก็ไม่ใส่ใจเพราะแม่มอบความรักให้พ่อจนหมดสิ้น

อาจจะเป็นกรรมพันธุ์จากคุณยายที่ทำให้แม่มีลูกยาก แม่อยู่กับพ่อหลายปีกว่าที่ผมจะเกิดขึ้นมา หมอบอก

แม่ว่าแม่มีลูกได้แค่คนเดียวคือผม ผมจึงได้ชื่อเล่นว่า เดี่ยว ในขณะที่พ่อตั้งชื่อจริงให้ผมว่า

ปราบดา อนันตกุล

หลังจากผมเกิดได้ไม่กี่ปี คุณตาของผมก็เสียชีวิตลง ทิ้งไว้แต่ธุรกิจครอบครัวที่มั่นคงให้แม่เป็นผู้บริหาร

แม่ไว้วางใจให้พ่อเข้าไปทำงานตำแหน่งนั้นแทนเพราะสุขภาพของแม่ไม่เอื้ออำนวย เหตุการณ์นั้นดำเนินมา

จนกระทั่งทุกวันนี้




“แม่”

ผมวิ่งไปหาแม่ที่กำลังนั่งอยู่ในศาลาเล็กๆ ของสวนกว้างในบ้าน บ้านหลังใหญ่ในบริเวณกว้างขวางมรดก

จากคุณตา แม่ชอบมานั่งตรงนี้เพื่ออ่านหนังสือที่แม่รักท่ามกลางสีเขียวร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกตั้งแต่

สมัยคุณตาคุณยาย

“ว่าไงคนเก่ง”

แม่คว้าตัวผมไปกอดไว้โดยไม่รังเกียจกลิ่นเหม็นของเหงื่อไคลและเหนี่ยวคอผมไปหอมเหมือนทุกวัน

นี่แม่ไม่สังเกตุบ้างหรือว่าผมตัวสูงขึ้นจนต้องย่อตัวลงไปให้แม่หอมแก้ม

ผมรักแม่ แม่คือคนสำคัญที่สุดของผม

“วันนี้อากาศชื้น แม่มานั่งตรงนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายอีกหรอก”

ผมเอ่ยอย่างเป็นห่วง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาสุขภาพของแม่ไม่ดีเลย แม่ดูซูบซีด ผอมลงจนแทบจะปลิวไป

ตามลม

“แม่เบื่ออยู่แต่ในบ้านนี่ ไหนวันนี้เป็นไงบ้าง เล่าให้แม่ฟังหน่อย”

แม่มักจะตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องราวในชีวิตของผมแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ผมก็เต็มใจที่จะเล่าให้แม่ฟัง

ผมชอบดวงตาเป็นประกายเวลาแม่ฟังเรื่องที่ผมเล่า

ผมเล่าเรื่องน้องป้องที่แสนน่ารักให้แม่ฟังด้วย

“เห็นแล้วมันเขี้ยว อยากจะจับมาฟัด มาหอมแก้ม ทำเอาเดี่ยวอยากจะมีน้องชาย”

ดวงตาของแม่สลดลง

“แม่ขอโทษที่มีน้องให้เดี่ยวไม่ได้”

“แม่!”

ผมตกใจเมื่อเห็นสีหน้าแม่ แม่มักจะโทษทุกอย่างว่าเป็นความผิดตัวเองเสมอ

“ไม่ใช่ความผิดของแม่ เดี่ยวขอโทษที่ทำให้แม่ไม่สบายใจ”

ผมคว้าเอวของแม่มากอดไว้พลางหอมแก้มแม่จนรอยยิ้มถูกจุดขึ้นมาบนใบหน้าซีดเซียวอีกครั้ง

“แต่เดี่ยวอยากจะขออนุญาตให้ลุงสมไปรับเดี่ยวกลับบ้านเย็นลงอีกนิดได้ไหม เดี่ยวอยากจะอยู่เป็นเพื่อน

น้องป้อง”

แม่ยกมือลูบหัวผมอย่างปรานี

“ตามใจเดี่ยวสิครับ จะกลับกี่โมงก็บอกลุงสม แม่ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว”

ผมฉีกยิ้มกว้างกอดที่กอดแม่จนแน่น แม่ที่แสนดีของผม











หลังจากวันนั้น ผมก็จะเดินไปเล่นกับป้องทุกวันที่ไปโรงเรียนและรอจนป้องมองเห็นแม่ของตัวเองมารับที่

หน้าโรงเรียนผมจึงจะกลับบ้าน แต่ผมไม่ได้เข้าไปทักแม่ของป้องหรอกนะ ได้แต่มองไกลๆ ว่าเป็นผู้หญิงที่

สวยจัดคนหนึ่ง ท่าทางเหมือนเป็นลูกครึ่งฝรั่งแต่งตัวเก่ง ไม่แปลกใจที่ป้องจะเป็นเด็กหน้าตาดี

ผมรู้สึกผูกพันกับป้อง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบเดือน ก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันว่าทำไมเป็นเช่นนั้น อยากที่

จะอุ้มร่างป้อมมากอดมาหอมแก้มทุกวัน จนรู้สึกทรมานอย่างยิ่งเมื่อไม่ได้เจอป้องในวันหยุดถึงสองวัน

พอถึงวันจันทร์ผมจึงรีบวิ่งไปทางฝั่งเด็กอนุบาล ตั้งแต่อาจารย์ปล่อยตัวคาบสุดท้าย

“ป้อง”

ผมตะโกนเรียกเด็กอนุบาลอายุ
5 ขวบให้หันมายิ้มแป้นและวิ่งเข้ามาหาผม

“พี่เด่ว”

ป้องโผเข้ามาให้ผมอุ้มไว้ ตัวหนักไม่ใช่เล่นแต่ผมก็อุ้มจนได้

“คิดถึงพี่เด่วจัง”

“ปากหวานจริงนะเรา”

“จริงๆ นะ อยากเจอทุกวันเลย”

ฟอด

อดใจไม่ไหวจริงที่จะหอมแก้มใส วันนี้ป้องดูมอมแมมนิดหน่อยคงเพราะเริ่มปรับตัวเข้ากับเพื่อนใหม่ได้แล้ว

ผมอุ้มร่างกลมไปนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนด้านหลังตึกเด็กอนุบาล อีกนานครับกว่าแม่ป้องจะมา ผมเลยพาป้อง

มานั่งแถวนี้เพราะคนน้อย ผมไม่ค่อยชอบสถานที่ที่มีคนเยอะ

“เล่นกับเพื่อนสนุกไหม”

ปากจิ้มลิ้มเบะออก

“ไม่สนุกเลย ไม่เหมือนอยู่กับพี่เด่ว พวกนั้นชอบล้อว่าป้องเป็นหนูน้อยผมแดง”

“หล่อดีออก”

ผมพูดพลางใช้มือเสยผมเส้นเล็กละเอียดอย่างเบามือ

ความจริงน่าจะใช้คำว่าสวยนะ เพราะป้องหน้าหวานเหมือนเด็กผู้หญิง

“แล้วนี่กินอะไร”

ผมมองขนมในมือป้อง ที่กำลังใช้มือป้อมหยิบเข้าปาก มันเป็นขนมปังอัดแข็งเคลือบช็อคโกแลตอย่างที่

เด็กๆชอบ ป้องอมมันอยู่ในปากแล้วพูดอะไรเจื้อยแจ้วบางอย่างตามประสาเด็ก ก่อนที่จะไอแค่กๆ

“พะ พี่เด่วว”

ผมชะงักเมื่อเห็นป้องตาเหลือก อ้าปากหายใจลำบาก หัวใจหล่นไปอยู่ปลายเท้าเมื่อรู้ว่าขนมติดคอป้อง

“คายออกมาป้อง คายมันออกมา”

ตกใจมาก พยายามเขย่าตัวให้ป้องขย้อนขนมที่ติดอยู่ตรงคอให้ออกแต่ป้องก็คายมันออกมาไม่ได้

ผมละล้าละลังจะใช้นิ้วมือล้วงก็กลัวป้องจะเจ็บ ไม่รู้จะทำยังไงจนความคิดหนึ่งแวบมา

ผมใช้สองมือประคองหน้าป้องไว้ มือข้างหนึ่งกดไปที่ขากรรไกรให้ป้องอ้าปาก ก่อนที่จะประกบปากตัวเอง

ไปอย่างรวดเร็ว ปลายลิ้นของผมถูกส่งเข้าไปจนถึงลำคอ กวาดหาสิ่งอุดตันจนกระทั่งเจอผมใช้ลิ้นตัวเอง

ล้วงมันออกมา

คายมันออกไปจากปาก แต่ป้องก็ยังหน้าซีดเผือดอาจเป็นเพราะขาดออกซิเจน ผมสูดลมหายใจเก็บไว้ใน

กระพุ้งแก้มแล้วครอบไปบนปากเล็กของป้องที่อยู่บนตักของผมอีกครั้ง

พ่นลมหายใจเข้าไป ป้องหายใจเฮือกทำให้ผมดีใจจนบอกไม่ถูก

แต่ผมหยุดไม่ได้ ผมควรจะหยุดใช่ไหม

ผมถอนริมฝีปากออกมาไม่ได้ ซ้ำร้ายผมยังสอดลิ้นของผมเข้าไปในปากเล็กของป้อง คนตัวเล็กดูตกใจกับ

การกระทำของผม แต่ไม่นานนักป้องก็หยุดนิ่งให้ผมได้โอบกอดร่างป้อมนั้นไว้ในอ้อมแขน

ลิ้นเล็กถูกผมดูดไว้ ผมเองก็ไม่เคยทำอย่างนี้ นี่เป็นครั้งแรก

หัวใจของผมสั่นพั่บๆ จนกลัวว่ามันจะพุ่งออกมาข้างนอกเมื่อผมลองทำตามอย่างในภาพยนตร์ที่ผมเห็น

พระเอกจูบนางเอก ผมไล่เม้มปากเล็ก เกี่ยวลิ้นพลิกไปมา

นานจนแทบขาดใจในความรู้สึกผมจึงได้ถอนลิ้นกลับมาและปล่อยปากเล็กให้เป็นอิสระ

“พี่เด่วทำอะไรป้อง”

แก้มใสแดงเรื่อจนผมต้องจูบหนักๆลงไปอีกครั้ง

“เขาเรียกว่าจูบครับป้อง คนที่รักกันเขาทำกันแบบนี้”

ดวงตาสีน้ำตาลมองผมอย่างสงสัย

“พี่เด่วรักป้องเหยอ”

หัวใจของผมมันยังไม่หายใจสั่นเมื่อผมกอดร่างนุ่มนั้นอย่างทะนุถนอม

“ครับ พี่เดี่ยวรักป้อง รักมาก จนอดใจไม่ไหว”

ปากแดงยิ้มหวาน

“ป้องก็รักพี่เด่ว”

ผมยิ้มรับด้วยหัวใจที่พองฟู

“ถ้างั้น ป้องให้พี่จูบแบบนี้ทุกวันได้ไหมครับ”

ป้องยังดูงงๆ แต่ก็พยักหน้า

“รู้กันแค่สองคน ป้องจะให้ใครจูบแบบนี้ไม่ได้อีกนะ สัญญากับพี่เดี่ยวได้ไหม”

“สัญญาครับ”

ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ที่ป้องเอ่ยคำสัญญาออกมา เจ้าตัวจะเข้าใจมันมากน้อยแค่ไหน เพิ่งมารู้ตอนหลังจากนี้

ไปเนิ่นนานว่า คำสัญญานี้ฝังอยู่ในจิตใจของเด็กคนหนึ่ง

ผมดีใจมาก ผมยิ้ม และผมก็ประคองใบหน้าเล็กไว้ในอุ้งมือ

“งั้นให้พี่เดี่ยวจูบป้องอีกครั้งก่อนกลับบ้าน ได้ไหมครับคนเก่ง”

ไม่รอคำตอบ ผมประกบปากลงไปบนปากนุ่มอีกครั้ง

ร่างกายของผมสั่นสะท้าน

ผมรักป้อง

ผมจะทำทุกอย่างให้ป้องเป็นของผมคนเดียวไม่ว่าจะนานแค่ไหน

ผมสัญญากับตัวเองก่อนสอดลิ้นร้อนเข้าไปในโพรงปากเล็กแสนหวานนั่นอีกครั้ง





--------------------------------- TBC ------------------------------




เปลี่ยนแนวจากร้ายซ่อนรักกันบ้างนะ

เรื่องใหม่เป็นอย่างไร คอมเมนท์ติชมกันบ้างนะคะ


 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 03-09-2014 00:35:42
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:


เปิดมาก็ออกมาแนวโชตะซะนี่   :hao6:  เล่นเอาต้องจูนกันสักพักนึงเลยทีเดียว   :laugh:  ไม่ได้ทำใจมา ณ  จุดนี้  ตอนแรกนึกว่าจะ SM มาเลย  ที่ไหนได้เอิ่ม...  :z3:  แต่โดยรวมแล้วชอบมากค่ะ   :man1: 


แต่ว่าแค่เปิดก็ร้อนแรงกันตั้งแต่เด็กแล้วอ่ะ  ไม่อยากจะคิดถึงตอนโต  เฮียปราบคงจัดหนักมากกว่านี้ 


อ่านแป๊บเดียวก็จบแล้วอ่ะค่ะ  สมูทมาก   o13 ไม่ค่อยมีีคำผิดเลย 


รอตอนต่อไป  และเป็นกำลังใจให้นะคะ   :กอด1: :L2:   ปล.อยากได้แบบยาว ๆ  o18 



 :katai3:

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 03-09-2014 02:32:10
ปัญหาก่อดราม่า  คือเพิ่งรู้ว่าพ่อเดียวกันใช่มั้ย ใจร้ายยยย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-09-2014 06:28:06
แต่เด็กกันเลยทีเดียว  :z1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 03-09-2014 10:20:14
หึหึ อยากจะหัวเราะเป็นภาษาอิตาลี

อิอินิยายอินเซทที่ต้องการแถมมีฉากโชตะกรุบกริบ

พี่ปราบคงจะแค้นมากถ้ารู้ว่าป้องเป็นลูกเมียน้อย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 03-09-2014 11:08:56
ใช้ความไร้เดียงสาให้เกิดประโยชน์ :z1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: parakoparako ที่ 03-09-2014 11:33:57
เย้ยยยย ปราบกิน(ตั้งแต่)เด็กเลยนะ
แต่เราชอบอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 03-09-2014 12:09:56
ป้องน่ารักชอบๆๆ พี่ปราบโตมาโหดนะเนี่ยย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 03-09-2014 14:54:10
กินเด็ก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 03-09-2014 15:44:57
น้องป้องน่ารักจังเลย  :m3:

พี่ปราบนี่แต่เด็กเลยนะ รักน้องขนาดนี้แต่โตมากลับร้ายใส่จัง

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 03-09-2014 17:31:19
พ่อเดียวกันจริงเหรออออ   :serius2:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: shizuruviola ที่ 04-09-2014 21:10:23
หลังๆจะโหดชิมิ ดูแนวจากเรื่องร้ายซ่อนรัก น้องปมุตเสร็จแน่นอน คริคริ

เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ ^^ รอตอนต่อไปอยางใจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 1 ( 02 / 09 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 06-09-2014 10:11:42
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-09-2014 00:12:23


                          เพลิงพ่าย

                           ภาคต้น

                           บทที่ 2



ผมเดินขาสั่นออกมาจากห้องเรียนจนมาถึงสนามกว้างหน้าเสาธงถึงจะเริ่มกลับเป็นปกติ

เป็นเพราะความอยากรู้อยากเห็นในช่วงวัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนั่นแหละ ทำให้ไอ้พวกเพื่อนๆ

ห่ามจัดกวักมือเรียกให้ผมเข้าไปร่วมกลุ่มดูคลิปโป๊

“ไม่เอา ไม่ดู กูรีบ”

ผมปฏิเสธเพราะใจนึกถึงแต่น้องป้อง อยากเจอ อยากกอด และที่สำคัญอยากจะจูบปากจิ้มลิ้มใจแทบขาด

แค่ 24 ชั่วโมงก็ดูจะนานเกินไปที่ไม่ได้เห็นหน้าเด็กน้อยน่ารักคนนั้น

“ไอ้อ่อนเดี่ยว ถ้ามึงไม่ดู อีกหน่อยจะมีเมียได้ไงวะ ทำเป็นหรือมึงอ่ะ”

เสียงเพื่อนบริภาษแถมดูแคลนลอยตามลมมามันเลยทำให้ผมยอมเสียเวลาก้าวกลับเข้าไปร่วมกลุ่มดูคลิป

เรทเอ๊กซ์

อวู้

เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังผับๆ เมื่อตัวแสดงนำชายกระแทกกระทั้นไอ้จ้อนเข้าไปทำทางสวรรค์ของสาวยุ่นที่

ครวญเสียงเล็กเสียงน้อยเปิดโลกทัศน์ของผมจนโจ่งแจ้ง

ผมกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อคลิปยาวกว่าสิบนาทีจบลงท่ามกลางเสียงโห่ฮาป่าของเพื่อนๆดังขึ้น

และวงแตกตัวใครตัวมัน

นี่แหละ สาเหตุที่ทำให้ผมเดินขาสั่น

ปวดหนึบตรงท้องน้อยไปหมด

ไอ้นั่นของผมมันแข็งดึงดันผ่านกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินอย่างผิดสังเกต ผมอายแทบแทรกแผ่นดินหนีจนต้อง

ถือกระเป๋านักเรียนไว้ทางด้านหน้าเพื่อบดบังไว้

ก้มหัวเดินงุดๆ จนมาถึงสนามหน้าโรงเรียนโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่จะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียก

“พี่เด่ววววว”

เมื่อผมหันไปมอง น้องป้องก็โผมาหาผมเสียแล้ว

คว้ามือรับไม่ทัน เจ้าตัวน้อยพุ่งชนตัวผม หน้าผากมนกระแทกตรงนั้นเข้าอย่างจัง

“อุ๊บ!

ผมนิ่วหน้า น้องป้องก็ไม่ได้ชนแรงหรอก ถ้าเป็นเวลาปกติอาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่ต้องไม่ใช่เวลาที่ร่างกาย

ของผมมันผิดปกติอย่างตอนนี้

“พี่เด่วมาช้า ป้องรอตั้งนาน”

ปากเล็กต่อว่า ผมรีบจูงน้องป้องไปตรงโต๊ะประจำของเรา อุ้มขึ้นมานั่งบนตักหันหน้าเข้าหาตัวผม

“พี่เดี่ยวขอโทษ รอนานไหมครับคนเก่ง”

ผมจ้องหน้าหวาน ยกมือประคองแก้มใส

“รอนานครับ พี่เด่วก็ไม่มา”

“น่าสงสารจริงๆเด็กน้อย งั้นขอพี่เดี่ยวจูบขอโทษก่อนนะ”

ผมกดปากลงไปบนปากสวย อาจเป็นเพราะผมจูบป้องหลายวันติดกัน ตอนนี้เด็กฉลาดอย่างป้องเริ่มเรียนรู้

ที่จะจูบตอบ ปากแดงอ้าออกให้ผมสอดลิ้นชื้น เมื่อผมตวัดลิ้นเล็กป้องก็เริ่มที่จะทำแบบเดียวกับผม

“อื้มม”

ผมเผลอครางออกมา ตกใจกับเสียงตัวเองที่มันแหบพร่า ทั้งที่เสียงผมแตกมาได้พักใหญ่แล้วแต่วันนี้มัน

ทำไมยิ่งฟังแปลกๆ

“เก่งมากเลยครับป้อง อีกหน่อยพี่เดี่ยวคงจูบไม่เก่งเท่าป้องแล้ว”

หน้าป้อมยิ้มดีใจ

“จริงเหยอ ป้องจูบเก่งกว่าพี่เด่ว เย้ๆ”

เพราะความดีใจเป็นเหตุ น้องป้องที่นั่งคร่อมอยู่บนตักโยกตัวไปมา จนก้นนุ่มๆ ถูไถอยู่กับตรงนั้นของผมจน

ต้องกัดฟันแน่น

“ป้อง เบาหน่อยครับ พี่เดี่ยวจะแย่ซะก่อน”

ป้องมองผมงงๆ

“ทำไมถึงจะแย่ละครับ อ๊ะ…อะไรตรงขาพี่เด่วมันทิ่มก้นน้องป้องล่ะ”

มือป้อมวางแหมะแล้วขยำลงมา ผมเงยหน้าสูดปากลั่น ตอนนี้มันปวดจนลามขึ้นมาถึงเอวแล้วครับ

“อยากจับไหมล่ะ”

ปากผมแห้งไปหมดแล้ว คอแห้งเป็นผงเลยทีเดียว

ผมคว้ามือป้อมไว้แล้วจับให้ล้วงลึกเข้ามาในขากางเกง ปลายนิ้วของผมล้วงไอ้จ้อนออกมาจนพ้นขอบ

กางเกงในแล้ววางมือน้อยแนบลงไป

อา

ขนลุกเกรียวทั้งตัวเมื่อบังคับมือป้อมให้รูดรั้ง ส่วนมืออีกข้างก็วางแนบไปที่ท้ายทอยเพื่อให้น้องป้องเงยหน้า

แล้วผมจะได้จูบน้องป้องถนัด ผมสอดลิ้นลึกกว่าเคยจนแทบถึงลำคอ จับมือน้องให้บี้ส่วนหัวพร้อมกับที่ผม

ขยับต้นขาขึ้นลง

“ดีครับป้อง อา… พี่เดี่ยวเสียวมาก”

ผมครางแผ่วอยู่ในช่องปากเล็ก กล้ามเนื้อหน้าท้องบิดพล่านจนแทบขาดใจ

RRRRRRRRR

เสียงที่ผมไม่อยากจะได้ยินเลยในตอนนี้คือเสียงริงโทนโทรศัพท์ของน้องป้อง แม่ให้น้องติดตัวไว้เพื่อที่จะโทร

บอกว่ามารับแล้ว

“พะพี่เด่ว”

น้องพยายามพูดออกมาเมื่อผมยังรัวลิ้นอยู่ในช่องปาก มือน้อยข้างที่ว่างแตะที่หน้าอกของผมเป็นการเตือน

“แม่โทรมาแล้วครับ”

เชี่ยเอ๊ย

ผมสบถในใจกับความอึดอัดที่เกิดขึ้น มันเป็นครั้งแรกที่ผมเป็นแบบนี้

“อ่า…ครับ”

ผมถอนปลายลิ้น ดึงมือน้อยออกจากไอ้จ้อนของผม หอบหายใจเสียงกระเส่า พลางล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมา

เช็ดคราบน้ำลายที่เปรอะอยู่รอบปากของน้อง ทั้งที่หัวใจยังเต้นรัว

“พรุ่งนี้เราทำแบบนี้กันอีกนะ”

ผมชักชวน ป้องเอียงคอมอง

“แล้วพี่เด่วจะเอาอันนั้นมาทิ่มก้นป้องอีกป่าว”

“ทำไมครับ ป้องไม่ชอบเหรอ”

“มันจั๊กจี้อ่ะ”

ป้องหัวเราะอย่างน่ารักก่อนที่จะหอมแก้มผมซ้ายขวาเพื่อร่ำลาเหมือนทุกวัน

ร่างป้อมวิ่งตื๋อจากไปแล้ว ก่อนจากยังหันมาโบกมือบ๊ายบายทิ้งให้ผมนั่งเครียดอยู่คนเดียว ผมเดินบีบขาไป

ที่รถ ลุงสมติดเครื่องรออยู่แล้วเพราะเรานัดเวลากันไว้ จนกระทั่งถึงบ้านผมก็ยังไม่ดีขึ้น

แม่ไม่อยู่บ้าน ป้าแม่บ้านบอกว่าแม่ไปหาเพื่อนสนิทอาจจะกลับดึกหน่อย ผมนึกดีใจเพราะเวลานี้ผมยังไม่

อยากเผชิญหน้ากับใครทั้งสิ้น

รีบกินอาหารเย็นที่แม่บ้านจัดไว้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะวิ่งเข้าห้อง ผมแก้ผ้าวิ่งไปอาบน้ำเย็นให้มันรดตั้งแต่

หัวลงมา อาการดีขึ้นมาบ้างจนกระทั่งสามารถทำการอ่านและอ่านหนังสือได้อีกนิดหน่อย ก่อนที่ผมจะ

กระโดดขึ้นเตียงแล้วคิดถึงน้องป้อง

ทำไมเด็กคนนี้ถึงมีอิทธิพลกับผมขนาดนี้นะ











ร่างป้อมหัวเราะอยู่ตรงหน้าผม หน้าหวานยิ้มสดใส มันทำให้ผมอ้าปากค้าง ผมค่อยๆถอดเสื้อผ้าน้องป้อง

ออกจนเหลือแต่ตัวเปลือยเปล่า ผมกลืนน้ำลายเมื่อมองร่างเล็กอย่างกระหาย

ผมผลักป้องลงไปนอนบนเตียง เหมือนที่เห็นพระเอกหนังโป๊กระทำกับนางเอก รอยยิ้มของป้องช่างยั่วเย้าให้

ผมถาโถมกำลังลงไปละเลงลิ้นจนเปียกชุ่มเนื้อตัว ป้องบิดตัวไปมาเรียกร้องให้ผมจับขาเล็กให้แยกออกแล้ว

ลงลิ้นตรงนั้น

ตอนนี้ผมคือพระเอกในคลิปที่ดูผ่านตา ไอ้จ้อนของผมแข็งขืนชูชี้หน้า ผมก้มลงมองอย่างตกใจเพราะผมไม่

เคยเห็นมันใหญ่โตอย่างนี้มาก่อน

มันรั้งไม่อยู่เมื่อผมค่อยๆสอดเข้าไปในก้นของป้อง เสียงเล็กอืออาเมื่อผมส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปาก ผมสะบัด

เอวโยกหน้าหลังจนท้องน้อยบีบรัดไปหมด

“อ๊า….”

ผมร้องลั่นเมื่อกล้ามเนื้อกระตุกถี่ๆ ก่อนที่ไอ้จ้อนของผมจะฉีดน้ำเมือกกลิ่นคาวสีขาวขุ่นออกมา

ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกตัว พลางรวบรวมสติจนกระทั่งรู้ว่าตนเองเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

และตอนนี้ผมกำลังอยู่ในท่าที่น่าอับอายสุดๆ เมื่อผมกำลังขึ้นขี่อยู่บนหมอนข้าง แถมยังรู้สึกชื้นแฉะอยู่ใน

ร่มผ้า

รีบลุกพรวดขึ้นมาสำรวจก็เห็นคราบเมือกสีขาวเปรอะไปทั่วชุดนอน แถมยังเปื้อนอยู่ที่หมอนข้างและผ้าปู

ที่นอนด้วยซ้ำ

สัสเอ๊ย!!

ผมฝันเปียก

และผมฝันถึงป้อง เด็กผู้ชายอายุ 5 ขวบ

รีบวิ่งพรวดเข้าไปในห้องน้ำ ชำระร่างกายจนสะอาดแล้วจึงมายืนมองที่นอนตัวเองว่าจะทำอย่างไรกับไอ้

สภาพเปรอะเปื้อน

แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ความสนใจของผมก็ต้องเบี่ยงเบนเมื่อได้ยินเสียงพ่อกับแม่ทะเลาะกัน

มองนาฬิกาแล้วเพิ่งรู้ว่าหลับไปจนถึงเที่ยงคืน เสียงพ่อกับแม่เถียงกันดังขึ้นเรื่อยๆ จนผมทนไม่ไหวต้องเดิน

ออกไปดู

ช่วงนี้พ่อกับแม่ดูจะเถียงกันบ่อยขึ้น ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุ พอถามแม่ แม่ก็จะบอกว่าเป็นเรื่องของผู้ใหญ่

ตลอด

ผู้ใหญ่จะรู้ไหมนะว่าเด็กน่ะสะเทือนใจกับเรื่องของผู้ใหญ่เหมือนกัน

ประตูห้องของพ่อกับแม่ไม่ได้ปิด ผมเห็นแม่กำลังใช้มือทุบหน้าอกของพ่อจนพ่อต้องคว้าแขนของแม่ไว้

แล้วผลักแม่จนล้มลงบนที่นอนก่อนที่พ่อจะคว้ากระเป๋าแล้วจ้ำอ้าวออกมา

ผมรีบหลบอยู่ตรงหลังตู้ใบใหญ่ พ่อจึงไม่เห็น พ่อเดินลิ่วลงไปชั้นล่าง ไม่นานนักผมก็ได้ยินเสียงรถของพ่อ

ขับออกไปจากบ้าน

ผมเห็นแม่ยกมือปิดหน้าแล้วร้องไห้ มันทำให้ผมต้องทรุดตัวลงนั่งแล้วชันเข่าขึ้นมาร้องไห้ตาม ผมไม่ชอบ

เลยที่เห็นแม่ร้องไห้ แม่ของผมควรจะยิ้มอย่างสดใสไม่ใช่ต้องมาอยู่ในสภาพนี้

ยกหลังมือเช็ดน้ำตาก่อนที่จะลุกขึ้นยืนเดินไปหาร่างอันบอบบางที่สะอื้นตัวโยน แม่หันมามองผมและยิ่ง

ร้องไห้ ผมไม่ได้เอ่ยถามสาเหตุสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวในตอนนี้คือโอบกอดแม่ไว้

แม่หันมากอดผมแล้วร้องไห้ ผมประคองให้แม่เอนกายลงบนที่นอน ยกมือเช็ดน้ำตาที่อาบเต็มใบหน้า

เสียงสะอื้นของแม่แผ่วลง ลมหายใจของแม่สม่ำเสมอ

แม่หลับไปแล้ว หลับไปทั้งน้ำตาที่ผมยังไม่รู้สาเหตุ ผมกอดแม่ไว้แล้วหลับตาลงเคียงข้างแม่










ผมลืมตาตื่นเมื่อรุ่งเช้า แสงอาทิตย์เพิ่งเริ่มแตะขอบฟ้าเมื่อผมงัวเงียขึ้นมาขยี้ตา

มองไปรอบๆ ก็นึกขึ้นได้ว่ามานอนกับแม่ ผมเลยหันไปมองคนที่ยังหลับอยู่ข้างๆ

“แม่ครับ เช้าแล้ว”

ผมส่งเสียงเรียก แต่แม่กลับเงียบ ผมหันไปมองอย่างเอะใจเพราะปกติแม่จะเป็นคนตื่นเร็ว

“แม่ครับ”

ผมเรียกอีกครั้งพลางใช้มือแตะไปที่ไหล่ของแม่

ผมสะดุ้งเมื่อผิวกายของแม่ร้อนผ่าว ผมย้ายมือไปวางที่หน้าผากก็ยิ่งตกใจที่มันร้อนราวกับไฟ ใบหน้าที่

สวยงามซีดจนแทบเป็นกระดาษ

“แม่!

ผมตะโกนลั่น พลางวิ่งไปที่หน้าห้องเพื่อส่งเสียงเรียกขอความช่วยเหลือจากคนในบ้าน

ไม่นานนักผมก็นั่งรถพยาบาลไปพร้อมกับร่างที่ยังไม่ได้สติ จนถึงเวลานี้ ผมยังไม่เห็นพ่อเลยแม้แต่เงา







ผมมองหน้าที่ยังหลับใหลเพราะพิษไข้ ในห้องพักคนไข้ของโรงพยาบาลเอกชนที่แม่มาใช้บริการเป็นประจำ

คุณหมอประจำของแม่สั่งเจาะเลือดไปไซริงค์ใหญ่ แขนเล็กของแม่มีสายน้ำเกลือเป็นเครื่องประดับ

ไม่มีญาติคนอื่นนอกจากผม เด็กชายวัย 13 ปีกว่าๆ ที่ต้องฟังคำพูดยากๆ ของลุงหมอ ประมาณว่าร่างกาย

ของแม่อ่อนเพลียมาก และลุงหมอจะต้องหาสาเหตุให้ได้ แต่ตอนนี้ต้องให้แม่พักผ่อนและรักษาตามอาการ

ไปก่อน

สายแล้ว ผมโทรไปลาเรียนกับอาจารย์ และผมโทรไปหาคนสำคัญ

“พ่อหรือครับ พ่ออยู่ไหน”

“มีอะไรกับพ่อหรือเดี่ยว พ่อทำงานยุ่งอยู่”

เสียงห้วนจนเกือบกระชากตอบกลับ เล่นเอาผมน้ำตาซึม

“แม่ไม่สบาย ตัวร้อนมาก ผมพาแม่มาแอดมิทที่โรงพยาบาล… พ่อมาหน่อยได้ไหม”

“ก็บอกแล้วไงว่าพ่อทำงาน แม่เราก็เป็นแบบนี้แหละ สามวันดีสี่วันไข้ เดี๋ยวถ้าพ่อว่างพ่อจะไป

แค่นี้ก่อนนะ พ่อมีประชุม”

“พ่อ..”

โทรศัพท์ตัดสายไปแล้ว ผมหายใจขัด นึกสงสารแม่ขึ้นมาจับใจ

ดีแล้วที่แม่หลับ แม่จะได้ไม่ต้องรู้ว่าพ่อจะไม่มาหาแม่








คนงานที่บ้านมาเปลี่ยนเฝ้าแม่เมื่อเกือบเที่ยง ให้ผมกลับไปอาบน้ำและเตรียมของมาเฝ้าแม่เพราะผมมากับ

แม่ทั้งชุดนอน ผมขึ้นรถไปกับลุงสมอย่างอ่อนระโหย

ผมใช้หัวพิงกับกระจกรถเหม่อมองยานพาหนะเบื้องนอกอย่างใจลอย ก่อนที่จะชะงักเมื่อเหลือบไปเห็น

รถยนต์คุ้นตาในช่องจราจรถัดไปสองช่อง

นั่นรถพ่อ!

“ลุงสมดูรถคันโน้นสิครับ ใช่รถพ่อหรือเปล่า”

คนขับรถของผมเพ่งสายตามอง แล้วจึงตอบว่าใช่ ผมถึงกับงงเพราะพ่อบอกว่ามีประชุม แต่เส้นทางนี้ไม่ใช่

เส้นทางที่มาจากบริษัท

อาจเป็นเพราะจอดรถเยื้องกันในตำแหน่งเหมาะที่มีรถคันอื่นบังสายตา ผมจึงมองเห็นรถพ่อ ในขณะที่พ่อ

ไม่น่าจะมองเห็นรถที่ผมนั่ง  และเป็นเพราะกระจกรถพ่อติดฟิล์มไม่ดำนัก มันจึงทำให้ผมได้เห็นในสิ่งที่

ทำร้ายจิตใจสุดๆ

พ่อไม่ได้มาคนเดียว มีคนนั่งมาด้านข้าง และในขณะที่รถติดไฟแดงผมเห็นด้านหลังของผู้หญิงที่นั่งมากับ

พ่อ

ผู้หญิงผมยาวนั่งหันหลังมาทางผม ผมจึงไม่เห็นหน้า แต่ผมเห็นผู้หญิงคนนั้นเอียงไปซบไหล่พ่อ

และพ่อก็เอียงหน้ามาจูบ

ผมจ้องภาพนั้น กัดฟันกลั้นสะอื้นในขณะที่น้ำตาของเด็กผู้ชายคนหนึ่งไหลอาบแก้ม

ในขณะที่แม่ไม่สบาย แต่พ่อกลับมาจูบอยู่กับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่บอกกับผมว่าทำงาน

ผมโกรธพ่อจับใจ







---------------------------------- TBC --------------------------------
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 07-09-2014 00:39:41
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


มาต่อแล้ว   :mc4:  ชีวิตพี่เดี่ยวช่างดราม่าจริง ๆ เจออะไรมาเยอะตั้งแต่เด็ก  ตอนโตมาถึงได้แกร่งมากเลยสินะ  น่าสงสารพี่เดี่ยวกับคุณแม่อ่ะ คงจะเจ็บปวดน่าดู   :o12:



ตอนแรกกำลังเคลิ้มตอนพี่เดี่ยวกำลังเดินมาหลังดูหนังเอ็กซ์เสร็จ  พอมาเจอคำเรียก  "พี่เด่ว" ปุ๊บรู้สึกว่าไอ้ที่เคลิ้ม ๆ อยู่...หายไปทันที  กลายเป็นตลกแทน  :jul3:  แต่ก็น่าสงสารนะอารมณ์ค้างซะงั้น  เห็นใจอยู่เหมือนกัน ไม่คิดว่าจะเป็นคนที่มีความอดทนได้มากขนาดนั้น  ที่สำคัญ....ยังชอบกินเด็กมาตั้งแต่เด็ก(!?)อีกต่างหาก    :a5:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:


หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 07-09-2014 01:04:24
 o22  ทำไมพ่อทำแบบนี้  คาตาลูกเลย   :z6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 07-09-2014 01:50:19
เกลียดดดดดดดพ่อ ตกถังข้าวสารชัดๆ นี่ไม่แปลกใจเลยที่ป้องจะโดนปราบเกลียดอะนะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 07-09-2014 03:10:16
พ่อใจดำอะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 07-09-2014 06:34:39
สงสารพี่เด่ว (เลียนเสียงป้อง)
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 07-09-2014 06:50:02
ความผิดของผู้ใหญ่ส่งผลกระทบมาถึงเด็กที่ไม่รู้เรื่องด้วย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-09-2014 09:26:50
พ่อเดี่ยวแย่จริงๆ แบบนี้สงสารเด็กๆ นะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-09-2014 11:42:11
ไม่เคยรักกันเลยใช่ไหมมม ที่ผ่านมา~
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 07-09-2014 13:14:34
เกลียดพ่อพี่ปราบ  :z6: :z6:

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-09-2014 08:51:18
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 08-09-2014 13:40:32
พล๊อตเรื่องดราม่า แก้แค้น เอาล่ะสิ
 ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 08-09-2014 14:47:19
 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 2 ( 07 / 09 /57 ) ภาคต้น
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 08-09-2014 16:44:31
ตามมาอ่านต่อจากเรื่องโน้นนค่าา ~^^
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <Bracon>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-09-2014 19:53:27


                            เพลิงพ่าย

                             ภาคต้น

                             บทที่ 3


Aplastic Anemia”

นั่นคือคำพูดยากๆ จากลุงหมอเมื่อเข้ามาแจ้งสาเหตุการป่วยของแม่

ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วยิ่งเผือดหนักกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดของลุงหมอแม้ว่าแม่จะยังนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง

คนไข้ มีเพียงดวงตาแห้งผากเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่าแม่ยังมีสติรับฟังอยู่ ในขณะที่ผมตั้งใจฟังอยู่บนโซฟา

สำหรับญาติ

“มันคือมะเร็งเม็ดเลือดชนิดหนึ่งที่รักษาโดยเคมีบำบัด และสำหรับคุณผมคิดว่าต้องรีบรักษาโดยด่วน”

แม่ยังคงเงียบก่อนที่จะช้อนสายตาอันอ่อนระโหยมองลุงหมอ

“ฉันยังไม่พร้อมเลย รออีกสักหน่อยได้ไหมคะ”

“หมอน่ะรอได้ แต่โรคน่ะไม่ได้รอนะครับ”

ลุงหมอพูดทิ้งท้ายก่อนเดินออกไปจากห้อง ผมจึงได้เดินไปกุมมือเย็นเฉียบของแม่ไว้

แม้กระทั่งวันนี้พ่อก็ยังไม่ได้มาเยี่ยมแม่ในวันที่แม่ต้องนอนตรวจร่างกายอย่างละเอียดเป็นวันที่สาม

ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์แม้แต่ครั้งเดียวที่พ่อโทรมา

“เดี่ยว”

แม่เรียกชื่อผม สายตาคู่นั้นทอดยาวออกไปนอกหน้าต่าง แสงแดดยังแผดกล้าจนแสบตาเมื่อผมจ้องมันตาม

แม่ ไม่นานนักผมก็ต้องยกหลังมือเช็ดน้ำตา

ผมไม่รู้ว่าร้องไห้เพราะแสงแดดหรือเพราะสงสารแม่กันแน่

“เดี่ยวจะอยู่คนเดียวได้ไหมถ้าไม่มีแม่”

“แล้วทำไมเดี่ยวถึงจะไม่มีแม่ล่ะครับ”

ผมไม่ใช่เด็กไร้เดียงสาจนไม่เข้าใจนัยยะของแม่ เพียงแต่ผมยังยอมรับมันไม่ได้

“แม่ต้องสู้นะ”

ผมโน้มตัวไปกอดแม่ไว้

“บางทีแม่ก็รู้สึกเหนื่อยเกินกว่าที่จะมีชีวิตอยู่”

ดวงตาแห้งผากในตอนนี้กลับเจือไปด้วยหยาดน้ำก่อนที่มันจะไหลกลิ้งจากหางตาของแม่

“ทำไมแม่ไม่กลัวเดี่ยวจะเหนื่อยหากอยู่คนเดียวบ้าง”

ผมถามแม่กลับไป น่าแปลกที่คำพูดของเราสองคนไม่มีพ่อเข้ามาเกี่ยวข้องเลยสักนิด

เสียงประตูเปิดผลัวะ เราสองคนแม่ลูกหันหน้าไปดูพร้อมกันจึงได้เห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามานั้นคือพ่อ

พ่อเดินมายืนข้างเตียง สบตากับแม่ คิ้วของพ่อขมวดเป็นวงท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน

“เป็นไงบ้าง”

นั่นคือคำพูดแรกของพ่อ

“ยังดีค่ะ ยังอยู่เป็นกว้างขวางคอคุณได้อีกพักใหญ่”

“พูดบ้าอะไรของคุณอีก”

เสียงพ่อฟังดูเหนื่อยหน่ายกับแม่ ภาพที่พ่อจูบกับผู้หญิงคนอื่นยังวนเวียนอยู่ในหัวจนผมต้องเบนสายตาไป

ที่อื่น

“เพิ่งจะมาถึงก็พูดชวนทะเลาะ น่าเบื่อ”

พ่อกระแทกเท้าเดินกลับออกไปทั้งที่เพิ่งมาได้ไม่กี่นาที เสียงประตูที่ปิดตามหลังกระแทกใจของผมอย่างแรง

แรงจนผมสะเทือนไปทั้งตัว

“ผมเกลียดพ่อ”

“เดี่ยว”

แม่ลูบหัวของผม

“อย่าให้ความเกลียดชังมาทำให้จิตใจที่สดใสของเดี่ยวต้องหดหู่”

แม่หลับตาลงอย่างอ่อนเพลียผมดึงผ้าห่มให้แม่นอนพัก ผมมองผู้หญิงที่บอบบางราวแก้วใสที่พร้อมจะ

ปริแตกได้ทุกเวลาอย่างปวดร้าว

ผมรักแม่ และผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้แม่เสียใจ










“พี่เด่ว”

เทวดาตัวน้อยวิ่งเข้ามาหา ผมรับร่างนั้นขึ้นมาอุ้มและจูบแก้มใสอย่างคิดถึง

เพราะต้องไปดูแลแม่ที่โรงพยาบาลทำให้ผมต้องหยุดเรียนจึงไม่ได้พบหน้าป้อง ผมอุ้มร่างกลมป้อมไปที่

โต๊ะของเรา

“คิดถึงพี่เดี่ยวไหมครับ”

ผมถามป้องที่นั่งอยู่บนตักป้องยกสองมือโอบรอบคอผมไว้

“คิดถึงที่สุด พี่เด่วไปไหน”

“แม่พี่เดี่ยวไม่สบาย ก็เลยมาหาป้องไม่ได้”

ผมเห็นหน้าป้องแล้วสิ่งที่เก็บกักอยู่ในใจมันทะลักออกมาอย่างไม่รู้ตัว

“โอ๋ๆ พี่เด่วอย่าร้องนะ”

มือเล็กเช็ดน้ำตาให้ผม

“เจ็บตรงไหน ให้ป้องจูบให้หายเจ็บไหม”

เด็กน้อยไร้เดียงสาใช้มือป้อมแนบไปกับแก้มของผมแล้วดึงให้ผมก้มลงมา ป้องจูบที่ปากเหมือนอย่างที่ผม

สอนทุกวัน ปากเล็กแนบอยู่กับปากของผมแล้วแลบลิ้นเข้ามาเหมือนกำลังเลียไอศกรีม จนผมต้องเป็นฝ่าย

สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากเล็กแทน

ผมโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงได้รักป้องนัก ทั้งรักและหวงแหนราวกับป้อง

เป็นสมบัติล้ำค่า หากไม่นับแม่ ป้องก็คงเป็นอีกคนหนึ่งที่ผมจะรักษาไว้เท่าชีวิต

ผมสั่นไปทั้งตัวเมื่อถอนปลายลิ้นออกมาจากเทวดาตัวน้อย กดให้ร่างเล็กจมไปกับลำตัว กอดไว้ด้วยแขน

ทั้งสองข้าง

“ป้องรักพี่เดี่ยวไหม”

“รักครับ”

“สัญญากับพี่เดี่ยวได้ไหมว่าเราจะรักกันตลอดไป”

ร่างเล็กฝืนตัวออกจากอ้อมกอดเพื่อยิ้มกว้างให้กับผม มือน้อยชูนิ้วก้อยขึ้นมา

“สัญญา ป้องจะรักพี่เด่วไม่รักใครอีกแล้ว”

ผมยกนิ้วเกี่ยวก้อยทั้งน้ำตา ก่อนที่จะกอดป้องอีกครั้ง

ผมสัญญา ผมจะรักป้องตลอดไป










เย็นวันนั้นลุงหมอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลได้ ลุงสมมารับผมที่โรงเรียนแล้วจึงเลยไปรับแม่ที่โรงพยาบาล

แม่นัดกับลุงหมอว่าจะเข้ารับเคมีบำบัดในสัปดาห์หน้า

สีหน้าของแม่เริ่มมีสีเลือดมาบ้าง เรานั่งมาในตอนหลังของรถคุยกันกระหนุงกระหนิงจนกระทั่งถึงทางแยกที่

จะเลี้ยงเข้าซอยบ้านของเรา

รถคันหนึ่งแล่นสวนออกมา เราสองแม่ลูกชะงักเมื่อเห็นว่าเป็นรถของพ่อ แม่จ้องไปที่รถคันนั้นก่อนที่จะกัด

ริมฝีปากตัวเอง ผมมองตามแม่จึงได้เห็นว่าพ่อไม่ได้มาคนเดียว

พ่อนั่งคู่มากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ผมมองไม่ชัดนัก เพราะเมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นแม่เจ้าหล่อนก็เบือนหน้าหนี ทิ้ง

ให้พ่อเป็นฝ่ายสบตากับแม่ผ่านกระจกรถอยู่เพียงผู้เดียว สีหน้าของพ่อดูจะอึ้งไปเหมือนกันเมื่อเห็นเรา

แต่แล้วพ่อก็เหยียบคันเร่งจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม่ทิ้งตัวไปกับเบาะรถหลับตาลงน้ำตาไหลอาบ

แก้ม

ผมเงียบ กัดฟันด้วยความโกรธ ในขณะที่แม่ไปอยู่โรงพยาบาล นอกจากพ่อจะไม่สนใจใยดีแล้ว พ่อยังกล้า

พาผู้หญิงคนอื่นเข้ามาในบ้าน บ้านที่เป็นของแม่ บ้านที่เป็นของคุณตา

ความเคารพในตัวผู้ชายคนหนึ่งที่แม้จะเป็นผู้ให้กำเนิดลดน้อยถอยลงจนแทบไม่มีเหลือ มือสั่นๆของผม

เอื้อมไปกุมมือแม่ไว้ แม้จะไร้ซึ่งบทสนทนาแต่ผมรู้ว่าแม่ก็รู้ว่าผมเองเสียใจแค่ไหน

แม่ใช้เวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่เหลือก่อนไปรับเคมีบำบัดด้วยการนัดเพื่อนสนิทมาทานข้าวที่บ้าน รวมทั้งนัด

คุณลุงที่ผมจำได้ว่าเป็นทนายความของคุณตามาพบในตอนกลางวันโดยที่พ่อไม่รู้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าแม่จะทำ

อะไร แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ผมจำเป็นต้องรู้ ตอนนี้ผมแค่อยู่กับแม่ให้มากที่สุด พ่อไม่กลับมาที่บ้านด้วยซ้ำจนผม

แทบจะลืมพ่อไปแล้ว

พ่อกลับเข้ามาในวันที่แม่เตรียมตัวจะไปโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังลั่นจนผมที่กำลัง

นอนหลับต้องสะดุ้งตื่นแล้ววิ่งมาที่ห้องแม่

“หมายความว่าคุณมีผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่เมื่อเจ็ดปีที่แล้ว แถมยังไปมีลูกด้วยกันอีก”

เสียงแม่ร้องไห้ต่อว่าพ่อ

“ตั้งแต่ที่พ่อของฉันตายสินะ คุณหลอกพ่อว่าเป็นคนดีแต่สุดท้ายคุณมันก็เป็นแค่คนหลอกลวง”

ผมเห็นพ่อยักไหล่เบ้ปาก

“คุณจะพูดว่างั้นก็ได้ ใครจะไปทนอยู่กับผู้หญิงจืดชืดอย่างคุณได้ ดูตัวเองบ้างสิว่านอกจากมีเงินแล้ว

คุณมีอะไรดีบ้าง”

สายตาของพ่อดูแคลนแม่จนผมต้องกำหมัดแน่น

“ปล่อยตัวจนโทรม ลีลาบนเตียงก็ไม่ได้เรื่อง งานการก็ไม่เก่ง นี่ถ้าไม่ใช่ลูกสาวเจ้าของบริษัทล่ะก็ คิดว่าผม

จะเอาคุณเป็นเมียหรือไง”

“กรี๊ดดด!!”

“แม่!!!”

ผมถลาเข้าไปกอดแม่ที่ส่งเสียงกรีดร้องก่อนที่จะล้มลงไปร้องไห้คร่ำครวญอยู่กับพื้นห้อง

“พ่อ หยุดพูดเดี๋ยวนี้ แม่ป่วยอยู่นะ”

ผมหันไปตวาดใส่พ่ออย่างลืมตัว

“มึงกล้าสั่งกูเหรอ ไอ้เดี่ยว กูเป็นพ่อมึงนะ”

ผมอ้าปากค้างเมื่อพ่อขึ้นมึงขึ้นกูกับผม

“บอกฉันมาซิ ว่าตลอดเวลาเกือบยี่สิบปีที่เราอยู่ด้วยกัน คุณเคยรักฉันบ้างไหม”

แม่ร้องไห้ฟูมฟายจนผมเวทนา

“หึ ผมรักคุณนะ แต่ผมรักเงินของคุณ บริษัทของคุณมากกว่า”

“พ่อ!!”

“กรี๊ดดดด….”

แม่กรีดร้องจนตาค้าง ผมเขย่าตัวแม่แรงๆ จนดวงตาคู่นั้นกลับมามีโฟกัสอย่างอ่อนแรง ผมกอดแม่ไว้พลาง

หันไปมองพ่อด้วยสายตาเกลียดชัง

“ออกไป”

“มึงกล้าไล่กูหรือไอ้เดี่ยว”

“ผมบอกให้ออกไป จะไปหาอีผู้หญิงหน้าด้านเมียน้อยของพ่อก็ไป”

พ่อฮึดฮัดอยู่ครู่หนึ่งจึงกระแทกเท้าออกไปจากห้อง ผมตะโกนลั่นให้คนรับใช้ที่แอบดูเหตุการณ์รีบนำรถออก

เพื่อพาแม่ไปโรงพยาบาลก่อนกำหนด











ผมไปโรงเรียนในตอนเช้าอย่างไม่มีกระจิตกระใจเมื่อแม่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลและเตรียมจะให้ยาคีโม

อยากจะหยุดเรียนอยู่เป็นเพื่อนแม่ แต่แม่ที่แม้จะอ่อนเพลียก็ยังเป็นห่วงการเรียนเพราะผมขาดเรียนมาเฝ้า

แม่หลายวันแล้ว

“แม่ไม่เป็นไร เดี่ยวไปเรียนเถอะ”

แม่บอกในตอนเช้าตรู่ ผมลังเลแต่ก็ยอมทำตามที่แม่บอก

“เดี่ยว”

แม่เรียกผมไว้อีกครั้ง

“แม่รักลูกนะ”

ผมกอดแม่ ใจหายกับคำพูดของแม่อย่างไม่มีสาเหตุ แต่ก็ต้องตัดใจมาโรงเรียน

จนกระทั่งในตอนบ่าย โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้นจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของแม่

“เดี่ยว รีบมาโรงพยาบาลเถอะ แม่แพ้ยาคีโมจนช็อคแล้ว”

ผมอ้าปากค้าง หัวใจแทบจะหยุดเต้น วิ่งไปบอกกล่าวกับอาจารย์ที่กำลังสอนแล้วรีบขึ้นแท็กซี่มาที่

โรงพยาบาล

สายระโยงระยางตรงหน้าเรียกน้ำตาของผมจนอาบใบหน้า หัวใจของผมบอบช้ำ

แม่ที่แสนสวยตอนนี้ทอดกายอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก ริมฝีปากที่เคยจูบเคยหอมผมถูกคาไว้ด้วยท่อช่วยหายใจ

แขนที่เคยโอบกอดเต็มไปด้วยสายน้ำเกลือไม่รู้กี่ขวด เมื่อผมก้าวไปหาแม่

ดวงตาสวยค่อยๆ ลืมตามามองอย่างยากเย็น กราฟชีวิตที่เต้นอยู่ในจอมอร์นิเตอร์ข้างเตียงแสดงถึงความ

อ่อนล้าเต็มที

เพื่อนสนิทไม่กี่คนของแม่กอดผมไว้เมื่อเรายืนรายล้อมเตียง ผมก้าวเข้าไปกอดแม่ ร้องไห้จนหมดแรง

มือบางซีดยกขึ้นอย่างยากลำบากเพื่อลูบหัวของผม สายตาของแม่บอกผมให้รู้ว่าแม่รักผมแค่ไหน

แล้วฝ่ามือของแม่ก็ร่วงหล่นจากหัว แม่หลับตาลงน้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงมา

ผมร้องลั่น ดิ้นพล่าน เมื่อทั้งหมอทั้งพยาบาลกรูกันเข้ามาปั๊มหัวใจ เพื่อนของแม่เหนี่ยวรั้งผมไว้จนกระทั่งผม

หมดแรงต้องกอดเพื่อนแม่ไว้เป็นหลักยึด

ไม่นานหลังจากนั้น ลุงหมอก็เดินมาหาเพื่อบอกกับผมว่า แม่หลับไปแล้วและจะไม่ตื่นมาชั่วนิรันดร์








ผมกลายเป็นเด็กเงียบขรึมตลอดงานศพทั้งเจ็ดวันของแม่ พ่อมาเป็นประธานในงานแต่ผมไม่เคยเห็นความ

เศร้าจากพ่อ งานศพของแม่กลายเป็นเวทีที่เปิดตัวว่าพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจของแม่โดยสมบูรณ์ ตลอด


ช่วงเวลานั้นผมไม่ได้พูดกับพ่อแม้แต่คำเดียว

วันนี้เป็นวันเผาศพแม่ ผมน้ำตาไหลเมื่อเห็นควันที่ล่องลอยจากปล่องไฟของเมรุ

ไปดีนะครับแม่ เดี่ยวจะรักแม่ตลอดไป

เด็กที่กำลังจะล่วงเข้าสู่วัยรุ่น ผมไม่นึกว่าชีวิตของผมจะสูญเสียใหญ่หลวงด้วยอายุแค่นี้

ผมกอดรูปแม่ก้าวเดินเข้าบ้าน บ้านของแม่

ก่อนที่เท้าของผมจะสะดุดและต้องนิ่งอยู่กับที่เมื่อเห็นพ่อยืนอยู่ที่ห้องรับแขก

ยืนอยู่คู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นลูกครึ่งแต่งตัวสวย หน้าเข้มจัด

“มานี่ซิ”

พ่อกวักมือเรียก

“นี่คือน้ารัศมี เขาจะมาอยู่กับพ่อตั้งแต่วันนี้”

ผมอ้าปากค้าง

พ่อพาผู้หญิงของพ่อเข้ามาในบ้านในวันที่เผาศพแม่

ได้ยินเสียงเด็กเจื้อยแจ้ว เสียงช่างคุ้นเหลือเกิน

“แม่คร้าบ บ้านใหม่กว้างจัง”

ร่างป้อมวิ่งมากอดขาผู้หญิงคนนั้น พ่อก้มมองพร้อมรอยยิ้ม

“และนี่ น้องชายของแกไงเดี่ยว น้องของแกชื่อป้อง ปมุต อนันตกุล”

ผมจ้องมองร่างเล็กที่หันมาสบตากับผมอย่างไร้เดียงสา

โลกของผมถล่มทลายลงนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา



---------------------------------- TBC ----------------------------------




ดราม่าเกินไปหรือเปล่า

นี่คนแต่ง แต่งไปน้ำตาไหลไปนะ

 :m15: :m15: :m15:

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-09-2014 20:07:27
น้ำตาไหล
มันเจ็บเกินไป
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 12-09-2014 21:17:04
ม่ายยยยยยยยยย  น้องป้องของพี่  มันต้องไม่เป็นแบบนี้   :serius2:   :z3: :ling3:  ใจร้ายที่สุด   :sad2:   ตอนนี้สงสารพี่เดี่ยวมาก ๆ นอกจากจะเสียแม่ไปแล้วยังต้องมารับรู้ความใจร้ายของพ่อตัวเองอีก   :o12:  บีบคั้นอารมณ์สุด ๆ


รอตอนต่อไปค่ะ  ขอแบบยาว ๆ   :z6:


 :katai1:

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-09-2014 22:40:28
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-09-2014 23:24:59
พ่อเลวมาก สงสารเดี่ยวกับป้อง
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 12-09-2014 23:55:23
โอ้โห  มาม่าชามโต  รสต้มยำซุปเปอร์แซ่บเลยนะคะเนี่ย    :katai1:


สงสารเดี่ยวและแม่มาก     สงสารป้องด้วย


ตบพ่อเดี่ยว กับเมียใหม่   :beat:   :z6:   :beat:    :z6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-09-2014 17:02:15
กำลังสนุกเบย~

 :katai5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 14-09-2014 00:19:37
เดี่ยวน่าสงสารนะ แต่ป้องเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมต้องทำร้ายป้องด้วย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-09-2014 09:01:02
สงสารพี่เดี่ยวน้องป้อง
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-09-2014 16:59:36
พี่เดี่ยว น้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วย อย่ารังแกน้องเลยนะ :o12:
พ่อก็แย่เกินไปนะ ทำแบบนี้กับลูกได้ไง :katai1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 17-09-2014 16:57:19
สงสารพี่เดี่ยวจังแม่มาเสียพ่อก็พาเมียน้อยเข้าบ้าน

แล้วยังต้องมารู้ว่าน้องป้องที่ตัวเองรักเป็นน้องชายอีก

ขอให้วันเปิดพินัยกรรมทุกอย่างเป็นของพี่เดี่ยวทั้งหมดเลยเถอะ อยากเห็นคุณพ่อเงิบค่า  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 3 ( 12 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-09-2014 17:35:35
ทำไมพ่อและแม่ของป้องถึงใจร้ายใจดำได้ขนาดนี้ :'(
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-09-2014 22:54:45

                                                                    เพลิงพ่าย

                                                                      ภาคต้น

                                                                      บทที่ 4


ผมกลายเป็นเด็กวัยรุ่นที่เกิดอาการซึมเศร้าเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อต้องรับรู้ความเป็นจริงทั้งหมด

ตั้งแต่คุณตาเสียชีวิตเมื่อเจ็ดปีก่อนพ่อก็เริ่มดีแตก

พ่อเที่ยวกลางคืนและบอกแม่ว่าไปทำงาน มีประชุม สัมมนาหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะสรรหามาโกหก

และแม่ก็เชื่อ

แม่ไม่เคยระแคะระคายว่าพ่อไปติดนักร้องวัยเด็กกว่าพ่อเกือบยี่สิบปี นักร้องลูกครึ่งสาวในผับจนกระทั่ง

รับมาเลี้ยงดูอย่างจริงจัง

รัศมีคือนักร้องคนนั้น

ลูกครึ่งที่ไม่รู้ว่าใครคือพ่อ เพราะแม่ของรัศมีทำงานเป็นเมียเช่าให้กับฝรั่งและท้องโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นลูก

ของใคร รัศมีเติบโตมาด้วยความยากจน พยายามที่จะกระเสือกกระสนเพื่อหนีความคับแค้นของชีวิต

และเธอก็ทำสำเร็จเมื่อได้พบกับพ่อในวัยเพียงสิบแปดปีที่ก้าวไปเป็นนักร้องในผับ

พ่อหลงเสน่ห์หน้าตาสะสวยของหล่อน บวกกับความกล้าได้กล้าเสีย รัศมียอมนอนกับพ่อแลกเงินและไม่

นานนักพ่อก็ถึงกับยอมรับเลี้ยงหาบ้านหลังเล็กให้อยู่ ให้เลิกเป็นนักร้อง และในปีถัดมารัศมีก็มีป้องมาเป็น

หลักประกันความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นมาอีกขั้น

ในตอนที่รัศมีก้าวเข้ามาเป็นคุณนายคนใหม่ในบ้านของคุณตาผม หล่อนเพิ่งจะครบเบญจเพสเองมั้ง

ในขณะที่พ่อของผมล่วงเข้าวัย 40 ไปนิดหน่อยแล้ว

พ่อให้ป้องนอนในห้องเล็กที่อยู่ติดกับห้องของผม ส่วนรัศมีพ่อให้หล่อนเข้าไปนอนในห้องใหญ่ ห้องที่พ่อ

และแม่ที่เพิ่งเสียชีวิตไปแค่สัปดาห์เดียวเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสิบกว่าปี

ผมแค้นจนต้องนอนตัวงออยู่บนเตียงเพียงลำพัง

ไม่มีน้ำตาอีกแล้ว เพราะมันหมดไปตั้งแต่กองไฟเผาร่างของแม่ ผมกัดฟันด้วยความปวดร้าว มือกำผ้าปู

ที่นอนจนยับยู่ยี่

ทั้งที่มีเด็กชายที่ผมรักนอนอยู่ในห้องติดกัน เพียงแค่ผนังกั้น แต่ในวันนี้ผมกลับสบตากับดวงตาอันแสน

บริสุทธิ์ได้อย่างไม่เต็มตา

ดวงตาบริสุทธิ์ที่มีแม่เป็นคนทำลายครอบครัวของผม

ผมนอนไม่หลับทั้งคืนจนกระทั่งตอนเช้าที่ต้องไปวัดเพื่อเก็บกระดูกของแม่

แน่นอนว่าพ่อไม่ได้ไปด้วย ผมเห็นประตูห้องของพ่อไม่ได้เปิดออกมา และผมก็ไม่ได้คิดจะชวน

ผมเก็บกระดูกของแม่ส่วนหนึ่งใส่โกศเล็กเพื่อนำไปเก็บไว้ในวัดเคียงคู่กับคุณตาคุณยาย และอีกส่วนหนึ่ง

นำไปลอยอังคาร

น้ำตาของผมไหลออกมาอีกครั้ง

ผมยกมือปาดมันออกไป และสัญญากับตัวเองว่าผมจะเข้มแข็ง

ผมจะต้องอยู่ให้ได้โดยไม่มีแม่

แม้ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปเพื่ออะไรก็ตาม

เมื่อกลับไปถึงบ้านก็บ่ายจัดแล้ว เพื่อไปพบกับคุณลุงทนายที่นั่งอยู่กับพ่อและเมียคนใหม่

คุณลุงทนายมองผมอย่างเห็นใจในขณะที่พ่อของผมมองมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ชักช้า ยืดยาด แค่เก็บกระดูกทำอย่างกับจะไปเสียข้ามวัน”

ผมทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับพ่อ มองสบตาผู้ชายคนนั้นด้วยแววตาเรียบเฉย

“ขอโทษครับที่ช้าไปหน่อย เชิญคุณลุงได้เลยครับ”

คุณลุงทนายรับคำก่อนที่จะขยับตัวเพิ่มความกระฉับกระเฉง เปิดกระเป๋าหนังใบหนาเปิดออกหยิบเอกสาร

ออกมา


“พินัยกรรมฉบับนี้ ดิฉัน นางวาดดาว อนันตกุล ได้เขียนขึ้นในขณะที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน หากดิฉันถึง

แก่กรรมลงไปไม่ว่าจากเหตุอันใด ทรัพย์สินทั้งหมดขอให้จัดการดังต่อไปนี้…

บ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันซึ่งเป็นบ้านที่ตกทอดมาจากบิดาของดิฉัน ยกให้กับเด็กชายปราบดา อนันตกุล

หุ้นส่วนของบริษัทในเครือในส่วนที่ถือกรรมสิทธ์มาจากบิดาของดิฉัน ยกให้กับเด็กชายปราบดา อนันตกุล

สำหรับสินสมรสที่เกิดขึ้นในระหว่างการแต่งงานอยู่กินกับนายปัญญา อนันตกุล ครึ่งหนึ่งในส่วนของดิฉัน

ยกให้กับเด็กชายปราบดา อนันตกุล

ทรัพย์สินทั้งหมดที่เป็นของเด็กชายปราบดา อนันตกุล ห้ามโยกย้ายเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์จนกว่าเด็กชาย

ปราบดา อนันตกุลจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ โดยให้อยู่ในการดูแลของทีมทนายความที่ดิฉันได้มอบสิทธิ์

ให้…”

“ไม่จริง!”

พ่อของผมตะโกนแทบลั่นบ้านในขณะที่ผุดลุกขึ้นยืนด้วยโทสะ

“ป่วยอยู่ตลอดปีตลอดชาติแบบนั้นจะไปมีเวลาทำพินัยกรรมตอนไหน ลื้อทำปลอมขึ้นมาหรือเปล่าไอ้พิชัย”

พ่อชี้หน้าด่าคุณลุงทนายที่ยังนั่งนิ่งด้วยความสำรวม

ผมตกใจกับสภาพของพ่อ ผมเพิ่งเคยเห็นกิริยาที่เต็มไปด้วยความหยาบคายเมื่อรู้ว่าทรัพย์สินแทบทุกอย่าง

ตกเป็นของผม มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่พ่อจะได้ไป รัศมีที่ทำท่าไม่สนใจในคราวแรกถึงกับตั้งใจฟังเมื่อรู้ว่า

พ่อจะไม่ได้สมบัติทั้งหมด

“ลายมือชื่อที่เซ็นเป็นของคุณวาดดาวอย่างชัดเจนนะครับคุณปัญญา และยังมีพยานเซ็นรับรองไว้อีก

หลายคนถ้าคุณต้องการตรวจสอบ”

คุณลุงทนายโต้ตอบอย่างใจเย็น

“แต่จากสินสมรสที่คุณได้รับไป คุณก็ยังถือว่าเป็นประธานบริษัทอยู่จนกว่าคุณเดี่ยวจะบรรลุนิติภาวะ

คุณน่าจะพอใจตรงจุดนั้น”

“กูไม่เอาแค่นั้น กูอยากได้ทั้งหมด ถ้าได้แค่นั้นกูจะลงทุนไปครึ่งชีวิตเพื่ออะไร”

ผมเป็นฝ่ายผุดลุกขึ้นยืนบ้าง ผู้ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าช่างดูเหมือนคนแปลกหน้าเสียเหลือเกิน

“ผมเพิ่งรู้ว่าแม่และผมคือเครื่องมือแสวงหาผลกำไรของพ่อ”

แม้จะเจ็บแค่ไหนแต่ผมก็ทำเพียงแค่ส่งวาจาเชือดเฉือนจนพ่อมองด้วยแววตากร้าว

“อย่าโอหังให้มากไอ้เดี่ยว ยังไงกูก็เป็นพ่อมึง”

ขอบตาร้อนผ่าวจนต้องรีบยกมือทำความเคารพคุณลุงทนายก่อนเดินลิ่วเข้าห้องตัวเองแล้วทิ้งร่างลงกับ

เตียงอย่างหมดแรง

“เดี่ยวจะอยู่คนเดียวได้ไหมถ้าไม่มีแม่”

แม่จ๋า

แค่เริ่มต้นเดี่ยวก็แทบหมดแรงแล้ว

เดี่ยวจะอยู่ได้นานแค่ไหนนะแม่

ผมฟุบหน้าลงกับที่นอนนุ่มราวกับมันคืออกของแม่ เนิ่นนาน








ไม่ได้หลับ แต่ก็ไม่พร้อมที่จะลุกขึ้นเดินเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมอาจจะอ่อนแอเกินไป

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนที่ผมจมอยู่ในท่านั้น จนกระทั่งได้ยินเสียงบานพับประตูเปิดออก แล้วร่างเล็กป้อมก็วิ่งเข้า

มาในห้อง กระโดดขึ้นมานั่งทับอยู่บนหลังของผม

“พี่เด่วววว ทำไมไม่ไปโรงเรียน”

เสียงคุ้นเคยดังอยู่ใกล้หู เสียงที่แสนบริสุทธิ์ไร้เดียงสา

“ดีนะ ที่อยู่บ้านเดียวกัน ป้องคิดถึงจะได้มาหาพี่เด่วได้บ่อยๆ”

ผมพลิกตัวอุ้มร่างป้อมให้ออกจากตัวแล้ววางลงให้นั่งจุมปุ๊กอยู่กลางเตียงในขณะที่ผมลุกขึ้นนั่งอยู่ข้างๆ

ผมรู้แล้วว่าทำไมป้องถึงหน้าตาดีนัก ก็แม่ของป้องเป็นลูกครึ่ง และพ่อก็มีเชื้อสายจีน ข้อดีทั้งหมดมารวมกัน

จนเกิดเด็กผู้ชายหน้าตาหวานอย่างนี้

ใช่ป้องไม่ได้ทำอะไรผิด

แต่ป้องเป็นผลผลิตของคนที่ร่วมมือกันสร้างความทุกข์และรอยร้าวในครอบครัวของผม

แม้จะยอมรับว่าใบหน้าของป้องยังวนเวียนอยู่ในความฝัน แต่เมื่อผมตื่นขึ้นมาอยู่กับความเป็นจริง ทุกครั้ง

ที่มองป้อง ผมก็จะเห็นใบหน้าของรัศมีลอยขึ้นมา ภาพที่พ่อกอดรัดและแสดงความกระหายในเรือนร่างนั่น

และที่สำคัญ ใบหน้าอันเต็มไปด้วยน้ำตาของแม่ผม

“ออกไป”

ผมชี้มือไปที่ประตู ส่งเสียงดุจนคนตัวเล็กตกใจเบะปากน้ำตาคลอพยายามจะส่งมือป้อมมาหาผม

“พี่เด่ว เป็นอะไรครับ โกรธป้องเหรอ”

ผมปัดมือเล็กออกอย่างใจร้าย

“พี่บอกให้ออกไปไง ไม่ได้ยินหรือ”

เสียงตวาดทำให้ป้องหน้าเหวอก่อนที่จะปล่อยโฮออกมา ภาพหน้าใสที่เปรอะไปด้วยน้ำตาทำให้หัวใจของ

ผมอ่อนยวบ

“ไม่เอาครับ หยุดร้อง พี่เดี่ยวขอโทษ”

ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกผิดเมื่ออุ้มร่างเล็กขึ้นมานั่งบนตัก

“พี่เดี่ยวอารมณ์ไม่ดี”

“ฮือป้องทำอะไรให้พี่เด่วอารมณ์ไม่ดีหรือครับ”

ผ้าขาวที่แสนสะอาด

ผมยกมือลูบหน้านุ่มอย่างสะท้อนใจ นี่ผมควรจะเอาความโกรธแค้นมาลงกับป้องหรือเปล่า

“เปล่าครับ พี่เดี่ยวอารมณ์ไม่ดีเรื่องอื่น”

“งั้นให้ป้องทำให้พี่เด่วอารมณ์ดีนะ”

ผมหรี่ตามองหน้าป้อมนั้น

“ป้องจะทำไงเหรอ”

คนที่เพิ่งจะร้องไห้เมื่อกี้ตอนนี้ยิ้มหวานใส่ มือน้อยสองมือตบปุมาที่ใบหน้าของผมแล้วดึงลงมา

ป้องประกบปากเล็กเข้ากับปากผม ผมอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะกอดร่างเล็กนั้นไว้แล้วเป็นฝ่ายบดจูบใส่ปากเล็ก

นั่นเสียเอง

นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้จูบป้อง รสชาติหวานกลิ่นนมและขนมหลอกเด็กทั้งหลายยังกรุ่นอยู่ในความคิด

จนอดไม่ได้ที่จะสอดลิ้นเข้าไปความรับรสในช่องปากเล็ก ลิ้นอุ่นน้อยๆ ถูกผมตวัดม้วนจนมือน้อยต้องเกี่ยว

ไปรอบคอของผม

กว่าที่ผมจะถอนปลายลิ้นและปากออกมา ใบหน้าของผมก็เปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและน้ำลายจาก

เด็กน้อยเต็มวงหน้า

“พี่เด่วจูบแร้ง แรง”

หน้าขาวใสอาบด้วยสีแดงเรื่อจนผมต้องฝังจมูกลงไปอย่างมันเขี้ยวอีกรอบ

“แรงมากหรือครับ ก็พี่เดี่ยวคิดถึงป้อง”

“แรงจนหัวใจป้องเต้นตุ๊บๆ ไปหมด ลองฟังดิ”

ป้องลุกขึ้นยืนให้หน้าของผมอยู่ตรงกับระดับหัวใจ แล้วดึงให้ผมแนบหูลงไป

เสียงหัวใจป้องเต้นแรงแทบจะทะลุออกมา กลิ่นเหงื่อปะปนกับกลิ่นแป้งเด็กจากเนื้อตัวมอมแมมเย้ายวน

จมูกจนอดไม่ได้ที่จะเอียงไปจูบตรงซอกคอขาว

อา

ผมกำลังตื่นตัว

ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีประเดประดังเข้ามาจนผมต้องดันตัวป้องออก ก่อนที่จะสูดลมหายใจเข้าไปยาวๆ

“ป้องครับ ป้องกลับไปห้องก่อนนะ”

เสียงสั่นเมื่อเอ่ยกับเนื้อตัวนิ่มๆ เบื้องหน้าที่เอียงคอมอง

“ไม่เล่นกับป้องแล้วเหรอ”

“พี่เดี่ยวต้องอ่านหนังสือ ขาดเรียนหลายวันเดี๋ยวครูตีถ้าพี่เดี่ยวตอบคำถามไม่ได้”

ผมหาข้ออ้าง แล้วอุ้มป้องลงจากเตียงให้ยืนที่พื้น หน้าหวานยิ้มให้ผมอีกครั้งแล้ววิ่งตื๋อออกไป ผมรีบตามไป

ปิดประตูล็อคห้อง หันหลังพิงกับประตูพลางหายใจถี่

ขนลุกเกรียวไปหมดทั้งตัว ปวดบิดตรงท้องน้อยไปหมด ผมแก้ผ้าล่อนจ้อนแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำเปิดฝักบัวให้

มันรินรดจนเปียกปอน สำรวจตัวเองก็เห็นไอ้นั่นโด่ขึ้นมาอย่างน่าตกใจ

ไม่รู้จะทำอย่างไรให้มันคืนสภาพเดิม ผมเลยใช้มือจับมันไว้แล้วบีบเบาๆ

อืมมมม

เสียวท้องน้อยไปหมดเมื่อมือตัวเองกำมันไว้ ผมลองยกมันขึ้น บิดมันลง ความเสียวแล่นวูบจากตรงนั้นขึ้น

ไปถึงสมอง ผมเริ่มเรียนรู้ที่จะโยกมันไปมา

“อาฮู้”

เผลอครางออกมาเมื่อกล้ามเนื้อเขม็งเกลียว ผมพิงหลังไปกับผนังปล่อยให้สายน้ำจากฝักบัวปล่อยละออง

จนฉ่ำพื้นแล้วเร่งมือที่โยกรั้งจนกระทั่งน้ำเมือกสีขาวฉีดพุ่งออกจากตรงนั้นกระเด็นลงพื้นแล้วไหลไปกับ

สายน้ำ

ผมหอบหายใจถี่ ขาสั่นจนต้องทิ้งตัวไปนั่งกับพื้น

นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกกันว่าชักว่าว

การชักว่าวครั้งแรกที่มีแต่ใบหน้าของป้องลอยเต็มไปหมด

ให้ตายเถอะ

จะทำอย่างไรผมถึงจะทำใจว่าป้องคือน้องชายของผมได้

ผมยังมองไม่เห็นทางสักนิด









ตั้งแต่วันนั้นร่างกายของผมมันก็เปลี่ยนไป

ผมเสียงแตก รู้สึกถึงความยาวของ เอ่อเส้นขนในบางส่วนมันจะเยอะขึ้น ตัวที่สูงอยู่แล้วเริ่มมีกล้ามเนื้อ

คางของผมมีไรหนวดสีเขียวขึ้นเป็นปื้น กลิ่นตัวของผมแรงขึ้น และผมก็ต้องจัดการตัวเองในห้องน้ำบ่อยขึ้น

เวลาที่ป้องแอบมาหาผมในห้อง

ป้องต้องแอบเข้ามาเพราะรัศมีห้ามไว้ หล่อนไม่อยากให้ป้องมาสุงสิงกับผมที่หล่อนมองว่าเป็นคนทำให้พ่อ

ได้สมบัติน้อยลง ป้องเลยย่องมาหาผมนานๆ ครั้ง ซึ่งก็เป็นผลดีกับการที่ร่างกายของผมกำลังอยู่ในช่วง

เปลี่ยนแปลง

ความแปลกใจจะมีก็แต่แววตาของรัศมีที่มองมายังผมในช่วงหลังๆนี่แหละ ผมว่ามันดูแพรวพราวเกินเหตุ

“เรียนหนักไหมคุณเดี่ยว”

เป็นครั้งแรกที่แม่เลี้ยงยังสาวของผมกล้าเข้ามาทัก อาจเป็นเพราะวันนี้พ่อไม่อยู่

ใบหน้างามที่ป้องถอดแบบมาเคลื่อนเข้ามาใกล้เกินเหตุ ใกล้จนผมได้กลิ่นน้ำหอมจากร่างกายของเธอ

“ไม่จำเป็นต้องมาสนใจผม”

“ทำงั้นไม่ได้หรอก ยังไงฉันก็ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงคุณเดี่ยวนะ”

ในวัย 13 ปีกว่าๆ ตัวของผมสูงเลยเพื่อนรุ่นเดียวกันมานานแล้ว ในตอนนี้ผมสูงเกือบเท่ารัศมีนั่นแหละ

และด้วยความที่ฝั่งแม่ของผมคมเข้มและพ่อที่มีเชื้อสายจีน ทำให้ผมได้ส่วนผสมที่ค่อนข้างลงตัว

ผมขาวเหมือนพ่อ แต่เครื่องหน้าคมเหมือนแม่ คิ้วดกพันกันยุ่ง ดวงตาเรียวดุ จมูกโด่งที่คนอื่นมองว่าช่างดู

ดื้อรั้น ยะโส และปากได้รูป ทั้งหมดรวมกันทำให้เป็นที่สะดุดตาอยู่เหมือนกันถ้าไม่เข้าข้างตัวเองเกินไป

อาจเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้แม่เลี้ยงของผมใช้มือที่เคลือบเล็บสีสดเกลี่ยไปทั่วใบหน้าผม

“แม่เลี้ยงจะแสดงความรักกับลูกเลี้ยงบ้างจะเป็นไรไป”

ผมนึกตกใจที่รัศมีเคลื่อนกายเข้าหา แล้วเบียดตัวอุ่นกับหน้าอกอิ่มเข้ากับตัวผม





------------------------------------------ TBC -------------------------------------------------


นานๆ มาที ห้ามว่าเค้านะ

งานเยอะก็ส่วนหนึ่ง

แต่ดันเปิดทั้งฟิคทั้งนิยายหลายเรื่องเกินเหตุ

กระซิกๆๆๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 23-09-2014 23:04:08
รออ่านตอนต่อไป ติดตามค่ะ :mew1: :pig4:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 23-09-2014 23:15:59
จะเล่นลูกด้วยเหรอขุ่นแม่   :hao7:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-09-2014 00:12:42
อ้าว คุณแม่เลี้ยงขา มาทำพี่เดี่ยวใจแตกป่ะเนี่ย :ling3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Anong2013 ที่ 24-09-2014 00:15:13
ฝากนิยายด้วยครับ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43727.0
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-09-2014 02:02:10
น่าสนๆ ต้องตามม
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-09-2014 09:21:19
เจ้รัศมีกะเคลมลูกเลี้ยงอีกคน
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 24-09-2014 09:31:42
สงสารเดี่ยว น่ารังเกียจทั้งพ่อทั้งแม่เลี้ยง
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 24-09-2014 10:00:33
จะเอาทั้งพ่อทั้งลูก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 24-09-2014 11:17:26
 :hao5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-09-2014 11:42:30
เดี่ยวไม่เอาแม่ครับ เดี่ยวอยากได้ลูกแม่
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-09-2014 20:06:32
แหมมมม พอรู้ว่าเดี่ยวได้สมบัติก็หางโผล่เลยนะคุณแม่เลี้ยง
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-09-2014 20:23:23
น่าสงสารเดี่ยวกับป้องนะ

พ่อและแม่เหมือนเห็นลูกเป็นแค่เครื่องมือ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 24-09-2014 20:44:05
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:เลวได้ใจเลยอะพ่อของเดี่ยวนังแม่เลี้ยงนี่ก็แรดได้ใจเหมือนกัน :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 25-09-2014 10:44:09
สงสารพี่เด่ววของน้องป้องจังเลย.  นอกจากจะต้องเสียใจเรื่องแม่แล้วยังถูกกีดกันไม่ให้เจอน้องอีก และที่น่าหนักใจมากกว่านั้น คือแม่เลี้ยงสาว  ไม่อยากจะคิดต่อ แต่อยากอ่านตอนต่อไปแล้วง่า.  :katai1:

รอตอนต่อไปอย่ชางใจจดใจจ่อเลยคร่า

 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 26-09-2014 00:48:44
อีนังแม่จะแย่งว่าที่ผัวลูกซะละ :katai1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: N-T ที่ 30-09-2014 07:38:40
 :a5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-09-2014 10:04:25
โอ้โหหห แต่ละคน  :katai1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 4 ( 23 / 09 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: PorschePor ที่ 30-09-2014 10:19:33
โอ้โห อีคุณรัศมีมาเร็ว เคลมเร็วจริงๆ พ่อไม่เหลือสมบัติ เลยมาเอาลูกแทน
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 /57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-10-2014 03:05:14

                                                            เพลิงพ่าย

                                                             ภาคต้น

                                                              บทที่ 5


“ความจริง คุณเดี่ยวก็หน้าตาดีนะ แต่ชอบทำหน้าบึ้งเลยหมดหล่อรู้ไหม”

ผมก้มลงมองตามนิ้วมือเคลือบน้ำยาทาเล็บสีฉูดฉาดค่อยๆ ลูบไล้อยู่ตรงซอกคอของผม

อยากจะรู้เหมือนกันว่ารัศมีจะมาไม้ไหน

“แล้วไง”

“ก็ถ้าคุณเดี่ยวยิ้มสักนิด รับรองว่าหล่อบาดใจสาวๆแน่”

มุมปากของผมกระตุกเหยียดหยัน อกอวบอิ่มที่เบียดชิดเข้ามาไม่มีผลต่อผมเลยสักนิด

“ผมจะยิ้มให้กับคนที่คู่ควรเท่านั้นแหละ”

รัศมีชะงัก ดวงตาที่แต่งด้วยมาสคาร่าบอกถึงความไม่พอใจอยู่ในนั้น

“จะบอกว่าฉันไม่คู่ควรงั้นสิ”

“ก็คงงั้น”

“คุณเดี่ยว!”

ริมฝีปากสีแดงสดเม้มอย่างขัดใจ มือที่ลูบไล้อยู่แถวหน้าอกเลื่อนมากระชากที่ปกเสื้อนักเรียนของผม

“ยังไม่ทันจะโตเต็มตัวก็หยิ่งผยองเสียแล้ว”

เจ้าหล่อนเริ่มเกรี้ยวกราดใส่ผม

“ให้เกียรติกันบ้าง ถึงยังไงฉันก็เป็นแม่เลี้ยงของคุณ”

“เกียรติก็มีไว้ให้สำหรับคนที่ควรจะได้รับเหมือนกัน”

ผมตอบเสียงเย็น ยิ่งเรียกความคุกรุ่นให้กับผู้หญิงตรงหน้า

ไม่เคยนึกเหมือนกันว่าความโกรธจะบั่นทอนความงามของผู้หญิงไปได้มากถึงเพียงนี้ เพราะเมื่อรัศมีโมโห

หน้าตาของหล่อนช่างดูพิลึกพิลั่นในสายตาของผม

ดูเหมือนว่ารัศมีพยายามจะควบคุมอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง ปากสดฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับปล่อยมือจาก

คอเสื้อของผมแต่กลับเปลี่ยนไปคล้องคอผมแทน

แขนเกี่ยวคอผมไปจนใบหน้าเกือบจะชนกัน กลิ่นหอมจากน้ำหอมชั้นดีรวยรินเข้าจมูก

“ไม่เอาน่า เราอย่ามาทะเลาะกันเลย ญาติดีกันไว้ดีกว่าเพราะเราคงต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน”

มุมปากของผมยกยิ้มหยัน

“เหรอ ในฐานะอะไรล่ะ”

ผมลองเดินตามเกมส์แม่เลี้ยง รัศมีคลี่ยิ้มหวานจนผมเอียน

“จะในฐานะอะไร ก็แล้วแต่คุณเดี่ยวต้องการ”

จมูกโด่งชิดอยู่ตรงใกล้จมูกของผม ปากแทบจะชนกันอยู่แล้ว เสียงสั่นหลุดออกมาจากลำคอบอกให้รู้ถึง

ความต้องการของแม่เลี้ยงผม

“กำลังโตเป็นหนุ่มแบบนี้ กำลังต้องการใช่ไหมล่ะ เคยกับของจริงหรือยัง ถ้ายัง แม่เลี้ยงอย่างฉันจะได้สอน

ให้ไงล่ะ”

พอพูดจบปากสีแดงก็พุ่งมาประกบกับปากของผม รัศมีไม่ยอมให้ผมหนีไปไหนด้วยแขนที่คล้องไว้รอบคอ

ล็อคให้ผมยืนรับจูบเร่าร้อนที่หล่อนเป็นคนเริ่ม

ผมผลักรัศมีอย่างแรงจนกระเด็นหงายหลังไปนั่งกับพื้นอย่างไม่ค่อยสวยงามนัก หล่อนเงยหน้ามามองผม

ด้วยโทสะ

“ไอ้เด็กบ้า ทำงี้ได้ไง”

เสียงตวาดแว้ดทำให้ผมส่ายหน้า และยกท่อนแขนมาเช็ดปากที่เต็มไปด้วยน้ำลายและลิปสติกอย่างรังเกียจ

แม้ว่ารัศมีจะเป็นแม่ของป้อง แต่กลับไม่ได้ทำให้ผมใจสั่นแม้แต่สักนิด

“ผู้หญิงอย่างคุณนี่ทำให้ประชากรเพศหญิงทั้งโลกต้องอดสูนะ รู้ตัวหรือเปล่า”

ยอมรับว่าเป็นผู้ชายปากจัดนะผมน่ะ

“ทำตัวแบบนี้จะสอนลูกให้ทำตัวดีได้ไง คนแบบคุณเนี่ยนะที่เป็นแม่ของน้องชายผม”

“ไอ้เด็กปากหมา”

รัศมียันตัวขึ้นมาจากพื้นแล้วโผเข้ามาจะทุบตีผม ผมเลยใช้มือคว้าแขนเจ้าหล่อนแล้วเหวี่ยงไปกับพื้นจน

รัศมีหน้าคว่ำลงไปนอนกรี๊ด

“แม่ เป็นอะไรครับ”

เสียงเล็กดังขึ้นจากมุมหนึ่ง ผมหันขวับไปมองก็เห็นป้องกำลังดิ้นยุกยิกอยู่ในอ้อมกอดของพี่เลี้ยงจนต้อง

ปล่อยให้วิ่งถลาเข้ามาหาแม่

สีหน้าเทวดาตัวน้อยของผมดูตกใจที่เห็นแม่ร้องลั่นขนาดนั้น

“พี่เด่วแกล้งแม่ป้องเหรอ”

สีหน้าของป้องกลับทำให้ผมเจ็บจี๊ด

“พี่เด่วทำแม่ร้องทำไม”

“พี่เดี่ยวไม่ได้ทำแบบนั้นนะป้อง”

“ไม่จริง ก็แม่ร้องไห้”

น้ำตาไหลลงมาเปื้อนแก้ม สายตาไร้เดียงสาที่มองมาอย่างเจ็บปวด มันทำให้ผมอึ้ง

ป้องกำลังเข้าใจผมผิด

“ใช่ ป้อง พี่เดี่ยวทำแม่เจ็บ เขาแกล้งแม่เห็นไหม”

“นี่คุณ!”

ผมเดือด

“คุณกำลังใส่ไฟผมให้ป้องเข้าใจผิด”

รัศมียิ้มอย่างเป็นต่อ

“ดูพี่ชายของหนูทำกับแม่สิป้อง เขาผลักแม่ล้มจนหัวเข่ากระแทกพื้นเป็นแผลเลย”

“รัศมี!”

ผมตะโกนลั่น สติขาดกระจุยเมื่อโผเข้าหาคนที่กำลังปั้นหน้าหลอกเด็กพลางยกมือขึ้นสูงแล้วฟาดลงไป

“โอ๊ย!!! แง….”

“ป้อง”

ผมตกใจเมื่อร่างเล็กผวามากั้นร่างของคนเป็นแม่จนรับฝ่ามือของผมเข้าเต็มๆที่กลางหลัง

“พี่เดี่ยวไม่ได้ตั้งใจ พี่เดี่ยวขอโทษ”

“พี่เด่วใจร้าย เกลียดพี่เด่ว ฮือ”

“โอ๋ ป้อง มาหาแม่ เห็นไหมล่ะว่าพี่ชายเราน่ะร้ายแค่ไหน”

รัศมีคว้าร่างป้อมของป้องไปกอด ดวงตาที่มองมาทางผมเยาะเย้ยจนผมแทบคลั่ง

“ป้อง เชื่อพี่เดี่ยวนะ พี่เดี่ยวไม่ได้ตั้งใจ”

“ฮือ ไม่เชื่อ พี่เดี่ยวใจร้าย”

ผมกัดปากแทบแตก เสียใจสุดๆ กับคำว่าเกลียดจากปากเล็ก รัศมีที่กอดร่างเล็กที่ยังร้องไห้จ้ามองผมอย่าง

คนได้รับชัยชนะ ผมทนไม่ไหวจนต้องวิ่งหนีขึ้นห้องตัวเอง

ผมนั่งลงข้างเตียง ทิ้งตัวไปนอนแผ่อย่างหมดอาลัยตายอยากก่อนที่จะเผลอหลับไปทั้งชุดนักเรียน






กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ผมงัวเงียขึ้นมาอาบน้ำพอแต่งชุดนอนเสร็จผมก็ได้ยินเสียงอะไร

บางอย่างข้างนอกห้องก็เลยเปิดประตูเดินออกไป

เดินออกไปจนเกือบถึงห้องพ่อก็เห็นพ่อของผมกำลังดึงร่างอวบของรัศมีเข้ามาและซุกหน้าลงกับหน้าอก

อวบใหญ่ทั้งที่แทบจะยืนไม่อยู่ กลิ่นเหล้าบุหรี่ลอยอบอวลออกมาถึงในจุดที่ผมยืนอยู่ พ่อคง “อยาก” จนลืม

ปิดประตู

ผมโกรธ

โกรธที่พ่อทำตัวแบบนี้  ทำตัวกักขฬะบนเตียงที่แม่เคยนอน ในบ้านที่แม่เคยอยู่ รูปของแม่ยังแขวนอยู่ตรง

ข้างฝาดวงตาสวยคู่นั้นราวกับจะจ้องมาที่พ่อแล้วร้องไห้

พ่อถอดชุดนอนของรัศมีออกอย่างรวดเร็วแล้วเหวี่ยงไปตรงกลางที่นอน ร่างสูงใหญ่ของพ่อเซไปมาเมื่อ

รีบร้อนถอดเสื้อผ้าตัวเองแล้วกระโจนตามขึ้นเตียง

ผมเห็นแต่ความหื่นกระหายจากผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของผม

ผมแค้น

ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหายไปหมดแล้ว

ผมจะทนทำดีเพื่อใครกันอีก

แค้นจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง แค้นที่ต้องระบายออก

จะมีที่ไหนดีไปกว่า เหยื่อแห่งความแค้นของผม

แค่คิดเท้าก็ก้าวไป ก้าวไป แล้วมือก็กระชากประตูห้องเล็กที่อยู่ติดกับห้องของผม ร่างเล็กนอนหลับสนิทอยู่

บนเตียง หลับอย่างไร้เดียงสา

ก้าวขึ้นไปแล้วคุกเข่าคร่อมร่างเล็ก ใบหน้าหวานราวเด็กผู้หญิงทำให้ความรักความแค้นตีกันยุ่งเหยิง

แต่ไม่ว่าจะด้วยความรู้สึกไหน มันก็ดึงดูดให้ผมก้มหน้าลงไปแล้วกดจูบไปกับปากเล็กหนักหน่วง

“อื้มม”

ป้องลืมตาอย่างตกใจและพยายามดิ้น ผมกดแขนเล็กทั้งสองไปกับที่นอนอย่างง่ายดายและมือก็ฉีกเสื้อผ้า

เด็กน้อยขาดวิ่น

“พี่เด่ว ป้องเจ็บ ฮือ”

เมื่อผมถอนจูบป้องก็ร้องลั่น เสียงร้องเรียกสติของผมกลับมาได้ ผมชะงักงันไปครู่ใหญ่กับความบ้าบอของ

ตัวเอง

“ชวู่ ป้องอย่าร้องครับ พี่เดี่ยวไม่ทำอะไรแล้ว”

แม้พยายามปลอบแต่ป้องก็ยังร้อง จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเปิดผลัวะเข้ามา

“คุณเดี่ยว ทำอะไรป้อง”

เสียงรัศมีดังพอจะทำให้ผมตกใจจนกระโจนลงจากเตียง มายืนประจันหน้ากับหล่อนที่ยืนอยู่ตรงประตู

แม่ของป้องสีหน้าหงุดหงิดอยู่ในเสื้อคลุมรุ่ยรายผมเผ้ากระเซิง ดวงตาที่มองผมดูวาววับเมื่อผมอยู่ในสภาพ

ที่กระดุมชุดนอนหลุดลุ่ยจนเห็นเนื้อหนังข้างใน

“แม่ฮือออ”

ป้องร้องไห้ คลานตุ้บตั้บจากกองผ้าห่มออกมาอย่างไม่ถนัดนัก ในขณะที่รัศมีไม่มีแม้แต่จะปรายตามอง

ป้องแต่กับหรี่ตามองผมอย่างจับผิด

“นี่อย่าป้องนะว่าเข้ามาปล้ำไอ้ป้อง”

เสียงหัวเราะเสียดสีดังขึ้นจากผู้หญิงตรงหน้า มันทำให้ผมอับอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนีแต่ก็ทำได้

เพียงยืนกำหมัดฟังเสียงบาดแก้วหูนั่น

“ถ้าอยากมากทำไมไม่บอกกันเล่า ก็บอกแล้วว่าจะสอนให้”

รัศมีกระชากผมเข้าไปจูบโดยที่ผมตั้งตัวไม่ทัน

“จะบ้าหรือไง คุณเพิ่งจะนอนกับพ่อมาหยกๆ”

ผมยกแขนเช็ดปากอย่างรังเกียจ

“พ่อแกน่ะเหรอ โธ่ไอ้เดี่ยว นอนล่มปากอ่าวอยู่บนเตียงโน่นแหละ”

รัศมีแผดเสียงอย่างหงุดหงิด

“ผัวงี่เง่าอะไรไม่ได้เรื่อง ปล่อยให้เมียนอนค้างอยู่ได้ มานี่สิเป็นลูกมันก็มาทำแทนมันหน่อย”

แม้ว่าจะทำตัวเข้มแข็งเพียงไหน ผมก็ยังเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยังไม่ประสากับเรื่องอย่างว่า เมื่อผู้หญิง

อย่างรัศมีดึงตัวผมเข้าไปและกระชากเสื้อคลุมจนเห็นร่างเปลือยผมก็ตกใจไม่น้อย พยายามที่จะเบี่ยงร่าง

หนีแต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อผู้หญิงที่กำลังเต็มไปด้วยความต้องการดึงผมเข้าไปซุกกับหน้าอกหน้าใจอวบอิ่ม

โดยไม่สนใจลูกที่ยังนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนเตียง

“แม่ แม่จ๋า”

“อยากก็ทำเข้าสิ ให้ฟรีแล้วยังโง่อยู่อีก”

เสียงแหบพร่าดังอยู่ตรงหูนี่เอง ผมตกใจกับการกระทำของรัศมี แต่ก็ยังไม่เท่ากับตกใจเสียงบานประตูที่ถูก

ผลักกระแทกกับผนังห้องดังปัง!

รัศมีและผมหยุดนิ่งไปในทันทีต่างคนก็หันขวับไปมอง เห็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ยืนทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงประตู

“พ่อ”

“พี่ปัญญา”

ชายคนที่เป็นพ่อผมก้าวดุ่มๆ มากระชากผมออกจากเมียของเขา

“พ่อฟังเดี่ยวก่อน โอ๊ย!”

ผมถูกเหวี่ยงเข้าหาข้างฝา

รัศมียืนตัวสั่นที่เดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือใบหน้านั้นกลับเต็มไปด้วยน้ำตาก่อนที่จะโผเข้าไปกอดป้อง

“ลูกของพี่มันบ้า มันกลัดมัน มันเห็นฉันนอนกอดป้อง อยู่ๆ ก็เข้ามาจะปล้ำฉัน”

“โกหก”

ผมชี้หน้ารัศมีด้วยปลายนิ้วสั่นเทา

“หน้าด้านที่สุด”

“ไม่เชื่อก็ถามป้องสิ เมื่อตอนเย็นก็แกล้งฉันกับป้อง ใช่ไหมป้อง ตอบพ่อไปเร็ว”

ผมเห็นป้องสะดุ้ง เมื่อมือหนึ่งของรัศมีหยิกลงกับเอวในจุดที่พ่อมองไม่เห็น

“ไอ้ลูกเลว นี่มึงจะปล้ำเมียกูหรือ”

พ่อก้าวทีเดียวก็ถึงตัวผม เงื้อมือใหญ่ขึ้นสูงและฟาดแหวกอากาศลงมาอย่างรวดเร็ว

หน้าชาดิกเมื่อฝ่ามือปะทะกับใบหน้า ผมลมคว่ำไปกับพื้นมองเห็นดาวระยิบระยับไปหมด ช่องปากมีคาว

เลือดไหลลงมาช้าๆ

ผมอ้าปากค้าง ดวงตาเบิกโพลงจ้องหน้าพ่ออย่างไม่เชื่อสายตา

มองเห็นร่องรอยเสียใจอยู่ในแววตานั้นแวบหนึ่ง แวบเดียวเท่านั้นก่อนที่จะกลับมาร้อนดังไฟสุม

หากจะบอกว่าความรักระหว่างผมกับพ่อมันจบไปนานแล้วตั้งแต่แม่ตายก็ได้นะ แต่มันก็ยังมีสายใยบางๆ

เชื่อมเราสองคนอยู่ด้วยคำว่าพ่อกับลูก

แต่มาบัดนี้ สายใยบางๆ นั้นมันขาดสะบั้นลงแล้ว ด้วยมือของพ่อที่เลือกที่จะทำแบบนี้

ผมซมซานใช้มือไต่ผนังห้องขึ้นมา ดวงตาแห้งผากเมื่อหันกลับไปสบตากับเขา

คนที่ผมจะไม่ถือว่าเป็นพ่ออีกต่อไป

ไม่มีแม้แต่คำพูดร่ำลาเมื่อผมเซซังออกจากห้องนั้น ตามมาด้วยเสียงร้องไห้ดังลั่นของป้อง

หัวใจของผมแตกสลายไม่มีชิ้นดี

“มึงจะไปไหนไอ้เดี่ยว”

พ่อตะโกนไล่หลังเมื่อเห็นผมก้าวลงบันไดบ้าน

“จะไปไหนก็ไป ไอ้ลูกหัวแข็ง”

ผมเดิน เดิน และเดิน ทุกย่างก้าวผมเจ็บ แต่ผมก็จะไป

ไปจากที่นี่ แม้จะไม่มีอะไรติดตัวไปสักอย่างนอกจากชุดนอนชุดนี้

พ่อยังตะโกนด่าไล่หลังตามมา และคงนึกว่าผมจะอ่อนข้อให้

แต่ผมรู้ว่าไม่มีวันนั้นอีกแล้ว เมื่อผมเปิดประตูรั้วและก้าวออกไปจากบ้านหลังนี้





ผมเดินไปตามถนนเพียงลำพังยามดึก โดยที่ไม่หันกลับมามองบ้านหลังใหญ่หลังนั้นอีกเลย

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-10-2014 05:38:40
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-10-2014 06:33:15
สงสารเดี่ยวววว   T.T
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 01-10-2014 12:57:45
  :o12: :o12: :o12:  เสียใจกับพี่เดี่ยวอย่างถึงที่สุด  ผิดหวังในตัวพ่อพี่เดี่ยวมาก  และอยากจะ   :3125:  รัศมีอย่างแรง  สกายคิกใส่สักชุดก็ไม่สาแก่ใจ   :beat:


รอการกลับมาของพี่เดี่ยวนะคะ   :seng2ped:


นาน ๆ มาที  แต่ขอแบบยาว ๆ ได้มะ  มันไม่จุใจอ่ะ   :z3:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 01-10-2014 14:16:14
ทำไมต้องออกจากบ้านเอง น่ :katai1:าจะไล่ไอ้อีสองตัวนั่นกับลูกมันออกไปแทนนะ  :angry2:

ถึงจะเด็ก แต่น่าจะจำได้นะว่าแม่ยกบ้านนี้และทรัพย์สินทั้งหมดให้ตัวเอง

ไม่น่าโง่เดินออกมาแล้วยกทุกอย่างให้พวกเลวพวกนั้นเลย  :ling1:  :ling1: กรรม  :ling2:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: OJSG7 ที่ 01-10-2014 16:45:42
อายุครบเมื่อไร มาทวงของๆ เดี่ยวคืนสินะ
สู้ๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 01-10-2014 17:33:54
แล้วเดี่ยวจะไปอยู่ไหน
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-10-2014 20:24:57
โอ๋ยยยยย มันน่านัก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 01-10-2014 22:40:00
พี่เดี่ยวเข้มแข็งไว้นะ แต่อย่าทำน้องป้องร้องไห้ล่ะ น้องไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซักหน่อย สงสารทั้งคู่เลย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Opoln Miyabi ที่ 02-10-2014 00:40:21
อยากจะ :z6: :z6:ทั้งผัวทั้งเมีย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-10-2014 01:52:01
งะ แร้วรีบมาต่อนะ อดีตที่เจ้บปวด
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 02-10-2014 03:19:56
เป็นห่วงป้องจัง
ต้องอยู่ในความดูแลของพวกผู้ใหญ่ชั้นต่ำ เห้อออ
 :เฮ้อ:
พี่เด่วรีบกลับมารับน้องเถอะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 02-10-2014 11:13:51
/.me มอบรางวัลนางร้ายดีเด่นให้เจ๊รัศมี

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 02-10-2014 12:10:43
สงสารเดี่ยว
ส่วนนังรัศมีขอซะทีเถอะ :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Ipatza ที่ 02-10-2014 12:18:38
อ่าวแล้วนั้นจะไปไหนละ -*-
มันช่างดราม่าสะจริง
โลกนี้ยังมีผู้หญิงแบบนี้อีกหรอเนี้ย
กับลูกตัวเองก้ทำได้เนาะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-10-2014 17:49:55
เดี่ยวน่าสงสารมาก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 02-10-2014 20:08:13
เศร้า จากแล้วไม่หวนคืน
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 02-10-2014 22:37:50
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 03-10-2014 22:00:44
โอ๊ยยยยยย

สงสารเดี่ยวอ่ะ

ทำไมคนเป็นพ่อเป็นได้ขนาดนี้เนี่ย???
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 04-10-2014 07:30:36
นังรัศมี :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 05-10-2014 21:18:52
ชีวิตวัยเด็กรันทดแท้ :sad4:
ขอสักทีเหอะพ่อเวรกับนังรัศมี :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 5 ( 01 / 10 / 57 ) ภาคต้น <BRACON>
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-10-2014 18:21:35
ชีวิตสุดๆอ่ะ
หัวข้อ: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-10-2014 09:19:18
สวัสดีค่ะ

เรื่องนี้ลงบทที่ 5 เป็นบทล่าสุดไปตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งก็ยังไม่ได้ลงต่อ
เนื่องจากคนแต่งต้องทำงานทุกวันและไม่สบายนิดหน่อย
อาจจะลงได้อีกทีหลังวันที่12 ตุลาคมโน่นเลย ก็หวังว่าจะไม่ลืมกันก่อน

 :katai4: :katai4:

และอีกเหตุผลหนึ่งที่สำคัญเหมือนกันก็เพราะว่า
แท้แด่ แท้แด่ ผลงานเรื่อง ร้ายซ่อนรัก ที่เป็นเรื่องก่อนเรื่องนี้
ผ่านการพิจารณารวมเล่มแล้วคร้า
ดีใจจุงเบย  ผู้แต่งกำลังจะแต่งตอนพิเศษด้วยล่ะ
อิอิ

 :mew1: :mew1: :mew1: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-10-2014 10:48:12
เป็นกำลังใจให้ค่า
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 08-10-2014 11:05:08
เก็บตังค์สักพัก.    :katai5:   

ขอให้หายป่วยไว ๆ นะคะ


จะติดตามต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 08-10-2014 11:28:10
เป็นกำลังใจให้ด้วยอีกคน
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-10-2014 13:47:01
รอต่อปายยยยยย
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 08-10-2014 19:04:06
รอได้จ้า
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 08-10-2014 20:00:48
รอค่าาา
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย แจ้งข่าวค่ะ ( 08 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 08-10-2014 21:40:59
 :L2: :L2: :L2: :L2:สู้ๆจ้า :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-10-2014 19:26:19

                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                    ภาคต้น

                                                                     บทที่ 6


6เดือน  ผ่านไป


ผมจ้องมองตรงไปข้างหน้า สายตาเพ่งใส่กระเป๋าหนังสีดำมันเงาเนื้อดีที่อยู่ในมือไอ้ฝรั่งผิวขาวตาเป็นมัน

เห็นมันถืออยู่ไม่ห่างตัว ผมเดาว่าข้างในน่าจะมีของมีค่าให้ผมไปเล่นแร่แปรธาตุได้ไม่น้อย

ในย่านธุรกิจที่ผู้คนจอแจขนาดนี้ เป็นทำเลชั้นเลิศในการหากินของผม

ไอ้พวกนักธุรกิจจากต่างประเทศมักไม่ค่อยระวังตัวเพราะนึกว่าในย่านการค้าจะปลอดจากเด็กจรจัดอย่าง

ผม แต่พวกมันคิดผิด ผมรู้ เพราะผมอยู่กับนักธุรกิจมาตลอดชีวิตของผมนี่นา

เอาล่ะ เรามาพูดถึงเรื่องในวันนี้ก่อน

ผมยืดตัวสูง ดวงตายังคงไม่คลาดไปจากกระเป๋าใบนั้น รอจนไอ้ฝรั่งหน้าตาดีที่มีผมสีน้ำตาลเข้มก้าวมา

หยุดรอรถยนต์ยุโรปคันใหญ่มาเทียบที่ริมถนน ผมรอให้ไอ้ฝรั่งหน้าอ่อนอีกคนที่เป็นเบ๊เปิดประตูให้ และนั่น

คือเวลาของผม

เท้าที่ใส่รองเท้าผ้าใบคู่เก่าสีกระดำกระด่างขาดวิ่นจนเห็นนิ้วก้อยโผล่มาเริ่มออกวิ่ง ผมวิ่งเฉี่ยวจนไอ้ฝรั่งคน

นั้นเซเกือบหงายหลังแล้วก็คว้ากระเป๋าหนังใบนั้นมาจากมือของมัน ไม่ทันมองสีหน้าตกใจของมันกับไอ้เบ๊

ด้านข้าง เท้าของผมก็พาร่างผอมสูงวิ่งหนีทันที

วิ่ง วิ่ง และวิ่ง

เหมือนอย่างที่ผมทำมาตลอดหลายเดือนเพื่อดำรงชีวิต

คุณคิดว่าผมซึ่งเป็นเด็กฐานะดีถูกสปอยล์จากแม่มาตลอดอย่างผมจะอยู่ได้อย่างไรเมื่อก้าวเท้าออกมาจาก

บ้านหลังนั้น

บ้านของผมที่ผมเลิกคิดไปแล้วว่ามันเป็นบ้านของผม

หลายคนมาถามผมในตอนหลังว่าทำไมถึงโง่เดินออกมาจากบ้านของตัวเอง บ้านที่ตาและแม่เคยอาศัยอยู่

เมื่อเป็นผู้ใหญ่อาจจะมองว่าเป็นความคิดที่ตื้นเขินเต็มประดา แต่สำหรับผมซึ่งเป็นเด็กวัยรุ่นในเมื่อมันหมด

สิ้นซึ่งความผูกพันแล้ว แม้แต่อากาศผมก็ไม่อยากที่จะหายใจร่วมกัน

ทิฐิมานะทำให้ผมไม่คิดจะกลับไป ช่วงแรกผมไปวนเวียนอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทแบบลับๆล่อๆ เพราะพ่อก็

มาตามหาตามบ้านเพื่อน จนผมคิดว่าคงจะอยู่สร้างความลำบากให้เพื่อนฝูงแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงได้

ตัดสินใจที่จะออกมาเผชิญชีวิตตามลำพัง

เงินที่เพื่อนๆ ช่วยกันเจียดมาให้ หมดไปตั้งแต่สัปดาห์แรกเมื่อผมถูกจิ๊กโก๋อัดจนน่วมและแย่งเอาเงินไป

เหลือไว้เพียงเสื้อผ้าที่ขอจากเพื่อนมาไม่กี่ชุด จนกระทั่งบัดนี้เสื้อผ้าเหล่านั้นก็ทรุดโทรมลงตามการใช้สอย

ผมเริ่มเรียนรู้ชีวิตของเด็กจรจัดที่ต้องอาศัยนอนตามสวนสาธารณะหรือใต้ทางด่วน ผมเริ่มเรียนรู้การต่อสู้

แบบมวยวัดเพื่อป้องกันตัวเองจากเจ้าถิ่น และผมเริ่มเรียนรู้ที่จะหาเงินมายาไส้ด้วยการ ขโมย!

หลายครั้งที่ขโมยสำเร็จ และก็มีหลายครั้งที่ถูกจับได้ผมโดนลงโทษด้วยการซ้อมหรือจับส่งตำรวจให้ไปนอน

ในคุกเล่นๆ สักคืนสองคืนก่อนที่ตำรวจจะปล่อยผมออกมาเผชิญโลกอย่างระอากับเด็กเหลือขออย่างผม

นี่เหลืออย่างเดียวคือผมยังไม่ได้ลองเล่นยาเท่านั้นเอง

มันเป็นชีวิตที่ผมเลือก ผมเลือกให้มันต้อยต่ำและผมต้องยอมรับ บางทีผมก็แอบไปยืนอ่านหนังสือพิมพ์ที่

ประกาศหาเด็กหาย ผมเจอชื่อของผมที่พ่อยังใจดีประกาศไว้


“เด็กชายปราบดา อนันตกุล ขอให้กลับบ้านด่วน ทางบ้านให้อภัยเรื่องราวทั้งหมดแล้ว”


แต่ผมไม่ได้ให้อภัยพวกเขานี่นะ จึงไม่มีความจำเป็นที่ผมต้องกลับ ชีวิตของผมไม่จำเป็นต้องมีคำว่า

“ทางบ้าน” อีกแล้วแม้ว่าบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงร่างป้อมเนื้อตัวนุ่มนิ่มเวลากอดไว้แนบอก

บางครั้งหัวใจของผมก็ร้องไห้ออกมาเวลาที่อ่อนแอ เพียงเพราะผมคิดถึงป้อง น้องชายพ่อเดียวกันกับผม

“พี่เด่ว”

เสียงเรียกอย่างไร้เดียงสายังตามมาก่อกวนอยู่ในใจ ผมคิดถึงปากเล็ก คิดถึงลิ้นน้อยๆ ที่ผมเคยตวัดเกี่ยว

จนเคลิ้มไปกับความต้องการ เมื่อมันอัดแน่นผมก็ต้องว่าวมันช่วยตัวเองโดยมีใบหน้าของป้องอยู่ใน

จินตนาการเสมอ

นี่อาจเป็นเพียงความหลังเดียวที่ผมไม่อาจลืมเลือน







ช่างแม่งเรื่องความหลังอันเลวบัดซบของผมก่อนเถอะ ในเมื่อตอนนี้ผมกำลังวิ่งหนีไอ้เบ๊ฝรั่งที่กำลังวิ่ง

ตามหลังผมอย่างเอาเป็นเอาตาย

ตอนแรกก็เห็นมีเบ๊แค่คนเดียวนี่หว่า แต่ทำไมตอนนี้ผมเห็นฝรั่งวิ่งตามผมมาไม่ห่างถึงสองคนเมื่อผมเหลียว

กลับไปมอง ผมอาจคาดการผิด วันนี้อาจจะไม่ใช่วันของผม

และแล้วขาของผมก็ถูกขัดให้ล้มลงท่ามกลางผู้คนที่เดินขวักไขว่ ผมถลาคว่ำหน้าไปนอนวัดพื้นพร้อมกับ

เสียงวี้ดว้ายของพวกผู้หญิงที่พากันกระโจนหลบ พอพลิกตัวกลับมาอีกทีลิ้นปี่ก็ถูกตีนเท่าเรือใบกระทืบลง

มาจนผมตัวงอเป็นกุ้ง

คอเสื้อยืดตัวเก่งที่ย้วยจนเกือบขาดถูกกระชากจนติดมือหนาของพวกมันให้ลุกขึ้นมาจากพื้น อีกคนหนึ่งรีบ

คว้ากระเป๋าที่ผมกระชากมาจากเจ้านายของมันขึ้นมาหนีบไว้แนบลำตัว ไอ้คนที่คว้าคอเสื้อกระตุกยิ้มเย้ย

หยันจนผมนึกเคือง

“ถุย”

ผมถ่มน้ำลายใส่หน้ามันอย่างหยาบคาย เห็นมันรีบใช้มือข้างที่ว่างเช็ดหน้าอย่างรังเกียจจนผมเป็นฝ่ายยิ้ม

เยาะมันบ้าง ไอ้ฝรั่งตาน้ำข้าวมองผมอย่างเดือดดาลก่อนที่ฝ่ามือของมันจะซัดมาเต็มๆจนผมหน้าหงาย

เอาสิ อยากตบก็ตบมาอีก

ผมที่ชินชากับความเจ็บปวดจ้องหน้ามันอย่างไม่สะทกสะท้านเป็นการท้าทายกลายๆ มันชักสีหน้าแล้วเงื้อ

มือสูงอีกรอบ

“พอเถอะ แอนดรู เดี๋ยวมันจะตายคามือเสียก่อน”

เสียงภาษาอังกฤษทุ้มลึกดังขึ้นเป็นการขัดจังหวะ จนไอ้เบ๊ที่ชื่อแอนดรูอะไรนั่นค่อยๆ ลดมือลงมาอย่าง

เสียดายก่อนที่จะหันไปตอบรับเสียงทุ้มของเจ้านายมันที่ตามมาถึงตรงนี้แล้ว

“ครับ แด๊ด”

แอนดรูปล่อยคอเสื้อของผมอย่างขัดใจ ดวงตาสีฟ้ายังดูแค้นเคืองที่ผมถ่มน้ำลายรดหน้ามัน ส่วนไอ้เบ๊อีก

คนส่งกระเป๋าคืนให้นายของมันรับไปถือไว้เอง

ผมเพิ่งมีเวลาพิจารณาคนเป็นนายอย่างชัดเจน ร่างสูงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นอย่างคนที่ผ่านการออก

กำลังกายเป็นประจำ ผมหนาสีน้ำตาลเข้มและนัยน์ตาสีน้ำตาลคล้ายกับสีผมนั่นทำให้ผมเดาว่าน่าจะเป็น

คนยุโรปใต้ นายของพวกมันหน้าตาดีจัดได้ว่าหล่อเลยทีเดียว

ดวงตาสีน้ำตาลราวกับอัลมอนด์สบตาผม ผมเองก็จ้องตอบอย่างไม่นึกกลัวเลยสักนิด พักใหญ่มุมปากหยัก

ได้รูปจึงค่อยๆ คลี่ยิ้มออกมา

“ใจกล้าจริงๆ นี่ไม่ยอมหลบตาเลยสินะ”

ผมงงที่มันไม่นึกโกรธที่ผมกระชากกระเป๋า มิหนำซ้ำยังมีหน้ามาชมผมอีกว่าใจกล้า ภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่อง

ยากเพราะผมเรียนในโรงเรียนเอกชนชื่อดังที่ใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนทุกวิชายกเว้นวิชาภาษาไทย

“ชื่ออะไร”

นายมันถามผม แต่ผมยังนิ่งเฉย

“ชื่ออาราย”

คราวนี้มันเลยถามเป็นภาษาไทยแบบเพี้ยนๆ ผมก็ยังไม่ตอบจนอีกฝ่ายได้แต่ส่ายหน้ากับความดื้อของผม

“พามันกลับที่พักก่อน”

“แต่แด๊ดครับ…”

ไอ้แอนดรูรีบขัด

“มันกระชากกระเป๋าแด๊ด”

นายของมันที่แอนดรูเรียกว่าแด๊ดหันไปปรามด้วยสายตา

“ทำอย่างกับว่านายไม่เคยทำ ไป กลับกันได้แล้ว คนมองกันใหญ่แล้ว”

ร่างสูงของแด๊ดหันหลังกลับและเป็นฝ่ายเดินนำไป แอนดรูมันหันมามองผมก่อนขมุบขมิบด่าโดยไม่มีเสียง

แล้วเดินตาม เหลือแต่ไอ้เบ๊อีกคนที่ดูท่าจะใจเย็นกว่าแอนดรูคว้าคอเสื้อให้ผมเดินตามกลับไปทางโรงแรม

ห้าดาวที่ผมเพิ่งไปกระชากกระเป๋าของแด๊ดเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา










ผมยัดข้าวเข้าปากอย่างหิวโหยและตะกละมูมมาม ไม่นานข้าวผัดกระเพราไข่ดาวของโรงแรมชั้นนำก็ตก

ไปอยู่ในท้องของผมถึงสองจาน ก่อนที่ผมจะเรอออกมาเมื่อวางช้อนลงบนจานที่ว่างเปล่าไม่เหลือข้าวแม้แต่

เม็ดเดียว

ก็ผมไม่ได้กินอาหารดีๆอย่างนี้มานานแล้วนี่นา เมื่อไอ้แด๊ดมันสั่งให้ผมเลยสนองน้ำใจจนหมดเกลี้ยง

“อาหร่อยหมาย อิ่มหรือยาง”

ภาษาไทยที่แสนจะฟังยากทำให้ผมพยักหน้าแกนๆ จะบอกมันดีไหมว่าพูดภาษาอังกฤษจะดีกว่า

“ทามมายเป็นขะโมย พ่อแม่อยู่หนาย”

ผมยังเลือกที่จะเงียบ จนไอ้แอนดรูหมดความอดทน

“ไม่มีจะแดกยังเสือกจะหยิ่ง โธ่ไอ้ลูกหมา”

“กูไม่ใช่ลูกหมา กูเป็นพ่อหมาอย่างมึงเหอะ”

อารมณ์โมโหที่แอนดรูมันกระทืบยังคุกรุ่นจนผมเผลอตอบโต้เป็นภาษาอังกฤษ แด๊ดมันหรี่ตามอง

“พูดอังกฤษได้ดีขนาดด่าได้ชัดถ้อยชัดคำขนาดนี้ ไม่ใช่เด็กเร่ร่อนธรรมดาแล้ว”

นัยน์ตาที่มองมาจะว่าดุก็ดุ แต่กลับฉายแววปรานีเมื่อมองมาทางผม

“ตกลงจะบอกได้หรือยังว่าชื่ออะไร”

“เดี่ยว”

ผมตัดสินใจบอกไป

“พ่อแม่ล่ะ”

ผมนิ่งงันพักใหญ่

“ไม่มี”

เสียงนั้นคงขื่นขมจนไอ้แด๊ดรู้สึกได้ มันเอื้อมมือมาวางบนหัวผมแล้วโยกเบาๆ

ผมเกลียดมัน ไอ้แด๊ด มันทำให้ขอบตาของผมร้อนผ่าวทั้งที่ผมเลิกร้องไห้ไปนานแล้ว

แค่มันมองมาด้วยดวงตาคู่นั้นและรอยยิ้มอีกนิดหน่อย อยู่ๆ น้ำตาผมก็ไหลออกมา

แค่มันดึงหัวให้ผมไปซบอยู่กับแผ่นอกของมัน ผมก็สะอึกสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น

ผมปล่อยโฮจนเสื้อมันเปียกชุ่ม ความเหน็ดเหนื่อย เจ็บปวดตลอดหกเดือนที่ผ่านมาถูกปลดปล่อยไปกับการ

ร้องไห้จากสัมผัสอ่อนโยนของมัน

ผมร้องไห้จนหมดแรง แด๊ดจึงได้ปล่อยผมและพยักหน้าให้เบ๊ที่ผมเพิ่งได้ยินชื่อว่าเดวิดเข้ามาประคองพาผม

ไปนอนแผ่อยู่บนโซฟาสวยกลางห้อง

แอร์เย็นๆ และหนังท้องที่ตึงทำให้ผมผล็อยหลับไป แต่ก่อนจะหลับผมได้ยินเสียงสนทนาแว่วเข้ามาในหู

“เป็นเด็กที่อดทนและเข้มแข็งมาก”

“ไม่นะ แด๊ด อย่าบอกว่าจะรับเลี้ยงมันอีกคน”







มีต่ออีกนิดค่ะ .....
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-10-2014 19:31:25
ต่อกันอีกหน่อย







เสียงแอนดรูค้านดังแผ่วเข้ามา

“จะเป็นไรไปล่ะ ถ้าบ้านเราจะมีสมาชิกเพิ่ม”

“แดมมม คนไทย มีแค่ไอ้โมกข์ผมก็ปวดหัวแล้ว”

“เดี๋ยวแด๊ดซื้อยาแก้ปวดหัวเก็บไว้ให้ลังใหญ่เลย เดวิด ระหว่างที่แด๊ดทำงานช่วยสืบประวัติเด็กคนนี้ด้วย

นะ”

สติของผมสิ้นสุดลงตรงนั้น โดยที่ยังไม่เข้าใจอะไรทั้งสิ้น








ผมหลับสนิทอยู่บนโซฟาตลอดทั้งคืนจนกระทั่งลืมตาตื่นมาในยามสายของวันรุ่งขึ้น

งัวเงียขึ้นมาทั้งขี้ตาก่อนที่จะสำรวจไปรอบห้องจนมาหยุดอยู่ที่เดวิดตรงโต๊ะตัวเล็กที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง

ในโรงแรมหรู

ไอ้แด๊ดนี่มันต้องมีเงินเยอะ ถึงมาพักห้องชุดสุดหรูที่มีห้องนอนถึงสองห้องแถมด้วยห้องนั่งเล่นด้านนอกที่

ผมนอนแผ่อยู่นี่ด้วย เดวิดมันได้ยินเสียงผมขยับตัว มันจึงได้เงยหน้าหล่อๆ ของมันเหลือบมองผม

ดีนะที่ไอ้หมอนี่มันเป็นคนเงียบท่าทางใจเย็น ไม่เหมือนไอ้แอนดรูขี้โวยวาย

“ตื่นแล้วหรือ ไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาก่อน แล้วเดี๋ยวฉันมีเรื่องจะคุยด้วย”

มันไล่ผมให้ไปอาบน้ำแล้วเอาเสื้อผ้าของมันมาให้เปลี่ยน ผมเลยเหมือนเด็กที่ขโมยชุดผู้ใหญ่มาใส่เพราะ

ถึงแม้ผมจะสูงกว่าเด็กวัยเดียวกันแต่เดวิดมันก็ไซส์ฝรั่งที่เป็นหนุ่มเต็มตัวเลยตัวใหญ่กว่าผมเยอะ

ผมได้อาบน้ำครั้งแรกในรอบเดือนได้มั้ง เมื่อความสดชื่นมาเยือนก็ทำให้สมองโล่งพอที่จะมานั่งประจันหน้า

กับเดวิดได้

“คนอื่นไปไหนหมด”

ผมเอ่ยถามอย่างแปลกใจที่เห็นเดวิดอยู่คนเดียว

“แด๊ดไปติดต่องาน เอาแอนดรูไปด้วย ทิ้งให้ฉันคุยธุระกับนาย”

เดวิดเข้าเรื่องไม่เยิ่นเย้อ

“แด๊ดอยากอุปการะนาย”

“อะไรนะ!”

ผมร้องเสียงหลง

“แด๊ดถูกชะตากับนายก็เลยอยากรับเลี้ยง เหมือนที่เลี้ยงฉันกับแอนดรูมา”

ผมสบตาเดวิด

แท้ที่จริงแล้วแอนดรูกับเดวิดไม่ใช่เบ๊อย่างที่ผมเข้าใจ แต่เป็นเด็กที่แด๊ดรับมาอุปการะต่างหาก

“แด๊ดใจดี ช่วยเหลือพวกเราที่เป็นเด็กจรจัดเหมือนนายให้ชีวิตใหม่ให้การศึกษาโดยไม่เรียกร้องสิ่งตอบ

แทนอะไรเลย ถ้านายอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ก็ไปกับแด๊ด”

เดวิดให้คำแนะนำง่ายๆ

สิ่งที่ผมได้ข้อมูลมาในภายหลังคือแด๊ดเป็นคนอิตาลี ชื่อ กัสโต แลงดาจิโอ แต่ย้ายไปอยู่ที่อเมริกา

สถานะโสดในวัยย่างเข้าสามสิบปลายๆ ใกล้สี่สิบแล้ว อาชีพนักธุรกิจที่อาจข้องเกี่ยวกับพวกมาเฟียที่ทำให้

แด๊ดร่ำรวยขึ้นมาตั้งแต่อายุเท่านี้เอง

เมื่อราวหกถึงเจ็ดปีที่ผ่านมาเมื่อแด๊ดเริ่มมีชื่อเสียงและตั้งตัวได้ในธุรกิจมืดแด๊ดเริ่มให้การอุปการะเด็กจรจัด

ที่แด๊ดถูกชะตาแอนดรูและเดวิดเป็นสองคนแรก ผมเพิ่งรู้ว่าทั้งคู่อายุยี่สิบนิดๆ เท่านั้นเอง

ทั้งแอนดรูและเดวิดอยู่กับแด๊ดจนรู้ใจ และแด๊ดให้ติดสอยห้อยตามเพื่อสอนและฝึกการทำงานให้ เดวิด

ไม่ได้ส่งเสริมหรือขัดขวาง เขาปล่อยให้ผมตัดสินใจด้วยตัวเอง

ผมนิ่งคิดถึงความอบอุ่นจากฝ่ามือใหญ่ที่เรียกน้ำตาจากผมได้ ชีวิตที่ไม่มีค่าอาจกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีก

ครั้ง ไม่ว่าแด๊ดจะมีประวัติด่างพร้อยในสายตาผู้อื่นอย่างไร แต่สำหรับคนที่หมดทางไปแด๊ดเหมือนแสง

สว่างเล็กๆที่ปลายอุโมงค์

ผมคิดอย่างถี่ถ้วน จนกระทั่งแด๊ดกลับมาเมื่อตอนเย็นผมก้าวไปคุกเข่าต่อหน้าเขา

“ผมขอโทษที่ทำผิดต่อคุณ”

ผมกล่าวออกไป

“และผมก็อยากที่จะไปอยู่กับคุณ”

แด๊ดยิ้มปรานีอีกครั้ง

“เรียกว่าแด๊ดเถอะ เหมือนทุกคนที่แด๊ดเลี้ยงดู แด๊ดยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรา”

“ชิส์”

เสียงแอนดรูสบถเบาๆ แต่ผมไม่ได้สนใจมากนัก

“แต่เดี่ยวต้องไปทำพาสปอร์ตและวีซ่าเพื่อไปอเมริกากับแด๊ดในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า”

“ผมมีเรื่องอยากขอร้องแด๊ดครับ”

แด๊ดมองตาผมแทนการถาม

“ผมอยากเปลี่ยนชื่อและนามสกุลใหม่ แด๊ดช่วยผมได้ไหมครับ”







ผมเดินตามฝรั่งร่างสูงทั้งสามคนผ่านเก็ทเวย์ไปที่เครื่องบิน เมื่อยื่นตั๋วเครื่องบินและเอกสารทั้งหมดผ่านแล้ว

“เด็กชาย ปราบ ปริวัตร เชิญค่ะ”

ไม่รู้ว่าเดวิดทำอย่างไร แต่เวลาแค่สองอาทิตย์ก่อนที่แด๊ดจะเดินทางกลับ ผมก็ได้รับชื่อและนามสกุลใหม่

อย่างที่ต้องการ ผมไม่ได้ใช้นามสกุลของตาแต่ผมเลือกใช้นามสกุลของยายที่มั่นใจว่าคนอย่างพ่อไม่เคย

สนใจที่จะรู้หรอก เดวิดจัดการให้ผมแทนแด๊ดจนได้ทั้งพาสปอร์ตและวีซ่ามาอย่างรวดเร็วทันเวลาที่จะ

เดินทางพร้อมกัน

ผมสูดลมหายใจเข้าปอดเมื่อเครื่องบินเร่งเครื่องเตรียมทะยานขึ้นฟ้า

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 14 ปีของผม

ปราบดา อนันตกุล ได้ตายไปแล้วจากโลกใบนี้

เหลือเพียงชีวิตใหม่ที่ผมยังไม่รู้ชะตากรรมถือกำเนิดขึ้นมาแทนที่

แม่ครับ

แม่เป็นกำลังใจให้ลูกชายคนนี้ด้วย

ลูกชายที่จะก้าวไปเผชิญโลกกว้างเพียงลำพัง ในนามของ ปราบ ปริวัตร

ผมหลับตาลงเมื่อเครื่องบินลำใหญ่บินสูงเหนือพื้นดินประเทศไทย ตรงไปสู่ อเมริกา เมืองแห่งเสรีภาพ



------------------------------------------- จบภาคต้น ----------------------------------



คุยกับผู้แต่ง

จบภาคต้นแล้วนะคะ ตอนต่อไปจะเข้าสู่ ภาคกลาง

สปอยล์นิดๆ ภาคนี้น้องป้องไม่ออก ขออภัยแฟนคลับด้วย

เพราะจะเป็นภาคในวัยรุ่นเต็มตัว เราจะได้เจอกับโมกข์และแดเนียลแล้วค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ


.ล. แต่งแล้วรีบลง ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ เจอแล้วบอกด้วย

หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-10-2014 20:02:52
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 11-10-2014 20:54:26
หวังว่าถ้าโตแล้วจะกลับมาคืนพวกมันทุกคนรวมทั้งพ่อเชี่ยๆนั่ด้วยนะ
ของๆเราทุกอย่างอย่าให้พวกมันได้เสวยสุขกันต่อไปเลย ต้องกลับมาทวงคืนให้ได้นะ
ไหนๆแม่ก็ยกทุกอย่างให้แล้ว อย่าทิ้งมันไปให้พวกเลวๆง่ายๆล่ะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-10-2014 21:00:15
อย่างน้อยพี่เดี่ยวก็ได้เจอสิ่งดีๆบ้างล่ะนะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 11-10-2014 21:21:43
 :mc4:   ภาคต้นน่าติดตามอ่ะ  มีพี่โมกขสมัยยังเอ๊าะ ๆ ด้วย   :katai5:  ต้องตามไปติด ๆ อย่างน้อย  ๆ จะได้รู้ว่าไอ้แดเนียลมันเป็นใคร  มาจากไหน  เกิดจากคนหรีอว่าอะไร  ทำไมเลวอย่างนี้  น่าจับถ่วงน้ำซะให้เข็ด  ว่าแล้วก็โมโหตั้งแต่เร่ีองที่แล้ว   :m16:  เกลียดจริง ๆ เลย    แต่หวังว่าพี่ปราบจะจัดการแก้แค้นแทนคนอ่านอย่างสาสม  เพราะดูชีวิตวัยเด็กจนวัยหนุ่มปราบจะมีมรสุม  และผ่านเร่ี่องร้่าย ๆ เยอะมาก ๆ เริ่มรู้สึกเครียดตั้งแต่ต้นเร่ีองแล้ว   :hao5:  กว่าจะหลอมจนเป็นปราบในปัจจุบันคงต้องกลั่นกันอย่างเคี่ยวมาก ๆ เลยสินะ  อย่างนี้ค่อยสมน้ำสมเน้ี้อกับอิตาแดนหน่อย  พี่โมกขคงจะใจดีเกินไป   :ling2: 


รอภาคกลางมาต่อนะคะ  ส่วนคำผิดยังไม่เจอค่ะ เพราะอ่านเพลิน ล่ี่นปรี๊ด ๆ เลย


 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 11-10-2014 21:53:19
อย่าลืมไปตอบแทนผู้มีพระคุณให้สาสมกับการกระทำนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 11-10-2014 23:27:20
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:มาต่อแล้วววววววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-10-2014 01:46:29
รีบมาต่ออีกน้า ชอบจุงงง
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-10-2014 03:13:33
 :heaven  เผชิญโลกกวัาง เพื่อเป็นเมะเต็มตัว
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 12-10-2014 06:35:05
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 12-10-2014 10:56:51
แอบสะเทือนใจ ที่ตลอดเวลา 6 เดือนที่เดี่ยวออกจากบ้านมาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้
คือเก่งมากนะ ที่อยู่มาได้

ลาก่อน ปราบดา อนันตกุล
แล้วพบกัน ปราบ ปริวัตร
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-10-2014 14:35:44
ปราบสู้ๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 12-10-2014 18:01:33
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-10-2014 07:31:08
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 13-10-2014 13:41:24
ขอบคุณครับ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-10-2014 12:04:17
สงสารพี่เด่ว
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 16-10-2014 20:47:53
คิดถึงน้องป้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 16-10-2014 21:34:04
รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 18-10-2014 14:22:38
คิดถึงพี่เด่วแล้ววววววว
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 6 ( 11 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 19-10-2014 03:18:40
ป้องจะเป็นยังไงบ้างนะนั่น
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-10-2014 14:27:47

                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                   ภาคกลาง

                                                                    บทที่ 7

บ้านของแด๊ดหลังใหญ่มาก ผมเรียกมันว่าคฤหาสถ์เลยดีกว่า

มันเหมือนปราสาทหลังหนึ่งในหนังฝรั่ง สถาปัตยกรรมก่อสร้างทรงงดงามท่ามกลางสวนกว้างจากรั้วด้าน

นอกที่เปิดปิดอัตโนมัติด้วยรีโมทคอนโทรลจากคนรับใช้ในบ้านต่อเมื่อได้รับคำสั่งอนุญาต โดยผู้มาเยือน

จะต้องแจ้งชื่อและหน้าตาผ่านกล้องวงจรปิดแล้วเท่านั้น         

แต่แค่เพียงรถยนต์คันยาวของแด๊ดที่ประกอบด้วยคนขับรถ แอนดรู เดวิด แด๊ด และสมาชิกใหม่ที่นั่งตื่นตา

อยู่ที่เบาะหลังสุดคู่กับแด๊ดมาถึง รั้วหน้าบ้านก็เปิดออกทันที

รถยนต์หรูจอดลงหน้าทางขึ้นคฤหาสถ์ แด๊ดเปิดประตูก้าวลงไปโดยไม่รอให้ใครมาเปิดให้แล้วก้มหน้ามาหา

ผม


“ลงมาสิปราบ


ผมก้าวออกจากรถไปยืนขาสั่นกับสถานที่ใหม่ และ ชีวิตใหม่

แอนดรูเบ้ปากใส่ผมก่อนที่จะก้าวยาวๆ ไปช่วยคนรับใช้ฝรั่งตัวสูงขนของออกจากรถยนต์และยกมันเข้าบ้าน

ในขณะที่เดวิดยิ้มน้อยๆ คล้ายแด๊ดแล้วจึงเดินไปช่วยแอนดรูขนของ

เหลือเพียงหนุ่มใหญ่ที่ยกมือแต่บ่าของผมอย่างใจดี


“ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรา ปราบ


มือใหญ่บีบเบาๆที่ไหล่เพื่อพาผมก้าวเดินขึ้นบันไดเข้าสู่ภายในที่ยิ่งทำให้ผมตัวลีบเล็ก ผมเคยคิดว่าบ้าน

ของผมก็ใหญ่โตแล้ว เมื่อมาเทียบกับที่นี่ความโอ่อ่าของมันทำให้ความคิดของผมพังทลายลงไปหมด

ผมเงยหน้าขึ้นมอง ห้องโถงกว้างความสูงจรดชั้นสองด้านขวามือเป็นห้องรับแขกที่ประกอบด้วยเฟอร์นิเจอร์

หรูหรา มองเห็นห้องแยกเล็กๆ ที่น่าจะทำไว้เป็นห้องประชุมมิดชิด ส่วนด้านซ้ายมีโต๊ะอาหารกว้างขวางจน

สามารถนั่งได้เป็นสิบๆ คน ด้านหน้าของผมมีบันไดวนใหญ่โตราวจับสีทองมุ่งขึ้นสู่ชั้นบนที่มีทางเดินกว้าง

รอรับ ผมเห็นสายตาหลายคู่จ้องมองผมมาจากด้านบน


“แด๊ดกลับมาแล้ว”

“พาเด็กใหม่มาด้วยโว้ย”

“คนเอเชียเหรอ”

“แด๊ดไปเมืองไทยก็ต้องเป็นคนไทยดิ”

“ว้า ไปคราวที่แล้วพาไอ้โมกข์มากูยังไม่ชินกับมันเท่าไหร่เลย ไอ้คนนี้มาจะเป็นไงบ้างวะ”


เสียงพึมพำค่อนข้างดังอย่างไม่เกรงใจเรียกรอยยิ้มขึ้นได้จนใบหน้าหล่อเหลาของแด๊ดคลี่ยิ้มออกมา


“จะนินทาก็ขอเสียงเบากว่านี้นิดนึง นี่แด๊ดจำได้หมดนะว่าเสียงใคร ออกมาต้อนรับสมาชิกใหม่กันหน่อย”


ใบหน้าผลุบโผล่เริ่มทยอยแสดงตัวก่อนที่เด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่อายุไม่น่าจะต่างจากผมมากนักกรูกันลงมา

จากบันไดแล้วพากันโผเข้ากอดแด๊ดพลางส่งเสียงทักทายจ้าละหวั่นโดยมีผมยืนมองห่างๆ แด๊ดทักทายจน

ครบจึงได้ยกมือปรามให้ทุกคนเงียบลง


“โมกข์กับแดนล่ะ”

“ไอ้โมกข์อยู่ในห้องส่วนไอ้แดนออกไปทำงานอะไรก็ไม่รู้ที่โรงเรียนครับ”


คนหนึ่งกล่าวตอบ แด๊ดพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะหันมาหาผมให้ผมเดินเข้าไปหา แด๊ดวางสองมือไว้บนบ่าของ

ผมดันตัวให้เผชิญหน้ากับทุกคนที่จ้องมอง


“แด๊ดไปเมืองไทยและได้รู้จักเด็กคนหนึ่งที่มีชีวิตที่น่าสงสารไม่แพ้พวกเราทุกคน และแด๊ดหวังว่าพวกเราจะ


ให้การต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้ง สมาชิกใหม่ของครอบครัวเราชื่อปราบ รู้จักกันไว้นะ”


เสียงทักทายดังลั่นจอแจจนผมงงไปหมดจากเด็กหนุ่มเกือบสิบคนตรงหน้า จนแด๊ดต้องยกมือห้ามอีกครั้ง


“แนะนำแบบนี้ปราบจะไปจำได้ยังไง แต่ไม่เป็นไรอยู่ๆ ไปก็จำกันได้เอง ตามแด๊ดมาสิจะพาไปห้องพัก แด๊ด

ให้อยู่ห้องเดียวกับเพื่อนคนไทยด้วยกัน”


เสียงฮือดังหึ่งๆอยู่ด้านหลังจากกลุ่มเด็กหนุ่ม


“ไอ้โมกข์จะมีรูมเมท โอย หวังว่าคงอยู่กันรอด”

“เฮอะ ใครจะอยู่กับมันได้ กูเคยอยู่ตอนนั้นแค่สามวันยังทนไม่ไหว”


ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าไอ้คนชื่อโมกข์นี่มันเลวร้ายเพียงใดถึงมีแต่คนพูดถึงในแง่เลวร้ายบ่อยครั้ง จนกระทั่ง

แด๊ดพาผมขึ้นบันไดมาที่ชั้นสอง

ถัดจากบันไดเป็นลานกว้างมีโซฟาและโต๊ะตัวเล็กเอาไว้ให้นั่งเล่น ทางเดินแบ่งเป็นสองปีกซ้ายขวา แต่ละ

ปีกมีประตูห้องให้เห็นอยู่หลายห้อง เอาไว้ผมอยู่นานกว่านี้จะลองนับดูว่าคฤหาสถ์นี้มีกี่ห้องกันแน่ แด๊ดชี้ให้

ดูประตูใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าลานกว้าง


“นี่ห้องแด๊ด”


แด๊ดเดินนำผมไปทางปีกขวา ผ่านประตูไปจนถึงประตูที่สามจึงได้เคาะประตูเบาๆ รอไม่นานประตูนั้นก็เปิด

กว้างด้วยคนตัวสูงใหญ่กว่าผม แด๊ดพาผมเข้าไปในห้อง

เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักมัน ไอ้คนไทยตัวสูงหน้าคม ตาดุ แต่เมื่อเห็นแด๊ดดวงตาคู่นั้นก็สว่างไสวขึ้นมาทันที


“แด๊ดกลับมาแล้ว”


“ใช่ กลับมาพร้อมกับเพื่อนใหม่มาจากเมืองไทย แด๊ดจะให้มาอยู่กับโมกข์ให้โมกข์เป็นพี่เลี้ยง”


ดวงตาคมหม่นแสงลงเล็กน้อย


“ผมกลัวว่าเขาจะทนไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ”

แด๊ดเดินเข้าไปยกสองแขนกอดปลอบโยน


“เมื่อไหร่ที่แผลในใจถูกกาลเวลาเยียวยาให้หายบาดเจ็บเหลือแค่รอยแผลเป็น ลูกชายของแด๊ดก็จะหายจาก

มัน เชื่อแด๊ดเถอะ มานี่ แด๊ดจะแนะนำให้รู้จักเพื่อนใหม่ชื่อปราบ”


แด๊ดหันมาทางผม


“ปราบ เพื่อนคนนี้ชื่อโมกข์ เขามาอยู่กับแด๊ดก่อนหน้าปราบได้สักปีกว่าแล้ว แด๊ดจะให้ปราบอยู่ห้อง

เดียวกับโมกข์ รู้จักกันไว้สิ”


ผมสบตาดุของโมกข์แล้วคลี่ยิ้มให้ เห็นมันยิ้มตอบแค่นิดเดียว แต่นัยน์ตาที่มองมาทำให้ผมถูกชะตาด้วย

แด๊ดอยู่คุยอีกพักหนึ่งจึงได้ขอตัวไปพักผ่อน ปล่อยให้ผมอยู่กับโมกข์

ผมมองสำรวจห้องเล็กที่ประกอบด้วยเตียงเดี่ยวสองเตียงอยู่คนละฝั่งฟากของห้อง มีตู้เสื้อผ้าบิวท์อินอยู่

ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นประตูห้องน้ำ


“เราต้องนอนเตียงไหน”

โมกข์ชี้มือไปที่เตียงว่าง ผมเดินไปโยนกระเป๋าเป้ใบเก่าคร่ำคร่าลงไปบนเตียงแล้วนั่งลงพลางถอนหายใจ

อย่างอ่อนเพลียจากการเดินทาง


“มึงไปทำอะไรให้แด๊ดพามานี่ได้”


โมกข์เอ่ยถาม


“วิ่งราวกระเป๋าแด๊ด”


ตาคมจุดรอยยิ้มขัน


“มึงผ่านด่านไอ้แอนดรูจนถึงตัวแด๊ดได้ไง”


ผมยักไหล่


“มันเผลอ แต่พอวิ่งหนีก็ถูกมันวิ่งไล่มากระทืบจนจุกไปหมด นายล่ะ”


“แด๊ดไปเจอกูตอนกูหนีจากโรงพยาบาลรักษาโรคจิต”


ผมขมวดคิ้วมองโมกข์ที่เล่าอย่างเป็นเรื่องปกติเหมือนเขาพูดคุยเรื่องดินฟ้าอากาศ


“เกิดอะไรกับนาย”


“บ้านกูเจ๊งแม่กูหนี พ่อกูเลยยิงตัวตายต่อหน้ากู ก็…แค่นั้น”


โมกข์ลงท้ายว่าแค่นั้น แต่ผมกลับรู้สึกถึงความสะเทือนใจไม่น้อยเมื่อไหล่ของมันสั่นเบาๆ


“ญาติห่างๆที่แสนจะหวังดีชิบหายพากูไปทิ้งที่สถานสงเคราะห์ กูกลายเป็นโรคซึมเศร้าจนเขาต้องพาไป

รักษาที่โรงพยาบาล กูทนกับการรักษาไม่ได้ก็เลยหนีออกมา บังเอิญว่าแด๊ดไปเมืองไทยพอดี กูเลยเจอแด๊ด

ตอนที่กูซมซานอยู่ข้างถนน”

โมกข์เล่าความเป็นมาของมันให้ผมฟัง จนผมอดนึกไม่ได้ว่าชีวิตมันโหดร้ายกว่าผมนัก แล้วมันก็เล่าความ

เป็นมาของสมาชิกในบ้านหลังนี้ให้ฟัง

    ไม่ใช่มีแต่เด็กผู้ชายที่แด๊ดรับเลี้ยง เด็กผู้หญิงก็มีแต่ไม่สะดวกที่จะให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แด๊ดเลย

อุปการะเป็นเงินและฝากเลี้ยงดูตามบ้านโฮสที่ไว้ใจได้ในบ้านหลังนี้จึงมีแต่วัยรุ่นหนุ่มๆ ราวสิบคน

   แอนดรูและเดวิดเป็นรุ่นแรกที่แด๊ดรับเด็กมาเลี้ยงอย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ทั้งคู่อายุราวยี่สิบปีในขณะที่

คนอื่นๆ อายุก็ลดหลั่นกันลงไป จอห์น แพทริค อดัมส์เป็นรุ่นรองลงมาอายุน่าจะ 17 หรือ 18 ถ้าโมกข์จำ

ไม่ผิด ถัดลงมาจากนั้นอีกห้าคน ก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกับโมกข์คือ 15-16 ปีโดยที่ผมซึ่งเป็นสมาชิกใหม่

อายุน้อยที่สุดคือ 14 ปี

    โมกข์อายุมากกว่าผมปีกว่าๆ ตอนที่เจอกันมันอายุ 15นิดๆ โมกข์มาอยู่กับแด๊ดได้หนึ่งปีแล้ว ก็เท่ากับ

ตอนที่มันมาที่นี่ก็อายุใกล้เคียงกับผมตอนนี้ เด็กทั้งหมดแด๊ดจะส่งเรียนจนเจ้าตัวพอใจซึ่งอย่างน้อยขอให้

จบไฮสคูล แล้วหลังจากนั้นแด๊ดจะไม่บังคับทางเดินของแต่ละคน ไม่ว่าจะเลือกเดินไปในทิศทางไหนก็ตาม

แด๊ดเคยกล่าวกับผมในภายหลังว่า


“แด๊ดเลี้ยงได้แต่ตัว ส่วนเรื่องความคิดแด๊ดบังคับไม่ได้ แด๊ดเองก็ไม่ใช่คนดีทำงานผิดกฏหมายมาก็เยอะ

แด๊ดสอนใครไม่ได้หรอก  ใครอยากจะเดินไปในเส้นทางสีดำแด๊ดก็ไม่ห้าม หรือใครรักดีอยากจะไปให้พ้นคน

บาปอย่างแด๊ดก็ไปได้เลย แด๊ดขออย่างเดียว ไม่ว่าจะเลือกไปในถนนเส้นไหนก็ขอให้พวกเราที่แด๊ดเลี้ยงมา

รักกันอย่าทำลายกันเองแค่นั้นแด๊ดก็พอใจแล้ว”


“กูรักแด๊ด เขาให้กูในสิ่งที่แม้แต่ญาติที่เหลืออยู่ยังให้ไม่ได้”

โมกข์พูดกับผมเมื่อเขาเล่าทุกอย่างจบลง





เย็นวันนั้นผมก้าวเข้าสู่เก้าอี้นั่งของโต๊ะอาหารตัวยาวเป็นครั้งแรกท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของทุก

คน แด๊ดกล่าวต้อนรับอย่างเป็นทางการให้ผมลุกขึ้นแนะนำตัวเอง ผมกวาดสายตามองสบตาทีละคน

จนกระทั่งต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นสายตาสีน้ำข้าวที่จ้องมาอย่างไม่เป็นมิตรตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน

เป็นฝรั่งตัวไม่สูงนัก เปลือกตาโปนผิวหน้ามีกระสีน้ำตาลอยู่บนโหนกแก้ม ฟันเหยิน และดวงตาเจ้าเล่ห์ราว

กับงู ผมไม่ถูกชะตากับมันเลยสักนิด

มันสะบัดหน้าใส่ผมพลางหันความสนใจไปที่จานอาหารของมัน


“ไม่ต้องสนใจมันหรอกไอ้แดเนียลน่ะ มันเขม่นทุกคนที่หน้าตาดีกว่ามัน”


เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นข้างตัว พร้อมกับมือที่ยื่นมาให้จับทักทาย


“กูโนเอลนะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

ผมยิ้มและยกมือจับตอบ หมดความสนใจกับไอ้ฝรั่งหน้าตาไม่เป็นมิตรนั่นในที่สุด








อาจเป็นเพราะเวลาที่ไม่ตรงกันกับเมืองไทยทำให้ผมนอนไม่หลับแม้เวลาจะผ่านไปค่อนคืนจนต้องพลิกตัว

กระสับกระส่ายไปมา เหลือบตามองไอ้โมกข์ที่หลับอยู่แต่เห็นเปลือกตาของมันไหวระริกอยู่ในความมืดของ

ห้อง

และไม่นานหลังจากนั้น ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่ออยู่ๆ ไอ้โมกข์ก็ตะโกนร้องโหยหวนเสียงดังลั่นในความ

เงียบสงัด มันตะโกนทั้งที่ยังหลับตาแน่น

ผมเด้งตัวขึ้นมาอย่างตกใจ เสียงมันดังลั่นและฟังดูเจ็บปวดเหมือนสัตว์ที่ถูกนายพรานยิงกระสุนใส่จน

บาดเจ็บ


“โมกข์ โมกข์ ไอ้โมกข์ เฮ้ย เป็นอะไร”


ผมผวาไปเปิดไฟ เมื่อห้องสว่างผมเห็นร่างสูงของมันนอนคุดคู้ราวกับทารกที่เพิ่งหลุดมาจากท้องแม่ 

เหงื่อกาฬแตกพลักทั้งที่มันยังหลับตาแน่น

เกิดอะไรขึ้นกับมัน

ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเคาะที่ประตูผมรีบวิ่งไปเปิดก็เห็นแด๊ดที่อยู่ในชุดคลุมเนื้อดียืนอยู่หน้าห้อง ผมหลีก

ทางให้แด๊ดเข้าไปนั่งที่เตียงและสอดท่อนแขนไปโอบโมกข์ไว้


“โมกข์ตื่นสิ นี่แด๊ดเองนะ แด๊ดอยู่ข้างๆ โมกข์แล้ว”


แปลกที่โมกข์ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ทั้งที่เมื่อสักครู่ผมเขย่าตัวมันเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น

เสียงโหยหวนเงียบลง โมกข์ลุกขึ้นมานั่งเนื้อตัวยังสั่นเทาจนต้องยกเข่าขึ้นมาใช้สองแขนกอดเข่าตัวเองไว้

สายตาดุยังคงเลื่อนลอย

แด๊ดกดจูบไปที่หน้าผากของโมกข์จนกระทั่งสติเริ่มกลับคืนมาแด๊ดจึงลุกขึ้นและดึงแขนโมกข์ให้ยืนขึ้นตาม


“ไปนอนกับแด๊ด”


โมกข์ก้าวตามแด๊ดไปอย่างด้วยอาการเซื่องสุดฤทธิ์ ผมก้าวตามมามองแผ่นหลังของคนทั้งคู่อยู่หน้าท้อง

เลยได้เจอโนเอลที่ออกมายืนมองเช่นกัน เพิ่งรู้ตอนนี้ว่ามันอยู่ห้องตรงข้ามผม


“เจอฤทธิ์ไอ้โมกข์ตั้งแต่วันแรกเลยสิมึง”

“เกิดอะไรขึ้นกับมัน”

“มันฝันร้าย พอฝันก็เป็นแบบนี้แหละ ไอ้สถานสงเคราะห์อะไรสักอย่างที่เมืองไทยเขาถึงส่งมันไปรักษา

อาการมันไง แต่นี่ก็ดีขึ้นมาแล้วนะช่วงนี้แค่อาทิตย์ละครั้งโดยเฉลี่ย สมัยมาใหม่ๆ แหกปากแม่งทุกคืน”


โนเอลเล่าให้ฟัง


“พวกกูน่ะ ใครที่ต้องอยู่ห้องเดียวกับมันถึงกับต้องขอย้ายห้องเพราะทนเสียงมันไม่ไหว ทั้งที่จริงก็ไม่ได้

เกลียดขี้หน้าอะไรมันหรอก ออกจะสงสารมันด้วยซ้ำ”

นี่คือชีวิตในอดีตของเพื่อนสนิทผม โมกข์ มนัญชัย










หลังจากนั้นผมก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการเรียนเมื่อแด๊ดพาผมไปเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยม การเรียนในสถานที่ใหม่

ทำให้ผมเครียดจนไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่น ไอ้โมกข์เองก็ฝันร้ายน้อยลงถ้าวันไหนมันฝันผมก็มีหน้าที่ปลุกมัน

ขึ้นมา ถ้าปลุกยากนักผมก็แค่กระโจนไปบนเตียงแล้วถีบมันให้ร่วงมากระแทกพื้น คราวนี้ไม่ตื่นให้มันรู้ไปสิ

กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เมื่อผมปรับตัวกับการเรียนและชีวิตในอเมริกาจนกลับมาเป็นตัวของตัวเองเวลาก็ผ่าน

ไปเกือบปี

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ไม่ต้องไปเรียนหนังสือ ผมคว้าแผ่นวีซีดีหนังฝรั่งที่ยืมมาจากเพื่อนไอ้มืดในโรงเรียน

เดินตรงมาทีห้องโฮมเธียเตอร์ข้างห้องประชุมของแด๊ด หนังเรื่องนี้ผมอยากดูมานานแล้วกะว่าจะไปเปิดแล้ว

เร่งเสียงลำโพงดังๆให้หนำใจ

เปิดประตูผลัวะเข้าไปพลางกดสวิทไฟให้ห้องสว่าง ผมกวาดสายตาเร็วๆ จนปะทะกับสิ่งที่ทำให้ผม

ตาเหลือกขึ้นมาทันที


“เหวอ เอ้อ อะ ขอโทษ”


ผมตะโกนลั่น รีบปิดไฟและก้าวออกมาจากห้อง ก่อนที่จะหมุนลูกบิดแง้มเข้าไปใหม่เพื่อกดล็อคจากด้านใน

ให้อีกด้วย ก่อนที่ผมจะอ้าปากค้างหลังพิงประตูหัวใจเต้นตุ้บๆ

โนเอลที่สนิทกับผมพอๆกับโมกข์กำลังลงจากบันได มันมองสภาพผมแล้วก้าวมาหาอย่างสงสัย


“เป็นเชี่ยไรมึง หน้าเอ๋อขนาดนี้”

ผมกระพริบตาปริบๆ ปากคอสั่น


“กูเห็นแพทริคมันขึ้นคร่อมอดัมส์อยู่ตรงโซฟาในห้อง มัน มัน แก้ผ้าแก้ผ่อนล่อนจ้อนทั้งคู่เลย”


“อ๋อ….”

โนเอลลากเสียงยาวเฟื้อยพลางหัวเราะอยู่ในลำคออย่างมีเลศนัย


“มันคงไม่ขึ้นคร่อมกันอย่างเดียวละมั้ง เจอของดีเข้าเต็มๆเลยสิมึง ไอ้ปราบ”






-----------------------------------------TBC -------------------------------------------
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 19-10-2014 15:44:45
เหมือนได้ชีวิตใหม่เลยจริง ๆ ตอนเด็กว่าพี่เด่วน่าเห็นใจแล้ว พอมาเจอฝันร้ายของโมกข์ย่ิ่งน่าสงสารเข้าไปใหญ่.  แต่พี่เด่วเอาอยู่.    :katai2-1:  แด๊ดช่างเป็นคนดีและตาถึงจริง ๆ 

รอตอนต่อไปค่ะ ไอ้นายแดเนียลเนี่ยคงจะเป็นคนขวางโลกตั้งแต่เด็กเลยสินะ. น่าจับไปขังเดี่ยวจริง ๆ

 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-10-2014 17:24:48
บ้านแด๊ดน่าอยู่นะเนี่ย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-10-2014 18:12:33
ชีวิตใหม่ของพี่เดี่ยวน่าสนใจทีเดียว
โดยเฉพาะที่เห็นฉากขึ้นคร่อม ก๊ากกก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-10-2014 19:33:04
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:ชีวิตใหม่ของปราบมีแต่เรื่องตื่นเต้น :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 19-10-2014 19:46:17
ขอบคุณครับ เป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-10-2014 20:41:29
 :hao7:    เรียนรู้
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 7 ( 19 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 19-10-2014 21:14:13
แด๊ดใจดี ชีวิตต่อจากนี้ขอให้มีแต่เรื่องดีๆนะปราบ  :katai2-1:
หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P Special
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-10-2014 23:06:12
ถ้อยแถลงจากผู้แต่ง

เรียนท่านนักอ่านที่รักยิ่ง



นับตั้งแต่บทนี้เป็นต้นไป อาจมีบทล่อแหลมต่อศีลธรรมอยู่บ้าง

ทั้งนี้ผู้แต่งได้ทบทวนแล้วว่ามันจำเป็นต้องมีต่อการดำเนินของเรื่อง

ผู้แต่งจะพยายามใส่ลงไปเท่าที่จำเป็น

หากนักอ่านที่เน้นเสพดราม่าเพียงอย่างเดียวโดยมิชอบฉากดังกล่าว

จะอ่านข้ามไป ผู้แต่งก็ไม่ว่า เพียงแต่เกรงว่าจะเสียอรรถรสไปบ้าง

จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดอ่านต่อไป


 :z2: :z2:


                                                                     เพลิงพ่าย

                                                                     ภาคกลาง

                                                                        บทที่ 8


นี่ผมมาทำอะไรที่นี่

ถามตัวเองเมื่อกำลังนั่งอยู่บนกิ่งสูงของต้นไม้ต้นใหญ่ท่ามกลางอากาศเย็นชื้นและความมืดมิดโดยมีโนเอล

นั่งอยู่บนกิ่งใหญ่ถัดไป

มันเป็นเพราะคำชวนห่ามๆ ของไอ้โนเอลแท้ๆ และนี่ผมหลงเชื่อตามมันมาเมื่อเรากินอาหารเย็นกันเสร็จ

ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไป บางคนก็ดูหนังฟังเพลง บางคนก็อ่านหนังสือเรียนอย่างไอ้โมกข์ แต่บางคนเช่น

ผมกับโนเอลเสือกบ้าปีนต้นไม้เล่นตอนมืดๆ

เมื่อตอนบ่ายหน้าห้องโฮมเธียเตอร์ที่ผมบังเอิญเปิดเข้าไปเจอหนังสดระหว่างอดัมส์กับแพทริค ตอนนั้น

โนเอลมันเคาะประตูห้องเสียงดังลั่น


“เฮ้ย โนเอล ทำไรอย่างนั้นวะ”


ผมคว้ามือที่ตบประตูห้องป้าบๆ อย่างตกใจ โนเอลมันหัวเราะหึหึ ก่อนตะโกนให้คนในห้องได้ยิน


“แพทริคไอ้ไก่อ่อน มึงอย่ามัวลีลา จัดการให้อดัมส์ร้องดังๆ เลยนะมึง”


“ฟัค”


ผมหลับตาปี๋เมื่อได้ยินเสียงตอบโต้ดังลอดมาจากด้านใน โนเอลหัวเราะก้ากพลางลากผมออกมาจากตรง

นั้น มันกระซิบเบาๆ


“ไอ้แพริคมันกระจอก มึงอยากดูของเด็ดกว่านี้ไหมล่ะปราบ”


ผมมองหน้ามันแบบมึนๆ


“อะไรของมึงที่ว่าเด็ด”


“เหอะน่ะ หลังมื้อเย็นมึงมารอกูที่หลังบ้านนะ อย่าให้ใครรู้นะมึง”


มันกระซิบกระซาบผมแล้วเดินเดาะปากจากไปอย่างสบายอารมณ์ จนกระทั่งถึงเวลานัดโนเอลก็พาผมมาที่

ต้นไม้ต้นสูงใหญ่ที่ปลูกมาเป็นสิบปี แต่ละกิ่งของมันใหญ่กว่าท่อนขาผมเสียอีก มันให้ผมปีนขึ้นมานั่งอยู่บน

คบไม้สูงเท่าชั้นสองของตัวบ้าน

ความมืดและใบอันดกครึ้มบดบังสายตาให้เราสองคนนั่งอยู่บนต้นไม้โดยที่ไม่มีใครสังเกต ผมเลิกคิ้วทำหน้า

สงสัยจนโนเอลชี้ให้หันหน้าไปทางตัวบ้าน เพิ่งเห็นว่าต้นไม้ต้นนี้ขึ้นอยู่หลังห้องแด๊ดพอดี และระดับความสูง

ที่โนเอลมันเลือกให้ ช่างพอเหมาะกับระดับของหน้าต่างห้องของแด๊ด ผมจึงเห็นแด๊ดที่อยู่ในชุดคลุมหลัง

อาบน้ำเดินมาหยุดยืนอยู่กลางห้อง

อ่า

ผมค่อยๆ ขมวดคิ้วแต่ดวงตากลับเบิกกว้างอย่างสงสัยเมื่อเห็นไอ้แอนดรูที่เคยกระทืบผมกับเดวิดผู้แสนจะ

อ่อนโยนปรากฎกายอยู่ในห้องแด๊ดด้วยทั้งคู่ของมันมีแค่ผ้าเช็ดตัวคลุมท่อนล่างไว้ แด๊ดพึมพำอะไร

บางอย่างบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม พลันเดวิดก็ก้าวมายืนซ้อนอยู่ด้านหลัง ค่อยๆปลดเสื้อคลุมแด๊ดออกและโยน

ทิ้งอย่างไม่ใยดี


“เฮ้ย”


ผมยกมือปิดปากตัวเองเมื่อเห็นแอนดรูเดินมาหยุดยืนเบื้องหน้าแด๊ด มันยกสองมือมาประคองใบหน้าหล่อ

เหลาของแด๊ดแล้วประกบปากลงไป แด๊ดไม่ห้ามปรามสักนิดซ้ำยังอ้าปากให้แอนดรูสอดลิ้นเข้าไปจูบกันจน

แก้มตอบในขณะที่เดวิดที่อยู่ด้านหลังจูบหนักลงที่ต้นคอของแด๊ดก่อนที่จะลากลิ้นไปตามเนื้อตัวที่เต็มไป

ด้วยร่องรอยแผลเป็นจางๆ เดวิดสอดแขนเข้าไปโอบกอดพลางลูบไล้เนื้อตัวด้านหน้า เน้นย้ำอยู่ตรงหน้าอก

ทั้งบดทั้งบี้ทั้งคลึง สะโพกของมันถูไถอยู่กับบั้นท้ายแด๊ดจนผ้าเช็ดตัวมันหลุดลุ่ยและร่วงไปกองอยู่บนพื้น

ผมตาวาวเมื่อเห็นไอ้จ้อนของมันตั้งลำชี้โด่เบียดไปกับร่องก้นแด๊ด


ไอ้แอนดรูก็ไม่ยอมน้อยหน้า ปากจูบดูดดื่มมือคว้าแก่นกายแด๊ดมากอบกุมนวดเฟ้นด้วยอุ้งมือ มันดึง

ผ้าผ่อนตัวเองทิ้งเหลือแต่ตัวเปล่าๆ มันจับน้องชายของมันไว้ในอุ้งมือคู่กันกับของแด๊ดแล้วสาวมือช้าๆ

พลางลากปากมันมาหยุดอยู่ที่ลำคอแด๊ดและงับปากไปเบาๆ

แด๊ดเงยหน้าให้แอนดรูขบเม้มถนัดๆ ปากหยักได้รูปเริ่มห่อตัวแล้วปล่อยลมหายใจออกมาช้าๆ ในขณะที่

แอนดรูมันค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งจนใบหน้าอยู่ตรงเอวแด๊ดมือที่กอบกุมแท่งเนื้อของแด๊ดจ่ออยู่ตรงปาก มันแลบ

ลิ้นเลียตรงยอด ก่อนลากยาวจนสุดโคน

ผมใจสั่น มือที่เกาะกิ่งไม้เกร็งจนเล็บแทบจิกลงไปในเนื้อไม้ เมื่อเห็นเดวิดใช้มือโกยเนื้อที่บั้นท้ายแด๊ดออก

พลางส่งนิ้วทะลวงเข้าไปหมุนวนในช่องลับ อีกมือมันขยำไปที่หน้าอกใช้ซอกนิ้วคีบหัวนมแด๊ดจนตั้งชัน

ส่วนไอ้แอนดรูมันเขมือบไอ้นั่นของแด๊ดเข้าไปในปากเกือบทั้งดุ้นแล้ว มือใหญ่ของแด๊ดขยุ้มหัวแอนดรูไว้

ใบหน้าของแด๊ดเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ถูกจุด ปากของแด๊ดสั่นเมื่อโยกเอวเข้าหาปากไอ้แอนดรูและเมื่อดึง

เอวกลับก็เจอนิ้วเดวิดสวนกลับเข้าไป

โอย!

สัส!


แอนดรูมันโยกหน้าเข้าออกเร็วรี่ ไม่นานนักมันก็รีบคายท่อนเนื้อแด๊ดออกจากปากใช้มือจับโคนไว้แล้วปล่อย

ให้แด๊ดพ่นน้ำเมือกใส่หน้าอกของจนมันเป็นวงไหลเยิ้มลงมา มันมองแด๊ดตาเชื่อมก่อนที่มันจะลุกไปที่โต๊ะ

ข้างเตียงหยิบของบางอย่างออกมา ทั้งที่เดวิดยังไม่ยอมเลิกหมุนวนปลายนิ้วที่ผมเห็นมันสอดเข้าไปเป็นนิ้ว

ที่สาม แอนดรูเดินกลับมาเบื้องหน้าแด๊ดที่เปิดปากครางออกมา ผมไม่ได้ยินเสียงหรอกแต่มันคงกระเส่าเต็ม

ที ดูจากหน้าแด๊ดก็พอรู้

ได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วมาจากโนเอลที่นั่งบนคบไม้สูงขึ้นไปจากผม


“โหมโรงแล้วก็ถึงบทสำคัญสินะ”


ของที่อยู่ในมือแอนดรูคือซองคอนด้อมนั่นเอง มันฉีกซองหนึ่งออกค่อยๆคลี่ตามความยาวแล้วสวมจนแนบ

ท่อนเนื้อให้แด๊ด เสร็จแล้วมันก็โยนอีกอันหนึ่งให้เดวิดคว้ารับไว้จากนั้นมันก็จัดการใส่ให้ตัวเอง และมันก็บีบ

เจลทาไปรอบร่องก้นของแด๊ดรอให้เดวิดใส่คอนด้อม

เดวิดก้าวขึ้นไปนอนหงายรออยู่บนเตียงคิงไซส์ ไอ้จ้อนอันใหญ่ใส่ปลอกหุ้มเรียบร้อยตั้งโด่อยู่ตรงเอว

ไอ้แอนดรูดึงแด๊ดให้ตามขึ้นมา มันดันแด๊ดให้เอนตัวนอนหงายทับอยู่บนร่างของเดวิดอีกที แอนดรูจับ

ขาแด๊ดอ้ากว้างแล้วมันก็จับแท่งเนื้อมโหฬารของเดวิดงัดขึ้นจ่อเข้ากับช่องทางของแด๊ดพลางดันเข้าไปช้าๆ

ผมเห็นแด๊ดทิ้งขาลงไปกับที่นอนเกร็งจนเท้าจิกเมื่อแท่งเนื้อนั้นค่อยๆ ผลุบหายเข้าไปในช่องทางทีละน้อย

จนเกือบหมดลำ


แอนดรูปล่อยช่องทางนั้นให้เป็นหน้าที่ของเดวิด มันลุกขึ้นยืนอ้าขาคร่อมไปบนร่างของแด๊ดที่อยู่บนเดวิด

อีกทีก่อนที่จะย่อตัวลงกลายเป็นคุกเข่าระดับหน้าอกของแด๊ดที่เปิดปากรอ แล้วมันก็จับน้องชายของมันส่ง

เข้าปากแด๊ดที่รอรับอยู่พลางโยกเอวดันลึกเข้าไปในคอที่แด๊ดกำลังโยกหัวเข้าออกดูดแท่งเนื้อจนแก้มตอบ 

เห็นมันหอบลึกจนรู้สึกได้ว่าไอ้แอนดรูมันแตกคาปากแด๊ดแน่ๆ ก่อนที่มันจะดึงเอวออกมาจากหน้าแด๊ด

ถอยหลังกลับไปโหย่งตัวอยู่ตรงเอวแด๊ดคว้าท่อนลำของแด๊ดใส่เข้าไปในช่องทางของตัวมัน

ผมอ้าปากค้างน้ำลายเหนียวหนึบ ตาลุกวาวกับภาพที่เห็นในตอนนี้

เดวิดนอนอยู่ล่างสุด มันใช้มือจับหัวเตียงเป็นหลักยึด เอวของมันโคตรแข็งแรงตอนที่ยกกระทุ้งท่อนเนื้ออยู่

ในช่องทางลับของแด๊ดที่อยู่ตรงกลาง เวลาเดียวกันแอนดรูก็เด้งตัวขึ้นลงอยู่ที่เอวแด๊ด มือของมันประสาน

มือแด๊ดแน่นเมื่อแด๊ดโยกเอวสวนใส่มัน

จังหวะโคตรเข้ากัน ภาพโคตรเร่าร้อน จนไอ้จ้อนของผมมันกระตุกและผมรู้สึกปวดร้าวไปทั้งหน้าท้องตาม

ใบหน้าของคนในห้องที่กำลังเหยเกเพราะความเสียวซ่าน ผมต้องใช้มือบีบมันไว้ แทบกลั้นลมหายใจตาม

ราวกับจะได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันดังเข้ามาในจินตนาการด้วย

แอนดรูดึงปลอกทิ้ง น้ำเมือกไหลย้อนฉ่ำมันคว้าไอ้จ้อนมันไว้แล้วรูดสาวเร็วรี่ เงยหน้าพ่นลมหายใจถี่ยิบใน

ขณะที่เดวิดยิ่งเร่งซอยไม่ยั้งถึงขนาดต้องตั้งขาช่วยไว้ แด๊ดเองใช้มือเกี่ยวเอวแอนดรูไว้เป็นหลักเมื่อกำลังถูก

กระแทกกระทั้นทั้งบนทั้งล่างจนหัวโยกหัวคลอน ผมไม่รู้ว่าระหว่างคนทั้งสามใครจะเป็นฝ่ายเสร็จก่อน

แต่ตอนนี้คนที่เสร็จคนแรกคือผมที่ไอ้จ้อนปล่อยพิษจนเต็มกางเกง


“เหี้ย”


ผมกัดฟันพลางด่าตัวเอง อับอายไอ้โนเอลที่กลั้นหัวเราะแทบไม่ไหว มันทำสัญญาณมือให้ผมปีนลงจาก

ต้นไม้ จนเมื่อมายืนคู่กันอยู่บนพื้นมันถึงกับยกมือตบหัวผม


“สัสปราบ ให้มาแอบดูเสือกแตกซะเอง ไป รีบกลับห้องมึงไปล้างเลย เดี๋ยวกูตามไป”






มีต่ออีกนิด....


หัวข้อ: เพลิงพ่าย บทที่ 8 (23 / 10 / 57 ) 3P Special
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-10-2014 23:22:06
ต่อกันอีกหน่อย






ผมเปิดประตูห้องพลางวิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่สนใจไอ้โมกข์ที่มองตามอย่างงงๆ จัดการรีดพิษตัวเองออกจนหมด

ถือโอกาสอาบน้ำไปด้วย ก่อนที่จะเดินตัวเบาออกมาเจอไอ้โนเอลที่กำลังนั่งหัวเราะอยู่กับเชี่ยโมกข์ ผมคว้า

หมอนปาใส่หน้ามันทั้งคู่


“นินทากูกันล่ะสิ”


“ไม่ได้นินทาแต่เขาเรียกว่าพูดถึงอย่างเอ็นดูโว้ย”


โนเอลแม่งยอกย้อน


“ไงมึง เด็ดจริงอย่างที่กูบอกไหม”


ผมทรุดตัวลงนั่งบนเตียงตัวเอง สมองยังมึนๆ กับสิ่งที่เพิ่งรับรู้


“กูเพิ่งรู้ว่าแด๊ดเป็นเกย์”


ผมเอ่ยออกไปอย่างเหลือเชื่อ


“มาเฟียชื่อดัง จัดการคนมาก็เยอะ คือกูนึกไม่ถึง แล้วก็ไม่นึกว่าไอ้แอนดรูกับเดวิดมันก็เป็นด้วย”

สีหน้าโนเอลจริงจังขึ้นเมื่อมองหน้าผม


“แล้วมึงจะตกใจป่ะ ถ้ากูจะบอกมึงว่าเด็กที่แด๊ดรับอุปการะ ร้อยละเก้าสิบแปดผ่านมือแด๊ดมาหมดแล้ว”


ผมอ้าปากค้างเป็นรอบที่ร้อยแปด คราวนี้มันเนิ่นนานกว่าที่ผมจะรับรู้ในสิ่งที่โนเอลบอก ผมหันไปมองไอ้

โมกข์เห็นมันพยักหน้าอมยิ้มผมก็ยิ่งสะดุ้ง


“มึง ไอ้โมกข์ เมื่อไหร่วะ”


“ก่อนมึงมาที่นี่ไม่นาน”


ผมหันไปทางโนเอล สบตามันเป็นเชิงถาม


“โนๆ กูเป็นสองเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่”


ผมคงทำหน้าเหมือนแดกยาขม โมกข์มันเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ


“มึงอย่าคิดมาก แด๊ดไม่เคยบังคับจะเอาใครหรอก ส่วนใหญ่พวกเราเต็มใจทั้งนั้นเพราะเรารู้ว่ามันเป็น

ความสุขของแด๊ด”


โนเอลพยักหน้าหงึกๆ ทำนองว่าเห็นด้วย


“ใช่ และอย่างกูที่รู้ตัวว่าไม่ได้ชอบทางนี้แด๊ดก็ไม่เคยบังคับเหมือนกัน”


โมกข์หน้าขรึมเมื่อเขาอธิบายให้ฟัง


“อย่างกู กูก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรให้แด๊ด สิ่งที่กูทำได้คือความสุขทางกายของแด๊ดนี่แหละ แล้วแด๊ดก็ไม่เคย

ห้ามพวกเราเรื่องเซ็กส์เพราะรู้ว่าวัยของพวกเราต้องการปลดปล่อย แด๊ดขอแค่ความสะอาดเท่านั้นที่เป็นกฎ

เหล็กเรื่องนี้”


โนเอลรีบเสริม


“คอนด้อมเบิกได้ไม่จำกัด ถ้ามึงหัดสังเกตและตาไม่ถั่วขนาดนี้มึงคงเห็นกล่องคอนด้อมตั้งอยู่ตามซอกหลืบ

ทั่วทุกห้องของบ้านแหละไอ้ปราบ”


“แล้วทำไมมึงไม่มีอะไรกับแด๊ดล่ะ โนเอล”


“กูรู้ตัวว่าชอบผู้หญิงโว้ย แล้วตอนนี้ก็กำลังเดทกับสาวชั้นเดียวกันอยู่”


คุยกันต่ออีกสักพักโนเอลก็ขอตัวกลับห้อง ผมล้มตัวลงนอนพลางครุ่นคิดเนิ่นนาน

นี่ผมตกอยู่ท่ามกลางดงเกย์หรือนี่

แม้แต่ไอ้โมกข์เพื่อนสนิทก็ยังผ่านมือแด๊ดมาแล้ว

ผมกำลังถามตัวเองว่าผมรังเกียจหรือเปล่า ทั้งแด๊ดและคนอื่นๆ

ผมนิ่งคิด

ไม่

ผมต่างอะไรจากพวกเขาเมื่อใบหน้าของน้องชายคนละแม่ลอยเด่นอยู่ในสมอง

อารมณ์เวลาใกล้ชิดกับร่างเล็กปะทุง่ายดายยิ่งกว่ารัศมีผู้เป็นแม่เวลามาวอแวผมเสียอีก

แด๊ดดีกับผมขนาดนี้แล้ว จะให้ผมรังเกียจแด๊ดงั้นหรือ


“ไอ้ยักษ์”


ผมเรียกไอ้โมกข์ที่ตอนนี้ตัวสูงพอๆกับฝรั่งอยู่ในความมืดของห้อง


“อะไรของมึงอีก สัสปราบ กูง่วง”


“มึงเป็นรุกหรือเป็นรับ”


“รุกดิ”


“แล้วแด๊ดล่ะ”


“แด๊ดเป็นไบ รับก็ได้รุกก็เก่ง”


“แล้ว…”


ผมลากเสียงอย่างคนที่ยังไม่มั่นใจนัก


“ถ้ากูอยากทำให้แด๊ดมีความสุขบ้างล่ะ กูต้องทำไง”


ผมเห็นเงาหัวของไอ้โมกข์ที่ยกขึ้นมาจากหมอนเพื่อมองผมในความมืดก่อนที่จะทิ้งหัวลงไปนอนอย่างเดิม


“อย่างแรกคือถามใจมึงก่อนว่าพร้อมหรือยัง”


ไอ้โมกข์ตอบกลับ


“ถ้ามึงพร้อมก็เรียนเชิญมึงไปลงชื่อรับบัตรคิวที่เดวิด”



ชีวิตใหม่ที่ได้มา ไม่รู้ว่าจะตอบแทนแด๊ดอย่างไรถึงจะดีที่สุดสำหรับเด็กที่เคยซุกหัวนอนอยู่ตามใต้ทางด่วน

เด็กที่แม้แต่พ่อแท้ๆ ยังไม่เหลียวแล

แต่ผู้ชายคนนี้กลับยื่นมือให้การช่วยเหลือโดยไม่ได้เรียกร้องอะไร

ผมควรจะทำอย่างไรเพื่อให้แด๊ดมีความสุข นอกจากผลการเรียนในปีแรกที่ออกมาค่อนข้างดีกับคนที่เพิ่ง

ปรับตัวอย่างผม

ผมนึกอะไรไม่ออกนอกจากเดินไปหาเดวิดที่ผมค่อนข้างเกรงใจไม่แพ้แด๊ดเพราะความเงียบขรึมของเขา


“เดวิด”


ผมอึกอักจนเดวิดมองอย่างสงสัย

จนผมสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความมั่นใจกลับคืนมาได้ ผมจึงเงยหน้าสบตาเดวิดพลางพูดอย่างชัดถ้อย

ชัดคำ


“ผมอยากทำให้แด๊ดมีความสุข ผมอยากนอนกับแด๊ด”







-------------------------------------- TBC -------------------------------------------





หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 23-10-2014 23:49:35
อยากสมัครเป็นแม่บ้านอยู่ประจำบ้านแด๊ด ยื่นเรซูเม่ที่ไหนคะ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 23-10-2014 23:58:34
 :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :jul1: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 24-10-2014 00:31:27
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
เป็นบ้านที่น่าอยู่จริงๆ ท่าทาง(ท่วงท่า)น่าจะอบอุ่น คริคริ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 24-10-2014 08:45:26
 :jul1: :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 24-10-2014 18:05:31
แด็ดคงเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 24-10-2014 18:53:15
ฮ่วย  โนเอลนะ  พาพี่เด่วไปดูอะไร  ใจแตกเลย   :ling1:  ที่ห่วงมาก  หวังว่าจะไม่โดนเดวิดสกายคิกกลับมาซะล่ะ   :z6:  กลัวจะโดนโมกขกับโนเอลหลอกเอา   :katai1:  แต่จะยอมจริงก็คงไม่เป็นไรมั้ง  เพราะแด๊ดหล่อ   :laugh5:  อีกใจก็อยากให้ปราบแสดงความรัก  ความกตัญญูแบบอ่ี่นมากกว่านะ  เก็บตัวไว้ให้น้องป้องคนเดียวดีกว่า  เป็นพี่เด่วเหม่ี่อนเดิมก็ดีอยู่แล้วล่ะนะ   :กอด1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-10-2014 19:09:17
ไม่ทราบว่าบ้านแด๊ดรับสมัครแม่บ้านไหมคะ :haun4:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-10-2014 19:10:24
 :mew1:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-10-2014 19:11:31
ฮาเร็มชัด ๆ >.<
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-10-2014 19:53:50
คล้ายๆ กับเรื่องfatherhoodของเจ๊หมวยเลย
ที่รับเด็กมาอุปการะ แล้วเด็กก็มอบความสุขให้งี้
แต่ดีเทลต่างกันเยอะอยู่
รอดูว่าปราบจะทำไงให้แด๊ดมีความสุข
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 25-10-2014 03:46:29
กรี๊ดดดดดด อะไรกันนี้บ้านนี้ๆๆๆ
รอตอนหน้ารัวๆๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 25-10-2014 19:21:25
รอตอนหน้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 ( 23 / 10 / 57 ) 3P special
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 28-10-2014 15:18:30
ตกใจคิดว่าพี่โมกข์เสร็จแด๊ด  :sad4:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-10-2014 21:03:12


                                                                        เพลิงพ่าย

                                                                        ภาคกลาง

                                                                          บทที่ 9


เมื่อถึงเวลาจริงๆ ผมกลับยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าประตูห้องของแด๊ด แม้ว่าเดวิดจะให้เวลาเตรียมตัวเตรียมใจ

นานเป็นเดือนในช่วงที่แด๊ดเดินทางไปติดต่อธุรกิจแถบรัสเซีย เมื่อแด๊ดกลับมาถึงวันแรกเดวิดก็สะกิดผม

ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มตามแบบฉบับของเขา


“คืนนี้นะปราบ ผมให้คิวนายดูแลแด๊ดเป็นคนแรก”


ผมกลืนน้ำลายลงคอ


“แล้วผมต้องทำยังไงบ้างล่ะเดวิด”


เดวิดเอื้อมมือมาตบบ่าให้กำลังใจผม


“ทำยังไงก็ได้ที่แด๊ดอยากให้ทำ ปราบ ไว้ใจเถอะ แด๊ดดีต่อพวกเราเสมอ”


คุณเข้าใจความรู้สึกของผมไหมครับ นี่คือครั้งแรกสำหรับผู้ชายวัยสิบห้าหยกๆ อย่างผม

ที่ผ่านมาผมอาจจะเคยดูคลิปโป๊ หรือแอบส่องพวกกลัดมันในบ้านฟัดกันเองมาบ้างแต่ผมก็ยังไม่เคยเจอ

ของจริง เวลาที่ผมต้องการปลดปล่อยผมก็แค่ไปยืนชักว่าวแบบส่งๆในห้องน้ำ แต่นี่คือครั้งแรกที่ผมจะได้

รู้จักและลิ้มรสมัน อย่างที่ภาษาไทยเขาเรียกว่าอะไรนะ “ขึ้นครู” ใช่ไหม ถ้าผมจำไม่ผิด

ผมหักห้ามความตื่นเต้นยกมือเคาะประตู กลั้นใจรออยู่แวบเดียวประตูห้องก็เปิดกว้างออกโดยแด๊ดที่มอง

มายังผมพลางเลิกคิ้วสูง


“ปราบรึ”


ขาของผมสั่นเมื่อก้าวเข้าไปในห้องกว้างของแด๊ด และทันทีที่แด๊ดปิดประตูลงผมก็สะดุ้งอยู่ในใจขณะที่

กำลังเดินไปหยุดยืนอยู่กลางห้อง


“ผมจะมาดูแลแด๊ดคืนนี้ครับ”


นัยน์ตาสีน้ำตาลที่มองจ้องมามีทั้งแววปราณีและคำถามที่แด๊ดตั้งขึ้น


“แน่ใจแล้วหรือปราบ”


ผมสูดลมหายใจเข้าจนสุดเมื่อพยักหน้าและผ่อนมันออกเมื่อแด๊ดก้าวเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพลาง

จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของผม ใบหน้าหล่อเหลาของชาวอิตาลีคลี่ยิ้มและวางมือลงมาบนบ่า


“เคยมาบ้างหรือยัง”


ผมส่ายหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ  แด๊ดก้าวมาจนชิดพลางยกมือมาวางแนบอยู่ที่ต้นคอให้ผมแหงนหน้าขึ้นแล้ว

แด๊ดก็สอนบทเรียนแรกให้ผมด้วยการกดริมฝีปากหนานุ่มลงมา

แค่บทแรกผมก็ถึงกับใจสั่น จูบเชี่ยวชาญของแด๊ดทำให้สติของผมกระเจิงไปหมด แม้ผมจะเคยจูบป้องแต่

นั่นกลายเป็นของเด็กเล่นไปทันทีที่ผมเผชิญหน้ากับของจริง

ลิ้นร้อนสอดลึกอยู่ในโพรงปากตวัดวุ่นไปมาจนผมมึนงง ผมทำอะไรไม่ถูกสักอย่างมือไม้ก็ดูเหมือนจะเกะกะ

ไปหมดจนกระทั่งแด๊ดถอนลิ้นออกมาผมก็ยังยืนอึ้งตาลอย


“ถอดเสื้อสิปราบ กางเกงด้วย”


ผมทำตามที่แด๊ดสั่งราวกับต้องมนตร์ ไม่นานนักผมก็แก้ผ้าล่อนจ้อนอวดสายตาของแด๊ด

รูปร่างของผมในวัยสิบห้าก็ไม่เลวนักหรอก ผมสูงมาตั้งแต่เด็กๆ เมื่อได้มาเล่นกีฬาออกกำลังกายหนักๆ

รูปร่างก็มีกล้ามเนื้อมากขึ้นแม้จะยังไม่ได้แน่นจนซิคแพ็คขึ้นเป็นลูกอย่างไอ้แอนดรู ส่วนผิวขาวเพราะได้เชื้อ

ทางจีนจากพ่อก็คล้ำไปนิดหน่อยเพราะผมชอบเล่นกีฬากลางแจ้ง ท่าทางแด๊ดจะพอใจผมอยู่มากดูได้จาก

แววตาที่มองมานั้นหลังจากที่แด๊ดกวาดสายตาตั้งแต่หัวจรดเท้า


“รูปร่างดีมากนะปราบ”


แด๊ดเอ่ยปากออกมาจนได้ ผมเลยยิ้มอย่างลำพองนิดหน่อยกับคำชมนั้น แด๊ดปลดเสื้อคลุมออกจากตัว

ปล่อยให้มันกองอยู่บนพื้น ผมมองรูปร่างหนุ่มใหญ่อย่างแด๊ดด้วยความอิจฉาเมื่อเห็นกล้ามเนื้อสวยงามราว

กับรูปปั้นกรีกแม้บางส่วนจะมีร่องรอยบาดแผลจากการต่อสู้แต่มันยิ่งเร้าอารมณ์กระหายจนผมต้อง

กลืนน้ำลายไหนจะยังท่อนเนื้อกลางตัวขนาดเหมาะสมกับรูปร่างก็ยิ่งทำให้ผมรุ่มร้อน

และแล้วแด๊ดก็เอื้อมมือดันผมให้หงายหลังไปบนเตียงกว้าง

ผมสะดุ้งเมื่อแผ่นหลังสัมผัสเตียงนุ่ม มันเด้งเบาๆ รับน้ำหนักของผมและแด๊ดที่ค่อยๆ โน้มตัวลงมาจูบหนัก

หน่วงลงบนปากของผมอีกครั้ง มือกร้านงานหนักของแด๊ดวางแนบไปที่กึ่งกลางตัวของผมแล้วกุมมันไว้จน

หมด แค่แด๊ดรูดรั้งเบาๆ มันก็ตื่นขึ้นมาทันที


“สัญชาตญาณรวดเร็วมาก อาวุธใหญ่กว่าที่แด๊ดคิด ถ้าโตเป็นผู้ใหญ่ก็คงจะขยายได้อีก”


แด๊ดพึมพำขณะที่สาวมืออยู่กับไอ้น้องชายของผม มือของแด๊ดช่างปลุกเร้าอารมณ์ได้ดีกว่าผมทำให้ตัวเอง

มากมายนัก เพราะแค่มือใหญ่รูดรั้งผมก็เริ่มหอบหายใจถี่จนอกกระเพื่อม

แด๊ดเลื่อนตัวลงมาที่เอวของผม จับน้องชายของผมให้ตั้งชี้หน้า ดวงตาสีน้ำตาลวาบขึ้นเมื่อเปิดปากแล้วใช้

ลิ้นแตะลงเบาๆ ผมผวาเฮือก มือกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อแด๊ดกดปากครอบมันลงไปช้าๆ แล้วรูดกลับขึ้นมา

อย่างมีชั้นเชิง ในขณะที่มือหนึ่งของแด๊ดเอื้อมไปคว้าหลอดเจลใสที่พรั่งพร้อมอยู่แล้วบนหัวเตียงมาบีบใส่

มือ

“แด๊ด! ผม ไม่… อ๊ะ!”

กว่าจะรู้สึกตัวช่องทางข้างล่างผมก็ถูกนิ้วมือของแด๊ดสอดเข้าไปเสียแล้ว ผมยกสะโพกขึ้นเมื่อปลายนิ้วที่

สอดหมุนวนนั้นทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ กล้ามเนื้อมันบีบรัดจนผมต้องนิ่วหน้า


“ดะ แด๊ด จะ จะ กดผมเหรอ”


ผมตกใจในขณะที่แด๊ดยิ้มพราว


“ถ้าปราบจะไปกดคนอื่นแล้วไม่เคยรู้เลยว่าอีกคนเขาจะรู้สึกยังไง ปราบจะให้ความสุขเขาได้เต็มที่ไหม

แด๊ดจะสอนให้ปราบได้รู้ว่าคนที่เขาต้องรับเราน่ะเขาเป็นไงบ้าง”


ซองคอนด้อมถูกฉีกให้ขาด ผมตาลุกเมื่อเห็นแด๊ดใส่มัน ก่อนที่แด๊ดจะกดสะโพกเข้ามาในช่องทางของผม


“อ๊ากสสสส”


ผมดิ้นพล่านแหกปากตะโกนลั่นอย่างไม่กลัวความอับอายจนแด๊ดต้องโยกตัวมาจูบปากของผมไว้ พลางลูบ

ไล้ฟอนเฟ้นไปตามเนื้อตัวให้ผมค่อยๆ สงบลง แด๊ดจึงลองเคลื่อนสะโพกเข้าออกในช่องทางจนกล้ามเนื้อ

ตรงนั้นผมกระตุกแด๊ดคว้าไอ้จ้อนของผมสาวมือเร็วๆ พร้อมกับจังหวะที่แด๊ดแทงเข้าสาวออกกับเอวของผม

จนกระทั่งกล้ามเนื้อของผมบีบค้างแล้วแตกพุ่งรดมือ แด๊ดจึงได้ครางเสียงหนักกระทุ้งถี่ยิบแล้วกดแช่อยู่พัก

ใหญ่เมื่อแด๊ดปล่อยน้ำออกมาอยู่ในช่องทางของผม

เจ็บจนเกินกว่าจะบรรยายครับแต่มันก็เป็นประสบการณ์หนึ่งซึ่งผมไม่เคยลืมเลือนเลยไม่ว่าจะนานแค่ไหน


กับความรู้สึกนี้ มันเสร็จมันถึง แต่มันไม่ใช่


ผมหอบลึกกั้นเสียงร้องไว้เมื่อแด๊ดดึงแท่งเนื้อใหญ่ออกมาจากตรงนั้นก่อนที่แด๊ดจะถอดปลอกคอนด้อมทิ้ง

ลงถังขยะ แล้วนอนตะแคงใช้มือดันหัวตัวเองมองผมจนผมเริ่มหายใจเป็นปกติ


“หายเหนื่อยหรือยัง แล้วยังเจ็บอยู่ไหม ปราบยังมีแรงพอที่จะทำให้แด๊ดอย่างที่ปราบอยากทำหรือเปล่า”


ผมตาลุกวาว


“แด๊ดจะให้ผมทำอย่างเดียวกับที่แด๊ดทำเมื่อครู่ ใช่ไหมครับ”


ผมถามทวนเพื่อความแน่ชัด คำตอบคือใบหน้าที่เจือด้วยรอยยิ้มพร้อมกับร่างที่แสนจะเพอร์เฟ็คพลิกตัวไป

นอนหงายอยู่ตรงกลางเตียง ผมไม่รอช้าที่จะพลิกไปคร่อมอยู่บนร่างแด๊ดพลางวางมือสั่นๆลงไปที่แผ่นอก

แน่นตรงหน้า

ตุ่มไตสีเนื้อล่อตาล่อใจจนต้องก้มลงไปครอบมันไว้ด้วยปากแล้วดูดราวกับทารกที่หิวนมแม่ ทำอยู่อย่างนั้น

สลับกันทั้งสองข้างจนรอบข้างกลายเป็นสีแดงเรื่อ ผมอิ่มหนำจากยอดอกก็ยกปลายลิ้นลากไล้ลงมา

ตามลอนกล้ามเนื้อแวะเวียนวนรอบอยู่ตรงแอ่งสะดือก่อนที่จะลากต่ำมาถึงเนินสามเหลี่ยม

ได้ยินเสียงคราวแผ่วมาจากแด๊ด ผมเหลือบตาขึ้นมองเห็นแด๊ดปรือตาพลางเผยอปากอย่างรัญจวน

ทำให้ผมยิ่งได้ใจคว้าแก่นกายของแด๊ดไว้ในอุ้งมือแล้วกระทำเลียนแบบแด๊ดโดยค่อยๆ เลียยอดสีสวยแล้ว

ลากไล่ลงมาช้าๆ จนถึงโคน


“โอ้ ปราบ ดีมาก”


แด๊ดพึมพำแผ่วเบาพลางสอดปลายนิ้วเข้ามาในกลุ่มผมของผมแล้วกำไว้แน่นเมื่อผมงับปากกลืนกินมันลง

คอแล้วดูดไว้จนแก้มตอบ เอวของแด๊ดแอ่นยกขึ้นมาตามแรงดูดของผม


“ปราบ แด๊ดอยากให้ปราบเข้ามาแล้ว”


แด๊ดผงกหัวมองตาฉ่ำ เอื้อมมือหยิบถุงยางอันใหม่พร้อมหลอดเจลจากหัวเตียง แด๊ดฉีกซองและดึงมัน

ออกมาสวมให้น้องชายของผมแล้วจึงเขยิบไปพิงหลังที่หัวเตียงชันเข่าจนส้นเท้าชิดอยู่กับสะโพก หยิบ

หลอดเจลมาบีบใส่มือและทาไปรอบช่องทางของตัวเอง ผมมองขั้นตอนเหล่านั้นไม่วางตา ช่องทางสีสดของ

แด๊ดกระตุ้นจนผมอดรนทนไม่ไหวต้องโถมเข้าใส่ร่างของแด๊ดจ่อน้องชายที่ขยายใหญ่โตจนตัวเองก็นึกไม่ถึง

อยู่หน้าปากทางแล้วกดมันเข้าไปในร่างแด๊ด


“ปราบ ช้าๆ ไม่ต้องรีบ แด๊ดไม่ได้หนีไปไหน”


แด๊ดหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางหื่นกระหายด้วยอารมณ์อันพลุ่งพล่านของวัยรุ่น มือใหญ่ของแด๊ดโอบกอด

ผมไว้เมื่อผมค่อยๆดันสะโพกเข้าไปในช่องแคบ

อา….

ผมหายใจกระเส่าเมื่อท่อนเนื้อถูกบีบรัดไปรอบทิศทาง มันไม่เหมือนใช้มือเลยสักนิด กล้ามเนื้อของ

แด๊ดตอดตุ้บๆ จนผมอึดอัดไปหมด


“ขยับสิปราบ โยกเอว”


แด๊ดเตือนจนได้สติ ผมค้ำมือไปกับหัวเตียงชันตัวอยู่บนเข่าแล้วดึงแท่งเนื้อออกมาจนเกือบสุดก่อนที่จะแทง

พุ่งเข้าไปใหม่


โอ้ย เสียวชิบ


ผมเผลอครางอย่างติดใจ หลังจากนั้นผมก็โยกเอวอย่างเมามันจนแด๊ดครางดังขึ้น แท่งเนื้อของแด๊ดฟูพอง

ขึ้นมาให้ผมคว้ามันมารูดรั้งเข้าจังหวะ แด๊ดแอ่นอกเด้งเอวรับจนผมรู้สึกว่ากล้ามเนื้อของแด๊ดบีบถี่มากขึ้น


“โอย แด๊ด มันตอดจัง”


“เร็วกว่านี้ แรงกว่านี้ปราบ นั่นแหละดีมาก โอ้”


แด๊ดเด้งเอวรับอีกทีเดียวผมก็ถึงกับปล่อยเสียงครางลั่นเมื่อกล้ามเนื้อของแด๊ดบีบค้างรอบแท่งเนื้อของผม

จนแก้วหูของผมลั่นเปรี๊ยะ แท่งเนื้อของแด๊ดปล่อยน้ำเมือกออกมารดมือผมจนชุ่มฉ่ำก่อนที่แด๊ดจะนอนหอบ

อย่างสุขสม

แด๊ดช้อนตามองผม

“อ้าว ยังไม่เสร็จหรือปราบ”


ผมยิ้มแห้งๆ เมื่อตัวเองทนไหว ไอ้น้องชายของผมมันยังอยู่


“อีกรอบนะแด๊ด”


ผมดึงแด๊ดให้ลงมานอนหงายจับขาแด๊ดยกพาดบนไหล่ โน้มตัวลงไปดูดยอดอกแด๊ดแล้วเริ่มเกมใหม่

คราวนี้จังหวะของผมแม่นขึ้น นิ่งขึ้นเมื่อสอดลึกเข้าไปในช่องทาง ผมกระแทกจนแด๊ดครางลั่น


“โอ ปราบ ตรงนั่น อา สุดยอด”


ตรงไหน ตรงนี้ใช่ไหม ผมยิ้มกริ่มเมื่อดึงมันออกมาจนหมิ่นเหม่แล้วสอดเอวลึกเข้าไปตรงจุดอ่อนไหว แด๊ด

บิดตัวเอวแทบขาด ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มเมื่อผมจัดยกนี้ให้ถึงใจ

ช่องทางแด๊ดบีบอีกแล้ว คราวนี้ตอดรัดหนักกว่าเดิมเร่งเร้าให้ผมโยกเอวจนเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง


“ปราบ อ๊า”


แด๊ดส่งเสียงครวญยาวนานเมื่อผมจัดหนักจังหวะสุดท้าย แด๊ดปล่อยน้ำออกมาแล้วหลังจากนั้นไม่กี่วินาที

มันก็บีบรัดจนท้องน้อยของผมเกร็งแน่น ผมกระตุกวาบปลดปล่อยมันออกมาเต็มถุงยาง

สุดๆ ไปเลย

ผมหน้ามืดไปหมด จนต้องทิ้งร่างลงไปซบอยู่บนตัวของแด๊ดพากันหอบหายใจถี่เนื้อตัวเหนียวหนับ แด๊ดลูบ

หลังผมเบาๆ


“เก่งมากปราบ นี่ไม่บอกไม่รู้เลยนะว่าครั้งแรก”


ผมดึงตัวออกมาจากแด๊ดก่อนที่จะทิ้งตัวลงไปนอนหงายแผ่อยู่ที่ปลายเท้าแด๊ดทั้งที่ไอ้จ้อนยังคาไว้ด้วย

ปลอกหุ้ม แด๊ดหัวเราะเบาๆ ขยับตัวมาถอดปลอกให้ผม


“เป็นไงบ้างปราบ”


ผมหันไปมองแด๊ด ดวงตาของผมคงบอกถึงความตื่นเต้น


“แด๊ด มันสุดยอดเลยครับ ไม่เคยเบาตัวอย่างนี้มาก่อนเลย เอ่อ แล้วแด๊ดเป็นไงบ้าง”


แด๊ดลูบหัวผม


“แด๊ดมีความสุข ปราบเก่งมาก คงจะรู้ตัวเองแล้วใช่ไหมว่าชอบตำแหน่งไหน รุกหรือว่ารับ”


ผมพยักหน้ารับแล้วก็โผเข้าแด๊ดอีกครั้ง








มีต่ออีกนิด
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-10-2014 21:11:32
ต่อกันอีกหน่อย





ชีวิตของผมดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่มีอะไรผิดปกติ เรียนหนังสือ เล่นกีฬา ช่วยงานแด๊ดในส่วนที่แด๊ด

กระจายงานมาให้พวกเราที่อยู่ในการอุปการะได้ฝึกฝน ผมและทุกคนรู้จักศิลปะการป้องกันตัวจนชำนาญ

เพราะแด๊ดบอกว่าเป็นสิ่งจำเป็นหากจะต้องติดตามแด๊ดไปต่างประเทศ บางวันผมก็ได้คิวไปดูแลแด๊ดใน

ยามค่ำคืน แต่บางวันก็จะมีคนในบ้านมาจับจองไปช่วยปลดปล่อย กิจกรรมของผมวนเวียนอยู่อย่างนี้จน


จุดเปลี่ยนเข้ามาเยือนอีกครั้งเมื่อตอนที่ผมได้เข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัยเมื่อตอนปีหนึ่งปลายเทอม

ในบ่ายวันหนึ่งเมื่อผมเรียนเสร็จ ผมเดินพลางฟังเพื่อนๆ ที่กำลังพูดจาสัปดนมาตามทางเดิน คงเพราะมัว

แต่ฟังเพลินตอนที่เลี้ยวลัดมุมตึกไหล่ของผมจึงไปชนใครคนหนึ่งจนเกือบล้มลง


“อุ๊บ ซอรี่”


ผมอุทานอย่างตกใจมือของผมรีบคว้าร่างนั้นไม่ให้ร่วงไปกองกับพื้นโดยสัญชาตญานก่อนที่ตาจะมองด้วย

ซ้ำ พอตั้งตัวได้จึงได้หันไปมองคนที่ผมกำลังกอดเอวไว้


เมื่อตาต่อตาสบกัน หัวใจของผมก็กระตุก

ผิวขาวเนียนไม่มีกระอย่างชาวตะวันตกคนอื่น ผมสีน้ำตาลอ่อนตัดทรงเข้ากับรูปหน้าเรียวยาว ร่างสูงแต่ก็

ยังเตี้ยกว่าผมไปเล็กน้อย เอวที่ผมกำลังสัมผัสช่างกลมกลึงอย่างน่าลูบไล้

ผมนิ่งงันเมื่อกรอบหน้างดงามนั้นทำให้หัวใจของผมแล่นไปหาใครคนหนึ่งที่อยู่อีกซีกด้านหนึ่งของโลกซึ่งผม

เคยคิดว่าผมลืมเลือนไปแล้ว แต่บัดนี้ผมจึงรู้ว่าผมคิดผิด

หากคนที่ผมคิดว่าลืมไปแล้วเติบโตขึ้นมา ก็คงจะคล้ายคลึงกันที่แตกต่างจะมีก็เพียงคนที่อยู่ในวงแขน

ตอนนี้ดวงตาสีฟ้าสดใสอยู่ในเบ้าตาลึกแต่เมื่อยิ่งจ้องก็ยิ่งมีเสน่ห์ ในขณะที่คนอีกซีกโลกหนึ่งมีนัยน์ตาสี

เม็ดอัลมอนด์

ดวงตาสีฟ้าหรุบลงเล็กน้อยเมื่อยกมือขึ้นดันแผ่นอกของผมเบาๆ


“เอ่อ ผมไม่เป็นอะไรแล้ว ขอบคุณที่ช่วยไม่ให้ล้มลงไปนะครับ”


เสียงทุ้มนั่นยิ่งกระแทกใจจนผมยังจ้องใบหน้านั่นไม่วางตา มือที่เกาะเกี่ยวอยู่ตรงเอวคลายออกอย่าง

อ้อยอิ่ง


“ผมขอโทษที่เดินไม่ระวังจนเกือบชนคุณล้ม ผมปราบครับเรียนบริหารปีหนึ่ง”


ปากสีแดงเรื่ออย่างเป็นธรรมชาติคลี่ยิ้มจนหัวใจของผมแทบละลาย


“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมชื่อราฟาเอล แม๊กเวล อยู่คณะศิลปกรรมปีสาม”


ราฟาเอล แม๊กเวล



ผมยืนจ้องจนกระทั่งร่างเพรียวนั้นเดินจากไปจนลับตา




------------------------------------------ TBC ----------------------------------------


คุยกับคนแต่ง

ชั่งใจอยู่นานอย่างที่บอกไว้ในบทที่แล้ว เพราะรู้ว่าแม่ยกน้องป้องอาจจะไม่ชอบให้ปราบเป็นแบบนี้

แต่ก็อยากจะให้เข้าใจถึงวิถีชีวิตที่ปราบเติบโตขึ้นมาก่อนจะกลับไปเมืองไทยอีกครั้ง

ถ้าไม่ถูกใจท่านใดต้องขออภัยไว้ด้วยนะคะ

:mew2: :mew2: :mew2:

วันนี้แอบเปิดเรื่องสั้นแนวใสๆ ไว้เรื่องนึง (ใสจริงๆ ฟรุ้งฟริ้งมากค่ะ)

เป็นเรื่องที่แต่งไว้นานแล้วไม่กี่ตอนก็จบ ยังไงก็แวะเวียนไปอ่านกันได้เลยค่ะ

รักวุ่นวายของนายตัวร้ายรูปหล่อ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0)

:pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:

ส่งข่าวอีกเรื่องหนึ่ง

ร้ายซ่อนรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0)

แต่งบทพิเศษไว้ห้าบทสำหรับพิมพ์ลงในหนังสือ ตอนนี้คืบหน้าไปใกล้เซ็นสัญญาแล้ว

ขอบคุณทุกแรงใจนะคะ



:pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 31-10-2014 21:38:31
เป็นแม่ยกน้องป้อง แต่ก็เป็นพ่อยกปราบด้วย
และน้องป้องต้องเข้าใจด้วยว่า ที่ปราบขยันฝึกปรือ
ก็เพื่อน้องป้องคนเดียวนะ คริคริ  :hao6:  :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 31-10-2014 22:03:56
ปราบถ้ากลับไปเจอน้อง ไม่อยากให้ทำร้ายน้องเลยยย :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-11-2014 00:46:24
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-11-2014 00:58:18
ปราบยังไม่ลืมน้องก็ดีแล้ว
แต่อย่ากลับไปทำร้ายน้องเลยน๊าา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 01-11-2014 01:04:09
เรียนรู้ไวมากพี่ปราบ :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-11-2014 10:35:24
 :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 01-11-2014 11:04:13
พี่เดี่ยวของป้อง  :ling1:  สั่งสมประสบการณ์มากไปนะ บางที   :o8:  หวังว่าจะไม่ลืมน้อป้องนะฮะพี่เด่ว  :hao5:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 01-11-2014 21:55:53
ปราบจะเอาคนนี้ไว้เพื่อเป็นตัวแทนน้องป้องรึเปล่าน๊าาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 9 ( 31 / 10 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 03-11-2014 03:27:28
แล้วป้องเป็นยังไงบ้างนะนั่น
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-11-2014 22:14:07

                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                  ภาคกลาง

                                                                     บทที่ 10


ผมไม่เคยสนใจและรู้จักศิลปะการแสดงที่ชื่อว่าบัลเลต์เลยสักนิดถ้าไอ้พวกเพื่อนๆผมจะไม่แย่งกันบอกให้

ผมรับรู้ถึงชื่อเสียงของ ราฟาเอล แมกเวลจากคณะศิลปกรรม ว่าเขาโด่งดังแค่ไหนในโลกของบัลเลต์

ก็ดังถึงขั้นว่าราฟาเอลได้รับทุนจากคณะบัลเลต์ชื่อดังของโลกให้ไปฝึกฝนการแสดงและพร้อมจะรับเขาทันที

ที่เรียนจบ


และในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ผมพบกับราฟาเอลเป็นครั้งแรกเขาก็จะแสดงบัลเล่ต์ร่วมกับนักศึกษาคณะของ

เขา ซึ่งมันก็คือวันนี้ที่ผมกำลังนั่งอยู่ในโรงละครเล็กๆ ของคณะศิลปกรรมท่ามกลางผู้ชมล้นหลามที่แห่มา

ชมการแสดงของนักบัลเลต์ชายชื่อดังของมหาวิทยาลัย ราฟาเอล แมกเวล

Black Swan เริ่มเปิดฉาก เสียงจอแจเงียบลงทันทีที่ม่านหนาหนักเผยให้เห็นถึงเวทีที่ไม่ได้มีสิ่งประดับ

ประดามากมายนักและทดแทนเสียงพูดคุยด้วยเสียงเพลงบัลลาดก่อนที่นักแสดงหญิงจะออกมาวาดลีลา

งดงามอ่อนช้อย ผู้ชมทุกคนได้แต่ส่งสายตาไปบนเวทีเพื่อรอคอย

แล้วเสียงฮือฮาก็ดังไปทั่วเมื่อนักแสดงที่ทุกคนตั้งตารอปรากฎโฉมขึ้นมาในที่สุด ผมเองก็ถึงกับดันตัวขึ้น

มองจนแผ่นหลังไม่ติดเก้าอี้อีกต่อไป ราฟาเอลช่างดึงดูดสายตาเมื่อเขาอยู่ในชุดบัลเลต์สีดำแนบเนื้อ

ผมไม่รู้หรอกว่าแม่หงส์ดำหงส์ขาวจะทะเลาะขัดแย้งกันเรื่องอะไร ผมดูไม่รู้เรื่องสักนิด เพราะสิ่งที่ทำให้ผม

ละสายตาไม่ได้เลยคือราฟาเอลต่างหาก ใบหน้างดงามกับผมสีน้ำตาลทองจัดทรงเข้ารูปอยู่ในชุดบัลเลต์

ช่วงบนประดับสีทองสะท้อนแสงอยู่บนพื้นดำ กับช่วงล่างที่เป็นกางเกงบางแนบสัดส่วนเผยให้เห็นท่อนขา

เพรียวแต่หนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ รับกับเอวคอดที่ผมเคยสัมผัส กางเกงแทบจะเปิดเผยสัดส่วนจุดอ่อน

ไหวให้ผมจินตนาการจนเตลิดเปิดเปิง ลีลาเมื่อราฟาเอลกรีดกรายและยกเอวนักแสดงหญิงขึ้นสูงก็ยิ่งทำให้

รู้ว่ากล้ามเนื้อทั่วร่างกายน่าจับต้องเพียงไหน


เผลอไผลจ้องมองอยู่ไม่นานเลยในความรู้สึกการแสดงก็จบลงท่ามกลางเสียงปรบมือกึกก้อง ม่านหนาสีทึม

ปิดฉากลง บรรดาผู้ชมทยอยกันลุกออกจากที่นั่งพร้อมเสียงชื่มชมไม่ขาดปากในขณะที่ผมยังนั่งเงียบอยู่ที่

เดิมเพื่อเรียกสติให้คืนกลับมา ผมนั่งอยู่จนกระทั่งเสียงเพลงเงียบลง ไม่เหลือใครแล้วในห้องโถงกว้าง ผม

จึงได้ลุกขึ้นและเดินออกมา







ร่างสูงของผมยืนพิงกรอบประตูยกมือขึ้นกอดอกพลางทอดสายตาเข้าไปในห้องน้ำของโรงละครที่มีเพียง

ไม่กี่ห้อง และมีผู้เข้ามาใช้บริการของมันเพียงคนเดียวกำลังยืนอวดร่างงดงามอยู่หน้าเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ

ที่มีกระจกบานใหญ่อยู่เหนือขึ้นไป

คนๆนั้นหันมาสบตากับผมแวบหนึ่งแล้วจึงหันกลับไปที่กระจก ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นไหววูบและไม่ได้มีเสียงห้าม

ปรามเมื่อผมก้าวเข้าไปพร้อมปิดประตูด้านหน้าลง

ผมสืบเท้าเข้าไปยืนซ้อนหลังพลางมองสบกับดวงตาคู่สวยในกระจก


“ผมช่วยนะ”


ซิปตัวเล็กซ่อนปลายอยู่ด้านหลังชุดบัลเลต์ถูกผมรูดลงช้าๆ จงใจให้ปลายนิ้วสัมผัสผิวหนังของแผ่นหลังแผ่ว

เบาจนเห็นคนตรงหน้าเกร็งกายอยู่ในกระจก เรียวปากหยักบางเผยอขึ้นอย่างเผลอไผลเมื่อผมค่อยๆ ดึงเสื้อ

แนบเนื้อนั่นออกจนพ้นกายเปลือยเนื้อตัวช่วงบน  โชว์ให้เห็นสัดส่วนงดงามตั้งแต่ไหล่และอกที่ผายออกลาด

ลงสู่เอวคอดอวดเม็ดเล็กสีชมพูอยู่บนเนินเนื้อทั้งสองข้าง


ผมมองร่างกายนั้นในกระจกไล่สายตาไปถึงสะโพกที่ยังซ่อนตัวอยู่ในกางเกงแนบเนื้อที่โอบอุ้มจุดซ่อนเร้น

ให้เห็นเพียงรูปร่างภายนอก แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ลมหายใจของผมร้อนระอุ

สอดมือเข้าไปวางแนบเอวคอดแล้วดึงเข้าหาตัว ผมเห็นดวงตาสีฟ้าใสฉายแววหวั่นไหว ไม่มั่นใจ แต่ก็

ท้าทายอยู่ในทีเมื่อผมกดจมูกลงไปที่บ่าลาด เจ้าตัวเอียงคอให้ผมเม้มปากลงตรงซอกคออย่างถนัดถนี่

สะโพกคลึงเคล้าอยู่ตรงต้นขาของผม ลมหายใจนั้นกระชั้นขึ้นจนแผ่นอกกระเพื่อม เมื่อมือของผมลดต่ำไป

กอบกุมพวงถุงนุ่มจนกระชับ ใบหน้าเรียวเอียงเข้ามาหาผม เราทั้งสองคนสบตาซึ่งกันอีกครั้ง


ราฟาเอลหันหลังกลับมาอย่างรวดเร็วปานลมพัด คอระหงแหงนหน้าขึ้นให้ผมกดปากลงไปได้อย่าง

เหมาะเจาะ แขนเรียวยกขึ้นมาคล้องคอผมไว้พลางเบียดอกจนแนบชิดเมื่อผมวาดลิ้นเข้าไปในโพรงปากฉ่ำ

ชื้น กลิ่นเหงื่อจางๆ เร่งเร้ากระชากอารมณ์ดิบจนผมเผลอขยุ้มเนื้อสะโพกแน่นมืออย่างเมามัน

ทรวงอกของราฟาเอลสะท้านจนผมรู้สึกได้ เสียงครางแผ่วเบาแว่วมาจากในลำคอ ผมถอนปลายลิ้นออกมา

เพียงเพื่อจะกระซิบถามข้างใบหูนุ่มนิ่ม


“ที่นี่หรือที่ไหนดี”


กลีบปากแดงเรื่อสั่นระริก เสียงแหบพร่าตอบผมพลางช้อนตาหยาดเยิ้มขึ้นมา


“ที่นี่เถอะ ผมทนไม่ไหวหรอกถ้าต้องเสียเวลาไปที่อื่น”


น้ำหนักเพียงน้อยนิดเมื่อผมยกเอวราฟาเอลขึ้นมานั่งอยู่บนเคาน์เตอร์ ผมดึงกางเกงแนบเนื้อออกอย่าง

ยากลำบากจนต้องจุ๊ปากอย่างหงุดหงิด เดือดร้อนเจ้าตัวต้องช่วยดึงมันออกอย่างชำนาญก่อนที่จุดอ่อนไหว

ที่ผมจินตนาการจะอวดร่างชูสลอนให้เห็นสีชมพูเรื่ออยู่กึ่งกลางลำตัว ราฟาเอลดึงเสื้อยืดของผมออก ผม

หยิบคอนด้อมออกจากกระเป๋าเงินแล้วถอดกางเกงเหวี่ยงไปด้านข้างอย่างไม่ใยดี

ราฟาเอลคว้าคอผมให้โน้มตัวไปจูบแลกลิ้นทั้งที่ยังใส่คอนด้อมไม่เสร็จด้วยซ้ำแต่ผมก็ไม่ปฏิเสธ จนเมื่อ

จัดการสวมปลอกเรียบร้อยนิ้วจึงได้บดบี้ขยี้หัวนมสีชมพูหวานจนมันแข็งเป็นตุ่มสู้มือผมจึงได้ละปากออก

แล้วก้มตัวลงกระดกลิ้นรัวอยู่ตรงตุ่มไตนั้นพลางเลื่อนมือลงล่างกอบกำแท่งเนื้อเหมาะเจาะถูไถกับฝ่ามือชื้น

ราฟาเอลครางหวานพลางยกขาเรียวขึ้นตั้งชันเปิดทางให้ผมดันกายเข้าไปในช่องทางทีละนิด


“อืมม ฟิตมากครับราฟาเอล”


“เรียกราฟเถอะ”


เสียงกระเส่าตอบมาเบาๆ


“ผมอยากให้คุณเรียกผมว่าราฟ”


“อา ราฟ ข้างในคุณกำลังเล่นงานผม”


ผมเกร็งหน้าท้องแทบตายเมื่อภายในของราฟตอดรัดท่อนเอ็นแข็งของผมจนร้อนไปหมด ผมผ่อนลมหายใจ

ออกช้าๆเพราะกลัวตัวเองจะพาสวรรค์ล่มไปเสียก่อน ผมเสือกไสตัวเองเข้าไปจนหมดพอถึงตอนนี้ราฟเองก็

หอบหายใจหนักหน่วง


“มาเถอะ ผมพร้อมแล้วล่ะปราบ”


ผมกระตุกมุมปาก ยกมือบีบคางเรียวให้เงยหน้าบดปากลงไปพลางชักเอวออกมาและกระแทกไปอีกครั้ง

เสียงครางอื้อดังลอดมาทั้งที่ผมยังประกบปากแน่น ราฟเด้งเอวสวนกลับให้ผมได้กระแทกกระทั้นอย่างหนำ

ใจ ในขณะที่มือก็ฟอนเฟ้นแก่นกายของราฟจนเนื้อตัวสั่น


“อา ปราบ ผมไม่ไหวแล้ว อีกนิดเดียว”


ร่างเพรียวเบียดตัวให้ผมยิ่งสอดลึกสองมือขยำอยู่ที่หัว ผมเร่งจังหวะเอวจนรู้สึกได้ถึงแรงบีบเกร็ง

ราฟาเอลฉีดอัดน้ำเมือกออกมาเต็มกำมือของผม เสียงครางดังลั่นห้องน้ำเมื่อผมจับขาให้แยกกว้างดันกาย

ลึกจนสุดโคนพลางแช่ค้างไว้เมื่อผมปลดปล่อยตามหลังมาในอีกไม่กี่วินาที

ผมยืนหอบเกยคางไว้กับไหล่ของราฟาเอลพักใหญ่ กว่าที่จะดันตัวและถอนร่างกายออกมาจากช่องทางนั้น

เชยคางเรียวจูบหนักไปอีกครั้งแล้วจึงยกเอวคอดให้ลงมายืนขาสั่น พลางเปิดน้ำชำระล้างร่างกายให้เขา

ไม่นานผมและราฟาเอลจึงใส่เสื้อผ้ากลับคืน


“จริงๆ ผมแค่จะมาชวนคุณไปดินเนอร์”


ผมคลี่ยิ้มส่งให้ ราฟาเอลหัวเราะเบาๆ


“ให้ตายเถอะปราบ นี่คุณทำข้ามขั้นตอนกับทุกคนหรือเปล่า”


“เปล่า ก็มีคุณนี่แหละที่ทำให้ผมอดใจไม่อยู่ จริงๆนะ อยากจะพุ่งตัวมาหาคุณตั้งแต่เห็นคุณบนเวที”


“ผมรู้”


ราฟาเอลลากเสียงยาว


“ผมมองไปเห็นสายตาของคุณ เล่นเอาลืมท่าไปเหมือนกัน”


มือเรียวยกขึนมาลากไล้ไปตามคางของผม


“ไปเดทกันนะ”


ผมเอ่ยปากชวน


“กินอาหารให้อิ่มท้อง เผื่อว่าคุณอยากให้ผมกินคุณอีกรอบในค่ำคืนแรกที่เราเดทกัน”









กว่าผมจะกลับมาถึงบ้านและมุดหัวเข้านอนก็ปาเข้าไปเกือบสว่างเพราะกว่าที่จะกลับจากห้องของราฟก็

ค่อนคืนเข้าไปแล้ว เซ็กส์กับราฟเรียกพลังไปจนแทบหมดแรง และตื่นขึ้นมาก็สายโด่ง ดีที่ว่าไม่มีเรียนตอน

เช้า

โมกข์นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงลำพังผมเลยเดินงัวเงียยกจานอาหารไปนั่งฟุบกับมัน


“หมดแรงเลยหรือมึง”


มันแสยะปากทักทายผม ผมเลยยกเท้าเตะหน้าขาของมันแก้ง่วง


“มึงล่ะ ไม่ไปหมดแรงกับใครหรือไง”


ผมถามมัน ไอ้โมกข์มันเสน่ห์แรงเพราะฝรั่งชอบหุ่นอย่างมัน สูง เข้ม หน้าคม


“เมื่อคืนกูดูแลแด๊ดว่ะ”


ผมพยักหน้าหงึกๆ รับรู้ พลางตักอาหารเข้าปาก


“แล้วเมื่อคืนกับใครที่ไหนวะ”


ไอ้โมกข์ถามผม


“ราฟาเอล แมกเวล ศิลปกรรม”


ผมบอกพิกัด โมกข์ไม่ว่าอะไรอีกมันก้มหน้าไปอ่านนิตยสารรถแข่งในมือ แต่อยู่ๆ มันก็ลืมตาโพลงหันหน้า

ขวับมาหาผม


“ราฟาเอล แมกเวล ที่เล่นบัลเลต์ใช่ไหม”


ผมพยักหน้างงๆ ไม่นึกว่ามันจะรู้จักด้วยเพราะโมกข์เรียนคนละที่กับผม พอได้รับคำยืนยันโมกข์ก็ยกมือตี

หน้าผากตัวเองดังป้าบ


“โลกแม่งกลมสัส ยุ่งกับใครไม่ยุ่งเสือกไปยุ่งกับเด็กไอ้แดน”


ผมชะงัก


“มึงรู้ไหม ราฟาเอล แมกแวล เป็นคนที่ไอ้แดนแม่งหวงเชี่ยๆ หวงแบบหมาหวงก้างสุดๆ”


แดนที่ไอ้โมกข์เรียกมันคือแดเนียล เครตั้น คนในอุปการะของแด๊ดคนหนึ่ง ถ้าคุณยังจำได้ มันคือคนที่ชอบ

มองผมและไอ้โมกข์แบบเหยียดๆนั่นแหละครับ ตอนนี้มันเรียนปีสุดท้ายที่เดียวกับไอ้โมกข์ ในขณะที่

ไอ้โมกข์เพิ่งเรียนปีสอง โมกข์บอกว่าแดเนียลเรียนเก่งมาก


“โนเอลเคยบอกกูว่าไอ้แดนมันชังขี้หน้าคนหน้าตาดีทุกคนแหละ”


โมกข์มันพูดกับผม


“เพราะว่ามันหน้าตาขี้เหร่ แต่พระเจ้าก็ประทานสมองให้มันแทน ผลการเรียนแม่งเอตลอด กูเองยังนึกทึ่ง”


นอกจากเรื่องเรียนไอ้แดนยังทำงานให้แด๊ดด้านสิ่งผิดกฎหมายด้วย แด๊ดดูจะไว้ใจให้มันอยู่มาก


“แล้วมันมาข้องเกี่ยวกับราฟาเอลยังไง”


ผมยังสงสัย เพราะดูอย่างไรก็ไม่มีทางที่ทั้งสองจะมารู้จักกันได้เลย


“ทั้งไอ้แดนและราฟาเอลมาจากบ้านเด็กกำพร้าด้วยกันทั้งคู่ ราฟาเอลถูกเจ้าหน้าที่ในนั้นทำร้ายไอ้แดนมันก็

คอยช่วยไว้ มันพากันหนีออกจากที่นั่นก็หลายหนแต่ก็ถูกจับกลับไป พออายุได้สักสิบขวบนี่แหละ ก็มีคนมา

หาเด็กไปเลี้ยง เขาก็เลือกราฟาเอลไปเพราะความที่เป็นเด็กน่ารัก ไอ้แดนมันก็อยากจะไปด้วยเพราะมันไม่

อยากจากกันแต่เขาก็ไม่เอามันไง มันเลยโกรธมากพยายามหนีออกมาจนสำเร็จ ก่อนที่แด๊ดจะเจอมันนั่น

แหละ พอมันโตขึ้นมันก็ไปสืบหาจนรู้ว่าราฟาเอลอยู่ที่ไหน พอรู้ มึงก็คงจะเดาได้ ว่ามันจะกันท่าคนอื่น

ขนาดไหน ก็มันรักของมันมานาน”


โมกข์เล่ามหากาพย์ของไอ้แดนให้ผมฟังอย่างยืดยาวก่อนจะปิดท้ายด้วยประโยคคำถาม


“ถ้ามันรู้ว่ามึงไปยุ่งกับคนของมัน มึงคิดไหมว่ามันจะทำอะไรกับมึง”







มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-11-2014 22:19:41
ต่อกันอีกหน่อย





Daniel‘s Part


ผมผลักประตูเข้าไปในห้องที่มีเพียงแสงสลัวในยามดึกเมื่อวันใหม่ล่วงมาแล้ว จริงๆ อยากจะมาตั้งแต่เย็นก็

ติดงานชิ้นสุดท้ายที่ต้องทำก่อนเรียนจบ ผมตั้งใจกับมันมากถ้ามันออกมาดีเกียรตินิยมก็ไม่ไกลเกินคว้า

กับคนที่มีปมด้อยเรื่องรูปร่างหน้าตาอย่างผมอะไรจะดีไปกว่าการหาปมเด่นอื่นๆ มากลบมันไว้

เฮอะ ไอ้คนหล่อๆคนอื่นในคณะจะมาเรียนเก่งสู้ผมน่ะหรือ ไม่มีทาง

ผมชิงชังคนหน้าตาดีทุกคน เพราะพวกมันมักจะหยิ่งผยองทั้งที่ไม่มีดีอะไรเลยสักนิด ยกเว้นคนหน้าตาดีคน

หนึ่งที่นอนทอดกายอยู่บนเตียงในห้องพักของอพาร์ทเมนท์แห่งนี้

ผมนั่งลงที่ขอบเตียงอย่างหมิ่นเหม่ เอื้อมมือไปลูบไล้ใบหน้านั้นอย่างหลงใหล ใบหน้าที่ผมรักและหวงแหน

มาตลอดชีวิตของผม


ราฟาเอล แมกเวล


ใบหน้าแสนโสภาหลับสนิทจนไม่รู้กระทั่งว่าผมก้าวเข้ามาในห้องกลางดึก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผมอยากจะกอดรัด

ร่างกายนี้ไว้ขนาดไหน  และผมก็ไม่รอช้าที่จะโน้มตัวลงไปโอบรัดราฟาเอลไว้ในอ้อมแขน

ใบหน้างดงามสะดุ้งตื่น ดวงตาสีฟ้าสดใสแม้จะอยู่ในความมืดมองผมอย่างตกใจ


“แดน มาตั้งแต่ตอนไหน”


ราฟาเอลผวาขึ้นมาแต่ผมก็กอด และกดหน้างามให้แนบไปกับหน้าอกของผม


“เพิ่งมา คิดถึงราฟมาก อยากจะกอด อยากจะมีเซ็กส์ด้วย”


ร่างเพรียวดิ้นขลุกขลัก มือบางพยายามดันผมให้พ้นจากร่าง ผมได้แต่มองอย่างสงสัย

ดวงตาคู่นั้นหรุบลงจนผมผิดสังเกต แต่ผมก็ยังเลือกที่จะนิ่ง


“อย่าเพิ่งได้ไหม คือราฟเหนื่อยจากการแสดงเมื่อตอนเย็นมากๆ”


ผมเชยคางเรียวนั้นขึ้นให้สบตากับผม สีหน้าของราฟดูเกรงกลัวอะไรบางอย่าง ผมมองหน้าหวานสลับกับ

แอบสังเกตทั่วร่างเปลือยที่ซ่อนอยู่ในกองผ้าห่ม รอยแดงเรื่อทั่วทั้งตัวเป็นหลักฐานจนผมตาลุก


“เหนื่อยจากแสดงหรือว่าเหนื่อยเพราะมีชู้กันแน่ ลืมไปแล้วหรือว่าราฟเป็นของผมคนเดียวเท่านั้น จำไม่ได้

หรือไงว่าผมเคยช่วยราฟไว้ไม่รู้กี่ครั้ง”


ผมบีบคางเรียวจนราฟตัวสั่น


“แดน ปล่อยผม ผมเจ็บ”


มือบางพยายามดึงมือผมออกแต่ไม่สำเร็จ ผมผลักราฟให้หงายหลังกลับไปนอนแผ่อีกครั้งแล้วผมก็ทิ้งตัวลง

ไปนอนทาบพลางกดปากลงไปจูบอย่างคับแค้น พอถอนปากออกมาก็เห็นกลีบปากนั้นแดงเห่อ


“คราวที่แล้วที่มีคนอื่น จำไม่ไดหรือไงว่าผมจัดการยังไง”

ผมซ้อมมันเสียน่วม ไอ้หนุ่มที่มาวอแวกับราฟาเอล ส่วนร่างที่ผมหลงใหลนี่ก็ถูกผมลงทัณฑ์เสียสามวันสาม

คืนจนแทบแหลกคามือ ช่วยไม่ได้ ผมบอกแล้วว่าร่างกายนี้เป็นของผม


“แดน อย่า ปล่อยผมไปเถอะ ได้โปรด”


ใบหน้าสวยพยายามขอร้อง แต่ผมไม่ปล่อย ผมกระชากผ้าห่มออกจนเห็นเรือนกายงดงาม ราฟพยายามจะ

ลุกขึ้น แต่ผมรีบดึงเข็มขัดออกแล้วมัดมือสองข้างของราฟไว้ด้วยกันตรึงไว้กับหัวเตียง


ผมลูบไล้เรือนร่างที่มีรอยแดงทั่วตัวด้วยความหลงใหลและโกรธแค้น ราฟตัวสั่นเมื่อจ้องมาทางผมอย่าง

หวาดกลัว ผมถอดเสื้อ ผมถอดกางเกง เหลือแต่ร่างที่เตี้ยกว่า แต่เต็มไปด้วยแรงมากมายที่พร้อมจะลบรอย

บนร่างกายนี้และพร้อมที่จะสร้างรอยใหม่ด้วยฝีมือของผม

ผมแยกขาเรียว สอดใส่เข้าไปทั้งที่อีกฝ่ายยังไม่พร้อม ดีแล้ว ราฟจะได้จดจำว่าไม่สมควรทำอย่างนี้อีก

ราฟร้องไห้อย่างหนัก ผมเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาแต่ก็ไม่หยุดที่จะกระแทกกระทั้นจนร่างสั่นคลอนไปทั้งตัว


“บอกมามันเป็นใคร”


ผมตะคอกจนราฟร้องลั่น มือที่เช็ดน้ำตาลดลงมาอยู่ที่คอระหงแล้วบีบลงไป


“บอกมา!”


ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเลื่อนลอยกว่าที่ราฟผู้แสนอ่อนแอจะยอมเอ่ยปาก


“ปะ ปราบ”


ดวงตาโปนของผมเบิกโพลง

บนโลกใบนี้จะมีใครสักกี่คนที่ชื่อ ปราบ









--------------------------------------------------- TBC -----------------------------------------



อย่าลืมติดตามผลงานกันค่ะ


X-theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้ X

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)








เรื้องสั้นแบบเบาๆ


รักวุ่นวายของนายตัวร้ายรูปหล่อ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0)



:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 03-11-2014 22:35:31
  เกรงว่าปราบจะกระทืบแดนซะน่วมอะดิ    :z10:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-11-2014 22:42:10
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 03-11-2014 23:08:16
งานบู๊กำลังจะมา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 03-11-2014 23:27:30
อ่านเรื่องนี้แล้วโดนใจเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 04-11-2014 00:05:46
มีคดีความกันมาก่อนนี่เอง อยากอ่านต่อแระ
ตามมาตั้งแต่อ่านโมกจบอ่ะ รักคนแต่งครับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 04-11-2014 00:23:10
ปราบปล่อยราฟให้พี่แดนไปเห้ออออออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-11-2014 01:28:01
ตีกันเองแร้วแด๊ดจะทำไงเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-11-2014 09:21:51
ตกใจกับเรื่องใหม่แฮะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 04-11-2014 13:39:22
แดเนียลจะแก้แค้นปราบยังไงเนี่ยะ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 10 ( 03 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 07-11-2014 23:18:52
ภาคโมก ยังไม่ค่อยเครียเรื่องของแดนเลน ว่าตายมั๊ย

ภาคนี้ ของความกระจ่างด้วยนะครับ

สารภาพ ก่อนว่า ติดภาคของโมกมากๆ อ่าน สองวันจบ แล้วมาต่อเรื่องนี้

ชอบผลงานของคนเขียนมากๆเลยครับ จะตามทุกเรื่อง ภาคโมกวางแผงวันไหนบอกด้วยนะครับ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-11-2014 09:25:25

                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                   ภาคกลาง

                                                                    บทที่ 11


แด๊ดอยู่ที่บ้านด้วยในเย็นวันนี้ พวกเราที่เหลือกันอยู่กำลังจัดการอาหารเย็นกันอย่างพร้อมเพรียง

หลังจากที่รับผมมาอุปการะแด๊ดก็ยังไม่ได้รับเด็กคนอื่นมาอีก  บรรดาลูกของแด๊ดทั้งหลายเจริญเติบโตตาม

วัย บางคนก็ยินดีที่จะทำงานให้แด๊ดอย่างเช่นเดวิดที่รักแด๊ดอย่างถวายหัวหรือไอ้แอนดรูก็ด้วยเช่นกัน

พวกนี้แด๊ดจะส่งให้ไปติดต่องานกับกลุ่มอิทธิพลมืดตามต่างประเทศแทนแด๊ดที่อายุมากขึ้น ส่วนใครที่อยาก

ประกอบอาชีพสุจริตแด๊ดก็ไม่ว่าอย่างเช่นไอ้โนเอลเพื่อนสนิทของผมอีกคนที่ตอนนี้ได้ดิบได้ดีไปเป็น

นายแบบชื่อดังอยู่ที่ปารีส ส่วนผมและไอ้โมกข์ยังช่วยงานเล็กๆ ของแด๊ดไปก่อนเช่นตรวจสอบบัญชีหรือไป

คุมบ่อนกาสิโนเล็กๆ เป็นการฝึกงานพร้อมกับเรียนมหาวิทยาลัยไปด้วย


อาหารเย็นวันนี้จึงเต็มไปด้วยรายละเอียดของงานและคำแนะนำจากแด๊ด ผมนั่งฟังอย่างสนใจจนลืมสังเกต

เสียงฝีเท้าที่ก้าวพรวดๆเข้ามาในห้องอาหาร กว่าจะรู้ตัวอีกทีอะไรบางอย่างหนักๆ ก็กระแทกใส่หน้าของผม

โดยที่ยังไม่ทันตั้งตัว


“เฮ้ย อะไรวะ”


ผมอุทานอย่างตกใจพลางสะบัดหัวให้หายมึนงง วงอาหารแตกฮือท่ามกลางเสียงสบถเมื่อคอเสื้อของผมถูก

กระชากแล้วเหวี่ยงให้ไปกองกับพื้นห้อง


“สัสแดน อะไรของมึง”


ผมด่าอย่างเดือดดาลเมื่อเห็นต้นเหตุ ร่างตันของไอ้แดนยืนจังก้าอย่างเอาเรื่องดวงตาโปนๆ ของมันมองผม

อย่างโกรธและเกลียดก่อนที่มันจะกระโจนมานั่งคร่อมและเสยปลายคางผมด้วยหมัดของมันอีกครั้ง แต่

คราวนี้ผมตั้งสติได้ทันจึงได้คว้าหมัดมันไว้และอัดเข้าที่ครึ่งปากครึ่งจมูกของมันคืนกลับไปบ้าง

ไอ้แดนหน้าหงายแต่มันยิ่งมองผมอย่างชังน้ำหน้ายิ่งกว่าเดิม มันเงื้อหมัดสูงเตรียมที่จะอัดหน้าผมเต็มที่


“หยุดนะ”


เสียงประกาศิตดังขึ้นจากแด๊ดที่มองมาด้วยนัยน์ตากรุ่นโกรธ แด๊ดถลาเข้ามาและกระชากคอเสื้อแยกผมกับ

ไอ้แดนออกจากกันพลางหันไปมองไอ้แดน


“เกิดอะไรขึ้นแดเนียล”


แด๊ดเรียกมันเต็มยศ


“ทำไมถึงต้องทะเลาะกันด้วย”


ไอ้แดนจ้องผมเขม็งพร้อมกับยกมือชี้หน้า


“มัน ไอ้ปราบ มันมายุ่งกับของของผม มันมายุ่งกับคนของผม”


“กูไม่รู้ว่าเป็นคนของมึง แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะถ้าเขาเต็มใจจะยุ่งกับกู มึงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปบังคับเขา”


“ไอ้เหี้ยปราบ”


ไอ้แดนทำท่าจะพุ่งเข้าหาผมอีกครั้งถ้าไม่ติดดวงตาดุของแด๊ดห้ามไว้ มันเลยได้แต่ฮึดฮัดใส่ผม


“แดเนียล”


แด๊ดพูดเสียงหนักกับมัน


“แด๊ดเคยบอกกับลูกทุกคนว่าไง จำไม่ได้หรือ แด๊ดบอกว่าถึงจะเลวยังไงแด๊ดขออย่างเดียว ขอให้รักพวก

พ้อง แด๊ดขอได้ไหม อย่าทะเลาะกันเพราะคนๆเดียว”


“แด๊ดเข้าข้างมัน”


แดเนียลมองหน้าแด๊ดอย่างผิดหวัง


“ทั้งที่มันมาแย่งคนที่ผมรักที่มีไม่กี่คนบนโลก ใช่สิ แด๊ดรักมันมากกว่าผมนี่ เพราะผมมันหน้าตาอัปลักษณ์

ไม่ถูกใจแด๊ดใช่ไหม เพราะผมไม่ได้ทำให้แด๊ดนอนครางอยู่บนเตียงใช่ไหม”


เสียงฝ่ามือแหวกอากาศไปกระทบใบหน้าแดเนียลอย่างจังจนมันหน้าหันไปตามแรงฟาด ทุกคนยืนอึ้งเมื่อ

เห็นแด๊ดลงมือกับลูก แด๊ดมองแดเนียลด้วยสายตาเจ็บช้ำ มือข้างที่ตบแดเนียลกำแน่นอยู่ข้างลำตัว


“แดน แด๊ดรักลูกทุกคนเท่ากัน แด๊ดไม่เคยรักใครเพราะหน้าตาและไม่ได้รักใครเป็นพิเศษเพียงเพราะคนนั้น

นอนกับแด๊ด หากแด๊ดไม่รักแดนแด๊ดจะพาแดนมาอยู่ที่นี่ทำไม”


เสียงของแด๊ดสั่นด้วยความโกรธและเสียใจ แต่ไอ้แดนก็ยังจ้องหน้าแด๊ดด้วยสายตาเดียวกัน น้ำตาซึมอยู่ที่

หางตาของมันในขณะที่มุมปากมีเลือดแตกซิบ


“ถ้าแด๊ดรักผม แด๊ดบอกให้ไอ้ปราบเลิกยุ่งกับคนของผมสิ”


“แล้วถ้าแด๊ดบอกให้ปราบเลิก แต่ถ้าคนของแดนเขาอยากจะยุ่งล่ะ มันเป็นเรื่องของคนกลางที่เขามีสิทธิ์จะ

เลือก”


“เห็นไหม แด๊ดก็เข้าข้างมันอยู่ดี”


แดเนียลตัดพ้อเสียงเครือ


“เอาเถอะ เห็นแก่แด๊ด คราวนี้ผมจะไม่เอาเรื่องมัน แต่ผมจะไม่ไว้หน้าใครอีกแล้วถ้ามันยังทำครั้งต่อไป”

แดเนียลมองผมอย่างโกรธแค้นก่อนที่จะกระแทกเท้าเดินออกไปจากบ้าน ผมก้าวไปหาแด๊ดอย่างรู้สึกผิด


“แด๊ด ผมขอโทษที่ก่อเรื่องให้แด๊ดไม่สบายใจ”


แด๊ดไม่ได้พูดอะไรอีกนอกจากตบบ่าผมเบาๆ แล้วมองตามหลังแดเนียลอย่างเป็นห่วง โดยที่เราไม่ได้

สังหรณ์ใจเลยว่าวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่แดเนียลมาเยือนที่บ้านใหญ่หลังนี้










ผมไม่ได้เจอราฟาเอลอีกเลยจนเวลาล่วงไปสามวันแม้ว่าใบหน้าและเรือนร่างนั้นจะยังทำให้ผมคิดถึง

ความคิดถึงนั้นมันปะปนทับซ้อนด้วยเงาจางๆ ที่ซ่อนอยู่ในซอกมุมหนึ่งของความทรงจำจนผมแทบแยกมัน

ไม่ออก

จนกระทั่งวันที่สี่ผมก็พบกับราฟาเอลจนได้ในช่วงเวลาบ่ายจัดตอนที่คาบสุดท้ายของการเรียนเสร็จสิ้นลง

และผมกำลังเดินทอดน่องอยู่ริมถนนในมหาวิทยาลัย

เราต่างหยุดยืนและสบตา ดวงตาสีฟ้าของราฟาเอลช่างบอกความรู้สึกได้หลากหลายอย่างยิ่ง มันมีทั้ง

ความยินดีที่ได้พบหน้ารวมถึงความประหวั่นพรั่นพรึง แต่ที่มีมากที่สุดคงหนีไม่พ้นความคิดถึงและโหยหา

จนไม่จำเป็นต้องกล่าวออกมาเป็นคำพูด

ร่างเพรียวสมส่วนเดินนำโดยที่มีผมเดินตามหลังไม่ห่างจนกระทั่งถึงอพาร์ตเมนท์ใกล้มหาวิทยาลัยที่ราฟา

เอลเช่าไว้ เมื่อประตูห้องปิดลงเราสองคนก็โผเข้าจูบปากกันอย่างดูดดื่มเนิ่นนาน

ลมหายใจหอบถี่เมื่อเรายอมแยกจากกัน ผมค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของราฟาเอลออกจนหมดเหลือเพียงกาย

เปลือยเปล่าที่ยืนสั่นเทาต่อหน้าผม


“โอ ราฟ นี่มันอะไรกัน”


ผมมองร่างกายเบื้องหน้าอย่างเจ็บปวด เสื้อแขนยาวคอปกตั้งที่ผมคิดว่าราฟาเอลใส่เพื่อป้องกันลมหนาว

แต่ความจริงแล้วเขาใส่มันเพื่อปิดบังรอยเขียวจางๆ รอบลำคอรวมทั้งร่องรอยต่างๆ ตามเนื้อตัวที่ยังคงพอ

เห็นได้แม้จะไม่ชัดเจนนักแต่ก็พอจะรู้ว่ามันถูกกระทำรุนแรงอะไรมาบ้าง


“ไอ้สัสแดน ไอ้หมาบ้า”


ผมสบถด้วยความสงสารราฟาเอล ใบหน้างามเงยขึ้นอย่างตกใจ


“คุณรู้จักเขาหรือ”


“ผมอยู่บ้านเดียวกับมัน”


เมื่อรู้ความจริงราฟาเอลก็เบิกตากว้างพลางเดินถอยหนี ปากซีดสั่นระริกจนผมต้องคว้าร่างนั้นมากอดไว้

อย่างปลอบประโลม ราฟาเอลฝืนตัวอยู่ในอ้อมกอดของผม


“ปราบ งั้นเรายิ่งไม่ควรอยู่ใกล้กัน”


ผมกดคางไว้บนกระหม่อมและลูบแผ่นหลังนุ่มมือไปมา


“ไม่ ยิ่งผมเห็นอย่างนี้ผมยิ่งทิ้งคุณไม่ได้ นี่คุณถูกมันทำร้ายแบบนี้มากี่ครั้งแล้ว”


รู้สึกถึงความเปียกชื้นอยู่ที่เสื้อของผม เมื่อดันไหล่ราฟาเอลออกจากอ้อมกอดจึงเห็นดวงตางดงามเต็มไป

ด้วยหยาดน้ำ ผมสงสารจนอดไม่ได้ที่จะกดจูบไล่ซับน้ำตาให้มันเหือดแห้งแล้วลากปากลงมาขบเม้มกลีบ

ปากสวยอย่างอดใจไม่อยู่ สองมือที่โอบกอดปลอบประโลมเลื่อนลูบไปทั่วแผ่นหลังจนถึงบั้นท้ายนุ่มมือ

ราฟาเอลหายใจระส่ำ สองมือเรียวดึงเสื้อยืดผ่านหัวผมไปอย่างรวดเร็ว กางเกงของผมถูกปลดกระดุมและ

รูดซิปจนมันร่วงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ผมเหวี่ยงมันออกและพาราฟาเอลก้าวไปพร้อมกันจนกระทั่งเราล้ม

ตัวลงไปบนเตียง


ปรนจูบไปทั่วใบหน้าและลำตัว ราฟาเอลปรือตาฉ่ำไปกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ เสียงหวานครางออกมาเมื่อ

แก่นกายถูกครอบครองและโลมเลียด้วยปลายลิ้นของผม สะโพกกลมกลึงของนักบัลเลต์เด้งรัวโต้ตอบจนอัด

ฉีดน้ำเมือกลื่นคาปาก ก่อนที่ผมจะสอดแทรกร่างกายเข้าไปในช่องทางชื้นแฉะ


“อา ปราบ เสียวมาก”


เสียงพร่ำพูดสลับเสียงครางดังไม่ขาดระยะเมื่อผมลงแรงจนขาเรียวสั่นระริก ผมกำลังดึงให้ราฟาเอลขึ้น

สวรรค์พร้อมกับผมก่อนที่เราจะหอบหายใจจนอกกระเพื่อมขณะที่นอนซบกันอยู่


“คุณทำให้ผมรู้จักความสุข”


ราฟาเอลหอมแก้มของผมเป็นการขอบคุณ ผมจ้องดวงตาสีฟ้าคู่นั้นที่ยังเต็มไปด้วยไฟสเน่หาและมันทำให้

ผมต้องจับร่างแน่นเนื้อให้พลิกกลับเป็นท่าคลานเข่า กายที่ยังผสานกันอยู่แม้จะปลดปล่อยออกไปแต่ก็ยัง

แข็งแกร่งพอที่ผมจะชันกายอยู่บนเข่าตัวเองแล้วโยกเอวใส่ช่องทางที่ยังตอดรัดไม่เลิกราเช่นกัน


“ผมก็มีความสุขเช่นกันราฟ อืมมม คุณตอดรัดมาก ผมแทบจะคลั่งตายเพราะคุณแท้ๆ”


ผมสอดแขนโอบใต้เอว พรมจูบไปทั่วแผ่นหลังเนียนพรางกระทุ้งร่างจนราฟาเอลหัวสั่นคลอนพร้อมครางดัง

ลั่น ก่อนที่เราสองคนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง


“ราฟ ราฟ อยู่หรือเปล่า ผมรู้ว่าคุณอยู่ในห้อง เปิดประตูให้ผมเดี๋ยวนี้”


เสียงห้วนดังจากด้านนอก ทั้งผมและราฟาเอลหันมามองกันหน้าตื่นด้วยสภาพที่ไม่อาจถอดถอนได้ทันการ

เมื่อเสียงลูกบิดประตูถูกไขด้วยกุญแจทันทีที่เสียงตะโกนหยุดลง และประตูก็ถูกผลักเข้ามา


“แดน!”


ราฟาเอลผวาทั้งที่ยังหายใจหอบกระเส่า ผมเองก็อึ้งเพราะไม่คิดว่าไอ้แดนจะมาเห็นการร่วมรักของผมกับ

คนที่มันรักคาตา แดเนียลโกรธจนหน้าเขียวและถลาเข้ามาตอนที่ผมกำลังพยายามถอนตัวเองออกจากร่าง

ของราฟาเอลแต่มันก็ไม่ทันแล้ว








มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-11-2014 09:31:25
ต่อกันอีกหน่อย




พลัก


“เฮ้ย”


“โอ๊ย”


แดเนียลส่งหมัดเข้าปลายคางผมถนัดถนี่จนผมกระเด็นร่วงเตียงไปนอนนับดาว และมันทำให้ท่อนเนื้อของ

ผมหลุดออกจากช่องทางของราฟาเอลโดยที่เจ้าตัวยังไม่ทันตั้งตัวจนหลุดเสียงร้องออกมา

ในขณะที่สติของผมยังไม่กลับคืน ผมเห็นภาพสลัวเรือนลางว่าแดเนียลคว้าคอของราฟาเอลขึ้นมาแล้วตบ

เปรี้ยงไปที่วงหน้างดงามจนลอยละลิ่วกระแทกหัวเตียงก่อนที่จะคว้าขึ้นมาบีบไว้อีกครั้ง


“ร่าน เลว มึงมีผัวคือกูคนเดียวไม่พอใช่ไหมราฟ ทำไมมึงต้องมีชู้ให้กูต้องโมโหไม่รู้กี่รอบ”


“แค่ก แค่ก ปล่อย แดน ปล่อยย”


เสียงนั้นเบาหวิวจนแทบจับใจความไม่ได้


“กูช่วยมึงมาตั้งแต่เด็กจากไอ้พวกระยำในบ้านเด็กกำพร้าไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง มึงไม่เคยสำนึกบุญคุณของกูเลย

ใช่ไหม อีแพศยา กูปรนเปรอมึงทั้งเซ็กส์ทั้งเงินแต่มึงก็ยังทำเลวกับกู โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มึงเล่นชู้กับไอ้

ปราบ”


มันเงื้อมือสูงแล้วตบผลัวะซ้ำที่เดิมลงไป ราฟาเอลร่วงลงไปนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น แดเนียลก้าวไป

เตรียมจะคว้าร่างของราฟาเอลขึ้นมาแต่ผมที่สติเริ่มกลับคืนมาพุ่งตัวไปถีบยอดอกจนมันหงายหลัง

ไฟแห่งความโกรธแค้นพวยพุ่งอยู่ในดวงตาโปนของมัน แดเนียลเลิกสนใจราฟาเอลเมื่อมันหันมาสนใจผม

แทน มันลุกขึ้นมาต่อยหน้าผมอีกครั้ง


ผมและมันชกกันอยู่กลางห้อง แม้ว่าแดเนียลจะตัวเตี้ยกว่าแต่ด้วยพลังแห่งความแค้นทำให้มันเล่นงานจน

ผมเหนื่อยล้าและเริ่มเสียเปรียบ ผมมองหมัดของมันที่กำลังจะส่งมาน็อคผมอย่างหมดแรงที่จะป้องกันแล้ว


“หยุดนะแดน”


มันชะงักหมัดพลางหันขวับไปมองเมื่อผมหันไปมองบ้างก็ตกใจอยู่ไม่น้อย

ร่างเปลือยสมส่วนทว่าใบหน้าบวมปูดฟกช้ำยืนจังก้าโดยมีมีดปอกผลไม้อยู่ในมือสั่นเทาจ่ออยู่ที่คอของ

ตัวเองซึ่งมีรอยมือแดงโดยรอบมองตรงมาที่แดเนียล


“ออกไปจากห้อง ไม่อย่างนั้นผมปาดคอตัวเองแน่”


“ราฟ!”


แดเนียลเรียกชื่อพลางสบถลั่น


“อย่าเข้ามาเพราะผมจะทำจริงๆ ผมทนไม่ไหวกับความรุนแรงของคุณแล้ว แม้ว่าคุณจะมีบุญคุณกับผมก็

เถอะ”


มีดคมจ่อจนแนบเนื้ออย่างน่าเสียวไส้ ดวงตาสีฟ้าเอาจริงจนหยุดแดเนียลได้


“ออกไปจากห้องของผมได้แล้ว ออกไป”


“ราฟ นี่กล้าไล่ผมเหรอ”


แดเนียลคงทั้งรักทั้งชังราฟาเอลในตอนนี้ ผมเห็นมันกัดฟันจนกรามขึ้นเป็นสันเมื่อจ้องมองภาพที่อยู่

ตรงหน้า แต่ดวงตากลับตัดพ้อจนผมนึกเห็นใจมันอยู่เหมือนกันและก็อดจะโทษตัวเองด้วยไม่ได้ที่เป็น

สาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ความที่ราฟาเอลฮึดขึ้นมาก็ทำให้มันหันมามองผมอย่างโกรธแค้นอีกครั้งก่อนที่

จะยอมล่าถอยออกไปจากห้อง


เมื่อร่างของแดนหายลับตาและผมตามไปปิดประตู ราฟาเอลก็ทรุดลงไปนั่งหอบอยู่บนพื้น เนื้อตัวสั่น

สะท้าน มีดเล่มคมกระเด็นกระดอนหลุดจากมือ ผมรีบเข้าไปประคองร่างนั้นไว้ด้วยความสงสาร


“โธ่ ราฟ”


อดที่จะจูบลงตรงขมับเพื่อปลอบโยนไม่ได้เมื่อน้ำตารินรดจากดวงตาสีฟ้าพร้อมเสียงสะอื้นอย่างเจ็บปวด

ผมช้อนอุ้มเขาไปนอนบนเตียงและไปหาน้ำแข็งในตู้เย็นมาประคบใบหน้าบวมช้ำจนกระทั่งราฟาเอลหลับ

ไปทั้งที่น้ำตายังนองหน้า









ตื่นมาอย่างระบมไปทั่วตัวเมื่อยามสายของอีกวันหนึ่ง ผมเห็นราฟาเอลนั่งคุดคู้เหม่อมองไปนอกหน้าต่าง

ห้องด้วยสภาพที่ยังบอบช้ำและอิดโรย เมื่อได้ยินเสียงผมลุกราฟาเอลจึงได้หันมามอง ดวงตาที่เคยสดใส

บัดนี้แดงก่ำและซีกแก้มบวมโย้ไปหมด

ผมเดินไปหาเขา ราฟาเอลพิงศีรษะไว้กับลำตัวผมราวกับจะหาที่พึ่ง  ร่างกายอ่อนแอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยิน

เสียงข้อความจากโทรศัพท์ของตนเองที่วางอยู่บนโต๊ะ

มือสั่นเทาเอื้อมไปหยิบขึ้นมาอ่าน ก่อนที่จะเงยหน้ามองผมอย่างตกใจ ผมรีบคว้ามันมาอ่าน


“บอกไอ้ปราบ ถ้าอยากจะจบเรื่องทั้งหมด วันนี้ตอนหนึ่งทุ่มให้ไปเจอกันตัวต่อตัว ที่ถนนโลคอลสาย68”


เราสองคนสบตากัน ราฟาเอลจับมือผมไว้


“ปราบ อย่าไป”


ผมก้มลงจูบหน้าผากมน


“ราฟ ผมจะไป”




------------------------------------------ TBC ----------------------------------------------



แต่งเสร็จก็รีบลง ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะคะ

เจอแล้วบอกด้วย




จริงๆ แล้ว ปราบก็มีส่วนผิดนะ ถ้ามองจากสายตาเรา

เฮ้อ ปราบเอ๊ยยยยย




 :z3: :z3: :z3: :z3:






X-Theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้ X

ปิดซีรี่ส์ไปแล้ว อยู่ห้องนิยายที่จบแล้วนะคะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)





Only Love Is real ให้รักนำทาง ก็ใกล้จะจบแล้วค่ะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41771.0


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 09-11-2014 10:38:27
กว่าจะถึงบางอ้อ อย่างงี้นี่เอง
แดเนียลมันถึงได้จองล้างจองผลานปราบกับโมกข์
สงสารแต่ราฟ เห้อออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 09-11-2014 11:28:11
สงสารราฟอ่ะ
แบบนี้นี่เองแดนมันถึงเกลียดโมกข์กับปราบนัก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 10-11-2014 00:20:16
คงเป็นการสูญเสียคนรัก ของปราบใช่มั้ย
อืมมม เตรียมเศร้าล่วงหน้าแระ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-11-2014 01:12:44
ฆ่ากันเฉย เห้อ อ!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 10-11-2014 10:58:31
จะเกิดอะไรขึ้นอีก ลุ้นๆๆๆๆ ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 10-11-2014 22:38:36
ุุุุถึงอดีตจะน่าเห็นใจขนาดไหน  แต่ไอ้แดนมันก็โหดไปนะ  :z6:  ทำเหมีอนชีวิตคนอ่ี่นเป็นของตัวเองคนเดียว  หลงผิดเอามาก ๆ โรคจิตแต่เด็กเลยอ่ะ  สงสารราฟ  เป็นรักแรกที่เจ็บปวดของพี่เด่วจริง ๆ    :ling3: 


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-11-2014 20:48:35

                                                                เพลิงพ่าย

                                                                ภาคกลาง

                                                                 บทที่ 12


ไม่ว่าจะเพราะอะไรก็ตามราฟาเอลยืนยันว่าจะมากับผมด้วย กรอบหน้างดงามยิ่งซีดเผือดและเงียบงันเมื่อ

ต้องครุ่นคิดสิ่งที่อยู่ในใจ


“คุณคิดยังไงกับผม”


จู่ๆ ก็เอ่ยถามในระหว่างที่ผมขับรถยนต์คันเก่าที่แด๊ดยกให้มาตามถนนเส้นนอกเมืองอย่างไม่รีบร้อนนัก

เพราะยังไม่ถึงเวลานัดกับแดเนียล คำถามนั้นทำให้ผมฉุกคิดและต้องตั้งคำถามกับตัวเองเช่นกัน


นั่นสินะ ผมคิดอย่างไรกับราฟาเอล แมกเวล

รักหรือเปล่า

ผมหันไปมองเสี้ยวหน้างดงามที่คลับคล้ายกับใครคนหนึ่งซึ่งผมเคยคิดว่าได้ฝังมันจนตายจากไปแล้วพร้อม

กับเด็กชายคนหนึ่งก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินมาอยู่ที่นี่ แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย

ยอมรับเถอะว่าผมมีเซ็กส์กับราฟาเอลเพียงเพราะติดตาต้องใจในความคล้ายคลึงเท่านั้น


ใช่  มันเป็นความเห็นแก่ตัวของผมเอง


แต่พอเห็นสภาพของราฟาเอล ความรู้สึกที่เกิดขึ้นต่อมาคือความสงสารในชะตากรรมที่เขาได้รับ แต่มันก็ยัง

ไม่ใช่ความรักอยู่ดี


“ผมชอบคุณ”


ผมตัดสินใจเอ่ยออกไปหลังจากถามใจตัวเองพักใหญ่



“และก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้คุณ”


ราฟาเอลคลี่ยิ้มเศร้า เขาก้มลงมองมือตัวเองที่ประสานกันแน่นอยู่บนตัก


“ผมเข้าใจ ผมเองก็รู้สึกดีที่ได้อยู่ใกล้คุณเช่นกัน แต่ความรู้สึกของเราทั้งคู่อาจเป็นแค่เซ็กส์ของคนที่โหยหา

อะไรบางอย่างมาเติมเต็มให้ชีวิต แต่มันก็ไม่ใช่ความรัก”


คำพูดเรียบๆนั่นกระแทกใจผมดังปัง


“แดนอาจไม่ใช่คนดีนัก แต่ว่าเขาก็ดูแลผมมาตลอดชีวิตแม้ว่าเราจะต้องแยกจากกันไปช่วงหนึ่งก็เถอะ

แต่สำหรับคนที่ขาดในทุกสิ่งและต้องหาอะไรมายึดเหนี่ยวไว้ นั่นแหละคือคุณค่าของผมสำหรับเขา คุณเชื่อ

ไหมว่าเขาสามารถเนรมิตมาให้ผมได้ทุกอย่าง แม้ว่าเขาอาจจะร้ายสำหรับคนอื่นแต่เขาดีกับผมมาก”


สุ้มเสียงเศร้าสร้อยทำให้ผมตัดสินใจหักพวงมาลัยไปจอดอยู่ข้างทางและหันไปมองราฟาเอลเต็มตา


“ทั้งที่มันทำร้ายร่างกายคุณนี่นะ คุณยังมองว่ามันดีอีกหรือ”


ราฟาเอลหันมามองผมตอบ


“แล้วถ้าคนที่คุณรักมีเซ็กส์กับคนอื่น คุณจะเป็นยังไง หือ ปราบ”


เสียงทอดถอนใจทำให้ผมต้องคิดตาม


“ถ้าผมดึงดันไปคบกับคุณ ต่อไปเราก็คงเลิกกันเพราะคุณเองก็ไม่ได้รักผม แต่สำหรับแดนผมเป็นทุกสิ่งทุก

อย่างสำหรับเขา อย่างน้อยผมอาจจะทำให้เขาใจเย็นและอ่อนโยนได้บ้าง”


“คิดดีแล้วหรือราฟ”


ผมพยายามทักท้วง แต่ราฟาเอลกลับยิ้มเหมือนตัดสินใจได้


“อย่างน้อยแดเนียลก็รักผม”


มือเรียวเอื้อมมาดึงมือผมไปกุมไว้


“ขอบคุณนะ คุณทำให้ผมได้คิดและเข้าใจอะไรได้อีกหลายอย่างเลย วันนี้คุณไม่ต้องไปหาแดนหรอก ผมจะ

เป็นคนไปหาเขาเอง ไปเพื่อบอกให้เขารู้ว่า ผมพร้อมที่จะอยู่กับเขาแล้ว ผมขอแค่ให้คุณไปส่งใกล้ๆจุดนัด

หมายก็พอ”


“ราฟ เอางั้นหรือ”


ใบหน้าเรียวพยักน้อยๆ ดวงตาสีฟ้าสดใสขึ้นเมื่อตัดสินใจได้ ผมเองก็คงต้องปล่อยให้ราฟาเอลได้ทำในสิ่งที่

เขาใคร่ครวญแล้ว

ราฟาเอลโน้มตัวมาจูบผม เมื่อถอนปากออกไปก็ขยิบตาให้ผมอย่างคนขี้เล่น


“ว่าแต่ลีลาบนเตียงของคุณเร้าใจมากเลยนะปราบ ไม่รู้ว่าคุณไปฝึกมาจากไหน แต่ใครที่ได้มีเซ็กส์กับคุณคง

ติดใจทุกคนแหละ”


ผมส่ายหน้าน้อยๆพร้อมกับหัวเราะให้กับความเป็นตัวของตัวเองที่กลับคืนมาสู่ราฟาเอล ก่อนที่จะขับรถไป

จนใกล้สถานที่นัดหมาย


“จอดให้ผมลงตรงนี้แหละปราบ ไม่ไกลจากตรงนี้ จะมีสวนสาธารณะข้างทาง แดนเคยพาผมมาแถวนี้

แล้วคุณก็กลับไปเสีย ผมจะไปหาเขาเอง”


ผมจอดรถให้ราฟาเอลลงไปยืนอยู่ริมถนนโลคอลสาย68


“ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งนะปราบ ผมจะไม่มีวันลืมคุณเลย”


ร่างบอบบางก้าวเดินจากไป ฝีเท้ามั่นคงนั้นทำให้ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วจึงกลับรถ

ผมเองก็จะไม่มีวันลืมคุณเลยแม้ว่าเราจะรู้จักกันเพียงไม่นาน ราฟาเอล









Daniel’s Part


ผมแค้นจนแทบกระอักเป็นเลือดกับเรื่องทั้งหมด

มันเป็นความคับแค้นที่ค่อยๆ กลั่นเติมลงไปสะสมอยู่ในหัวใจจนเกิดเป็นตะกอนขุ่นหนาที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่ามัน

มากมายเพียงไหน แต่เรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดมันเป็นละอองชิ้นสุดท้ายที่ตกลงไปให้หลุดดำมืดของจิตใจแล้วทำ

ให้ทุกอย่างมันปะทุ


ไอ้เตี้ย ไอ้โปน ไอ้เหยิน


นั่นคือสิ่งที่ผมรับมันมาเป็นความแค้นตั้งแต่เด็กๆ มันอาจจะระเบิดขึ้นมาบ่อยครั้งถ้าไม่มีร่างเล็กของราฟมา

คอยฉุดรั้งไว้

อา ราฟ นางฟ้าตัวน้อยๆ ที่ผมต้องคอยปกป้องจากไอ้พวกเจ้าหน้าที่ในบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าที่คอยแต่จะล่วง

ละเมิดโดยเฉพาะกับเด็กที่ไม่มีทางสู้ ผมจึงเป็นสิ่งจำเป็นของราฟที่จะคอยมายืนตัวสั่นหลบภัยอยู่เบื้องหลัง

จนกระทั่งมีคนมารับราฟไปเลี้ยง หัวใจของผมก็เหมือนจะฉีกขาด

แต่ผมก็ตามหาราฟจนเจอ เชื่อเถอะ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน หรือไกลสุดขอบโลกผมก็จะหาเขาจนได้

ผมรักราฟมาก แม้ว่าบางครั้งจิตใจอ่อนไหวเยี่ยงศิลปินของเขาจะทำให้เผลอไผลไปกับคนอื่นบ้าง ผมก็จะ

ไปลากเขากลับคืนมาแล้วจัดการไอ้คนที่เข้ามายุ่มยามจนน่วม ราฟเองก็โกรธบ้าง แต่ไม่นานราฟก็จะรู้ว่า

เขาเองก็ขาดผมไม่ได้ในเมื่อเราเกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกัน

ครั้งนี้ก็เช่นกันที่ราฟเผลอไผล แต่ผมก็อาจจะไม่เดือดมากขนาดนี้ถ้าไอ้เลวคนนั้นจะไม่ใช่ไอ้ปราบ

เด็กเอเชียที่อยู่บ้านเดียวกับผม

นี่ก็เป็นอีกตะกอนหนึ่งในจิตใจเช่นกัน กับเด็กในบ้านที่หน้าตาดีหลายคน ผมหมั่นไส้พวกมันตั้งแต่เห็นหน้า

ทั้งไอ้โนเอล ไอ้โมกข์ และยิ่งมีไอ้ปราบเข้ามา พวกมันทั้งหลายดาหน้าไปทำให้แด๊ดมีความสุข ซึ่งมันเป็น

ปมด้อยย่างหนึ่งของผม


ผมเกลียดพวกมัน


และยังเสือกมายุ่งกับคนของผม ที่สำคัญคือเหมือนแด๊ดจะเข้าข้าง มันทำให้ผมระเบิด

เป็นเพราะสมองที่พระเจ้าอาจจะประทานมาให้ทดแทนที่ท่านลืมให้อย่างอื่นมาด้วย ผมยอมรับว่ามีคู่แข่ง

ของแด๊ดหลายคนที่ติดต่อมาให้ผมเลือกที่จะไปอยู่กับเขาแทนแด๊ดที่มีมือดีอยู่ด้วยหลายคน พวกเขา

เหล่านั้นจ้องซื้อตัวผมอยู่นานแล้ว แต่ผมก็ยังรีรอ ผมจะรอดูว่าแด๊ดจะเห็นคุณค่าของผมบ้างไหม แต่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมรู้ว่าแด๊ดยังคงมองข้ามผ่าน แล้วผมจะรออะไรอีกล่ะ

เมื่อเซซังออกมาจากห้องของราฟเมื่อคืนที่ผ่านมา ผมลุกร้อนไปด้วยเพลิงแห่งโทสะเมื่อโทรศัพท์ไปหาคนที่

พร้อมจะจ่ายเงินดึงผมไปทำงานด้วย


“ผมพร้อมจะไปอยู่กับคุณตามข้อเสนอที่คุณให้ ตอนนี้โปรเจ็คผมเสร็จแล้ว ถือว่าผมเรียนจบก่อนเวลาก็ได้

ผมพร้อมทุกอย่าง แต่ผมขอให้คุณทำอะไรให้ผมอย่างหนึ่ง”


ผมยื่นข้อเสนอ ทางนั้นถามผมว่ามันคืออะไร


“กำจัดศัตรูให้ผมคนหนึ่ง แค่คนเดียว”


เสียงเหี้ยมเมื่อเอ่ยออกไป ผมไม่รอช้าที่จะท้าทายไอ้ปราบเพราะรู้สันดานกันดีอยู่แล้วว่ามันต้องมา

ผมให้มันมาที่นี่ ถนนเลี่ยงเมืองที่เป็นทางผ่านของพวกบรรดารถทางไกล เมื่อไอ้ปราบมาถึงมือกำจัดที่ทาง

นั้นเตรียมไว้ให้จะขับรถคันใหญ่พรุ่งตรงมาหามันและการตายของมันจะกลายเป็นอุบัติเหตุบนท้องถนนโดย

ที่ผมยังมือสะอาดในขณะที่นั่งรอดูความตายของมันอยู่ในรถยนต์คันหนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในสวนสาธารณะ

ที่พักข้างทาง


รถขับเคลื่อนสี่ล้อคันใหญ่ที่อยู่ริมถนนเริ่มติดเครื่อง ดวงตาของผมลุกวาบด้วยความตื่นเต้นและกระหายใน

ความตายของมัน ผมเห็นรถคันนั้นพุ่งตรงไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

มันทะยานเร็วรี่เข้าสู่เงาคนจางๆในความโพล้เพล้ของแสงอาทิตย์ยามค่ำ แต่เงาคนนั้นทำให้หัวใจของผม

หล่นวูบ เพราะแค่เงาผมก็จำได้


“ไม่!”


ผมตะโกนอย่างบ้าคลั่งพลางเปิดประตูรถยนต์แล้ววิ่งออกไปอย่างเสียสติเมื่อเห็นรถคันใหญ่พุ่งเข้าชน

ร่างคนที่เดินมาจนลอยละลิ่วอยู่กลางอากาศก่อนที่จะหล่นลงมากระแทกพื้นถนน  เสียงเนื้อกระทบของแข็ง

จนกระดูกป่นแหลกดังกึกก้องไปทั่วท้องถนนท่ามกลางเสียงเอะอะเอ็ดตะโรโกลาหลของคนที่จอดพักรถ

แถวนั้น รถคันใหญ่ขับรถหนีหายไปในความมืดทิ้งให้ร่างเพรียวบางนอนจมกองเลือดหายใจรวยริน


“ราฟฟฟ”


ผมพุ่งเข้าไปหาร่างกายที่เต็มไปด้วยกองเลือด กระดูกแขนขาของนักบัลเลต์ดาวรุ่งบัดนี้หักงอผิดรูปร่าง

ช่องท้องถูกกระแทกจนบอบช้ำ หัวทุยได้รูปกระโหลกผลุบจนเห็นได้ชัด

ผมคุกเข่าประคองร่างนั้นมาไว้บนตักพลางร้องไห้อย่างหมดสภาพท่ามกลางคนที่เริ่มมุงอย่างสนใจ

ดวงตาสีฟ้าที่ผมหวงแหนเบิกโพลงเมื่อร่างกายเริ่มกระตุก

ลมหายใจจากจมูกโด่งเริ่มขาดช่วง ใบหน้างดงามที่เต็มไปด้วยเลือดหันมามองผม

น้ำตาหยดหนึ่งไหลรินจากหางตาก่อนไหลไปรวมกับโลหิตแดงฉาน แขนข้างหนึ่งสั่นไหวราวกับกำลัง

พยายามจะยกมันมาหาก่อนที่มันจะร่วงผล็อยไปพร้อมกับลมหายใจเฮือกสุดท้าย


“ไม่ ราฟ อย่าตาย อย่าทิ้งผมไว้คนเดียว”


ผมร้องไห้กอดร่างอันไร้ลมหายใจจนกระทั่งรถฉุกเฉินมาแยกเราออกจากกัน ผมถึงจะพอมีสติ

ผมกัดฟันจนกรามแทบหัก


ราฟยอมทิ้งชีวิตเพียงเพื่อปกป้องไอ้ปราบ

ไอ้สารเลว

ผมสาบาน

ผมจะจองล้างจองผลาญมัน ให้มันรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่










มีต่ออีกนิด


หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-11-2014 20:53:52
ต่อกันอีกหน่อย




ผมเลิกคิ้วอย่างสงสัยเมื่อไอ้โมกข์ยื่นหนังสือพิมพ์ให้ผมในตอนเช้าพร้อมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ผมรับมัน

มาแล้วสแกนอ่านพาดหัวหน้าแรก และเมื่อเห็นผมถึงกับช็อก


“บัลเลต์หนุ่มถูกรถชนสยองตายคาที่เกิดเหตุ”


โอ ไม่ ราฟ


มือของผมสั่นสะท้านเมื่อไล่อ่านข่าว หัวใจของผมเต็มไปด้วยความสลดหดหู่


“ไอ้แดนมันจะคิดว่าราฟาเอลยอมไปตายแทนมึงหรือเปล่า”


โมกข์ถามขึ้นมาทำให้ผมฉุกคิด


“มันคงวางแผนนี้ไว้เพื่อมึง แต่พอกลายเป็นราฟาเอลที่ไปตายแทน มันคงคิดว่าราฟาเอลรักมึงมาก

จนกระทั่งยอมไปตกลงกับมันแทนมึง นี่มันจะยิ่งแค้นมึงหรือเปล่า”


“แต่มันไม่ใช่ความจริง ราฟไปเพื่อจะบอกว่าเขาเลือกมัน ระยำเอ๊ย”


ผมขยำหนังสือพิมพ์โยนทิ้ง หดหู่กับสิ่งที่เกิดขึ้นจนพูดไม่ออก


“ราฟาเอลตายไปแล้ว ใครจะบอกความจริงข้อนี้กับมันได้ มึงคิดว่ามันจะฟังมึงหรือเปล่าล่ะ”


โมกข์พูดอย่างคนที่รู้จักแดเนียลดี เพื่อนสนิทของผมถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าของผม มันวางมือบนบ่าของ

ผมแทนคำพูดปลอบโยนที่เห็นผมยังทำใจไม่ได้กับความตายของราฟาเอล แมกเวลที่ผมเองเป็นพาหนะพา

ไปส่งถึงเงื้อมมือมัจจุราช

ทั้งผมและแดเนียลต่างก็เสียใจกับการสิ้นลมหายใจของราฟาเอล

แต่ชีวิตของผมก็ยังต้องดำเนินต่อไป รวมถึงคนที่เคยอยู่บ้านเดียวกับผม แดเนียล เครตั้น








ชีวิตของผมกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง ผมเรียนจนจบปริญญาและออกมาทำงานให้แด๊ดเต็มตัว

แดเนียลไม่เคยย่างกรายกลับมาที่บ้านอีกเลย แด๊ดเคยบอกอย่างตัดใจว่า แดเนียลไปทำงานให้กับคนอื่น

และคงไม่กลับมาอีกแล้ว

แด๊ดกลายเป็นผู้ชายวัยใกล้ห้าสิบที่ยังแข็งแรง งานต่างๆถูกโอนจ่ายไปให้เดวิดที่กลายเป็นว่าที่ผู้นำคน

ต่อไป ในขณะที่แด๊ดคุมบังเหียนเจ้าพ่อมาเฟียชื่อต้นๆของโลก เดวิดทำงานให้แด๊ดโดยมีแอนดรูเป็นผู้ช่วย

จากเด็กกลุ่มแรกที่แด๊ดช่วยเหลือ ทั้งคู่เติบโตมาเป็นหุ้นส่วนชีวิต แม้ว่าผมจะเถียงกับแอนดรูบ่อยๆ แต่เรื่อง

นี้ก็ยินดีกับทั้งคู่จริงๆ


โนเอลกลายเป็นนายแบบชื่อดังค่าตัวแพง มันเดินทางไปเดินแบบแฟชั่น ถ่ายแบบของมันสารพัด ได้ข่าว

แว่วๆ มาว่าเงินเก็บเหลือเฟือกำลังจะถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นโมเดลลิ่งมองหานางแบบและนายแบบรุ่นใหม่

เข้าสู่วงการเมื่อโนเอลเริ่มมองถึงอนาคตในวันข้างหน้า อ้อ! ข่าวบอกว่าเพื่อนผมเจ้าชู้น่าดู ฟันทั้งนางแบบ

และนักแสดงในวงการเป็นว่าเล่น

และแล้ววันหนึ่ง แด๊ดก็เรียกผมกับโมกข์ไปคุย


“แด๊ดคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ลูกทั้งสองควรจะกลับไปมีชีวิตของลูกเอง”


ผมกับโมกข์มองหน้ากันแล้วหันไปมองแด๊ดอีกที


“แด๊ดมองออกว่า โมกข์และปราบไม่ควรจะมามีชีวิตที่แขวนอยู่กับเส้นด้ายกลางอากาศกับธุรกิจมืดอย่างที่

แด๊ดทำอยู่ ลูกทั้งคู่ต่างก็มีสิ่งที่ต้องกลับไปกอบกู้ และเวลานั้นก็มาถึงแล้ว”


“ผมรู้ครับว่าแด๊ดต้องพูดแบบนี้สักวัน แต่ไม่นึกว่าจะมาเร็วแบบนี้”


ไอ้โมกข์พูดขึ้นพลางก้าวไปหาแด๊ดที่นั่งอยู่บนโซฟานุ่มในห้องนอนกว้างที่พวกเราต่างคุ้นเคย มันคุกเข่าต่อ

หน้าแด๊ดและดึงมือแด๊ดมาวางไว้บนหัว


“แด๊ดจะเป็นบุคคลที่ผมและปราบเคารพตลอดไป”


ผมลุกขึ้นไปหาแด๊ดบ้าง


“ก่อนจะจากกัน ขอให้ผมและโมกข์ได้ดูแลแด๊ดเป็นค่ำคืนสุดท้ายเถอะครับ”


ผมจูงมือแด๊ดมาที่เตียงถอดเสื้อผ้าแด๊ดอย่างเบามือ โมกข์ที่ตอนนี้สูงกว่าแด๊ดก้มหน้าลงไปประกบปากจูบ

แด๊ด ส่วนผมค่อยๆลูบไล้เนื้อตัวปลุกเร้าอารมณ์ก่อนที่เราจะประคองแด๊ดให้ล้มตัวลงไปบนที่นอนกว้าง

แด๊ดนอนกลางเตียง ปล่อยให้ผมและโมกข์จัดการตามร่างกายตามที่เราต้องการ ไอ้โมกข์จัดการครอบปาก

ลงไปบนท่อนเนื้อกลางตัวส่วนผมก็กำลังปรนเปรอยอดอกจนกระทั่งมันเริ่มแข็งเป็นไต

ผมคว้าคอนด้อมที่หัวเตียงกับหลอดเจลที่ยังคงตั้งอยู่จุดเดิมให้ไอ้โมกข์ มันรับไปจัดการสวมใส่ให้ตัวเอง

พร้อมกันกับผม มันจัดแจงจัดการช่องทางของแด๊ดจนพร้อมสรรพก่อนที่มันจะสอดแทรกไอ้จ้อนเข้าไปใน

ร่างของแด๊ด

แด๊ดครางอย่างถูกใจ ผมเองก็ไม่รอช้าเมื่อไอ้โมกข์กำลังเคลื่อนที่เนิบนาบ ผมก็นอนคว่ำอยู่ตรงเอวของแด๊ด

และคว้าท่อนเนื้อที่ถูกปลุกเร้าเข้าปากแทน


“อืออออ เสียวมาก ลูกแด๊ดเก่งกันจริง”


ดวงตาของแด๊ดฉ่ำไปด้วยความต้องการ ไอ้โมกข์สาวเอวได้พักใหญ่มันก็ถอนร่างออก ผมที่รู้จังหวะรีบลุก

ขึ้น คว้าหมอนมารองใต้สะโพกของแด๊ดจนยกสูง แล้วผมก็ดันตัวเองเข้าไปแทนที่โมกข์

แด๊ดเสียวซ่านจนต้องเม้มปากแน่น ปลายเท้าจิกเมื่อเราสองคนสลับกันทำอยู่อย่างนี้ คนหนึ่งสอดใส่

อีกคนก็จะจัดการกับส่วนอื่น จนกระทั่งแด๊ดสุขสมไปหลายรอบกว่าที่ผมและโมกข์จะเลิกปรนเปรอให้คนที่

เรารัก







เรื่องทั้งหมดในชีวิตดำเนินอยู่ในความทรงจำจนกระทั่งเครื่องบินแลนดิ้งลงสู่สนามบินสุวรรณภูมิ

เสียงแอร์โฮสเตสประกาศแจ้งยกเลิกการรัดเข็มขัดนิรภัยและให้ผู้โดยสารทยอยลงจากเครื่องบิน

ผมก้าวมาเหยียบแผ่นดินประเทศไทยหลังจากไปสิบปี ประเทศที่ผมคิดว่าผมไม่เหลือความทรงจำใดๆแล้ว

แต่ผมคิดผิด

เมื่อหันไปมองหน้าไอ้โมกข์ เราสองคนเพื่อนตายก็รู้ดีว่าความจริงเราสองคนยังตัดขาดจากอดีตไม่ได้

และเมื่อผมก้าวเดินในแผ่นดินไทยผมก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าผมโหยหาอดีตแค่ไหน

ผมสูดอากาศนำออกซิเจนเข้าปอด



สวัสดีประเทศไทย

ผมกลับมาแล้ว

แม่ครับ ลูกชายของแม่ที่บัดนี้เติบโตและแข็งแกร่ง พร้อมที่จะกลับมาเผชิญกับทุกสิ่งแล้วครับ

แม่ครับ ทอดสายตาจากสวรรค์ติดตามชีวิตของลูกคนนี้

ปราบ ปริวัตร

ผมกลับมาแล้วครับแม่





------------------------------------------จบภาคกลาง--------------------------------------------



โปรดติดตามเนื้อเรื่องจริงๆ ของ เพลิงพ่าย ภาคสมบูรณ์ได้ในบทหน้านะคะ


 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 11 ( 09 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-11-2014 21:31:32
สงสารราฟจัง
แดนแม่มมมมมม ไม่มีคำบรรยาย
ตัวเองทำผิด แต่เอาแต่โทษคนอื่น หึ้ยยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริมบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-11-2014 22:33:59
เริ่มแร้วสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 11-11-2014 22:35:26
ถ้าแดนไม่คิดตุกติกราฟก็คงไม่ตาย :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 11-11-2014 22:47:56
แอบเศร้าเรื่องราฟนะ มูลเหตุต่างเกิดจากความผิดพลาด
ตอนหน้าคงเป็นเวลาทีปราบเอาคืนแล้วสิ ซี้ดดด!!!!!! :hao6:
รอตอนต่อไปไม่ไหวแระ (ชอบความรุนแรง) งุงิ อุอิ ครุคริ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 11-11-2014 23:54:57
เป็นครั้งแรกจริง ๆ ที่รู้สึกสงสารแดเนียล  จะบอกว่ามันทำตัวเองก็ดูใจร้ายเกินไป  ถึงแม้ความจริงจะเป็นอย่างนั้นก็ตาม  ให้ทุกขแก่ท่าน  ทุกขนั้นถึงตัว  ราฟเลยกลายเป็นผู้บริสุทธิที่ถูกสังเวยจากความริษยาของผู้ชายที่ตัวเองเลีอก  แม้จะไม่ได้รักก็ตาม  น่าสงสารท่ี่สุดก็คงเป็นราฟนี่ล่ะนะ  แต่ก็คิดซะว่าได้พ้นทุกขซะที   :hao5:  ส่วนแดเนียลตราบใดที่ยังมีไฟริษยาอยู่  ชีวิตก็คงจะค่อย ๆ ถูกมอดไหม้ด้วยไฟทีละน้อย  ถ้าไม่หยุดทำร้ายคนอี่น  เพราะมีหลายคนที่ตกเป็นเหยี่อและเครี่องมีอแก้แค้นมาแล้ว  ซึ่งก็น่าสงสารมาก  อ่านไปอ่านมาบางทีก็รู้สึก หดหู่  อย่างห้ามไม่ได้จริง ๆ นะคะ  สงสัยอินมากไป   :เฮ้อ: ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คนแต่งต่อไปนะคะ  ยีนยันว่าตอนนี้สงสารนายแดเนียลอยู่ แต่ตอนหน้าไม่แน่   o18  เพราะคงไม่ได้เห็นมุมอ่อนแอแบบนี้ของไอ้แดเนียลอีก



ยินดีต้อนรับพี่ปราบกลับเมีองไทยค่ะ  คราวนี้คงมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างของคุณแม่คีน  ที่สำคัญ  ใจดวงน้อยที่เคยทิ้งไปก็ขอให้กอบกู้มาไว้ให้ได้อีกครั้งนะคะ  พี่เด่วของน้องป้อง



รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 12-11-2014 00:29:11
ปรามน่าจะบอกความจริงกับแดเนียล ถึงจะแดเนียลจะไม่เชื่อแต่ก็ถือว่าได้บอกแล้ว ได้บอกแทนความรู้สึกของราฟาเอล แล้วป้องจะเป็นยังไงนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-11-2014 02:55:40
โหหหห สรุปปราบไม่ได้รับผลกรรมอะไรเลยเหรอที่ทำให้ราฟต้องตาย
สบายใจ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-11-2014 05:53:00
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-11-2014 06:26:36
ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะนะพี่ปราบ แต่กับแดเนียลนี่เดาไว้ลางๆเลยว่าจะเจอกับอะไรบ้าง :z3:
น้องป้องคนน่ารักกำลังจะมาสินะ คิดเด็กตัวป้อมนุ่มนิ่มจัง :man1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 12-11-2014 10:49:17
จบเพื่อเริ่มต้น
ไม่รู้ว่าถึงประเทศไทยแล้ว จะเป็นยังไงบ้างเนอะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 12 ( 11 / 11 / 57 ) ภาคกลางจบแล้ว ภาคสมบูรณ์เริ่มบทหน้าค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 12-11-2014 20:44:34
ปราบทำกรรมไว้กับทั้ง แดเนียลทั้งราฟ  กลับมายังจะมาทำร้ายโนเอลอีกเหรอ  ไม่นะไม่ยอมมมมมม :ling1: :ling1:


รอต่อหน้าค่ะ อิอิ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-11-2014 21:48:31
คำชี้แจงจากผู้แต่ง

ตั้งแต่เปิดเรื่องเพลิงพ่าย คนแต่งก็มัวแต่พาคนอ่านเข้าไปอยู่ในโลกวัยเด็กของปราบ

จนซึมไปตามๆกัน

เอาล่ะค่ะ เรามาทิ้งความรู้สึกหดหู่ ทึมๆ มัวๆ พวกนั้นทิ้งไป

และนับแต่บทนี้ ขอต้อนรับนักอ่านทุกท่านกลับคืนสู่ความจัดจ้านเผ็ดร้อน

เชิญทัศนากันได้ตามอัธยาศัย

ขอบคุณค่ะ



     
                                                                      เพลิงพ่าย

                                                                   บทที่ 13
   

   “และสุดท้ายนี้ ขอเสียงปรบมือให้กับสองผู้บริหารสุดหล่อไฟแรงผู้ทำให้อินไฟไนท์อินดัส

เตรียลของเราได้รับรางวัลบริษัทธุรกิจดาวรุ่งน้องใหม่ด้วยครับ”


         เมื่อสิ้นสุดเสียงลากยาวปลุกใจของพิธีกรกลางเวทีเสียงเฮจากผู้คนด้านล่างก็กระหึ่มขึ้น พร้อมกับ

เสียงปรบมือกึกก้อง ปราบและโมกข์ชูแขนขึ้นพร้อมกันด้วยความภาคภูมิกับความสำเร็จที่ได้รับก่อนที่จะ

ก้าวลงมานั่งที่โต๊ะร่วมกับพนักงานของบริษัทในค่ำคืนแห่งเกียรติยศ

       กว่าสามปีเมื่อกลับมาสู่เมืองไทย จากเงินเก็บที่เคยได้รับเมื่อยังอยู่กับกัสโต แลงดาจิโอ มาเฟียชื่อดัง

ของโลก ปราบและโมกข์นำส่วนหนึ่งมาลงทุนทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรเล็กและใช้เวลาทั้งหมด

ทุ่มเทให้กับงานชิ้นแรก จนกระทั่งวันนี้มาถึง วันที่บริษัทของเพื่อนตายทั้งสองได้รับรางวัลบริษัทดาวรุ่งจาก

แวดวงนักธุรกิจระดับประเทศ ทำให้ทั้งคู่ขึ้นแท่นคนดังและเนื้อหอมในชั่วพริบตาแม้ว่าบางคนจะยังกังขาถึง

ที่มาของหนุ่มโสดทั้งสอง แต่เมื่อได้พบกับเสน่ห์มากล้นของทั้งปราบและโมกข์ บรรดาขาเมาท์ก็หุบปากได้

สนิทเหมือนกัน

       เมื่อได้ขึ้นไปรับรางวัลแห่งความภาคภูมิเมื่อยามกลางวันมาแล้ว  ณ บัดนี้ในเวลาที่เมืองหลวงแห่ง

ประเทศไทยกลายเป็นเมืองแห่งแสงสีในยามค่ำคืน ปราบกับโมกข์ลงทุนปิดร้านอาหารกลางใจเมืองแห่ง

หนึ่งเพื่อจัดงานเลี้ยงฉลองให้กับพนักงานทุกคนที่กำลังดื่มกินและร้องเพลงคาราโอเกะกันอย่างสนุกสนาน


       “ที่กูเคยบอกมึงว่าจะกลับไปดูไร่ของพ่อน่ะ กูจะไปแล้วนะ”


โมกข์บอกกล่าวพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ปราบพยักหน้าเชิงรับรู้เพราะโมกข์เคยบอกเขามาพักใหญ่

แล้วว่าจะขอไปฟื้นฟูไร่มนัญชัยที่เคยติดจำนองและตกไปเป็นของคนอื่นในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้โมกข์ทยอยซื้อคืน

จนกระทั่งเขาได้ที่ดินของเขากลับคืนมาจนเกือบจะหมดแล้ว


       “ไปเหอะ อินไฟไนท์มั่นคงแล้ว มึงกลับไปทำในสิ่งที่มึงต้องทำ”


       “แล้วมึงล่ะ”


       โมกข์ถามเขาบ้าง


       “ทำไมมึงไม่กลับไปทำในสิ่งที่มึงต้องทำบ้าง”


      ปราบยักไหล่ เบ้หน้า


      “ชีวิตกูมีแค่ที่นี่ก็เพียงพอแล้วไอ้ยักษ์”


      ถอนหายใจบางเบาเมื่ออดครุ่นคิดถึงเรื่องของตัวเองไม่ได้ แม้ว่าจะกลับเมืองไทยมาหลายปีแต่ปราบ

ไม่เคยแม้แต่จะเหลียวมองไปยังธุรกิจที่เคยเป็นของแม่เขา

       ไม่อยากจะกลับไปข้องเกี่ยว ปราบบอกตัวเองอย่างนั้น ในเมื่อตัดเยื่อใยไปแล้วปราบไม่อยากจะให้มัน

หลงเหลืออะไรอีกแม้ว่าทุกสิ่งจะเป็นของเขาตามที่แม่ได้ยกให้ก็ตาม


       “กรี๊ดดดด นี่ได้เวลาเดอะเฟมัสมาแล้วนี่”


       เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นจากกลุ่มสาวๆ ที่นั่งรวมกันอยู่มุมหนึ่ง เรียกความสนใจได้จากทั้งห้อง


       “อะไรเจ้ นี่ติดรายการเรียลลิตี้กับเขาด้วยเหรอ”


      “ติดมากด้วย ไม่รู้หรือไงว่าเจ้เป็นแฟนคลับเบอร์แปด”


      เสียงของแววดาวสาวใหญ่ที่เป็นเลขามือดีของปราบแว่วดังมาให้ได้ยินก่อนที่จะกระวีกระวาดไป

จัดแจงให้พนักงานของร้านช่วยเปิดการถ่ายทอดสดให้จากจอโทรทัศน์เครื่องหนึ่ง จากนั้นบรรดาสาวๆ เลย

ไปนั่งรวมกลุ่มกันสลอนอยู่หน้าจอ


         “แอร้ยยย น้องป้อง”


         ปราบสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียง


         “เชียร์หมายเลขแปดเหรอเจ้ดาว”


         “ใช่สิ น่ารักมากเลยนะ พวกหล่อนดูสิหน้าตาจิ้มลิ้มจนเจ้อยากดึงมากด”


         “เหยยยย อิเจ้หื่นว่ะ”


         เสียงหนุ่มคนหนึ่งที่เดินไปยืนมองหน้าจอเอ่ยแซว


         “แต่ก็ เออ แม่ม หน้าตาดีจริงว่ะ”


         “ช่ายแมะ แกเป็นผู้ชายแกยังยอมรับว่าหน้าตาดี กรี๊ดดด อาทิตย์นี้น้องป้องของฉันได้ร้องคนแรกเว้ย

เร่งเสียงให้ดังหน่อยสิแก น้องป้องฉันนอกจากหล่อแล้วยังเสียงดีด้วยนะ แล้วพวกแกก็เงียบๆกันก่อนเดี๋ยว

ฉันไม่ได้ยินเสียงน้อง”


         ในประเทศไทยคงจะมีคนชื่อซ้ำกันบ้างแหละ ปราบพยายามบังคับให้หัวใจที่อยู่ๆ ก็เต้นรัวให้กลับคืน

สู่สภาพเดิม ก่อนที่จะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเสียงพิธีกรในรายการดังลอดออกมาให้ได้ยินเต็มสองหู


         “ต่อไปเชิญพบกับนักร้องสุดหล่อเจ้าของเสียงหวานบาดหัวใจสาว ป้อง ปมุต อนันตกุล ผู้เข้าแข่งขัน

หมายเลขแปด”


แกร๊งงงง


         ปราบกระแทกแก้วเหล้าลงบนโต๊ะจนแทบแตก


         ป้อง ปมุต อนันตกุล


         ชื่อที่เขาเกือบลืมเลือนไปแล้ว แต่ในวินาทีนี้ปราบเพิ่งรู้ใจตัวเองว่าเขาไม่เคยลืมชื่อนี้ได้เลย

         ประเทศไทยคงไม่มีใครที่จะเหมือนกันทั้งชื่อจริงชื่อเล่น รวมทั้งนามสกุลหรอก

         ปราบหายใจขัดเมื่อเสียงร้องเพลงทุ้ม นุ่ม ชวนฟังดังขึ้นจากจอโทรทัศน์ ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้า

ปอดลึกๆ เมื่อร่างกายที่แทบไร้สติพาตัวเองก้าวเดินไปหยุดยืนมองภาพที่ฉายจากจอสี่เหลี่ยมอยู่เบื้องหลัง

กลุ่มสาวออฟฟิศ

         เหงื่อชื้นซึมอยู่ตามขมับและเนื้อตัวที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตเนื้อดีคลุมด้วยสูทดำเข้ารูปเผยให้เห็นรูปร่าง

สูงและกล้ามเนื้อแน่นชวนมองของปราบเมื่อเขาจ้องภาพที่ปรากฏเบื้องหน้าตาไม่กะพริบ

         สูง แต่น่าจะเตี้ยกว่าเขา คงจะไม่เกินร้อยแปดสิบ แต่กลับผอมเพรียวเมื่อใส่กางเกงหนังสีดำเป็น

มันวาวยิ่งทำให้ท่อนขาดูเรียวเล็ก เมื่อเลื่อนสายตาไปถึงช่วงบนก็เห็นเอวคอดซ่อนอยู่ในเสื้อยืดสีสว่าง

สะท้อนแสงไฟขณะกำลังยืนเด่นอยู่กลางเวที ปราบแทบกลั้นหายใจเมื่อเขาเห็นกรอบหน้าชัดๆ

         ใบหน้าเรียวยาวประกอบด้วยเครื่องหน้าที่สมบูรณ์ราวรูปสลัก ผมสีน้ำตาลเข้มจัดทรงได้รูปล้อมวง

หน้า ปราบไล่สายตาพิศดูตั้งแต่คิ้วโก่งเป็นระเบียบที่ตั้งอยู่เหนือดวงตาโตสีฟ้าอมเทาที่ทอประกายสดใส

จมูกโด่งได้รูปปลายรั้นที่บ่งบอกว่าเจ้าของคงจะเฮี้ยวไม่หยอก และที่สำคัญ ปากเล็กจิ้มลิ้มบัดนี้กลับ

กลายเป็นกลีบปากทรงกระจับหยักแดงเรื่อจนอยากจะดึงมาแล้วบดแนบริมฝีปากตัวเองลงไปพิสูจน์ความ

นุ่มของมัน


         “กรี๊ดดดดดด น้องป้อง ลูกแม่”


คราวนี้ปราบสะดุ้งจริงๆ กับเสียงกรี๊ดของแววดาวเมื่อเพลงจบลง หญิงสาวนั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่รวมทั้งคนอื่น

ที่ออกปากชื่นชมกับเสียงร้องอันไพเราะ


เชื้อไม่ทิ้งแถว

ก็เป็นลูกของนักร้องนี่นะ


         “นี่ ข่าวเขาบอกว่าเป็นคู่จิ้นกับหมายเลขสองที่ชื่อชาวีไม่ใช่เหรอ เจ้ดาว”


         “ใครว่าจิ้น เรียลนะยะ ถ้าพวกหล่อนๆ ดูภาพตอนที่อยู่ในบ้านน่ะรับรองว่าฟินสิบตลบ หล่อนรู้หรือ

เปล่าว่าเจ้ก็สังกัดบ้านคู่ด้วยนะ กรี๊ด พี่วีน้องป้องอ่ะ น่ารักสุดๆ นั่นไงล่ะ เบอร์สอง ชาวี หล่อไหมล่ะ”


         ปราบมองตามแววดาวที่ชี้ชวนให้ดูภาพชายหนุ่มหน้าเข้มที่ก้าวมายืนเคียงข้าง หน้าของเขาบึ้งลง

ทันทีเมื่อมองเห็นความสนิทสนมซึ่งกันและกันพร้อมกับเสียงกรี๊ดที่กระหน่ำไปรอบทิศ


ฮึ นี่ก็สนิทชิดเชื้อกับคนง่ายตั้งแต่เด็กจนโตเลยสินะ


         นึกค่อนอยู่ในใจ พลางสะบัดหน้ากลับมานั่งที่เดิมพร้อมกับกระดกเหล้าเข้าปากจนโมกข์ได้แต่มอง

อย่างสงสัย


         “เป็นเชี่ยไรมึง”


         ปราบไม่ตอบ แต่ดวงตาดุกลับคุโชนแสงกล้า

         บางทีที่เคยคิดไว้ว่า ชีวิตอาจไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากบริษัทที่กำลังทุ่มเทให้อยู่ ปราบอาจจะคิด

ผิด เพราะตอนนี้เขากลับนึกถึงเรื่องอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้

         มุมปากยกยิ้มเมื่อละเลียดเหล้าเข้าปากอีกครั้ง  เขารอจนกระทั่งงานเลี้ยงเลิกราจึงได้เดินไปหาแวว

ดาวแล้วออกคำสั่ง


         “พรุ่งนี้ตอนเช้ามารับเงินจากผม แล้วไปโหวตยังไงก็ได้ ที่จะทำให้หมายเลขแปดได้ที่หนึ่งจากการ

ประกวด”


         
----------------------------------------------- TBC ------------------------------------------
         
          บทนี้ขอสั้นๆ ก่อนนะคะ มาเปิดตัวน้องป้องน่ะค่ะ
           
   พื้นที่โฆษณานิยายของผู้แต่ง ฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ :pig4: :pig4: :pig4:

ร้ายซ่อนรัก (จบแล้ว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40488.0)

X-Theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้ X (จบแล้ว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)

รักได้ไหมผู้ชายธรรมดา (จบแล้ว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0)

รักวุ่นวายของนายตัวร้ายรูปหล่อ (เรื่องสั้น) (จบแล้ว)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44227.0)

Only Love Is Real ให้รักนำทาง (ยังไม่จบ)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41771.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41771.0)

ขอบคุณค่ะ
         
         
                                                                                                                                                

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 12-11-2014 22:47:26
จะเจอกันแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-11-2014 23:31:23
อิจฉาคู่จิ้นกะน้องอ่ะดิพี่เดี่ยว
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 12-11-2014 23:53:26
โหยย... น่าสนุกแล้วล่ะสิ  ติดตามตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 13-11-2014 00:06:28
อิอิ ได้กลิ่นคาวเลือด  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 13-11-2014 00:07:31
โอ้ยย กำลังจะนอนพอดี เห็นอัพตาสว่างเลย o18

พี่ปราบก็เบาๆกับน้องหน่อยเนอะ  น้องไม่รู้เ :o12:รื่องงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 13-11-2014 00:17:14
ว้ายๆๆๆๆตื่นเต้นๆๆๆ
น้องป้องจะจำพี่เด่วได้มั่ยนี่ :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-11-2014 00:24:18
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 13-11-2014 02:34:51
มันกำลังเริ่มแร้วสินะ หึหึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-11-2014 05:59:53
พึ่งนึกได้ว่าพี่โมกข์เป็นใคร แอร๊ย :z3:
จากอดีตสู่ปัจจุบัน คนละเรื่องเลยนะคะพี่ขา :katai2-1:
พี่ปราบอย่าทำร้ายน้องป้องนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 13-11-2014 06:02:52
กรี๊ดดดดดด (แต๊วแตกเลยเรา)

กรี๊ดน้องจะผิดมั๊ยอ่ะ พี่ปราบรีบลงทัณน้องเลย แฮ่กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-11-2014 09:39:34
แอบขำพ่อบุญทุ่มได้มั้ยเนี่ย
ว่าแต่มีแผนอะไรนะ รอติดตาม
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: EunJin ที่ 13-11-2014 11:29:10
เริ่มเข้าสู้เนื้อเรื่องหลักแล้ว...
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน โอ้ยยยหัวใจจะวายเจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 13 ( 12 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 13-11-2014 11:46:01
จะได้เจอน้องป้องแร้ววว~~
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-11-2014 22:14:37

                                                                    เพลิงพ่าย

                                                                     บทที่ 14
         

ในตอนแรกที่ไม่คิดจะข้องแวะกับเรื่องในอดีต ปราบก็ไม่ได้ตามหาคนรู้จักที่เป็นกุญแจสำคัญ แต่เมื่อ

จุดมุ่งหมายถูกปรับเปลี่ยนปราบจำเป็นต้องเสาะหาใครบางคน เขาใช้เวลาไปราวสัปดาห์ก็ได้ที่อยู่ของคนที่

ตามหาจนได้

         เย็นวันหนึ่งปราบขับรถยนต์มาตามถนนในบ้านจัดสรรแถบชานเมืองหลวง มองบ้านเลขที่ไปทีละ

หลังจนพบเลขที่ต้องการ ปราบเพ่งมองไปยังรั้วบ้านที่ด้านในเป็นบ้านสองชั้นทรงสวยขนาดพอเหมาะเพื่อ

ถามใจตนเองเป็นรอบสุดท้าย เมื่อตัดสินใจแน่วแน่เขาก็ไม่รอช้าที่จะลงจากรถไปกดกริ่งเพื่อเรียกบุคคล

ภายในบ้าน

         รอเพียงไม่กี่อึดใจประตูรั้วเล็กด้านข้างก็ถูกแง้มออก ก่อนที่จะปรากฏร่างท้วมของชายมีอายุ ดวงตา

ที่เริ่มฝ้าฟางเพ่งมองอาคันตุกะอย่างปราบด้วยความฉงนฉงาย


         “ไม่ทราบว่ามาหาใครครับ”


         ปราบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขาคลี่ยิ้มอ่อนเป็นการทักทายผู้สูงวัย


         “คุณลุงพิชัย สวัสดีครับ”


         คิ้วสีดอกเลายิ่งขมวดเมื่อได้ยินคำเรียกชื่อตนเองจากชายหนุ่มหน้าตาดีที่พิชัยยังจำไม่ได้ว่าเขาเคย

ไปรู้จักที่ไหน เขาจึงต้องพิจารณาคนที่มาเยือนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน

         ใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตาแบบนี้ถ้าได้เคยเห็นสักครั้ง อย่างไรเขาก็ต้องจำได้ พิชัยพยายามทบทวน

ความทรงจำจนปวดหัว แต่เมื่อมองไปมองมาใบหน้านี้ก็คลับคล้ายคลับคลาอยู่เหมือนกัน


         “เราเคยรู้จักกันด้วยหรือพ่อหนุ่ม”


         ปราบยิ้มให้พิชัยอีกครั้งแล้วจึงเฉลยคำตอบให้ชายสูงวัยอ้าปากค้าง


         “รู้จักสิครับ รู้จักดีด้วย ถ้าคุณลุงจะยังไม่ลืมเด็กชายเดี่ยวลูกชายของคุณแม่วาดดาว”






         พิชัยยังไม่คลายความตื่นเต้นแม้ว่าจะเชื้อเชิญให้ปราบเข้ามานั่งคุยกันในห้องรับแขก ทันทีที่เด็กใน

บ้านยกถาดน้ำวางต้อนรับและเดินออกไป เขาก็รีบหันมาพูดกับปราบ


         “คุณเดี่ยวหายไปไหนมาสิบกว่าปี รู้ไหมว่าผมตกใจมากที่เห็นคุณ”


         เมื่อรู้แน่ชัดว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาที่นั่งอยู่ตรงหน้าคือใคร พิชัยก็ยิ่งสะท้อนใจเมื่อเห็นใบหน้า

นั้นเต็มตา

         เด็กชายในอดีตที่เป็นหลานชายของคนที่ชุบเลี้ยงเขาและส่งเสียจนเรียนจบทนายความช่างดูสง่างาม

อยู่ในชุดลำลอง ใบหน้าแม้จะเปลี่ยนไปจากสมัยยังเด็กจนจำแทบไม่ได้แต่เมื่อจ้องดีๆ ก็เห็นความ

ประพิมประพายคล้ายคุณวาดดาวผู้เป็นมารดาโดยเฉพาะดวงตาคมดุคู่นั้น


         “ผมพยายามตามหาคุณแทบพลิกแผ่นดินแต่ก็ไม่เจอ  คุณปัญญาเองเขาก็ตามหาตัวคุณวุ่นไปหมด”


         ปราบยิ้มขื่นเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าว


         “เขาจะตามหาผมทำไมครับ ในเมื่อเขาก็มีครอบครัวใหม่แล้ว”


         พิชัยถอนหายใจอย่างหนักอึ้ง


         “อย่าลืมว่าคุณเดี่ยวมีมรดกที่คุณดาวยกให้จำนวนไม่น้อย”


         “มรดกที่เขาต้องการใช่ไหมครับ”


         พิชัยปฎิเสธไม่ออกจนปราบแค่นยิ้มหยัน


         “ที่ผมตามหาคุณลุงจนเราเจอกันในวันนี้ เพราะผมอยากจะรู้เรื่องในอดีตเมื่อผมหายไปว่าเขาทำ

อะไรไว้บ้างกับทรัพย์สินและบ้านของแม่”


ปราบไม่เรียกผู้ชายคนนั้นว่าพ่อสักคำ แต่พิชัยก็เข้าใจว่าปราบหมายถึงใคร


         “คุณปัญญาก็บริหารงานในฐานะเจ้าของมาเรื่อยๆ โดยที่หุ้นส่วนคนอื่นยังไม่รู้ว่าชื่อหุ้นใหญ่

เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ตอนนั้นก็เริ่มระส่ำระสาย เพราะพอขาดท่านขาดคุณดาว คุณปัญญาก็เริ่มเอาแต่ใจ

ตัวเองมากขึ้น จนกระทั่งมีประกาศจากศาลแจ้งมายังผู้ถือหุ้นว่าคุณดาวยกหุ้นให้คุณเดี่ยวพวกเขาก็เลยเริ่ม

โวยวาย”


         พิชัยเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟัง


         “พอคุณเดี่ยวหายไปเรื่องก็ยิ่งเลวร้าย จนคุณปัญญาต้องออกตามหาคุณเดี่ยวให้มาแสดงตัวว่า

เจ้าของที่แท้จริงยังอยู่ เมื่อไม่เจอคุณปัญญาก็ต้องไปฟ้องต่อศาลว่าคุณเดี่ยวเป็นบุคคลสาบสูญและขอเป็น

ผู้จัดการมรดกเพราะเขาเป็นผู้ปกครองอันชอบธรรม แต่ก็ใช้เวลาถึงห้าปีกว่าจะสำเร็จตามกฏหมาย”


         “หมายความว่าตอนนี้เขาก็ได้สมบัติทุกอย่างไปครองสมใจแล้วสิครับ”


         “ถูกต้องครับ”


         คำยืนยันนั้นทำให้ปราบกัดฟันแน่น


          “แล้ว เอ่อ แล้วเรื่องครอบครัวใหม่ของเขาล่ะครับ”


         พิชัยถอนหายใจ


         “คุณปัญญาก็ยังอยู่กับคุณรัศมีแบบทิ้งกันไม่ได้แม้ว่าจะทะเลาะกันบ่อยๆ ในระยะหลังครับ

ส่วนคุณป้องก็ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจจนเกือบจะเหลิง ไม่ใช่เด็กไม่ดีหรอกนะครับ แต่เป็นเด็กที่ถูกสปอยล์จน

กลายเป็นเอาแต่ใจมากกว่า แต่ที่น่าหนักใจมากกว่านั้น”


         พิชัยเหลือบตามองใบหน้าคมที่กำลังตั้งใจฟังจนสีหน้าเคร่งเครียด


         “สามสี่ปีหลังนี่คุณปัญญาเริ่มเที่ยวหนัก จ่ายแต่ละทีไม่ใช่น้อยๆ ไม่รู้ว่าไปเชื่อตามคำชักชวนของ

เพื่อนคนไหนที่พากันไปเที่ยวตามคาสิโนประเทศเพื่อนบ้าน เงินทองทรัพย์สินก็เริ่มร่อยหรอจนต้องทยอย

ขายหุ้น นี่ผมยังกลัวว่าแกจะมัวเมาจนไม่เหลืออะไรเลย คุณเดี่ยว ในเมื่อคุณกลับมาแล้ว คุณไม่นึกเสียดาย

สิ่งที่คุณตาของคุณได้สร้างมาหรือครับ”


         สมองของปราบกำลังประมวลอย่างหนักในสิ่งที่พิชัยพูดมา อารมณ์ร้อนปะทุอยู่ในอกเมื่อคนที่ได้ชื่อ

ว่าเป็นพ่อกำลังผลาญทรัพย์สินจากแม่ที่รักพ่อจนลมหายใจสุดท้าย

         ปราบยอมไม่ได้ที่จะปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นละลายไปด้วยน้ำมือของคนเห็นแก่ได้อย่างนั้น เขาเงยหน้า

สบตาชายสูงวัยแล้วเล่าเหตุการณ์คร่าวๆในชีวิตของบุคคลสูญหายให้พิชัยฟัง


         “ปราบดาตายไปแล้วจริงๆครับ เหลือแต่ปราบ ปริวัตร ที่ยังคงมีลมหายใจและจะทวงสิ่งเหล่านั้น

คืนกลับมา ผมคงต้องพึ่งคุณลุงในเรื่องข้อมูลของบริษัท”


         พิชัยส่ายหน้า


         “ผมปลดระวางจากการทำงานให้บริษัทนานแล้วครับคุณเดี่ยว เอ่อ คุณปราบ แต่สำนักงานกฏหมาย

ของผมก็ยังทำงานให้กับบริษัทของคุณอยู่โดยลูกชายของผมที่น่าจะวัยไล่เลี่ยกับคุณปราบชื่อว่า ชนัย ถ้า

ยังไงผมจะให้เจ้านัยติดต่อกับคุณปราบอีกที”







         สิ่งที่รับรู้จากพิชัยทำให้ปราบต้องกลับมาจมอยู่กับความรู้สึกคับแค้นอยู่ในคอนโดกว้างที่เขาซื้อไว้พัก

อาศัย  ปราบอยู่คนเดียวที่นี่ในขณะที่โมกข์ตัดสินใจซื้อบ้านหลังใหญ่และย้ายไปอยู่ที่นั่น แม้ว่าปราบจะอยู่

คนเดียวแต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกเดียวดายเหมือนอย่างวันนี้

         ก้าวเดินมาที่ระเบียงของห้องพักหรูชั้นบนสุดของตึกสูงที่เขาเป็นเจ้าของในชั้นนี้แต่เพียงผู้เดียว

พลางทอดสายตาออกไปยังเบื้องล่างที่เต็มไปด้วยแสงระยิบระยับจากเมืองที่ไม่เคยหลับใหล น้ำตาซึมเมื่อ

คิดถึงดวงหน้างดงามของผู้เป็นมารดา และความรู้สึกเศร้าสร้อยก็แปรเปลี่ยนเป็นแค้นเคืองในสิ่งที่ผู้เป็นพ่อ

กระทำทั้งหมด มือแกร่งบีบราวระเบียงจนแน่นเพื่อระบายไฟร้อนออกมา

         แม้จะรู้ว่าความแค้นคือไฟที่พร้อมจะเผาไหม้แม้จิตใจตนเองแต่เมื่อมาถึงตอนนี้ ปราบพร้อมให้ไฟนั้น

เผาผลาญ

         เผาให้มันร้อนให้มันลุกไหม้ เพื่อที่เขาจะนำไฟที่กระพือโหมกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาทวงทุกอย่าง

กลับคืนมา

         ปราบวางแผนการทีละขั้นตอนอยู่ในใจ มันอาจจะต้องใช้เวลาไม่น้อยแต่ว่าเขารอได้ ในเมื่อเวลาก็

ผ่านมาพอควรแล้ว จะช้ากว่านี้ปราบก็มีความอดทนพอ

         โดยเฉพาะหมากตัวหนึ่งในเกมนี้


         ปมุต อนันตกุล


         “แม้ว่าคุณปัญญาแกจะทำตัวเหลวไหล แต่มีข้อดีอยู่ข้อหนึ่งคือแกรักคุณรัศมีและคุณป้องมากนะ

ครับ คุณป้องนี่เป็นแก้วตาดวงใจของคุณปัญญาเลยทีเดียว”


         ข้อความหนึ่งที่รับรู้จากพิชัยยิ่งทำให้แผนการเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น


         ดีสิ ยิ่งรักมากแค่ไหน จะได้ยิ่งเจ็บปวดเมื่อต้องสูญเสียสิ่งรักด้วยน้ำมือตนเอง


         นัยน์ตาดุวาววับอยู่ในความมืดของราตรีกาล








         ปราบดำเนินแผนการอย่างไม่รีบร้อนนักเมื่อค่อยๆ สืบเสาะวิถีชีวิตของนายปัญญาผู้ได้ชื่อว่าเป็น

บิดาแท้ๆ จนกระทั่งข้อมูลทุกอย่างครบอยู่ในมือก็ผ่านไปร่วมเดือน และเมื่อคิดว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว เขาก็

เริ่มดำเนินตามแผนของเขา เส้นใยของธุรกิจมืดที่เขาเคยทำงานให้กับกัสโต ผู้เป็นบิดาบุญธรรมถูกเขารื้อ

ฟื้นความสัมพันธ์ขึ้นมา


         “สวัสดีครับมิสเตอร์โฮ ผมคือปราบที่เคยติดต่อกับคุณเรื่องงานของมิสเตอร์แลงดาจิโอ พ่อบุญธรรม

ของผม โอ ขอบคุณครับที่ยังจำกันได้ ครับ สบายดีครับ ที่ติดต่อคุณวันนี้เพราะผมมีเรื่องต้องรบกวน”


         ปราบบอกสิ่งที่ต้องการ


         “ผมทราบว่าคาสิโนของคุณที่ชายแดนติดกับไทยมีลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งบังเอิญมีอยู่คนหนึ่งที่ผม

สนใจในธุรกิจของเขา ชื่อว่าปัญญา อนันตกุล ผมอยากให้คุณช่วย ถ้าลูกค้าคนนี้มาหาคุณผมอยากให้คุณ

ปล่อยเงินเพื่อความบันเทิงแก่เขาเท่าที่เขาต้องการโดยให้เขานำธุรกิจมาเป็นสิ่งไถ่ถอน และผมยินดีที่จะ

จ่ายเงินให้คุณเพื่อซื้อต่อกิจการของคนๆนี้ในทุกๆอย่าง รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ อย่างบ้านหรือที่ดิน

โอ เป็นพระคุณอย่างสูงสำหรับความร่วมมือครับ”


         ปราบยิ้มสมใจเมื่อการเจรจาสิ่งที่ต้องการประสบผลสำเร็จ นึกขอบคุณบารมีของพ่อบุญธรรมอยู่ไม่

น้อย เขาไม่รอช้าที่จะติดต่อเจ้าของคาสิโนอีกหลายแห่งที่บิดาของเขาชอบไป ขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้เวลา

พักใหญ่กว่าที่จะเห็นผล

         ตอนนี้ปราบกำลังนึกถึงหมากตัวสำคัญของเขา

         ไม่รอช้าเมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้มีรายการเดอะเฟมัส ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของการแข่งขันตามที่

แววดาวบอกมา ปราบรีบคว้ารีโมทโทรทัศน์มากดเปิดทันที

         ไม่ทันที่จะเห็นการแสดงของผู้เข้าแข่งขันที่เหลือเพียงสองคนสุดท้ายคือหมายเลขสองและหมายเลข

แปดเมื่อภาพในจอสี่เหลี่ยมเริ่มเปิดขึ้น  สิ่งที่ปราบเห็นคือชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนกำลังกุมมือกันแน่นด้วย

ใบหน้าที่แสดงถึงความตื่นเต้นอยู่กลางเวทีและนั่นก็ทำให้คิ้วดกเข้มของปราบขมวดมุ่นลงอย่างขุ่นใจ


         “ผู้ชนะเลิศเป็นเดอะเฟมัสคนใหม่คือ ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข สอง ชาวี”


         เสียงโห่ร้องด้วยความยินดีดังกึกก้องเมื่อผู้ชมในห้องส่งเห็นผู้ชนะเลิศและผู้ได้ตำแหน่งที่สองโผเข้า

กอดกันแน่น มันยิ่งทำให้ปราบหงุดหงิดจนต้องปิดโทรทัศน์ลงทันที

         ตอนเช้าคงต้องไปตำหนิแววดาว ที่ไม่ได้ทำให้ปมุตได้ที่หนึ่งในเมื่อเขาบอกแล้วว่าทุ่มไม่อั้น แม้ว่า

เลขาของเขาจะทำหน้างงๆ เมื่อได้ยินคำสั่งแม้ว่าจะตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน


         “คุณปราบเชียร์น้องเขาด้วยหรือคะ”


         “ไม่ได้เชียร์ แต่เห็นหน่วยก้านเหมาะจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้บริษัทเรา ผมเลยอยากให้เขาได้ตำแหน่ง

สูงหน่อย”


         นั่นคือเหตุผลข้างๆ คูๆ ที่ปราบบอกกับแววดาว

         หมากตัวนี้ปราบยังนึกไม่ออกว่าจะใช้ตัวช่วยตัวไหน ในเมื่อเขาเองไม่ถนัดเรื่องวงการบันเทิงเอา

เสียเลย ปราบนั่งเคาะโต๊ะอย่างใช้ความคิด


         บิงโก!!


         ปราบคลี่ยิ้มพลางรีบคว้าโทรศัพท์ต่อสายตรงไปยังต่างประเทศ


         “ว่าไงโนเอลเพื่อนรัก สบายดีไหม อ้าว เหรอ เออ ขอโทษว่ะ ใครจะรู้ว่ามึงกำลังฟันนางแบบอยู่

ตอนนี้”


         ปราบหัวเราะชอบใจเมื่อรู้ว่าตนเองโทรไปขัดจังหวะทางขึ้นสวรรค์ของเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่ง


         “ก็คิดถึงมึงไง เฮ้ย มึงคุยกับกูอยู่ก็หยุดเอาก่อนได้ไหม สัส  เสียงครางดังมาถึงนี่ ทำไม กูก็แค่จะถาม

มึงว่าสนใจจะมาเที่ยวเมืองไทยไหม กูมีเรื่องสนุกๆให้มึงช่วยว่ะ”








มีต่ออีกนิด
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-11-2014 22:20:34
ต่อกันอีกหน่อย





มือเรียวขยับสูทสีดำเนื้อมันวาวให้กระชับกับลำตัวพลางมองตัวเองในกระจกอย่างพึงใจ
         
ตั้งแต่วันประกาศผลรางวัลการประกวดจากรายการเรียลลิตี้ สมาชิกผู้เข้าแข่งขันก็ต้องเดินสาย

ขอบคุณสื่อมวลชนและผู้มีอุปการะคุณกับรายการตลอดทั้งเดือนจนแทบไม่ได้พักผ่อน ก็เพิ่งจะมีเมื่อคืนที่

ได้นอนเต็มตาเพื่อที่จะให้ทุกคนได้เตรียมตัวกับงานเลี้ยงใหญ่ครบรอบสิบปีของค่ายที่บรรดานักร้อง

นักแสดงและแขกผู้มีเกียรติที่ได้รับเชิญมากันอย่างคับคั่งในยามค่ำ

         เงาจากกระจกฉายให้เห็นร่างโปร่งสูงราวร้อยแปดสิบเซ็นติเมตร กับกรอบหน้าหวานของลูกเสี้ยวไทย

จีนฝรั่งที่ลงตัวจนใครเห็นก็ต้องเหลียวมองยิ่งสวมใส่สูทเข้ารูปก็ยิ่งดูดี

         ปมุตยิ้มให้กับตัวเองด้วยความมั่นใจเมื่อพร้อมจะออกไปเจิดจรัสอยู่ท่ามกลางสายตาผู้คน ขาเรียว

ก้าวยาวออกจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันจะผ่านพ้นแขนของเขาก็ถูกรั้งให้หยุดอยู่กับที่

         ดวงตาสีฟ้าอมเทาจ้องมองคนที่หยุดเขาไว้ ร่างอวบอิ่มของหญิงสาววัยรุ่นเปลือยไหล่สล้างในชุด

ราตรีที่แดงเพลิงกำลังจ้องใบหน้าของเขาด้วยประกายตาวาววาม ปมุตสบตาอย่างเข้าใจในแววตานั้น

เพียงแค่เขาดึงเบาๆ ร่างอวบอิ่มก็ถลาตามแรงจนแผ่นหลังพิงอยู่กับกำแพงข้างห้องน้ำ

         สบตากันอีกครั้งปมุตก็ก้มลงฝังจมูกลงกับซอกคอขาวเนียนที่เจ้าหล่อนเอียงคอให้อย่างยินดี

ลมหายใจกระเส่าจนอกอวบกระเพื่อมเมื่อปมุตดึงร่างเข้าบดเบียด พลางย้ายจมูกดอมดมไปตามไหล่ลาด

หญิงสาวดึงใบหน้านั้นขึ้นมาแล้วเผยอปากเชิญชวนพลางกดคอปมุตให้โน้มลงมา


         “ไม่ได้”


         ปมุตพูดเสียงเฉียบพลางหยุดการกระทำทั้งหมดจนหญิงสาวงงงัน


         “ทำไมล่ะพี่ป้อง พลอยแค่อยากให้พี่ป้องจูบพลอย”


         เจ้าหล่อนขึ้นเสียงอย่างขัดใจ แต่ก็ยังดึงดันเหนี่ยวรั้งคอชายหนุ่มไว้


         “พี่ไม่ชอบให้ใครมาจูบปาก ปล่อยได้แล้วพลอย พี่หมดอารมณ์แล้ว”


         ปมุตฝืนตัวออกจากการเกาะเกี่ยว คิ้วโก่งขมวดอย่างไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มเองไม่เข้าใจเหมือนกัน

ว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องริมฝีปากของเขา


         “แต่ พี่ป้อง!”


         “พี่บอกให้ปล่อย”


         “ทำอะไรกัน!”


         เสียงบุคคลที่สามดังขึ้นทำให้พลอย หรือ สรุตา หนึ่งในผู้เข้าประกวดเดอะเฟมัสสบถเบาๆ ก่อนที่จะ

ยอมปล่อยปมุตพลางหันไปมองค้อนคนที่ก้าวมาใหม่


         “พี่วีเข้ามาขัดจังหวะชะมัด”


         “พลอยทำตัวน่าเกลียดมาก นี่เป็นสาวเป็นแส้นะ ไม่อายหรือไงมาให้ท่าผู้ชายหน้าห้องน้ำแบบนี้”


         สรุตาย่นหน้าใส่เมื่อได้ฟังคำพูดสั่งสอนนั้น


         “อายก็อดน่ะสิ พลอยเล็งพี่ป้องตั้งแต่เข้ามาในบ้านใหม่ๆแล้ว นี่ถ้าไม่มีคนขัดคอเราสองคนคงลงเอย

กันไปนานแล้วหล่ะ ก็เพราะมีพ่อแก่อย่างพี่วีนี่แหละ”


         หญิงสาวเบ้ปากใส่


         “พี่วีอย่ามาทำตัวเป็นพี่ใหญ่ดูแลเด็กหน่อยเลย นี่ถ้าคนอื่นเขาเห็นพี่คงนึกว่าตอนนี้พี่กำลังหึง”


         สรุตาหัวเราะรื่นใส่หน้าชาวี


         “ว่าแต่พี่วีหึงพี่ป้องที่มายุ่งกับพลอย หรือหึงว่าพลอยไปยุ่งกับคู่จิ้นของพี่กันแน่ล่ะ”


         “พลอย!”


         สรุตาเดินเชิดหน้าจากไปแล้วปล่อยให้ชาวีทำหน้าบึ้งใส่ปมุตที่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน


         “ทำไมทำตัวแบบนี้ล่ะป้อง ถ้าคนอื่นมาเห็นจะเป็นเรื่องใหญ่นะ”


         ปมุตหัวเราะเบาๆ เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชาวีต้องโกรธนัก


         “โธ่ พี่วี เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมชาติ ฝ่ายหนึ่งต้องการ อีกฝ่ายก็แค่สนอง ขำๆ น่ะครับ ไปกันเถอะ

งานจะเริ่มแล้วนะ”


         ปมุตเดินผ่านและนำเขาไป จึงไม่ทันได้เห็นสายตาขัดเคืองระคนเจ็บช้ำของชาวี

         ชาวีกำลังเก็บงำความรู้สึกไว้ ความรู้สึกที่เปิดเผยไม่ได้ มันเกิดขึ้นตั้งแต่เห็นใบหน้างดงามของชาย

หนุ่มรุ่นน้องอย่างปมุตตั้งแต่วันแรก มันทำให้หัวใจของเขาระส่ำระสายแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปทำตัวใกล้ชิด

จนภาพที่ถ่ายทำเรียลลิตี้ออกสู่สายตาประชาชนทำให้เกิดกระแสคู่จิ้น

         เขาไม่ได้ทำเพื่อสร้างกระแสอย่างที่คนในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์คพูดกันสักนิด เขาทำเพราะเขาอยาก

ทำ ชาวีบอกใครไม่ได้ว่าเขากำลังหลงเสน่ห์ของปมุตเข้าอย่างจัง ได้แต่กลืนความเจ็บช้ำลงไปพลางเดิน

ตามหลังปมุตไปต้อยๆ







         

         ดวงตาคู่สวยมองไปรอบๆ อย่างเบื่อหน่าย

         แม้ว่าจะชอบแสดงออกด้วยการร้องเพลงและเป็นจุดสนใจอยู่กลางเวที แต่เขากลับไม่ค่อยนิยมที่

จะต้องมาเดินไปมาในงานแล้วหยุดทักทายผู้หลักผู้ใหญ่สักนิด แต่ในฐานะรองชนะเลิศการแข่งขันเขา

จำเป็นต้องทำ ดีที่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปความสนใจพุ่งไปอยู่ที่คุณแมน เจ้าของค่ายที่กำลังขึ้นไปกล่าวคำแถลง

อยู่บนเวทีพร้อมชาวีที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ปมุตเลยได้โอกาสมาเดินเตร็ดเตร่อยู่แถวด้านข้างของ

ห้องบอลรูมกว้างที่ตอนนี้แออัดไปด้วยผู้คนอยู่หน้าเวที

         มือเรียวคีบแก้วเครื่องดื่มยืนพิงผนังห้อง ทอดสายตาไปอย่างไร้จุดหมายก่อนที่จะรู้สึกร้อนวูบราวกับ

มีแรงดึงดูดอยู่เบื้องหลังจนต้องหันขวับไปมอง


         ทันทีที่สบตากับใครคนหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปอีกฝั่งของห้องปมุตก็หายใจขัดไปหมด ยิ่งอีกฝ่ายคลี่ยิ้ม

บางเบาพร้อมสายตาท้าทายพลางยกแก้วเครื่องดื่มชูสูงเพียงเล็กน้อยมาให้


ให้ตายสิ!


         ปมุตต้องเม้มปากแน่นเมื่อเขาแทบละลายไปกับสายตาคมคู่นั้น





----------------------------------------------------- TBC ---------------------------------------------------

         
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 15-11-2014 22:25:54

แอร๊ยยยย พี่ปราบเจอกับน้องป้องแย้ววส  :impress2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 15-11-2014 22:35:48
เจอกันแล้ว งุงิ :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 ) #Bracon#Incest#
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 15-11-2014 22:54:45
ว่านิยายตัวเองแต่งให้พ่อเลวระยำสุดๆแล้วนะมาเจอเรื่องนี้ทั้งเลวทั้งเหี้....ซะยิ่งกว่า
แทบรอวันที่ปราบเอาคืนพวกมันอย่างสาสมไม่ไหว พวกเลวเดนคนนั่นควรได้รับการเอาคืนหนักๆ
สงสารปราบมากอ่ะ อยากมให้ตอนจบปราบไม่ต้องมานั่งเสียใมจหรือให้อภัยพ่อเลวๆแบบนี้เลย
คือเลวจนไม่เหลือความเป็นคนเลยอ่ะ เรื่องอื่นๆหรือบางเรื่องยังพอมีความดีอยู่บ้าง
นี่อะไรรักป้องแต่ไม่รักปราบเป็นเราๆก็แค้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-11-2014 01:41:12
เจอแระสินะ ชำระแค้น แต่จะเจ้บเองมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 16-11-2014 01:50:37
เพราะน้องป้องโดนพี่เด่วสะกดจิตไว้ตอนเด็กๆสินะ เลยไม่ยอมให้ใครจูบปาก :-[

แต่เกลียดอีพ่อจัง ทำไมเลวได้ขนาดนี้ :m31:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 16-11-2014 02:35:07
 :ling1: ค้างงง  พี่ปราบรุกแล้วว   :sad4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-11-2014 05:46:49
เจอกันแล้วใช่ไหม พี่ปราบกับน้องน้องป้อง :hao6:
แต่มันไม่มุ้งมิ้งเหมือนตอนเด็กแล้วน่ะสิ :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-11-2014 08:05:23
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-11-2014 08:39:54
ถึงเวลาล้างแค้นชิมิพี่เด่ว~

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 16-11-2014 17:21:59
จุ๊บ คนเขียนมาต่อเร็วๆนะ ได้เวลาลงโทษน้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 16-11-2014 19:14:16
หวั่นไหวไปกับพี่เด่วแล้วล่ะสิน้องป้อง   :hao3:  เตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว  รอเวลาพี่เดี่ยวรุกอย่างหนักหน่วง   :hao6:  เมี่อแผนการสำเร็จ  แต่หวังว่าพี่เด่วจะไม่ใจร้ายกับป้องมากเกินไปนะ   :z2:


รอตอนต่อไปค่ะ



 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 16-11-2014 22:00:04
เอาแล้ว...เจอกันแล้ว อิๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-11-2014 22:41:13
เจอกันแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-11-2014 14:18:07
เจอกันแล้วๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 14 ( 15 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 18-11-2014 22:04:27
เจอกันแล้วนะพี่เดี่ยวน้องป้อง  :katai2-1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-11-2014 20:03:32

                                                                       เพลิงพ่าย

                                                                         บทที่ 15


ปมุตละสายตาจากดวงตาสีนิลคู่นั้นไม่ได้ แม้ว่าอยากทำใจจะขาด

         ราวกับเป็นแม่เหล็กต่างขั้วที่ดึงดูดซึ่งกันในขณะที่ปมุตยืนเบี่ยงกายหันหน้าไปทางเขาคนนั้น หัวใจ

ค่อยๆ เต้นเร็วขึ้น แรงขึ้น กว่าจะรู้ตัวมันก็ควบคุมไม่อยู่จนแทบจะหลุดออกมานอกทรวงอก


เกิดอะไรขึ้น!


         ความรู้สึกร้อนวูบวาบชัดเจนอยู่แถวใบหน้าแล้วลามไปที่ต้นคอก่อนที่มันจะแล่นลงไปถึงแผ่นหลังพา

ให้ร่างกายระส่ำระสายจนปมุตต้องจิกปลายเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าหนังเนื้อดีลงกับพื้นห้องเพื่อประคอง

ตัวเองไว้

         ดวงตาคมคู่นั้นไม่ยอมหลบเช่นกัน ยังคงทอดนิ่งมายังเขาด้วยความมั่นใจในตัวเอง ทะนงในศักดิ์ศรี

ผสมผสานกับประกายระยิบระยับเป็นการหยอกล้อท้าทายอยู่ในที ประกอบกับโครงหน้าเนี้ยบทุก

กระเบียดนิ้ว คิ้วดกเข้มพาดอยู่เหนือดวงตาเลิกขึ้นเล็กน้อยเสมือนหนึ่งเป็นการทักทาย จมูกโด่งคมรับกับ

ริมฝีปากบางที่บอกให้รู้ว่าเจ้าตัวคงจะเจ้าคารมไม่น้อย และทั้งหมดตั้งอยู่บนร่างกายสูงปกคลุมด้วยทักซิโด

ราคาแพงส่งเสริมให้ยิ่งดูดีจนคนที่เดินผ่านอดที่จะเหลียวมองไม่ได้ แต่คนๆ นั้นกลับไม่สนใจสักนิดเพราะ

ทอดสายตามาทางเขา ปมุตเผลอกัดกลีบปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา


         “ป้อง ทำอะไรอยู่”


         สะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ๆ เสียงของชาวีดังขึ้นข้างตัว ปมุตหันไปมองชาวีที่เดินมากับคุณแมนเจ้าของ

ค่ายเพลงจนมาถึงตัวเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และเมื่อเขาหันกลับไปมองที่เดิมคนๆ นั้นก็อันตรธานไปแล้ว


บ้าจริง!


         หัวใจยังไม่หยุดสั่นไหวจนปมุตต้องสูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เพื่อให้สภาพของมันคืนสู่ปกติโดยเร็ว

ที่สุดก่อนที่เขาจะหันไปยิ้มเจื่อนๆ ให้ชาวี


         “เห็นยืนเหม่ออยู่ตั้งนาน”


         “คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะพี่วี”


         ชาวียิ้มอย่างเอ็นดูพลางยกปลายนิ้วขึ้นแตะที่ข้อศอกของปมุตเพื่อให้เดินไปหาคุณแมนซึ่งกำลัง

สนทนาอยู่กับแขกในงานเรียกแสงแฟลชจากนักข่าวได้ไม่น้อยในฐานะคู่จิ้นที่มาแรงที่สุดในช่วงนี้


         “อ้าว นี่ไงครับ แชมป์กับรองแชมป์”


         คุณแมนผายมือเป็นการแนะนำเมื่อทั้งสองเดินเข้าไปถึง ฝรั่งหน้าตาหล่อเหลาหันมามองพร้อมกับ

รอยยิ้มกว้างขวาง


         “โอ้ แฮนซัมบอย  หน้าตาดีจริงๆ มองเป็นเอเชียก็ได้ หรือจะมองเป็นยุโรปก็ดูดี ยินดีด้วยนะครับกับ

ชัยชนะ คุณเป็นแชมป์ที่เหมาะสมมาก”


         ภาษาอังกฤษรัวเป็นชุดและคว้ามือของปมุตไปเขย่าราวกับสนิทสนมกันมานานรวมถึงถ้อยคำที่

เข้าใจผิดทำให้ปมุตยิ้มแหยแต่ชาวีหน้าตึงเปรี๊ยะ


         “อ่า ไม่ใช่ครับ ปมุตเป็นรองแชมป์ ส่วนนี่ชาวี ได้แชมป์ครับ”


         คุณแมนรีบแก้ไขข้อมูล คิ้วสีบรอนด์เลิกสูงพร้อมกับส่ายหน้าอย่างคนระอาตัวเอง


         “โอ้มายก็อด ขออภัยที่ผมเข้าใจผิด ก็แหม คุณปมุตดูดีขนาดนี้ เอ่อ ยินดีด้วยนะครับคุณชาวี”


         มือขาวตามเชื้อชาติที่ยังกุมมือปมุตปล่อยออกอย่างอ้อยอิ่ง กว่าจะยอมเปลี่ยนจุดหมายไปจับมือ

กับชาวีที่กำลังเดือดปุดๆ อยู่ในใจ


         ไอ้ฝรั่งขี้นก ปากหมา หน้าหม้อ


         เห็นอยู่ชัดๆว่ามันพุ่งความสนใจและหลอกแต๊ะอั๋งปมุต นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องรักษาภาพพจน์เขาคงจะ

ผลักให้มันอยู่ห่างๆ  แต่ตอนนี้เท่าที่ทำได้คือฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดและออกแรงบีบที่มือจนกระดูกอีกฝ่ายแทบ

หัก


         “ขอบคุณมากครับ”


         ชะ ไอ้เด็กเมื่อวานซืน


         บีบเสียกระดูกลั่นไปหมด มองตามันก็รู้แล้วว่าคงหวงก้างที่เขาไปยุ่งกับปมุต นี่ก็คงคิดไม่ซื่อกับผู้เข้า

แข่งขันด้วยกันใช่ไหม ดวงตาสีเทาท้าทายตรงๆพลางบีบมือตอบจนอีกฝ่ายหน้าเสียไปเหมือนกันจึงได้ยอม

เลิกราปล่อยมือ


         “นี่คือคุณโนเอล”


         คุณแมนแนะนำ


         “อดีตนายแบบชื่อดังก่อนจะผันตัวเองมาเป็นโมเดลลิงอยู่ที่มิลาน ปั้นเด็กมาแล้วหลายคนบางคนก็

ก้าวไปถึงนักแสดงของฮอลลีวูด เป็นชายหนุ่มที่มากไปด้วยความสามารถ”


         “ขอบคุณสำหรับคำชื่นชมครับคุณแมน”


         หลงตัวเอง


         ชาวีนึกหมั่นไส้ใบหน้ายิ้มแย้มที่ไม่ได้ถ่อมตัวเหมือนชาวเอเชียเมื่อได้รับคำชม เขาได้แต่แอบเบ้ปาก

ไม่ให้คุณแมนเห็น แต่มือหรือจะรอดสายตาไวดุจเหยี่ยวคู่นั้นไปได้


         “ได้ข่าวว่าคุณโนเอลจะขยายกิจการมาทางเอเชียหรือครับ”


         คุณแมนถามเป็นงานเป็นการ


         “ใช่ครับ ตลาดเอเชียในตอนนี้กว้างขึ้นมาก ผมก็เลยเห็นลู่ทางและจะมาเปิดที่ประเทศไทยเป็นที่แรก

แต่ผมจะเปิดเป็นบริษัทออแกไนซ์รับจัดงานนะครับ สำหรับค่ายคุณแมนผมก็อาจจะมาใช้บริการเด็กใน

สังกัดบ่อยหน่อยเพราะเราก็รู้จักกันมานาน แล้วถ้าเห็นเด็กคนไหนหน่วยก้านดีผมก็จะส่งเสริมให้ไปไกล

กว่านี้ ว่าแล้วก็เรียนเชิญไปงานเปิดตัวบริษัทของผมวันมะรืนนี้ด้วยนะครับ แต่ เอ ผมยังขาดคิวการแสดง

อยู่อีกหนึ่งคิว ถ้ายังไงผมถือโอกาสจ้างทั้งแชมป์และรองแชมป์ไปแสดงในงานด้วยไม่ทราบว่าคิวจะว่าง

ไหม”


         “ว่างสิครับ ถ้าไม่ว่างผมก็เคลียร์ให้ว่างเพื่อคุณโนเอลได้”


         คุณแมนรีบตอบก่อนที่จะหันมาหาชาวีและปมุต


         “เตรียมตัวแสดงให้เต็มที่นะ ให้สมกับที่คุณโนเอลไว้วางใจ”











          ปมุตไม่ได้เตรียมใจมาเพื่องานราตรีสวมหน้ากากสักนิด

         เขาไม่นึกว่างานเลี้ยงเปิดตัวบริษัทออแกไนซ์จะจัดยิ่งใหญ่หรูหรายิ่งกว่างานเลี้ยงของบริษัทเขาเสีย

อีก ดีที่ว่าฝ่ายดูแลศิลปินทำการบ้านมาดีพอ และได้เตรียมหน้ากากมาให้แล้วทั้งของเขาและชาวีรวมทั้ง

เสื้อผ้าที่เขากำลังสวมใส่อยู่ ชาวีอยู่ในชุดสูทสีดำส่วนปมุตใส่สีขาวทั้งชุดรวมทั้งหน้ากากอันเล็กใช้คาดตาที่

ประดับด้วยขนนกเล็กๆโดยรอบ

         เมื่อก้าวเดินตามคุณแมนเข้าไปในงานก็ตื่นเต้นเร้าใจไปกับเสียงเพลงอึกทึก คุณแมนเดินทักทายแขก

ในงานพร้อมหนีบชาวีและเขาอยู่พักใหญ่ จนใกล้ถึงคิวแสดงฝ่ายดูแลศิลปินจึงได้พาเขาและชาวีไปเตรียม

ตัวในห้องพักด้านหลังเวที


         “งานของคุณโนเอลนี่ใหญ่จังว่ะ พี่วี”


         เขาพูดกับชาวีเมื่อได้อยู่ในห้องพักเงียบๆ เสียงดังจากภายนอกแว่วมาให้ได้ยินเป็นระยะ


         “ฮึ อวดรวยชะมัด ไอ้ฝรั่งบ้า”


         “อ้าว ไหงไปว่าเขางั้นล่ะ ไม่ชอบหน้าเขาหรือไง”


         ปมุตถามกลั้วหัวเราะอย่างชอบใจเมื่อเห็นชาวีย่นหน้า ชาวีก็เป็นเสียอย่างนี้คิดมากไปทุกเรื่อง

แม้แต่เรื่องที่โนเอลจ้องเขาตาเป็นมัน ชาวีก็เอามาบ่นตั้งแต่วันแรกจนถึงก่อนเข้างานวันนี้ด้วยซ้ำ


         “แกน่ะมันมองโลกสวยงามเกินไปไอ้ป้อง พี่ว่าอย่าไปใกล้มันเชียว ยังจะหัวเราะอีก นี่ ต้องอยู่ห่าง

มันไว้รู้ไหม พี่ไม่ไว้ใจมันเลย”


         ปมุตส่ายหน้ากับความคิดมากของชาวี


         “พี่วีนั่นแหละ คิดมากเกินไป เลิกคุยเรื่องนี้ดีกว่าผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ใกล้ถึงเวลาจะแสดงแล้ว”


         ปมุตเดินผิวปากหวือเข้าห้องน้ำที่อยู่ใกล้ห้องพัก ชายหนุ่มทำธุระล้างมือเรียบร้อยก็เดินตัวปลิว

ออกมา

         ย่นคิ้วเมื่อเห็นใครบางคนเดินเลี้ยวลับมุมตึกไปแวบๆ ร่างสูงนั้นช่างคุ้นตาจนหัวใจเต้นถี่ เขารีบก้าว

เดินตามแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงา


         บ้าชะมัด

         แกเป็นอะไรนะปมุต


         เขาก่นด่าตัวเองเมื่อเผลอคิดถึงดวงตาสีนิลคู่นั้นอีกแล้ว เหมือนที่มันเฝ้าหลอกหลอนเขามาตลอด

ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา
         








         การแสดงของเขาและชาวีผ่านพ้นไปด้วยดี มันเป็นคิวที่อยู่เกือบท้ายของช่วงงานเลี้ยง หลังจากการ

แสดงของเขาก็จะเป็นช่วงที่โนเอลขึ้นไปบนเวทีและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ตอนนี้เขาเลยมีเวลาที่จะมา

เดินเตร็ดเตร่อยู่ในงานโดยปราศจากเงาตามตัวอย่างชาวีที่กำลังถูกรุมล้อมด้วยสาวแก่แม่ม่ายในงาน

ก็ถ้าเทียบหน้าตา ดูเหมือนชาวีจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของพวกผู้หญิงมากกว่าเพราะความหล่อแบบไทยๆ

ในขณะที่ตัวเขาเองค่อนไปทางหน้าหวานคล้ายมารดาจึงไม่เป็นที่นิยมนัก

         ปมุตก้าวเดินอย่างไร้จุดหมายมาถึงใกล้ประตูทางออกจากห้องงานเลี้ยง ท่ามกลางความมืดและ

แสงไฟสลัวเขาเห็นบุรุษร่างสูงในสูทสีดำใส่หน้ากากคาดดวงตาไว้ ลมหายใจของปมุตสะดุดไปหมดเมื่อเห็น

มุมปากที่ยกยิ้มเหมือนจะส่งมาทางเขา แล้วร่างสูงนั้นก็ผลักประตูก้าวออกไปจากห้อง

         สมองไม่ทันยั้งคิดแต่ปฏิกิริยาของร่างกายกลับรวดเร็วเมื่อปมุตสืบเท้าก้าวตามไปในทันที ชายหนุ่ม

ออกมายืนคว้างอยู่กลางทางเดิน เหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นใคร เขารีบเดินแกมวิ่งออกมาจนถึงหน้าตึกที่

จัดงาน ปมุตเห็นผู้ชายคนนั้นกำลังเลี้ยวไปที่มุมตึก เท้าของปมุตก็พาเขาติดตามไป

         เมื่อเลี้ยวขวับที่มุมตึกปมุตก็ตกใจเมื่อเห็นร่างสูงนั้นยืนหันหลังพิงกำแพงรออยู่แล้ว มือใหญ่

ล้วงกระเป๋ากางเกงสบายๆ เมื่อเขาไปถึง และเมื่อได้เจอในระยะใกล้ความกล้าของปมุตก็เลือนหายทันที

         กลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อสบตาแม้ใบหน้าจะมีหน้ากากสีดำปกปิดแต่มันไม่ได้ปิดบังแววตาคมกล้าที่

เฝ้าหลอกหลอนเขาได้ ปมุตเตรียมถอยหลังหมุนตัวกลับ แต่หัวใจของเขาก็ร่วงไปอยู่ที่เท้าเมื่อต้นแขนถูกดึง

ไว้และดันให้เขาเป็นฝ่ายหันหลังชนกำแพงเสียเอง

         หัวใจเต้นตึกตักเมื่อผู้ชายตรงหน้าเลื่อนตัวเข้ามาใกล้  ยกแขนข้างหนึ่งดันกำแพงตึกไว้ แม้ว่าจะ

ไม่ได้ยึดจับตัวเขาแต่ปมุตกลับรู้สึกราวกับอยู่ในวงล้อมอันยากจะต่อกร เขาได้แต่ทำใจดีสู้เสือที่รอขย้ำด้วย

การแนบหลังติดกำแพงและเงยหน้าสบตาคู่นั้นทั้งที่เขาหวั่นไหวจนปากสั่น


         “ปละ ปล่อยผมไป”


         คิ้วเข้มเลิกสูงเมื่อได้ยิน ดวงตาคมพราวระยับ


         “ผมก็ไม่ได้จับตัวคุณไว้นี่”


         กลีบปากสีแดงเรื่อเม้มลงอย่างขัดใจ จริงอย่างที่เขาพูด ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ยึดตัวเขาไว้สักนิด มือที่เท้า

กำแพงไว้ก็มีเพียงข้างเดียว หากจะก้าวเดินไปก็ทำได้

         แต่ปมุตก็ไปไม่ได้ในเมื่อตอนนี้ขาสองข้างสั่นไปหมด


         “ตามผมมาทำไม”


         เสียงนั้นเบาจนเกือบเป็นกระซิบ แต่ปมุตกลับได้ยินชัดเจนแม้ว่าเสียงอึกทึกจากในงานเลี้ยงจะดัง

ลอดมาให้ได้ยินอยู่บ้าง คำถามนั้นเรียกเลือดมาเลี้ยงบนใบหน้าจนร้อนวูบ


         “จะบ้าหรือไง ใครตามคุณกันเล่า”


         กัดฟันโต้เสียงเบาไม่แพ้กัน ดวงตาคู่นั้นยิ่งวาววับราวกับกำลังกลั้นหัวเราะ


         ให้ตายเถอะ!

         เกลียดดวงตาพูดได้คู่นี้นักเชียว


         ปมุตนึกอยากจะให้ร่างกายสูงใหญ่ไปไกลๆ จะได้ไม่ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นราวกับกลองของเขา


         “แล้วที่เที่ยวเดินตามหาหน้าห้องน้ำก่อนร้องเพลง หรือว่า วิ่งตามมาถึงนี่ไม่ได้เรียกว่าตาม ว่างั้น”


         “ผมก็แค่…”


         แค่อะไรดีวะ ปมุตก็นึกหาเหตุผลไม่ออกเหมือนกันว่าเขาจะตามผู้ชายคนนี้ทำไม เลยได้แต่ก้มหน้า

แล้วกรอกตาไปมาเพื่อคิดคำตอบ

         ปราบเกือบจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เมื่อเห็นทีท่านั้น เขาก้มหน้ามองร่างเพรียวที่หน้าแดงก่ำยืนกัดปาก

ตัวลีบเพื่อหาคำตอบมาโต้แย้ง

         เฮ้อ เทวดาตัวน้อยของเขาก็ยังน่าเอ็นดูเหมือนเดิมแม้ว่าจะเติบโตเป็นหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆแล้วก็ตาม

ยิ่งโตก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะลิ้มลองรสชาติว่าจะหอมหวานเหมือนอดีตหรือไม่

         แค่คิดมือก็ไวจนสอดไปที่ด้านหลังแล้วเหนี่ยวร่างเพรียวนั้นเข้ามาใกล้จนเขาสูดกลิ่นหอมอ่อนๆจาก

ต้นคอระหงนั้นได้ ปมุตหน้าเหวอพลางยกมือขึ้นดันแผ่นอกของเขาแล้วพยายามผลักออก


         “เฮ้ย คุณ ปล่อยผมนะ”


         คราวนี้ยิ่งหนีไม่รอด ปมุตอยากจะกลั้นใจตาย

         เมื่อครู่พอมีลู่ทางเขาก็ยังไม่มีแรง และนี่ มืออุ่นจนร้อนวางทาบอยู่ที่แผ่นหลัง อกของเขาเบียดชิดอยู่

กับอกแกร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ปมุตกำลังตัวสั่นประดุจลูกแกะที่รอเจ้าป่าขย้ำ


         “คุณขึ้นกับสีขาวนะ ใส่ชุดนี้แล้วดูดี บริสุทธิ์ไร้เดียงสา”


         เสียงแหบพร่าดังอยู่แค่ริมหู


         “เนื้อตัวก็หอมจนอยากรู้ว่าใช้น้ำหอมยี่ห้ออะไร”


         “ปละ ปล่อย”


         เสียงของปมุตเบาหวิวเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่สัมผัสอยู่ตรงต้นคอ เมื่อมันฝังลงไปเขาก็แทบจะหมดแรง

ยืนจนร่างสูงต้องดันให้เขาพิงไปกับกำแพงอีกครั้ง

         มือแกร่งข้างหนึ่งโอบเอวกระชับ อีกข้างหนึ่งวางไปบนหน้าอกข้างซ้ายของปมุตบดเบียดปลายยอด

ผ่านเสื้อเชิ้ตเนื้อบางเบาจนมันดึงดันขึ้นมา ริมฝีปากลากไล้จากต้นคอมาที่ปลายคางเข้าใกล้เรียวปากอิ่ม


         “อย่า อย่าจูบปาก ไม่เอา”


         ปมุตวิงวอนอย่างหมดเรี่ยวแรงและพยายามจะหันหน้าหนีแต่ปราบก็ใช้จมูกโด่งของเขาบังคับให้

ใบหน้าหวานอยู่นิ่ง ก่อนที่เขาจะสัมผัสกลีบปากนุ่มด้วยปากของเขา


         อา


         ปมุตลืมเลือนทุกอย่างไปหมดแล้วแม้แต่วันเวลากับสัมผัสบางเบานั้น แค่ผู้ชายร่างสูงใหญ่

ประทับเรียวปากลงมาเบาๆ เพียงแค่เสี้ยววินาที


         “ปราบ”


         เสียงนั้นไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบแต่มันก้องกังวานอยู่ในหัวสมองของปมุต เมื่อปราบผละริม

ฝีปากออกช้าๆ แต่จมูกโด่งยังคลอเคลียอยู่แถวพวงแก้ม


         “ผมชื่อ ปราบ ปริวัตร จำชื่อผมไว้ในหัวใจคุณ ตรงนี้”


         มือที่วางแนบอยู่ตรงหน้าอกข้างซ้ายขยำเบาๆ แต่ปมุตถึงกับผวา


         “แล้วพบกันใหม่นะครับ น้องป้อง”


         จมูกโด่งกดหนักๆ สั่งลา แล้วปราบก็สบตากับปมุตอีกครั้งก่อนที่เขาจะก้าวเดินเลียบตัวตึกหายไปใน

ความมืด ทิ้งไว้แต่ปมุตที่ยังยืนพิงกำแพงอ้าปากหายใจเข้าอย่างทุรนทุราย


         ปราบ ปริวัตร

         ผู้ชายคนนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน






---------------------------------------------------- TBC------------------------------------------------------

 :-[ :-[ :-[ :-[          

สอบถามเรื่องรวมเล่ม X-theme  The series

ใครเคยอ่านแวะไปตอบโพลให้บ้างนะคะ

http://goo.gl/forms/aqLzva7wcw (http://goo.gl/forms/aqLzva7wcw)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 19-11-2014 20:18:12
กรี๊ดดดด!!!~~

พี่เด่วของนุ้งป้องเท่มากกกกก

นุ้งป้องละลายเลยทีเดียว ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 19-11-2014 20:28:21
 :-[ :-[  ปราบเดินหน้าแร้ววว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-11-2014 21:55:16
น้องป้องจำพี่เดี่ยวได้ไหมมมมมมม
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 19-11-2014 22:15:51
น้องป้องคงไม่อยากให้ใครมาทับรอยพี่เดียวใช่มั้ย ? :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-11-2014 22:33:48
โดนเข้าแระไงละ หึหึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 19-11-2014 23:10:00
 :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-11-2014 23:58:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 20-11-2014 00:28:57
พี่เด่วกับเทวดาน้อยได้จุ๊บกันอีกแล้ว :-[

อย่าร้ายกับน้องมากนะพี่เด่ว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 20-11-2014 11:55:52
15 บทรวดอ่านทันแล้ว  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 20-11-2014 13:37:57
รออ่านอย่างใจจดใจจ่อทุกวันเลย
รอตอนต่อไปนะคะ
(ตอนนี้จิ้น โนเอล กับ ชาวี จังเลย คู่นี้จะคู่กันมั้ยน๊อออ)

 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 20-11-2014 20:36:44
ป้องน่าจะจำเดี่ยวไม่ได้ แต่ใจป้องน่าจะจำเดี่ยวได้ เดี่ยววางแผนอะไร ใช้ป้องเป็นหมากเพื่อทำร้ายพ่อตัวเองหรือ แล้วไม่คิดถึงใจป้องบ้างหรือ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-11-2014 20:45:52
เริ่มแล้วสินะ
แอบจิ้นโนเอลชาวี คึคึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 20-11-2014 22:53:21
จะเปลี่ยนเป็นพี่ปราบกับน้องป้องก็คล้องจองกันดี  แต่ชอบพี่เด่ี่ยวเป็นการส่วนตัวมากกว่าอ่ะ  อาจจะเอาไว้ให้น้องป้องเรียกได้คนเดียวก็ได้นะ   :hao4:  เริ่มรุกหนักข้อขึ้นแล้ว   มาขโมยจูบที่น้องอุตส่าหถนอม  สงสัยน้องป้องคงจะตั้งรับไม่ทัน  เลยมึน ๆ เบลอ ๆ ใจเต้นแรงอยู่  หวังว่าแผนที่วางไว้จะไม่มีอุปสรรคใหญ่มขวางทางได้นะคะพี่ปราบ   :L2:


ส่วนคู่โนเอล  กับ ชาวีชักแปลก ๆ  อยากให้มีอะไรในกอไผ่จัง   o3


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 20-11-2014 23:32:44
ใจ...ละลาย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 21-11-2014 10:38:17
คำเดียว เขิน... (\\\*_*///)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 15 ( 19 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 23-11-2014 15:19:37
ชอบแนวพี่น้องที่ซู้ดดดดดดดดดดดดเลย
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 26-11-2014 14:31:21

                                                     เพลิงพ่าย

                                                      บทที่ 16
 

        “ไอ้ฝรั่งบ้านี่มันหลงตัวเองชะมัด เวลายืนอยู่บนเวทีนี่ก็แอคอาทโอเวอร์ ไม่รู้ว่ามันไปรวยมาจากไหน

นี่ป้องรู้ไหม มันบอกกับคุณแมนว่าจะให้เราสองคนไปถ่ายแบบเพื่อส่งรูปไปที่อิตาลีด้วยนะ เฮอะ หมั่นไส้

แม่งว่ะ”


         เสียงบ่นของชาวีที่นั่งอยู่ด้านข้างในรถตู้ของบริษัทผ่านหูของเขาไปอย่างที่ไม่ทันได้ใส่ใจฟังนักเมื่อ

ปมุตเอาแต่ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างรถและครุ่นคิดอย่างนึกเจ็บใจ

         ปลายนิ้วถูกยกขึ้นมาไล้กลีบปากตนเองอย่างเผลอไผล พลันใจก็เต้นรัวราวกับสัมผัสใกล้ชิดจากคน

แสนผยองเพิ่งจะละออกไปเพียงวินาทีที่ผ่านมาทั้งที่ความเป็นจริงมันผ่านไปนานนับชั่วโมงกว่าที่เขาจะทำ

จิตใจให้คืนสู่สภาพเดิมแล้วเดินใจลอยกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง

         ไม่เคยมีใครที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้ ผู้ชายคนนั้นเป็นคนแรก

         ตั้งแต่ปมุตจำความได้และโตเป็นหนุ่มพอที่จะเข้าใจเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ ยอมรับว่าตนเองก็

เนื้อหอมตั้งแต่แตกวัยหนุ่มในรั้วโรงเรียนมัธยม มีเด็กสาวหลายคนชะม้ายชายตาและทอดกายให้ ซึ่ง

บ่อยครั้งที่ปมุตสนองเพราะตัวเขาเองก็ต้องการปลดปล่อยตามประสาชายหนุ่ม แต่มีสิ่งหนึ่งในบทรักที่

ปมุตไม่ยินยอมที่จะกระทำกับผู้ใดนั่นคือเขาไม่ชอบให้ใครมาเป็นฝ่ายแตะต้องริมฝีปากของเขา ซึ่งปมุตก็ยัง

ไม่เข้าใจตนเอง

         เล้าโลมได้ ใช้ปากโลมไล้ขบเม้มปทุมถันอวบอิ่มของสาวแรกรุ่นได้ หรือแม้แต่จะใช้ปลายชิวหาสร้าง

ความรัญจวนให้คู่นอนก็ทำได้ แต่เขากลับไม่ให้ใครมาจูบปาก หากใครดื้อดึงปมุตจะหมดอารมณ์และไล่

ตะเพิดไปหมด ปมุตเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะเก็บมันไว้เพื่อใคร จนกระทั่งเขาพบกับ ปราบ ปริวัตร!

         เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาเท่านั้น

         มันกลับสร้างความหวามไหวอยู่ในใจอย่างเหลือเชื่อ

         ปมุตไม่ใช่เกย์ เขาไม่ได้ชอบผู้ชาย

         แต่เมื่อสบตาคมปลาบของคนตัวสูงกว่ายามก้มมามองด้วยนัยน์ตาพราวระยับมันกลับทำให้หัวใจ

ระส่ำระสาย

         ปมุตไม่รู้ว่า ปราบ ปริวัตรเป็นใคร

         รู้เพียงอย่างเดียวว่าผู้ชายคนนี้อันตราย!

         สมควรที่เขาจะหลีกหนีให้ห่างไว้ อย่าเข้าใกล้เด็ดขาด

         ปมุตคิดวนกลับไปกลับมาแม้ว่าจะกลับถึงบริษัทและขับรถญี่ปุ่นของตัวเองกลับมาถึงบ้านแล้วก็ตาม

เมื่อก้าวเข้าไปในเขตด้านในตัวบ้านที่แสนจะกว้างขวางเกินจำเป็นสำหรับเขา เสียงเอะอะเอ็ดตะโรดังลั่น

เรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ทันที


         “คุณเคยให้ฉันเดือนละแสนแต่นี่มันมีแค่ห้าหมื่น มันหมายความว่าไงคุณปัญญา”


         “ก็หมายความว่ากูไม่มีเงินให้มึงไถแล้วไง อย่าถามมากได้ไหม วันๆงอมืองอตีนรอรับเงินจากผัว

ได้แค่นี้ก็คุ้มแล้ว”


         ปมุตถอนหายใจกับสิ่งที่เขาเห็นจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว นายปัญญากับรัศมีแม่ของเขา

มักจะทะเลาะกันบ่อยครั้งในระยะหลัง มันบ่อยจนแม้แต่คนรับใช้ภายในบ้านยังเอือมระอา


         “แล้วคุณเอาเงินไปทำอะไรหมด อย่าบอกนะว่าเอาไปถลุงในบ่อนหมดน่ะ”

 
       “แล้วจะทำไม อย่างน้อยมันก็ยังได้คืนมาบ้างล่ะน่า ไม่เหมือนเธอหรอกงานการไม่ทำเอาเงินไปเสริม

สวยแทนที่จะเก็บไว้บ้าง”


         “ก็ถ้าฉันคิดจะทำงาน ฉันจะมาเป็นเมียไอ้แก่อย่างคุณให้เปลืองตัวทำไม”

   
       “แม่ครับ”


          ปมุตรีบขัดเมื่อเห็นรัศมีแว้ดขึ้นมาอย่างเหลืออด เขากลัวเรื่องจะใหญ่โตลุกลามมากขึ้นเมื่อเห็นบิดา

เริ่มเดือดแล้วเหมือนกัน


         “อย่าทะเลาะกันเลยเรื่องแค่นี้เอง วันนี้ผมไปงานอิเวนท์ได้เงินมาห้าหมื่นแม่เอาไปก่อนก็ได้”


         ปมุตหยิบเงินจากกระเป๋าที่สะพายเฉียงอยู่ข้างตัวส่งให้มารดา แต่ในปัญญากลับคว้าหมับไปจากมือ

ทันที


         “ฮะฮะ เป็นนักร้องนี่มันหาเงินง่ายดีนะ เก่งมากป้องลูกพ่อ ยังไงพ่อขอไปเป็นทุนก่อนนะคืนนี้เจ้ามือ

กระเป๋าหนักเสียด้วย”


         รัศมีกรีดร้องดังลั่นพลางพุ่งตัวเข้าไปหานายปัญญาที่อายุล่วงเข้าวัยห้าสิบ เข้าสู่วัยชราด้วยรูปร่าง

อ้วนท้วนเพราะขาดการดูแลตนเอง


         “อย่าเอาไป เงินนั่นลูกมันให้ฉันนะ เอาเงินมานี่”


         ปัญญาไม่สนใจ เขาผลักรัศมีจนล้มลงแล้วจ้ำอ้าวไปที่รถยนต์ของเขา ไม่นานนักเสียงเครื่องยนต์ก็

แล่นออกไปจากบ้านทิ้งให้รัศมีเจ็บใจ


         “แม่ ไม่เป็นไรนะ”


         ปมุตเข้าไปประคองมารดาให้ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟา รัศมีป้ายน้ำตาด้วยความโกรธแค้น


         “ดูพ่อแกทำสิป้อง เลวแค่ไหน เอาแต่เล่นการพนันทั้งวันทั้งคืน คอยดูเหอะจะหมดตัวเข้าสักวัน”


         ปมุตถอนหายใจออกมาอย่างกลัดกลุ้มกับเรื่องในครอบครัวของตนเอง


         “ปล่อยพ่อเขาไปก่อนนะแม่ เดี๋ยวป้องจะคอยเตือนๆพ่อเขาเอง ดึกแล้ว แม่ขึ้นไปนอนเถอะ ป้องเองก็

จะพักด้วย เดี๋ยวพรุ่งนี้ป้องต้องไปถ่ายแบบแต่เช้า”


         ปมุตจูงมือมารดาไปส่งถึงในห้องก่อนที่จะเดินไปห้องตัวเองอาบน้ำชำระร่างกายและล้มตัวลงนอน

อย่างเหน็ดเหนื่อยโดยไม่รู้เลยว่ารัศมีแอบออกไปนอกบ้านกลางดึกแล้วขึ้นแท็กซี่ไปเพียงลำพัง


         แสงสีพร่างพราวส่องวูบวาบท่ามกลางความมืดสลัวของบรรยากาศและเสียงเพลงดังปลุกเร้า

อารมณ์ของหล่อนได้เป็นอย่างดีสำหรับสาวใหญ่วัยเกือบสี่สิบที่ยังรักษาสภาพร่างกายตนเองไว้อย่างสุด

ความสามารถ รัศมีละเลียดเครื่องดึ่มสีสวยในแก้วบางใสพลางจับตามาองบริกรหนุ่มที่แต่งตัวน้อยชิ้นโชว์

กล้ามเนื้อเป็นลอนยั่วน้ำลายที่เดินผ่านไปมา

         ไม่นานนักหล่อนก็กวักมือเรียกมาคนหนึ่ง สองแขนของหล่อนเหนี่ยวคอสูงให้โน้มลงมาบดจูบอย่าง

เร่าร้อนโดยไม่นึกอาย เพราะเป็นเรื่องปกติของคลับเฉพาะที่หล่อนมาใช้บริการอยู่บ่อยครั้ง ชายหนุ่มรุ่นลูก

ปรนจูบให้ไม่ยั้ง จนพาลูกค้าสาวใหญ่เดินตามเข้าไปด้านหลังของร้านที่จัดเป็นห้องเล็กๆ อำนวยความ

สะดวกไว้หลายห้อง

         ทำอย่างไรได้ล่ะ ก็รัศมียังมีเลือดเนื้อมีอารมณ์รัญจวนที่ต้องการถ่ายถอนแต่สามีที่อายุน้อยกว่าแม่

ไม่กี่ปีให้ความสุขกับหล่อนไม่ได้ รัศมีก็ต้องหาทางปรนเปรอตนเองบ้าง หล่อนหอบหายใจหนักเมื่อทิ้งตัวลง

ไปบนเตียงกว้างท่ามกลางห้องเล็กที่บุผนังด้วยกระจกสะท้อนทุกด้าน เสียงเพลงคลอเบาและฤทธิ์

แอลกอฮอล์ทำให้ไฟพิสวาสยิ่งจุดติดง่ายเมื่อชายหนุ่มกลางคืนที่ไม่รู้จักชื่อด้วยซ้ำโถมร่างเข้าหา

เพียงแค่นั้นรัศมีก็เลิกสนใจอย่างอื่น แม้ว่าด้านข้างของผนังด้านหนึ่งจะมีดวงไฟเล็กๆ กะพริบส่องแสงอย่าง

ผิดสังเกต







         ปัญญาหน้าซีดเผือดเมื่อเงินที่กำอยู่ในมือก้อนสุดท้ายหมดลงในยามใกล้รุ่ง หนี้เก่าของบ่อนนี้ยังใช้

ไม่หมดหนี้ใหม่ก็เกิดขึ้นทันที เขากำลังคิดว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายเพราะหุ้นที่มีในบริษัทเขาก็แอบทยอย

ขายจนเกือบหมดแล้ว

         คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก แต่ตอนนี้เขาควรจะเอาตัวให้รอดโดยการออกไปจากที่นี่ก่อนที่เสี่ยเดชา

เจ้าของบ่อนจะรู้ว่าเขาหมดตัวแล้ว ปัญญาผละออกจากวงพนันที่ผู้คนยังล้นหลามแล้วเดินตัวลีบจากไป

อย่างเงียบเชียบที่สุด แต่ก็ยังไม่พ้นสายตาชายฉกรรจ์สูงใหญ่หน้าเหี้ยมที่โผล่พรวดเข้ามาหิ้วปีกเขาไปที่ชั้น

ลอยซึ่งเป็นที่อยู่ของเสี่ยเดชาที่กำลังนั่งสูบไปป์พ่นควันอย่างอารมณ์ดี

         เสี่ยเดชาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นสภาพนักธุรกิจที่เคยรุ่งเรืองถูกบังคับให้นั่งคอตกเผชิญหน้ากับเขา มี

เพียงโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่กั้นกลางไว้ แม้ภายในห้องจะเย็นฉ่ำแต่ปัญญากลับเหงื่อตก


         “ทำไม่รีบกลับล่ะครับคุณปัญญา วันนี้ไม่สนุกหรือไง”


         ปัญญากลืนน้ำลายเหนียวหนับลงคอ


         “เอ่อ สนุกเหมือนเคยล่ะครับเสี่ย แต่คือ ทุนของผมมันร่อยหรอน่ะครับ”


         เสี่ยเดชาเลิกคิ้วขึ้นพลางยิ้มขบขัน


         “อ้าว ผมก็เติมทุนให้แล้ว ยังไม่พอถอนคืนหรือครับ ห้าล้านของเก่ากับอีกหนึ่งล้านคืนนี้ไม่พอเป็นทุน

ให้คุณปัญญาเลยหรือ”


         ปัญญาอยากจะร้องไห้กับรอยยิ้มอย่างรู้ทันของเสี่ยเดชาและร้องไห้ให้กับตัวเองด้วย หกล้านที่นี่ยัง

ไม่รวมหนี้ที่ไปก่อไว้ในคาสิโนประเทศเพื่อนบ้านที่กว่าจะกลับมาได้เขาก็เสียหุ้นในมือไปมากโข


         “ผมอยากจะขอความกรุณาเสี่ย”


         ปัญญาทิ้งศักดิ์ศรีลงแล้วยกมือไหว้


         “ทุนผมหมดแล้วจริงๆ ครับ ขอเวลาผมไปหามาใช้คืนสักหน่อย”


         เสี่ยเดชาไม่ตอบ เขาพ่นควันยาสูบออกมายาวนาน ยิ่งทำให้ปัญญากลัวจนขึ้นสมอง


         “ผมก็เห็นใจนะ ผมรู้ว่าคุณไม่ผิดคำพูดหรอก แต่เงินก็คือเงินยืมไปก็ต้องเอาคืน นี่ผมยังไม่ได้พูดถึง

ดอกเบี้ยด้วยซ้ำ”


         ปัญญาสะดุ้งเมื่อนึกถึงหนี้บานเบอะ เขารู้ดีว่าดอกเบี้ยมันหฤโหดแค่ไหน


         “นี่ดีนะครับที่ผมได้เจ้าของทุนรายใหม่ที่แสนจะกระเป๋าหนักและใจดี ผมเลยยังปล่อยคุณปัญญาไป

ได้ และเจ้าของทุนผมน่ะ เขาเห็นคุณเป็นลูกค้าวีไอพีก็เลยจะให้ทุนอีกสักก้อน”


         “จะ จริงหรือครับ”


         ปัญญาตาลุกวาบเมื่อได้ยิน ช่างเป็นข่าวดีเหลือเกิน       


         “มะรืนนี้เราจะจัดบ่อนเคลื่อนที่บนเรือท่องเที่ยวในอ่าวไทยสองวันสองคืน เจ้าของทุนพร้อมจะให้เงิน

คุณอีกห้าล้านขอเพียงคุณมีของมาค้ำประกันให้บ้าง”


         ปัญญาใจแป้ว


         “แล้วผมจะเอาอะไรมาค้ำประกันล่ะครับ”


         เสี่ยเดชาพ่นควันใส่หน้าอีกรอบ


         “บ้านหลังใหญ่พร้อมที่ดินกว้างขวางก็ค้ำประกันได้นะ ถ้าคุณอยากไปท่องเที่ยวกับเรา”


         มืออูมหนาของเสี่ยเดชายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาตรงหน้าปัญญา


         “แค่ตัดสินใจเซ็นสัญญากู้เงินฉบับใหม่ตอนนี้ อีกสองวันที่ท่าเรือคุณเอาเงินไปท่องเที่ยวกับเราได้

เลย”


         ปราบมองเห็นแผ่นหลังค้อมของบิดาเดินกลับออกไป

         ยิ้มเยาะตามแผ่นหลังนั้น ทั้งที่ไม่ได้พบหน้ากันสิบกว่าปีแต่เมื่อเขาได้ยินการสนทนาผ่านโทรศัพท์ที่

เสี่ยเดชาเปิดไว้บนโต๊ะเพื่อให้เขาที่อยู่ในห้องถัดไปได้ยิน เขากลับไม่นึกยินดีที่ได้พบชายคนที่ได้ชื่อว่าเป็น

บิดาสักนิด

         มีแต่ความหยามหยันในความมักมากในอบายมุขจนยิ่งนึกรังเกียจ สมบัติที่คุณตาและแม่เพียรหามา

ต้องถูกทำลายจากคนที่ไว้ใจที่สุด

         ปราบยิ้มให้กับเสี่ยเดชาที่ท่าทีเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเขาก้าวเข้าไปในห้อง เมื่อกลายเป็นความ

เกรงอกเกรงใจขึ้นมาทันที


         “เรียบร้อยแล้วครับคุณปราบ ของที่อยากได้”


         เดชายื่นสัญญาเงินกู้ที่บิดารีบเซ็นโดยไม่อ่านรายละเอียดมาให้ ปราบรับมาพลางค้อมศีรษะให้เดชา


         “ขอบคุณสำหรับความร่วมมือนะครับ”


         “โอย ไม่เป็นไรมิได้ สำหรับคุณปราบที่เคยทำงานกับมิสเตอร์แลงดาจิโอ แค่บอกมาคำเดียวเท่านั้น

ว่าต้องการอะไร”


         เดชาพินอบพิเทา

         สายตาคมเยาะหยันกับตัวเอง


         “ตอนนี้ผมต้องการเพียงอย่างเดียว ขอให้ผมได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้เมื่อนายปัญญากลับมาจาก

ท่องเรือสำราญ”







มีต่ออีกนิด

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 26-11-2014 14:37:43
มีต่ออีกหน่อย



บอกกับเดชาแล้วจึงขอตัวลากลับ เขาเดินออกมาจากบ่อนใหญ่กลางกรุงมาที่รถสปอร์ตของตัวเอง

เมื่อก้าวไปนั่งแล้วจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือราคาแพงออกมาเมื่อได้รับสัญญานเตือน

         ภาพคลิปร่วมรักของรัศมีแม่เลี้ยงกับชายขายบริการที่ถูกแอบถ่ายสดๆ ร้อนๆ แสดงอยู่หน้าจอ

ปราบยิ่งนึกหยันเมื่อได้รับผลงานที่เขาจ้างไว้อีกหนึ่งชิ้น

         นึกรังเกียจเมื่อเห็นสิ่งสกปรกที่บิดาพาเข้าบ้าน ปราบไม่นึกเสียใจในสิ่งที่ตนเองกำลังทำตอนนี้และ

ต่อไปสักนิด

         คนเลวก็ต้องเจอกับคนที่เลวกว่าจึงจะสาสม







         ชนัยกำลังเดินออกมาจากสิฟท์และเข้าไปขอพบผู้บริหารของอินไฟไนท์อินดัสเตรียลกับเลขาหน้า

ห้องอย่างที่เขาเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่นายพิชัยบิดาของเขากำชับนักหนา

         เขาไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้พิชัยลุกขึ้นมาติดต่อกับผู้ถือหุ้นรายย่อยของธุรกิจตระกูลอนันตกุลที่

สำนักงานทนายความที่เขาเข้ามาทำงานแทนบิดาดูแลเรื่องกฏหมายให้ แล้วบอกให้ชนัยมาเป็นธุระเรื่อง

การซื้อขายแลกเปลี่ยนหุ้นที่บรรดาผู้ถือหุ้นต่างพากันขายโอนกรรมสิทธ์มาให้นายปราบ ปริวัตรคนนี้

         ปราบ ปริวัตร เท่าที่เขารู้จักในหน้าอินเตอร์เน็ตหรือสิ่งพิมพ์ด้านธุรกิจ ก็เป็นแค่นักธุรกิจรุ่นใหม่

ไฟแรงบริหารงานจนคว้ารางวัลมาได้เท่านั้น ชนัยไม่รู้ว่าทำไมพ่อของเขาถึงได้ไปรู้จักมักจี่และกระตือรือล้น

ในการซื้อขายหุ้นได้ขนาดนี้

         แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถือหุ้นที่พากันชราลงแล้ว ชนัยไม่มีความจำเป็นต้องก้าวก่าย เขาแค่ทำตาม

หน้าที่ เขาเดินตามเลขาหน้าห้องเข้าไปในห้องทำงานกว้างขวางตกแต่งอย่างมีรสนิยมเพื่อไปหาเจ้าของ

ห้องที่ยืนเด่นอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่ยิ้มต้อนรับ


         คุณพระ!


         ชนัยใจสั่นทันทีเมื่อเห็นใบหน้าและรอยยิ้มของปราบ ปริวัตร ชัดๆกับตา

         เสน่ห์เหลือล้นกระแทกใจของเขาดังปัง

         ใช่ ชนัยเป็นเกย์

         มันเป็นความลับที่ต้องปกปิดโดยเฉพาะกับบิดาว่าเขาไม่เคยพิสมัยเพศตรงข้ามเลยสักนิด นี่เป็น

สาเหตุว่าทำไมเขาจึงยังไม่เคยพาผู้หญิงไปบ้าน

         และผู้ชายในอุดมคติของชนัยก็คือผู้ชายอย่างปราบ ปริวัตรนี่แหละ




---------------------------------------------- TBC ----------------------------------------------


ท้ายเรื่องเปิดตัวละครคนใหม่อีกคนหนึ่งนะคะ ชนัย แล้วมาคอยดูว่าจะมีบทบาทอะไรในเรื่องกันนะ




ประกาศจากเรื่อง X-Theme the series เรื่องสั้นนี้มีไว้ X

ของผู้แต่งอีกเรื่องหนึ่งที่ปิดซีซั่นไปแล้วซึ่งประกอบด้วยเรื่องสั้นหลากรสสุด X ถึง 7 เรื่อง

ผู้แต่งกำลังจะรวมเล่มค่ะ ตอนนี้กำลังทำเรื่องของ ID ซื้อขายจากเล้าอยู่

และกำลังจะแต่งบทพิเศษของเรื่อง “ผมกำลังจะกลับบ้าน” ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้อ่านโหวตว่าชอบที่สุด

ให้เป็นของสมนาคุณในการรวมเล่ม

ใครที่ยังไม่เคยอ่าน ลองเข้าไปอ่านได้ในลิงค์นี้


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)

และถ้าถูกใจช่วยไปกดโพลแบบสอบถามการรวมเล่มที่นี่ เพื่อให้ผู้แต่งทราบยอดด้วยค่ะ


http://goo.gl/forms/pPSuwBzdLt (http://goo.gl/forms/pPSuwBzdLt)


ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 26-11-2014 15:04:16
พ่อที่มันเลวมันชั่วไม่เปลี่ยนจริงๆ นับวันก็ยิ่งเลวไม่ควรค่าแก่การเคารพเลยจริงๆ
อยากให้ปราบได้เอาคืนเร็วๆแล้วเปิดตัวไปเลยว่าตัวเองเป็นใคร ตอกหน้ามันให้งายเงิบไปเลย
จะรอสะใจและรอสมน้ำหน้ามันหลังจากที่เฝ้ารอมานาน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 26-11-2014 15:24:15
 :o12:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 26-11-2014 15:48:59
พ่อปราบจะทำไง ถ้ากลับมาบ้านก็ไม่มีแล้ว  :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 26-11-2014 19:35:52
สงสารก็แต่ป้องนะ ทั้งพ่อ ทั้งแม่ไม่ไหวจะเคลียร์ทั้งคู่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 26-11-2014 20:25:57
ได้เวลาเอาคืนแระ เราว่าคนที่เจ็บจริงๆน่าจะเป็นปราบนะ
สงสารปราปอะ ไม่แปลกเลยที่ปราบทำแบบนี้ เชียร์ปราบ
เลวให้สุดขั้ว ชั่วให้สุดขีดไปเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 26-11-2014 20:40:13
โอ้ยย สงสารน้องป้องจัง
ว่าแต่ชนัย คนนี้ต้องจับตามองสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 26-11-2014 21:08:00
 :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 26-11-2014 21:32:38
ป้องรับกรรมคนเดียวเลยค่ะะ   :o12:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแมวหลงทาง ที่ 26-11-2014 22:08:00
เจ็บใจแทนปราบจริงๆ สมบัติของตัวเองมาโดนคนใกล้ตัวผลาญซะหมดเกลี้ยงเพราะการพนันตัวเดียว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 26-11-2014 23:27:35
 :katai1:  นางเป็นใครอีกล่ะเนี่ย  มาหลงรักคุณปราบซะงั้น   น้องป้องจะมีคู่แข่งแบบไม่รู้ตัวซะแล้ว   :m29: 


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 27-11-2014 03:00:48
โอเย้ มีคุณทนายมาขัดเพิ่มอีกล่ะ

จะเป็นไงต่อน้าาาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 27-11-2014 03:18:37
มันจะเปงไงละเนี่ย ดูแรงๆกันทั้งน้านน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-11-2014 13:45:20
ชนัยน่าสนใจ~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-11-2014 18:15:20
มองแต่ตานะคะคุณชนัยมือไม่ต้องต้อง
เก็บไว้ให้น้องป้องคนเดียวค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 27-11-2014 19:17:26
กรรมตกอยู่ที่ป้องทั้งนั้นเลย ครอบครัวก็ร้าวฉานทำงานมาเพื่อปรนเปรอคนไม่รู้จักพอ

ชนัยนี่ท่าทางจะมีบทบาทสำคัญ  :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 28-11-2014 09:30:20
 :impress2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 16 ( 26 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 29-11-2014 05:02:08

ปราบ-ป้อง , ชนัย  อืมมมม รอติดตาม

ปราบจะร้อยชนัยไว้ใช้สินะ  :ruready
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-11-2014 22:55:45

                                                   เพลิงพ่าย

                                                    บทที่ 17


         “เรียบร้อยแล้วครับคุณปราบ ตอนนี้หุ้นในบริษัทสามสิบเปอร์เซ็นต์เป็นของคุณปราบแล้ว”


         หนังสือเอกสารโอนหุ้นฉบับหนึ่งถูกส่งคืนให้ปราบหลังจากที่ชนัยอ่านตรวจทานจบลง ปราบรับมัน

มาและยิ้มให้กับชายหนุ่มที่น่าจะอายุไล่เลี่ยกันที่นั่งอยู่ตรงกันข้าม บุตรชายของทนายพิชัยท่าทางไม่เลว

เลย ชายหนุ่มที่ชื่อชนัยดูละเอียดลออสมกับที่ทำงานด้านกฎหมาย หน้าตาเป็นมิตรกับรอยยิ้มบนใบหน้า

ตลอดเวลาที่ให้เขาเซ็นรับการโอนหุ้นทำให้ปราบอดที่จะยิ้มตอบไม่ได้


         “เสร็จธุระแล้ว เอ่อ หากผมจะขอเบอร์ติดต่อกับคุณปราบ”


         “ไม่มีปัญหาครับ”


         ปราบดึงนามบัตรออกมาจากกล่องบรรจุที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งบนโต๊ะแล้วส่งให้ชนัย


         “ขอบคุณที่ช่วยดำเนินการเรื่องทั้งหมดนะครับคุณชนัย”


         ปราบลุกขึ้นยืนและยื่นมือหนาออกไป ชนัยรีบลุกขึ้นตามและยื่นมือมาจับกระชับมือของปราบ

ดวงตาที่ทอดมองดูล้ำลึกจนปราบสะกิดใจ

         เขาอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ปราบรีบสลัดความคิดนั้นทิ้ง


         “ไม่เป็นไรครับคุณปราบ ด้วยความยินดี แล้วผมจะติดต่อกลับมาหาคุณ”


         ชนัยปล่อยมือออกช้าๆก่อนที่เขาจะค้อมศีรษะเป็นการอำลาแล้วหันหลังเดินไปทางประตู ปราบก้าว

เดินไปเปิดประตูให้จนกระทั่งชนัยกลับออกไปแล้ว เขาจึงได้ปิดประตูลงและเดินกลับมานั่งบนเก้าอี้หนังเนื้อ

ดีพลางยกยิ้มเมื่อสิ่งที่วาดหวังสำเร็จไปอีกขั้น

         เปิดลิ้นชักโต๊ะแล้วหยิบเอกสารอีกชุดขึ้นมาวางเคียงคู่กับใบโอนหุ้น มันคือเอกสารที่บอกว่าเขาได้รับ

กรรมสิทธิ์จากการซื้อหุ้นต่อจากมิสเตอร์โฮ เจ้าของคาสิโนรายใหญ่ในประเทศเพื่อนบ้านและเมื่อรวมกับอีก

สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ได้มาเมื่อสักครู่ กลับกลายเป็นว่าปราบคือคนที่ถือหุ้นถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ของบริษัท

ในเครืออนันตกุล

         เหลืออีกแค่ชิ้นเดียวที่เขาต้องการกลับคืน บ้านหลังนั้นของมารดา ที่เขากำลังรอคอย

         นัยน์ตากร้าววาววับเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการทวงคืนแม้ว่าจะเสียกำลังทรัพย์ไปจำนวนมาก เขาไม่นึก

เสียดายเลยสักนิด เหลืออีกเพียงอย่างเดียวที่เขาต้องการครอบครอง ปราบกำลังนึกถึงเจ้าของใบหน้า

งดงามราวกับรูปสลักที่เขาไม่ได้พบเจอมาเกือบสองเดือนตั้งแต่วันที่ไปแนะนำตัวและทำความรู้จักกัน

เล็กๆน้อยๆ

         ดวงตาคมอ่อนแสงลงเล็กน้อยเมื่อคิดถึงใบหน้าที่ตระหนกสุดขีดเพียงแค่เขาทักทายไปเบาๆ

กลีบปากแดงเรื่อนั้นยังนุ่มจนเกือบจะห้ามใจไม่อยู่เหมือนกัน แต่ปราบก็ต้องยับยั้งชั่งใจตัวเองจนทำแค่

เพียงแตะต้องบางเบา

         ปราบรอได้ ก็รอมานานแล้วจะรออีกสักนิดจะเป็นไรไป ระหว่างนี้ก็ฝากให้โนเอลดูแลไปก่อน

         ว่าแล้วก็คิดถึงเพื่อนสนิทหน้าหล่อขึ้นมาจนต้องคว้าโทรศัพท์โทรไปหา รออยู่ไม่นานปลายสาย

ก็ตอบรับ


         “ฟัค!”


         ปราบหัวเราะเบาๆ กับคำทักทายห้วนสั้นได้ใจความจากโนเอล


         “จะฟัคใคร”


         “ไม่ใช่กับมึงก็แล้วกันไอ้ปราบ ไอ้เพื่อนเลว เอางานมาให้กูทำแล้วก็หายหัวไปเลย”


         ภาษาไทยพ่นรัวมาจากโนเอล แม้จะแปร่งไปบ้างแต่ก็ยังฟังได้ชัดเจนโดยเฉพาะคำด่านั้น

ชัดเจนสุดๆเพราะเขากับโมกข์สอนภาษาไทยให้โนเอลตั้งแต่ยังอยู่บ้านเดียวกัน


         “ไอ้ฝรั่งขี้นก นี่มึงบอกใครเขาหรือเปล่าว่ามึงพูดไทยได้ฟังไทยออกเนี่ย”


         “เปล่า”


         ปราบนึกภาพฝรั่งผมทองหน้าตาหล่อเหลากำลังยักไหล่ทั้งสองข้างออกแจ่มชัด


         “บอกทำไม ถ้าบอกก็ไม่รู้อะไรดีๆสิ ว่าไอ้แมวที่หวงปลากระป๋องของมึงที่ฝากกูไว้น่ะ

มันแอบด่าอะไรกูบ้าง”


         ปราบเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ


         “นี่ยังไม่เลิกเถียงกันอีกหรือกับหมอนั่น”


         “เลิกห่าอะไร แม่ง ด่ากันทุกวัน มึงรู้ไหมมันคิดว่ากูไปชอบน้องป้องของมึงจนได้แต่คอยกั้นท่ากู

ตลอด”


         โนเอลพูดถึงชาวีอย่างหัวเสีย ปราบนึกขำเพื่อนอยู่เหมือนกันแต่เขารู้ว่าโนเอลรับมือได้อยู่แล้ว


         “แล้วนี่ป้องเป็นไงบ้าง”


         ปราบถามเสียงอ่อนลงเมื่อกล่าวถึงปมุต


         “ก็ดังน่ะสิวะ มึงไปแหกตาดูอันดับเพลงฮิตบ้างนะไอ้ปราบ ว่าฝีมือกูน่ะระดับไหน

น้องมึงน่ะขึ้นชาร์ทอันดับหนึ่งมาเกือบเดือนแล้วนะ”


         “อ้าว แล้วชาวีที่ได้แชมป์ล่ะ น่าจะได้อันดับหนึ่งไม่ใช่หรือไง”


         “ช่างแม่งสิ ไอ้เด็กปากเสีย เออ กูยอมรับว่ามันเสียงดีร้องเพลงเพราะ มันก็ดังเพราะฝีมือล่ะนะ

แต่บังเอิญกูช่วยน้องมึงอยู่ไง ไอ้เด็กปากหมามันเลยได้แค่อันดับที่สองถึงมันจะเป็นแชมป์ก็เถอะ”


         โนเอลหัวเราะอย่างสะใจ ปราบได้แต่ส่ายหน้ากับเพื่อนตัวเอง


         “เออ ระวังไว้เหอะ ด่ามากๆ อย่าได้ไปเผลอปล้ำเด็กมันเชียว”


         “ไอ้ปราบ ไอ้นรก”


         โนเอลโวยวาย


         “คนอย่างกูปล้ำได้แต่สาวอกบึ้มเท่านั้นโว้ย กูไม่ชอบตัวผู้ไร้นม ไม่มีทางที่กูจะเผลอหรอก

ถ้ากูเผลอกูจะยอมให้มันเป็นฝ่ายปล้ำเลยเอ้า”


         พูดจบโนเอลจึงกดวางหูแล้วแยกเขี้ยวใส่โทรศัพท์ราวกับมันเป็นตัวแทนของปราบ ที่ขอร้องให้เขามา

ช่วยที่ประเทศไทย อันที่จริงโนเอลก็อยากมาเปิดธุรกิจที่นี่อยู่แล้วและเมื่อเพื่อนสนิทขอร้องโนเอลจึงไม่

ปฏิเสธ งานที่ว่าคือช่วยดูแลและทำให้ปมุตมีชื่อเสียง

         มันเป็นงานที่ง่ายราวกับปอกกล้วยเข้าปาก แค่ดันนักร้องหน้าใหม่ให้ไปยืนแถวหน้าในประเทศเล็กๆ

ก็โนเอลน่ะผ่านงานระดับใหญ่กว่านี้มาแล้ว เพียงแต่ว่างานนี้จะให้ปมุตหรือคนอื่นรู้ไม่ได้ว่ามีปราบอยู่

เบื้องหลัง แต่ที่โนเอลไม่ชอบใจคือการที่จะป้อนงานให้ปมุตกลับต้องมีไอ้เด็กปากเสียอย่างชาวีพ่วงมาด้วย

เกือบทุกงาน แม้ว่าต้องการช่วยปมุตเพียงคนเดียวแต่เพราะตลาดในตอนนี้คู่จิ้นชาวีกับปมุตนั้นยังขายได้

อยู่โนเอลจึงจำใจต้องจ้างชาวีมาคู่กันทั้งที่เขานึกเกลียดปากไอ้หมอนี่ที่สุด

         ข้อได้เปรียบของโนเอลคือเขาฟังภาษาไทยออกและพูดไทยได้โดยที่ไม่มีใครรู้ เวลาที่ชาวีพูดถึงเขา

เวลาอยู่กับปมุต โนเอลจึงรู้ทุกอย่างแต่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้ทั้งที่ในใจเดือดดาลเป็นที่สุด หากงานของปราบ

จบลงเมื่อไหร่ เขาจะไม่ขออยู่ใกล้ๆไอ้เด็กปากเสียนี่อีกเลย สาบาน!



         เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า โนเอลปั้นหน้าฉีกยิ้มก้าวกลับเข้าไปในสตูดิโอที่กำลังถ่ายรูปลงปกหนังสือ

เขาจ้องมองไปยังนายแบบสองคนที่กำลังโพสท่าอยู่บนเก้าอี้โซฟากลางแสงไฟ ปมุตที่ปราบฝากไว้ในการ

ดูแลกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่กลางโซฟาในขณะที่ชาวียืนอยู่ด้านหลังและโน้มใบหน้าลงมาชิดใกล้กับปมุต


         หล่อ!


         ถ้าไม่ได้ใช้อคติมองชาวี เด็กบ้านี่ถึงจะเป็นคนเอเชียแต่รูปร่างกลับสูงพอๆ กับเขา โนเอลไล่สายตา

มองตั้งแต่ใบหน้าคมเข้มอย่างคนไทยแท้ๆ และหุ่นฟิตเฟิร์มอย่างคนเล่นกล้าม ไม่แปลกใจที่ชาวีเป็นขวัญใจ

สาวแก่แม่ม่ายรวมไปถึงบรรดาเก้งกวางกับภาพลักษณ์เซ็กซี่ ปั้นให้โด่งดังไม่ยากเลยกับรูปร่างหน้าตา

แบบนี้หากชาวีอยากจะโด่งดังในต่างประเทศ

         ตากล้องสั่งพักให้ฝ่ายแบบเปลี่ยนฉาก โนเอลจึงก้าวเขาไปแล้วยิ้มให้ปมุตแล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษ


         “หล่อมากครับมายบอย เสื้อผ้าเซ็ตนี้เข้ากับป้องสุดๆ  แต่ผมว่าจะดูดีกว่านี้ถ้าปลดกระดุมเม็ดบน

สักเม็ด”


         โนเอลยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ปมุตใส่อยู่และดึงสาบเสื้อให้แยกออกพลางยิ้มอย่างพอใจใน

ขณะที่ชาวีมองตาเขียวก่อนที่จะเอื้อมมือมาปัดมือของโนเอลออกจนพ้นตัวปมุต


         “ทำอะไรของคุณ”


         ชาวีส่งเสียงดังอย่างลืมตัวเมื่อเห็นโนเอลเข้าใกล้ปมุต โนเอลหันขวับมามองอย่างโมโห


         “นายน่ะสิ ทำบ้าอะไร ฉันแค่จะจัดเสื้อในป้อง นายนี่ไร้มารยาทที่สุด”


         “จัดเสื้อแล้วทำไมต้องโดนตัวป้องด้วยล่ะ”


         “พี่วี พอเหอะ คุณโนเอลไม่ได้คิดแบบนั้นหรอก”


         คนกลางอย่างปมุตส่งเสียงห้ามอย่างตกใจ เขาคว้าแขนชาวีไว้เพื่อยั้งการกระทำนั้นเพราะรู้ว่าชาวี

ไม่ชอบหน้าโนเอลอยู่แล้ว ปมุตหน้าเสียเมื่อเห็นโนเอลทำหน้าบึ้ง

         โนเอลกำมือแน่น นึกอยากจะต่อยปากชาวีให้หายโมโห แต่เพราะยังอยู่ท่ามกลางทีมงาน เขาจึงต้อง

รักษาภาพผู้บริหารไว้ อดีตนายแบบชื่อดังจึงได้แต่กัดฟันแล้วสะบัดหน้าพลางย่ำเท้ากลับเข้าไปในห้องพัก

ด้านหลังด้วยความโมโห

         ก้าวมาถึงหน้าห้องโนเอลก็ต้องชะงักเมื่อลูกบิดประตูถูกยึดไว้ก่อนด้วยมือของใครสักคน เขาเลื่อน

สายตาไปมองก็เห็นเป็นชาวี


         “มีอะไร”


         เมื่อไม่มีสายตาคนอื่นโนเอลจึงไม่ต้องรักษาหน้าอีกแล้ว เขาตวาดอย่างขุ่นใจในขณะที่ชาวียิ้มยียวน


         “ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”


         “ไม่คุยโว้ย”


         โนเอลทำท่าจะผลักประตูเข้าไปชาวีจึงใช้สีข้างดันแขนของโนเอลจนสอดกายมายืนขวางหน้าประตู

ได้สำเร็จ


          “มีอะไรก็รีบพูด”


         โนเอลชักหงุดหงิด เขาเท้าเอวมองหน้าชาวีอย่างหาเรื่อง


         “ผมรู้ว่าคุณคิดไม่ซื่อกับป้อง ผมขอให้คุณหยุดความคิดนั้น ไม่งั้นผมจะจัดการกับคุณ”


         “เฮอะ ไอ้ลูกหมา”


         โนเอลแค่นยิ้ม


         “นายมันก็คิดไม่ซื่อกับปมุตเหมือนกันนั่นแหละ ใช่ไหม ปากก็บอกว่าเป็นน้องแต่อยากจะกดเขาจน

ตัวสั่น โธ่ ไอ้หมาหวงก้าง”


         คำพูดรุนแรงจี้ใจดำชาวีอย่างจังจนเลือดร้อนขึ้นหน้า เขาเงื้อหมัดขึ้นสูงแล้วปล่อยลงมาหาเป้าหมาย

คือริมฝีปากบางของโนเอล แต่โนเอลเองก็ไม่ใช่กระจอกเขายกมือขึ้นรับหมัดนั้นไว้ก่อนที่จะเป็นฝ่ายชกหน้า

ชาวีได้ก่อน

         ชาวีหน้าหงาย เขามองโนเอลอย่างเจ็บใจพลางถลาเข้าหากระชากคอเสื้อหมายจะดึงเข้ามาใกล้เพื่อ

จะได้ชกกลับให้ถนัดถนี่ แต่กลายเป็นว่าเขาเสียหลักพุ่งมาข้างหน้าด้วยความรีบร้อน และดันให้โนเอลหงาย

หลังลงไปกับพื้นโดยที่มีเขาที่ยังยึดคอเสื้อของโนเอลไว้ล้มตามลงไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ


         ชาวีล้มทับลงไปบนตัวของโนเอลและปากของเขาก็ไปชนกับปากของโนเอลอย่างบังเอิญที่สุด




       ----------------------------------------------- TBC------------------------------------------------



ใครเชียร์ โนเอลกับชาวี ไม่คิดว่ามันจะเป็น ชาวีกับโนเอลบ้างหรือคะ หึหึ 

 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 29-11-2014 23:22:15
เราๆๆ เราเชียร์ชาวีโนเอลนะ555
ปราบมาหาน้องเร็วววว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 29-11-2014 23:30:13
คึคึ
โนเเอลจะกลืนน้ำลายตัวเองไหมมม ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 29-11-2014 23:57:32
โนเอลจะโดนเด็กปราบก็คราวนี้แหละ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-11-2014 00:14:10
อ้างถึง
“คนอย่างกูปล้ำได้แต่สาวอกบึ้มเท่านั้นโว้ย กูไม่ชอบตัวผู้ไร้นม ไม่มีทางที่กูจะเผลอหรอก

ถ้ากูเผลอกูจะยอมให้มันเป็นฝ่ายปล้ำเลยเอ้า”

โนแอลขา  คุณจะโดนกดสิคะ + เผลอให้เขาปล้ำด้วยเอ้า ขออย่ามห้เป็นประเภทฝ่ายโดนกดแบบเจ็บช้ำนะคะ  ขอให้นางราขินีไปเลยน้า 
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 30-11-2014 00:31:16
อะ สองคู่อิอิ :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 30-11-2014 00:46:37
อิๆๆๆ ได้กินแน่ๆ....
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 30-11-2014 01:05:49
โนเอล ราศีเคะหนูเปล่งประกายมาก โดยเฉพาะตอนอยู่กับน้องวี   :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-11-2014 01:21:55
อุ้ต้ะ!! เปิดตัวคู่ใหม่ซะละ หึหึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 30-11-2014 09:01:34
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 30-11-2014 10:20:50
ตอนแรกก็คิดว่าโนเอลชาวีมาตลอด
แต่พอเจอประโยคนี้ คงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่
อ้างถึง
“คนอย่างกูปล้ำได้แต่สาวอกบึ้มเท่านั้นโว้ย กูไม่ชอบตัวผู้ไร้นม ไม่มีทางที่กูจะเผลอหรอก

ถ้ากูเผลอกูจะยอมให้มันเป็นฝ่ายปล้ำเลยเอ้า”
คงเป็นชาวีโนเอลสินะ  :z1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 30-11-2014 16:10:28
คู่ชาวีท่าทางจะมันส์สสสส   :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 30-11-2014 21:38:59
ได้หรือเสีย 55555  :laugh:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: pasallatel ที่ 01-12-2014 02:55:27
 :oo1: ชาวีรุกสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 01-12-2014 04:12:15
เปิดตัวคู่ใหม่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 01-12-2014 16:07:02
โนแอลเสร็จชาวีแหง๋ม~

 :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 17 ( 29 / 11 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 01-12-2014 21:44:17
 :z3:  นึกว่าโนเอลจะเป็นคนกดซะอีก  มาอีหรอบนี้  ตำแหน่งฝ่ายกดคงเป็นพี่วีแล้วล่ะค่ะ  โนเอลเล่นออกตัวไว้ซะขนาดนั้น   :heaven  แผนของพี่ปราบยังคงดำเนินไปอย่างแนลเนียน  รอให้ทุกอย่างกระจ่างชัดต่อไปนะคะ  หวังว่าน้องป้องจะยังไม่ล่ีมพี่เด่วน้า  เก็บตัวเก็บใจไว้ให้พี่เดี่ยวคนเดียว  น่ารักจริง ๆ เชียว  ถ้าพี่เดี่ยวรู้คงจะดีใจมาก   :man1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-12-2014 00:07:04

                                                   เพลิงพ่าย

                                                     บทที่ 18


         “แดม ไอ้เด็กบ้า  ลุกออกจากตัวฉันเดี๋ยวนี้”

         ใบหน้าหล่อเหลาของอดีตนายแบบเต็มไปด้วยความขยะแขยง  โนเอลสะบัดหน้าหนีความใกล้ชิดที่

เกิดขึ้นพลางผลักร่างล่ำของชาวีแต่อีกฝ่ายก็ตัวหนาจนไม่ขยับด้วยแรงเท่าแมวดมของเขา ยิ่งทำให้โนเอล

หัวฟัดหัวเหวี่ยงมากขึ้นไปอีก

         ชาวีมองโนเอลอย่างหมั่นไส้ ก็ไม่รู้จะด่าอะไรนักหนากับแค่ล้มลงมาปากชนกันเท่านั้น แต่ไอ้ฝรั่ง

ผมทองกลับทำท่ารังเกียจเขาเสียเต็มประดา นี่คงนึกว่าเขาจะชอบใจล่ะสิ  ไม่มีทาง!

         แต่ชาวีเห็นอาการหัวเสียของโนเอลแล้วก็ยิ่งนึกอยากจะกลั่นแกล้งขึ้นมาทันที ชายหนุ่มเลยยกยิ้มที่

มุมปากพลางมองโนเอลอย่างยั่วให้ยิ่งโมโห


         “เรื่องอะไรจะลุกง่ายๆ นี่ผมถูกคุณชกหน้านะ คุณต้องขอโทษผมก่อน”


         “จะบ้าหรือไง ก็นายเสือกจะชกฉันก่อนทำไมล่ะ พอถูกสวนกลับทำมาเป็นโกรธ โธ่ ไอ้คนขี้แพ้”


         โนเอลตวาดใส่หน้าอย่างไม่นึกกลัวเกรง และคำด่าสุดท้ายก็ทำให้ไฟโกรธที่เริ่มจะมอดลงแล้วของ

ชาวีกลับปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เขาก้มหน้ามองหน้าตาหล่อเหลาที่อยู่ใต้ร่างด้วยนัยน์ตาคุโชน มือเรียวของ

โนเอลที่ทั้งผลักทั้งดันอยู่ตรงหัวไหล่ถูกมือแกร่งของชาวีจับล็อคแล้วตรึงไว้กับพื้นเย็นๆ จนโนเอลดิ้นไม่หลุด


         “หยุดด่ากูได้แล้ว ไอ้ฝรั่งปากหมา”


         ชาวีโกรธจนนึกคำพูดภาษาอังกฤษไม่ออก เขาเลยสวนกลับออกไปเป็นภาษาไทยที่แสนจะกระด้าง

แต่สิ่งที่ชาวีไม่เคยนึกมาก่อนเลยก็เกิดขึ้นเมื่อดวงตาสีฟ้าอมเทากลับเบิกกว้างและพ่นคำด่าภาษาไทยที่

เกือบจะชัดเจนออกมาเป็นชุด


         “ไอ้เลว ไอ้คนปากเสีย แกนั่นแหละไอ้ลูกหมา ไอ้เด็กเวรงี่เง่าเอาแต่ใจไม่ได้เรื่อง ไอ้ อะ อุ๊บส์”


         โนเอลตาเหลือกเมื่อจู่ๆ ปากที่กำลังด่าอย่างเมามันกลับถูกปิดลงด้วยปากของมัน ไอ้เด็กเลว!

         จริงๆ แล้วชาวีก็ไม่อยากจะทำอย่างนี้ แต่เพราะเขาทนกับคำด่าเป็นไฟเหล่านั้นไม่ได้ และด้วยสภาพ

ที่เขายังนอนทาบทับร่างเพรียวของนายแบบหนุ่ม มือทั้งสองก็กำลังยื้อยุดหยุดมือสองข้างของโนเอลไว้

เหนือหัวมันทำให้เขาไม่มีทางเลือก ชาวีจำเป็นต้องหยุดโนเอลด้วยสิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือริมฝีปากของเขาเอง


         “อื้อ อะ”


         แต่คนใต้ร่างก็ยังไม่สิ้นพยศอยู่ดี โนเอลดิ้นขลุกขลักและพยายามจะส่งเสียงแม้ว่ากลีบปากนุ่มจะถูก

ประกบไว้จนไม่เหลือช่องว่าง มันทำให้ชาวีโมโหระคนอ่อนใจจนต้องตัดสินใจใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด


         ไอ้ลุงแก่แสนดื้อ!


         ชาวีฉกลิ้นลงไปในช่องว่างของโพรงปากอย่างรวดเร็ว ลิ้นอุ่นของเขาเกี่ยวลิ้นนุ่มของอีกฝ่ายให้

หยุดนิ่ง แต่โนเอลที่พยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อให้หลุดจากพันธนาการกลับพลิกลิ้นหนี ชาวีเลยต้องตวัดมัน

กลับไปมาอยู่ในช่องปากที่เขาชักจะรู้สึกว่ามันหวานขึ้นเรื่อยๆ


         “อะ อือ อื้มมม”


         ไอ้เด็กบ้า!


         โนเอลได้แต่ด่าอยู่ในใจ เมื่อตอนนี้เสียงของเขาถูกกลืนหายไปหมด ยิ่งพยายามจะตะโกนออกมา

เขาก็ยิ่งตกใจเมื่อสิ่งหูตัวเองได้ยินกลับเป็นเสียงครางลึกของตัวเขาเองนั่นแหละ และโนเอลก็ยิ่งตกใจหนัก

ขึ้นไปอีกเมื่อเขาเริ่มรับรู้ว่าเรี่ยวแรงของเขากำลังหดหายไปเรื่อยๆ แม้กระทั่งข้อมือที่ถูกอีกฝ่ายยึดตรึงไว้กับ

พื้นก็ยังกลายเป็นสั่นเทาจนชาวีไม่ต้องออกแรงอีกต่อไป

         เห็นอีกฝ่ายเริ่มสงบลงชาวีจึงค่อยๆ ถอนลิ้นออกมาช้าๆ เขายกหัวขึ้นมามองกลีบปากที่แดงเห่อ

จากการกระทำของเขาอย่างนึกเสียดายไม่น้อย แต่แม้คำด่าจะหมดไปแต่นัยน์ตาสีฟ้าอมเทาก็ยังมองมาที่

เขาอย่างเกลียดชัง พร้อมกับใช้ปลายฟันขบปากแดงของตัวเองอย่างเจ็บใจ นี่ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองเกินไป

เขาคิดว่าเขาเห็นร่องรอยหวามไหวที่ซ่อนอยู่ลึกๆ หลังดวงตาคู่นี้ด้วย


         “คุณพูดไทยได้ แสดงว่าฟังภาษาไทยรู้เรื่อง แล้วที่ผ่านมาล่ะ หลอกฟังผมด่าคุณมาแล้วกี่ครั้ง”


         “ฮึ”


         โนเอลสะบัดหน้าหนี เขานึกชังใบหน้าที่กำลังพรายยิ้มอยู่เป็นที่สุด แต่อีกฝ่ายดูเหมือนจะรู้ ชาวีโน้ม

หน้ามาใกล้จนแทบจะกินหูเขาได้อยู่แล้ว


         “อย่าเรียกผมว่าไอ้ขี้แพ้ ผมไม่ชอบ”


         เสียงทุ้มหนักดังอยู่ชิดใบหูจนโนเอลใจสั่น


         “เออๆ รู้แล้ว  ไม่เรียกก็ได้”


         โนเอลหลับหูหลับตาส่งเสียง


         “ไม่เรียกแล้วก็ปล่อยสักทีสิวะ”


         อาการของโนเอลเรียกรอยยิ้มบนใบหน้าชาวีได้อย่างที่เขาก็แปลกใจตัวเองเหมือนกัน เขามอง

ด้านข้างของใบหน้าที่เอียงหนีจนแก้มข้างหนึ่งชิดติดกับพื้นและหันอีกข้างหนึ่งมาให้เขาได้มองเต็มตา

เมื่อได้อยู่ใกล้ชาวีเพิ่งจะเห็นชัดๆ ว่าผิวหน้าของโนเอลช่างละเอียดจนไม่นึกว่าชายหนุ่มจะอายุเฉียด

สามสิบแล้ว ผิวหน้านั้นคงจะนุ่มเมื่อได้สัมผัสมันกระตุ้นความอยากรู้จนชาวียิ่งก้มไปใกล้จนปลายจมูก

วนเวียนอยู่แถวนั้นแล้วลอบสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างลืมตัว


         “อีกอย่าง…”


         ชาวีใช้มือบีบที่คางเรียวแล้วบังคับให้หันหน้ามาสู้ตาระยิบระยับของเขา


         “อย่าเรียกผมว่าเด็ก ผมโตแล้ว หากยังไม่เชื่อผมจะพิสูจน์ให้คุณรู้ว่าผมไม่ใช่เด็ก แบบนี้”


         โนเอลนิ่งงันเมื่อริมฝีปากที่ยังไม่หายแดงเห่อของเขาถูกชาวีก้มหน้ามาประกบแนบแน่นอีกครั้ง

แต่ครั้งนี้มันกลับอ่อนโยนชวนให้เตลิดจนโนเอลเผลอไผลเงยหน้ารับและตวัดลิ้นตอบ ชาวีช้อนมือไปหลัง

ต้นคอของโนเอลบังคับให้แหงนขึ้นรับจูบจนยิ่งแนบแน่นและเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ


         “อา…”


         เสียงครางแผ่วในลำคอของโนเอลปลุกเร้าอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชาวีเลื่อนมือข้างหนึ่งไปที่เอว

เพื่อดึงชายเสื้อเชิ้ตเนื้อบางออกจากขอบกางเกงแล้วสอดมือเข้าไปวางแนบอยู่บนเนื้อใน ของโนเอลที่เด้ง

ตัวรับ พลางยกแขนคล้องไปรอบคอแล้วเกี่ยวให้ชาวีที่กำลังขบเม้มกลีบปากให้ยิ่งเบียดตัวแนบชิด


แกร๊งงงง


        เสียงวัตถุตกกระทบพื้นทำให้ร่างที่กำลังกอดก่ายกันอยู่บนพื้นหน้าห้องพักพากันสะดุ้งเฮือกและแข่งกัน

หอบหายใจถี่เมื่อผละริมฝีปากออกจากกันได้ ชาวีรีบเงยหน้าไปมองต้นเสียงแล้วเขาก็ตาเหลือก


        “ป้อง”


ปมุตกำลังยืนอ้าปากค้าง ตาคู่สวยเบิกกว้างอย่างคาดไม่ถึงในขณะที่ขวดน้ำตกกลิ้งไปอยู่บนพื้นจนน้ำหก

กระจาย









     ปมุตมองชาวีที่นั่งหน้าง้ำอยู่เคียงข้างกันบนรถตู้ในขณะที่เดินทางกลับหลังจากถ่ายแบบเสร็จ

เรียบร้อย เขาค่อยๆ คลี่ยิ้มจนกระทั่งมันเกลื่อนใบหน้า ตรงกันข้ามกับชาวีที่หน้าหงิกลงเรื่อยๆ


         “ยิ้มหาพ่อง”


         ชาวีผลักหัวปมุตอย่างหงุดหงิด แต่ปมุตอดใจไม่อยู่เขาปล่อยเสียงหัวเราะออกมาจนได้


         “ก็ขำนี่หว่าพี่วี ปากก็บอกเกลียดนักเกลียดหนา ไหงไปนอนกอดจูบกันอยู่ตรงพื้นได้วะ”


         ปมุตยิ้มล้อเลียน


         “โหย พี่วี เสียดายไม่ทันได้ถ่ายคลิปเพราะมัวแต่ตกใจ ไม่งั้นจะเอามาให้พี่ดูว่ามันช่างเร่าร้อน”


         หนุ่มน้อยลากเสียงยาวๆ จนชาวีหน้าร้อนเห่อ


         “ปากก็แลกลิ้นกันเพลิน มือก็ป่ายกันไปมา เสื้อผ้าหลุดลุ่ย โห ผมนี่นึกว่าเป็นแฟนกันเลยนะ”


         “ไอ้ป้อง ไอ้บ้า”


         ชาวียกมือตบหัวปมุต เขาสบถเบาๆ พลางหันหน้าหนีไปมองนอกหน้าต่างเป็นการปิดบทสนทนาของ

เขากับหนุ่มรุ่นน้อง เพราะตอนนี้ชาวีไม่มีกะจิตกะใจจะชวนปมุตคุยเหมือนปกติ


         ชาวีกำลังก่นด่าความไม่ปกติของตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น

         เขาหลงรักปมุต ตอนนี้ก็ยังรักอยู่

         แต่เขากับเผลอไผลไปกับฝรั่งตาน้ำข้าวที่เสือกพูดไทยได้และด่าเป็นไฟ

         รสจูบและกลิ่นตัวของโนเอลยังอวลอยู่ในความรู้สึกจนต้องถอนหายใจออกมา

         มึงกำลังเป็นบ้าอะไรวะ ชาวี!








         “โธ่โว้ย”


         กองแฟ้มบนโต๊ะทำงานถูกกวาดร่วงลงพื้นเพื่อระบายอารมณ์หงุดหงิด

         อายสุดขีดเมื่อเห็นปมุตยืนตะลึงมองมาทางเขาที่นอนทอดกายอยู่บนพื้นโดยที่มีไอ้เด็กเลวนอนทาบ

ทับ แต่ที่ยิ่งทั้งอายทั้งเจ็บใจคือเขาลืมตัวไปกับจูบของไอ้เด็กเมื่อวานซืนจนเกือบจะเลยเถิดกลางที่

สาธารณะแม้ว่าจะไม่มีใครเดินผ่านไปมานอกจากปมุตที่เดินมาตามให้ชาวีกลับไปถ่ายแบบเซ็ตสุดท้าย

         นี่โนเอลนึกภาพไม่ออกว่า หากเหตุการณ์เกิดในที่ลับตาคน เรื่องมันจะเลยเถิดไปถึงขั้นไหน


         “เอ่อ ผมขอโทษที่มาขัดจังหวะ”


         ปมุตพูดตะกุกตะกัก


         “คือ จะมาตามพี่วีไปถ่ายแบบ”


         “ป้อง”


         ไอ้เด็กเลวหน้าซีดเผือด พลางรีบดันกายลุกจากร่างกายที่ยังหมดแรงของเขาแล้วผวาไปหาปมุต

มันทำให้โนเอลรู้สึกเจ็บจี๊ดอย่างไร้เหตุผล และต้องตะกายตัวเองขึ้นมายืนอย่างยากลำบาก

         ก้มหน้ามองตัวเองแล้วก็แทบจะทึ้งผมอย่างเจ็บใจ เมื่อชายเสื้อหลุดลุ่ยยับเยินจากไอ้มือปลาหมึกที่

ล้วงเข้ามาทั้งบีบทั้งเค้นนั่นแหละ เขามองสบตาไอ้บ้านั่นแวบหนึ่งก่อนที่มันจะลากแขนปมุตที่ยังไม่หาย

ตกใจให้เดินจากไปและทิ้งให้เขานิ่งงันอยู่เพียงลำพัง

         กว่าที่จะเซซังผลักประตูห้องแล้วก้าวมาทิ้งตัวลงไปบนเก้าอี้ทำงาน โนเอลต้องยืนปรับอารมณ์ตัวเอง

อยู่พักใหญ่ เขายกหลังมือป้ายปากตัวเองแรงๆ เพื่อลบรอยจูบที่เพิ่งเคยจูบกับผู้ชายด้วยกันเป็นครั้งแรก

แม้ว่าเขาจะเห็นภาพอย่างนี้มาเกือบตลอดชีวิต


         บ้าเอ๊ย โนเอล

         มึงต้องรังเกียจสิ ต้องขยะแขยงมัน ไม่ใช่เคลิ้มแบบนี้

         มือที่เช็ดปากตัวเองกลับกลายเป็นแตะไล้ที่เรียวปากเมื่อนึกถึงความวาบหวามที่เกิดขึ้น

         เกลียด!

         เขาเกลียดไอ้เด็กบ้านั่น

         โนเอลไม่มีวันที่จะให้มันได้เข้าใกล้เขาอีกแล้ว

         สาบาน!






             ---------------------------------- TBC ------------------------------------------


ขอเอาใจแม่ยก ชาวีกับโนเอลอีกสักบทนะคะ อิอิ เมะหนุ่มกับเคะสูงวัย คงถูกใจกันบ้างล่ะน่า


ฝากนิยายเรื่องใหม่ แนวมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งด้วยนะคะ

น้ำใสของผม น้ำข้นน่ะของเขา

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0)

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 04-12-2014 00:27:40
ติดอกติดใจ คริคริ  :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 04-12-2014 01:00:49
 :impress2: :impress2: :impress2:

ปลึ้มค่ะ  ถูกใจแม่ยกจริงๆค่า คุณ Belove

ขอฉากยาวๆ เด็๋ดๆ นะค้า  :-[ (คนอ่านคนนี้ไม่หึ่นเล๊ย จริงๆนะ)

ว่าแต่โนแอลจะทำยังไงต้อไปนี่สิ ยั่วชาวีให้ตกหลุมรักตัวเองเพึ่อการแก้แค้น? ระดับโนแอลที่โตมากับปราบปละ โมกข์น่าจะรับประกันความแซ่บเวอร์ได้นะคะ

ชอบนิยายคุณ Belove ทุกเรึ่อง

ยึนยันค่ะว่า น้ำใสของผม น้ำข้นน่ะของเขา สนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 04-12-2014 01:19:31
อร๊ายยยยยย :ling1: คู่นี้ไปไกลกว่าคู่หลักอีกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 04-12-2014 01:27:14
 :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-12-2014 01:37:41
 :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-12-2014 01:55:37
สเปคเลลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 04-12-2014 03:11:43
แซ่บเว่อร์!!! :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-12-2014 07:02:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 04-12-2014 10:15:58
เย่~ ชาวีโนแอล

 :mew3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดก๊าบๆ ที่ 04-12-2014 13:06:57
 :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 04-12-2014 13:31:29
แหม่ๆๆ ชอบคู่นี้อ่ะ คึคึ
 :o8:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 04-12-2014 17:21:27
 :laugh:  เห็นด้วยกับน้องป้องมาก ๆ เลยค่ะ  ปากบอกไม่ชอบ ๆ เกลียด  ๆ แต่พอมาเจออีกที....ปากก็ปากเถอะ   :ruready   ชีวิตน้องป้องช่างรายล้อมไปด้วยพวกคนปากไม่ตรงกับใจ  อันนี้ไม่ได้พูดกระทบพี่ปราบเล๊ยน๊ะค๊ะ  (เสียงสูงมาก)   :katai5:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 04-12-2014 17:34:33
เริ่ดอ่ะคู่นี้
พี่เดี่ยวแบบนี้แล้วอย่าให้เพื่อนนำหน้านะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-12-2014 19:13:29
แหม....ถ้าน้องป้องไม่มาตาม จะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-12-2014 19:53:54
ก็แค่เคลิ้ม ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-12-2014 20:00:04
เก๋ๆเนาะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 05-12-2014 01:34:20
ทำไมตัวโกงเยอะจุงงงงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 18 ( 04 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 05-12-2014 05:33:46
คู่รองคงไม่มาม่าเยอะนะครับ

รอตอนต่อไป ความสนุกกำลังเริ่ม
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-12-2014 22:29:02

                                                      เพลิงพ่าย

                                                      บทที่ 19.1


         ปัญญาหน้าซีดเผือดเหงื่อแตกพลักราวกับเขื่อนแตก เขากลืนน้ำลายเหนียวลงคออย่างยากเย็นและ

พยายามจะก้าวถอยหลังหนีกลุ่มชายร่างกำยำหน้าตาน่ากลัวที่กำลังสืบเท้าเข้ามาหา และเมื่อจวนตัวเขาก็

ถึงกับหันหลังโกยอ้าวแต่ไม่ทันไรปกเสื้อเชิ้ตก็ถูกคว้าหมับจากด้านหลังจนมันรัดคอแทบจะหายใจไม่ออก

         นั่นคือก่อนหน้าที่เขาจะมานั่งใจคอไม่ดีอยู่ต่อหน้าเสี่ยเดชาบนเรือลำใหญ่ที่ยังลอยคออยู่ในทะเล

กลางอ่าวไทย เสี่ยเดชาให้ลูกน้องลากเขามานั่งสั่นอยู่ในห้องๆ หนึ่งที่มีเพียงโต๊ะทำงานและเก้าอี้ตัวเล็ก

ที่ปัญญากำลังนั่งคอตก ในขณะที่เสี่ยเดชาซึ่งนั่งตรงกันข้ามยังสูบไปป์อย่างอารมณ์ดีและมีสมุนยืนราย

ล้อมขวางประตูทางออกไว้

         ปัญญายกมือไหว้ปะหลกๆ


         “เสี่ยครับ เมตตาผมด้วย งวดนี้ผมหมดแล้วจริงๆ”


         เดชากระตุกยิ้ม เขาดึงไปป์ออกมาช้าๆ กิริยานั้นยิ่งสร้างความครั่นคร้ามต่อปัญญาจนหน้าซีดแทบ

ไม่มีสีเลือด


         “ห้าล้าน”


         เสี่ยเดชากางนิ้วทั้งห้าออก


         “ห้าล้านที่นายทุนของผมยอมจ่ายให้คุณมาท่องเที่ยวบนเรือสำราญแห่งนี้ นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงไอ้

หกล้านของเก่าเลยนะคุณปัญญา”


         เสี่ยเดชายกศอกเท้าโต๊ะพลางประสานมือไว้ใต้คางเมื่อเห็นสีหน้าของปัญญา เขายิ่งใช้คำพูดคุกคาม

จนอีกฝ่ายยิ่งหวาดวิตก


         “ทั้งหมดที่คุณใช้ไปเพื่อความบันเทิงเป็นเงินสิบเอ็ดล้านบาท รวมกับดอกเบี้ยที่ผมคิดแล้วคิดอีก ลด

แล้วลดอีกก็อีกสี่ล้าน รวมที่คุณเป็นหนี้ก็เป็นเงินสิบห้าล้านบาทขาดตัว”


         “เสี่ยครับ”


         ปัญญาถึงกับเลื่อนตัวจากเก้าอี้ลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นเบื้องหน้าเดชา


         “ผมไม่มีเงินแล้วจริงๆ เสี่ยเมตตาเถอะครับ”


         ยิ้มหยันเกิดขึ้นที่มุมปากของเดชา เขาคว้าโทรศัพท์มากดเบอร์หาใครบางคนแล้วยื่นให้ปัญญา


         “คุยกับเจ้าของเงินเองเลยดีกว่า ว่าเขาจะเมตตาคุณหรือเปล่า เจ้าหนี้ของคุณน่ะ เขาชื่อคุณปราบ”


         ปราบ!


         ใครกันที่มีเงินมากมายขนาดเป็นเจ้าของทุนให้เสี่ยเดชาได้ขนาดนี้ ปัญญาเอื้อมมือสั่นเทาไปรับ

โทรศัพท์มาแล้วกรอกเสียงพินอบพิเทาลงไป


         “สะ สวัสดีครับคุณปราบ”


         ปัญญาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่ออีกฝั่งยังเงียบกริบ มีเพียงเสียงหัวเราะในลำคอลอดมาให้รู้เท่านั้นว่าเขา

คนนั้นยังอยู่ในสายด้วย


         “ผะ ผม อยากจะขอความกรุณา เงินขาดมือจริงๆ”


         “ผมกรุณาคุณมามากแล้ว คุณปัญญา”


         เสียงเย็นเยียบที่ดังมาจากโทรศัพท์ทำให้ปัญญาหนาวยะเยือก


         “เงินของผม ผมก็ต้องนำมาใช้หมุนเวียน จะมาให้คุณถลุงเล่นเพียงคนเดียวก็คงจะไม่ใช่แน่ๆ”


         หนาว แต่เหงื่อกลับออกไปทั่วรูขุมขน น้ำเสียงของอีกฝ่ายช่างมีอำนาจแม้ว่าจะยังไม่เห็นแม้แต่

หน้าตา ปัญญากลัวจนอยากจะร้องไห้


         “ตะ แต่ว่า ตอนนี้แค่ร้อยเดียวผมยังไม่มีเลย แล้วผมจะไปหาเงินให้คุณจากที่ไหนตั้งสิบห้าล้าน”


         แล้วเขาก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ กับสภาพจนตรอกของตัวเอง


         “ผมไม่สนว่าคุณจะหาเงินด้วยวิธีไหน แต่ถ้าไม่จ่ายภายในหนึ่งสัปดาห์คุณและครอบครัวต้องย้าย

ออกจากบ้านของคุณทันที และถ้ายังขัดขืนคุณน่าจะรู้ว่าผมมีวิธีให้คุณย้ายออกไปจนได้”


         “คุณปราบ”


         ปัญญาปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อับอายสายตาเหยียดหยามของเดชาที่นั่งมองอยู่


         “ผมขอร้อง จะให้ผมทำยังไงก็ได้แต่อย่าเพิ่งยึดบ้านของผมไปเลย ผมยอมทำทุกอย่าง”


         “ทุกอย่าง คุณยอมทำทุกอย่างเพียงเพื่อให้ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นหรือ คุณปัญญา”


         ปัญญาไม่สนว่าปราบจะใช้น้ำเสียงดูหมิ่นเพียงไหน เมื่อวินาทีนี้เขายอมทุกอย่างจริงๆ


         “ใช่ ผมยอมทำทุกอย่างจริงๆ”


         ปลายสายเงียบไปพักใหญ่จนปัญญาแทบจะขาดใจตาย


         “มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมต้องการ หากคุณทำได้ผมจะให้คุณได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นต่อไป”


         ปัญญาตาโต เขาดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อได้ยินโอกาสที่ปราบหยิบยื่นให้


         “ว่ามาเลยครับคุณปราบ คุณอยากได้อะไร ไม่ว่าสวรรค์หรือนรกผมจะไปหามาให้คุณให้ได้”


         ปราบหัวเราะหยันมาตามเสียงโทรศัพท์


         “ไม่ต้องไปหาถึงบนสวรรค์หรือในนรกหรอกคุณปัญญา สิ่งที่ผมต้องการก็อยู่ใกล้ๆตัวคุณนั่นแหละ”


         ปัญญาเริ่มงงไปกับคำพูดของปราบ


         “คุณต้องการอะไรกันแน่”


         “ผมต้องการปมุต อนันตกุล ลูกชายของคุณ”




                      ----------------------------------------- TBC ----------------------------------------


เนื่องจากเวลามีจำกัดแต่กลัวคนอ่านจะลืม จึงมาทีละน้อยดีกว่าหายไปเลย

อีกไม่นานฉากที่ทุกคนรออยู่ก็จะมาถึงแล้วค่ะ


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 08-12-2014 22:38:26
ขายลูกแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 08-12-2014 22:40:37
มาแล้วๆ  :katai4:

มาทีละนิดก็ยังดีค่ะ  ใกล้เป้าหมายเข้าไปอีกแล้วสินะพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 08-12-2014 23:11:30
เริ่มแล้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-12-2014 23:13:57
น้องป้องใกล้เป็นของพี่เดี่ยวแล้วอ่ะจิ คริๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 08-12-2014 23:22:58
ตื่นเต้นๆๆๆๆๆๆๆๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 08-12-2014 23:55:03
ขายลูกสินะ  :m15:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 09-12-2014 00:03:56
เริ่มแล้วสินะ อิอิ :katai2-1:

ปราบอย่าร้ายกับน้องป้องให้มากนักนะ สู้ๆนะน้องป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-12-2014 00:26:55
เห้ออ!! เปงของซื้อของขายซะงั้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 09-12-2014 00:49:06
ง่าา รอฉาก nc แต่ก็แอบสงสารนางเอก  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-12-2014 00:56:21
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 09-12-2014 01:04:51
อร้ายย!!! สั้นนะเคอะ รออะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 09-12-2014 01:34:09
จะขายลูกชายสินะ ฮึ่มๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 09-12-2014 04:15:09
 :really2:w
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 09-12-2014 06:11:30
 :เฮ้อ: คุณปัญญานี่เกินเยียวยาแล้วจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 09-12-2014 08:26:11
ใช่ใช่ดีดี ไม่หายไปเลย มาบ่อยๆ กำลังลุ้นโนเอล น้องป้องก็ใกล้ถูกใส่พาน :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 09-12-2014 09:54:23
เห็นแล้วสงสารปมุตอ่ะ หนทางรักยังอีกไกลเลย เสียดายเวลาดีๆที่เคยมีด้วยกันตอนเด็ก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-12-2014 12:35:08
สงสารปมุตมากก
มีพ่อ พ่อก็เลว จะขายลูกกินแล้วว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 09-12-2014 16:32:17
กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 09-12-2014 17:06:34
โหววว~~ พูดตรง ๆ เลยอ่ะ ว่าจะขอน้องป้อง ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 09-12-2014 19:37:17
น้องก้อง เสร็จแน่ๆเลย :hao7:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 10-12-2014 00:56:33
สงสารรรรรรรรรรรรรรรรน้องงงงป้ออองงงจัง
ฮื้อออออออๆๆๆๆๆ ร้องไห้แปปปปปป
อิอิ เป็นกำลังใจไห้น้องป้องนะค่ะ :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 10-12-2014 02:11:33
พี่ปราบช่างใจแข็งเเหล่ีอเกิน   แต่ยอมเผยออกมาแล้วว่าต้องการน้องป้อง  แล้วมาไม้นี้ทำกับครอบครัวน้องไว้หนัก  ไม่แน่อาจจะโดนน้องไม่ชอบก็ได้นะ   :z3:  ส่วนฉากอะไรที่ว่านั้น....ไม่ได้รอเล๊ย  จริง จริ๊ง  .....   :hao3:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.1 ( 08 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 11-12-2014 11:18:57
ลุ้นๆๆๆ ยังไงต่อไปน้อ มีบ้านอยู่แต่เอาลูกที่เหลืออยู่คนเดียวไปแลก คุ้มมั๊ย?

รึไม่เคยคิดถึงอะไรนอกจากหน้าตาทางสังคม  :เฮ้อ:

คู่หลักก็ลุ้น   :hao3: คู่รองก็พากระชุ่มกระชวยหัวใจ  :man1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-12-2014 19:52:51

                                                 เพลิงพ่าย

                                                 บทที่ 19.2


         ปัญญานั่งคอตกอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์คันเก่าของตนเองหลังจากที่เรือสำราญสุดหรูทอดสมออยู่

ที่ท่าเรือ นักท่องเที่ยวหรืออีกนัยหนึ่งคือผู้ที่ลุ่มหลงอยู่ในการพนันต่างทยอยกันเดินลงมาจากทางลาดที่ทอด

ลงสู่ผืนแผ่นดิน มีทั้งยิ้มแย้มแจ่มใสของบรรดาผู้ที่ได้เงินแต่คนที่เดินหน้าซีดลงมากลับมีจำนวนเยอะกว่า

         การพนันไม่เคยทำให้ใครได้ดี ตอนนี้ปัญญาเข้าใจอย่างลึกซึ้งแต่จะมีประโยชน์อันใดเล่า เพราะกว่า

จะเข้าใจเขาก็เสียทุกอย่างที่ลงทุนหามาตลอดชีวิตไปแทบหมดสิ้น ชีวิตที่ลงทุนไปกับผู้หญิงที่แสนจะ

จืดชืดอย่างวาดดาวอดีตภรรยาของเขา

         กับเด็กไร้สกุลรุนชาติ เด็กที่ครอบครัวแตกแยกพ่อไปทางแม่ไปทางต้องปากกัดตีนถีบมาตลอด ใคร

บ้างจะไม่อยากหลีกหนีให้พ้นกับสภาพที่เป็นอยู่  ดีแค่ไหนแล้วที่เรียนจนจบปวช.  และได้มาทำงานใน

บริษัทใหญ่โตแห่งหนึ่งแม้จะเป็นตำแหน่งกระจอกงอกง่อยก็เถอะ

         เดชะบุญที่สวรรค์ยังเห็นใจเมื่อในวันหนึ่งเขาได้พบเจอกับหญิงสาวอ่อนเดียงสาซึ่งเป็นลูกสาวของ

ประธานบริษัท และด้วยความที่เป็นคนหน้าตาดีปัญญาใช้เสน่ห์คารมหลอกล่อให้วาดดาวตกหลุมรักก่อนที่

จะพาไปเจาะไข่แดงเพื่อผูกมัดจนเจ้าหล่อนดิ้นไม่หลุด และไม่นานหลังจากนั้นเรื่องก็เข้าหูท่านประธานที่

แสนจะดุและเข้มงวด ปัญญายังจำได้ถึงดวงตาดุกราดเกรี้ยวที่มองมาราวกับจะหักคอเขาให้แหลกคามือ

เมื่อรู้ว่าบุตรีที่เฝ้าทะนุถนอมถูกเขาช่วงชิงไปเสียแล้ว

         แต่เพราะที่ตามใจลูกเสียจนเคย บิดาของวาดดาวจำเป็นต้องยินยอมให้เขาได้ใช้ชีวิตเคียงคู่ทั้งที่ยัง

รังเกียจเต็มประดา ก็เพราะด้วยความอับอายที่มีบุตรเขยไม่ได้ดั่งใจ บิดาของวาดดาวจึงออกเงินให้เขาได้

เรียนต่อ  ปัญญาเองก็ใช้โอกาสเหล่านี้ผลักดันตนเองจนค่อยๆ เขยิบฐานะด้านการงานขึ้นมาทีละน้อย

กว่าที่พ่อตาจะยอมรับก็ก่อนเสียชีวิตไม่นานนัก

         หากจะกล่าวถึงภรรยาอย่างวาดดาว ปัญญาอยากจะเบ้ปากใส่ วาดดาวเป็นผู้หญิงที่บูชาความรัก

และหัวอ่อนจนดูน่าเบื่อหน่ายในสายตาของเขา เรื่องบนเตียงก็ช่างไม่ประสีประสาจนปัญญาต้องแอบ

ออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านจนกระทั่งมาพบกับรัศมีเด็กสาวลูกครึ่งแสนสวยในไนท์คลับชื่อดังที่เขา

หลงรักตั้งแต่แรกเห็น ถึงกับเลี้ยงดูให้เป็นบ้านน้อยจนถือกำเนิดลูกชายมาอีกคนหนึ่ง

         จริงๆแล้วปัญญาก็รักลูก เขารักปราบดาลูกชายที่เกิดกับวาดดาวแม้ว่าจะรักน้อยกว่าปมุตลูกชาย

ของรัศมี หากบุตรชายคนโตจะเชื่อฟังเขาสักนิดไม่ใช่เด็กหัวแข็งที่มองเขาด้วยดวงตากร้าว ตอนที่ปราบดา

หายออกไปจากบ้าน เขาเองก็ร้อนใจออกตามหาอยู่พักหนึ่ง แต่เมื่อตามหาไม่พบปัญญาก็ทำใจได้รวดเร็ว

และฉวยโอกาสนั้นจัดการให้ตนเองกลายเป็นผู้จัดการมรดกเพื่อครอบครองสมบัติทั้งหมด

         ปราบดาไม่เหมือนปมุต ที่ว่านอนสอนง่ายและช่างประจบ ปัญญารักปมุตราวกับแก้วตาดวงใจ

รักมากจนตกใจสุดขีดที่เจ้าหนี้อย่างคนชื่อปราบเสนอให้เขานำตัวปมุตมาเป็นสินค้าเพื่อแลกเปลี่ยนกับการ

ที่เขาและรัศมีจะยังมีที่ซุกหัวนอนต่อไป

         ปัญญาฟุบหน้าลงกับพวงมาลัยรถยนต์อย่างเจ็บใจตัวเอง คีย์การ์ดที่เสี่ยเดชายื่นมาวางอยู่ตรงหน้า

ยังอุ่นร้อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อหลังจากที่ปราบวางสายกับเขาไปแล้ว


         “คิดดูดีๆ ก็แล้วกันคุณปัญญา นี่ถือว่าคุณปราบปรานีคุณมากแล้วถึงได้ต้องการแค่ลูกชายของคุณ

เป็นสิ่งไถ่ถอน ค่าตัวลูกชายของคุณสิบห้าล้านบาทก็ถือว่าไม่ใช่น้อยๆ”


         เดชาพ่นควันยาสูบใส่หน้าของเขา ปัญญาถึงกับสำลักทั้งน้ำตา


         “นี่คือคีย์การ์ดคอนโดของคุณปราบ ถ้าคุณยินยอมตามข้อเสนอผมจะนัดหมายกับคุณปราบให้

แต่ถ้าไม่ตกลง ภายในเจ็ดวันนับจากลงเรือคุณเตรียมตัวขนเสื้อผ้าออกไปจากบ้านของคุณได้เลย”

         มืออันสั่นเทาเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ที่เขาโยนไว้ที่เบาะอีกฝั่งขึ้นมาแล้วกดโทรหาบุตรชาย เขากัดฟัน

รอจนกระทั่งปมุตรับสาย


         “ครับพ่อ ว่าไง”


         เสียงใสของปมุตยิ่งสร้างความเจ็บช้ำเมื่อปัญญารู้ว่าหลังจากนี้ต่อไป มันจะไม่เหมือนเดิม


         “ป้องลูกพ่อ ภายในสัปดาห์นี้พอจะมีวันว่างไหมลูก พ่อมีธุระจำเป็นอยากให้ป้องไปช่วยพ่อหน่อย”


         “ธุระจำเป็นอะไรหรือครับพ่อ เดี๋ยวนะครับ ขอป้องถามพี่ผู้จัดการก่อน”


         เสียงบุตรชายที่กำลังซักถามคิวกับผู้จัดการบีบคั้นจนปัญญาปวดหนึบที่สมอง กว่าที่ปมุตจะตอบ

กลับมา


         “อีกสองวันครับพ่อ วันนั้นว่างทั้งวัน ดีเลยป้องจะได้เจอพ่อสักที คิดถึงพ่อจังไม่ได้เจอกันหลายวัน

แล้ว”


         เสียงออดอ้อนของปมุตทำให้คนเป็นพ่อร้องไห้ออกมาในที่สุด
















         “พ่อโทรมาเรื่องอะไรหรือป้อง”


         ชาวีเอ่ยถามเมื่อเห็นปมุตวางสายกับบิดาแล้ว ชายหนุ่มลูกเสี้ยวหน้าคมส่ายหน้าดิก


         “พ่อบอกว่าจะให้ไปทำธุระเป็นเพื่อน ไม่รู้ว่าอะไรที่ไหนเหมือนกันอ่ะพี่วี”


         ชาวีพยักหน้ารับรู้ก่อนที่จะเบนความสนใจไปกับการซ้อมเต้นในสตูดิโอที่บริษัทสำหรับเพลงรวม

ศิลปินซึ่งในตอนนี้บรรดาศิลปินในค่ายกำลังซักซ้อมคิวกันอยู่ ปมุตเองก็กำลังมองคนอื่นอย่างสนใจ จน

เสียงทักดังขึ้นจากเบื้องหลัง


         “ไฮ มายบอย”


         “อ้าว คุณโนเอล”


         ปมุตหันไปยิ้มกว้างให้ชาวต่างชาติที่ยิ้มตอบกลับมา


         “มาทำอะไรครับนี่ หรือว่ามาหาพี่วี”


         ปมุตหลิ่วตาข้างหนึ่ง เล่นเอาโนเอลหน้าเหวอพลางยกมือโบกไปมาให้วุ่น


         “โน โนโน ผมจะมาหามันทำไม ผมมาหาคุณแมนเพื่อคุยโปรเจ็คกันครับ แล้วก็เลยเดินมาทักทาย

ป้องด้วย สบายดีหรือเปล่า”


         โนเอลถามอย่างห่วงใยจริงๆ  เพราะเขารู้ดีว่าปมุตจะต้องเผชิญกับอะไรบ้างในอนาคต แต่โนเอล

ก็ห้ามเพื่อนไม่ได้ เขารู้ดีว่าสิ่งใดที่ปราบต้องการเพื่อนของเขาไม่เคยพลาด นึกสงสารปมุตล่วงหน้าเพราะ

ความน่ารักนิสัยดีแต่โนเอลทำได้แค่เพียงดูแลอยู่ห่างๆ เท่านั้น


         “งานหนักจนนอนไม่พอใช่ไหม ขอบตาคล้ำหมดแล้ว”


         เอื้อมมือไปแตะหน้าใสด้วยความเป็นห่วงประดุจเป็นน้องชายคนหนึ่ง ก่อนที่โนเอลจะต้องตกใจเมื่อ

ท่อนแขนถูกคว้าหมับแล้วบีบแน่นจนต้องนิ่วหน้า เมื่อหันไปมองต้นเหตุก็เห็นชาวีกำลังมองตาเขียวกลับมา


         “พี่วี ปล่อยคุณโนเอล”


         ปมุตร้องเสียงหลงพยายามห้าม ชาวีหันมาดุเสียงเข้ม


         “ป้อง อย่าเข้ามายุ่ง”


         ชาวีแลกแขนโนเอลให้ก้าวตามเขา แม้ว่าอดีตนายแบบจะฝืนท่อนแขนออกก็ไม่เป็นผลจนต้องก้าว

ยาวๆ ตามแรงลากของอีกฝ่ายที่พาไปยังห้องน้ำด้านหลังสตูดิโอ ชาวีปิดล็อคประตูด้านหน้าแล้วผลัก

โนเอลจนหลังกระแทกข้างฝาอย่างแรงก่อนที่เขาจะสืบเท้าเข้าหาอย่างเอาเรื่อง


         “ผมบอกคุณแล้ว ว่าอย่ามายุ่งกับป้องอีก”


         ชาวีตวาดเป็นภาษาไทย โนเอลเชิดหน้าสู้


         “ก็หาป้ายแขวนคอป้องไว้สิ ว่าเนื้อนุ่มๆอย่างป้องมีหมาตะกละอย่างนายเฝ้าอยู่”


         “ไอ้ฝรั่งปากปลาร้า”


         ชาวีด่าไว้ไม่หน้า เขายกมือขึ้นบีบคางโนเอลไว้แน่น


         “พูดดีๆไม่ยอมฟัง ต้องเจอไม้แข็งใช่ไหม”


         เพราะความโกรธสติของชาวีจึงขาดผึง เขากดปากลงไปบนกลีบปากของโนเอลแล้วบดขยี้อย่าง

รุนแรง โนเอลพยายามส่ายหน้าหนีชาวีก็ยิ่งเพิ่มน้ำหนักลงไปจนโนเอลเจ็บไปทั้งเรียวปาก นายแบบหนุ่ม

ดิ้นรนไปมาและง้างหมัดเข้าที่ลำตัวชาวีได้ในที่สุด

         ชาวีสะดุ้ง จุกไปหมดที่โดนต่อยเข้าลิ้นปี่จนต้องปล่อยปากนุ่มในเป็นอิสระ ดวงตายิ่งคุโชนเรืองแสง

วาบๆ เขาดึงเนคไทที่ผูกหลวมๆ ออกมาไว้ที่มืออย่างรวดเร็ว


         “ฤทธิ์มากนักนะ อยากเจอของจริงใช่ไหม”


         โนเอลตาเหลือก เมื่อถูกผลักให้หันหน้าเข้าข้างฝา มือทั้งสองข้างถูกดึงมาด้านหลัง ชาวีใช้เนคไทมัด

ข้อมือของเขาจนขยับไม่ได้ หลังจากนั้นไหล่ทั้งสองก็ถูกกระชากให้หันกลับมาเผชิญหน้าในสภาพที่ดิ้นไม่

หลุด


         “ปล่อยกู”


         โนเอลตะโกนใส่หน้าชาวีอย่างเจ็บใจ เขาสัญญากับตัวเองว่าหลังจากวันนี้จะหันไปเล่นเวทเพาะ

กล้าม เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองผอมแห้งอีกแล้ว แต่ว่าตอนนี้ เขาควรจะหาทางหนีให้พ้นไอ้เด็กอันตราย

คนนี้ให้ได้เสียก่อน แต่ยังไม่ทันได้คิดริมฝีปากของเขาก็ถูกบดขยี้ซ้ำเข้าไปอีก มิหนำซ้ำซิปกางเกางยังถูกรูด

ลงและมือร้อนของชาวีก็ล้วงลึกเข้าไปในนั้นและบีบกล่องดวงใจของเขาจนสะดุ้งเฮือก

         ชาวีสอดลิ้นลึกอยู่ในช่องปากอย่างเจ็บใจ เขาเจ็บใจตนเองที่ตอนนี้เขาแยกไม่ถูกว่ากำลังหึงโนเอลที่

เข้าใกล้ปมุต หรือว่ากำลังหวงโนเอลที่ไปยุ่งกับปมุตกันแน่ ความสับสนที่บังเกิดทำให้เขาโมโหและชาวี

ก็ระบายความโมโหใส่จุดอ่อนไหวที่กำลังสู้มือ เข้าเบียดสะโพกแกร่งเข้าใส่อย่างเผลอไผลปลายนิ้วบีบคลึง

รูดรั้งพลางไล่ขบเม้มกลีบปากจนช้ำ เสียงครางลึกในคอโนเอลพร้อมกับกายที่เบียดตอบกลับมาทำให้โทสะ

บรรเทาลง แต่กลับกลายเป็นไฟสวาสกำลังจะปะทุขึ้นแทน

         ไม่!

         เขากำลังมีความต้องการกับไอ้ฝรั่งปากจัด ไม่จริงสักนิด ชาวีพยายามห้ามใจตัวเองแต่เขาก็ไม่ใจร้าย

พอที่จะปล่อยให้โนเอลค้างคาจากความเกรี้ยวกราดของเขา มือที่รูดรั้งอยู่ภายในกางเกงจึงยิ่งสาวเร็วรี่จน

โนเอลกระตุกอยู่ไม่กี่ครั้งก่อนที่จะปล่อยน้ำเมือกใส่มือของเขา พลางหอบถี่เมื่อชาวีถอนริมฝีปากออกมา

         โนเอลกัดริมฝีปากที่บวมเห่อ เขามองชาวีอย่างเกลียดชังทั้งที่ยังหอบหนัก ชาวียกมือเปียกชื้นจาก

ผลิตผลที่เขาจัดการมาแตะที่มุมปากเจ่อของโนเอลพร้อมรอยยิ้มหยัน


         “หวังว่าคราวนี้คุณจะรู้จักเข็ดหลาบบ้าง”


         “ไอ้ ไอ้ ไอ้เลว”


         โนเอลคิดคำด่าไม่ออกในเมื่อตอนนี้สมองว่างเปล่าไปหมด แต่เขาก็ต้องหุบปากลงทันทีเมื่อชาวีเริ่ม

ไล้ปลายนิ้วเปียกไปตามกลีบปากของเขา


         “ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”


         “พูดเพราะๆสิ ชาวีครับ ปล่อยมือโนเอลได้แล้ว”


         โนเอลอยากจะตะโกนให้ลั่นใส่หน้ากับรอยยิ้มอย่างผู้ชนะของชาวี


         “แดม ฝันไปเถอะ”


         เอวของโนเอลถูกกระชากเบียดแน่นถูไถไปกับสะโพกของชาวีทันที โนเอลตกใจเมื่อท่อนขาเสียดสีอยู่

กับอะไรบางอย่างที่คับแน่นกลางตัวของชาวี


         “อยากเจอของจริง ว่างั้น”


         โนเอลสะบัดหน้าหนี เขากัดฟันพูดเสียงต่ำ


         “ปละ ปล่อยผมได้แล้วชาวี”


         “ก็แค่นั้น”


         ชาวีเอื้อมมือไปด้านหลังเพื่อปลดเนคไทออก เขาโน้มตัวไปซุกจมูกลงกับซอกคอแล้วสูดกลิ่นกาย

โนเอลเป็นการทิ้งท้ายก่อนที่จะยักคิ้วให้และเดินผิวปากออกไป ปล่อยให้โนเอลยกมือทุบผนังปูนตามอย่าง

เจ็บใจ




                ------------------------------------------------ TBC ------------------------------------------






 
                                            :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2: :pig2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 11-12-2014 20:01:55
หนูป้องจะเข้าปากเสือแล้ว โดนเสือจับกินตับแน่ๆ :hao5:
นายชาวีแกล้งโมโหจูบล่ะสิ :hao6:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 11-12-2014 20:05:02
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 11-12-2014 20:07:37
สงสารน้องป้องล่วงหน้า ฮืออออ
ส่วนคู่พี่วี แซ่บมาก ช่างเป็นบทลงโทษที่เอาใจแม่ยกจริงๆ555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 11-12-2014 20:08:51
รอวันน้องป้องเจอพี่ปราบ  :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 11-12-2014 20:11:22
สงสารรรรรป้องงง จัง
ป้องไม่ได้ทำอะไรผิดดดด!!!!!!!!!!!
แล้ว ทำไม ต้อง ทำป้องด้วยยยยยย ฮือออนออออ
หลบตีนแปปปป?????
อิอิ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 11-12-2014 20:14:43
เดี๋ยวจะเสร็จกันทั้งสองคู่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-12-2014 21:09:48
คู่รองนี่เขาดุเดือดและเร่าร้อนจริงๆ
ตอนหน้าเขาจะเจอกันแล้วใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-12-2014 22:06:49
เอาใหญ่แล้วนะชาวี!!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 11-12-2014 22:22:49
้ตั้งหน้าตั้งตารอคู่หลัก คริคริ :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 11-12-2014 22:44:07
พี่ปราบอย่าใจร้ายกับน้องป้องนักนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 11-12-2014 23:37:06
ชาวีมันร้าย~ อิอิ

~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-12-2014 00:17:47
สลับกันโดนทำร้ายเนาะ 5555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 12-12-2014 00:32:41
คู่ SM ควรมีป้ายไฟ  :hao6:
#วีโน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 12-12-2014 00:57:38
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 12-12-2014 01:19:48
สาสารป้องอ่ะ แล้วพี่ปราบจะหยุดแค้นเมื่อไหร่นี้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 12-12-2014 02:16:31
กรี๊ดดดดดดดดดด ขอโนเอลชาวีอีก พลีสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 12-12-2014 13:38:09
จะเป็นไรมั๊ยถ้าจะบอกว่า ติ่งคู่รองมากๆๆๆๆๆๆ คู่หลักก็ลุ้นอยู่น้าาาาา แต่โอ้ยคู่รองตื่นเต้น  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 12-12-2014 14:09:22
ปราบอย่าทำอะไรน้องป้องเลยค่ะ  :ling2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 12-12-2014 23:55:06
เอาใจช่วยน้องป้องนะขอให้รอดพ้นจากอ้อมกอดแห่งแรงแค้นของปราบให้ได้ (แต่ก็อยากเห็นนะว่าปราบจะร้ายขนาดไหน :hao7:)

เอาใจช่วยคู่ โนเอล x ชาวีนะ
(นายชาวีนี่ไหนชอบน้องป้องจ๊ะ ปากว่ามือถึงตอดเลยนะกับโนเอลนะ :hao3:  อิ๊วววว)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 13-12-2014 01:32:32
แผนพี่ปราบกำลังจะเป็นตามคาดแล้วสินะ  แต่สงสารน้องป้องอ่ะ  ไม่รู้อะไรเลย   :z10:  พี่ปราบกำลังจะทำให้น้องเข้าใจผิดหรี่อเปล่านะ


ส่วนพี่วีก็ชักหาเศษหาเลยกับโนเอลบ่อยขึ้น  และหนักข้อเข้าทุกวัน   :hao3:  คาดว่าอีกไม่นานคงได้เผด็จศึกแน่นอน   :laugh:


รอตอนต่อไปนะคะ  ปล.  ช่วยบอกเลขหน้าตรงชี่อตอนได้ไหมคะจะได้รู้ว่าตอนที่อัพใหม่อยู่หน้าอะไร   :pig4:


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 13-12-2014 08:08:08
โธ่ โนเอลรอดมาตั้งแต่เด็ก(ก็ในบ้านมีคนเป็นเยอะนิ)

แต่ดันมาโดนเด็กกินตอนโตซะงั้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 19.2 ( 11 / 12 / 57 )
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 13-12-2014 12:37:45
สงสารน้องป้องล่วงหน้าได้มั้ยเนี่ย งื้ออออ

แหมๆ ชาวี นี่หึงหรือหวงใครกันแน่
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-12-2014 19:26:33

                                                เพลิงพ่าย

                                                 บทที่ 20


           ปมุตหันไปมองบิดาที่กำลังขับรถอยู่อย่างข้องใจเมื่อปัญญาบังคับพวงมาลัยรถยนต์ให้เลี้ยว

เข้ามาในคอนโดมิเนียมริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งหนึ่งทั้งที่เขาไม่เคยมาที่นี่สักนิด และด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน

ใบหน้าเครียดขึ้งทำให้ปมุตสังหรณ์ใจอย่างประหลาด

           นายปัญญาอาจจะไม่ใช่คนดีนัก แต่กับปมุตปัญญาคือพ่อที่ดีสำหรับเขา ปมุตมักจะเข้าไปกอดเอว

คนเป็นพ่อให้ลูบหัวอย่างรักใคร่อยู่บ่อยครั้ง หากแต่วันนี้ปัญญากลับเงียบขรึมและหลบตาจนปมุตแปลกใจ


           “พ่อพาป้องมาที่นี่ทำไมครับ ธุระของพ่อที่จะต้องทำวันนี้คือที่นี่หรือ”


           ปัญญาสะดุ้งอยู่ในใจกับคำถามของปมุต เขาไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบตามองบุตรชายด้วยซ้ำเมื่อ

จุดมุ่งหมายที่พาปมุตมาที่นี่ในวันนี้ยังทำให้เขาเสียใจจนแทบกระอักเลือด ปัญญาต้องฝืนยิ้มออกมาเมื่อ

จอดรถเสร็จแล้ว


           “ใช่ ป้อง คนที่พ่อต้องทำธุระด้วยเขาอยู่ที่คอนโดนี้ ลงมาสิลูก เราจะได้รีบกลับ”


           น้ำตาของคนเป็นพ่อถูกกลืนเข้าไปในอก เมื่อเดินนำบุตรชายผ่านฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด

แต่เมื่อเห็นคีย์การ์ดที่ปัญญาแสดงให้ดู เขาและปมุตก็ก้าวเข้าไปในลิฟท์อย่างง่ายดาย


         “คนรู้จักของพ่อนี่คงจะรวยน่าดูนะครับ คอนโดนี้หรูหรามาก”


         ปมุตหันมาชวนคุย แต่ยิ่งทำให้ปัญญากระสับกระส่ายจนเหงื่อตก


         “ใช่ลูก เขารวยมากเชียวล่ะ รวยพอที่จะช่วยเหลือเราได้ถ้าป้องทำดีกับเขา”


         คิ้วโก่งของปมุตขมวดลงอย่างไม่เข้าใจกับคำพูดแปลกๆ ของบิดา แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะเอ่ยถามเมื่อ

ประตูลิฟท์ที่พาเขาและบิดาขึ้นมาจนถึงชั้นบนสุดของคอนโดมิเนียมเปิดกว้าง ปัญญายกมือวางที่แขนของ

เขาแล้วจูงจนมาหยุดอยู่หน้าประตูเพียงบานเดียวที่มีในชั้นนี้


         “ป้อง”


         ปัญญาเรียกชื่อเสียงเบาหวิว ดวงตามองตรงไปยังประตูบานนั้นทั้งที่เรียกชื่อบุตรชาย


         “ครับพ่อ”


         “พ่อรักป้องนะ แต่มันมีเหตุจำเป็นจริงๆที่พ่อต้องให้ป้องช่วย”


         มืออูมหนาของปัญญาที่ถือคีย์การ์ดในมือสั่นระริกในขณะที่เสียบมันเข้าไปในช่องใต้ลูกบิด

ทองเหลือง เสียงดังคลิกเกิดขึ้นปัญญาเลื่อนมือไปผลักด้ามลูกบิดอันใหญ่ให้ประตูเปิดออก  เขาก้มหน้าลง

ต่ำเพื่อซ่อนหยาดน้ำตาแห่งความอดสูเอาไว้


         “มันอะไรกันแน่ครับพ่อ ป้องงงไปหมดแล้ว”


         ปมุตยิ่งตกใจเมื่อเห็นอาการของบิดา หนุ่มน้อยเริ่มเอะใจว่ามันต้องมีอะไรที่ผิดปกติ เท้าจึงเริ่มก้าว

หนีแต่ปัญญาก็คว้าแขนและกำไว้จนแน่น


         “พ่อขอโทษนะลูก ขอโทษจริงๆ”


         ปัญญาผลักประตูให้เปิดกว้างก่อนที่จะดึงแขนและออกแรงดันร่างของปมุตให้ก้าวเข้าไปหลังบาน

ประตูใหญ่นั้นแล้วจึงดึงปิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็รีบก้าวเข้าไปในลิฟท์และกดให้มันลงมายังชั้นล่างสุด

เพื่อที่เขาจะได้ไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถแล้วเช็ดน้ำตาอย่างเจ็บช้ำ

         เขากลายเป็นคนที่ขายลูกเพื่อไถ่ถอนหนี้ไปแล้ว













          “พ่อ พ่อ”


         ปมุตตกใจจนหน้าซีดกับการกระทำของบิดา เขายกกำปั้นขึ้นทุบบานประตูและพยายามหมุนลูกบิด

จากฝั่งด้านในแต่ประตูก็ยังนิ่งสนิท นักร้องหนุ่มกำลังใจเสียเพราะมันเหมือนกับว่าเขากำลังถูกขังอยู่

เบื้องหลังประตูบานใหญ่ ยิ่งกลัวเขาก็ยิ่งออกแรงทุบประตูเสียงโครมๆ ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือกเมื่อมีเสียงใคร

บางคนแทรกดังขึ้นมา


         “ประตูที่นี่ออกแบบให้เปิดปิดด้วยคีย์การ์ด ต่อให้ทุบจนมือพังก็เปิดไม่ได้หรอก"


         ใบหน้างามราวรูปสลักหันขวับไปมองต้นเสียง เพียงเห็นเสี้ยวหน้าคมของคนที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบาย

อารมณ์อยู่ที่ชุดรับแขกกลางห้องกว้าง ปมุตก็ตกใจจนแทบจะอ้าปากค้าง


         “นี่มัน นาย”


         “ถ้าอยากจะออกไปจากห้องนี้ก็ต้องใช้คีย์การ์ดอันนี้ ปมุต อนันตกุล”


         เจ้าของห้องยกมือที่ใช้ปลายนิ้วคีบแผ่นพลาสติกบางในมือชูให้เห็น พลางยิ้มเย็นจนปมุตเสียวสัน

หลัง แต่เมื่อไม่มีทางเลือกอื่นเขาจำเป็นต้องก้าวเดินไปหาผู้ชายคนนั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม


         “เอาคีย์การ์ดมาให้ผมนะ”


         ปมุตหักห้ามความกลัวด้วยการใช้ความโกรธบังหน้า เขาส่งเสียงกราดเกรี้ยวออกไปเมื่อมาหยุดยืน

อยู่เบื้องหน้าชายที่ปมุตจำชื่อได้เป็นอย่างดี


         ปราบ!


         จำได้แม้ว่าจะไม่อยากจำสักนิด แต่ทั้งชื่อทั้งหน้าตากลับมาวนเวียนจนยากที่จะกำจัดออกไปได้

ปมุตไม่เข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายโอหังคนนี้ถึงได้เข้ามาอยู่ในความคิดของเขาได้ ถ้าเป็นไปได้ปมุตไม่อยาก

อยู่ใกล้ปราบแม้แต่นิดเดียว


         “เข้ามาเอาเองสิ”


         สายตาคมท้าทายพลางใช้ปลายนิ้วกรีดแผ่นพลาสติกบางไปมาชวนให้น่าโมโหยิ่งนัก ปมุตขมวดคิ้ว

มองอย่างไม่พอใจก่อนที่จะก้าวไปจนใกล้ตัวปราบที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาว        แล้วจึงเอื้อมมือไปคว้าคีย์การ์ด

จากมือปราบ

                แต่ถ้าได้มาแบบง่ายๆ ก็คงไม่ใช่ปราบ เมื่อปมุตเอื้อมมือมาเขาก็แค่วาดแขนหลบไปมาจนปมุต

หัวเสียที่ไม่สามารถแย่งคีย์การ์ดมาได้เสียที จนกระทั่งตัดสินใจใช้มือยื้อยุดที่ข้อมือของปราบไว้เพื่อที่จะ

หยุดเขาให้ได้

         แต่กลับกลายเป็นปมุตที่ถูกหยุดลง เพียงแค่ปราบบิดข้อมือหลบแล้วคว้าข้อมือเรียวเล็กนั่นไว้

กระชากเบาๆเท่านี้ปมุตก็ถลาตามแรงลงมาปะทะอยู่กับอกกว้างให้ปราบใช้มือสอดเข้าไปรอบเอวแล้วรั้ง

ร่างกายผอมบางแนบชิดกับตัวจนได้


         “ปล่อยนะ”


         ปมุตดิ้นขลุกขลัก ประเคนกำปั้นลงบนเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ยั้ง ปราบมองอย่างรำคาญครู่

ใหญ่แล้วจึงตวาดลั่น


         “หยุดดิ้นได้แล้วปมุต”


         “ไม่ ไม่หยุด กูไม่หยุด ปล่อยกูสิวะ”


         ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุ ปมุตยิ่งดิ้นรนอยู่บนตักของปราบ เจ้าของห้องขมวดคิ้วเข้ม ตาคมฉายแววดุก่อนที่

จะคว้าสองมือของปมุตไว้แล้วเหวี่ยงลงกับโซฟา แม้ว่าจะเป็นหนังเนื้อนุ่มแต่ปมุตก็จุกจนต้องนิ่วหน้า

ซ้ำร้ายปราบยังโถมกายมาทับเขาไว้อีกด้วย


         “ทำอะไรบ้าๆวะ ลุกออกไปนะ”


         ปมุตต่อสู้และดิ้นรน ดวงตางดงามมองปราบอย่างจงเกลียดจงชังพลางตะโกนด่าลั่นจนปราบนึก

โกรธ เขาใช้มือผลักคางปมุตจนศีรษะจมไปกับโซฟาตามด้วยการก้มหน้าลงไปประกบปากจูบหนักหน่วง


         “อื้อ อะ ไอ้…”


         คำด่าทอถูกกลืนหาย ปมุตน้ำตาเล็ดเมื่อกลีบปากถูกขบเม้มจนรู้สึกเจ็บ ยิ่งดิ้นปราบก็ยิ่งออกแรงกด

จนช้ำชอก ปมุตจำเป็นต้องหยุดตัวเองไว้เพื่อไม่ให้เจ็บตัวมากไปกว่านี้ และเมื่อเขาหยุดปราบจึงค่อยๆ

ผ่อนแรงลง จนกระทั่งยอมปล่อยให้ริมฝีปากของเขาเป็นอิสระ พอถึงตอนนี้น้ำตาของปมุตก็ไหลอย่างเจ็บใจ

         นัยน์ตาดุของปราบไม่มีวี่แววแห่งความเสียใจสักนิด เมื่อเห็นหนุ่มน้อยละพยศเขาก็แค่ยกยิ้มหยันที่

มุมปากพลางลุกขึ้นจากการนอนทาบทับไปนั่งที่เก้าอี้เดี่ยวตัวใกล้สุด ปล่อยให้ปมุตต้องกระเสือกกระสนลุก

ขึ้นมานั่งเอง ปมุตยกหลังมือป้ายน้ำตามองหน้าปราบพูดด้วยเสียงสั่นเครือ


         “ผมจะกลับ”


         “นายไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งนั้น”


         น้ำเสียงเย็นชาที่ปฏิเสธกลับมาทำให้ปมุตมองปราบอย่างไม่เข้าใจ


         “ทำไมผมจะกลับไม่ได้ พ่อรอผมอยู่”


         “ก็ปล่อยให้พ่อของนายรอไป จนกว่าฉันจะพอใจและเป็นคนปล่อยนายออกไปเอง”


         “คุณหมายความว่ายังไง”


         ปมุตส่งเสียงดังลั่น


         “คุณจะกักขังหน่วงเหนี่ยวผมไว้ที่นี่ไม่ได้ คุณไม่มีสิทธิ์”


         ปมุตเกลียดดวงตาคู่นั้นจับใจ ดวงตาที่มองมาทางเขาอย่างหยามหยัน ผิดกับเมื่อแรกเจอที่ยังมี

ประกายพราวระยับเมื่อสบตา แต่ในวันนี้ปราบช่างเย็นชาเหลือเกินแม้กระทั่งสรรพนามที่ใช้เรียกขานก็ยัง

เปลี่ยนไป


         “สิทธิ์ของฉันมีอยู่เต็มกำมือ เพราะพ่อของนายส่งนายมาขัดดอกหนี้กับฉัน”


         “อะ อะไรนะ”


         ปมุตหน้าซีดเผือดจนแทบไม่มีสีเลือดกับสิ่งที่ได้ยิน ขนกายสะท้านเยือกเมื่อคิดถึงอาการของบิดาที่

แสดงพิรุธออกมา มือน้อยกำแน่นอยู่บนตักดวงตาเบิกกว้าง


         “พ่อของนายส่งนายมาให้ฉัน”


         ปราบย้ำคำพูดเดิมจนปมุตต้องส่ายหน้าไปมา


         “ไม่จริง!”


         ปราบหัวเราะอย่างสมเพชเมื่อเห็นอาการของปมุตเมื่อได้รู้ความจริง นี่คงบูชาพ่อรักพ่อมากสินะ จึง

ไม่เคยรู้เลยว่าคนเป็นพ่อทำเลวอะไรไว้บ้าง ก็ดี จะได้เปิดหูเปิดตาเสียบ้าง

         แฟ้มเอกสารที่วางรออยู่บนโต๊ะรับแขกถูกดันให้เลื่อนไปหยุดอยู่ตรงหน้าปมุต ไม่ต้องบอกปมุตก็รีบ

คว้ามันขึ้นมาแล้วเปิดดูเอกสารด้านใน


         “พ่อของนายเล่นการพนันจนหมดเงินที่กู้ยืมจากฉันไปหลายล้าน จนต้องเอาบ้านมาจำนองไว้ และ

ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันมานี้เงินก้อนสุดท้ายก็หมดลงไปกับบ่อนบนเรือท่องเที่ยว บ้านหลุดจำนองพ่อของนายและ

นายต้องย้ายข้าวย้ายของออกไป”


         ถ้าหายตัวได้ ปมุตอยากจะเสกให้ตัวเองหายไปจากโลกนี้เมื่อเห็นลายเซ็นของพ่อหราอยู่บนเอกสาร

กู้ยืมเงิน น้ำตาหยดหนึ่งตกจากดวงตาจนเปียกปอนอยู่ที่แผ่นกระดาษ


         “สิบห้าล้านสำหรับค่าบ้าน และเป็นค่าตัวของนายเพียงทำให้ฉันพอใจ แต่ถ้าไม่ยอม…”


         คีย์การ์ดถูกโยนมาตรงหน้าปมุต


         “ก็กลับออกไปและพาครอบครัวของนายไสหัวไปให้พ้นจากบ้านหลังนั้น”


         น้ำเสียงโหดเหี้ยมจนปมุตสะดุ้ง ร่างกายบอบบางสะอื้นจนไหล่สะท้านเมื่อเงยหน้ามองปราบอีกครั้ง


         “ผมจะหาเงินมาใช้ให้คุณ ผมเป็นนักร้องผมจะรับงานทุกงานเพื่อหาเงินมาเยอะๆ”


         ปมุตอ้อนวอนทั้งน้ำตาแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายก็ช่างใจแข็งเหลือเกิน


         “พ่อก็ยังมีงานที่บริษัท เราจะช่วยกันหาเงินมาคืนคุณ”


         ปราบยกขาไขว่ห้าง เท้าศอกไว้กับที่พักแขนวางคางแตะไว้กับมือที่ประสานกัน สายตาที่มองปมุต

ราวกับสิงโตที่กำลังรอขย้ำเหยื่อ


         “นายปัญญาเขาไม่ได้บอกนายหรือไง ว่าหุ้นล็อตสุดท้ายของบริษัทที่เขาถืออยู่มันหมดไปตั้งแต่เขา

ไปเล่นที่บ่อนฝั่งโน้นเมื่อเดือนที่แล้ว ปมุต ตอนนี้พ่อของนายน่ะเหลือแต่ตัวแล้ว”


         ช็อคซ้ำสอง คราวนี้แรงยิ่งกว่าเดิม ปมุตนั่งนิ่งราวกับหุ่นขี้ผึ้งเมื่อสมองกำลังประมวลเรื่องที่เพิ่งจะรับรู้

ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่ปราบก็ไม่มีทีท่าหลอกลวงสักนิดกับไพ่ในมือที่เหนือกว่า


         “สมบัติชิ้นสุดท้ายของนายปัญญาก็คือนายไงล่ะ ปมุต อนันตกุล”


         “ฮึก ฮือ”


         ปมุตร้องไห้ราวกับเป็นเด็กน้อย เมื่อความจริงทั้งหมดถูกเปิดเผย เจ็บช้ำที่พ่อตนเองหลงใหลไปกับ

อบายมุขจนไม่เหลือสิ่งใด และเขาก็เป็นห่วงไปถึงมารดาหากต้องรู้ความจริง

         ยิ่งเห็นสายตาแห่งความดูแคลนจากปราบน้ำตาก็ยิ่งไหล แต่จะมีทางเลือกอื่นใดเล่าให้กับเขาบ้าง

เพื่อที่จะช่วยให้ครอบครัวยังอยู่รอดไม่ต้องตกระกำลำบาก นอกจากยินยอมพลีกายเป็นสมบัติอีกชิ้นหนึ่ง

ให้กับผู้ชายใจร้ายตรงหน้า

         ถอนสะอื้นอย่างยากเย็น ก่อนที่จะตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมามองปราบอย่างเกลียดชัง มือกำหมัดแน่น

กับสภาพที่จนตรอก


         “ผมต้องทำยังไงบ้าง คุณถึงจะพอใจ”


         ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง

         ปราบยกยิ้มอยู่ตรงมุมปาก ดวงตาคมจ้องมองปมุตไม่คลาดสายตา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังมีคราบ

น้ำตาเต็มวงหน้า                                                               

         เขาจ้องมองผลผลิตของคนที่สร้างความเจ็บปวดมาให้เขาตลอดชีวิต และทำให้คนที่รักที่สุดอย่าง

มารดาของเขาต้องเสียใจจนกระทั่งวันตาย

         ปราบไม่เสียใจเลยในสิ่งที่เขาทำลงไปทั้งหมด แม้ในภายหลังจะมีคนมาด่าว่าเขาเป็นคนอกตัญญู

แต่ถ้าการเป็นคนดีแล้วจะทำให้เขาต้องถูกกระทำให้เสียใจอย่างที่ผ่านมา ปราบขอเลือกที่จะเป็นคนเลว

         และถ้าจะเลว ก็ต้องเลวให้มันสุดขั้ว

         หน้าคมเชิดขึ้น ดวงตาดุจ้องมองปมุตเมื่อออกคำสั่ง


         “ถอดเสื้อผ้าของนายออก ฉันอยากจะรู้ว่าสมบัติชิ้นสุดท้ายของอนันตกุลจะมีค่าแค่ไหน”


         “ไม่!”


         ปมุตตะโกนลั่นด้วยความอับอาย แต่เมื่อสบตาเขารู้ว่าปราบไม่ยอมอ่อนข้อให้แน่ๆ

         น้ำตาที่เพิ่งจะเหือดแห้งกลับมาล้นทะลักอีกครั้งเมื่อปมุตต้องฝืนความอับอายลุกขึ้นยืนและถอด

เสื้อผ้าตัวเองออกทีละชิ้นจนกระทั่งเหลือแต่เรือนกายเปล่าเปลือยอวดสายตากระหายของปราบ ปริวัตร!







       ------------------------------------------------- TBC-----------------------------------------   


พูดคุยกับคนแต่ง

หายไปนานเลย ขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ

มัวแต่ไปตรวจคำผิด และจัดหน้าเรื่อง X-Theme the series

เราเปิดให้โอนเงินแล้วนะ ทราบกันหรือยังเอ่ย

ถ้าใครยังไม่รู้ หรือใครยังไม่เคยอ่าน ไปอ่านในลิงค์ข้างล่างเลย

ขอบคุณค่ะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0


 :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-12-2014 19:38:37
ค้าง...... :mew2: มาตั้งแต่ตอนอินโทรแล้วมั๊ง

ในที่สุดพี่ปราบจะได้ตามที่ใจโหยหาสักที   รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ  :hao6:

เดี๋ยวจะตามไปสอยผู้พันกับน้องชินน้า  :bye2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 16-12-2014 19:57:56
เบามือหน่อยพี่ปราบบบบ  o22
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 16-12-2014 20:12:58

ลังเลจะอยู่ #ทีมปราบ หรือ #ทีมป้อง ดี  :o8:  :mew2:  :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-12-2014 21:15:11
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-12-2014 21:17:50
ป้องร้องไห้น่าสงสารจัง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 16-12-2014 21:27:45
รอ!!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-12-2014 21:39:17
นุ้งป้อง~~ จะโดนพี่เด่วเขมือบแร้วว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 16-12-2014 21:54:53
กรี้ดดดด!!!! เอ้ะ!! ทำไมเราไม่สงสารป้องเลยเนี่ย ครึครึ (ขอแนะนำตัวดิหั้น ปราบ fc เค่อะ) :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-12-2014 21:57:00
 :mew4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 16-12-2014 22:06:01
สงสารป้อง
อิพี่ปราบอย่าให้น้องช้ำนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 16-12-2014 22:09:04
พี่เดี่ยวใจร้าย ทำกับน้องรุนแรงมากไปไหมคะ   ไม่ยอมให้ตั้งตัวกันเลยทีเดียว  แล้วน้องป้องจะทำยังไงต่อไปล่ะ ถ้าน้องเกลียดพี่เด่วขึ้นมาจริง ๆ. คนที่จะแย่คงไม่พ้นพี่เดี่ยงเองนะคะ  :katai1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-12-2014 22:40:12
ปราบใจร้ายกับน้องมากกกกกอะ  :z6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 16-12-2014 23:09:12
จัดไปอย่าให้เสียเลยพี่ปราบ เลวให้สุดๆเลยนะ
ถ้าพี่สำนึกผิดขึ้นมา เค้าจะยุน้องป้องไม่ให้กับไปคืนดี 555+

ตั้งหน้าตั้งตารอตอนนี้มานาน
จะรอตอนต่อไปนะคะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-12-2014 23:31:18
โอ้ยยยย สงสารน้องป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-12-2014 00:17:55
หื้ออ!! แก้แร้ว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 17-12-2014 02:32:39
น้องป้องน่ารักน่าแกล้งให้ร้องไห้ ก็เข้าใจนะพี่เด่วนะ
แต่อย่าลืมนึกถึงตอนง้อล่ะ หืดขึ้นคอแน่แก
 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 17-12-2014 07:48:07
 :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 17-12-2014 13:41:54
เราสงสารน้องป้องนะ :mew4: :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 18-12-2014 13:27:56
ตามอ่านทันล่ะ ถ้าเรื่องผิด ก้อผิดที่พ่อ บังเกิดเกล้า เลยคร่า

ครอบครัวพัง มีหนี้อีกตั้งหาก ไม่รุสิ ตอนนี้ยังไม่รุ้สึกสงสารป้องเลยอะ

บอกไม่ถูก รออ่านนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 18-12-2014 15:20:42
เชียร์พี่ปราบ (จัดหนัก) น้องป้อง ไปเลยยยย
อิอิ เอาแรงๆเลยจ๊ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 18-12-2014 16:02:47
สงสารน้องป้องเบาๆ  :t2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 18-12-2014 21:12:24
พี่เด่วใจร้าย :z6:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 18-12-2014 22:08:43
ยอมรับจริงๆ ทุกเรื่องกินใจมากๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 19-12-2014 01:58:31
กรี๊ดใส่พี่เดี่ยว โกรธแค้นพ่อแล้วเอามาลงที่น้องทำไมคะะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 20 ( 16 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 19-12-2014 02:31:01
เป็นกำลังใจไห้น้องป้องนะ
อิอิ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-12-2014 23:56:55

                                                     เพลิงพ่าย

                                                      บทที่ 21


         สายตาคู่นั้นกำลังมองอย่างละเอียดจนแทบทะลุไปถึงเนื้อในมันทำให้ปมุตบังเกิดความรู้สึกอัน

หลากหลายเหลือเกิน เจ็บใจที่ต้องกลายเป็นเครื่องมือระบายความใคร่ของผู้ชายเลวๆ คนนี้  และอับอาย

กับนัยน์ตาที่ค่อยๆ เรืองแสงขึ้นมาทั้งที่ใบหน้ายังเรียบเฉยจนเขาต้องใช้มือมาปิดบังจุดสงวนไว้เพื่อลดความ

กระดากลง แต่แล้วปมุตก็ต้องสะดุ้งเมื่อข้อมือเล็กถูกคว้าหมับและกระชากจนร่างเพรียวถลาล้มลงไปบนตัว

ของปราบที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวตัวเดิม

         แผ่นหลังเปลือยถูกมือร้อนนาบไว้กดให้ปมุตต้องนิ่งอยู่ในอ้อมแขน ตากลมโตเบิ่งขึ้นอย่างตกใจเมื่อ

เงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาดุที่คลี่ยิ้มหยันอยู่ตรงมุมปากหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อไม่สามารถคาดเดา

ได้เลยว่าปราบจะทำอะไรต่อจากนี้


         “ปลุกฉันหน่อย”


         “อะไรนะ”


         “ปลุกฉันด้วยปากสวยของนาย”


         ปลายนิ้วใหญ่ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามเรียวปากอิ่ม ปมุตสะบัดหน้าหนีจนปราบต้องใช้มือบีบคางเรียว

ให้หันกลับมาเผชิญหน้า


         “คะ คุณ จะให้ผมทำออรัลให้คุณ ไม่ ไม่มีทาง”


         น้ำตาแห่งความคับแค้นไหลรินลงมาต้องมือปราบ แต่เขาก็ยังไม่ปรานีแถมยังออกแรงบีบจนกราม

ปมุตแทบหักก่อนจะตะคอกใส่หน้าหนุ่มน้อยให้ยิ่งเจ็บช้ำ


         “หรือจะต้องให้พ่อแม่ของนายระเหเร่ร่อนนอนอยู่ข้างถนน”


         ความยากลำบากสมัยเมื่อครั้งเป็นเด็กเร่ร่อนที่ต้องเอาตัวรอดอยู่เพียงลำพังผุดขึ้นมาในความทรงจำ

ทำให้ปราบจ้องใบหน้างดงามนั้นราวกับซาตาน ปมุตสะดุ้งจนตัวโยนปากเรียวสั่นระริกเมื่อเห็นกิริยาน่า

กลัวที่อยู่ตรงหน้า  นักร้องหนุ่มกัดฟันและปัดมือปราบออกไปจากใบหน้า ดวงตาคู่สวยมองปราบกลับด้วย

ความจงชัง

         ร่างบอบบางลดตัวลงมาคุกเข่าอยู่บนพื้นห้องพลางเอื้อมมือไปที่กางเกงเนื้อดีของปราบ

และรูดซิปมันลงมาช้าๆด้วยมืออันสั่นเทา แก่นกายที่ซ่อนอยู่ในกางเกงชั้นในเนื้อนุ่มดูคับแน่นไปหมดยามที่

ได้เห็นคราแรก ปมุตล้วงท่อนเนื้อร้อนออกมาด้วยมือเรียวและเมื่อได้เห็นเต็มตาเขาก็ต้องกลืนน้ำลายอึก

ใหญ่

         มันแทบจะไม่จำเป็นสักนิดที่จะต้อง “ปลุก” เมื่อตอนนี้แท่งเนื้อผงาดง้ำอยู่ในมือ ใหญ่โตจนปมุตนึก

อาย เส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงปูดโปนอย่างเห็นได้ชัด แสดงให้เขารู้ว่าเจ้าของมันกำลังมีความต้องการแค่ไหน

ปมุตนึกขยาดกับชะตากรรมตนเอง แต่ในตอนนี้ที่ทำได้ก็แค่เพียงเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้และแตะปลายลิ้นลง

ไปอย่างเก้ๆ กังๆ

         ปมุตเป็นผู้ชาย แน่นอนว่าเขาไม่เคยทำเรื่องอย่างนี้กับผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ประสาเลยจน

ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร เขากลืนความอดสูลงไปและค่อยๆ ลากปลายลิ้นขึ้นมาตั้งแต่โคนจนจรดปลายบาน

ก่อนที่จะเม้มยอดแล้วอ้าปากให้กว้างเพื่อครอบลงไปบนแท่งเอ็นร้อนชื้นฉ่ำปริ่มน้ำใส ปากเรียวกลืนกินมัน

เข้าไปช้าๆ ด้วยความยากลำบากกว่าจะเกือบมิดลำ

         ปราบลอบผ่อนลมหายใจยาว เขากำลังอดกลั้นความต้องการที่ทะยานสูงนั้นอย่างยากเย็น จริงๆมัน

พุ่งขึ้นมาตั้งแต่ปมุตยืนอวดร่างเปลือยอยู่ตรงหน้านั้นแล้ว น้องชายของเขาช่างงดงามจนเกินพรรณาแม้ว่า

รูปร่างเพรียวบางภายนอก แต่เมื่อได้เห็นชัดๆ กล้ามเนื้อของปมุตหนั่นแน่นน่าฟอนเฟ้นไปเสียทุกส่วน

ผิวพรรณขาวสว่าง ยอดอกเม็ดงามสีชมพูสวยจนอยากจะกระชากมาละเลงลิ้นให้หนำใจ เมื่อเลื่อนสายตา

ไปมองจุดอ่อนไหวขนาดพอเหมาะก็ยิ่งเร้าไฟสวาสให้แทบคลั่ง แต่เขาก็ต้องอดทนเพื่อที่จะบีบคั้นปมุตให้ถึง

ที่สุด

         และยิ่งตอนนี้แก่นกายของเขากำลังเริงร่าอยู่ในช่องปากหวาน รู้สึกได้ถึงความชื้นของน้ำลายกับ

ความอ่อนนุ่มของลิ้นที่กำลังโลมเลีย ก้มหน้ามองเห็นใบหน้าของปมุตที่กำลังก้มกลืนกินอยู่ เขาก็ยิ่ง

ต้องการจนเนื้อตัวสั่น ในขณะที่ปมุตเลื่อนหัวขึ้นลงช้าๆ อย่างอ่อนหัดไม่ทันใจ ปราบจึงเสยมือเข้าไปในกลุ่ม

ผมสีน้ำตาลเข้มแสนนุ่มขยุ้มมันไว้ในมือแล้วกดหน้าหวานเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว


         “อะ อึก”


         ปมุตแทบอาเจียนเมื่ออยู่ๆ แท่งร้อนในปากก็กระแทกเข้ากับลำคอ และยังไม่ทันตั้งตัวศีรษะก็ถูกโยก

รั้งขึ้นลงให้ท่อนเนื้อยักษ์ยิ่งกระแทกกระทั้น แถมปราบยังเด้งเอวอัดใส่พร้อมกันอีก เขาสาวรูดเรียวปาก

อย่างอัตโนมัติ ได้ยินเสียงหายใจหอบถี่ดังแว่วเข้าหู ท่อนเนื้อในปากกระตุกถี่แล้วน้ำคาวรสเฝื่อนก็พุ่งวาบ

อยู่ตรงคอหอย


         “อื้อ”


         ปมุตพยายามดันหน้าออกจากตรงนั้นแต่ปราบยิ่งกดเขาลงจนหายใจไม่ออก หนุ่มน้อยเผลอไผล

หอบหายใจทางปากกลายเป็นยิ่งดูดกลืนน้ำเมือกลื่นลงคอเกือบหมดปราบจึงได้ยินยอมปล่อยมือให้เขา

คายแท่งร้อนออกมาและหงายหลังแผละไปกองกับพื้นอย่างหมดแรง


         “คุณมันเลว ผมเกลียดคุณ”


         ปมุตตวาดต่อว่าพลางยกหลังมือเช็ดปากที่ชื้นไปด้วยผลิตผลของเขา น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้ว

กลับมาคลออยู่ในหน่วยตา ปราบมองสายตานั้นด้วยนัยน์ตาวาวโรจน์ดุจสิงโตหนุ่มที่พบเจอเหยื่ออันโอชะ

เขาลุกพรวดขึ้นยืนจังก้าจ้องมองปมุตที่กำลังผงะอย่างหวาดกลัว ปราบก้าวเข้าไปหาร่างเพรียวพลางก้มลง

คว้าร่างนั้นมาแบกพาดอยู่บนบ่าอย่างง่ายดาย


         “จะทำอะไร ปล่อยผมนะ”


         ปมุตดิ้นรนอยู่บนบ่าเมื่อปราบเริ่มก้าวเดินไปทางด้านหนึ่งของห้องกว้าง ปราบใช้ไหล่อีกข้างดัน

ประตูบานหนึ่งให้เปิดกว้าง ปมุตมองอย่างตกใจเมื่อรู้แล้วว่านี่คือห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู งดงาม

แต่นี่ไม่ใช่เวลามาชื่นชมอยู่กับความสวยงามของสถานที่เมื่อปราบเดินดุ่มเข้ามาและโยนร่างของเขาลงกับ

เตียงหนานุ่มจนร่างเปล่าเปลือยเด้งอยู่บนที่นอน ปมุตตั้งตัวและถอยกรูดไปนั่งชิดอยู่กับหัวเตียงเมื่อปราบ

เปลื้องเสื้อผ้าตนเองอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงเนื้อกายเสมอกันกับเขา


         “คุณปราบ อย่าทำอะไรผมเลยนะ”


         คราวนี้ปมุตหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ เมื่อเห็นทีท่าคุกคามของปราบที่กำลังคืบตัวมาบนเตียงและ

กระชากแขนของเขาเข้าหาตัวพลางผลักให้หงายหลังไปบนที่นอนแล้วจึงขยับมากางขาคร่อมตัวเขาเอาไว้

ดวงตาสวยที่เริ่มช้ำเพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักยังมีน้ำตาไหลจากหางตาไม่ขาดสาย

         ปราบมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาวาวโรจน์ ร่างกายขาวโพลนนวลเนียนน่าลูบไล้กำลังเปลือยกาย

เนื้อตัวสั่นเทาอยู่บนที่นอนนุ่ม เครื่องปรับอากาศทำงานจนเย็นฉ่ำกับแสงไฟสลัวเลือนลางทั้งหมดยิ่งกระตุ้น

ให้ร่างกายของปราบร้อนรุ่ม


         “คุณปราบ ผมกลัวแล้ว”


         ปมุตสั่นสะท้านอยู่ภายใต้ร่างกำยำไปด้วยกล้ามเนื้อที่ผงาดง้ำอยู่เหนือเขา น้ำตารินจนเปียกเส้นผม

เขายกมือสั่นเทาพนมไว้ตรงหน้าอกพลางมองปราบอย่างวอนขอความปรานีจากซาตาน


         “เมตตาผม อย่าทำอะไรผมเลยนะครับ คุณปราบ”


         มือเรียวยกขึ้นพนมอยู่กลางหน้าอก แต่ปราบก็ไม่ได้สนใจสักนิด เขาสนใจแต่ยอดอกเม็ดงามสี

สวยที่ตั้งอยู่ขนาบข้างมือที่ยกขึ้นมาไหว้ขอความเมตตาจากเขาต่างหาก มันช่างล่อตาล่อใจจนเขาต้องส่ง

ปลายนิ้วไปบดบี้เค้นคลึงแล้วกอบมือขยำกล้ามเนื้อนั้นขึ้นมาจนอีกฝ่ายน้ำตาไหลพรากด้วยความอดสู

                ปากบางเฉียบอย่างนักเจรจาชั้นยอดก้มลงไปครอบลานนมสีหวานแล้วดูดเม้มราวกับเป็น

ลูกกวาดแสนอร่อย มือสากลูบไล้ไปตามเนื้อตัวนุ่มมือก่อนที่จะมาหยุดและกอบกุมแก่นกายพอดีมือนั้นให้

อยู่ในอุ้งมือ ยิ่งอีกฝ่ายผวาเขาก็ยิ่งรัวลิ้นอย่างได้ใจ


         “คะ คุณปราบ ผมขอร้องเถอะ”


         ปราบชะงัก ยกมือบีบที่คางเรียวแล้วบังคับให้สบตากับเขาที่ยืดตัวขึ้นมาจ้องหน้าหวานตาไม่กะพริบ


         “นี่นายกำลังขอร้องใครอยู่รู้หรือเปล่า”


         ปราบตะคอกเสียงเข้มใส่หน้า


         “ฉันคือปราบ คนที่เป็นเจ้าของร่างกายของนาย รู้เอาไว้ซะ”


         พูดจบปราบก็ทิ้งร่างหนาลงไปบดจูบเร่าร้อนในโพรงปากหวานที่เขาเฝ้ารอ มือที่ยังกอบกุมจุด

อ่อนไหวบีบเค้นเพิ่มแรงกระตุ้นจนมันเริ่มตื่นไปพร้อมกับเขา ปราบเลื่อนตัวมาขบเม้มไปตามเนื้อตัวขาว

เนียนจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำจนมาหยุดอยู่ที่ลานนมสีสวยอีกครั้ง คราวนี้เขาดูดดุนจนเกิดรอยฟันอยู่รอบ

เม็ดเล็กที่แข็งเป็นไต


         “ปล่อยนะ ผมเจ็บ”


         ปมุตประท้วงอย่างหมดแรงเมื่อร่างกายของเขาเริ่มมีปฏิกิริยากับการกระทำแสนโฉด พยายามยกมือ

ขึ้นผลักดันแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อปราบช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน

         มือใหญ่ของปราบที่กอบกุมปลุกเร้าอยู่กับแท่งเนื้อของปมุตเลื่อนต่ำลงไปตามร่องจนถึงปากทาง

ปมุตถึงกับสะดุ้ง เขาพยายามหนีบขาเข้าหากันเพื่อไม่ให้ปราบล่วงล้ำเข้าไป ปราบสบถเบาๆ อยู่แถว

ยอดอก พลางเงยหน้ามาขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์


         “อ้าขาออก”


         “ไม่”


         ปมุตโต้กลับ น้ำตานองหน้า

         แล้วจะให้ปราบทำอย่างไรได้ล่ะ นอกจากใช้สะโพกกดลงตรงกลางระหว่างตัวบังคับให้ปมุตแยกขา

ออกจากกันก่อนที่เขาจะใช้นิ้วเสียบเข้าไปที่ช่องทางลับ

         “อ๊ากสส”

         ปมุตร้องลั่นเด้งตัวหนีแต่ปราบก็ชิงกดตัวลงไปทาบทับและปิดปากที่กำลังตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

ด้วยปากของเขา

         ร่างกายที่เพรียวบางแบบนี่น่ะหรือจะมาต่อกรกับร่างสูง 185 เซ็นติเมตร ที่ผ่านการออกกำลังทุกวัน

จนมัดกล้ามเต็มตัวอย่างเขา ปราบวนนิ้วมือจนช่องทางเริ่มหยาดเยิ้มชื้นแฉะและเจ้าของช่องทางหอบ

กระเส่าไปกับการกระตุ้น เขาชักมือออกมาและชิงสอดแท่งร้อนที่แข็งขันรออยู่นานแล้วเข้าไปอย่างรวดเร็ว


         “อื้มมม!!”


         ร่างกายบอบบางดิ้นพล่าน เสียงร้องที่ถูกเขาปิดไว้ยังรอดออกมาให้ได้ยินอยู่ใกล้หู มือเรียวจิกอยู่ตรง

หัวไหล่ของปราบจนเล็บฝังลึก ปราบคิดว่ามันอาจจะมีเลือดไหล แต่วินาทีนี้อะไรก็หยุดเขาไม่ได้ เมื่อเขาได้

แทรกกายเข้าไปในช่องทางที่แสนคับแน่น มันอุ่นจนร้อนเรียกร้องให้เขาดันตัวเข้าไปจนสุดตัว

         “เจ็บ”

         เมื่อเขายอมปล่อยกลีบปากนุ่มให้เป็นอิสระปมุตก็ตะโกนลั่น ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา

และความโกรธแค้นมือข้างหนึ่งยกขึ้นมาตวัดลงบนใบหน้าดุ ปราบตาลุกวาบ เขายึดมือทั้งสองข้างตรึงไว้

เหนือหัวด้วยมือเพียงข้างเดียว ก่อนที่จะก้มหน้าลงไปละเลงลิ้นอยู่บนยอดอกแสนงามอีกครั้ง


         “อื้อ”


          ปมุตกัดฟันกลั้นเสียงครางเอาไว้ ปลายลิ้นชื้นที่กระดกรัวสลับกับการเม้มลงมาของช่องปาก ส่วนอีก

ข้างก็ถูกมือร้อนบีบเค้นขยำมันกลับปลุกเร้าให้ร่างกายตอบโต้ทั้งที่หัวใจไม่ได้เต็มใจสักนิด ปมุตเผลอไผล

แอ่นอกให้ปราบยิ่งรัวลิ้น จนหลงลืมถึงสิ่งที่เพิ่งจะแทรกกายเข้ามาคับแน่นอยู่ในช่องทางเบื้องหลัง กว่าจะ

รู้ตัวอีกทีปราบก็เริ่มขยับสะโพกหมุนวนไปมา สิ่งแปลกใหม่ในร่างกายสร้างความเสียวซ่านทดแทนความ

เจ็บปวดที่เริ่มจางหาย หนุ่มน้อยเผลอครางอย่างกลั้นไม่อยู่ กระตุ้นให้ปราบเพิ่มความเร็วในการขับเคลื่อน

สะโพกอย่างได้ใจ


         “ฟิตมาก ตอดรัดได้หนักหน่วงดีมาก ปมุต อนันตกุล”


         ปราบส่งเสียงพึมพำและยอมปล่อยมือที่ยึดตรึงมือของปมุตไว้ เมื่อตอนนี้ปมุตหมดแรงที่จะดิ้นรน

แล้ว มิหนำซ้ำยังปล่อยเสียงครวญแสนหวานเร่งเร้าให้เขากระแทกกระทั้นท่อนเนื้อเข้าออก ร่างกายบอบ

บางแอ่นกายสะท้านเฮือกทุกครั้งที่เขาสอดลึกเข้าไปเรื่อยๆ ความฉ่ำชื้นในช่องทางทำให้ไฟสวาสยิ่งลุกโหม

ไหม้ เขารู้สึกถึงแรงตอดรัดที่มากขึ้นเรื่อยๆ ปราบส่งมือไปคว้าแก่นกายของปมุตมากุมไว้แล้วบีบมัน


         “คุณปราบ”


         ดวงตาฉ่ำน้ำตา แต่บัดนี้กลับฉ่ำไปด้วยไฟร้อนปรือตามองปราบอย่างตกใจ


         “ปล่อยเถอะ ผม อื้มมม”


         ปมุดกัดฟันครางลั่นเมื่อแท่งเนื้อในกายกระแทกเข้าจุดกระสันจนเสียววาบ เอวบางเด้งกายตอบรับ

พร้อมกับความรู้สึกปวดหนึบไปทั่วท้องน้อย เขาอยากจะปลดปล่อยมันแต่ปราบกลับกระทำเลวบัดซบด้วย

การบีบรั้งจุดอ่อนไหวไม่ให้เขาได้ไปต่อ


         “หึ อยากปล่อยแล้วใช่ไหม ทรมานใช่ไหม ขอร้องสิ อ้อนวอนสิ ทำตัวให้สมกับเป็นของเล่นชิ้นใหม่

ของฉันหน่อย”


         น้ำตาแห่งความอัปยศหลั่งไหลออกมาอีกครั้งกับสิ่งที่ปราบกระทำกับเขา มันช่างทรมานจนเหลือที่

จะเอ่ย ปมุตเอ่ยออกมาอย่างเจ็บช้ำ


         “คุณปราบ ได้โปรด ปลดปล่อยผมเถอะครับ”


         อดสูเหลือที่จะกล่าวเมื่อร่างกายกับจิตใจช่างทำงานไปคนละทิศทาง ในใจทั้งเจ็บช้ำและเกลียดชัง

แต่ร่างกายกลับตอบรับอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่อปราบชักแท่งเนื้อเข้าออกอยู่เบื้องล่างพลางสาวรูดแก่นกายของ

เขา ปมุตเด้งเอวสวนรับพลางแอ่นอกให้ปราบเค้นคลึง และหลังจากนั้นไม่นานกล้ามเนื้อก็กระตุกถี่ยิบ

ก่อนที่เขาจะพุ่งน้ำใส่มือร้อนของปราบ

         ปมุตนิ่งงัน พลางหอบหายใจหนัก เขาล้วงมือไปแตะที่ช่องทางเบื้องล่างขึ้นมาดู ดวงตาหวานเบิก

กว้างเมื่อเห็นหยดเลือดติดปลายนิ้วขึ้นมา ปมุตมองปราบอย่างแค้นใจ มือเรียวกำแน่นพลางทุบไปที่ตน

แขนแกร่งไม่ยั้งแรง


         “ผมเกลียดคุณ เกลียด เกลียด เกลียด ออกไปนะ ออกไปจากร่างกายของผมเดี๋ยวนี้”


         ปราบกระตุกยิ้มเมื่อก้มมองอีกฝ่ายที่ยังอยู่ภายใต้การฝังกายของเขา


         “จะออกได้ไง นี่เสร็จไปคนเดียวจะให้ฉันออกเนี่ยนะ”


         ปมุตเบิกตากว้าง


         “หมายความว่าไง”


         “ก็เห็นไหมเล่า ว่าฉันยังแข็งแรงอยู่ในนี้”


         ปราบตอบอย่างยียวนพลางเริ่มขยับเอวอีกครั้ง





                ---------------------------------- TBC ------------------------------------


ว้า หน้ากระดาบหมด แย่จัง :hao4: :hao4:

อ่านเรื่องนี้แล้วอย่าลืมไปอ่าน X- theme

กันด้วยนะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40976.0)

ใครชอบอกชอบใจก็สั่งซื้อกันได้ค่ะ ถึง 10 กุมภาพันธ์ ปีหน้า

ติดตามตอนต่อไปเร็วๆนี้


                                                   :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-12-2014 00:42:23
หึหึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-12-2014 00:58:24
โหดกับน้องจังเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-12-2014 01:08:21
โฮะ โฮะ โฮะ   ปลาบปลึ้มที่พี่ปราบได้บริโภคน้องป้อง ยังไม่สมใจสินะ พี่ปราบ  :hao5:

คนอ่านหึ่นค่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 24-12-2014 02:13:37
อิพี่ปราบบบบบบบบบ สงสารน้องป้อง
เป็นแกะน้อยในถ้ำเสือ โดนเสือกิน กินแล้วกินอีกด้วยนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 24-12-2014 03:09:53
อร้ากกกกกกกกก!!!!! :pighaun: :pighaun: เบี่ยคนแต่งครึครึ :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-12-2014 03:11:20
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-12-2014 03:24:32
สงสารน้อง :sad4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 24-12-2014 03:25:41
พี่ปราบใจร้าย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 24-12-2014 06:56:40
น้องป้องเสร็จพี่ปราบจนได้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-12-2014 09:53:24
ทำแบบนี้ น้องป้องเกลียดพี่เด่วแย่ ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 24-12-2014 11:44:24
เมื่อไหร่ปราบจะสงสารน้องอ่ะ  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 24-12-2014 11:51:44
รอ ๆ  อยากรุ้ ปราบจะเดินเกมส์ต่อยังไง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-12-2014 14:19:11
แอบสงสารน้องป้อง :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 24-12-2014 15:56:56
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 24-12-2014 16:29:12
เอาแรงๆ เลยพี่ปราบ เอาจนน้องป้อง มันจำขึ้นใจ
ว่านี่ ผัวววววววววว 555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: jamelovelove ที่ 24-12-2014 20:32:46
ว๊าวววววววววววว :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-12-2014 21:58:28
น้องช้ำหมดแล้วพี่ปราบ !!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 24-12-2014 22:31:02
สงสารน้อง พี่ปราบใจร้ายยยยย
ระวังเถอะน้องเกลียดตัวเองขึ้นมาจริงๆแล้วจะเสียใจ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 24-12-2014 22:34:31
อยากรู้ว่าน้องป้องรู้สึกยังไงตอนพี่เด่วหายไปค่ะ  อยากให้พ่อได้รู้ด้วยว่าทำอะไรไปกับเด็กอายุไม่กี่สิบปี ถ้าแด๊ดไม่รับเลี้ยงป่านนี้ปราบจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ เกลียดมากกกกกกกกก  ว่าจะเข้ามาอ่านนานแล้วชอบนิยายคุณคนเขียนทุกเรื่องเลยค่ะ แต่รอให้มีเยอะๆกลัวค้าง ฮาา ต่อจากนี้จะตามมาอ่านโดยไวค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-12-2014 23:51:47
 :z6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 25-12-2014 01:26:39
น้องป้องของป้า อ่วมแน่ ๆ งานนี้. กว่าพี่ปราบจะพอใจ คงช้ำในหมด.  เจ็บทั้งใจ เจ็บทั้งกาย. แต่อยากให้เก็บความรู้สึกนี้ไว้ เพราะสักวันจะได้เอาคืนพี่ปราบบ้าง  :hao5:


รอตอนต่อไปค่ะ เห็นใจน้องป้อง แต่ก็อยากเห็นพี่ปราบในโหมดนี้ต่อไปนาน ๆ.  :hao3:  รู้สึกขัดแย้ง



 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 25-12-2014 09:42:16
สงสารน้อง  :mew6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 25-12-2014 10:52:44
มารอๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 25-12-2014 21:42:15
สุดจะบรรยาย

ดูรูปเอานะ :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 21 ( 24 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 30-12-2014 16:38:45
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด พึ่งตามมาอ่าน
ชอบจังเลย Incest เนี่ย  :z1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-12-2014 00:21:42

                                                    เพลิงพ่าย

                                                    บทที่ 22.1


         แค่ออกแรงนิดเดียวปราบก็เปลี่ยนท่าของปมุตให้พลิกกลับไปนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงได้อย่าง

ง่ายดาย แรงกระแทกจากท่อนเนื้อที่ยังคับแน่นอยู่ในช่องทางยังคงสร้างความเจ็บปวดได้ไม่น้อยแม้ว่าจะ

ผ่านศึกหนักมาจนชื้นแฉะ ปมุตได้แต่กัดฟันพลางซุกหน้าลงร่ำไห้กับที่นอน สองมือกำผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่

เมื่อปราบเคลื่อนกายกระแทกเข้ามา

         ปราบจำเป็นต้องใช้ท่านี้ เขาไม่ต้องการให้ปมุตมองเห็นใบหน้าของเขาว่าความกระหายในเรือนร่าง

แน่นเนื้อของปมุตมีมากมายเพียงไร ช่องทางวิเศษที่แสนจะคับแน่นช่างตอดรัดไปทั้งแก่นกายจนร้อนรุ่ม

แรงบีบตามจังหวะชีพจรหลังจากที่ปมุตปลดปล่อยออกมาทำให้เขาแทบคลั่ง ปราบต้องใช้ความอดทนเป็น

อย่างมากในการยับยั้งกล้ามเนื้อตนเองเพื่อไม่ให้ปล่อยตามปมุตไปติดๆ

         เขาอยากจะอยู่อย่างนี้ อยู่เสพสมกับร่างกายที่เขาเฝ้ารอมาตลอดชีวิต ร่างกายที่ฝังแน่นอยู่ในหัวใจ

จนไม่อาจกำจัดออกไปได้แม้เวลาจะล่วงเลยไปสิบกว่าปี แม้ว่าเขาจะมีใครต่อใครมากมายที่เข้ามาในชีวิต

แต่ก็ไม่มีใครสักคนที่จะลบปมุตและเข้ามาแทนที่ได้  ไม่มีจริงๆ

         ปราบกระทุ้งเอวเข้าไปสลับกับแช่ค้างให้ร่างกายทั้งสองเชื่อมผสานกันเนิ่นนาน หน้าคมเงยขึ้น

ส่งเสียงครางลึกอย่างพอใจเมื่อเลือดร้อนแล่นพล่านตั้งแต่หัวจรดเท้า กล้ามเนื้อกระตุกบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เพื่อ

เตือนให้รู้ว่าเขาควรจะจัดการขั้นเด็ดขาดเพื่อจะได้ครอบครองร่างกายงดงามนี้อย่างสมบูรณ์แบบเสียที

          มือใหญ่สอดเข้าไปใต้เอวคอดพลางเหนี่ยวขึ้นมาให้สะโพกหนั่นแน่นโก่งตัวขึ้นรองรับกับร่างกายของ

ปราบที่ยืดสูงทรงตัวไว้ด้วยเข่าทั้งสอง มือข้างนั้นกอบกุมเนื้ออุ่นที่เพิ่งฟื้นจากสลบไสลให้ตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

ส่วนอีกมือก็ฟอนเฟ้นอยู่ตรงหน้าอกขยำขยี้จนปมุตต้องเผลอครางออกมา มันทำให้ปราบยิ่งได้ใจ เขาโน้ม

กายลงไปขบเม้มริมฝีปากลงกับไหล่เนียนและลากไล่ทิ้งรอยทั่วแผ่นหลังพลางสาวเอวเข้าออกจนเสียงเนื้อ

กระทบกันดังลั่นห้อง


         “ฮึก ฮึก อ๊ะ อ๊า ฮึก”


         เสียงสะอื้นปะปนกับเสียงระบายความเสียวซ่านดังมาจากปากอิ่มอย่างกลั้นไม่อยู่ ปมุตกำลังตกอยู่

ในมายาสวาสของซาตานที่หลอกล่อให้เขาติดกับ วงหน้างดงามเอียงแนบกดไปกับที่นอนนุ่มกัดฟันรับแรง

ถาโถมที่สร้างความรัญจวนทั้งที่ไม่เต็มใจ สะโพกยกสูงเผลอไผลโยกรั้งขึ้นลงเหงื่อไหลท่วมตัวทั้งที่

เครื่องปรับอากาศทำงานจนเย็นฉ่ำ ปราบกำลังฉุดคร่าให้เขาติดตามขึ้นไปจนหัวสมองมีแต่แสงระยิบระยับ

เมื่อกล้ามเนื้อบีบอัดและเกร็งค้างไปอีกครั้ง


         “ตอดอีก รัดอีก แน่นๆสิ ปมุต อา”


         ปราบสบถลั่นเมื่อปวดหนึบไปทั่วท้องน้อยเมื่อร่างกายที่ถึงฝั่งฝันอีกครั้งของปมุตกำลังทำให้เขา

ทรมานสุดขั้ว  มือแกร่งเลื่อนมายึดจับที่เอวบอบบางแน่นหนาเพื่อที่เขาจะได้โยกสวนร่างกายตนเองสู่

ช่องทางที่กำลังบีบคั้น ปราบเงยหน้าส่งเสียงครางหนัก ลมหายใจกระเส่าเมื่อกล้ามเนื้อบีบตัวรุนแรง เขา

ซอยเอวถี่ยิบจนกระทั่งเขาทนไม่ไหว


         “อ๊า”


         เสียงร้องอย่างตกใจดังขึ้นจากร่างที่หอบหายใจอยู่ข้างใต้เมื่อช่องทางของตนถูกกล้ามเนื้อท่อนใหญ่

ฉีดอัดน้ำใคร่เข้าใส่ ปราบรั้งเอวบางให้ยึดติดแน่นอยู่กับมังกรยักษ์ที่กำลังพ่นพิษร้ายจนเต็มพื้นที่ถ้ำน้อย

เขาแช่ค้างมันไว้พลางหอบลึกอย่างสุขสม

         วิเศษเหลือเกิน ช่างเป็นร่างกายที่ทำให้เขาเดือดพล่าน

         ปราบลอบยิ้มอย่างพอใจในขณะที่ปมุตยังคงร่ำไห้ด้วยความอับอาย  เขารอจนลมหายใจกลับคืนมา

จนเป็นปกติปราบจึงชักท่อนเนื้อออกมาจากร่างกายของปมุตจนได้ยินเสียงดังฝลุบ


         “โอ๊ะ”


         ปมุตอุทานอย่างตกใจที่ความเจ็บแปลบมาเยือนอย่างไม่ทันตั้งตัว ช่องท้องว่างโหวงกะทันหันเมื่อสิ่ง

ที่เชื่อมอยู่ถูกถอดถอน แล้วหนุ่มน้อยก็ทิ้งตัวลงไปกับที่นอนอย่างหมดแรงในขณะที่ปราบเดินตัวปลิวผิว

ปากหวือเข้าไปในห้องน้ำภายในห้องนอน

         เสียงสายน้ำที่ดังแว่วมาจากห้องน้ำทำให้ปมุตปล่อยโฮออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อได้อยู่เพียงลำพัง

บนเตียงกว้าง ดวงตางดงามกวาดมองไปบนนั้นที่มีร่องรอยแห่งการสูญเสียกระจัดกระจายไปทั่ว ทั้งคราบ

เลือดและคราบน้ำกามตลอดจนความปวดร้าวไปทั่วสรรพางค์กายยิ่งตอกย้ำให้ปมุตรู้

         เขาตกเป็นเบี้ยล่างให้กับชายโฉดที่กำลังฮัมเพลงอย่างสุนทรีอยู่ภายใต้สายน้ำเสียแล้ว

         ร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยร่องรอยบอบช้ำนอนขดตัวคุดคู้ราวกับเด็กทารก น้ำตาเหือดแห้ง

แล้วแต่ปมุตยังเจ็บ เจ็บทั้งตัวและหัวใจ เขาหลับตาลงเพราะไม่อยากจะรับรู้ความเป็นไปในห้องแห่งความ

สูญเสียนี่อีก จนกระทั่งต้องผวาเพราะแขนเรียวถูกกระชากขึ้นมา


         “ไปอาบน้ำได้แล้ว”


         ปราบที่มีเพียงผ้าขนหนูพันท่อนล่าง ส่วนท่อนบนยังคงเปลือยเปล่าและมีหยดน้ำชื้นเกาะพราว

กล้ามเนื้อแน่นพูดกับเขาด้วยเสียงเรียบเฉย ปมุตกัดฟันมองด้วยความเกลียดชังพลางสะบัดแขนออกจาก

การยึดจับ


         “ไม่ อย่ามายุ่ง”


         ปราบกระตุกยิ้มที่มุมปาก เขามองตอบด้วยแววตาพราวระยับจนปมุตเสียวสันหลัง

         “ยังไม่เลิกพยศใช่ไหม ปมุต อนันตกุล”


         “เฮอะ”


         ปมุตเบ้ปากพลางสะบัดหน้าหนี ก่อนที่เขาจะยิ่งตกใจเมื่ออยู่ๆ ร่างของเขาจะถูกยกลอยขึ้นมาอยู่ใน

วงแขนแกร่งจนต้องคว้าคอปราบไว้เพราะกลัวตก


         “ฉันไม่ใช่คนที่นายจะมาหันหน้าหนีแบบนี้ ปมุต”


         “ปล่อยผมลงเดี๋ยวนี้”


         ปมุตฝืนความกลัวส่งเสียงขู่ฟอด แต่ที่ได้รับกลับคืนคือดวงตาดุที่วาบแสงขึ้นมาจนเขาขยาด


         “อย่าริอ่านต่อกรกับไฟ ไม่อย่างนั้นนายจะเจอแบบนี้”


         เสียงนั้นเย็นเยียบจนปมุตหนาวจับใจก่อนที่ปราบจะอุ้มเขาเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ ปราบมุ่งหน้าไป

ที่อ่างอาบน้ำวนทรงกลมตั้งอยู่มุมสุดของห้องติดกับกระจกที่มองลงไปเห็นทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใน

ยามเย็น


         “คุณจะทำอะไร อย่านะ อ๊ะ”


         ปมุตเอะอะขึ้นมา เขามองหน้าจริงจังของปราบพลางตะโกนร้องลั่นเมื่อถูกโยนจนลอยละลิ่วไปสู่

น้ำวนที่เปิดไว้จนเต็มอ่าง น้ำกระจัดกระจายเป็นวงกว้างเมื่อเขาร่วงลงไปในนั้น ปมุตรีบโผล่พรวดขึ้นมาไอ

จนหน้าแดงเพราะสำลักน้ำ

         และยังไม่ทันจะคิดแก้ปัญหา ร่างกำยำของปราบก็ติดตามลงมาเคียงข้างอยู่ในอ่างน้ำวนอย่าง

รวดเร็ว






             ----------------------------------- TBC -------------------------------------


เดี๋ยวจะปั่นอีกครึ่งบทนะคะ

ฝากนิยายแนวมุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งด้วยน้า

น้ำใสของผม น้ำข้นน่ะของเขา


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44494.0)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 31-12-2014 00:49:12
อร้ากกกกก!!!!  ฟินนน ค่ะ  :pighaun: :pighaun: (ซาดิสต์ไปปะ555)
เรื่องนี้ต่อให้พระเอกเลวยังไงก็ไม่เกลียด รักปราบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 31-12-2014 01:02:20
ปราบเจอมาเยอะถึงจะได้แด๊ดเอาไปเลี้ยงก็เถอะ

ข้ามเส้นศีลธรรมมาไกลโขแล้วเหมือนกับที่ตนเขียนบรรยายแหละว่าปราบเป็นซาตาน จากนี้ไปก็คอยอ่านว่าน้องจะไปตกหลุมซาตานยังไง

เกลียดคนแบบพ่อปราบมากๆ ไม่น่าจะมีที่ยืนเหลือเลยนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-12-2014 01:05:05
เป็นตอนที่มาต่อลมหายใจ  บรรเทาอาการลงแดง  วันนี้ไม่มีใครอัพนิยายเลย   :sad4:
รักพี่ปราบ 
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-12-2014 01:10:50
เร่าร้อนจริงๆพี่เดี่ยว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 31-12-2014 01:16:49
พี่ปราบของหนู พี่อินจำเลยรักมากสินะ

ช่างรุนแรงเหลือเกิน เกินใจฉันเกินจะทน....(ท่อนฮุคเพลงรุนแรงเหลือเกิน 555+)

 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 31-12-2014 01:31:51
พี่ปราบค่ะ ช่วยดูแลน้องนิดนึง เดี๋ยวช้ำในกันหมดพอดี เตรียมหาวิธีปลอบได้เลย หลังจากนี้ขวัญเสียแน่ๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 31-12-2014 03:01:20
ปราบไม่พอใจพ่อ  แต่มาลงที่ป้องเนี่ยนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 31-12-2014 06:12:38
 :เฮ้อ: ทั้งรักรั้งแค้นสินะ.
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 31-12-2014 08:07:35
ตักตวงน้องจังนะพี่ปราบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 31-12-2014 08:07:58
แอร๊ยยยยยย ถนอมน้องป้องหน่อยได้ไหม  :angry2:
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 31-12-2014 09:19:42
มาต่อแล้ว ๆ ดีใจ

ปราบโหดวะ แต่เขาชอบบบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแมวหลงทาง ที่ 31-12-2014 09:58:27
เอิ๊กกกกกกก :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 31-12-2014 10:40:40
สงสารปมุตอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 31-12-2014 11:02:57
 :hao6: ปราบ ชอบโหดร้ายกับน้อง....แต่ทำไมฉันถึงชอบ?  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-12-2014 11:17:46
นี่จะรุนแรงกับน้องไปไหนเนี่ย
สงสารน้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2014 12:00:33
ป้องผิดอะไร
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 31-12-2014 13:00:26
อาจจะว่าเราซาดิสม์ก็ได้นะ แต่ปัญญาเจอแบบนี้แล้วสะใจ
อย่าให้เจ็บกาย คนอย่างมันต้องเจ็บใจแค้นใจจนตายถึงจะสาสม
ส่วนน้องป้อง..สงสารง่า แต่พี่ปราบเขารักยังไงไฟแค้นผ่านไปพี่เขาก็คงยอมถวายหัวให้ล่ะ
ส่วนอิปัญญา...สมน้ำหน้า เหอๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 31-12-2014 13:57:10
เราโรคจิต ป้ะ ถ้าบอกว่าอิตาพี่ปราบอ้ะ

โหดดี
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.1 ( 31 / 12 / 57 ) ##Bracon##Incest##Drama##SM##
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-12-2014 16:27:42
 :mew1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-12-2014 16:51:35

                                                      เพลิงพ่าย

                                                      บทที่ 22.2         

         
          “ถอยออกไป”


         ร้องออกมาเสียงดังและพยายามกระเสือกกระสนจะหนี แต่ปราบกลับรวบตัวเข้ามาโอบรัดไว้ด้วย

สองแขน ปมุตดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถต่อสู้กับท่อนแขนแกร่งนั่นได้ นักร้องหนุ่มรู้ตัวเขาจำเป็นต้องหยุดดิ้นรน

และอยู่นิ่งๆ ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขัดเคือง


         “ก็แค่นี้”


         ปราบยักไหล่พร้อมกับผุดรอยยิ้มตรงมุมปากที่ทำให้ปมุตถึงกับร้อนวูบไปทั้งหน้า เมื่อมันประกอบเข้า

กับนัยน์ตาที่พราวระยับอยู่บนใบหน้าเรียบเฉยของเขา นัยน์ตาที่ปมุตไม่กล้าสู้ด้วยจนถึงกับต้องเบนสายตา

หลบ ปราบดึงตัวนุ่มๆ ให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักของเขาปลายนิ้วเลื่อนไปบีบเบาๆที่คางมนให้หันกลับมาสบตา

ดังเดิม


         “ทำไมต้องทำตัวดื้อดึงให้โมโหด้วย ทำตัวให้น่ารักเหมือนตุ๊กตามันลำบากนักหรือไง”


         น้ำเสียงยียวนมาพร้อมกับคิ้วดกดำที่ยกสูงทำให้ปมุตหน้าร้อนผ่าว เขาปัดมือปราบออกจากคาง


         “เพราะผมไม่ใช่ตุ๊กตาของคุณ ปล่อยผมไปซะ คุณก็ได้ไปอย่างที่คุณต้องการแล้วนี่”


         ปมุตค่อนขอดเสียงขื่น แต่ปราบก็ยังไม่มีทีท่าจะเห็นใจสักนิด


         “คิดว่าแค่นี้มันคุ้มกับเงินสิบห้าล้านที่ฉันเสียให้พ่อนายแล้วงั้นหรือ”


         วงแขนยิ่งรัดแน่นเมื่อกล่าวจบ เนื้อตัวเบียดกันอยู่ใต้สายน้ำวนในอ่างอาบน้ำราคาแพง ปราบจงใจ

กดร่างปมุตให้ร่องสะโพกถูไถไปกับมังกรยักษ์ที่มันหลับใหลจนมันเริ่มผงกหัวขึ้นมาอีกครั้ง ปมุตเบิกตา

กว้าง เขาพยายามฝืนกายและยกมือดันไหล่หนาออกห่างแต่ก็ไม่เป็นผล ร่องก้นกลับยิ่งกดเบียดปลุกเร้าอยู่

บนหน้าขาของปราบจนรู้สึกได้ถึงท่อนเนื้อที่ผงาดชูชันอยู่ใต้น้ำ


         “จะทำอะไรของคุณอีก ผมไม่ไหวแล้วนะ”


         ปมุตส่งเสียงเหวี่ยงทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หน้าคมของปราบเลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ


         “จูบฉัน”


         “ไม่มีทาง”


         “เดี๋ยวนี้”


         “ฝันไปเหอะ ผมไม่จูบใครทั้งนั้นแหละ อุ๊บส์”


         เรียวปากอิ่มช่างเถียงถูกปิดลงทันที ต้นคอถูกมือแกร่งบังคับให้ต้องอยู่นิ่ง ปมุตพยายามเม้มปากแต่

ปราบก็ไล่ขบเม้มอย่างใจเย็นจนกระทั่งปมุตหายใจไม่ทัน พอถึงตอนนั้นปลายลิ้นชำนาญการก็สอดแทรก

เข้าไปบดตรึงลิ้นนุ่มในโพรงปากหวานจนได้


         “อื้อ”


         ปมุตเจ็บใจ เซ็กส์เพียงแค่ครั้งเดียวแต่ปราบกลับรู้จักจุดอ่อนของเขา จูบเร่าร้อนเป็นแค่สิ่งเบี่ยงเบน

ความสนใจเมื่อมือไม้อยู่ไม่สุขเริ่มเกะกะระรานไปตามร่างกายของปมุตราวกับปราบจะมีมือสักสิบมือ ปมุต

กำลังถูกสัมผัสไปทั่วทั้งตัวอยู่ในกระแสน้ำอุ่นที่ไหลวนไปรอบๆ มันยิ่งกระตุ้นให้ร่างกายของเขาตื่นมาตาม

การปลุกเร้าอีกครั้ง


         “ผมเจ็บ ผมไม่ไหวแล้ว”


         ปมุตส่งเสียงแหบพร่าห้ามปราม ลมหายใจของเขากระชั้นขึ้นเมื่อจุดอ่อนไหวถูกควบคุม ปราบเลื่อน

หน้าลงไปฝังจมูกและปากลงกับซอกคอเนียนนุ่มพลางขยับขาของปมุตให้เปิดกว้างเพื่อเกี่ยวไปรอบเอวของ

เขา


         “น้ำจะช่วยให้นายไม่เจ็บ ไม่เชื่อลองดู”


         พูดจบปมุตก็สะดุ้งเมื่อช่องทางที่ยังระบมถูกล่วงเกินอีกครั้ง ปราบแทรกกายเข้าไปช้าๆ พลางก้มหน้า

ลงไปใช้ปลายลิ้นโลมเลียอยู่ตรงยอดอกเม็ดเล็ก แรงโอบอุ้มของน้ำลดแรงกระแทกลงได้มาก ไม่นานนัก

ปราบก็ดันกายผสานได้จนหมดลำ


         “ยังเจ็บอยู่ไหม”


         เสียงทุ้มนั้นนุ่มเกินไป นุ่มจนปมุตหวั่นไหว ท่อนเนื้อที่ฝังภายในกายเคลื่อนไหวช้าๆ พร้อมกับปลาย

ลิ้นและฝ่ามือที่โลมไล้ทั่วตัวทำให้ปมุตเสียวสะท้านจนต้องหลับตาพริ้มและส่งเสียงออกมา


         “อา คะ คุณ ผม อื้อ”


         ลำตัวแอ่นเข้าหาอย่างเผลอไผล กรอบหน้างดงามเชิดสูงปรือตาฉ่ำ ปลายฟันขบลงที่ริมฝีปากล่าง

สองมือที่โอบกอดไปรอบลำคอของเขาทำให้ปราบรู้ว่าปมุตกำลังต้องการแค่ไหน ปราบเม้มปากลงกับยอด

อกสีสวยแล้วละเลงลิ้นเร็วรี่


         “ปราบ เรียกชื่อฉันเดี๋ยวนี้ ปมุต”


         เขาออกคำสั่งเข้าไปในสติกระเจิดกระเจิงพร้อมกับที่เด้งเอวใส่จนปมุตหอบหนัก


         “ประ ปราบ คุณปราบ อา ฮัก ฮัก ไม่ไหวแล้ว”


         “ปมุต”


         ปราบกลั้นใจสวนเอวใส่เมื่อปมุตกดสะโพกลงมารับ ต่างก็โอบรัดอีกฝ่ายไว้แนบแน่นเมื่อความ

ต้องการทะยานถึงขีดสุด กล้ามเนื้อตอดรัดซึ่งกันและกัน วงน้ำกระจายจนเปียกปอนพื้นห้องน้ำตามแรง

กระแทก หลังจากนั้นอีกไม่นานเสียงครางกระเส่าก็ปะปนจนกระทั่งถึงขีดสุด

         ปมุตหมดแรงจนต้องฟุบหน้ากับไหล่กว้าง สมองของเขาว่างโล่งไปหมดพร้อมกับสติที่หลุดลอยและ

ดับวูบลง









         “ปมุต”


         ท่อนแขนหนักควานหาร่างบางอยู่ในความมืดก่อนที่เขาจะค้นพบว่านอนขดอยู่ตรงขอบเตียง ปราบ

วาดแขนดึงร่างที่ยังเปลือยเปล่าเข้ามาในอ้อมกอด แต่แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อร่างนั้นร้อนระอุจนเขาสะดุ้ง

ตื่น

         ปราบเด้งตัวลุกขึ้นเปิดโคมไฟที่หัวเตียง แสงไฟสลัวทำให้เขามองเห็นปมุตกำลังนอนขดตัวสั่นสะท้าน

ปลายฟันกระทบกันดังกึกๆ


         “ปมุต เป็นไงบ้าง”


         ปมุตหลับลงไปทั้งที่ยังอยู่ในอ่างอาบน้ำ หลับทั้งที่ยังมีเขาค้างคาอยู่ในช่องทาง ปราบต้องยกตัวปมุต

ออกและอุ้มมานอนบนเตียง หลับเนิ่นนานแม้ว่าเขาจะโอบกระชับร่างบอบช้ำอยู่ตลอดเวลาปมุตก็ยังไม่

ยอมลืมตาตื่นจนกระทั่งเวลานี้ที่ดึกสงัด และพิษไข้ที่เล่นงานหนุ่มน้อยทำให้ปราบเป็นห่วงจับใจ

         ปราบเพิ่มอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศให้ห้องอุ่นขึ้น แล้วจึงรีบลุกไปควานหาผ้าขนหนูผืนเล็กกับ

กะละมังใส่น้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้จนมั่นใจว่าความร้อนของร่างกายเริ่มคลายลง เขาจึงดึงผ้าห่มนุ่มขึ้นมาคลุม

พลางสอดตัวเข้าไปนอนเคียงคู่ และวางแขนลงบนเนื้อตัวเปลือยนั้น

         ภายใต้เพียงสลัวของโคมไฟ เขาก็ยังมองเห็นร่องรอยบนร่างกายปมุตจากฝีมือของเขาทั้งสิ้น รอย

แดงถูกทิ้งไว้ทั่วตัว โดยเฉพาะรอบลานนมถึงกับแดงช้ำไปด้วยรอยฟันของเขา ปราบนึกสงสารจนต้องใช้

ปลายนิ้วแตะลงไปแผ่วเบา


         อา   ปมุต


         เขามองใบหน้าที่ไร้พิษสงงดงามที่กำลังหลับสนิท กรอบหน้างามล้อมไปด้วยกลุ่มผมนุ่มที่ยาวระต้น

คอ ดวงตาพริ้มรับกับจมูกโด่งได้รูป และเมื่อไล่สายตาลงมาถึงเรียวปากอิ่มที่ตอนนี้มุมปากบวมเห่อ เขาก็

อดใจไม่อยู่ที่จะใช้ปลายนิ้วสัมผัสและบดคลึงช้าๆ ก่อนจะตามด้วยประทับมันลงไปด้วยปากของเขา

         อ่อนโยนเหมือนอดีต ริมฝีปากแตะต้องทาบทับปลายลิ้นค่อยๆ แซะช้าๆ คนหลับสนิทเผยอปากราว

กับจะเชิญชวนให้เขาแนบปากลงไปแล้วเปิดมันให้กว้างเพื่อจะส่งลิ้นทีละน้อยครอบครองลิ้นเล็ก เสียงคราง

หวานแผ่วเบาลอดแว่วออกมาเมื่อปราบถอนปลายลิ้นอ้อยอิ่ง ปมุตพึมพำฟังแทบไม่ได้ศัพท์จนเขาต้อง

เอียงหูเข้าไปใกล้ๆ

         และมันก็ทำให้ปราบอึ้ง ขอบตาของเขาร้อนผ่าวเมื่อได้ยิน


         “ดะ เดี่ยว พี่เดี่ยว”





                ----------------------------- TBC ---------------------------------



มีเรื่องหนึ่งที่ต้องขอบคุณท่านผู้อ่าน

มีนิยายเรื่องหนึ่งที่เรารักมาก จบนานแล้ว เป็นแนวอินดี้ดราม่า ไม่ใช่แนวตลาด คนอ่านน้อย

คือเรื่อง Only Love Is Real ให้รักนำทาง

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41771.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41771.0)



ช่วงแรกที่ลงเราก็นอยด์นะ ว่าทำไมคนอ่านน้อยจัง เคยคิดจะปิดมันเสียด้วยซ้ำ

แต่มาคิดอีกที แม้ยอดวิวมันจะน้อยแต่มันก็กระเตื้องขึ้นทุกวันก็แปลว่ามันยังมีคนอ่าน

เป็นการพิสูจน์ความรับผิดชอบของนักเขียนมือใหม่ได้เป็นอย่างดี

ในเมื่อเราแต่งตัวละครขึ้นมาจากจินตนาการแล้ว เราต้องแต่งต่อให้จบ

แต่งเพื่อตัวละครที่เราสร้างขึ้นมา และแต่งเพื่อคนที่ยังอ่านอยู่ไม่ว่าจะน้อยแค่ไหน

แต่ไม่กี่วันมานี้ เรากลับไปดูนิยายเรื่องนี้ มันยังมีคนอ่านอยู่

เราดีใจ และเราปลื้มปริ่ม

ขอบคุณคนอ่านทุกคนที่ติดตามอ่านผลงานของเรา ไม่ว่าจากเรื่องอะไรก็ตาม

ทุกยอดวิว ทุกคอมเมนท์ ทุกบวกเป็ดเหลือง

ให้กำลังใจเราที่จะก้าวเดินไปตามความฝัน เพื่อที่มันจะสำเร็จได้สักวันหนึ่ง

ขอบพระคุณจริงๆค่ะ

Happy New Year
Belove

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 31-12-2014 17:30:27
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรึ่องที่คุณเอ่ยถึงนะคะ  ช่วงนี้มีคิวอ่านหลายเรึ่องยาวแต่เราลงลิสต์ไว้นะว่าจะเข้าไปอ่านเรึ่องนั้น

มาเมนท์เรึ่องนี้กัน   พี่ปราบยังหึ่นไม่ลดแต่ตอนท้ายๆนี่ชึ่นใจมาหน่อยว่ายังมีส่วนของความผูกพันธ์ของทั้งคู่อยู่

พี่ปราบอยากได้ตุ๊กตาเหรอ?  :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 31-12-2014 17:37:29
น้องยังไม่ลืมพี่เดี่ยวซะหน่อย
เลิกเก๊กโหดได้แล้ว ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zine ที่ 31-12-2014 17:46:29
พึ่งเข้ามาอ่าน สนุกมาก ได้เห็นพัฒนาการพระเอกจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ ทำให้หลงรักปราบเข้าจริงๆ :L1:
เนื้อเรื่องต่อไปถ้าเราเดาเล่นๆคงไม่ใช่ แดนกลับมาแก้แค้นปราบโดยชิงน้องป้องไปแล้วข่มเหงนะ

HAPPY NEW YEAR 2015 นะคะ มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีความสุขตลอดปีและตลอดไปนะค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 31-12-2014 18:31:33
พี่เดี่ยว น้องเรียกหาแน่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-12-2014 18:41:16
พี่แกทบต้นทบดอก
ดีใจที่น้องจำพี่เดี่ยวได้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 31-12-2014 18:42:50
น้องป้องก็คิดถึงพี่เดี่ยวมาตลอดเลยสินะ~

ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนะคะทุกคน^^
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 31-12-2014 18:52:53
น้องไม่เคยลืมพี่เดี่ยวสินะ รักษาจูบตามสัญญาด้วย  :sad11:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lolata ที่ 31-12-2014 19:10:44
น้องยังจำตัวได้อยู่นะ อย่าทำให้น้องเสียใจละ ดูแลดีๆ

happy new year ค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 31-12-2014 19:27:34
รออ่านอยู่น้าาา :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 31-12-2014 19:28:55
รออ่านอยู่น้าาา :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-12-2014 19:51:34
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 31-12-2014 20:08:01
กรี๊ดด น้องป้องง :sad4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 31-12-2014 20:25:33
เห็นใจน้องเถอะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 31-12-2014 20:38:10
พี่เด่วววววว  :pighaun: :pighaun: :pighaun:
เค้าตามอ่านทั้ง 3 เรื่องเลยนะคนแต่ง ตามมาตั้งแต่พี่โมกข์ อะ
ขอให้รักนำทางก็อ่านจบไปแล้ว แอบเซ็งนุดๆ ที่จบเร็วไปหน่อย
เป็นกำลังใจให้นะ HAPPY NEW YEAR ครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 01-01-2015 00:17:19
พี่เดี่ยวอ่า......แล้วเดเนียล??
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-01-2015 02:44:42
สงสารป้อง ถ้าป้องรู้ว่าปราบคือเดี่ยวจะยังไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-01-2015 03:52:10
สงสารป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 01-01-2015 04:51:35
พี่เดี่ยวคะ ดีกับน้องเยอะๆเลบนะไม่งั่นดิฉันจะตามไปตบ ฮือ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 02-01-2015 13:46:45
พี่ปราบไม่ปล่อยน้องได้พักเลยยยย.   :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 02-01-2015 22:29:54
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 03-01-2015 00:42:28
เขิลล์มาาาาาาาาาาาาาาาก
ถนอมน้องหน่อยนะ.  พี่ปราบ. รึ. พี่เดี่ยว. ^^
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 03-01-2015 18:09:22
พี่เดี่ยวใจร้าย ทำร้ายจิตใจน้องมากเลย สงสารป้องที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่ต้องมาคอยรองรับอารมณ์และความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ  :hao5:  น้องผิดอะไร ทำไมทุกคนถึงเอาแต่ใจอย่างนี้ ไม่ถามความเห็นสักคำ ตัดสินใจกันเองทั้งนั้น  :angry2:  หวังว่าพี่เดี่ยวจะดูแลจนน้องป้องหายป่วยเร็ว ๆ นะคะ  o18. เพื่อไถ่โทษ

ส่วนนิยายที่คนแต่งว่านั้นเห็นมีคนอ่านเรื่อย ๆ นะคะ แม้ตัวเองจะไม่เคย  :z6:  แต่แปะไว้อย่างนี้ไม่เข้าไปอ่านไม่ได้แล้วล่ะค่ะ เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจในการสร้างผลงานต่อไป   :กอด1:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 03-01-2015 21:51:08
พี่เดี่ยวใจร้ายเกินไปแล้ว :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-01-2015 01:22:13
สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังน้าาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 09-01-2015 03:53:35
กรี๊ดดดด อิชั้นไปมุดหัวอยู่ที่ไหนมาาาา เพิ่งตามอ่านเรื่องนี้เจอออออ กรี้ดๆๆๆๆๆๆๆ ชอบมากกกกแนวนี้เนี่ย 55555555555555555555555

และมีแววจะได้ไปอ่านเรื่องของคุณโมกข์ กร๊ากกกกกกกก สู้ ๆ ค่าา คนอ่านรออยู่ซำเหมอ อิอิ o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ตาล ที่ 09-01-2015 20:03:41
พึ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆเลย อ่านวันเดียวจบ คาดว่าเรื่องนี้ต้องตั้งน้ำ เตรียมต้มมาม่า เรื่องมีความแค้นเป็นตัวชูโรง อยากให้คุณพ่อกระอักเลือดตายเมื่อรู้ ความจริง ตั้งตารอ..... สู้ๆเป็นกำลังใจให้เนื้อเรื่องดีมาก ชอบเป็นการส่วนตัว ปลื้อใจ.....
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-01-2015 11:58:05

                                                         เพลิงพ่าย

                                                          บทที่ 23


         แสงไฟวูบวาบในผับหรูสำหรับคนมีระดับและเครื่องดื่มรสนุ่มในมือสร้างความหรรษาให้กับโนเอล

ไม่น้อย นัยน์ตาสีฟ้าอมเทากำลังจับจ้องอยู่กับร่างอวบอัดของนางแบบสาวในสังกัดนิตยสารปลุกใจที่กำลัง

ทิ้งสายตาให้เขาอยู่ที่โต๊ะถัดไป รอยยิ้มมีเสน่ห์ถูกจุดขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลาของอดีตนายแบบ โนเอลรู้ดี

ว่าเรตติ้งของเขาไม่เคยตกสำหรับสาวๆ

         และอารมณ์ของเขาคงจะสุนทรีกว่านี้ถ้าโนเอลจะไม่รู้สึกเหมือนกำลังถูกสายตาของใครกำลังจับจ้อง

จนต้องเหลียวกลับไปมองแล้วจึงปะทะเข้ากับสายตาต้นเหตุ


         “แดม”


         สบถอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นแขกกลุ่มใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาภายในและนั่งกันอยู่ไม่ไกลจากตรงที่เขานั่ง

อยู่ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มนั้นคือคนที่เขาไม่อยากจะเจอที่สุด ไอ้เด็กปากเสีย ชาวี!

         ชาวีกำลังมองตรงมา มองอย่างท้าทายพร้อมกับมุมปากที่กำลังยกยิ้มซึ่งโนเอลแปลความว่าชาวี

กำลังเยาะหยัน สายตาคู่นั้นทำให้นายแบบหนุ่มเกิดความหงุดหงิดขึ้นมาทันทีจนเขาต้องสะบัดหน้าหนี

และไอ้เด็กสามหาวยังกล้าหาญเดินตรงมาหาและนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับเขาทั้งที่โนเอลไม่ได้เชื้อเชิญ

สักนิด


         “มาทางไหนก็ไปทางนั้น”


         โนเอลเอ่ยปากไล่ เขาไม่คิดจะมีมารยาทกับชาวีแม้แต่นิดเดียว


         “นั่งด้วยไม่ได้หรือไง ไม่เห็นเหรอว่าโต๊ะนั้นคนมันเยอะ”


         ชาวีกำลังกลั้นหัวเราะเมื่อเห็นหน้าตาของชายชาวต่างชาติที่พูดไทยเกือบชัดกำลังบูดบึ้ง ไม่นึกว่าจะ

ได้มาเจอกันที่นี่ชาวีนึกดีใจที่เขาออกมาเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนในวันที่มีคิวว่างและกำลังรู้สึกนึกเบื่อหน่ายอย่าง

บอกไม่ถูก การที่เขามองเห็นโนเอลนั่งอยู่เพียงลำพังในผับแห่งนี้ทำให้ชาวีใจเต้นอย่างน่าแปลกใจ

         การที่ได้พูดจาเย้าแหย่ให้อีกฝ่ายอารมณ์เสียกลายเป็นเรื่องสนุกสำหรับชาวีไปเสียแล้ว ก็ไม่รู้เป็น

เพราะเหตุใด แต่ชาวีชอบมองเวลาหน้าหล่อๆของโนเอลจ้องมายังเขาอย่างไม่สบอารมณ์ ชาวีชอบเวลา

ปากหยักบางเอ่ยด่าไม่ไว้หน้า มันทำให้เขาอยากจะดึงเข้ามาและปิดมันให้เงียบลงด้วยปากของเขาเสียทุก

ครั้ง รวมถึงตอนนี้ด้วยเมื่อชาวีเหลือบมองปากสีสดที่กำลังเคลื่อนที่ขึ้นลงด้วยคำสบถ


         “ฉันไม่อยากร่วมโต๊ะกำลังนาย กลับไปโต๊ะของเพื่อนนายซะ”


         “หวงที่นั่งไปได้นั่งก็นั่งอยู่คนเดียวแท้ๆ  ทำตัวเป็นตาแก่หวงสมบัติไปได้”


         แก่!


         โนเอลเจ็บจี๊ดขึ้นมาทีเดียว

         ความจริงก็ใช่ว่าเขาจะอายุเยอะก็แค่เป็นหนุ่มใหญ่ในวัยสามสิบต้นๆ  แต่เมื่อเทียบกับไอ้เด็กใบหน้า

คมใสที่กำลังลอยหน้าลอยตาหาเรื่องอยู่นี่ก็ดูจะห่างกันหลายปี ถ้าจำไม่ผิดจากการที่เขารู้ประวัติมาชาวีมี

อายุแค่ยี่สิบสี่เท่านั้น


         “นั่งด้วยกันเผื่อว่าจะมีอะไรสนุกๆ ไม่ดีหรือไง”


         ชาวีเลื่อนปลายนิ้วมาแตะบนหลังมือ โนเอลแอบสะดุ้งอยู่ในใจเมื่อเขารู้สึกราวกับมีกระแสไฟฟ้า

แล่นปราดจนร้อนวูบ เขากลืนน้ำลายอย่างนึกหวั่นเมื่อสัมผัสแค่เพียงเล็กน้อยจากชาวีกลับทำให้เขามี

ปฏิกิริยาอย่างคาดไม่ถึง เขารีบชักมือตนเองออกอย่างรวดเร็วและพยายามรักษาสีหน้าบึ้งตึงไว้ให้ได้มาก

ที่สุด

         เขาควรจะทำอย่างไรกับไอ้หมอนี่ดี

         สมองของโนเอลกำลังหมุนเร็วจี๋เพราะเขาไม่อยากอยู่ใกล้ชาวีไปมากกว่าที่เป็นอยู่ เขากลัวว่าหัวใจ

ตนเองที่กำลังระส่ำระสายจะไม่สามารถควบคุมมันได้ในอนาคต โนเอลต้องรีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

เมื่อคิดได้ดังนั้นโนเอลจึงรีบกระตุกยิ้มพลางทิ้งหางตาใส่อีกฝ่ายพร้อมยกใบหน้าเชิดขึ้น


         “ถ้าอยากจะนั่งก็นั่งไป เพราะฉันจะไม่นั่งตรงนี้แล้ว”


         ชาวีขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังไม่ทันถามเหตุผลร่างสูงโปร่งของโนเอลก็ลุกขึ้นยืนแล้วก้าวตรงไป

ยังอีกโต๊ะที่ไม่ไกลกันนัก เขาเห็นโนเอลก้มหน้าไปกระซิบกระซาบอยู่ตรงใกล้หูของแม่สาวร่างอวบที่เขา

พอจะคุ้นหน้าอยู่ในวงการนางแบบ ไม่นานหลังจากนั้นเจ้าหล่อนก็ยกมือขึ้นคล้องไปรอบคอโนเอลแล้ว

แหงนหน้าเซ็กซี่เชิญชวน ชาวีเม้มปากแน่นเมื่อเห็นโนเอลสอดแขนไปรอบเอวแล้วดึงร่างอวบเข้ามาพร้อม

ก้มหน้าลงไปบดปากอยู่กับปากอิ่มสีแดงสดนั่น แถมยังหันหน้ามาทางเขาและยักคิ้วให้อีกต่างหาก

         นักร้องหนุ่มชื่อดังรู้สึกเหมือนเข็มสักร้อยเล่มกำลังผลัดกันทิ่มแทงอยู่ตรงหน้าอก ยิ่งเมื่อทั้งคู่พากัน

โอบเอวเดินหายไปด้านหลังบริเวณห้องน้ำ ชาวียิ่งร้อนจนนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้นึกอยากจะไปกระชากร่างทั้ง

สองแยกออกจากกันแต่เขาก็ต้องรักษาอาการด้วยการนั่งนิ่งๆ อยู่กับที่ไว้ก่อน

         






         “อา โนเอล สุดหล่อของเจนนี่”


         แม่สาวร่างอวบบิดกายสะท้านเมื่อเขาดึงร่างนั้นเข้ามาในห้องน้ำชายห้องหนึ่งแล้วจึงฟอนเฟ้นด้วย

ชั้นเชิงอันแสนชำนาญ เสียงครวญซ่านบอกให้รู้ว่าหล่อนกำลังต้องการเขาขนาดไหน และเขาเองก็ต้องการ

ปลดปล่อยในคืนนี้ไม่แพ้กันด้วยอารมณ์กรุ่นที่หาสาเหตุไม่ได้ แต่โนเอลนึกแปลกใจที่จุดอ่อนไหวของเขา

กลับไม่พร้อมรบเสียทีทั้งที่มันควรจะตื่นขึ้นมาได้แล้วหลังจากที่ได้กอดเกยร่างอวบอัดมาพักใหญ่


         “เจนนี่ ปลุกผมหน่อย แม่เสือสาว”


         เขากระซิบบอกความต้องการพลางเหยียดร่างให้เจนนี่ย่อตัวลงไปปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงลง

อย่างเต็มใจ  ไม่นานนักอาวุธของเขาก็อยู่ในอุ้งมือนุ่มที่รูดรั้งและใช้ปากเคลือบลิปสติกสีสดค่อยๆกลืนกิน

เข้าไป ปลายลิ้นแสนช่ำชองโลมไล้ไปทั่วแต่เจ้าของอาวุธกลับต้องขมวดคิ้วแน่นเป็นปมเมื่อมันยังสงบนิ่งอยู่

ในท่าเดิม


         “เจนนี่ พอก่อนเถอะ วันนี้ผมคงจะไม่พร้อม”


         เขากลืนน้ำลายอย่างยากเย็นเมื่อความว้าวุ่นมาเยือน เจนนี่ถอนปากออกมาอย่างเสียดายหล่อนทำ

ตาปรอยเมื่อลุกขึ้นมายืนเบียดกายกับเขาที่กำลังรูดซิปกางเกงกลับคืนด้วยมือสั่นเทา


         “โนเอลคะ แต่เจนนี่ยัง…”


         “เจนนี่ ผมบอกว่าพอแค่นี้ไง”


         เขาตวาดอย่างหงุดหงิดแล้วผลักประตูห้องน้ำก้าวออกมายืนตั้งสติอยู่ตรงทางเดินที่ปลอดคน หมด

ความสนใจกับหญิงสาวที่ก้าวออกมามองเขาอย่างเจ็บใจก่อนที่จะกระแทกเท้าเดินจากไป โนเอลหวั่นใจจน

ต้องล้วงโทรศัพท์มือถือมากดหาเบอร์ของเพื่อนสนิท


         “ไอ้ปราบ”


         เขาเค้นเสียงลงไปอย่างยากเย็นเมื่ออีกฝ่ายรับสาย


         “มีเรื่องแล้ว”


         “เรื่องอะไรของมึง”


         ปราบที่ตอบกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบเอ่ยถาม โนเอลโต้กลับเสียงเครียด


         “นกเขากูไม่ขัน”


         “ฮะ อะไรนะ มึงพูดช้าๆ ชัดๆ ภาษาอังกฤษก็ได้ อะไรไม่ขันนะ”


         สีหน้าของโนเอลราวกับจะร้องไห้


         “กูบอกว่า นก เขา กู ไม่ ขัน  ค—ของกูมันไม่สู้ นี่กูแก่จนหมดสมรรถภาพแล้วใช่ไหม”


         “มึงจะบ้าเรอะ มึงอาจจะแค่ทำงานเยอะจนเครียดก็ได้”


         ปราบพยายามปลอบโยนเพื่อนสนิท


         “โทรมาก็ดีแล้ว กูว่าจะโทรหาพอดี คิวงานพรุ่งนี้ของป้องคือต้องไปถ่ายแบบให้นิตยสารที่มึงติดต่อไว้

ใช่ไหม เลื่อนคิวให้ป้องที ป้องคงไปทำงานไม่ไหว”


         สิ่งที่ได้ยินจากปราบทำให้โนเอลเบิกตาโต เขาลืมเรื่องตัวเองลงทันที


         “ทำไมป้องถึงมาทำงานไม่ไหว บอกกูมานะไอ้เชี่ยปราบ อย่าบอกนะว่ามึงจัดการน้องป้องไปแล้ว

นี่มึงทำระยำถึงขั้นน้องมันเดี้ยงมาทำงานไม่ได้เลยหรือไง”


         “เถอะน่า เรื่องของกูกับน้อง แต่ว่ามึงอย่าลืมเคลียร์คิวให้ป้องล่ะ แค่นี้แหละเดี๋ยวน้องตื่น”


         “ไอ้ปราบ ไอ้สัสปราบ”


         โนเอลกรอกเสียงดังเรียกอย่างขัดใจแต่ปราบก็ชิงวางหูลงปล่อยให้โนเอลยืนฮึดฮัดก่อนที่จะตกใจเมื่อ

หันหลังกลับไปตรงทางออกแล้วเห็นชาวีที่กำลังยืนจังก้าด้วยสีหน้าเครียดขรึม


         “ชาวี”


         ชาวีมาทันประโยคที่กล่าวถึงปมุต ตอนแรกเขารู้สึกร้อนรุ่มกับทีท่าของโนเอลกับแม่สาวร่างอวบจน

อดใจไม่ไหวต้องเดินตามมาในที่สุด แต่สิ่งที่มาเห็นคือชายหนุ่มที่ทำให้เขาร้อนรุ่มยืนหันหลังคุยโทรศัพท์กับ

ใครบางคนและมีชื่อที่เขาไม่คิดว่าจะได้ยินหลุดออกมา


         “เกิดอะไรขึ้นกับป้อง”


         ชาวีก้าวพรวดมากระชากแขนโนเอลไว้ทั้งสองข้าง สีหน้านั้นดูน่ากลัวจนโนเอลใจเต้น


         “ไม่ ไม่มีอะไร”


         “โกหก ผมได้ยินคุณพูดว่าป้องถูกทำร้ายหรืออะไรสักอย่างจนมาทำงานไม่ได้ บอกผมมานะโนเอล”


         “โธ่โว้ย บอกว่าไม่มีก็ไม่มีสิวะ”


         โนเอลยืนกรานกระต่ายขาเดียวจนชาวีแทบจะระเบิดโทสะออกมา


         “ไม่ยอมบอกความจริงใช่ไหม ดีละ”


         ด้วยกำลังที่มากกว่าชาวีลากแขนให้โนเอลต้องก้าวเดินตามมาอย่างยั้งไม่อยู่แม้ว่าจะเพียรพยายาม

สะบัดแขนออกก็ไม่สำเร็จ ชาวีบังคับให้โนเอลต้องเดินตามมาในมุมลึกของผับและเดินขึ้นบันไดวนไปที่ชั้น

สองก่อนที่จะผลักเขาเข้าไปในห้องๆ หนึ่งที่มีโต๊ะทำงานกับชุดรับแขกอยู่กลางห้อง ชาวีเหวี่ยงจนโนเอล

กระเด็นไปกระแทกอยู่บนโซฟารับแขกตัวใหญ่แล้วล็อคประตูทันที

         ร่างสูงใหญ่ของชาวีก้าวอาดๆเข้ามาจนโนเอลที่ยังจุกอยู่กับแรงกระแทกต้องลนลานหนี แต่ก็ไม่พ้น

มือของชาวีที่คว้าเอาไว้และกดร่างโปร่งของเขาลงไปกับหนังนุ่มของโซฟา


         “คิดจะสู้กับผมงั้นหรือ รู้หรือเปล่าว่าที่นี่ประเทศไทย ที่นี่คือกรุงเทพ และที่นี่คือผับของพี่ชายเพื่อนผม”


         ชาวีก้มหน้าตะคอกใส่


         “บอกความจริงมาเดี๋ยวนี้ ว่าคุณคิดจะทำอะไรป้อง”


         “กูไม่บอก”


         แม้ว่าจะตกเป็นเบี้ยล่างแต่โนเอลก็ไม่มีวันขายเพื่อน ในเมื่อเขาถูกสั่งสอนมาให้รักพวกพ้องยิ่งกว่า

ชีวิต เขาจะไม่ยอมปริปากเรื่องปราบเด็ดขาดถึงแม้ว่าในตอนนี้ร่างของเขากำลังถูกกดจนแทบจะจมไปกับ

เบาะหนัง มือของเขาถูกพันธนาการจนดิ้นไม่หลุด และยิ่งน่ากลัวเมื่อเข็มขัดของตัวเองถูกกระชากออกจาก

เอวเพื่อนำมามัดมือของเขาไว้ด้วยฝีมือของชาวี


         “ปล่อยกู”


         โนเอลตะโกนลั่นอย่างตกใจเมื่อปลายของเข็มขัดที่มัดมือของเขาถูกดึงจนแขนยกสูงแนบอยู่กับหัว

แล้วชาวีก็มัดมันเข้ากับที่พักแขนของโซฟาซึ่งเป็นไม้เนื้อหนา


         “ตะโกนจนปากแตกก็ไม่มีใครมาช่วยหรอกเพราะในนี้มันเก็บเสียง ผมให้โอกาสสุดท้าย คายความ

จริงออกมา”


         โนเอลกัดฟันจ้องตากับชาวีแม้ว่าในใจจะนึกหวั่นกับท่าทีคุกคามของชายหนุ่มจนใจเต้นรัว


         “กูไม่มีความจริงจะบอก”


         ชาวีแค่นยิ้มแต่ดวงตาเรียวกลับโชนแสง


         “ไม่ยอมบอกใช่ไหม ดีล่ะ ผมจะไม่ยั้งมือกับคุณจนกว่าจะยอม”


         “ไอ้เหี้ย มึงจะทำอะไร”


         โนเอลร้องลั่นเมื่อชาวีกระชากเสื้อเชิ้ตเนื้อบางของเขาขาดหลุดลุ่ย กางเกงเนื้อดีถูกดึงออกจนพ้น

ท่อนขาแล้วเหวี่ยงจนมันลอยไปตกอยู่บนพื้นห้องไกลออกไป ชาวีตาลุกวาวจ้องมองร่างกายที่แทบจะไร้

อาภรณ์ปกปิดแล้วคว้าท่อนเนื้อกลางตัวมาไว้ในอุ้งมือ


         “เมื่อกี้อยากนักใช่ไหม เงี่ยนนักใช่ไหม ผมจะทำให้คุณจนถึงใจเลยล่ะ มาลองดูว่าระหว่างผมกับ

ผู้หญิงคนนั้นใครจะทำให้คุณครางจนปากสั่นได้มากกว่ากัน”


         ชาวีบีบมือ โนเอลถึงกับสะดุ้งเฮือก และเมื่อชาวีสาวมือปั่นจนมันร้อนวูบแก่นกายของโนเอลก็เด้ง

ตัวรับพองฟูสู้มือทันที


         บ้าไปแล้ว!


         โนเอลอยากจะด่าร่างกายตัวเองที่มันมีปฏิกิริยาตอบโต้ชาวีอย่างรวดเร็ว ทั้งที่เมื่อครู่เจนนี่กระตุ้น

แค่ไหนมันก็ยังหลับใหล แต่แค่ชาวีแตะมือก็ดูเหมือนว่ามันตื่นขึ้นมาง่ายดายเหลือเกิน และยิ่งชาวีสาวมือ

รูดรั้งมันยิ่งสร้างความเสียวซ่านจนเขาต้องกัดปากตัวเองเพื่อกลั้นมันไว้


         “อื้อออออ ไอ้ ไอ้ชาวี ปล่อยกูเดี๋ยวนี้”                           


         คิดว่าชาวีจะปล่อยตามที่บอกงั้นหรือ นักร้องหนุ่มแสยะยิ้มพลางก้มตัวลงครอบปากไปกับแท่งเนื้อ

ร้อนที่น้ำใสแตกเยิ้ม แค่เขาโลมเลียอยู่ไม่นานก็รู้สึกถึงแรงกระตุก ชาวีรีบคายมันออกและใช้มือจับโคนให้

แท่งเนื้อฉีดพุ่งน้ำเมือกขาวขุ่นรดอยู่บนหน้าท้องของเจ้าของมัน ชาวีใช้ปลายนิ้วปาดมันขึ้นมาแล้ววาดไป

รอบๆ ริมฝีปากของโนเอลที่หอบหนักหลังปลดปล่อย โนเอลสะบัดหน้าหนีแต่ชาวีใช้มือบีบคางให้เขาต้อง

อยู่นิ่ง เขามองชาวีอย่างแค้นเคือง


         “มึงมันเลว”


         เขาด่าใส่หน้าชาวี นักร้องหนุ่มยักไหล่


         “ผมไม่เคยทำใครก่อน ถ้าเขาไม่ทำเลวกับผม เป็นไงรสชาติน้ำเงี่ยนตัวเองอร่อยดีไหม ลอง

เปรียบเทียบกับของผมดูบ้างก็แล้วกัน”


         “ไม่ อย่านะ”


         โนเอลร้องลั่นดิ้นขลุกขลัก เมื่อชาวีปลดกางเกงตัวเองออกแล้วเขยิบตัวมานั่งอยู่ตรงหน้าอกของเขา

มือหนาบีบคางจนกรามเปิดกว้างก่อนที่ชาวีจะส่งแท่งเนื้อร้อนกระแทกเข้าไปในปากจนกระแทกไปถึงลำคอ


         “อึก อึก”


         โนเอลแทบขย้อนแต่ชาวียิ่งกดท่อนขาลงมาจนเขาหายใจเกือบไม่ได้ ด้วยความทรมานเลยต้องผวา

เก็บอากาศก็เลยยิ่งเข้าทางให้ชาวีดึงออกและแทงลงมาใหม่


         “ซี้ดดด ปากคุณนี่ร้อนจริงๆ”


         ชาวีเองก็อดครางลึกไม่ได้ โพรงปากและลิ้นด้านในของโนเอลร้อนระอุและชื้นฉ่ำเร่งเร้าให้เขาต้อง

กระแทกเอวใส่ไม่ยั้ง เขาแหงนหน้าเป่าปากเมื่อท่อนเนื้อบีบรัดแล้วอัดของเหลวใส่คอของโนเอลที่ยังไม่มี

โอกาสตอบโต้ กลิ่นคลุ้งพร้อมรสเฝื่อนที่ไหลลงคอทำให้โนเอลจ้องมองชาวีอย่างแค้นใจ





                      ------------------------------------- TBC -----------------------------------------


ง่า   หน้ากระดาษหมดพอดีเลย  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: 





หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 11-01-2015 12:28:22
มันค้างซะละเกินนน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 11-01-2015 12:48:41
 :katai1: :ling1: :ling2:

ค้างงงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 11-01-2015 13:11:12
คู่ชาวีโนเอล ช่งร้อน แรงดี ไม่มีตกจริงๆ  :pighaun: :m25: o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 11-01-2015 13:35:20
ด้านดิบชาวีแบดบวยถึงใจ~

 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 11-01-2015 14:54:08

โอ๊ะโอ...โนเอลปลุกด้านมืดของชาวีขึ้นมาแล้ว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 11-01-2015 14:57:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ตาล ที่ 11-01-2015 15:03:50
มันสั้นไปนิดนะ ค้าง!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 11-01-2015 15:38:14
หึๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 11-01-2015 17:36:59
พลาดท่าเด็กซะแล้ว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 11-01-2015 18:21:02
 :z1:

ง่า  เอาอีกๆ
นี้ค้างมากมายเลยอ่ะค่ะ
 :ling1:

โนแอลล เค้าเสียใจด้วยน่ะ เค้าเชียร ชาวี
 :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-01-2015 18:33:35
ผิดประเด็นหรือเปล่าชาวี
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 11-01-2015 19:37:28
เอามาอีก ข้อหาหายไปนาน มาต่ออีกนะ เขาชอบคู่นี้มากๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 11-01-2015 20:09:41
ชาวีเอ๋ยเนียนไปเนอะ  อยากกดโนแอลเองก็ว่ามาเถอะ

คู่นี้น่าจะแซ่บน่าดู ชอบฝ่ายรับมีอายุมากกว่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 11-01-2015 20:18:54
 :katai1: :katai1: :katai1: :z3: :z3: :z3: ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-01-2015 21:10:58
โอ้ยยยยย ชาวี ร้ายนะเรา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ben ที่ 11-01-2015 23:20:59
เฮ้ยยย บ้านคนเขียนยุไหนจะไปปาระเบิด ค้างมากนะเฟ้ย พูดเลอออ กำลังดุเดือด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 11-01-2015 23:27:37
ดุเดือดแท้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Maria_safe ที่ 11-01-2015 23:31:51
หาเรื่องกดมากกว่ามั้งชาวี หึงเขาตั้งแต่ไปกับสาวแล้วนี่มาทำปากแข็ง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 12-01-2015 01:10:15
โอ่ะโอ่ววว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-01-2015 01:18:24
โถโนเอลสุดเท่ จะมีสมีแล้ว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 12-01-2015 12:15:48
โอ้ยยยยยยยยยยยยย ค้างงงงงง ชาวีเถื่อนได้ใจเจ้มากกกกกกกกก  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 12-01-2015 17:29:16
ไม่ค้าง เล้ยยยย  :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 13-01-2015 05:25:49
แง้ ค้างสุดดดดดดด
ขอโนเอลชาวีอีกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 13-01-2015 15:48:52
 :a5: :a5: :a5:

หุ หุ หุ ....

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 13-01-2015 20:14:31
ในที่สุด  โนเอลก็ถูกบังคับให้รู้ตัว  โดยพี่วี   :a2:  นอกจากจะต้องเลี่อนคิวให้น้องป้องแล้วยังต้องมารับบทหนักอีก  เป็นเพี่อนพี่ปราบนี่ชั่งยากเสียจริง   :o211:  เปล่ีองตัวมาก  :dont2:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 16-01-2015 23:46:48
กระดาษสั้นจัง สิ่งไปหกระดาษมาเพิ่มให้ :impress2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 17-01-2015 10:08:54
น้องป้อง หุหุ
โดนไปเต็มๆ พี่เดียว จัดการไปเลยยยยย ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: domeloly ที่ 17-01-2015 11:08:28
 :z13:ค้างงงงงงงงงง :fire: :call:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 17-01-2015 15:38:00
ดิฉันว่าชาวีก็แค่หาเรื่องทำค่ะ..
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 23 ( 11 / 01 / 58 ) ขออภัยหายไปนานเลย
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 18-01-2015 03:53:21
รอๆๆๆ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-01-2015 20:04:19

                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                   บทที่ 24


         ชาวีเงยหน้าห่อปากสูดลมเข้าปอดเมื่อได้ปลดปล่อยอยู่ในปากของโนเอล และยิ่งได้แช่ค้างไว้แบบนี้

เขายิ่งรู้สึกดี ดีมากๆ จนอยากที่จะทำให้มากกว่านั้น ลมหายใจของเขายังกระชั้นถี่เมื่อก้มหน้าลงมอง

โนเอลอย่างคนหื่นกระหายในร่างกายที่นอนทอดกายอยู่เบื้องล่าง มือที่แข็งราวกับคีมบีบค้างอยู่ตรงสัน

กรามให้โนเอลยังคงสบตากับเขา


         “ยอมรับมาซะว่าคุณอยากให้ผมทำมากกว่านี้”


         “อื้อ ไอ้บ้า”


         เสียงอื้ออึงไม่เป็นคำหลุดออกมาจากปากสีสดที่จ้องมองกลับอย่างเกลียดชังทำให้หน้าหล่อเข้มของ

ชาวีเหยียดยิ้มออกมา


         “ไม่เป็นไร ถึงปากจะไม่ยอมรับแต่ไอ้ตรงอื่นคงจะตอบได้ตรงคำถามกว่า เนอะโนเอล”


         ท่อนเนื้อในปากถูกเจ้าของมันดึงให้หลุดออกมา  โนเอลสะบัดหน้าพลางขย้อนน้ำเมือกที่ยัง

หลงเหลือออกจนชื้นอยู่ตรงมุมปาก   นายแบบหนุ่มตั้งตาจะโก่งคออาเจียนจนลืมสนใจว่าต้นเหตุของมัน

เลื่อนตัวต่ำลงไปจ้องวนเวียนอยู่แถวกลางตัวก่อนที่เขาจะสะดุ้งเมื่อต้นขาถูกยกขึ้นสูงและดันจนแทบจะติด

อยู่ตรงหน้าอกของเขา โนเอลใจหายวาบเขาพยายามดิ้นรนจนข้อมือที่ถูกมัดไว้ด้วยเข็มขัดเสียดสีจนแดง

เป็นรอย             


         “นรก มึงจะทำอะไร อ๊ะ”


         เขาร้องเสียงหลง ตาเบิกโพลงเมื่อเห็นไอ้เด็กเลวดึงกระเป๋าใส่เงินออกมา ในนั้นมีถุงยางอนามัยที่

ชายหนุ่มพกติดตัวไว้ ชาวีถอดกางเกงตนเองออกโดยเร็วไม่สนใจเสื้อยืดเนื้อดีของตนเองที่ยับยู่ยี่ โนเอลมอง

เห็นแท่งเนื้อขนาดเหมาะกับร่างกายของชาวีกำลังตื่นตัวเต็มที่และชาวีก็ฉีกซองหยิบของที่บรรจุภายในมา

ใส่เข้ากับมันอย่างรวดเร็ว


         “ถ้ามึงทำ กูจะฆ่ามึง”


         โนเอลดิ้นรนกัดฟันขู่ แต่ได้รับคำตอบเพียงการยักไหล่อย่างโอหังจากไอ้หนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาไป

หลายปี


         “ตามใจถ้าอยากจะทำแบบนั้น ผมก็แค่ตาย แต่คุณก็จะมีชีวิตอยู่ด้วยการจดจำผมไปตลอดชีวิต”


         ชาวีหยุดคำพูดตัวเองไว้ด้วยประโยคนั้น ใบหน้าตระหนกระคนไปด้วยความต้องการของฝรั่งหน้าตา

ดีกำลังดึงอารมณ์ให้ยิ่งต้องการ เขาโน้มตัวลงไปทับท่อนขาที่ยกขึ้นสูง มือหนึ่งเร้าอารมณ์อีกฝ่ายด้วยการ

คว้าจุดอ่อนไหวมากระตุ้นในมือจนมันเต้นผางอีกรอบ ส่วนอีกมือเขาลดต่ำไปที่ช่องทางสีสวย นวดเฟ้นคลึง

อยู่ภายนอกก่อนกดนิ้วแรกเข้าไป


         “อื้อออ หยุดนะ”


         โนเอลเอ่ยปากห้ามอย่างยากเย็น เขาต้องกัดฟันทนความต้องการที่พุ่งขึ้นมาจากฝีมือการปลุกปั่น

ของชาวี ไม่อยากจะยอมรับเลยว่าชาวีเก่งในเรื่องนี้จนทำให้เขาต้องบิดตัวไปมารับความเสียวซ่านแม้เพียง

แค่นิ้วแรกที่เบิกทางเข้าไปควานลึก และเมื่อนิ้วที่สองตามเข้าไปโนเอลถึงกับสะท้านจนหอบลึก


         “โอ ไม่ อือ ตรงนั้น”


         เขาร้องเสียงหลง หลับตากัดฟันแน่นเมื่อนิ้วนั่นควงสว่านเข้าไปกระแทกผนังด้านในจุดหนึ่ง จึงไม่เห็น

ชาวีที่ลอบยิ้มอย่างยินดีเมื่อเห็นท่าทางที่เต็มไปด้วยความกระสันของโนเอล


         “ไหน ตรงไหน ตรงนี้ใช่ไหม”


         ชาวีแกล้งกระแทกนิ้วเข้าไปอีกทีหนึ่งพร้อมกับยิ่งสาวรูดโยกรั้งแก่นกายงดงามไปด้วย คราวนี้

โนเอลถึงกับดิ้นพล่านร้องเสียงหลง ชาวีรู้สึกได้ถึงแรงตอดรัดอยู่รอบนิ้วและความฉ่ำชื้นในช่องทางที่

ร่างกายของโนเอลผลิตออกมา ชาวีรู้ ตอนนี้โนเอลพร้อมแล้ว!

         โนเอลที่กำลังหลับตาห้ามความต้องการของตนเอง ถึงกับลืมตาขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าอยู่ๆ นิ้วที่กำลัง

กระตุ้นอยู่ในร่างกายถูกดึงออกไปจนเขาใจหาย แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์ในวินาทีต่อมาที่ชาวีคร่อมร่างแล้วจ่อ

แท่งเนื้ออยู่ตรงทางเข้า เขาก็ตกใจแทบสิ้นสติและหลังจากนั้นโนเอลถึงกับเบิกตาค้าง ร่างกายเกร็งไปทุก

สัดส่วน เขากลั้นใจเมื่อช่องทางคับแคบถูกทะลวงเข้าไปเป็นครั้งแรกในชีวิต


         ช็อก!


         โนเอลกำลังช็อก


         เพื่อนผู้ชายฝ่ายรับในบ้านที่เขาเติบโตมา หรือแม้แต่ไอ้พวกที่เคยไปดูแลแด๊ดไม่เห็นเคยบอกเขาเลย

ว่าการถูกกระทำครั้งแรกมันจะเจ็บปวดที่สุดแบบนี้ มันเจ็บจนน้ำตาซึมอยู่ตรงหางตาและจุกแน่นจนเขาไม่

สามารถเปล่งเสียงระบายมันออกมาได้ สภาพของเขาตอนนี้คือคนที่กล้ามเนื้อเกร็งรับความเจ็บปวดตั้งแต่

หัวจรดเท้า ได้ยินเพียงเสียงสูดปากของชาวีดังลอดเข้าหูเท่านั้น


         “ซี้ด โนเอล อย่าเกร็งสิ อวู แน่นชะมัด”


         ชาวีเองก็ต้องกัดฟันรับเมื่อแท่งเนื้อที่เสียดแทงเข้าไปต้องเจอะเจอกับการบีบรัดโดยรอบจนเขา

อยากจะอ้าปากร้องตะโกนกับความคับแน่น ท่าทางของโนเอลทำให้เขารู้ว่าเขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ได้ล่วงล้ำ

เข้าไป มันทำให้เขาภูมิใจอยู่ลึกๆ จนยิ่งอยากจะเคลื่อนไหวโดยเร็วเพื่อให้ร่างกายนี้เป็นของเขาโดยสมบูรณ์

แต่ชาวีกลับนึกเห็นใจโนเอลขึ้นมาอย่างหาสาเหตุไม่ได้จนต้องโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูเตือนสติอีกฝ่าย


         “อย่าเกร็งนะครับ โนเอล สูดลมหายใจเข้าไปลึกๆ เดี๋ยวจะดีเอง เชื่อผมนะ”


         ร่างที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามเนื้อโน้มตัวลงไปประทับแนบปากลงกับปากสวยที่อ้าปากค้างด้วยความ

เจ็บปวด โดยไม่รังเกียจที่ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำใคร่ของเขาอยู่ ชาวีค่อยๆสอดปลายลิ้นเข้าไปแล้วตวัด

เกี่ยวเข้ากับลิ้นชื้นของโนเอลที่ยังลืมตัว เขาบดจูบเร่าร้อนพักใหญ่ก่อนละออกมาไล่โลมเลียลงสู่ซอกคอขาว

ชาวีแวะขบเม้มฝากรอยเอาไว้ แล้วจึงลากปากลงมาถึงยอดอกเม็ดเล็กสีชมพูสวยที่กำลังยั่วเย้าให้เขางับ

ปากลงไป


         “อา อื้มมม”


         “ดีครับ โนเอล อย่างนั้น”


         ร่างกายที่เกร็งค้างเริ่มผ่อนคลายพอที่ชาวีจะขยับตัวเข้าไปได้ทีละนิดจนสุดโคน เขาใช้ท่อนแขนเช็ด

เหงื่อที่หน้าผากให้โนเอลที่ต้องทนกับความเจ็บปวด ช่องทางที่เขาสอดแทรกเริ่มมีน้ำหล่อลื่นมารองรับให้

ชาวีดึงกายออกมาแล้วดันเข้าไปใหม่ช้าๆ เพื่อให้โนเอลปรับสภาพได้ในที่สุด


         เสียวมาก!


         โนเอลเกลียดที่ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เมื่อความเจ็บปวดเลือนหาย ไอ้ความรู้สึก

ที่เขาเกลียดมันก็เข้ามาทดแทน มันทำให้เขาต้องแอ่นกายด้วยความสยิวกับลิ้นร้อนที่โลมเลียอยู่ตรงยอดอก

อย่างติดใจ และถึงกับยกสะโพกรับเมื่อชาวีขยับตัวกระแทกเอวเข้ามาอยู่ในร่างกายของเขา มันเสียวจน

หลุดเสียงครางออกมายาวนานเมื่อร่างกายของเขาบีบตัวและปลดปล่อยออกมา ชาวียิ่งกระแทกเอวสอด

ลึกอยู่อีกพักนึงเขาจึงรู้สึกถึงแรงอัดด้านในก่อนที่ไอ้เด็กวายร้ายจะแช่ตัวค้างอยู่ในท่านั้นแล้วเงยหน้าสูดลม

เข้าปอด

         ดวงตาคมนั่นมองเขาแพรวพราวแปลกๆ มันทำให้เขาไม่กล้าสบตาจนต้องเบนหลบ รู้สึกโหวงกะทันหัน

ในช่องท้องเมื่อชาวีดึงเอวออกไปและลอกถุงยางที่เต็มไปด้วยน้ำเมือกออกทิ้ง แล้วจึงเอนตัวมาทาบอยู่

บนร่างกายของเขาอีกครั้ง


         “คุณนี่น่าจะมาเป็นนักร้องแทนผมนะ”


         เสียงเย้าแหย่พร้อมกับปลายนิ้วที่ลากไล้อยู่ตรงกรอบหน้าทำให้โนเอลต้องหันมาถลึงตาใส่ แต่ชาวีก็

ยังพรายยิ้มและเขี่ยแก้มเขาเล่น


         “เสียงครางของคุณที่เปล่งออกมาจากกระบังลมนี่มันโคตรเซ็กซี่เลย”


         “ไอ้เหี้ย”


         คำด่าชัดถ้อยชัดคำเมื่อเขาแกล้งวางมือแนบไปตรงลิ้นปี่พลางใช้ซอกนิ้วคีบยอดอกให้ติดมือขึ้นมา

เรียกเสียงหัวเราะจากชาวีได้ เขาอารมณ์ดีอย่างประหลาด


         “เมื่อตะกี้เสร็จไหม ถึงสวรรค์หรือเปล่า ผมงี้ตาค้างเลยนะ โอ๊ย”


         ชาวีร้องลั่นเมื่อโนเอลยกเข่าขึ้นมากระแทกโดนกล่องดวงใจจนจุก


         “ทำงี้ได้ไง ถ้าผมหมดสมรรถภาพขึ้นมาใครจะมาให้ความสุขคุณแบบนี้ได้ หือ โนเอล”


         “มึงมันเด็กนรก กูเกลียดมึง”


         คำด่ายืดยาวที่เขาเคยหงุดหงิด เมื่อได้ยินตอนนี้กลายเป็นว่าชาวีฟังได้เพลินๆ เขารอจนโนเอลด่าจน

หอบแล้วหยุดด่าไปเอง ค่อยฉวยโอกาสก้มหน้าไปอุดปากเก่งด้วยปากของเขา โนเอลพยายามสะบัดหน้า

หนีแต่ก็ต้องหยุดให้ชาวีจูบและเผลอไผลจูบตอบในที่สุด ชาวีเลื่อนมือไปแกะเข็มขัดที่มัดข้อมือเรียวออกให้

เป็นอิสระ โนเอลยกมันคล้องไปรอบคอของชาวีอย่างไม่รู้ตัว จูบนั้นหนักหน่วงจนลมหายใจเริ่มหอบถี่แข่ง

กัน ชาวีทิ้งน้ำหนักตัวลงไปแยกขาของโนเอลให้เปิดกว้าง


         “ผมเป็นผู้ชายคนแรกของคุณใช่ไหม”


         โนเอลเอียงหน้าหนี เขากระดากเกินกว่าจะตอบว่าใช่ แต่กิริยานั้นยิ่งเรียกรอยยิ้มจากชาวีได้


         “เจ็บมากไหม”


         “มากสิวะ ให้กูลองทำมึงบ้างไหมล่ะ ไอ้เด็กเวร”


         โนเอลตวาดแว้ดจนชาวีหัวเราะ


         “อย่าเลย ให้ผมเป็นฝ่ายทำน่ะดีแล้ว เอางี้ ตะกี้เจ็บใช่ไหมล่ะ ผมขอแบบเบาๆ โรแมนติกๆ อีกรอบได้

ไหม”


         “ไม่มีทาง”


         “น่านะ โนเอล”


         เสียงเรียกชื่อนั่นลากหวานจนโนเอลสะดุ้ง เมื่อหัวใจอ่อนยวบทันทีที่ได้ยิน


         “เสียดายถุงยางมีอันเดียว รอบนี้ผมขอด้นสดแตกในก็แล้วกันนะ”


         หมดแรงห้ามปรามเมื่อแท่งร้อนชื้นที่มันตื่นมาอีกครั้งเมื่อไหร่โนเอลก็ไม่รู้ ค่อยๆ สอดลึกเข้ามาใน

ช่องทางที่ยังเปิดทางรอไว้ของเขา ชาวีกอบกุมท่อนเนื้อของเขาแล้วสาวมือโยกรั้งไปมาพร้อมกับที่ขยับดัน

ตัวอยู่ในช่องทางที่ยังฟิตแน่น ปลายลิ้นของชาวียังติดใจอยู่แถวยอดอกจนมันเต็มไปด้วยร่องรอยแดงจัดไป

หมด แต่โนเอลก็ถึงกับแอ่นอกรอรับ

         เสียวสะท้านจนต้องสอดแขนโอบไปรอบลำตัวแกร่งและยกเอวเด้งรับการสวนกลับของสะโพก

แข็งแกร่งในรอบนี้ โนเอลตาปรือใบหน้าบิดเบี้ยวไปด้วยความกระสัน ความเจ็บปวดจางหายแทบจะไม่

เหลือ ทิ้งไว้แต่ไฟสวาสที่ชาวีปลุกมันขึ้นมา เสียงหอบหายใจถี่ระคนครวญครางสลับกันลั่นห้องเมื่อต่างขึ้น

สวรรค์ โนเอลแทบหมดแรงเมื่อชาวีทิ้งตัวลงมาซบอยู่บนร่างของเขา








มีต่ออีกนิด....

 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
   
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-01-2015 20:09:39
ต่อตรงนี้อีกหน่อยนึง






         “แม่ พี่เด่วหายไปไหน พี่เด่วไม่มาเล่นกับป้องแล้วเหรอ”


         ปมุตจำเสียงตนเองในวัยเยาว์ได้ มันเป็นเสียงของเด็กตัวน้อยที่กำลังคร่ำครวญหาใครบางคนที่หาย

หน้าไป


         “แม่ ป้องคิดถึงพี่เด่ว”


         เสียงมารดาที่ตอบกลับอย่างรำคาญว่าพี่ชายคนสำคัญจะไม่กลับมาหาอีกแล้ว ทำให้เขาร้องไห้จ้า


         “ป้องคิดถึงพี่เดี่ยว”


         คิดถึงสัมผัสอ่อนโยนที่พี่เดี่ยวเคยโอบกอด คิดถึงริมฝีปากที่เคยประทับลงมาแล้วค่อยๆ สอดปลาย

ลิ้นอบอุ่น ปมุตรู้ว่าสัมผัสทั้งหมดมันเต็มไปด้วยความรักที่ปมุตโหยหา เด็กน้อยในวัยเยาว์อยากพบกับคนที่

ยังอยู่ในความทรงจำลึกๆ นั่นอีกครั้ง


         “ป้องคิดถึงพี่เดี่ยว”


         เขาตะโกนก้องอยู่คนเดียว พลันความอบอุ่นที่ห่างหายก็มาปรากฎตัวอีกครั้งเมื่อสัมผัสอุ่นๆนั้นมา

คลอเคลียอยู่แถวเรียวปากนุ่ม


         “พี่เดี่ยว พี่เดี่ยวกลับมาแล้ว”


         ปมุตยินดีอยู่ในความมืดมิด เหมือนมีแสงแม้จะเพียงสลัวแต่มันก็ทำให้เขายินดีจนต้องเปิดรับจุมพิต

อ่อนโยนที่โหยหา


         “ครับป้อง พี่เดี่ยวกลับมาแล้ว จะกลับมารักป้องตลอดไป”


         เสียงเบาและสั่นพร่า ปมุตได้ยิน เขายินดีจนต้องผวาเข้าหาแหล่งของความอบอุ่น           เรียวปากเล็ก

เปิดรับให้ปลายลิ้นคุ้นเคยได้เข้ามาเก็บเกี่ยวความหวานเหมือนยามอดีต


         “อย่าหนีป้องไปอีก อย่าหนี”


         “พี่เดี่ยวจะไม่ไปไหน จะอยู่กับป้อง เลิกร้องไห้นะครับคนดีของพี่เดี่ยว”


         สัมผัสนั้นอ่อนโยนและหวานซึ้งจนปมุตไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือ ปลายลิ้นร้อนเพิ่มความอบอุ่นให้กับ

ร่างกายของเขาไปทั้งตัว ร่างกายอุ่นไปด้วยกล้ามเนื้อทาบทับมาบนร่างร้อนระอุของเขา ปมุตเปิดรับอย่าง

ยินดีเมื่อความอบอุ่นนั้นแทรกซึมผสานรวมกับร่างของเขาช้าๆ


         อบอุ่นเหลือเกิน อ่อนโยนเหลือเกิน


         มันทำให้ปมุตลืมเรื่องเศร้าๆ ไปหมดสิ้น เขาเบียดกายรับให้ความอบอุ่นนั้นขยับเพิ่มความร้อนอยู่ใน

ช่องทางของเขา สองแขนยังโอบรัดราวกับหวาดกลัวว่าความฝันของเขาจะหลุดลอยหายไป


         “ป้อง ป้องของพี่เดี่ยว”


         เสียงพึมพำดังขึ้นเมื่อร่างบอบบางยิ่งเบียดกายรับ ปราบดันตัวเข้าไปควานลึกอย่างกลัวคนตัวเล็กจะ

ตื่น เสียงครางหวานแว่วมาจากปากเล็กในขณะที่ดวงตางดงามยังหลับสนิทราวกับสุขสมอยู่ในความฝัน

แสนงดงาม ปราบกัดฟันแน่นเมื่อเขาเองก็มีความสุขเมื่อได้กอดรัดปมุตไว้ มือแกร่งลูบผมนุ่มเบาๆ

ดวงตาที่เคยกร้าวแกร่งบัดนี้แดงเรื่อไปหมด


         “มีความสุขมากๆ และเก็บความสุขเหล่านี้ไว้นะป้อง เพื่อที่จะต้องตื่นขึ้นมาเผชิญกับความเป็นจริงที่

โหดร้าย”


         ปราบกดปากลงไปที่หน้าผากเนียน


         “เมื่อเรื่องทุกอย่างมันจบลง พี่เดี่ยวจะไม่ทำให้ป้องต้องร้องไห้อีกแล้ว หลับนะคนดีของพี่เดี่ยว”


         ปราบโอบกอดเพื่อให้คนตัวเล็กหลับสนิทอยู่ภายใต้การปกป้องของเขา









                        ---------------------------------------- TBC -----------------------------------


ครยังไม่ได้อุดหนุนผลงาน X-Theme the series

อุดหนุนได้ถึง 10 กุมภาพันธ์นะคะ





                                                   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 18-01-2015 20:27:48
ชาวี ตั้ลล้ากกกกก   :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-01-2015 20:41:25
โนเอลลลลลล
เสร็จหนุ่มไทยเสียแล้ว  เกิดมาไม่เสียชาติเกิด ฮ่าๆๆ

น้องป้องน่ารักสุดๆไปเลย
พี่เดี่ยวอย่าใจร้ายเลยนะ ป้องไม่เกี่ยวไรด้วยเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 18-01-2015 20:42:52
เร่าร้อนเหลือเกินชาวี :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 18-01-2015 20:50:38
สงสารพี่เดี่ยวที่ต้องทำร้ายป้อง  เพียงเพราะอยากจะปกป้องไปด้วย  ต้องทำให้คนที่ตัวเองรักเกลียด  คงเจ็บปวดน่าดู   :เฮ้อ:


  แต่คู่ที่มาแรงแซงทางโค้งชาวบ้านเค้าก็ต้องยกให้พี่วี  กับโนเอลแล้วล่ะ  เล่นมาซะดุเดีอดเลี่อดพล่านขนาดนี้   :laugh:  รู้สึกหัวใจทำงานหนัก  คล้ายไปวิ่งรอบสนามมาสักสามรอบได้   :jul1:


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 18-01-2015 21:10:51
รอคอย..ชาวีน่าจะไปได้ดี แต่ตอนป้องตื่นนี่ซื มิอยากคิด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: populijang ที่ 18-01-2015 21:14:03
เข้มข้น :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-01-2015 21:24:22
พอน้องตื่นก็เลิกสวมบทโหดเถอะพี่เดี่ยว สงสารน้อง
ส่วนชาวีโนแอล ดูท่าจะไปได้ดีนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 18-01-2015 21:48:45
ฮรื่อววว~ ชาวี ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-01-2015 03:00:57
สตั๊นท์กับออร่ารุกของชาวีแป๊บ  ตาพร่าละลายไปเลย

นี่ชาวีไม่ติดใจโนแอลนะ ขอแค่เบิ้ลเอง

ทีนี้ก็ดูต่อไปว่าโนแอลจะจัดการยังไง นางน่าจะแซ่บอยู่นะ จัดการให้เอาชาวีให้อยู่หมัดให้ได้นะ

พี่เดี่ยวน้องป้องคงอีกนานแหละ น้องมันก็รักตัวเองอยู่นะ อย่าทำอะไรน้องมันมากไปเลย ตัวพ่อป้าไม่ห้ามหรอก อย่าทำร้ายหรือทำให้ตายก็พอ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-01-2015 06:33:17
กำลังแซ่บๆกับโนเอลชาว ก็มาดราม่าน้ำตาแตกกับพี่เดี่ยวน้องป้องเลยอ่ะ :hao5:
สงสารน้องจัง พี่เดี่ยวอย่าใจร้ายกับน้องนักเลยนะ :mew4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-01-2015 07:44:07
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 19-01-2015 08:17:08
โว้วววววว โดนกินไปแล้ววววววว มาแรงจิงคู่นี้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 19-01-2015 10:51:47
โนเอลลลลลล เสร็จน้องชาวีเสียแล้ว

พี่เดี่ยว อย่างแกล้งน้องป้องมากนะ สงสารน้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 19-01-2015 11:35:37
กรี๊ดดดด. ฟินค่ะ
ครั้งแรกของโนแอล.  ชาวีไม่ควรเบิ้ลนะคะ
แล้วคู่ของปมุตกะพริบเดี่ยว. ถ้าเรื่องทุกอย่างจบลง. ... หมายความว่ายังไงน้า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 19-01-2015 16:18:31
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 19-01-2015 16:59:05
เลือดพุ่งปรี้ดดดดด :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 19-01-2015 17:55:09
เราล่ะกลัวใจชาวีเหลือเกิน ไม่ใช่เดี๋ยวกลับไปหวงป้องแล้วทิ้งโนเอลเรานะ รักเค้าก็ต้องยอมรับว่ารักเค้าสิ
สงสารป้องจัง แต่เราก็แอบเคืองนะที่ตอนป้องเด็กร้องไห้งอแงจนพี่เดี่ยวเสียใจ
แต่ป้องก็คิดถึงพี่เดี่ยวใช่ม้า
อยากให้ปราบหายแค้นเร็วๆๆๆ ดีกันเถ๊อะ
ถึงจะชอบเอสเอ็ม จำเลยรัก แต่ก็สงสารน้อง :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 19-01-2015 19:48:49
ได้โนเอลแล้วห้ามทิ้งนะตาชาวี  :mew3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 20-01-2015 21:47:05
ร้อนแรงไม่แพ้กันทั้งสองคู่ :haun4:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 20-01-2015 23:44:55
ชาวีโนเอลนี่แหกทางโค้งเจง ๆ  :hao7:

เขินพี่เด่วมากกกกก งื้อออิออออออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: MintELF13 ที่ 21-01-2015 16:03:37
โนเอลเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนชาวี กึกึกึ

พี่เดี่ยวจะทำยังไงก็น้องป้องต่อไปเนี่ย สงสารป้องอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kawaiineko ที่ 23-01-2015 10:23:39
สงสารชีวิตปราบ...แต่ก็สงสารปมุตด้วย....แต่ชอบคู่โนเอลกัชาวี....จะติดตามอ่านต่อไปนะคร้าบว่าคนแต่งจะดำเนินต่อไปยังไง เพราะตามอ่านมาตั้งแต่ร้ายซ่อนรัก ชอบพัทมาก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 23-01-2015 10:39:32
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 24-01-2015 00:07:30
ชอบคู่โนเอลชาวีมากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 24 ( 18 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 26-01-2015 20:04:58
สงสารป้อง ถึงจะเข้าใจปราบ
แต่กว่าปราบจะบอกความรู้สึกจริงๆ กับป้อง
น้องคงระทมและช้ำมากแน่ๆ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-01-2015 00:04:43

                                                  เพลิงพ่าย

                                                  บทที่ 25


         “พี่เดี่ยว พี่เดี่ยว”


         ขนตายาวเป็นแพกะพริบถี่ก่อนปรือตาช้าๆ อวดนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนพลางถอนหายใจอย่างเสียดาย

ที่ต้องตื่นจากนิทราแสนหวาน ความฝันนั้นเด่นชัดเหลือเกิน ความสุขสมที่เขาโหยหาจากคนที่ยังอยู่ใน

ความทรงจำของเขาตลอดมาเกิดขึ้นในฝันราวกับเป็นเรื่องจริง

         เค้าลางใบหน้าของพี่ชายคนเดียวกลายเป็นความทรงจำจางๆ อยู่ในหัว พี่เดี่ยวจากเขาไปในวัยที่

ปมุตเด็กเกินกว่าจะจดจำใบหน้านั้นได้ หากแต่สิ่งที่ยังระลึกถึงกลับเป็นรสจูบนุ่มนวลในบางครั้ง ร้อนวูบ

วาบในบางที รสจูบที่ทำให้คุ้นเคยและติดใจราวกับขนมหวานลิ้นยากจะลืมเลือน


         “ป้องจะให้ใครจูบแบบนี้ไม่ได้อีกนะ สัญญากับพี่เดี่ยวได้ไหม”


         สัญญาของเด็กวัยแค่นั้น แต่ปมุตไม่เคยลืมเลือนเขาพยายามรักษาสัญญานั้นมาตลอดชีวิตจนมันมา

จบสิ้นลงเพียงเพราะผู้ชายแสนเลวอย่างปราบที่ทำให้ทุกอย่างพังไม่เป็นท่า ความเจ็บระบมทุกส่วนของ

ร่างกายโดยเฉพาะส่วนนั้นตอกย้ำความจริงอันขมขื่นจนต้องเม้มปากแน่น

         กวาดสายตามองไปรอบห้องมีเพียงเขาที่นอนฟุบอยู่บนเตียงกว้าง ก็ดี เขายังไม่อยากเห็นหน้าปราบ

ในตอนนี้ ตอนที่เขาคาดว่าน่าจะเป็นช่วงเช้าเพราะฝั่งหนึ่งที่มีกระจกใสและทางออกสู่ระเบียงก็ถูกกั้นแสงไว้

ด้วยม่านสีเข้มหนาหนักจนมองอะไรภายนอกไม่เห็นเลยสักนิด ปมุตหันไปมองนาฬิกาที่หัวเตียง ทันใดนั้น

ดวงตางามก็ถึงกับเบิกกว้าง เพราะเวลาที่มองเห็นมันไม่ได้ช่วงเช้าอย่างที่คิดแต่นี่มันใกล้เที่ยงวันอยู่รอมร่อ

เขามีงานถ่ายแบบของนิตยสารที่ขอคิวคู่กับชาวี ปมุตไม่อยากได้ชื่อว่าเบี้ยวงานจึงพยายามกระเสือก

กระสนดึงผ้าห่มผืนหนาหนักออกจากตัว แต่ทำได้เพียงแค่นั้นประตูห้องนอนของปราบก็ถูกเปิดออกโดย

เจ้าของห้องนั่นเอง ปราบอยู่ในชุดลำลองสบายๆ ในขณะที่เขายังนุ่งลมห่มฟ้าเปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่มกองโต

ปมุตรีบพลิกผ้าห่มมาคลุมร่างอย่างรวดเร็ว


         “มองอะไร หันไปทางอื่นนะ”


         ปราบกลั้นยิ้มเมื่อเห็นปมุตถลึงตาใส่ นี่คงลืมไปว่าเขาเห็นเรือนร่างสมส่วนนั้นตลอดคืนที่ผ่านมาแล้ว

แถมยังได้สัมผัสและนอนกอดอย่างติดใจด้วย


         “นี่ลงทุนต้มข้าวต้มแล้วยกมาให้ถึงเตียง ถ้าไม่ให้มองจะเดินไปถูกหรือไง”


         ปมุตเพิ่งสังเกตว่าปราบยกถาดบรรจุชามใส่ข้าวต้มมาด้วย ไอร้อนพุ่งเป็นควันสีขาวส่งกลิ่นหอมจน

น้ำลายไหลเมื่อปราบยกมาวางที่โต๊ะข้างเตียงก่อนจะนั่งลงอยู่ตรงริมเตียง เสียงโครกครากดังลั่นมาจาก

ท้องของปมุตจนเจ้าตัวหน้าแดงด้วยความอับอายที่ลำไส้ช่างไม่รักษาหน้าเจ้าของมันเสียเลย


         “ตักมาให้ชามเบ้อเริ่มเลยนะ เพราะรู้ว่านายคงหิว”


         ปมุตนึกแปลกใจที่ปราบใช้น้ำเสียงเหมือนกับกำลังหลอกเด็กให้กินข้าว ไม่ได้มีความเย่อหยิ่ง

จองหองปะปนแม้แต่น้อย แล้วยังดวงตาวาววามที่จ้องมายังเขานั่นอีกเล่า มันกลับไปเหมือนครั้งแรกที่เขา

เผชิญหน้ากับปราบในงานเลี้ยงแฟนซีสวมหน้ากาก ดวงตาพราวของหนุ่มเจ้าเสน่ห์ที่กำลังหลอกล่อให้เหยื่อ

ติดกับ ทั้งหมดทำให้ปมุตเริ่มวางตัวไม่ถูกมือที่ยกผ้าห่มมาคลุมอยู่ใต้คอก็ดูเกะกะ ปมุตใจเต้นตึกตักจน

ต้องเบนสายตาหลบไปทางอื่น


         “ผมจะไปทำงาน สายมากแล้ว”


         “คิวงานเลื่อนแล้ว วันนี้นายพักผ่อนได้”


         “อะไรนะ นี่คุณมายุ่งกับคิวงานของผมได้ไง”


         ปมุตหันกลับมาโวยวายและมองด้วยสายตาเคืองขุ่น ปราบเลิกคิ้วพลางยกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็น

ท่าทางของปมุต


         “แล้วถ้าไปทำงานคิดว่าจะทำไหวหรือไง แค่เดินไปห้องน้ำก็ทำให้ได้ก่อนเถอะ”


         ปมุตนึกโมโหกับคำท้าทายของปราบ เขาไม่ใช่ผู้ชายสำออยขนาดนั้นแค่ความรู้สึกปวดเมื่อย

กล้ามเนื้อปมุตไม่เชื่อว่าเขาจะทำอย่างที่ปราบบอกไม่ได้ ด้วยความอยากเอาชนะนักร้องหนุ่มจึงได้ทิ้งเท้า

ลงจากเตียงและลุกขึ้นยืนทันที


         พรืด!


         แค่ทิ้งน้ำหนักตัวยืนกับพื้นห้อง ขาสองข้างของปมุตเป็นอันหมดแรงจนร่วงลงไปนอนแผ่อยู่กับพื้น

ปมุตเพิ่งรู้ว่าขาของเขาสั่นและไม่มีแรงแม้กระทั่งจะพยุงตัวเองไว้ หนุ่มน้อยสบถลั่นอย่างเจ็บใจที่เห็น

รอยยิ้มขำขันจากปราบ


         “ยิ้มอะไรนักหนา ชาติก่อนเกิดเป็นแป๊ะยิ้มคณะเชิดสิงโตรึไง”


         ปมุตทั้งโกรธทั้งอายจนลืมเรื่องที่เขายังไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นติดตัวแถมร่างกายยังมีแต่ร่องรอยจากฝีมือ

ของปราบเต็มไปหมด เขาตวาดลั่นหน้าแดงก่ำจนปราบถึงกับหัวเราะและต้องลุกขึ้นเดินอ้อมเตียงมาฝั่งที่

ปมุตยังนอนกองอยู่ ปราบเท้าเอวมองพลางส่ายหน้าก่อนจะก้มลงช้อนร่างเพรียวนั้นจนลอยขึ้นมาแล้วเดิน

ย้อนกลับมาที่เดิม

         ปราบนั่งลงตรงขอบเตียง เขาวางร่างเปลือยของปมุตให้นั่งขวางอยู่บนตักของเขาพลางขู่ให้กลัว


         “ถ้าดิ้นจะโยนลงพื้นให้เจ็บกว่านี้อีก กินข้าวต้มได้แล้วรำคาญเสียงท้องร้อง”


         ปมุตมองปราบหน้าคว่ำแต่ก็ไม่กล้าดิ้นรนอีกเพราะกลัวปราบจะโยนลงพื้นจริงๆ แต่เขาก็กลัวตกจาก

ตักคนตัวสูงเลยต้องเอื้อมมือวางพาดบ่ากว้างเอาไว้ ปราบยกมือโอบประคองไว้ที่แผ่นหลังนุ่มมือ ใช้มืออีก

ข้างตักข้าวต้มขึ้นมาเป่าจนอุ่นก่อนจะยื่นมาใกล้กลีบปากอิ่มที่เอียงหน้าหนีอย่างขัดใจ


         “ผมตักกินเองได้ ไม่ได้เป็นง่อย”


         “อย่าดื้อ แค่กินอย่างเดียวทำไมปัญหาเยอะนักนะ อ้าปากเดี๋ยวนี้ปมุต”


         เสียงดุทำให้ปมุตต้องยอมอ้าปากรับข้าวต้มที่ใส่เข้ามาในปากอย่างหงุดหงิด แต่รสชาติของข้าวต้ม

นั้นอร่อยกว่าที่คิด ปมุตเข้าข้างตัวเองว่าเป็นเพราะเขาหิว หาใช่เพราะปราบปรุงมันจนอร่อยหรอก ไม่นาน

นักอาหารมื้อแรกของวันโดยการป้อนของปราบก็หมดถ้วย ปราบส่งแก้วน้ำให้ปมุตดื่มตามแล้วรับกลับมา

วางไว้ที่เดิมพลางคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงใจ


         “ตัวผอมๆกินจุเหมือนกันนะ”


         ปมุตตวัดสายตาใส่ เพราะใครล่ะที่ทำให้เขาหมดแรงขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เพราะบทพิสวาสรุนแรงเร่าร้อน

จากร่างสูงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่กำลังโอบกอดเขาไว้นี่หรือ

         คิดถึงเรื่องเมื่อคืนและรูปร่างแสนเพอร์เฟ็คของปราบแล้วปมุตเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในขณะที่ปราบแต่

ห่อหุ้มกายด้วยเสื้อผ้า เขายังคงมีแต่เนื้อหนังมังสาอยู่ในอ้อมกอดอีกฝ่าย ปมุตเขินจัดจนเริ่มขยับตัวไปมา

อีกครั้ง


         “ผมจะไปอาบน้ำแล้วใส่เสื้อผ้า”


         “อย่าอาบเลยเดี๋ยวจะเป็นไข้อีก ฉันเช็ดตัวให้จนสะอาดทุกส่วนแล้ว”


         ปมุตตาโต คนอย่างปราบนี่นะที่เช็ดตัวให้เขา เมื่อก้มสำรวจตัวเองปมุตก็ยิ่งขัดเขินกับความจริง

คราบน้ำลายน้ำคาวไม่มีหลงเหลืออยู่แม้แต่ตรงช่องทางเบื้องล่าง ปมุตก้มหน้าเม้มปากนิ่ง

         ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมปราบต้องมาทำดีกับเขา ปราบกำลังจะทำให้เขาเกือบจะลืมเลือนไปแล้วว่าตัว

เขาเองเป็นเพียงสิ่งที่บิดาส่งมาชดใช้หนี้เท่านั้น ปมุตควรจะเกลียดปราบให้เข้ากระดูกและหัวใจ แต่ตอนนี้

หัวใจดวงนั้นกลับเต้นรัวสะท้อนอยู่ในดวงตาของปราบที่มองมา

         ปราบนึกเอ็นดูเหยื่อตัวน้อยที่กำลังสับสน นัยน์ตาของปมุตบอกเขาอย่างนั้น เจ้าตัวคงไม่รู้ตัวหรอก

ว่าท่อนแขนของตัวเองที่แต่เดิมวางพาดอยู่บนบ่าของเขาขยับมาเหนี่ยวอยู่ที่ลำคอและโน้มให้เขาเข้าใกล้

จนรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ปราบเชยคางเรียวให้ยกสูงก่อนแตะริมฝีปากลงไปเพียงแผ่วเบา

         ปมุตนิ่งงันกับสัมผัสนั่น ปราบไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าใช้ปากมาชนกับปากของเขา แต่ทว่ามันกลับ

ทำให้ปมุตสั่นสะท้านจนต้องรั้งคอแกร่งให้ก้มลงมาแล้วเป็นฝ่ายเบียดปากตัวเองจนแนบชิด ปมุตรอไม่ไหว

ที่จะให้ปราบส่งปลายลิ้นเข้ามาจนเขาต้องเป็นคนเผยอปากแล้วดันลิ้นเข้าไปเสียเอง ปราบปล่อยให้ปมุต

เป็นฝ่ายตวัดลิ้นด้วยความโหยหาอยู่พักใหญ่แล้วจึงสนองตอบด้วยการเกี่ยวกระหวัดไปมาจนปมุตหอบตัว

โยนเมื่อปราบละปลายลิ้นออกช้าๆ

         ดวงตาเรียวราวกับเม็ดอัลมอนด์ลอยคว้างไปกับรสจูบ ร่างเปลือยเปล่ายังคงสั่นไหวจนยิ่งเบียดกาย

เข้าไปความอบอุ่น


         “พี่เดี่ยว”


         “พี่ปราบ”


         ปราบเอ่ยแก้ข้างๆหูของปมุตด้วยเสียงทุ้มนุ่มหู ตามด้วยการเม้มปากที่ติ่งหูเบาๆ


         “อย่าลืมสิ นายเป็นของฉันแล้ว เป็นสมบัติของฉันแต่เพียงผู้เดียว”


         ปราบกระชับอ้อมกอดเหนียวแน่นด้วยความหวงแหนสมบัติชิ้นสำคัญ เขาซุกหน้าลงกับซอกคอนุ่ม

แล้วไล่เรียวปากมาหยุดอยู่ที่ยอดอกพลางเม้มปากดูดดูนเบาๆ จนปมุตหลับตาพริ้มและแอ่นอกให้เขาเชย

ชม


         “อาพี่ปราบ”


         ปมุตพึมพำอย่างลืมตัวด้วยปลายลิ้นแสนชำนาญ ปราบครางลึกอย่างพอใจ เขาจับมือเรียวของปมุต

ให้ซุกเข้ามาอยู่ใต้เสื้อยืดเนื้อดีของเขาให้วางแนบอยู่บนแผ่นอกที่อุดมไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ ปมุตเผลอไผล

ลูบไล้บีบเฟ้นไปทั่วจนปราบต้องดึงเสื้อยืดตัวเองโยนทิ้งอย่างรำคาญที่สร้างความเกะกะระหว่างเขากับปมุต

         ปราบขยับให้ปมุตเปลี่ยนมานั่งคร่อมอยู่บนตักแทน ราวนมสีสวยเสมอหน้าให้เขาได้เชยชมจนหนำ

ใจ เสียงหวานครางแผ่วและยิ่งกดศีรษะให้ปราบโลมเลียไม่หยุดหย่อน มือสากร้อนลูบไล้อยู่ตรงแผ่นหลัง

ก่อนเลื่อนต่ำมาที่เอวตรงเข้ากอบกุมจุดอ่อนไหวมาเค้นคลึงกระตุ้นให้ตื่น ปราบแยกต้นขาตนเองกว้างออก

ให้ปมุตที่นั่งคร่อมอยู่ต้องเปิดต้นขาให้กว้างตามด้วย ปราบสอดมือลูบคลำแล้วดันนิ้วเข้าไปในช่องทาง

ของปมุตช้าๆ

         ปมุตอยากจะบ้า ปราบกำลังทำให้เขาเตลิดด้วยลีลาอันอบอุ่น มันทำให้สติกระเจิดกระเจิงจนยากที่

จะห้ามใจไม่ให้คล้อยตาม และยิ่งนิ้วมือยาวๆกำลังสอดลึกหมุนวนนวดเฟ้นภายในมันทำให้เขาเสียวซ่าน

จนหน้ามืด และยิ่งความอบอุ่นนั้นเริ่มทวีคูณจนเร่าร้อน ปมุตถึงกับกัดฟันเมื่อปราบเพิ่มนิ้วเข้าไปชักเข้าออก

จนเส้นทางฉ่ำชื้นไปหมด


         “อื้อ พี่ปราบ เสียว”


         ร้องประท้วงเสียงสั่นพร่าเพราะโดนจู่โจมทั้งด้านบนที่ลิ้นยังเด้งรัวอยู่ตรงเม็ดทับทิมสีสวย ด้านล่างก็

ถูกนิ้วหมุนวนมาพบกับจุดสำคัญพร้อมกับมือร้อนที่ยังบังคับท่อนเนื้อไม่หยุดหย่อน ความต้องการทะยาน

จนดวงตาปรือฉ่ำหวาน


         “ป้องเป็นสมบัติของพี่ปราบ”


         ปราบกรอกข้อมูลลงไปในจิตใต้สำนึก เขาพึมพำย้ำซ้ำๆ ให้ปมุตซึมซับมันเข้าไปอย่างไม่รู้ตัว


         “จำได้ไหม ป้องเป็นสมบัติของพี่ปราบ”


         “อา ฮัก ฮัก ป้อง เป็น ของ พี่ปราบ”


         ปราบครอบปากลงไปบนลานนมแล้วดูดดึงขึ้นมาเป็นรางวัลจนปมุตผวาเฮือก


         “ดีมาก งั้นทำให้พี่ปราบรู้หน่อย ว่าสมบัติชิ้นนี้จะทำให้เจ้าของมีความสุขยังไง”


         จู่ๆ ปราบก็หยุดกิจกรรมทั้งหมดลงทันที ปมุตสะท้านกายราวกับร่วงลงเหว ร่างกายถูกปลุกเร้าเกิน

กว่าจะหยุดลงเพียงแค่นี้ ปมุตผลักปราบให้หงายหลังไปบนเตียงนุ่มพลางผลักไสกางเกงขาสั้นของปราบให้

พ้นทางมองเห็นท่อนเนื้อยักษ์ผงาดรออยู่แล้ว ปมุตพับท่อนขาแล้วโหย่งตัวขึ้นคว้าท่อนเนื้อดันเข้าไปใน

ช่องทางตัวเองพลางกดสะโพกให้เส้นทางชื้นกลืนมันเข้าไปทีละน้อย


         “ช้าๆ ครับป้อง ค่อยๆกดเอวลงมา อา เสียวมาก”


         ปราบห่อปากรับความตอดรัดรอบท่อนเนื้อ แม้จะผ่านศึกหนักตลอดคืนแต่ร่างกายของปมุตยังทำให้

เขาแทบคลั่ง ช่วยยึดเอวแล้วกดลงไปจนปมุตโอบรัดเต็มที่ ปมุตหายใจหอบลึกกัดฟันแน่น


         “ขยับเลยครับป้อง ดี อย่างนั้น อืมม”


         ภาพของนักร้องหนุ่มหน้าหวานกำลังกระแทกตัวขึ้นลง มือเรียวดันอยู่บนต้นขาของเขา เงยหน้าปรือ

ตากัดฟันหวามไหวแอ่นกายให้ปราบใช้มือบีบเค้นหน้าอกมันช่างงดงามและปลุกเร้าให้ปราบเด้งเอวสวนใส่

เขายกขาตั้งกับขอบเตียงใช้มือยึดเอวคอดของปมุตเพื่อรองรับความเสียวซ่าน ก่อนจะไถลกายมาอยู่กลาง

เตียงทั้งที่ปมุตก็ยังไม่เลิกรา

         ปราบยกเอวปมุตแล้วพลิกให้ร่างผอมเพรียวนั้นนอนตะแคงลงไปแล้วยกขาข้างที่อยู่ด้านบนขึ้นสูง

เขาสอดเอวอยู่ระหว่างขาพลางกระแทกกายไม่ยั้ง ดวงตาเรียวงดงามลอยคว้างไปด้วยความกระสัน สอง

แขนโอบกอดร่างแกร่งชื้นเหงื่อเสียงครางหวานดังไม่ขาดระยะ


         “พี่ปราบ ฮัก ฮัก พี่ปราบ”


         ปมุตเกลียดตัวเองจับใจ เขาหลงเสน่ห์ซาตานอย่างปราบเข้าแล้ว แม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงมายา

เลวร้ายที่ปราบขุดหลุมดักล่อให้เขาตกบ่วง รู้ทั้งรู้ แต่ปมุตกลับเดินตรงไปแล้วกระโดดลงหลุมที่ไม่มีทางจะ

ปีนขึ้นมาด้านบนได้อีก ปมุตกำลังมัวเมาไปกับรสแห่งความพิสวาสที่เขาไม่เคยพบเจอ มันเริ่มต้นด้วยความ

อ่อนโยนและเริ่มแปรสภาพเป็นหนักหน่วงก่อนจะเร่าร้อนดั่งไฟ


         “ป้องเป็นสมบัติของพี่ปราบ”


         พึมพำกับสติสุดท้ายก่อนจะปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับไฟรักที่เผาไหม้จนร่างกายร้อนระอุ


           ----------------------------------- TBC ---------------------------------------------



ใครยังไม่ได้สั่งซื้อ X-theme the series

ยังมีเวลาอีก 13 วันนะคะ


 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-01-2015 00:14:21
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-01-2015 00:20:56
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-01-2015 00:24:27
น้องป้องถูกชักจูงง่ายยังไงก็ยังงั้น
ตั้งแต่เด็กจนโต  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 27-01-2015 01:00:16
จิตใต้สำนึกป้องเหมือนจะรู้ว่าปราบกับเดี่ยวคือคนเดียวกันนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 27-01-2015 01:21:49
เขินคู่นี้ ฮืออออออออออออ ชอบม้ากกกกกกกกกกกกกกก อยากให้ตีกันบ่อย ๆ แต่ก็ตอดเล็กตอดน้อยไปเรื่อยไรแบบนี้ื o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 27-01-2015 01:53:40
พี่ปราบอย่าทำร้ายน้องไปมากกว่านี้เลยนะ :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-01-2015 02:07:53
ตะลึงไปชั่วขณะ น้องป้องเปลี่ยนจากเหยื่อเป็นลูกแมวยั่วสวาทชั่วคืน
อย่าทำร้ายน้องมากนะพี่ปราบ

เราชอบมวยรองค่ะ  ชาวี-โนแอล กลัวว่าชาวีจะฟันแล้วทิ้ง
โนแอลเองก็ใช่จะสิ้นไม่ไร้ตอกที่จะหาคนหล่อๆไม่ได้ นางอาจจะหันมารุกหนุ่มอื่นก็ได้นะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Teddysdeath ที่ 27-01-2015 02:23:37
น้องป้องนี่ยังคงหลอกล่อง่ายเหมือนสมัยอนุบาลประถมเลยน้า :hao6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 27-01-2015 04:38:59

แอร๊ยยยยย....น้องป้องงง  :pighaun:  :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-01-2015 04:58:33
ตอนนี้เรียกเลือดกระจาย :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 27-01-2015 09:59:20
โอ๊ย เลือดพุ่ง ทะลักเลย พี่ปราบเป็นสิงโต น้องป้องเป็นลูกแกะ อิอิ ฟินดี
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 27-01-2015 10:45:13
 :3125: :3123: :3123:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-01-2015 11:31:34
กรี๊ดด น้องป้อง เอาใจพี่ไปเลยต่าา :haun4: :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 27-01-2015 12:41:38
ความผูกพันธ์สินะ ป้องงงงงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 27-01-2015 17:31:34
อูย!!! ฉากนี้เลือกำเดาพุ่งเลยค่ะ
 :hao7: :hao6: :pighaun: :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 27-01-2015 19:28:10
ป้องนี่ยังคงหัวอ่อน เฉกเช่นเดิมเลยนะคะ น่ารักจัง ^^
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 27-01-2015 19:44:45
น้องป้องเสร็จแน่ๆเลย หลงกลง่ายจัง :hao6:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 27-01-2015 19:51:29
น้องป้องก็ยังเป็นน้องป้อง  :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 27-01-2015 19:57:53
ตกบ่วงพีเดี่ยวอีกแล้วน้องป้อง
เหมือนตอนเด็กเลย  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-01-2015 20:33:38
ยังคงเป็นพี่เดี่ยวคนเดียวที่หลอกล่อน้องป้องให้หลงมัวเมา ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 27-01-2015 21:15:27
แง้ ไม่มีโนเอลกับชาวีเบยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-01-2015 21:38:21
น้องป้องงงงงงง เจ๊เขิล ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 27-01-2015 22:59:25
น้องป้องผู้กลายเป็นนางแมวยั่วสวาท แหม่ เข้าหาพี่เค้าเองเลยนะลูก
ชอบชาวีกะโนเอลมากๆๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: MarnNoi ที่ 28-01-2015 00:32:47
โอ๊ยเลือดพุ่ง  :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-01-2015 01:16:03
พี่เดี่ยวกูแลน้องดีๆเลยนะคะ ฮืออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-01-2015 01:36:43
ยิ่งฟ่าาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 28-01-2015 09:07:15
พี่ปราบค่ะ เยี่ยมมากค่ะ 555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 28-01-2015 18:46:29
 :pighaun:

พี่ปราบดีมากค่ะ  อ่อนโยนบ้าง น้องป้องจะได้รู้ว่าที่จริงแล้วพี่ปราบรักน้องป้องมากมาย
เผื่อเวลาอนาคตข้างหน้าพี่ปราบองค์ลงทำอะไรที่เลวร้ายน้องป้องจะได้ไม่ต้องตัดสินใจอะไรไปง่ายๆ
นี้ เชียรพี่ปราบสุดๆ น่ะเนี้ย
ป่าวหื่น :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 28-01-2015 20:53:56
 :haun4: :haun4: แรงเหมือนกันนะป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 29-01-2015 14:28:34
ทำไมน้องป้องลืมพี่เดี่ยวง่ายจัง.. :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดก๊าบๆ ที่ 30-01-2015 20:48:58
 :m25: :m25: :m25:
คนอ่านตายไปเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: eamjungza ที่ 02-02-2015 02:02:40
มาไล่อ่านตั้งแต่เที่ยงคืน จนถึงตอนปัจจุบัน ติดตามน่ะค่ะ ชอบมาก เด้วไล่อ่านงานอื่นๆด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 04-02-2015 12:45:47
พี่ปราย เสน่ห์ล้นเหลือ แล้วน้องป้อง จะไม่หลงได้ไง
ฮ่าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 25 ( 27 / 01 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 08-02-2015 15:14:16
รอๆๆๆโนแอลชาวีๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-02-2015 22:00:12

                                                     เพลิงพ่าย

                                                      บทที่ 26


          กว่าจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านเกมบนเตียงอันยาวนานก็เย็นย่ำจนดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน

ปมุตรู้ได้จากผ้าม่านที่เปิดไว้เพียงครึ่งและมองเห็นแผ่นหลังแข็งแกร่งยืนบดบังแสงสีส้มจากกระจกใส เขามองเห็นเพียง

เงาดำย้อนแสงยืนสงบนิ่ง มันดูทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหลไปพร้อมๆกัน

         ปมุตคงจะทอดกายนอนนิ่งมองภาพนั้นต่อไป หากร่างกายสูงใหญ่จะไม่ขยับตัวด้วยการกดโทรศัพท์มือถือโทรหา

ใครบางคนแล้วกรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบบาดลึกจนหัวใจของปมุตอาบไปด้วยเลือด


          “มารับลูกชายของคุณได้แล้วคุณปัญญา อ้อ สมบัติชิ้นสุดท้ายของอนันตกุลทำให้ผมพึงพอใจตลอดสองวันหนึ่ง

คืนที่ผ่านมา คุณเลี้ยงลูกได้ดี ร่างกายปมุตพอจะทำให้ผมคลายความวิตกเรื่องหนี้สินของคุณได้มากกว่าที่คิด”


          ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกจนเจ้าตัวต้องกัดไว้จนห้อเลือดเพิ่มห้ามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา ปมุตขอบตาร้อนผ่าวเมื่อจ้อง

มองแผ่นหลังดำมืดอย่างเจ็บปวด ปมุตผวาลุกขึ้นจากเตียงปล่อยร่างเปลือยจากกองผ้าห่มแสนอุ่นอย่างไม่สนใจใยดี

เพียงเพื่อมาหยุดยืนอยู่เบื้องหลังร่างสูงที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ขอบตาร้อนผ่าวเมื่อต้องสะกดกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดที่พรู

กันออกมาจากคำพูดบาดใจของปราบ

       
           “พี่ปราบ”


          น้ำเสียงสั่นพร่าด้วยความสะเทือนอารมณ์ของปมุตไม่ได้เรียกร้องให้ปราบหันหน้ามาหาได้สักนิด ดวงตาพร่าง

พรายด้วยไอน้ำของปมุตยังคงเห็นเพียงหลังคอที่มีกลุ่มผมดำปกคลุมอยู่เท่านั้น


           “ผมเป็นเพียงเครื่องมือบำบัดความใคร่ของพี่เท่านั้นใช่ไหม แม้ว่าผมจะยอมอ่อนข้อให้พี่ ตามใจพี่ขนาดไหนมัน

ก็ไม่ได้ทำให้ผมกลายเป็นคนที่มีชีวิตจิตใจในสายตาของพี่เลยงั้นหรือ”


          น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผาะมายังร่องแก้มเมื่อได้รับแต่ความเงียบแทนคำตอบ ปมุตโผเข้าไปยกกำปั้นทุบรัวๆเข้าที่

แผ่นหลังนั้นอย่างเจ็บช้ำ


          “ไอ้คนเลว ไอ้มารนรก”


        ร่างสูงหันขวับมาคว้าข้อมือเล็กไว้พลางจ้องด้วยนัยน์ตาเย็นเยียบจนปมุตต้องยอมหยุด แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเฉยชา

ราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับเขา


         “หมดหน้าที่ของนายแล้ว ปมุต อนันตกุล ร่างกายของนายทำให้ฉันพอใจมากกว่าที่คิด นายปลดเปลื้องความ

ต้องการของฉันไปได้มากโข และตอนนี้ฉันยังไม่ต้องการนายอีก กลับบ้านไปได้แล้วเสื้อผ้าของนายยังกองอยู่ข้างนอก

ตรงที่นายถอดมันทิ้งไว้ คีย์การ์ดอยู่บนโต๊ะ นายคงจะกลับออกไปเองได้โดยที่ฉันไม่ต้องไปส่ง”


          เสียงนั้นเรียบเฉยเกินกว่าที่ปมุตจะเดาออกว่าปราบคิดอะไรกันแน่ แต่ตอนนี้มันเจ็บเกินกว่าที่เขาจะ

ทนอยู่ได้ ร่างเพรียวสะบัดมือออกจากการเกาะกุมพลางทิ้งสายตาตัดพ้อระคนผิดหวังก่อนจะซมซานไปที่ประตูห้องนอน

อย่างยากลำบากกับร่างกายที่ยังบอบช้ำในเกมสวาส และปมุตต้องชะงักกับคำพูดทิ้งท้ายของคนที่หันหลังกลับไปทอด

สายตาสู่เหล่าตึกสูงเบื้องนอก


          “หวังว่านายจะไม่ลืม ว่าตอนนี้นายเป็นสมบัติของ ปราบ ปริวัตร”











           กว่าจะลงลิฟท์มาถึงลานจอดรถปมุตก็ใช้เวลาพักใหญ่ เขามองเห็นรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ของ

บิดาติดเครื่องรออยู่มุมหนึ่ง ปมุตเดินอย่างลำบากจนถึงและเปิดประตูรถเข้าไปนั่งเงียบกริบ

ปัญญาขอบตาร้อนผ่าวเมื่อเห็นสภาพอิดโรยบุตรชาย ปมุตนั่งตัวงอเอนกายห่างไปอิงแอบอยู่กับประตูรถไม่ยอมแม้แต่จะ

สบตา ซ้ำยังก้มหน้ามองแต่มือเรียวของตัวเองที่ผลัดกันบีบมือไปมา ปัญญาเอื้อมมือเข้าหาปมุตก็เบี่ยงหัวหลบ


          “ป้อง พ่อ…”


         กลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อปัญญาหาคำมาเอ่ยแก้ตัวไม่ได้ มืออูมของชายที่ล่วงเข้าสู่วัยชราชะงักค้างและ

หดกลับก่อนที่เขาจะคอตกเมื่อเห็นท่าทีของบุตรชาย ปัญญาเม้มปากแน่นเมื่อเขาหันหน้ากลับไปสู่ถนนเบื้องหน้าและพา

ร่างกายที่ปราศจากจิตใจของบุตรชายกลับคืนสู่บ้าน

          และแม้ว่าเขาจะขับรถมาจนถึงบ้านแล้วปมุตก็ยังไม่ยอมเอ่ยอะไรกับเขาสักอย่าง ปมุตก้าวเดินอย่างเชื่องช้า

เข้าไปในตัวบ้านจนถึงบริเวณที่รัศมีนั่งอ่านนิตยสารอยู่ เมื่อเห็นบุตรชายในสภาพย่ำแย่ทั้งร่างกายและใบหน้าที่เต็มไป

ด้วยคราบน้ำตารัศมีรีบลุกขึ้นมาแล้วดึงแขนปมุตให้หยุดเดินแล้วขมวดคิ้วมองอย่างสงสัย


         “ป้อง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา ทำไมมันโทรมเหมือนโดนข่มขืนมาแบบนี้ล่ะ”


         “แม่!”


         ปมุตตะโกนลั่นจนปัญญาที่เดินตามมาสะดุ้งตัวโยน รัศมียืนงงเมื่อเห็นบุตรชายร้องไห้ราวกับจะขาดใจ รัศมีรีบคว้า

ปมุตมากอดไว้


         “ป้องเป็นอะไร เล่าให้แม่ฟังเดี๋ยวนี้”


         ปมุตกัดฟันถอนสะอื้นเมื่อหันไปมองบิดาอย่างเจ็บช้ำ


         “ถามพ่อสิว่าเกิดอะไรขึ้น”


         “ป้อง พ่อขอโทษ”


         ปัญญาเองก็เสียใจเหลือเกิน เขานึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์ของความสนุกและเห็นแก่ได้เพียงชั่วครู่ชั่วยามจะทำให้เกิด

ผลเสียมหาศาลเช่นนี้ โดยเฉพาะกับปมุตที่เขาถนอมราวกับไข่ในหิน


         “คุณปัญญา คุณทำอะไรลูก บอกมาเดี๋ยวนี้”


         รัศมีตวาดเสียงเขียวจนปัญญาหน้าซีด ปมุตแค่นยิ้มเมื่อเห็นอย่างนั้น


         “บอกแม่ไปสิครับพ่อ บอกแม่ว่าเล่นพนันจนหมดตัวแม้กระทั่งขายบ้าน ขายหุ้นในบริษัท และสุดท้ายก็ขายลูกตัว

เองไปบำเรอความสุขของเจ้าหนี้”


         รัศมีอ้าปากค้าง หล่อนมองบุตรชายและสามีสลับกันไปมาและเมื่อเห็นสามียืนคอตกหน้าซีดเผือดไม่คิดจะแก้ตัว

รัศมีก็ถึงกับส่งเสียงกรีดร้องลั่นบ้านแล้วจึงถลาเข้าไปทุบตีปัญญา ปมุตนิ่งมองภาพนั้นก่อนจะเดินจากไปยังห้องของ

ตนเองแล้วทิ้งตัวลงกับเตียงอย่างหมดแรง


         ปราบ

         เกลียด ปมุตเกลียดปราบ

         เกลียดดวงตาโอหัง เกลียดคำพูดทำร้ายจิตใจ เกลียดจนต้องร้องไห้ออกมาขณะฟุบหน้าลงกับหมอนอย่างเจ็บใจ

ตนเองเมื่อในความคิดคำนึงมีแต่ปราบ ปริวัตรวิ่งพล่านเต็มไปหมด










         ชาวีกำลังเดินหาโนเอลเมื่อการถ่ายแบบในสตูดิโอเพียงลำพังโดยปราศจากปมุตเสร็จสิ้นลง จนกระทั่งเห็นอดีต

นายแบบรูปหล่อกำลังยืนคุยกับสาวฝรั่งอยู่ส่วนที่จัดเป็นออฟฟิศลึกเข้าไปด้านหลัง เมื่อมองเห็นความสนิทสนมที่โนเอ

ลมีกับผู้หญิงหุ่นสะบึม ชาวีถึงกับขมวดคิ้ว

         ไอ้ฝรั่งแสนแสบ

          ชาวีก่นด่าอยู่ในใจเมื่อนึกถึงวีรกรรมที่โนเอลกระทำกับเขากลางดึกหลังจากที่เขาจัดการกับร่างกายแน่นเนื้อเสีย

หนำใจจนกระทั่งหมดแรงเผลอหลับไปอยู่บนร่างที่เพิ่งจะสุขสม และเมื่อสะดุ้งตื่นอีกทีก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนโซฟา

เพียงลำพังโดยไม่มีโนเอลอยู่ในห้องแล้ว

         ชาวีคงจะไม่รู้สึกอะไรนอกจากรู้สึกดีกับเซ็กส์อันสุดยอดกับโนเอล ถ้าฝรั่งหน้าตาหล่อเหลานั่นจะไม่กลั่นแกล้ง

ชาวีคืนด้วยการขโมยเสื้อผ้าของเขาไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว ปล่อยให้เขานอนเปลือยตากแอร์เพียงลำพัง แถม

โนเอลยังคว้าไปแม้กระทั่งโทรศัพท์มือถือจนชาวีไม่สามารถที่จะติดต่อเพื่อนๆที่ยังอยู่ด้านล่างของสถานบันเทิงได้เลย

ทิ้งให้ชาวีเปลือยล่อนจ้อนอย่างเจ็บใจจนผับใกล้ปิดนั่นแหละเพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของผับจึงได้พาบรรดาเพื่อนคนอื่น

ขึ้นมาในห้อง และทุกคนก็ถึงกับตะลึงเมื่อเห็นสภาพของเขา

            ชาวีถูกหัวเราะเยาะและล้อเลียนจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ก่อนที่จะต้องบังคับให้เพื่อนไปหาเสื้อผ้ามาให้

สวมใส่

          ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีกทั้งที่ได้เขาเป็นผัวแล้ว แล้วนั่นอะไร ทำไมต้องคว้าเอวคอดอกอิ่มเข้าใกล้ด้วย

         เมียดอกทอง

         ลืมตัวเมื่อก้าวสวบๆเข้าไปยืนจ้องจนโนเอลต้องยกคิ้วมองพลางคลี่ยิ้มให้กับสาวสวย


         “คืนนี้พบกันนะครับลิซ่า”


         โนเอลบรรจงกดริมฝีปากลงไปกับปากแดงฉ่ำจนอีกฝ่ายถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อโนเอลผละปากออกมา ชาวีรีบ

สาวเท้าเข้าไปกระชากแขนเมื่อเห็นว่าแม่สาวลิซ่าเดินตาปรอยจากไปแล้ว


         “เมื่อคืนคุณทำผมแสบมากนะโนเอล”


         อดีตนายแบบยักไหล่เบ้ปากแต่กิริยานั้นโนเอลก็ยังดูดีจนชาวีเผลอใจสั่น


         “ยังไม่สาสมกับความเหี้ยของนายเลยแม้แต่น้อย”


         โนเอลกระตุกปากยิ้มเยาะเมื่อเห็นชาวีทั้งโกรธทั้งอาย ก็สมแล้วกับสิ่งที่ไอ้เด็กเลวนี่กระทำกับเขาแม้ว่าโนเอลจะ

ยอมรับกับตัวเองว่าชาวีพาเขาขึ้นสวรรค์ไปเสียหลายรอบ ตอนนี้โนเอลเข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมบรรดาเพื่อนๆในบ้านถึงได้

นิยมกินกันเองหลายต่อหลายคู่


          “เอาล่ะ ผมยอมรับว่าเหี้ย”


         ชาวีแค่นยิ้มบ้าง มือแข็งแกร่งราวคีบเหล็กคว้าต้นแขนของโนเอลแล้วกระชากเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว


         “แต่คุณก็ต้องยอมรับความจริงด้วยว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ผมทำคุณร้องครางทำคุณน้ำแตกไป

ไม่รู้กี่รอบ ยอมรับมาเหอะว่าคุณก็ชอบ”


         “ชัตอัพ ไอ้เด็กปากหมา”


         โนเอลชักจะโมโหขึ้นมาอีกแล้ว เขาพยายามฝืนร่างไว้ไม่ให้ชาวีเข้ามาควบคุมได้


         “อย่าเอาเซ็กส์แค่ไม่กี่รอบมาเป็นเครื่องมือบีบบังคับต่อรองให้ฉันต้องยอมอ่อนข้อให้ ฉันไม่ใช่ลูกไก่ในกำมือของ

นายที่จะบีบเล่นตามใจ แค่น้ำแตกแต่ฉันไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างนายแน่ อะ อึก”


         ปากที่กำลังต่อว่าต่อขานถูกปิดการสนทนาด้วยปากของชาวี ต้นแขนของโนเอลถูกบีบจนต้องนิ่วหน้าเมื่อชาวีกด

ปากลงมาและสอดปลายลิ้นเข้าไปตวัดเกี่ยวอย่างจาบจ้วง โนเอลดิ้นหนีแต่ชาวีก็ยิ่งออกแรงจนโนเอลเจ็บรอบกลีบปาก

ไปหมด ชาวีเกี่ยวลิ้นร้อนอย่างย่ามใจเมื่อโนเอลกลับหยุดดิ้นและยินยอมให้เขาได้ชอนไชหาความหวานราวกับผึ้งหนุ่ม

ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเมื่อความรู้สึกเย็นวาบจะวางแนบอยู่ตรงคอหอยและกดลงไปจนชาวีเจ็บแปลบ


         “โนเอล คุณจะบ้าหรือไง”


         ชาวีหน้าซีดเผือดเมื่อผละปากออกมาแล้วเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของโนเอล สิ่งนั้นกำลังจ่อใกล้กรีดเนื้ออยู่ตรงลำคอ

มันทำให้ชาวีถึงกับยืนนิ่งเป็นหุ่น


         มีด!


         มีดสปริงอันเล็กแต่ขาววับและคมกริบวางนิ่งจ่ออยู่ตรงคอของเขาด้วยมือเรียวของโนเอล ชาวีสบสายตาท้าทายคู่

นั้นอย่างตกใจ


         “คุณจะทำอะไร มีดนั่นมันอันตรายนะ”


         “อันตรายน้อยกว่านายเยอะ ไอ้เด็กเลว”


         ดวงตาสีฟ้าจ้องมองแน่นิ่งจนชาวีชักหวั่น เขาไม่กล้าขยับเมื่อโนเอลยังจ่อด้านคมอยู่ตรงคอของเขาที่เริ่มเจ็บแสบ

กับคมมีด


         “ฉันอุตส่าห์วางมือกับเรื่องอาวุธแบบนี้ไปหลายปี แต่นายมันเลวจนฉันต้องกลับไปใช้มันอีกครั้ง”


         อากาศในสตูดิโอเย็นฉ่ำแต่ชาวีกำลังเหงื่อตกในขณะที่โนเอลมองเขาอย่างท้าทาย


         “ฉันไม่ชอบพวกดีแต่ใช้กำลังเพราะมันดูงี่เง่าสิ้นดี นายอยากได้ฉันงั้นหรือ อยากนอนกับฉันงั้นสิ

ก็ลองกราบฉันดูว่าฉันจะใจอ่อนหรือเปล่า”


         “โนเอล”


         ชาวีเดือดปุดๆกับวาจาเชือดเฉือน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เมื่อยังตกเป็นรองในสถานการณ์นี้


         “หรือไม่ นายก็หาวิธีอื่น ทำยังไงก็ได้ให้ฉันยอมแก้ผ้านอนอ้าขาให้นายเสียบ ลองสู้กันสักยกไหมล่ะ ชาวี”


         เงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจที่เป่ารดซึ่งกัน ดวงตาสองคู่ที่ต่างจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่ายก่อนโนเอลจะ

ชักมีดกลับและยกยิ้มส่งท้าย ปล่อยให้ชาวีมองตามหลังอย่างเจ็บใจเมื่อโนเอลเดินจากไป


         ชาวีชอบสิ่งท้าทาย เขาชอบการแข่งขัน เขาชอบการได้เป็นที่หนึ่งและเขาจะไม่ยอมแพ้ในสิ่งที่

โนเอลออกปาก ชาวีสัญญากับตัวเอง


         ชาวีจะทำให้โนเอลเป็นฝ่ายครวญครางเรียกชื่อเขาให้ได้





มีต่ออีกนิด....

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-02-2015 22:11:57
ต่อกันอีกหน่อย










      ผ่านไปหลายวันความสัมพันธ์ในบ้านยังไม่ดีขึ้น ปัญญายังแก้ไขปัญหาไม่ได้เมื่อรัศมีและปมุตรู้ความจริงว่าบ้านที่

อาศัยอยู่ตกเป็นของคนอื่นเพราะผีพนันเข้าสิง รัศมีก่นด่าไม่ยอมหยุดในขณะที่ปมุตก็ยังมึนตึงที่ถูกส่งตัวไปบำเรอความ

สุขให้กับเจ้าหนี้ที่เขาเองยังไม่เคยเห็นหน้า วันนี้ปัญญายังมีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้นเมื่อถูกตามให้ไปประชุมคณะกรรมการ

บริหารของบริษัท


        “นี่มันเรื่องอะไร นัดประชุมทำไมไม่แจ้งกันล่วงหน้า ทำงี้ไม่เห็นหัวตำแหน่งประธานของผมกันเลย”


        เขาสบถยาวเหยียดเมื่อก้าวเข้าห้องประชุมที่มีคณะกรรมการและหุ้นส่วนใหญ่นั่งกันอยู่ครบทุกตำแหน่ง ปัญญาทิ้ง

ตัวลงนั่งบนเก้าอี้ก่อนมองไปโดยรอบอย่างเอะใจ


        “เอ้า มีอะไรก็ว่ามา”


        ชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่ไม่ไกลจากเขานัก มองมาอย่างดูหมิ่นทำให้ปัญญาเริ่มหงุดหงิด


        “วันนี้พวกเรานัดประชุมเพื่อแจ้งให้คุณปัญญาทราบว่าพวกเราจะวางมือจากบริษัทโดยการขายหุ้นให้กับหุ้นส่วน

คนใหม่ รวมกันแล้วเป็นจำนวนสามสิบเปอร์เซ็นต์”


        ปัญญาชะงัก เขากวาดสายตาไปยังหุ้นส่วนที่อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นพ่อตาของเขา อารมณ์กรุ่นโกรธพุ่งวาบจนปวด

ศีรษะเมื่อสบตาทุกคนที่จับจ้อง


        “พวกคุณมันแก่กะโหลกกะลา พวกคุณทำเพราะหวังจะถีบผมลงจากตำแหน่งใช่ไหม”


        ทุบโต๊ะตวาดก้องแต่ไม่มีใครกลัว ซ้ำยังได้รอยยิ้มอย่างสาแก่ใจกลับคืนมา


        “พวกเราแค่ทำในสิ่งที่สมควร”


        ปัญญาแค่นยิ้มแม้จะเครียดจนเส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ


        “ยังไงก็โค่นผมลงไม่ได้หรอกเพราะผมยังมีหุ้นใหญ่อยู่อีกสี่สิบเปอร์เซ็นต์ อย่าลืมกันสิ”


        “พวกเราทราบข่าวจากฝ่ายนิติกรรมแล้วพบว่าคุณขายหุ้นทั้งหมดให้นายปราบ ปริวัตร”


        “แล้วไงวะ”


        ปัญญาตวาดอย่างเหลืออด เขาปวดหัวจนต้องยกสองมือขึ้นกุมไว้


        “ก็คนที่พวกเราขายหุ้นให้ก็คือ นายปราบ ปริวัตรนี่แหละ และทำให้ตอนนี้เขาเป็นผู้มีจำนวนหุ้นมากที่สุดทำให้เขา

กลายเป็นเจ้าของที่นี่”


        “ไม่จริง!”


        ปัญญาทิ้งตัวไปกับพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง หน้าซีดปากสั่นเหงื่อไหลเต็มฝ่ามือ หัวใจเต้นแรงจนเจ็บหน้าอกไป

หมด


        “และวันนี้เขาก็มาด้วย มาเพื่อแสดงตนว่าเป็นผู้บริหารคนใหม่ของบริษัท”


        ประตูทางเข้าถูกเปิดให้กว้างพร้อมการปรากฏตัวของคนที่ปัญญารู้จักแต่ชื่อได้ยินแต่เสียง และเมื่อร่างสูงก้าวเดิน

อย่างสง่างามตรงมา มันทำให้ปัญญาถึงกับช็อก




          ---------------------------------- TBC ----------------------------------




ขออภัยคร้าบบบ คนแต่งหายไปนาน

มัวแต่ไปผลิตหนังสือ X-Theme the series

หนังสือเข้าโรงพิมพ์ไปแล้ว รู้กันยางงง

ปลื้มเนอะ หุหุ

          :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: 

         
       
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 15-02-2015 22:15:49
ปราบ  :oo1: แก  :z6: นี่  :beat: มัน  :serius2: !!!!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-02-2015 22:18:30
ไม่มีอะไรจะพูดเลยนอกจากสงสารน้องป้อง :sad4:
ทำไมหนูต้องโดนทำร้ายจิตใจขนาดนี้ :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 15-02-2015 22:24:26
น้องปมุต น่างสงสารจุง :sad11:
ชาวี รีบๆปราบโนเอลให้ได้นะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 15-02-2015 22:25:36
ทำร้ายจิตใจน้องอีกแล้วนะพี่เดี่ยว
คู่รองนี่ดุเดือดมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 15-02-2015 22:34:49
รอโมเมนท์นี่้มานาน เวลาที่ปราบจะมาเผชิญหน้ากับพ่อที่ทำกับเขากับแม่อย่างร้ายกาจ
อต่ยังไงก็สงสารน้องหน่อบนะพี่ปราบ น้องไม่ได้เป็นสร้างปัญหา

ชาวีกับโนแอลนี่แซ่บจริงๆ
อยากรู้ว่าจะหักเหลี่ยมกันยังไง
ชาวีก็คงนึกไม่ถึงว่าโนแอลจะมีปูมหลังแบบนั้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 15-02-2015 23:06:27
ฮุ้ววววว เข้มข้นๆๆ
ไม่มีใครยอมใคร
แต่น้องป้องชอบพี่ปราบแล้วอ่ะดิเนี่ย
แพ้ใจ ก็เท่ากับแพ้หมด...
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: heangsure ที่ 15-02-2015 23:40:36
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วแบบว่าทนไม่ไหวต้องรีบมาตอบเลยนะเนี่ย

คือแบบว่า

ความแค้นเนี่ย มันเป็นแรงขับเคลื่อนให้คนเราสละทิ้งคุณธรรมและศีลธรรมไปได้อย่างเหี้ยมโหดเลยนะเนี่ย  สงสารก็แค่น้องป้องที่เป็นเพียงแค่เหยื่อที่ถูกกระทำ

เรื่องนี้เราไม่อยากให้จบแบบแฮปปี้เอนด์เลย เพราะไม่อย่างนั้นคนเราอาจจะมโนไปเองได้ว่า ทำเลวขนาดไหนก็ได้ สุดท้ายก็อยู่กันได้ต่อไป ซึ่ง มันไม่ใช่อ้ะ

แต่ก็ยังคงจะรออ่านตอนต่อไปเหมือนกันค่ะว่า ยามมนุษย์พ่อได้พบกับความจริง จะเป็นยังไง คนอ่านยังไงก็สะใจแน่ค่ะ ตอนนี้มนุษย์พ่อรับโทษแซงค์ชั่นจากลูกเมียแล้ว  มาเจอความจริงสุดช็อคโลก ไม่บ้า ก็ต้องหัวใจวายแน่นอนค่ะ

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ แสนบีบคั้น และดราม่ามากมาย

อย่าลืมพักผ่อนบ้างอะไรบ้างนะคะ จุ้บๆ กู้ดไนท์ค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-02-2015 00:01:58
ใจร้าย
เจอคนใจร้ายใจดำ ก็มีแต่ช้ำรับกรรม!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 16-02-2015 00:05:41
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 16-02-2015 00:12:46
กรี๊ด มาต่อไวๆนะคะ รอฉากนี้นานมากก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 16-02-2015 01:19:44
โอ๊ยๆๆ พี่ปราบของหนู ใยพี่ถึงใจร้ายกับน้องป้องหยั่งนี้นะ

 :pighaun: :pighaun: :pighaun:

รอตอนต่อไปนะคะ(ไม่เอานะให้รอนานอะ ใจจะขาด)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-02-2015 02:04:57
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 16-02-2015 09:04:46
พาน้องหนี ปราบนายมัน...นายมัน... ฮึ่ย!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-02-2015 13:12:02
/.me เตรียมทำCPRให้คุณปัญญา

#เผื่อช็อค
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 16-02-2015 17:52:47
แต่เราอยากให้ปราบมีความสุข ทั้งชีวิตถึงเขาจะเลวแต่ก็เลวแบบมีเหตุผล คนเลวที่โดนคนอื่นกระทำมาก่อนมันน่าสงสารนะ ชีวิตต้องเจออะไรแย่ๆมามาก ยังไงก็ติดตามดูว่าความรักของปราบกับปมุตจะเป็นยังไงต่อไป อยากให้กลับมาเป็นพี่เดี่ยวของน้องป้องเร็วๆและอยากให้พ่อเลวๆกับแม่ร่านๆได้รับผลกรรมที่สาสม แค้นแทนปราบมากๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 16-02-2015 18:13:43
ปราบบบบบบบบ
ทำกับน้องขนาดนี้. อย่ามาง้อทีหลังนะ
รับรอง ยากกกกกส์
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-02-2015 20:01:24
ปัญญาจะจำหน้าลูกชายได้หรือปล่าวล่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 16-02-2015 21:29:07
คนรักกัน บางทีไม่พูดอะไรเลยดีกว่าที่พูดแล้วเต็มไปด้วยความเจ็บปวด..
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-02-2015 21:46:46
พ่อจะจำลูกตัวเองได้ไหมนะ
แต่สงสารน้องป้องจัง พี่ปราบมันใจร้าย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-02-2015 02:21:34
จำได้มั้ยนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 17-02-2015 07:28:31
เริศ ค่ะคุณปราบ เดินผ่าเผยนั่งเก้าอี้ผู้บริหาร เกร๋ ๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ::UsslaJlwaJ:: ที่ 17-02-2015 20:19:27
สงสารน้องป้องสุดใจ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 18-02-2015 08:09:22
ปราบใจร้าย ถ้าน้องเกลียดนะจะสมน้ำหน้าให้ ชิ!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 18-02-2015 10:21:39
โฮยยยยยยย มันส์ขึ้นเรื่อย ๆเลยยย รอตอนต่อไปจ้า  :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iNklaNd ที่ 18-02-2015 20:21:03
ช็อคเพราะจำลกตัวเองได้???
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: OJSG7 ที่ 18-02-2015 21:20:45
ปมุตรับแทนเต็ม ๆ พ่อก็หลงการพะนัน
จนกู้ไม่กลับ พองี้ทำมาสำนึกผิด (แบะปาก)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 19-02-2015 00:27:52
เชียร์ชาวีรัวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 26 ( 15 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 19-02-2015 09:56:50
ปัญญามีปัญญาทำปัญหา อย่างเดียว  :angry2: :angry2:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-02-2015 00:13:51

                                                                    เพลิงพ่าย

                                                                    บทที่ 27.1
         

         ไม่จริง เป็นไปไม่ได้!

          ปัญญาไม่เชื่อเรื่องผีสาง วิญญาณใดๆทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขากำลังจ้องตาแทบถลนมันทำให้หัวใจเกือบจะหยุดเต้น

กับผู้ชายร่างสูงสมาร์ทในชุดสูทเรียบหรูส่งให้ยิ่งดูดีขึ้นอีกก้าวมายืนอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะประชุมตัวยาวพร้อมกับค้อม

ศีรษะรับเสียงปรบมือจากบรรดาตาแก่รอบห้อง


         “พวกผมมันแก่แล้ว ต้องขอฝากบริษัทไว้กับผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง”


         “ดีใจที่บริษัทที่พวกเราช่วยกันก่อตั้งมากับท่านประธานคนก่อนได้ตกมาถึงมือคนที่เหมาะสม”


         ไม่จริง ก็เขานี่ไงคนที่เหมาะสม เขาคือประธานบริษัท

         ปัญญาคร่ำครวญอื้ออึงอยู่ในสมองตัวเอง มือชื้นเหงื่อเกาะอยู่ที่ขอบโต๊ะยึดไว้เป็นหลักเมื่อหัวใจของเขากำลังเต้น

เร็วและแรงจนเจ็บไปหมด

          ปราบ ปริวัตร

         ผู้ชายที่กำลังยืนเด่นรอรับการจับมือให้กำลังใจจากกรรมการบริหารที่ทยอยลุกขึ้นเรียงแถวเข้าไปก่อนก้าวออกไป

จากห้องประชุมโดยไม่สนใจเขาอีก ใบหน้าของปราบ ปริวัตรกำลังทำให้เขาช็อก

         ก็นั่นมันใบหน้าของไอ้เดี่ยวลูกชายหัวดื้อของเขาชัดๆ

         ถึงแม้จะไม่ได้เป็นลูกรักแต่ไม่มีทางที่เขาจะลืมใบหน้าลูกในไส้ไปได้ ปัญญากลืนน้ำลายอย่างยากลำบากเมื่อ

เหลือเพียงเขาและปราบ ปริวัตรที่กำลังก้าวเดินมาหาเขาช้าๆจนกระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าจนได้กลิ่นโคโลญจน์ออกจาก

ร่างกายชายหนุ่ม


         “อะ อะ ไอ้ ดะ…”


         “สวัสดีครับคุณปัญญา ในที่สุดเราก็ได้พบกัน”


         “แก แก มัน …” ปัญญาหน้าซีด


         “แกยังไม่ตาย”


         “อย่างน้อยก็ตายไปแล้วในความรู้สึกของคุณไม่ใช่รึไง”


         เสียงขื่นเค้นออกมาจากใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บช้ำและแค้นเคือง ปราบจ้องหน้าบิดาผู้ให้กำเนิดด้วยดวงตา

แดงก่ำ


         “แกไปอยู่ที่ไหนมา ไอ้เดี่ยว”


         “จำเป็นไหมที่ต้องตอบคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบ” ปราบยอกย้อน “คุณก็แค่อยากรู้ว่าทำไมผมไม่ตายไปจริงๆ

อย่างที่คุณอยากจะให้เป็น”


         “ไอ้เดี่ยว”


         เจ็บหน้าอกจนต้องยกมือขึ้นกุมไว้ ปัญญาหายใจอย่างยากเย็นเหลือเกิน เขายกมือสั่นระริกชี้หน้าชายหนุ่มที่เลิก

คิ้วมองเขาอย่างเย้ยหยันเมื่อรู้สึกตัวแล้วว่าทั้งหมดเป็นแผนของบุตรชายที่กำลังทวงคืนทรัพย์สมบัติกลับไป


         “ทั้งหมดเพราะแกใช่ไหม”


         ปราบยักไหล่


         “ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือผมคงทำไม่สำเร็จ”


         “ไอ้ลูกเนรคุณ อ๊ะ ป้อง”


         ปัญญาเบิกตากว้างเมื่อนึกขึ้นได้ว่าไม่นานมานี้เขาเพิ่งจับลูกชายคนโปรดใส่พานให้เจ้าหนี้ที่ชื่อปราบ ปริวัตร


         ไม่จริง!


         ชายสูงวัยตะโกนคำนี้อยู่ในใจเป็นรอบที่ร้อยตั้งแต่เห็นหน้าปราบ และตอนนี้สมองของเขากำลังขาดออกซิเจน


         “กะ แก กับ ป้อง คงไม่ได้…”


         ปราบใช้สองมือล้วงกระเป๋าแล้วเงยหน้าแค่นหัวเราะดวงตาเต็มไปด้วยความสาแก่ใจเมื่อเห็นอาการของผู้เป็นบิดา

แท้จริง


         “คุณควรจะดีใจที่พี่น้องรักกันมาก”


         ปราบย่อตัวลงไปจนใบหน้าเสมอกับปัญญา คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อเขาโน้มตัวไปกระซิบอยู่ใกล้หูบิดา


         “ผมรักป้องมาก และพ่อควรจะดีใจที่น้องเป็นของผม”


         สติของปัญญาดับวูบลงทันที
         









         เสียงไซเรนของรถโรงพยาบาลที่วิ่งมาจอดอยู่หน้าบ้านในยามค่ำทำให้รัศมีตกใจถลาออกไปดู ภาพที่เห็นคือเจ้า

หน้าที่กำลังเข็นนายปัญญามาส่งถึงภายในบ้าน รัศมีต้องรีบเข้าประคองสามีที่ยังหน้าซีดอย่างทุลักทุเลเมื่อเจ้าหน้าที่

จากโรงพยาบาลกลับออกไป


         “นี่คุณเป็นอะไร ทำไมมากับรถโรงพยาบาลได้”


         ปัญญากลืนน้ำลาย ยกมือขึ้นโบกช้าๆ เมื่อรัศมีพาไปทรุดนั่งที่โซฟารับแขก


         “ผมความดันขึ้นเมื่อเช้านี้”


         “แล้วทำไมความดันขึ้น ร้อยวันพันปีก็ไม่เคยเป็นนี่นา”


         “รัศมี” ปัญญาส่งเสียงอย่างรำคาญ “นี่ไม่รู้สักเรื่องได้ไหม”


         “ฉันเป็นเมียคุณนะ จะให้นั่งเป็นก้อนหินอยู่บ้านหรือไง”  รัศมีแหวใส่ “มีผัวก็ไม่ได้เรื่อง ดีแต่เรื่องโง่ๆ”


         “รัศมี” ปัญญาตวาดลั่นเงื้อฝ่ามือขึ้นสูง และคงจะฟาดลงมาแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาในเขตบ้าน

ก่อนทั้งคู่จะหันไปมองเป็นตาเดียวเมื่อเห็นชายฉกรรจ์หลายคนพากันยกข้าวของกองใหญ่เข้ามาในตัวบ้าน


         “นี่มันอะไรกัน พวกแกเป็นใคร แล้วของพวกนี้เป็นของใคร นี่คุณนั่งบื้ออยู่ได้ทำอะไรสักอย่างสิ”


         รัศมีตวาดเมื่อห้ามไม่ได้ และเมื่อเห็นผู้ชายคนสุดท้ายที่ก้าวเข้ามาหล่อนถึงกับหน้าเหวอ


         “คะ คุณเดี่ยว ผะ ผีหลอก!”


         ร่วงลงไปนั่งกองอยู่กับพื้นพักใหญ่กว่าจะรู้สึกตัว รัศมีรีบวิ่งมาเกาะแขนหลบหลังสามี


         “แกจะทำอะไรอีก” ปัญญาถามอย่างโกรธแค้น


         “อย่าลืมว่าบ้านนี้เป็นของผม ผมให้คุณและครอบครัวอาศัยอยู่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่เข้ามาอยู่ที่นี่

ตามสิทธิ์”


         “ไอ้เดี่ยว”


         “ปราบ” ปราบแก้คำพูดนั้น


         “เรื่องมันเป็นยังไงกันแน่” รัศมีกรี๊ดลั่นอย่างไม่เข้าใจ หล่อนรู้แต่ว่าผู้ชายที่หน้าตาคล้ายลูกเลี้ยงกำลังขนของเข้า

มาอยู่ในบ้านหลังนี้ ในขณะที่ปัญญาเริ่มเจ็บหน้าอกอีกครั้ง


         “ก็แค่เจ้าของบ้านที่แท้จริงกลับมาอยู่ด้วยก็เท่านั้นเอง”


         ปราบอธิบายสั้นๆ ให้รัศมีที่ยังอ้าปากหวอปะติดปะต่อเรื่องราวอย่างงงๆ เมื่อเรียบเรียงได้หล่อนก็แทบหยุดหายใจ


         “คุณคือเจ้าหนี้ของคุณปัญญา และคุณก็คือ…”


         มัวแต่ตกตะลึงจนไม่ได้ยินเสียงรถยนต์อีกคันที่เข้ามาจอดพักใหญ่ ก่อนที่ร่างเพรียวของปมุตจะปรากฏตัวขึ้นมา


         “เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมมีข้าวของเยอะไปหมด อ๊ะมาที่นี่ทำไม”


         ปมุตถลาเข้ามาผลักอกของปราบพร้อมสายตาเจ็บช้ำ รัศมียิ่งงงหนัก


         “ป้อง ป้องจำคุณเดี่ยวได้ด้วยหรือลูก”


         “ใช่ที่ไหนล่ะแม่ คนเลวคนนี้ชื่อปราบ คนที่เป็น…”


         ปมุตกัดฟันเมื่อพูดไม่ออก ปราบมองใบหน้าหวานพลางคว้ามือเรียวมากระชับไว้ในอุ้งมือ


         “บอกแม่ไปสิปมุต ว่านายเป็นสมบัติของปราบ ปริวัตร”


         “ป้อง” รัศมีกรีดร้อง “แต่นี่มันคือ ปราบดา พี่ชายของลูกนะ”
         





                   ------------------------- TBC--------------------------------




                       :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกแมวหลงทาง ที่ 27-02-2015 00:21:45
 มาแล้ว ดีใจจัง
 o13
เจอแบบนี้เข้าไป ไม่รู้ใครจะช็อกกว่ากัน ม่าม่าบิ๊กแพ็คเลยทีนี้ :sad11:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-02-2015 00:32:16
ปราบตอนนี้เหมือนโรคจิตจังเลย555
น้องป้องจะรู้แล้วสินะ  คงทั้งพะวงใจทั้งกลัว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-02-2015 00:32:49
 :jul3: :jul3: :jul3:
มา ณ ตอนนี้ศีลธรรม ความรู้สึกชั่วดีลอยออกไปทางหน้าต่างหมดแล้ว
ขอหัวเราะด้วยความสะใจกับนิยายก่อน
คุณแม่น้องเดียวคะ  This is for you!

ศีลธรรม + สติกลับมาแล้ว
โอเคสิ่งเดียวที่ปราบไม่น่าทำก็คือสิ่งที่ทำกับน้องป้อง
เพราะว่าป้องเป็น ความเสียหายข้างเคียง Collateral Damage
ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น แต่เผอิญเป็นพล็อตของนิยายก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
ตัวปราบเองปราบมันข้ามเส้นสีเทามาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ไปอยู่กับแด๊ดแล้ว

รออ่านตอนต่อไปนะคะ  จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2015 00:41:01
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 27-02-2015 00:48:36
คือปกติ อ่านนิยายที่พี่น้องรักกันเองมันฟินไม่สุด แต่เรื่องนี้ทำไม เรารู้สึกสะใจไงไม่รู้และไม่รู้สึกแปลก ๆ ด้วย หรืออาจจะเป็นเพราะเราอ่านและฟังแต่ด้านของเดี่ยวมาตลอดกะไม่รู้เลยรู้สึกรังเกียจปัญญา กับรัศมีมาก ๆ ส่วนป้องกับเดี่ยว มันไม่มีความผูกพันธ์แบบพี่น้องเลย เลยอาจทำให้เราไม่รู้สึกแปลก ๆ ปล.อย่าฆ่าพ่อก็พอนะปราบ แต่เอาให้กระอักเลือดได้ เราอนุมัติ ฮ่าาา (หัวเราะแบบชั่วร้าย)

รีบเอาคืน จะได้ดูแลน้องป้องสักที สงสารป่องมาก ตอนนี้ อารมณ์นี้ สงสารสุด ๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iZoda ที่ 27-02-2015 00:49:15
 :a5: :a5: :a5:
เอาล่ะสิ เอาล่ะสิ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 27-02-2015 03:02:53
น้องป้องเครียดตายเลยค่ะ..

จริงๆเรียกว่ารัศมีทำตัวเองล้วนๆ นี่ถ้าไม่ทำปราบต้องเตลิดไปฮีน่าจะโตมานิ่มกว่านี้เยอะ อยาางน้อยก็คงเลือกวิธีการมากกว่านี้..


นี่แบบทำอะไรให้อีฝ่ายเจ็บช้ำได้ปราบทำหมด..
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-02-2015 05:17:14
น้องป้องคงเจ็บที่สุดแน่ๆเลยตอนนี้ :o12:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 27-02-2015 06:26:48
กำลังสนุก....
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 27-02-2015 10:13:34
บอกเลยว่าแค่นี้ยังไม่สาแก่ใจ มันยังไม่สาสมกับความเลวและเห็นแก่ตัวของพวกมัน โดยเฉพาะพ่อ
มันต้องเจ็บปวดยิ่งกว่านี้ ปราบน่าจะย้ายพวกมันให้ไปนอนเรือนคนใช้แทนนะ คงสะใจพิลึก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-02-2015 10:21:52
ช็อคครับช็อค
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 27-02-2015 10:48:26
เอาล่ะสิ  :katai1:

ค้างงงงงงงงง มาต่อไว ๆ นะค้าาาาาา อยากอ่านพี่ปราบน้องป้องฉะกันไวๆ ช๊อบชอบบ 55555555555555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 27-02-2015 11:21:52
ไม่เคยรู้สึกว่าป้องกับปราณเป็นพี่น้องกันเลยก็เลยไม่ค่อยอะไรกับตอนนี้ ตั้งแต่อ่านมาก็รู้สึกว่าเขารักกันบบคนรักมาตั้งแต่แรก อิอิ รักนิยายเรื่องนี้มากๆ รอๆๆตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 27-02-2015 11:33:46
ขอบคุนที่มาอัพพพ  :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: question09 ที่ 27-02-2015 11:40:52
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-02-2015 11:51:53
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 27-02-2015 12:02:03
ทุกคนทำ ป้องรับไปคนเดียว :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 27-02-2015 14:13:15
น้องป้องงงงงงง งือออออออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-02-2015 20:25:44
ขอ จุดสอง ด่วนๆ เลยยยยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 27-02-2015 20:54:55
ขาดช่วงครับ ขอเม้นแคนี้ก่อน มันอัดแน่นในอก
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-02-2015 20:59:10


                                                              เพลิงพ่าย


                                                              บทที่ 27.2



          นักร้องหนุ่มตัวแข็งราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ฝ่ามือเย็นเฉียบในขณะที่ตะลึงจ้องตากับปราบ ชายหนุ่มใช้ฟันกัดที่

กลีบปากเพื่อกลั้นเสียงอุทานของตัวเอง

         พี่เดี่ยว!

         พี่ชายตัวสูงเก้งก้างที่เคยกอดปมุตไว้ด้วยอ้อมแขนอบอุ่นทนุถนอมราวกับเขาเป็นเจ้าชายตัวน้อยๆ

         พี่ชายที่สอนให้เขารู้จักจูบแรกตั้งแต่เยาว์วัยและไม่สามารถจูบกับใครได้อีก

         พี่ชายที่วนเวียนอยู่ในความฝัน คนที่จากเขาไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย

         บัดนี้ พี่ชายคนนั้นยืนอยู่ตรงหน้า และยัดเยียดความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของร่างกายของเขาโดยไม่คำนึงถึงคำว่า

ศีลธรรมเลยแม้แต่นิดเดียวที่พี่น้องแม้จะต่างมารดาได้มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งทั้งร่างกายและจิตใจ

         พี่ชายที่รู้มาตลอดว่าเขาเป็นน้องชายแต่ก็ยังวางแผนเพื่อที่จะครอบครองเขาเพียงเพื่อทำร้ายคนในครอบครัวให้

เจ็บช้ำ


         “ไม่จริง” ปมุตคิดว่าตัวเองตะโกนออกไปด้วยความแค้นเคืองแต่แท้ที่จริงแล้วมันเป็นแค่ลมเบาๆที่หลุดออกมาจาก

ริมฝีปากสั่นระริก


         “ป้อง”


         “ปล่อย อย่ามาแตะต้องตัวผม”


         มือที่ถูกเกาะกุมสะบัดหนีพร้อมเท้าที่ก้าวถอยหลัง น้ำตาแห่งความอดสูไหลรินอาบแก้ม


         “คุณไม่ใช่พี่เดี่ยว คุณมันเป็นผีห่าซาตานมาเกิด”


         ปราบคาดการไว้แล้วว่าเมื่อปมุตรู้ความจริงเหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้น เขาคิดว่ารับมือได้แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ

ความรู้สึกเจ็บแปลบกลับบังเกิดเหนือความคาดหมาย ตอนนี้เหมือนมีเข็มสักร้อยเล่มผลัดกันทิ่มแทงหัวใจของปราบจน

เลือดอาบเมื่อเห็นสายตาเดียจฉันท์จากปมุต

         ไม่สิ เขาควรจะสะใจมิใช่หรือ แต่ทำไมเขาเจ็บ

          เขาก้าวเข้าหา ปมุตก็ก้าวถอยหนี


         “ป้อง อย่าเดินหนีพี่”


         “ผมเกลียดคุณ”


         ปมุตหันหลังให้ปราบ หนุ่มน้อยวิ่งหนีขึ้นห้องโดยไม่หันกลับมามองอีก ปราบกลืนน้ำลายลงคอเพื่อรักษาอาการให้

เป็นปกติก่อนจะกลับมาเผชิญหน้ากับพ่อและแม่เลี้ยง


         “ในที่สุดคุณก็เอาไอ้ป้องจนได้ ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่แรกว่าคุณไม่เคยเห็นมันเป็นน้อง”


         รัศมีตะโกนใส่หน้า ใบหน้าที่ฉาบไว้ด้วยเครื่องสำอางดูบิดเบี้ยวยับย่น ปราบกระตุกยิ้มเมื่อได้ยิน


         “เข้าใจถูกต้องแล้วรัศมี ป้องเป็นสิ่งเดียวที่ฉันต้องการในบ้านหลังนี้ ต้องขอบใจเธอนะที่เลี้ยงดูป้องได้ดีกว่าที่ฉัน

คิด ป้องเป็นเด็กบริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจจนฉันไม่เข้าใจว่าป้องเติบโตมาได้ยังไงในบ้านหลังนี้ที่มีแต่ผู้ใหญ่ไม่ได้

เรื่อง”


         “มันจะมากไปแล้วนะไอ้เดี่ยว”


         ปัญญาขึ้นเสียงอย่างเหลืออดปราบทำเพียงแค่ปรายตามองอย่างไม่ยี่หระ


         “ในฐานะที่เป็นเจ้าของบ้านที่ถูกต้องทั้งพฤตินัยและนิตินัย ผมต้องการพักอยู่ในห้องใหญ่ที่แม่เคยอยู่ ซึ่งก็คือห้อง

ที่คุณและเมียเสวยสุขกันมานาน”


         “แล้วมึงจะให้กูไปซุกหัวอยู่ที่ไหน” คราวนี้ปัญญาตะโกนลั่นจนหน้าแดงก่ำเพราะความโมโห


         “ห้องเก็บของข้างห้องครัว”


         “มันจะมากไปแล้วนะคุณเดี่ยว” รัศมีกรี๊ดลั่น


         “หรือจะไปซุกหัวนอนอยู่ริมถนน บอกตรงๆเลยนะ เธอไม่รู้หรอกว่ามันโหดร้ายแค่ไหน”


         ปราบแค่นยิ้มก่อนหันไปพูดกับปัญญา


         “และป้องต้องย้ายมาอยู่ห้องที่ติดกับห้องใหญ่ ผมจะทำประตูเชื่อมด้านในถึงกัน วันไหนที่ผมต้องการป้องจะได้

สะดวก”


         “ไอ้บ้า”


         รัศมีถลาเข้าหาปราบผลักที่เดียวหล่อนก็ร่วงไปกองอยู่กับพื้น เขามองด้วยหางตาอย่างไม่สนใจอีก


         “เลือกเอาคุณปัญญา ผมมีทางเลือกให้แค่นี้ จะอยู่หรือจะไป”


         ปัญญาแค้นจนเจ็บหน้าอกอีกครั้ง แต่ก็อย่างที่ปราบเข้าใจคนอย่างเขาไม่ยอมเด็ดขาดที่จะไปลำบากอยู่ข้างถนน

สิ่งที่ทำได้มีเพียงสะบัดหน้าหนีและทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างหมดทางต่อสู้

         และปราบก็ทำอย่างที่พูดจริงๆ ด้วยอำนาจเงินของเขาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ได้ในสิ่งที่ต้องการ ห้องใหญ่ที่บิดา

และมารดาเคยอยู่ด้วยกันถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่เอี่ยมรวมถึงห้องด้านข้างพร้อมประตูเชื่อม แต่เขาก็ยังเมตตา

นายปัญญาและรัศมีอยู่บ้างเมื่อยังจัดการให้มีเตียงนอนเล็กๆ อยู่ในห้องเก็บของแคบๆให้อาศัยนอน คนรับใช้เก่าแก่ไม่กี่

คนที่ยังทนอยู่กับนายปัญญาเมื่อรู้ข่าวพากันมาพบปราบอย่างซาบซึ้ง ปราบให้ติดตามหาคนอื่นที่ออกไประเหเร่ร่อนกลับ

มาอยู่ที่บ้านด้วย

         เขาผลักประตูห้องที่คุ้นเคยเข้าไปกวาดสายตามองทั่วห้อง ภาพมารดาที่แสนบอบบางนอนอยู่ที่เตียง

ยังปรากฏอยู่ในความทรงจำ ปราบน้ำตาซึม


         “แม่ครับ ลูกของแม่กลับมาแล้ว กลับมาทวงคืนในสิ่งที่สูญเสียไป แต่ว่าแม่ครับ ทำไมลูกของแม่ถึงรู้สึกเจ็บเหลือ

เกิน เหนื่อยเหลือเกินครับแม่”
         










         ปราบเดินมาถึงประตูห้องที่เขารู้ว่าเป็นห้องของปมุต มือแกร่งผลักมันเข้าไปช้าๆมองเห็นร่างเพรียวนอนคว่ำหน้า

อยู่บนเตียงและกำลังหลับสนิท ปราบกวาดสายตามองไปรอบห้องเมื่อเห็นการตกแต่งที่แตกต่างไปจากเมื่อครั้งที่ปมุตยัง

เด็ก ในตอนนี้รอบห้องมีแต่โปสเตอร์นักร้องและเครื่องมิกซ์เสียงขนาดย่อมตั้งอยู่มุมหนึ่ง เขาทรุดตัวลงนั่งอยู่ที่ขอบเตียง

พลางจ้องใบหน้าหวานราวกับเทพบุตรกรีก

         คราบน้ำตายังทิ้งรอยไว้อยู่ตรงข้างแก้ม ปราบเอื้อมมือไปเช็ดให้อย่างแผ่วเบาแต่ถึงกระนั้นปมุตก็ยังสะดุ้งตื่น เมื่อ

เห็นหน้าเขาเจ้าตัวก็ผุดลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว


         “ออกไปจากห้องผม” ปมุตชี้มือไปทางประตู


         “ป้อง ไม่ดีใจหรือที่พี่กลับมาหา”


         “ออกไป” คราวนี้ถึงกับผลักไสด้วยมือเรียวแต่ปราบก็ยังนั่งนิ่งมองด้วยสายตาที่ปมุตอ่านไม่ออก


         จะว่างอนง้อก็ไม่ใช่จะว่าขอลุแก่โทษก็ไม่เชิง แต่ปมุตยังโกรธปราบเกินกว่าจะพยายามทำความเข้าใจกับสายตา

นั่น


         “คิดถึงพี่บ้างหรือเปล่าตอนที่พี่ไม่อยู่”


         “ฟังภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง ผมบอกให้คุณออกไปจากห้องของผม”


         “ต่อไปนี้ ไม่ใช่ห้องของป้องแล้ว”


         “ว่าไงนะ”


         “ป้องต้องไปอยู่ห้องที่พี่จัดให้”


         “มีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม” ปมุตยังไม่ละพยศ


         “สิทธิ์ของความเป็นเจ้าของบ้าน และสิทธิ์ที่เป็นเจ้าของป้อง”


         “ไม่ไป!”


         “เมื่อไหร่จะเลิกดื้อ”


         กำปั้นทุบรัวลงมาตรงไหล่ด้วยความแค้น ปราบอดทนให้ปมุตทำร้ายอยู่พักใหญ่ก่อนที่เขาจะจัดการรวบข้อมือเล็ก

ไว้ด้วยมือเดียวแล้วผลักปมุตให้หงายหลังกลับไปบนที่นอนอีกครั้ง ปมุตพยายามดิ้นรนแต่ดูเหมือนมือที่แข็งราวกับคีม

เหล็กที่ล็อคข้อมือของเขาไว้เหนือหัวจะไม่ยอมปล่อยง่ายๆเสียแล้ว


         “แค่ไม่กี่วันก็ลืมไปแล้วใช่ไหม ต้องให้พี่ตอกย้ำใช่ไหมว่าเราเป็นอะไรกัน ปมุต”




                                 ------------------------------ TBC------------------------



อะไรกัน อิปร้าคนแต่งลากขึ้นเตียงอีกแล้ววววว

 :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4: :hao4:     

ปอลิง
มีเรื่องมาโฆษณา
ร้ายซ่อนรัก ได้ปกแล้วนะ เลยเอามาอวด คริคริ
สนพ RainyNight จะเปิดให้จอง 7-31 มีนาคมนี้
ตอนพิเศษรออยู่พร้อมของแถมมากมาย
สอบถามรายละเอียดในแฟนเพจได้เลย
ใครเป็นแฟนคลับ โมกข์-พัทธ์ไม่ควรพลาดนะคะ

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-02-2015 21:04:23
น้องป้องเสียใจมาก แต่พี่ก็แอบดีใจมาก พี่จะได้ซับเลือดอีกแล้ว (ห๊ะ! :mew5:)
กลับมาเป็นพี่เดี่ยวของน้องป้องจะได้ไหมนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-02-2015 21:36:40
ปราบให้เวลาน้องหน่อย  มันก็ต้องช็อคบ้างอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 27-02-2015 21:38:50
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-02-2015 21:46:59
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอออออ อยากอ่านต่ออีกกก
พี่เดี่ยวยังดีนะที่เจ็บเป็นน่ะ
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 27-02-2015 21:59:28
โหดมากกก สงสารน้องป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-02-2015 22:16:40
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-02-2015 23:02:25
เง้ออออ.  หนักใจแทนทั้งปราบและป้อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-02-2015 23:13:43
โดนเกลียดอีกยาว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 27-02-2015 23:17:09
พี่เด่วนี่ก็จะลากขึ้นเตียงอย่างเดียวเลออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 28-02-2015 01:00:53
ตอกย้ำตลอดๆ.  คริคริ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 28-02-2015 01:23:33
ขอให้เรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกที่ไอ้พ่อสารเลวมันไม่ได้รับการอภัยหรืออโหสิกรรมทีเท๊อะ สาธุ!!!

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 28-02-2015 05:34:31
พ่อที่เลือกความสบายมากกว่าศักดิ์ศรีกับลูกนี่มันอะไรกันคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 28-02-2015 05:55:52
ปราบเอาแต่ใจกับน้องจังเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 28-02-2015 07:38:40
เชื่อเถอะ อยากอ่านจนจบเลย  o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 28-02-2015 10:59:55
พี่เดี่ยวจะเล่นน้องอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 28-02-2015 13:46:04
แก้แค้นทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็เจ็บ

งืออ~ พี่เด่ว~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: LadyGreaz ที่ 02-03-2015 00:05:05
อ๊ายยยยยยยยยย!!!
จิกหมอน นอนดิ้นกับพื้นเลย :ling1:
น้องป้องสู้เค้านะ ปราบก็ร้ายเกิ๊นนนนนน(แต่เราก็รักนะ)

จะรอตอนต่อไปนะคะ
:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-03-2015 02:41:51
หึหึ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-03-2015 04:17:47
สงสารป้องมาก ๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 04-03-2015 21:11:12
ไม่เห็นใจหรอกนะพี่เดี่ยว น่าจะโดนน้องงอนให้เยอะๆเลย  :m16:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.2 ( 27 / 02 / 58 เวลา 21.00 น )
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 06-03-2015 00:11:22
ฉงฉานน้องป้อง
เกลียดอิพี่ปราบเยอะๆ เลย :monkeysad:

 :กอด1:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-03-2015 21:47:35

                                                                     เพลิงพ่าย

                                                                     บทที่ 28.1



         ปมุตยอมรับแล้วว่าปราบคือพี่เดี่ยวตัวจริงจากรสจูบล่าสุดที่ปราบกำลังทำอยู่ มันเป็นจูบที่เขาคุ้นเคยและนึกสงสัย

ตั้งแต่วันที่มีอะไรกันที่คอนโดของปราบ ในที่สุดสิ่งที่ปมุตคลางแคลงใจก็เฉลยความจริงออกมา

         พี่เดี่ยวที่แสนดีของเขากลับมาอีกครั้ง พี่ชายที่แสนดีกลายเป็นคนเลวที่ทำร้ายความรู้สึกของเขาจนบอบช้ำ ปมุต

ยากจะเร้นกายหนีไปให้ไกลสุดกู่แต่เมื่อบุรุษแสนเลวใช้ทั้งกำลังและประสบการณ์ที่มีมากกว่ามาบีบบังคับแล้วปมุต

ก็นึกเกลียดตนเองเหลือเกินที่พ่ายแพ้

         ปราบรู้จักร่างกายของปมุตดีกว่าตัวปมุตเองเสียอีก ปราบรู้ว่าควรจะแตะต้องตรงไหนอย่างนุ่มนวล ตรงไหนควรจะ

ลงน้ำหนักให้หนักหน่วง ใช้เวลาไม่นานนักหนุ่มน้อยในอ้อมกอดก็เริ่มหอบหายใจหนักจนอกกระเพื่อม ปราบไม่รอช้าที่จะ

จัดการร่างกายนุ่มมือให้เปลือยเปล่าพร้อมที่เขาจะตอกย้ำให้ได้รู้

         รู้ว่าปมุตคือสมบัติของเขา สมบัติอันหวงแหนและไม่มีวันที่เขาจะปล่อยให้ปมุตหนีหายไปได้ง่ายๆ ร่างกายที่สอด

ประสานรับจังหวะพร้อมลมหายใจร้อนผ่าวที่เป่ารดซึ่งกันบอกปราบได้เป็นอย่างดีว่าน้องชายของเขารับรู้แม้จะยังยอมรับ

ได้อย่างไม่เต็มใจนักในตอนนี้

         ปราบยกมือเกลี่ยที่แก้มเนียนนุ่มอย่างเบามือพลางกดจูบซ้ำลงไป ปมุตที่ยังหอบเหนื่อยไม่เลิกเม้มปากเบือนหน้า

หนีแต่ปราบก็ยังเชยคางมนให้หันมามองหน้าเขาแม้นัยน์ตาคู่นั้นจะยังกรุ่นโกรธไม่เลิกรา


         “คราวนี้จำได้หรือยังว่าเราเป็นอะไรกัน”


         “ไม่อยากจำสักหน่อย ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไปจากตัวผม”  มือเรียวยังสาละวนทุบลงไปที่แผ่นหลังแข็งแกร่งทำให้

ปราบมองอย่างอ่อนใจ


         “มีความสุขขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็จะถีบหัวส่งสินะป้อง ใช้ไม่ได้เลยเด็กคนนี้”


         ส่ายหน้าเบาๆเมื่อเห็นความดื้อรั้นของน้องชาย ปราบยกขาเรียวให้กอดเกี่ยวอยู่รอบเอวพลางช้อนมือเข้าใต้แผ่น

หลังของปมุตก่อนจะยกตัวขึ้นมาอย่างง่ายดายทั้งที่ร่างกายก็ยังประสานกันแน่น ทำให้ปมุตตกใจจนต้องคล้องแขนเกี่ยว

ไปรอบต้นคอของปราบเพราะกลัวจะตกลงมา


          “คุณจะทำอะไรอีก ผมบอกให้ปล่อยผมไงล่ะ”


         “จะพาไปห้องใหม่ ที่พี่ทำให้ป้องโดยเฉพาะ”


         “อื้อ เบาๆสิ รู้ไหมว่ามัน ฮึก อื้อ”


         ปราบก้าวเดินออกจากห้อง แรงกระแทกของการก้าวยิ่งทำให้ภายในยิ่งสอดลึกจนปมุตผวา แก่นกายที่ยัง

แข็งแกร่งทะลวงอยู่ในช่องทางสร้างความกระสันขึ้นมาจนหนุ่มน้อยอับอายเหลือเกิน ระยะทางเพียงแค่จากห้องของเขา

ไปยังห้องใหม่ที่ปราบเพิ่งจะจัดการเสร็จด้วยอำนาจของเงิน แค่นั้นก็ทำให้ปมุตต้องกัดริมฝีปากอิ่มเพื่อสกัดกั้นมันไว้

         เสียงประตูห้องปิดดังปังทำให้ปมุตสะดุ้ง ยังไม่ทันที่จะกวาดสายตามองรอบห้องเพราะต้องก้มหน้าสบตาคมของ

ปราบที่ยังไม่ยอมปล่อยเขาลงจากตัว


         “รู้ไหม ท่านี้ก็ไม่เลวนะป้อง มันทำให้พี่อยากจะมีความสุขกับป้องอีกสักรอบ นะป้อง”


         ปลายเสียงออดอ้อนอย่างไม่เคยได้ยินทำให้ปมุตโมโหตัวเองที่หัวใจอ่อนยวบ ปราบไม่รอคำตอบเมื่อวงแขนรัด

เอวของปมุตแน่นหนา เขาขย่มเอวเข้าหาพลางกดเอวคอดของปมุตลงมารับแรงกระแทกจนปมุตจุกแน่นไปหมด


         “อ๊ะ เบาๆ พะ พี่ปราบ อา เสียวมาก”


         ท่อนขาเรียวเผลอรัดแน่นอย่างลืมตัว ปมุตครางอย่างเหลืออดปราบรีบถือโอกาสนั้นประกบปากเข้าหาพลางสอด

ลิ้นลึกคว้านไปรอบโพรงปากหวาน ในขณะที่เอวยังกระแทกกระทั้นจนกล้ามเนื้อรัดแน่นร้อนระอุ ปราบเร่งจังหวะให้ปมุต

เกร็งกายปลดปล่อยออกมาเขาจึงก้าวไปวางร่างกายสั่นสะท้านลงกับเตียงนอนนุ่มก่อนสาวเอวของเขาเข้าออกไม่ยั้ง


         “จำไว้ว่าพี่รักป้อง พี่จะไม่ปล่อยให้ป้องไปเป็นของคนอื่น จำไว้”


         “พี่เดี่ยว”


         ปมุตเผลอครางอย่างลืมตัว ในขณะที่ทอดกายให้ปราบจนเขาสุขสมก่อนจะทิ้งตัวลงมาบนร่างนุ่มอย่างพอใจ

         








         “พี่ปราบหายไปไหนมา”


         “อย่ารู้เลย มันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก” ปราบหอมขมับของคนข้างกายที่นอนตะแคงตัวมากอดเขาไว้ ในขณะที่เขา

นอนหงายใช้มือข้างหนึ่งหนุนหัว ส่วนอีกข้างโอบกอดร่างเล็กให้แนบอยู่กับตัว


         “คิดถึงพี่บ้างหรือเปล่า หืม ป้อง”


         “ไม่คิด”


         “งั้นหรือ” ปราบอมยิ้มเมื่อเห็นหน้าหวานงอง้ำ “พี่ดีใจนะที่ป้องยังรักษาสัญญาของเรา”


         “บ้า สัญญาอะไร ไม่เห็นจำได้”


         “สัญญาว่าจะไม่ให้ใครจูบป้องนอกจากพี่เดี่ยวคนนี้ไงล่ะ”


         ปมุตหน้าแดงก่ำ จะว่าไปเขาจำไม่ได้หรอกกับคำพูดในวัยเด็กนั่น เพียงแค่เขารู้สึกว่าไม่อยากให้ใครได้สัมผัสซ้ำ

รอยบนริมฝีปากของเขาเพื่อรอคอยใครบางคนให้กลับมาซ้ำรอยเดิมแค่นั้นเอง


         “แล้วไอ้ชาวีมันเคยแตะต้องป้องหรือเปล่า” ปราบเอ่ยถามเสียงเขียว


         ปมุตคิดถึงชาวีขึ้นมาทันที เขาไม่ได้พบหน้าชาวีมานานหลายวันแล้ว ล่าสุดที่พบกันชาวีก็มีสีหน้าเหมือนคน

ครุ่นคิดอะไรอยู่ในใจจนไม่ได้คุยกันมากเหมือนเดิม


         “พี่วีเป็นแค่เพื่อนสนิทที่ประกวดด้วยกันมา แต่ผมว่าพี่วีก็มีท่าทีพิเศษกับผมนะ” กลีบปากอิ่มคลี่ยิ้มหวานจนปราบ

อดใจไม่อยู่ต้องจูบอย่างหมั่นเขี้ยว


         “อย่าได้คิดจะลองดีเชียวนะป้อง รู้ใช่ไหมว่าจะโดนอะไรบ้าง”


         “พี่ปราบ” ปมุตถอนหายใจยาว


         “เราเป็นพี่น้องกันนะ”


         “แล้วไง” ปราบมองปมุตที่กำลังก้มหน้าซ่อนรอยเศร้าหมองไว้


         “เราไม่ควรที่จะ เอ้อ มันผิดศีลธรรม”


         “ช่างแม่งศีลธรรมเหอะ ใครเป็นคนกำหนดว่าพี่น้องจะรักกันไม่ได้ ความสุขของเราไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมา

ตัดสิน ถ้าเรารักกันก็แค่ยอมรับ จูบกัน กอดกัน มีเซ็กส์กัน ไม่เห็นจะต้องไปให้คนอื่นมาชี้นำว่าเราควรจะทำยังไง”


         ปราบเชยคางปมุตขึ้นมามองอย่างค้นคว้า


         “หรือจะปฏิเสธว่าที่ผ่านมาป้องไม่ได้รอพี่ ไม่อยากให้พี่กอด ไม่อยากให้พี่จูบอย่างนี้”


         เขาจูบปมุตอีกครั้ง เนิ่นนานจนแทบขาดใจกว่าจะปล่อยเป็นอิสระ


         “ถามใจตัวเองสิป้อง แล้วบอกพี่มาว่าป้องไม่ได้รักพี่เหมือนอย่างที่พี่รักป้องมาตลอดชีวิต”


         เสียงขื่นของปราบทำให้ปมุตต้องรีบเงยหน้าอย่างตกใจ นัยน์ตาคมของพี่ชายบอกให้ปมุตรู้ว่าปราบต้องผ่านความ

ระทมทุกข์มาแค่ไหน มันทำให้เขาต้องยกมือไปวางแนบแก้มสากไปด้วยไรหนวดจางๆเพื่อปลอบโยน


         “ป้องรักพี่เดี่ยว”





                        ----------------------------------  TBC --------------------------------




แวบมาแบบสั้นๆ ให้เวลาหวานครึ่งบทก่อนจะเข้าโหมดดราม่าต่อ หุหุ


 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2015 22:00:09
หวานมากกก นานๆจะมีฉากหวานน แต่ต่อไปก็ดราม่าอีกละ เฮ้ออออ. อยากให้หวานบ่อยๆๆๆๆ เบื่อดราม่า 555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 10-03-2015 22:01:39
พี่เด่วลากขึ่นเตียอย่างเดียวเลยนะ !! :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 10-03-2015 22:04:18
แง่มมมมมมมม /// ปาดได้มั้ย?
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 10-03-2015 22:06:31
เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-03-2015 22:08:05
ผัวเมียกันก็ต้องง้อกันบนเตียงสินะสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-03-2015 22:34:31
มาหวานๆ ค่อยชื่นใจหน่อย หุหุ
เข้าใจกันแล้ว เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 10-03-2015 22:56:40
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 10-03-2015 23:19:27
กลัวใจอิพี่ปราบ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
สงสารน้องป้องเหลือเกิน ต้องมารองรับอารมณ์
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 10-03-2015 23:28:07
 :haun4: แต่เดี๋ยวก็ดราม่าอีก  :sad4: พี่เดี่ยวอย่าทำอะไรปมุตเลยนะ  :katai1:น้องป้องรักพี่เดี๋ยวมากเลยรู้ไหม
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: PHA_ ที่ 10-03-2015 23:30:28
อิพี่ปราบนี่เป็นไบโพลาหรอ  สับเปลี่ยนอารมณ์ไปมา ข้าล่ะงงเอง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iZoda ที่ 10-03-2015 23:38:59
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:

มาม่าชามอย่าโตนะ สงสารน้องง่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-03-2015 02:40:46
ตอนนี้ดีกลัวอารมณ์ปราบจะมาร้ายอีกตอนไหน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 11-03-2015 04:42:05
ดราม่าอีกแล้วเหรออออออออออออ
ขอโนเอลชาวีบ้างพลีสสสสสสส
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 11-03-2015 05:52:47
กำลังชื่นใจอยู่ แต่พอเจอคำว่า ดราม่า นี่ต้องเตรียม มาม่า รอเลยที่เดียว

แต่มันเป็นรสชาติที่น่าลิ้มลองนะ

ชูป้าย ชาวีxโนเอล
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 11-03-2015 08:51:06
แอบมาหวานเอาใจ แล้วเสริฟมาม่า  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 11-03-2015 10:35:12
พี่เด่วจะทำอะไรให้น้องป้องเจ็บช้ำน้ำใจอีกรึเปล่า~

 :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Adoreyou ที่ 11-03-2015 11:51:20
โอ่ยยยยยยยยยยยย ฮืออออ หวานนาน ๆ ก็ได้ ไม่ว่ากันนน กลัวใจดราม่า ฮือออ รักคาแรคเตอร์สองคนนี้มากกก

น้องป้องนี่ดูพยศ ๆ ดี พยศเยอะ ๆเลย เจ้ชอบบบบบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: four4 ที่ 11-03-2015 12:41:44
 :ling1: น้องป้อง ชอบให้ พี่ปราบ ทำท่าอุ้มแตงนี่เอง 555
#คนอ่านหื่นเบาๆ 555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 11-03-2015 17:43:39
 :z1: :m25:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 11-03-2015 22:13:38
ง่อวววววว อยากเห็นตอนพี่น้องเค้าหวานๆบ้าง งือออออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 12-03-2015 00:05:35

รอชาวี-โนเอล อีกคู่   :-[
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 12-03-2015 00:41:36
ง้อกันบนเตียงนอนนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-03-2015 10:21:56
หวานกันเบาๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-03-2015 12:00:47
อ่านละสะใจเบา ๆ ช่างเป็นพ่อที่ดีเนอะ

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 13-03-2015 07:21:19
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.1 ( 10 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 13-03-2015 12:15:46
สะใจอะอ่านสามตอนรวด ปราบก็ถนอมน้องเค้าหน่อยอย่าตามใจคนแต่ง กะคนอ่านมากเกินไป ครึครึ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-03-2015 15:04:11
                                                     เพลิงพ่าย

                                                     บทที่ 28.2

     

         คำบอกรักอย่างใสซื่อทำให้ปราบคลี่ยิ้มออกมาได้ หัวใจของเขาชุ่มฉ่ำราวกับต้นไม้ยามหน้าแล้งที่ได้หยาดน้ำจาก

ฝนแรกโปรยปรายลงมาต่อชีวิตที่แสนจะอับเฉา ปราบกดจูบไปที่หน้าผากเกลี้ยงเป็นรางวัลก่อนจะกอดปมุตไว้อย่าง

หวงแหน ปราบสัญญากับตัวเองว่าไม่มีวันที่เขาจะปล่อยปมุตให้หลุดมือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม


          “ชอบห้องนี้ไหม พี่ทำเพื่อป้องโดยเฉพาะเลยนะ”


            ปมุตเพิ่งจะมีเวลาเงยหน้าขึ้นมองรอบห้อง นอกจากบนเตียงหนานุ่มที่ทั้งคู่ยังนอนกอดก่ายกันอยู่ ทั่วทั้งห้อง

ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นอย่างที่ปมุตชอบ เครื่องเสียงกำลังแรงสูงรวมทั้งเครื่องมิกซ์เสียงตั้งอยู่ด้านหนึ่งสำหรับให้ปมุตได้

ทำงานที่ตนเองรัก ปมุตนึกทึ่งที่ปราบรู้ว่าเขามีรสนิยมแบบไหน

            นัยน์ตาสีน้ำตาลสดใสไปหยุดอยู่ที่ประตูเชื่อมระหว่างห้องที่มันไม่เคยมีมาก่อน คิ้วโก่งขมวดไปเล็กน้อยเมื่อรู้ว่า

อีกฝั่งหนึ่งคือห้องใหญ่ที่บิดาและมารดาอาศัยอยู่ แล้วประตูเชื่อมระหว่างสองห้องนี้คืออะไร


             “ทำไมต้องมีประตูเล็กตรงนี้ด้วยครับพี่เดี่ยว”


            “เพื่อที่พี่จะเข้ามาหาป้องได้ทุกเวลาไงล่ะ”


            “เอ๊ะ ก็ห้องนั้นมันห้องพ่อกับแม่ ถ้าพี่เดี่ยวจะมาอยู่ห้องนี้แล้วพ่อกับแม่จะไปอยู่ไหน”


            ปมุตเอะใจ เขายกตัวขึ้นมามองหน้าปราบด้วยสายตาจริงจัง แต่ปราบก็ยังมองกลับอย่างสบายอารมณ์


            “พี่ให้พ่อไปอยู่ห้องเก็บของข้างครัว”


            “พี่เดี่ยว” ปมุตขึ้นเสียง “พี่เดี่ยวทำแบบนั้นได้ไง ห้องนั้นมันเล็กแคบและอึดอัดมากนะ พี่เดี่ยวใจร้าย”


            “ป้อง” ปราบดึงปมุตที่มีท่าทีขัดขืนเข้ามากอด


            “พี่ก็มีเหตุผลของพี่ บางครั้งพวกผู้ใหญ่ก็ต้องได้รับบทเรียนเพื่อดัดนิสัยไม้แก่กันบ้าง เชื่อใจพี่เถอะ ถึงยังไงเขา

ก็เป็นพ่อ พี่ไม่คิดจะทำร้ายให้เขาล้มหายตายจากหรอกนะ ขอเวลาให้พี่อีกสักนิดนะครับคนดี”


            “นานแค่ไหนล่ะครับพี่เดี่ยวถึงจะสาแก่ใจที่ได้ทำร้ายพ่อ” ปมุตค่อนขอดหน้าบึ้งจนปราบต้องถอนหายใจออกมา


            “ก็นานจนกว่าพวกเขาจะรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ควรทำ และอะไรคือสิ่งที่ไม่ควรทำนั่นแหละ”


            เสียงสัญญาณข้อความดังมาจากโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนหัวเตียง ปราบคว้ามันขึ้นมาเปิดดูแล้วจึงยิ้มออกมา


            “ป้องครับ พรุ่งนี้จะมีเพื่อนสนิทพี่เดี่ยวมาเยี่ยมนะครับ ช่วงสายๆป้องอยู่ทำความรู้จักกับเพื่อนพี่หน่อยนะ”


            “ถ้าช่วงสายล่ะก็ได้ครับ แต่ถ้าช่วงบ่ายๆป้องมีอิเว้นท์ร้องเพลงที่งานเปิดบริษัทใหม่ ว่าแต่เพื่อนพี่เดี่ยวเป็นใคร

เหรอ”


            “เพื่อนพี่เป็นพ่อเลี้ยงเจ้าของไร่บนดอยทางเหนือ ชื่อโมกข์ มนัญชัย”

             








            ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตลายสก็อตกับกางเกงยีนส์ตัวเก่ายิ่งทำให้เสน่ห์ความเป็นบุรุษเพศฉายชัด

ก้าวเดินเคียงคู่มากับปราบทำให้ปมุตมองอย่างนึกทึ่งในขณะที่มองอยู่ไกลๆ

            คนหนึ่งหล่อแบบคมเข้มส่วนอีกคนก็หล่อเหลาเนี้ยบทุกกระเบียดเปรียบเทียบกันแล้วก็ไม่มีใครข่มใครได้ หาก

เขาเป็นสาวๆ คงเลือกส่งเสียงกรี๊ดไม่ถูก ปมุตมองเห็นพี่ชายของเขากวักมือเรียกให้เดินเข้าไปหาเมื่อพาเพื่อนสนิทมานั่ง

ลงที่เก้าอี้ริมสระว่ายน้ำ


            “ในที่สุดมึงก็ทำจนได้นะไอ้ปราบ ไอ้เรื่องแก้แค้นพ่อมึงน่ะ” เสียงห้าวดังมาจากเพื่อนของเขา โมกข์ มนัญชัย


            “อย่าเรียกว่าแก้แค้นสิ เรียกว่ากูมาทวงของคืน”


            “ตามใจ มึงจะเรียกว่าอะไรก็เรื่องของมึง ว่าแต่นี่ใช่ไหม คนที่ทำให้มึงต้องทำทุกอย่างไม่ว่ามันจะเหี้ยแค่ไหน

ก็ตาม”


            โมกข์พยักเพยิดไปยังร่างเพรียวที่เพิ่งก้าวมาถึงพร้อมรอยยิ้มหวานจนโมกข์ตาลาย ปราบทำหน้าบึ้งเมื่อเห็น

สายตาเพื่อน


            “น้อยๆหน่อย ไอ้เหี้ยโมกข์ เก็บสายตาหื่นๆของมึงเดี๋ยวนี้ นี่มันน้องของกู ที่สำคัญเป็นเมียกูด้วย”


            “พี่ปราบ” ปมุตอายจนหน้าแดงกับคำพูดตรงๆของปราบ เขาเรียกพี่ชายของเขาว่าปราบตามที่ปราบต้องการ


            “อยู่ต่อหน้าคนอื่นเรียกพี่ว่าปราบนะครับป้อง พี่เดี่ยวน่ะเอาไว้ให้ป้องครางเรียกเวลาที่เราบอกรักกันแบบนี้”


            ปราบสั่งในขณะที่พาปมุตขึ้นสวรรค์เมื่อคืนที่ผ่านมารอบไหนปมุตก็จำไม่ได้ เพราะปราบจัดการเขาอยู่หลายรอบ

จนเกือบเช้า


            “พูดแบบนั้นได้ไง น่าเกลียด”


             “ก็พูดความจริง กันไว้ก่อน ไอ้เหี้ยโมกข์มันเจ้าชู้คลำไม่มีหางมันกวาดเรียบ พี่ก็ต้องป้องกันของหวงของพี่ไว้”


            “สัสปราบ ใส่ไฟกูจริง” โมกข์คลี่ยิ้มจนใบหน้าสว่างไสว “สวัสดีครับน้องป้อง พี่ชื่อโมกข์นะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก

นักร้องชื่อดังอย่างน้องป้อง”


            ป้องยกมือขึ้นไหว้งดงาม


            “สวัสดีครับพี่โมกข์ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”


            โมกข์นึกเอ็นดูน้องชายของปราบอยู่ไม่น้อย ใบหน้าหวานของลูกเสี้ยวอย่างปมุตทำให้โมกข์สะดุดตา


            “ทำไม” ปราบเอ่ยถามเมื่อเห็นโมกข์ทำหน้าครุ่นคิดราวกับกำลังทบทวนความทรงจำ


            “กำลังนึกว่าเคยเห็นใครที่หน้าตาสไตล์น้องป้องที่ไหน อ๋อ ราฟนั่นเอง เอ่อ เฮ้ย กูขอโทษ”


            โมกข์หุบปากแทบไม่ทันเมื่อเห็นเพื่อนสนิทหน้าขรึมลง ปราบโคลงศีรษะเบาๆพลางทำหน้าให้สดใสขึ้น


            “ช่างเหอะ เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว ว่าแต่มึงน่ะได้ข่าวมาว่าช่วงนี้กำลังคั่วเด็กใหม่หรือไง”


            “ข่าวไวดีนี่ ก็เด็กแถวนั้นแหละลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าในจังหวัดที่กูอยู่”


            ตลอดช่วงสนทนาปมุตได้แต่นั่งฟังพี่ชายกับเพื่อนสนิทคุยกันจนได้รู้ว่าทั้งสองเปิดบริษัทอยู่ด้วยกันแต่โมกข์ขอ

ปลีกตัวไปพัฒนาไร่ของเขา ปมุตถูกชะตากับโมกข์ไม่น้อยเขานั่งฟังเพลินๆจนกระทั่งใกล้ถึงเวลาต้องไปทำงานจึงได้

ขอตัวออกมา




            ชาวีไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองในยามนี้มันดูคลุมเครือเหลือเกิน เขา            ไม่เข้าใจว่าอะไรทำให้ใบหน้า

ดุดันเอาจริงของโนเอลในวันสุดท้ายที่พบกันตามมาก่อกวนสมองของเขาอยู่ตลอดเวลา และคำพูดแสนท้าทายนั่นมัน

ทำให้เขาอยากจะเอาชนะแต่เพราะงานที่มีมากในช่วงนี้ทำให้ชาวีไม่มีเวลาไปตอแยกับโนเอลจนกระทั่งวันนี้ที่มีคิวว่าง

ชาวีจึงมาที่ออฟฟิศของโนเอลโดยที่ไม่รู้ว่ามาเพื่ออะไรด้วยซ้ำ เขารู้อยู่อย่างเดียวว่าเขาอยากเห็นหน้าของโนเอล


            ชาวีเห็นใบหน้าหล่อเหลาของอดีตนายแบบระดับโลกแล้วหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมา เขาลอบมองร่างสูงเพรียวกำลัง

ควบคุมการถ่ายแบบอยู่ในสตูดิโอ เห็นแล้วก็นึกหมั่นเขี้ยวอยากจะดึงเข้ามาจัดการจนต้องรีบห้ามความคิดตัวเองไว้ ชาวี

ได้แต่ยืนมองอยู่เงียบๆจนกระทั่งโนเอลหันมามองในที่สุด ชาวีคลี่ยิ้มให้ในขณะที่โนเอลเบ้ปากใส่เขา ชาวีรอให้โนเอลสั่ง

งานเรียบร้อยแล้วเดินกลับไปยังห้องทำงานเขาถือโอกาสเดินตามเข้ามาก่อนเป็นคนปิดประตูห้องแล้วกดล็อก


            “ยังไม่เข็ดหรือไงไอ้เด็กเลว ยังอยากลองดีอีกใช่ไหม”


            “ก็ถ้ามีดีให้ลอง ก็อยากลองอีก” ชาวียักไหล่แล้วก้าวเข้าใกล้ เขาจ้องหน้าฝรั่งหล่อๆด้วยดวงตาเป็นประกายจน

โนเอลเริ่มจะร้อนวูบไปทั่วใบหน้า


             “มองอะไรนักหนาวะ หน้าเหมือนพ่อมึงหรือไง”


            “ฝรั่งอะไรวะปากจัดชิบหาย” ชาวีโต้กลับแต่ก็ยังไม่ยอมละสายตา ซ้ำยังยกปลายนิ้วขึ้นมาเกลี่ยเบาๆไปตาม

กรอบหน้าของโนเอลก่อนจะหยุดแล้วลูบไล้อยู่ตรงกลีบปากสีแดงเรื่อนุ่มมือ “เดี๋ยวก็ซัดด้วยปากผมนี่หรอก”


            “ไปไกลๆกูเลยไอ้เด็กบ้า ก่อนที่กูจะ อุ๊บ อึก…”


            ชาวีดึงใบหน้าของเขาเข้าไปบดจูบ โนเอลตกใจที่จูบนั้นมันทั้งหนักหน่วงและเรียกร้องจนเขาใจสั่น ความจริง

มันก็สั่นตั้งแต่เห็นไอ้เด็กแสนเลวยืนเต๊ะท่าอยู่ในสตูดิโอนั่นแหละ โนเอลไม่นึกเลยว่าแค่เห็นหน้าชาวีความกระวนกระวาย

อย่างไม่มีสาเหตุที่เขาเป็นตลอดหลายวันจะหายเป็นปลิดทิ้ง สมาธิทำงานของเขากระเจิดกระเจิงแม้ว่าจะพยายามทำ

เป็นไม่สนใจแล้วก็ตาม

            เรียวปากอิ่มเผลอตอบสนองจูบแลกลิ้นพัลวัน กว่าจะยอมผละออกจากกันเมื่อต่างคนต่างขาดอากาศหายใจ


            “คุณคิดถึงผมใช่ไหมโนเอล” ดวงตาวาววับที่จ้องมาพร้อมทั้งฝ่ามือร้อนที่ลูบไล้อยู่ตรงบั้นเอวทำให้โนเอลต้อง

รีบปั้นสีหน้าโดยเร็วพลางผลักอกชาวีออก


            “คิดเข้าข้างตัวเองว่ะ”


            “ถ้าไม่คิดถึงแล้วจูบตอบผมทำไมล่ะ คุณทำให้ผมต้องคิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณก็คิดถึงผม เหมือนที่ผมคิดถึง

คุณ”


            เลือดลมเหมือนจะตีกลับแล้ววิ่งมีรวมกันอยู่ตรงหน้าจนมันร้อนเห่อไปหมด โนเอลเม้มปากแน่นแล้วหันหลังขวับ

เพราะไม่อยากให้ชาวีมองเห็นใบหน้าที่เขาเดาไว้ว่ามันคงแดงจัด ชาวีก้าวเดินมาหยุดอยู่เบื้องหลังแล้วสวมกอดอยู่ตรง

เอวดึงให้แผ่นหลังของเขาแนบไปกับอกกว้างของชาวี


            “ตรงๆเลยนะ ผมแก้ตัวใหม่ได้ไหม ถ้าผมจะเริ่มจีบคุณใหม่คุณจะให้โอกาสผมหรือเปล่า”


            “นี่อยากจะเอาชนะถึงขั้นยอมเสียศักดิ์ศรีขนาดนี้เลยหรือไง” โนเอลส่งเสียงค่อนทั้งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าอ้อมกอด

ของชาวีตอนนี้มันชวนให้เคลิ้มอยู่ไม่น้อย


            “ก็ถ้าเสียศักดิ์ศรีแล้วทำให้ได้เอาคุณทุกวัน ผมก็ยอมว่ะ”


            “นอกจากจะเหี้ยแล้วยังหื่นอีกนะมึง”


            “ไม่รู้เป็นอะไร เจอคุณแล้วมันหื่นอะ แล้วจะตกลงให้จีบไหมครับโนเอล”


            เสียงกระซิบอยู่ตรงหลังใบหูก่อนจะงับติ่งหูเบาๆทำให้โนเอลต้องเม้มปากแน่น


            “ถ้ากูไม่ตกลง”


            “ผมจับปล้ำแม่งเลย”


            “จะเอากูให้ได้สินะ” โนเอลลอบยิ้มก่อนหันกลับมาเผชิญหน้า


            “ก็ลองดูว่ามึงจะดีแต่ปากหรือเปล่า ไอ้เด็กนรก”


            “งั้นเริ่มเลยนะ”


            “เหี้ยแล้วมึง” โนเอลโวยวายพลางปัดมือวุ่นวายของชาวีออก


            “โห โนเอล ก็ผมอยาก….”


            “อยากก็ไปชักว่าวตรงโน้น กูให้มึงจีบได้แต่ไม่ได้ให้มึงเอาได้เลย มึงต้องจีบจนกว่ากูจะพอใจนอนแบให้มึงเอง

เข้าใจไหม”


            พูดจบเขาก็สะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของเด็กรุ่นน้องแล้วเดินราวกับทางเดินเป็นแคทวอล์คไปนั่งลงบนเก้าอี้

ทำงานของเขาอย่างไม่สนใจหน้างอๆของชาวีอีก ชาวีมองอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าเดินไปทิ้งตัวอยู่บน

โซฟารับแขกพลางมองค้อนโนเอลที่ก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มของตัวเองไว้


            “จำไว้เลยนะ ยอมเมื่อไหร่พ่อจะจัดการให้ฟ้าเหลืองเลย คอยดู”

           


                                   ----------------------------- TBC ---------------------------------------




             
             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-03-2015 15:23:28
เป็นฝรั่งที่เหมาะกับการอยู่ไทย555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 14-03-2015 15:51:29
โนเอลปากจัดจริง~

 :katai5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 14-03-2015 16:16:25
ขอหวานอีกพักได้ไหมครับ
เท่าที่เดาจากเรื่องโน้น ดราม่าระลอกใหม่ท่าจะหนัก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-03-2015 16:29:46
ดราม่ากำลังมา. คริคริ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-03-2015 17:08:44
คู่ชาวีกับโนเอลนี่ไม่มีใครยอมใครจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-03-2015 17:28:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 14-03-2015 17:56:09
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 14-03-2015 18:06:06
หูยยยยยย นี่แหละ คู่นี้แหละที่เขารอค่อย จักจี้หัวใจดิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-03-2015 18:23:52
โนเอล แรงงงงงง 55555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 14-03-2015 19:06:36
งื้ออ ตอนเค้าอ่านเรื่องพี่โมกข์ พี่เดี่ยวกับป้องนี่ สาย sm เลยนะ แต่หวานๆงี้แหละดีชอบบบ  o18
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 14-03-2015 19:15:23
เดี่ยวป้องน่ารัก เดี่ยวอย่าร้ายกับป้องอีกนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: plugie ที่ 16-03-2015 07:36:32
ศีลธรรมนี้ไม่ต้องมีมันแล้วใช่มั้ยพี่ปราบน้องป้อง
ดูทั้งสองคนสบายใจเกิน :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 16-03-2015 10:40:07
ไม่ได้เข้ามาอ่านนาน  ผ่านมาหลายตอนรวดเดียว  รู้สึกโคลงเคลง  คล้าย ๆ นั่งเรีอที่มีคลี่นทะเลอยู่ตลอดเวลา  มันวูบ ๆ วาบ ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ น้ำตาคลอก็อีก   :เฮ้อ:  พี่เดี่ยวก็รักษาน้ำใจน้องให้นาน ๆ นะ  :กอด1: คู่นี้ดูท่าจะน่ารักน่าหยิกไม่แพ้คู่พี่โมกข  ส่วนพี่วีกับโนเอลก็หวานกันแบบอมยิ้ม  ชอบอ่ะ   :-[  โนเอลใจแข็งดี  แอบเขินแทนเลย 


รอตอนต่อไปนะคะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-03-2015 11:46:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 16-03-2015 16:45:39
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ยอมๆเลยโนเอลลลลลลลลลลล
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-03-2015 02:06:40
จะดีขึ้นละสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 20-03-2015 01:42:59
ฮอลลลลลล สนุกกกก
นี่เพิ่งรู้ว่าตัวเองอ่านแบบดาร์คได้ก็เพราะเรื่องนี้
ฮือออออ
อยากจะด่าปราบมาก เรื่องราฟกะแดน สมควรที่แดนจะโกรธ
คือแบบเรื่องนั้นเข้าข้างแดนเลยอ่ะ
แต่พี่ปราบมาอยู่กะน้องก็ดี ดูใจดี คริคริ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 28.2 ( 14 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-03-2015 16:02:26
เค้าตามมาจากเรื่องของโมกข์
เรื่องนี้ก็สนุก ได้รู้อดีตของโมกข์ด้วย

ปราบรักปมุตมากนะ
รักมานานแล้วด้วย

ขอให้ได้รักกันตลอดไป

ขอติดตามอ่านค๊าา
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-03-2015 13:16:40

                                                         เพลิงพ่าย

                                                         บทที่ 29


         “ป้อง”


         เสียงเรียกอย่างยินดีดังขึ้นเมื่อปมุตก้าวขึ้นรถตู้ของบริษัทเพื่อไปงานอิเว้นท์ที่จ้างไว้ ภายในรถมีชาวีนั่งรออยู่แล้ว

เมื่อปมุตก้าวขึ้นไปนั่งรถตู้ก็เริ่มเคลื่อนที่ไปสถานที่จัดงาน ปมุตยิ้มตอบชาวีอย่างยินดีไม่แพ้กัน


         “ไม่เจอพี่วีตั้งนานเป็นไงบ้าง”


         ชาวีมองใบหน้าหวานแล้วก็นึกแปลกใจตนเองอยู่ครามครัน เมื่อความรู้สึกที่เคยอยากเป็นเจ้าของปมุตทั้งกายและ

ใจเลือนหายไปแล้ว บัดนี้เขาสามารถสบตาปมุตได้อย่างเต็มตาเมื่อชาวีคิดว่าปมุตเป็นเพียงแค่น้องชายร่วมวงการอย่าง

แท้จริง


         “พี่สิต้องถามป้องว่าเป็นไงบ้าง ดูสีหน้าสดใสขึ้นนะมีอะไรดีๆแอบเก็บไว้แล้วไม่ได้เล่าให้พี่ฟังหรือเปล่า”


         “โอ๊ย จะมีอะไรล่ะพี่วี” ปมุตส่ายหัว “พี่วีนั่นแหละ ดูอารมณ์ดีขึ้นนะมีอะไรปิดบังผมแน่ๆ”


         “ป้อง” คราวนี้ชาวียิ้มขรึม “ตลอดเวลาที่เรารู้จักกันตั้งแต่ตอนประกวด ป้องรู้ใช่ไหมว่าพี่คิดยังไงกับป้อง”


         ชาวีเอ่ยเสียงเบาเพราะไม่อยากให้คนขับรถและคนดูแลศิลปินได้ยิน


         “รู้ใช่ไหมว่าพี่รักป้อง”


         ปมุตถอนหายใจออกมา


         “ก็พอจะเดาได้อยู่ ผมเองก็รู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้พี่สมหวังไม่ได้ ขอโทษนะพี่วี”       


         “อย่าพูดเหมือนรู้สึกผิดอย่างนั้นสิวะ พี่ใจคอไม่ดี”


         ชาวีเอื้อมมือไปวางบนหัวของปมุตแล้วโยกเบาๆ


         “สบายใจเถอะ เพราะตอนนี้พี่คิดกับป้องแค่น้องชายจริงๆ”


         ดวงตากลมโตของปมุตเบิกกว้างอย่างดีใจเมื่อได้ยิน


         “จริงเหรอพี่วี ผมดีใจมากเลยที่ได้ยิน นั่นแน่ะแสดงว่าพี่กำลังรักใครเข้าล่ะสิ ใครหว่าที่ทำให้พี่ชายคนนี้อารมณ์ดี

ได้ขนาดนี้”


         “อารมณ์ดีจริงอะ” ชาวีหัวเราะเขิน “ยังบอกไม่ได้หรอกว่าใครเพิ่งจะเริ่มจีบอยู่ถ้าตกลงเป็นแฟนกันเมื่อไหร่ถึงค่อย

บอกละกัน ไปๆ ลงรถได้แล้ว ถึงที่จัดงานแล้ว ทำงานๆ”


         แล้วชาวีก็ลากแขนของปมุตลงจากรถ งานร้องเพลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับทั้งคู่เพราะทำงานด้วยกันมานานเสียง

แฟนคลับดังลั่นเมื่อเพลงจบลงและพิธีกรกล่าวเชิญเจ้าของงานขึ้นมาบนเวที


         “ต่อไปนี้ถึงเวลาสำคัญแล้วนะคะ ขอเรียนเชิญบุคคลสำคัญสำหรับงานในวันนี้เจ้าของบริษัทที่อสังหาริมทรัพย์

ใหม่เอี่ยมเปิดตัวในวันนี้ บริษัทดีเคพร็อพเพอร์ตี้ขึ้นมาบนเวทีเพื่อกล่าวเปิดงาน

คุณแดเนียล เครตั้นค่ะ”


          เมื่อคำแนะนำตัวจากพิธีกรสิ้นสุดลง เจ้าของงานที่เป็นชาวต่างชาติก็ก้าวขึ้นมากล่าวเปิดงานเป็นภาษาอังกฤษ

ก่อนที่เขาจะตัดริบบิ้นพร้อมเสียงแสดงความยินดีจากแขกที่มาร่วมงาน เสียงพิธีการสาวสวยดังขึ้นอีกครั้ง


         “ช่วงสุดท้ายนะคะ ขอเชิญมิสเตอร์เครตั้นถ่ายรูปร่วมกับศิลปินค่ะ”


         ชาวีและปมุตเดินไปที่กลางเวทีอีกครั้งเพื่อถ่ายรูปตามธรรมเนียมปฎิบัติ และเมื่อเจ้าของงานมองเห็นใบหน้าของ

ปมุตชัดเจนดวงตาสีน้ำข้าวก็ถึงกับเบิกกว้างแทบถลนออกมา ปากหนาเผยอค้าง


         “ราฟ!”


         ปมุตอึดอัดกับสายตาเจ้าของงานเสียเหลือเกินเมื่อฝรั่งคนนั้นเอาแต่จ้องมองเขาไม่วางตา แต่เพราะเป็นศิลปินที่

รับเงินมารับเพลงในงานปมุตจึงได้แต่คลี่ยิ้มเท่านั้นจนกระทั่งงานจบลงเขาจึงได้เดินลงเวที


         “เดี๋ยวก่อน”


         ท่อนแขนถูกรั้งไว้ปมุตจึงจำเป็นต้องหยุดเดินพลางหันไปมอง ฝรั่งที่ชื่อแดเนียลยังไม่เลิกมองหน้าเขา


         “มีอะไรหรือครับ มิสเตอร์เครตั้น” ปมุตถามอย่างรักษามารยาทพลางหันรีหันขวางหาตัวช่วย มองเห็นชาวีกำลังอยู่

ในวงล้อมของแฟนคลับจะเรียกก็เรียกไม่ได้ ปมุตจึงปลดแขนตนเองออกจากการยึดเหนี่ยวอย่างรักษามารยาทที่สุด


         “คุณชื่ออะไร”


         “ผมชื่อปมุต” พยายามตอบให้ได้สั้นที่สุด “ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ”


         “ปมุต” แดเนียลยังคงจ้องมองแผ่นหลังนักร้องหนุ่มที่เดินจากไปไม่เลิกรา มือหนาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาทันที


         “สวัสดี คุณเป็นเออาร์ของนักร้องที่ชื่อปมุตใช่ไหม ผมคือแดเนียล เครตั้นเจ้าของดีเคพร็อพเพอร์ตี้    ที่เขามาร้อง

เพลงวันนี้ ถ้าผมต้องการให้เขามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับคอนโดที่ผมกำลังจะเปิดตัวผมจะต้องใช้เงินสักเท่าไหร่ว่ามา

เลย”










         โนเอลกำลังหงุดหงิด มือเรียวหมุนปากกาแก้เครียดเมื่องานที่ทำอยู่เกิดปัญหา เขาจำเป็นต้องอยู่ที่ออฟฟิศต่อ

แม้ว่าจะเลยเวลาเลิกงานมานานและลูกน้องของเขาก็กลับบ้านไปกันหมดแล้ว เมื่อเอเยนซี่แถบยุโรปต้องการเห็นภาพ

ตัวอย่างเสื้อผ้าแบรนด์ที่โนเอลใช้ผ้าไทยผลิตขึ้นมาอย่างด่วนจี๋ โนเอลไม่สามารถหานายแบบคนไหนมาเป็นนายแบบให้

ได้อย่างปัจจุบันทันด่วนแบบนี้

         เสียงประตูถูกผลักก่อนคนเปิดจะก้าวมาให้เขาเห็นเต็มๆตัว ไอ้เด็กปากเสียยิ้มอวดฟันขาวมาตั้งแต่ประตูหน้าห้อง

จนถึงโต๊ะของเขา


         “หน้าบูดเป็นตูดลิง”


         “ฟังไม่รู้เรื่อง” ภาษาไทยยากๆโนเอลก็ยังไม่แตกฉานนัก เขาโบกมือไปมาไล่ชาวี


         “อย่าเพิ่งกวนคนกำลังหงุดหงิด”


         “เป็นอะไรล่ะคุณ” ชาวียิ้มหน้าเป็นใส่ “โรคจิตหรือไง”


         “โรคจิตอะไร” โนเอลชักงง


         “ก็โรคจิตหงุดเงี้ยวไงล่ะ รักษาไม่ยากหรอกผมอาสารักษาให้เอง”


         คราวนี้โนเอลทำหน้าเอ๋อเมื่อเจอลูกเล่นจากหนุ่มไทยเข้า เขาเอียงหน้ามองชาวีแทนคำถามจนชาวีหัวเราะเบาๆ

พลางเดินอ้อมโต๊ะมาหยุดอยู่ใกล้ๆ แล้วค้อมตัวลงจนปากอยู่ระดับเดียวกับหูของโนเอล


         “เขาเรียกคำผวน จิตหงุดเงี้ยวก็เจี๊ยวหงุดหงิด มามะผมรักษาให้เอง”


         “ไอ้บ้า” โนเอลผลักไหล่ชาวีพลางทำหน้าง้ำ


         “คนกำลังหงุดหงิดเพราะเจองานด่วนยังจะมาทำเสียเวลาอีก”


         ชาวีเลิกคิ้วเมื่อเห็นท่าทางเคร่งเครียดของโนเอล เขาเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังแล้วบีบไหล่โนเอลเบาๆ


         “งานอะไรด่วนขนาดนั้นล่ะครับโนเอล มีอะไรให้ผมช่วยไหมผมจะได้เก็บคะแนนความนิยมจากคุณ”


         โนเอลเบิกตากว้าง เขาผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วหันกลับไปมองชาวีตั้งแต่หัวจรดเท้า


         “ชิท ทำไม่ไม่นึกถึงมึงเลยวะ มึงช่วยได้แน่ถ้าทำได้ดีกูให้คะแนนพิเศษเลยเอ้า”


         โนเอลรีบก้าวไปห้องเก็บเสื้อผ้าแล้วหอบกลับมากองใหญ่


         “ต้องรีบถ่ายรูปคอลเลคชั่นผ้าไหมไทยส่งไปให้เอเยนซี่ที่อิตาลีก่อนเช้าพรุ่งนี้ มาเป็นนายแบบให้กูหน่อย”


         “แล้วทำไมคุณไม่ถ่ายเอง คุณก็เป็นนายแบบ”


         “เอ๊า กูจะถ่ายรูปตัวเองได้ไงวะ ถามไม่คิด มานี่ไอ้เด็กปากเสียมาทำผม”


         โนเอลลากชาวีมานั่งตรงโซฟาแล้วเซ็ทผมอย่างรวดเร็ว เพราะความที่เป็นอดีตนายแบบและโมเดลลิงไม่ใช่เรื่อง

ยากที่ต้องจัดการเรื่องทรงผมและหน้าตา ไม่นานนักชาวีก็พร้อมที่จะถ่ายรูป


         “คุณถ่ายรูปเป็นด้วยหรือ” ชาวีเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อโนเอลพาเขามาที่สตูดิโอว่างเปล่าไร้คนทำงาน


         “กว่าจะมายืนอยู่จุดนี้ได้ กูผ่านอะไรมาเยอะจนคิดไม่ถึงเชียวละ”


         โนเอลส่งยิ้มให้ชาวีอย่างลืมตัวในขณะที่กำลังทำงานที่เขารัก ใบหน้าหล่อเหลายามยิ้มแย้มนั้นกระชากหัวใจชาวี

จนต้องถอนหายใจออกมา


         สงสัยว่าจะหลงรักฝรั่งปากจัดคนนี้เข้าจริงๆเสียแล้วชาวีเอ๋ย


         โนเอลใช้เวลาจัดแสงไม่นานนักเขาก็เรียกชาวีให้มายืนในชุดแรก ใบหน้าคมเข้มอย่างชายไทยแท้ๆช่างเหมาะ

เจาะกับชุดของเขา ชาวีโพสท่าได้เป็นอย่างดีเมื่อโนเอลมองผ่านเลนส์กล้อง ผู้ชายตรงหน้ากำลังทำให้เขาหวั่นไหว

เหลือเกิน


         “ชุดสุดท้ายแล้ว ชุดนี้ต้องถอดเสื้อโชว์ท่อนบน”


         โนเอลเดินไปหานายแบบจำเป็น เขาถอดเสื้อของชาวีออกอวดมัดกล้ามเนื้อที่เรียงตัวสวยงาม เขาดันชาวีให้นั่งลง

บนโซฟาตัวเล็กสำหรับประกอบอยู่ในฉาก


         “ต้องลงน้ำมันให้เงาสะท้อนแสงหน่อย”


         โนเอลเดินไปคว้าขวดน้ำมันสำหรับทาตัวนายแบบแล้วกลับมายื่นให้ชาวี


         “ทาตัวสิ”


         “ทาให้หน่อยสิ ผมจะรู้ได้ไงว่าตากล้องต้องการแค่ไหน”


         โนเอลหน้าร้อนซู่เมื่อเห็นประกายตาระยิบระยับของชาวี ไอ้เด็กบ้านี่ทำให้หัวใจของเขาเต้นโครมครามไปหมด

ดูสิ ดูมันทำ

          ชาวีเอนกายลงครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่ตรงที่วางแขนของโซฟาอวดซิกแพคเป็นลอนให้เขากลืนน้ำลาย ท่อนล่างมี

เพียงกางเกงผ้าไหมพอดีตัวจนเห็นรอยโป่งนูนอยู่ตรงนั้น แถมไอ้เด็กบ้ายังมองเขาด้วยดวงตาฉ่ำเหลือเกิน


         ไม่ได้ งานต้องเป็นงาน


         โนเอลเทน้ำมันใส่มือแล้วค่อยๆลูบไล้ไปตามแผ่นอกหนา เขาก้มหน้าไม่ยอมสบตาเพราะรู้ว่าชาวีจ้องมองเขาตา

เป็นมัน


         “ทาแค่นั้นเมื่อไหร่น้ำมันของคุณมันจะซึมเข้าไปให้มันเงาสะท้อนแสงได้ล่ะโนเอล”


         ชาวีเอื้อมมือมาวางอยู่บนมือของเขาแล้วบังคับให้ถูไถหนักหน่วง โนเอลรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวที่ใกล้เข้ามา

เรื่อยๆ


         “คุณต้องการผมใช่ไหมโนเอล” ชาวีดึงแขนโนเอลเข้ามาใกล้จนกระซิบข้างหูได้


         “พูดอะไรอย่างนั้น ไม่จริง” อดีตนายแบบแทบจะกัดลิ้นตัวเองเมื่อน้ำเสียงนั้นสั่นไหวเหลือเกิน


         “ดวงตาของคุณหลังเลนส์กล้องมันบอกผม จะปฏิเสธทำไม หืม”



        ชาวีฝังจมูกลงที่ซอกคอก่อนจะลากมันมาหยุดแล้วเม้มริมฝีปากล่างของโนเอลแผ่วเบา โนเอล พยายามผละปาก

หนีแต่ชาวีก็ยังตามมาตอแยจนโนเอลต้องเผยอปากรับให้ชาวีจูบจนได้ ร่างผอมเพรียวของเขาทับอยู่บนลำตัวของชาวีที่

สอดมือไว้ตรงบั้นเอวเพื่อบังคับให้เขาอยู่นิ่งในขณะที่เจ้าตัวกำลังเซาะเล็มความหวานอยู่ในโพรงปากอย่างติดใจ  นาน

จนไม่รู้ว่าผ่านไปกี่นาทีกว่าจะรู้สึกตัวโนเอลก็อ่อนระทวยอยู่ในอ้อมกอดนั้น


         “จะถ่ายรูปก่อนไหมครับโนเอล เดี๋ยวงานไม่เสร็จนะ” ชาวีล้อเลียนพร้อมนัยน์ตากรุ้มกริ่มมองหน้าโนเอลที่ผ่อนลม

หายใจอยู่บนตัวของเขา โนเอลเม้มปากอย่างขัดใจ


         “ฟัค ช่างแม่งงานมันเถอะ กูกำลัง เอ้อ อยากนะ”


         ชาวีทำตาโต


         “ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ย คุณจะให้ผมช่วยใช่ปะ”


         โนเอลมองชาวีตาคว่ำ อยากจะบีบคอให้ตายคามือนัก ก็ใครล่ะที่เริ่มต้น


         “จะทำไม่ทำ ไม่ทำก็จะไปหาคนอื่น”


         “โนเอล” ชาวีเรียกเสียงหวานพลางพลิกตัวให้โนเอลเป็นฝ่ายนอนหงายอยู่บนโซฟาตัวเล็ก นิ้วมือของเขาลูบไล้

ไปตามสาบเสื้อเชิ้ตแล้วปลดกระดุมออกอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวโนเอลจะเปลี่ยนใจ


         “ไม่มีทางที่ผมจะปล่อยคุณไปหาคนอื่นหรอกนะ คุณก็รู้ว่าผมอยากทำคุณแค่ไหน”


         เสื้อเชิ้ตถูกดึงออกจากตัว ตามติดด้วยกางเกงจนเหลือแต่รูปร่างสมส่วนอวดแสงไฟกลางสตูดิโอ ชาวีจ้องมอง

อย่างหลงใหลก่อนเขาจะถอดกางเกงตัวเองออก


         “ระวัง อย่าให้กางเกงยับ ยังไม่ได้ถ่ายรูปเลย” โนเอลร้องเสียงหลงจนชาวีได้แต่ส่ายหน้ากับความบ้างานของโน

เอล ไม่นานนักชาวีก็ก้าวขึ้นไปนั่งอยู่ตรงปลายเท้า เขาใช้มือจับมันไว้แล้วยกอ้าออกก่อนขยับตัวไปนั่งที่ระหว่างขาของ

โนเอล


         “คิดถึงร่างกายของคุณเหลือเกินครับโนเอล”  วางมือไปบนลำตัวแล้ววาดมือร้อนผ่าวไปทั่วจน

โนเอลแทบจะหายใจไม่เป็น ชาวีโน้มตัวลงมาแตะปลายลิ้นลงกับเม็ดเล็กสีชมพูที่แข็งเป็นไตรอรับอยู่แล้ว


          “คิดถึงตรงนี้ ตรงนี้แล้วก็ตรงนี้”


         มือร้อนทาบทับไปบนจุดอ่อนไหวแล้วกระชับมือเบาๆให้โนเอลสู้มือ ยิ่งได้ยินเสียงครางแผ่วดังมาจากปากหวาน

น่าจูบชาวีก็ยิ่งได้ใจ เขากวาดลิ้นไปทั่วลำตัวจนเปียกชุ่มพลางคว้าขวดน้ำมันที่ยังอยู่ใกล้มือมาเทใส่ปลายนิ้วแล้วดันช่อง

ทางคับแคบให้เปิดกว้าง


         “อือ อื้อม ชะ ชาวี” เสียงกระเส่าไปหมดเมื่อนิ้วลื่นหมุนวนนวดเฟ้นพร้อมกับท่อนเนื้อถูกสาวรูด

ลมหายใจร้อนผ่าวไม่เป็นจังหวะจนเขาถูกดึงน้ำออกมาจนชุ่มมือของชาวี

          ชาวีเหนี่ยวตัวให้โนเอลกลิ้งตกลงมาจากโซฟาตัวเล็ก ทั้งคู่นอนกอดก่ายกันอยู่บนพื้นพรมหนา แสงไฟจากสปอร์ต

ไลท์กำลังแรงทำให้เหงื่อไหลซึมออกมาแต่ก็ไม่มีใครสนใจเมื่อชาวีทาบกายชุ่มน้ำมันถูไถอยู่บนตัวของโนเอล

         ท่อนเนื้อแข็งขันจนเห็นเส้นเลือดปูนโปนส่งปลายบานเข้าไปในช่องทางฉ่ำชื้น ชาวีกัดฟันรับการตอดรัด เขาดัน

เอวเข้าไปช้าๆจนสุดทางก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด


         “ตอดชะมัดเลยคุณ ดีนะไม่ล่มปากอ่าว”


         “อ่อนหัด” โนเอลค่อนแคะจนชาวีเบิกตากว้าง


         “คุณว่าใครอ่อนหัด เดี๋ยวเหอะ เดี๋ยวได้รู้กัน”


         ชาวีก้มลงไปปิดปากช่างพูดไว้ด้วยปากของเขา ลิ้นร้อนสอดลึกทั้งเร่าร้อนและหนักหน่วงพร้อมกันกับเอวที่เริ่ม

ขยับช้าๆดึงออกมาแล้วแทงกลับเข้าไปใหม่


         “อื้ม อ๊า”


         ลึกมาก แน่นมาก จนโนเอลต้องอ้าขาตัวเองให้กว้าง ชาวีใส่ไม่ยั้งจนตัวเขาถูไถไปกับพื้นพรม หน้าท้องแกร่งเบียด

ทับแก่นกลางของโนเอลให้ยิ่งพองฟู โนเอลผวาเข้ากอดไหล่หนาเมื่อกล้ามเนื้อของเขากระตุกถี่ยิบ


         “ฮัก ฮัก โอ๊ะ”


         ปลดปล่อยออกมาอีกรอบ คราวนี้ชาวีเร่งเครื่องจนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นก่อนจะแช่นิ่งเมื่อเขาเองฉีดอัดเข้าไป

ในช่องทางคับแคบนั่น แล้วชาวีก็ทิ้งตัวลงไปซบอยู่บนร่างเปลือยเปล่าของโนเอล


         “โอยคุณ จะตอดอะไรนักหนานี่ดูดน้ำผมไปหมดตัวแล้ว”


         ชาวีครางลึกเมื่อช่องทางนั้นยังบีบรัด เขาเป่าปากฟู่เมื่อขยับตัวดึงเอวจนหลุดออกมา น้ำคาวไหลพุ่งตามจนเปียก

รดพื้นพรม


         “สมน้ำหน้า” โนเอลหัวเราะเสียงใส เขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงแขนชาวีให้ลุกตาม


         “เสร็จแล้วก็ทำงานต่อ”


         “โนเอลลลล” ชาวีโคลงหัวกับความบ้างานของโนเอล “แต่เราเพิ่งจะปล้ำกันเสร็จนะครับ”


         “รู้แล้วน่า ตอนนี้แหละนายดูหล่อมากเลยรู้ไหม”


         โนเอลจับชาวีใส่กางเกงตัวเดิมแล้วจัดท่าให้เขาครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่บนโซฟา แล้วคว้ากล้องมากดถ่ายรัวๆ จน

กระทั่งพอใจเขาจึงได้นำรูปถ่ายไปใส่ในโปรแกรมโฟโต้ช็อป ชาวีได้แต่ยกมือหนุนหัวนอนมองเมื่อโนเอลพุ่งความสนใจ

อยู่ที่ภาพในจอคอมพิวเตอร์ทั้งที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแม้แต่ชิ้นเดียว


         “บิงโก ส่งเมล์แล้ว”




    โนเอลยิ้มอย่างพออกพอใจจนชาวีต้องลุกขึ้นมายืนซ้อนหลังเก้าอี้ที่โนเอลนั่ง เขามองภาพตัวเองในคอมพิวเตอร์

อย่างไม่อยากจะเชื่อฝีมือโนเอล





ต่อกันอีกนิด

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-03-2015 13:28:38
ต่อกันตรงนี้




          ก็เขาน่ะ เซ็กซี่ขนาดนี้เลยหรือ ชาวีเห็นตัวเองในกางเกงผ้าไหมตัวเดียวเอนกายไปกับพนักพิงของโซฟาตัวเล็ก

ยกมือข้างหนึ่งเสยผมยุ่งๆอวดช่วงตัวที่มีแต่ลอนกล้ามเนื้อและเหงื่อชื้นท่อนขาแกร่งวางพาดยาวไปกับโซฟาอวดท่อนลำ

ที่ยังแข็งขืนให้เบียดกางเกงผ้าไหมขึ้นมา ดวงตาที่มองมาทางกล้องเต็มไปด้วยความต้องการ เขาไม่เคยเห็นใครถ่ายรูป

เขาได้ดีขนาดนี้มาก่อน ชาวีก้มหน้ามอง โนเอลอย่างนึกทึ่ง


         “คุณนี่เก่งกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลย”


         “ถือว่าเป็นคำชมนะ” โนเอลยิ้มกริ่ม


         “คุณกำลังทำให้ผมยิ่งหลงรักคุณมากขึ้นไปอีก” ชาวีบ่นพึมพำแต่โนเอลกลับได้ยิน เขาเงยหน้าขึ้นมองสบตาชาวี


         “พูดว่าอะไรนะ” โนเอลถามย้ำ ชาวีดึงแขนเรียวให้ลุกจากเก้าอี้แล้วสอดมือไปรอบเอวดึงโนเอลเข้ามากอด


         “ผมเป็นคนซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองนะโนเอล ผมบอกว่าผมกำลังตกหลุมรักคุณเข้าแล้วล่ะ”


         โนเอลนิ่งงัน ใช่ว่าชีวิตนี้เขาไม่เคยมีแฟน ผู้หญิงมากหน้าหลายตาที่ผ่านมากลับไม่เคยพูดกับเขาแบบนี้ แต่กลับ

มาได้ยินจากปากผู้ชายคนหนึ่งที่โนเอลไม่เคยคาดคิด หัวใจที่โหยหาความรักเต้นโครมครามจนกลัวว่าจะหลุดออกมา


         “กูไม่ใช่เกย์ ไม่เคยคิดว่าจะรักกับผู้ชายด้วยกัน” น้ำเสียงแผ่วหลุดออกมาจากปากอิ่ม ชาวียักไหล่


         “ก็ไม่ได้จะให้เป็นเกย์ ก็แค่รักผมที่เป็นผู้ชายเหมือนคุณ” ชาวีกดจูบไปที่กลีบปากแผ่วเบา


         “ให้ผมทำให้คุณมีความสุขอย่างเมื่อครู่ ได้ไหมครับโนเอล”


         โนเอลกำลังสับสน ทั้งที่เขาเองก็รู้ว่าความกระวนกระวายเวลาไม่เห็นหน้าชาวีมันเป็นเพราะความ

คิดถึงนั่นเอง เขาควรจะยอมรับหรือเปล่าว่าความรู้สึกของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับชาวีเลย


         “ก็ถ้ายอมรับล่ะ”


         “คุณก็จะรู้จักคำว่าความสุขไงล่ะ ตาแก่ปากแข็ง”


         ชาวีแนบมือไปกับท้ายทอยของโนเอลแล้วบังคับให้รับจูบจากเขา ต้นขาแข็งแรงเบียดแนบอยู่กับสะโพกเปลือย

ปลุกเร้าให้ร่างกายตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ชาวีโอบรัดเอวของโนเอลแล้วอุ้มขึ้นมาทั้งที่ยังจูบหนักหน่วง เขาพาโนเอลกลับไปใน

ห้องทำงานแล้ววางร่างเพรียวนั้นลงกับโซฟากว้างก่อนทิ้งกายทาบทับ


         “จะเอาอีกแล้วหรือ ตะกี้เพิ่งเสร็จไปนะ” โนเอลครางหนักเมื่อชาวีปรนจูบไปทั้งตัว กางเกงผ้าไหมถูกถอดแล้วโยน

ทิ้งอย่างไม่ใยดี


         “ก็อยากทำอีกง่ะ”


         “ไอ้เด็กหื่นกาม”


         เสียงหัวเราะดังขึ้นจากชาวีที่ก้มไปดูดกลืนโนเอลน้อยเอาไว้


         “ก็บอกแล้วว่าเมื่อไหร่ที่ยอมจะทำจนฟ้าเหลืองเลย”


          “กูจะตายก่อนไหม อ๊ะ”


         โนเอลผวาเมื่อช่องทางที่ยังชื้นถูกสอดใส่เข้าไปอีกครั้ง


         “เป็นแฟนกันห้ามใช้คำหยาบอีกนะครับ ไหนลองเรียกผมว่าชาวีจ๋าหน่อยสิครับ”


         “ไม่มีทาง อื้ออออ”


         เสียงกระเส่าดังลั่นเมื่อท่อนเนื้อกระแทกจุดอ่อนไหวอยู่ภายใน โนเอลกลั้นใจเมื่อร่างกายตอบรับชาวีที่กำลัง

กระแทกกระทั้นไม่ผ่อนแรง


         “อา อะ ชาวี เสียวมาก ตรงนั้น”


         “ตรงไหน ตรงนี้เหรอ” ราวกับจะแกล้ง ชาวีหมุนวนท่อนเนื้อไปย้ำจนโนเอลแทบขาดใจ


         “ชาวี ชาวีครับ อย่าแกล้งกัน”


         “ชาวีจ๋า” ชาวีตอกย้ำ


         “ชะ ชาวีจ๋า ชาวี อ๊า”


         โนเอลปล่อยเสียงหวานยาวนานเมื่อถูกกระชากขึ้นสวรรค์ เขาแทบหมดแรงแต่ชาวีก็ยังไม่ปล่อยให้เขาได้พัก


         “ฟ้ายังมืดอยู่เลยครับโนเอล” เสียงกระซิบดังอยู่ข้างหูทุกครั้งที่ชาวีเริ่มต้นใหม่ ก่อนที่เขาจะหมดแรงหลับไปใน

อ้อมกอดของชาวี


                   ---------------------โปรดติดตามตอนต่อไป---------------------


ฝากนิยายสักหนึ่งเรื่อง ใครชอบแนวคำสาปสมัยอียิปต์แล้วกลับชาติมาเกิดใหม่

ก็อ่านเรื่องนี้ได้เลยนะคะ อาจจะไม่แรงไม่เรท แต่คนแต่งตั้งใจจริงๆนะคะ


คำสาปร้ายพ่ายรัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45868.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45868.0)
         
         
         
         
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-03-2015 13:44:51
 :ling1: :ling1: :ling1: :hao6: :hao6: :hao6: :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 24-03-2015 13:55:17
เดี๋ยวแดเนียลได้ตามตอแยน้องป้อง ~.~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 24-03-2015 14:04:18
ขอใช้คำว่า อีเดียด แดเนียล แต่ชาวี เด็กน้อย ละอ่อนน้อย 555 หลงเสน่ห์โนเอลละสิ คิคิ คู่นี้น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-03-2015 15:15:21
ง่าาา.   ฟินจุง เค้าลางมาม่ากำลังจะมาแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 24-03-2015 21:14:11
คู่นี้เรียกเลือดมาก
จะเป็นลม
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 24-03-2015 21:55:20
เลือดหมดตัวแล้วคร่าาาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 24-03-2015 22:32:55
งือออ  :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-03-2015 00:13:10
เป็นแฟนกันแล้ว เสร็จชาวีจนได้นะโนแอล
ส่วนอิแดเนียล ไปไกลๆๆ ชิ้วๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 25-03-2015 01:24:21
โนเอลน่ารักกกกกกกกกกกมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 25-03-2015 02:05:08
จะเปงไงนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 25-03-2015 07:51:32
ไม่เด็กน้อยแล้วแรงนะเนี่ย  :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-03-2015 08:20:34
โนเอลนี่แบบ ใสซื่อไปอีก5555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 25-03-2015 13:53:11
แดเนียล มันมาแล้ว (เห็นแค่ชื่อยังเกรียด)

ชูป้ายชื่อ ชาวีxโนเอล ชอบๆๆๆๆ เขาชอบคู่นี้ อ่านวนสองรอบเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 26-03-2015 20:24:44
รู้สึกหนัก ๆ หน่วง ๆ เพราะความหวานของพี่วีและโนเอล   :jul1: 


ไอ้แดนมันกลับมาแล้ว  คราวนี้ล่ะ  พี่ปราบคงไม่ปล่อยให้มันลอยนวลแน่  ใช่ไหมคะ  จัดการแทนพี่โมกขไปเลย   :m16: เริ่มจะมาทำเลวกับน้องป้องแล้ว  ไอ้แดเนียลสมควรโดน   :z6: :beat:  อย่างสาสม


รอตอนต่อไปค่ะ



 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 27-03-2015 22:33:20
แดเนียลกลับมาแล้ว กลัวดราม่า  :ling3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 29-03-2015 12:51:36
โถ โนเอล ที่แท้ก็รอชาวีมาเป็นเนื้อคู่อยู่นี่เอง

อิแดเนียลอย่ายุ่งกับป้องนะเว๊ยยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 30-03-2015 00:29:52
ปราบ สู้ๆ จัดไอแดนให้หนักๆเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 01-04-2015 19:51:08

โนเอลใจอ่อนแล้วเหยอออ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Yumyumsdoll ที่ 01-04-2015 21:53:10
อยากอ่านอีกกกกกกกกก มาต่อเร็วๆนะคะ เราติดนิยาย ตัวมากเลยอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 29 ( 24 / 03 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: tiktok ที่ 03-04-2015 14:08:36
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-04-2015 14:28:43

                                                          เพลิงพ่าย

                                                          บทที่ 30


            “อะไรนะครับเจ้ต่าย พรีเซ็นเตอร์คอนโด ผมนี่น่ะหรือ”


            ปมุตถามอย่างแปลกใจกับสาวประเภทสองรุ่นใหญ่ที่เป็นคนดูแลงานของศิลปินในค่าย เมื่อได้รับแจ้งว่ามีคน

ติดต่อให้เขาเป็นพรีเซ็นเตอร์หลักของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้


            “ใช่น่ะสิป้อง เขาระบุมาเลยนะว่าต้องเป็นป้องคนเดียวเท่านั้นทั้งพับแอดทั้งแม็กกาซีนแล้วก็งานโชว์ตัวด้วยแถม

ยังทุ่มทุนไม่อั้นอีกต่างหาก ได้งานใหญ่แล้วรู้ไหมเราน่ะ”


            เจ้ต่ายตอบอย่างเอ็นดูในขณะที่ปมุตยังดูงงงันกับงานใหญ่ชิ้นนี้ของเจ้ต่าย


            “เดี๋ยวอีกสักพักเจ้าของคอนโดกับทีมทำโฆษณาจะมาเซ็นสัญญาที่ค่ายนี่แหละ ถ้าพวกเขามาถึงเจ้จะโทรตาม

นะ”


            เจ้ต่ายปล่อยให้ปมุตเข้าห้องอัดเสียงไปอัดเพลงใหม่ แต่หลังจากนั้นสักพักเขาก็ถูกตามตัวไปที่ห้องประชุมเล็ก

เมื่อกวาดตามองคนที่นั่งอยู่ภายในห้องประชุม ปมุจจึงได้สะดุดตาเข้ากับชายชาวต่างชาติคนหนึ่งที่เคยพบมาแล้วไม่กี่วัน

ที่ผ่านมา


            “มิสเตอร์เครตั้น”


            เอ่ยปากทักพลางยิ้มอ่อนตามมารยาท ทันได้เห็นนัยน์ตาคู่นั้นวาววับก่อนจะกลับเป็นปกติ มันทำให้ปมุตสังหรณ์

ใจขึ้นมาครามครัน ปมุตเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้เขาอาจจะคิดมากเกินไปก็ได้

            เมื่อเดินมานั่งข้างเจ้ต่ายแล้วการชี้แจงสัญญาก็เริ่มต้น ทีมงานจากบริษัทโฆษณาชั้นนำทำงานกันอย่างมีระบบ

ปมุตจะได้ถ่ายโฆษณาทางโทรทัศน์และภาพนิ่งลงในนิตยสารอีกหลายเล่มรวมไปถึงงานโชว์ตัวเมื่อคอนโดเปิดขาย

รวมๆแล้วปมุตจะมีรายได้จำนวนไม่น้อยมันทำให้หนุ่มน้อยตาโต

            ไม่ใช่ว่าเขาจะเห็นแก่เงิน แต่ในช่วงวิกฤติของครอบครัวที่บิดาสร้างขึ้นเงินค่าจ้างที่กำลังจะได้เหล่านี้ถือว่า

สำคัญมาก แม้ว่าเจ้าหนี้จะเป็นปราบแต่ปมุตก็ไม่อยากจะปล่อยเรื่องให้ผ่านเลยไปเพียงเพราะว่าปราบรักเขา

            ความหวังที่มีทำให้ดวงตางดงามเปล่งประกายยิ่งกว่าเก่า ใบหน้าหวานของหนุ่มน้อยลูกเสี้ยวยิ่งหวานฉ่ำจน

แดเนียลตาลาย

            หนุ่มน้อยคนนี้คือราฟาเอลของเขาชัดๆ

            ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องมองนักร้องหนุ่มไม่วางตา เขานึกขอบคุณที่พระเจ้ายังไม่เล่นตลกกับชีวิตเขาไปเสียทุกเรื่อง

การตัดสินใจมาธุรกิจแถบเอเชียทำให้เขาค้นพบของดีเข้าอย่างคาดไม่ถึง


            “ผมได้มีโอกาสฟังเพลงของคุณแล้ว เสียงของคุณไพเราะมาก”


            แดเนียลเอ่ยชมเมื่อถึงเวลาพักเบรกการประชุม ปมุตหัวเราะเบาๆรับคำชมจากนายจ้างคนใหม่


            “ผมไม่นึกว่าคุณฟังภาษาไทยออกด้วย”


            “อย่างน้อยก็ฟังออกจนชื่นชมเพลงของคุณได้”


            ฝรั่งที่ตัวสูงพอๆกับปมุตพูดด้วยภาษาไทยแปร่งๆ


            “ก่อนจะมาเริ่มธุรกิจที่นี่ผมก็ศึกษาภาษาไทยมาพอสมควร”


            แดเนียลนึกถึงเจ้าของภาษาที่เคยอาศัยอยู่ในบ้านเดียวกันสมัยเมื่อครั้งวัยเยาว์ การที่ต้องอยู่ร่วมกับคนไทยถึง

สองคนมานานทำให้เขาเรียนรู้ที่จะพูดได้และฟังออก แต่เขาก็ไม่ได้นึกขอบคุณเป็นพิเศษหรอกนะ การจากลาด้วยความ

เลวร้ายที่ต้องสูญเสียราฟาเอลไป ทำให้เขายังชิงชังปราบอยู่เสมอ


            “ขอบคุณนะครับที่คุณชอบ”

           ปมุตเอ่ยจากใจจริง เขาอาจจะคิดมากไปเองเรื่องความสังหรณ์ใจเกี่ยวกับแดเนียล เมื่อได้พูดคุยกันแล้ว

แดเนียลก็ไม่ได้มีความผิดปกติอันใดให้เห็น

            การประชุมผ่านพ้นไปจนลุล่วงเมื่อเวลาผ่านไปจนเย็นแล้ว ทุกคนจึงได้เอ่ยปากอำลาซึ่งกัน


            “ให้ผมได้เลี้ยงอาหารเย็นคุณสักมื้อได้ไหม” แดเนียลเอ่ยปากขณะเดินไปขึ้นรถยุโรปที่มีคนขับรถจอดมารออยู่

แล้วที่หน้าบริษัท


            “ขอบคุณสำหรับโอกาสอันดีครับมิสเตอร์เครตั้น…”


            “เรียกผมว่าแดเนียลเถอะปมุต”


            “เอ่อ ครับ แดเนียล แต่ผมคงต้องขออภัยที่วันนี้ผมมีธุระ”


            ปมุตกล่าวปฏิเสธอย่างนิ่มนวล แดเนียลมองกรอบหน้างดงามอย่างเผลอไผล


            ไม่มีอะไรที่แดเนียลอยากได้แล้วจะไม่ได้มา แดเนียลสามารถทำได้ทุกวิถีทางอยู่แล้ว ดวงตาสีน้ำข้าวจ้องมอง

ปมุตอย่างหมายมาด วันนี้เป็นแค่วันเริ่มต้นที่จะก้าวเข้าหาหนุ่มน้อยตรงหน้าด้วยช่องทางของธุรกิจ เชื่อเถอะว่าอีกไม่นาน

เขาจะได้เชยชมปมุต


            “งั้นก็ได้ ถึงยังไงเราก็ยังต้องทำงานด้วยกันไปอีกนาน หวังว่าคงมีสักวันที่ผมจะได้มีโอกาสนั้น”


            แดเนียลก้าวขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังของรถยนต์ ปมุตไม่ทันเห็นดวงตากระหายคู่นั้นที่ยังเอี้ยวตัวมองมายังเขา

แม้ว่ารถยนต์จะขับเคลื่อนออกไปแล้วเพราะว่าหลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาทีก็มีรถสปอร์ตขับมาจอดเทียบอยู่กับเขา เมื่อเห็น

คนขับที่มองผ่านกระจกปมุตก็คลี่ยิ้มออกมา


            “พี่เดี่ยว”


            ร่างสูงสง่าที่ลงมาจากรถสปอร์ตเพื่อมาเปิดประตูให้ปมุตได้ก้าวขึ้นไปนั่งในฝั่งด้านข้างคนขับ ทำให้ดวงตาของ

แดเนียลที่ยังคงมองจากระยะไกลจากรถยนต์ของเขาต้องเพ่งมองจนกระทั่งมันเลือนหายลับตา

            แม้จะมองเห็นไม่ชัดแต่แผ่นหลังที่อยู่ในสูทสีดำนั่นช่างคุ้นตาเหลือเกิน

            เขากัดริมฝีปากตัวเองไว้เพื่อระงับอารมณ์

            สังหรณ์ใจว่าการคว้านักร้องหนุ่มมาบำเรอความสุขนั้น อาจจะมีเรื่องให้สนุกได้มากกว่าที่คิด

            ความเกลียดชังใครคนหนึ่งตั้งแต่ครั้งยังวัยรุ่นอาจจะได้ชำระล้างไปพร้อมๆกัน                 

            ดวงตาสีน้ำข้าวเบิกโพลงเมื่อคิดถึงใบหน้าของ ปราบ ปริวัตร!











            “อาหารอร่อยถูกใจหรือเปล่า”

            ปราบเอ่ยถามขณะที่เดินเคียงคู่มากับปมุตจนถึงหน้าห้อง

            “อร่อยมากเลยครับ ไว้คราวหน้าป้องจะไปเลี้ยงพี่เดี่ยวคืนบ้าง รอให้ป้องได้เงินค่าจ้างโฆษณาก่อนนะ”

            “ป้องครับ”

            ปราบดึงเอวคอดของปมุตไว้แล้วดันจนชิดประตูห้อง เขาก้มหน้าลงจูบที่หน้าผากเกลี้ยงเบาๆ


            “บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องเงินกับพี่อีก จำไม่ได้หรือไง”


            ปมุตถอนหายใจ ก่อนจะเงยหน้าสบตาพี่ชาย


            “พี่เดี่ยวจะห้ามไม่ให้ป้องคิดน่ะป้องห้ามใจตัวเองไม่ได้หรอก แต่ป้องจะพยายามไม่พูดออกมาก็แล้วกัน”


            ปราบยิ้มอย่างเอ็นดู ป้องก็ยังคงเป็นป้อง เทวดาน้อยของเขา ใจดีมีเมตตา คิดถึงคนอื่นก่อนตนเองเสมอมา สิ่ง

เหล่านี้ที่ทำให้ปราบรักปมุตจนไม่อาจตัดใจแม้ว่าเขาจะห่างหายจากปมุตไปเป็นสิบปี


            “ก็ยังดีครับ ไป เข้าไปอาบน้ำให้สบายตัวได้แล้วครับป้อง”


            ปราบหมุนลูกบิดประตูแล้วดันร่างเพรียวของปมุตเข้าไปในห้อง ความร้อนที่ต้องเผชิญมาทั้งวันทำให้ปมุตเหนียว

ตัวจนรีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำเพื่อเปิดน้ำเย็นๆชะล้างเหงื่อไคลออกไปจากร่างกาย

            ลูบไล้ฟองสบู่อย่างเพลิดเพลิน อยู่ๆประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกด้วยร่างสูงของปราบที่เดินเข้ามาด้วยร่างกาย

เปลือยเปล่ามีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันท่อนล่างไว้อย่างหมิ่นเหม่


            “พี่เดี่ยว เข้ามาทำไม”


            ปมุตร้องเอะอะเมื่อปราบเดินมาแย่งฟองน้ำถูตัวจากมือไปแล้วเป็นฝ่ายใช้มันถูไปตามร่างกายของเขา การกระ

ทำของปราบทำให้ปมุตหน้าแดงไปถึงใบหู

            แม้จะผ่านสังเวียนรักกันมาหลายครั้งแต่ปมุตก็ยังไม่ชินเสียทีกับดวงตาแพรวพราวยามมองมาที่ร่างกายของเขา

นัยน์ตาคู่นี้ช่างเป็นตัวเร่งให้ร่างกายหลั่งอะดรีนาลินออกมาจนใจเต้นโครมครามไปหมด อย่างตอนนี้ก็เช่นกัน


            “มาพิสูจน์กลิ่นว่าเด็กน้อยอาบน้ำสะอาด ไม่ลักไก่อาบลวกๆ เหมือนเมื่อตอนเด็กๆ”


            “พี่เดี๋ยว ป้องโตแล้ว”


            ปราบไม่สนใจเสียงดังที่ส่งมาประท้วง เขาดึงผ้าเช็ดตัวที่พันไว้รอบเอวโยนไปทางหนึ่งก่อนจะดันปมุตจนแผ่น

หลังแนบชิดไปกับผนังห้องน้ำ


            “โตแล้วก็ไม่ไว้ใจ ให้พี่ถูสบู่ให้ดีกว่านะ”


            มือใหญ่ที่ถือใยฟองน้ำค่อยๆถูวนไปตามเนื้อตัวขาวเนียนช้าๆ ปมุตแทบจะหยุดหายใจเมื่อฟองสบู่ลื่นผิวเริ่มลาก

ไล้ลงไปใต้ท้องน้อย ปราบโยนฟองน้ำทิ้งแล้วใช้มือตนเองถูไถไปตามซอกเร้นพลางเบียดตัวเข้าหา


            “พะ พี่เดี่ยว”


            ปมุตกลืนน้ำลายเมื่อสัมผัสนั้นกำลังปลุกเลือดในกายให้ร้อนรุ่มอยู่ภายใต้ความชุ่มฉ่ำของสายน้ำละเอียดจาก

ฝักบัวที่กระจายตัวอยู่กลางพื้นห้องน้ำ เรียวปากอิ่มเผยอออกอย่างไม่รู้ตัวเรียกร้องให้ปราบก้มหน้าลงมาประกบไว้อย่าง

แน่นหนา เอวคอดถูกรั้งเข้าหาสะโพกแข็งแรงที่ใช้ต้นขาเบียดจนปมุตรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนใหญ่โตนั้น


            “ยังอาบน้ำไม่เสร็จเลยครับ”


            ปมุตกล่าวด้วยเสียงเบาหวิวเมื่อปราบยอมปล่อยปากอิ่มให้เป็นอิสระชั่วคราว ปราบลูบไล้มือไปตามร่างนุ่มที่ยัง

เต็มไปด้วยฟองสบู่


            “พี่รอป้องอาบน้ำเสร็จไม่ไว้หรอกครับ พี่ขอเสร็จก่อนนะครับคนเก่ง”


            เอวเล็กถูกรวบแล้วจับหันหลัง ปราบกดร่างปมุตให้ก้มหน้าโก้งโค้งใช้มือดันผนังไว้ สะโพกนุ่มมือถูกปราบลูบไล้

ไปมาก่อนจะสอดนิ้วลึกเปิดทางโดยใช้ความฉ่ำชื้นจากฟองสบู่เป็นตัวช่วย ไม่นานนักปมุตก็ต้องกลั้นเสียงครางสยิวเพราะ

ปราบเริ่มดันท่อนเอ็นเปียกเข้าไปทีละนิด

            มือบางดันผนังออกแรงยันหนักข้อเมื่อปราบดันตัวเองเข้าไปจนสุดลำ ความรู้สึกคับแน่นทำให้ปมุตห่อปาก

หายใจเมื่อรู้ว่าจังหวะต่อไปปราบจะไม่ยั้งแรงอีกแล้ว ปราบวางมือแนบไปกับมือของปมุตที่ยันผนังห้องน้ำไว้ เขาดึงเอว

ออกมาจนหมิ่นเหม่แล้วจึงแทงกลับเข้าไปใหม่


            “อื้อ พี่เดี่ยว เสียวจังครับ”


            ปมุตร้องลั่นตั้งแต่ครั้งแรกและปล่อยเสียงครางแผ่วไม่หยุดหย่อน เมื่อความลื่นของฟองสบู่ทำให้ปราบขยับตัว

ได้ง่ายและลึกกว่าที่เคย ร่างกายของเขากำลังบีบรัดจนขาสั่น ปราบต้องใช้ท่อนแขนโอบเอวไว้ไม่ให้ล้มและใช้มือกอบ

กุมเจ้าน้องชายของเขารูดรั้งจนปวดหนึบไปหมด


            “อึก อะ อ๊า...”


            ปมุตเกร็งจนปากสั่นเมื่อปลดปล่อยออกมา ถึงตอนนี้เขาแทบหมดแรงยืนจนปราบต้องประคองให้เขาคว่ำหน้า

คลานสี่ขาอยู่กับพื้นเปียกน้ำ


            “ขออีกนิดนะครับป้อง พี่ใกล้จะแตกแล้ว”


            เสียงครางลึกดังติดตามมาเมื่อปราบที่ทรงตัวอยู่บนเข่าสองข้างเริ่มขยับเขยื้อนอีกครั้ง มือหนาดึงสะโพกกลม

กลึงให้แนบชิดเข้ามายิ่งขึ้นเมื่อเขากดลึกและควงแท่งร้อนอยู่ภายในช่องทางตอดรัด


            “ดีครับป้อง อย่างนั้น ดีมาก”


            ปมุตดันก้นเข้าหาพลางส่ายรับแท่งร้อน แรงเสียดทานเร่งเร้าอารมณ์ปมุตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อสิ่งแปลกปลอมสัมผัส

กับจุดกระสันที่อยู่ภายใน ดูเหมือนปราบจะรู้จักร่างกายของเขาดีเหลือเกิน


            “อะ อื้อ พี่เดี่ยวครับ เสียวเหลือเกิน”


            “พี่ก็เสียวครับป้อง อืม ทั้งขมิบทั้งตอดแบบนั้นจะเร่งให้พี่พาขึ้นสวรรค์อีกรอบใช่ไหม”


            เสียงครางต่ำอย่างถูกใจดังมาจากปราบที่อยู่ด้านหลัง ปมุตวางแขนเรียวไปกับพื้นห้อง โหย่งสะโพกขึ้นสูงเมื่อ

ท่อนเนื้อใหญ่เริ่มดันกายเข้าออก มือของปราบยึดอยู่กับเอวของเขาเพื่อช่วยดึงให้ปมุตเด้งเอวสวนกลับตอบรับการบุก

ทะลวงอย่างไม่ออมแรง ปราบหอบหายใจถี่พลางทิ้งตัวลงไปกอดรัดร่างเพรียวเมื่อฉีดอัดน้ำรักเข้าไปในร่างกายของ

ปมุต เขาดึงใบหน้าหวานมาปรนจูบหนักหน่วงอีกครั้ง




            ปมุตหมดแรงจนปราบต้องอุ้มร่างกายที่มีเพียงผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มออกมาวางอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ก่อนจะทิ้งตัวเปล่า

ปราศจากแม้แต่ผ้าพันลงไปนอนเคียงข้าง ปราบไล่นิ้วไปตามกรอบหน้ารูปหัวใจจนไปหยุดอยู่ที่กลีบปากอิ่ม


            “หมดแรงเลยรู้ไหม”


            เขาเอ่ยเย้าจนปมุตต้องผงกหัวขึ้นมาตวัดสายตามอง มือเรียวทุบไปที่ต้นแขนดังพลัก


            “ป้อง พี่เจ็บนะครับ”


            “ให้เจ็บบ้างเถอะครับ พี่เดี่ยวนั่นแหละทำให้ป้องหมดแรง นี่พรุ่งนี้มีงานอิเว้นท์ด้วยจะเต้นไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้”


            “อย่าทำหน้าบึ้ง เดี๋ยวหมดหล่อนะ ไหนยิ้มซิ ยิ้มมม”


            ปราบแกล้งดึงมุมปากของปมุตออกจากไปจนปมุตต้องตีมือซนนั้น


            “เล่นเป็นเด็กอะพี่เดี่ยว”


            “รักเด็กก็ต้องทำตัวเด็ก”


            ปราบพลิกตัวขึ้นไปคร่อมทาบปมุตไว้


            “เป็นเด็กก็ต้องแรงดีกว่าผู้ใหญ่ แต่นี่อะไร ออกกำลังกายไม่กี่ยกก็หมดแรงแล้ว”


            หน้าคมของปราบโน้มลงไปกดจูบที่ปากแดงเรื่อ เขาดันลิ้นหยุ่นเข้าไปตวัดเกี่ยวลิ้นเล็กให้ตกอยู่ใต้อาณัติของ

เขา ปมุตได้แต่เงยหน้ารับจูบแม้ว่าจะยังส่งเสียงประท้วงไม่เลิก


             “อึก อื้ออ พี่เดี่ยว ไหนว่าหมดแรง”


            “แรงพี่มีหลายยกครับป้อง น่านะ ออกกำลังกายบ่อยๆ ร่างกายจะได้อยู่ตัวไงครับ”


            มือน้อยที่พยายามผลักไสอย่างไม่จริงจังนักถูกปราบรวบไว้ก่อนที่เขาจะซุกไซ้จมูกลงไปกับเนื้อตัวที่หอมกรุ่น

เขาค่อยๆ ปลุกเร้าปมุตขึ้นมาอีกครั้งจนกระทั่งบทรักระอุขึ้นมาอีกรอบ


            เสียงครางกระเส่าด้วยไฟแห่งเสน่หาดังลอดออกมาถึงนอกห้องเพราะบานประตูห้องนอนที่ปิดไม่สนิท ต้นเหตุ

สองคนที่กำลังโรมรันกันอยู่บนเตียงกว้างภายในห้องไม่ได้รู้เลยว่าเป็นสาเหตุให้ คนที่ยืนฟังอยู่ถึงกับหายใจหอบไปด้วย

ความอิจฉา

            รัศมีที่จะมาหาบุตรชายแต่กลับต้องมายืนฟังเสียงบาดหูเม้มปากแน่น

            สาวใหญ่อย่างหล่อนก็ยังมีความต้องการเพศรส รูปร่างหน้าตาและลีลาของปราบที่แอบมองช่างกระตุ้นความ

กระสันให้กับหล่อน


            รัศมีอยากจะเป็นต้นเหตุแห่งเสียงครวญเสียเหลือเกิน




                   ---------------------------TBC----------------------------


ฝากนิยาย แนวทะเลทราย เจ้าชายอียิปต์กลับชาติมาเกิดใหม่ด้วยนะคะ ผลงานอิชั้นเองจ้า




คำสาปร้ายพ่ายรัก
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45868.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45868.0)




 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-04-2015 14:46:30
Omg    ครอบครัวอลเวงจริงๆ
ไม่รักลูกเลยหรือไร
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: a_n ที่ 07-04-2015 15:42:14
รัศมี นางอยากขนาดนั้นเลยหรือ สงสารนายเอกจัง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 07-04-2015 16:13:09
ป้าาาา นั้นของลูกน่ะ
ป้านี่ยังไง

กลัวใจแดเนียลเหลือเกิน เกลียดอ่ะ

ระวังตัวดีๆนะป้อง เชื่อสัญชาตญานตัวเองเข้าไว้
ไอ้แดเนียลมันตัวอันตรายของจริงเลยละ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-04-2015 16:19:26
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 07-04-2015 16:50:58
เละ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 07-04-2015 17:43:50
เร่าร้อนเหลือเกิน :jul1:
อิป้าไม่ได้แอ้มหรอกค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 07-04-2015 18:29:24
ดิชั้นเสียเลือดทุกตอนเลยค่ะ  :jul1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 07-04-2015 19:39:51
รัศมีนี่ดูแย่จังเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-04-2015 20:11:02
ขอแดลเนียลอย่าทำอะไรร้ายๆ กับป้องเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 07-04-2015 20:25:13
รัศมีก็อยากงาบปราบมาตั้งนานแล้วนี่
นางก็เยอะว๊อนท์เรื่องอย่างว่าอยู่แล้วแหละ
ออกไปหากินข้างนอกเป็นประจำ
นางกับพ่อปราบนี่ฝนตกขี้หมูไหลคนจัญไรมาปะกันจริงๆ

อิแดนเอ๊ยยยยยย
เรื่องหน้าตาแกน่ะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่
ถ้าหากว่าแกจะทดแทนด้วยการเป็นคนดีที่น่าคบ
แต่แกนี่เลวแบบสุดๆเอาคำด่าที่คนเขาด่าแกเพราะแกชั่วมาลงที่ว่าเขาด่าแกเพราะว่าแกน่าเกลียดแทน
สมองแกมันโคตรดีเลยแต่ก็ไม่ดีพอที่จะทำให้แกเข้าใจสันดารตัวแกเอง
แฟนแกที่มันตายก็เพราะแกนั่นแหละ
แต่แกก็โทษคนอื่นเพราะว่ามันง่ายดี
เลวตั้งแต่อยู่ในท้องแล้วมั๊งเอ็งเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 07-04-2015 20:52:15
อีแม่เลี้ยงไม่จบ ตบมั้ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pam_ban ที่ 08-04-2015 02:35:50
หนักใจแทนพี่เดี่ยวกับน้องป้อง  ที่มีแต่คนจ้องจะทำลายความสัมพันธ   :เฮ้อ:  สู้ ๆ นะคะทั้งคู่ ศัตรูเยอะขนาดนี้จะมีใครมาช่วยปราบพวกเหล่าร้ายไหมนะ   :call: ขออัศวินที่เหี้ยมและโหดที่สุดมาคอยอารักขา   :laugh:


รอตอนต่อไปค่ะ


 :katai3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 08-04-2015 05:29:06
นางรัศมีแก่แล้วไม่เจียมตัวนะย่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 08-04-2015 06:23:36
 o22 ยายรัศมีไว้อาลัยหนึ่งครั้ง อย่างนี้ควรจัดส่งให้แดเนียลบอกตรง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 30 ( 07 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 09-04-2015 20:20:21

อิแม่เอ๊ยยยยย...นั่นลูกเขยนะยะ  :m16:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-04-2015 20:10:17

                                                               เพลิงพ่าย

                                                                บทที่ 31



            งานเปิดตัวเครื่องจักรเครื่องใหม่ของอินไฟไนท์อินดัสเตรียลในรอบไตรมาสนี้จัดใหญ่กว่าที่เคยเพราะปราบและ

โมกข์ต้องการที่จะขยายกำลังการผลิตให้มากขึ้น ผู้คนมากหน้าหลายตาปรากฏตัวอยู่ในงานเลี้ยงบนโรงแรมชื่อดังใน

ย่านเศรษฐกิจ ปราบกำลังวุ่นวายรับแขกที่มาทักทายอยู่หน้าทางเข้ารวมถึงชายหนุ่มผิวขาวหน้าตาดีอย่างชนัย

ทนายความที่ดูแลเรื่องกฏหมายของบริษัทที่เขายึดคืนมาได้จากบิดา ชนัยทำงานได้ดีทำให้ปราบอยากจะให้มาช่วยที่อิน

ไฟไนท์อินดัสเตรียลด้วย ในวันนี้บุตรชายของนายพิชัย อดีตนักกฏหมายของตระกูลเขาจึงได้มาที่งานนี้


            “อ้าว ชนัย”


            เป็นเพราะต้องพูดคุยติดต่อกันอีกหลายครั้งกว่าเรื่องการขึ้นสู่ตำแหน่งประธานบริษัทจะเสร็จสิ้น ทำให้ปราบคุ้น

เคยกับชนัยจนเริ่มสนิทสนมกัน เขายิ้มให้ชนัยที่ก้าวเข้ามาจับมือแสดงความยินดีโดยไม่ทันสังเกตว่าชนัยจะกระชับอุ้งมือ

จนแนบแน่นเป็นพิเศษ


            “ไหนว่าเป็นบริษัทเล็กๆไงครับ แต่ที่เห็นการจัดงานแล้วไม่เลยเล็กนะครับคุณปราบ”


            ชนัยคลี่ยิ้มจนเห็นเขี้ยวเล็กๆที่เขามั่นใจว่าเป็นสิ่งดึงดูดให้ใบหน้าของเขาดูดีขึ้น การได้พบหน้าปราบ ปริวัตรมัน

ทำให้เขาตื่นเต้นได้ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้ที่ปราบอยู่ในชุดสูทสีเทามันทำให้ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้ายิ่งหล่อเหลา

จนชนัยใจเต้นโครมคราม เขาคลายมือออกจากมือของปราบอย่างเสียดาย
 

           “ไตรมาสนี้ผมและเพื่อนคิดกันไว้ว่าเราอยากจะขยายฐานลูกค้าออกไปอีกเลยจัดงานให้ใหญ่ขึ้น ตามสบายนะ

ชนัยไม่นานงานก็คงจะเริ่มต้นแล้วล่ะ”


            ปราบส่งยิ้มทิ้งท้ายให้ชนัย ทนายความหนุ่มได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างหลงใหล เขาวาดฝันว่าสักวัน

หนึ่งเขาจะได้ซุกกายอยู่ในอ้อมอกอันแข็งแกร่งนั่น การทำงานร่วมกับปราบอาจเป็นการเปิดทางให้เขาได้ใกล้ชิดจนฝัน

ของเขาเป็นจริงได้


            “ขออภัยครับมิสเตอร์”


            ชนัยสะดุ้งจากความฝัน เขาหันไปมองชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ยืนยิ้มให้กับเขา


            “ผมได้รับเชิญให้มางานนี้เช่นกัน แต่ว่าผมกลับทำบัตรเชิญหาย ถ้าไม่รบกวนนักผมขอเข้าไปในงานพร้อมกับ

คุณได้ไหมครับ”


            ชนัยยิ้มตอบอย่างคนอัธยาศัยดี เขาผายมือไปทางประตูเข้างานเพื่อให้ชายคนนั้นเดินเข้างานไปพร้อมกับเขา


            “ไม่มีปัญหาครับผมเองก็มาคนเดียว เชิญเลยครับคุณ”


            “คนไทยช่างมีน้ำใจงดงามจริงๆ คุณมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับอินไฟไนท์หรือครับ”


            คนถูกถามลอบยิ้มกับตนเองขณะที่เดินเข้ามาในงานเลี้ยงภายในห้องบอลรูมใหญ่ ตอนนี้ชนัยอาจจะไม่ได้

เกี่ยวข้องอันใดกับอินไฟไนท์อินดัสเตรียล แต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากว่าเขาสามารถชนะใจของปราบได้


            “เปล่าครับ ผมเป็นเพื่อนกับเจ้าของบริษัท”


            ชายชาวต่างชาติทำตาโตเมื่อได้ยินดังนั้น


            “ผมได้ยินว่าบริษัทนี้มีเจ้าของอยู่สองคน คุณเป็นเพื่อนกับใครหรือครับ”


            ชนัยยืดอกอย่างภาคภูมิตอบออกไป


            “ผมเป็นเพื่อนกับคุณปราบ ปริวัตร”


            นัยน์ตาสีน้ำข้าวหรี่ลงแวบหนึ่งเมื่อเขาจ้องหน้าชนัย ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น


            “โอ ปราบ ปริวัตร ผมเคยได้ยินชื่อเขา ขอบคุณนะครับมิสเตอร์…”


            “ผมชื่อชนัย”


            “ขอบคุณมากครับชนัย ที่พาผมเข้ามาในงานคืนนี้ หวังว่าเราคงจะได้พบกันอีก หากมีอะไรที่ต้องการความช่วย

เหลือโปรดติดต่อผมตามนามบัตรนี้”


            ชาวต่างชาติคนนั้นยื่นนามบัตรมาให้ก่อนเดินจากไป ชนัยก้มหน้าอ่านชื่อจากนามบัตรนั้น


            “แดเนียล เครตั้น ผู้บริหารดีเคพร็อบเพอร์ตี้”





 



          ปราบก้าวเดินไปหาโนเอลที่ยืนหลบมุมอยู่ข้างเวทีเพื่อจ้องมองไปยังนักร้องหนุ่มที่วาดลวดลายเท้าไฟอยู่บนนั้น

ปราบจ้างบริษัทของโนเอลให้ดูแลจัดงานในวันนี้ ปราบเพิ่งสังเกตว่าใบหน้าของโนเอลสดใสเกินกว่าปกติ


            “มีอะไรดีๆหรือเปล่า นี่หน้าบานอย่างกับเห็ดสด”


            “คิดมากช่างจับผิดจริงนะมึง” โนเอลเอ่ยปากต่อว่าเพื่อนทั้งที่ดวงตายังเป็นประกายวาววาม “ใครจะหน้าบานได้

เท่ามึงอีกไอ้ปราบ บริษัทก็ได้คืน ส่วนน้องก็จับปล้ำไปแล้ว ไอ้เพื่อนเลว”


            “ขอบใจ”


            “กูด่ามึงอยู่” โนเอลหัวเราะอยู่ในลำคอ สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่กับชาวีที่กำลังทั้งเต้นทั้งร้องอยู่บนเวที

ปราบมองตามสายตานั้น คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ


            “ด่าเด็กมันไว้ซะเยอะ ทำไมยังจ้างมาทำงานอีกล่ะ”


            “ก็มันเหมาะกับงานของมึงไง” โนเอลส่งเสียงอย่างรำคาญกลับมา “กูแยกออกน่าเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว”


            “เออ อย่าเผลอไปแดกเด็กเข้าล่ะ”


            โนเอลทำตาปริบๆ เขายังไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเขาเองต่างหากที่ถูกเด็กกินไปเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อตัวเองก็ยัง

ยอมรับลำบากเหลือเกินในการเปลี่ยนสถานะจากที่ผ่านมา

            ปราบหยุดความสนใจเรื่องของโนเอลทันทีเมื่อสายตาคมมองกวาดไปทั่วงานแล้วกลับสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำ

ข้าวคู่หนึ่งที่มองมายังเขาอย่างเกลียดชัง ปราบชะงักและเหยียดไหล่ตรงทันทีใบหน้าของเขาเคร่งเครียดจนโนเอลต้อง

มองตามสายตาของปราบ อดีตนายแบบอ้าปากค้างเมื่อเห็นต้นเหตุ


            “ไอ้แดน” โนเอลครางออกมา “มันมาอยู่นี่ได้ไง”


            “ไม่รู้สิ แต่มันก็บ้าบิ่นพอตัวที่มาในงานนี้ได้”


            ปราบส่งเสียงหนักอยู่ในลำคอ เขาไม่ไว้ใจผู้ชายที่หักหลังบิดาบุญธรรมของเขาไปอยู่กับคนอื่นแม้ว่าเวลาจะ

ผ่านมาหลายปีแล้วก็ตาม


            “มึงอยู่ตรงนี้แหละ” โนเอลห้ามปราบไว้ “นี่มันงานของบริษัทมึงนะ ให้กูไปทักทายไอ้แดนมันเอง”


            โนเอลเดินตรงไปหาเพื่อนเก่าที่ยืนจิบเครื่องดื่มอยู่ที่มุมหนึ่งของงาน รอยยิ้มหยันถูกส่งไปทำให้แดเนียลยัก

ไหล่พร้อมเบ้ปาก


            “นึกว่ามึงยังเป็นนายแบบอยู่ที่มิลานเสียอีกนะโนเอล ไม่นึกว่าจะมาพบกันที่นี่”


            “กูสิต้องแปลกใจที่เห็นมึงมายืนอยู่ตรงนี้ สุขสบายดีหรือไอ้แดนหลังจากที่หักหลังแด๊ดไปแล้ว”


            แดเนียลแค่นหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินคำพูดของโนเอล


            “อย่าเรียกว่าหักหลังสิเพื่อน เรียกว่าไปอยู่ในที่ๆเขาเห็นค่าของเราจะดีกว่า”


            โนเอลมองแดเนียลอย่างไม่ไว้ใจนัก


            “แล้วที่มึงมางานของไอ้ปราบไอ้โมกข์นี่เพื่ออะไร”


            “ทำไมมึงต้องเดือดร้อนด้วยล่ะโนเอล อ้อ ลืมไปว่ามึงสามคนสนิทกันมาก ที่มาในวันนี้ก็เพื่อจะมาทักทายพวก

มันเท่านั้นแหละ ว่าตอนนี้กูมาอยู่ใกล้พวกมันมากแค่ไหน”


            ดวงตาสีน้ำข้าวเบิกโพลงไปด้วยความชิงชัง เขาก้าวเข้ามาชิดแล้วกระซิบเสียงหนักก่อนเดินจากไป


            “ขอให้พวกมันมีความสุขกับแผ่นดินที่มีกูมาอยู่ด้วย”
             







            ปราบเดินไปหาโมกข์ที่เดินเคียงคู่มากับชายหนุ่มผิวขาวสวมแว่นกรอบใสใบหน้าอ่อนโยน เขายื่นมือไปจับ

ทักทายเมื่อเพื่อนแนะนำให้รู้จัก


            “ปราบ นี่อาจารย์พัทธ์”


            ปราบรีบยิ้มให้ทันที จำได้ว่าเพื่อนเคยปรึกษาว่ากำลังหลงเสน่ห์อาจารย์มหาวิทยาลัยคนหนึ่ง


             “สวัสดีครับอาจารย์ เราเคยเจอกันแล้ว”


            “ครับ ผมเคยมาขอทุนจากคุณปราบ แต่ตอนนั้นคุณยังไม่สนใจ”


            ปราบหัวเราะ


            “นั่นสิครับ คงเพราะตอนนั้นงานอื่นมันยังยุ่งอยู่ แต่ตอนนี้ก็มีคนสนใจและให้ทุนแล้ว ยินดีด้วยนะครับอาจารย์ที่

ได้เป็นหุ้นส่วนกับโมกข์เพื่อนสนิทของผม”


            เขากล่าวล้อเลียนพลางหลิ่วตาให้ ใบหน้าขาวๆนั่นขึ้นสีเข้มตามมาอย่างรวดเร็ว ปราบนึกอยากจะคุยกับพัทธ์ให้

มากกว่านี้แต่เวลามันน้อยเกินไป เขาดึงแขนโมกข์ให้ห่างออกมาแล้วบอกธุระสำคัญ


            “ไอ้แดเนียลมันโผล่หน้ามาด้วย ระวังหน่อยก็แล้วกัน”


            โมกข์ชะงัก ใบหน้าขรึมลงทันตาเมื่อหันไปมองตามที่ปราบชี้ชาวต่างชาติคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไกลออกไปตรงมุม

ห้อง เมื่อเขาคนนั้นหันมาสบตากับโมกข์ก็ยกมือที่คีบก้านแก้วเหล้าสีสวยให้เป็นการทักทาย แต่ดวงตาสีน้ำข้าวนั่นกลับมอง

มาด้วยแววเยาะเย้ย ท้าทายก่อนจะสะบัดหน้าเดินออกไปจากห้อง


            “ระวังตัวกันหน่อย ไอ้ตัวปัญหามันมาก่อกวนเราถึงบ้านแล้วว่ะ”





 





          รถสปอร์ตเปิดประทุนของโนเอลแล่นมาจอดอยู่บนลานจอดรถของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง เจ้าของรถหันไปมอง

คนที่นั่งเคียงข้างมาด้วย


            “ถึงแล้ว ลงไปได้”


            “ไปห้องผมนะ” ชาวีเอียงหัวมาซบอยู่ตรงไหล่ โนเอลรีบผลักออกไปทันที


            “เยอะละ บอกให้มาส่งก็มาแล้วไงลงไปอย่าลีลา กู เอ๊ย ผมต้องไปสรุปงานกับทีมงานอีกนะ”


            “น่านะ อย่าลืมสิว่าคุณรับปากแล้วว่าเราจะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน กะอีแค่ไปรู้จักที่ซุกหัวนอนของผมก็ยังไม่ทำแล้ว

เราจะเรียนรู้กันได้ไง”


            เฮ้อ ไอ้เด็กบ้า


            แล้วเขาก็ต้องเดินตามชาวีมาจนได้ ไม่รู้ว่าชาติก่อนทำกรรมอะไรมาถึงได้ต้องมาแพ้ทางเด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่า

ถึงหกปี โนเอลบ่นในใจเมื่อก้าวตามเข้าไปในห้องชุดของชาวี

            ห้องกว้างขวางตกแต่งด้วยโทนสีขาวและดำมีประตูห้องแยกที่โนเอลเดาว่าคงเป็นห้องนอน ส่วนตรงโถงกว้างมี

ชุดรับแขกเล็กๆตั้งตรงกลาง มุมหนึ่งกั้นเป็นโซนทำอาหารที่ดูท่าทางจะไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่

            หันกลับมาอีกทีชาวีก็มายืนยิ้มกว้างอยู่ตรงหน้า มือที่ซ่อนอยู่ด้านหลังยื่นช่อดอกไม้มาให้เขาช่อหนึ่ง


            “รับไปดิ” ชาวียัดเยียดใส่มือโนเอลก่อนจะยกมือลูบท้ายทอยอย่างขัดเขิน โนเอลมองช่อดอกไม้ในมือพลาง

ซ่อนยิ้ม


            คาร์เนชั่นสีแดง


            “รู้ความหมายของมันหรือเปล่าถึงให้มาน่ะ” โนเอลแกล้งลองภูมิ สำหรับเขาที่เป็นเสือผู้หญิงมาก่อน เรื่องความ

หมายของดอกไม้มันเป็นเรื่องขี้เล็บ


            “รู้ดิ ไม่รู้จะหามาให้หรือไง” ชาวีมองค้อนจนโนเอลหลุดหัวเราะออกมาจนได้


            “แล้วมันหมายถึงอะไรล่ะ”


            “มันหมายถึงว่า” ชาวีดึงมือข้างที่ว่างอยู่ของโนเอลมากุมไว้ เขามองใบหน้าหล่อเหลาของโนเอลตาไม่กระพริบ


            “โนเอลครับ โปรดมองเห็นความรักของผมที่มีต่อคุณด้วยนะ”


            ทั้งสายตาและน้ำเสียงที่ออดอ้อนทำให้โนเอลหมดความอดทน เข้าก้าวเข้าไปชิดและใช้สองแขนโอบไปรอบ

คอของชาวีทันที


            “ก็เห็นแล้วนี่ไง ขอบใจนะไอ้เด็กบ้า”


            ชาวีวางมือแนบแก้มแล้วดึงโนเอลเข้ามาจูบ ปากนุ่มของโนเอลเรียกร้องให้เขาขบเม้มได้ไม่รู้เบื่อเขาโอบรัดลำ

ตัวผอมๆของโนเอลแล้วยกขึ้นอย่างง่ายดายก่อนจะเดินตรงไปยังห้องนอน


            “ฮื้อ ต้องกลับไปทำงาน”


            โนเอลปรามเสียงสั่นเมื่อชาวีวางเขาบนที่นอนและเอนกายมานอนทับไว้ ปากซุนซนของชาวีเลื่อนมาขบเม้มอยู่

ตรงซอกคอพลางขยับตัวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของโนเอลออกอย่างรวดเร็ว


            “น้ำเดียวนะครับโนเอล ผมคิดถึงคุณจะแย่แล้ว”


            เสียงกระเส่าไม่แพ้กันดังอยู่แถวยอดอก ชาวีแกล้งหยอกล้อดูดดึงจนมันแข็งเป็นไตสู้ลิ้นโนเอลห่อปากสูดลม

เบาๆ


            “น้ำเดียวจริงๆนะ”


            ใจอ่อนยวบเมื่อเขาเองก็ต้องการชาวีไม่แพ้กัน ต่างฝ่ายต่างช่วยกันเปลื้องผ้าจนเหลือแต่กายเปลือยเปล่ากอด

รัดกันอยู่กลางเตียง จะว่าไปเขากับชาวีก็ยังไม่เคยมีเซ็กส์กันบนเตียงสักครั้ง ครั้งแรกบนโซฟาเล็กๆ ครั้งที่สองบนพื้น

ห้อง การได้โอบกอดทาบทับกันอยู่บนที่นอนนุ่มๆ มันยิ่งทำให้โนเอลเตลิดได้ง่ายเหลือเกิน


            “วันนี้ตัวหอมจังครับโนเอล”


            กลิ่นน้ำหอมที่ยังคงหลงเหลือทำให้ชาวีลากลิ้นละเลงไปทั่วทั้งตัวของโนเอลอย่างติดใจในขณะที่โนเอลแอ่น

กายให้ชาวีได้เชยชม  ชาวีเลื่อนตัวมาถึงแอ่งท้องน้อยที่เขาย้ำปากลงไปจนทิ้งรอยสีกุหลาบไว้ เขายกต้นขาขาวเนียน

ของโนเอลขึ้นพลางงับลงไปเบาๆที่เนื้ออ่อน


            “อา ชาวี”


            หายใจหอบไปด้วยความต้องการ ชาวีคว้ากระปุกเจลหล่อลื่นที่วางอยู่บนหัวเตียงมาใส่ที่ปลายนิ้ว เขาเปิดทาง

สวรรค์ให้โล่งก่อนดันตัวเองเข้าไปช้าๆ


            “อื้ม ตอดจังฮะวันนี้”


            ชาวีเม้มปากรับการบีบรัดเมื่อดันตัวเองเข้าไปได้จนหมด เขาหยุดนิ่งและมองสบตาสีฟ้าฉ่ำน้ำของโนเอล นักร้อง

หนุ่มโน้มตัวไปจูบที่กลีบปากอิ่มที่ยั่วยวนเขาอยู่


            “ผมรักคุณนะโนเอล”


            จูบหนักหน่วงขึ้นพร้อมเคลื่อนเอวเข้าออก เขาพาโนเอลทะยานขึ้นสวรรค์จนเสียงหายใจหอบกระเส่าดังแข่งกัน

เมื่อชาวีทิ้งตัวลงไปซบอยู่กับบ่าของโนเอล


            “เฮ้อ เหนื่อยจัง”


            “ใครใช้ให้ทำเล่า”


            ชาวีหัวเราะชอบใจ เขาเอื้อมมือไปหยิบอะไรบางอย่างที่หัวเตียงมาส่งให้โนเอล


            “กุญแจห้อง” เขาตอบข้อข้องใจให้ฝรั่งตาสีฟ้า “ผมอยากให้คุณไว้ใจผม ถ้าคุณอยากมาที่นี่เมื่อไหร่ก็มาได้”


            “ขอบใจนะ ชาวี” โนเอลรับกุญแจดอกนั้นมาถือไว้ในมือ แล้วโน้มคอชาวีมาจูบ ลิ้นร้อนผลัดกันกว้านลึกอยู่ในลำ

คอจนกระทั่งชาวีต้องเริ่มขยับเอวที่ยังสอดลึกไว้อีกครั้ง


            “ไอ้เด็กบ้า ไหนบอกน้ำเดียว” โนเอลต่อว่าพลางขยับเอวรับแรงกระแทกอีกครั้ง


            “ก็คุณอ่อยผม น่านะ อีกน้ำเดียว คราวนี้จริงๆครับ”


            โนเอลโคลงหัว แต่เขาก็ยกเอวลอยให้ชาวีได้สอดลึกกว่ารอบแรก


            เฮ้อ สงสัยว่าจะติดบ่วงของไอ้เด็กคนนี้จริงๆเสียแล้ว             



                      --------------------------------- TBC-------------------------------


 


                 ใครยังจำ ชนัย ทนายความที่เป็นลูกชายของนายพิชัย ที่คนแต่งเปิดตัวไว้ตอนบทที่ 16-17
ได้บ้าง ยกมือขึ้น
    :hao4: :hao4: :hao4:
           
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-04-2015 20:45:19
โนแอลกับชาวีพอคลิกกันแล้วนี้จัดเต็มเลยน๊าาาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 14-04-2015 20:55:51
อีชนัยนี้ต้องเป็นเครื่องมือให้อีแดเนียลแน่ๆ. ปราบต้องระวังนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 14-04-2015 21:05:03
ชนัยนี่ยังไงๆอยู่นาาาา. ดูไม่น่าไว้ใจเบย
แดเนียลก็น่ากลัวอ่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-04-2015 21:15:32
เสน่ห์ของเด็กมันเกินห้ามใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 14-04-2015 22:27:46
คู่หลักก็  :pighaun: คู่รองก็  :pighaun: คนอ่านเพลีย อิอิ เนื้อหาเริ่มเจ้มจ้นละ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 14-04-2015 22:49:41
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: malatee3103 ที่ 14-04-2015 23:20:15
 o13ชอบโนเอล-ชาวีอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-04-2015 23:38:54
จำได้ๆ  นางจะมาเป็นตัวแปรฝ่ายอธรรมแม่นบ่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 14-04-2015 23:49:16
งุ้ยยย เมะเด็ก  :ling1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 15-04-2015 07:34:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 15-04-2015 10:38:34
เมะเด็กแรงยังดีแต่ก็ต้องระวังกระดูกเคะแก่ด้วยนะ 555555 หลบตีงงงโนเอลก่อน  :really2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 15-04-2015 13:56:18
ชาวี-โนแอลขยันหวานกันเหลือเกิน โนแอลหลงสเน่ห์เด็กเข้าแล้ว
ชนัยกับแดเนียล น่ากลัวเกินไปละ  :m16:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 15-04-2015 21:25:45
 :m25:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 21-04-2015 04:49:23
ชอบคู่โนเอลมากกกกกกก
โนเอลน่ารักกกกกกกกกกดดด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: aimjungna ที่ 21-04-2015 21:29:29
เรื่องราวซับซ้อนแต่ไม่ซ่อนเงื่อน
สนุกมากคะ เป็นกำลังใจให้นะคะ *0*
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 23-04-2015 00:07:48
 :haun4:
ง่าาาา รอชั้นรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด
55 เรื่องราวกำลังเข้มข้น คู่หลัก คู่รองก็เข้มข้น
 :hao6: รออยู่น่ะค่ะ มาต่อน่ะๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 31 ( 14 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: hembetaro ที่ 23-04-2015 16:00:28

จำได้...กลัวว่าชนัยจะร่วมมือกับแดเนียลแล้วสิ ถ้ารู้ว่าปราบมีป้องอยู่แล้ว  :ling3:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-04-2015 20:58:12


                                                                     เพลิงพ่าย

                                                                      บทที่ 32


            แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในงานเลี้ยงเล็กๆที่ปราบจัดให้พนักงานหลังจากเสร็จสิ้นงานใหญ่ของบริษัททำให้เขา

ปวดศีรษะไม่น้อย ช่วงระยะหลังมานี่ปราบห่างหายจากของมึนเมาไปพอสมควรตั้งแต่ตอนทุ่มเทเวลาให้งานที่กำลังขยาย

กิจการ แต่เพราะขัดพวกลูกน้องที่สนิทกันไม่ได้วันนี้จึงต้องดื่มบ้างตามคำคะยั้นคะยอ เขาโบกมือปฏิเสธเมื่อเหล้าแก้วต่อ

ไปถูกส่งมาให้


            “พอแล้ว เดี๋ยวเมา”


            “โหย เจ้านายอะ นานๆที”


            “แก้วสุดท้ายแล้วนะโว้ย”


            ปราบส่ายหน้าอย่างระอากับลูกน้องที่ยังนั่งอึดนั่งทนแต่ปราบก็ไม่ได้ห้ามเพราะรู้ว่าทุกคนทำงานกันหนักเพื่อให้

ผลงานออกมาดีในเมื่อถึงเวลาพักผ่อนปราบก็ปล่อยให้ได้ดื่มกินกันอย่างเต็มที่ เมื่อจัดการกับเหล้าแก้วสุดท้ายหมดลง

ปราบก็เดินขาแทบขวิดไปยังห้องน้ำของร้านอาหาร


            “ชนัย”


            ปราบชวนชนัยมาด้วยเพื่อเป็นการแนะนำที่ปรึกษาด้านกฏหมายคนใหม่ของบริษัทให้ทุกคนได้รู้จัก ชนัยที่เดิน

มาเข้าห้องน้ำก่อนแล้วยิ้มให้กับปราบที่เพิ่งจะเดินเข้ามา


            “เป็นไงบ้างกับพวกลูกน้องผม อย่าถือสาถ้าพวกนั้นจะห่ามไปสักหน่อยนะ”


            “โอ ไม่เลยครับคุณปราบ พวกเขาน่ารักมาก”


            ชนัยรีบปฏิเสธ


            “ไม่แปลกใจที่บริษัทของคุณเติบโตได้เร็วมาก เป็นเพราะได้คนเก่งๆมาร่วมงานด้วยนั่นเอง”


            คำชื่นชมของทนายหนุ่มนั้นมาจากใจ ยิ่งเห็นยิ่งใกล้ชิดเขาก็ยิ่งปลื้มปราบมากขึ้นทวีคูณ


            “รวมทั้งคุณด้วยนะชนัย ผมยินดีจริงๆที่ได้ร่วมงานกับทนายเก่งๆอย่างคุณ”


            ปราบยื่นมือออกไปชนัยรีบยื่นมือมารับ ดวงตาที่ทอดมองมายังปราบบอกถึงความหลงใหลอย่างเห็นได้ชัด


            “ขอบคุณนะครับคุณปราบที่มอบโอกาสสำคัญให้ผม รับรองว่าผมจะทำงานให้คุณสุดความสามารถ เชิญคุณ

ปราบทำธุระตามสบายครับ ผมออกไปข้างนอกก่อนละ”


            ชนัยก้าวขาเดินออกไปแต่เท้ากลับสะดุดกันเองจนกระทั่งตัวเอียง มือที่ยังยึดจับมือของปราบไว้จึงดึงให้ปราบที่

ยังครองสติได้ไม่เต็มที่ให้เซตามเข้ามาจนตัวชิดติดกัน ชนัยหัวใจเต้นโครมครามเมื่อใบหน้าที่เขาเฝ้าฝันถึงอยู่ใกล้เพียง

ลมหายใจที่รินรดลงมาแค่เพียงเขาจะยื่นใบหน้าเข้าหาอีกสักนิด

            แล้วชนัยก็ทำจริงๆ เขาขยับตัวเข้าไปจนปากของเขาแนบไปกับปากของปราบ ชนัยกลั้นหายใจเมื่อความร้อน

วาบแผ่ซ่านไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า มืออีกข้างที่ยังว่างยกวางไว้บนบ่ากว้างดึงรั้งให้ปราบยังคงนิ่งอยู่ในท่านั้นจน

กระทั่งปราบได้สติเอนกายห่างออกไปแล้วสะบัดหน้าขับไล่ความงงงัน ชนัยได้แต่นึกเสียดายแทบขาดใจ


            “เอ่อ ผมขอโทษ วันนี้ดื่มเยอะไปนิด”


            ปราบรีบเอ่ยอย่างตกใจ เขาไม่นึกว่าตนเองจะควบคุมร่างกายได้ยากขนาดนี้ในขณะที่ชนัยเม้มปากแน่น


            “ไม่เป็นไรครับคุณปราบ มันเป็นอุบัติเหตุ ผมออกไปด้านนอกก่อนนะครับ”


            ชนัยรีบหันหลังแล้วก้าวออกมาภายนอกห้องน้ำ และทันทีที่พ้นสายตาของปราบเขาก็แทบอยากจะตะโกนออก

มาอย่างอัดอั้น

            แค่เพียงปากประกบปากชนัยยังร้อนรุ่มถึงขนาดนี้ ชนัยนึกอยากจะนอนทอดกายให้ปราบได้กระทำมากกว่านั้น

เสียเหลือเกิน












            “หวังว่าน้ำเย็นๆคงจะช่วยหนุ่มน้อยที่แสนน่ารักให้หายเหนื่อยได้”


            ปมุตหันไปยิ้มให้พร้อมกับรับขวดน้ำเย็นมาจากนายจ้าง วันนี้เขามาถ่ายทำโฆษณาคอนโดมิเนียมตั้งแต่ตอนเช้า

จนกระทั่งถึงยามค่ำ แดเนียลผู้เป็นเจ้าของมาอยู่ชมการถ่ายทำด้วยจนถึงตอนเย็นเขาจึงหายไปพักใหญ่แล้วจึงกลับมา

ก่อนเลิกกองไม่นานนัก


            “ขอบคุณครับแดเนียล”


            อึดอัดกับสายตาของแดเนียลที่จ้องมองไม่วางตา ราวกับแดเนียลจะเดาออกฝรั่งตาน้ำข้าวหัวเราะแก้เก้อ


            “ขอโทษที่จ้องมองคุณนานไปจนเสียมารยาท พอเห็นใบหน้าของคุณแล้วผมนึกถึงใครคนหนึ่งในอดีต”


            ปมุตเลิกคิ้วโก่งมองอย่างสนใจ


            “ผมหน้าตาคล้ายคนที่คุณเคยรู้จักงั้นหรือครับ”


            แดเนียลพยักหน้ารับ มีร่องรอยความเสียใจอยู่บนใบหน้าจนปมุตนึกสงสาร


            “คล้ายกันมากทีเดียว ทั้งดวงตาและรอยยิ้มเพียงแต่คนๆนั้นเป็นไม่มีเชื้อสายเอเชียปะปนอย่างเช่นคุณ”


            เสียงทอดถอนใจดังเป็นระยะปะปนกับเสียงสนทนาดึงอารมณ์ให้ปมุตมองเห็นภาพเมื่อแดเนียลเล่าให้ฟัง


            “เขาเป็นเพื่อนของผมตั้งแต่อยู่บ้านเด็กกำพร้า เราทั้งสองถูกทำร้ายจนต้องต่อสู้และหนีออกมาด้วยกัน เขาคือ

ชีวิตของผม ผมทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขและคาดหวังไว้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่กับคนๆนั้นไปตลอดจนกระทั่งวันหนึ่ง

ความหวังของผมก็พังทลาย”


            “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”


            ปมุตใจหายไปด้วยกับเสียงเศร้าสร้อยของแดเนียล


            “มีไอ้เลวคนหนึ่งมันใช้เสน่ห์ของมันหลอกล่อให้คนที่ผมรักตกเป็นเหยื่อและพาไปสู่ความตาย”


            “โอแดเนียล มันเศร้ามาก”


            “ใช่ครับป้อง มันเศร้าจนผมไม่สามารถจะรักใครได้อีก และที่สำคัญไอ้คนเลวจอมหลอกลวงคนนั้นมันเป็นคน

ไทย”


            “คนไทยงั้นหรือ”


            ใบหน้าหวานถอนหายใจออกมาด้วยความสะเทือนใจไปกับสิ่งที่ได้ยิน แดเนียลก้มหน้าลอบยิ้มเมื่อเห็นดังนั้น


            “คนๆนั้นมันชื่อว่าปราบ ผมไม่เคยลืมชื่อมันได้เลย”











            “คนๆนั้นชื่อว่าปราบ”


            อาจจะเป็นแค่เหตุบังเอิญเท่านั้นที่ชื่อเหมือนกัน ปมุตส่ายหน้าที่ตนเองนำเรื่องที่แดเนียลเล่าให้ฟังกลับมา

ขบคิดแม้ว่าจะกลับมาถึงบ้านแล้ว

            ร่างโปร่งเหม่อคิดไปเรื่อยเปื่อยปล่อยให้สายน้ำเย็นจากฝักบัวรินรดขับไล่ความร้อนอบอ้าวที่ต้องทำงานตลอด

ทั้งวัน เขาครุ่นคิดอย่างคลางแคลงใจ

            จะว่าไปตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาปมุตไม่เคยรู้เลยว่าปราบจะมีชีวิตแบบไหนและผ่านอะไรมาบ้างเพราะปราบเอง

ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แม้กระทั่งเมื่อพบหน้ากันอีกครั้งปราบก็ใช่ว่าจะทำดีกับเขา พ่อตัวเองปราบก็ยังหลอกได้และทุกวัน

นี้ถึงกับให้ไปอยู่ในห้องเล็กๆหน้าห้องครัว ปมุตต่อว่าตนเองที่กลับมอบหัวใจให้กับคนใจร้ายอย่างปราบ

            ภาวนาแค่เพียงให้คนชื่อปราบที่แดเนียลเล่าให้ฟังเป็นแค่คนที่ชื่อเหมือนกันเท่านั้น ปมุตคงจะทำใจไม่ได้หาก

ปราบจะเป็นคนเลวที่พรากความรักของคนอื่นออกจากกัน หนุ่มน้อยถอนหายใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดน้ำและคว้า

ผ้าเช็ดตัวพันท่อนล่างเดินออกมาจากห้องน้ำ


            “อ๊ะ พี่เดี่ยว เข้ามาตั้งแต่ตอนไหนครับไม่ได้ยินเสียงเลย”


            ปมุตชะงักเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นปราบนั่งพิงหัวเตียงอ่านนิตยสารธุรกิจอยู่ ปราบเงยหน้าขึ้นมอง

นัยน์ตาพราวจนปมุตหน้าร้อนเห่อเมื่อรู้ว่าสภาพตนเองล่อตาขนาดไหน ปราบขยับมานั่งท้ายเตียงแล้วดึงปมุตมานั่งตัก


            “ก็มัวแต่อาบน้ำจนตัวจะเปื่อยนั่นแหละ พี่เข้ามารอป้องตั้งนานแล้ว”


            “พี่เดี่ยว ป้องตัวเปียกอยู่”


            ปมุตประท้วงเมื่อปราบจูบลงที่ไหล่ ปราบยิ่งยิ้มถูกใจเมื่อได้ยิน


            “งั้นพี่จะเช็ดน้ำออกให้นะ”


            “พี่เดี่ยว ฮื้อ”


            ปราบพรมจูบลงไปตามลาดไหล่ ปลายลิ้นไล่ชิมหยดน้ำที่ยังเกาะพราวอยู่บนเนื้อตัวแสนนุ่ม มืออุ่นวางแนบไปที่

แผ่นหลังลูบไล้ไปมาก่อนจะเลื่อนมาที่เอวแล้วกระตุกปมผ้าเช็ดตัวโยนทิ้งจนปมุตเหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย เขาจับท่อนขา

เรียวแยกออกให้นั่งคร่อมอยู่บนตักหันหน้าเข้าหา หยดน้ำที่เกาะอยู่ตรงยอดอกสีชมพูล่อตาให้เขาขบเม้มดูดซับจนเรียก

เสียงครางแผ่วได้จากปมุต


            “ทั้งหอมทั้งหวานเลยรู้ไหมเด็กน้อย”


            ปราบเอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า มือร้อนเหนี่ยวรั้งเอวบางเข้าหาพลางกดสะโพกแนบชิด ส่วนแข็งขืนที่มีเพียงชุด

นอนๆของปราบขวางกั้นดุนดันขึ้นมาจนปมุตรู้สึกได้ ส่วนจุดอ่อนไหวของเขาก็ถูกปราบกอบกุมนวดเฟ้นจนร้อนวูบวาบไป

หมด


            “พี่เดี่ยว ดะ เดี๋ยวสิครับ อะ อึก”


            คางเรียวถูกดึงให้ก้มลงหน้าเพื่อปราบจะบดปากจูบหนักหน่วง ลิ้นร้อนสอดลึกภายในจนแทบจะถึงลำคอในขณะ

ที่ปราบสอดมืออีกเข้าไปใต้สะโพกแล้วดันนิ้วเข้าไปในช่องทางคับแน่น ปมุตครางฮือเมื่อนิ้วค่อยๆหมุนวนนวดเฟ้นเปิด

ทางโล่งขึ้นทีละนิดจนกระทั่งท่อนเนื้อยักษ์ที่ถูกดึงมาจนพ้นขอบกางเกงของปราบทักทายส่วนหัวอยู่หน้าประตู ปราบยก

เอวปมุตเพื่อที่เขาจะดันมันเข้าไป เขากดเอวปมุตลงมาเพื่อให้ช่องทางนั้นรับเขาเข้าไปได้จนหมด


            “อื้อ เสียวครับพี่เดี่ยว”


            ปมุตปรือตาเชิดหน้ากัดริมฝีปากเมื่อร่างกายเต็มไปด้วยความกระสัน สองแขนคล้องไปรอบคอเหนี่ยวให้ปราบ

ขบเม้มอยู่ตรงซอกคอนุ่ม


            “โยกเลยครับคนเก่งของพี่เดี่ยว เต็มที่เลย”


            ขาเรียวกอดเกี่ยวไปรอบเอวของปราบ ปมุตหายใจหอบเมื่อกดสะโพกลงมาแล้วหมุนเป็นวงกลม ยิ่งบดเบียด

แท่งเนื้อร้อนก็ยิ่งกระแทกถูกจุดอ่อนไหวให้เสียวซ่าน ปราบครางลึกอย่างพอใจพลางเด้งเอวสวนกลับพร้อมกับระดม

ปลายลิ้นลงไปที่ยอดอกแข็งเป็นไต


            “อา อื้อ”


            แทบจะทนไม่ไหวกับความกระสัน ปมุตซบหน้าลงกับไหล่กว้างเบียดกายแนบชิดปล่อยเสียงครางหวานยาวนาน

เมื่อร่างกายบีบคั้นถึงขีดสุด ปราบกัดฟันกดเอวปมุตลงแล้วแช่ค้างนิ่งพลางแข่งกันหอบหายใจถี่ยิบ เขาเชยคางปมุตแล้ว

จูบหนักหน่วงอีกครั้ง


            “ยิ่งนับวันก็ยิ่งร้อนแรง พี่เดี่ยวจะไปไหนรอด”


            “พี่เดี่ยว”


            ปมุตเม้มปากหน้าแดงก่ำจนปราบหัวเราะอย่างเอ็นดู เขายกเอวปมุตขึ้นพลางดึงท่อนเนื้อออกจนน้ำรักไหลริน


            “ว้า แย่จัง ตัวแห้งแล้วแต่กลับเปียกตรงอื่นแทน”


            “พี่เดี่ยวครับ”


            “โอ๋ ไม่ล้อแล้วครับคนเก่งของพี่เดี่ยวนอนพักเหนื่อยก่อนนะครับคนดี พี่เดี่ยวลืมโทรศัพท์ไว้ที่รถลงไปหยิบแป๊บ

เดียว เดี๋ยวจะมาต่ออีกสักยกก่อนนอน อย่าเพิ่งหลับก่อนนะ”


            ปราบวางร่างของปมุตลงกับที่นอนนุ่มแล้วก้มลงจูบที่หน้าผาก ปมุตมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปจาก

ห้องของเขาแล้วส่ายหน้ากับความหื่นของพี่ชาย                                                                                 











            เมื่อเดินกลับเข้ามาในตัวบ้านหลังจากไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่รถยนต์ ปราบก็ต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อเห็นแม่เลี้ยงยืน

ดักอยู่ที่หน้าบันได ดวงตาคมมองรัศมีตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อหญิงวัยสี่สิบอยู่ในชุดนอนบางเบาปิดทางเขาไว้


            “มีอะไร”


            ปราบถามเสียงเย็นชา รัศมีเคลื่อนตัวที่ยังอวบอัดไม่เผละผละเพราะหล่อนดูแลตัวเองอย่างดีเข้ามาใกล้แล้วช้อน

สายตามองอย่างท้าทาย


            “คนอยู่บ้านเดียวกันจะทักทายกันหน่อยไม่ได้หรือคุณปราบ”


            ริมฝีปากอิ่มที่คล้ายกับปมุตคลี่ยิ้มยั่วยวน


            “แม่เลี้ยงก็อยากจะคุยกับลูกเลี้ยงบ้างไม่ได้หรือไง อย่าลืมนะว่าฉันน่ะเป็นแม่ของป้อง”


            “สิ่งเลวร้ายอย่างหนึ่งในชีวิตของป้องสินะ”


            “คุณปราบ”


            รัศมีกัดฟันมองตอบสายตาดูหมิ่นนั่นทรวงอกกระเพื่อมไปด้วยความต้องการ ยิ่งปราบใช้สายตาไว้ตัวมองกลับมา

มันยิ่งเร้าใจจนต้องก้าวเข้าไปเบียดกายแนบชิดลูกเลี้ยงที่บัดนี้สูงใหญ่กว่าหล่อนมากมายนัก รัศมียกมือวางไปรอบ

ท้ายทอยของปราบพลางเงยหน้าเชิญชวน


            “อยากจะรู้ว่าป้องมันมีอะไรดีถึงได้หลงมันนัก จะลองกับร่างกายผู้หญิงแท้ๆดูบ้างไหมล่ะ รับรองว่าฉันจะทำให้

คุณลืมไม่ลงเชียวละ”


            “ร่าน”


            “คุณปราบ”


            รัศมีมองอย่างเจ็บใจ หล่อนโน้มคอปราบลงและบดจูบอย่างกระหาย อกอิ่มเบียดแนบไปกับแผ่นอกแกร่งก่อนจะ

ผละออกอย่างเจ็บใจที่ปราบไม่ได้ทีท่าจะตอบโต้เลยสักนิด


            “บ้าที่สุด”


            รัศมีแทบจะกรีดร้องเมื่อไม่ได้ดั่งใจ


            “คุณมันทั้งโง่ทั้งบ้า”


            ปราบแค่นยิ้มเยาะเมื่อเห็นกิริยาของแม่เลี้ยง


            “การที่ฉันไม่คิดจะมีเซ็กส์กับผู้หญิงแพศยาอย่างเธอแล้วเรียกว่าโง่ว่าบ้า มันก็โอเคนะ”


            “อะ ไอ้…”


            “ถ้าคิดจะเอาเธอ ฉันคงจะเอาไปนานแล้วตั้งแต่วันสุดท้ายที่ยังอยู่ในบ้านหลังนี้”


            ปราบพูดเสียงเหี้ยม ดวงตาดุคุโชนด้วยความรังเกียจ
 

           “ไอ้ปราบ”


            “ผู้หญิงที่ไม่เคยเต็มอิ่มจนต้องทำตัวเลวๆไปหากินนอกบ้าน”


            “พูดอะไรของแก”


            รัศมีตะคอกเมื่อหล่อนทนไม่ได้อีกต่อไปเนื้อตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโมโห ปราบยักไหล่พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้น

มาแล้วเปิดคลิปที่ยังคงเก็บเอาไว้มายื่นให้รัศมีดู

            รัศมีผงะ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อภาพและเสียงที่เห็นคือหล่อนและคู่นอนที่กำลังโรมรันพันตูกันอยู่บนเตียง มัน

ชัดเจนราวกับตั้งกล้องถ่ายไว้อยู่ตรงปลายเตียง รัศมีกรีดร้องดังลั่น


            “กรี๊ดดดด”


            ตึง!!


            ทั้งปราบและรัศมีหันขวับไปตามเสียงดังที่เกิดขึ้น มองเห็นนายปัญญานอนหงายล้มตึงเหยียดยาวอยู่ไม่ไกลนัก


            “พี่ปัญญา”                                                                                   


            รัศมีวิ่งเข้าไปแล้วนั่งลงประคองสามีที่ยังหมดสติมาอยู่บนตัก ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นปราบได้ยินเสียงปมุตวิ่งลง

บันไดมา ร่างเพรียววิ่งผ่านเขาไปหาบิดาและเมื่อเห็นว่าบิดาเป็นแบบนั้น ใบหน้าหวานก็เงยหน้ามามองเขาทั้งน้ำตา


            “คนใจร้าย พี่ทำอะไรพ่ออีก ผมเกลียดพี่”





                                                    TBC





             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 23-04-2015 21:06:03
ขอให้พ่อมันอย่าเพิ่งตายนะ ให้มันพิการจะได้ทรมานนานๆให้สาสมกับความเลวของมัน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 23-04-2015 21:11:06
พี่เดี่ยวกับป้อง ไม่สมควรจะสานต่อกันเลย ทำไมเรารู้สึกแปลกๆอะฮื้ออ  :mew6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-04-2015 21:18:48
โอ๊ยยย เรื่องชนันชัยกะเดเนียลกำลังรุมเร้า. แล้วมาเจอเรื่องนี้อีก เฮ้อออ เหนื่อยแทนปมุตกะปราบจัง.  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-04-2015 21:34:47
ว่าที่ศัตรูปราบรอบด้านเลย
ขนัย รัศมี พ่อปราบ  แม้กระทั่งตัวป้องด้วย
แถมมีอิแดนเป็นหัวหอกอีก


เหนื่อยแทน
ถ้าจะอธิบายนี่ก็น่าจะมีแต่โนแอลแหละที่ท่าจะสามารถพูดให้ป้องเข้าใจได้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-04-2015 21:35:57
กระอักกระอ่วนนะ แต่ปราบนี่ใจด้านไปแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-04-2015 21:38:59
ถ้าพ่อเป็นไรไปสงสัยป้องได้เกลียดพี่เดี่ยวแน่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-04-2015 21:51:38
เห้ออออออออออ ป้องฟังพี่เดี่ยวก่อนนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-04-2015 02:23:00
เห้อ ออออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-04-2015 04:26:17
อย่าเป็นอะไรมากน่ะ เพราะมันยังไม่สาสมเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 24-04-2015 06:46:11
เดี่ยวงานเข้า ผู้หญิงคนนี้น่ากลัว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-04-2015 12:26:25
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 24-04-2015 14:42:41
เอ้า!!! อยู่ๆ วิ่งมาแล้วกล่าวหากันเลย โอย มันจะง่าวไปหน่อยไหมนั่น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 32 (23 / 04 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 24-04-2015 15:00:56
เอ่อ....ป้องรู้หรอว่าปราบทำไร อยู่ๆ ก็พูดว่าเกลียด
เห้ออออ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-05-2015 01:17:59


                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                   บทที่ 33


            Stroke!

            นั่นคือสิ่งที่นายแพทย์ประจำหอผู้ป่วยวิกฤติแจ้งการวินิจฉัยโรคของนายปัญญา


            “เส้นเลือดในสมองแตกกระทันหันที่สมองซีกซ้าย อาจจะเพราะเจอกับเรื่องเครียดและผู้ป่วยมีภาวะไขมันใน

เลือดสูงอยู่แล้ว การรักษาที่ทำได้คือป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด คนไข้อาจจะต้องนอนรักษาตัวในไอซียูหลายวันจน

พ้นช่วงอันตราย แต่หลังจากนั้นผู้ป่วยก็ต้องอยู่โรงพยาบาลต่ออีกพักใหญ่เพื่อฟื้นฟูร่างกายที่ต้องเกิดอัมพาตครึ่งซีกฝั่ง

ขวา”


            ปมุตทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้แถวยาวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤติอย่างอ่อนระโหย ภาพบิดาถูกหามขึ้นเปลแล้วพาขึ้นรถโรง

พยาบาลยังติดตาเขาอยู่ และยิ่งเห็นนายปัญญาถูกใส่ท่อช่วยหายใจเข้าไปในปากร่างกายเต็มไปด้วยสายน้ำเกลือระโยง

ระยางปมุตก็ยิ่งใจเสีย แม้ว่าบิดาจะเคยทำร้ายจิตใจจนบอบช้ำด้วยการนำร่างกายของเขาไปแลกกับหนี้ราวกับขายลูก

กิน แต่ถึงอย่างไรพ่อก็ยังเป็นพ่อ


            เปลือกตาปิดลงทันทีเมื่อเก้าอี้ตัวถัดไปขยับไหว ไหล่บางคุดคู้พิงไปกับผนังปูนเย็นเฉียบด้านหลัง ปมุตยังไม่

อยากเผชิญหน้ากับปราบในตอนนี้


            “ป้องต้องฟังพี่”


            “จำเป็นแค่ไหนครับ”


            ปมุตปล่อยเสียงแหบโหยออกไปทั้งที่ยังไม่ลืมตา มือเรียวข้างหนึ่งถูกคว้าไปสอดมือประสานทั้งที่เขาอยากจะ

ดึงมันออกจากสัมผัสแต่ปมุตก็หมดแรงจนต้องปล่อยให้ปราบกุมมือเขาไว้


            “ป้องไม่อยากจะรู้หรือ ว่าทำไมพี่ต้องออกไปจากบ้าน”


            ปราบเองก็อยู่ในภาวะหดหู่ไม่แพ้กัน เขาไม่นึกว่านายปัญญาจะมาเห็นเหตุการณ์และได้ยินเสียงจากโทรศัพท์

มือถือของเขาด้วยจนกระทั่งถึงกับเส้นเลือดในสมองแตก การที่ต้องเขาทนเห็นปมุตมองมาด้วยสายตาเจ็บช้ำเพราะความ

เข้าใจผิดมันทำให้ปราบเจ็บเกินกว่าจะคาดคิด


            “ไม่สงสัยหรือว่าทำไมพี่ถึงได้ทำตัวเลวทรามในสายตาของป้องอย่างนี้”


            ปมุตถอนหายใจยาว เขายังคงนิ่งใช้ศีรษะพิงไปกับผนังปูนด้านหลังในท่าเดิม แต่การที่ไม่ได้เอ่ยปฏิเสธหรือ

คัดค้านออกมาทำให้ปราบรู้ว่าปมุตยอมที่จะฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว


            “บ้านหลังที่เราอาศัยอยู่แท้ที่จริงแล้วเป็นของคุณตาพี่ คนที่เป็นเจ้าของกิจการบริษัททั้งหมดโดยที่มีแม่ของพี่

เป็นลูกสาวคนเดียว พ่อเป็นพนักงานในบริษัทมาพบรักกับแม่จนกระทั่งแต่งงานกัน”


            ประวัติชีวิตวัยเด็กดังมาจากผู้ชายร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ ปมุตจับน้ำเสียงที่เจือรอยเศร้าไว้ได้ มันเป็นสิ่งที่เขาไม่

เคยได้พบตั้งแต่ได้รู้จักกับปราบ ปริวัตร


            “พ่อทำตัวเป็นลูกเขยและสามีที่ดีจนกระทั่งคุณตาของพี่ตายไป หลังจากนั้นพ่อก็เริ่มเที่ยวเตร่และแม่ของพี่ก็

อ่อนแอลง อยู่มาวันหนึ่งเมื่อแม่พี่ป่วยหนักพี่กลับพบว่าพ่อมีผู้หญิงคนอื่นซ่อนไว้ด้วยแถมยังมีลูกชายด้วยกันอีก”


            ภาพผู้หญิงบอบบางที่มองมายังเขาด้วยความรักผุดขึ้นมาในความทรงจำจนกระบอกตาของปราบร้อนผ่าว เขา

ก้มหน้าลงใช้ปลายนิ้วบีบที่จมูกเบาๆเพราะความชื้นที่แล่นลงมาจนปวดโพรงจมูก


            “พ่อพาผู้หญิงและลูกชายคนใหม่ของพ่อเข้ามาในบ้านของแม่ตั้งแต่วันเผาศพ ร่างของแม่ยังไหม้ไฟไม่หมด

ด้วยซ้ำพี่ก็ต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่ทำให้แม่ช้ำใจที่สุด”


            น้ำตากลับไหลรินลงมาบนร่องแก้มของปมุตทั้งที่ยังหลับตาอยู่ เขานึกถึงวันแรกที่ได้ก้าวย่างเข้ามาสู่บ้านหลัง

ใหญ่แล้วต้องมาอยู่กับพี่เดี่ยวที่ปมุตรู้จักที่โรงเรียน มีแต่ความตื่นเต้นดีใจจนเด็กน้อยในวันนั้นลืมสังเกตใบหน้าที่มีแต่

ความเศร้าและความเกลียดชังยามเมื่อมองมายังสองแม่ลูกที่เขามาอาศัยอยู่


            “แต่ถึงพี่จะเกลียดผู้หญิงคนใหม่ของพ่อเพียงไหน แต่พี่กลับเกลียดเด็กน้อยที่เป็นน้องชายคนละแม่ไม่ลงสักนิด

มันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่ยังคงอยู่บ้านหลังนั้นได้อย่างมีความสุข ต่อมาผู้หญิงของพ่อเริ่มทีท่าทีแปลกๆกับพี่ แต่พี่ไม่ได้

คล้อยตามทำให้เรายิ่งบาดหมางกันจนกระทั่งวันหนึ่งที่พ่อมาเห็นว่าพี่และเขาอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมชวนเข้าใจผิด พ่อ

เลือกที่จะเชื่อเมียคนใหม่มากกว่าลูกชายที่เกิดจากเมียเก่าที่พ่อไม่ได้รักนั่นเป็นเยื่อใยสุดท้ายที่ขาดสะบั้นลง พี่เดินออก

จากบ้านของแม่ตั้งแต่กลางดึกคืนนั้น”


            ภาพพี่ชายตัวโตถูกบิดาเงื้อมือตบจนร่วงลงไปกองกับพื้นมันน่ากลัวจนปมุตในร่างกลมป้อมร้องไห้จ้าด้วยความ

ตกใจเกิดขึ้นในจินตนาการของปมุต ตอนนั้นรัศมีคว้าตัวเขาไปอุ้มและรีบพาเดินหนีจากห้องนอนของเขาและตั้งแต่บัดนั้น

ปมุตก็ไม่เคยเห็นใบหน้าของพี่ชายที่สอนให้เขารู้จักคำว่ารักอีกเลย


            “พี่เร่ร่อนอยู่ริมถนน ต้องคอยหลบพวกเจ้าถิ่นที่จะมาทำร้ายและหากินด้วยการลักโขมยจนกระทั่งมีคนใจดีรับพี่

ไปเป็นลูกบุญธรรม พี่คงจะไม่ได้สนใจอะไรอีกเพราะถือว่าพี่เลือกที่จะไปแต่ที่พี่ต้องกลับมาเพราะรู้ว่าพ่อกำลังผลาญ

สมบัติที่เป็นน้ำพักน้ำแรงของตาไปกับการพนัน นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราสองคนถึงได้พบกันในสภาพเช่นนี้”


            น้ำเสียงสั่นเครือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อปราบเล่าถึงตรงนี้ ปมุตใจหายเมื่อรับรู้ถึงความปวดร้าวของผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ

หากเป็นเขา ปมุตจะเลือกทำอย่างไรกับเรื่องทั้งหมด


            “ส่วนเรื่องที่ทำให้พ่อต้องเป็นแบบนี้เพราะว่าเมียของพ่อเข้ามายั่วยวนจนพี่โมโห ก็เลยเปิดคลิปที่เขาซื้อบริการ

จากเด็กในผับให้เขาดู แต่พี่ไม่นึกว่าพ่อจะอยู่แถวนั้นจนได้ยินไปด้วย”


            ปมุตสะอื้นออกมาในที่สุด ปราบวางมือพาดไปกับบ่าและดึงให้ปมุตแนบชิดอยู่กับเขา เนิ่นนานกว่าที่หนุ่มน้อยจะ

หยุดร้องไห้ลงได้ ร่างเพรียวลุกขึ้นยืนแล้วมองผ่านกระจกใสไปยังร่างของบิดาที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง ปราบลุกตามมาหยุด

ยืนซ้อนอยู่เบื้องหลัง


            แม้น้ำตาจะหยุดไหลลงแล้วแต่ความรู้สึกสับสนยังไม่หยุด ปมุตกัดริมฝีปากจนแทบห้อเลือดก่อนจะตัดสินใจเอ่ย

ออกมา


            “เราควรจะหยุดเรื่องของเรา”


            ไหล่บางถูกกระชากให้หันกลับมาเผชิญหน้า สายตากร้าวก้มลงมามองเขาพร้อมกับแรงบีบที่หัวไหล่


            “ไม่มีทาง ป้องก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้”


            ปมุตเงยหน้าประสานสายตา เขาดึงมือของปราบออกจากไหล่แล้วตอบโต้ด้วยเสียงแหบโหย


            “แล้วพี่เดี่ยวคิดว่าป้องจะมองหน้าพี่เดี่ยวจะมีเซ็กส์กับพี่เดี่ยวด้วยความรู้สึกยังไง เอากันไปพร้อมกับนึกรังเกียจ

ตัวเองไปด้วยที่เกิดมาพร้อมกับการทำลายความสุขของคนอื่นงั้นหรือ”


            ปราบกัดกรามกรอดเมื่อได้ยินคำพูดจากปมุต


            “พี่ไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังเพื่อให้ป้องรู้สึกผิดแทนพ่อและแม่ของป้องนะ พี่แค่ไม่ต้องการให้ป้องเข้าใจพี่

ผิด”


            รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้างดงาม มันทำให้หัวใจของปราบหดเล็กและพร้อมจะพังทลายลงในพริบตา


            “ไม่ทันแล้วครับพี่เดี่ยวเพราะตอนนี้ป้องกำลังรู้สึกแบบนั้นจริงๆ และคิดว่าเราสองคนคงไม่เหมาะที่จะสาน

สัมพันธ์กันต่อไป เราควรจะ…”


            ปมุตกลืนก้อนสะอื้นลูกใหม่ที่กำลังถาโถมเข้าหา น้ำตาที่แห้งเหือดกลับรื้นอยู่เต็มหน่วยตาอีกครั้ง


            “เราควรจะห่างกันสักพัก”


            “ไม่”


            ปราบปฏิเสธเสียงแข็ง เขามองใบหน้าหวานของปมุตอย่างไม่เข้าใจ


            “เราสองคนรักกัน พี่รักป้อง ป้องรักพี่ ไม่มีความจำเป็นที่เราจะต้องห่างกัน”


            ปมุตเบือนหน้าหนี สีหน้าเจ็บปวดของปราบยิ่งทำให้เขาเกลียดตัวเองจับใจ


            “ความจริงกับจินตนาการบางครั้งก็เป็นคนละเรื่อง เราไม่สามารถจบเรื่องในความเป็นจริงได้ตรงกับที่เราต้องการ

หรอกครับพี่เดี่ยว”
             








           “ป้อง พ่อเป็นไงบ้าง”


            รัศมีผวาเข้ามาหาเมื่อปมุตกลับไปถึงบ้านเพียงลำพังในขณะที่ปราบต้องติดต่อเรื่องค่าใช้จ่ายรวมถึงการติดต่อ

หาพยาบาลพิเศษเพื่อดูแลนายปัญญา ปมุตมองหน้าราวกับเป็นคนไม่เคยรู้จักกัน


            “แม่เป็นห่วงพ่อมากนะป้อง อยู่ๆก็ล้มตึงลงไปแบบนั้น นี่ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีไงบ้าง เป็นห่วงจนไม่กล้าไปโรง

พยาบาลด้วยเลย กลัวจะทำใจไม่ได้”


            ปมุตแค่นยิ้ม เขาไม่นึกว่าวันนี้เขาจะได้รู้จักมารดาตนเองในอีกด้านหนึ่ง


            “ถ้าแม่เป็นห่วงพ่อจริงก็คงไม่ทำอะไรที่ทำให้พ่อต้องเครียดหรอก จริงไหมครับแม่”


            รัศมีเอะใจเมื่อบุตรชายใช้น้ำเสียงแข็งอย่างที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน หล่อนเท้าเอวขมวดคิ้วมองหน้าปมุต


            “แกพูดแบบนี้หมายความว่าไงป้อง นี่แกหาว่าไอ้ที่ตาแก่พ่อแกเป็นแบบนี้เป็นเพราะฉันทำพ่อแกเครียดงั้นหรือ”


            “ก็แล้วแต่แม่จะคิด”


            ปมุตเดินหนีขึ้นห้องตัวเองแล้วคว้ากระเป๋าเดินทางใบเล็กออกมา เสื้อผ้าไม่กี่ชุดถูกยัดลงไปอย่างรวดเร็วและอีก

ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็เดินกลับลงมาชั้นล่างผ่านหน้ามารดาที่ยังนั่งฮึดฮัดอยู่ที่ห้องรับแขก


            “ไอ้ป้อง แกจะไปไหน”


            รัศมีเดินลิ่วๆมาคว้าแขนลูกชายไว้แล้วตวาดลั่นเมื่อเห็นปมุตลากกระเป๋าลงมาด้วย


            “นี่พ่อแกก็ไม่สบายอยู่ ลูกชายอย่างแกยังคิดจะทิ้งแม่อย่างฉันไปไหน”


            ปมุตดึงมือแม่ออกจากแขน


            “ป้องไม่ได้ทิ้งแม่แค่ขอเวลาไปสงบสติหน่อย ตอนนี้ป้องทำใจที่จะอยู่บ้านเดียวกับคนที่แย่งของรักของคนอื่น

มาไม่ได้จริงๆ”


            รัศมีอ้าปากค้างเมื่อรู้สึกราวกับถูกลูกชายแท้ๆด่าเข้าตรงๆ กว่าจะรู้สึกตัวและส่งเสียงกรีดร้องออกมาได้ ปมุตก็

เดินลิ่วๆไปถึงรถยนต์ของเขาแล้วขับออกไปจากบ้านแล้ว
















            “ไฮ ที่รักไม่เจอหน้ากันสิบกว่าชั่วโมงคิดถึงจังเลย”


            “มุขนี้ใช้ตั้งแต่ฉันอายุสิบสามที่เริ่มไปจีบยัยนาตาลีห้องข้างๆ”


            โนเอลยิ้มเยาะในขณะที่ยังมุ่งความสนใจอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ชาวียู่หน้าใส่ก่อนจะดึงแขนของโนเอลให้ลุก

ห่างจากโต๊ะทำงาน


            “เฮ้อ แฟนมาหาที่ออฟฟิศทั้งทีอย่ามัวแต่สนใจงานสิครับ นี่มีเวลานิดเดียวแต่เพราะทนคิดถึงไม่ไหวเลยต้อง

แวบมาหานะรู้ไว้บ้าง”


            หน้างอง้ำของชาวีทำให้โนเอลหัวเราะออกมา เขาดึงหน้าของชาวีเข้ามาจูบยั่วเย้า ชาวีถึงกับหน้ามืดเมื่อเจอ

ฤทธิ์จากปลายลิ้นของโนเอล


            “คุณแม่งจูบเก่งเป็นบ้าเลยว่ะ เล่นเอาของผมตั้งโด่เลย นับถือจริงๆ”


            “ไม่ใช่มันตั้งโด่ตั้งแต่เข้ามาแล้วเหรอ”


            โนเอลยักคิ้วให้เลยถูกชาวีรวบตัวไปกอดแล้วฝังหน้าลงกับซอกคอพลางเม้มปากลงไปจนโนเอลต้องสูดลมลึก


            “งานยังไม่เสร็จนะ รู้ไหมว่าที่อิตาลีเขาสนใจรูปที่นายถ่ายแบบให้มากเลย อะฮื้อ อย่าบีบสิวะ”


            โนเอลร้องลั่นเมื่อกล่องดวงใจถูกบีบเบาๆ เขาถูกลากให้มานั่งลงตรงเก้าอี้ตัวเล็กตรงกันข้ามกับเก้าอี้ทำงาน

ของเขา


            “ช่างแม่งเหอะ ผมมาได้แป๊บเดียวแล้วต้องไปทำงานต่อนะ ขอเวลาให้ผมสักนิดห้ามพูดเรื่องงาน”


            ชาวีทรุดตัวนั่งกับพื้น เขาจับเข่าของโนเอลแยกออกแล้วแทรกตัวไปนั่งตรงกลางขา มือปลดซิปกางเกงของ

โนเอลออกพลางแตะลิ้นทักทายอยู่ตรงนั้นจนเจ้าของมันครางฮือ ชาวีฉวยโอกาสลากปลายลิ้นโลมเลียตั้งแต่โคนจนถึง

ปลายหยักที่เริ่มปริ่มน้ำ


             “อือ เมื่อไหร่จะเลิกหื่นวะ เมื่อคืนก็ตั้งหลายรอบกูยังเจ็บตูดอยู่เลยนะ”


            โนเอลบ่นพึมพำในขณะที่เด้งเอวเข้าหาเมื่อแท่งเอ็นร้อนถูกกลืนกินเข้าไปจนหมด ดูดดุนอยู่พักใหญ่จนกระทั่ง

ดึงกางเกงของโนเอลร่นมาอยู่ที่ต้นขาเขาลุกยืนพลางปลดกางเกงตนเองออกบ้างแท่งเนื้อใหญ่ดีดผึงออกมา ชาวีจับ

โนเอลแยกขากว้างพลางดันเอวเข้าไปที่เดียวครึ่งด้าม


             “ฟัค เบาสิวะ ยัดเข้ามาได้”


            โนเอลด่าลั่นแต่ชาวีก็ยังหัวเราะได้ เขาดันอีกทีจนมิดลำเรียกเสียงครางดังลั่นก่อนที่เขาจะโชว์สเต็ปจนกระทั่ง

พาโนเอลสุขสม เขาดึงหน้าของโนเอลมาจูบหนักๆอีกครั้ง


            “โนเอล คุณทำเสน่ห์น้ำมันพรายใส่ผมแน่ๆ นี่ลืมตาก็เห็นหน้าคุณ หลับตาก็ยังเห็นอีก”


            โนเอลคล้องแขนไปรอบคอชาวีแล้วยักคิ้วให้


            “บ้านผมไม่มีหรอกโว้ยน้ำมันพรายน่ะ จะมีก็แต่ลีลามัดใจให้ดิ้นไม่หลุด”


            ชาวีพยักหน้าพลางยิ้มหื่น


            “จริงด้วย ลีลาคุณมันเร้าใจฝุดๆ งั้นผมขอจัดเล็กๆอีกสักยกก่อนกลับนะ”
             






            “เลิกงานหรือยัง”


            ชาวีถามผ่านโทรศัพท์อย่างเป็นห่วงเมื่อเขากลับถึงคอนโดมิเนียมตอนดึกหลังจากที่เพิ่งจะทำงานเสร็จ เขาเดิน

คุยไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี


            “กินข้าวด้วยนะ คิดถึงมาก แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆจะพาไปดินเนอร์ คร้าบ ฝันดีครับที่รัก อ้าว ป้อง”


            ชาวีแปลกใจเมื่อเห็นปมุตนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาในล็อบบี้ใต้คอนโดมิเนียม เขาเดินเข้าไปหาและมองปมุต

ย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าที่เคยสดใสกลับเศร้าสร้อย ดวงตาเรียวแดงช้ำเห่อบวมไปหมด


            “เกิดอะไรขึ้น ทำไมร้องไห้หนักขนาดนี้”


            ชาวีทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวติดกันพลางวางมือบนศีรษะของปมุตเพื่อปลอบโยน ปมุตช้อนสายตามาชาวีอย่าง

วิงวอน


            “พี่วี ผมขอมาอาศัยอยู่กับพี่สักพักนะ ผมไม่มีที่ไปแล้วจริงๆ”



                                                                            TBC
             
             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 01-05-2015 01:36:59
เข้าใจป้องนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-05-2015 01:49:16
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 01-05-2015 02:06:51
จะเข้าทางแดเนียลไหมเนี่่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-05-2015 02:13:33
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 01-05-2015 02:32:33
น้องป้องของเจ้  :mew2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 01-05-2015 07:21:58
สนุกและค้างงงง อ่าาาาา

อิแดนจะทำอะไรซ้ำเติมสถานการณ์อีกป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 01-05-2015 19:25:24
เราอยากอ่านแบบหน่วงขั้นสุดเลยค่ะ
เป็นความชอบส่วนตัวด้วย  :mew3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-05-2015 19:58:52
อึมครึมจริงๆ
ชาวีโนเอลนี่จูนกันติดตลอด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 01-05-2015 22:08:24
กลัวอย่างเดียวอิแดเนียลจะโผล่มาหลอกป้องตอนกำลังสับสนแบบนี้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-05-2015 00:20:56
เห้ออ!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 02-05-2015 13:29:27
 :monkeysad: :monkeysad: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 02-05-2015 13:36:34
ป้อง บางทีป้องอาจต้องทำความเข้าใจอะไรใหม่หลายอย่างนะคะลูกกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 02-05-2015 15:24:04
ป้องสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 33 (01 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: clairon ที่ 02-05-2015 23:21:42
มาม่ากำลังจะมาเสริฟซิน่ะ
สงสารปราบจัง น้องป้องจะเป็นยังไง
โอ้ยย กำลังสนุกเลยล่ะ มาต่อไวๆน่ะค่ะ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-05-2015 14:43:26

                                                                   เพลิงพ่าย

                                                                   บทที่ 34.1             


            ชาวีจูงมือปมุตเข้ามาในห้องของเขา ปมุตนั่งลงบนโซฟาตัวยาวด้วยใบหน้าที่ยังเศร้าสร้อยจนชาวีใจหาย แม้ว่า

เขาจะไม่ได้คิดกับปมุตด้วยความรู้สึกเช่นเก่าแต่เยื่อใยความรักก็ใช่ว่าจะตัดขาดกันได้ง่ายๆ เขาจ้องหน้าปมุตด้วยใบหน้า

เคร่งขรึม


            “เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีสภาพแบบนี้”


            มือที่เกาะกุมไม่ยอมปล่อยกระชับแน่นราวกับจะให้กำลังใจ ปมุตสบตากับชาวีแล้วความบีบคั้นในจิตใจก็ก่อตัว

ขึ้นมาอีกครั้ง หยาดน้ำตาใสคลออยู่เต็มหน่วยตาเมื่อเอ่ยถามชาวีเสียงแหบโหย


            “พี่วีจะทำยังไงถ้าพี่วีมีความรักกับคนที่ครอบครัวของเราเคยทำร้ายเขาจนบอบช้ำและยังเป็นความรักที่ผิดศีล

ธรรมด้วย ทุกอย่างเป็นเรื่องผิดพลาดไปหมดทั้งๆที่เราก็รักกันมาก”


            ชาวีมองใบหน้าเรียวที่เต็มไปด้วยความรันทดอย่างสงสาร เขาดึงปมุตเข้ามาในอ้อมกอดพลางลูบหลังลูบไหล่

ปลอบใจ


            “โธ่เอ๊ย ป้อง”


            “พี่จะทำยังไงถ้ารักกันแล้วแต่กลับลงเอยกันไม่ได้ พี่วีจะทำยังไง”


            ปมุตร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น เขาเอนศีรษะลงพิงไว้กับบ่าของชาวีอย่างหมดแรง ชาวีได้แต่มองไหล่บางที่

กำลังสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นอย่างหนักใจ

            เกิดอะไรขึ้นกับปมุตที่แสนจะบอบบางราวกับแก้วเจียรนัย ปมุตที่เคยสดใสและเต็มไปด้วยรอยยิ้มมีชีวิตชีวา ชาวี

นึกโมโหใครก็ตามที่ทำให้ปมุตต้องกลายเป็นแบบนี้


             “ร้องไห้ออกมาเถอะป้องถ้ามันทำให้ป้องหายเจ็บปวดได้บ้าง พี่อาจจะช่วยป้องไม่ได้แต่อย่างน้อยพี่ก็จะอยู่

เคียงข้างป้องอย่างนี้จนกว่าป้องจะดีขึ้น”

           






            ข้อมูลที่ได้มากำลังทำให้แดเนียลต้องขมวดคิ้ว หลังจากที่เห็นว่าปราบกับปมุตรู้จักกันเขาก็สั่งให้ลูกน้องไป

สืบหาความสัมพันธ์ของทั้งคู่เขาจึงรู้ว่าปราบเข้าไปกว้านซื้อหุ้นมาจากกิจการครอบครัวของปมุตทั้งทางตรงและทางอ้อม

จนกลายเป็นเจ้าของคนใหม่แต่แดเนียลไม่เข้าใจว่าปราบจำทำแบบนั้นไปทำไมกับบริษัทขนาดกลางในสายตาของเขา

มันไม่มีความน่าสนใจเลยสักนิดที่จะลงทุนขนาดนั้น แดเนียลคิดว่ามันต้องมีเบื้องหลังเบื้องลึกมากกว่านี้


            คิดหาทางสืบความลับจนกระทั่งนึกหน้าทนายความหน้าตาพอใช้ได้ที่เขาพบในงานเลี้ยงของอินไฟไนท์อินดัส

เตรียลได้ แดเนียลควานหานามบัตรจากลิ้นชักโต๊ะเพื่อหาเบอร์โทรศัพท์ของชนัย


            “สวัสดีครับคุณชนัย”


            เขาเอ่ยขึ้นเมื่ออีกฝ่ายรับโทรศัพท์


            “ผมแดเนียลที่เราเคยพบกันที่งานของอินไฟไนท์ยังจำได้ไหมครับ นั่นแหละครับใช่เลย ผมอยากจะนัดพบคุณ

ชนัยเพื่อเราจะได้พูดคุยกันเรื่องของปราบ ปริวัตรเพื่อนของคุณชนัยไงครับ”


            แดเนียลไม่รอช้าที่จะเดินทางไปหาแหล่งข้อมูลของเขาที่ร้านกาแฟเล็กๆแห่งหนึ่งใกล้กับสำนักงานทนายความ

ของชนัย ชายหนุ่มนั่งรออยู่แล้วด้วยความสงสัย


            “คุณแดเนียลอยากรู้อะไรจากผม”


            “คืออย่างนี้นะครับ พูดตรงๆเลยผมขอสารภาพกับคุณว่าผมกำลังถูกใจกับนักร้องที่ชื่อว่าปมุต แต่ผมมีเรื่องไม่

สบายใจเพราะทราบมาว่าปราบเพื่อนของคุณเข้ามาเกี่ยวพันอยู่กับกิจการครอบครัวของปมุตถึงขั้นกลายเป็นผู้บริหารคน

ใหม่ ผมเกรงว่าทั้งสองคนจะมีความสัมพันธ์กันด้านอื่นด้วย”


            “อ๋อ เรื่องนี้เอง”


            ชนัยหัวเราะเบาๆ เป็นเพราะความสงสัยที่มาของปราบเขาจึงไปถามจากบิดา เขาจึงรู้ความเป็นมาของปราบใน

สมัยยังเด็ก


            “คุณแดเนียลสบายใจได้ทั้งคู่เป็นพี่น้องคนละแม่กันครับ”


            พี่น้อง!


            แดเนียลนิ่งงัน


            ปราบเป็นพี่น้องกับปมุต ทั้งที่เขามองเห็นความสนิทสนมกันมากกว่าคำว่าพี่น้อง มันต้องมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้น

แน่ๆ แต่ตอนนี้แดเนียลส่งยิ้มให้กับชนัย เขามองเห็นสายตาของชนัยที่เฝ้ามองปราบอยู่ในงานวันนั้นอย่างหลงใหล ใช่สิ

ใครๆก็ต้องหลงใหลไอ้คนหน้าตาดีๆแบบนั้น แต่คนอย่างชนัยนี่แหละที่เขาจะใช้เป็นเครื่องมือ


            “เฮ้อ ผมก็โล่งอก ที่แท้ทั้งคู่ก็เป็นพี่น้องกันนี่เอง นั่นสินะปราบเขาจะสนใจปมุตได้ยังไงในเมื่อเขามีคุณอยู่

ทั้งคน”


            “โอ๊ย คุณแดเนียลพูดอะไรอย่างนั้น”


            ชนัยหน้าแดงก่ำและยิ้มอย่างถูกใจ


            “ผมก็เป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งและคนที่ทำงานร่วมกับเขาเท่านั้นเอง”


            “เอ งั้นหรือครับ แต่ผมมองเห็นความเหมาะสมของคุณกับคุณปราบชัดเจนมากเลยนะ เขาเองก็เทคแคร์คุณจน

ผมนี่คิดว่าเขาเป็นคนรักของคุณมากกว่าเพื่อนเสียอีก”


            แดเนียลลอบยิ้มเมื่อเห็นท่าทางของชนัยที่ตกหลุมไปกับคำยกยอปอปั้นของเขา ช่างติดกับได้ง่ายเหลือเกินกับ

คนประเภทนี้ แดเนียลถือเป็นคติเสมอว่าคนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาดและคนที่ฉลาดไม่จำเป็นต้องลงมือทำอะไรเอง

เพียงแค่จับทางได้เขาก็ใช้คนโง่ให้ทำงานแทนโดยที่เขาไม่ต้องเหนื่อยอะไรเลย


            “เชื่อผมเถอะชนัย คุณปราบเขาต้องคิดกับคุณเกินกว่าเพื่อนแน่ๆ ยังไงก็ขอให้คุณมีความสุขกับคุณปราบนะครับ

ผมจะรอวันที่ได้รับข่าวดีจากคุณ”





           TBC

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-05-2015 15:50:28
ชนัยแกอย่าโง่นะ! แกเป็นทนายความเชียวนะ มันเสียศักดิ์ศรีนะ!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 04-05-2015 16:08:44
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-05-2015 16:20:04
อย่าโง่
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 04-05-2015 16:24:11
ชนัยนี่หลงละเมอเข้าข้างตัวเอง ส่วนแดเนียลก็ร้ายจริงจัง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 04-05-2015 19:01:04
แดเนียล ไอ้ชั่ววว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-05-2015 19:17:20
แผนเดิมๆ นะแดเนียล
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-05-2015 21:59:21
กำลังตามอ่านอยู่จ้า

ยังอ่านไม่ทัน

เขียนได้ดีมากๆ

เป็นกำลังใจให้อีกคนจ้า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-05-2015 23:46:33
ยังอ่านไม่ทัน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 05-05-2015 00:56:33
ปวดจิตต
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 05-05-2015 06:52:02
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 05-05-2015 18:49:02
อิแดเนียล  :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.1 ( 04 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 05-05-2015 20:18:59
ความรักมันพร้อมให้ชนัยทำเรื่องโง่ๆแน่
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-05-2015 20:34:59


                                                                  เพลิงพ่าย

                                                                  บทที่ 34.2



            จะว่าเข้าข้างตัวเองก็ได้แต่ปราบก็แสดงความสนิทสนมกับเขาไม่ว่าจะจากการพูดคุยหรือการดูแลเมื่อชนัยข้ามา

ตรวจสอบด้านกฏหมายที่อินไฟไนท์อินดัสเตรียลในช่วงนี้เกือบทุกวัน และการที่ปราบยังไม่มีใครใกล้ชิดให้เห็นทำให้

ชนัยคิดว่าตัวเองมีหวังอยู่ไม่น้อยยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดจากสายตาคนนอกอย่างแดเนียล เครตั้นมันก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้

ชนัยมากขึ้นไปอีกแต่ชนัยเองก็ยังอยากได้รับการยืนยันที่ดีที่สุดก็คือจากปราบ ปริวัตร

            แจ้งกับเลขาหน้าห้องไม่ถึงนาทีเขาก็ก้าวเข้าไปในห้องทำงานกว้างขวางเป็นระเบียบของปราบ ชนัยลอบถอน

หายใจล้ำลึกเมื่อเขาเห็นแผ่นหลังกว้างของปราบที่กำลังยืนทอดสายตาออกไปยังกระจกใส ภาพตึกสูงระฟ้าของเมือง

หลวงปรากฏให้เห็นแปลกตากว่าทุกครั้งที่เขาเคยเข้ามาแล้วเจ้าของห้องใช้ม่านทึบแสงบดบังมันไว้ ปราบหันมามองด้วย

ใบหน้าเคร่งขรึมกว่าที่เคยมันยิ่งเพิ่มเสน่ห์จนชนัยอยากจะหลอมละลายอยู่แทบเท้าของผู้ชายคนนี้


            “ผมเอาเอกสารที่คุณต้องการเรื่องขอเปิดบริษัทลูกมาให้ เท่าที่ตรวจสอบก็ไม่น่ามีปัญหาอะไรคุณสามารถขยาย

งานได้เลย เอ่อ ปราบครับ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”


            ปราบฝืนยิ้มออกมา เขายกมือลูบหน้าตนเองอย่างเหนื่อยล้าไหล่กว้างลู่ตกลงมาจนชนัยสังเกตเห็นได้ชัด


            “ขอโทษทีนะชนัย ช่วงนี้ผมมีปัญหานิดหน่อยก็เลยติดต่อคุณช้า ขอโทษที่ต้องเดือดร้อนให้คุณมาเอง”


            “ปราบครับ”


            ชนัยถือโอกาสก้าวเดินอ้อมโต๊ะเข้าไปใกล้แล้ววางมือลงบนท่อนแขนของปราบแบบไม่ให้ดูจงใจเกินไปนัก เขา

เงยหน้ามองปราบที่สูงกว่าเขาอยู่เล็กน้อยพลางยิ้มอ่อนอย่างที่คิดว่าตนเองดูดีที่สุด


            “อย่าพูดอย่างนั้น แม้ว่าผมจะเพิ่งรู้จักกับคุณไม่นานแต่เราก็เหมือนคนคุ้นเคยกันเพราะพ่อของผมก็ทำงานให้

ครอบครัวของคุณ ผมปรารถนาดีต่อคุณจริงๆนะ”


            ปราบถอนหายใจแผ่วเบาเขาวางมือทับไปบนหลังมือของชนัย ยิ่งทำให้เจ้าตัวร้อนวูบวาบมากขึ้นไปอีก


            “ขอบคุณชนัย อย่างน้อยก็ขอบคุณสำหรับคำปลอบโยนจากคุณนะ”


            ทนไม่ไหวแล้ว!


            ดวงตาหมองที่มองมาประกอบกับรอยยิ้มที่รู้ว่าฝืนแต่มันกลับทำให้ชนัยใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เขาขยับตัวเข้าไป

ใกล้เอื้อมมือไปวางบนบ่ากว้างแล้วบีบเบาๆ ลมหายใจอุ่นของปราบอยู่ใกล้เกินกว่าจะหยุดยั้งได้ ชนัยดึงปกเสื้อของปราบ

ให้โน้มลงมาเพื่อที่เขาจะแนบปากเข้าหาอย่างเหมาะเจาะ กลิ่นบุหรี่เย็นๆลอยอวลเร่งเร้าให้ชนัยส่งลิ้นผ่านริมฝีปากแห้ง

ผากอย่างคนขาดความเอาใจใส่เข้าไปภายใน ร่างกายของเขาร้อนวูบวาบไปหมดเมื่อเบียดกายแนบชิดสัมผัสกล้ามเนื้อ

แกร่งที่ซ่อนอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ปราบใส่วันนี้


            ปราบไม่ได้ปฏิเสธจูบของชนัยแต่ก็ไม่ได้ถึงกับจูบตอบ เขาปล่อยให้ชนัยเบียดปลายลิ้นเข้าหาตามแต่ใจจน

กระทั่ง ชนัยผละปากออกมาช้าๆพร้อมกับมองเขาตาปรอย


            “ผมขอโทษ คุณอาจจะตกใจ แต่สภาพของคุณมันทำให้ผมเป็นห่วงจริงๆ”


            ชนัยก้มหน้าเสมองไปบนผิวกายขาวของปราบที่โผล่พ้นสาบเสื้อ ขนอ่อนที่ขึ้นเป็นไรอยู่บนแผงหน้าอกทำให้

ชนัยลอบกลืนน้ำลายพลางจินตนาการยามที่ปราบไร้เสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆปกปิด นึกอยากจะลูบคลำให้หนำใจแต่ตอนนี้

ทำได้เพียงวางมือแนบไปกับหัวไหล่แล้วช้อนสายตาขึ้นมองปราบอย่างเว้าวอน


            “ปราบ มันอาจจะเร็วไปแต่ผมก็รักคุณไปแล้ว ขอให้ผมเป็นคนดูแลคุณได้อยู่เคียงข้างคุณจะได้ไหม ปราบผมรัก

คุณจริงๆนะ”


            ความยุ่งยากใจมาเยือนปราบเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเรื่อง ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าชนัยคิดอย่างไร ชนัยเองก็เป็นคนดีมี

น้ำใจคนหนึ่งเขาอาจจะเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองคบหาถ้าไม่ได้ติดตรงที่ว่าปราบไม่เหลือจิตใจให้ใครแล้ว เขาสบตา

กับชนัยดันร่างนั้นให้ห่างออกจนได้ระยะส่วนตัวกลับคืนมาแล้วจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด


            “ชนัย ผมขอโทษที่คงรับความหวังดีจากคุณไม่ได้ ทั้งที่คุณก็ดีกับผมมาก”


            ชนัยชะงักเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู ความผิดหวังจู่โจมกะทันหันจนหน้าเสีย


            “ทำไมล่ะปราบ ทำไม”


            “ก็เพราะว่าผมมีคนรักแล้ว และก็คงจะรักใครไม่ได้อีกแล้วน่ะสิ”
             






           ปราบมีคนรักแล้ว


          ชนัยเดินกลับมาที่รถยนต์ของตัวเองได้อย่างไรเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน เมื่อใจมันหล่นหายไปตั้งแต่ถูกปราบปฎิเสธ

อย่างไร้เยื่อใย มันยากที่จะเชื่อว่าปราบมีคนรักอยู่แล้วก็ตั้งแต่รู้จักกับปราบเขายังไม่เห็นปราบคบกับใครสักคน ชนัยเม้ม

ปากอย่างขัดใจก่อนจะใช้ท่อนแขนทุบลงไปบนพวงมาลัยรถ อยากเห็นหน้าใครคนนั้นที่ปราบบอกว่าเป็นคนรัก

          เพื่อนฝูงในวงการนักสืบมีไม่น้อยเพราะต้องจ้างทำงานในคดีสามีภรรยาฟ้องหย่า ชนัยไม่รอช้าที่จะติดต่อเพื่อสืบ

ในสิ่งที่เขาอยากรู้ อยากรู้เหลือเกินว่าใครกันที่สามารถพิชิตใจผู้ชายอย่างปราบ ปริวัตรได้

           







            “พี่ป้อง โทรศัพท์ดัง”


            พลอย สรุตานักร้องสาวที่ผ่านการประกวดเวทีเดียวกับปมุตตะโกนบอกให้รู้ในขณะที่ปมุตกำลังซ้อมเต้นอยู่บน

เวทีอย่างเอาเป็นเอาตาย งานคอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายที่รวบรวมศิลปินมาแสดงบนเวทีเกือบยกค่ายเป็นข้ออ้างที่ทำให้

ปมุตทุ่มเทแรงไปกับมันเพื่อให้ลืมความเจ็บปวดทั้งหมด ปมุตหยุดการเต้นและเดินมาคว้าโทรศัพท์มารับสาย


            “สวัสดีครับ ปมุตพูด”


            “ถ้าพี่ใช้เบอร์เก่า ป้องก็คงไม่รับสายพี่ใช่ไหม”


            เสียงที่ลอดออกมาจากอีกฝั่งทำให้ปมุตชะงักและเม้มปากแน่นเมื่อนั่นคือเสียงของปราบที่เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์

เพื่อโทรมาหาเขา


            “ว่าไงล่ะป้อง หลบหน้าพี่เดี่ยวทำไม”


            ปราบพยายามหาทางพบหน้าปมุต แต่น้องชายของเขากลับยิ่งหลีกหนีถึงแม้ปราบรู้ว่าปมุตปลีกเวลาไปเยี่ยม

นายปัญญาที่โรงพยาบาลบ่อยครั้งแต่เมื่อปราบไปก็ไร้ร่องรอยปมุต


            “ผมไม่ได้หลบหน้าพี่ปราบ ช่วงนี้ใกล้ถึงงานคอนเสิร์ตแล้วพวกเราซ้อมกันหนักมาก”


            ปมุตเลือกใช้สรรพนามที่ฟังดูห่างเหินถึงแม้จะรู้ว่าปราบคงไม่ชอบใจนัก และก็เป็นอย่างที่ปมุตคิดเมื่อได้ยิน

เสียงสบถลอดมาเบาๆ


            “ผมยังไม่มีเวลาคุยกับพี่ ขอโทษนะครับต้องไปซ้อมแล้ว”


            ปมุตวางสายและปิดเครื่องเสียเลยเพื่อจะไม่ให้ปราบติดต่อได้อีก เขาถอนหายใจออกมาเบาๆเมื่อเงยหน้าขึ้นมา

อีกทีก็เห็นสรุตามองเขาตาแป๋ว


            “พี่ป้องมีปัญหาหัวใจเหรอ”


            สรุตาเดินมาใกล้พร้อมเบียดร่างกายอวบอิ่มจนแทบจะแนบชิดมือเรียวเคลือบเล็บสีสดลูบไล้ไปบนแขนของ

ปมุตอย่างยั่วยวน


             “มีปัญหาก็ปรึกษาพลอยได้ พลอยน่ะเชี่ยวชาญทั้งเรื่องหัวใจแล้วก็เรื่องร่างกายด้วย เราไม่เจอกันนานพี่ป้องยัง

จำได้ไหม”


            ก็หล่อนน่ะเคยหวังในตัวปมุตมานานแล้วถ้าไม่ติดว่าเมื่อตอนที่ยังอยู่ในช่วงเดินสายโปรโมทหลังการประกวดจบ

ลงจะไม่ถูกขัดขวางด้วยชาวีล่ะก็ ปมุตกับหล่อนคงได้ซ้อมเพลงกันบนเตียงเป็นแน่


            “พลอย ทำอะไรน่ะมายุ่งกับป้องอีกแล้ว คนทำงานกันตั้งเยอะประเจิดประเจ้อ”


            นั่นไง พูดถึงก็มาแล้ว สรุตาทำหน้าเหนื่อยหน่าย


            “พี่วี เมื่อไหร่พี่จะเลิกทำตัวเป็นหมาหวงก้างซะทีเนี่ย”


            สรุตาต่อว่าพลางสะบัดหน้าเดินหนี ชาวีส่ายหัวอย่างระอาก่อนจะหันมามองปมุตอย่างเป็นห่วง


            “ซ้อมหนักไปแล้วนะป้อง ยังไม่เลิกคิดมากอีก”


            ก็เพราะว่าปมุตไปอาศัยที่คอนโดมิเนียมของเขาอยู่หลายวันแล้ว ชาวีจึงรู้ดีว่ากิจวัตรช่วงนี้ของปมุตคือซ้อมเต้น

อย่างหนักและกลับไปสลบไสลอยู่บนโซฟาตัวยาว แม้ชาวีจะบอกให้เข้าไปนอนด้วยกันในห้องนอนปมุตก็ไม่ยอม ปมุต

ฝืนยิ้มให้เขาและเดินกลับไปบนเวทีที่ยังมีคนซ้อมเต้นกันอยู่ ชาวีมองตามอย่างนึกสงสาร


            ถือโอกาสที่เดินมาขัดจังหวะสรุตากับปมุต ชาวีโทรศัพท์ไปหาโนเอลที่ไม่ได้พบหน้ากันหลายวันตั้งแต่การซ้อม

เข้มข้นขึ้น เมื่อปลายทางรับโทรศัพท์ชาวีได้ยินเสียงโนเอลยังสั่งงานลูกน้องอยู่อีกยาวเหยียด


            “ว่าไงวะ”


            “คิดถึงจังครับที่รัก”


            “จะอ้วก”


            “ท้องหรือไง”


            “ค—“


            ชาวีหัวเราะร่วนอย่างถูกใจที่เจอคำด่าแบบชัดถ้อยชัดคำจากโนเอล ความเหนื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง


            “อยากให้เหมือนกันนะแต่ไม่มีเวลาเลย โนเอลไม่คิดถึงผมรึไง”


            “เออ คิด”


            โนเอลตอบเบาๆ เขาเองก็ยอมรับว่าคิดถึงชาวีมากเหมือนกัน แต่เขาก็รู้ว่าคอนเสิร์ตที่ใกล้จะถึงในอีกไม่กี่วันข้าง

หน้าทำให้ศิลปินของค่ายเพลงต้องทำงานกันอย่างหนัก จะให้เขาทำตัวงอแงเหมือนเด็กน้อยก็คงจะไม่ได้


            “คิดถึงเด็กปากหมาเหมือนกันว่ะ”


            เสียงขัดเขินของโนเอลทำให้ชาวียิ้มแก้มปริ นับวันตาแก่ปากร้ายของเขาจะน่ารักขึ้นทุกที


            “อีกไม่กี่วันเอง อดใจก่อนนะครับตาแก่ขี้บ่น เจอหน้ากันคราวหน้าผมจะจัดให้สามวันสามคืนเลย แต่ตอนนี้ไป

ซ้อมก่อนล่ะ อย่ากลับดึกนักนะผมเป็นห่วง”


            ร่ำลาโนเอลแล้ววางหู กำลังยิ้มรื่นอยู่ดีๆเสียงกรีดร้องตะโกนโหวกเหวกก็ดังลั่นจากเวทีด้านหลังทำให้ชาวีตกใจ


            “เฮ้ย ไอ้ป้องลื่นล้มบนเวทีโว้ย”
             






            “พี่บอกแล้วไงว่าอย่าหักโหม แล้วเป็นไงพลาดจนได้”


            ชาวีต่อว่าเมื่อประคองไหล่ปมุตกลับมาถึงห้องพัก เขาพาปมุตมานั่งบนโซฟาแล้วมองตั้งแต่หัวจรดเท้า


            “ดูสิผอมจนเหลือแต่กระดูก ข้อเท้าเคล็ดอีกต่างหากป้องนะป้อง”


            ตลอดเวลาปมุตได้แต่นั่งหน้าจ๋อยเพราะรู้ว่าชาวีเป็นห่วงด้วยใจจริง เขาเองก็ไม่นึกว่าจะพลาดตอนซ้อมเต้นจน

กระทั่งเสียหลักล้มลง เดชะบุญที่เป็นแค่ข้อเท้าเคล็ดเล็กน้อยได้นวดยากคลายกล้ามเนื้อกับพันผ้าไว้ก็พอบรรเทาปวดลง

ได้


            “โธ่ พี่วีก็อย่าบ่นนักเลย เมื่อก่อนก็ไม่บ่นขนาดนี้นี่ติดเชื้อใครมาอะ”


            ชาวีทำตาโตก่อนจะหัวเราะออกมา


            “นี่ป้องว่าพี่เป็นตาแก่ขี้บ่นเหรอ เดี๋ยวเหอะ ไปเลย ไปอาบน้ำแล้วเดี๋ยววันนี้ไปนอนบนเตียงด้วยกันนี่แหละ อย่า

นะอย่าเถียง ยังไงวันนี้ป้องต้องปวดข้อเท้าและไข้ขึ้นแน่ๆ เดี๋ยวอาบน้ำแล้วพี่จะนวดข้อเท้าให้ป้องจะได้พักผ่อนเต็มที่ ไม่

ต้องกลัวหรอกน่าพี่ไม่ปล้ำป้องหรอก พี่มีแฟนแล้วโว้ย”





            โนเอลเดินผิวปากหวือออกจากลิฟท์ วันนี้เขาเพิ่งจัดการกับโปรเจ็คใหญ่แสนท้าทายได้สำเร็จ ก็งานที่เขาใช้

ชาวีเป็นนายแบบจำเป็นนั่นแหละ เขาอารมณ์ดีและคิดถึงชาวีจนอยากจะเห็นหน้าแม้จะรู้ว่าเวลาล่วงเลยมาจนดึกดื่นแล้ว

ก็ตามมันทำให้เขาขับรถมาจอดที่คอนโดมิเนียมของชาวีแทนที่จะกลับห้องพักตนเอง เขากะว่าจะทำให้ชาวีประหลาดใจ

ที่เห็นเขามาหากลางดึก


            หยุดยืนหน้าห้อง ใช้กุญแจที่ชาวีให้ไว้ไขเบาๆ ชาวีผลักประตูให้เงียบที่สุด ดีที่ชาวีเปิดโคมไฟทิ้งไว้แม้จะเพียง

สลัวแต่ก็ทำให้โนเอลมองเห็นโดยไม่ต้องเปิดไฟเพิ่มอีก ชายหนุ่มถอดรองเท้าไว้ที่ตู้เก็บพลันสายตามองเห็นรองเท้าอีก

คู่ที่เป็นคนละเบอร์กับรองเท้าของชาวี

            คิ้วสีทองขมวดลงทันที โนเอลรู้สึกไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว เขาก้าวเท้าอย่างเบาที่สุดไปยังประตูห้องนอนที่

เพียงงับไป โนเอลผลักมันช้าๆ และชะงักงันเมื่อเห็นภาพบาดตา


            ท่ามกลางความมืดที่มีเพียงแสงสลัวของโคมไฟจากห้องโถงส่องผ่านแต่ภาพที่ชาวีหลับสนิทในขณะที่นอน

ตะแคงเข้าหาใครบางคนที่หลับสนิทไม่ต่างกันท่อนแขนของชาวีพาดผ่านไปยังลำตัวบอบบางราวกับจะมอบความอบอุ่น

ภาพนั้นมันทำให้โนเอลรู้สึกเหมือนหัวใจของเขากำลังถูกเข็มสักร้อยเล่มผลัดกันทิ่มตำ ร่างบอบบางในอ้อมกอดขยับกาย

เบาๆพลิกตัวนอนหงายยิ่งทำให้โนเอลมองเห็นใบหน้างดงามชัดเจน


            ปมุต อนันตกุล!


            หนุ่มน้อยที่ชาวีหลงรักก่อนหน้าที่จะมาพบกับเขา


            โนเอลก้าวถอยหลัง เขาดึงประตูมาปิดในสภาพเดิมและออกไปยืนนิ่งอยู่นอกห้อง ยังไม่ลืมที่จะล็อกประตูคืนให้

ก่อนออกมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

            มีเพียงความรู้สึกของเขาเท่านั้นที่มันเปลี่ยนแปลง
             
           
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: malatee3103 ที่ 07-05-2015 20:46:55
 :mew6:โนเอลเข้าใจผิดอ่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 07-05-2015 20:56:49
ก็เล่นนอนกอดกันแบบนั้นเป็นใครๆก็เข้าใจผิดแหละนะ
เฮ้อตอนนี้ตอนนี้อะไรๆก็ไปเข้าทางอิแดนหมดเลย
ที่จริงอยากให้มันไปทำศัลยกรรมหน้านะ อิแดนเนี่ย
เสียชื่อคนหน้าตาธรรมดาหรือคนหน้าตาไม่ดีหมด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 07-05-2015 21:23:32
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-05-2015 21:45:36
ง่าาา โนเอลเข้าใจผิดซะแล้ว
เห้อออออ ไม่รู้จะเชียร์คู่ไหนให้ดีกันก่อนเลย
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 07-05-2015 22:04:45
เข้าใจผิดแล้ววว
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-05-2015 22:44:06
ต้องคุยสิโนเอล   อย่าเป็นนางเอกละครไทย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 07-05-2015 23:46:14
มันน่าเข้าใจผิดไหมล่ะชาวี !!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 08-05-2015 00:00:32
โอ๊ยยย เครียดๆๆๆ.  อีพี่เดียวไปรับจูบจากอีชนัยทำไมอะ. เฮ้ออ.  แล้วโนแอลยังมาเข้าใจผิดอีก.  เฮ้อออ. ให้มันได้อย่างนี้สิ.
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-05-2015 00:10:33
เป็นเรื่องและโนเอลเข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 08-05-2015 00:16:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-05-2015 02:32:09
จ้าา!! สุมไฟกันเข้าไป
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 34.2 ( 07 / 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 08-05-2015 11:53:09
งานเข้าอีกแล้ว
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-05-2015 00:32:39


                                                              เพลิงพ่าย

                                                              บทที่ 35.1             




            ยิ่งมองปมุต อนันตกุลโชว์การแสดงบนเวทีนานเท่าไหร่ แดเนียลก็ยิ่งปักใจกับนักร้องหนุ่มแทบคลั่ง ร่างกายที่

บอบบางเมื่อโลดแล่นไปกับการทั้งร้องทั้งเต้นยิ่งทำให้หนุ่มน้อยคนนั้นช่างน่าหลงใหลราวกับใครอีกคนที่รักในการแสดง

ไม่ผิดแผกเพียงแต่ว่าคนๆนั้นได้จากเขาไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ แดเนียลจ้องมองภาพเงาของราฟาเอล แมกเวลที่ซ้อน

ทับอยู่บนใบหน้าของปมุตเหมือนถูกมนต์สะกด


            เขานึกดีใจที่มาในงานวันนี้ งานแถลงข่าวและโชว์การแสดงส่วนหนึ่งของคอนเสิร์ตของค่ายเพลงที่จะเกิดขึ้นใน

วันถัดไป ในฐานะที่เขาเป็นคนว่าจ้างปมุตเป็นพรีเซ็นเตอร์ในโครงการใหญ่มันทำให้เขาได้บัตรเชิญสำหรับการแสดงรอบ

สื่อมวลชนนี้ด้วย แม้การแสดงจะไม่ได้เต็มรูปแบบแต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาตัดสินใจได้ว่าเขาควรจะได้ครอบ

ครองนักร้องหนุ่มที่เพิ่งทำการแสดงจบลงไป


            แดเนียลเดินทอดน่องอ้อมไปทางด้านหลังของสถานที่ที่ใช้แถลงข่าวเพราะเขาคาดการว่าบรรดานักร้องของ

ค่ายต้องใช้ทางออกด้านนี้ เขายืนรีรอพักใหญ่จนกระทั่งนักร้องคนอื่นออกมาจนเกือบจะหมดแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าปมุตจะ

ออกมา จนเริ่มจะหงุดหงิดแต่ในที่สุดแดเนียลก็เห็นปมุตเดินออกมาเกือบจะเป็นคนสุดท้ายเขายิ้มอย่างถูกใจและเตรียม

จะก้าวไปหาถ้าไม่ติดว่าจุดมุ่งหมายของเขาถูกฉุดแขนให้เดินตามใครบางคนไปอย่างเร็วรี่ตรงไปทางมุมมืดของซอกตึก

แดเนียลก้าวตามไปอย่างไม่รีรอและเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในมุมที่มองเห็นภาพอย่างชัดเจน ดวงตาสีน้ำขาวปูดโปนเมื่อมอง

เห็นชัดว่าคนที่กำลังสนทนากับปมุตเป็นใคร เพียงแค่เงาแดเนียลก็จำได้!


            ปราบ ปริวัตร อดีตคนที่เคยอยู่ร่วมบ้านเดียวกันมากับเขากำลังยื้อยุดท่อนแขนเรียวของปมุตและสนทนาอะไร

บ้างอย่างที่เขาไม่ได้ยิน คงไม่ใช่เรื่องดีเป็นแน่เพราะแดเนียลเห็นปมุตยกมือผลักไสปราบให้ออกห่างแต่แล้วแดเนียลก็

ต้องกัดฟันข่มอารมณ์ร้อนที่ปะทุขึ้นมาเมื่อเขาเห็นปราบดึงปมุตเข้ามาบดจูบหนักหน่วง เขากำมือแน่นเมื่อปมุตจูบตอบอยู่

พักใหญ่กว่าจะดันร่างของปราบออกห่างและวิ่งหนีไปทิ้งให้ปราบยืนนิ่งเพียงลำพัง


            แดเนียลขับรถกลับคอนโดมิเนียมหรูหราของเขาด้วยความฉุนเฉียว ปราบ ปริวัตร ช่างเป็นศัตรูตัวฉกาจที่มี

รสนิยมคล้ายคลึงกับเขาและเป็นมันที่มักจะได้ครอบครองอย่างได้เปรียบตลอดมา ภาพปมุตกับปราบจูบกันมันติดตาให้

ยิ่งกรุ่นโกรธจนต้องระบายออกกับเหยื่อรายใหม่ที่เขาเพิ่งจะได้ตัวมาไม่นานนักและจัดการกั้นอิสรภาพโดยการขังไว้ใน

ห้องนอนหลายวันผ่านมาแล้ว


            “โอ๊ย”


            เสียงร้องโหยหวนของคู่ขายิ่งกระชากอารมณ์ดิบให้ระเบิด แดเนียลเงื้อมือตบซ้ำไปที่ใบหน้าจนร่างเปลือย

กระเด็นไปกองกับพื้น แดเนียลตามไปนั่งคร่อมอยู่บนหน้าอกใช้มือบีบสันกรามอีกฝ่ายให้เปิดกว้างและยัดท่อนเนื้อร้อน

ระอุของตนลงไปทีเดียวมิดถึงคอ


            “อมสิกานต์ที่รัก เลียให้ผมเดี๋ยวนี้”


            เขากดสะโพกลงไปจนเหยื่อดิ้นพล่านเพราะหายใจไม่ออก ก่อนที่เขาจะกระชากเส้นผมจนแทบจะติดมือเพื่อให้

ช่องปากนั้นได้ทำให้เขาได้ปลดปล่อยออกมา แดเนียลพลิกร่างให้ผู้ชายรูปร่างหน้าตาดีคว่ำหน้าลงกับพื้นแล้วดันท่อน

เนื้อเข้าไปในช่องทางอย่างแรงเรียกเสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังลั่นห้อง เขาจัดการจนกระทั่งความหงุดหงิดจางลงไปบ้าง

จึงได้ใช้ท่อนแขนล็อคคออีกฝ่ายเอาไว้แล้วก้มหน้าลงไปออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ


            “ผมไม่รู้ว่าคุณจะต้องทำยังไงนะกานต์ แต่ภายในอาทิตย์นี้คุณต้องได้ข้อมูลผลิตภัณฑ์ล็อตใหม่ของอินไฟไนท์

อินดัสเตรียลที่คุณทำงานอยู่มาให้ผม คุณคงจะรู้นะกานต์ว่าถ้าคุณทำไม่สำเร็จจะเกิดอะไรขึ้นกับคุณบ้าง”








            ปมุตก้าวออกมาจากงานแถลงข่าวเกือบจะเป็นคนสุดท้าย ใบหน้าสดใสยามอยู่บนเวทีการแสดงกลับหายไป

เหลือไว้เพียงความหมองเศร้ายามได้กลับคืนมาสู่ความเป็นตัวเอง เขาถอนหายใจอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อเดินตรงไปยัง

รถยนต์ของเขาที่จอดอยู่หลังอาคาร


            แต่ยังไม่ทันจะเดินถึงแขนของเขาก็ถูกกระชากอย่างแรง ปมุตเงยหน้ามองอย่างตกใจเขาเห็นเพียงแผ่นหลัง

ของร่างสูงใหญ่ที่ลากให้เขาเดินตามไปยังที่ลับจากสายตาผู้คนมีความมืดสลัวเป็นตัวช่วยบดบังเมื่อผู้ชายคนนั้นใช้มือ

แกร่งบีบอยู่ตรงต้นแขนแล้วเค้นเสียงถามเขา


            “จะหนีหน้าพี่ไปถึงไหน ปมุต!”


            หัวใจของปมุตเต้นโครมครามไปหมดเมื่อได้สบตาดุคู่นั้นที่มองเขาอย่างขุ่นเคืองระคนตัดพ้อ มันยิ่งทำให้ปมุต

ต้องกัดฟันข่มความคิดถึงที่เขาเองไม่อาจปฏิเสธใจตนเองได้ ไหล่บางไหวสะท้านเมื่อกำลังพยายามดึงความเข้มแข็ง

ออกมาให้มากที่สุด


            “ผมไม่ได้หนี แต่ผมบอกพี่ปราบแล้วว่าเราควรจะห่างกันสักพัก”


            “แล้วห่างกันพอหรือยังล่ะ” ปราบตะคอกเสียงต่ำ


            “ที่ผ่านมาเป็นเกือบเดือนนี่เรียกว่าสักพักของป้องได้หรือยัง หรือว่ายังทรมานไม่สมใจ”


            “พี่ปราบ”


            หยาดน้ำรื้นอยู่ในหน่วยตาสีน้ำตาลที่ช้อนขึ้นมองอย่างน้อยใจ


            “ยอมรับความจริงเถอะว่าเราไปต่อไม่ได้ ผมไม่อาจทนอยู่กับความรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตได้หรอก”


            “แล้วทำไมป้องไม่ยอมรับความจริงอีกเรื่องล่ะว่าเราทั้งคู่ต่างก็ทนไม่ได้ที่เราจะห่างกัน ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยใช่

ไหม”


            หยดน้ำกลิ้งลงมาบนร่องแก้มในที่สุด ปมุตยกมือขึ้นผลักไสปราบแม้จะรู้ว่าปราบจะยังไม่ยอมปล่อยมือเด็ดขาด


            “ผมจะตัดใจได้เองนั่นแหละถ้าอยู่ห่างพี่ ทางที่ดีพี่ควรจะออกไปจากชีวิตผมเสียที”


            ปมุตสะดุ้งเมื่อมองเห็นเพลิงร้อนอยู่ในดวงตาคู่นั้น ไหล่บางถูกกระชากเข้าหาเพื่อจะครอบครองกลีบปากของ

เขา รสจูบดุดันที่ห่างหายทำให้ปมุตแทบสำลัก สมองของเขาว่างเปล่าคิดอะไรไม่ออกเลยเมื่อหลงเข้าไปในไฟร้อนที่

กำลังโหมกระหน่ำ ลิ้นร้อนสอดลึกกวาดต้อนให้ปมุตจนมุมแหงนหน้าตอบรับ มือเรียวสั่นสะท้านในขณะที่วางแนบไปกับ

แผงอกกว้าง กว่าที่ปราบจะยอมถอนลิ้นร้อนออกมาแล้วเม้มไปที่เรียวปากอิ่มแรงๆปมุตก็แทบขาดใจ


            ดวงตาสบประสานลึกล้ำนิ่งนาน ปมุตถอนสะอื้นเขาดันไหล่กว้างออกห่างแล้วหมุนร่างวิ่งหนีไปยังรถยนต์ของ

เขา ปราบกัดฟันข่มอารมณ์พักใหญ่จึงได้ก้าวยาวๆตามไปที่รถยนต์คันคุ้นตา เขายกมือตบกระจกรถที่มีปมุตนั่งร้องไห้อยู่

ข้างใน


            “ป้อง ออกมา อย่าหนีพี่อีก”


            ปมุตยกหลังมือเช็ดน้ำตาเมื่อตัดสินใจว่าเยื่อใยทั้งหมดมันควรจะจบลงเสียที เขาสตาร์ทรถพลางเชิดหน้าแล้ว

เหยียบคันเร่งออกไปโดยไม่สนใจปราบที่สบถตามหลังเมื่อมองเห็นปมุตขับรถห่างไปจนกระทั่งลับตา




TBC



             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 16-05-2015 01:01:05
เฮ้อ อึดอัดเนอะ เข้าใจป้องนะ รักกันแต่ติดที่ว่า เป็นพี่น้องพ่อเดียวกัน ความรู้สึกแบบนั้นทรมานเนอะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 16-05-2015 01:20:44
สั้นไปนะ เครียดๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-05-2015 01:48:11
ทรมานนะ  ทางไหนก็เจ็บ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 16-05-2015 02:55:33
ยังไงน้องก็ไม่กลับหรอกเพราะว่ามันต้องห้ามหลายชั้นเหลือเกิน  ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็เอาด้วยคาถา  เหลืออยู่แค่วิธีนี้แหละปราบเอ๊ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 16-05-2015 03:53:44
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 16-05-2015 03:55:07
สงสารโนเอลลลล
ป่านนี้จะเปนยังไงบ้างงงงง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-05-2015 06:54:06
อึมครึมจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-05-2015 08:40:57
ทรมานอึดอัดใจหันไปทางไหนก็เจ็บปวด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.1 ( 16/ 05 /15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-05-2015 18:22:33
สงสารป้องจัง เห้ออออ
ปราบใจเย็นหน่อยซิ่
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-05-2015 22:14:13


                                                         เพลิงพ่าย

                                                         บทที่ 35.2             

              ภาพจากจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเรียกความสนใจจากดวงตาสีฟ้าที่ยังคงเหม่อลอยอยู่ได้ มือเรียวที่กุมเมาส์

หยุดนิ่งเมื่อสมองไม่ได้จดจ่ออยู่กับงานแต่หากยังวนเวียนอยู่กับภาพบาดตาที่เห็นเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา


            “มึงต้องไม่คิดมากสิ เขาอาจจะไม่ได้ทำอะไรอย่างที่มึงกำลังกังวลก็ได้”


            จิตด้านโลกสวยปลอบโยนโนเอลด้วยความพยายามในขณะเดียวกับที่ฝ่ายด้านมืดกลับยิ่งตอกย้ำเมื่อมันรู้ว่าเขา

เอนเอียงไปหามัน


            “คนที่เขาไม่ได้มีอะไรกันจะนอนกอดกันแบบนั้นทำไม มึงอย่าทำตัวโลกสวยหน่อยเลยโนเอล”


            ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เพื่อระบายความอัดอั้นก่อนจะเงยหน้ามองเมื่อเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้น

รัวๆตามด้วยต้นเหตุของความกังวลโผล่ใบหน้าคมเข้ามายิ้มแป้นใส่เขา

            ชาวีเดินตรงมาหา ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาจนใบหน้าไล่ระดับอยู่กับใบหน้าของเขาแล้วประทับจูบนุ่มนวล หาก

เป็นเวลาปกติโนเอลคงจะปล่อยอารมณ์ให้เคลิบเคลิ้มไปกับปลายลิ้นที่แตะเบียดหยอกเย้าแต่ไม่ใช่เวลานี้ ความเฉยชา

ของโนเอลทำให้ชาวีชะงักเขาผละปากออกมาและสบตาสีฟ้าด้วยความสงสัย


            “เป็นอะไรไปครับโนเอล สีหน้าไม่ดีเลย”


            นักร้องหนุ่มเอียงคอมอง คิ้วดำเข้มขมวดลงเมื่อเห็นท่าทางของคนรัก สีหน้าฝืดเฝื่อนพลางแสร้งยิ้มปกปิดไม่ได้

ว่าโนเอลกำลังมีอะไรที่ผิดปกติ ชาวีดึงแขนโนเอลให้ลุกจากเก้าอี้นวมตัวใหญ่ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงไปนั่งแทนแล้วฉุดให้

โนเอลนั่งมาบนตักของเขา อ้อมแขนโอบกอดร่างโปร่งของโนเอลเข้าหาตัวปลายนิ้วเชยคางให้โนเอลก้มหน้ามาสบตา

พลางจ้องกันอย่างค้นคว้า


            “คุณเป็นอะไรกันแน่ โนเอล”


            นายแบบหนุ่มยกมือลูบหน้าลงแรงๆราวกับจะเรียกสติกลับคืน มุมปากฝืนคลี่ยิ้มวางมือไปบนบ่ากว้างของชาวี

เพื่อไม่ให้ผิดสังเกตมากเกินไป


            “กู เอ่อ ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก คงจะเหนื่อยไปหน่อย”


            โนเอลรู้ว่าชาวีคงจะไม่เชื่อสิ่งที่เขาพูดออกไปเพราะเขาเผลอถอนหายใจออกมาอีกแล้ว แต่ถึงกระนั้นโนเอลก็

ยังพยายามกลบเกลื่อนต่อไปอย่างสุดความสามารถ


            “ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่งานมันเร่ง”


            “แน่นะ”


            ดวงตาคมของชาวีมองอย่างจับผิด อ้อมแขนที่กอดอยู่รอบเอวกระชับเข้าหาตัวให้ยิ่งแนบแน่น ใบหน้า

หม่นหมองของโนเอลทำให้ชาวีเป็นห่วงมากขึ้น


            “แน่สิวะ ถามอะไรเยอะจริง แล้วนี่มาทำไมพรุ่งนี้จะแสดงคอนเสิร์ตแล้วไม่ใช่หรือไง ทำไมไม่กลับไปพักผ่อน”


            “ก็คิดถึงตาแก่ขี้บ่นก็เลยต้องมาหา โนเอล รู้ไหมว่าผมคิดถึงคุณแค่ไหน คิดถึงใจแทบขาด”


            ชาวีวางมือแนบต้นคอของโนเอลแล้วเหนี่ยวเข้าหาพลางจูบหนักเพื่อระบายความคิดถึง    มืออุ่นดึงชายเสื้อของ

โนเอลออกจากขอบกางเกงแล้วสอดลึกเข้าไปวางแนบเนื้อบีบเค้นอย่างที่เคยปลุกเร้าอารมณ์จนเตลิดทุกครั้ง    แต่คราว

นี้โนเอลกลับดึงมือของเขาออกแล้วผลักบ่าเบาๆจนชาวีต้องยอมถอนจูบออกมาพลางมองโนเอลอย่างสงสัยอีกครั้ง โน

เอล เม้มปากแล้วเบนหน้าหนีไปทางอื่น


            “ผมยังไม่มีอารมณ์ ขอโทษนะ”


            “ผมว่ามันแปลกๆผมไม่เชื่อว่าคุณจะเครียดเรื่องงานอย่างเดียวแน่ๆ นี่คุณเป็นอะไรกันแน่โนเอลบอกผมสิ”


            นายไปนอนกอดกับปมุตทำไม


            คำถามแล่นตรงเข้ามาจนแทบจะกัดลิ้นตัวเองไม่ทัน กลีบปากแดงเรื่อเม้มปากแน่นเพราะกลัวข้อสงสัยจะหลุด

ออกมา โนเอลด่าตัวเองว่าขี้ขลาดกับแค่เรื่องแค่นี้แต่ใครจะรู้ว่าสำหรับเขามันบั่นทอนความรู้สึกแค่ไหน


            ภายนอกที่ดูมั่นใจในตนเองทั้งเรื่องเสน่ห์กับคนรอบข้างรวมทั้งเรื่องงานด้วยแต่โนเอลรู้สันดานตนเองดีว่า

แท้จริงแล้วเขาซ่อนเร้นความหวาดกลัวและความอ่อนแอไว้มากมายขนาดไหน จะเอาอะไรกับเด็กที่เกิดจากแม่ใจแตก

และทิ้งเขาไว้กับครอบครัวใหม่ที่เห็นเขาเป็นเพียงทาสรับใช้จนเขาทนไม่ไหวต้องหนีออกมาระเหเร่ร่อนก่อนจะพบกับกัส

โต แลงดาจิโอ บิดาบุญธรรมที่เก็บโนเอลไปเลี้ยง ใครจะรู้ว่าลึกๆแล้วเขาเป็นคนที่โหยหาความรักจนต้องปิดบังมันไว้

ด้วยการสร้างบุคลิกผู้ชายเจ้าเสน่ห์เพียงเพราะเขาต้องการเป็นจุดเด่นที่ใครๆต่างก็สนใจ


            ชาวีคือความรัก มันเป็นความรักที่เขาโหยหามาตลอดชีวิต ใบหน้าคมเข้มอย่างชายไทยและความอ่อนโยน

เอาใจใส่ของชาวีทำให้หัวใจของเขาโป่งพองราวกับลูกโป่งที่อัดแน่นด้วยก๊าซพร้อมจะล่องลอยไปในอากาศ แต่ลูกโป่ง

ลูกนั้นกับแตกดังโพละเมื่อพบกับความจริงที่ว่าชาวียังตัดไม่ขาดจากความรักที่เขาเคยมีก่อนหน้าที่จะมาพบกับโนเอล


            หากจะบอกว่าเขาขี้ขลาดโนเอลก็ยอมรับ เขากลัวหากจะเอ่ยถามเรื่องที่ค้างคาใจอยู่ เขากลัวคำตอบที่จะสร้าง

ความผิดหวังซ้ำเติมให้ยิ่งเจ็บช้ำ การที่เขาเป็นผู้มาทีหลังปมุตทำให้โนเอลกริ่งเกรงเชื้อไฟรักที่ยังคงไม่มอดไหม้ไปจาก

ใจของชาวี


            “ตกลงใครแก่กว่ากันคิดมากกว่ากันแน่วะเนี่ย”


            ฝืนหัวเราะเสียงปร่าออกไปก่อนจะรวบรวมความกล้าสบตาคมของชาวี


            “บอกว่าไม่มีอะไรก็เชื่อกันบ้างสิ”


            ชาวียังคงจ้องหน้าหล่อเหลาของโนเอล เขาไม่เชื่อว่านายแบบหนุ่มจะเครียดแค่เรื่องงานอย่างที่เอ่ยปาก แต่

หากว่าเจ้าตัวไม่บอกแม้ว่าจะคาดคั้นก็คงไม่เป็นผล สิ่งที่ชาวีทำได้ก็คือโอบกอดอย่างอ่อนโยนและยิ้มรับในสิ่งที่โนเอล

ต้องการให้เขารู้แค่นั้น


            “โอเคๆ ผมยอมเชื่อก็ได้ ถ้าคุณเหนื่อยจากงานก็พักผ่อนเยอะๆนะครับ”


            ชาวีดึงอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ โนเอลรับมันมาถือไว้ในมือ


            “บัตรคอนเสิร์ตวันพรุ่งนี้งั้นหรือ”


            “ผมอยากให้คุณไปนะ อยากให้คุณไปเห็นความสำเร็จของผม ไปนะครับโนเอล”


            น้ำเสียงนุ่มออดอ้อนทำให้โนเอลอดใจอ่อนไม่ได้ เขาพยักหน้ารับเรียกรอยยิ้มกว้างจากชาวี         


            “ผมจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้คุณเห็น”


            ชาวีโน้มคอโนเอลมาจูบอีกครั้ง คราวนี้โนเอลเผยอกลีบปากรอรับให้ลิ้นอุ่นเข้ามาดูดซับความหวานจนอิ่มหนำ


             “ผมไปแล้วนะ ยังต้องไปต่อบล็อกกิ้งอีกนิดหน่อย คุณเองก็อย่าหักโหมให้มากขอให้รู้ไว้ว่าผมเป็นห่วงคุณมาก

ขนาดไหน”


            เสียงก้าวเท้าของชาวีทำให้หัวใจของโนเอลสั่นไหว เขามองตามหลังร่างสูงที่เดินตรงไปยังประตูและยังหันมา

ยิ้มให้ก่อนจะออกไปจากห้อง ประตูที่ปิดลงตามหลังเรียกเสียงถอนหายใจได้อีกครั้ง โนเอลเปิดลิ้นชักโต๊ะออกมาแล้ว

วางบัตรคอนเสิร์ตลงไป เขาจงใจวางมันเคียงข้างกับแผ่นเอกสารแผ่นหนึ่ง


            แผ่นเอกสารที่บอกว่ามันคือใบจองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพไปอิตาลี









            คอนเสิร์ตใหญ่ของค่ายเพลงยักษ์ดำเนินไปอย่างอลังการจนกระทั่งจบลงในที่สุด เรียกเสียงโห่ร้องอย่างกึกก้อง

จากเหล่าแฟนคลับโดยเฉพาะสำหรับคนที่ชื่นชอบคู่จิ้นแห่งปีชาวีและปมุตที่มีซีนร่วมกันมากเป็นพิเศษ แสงไฟบนเวทีดับ

มืดลงช้าๆทดแทนด้วยดวงไฟสว่างจ้าเพื่อให้ผู้ชมได้ทยอยเดินออกจากสถานที่จัดงาน


            “วู้ สุดยอด”


            ชาวีเป็นต้นเสียงตะโกนอย่างสะใจท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงเฮฮาจากทุกคนที่ร่วมกันทำงานก่อนที่เหล่าศิลปิน

จะเดินออกไปขึ้นรถตู้เพื่อไปร่วมงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้หลังคอนเสิร์ตจบลงที่ผับแห่งหนึ่ง ความสนุกสนานกับงานที่รักทำให้

ปมุตยิ้มแย้มออกมาได้ เขายกแก้วเครื่องดื่มชูขึ้นสูงเมื่อเจ้าของค่ายเพลงกล่าวขอบคุณจบลง แอลกอฮอล์ในเครื่องดื่ม

ทำให้หนุ่มน้อยคึกคักไปกับบรรยากาศจนเวลาผ่านไปเกือบค่อนคืนปมุตก็ถึงกับเดินเซไปเข้าห้องน้ำ


            เขาเพ่งสายตามองตนเองในกระจกห้องน้ำ ผิวขาวออกสีแดงก่ำลามไปถึงใบหูเมื่อโดนฤทธิ์ของเหล้าเข้าไป

ปมุตสะบัดหน้าไล่ความมึนงงก่อนจะหมุนร่างเพื่อจะเดินออกไป แต่แล้วเขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงคุ้นตายืนขวาง

ทางออกไว้


            “พี่เดี่ยว”


            ปราบสืบเท้ามาใกล้ เขามองสภาพน้องชายตนเองแล้วจึงคว้าท่อนแขนเรียวมายึดไว้ด้วยความเป็นห่วง ปราบ

เฝ้ามองปมุตอยู่มุมหนึ่งของผับนานแล้ว การที่ปมุตกระดกเหล้าเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่าทำให้เขานึกเคืองระคนห่วงใยไม่

น้อย


            “ทำไมกินเหล้าเยอะขนาดนี้ป้อง”


            ปมุตสะบัดแขนพลางก้าวถอยห่าง ความมึนเมาทำให้เขากล้าที่จะต่อปากต่อคำอย่างไม่เกรงกลัว


            “อย่ามายุ่งกับผม ผมบอกพี่แล้วไงว่าเราเลิกกันแล้วพี่จะมายุ่งกับผมทำไมอีก”


            “ใครบอกว่าเราเลิกกัน”


            ปราบเค้นเสียงพลางจ้องใบหน้างดงามด้วยนัยน์ตาโชนแสง ปมุตจ้องกลับพลางเชิดหน้าใส่


            “ผมนี่ไงที่บอกว่าเราเลิกกัน ผมบอกพี่หลายครั้งแล้วว่าเราไปด้วยกันไม่ได้”


            ปราบพุ่งตัวเข้าหา มือหนึ่งคว้าเอวคอดมาโอบรัดพร้อมกับที่อีกมือบีบคางเรียวให้เผชิญหน้า เขามองด้วยสายตา

ที่ปะปนทั้งรักและทั้งแค้น


            “ป้องไม่มีสิทธิ์ที่จะไปจากพี่ อย่าลืมว่าป้องคือสมบัติของพี่ สมบัติของปราบ ปริวัตร”


            ปราบบดริมฝีปากลงไปด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่น ปมุตพยายามจะส่ายหน้าหนีแต่ปราบก็ยิ่งออกแรงบีบบังคับให้ปมุต

ต้องเจอกับจุมพิตหน่วงหนักจนเจ็บระบมไปรอบเรียวปาก มือเรียวผลักไสจนหมดแรงกว่าที่ปราบจะยอมปล่อยทันทีที่ได้

รับอิสระปมุตก็เงื้อมือฟาดลงไปบนเสี้ยวหน้าของปราบ


            “คุณมันเลว ผมเกลียดคุณ”


            ปมุตผลักร่างของปราบให้พ้นทางแล้วรีบวิ่งออกไปจากห้องน้ำโดยไม่ยอมฟังคำห้ามปรามจากปราบที่ส่งเสียง

เข้มไล่หลัง


            “ป้อง อย่าวิ่งหนีพี่”


            เป็นเพราะหน่วยตาเต็มไปด้วยหยาดน้ำจนพร่าเลือนปมุตมองไม่เห็นทางเมื่อก้าวสู่ทางออกจากห้องน้ำ หนุ่ม

น้อยชะงักเมื่อวิ่งมาชนเข้ากับใครบางคนที่จับแขนเขาไว้เพื่อไม่ให้ล้ม


            “ป้อง เป็นอะไร”


            น้ำเสียงตกใจทำให้ปมุตใจชื้น ชาวีนั่นเองที่คว้าร่างเขาไว้ เสียงฝีเท้าที่ก้าวตามมาทางด้านหลังทำให้ปมุตที่เต็ม

ไปด้วยความมึนเมาและความสับสนในจิตใจตัดสินใจกระทำในสิ่งที่เขาเองก็ไม่เคยคิดจะทำมาก่อน ปมุตยกแขนไปเกี่ยว

รอบคอของชาวีและโน้มตัวลงมา กลีบปากแดงจัดประทับริมฝีปากลงไปบนปากของชาวีที่ได้แต่ยืนตะลึง


            เสียงฝีเท้าด้านหลังชะงักกึก ปมุตใจหายกับสิ่งที่ตัวเองเพิ่งจะลงมือทำ ใบหน้าหวานละจากชาวีช้าๆพร้อม

นัยน์ตาสับสนขณะเดียวกับที่ชาวีก้มหน้าสบตาปมุตอย่างงงงัน


            “ขอโทษที่รบกวนเวลาส่วนตัวครับ”


            เสียงแหบพร่าดังขึ้นจากเบื้องหลัง มันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดจนปมุตต้องกัดริมฝีปากกลั้นน้ำตาเมื่อได้ยิน

เสียงฝีเท้าเดินจากไปอีกทางจนกระทั่งมันหายไป น้ำตาหยดหนึ่งร่วงลงผ่านร่องแก้มจนเขาต้องหลับตาลงปล่อยให้มัน

รินไหล ไม่มีใครทันสังเกตแสงสว่างวาบจากมุมหนึ่งพร้อมกับเสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงเพลงสนั่นหูของผับ


            “กรี๊ด แก แกเห็นใช่ไหม ถ่ายรูปทันไหม”


            “ทันสิแก ฉันยกมือถือมาจะเซลฟี่พอดี แกเอ๊ย ฟินวัวตายควายล้ม พี่วีกับน้องป้องจูบกัน แอร้ยยย”


            “แก รีบเอาลงทวิตเตอร์เลย ยอดรีทวิตเป็นแสนแน่ๆ เร็วๆเข้า”
             







            โนเอลอดยิ้มไม่ได้กับความสำเร็จของชาวี ตลอดการแสดงที่ได้นั่งดูเขามองเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจที่ชาวีและทุก

คนบนเวทีทุ่มเทให้กับมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาของชาวีที่คอยมองมาทางเขามันทำให้ความสับสนเจือจางลงไป

เกือบหมด ภาพจากงานคอนเสิร์ตกำลังแพร่กระจายกันอยู่ในโลกโซเชียลที่โนเอลกำลังไล่ดูด้วยความปลาบปลื้มในตัว

คนรัก


            เมนชั่นหนึ่งจากสำนักข่าวที่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอเรียกความสนใจจากดวงตาสีฟ้า ชาวีจ้องมองพลางขมวดคิ้วจน

เป็นปม


            ข่าวด่วน มือดีแอบแชะภาพสวีทหวานแหววคู่จิ้นชื่อดังยืนกอดจูบกันกลางผับดัง ถ้าคุณเห็นแล้วจะต้องอึ้ง


            แม้ว่าจะอยู่ในเงามืดแต่ภาพนั้นกลับกระจ่างชัดจนต้องเงยหน้ารับกับความร้อนชื้นในโพรงจมูกที่ตีขึ้นมา โนเอล

กัดฟันกลั้นเสียงสะอื้นเมื่อเขายกโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง


            “เคทหรือ”


            เขากรอกเสียงเมื่อได้ยินเสียงเลขาของเขาตอบรับ


            “เคทช่วยคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินไปอิตาลีให้ผมด้วยนะ ใช่ ถ้าเลื่อนให้เร็วขึ้นมาได้อีกก็ดี”


            โทรศัพท์เครื่องจิ๋วถูกขว้างออกไปจากมือ ก่อนที่โนเอลจะชันเข่าขึ้นมาและซุกหน้าลงไปร้องไห้เพียงลำพัง



                                                                           TBC
           


                         หน่วงกันเข้าไป ฮึ่ยๆๆๆ    :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-05-2015 23:07:30
ป้องเอ้ยย น่าตีจริงๆ
ทำอะไรไม่คิดง่ะ เจ็บไปตามๆ กันซิ่แบบนี้
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-05-2015 23:15:38
เอาเข้าไป เข้าใจผิดกันเข้าไป ป้องทำไมต้องเอาคนอื่นมาเกียวแบบนี้นะ นิสัยไม่ดีเลย ชาวี ซวยเลยเห็นไหม แล้วเด้ยวปราบก็น้อยใจไปมีอะไรกับชนัยแน่นอน ก็ยิ่งไปกันใหญ่ คนเขียนจะแต่งให้ปราบใจร้าย ทำอะไรไปเพราะความแค้น แต่ก็ต้องเห็นใจปราบด้วยนะ ว่าเจออะไรมาบ้าง แล้วนี้ป้องก็มาประชดแบบนี้อีก ทำไม่ไม่คุยดีๆ จะโทษปราบอย่างเดียวก็ไม่ได้นะ   คนเขียนลำเอียงอะ โทษปราบอย่างเดียว ปราบทำไรก็ผิด ส่วนป้องทำอะไรถูกเสมอ   :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-05-2015 23:39:35
อืดกันปายสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-05-2015 00:29:42
หน่วงจริงๆ   สงสารโนเอล  ไม่ได้ผิดอะไรเล้ยยย ดูปกติสุดแล้วในเรื่อง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 19-05-2015 02:16:55
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 19-05-2015 02:54:15
ป้องไม่รู้อะไรจริงๆ เหมือนเด็กธรรมดาที่ไม่รู้ต้นลึกหนาบางของโลก พ่อเลวแม่ร่านก็ไม่ได้รู้อะไรจริงจัง  ทำอะไรก็แบบเด็กๆ ประท้วงประชดแก้ปัญหาแบบเด็กๆ ไม่ได้รู้ว่าการกระทำของตัวเองจะกระทบหรือส่งผลอะไรบ้าง  อยากให้ปราบร้ายมากๆนะเอาให้แบบตาต่อตากับอิแดนเลย  อยากให้ป้องได่รู้ว่าไอ้สิ่งที่ตัวเองว่าเลวว่าชั่วนั้นมันไม่ได้หนาแต่ 1 มิลดังที่ตัวเองเห็นและเข้าใจ  สิ่งที่พ่อแม่ตัวเองทำกับปราบนั้นป้องยังไม่เข้าใจจริงๆ ป้องถึงได้ยึดติดกับศีลธรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม

งานเข้าชาวีแล้วแน่ๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่บอกโนเอลเรื่องป้อง  มาเจอแบบนี้ก็ขอให้โชคดีในการตามง้อราชินีโนแอลแล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 19-05-2015 08:39:03
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: :mew2: :mew2:  ประชดแล้วโดนกันถ้วนหน้า ทำทำไม
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: gibichan ที่ 19-05-2015 19:56:16
โอยยยย อึดอัดเลยยยย เข้าใจผิดกันไปหมด สนุกมากค่าาาา เอาใจช่วยคนเขียนนะค๊ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 35.2 ( 18 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 19-05-2015 20:48:11
สงสารโนเอล คนแก่ของฉันผิดตรงไหนคะทำไมต้องมาเจอเรื่อบแบบนี้
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-05-2015 17:19:58


                                                             เพลิงพ่าย

                                                              บทที่ 36.1

            บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบงันเมื่อชาวีกับปมุตนั่งกันอยู่เพียงลำพังในห้องชุดของชาวีหลังจากทั้งคู่ฝ่าฝูงชน

และนักข่าวที่ออกันอยู่หน้าผับกลับมายังที่พัก ภาพข่าวในโซเชียลเน็ตเวิร์คกระจายกันไวมากเพียงไม่กี่นาทีข่าวของเขา

กับปมุตก็ลุกลามใหญ่โตจนยั้งไม่อยู่แม้ว่าภาพนั้นจะมัวซัวอยู่ในความมืด


            “พี่วี ผมขอโทษ”


            เสียงแหบพร่าดังมาจากปมุตที่ทิ้งตัวลงไปกับโซฟาซึ่งกลายเป็นเตียงนอนจำเป็นสำหรับเขามาหลายวัน ปมุต

โมโหตัวเองนักที่ปล่อยให้ความโกรธเคืองและอยากจะประชดประชันปราบเข้ามาครอบงำสติจนหลงทำอะไรโง่ๆแบบนั้น

เมื่อเขาคว้าชาวีมาจูบต่อหน้าปราบเขาลืมนึกไปว่าผลที่ตามมาจะเสียหายเพียงไร

            อันดับแรกที่เสียหายก็คือความรู้สึกของตัวเองเมื่อผละปากออกมาจากชาวีแล้วเห็นสายตางงงันของรุ่นพี่กับ

การกระทำของเขา และเมื่อหันขวับกลับไปมองปราบปมุตก็ถึงกับใจหายเมื่อปราบมองมาด้วยสายตาเสียใจ เขาไม่เคย

เห็นแววตาเช่นนี้เกิดขึ้นกับปราบมาก่อน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วจากการกระทำของเขา อันดับต่อมาคือความโกลาหลของพี่ๆ

แผนกดูแลศิลปินของบริษัทที่ต้องแก้ข่าวทันทีที่งานเลี้ยงหลังคอนเสิร์ตจบลง


            “เกิดอะไรขึ้นหรือป้อง ไอ้ที่ทำลงไปน่ะทำเพื่ออะไร”


            ชาวีเองก็ยังตั้งตัวไม่ติดในสิ่งที่ปมุตกระทำ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจแต่ในตอนนี้เขาถึงกับเสียวสันหลังวาบ

หากใครบางคนกำลังจ้องมองข่าวที่เกิดขึ้น ถึงกระนั้นความห่วงใยที่มีต่อปมุตก็ยังคงมีอยู่จนไม่กล้าที่จะทิ้งให้อยู่เพียง

ลำพัง ชาวีนึกถึงตอนที่ปมุตรีบผละปากออกมาพร้อมกับดวงตาสับสนก่อนจะหันขวับไปยังด้านหลังที่มีบุคคลที่สามยืนนิ่ง

อยู่ในเงามืด ชาวีขมวดคิ้วอย่างสงสัย


            “หรือว่า นี่ป้องทำไปเพื่อประชดใครหรือเปล่า”


            “พี่วี”


            “ใช่ไหม โธ่เอ๊ยป้อง แล้วเป็นไง ประชดกันแล้วได้ผลยังไง ป้องก็ต้องมานั่งเจ็บปวดเองแบบนี้”


            ชาวีขยับเข้าใกล้วางมือไว้บนศีรษะของปมุตแล้วโยกเบาๆอย่างเห็นใจ


            “ป้องเคยถามพี่ว่าถ้าเป็นพี่จะทำยังไงถ้าต้องรักกับคนที่ครอบครัวของเราทำให้เขาเสียใจและยังผิดศีลธรรมอีก

ฟังให้ดีๆนะป้อง พี่จะตอบแล้ว”


            ชาวีดึงไหล่ปมุตให้หันมาสบตากับเขาเพื่อที่จะสอนในสิ่งที่พี่ชายคนหนึ่งพึงจะให้แก่น้องชาย


            “ถ้าคนๆนั้นยอมละทิ้งความแค้นเพื่อเราก็แสดงว่าเขารักเรามากแล้วทำไมเราถึงจะไม่ยอมรับรักจากเขาล่ะ ส่วน

ไอ้เรื่องศีลธรรมอะไรนั่นจะต้องไปสนใจทำไมในเมื่อมนุษย์เรานี่แหละที่กำหนดศีลธรรมขึ้นมา หากมันไม่ได้ทำให้คนอื่น

เดือดร้อนด้วยก็ช่างแม่งศีลธรรมเหอะ”


            ผงเข้าตาตนเองมักจะเขี่ยไม่ออก แต่ปมุตเริ่มคิดตามในสิ่งที่ชาวีพูดกระทั่งผงนั้นเริ่มหลุดออกไปทีละนิดจนเขา

ต้องยกมือมาลูบหน้าตนเองอย่างกลัดกลุ้มในสิ่งที่เพิ่งกระทำลงไปว่าจะยิ่งสร้างรอยแผลให้ปราบเจ็บช้ำอีกเพียงไหน

ความสงสารปราบวิ่งวนอยู่ในความรู้สึกจนน้ำตาซึมออกมา







            ภาพข่าวจากสำนักข่าวบันเทิงต่างๆทำให้แดเนียลต้องใช้สมองคิดจนนอนไม่หลับแม้ว่าจะปลดปล่อยพลังไปกับ

ร่างกายของกานต์ (จากเรื่องร้ายซ่อนรัก) เหยื่อรายใหม่ของเขาจนกระทั่งอีกฝ่ายนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ภาพที่

ปมุตกำลังจูบอยู่กับผู้ชายคนอื่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรมากนัก แต่สิ่งที่กำลังทำให้เขาต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ในตอนนี้

คือภาพผู้ชายอีกคนที่ตกเฟรมอยู่ในภาพสลัวของข่าวต่างหาก


            ก็บอกแล้วว่าแดเนียลจำปราบ ปริวัตรได้แต่กระทั่งเงา!


            ปมุตจูบผู้ชายคนอื่นต่อหน้าปราบมันจะเป็นอะไรได้นอกจากการประชดประชันให้โมโห แดเนียลนึกกระหยิ่มเมื่อ

มั่นใจว่าปราบกับปมุตกำลังมีปัญหากันอย่างแน่นอนเมื่อเขาประมวลภาพจากเหตุการณ์ที่ปราบลากปมุตไปจูบในมุมมืด

เมื่อวันก่อนคอนเสิร์ต หากเหล็กกำลังขึ้นสนิมก็ไม่ควรจะรอช้าเมื่อแดเนียลกำลังหาวิธีทำลายมันลง เขารีบโทรศัพท์ไป

หาแนวร่วมอย่างชนัยทันที


            “รบกวนยามดึกต้องขออภัยอย่างสูงครับคุณชนัย”


            แดเนียลกรอกเสียงแสนสุภาพเมื่อกำลังจะใช้อีกฝ่ายเป็นเครื่องมือ


            “คุณมีธุระอะไรกับผม แดเนียล”


            น้ำเสียงของชนัยฟังดูไม่ดีนักเป็นเพราะเขากำลังหงุดหงิดกับข้อมูลที่ได้รับ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปราบมีความ

สัมพันธ์ล้ำลึกกับปมุตน้องชายคนละแม่ของตัวเอง นักสืบที่จ้างวานทำงานดีและรวดเร็วสมกับที่ไว้ใจเมื่อผ่านไปไม่กี่วัน

ผลงานก็ปรากฏเป็นภาพถ่ายที่ส่งมาให้ทางอีเมล์ ชนัยกำลังกัดฟันมองภาพปราบกับปมุตกำลังจูบกันดูดดื่มอยู่ในซอกตึก

ที่นักสืบของเขาถ่ายมาได้อย่างชัดเจน


            “หรือว่าจะโทรมาย้ำกับผมว่าเรื่องที่คุณเข้าใจว่าปราบกับปมุตนักร้องขวัญใจคุณน่ะมีอะไรกันมันเป็นเรื่องจริง”


            แดเนียลซ่อนเสียงหัวเราะถูกใจเอาไว้อย่างมิดชิดเมื่อรู้ว่าปลาฮุบเหยื่อรอให้ชักรอกขึ้นไปเหนือผิวน้ำ เขาแต่ง

เสียงเห็นใจระคนเศร้าหมองตอบกลับชนัย


            “โอ คุณรู้แล้วหรือ โธ่ชนัย ผมเองก็ผิดหวังไม่แพ้คุณเหมือนกัน แต่คุณอย่าเพิ่งถอดใจนะ ผมอยากให้คุณได้ดู

ข่าวที่กำลังแชร์กันอยู่ในโลกโซเชียลตอนนี้เดี๋ยวผมจะส่งให้คุณดู”


             ใช้เวลาไม่นานภาพข่าวก็เด้งขึ้นมาบนหน้าจอโทรศัพท์ ชนัยเพ่งมองอย่างไม่เข้าใจเพราะเขาไม่ค่อยสนใจเรื่อง

ในวงการบันเทิงเท่าไหร่ และภาพที่ส่งมาก็เป็นแค่ภาพที่อยู่ในความมืดจนแทบจะดูไม่ออก


            “อะไรของคุณหือ แดเนียล ส่งรูปอะไรมาให้ผมดู”


            “ปมุตจูบกับนักร้องอีกคนที่มีข่าวด้วยกัน”


            “แล้วคุณก็รับได้งั้นหรือ” ชนัยกำลังงง “ฟังเสียงแล้วท่าทางคุณกลับสดชื่นเป็นพิเศษนะ”


            “เพราะผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริงจัง หากคุณจะเพ่งมองใครบางคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักและกล้องพอจะจับได้อยู่

ครึ่งตัว คนๆนั้นคือปราบ ปริวัตรที่ยืนอยู่ด้วย”


            ชนัยคิดตามคำพูดของแดเนียล พลันดวงตาก็เบิกกว้าง


            “คุณกำลังบอกผมว่า ปมุตจูบคนอื่นต่อหน้าปราบเพราะทั้งคู่ทะเลาะกัน”


            เสียงหัวเราะดังลอดมาอย่างกลั้นไม่อยู่จากแดเนียล


            “ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ได้รู้จักกับคุณ ชนัย คุณฉลาดมาก และถ้าผมเป็นคุณผมจะไม่พลาดโอกาสงามที่สุดนี้ที่

จะเข้าไปทำให้ตัวของคุณกับปราบได้ใกล้ชิดกัน”


            เหมือนหลอดไฟกำลังเปิดแสงจ้าอยู่ในความคิด ชนัยส่งเสียงหัวเราะแผ่วเบาตามแดเนียล


            “นี่คือบทสรุปที่คุณต้องการสินะ แยกปราบและปมุตออกจากกันโดยใช้ผมเป็นเครื่องมือ”


            “อย่าเรียกว่าเครื่องมือเลยชนัย ถือเสียว่าเราทั้งสองร่วมมือกันจะดีกว่า คุณจะทำยังไงก็ได้เพื่อให้คุณได้ปราบ

ปริวัตรไปอยู่ในกำมือ ส่วนด้านปมุตปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม”


            น้ำเสียงเอาจริงเอาจังเต็มไปด้วยความต้องการของแดเนียลทำให้ชนัยทบทวนเร็วจี๋ ภาพบุรุษเพศที่เต็มไปด้วย

เสน่ห์ล้นเหลือของปราบปรากฏอยู่ในสมอง มันช่วยให้ชนัยตัดสินใจได้เร็วขึ้น


            “ดีล แดเนียล ตามนั้น”


            แดเนียลวางสายไปแล้ว ชนัยไม่รอช้าที่จะต่อสายไปหานักสืบที่เขายังให้ทำงานอยู่


             “ยังตามปราบ ปริวัตรอยู่หรือเปล่า ดีมาก แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”










          ปราบกัดฟันพลางจ้องมองแก้วทรงสูงที่บรรจุแอลกอฮอล์สีอำพันที่หมดไปแก้วแล้วแก้วเล่า ความจุกเสียดหัวใจ

แล่นวาบเข้ามาเป็นระยะเมื่อภาพที่เห็นยังคงติดตาเขาอยู่ ปมุตจงใจตัดรอนความสัมพันธ์ถึงกับกล้าคว้าคอผู้ชายคนอื่นมา

จูบต่อหน้าผู้ชายที่ปราบก็รู้ว่าหลงรักปมุตอยู่อีกต่างหาก เขาเจ็บเพราะรู้ว่าสิ่งที่เขารักกำลังจะหลุดลอย ปมุตคงรังเกียจ

มากที่เขาทำเลวในสายตาของปมุต

            ความเจ็บปวดทำให้ปราบต้องตรงมายังร้านเหล้าในถนนสายโลกีย์ที่เคยมาดื่มกินบ่อยครั้ง เสียงเพลงจังหวะ

เร้าใจกับนักเที่ยวที่เมากันได้ที่ในยามดึกใกล้จะถึงเวลาปิดผับไม่ได้ตรึงความสนใจของปราบได้เท่าเหล้าที่เขาสาดลงคอ

อยู่ตรงเคาน์เตอร์บาร์ สมองของเขากำลังตึงเครียดจนแทบระเบิดไปกับไฟรักที่โหมไหม้หัวใจของเขา


            “ปราบ ไม่นึกว่าจะพบคุณที่นี่”


            เสียงทักทายดังขึ้นใกล้ตัวจนต้องหันไปมอง ชนัยยืนยิ้มเท้าศอกไว้กับบาร์พลางมองเขาด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย


            “เอ่อ ชนัย นั่งสิ”


            ปราบฝืนยิ้มทั้งที่ปวดหัวเต็มที ดวงตาของเขาเริ่มพร่าด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ชนัยขยับตัวนั่งอยู่บนเก้าอี้ทรง

สูงเคียงข้างเขา


            “นี่มาคนเดียวเหมือนกันหรือครับ แต่สีหน้าคุณไม่ดีเลยนะ”


            ชนัยเอ่ยขึ้นหลังจากหันไปสั่งเบียร์สดใส่เหยือกมาจากบาร์เทนเดอร์ เขารินมันใส่แก้วที่เย็นจนไอขึ้นแล้วยกขึ้น

จิบช้าๆ



            “ท่าทางมีเรื่องคิดมากใช่ไหมผมเป็นห่วงคุณจัง หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่น้องชายของคุณไปจูบกับนักร้องคู่จิ้น

หรอกนะ”


            ปราบกัดกรามกรอด มือที่กำแก้วเหล้ากระแทกลงกับเคาน์เตอร์อย่างแรง ดวงตาดุลุกวาบขึ้นมา


            “ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”


            ปราบเดินเซไปปลดปล่อยในห้องน้ำ กลับมาอีกทีเขาเห็นแก้วเบียร์อีกแก้ววางอยู่แทนที่แก้วเหล้าของเขาโดยมี

ชนัยส่งยิ้มมาให้


            “ผับจะปิดแล้ว ผมดื่มเบียร์ทั้งเหยือกไม่หมดหรอก ช่วยผมดื่มทีสิ”


            ปราบยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มอักๆ ไม่นานนักมันก็หมดลง


            “ผมจะกลับแล้ว โชคดีนะชนัย”


            ร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อในชุดลำลองหันหลังก้าวเดินอย่างไม่มั่นคงนักฝ่าฝูงชนนักเที่ยวที่ยังแน่นขนัด

แม้จะดึกดื่นออกไปภายนอก เมื่อก้าวเท้าจากทางออกปราบกลับรู้สึกมึนงงจนแทบยืนไม่อยู่ เขาต้องใช้มือยันประตูไว้

ก่อนที่จะมืมือสอดเข้ามาช่วยพยุงไว้


            “คุณเมาจนแทบจะยืนไม่อยู่แล้วปราบคงจะขับรถยนต์ไม่ไหวแน่ ให้ผมไปส่งดีกว่านะบอกทางไปที่พักของคุณ

มาสิ”
             
             
             

             



หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 27-05-2015 18:27:33
 :hao5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-05-2015 18:39:53
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 27-05-2015 19:05:29
เฮ้อ เรื่องยุ่งยากเข้าไปใหญ่
ตอนนี้แอบสงสารปราบอ่ะ :(
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 27-05-2015 19:34:04
โอ๊ยยย.  พี่ปราบเสร็จอีชนัยแน่นอนๆๆๆๆ. ไม่ยอมๆๆๆๆๆ. ไม่ๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: nanahashi ที่ 27-05-2015 19:57:52
เริ่มตะไม่ชอบป้องกับชาวีแล้วซี คนนึงก็ใส่ซื่อเกินกลัวนั่น โน่น นี่ จนเกิดเรื่องเพราะการกระทำไร้สติ อีกคนก็ใจดี สงสารแต่ทำไมไม่แคร์คนรักบ้างจะบอกเนี่ยมันยากนักหรือไง แค่พูดไม่กี่ประโยคจะตายไหม มองรวมๆทั้ง 2 คนติดลบตรงไม่ใส่ความรู้สึกของคนที่อยู่ข้างๆกันเลย อ่านตอนนี่รู้แย่กับปมุตและชาวี แต่ปราบจากเรื่องก่อนหน้านั้นที่ไปเป็นแขกรับเชิญของภัทร-โมกข์ ไม่น่าตะอ่อนแอขนาดนั้นหรือเพราะความรัก งานนี้อาจจะเสร็จชนัยซีนะ เรื่องชักจะยุ่งเหยิงทั้งคู่รักคู่รองแล้วจะแก้ปมที่ทำกันไว้ได้ไง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.1 ( 27 / 05 / 15 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-05-2015 20:01:16
น่าจะมีการระวังตัวมากกว่านี้นะปราบโนแอลก็บอกแล้วว่าอิแดนมันมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ   ชนัยร่วมมือกับแดนนี่อันตรายแบบสุดๆในเมื่อชนัยเป็นทนายให้ปราบอยู่

ชนัยว๊อนเหลือเกินอย่างล้ำเหลือสงสัยจะได้สมใจก็คงตอนนี้แหละ ป้อมจะมาโกรธก็ไม่ได้หรอกตัวเองทำอะไรไว้   หรือว่าป้องควรจะมารับรู้ว่าขนาดแม่ตัวเองก็ยังอยากได้ปราบขนาดไหนโลกทัศน์ของป้อมจะได้กว้างขึ้นสักหน่อย จะได้รู้ว่าโลกมันไม่ได้มีแค่ขาวกับดำแต่มันมีเทาด้วย

อยากรู้ว่าชาวีจะดิ้นยังไง โนแอลไม่อยู่แล้ว

คนเขียนอย่าหักโหมนะคะ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 27-05-2015 21:26:20
                                                  เพลิงพ่าย

                                                  บทที่ 36.2



         ห้องชุดราคาแพงไม่ได้ดึงดูดความสนใจได้เท่าร่างแกร่งที่ชนัยประคองมาแล้วทิ้งน้ำหนักลงไปบนที่นอนนุ่ม ชนัย

เอนกายลงไปนอนเคียงข้าง เขาตะแคงตัวเข้าหาพลางใช้ปลายนิ้วลูบไปตามสันกรามทรงเหลี่ยม ไรหนวดเขียวระคายมือ

อยู่เล็กน้อยแต่มันกลับยิ่งทำให้ลมหายใจของชนัยขาดช่วงได้ไม่ยาก ดวงตาคู่ดุที่ทำให้ชนัยแทบจะระทดระทวยในทุก

ครั้งที่จ้องมองบัดนี้กลับลอยคว้างอย่างไม่มีจุดหมาย

            ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่ากว่าจะไต่เต้ามาเป็นทนายความที่มีชื่อเสียง ชนัยเองก็ต้องใช้ลูกล่อลูกชนอย่าง

มากที่จะเปลี่ยนสีดำให้กลายเป็นสีขาวได้ ความยุติธรรมไม่ได้มีจริงบนโลกใบนี้มีเพียงคำพูดและหลักฐานที่ต่างฝ่ายต่าง

เสาะหามาเพื่อลบล้างประโยชน์ของอีกฝ่าย ชนัยไม่ได้ต้องการคำชื่นชมว่าเขาเป็นคนดีแต่ชื่อเสียงและเกียรติยศต่างหาก

ที่คนอย่างเขาต้องการ ชีวิตทนายความที่สุดแสนจะซื่อสัตย์อย่างบิดาของเขาทำให้ชนัยไม่ต้องการจะเป็นเช่นนั้นในเมื่อ

บั้นปลายพ่อก็มีเพียงสมบัติที่เหลือไว้ไม่กี่ชิ้น พ่อไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นคนทะเยอทะยานเพียงใดและนั่นรวมถึงเรื่องคนที่

เขาต้องการจะครอบครองด้วย


            นึกขอบคุณตัวเองที่ยังไม่ได้ทิ้งของกลางที่ได้มาจากลูกความเงินหนาคนหนึ่งของเขา ยาเม็ดที่ชนัยบดละเอียด

จนกลายเป็นผงสีขาวปนชมพูละลายไปกับเบียร์รสเฝื่อนจนไม่เหลือร่องรอยเมื่อสวรรค์เปิดทางโดยให้ปราบเดินไปเข้า

ห้องน้ำและยอมคว้าแก้วเบียร์ไปดื่มจนหมดเมื่อกลับมาที่เคาน์เตอร์บาร์ เพียงแค่เม็ดเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับยากล่อม

ประสาทตัวใหม่ที่กำลังแพร่หลายอยู่ในสังคมไฮโซที่มีชื่อว่า “แฮปปี้ ไฟว์” ที่จะทำให้ผู้ที่ใช้มันเกิดอาการมึนงงสับสน

เคลิบเคลิ้มและจำอะไรไม่ได้เมื่อตื่นขึ้นมา

            ชนัยยันกายขึ้นมองปราบพลางปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกเผยให้เห็นลอนกล้ามเนื้อเป็นมัดที่ซ่อนอยู่ เขากลืน

น้ำลายลงคออย่างกระหายก่อนจะรีบร้อนถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ทั้งของปราบและของตัวเองออก ดวงตาเบิกโพลงเมื่อจ้อง

มองร่างกายสมชายโดยเฉพาะจุดอ่อนไหวที่ยังคงหลับสนิทอยู่กึ่งกลางลำตัวอย่างตื่นตา ขนาดยังไม่ตื่นตัวเต็มที่ยังน่า

กลืนกินขนาดนี้ ชนัยใจสั่นเมื่อจินตนาการไปล่วงหน้า เขาเอนกายลงไปนอนทาบทับอยู่เหนือลำตัวพลางบดจูบเร่าร้อน

อย่างที่ต้องการจะทำมาตั้งแต่เห็นปราบครั้งแรก


            “อา ปราบ”


            ชนัยพึมพำเสียงกระเส่ากับคนที่มองกลับมาราวกับไร้ซึ่งความทรงจำใดๆ ร่างกายของปราบช่างแข็งแกร่งและ

ยั่วยวนชวนให้หลงใหลจนห้ามใจไม่อยู่ที่จะเลื่อนตัวลงมาอยู่ที่กลางลำตัว นิ้วมือคว้าหมับเข้าที่โคนท่อนเนื้อก่อนที่ชนัย

จะแตะปลายลิ้นลงไปลากไล้ตามเส้นเอ็นจนมันเริ่มปูดโปน ชนัยขยับตัวเปิดปากกว้างเพื่อจะครอบลงไปช้าๆปลุกให้

กล้ามเนื้อของปราบตื่นตัวจนร้อนระอุด้วยการกระตุ้นจากเขา


            เสียงปราบครางลึกโดยสัญชาตญาณท่อนเนื้อเหยียดตึงคับแน่นเต็มโพรงปาก ชนัยถอนริมฝีปากออกมาช้าๆ

อย่างติดใจจนน้ำลายใสติดยาวออกมา เมื่อร่างกายของปราบตื่นเต็มที่ชนัยก็ยิ่งตัวสั่นไปด้วยความต้องการเขาไม่รอช้าที่

จะกางขาคร่อมเอวหนาใช้มือดันเนื้อก้นของตัวเองออกเพื่อเปิดทางให้โล่งก่อนจะกดสะโพกตัวเองลงไปให้แท่งเอ็นร้อน

เปียกชื้นดันสอดแทรกเข้ามาในช่องทางของเขา


            “โอว้ สุดยอด”


            ชนัยชะงักค้างเมื่อเขากดตัวเองลงมาจนกระทั่งสัมผัสกับขนหยาบแท่งเนื้อเสียดสีภายในจนลมหายใจร้อนผ่าว

สองมือของเขาลูบไล้เนื้อตัวตนเองไปมาพลางบิดกายอย่างเสียวซ่านเมื่อเริ่มโยกเอวให้กล้ามเนื้อที่สอดลึกหมุนวนควง

สว่านกระแทกจนช่องทางชื้นฉ่ำ ในขณะที่ปราบเริ่มมองเขาที่ขับเคลื่อนอยู่บนร่างกายด้วยนัยน์ตาเลื่อนลอย


            “ป้อง ป้อง”

           
             แม้จะเจ็บใจที่ไม่ได้เป็นคนที่ปราบเฝ้าพร่ำเพ้อ แต่ตอนนี้ชนัยไม่นึกอะไรอีกแล้วเมื่อหนทางสู่สวรรค์เปิดประตูอยู่

แค่เอื้อม เขาเอนกายลงไปกระซิบข้างหูปราบที่ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะ


            “ใช่ ปราบ ผมนี่แหละคือป้อง เอาสิ อยากทำอะไรก็ทำเลย ป้องของคุณพร้อมอยู่นานแล้ว”


            ปราบสบตา ชนัยมองกลับอย่างร้อนแรงจนปราบกลับเป็นฝ่ายยกมือคว้าหมับที่ไหล่แล้วพลิกชนัยลงเบื้องล่าง

ชนัยแอ่นอกรับอย่างยินดีเมื่อปราบเริ่มครอบครองด้วยลิ้นหยุ่นชื้น ความกระสันพุ่งวาบจนต้องปล่อยเสียงครางดังลั่นเมื่อ

เอวแกร่งของปราบทะยานเข้าหา


            “อ๊า ปราบ มันมาก แรงอีก แรงอีก”


            ชนัยอ้าขากว้างเมื่อปราบเด้งเอวไม่ยั้ง ชนัยเกร็งกายสุดแรงเกิดเมื่อปราบกระชากเขาขึ้นสวรรค์จนสมองขาว

โพลนและอีกไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็ต้องยิ้มอย่างยินดีเมื่อปราบเริ่มต้นครั้งใหม่


            ไม่ว่ามันจะเป็นเพราะฤทธิ์ยากล่อมประสาทหรือแอลกอฮอล์ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้ชนัยกำลังหฤหรรษ์สุดขีดเขา

คว้าโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้ใกล้มือขึ้นมายืดแขนกดถ่ายวีดิโอในขณะที่เขาและปราบยังพัวพันกันไม่เลิกรา
             








            เสียงเคาะประตูห้องพักบนอาคารสูงของโนเอลในยามเช้าตรู่เรียกร่างโปร่งของอดีตนายแบบให้เดินไปเปิดประตู

แต่เมื่อเห็นใบหน้าของเจ้าของเสียงเคาะโนเอลก็ผลักประตูปิดทันที


            “โนเอล”


            ชาวีใช้มือยันประตูไว้อย่างรวดเร็วแล้วรีบก้าวเข้ามาภายในห้องก่อนจะหันกลับไปปิดประตูให้สนิท แต่เมื่อหัน

กลับมาใบหน้าคมเข้มของเขาก็ต้องหงายไปตามแรงหมัดที่โนเอลชกมาเต็มโหนกแก้ม นักร้องหนุ่มสะบัดหน้าเมื่อแก้วหู

ลั่นเปรี๊ยะ


            “ออกไป”


            โนเอลชี้มือไปยังประตูพลางมองชาวีด้วยสายตาที่ทำให้ชาวีหนาวยะเยือกไปทั้งตัว


            “โนเอล ฟังผมก่อน”


            “กูบอกให้มึงออกไป”


            “ผมอธิบายได้ มันไม่ได้เป็นอย่างในข่าว ผมกับป้องเราแค่…”


            “กูไม่ได้ต้องการฟังคำอธิบาย ชาวี”


            น้ำเสียงเย็นเยียบพร้อมกับดวงตาที่บ่งบอกถึงความเสียใจทำให้ชาวีต้องกลืนคำพูดลงคอ ไหล่ของโนเอลสั่น

สะท้านลู่ลงจนชาวีสงสาร


            “ผมแค่จะขอโทษ” ชาวีเอ่ยเสียงแหบพร่า


            “เป็นใครก็ต้องเข้าใจอย่างที่คุณกำลังเข้าใจอยู่ เพียงแค่คุณจะเปิดโอกาสให้ผมได้อธิบายว่าความจริงมันเป็นยัง

ไง”


            “กูเชื่อความจริงในสิ่งที่กูเห็น”


            ขอบตาสีฟ้าร้าวผ่าวเมื่อจ้องมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสำนึกผิด


            “ออกไปซะ”


            ชาวีกัดฟันมองโนเอลอย่างสะเทือนใจ เขาพุ่งตัวเข้าหาพลางกอดรัดโนเอลที่ยังคงดิ้นรนขัดขืนไปมาในที่สุดทั้ง

คู่ก็หยุดนิ่งเมื่อโนเอลหันหลังให้ชาวีที่ยังคงโอบกอดจากเบื้องหลัง โนเอลหลับตาลงเพื่อกลั้นสะอื้นในขณะที่ชาวีเกย

คางของเขาไว้บนไหล่ของโนเอล


            “ผมรักคุณ อย่าหวังว่าผมจะปล่อยคุณง่ายๆเลยโนเอล”


            โนเอลสบถออกมา น้ำตาหยดหนึ่งที่กลั้นไม่อยู่ร่วงลงเปียกชื้นอยู่ตรงข้างจมูกโด่ง


            “มึงรักกูและไม่ยอมปล่อยกู เหมือนกับที่มึงรักปมุตและไม่ยอมปล่อยเขาใช่ไหม มึงมันคนเห็นแก่ตัว”


            “เมื่อก่อนผมรักปมุต แต่ตอนนี้ผมรักคุณ ความรู้สึกที่เหลือกับปมุตมันแค่พี่น้อง เชื่อใจกันบ้างไม่ได้หรือไงโน

เอล”


            สองแขนที่โอบกอดออกแรงกระชับมันยิ่งทำให้โนเอลยิ่งเจ็บปวด เขาฝืนกายออกจากอ้อมกอดและหันกลับมา

เผชิญหน้ากับชาวี


            “มึงตัดปมุตออกไปจากหัวใจไม่ขาดซึ่งกูก็ไม่ใช่พ่อพระพอที่จะทำใจได้  กูมันคนเห็นแก่ตัวว่ะชาวี ถ้ากูรักใคร

สักคนกูก็อยากจะครอบครองทั้งหมดจนไม่เหลือช่องว่างให้คนอื่น”


            มองชาวีอย่างเจ็บช้ำ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูทางออกแล้วพูดเสียงขม


            “คนดีอย่างมึงอย่ามาสงสารกูเลยชาวี ถึงกูจะโหยหาความรักแต่กูก็หยิ่งพอที่จะอยู่ได้โดยไม่จำเป็นให้ใครมา

สงสาร กลับไปแล้วลองทบทวนหัวใจมึงให้ดี อย่าให้ความเป็นคนดีของมึงต้องทำร้ายจิตใจใครต่อใครโดยไม่รู้ตัวอีกเลย”


            “โนเอล”


            ชาวีกล่าวด้วยน้ำเสียงฝืดเฝื่อนไม่แพ้กัน เขาก้าวเดินมาหยุดยืนสบตากับโนเอลอยู่ตรงประตู


            “ก็ได้ ผมจะกลับ แต่ไม่ใช่เพราะผมยอมรับให้คุณไล่ผมออกจากชีวิตของคุณ ผมจะรอให้คุณเย็นลงกว่านี้แล้ว

ฟังผมบ้างว่าตอนนี้ในหัวใจของผมมันมีแต่คุณคนเดียว”


            ชาวีเดินจากไปแล้ว โนเอลรีบปิดประตูตามหลัง เขาพิงหลังกับประตูแล้วรูดตัวลงไปนั่งกองกับพื้นอย่างหมดแรง

                 

                                                                   TBC
             
             

            ยาไฟว์ หรือ Happy five อยู่ในกลุ่ม benzodiazepine ตัวยาจะทำให้มีอาการสับสน มึนงง เสียการทรงตัว 

และมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้เคลิบเคลิ้ม ทำอะไรไม่รู้ตัว ไม่ง่วงนอน คึกคักเคลิ้มฝัน ช่วงที่รับประทานจะสูญเสียความ

ทรงจำ และออกฤทธิ์ยาวนานกว่า 60 ชั่วโมง วัยรุ่นนิยมผสมเบียร์ดื่ม นิยมเสพเป็นกลุ่มโดยการจัดปาร์ตี้จนมีการมั่วเซ็กซ์

ถือว่าเป็นอันตรายต่อสังคม โดยเฉพาะหญิงสาวอาจตกเป็นเหยื่อถูกมอมเมาและถูกข่มขืนโดยไม่รู้ตัว

                ระวังกันไว้ด้วยนะจ๊ะที่รัก

            ที่มา : http://www.thairath.co.th (http://www.thairath.co.th/) , http://www.manager.co.th/Local (http://www.manager.co.th/Local) 



             
             
             

       
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 27-05-2015 21:31:28
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-05-2015 21:34:39
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: malatee3103 ที่ 27-05-2015 21:53:15
จะมีคนว่าไหม เกลียดนายเอกอ่ะ
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 27-05-2015 22:02:57
อิรุงตุงนังไปหมด
ให้กำลังใจนักเขียนนะคับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-05-2015 22:04:41
 :mew5:   โอย  แต่ละอย่างแต่ละคน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 27-05-2015 22:41:07
เอางี้นะพุดถึงส่วนใหญ่ในชีวิตจริงคนที่เจ็บเสียใจผิดหวังจากคนที่รักไปเมาหรือไม่เมาก็อยากจะประชดชีวิตก็มีอยู่เยอะ ผู้ชายง่ายกว่าผู้หญิง บางคนแค่ทะเลาะกันยังมีไปเอาคนอื่นมาเป็นตัวคั่นกลางเฉยๆเลย   ปราบไม่ใช่คนดีบริสุทธุิ์ผุดผ่องนี่เราว่าคนเขียนช่วยพระเอกมากๆแล้วนะที่ให้พระเอกโดนยานี่ 
อย่าเพิ่งโวยเรานะ เราไม่ได้คิดว่ามันโอเคนะถ้าหากว่าปราบไปนอนกับคนอื่น เราแค่ชี้ให้เห็นเฉยๆ  ชนัยบอกธาตุแท้ออกมาแล้วน่าจะอันตรายน่าดู  คนประเภทเดียวกับอิแดนเลย  คลิปวีดีโอก็น่าจะเป็นตัวปัญหา  ถ้าป้องงอนนะปราบก็ตบจูบแบบนายหัวเลยมั๊ง

โนแอลคะคุณเริ่ดมากค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 28-05-2015 00:30:08
ปราบหนอปราบ. เสร็จอีชนัยแระ. แล้วจะทำไงละทีนี้. เฮ้ออออ.
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 28-05-2015 00:30:54
เห้ออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 28-05-2015 08:26:17
เสร็จชนัยซะงั้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 36.2 ( 27 / 05 / 15 ) 21.30 น
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 30-05-2015 08:12:08
สงสารโนเอล
ป้องเหนแก่ตัวอ่ะืจะประชดอะไรคิดถึงแต่ตัวเอง
คนอื่นเค้าก็มีคนรักเหมือนกันน่ะ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-06-2015 18:52:40


                                                           เพลิงพ่าย

                                                           บทที่ 37


          แสงแดดจัดจ้าเสียดแทงสายตาช่วยปลุกให้ปราบปรือตาขึ้นมาช้าๆพร้อมอาการปวดศีรษะจนแทบระเบิด เขา

ยกมือขึ้นบีบขมับพลางนึกทบทวนอย่างแปลกใจว่าเขากลับมานอนอยู่บนเตียงของตัวเองได้อย่างไรในเมื่อความทรงจำ

สุดท้ายคือเขากำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่ในผับ เสียงน้ำจากฝักบัวที่ดังแว่วมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนยิ่งทำให้สงสัย ปราบ

ยันกายขึ้นมานั่งแล้วก้มหน้ามองตัวเองก็ยิ่งงงงันกับสภาพเปล่าเปลือยที่มีเพียงผ้าห่มคลุมท่อนล่างเอาไว้


        ปราบรีบเงยหน้าขึ้นมองเมื่อประตูห้องน้ำที่ปิดอยู่ถูกเปิดออก เขามองด้วยความตกตะลึงเมื่อเห็นคนที่ก้าวออกมา

ชนัย ทนายความที่ปราบให้มาช่วยงานที่บริษัทก้าวออกมาด้วยผ้าเช็ดตัวของปราบพันท่อนล่างไว้ ดวงตาบอกถึงความ

อิ่มเอมเมื่อสบตากับเขา



“ตื่นแล้วหรือครับปราบ”



“ชนัย!”



ชนัยเดินมานั่งอยู่ตรงขอบเตียงก่อนจะเอนกายซุกหน้าลงกับซอกคอของปราบ



“คุณคงแปลกใจที่เห็นผม เมื่อคืนผมไปพบคุณที่ผับ คุณเมามากจนขับรถไม่ไหวผมเลยอาสาพาคุณมาส่ง ไม่นึกว่าเรื่อง

มันจะบานปลาย”



    “หมายความว่าไง ผมมีเซ็กส์กับคุณงั้นหรือ”



ปราบยกมือลูบหน้าตัวเองหนักหน่วง เขาไม่อยากจะเชื่อว่าเพราะเหล้าไม่กี่แก้วจะทำให้ตัวเองขาดสติถึงขนาดจำอะไรไม่

ได้ด้วยซ้ำว่าทำอะไรลงไปบ้าง



“มันเป็นเซ็กส์ที่สุดยอด คุณพาผมขึ้นสวรรค์เสียหลายรอบ”



เจ้าของห้องพักสะบัดหน้าพลางถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้ม เขาก้มหน้ามองชนัยที่ช้อนสายตามองกลับอย่างออด

อ้อนด้วยความหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น



             “ชนัย คือว่า…”



             “คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นปราบ ผมรู้ดี”



             สายตาออดอ้อนของชนัยเปลี่ยนเป็นตัดพ้อด้วยความน้อยใจ



             “ผมรู้ว่าคุณไม่มีผมอยู่ในสายตา ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเพราะความเมาคงไม่อาจนำมามัดใจของคุณให้

ชายตาแลผมได้หรอก”



             ชนัยก้มหน้าซ่อนยิ้มอยู่กับผิวกายกรุ่นกลิ่นเหงื่อของปราบ เขาไม่โง่พอที่จะดึงดันแย่งชิงปราบมาในตอนนี้

หรอก แค่ได้ผูกมัดปราบด้วยเซ็กส์เพียงคืนเดียวก็เป็นไม้เด็ดพอที่จะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในคราวต่อไป ตอนนี้เขาสุขสม

เกินกว่าที่จะทำอะไรแบบนั้นนอกจากใช้ไม้อ่อนเรียกคะแนนสงสารจากปราบ ปริวัตร



             “แต่อย่างน้อยผมก็ดีใจนะ ที่ทำให้คุณได้ผ่อนคลายและมีความสุขจากความทุกข์ที่อยู่ในใจคุณ”



             ปราบก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ เขาด่าที่สะเพร่าจนทำให้เกิดเรื่องเกินเลยนี้ขึ้นมาเพราะรู้ว่าชนัยรู้สึกเช่นไรต่อเขา


ยิ่งชนัยเต็มใจมากเท่าไหร่ปราบก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้น แต่ตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือดึงมือชนัยที่กำลังลูบไล้อยู่บนแผงอก

ของเขาออกห่าง


             “ขอบคุณสำหรับความหวังดี และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมหวังว่ามันจะเป็นเพียงครั้งเดียวที่ผมทำอะไรโดย

ไม่ได้ตั้งใจ อาจจะฟังว่าใจดำแต่ก็ขอโทษอีกครั้งถ้าต้องบอกคุณว่าผมไม่อาจสานต่อความสัมพันธ์กับคุณได้”



             ชนัยกัดฟันข่มความไม่พอใจเอาไว้และฉาบใบหน้าด้วยรอยยิ้มเศร้า คำพูดของปราบทำให้เขายิ่งนึกอยากจะ

เอาชนะ เขาอยากจะรู้นักว่าความสัมพันธ์อันเป็นความลับระหว่างปราบและปมุตต้องใช้แรงมากแค่ไหนถึงจะตีให้แตกได้

มันกลายเป็นความท้าทายราวกับกำลังแก้ไขความผิดให้เป็นสิ่งถูกของลูกความสักคน ชนัยลุกขึ้นเก็บเสื้อผ้าตนเองที่

กระจัดกระจายมาแต่งตัว และก่อนจะก้าวออกไปจากห้องนอนที่เพิ่งสร้างความสุขสมตลอดทั้งคืนเขาก็แกล้งหยอดเชื้อ

ไฟลงไปให้ปราบยิ่งร้อนรน



             “คุณเป็นคนดีนะปราบ ผมนึกอิจฉาคนรักของคุณจริงๆที่คุณรักเขาได้มากมายขนาดนี้ ก็ได้แต่หวังว่าความ

สัมพันธ์ของเราทั้งคู่จะเป็นความลับ ผมเองก็นึกไม่ออกว่าถ้าคนรักของคุณรู้เรื่องเข้า ผลที่ออกมามันจะเป็นยังไง”






             ปราบไปบริษัททั้งที่ยังปวดศีรษะตุ้บๆ นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่คราวนี้แฮ้งค์เหล้าหนักกว่าทุกครั้งที่เคยดื่ม


และทันทีที่ก้าวเข้าไปนั่งที่โต๊ะทำงานเสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดังขึ้น หัวหน้าพนักงานจากฝ่ายออกแบบผลิตภัณฑ์รีบพูด

ด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก


             “แย่แล้วครับเจ้านาย ไอ้บริษัทคู่แข่งมันเปิดตัวสินค้าใหม่วันนี้”



             “แล้วทำไม”



             ปราบยังจับต้นชนปลายไม่ติดจนกระทั่งลูกน้องรีบพูดออกมา



             “ก็มันดันมาเหมือนไอ้ตัวที่พวกเรากำลังออกแบบกันอยู่นี่ไงครับ ตัวที่เราวางแผนจะเปิดตัวรอบต่อไป แม่ง

ไม่รู้ว่ามันเอาแบบไปได้ไง”



             ตลอดทั้งวันที่เหลืออยู่มันจึงหมดไปกับการไล่สอบสวนเรื่องการรั่วไหลของข้อมูล ปราบจึงได้รู้ว่ามันหลุดไป

จากเจ้าหนุ่มคนหนึ่งในแผนกที่ไปมีความสัมพันธ์กับอดีตพนักงานที่ชื่อกานต์จนกระทั่งถูกก็อปปี้แบบไป เหตุการณ์ที่เกิด

ขึ้นทำให้บริษัทเสียหายจากเป็นมูลค่าสูงลิบลิ่วจนเขาต้องโทรไปบอกให้โมกข์รับรู้ด้วย



             “ไหวหรือเปล่า”



             เพื่อนสนิทถามเมื่อรู้เรื่องทั้งหมดด้วยความตกใจไม่แพ้กัน และน้ำเสียงเคร่งเครียดของปราบทำให้โมกข์เป็น

ห่วง



             “เสียงของมึงดูห่วยแตกมาก ทางไร่นี่ก็มีปัญหาเรื่องค้าแรงงานเถื่อนที่กูกำลังรับมืออยู่ ถ้ากูเคลียร์ได้กูจะลง

ไปช่วย”



             “ก็ยังไหว เรื่องนี้ไม่เท่าไหร่แต่เรื่องอื่นหนักกว่า”



             ปราบเล่าเรื่องของปมุตและครอบครัวให้เพื่อนสนิทฟัง โมกข์ถอนหายใจมาทางโทรศัพท์



             “พอได้หรือยังล่ะ ไอ้เหี้ยปราบ สมบัติของแม่ก็ได้คืนมาหมดแล้ว พ่อของมึงก็ได้รับผลกรรมอย่างสาสมแล้วนี่

ที่ต้องกลายเป็นคนพิการนอนอยู่บนเตียงเหมือนแม่ของมึง แล้วเมื่อไหร่มึงจะวางเรื่องทั้งหมดลงเพื่อที่มึงจะมีความสุข

อย่างคนอื่นเขาบ้างล่ะ”



             ปราบอึ้งกับคำถามของโมกข์



             “ป้องมันไม่ผิด แต่มันก็กลายเป็นเครื่องมือที่มึงใช้แก้แค้นทั้งที่มึงก็รักน้องสุดหัวใจ ถ้าเรื่องมันยังคาราคาซัง

แบบนี้คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คงไม่พ้นมึงทั้งสองคนนั่นแหละ”
 








             ปมุตเดินออกจากบริษัทในยามค่ำอย่างอ่อนล้า เขานอนไม่หลับตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาและเมื่อเข้ามาในค่าย

เพลงก็ถูกคุณแมนเจ้าของค่ายเรียกไปอบรมตักเตือนในที่สิ่งที่ทำลงไป ปมุตสัญญากับตัวเองว่าเขาจะไม่ใช้อารมณ์ชั่ว

วูบสั่งการอีก



             เดินมาถึงริมถนนปมุตก็ต้องตกใจเมื่ออยู่ๆนักข่าวกลุ่มใหญ่ที่เฝ้ารออยู่กรูกันเข้าล้อมกรอบมาหวังจะสัมภาษณ์

ข่าวฉาวของเขากับชาวีที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ปมุตถึงกับยืนขาแข็งทำอะไรไม่ถูกจนกระทั่งมีรถยนต์คันหนึ่งแล่นปราดเข้ามา

จอด



             “ป้อง เข้ามา”



             แดเนียล เครตั้นนั่นเอง เขาเปิดประตูฝั่งคนนั่งรอไว้ ไม่มีทางเลือกอื่นที่จะเลี่ยงกองทัพนักข่าวในช่วงที่ยังไม่

พร้อม ปมุตตัดสินใจพุ่งตัวเข้าไปแล้วรีบปิดประตู แดเนียลเองก็รีบขับรถออกไปทันที ปมุตถอนหายใจโล่งอกที่หนีพ้นมา

ได้



             “ขอบคุณนะครับแดเนียลโชคดีที่คุณขับรถมาตรงนี้พอดี”



             แดเนียลซ่อนยิ้ม มันไม่ใช่โชคดีหรอกแต่มันเป็นสิ่งที่เขาวางแผนไว้ต่างหากเล่าพ่อหนุ่มไร้เดียงสา



             “นั่นสินะ ผมก็นึกไม่ถึงว่าข่าวของคุณจะโด่งดังขนาดนี้เพียงชั่วข้ามคืนสำนักข่าวทุกแห่งพร้อมใจกันเล่นข่าว

จนผมตกใจ”



             ปมุตหน้าสลดลงในเมื่อตอนนี้เขายังไม่ได้พบหน้าปราบ เขาวางแผนที่จะไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาลและจะ

ติดต่อปราบให้ไปพบกันที่นั่นเพื่อจะได้ปรับความเข้าใจ แต่ก็ยังไม่ทันได้ทำเพราะเจอกับเหตุการณ์นี้เสียก่อน



             “ผมผิดเองนั่นแหละที่ใช้แต่อารมณ์”



             “ผมไม่ยักรู้ว่าคุณเป็นแฟนกับนักร้องคนนั้น”



             “ไม่ใช่หรอกแดเนียล ผมก็แค่เอ่อ…”



             ลำบากใจที่จะพูดจนต้องเงียบลง มันเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไปที่เขาไม่ควรจะหลุดปากเล่าให้ใครฟัง



             “ไม่น่าจะใช่นะ ผมว่าคุณคงไม่ใช่แฟนเจ้าหมอนั่นหรอกเพราะคุณรักอยู่กับพี่ชายตัวเองนี่ ใช่ไหม”



             ปมุตสะดุ้งเฮือก เขาหันขวับไปมองใบหน้านิ่งของแดเนียลที่จ้องมองถนนเบื้องหน้าอย่างนึกไม่ถึง



             “แดเนียล คุณเอาเรื่องอะไรมาพูด!”



             แดเนียลแสยะยิ้มเมื่อชำเลืองหางตามองมาทางเขาแวบหนึ่งมันทำให้ปมุตตกใจ ความหวาดกลัวแล่นวาบเข้า

มาจนหนาวเยือกเมื่อรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ



             “จำเรื่องที่ผมเคยเล่าให้คุณฟังได้ไหม เรื่องที่ผมสูญเสียคนที่ผมรักไปเพราะผู้ชายชื่อปราบ ไอ้เหี้ยนั่นมันเป็น

คนเดียวกับพี่ชายของคุณ”



             “ผมจะลงจากรถ หยุดรถเดี๋ยวนี้”



             “มันเป็นคนที่ผมไม่คิดจะให้อภัยตลอดชีวิตของผม มันเป็นคนที่ผมอยากจะทำให้มันเจ็บปวดอย่างที่สุด”



             “ผมบอกให้จอดรถ”



             ปมุตขยับด้ามเปิดประตู หัวใจของเขายิ่งสั่นไหวเมื่อมันเป็นออโต้ล็อค สมองของปมุตวิ่งเร็วจี๋เพื่อหาทางเอา

ตัวรอด เขาพยายามเบียดกายแนบชิดกับประตูรถเพื่อให้ห่างจะแดเนียลให้มากที่สุด พลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหนัง

ที่สะพายไหล่อยู่เมื่อโทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ในนั้น เบอร์โทรล่าสุดเป็นของปราบที่ปมุตคิดจะโทรหาแล้วก็ไม่กล้าโทร

ตลอดทั้งวัน ปมุตเลื่อนปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอแล้วโทรออกให้แนบเนียนที่สุด



             “จะมีอะไรที่ทำร้ายจิตใจเพื่อนเก่าของผมได้ดีกว่าการพรากหัวใจของมันมาล่ะ”



             “โอ๊ย! แดเนียลผมเจ็บ”



             ต้นแขนถูกบีบแน่นด้วยมือที่แข็งราวกับคีมเหล็ก ปมุตนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด



             “แดเนียล คุณเข้าใจผิด ผมกับพี่ปราบเราเลิกกันแล้วผมไม่มีอะไรกับเขาแล้ว คุณทำไปก็เหนื่อยเปล่า”



             กัดฟันพูดถ่วงสถานการณ์แต่กลับได้ยินเสียงหัวเราะเยาะหยันดังมาจากแดเนียลที่ยังคงใช้มือเดียวบังคับ

รถยนต์มุ่งหน้าไปยังที่ใดที่ปมุตก็ไม่อาจรู้ได้



             “ผมไม่ได้โง่จนดูไม่ออก”



             ปมุตตัวสั่นแล้วตอนนี้ เมื่อจู่ๆแดเนียลก็หมุนพวงมาลัยเลี้ยวขวับเข้าไปในโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง เมื่อจอด

รถยนต์และม่านสีมัวปิดลงปมุตก็ถึงกับหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด



             “อย่าทำผมเลย ผมขอร้อง”



             แดเนียลหันขวับมามองตาขวางก่อนจะก้าวลงจากรถฝั่งคนขับและอ้อมมายังฝั่งของปมุต ประตูรถถูกกระชาก

ออกและแดเนียลก็ดึงปมุตออกมา ปมุตพยายามร้องโวยวายและดิ้นรนแต่ดูเหมือนภายในโรงแรมม่านรูดแห่งนี้จะไม่มีใคร

สนใจเลย จนกระทั่งเขาถูกลากเข้าไปในห้องสี่เหลี่ยมที่มีกระจกล้อมรอบ



             “อย่าทำผมเลย ให้ผมกราบก็ได้”



             ปมุตใช้ไม้อ่อนทั้งที่หัวใจเต้นรัวด้วยความหวาดกลัว แววตาสีน้ำข้าวจ้องมองเขาราวกับคนวิกลจริต ไหล่บาง

ถูกกระชากเข้าหาและบีบแน่น



             “สมบัติของไอ้ปราบต้องเป็นของกู”



             ปมุตถลาไปตามแรงเหวี่ยงของแดเนียลจนไปอยู่บนเตียงกว้างกลางห้องก่อนที่แดเนียลจะพุ่งตัวตามมา หนุ่ม

น้อยยกเท้าขึ้นถีบช่วงอกให้แดเนียลเสียหลักแล้วเตรียมจะกลิ้งหลบ แต่ก็ไม่ทันเมื่อแดเนียลกระชากผมจนหน้าหงาย



             “โอ๊ย!”



             ปมุตน้ำตาซึม ทั้งกลัวทั้งเจ็บเมื่อแดเนียลยกขาขึ้นคร่อมแล้วเงื้อมือใหญ่ตบหน้าเขาดังฉาด ใบหน้าเนียน

สะบัดตามแรงจนขึ้นรอยมือแดงเถือกแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ ก่อนที่แรงทั้งหมดจะหายไปเมื่อแดเนียลใช้กำปั้นชกเข้าตรงๆที่ลิ้น

ปี่จนตัวงอ



             ดวงตาสีน้ำข้าวมองร่างเพรียวที่อ่อนระทวยหมดแรงดิ้นรนอย่างสะใจ ใบหน้าหวานที่คลับคล้ายกับราฟาเอลน

อนตาลอยคว้าง วันนี้แหละที่เขาจะเหยียบย่ำความรู้สึกของปราบ ปริวัตรให้จมดิน ให้ศัตรูของเขารู้จักคำว่าเจ็บปวดอย่าง

ถึงที่สุด แดเนียลถลนตากว้างเมื่อกระชากเสื้อผ้าของปมุตออกจนเห็นเนื้อใน เขาแลบลิ้นไปรอบปากอย่างกระหายก่อน

จะก้มหน้าลงไปฝังฟันเข้ากับเนื้อหน้าอกของปมุต



             ปัง!!!



             ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรงจากแขกที่ไม่ได้รับเชิญ ด้วยความรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทันปลายเท้าหนักๆถูก

ประเคนใส่ลำตัวจนแดเนียลหงายหลัง ตามด้วยมือแกร่งที่กระชากคอเสื้อของเขาแล้วหมัดลุ่นๆก็ต่อยตรงเข้าปลายคาง

จนหน้าหงาย



             “ไอ้เหี้ยปราบ”



             “เออ กูเอง”



             ปราบตาลุกเป็นไฟ โชคดีที่ตามมาทันเวลาเมื่อได้รับโทรศัพท์จากปมุต นึกแปลกใจเมื่อกรอกเสียงลงไปเท่า

ไหร่ปมุตก็ไม่ตอบ แต่เสียงที่แว่วดังมาทำให้ปราบถึงกับตกใจ


             ปราบไม่รู้ว่าแดเนียลรู้จักปมุตได้อย่างไร แต่ชื่อของแดเนียลที่ปมุตพยายามย้ำให้เขาได้ยินมันทำให้เขา

ร้อนรนกลัวว่าปมุตจะเป็นอันตราย เขารีบเปิดหาฟังชั่นติดตามโทรศัพท์ที่เคยเปิดเชื่อมต่อกับปมุตไว้ มองเห็นการ

เคลื่อนไหวของปมุตที่ไม่ไกลจากเขานัก ปราบขับรถมาที่ค่ายเพลงของปมุตเพื่อที่จะมาปรับความเข้าใจไม่นึกว่าจะ

เป็นการดีที่ทำให้ขับรถไล่หลังแดเนียลมาได้ไม่ทิ้งระยะนัก จนกระทั่งจอดรถตัวเองทิ้งไว้หน้าม่านที่ปิดทึบแล้ววิ่งเข้ามา

มองเห็นกระเป๋าของปมุตร่วงหล่นอยู่หน้าประตูพร้อมเสียงร้องที่ดังลอดออกมา ปราบโมโหจนพังประตูเข้ามาเจอกับภาพ

ที่ทำให้หัวใจไปกองอยู่กับพื้น



             “ไอ้แดน ไอ้ระยำ”



             ปราบปล่อยหมัดไปอีก แต่คราวนี้แดเนียลหลบทันและยังตอบโต้ปราบได้หนึ่งหมัด ปราบตาลุกวาบคว้าคอ

เสื้อทุ่มด้วยยูโดจนแดเนียลเสียหลักล้ม ปราบรีบยกเท้ากระทืบลงไปกลางท้องจนแดเนียลตัวงอ แต่แดเนียลก็ไม่หมด

ฤทธิ์ง่ายๆเมื่อปราบคิดจะกระทืบซ้ำ เขาพลิกตัวหนีอย่างรวดเร็วและคว้าเก้าอี้นั่งขึ้นมาทุ่มใส่ปราบ



             “ฝากไว้ก่อนไอ้ปราบ กูไม่หยุดแค่นี้แน่”




มีต่ออีกนิด
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-06-2015 19:01:28
ต่ออีกหน่อย



             ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งปมุตก็เห็นแต่เพดานสีขาว เมื่อขยับกายความเจ็บร้าวก็แล่นปราดจนต้องอุทานเบาๆ แต่นั่นก็

ปลุกให้คนที่ฟุบหลับอยู่ข้างเตียงสะดุ้งขึ้นมา


            “ป้อง”


            กระพริบตาถี่ๆสำรวจโดยทั่ว ปมุตมองเห็นตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องสีขาวของโรงพยาบาล แขนข้าง

หนึ่งมีสายน้ำเกลือแทงไว้และมีปราบมองมาอย่างห่วงใยอยู่ข้างเตียง


            “พี่เดี่ยว”


            น้ำเสียงอ่อนระโหยทำให้ปราบยกมือลูบไล้ใบหน้าเนียนที่ขึ้นรอยฝ่ามืออย่างสงสาร


            “หายเจ็บหรือยังครับป้อง”


            คำถามของปราบทำให้ปมุตต้องทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น ดวงตาเรียวเบิกวาบเมื่อเหตุการณ์ทั้งหมดคืนสู่ความทรง

จำร่างบางผวาจนปราบต้องกอดไว้


            “พี่เดี่ยว มันทำอะไรป้องได้ไหม”


            “ไม่ครับป้อง พี่เดี่ยวช่วยป้องทัน ป้องยังคงเป็นสมบัติของพี่เดี่ยวเพียงคนเดียว”


            ปราบกดจูบลงกลางกระหม่อมเพื่อปลอบโยน ปมุตน้ำตาไหลพรากพลางยกสองแขนโอบกอดพี่ชายแล้วร้องไห้

ราวกับเป็นเด็กตัวน้อย


            “พี่เดี่ยว ป้องกลัว กลัวว่ามันจะทำร้ายป้อง กลัวป้องจะตกเป็นของมัน ป้องกลัวพี่เดี่ยวไม่รัก”


            พร่ำพูดอย่างเสียขวัญจนปราบสงสาร เขากดใบหน้าของปมุตเข้าสู่แผ่นอกจนเสื้อของเขาชื้นไปด้วยน้ำตา


            “ไม่มีวันที่พี่เดี่ยวจะไม่รักป้อง ไม่ว่าป้องจะเป็นอย่างไรพี่เดี่ยวคนนี้ก็จะรักและอยู่กับป้องตลอดไป”


            ปราบปล่อยให้ปมุตร้องไห้จนพอใจจนแรงสะอื้นคลายลงจึงค่อยดันไหล่บางที่ยังไหวสะท้านออกมาจากอ้อมอก

เขาเลื่อนปลายนิ้วเช็ดน้ำตาจนแห้งเหือดจากใบหน้างดงามจนเหลือแต่ดวงตาแดงเรื่อ


             “เจ็บไหมป้อง”


            เขารู้ว่าปมุตต้องเจ็บ รอยฝ่ามือของแดเนียลยังเด่นชัดรวมทั้งรอยช้ำที่หน้าอกของปมุตมันทำให้ปราบเจ็บไป

ด้วยปมุตช้อนสายตามองพลางยกมือมาวางแนบอยู่บนหลังมือของเขาแล้วเอ่ยเสียงสั่น


            “ป้องขอโทษที่ดื้อ เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะป้องเอง ต่อไปนี้ป้องจะเชื่อพี่เดี่ยวไม่ดื้อแล้ว ยกโทษให้ป้องนะ”


            “ไม่ยกโทษให้”


            “พี่เดี่ยว!”


            ปมุตหน้าสลดลงจนปราบต้องเชยคางให้เงยหน้ามาสบตากับเขาอีกครั้ง


            “ที่ไม่ยกโทษให้เพราะป้องไม่มีความผิดอะไรเลย พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำร้ายป้องมาตลอด ป้องจะยก

โทษให้พี่ที่ทำให้ป้องเสียน้ำตาเป็นปี๊บได้ไหม”



            ดวงตาสบประสานด้วยความผูกพัน ปราบเอียงหน้ากดจูบแผ่วเบาที่เรียวปากอย่างทะนุถนอม


            “พี่เดี่ยวคนนี้จะลืมความแค้นทั้งหมดแล้วเริ่มต้นใหม่กับเด็กน้อยคนนี้ ป้องจะตกลงไหมครับ”


            น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับไหลออกมาใหม่ แต่กลายเป็นน้ำตาแห่งความตื้นตันเมื่อปมุตคลี่ยิ้มกว้างพลางโผ

เข้ากอดปราบอีกครั้ง






            ปมุตนอนอยู่โรงพยาบาลอีกหนึ่งวันจนปราบมั่นใจว่าปมุตปลอดภัยจริงๆจึงได้ออกจากโรงพยาบาล เขาพาปมุต

ไปพักที่ห้องชุดของเขาก่อนด้วยความเป็นห่วงถึงแม้ปมุตจะอยากกลับบ้านเมื่อไม่ได้พบหน้ารัศมีผู้เป็นแม่มาหลายวัน ถึง

แม้จะรู้แล้วว่าแม่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนักแต่ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นแม่ที่ปมุตยังรัก วันต่อมาปราบจึงยอมให้เขากลับไปทำงานที่

ค่ายเพลง ปมุตจึงได้พบกับชาวีที่ยังมีสีหน้าอมทุกข์


            “พี่วี”


            “ป้อง หายไปไหนมา พี่เป็นห่วง”


            อยู่ๆปมุตก็หายหน้าไป ชาวีโทรศัพท์หาก็ไม่ติดจนได้เจอกันวันนี้


            “มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ พี่วี ผมขอโทษนะกับเรื่องวุ่นวายจนเป็นข่าว”


            ชาวียิ้มรับแต่สีหน้ายังไม่ดีขึ้นจนปมุตขมวดคิ้ว


            “พี่วี เรื่องที่ผมก่อขึ้นสร้างปัญหาให้พี่ใช่ไหม”


            ชาวีไม่ได้ตอบคำถามแต่ปมุตก็เดาได้


            “คนรักของพี่เป็นใคร ผมจะไปบอกเขาว่าผมกับพี่ไม่ได้มีอะไรกัน ทุกอย่างเพราะผมมันงี่เง่าเอง”


            เพราะเรื่องนี้เองที่ทำให้ปมุตและชาวีมาหยุดยืนอยู่หน้าออฟฟิศแห่งหนึ่งหลังจากทำงานเสร็จแล้ว ปมุตมอง

อย่างงงงันในเมื่อเขาก็เคยมาถ่ายแบบที่นี่ ปมุตหันไปสบตากับชาวี


            “พี่วี แฟนพี่นี่ใครกันแน่”


            ชาวีกระแอมเบาๆ ใบหน้าเข้มขึ้นสีจัด


            “แฟนพี่ก็ เอ่อ โนเอล ฝรั่งที่เคยจ้างเราไปออกงานอิเว้นท์บ่อยๆไง”


            ปมุตทำตาโต เขาไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าคนรักของชาวีคืออดีตนายแบบที่หล่อจัดคนนั้น


                                                                  TBC



             
             
             
             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 06/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-06-2015 19:31:19
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 06/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 05-06-2015 19:33:41
อิแด๊นนนนน  เมิงจะเลวไปถึงหนายยยย?
คือตอนแรกนึกว่ามันมีความรักที่จริงจังให้ราฟาแอลบ้าง
แต่นี่มันกลบด้วยความโสโครกโสมมของมันหมดเลย
คือเอะอะมันก็บอกว่าคนชังมันเพราะว่าหน้าตามันไม่ดี
แต่ก็แค่ส่วนเดียวเท่านั้น  ความอัปลักษณ์ทางใจมาบดบังรูปลักษณ์ภายนอกหมดแล้วล่ะ

ปมุตจะต้องได้คลิปจากอิชนัยแน่เลย      ยกนิ้วให้ปมุตนะที่คิดเร็วดี  แต่โทรออกแล้วทางนั้นรับเรียกหาตั้งหลายครั้งอิแดนมันไม่ได้ยินบ้างหรือ?

ปมุตก็มีแต่พี่เดียวเท่านั้นในยามยาก  คิดดีๆแล้วกันนะลูกนะ  ว่าเวลาเดือดร้อนหนูคิดถึงใครคนแรกเลย?
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 06/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-06-2015 20:40:07
โอ๊ยยยย ใจหายใจคว่ำ นึกว่าป้องจะเสร็จอีแดเนียล งั้นไม่อยากนึกเลย อีแดเนีนลเปิดตัวเป็นเป็นตัวโกงเต็มตัวละทีนี้ ปราบจะได้เตรียมระวังป้องไว้ ส่วนอีชนัย มันต้องมีแผนอะไรอีกแน่นอน คลิปอยู่ในมือมันแล้วนิ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 06/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: เอาแต่ใจจะทำไม ที่ 05-06-2015 20:44:27
มาม้าชามใหญ่กำลังจะมา ขอชามเล็กๆแบบสาวหุ่นดีได้ไหม ชามใหญ่ๆเส้นอืดๆเดี๋ยวจุกอะ  :katai1: :hao3:
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 05-06-2015 23:29:30
นังชนัยมันไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ ...หนอยยย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: muangthong ที่ 07-06-2015 11:51:57
จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปนะ :ling2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 07-06-2015 14:17:17
มาเป็นกำลังใจให้น้องป้องคร่าาาาา
แล้วชาวีด้วย หวังว่าจะง้อโนเอลสำเร็จนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-06-2015 23:05:56
จะมรอะไรอีกมั้ยละเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 37 ( 05/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 09-06-2015 01:24:22
รอโนเอลลลล
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-06-2015 00:03:30


                                                              เพลิงพ่าย

                                                               บทที่ 38
               


                โมกข์ มนัญชัยถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนสนิทอีกคนหนึ่งเมื่อเขามาเยี่ยมโนเอลหลังจากที่ไม่

ได้คุยกันมานานเพราะโมกข์มัวแต่ยุ่งเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในไร่ วันนี้เขามาเมืองหลวงเพื่อติดต่อธุระด่วนเรื่องการค้า

แรงงานเถื่อนที่อาศัยพื้นที่ไร่มนัญชัยเป็นทางผ่านในช่วงเช้าพอตกบ่ายจึงได้แวะมาหาโนเอลก่อนจะขับรถกลับไร่



                “หน้าแม่งโทรมหมดราศีนายแบบเลยนะมึง”



                โมกข์ทักอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาหมองลงอย่างเห็นได้ชัด



                “เป็นเหี้ยอะไรของมึง สาวไม่ยอมให้ฟันหรือไง”



                เพื่อนของเขาขึ้นชื่อเรื่องสาวๆอยู่แล้ว ทั้งนางแบบในสังกัดและเซเลเบรตี้ทั้งหลายพร้อมจะพลีกายให้โนเอล

กันทั้งวงการ โนเอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ต่อหน้าโมกข์



                “กูมีความรักว่ะโมกข์”



                โมกข์เลิกคิ้วอย่างแปลกใจ



                “ผู้หญิงที่ไหนวะที่ทำให้มึงถึงกับยอมเอ่ยปากว่ารักได้ นี่กูประหลาดใจมากเลยนะ แล้วทำไมต้องทำหน้า

เหมือนแดกยาถ่าย ทะเลาะกับแฟนมึงหรือไง”



                “ก็คล้ายๆงั้นแหละ เฮ้อ ความรักนี่แม่งโคตรยาก กว่าจะหาเจอก็แทบตายกว่าจะรักษามันไว้ได้ก็ยากอีก มึงว่า

งั้นไหม”



                “เห็นควรด้วย”



                โมกข์พยักหน้าเมื่อนึกถึงพัทธ์ที่กว่าจะตกลงปลงใจกับเขาก็ใช้เวลาอยู่พักใหญ่ โมกข์มองเพื่อนอย่างเห็นใจ

เพราะเขารู้ว่าเด็กกำพร้าอย่างโนเอลนั้นโหยหารักแท้แค่ไหน โมกข์ตบบ่าเพื่อนเบาๆ



                “กูคงทำได้แค่เป็นกำลังใจให้มึงก็แล้วกันนะ ไม่ว่ามึงจะมีปัญหาอะไรกับคนที่มึงรัก”



                โมกข์คุยเรื่องสัพเพเหระกับโนเอลอยู่พักหนึ่งก่อนจะลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ



                “ไปเยี่ยวแล้วก็จะกลับละ ทิ้งพัทธ์อยู่คนเดียวที่ไร่นานไม่ได้ ช่วงนี้เหตุการณ์ไม่ค่อยสงบ”



                ทันทีที่ร่างสูงใหญ่ของโมกข์เดินออกไปทางประตูด้านหลังของห้องที่เชื่อมไปยังห้องน้ำด้านนอกได้ ประตู

ห้องทางด้านหน้าก็ถูกผลักเข้ามาอย่างรวดเร็ว โนเอลหันขวับไปมองคนที่บุกรุกเข้ามาโดยที่เขายังไม่ได้อนุญาต

เลขานุการของโนเอลยืนหน้าเสียอยู่ด้านหลังเมื่อเห็นเจ้านายทำหน้าโหด



                “เคทห้ามคุณชาวีแล้วค่ะ แต่คุณชาวีไม่ฟังจะเข้ามาหาบอสให้ได้”



                หญิงสาวรีบก้าวออกจากห้องเมื่อเจ้านายโบกมือไล่ ชาวีประสานสายตาสู้ก่อนที่เขาจะก้าวกลับไปเปิดประตู

ให้ปมุตก้าวตามเข้ามาภายในห้อง



                “เอ่อ สวัสดีครับโนเอล”



                ปมุตหน้าจ๋อยเมื่อเห็นบรรยากาศภายในห้อง เขายืนตัวลีบเมื่อโนเอลหันขวับมาหา



                “ผมไม่รู้มาก่อนว่าคุณคบอยู่กับพี่วี ผมมาขอโทษที่ก่อเรื่องยุ่งให้คุณกับพี่วีเข้าใจผิดกัน เรื่องข่าวที่ผมจูบกับ

พี่วีเป็นเพราะผมเมาก็เลยทำอะไรโง่ๆอย่างนั้น คุณอย่าโกรธพี่วีเลยครับเราทั้งสองคนเป็นแค่พี่น้องกันจริงๆ”



                เด็กเอ๋ยเด็กน้อย…



                โนเอลนึกเอ็นดูปมุตที่เป็นทั้งน้องชายและคนรักของปราบ ทำไมเขาจะดูไม่ออกเล่ากับสิ่งที่ปมุตทำลงไปว่า

เป็นเพราะปมุตต้องการประชดปราบเท่านั้น ปมุตไร้เดียงสาจนไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำให้เขาคิดมากคือความรู้สึกของชาวีที่ยังมี

เยื่อใยต่อปมุตต่างหาก



                “ไม่ใช่ความผิดของป้องหรอก”



                ชาวีหันขวับมาจ้องหน้าโนเอล



                “แล้วเป็นความผิดใคร ถ้าผมผิดผมก็ยอมรับและขอโทษแล้วไงล่ะ”



                นี่ก็อีกคน…



                โนเอลถอนหายใจเฮือกใหญ่



                เพราะปมในวัยเด็กที่เขาขาดความรักมันทำให้โนเอลไม่มั่นใจที่จะรักษามันไว้ โนเอลกลัวความสูญเสียใน

ภายหน้าหากเขายังดึงดันที่จะยื้อมันต่อไป



                “คนผิดอาจจะเป็นตัวผมเอง เราอาจจะไม่เหมาะที่จะคบกันต่อไป”



                “อย่าพูดคำว่าเลิกให้ผมได้ยินเด็ดขาด”


                ชาวีเสียงแข็งพลางกระโจนเข้าไปคว้าไหล่ของโนเอลมาเขย่าด้วยความโมโห



                “ผมไม่ยอมเลิกกับคุณและผมจะไม่ยอมให้คุณทิ้งผมเด็ดขาด”



                โนเอลเม้มปากแน่น เขาตัดสินใจด้วยอารมณ์ที่ประดังเข้ามา



                “แม้ว่าฉันจะมีคนใหม่แล้วงั้นหรือ”



                ชาวีส่ายหน้า



                “คุณไม่มีใครหรอกโนเอล คุณรักผม เรารักกัน”



                ดวงตาประสานกันอย่างท้าทายจนได้ยินเสียงประตูที่เปิดจากด้านหลังห้อง และเมื่อร่างสูงใหญ่ของโมกข์

มนัญชัยก้าวมาอย่างแปลกใจในสถานการณ์ โนเอลก็ปัดมือที่ยึดไหล่ของเขาและถลาไปหาโมกข์ โนเอลคว้าคอของ

โมกข์ให้โน้มมาหาและเบียดปากจูบโมกข์อย่างรวดเร็วท่ามกลางความตื่นตะลึงของทุกคน



                “พี่โมกข์”



              ปมุตยกมือปิดปากกลั้นเสียงอุทานไว้เมื่อเห็นโนเอลจูบกับเพื่อนสนิทของปราบ เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าโมกข์กับ

โนเอลรู้จักกัน ปมุตหันไปมองชาวีที่กำลังยืนนิ่งงันมองภาพนั้นอย่างเจ็บปวด


                “ป้อง กลับ”



                “แต่ว่า พี่วี”



                ชาวีหันหลังคว้าแขนปมุตที่ยังทำท่าละล้าละลังให้ก้าวออกจากห้อง และเมื่อเสียงประตูห้องปิดไล่หลังโนเอ

ลก็รีบผละปากออกจากโมกข์ทันที



                “แหวะ ไอ้เหี้ยโนเอล ทำเหี้ยอะไรของมึงกูจะอ้วก”



                แม้ว่าโมกข์จะนิยมผู้ชายแต่เขากลับขนลุกเมื่อเพื่อนสนิททำแบบนี้ นึกจะด่าโนเอลแต่เมื่อเห็นแววตาระทม

ทุกข์มันทำให้โมกข์ฉุกคิด



                “ชิบหายละ นี่มึงอย่าบอกนะว่าความรักของมึงน่ะคือกับไอ้หน้าอ่อนที่มากับป้อง ไหนมึงบอกว่าไม่มีทางที่มึง

จะชอบผู้ชายด้วยกัน แต่นี่…”



                โมกข์มองหน้าโนเอลที่พยายามหลบสายตา โมกข์ถึงกับกรอกตามองบนอย่างเหลือเชื่อ



                “โนเอล มึงเป็นรับใช่ไหมยอมรับกับกูซะดีๆ”



                คนร่างสูงตัวใหญ่หัวเราะเบาๆ โมกข์ตบหนักๆลงบนไหล่ของเพื่อน เขาทิ้งคำพูดสุดท้ายก่อนกลับออกไป



                “ยินดีต้อนรับว่ะเพื่อน  และขอให้เคลียร์กันได้กับความรักของมึงนะโนเอล”


               






                โนเอลเดินหน้าซีดออกมาจากออฟฟิศ เมื่อโมกข์กลับไปแล้วเขาก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้อย่างหมดแรงและ

ปล่อยจิตใจให้จมดิ่งไปกับภวังค์แห่งความปวดร้าว กว่าจะเรียกสติกลับคืนมาแสงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าไปนานแล้วโนเอล

จึงได้พาตัวเองลงมาถึงรถยนต์



                ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูรถแขนของเขากลับถูกกระชากอย่างแรงจนตัวลอยให้ก้าวตามร่างสูงของชาวีโดย

ไม่ทันตั้งตัว ร่างโปร่งของโนเอลถูกผลักเข้าไปในรถยนต์ของชาวีที่ติดเครื่องรออยู่ไม่ไกลนัก ชาวีรีบก้าวกลับไปยังประตู

ด้านคนขับและเหยียบคันเร่งอย่างรวดเร็ว



                “เงียบ!”



                โนเอลพูดไม่ออกเมื่อเห็นชาวีโกรธจนไฟลุกไม่นานนักเขาก็ถูกลากไปยังห้องชุดของชาวี และเมื่อถูกเหวี่ยง

ลงบนที่นอนชาวีก็กระโจนลงมาล็อคตัวเขาจนดิ้นไม่หลุด



                “ประชดเก่งนักใช่ไหมโนเอล บอกเลยว่าคุณทำสำเร็จผมโกรธคุณมาก”



                “ก็ปล่อยกูไปสิ” โนเอลกัดฟันตอบโต้ ดวงตาแดงเรื่อเมื่อจ้องมองนัยน์ตาคุโชนของชาวี



                “โกรธมาก เกลียดมากก็เลิกกับกูไปซะ”



                “อย่ามาท้าทาย” ชาวียิ่งออกแรงกดเบียดจนโนเอลแทบจมหายไปกับที่นอนนุ่ม



                “เพราะไม่มีทางที่ผมจะเลิกรักคุณ”



                ใบหน้าคมเข้มอย่างชายไทยฝังลงไปกับซอกคอแล้วงับปากลงไปจนโนเอลสะดุ้ง ชาวีจงใจบดเบียดสะโพก

ให้เสียดสีปลุกเร้าจุดอ่อนไหวให้เตลิดไปกับพายุรักที่โหมกระหน่ำ ชาวีเจ็บใจที่ร่างกายของเขากลับตอบรับเป็นอย่างดี

เมื่อชาวีเม้มปากลงบนยอดอกผ่านเสื้อจนเปียกชุ่ม และเขาก็ห้ามใจไม่อยู่เมื่อโนเอลจัดการเปลื้องเสื้อผ้าของเขาออกจน

หมดตัว



                “คุณห้ามผมไม่ได้เพราะคุณเองก็รักผม”



            ชาวีกระซิบเสียงสั่นพร่าเมื่อบรรจงถูไถลอนกล้ามเนื้อที่ไร้อาภรณ์ปิดกายลงมาบนตัวของเขา โนเอลหลับตาลง

เมื่อเขาเองก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ สัมผัสที่เคยห่างหายกระตุ้นให้เขาต้องยอมรับเมื่อชาวีฟื้นความจำให้จนร่างกายสั่น

สะท้าน โนเอลเจ็บใจเมื่อเขากลับอ้าขากว้างให้ชาวีสอดใส่เข้ามาเต็มที่



“ขยับสิโนเอล อา ตอดรัดให้มากกว่านี้ รักผมไม่ใช่หรือ เอาเลย ผมจะทำให้คุณรู้ว่าความรักของผมที่มีต่อคุณมันร้อนแรง

แค่ไหน”





               โนเอลขยับตัวทีละนิดเพื่อไม่ให้คนที่ใช้ท่อนแขนวางอยู่เหนือลำตัวของเขาต้องตื่นขึ้นมาเสียก่อน เขายก

ท่อนแขนนั่นให้พ้นจากตัวจึงดึงกายออกมาจากอ้อมกอดของชาวีที่ยังหลับสนิท ดวงตาสีฟ้าทอดมองใบหน้าคมพลาง

กลั้นสะอื้น


                เนื้อตัวของเขาเต็มไปด้วยรอยรักที่ชาวีฝากไว้ตลอดคืน ชาวีดึงเขาไปสู่ความสุขสมนับครั้งไม่ถ้วนก่อนจะ

หมดแรงผล็อยหลับไปเมื่อใกล้ฟ้าสาง และที่โนเอลเจ็บใจคือทุกครั้งเขาเองเต็มใจและตอบสนองจนไฟเสน่หาลุกโชน

ท่วมท้น



       โนเอลตระหนักชัดแล้วว่าชาวีรักเขามากมายเพียงใด แต่มันเป็นความรู้สึกในส่วนลึกของจิตใจของเขาเองต่างหากที่

ทำให้โนเอลยังคงสับสน โนเอลก้มหน้าลงไปจูบที่เปลือกตาของชาวีแผ่วเบา



               “ขอเวลาอีกนิดนะชาวี ขอให้ฉันได้พิสูจน์ใจตัวเองอีกสักนิด แล้วฉันจะรักนายจนหมดหัวใจ”
 





              ชาวีกระพริบตาถี่ๆพลางวาดท่อนแขนไปทั่วเตียงกลับเจอเพียงความว่างเปล่า เขาสะดุ้งตื่นยันกายขึ้นมานั่ง

พร้อมกวาดสายตามองก็ยิ่งตอกย้ำว่ามีเพียงเขาที่อยู่ลำพังในห้อง ชาวีรีบลุกไปอาบน้ำแต่งตัวลวกๆแล้วขับรถตรงดิ่งไป

ยังคอนโดมิเนียมของโนเอล และเมื่อใช้กุญแจที่โนเอลเคยให้ไว้เปิดประตูเข้าไป ชาวีก็ยิ่งงงงันเมื่อพบแต่ความว่างเปล่า

เช่นกัน และเมื่อโทรศัพท์ไปหาโนเอลก็ไม่รับสายชาวีจึงรีบขับรถไปยังที่ทำงานของโนเอลและพุ่งตัวไปหาเลขาหน้า

ห้องทันที



                “คุณเคท เจ้านายคุณหายไปไหน”



                 เคททำหน้าเลิ่กลั่กเมื่อเห็นนักร้องหนุ่มที่หล่อนรู้ว่ากำลังคบหากับเจ้านายตัวเองอยู่



              “อ้าว นี่คุณวีไม่รู้จริงเหรอคะ”



                ชาวีสบถอย่างหงุดหงิด



                 “ถ้าผมรู้แล้วจะวิ่งวุ่นอย่างนี้หรือครับ บอกผมเดี๋ยวนี้เลยคุณเคทว่าโนเอลไปไหน”



และคำตอบของเคทก็ทำให้ชาวีต้องมานั่งงงคอตกอยู่ในรถตัวเอง



              “บอสไปอิตาลี บินไปเที่ยวแรกของวันนี้ ไปเรื่องโปรเจ็คผ้าไทยที่บอสส่งรูปคุณชาวีไปไงล่ะคะคุณชาวีจำได้

หรือเปล่า บอสกำลังจะมีงานที่อิตาลีค่ะ”
 





                ชนัยกัดฟันกรอดเมื่อเห็นปราบโอบไหล่ปมุตขึ้นไปบนคอนโดมิเนียม เขาสู้อุตส่าห์มานั่งเฝ้าอยู่ในรถรอเวลาที่

ปราบจะกลับมาชนัยหวังจะเข้าไปหาเผื่อว่าปราบจะใจอ่อนยอมพาเขาไปสู่ความสุขสมอีกครั้งแต่กลับต้องมาเห็นภาพ

บาดตา ชนัยรีบต่อสายโทรศัพท์ไปหาเพื่อนร่วมอุดมการณ์อย่างแดเนียลทันที และเมื่อแดเนียลรับโทรศัพท์เขาก็ต่อว่า

เสียงแข็ง



               “แดเนียล ไหนคุณบอกผมว่าจะจัดการกับปมุตให้ได้ แล้วทำไมตอนนี้ผมเห็นปราบกลับมาโอ๋เด็กนั่นยิ่งกว่า

เก่าอีกล่ะ”



               เสียงสบถอย่างหงุดหงิดดังมาจากแดเนียล เขาเองก็เจ็บใจไม่ใช่น้อยที่พลาดท่าไปเมื่อหลายวันก่อนจนต้อง

หนีขึ้นมาทางเหนือพร้อมกับกานต์คู่ขาของเขาแถมยังมาเจอปัญหาเรื่องการค้าแรงงานต่างด้าวที่กำลังถูกจับตาจาก

ทางการอีกด้วย



              “คุณอย่าซ้ำเติมกันให้มาก ผมเองเกือบจะทำสำเร็จแล้วถ้าไอ้ปราบไม่มาขวางทางก่อน แล้วคุณล่ะจับไอ้ปราบ

ได้หรือยัง”



                ชนัยกระตุกยิ้มเมื่อคิดถึงบทรักอันเลอค่าของปราบที่ทำให้เขายิ่งหลงจนหัวปั่น



               “อยากดูหลักฐานไหมล่ะ ผมมีทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว”



                เขาได้ยินเสียงหัวเราะอย่างถูกใจของแดเนียลดังลอดออกมา



                “นี่หมายความว่าคุณเผด็จศึกไอ้ปราบได้แล้ว โอ้โห ผมนับถือคุณมากเลยชนัย แต่หลักฐานของคุณจะไม่มี

ประโยชน์ถ้าคุณทำแค่เก็บมันไว้ ถ้าเป็นผมก็คงจะใช้ประโยชน์จากมันอย่างคุ้มค่า”



                “คุณหมายความว่า…”



               “คงไม่มีทนได้หรอกถ้าเห็นคนที่เรารักไปมีเซ็กส์กับคนอื่น แม้ว่าจะรักกันดูดดื่มแค่ไหนก็เถอะ”





                ปมุตแปลกใจที่ชนัยทนายความของบริษัทมาหาเขาถึงค่ายเพลง ปมุตต้อนรับชนัยที่เคยเห็นหน้ากันมาบ้าง

แต่ก็ไม่ได้คุ้นเคยกันนัก ชนัยคลี่ยิ้มเมื่อแจ้งเหตุผลของการมาหาในวันนี้



                 “ผมมาหาคุณป้องเพราะว่าคุณป้องต้องเป็นผู้จัดการมรดกของคุณปัญญาที่กลายเป็นบุคคลไร้สมรรถภาพ”



ใบหน้าของปมุตเศร้าลงทันทีเมื่อคิดถึงบิดาที่ได้แต่นอนตัวแข็งอยู่บนเตียง



               “จำเป็นด้วยหรือครับพี่ชนัย ผมไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เลย”



                “จำเป็นครับ ถึงแม้ว่าหุ้นที่มีจะไม่มากแต่มันก็จำเป็นที่คุณป้องจะต้องเป็นคนดูแลทรัพย์สินที่เหลืออยู่ ผม

เตรียมเอกสารมาให้คุณป้องเซ็นแล้ว”



                 ชนัยยื่นเอกสารให้ปมุตเซ็น เขาตรวจทานเรียบร้อยจึงได้รับกลับไป



                “เรื่องบริหารงานของบริษัทคุณป้องก็ไม่ต้องห่วง เพราะประธานคนใหม่อย่างคุณปราบทำงานเก่งมาก”



         ปมุตรู้สึกผิดสังเกตเมื่อเห็นท่าทีของชนัยเมื่อกล่าวถึงปราบ เขาเห็นชนัยยิ้มเขินและดูจะชื่นชมปราบมากเป็นพิเศษ



              “คุณปราบทำให้บริษัททำกำไรเพิ่มขึ้นจนเป็นที่กล่าวขวัญของผู้ถือหุ้นทุกคนเลยครับ”



               “เอ่อ พี่ชนัยสนิทกับพี่ปราบมากเลยนะครับ”



                 “อ๋อ ก็ครับ” ชนัยหลบสายตาใบหน้าแดงก่ำ “เราสนิทกันมากพอสมควรทีเดียว แต่ผมไม่อยากจะพูดอะไร

มากไปกว่านี้อยากจะให้มันแน่นอนเสียก่อนค่อยเปิดตัว เอ่อ ธุระที่มาเสร็จแล้วงั้นผมขอตัวก่อนนะครับจะได้ไม่กวนเวลา

งานของคุณป้อง”



               

             







มีต่ออีกหน่อย พื้นที่เต็มฮ่ะ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-06-2015 00:21:10


ต่อกันอีกหน่อย




           

                 กล่าวลาจบลงชนัยก็รีบร้อนลุกจากเก้าอี้เดินจากไปทิ้งไว้แต่ปมุตที่ยังนั่งงงอยู่กับคำพูดกำกวมของชนัย

พลันมองเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ตรงเก้าอี้ที่ชนัยนั่งเมื่อสักครู่ ปมุตหยิบมันขึ้นมาหวังจะวิ่งไปคืนให้ชนัยแต่เมื่อปลาย

นิ้วสัมผัสหน้าจอที่ไม่ได้ล็อคไว้กลับปรากฎภาพที่ทำให้ปมุตจำเป็นต้องมอง

           หัวใจเต้นโครมครามเมื่อเห็นคลิปที่เปิดค้างไว้เมื่อมันเป็นภาพใบหน้าของปราบที่ค่อนข้างชัดเจน มือเรียวสั่นไหว

เมื่อห้ามใจไม่อยู่ที่จะเปิดให้มันเคลื่อนไหว ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นบทรักที่คุ้นเคยหากแต่อีกฝ่ายกลายเป็นชนัยที่

กำลังตอบโต้อย่างสุขสม แถมชนัยยังโคลสอัพใบหน้าของปราบให้เห็นชัดแจ้ง

             ใบหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด น้ำตาหยดลงมาอย่างกลั้นไม่อยู่เมื่อจ้องมองคลิปนั้นจนจบลง






          ปราบขับรถมารับปมุตเช่นเคย เขาคลี่ยิ้มเมื่อปมุตเปิดประตูรถเข้ามานั่ง แต่เมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดปราบก็ขมวด

คิ้วมองอย่างสงสัย


            “เป็นอะไรครับป้อง สีหน้าไม่ดีเลย”


             ปมุตเงยหน้ากลั้นน้ำตาไว้ก่อนจะสบตาปราบด้วยความเจ็บช้ำ


            “พี่เดี่ยวเคยบอกว่าความรักต้องซื่อสัตย์และไว้ใจกัน”


              ปมุตยื่นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งส่งให้ปราบรับไปอย่างงงๆ


             “ลองบอกป้องหน่อยได้ไหมครับว่าคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์เครื่องนี้มันคืออะไร”


             ปราบเปิดหน้าจอ แล้วเปิดคลิปที่ปมุตเปิดไว้ ใบหน้าของเขาซีดจนกลายเป็นเขียวพลางกัดฟันด้วยความโกรธ


ในที่สุดสิ่งที่เขาสังหรณ์ใจมันก็เกิดขึ้น


               “มันเป็นเรื่องจริง” ปราบยอมรับ “มันเกิดขึ้นในวันที่เราทะเลาะกันและพี่เมาจนขาดสติ พี่มีเซ็กส์กับชนัยอย่าง

ไม่ตั้งใจ และพี่ก็บอกเขาไปแล้วว่ามันเป็นเพียงความพลาดพลั้งที่จะไม่เกิดขึ้นอีก”


               ปราบคว้ามือชื้นเหงื่อของปมุตมากุมไว้และมองอย่างขอร้อง


               “นี่เป็นความจริงที่ป้องต้องเชื่อพี่”


               ปมุตถอนหายใจเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง เขาดึงมือออกจากการเกาะกุมแล้วพูดเสียงขื่น


               “ตามเหตุผลแล้วป้องเชื่อ แต่ความรู้สึกของป้องมันยังเจ็บอยู่ ขอเวลาให้ป้องทำใจให้ความรู้สึกกับเหตุผลมัน

ไปในทิศทางเดียวกันสักพักนะครับพี่เดี่ยว”


               ประตูรถถูกเปิดออก ปราบรั้งแขนปมุตที่ก้าวลงจากรถ


               “ป้องจะไปไหน”


               “ป้องจะกลับบ้าน ไปอยู่กับแม่สักพัก”



               ปราบมองตามร่างเพรียวที่เดินจากไปพลางขบกรามด้วยความโมโห เขากระชากรถให้เคลื่อนที่ไปทาง

สำนักงานทนายความของชนัยอย่างรวดเร็ว ชนัยเงยหน้าจากกองเอกสารและยิ้มรับอย่างท้าทายเมื่อเห็นปราบพุ่งตัวเข้า

มา


               “คิดจะทำอะไรชนัย” ปราบตะคอกเสียงต่ำ “อัดคลิปแล้วเอาไปให้ป้องดู ทำเพื่ออะไร”


               “ผมเคยบอกแล้วว่าผมรักคุณ” ชนัยกล่าวตอบอย่างใจเย็น


               “และผมก็คิดว่าผมเหมาะสมกับคุณมากกว่าน้องชายคนละแม่ที่เกิดจากนักร้องในบาร์ชั้นต่ำอย่างนั้น ผมต่าง

หากที่คู่ควรไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ผิดต่อศีลธรรมอย่างที่คุณกำลังทำอยู่ นี่ผมกำลังดึงคุณขึ้นมาจากโคลนตมนะปราบ”


               ปราบโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เขาคว้าคอเสื้อของชนัยแล้วตะคอกใส่หน้าอย่างหมดความอดทน


               “อย่ามาเสือกเรื่องของผม ผมพอใจที่จะอยู่ในโคลนตมที่ผมเลือก ผมไม่ต้องการทางสว่างงี่เง่าอะไรทั้งนั้น”


               ปราบผลักชนัยออกห่าง สายตาที่มองมีแต่ความรังเกียจ


               “และอย่านึกว่าผมจะไม่รู้ว่าคุณทำอะไรกับผมบ้าง คุณวางยาผมให้ผมติดกับคิดว่าผมจะไม่สงสัยตัวเองจน

ต้องไปตรวจร่างกายงั้นสิ คุณมันหน้าเนื้อใจเสือจนผมนึกไม่ถึง หยุดการกระทำทุกอย่างที่คิดจะทำให้ผมกับป้องเลิกกัน

ซะ ถ้าคุณไม่หยุดผมจะเป็นคนหยุดคุณเอง”


               มุมปากกระตุกจนชนัยหนาวจับขั้วหัวใจเมื่อสบตากับดวงตาวาวไปด้วยโทสะของปราบ


               “และคุณก็ควรจะรู้ว่าผมไม่ใช่คนดีที่คุณคิดว่าคุณคู่ควรหรอกชนัย”


               ชนัยนั่งอ้าปากค้างหอบสั่นไปทั้งตัวแม้ว่าปราบจะกลับไปแล้วพักใหญ่ เพลิงอารมณ์ของปราบกำลังทำให้

ชนัยแทบคลั่ง เขากลัวปราบแต่เขาก็ยิ่งอยากได้ ชนัยไม่เคยพบเจอใครที่ร้อนแรงอย่างนี้มาก่อน มันกระตุ้นความต้องการ

เอาชนะจนหัวใจเต้นรัว ชนัยตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาแดเนียล เครตั้น


               “ปราบมาหาผมและขู่ให้ผมเลิกทำเรื่องทั้งหมด ผมจะบอกคุณว่าเราควรจะใช้ไม้แข็งเพื่อแยกคนทั้งคู่ออกจาก

กันให้เร็วที่สุด ผมต้องการให้ปราบ ปริวัตรมาคุกเข่าต่อหน้าผม”
               


                                                                     TBC









               
               
               
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 13-06-2015 00:36:52
แล้วๆๆๆๆๆ อีชนัยอีนี้แรงจริงๆ. ปราบรู้ว่ามันร้ายก็ระวังป้องไว้ดีๆนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-06-2015 00:50:09
ชนัย นางแรงมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 13-06-2015 01:24:51
 :katai1: :katai1: 

3 คำเลยนะ  กับชนัยเนี่ย

" เอา ทุเรียน มั้ย " ???


ตบแม่งเลย  :beat:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 13-06-2015 03:02:14
นางแรงส์ค่ะ  ชนัย  มาแบบชะนีตัวร้ายละครหลังข่าวเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 13-06-2015 03:56:32
พังแน่ๆชีวิตเธอ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 13-06-2015 07:13:04
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 13-06-2015 07:58:31
ดีทุเรียนกำลังเยอะ  :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: thyme812 ที่ 13-06-2015 14:16:43
 :hao5:
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 13-06-2015 16:13:32
อินังชนัย.....
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 14-06-2015 01:34:38
ชอค กะ รี อยากได้จนตัวสั่น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-06-2015 12:35:21
ชนัย...แกต้องได้รับการตอบแทนที่สาสมแน่ๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 14-06-2015 14:17:15
อีชนัยยย :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 14-06-2015 20:03:06
อ่านทันแล้วววววว ตอนที่ชนัยวางยาปราบแล้วมีอะไรกันนี่ร้องเอี้ยหนักมากอะ แบบชนัยนี่ไม่เพราะจะเป็นทนายนะนิสัยโคตรน่าตบ ฮึ่ยยยย  :m16: ขอสกายคิกอิทนายร่านนี่หน่อยเถอะ  :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Joe ที่ 14-06-2015 20:29:13
รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 14-06-2015 20:39:38
ชนัยมันร้ายมาก นิสัยแบบนี้ไม่น่าเป็นทนายเลย
เขาไม่เอายังด้านอยู่อีก!!!
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Sasima ที่ 15-06-2015 21:23:44
นังชนัยอยากได้ผู้ชายจนตัวสั่น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 16-06-2015 14:40:26
ชนัยร้ายยยย~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 38 ( 13/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: domeloly ที่ 19-06-2015 05:34:23
หน้าเอกเรื่องนี้ มันกินหญ้าป่ะครับ
เพลียกับนางจริงๆ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-06-2015 01:47:32


                                                    เพลิงพ่าย
                                         
                                                   บทที่ 39


                เรื่องที่อินไฟไนท์อินดัสเตรียลถูกโขมยผลงานได้เรื่องคืบหน้าไปมากเมื่อทางฝ่ายสืบสวนทำงานกันอย่าง

รวดเร็วในทางลับ ปราบจึงได้รู้ว่าทั้งหมดมันข้องเกี่ยวกับอดีตพนักงานคนหนึ่งชื่อกานต์ซึ่งกำลังสร้างปัญหาให้กับชีวิตรัก

ของเพื่อนสนิทของเขาอยู่ที่ไร่บนดอยสูง แต่สิ่งที่รู้เพิ่มเติมและทำให้เขาต้องกัดฟันกรอดก็คือคนที่นำข้อมูลใส่พานไปให้

บริษัทคู่แข่งกลับกลายเป็นฝรั่งที่ชื่อแดน ปราบรู้ดีว่ามีคนชื่อนี้ไม่กี่คนหรอกที่จ้องทำลายเขาในทุกทาง

               ความเข้าใจผิดจนต้องสูญเสียคนที่รักมากที่สุดทำให้แดเนียลเกลียดปราบจนเข้าไส้ และปราบก็รู้ดีว่าแดเนีย

ลเจ้าคิดเจ้าแค้นพอที่จะคิดร้ายกับทุกคนที่แวดล้อมเขาโดยเฉพาะปมุต ปราบรู้ดีว่าเป็นเพราะอะไร

               ปมุตกลายเป็นตัวแทนของราฟาเอลในสายตาของแดเนียล เช่นกันกับที่เขาเคยเห็นราฟาเอลเป็นเงาของ

ปมุตในอดีต ดวงตาสีน้ำข้าวที่มองปมุตอย่างต้องการที่จะครอบครองสร้างความกังวลให้ปราบอยู่ไม่น้อย เขาเกรงว่าจะ

คุ้มครองคนที่เขารักได้ไม่เต็มที่ในขณะที่เกิดเรื่องบาดหมางกับปมุตเเพราะความสะเพร่าของตัวปราบเองรวมทั้งความบ้า

ของแดเนียลที่ถึงกับหลอกปมุตไปได้ครั้งหนึ่งแล้ว ปราบสัญญาว่าเขาจะไม่ปล่อยปมุตไว้ห่างกายเด็ดขาด

               เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่แววดาวเลขานุการสาวใหญ่หน้าห้องจะก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก เจ้า

หล่อนรีบละล่ำละลักบอกเขา


               “คุณปราบดูข่าวด่วนทางทวิตเตอร์หรือยังคะ”


             “ข่าวอะไรครับคุณแวว ผมยังไม่ได้ดูข่าวอะไรเลยวันนี้”


             
              แววดาวยื่นโทรศัพท์มือถือของหล่อนให้ปราบ


               “คุณโมกข์ค่ะ คุณโมกข์ถูกลักพาตัวไป ตอนนี้ทุกสำนักข่าวยืนยันตรงกันแล้วนะคะคุณปราบ”





            ปราบตรงดิ่งไปที่ค่ายเพลงของปมุตทันทีที่รู้ข่าวว่าโมกข์ถูกลักพาตัว เขาโทรศัพท์ไปหาพัทธ์เพื่อปลอบใจ

แล้ว ไม่นานหลังจากนั้นคนที่ลักพาตัวโมกข์ไปจึงได้บอกจำนวนเงินที่ต้องการซึ่งมันมากโข แต่สำหรับเพื่อนตายอย่าง

โมกข์เงินไม่ใช่ปัญหา เขาให้แววดาวรีบหาตั๋วเครื่องบินให้เขาโดยด่วนก่อนที่จะมาหาปมุต



          “ไปกับพี่”


   
              เขาทำท่าจะคว้าแขนปมุตเมื่อเจอหน้าโดยไม่สนใจแววตาหมางเมินนั่น ปมุตฝืนตัวไว้ไม่ยอมเดินตามปราบที่

กำลังหงุดหงิดเพราะห่วงเพื่อน


         
             “ไปไหนครับพี่ปราบ นี่ป้องกำลังจะอัดเสียงซิงเกิ้ลใหม่ไปไม่ได้หรอก”


            “ไอ้โมกข์มันถูกลักพาตัวเรียกค่าไถ่ พี่ต้องรีบไปที่ไร่ของมันและป้องต้องไปกับพี่”


              ปมุตเองก็ตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยิน แต่เขาก็ยังเม้มปากและทำท่าจะเถียงปราบจนปราบต้องดึงต้นแขนทั้งสอง

แล้วเขย่าเบาๆ



               “พี่รู้ว่าป้องยังโกรธเรื่องชนัยแต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาตั้งแง่กับพี่ ยังไม่เข็ดหรือไงที่ไอ้แดนมันพาเข้า

โรงแรมน่ะ พี่ยังไม่ไว้ใจอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่ายังไงป้องก็ต้องไปกับพี่”



                  ปราบลากแขนปมุตเข้าไปบอกกล่าวกับโปรดิวเซอร์ที่ควบคุมงานอยู่ และใช้สิทธิ์ความเป็นพี่ชายลากแขน

ปมุตออกมาจากห้องบันทึกเสียงทั้งที่ทุกคนยังงงอยู่ ปมุตต้องเดินตามแรงกระชากของปราบจนถึงสนามบินที่แววดาวมา

รอส่งตั๋วเครื่องบินให้เจ้านายพร้อมทั้งอวยพรให้ปลอดภัยและช่วยโมกข์ให้ได้ ตลอดทางจนถึงไร่มนัญชัยปมุตยังไม่ได้

พูดกับปราบแม้แต่คำเดียวเพราะปราบกำลังเครียดอยู่กับการหาทางช่วยโมกข์

            แม้จะยังใม่กระจ่างถึงความสัมพันธ์ระหว่างโมกข์กับโนเอลและปราบว่าทั้งหมดรู้จักกันหรือไม่ แต่ปมุตเองก็

เป็นห่วงโมกข์เช่นกัน แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากอยู่นิ่งๆในบ้านพัก ปมุตต้องนอนเพียงคนเดียวในห้องรับรองแขก

เมื่อปราบและพัทธ์กำลังปรึกษากันเรื่องไปช่วยโมกข์ในยามเช้าวันรุ่งขึ้น จนกระทั่งฟ้าใกล้สางปมุตจึงย่องลงไปด้านล่าง

เขาเห็นปราบแต่งกายรัดกุมพร้อมกระเป๋าใส่เงิน ปมุตถอนหายใจแล้วก้าวเข้าไปยืนประจันหน้า


           “ระวังตัวด้วยนะครับพี่เดี่ยว อย่าบ้าบิ่นมากนะ”


           สีหน้าเคร่งขรึมคลายลงจนอมยิ้มได้ ปราบยกมือลูบแก้มเนียนอย่างทะนุถนอม


         “แค่ป้องหายโกรธพี่เดี่ยวกำลังใจก็ท่วมท้นแล้ว”


           หนุ่มน้อยเบ้ปาก แต่ดวงตาปิดบังความขัดเขินไม่มิด


                   “ยังโกรธอยู่ครับแต่เก็บไว้ก่อน ความปลอดภัยสำคัญกว่า ถ้าพี่เดี่ยวกลับมาป้องจะคิดบัญชีกับพี่เดี่ยวทบ

ต้นทบดอก”


                   “งั้นพี่ไม่กล้ากลับมาละ กลัวถูกป้องทำโทษ”


                 “พี่เดี่ยว!”


               ปมุตยกมือนุ่มขึ้นปิดปากปราบพร้อมด้วยสีหน้าตกใจที่ปราบพูดประโยคนั้นออกมา


               “พี่เดี่ยวต้องกลับเพราะว่าป้องอยู่ที่นี่ ถ้าไม่กลัวป้องจะหนีไปอีกก็ตามใจ”
     
               แม้จะหวาดหวั่นในเหตุการณ์รุนแรงนี้แต่ปมุตก็ต้องทำใจให้เข้มแข็ง เขาโน้มคอปราบลงมาจนริมฝีปากทั้งคู่

จรดกัน ปราบ
ถือโอกาสรวบเอวบางเข้ามากอดและฝากจุมพิตเอาไว้กับเรียวปากนุ่มของปมุต
 

             “ไม่ต้องกลัวนะป้อง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่เดี่ยวจะไม่ทิ้งป้องไปเด็ดขาด”



               แล้วปราบก็ต้องออกไปกับพัทธ์ ปมุตได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความหวั่นใจ กระวนกระวายอยู่แต่ใน

บ้านหลังใหญ่เพียงลำพังเมื่อทุกคนมุ่งไปช่วยเหลือเจ้าของไร่ในป่า ปมุตกอดเข่าตนเองอย่างหวาดกลัวทุกครั้งที่เสียง

ปืนดังแว่วมาจากเชิงเขาที่ไกลออกไป


               กว่าจะมีเสียงรถยนต์ดังมาจากที่ลาดด้านล่างของบ้านไม้สักทองของโมกข์เวลาก็ผ่านไปจนเย็นย่ำ ปมุตผวา

ไปที่ประตูพลางมองอย่างระแวดระวัง เมื่อเห็นร่างสูงสง่าของปราบเดินขึ้นเนินตรงมา เขาก็ฉีกยิ้มอย่างยินดีพลางวิ่ง

เข้าไปสวมกอดจนปราบรับเกือบไม่ทัน
             
                “พี่เดี่ยว”
   
              ปราบลูบผมนุ่มของปมุตอย่างเอ็นดูจนปมุตคลายอ้อมกอดและมองร่างกายของเขาอย่างสำรวจ พลัน

สายตาเห็นวงเลือด
ที่เปื้อนเสื้ออยู่ดวงตากลมโตก็เบิกกว้างอย่างตกใจ


                 “เลือด พี่เดี่ยวบาดเจ็บหรือครับ”           
 

               “ใจเย็นป้อง พี่เดี่ยวไม่ได้เจ็บ”


                ปราบคล้องแขนไปรอบคอปมุตและพาเดินเข้าไปในตัวบ้านพลางเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
 

              “พ่อเลี้ยงสุชัยที่มีปัญหากับโมกข์เรื่องแรงงานต่างด้าวเป็นคนลักตัวไอ้โมกข์ไป พอได้เงินมันทำท่าจะ


ตุกติกก็เลยต่อสู้กันจนสุชัยถูกยิงตายด้วยฝีมืออาจารย์พัทธ์ แต่อาจารย์ก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อยตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล


มีไอ้โมกข์เฝ้าเมียแสนดุของมันอยู่”


               ปมุตถอนหายใจโล่งอก

           
                “ดีนะที่จบลงได้ด้วยดี”

       
                 “พี่กลัวว่าจะยิ่งเลวร้ายน่ะสิ”


                 ปราบขบกรามกรอด


                “ตำรวจที่ทำคดีนี้อยู่บอกพี่ว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเป็นเจ้าของเงินให้พ่อเลี้ยงสุชัยคือไอ้แดน เขาเพิ่งได้หลัก


ฐานมาจนสามารถออกหมายจับมันได้ แต่ตอนนี้ยังหาตัวมันไม่เจอ”


             “โอ พี่เดี่ยว เรื่องนี้รุนแรงมาก ป้องไม่นึกว่าผู้ชายคนนั้นจะอันตรายขนาดนี้”



               ปราบดันไหล่ให้ปมุตนั่งลงบนเก้าอี้โซฟารับแขก เขาพาดแขนไปบนไหล่ของปมุตและกระชับเบาๆ



                    “มันร้ายกว่านั้นเยอะ ขนาดกล้าที่จะหักหลังพ่อบุญธรรมของพี่ได้”



                  ปราบยอมเล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้ปมุตฟังว่าเขาเคยมีความสัมพันธ์กับราฟาเอลโดยที่ไม่รู้ว่าราฟาเอล

คือคนที่แดเนียลแสดงความเป็นเจ้าของจนกระทั่งขัดเคืองกัน แดเนียลหันไปร่วมมือกับมาเฟียฝ่ายตรงข้ามและหลอก

ปราบไปฆ่าทิ้งแต่บังเอิญราฟาเอลต้องมารับเคราะห์ไป แดเนียลเข้าใจว่าราฟาเอลยอมตายเพื่อปราบจนกลายเป็น

ประเด็นผิดใจกัน


               “นึกแล้วก็สงสารราฟ พี่ยอมรับว่าพี่เองก็ผิดที่มีเซ็กส์กับราฟเพราะเห็นเขาเป็นเงาของป้อง”

               

               “โธ่ พี่เดี่ยว”



              หัวใจที่เปราะบางของปมุตอ่อนยวบ ชีวิตของปราบช่างผ่านเหตุการณ์เลวร้ายมามากมายในขณะที่เขาใช้ชีวิต

อย่างไม่ทุกข์ร้อนท่ามกลางการเอาใจของบิดา บัดนี้ปมุตเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าทำไมปราบถึงเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นเช่นนี้



               “ป้องสงสารพี่เดี่ยว จะมีทางไหนที่จะทำให้พี่เดี่ยวมีความสุขได้บ้าง”


               ปราบคว้ามือนุ่มมากุมไว้และยกมาลูบใบหน้าของตนก่อนจะกดจูบลงกลางฝ่ามือ


               “แค่เป็นป้องอย่างนี้ และอยู่กับพี่เดี่ยวทุกวันแค่นี้พี่เดี่ยวก็มีความสุขแล้วครับ”


               ประสานสายตากันด้วยความเข้าใจ ปราบอดใจไม่ไหวกับใบหน้างดงามจนต้องก้มหน้าลงไปบดปากลงกับ

กลีบปากนุ่มที่เผยอรับอย่างเต็มใจ เอนกายทับร่างนุ่มของปมุตให้หงายหลังลงกับเบาะยาวของโซฟาก่อนที่ปราบจะหา

เศษหาเลยอยู่แถวติ่งหูและซอกคอเนียนนุ่มจนปมุตเริ่มหายใจสะท้าน


               “ดะ เดี๋ยว พี่เดี่ยว นี่ไม่ใช่บ้านเรานะ”


               พยายามห้ามปรามและยกมือผลักไหล่หนาแต่กลับถูกปราบดึงออกแล้วเปลี่ยนให้คล้องไปรอบลำคอของเขา

แทน


               “บ้านเพื่อนก็เหมือนบ้านพี่นั่นแหละ”


               “ตะ แต่ นี่มันห้องรับแขก ละ แล้วพี่เดี่ยวก็มีแต่เหงื่อ เอ่อ ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนไหม อ๊ะ!”


               ปมุตสะดุ้งเมื่อเสื้อยืดตัวบางแนบเนื้อถูกเลิกขึ้นจนมองเห็นแผ่นอกขาวเนียนและลิ้นร้อนก็ครอบงำอยู่ตรง

ยอดอกสีสวย


                “ไม่ไหวแล้วครับป้อง พี่ไม่ได้จัดการกับป้องมานานแล้ว พี่ขอแบบเหม็นๆอย่างนี้สักรอบนึงก่อนนะ วันนี้ขอ

สวมวิญญาณดิบเถื่อนเลียนแบบไอ้โมกข์มันหน่อยเถอะ”


               “ฮื้อพี่เดี่ยว จะดีเหรอ อะ อื้อ!”


   
           ปมุตต้านทานไม่สำเร็จ กางเกงของเขาถูกดึงจนพ้นปลายเท้าแล้วกองทิ้งไว้กับพื้น ปราบยกขาเรียวข้างหนึ่ง

ยกสูงพาดไปกับพนักพิงของโซฟาและอีกข้างหย่อนลงพื้นเพื่อเปิดทางให้กว้าง มือร้อนกอบกุมแก่นกายงดงามเหมาะมือ

ของปมุตพลางปลุกปั่นจนร้อนรุ่ม ปราบปลดเข็มขัดรูดซิปแล้วคว้าเอ็นร้อนที่ตื่นตัวอยู่แล้วให้ออกมาชมโลกก่อนที่เขาจะ

จ่อทักทายอยู่กับช่องทางที่เริ่มฉ่ำชื้นจากการปลุกเร้า


               “ฮึก อึก พี่เดี่ยวช้าๆครับ ป้องจุก”


               ประท้วงอย่างทรมานเพราะแรงพลุ่งพล่านจากอารมณ์ของปราบเมื่อสอดแทรกให้ท่อนเนื้อดึงดันเข้ามาจน

ลุกสุดตัว ปราบช้อนสะโพกนุ่มมือให้ยกสูงอยู่บนหน้าขา ช่องทางของปมุตตอดรัดมากกว่าเคยเพราะทั้งคู่ห่างกันไปพัก

ใหญ่และตอนนี้มันกำลังสร้างความอึดอัดให้ปราบจนต้องถอนเอวออกมารับอากาศภายนอกแล้วจึงสวนกายเข้าไปใหม่อีก

ครั้ง


 
             “ซี้ดดดด พี่เดี่ยว เสียวมากครับ”


 
             ส่งเสียงครางดังลั่นด้วยความตื่นเต้นกับสถานที่แปลกใหม่และความรุนแรงของปราบ แต่มันกลับเร่งเร้าจน

เนื้อตัวสั่นสะท้าน รอยแยกของซิปถูไถอยู่ใต้ถุงเนื้อแฝดยิ่งพาให้เสียวซ่านจนต้องเด้งเอวสวนให้ปราบยิ่งผสานกายลึกล้ำ

ปราบคำรามต่ำเมื่อความร้อนบีบรัดอยู่รอบแก่นกาย เขาโน้มลงต่ำลงไปขบเม้มยอดอกที่แข็งเป็นไตพลางบีบเค้นสลับข้าง


อย่างดุดัน


                “ป้องกำลังทำให้พี่เดี่ยวเกือบจะขาดใจอยู่แล้ว”


               ปราบลูบไล้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อชื้นทั้งที่เอวยังไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหว


               “มีความสุขด้วยกันนะป้อง”


               มือแกร่งโอบใต้แผ่นหลังดึงเข้าหาลำตัว ปมุตยกแขนกอดรัดรอบลำตัวหนา ปราบจูบหนักหน่วงพร้อม

กระชากเอวถี่ยิบ ช่องทางคับแคบเกร็งแน่นจนปมุตสะดุ้งวาบเมื่อปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ปราบดูดลิ้นเล็กใน

ช่องปากด้วยความเสียวซ่านเขาเกร็งหน้าท้องกระตุกอีกไม่กี่ครั้งก็พุ่งไปแตะของหฤหรรษ์ติดตามปมุตไปอย่างรวดเร็ว     

           เสียงหอบดังแข่งกับเสียงจักจั่นยามค่ำคืน ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุขสมสบประสานกันก่อนที่ปราบจะอุ้มน้อง

ชายของเขาทั้งที่ร่างกายก็ยังติดหนึบกันอยู่ ปมุตผวากอดคอปราบอย่างตกใจ


               “พี่เดี่ยว ทำอะไรแบบนี้”


               “จะพาป้องไปอาบน้ำ พอตัวหอมๆจะได้ดมใหม่อีกรอบให้ชื่นใจไงล่ะ”


               “บ้าที่สุด”


               “แต่ก็ชอบใช่ไหม รู้หรือเปล่าว่าตาเยิ้มไปหมดแล้ว”


               “พี่เดี่ยว!”


               เสียงหัวเราะดังอย่างชอบใจเมื่อปราบอุ้มปมุตเข้าเอวเดินไปยังห้องรับรองแขกของบ้านหลังนี้               









              ปราบอยู่ช่วยโมกข์ได้อีกแค่สองวันเขาก็ต้องกลับไปกรุงเทพ โมกข์บอกให้ปราบระวังตัวเพราะตอนนี้ตำรวจ

สืบสวนกลางได้ออกหมายจับแดเนียลแล้ว รวมทั้งกักกันการเดินทางออกนอกประเทศด้วยแต๋ก็ยังไม่รู้ว่าแดเนียลหลบไป

กบดานอยู่ที่ไหน การที่แดเนียลกลายเป็นเสือบาดเจ็บจะส่งผลร้ายต่อปราบ


               “อย่าห่วงเรื่องนั้น กูระวังอยู่แล้ว”


               “กูดีใจนะเหี้ยปราบ ในที่สุดมึงก็โยนความแค้นของมึงทิ้งลงได้ ชีวิตมึงจะได้มีความสุขเสียที”               


               โมกข์ตบบ่าเพื่อนสนิท ปราบคลี่ยิ้มพลางหันไปมองปมุตที่ยังร่ำลาพัทธ์อยู่


               “มีชีวิตอยู่กับความแค้นมันก็ทั้งร้อนทั้งทุกข์ มันไม่มีความสุขเหมือนอยู่กับความรักจริงๆว่ะ”               



                 ปราบเดินไปหาปมุตพลางกุมมือให้เดินตามไปที่รถยนต์ที่ปราบให้ไปส่งที่สนามบิน ปมุตยิ้มตอบเมื่อก้าว


เดินตามพี่ชายไปติดๆ


               จบสิ้นลงแล้วสำหรับไฟร้อน ปราบจะโยนทิ้งให้หมด ต่อไปนี้เขาจะกลายเป็นคนใหม่ที่ปราศจากความ

แค้นทั้งปวงเพียงเพื่อให้ปมุตมีความสุข อาจจะมีก็แค่ไฟรักที่มันไม่มอดไหม้เพราะเขาจะรักปมุตตลอดไป               

                ส่งยิ้มให้กันแทนคำสัญญา ปมุตเอียงศีรษะซบไหล่ปราบ ปริวัตรไปตลอดทาง










  มีต่ออีกนิด...

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-06-2015 01:58:22
ต่อกันตรงนี้








          ทันทีที่เปิดสัญญาณโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้งหลังลงมาจากเครื่องบิน เสียงเพลงที่ตั้งไว้ก็ดังขึ้นมาทันที ปมุตรีบรับ


โทรศัพท์ในขณะที่ปราบกำลังโทรเรียกคนขับรถที่มารับ




                  “พี่วี ว่าไง”



                ชาวีนั่นเอง ปมุตก็มัวแต่ตกใจกับเรื่องที่ไร่ของโมกข์จนลืมนึกถึงชาวีไปเสียสนิทว่ายังทะเลาะกับโนเอลอยู่



                “นี่พี่วี เรื่องที่พี่โมกข์กับคุณโนเอลจูบกันน่ะอย่าคิดมากเลยนะ พี่โมกข์เขามีแฟนแล้วน่ารักด้วย พี่ปราบเพิ่ง

ยอมเล่าให้ป้องรู้ว่าทั้งสามคนน่ะเป็นเพื่อนกัน”



                “งั้นเหรอ แล้วป้องไปสนิทสนมกับคุณปราบตั้งแต่เมื่อไหร่”



                ชาวีกังขา ได้ยินเสียงทอดถอนใจของปมุตแว่วมาตามสาย



                “เขาเป็นพี่ชายคนละแม่กับผมน่ะ แล้วเราก็ เอ่อ รักกัน”



                “รัก รักแบบไหน อย่าบอกนะว่า...”



                ชาวีนึกถึงคำพูดที่ปมุตเคยถามเรื่องความรักที่เป็นไปไม่ได้และผิดศีลธรรม



                “ใช่ พี่วี เข้าใจถูกแล้ว เราเป็นพี่น้องแต่ไม่ได้รักกันอย่างพี่น้อง พี่วีรังเกียจผมหรือเปล่า”



                ถึงคราวชาวีถอนหายใจบ้าง



                “ถ้าเป็นความสุขของป้องพี่จะรังเกียจได้ยังไง เฮ้อ แต่ละคนก็ต้องมีปัญหาของตัวเองทั้งนั้น พี่เองก็ยังต้อง

แก้ปัญหาตัวเองอยู่เลย”



                “เกิดอะไรขึ้น คุณโนเอลยังไม่ยอมคืนดีอีกเหรอ”



                ปมุตถามพลางก้าวยาวๆตามปราบที่กวักมือเรียกไปขึ้นรถยนต์ที่มาจอดรอด้านหน้า



                “นอกจากจะไม่ยอมดีด้วยแถมยังหนีพี่ไปอีก เขาหนีพี่ไปอิตาลี”



                น้ำเสียงเศร้าสร้อยของชาวีทำให้ปมุตหน้าจ๋อยจนปราบต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม แต่ปมุตยกนิ้วขึ้นปีดปากตัว

เองเพื่อให้ปราบเงียบก่อน



                “ตาแก่ใจร้ายนั่นหนีพี่ไปอิตาลีอ้างว่าไปทำงานโปรเจ็คใหญ่”



                “แล้วพี่วีจะทำไง หนักใจแทนจริงๆ”



                “ไปตามสิ ตอนนี้พี่อยู่สุวรรณภูมิกำลังจะขึ้นเครื่องไปอิตาลี พี่จะไปตามเมียกลับมาเมืองไทย”



                “เจ๋งว่ะพี่ ง้อให้สุดๆไปเลยนะ ผมเอาใจช่วยอยู่เสียดายตอนนี้อยู่ดอนเมืองไม่งั้นจะเอาพวงมาลัยไปคล้อง

คอให้”



                “พี่ไม่ยอมแพ้หรอกโว้ยพี่จะง้อโนเอลให้ใจอ่อนจนได้ ยังไงก็ฝากเรื่องงานไว้ด้วยนะ อาจจะไปสักอาทิตย์

นึง”



                ชาวีวางสายไปแล้ว ปมุตจึงได้หันมาตวัดสายตาค้อน



                “เพื่อนพี่ป้องหนีไปเที่ยวอิตาลี”



                “ใคร ไอ้โนเอลเหรอ อ้าวทำไมไม่เห็นบอกกันก่อน”



                “บอกไม่ทันมั้งครับ งอนพี่วีอยู่”



                ปราบขมวดคิ้วมองปมุตอย่างสงสัย ปมุตหัวเราะเบาๆเมื่อเล่าให้ฟังว่าโนเอลและชาวีกำลังคบกันอยู่ เมื่อ

ปราบรู้ถึงกับก้มหน้าหัวเราะ



                “ปากก็บอกว่าไม่มีวันเอาผู้ชายเด็ดขาด เกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้นมันเป็นเรื่องจริงนะ แถมยังเป็นฝ่าย

ตกเป็นเมียเด็ก ฮ่าๆๆๆ โอ๊ยป้อง ตีพี่เดี่ยวทำไม”



                “หมั่นไส้ ไปว่าคุณโนเอลทำไม”



                “ก็จริงนี่ ป้องไม่เคยเห็นเวลามันยืนกอดอกเชิดหน้าแล้วประกาศว่าจะไม่มีวันยุ่งกับผู้ชาย แม่งโคตรน่าเตะ”





                รถยนต์แล่นมาจอดที่ลานจอดรถด้านหลังบริษัท ปราบบอกให้ปมุตรอที่รถเพราะเขาจะขึ้นไปหยิบเอกสาร

ด้านบนก่อนจะพาปมุตไปส่งที่บ้าน ปมุตนึกเบื่อที่จะนั่งในรถจึงได้ออกมายืนยืดเส้นยืดสายด้านนอก


                เสียงตะโกนดังมาจากคนขับรถปมุตหันขวับไปมองอย่างตกใจ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างล่ำของชาวต่าง

ชาติคนหนึ่งกำลังเงื้อมือต่อยเข้าเบ้าตาของคนขับรถ ปมุตรีบหันรีหันขวางหาคนช่วยเพราะบริเวณนี้ไม่ค่อยมีใครมาใช้

มากนัก



                “แดเนียล”



             ปมุตใจหายเมื่อเห็นคนขับรถถูกฟาดด้วยก้อนหินก้อนใหญ่ในมือเข้าที่ขมับจนเลือดอาบแล้วทรุดลงไปกองกับ

พื้น ปมุตตัดสินใจวิ่งหนีแต่กลับถูกล็อคคอจากด้านหลังด้วยท่อนแขนที่แรงมหาศาล



          “ราฟ คุณจะหนีผมไม่ได้อีกแล้ว”



          “ผมไม่ใช่ราฟ แดเนียลมีสติหน่อย”



          พยายามส่งเสียงดังและดิ้นไปมา ปมุตตาเหลือกเมื่อมีผ้ากลิ่นฉุนโปะลงมาครึ่งปากครึ่งจมูก กลั้นใจได้พักใหญ่

แต่เมื่อสุดแรงกลั้นปมุตก็ต้องสูดหายใจเข้าจนแสบจมูก สมองของปมุตมึนงงเลื่อนลอย


         “มึงต้องเป็นของกูคนเดียวราฟ”



          เสียงเหี้ยมดังใกล้หูเป็นสิ่งสุดท้ายที่ปมุตรับรู้ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเขาจะหมดลง
               
 
 
 
                                                                TBC
               
 
                    บทหน้าก็น่าจะจบแล้วนะจ๊ะ กรี๊ดดด คนแต่งตื่นเต้น 555
             

                   ฝากนิยายแนวไร้พิษภัยประเภท ท อ่านได้ทั่วไปด้วยจ้า
                 

                      Heart หัวใจนี้มีเพียงเธอ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47368.0)

               
               
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-06-2015 02:12:00
เหนียวจังเลยไอ้แดนเนี่ย ตายยาก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-06-2015 02:47:18
 เบื่อไอ้แดน ตายสักทีเถอะ
ชาวีว่าเมียแก่ฉันจะแคปไปให้โนเอลดู
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 22-06-2015 03:02:25
อร๊ายยย. ปราบบบ มาช่วยป้องเร็วๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-06-2015 03:05:38
มีตายสินะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 22-06-2015 03:26:05
ปราบต้องโดนอิชนัยดึงไว้แน่เลย มันมากันเป็นทีมเลวระยำตำบอนกัน
แดนคงใกล้จะหลุดแล้วล่ะ  เพราะว่าท่าทางหลงเลอะเลือนแล้วที่เรียกป้องว่าเป็นราฟาแอล
ตื่นเต้นค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-06-2015 03:41:25
เดี่ยวช่วยป้องให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-06-2015 07:43:26
 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 22-06-2015 11:32:22
 :z3: :z3: อ๊ากกกกกกก ตอนหน้าจะจบแล้วเค้าไม่เอามาม่าน้าาาาา ฮึ่ยยยยย ไอ้แดเนียลทำเลวไว้เยอะขอให้โดนปราบกระทืบตาย  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-06-2015 12:33:06
เจอคนบ้าไม่มีสตินี่ก็ทำอะไรไม่ถูก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 22-06-2015 14:36:18
รอลุ้นนนนนนนนนนนนน :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 39 ( 22/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-06-2015 14:57:46
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) ตอนจบ --กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-06-2015 00:02:17


                                                                     เพลิงพ่าย

                                                                      บทที่ 40

             “ผมไม่เข้ามาแล้วนะคุณแวว เดี๋ยวจะไปจัดการเรื่องย้ายพ่อมารักษาตัวต่อที่บ้าน คุณแววนัดประชุมหัวหน้างาน

พรุ่งนี้สายๆก็แล้วกันนะครับ”



             ปราบสั่งงานให้แววดาวเลขานุการของเขาจัดการงานให้ก่อนจะหิ้วกระเป๋าใส่เอกสารเดินกลับ ร่างสูงชะงัก

นัยน์ตาดุเพ่งมองคนที่ยืนพิงประตูลิฟท์รอเขาอยู่



             “ผมจำได้ว่าผมถอดชื่อคุณออกจากที่ปรึกษาด้านกฎหมายของที่นี่แล้วนะชนัย ทำไมผมยังเห็นคุณอีก”



             ชนัยเหลือบตาขึ้นมอง มุมปากเหยียดออกอย่างท้าทาย เขาก้าวเดินเข้ามาใช้มือปัดฝุ่นที่ปกเสื้อของปราบออก



             “ผมรู้ แต่ผมยังไม่ยอมแพ้ ผมแค่จะมาคอนเฟิร์มกับคุณว่าผมนี่แหละที่เหมะสมกับผู้ชายอย่างคุณที่สุด คุณไม่

คิดเหมือนผมหรือปราบ ดูบทเซ็กส์ของเราจากในคลิปที่ผมถ่ายไว้สิ เราช่างเข้ากันได้ดีสุดๆในทุกท่วงท่าคุณมาแรงแค่

ไหนผมแรงกลับแค่นั้น แล้วอย่างนี้คุณยังจะไล่ผมได้ลงคองั้นหรือ”



             ปราบเหยียดยิ้มหยันเขาปัดมือชนัยออกอย่างไม่แยแส



             “ไม่ปฏิเสธนะว่าชอบเซ็กส์แต่ชีวิตมันไม่ได้มีแค่เรื่องบนเตียงแค่นั้น ผมต้องการคนที่ผมรักมาใช้ชีวิตด้วยกัน คน

เรามันต้องใช้ใจมายึดคนอื่นไว้ไม่ใช่หน้ามืดอยู่กับเรื่องอย่างว่า แต่พูดไปคนอย่างคุณก็คงไม่เข้าใจหรอกเพราะไม่เคยใช้

ใจทำดีกับใคร”



             “ปราบ!”



             ขนัยกำหมัดแน่น วาจาเชือดเฉือนของปราบเหมือนแส้ที่ฟาดลงมาจนเป็นแผลเหวอะหวะ มันเจ็บถึงใจจนพูดไม่

ออกได้แค่มองปราบด้วยแววตาแค้นเคืองในขณะที่ปราบรับโทรศัพท์มือถือที่ดังขึ้น


             นัยน์ตากร้าวของปราบกลายเป็นตกใจเมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านล่างมาแจ้งข่าวด่วนว่าคนขับรถ

ของปราบถูกทำร้ายร่างกาย คนร้ายขับรถยนต์ของปราบหายไปพร้อมปมุต ปราบผลักชนัยจนพ้นทางเพื่อจะกดปุ่มเปิด

ลิฟท์



             “คุณจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”



             ชนัยถลามารั้งแขนปราบที่เตรียมจะก้าวเข้าลิฟท์ด้วยความร้อนใจ



             “ถ้าคุณไป คลิปที่ผมนอนกับคุณรวมถึงเรื่องที่คุณมีความสัมพันธ์กับน้องชายแท้ๆของตัวเองจะถูกส่งไปให้นัก

ข่าว”



             พลัก!!



             ประโยคคำพูดของชนัยถูกปิดด้วยกำปั้นหนักๆจากปราบจนหงายหลังไปกองกับพื้น ปราบเกือบจะตามไป

กระทืบซ้ำแล้วดีที่ว่าเขากลัวเสียเวลาเพิ่มขึ้นอีก



             “อยากจะทำอะไรก็ตามสบาย ชีวิตของกูไม่ได้อยู่ได้เพราะคนที่ไม่รู้จักในสังคม ถ้ามึงไม่อายเพราะเอาตัวมึง

เองไปประจานด้วยว่ามึงเป็นเกย์ก็ทำเลย”



             ปราบถ่มน้ำลายใส่ชนัยก่อนจะปิดลิฟท์ เขาไม่สนใจคนอื่นอีกเมื่อพุ่งตัวไปยังแผนกรักษาความปลอดภัย

เคราะห์ดีที่มีกล้องวงจรปิดถ่ายไว้ได้ เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดดวงตาของปราบจึงโชนไปด้วยโทสะ



             “ไอ้เหี้ยแดน”
             







             ดวงตาโปนสีน้ำข้าวกลอกกลิ้งไปมาอย่างหวาดระแวงในขณะที่ริมฝีปากสั่นระริก แดเนียลเพิ่งรู้สึกได้ว่าตนเอง

เข้าสู่หนทางอับจนเป็นครั้งแรก


             กานต์คู่ขาของเขาถูกจับไปก่อนหน้านี้ กานต์สารภาพทุกสิ่งอย่างที่รู้ในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่กับเขา แถมพ่อเลี้ยงสุ

ชัยก็มาถูกยิงตายและหลักฐานทั้งหมดมันมัดแน่นจนกระทั่งศาลอนุมัติหมายจับ ชื่อของแดเนียลกลายเป็นอาชญากรค้า

มนุษย์ข้ามชาติที่ถูกส่งชื่อไปทั่วโลก และเขาก็สิ้นทางจนต้องไปพึ่งชนัยเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้



             “คุณต้องช่วยผม”



             แดเนียลใช้ตู้โทรศัพท์ข้างทางโทรหาชนัยพลางตะคอกด้วยเสียงสั่นเทา



             “อยากได้เงินเท่าไหร่ไม่อั้น เงินที่ผมฟอกอยู่ยังมีอีกเยอะ”



             ชนัยเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันที่แดเนียลกลายเป็นคนร้าย แต่ชนัยก็ไม่ได้นึกกลัวเพราะเขาก็พบเจอคนร้ายมา

แล้วหลายหลายรูปแบบ เขารู้โดยประสบการณ์ว่าตอนนี้แดเนียลกำลังประสาทเสีย



             “ตอนนี้ผมยังไม่อยากได้เงิน”



             ชนัยเอ่ยเสียงเฉียบขาด



             “ข้อตกลงของเราเรื่องปราบและปมุตยังอยู่เหมือนเดิม ถ้าคุณลากปมุตไปจัดการให้เด็ดขาดได้ผมจะเป็นทนาย

ให้คุณและจะช่วยให้คุณหนีไปชายแดนได้ด้วย”



             นั่นเป็นที่มาของแผนที่ชนัยจะไปยั้งปราบไว้และเขาจะต้องเป็นคนชิงตัวน้องชายของปราบมาให้ได้ แดเนียล

เหลียวมองรอบตัวเมื่อเขาพาปมุตมาที่ตู้คอนเทนเนอร์ร้างตู้หนึ่งท่ามกลางตู้คอนเทนเนอร์หลายร้อยตู้ในท่าเรือ ร่าง

บอบบางราวกับแก้วถูกมัดมือและปิดปากด้วยเทปกาวหนานอนสลบอยู่กลางตู้ ใบหน้างดงามที่เขาแสนจะคุ้นเคยค่อยๆ

ขยับเมื่อหมดฤทธิ์ของยาสลบ แดเนียลขยับตัวเข้าไปช้าๆมืออวบอูมกระชากใบหน้าของปมุตที่ยังมึนงงเข้าหาตัว



             “ตื่นแล้วหรือราฟ”



             ปมุตสะดุ้งเฮือก ดวงตาหวานสีน้ำตาลกระพริบถี่เมื่อรวบรวมสติกลับคืนมาได้จึงได้รู้ว่าตนเองกำลังถูกมัดจนดิ้น

ไม่หลุด และคนที่จับเขามายังมีทีท่าวิปลาสจนน่ากลัว



             “อื้อออ!”



             พยายามส่ายหน้าเพื่อบอกให้รู้ว่าเขาไม่ใช่ราฟาเอลแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อปากถูกปิดไว้ ปมุตกลัวจนตัวสั่นเป็นลูกนก

ยิ่งขยับตัวหนีแดเนียลก็ยิ่งโมโหจนดวงตาสีน้ำข้าวแทบถลนออกมา แดเนียลผลักปมุตให้หงายหลังก่อนจะขึ้นคร่อมอยู่

ตรงหน้าอกแล้วใช้ปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ตรงขมับของปมุต



            “รักมันมากใช่ไหม ยอมตายเพื่อไอ้ปราบได้ใช่ไหม ส่วนกูที่รักมึงมาตลอดชีวิตมึงกลับไม่เคยเห็นหัว”



             ฝ่ามือหนาเงื้อสูงแล้วสะบัดลงมากระทบใบหน้าของปมุตจนชาดิกก่อนจะตามมาด้วยความเจ็บจนน้ำตาไหล

พราก แต่แดเนียลก็ยังไม่หยุดแค่นั้นเมื่อมือทั้งสองเลื่อนมาบีบที่ลำคอระหงของปมุตแล้วบีบแน่น



             “อะ อึก”



             “เพราะกูมันน่าเกลียดน่ากลัวมึงถึงไม่รัก เพราะมึงมันร่าน แพศยา วันนี้กูจะทำให้มึงรู้ว่าดอกทองอย่างมึงต้อง

เจอกับอะไรบ้าง”



             แรงดิ้นรนของปมุตน้อยลงเรื่อยๆ ใบหน้าซีดเผือดจนใกล้จะเขียว ลมหายใจแผ่วเบาลงเมื่อแดเนียลยังไม่ยั้งแรง

บีบที่คอ แต่ตอนนี้ไม่มีใครที่จะช่วยได้เลย



             พี่เดี่ยว ช่วยด้วย!



             ลมหายใจใกล้จะขาดห้วง ภาพของปราบผุดขึ้นมาในมโนสำนึก ปมุตเพิ่งรู้ตัวในวินาทีสุดท้ายของชีวิตว่าเขารัก

ปราบแค่ไหนเมื่อดวงตาของเขาลอยคว้าง



             เปรี้ยง!!



             แดเนียลสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงปืนที่ยิงเพื่อจะเปิดประตูตู้คอนเทนเนอร์ เขารีบปล่อยมือจากคอของปมุต

เพื่อจะคว้าปืน ปมุตผวาสูดลมหายใจเข้าปอดจนสำลักใบหน้าซีดเขียวจึงค่อยมีสีเลือด แต่ปมุตก็ยังต้องตระหนกต่อเนื่อง

เมื่อกลายเป็นว่าแดเนียลล็อคคอของเขาแล้วใช้ปืนจี้ขมับไว้เมื่อประตูตู้ถูกกระชากออก



             พี่เดี่ยว



             หัวใจของปมุตชื้นขึ้นมาเมื่อร่างที่ปรากฎอยู่หน้าประตูคือผู้ชายที่เขาคิดถึงในเสี้ยววินาที่ของชีวิต และขนาบ

ข้างด้วยลูกน้องของปราบอีกสองคนทั้งหมดยกปืนเล็งไปทางแดเนียล ดวงตาของปราบช่างน่ากลัวเมื่อจ้องมองแดเนียล

ที่ใช้ท่อนแขนล็อคคอเขาไว้ เขาสืบเท้าก้าวเข้ามาภายในทีละนิดอย่างระมัดระวัง



             “ไอ้แดน ปล่อยป้องเดี๋ยวนี้”



             ปมุตได้ยินเสียงหัวเราะหยันจากแดเนียล มือที่จับปืนจ่อขมับปมุตสั่นระริก



             “คิดว่ากูจะโง่ไหมล่ะไอ้ปราบ ถ้ามึงเข้ามากูจะฆ่าอีแพศยานี่ซะแล้วจะฆ่ามึงด้วย”           



             ปมุตนิ่วหน้าเมื่อปากกระบอกปืนกดลงที่ขมับจนได้กลิ่นดินปืน ปราบกัดฟันกรอดเมื่อเห็นท่าทางของแดเนียล



             “มึงจะเพิ่มข้อหาให้ตัวมึงเองอีกทำไม แค่นี้คดีก็ท่วมหัวอยู่แล้ว ปล่อยป้องแล้วกูจะไม่เอาเรื่องมึง”



             น้ำเย็นของปราบที่ใช้เข้าลูบไม่ได้ผล แดเนียลเงยหน้าหัวเราะลั่นพลางมองตาขวาง



             “ทำให้มึงเจ็บปวดได้คือที่สุดของกูแล้วว่ะปราบ โอกาสนั้นอยู่ในมือกูแล้ว กูจะไม่ปล่อยไปง่ายๆ ลุกขึ้นมา!”



             แดเนียลกระชากปมุตให้ลุกขึ้นยืนตาม ท่อนแขนหนาหนักยังล็อคแน่นรวมทั้งปืนที่จ่ออยู่



             “เปิดทางให้กูเดินออกไป ไม่งั้นกูยิง”



             ปราบเดือดปุดๆแต่เขาก็ต้องทำสัญญาณให้ลูกน้องเปิดทางให้แดเนียลเดินออกจากตู้คอนเทนเนอร์ไปสู่พื้นดิน

ภายนอก ปราบยังเล็งปืนไปทางแดเนียลตาไม่กระพริบ ได้ยินเสียงไซเรนรถตำรวจที่เขาแจ้งไว้ดังแว่วมา มันทำให้เขา

ตัดสินใจมองตากับลูกน้อง


             ลูกน้องคนหนึ่งค่อยๆก้าวไปด้านหลัง อาศัยว่าแดเนียลกำลังฮึกเหิมที่ปราบไม่กล้าทำอะไรเพราะมีปมุตเป็นตัว

ประกัน เมื่อเห็นจังหวะเหมาะลูกน้องของปราบจึงพุ่งเข้าชนแผ่นหลังของแดเนียลจนเสียหลัก ปราบรีบพุ่งตัวไปดึงปมุตอ

อกมาแล้วเหวี่ยงไปหาลูกน้องอีกคนที่ยืนด้านหลังให้ช่วยแก้มัด ส่วนตัวปราบก็รีบกระโจนเข้าไปเตะที่มือของแดเนียลจน

ปืนหลุดมือเข้าไปใต้ซอกตู้คอนเทนเนอร์ แล้วเขาก็ประเคนหมัดเข้าใส่แดเนียลไม่ยั้ง



             “พี่เดี่ยว ระวัง”



             เมื่อเทปกาวหลุดจากปากปมุตก็รีบตะโกน หัวใจของปมุตเต้นรัวเมื่อเห็นทั้งคู่ชกต่อยกันด้วยความแค้นที่สะสม

มาเนิ่นนาน ปราบเองก็โดนหมัดของแดเนียลจนใบหน้าบอบช้ำ แต่ในที่สุดปราบก็ใช้ฝ่าเท้าประเคนที่กลางลำตัวจนแด

เนียลตัวงอ เสียงไซเรนรถตำรวจดังใกล้เข้ามาจนหยุดลงโดยรอบแดเนียลตัดสินใจใช้กำลังเฮือกสุดท้ายพลิกตัวไปคว้า

ปืนของปราบที่ทำตกไว้ขึ้นมา ปราบเห็นดังนั้นเขารีบกระทืบไปที่มือของแดเนียลแล้วคว้าปืนขึ้นมาเล็งที่หัวทันที



             “พี่เดี่ยว อย่ายิง”



             ปมุตรีบวิ่งมาห้ามไว้



             “ห้ามพี่ทำไม มันทำกับป้องขนาดนี้” ปราบกระชากเสียงโกรธเกรี้ยวแต่ปมุตก็ยังยั้งแขนเขาไว้



             “ถ้าพี่เดี่ยวยิงแดเนียลพี่เดี่ยวก็จะทำผิดกฏหมายอีก ตำรวจมาแล้วให้เขาจับแดเนียลไปตัดสินตามขั้นตอน

เถอะ”



             ปราบขบกรามจนขึ้นเป็นสัน ตำรวจเริ่มกระจายตัวล้อมเป็นวงรอบนอก ปราบสบตากับปมุตแล้วจึงตัดใจลดแขน

ลง ปมุตถอนหายใจโล่งอก เขาดึงแขนให้ปราบก้าวเดินแต่ปราบหันกลับมาย่อตัวลงคุกเข่าคว้าคอเสื้อของแดเนียลขึ้นมา

แล้วกระซิบเสียงต่ำใกล้ใบหูของแดเนียล



             “ในวันนั้น วันที่มึงล่อกูออกไปแล้วกลายเป็นราฟไปแทน ราฟไม่ได้ไปเพราะจะตายแทนกูอย่างที่มึงเข้าใจ แต่

ราฟไปเพื่อที่จะบอกมึงว่าเขาเลือกมึง ไม่ได้เลือกกู รู้ไว้ซะไอ้แดน”



             แดเนียลอ้าปากค้างมองแผ่นหลังของปราบที่เดินไกลออกไป แสงไฟของตำรวจเจิดจ้าอยู่ในแสงสลัวยามค่ำ

แต่แดเนียลกลับมองไม่เห็นอะไรอีกแล้วนอกจากภาพร่างที่ไร้ลมหายใจของราฟาเอลที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา



             “ราฟฟฟฟฟ”



             เสียงตะโกนก้องดังโหยหวน ปราบโอบกระชับบ่าของปมุตพร้อมกับถอนหายใจอย่างปล่อยวาง



             ราฟ ผมบอกมันให้คุณแล้ว บอกมันแล้วว่าคุณเลือกมัน หลับให้สบายนะราฟ



             ปมุตวางมือแนบไปบนมือปราบ ริมฝีปากที่บวมเห่อคลี่ยิ้มให้กำลังใจ ก่อนที่ทุกคนจะสะดุ้งพร้อมๆกัน



             เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง



             เสียงปืนดังนำขึ้นก่อนหนึ่งนัด แล้วจึงดังตามมาอย่างสนั่นหวั่นไหว เมื่อปราบและปมุตหันขวับไปมองก็เห็น


แดเนียลถูกตำรวจยิงจนร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล แต่ความจริงลมหายใจสุดท้ายของแดเนียลหมดลงไปตั้งแต่เสียงปืน

นัดแรก


             ปืนที่แดเนียลไปคว้ามาจากซอกตู้คอนเทนเนอร์มาจ่อที่ขมับตัวเองแล้วลั่นไกทันที
 







             ภาพข่าวครึกโครมที่สำนักข่าวทุกสำนักทำข่าวเรื่องการวิสามัญฆาตกรรมผู้ร้ายระดับประเทศทำให้ชนัยตกใจไม่

น้อยแม้ว่าเขาจะยังไม่ทันได้เข้าไปข้องเกี่ยวกับแดเนียล เครตั้นในทางคดี แต่มันก็ทำให้เขาถึงกับทำงานต่อไม่ได้จนต้อง

แวะไปดื่มเหล้าย้อมใจจากผับที่คุ้นเคยกว่าจะกลับบ้านก็ดึกโข ชนัยแปลกใจที่ไฟในบ้านยังเปิดสว่างเมื่อก้าวเข้าไป

ภายในบ้านเขาเห็นนายพิชัยนั่งนิ่งอยู่ที่โซฟารับแขกด้วยใบหน้าเคร่งเครียด ชนัยชะงักเมื่อเห็นของที่วางเกลื่อนอยู่บน

โต๊ะรับแขก ใบหน้าของชนัยซีดเผือดลงเรื่อยๆจนกระทั่งเขาหมดแรงยืนต้องทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับบิดา



             พิชัยไม่มองหน้าบุตรชายแต่เขาเลื่อนมือไปเปิดโทรศัพท์มือถือที่ชนัยจำได้ว่าจงใจทิ้งไว้ให้ปมุตได้ดูแต่บัดนี้

มันกลับมาอยู่บนโต๊ะที่บ้านเขาไม่ต้องสงสัยว่าใครเป็นคนนำมันมา ชนัยหลับตาลงน้ำตาไหลอาบแก้มแม้กระนั้นเสียง

ครวญครางในคลิปที่พ่อของเขาเปิดก็ทำให้เขารู้ว่าความลับที่เพียรปิดบังได้ถูกเปิดเผยแล้ว เมื่อคลิปหยุดเล่นบรรยากาศ

ก็ตกอยู่ในภาวะเงียบงันจนได้ยินเพียงลมหายใจเท่านั้น



             “พ่อ ผมขอโทษ”



             “พ่อไม่ได้โกรธที่ลูกเป็นเกย์ แต่โกรธที่ลูกใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือเรียกชื่อเสียงและเงินทอง”



             “พ่อ!”



             ใบหน้าชายสูงวัยยิ่งชราลงเมื่อฉายถึงความผิดหวังเมื่อมองหน้าบุตรชายเพียงคนเดียวที่เจริญรอยตามใน

สายกฏหมาย น้ำตาหยดหนึ่งของผู้เป็นพ่อร่วงลงมาจนชนัยถึงกับสะอื้นเมื่อได้เห็น พิชัยคว้าเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะมากำ

ไว้ในมือแล้วขยำจนยับยู่ยี่


             “กฏหมายมีไว้เพื่อผดุงความยุติธรรมให้คนได้รับการลงโทษอย่างสมควรและคนที่ถูกปรักปรำจะได้พ้นจาก

การกล่าวหา ไม่ใช่การใช้ช่องโหว่ของกฏหมายมาเปลี่ยนดำเป็นขาวเปลี่ยนขาวเป็นดำอย่างที่ลูกทำอยู่”



             ร่างท้วมในวัยชราลุกขึ้นยืน ไหล่ลู่ค้อมลงเมื่อเดินผ่านบุตรชายไป



           “พ่อผิดหวังเหลือเกินชนัย”



             ชนัยปล่อยโฮออกมา เขาใช้ท่อนแขนกวาดเอกสารทั้งหมดที่กองอยู่บนโต๊ะจนมันกระจายว่อน นึกแค้นตนเองที่


ริอ่านไปเล่นกับไฟอย่างปราบ ปริวัตรจนทุกอย่างย้อนมาหาตัว สำหรับคนอย่างเขาอะไรจะรุนแรงเท่ากับความผิดหวังจาก

ผู้เป็นพ่อ เขาแพ้แล้ว ชนัยพ่ายแพ้ต่อปราบอย่างสิ้นเชิง






มีต่ออีกจ้า....


หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) ตอนจบ --กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-06-2015 00:09:54
ต่อกันตรงนี้



             บ้านถูกปรับปรุงสำหรับนายปัญญาที่เป็นอัมพาต ปราบจัดห้องด้านล่างและจ้างคนดูแลมาให้โดยเฉพาะ


            “ผมจะถือว่าคุณได้ชดใช้ในสิ่งที่คุณทำกับแม่และตาของผมไปแล้ว ในฐานะที่คุณเป็นเจ้าของสเปิร์มที่ให้กำเนิด

ผมจะดูแลคุณจนกระทั่งคุณตาย ส่วนเธอ”


            ปราบหันไปหารัศมีที่นั่งหน้าจืดอยู่ใกล้เตียงของสามี


            “ถ้ายังอยากอยู่ในบ้านนี้ต่อไปก็ทำตัวให้ดี อย่ามาวุ่นวายกับฉันอีก ฉันจะเลี้ยงเธอเพราะเธอเป็นแม่ของป้อง”


            ปราบก้าวเท้าออกจากห้อง เขาเดินดุ่มๆกลับเข้าไปในห้องแล้วหยุดยืนต่อหน้ากรอบรูปของมารดาที่เขาไปค้นมา

ได้จากห้องเก็บของ ปราบเอื้อมมือไปลูบไล้รูปนั้นด้วยดวงตาเจ็บช้ำ


            “ผมทำดีที่สุดแล้วครับแม่ ลูกชายของแม่ทำดีได้เท่านี้”


            แผ่นหลังของปราบถูกสวมกอดปราบก้มหน้ายิ้มเมื่อเห็นท่อนแขนเรียวเล็กโอบกอดอยู่รอบเอวของเขาพร้อมกับ

ที่เจ้าของซบหน้าลงกับแผ่นหลัง


            “แค่นี้ก็ดีที่สุดแล้วครับพี่เดี่ยว”


            ปราบดึงปมุตให้ก้าวมาด้านหน้าแล้วใช้สองมือประคองไว้พลางเอ่ยถามเสียงนุ่ม


            “ยกโทษให้พี่เดี่ยวแล้วใช่ไหมที่ทำให้ป้องร้องไห้ไปตั้งเยอะ”


            ปมุตยิ้มก่อนที่จะกระพริบตาปริบๆเมื่อนึกเรื่องบางอย่างได้ รอยยิ้มจึงหุบลงเหลือแต่ความแง่งอน


            “เหลืออยู่เรื่องนึงที่ยังไม่ยกโทษให้”


            “เรื่องอะไรครับป้อง บอกพี่เดี่ยวมาเร็ว”


            “ก็เรื่องที่พี่เดี่ยวไปมีอะไรกับพี่ทนายความนั่นแหละ ป้องบอกแล้วว่าจะคิดบัญชีทบต้นทบดอก”


            ปราบยิ้มเจื่อน เขารีบดึงปมุตเข้ามากอด


            “จะให้พี่ขอโทษป้องยังไงป้องถึงจะหายโกรธ”


            ปมุตนิ่งคิด ใบหน้าเนียนค่อยๆขึ้นสีแดงก่ำทีละน้อยกับความคิดชุกซนของตนเอง


            “ก็แค่ทำให้ป้องเอ่อ มีความสุข”


            ปราบเชยคางของปมุตให้เงยหน้าพลางจ้องใบหน้าหวานด้วยนัยน์ตากระหาย


            “ไม่ยากครับป้อง มันเป็นเรื่องถนัดของพี่ที่จะสร้างความสุขให้ป้อง รับรองว่าพี่จะไม่ให้ป้องได้ตกจากสวรรค์เลย”


            ปลายนิ้วลูบไล้ใบหน้าเนียนของปมุตก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก ปราบกดนิ้วลงไปที่เรียวปากอิ่มให้เผยอกว้าง

เพื่อที่เขาจะแตะลิ้นตามลงไปแล้วตวัดลิ้นเล็กเข้ามาคลุกวงใน เสื้อผ้าถูกกำจัดอย่างชำนาญจนกระทั่งเหลือแต่ผิวกายอุ่น

ที่เสียดสีกันไปมาปราบใช้มือร้อนวางนาบไปตามเนื้อตัวนุ่มมือ เขาผละปากมาง้างงับที่ซอกคอหอมกรุ่นแล้วจึงย่อตัวต่ำ

ลงมาทีละนิดจนกระทั่งทรุดตัวลงกับพื้นห้อง

            ปราบยกขาของปมุตให้ต้นขาพาดอยู่บนไหล่ของเขา ท่อนเนื้องดงามล่อตาอยู่ตรงหน้าปราบขยับปากเม้มหัว

เรียกเสียงครางแรกแล้วรูดปากเข้าไปจนหมด ปมุตแหงนหน้าหลับตาพริ้มส้นเท้ากดอยู่ตรงแผ่นหลังของปราบเมื่อปราบ

ค่อยๆโลมเลียและเลื่อนใบหน้าเข้าออก


            “อื้อ เสียวครับ”


            ครวญแผ่วเบาเมื่อปลายนิ้วเริ่มสอดสัมผัสล้ำลึกพร้อมเค้นคลึงโคนถุงเนื้อกระตุ้นความกระสันจนปมุตต้องขยุ้ม

เส้นผมของปราบไว้แน่น ปราบโจมตีทั้งแก่นกายที่ยื่นออกมาและเวิ้งถ้ำจนสุดลำข้อ ปมุตที่ทรงตัวด้วยขาเพียงข้างเดียว

ถึงกับขาสั่นเมื่อเขาถูกปราบจัดการให้ปลดปล่อยยกแรก


            ปราบลุกขึ้นยืนพลางดันร่างเพรียวของปมุตให้ก้าวถอยหลังจนแผ่นหลังขนกับผนังห้อง ดวงตาเป็นประกายเมื่อ

จ้องมองใบหน้าที่อิ่มเอมหลังจากสุขสม ปราบยกขาของปมุตให้ยกสูงอีกครั้งแต่คราวนี้เขาดันท่อนเนื้อร้อนรุ่มของเขา

เข้าไปแทนที่นิ้วมือ ปมุตปรือตาฉ่ำหวานเมื่อช่องทางถูกเติมเต็มจนแน่นพื้นที่ ปราบก้มหน้าจูบแลกลิ้นพัลวันพลางขยับ

เอวส่ายไปมาให้ผิวหนังภายในเสียดสีเรียกความฉ่ำชื้น ปมุตคล้องแขนรอบคอเบียดกายจนไม่เหลือช่องว่าง


            “อย่าบีบคั้นพี่เดี่ยวมากสิครับคนเก่ง พี่ยังอยากได้ของพี่คืนกลับไป”


            กระซิบเสียงกระเส่าเมื่อรู้สึกว่าวันนี้ช่องทางสวรรค์จะบีบรัดเป็นพิเศษ ปมุตหน้าแดงก่ำยกมือทุบต้นแขนปราบ

แก้เขิน


            “พี่เดี่ยว ของอย่างนี้มันบังคับกันได้ที่ไหนกันล่ะ”


            “พี่ไม่ไหวละป้อง ขอเผด็จศึกเลยแล้วกันนะ”


            ปราบดีงปมุตออกจากผนังแล้วจับหมุนให้ปมุตหันหลัง เขาผลักให้ปมุตก้มหน้าโก้งโค้งก่อนจับเอวทั้งสองของ

ปมุตเพื่อช่วยยึดไว้ สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆหลังจากนั้นปราบก็ซอยเอวไม่ยั้ง


            “ซี้ด อ๊า พี่เดี่ยว”


            “ป้อง เด้งเอวหาพี่ อย่างนั้น ดีมาก โอย สุดๆเลยป้อง”


            กล้ามเนื้อแข็งเป็นเกลียว ปราบผลักปมุตให้คว่ำหน้าไปบนเตียงกว้างพลางจับขายกลอยแยกจากกัน เขายืน

จังก้าแล้วรัวเอวเข้าใส่จนเสียงครวญครางดังระงม ปมุตคว้าท่อนเนื้อตนเองรูดรั้งไปมันจนผลผลิตที่ยังเหลือค้างพุ่งรด

ผ้าปูที่นอน ช่องทางของเขาตอดรัดขมิบถี่จนปราบดันกายลึกแล้วแช่ค้างพลางหอบถี่เมื่ออัดฉีดอยู่ในช่องทางฉ่ำชื้นที่รีด

พิษของเขาจนหมดตัว ปราบทิ้งตัวลงไปบนเตียงอย่างหมดแรงและดึงปมุตเข้ามากอดพลางกดจูบที่หน้าผาก


            “ยกโทษให้พี่เดี่ยวหรือยังครับ”


            ปมุตสอดแขนกอดตอบ ใบหน้าชื้นเหงื่อแดงจากเลือดฝาดมองปราบนัยน์ตาหวาม


            “คราวนี้ป้องยกโทษให้แล้ว แต่ถ้าพี่เดี่ยวมีคนอื่นอีก”


            “โอ๊ะ ไม่ล่ะ พลาดไปครั้งเดียวก็เข็ดแล้ว”


            ดวงตาประสานถักทอด้วยไอรัก ปราบกระชับอ้อมกอดแนบแน่น


            “รักป้องนะ”


            “รู้แล้วครับ”


            “อยากบอกนี่นา”


            “รักพี่เดี่ยวเหมือนกัน”


            “ก็รู้แล้วเหมือนกันแหละ”


            “เดี๋ยวเหอะ”


            ปมุนเงื้อมือขึ้นสูงปราบได้แต่คว้าไว้และตรึงกับที่นอนก่อนที่เขาจะซุกหน้าลงหาเศษหาเลยกับปมุตอีกครั้ง


                                                                 The End             
 


Belove’s Talk



            ในที่สุดเรื่องยาวก็จบลงไปอีกหนึ่งเรื่องด้วยความปลาบปลื้ม แต่ละครั้งที่ได้พิมพ์คำว่า จบบริบูรณ์หรือ The end

เราก็จะรู้สึกว่าได้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วงได้ ไม่ว่าระหว่างทางจะมีอุปสรรรคใดๆก็ตาม


            เพลิงพ่าย ยากตั้งแต่เริ่มพล็อตเรื่องเพราะไม่เคยคิดจะแต่งเลยแต่เพราะมีเสียงเรียกร้องจากคนอ่านร้ายซ่อนรัก

ว่าอยากอ่านปราบกับปมุตที่เราคิดไว้เพียงแค่ตัวประกอบ แต่เมื่อมีคนถามถึงไอเดียเราจึงเริ่มบังเกิดและลงมือในที่สุด

ความยากต่อมาก็คือการแต่งที่ต้องมีความสัมพันธ์กับเรื่องแรกทำให้ต้องกลับไปอ่านร้ายซ่อนรักว่าช่วงเวลามันคาบเกี่ยว

กันได้หรือเปล่า และความยากสุดท้ายคืออิมเมจของตัวละคร


            เรามีความเชื่อว่าโลกไม่ใช่สีขาวหรือสีดำแต่มันคือสีเทา ในคนๆหนึ่งจะมีทั้งความดีและความเลวปะปนกันไป

แต่ละคนก็จะมีเหตุผลรองรับความเลวที่ทำ ดังนั้นเราก็จะชอบแต่งนิยายที่มีตัวละครอย่างที่ว่ามาอย่างปราบพระเอกที่มี

ปมเพราะบ้านแตก ส่วนแดเนียลคือคนที่ขาดความรักและยึดความรักครั้งแรกเป็นหลักจนกระทั่งชีวิตเป๋เมื่อคนรักจากไป

ปมุตก็เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบทั้งที่เป็นนายเอก อาจเพราะความซื่อ ไม่ทันคน หัวอ่อน แต่อย่า

ลืม.ว่าปมุตเติบโตมาจากพ่อที่ตามใจลูกคนนี้ กับชีวิตตามลำดับขั้นที่ไม่ต้องดิ้นรน เราจะเห็นเด็กส่วนใหญ่ในสังคม

ปัจจุบันก็เป็นเด็กแบบปมุตนี่แหละ


             แต่แล้วมันก็จบลงจนได้ (กรี๊ดดดดด ) ขอบพระคุณคนอ่านทุกๆคนที่อ่านและให้กำลังคนแต่งด้วยคอมเมนท์ทั้ง

ในเล้าเป็ดและแฟนเพจ น้อมรับทั้งคำติและคำชมพร้อมจะนำไปปรับปรุงในเรื่องต่อไปจ้า


            ไหนๆก็อ่านจนจบมาด้วยกัน สุดท้ายขอกำลังใจให้คนแต่งเป็นคอมเมนท์เล็กๆน้อยๆกันนะจ๊ะ ใครมีล็อคอินใน

เล้าก็ลงในนี้ ใครไม่มีก็ไปพูดคุยกันในแฟนเพจจ้า



            ป.ล. ใครชูป้ายไฟชาวี-โนเอล เก็บเสียงกรี๊ดไว้ก่อน อิปร้าขอเก็บไปแต่งในตอนพิเศษบ้าง เดี๋ยวจะไม่เหลืออะไร

ให้อิปร้าแต่งเลย แต่คู่นี้เขาก็รักกันอยู่แล้ว ยังไงชาวีก็ง้อได้น่า

                                                                                                                                               
                                                                                                       ขอบพระคุณจากใจ
                                                                                                                                                                                                                                                                             Belove                                                                                                                                                                                                                   
             


อัปเดตผลงานจ้า

เกมพิสวาสซาตานร้าย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46102.0)


X-theme the series Season2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45021.0)


Heart หัวใจนี้มีเพียงเธอ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47368.0)

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) ตอนจบ --กำลังอัพ
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 23-06-2015 00:21:01
เลือดสาดเลือดท่วมยันตอนสุดท้าย  :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-06-2015 00:32:43
ขอจิ้มจองไว้ก่อน ออกเวรจะตามมาเก๊บ  :z3:  :katai4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 23-06-2015 00:42:13
เย้ๆๆ. จบแว้วววววววว.  แฮปปี้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 23-06-2015 01:02:32
ทำไมเราถึงรู้สึกได้ว่าตอนจบไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่สำหรับเรา
คือถ้าเป็นพวกตัวร้ายน่ะเรายังพอเข้าใจนะว่ามีเหตุผล เพราะคิดว่าเดี่ยวทำให้คนรักตัวเองตาย
เป็นเราๆก็คงโกรธ แต่พ่อกับแม่เลี้ยงอ่ะคือเราเหลืออดกับสองคนนี้จริงๆและเรายังคิดว่าสิ่งที่พวกมันสองคนได้รับนี่
ทำไมมันช่างไม่สาสมเสียเลยเมื่อเทียบกับความเลวที่มันทำ เพราะสุดท้ายก็เป็นภาระของเดี่ยวให้ต้องมาดูแลพวกมันอีก
คือพวกมันทำให้ชีวิตของเดี่ยวต้องตกระกำลำบากตั้งไม่รู้กี่สิบปี เอาจริงๆให้ตอนจบแบบไม่ดูแลมันปล่อยให้มันเป็นคนป่วยไร้ญาติ
แล้วไล่อีแม่เลี้ยงออกไปจากบ้านไม่ต้องสนใจซึ่งเราว่าถ้าทำจริงๆป้องก็คงไม่มีสิทธิ์ที่จะโกรธที่เดี่ยวไล่มันออกจากบ้านนะ
เพราะความเลวที่มันทำเราว่ามันร้ายแรงมากๆ ส่วนป้องจะดูแลมันอันนี้ก็ก็ไม่เป็นไรเพราะมันคนล่ะส่วนกัน
แต่ยังไงก็แล้วแต่ไม่ว่าจะจบแบบไหนขอแค่ไม่เศร้าก็พอ(เพราะเศร้ามาเกือบทั้งเรื่องแล้ว อิๆๆๆ) จบแบบมีความสุขกันแบบนี้
ก็โอเคแล้วครับ ขอบคุณที่สละเวลามาแต่งนิยายดีๆให้พวกเราได้อ่าน
เป็นอีกเรื่องที่เข้มข้นและสนุกน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: kunt ที่ 23-06-2015 01:04:23
อ่านตอนจบแล้วเกิดคำถามว่า ตำรวจไม่มีตาเหรอถึงได้กระหน่ำยิงแดนขนาดนั้น การที่ตำรวจยิงนั้นต้องเห็นว่าคนร้ายมีท่าทีคุกคามไม่ใช่รึไง แต่นี่บอกแดนยิงขมับตัวเองตายเป็นเสียงนัดที่หนึ่ง ที่เหลือเป็นของตำรวจ คือตกใจเสียงแล้วปืนลั่นสินะ คือมองไม่เห็นก็ยิงไว้ก่อนว่างั้น หรือคือ เห้ยยยย มันใช้กะโหลกตัวเองเป็นทางผ่านชิ้งมาทางพวกเราตำรวจยิงเลย  เอาน่ะก็ว่ากันไป ฮ่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-06-2015 01:05:41
ถ้าแดนมันไม่บ้ามาก   มันคงจะสมหวังไปนานแล้ว
ขอบคุณนะคะ  สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 23-06-2015 03:01:51
สุดท้ายคนชั่วก็ต้องได้รับกรรม.
ร้อนแรงเลือดพุ่งส่งท้ายตอนจบมากค่ะ
รอตอนพิเศษ คิดถึงโนเอล
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 23-06-2015 04:20:30
รอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 23-06-2015 05:29:27
จบลงด้วยดี ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 23-06-2015 05:51:47
ยินดีด้วยค่ะที่จบไปอีกหนึ่งเรื่อง    มีคนหลายคนที่เขียนนิยายได้ แต่ไม่กี่คนนะคะที่เขียนจบได้   เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากค่ะ

ชอบงานคุณค่ะ  เขียนพระเอกได้แบบไม่ตามเทรนด์   ไม่ขาวสะอาดไปทุกอย่าง  เนื่อเรื่องของคุณมาแบบไม่ซ้ำกัน  สนุกค่ะ

เรื่องของพ่อ-แม่เลี้ยงนั้นมันต้องจบตรงไหนสักที่  ต่อให้สับสองคนนั้นเป็นชิ้นๆแล้วก็ใช่ว่าสิ่งที่เสียไปจะได้คืนมา  ทำไปมากๆแล้ว

เผลอๆปราบจะเสียป้องไปเสียอีกด้วยซ้ำ    อะไรมันจะสะใจยิ่งไปกว่าการมีชีวิตอยู่ด้วยการต้องพึ่งพาคนที่ตัวเองทำอะไรต่อมิ

อะไรไว้   พ่อปราบไม่มีทางมีความสุขหรอก สิ่งที่ตัวเองพยายามทำมาชั่วชีวิตก็ล้มเหลว ได้แต่นั่งมองลูกที่ชังควบคุมทุกอย่าง 

แม้กระทั่งลูกรักแบบป้อง    รัศมีเองก็ไม่น่าจะทำอะไรร่านๆได้เหมือนเดิม  ปลอกคอที่ปราบมีให้ไม่น่ายาวขนาดปล่อยให้ไปทำได้

ขนาดนั้น  อีกอย่างถ้าไล่ออกไปปราบก็ต้องมานั่งกังวลอีกว่า 2 คนนี้จะไปทำอะไรหรือสุมหัววางแผนอะไร      ว่ากันว่าให้เก็บ

มิตรไว้ใกล้ตัว แต่เก็บศัตรูไว้ใกล้ยิ่งกว่า ใช้ได้เลยนะเคสนี้

ชนัยนี่ก็ไม่เหลืออะไรจริงๆ   ทั้งเรื่องงานกับชีวิต   สูญเสียทุกอย่างที่สร้างมาในชั่วขณะเดียว ต่อให้ประสปความสำเร็จก็ใช่ว่าจะ

สุขได้เพราะว่ากับพ่อ ชนัยเสียทุกอย่างไปหมดแล้ว  ที่เจ็บที่สุดก็คือที่พ่อโกรธไม่ใช่สิ่งที่ชนัยพยายามปิดบังเลย

ปราบ-ป้องตอนรุ้ใจแล้วชอบไม่มีกั๊กค่ะ  ฟินมากๆ  รอชาวี-โนแอล  ตามไปโลดชาวี แค่อิตาลี่เอง เมียหายทั้งคนนะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 23-06-2015 07:01:00
 :mew1:
หัวข้อ: Re:บุพเพวายร้าย-พิเศษ3/3.1...............................................หน้า672
เริ่มหัวข้อโดย: tongdbsk ที่ 23-06-2015 07:20:40
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆแบบนี้นะครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: iZoda ที่ 23-06-2015 09:57:37
ขอบคุณไรท์ที่ผลิตผลงานดีๆแบบนี้ออกมาให้ได้เสพนะคะ ชอบมากๆค่ะ จะติดตามผลงานไปตลอดนะคะ ^•^
ปล.เค้ายังรอน้องเกมอยู่นะจ๊ะตะเอง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: bb_b ที่ 23-06-2015 10:52:07
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
 :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 23-06-2015 16:03:58
 o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-06-2015 19:08:23
จบแล้วว ขอบคุณนะค๊าาาา
เราชอบผลงานของคนแต่งอ่ะ อ่านแล้วติด ฮ่าๆๆ

ตอนสุดท้ายแอบสงสารอิแดนนะ แต่เอาเถอะ สมควรละ
คือแดนมันคงรู้สึกฟ้าถล่มลงตรงหน้าเลยรึป่าว
ที่รู้ความจริงเรื่องราฟ

อยากให้มีมุมของแดนบ้าง ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 23-06-2015 22:36:59
จบลงไปแล้ว กับนิยายที่ชอบอีกเรื่อง แอบรู้สึกเสียใจนิดๆนะที่จะไม่เจอพี่ปราบแล้ว

มาสรุปกันดีกว่าเรื่องนี้เป็นยังไงในสายตาเรา

เราชอบธีมของตัวละครนะ  คือทุกคนมีมิติดี

ไม่ขาวบริสุทธิ์ ไม่ดำสนิท ทุกคนคือสีเทา อยู่ใจของแต่ละคน

ว่าจะมีสีขาวหรือดำมากกว่า ใจคนเรานั้นจะกำหนดส่วนผสมลงไปเองว่าจะเทาเข้มหรือเทาอ่อน

มาที่ตัวละครบ้าง เริ่มจากพี่ปราบก่อนเลย เอ๊ะ หรือว่าต้องพี่ป้องนะ

โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบตัวละครแนวนี้สักเท่าไหร่เลย คือ ครั้งแรกที่อ่านเซ้นเรามันบอกเลยว่าพี่ปราบเป็นดันฟันเฟืองชิ้นสุดท้ายที่ทำให้เรื่องทุกอย่างเริ่มเดิม ทั้งเรื่อง ร้ายซ่อนรักและ เรื่องนี้

ถึงแม้จะไม่ชอบบทของตัวละครแนวนี้แต่ก็ต้องยอมรับนะว่าบทแบบนี้มักเป็นพระเอกไม่ก็ตัวเด่นๆจริงๆ

ต่อมาแดน อิหน้าบุบของชร๊าน แอบเสียใจนะที่ตอนจบมันตาย แต่ก็นะเลวซะขนาดนั้นถือว่าชดใช้กรรมไปละกัน เราทำป้ายไฟพ่อคนนี้เป็นพิเศษ เอาจริงๆชอบแบบนี้นะ เพราะโดยเนื้อแท้แล้ว เราคิดว่าแดนไม่ได้เลวร้ายอะไร แต่เพราะส่งที่ต้องเจอ(เมียแรด) เลยทำให้ความดำมืดเข้าครอบงำจิตใจ ตาที่เคยมองอะไรทะลุปลุโปล่งกลับเริ่มพล่ามัว เพราะคำว่ารักและการหักหลัง
ปล.ตอนแรกแอบเชียร์ให้คนเขียนเล่นบทต่อพ่อแดน ให้ไปโมหน้าใหม่แล้วไปเจอร้ายตัวพ่อสักคนอะไรแบบนี้นะ แต่ก็นะโดนเป่าตายไปละ RIP.

ต่อๆๆ

ต่อมาที่น้องป้อง เป็นตัวละครที่เห็นได้ง่ายๆในสังคมปัจจุบัน กับลูกคุณหนูหรือคนที่อ่อนต่อโลกจริงๆ เราเคยคิดว่ามันมีจริงๆหลอคนที่ไม่ทันคนแบบนี้ครั้งนึงเคยคุยด้วยพอรู้ว่าเค้าอ่อนต่อโลกมาก เรารู้สึกเลวไปเลย เมื่อเทียบกับเค้า เค้าใสจริงๆนะ แบบว่าความคิดคนพวกนี้จะไม่ค่อยซับซ้อนอะไร คิดอะไรจะแสดงออกมาแบบนั้นเลย จะไม่เสแสร้งจนเว่อร์วัง โดยรวมแล้วไม่เลวร้ายอะไร

ต่อมาที่ชยุต  ตัวนี้บอกเลยว่า ก็เป็นอีกตัวที่พบได้ในชีวิตจริงๆของเรา เลยไม่รู้สึกอะไรมาก หากแต่ตัวละครตัวนี้นั้นจะเป็นด้านที่คนทั่วไปไม่แสดงออกมาให้ใครเห็นกันง่ายๆ หรือก็คือ ความเลวร้ายของแต่ละคนนั่นเอง ทุกคนมีความเลวร้ายมีความเห็นแก่ตัวทั้งนั้นแต่อยู่ที่ว่าจะเป็นความเลวร้ายด้านไหนแล้วจะแสดงออกมามากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง  มันเลยรู้สึกว่าตัวละครตัวนี้ค่อนข้างจะหาได้ง่ายตามท้องถนนทั่วๆไป

ต่อมา พ่อและแม่เลี้ยง ต้องเริ่มที่พ่อก่อน พ่อในเรื่องนี้นั้น เรียกได้ว่าสิ่งที่ได้รับนั้นสาสมแล้วจริงๆ จะให้พี่เดี่ยวทำอะไรมากกว่านี้ก็คงรับไม่ได้จริงๆ เพราะพ่อก็คือพ่อ แม้จะเลวเค้าก็คือครึ่งหนึ่งของร่างกายเรา คือครึ่งนึงที่ทำให้เราได้เกิดมา สำนึกของความเป็นลุกมันจะบอกอยู่แบบนั้น หากทำอะไรที่มากไปกว่านี้ มันก็คงจะเหมือนตราบาปที่ติดอยู่ในใจของพี่เดี่ยวไปเหมือนกัน และแม่ที่ตายไปแล้วคงไม่ดีใจเท่าไหร่ หากเทียบกับสังคมจริงๆในปัจจุบันแล้ว พ่อในเรื่องนี้นั้นเรียกได้ว่าเด็กไปๆเลย เพราะอย่างที่เห็นๆกันปัจจุบันนั้น พ่อแท้ๆข่มขืนลูกมีมากมายก่ายกองเหลือเกิน เรื่องนี้จึงเป็นเหมือนเพียงเศษเสี้ยวจากสังคมจริงๆเท่านั้นเอง
ต่อมาที่แม่เลี้ยง จะว่าไงดีล่ะ เคยได้ยินที่เค้าพูดกันว่าให้เก็บศัตรูไว้ในที่ที่เรามองเห็นดีกว่าผลักออกไปให้ไกลแล้วกลับมาทำลายเรา คงใช้กับแม่เลี้ยงได้ดีจริงๆ แล้วไหนยังจะเป็นแม่ของน้องป้องอีก คงไม่ดีเท่าไหร่หากจะทำอะไรที่รุนแรงไปมากกว่านี้ ก็จะวกเข้าอิหรอบเดิม เหมือนเคสพี่เดี่ยวในเรื่องของพ่อ

สรุปแล้วเราชอบเรื่องนี้นะ ไม่มีใครที่ดีร้อยเปอร์เซ็น และก็ไม่มีใครเลวโดยกำเนิด ทุกอย่างมีจุดเริ่มร่วมกัน และแตกออกไปเหมือนต้นไม้ต้นหนึ่งที่เกิดมาจากเมล็ดเดียวกันแต่แตกกิ่งก้านสาขาออกไปและสุดท้ายก็กลายเป็นผลของในแต่ละกิ่งนั้นๆ

ขอบคุณ คนเขียนที่เขียนเรื่องนี้ออกมาให้อ่าน ขอบคุณครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 23-06-2015 22:39:00
สารภาพจริงๆว่าไม่ชอบป้องเลย ป้องทำตัวได้ไร้สมองมากๆตั้งแต่เด็กๆแล้ว ปิดหูปิดตาตัวเอง ไร้เดียงสาจนเกินงาม พูดง่ายๆว่าโง่ที่ไม่ได้รู้ความจริงว่าแม่ตนระยำขนาดไหน ส่วนไอ้ปัญญานี่ก็ไม่น่าที่จะได้รับการอภัยเพราะโลภและเจ้าชู้อย่างมาแถมโง่อีกสมควรจะไปนอนไม่ต้องขยับในคุกซะ ส่วนอีแม่เลี้ยงนี่ก็แรดร่านเกินคำบรรยาย แต่ดีอย่างหนึ่งนะคือนางฉลาด ฉลาดในการแย่งผัวชาวบ้านและถีบตัวเองให้มีอันจะกินได้เหอะๆ แต่ว่าก็ว่าเถอะบอกแล้วว่าเกลียดมากสุดก็อีนังป้องนี่แหละ ขยันทำเรื่องให้มันเลวร้ายมากขึ้น หูเบาและสมองไม่มี เป็นเรื่องแรกนะที่ไม่ชอบนายเอกอย่างรุนแรงสุดๆ เรื่องจบไม่สะใจเท่าไหร่ ในความเห็นส่วนตัวพวกพ่อๆแม่เลี้ยงนี่น่าจะได้รับผลกรรมมากกว่านี้เยอะๆ
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 40 ( 23/06/58 ) จบบริบูรณ์ //รบกวนย้ายห้องได้เลยค่ะ//
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-06-2015 09:35:25
ข่าวดีค่ะ  :hao5: :hao5:


เพลิงพ่ายจะรวมเล่มกับสำนักพิมพ์ Rainy night
ที่เดิมกับที่เคยพิมพ์ร้ายซ่อนรักนะคะ
ตอนพิเศษทั้งหลายขอรวบยอดแต่งในเล่มเลยนะ


ขอบคุณที่ติดตามกันมาโดยตลอดค่ะ


Belove


 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 29-06-2015 12:37:23


จบลงด้วยความสุข

แบบนี้ค่อยยังชั่ว

นึกว่าจะเศร้าเสียแล้ว

สงสารแดนกับราฟ ที่ไม่ทันได้คุยกัน ก็จากกันเสียแล้ว

ลุ้นคู่ของโนแอลกับชาวีต่อดีกว่า ว่า............

จะง้อกันไปกี่น้ำ

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 02-07-2015 10:18:21
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
ชอบคู่ปราบ-ป้องมากกก

ยังไงรอตอนพิเศษชาวี-โนเอลนะคะ

 :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: piengtavan ที่ 02-07-2015 18:36:01
กรี๊ดดดด พพี่ปราบบบบบ  ถ้าพี่จะร้อนแรงขนาดนี้~~~~
 อีกคู่ก็เช่นกัน รอตอนพิเศษ ชาวีโนเอลนะคะ  ไอ้เด็กหื่นตามง้อแฟนเนี่ย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 02-07-2015 20:03:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 02-07-2015 21:58:11
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 03-07-2015 23:19:43
ลุ้นจนถึงตอนสุดท้าย ชนัยน่าจะโดนมากกว่านี้
นี่อินนะ แดนรู้ตัวว่าผิดก็สำนึกผิด แต่ชนัยนี่มันคาใจ
ถึงจะตัดจบแบบเร็ว อ้าวกลายเป็นตัวร้ายเด่นขึ้นมาซะแบบนั้น
ป้องกับปราบก็ลงเอยกันด้วยดี ขอบคุณนักเขียนนะคะ สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 05-07-2015 20:27:24
 o13 o13 o13 :z1: :z1: :z1: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 07-07-2015 15:28:22
ไม่ผิดหวังเลย สนุกโฮก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 15-07-2015 11:35:50
เนื้อเรื่องสนุก ชอบแด๊ดอะ อยากเจอแด๊ด



น้องป้งของพี่เดียวน่ารัก แต่ดื้อ



พี่เดียวอภัยให้พ่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แตังดูแลเขาถือว่าทำถูกแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 18-07-2015 08:23:42
 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 18-07-2015 16:34:45
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 20-07-2015 23:18:56
ไม่ได้แวะมาเล้าแป้บเดียว อยู่ดีดีก็จบซะงั้น ตามมาอ่านแวะมาเม้น(ช้าไปไหม 55555)  ยังไงก็จะคอยตามติดผลงานและเป็นกำลังใจให้นะจ้ะคนแต่ง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 27-07-2015 17:04:17
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้อ่ะ คนเขียนแต่งเก่งมากเลย เข้มข้นสุดๆ o13
เราชอบโนเอลกับชาวีมากๆอ่ะ แต่ตอนแรกที่โนเอลโผล่มา
คิดว่าจะเป็นรุกซะอีก เสียท่าเด็กจนได้ 555  :hao7:

แล้วก็จริงๆชอบตัวโกงอีแดเนียล ไม่เหมือนชาวบ้านเค้านิ  :laugh:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 27-07-2015 20:47:49
เศร้าไปกับชะตาชีวิตของคนในเรื่องนี้มาก
แม้แต่แดเนียล เราก็เห็นใจนะ เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ( 23/06/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 27-07-2015 21:24:22
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-07-2015 00:17:26


                                                     เพลิงพ่าย

                                                     บทพิเศษ


                “อิตาลีเป็นไงบ้างพี่วี”



                “ก็สวยดีป้อง อะไรวะเสียงใสเชียวนะ มีอะไรดีๆล่ะสิ”



                ชาวียิ้มกับโทรศัพท์เมื่อปมุตโทรข้ามทวีปมาจากประเทศไทย แต่แล้วเขาก็ตกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อรู้ว่าแค่ไม่

นานที่พ้นจากประเทศไทยกลับเกิดเรื่องมากมายกับปมุตจากที่นักร้องรุ่นน้องเล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ



                “แล้วนี่เจอคุณโนเอลหรือยัง”



                “ยังเลย”



                ชาวีหน้าเคร่งทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้



                “เพิ่งจะติดต่อเอเยนซี่ของงานที่โนเอลกำลังดีลอยู่ได้ ดีนะที่ได้คุณเคทเลขาของโนเอลแอบช่วยพี่ไม่งั้นคง

ต้องงมหาเองจนเสียเวลาไปอีก แต่ว่าตอนนี้ได้บัตรเข้างานได้แล้ว”



                “งานเดินแบบผ้าไทยที่คุณโนเอลเอาไปโชว์น่ะเหรอ เมื่อไหร่ล่ะ”



                “อีกไม่กี่ชั่วโมงนี่แหละ”



                “ว้าว ขอให้ง้อคุณโนเอลสำเร็จนะพี่วี”



                แน่นอนว่าต้องสำเร็จ ชาวีรู้ดีว่าโนเอลรักเขาแต่เป็นเพราะโนเอลขาดความรักตั้งแต่เด็กจึงกลายเป็นไม่ไว้

วางใจในความรัก ชาวีจะทำให้โนเอลมั่นใจว่าความรักของเขามีค่าพอที่โนเอลจะรักเขาได้อย่างสนิทใจ



                และตอนนี้ชาวีก็มาเดินเตร็ดเตร่อยู่บริเวณจัดงานแฟชั่นวีคอันโด่งดังของอิตาลีที่เขาได้รับบัตรเข้างานอย่าง

เฉียดฉิวเต็มที โดยการช่วยเหลือของเคทเลขานุการของโนเอลที่แอบลุ้นให้เขาคืนดีกับเจ้านายของหล่อนโดยการติดต่อ

เอเยนซี่หลักชาวีจึงได้บัตรในฐานะนายแบบที่โนเอลส่งรูปมาออดิชั่น



             ชาวีมายืนรออยู่นานแล้ว และการรอคอยของเขาก็บังเกิดผลเมื่อเขามองเห็นร่างสูงโปร่งอันคุ้นตาคุ้นใจกำลัง

กระวีกระวาดขนเสื้อผ้าเครื่องประดับพร้อมกับลูกน้องเข้าไปในงานเพื่อเตรียมตัว เขาพุ่งเข้าไปขวางทางและคว้าท่อน

แขนของโนเอลไว้



             “ชิท”



             ดวงตาสีฟ้ามองกลับอย่างไม่เชื่อสายตาที่เห็นชาวี หัวใจของโนเอลเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นแต่เพราะทิฐิที่

ตนเองสร้างขึ้นมาทำให้โนเอลต้องตีหน้าดุใส่คนที่เขาเฝ้าคิดถึงมาหลายวัน



             “มาทำไม”



             ถามเสียงดุแต่อีกฝ่ายคลี่ยิ้มหวานหยดจนโนเอลเกือบจะใจอ่อนง่ายๆเสียแล้ว



             “มาตามเมีย”



             “ใครเมียมึงไอ้เด็กกะล่อน”



             “อยากได้กระจกส่องดูหน้าตัวเองไหมครับที่รัก”



             โอย โนเอลอยากจะบ้าตาย



             ไอ้รอยยิ้มยั่วเย้าที่ชาวีส่งมาทำให้เขาแทบคลั่ง การที่ต้องห่างไกลจากชาวีมาเกือบสัปดาห์สร้างความ

ทุรนทุรายขนาดหนักทั้งความคิดถึงด้วยใจและความต้องการของร่างกายที่โหยหา



             “จะไปไหนก็ไป”



             โนเอลเอ่ยปากไล่ ในขณะที่คนถูกไล่ยักไหล่อย่างไม่แคร์



             “ไม่ไป”



             “หน้าด้าน”



             “ถ้าด้านแล้วได้คุณกลับคืนไปผมก็โอเคนะ”



             เม้มปากอย่างขัดใจเมื่อเจอคารมของชาวี แต่โนเอลก็ต้องยั้งการต่อปากต่อคำไว้เมื่อลูกน้องตะโกนเรียกให้เขา

ไปเซ็ตชุดที่ต้องใช้สำหรับโชว์ ชาวีถอนหายใจเพราะคงจะยั้งโนเอลให้คุยกับเขาได้เพียงเท่านี้ เขาจึงหลีกทางให้โนเอล

เดินผ่านไป



             “โนเอล”



             อดีตนายแบบหยุดฝีเท้าแต่ก็ไม่ได้หันกลับมามอง



             “ผมรักคุณนะ”



             ไอ้เด็กบ้า



             คนถูกบอกรักซ่อนยิ้มไว้พลางก้าวเดินเข้าไปด้านหลังของงานด้วยหัวใจที่พองฟูราวกับลูกโป่งและแทบจะไม่มี

สมาธิกับงานจนต้องเรียกสติตัวเองอยู่หลายครั้ง



             “”ไฮ โนเอล”



             “ไฮ สมิธ”



             โนเอลหันไปยิ้มให้กับเจ้าของงานแฟชั่นวีคครั้งนี้และยื่นมือไปจับทักทาย



             “ผมไม่ทราบเลยนะว่าคุณไปทำธุรกิจอยู่ที่เมืองไทยจนคุณส่งตัวอย่างมาให้ผมนี่แหละ คราวนี้ยอมรับจริงๆว่า

แบบของคุณดูงดงามมากกับผ้าอะไรนะ ผ้าไหมใช่หรือเปล่า โดยเฉพาะคอลเลคชั่นที่นายแบบชื่อชาวี เขาจะมาเดินแบบ

ให้คุณในคืนนี้ไหม”



             โนเอลยิ้มเจื่อนกับคำถามของสมิธ



             “โอ ผมดีใจที่คุณชอบนะสมิธ แต่น่าเสียดายที่ชาวีเขาไม่ได้มาที่นี่”



             สีหน้าของสมิธดูจะเสียดายเป็นอันมากเขายืนพูดคุยกับโนเอลอีกครู่หนึ่งจนกระทั่งใกล้เริ่มงานจึงได้เดินจากไป  

โนเอลพุ่งสมาธิไปกับงานเมื่อแฟชั่นวีคเริ่มต้น เขามองการเดินแบบผลงานคนอื่นจากจอมอนิเตอร์ที่ถ่ายทอดภาพจาก

ด้านหน้าเวทีมาให้คนทำงานเบื้องหลังได้เห็น และเมื่อกล้องจับไปที่ผู้ชมโนเอลก็ต้องเม้มปากเมื่อเห็นชาวีนั่งอยู่ในกลุ่ม

คนดู


           นึกทึ่งที่ชาวีหาบัตรเข้างานมาได้ แต่ที่ทำให้ขัดใจก็ตรงสาวไซส์อวบที่นั่งขนาบข้างกำลังหัวร่อต่อกระซิกชี้ชวน

กันให้ดูการเดินแบบบนเวทีนี่แหละ



             “บอส แย่แล้ว”



             เสียงลูกน้องตะโกนอย่างตกใจเรียกสติกลับคืนมาได้ โนเอลหันไปเลิกคิ้วมองแทนคำถาม



             “ผู้จัดการของชาร์ลนายแบบที่เราให้มาเดินชุดฟินาเล่เพิ่งโทรมาบอกว่าเกิดอุบัติเหตุ และตอนนี้ชาร์ลขาหัก

กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล”



             “เหี้ยเอ๊ย!”



             โนเอลสบถลั่นเพราะงานของเขากำลังจะขึ้นเดินในช่วงต่อไป หัวสมองของเขาหมุนเร็วจี๋เพื่อแก้ไขปัญหาก่อน

ที่โนเอลจะหันไปมองทางจอมอนิเตอร์เพื่อตัดสินใจ
 




             การได้มานั่งในงานแฟชั่นวีคที่อิตาลีทำให้ชาวีตื่นตาตื่นใจมาก เขาภูมิใจแทนโนเอลที่ได้มาแสดงผลงานใน

งานนี้ ผู้หญิงที่นั่งข้างเขาทำธุรกิจทางด้านเสื้อผ้ามาจากอเมริกา เจ้าหล่อนชวนพูดคุยจนเขาชักเวียนหัวแถมยังเบียด

หน้าอกหยุ่นๆเข้ากับท่อนแขนของเขาอีกต่างหากมันทำให้ชาวีนึกรำคาญจนชักจะหน้าบึ้ง เกือบจะหันไปต่อว่าหากไม่ถูก

ดึงคอเสื้อจากทางด้านหลังเสียก่อน



             “อะไรวะ”



             เขาหันขวับไปมองแต่เมื่อเห็นคนที่แหวกวงล้อมคนดูมาหาชาวีก็เลิกคิ้วอย่างสงสัยเพราะตามโปรแกรมต่อไป

ต้องเป็นของโนเอลแล้ว



             “มีอะไรหรือเปล่า”



             โนเอลลากแขนให้ชาวีออกมายืนคุยกันตรงที่ว่างจากผู้คน



             “นายต้องช่วยฉัน นายแบบของฉันขาหัก”



             อ๊ะ โอกาสดี



             ชาวีเกือบจะซ่อนความลิงโลดไม่อยู่เมื่อโนเอลกำลังต้องการความช่วยเหลือ เขาแกล้งยิ้มกวนใส่พลางกรอก

ตามองบนเมื่อเห็นโนเอลเม้มปากแน่น



             “ช่วยดีไหมน้า งานเร่งงานด่วน ถือโอกาสอัพค่าตัวดีไหม”



             “ไอ้เด็กนรก”



             โนเอลขบกรามกรอดเมื่อเห็นท่าทางกวนอวัยวะเบื้องล่าง เขากระชากคอเสื้อของชาวีเข้าหา



             “อยากได้เท่าไหร่ว่ามากูจะจ่ายให้”



             ชาวียกปลายนิ้วมาแตะที่จมูกโด่งก่อนเอียงหน้าไปแตะริมฝีปากของโนเอลด้วยปากของเขา



             “ไม่อยากได้เงินแต่อยากได้ร่างกายคุณ ขอแค่ฟ้าเหลืองผมก็พอใจแล้ว”



             “กูจะกระทืบมึงแน่ๆหลังจบงานนี้”



             คอเสื้อของชาวีถูกลากด้วยมือของโนเอลให้ก้าวตามไปยังด้านหลังเวทีก่อนที่โนเอลจะผลักร่างสูงกำยำด้วย

กล้ามเนื้อไปยังลูกน้อง



             “แต่งหน้าทำผมไอ้เด็กเวรนี่ซะ มันจะเป็นคนเดินชุดฟินาเล่”



             ลูกน้องมองหน้ากันเลิ่กลั่กแต่ก็ต้องทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็วในขณะที่โนเอลไปบัญชาการบรรดานางแบบนาย

แบบที่เริ่มเดินบนแคทวอร์คจนใกล้ช่วงสุดท้ายชาวีก็แต่งตัวเสร็จ ทุกคนได้แต่มองอย่างตกตะลึง



             รูปร่างหน้าตาแบบไทยแท้ โชว์ช่วงอกผายประกอบด้วยมัดกล้ามเป็นลอนนุ่งผ้าไหมยกรั้งมองเห็นวีเชฟเผย

สัดส่วนทำให้ชาวีกลายเป็นจุดสนใจ โนเอลก้าวเข้ามาหยุดมองอย่างพึงพอใจ



             “ตื่นเต้นหรือไง ไหนว่าเก่ง”



             โนเอลเป็นฝ่ายซ่อนรอยยิ้มเมื่อเห็นชาวีหน้าตื่น



             “โธ่คุณ เคยเดินงานใหญ่ขนาดนี้ที่ไหนกันเล่า นี่มือเย็นหมดแล้วนะ”



             โนเอลก้าวเข้ามาใกล้พลางดึงมือของชาวีมากุมไว้



             “มือเย็นจริงด้วย หายใจเข้าออกลึกๆสิไอ้เด็กดีแต่ปาก”



             อดีตนายแบบรับขวดน้ำมันมาจากลูกน้อง เขาเทใส่มือตนเองแล้วค่อยๆลูบไล้ไปตามแผงอกที่มีไรขนอ่อนเป็น

เครื่องประดับรวมถึงแผ่นหลัง



             “คิดเสียว่าคนดูหน้าเหมือนฉัน มองไปทางไหนก็มีแต่ฉัน”



             โนเอลกระซิบใกล้หูพลางเลื่อนมือลงต่ำจนถึงซิกแพ็ค ชาวีที่จ้องตาไม่ยอมหลบถึงกับกัดฟันแน่น



             “คุณกำลังยั่วผม”



             รู้สึกถึงความแข็งขันที่ดันออกมาจนเบียดเนื้อผ้าอันแสนจะงดงาม ชาวีตื่นตัวจนแทบจะลืมความประหม่าจน

กระทั่งโนเอลรุนหลังให้เขาไปยืนอยู่ด้านข้างเวที



             “นายทำได้ ชาวี นายคือที่หนึ่งในใจฉัน”



             เสียงประกาศดังลั่นว่าต่อไปเป็นชุดฟินาเล่ ชาวีหันไปมองโนเอลอีกครั้งก่อนจะก้าวเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย

เรียกเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือกึกก้อง โนเอลยิ้มกว้างเมื่อเขาเดินออกไปยืนเคียงข้างและรับช่อดอกไม้จากมิสเตอร์

สมิธ



             “เซอร์ไพร้ส์มากที่เห็นนายแบบจากประเทศไทย และเขาช่างเข้ากับชุดนี้เหลือเกินทั้งสง่าและเซ็กซี่ในเวลา

เดียวกัน”



             สมิธชมเมื่อโฆษกสัมภาษณ์ความรู้สึกที่ได้ชมแฟชั่น โนเอลหน้าบานเมื่อผลงานของเขาประสบความสำเร็จเกิน

คาดจนกระทั่งลืมตัวโผเข้ากอดชาวีกลางเวที



             “ขอถามหน่อยเถอะครับ อดีตนายแบบอย่างคุณไปรู้จักกับหนุ่มไทยคนนี้ได้อย่างไร เขากลายเป็นเพชรงามใน

การเดินแบบคราวนี้เสียแล้ว”


         โฆษกสนามหันมาถามโนเอลบ้าง โนเอลบอกเพียงสั้นๆว่าเขาขยายธุรกิจไปที่ประเทศไทยและได้พบกับชาวีที่นั่น



             “มิสเตอร์ชาวีจากการปลุกปั้นของโนเอล พอจะบอกได้ไหมว่าหล่อเหลาขนาดนี้ยังโสดหรือเปล่า คนที่หมาย

ปองจะได้รู้กันถ้วนหน้า”



             “ไม่โสดแล้วครับ ผมมีคนรักแล้ว”



             “โอ ช่างน่าเสียดายแทนสาวๆในที่นี้เหลือเกิน เปิดเผยได้ไหมว่าเป็นใคร”



             ชาวีไม่ตอบ แต่เขาเรียกแสงแฟลชสว่างวูบวาบยาวนานจากบรรดาตากล้องเมื่อเขาคว้าโนเอลเข้ามาและ

ประกบริมฝีปากอวดทุกคน
 





มีต่ออีกนิด

หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-07-2015 00:26:19


ต่อกันตรงนี้



           

           “บ้า ทำแบบนี้ได้ไง”


            โนเอลหน้าแดงก่ำเมื่อเห็นข่าวตนเองจูบกับนายแบบหน้าใหม่กลางเวทีแฟชั่นวีคกระจายไปตามสื่ออย่างรวดเร็ว

เขินจัดจนไม่สามารถอยู่เคลียร์งานได้ต้องปล่อยให้ลูกน้องจัดการและลากชาวีมาที่อพาตเม้นท์หรูของเขา


           “เปิดเผยขนาดนี้แล้ว เชื่อใจหรือยังว่าผมรักจริง”


            ชาวียิ้มหน้าแป้นแล้วรวบร่างเพรียวของโนเอลเข้ามากอด โนเอลทำหน้าบึ้งก่อนจะถอนหายใจออกมา


            “มึงนี่น้า นรกส่งมาเกิดจริงๆ”


            “ปากจัดอย่างนี้แสดงว่ากลับมาเป็นคนเดิมแล้วใช่ไหมครับตาแก่ขี้บ่น”


            ชาวีหอมแก้มดังฟอดจนโนเอลต้องผลักหน้าออกอย่างหมั่นไส้


            “เออ ใครจะทนได้วะหน้าด้านชิบหาย”


            “โอ๊ย ฝรั่งปากจัดด่าเป็นไฟเลย ต้องโดนปิดปากซะแล้ว”


            แล้วชาวีก็ทำอย่างที่พูด เขาบดริมฝีปากเข้าใส่อย่างเร่าร้อนโนเอลเองก็จูบตอบอย่างโหยหาจนน้ำลายชุ่มอยู่

รอบปาก เสื้อเชิ้ตตัวบางที่เขาสวมถูกชาวีกระชากจนขาดด้วยความใจร้อน ชาวีรวบเอวของโนเอลแล้วทุ่มใส่ที่นอนนุ่มจน

เด้งอยู่กลางเตียง เขารีบถอดเสื้อผ้าตนเองออกอวดร่างกำยำที่ยังมีร่องรอยของน้ำมันทาตัวหลงเหลืออยู่แล้วโผเข้าหา

โนเอลทันที


            “คิดถึงจังเนื้อนุ่มๆแบบนี้”


            ชาวีปรนจูบไปทั้งตัวอย่างหลงใหลในขณะที่โนเอลก็ให้ความร่วมมือจนพากันหอบลึก


            “คิดถึงผมไหมครับตาแก่”


            ชาวีกระซิบถามก่อนจะงับที่ยอดอกจนโนเอลผวา เสียงครางลืกดังลอดออกมากระตุ้นอารมณ์ให้ยิ่งเตลิด


            “เมื่อไหร่จะเลิกถามแล้วทำๆซะทีวะไอ้เด็กปากมาก”


            ดุด้วยเสียงกระเส่าเมื่อโนเอลต้องการชาวีจนเกินทน ชาวียิ้มบาดใจก่อนรวบท่อนเนื้ออวบอูมของทั้งคู่เข้ามาไว้

ในอุ้งมือของเขาแล้วรูดรั้งมันพร้อมกัน


            “เรียกน้ำย่อยก่อนไง ซี้ด เสียวว่ะ”


            “มึงจะดีแต่มือไปถึงเมื่อไหร่”


            โนเอลครางลั่นเมื่อท่อนเนื้อเสียดสีแถมช่องทางคับแน่นก็ถูกนิ้วยาวสอดลึกแล้วควานเปิดทางให้กว้างขึ้น ชาวี

เลื่อนเอวลงต่ำแทรกกายประสานพร้อมกับมือที่ยังรูดรั้งแก่นกายของโนเอลไม่เลิกจนโนเอลบิดกายเกร็งแล้วปล่อยน้ำรัก

ออกมาเปรอะเปื้อนเต็มหน้าท้อง ชาวียิ้มอย่างยินดีเมื่อเขาส่งคนรักแตะขอบหฤหรรษ์ได้ยกแรก


            ต้นขาถูกยกสูงแทบจะชิดหน้าอกแล้วชาวีก็ซอยเอวถี่ยิบ แม้อากาศจะเย็นแต่ร่างกายกลับชื้นเหงื่อและน้ำคาว

เมื่อเขาขึ้นสวรรค์ไปพร้อมโนเอลที่ดวงตาลอยคว้างไปอีกรอบ


            ชาวีซบหน้าลงกับไหล่ของโนเอลที่แข่งกันหอบหายใจถี่ยิบ


            “หน้ามืดเลยผม เฮ้อ”


            เสียงหัวเราะขบขันดังแทรกเสียงหอบ โนเอลคล้องแขนไปรอบลำตัวของชาวี


            “ไงล่ะ ฟ้าเหลืองหรือยัง”


            “ดูถูกว่ะนี่แค่ยกแรกนะ โนเอลครับ มั่นใจได้หรือยังว่าผมรักคุณ”


            กระซิบเสียงหวานพลางกดจูบที่แก้มจนโนเอลคลี่ยิ้มกว้าง เขากระซิบตอบหวานหยดไม่แพ้กัน


            “ไม่มั่นใจว่ะจนกว่าจะฟ้าเหลือง”


            คำตอบของโนเอลเรียกเสียงคำรามอย่างถูกใจก่อนที่ชาวีจะกดกายเข้าหาอีกครั้ง

           

          ----------------------------------จบตอนพิเศษ----------------------------------------             


ตอนแรกว่าจะยังไม่ลงตอนพิเศษเพราะวางแผนจะเอาไปรวมในเล่ม

แต่กลับมีอุปสรรคนิดนึงคือต้องรอคนวาดปกแสนสวยให้ การรวมเล่มอาจจะช้ากว่าที่คิด

คนแต่งเลยแต่งมาลงก่อนกลัวคนอ่านลืมง่ะ


 :mew2: :mew2: :mew2:

ป.ล.เปิดนิยายเรื่องใหม่ อย่าลืมไปอ่านกันนะคะ

บัลลังก์รักใต้เงาแค้น (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47755.0)

             
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-07-2015 02:50:33
ระวังคนแก่หัวใจวายน่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-07-2015 11:47:07
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: chancha ที่ 29-07-2015 18:32:02
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 29-07-2015 20:29:33
 o13 ชาวีสุดยอด
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 29-07-2015 20:47:06
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษงับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 30-07-2015 11:23:15
 :pighaun: :z1: คู่นี้ช่างเซ็กซี่และร้อนแรงจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 30-07-2015 11:34:03
คนแก่นี่ เอาแต่ใจตลอด







ชาวี อย่าหักโหมมากไป เดี๋ยวคนแก่ ช๊อค
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-07-2015 11:45:51
เอาใจคนแก่หน่อยนะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 30-07-2015 21:54:10
 :L2: :3123: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: punthipha ที่ 31-07-2015 20:49:09
 :3123: :pig4: :3123: :pig4: :3123: สำหรับตอนพิเศษ น่าจะมีของคู่เอกด้วย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: AgotoZ ที่ 04-08-2015 14:53:04
หนุกดีค่า   :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-08-2015 04:48:34
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 10-08-2015 18:34:49
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด เค้าง้อกันร้อนแรงม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก
คนอ่านจิตาย ฮี่ๆๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 15-08-2015 23:43:36
ชอบมากเลยค่ะคู่โนเอลชาวี
ดีใจที่เข้าใจกัน
โนเอลน่ารักมากๆ งอนแต่ไม่งี่เง้า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 25-10-2015 19:16:20
 :m25: ชาวีถึงแก่แต่ก็ยังมีไฟเน้อ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: FOUR EYES ที่ 07-01-2016 10:56:17
น่ารักมากๆขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันนะคะ  :L2: :L2: :L2:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Pramooknoi ที่ 09-01-2016 16:07:33
สนุกมากค่า น่ารักสุดๆ คู่รองก็น่ารัก แอบมีคำผิดนิดหน่อย เนื้อเรื่องเขียนดี น่าติดตาม  :o8:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 24-01-2016 23:54:43
อ่านรวดเดียวจบ สนุกมากๆเรื่องนี้ เนื้อเรื่องไม่จำเจ ตัวละครมีมิติ ชอบ ขอปรบมือให้ผู้เขียนรัวๆเลย

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 26-01-2016 08:19:04
สนุกอ่ะ อ่านแล้ว  :pighaun:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: blackcat07 ที่ 29-02-2016 03:36:00
เพิ่งได้อ่าน สนุกจังจ้า สงสารแดนอยู่นะ หวังว่าคงสมหวังกับราฟในโลกวิญญาณ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: PPink ที่ 29-02-2016 13:47:42
ทำไมเพิ่งมาเจอเรื่องนี้ เสียดายมากๆ
เป็นอีกเรื่องของคุณคนแต่งที่อ่านแล้วแซ่บพริกกะเหรี่ยงสิบเม็ดจริงๆ
อาจมีบางตอนที่ขัดใจในการตัดสินใจของตัวละครบ้างแต่พยายามทำความเข้าใจ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆ แบบนี้มาอีกเรื่องนะ :-)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-02-2016 19:30:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 06-03-2016 17:38:25
ชีวิตปราบในภาคต้นช่างแสนรันทด :hao5:
ถ้าทนอยู่ได้ถึงอายุ 20 ก็จะได้ทุกอย่างตามพินัยกรรมอยู่แล้วเชียว
แต่ก็นะ อีกตั้งเกือบสิบปีกับเด็กมอต้นที่ชีวิตเหมือนเหลืออยู่ตัวคนเดียว
แถมสุดที่รัก กำลังใจหนึ่งเดียวยังเข้าใจผิดอีก

เศร้าเลย~
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 06-03-2016 18:25:52
ภาคกลาง...
ความรักแบบพ่อก็อย่างนึง แบบคนรักก็อย่างนึง แบบคนที่แค่อยากเอากันก็อีกแบบ
แต่ถ้าออกตัวว่ารักแบบพ่อขนาดนี้ แต่เอากันได้มันส์ขนาดนั้น... เราไม่ค่อยโออ่ะ o7

คือถ้านอกเหนือจากรักแบบคนในครอบครัว แต่มีรักแบบคนรักด้วย แล้วค่อยทำกิจกรรมแบบคนรักเค้าทำกัน นู๋ว่านู๋จะรับได้มากกว่านี้...

คราวหน้าถ้ามีแบบนี้อีก อย่าแทนตัวเองว่าแด๊ดเลยนะ นู๋ขอร้อง :heaven
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 06-03-2016 18:50:59
ตอนที่ 20
อ่านถึงตอนนี้ ไม่มีใครที่ดีในสายตาสักคน
แต่ถ้าจะบอกว่าปราบเลว มันก็เลวไม่สุดในสายตาเรา
ที่โตมาเป็นคนแบบนี้ เพราะสิ่งแวดล้อมมันหล่อหลอมมาทั้งนั้น

ส่วนป้อง นอกจากตัวละครในวัยเด็กที่รู้สึกผูกพัน
ตัวละครปัจจุบัน รู้สึกเฉยๆมากนะ มันยังไม่มีบทอะไรเท่าไหร่ให้ชอบหรือเห็นใจ

แต่ที่เกลียดมานานตั้งแต่ต้นเรื่องก็สองผัวเมียคู่นั้นแหละ
ไม่ขอเห็นใจในความรักของพ่อมีให้ลูกอยู่บ้าง ทำใจไม่ลงจริงๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 07-03-2016 00:21:27
เรื่องนี้ทำให้รู้ซึ้งถึงคำว่า ผีเน่ากับโลงผุ (ขุ่นพ่อ&ขุ่นแม่)
คู่รองที่ฟินยิ่งกว่าคู่หลัก (ชาวีxโนเอล)
และสุดท้าย รักเท่านั้นที่ครองโลกกกก เอ้ย ไม่ใช่
มันคือ รักนั้นคือความเข้าใจและการให้อภัย (ปราบxป้อง)

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> ##ตอนพิเศษจ้า ( 29/07/58 )
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 07-03-2016 00:49:56
ชาวีโนเอลน่ารักกกก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2016 17:44:54
 :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 10-04-2016 23:30:34
สุดยอดมาก ชอบเรื่องนี้ ขอบคุณคนแต่งที่แต่งเรื่องดีๆมาครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 13-04-2016 09:16:24
มาไวไปไวมากค่ะ เรื่องไม่เวิ่นดีแล้วได้ใจความด้วย สนุกมากค่ะ ปมุตน่ารัก น้องป้องของพี่เด่ว 555

ชาวีรุกได้ไวมาก สมใจเค้าล่ะทีนี้

หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Acacha ที่ 15-04-2016 15:33:51
สนุกดี  :pig4:

ตอนอ่านแผนของชนัย สงสัยขึ้นมาวูบนึงเลยว่านางคิดว่าตัวเองเป็นนางร้ายในละครหลังข่าวรึไงเนี่ย 5555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 15-05-2016 13:26:28
ตามอ่าน ๆ สนุกทุกเรื่องเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 18-05-2016 14:09:31
ตามมาจากเรื่องนู้นนน :-[
ชอบจังเลย นิยายที่มีความต่อเนื่องกันแบบนี้
สนุกจ้าาา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 18-05-2016 18:30:13
จบจร่า.   แสดงให้เหนถึงพ่อของปราบที่เลววางแผนหลอกลวงเปนเวลาสิบกว่าปี. ทำร้ายแม่ของปราบ เปนพ่อที่เลวมากสำหรับปราบ แต่รักทำดีกับป้อง.แม่ป้อง  มันย่อมสร้างความแค้นแทบกระอักให้กับปราบ.   มันเปนอะไรที่ยากมากถ้าจะอภัยให้.  แต่ปราบก้อทำได้มันสิ่งที่น่ายกย่องแล้วเราจะมีสุขที่แท้จริง.      รักทำไห้คนโง่และตาบอดและเลวร้ายจิงด้วยดูพ่อปราบดิ.     ขอบคุณจร่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Mitnai ที่ 20-05-2016 18:12:21
มาจิ้มใหม่ เคยใช้ยูสเก่าอ่านไปแล้ว เซ็งเบย55555555
งือ จะกลับมาใหม่หลังจากปั่นเรื่องอื่นหมดแล้วนะคะ
ขอบคุณค่ะ ♥ 55555555555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Mitnai ที่ 20-05-2016 21:28:37
ดีงามค่า เยี่ยมค่า เลอเลิศมาก ชอบคู่ชาวีกับโนเอล ปังสุด
แต่เอาจริงๆคือสงสารแดนนะ  เลยอยากได้ตอนพิเศษของแดนกับราฟมาปลอบใจ
ขอแบบกลับมาเกิดใหม่ทั้งคู่ ระลึกชาติได้ อะไรประมาณนั้น // มีความเพ้อเจ้อ5555555
ขอบคุณค่ะ ♥
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 22-05-2016 10:22:43
นังรัศมี กรวดยังไงก็เป็นกรวดวันยังค่ำ ต่ำอย่างนี้ถึงจะออกจากดงคุณโสมานั่งเผยอเป็นคุณนายก็ไม่มีวันเป็นได้ :fire:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 22-05-2016 11:04:33
เรื่อง แดน อ่ะ ปราบผิดค่ะ ผิดเต็มๆ ครั้งแรกอาจเพราะความไม่รู้แต่ปราบก็ยังไปนอนกับราฟอีกครั้งทั้งที่รู้ว่าเป็นเด็กของแดน มันคือการท้าทายกันชัดๆ ถ้าราฟกับปราบรักชอบกันจริงๆควรให้ราฟเคลียร์ตัวเองก่อนดีมั้ยไม่ใช่ไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้านแบบนี้  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: risanana ที่ 22-05-2016 13:36:20
จะโทษชนัยฝ่ายเดียวก็ไม่ได้นะ คือแบบคนมันรักหลงอยากได้แบบไม่ลืมหูลืมตาอยู่แล้วไงพอมีช่องเท่ารูเข็มมันดิ้นรนจะเข้าแทรกให้ได้เป็นเรื่องปกติ แต่ป้องที่ประชดก่อเรื่องจนวุ่นวายไปกันหมดนี่สิต้นเรื่องจริงๆ ปล.ขอโทษแม่ยกป้องทั่วหน้าเลยค๊าา
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-05-2016 21:15:22
ว่างๆเลยมาอ่านเรื่องนี้อีกครั้ง
ก็ยังสงสารแดเนียลอยู่ดีอ่ะ (T_T)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 24-05-2016 23:15:48
อ่านแรกๆเกลียดพระเอกมากกกกกก แต่เป็นคนที่รักจริงจังมากก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 30-05-2016 18:53:10
โอยยยยยยย เรื่องนี้เป็นอะไรที่อ่านแล้วลุ้นไปทั้งเรื่องเลยจริงๆค่ะ
คือแบบจะสุขก็สุขไม่สุด ใจนี่ตุ่มๆต่อมๆอยู่ตลอดเวลา
โดยส่วนตัวแล้วชอบคู่รองมากกว่าค่ะ คู่หลักนี่ชอบตอนเด็กมากกกกกก
น่าร๊ากกกกกกกก ฝุดๆ พอโตแล้วมีความหน่วงตลอดเวลา :hao5:

สุดท้ายนี้ขอบคุณ คุณ Belove มากๆๆๆๆค่ะ. เราติดตามผลงานมาตลอดๆเลยนะค่ะ :กอด1:
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: beer9999 ที่ 04-06-2016 00:18:00
โหดร้ายไปหน่อย แต่น่ารักดี ชอบๆๆๆๆ ฟิน และ อินมาก
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order วันแรกที่งาน Y display 3ก.ค.จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-06-2016 20:43:58

มาแล้วๆๆ
หลังจากที่รอคอยกันมาเนิ่นนาน พี่ปราบกับน้องป้องถึงคิวรวมเล่มแล้วจ้า
เคาะราคาแล้วที่ 530 บาท
เปิดพรีวันแรกที่งานวายดิส
ส่วนการจองทางเว็บรอสำนักพิมพ์เปิดจองก่อนนะคะ


เรามีปกมาอวดด้วย
เซะซี่ไหมล่ะ
 :hao7: :hao7:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order วันแรกที่งาน Y display 3ก.ค.จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 14-07-2016 01:05:14
เสียใจที่ไม่ได้ตามลุ้นตั้งแต่ต้นพึ่งได้เข้ามาอ่า ชอบผลงานทุกเรื่องของผู้เเต่งเลย  :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order วันแรกที่งาน Y display 3ก.ค.จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 18-07-2016 14:05:08
สนุกมากก พล็อทดีมากค่า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order วันแรกที่งาน Y display 3ก.ค.จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: princehasu ที่ 23-07-2016 12:50:08
 :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: :haun4: ฮึๆ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order วันแรกที่งาน Y display 3ก.ค.จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: princehasu ที่ 23-07-2016 13:19:19
เข้าใจปราบ ไม่ซีเริชื่องนี้วิถีชีวิตไม่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: rmlab ที่ 23-07-2016 19:26:15
สนุกมากจ้า
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 24-07-2016 18:06:25
เนื้อหาหนักจริงๆเรื่องนี้ ดีใจที่จบแฮปปี้ค่ะ
 :pig4: :3123:
หัวข้อ: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-07-2016 12:07:40
เปิดจองนิยายเพลิงพ่าย ตั้งแต่วันที่ 7ก.ค.- 30 ก.ย.59

เรื่อง: Belove
ภาพ : SUKI ZweetSM
จำนวน 500 + หน้า


ราคารอบจอง 530 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง

ของแถมรอบจอง : เล่มตอนพิเศษ

เรื่องย่อ

ปราบ ปริวัตร ไม่เคยสนใจหากใครจะชี้หน้ากล่าวหาว่าเขาคือคนเลว ถ้าการเป็นคนดีจะต้องยอมให้ผู้อื่นมากระทำให้เขาเสียใจเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ปราบขอเป็นคนเลวจะดีกว่า

คนที่ทำให้ชีวิตของปราบเจ็บปวดที่สุดก็คือพ่อแท้ๆ แล้วใครที่เหมาะจะเป็นเครื่องมือแก้แค้นให้พ่อของเขาเจ็บปวด หากไม่ใช่ “ปมุต อนันตกุล” นักร้องวัยรุ่นหน้าใหม่ที่เป็นลูกของพ่อกับแม่เลี้ยง เพลิงแค้นในหัวใจที่โหมไหม้พร้อมแผดเผาน้องชายของเขา เพียงเพื่อให้คนพวกนั้นได้รู้จักความเจ็บปวดดังเช่นที่ปราบเคยได้รับ แต่เขากลับนึกไม่ถึงว่าความรักที่มีต่อปมุต จะทำให้เพลิงร้อนอย่างเขาจำต้องยอมพ่ายแพ้


สั่งจองได้ที่ :
http://rainynight.lnwshop.com (http://rainynight.lnwshop.com/)

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: PRINCESSPRIME ที่ 30-07-2016 22:37:43
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ronlbb ที่ 31-07-2016 17:29:24
ชอบเรื่องนี้มากเลยคะ
นานๆจะมีนิยายที่มีเนื้อเรื่องดีขนาดนี้
เราเองก็เชื่อเหมือนคนแต่งว่าทุกคนมีความเทาในตัวเอง
เรื่องนี้ดราม่าได้สุด และเคลียร์ปัญหาได้สุดเช่นกันคะ
ปกติแล้วเจอนิยายหลายเรื่องที่สร้างปมไว้เยอะ
แต่ตอนจบกลับแก้ปัญหาได้อย่าง งงๆ
แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบนั้นเลย 
ตั้งแต่ต้นจนจบ เล่าได้อย่างใจเย็นและลงลอค
แถมยังทำให้เราไม่ตะขิดตะขวงแม้จะรักกันแบบพี่น้องก็ตาม

เป็นกำลังใจให้คนแต่งคะ  จะคอยติดตามผลงานต่อๆไป  สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ASAMENG ที่ 01-08-2016 20:17:31
 :jul1: เห็นด้วยกับคนแต่งนะว่า คนเราเป็นสีเทา เราว่า มันคือการสร้างสมดุลให้มนุษย์ เราเองก็ชอบสีเทา  :mew3: เรื่องดีกระชับ อารมณ์ความรู้สึกครบนะถึงบ้างคนอาจจะรู้สึกว่าน้อย แต่เราว่าดีแล้วไม่บรรยายมากไป เราไม่ค่อยชอบที่แต่งมาแล้วบรรยายเยอะอ่านยาก  :laugh: และก็ขอเป็นกำลังใจให้สู้ๆ ต่อไปเน้อ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> เปิดPre order 7 ก.ค.-30 ก.ย. 59 จ้า
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 06-11-2016 12:44:59
สนุกมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Nattarat ที่ 11-11-2016 21:20:58
สนุกมากค่ะ ขอตอนพิเศษน้องป้องกับพี่เดี่ยวบ้างนะค่ะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Legpptk ที่ 21-01-2017 21:39:17
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Kei ที่ 22-01-2017 14:00:37
สั่งจองปะละอิอิ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 04-02-2017 18:30:10
 o13  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Natti ที่ 24-03-2017 20:23:57
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: tear0313 ที่ 01-04-2017 17:02:39
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 20-04-2017 22:44:28
เรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวกที่กำลังคลั่งอะไรสักอย่าง เพราะตอนนี้เราตามเก็บนิยายของ Belove ทุกเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: lovejinjunno ที่ 27-05-2017 01:47:38
ว้ากๆๆๆๆๆๆ
อ่านจบแล้ว
รู้สึกมันแหม่งๆ คุ้นๆเหมือนเคยอ่านแล้วไงไม่รู้ 555
แต่ยังไงก็แล้วแต่... สนุกอ่ะ
สงสารพี่เดี่ยวกับน้องป้องมากเลย
โนเอลก็แลดูน่ารักดีนะ เป็นคนแก่ที่โคตรซึนเดะเระเลย
อีชนัยแม่งโรคจิตอ่ะ อีแดนแม่งก็โรคจิตพอกัน
ถึงได้อยู่กันได้ เหอเหอ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 21-06-2017 05:46:15
เลือดกระฉูดกันเลยทีเดียว :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Charmy ที่ 21-06-2017 22:29:28
จบได้ดีค่ะ ทุกคนมีอดีตที่ไม่อยากจดจำทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 31-08-2017 11:52:20
ก็สะใจดีพิลึก อ่านติดๆมาหลายเรื่องแล้ว พี่โมกข์ไว้ก่อนนะ

ขอบคุณครับ :L2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 01-09-2017 02:56:48
ตามมาจาก "เกม" แล้วจะไปหา "โมกข์"  o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: analogue ที่ 10-10-2017 11:55:33
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: pamhicc ที่ 13-10-2017 15:16:52
ชีวิตพี่ปราบหนักหน่วงมากกว่าจะมาถึงวันนี้ได้แต่ยังไงก็ได้รักกับป้องแล้วเนอะ
ขอบคุณมากค่า  :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: gackmanas ที่ 14-10-2017 18:02:24
คือแบ่บบบ.. อ่านรวดเดียวจบ เบย...
งานดีจุง...
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: CLShunny ที่ 14-10-2017 18:24:02
อ่านจบภาคต้นแล้วรู้สึกผิดบาปเลย แต่ถามว่าอ่านจนจบไหมม รวดเดียวจ้าาา55555 มาสายมารก็ทำใจ สนุกดีค่ะ เลือดไหลจากจมูกดี55555
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: BloodyBlue ที่ 28-10-2017 18:01:08
 :haun4: :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: JanJanIsHappy ที่ 30-10-2017 19:35:45
ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: O-RA DUNGPRANG ที่ 01-11-2017 02:32:40
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: May.rinz ที่ 18-11-2017 18:50:30
 :pighaun: :pighaun:กระชากเลือดมาก ทั้งคู่หลักและคู่รอง
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 18-11-2017 19:02:59
ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: TheGraosiao ที่ 02-02-2018 00:00:15
 :L2 :L2: :3123: :3123: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 03-02-2018 11:51:03
ของคุณค่ะ
กลังมาอ่านอีกรอบ
ทีแรกสงสารปราบมาก พ่อเลวจริงๆ
ต่อมาสงสารน้องป้อง โถๆๆๆ
สุดท้ายอดไม่ได้ แดเนียลก็น่าสงสารนะเฟ้ยยย T_T
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-02-2018 20:13:34
แต่ละคนช่างมีความรักลึกล้ำยาวนานเหลือเกิน
หากแต่เดินทางผิด บางทีก็ไม่มีโอกาสเดินย้อนกลับมา
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 28-05-2018 01:09:16
 :pighaun: เลือดอาบมากกกก ฟิน
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 09-06-2018 19:33:46
ตายแล้ว อกป้าจะแตก เด็ก 13 กิน เด็ก 5 ขวบ   :a5:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Cheese[C]ake ที่ 10-06-2018 20:37:41
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 10-04-2019 09:24:05
 :กอด1: :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: nspretty ที่ 23-04-2019 00:08:19
สนุกค่ะ ได้ลุ้นตลอดเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 23-04-2019 02:55:55
พึ่งได้มาอ่านตอนพิเศษของพี่ชาวี่กับอารญาหื้ออฟินนนน อุ้ยชาวรกับโนเอล อิอิ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: destiny_nick ที่ 06-05-2019 16:06:14
อ่าน intro แล้วชอบมาก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 08-05-2019 15:32:17
ขอบคุณคร้าบ สนุกมาก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: akajinkame ที่ 31-08-2019 09:44:40
เป็นเรื่องที่นานมากกว่าจะทำใจเข้ามาอ่านแต่พอเข้ามาก้อจริงๆ ดีต่อใจ น้องป้องตะมุตะมิมาก ชอบ คู่ชาวีก้อดีมากๆ
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 (23 / 10 / 57 ) 3P Special
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-07-2020 11:15:06
ต่อกันอีกหน่อย








“แด๊ดเป็นไบ รับก็ได้รุกก็เก่ง”



ทั้งรุกทั้งรับเขาเรียกว่า โบ๊ธ (Both) ส่วนไบ หมายถึงได้ทั้งหญิงและชาย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 27.1 ( 27 / 02 / 58 )
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 29-07-2020 16:41:15




         “กะ แก กับ ป้อง คงไม่ได้…”


         ปราบใช้สองมือล้วงกระเป๋าแล้วเงยหน้าแค่นหัวเราะดวงตาเต็มไปด้วยความสาแก่ใจเมื่อเห็นอาการของผู้เป็นบิดา

แท้จริง


         “คุณควรจะดีใจที่พี่น้องรักกันมาก”


         ปราบย่อตัวลงไปจนใบหน้าเสมอกับปัญญา คิ้วเข้มเลิกขึ้นเมื่อเขาโน้มตัวไปกระซิบอยู่ใกล้หูบิดา


         “ผมรักป้องมาก และพ่อควรจะดีใจที่น้องเป็นของผม”


         สติของปัญญาดับวูบลงทันที
         










สาแก่ใจอีช้อยนักเจ้าค่ะ :katai2-1: :katai3: :mew1:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: Pitachio ที่ 08-09-2020 14:49:42
 :really2:
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>> บทที่ 22.2 ( 31 / 12 / 57 ) 16.45 น
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 13-02-2021 23:48:21
  “น้ำจะช่วยให้นายไม่เจ็บ ไม่เชื่อลองดู”
ขอยืนยันว่าไม่จริง ลองมาแล้ว ฝืดกว่าเดิมอีก
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 15-02-2021 15:25:32
ทำไมเราข้ามเรื่องนี้ไปได้
ทั้งที่เคยอ่านเรื่องของโมกข์มาก่อน
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ เราอ่านรวดเดียวจบเลย
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: nangnoii_13 ที่ 21-04-2021 17:32:30
  :katai2-1: ครบรสมากเรื่องนี้ ปี 2021ยังเข้ามาอ่านอยู่นะคะ ขอบคุณ ไรท์ที่แต่งนิยายดีๆให้อ่าน แถมเป็นนิยายที่ยาวมากๆเรื่องนึงที่เคยอ่าน ไม่รู้จะพ฿ดคำไหน ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 22-04-2021 11:08:10
ทรูมูฟ ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 20 เม็ก
https://www.youtube.com/watch?v=d5gLVMnJJL4 (https://www.youtube.com/watch?v=d5gLVMnJJL4)
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทนำ ( 29 / 08 /57 )
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 15-01-2022 03:16:59


 ปราบวนนิ้วมือจนช่องทางเริ่มหยาดเยิ้มชื้นแฉะและเจ้าของ

ช่องทางหอบกระเส่าไปกับการกระตุ้น
เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า ตูดนะ ไม่ใช่จิ๋ม ไม่มีน้ำหล่อลื่นหรอก
หัวข้อ: Re: เพลิงพ่าย บทที่ 8 (23 / 10 / 57 ) 3P Special
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 15-01-2022 03:53:12
“แด๊ดเป็นไบ รับก็ได้รุกก็เก่ง”
นี่ก็ผิด
ไบ (Bisexual) คือชอบทั้งผู้ชายผู้หญิง
ส่วนพวกที่รุกก็ได้ รับก็ได้ คือเกย์ แต่ไม่ใช่เกย์คิงหรือเกย์ควีน เขาเรียกว่า โบ้ท(Both)
หัวข้อ: Re: <<เพลิงพ่าย>>
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 23-12-2022 06:13:54
ขอบคุณค่ะ ^^