พิมพ์หน้านี้ - { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: March. Marcia ที่ 16-07-2014 11:19:23

หัวข้อ: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 16-07-2014 11:19:23
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ









บทนำ

ความวุ่นวายและการจราจรที่แออัดบนถนนบริเวณใกล้เคียงกับสนามบินสุวรรณภูมิในช่วงสายทำเอา ‘พันเอก กฤตภาส’ ถึงกับต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ร่างกำยำสมส่วนในชุดลำลองสะอาดตาขยับตัวเล็กน้อย ไล่อาการอ่อนล้าจากการนั่งเครื่องบินมาเป็นเวลานาน ก่อนใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาจะหันไปมองร่างเล็กกว่าข้างกายพลางยกแขนขึ้นไปรั้งร่างแน่งน้อยที่นั่งสัปหงกให้เอนกายลงมาซบที่แผ่นอกกว้าง

“อือ...พี่เอก” เสียงผะแผ่วของ ‘พระพาย กฤตภาส’ ดังขึ้นงัวเงีย ดวงตาคู่สวยปรือขึ้นเล็กน้อย และเมื่อเห็นว่าตัวเองถูกพี่ชายโอบเข้าหาตัวจึงได้แต่ยกยิ้ม ขยับตัวนอนราบลงกับตักแกร่งของพันเอกพร้อมกับปิดเปลือกตาลง

“ได้คืบจะเอาศอก เด็กคนนี้นี่” คนเป็นพี่ส่ายหน้าระอา ทว่ากลีบปากหยักกลับแต้มไปด้วยรอยยิ้มมุมปากอย่างนึกเอ็นดู

ใช้เวลาเพียงไม่นาน คนบนตักก็ผ่อนลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังจมลึกเข้าสู่ห้วงนิทรา พันเอกวางมือลงบนกลุ่มผมสีดำขลับ ลูบไล้ไปมาแผ่วเบา ก่อนจะตวัดสายตาไปยังร่างสูงโปร่งของลูกน้องคนสนิทที่เขาไว้ใจ

“ยุ”

“ครับคุณเอก”

“เรื่องที่สั่งเอาไว้ไปถึงไหนแล้ว” พันเอกทวงถามถึงงานที่เขาสั่งเอาไว้ตั้งแต่ช่วงที่ยังเรียนอยู่ต่างประเทศ

“อ่า...เรื่อง ‘คุณคนนั้น’ ใช่ไหมครับ” พายุเอ่ยขึ้น “วางใจได้เลยครับ ผมจัดการเรียบร้อยตามที่คุณเอกสั่งทุกอย่างแล้ว อาทิตย์หน้าคุณจะเห็นพวกเขาทั้งสองคนอยู่ที่บ้านแน่นอน” คำตอบของลูกน้องทำเอาชายหนุ่มขมวดคิ้ว ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์

“แล้วทำไมไม่เป็นวันพรุ่งนี้?”

“เอ่อ...พอดีผมเห็นว่าคุณเอกเพิ่งกลับมา กลัวว่าคุณจะยังล้าจากเรื่องที่อเมริกาอยู่เลยอยากให้พักผ่อนก่อนน่ะครับ” พายุยิ้มแหย หดคอลงเล็กน้อยเมื่อเห็นใบหน้าหงุดหงิดที่ฉายชัดออกมาของเจ้านายหนุ่ม

“ผมขอโทษ...”

“ช่างมันเถอะ ดีเหมือนกัน จะได้เคลียร์อะไรๆ ให้มันเรียบร้อยด้วย” ร่างสูงเอ่ยขึ้น ก้มลงมองน้องชายที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่บนตัก ดวงตาคมดุพินิจมองเค้าโครงเครื่องหน้าได้รูปของคนอายุน้อยกว่า ทั้งริมฝีปากสีอ่อนระเรื่อ ผิวแก้มสีนวลจางๆ ตัดกับสีผิวขาวสะอาดตา จมูกเล็กโด่งรั้นขึ้นเพียงเล็กน้อยแสดงออกถึงความดื้อดึง แพขนตาสีดำขลับและคิ้วที่มีเฉดสีเดียวกัน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประกอบขึ้นเป็นพระพายนั้นน่าทะนุถนอมยิ่งกว่าสิ่งใด

เป็นเหมือนอัญมณีล้ำค่าของตระกูล ตระกูลที่หลงเหลือทายาทเพียงแค่สองคน

เป็นอัญมณี...ที่ถูกทำให้มีตำหนิ

พระพายถูกทำให้มีตำหนิ ด้วยฝีมือของคนที่เขาให้ความไว้วางใจมากที่สุด

น้องชายของเขาถูกทำร้าย จากไอ้สารเลวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเรียกมันว่า ‘เพื่อน’

เพื่อนที่เขาจำชื่อของมันได้ขึ้นใจ ยังจดจำใบหน้าที่ส่งยิ้มเย้ยหยันมาให้ขณะลงมือย่ำยีพระพายอย่างเลือดเย็นได้ขึ้นสมอง

เขาจำมันได้ จำทุกเหตุการณ์ในครั้งอดีตได้หมดทุกวินาที และในวันนี้ วันที่เขามีทุกอย่าง ทั้งอำนาจ ทั้งเงินตรา

พันเอกจะใช้ทุกสิ่งที่มีเอาคืนไอ้ชาติชั่วนั่น เขาพาน้องชายกลับมาเพื่อเรียกคืนทุกสิ่งทุกอย่างและพรากสิ่งที่มันรักและหวงแหนมากที่สุดมา ให้มันได้ชดใช้ ให้มันได้รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดยามเห็นสิ่งล้ำค่าแตกสลายลงไปต่อหน้าต่อตา

ให้มันสาสมกัน...


หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 16-07-2014 11:43:17
สารบัญ

ตอนที่ ๑

ตอนที่ ๒

ตอนที่ ๓

ตอนที่ ๔

ตอนที่ ๕

ตอนที่ ๖

ตอนที่ ๗

ตอนที่ ๘

ตอนที่ ๙

ตอนที่ ๑๐

ตอนที่ ๑๑

ตอนที่ ๑๒

ตอนที่ ๑๓

ตอนที่ ๑๔

ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๗

ตอนที่ ๑๘

ตอนที่ ๑๙

ตอนที่ ๒๐

ตอนที่ ๒๑

ตอนที่ ๒๒

ตอนที่ ๒๓

ตอนที่ ๒๔

ตอนที่ ๒๕ [จบ]

หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: LYNN ที่ 16-07-2014 11:57:03
ยังไม่ได้อ่านนะคะมาแปะไว้ก่อน บอกเลยว่าเข้ามาแปะเพราะชื่อเรื่อง...
พอดีตอนนี้กำลังติดซีรีส์ที่มันเทวดาๆอยู่ค่ะ 55555555+
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 16-07-2014 12:08:05
ขอนอกเรื่องถามคนเขียนหน่อยครับ
ทำตัวหนังสือแบบ Cordia New ยังไงเหรอครับ ? ผมอยากทำเป็นบ้าง ^ ^
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 16-07-2014 12:25:50
ขอนอกเรื่องถามคนเขียนหน่อยครับ
ทำตัวหนังสือแบบ Cordia New ยังไงเหรอครับ ? ผมอยากทำเป็นบ้าง ^ ^

เมื่อพิมพ์นิยายมาลงแล้วให้เลือกที่แถบเครื่องมือ 'แบบตัวอักษร' ด้านบนค่ะ สมมมิเราเลือก courier โค้ดก็จะขึ้นเป็น >> [font=courier]...ข้อความ...[/font] << ให้เปลี่ยน courier เป็นตัวอักษรที่ต้องการค่ะ อย่างเช่นเราจะเปลี่ยนเป็น Cordia New ก็วางชื่อฟอนต์ลงไปแทนได้เลยค่ะ จะได้ >> [font=Cordia New]...ข้อความ...[/font] << แบบนี้จ้า ^^
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 16-07-2014 12:58:51
ดราม่ากระจาย



น่าติดตามคร้าบ
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 16-07-2014 13:16:27
ชอบดราม่า  เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก ติดตามนะ

พ่อแม่นายเอกกับพระเอก ตายพร้อมกันหรือเปล่านะ
หัวข้อ: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา] - 11/08/57 CHAPTER 02
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 11-08-2014 10:09:11
ตอนที่ ๑


1 อาทิตย์ต่อมา

บนถนนสายหลักในเวลาเกือบเที่ยงคืนปรากฏยานพาหนะสี่ล้อคันหนึ่งที่แล่นด้วยความเร็วคงที่สม่ำเสมอ ภายในรถคันหรูมีร่างสูงโปร่งของ ‘นาวา ชนกันต์’ และร่างเล็กบอบบางของนะโมผู้เป็นน้องชายนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง สองพี่น้องนั่งกุมมือกันเอาไว้แน่น วิวทิวทัศน์ข้างทางที่ไม่คุ้นเคยยิ่งทำให้หัวใจสองดวงว้าวุ่นเป็นกังวล ใบหน้าหวานของนะโมงอง้ำพลางกวาดสายตามองบรรยากาศโดยรอบด้วยความรู้สึกอึดอัด ในขณะที่ผู้เป็นพี่ยังคงเก็บอาการหวาดหวั่นเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

“พี่วา นะกลัว” ร่างเล็กเอ่ยบอกพี่ชายด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น นาวาหันหน้าไปมองน้องชายเพียงคนเดียวก่อนจะบีบมือเล็กเอาไว้แล้วเอ่ยปลอบน้องด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“กลัวอะไรกันหือ? เรากำลังจะมีที่อยู่ใหม่ พี่กำลังจะได้งานใหม่ นะเองก็กำลังจะได้เรียน ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัวเลย”

“โธ่พี่วา พี่ไว้ใจคุณพันเอกอะไรนั่นเหรอ เขาเป็นใครมาจากไหนเราก็ไม่รู้ หน้าตาก็ไม่เคยเห็น อยู่ๆ มาบอกว่าอยากได้คนทำงานที่บ้านแบบนี้จะให้ไว้ใจได้ยังไงล่ะ” คนเป็นน้องพูดพร้อมกับขดตัวเข้าสู่อ้อมกอดของนาวาอย่างต้องการหาที่พึ่ง นาวายกมือโอบร่างเล็กเข้าสู่อ้อมอก เขาลอบถอนหายใจพลางตอบคำถามของนะโมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“เรามีทางเลือกไม่มากหรอกนะ ถ้าไม่รับข้อเสนอของคุณพันเอก เราจะไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน นะอย่าลืมสิว่าพี่มีเงินเก็บไม่มากพอที่จะหาห้องเช่าดีๆ ให้เราอยู่ได้ อีกอย่าง แม่วรรณท่านก็พูดเองว่าคนในตระกูลนี้ไว้ใจได้ เขาดูแลเด็กๆ มาตั้งแต่สร้างที่นี่ขึ้นใหม่ๆ เลยด้วยซ้ำ”

“แต่...”

“จะให้พี่ปฏิเสธเขาก็น่าเกลียดนะนะโม ถ้าไม่ทำงานกับคุณเอกเราจะไปอยู่ไหนล่ะ อีกอย่างนะต้องเรียนหนังสือด้วย ถ้าทำงานกับเขาพี่ก็จะมีเงินมากพอส่งนะเรียนไง ไม่อยากเรียนแล้วเหรอ หืม?” นาวายกเรื่องเรียนขึ้นมาอ้าง รู้ดีว่าน้องชายอยากเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นมากแค่ไหน และมันก็ได้ผล นะโมเงียบลงไปทันทีหลังจากจบประโยคนั้น คนตัวเล็กกว่ากระชับกอดร่างของพี่ชายแน่นอย่างหวงแหน เสียงเล็กเอื้อนเอ่ยขึ้นบางเบาจนแทบจะจับใจความไม่ได้ หากแต่นาวากลับได้ยินมันเต็มสองหู

“แล้วงานที่เราต้องทำคืออะไร ไม่ใช่งานผิดกฎหมายใช่ไหม”

“เพ้อเจ้อนะเราน่ะ ก็คงงานทั่วๆ ไปนั่นแหละ งานบ้าน ทำอาหาร ทำความสะอาด ทำสวน อะไรทำนองนี้มั้ง อย่าคิดมากเลยน่า นอนพักเถอะ ถึงแล้วพี่จะปลุก” นาวาเอ่ยขึ้นพลางดันร่างของน้องชายให้ขยับนอนลงบนตัก ไม่นานเด็กหนุ่มก็หลับลงไปด้วยความเหนื่อยล้า ในขณะที่รถยังคงแล่นไปตามถนนที่ทอดยาวไปไกลสุดลูกหูลูกตา จุดหมายปลายทางของการเดินทางครั้งนี้ก็คงหนีไม่พ้น ‘บ้านกฤตภาส’ ... บ้านของคนที่ยื่นข้อเสนอให้กับนาวาเมื่อหลายเดือนก่อนแลกกับอนาคตของเขาและน้องชาย

เนื่องจากบ้านเด็กกำพร้าที่พวกเขาทั้งคู่อาศัยอยู่ มีกฎเอาไว้ว่าจะรับเฉพาะเด็กกำพร้าที่อายุไม่เกินสิบแปดปีเพียงเท่านั้น เพราะเหตุนี้ทั้งนาวาและนะโมที่มีอายุเกินจึงต้องเร่งหาที่อยู่ใหม่ ลำพังตัวนาวาเองก็มีเงินเก็บเพียงน้อยนิด แม้จะเช่าห้องอยู่ได้แต่ก็คงอยู่ได้เพียงไม่นาน งานที่ทำอยู่ก็ได้เงินไม่มากพอจะแบ่งจ่ายอะไรหลายๆอย่าง อีกทั้งเขายังอยากให้น้องชายได้เรียนให้จบชั้นมัธยมและต่อไปจนถึงระดับปริญญาตรี นาวาอยากให้น้องชายได้ในสิ่งที่เขาไม่ได้ ได้เรียน ได้กิน ได้มีบ้าน มีที่นอนดีๆ แบบที่คนอื่นมี

ใช่ว่าตัวเขาจะไว้ใจคนแปลกหน้า แต่เพราะแม่วรรณซึ่งคนดูแลบ้านนภาวัลย์เองก็เอ่ยว่าตระกูลกฤตภาสนั้นคอยให้ความช่วยเหลือบ้านเด็กกำพร้าที่เขาอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งใหม่ๆ แม้จะมีเหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงหลายสิบปีมานี้ แต่คนของกฤตภาสก็ยังคงดูแลเด็กๆ ในบ้านนภาวัลย์อยู่เสมอ

และเพราะแม่วรรณบอกกับเขาว่าพวกกฤตภาสนั้นไว้ใจได้ เป็นเหมือนผู้มีพระคุณ นาวาจึงไม่ลังเลที่จะตอบตกลงทันทีที่ลูกน้องของพันเอกเดินเข้ามายื่นข้อเสนอให้

ชีวิตของคนที่สูญเสียครอบครัวอย่างเขา มันไม่มีทางเดินชีวิตให้เลือกมากมายนักหรอก

“ถึงแล้วครับคุณนาวา”

เสียงของคนขับรถดังขึ้นเรียกสติสัมปชัญญะของร่างโปร่งให้หวนคืน นาวาปลุกน้องชายก่อนจะเปิดประตูรถ ช่วงขาเพรียวก้าวลงมาหยุดยืนอยู่บนพื้น ตามด้วยร่างเล็กของอีกคนที่ยืนโงนเงนงัวเงียพลางอ้าปากหาวหวอดๆ ก่อนจะชะงักกับภาพที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้า

สิ่งแรกที่ทั้งคู่มองเห็นคือบ้านหลังใหญ่โตโอ่อ่าน่าเกรงขาม ความงดงามของสถาปัตยกรรมบ่งบอกถึงฐานะของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี นะโมอ้าปากค้าง นึกทึ่งกับความใหญ่โตตรงหน้า ในขณะที่นาวาทำเพียงแค่ยืนทำหน้าราบเรียบไร้อารมณ์ ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้น แต่เขาไม่อยากจะแสดงอาการอะไรมากมายนัก

“เดินเข้าไปในบ้านได้เลยครับ คุณเอกรอพวกคุณอยู่ ส่วนข้าวของเครื่องใช้เดี๋ยวผมจะให้คนมายกขึ้นไปบนห้องให้เอง ตามสบายนะครับ” เสียงของคนขับรถคนเดิมพูดขึ้น นาวาพยักหน้ารับพร้อมกับส่งยิ้มอย่างมีไมตรีจิตไปให้ ก่อนจะคว้าข้อมือของน้องชาย จูงร่างเล็กเข้าไปในบ้านทันทีเพราะไม่อยากให้เจ้าบ้านต้องรอนาน

ทันทีที่เข้ามาภายในก็มีหญิงสาวคนหนึ่งเดินยิ้มแย้มเข้ามาหา ก่อนจะเดินนำพวกเขาไปหาผู้เป็นนาย นาวาและนะโมเดินตามเธอไปอย่างเงียบๆ ไม่นานพวกเขาก็เดินมาถึงส่วนของห้องนั่งเล่นที่มีพื้นที่กว้างขวาง หญิงสาวผายมือไปยังโซฟาตัวยาวตรงข้ามกับชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่อย่างเงียบๆ

“คุณเอกคะ คุณนาวากับคุณนะโมมาถึงแล้วค่ะ” หญิงสาวบอกกับผู้เป็นเจ้านาย ทันทีที่จบประโยค หนังสือพิมพ์ก็ค่อยๆ ถูกพับเก็บและถูกวางลงบนโต๊ะในเวลาต่อมา ภาพที่เห็นทำเอาลมหายใจของนาวาขาดห้วง ร่างแกร่งกำยำของบุรุษตรงหน้าให้ความรู้สึกน่าหวั่นเกรงจนเขาต้องกระชับมือที่จับอยู่กับมือของนะโมเอาไว้แน่นด้วยความหวาดหวั่น

แต่ถึงอย่างนั้น ชายหนุ่มก็ยังมีสติมากพอที่จะส่งยิ้มน้อยๆ ไปให้และทักทายพันเอกด้วยน้ำเสียงนอบน้อม

“เอ่อ...สวัสดีครับคุณพันเอก” นาวาพูดขึ้น ก้มหัวลงเล็กน้อยและยกมือไหว้คนตรงหน้า ในขณะที่ร่างสูงจ้องใบหน้าขาวซีดอย่างคนขาดสารอาหารของนาวานิ่ง ก่อนจะเบนสายตาไปยังร่างเล็กของนะโมพลางกระตุกยิ้ม พันเอกจ้องมองนะโมอยู่เนิ่นนานด้วยสายตาที่นาวาอ่านไม่ออก ทว่ารอยยิ้มนั้นกลับทำให้เขารู้สึกหวาดหวั่นอยู่ในใจ

“ขอโทษที่ไปรับมาดึกๆ ดื่นๆ พอดีฉันเพิ่งจะเคลียร์งานเสร็จน่ะ ไม่ว่ากันนะ” พันเอกเอ่ยขึ้น นาวาส่ายหน้าเป็นพัลวันก่อนจะตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว

“ไม่เป็นไรครับ ดึกขนาดไหนผมก็รอได้”

“อืม”

“คือ...ผมอยากจะขอบคุณที่คุณให้โอกาส แล้วก็ขอบคุณที่รับผมกับน้องเข้ามาอยู่ในความดูแล ขอบคุณมากๆ นะครับ ถ้าหากคุณอยากให้ผมทำอะไรให้ ผมทำให้ได้ทุกอย่างที่คุณต้องการ” นาวาว่าพลางยกมือไหว้อีกครั้ง แต่กลับถูกอีกฝ่ายโบกไม้โบกมือให้เขาลดมือลง

“เลิกไหว้เถอะ กับแค่เด็กกำพร้าคนสองคนมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักหรอก ฉันกับน้องชายเพิ่งกลับมาจากอเมริกา อะไรหลายๆ อย่างมันก็วุ่นวายไปหมด มีคนมาช่วยทำงานเพิ่มมันก็ดีแล้ว”

“ครับ...”

“ดึกมากแล้ว ไปนอนเถอะไป เดี๋ยวมินตราจะพานายสองคนขึ้นไปดูห้องพักด้านบน ขาดเหลืออะไรก็บอกเธอ เดี๋ยวเธอจะจัดการให้” พันเอกเอ่ยขึ้นก่อนจะยกกาแฟที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจิบ นาวารับคำพร้อมกับค้อมหัวลงเบาๆ อีกครั้ง เรียกรอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาได้เป็นอย่างดี

“ครับคุณพันเอก”

“เรียกเอกเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องเรียกชื่อจริงขนาดนั้นหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น นาวาพาดวงตากลมขึ้นไปสบตากับดวงตาคมเข้มดุดันของอีกฝ่ายเล็กน้อยก่อนจะหลบตาพันเอกอย่างรวดเร็ว

“ครับ...คุณเอก”

“อืม แยกย้ายกันขึ้นไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องงานกันทีหลัง” ร่างสูงสั่งเสียงราบเรียบก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้แก่ร่างเล็กที่อยู่เยื้องไปด้านหลังของนาวา คนถูกมองสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มกลับไปให้พันเอกเบาๆ ตามมารยาท จากนั้นจึงกระตุกแขนเรียวของพี่ชายพร้อมกับอ้อนเสียงหวาน

“ไปกันเถอะพี่วา นะอยากอาบน้ำ ง่วง”

“อืม...ไปสิ เอ่อ...ฝันดีนะครับคุณเอก” นาวาเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินตามสาวใช้ไปเมื่อถูกประมุขของบ้านโบกไม้โบกมือเป็นเชิงไล่ คล้อยหลังการเผชิญหน้ากับร่างสูง ชายหนุ่มก็ได้แต่ลอบถอนหายใจเพื่อระบายความอึดอัด ใบหน้าขาวซีดหันไปมองน้องชายที่กำลังตื่นเต้นกับความหรูหราของบ้านหลังโตแล้วก็ได้แต่อมยิ้ม

“พี่มินตราครับ ผมถามอะไรได้รึเปล่า” นะโมพูดขึ้น เรียกให้สาวใช้ใบหน้าสวยหวานหันกลับมามองพร้อมกับยกยิ้ม

“เรียกมีนเฉยๆ ก็ได้ค่ะคุณนะโม ว่าแต่จะถามอะไรคะ”

“เอ่อ...คุณพันเอกเขาอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอครับ” เด็กหนุ่มถามขึ้น นาวาหันไปเอ็ดน้องชายเสียงเบาที่เสียมารยาทก่อนจะยิ้มแหยๆ กลีบปากได้รูปเอ่ยขอโทษที่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของเจ้าของบ้าน ซึ่งมินตราก็ทำเพียงแค่ยิ้มกลับมาก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะคุณวา ไม่ใช่คำถามร้ายแรงอะไร เมื่อก่อนตอนมีนยังเด็กๆ ที่นี่ก็มีสมาชิกพร้อมหน้าพร้อมตากันนั่นแหละค่ะ มีคุณผู้หญิง คุณท่าน คุณพันเอก แล้วก็คุณพระพายน้องชายของคุณเอกเขา อ้อ...แล้วก็มีคุณเทียน น้องชายอีกคนของคุณพันเอกด้วย” มินตราเอ่ยขึ้นขณะเดินนำสองร่างขึ้นบันไดไปยังชั้นสองของตัวบ้าน

“แต่เมื่อหลายสิบปีก่อน คุณท่านกับคุณหญิงก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หลังจากนั้นคุณๆ ทั้งสองก็ไปอยู่กับญาติที่อเมริกา คุณเทียนเองก็ออกไปอยู่กับน้าปาน...แม่ของคุณเขาน่ะค่ะ”

“เอ๋?”

“จะว่ายังไงดีล่ะคะ คือคุณเทียนเขาเป็นน้องชายต่างแม่ของคุณเอกน่ะค่ะ พอแม่คุณเทียนแต่งงานใหม่และย้ายออกไป คุณเทียนก็ตามออกไปด้วย บ้านหลังนี้เลยเหมือนร้างไปเป็นสิบปี มีแค่พวกแม่บ้านพ่อบ้านเก่าแก่กับคนทำความสะอาดคอยมาดู จนคุณๆ เขากลับมาอยู่เป็นจริงเป็นจังเพราะคุณเอกถูกส่งให้มาคุมบริษัทที่นี่เมื่ออาทิตย์ก่อนเนี่ยแหละค่ะ ทำใจหน่อยนะคะ บ้านหลังนี้ร้างคนอยู่ไปนานมันเลยยังไม่เข้าที่เข้าทางเท่าไหร่”

“อ่า...ครับ”

“จริงๆ ที่นี่มีแค่คุณเอกกับคุณพายเท่านั้นแหละค่ะที่อยู่ ส่วนมีนและคนใช้คนอื่นๆ จะพักอยู่ที่เรือนด้านหลังแทน หลังบ้านมีต้นมะม่วงด้วยนะคะ ว่างๆ ไปปีนเก็บมะม่วงได้ค่ะ กำลังดกเลยเชียว” มินตราพูดติดตลกพร้อมกับนำนาวาและนะโมมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนห้องหนึ่ง หญิงสาวเปิดประตูให้ก่อนจะผายมือเข้าไปด้านในโดยที่ใบหน้ายังคงเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม

“ขาดเหลืออะไรกดเลขศูนย์ที่โทรศัพท์ข้างหัวเตียงแล้วเรียกมีนได้ตลอดนะคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว มีนขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ คุณๆ จะได้พักผ่อนเสียที” หญิงสาวเอ่ยขึ้นและทำท่าจะเดินจากไป หากแต่ก็ถูกนาวาคว้าแขนขาวเอาไว้ได้ก่อน

“คะ?”

“เอ่อ...ทำไมเราไม่ได้พักที่เรือนด้านหลังแบบพวกคุณมีนล่ะครับ นี่มันห้องนอนบนบ้านใหญ่นี่” นาวาเอ่ยขึ้นทันทีที่รู้ว่าตนจะได้นอนที่ไหน

“พักที่นี่น่ะดีแล้วค่ะ บ้านหลังนี้ใหญ่เกินกว่าจะอยู่กันแค่สองคน มีคุณกับคุณนะโมเพิ่มมาอีกคงทำให้มันแคบๆ ลงไปบ้าง”

“เอ่อ ฮะๆ ครับๆ ยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณมีนมากนะครับ ผมไม่รบกวนแล้วดีกว่า ราตรีสวัสดิ์นะครับ” นาวาเอ่ยขึ้นก่อนจะปล่อยให้หญิงสาวได้เดินจากไป เมื่อลับร่างของสาวใช้ไปแล้วสองพี่น้องก็เดินเข้าไปภายในห้อง ก่อนที่นะโมจะอุทานออกมาเมื่อเห็นห้องนอนใหญ่เต็มตา

“โห พี่วา นี่คือห้องเราจริงๆ เหรอ ใหญ่มากเลยอ่ะ!” เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยความอึ้ง นาวาเองก็อึ้งไม่ต่างกันนัก ตั้งแต่สูญเสียบ้านและครอบครัว พวกเขาทั้งคู่ก็ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับห้องนอนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเช่นนี้อีกเลย นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่สองพี่น้องจะได้นอนหลับบนที่นอนดีๆ อย่างที่ใฝ่ฝันมาตลอด ร่างโปร่งหันไปมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของคนเป็นน้องที่กำลังเดินสำรวจเฟอร์นิเจอร์ไปทั่วห้องแล้วก็ได้แต่อมยิ้มตาม

ขอแค่นะโมมีความสุขและมีชีวิตที่ดี แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว

และแน่นอน ชายหนุ่มไม่ได้เคลือบแคลงถึงความง่ายดายในสิ่งที่ตนได้มา ไม่ได้ฉุกคิดถึงสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น ไม่ได้เอะใจเลยแม้แต่น้อยว่าเพราะเหตุใดพวกเขาถึงได้ความเป็นอยู่ที่ดีขนาดนี้มาได้โดยง่าย

นาวา ชนกันต์ คงลืมคำกล่าวที่ว่า

‘ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่จะได้มาง่ายๆ โดยไร้ซึ่งข้อแลกเปลี่ยน’

ไม่มี…



ท่ามกลางความมืดที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณของห้องนอนกว้าง ร่างโปร่งของนาวาลืมตาโพลงจ้องมองเพดานห้องที่ต้องแสงไฟจากด้านนอกให้เห็นเพียงเลือนราง โสตประสาทและความนึกคิดทั้งหมดจมจ่อมอยู่กับการตัดสินใจของตน คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวให้เขาได้เครียดเล่นๆ

พันเอกเป็นคนยังไง?

เขาทำถูกหรือเปล่าที่ตอบรับความช่วยเหลือของผู้ชายคนนั้น?

หรือแม้แต่ความคิดที่ว่าหลังจากนี้ในอนาคตชีวิตของเขาจะเป็นยังไงต่อไป ทุกสิ่งทุกอย่างประเดประดังเข้ามาในหัวเสียจนนาวาไม่สามารถข่มตาลงได้

แต่พอเหลือบมองร่างเล็กที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างกายแล้วก็ได้แต่จุดยิ้มขึ้นที่ริมฝีปากบาง ความเครียดและความวิตกกังวลทั้งหมดเจือจางลงจนแทบจะหายเป็นปลิดทิ้ง นะโมเป็นเทวดาตัวน้อยๆ ในชีวิตของเขา เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้นาวายังคงต่อสู้อยู่บนโลกที่แสนโหดร้ายใบนี้ อยู่เพื่อปกป้องแก้วตาดวงใจของเขาให้พ้นภัย อยู่เพื่อรอวันที่จะได้เห็นนะโมมีความสุขและมีชีวิตที่ดี

แต่ไม่มีใครล่วงรู้ถึงอนาคต ไม่มีมนุษย์คนไหนรู้ว่าอะไรกำลังรออยู่ข้างหน้า เช่นเดียวกับตัวนาวาและนะโมเอง ทั้งคู่ไม่มีวันรู้...ว่าความสุขที่พวกเขาเฝ้าถวิลหานั้น กว่าจะได้มันมาต้องแลกด้วยความเจ็บปวดเจียนตายมากแค่ไหน กว่าจะถึงวันที่ทุกอย่างจบลง หัวใจดวงน้อยๆ ของพวกเขาทั้งคู่จะขาดวิ่นเกินเยียวยามากเพียงใด

ไม่มีใครรู้...ว่าความงดงามของสรรพสิ่งรอบกายนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรไปจากเหยื่อที่คอยหลอกล่อให้สกุณาตัวน้อยสองตัวหลงบินเข้ามาอยู่ยังกรงทองแห่งนี้ด้วยความเต็มใจ

เงินตรา อนาคต สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่กับดักที่ถูกวางเอาไว้ก็เท่านั้น



รุ่งเช้า

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เข้ามา”

เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามมาด้วยเสียงอนุญาตของคนที่อยู่ด้านในทำให้นาวาค่อยๆเปิดประตูห้องทำงานก่อนจะพาตัวเองเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างสูง พันเอกเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย กลีบปากสีธรรมชาติขยับเอ่ยเป็นคำพูดในขณะที่สายตามองสำรวจนาวาตั้งแต่หัวจรดเท้า

“นายเองเหรอ มีธุระอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อ...ผมจะมาคุยเรื่องงานที่คุณจะให้ผมทำน่ะครับ ไม่ทราบว่าคุณเอกสะดวกคุยตอนนี้หรือเปล่า” นาวาเอ่ยขึ้นเสียงนิ่ง คำตอบของร่างโปร่งเรียกรอยยิ้มบางเบาให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าได้รูป ก่อนที่พันเอกจะปิดแฟ้มงานและวางปากกาลงกับโต๊ะ

“อืม คุยได้ ว่ามาสิ” ชายหนุ่มเอนหลังลงกับเก้าอี้ทำงานตัวโตก่อนจะพยักเพยิดให้นาวาเปิดประเด็น

“คุณจะให้ผมทำงานอะไรครับ ถ้างานบ้านและงานครัวผมทำได้ แต่งานเอกสารผมเกรงว่าจะไม่ไหว” นาวาพูดขึ้นอย่างไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา ร่างโปร่งถือวิสาสะนั่งลงกับเก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะทำงานของอีกคน พันเอกขมวดคิ้วครู่หนึ่งกับประโยคที่เพิ่งจบลงก่อนจะเอ่ยถามนาวาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ทำไมถึงทำงานเอกสารไม่ได้”

“ผม...เรียนจบแค่ชั้นมัธยมเท่านั้นครับ ตอนนี้กำลังเรียนมหาลัยที่รามคำแหงอยู่เลย ให้ทำงานเอกสารคงไม่ได้ ผมไม่มีความสามารถมากพอ ต้องขอโทษด้วยครับ” ร่างโปร่งตอบคำถามเสียงแผ่วเบา พอคิดมาถึงตรงนี้แล้วก็ได้แต่หลบดวงตาคมดุของพันเอก ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังมาจากคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“งานของนายไม่จำเป็นต้องใช้สมองขนาดนั้นหรอก”

“ครับ?”

“ฉันบอกว่างานของนายไม่จำเป็นต้องใช้สมองมากนักหรอก” พันเอกพูดขึ้นพร้อมกับเปิดลิ้นชักพลางหยิบแฟ้มบางอย่างขึ้นมา เขายื่นมันให้กับร่างโปร่งตรงหน้า นาวารับแฟ้มมาเปิดอย่างรวดเร็วก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจเมื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้าเป็นรูปถ่ายของผู้ชายคนหนึ่ง

“ราม กลทีบ์?” ร่างโปร่งอ่านชื่อของคนในรูปด้วยความฉงน ก่อนจะเงยหน้ามองพันเอกด้วยความไม่เข้าใจ คนถูกมองแสยะยิ้มกลับมาให้จนนาวาต้องหลบตาก่อนจะถามเสียงอ้อมแอ้ม

“งานของผม เกี่ยวอะไรกับคุณรามคนนี้หรือเปล่าครับ”

“แล้วนายคิดว่ายังไงล่ะ”

“เอ่อ...ผม ผมไม่รู้ คุณเขาเป็นใครเหรอครับ”

“อย่าเรียกชื่อมันเพราะๆ ให้ฉันได้ยิน ถ้าไม่อยากทำให้ฉันหงุดหงิด” พันเอกพูดเสียงดุดันด้วยความหงุดหงิด ทำเอานาวาต้องรีบขอโทษเสียแทบไม่ทัน ร่างโปร่งปิดปากเงียบเมื่อใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าฉายแววไม่พอใจ ดวงตาคมดุวาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัว น้ำเสียงแข็งกร้าวที่พูดกับเขาเมื่อครู่ทำเอานาวาแทบนั่งไม่ติดที่ด้วยความกลัว

“ผมขอโทษครับคุณเอก ผมไม่ทราบว่าคุณกับเขา...เหมือนจะไม่ลงรอยกัน”

“ฉันเกลียดมัน” พันเอกสวนขึ้นแทบจะทันที ทำเอานาวาถึงกับต้องรีบปิดปากฉับเพราะกลัวพูดอะไรไม่เข้าหูคนตรงหน้าเข้า

“อย่างที่คิดนั่นแหละ งานของนายเกี่ยวกับไอ้สารเลวนั่น” ร่างสูงพูดขึ้นหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมบรรยากาศโดยรอบชั่วระยะเวลาหนึ่ง นาวาก้มลงมองรูปในมืออีกครั้ง อดทึ่งกับรูปลักษณ์ของผู้ชายที่ชื่อรามคนนี้ไม่ได้ จมูกโด่งเป็นสันรับกับโครงหน้าได้รูป ดวงตาคมดุดันมีเสน่ห์น่ามอง รูปร่างแกร่งกำยำพาลให้รู้สึกว่าคนในรูปนั้นทรงอำนาจ ขนาดเห็นเพียงแค่รูปถ่ายผู้ชายด้วยกันอย่างนาวายังเผลอเคลิ้ม แน่นอนว่าตัวจริงผู้ชายคนนี้คงมีหญิงสาวล้อมหน้าล้อมหลังไม่น้อยเป็นแน่

“มันแอบรักนายอยู่”

“อะไรนะ?”  ใบหน้าขาวซีดเงยขึ้นไปทวนประโยคของพันเอกด้วยความตกใจระคนแปลกใจ เหมือนเมื่อสักครู่นาวาจะได้ยินพันเอกพูดว่ารามแอบรักเขาอยู่...ใช่ไหมนะ

“ฉันบอกว่าไอ้รามมันแอบรักนายอยู่ ไม่รู้หรอกเหรอ” พันเอกทวนประโยคนั้นให้ นาวาตาเบิกกว้างด้วยความตกใจก่อนจะส่ายหน้าไปมา หัวใจดวงน้อยที่ฝังอยู่บนอกข้างซ้ายเต้นระรัวเมื่อเจอสายตาเย็นเยียบของคนตรงหน้า

“ไม่ ไม่รู้ครับ เขาจะมารักผมได้ยังไง เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ” นาวาพูดขึ้นเร็วๆพลางทิ้งแฟ้มประวัติของรามลงบนโต๊ะทำงานแทบจะในทันที ฝ่ายเจ้าของโต๊ะทำเพียงแค่แค่นยิ้มอย่างนึกสมเพช ก่อนจะโต้ตอบประโยคของนาวากลับไป

“ฉันเองก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันรักนายไปได้ยังไง แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ งานของนายก็คือทำให้มันทุรนทุรายอย่างถึงที่สุด ให้มันตายห่าไปเลยยิ่งดี!"

“หมายความว่ายังไง คุณจะให้ผมทำอะไร” นาวาถามด้วยความหวั่นใจพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันจนดูยุ่งเหยิง ในขณะที่ดวงตากลมจ้องมองโครงหน้าของพันเอกด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม

ลางสังหรณ์ของนาวาบอกว่าสิ่งที่พันเอกจะให้เขาทำมันไม่ใช่เรื่องดี

และลางสังหรณ์ของเขามักถูกเสมอ...

“ไม่ต้องกลัวไปหรอกน่า งานของนายน่ะง่ายนิดเดียว” พันเอกเอ่ยบอกกับร่างโปร่งพลางลุกเดินออกมาหานาวาที่ตอนนี้ก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ ใบหน้าขาวที่ซีดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วซีดลงมากไปอีกจนดูน่าสงสาร ขายาวก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้าประชิดกับร่างโปร่งของนาวาที่ดูเล็กลงถนัดตาเมื่อเทียบกับร่างแกร่งกำยำของพันเอก สองมือคว้าร่างของนาวาเอาไว้ในอุ้งมือหนาก่อนจะออกแรงดึงให้คนตัวเล็กกว่าลอยหวือเข้ามาประชิดกับอกกว้าง นาวาสะดุ้งสุดตัว ออกปากร้องเสียงหลงพลางยกมือขึ้นยันอกแกร่งของพันเอกเอาไว้

“คุณเอก!”

“หึ เป็นเพราะตัวหอมๆ หน้าหวานๆ แบบนี้หรือเปล่าที่ทำเอาไอ้สารเลวนั่นมันหลงหัวปักหัวปำน่ะ หืม” ร่างสูงกระซิบข้างใบหูขาวเสียงแผ่วเบาทำเอาอีกคนขนลุกซู่ นาวาตัวสั่นขึ้นกับการคุกคามที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนจะเอ่ยปรามพันเอกเสียงสั่น

“คุณเอก อย่า...ปล่อยผม”

“ตอบคำถามของฉันมาก่อน นายไม่รู้จักอะไรกับไอ้รามมันแน่ๆ ใช่ไหม” พันเอกถามข้างใบหูเล็ก นาวาพยักหน้าพลางขืนตัวออกเล็กน้อย แต่ก็โดนอีกคนดึงร่างกลับเข้าหาดังเดิม

“อย่าโกหกฉันนะนาวา”

“ไม่ครับ ผมไม่รู้จักเขาจริงๆนะ ให้สาบานได้” นาวายืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น พันเอกได้ฟังก็ยกยิ้มขึ้นอย่างชอบใจก่อนจะเชยคางเล็กของอีกคนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับดวงตาคมดุของเขา ร่างสูงก้มหน้าลงไปพูดกับนาวาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ก็ดี ไม่รู้จักอะไรกันก็ดี อะไรๆ จะได้ง่ายขึ้น”

“คุณพูดอะไร”

“ขนาดนี้ก็น่าจะรู้ได้แล้วนะพ่อคนสวย คิดว่าฉันลงทุนรับเอาเด็กกำพร้าหน้าโง่สองคนมาเลี้ยงทำไมถ้ามันใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้ คิดว่าฉันใจดีงั้นเหรอ หึ! คิดผิดแล้วนาวา ที่นายได้รับเศษเงินจากฉันเพราะนายดันบังเอิญเป็นคนที่ไอ้นั่นมันหลงหัวปักหัวปำไง และฉันก็จะใช้นายทำให้ไอ้ชั่วนั่นกระอักเลือด เอาให้มันตายห่าไปเลยก็ยิ่งดี!! ในเมื่อมันเลวขนาดกล้าทำร้ายคนที่ฉันรัก ฉันก็จะกระทืบมันให้จมดินด้วยคนที่มันรักนักหนาเหมือนกัน!!!”

“คุณ!!!!!”


หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: anuruk97 ที่ 14-08-2014 14:20:31
สนุกมาก :mew3:
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-08-2014 20:26:17
เอกใจร้ายมาก
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: cavalli ที่ 14-08-2014 23:50:43
 o13
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 23-08-2014 02:08:08
ทำไมพันเอกมันชั่วร้ายเลวทรามเกินมนุษย์งี้อ่ะ? เลวสุดๆ
น่าเอาm16ยิงให้พรุนจริงๆเลย สงสารนาวา ไม่น่าสวยจนรามชอบเลย
เฮ้อ~ เศร้าแท้ แอบรำคาญณะโมเบาๆ ทำไมเด็กขนาดนี้นะ?
ไม่มีณะโมนาวาก็ไม่ต้องซวยแบบนี้แล้ว เฮ้อ สู้ต่อไปนะ มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: snow_blizzard2343 ที่ 23-08-2014 18:52:12
อ้ากกก สนุกๆ มาต่อเรวๆนะ > < เปนกำลังใจให้คะ   :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 23-08-2014 20:09:27
กดเข้ามาอ่านเพราะเห็นชื่อเดียวกับ http://www.youtube.com/watch?v=9YuO6np8Ma8 เลย
สนุกดีค่ะ รอตอนต่อไปน้า  :m4:
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-09-2014 19:45:38
ตอนที่ ๒


 “ที่นายได้รับเศษเงินจากฉันเพราะนายดันบังเอิญเป็นคนที่ไอ้นั่นมันหลงหัวปักหัวปำไง และฉันก็จะใช้นายทำให้ไอ้ชั่วนั่นกระอักเลือด เอาให้มันตายห่าไปเลยก็ยิ่งดี!! ในเมื่อมันเลวขนาดกล้าทำร้ายคนที่ฉันรัก ฉันก็จะกระทืบมันให้จมดินด้วยคนที่มันรักนักหนาเหมือนกัน!!!”

“คุณ!!!!!”

พลั่ก!

“โอ๊ย!” เสียงประท้วงของนาวาดังขึ้นเมื่อพันเอกใช้ความได้เปรียบทางด้านร่างกายและพละกำลังผลักดันอย่างแรงเสียจนคนตัวเล็กกว่ากระแทกเข้ากับผนังห้อง แผ่นหลังบางกระทบเข้ากับความแข็งของผนังจนเจ็บร้าวไปทั่ว แต่นั่นเทียบไม่ได้เลยกับความตกใจระคนหวาดกลัวที่ก่อตัวขึ้นภายในใจ ร่างโปร่งจ้องดวงตาวาวโรจน์ของพันเอกพลางเม้มปากแน่นก่อนจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก

“ปล่อยผมนะคุณเอก อึ่ก...คุณ...หลอกผม!”

“เปล่าเลยนาวา นายมันโง่ให้ฉันหลอกเอง!” พันเอกพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน

ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว...ตั้งแต่เมื่อคืนที่เขาต้องระงับอารมณ์ไม่กระโจนเข้าไปฉีกทึ้งร่างของนาวาให้แหลกเป็นชิ้นๆ แค่เห็นใบหน้าขาวซีดและร่างกายซูบผอมของคนคนนี้ ใบหน้าของคนที่พันเอกเกลียดนักเกลียดหนาก็ลอยขึ้นมาซ้อนทับจนทำให้สติแทบจะขาดผึง

เขารอวันนี้มาเกือบทั้งชีวิต รอมาเนิ่นนานตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน เฝ้ารอวันที่คนสารเลวอย่าง ‘ราม กลทีบ์’ มีจุดอ่อน! และจุดอ่อนของมันก็มาอยู่ตรงหน้าของพันเอกแล้วในตอนนี้ ได้มาอย่างง่ายดายจนแทบจะไม่ต้องลงแรงอะไรเลยแม้แต่น้อย

“ความจริงฉันอยากจะฆ่านายกับน้องชายที่ของนายให้ตายๆ ไปซะ จากนั้นก็ส่งร่างไร้วิญญาณของนายไปให้ไอ้รามมันดูเล่น คงจะสนุกน่าดูนายว่างั้นไหม” พันเอกพูดขึ้นทำเอาคนฟังตัวแข็งทื่อ ดวงตากลมสีเข้มจ้องใบหน้าหล่อเหลาก่อนจะพยายามขืนตัวเองออกจากพันธนาการ สิ่งเดียวที่คิดออกในตอนนี้คือต้องพานะโมออกจากที่นี่ ต้องหนีจากคนคนนี้

แต่นาวาก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น แน่นอนว่าหากก้าวเข้ามาอยู่ที่นี่แล้ว นั่นก็เท่ากับว่าตอนนี้เขาตกอยู่ใต้อำนาจของพันเอกอย่างเต็มตัว ต่อให้อยากหนีหายไปมากแค่ไหนก็คงทำไม่ได้ ดูจากรูปการแล้ว ผู้ชายคนนี้คงไม่ยอมให้เขากับน้องชายหลุดมือไปได้ง่ายๆ เป็นแน่

นี่สินะ ผลของการโลภอย่างไม่คิดหน้าคิดหลัง ช่างโง่ดีแท้นาวาเอ๋ย

“นะ...น้องผม อย่าทำอะไรน้องผมเลย ผมขอร้อง จะทำอะไรกับผมก็ได้ แต่ปล่อยน้องผมไป” ร่างโปร่งเอ่ยขอร้องเสียงแผ่ว ใจนึกห่วงนะโมขึ้นมาไม่ได้ แต่พันเอกกลับทำเพียงแค่ยกยิ้ม ไม่ได้แยแสกับคำขอของคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย

“ฉันปล่อยน้องนายไปแน่...” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเรียกรอยยิ้มจากนาวาได้เป็นอย่างดี กลีบปากอิ่มสีซีดกำลังจะเอ่ยคำขอบคุณไปให้ หากแต่ประโยคต่อมาของพันเอกกลับทำให้นาวาต้องกรีดร้องออกมาสุดเสียง

“แต่ต้องหลังจากที่ฉันใช้งานทั้งนายแล้วก็ไอ้เด็กนะโมนั่นจนคุ้มซะก่อน”

“คุณเอก! คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ ผมไม่ทำ ผมขอยกเลิกข้อตกลง ผมจะพาน้องออกไปจากที่นี่ ปล่อย!!”

“ช้าไปแล้วนาวา นายพลาดตั้งแต่ตอบรับข้อเสนอของฉันแล้วเด็กน้อย” พันเอกเอ่ยพลางยกยิ้มชอบใจ นาวาคำรามในลำคอเสียงกร้าวพลางออกแรงดิ้นเต็มกำลัง หากแต่ร่างผอมบางไร้เรี่ยวแรงอย่างเขาหรือจะสู้กายแกร่งกำยำของคนตรงหน้าได้ สุดท้ายคนตัวบางจึงได้แต่หอบหายใจอยู่ภายใต้พันธนาการแข็งแรงของพันเอก ในขณะที่ดวงตากลมจดจ้องไปยังใบหน้าหล่อเหลาด้วยความไม่พอใจ

“เมื่อไหร่ที่คุณเผลอ ผมจะหนีออกไปจากที่นี่” คนเสียเปรียบเอ่ยขึ้น พันเอกได้ฟังก็แสยะยิ้ม ก่อนจะเบียดร่างแกร่งเข้าหาคนตรงหน้าพลางเคลื่อนใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปประชิดกับโครงหน้าขาวซีดของอีกคน

“ถ้าคิดว่าหนีพ้นก็ลองดูสิ ลองหนีไปตอนนี้เลยก็ได้ หนีให้พ้นนะ เพราะถ้าฉันเจอพวกนายเมื่อไหร่ น้องชายของนายได้ลูกน้องฉันเป็นผัวแน่”

“คุณ!”

“เลือกเอา ยอมเป็นหมากให้ฉันใช้แก้แค้นไอ้ราม แลกกับการศึกษาของเด็กนั่น กับหนีฉันหัวซุกหัวซุนไปตลอดชีวิต แบบไหนมันดีกว่ากัน จะหนีไปขอความช่วยเหลือจากไอ้เวรนั่นก็ได้นะ แต่กว่าจะหลุดไปถึงมือมันได้ นายกับน้องคงเหลือแค่วิญญาณ” พันเอกเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด

นาวาเม้มปากแน่น ดวงตาคู่สวยแดงก่ำขณะจ้องโครงหน้าได้รูปของพันเอกเขม็ง สุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ เพราะในหัวไม่สามารถคิดหาทางออกไปจากกับดักนี้ได้เลยแม้แต่น้อย

“ก็ได้ ผมจะยอมทำในสิ่งที่คุณต้องการ”

“หึ เลือกได้ดี”

“แต่คุณต้องสัญญากับผมว่าจะไม่แตะต้องนะโม คุณจะทำอะไรกับผมก็ได้ แต่นะโมจะต้องไม่รู้และไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขาต้องได้เรียนจนจบปริญญาตรี แค่นี้คุณให้ผมได้ไหม” นาวาต่อรอง เรียกรอยยิ้มหยันจากคนตรงหน้าให้ผุดขึ้นที่ริมฝีปาก พันเอกกวาดสายตามองไปทั่วใบหน้าซูบผอมก่อนจะยกยิ้มเย็นเยียบกลับไปให้

“ได้ ตราบใดที่นายไม่พยศ ไม่ทำให้ฉันหงุดหงิด เด็กนั่นก็จะปลอดภัย เอาเป็นว่าเรื่องเรียนฉันจะจัดการให้ก็แล้วกัน”

“ไม่ เรื่องนี้ผมจัดการเอง ผมอยากให้นะโมย้ายออกไปอยู่ข้างนอก อยู่โรงเรียนประจำก็ได้” อยู่ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ หากยังให้น้องชายอยู่ที่นี่มันคงไม่ปลอดภัยเเน่

“ทำไม ไม่ไว้ใจฉันงั้นเหรอ จะบอกอะไรให้นะนาวา ต่อให้เด็กนั่นไปไกลถึงเมืองนอก ถ้าฉันอยากจะทำอะไรมันขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่รอดหรอก อย่ามาเล่นสงครามประสาทกับฉัน นายไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งนั้น อยู่เงียบๆ และรอทำหน้าที่ของตัวเองก็พอ” พันเอกพูดขึ้นอย่างรู้ทัน ทำเอาอีกคนต้องมองสบตากับชายหนุ่มอย่างสิ้นหวัง นาวาไม่พูดอะไรอีกเมื่อรับรู้ว่าต่อรองอะไรไม่ได้ ใบหน้าขาวก้มลงจนคางชิดอกก่อนจะเม้มปากแน่น นึกน้อยใจในโชคชะตาและความโง่เง่าของตนอยู่ที่ต้องมาประสบพบเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้

ทางด้านพันเอก เมื่อเห็นอีกคนก้มหน้าก้มตาไม่ปริปากก็หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ ชายหนุ่มผละกายแกร่งออกจากร่างโปร่งของนาวา ก่อนจะดึงแขนเล็กและเหวี่ยงอีกคนขึ้นไปนอนราบอยู่บนโต๊ะทำงาน นาวาร้องเสียงหลงเมื่อมือแกร่งเอื้อมออกมาดึงรั้งกางเกงขายาวของเขาออกอย่างแรงจนมันร่นลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าเล็ก เรียวขาขาวทั้งสองข้างหุบเข้าหากันอัตโนมัติแต่กลับถูกมือแกร่งกระชากมันออกจากกันจนอ้ากว้าง

“คุณเอก ทำอะไร ปล่อยผมนะ!” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก ตอนนี้ท่อนล่างของนาวามีเพียงชั้นในสีขาวที่ทำหน้าที่ปิดกั้นร่างกายของเขาจากสายตาคมดุของพันเอกเอาไว้ สองมือเล็กดันแผ่นอกกว้างของอีกคนแทบไม่ทันเมื่อพันเอกก้าวขาเข้ามาแทรกตัวอยู่ตรงกลางระหว่างขาขาว

“อย่าดิ้นน่า แค่อยากส่งของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ไปให้ไอ้เวรนั่นสักหน่อย” พันเอกยียวนพลางกดสะโพกสอบเข้าถูเน้นไปที่หว่างขาของนาวาอย่างยั่วเย้า

“อ๊ะ!...ยะ...หยุดนะ”

“ไอ้รามมันคงใจแทบขาดที่เห็นคนที่มันรักมานอนอ้าขาให้ฉันแบบนี้” พันเอกเอ่ยก่อนจะคว้าหมับเข้าที่คางเล็กของคนใต้ร่าง มือแกร่งออกแรงรั้งใบหน้าของนาวาให้เงยขึ้นด้านบน ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นกล้องวงจรปิดติดอยู่ทั้งสี่มุมของห้องทำงาน กลีบปากเล็กขบเม้มเข้าหากันก่อนจะร้องออกมาเบาๆ เมื่อพันเอกล้วงมือเข้าไปในชั้นในสีขาวพลางลูบไล้ช่องทางด้านหลังของนาวาอย่างจาบจ้วง

“มองกล้องหน่อยสิ”

“อ๊ะ! ค...คุณเอก อย่า” นาวาใช้สองแขนกรีดทึ้งร่างของพันเอกด้วยความกลัว หัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ พันเอกแลบลิ้นเลียริมฝีปากขณะมองใบหน้าขาวของคนใต้ร่าง นิ้วเรียวสอดจ้วงเข้าไปในจีบพับสีอ่อนของนาวาอย่างรวดเร็วทำเอาอีกคนสะท้านเฮือก ช่องทางอ่อนนุ่มบีบรัดต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้ามาภายใน ความไม่คุ้นชินส่งผลให้ความรู้สึกเจ็บแสบตีตื้นขึ้นมาจนน้ำตาเอ่อคลอที่ดวงตาคู่สวย

“อึ่ก คุณ...ฮึก เจ็บ” นาวาเอ่ยเสียงแหบแห้งก่อนจะต้องอ้าปากค้างเมื่อพันเอกแทรกนิ้วที่สองตามเข้ามาติดๆ ใบหน้าหล่อเหลาเครียดขึงกับความฝืดเคืองด้านล่างก่อนจะสบถเสียงดุดันสั่นพร่า

“แน่นเป็นบ้า” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางดึงดันกดนิ้วเข้าไปในร่างของนาวาจนสุดความยาว คนโดนรุกล้ำร้องเสียงหลง ช่องทางอ่อนนุ่มบีบรัดนิ้วเรียวยาวของพันเอกถี่ๆ ความเจ็บปวดจุกเสียดแล่นพล่าน สองขาขาวสั่นระริกในขณะที่ใบหน้าขาวซีดเหยเกด้วยความเจ็บปวด

พันเอกจ้องร่างโปร่งที่นอนหอบมองเขาด้วยความสิ้นหวังระคนเจ็บปวดด้วยสายตาเร่าร้อน ร่างสูงเริ่มขยับนิ้วกระแทกเข้าออกแรงๆ อย่างไม่ปราณี เสียงนิ้วมือกระทบกับร่างกายของนาวาดังขึ้นแผ่วเบาก่อนจะเพิ่มระดับขึ้นเรื่อยๆ เมื่อพันเอกเร่งมือกระแทกนิ้วเข้าออกอย่างรุนแรง

ปึ่ก!

“อึ่ก! อ๊ะ!!”

“นั่นแหละนาวา อย่างนั้น” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าใบหน้าหวานเชิดรั้น นาวาหลับตาแน่นพลางกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง ในขณะที่คนตัวโตกว่ายังคงส่งนิ้วเข้าออกร่างของเขาไม่หยุด

“คุณเอก พอเถอะ ผมเจ็บ” ชายหนุ่มร้องขออย่างทรมาน มันไม่ได้มีความรู้สึกวูบวาบหวามไหวเลยแม้แต่น้อย กลับกัน...นิ้วของร่างสูงตรงหน้านี้กำลังสร้างความเจ็บปวดให้กับนาวาเสียมากกว่า แค่นิ้วของคนคนนี้ยังเจ็บเสียดเจียนขาดใจขนาดนี้ หากต้องมารองรับตัวตนของพันเอกเล่า มันจะเจ็บปวดขนาดไหน

ไม่รู้ นาวาไม่รู้เลย...

“รัดมันแน่นๆ สิ แล้วฉันจะยอมปล่อย” พันเอกเคลื่อนตัวต่ำลงมากระซิบชิดริมฝีปากสีซีด ลิ้นร้อนแลบออกมาไล้เลียกลีบปากของคนใต้ร่าง นาวาไม่รีรอ รีบทำตามคำสั่งของพันเอกทันทีเพราะอยากหลุดจากสถานการณ์ในตอนนี้ ร่างโปร่งเกร็งกายจนช่องทางอุ่นร้อนขยับรัดนิ้วของร่างสูงทันที พันเอกถึงกับครางต่ำในลำคออย่างชอบใจ ชายหนุ่มยกยิ้มขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะยอมถอนนิ้วออกจากร่างของนาวาและผละกายออกห่าง ร่างสูงจ้องนาวาที่นอนหอบอยู่บนโต๊ะทำงานด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยชัยชนะ

“จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วจะไปไหนก็ไป” ประมุขของบ้านพูดขึ้นเสียงราบเรียบ สองมือเอื้อมไปหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดมือของตนเองก่อนจะก้าวเดินทำท่าว่าจะออกจากห้องทำงานไป แต่ในขณะที่พันเอกกำลังจะเปิดประตู ใบหน้าหล่อเหลาก็หันมาหานาวาที่กำลังสวมกางเกงพลางเอ่ยเสียงราบเรียบ

“ถ้าอยากให้น้องปลอดภัย อย่าหือกับฉัน อย่าแม้แต่จะคิดทำเรื่องวุ่นวาย ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” ชายหนุ่มทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็เดินจากไป ทิ้งร่างนาวาที่กำลังยืนขาสั่นระริกเอาไว้เพียงลำพัง



23.30 น.

สถานเริงรมย์ขนาดย่อมแห่งหนึ่งเปิดให้บริการมานานกว่าสามชั่วโมงแล้ว บรรยากาศโดยรอบครึกครื้นเหมือนทุกๆ วัน ผู้คนมากหน้าหลายตาวนเวียนขวักไขว่ไปมาตามโต๊ะต่างๆ เหล่าพนักงานและนักร้องนักเต้นต่างก็ทำหน้าที่กันอย่างขยันขันแข็ง ทุกอย่างยังคงปกติเหมือนอย่างที่เคยเป็น หากแต่มันกลับไม่ได้ช่วยดับอารมณ์ของคนอย่าง ‘ราม กลทีบ์’ ได้เลยแม้แต่น้อย

ทุกๆ เดือน รามจะขึ้นมาที่กรุงเทพเพื่อมานั่งดื่มเหล้าที่นี่ เหตุผลก็เพียงเพราะอยากมานั่งมองใครบางคน ใครบางคนที่ทำเอาคนอย่างเขาถึงกับไปไม่เป็นเพียงแค่ได้เห็นใบหน้าขาวซีด ร่างกายซูบผอมซ่อนเสน่ห์ที่เจ้าตัวมีเอาไว้ไม่มิด ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอไผลไปกับคนที่ไม่รู้จักไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หากแต่พอรู้ตัวอีกที สายตาของเขาก็มักจะคอยมองหาและตามสืบเรื่องราวประวัติของนาวาไปเสียแล้ว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นายหัวหนุ่มเจ้าของเกาะนาคาที่มีคนมาให้เลือกมากหน้าหลายตา ท้ายที่สุดกลับหลงรักเด็กกำพร้าจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าบริเวณใกล้เคียงไปเสียได้

น่าตลกสิ้นดี

และสิ่งที่ทำให้รามหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในขณะนี้ ก็คงเป็นเพราะในวันนี้เขาไม่เห็นร่างขาวของนาวาเหมือนอย่างเคย พอสอบถามจากคนที่นี่ก็ได้คำตอบว่านาวาและน้องชายย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้ว ไม่มีใครรู้ว่าสองพี่น้องไปอยู่ที่ไหน รู้เพียงแค่ว่านาวาได้งานกับนักธุรกิจคนหนึ่งเพียงเท่านั้น

สังหรณ์บางอย่างบอกกับรามว่าการหายไปของนาวามันผิดปกติ ในอกของนายหัวหนุ่มร้อนรุ่ม ขณะที่มือแกร่งยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างไม่กลัวฤทธิ์บาดคอของมันเลยแม้แต่น้อย ดวงตาสีเข้มกวาดมองบรรยากาศโดยรอบที่ปราศจากร่างของนาวาก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับร่างโปร่งของใครคนหนึ่งเข้า

และแน่นอน รามจำคนคนนี้ได้ดี ใบหน้าหวานกับรูปร่างสูงโปร่งที่เขาเห็นมาตั้งแต่วัยเยาว์ ผิวขาวนวลกับริมฝีปากสีระเรื่อ ท่าทีทะเล้นแฝงความดุดันดื้อดึงเอาไว้ ส่งผลให้นักท่องราตรีทั้งชายและหญิงที่เดินผ่านไปผ่านมามองเหลียวหลังกันอยู่ไม่น้อย ใบหน้าแบบนี้ ลักษณะท่าทางและเสน่ห์ดึงดูดผู้คนรอบข้างเช่นนี้ ไม่ผิดแน่...

ผู้ชายคนนั้นคือ ‘พายุ กฤตภาส’ หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของพันเอก เด็กกำพร้าที่ตระกูลกฤตภาสรับไปอุปการะเลี้ยงดู

เป็นเหมือนหมารับใช้ของพวกมัน

และแน่นอนว่ามันจะต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญ การที่คนของพันเอกอย่างพายุจะมาป้วนเปี้ยนอยู่ในสถานที่แบบนี้ มันต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น

สองพี่น้องนั่นกลับมาจากอเมริกาแล้วอย่างนั้นหรือ?

“สวัสดีครับคุณราม พอจะสละเวลาคุยกับผมสักหน่อยได้ไหม” ร่างโปร่งของพายุเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ รามสาบานว่าถ้าทำได้เขาอยากจะเขวี้ยงขวดเหล้าใส่คนตรงหน้าซะเดี๋ยวนั้น ความหงุดหงิดของร่างสูงปะทุขึ้นตั้งแต่เห็นว่าอีกคนก้าวเดินมาหาด้วยท่าทีมั่นคงพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ รอยยิ้มการค้าผุดขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวพูดจบ ก่อนจะถือวิสาสะทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับเขาอย่างรวดเร็ว รามสบถกับตัวเองทันทีพร้อมกับมองผู้มาใหม่ตาขวาง

“ให้เวลาสิบนาที แล้วหลังจากนั้นก็ช่วยไสหัวออกไปก่อนที่ฉันจะยิงนายทิ้ง” รามเอ่ยกับอีกคนเสียงแข็งกร้าว พายุแค่นยิ้มอย่างนึกสมเพชคนตรงหน้า ก่อนจะโยนซองสีน้ำตาลในมือไปให้ชายหนุ่มที่นั่งจ้องเขาด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

“คุณพันเอกฝากของขวัญมาให้คุณน่ะ” พายุเอ่ยขึ้น นายหัวหนุ่มขมวดคิ้วเข้าหากันทันทีก่อนจะมองซองตรงหน้าด้วยความไม่ไว้ใจ

“จะไม่รับก็ได้นะครับ แต่คุณอาจจะต้องมานั่งเสียใจทีหลังก็ได้” พายุเอ่ยขึ้นพลางสบดวงตาทรงอำนาจของรามอย่างท้าทาย ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากอย่างเหนือกว่า ก่อนจะถือวิสาสะหยิบแก้วเหล้าของอีกฝ่ายขึ้นมาดื่มจนหมดแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และก่อนจะเดินจากไป ร่างสูงโปร่งก็ทิ้งคำพูดเอาไว้ให้รามได้ร้อนใจเล่นๆ

มันเป็นคำพูด...ที่ทำเอาคนฟังถึงกับสบถออกมาอย่างควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้

คำพูด...ที่ทำให้คนอย่างรามถึงกับต้องเขวี้ยงแก้วลงกับพื้นจนแตกละเอียดด้วยโทสะทั้งหมดที่มี

“คุณพันเอกฝากมาบอกด้วยนะครับว่า คุณนาวา ชนกันต์คนนั้นน่ะ...เด็ดอย่าบอกใครเชียวล่ะ”

เพล้ง!

“ไอ้ระยำ!!!!!”

เป็นพันเอกจริงๆ เป็นมันจริงๆ มันกลับมา กลับมาพร้อมกับการท้าทายเขาด้วยการแตะคนที่เขาเฝ้าถนอมมานานนับปี

มือแกร่งคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมากดเบอร์โทรออกอย่างรวดเร็ว รอเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับและส่งเสียงหัวเราะให้รามได้แค้นใจจนต้องกัดฟันกรอด

[ว่าไง เห็นของขวัญที่กูฝากพายุส่งไปให้มึงแล้วสินะ]

“ถ้ามึงแตะนาวาแม้แต่ปลายเล็บนะพันเอก ถ้ามึงทำ...กูจะส่งมึงไปลงนรกตามพ่อแม่มึงแน่ กูขอสาบาน!” รามเอ่ยเสียงกร้าว พันเอกส่งคำเย้ยหยันกลับมาก่อนจะยั่วโมโหรามด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจ

[พูดแบบนี้แสดงว่ายังไม่เห็นของที่ส่งไปให้งั้นสิ ไม่คิดจะเปิดดูหน่อยเหรอ จะได้รู้ว่ากูแตะนาวาของมึงมากกว่าปลายเล็บแล้วซะอีก]

“!!!”

[ถ้าจะพูดให้ถูก...ก็คงต้องบอกว่ากูกดจนมิดนิ้วเลยแหละว่ะ]

“ไอ้!!!!!!”

[หึ ผิดที่มึงเองนั่นแหละที่มาแตะคนที่กูรักก่อน สำนึกบาปของตัวเองแล้วก็รอดูตอนนาวาเป็นของกูได้เลย กูจะทำจนกว่ามันจะขาดใจตาย ทำจนกว่ากูจะพอใจ ถึงตอนนั้นมึงก็รอรับศพมันได้เลยแล้วกัน!!!!]

“ไอ้สัส!! ไอ้เลว!!! แม่ง...โว้ยยยยยยย!!!!” ร่างสูงสบถออกมาอย่างร้อนรนเมื่อพันเอกตัดสายไป ชายหนุ่มกำหมัดแน่นก่อนจะคว้าซองสีน้ำตาลบนโต๊ะขึ้นมาถือเอาไว้ รามลุกขึ้นก้าวเดินออกจากผับอย่างรวดเร็ว ร่างสูงหันไปสั่งลูกน้องที่เดินตามมาด้วยน้ำเสียงดุดัน

“โทรหารุ่งฟ้ากับสิงห์ บอกให้ขึ้นมาที่กรุงเทพเดี๋ยวนี้ ส่งคนไปดูที่บ้านไอ้พันเอกด้วย ดูว่านาวาอยูที่นั่นไหม ฉันต้องการคำตอบภายในวันพรุ่งนี้ ไป!”

“ครับนายหัว” เสียงตอบรับหนักแน่นดังขึ้นก่อนที่ลูกน้องของเขาจะแยกตัวออกไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย รามเดินขึ้นรถของตัวเองอย่างรวดเร็วท่ามกลางสายตาหวั่นเกรงของคนรอบข้าง ชายหนุ่มกัดฟันแน่นขณะกระชากรถให้ออกตัวอย่างรวดเร็วตามอารมณ์ที่คุกรุ่นอยู่ภายในใจ

“มึงเริ่มเรื่องนี้เองนะพันเอก มึงเริ่มเอง อย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!!!!”


หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-09-2014 19:48:56
ตอนที่ ๓


เช้าวันใหม่มาเยือนบ้านกฤตภาสพร้อมกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญ พันเอกจ้องร่างสะบักสะบอมของคนที่ถูกลูกน้องเขาลากมาคุกเข่าอยู่แทบเท้าด้วยสายตาราบเรียบ โชคยังดีที่ตอนนี้ยังไม่มีใครตื่น เพราะเขายังไม่อยากตอบคำถามน้องหรือใครใดๆ ทั้งสิ้น

“ผมเห็นด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้านมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ” พายุเอ่ยขึ้น ข้างกายมี ‘จักรกฤต’ คู่หูตัวสูงยืนสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ

“คนของไอ้รามมันใช่ไหม” ประมุขของบ้านเอ่ยถาม ทว่าคนถูกถามกลับเอาแต่ก้มหน้า ผ่อนลมหายใจฟึดฟัดเนื่องจากถูกกำปั้นอัดเข้าที่จมูกอยู่หลายครา จนพายุต้องตอบแทน

“ครับ”

“อืม...ไม่ต้องเช็คก็คงรู้ๆ กันอยู่” พันเอกเอ่ยขึ้น ก่อนจะแค่นยิ้ม พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายส่งลูกน้องมาที่บ้านเขาทำไม

“กลับไปบอกมันว่าคนที่มันรักอยู่กับฉัน นอนหลับอยู่บนห้อง คงเหนื่อยมากเพราะเมื่อคืนหมอนั่นไม่ได้นอนทั้งคืน ฉันสานต่อจากรูปที่ส่งไปให้เมื่อวานจนสลบคาอกไปตั้งแต่รุ่งสาง” ร่างสูงโป้ปดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะสั่งให้จักรและพายุถีบหัวมันออกจากบ้าน ยืนมองท้ายรถที่แล่นไปจากบริเวณจนลับสายตา

“จักร”

“ครับ”

“กันเด็กนะโมออกไปจากบ้าน พาไปจัดการเรื่องเอกสารและโรงเรียนพร้อมกับพระพาย ถ้าจะให้ดีฉันอยากให้สองคนนั้นอยู่ที่เดียวกัน แล้วขากลับก็ทำให้หลับให้ลึกที่สุด อย่าให้เรื่องพวกนี้หลุดไปให้เด็กมันรู้ เข้าใจที่สั่งใช่ไหม”

“ครับคุณเอก”

“ส่วนแกไอ้ยุ บอกให้คนของเราเตรียมตัวเอาไว้ เดี๋ยวอีกสักหน่อยไอ้เหี้ยนั่นก็คงจะบุกมาอาละวาด”

“ต้องใช้คนเยอะแค่ไหนครับ” พายุเอ่ยถาม บอดี้การ์ดของที่นี่ก็ใช่ว่าจะมีมากมาย ถ้าให้เทียบกับคนของทางนั้นแล้ว...จำนวนน้อยกว่าเป็นเท่าตัว

“ฝั่งนั้นได้ข่าวว่าคนเยอะเอาเรื่อง” พายุบ่นพึมพำ แต่ผู้เป็นนายกลับเหยียดยิ้ม

“เยอะแต่พวกกรรมกรกับคนหาปลาเท่านั้นแหละ ถ้าให้เทียบคนที่มีฝีมือจริงๆ น่ะไม่มีหรอก เอาเฉพาะคนที่เก่งจริงและมีแรงเยอะมาก็พอ”

“ครับ”

เมื่อลูกน้องคนสนิททั้งสองรับคำ ร่างสูงของพันเอกก็หมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านก่อนจะชะงักเมื่อเห็นนาวากับนะโมเดินลงมาจากชั้นบน ด้านหลังมีร่างแน่งน้อยของพระพายที่จ้องเขาด้วยแววตาเอาเรื่อง

“นะโม” คนถูกเรียกสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงทรงอำนาจ นาวาตวัดมองพันเอกด้วยสายตาหวาดระแวงก่อนจะขยับตัวเข้าไปรวบเอวน้องชายเอาไว้หลวมๆอย่างหวงแหน

“ค...ครับ คุณเอกมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”

“ไม่มี แค่จะบอกว่าให้รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันจะให้คนพาไปจัดการเรื่องเรียนพร้อมกับพระพาย รายนั้นเขาจะออกไปสมัครงานพอดี ส่วนนาย...จัดการตัวเองให้เรียบร้อยแล้วไปหาฉันที่ห้องทำงาน มีเอกสารให้ช่วยเรียงหน่อย” พันเอกสั่งยาวเหยียดก่อนจะยิ้มมุมปากเมื่อเห็นใบหน้าของนาวาซีดเผือดลง

“แต่ผมอยากไปดูโรงเรียนกับน้อง” นาวาทำทีสู้ ทุ่มเถียงกับประมุขของบ้าน เขาเป็นห่วงน้อง รวมถึงห่วงตัวเขาเอง มันไม่ปลอดภัย การอยู่ลำพังกับพันเอกนั้นไม่ปลอดภัย

“ผมขอไปกับน้...”

“ไม่ต้องห่วงหรอก น้องชายฉันดูแลน้องนายได้ดีแน่” พันเอกสวนขึ้นทั้งที่ร่างสูงโปร่งยังพูดไม่ทันจบประโยค ชายหนุ่มเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างกายซูบผอม ก่อนจะเอียงหน้าเข้าไปใกล้พลางกระซิบเสียงเย็นเยียบบางเบาข้างใบหูของคนตัวเล็กกว่า

“...เผลอๆ พระพายจะดูแลนะโมดีกว่าคนเป็นพี่ที่ไม่มีอะไรเลยอย่างนายด้วยซ้ำ”

กึก.

นาวาชะงัก ยืนเม้มปากแน่นขณะเลื่อนสายตาไปปะทะกับดวงตาคมดุของคนตัวสูง พันเอกไม่รอให้อีกคนโต้ตอบ ชายหนุ่มเดินผ่านร่างของสองพี่น้องขึ้นไปชั้นสองของบ้าน ก่อนจะสืบเท้าเข้าหาร่างขาวของพระพายที่ยืนทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ที่หัวบันได

“เรามีเรื่องต้องคุยกัน!” พระพายกระซิบเสียงดุเมื่อพี่ชายเดินเข้ามาใกล้ สองแขนเล็กยกขึ้นเกี่ยวรอบท่อนแขนกร่งของพันเอก ออกแรงดึงกึ่งกระชากให้พี่ชายตัวโตเดินตามเข้ามาในห้องนอนที่ตกแต่งอย่างเรียบหรู

“อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะพี่เอก สองคนนั้นเป็นใคร มาอยู่บ้านเราได้ยังไง มาตั้งแต่เมื่อไหร่!”

พันเอกถอนหายใจ มองสภาพของน้องชายตัวขาวที่ตายังบวมเป่ง ใบหน้าเจือแววสะลืมสะลือแล้วก็ได้แต่ปิดปากเงียบ

“พี่เอก! อย่าเงียบแบบนี้สิ” คนตัวเล็กกว่าแหวขึ้น ใบหน้าขึงขังดุดันทว่าไม่ได้มีความน่ากลัวเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนลูกแมวตัวอ้วนตากลมขนฟูกำลังแยกเขี้ยวขู่ฟ่อเสียมากกว่า

“แกคงไม่อยากฟังนักหรอก อย่ารู้เลย”

“อย่ามาเฉไฉ พี่คิดจะทำอะไรกันแน่ บอกผมมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” พระพายคาดคั้น ใบหน้าหวานที่เจ้าตัวได้เค้าโครงของมารดามาเต็มเปี่ยมฉายแววกังวล

พันเอกจ้องคนอายุน้อยกว่าที่ยืนทำหน้าบูดบึ้ง ก่อนจะลดระดับสายตาลงไปยังแสงวาววับที่ส่องประกายอยู่บนลำคอขาว ร่างสูงหลับตาลง ผ่อนลมหายใจหนักอึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ก่อนพระพายจะถามเขา เขาเองก็อยากจะถามอะไรบางอย่างกับน้องเหมือนกัน

“แล้วแกล่ะพาย ทำไมถึงยังเก็บของพรรคนั้นเอาไว้อีก”

“ข ของอะไร” ร่างเล็กละล่ำละลั่ก ตากลมหลุกหลิกขณะยกมือขึ้นขยุ้มคอเสื้อเอาไว้แน่น

“ของที่ห้อยคออยู่ อย่าคิดว่าพี่ไม่เห็นนะพาย...”

“...”

“ทำไมถึงยังเก็บเอาไว้ ลืมไปแล้วหรือไงว่าเจ้าของมันทำระยำอะไรเอาไว้บ้าง”

“ผม...”

“ลืมไปแล้วเหรอว่าที่ผ่านมาเราสองคนต้องเจออะไรบ้าง ทั้งๆ ที่มันชั่วขนาดนั้น ทำไมถึงยังไม่ตัดใจสักที” ร่างสูงเอ่ยเสียงราบเรียบ รั้งใบหน้าได้รูปขึ้นสบตากับคนเป็นพี่ด้วยแววตาวูบไหว

“พี่เอก เจ็บ” พระพายเริ่มท้วงเมื่อคนตรงหน้าลงแรงกับร่างของเขามากจนเกินความจำเป็น

“แกเจ็บ พี่ก็เจ็บ พี่เจ็บยิ่งกว่าที่เห็นน้องตัวเองถูกทำร้ายต่อหน้าแต่ทำอะไรไม่ได้”

พันเอกดึงร่างของพระพายมากอดเอาไว้แน่น ซบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก สองแขนกระชับแผ่นหลังบางเอาไว้อย่างหวงแหนก่อนจะกระซิบชิดผิวกายของคนเป็นน้อง

“เลิกอาลัยอาวรณ์มันสักทีพาย เลิกคิดถึงคนเลวๆ แบบนั้นได้แล้ว”

“ผม...”

“เห็นไหมว่ามันไม่ได้แคร์อะไรแกเลย พอมันได้ในสิ่งที่ต้องการมันก็ไป ทิ้งแกไว้ข้างหลัง ทิ้งให้เจ็บซ้ำๆ ทรมานซ้ำๆ ในขณะที่ตัวต้นเหตุมันเสือกไปรักไปชอบคนอื่น”

“...”

“ตัดใจสักทีพาย ตัดใจได้แล้ว เลิกรักมันได้แล้ว”

เลิกรักมันสักที

เขาจะได้ทรมานมันโดยไม่ต้องลังเลอะไรอีก

...



นาวายืนบีบมือตัวเองแน่นขณะมองแผ่นหลังของนะโมที่เดินขึ้นรถไปตามแรงจับจูงของคุณหนูคนเล็กของบ้าน ร่างสูงโปร่งสบตากับน้องชายของพันเอกพลางเม้มปากแน่น ในขณะที่พระพายเองก็ปั้นหน้าไม่ถูกกับสายตาของนาวาที่มองมาเช่นเดียวกัน

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลนะโมเป็นอย่างดี” พระพายบอกกับเขา ซ้ำยังส่งยิ้มบางเบากลับมาให้จนคนมองอดไม่ได้ต้องยิ้มตอบ

พวกเขาสองพี่น้องเพิ่งเจอกับพระพายวันนี้ น้องชายของพันเอกเป็นคนตัวเล็ก ผิวขาว หน้าหวานและดูใจดี แต่กระนั้นนาวาก็ยังไม่ไว้ใจ สิ่งที่เกิดขึ้นสอนให้เขารู้ว่าคนพวกนี้มีหน้ากากเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น

“ฝากน้องชายผมด้วยนะครับ ผมเหลือเขาแค่คนเดียวแล้ว” นาวาเอ่ยเสียงราบเรียบ ก้มหัวลงเล็กน้อยขณะมองร่างเล็กของพระพายที่กำลังก้าวขึ้นรถ ตามด้วยนะโมที่สิ่งยิ้มสดใสแล้วโบกมือไปมาอย่างอารมณ์ดี

“เดี๋ยวจะซื้อขนมมาฝากนะพี่” เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก ก่อนจะปิดประตูรถและหันไปคุยเจื้อยแจ้วกับพระพายกระทั่งรถเคลื่อนตัวออกไปจากบริเวณบ้าน

คนเป็นพี่ถอนหายใจหนักหน่วง ใบหน้าขาวฉายแววเป็นกังวล เขาห่วงน้อง อยากจะไปด้วยกัน อยากอยู่กับน้องตลอดเวลาแต่ก็ทำไม่ได้

“จะยืนมองฝุ่นมองควันอีกนานไหม งานน่ะจะทำรึเปล่า”

ยืนเหม่อได้เพียงไม่นาน เสียงทรงอำนาจของพันเอกก็ดังขึ้นแหวกม่านความคิดจนร่างโปร่งสะดุ้งโหยง นาวาหันกลับไปมองคนตัวสูงที่ยืนกอดอกมองมาที่เขาด้วยสายตาเย็นเยียบแล้วก็ได้แต่ข่มความกลัวเอาไว้ในใจ

“นำไปสิครับ” หลังจากบอกไปแบบนั้น สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือสายตาดุดันของคนตัวสูงกว่า ก่อนที่พันเอกจะหมุนกายเดินกลับเข้าไปในบ้าน ตรงดิ่งไปยังห้องทำงานและโยนเอกสารปึกใหญ่ลงตรงหน้า

ปึง!

“แยกเอกสารพวกนี้ตามวันเดือนปีแล้วก็เรียงลำดับตามตัวอักษร ไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าว”

นาวามองงานตรงหน้าก่อนจะช้อนดวงตาขึ้นมองใบหน้าสะใจของพันเอกแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เอกสารมากมายก่ายกองขนาดนี้ ต่อให้มีสี่ห้าคนก็คงไม่เสร็จภายในสองสามชั่วโมงอยู่ดี

“เฉยอยู่ทำไมล่ะ อย่าบอกนะว่าโง่ขนาดนับเลขไม่ถูก ท่องกอไก่ถึงฮอนกฮูกไม่ได้น่ะ” ร่างสูงไม่วายแขวะ

“ผมท่องได้” นาวาสวน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นภายในห้องทำงานและเริ่มคัดแยกเอกสารตามคำสั่งของประมุขของบ้านอย่างเงียบๆ

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายว่านอนสอนง่ายไม่มีทีท่าว่าจะสร้างความเดือดร้อน พันเอกจึงหันกลับไปทำงานของตัวเองบ้าง ร่างสูงกำยำก้าวเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนโต๊ะทำงาน หยิบแว่นตาสำหรับใส่เมื่อต้องใช้คอมเป็นเวลานานขึ้นมาสวมและเริ่มเคลียร์งานที่คั่งค้างอยู่เต็มโต๊ะ

ความเงียบงันปกคลุมไปทั่วบริเวณห้อง มีเพียงเสียงทำงานของเครื่องปรับอากาศที่ติดอยู่บนเพดาน เสียงหยิบจับกระดาษจากนาวา และเสียงแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ที่ถูกพันเอกรัวกดดังขึ้นเคล้าคลอกันไปมาอยู่ในโสตประสาทของคนทั้งคู่

เมื่อเวลาผ่านไปพักใหญ่ ร่างกายซูบผอมที่นั่งอยู่บนพื้นแข็งก็เริ่มประท้วง นาวารู้สึกไม่สบายตัว บั้นท้ายเจ็บแปลบในขณะที่สองขาสลับกันชาจนเขาต้องหอบเอางานขึ้นไปทำอยู่บนโซฟาตรงข้ามกับโต๊ะทำงานของพันเอก เจ้าของห้องทำเพียงแค่ละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ขึ้นมามองเพียงชั่วครู่ แสยะยิ้มในความโง่เขลาของนาวาที่เพิ่งจะนึกได้ว่าควรย้ายตัวเองไปนั่งให้สบายเสียตั้งแต่แรก ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานของตัวเอง ต่างคนต่างก็ง่วนอยู่กับงานของตัวเองอีกครั้ง

กระทั่งมีเสียงเอะอะโวยวายดังขึ้นเลือนรางด้านนอก ก่อนที่พายุจะเปิดประตูพรวดเข้ามาพลางเอ่ยกับผู้เป็นนายเสียงหอบ

“รามมาครับคุณเอก อาละวาดหาคุณวาอยู่ที่หน้าบ้าน”

-(มีต่อด้านล่างค่ะ)-
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-09-2014 20:01:12
“หึ” พันเอกแสยะยิ้ม ปรายตามองนาฬิกาตั้งโต๊ะก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “มาเร็วกว่าที่คิด”

“จะให้ทำยังไงต่อดีครับ” พายุเอ่ยถาม ร่างโปร่งหันไปมองนาวาที่นั่งนิ่งใบหน้าเครียดขึงบนโซฟาชั่วครู่ก่อนจะกลับมาสนใจพันเอกอีกครั้งเพื่อรับคำสั่ง

“จัดการมันซะ แต่อย่าให้ถึงตาย เดี๋ยวฉันจะเอาของสวยๆ งามๆ ไปให้มันดู”

“ครับ”

พายุรับคำก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง เมื่อประตูปิดลง ร่างสูงของพันเอกก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะย่างสามขุมเข้ามาหานาวาที่เพิ่งจะรู้ตัวว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย

“นั่นคุณจะทำอะไร...คุณเอก!” ร่างโปร่งแหวลั่นเมื่อพันเอกกวาดเอาเอกสารที่นาวาจัดเอาไว้ลงกับพื้น สองแขนคว้าหมับเข้าที่หัวไหล่เล็ก ออกแรงกดให้ร่างขาวซีดนอนราบลงไปกับโซฟาก่อนจะใช้มือแกร่งฉีกทึ้งเสื้อผ้าบนตัวของนาวาจนขาดวิ่น

แคว่กกก!

“อ๊ะ! คุณเอก ปล่อย!! หยุดนะ!!”

“ถึงเวลาทำหน้าที่แล้วพ่อคนสวย” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม ตรึงสองแขนของคนใต้ร่างเอาไว้เหนือหัวแล้วโถมกายทาบทับนาวาเต็มแรง กักกันให้ร่างเล็กกว่านอนนิ่งอยู่ภายใต้พันธนาการเหล็กที่แข็งแรงยิ่งกว่าหินผา

“มาระบายสีให้ผิวนายแล้วเอาไปอวดไอ้เวรนั่นกันดีกว่า อยากจะรู้นักว่าถ้าผิวขาวๆ มีรอยกัดรอยดูดประดับอยู่มันจะสวยแค่ไหน” ไม่พูดเปล่า พันเอกก้มลงครอบปากกับผิวเนื้อของนาวาอย่างรวดเร็ว ฟันคมขบเอาเนื้อหนังของคนใต้ร่างจนเจ้าตัวหลุดเสียงร้อง นาวาตัวสั่นงันงก ความรู้สึกเจ็บจี๊ดแล่นประปรายในขณะที่พันเอกยังคงแต้มรอยฟันและรอยดูดทั่วแผ่นอกของเขา

“โอ๊ย!” นาวาตาแดงก่ำ กลีบปากคู่สวยเม้มแน่นขณะกวาดสายตามองพันเอกที่มัวเมาอยู่กับการกัดเขาจนจมเขี้ยว ร่างโปร่งสะท้านไหวครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อริมฝีปากร้อนชื้นของอีกคนลากผ่านผิวกาย หยุดอยู่ที่หนึ่งแล้วตวัดลิ้นแลบไล้ก่อนจะกัดอย่างไม่คิดถนอม ตบท้ายด้วยการดูดดึงจนผิวช้ำชิดริมฝีปากได้รูปนั่น แล้วจึงย้ายไปฝังรอยแดงก่ำด้วยฟันคมที่ใหม่ ซ้ำไปซ้ำมา จากหน้าท้องแบบราบลามขึ้นไปถึงหัวไหล่มน ซอกคอขาวผ่อง และเคลื่อนริมฝีปากขึ้นมาถึงกลีบปากอวบอิ่มที่เม้มเข้าหากันจนแน่นสนิทของคนใต้ร่าง

ดวงตาคมดุจ้องลึกลงไปในแก้วตาคู่สวยที่ไหวระริก แววตาขลาดกลัวชอกช้ำฉายชัดเป็นประกายเจิดจ้า พันเอกแสยะยิ้ม แลบลิ้นเลียริมฝีปากราวกับคลั่งไคล้หื่นกระหายคนตรงหน้าเสียเต็มประดา ก่อนจะก้มลงฉกฉวยริมฝีปากอวบอิ่มของนาวาอย่างกระแทกกระทั้น กดแรงย้ำลึกและสอดแทรกปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากอุ่นร้อนของคนใต้ร่าง เกี่ยวรัดลิ้นเล็กของนาวาไปมา พัวพันอย่างเร่าร้อน แลกเปลี่ยนความดิบเถื่อนผ่านน้ำสีใส ก่อนจะใช้ฟันคมกัดลงบนกลีบปากของคนใต้ร่างจนได้กลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้ง

นาวานอนหอบ อ่อนระทดระทวยอยู่ใต้พันธนาการแกร่งของพันเอก ใบหน้าขาวขึ้นสีระเรื่อน่ามอง ดวงตาแดงก่ำฉ่ำน้ำ ร่างเกือบเปลือยพร่างพรายไปด้วยรอยขบกัดสีสด ริมฝีปากบวมเจ่อเคล้าสีแดงของเลือดที่มุมปาก ภาพตรงหน้าสร้างความพึงพอใจให้แก่คนมอง ประมุขของบ้านยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ช้อนร่างโปร่งขึ้นมาอยู่ในวงแขน ก้าวเดินไปเปิดประตูห้องก่อนจะพาร่างอ่อนแรงของคนตัวเล็กกว่าไปยังห้องรับแขกของบ้าน ที่ซึ่งใครอีกคนกำลังถูกลูกน้องของเขาเล่นงานจนลงไปนอนกองกับพื้น

“แฮ่ก ปล่อยกู!” เสียงสบถดังลั่นขึ้นเป็นอันดับแรก ตามมาตุบตับของหมัดที่กระทบกับร่างกาย เมื่อเดินไปถึง สิ่งแรกที่เห็นคือภาพที่ร่างสูงใหญ่กำยำของใครคนหนึ่งถูกลูกน้องของเขากดให้นอนคว่ำหน้าลงกับพื้น

พันเอกทรุดตัวลงบนโซฟาตัวยาวโดยมีร่างของนาวาอยู่บนตัก ทันทีที่อีกฝ่ายเห็นสภาพของนาวาเจ้าตัวก็สบถดังลั่น ขยับตัวดิ้นขลุกขลักหวังจะกระโจนเข้าหาพันเอกที่ตอนนี้ก้มลงดูดดึงผิวเนื้อบนลำคอของนาวาต่อหน้าต่อตา

“ไอ้เหี้ย! มึงมันเหี้ย! เขาไม่เกี่ยว นาวาไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย!”

“ไม่เกี่ยวกูก็ทำให้มันเกี่ยวได้ ยิ่งเห็นมึงทุรนทุรายกูยิ่งอยากให้มันเกี่ยวกว่านี้อีกว่ะ” พันเอกแสยะยิ้ม ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงของนาวาจนเจ้าตัวหวีดร้องเสียงหลง

“อ๊ะ ยะ อย่า!”

“ระยำ มึงหยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้ชาติชั่ว!” เสียงก่นด่าแข็งกร้าวดังขึ้นแทบจะในทันที พันเอกแค่นหัวเราะ สบตากับคนที่ถูกกระทืบอยู่เป็นระยะด้วยแววตาวาวโรจน์ มือข้างหนึ่งตรึงข้อมือของนาวาเอาไว้ ในขณะที่มืออีกข้างล้วงลึกผลุบหายเข้าไปในกางเกงของคนบนตัก

“คุณเอก ฮึก หยุด หยุดนะ อ๊ะ!” นาวาครางฮือ ความอับอายแล่นปราดจนร่างทั้งร่างสะท้านวาบ พันเอกกระทำการอุกอาจกับร่างกายของเขาท่ามกลางสายตาหลายคู่ บีบเค้นเคล้าคลึงใจกลางความรู้สึกด้วยมือแกร่ง ก่อนจะเคลื่อนไปลูบไล้ช่องทางด้านหลังอย่างยั่วเย้า ทำเอาคนที่ไวต่อความรู้สึกสะดุ้งจนตัวโยน ขยับตัวขัดขืนไปมาทว่ากลับไร้ประโยชน์

“คุณ อึ่ก ได้โปรด พอที...นะครับ” นาวาเอียงหน้าเข้าหาร่างสูงที่เขาซุกซบ นัยน์ตาแดงก่ำเว้าวอน ส่งสายตาอ้อนขอให้พันเอกเลิกทำอะไรน่าอับอาย ริมฝีปากสีระเรื่ออ้าเล็กน้อย พ่นลมหายใจเข้าออกถี่ๆ จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่สันกรามของพันเอก ขยับไปมาหวังให้ประมุขของบ้านพึงพอใจและยอมฟังคำขอ

“พอแล้ว ปล่อยผมเถอะ...นะ”

พันเอกหัวเราะเย้ยหยัน มองอาการคลอเคลียยั่วยวนของคนบนตักก่อนจะหันไปมองคนที่ถูกลูกน้องเขาซ้อมอีกครั้ง รามจ้องเขาด้วยใบหน้าคลั่งแค้น ยิ่งพันเอกลวนลามนาวามากเท่าไหร่ ร่างสะบักสะบอมของรามก็ยิ่งเครียดเกร็งมากขึ้นเท่านั้น

“มึงจำสิ่งที่มึงทำกับกูได้ไหม” ร่างสูงเอ่ยกับคนที่นอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบก่อนจะปล่อยนาวาให้เป็นอิสระ แต่กระนั้นคนตัวเล็กกว่ากลับเอาแต่นอนนิ่ง หอบหายใจแรงซบอกแกร่งของพันเอกอย่างเงียบๆ

“ยังจำเรื่องวันนั้นได้อยู่ไหม ยังจำความเลวของมึงที่ทำเอาไว้ได้ไหม”

“...”

“มัดกูเอาไว้ ลากพระพายเข้ามาแล้วทำระยำต่อหน้าต่อตากู จำได้รึเปล่า หืม”

“แค่กๆ หึ” รามแค่นหัวเราะกับคำถามเย็นเยียบที่พันเอกส่งมา นัยน์ตาอ่อนแรงตวัดมองใบหน้าคมดุดันก่อนจะแสยะยิ้ม

“ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆ มึงรู้อะไรไหมไอ้เอก”

“...”

“น้องมึงแม่งอึ๊บมันส์ฉิบหายเลยว่ะ”

พลั่ก!

“อั่ก! แค่กๆ”

“เดี๋ยวมึงก็จะได้รู้ ว่าเด็กของมึงเองก็อึ๊บสนุกไม่แพ้กันหรอก ไอ้ระยำ”

“อึ่ก แฮ่ก”

“ลากมันตามลงมาหาฉัน” พันเอกสั่งเสียงเย็นเยียบ ยืนหยัดขึ้นเต็มความสูงก่อนจะอุ้มร่างของนาวาไปยังชั้นใต้ดินของบ้านโดยมีร่างของรามที่ถูกหิ้วปีกตามมาอย่างไม่ลดละ

ห้องใต้ดินของบ้านกฤตภาสถูกจัดเป็นห้องโล่งๆ ตรงมุมมีเก้าอี้อยู่หนึ่งตัว บนเพดานมีไฟสีขาวเจิดจ้า นาวาถูกร่างสูงวางลงกับพื้นก่อนจะเดินออกไปด้านนอกและกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับของบางอย่าง

“กินซะ” มือแกร่งยื่นเม็ดยามาตรงหน้า นาวาขมวดคิ้วพลางส่ายหน้าหวือ ทำเอาประมุขของบ้านกัดฟันกรอด จับคางเล็กเอาไว้แล้วบีบอย่างแรงจนนาวาต้องเปิดปาก ร่างโปร่งร้องเสียงอื้ออึงเมื่อพันเอกกรอกยาเม็ดนั้นลงไปในปากของเขา

“แค่ก แค่ก…คุณเอายาอะไรให้ผมกิน” เอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่น พันเอกแสยะยิ้ม เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยันก่อนจะกวาดสายตามองร่างขาวตรงหน้าด้วยสายตาหยาบโลน

“ยาปลุกเซ็กซ์”

“!!!!!” นาวาเบิกตากว้าง หลุดร้องในลำคอเมื่อสังเกตเห็นร่างของรามที่ถูกซ้อมจนสะบักสะบอมถูกจับมัดอยู่กับเก้าอี้และถูกล่ามโซ่เส้นใหญ่เอาไว้อย่างแน่นหนา ริมฝีปากไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาได้เพราะถูกผ้าพันเอาไว้ สิ่งเดียวที่ประจักษ์ตรงหน้าของนาวาคือแววตาแข็งกร้าวที่จ้องไปยังร่างสูงของพันเอกด้วยความชิงชัง

“ไม่ต้องมองกูแบบนั้นหรอก เดี๋ยวมึงได้เห็นของดีต่อจากนี้แน่ๆ” พันเอกเย้ยหยันพลางกดนาวาลงให้นอนราบกับพื้นอีกครั้ง เสื้อผ้าที่ถูกทึ้งจนหลุดหลุ่ยก่อนหน้านี้เผยให้เห็นผิวขาวผ่องต้องแสงไฟบนเพดานของเจ้าตัว นาวาเม้มปากแน่นยามที่อีกคนทาบทับกายแกร่งลงมา สองมือที่ค่อยๆ ลูบไล้เรียวขาขาวอย่างช้าๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นระส่ำ แม้จะอยากต่อต้านแต่นาวาทำไม่ได้ เขาไม่อยากให้พันเอกหงุดหงิด สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเขาต่อจากนี้คือสิ่งที่ใช้แลกกับอนาคตของผู้เป็นน้องชาย มันเป็นข้อตกลงที่นาวาทำร่วมกับพันเอกไปแล้ว

เขาขายตัวเองให้คนคนนี้ไปแล้ว ยินยอมให้อีกฝ่ายจับขังอยู่ในกรง เพื่อแลกกับอิสรภาพและอนาคตของใครอีกคนที่นาวารักยิ่งกว่าชีวิต

“ขาวเป็นบ้า” พันเอกเอ่ยขึ้นเสียงพร่า ดวงตาคมเจิดจ้าตวัดมองคนที่ดิ้นพล่านอยู่อีกมุมของห้องด้วยความสะใจ ร่างสูงเอื้อมมือไปกระชากกางเกงและชั้นในของนาวาออกอย่างแรงจนขาดวิ่นติดมือแกร่ง พันเอกยกยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นอีกคนคำรามเสียงกร้าว มองมาที่เขาด้วยสายตาเคียดแค้นดุดัน

“คุณเอก...อื้อ” นาวาร้องเสียงแผ่ว ร่างกายเริ่มร้อนวูบวาบด้วยฤทธิ์ยาที่อีกคนจับกรอกปากไปก่อนหน้านี้ ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ ลมหายใจเริ่มกระชั้นถี่ขึ้นมากทุกที สองขาเปลือยเปล่าถูกอีกคนจับแยกออกกว้าง ช่องทางอ่อนนุ่มสีสวยปรากฏต่อหน้าชายทั้งสองภายในห้องอย่างน่าอาย

“หึ...สีสวยดี” พันเอกพูดขึ้น ใช้น้ำเสียงเย้ยหยันท้าทายไปถึงรามที่กำลังจ้องมาด้วยความอาฆาต นายหัวหนุ่มพยายามขยับกายให้พ้นจากพันธนาการเหล็กแต่ก็เหมือนจะไร้ประโยชน์ รามส่งเสียงอื้ออึงผ่านผ้าที่มัดปาก ดวงตายังคงจ้องมองร่างขาวของนาวาที่กำลังจะถูกใครอีกคนย่ำยีจนแทบไม่เหลือชิ้นดี

เจ็บ ไม่เคยเจ็บขนาดนี้

“ดูซะให้เต็มตานะไอ้ชาติชั่ว ดูสิ่งที่มันจะโดน กูจะเอาคืนในสิ่งที่มึงเคยทำเอาไว้กับพวกกูมาให้หมด!” พันเอกเอ่ยเสียงทรงอำนาจ สองมือกระชากเอวนาวาจนร่างขาวถลาเข้ามาแนบชิดกับร่างสูง ชายหนุ่มปลดซิปกางเกงของตนลง ปลดเปลื้องปราการออกจนความแข็งขืนดีดตัวออกมาภายนอก

“คุณเอก ฮึก...ผมกลัว อย่า...ผมกลัว”

นาวาร้องเรียกอีกคนเสียงพร่า รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่อีกคนจดจ่อเข้ามาใกล้ แผ่นอกบางขยับขึ้นลงถี่ๆ ตามแรงหอบหายใจ กลางกายเริ่มแข็งขืนเมื่อความร้อนภายในพุ่งสูงขึ้นจนแทบจะยั้งตัวเองไม่อยู่ แต่ถึงจะมีความต้องการมากแค่ไหน นาวาก็มีสำนึกและสติมากพอที่จะรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดหลังจากนี้มันเลวร้ายมากเพียงใด

รามยังนั่งอยู่ตรงนั้น บนเก้าอี้ตัวนั้น ถูกมัดเอาไว้และถูกบังคับให้มองเขาที่กำลังจะถูกพันเอกทำเรื่องอย่างว่า!

“มองกันเข้าไป จะจินตนาการว่าเป็นมันที่กำลังจะเอานายฉันก็ไม่ว่าหรอกนะ” พันเอกพูดขึ้นเมื่อเห็นคนใต้ร่างหันไปมองอีกคนด้วยแววตาเจ็บปวด ชายหนุ่มหันไปท้าทายรามที่กำลังมองมาเช่นกัน ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างท้าทาย มือหนาประคองความต้องการเอาไว้พลางกดมันเข้าไปในร่างของนาวาทันทีโดยไร้การเบิกทาง

“อ๊ะ โอ๊ยยยย!!!!” คนตัวขาวร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ สองมือกำแน่นในขณะที่พันเอกยังคงดันกายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

“ค...คุณเอก...เจ็บ อื้อ!”

“อาา แน่นชิบ” พันเอกสบถเสียงพร่า เขาดันร่างเข้าไปได้เพียงแค่ครึ่งเดียว ทว่าความใหญ่โตของมันกลับทำให้นาวาถึงกับขาสั่นระริก ร่างขาวซีดหอบหายใจถี่ ผนังนุ่มภายในบีบรัดตัวตนของพันเอกจนรู้สึกเจ็บกันทั้งคู่

ปึ่ก!

“อ๊าาาาาาาาาาาาา!” คนตัวขาวร้องเสียงหลง เชิดใบหน้าขึ้นเมื่ออีกคนดึงกายออกห่างก่อนจะกระแทกกลับเข้ามาใหม่เต็มแรง พันเอกไม่รอให้นาวาได้คุ้นเคยกับความเจ็บปวดหรือความใหญ่โตของเขา เมื่อร่างกายส่วนล่างหลอมรวมเข้าสู่ช่องทางอ่อนนุ่มจนสุดความยาว ชายหนุ่มก็ไม่รีรอที่จะขยับกายกระแทกเป็นจังหวะเชื่องช้า แต่ทว่าลึกล้ำและหนักแน่น

เสียงเนื้อกระทบกันดังขึ้นผะแผ่ว ในขณะที่เสียงครางระโหยโรยแรงของนาวาเองก็ดังขึ้นเป็นระยะๆ รามหลับตาแน่น ไม่คิดจะมองภาพตรงหน้า หากแต่ทุกสรรพเสียงกลับลอยเข้าหูจนเขาแทบจะขาดใจ

เสียงครางหวีดหวิวของนาวา เสียงกายทั้งสองยามที่พันเอกอัดร่างแกร่งเข้าหานาวาเป็นจังหวะ โรมรันอย่างรุนแรงเร่าร้อน เสียงครางสุขสมของพันเอกที่ดังกระหึ่ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงอะไรในตอนนี้มันก็กรีดหัวใจของรามจนพังยับเยินแทบทั้งสิ้น

“หึ” พันเอกเย้ยอีกคนขณะควบกายขย่มเข้าออกบนร่างขาว ความอ่อนนุ่มบีบรัดแก่นกายของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างสูงตอกร่างเข้าหาร่างขาวข้างใต้อย่างรุนแรง นาวาครางเสียงแหบพร่าด้วยความเจ็บระคนเสียวซ่าน ฤทธิ์ยาปลุกเซ็กซ์ส่งผลให้ร่างกายไร้แรงต่อต้าน ซ้ำยังแยกเรียวขาออกกว้างให้อีกคนทำตามอำเภอใจเสียอีก

แต่ถึงร่างกายจะตอบรับยังไง ภายในใจของนาวาในตอนนี้กลับร่ำไห้จนแทบขาดไม่ต่างจากอีกคนที่ถูกล่ามโซ่อยู่อีกมุมหนึ่ง

“อ๊ะ...ฮึก อ๊ะ อ๊า เจ็บ!! ลึกไป มันลึกไป!”

ร่างขาวร้องเสียงหลงเมื่ออีกคนพลิกกายของเขาให้คว่ำลง พันเอกรั้งสะโพกเล็กให้ลอยเด่น โดยไม่รีรอ กายแกร่งถูกเจ้าของสอดลึกเข้าไปในร่างบางทันทีในคราวเดียว นาวาขาสั่นระริกขณะโดนชายหนุ่มกระแทกกายเข้าหาซ้ำๆ ร่างขาวซีดโยกไหวขึ้นลงบนพื้นกว้าง พันเอกหันไปมองรามที่ยังหลับตาแน่นก่อนจะยกยิ้มเย้ยหยัน สองมือเลื่อนไปกระชับที่สะโพกสวย ออกแรงบีบจนนวลเนื้อขาวขึ้นรอยนิ้ว สะโพกสอบเร่งจังหวะแทรกร่างเข้าหา เสียดสีท่อนเนื้อแข็งขืนกับช่องทางแดงช้ำ อัดกายเข้าหาเต็มแรงกำลัง ท้าทายแรงบีบรัดแน่นหนาของผนังอุ่นร้อนที่โอบกระชับไปทั่ว เมื่อส่งร่างเข้าหาลึกล้ำจนสุดความยาว พันเอกก็ดึงกายออกมาจนเกือบจะหลุดจากการเชื่อมต่อ ก่อนจะตบสะโพกอัดแรงกำลังเข้าไปใหม่จนเกิดเสียงกระทบกันระหว่างสะโพกหนั่นแน่นกับเนินเนื้อของบั้นท้ายงามงอน

ชายหนุ่มแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างสุขสม ส่งเสียงครางทุ้มต่ำในลำคอ ความสุขสมยามส่งแรงกระแทกใส่ร่างของนาวาทำเอาใบหน้าหล่อเหลาเชิดรั้น เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มวงหน้าคมคาย ร่างสูงเร่งจังหวะเมื่ออารมณ์ดิบเถื่อนลุกโชน ดวงตาคมกริบตวัดไปมองรามที่กำลังดิ้นพล่าน ส่งยิ้มเยาะเย้ยอย่างผู้มีชัยไปให้อีกฝ่าย ก่อนจะลงแรงชำเรารักกับนาวาจนผู้ถูกกระทำครางลั่นห้อง

“อ๊า อ๊ะ...อ๊า!”

“จะว่าไปแล้ว...สนุกสองคนมันก็คงจะเห็นแก่ตัวเกินไปสินะ” พันเอกเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเมื่อนึกบางอย่างขึ้นมาได้ ร่างสูงถอนกายออกพลางเหวี่ยงนาวาให้ลงไปคุกเข่าตรงหน้าราม ร่างโปร่งหอบหายใจไม่เป็นจังหวะกับบทรักก่อนหน้านี้ ก่อนจะเงยหน้าสบตากับรามที่ยอมหันมามองที่เขาด้วยดวงตาแดงก่ำ

“อมให้มันซะสิ” พันเอกเอ่ยขึ้น ทำเอาทั้งรามและนาวาเบิกตากว้าง ชายหนุ่มแสยะยิ้มพลางคุกเข่าลงด้านหลังของคนตัวขาว ก่อนจะคว้าสะโพกเล็กมาจับเอาไว้แน่นในท่าคลาน นิ้วแข็งถูกสอดเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่มของอีกคนเต็มแรงจนนาวาหลุดร้องในลำคอ

“อ๊ะ!”

“เร็ว ทำให้มันซะ!” ร่างสูงตวาดกร้าว นาวามองรามด้วยแววตาสำนึกผิดก่อนจะค่อยๆ เอื้อมมือที่สั่นเทาไปแตะขอบกางเกงและปลดมันออกอย่างช้าๆ รามส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงห้าม หากแต่พันเอกกลับดันร่างโปร่งให้ขยับไปแนบชิดกับคนบนเก้าอี้มากขึ้นพลางแสยะยิ้ม

รามจ้องใบหน้าที่แสนชิงชังก่อนจะกัดฟันกรอด นายหัวหนุ่มสะดุ้งสุดตัวเมื่อลิ้นร้อนของคนตัวขาวด้านล่างแตะลงที่กลางกายของเขา ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวเพราะกลัวว่าโซ่ที่พันธนาการตนไว้จะกระทบโดนใบหน้าของคนตัวเล็กกว่า รามก้มลงมองนาวาที่กำลังครอบปากลงกับกลางกายของเขาด้วยความเจ็บปวดก่อนจะหลับตาแน่น เบือนหน้าหนีภาพตรงหน้าอีกครั้ง

“อื้อ”

“อึ่ก!”

“หึ” พันเอกส่งกายร้อนเข้าไปในช่องทางด้านหลังของนาวาพร้อมกับเริ่มขยับร่างถี่ยิบหนักหน่วง ร่างขาวซีดโยกตัวไปตามแรงกระแทกจนความใหญ่โตของรามสวนลึกเข้าไปในปาก นาวาร้องเสียงหลงด้วยความจุกทั้งบริเวณลำคอและช่องทางด้านหลัง ในขณะที่รามเองก็หลุดเสียงร้องออกมาเช่นเดียวกัน ชายหนุ่มจ้องมองคนที่กำลังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคนที่เขารักด้วยความคลั่งแค้นก่อนจะก้มลงมองนาวาอีกครั้ง ใบหน้าซูบซีดเเดงก่ำ ริมฝีปากสีสดรูดรั้งร่างกายใหญ่โตของรามในขณะที่ดวงตาสองข้างแดงก่ำ

อยากจะกอดปลอบและบอกว่าไม่เป็นไร อยากจะคว้าร่างซูบผอมมาไว้แนบอกและบอกให้หยุด อยากฆ่าคนที่กำลังเสพสมรสกามบนร่างของนาวาให้ตายคามือแต่ก็ทำไม่ได้ รามได้แต่มองคนที่รักถูกเหยียบย่ำความเป็นคนอย่างเลือดเย็น โดยที่เขาได้แต่นั่งอยู่ตรงนี้ นั่งอยู่และมองดูพันเอกทำร้ายหัวใจของเขาอย่างโหดเหี้ยมไร้ความปราณี

เขาทำได้แค่นี้จริงๆ


หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 06-09-2014 06:55:15
พันเกเลวมาก!! นาวาน่าสงสาร  พันเอกนี่จะคู่กับนาวาใช่ไหมครับ ถ้าใช่ ก่อนได้รักกัน ขอให้พันเอกเจ็บจี๊ดๆาักครั้งก่อนนะครับ
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [CHAPTER 05 UP!]
เริ่มหัวข้อโดย: SummerValentine ที่ 06-09-2014 20:02:04
เห็นชื่อเรื่องคลิกเข้ามาแทบไม่ทันเพราะชอบเพลงนี้มาก (ออกทะเล)
และชื่อเรื่องภาษาไทยก็ดึงดูดเราแบบสุดๆ
ภาษาที่ใช้สวยมากค่ะ
แต่ตอนนี้ขอไปดักยิงพระเอกก่อน T^T สงสารนาวาซิกๆ

ติดตามรอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+]
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 04-10-2014 16:01:48
ตอนที่ ๔


ทุกอย่างจบลงในตอนที่นาวาหมดสติทรุดตัวลงกับพื้น รามแสดงอาการร้อนรนจนเห็นได้ชัด ในขณะที่พันเอกทำเพียงใช้สองมือกระชับสะโพกมนพลางหยัดกายเข้าออกอย่างรุนแรง ปลดปล่อยความใคร่เข้าสู่โพรงอุ่นร้อนพร้อมกับเชิดหน้าครางเสียงทุ้มต่ำอย่างพึงพอใจ

ประมุขของบ้านแสยะยิ้ม ก้มลงมองร่างโปร่งที่นอนนิ่งตรงหน้าก่อนจะสบตากับรามที่มองมาด้วยดวงตาวาวโรจน์

“อ่อนแอชะมัด” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะพลิกกายขาวซีดของนาวาให้นอนหงาย มือแกร่งคว้าข้อเท้าเล็กเอาไว้มั่นพลางแยกออกกว้าง กระแทกร่างเข้าหาคนที่สลบไสลอีกครั้งอย่างรุนแรง ลงมือชำเราร่างตรงหน้าอีกครั้งท่ามกลางเสียงร้องในลำคอของรามที่พยายามจะพาตัวเองออกมาทำร้ายเขา พันเอกแสยะยิ้ม ส่งสายตาวาวโรจน์เจือแววเย้ยหยันไปให้นายหัวหนุ่มขณะระบายความต้องการลงบนร่างของนาวาอย่างเอาแต่ใจ

“มองเอาไว้ มองตัวขาวๆ ของเด็กนี่เอาไว้ให้ดี” พันเอกเอ่ยเสียงเย็นเยียบ สองมือจิกเนื้อนวลของนาวาเต็มแรงก่อนจะออกแรงกรีดบั้นท้ายขาวด้วยเล็บที่ยาวออกมาเพียงเล็กน้อย

“หลังจากวันนี้ กูจะยัดเยียดสิ่งที่มึงเคยทำกับพวกกูลงบนตัวมันจนกว่ามันจะตาย จำเอาไว้!”

!!!!



23 : 25 น.

“อ้าวคุณพาย มาทำอะไรในครัวดึกๆ ดื่นๆ ครับ” ร่างสูงของจักรเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเดินผ่านมาเห็นร่างเล็กของพระพายกำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หน้าตู้เย็น มือขาวหยิบจับอะไรต่อมิอะไรออกมากองเอาไว้บนเคาน์เตอร์ ก่อนจะผงกหัวขึ้นมาส่งยิ้มแหยๆ ให้กับคนสนิทของพี่ชาย

“ผมเตรียมแผนการสอนอยู่แล้วรู้สึกหิว เลยกะว่าจะลงมาหาอะไรกินสักหน่อยน่ะ แต่ในตู้เย็นมีแต่ของสดทั้งนั้นเลย”

“บนชั้นด้านหลังมีมาม่าอยู่ เอาไหมครับเดี๋ยวผมทำให้” จักรอาสา พอเห็นอีกฝ่ายพยักหน้าหงึกหงักก็เดินไปหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปออกมาจากชั้นและเริ่มตั้งหม้ออย่างเงียบๆ

“พี่จักร ผมถามอะไรหน่อยได้ไหม” จู่ๆ คนตัวเล็กก็ทำลายความเงียบด้วยการตั้งคำถาม จักรพยักหน้าอย่างไม่คิดอะไรก่อนจะชะงักเมื่อคุณหนูคนเล็กของบ้านเอ่ยออกมา

“รถที่จอดอยู่หน้าบ้านเป็นรถของใครครับ”

“รถของเพื่อนคุณเอกน่ะครับ คุณพายอย่าใส่ใจเลย” ร่างสูงบอกปัด แต่คนตัวเล็กกว่ากลับยังไม่ยอมแพ้

“แต่ตอนที่ผมกลับมาผมผมไม่เห็นใครในบ้านนี้เลย พี่เอกกับคุณวาก็ไม่เห็น...”

“...”

“อีกอย่าง ผมว่าผมจำป้ายทะเบียนรถคันนั้นได้”

พระพายเสียงเข้มขึ้น ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนสนิทของพี่ชายอย่างคาดคั้นจนคนถูกมองต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจ

“ผมว่าคุณพายขึ้นไปรอบนห้องก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวถ้ามาม่าสุกแล้วผมจะยกขึ้นไปใ-”

“รถคันนั้นเป็นรถของคุณรามใช่ไหมครับ” ร่างแน่งน้อยโพล่งขึ้นขัดประโยคของอีกคน จักรตีสีหน้าราบเรียบ ไม่ยอมตอบคำถามของคนข้างกายทำเอาคนถามอย่างพระพายเม้มปากแน่น ในอกสั่นไหวอย่างรุนแรง ยิ่งเห็นว่าร่างสูงตรงหน้าปิดปากเงียบก็ยิ่งทำให้มั่นใจ

วันนี้เขาออกไปสมัครงาน ทั้งยังพานะโมไปจัดการเรื่องเรียน กว่าจะกลับมาถึงก็ย่ำค่ำ คราแรกที่เห็นรถคันนั้นพระพายยังไม่แน่ใจนัก เขาเดินเข้าบ้านอาบน้ำกินข้าวตามปกติ แต่อะไรบางอย่างสั่งให้เดินลงมาดูอีกรอบ และทันทีที่เห็นป้ายทะเบียนเขาก็มั่นใจ

รถคันนั้นเป็นรถของราม รถของผู้ชายคนนั้น

เขาจำได้ รู้และจำข้อมูลต่างๆ ของผู้ชายคนนั้นได้ทั้งหมด แม้แต่ตอนที่ยังอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศก็ยังแอบจ้างให้คนตามสืบความเป็นไปของรามอย่างลับๆ เขาเห็นรถคันนี้ผ่านทางรูปถ่ายบ่อยๆ จดจำทั้งลักษณะและป้ายทะเบียนได้ขึ้นใจ

แล้วถ้ารถอยู่ที่นี่ เจ้าของรถล่ะ...เจ้าของรถไปอยู่ที่ไหน?

ไวเท่าความคิด สองเท้าก็พาตัวเองออกจากห้องครัว ร่างแน่งน้อยวิ่งไปยังทิศทางของชั้นใต้ดิน ตรงดิ่งไปยังห้องที่มีพายุยืนสูบบุหรี่เฝ้าอยู่ด้านหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงสั่นเครือ

“พี่ยุ เปิดประตู”

“คุณหนู!”

“เปิดประตูเดี๋ยวนี้!” ร่างเล็กตะคอก ดวงตาแดงก่ำแข็งกร้าว ทว่าพายุกลับส่ายหน้าไปมา

“ไม่ได้ครับ คุณเอกสั่งไว้ว่าห้ามเปิดประตูจนกว่าจะได้รับอนุญาต”

“เปิดประตู พี่ยุ...ผมขอร้อง เปิดประตูให้ผม”

“ไม่ครับ ผมเปิดไม่...”

“ขอร้อง พายขอร้อง” พระพายเอ่ยเสียงเบาหวิว ส่งสายตาเว้าวอนจนคนมองต้องเบือนหน้าหนี ร่างโปร่งตั้งท่าจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงกุกกักหลังบานประตูก็ดังขัดขึ้น

พระพายชะงัก ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงแหบแห้งของนาวาดังเล็ดรอดออกมาจากอีกฝั่ง

“นะ...โม...”

“คุณวา!” ร่างเล็กผวาเข้าไปเปิดประตูอย่างรวดเร็วจนพายุห้ามไม่ทัน และเมื่อบานประตูถูกกระชากออก พระพายก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างเปลือยเปล่าของนาวาโถมตัวลงมาหาเขาอย่างอ่อนแรง

“คุณวา!! ทำใจดีๆ เอาไว้นะครับ...อ๊ะ ตัวร้อนจี๋เลย พี่ยุขอเสื้อมาคลุมตัวคุณวาหน่อย” คุณหนูคนเล็กหันไปบอกร่างโปร่งข้างกาย ก่อนจะยื่นมือไปรับเสื้อสูทที่พายุถอดส่งมาให้

“คุณ...พาย” นาวาเค้นเสียงก่อนจะนิ่วหน้าเมื่ออีกคนพยุงร่างของเขาขึ้นช้าๆ การขยับกายเพียงเล็กน้อยหลังจากถูกทำร้ายทำเอาความเจ็บแล่นปราดทั่วร่าง ขาเรียวสั่นระริกจนพระพายเองยังสังเกตได้ พอก้มลงมองก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นคราบคาวขาวขุ่นไหลย้อนลงมาตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มได้แต่สบถในลำคอ คิ้วเข้มขมวดเป็นปม

“คุณวายืนไหวไหม ค่อยๆ ลุกนะครับ” พระพายพูดกับคนที่สติเริ่มเลือนราง นาวายันตัวขึ้นด้วยแรงเสริมจากแขนขาวของคนตัวเล็กอีกคน แต่ความเจ็บแปลบที่ช่องทางด้านหลังทำเอาขาเพรียวสั่นระริก แทบจะทรุดกายลงไปอีกรอบ

“ฮึก...ค่อยๆ นะครับ” พระพายสะอื้นฮัก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่เป็นฝีมือของพี่ชายเขา

ทำไมพี่เอกถึงยังไม่จบ ทำไมถึงต้องดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาย่ำยีจนยับเยินเช่นนี้

ทำไม

...

“ปล่อยนาวาเดี๋ยวนี้!”

!!!!

เสียงตะโกนแข็งกร้าวดังขึ้นฝ่าความเงียบพาให้ร่างขาวสะดุ้งโหยง พระพายผินหน้ามองเข้าไปภายในห้อง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นสภาพของคนด้านในเต็มตา

“คุณ...”

“อย่าเอามือสกปรกนั่นมาแตะคนของฉัน!” รามเอ่ยเสียงดุดัน ดวงตาคมดุเอาแต่จ้องมองทุกความเคลื่อนไหวไม่วางตา นับว่าเป็นโชคดีที่การขยับใบหน้าไปมาส่งผลให้ผ้าที่ใช้ปิดปากของชายหนุ่มค่อยๆ ร่นลงจนตกลงไปอยู่ที่ลำคอ นายหัวหนุ่มกัดฟันกรอด ส่งสายตาเคียดแค้นชิงชังไปให้ร่างแน่งน้อยที่ยืนตัวเกร็งหน้าประตู

“ปล่อยนาวาเดี๋ยวนี้!” นายหัวหนุ่มเอ่ยเสียงดุดันด้วยความโกรธ จ้องใบหน้าหวานของพระพายเขม็ง คนถูกมองเม้มปากแน่น ลมหายใจสะดุดไปชั่วครู่กับการประจันหน้าทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างแน่งน้อยพยายามข่มความอัดอั้นและความหวาดหวั่นในใจ ก่อนจะตีสีหน้าราบเรียบไร้อารมณ์กลับไป

“ผมจะพาคุณวาไปพักผ่อน” พระพายพูดขึ้น พอได้เห็นสภาพของรามชัดเต็มตาน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ที่ขอบตาก็ร่วงหล่น ร่างเล็กเบือนหน้าหนี แสร้งทำเป็นไม่สนใจอีกคนก่อนจะหันไปมองนาวาด้วยสายตาเป็นห่วงแทน

 “ไม่ต้องมาเสแสร้งทำตัวเป็นคนดี นายมันก็เลวเหมือนไอ้พี่สารเลวนั่นไม่มีผิด ถ้าฉันหลุดไปได้เมื่อไหร่ฉันจะพังกฤตภาสให้ยับและพานาวากับนะโมออกไปจากที่นี่! บอกไอ้เวรนั่นให้เตรียมตัวตายได้เลยพระพาย ฉันไม่ปล่อยให้มันหน้าระรื่นได้นานนักหรอก!” รามเองถ่มน้ำลายใส่พื้นบริเวณที่พระพายยืนอยู่ก่อนจะเอ่ยเสียงดุดัน

“ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะพานาวาออกไปจากที่นี่ ต่อให้วาเขาเจออะไรมาฉันก็ยังรักเขา ถ้าคิดว่าเรื่องแค่นี้จะทำให้ฉันเจ็บจนล้มบอกเลยว่าพวกนายคิดผิด ไอ้พวกเดนตายไร้หัวใจอย่างพวกนายไม่มีวันเข้าใจหรอกว่าเรื่องแค่นี้มันทำอะไรฉันไม่ได้!”

พระพายไม่ตอบ ชายหนุ่มเมินคำพูดของรามพลางหันกลับมาพยุงร่างของนาวาที่อ่อนระโหยโรยแรงอยู่ภายในอ้อมแขน เขาพาคนตัวขาวออกมาจากห้องด้วยความทุลักทุเล ก่อนจะหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อเจอพันเอกยืนนิ่งอยู่หน้าประตู

“ทำไมพี่ทำแบบนี้” คนเป็นน้องเอ่ยเสียงตัดพ้อ พันเอกไม่ตอบอะไร ร่างสูงเลื่อนสายตาไปมองนาวาที่ปรือตามองเขา ก่อนจะเดินเข้าไปรับร่างอ่อนเปลี้ยจากวงแขนเล็กของคนเป็นน้องแล้วช้อนตัวนาวาขึ้นมาอุ้มแนบอกจนอีกคนครางฮือด้วยความตกใจ

“อ๊ะ!”

“ไปนอนห้องฉันก่อนก็แล้วกัน” ร่างสูงพูดเสียงราบเรียบ แต่คนฟังถึงกับส่ายหน้าหวือ

“ไม่ ผมจะไปนอนกับน้อง” นาวาปฏิเสธเสียงแหบแห้ง พันเอกหัวเราะในลำคอพลางหันหลังเดินขึ้นห้องของตัวเองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“อยากให้น้องรู้หรือไงว่าโดนทำอะไรมา”

“...”

“อยู่เงียบๆ อย่าขัดคำสั่งฉัน งานของนายยังไม่จบง่ายๆ หรอก” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับพาร่างของนาวาขึ้นห้อง เมื่อเข้ามาภายในห้องนอน ร่างสูงก็ตรงดิ่งเข้าห้องน้ำก่อนจะปล่อยนาวาให้ลงไปยืนกับพื้น

“ล้างหน้าแปรงฟันเอาเสนียดออกจากปากซะ” ประมุขของบ้านออกคำสั่ง ออกแรงจับร่างเล็กกว่าหมุนตัวไปยังอ่างล้างหน้าที่มีแปรงสีฟันอันใหม่แกะกล่องวางเอาไว้ นาวาเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมาและทำตามคำสั่งของอีกคนอย่างว่าง่าย ในขณะที่พันเอกใช้มือแกร่งดึงเสื้อที่ใช้คลุมร่างของอีกคนออกก่อนจะเหวี่ยงทิ้งไปที่มุมห้อง

พรึ่บ!

“ฮื่อ อุนอำอะไอ!” นาวาหันมาถามเสียงตื่นทั้งๆ ที่ยังแปรงฟันอยู่ ดวงตากลมเบิกกว้างพลางขืนตัวหนีแต่พันเอกกลับกระชับบั้นท้ายขาวเอาไว้และสั่งเสียงดุ

“อยู่นิ่งๆ จะเอาน้ำออกให้ แปรงฟันไป!”

“ฮื่อออ อ๋มอำเอง” คนตัวเล็กยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ แก้มขาวแต้มสีแดงจางๆ ทั้งโกรธทั้งอายแต่มีหรือพันเอกจะสนใจฟัง ชายหนุ่มตะแคงร่างขาวพลางรั้งเรียวขาข้างหนึ่งของนาวาขึ้นพาดกับข้อพับแขน ส่วนมืออีกข้างก็สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนของอีกคนอย่างรวดเร็ว นาวาผวาเฮือก บีบรัดนิ้วแข็งที่สวนเข้ามาโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มรีบล้างปากออกก่อนจะทิ้งแปรงสีฟันเอาไว้ หันกลับไปหาพันเอกที่กำลังกวาดเอาน้ำรักออกจากช่องทางด้านหลังก่อนจะร้องเสียงหลง

“อ๊ะ! คุณเอก ผ...ผมทำเองได้ อื้ออ”

“อยู่นิ่งๆ อยากโดนมากกว่านี้หรือไง” ร่างสูงขู่เสียงเข้ม และมันก็ได้ผล ร่างเล็กกว่ายอมอยู่นิ่งให้พันเอกจัดการทำความสะอาดช่องทางด้านหลังให้ เสียงร้องผะแผ่วดังขึ้นเป็นระยะๆ เพราะความเจ็บและความไม่คุ้นชิน พันเอกมองใบหน้าขาวที่แดงซ่านด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะก้มลงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับช่วงล่างของนาวาต่ออย่างเงียบๆ

“เสร็จแล้ว ทีนี้ก็อาบน้ำอาบท่าซะ เสื้อผ้าค้นหาเอาในตู้ก่อนแล้วก็ขึ้นเตียงนอน ถ้ายังดื้อด้านคิดจะไปนอนอีกห้องฉันจะตามไปขย่มให้เตียงหักเป็นสองท่อนเลยคอยดู”

ชายหนุ่มเอ่ยพลางปล่อยร่างขาวให้เป็นอิสระ ก่อนจะหันหลังเตรียมตัวเดินออกไปจากห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันจะได้เดินจากไปไหนพันเอกก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคนด้านหลังคว้าต้นแขนแกร่งเอาไว้พร้อมกับเอ่ยถามเสียงแผ่ว

“แล้วคุณรามล่ะ” นาวาเอ่ยขึ้น ดวงตากลมฉายแววเป็นห่วงรามอย่างปิดไม่มิด พันเอกตาลุกวาวขึ้นด้วยความหงุดหงิด ร่างสูงหมุนตัวกลับไปประจันหน้ากับนาวาพลางเอ่ยเสียงเย็นเยียบ

“ไอ้รามมันทำไม ห่วงมันหรือไง!”

“ใช่ ผมห่วงเขา” นาวาเอ่ยขึ้นอย่างไม่ปิดบัง

พันเอกกัดฟันกรอด นึกอยากจะกระชากคนตรงหน้ามาทำรักซ้ำๆ ให้ขาดใจตาย จะได้ไม่ต้องมาร่ำร้องถามถึงผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตาของเขา ทั้งๆ ที่คนที่เป็นเจ้าของร่างกายยืนอยู่ตรงหน้า นาวาก็ยังกล้าพูดถึงผู้ชายคนอื่น ทำเอาพันเอกถึงกับรู้สึกร้อนรุ่มด้วยความไม่พอใจอย่างที่หาสาเหตุไม่ได้ ยิ่งนาวายืนเงียบไม่ตอบก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มทวีความหงุดหงิด ร่างสูงเชยคางเล็กของอีกคนให้เชิดหน้าขึ้นมามองเขาพลางเอ่ยเสียงเย้ยหยัน

“แค่อมของมันไปครั้งเดียวก็ติดใจแล้วงั้นเหรอ ใจง่ายไปหน่อยไหม?”

“ก็แล้วมันจะเสียหายอะไร คุณรามเองก็รักผมไม่ใช่เหรอ” นาวาเอ่ยเสียงราบเรียบ หวังจะตอกกลับอีกคนให้รู้สึกอะไรบ้าง พันเอกตาลุกวาวกับคำพูดประชดประชันของอีกคน ร่างสูงกัดฟันกรอดพลางตอกกลับไปด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

“อยากจะรักมันก็รักไปนาวา แต่อย่าหวังว่านายจะได้เป็นอิสระออกไปจากที่นี่ ดีเหมือนกัน ยิ่งพวกนายรักกันมันก็ยิ่งทำให้ฉันทรมานไอ้เวรนั่นง่ายขึ้น!”

“คุณ...”

“หึ รักกันแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ รักมากแต่ต้องเห็นคนที่รักนอนอ้าขาให้คนที่เกลียดกอดเช้ากอดเย็น มันคงเป็นความทรมานที่แทบจะทำให้ขาดใจตายเลยใช่ไหม”

“!!!!!”

“อยากจะรักอยากจะอาลัยอาวรณ์มันก็ตามใจ เพราะไม่ว่าจะยังไงไอ้รามมันก็ทรมานอยู่ดี อ้อ...แล้วถ้าคิดจะหนีไปอยู่กับมันเพราะเห็นว่ามันอ่อนโยนกับนายมากกว่าก็เชิญ แต่อย่าหวังว่าเด็กนะโมนั่นจะได้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขเลย” พันเอกเอ่ยขึ้นพลางเอียงใบหน้าลงไปดูดดึงลำคอขาวของนาวาจนเกิดเสียง นาวากัดฟันแน่นกับคำบอกของร่างสูงตรงหน้าก่อนจะเค้นเสียงลอดไรฟัน

“อย่ายุงกับน้องผม ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน”

“คิดว่าฉันกลัวเหรอ? น้ำหน้าอย่างนายมีดีแค่ใช้ปากขู่กับครางแค่นั้นแหละ อีกอย่างนะนาวา...”

“...”

“ทีร่างกายของนายฉันยังได้มาง่ายๆ เลย แล้วนับประสาอะไรกับเด็กน้อยแสนซื่ออย่างนะโมนั่นล่ะ จริงไหม?”

“คุณมันเลว!”

“หึ อยากรู้ไหมฉันจะทำอะไรกับนะโมถ้านายตุกติก ฉันจะทำยิ่งกว่าที่ทำกับนายอีกนาวา นายอาจจะได้ฉันเป็นผัวแค่คนเดียว แต่เด็กนะโมนั่นจะได้ทั้งฉัน ทั้งพระพาย ไอ้ยุ ไอ้จักร แล้วก็ลูกน้องฉันอีกเป็นสิบๆ คนเวียนกันให้ครบทั้งบ้าน...”

พลั่ก!!

“ไปให้พ้นหน้าผม! ผมเกลียดคุณ!” คนตัวเล็กกว่าตวาดเสียงดังลั่นเมื่อผลักพันเอกออกไปให้พ้นกาย พันเอกยิ้มยียวนกลับมาให้ ก่อนจะดึงนาวาเข้ามาหาและดูดดึงรีมฝีปากสีสวยแรงๆ เมื่อปล้ำจูบร่างขาวจนพอใจชายหนุ่มก็หันหลังเดินจากไป นาวามองตามแผ่นหลังกว้างไปด้วยความเจ็บใจ มือขาวยกขึ้นมาขยี้ปากอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บ ทัศนียภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวเพราะม่านน้ำตาก่อตัวขึ้น ก่อนที่มันจะหยดเผาะลงมาตามสองข้างแก้ม

นาวากลั้นสะอื้นก่อนจะหันไปมองตัวเองที่กระจก ผู้ชายที่กำลังร้องไห้ตรงหน้านี้คือเขา สภาพผมเผ้ายุ่งเหยิง ดวงตาแดงก่ำ ริมฝีปากเจ่อเล็กน้อยในขณะที่ลำคอปรากฏรอยแดงจ้ำเป็นวง ร่างโปร่งมองภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกแล้วก็ได้แต่เม้มปากแน่น ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบๆ ความเจ็บปวดที่ร่างกายมันไม่มากเท่ากับความเจ็บที่มาจากใจ เจ็บที่ตัวเองไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมมือของพันเอกไปได้ เจ็บที่ต้องลดตัวต่ำทำเหมือนคนไร้ค่า เป็นแค่เครื่องมือให้อีกคนใช้แก้แค้นแลกกับของนอกกายอย่างเงินตราและความสุขสบาย

นาวาเกลียด เขาเกลียดพันเอก

แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเขาเกลียดตัวเอง

เกลียดตัวเองมากที่สุด...



เพียะ!

เสียงฝ่ามือเล็กกระทบกับแก้มสากดังกึกก้องไปทั่วห้องใต้ดินของบ้าน พันเอกจ้องร่างแน่งน้อยของพระพายที่มองเขาด้วยแววตาผิดหวังแล้วก็ได้แต่แค่นยิ้มกับตัวเอง

“ผมไม่คิดเลยว่าพี่จะเป็นคนแบบนี้”

“...”

“เรากลับมาที่นี่เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ทำไมพี่ถึงเอาอดีตพวกนั้นมาทำให้ปัจจุบันมันแย่ลง” พระพายคาดคั้น ดวงตาแดงก่ำเมื่อคิดถึงสภาพของนาวาและใครอีกคนที่ยังถูกล่ามโซ่เอาไว้ภายในห้อง

“มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ยอมให้อภัยคนที่ทำลายชีวิตตัวเอง” พันเอกตอบน้องด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

“ถ้าคิดจะขวางพี่เพียงเพราะหลงรักคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองก็เอาสิ แต่ก็เอาเถอะ จะให้เวลาอยู่กับมันก็แล้วกัน”

พระพายชะงัก เม้มปากแน่นขณะมองแผ่นหลังของพี่ชายที่ก้าวเดินออกจากห้องไปด้วยแววตาเจ็บช้ำ ก่อนจะหันกลับไปหารามที่นั่งนิ่ง ทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าร่างสะบักสะบอมของนายหัวหนุ่มพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ผมจะทำแผลและปล่อยคุณออกไปจากที่นี่”

“ชิท! อย่ามาแตะ!”

รามตวาดกร้าว ใช้สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชิงชังจ้องร่างขาวตรงหน้าอย่างไม่ลดละ คนถูกมองใจกระตุกวูบ หลุบตาลงเพื่อหลบสายตาดุดันของอีกฝ่ายก่อนจะหยิบจับอุปกรณ์ทำแผลที่เตรียมมาด้วยท่าทีคล่องแคล่ว

“คุณต้องทำแผล และต้องออกไปจากที่นี่” คุณหนูคนเล็กย้ำชัด ทว่ารามกลับไม่คิดที่จะรับไมตรีจิตของอีกฝ่าย

“ไม่ต้องมาทำดีกับฉันหรอก เชื้อนายมันก็คงเลวหน้าตายเหมือนแม่ไม่มีผิด” รามหันหน้ามาเย้ยหยัน พระพายสบโอกาสที่อีกคนหันหน้ามาจับคางของร่างสูงเอาไว้และกดสำลีลงบนโหนกแก้มของอีกคนพร้อมกับเอ่ยเสียงเบา

“แม่เป็นยังไงผมไม่รู้หรอก ความทรงจำเกี่ยวกับแม่มันเลือนรางเต็มที เขาไม่ค่อยได้เลี้ยงผมเท่าไหร่คุณก็น่าจะรู้”

รามถึงกับเงียบเมื่อเจออีกคนตอบกลับมาอย่างไม่คาดคิด ร่างสูงมองใบหน้าหวานที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำแผลบนใบหน้าให้เขาพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมกับบ่นพึมพำ

“เจ็บมากไหม...”

“พูดมาก รีบทำให้มันเสร็จๆ แล้วก็ไสหัวไปให้พ้นๆ ซะที” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแข็ง หลีกเลี่ยงการมองอีกฝ่ายเกินความจำเป็น พระพายในตอนนี้ดูแปลกตา โตขึ้นมาก ความทรงจำของน้องชายพันเอกที่เขาจำได้คือเด็กน้อยที่แสนน่ารักในวัยเพียงสิบกว่าปี ผิวขาว หน้าหวาน กับร่างกายหอมหวานเย้ายวนยามที่บิดเร่าตอนที่ถูกเพื่อนพี่ชายวัยสิบแปดปีอย่างเขาครอบครอง

รามยังจดจำเหตุการณ์วันนั้นได้ดี วันที่เขาลงมือทำร้ายคนตรงหน้าอย่างเลือดเย็นด้วยเหตุผลบางอย่าง...

บางอย่างที่พี่น้องสองคนนี้ไม่เคยได้รับรู้

ไม่เคยได้รู้ถึงสิ่งที่เรียกว่า ‘ความจริง’

“พี่เอกบอกว่าคุณรักคุณวา” อยู่ๆ พระพายก็เอ่ยถามขึ้น ดวงตาคู่สวยเคลื่อนมาสบตากับตาคมดุของรามก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง

“คุณรักเขาจริงๆ เหรอ”

รามเงียบ เบือนหน้าหนีแววตาวูบไหวที่สะท้อนอยู่ตรงหน้า ไม่อยากรับรู้ว่าพระพายรู้สึกยังไง ไม่คิดจะแคร์คนของกฤตภาส และไม่เคยยกให้คนพวกนี้มีความสำคัญ

“รู้ไหม ความรักของคุณทำให้คุณวาเดือดร้อน” พระพายเอ่ยขึ้นเมื่อทำแผลบนใบหน้าของรามเสร็จ

รามหันขวับไปมองอีกคนก่อนจะกัดฟันกรอดเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ

“เพราะพี่ชายระยำๆ ของนายต่างหาก ไอ้พี่ชั่วของนายมันทำร้ายวา!!!” รามตะโกนกร้าว ก่อนจะพยายามขยับตัวหนีเมื่ออีกฝ่ายหยิบเอาผ้าชุบน้ำที่ถือติดมือมาขึ้นมาเช็ดตามลำคอและท่อนแขนแกร่ง

“นายมันน่าสมเพช เด็กโง่ๆ อย่างนายน่ะ...น่าสมเพช” รามแค่นหัวเราะ ส่งสายตาเย้ยหยันคนขี้ใจอ่อนก่อนจะเบือนหน้าหนี

“นายควรจะเกลียดฉัน เกลียดฉันให้มากๆ กับสิ่งที่ฉันเคยทำเอาไว้”

พระพายชะงักไปชั่วครู่ ร่างแน่งน้อยเม้มปากแน่นก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“เกลียดสิ แต่ผมมันนิสัยเสียคุณก็รู้ เห็นใครเดือดร้อนเข้าหน่อยก็ขี้ใจอ่อนขี้สงสาร ที่พูดดีด้วยที่ทำแผลให้ใช่ว่าจะหายเกลียด ยังเกลียดอยู่เหมือนเดิมเลยแหละ”

ยังเกลียดอยู่เหมือนเดิม

และใช่...ยังคงรักอยู่เหมือนเดิม

“งั้นก็เลิกทำอะไรที่มันสวนทางกับความรู้สึกตัวเองซะ เกลียดก็ทำร้าย ไม่ใช่รักษา” รามพูดขึ้น พระพายไม่ตอบอะไรกลับไปแต่ก็ไม่ได้หยุดเช็ดแต่อย่างใด ฝ่ายรามเองเมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบเขาก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด เพียงไม่นานร่างเล็กก็ผละกายออกห่างก่อนจะสบดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มตรงหน้าพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงปกติ

“รอก่อน ผมจะไปเอากุญแจมาปลดโซ่ให้”

จบประโยค ร่างเล็กก็เดินออกจากห้องไปทันที รามมองตามแผ่นหลังเล็กไปจนลับสายตาก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด เพียงไม่นานพระพายก็วิ่งกลับเข้ามาอีกครั้งก่อนจะทรุดตัวลงตรงหน้าเขาพลางหอบน้อยๆ

“คุณต้องรีบหนีก่อนที่พวกพี่เอกจะกลับลงมา”

“...”

“ขอให้กุญแจผีของไอ้ปามใช้ได้ทีเถอะ”

กริ๊ก!

ปึก!

“อ๊ะ!”

ทันทีที่พระพายปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ ร่างแน่งน้อยก็ต้องหลุดร้องออกมาเสียงหลงเมื่อถูกร่างสูงใหญ่หนั่นแน่นออกแรงดันจนแผ่นหลังเล็กกระแทกเข้ากับผนังห้อง

“รู้ไหมพาย ความขี้ใจอ่อนของนายน่ะทำตัวเองเดือดร้อน” นายหัวหนุ่มกระซิบ ก่อนจะดึงทึ้งชุดนอนสีอ่อนของพระพายออกไปจากร่าง

“อ๊ะ คุณ! ยะ...อย่า คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะคุณราม โอ๊ย!”

ร่างแน่งน้อยหวีดร้องเมื่อถูกรามใช้กำลังและร่างกายที่มีมากกว่าคุกคามข่มเหงอย่างไม่ปราณี พระพายน้ำตาตกตอนที่ถูกคนตัวโตทำร้ายอย่างเลือดเย็น ฟันขาวกัดริมฝีปากล่างจนแน่น ก่อนจะถูกรามรั้งใบหน้าขึ้นไปหาและบดขยี้ริมฝีปากอิ่มได้รูปของพระพายเต็มแรง

“คุณ...เจ็บ มันเจ็บ อื้อออ” ร่างสูงผละกายออกห่าง ก่อนจะก้มลงครอบปากกับลำคอขาว

พระพายครางฮือ หลุดก้อนสะอื้นออกมาเมื่ออีกฝ่ายก้มตัวลงรั้งเรียวขาทั้งสองข้างขึ้นจนร่างแน่งน้อยลอยหวือ

“หยุด คุณราม พอที! คุณต้องออกไปจากที่นี่ได้แล้ว ถ้าคุณไม่หนี ทุกอย่างมันจะแย่ลงนะ ฮึก อ๊ะ!”

“คนที่ทำให้มันแย่คือพวกนายเองพระพาย เมื่อก่อนชีวิตนาวาก็สงบดี แต่ก็เป็นพี่นายที่ดึงเขาลงมาเจอกับขุมนรก ภูมิใจมากไหมกับการทำร้ายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยน่ะ!!!”

พระพายเงียบ ช้อนดวงตากลมมองคนตรงหน้าอย่างตัดพ้อก่อนจะตอบรามเสียงสั่น

“ถามตัวเองสิคุณราม ภูมิใจมากไหมที่ฆ่าคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเลยน่ะ พ่อแม่ผมไม่ได้ขายความลับของบริษัทให้ใคร แต่คุณก็พรากพวกท่านไปเพราะคำกล่าวหาลอยๆ ของปู่คุณ และคุณ...ก็ยังหลอกผมอย่างเลือดเย็นด้วย”

“ปู่ฉันไม่เคยกล่าวหาใครลอยๆ เรื่องนี้คนที่โง่ที่สุดคือนายสองคน นายกับพี่นายมันไม่เคยรู้อะไรเลยสักอย่าง ไม่รู้แม้กระทั่งความเลวของสองตัวผัวเมียที่รวมหัวกันทำลายชีวิตคนอื่นจนพังย่อยยับ” รามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว ดวงตากลมจ้องมองพระพายที่เริ่มมีปฏิกิริยากับคำพูดของเขาก่อนที่เจ้าตัวจะพยายามสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อระงับความรู้สึกต่างๆ ของตัวเอง

“พวกกฤตภาสมันก็ดีแต่สร้างความพินาศเหมือนๆ กันหมด สนุกมากสินะที่เห็นคนบริสุทธิ์ถูกทำร้ายอย่างเลือดเย็นจากความโง่ของพวกนายสองพี่น้อง ผยองเข้าไปเถอะพระพาย เมื่อไหร่ที่ความจริงเปิดเผยวันนั้นพวกนายทุกคนจะต้องเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำ”

ไม่มีใครพูดอะไรอีกหลังจากนั้น สองร่างจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมใครจนกระทั่งประตูห้องถูกเปิดด้วยฝีมือของพันเอกที่ถือถาดข้าวต้มและอะไรบางอย่างเข้ามาด้วยหน้าตาเคร่งขรึม ทั้งรามและพระพายหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนที่คนตัวขาวจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าพี่ชายถืออะไรอยู่ในมือ

“กำลังจะทำระยำอะไรกับน้องกู” พันเอกเอ่ยเสียงราบเรียบ

“พี่เอก อย่า...อย่าทำเขา ผมขอร้อง ฮึก”

“หึ มึงคงอยากตายมากเลยสินะ” พันเอกเอ่ยถาม สาวเท้าเข้ามาหาร่างสูงหนั่นแน่นของรามก่อนจะหยิบของบางอย่างที่วางอยู่ข้างถ้วยข้าวต้ม มุ่งตรงเข้ามาที่ศีรษะของคนที่เพิ่งจะปล่อยพระพายให้เป็นอิสระด้วยท่าทีใจเย็น

“อย่า...”

กริ้ก!

“นับถึงสาม เดินออกมาก่อนพี่จะลั่นไกใส่ไอ้เวรนี่” ประมุขของบ้านขู่จนคนเป็นน้องผวาเฮือก ลนลานใส่เสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยและผละออกจากร่างสูงใหญ่ของรามอย่างรวดเร็ว มือขาวคว้าแขนแกร่งที่ถือปืนเก็บเสียงของพันเอกไว้ ออกแรงยื้อให้ปลายกระบอกปืนเบนทิศทางออกจากรามด้วยความหวาดกลัว

“ห่วงมันมากก็ตายไปกับมันเลยดีไหม” พันเอกพูดขึ้นอย่างไม่ไว้หน้าก่อนจะโยนถาดอาการทิ้งจนจานแตกละเอียด เศษข้าวต้มหกกระจายไปทั่วพื้นในขณะที่เศษจานกระเบื้องบางส่วนกระเด็นไปฝังอยู่บนผิวของรามจนเลือดไหลเป็นทางยาว

“ฮึก” พระพายเบ้หน้า เริ่มสะอื้นหนักขึ้นด้วยความหวาดกลัว

“ห่วงมันมากนักใช่ไหม!!!!” ร่างสูงตะคอก มองน้องด้วยแววตาแดงก่ำวาวโรจน์ ในขณะที่ร่างเล็กผวาเข้ามากอดเขาเอาไว้แน่นและปล่อยโฮอยู่กับอก

“ไม่ ผมกลัวพี่ติดคุก ฮึก อย่าเลยนะพี่เอก ให้มันจบไปเถอะนะ เริ่มต้นกันใหม่ เริ่มใหม่กันสักที อย่าทรมานกันไปมากกว่านี้เลยนะพี่” พระพายสั่นไปทั้งร่าง หวาดกลัวจนต้องกอดพันเอกเอาไว้แน่น

“เราอยู่ของเราแบบนี้ก็ดีแล้ว นะพี่เอก ฮึก ปล่อยเขาไป ผมขอร้อง”

“กลับขึ้นห้องไป”

“ไม่ คืนนี้ผมนอนด้วยสิ นอนด้วยกัน ขึ้นห้องกับผม” ร่างเล็กส่ายหน้าหวือ “นอนกับผมนะ ฮึก นอนด้วยกัน”

“ยุ มาเอาพระพายออกไป”

“พี่เอก!! ฮือ ไม่! รามเขาก็คนนะ เขาเจ็บเป็น พอเถอะ พี่จะทำให้มันแย่ลง ทุกอย่างจะแย่ลง!!! พี่ยุปล่อยผม ปล่อย ฮืออออ”

“ถ้าเอาไม่อยู่ก็ทำให้หลับไปซะ” พันเอกสั่งลูกน้องคนสนิท พายุลังเลชั่วครู่ ก่อนจะจำใจรับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

“ครับ”

“อย่าทำเขาเลยนะพี่เอก อย่าเล่นกันถึงชีวิตเลย ถือซะว่าผมขอร้อง”

ปึก!

สันมือขาวของพายุฟาดลงบนหลังคอของพระพายทันทีที่ประโยคอ้อนวอนนั้นจบลง ร่างแน่งน้อยทรุดตัวลงในอ้อมแขนของบอดี้การ์ดหนุ่ม พายุช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะพาพระพายออกจากบริเวณไปอย่างเงียบๆ

รามมองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของอีกฝ่ายด้วยแววตาว่างเปล่า ก่อนจะหันกลับไปมองพันเอกที่ยังหันปลายกระบอกปืนใส่หน้าเขาพลางแค่นหัวเราะ

“ฝันไปเถอะถ้าคิดว่ากูจะยอมคุกเข่าให้คนอย่างมึง”

“หึ ถือว่ามึงเลือกได้ดี...”

พลั่ก!! ปึง!!


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: chanzx ที่ 04-10-2014 20:55:42
พันเอก... :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: Paifah ที่ 04-10-2014 21:24:39
คุณเอกแกแทร่งเลวได้
ใจจริงเลยนะพ่อคุณ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 04-10-2014 21:51:46
พันเอก :ling1: นาย! เลววววววววววววว!  :z6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: rinoou ที่ 06-10-2014 14:07:14
 :sad4: :sad4: :a5: :a5:
อ่านไปกรี้ดไป.. อะไรมันจะบาดขนาดนี้เนี้ยยย
มาต่อเร็วน้าอยากรู้ตอนต่อไปจร้า..

ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: yaoisamasang ที่ 06-10-2014 21:20:23
ไอ้เลววววววว  :ling1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: nonnn ที่ 06-10-2014 22:06:00
ตามเข้ามาเป็นกำลังใจให้ในเล้าเป็ดอีกทีค่ะ
+เป็ดให้ทุกตอนแล้วเน้อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


หลังจากที่เพิ่งเห็นเรื่องนี้ผ่านๆทางเล้าเป็ด ก็ไม่ได้ตั้งใจมาอ่านให้จบตอนเลย
จนวันสองวันที่มีเวลาว่างเลยลองนั่งอ่านดู
แรกๆยังไม่อะไรมาก จะตามประวัติของนักเขียนก่อน พอรู้ว่ามีเพจให้ติดตาม
ก็เลยลองศึกษาดูก่อนคร่าวๆว่านักเขียนเคยแต่งเรื่องอะไรมาแล้วบ้าง
จนรู้ว่าเป็นฟิคเรื่องแรกที่นักเขียนลองแต่ง และก็คิดว่าน่าจะเพิ่งแต่งไปได้ไม่กี่ตอน
เพิ่งรู้ว่านักเขียนเน้นลงในเว็บธัญวลัยเป็นหลัก เราก็เลยลองตามไปอ่านในนั้น
จนวันนี้อ่านมาถึงตอนล่าสุด 30% แล้วค่ะ ... อยากบอกว่าอารมณ์ค้างมากก
และที่สำคัญพอลองกลับมาตามในเล้าเป็ดดูพบว่านักเขียนไม่ได้เอามาลงถึงตอนล่าสุดเหมือนเว็บธัญวลัย
ถึงจำนวนคนในเล้าจะไม่ได้มาตามอ่านกันเยอะ แต่ก็อยากให้กำลังใจนักเขียนค่ะ
เอาฟิคเรื่องนี้มาต่อให้ครบตอนล่าสุดเหมือนเว็บธัญวลัยเถอะนะคะ เชื่อว่ายังมีคนตามเรื่องนี้อยู่
อีกอย่างอ่านในเล้าเป็ดดูสะดวกและง่ายกว่าเยอะ...นานๆทีเว็บจะล่มด้วย


ส่วนเรื่องนี้ จริงๆแล้วเกินคาดมากสำหรับคนอ่าน...
ตอนแรกเลยที่เห็นคำโปรยก็คงคิดว่าพระเอกจะเลวจะชั่วเหมือนอย่างที่สปรอยแค่ไหนกันเชียว
ก็คงเหมือนเมะทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ลองตามอ่านมาถึง 3-4 ตอนแรกนี่ต้องบอกเลยว่าคิดผิด!!
ผิดไปหลายประเด็นเลยแหละ เพราะจริงๆแล้วพระเอกเรื่องนี้มันชั่วมากกกกกกกกกกกก!!!!
ชั่วแบบไม่มีใครเกิน อ่านไปก็อยากตามไปกระชากหัวมากระแทกเสาให้หายเลวไปเลย!!!
คนบ้าอะไรมันจะชั่วช้าไม่มีจิตสำนึกขนาดนั้น  :fire: :angry2:


ยิ่งกับนาวาที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะความแค้นส่วนตัวของอิพระเอกมันล้วนๆ
ชื่อก็เพราะ "พันเอก" แหม่ เกิดมาหล่อด้วยนะพ่อคุณ แต่ทำไมสันดานถึงติดลบไม่น่าเข้าใกล้ขนาดนี้
เห็นผู้ชายที่ไหนน่าหวาน หุ่นบางหน่อยก็คิดอยากเอามาสืบพันธุ์หมดทุกคนเลยหรือไง
ชั่วแบบไม่มีที่ติจริงๆ ขนาดน้องชายต่างแม่มันยังคิดจะเอามาทำเมีย
แหมมมมมมมม เลวๆแบบนี้นรกก็คงขยาดไม่อยากรับเข้าไปชดใช้กรรมหรอกมั้ง...


ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอดีตอันแสนขมขื่นของอิตาพันเอกมันเป็นยังไง มีที่มายังไงบ้าง
แต่ก็ไม่ควรเอานาวาเข้ามาเกี่ยวป่ะ จะแก้แค้นกันยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องเอาคนบริสุทธิ์มาโยงกันแบบนี้
ครั้งแรกที่ให้นาวามีอะไรต่อหน้ารามนี่บอกเลยว่าอิพันเอกมันไม่ใช่คนแล้วววว
ทำอะไรชั่วๆได้ขนาดนี้เกินคนค่ะบอกเลย ไม่รู้เอาหัวสมองส่วนไหนคิดแผนชั่วขึ้นมาได้
ยังคิดภาพไม่ออกเลยว่าอิพันเอกนี่จะตกหลุมรักหนูวาได้ตอนไหน
เพราะเท่าที่อ่านมาถึงตอนล่าสุดก็ไม่เห็นว่าจะมีติตใจส่วนไหนอ่อนไหวให้หนูวาเลยสักอย่าง
เล่นมาข่มเหงกันถึงโรงพยาบาลแบบนี้ก็ถือว่าชั่วสุดๆไปแล้ว
และที่ไม่ชอบนิสัยของอีพันเอกนี่สุดๆก็คงเป็นตอนที่ทำอะไรนาวาไม่ได้
แล้วชอบขู่ว่าจะข่มขืนณะโมแทนนี่แหละ โอ๊ยยยยยย หาคำขู่อย่างอื่นไม่เป็นแล้วหรอ
เอะอะๆๆก็จะข่มขืนณะโมท่าเดียว มันไม่ใช่วิธีของนักต่อสู้ที่ดีเท่าไรหรอกนะจะบอกให้...
อยากให้นาวาใจแข็งกล้าที่จะลุกขึ้นมาสู้ได้มากกว่านี้
กับอิแค่คำขู่ตื้นๆนี่มันไม่น่ากลัวนักหรอก ถ้าวันไหนที่นาวาไม่รู้สึกกลัวกับคำขู่ของอิพันเอกแล้ว
วันนั้นก็คงเป็นวันที่นาวาจะได้ทุกสิ่งกลับคืนมาอย่างแน่นอน
เพราะคนที่ต้องแพ้ให้กับเกมส์นี้ก็คืออิพันเอกนี่คนเดียว ยังไงก็ต้องทุรนทุรายที่ขาดนาวาไป


ก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นไหม วันที่นาวาจะไม่ต้องมาถูกรังแกและโดนข่มเหงจากอิพระเอกชั่วคนนี้
เดี๋ยวนะ....เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ยังทันไหม??
บอกเลยว่ารับไม่ได้กับความชั่วของเมะเรื่องนี้จริงๆ

ยังเป็นกำลังใจให้นักเขียนอยู่นะคะ อย่าลืมมาอัพเรื่องนี้ต่อให้ถึงตอนล่าสุดด้วยเน้อ
จะตามอ่านในเล้าไม่ไปไหนแน่นอนค่ะ ขอแค่อย่าทิ้งเรื่องนี้ไปก็พอ...
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 08-10-2014 16:59:38
ตามเข้ามาเป็นกำลังใจให้ในเล้าเป็ดอีกทีค่ะ
+เป็ดให้ทุกตอนแล้วเน้อ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


หลังจากที่เพิ่งเห็นเรื่องนี้ผ่านๆทางเล้าเป็ด ก็ไม่ได้ตั้งใจมาอ่านให้จบตอนเลย
จนวันสองวันที่มีเวลาว่างเลยลองนั่งอ่านดู
แรกๆยังไม่อะไรมาก จะตามประวัติของนักเขียนก่อน พอรู้ว่ามีเพจให้ติดตาม
ก็เลยลองศึกษาดูก่อนคร่าวๆว่านักเขียนเคยแต่งเรื่องอะไรมาแล้วบ้าง
จนรู้ว่าเป็นฟิคเรื่องแรกที่นักเขียนลองแต่ง และก็คิดว่าน่าจะเพิ่งแต่งไปได้ไม่กี่ตอน
เพิ่งรู้ว่านักเขียนเน้นลงในเว็บธัญวลัยเป็นหลัก เราก็เลยลองตามไปอ่านในนั้น
จนวันนี้อ่านมาถึงตอนล่าสุด 30% แล้วค่ะ ... อยากบอกว่าอารมณ์ค้างมากก
และที่สำคัญพอลองกลับมาตามในเล้าเป็ดดูพบว่านักเขียนไม่ได้เอามาลงถึงตอนล่าสุดเหมือนเว็บธัญวลัย
ถึงจำนวนคนในเล้าจะไม่ได้มาตามอ่านกันเยอะ แต่ก็อยากให้กำลังใจนักเขียนค่ะ
เอาฟิคเรื่องนี้มาต่อให้ครบตอนล่าสุดเหมือนเว็บธัญวลัยเถอะนะคะ เชื่อว่ายังมีคนตามเรื่องนี้อยู่
อีกอย่างอ่านในเล้าเป็ดดูสะดวกและง่ายกว่าเยอะ...นานๆทีเว็บจะล่มด้วย


ส่วนเรื่องนี้ จริงๆแล้วเกินคาดมากสำหรับคนอ่าน...
ตอนแรกเลยที่เห็นคำโปรยก็คงคิดว่าพระเอกจะเลวจะชั่วเหมือนอย่างที่สปรอยแค่ไหนกันเชียว
ก็คงเหมือนเมะทั่วๆไปนั่นแหละ แต่ลองตามอ่านมาถึง 3-4 ตอนแรกนี่ต้องบอกเลยว่าคิดผิด!!
ผิดไปหลายประเด็นเลยแหละ เพราะจริงๆแล้วพระเอกเรื่องนี้มันชั่วมากกกกกกกกกกกก!!!!
ชั่วแบบไม่มีใครเกิน อ่านไปก็อยากตามไปกระชากหัวมากระแทกเสาให้หายเลวไปเลย!!!
คนบ้าอะไรมันจะชั่วช้าไม่มีจิตสำนึกขนาดนั้น  :fire: :angry2:


ยิ่งกับนาวาที่ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรก็ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะความแค้นส่วนตัวของอิพระเอกมันล้วนๆ
ชื่อก็เพราะ "พันเอก" แหม่ เกิดมาหล่อด้วยนะพ่อคุณ แต่ทำไมสันดานถึงติดลบไม่น่าเข้าใกล้ขนาดนี้
เห็นผู้ชายที่ไหนน่าหวาน หุ่นบางหน่อยก็คิดอยากเอามาสืบพันธุ์หมดทุกคนเลยหรือไง
ชั่วแบบไม่มีที่ติจริงๆ ขนาดน้องชายต่างแม่มันยังคิดจะเอามาทำเมีย
แหมมมมมมมม เลวๆแบบนี้นรกก็คงขยาดไม่อยากรับเข้าไปชดใช้กรรมหรอกมั้ง...


ก็ไม่รู้หรอกนะว่าอดีตอันแสนขมขื่นของอิตาพันเอกมันเป็นยังไง มีที่มายังไงบ้าง
แต่ก็ไม่ควรเอานาวาเข้ามาเกี่ยวป่ะ จะแก้แค้นกันยังไงก็ได้ที่ไม่ต้องเอาคนบริสุทธิ์มาโยงกันแบบนี้
ครั้งแรกที่ให้นาวามีอะไรต่อหน้ารามนี่บอกเลยว่าอิพันเอกมันไม่ใช่คนแล้วววว
ทำอะไรชั่วๆได้ขนาดนี้เกินคนค่ะบอกเลย ไม่รู้เอาหัวสมองส่วนไหนคิดแผนชั่วขึ้นมาได้
ยังคิดภาพไม่ออกเลยว่าอิพันเอกนี่จะตกหลุมรักหนูวาได้ตอนไหน
เพราะเท่าที่อ่านมาถึงตอนล่าสุดก็ไม่เห็นว่าจะมีติตใจส่วนไหนอ่อนไหวให้หนูวาเลยสักอย่าง
เล่นมาข่มเหงกันถึงโรงพยาบาลแบบนี้ก็ถือว่าชั่วสุดๆไปแล้ว
และที่ไม่ชอบนิสัยของอีพันเอกนี่สุดๆก็คงเป็นตอนที่ทำอะไรนาวาไม่ได้
แล้วชอบขู่ว่าจะข่มขืนณะโมแทนนี่แหละ โอ๊ยยยยยย หาคำขู่อย่างอื่นไม่เป็นแล้วหรอ
เอะอะๆๆก็จะข่มขืนณะโมท่าเดียว มันไม่ใช่วิธีของนักต่อสู้ที่ดีเท่าไรหรอกนะจะบอกให้...
อยากให้นาวาใจแข็งกล้าที่จะลุกขึ้นมาสู้ได้มากกว่านี้
กับอิแค่คำขู่ตื้นๆนี่มันไม่น่ากลัวนักหรอก ถ้าวันไหนที่นาวาไม่รู้สึกกลัวกับคำขู่ของอิพันเอกแล้ว
วันนั้นก็คงเป็นวันที่นาวาจะได้ทุกสิ่งกลับคืนมาอย่างแน่นอน
เพราะคนที่ต้องแพ้ให้กับเกมส์นี้ก็คืออิพันเอกนี่คนเดียว ยังไงก็ต้องทุรนทุรายที่ขาดนาวาไป


ก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนั้นไหม วันที่นาวาจะไม่ต้องมาถูกรังแกและโดนข่มเหงจากอิพระเอกชั่วคนนี้
เดี๋ยวนะ....เปลี่ยนพระเอกตอนนี้ยังทันไหม??
บอกเลยว่ารับไม่ได้กับความชั่วของเมะเรื่องนี้จริงๆ

ยังเป็นกำลังใจให้นักเขียนอยู่นะคะ อย่าลืมมาอัพเรื่องนี้ต่อให้ถึงตอนล่าสุดด้วยเน้อ
จะตามอ่านในเล้าไม่ไปไหนแน่นอนค่ะ ขอแค่อย่าทิ้งเรื่องนี้ไปก็พอ...
 :mew1:

โอ้โหววววววว น้ำตาไหลแปป แงงงงงงงงงงงงงงงงง  :m15:
เรื่องทยอยลงเล้าเป็ดนั้นกำลังทยอยลงเหมือนกันค่ะ กำลังตรวจคำผิดอยู่
จริงๆแอบไม่กล้ามาลงที่นี่นิดนึง ด้วยเพราะพระเอกเปิดเซตนี้มันชั่วจริงๆค่ะ T^T
(แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องเอามาลงจนได้ 5555)
ยังไงก็อดใจรออีกนิดนึงน้า จะรีบทยอยลงให้ทันอีกเว็บแน่นอนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 3.2 UP
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 08-10-2014 17:07:54
ตอนที่ ๕


นาวานอนไม่หลับ...

ชายหนุ่มนอนลืมตาโพลงท่ามกลางความมืดมิดอยู่บนเตียงของพันเอกพลางขมวดคิ้วมุ่น ร่างกายยังคงรู้สึกเจ็บจากการถูกทำร้ายและล่วงเกิน รู้สึกแปลกๆ กับร่างกายของตัวเองบ้างเพราะสัมผัสของพันเอกยังคงติดอยู่ตามผิวกาย แต่นาวาก็ไม่ได้ใส่ใจมันมากซักเท่าใดนัก

หากถามว่าเสียใจไหม ถึงแม้นาวาจะเป็นผู้ชายที่ไร้เยื่อพรหมจรรย์อย่างที่สตรีมี แต่การต้องถูกผู้ชายด้วยกันรุกล้ำมันก็ทำให้เขารู้สึกแย่และอับอายไปในเวลาเดียวกัน ที่สำคัญคือไม่ใช่แค่รามที่รับรู้ว่านาวาถูกพันเอกล่วงเกิน แต่พระพายผู้เป็นน้องชายของคนใจร้ายคนนั้นและบอดี้การ์ดอีกหลายคนต่างก็เห็นสภาพของเขาตอนออกมาจากห้องนั่น พันเอกไม่เหลืออะไรให้นาวาเลย ทุกอย่างถูกลิดรอนเอาไปหมดเพียงเพราะเขาเป็นคนที่รามรัก

พูดถึงราม ป่านนี้ชายหนุ่มจะถูกพันเอกทำอะไรต่ออีกบ้าง ดูจากรูปการแล้วคนอย่างรามคงไม่ยอมอยู่นิ่งๆ หลังจากที่เห็นเขาถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาเป็นแน่ แค่มองสายตาที่รามใช้มองพันเอกนาวาก็รู้ได้ทันทีว่าชายคนนั้นจะหาทางทำทุกอย่างให้คนอย่างพันเอกเจ็บเจียนตาย รามจะทำทุกอย่างเพื่อเขา พอคิดมาถึงตรงนี้แก้มสองข้างของนาวาก็ร้อนผ่าว เขาใช้ชีวิตหมดไปกับการกัดฟันสู้เพื่อนะโมมาเนิ่นนานจนไม่ได้มีเวลามองหาใคร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารามรักเขาได้อย่างไร แต่นาวาก็ไม่ใช่คนอ่อนต่อโลก สายตาชายหนุ่มบอกแจ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เปิดเผยทุกความรู้สึกต่อเขาว่ารามรักเขาจริงๆ

แต่ตอนนี้จะให้นาวายื่นมือออกไปตอบรับความรู้สึกดีๆ แบบนั้นก็คงเป็นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ร่างกายของเขาสกปรกแปดเปื้อนไปแล้ว อีกทั้งในตอนนี้ตัวเขาเองก็ตกอยู่ใต้อำนาจของพันเอกชนิดที่ว่าไม่อาจหลุดพ้นหากอีกคนไม่ยอมปล่อย นาวาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับรามอีกไม่ว่าจะกรณีใดใดทั้งสิ้น เพื่อที่ว่าทุกอย่างจะได้ไม่เลวร้ายไปมากกว่านี้ หากรามถลำลึกกับเขามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่าคนอย่างรามคงจะหาทางมาชิงตัวเขาไป แต่ก็อย่างที่พันเอกพูด ยิ่งรามรักเขามากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเจ็บปวด สู้ให้ทุกอย่างจบลงเสียแต่ตอนนี้ยังจะดีเสียกว่า

เขาไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่งกับเรื่องราวระหว่างรามกับพันเอก

ไม่ควร...ไม่อย่างเด็ดขาด...

แต่ถึงจะบอกกับตัวเองแบบนั้น สองขากลับเดินออกจากห้องของพันเอกและก้าวช้าๆ ลงไปยังห้องใต้ดินที่รามถูกจับเอาไว้ เป็นห่วง...ความรู้สึกเหล่านี้ตีพันกันจนยุ่งเหยิงอยู่ภายในอก อยากจะลงมาดูว่าพันเอกทำอะไรร้ายแรงหรือเปล่า แม้จะเพิ่งได้เผชิญหน้ากันในวันนี้แต่นาวากลับรู้สึกว่าหัวใจของเขาอบอุ่นอย่างน่าประหลาดเมื่อถูกรามจ้องมองด้วยแววตาที่บอกว่าเขาจะต้องไม่เป็นไร

บานประตูห้องลอยเด่นอยู่ตรงหน้า มือขาวเอื้อมไปจับเอาไว้พลางหมุนเบาๆ มันไม่ได้ล็อคอย่างที่ควรจะเป็น น่าแปลก...

แต่ถึงอย่างนั้นนาวาก็ไม่ได้เอะใจอะไร เขาเปิดประตูเข้าไปแผ่วเบาพลางปิดมันลงช้าๆ ดวงตาหรี่เมื่อเจอแสงไฟภายในก่อนจะกระพริบปริบๆเพื่อปรับสภาพ

“นา...วา” เสียงเรียกชื่อด้วยความตกใจดังขึ้นผะแผ่ว นาวาหันไปมองเจ้าของเสียงที่มีสภาพยับเยินมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างก่อนที่สองขาจะก้าวเร็วๆ เข้าหารามที่ตอนนี้นั่งพิงผนังห้องหายใจหอบถี่

“คุณราม” ร่างโปร่งเดินเข้าไปทรุดกายอยู่เคียงข้างพลางยกมือขึ้นแตะแผ่วเบาที่ใบหน้าฟกช้ำ รามปรือตามองคนตัวเล็กกว่าก่อนจะตวัดเอวของนาวาเอาไว้ ออกแรงรั้งร่างเล็กเข้าหาตัว ริมฝีปากที่แตกยับบดเบียดแนบลงกับริมฝีปากอิ่มของนาวาอย่างรวดเร็ว คนตัวขาวตาเบิกกว้างเมื่อถูกรามดึงไปจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างทั้งร่างเกร็งขืนขึ้นในขณะที่หัวใจเต้นระส่ำไม่หยุด

“อื้อ คุณรา-” เสียงเรียกชื่ออีกคนดังขึ้นเมื่อร่างสูงถอนจูบออกไปชั่วครู่ก่อนจะประกบปากเข้ามาอีกครั้ง คราวนี้นาวาหลับตาพริ้มยอมรับสัมผัสของอีกคนด้วยความเต็มใจ สมองสั่งการบอกว่าไม่ควรทำอย่างนี้ หากแต่ใจกลับโอนอ่อนไปตามสัมผัสของอีกคน

กลีบปากคู่สวยเปิดกว้างให้ลิ้นร้อนที่ยังมีรสชาติของเลือดติดอยู่ได้สอดแทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กที่หลบเลี่ยงอย่างไม่ประสีประสา จูบอ่อนโยนเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรงในขณะที่เสียงครางอื้ออึงเริ่มเพิ่มระดับขึ้นจนดึงสติของนาวาให้หวนคืน ร่างเล็กดันกายออกห่างพลางหอบสะท้านในขณะที่รามมองมาด้วยสายตาที่แสดงถึงความไม่เข้าใจ

“เราไม่ควรทำแบบนี้” นาวาเอ่ยเสียงสั่น รสจูบของอีกคนหวานล้ำจนเขาเสียการควบคุม แต่ก็ต้องข่มตัวเองเอาไว้ไม่ให้แสดงอาการหวั่นไหวอ่อนแอไปมากกว่านี้

“ตอนนี้ข้างนอกไม่มีคนอยู่แล้ว คุณต้องหนีออกไปจากที่นี่” นาวาเอ่ยขึ้น แม้จะเอะใจกับสถานการณ์เช่นนี้แต่ข้างนอกไม่มีใครอยู่อีกแล้วจริงๆ พันเอกเองก็ไม่ได้กลับขึ้นไปบนห้อง นาวาคาดว่าคนคนนั้นคงจะอยู่ในห้องทำงาน

“ไปกับฉันนาวา ออกไปจากที่นี่กับฉัน” รามเอ่ยขึ้นพลางจ้องร่างโปร่งที่สวมชุดของพันเอกด้วยความเจ็บปวด ภาพที่นาวาถูกพันเอกตรึงกับพื้นห้องและสอดใส่แก่นกายเข้าหาซ้ำแล้วซ้ำเล่ายังคงติดตา แต่นั่นยังไม่เจ็บเท่ากับคำตอบของนาวาที่มาพร้อมกับน้ำเสียงสั่นระริกอย่างน่าสงสารในตอนนี้

“ผมไปไม่ได้ ผมไปกับคุณไม่ได้” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นซึ่งรามก็ได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจ

“ผมไปอยู่กับคุณไม่ได้ ถ้าผมไปเขาจะต้องทำร้ายน้องชายของผมแน่”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ฉันจะดูแลน้องนายเอง” รามเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่นาวากลับส่ายหน้าหวือ

“คุณดูแลเขาไม่ได้ตลอดเวลาคุณก็รู้ ผมขอโทษจริงๆ แต่ผมให้น้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ” นาวาพูดขึ้นทำเอาอีกคนเงียบไป รามกัดฟันกรอด จ้องมาที่เขาแน่วแน่ ดวงตาสีเข้มที่มองมามีหลายหลายความรู้สึกจนนาวาได้แต่ก้มหน้า

“ฉันน่าจะใจกล้ายื่นมือไปหานายก่อนที่มันจะทำร้ายนายแบบนี้” รามเอ่ยขึ้น ใช่ เขาน่าจะใจกล้ามากกว่านี้ นาวาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน เป็นเพราะความขี้ขลาดของเขาแท้ๆ นาวาจึงต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็น

“เรื่องของเราไม่มีวันเป็นไปได้เลยใช่ไหม” นายหัวหนุ่มถามขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง ความเจ็บจากการถูกซ้อมเทียบไม่ติดจากความทรมานในใจที่เห็นคนที่รักนั่งอยู่ตรงหน้าแต่คว้ามากอดไม่ได้

นาวาเงยหน้าขึ้นสบตากับรามก่อนจะเม้มปากแน่นพร้อมกับตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่คุณมีให้ แต่ตัดใจจากผมเถอะครับ คุณจะได้ไม่ทรมานไปมากกว่านี้ ตราบใดที่คุณรักผม คุณพันเอกก็จะยิ่งใช้ผมทำให้คุณอ่อนแอ”

“...”

“ได้โปรด เพื่อตัวคุณ อย่าล้มเพราะผม อย่าให้คุณพันเอกใช้ผมทรมานคุณอีกเลยนะคุณราม อย่าเจ็บเพราะคนไร้ค่าอย่างผมเลย”

“...”

“ออกไปจากที่นี่ และยืนหยัดขึ้นอีกครั้งอย่างคนที่ไร้จุดอ่อน ลืมผม ไม่ต้องห่วงผม แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่เข้มแข็งกว่าใครๆ”

นาวาเอ่ยขึ้นพลางจ้องอีกคนผ่านม่านน้ำตา รามกัดฟันกรอดกับสิ่งที่อีกคนพูด ให้ตัดใจงั้นสินะ อยากจะเถียงเหลือเกินว่ารามทำไม่ได้ ให้ตัดใจจากคนตรงหน้านี้เขาทำไม่ได้ แต่มันก็เป็นเพราะเขาชะล่าใจเองและสะเพร่ามากเกินไปจนเผลอคิดไปว่าพันเอกคงหาทางขัดขาเขาเฉพาะเรื่องธุรกิจเพียงเท่านั้น รามไม่คิดว่าอีกคนจะยังผูกใจเจ็บเคียดแค้นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนถึงขนาดเอาคืนกับเขาด้วยวิธีแบบนี้

แต่ก็คงไม่แปลกนัก...เป็นใครก็คงแค้นคนที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองอยู่แล้ว

“ลุกเถอะ ก่อนจะมีคนมาเห็น” นาวาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเงียบไป ร่างโปร่งขยับเข้าไปพยุงร่างสูงของอีกคนก่อนจะค่อยๆ พารามออกมาจากห้องและเดินขึ้นมายังห้องโถงที่มืดสลัวอย่างระมัดระวัง แสงไฟจากภายนอกสาดส่องเข้ามาเผื่อแผ่บริเวณด้านในจึงพอทำให้เขามองเห็นทางเดินและเครื่องใช้ภายในบ้านได้บ้าง นาวาตัดสินใจพารามเดินมายังส่วนของลานสระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่ด้านข้าง ก่อนที่คนตัวขาวจะต้องตัวชาวาบเมื่อเห็นพายุกำลังนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำอยู่ที่ริมสระ

“บ้าเอ๊ย นึกว่าหลับกันไปหมดแล้วซะอีก” นาวาสบถเบาๆ พลางพาร่างของตนและอีกคนที่พยุงอยู่หลบหลังเสาต้นใหญ่ คนตัวขาวเม้มปากแน่น มองแผ่นหลังเล็กที่กำลังเหม่อลอยแล้วก็คิดไม่ตกว่าจะทำยังไงต่อไปดี แต่แล้วนาวาก็ต้องหัวเสียระคนหวาดหวั่นอีกครั้งเมื่อเห็นร่างสูงของพันเอกเดินมาสมทบพลางหย่อนตัวนั่งลงข้างๆ กัน

“ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน” เสียงพันเอกดังขึ้นพร้อมกับฝ่ามือหนาที่ยกขึ้นลูบหัวลูกน้องคนสนิทแผ่วเบา พายุเป็นเด็กที่เขาเอ็นดู เจ้าตัวเป็นเด็กกำพร้าที่ครอบครัวเขารับอุปการะ เห็นกันมาตั้งแต่ยังตัวแดงๆ รักเหมือนกับน้องชายอีกคน

“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะครับ” พายุพูดขึ้น “คุณเอกครับ...คิดดีแล้วเหรอครับที่ทำแบบนี้”

“ทำไมถามแบบนั้น”

“ผมแค่รู้สึก...เหมือนเรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นแบบที่เราคิดมาโดยตลอด”

“มันพูดเองว่าเราโกงเงินมัน หาว่าเราขายข้อมูลของบริษัท แล้วพ่อกับแม่ของฉันทำเหรอ”

“ผม...ไม่รู้”

“...”

“คุณเอกแน่ใจเหรอครับว่าที่รามส่งคนมาตัดสายเบรกรถของคุณท่านเป็นเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่าเราโกงพวกเขาจริงๆ”

“แล้วมันมีเหตุผลอะไรอีกที่มันจะฆ่าพ่อแม่ฉันล่ะ เราไม่ได้โกงมัน แต่เพราะคำพูดชั่วๆ ของปู่มันเลยทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ มันมากกว่าที่ไม่รู้อะไรเลย ทั้งๆ ที่หลักฐานก็หาไปให้แม่งดูแล้ว แต่ไอ้กลทีบ์ห่าเหวทั้งหลายแหล่ก็ยังทำระยำกันต่อ”

“...”

“ฉันรอวันนี้มาทั้งชีวิต นายก็น่าจะรู้” พันเอกพูดเสียงเฉียบทำเอารามกัดฟันกรอดจนนาวาเองก็ยังได้ยิน

“แต่คุณวาเขา...”

“นาวาทำไม”

“...ช่างมันเถอะครับ ผมคงคิดเยอะไปเอง” พายุพึมพำ ก่อนจะจ้องมืองผืนน้ำยามค่ำคืนด้วยแววตาเหม่อลอย

“รู้ใช่ไหมครับว่ารามจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้”

“...”

“ครั้งนี้ไม่ใช่แค่เผาสวนปาล์มหรือฆ่าหอยมุกแบบครั้งก่อนๆ ที่คุณเคยสั่งให้ผมทำ แต่มันคือการเอาหัวใจเขามากรีดเล่นต่อหน้าเจ้าของ รามจะไม่ปล่อยคุณเอาไว้ รู้ใช่ไหมครับ”

“อืม ฉันก็ไม่คิดจะปล่อยมันเอาไว้เหมือนกันนั่นแหละ”

“ผมขออะไรอย่างได้ไหมครับ อย่าทำร้ายคนบริสุทธิ์ไปมากกว่านี้เลย แค่วันนี้มันก็เพียงพอให้รามแค้นพวกเรามากจนเกินพอแล้ว” พายุพูดขึ้นพลางขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจ พันเอกยกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบเสียงเรียบ

“ถ้าฉันตาย ไอ้เลวนั่นก็ต้องตายด้วยละน่า นายคิดว่าฉันอ่อนหัดขนาดจะพลาดท่าง่ายๆ หรือไง”

“ผมไม่รู้อ่ะ” พายุเถียง พันเอกหัวเราะในลำคอพลางโยกหัวคนอายุน้อยกว่าไปมาอย่างเอ็นดูก่อนจะตอบกลับไป

“ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ มันไม่มีทางได้ตัวนาวาหรอก ฉันอยากให้มันรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็นที่เห็นนาวาอยู่กับฉัน เห็นคนที่มันรักอยู่กับคนที่เกลียด ทำได้แค่นั่งมองเป็นหมาเห่าเครื่องบิน ไม่มีสิทธิ์ห่าอะไรในตัวนาวาทั้งสิ้น”

“ผมเห็นมานักต่อนักแล้วเนี่ย เดี๋ยวสุดท้ายก็รักคุณวาเข้าให้สักวัน คราวนี้ได้ฆ่ากันตายห่าจริงๆ แน่”

“หึ...รักไม่รักมันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ที่ฉันสนใจคือทำยังไงก็ได้ให้มันพินาศที่สุดก็พอ” พันเอกเอ่ยเสียงเย็นเยียบ หลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดใดหลุดออกมาจากคนทั้งคู่อีก บรรยากาศโดยรอบในเวลานี้เงียบสงัดจนนาวาอดแปลกใจไม่ได้ แต่พอหันไปมองรามที่ตอนนี้เริ่มหอบหายใจถี่กระชั้นมากขึ้นร่างโปร่งก็ร้อนรนขึ้นมา ถึงจะแข็งแรงแค่ไหนแต่การถูกซ้อมหนักแบบนี้ก็ทำเอาอาการของรามสาหัสเอาเรื่อง หากไม่รีบส่งโรงพยาบาลมีหวังรามต้องเป็นหนักมากกว่านี้แน่ๆ

“อดทนหน่อย ผมจะหาทางพาคุณออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด” นาวาหันกลับไปกระซิบกับร่างแกร่งที่เริ่มหายใจรวยรินขึ้นทุกที่ มือขาวยกขึ้นแตะเบาๆ ที่ข้างแก้มของอีกคน ดวงตากลมทอดมองรามอย่างเป็นห่วงจนคนถูกมองอดยิ้มออกมาไม่ได้ มือแกร่งยกขึ้นมาวางทับลงบนมือขาวที่อยู่ข้างแก้มก่อนจะบีบเบาๆ

“ยังไหว” รามกำชับเสียงหนักแน่น ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันก่อนที่นาวาจะสะดุ้งสุดตัวและหันหลังกลับไปมองอีกด้านอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า ร่างขาวกับโครงหน้าได้รูปยืนตัวแข็งทื่อเบิกตากว้างเมื่อเห็นนาวากับรามนั่งขดหลบมุมให้พ้นจากสายตา อีกฝ่ายกวาดมองสภาพร่อแร่ของรามก่อนจะหันกลับมามองนาวาที่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้พลางส่ายหน้า

โชคไม่เคยเข้าข้างเขาเลย ตอนนี้ทั้งคู่ถูกพายุเห็นเข้าแล้ว

ด้านคนตัวขาวเองก็ทำเพียงเม้มปากแน่น พายุหันไปมองพันเอกที่ยังนั่งจ้องผืนน้ำไม่วางตาก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหานาวาและทรุดตัวลงตรงหน้ารามที่สติเลือนรางแทบจะทุกที

“ผมไปนอนก่อนนะครับคุณเอก” ร่างโปร่งพูดขึ้นเสียงดัง ก่อนจะพยักหน้าให้นาวาพลางยกมือขึ้นไปตบเบาๆ ที่แก้มของรามเพื่อเรียกสติ เมื่อได้ยินเสียงตอบรับของผู้เป็นนาย พายุก็ไม่รอช้า รีบช่วยนาวาพยุงร่างของรามขึ้นอย่างเบามือ

“กลับเข้าบ้านครับ ไปออกทางหน้าบ้านเลย” พายุกระซิบ นาวาไม่มีเวลาจับต้นชนปลายอะไรมากนักจึงได้เออออตามที่อีกฝ่ายพูด ทั้งสองช่วยกันพยุงร่างสูงของรามอย่างทุลักทุเลก่อนจะค่อยๆ เดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตู น้ำเสียงทรงพลังที่แฝงความกรุ่นโกรธก็ดังขึ้นด้านหลังทำเอาทั้งพายุและนาวาถึงกับเสียวสันหลังวูบ

“ฉันให้นายไปนอน แล้วสะเออะไปช่วยพวกมันสองตัวทำไมยุ”

“คุณเอก... ” ร่างโปร่งร้องเรียกชื่ออีกคนเสียงแผ่วในขณะที่นาวาหน้าซีดเผือด พันเอกแสยะยิ้มเมื่อทั้งสามหันมามองหน้าเขาชัดๆ ก่อนที่ไฟทุกดวงที่เคยดับสนิทจะสว่างวาบขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของบรรดาการ์ดที่นาวาเคยสงสัยว่าหายไปไหน

“ก็รู้นะว่าโง่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะโง่ขนาดนี้เลยว่ะ” ร่างสูงส่งสายตาเย้ยหยันไปให้รามกับนาวาก่อนจะพยักเพยิดให้จักรเดินไปคว้าตัวพายุออกมายืนข้างตน

พรึ่บ!

“โอ๊ยพี่จักรเบาๆ ผมเจ็บ!” คนตัวเล็กกว่าร้องโวยวายเมื่อถูกดึงให้ห่างจากอีกสองคน รามทรุดกายลงทันทีที่ไม่มีใครช่วยพยุงร่างเอาไวอีกข้าง ส่งผลให้นาวาที่มีแรงเพียงน้อยนิดต้องนั่งลงกับพื้นตามไปด้วย พายุมองทั้งคู่ด้วยความเห็นใจก่อนจะก้มหน้านิ่งเมื่อเห็นสายตาวาวโรจน์ของผู้เป็นเจ้านาย

“เอาไว้ฉันจะคิดบัญชีกับนายทีหลัง” ประมุขของบ้านคาดโทษ

พันเอกกำลังโกรธ โกรธมาก โกรธชนิดที่ว่าพร้อมจะฆ่าทุกคนที่ขัดใจ

“ดูเหมือนนาวามันจะหลงมึงแล้วมั้งราม ถึงขนาดกล้าขัดคำสั่งกูลงมาช่วยมึงขนาดนี้นี่...น่าดีใจชิบหาย” ร่างสูงใหญ่เอ่ยขึ้นพลางย่างสามขุมเข้าหาสองร่างที่นั่งอยู่ที่พื้น ก่อนจะออกแรงดึงร่างของนาวาออกมาจากอีกคนพลางลากร่างโปร่งไปใกล้สระน้ำและผลักนาวาลงไปเต็มแรง

“อ๊ะ! คุณเอก!”

ตู้ม!!!!!

“ไอ้เหี้ย!” รามสบถ พยายามถลาเข้าหานาวาแต่ก็ถูกลูกน้องของพันเอกอย่างจักรเดินมากระทืบเข้าที่ท้องอย่างแรงจนทรุดลงไปกองกับพื้น เจ้าของบ้านยกยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะมองนาวาที่ถลาขึ้นมาจากน้ำด้วยดวงตาวาวน์โรจน์

นาวาหันไปมองรามที่ถูกซ้อมอีกครั้งพลางก็เรียกชื่ออีกคนเสียงหลง ก่อนจะว่ายไปยังขอบสระเพื่อขึ้นฝั่ง แต่กลับถูกพันเอกจิกผมเอาไว้เต็มแรงและกดลงกับน้ำอีกครั้ง

“ห่วงมันมากนักเหรอ ห่วงมันมากจนไม่กลัวตายเลยใช่ไหม!!!” พันเอกเอ่ยด้วยความไม่พอใจในขณะที่นาวาสำลักน้ำจนหูตาแดงก่ำ รามกัดฟันกรอด ก่นด่าพันเอกอย่างเคียดแค้นชิงชังเมื่อเห็นอีกคนกำลังจับนาวากดน้ำอย่างเลือดเย็น แต่เขาก็ช่วยอะไรนาวาไม่ได้เพราะตอนนี้ร่างกายของเขาก็เริ่มเกินขีดจำกัดแล้วเช่นกัน

“แค่กๆ โอ๊ย!!!”

“มานี่เลย ดื้อนักใช่ไหม” พันเอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดันพลางดึงร่างของนาวาที่เปียกซกขึ้นมาบนฝั่ง ร่างโปร่งสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดงพลางปลิวตามแรงฉุดรั้งของคนตัวสูง นาวาถูกพันเอกเหวี่ยงลงไปกองกับพื้นใกล้กับร่างของรามที่ถูกซ้อมอย่างหนัก ก่อนจะโดนร่างสูงรัดร่างเอาไว้จากทางด้านหลัง ใบหน้าขาวของนาวาถูกบังคับใหมองอีกคนที่กำลังนอนราบอยู่บนพื้น รองรับแรงกระทืบจากลูกน้องของพันเอกหลายชีวิต

“ฮึก พอ พอแล้ว ปล่อยเขาไปเถอะคุณเอก ผมยอมแล้ว ได้โปรด เขาเจ็บแล้ว” นาวาเอ่ยเสียงสั่นน้ำตาไหลพราก ยิ่งมองรามที่ถูกซ้อมจนแทบจะทนไม่ไหวก็ยิ่งรู้สึกเสียใจ พันเอกหัวเราะในลำคอพลางออกแรงบีบแก้มขาวจนนาวาร้องเสียงหลง ใบหน้าหล่อเหลาโน้มตัวลงไปกระซิบชิดใบหูขาวด้วยน้ำเสียงชวนให้สะอิดสะเอียน ก่อนที่ร่างโปร่งจะถูกผลักลงให้นอนราบกับพื้นบ้านอีกครั้ง

“มันเจ็บแค่นี้ยังน้อยไป กับสวะที่ส่งคนมาทำลายชีวิตฉันแค่นี้มันยังน้อยไป ฉันจะทำลายนายต่อหน้ามันซ้ำๆ จนกว่ามันจะตายสมใจ!” จบประโยคพร้อมกับกระชากเสื้อผ้าอาภรณ์ของคนใต้ร่างออกอีกครั้งด้วยแรงทั้งหมดที่มี นาวาหวีดร้องเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังจะทำอะไรจนรามที่ได้ยินถึงกับคำรามเสียงก้อง ชายหนุ่มพยายามฝืนร่างลุกขึ้นสู้ ทว่าก็พลาดท่าจนถูกตรึงให้นอนราบไปกับพื้นอีกครั้ง ความเจ็บแปลบแล่นริ้วขึ้นไปทั่วเรือนร่างในขณะที่ดวงตาพร่ามัว รามปรือตาที่หนักอึ้งจ้องมองไปยังร่างโปร่งของนาวาที่กำลังดิ้นหนีพันเอกสุดแรง นายหัวหนุ่มได้แต่กัดฟันกรอด บอกตัวเองว่าหลับไม่ได้ เขาจะหลับตอนนี้ไม่ได้

“ปล่อยวา...พันเอก ปล่อยคนของกู” รามเอ่ยเสียงแผ่วก่อนจะไอโขลกเอาเลือดออกมา พันเอกแสยะยิ้มให้คนที่นอนหมดสภาพก่อนจะตรึงแขนขาวของคนใต้ร่างเอาไว้เหนือหัวแล้วท้าทายรามด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“มาแย่งไปสิราม มึงมีปัญญาไหม”

“ฮึก คุณเอก ปล่อย”

“...”

“เอาตัวเองให้รอดแล้วรอดูสุดที่รักของมึงเป็นเมียกูอีกรอบดีกว่าไหม เดี๋ยวกูจัดให้ในแบบที่มึงจะลืมไม่ลงเลย” พันเอกพูดขึ้นก่อนจะยกขาเรียวของนาวาขึ้นพาดบ่า ไม่นานเสียงร้องแห่งความเจ็บปวดทรมานก็ดังขึ้นเมื่อคนตัวเล็กกว่าถูกประมุขของกฤตภาสย่ำยีต่อหน้ารามอีกเป็นครั้งที่สอง นาวาร่ำไห้ราวจะขาดใจเมื่อร่างกายถูกรุกล้ำในขณะที่รามได้แต่กำมือแน่นหายใจรวยรินอยู่ข้างๆ พันเอกจ้องใบหน้าขาวซีดที่บัดนี้ไม่เหลือความเข้มแข็งให้เห็นก่อนจะแสยะยิ้ม พายุและลูกน้องคนอื่นๆก้มลงมองร่างสะบักสะบอมของรามและทำเป็นไม่สนใจเสียงของเจ้านายและใครอีกคนที่กำลังโดนทำร้าย แม้จะสะเทือนใจกับสิ่งที่พันเอกทำไม่ต่างกัน แต่พวกเขาก็เป็นเพียงลูกน้องที่มีหน้าที่ทำตามคำสั่งของคนเป็นเจ้านายเพียงเท่านั้น

“ฮึก อื้อ! ค...คุณเอก!!!” ร่างขาวเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย แผ่นหลังบางเสียดสีกับพื้นริมสระว่ายน้ำจนถลอกและรู้สึกแสบไปทั่ว นาวามองพันเอกด้วยแววตาเจ็บปวดพลางกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ยิ่งเห็นรอยยิ้มสะใจที่อีกคนส่งมาให้ยิ่งรู้สึกเกลียดคนตรงหน้าจนอยากจะกลั้นหายใจและตายไปให้พ้น

“ทำหน้าแบบนั้น ไม่ชอบเหรอ ไม่ชอบฉันไม่ทำต่อก็ได้ เดี๋ยวไปเอาน้องชายนายแทนดีไหม” พันเอกเอ่ยพลางยกยิ้มทำเอาอีกคนส่ายหน้าหวือ

“อย่า อย่าทำอะไรนะโม คุณสัญญาแล้ว ฮ่ะ อื้อ!”

“เลือกมาสักคน ไอ้ห่าที่ร่อแร่ใกล้ตายข้างๆ หรือคนที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนห้อง เลือก!” พันเอกเอ่ยขึ้นพลางปล่อยมือขาวให้เป็นอิสระ นาวาเม้มปากแน่นพลางหันไปมองรามที่มองมาที่เขาด้วยดวงตาพร่ามัว

ร่างโปร่งสะอื้นฮัก ตัดสินใจสะบัดหน้ากลับไปหาพันเอกพร้อมกับยกสองแขนขึ้นไปรั้งใบหน้าหล่อเหลาลงมารับจูบจากเขาก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างช้าๆ พันเอกยกยิ้มเมื่อได้คำตอบจากอีกคน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายหันไปมองรามพร้อมกับพูดเสียงเย็นยะเยือก

“ที่นี่ไม่มีคนของมึงแล้วว่ะราม หึหึ” ร่างสูงทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะก้มลงรับจูบจากนาวาพลางอุ้มร่างโปร่งขึ้นและเดินเข้าบ้านไป รามมองตามหลังของคนทั้งคู่ไปแล้วก็ได้แต่สบถเสียงเบา นาวายังคงหลับตาลงในขณะที่ขาขาวเกี่ยวเอวสอบของพันเอกเอาไว้แน่น ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นก่อนที่สติสัมปชัญญะจะเลือนหายไปคือภาพที่นาวาแหงนใบหน้าขึ้นพร้อมกับพันเอกที่แต้มริมฝีปากลงไปทั่วลำคอขาว

ใช่...พันเอกพูดถูก

ที่นี่ไม่มีอะไรที่เป็นของเขา

‘ได้โปรด เพื่อตัวคุณ อย่าล้มเพราะผม อย่าให้คุณพันเอกใช้ผมทรมานคุณอีกเลยนะคุณราม อย่าเจ็บเพราะคนไร้ค่าอย่างผมเลย’

ไม่มี

‘ออกไปจากที่นี่ และยืนหยัดขึ้นอีกครั้งอย่างคนที่ไร้จุดอ่อน ลืมผม ไม่ต้องห่วงผม แล้วคุณจะกลายเป็นคนที่เข้มแข็งกว่าใครๆ’

ไม่มีอีกต่อไปแล้ว...

ทุกอย่างคือความว่างเปล่า


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 4 UP (8/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Kamidere ที่ 08-10-2014 19:51:27
ขออนุญาตไม่สุภาพนิดนึง ไม่งั้นมันไม่ถึงใจ


พระเอกแม่งเหี้ย! เลวจริงอะไรจริงมาก ขอพ่นไฟให้เลย กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ    :m31: :m31: :fire: :fire:
เลว ชั่ว เหี้ย นรกส่งมาเกิด แต่ดันหล่อระยำปวดตับ โอ๊ยอิชั้นไม่ไหว  :katai1: :z6:

เอกนี่เลวมากจริงๆ เป็นพระเอกที่เลวที่สุดเท่าที่เคยอ่านนิยายมาเลยนะ ทั้งนิยายแบบปกติหรือแบบชายชาย ไม่เคยเจอพระเอกเลวขนาดนี้เล้ยยยยย แต่เลวแบบมีเสน่ห์อ่ะ คือเลวดิบจริงๆ นี่มันคือตัวจริงของความเลวเลยนี่หว่า! ลากไอ้เอกมาโบกอีโต้แม่ง  :z6: :beat:

แอบตามไปที่ธัญวลัยด้วย ตอนแรกเห็นผ่านๆตาไม่ได้สนใจอะไร เหมือนเม้นก่อนหน้าก็คือ แม่งจะเลวได้แค่ไหนนะ? (เพราะของตัวเองก็เลวไม่ได้ขนาดนี้ค่ะบอกเลย 5555) พออ่านเข้าจริงๆ เห้ยแม่งของจริงนี่ว่า!!!!!! กร๊าซซซซซซซซซซซซซซ เลว SM ได้ใจมากอ่ะ อ่านไปกลัวไปเลยนะ คือไม่ค่อยกล้าอ่านเท่าไหร่แต่ก็อยากอ่านอ่ะ เหมือนเวลาเอามือปิดตาแต่กางนิ้วอย่างนั้นแหละ คำพูดแต่ละอย่างของเอกเจ็บปวดและหยาบคายมาก รับตรงคำพูดไม่ได้เลยจริงๆ แล้วก็กลัวแทนนาวาด้วยเวลาจะมีอะไรกัน คือนาวารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไอ้เราอ่านก็รู้ด้วย พอนาวากลัว เราก็กลัวด้วย กลายเป็นว่าตอนนี้กลัวฉากเรทของนาวากับไอ้พันเอกมากเลย นาวาเจ็บแล้วเสียววูบแทนจริงๆ เขียนได้เข้าถึงอารมณ์เรามากค่าาาาา

เป็นกำลังใจให้นะคะ อัพบ่อยๆนะ ทยอยอัพก็ไม่เปนไร รอเรื่องนี้ปูเสื่อเลยค่ะ  :mew1:

สงสัยเรื่อง font อยู่เหมือนกันเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ขออนุญาตนำเทคนิคไปใช้นะคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 4 UP (8/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 09-10-2014 10:03:12
นี่พูดเลย พระเอกเลวมาก
ชั่วมาก ทุเรศมาก
มากจนอยากจะด่าให้มากกว่านี้
คือนาวาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นอะไรเลย
แค่รามแอบชอบ พันเอกไร้เหตุผลมาก
เป็นผู้ชายที่ไร้เหตุผลมากจริงๆ
ไม่มีความเมตตา ไร้ซึ่งความเป็นคน (อีนี่อินมาก  :fire:)
แต่ก็ยังอยากติดตามนะ
อยากรู้ว่าความจริงเป็นยังไง พ่อแม่ของพันเอกทำความผิดจริงมั้ย
แล้วนาวาจะเป็นยังไงต่อไป ก็ยังอยากอ่านอยู่ดี
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 4 UP (8/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 09-10-2014 11:43:13
เลวได้ใจจริงๆๆ


สงสารนาวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 4 UP (8/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:36:06
ตอนที่ ๖


พันเอกอุ้มร่างขาวของนาวาเข้ามาภายในบ้านและตรงดิ่งไปยังห้องทำงานที่ตั้งอยู่ทางปีกซ้ายของบ้านอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลามากพอจะเดินขึ้นบันไดไปจนถึงห้องนอน เมื่อเปิดประตูและเข้ามาภายในได้ก็ดันนาวาให้แนบติดกับผนังพลางตรึงแขนเล็กเอาไว้กับห้องอย่างแน่นหนา

“อ๊ะ! คุณเอก…” เสียงครางหวีดหวิวดังลอดผ่านริมฝีปากคู่สวยเมื่อต้นคอถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากของอีกคน ร่างสูงดูดเม้มเนื้อเนียนอย่างรุนแรงด้วยความกรุ่นโกรธ นาวาตัวสั่นระริกด้วยความกลัว  ดวงตากลมฉายแววตื่นตระหนกขณะจ้องพันเอกที่กำลังปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองให้มีสภาพกายทัดเทียมกับเขา

“ทำไมถึงต้องไปช่วยมัน อยากลองดีนักใช่ไหม!” พันเอกกดเสียงต่ำดุดัน นาวาส่ายหน้าหวือพลางยันอกแกร่งของอีกคนเอาไว้เมื่ออีกฝ่ายเคลื่อนกายเข้าหา แต่ก็ถูกคนตรงหน้าปัดมือออก

“คุณเอกอย่า ผมยอมทุกอย่างแล้ว ผมสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับคุณรามอีก ได้โปรด อย่าทำแบบนี้เลย” คนเสียเปรียบเอ่ยเสียงสั่นเมื่อรับรู้ถึงการคุกคามของอีกคน พันเอกกระชากเส้นผมของนาวาจนอีกคนหน้าหงายก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบชิดริมฝีปากของนาวาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“คนอย่างนายบอกแล้วเตือนแล้วไม่เคยคิดจำหรอก มันต้องโดนสั่งสอนให้เข็ดให้หลาบถึงจะไม่กล้าอีก!!!”

“อื้อ!”

ร่างขาวร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อพันเอกโฉบใบหน้าลงมาขยี้ริมฝีปากของเขาหลังจากพูดจบ ร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มแนบกับร่างโปร่งบางของนาวาจนแทบจะไม่เหลือช่องว่างใดๆ สองมือรัดร่างขาวซีดเอาไว้แน่นในขณะที่กลีบปากบดเบียดริมฝีปากอิ่มของนาวาอย่างไม่ปราณีเพื่อเป็นการลงโทษ

นาวาส่งเสียงอื้ออึงผ่านลำคอพลางหอบสะท้าน ยกมือขึ้นทุบอกแกร่งของพันเอกแรงๆ จนอีกฝ่ายยอมผละออกห่าง

“แฮ่กๆ อ๊ะ!”

ปึ่ก!

“อื้อ คุณ…อ่ะ คุณเอก” นาวาเรียกชื่ออีกคนเสียงแหบระโหยหลังจากที่ถูกร่างสูงเหวี่ยงให้ไปนอนราบอยู่บนโต๊ะทำงาน เรียวขาขาวถูกแยกออกกว้างพร้อมกับการแทรกร่างเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงกลางระหว่างขาของนาวาอย่างรวดเร็ว พันเอกเท้ามือลงกับโต๊ะพลางจ้องใบหน้าหวาดหวั่นของนาวาด้วยดวงตาวาวโรจน์ แขนแกร่งรั้งเอวของนาวาให้ขยับเข้ามาแนบชิดกับสะโพกหนั่นแน่น แกนกายร้อนระอุถูไถไปตามบั้นท้ายกลมกลึงของคนตัวขาวพาให้รู้สึกสั่นสะท้าน

พันเอกลูบไล้เรียวขาขาวเนียนอย่างหยาบโลน ก่อนจะตวัดมันขึ้นมาพาดไว้ที่บ่าแกร่งพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากอย่างชอบใจ แตะนิ้วลงบนช่องทางสีสดของนาวาแผ่วเบาพลางเค้นคลึงมันอย่างช้าๆ มืออีกข้างก็เลื่อนไปแตะกลางกายของนาวาและบีบเบาๆ อย่างยั่วยุ

“อึ่ก!” คนตัวเล็กกว่าเกร็งสะท้าน ความรู้สึกเสียวซ่านราวกับมีประจุไฟฟ้าแล่นผ่านปลายนิ้วของพันเอกเข้าสู่ร่างกายของเขา นาวาหอบหายใจผะแผ่ว ขาที่พาดอยู่บนบ่าแกร่งสั่นระริก ร่างโปร่งปรือดวงตาหวานฉ่ำจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของพันเอกด้วยอารมณ์ความใคร่ที่ถูกปลุกขึ้นมาทีละนิดๆ

“อื้ออ…คุณเอก” นาวาเรียกชื่อคนที่กำลังรูดรั้งกลางกายให้ตนด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ร่างโปร่งเกร็งสะท้านยามที่อุ้งมือของพันเอกบีบเค้นร่างของเขาและรูดขึ้นลงแรงๆ มืออีกข้างก็ออกแรงบีบก้อนเนื้อหนั่นแน่นอย่างเร้าอารมณ์

พันเอกผละมือออกจากบั้นท้ายของนาวามาแตะลงบนกลางกายของตัวเองและรูดขึ้นลงบ้าง ใบหน้าคมเข้มแหงนขึ้นพลางสูดปากด้วยความเสียวซ่าน สองมือปรนเปรอให้กับนาวาและตนเองถี่กระชั้น ร่างขาวบิดกายเร่าเข้ากับจังหวะมือของคนตรงหน้าพลางกัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือด

“อ๊า คุณเอก!” ร้องเรียกชื่ออีกคนเสียงดังเมื่อมือของพันเอกเพิ่มความเร็วจนร่างของนาวาสั่นระริก ขาทั้งสองข้างตกจากบ่าแกร่งลงมาแนบอยู่ที่เอวสอบ สองแขนจิกไหล่ของพันเอกเอาไว้แน่นเพื่อระบายอารมณ์ ก่อนจะหวีดร้องสุดเสียงเมื่อถึงจุดหมายพลางปลดปล่อยน้ำกามออกมาจนเปรอะไปทั่วหน้าท้องแกร่ง พันเอกยกยิ้ม หยุดมือที่ปรนเปรอตัวเองก่อนจะแตะน้ำสีขาวขุ่นของนาวาขึ้นมาและนวดคลึงบริเวณช่องทางสีสด ร่างโปร่งสะดุ้งตัวสั่นระริก ดวงตากลมมีน้ำตาคลอขึ้นเล็กน้อย หัวใจดวงน้อยสั่นไหวอย่างรุนแรงเมื่อรับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้

“อื้อ อ๊ะ” ร้องเสียงผะแผ่วทว่าหวานหูดังขึ้นเมื่อร่างสูงถูไถส่วนปลายหยอกเย้ากับปากทาง นาวาหอบหายใจถี่กระชั้นพลางหลับตาลงยอมรับชะตากรรมและสิ่งที่ร่างสูงกำลังจะทำกับเขา

พันเอกไม่ยอมปล่อยให้เวลาเสียเปล่า ชายหนุ่มจดจ่อความเป็นชายของตนพลางดันเข้าไปในโพรงอุ่นร้อนของนาวาทันทีเรียกเสียงหวีดหวานให้ดังกึกก้องทั่วห้องทำงานกว้าง

ปึ่ก!

“อื้อ อ๊าาาา!”

“ซี๊ดดดดด”

“ฮึก พอก่อน ผมอึดอัด คุณเอก! ผมเจ็บ!!! หยุดก่อน ได้โปรด มันลึกไป อื้อ ลึกปะ…อ๊าาาาาาา” นาวาครางเสียงหลงเมื่อถูกอีกคนตอกกายเข้าหาครั้งเดียวจนสุดความยาว ร่างโปร่งจุกเสียดจนพูดไม่ออกในขณะที่ผนังนุ่มรัดตัวบีบอัดกลางกายแข็งขืนของพันเอกถี่ๆ จนร่างสูงต้องกัดฟันข่มความต้องการณ์ดิบเถื่อนของตัวเองเอาไว้ สะโพกสอบเริ่มขยับกายสาวเข้าออกช้าๆ ทว่าหนักแน่น ยามกดร่างลงลึกเข้าไปด้านในก็ลงแรงเต็มกำลัง ตอกย้ำให้นาวารับรู้ว่าตอนนี้กำลังร่วมรักอยู่กับเขา ไม่ใช่ใคร

“อื้อ ฮ่ะ อา อ๊ะ” นาวาครางเสียงแหบพร่า ร่างกายบิดเร่าบนโต๊ะทำงานด้วยความเจ็บระคนกระสันซ่าน บ้างก็หวีดร้องเสียงหลงเมื่อพันเอกเพิ่มแรงกระทั้นกายเข้ามาลึกล้ำและถี่ยิบ ควบกายเข้าออกและขับขย่มจนร่างโปร่งบางขยับไปมา เสียงเนื้อบริเวณบั้นท้ายกระทบหน้าขาดังกึกก้อง แรงโยกไหวของร่างสูงกำยำบวกกับความใหญ่โตที่เสียดสีกับผนังภายในช่องทางสีสดขับกล่อมให้นาวาแหงนหน้าสูดปากระบายความกระสันจนกลายเป็นเสียงครางหวานหู

“คุณเอก คุณเอก อ๊าาาา” ร้องเรียกชื่ออีกคนไม่ขาดปากขณะโดนกระแทกเข้าหาไม่ยั้งแรง สองขาขาวเกี่ยวเอวแกร่งของพันเอกเอาไว้ มือเล็กทั้งบีบทั้งจิกไหล่กว้างจนเป็นรอย พันเอกโน้มตัวลงมาซ้อนแผ่นหลังบางขึ้นมาก่อนจะอุ้มนาวาเอาไว้และกระทั้นกายเข้าหาในท่ายืนกลางห้องทำงาน ร่างโปร่งขยับขึ้นลงอย่างรุนแรง นาวาใช้มือคล้องคอของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น สองขาเกาะเกี่ยวเอวสอบของอีกคนเพราะกลัวตก

“…อ๊ะ อ๊า อื้อ คุณเอ…อึ่ก” นาวาครางเสียงหวีดหวิว ช่องทางด้านหลังบีบรัดสิ่งที่กำลังเสียดสีเข้าออกลึกล้ำจนแน่น พันเอกกัดริมฝีปากเมื่อความต้องการของตนพุ่งสูง ชายหนุ่มเดินไปยังประตูห้องทำงานพลางดันร่างของนาวาให้แนบติดกับบานประตู ก่อนจะจับขาเรียวเอาไว้แน่นด้วยอุ้งมือหนาของตนเอง

“อาาาา”

ปึ่ก! ปึ่ก! ปึ่ก!

ชายหนุ่มสาวร่างเข้าออกถี่ยิบทำเอานาวาแทบหยุดหายใจ ร่างโปร่งถูกพันเอกกระแทกกายสวนลึกเข้าออกอย่างหนักหน่วงลึกล้ำ รุนแรงเสียจนนาวาทั้งเสียวกระสันและเจ็บหน่วงไปทั่วร่าง กลีบปากอิ่มเผยออ้าเปล่งเสียงหวีดร้องออกมาเป็นระยะๆ

พันเอกจ้องดวงหน้าของอีกคนด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ก่อนจะโฉบใบหน้าลงมากดจูบเร่าร้อนขณะโยกกายเข้าออกในช่องทางของอีกคน ลิ้นหนารุกคืบเข้าไปกวาดต้อนลิ้นเล็กในโพรงปากหวาน ส่งลิ้นของตนเข้าไปรัดรึงเกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าอย่างยั่วยุสะใจ เสียงครางอื้ออึงดังคละเคล้าไปกับเสียงสองกายที่กำลังสอดประสาน พันเอกโรมรันร่างโปร่งด้วยความเร่าร้อนระคนกรุ่นโกรธ ทุกครั้งที่กระแทกกายเข้าหาก็มักจะเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้น นาวาได้แต่หวีดร้องสลับกับครางแผ่ว ปล่อยให้พันเอกตักตวงทุกอย่างไปตามอำเภอใจ

“…อีกนิดวา อีกนิด” เสียงทุ้มต่ำผ่อนออกจากกลีบปากได้รูปขณะควบกายเร่งจังหวะเป็นครั้งสุดท้าย นาวาสอดมือเข้าไปขย้ำเส้นผมของพันเอกเต็มแรงพลางเกร็งตัวบีบรัดความแข็งขืนที่กำลังเสียดสีถี่กระชั้นบริเวณช่วงล่าง สองร่างเร่งจังหวะสอดประสานร่างกายสุดกำลังเมื่อใกล้จะถึงจุดหมาย ร่างสูงครางระงมในขณะที่นาวาหอบหนัก เสียงกระทบกันของร่างกายทวีระดับความดังขึ้นและดังขึ้น บรรยากาศภายในห้องทำงานลุกเป็นไฟ เหงื่อกาฬของคนทั้งคู่ผุดซึมขึ้นไปทั่วกาย ประมุขของบ้านบีบเอวบางของนาวาแน่นและกระชับร่างโปร่งเอาไว้ขณะสอดใส่เข้าไปภายในเป็นครั้งสุดท้ายเพื่อปลดปล่อย

แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งคู่จะได้ไปถึงจุดหมาย เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงอันคุ้นเคยของจักรที่ดังขึ้นอีกฝั่งของบานประตู

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ชิท!!!”

“ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ” จักรเอ่ยเสียงสงบไร้อารมณ์ พันเอกกัดฟันกรอด ร่างกำยำขยับตัวหอบหนักจากการออกกำลังก่อนหน้า ชายหนุ่มสบถในลำคอพลางก้มลงมองร่างของนาวาที่สั่นระริก ช่องทางอุ่นร้อนรัดรึงโอบอ้อนราวกับต้องการให้เขาเร่งพาไปให้ถึงฝัน ประมุขของบ้านก้มลงดูดดึงกลีบปากของนาวาแรงๆ อย่างรวดเร็วก่อนจะตอบลูกน้องเสียงราบเรียบ

“อีกสิบนาทีฉันจะออกไป”

“ครับ” ลูกน้องคนสนิทรับคำก่อนจะเงียบไป พันเอกหันกลับมาสนใจร่างโปร่งตรงหน้าอีกครั้ง กลางกายยังคงแข็งขืนและแช่ตัวนิ่งอยู่ในช่องทางคับแคบของนาวา ชายหนุ่มก้มลงมองคนในอ้อมอกที่กำลังปรือตาหวานมองเขาก่อนจะสอดแขนเข้าไปใต้ข้อพับขาข้างหนึ่งของนาวาพลางเริ่มกระแทกกายเข้าออกอีกครั้ง

“อ๊ะ อื้อ!” นาวาครางหวีดขึ้นเมื่อความเสียวซ่านเล่นงานอีกครา ประมุขของบ้านเลื่อนใบหน้าลงไปดูดเม้มลำคอขาวแรงๆ จนเกิดเสียง ก่อนจะกระซิบชิดริมฝีปากสีสดด้วยน้ำเสียงยั่วเย้า

“รอบนี้แรงหน่อย เราไม่มีเวลาแล้ว” จบประโยคพร้อมกับส่งแรงทั้งหมดที่มีกระหน่ำร่างเข้าหานาวาจนร่างโปร่งสั่นสะท้าน อ้าปากครางไม่ได้ศัพท์พร้อมกับเกาะเกี่ยวร่างของพันเอกเอาไว้อย่างแนบแน่น

“อ๊าาาาาาา!!!”

...



เกือบยี่สิบกว่านาทีให้หลังร่างสูงของพันเอกก็ปรากฏขึ้นให้บรรดาลูกน้องที่กำลังยืนรอกันอยู่บริเวณโรงจอดรถได้เห็น พายุมองใบหน้าราบเรียบของผู้เป็นเจ้านายแล้วก็ได้แต่หลบตาวูบ ก่อนจะมองเลยไปที่ร่างโปร่งที่ถูกลากตามมาด้วยแววตาเป็นห่วง

“สายไปสิบนาทีนะครับ” จักรเอ่ยแซวด้วยใบหน้าราบเรียบตามแบบฉบับของเจ้าตัว ฝ่ายคนโดนแซวก็ทำเพียงตวัดสายตาไปมองด้วยความโมโหเล็กๆ

“ไอ้รามล่ะ”

“อยู่ท้ายรถแล้วครับ ก่อนหน้านี้ลูกน้องมันอีกสองคนตามมาที่นี่ แต่ผมก็ให้คนของเราจัดการเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้มัดรวมกันอยู่ที่ท้ายรถครับคุณเอก”

“อืม ไปประจำที่กันได้แล้วไป ส่วนนายพายุ อย่าเสนอหน้ามาขึ้นรถคันนี้ ไม่งั้นฉันจับลูกปืนกรอกปากแน่!” พันเอกหันไปคาดโทษลูกน้องคนสนิทอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จักร ทำเอาพายุถึงกับพยักหน้าอย่างจำยอม

“ครับ” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะผละออกไปจากบริเวณ

เมื่อลับร่างของลูกน้องคนสนิท ร่างสูงของพันเอกจึงหันหลังกลับมาหานาวาพลางกระชากร่างโปร่งให้ขึ้นไปนั่งบนรถคันหรูอย่างไม่ปราณี คนถูกกระชากเม้มริมฝีปากแน่น ยอมก้าวตามแรงฉุดของพันเอกโดยไม่ปริปากบ่นหรือพยศอะไรอีก

หลังจากเหตุการณ์ในห้องทำงานจบลง นาวาก็แทบจะไม่เหลือเรี่ยวแรงเลยแม้แต่น้อย เขาอยากจะขึ้นไปนอนกอดนะโมและหลับตาลงหนีเรื่องทุกๆ อย่างที่เจอในวันนี้ อยากจะปิดกั้นทุกเรื่องราวและหลับตา ปิดหัวใจและร่างกายของตัวเองให้พ้นความทุกข์ทรมานที่ได้พบเจอ แต่พันเอกกลับไม่ปล่อยให้เขาได้ในสิ่งที่ต้องการเลยแม้แต่น้อย

แน่ล่ะ คนอย่างพันเอกน่ะหรือจะมาสนใจอะไรคนอย่างเขา…ผู้ชายคนนั้นก็คงถนัดแต่การทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการจนไม่สนคนอื่นนั่นแหละ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปมากน้อยแค่ไหน หากแต่พอนาวารู้สึกตัวอีกที ขบวนรถยนต์ของพันเอกก็มาจอดอยู่ริมสะพานข้ามแม่น้ำที่เงียบสงัดเสียแล้ว นาวามองบรรยากาศโดยรอบและแสงไฟสีนวลตาด้วยความไม่เข้าใจว่าเหตุใดพันเอกจึงต้องมาหยุดรถอยู่กลางสะพานในเวลาเช่นนี้

“ลง”

เท่านั้นยังไม่พอ ประมุขของบ้านกฤตภาสยังเปิดปากไล่นาวาลงจากรถทันทีที่รถหยุดอีกด้วย ร่างโปร่งหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความไม่เข้าใจ พันเอกจ้องดวงหน้าซีดเซียวของนาวานิ่งๆ ก่อนจะเปิดประตูและก้าวลงจากรถพลางหันไปมองนาวาที่นั่งนิ่งและเอ่ยขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำแต่ทว่าดุดัน

“ลงจากรถเดี๋ยวนี้นาวา อย่าให้พูดซ้ำ”

“คุณมาทำอะไรที่นี่” นาวาสวนกลับด้วยความหวั่นใจ พันเอกไม่ตอบแต่กลับมองไปยังรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างๆ กันแทน นาวาขมวดคิ้วมองตามสายตาของคนตัวสูงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นลูกน้องของพันเอกลากร่างไร้สติของรามและร่างของคนอีกสองคนลงมาจากท้ายรถ

“คุณราม! ทำไม…คุณจะทำอะไร นี่มันจะมากไปแล้วนะคุณเอก!”

คราวนี้ร่างโปร่งผวาลงจากรถอย่างรวดเร็วและกำลังจะวิ่งเข้าไปหาอีกคน แต่กลับถูกมือแกร่งฉวยต้นแขนเอาไว้และบีบจนแน่น พันเอกจ้องใบหน้าขาวด้วยดวงตาวาวโรจน์พลางแสยะยิ้ม

“นายมีหน้าที่แค่ยืนดู อย่าคิดเสนอหน้าถ้าไม่อยากเป็นผีเฝ้าสะพานตามไอ้เลวนั่นไปอีกคน” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงสะใจขณะมองร่างไร้สติของรามที่ถูกลูกน้องเคลื่อนเข้าใกล้ริมสะพานเต็มที นาวามองตามอีกคนด้วยสายตาเป็นห่วง ร่างโปร่งพยายามดิ้นเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่ไม่ต่างจากเหล็กกล้า แบบนี้มันผิด การที่พันเอกทำแบบนี้มันเกินไปแล้ว เกินไปแล้วจริงๆ

“คุณมันบ้าไปแล้ว นั่นชีวิตคนนะ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ ปล่อยเขา!” นาวาตวาดใส่หน้าอีกคนเสียงแข็งกร้าว พันเอกไม่ใส่ใจกับท่าทีพยศของอีกคน ก่อนจะลากร่างของนาวาตรงดิ่งไปยืนบริเวณริมสะพาน มือแกร่งขยุ้มเส้นผมสีดำของร่างโปร่งเอาไว้ ออกแรงจิกศีรษะจนนาวาร้องเสียงหลง

ชายหนุ่มบังคับให้นาวายืนมองลูกน้องของเขาโยนร่างที่ไม่มีสติของรามและลูกน้องอีกสองคนลงจากสะพาน นาวาอุทานลั่นด้วยความตกใจ ตั้งตัวไม่ทันกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า รู้ตัวอีกทีก็สะบัดกายออกจากพันธนาการของพันเอกและวิ่งไปเกาะราวสะพานเสียแล้ว

“คุณราม…”

กลีบปากอิ่มเรียกชื่ออีกคนเสียงแผ่ว ขอบตาทั้งสองข้างร้อนผ่าว ดวงตาสีเข้มจ้องมองผืนน้ำเบื้องล่างที่ลับร่างของรามไปแล้วด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน ความหวาดกลัวและความปวดหน่วงราวกับมีหินมาถ่วงกายของเขาเอาไว้ตีตื้นขึ้นมาจุกอก แม้จะเจอกับรามเพียงแค่วันเดียว แต่สิ่งที่นาวาสัมผัสได้จากตัวของรามนั้นให้ความรู้สึกดีกว่าการอยู่กับพันเอกหลายเท่าตัวนัก

“หึ! ถึงกับยืนตัวสั่นไปไม่เป็นเลยหรือไง อยากจะตามมันลงไปอยู่ในนรกไหมล่ะ ฉันจะได้สงเคราะห์ให้สาแก่ใจ!!!”

“สักวันเถอะพันเอก สักวันกรรมมันจะตามสนองคุณ คุณจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้” นาวาเค้นเสียงพูดพลางหันกลับไปมองคนที่ยืนพิงรถสองมือล้วงกระเป๋าด้วยท่าทีไม่ยี่หระต่อสิ่งรอบข้าง น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากดูอ่อนแอในสายตาของอีกคนหยดแหมะลงสัมผัสผิวแก้ม

“คนอย่างรามไม่น่ามาพลาดท่าเพราะผู้ชายอย่างนายเลยจริงๆ ว่ะนาวา ทั้งๆ ที่นายมันไม่มีคุณค่าอะไรให้มันอุทิศชีวิตให้เลยแท้ๆ” พันเอกเอ่ยเสียงราบเรียบในขณะที่นาวาได้แต่หันหลังให้ มองผืนน้ำเบื้องล่างที่ยังคงขยับเคลื่อนอย่างเงียบสงบ สองมือกำราวสะพานจนแน่น นึกโทษความโง่เขลาและความอยากของตัวเองที่กระหายเงินตราเสียงจนต้องพาตัวเองและน้องชายเข้ามายุ่งเกี่ยวพบเจอกับความเลือดเย็นเช่นนี้ หนำซ้ำยังเป็นเหตุให้รามต้องมาจบชีวิตลงโดยง่ายดายแบบนี้อีก เขามันตัวซวย…นาวามันตัวซวยจริงๆ

“อืม ไหนเมื่อกี๊นายว่ายังไงนะ...กรรมตามสนองงั้นเหรอ เหอะ ระหว่างรอให้กรรมมันตามสนองฉัน ฉันทำกรรมกับนายเพิ่มฆ่าเวลาหน่อยดีกว่า มานี่!!!!”

“โอ๊ย!!!!” อุทานเสียงดังเมื่อถูกพันเอกกระชากแขนและจับยัดใส่รถอีกครั้ง แต่คราวนี้นาวาไม่ยอม ชายหนุ่มออกแรงต่อต้านสุดกำลังจนพันเอกถึงกับสบถออกมาเสียงดัง และก็เป็นอีกครั้งที่ร่างโปร่งต้องเจ็บตัวเพราะอีกฝ่ายปราบพยศของนาวาด้วยการคว้าลำคอขาวเอาไว้และบีบจนแน่นก่อนจะตวาดกร้าว

“ถ้าทำให้ฉันโมโหหรือดื้อด้านจนน่ายิงทิ้งอีกครั้งเดียว ฉันจะไปปลุกเด็กนะโมนั่นขึ้นมาข่มขืนจนยับคาเตียงแน่นาวา ยังจะกล้าลองดีอีกไหม และฉันจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งหน้าฉันจะทำโดยที่นายยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ!!!!”

“ผมเกลียดคุณ!” นาวากรีดร้องอย่างเจ็บใจเมื่อเจอคำขู่ของอีกคน ร่างโปร่งยอมผ่อนแรงต่อต้านและขึ้นรถตามคำสั่ง ดวงหน้าหวานเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา พันเอกไม่เหลือเวลาให้เขาได้ตั้งตัวหรือทำใจเลยแม้แต่น้อย พอโยนรามทิ้งลงจากสะพานก็หันมาเล่นงานเขาต่อโดยไม่ปราณีแทบจะทันที ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมบนโลกใบนี้ยังหลงเหลือคนที่จิตใจอำมหิตเลือดเย็นเช่นนี้อยู่ ทำไมพันเอกถึงไม่ตายไปให้พ้นๆ เสีย

“ในเมื่อคุณได้ฆ่าคุณรามสมใจอยากคุณแล้วก็ควรปล่อยผมไปสิ ผมหมดประโยชน์แล้วนี่ ปล่อยผมไปตามทางของผมสักที” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยขึ้นขณะขยับกายให้ห่างพันเอกมากที่สุด เกลียดเหลือเกินที่จะต้องเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ นาวาสะอิดสะเอียดและเกลียดพันเอกจนอยากจะฆ่าให้ตายเสียด้วยซ้ำ

ทางด้านพันเอกเอง หลังจากได้ยินสิ่งที่คนตัวขาวพูดเขาก็ได้แต่แค่นยิ้ม มือแกร่งเอื้อมไปคว้าคางเล็กมาไว้อุ้งมือหนาและบีบจนแน่น กระซิบชิดริมฝีปากสีสดของอีกคนด้วยน้ำเสียงชวนให้นึกหวาดหวั่น

“เรื่องไอ้รามจบ แต่ฉันดันติดใจนายแล้วไงนาวา ร่องนายมันทำฉันกระสันอยากดันเข้าครั้งแล้วครั้งเล่า อีกอย่างฉันเสียเงินให้น้องชายนายไปก็ไม่น้อย ถือว่านอนให้ฉันเอาแลกเงินกับอนาคตน้องก็แล้วกัน” ประมุขของบ้านกฤตภาสพูดพลางยกยิ้มทำเอาดวงตาของนาวาไหวระริก คำดูถูกของพันเอกบาดลึกลงมาในใจของเขา นาวาไม่คิดเลยว่าคนที่ภายนอกดูดีทุกระเบียดนิ้วอย่างพันเอกจะมีจิตใจภายในชั่วช้าสามาลย์เกินทนเช่นนี้

“ผมไม่เอา คุณเสียไปเท่าไหร่ผมจะหามาคืนให้หมด แต่อย่ามายุ่งกับชีวิตของผมกับน้องอีก พรุ่งนี้ผมจะออกไปจากบ้านของคุณ!” นาวาเถียงเสียงแข็ง พันเอกฟังจบแล้วก็ทำเพียงแสยะยิ้มอย่างมาดร้ายก่อนจะเย้ยหยันเสียงสูง

“คิดว่าเข้ามาที่นี่แล้วจะได้หลุดออกไปง่ายๆ งั้นเหรอ หึ คิดอะไรตื้นๆ”

“แล้วคุณจะเอายังไง ผมจนหนทางแล้วนะคุณเอก คุณจะมาเผด็จการบังคับผมแบบนี้ไม่ได้! ผมไม่มีอะไรให้คุณอีกแล้ว คุณเอาทุกอย่างไปจากผมจนหมดแล้ว” พูดเสียงแหบแห้งพลางจ้องอีกคนไม่วางตา พันเอกยังต้องการอะไรจากเขาอีกงั้นหรือ รามเองเจ้าตัวก็โยนร่างลงน้ำไปแล้ว สิ่งที่นาวามีเขาก็เสียให้พันเอกไปแล้ว ทั้งศักดิ์ศรี ร่างกาย ความภาคภูมิใจทั้งหมด มันไม่เหลืออะไรอีกแล้ว

“มีแน่นาวา มันยังมีอีกอย่างที่นายยังไม่ได้ให้ฉัน” ร่างสูงพูดเสียงเย็น ดวงตาสีเข้มจ้องลึกลงไปยังตากลมของคนตัวเล็กกว่า พันเอกออกแรงบีบคางของนาวาให้แรงขึ้นจนอีกคนนิ่วหน้า ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างใบหูขาวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทว่าเย็นยะเยือกจนน่าขนลุก ทำเอานาวาถึงกับตัวแข็งทื่อมองมัจจุราชในคราบเทพบุตรตรงหน้าด้วยความสิ้นหวัง

รับรู้แล้วว่าเขาไม่มีทางหนีพันเอกไปไหนพ้นจนกว่าผู้ชายคนนี้จะได้ในสิ่งที่ต้องการ

“หัวใจของนายไงนาวา ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อเอาหัวใจของนายมาขยี้ให้แหลกคาเท้าฉันให้ได้เลยล่ะ...ที่รัก”



...



แม่น้ำเจ้าพระยาในยามค่ำคืนเคลื่อนไหวไปมาตามกระแสท่ามกลางความเงียบงันโดยรอบ คล้อยหลังรถของพันเอกไปเพียงไม่กี่นาที ร่างของผู้ชายสามคนก็โผล่พ้นขึ้นมาเหนือผิวน้ำ ตะเกียกตะกายว่ายกลับขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเล กระทั่งเกาะเกี่ยวพากันกลับขึ้นมานอนแผ่อยู่ริมน้ำได้ในที่สุด

“รุ่ง ไปตามคนมาช่วย”

ร่างกำยำของคนที่ดูจะมีสติมากที่สุดเอ่ยขึ้น ดวงตาคมเป็นประกายจ้องรามที่สิ้นสติด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนถูกสั่งงานที่นั่งหอบแฮ่กก็รีบพยักหน้า พยุงร่างอ่อนแรงของตัวเองให้ยืนขึ้นก่อนจะรีบออกไปตามคนมาช่วย

“นายหัว นายครับ บ้าเอ๊ย!” ร่างสูงสบถเมื่อพบว่าผู้เป็นนายอาการร่อแร่ สองมือทาบลงบนอก จัดการปฐมพยาบาลเบื้องต้นทุกวิถีทาง นายหัวสำลักน้ำไปไม่ใช่น้อย ไม่รู้ว่าตอนนี้ในร่างกายของคนที่นอนแน่นิ่งนั้นจะเป็นยังไงบ้าง

“นายหัวครับ ได้ยินผมไหม นายครับ นาย...”

“พี่สิงห์!”

“รุ่ง เราต้องพานายหัวไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้!” สิงห์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีร้อนรนเมื่อรามไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบกับการช่วยเหลือของเขา รุ่งฟ้าที่วิ่งหอบกลับมาหน้าซีดเผือด ก่อนจะหันไปออกปากขอความช่วยเหลือคนพลเมืองดีสี่ห้าคนที่วิ่งตามเขาลงมาริมแม่น้ำ

“รถผมจอดอยู่ไม่ไกล มาครับเดี๋ยวผมช่วย” ชายวัยเกือบสี่สิบปลายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ไม่รอช้า พวกเขาทั้งหมดก็รีบแบกร่างกำยำสะบักสะบอมของรามออกไปจากบริเวณ ตรงดิ่งไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดอย่างรวดเร็ว

ทันทีที่รามถึงมือหมอ นายหัวหนุ่มแห่งเกาะนาคาอาการหนักถึงขนาดต้องผ่าตัดฉุกเฉิน สิงห์และรุ่งฟ้าเดินไปมาราวกับหนูติดจั่นอยู่หน้าห้องผ่าตัด เฝ้ารอและภาวนาขอให้รามปลอดภัย

ทั้งคู่ถูกตามตัวขึ้นมาจากภูเก็ต รามเรียกพวกเขามาเพื่อประจันหน้ากับคนในตระกูลกฤตภาส ทว่าพวกเขาก็มาช้าเกินไป กว่าจะไปถึงบ้านหลังนั้นเจ้านายของพวกเขาก็ถูกเล่นงานจนทรุด และพวกเขาเองก็โดนไม่ต่างกัน

“เราต้องแจ้งตำรวจ นี่มันพยายามฆ่ากันชัดๆ!!” สิงห์เอ่ยเสียงแข็งกร้าว แต่รุ่งฟ้ากับส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจ

“ยังก่อนพี่สิงห์ ผมว่าเรารอนายหัวจัดการดีกว่า”

“แต่รุ่ง...รุ่งก็เห็นที่มันทำกับเราวันนี้ นายหัวจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้”

“นายต้องรอด ผมเชื่อแบบนั้น” รุ่งฟ้ายืนยันเสียงหนักแน่น ดวงตาคู่สวยจ้องประตูห้องฉุกเฉินด้วยแววตาแนวแน่ก่อนจะยืนยันอีกครั้ง “นายหัวต้องรอด ต้องฟื้นขึ้นมาจบเรื่องนี้ด้วยตัวของนายเอง ผมเชื่อแบบนั้น...”

“...”

“สักวันเรื่องนี้ต้องจบลง สักวัน”

ต้องมีสักวัน

รุ่งฟ้าเชื่อแบบนั้น เชื่อมาตลอด

และจะยังเชื่อต่อไป...


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 5 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:41:14
ตอนที่ ๗


“สันต์”

“ครับ”

“ให้คนเอารถของมันไปทุบทิ้งซะ แล้วอย่าให้สาวมาถึงฉันได้” พันเอกสั่งลูกน้องเสียงเรียบทันทีที่พวกเขาทั้งหมดกลับมาถึงบ้าน นาวายังคงยืนน้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆ ร่างโปร่งตวัดสายตาชิงชังไปมองร่างสูงหลังจากอีกฝ่ายพูดจบ ก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปอีกทางพลางกัดริมฝีปากจนห้อเลือด

“ทำหน้าจะเป็นจะตาย แค่ได้อมไอ้แท่งเฮงซวยนั่นไปครั้งเดียวทำสะอึกสะอื้น” ประมุขของบ้านอดไม่ได้ที่จะแขวะเมื่อเห็นท่าทีของคนข้างกาย เขาหงุดหงิด หงุดหงิดที่นาวาเอาแต่ร้องไห้เงียบๆ มาตลอดทาง

ทำไมถึงได้ทำเหมือนชีวิตของไอ้คนสารเลวนั่นมันมีค่านัก ทำไมถึงได้แสดงท่าทีสะเทือนใจที่เขาฆ่ามันออกมาชัดเจนเสียขนาดนั้น

หงุดหงิด ยิ่งมองก็ยิ่งหงุดหงิด

“ทำอย่างกับผัวตายห่าตายโหง ผัวตัวจริงยืนอยู่ทนโท่ยังบีบน้ำตาให้ผู้ชายคนอื่น มันน่าจับกดให้ฟ้าเหลือง” พันเอกเย้ยเสียงห้วนจนนาวาหันขวับ เปิดปากต่อกรอย่างเหลืออด

“สักวันกรรมมันจะตามสนองคุณ ผมขอสาปแช่ง!”

“เวรกรรมหน้าตาเป็นยังไงเหรอ ตอนนี้ไม่เห็นแม่งจะมาสนองอะไรเลยสักอย่าง มีแต่น้ำหน้าอย่างนายนี่แหละที่อ้าขาสนองให้ฉันน่ะ นับเป็นเวรเป็นกรรมด้วยไหม ถ้านับฉันก็ยอมให้มันสนองนะ”

พลั่ก!

“ทุเรศ!” นาวาบริภาษอย่างเหลืออด ออกแรงผลักพันเอกด้วยความโมโหก่อนจะหมุนตัวเพื่อจะเดินหนี ทว่าร่างโปร่งกลับถูกอีกฝ่ายคว้าแขนเอาไว้และดึงเข้าหาตัวเต็มแรง

“อย่าเยอะให้มันมากนักถ้าไม่อยากลงไปนอนเล่นก้นแม่น้ำเหมือนไอ้เวรนั่น” ร่างสูงกระซิบด้วยน้ำเสียงโมโหดุดัน ก่อนจะปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าเดินหนีขึ้นไปบนห้อง

นาวากำหมัดแน่น สะกดกลั้นอารมณ์อึดอัดชิงชังเอาไว้ในอก และทันทีที่เข้ามาอยู่ในห้อง ทันทีที่เห็นร่างของน้องชายหลับสนิทสะดวกสบายอยู่บนเตียง นาวาก็รีบเดินก้าวขึ้นไปกอดน้องแนบอกอย่างหาที่พึ่ง ปล่อยน้ำตาให้ไหลเงียบๆ ท่ามกลางความมืดมิด บอกตัวเองว่าต้องอดทน บอกซ้ำๆ และย้ำให้ตัวเองอดทนก่อนจะผล็อยหลับไป




รุ่งขึ้น

ร่างโปร่งของนาวาเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้ไม่ดีนัก เขาตัวรุมๆ เหมือนจะเป็นไข้ ศีรษะปวดตุ้บเหมือนมีอะไรบางอย่างวิ่งวนอยู่ในนั้น ดวงตาเรียวแดงก่ำ ถุงใต้ตาบวมขึ้นประท้วงบอกว่าเจ้าตัวผ่านการร้องไห้มาก่อนหน้านี้ ร่างกายอ่อนแรงและแทบจะทรุดวูบอยู่หลายครั้ง แต่ก็ยังฝืนสังขารที่ร่อแร่ของตัวเองขึ้นมาเพราะไม่อยากให้นะโมสงสัย

ชายหนุ่มยกยิ้มบางเบาเมื่อเห็นร่างของน้องปรากฏตัวขึ้น นัยน์ตาของนะโมยังมีแววง่วงงุน ร่างเล็กสะลึมสะลือเดินลงมาจากห้องพลางยิ้มให้เขาที่กำลังยืนตั้งหม้อซุปก่อนจะเดินเข้ามากอดแล้วออดอ้อนเหมือนลูกแมว นะโมสดใสเสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหน และความสดในนั้นก็เหมือนแสงสว่างให้นาวารู้ว่าเขาต้องเข้มแข็งในวันที่ทุกอย่างรอบตัวมืดมน

ตอนนี้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแล้ว ปกติราวกับว่าก่อนหน้านี้ที่บ้านหลังนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น นาวานึกโล่งใจอยู่ไม่น้อยที่คนของพันเอกแอบผสมยานอนหลับให้น้องของเขา ถือว่าพันเอกยังรักษาสัญญาเอาไว้ที่ว่าจะไม่ให้นะโมเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้

พูดถึงพันเอก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เห็นผู้ชายใจร้ายคนนั้นซึ่งนับว่าเป็นเรื่องดี เขายังไม่พร้อมจะรับมืออะไรกับผู้ชายคนนั้นอีก ภาพของรามยังคงติดตา ภาพที่ลูกน้องของพันเอกโยนร่างไร้สติของรามลงจากสะพานและจมหายไปกับสายน้ำ นาวาได้แต่ภาวนาอย่างมีความหวัง หวังเพียงให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจเขาสักนิดและช่วยให้รามมีชีวิตรอด แม้ความหวังนั้นจะริบหรี่มากก็ตามที

พอคิดมาถึงตรงนี้เขาก็ไม่เข้าใจ คนคนหนึ่งจะมีอิทธิพลได้มากขนาดพรากลมหายใจของคนด้วยกันอย่างเลือดเย็นโดยไม่แคร์ไม่สนใจกฎหมายของบ้านเมืองเลยอย่างนั้นหรือ พันเอกทำทุกอย่างราวกับตัวเองอยู่เหนือกฎหมาย และหากให้นาวาเดา ก็คงไม่พ้นอำนาจเงินที่ผู้ชายคนนั้นใช้ซื้อทุกอย่างที่ตนต้องการ ไม่ปฏิเสธหรอกว่าเงินน่ะซื้อได้ทุกอย่าง ใครๆ ก็ต้องการมันทั้งนั้น

ไม่เว้นแม้แต่เขา…

ไม่รู้ว่าจมอยู่กับตัวเองนานเท่าไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงทักทายของเอื้องคำที่ดังขึ้นด้านหลังเสียแล้ว

“อ้าวคุณวา คุณนะ ตื่นแต่เช้าเชียวนะคะ แล้วนั่นทำอะไรคะ หอมเชียว”

“อ๋อ ผมว่าจะทำแกงฟักกระดูกหมูน่ะครับ พอดีมีนเขาบอกว่าคุณพระพายชอบ” นาวาตอบเสียงสุภาพพลางยกยิ้ม เอื้องคำเป็นคนเก่าคนแก่ของที่นี่ ครอบครัวของเธอทำงานให้กับคนตระกูลกฤตภาสมาหลายรุ่นหลายสมัย นาวารู้สึกผ่อนคลายคล้ายกับเวลาอยู่กับแม่วรรณที่บ้านเด็กกำพร้า อย่างน้อยการใช้เวลาอยู่กับเอื้องคำก็ทำให้เขาลดความตึงเครียดลงได้บ้าง แม้จะเล็กน้อยก็ตามที

“ป้าเอื้องนั่งพักก่อนก็ได้นะครับ อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว”

“จ้ะ”

เอื้องคำยิ้มรับ พอลอบมองใบหน้าอิดโรยของคนตรงหน้าแล้วก็สะท้อนใจ ธอมองไปยังร่างของนะโมที่ยืนหลับกอดหลังพี่ชายเอาไว้อย่างเอ็นดู น่ารักเสียก็ขนาดนี้ ใยพันเอกถึงได้กล้าหักหาญน้ำใจนาวาอย่างโหดร้ายเช่นนั้นกันหนอ

“เอ้อ...ผมก็ลืมไปเลย คือ ขอโทษนะครับที่มาใช้ครัวโดยพลการแบบนี้”

“โถ ไม่เป็นไรค่ะคุณวา ป้าไม่ว่าหรอกค่ะ ดีเสียอีกป้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาทำเอง ขอบคุณคุณวามากนะคะที่ช่วยงานป้า”

“ครับ งั้นเดี๋ยวอาหารเช้าผมกับนะโมทำเองก็แล้วกันครับ นี่นะ ทำไมเงียบไปเลยล่ะ” ท้ายประโยคเอ่ยถามคนที่กอดเขาอยู่ด้านหลังไม่พูดไม่จาพลางพยายามเอี้ยวตัวไปหา เอื้องคำหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงเอ็นดู

“ยืนหลับได้สักพักแล้วค่ะรายนั้น สงสัยจะยังไม่ตื่นดี”

“อ้าว...นะ นะตื่น มายืนหลับแบบนี้ได้ยังไง นะๆ”

“อืออออ”

“นะ ขึ้นไปนอนต่อก็ได้ อย่ามายืนหลับตรงนี้เชียว มันเกะกะพี่”

นาวาพูดกับน้อง นะโมงัวเงียครางอืออาพลางถูหน้าไปมากับแผ่นหลังของพี่ชาย ร่างโปร่งถอนหายใจพลางบอกให้น้องขึ้นไปนอนต่อเสียแล้วก็หันกลับไปสนใจอาหารเช้าในหม้อต่อ

“คุณวาดูท่าจะรักน้องมากเลยนะคะ” ป้าเอื้องที่กำลังจะลงมือชงกาแฟให้เจ้านายเอ่ยขึ้น นาวาชะงักมือที่กำลังคนต้มกระดูกหมูก่อนจะยิ้มน้อยๆ

“ครับ นะเป็นครอบครัวคนเดียวที่ผมเหลืออยู่แล้ว ถ้าไม่มีเขาผมก็ไม่เหลือใครแล้ว” ประโยคที่นาวาพูดฟังดูหงอยเหงา หญิงสูงวัยรู้สึกสงสารคนตรงหน้าจับใจ คนที่ต้องสูญเสียครอบครัวอีกทั้งยังต้องมีชีวิตที่ตกระกำลำบาก แน่นอนว่าในแต่ละวันคงหาความสุขแทบไม่ได้ แล้วยิ่งต้องมาเจอสิ่งที่เจ้านายของเธอกระทำมันก็ยิ่งหนักหนาเสียจนเกินกว่าที่คนคนหนึ่งจะรับได้ไหว

“มองคุณวากับคุณนะตอนนี้แล้วก็นึกถึงคุณเอกกับคุณพายเมื่อก่อน” เอื้องคำเอ่ยขึ้น มือที่เริ่มมีรอยเหี่ยวตามกาลเวลากดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟทีละแก้วพลางเริ่มเล่าเรื่องในอดีต

“เมื่อก่อนคุณเอกแกก็รักและหวงคุณพายมาก ตั้งแต่คุณท่านทั้งสองเสียคุณเอกก็ไม่ต่างจากพ่อแม่อีกคน ยิ่งต้องไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง อยู่กับญาติห่างๆ ยิ่งลำบาก แกเลี้ยงคุณพายด้วยตัวเอง ไม่ยอมติดต่อมา ไม่ยอมให้พวกป้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือได้รู้ข่าวคราวอะไรเลย เพิ่งจะยอมติดต่อกลับมาหาเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองค่ะ”

นาวาเงียบกริบ ทำทีคนน้ำซุปในหม้อด้วยใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ หากทว่าในใจกลับร่ำร้องว่าเหตุใดเอื้องคำถึงต้องเล่าเรื่องของผู้ชายคนนั้นให้เขาฟัง ไม่อยากรับรู้ นาวาไม่ต้องการรู้เรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกับพันเอกทั้งนั้น และดูเหมือนหญิงสูงวัยจะมองอาการเหล่านั้นของนาวาออก เธอยิ้มบางๆ พลางทอดถอนใจก่อนจะเอ่ยขอโทษขอโพยกลายๆ

“ป้าขอโทษนะคะที่บ่นอะไรก็ไม่รู้ให้คุณวาฟัง คนแก่ก็แบบนี้แหละค่ะ”

“ไม่เป็นไรครับ อ้อ...ซุปเดือดเเล้ว แต่เดี๋ยวผมจะตั้งเตาให้เปื่อยกว่านี้อีกนิดนะครับจะได้อร่อย ยังไงผมวานป้าให้ขึ้นไปตามคุณๆ เขาลงมาทานอาหารเช้าทีได้ไหมครับ” นาวาพูดขึ้น แต่ยังไม่ทันที่หญิงอาวุโสจะได้รับคำเสียงทรงอำนาจของคนที่นาวาไม่อยากเจอมากที่สุดก็ดังขึ้น

“ไม่ต้องหรอก ตื่นกันหมดแล้ว” ร่างสูงเอ่ยเสียงเรียบพลางก้าวเข้ามายืนกอดอกพิงผนังห้องครัวเอาไว้ ดวงตาคมจ้องแผ่นหลังของนาวานิ่งๆ ในขณะที่คนถูกมองได้แต่ยืนเม้มปากแน่นทำทีคนซุปในหม้อต่อ ไม่กล้าหันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงที่ดังอยู่ด้านหลัง ไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับคนเลวทรามแบบนั้นในเวลานี้

“ป้าเอื้องไปตั้งโต๊ะได้เเล้วครับ พระพายร้องอยากกินข้าวร่ำๆ แล้วล่ะ” พันเอกหันไปบอกหัวหน้าแม่บ้านที่เขาให้ความเคารพ หญิงสูงวัยพยักหน้ารับเบาๆ พลางปรายตาไปมองร่างโปร่งของนาวาอย่างเห็นใจ เธอเดินไปแตะลำแขนแกร่งกำยำสมส่วนเป็นเชิงเตือนเพราะรู้ดีว่าพันเอกกำลังไม่พอใจอีกคนอยู่ ก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากครัวไป

เมื่อพ้นร่างของผู้อาวุโสกว่า ความเงียบงันและบรรยากาศอึดอัดก็โรยตัวเข้าปกคลุมไปทั่วบริเวณ นาวายังคงยืนจ้องมองอาหารเช้าที่ตนถือวิสาสะตื่นขึ้นมาทำโดยพละการก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อเอวคอดกิ่วถูกมือแกร่งคว้าหมับเอาไว้แน่นเเละหมุนร่างของเขาให้หันไปเผชิญหน้ากับใครอีกคน

“อ๊ะ!...นี่คุณ!...ปล่อยนะ” นาวาร้องประท้วง ร่างกายเครียดเกร็งขึ้นจนพันเอกรู้สึกได้ ร่างสูงหัวเราะเยาะกับอาการแตกตื่นของคนตรงหน้าก่อนจะเชยคางให้นาวาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา จริงๆ นาวาไม่ใช่คนตัวเตี้ย ส่วนสูงของพวกเขาห่างกันไม่ถึงสิบเซ็นเสียด้วยซ้ำแต่เพราะนาวาผอมมากเกินไปเลยทำให้คนตรงหน้าดูตัวเล็กบอบบางลงไปถนัดตา และเพราะลักษณะทางกายภาพข้อนี้นั่นเองที่ทำให้นาวาพ่ายแพ้ให้แก่พันเอกอยู่ร่ำไป

ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

“ทำบ้าอะไรของคุณ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น!” นาวาเอ็ดพลางใช้สองมือยันอกแกร่งเอาไว้เมื่อรับรู้ว่าอีกคนกำลังออกแรงดึงร่างของเขาให้เข้าไปแนบชิด แต่คนที่แรงน้อยอย่างนาวาหรือจะไปต่อกรอะไรกับพันเอกได้ สุดท้ายก็ถูกอีกคนดึงเข้าไปกอดจนแน่นพร้อมกับถูกชิงจูบไปหน้าตาเฉย

“อ๊ะ อื้อ...”

เสียงผะแผ่วดังขึ้นลอดริมฝีปากสีสด นาวายืนนิ่งไร้การต่อต้านทันทีที่อีกคนก้มหน้าลงมาบดจูบลงบนปากของเขา สองมือที่เคยผลักไสวางนิ่งอยู่บนอกแกร่ง สติสัมปชัญญะทั้งหมดทั้งมวลหลุดลอยไปจนสิ้นและถูกแทนที่ด้วยภาพเหตุการณ์ที่เขาและพันเอกร่วมรักกัน ครั้งแรกของเขาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันเตรียมใจเพราะฤทธิ์ยา เกิดขึ้นและจบลงในเวลาไม่นาน ไม่ตราตรึง ไม่สุขสม แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกน่ารังเกียจ

ครั้งที่สองที่ริมสระว่ายน้ำและในห้องทำงาน ครั้งนั้นแม้ร่างกายจะเต็มใจถูกอีกคนสอดใส่ แม้นาวาจะยินยอมพร้อมใจและส่งเสียงครวญครางยามถูกครอบครอง หากแต่ภายในใจกลับเอาแต่ร่ำบอกว่าทุกการกระทำ ทุกท่วงท่า ทุกจังหวะ และทุกสุ้มเสียงนั้นมันช่างน่ากลัวและน่าขยะแขยงเสียเหลือเกิน สิ่งเหล่านั้น ความทรงจำที่แสนเลวร้ายนั่นหล่อหลอมให้นาวาขลาดกลัวสัมผัสของคนตรงหน้าจนตัวสั่นเทิ้ม ก้อนบางอย่างรวมตัวกันขึ้นมาจุกอยู่ที่คอ ร่างโปร่งผลักพันเอกที่ยังเพลิดเพลินกับการดูดดึงกลีบปากนุ่มหยุ่นของเขาให้พ้นกาย ก่อนจะปรี่ไปเกาะขอบอ่างล้างจานและอาเจียนออกมาเสียจนหมดไส้หมดพุง ยิ่งยามที่ภาพความเป็นชายที่ขยายขนาดของพันเอกพร้อมกับภาพการสอดใส่อย่างบ้าคลั่งฉายชัดขึ้น นาวาก็ยิ่งรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องอาเจียนซ้ำในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงอาเจียนของร่างโปร่งดึงความสนใจของบรรดาสาวใช้และพระพายให้รีบปรี่มายังห้องครัว ก่อนจะต้องยืนนิ่งมองนาวาที่ยืนตัวสั่นอยู่หน้าอ่างล้างจานในขณะที่พันเอกเองก็ยืนแสยะยิ้มอยู่ไม่ไกล

พระพายรีบปรี่เข้าไปลูบหลังให้นาวาด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเงยหน้ามองพี่ชายด้วยแววตาเครียดเขม็ง

“คุณวาเป็นอะไร นี่พี่เอกทำอะไรเขา” กฤตภาสคนน้องเค้นเสียงถาม พันเอกยักไหล่อย่างไม่ยี่หร่ะพลางแสยะยิ้ม ตอบคำถามของคนเป็นน้องด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์

“จูบ”

“ห๊ะ จูบ!?!?” พระพายอ้าปากค้างกับคำตอบตรงไปตรงมานั้น นาวาเปิดน้ำล้างปากและล้างอาเจียนของตนก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับประมุขของบ้านโดยไม่สนใจคนอื่นๆ พันเอกยกยิ้มเย้ยหยันไปให้คนที่หูตาแดงก่ำก่อนจะพูดต่อโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนฟังเลยแม้แต่น้อย

“ใช่ จูบกัน และก็กำลังคิดจะจับมันแก้ผ้าแล้วหันบั้นท้ายมาให้สอดใส่อยู่แล้วเชียวถ้-”

“คุณเอกคะ ป้าว่าคุณพูดเกินไปแล้วนะคะ” เป็นเอื้องคำที่ขัดขึ้นเพราะทนฟังไม่ไหว พันเอกยังไม่สนใจกับคำห้ามปรามของคนที่เขาเคารพ มิหนำซ้ำยังพูดถากถางให้นาวาได้อายเล่น

“ต้องสนด้วยหรือไง อีกอย่างทุกคนก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรนะ และก็ควรรู้ด้วยว่า ‘ใคร’ เข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ในฐานะ ‘อะไร’ กันบ้าง”

ร่างสูงพูดขึ้นทำเอาบรรยากาศรอบข้างเงียบกริบ เอื้องคำและมินตรามองนาวาอย่างเห็นใจในขณะที่พระพายเองก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากบีบแขนนาวาเบาๆเป็นเชิงขอโทษ ประโยคของพันเอกสะกิดหัวใจของนาวาจนรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมา ร่างโปร่งกล้ำกลืนก้อนสะอื้นและความอ่อนแอลงไปก่อนจะเงยหน้าจ้องตากับคนตัวสูงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ครับ ผมทราบดีว่าผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเครื่องมือแก้แค้นและระบายความใคร่ความสะใจของคุณ นอกจากคุณแล้วคุณยังต้องการให้ผมไปนอนอ้าขาให้ใครสอดใส่เข้ามาในตัวอีกหรือเปล่า ผมจะทำตามความต้องการของคุณทุกอย่างเพื่อแลกกับเศษเงินที่แสนล้ำค่าพวกนั้น” นาวาประชดแกมท้าทายทำเอาคนรอบข้างถึงกับครางเสียงหลง ด้วยรู้ดีว่าพันเอกเกลียดการประชดประชันขนาดไหน

“หึ! ดี! งั้นนายก็ช่วยสงเคาระห์พวกลูกน้องฉันหน่อยก็แล้วกัน ให้มันสมสู่ด้วยคืนละคนจนครบ เริ่มด้วยคืนนี้กับไอ้จักรเลยเป็นไง” พันเอกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน ประโยคดังกล่าวของร่างสูงส่งผลให้เกิดเสียงอุทานขึ้นโดยรอบในขณะที่นาวายังคงยืนนิ่ง

“พี่เอก! จะบ้าหรือไง ผมไม่ยอมนะ!”

“คุณเอกขา อย่าใจร้ายกับคุณวาเลยนะคะ ถือว่าป้าขอ”

เอื้องคำและพระพายต่างก็พูดขึ้นมาพร้อมกัน พันเอกไม่ฟังคำขอร้องของคนเหล่านั้น หนำซ้ำยังจ้องใบหน้าขาวซีดด้วยแววตาท้าทาย นาวาสูดลมหายใจเพื่อเรียกกำลังใจของตัวเองให้กลับคืนมาก่อนจะแค่นยิ้ม

“ได้ครับ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะครับ” ร่างโปร่งเอ่ยขึ้นแล้วก็เดินผ่านทุกคนไปอย่างไม่ใยดี หมดสิ้นแล้ว ทุกสิ่งของเขามันหมดไปตั้งแต่วันที่เขาเลือกจะรับข้อตกลงของพันเอกแล้ว

อุตส่าห์หลงนึกว่าคนคนนี้จะเป็นเทวดาที่มาฉุดมือของเขาออกจากขุมนรก อุตส่าห์หลงคิดว่าพันเอกคือคนที่จะมาสร้างแสงสว่างและชีวิตใหม่ให้กับเขา แต่ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย พันเอกทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาจนราบเป็นหน้ากลอง ไม่เหลือแม้กระทั่งความเป็นคน

เขาจะทนกับนรกขุมนี้ได้นานแค่ไหน จะอยู่ปกป้องนะโมได้อีกนานเท่าใด ถ้ายังเจออะไรแบบนี้นาวาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาคงต้องทนไม่ได้และชิงปลิดชีวิตตัวเองเป็นแน่ แค่นี้มันก็หนักหนามากแล้วสำหรับเขา แล้วในอนาคตล่ะ นาวายังต้องเจอกับความเลวร้ายรูปแบบใดอีก เขายังจะทนมันได้อีกไหม

ไม่รู้ ไม่รู้เลย

-(มีต่อด้านล่างค่ะ)-
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 5 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:48:12
2 อาทิตย์ต่อมา

โรงพยาบาลประจำจังหวัดภูเก็ต

เสียงสัญญาณชีพจรของเครื่องวัดที่ตั้งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยดังขึ้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอบ่งบอกถึงอาการของคนที่กำลังหลับใหลว่ายังคงที่ ‘นารายณ์ พรหมพิริยะ’ ยืนมองร่างของเพื่อนสนิทผ่านกระจกด้วยความเป็นห่วง คุณหมอหนุ่มหยิบชาร์จระบุอาการที่เสียบอยู่หน้าห้องขึ้นมาอ่านแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ไม่อยากยอมรับความจริงเลยว่าอาการของคนตรงหน้าในตอนนี้มีโอกาสรอดไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เสียด้วยซ้ำ

น้ำท่วมปอด ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานผิดปกติจนส่งผลกระทบต่อระบบอื่นๆ ภายในร่างกาย ยังไม่รวมอาการติดเชื้อจากบาดแผลภายนอกตามร่างกายนี่อีก

ยากจะทำใจ แต่ก็ต้องยอมรับความจริง

“อย่ามาด่วนจากพวกกูไปแบบนี้นะเว้ย ถ้ามึงตายกูจะตามไปลากคอมึงถึงนรกเลยคอยดู” นารายณ์พึมพำบอกกับอีกคนที่ยังนอนหลับตาพริ้มโดยมีเครื่องช่วยหายใจครอบปากและจมูกเอาไว้ อีกทั้งสายระโยงรยางค์รอบกายนั่นก็ยิ่งทำให้อาการของรามดูน่าหวั่นวิตกมากขึ้นไปอีก

เมื่ออาทิตย์ก่อนเขาได้รับข่าวจากรุ่งฟ้าและสิงห์ว่ารามถูกทำร้ายอาการสาหัส ในตอนนั้นหมอที่กรุงเทพขับน้ำออกจากร่างกายให้จนเจ้าตัวพ้นขีดอันตรายไปแล้ว ไม่นานเขาก็ทำเรื่องย้ายรามลงมาอยู่ที่ภูเก็ตตามคำขอของรุ่งฟ้า แต่เมื่อไม่กี่วันก่อน อยู่ๆ รามก็ทรุดตัวลงจนบรรดาแพทย์ต้องคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ครั้นจะย้ายเพื่อนกลับไปรักษาที่กรุงเทพก็ไม่ไว้ใจ ด้วยระยะทางและอะไรหลายๆ อย่าง กรุงเทพไม่ใช่ที่ปลอดภัยของรามในตอนนี้ ในตอนที่ไร้สติและไม่สามารถป้องกันตัวเองได้

เขารู้ว่าบนเตียงนั่น เพื่อนของเขากำลังต่อสู้อยู่

นารายณ์รู้ดีว่ารามกำลังพยายามอย่างมากเพื่อที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง

กลับมาแก้แค้นคนที่มันทำให้เจ้าตัวต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

เขารู้ดีว่าคนที่ทำแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคนในตระกูลกฤตภาส แต่ที่สงสัยคือรามพลาดท่าถูกเล่นงานจนสาหัสขนาดนี้ได้อย่างไร ถึงขนาดโดนรุมซ้อมและจับโยนลงแม่น้ำขนาดนี้ หากไม่ใช่เพราะมีรุ่งฟ้ากับสิงห์ตามไปด้วยป่านนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง

“คุณนายครับ คุณสิบต้องการเรียนสายด้วยครับ” ร่างสูงกำยำสมส่วนของลูกน้องที่นารายณ์จ้างให้ดูแลรามในยามที่เขาไม่อยู่เอ่ยขึ้น ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ ชายหนุ่มรับมาถือเอาไว้ในมือก่อนจะยกขึ้นมาแนบหูและกรอกเสียงลงไปเสียงราบเรียบ

“ว่าไง”

[มันเป็นยังไงบ้าง] ปลายสายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ แต่คุณหมอหนุ่มก็จับน้ำเสียงเป็นกังวลได้ในนั้น นารายณ์ถอนหายใจออกมาเสียงดังพลางมองคนที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยสายตาเป็นกังวล

“ก็ยังไม่ฟื้นเหมือนเดิม กูเพิ่งมาทำแผลแล้วก็ให้ยาฆ่าเชื้อไป ส่วนปอด...ยังทำงานร่อแร่ว่ะ เนี่ยก็พยายามให้ยาไป กูไม่รู้ว่ามันจะรอดไหม” คุณหมอหนุ่มพูดไปตามความจริง

[ต้องรอด มันต้องลุกขึ้นมาลากคอกฤตภาสด้วยตัวเอง ตอนนี้คนที่มันรักกำลังแย่ ให้แม่งตื่นขึ้นมาชิงตัวคุณวาเอง กูไม่ช่วย] ปลายสายพูดเสียงเย็นแต่นารายณ์จับความรู้สึกได้ดี

“ฟังนะไอ้สิบ กูอยากให้มึงยอมรับความจริง การที่ไอ้รามมันรอดมาได้ขนาดนี้ก็โชคช่วยมากแล้ว กูจะไม่พูดหรอกนะว่ายังไงมันก็ต้องฟื้นทั้งๆ ที่ความจริงคือยังไงแม่งก็ตายอยู่ดี แค่จะช้าหรือเร็วแค่นั้น”

[...]

“ทำใจเถอะว่ะ หมดหวังแล้ว แค่รอเวลานับถอยหลังแค่นั้นแหละ”

[ต่อให้ความหวังเหลือน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามันยังมี กูก็อยากจะหวัง มันไม่ควรจะไปง่ายแบบนี้ มันง่ายเกินไป มึงเข้าใจใช่ไหม ไอ้รามมันไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ กูเชื่อแบบนั้น] ปลายสายตอบกลับมาทำเอานารายณ์ถึงกับพูดไม่ออก ไม่บ่อยนักหรอกที่คนอย่าง ‘สิบตรี อัศม์เดช’ จะพูดประโยคยาวๆ เพื่อเตือนสติเขา เดิมทีนารายณ์เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้แก่อะไรง่ายๆ เขาจะสู้และยังมีความหวังจนถึงที่สุด รอคอยจนกว่าผลของสิ่งนั้นจะออกมาอย่างชัดเจน ผิดกับครั้งนี้ ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนสนิทของพวกเขา นารายณ์กลับท้อและยอมแพ้ทั้งๆ ที่รามก็ยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า

เขาถอดใจ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายยังคงมีลมหายใจ

“ขอโทษว่ะ กูคงฟุ้งซ่านมากเกินไป แม่ง...กลัวห่าอะไรไปหมดทุกอย่าง”

[กูเข้าใจ รามมันไม่เคยโดนหนักขนาดนี้ พลาดท่าเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ] สิบตรีพูดขึ้นพลางถอนหายใจ

[ยังไงก็ฝากดูมันด้วยก็แล้วกัน กูกลัวว่าไอ้เอกมันจะส่งคนมาย้ำให้แม่งตายชิบหาย เหี้ยนั่นยิ่งระยำอยู่ด้วย ถ้ามันรู้ว่าไอ้รามรอดมันคงไม่อยู่เฉยแน่] สิบตรีบ่นด้วยความกังวลมาตามสาย นายรายณ์แค่นหัวเราะ กำโทรศัพท์แน่นก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น

“ก็ลองมันส่งคนมาสิ กูนี่แหละจะเป็นฝ่ายยำมันคืนให้จมคาตีนกูเอง”

...



1 เดือนต่อมา

ประตูห้องนอนของนาวาถูกเปิดออกช้าๆ ในเวลาตีสองย่างตีสาม ร่างสูงกำยำสมส่วนของหนึ่งในบรรดาลูกน้องของพันเอกเดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีเหนื่อยล้า เสื้อเชิ้ตสีขาวเปิดออกเผยให้เห็นอกแกร่งเพราะร่างสูงไม่ยอมติดกระดุม รอยข่วนเป็นทางยาวปรากฏขึ้นทั่วแผ่นอกในขณะที่ลำคอเองก็มีรอยแดงจ้ำประปราย ชายหนุ่มก้าวเดินออกมายืนด้านนอกก่อนจะหันไปมองร่างโปร่งของนาวาที่นอนหลับอย่างคนหมดแรงอยู่บนเตียงด้วยแววตาสงสาร แผ่นหลังบอบบางขาวซีดมีรอยช้ำจ้ำแดงอยู่หลายจุด บางรอยห้อเลือด บางรอยก็เป็นสีแดงออกม่วงคล้ำ บางรอยกลายเป็นสีเขียวอ่อนๆ แล้วก็ยังมี

และแน่นอน มันไม่ใช่ร่องรอยที่เขาทำเอาไว้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

แต่เป็นของลูกน้องคนอื่นๆ ที่เข้ามาหานาวาในคืนก่อนๆ ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนนั่นต่างหาก

ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของพันเอกทุกอย่าง และนาวาเองก็ปฏิบัติตามคำสั่งนั้นอย่างเคร่งครัด หนึ่งเดือน สามสิบวัน กับผู้ชายสามสิบคนไม่ซ้ำหน้ากันในแต่ละคืน

นาวายังเข้มแข็งและหยัดยืนอยู่ได้อย่างไรกัน…ผู้คนรอบข้างได้แต่ตั้งคำถามอยู่ในใจ ถึงแม้มันจะไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น แต่เพียงแค่นี้หากเป็นคนอื่นมันก็คงหนักหนาเกินทนแล้วจริงๆ

“คุณวาหลับไปแล้วเหรอ” เดินออกมาจากเรือนคนใช้ได้ไม่เท่าไหร่เสียงของคุณหนูคนเล็กของบ้านก็ดังขึ้น พระพายผุดลุกจากม้านั่งพลางปรี่เข้ามาหาลูกน้องของพี่ชายด้วยใบหน้าทรุดโทรม ดูก็รู้ว่าอดหลับอดนอนขนาดไหน

“ครับ คงเพลียจัดจริงๆ แล้วทำไมคุณหนูยังไม่นอนอีกละครับ นี่มันจวนจะเช้าอยู่แล้วนะ” ร่างสูงถามขึ้น พระพายถอนหายใจหลังจากที่ได้ยินประโยคดังกล่าวก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง

“ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวหรอกที่นอนไม่หลับ นอนไม่หลับกันทั้งบ้านนั่นแหละ ไม่มีใครหลับลงหรอกนะพี่สันต์ จะมีก็แต่พี่เอกนั่นแหละที่หายใจหายคอคล่องอยู่คนเดียว ฮึ่ย! คิดแล้วโมโห” พระพายบ่นออกมายาวเหยียดทำเอาสันต์ถึงกับหลุดขำออกมาเบาๆ

“จริงๆ คุณพายไม่จำเป็นต้องอดหลับอดนอนคุมพวกผมหรอกครับ ไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งคุณสักคนหรอก” ร่างสูงเอ่ยขึ้นยิ้มๆ พระพายฟังจบแล้วก็ได้แต่ย่นจมูกด้วยความไม่พอใจ

“ว่าไม่ได้หรอกไอ้เรื่องแบบนี้น่ะ คนเราพอถึงเวลาหน้ามืดขึ้นมาจริงๆ ให้ตายยังไงก็ห้ามไม่หยุดฉุดไม่อยู่หรอก ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ต้องรอบคอบเอาไว้ก่อน แค่นี้ผมก็สงสารเขามากแล้ว”

“ผมเข้าใจครับ คุณวาเองก็ดูท่าจะไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ถ้ายังเป็นแบบนี้ผมเกรงว่าคุณเขาจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อได้หามส่งโรงพยาบาลกันจ้าละหวั่นแน่” สันต์ออกความคิดเห็นขึ้นพลางนึกย้อนไปถึงสภาพของนาวาภายในห้องนอนแห่งนั้น พระพายหน้าเครียดลงถนัดตาเมื่อคนเป็นลูกน้องพูดจบ ก่อนที่ดวงตาเรียวจะเบิกกว้างขึ้นพลางร้องเสียงหลง

“นอนโรงพยาบาล ใช่! ต้องให้พี่วานอนโรงพยาบาล!!!”

“ครับ?” สันต์เอ่ยถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ พระพายยิ้มแฉ่งขึ้นทันทีก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ทำให้พี่วานอนโรงพยาบาลให้ได้ ไอ้คำสั่งบ้าๆ นี่จะได้ถูกยกเลิกไปไง โธ่ ทำไมเพิ่งมาคิดได้เอาป่านนี้วะเนี่ย” ท้ายประโยคก่นด่าตัวเองพลางใช้มือตบหน้าขาตัวเองฉาดใหญ่ สันต์คิดตามคำพูดของพระพายแล้วก็พยักหน้าเบาๆ

จริงสินะ หากนาวาป่วยหนักจนเข้าโรงพยาบาล พันเอกก็คงทำอะไรไม่ได้

“พี่สันต์ไปปลุกพี่จักร บอกให้เตรียมรถเลย ผมจะพาคุณวาไปโรงพยาบาล” พระพายพูดขึ้นปุบปับทำเอาอีกคนหน้าเหรอหราด้วยความงุนงง เห็นแบบนั้นคุณหนูคนเล็กของบ้านจึงสบถออกมาเสียยกใหญ่ ก่อนจะดุนหลังร่างสูงให้ตรงไปยังเรือนพักบอดี้การ์ดที่อยู่อีกฝั่งทันทีพร้อมกับเอ็ดเสียงดุ

“มายืนทำหน้างงทำไมล่ะครับ ไปปลุกพี่จักรแล้วเรียกพี่ไม้ให้มาหาผมด้วย อ้อ อย่าเอะอะโวยวายนะเดี๋ยวพี่เอกตื่น” พระพายกำชับพลางทำหน้าจริงจัง เห็นแบบนั้นสันต์จึงต้องทำตามคำสั่งของคนที่เป็นเหมือนเจ้านายอีกคนอย่างรวดเร็ว

“ครับคุณหนู” ร่างสูงรับคำก่อนจะเดินจากไป ด้านพระพายเองก็รีบสาวเท้าไปหานาวาที่ห้อง ก่อนจะถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เคาะประตู ชายหนุ่มตรงดิ่งไปหาคนที่กำลังเปลือยท่อนบนนอนคว่ำหน้า ก่อนจะแตะมือลงไปบนต้นแขนขาวซีดแผ่วเบา

“คุณวาครับ คุณวา” พระพายเรียกอีกเสียงเบา นิ้วมือที่สัมผัสผิวของนาวารับรู้ถึงอุณหภูมิที่ผิดปกติทำเอาคนตัวเล็กกว่าถึงกับหลุดสบถออกมา

นาวากำลังไม่สบายจริงๆ

“คุณวาครับ ลืมตาหน่อย ไปโรงพยาบาลกัน” กฤตภาสคนน้องเอ่ยขึ้นพลางเดินไปหาเสื้อที่แขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่ให้กับอีกคน นาวาปรือตาขึ้นเล็กน้อย ด้วยเพราะคิดว่าเป็นพันเอกที่มักจะมาเยาะเย้ยถากถางเขาทุกเช้า แต่พอเห็นว่าเป็นพระพายร่างโปร่งจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“คุณพาย…ผม อือ…ผมยังไม่ได้ช่วยตัวเองเลย” นาวาเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรง พระพายกำลังจะพูดสวนกลับไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอหนึ่งในบอดี้การ์ดของพันเอกมายืนอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าราบเรียบ

“มาพอดี พี่ไม้ช่วยอุ้มคุณวาไปขึ้นรถหน่อย ตัวร้อนจี๋เลย ผมจะพาคุณเขาไปหาหมอ” คนตัวเล็กเอ่ย ร่างสูงของไม้ทำตามอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเดินเข้ามาช้อนตัวนาวาขึ้นแนบอกก่อนจะเดินนำพระพายออกไปเงียบๆ ตอนนี้บ้านทั้งบ้านเริ่มเปิดไฟแล้ว คาดว่าลูกน้องและแม่บ้านบางส่วนคงจะตื่นขึ้นมาทำงานของตัวเอง ส่วนเจ้าของบ้านอย่างพันเอกน่ะหรือ

ก็คงหลับฝันดีอยู่บนเตียงอย่างสบายอกสบายใจอยู่นั่นแหละ

พอพานาวาขึ้นรถได้พระพายก็รีบกระโจนขึ้นไปนั่งขนาบข้างทันที อีกฝั่งเป็นมินตราที่คอยประคองหัวนาวาเอาไว้ให้ซบไหล่เล็ก ส่วนด้านหน้าเป็นจักรที่นั่งประจำที่คนขับกับพายุที่ทำหน้าสะลึมสะลืออยู่ข้างๆ กัน

“ให้ผมเรียนคุณเอกว่ายังไงดีครับ” ไม้ถามขึ้น พระพายมองใบหน้าซูบซีดของนาวาก่อนจะตอบเสียงนิ่ง

“บอกว่าคุณวาป่วย ไข้ขึ้นคงเพราะพักผ่อนน้อย ผมจะพาไปให้น้ำเกลือ แค่นั้นแหละพี่”

“ครับคุณหนู”

“อืม ยังไงผมฝากด้วยนะ” คนตัวเล็กเอ่ยทิ้งท้ายก่อนจะปิดประตูรถและสั่งให้จักรออกรถทันที ตลอดทางบรรยากาศภายในเต็มไปด้วยความเงียบงัน จักรทำหน้าที่คนขับจ้องมองหนทางข้างหน้าในขณะที่พายุสัปหงกจนหัวแทบจะเขกกระจก มินตราคอยมองข้างทางสลับกับนาวาที่ซบไหล่ของเธออยู่ ในขณะที่พระพายเอาแต่สำรวจรอยช้ำที่โผล่พ้นเสื้อผ้าออกมาด้วยความรู้สึกสงสารเห็นใจ

ยอมรับว่านาวาเข้มแข็งมากจริงๆ ที่ยังทนอยู่กับคนใจร้ายอย่างพี่ชายเขาได้ แต่ก็นั่นแหละ ในเมื่อพันเอกไม่ยอมปล่อยสองพี่น้องนี้ไปไหน แล้วพวกเขาจะหนีไปไหนได้ ขนาดรามที่ว่าแน่ตอนนี้พระพายกลับไม่ได้ยินข่าวของผู้ชายคนนั้นอีกเลย พอถามพันเอกว่าเรื่องจบยังไงก็ถูกบ่ายเบี่ยง พี่ชายของเขาบอกแค่ว่ารามแพ้แล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรอีก ต่อจากนี้แค่รอเวลาฮุบกิจการของกลทีบ์มาเป็นของตัวเองให้ได้ก็เท่านั้น

บ่อยครั้งที่เขาได้แต่ตั้งคำถาม ในเมื่อพันเอกแก้แค้นรามสมใจแล้วทำไมถึงยังทำร้ายนาวาอยู่อีกเล่า ทำไมไม่ให้ทุกอย่างมันจบไป พระพายได้แต่ถามพี่ชายซ้ำๆแต่ก็ไม่เคยได้คำตอบที่ต้องการเลยแม้แต่น้อย แต่จะยังไงก็เถอะ สำหรับเขาในเมื่อมันจบ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกันก็ควรจะจบด้วย ในเมื่อพันเอกบอกว่ารามแพ้แล้ว นั่นแสดงว่านาวาไม่ใช่เครื่องมือที่พันเอกต้องการอีกต่อไป เพราะงั้นพระพายจะทำทุกวิถีทางให้ชีวิตของนาวาไม่ย่ำแย่ไปมากกว่านี้จากน้ำมือของพี่ชายเขา

ไม่ว่าจะยังไง ไม่ว่าพันเอกจ้องจะทำร้ายนาวาอย่างไร้เหตุผลด้วยวิธีใดก็ตาม พระพายจะขอขัดใจคนที่รักสักครั้ง และกางปีกปกป้องนาวาจนกว่าสองพี่น้องของตระกูลชนกันต์จะเป็นอิสระ

เขาจะปกป้องดูแลนาวาต่อไปในอนาคต เหมือนที่ทำมาตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ให้ได้


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 5 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:49:04
ตอนที่ ๘


“แน่ใจใช่ไหมว่าเป็นมันจริงๆ” ร่างสูงของพันเอกเอนกายพิงกับพนักเก้าอี้ทำงานด้วยท่าทีเคร่งเครียด ริมฝีปากขยับถามปลายสายด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายตอบกลับมาเพียงประโยคสั้นๆ

[ครับคุณเอก]

หึ ว่าแล้วเชียว

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง งานของนายเสร็จแล้ว ฉันให้พักผ่อนสองอาทิตย์แล้วหลังจากนั้นค่อยเข้ามาหาที่บ้าน”

[ขอบคุณครับ] ปลายสายพูดขึ้นก่อนที่ต่างคนต่างวางหู ร่างสูงวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะพลางนั่งนิ่งอย่างใช้ความคิด สักพักชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องทำงาน ตรงไปยังห้องนอนที่เขาเพิ่งจะไล่ให้นาวาไปนอนเมื่อเดือนก่อน แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวออกไปไหนเสียงเล็กๆ ของนะโมก็ดังขึ้นด้านหลังดึงความสนใจของเขาเอาไว้

“คุณเอกครับ ขอคุยอะไรสักอย่างได้ไหม” ร่างเล็กของเด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีพูดขึ้น พันเอกหันไปทำหน้าดุดันพลางเดินเข้าไปหานะโมพร้อมกับเอ่ยเสียงเรียบ

“บอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าเรียกว่าคุณ” ประมุขของบ้านเอ่ยพลางจ้องหน้านะโมด้วยท่าทีทรงอำนาจ คนถูกมองเม้มปากแน่นด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเรียกพันเอกอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“พี่เอก…”

“อืม นายนี่ชอบลืมเรื่อย ถ้าคราวหน้าเรียกฉันว่าคุณอีกจะทำโทษ ตกลงไหม” ร่างสูงเอ่ยขึ้น นะโมพยักหน้ารับรู้พลางก้มหน้างุด พันเอกแสยะยิ้มมองคนตัวเล็กกว่าก่อนจะปรับสีหน้าให้ราบเรียบเมื่ออีกคนเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยท่าทีเลิกลั่ก

“ไหนล่ะ มีเรื่องอะไร”

“เอ่อ…คือ ผมอยากจะถามว่าอีกนานไหมงานของพี่วาจะเสร็จน่ะครับ คือนี่มันก็เดือนนึงแล้วที่พี่วาย้ายลงไปนอนเรือนเล็ก ถ้านานกว่านี้ผมจะขอลงไปนอนกับพี่วาได้ไหมครับ” นะโมพูดขึ้น พันเอกเลิกคิ้วพลางส่งเสียงหัวเราะในลำคอกับคำถามของอีกคน เกือบลืมไปเสียสนิทว่านะโมยังไม่รู้ว่าตอนนี้พี่ชายของตัวเองเจอกับอะไรบ้าง เพราะนาวาบอกกับน้องว่าที่ต้องไปนอนเรือนเล็กด้านหลังนั่นก็เพราะต้องทำงานให้พันเอกกับพวกบอดี้การ์ดคนอื่นๆ การลงไปพักเรือนด้านหลังซึ่งใกล้กับห้องพักของเหล่าลูกน้องของพันเอกมันจึงสะดวกมากกว่า และเด็กนะโมนี่ก็เชื่อพี่ชายเสียสนิทใจ

จะว่าไปแล้วนี่ก็ผ่านมาหนึ่งเดือนแล้วที่นาวาไม่ได้ขึ้นมาเหยียบบ้านใหญ่เลยสักครั้ง จะมีก็แต่เขาที่ต้องเป็นฝ่ายเดินไปหาอีกคนทุกเช้าเพื่อดูว่าคนอวดเก่งอย่างนาวามีสภาพเป็นยังไง คนที่รามรักนักหนานอนหลับสนิททุกครั้งที่พันเอกเข้าไปหา ท่อนบนเปลือยเปล่า ลำตัวใต้ร่มผ้าพร่างพรายไปด้วยรอยจูบเก่าใหม่คละกันไป บนผ้าปูที่นอนและผ้าห่มมีคราบสีขาวขุ่นเปื้อนเป็นวง บางวันก็มีเสื้อผ้าของบรรดาลูกน้องของเขาที่ลืมทิ้งเอาไว้วางอยู่บนพื้นให้เห็น

มันทำให้พันเอกทั้งหงุดหงิดและสะใจปะปนกันไปหมด

สะใจที่เห็นนาวานอนหมดสภาพอยู่บนที่นอน แต่ก็อดหงุดหงิดไม่ได้ที่อีกฝ่ายยังคงอวดเก่ง ไม่แม้แต่จะปริปากอ้อนวอน คนแบบนี้มันน่าจะสั่งสอนเสียให้เข็ด ยิ่งเห็นสภาพร่อแร่ของนาวาในทุกๆ วันก็ยิ่งสมเพช ตัวเองจะไม่ไหวแล้วยังปากแข็ง อวดดีไม่เข้าเรื่อง

“คิดถึงพี่เหรอไง” แสร้งพูดหยอกล้อพลางยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของคนตัวเล็กกว่า ทว่าในใจกลับเยาะเย้ย นะโมคนนี้ช่างโง่เง่านัก อ่อนเดียงสาและใสซื่อ ไม่เคยรับรู้เลยแม้แต่น้อยว่าผู้เป็นพี่ชายต้องเจอกับอะไรบ้างเพื่อให้เจ้าตัวได้หายใจอย่างสุขสบายในบ้านของเขา

“ครับ ผมคิดถึงพี่วา” นะโมสารภาพไปตามความจริงก่อนจะมองหน้าผู้มีพระคุณด้วยแววตาเว้าวอน

“ใกล้จะเสร็จแล้วล่ะ จะลงไปนอนเรือนเล็กให้มันวุ่นวายอีกคนทำไม บ้านนี้ห้องหับเยอะแยะ อีกอย่างนาวาเองก็ฝากฝังนายไว้ให้ฉันดูแล ถ้านายขอไปนอนกับพี่ นาวาเขาจะไม่มองว่าฉันดูนายไม่ดีจนนายอึดอัดไม่อยากอยู่บ้านใหญ่หรอกเหรอ” พันเอกยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาอ้างพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงกดดันกลายๆ

“เปล่านะครับ ผมแค่คิดถึงพี่ชายผมก็แค่นั้นเอง” นะโมรีบแก้ตัว คนอายุมากกว่าแค่นหัวเราะ แสร้งโยกศีรษะเล็กของคนตรงหน้าพลางเอ่ยเสียงเรียบทว่าดุดันจนคนฟังไม่กล้าโต้แย้ง

“ถ้าเปล่าก็เลิกพูดเรื่องนี้สักที พี่นายไปทำงานให้ฉัน นายมีหน้าที่ตั้งใจเรียนหนังสืออย่างเดียวเข้าใจไหม อย่าให้เงินของฉันมันสูญเปล่า”

“ค…ครับ ผมขอโทษครับคุ- ...พี่เอก” ร่างเล็กเอ่ยเสียงเบาเมื่อคิดได้ ดูเหมือนว่าเขาจะหลงลืมตัวเองไปชั่วขณะว่าสิ่งที่มีตอนนี้ไม่ใช่ของของเขา เงินทุกบาททุกสตางค์ก็ล้วนมาจากน้ำพักน้ำแรงของพันเอกแทบทั้งสิ้น เขากับพี่ชายต้องทำตัวให้สมกับที่พันเอกปราณีให้โอกาสคนที่ไม่เหลืออะไรเลยเช่นนี้ ยังจำคำพูดของนาวาที่บอกเขาให้รู้ตัวและมีสติอยู่เสมอว่าเราเป็นใคร มาที่นี่เพื่ออะไร และใครคือผู้มีพระคุณที่จะต้องเทิดทูนเท่าชีวิตได้ดี

ก่อนหน้านี้นาวาบอกกับนะโมเสมอว่าพันเอกก็เปรียบเสมือนเทวดา ชายคนนี้ถูกส่งมาเพื่อเป็นแสงสว่างของพวกเขา และก็ต้องพึงระลึกเอาไว้อยู่เสมอว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พันเอกสั่ง ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องทำตาม เพียงเพราะเหตุผลหนึ่งเดียว

เพราะพันเอกคือผู้ต่อลมหายใจให้กับพวกเขา

“ถ้าเข้าใจแล้วก็ขึ้นไปท่องหนังสือบนห้องได้แล้ว ฉันจะไปดูงานของพี่ชายนายเสียหน่อย” พันเอกเอ่ยแกมบังคับ นะโมพยักหน้ารับก่อนจะเดินหงอยขึ้นชั้นบนไป ร่างสูงมองตามแผ่นหลังเล็กจนลับสายตา แล้วจึงเดินออกจากบ้านใหญ่ไปยังเรือนเล็กด้านหลังด้วยท่าทีสงบนิ่ง

พอไปถึงก็เห็นมินตรากับเอื้องคำยืนคุยกันหน้าเครียดอยู่ไม่ไกล โดยไม่ทันสังเกตว่าเขาเดินเข้าไปใกล้แล้ว

“คุณวาเป็นยังไงบ้างน่ะป้า” คำถามของมินตราที่ดังขึ้นทำเอาร่างสูงที่กำลังจะเอ่ยทักคนทั้งคู่ชะงักกึก พันเอกขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น หยุดยืนอยู่กับที่เพื่อรอฟังคำตอบของเอื้องคำที่ยืนกดโทรศัพท์ยุกยิกด้วยใบหน้าเป็นกังวล

“หมอให้นอนโรงพยาบาลน่ะสิ เห็นว่าอาหารเป็นพิษแล้วก็พักผ่อนไม่เพียงพอด้วย เมื่อกี๊ก็ได้ยินเสียงโอ้กอ้ากดังลอดมา สงสัยจะอาเจียน” หญิงสูงวัยตอบสาวใช้ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด พันเอกได้ยินคำตอบดังกล่าวก็ขมวดคิ้วหนักก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“นาวาเป็นอะไร” ชายหนุ่มเอ่ยถามทำเอาหญิงทั้งสองคนสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ มินตราหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นใบหน้าของพันเอก ในขณะที่เอื้องคำได้แต่ยืนเม้มปากแน่น

“คุณเอกมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ หิวแล้วหรือยังป้าจะได้ตั้งโต๊ะให้” หญิงสูงวัยเลี่ยงไม่ยอมตอบคำถามพลางเบี่ยงประเด็น แต่มีหรือพันเอกจะสนใจ ชายหนุ่มหน้าขรึมกว่าเดิมพลางกดเสียงต่ำถามสองชีวิตตรงหน้าด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ป้าเอื้อง ผมถามว่านาวาเป็นอะไร”

“คือ…”

“จะตอบผมหรือจะเก็บของกลับบ้านครับ ผมไม่ได้จ้างให้พวกป้ามายืนอ้ำๆ อึ้งๆ และปิดบังผมแบบนี้” พันเอกขู่ทำเอาหญิงทั้งสองได้แต่ถอนหายใจ มินตราก้มหน้างุด รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจในขณะที่อีกคนยอมตอบคำถามของประมุขของบ้านด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“คุณวาป่วยค่ะ คุณพายเลยพาไปโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”

“ป่วย? แล้วทำไมไม่มีใครไปบอกผม” พันเอกกอดอกพลางตำหนิ

“คือ…คุณพายสั่งไว้น่ะค่ะว่าไม่ให้ป้าบอกคุณเอก เห็นว่ามันดึกมากแล้ว อ๊ะ!!!คุณเอกจะไปไหนคะ” ท้ายประโยคเอื้องคำอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นร่างสูงเดินตรงดิ่งไปยังโรงจอดรถ คนถูกถามตวัดสายตากลับมามองหญิงทั้งสองก่อนจะเอ่ยเสียงดุดัน

“ไปบอกนะโมว่าพี่ชายเขาเข้าโรงพยาบาล แล้วก็ให้คนพานะโมตามไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลในตอนเย็นด้วย” ร่างสูงทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก็ล้วงเอากุญแจรถขึ้นมาและก้าวขึ้นพาหนะคันหรูก่อนจะออกรถด้วยความรวดเร็วในทันที




โรงพยาบาล

“คุณพระพายเรียกผมมาที่นี่ทำไมเหรอครับ”

“ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลย พี่เป็นยังไงบ้าง” คุณหนูคนเล็กเอ่ยถามร่างเล็กในชุดกาวน์ที่เขาเพิ่งโทรเรียกให้มาพบพลางสำรวจใบหน้าขาวที่ติดจะโทรมลงไปมากด้วยความเป็นห่วง คนถูกถามเลิกคิ้วเข้มขึ้นน้อยๆ ก่อนจะยกยิ้มบางๆ ส่งไปให้ พลางตอบกลับไปด้วยท่าทีนอบน้อม

“ก็เหนื่อยตามประสาหมอนั่นแหละครับ แล้วคุณพายล่ะ เป็นยังไงบ้าง ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้ไปรับที่สนามบิน วันนั้นผมมีเคสฉุกเฉินพอดี”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ จะว่ายังไงดีล่ะ...คิดถึงพี่เทียนจัง” พระพายพูดพลางยกยิ้ม อีกคนทำได้แค่หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะคลอนหัวไปมา ไม่นานบทสนทนาระหว่างพวกเขาก็หมดลง ทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมรอบบริเวณจนน่าอึดอัดแต่ถึงกระนั้นต่างฝ่ายต่างก็ยังคงเงียบและเสมองออกไปด้านข้างราวกับผนังสีขาวของโรงพยาบาลนั้นน่าชื่นชมเสียเต็มประดา

ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ความรู้สึกอึดอัดเหล่านี้แทรกแซงเข้ามาในความสัมพันธ์ของเขาทั้งคู่

“ว่าแต่คุณพายมีอะไรรึเปล่าครับ แล้วมาทำอะไรที่นี่” เทียนหรือ ‘ส่องแสง สิงหราช’ เอ่ยถามทำลายความเงียบขึ้นมา พระพายสะดุ้งเล็กน้อยและกำลังจะอ้าปากตอบ แต่กลับมีเสียงทรงอำนาจของใครคนหนึ่งดังขึ้นมาแทน

“น้องชายฉันจะมาทำอะไรแล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายงั้นเหรอ”

“พี่เอก/คุณเอก”

“ก็ยังดีที่ยังจำชื่อกันได้ นึกว่าความอกตัญญูมันกินพื้นที่ในสมองเสียจนเลอะเลือนไปแล้วว่าใครเคยมีบุญคุณกับนายบ้าง” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเสียงเย็นเยียบ ดวงตาคมดุจ้องมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยแววตาดุดัน พันเอกแสยะยิ้มเมื่อไม่ได้เจอร่างเล็กตรงหน้าเนิ่นนาน ก่อนจะเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายพร้อมกับเชยคางเล็กให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา

“ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะ ไอ้หน้าตาอวดดีจองหองแบบนี้เนี่ย” ชายหนุ่มกดเสียงต่ำในขณะที่อีกคนเริ่มตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความหวาดกลัว พันเอกจ้องใบหน้าหวานเกินชายของคนตรงหน้าแล้วก็นึกขยะแขยง ก่อนจะยอมผละกายออกห่างจากอีกคนราวกับเป็นของร้อนพร้อมกับเอ่ยวาจาเชือดเฉือนหัวใจคนฟังเสียจนพระพายหน้าเสีย

“หน้าตาของลูกเมียน้อย เมื่อก่อนน่าขยะแขยงยังไง ตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างเลยจริงๆ” ชายหนุ่มทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็เดินกระแทกไหล่เล็กๆ ของส่องแสงเต็มแรง ฝ่ายคนตัวเล็กได้แต่ยืนกำหมัดแน่น ขอบตาร้อนผ่าวก่อนจะแค่นหัวเราะอย่างนึกสมเพชในโชคชะตาของตัวเอง พระพายยกมือขึ้นแตะลำแขนขาวเบาๆ เป็นเชิงขอโทษก่อนจะถูกอีกคนเบี่ยงแขนหลบพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“วันนี้ผมไม่สะดวก ยังไงไว้ค่อยนัดเจอกันใหม่นะครับคุณพาย ผมขอตัว” เอ่ยพร้อมกับเดินหนีออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว ทิ้งพระพายให้ยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังของคนตัวเล็กด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก

พระพายได้แต่ขอโทษขอโพยอีกฝ่ายในใจพลางเม้มปากแน่น รู้ดีว่าแม้จะเอ่ยคำขอโทษสักกี่ร้อยกี่พันครั้งก็คงไม่เพียงพอที่จะชดใช้ในสิ่งที่พันเอกทำลงไปได้ พอหวนคิดไปถึงผู้เป็นพี่ชายของตนแล้วก็ได้แต่ยืนนิ่ง ดวงตากลมทอดมองพื้นทางเดินของโรงพยาบาลพลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า

เมื่อไหร่พี่ชายของเขาจะเลิกทำลายชีวิตของคนอื่นเสียที เขาจะต้องทนมองพันเอกทารุณทั้งร่างกายและจิตใจของผู้บริสุทธิ์อีกนานแค่ไหน

พระพายต้องยืนมองความโหดร้ายของผู้เป็นพี่ชายอีกนานเท่าใดพันเอกจึงจะหยุด

หรือมันจะไม่มีวันนั้นกันแน่?



เปลือกตาสีขาวซีดขยับไปมาชั่วครู่ก่อนที่คนบนเตียงคนไข้จะค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาช้าๆ ความมึนงงและความอ่อนล้าแล่นปราดไปทั่วร่าง นาวาครางแหบพร่าในลำคอพลางกลอกตาไปมาเพื่อปรับโฟกัสภาพ ดวงตากลมกวาดมองไปทั่วผนังห้องสีขาวสะอาดตา ก่อนจะสะดุดลงที่ร่างสูงของคนที่เขาไม่อยากจะเจอมากที่สุดในเวลานี้

“คุณ!!” นาวาเบิกตากว้าง พยายามเคลื่อนกายหนีอีกคนอัตโนมัติ หากแต่พอใช้สองมือยันกายขึ้นมาแล้วก็ต้องทรุดตัวลงนอนแหมะกับเตียงอีกครั้งอย่างหมดแรง พันเอกเห็นท่าทีราวกับกระต่ายตื่นตูมของอีกฝ่ายแล้วก็ได้แต่ยิ้มเยาะ ชายหนุ่มเคลื่อนกายเข้าหาร่างโปร่งบนเตียงด้วยท่าทีไม่ยี่หระก่อนจะคว้าข้อมือของนาวาเอาไว้และกดร่างขาวลงกับเตียง

ฟุ่บ!~

“สังขารไม่เที่ยงแล้วยังไม่เจียมตัวอีกนะ” ร่างสูงใหญ่พูดขึ้นเสียงเรียบ นาวาเม้มปากแน่นพยายามจะขยับหนี พันเอกแสยะยิ้มมองร่างโปร่งด้านใต้ก่อนจะผละมืออีกข้างลงมาปลดชุดโรงพยาบาลของอีกคนอย่างนึกสนุก

“ค…คุณเอก! ปล่อยผมนะ!! นี่…อ๊ะ อื้อ” ท้ายประโยคถูกกลีบปากของอีกคนดูดเอาสุ้มเสียงด่าทอต่อว่าเข้าไปจนหมด ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงแต้มริมฝีปากลงบนกลีบปากสีซีดของนาวาเต็มแรง บดจูบอยู่เนิ่นนานจนอีกคนแทบจะขาดอากาศหายใจจึงยอมผละออกไป นาวาหอบหนักจ้องเครื่องหน้าได้รูปของอีกคน พันเอกยกยิ้มเย้ยคนใต้ร่างก่อนจะก้มลงมองรอยแดงจ้ำทั่วลำคอขาวพลางกระซิบข้างหูของร่างโปร่งเสียงแหบพร่า

“ลูกน้องของฉันได้สอนอะไรเด็ดๆ ให้นายบ้างรึเปล่าล่ะ”

“!!!”

“หึ อยากจะรู้เหมือนกันว่าเชี่ยวซักแค่ไหน” ร่างสูงเอ่ยขึ้นพลางยกยิ้ม นาวาสะบัดหน้าหนีคำพูดของอีกฝ่ายพร้อมกับเม้มปากจนเป็นเส้นตรง พันเอกหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างสะใจที่เห็นอีกคนทุกข์ทรมานก่อนจะยอมผละกายออกมาแต่ก็ยังเท้าแขนกักร่างโปร่งเอาไว้

“ฉันมีข่าวดีมาบอก เผื่อฟังแล้วอาการจะดีขึ้น”

“…”

“ดูเหมือนว่าสุดที่รักของนายมันจะดวงแข็งเสียเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ถูกโยนลงสะพานไปขนาดนั้นยังอุตส่าห์รอดมาได้อีก” ร่างสูงพูดต่อ นาวายังคงเงียบไม่ยอมปริปาก ทว่าดวงตาที่ฉายแววตกใจระคนดีใจชั่วครู่นั้นก็ไม่อาจรอดพ้นสายตายตาของพันเอกไปได้ ชายหนุ่มมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนใต้ร่างแล้วก็ได้แต่แสยะยิ้ม ก้มลงไปกดจมูกลงบนสันกรามของนาวาเบาๆ พลางลากไล้ขึ้นไปที่หลังใบหูขาวทำเอาอีกคนร้องประท้วงเสียงสั่น กฤตภาสคนพี่ยกยิ้มกับท่าทีของอีกคนพลางเคลื่อนใบหน้ามาอีกฝั่งหวังจะช่วงชิงกลีบปากของนาวาอีกครั้ง หากแต่เขาก็ต้องชะงักไปเล็กน้อยเมื่อประตูห้องพักถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับพระพายที่เบิกตากว้างทันทีที่เห็นท่วงท่าล่อแหลมของคนทั้งคู่

“พี่เอก!! นี่มันโรงพยาบาลนะ!” คนเป็นน้องร้องขึ้นลั่นห้องพลางตรงไปกระชากร่างของพันเอกให้ผละออกมา นาวารวบสาบเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่พระพายก้าวเข้ามาคว้าตัวเขาเข้าไปกอด กฤตภาสคนน้องตวัดสายตามองพี่ชายด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเห็นใบหน้าราบเรียบไร้ความรู้สึกใดๆ ของคนตรงหน้ายิ่งเรียกโทสะของพระพายให้ปะทุขึ้นเต็มที่

-(มีต่อด้านล่างค่ะ)-
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 5 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:56:10
“ถ้ามาแล้วมาทำแบบนี้ก็กลับไปเลยนะ แล้วก็เลิกซะทีเถอะ เลิกทำแบบนี้ได้แล้ว เมื่อไหร่จะหยุด สนุกมากไหม” คนเป็นน้องเอ่ยขึ้นด้วยความหงุดหงิด พันเอกแค่นหัวเราะกับคำถามโง่เง่าน่าหัวเราะเยาะนั่น ก่อนจะหันไปจ้องคนบนเตียงที่ไม่ยอมมองหน้าเขาเลยแม้แต่น้อย

“ครั้งก่อนไม่ตาย แต่ครั้งต่อไปมันไม่รอดแน่” พันเอกทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็เลือกที่จะเดินจากไป พระพายมองตามจนลับแผ่นหลังของพี่ชายแล้วก็หันมาถามนาวาด้วยความเป็นห่วง

“คุณวาเป็นอะไรไหมครับ แล้ว…ที่พี่เอกพูดนั่นหมายความว่ายังไง”

“เปล่าหรอกครับ คุณพายอย่าคิดมากเลย…ว่าแต่ทำไมผมถึงได้มาอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะ” ร่างโปร่งเบี่ยงประเด็นทำเอาอีกคนหรี่ตามอง แต่จะไปคาดคั้นอะไรแน่นอนว่านาวาก็คงไม่มีทางบอกเป็นแน่ สุดท้ายจึงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะยอมตอบคำถามของอีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พี่สันต์บอกว่าคุณอาการไม่ค่อยดีผมเลยเข้าไปหา เห็นตัวร้อนเลยพาส่งโรงพยาบาล”

“แค่ตัวร้อน...ไม่เห็นต้องลำบากคุณพายเลยครับ”

“ไม่ลำบากหรอกครับ ถึงคุณวาไม่ป่วยผมก็จะหาข้ออ้างพาคุณเข้ามานอนโรงพยาบาลอยู่ดี” พระพายพูดขึ้น นาวาขมวดคิ้วด้วยความงุนงงก่อนจะต้องร้องอ๋อออกมาเมื่อได้ยินอีกคนขยายความ

“คุณจะได้ไม่ต้องทำตามคำสั่งบ้าๆ แบบนั้นอีกไง ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหน่อยพี่เอกได้รู้ความจริงแน่ๆ ถึงตอนนั้นผมกลัวคุณจะโดนข่มขืนจริงๆ” พระพายพูดขึ้นเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน นาวาถอนหายใจเมื่อคิดตามคำพูดของคนข้างกายแล้วก็หน้าสลด

นั่นสินะ พวกเขาจะหลอกพันเอกได้อีกนานแค่ไหน

จะตบตาประมุขของกฤตภาสไปได้ถึงเมื่อไหร่ว่าจริงๆ แล้วนาวาไม่ได้มีอะไรกับลูกน้องของพันเอกเลยแม้แต่คนเดียว ใช่ ร่องรอยตามตัวและคราบน้ำกามสีขาวที่พันเอกเห็นนั่นก็เป็นเพียงการจัดฉาก ตลอดหนึ่งเดือนที่ลูกน้องของพันเอกเข้ามาในห้องของเขาสิ่งที่คนเหล่านั้นต้องทำคือถอดเสื้อผ้าและสร้างรอยทั่วแผ่นหลังและลำคอของนาวาก่อนจะนอนหลับกันไปทั้งคู่ บางคนก็ชวนเขาคุยบ้างเพราะยังไม่ง่วง บางคนก็ชวนเขาเล่นจนเหนื่อยก่อนจะนอนหลับไป พอใกล้เช้าทุกคนก็จะหยิบเสื้อผ้ามาใส่ตามเดิมและเดินออกจากห้อง หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่เขาที่จะต้องลุกขึ้นมาช่วยตัวเองและนำเอาคราบน้ำกามสีขาวมาป้ายที่นอนก่อนจะหลับต่อ

สามสิบวันของเขาก็มีเพียงเท่านี้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรเกินเลยมากกว่าประทับรอยจูบทั่วแผ่นหลังของเขา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำสั่งของนายน้อยอย่างพระพายที่ว่าห้ามแตะนาวาจนเกินจำเป็น นอกจากนี้น้องชายของพันเอกยังลงทุนมานั่งเฝ้าหน้าห้องในบางคืนเสียด้วยซ้ำ

และเพราะการช่วยเหลือนี้เองที่ทำให้นาวามองพระพายต่างออกไปจากคนเป็นพี่ เด็กคนนี้มีความคิดเป็นของตัวเองและบริสุทธิ์ พระพายยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าถูกและไม่ลังเลที่จะทำในสิ่งที่ควรทำ อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นคนใจอ่อน เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพันเอกถึงได้รักและหวงแหนน้องชายอย่างพระพายนัก

“ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะครับคุณพาย ถ้าไม่มีคุณ ผมไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง” นาวาเอ่ยขอบคุณจากใจจริงพร้อมกับส่งยิ้มไปให้คนตรงหน้า พระพายยิ้มรับกลับมาพร้อมกับพูดขึ้นเสียงเบา

“ผมไม่อยากให้คุณวาต้องทุกข์ทรมาน คุณไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมผิดเองที่ห้ามพี่เอกไม่ได้ ผมเป็นน้องที่แย่จริงๆ ที่เอาแต่ปล่อยให้พี่ชายของตัวทำร้ายคนบริสุทธิ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า” พระพายระบายความอัดอั้นออกมาในขณะที่นาวานั่งเงียบ

“ผมขอโทษ ผมสัญญาว่าจะหาทางทำให้พี่ผมเลิกทำร้ายคุณให้เร็วที่สุด” พระพายพูดเสียงจริงจัง นาวาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“คุณพายไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ เพื่อแลกกับอนาคตของนะโม แค่นี้ผมทนไหว ที่ผมห่วงคือคุณรามมากกว่า” ท้ายประโยคนาวาพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล พระพายขมวดคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม

“ราม? จริงสิ ผมว่าจะถามมานานแล้ว ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง ไม่มีใครยอมตอบผมเลยว่าคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น แล้วอยู่ๆ ทำไมฝ่ายนั้นยอมรามือไป” คนอายุน้อยกว่าพูดขึ้นทำเอานาวากัดปากแน่นเมื่อเผลอพูดสิ่งที่ไม่สมควรออกไป พระพายจ้องใบหน้าของอีกคนเขม็งอย่างรอคำตอบ นาวาหลบตาของอีกคนวูบใหญ่ทำเอาร่างแน่งน้อยยิ่งทวีความอยากรู้มากขึ้นไปอีก

“คุณวา เกิดอะไรขึ้นครับ บอกผมได้ไหม” น้องถามเสียงอ่อนพลางเอื้อมมือมากุมมือของนาวาเอาไว้แล้วบีบเบาๆ เพียงเท่านั้นความเข้มแข็งของร่างโปร่งก็พังทลาย

“คุณราม…ถูกโยนลงจากสะพาน …เขาถูกซ้อมและถูกโยนลงน้ำทั้งๆ ที่ยังหมดสติ”

“อะไรนะ!!!!” พระพายอุทานเสียงหลง หัวใจดวงน้อยสั่นไหว แกว่งไกววูบโหวงขึ้นมาในอกจนขอบตาร้อนผะผ่าว

พี่ชายของเขาทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ

“แต่คุณเอกบอกว่าคุณรามยังไม่ตาย คุณพาย เขาจะทำอะไรคุณรามอีกไหม ผมกลัว” นาวาพูดเสียงเครือ พระพายขมวดคิ้วด้วยความกังวลก่อนจะปลอบคนที่กำลังปริ่มจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ ชายหนุ่มให้คนป่วยนอนพักผ่อนพร้อมกับกำชับว่าไม่ต้องคิดมาก เพียงไม่นานนาวาก็ผล็อยหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันทีหลังจากนั้น ร่างขาวของพระพายนั่งจ้องใบหน้าซีดของนาวาก่อนจะถอนหายใจ

ถ้าหากสิ่งที่นาวาพูดเป็นความจริง นั่นเท่ากับว่าพันเอกต้องการให้เรื่องระหว่างกฤตภาสกับกลทีบ์รุนแรงมากขึ้นไปอีก

พระพายรู้ดีว่าตอนนี้นอกจากการแก้แค้นให้กับการตายของพ่อแม่แล้ว อีกสาเหตุหนึ่งที่พันเอกทำแบบนี้ก็คงเพราะความสนุกสะใจของเจ้าตัวเอง พี่ชายของเขาเป็นคนร้ายกาจมาตั้งแต่เด็กๆ หากพันเอกได้จงเกลียดจงชังใครแล้วย่อมทำทุกวิถีทางให้คนคนนั้นจมแผ่นดินและยอมสยบใต้เท้าเพื่อแสดงถึงอำนาจ

พันเอกไม่ใช่คนดี ไม่เคยเป็นคนดี ข้อนี้พระพายรู้อยู่เสมอ และเขาเองก็ไม่เคยห้าม ตรงข้ามกลับยืนนิ่งให้พี่ชายทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่พี่ชายเขาทำร้ายคนบริสุทธิ์มากมายเพียงเพราะอคติของตัวเอง ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาทำได้แค่เฝ้ามองผู้คนเหล่านั้นถูกทำร้ายต่างๆนานา

เขาเองก็คงไม่ต่างกัน พระพายเองก็เป็นปีศาจไม่ต่างจากพันเอกเลยสักนิด

ไม่ต่างกันเลย




บ่ายวันรุ่งขึ้นร่างเล็กของส่องแสงก้าวเดินเข้ามาภายในห้องทำงานของผู้เป็นพี่ชายด้วยท่าทีสงบนิ่ง นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาเหยียบบ้านหลังนี้ นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศภายในบ้านของตระกูล ‘กฤตภาส’ แม้ว่าสายเลือดครึ่งหนึ่งของเขาจะมีเลือดของกฤตภาสไหลเวียนอยู่ในตัวก็ตาม

ก็เด็กที่เกิดจากลูกคนใช้อย่างเขาน่ะ ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะใช้นามสกุลของผู้เป็นพ่อหรอก

“คุณพันเอกมีธุระอะไรกับผมเหรอครับ” เอ่ยถามพี่ชายต่างมารดาด้วยท่าทีนอบน้อมเมื่อเห็นร่างแกร่งของอีกคนกำลังนั่งนิ่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ ดวงตาคู่กลมหลบแววตาดุดันของพันเอกพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย อีกฝ่ายโบกมือไล่บรรดาลูกน้องที่ยืนขนาบข้างของร่างเล็กให้ออกไปให้พ้นก่อนจะเอ่ยถามส่องแสงเสียงราบเรียบ

“ได้ข่าวว่ากำลังหาโรงพยาบาลประจำอยู่ใช่ไหม ใช้ทุนหมดแล้วนี่”

“ครับ” ตอบตามความจริงกลับไปเรียกร้อยยิ้มมุ่งร้ายจากพันเอกขึ้นทันที ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินเข้ามาประชิดร่างของน้องชายต่างมารดาพลางยกมือไล้แผ่วเบาไปตามโครงหน้าสวยได้รูป

ส่องแสงสวยมาก สวยเหมือนแม่

สวยมากจนเกินไป

และความสวยนี่แหละที่น่ากลัว

“อยากกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ไหมล่ะ” เอ่ยถามเสียงนุ่มพลางหยุดปลายนิ้วลงที่คางมนพร้อมกับออกแรงเชิดใบหน้าของอีกคนให้เงยขึ้นมาสบตากับเขา คนถูกถามขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ ดวงตากลมวูบไหวยามเมื่อจ้องโครงหน้าหล่อเหลาได้รูปของอีกคนก่อนจะถามเสียงแหบ

“คุณหมายถึงอะไรครับ ผมไม่เข้าใจ” ใช่ เขาไม่เข้าใจจริงๆ นั่นแหละ พันเอกต้องการอะไร หลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่พันเอกรู้ว่าส่องแสงเป็นเด็กที่เกิดจากคุณชายของบ้านกับสาวใช้เขาก็ถูกผลักไสมาโดยตลอด ทั้งๆ ที่โหยหาอ้อมกอดของครอบครัว แต่ส่องแสงก็เจียมตัวเองอยู่เสมอว่าเขานั้นไม่ใช่

ไม่ใช่กฤตภาส ไม่ควรเรียกตัวเองว่าเป็นหนึ่งในทายาทของตระกูลนี้

ทว่าวันนี้สิ่งที่พันเอกบอกกับเขานั่นมันคืออะไร

“อยากพาแม่นายกลับมาอยู่ที่นี่ไหมเทียน” พันเอกถามพลางไล้นิ้วโป้งไปตามแก้มนุ่ม ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนคนนี้อันตราย ส่องแสงอันตรายต่อคนรอบข้างนัก รูปลักษณ์ของคนคนนี้อันตรายต่อหัวใจคนรอบข้างมากจริงๆ

ไม่เว้นแม้กระทั่งกับคนที่มีสายเลือดเดียวกันอย่างเขา

“ไม่หรอกครับ ตอนนี้ผมมีความสุขดีอยู่แล้ว” เอ่ยเสียงแผ่วเบาออกมาในขณะที่ขอบตาร้อนผ่าว พันเอกยกยิ้มหยัน ก่อนจะไล้นิ้วลงไปสัมผัสกับดวงตาสวยได้รูป

“ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะหืม...นายไม่อยากได้สมบัติที่เหลืออยู่ของพ่อหรือไง ในเมื่อนายเองก็เป็นลูกพ่อ เป็นกฤตภาสคนหนึ่ง เป็นน้องฉัน เป็นพี่ของพระพาย” พันเอกเอ่ยขึ้น

“คุณเอก”

“ถ้าอยากให้แม่สบาย นายต้องเชื่อฟังฉันสิ” พันเอกพูดขึ้นทำเอาอีกคนชะงักกึก ส่องแสงเงยหน้าขึ้นมองอีกคนด้วยความไม่เข้าใจ ร่างสูงยกยิ้มจางๆ ก่อนจะผละกายออกไปหยิบเอกสารในซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานออกมาและยื่นให้กับคนตัวเล็ก

“ฉันจะส่งนายไปที่ภูเก็ต ที่นั่นจะมีคนไข้ห้องไอซียูที่ชื่อ ‘ราม กลทีบ์’ อยู่ด้วย” สิ้นประโยคร่างของส่องแสงก็แข็งทื่อ หัวกลมส่ายไปมาแรงๆ พลางก้าวถอยหลังเมื่อรู้จุดประสงค์ของคนตรงหน้าชัดเจน ส่องแสงรู้ดี รู้เรื่องราวเลวร้ายในอดีตดี เรื่องราวความบาดหมางระหว่างพันเอกกับอดีตเพื่อนสนิทอย่างราม เขารับรู้และคอยเฝ้ามองความเป็นไปของพันเอกและรามอยู่ห่างๆ มาโดยตลอด

แต่ก็ไม่คิดจะเอาตัวเองเข้ามาพัวพันกับวังวนเหล่านี้...ทว่าความปรารถนาของเขากลับไร้ผล

“ไม่ ผมไม่ทำ ผมไม่ทำเด็ดขาด”

นึกอยู่แล้วเชียว นึกอยู่แล้วว่าพันเอกไม่มีทางที่จะยอมรับลูกคนใช้อย่างเขาง่ายๆ คนคนนี้ไม่ได้นับญาติกับเขามาตั้งแต่แรก ในสายตาของคนที่นี่ ส่องแสงก็แค่หมารับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น

“พอไปถึงที่นั่น หาทางฆ่ามันให้ได้ แล้วนายจะได้เป็นคุณหนูเทียนของตระกูลกฤตภาสเต็มตัว” คนเป็นพี่ชายยังคงพูดต่อ ไม่สนใจอาการต่อต้านจากร่างเล็กเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มจ้องมองคนตัวเล็กกว่าที่กำลังยืนมองเขาอย่างตัดพ้อ เมื่อเห็นท่าทีปฏิเสธทั้งที่เจ้าตัวไม่มีสิทธิ์โทสะในกายก็พุ่งสูง เอื้อมมือไปกระชากเส้นผมของน้องชายเต็มแรงพร้อมกับเค้นเสียงออกคำสั่งอย่างดุดัน

“ฆ่ามันซะเทียน ไม่อย่างนั้นนายกับแม่นายจะถูกฉันฆ่าแทน เลือกเอา งานสุดท้ายกับชีวิตที่จะสบายไปทั้งชาติ”

“ไม่เอา ผมไม่เอาอะไรทั้งนั้น ผมไม่ฆ่าใคร ไม่ฆ่าพี่ราม ได้โปรด” ส่องแสงร้องเสียงหลง ทว่ากลับถูกอีกคนดึงรั้งเส้นผมสุดแรงจนหน้าแหงน ใบหน้าที่เคยอ่อนโยนแปรเปลี่ยนเป็นดุดัน น้ำเสียงทุ้มนุ่มกลับกลายเป็นกรุ่นโกรธชิงชัง

“ถ้านายไม่ทำ แม่กับพี่ชายนายก็ตายเทียน แล้วนายเองก็จะเป็นเมียฉันเหมือนที่นาวาคนของไอ้รามมันเป็น นายก็น่าจะรู้ว่าฉันเลวมากพอที่จะเอาน้องตัวเองลง!” ชายหนุ่มขู่พลางกระแทกร่างเล็กเข้ากับบานประตูเต็มแรงก่อนจะจ้องใบหน้าสวยหวานของอีกคนด้วยแววตาดุดัน

“ฆ่าไอ้รามซะ แล้วนายจะได้ทุกอย่างที่นายต้องการ” ชายหนุ่มทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็เหวี่ยงร่างเล็กลงไปกองกับพื้น ส่องแสงถอยกรูดไปชิดโซฟาที่ตั้งอยู่มุมห้องพลางกอดเข่าแน่น หัวใจดวงน้อยบีบรัดจนเจ็บไปทั่วทั้งแผ่นอก ทั้งๆ ที่รักอีกคนไม่ต่างจากคนในครอบครัว แต่ใยพันเอกถึงมองเขาเป็นเพียงหมารับใช้ไร้ค่าเช่นนี้

สำหรับพันเอกแล้ว เขาก็เหมือนเทียนไขที่รอให้ใช้จนหมดเล่มหมดประโยชน์สมกับชื่อของเขาเท่านั้นนั่นแหละ


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 5 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-10-2014 16:56:36
ตอนที่ ๙


นาวานอนโรงพยาบาลมาเกือบจะครบอาทิตย์ ทุกๆ เย็นทั้งนะโมและพระพายจะผลัดกันมานอนเป็นเพื่อน ตอนนี้น้องชายของเขาเปิดเทอมแล้ว เห็นบ่นๆ ว่ายังไม่ค่อยชินเรื่องภาษาแต่ก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นะโมเป็นเด็กฉลาดและปรับตัวได้เร็ว ไม่นานคงมีเพื่อนและสนุกกับการได้กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง พอน้องไม่ค่อยได้อยู่บ้านช่วงกลางวันนาวาก็คอยโล่งใจไปได้บ้าง อย่างน้อยความเสี่ยงที่จะถูกพันเอกทำอะไรก็ลดลง พระพายเองก็รับปากว่าจะช่วยดูให้ ทั้งยังบอกว่าช่วงนี้พันเอกหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงานตลอด

ช่วงกลางวันเอื้องคำและมินตราจะผลัดกันเข้ามาคุยเล่นแก้เหงา แต่ก็แค่ไม่นานเพราะมีงานต้องทำ อย่างวันนี้เขาเองก็ต้องนั่งแกร่วอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความเบื่อหน่าย มือขาวกดรีโมตทีวีให้มันเปลี่ยนช่องไปเรื่อยอย่างไร้จุดหมาย

เมื่อไหร่จะได้ออกจากโรงพยาบาลสักที

ได้แต่บ่นในใจพลางตีสีหน้างอง้ำเล็กๆ นั่งเฉยๆ ฟังเสียงทีวีอยู่นานก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจล้มตัวลงนอนเพื่อตัดปัญหา ไม่นานก็ผล็อยหลับไป

คล้อยหลังช่วงเวลาที่นาวาเข้าสู่ห้วงนิทราได้ไม่นานนัก ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกพร้อมด้วยการมาถึงของใครคนหนึ่ง ดวงตาคมดุดันจ้องมองร่างสูงระหงบนเตียงกว้างพลางแสยะยิ้ม มือแกร่งกดล็อคประตูห้องก่อนจะก้าวเดินไปยังเตียงคนไข้ตรงหน้าอย่างใจเย็น

พันเอกหยุดยืนอยู่ข้างเตียง ดวงตาจ้องคนที่กำลังนอนหลับผ่อนลมหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอพลางค่อยๆ นั่งลงตรงพื้นที่ว่างที่เหลืออยู่บนเตียงนั้น นาวาดูสดใสขึ้นนิดหน่อยจนเขาเองก็ยังสังเกตได้ ริมฝีปากอวบอิ่มไม่ซีดเหมือนก่อนหน้านี้ กลับกันมันแปรเปลี่ยนเป็นสีเชอรี่สดใสดูเย้ายวนใจให้โน้มกายลงไปแนบชิม ไม่รอช้า ร่างแกร่งเท้าแขนลงกับเตียง คร่อมร่างของคนที่กำลังหลับใหลพลางก้มลงแต้มริมฝีปากของนาวาด้วยกลีบปากของตนเอง

สัมผัสหนักๆ ที่รบกวนการนอนพร้อมกับความอุ่นร้อนของลมหายใจส่งผลให้คนที่ตื่นง่ายแบบนาวาขยับตัวเล็กน้อยก่อนจะลืมตา พอเห็นว่าเป็นพันเอกที่กำลังจ้องหน้าเขาด้วยสายตาราบเรียบแล้วก็ผวา ถดกายหนีเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ต้องนอนนิ่งภายใต้พันธนาการของอีกคน

“คุณ...” เอ่ยเรียกคนตรงหน้าเสียงแผ่ว แก้วตาคู่ใสสั่นระริกด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว สองมือยกขึ้นมาขยุ้มเสื้อตรงหน้าอกจนแน่น กริยาราวกับลูกกระต่ายน้อยที่นอนสั่นเทิ้มภายใต้ร่างของราชสีห์ พันเอกยกยิ้มกับท่าทีหวาดกลัวพลางนึกชอบใจ มือข้างหนึ่งผละมาลูบไล้ปรางค์แก้มที่บัดนี้เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นแผ่วเบาทำเอานาวาสะดุ้ง

“วันนี้ฉันมาดี อย่าทำให้โมโหนักจะได้ไหม” เอ่ยกับคนใต้ร่างด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบหน้าคมนิ่งเฉย ขัดกับสัมผัสมือที่บางเบาจนน่าใจหาย นาวาเม้มปากแน่น ตามอารมณ์ของคนใจร้ายไม่ทันแต่ก็เลือกที่จะเงียบ ปล่อยให้ร่างสูงลูบแก้มของเขาไปมาอยู่อย่างนั้น เมื่อเวลาผ่านไปอาการเกร็งก็ลดลงก่อนจะกลายเป็นนอนนิ่งให้พันเอกจ้องมองไม่วางตา

“ออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่” ร่างสูงเอ่ยถามหลังจากทิ้งให้ความเงียบโรยตัวโดยรอบอยู่เนิ่นนาน นาวาส่ายหน้าไปมาด้วยความไม่รู้จนอีกคนถอนหายใจ

“พอออกจากที่นี่ไปแล้วก็ย้ายกลับขึ้นไปนอนบนบ้านซะ นะโมบ่นคิดถึงจนชักจะรำคาญ” เอ่ยบอกคนตรงหน้าพลางผละกายขึ้นมานั่งหลังตรง

“ครับ” นาวาตอบรับ พันเอกปรายตามองคนที่นอนนิ่งหลบตาเขาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก

“อยากรู้ข่าวของสุดที่รักหน่อยไหมว่าตอนนี้มันมีสภาพเป็นยังไง”

“ไม่ครับ ผมไม่อยากรู้” ไม่อยากรับรู้อะไรที่มันจะทำให้เขารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นไปมากกว่านี้ แค่เขาเป็นสาเหตุหนึ่งที่รามพลาดท่าไปแบบนั้นมันก็ทำให้นาวารู้สึกแย่กับตัวเองมากแล้ว ไม่รู้หรอกว่าก่อนหน้านี้ทั้งรามและพันเอกฟาดฟันต่อสู้กันด้วยวิธีไหน แต่ที่รามโดนเล่นงานแบบนั้นก็เพราะนาวาทั้งนั้น

“ทำหน้าจะเป็นจะตาย น่าสมเพชสิ้นดี” พันเอกเย้ยหยัน พอมองกริยาเงียบงันของนาวาแล้วก็รู้สึกหงุดหงิดในใจ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนกัน ท่าทางนิ่งเฉยแต่ในแววตากลับฉายแววเป็นห่วงเป็นใยทายาทของกลทีบ์คนนั้นทำเอาพันเอกรู้สึกไม่พอใจ

ทำไมถึงได้ขยันทำให้หงุดหงิดนัก

“ไอ้เวรนั่นไม่ตายก็เหมือนตาย อีกไม่นานฉันก็จะช่วยสงเคราะห์ให้มันไปสบายเร็วๆ ไม่ต้องห่วงหรอกนาวา เบื่อนายเมื่อไหร่ฉันก็จะส่งนายลงนรกตามมันไปด้วยแน่นอน” ชายหนุ่มพูดขึ้น นาวาเบือนหน้าหนีพยายามไม่ตอบโต้อะไรกลับไป แต่ก็เป็นพันเอกเองที่ยั่วยุให้เขาต้องเปิดปากร้องทุกครั้ง

“แล้วหลังจากนั้นนะโมก็จะกลายเป็นของเล่นชิ้นใหม่ของฉัน นายว่าดีไหม”

“คุณเอกครับ ขอเถอะ อย่าทำอะไรน้องผมเลย เว้นแกไว้สักคน” นาวาหันหน้ามาพลางจับแขนแกร่งภายใต้เสื้อสูทสีดำของอีกคนเอาไว้ พันเอกยิ้มร่าเมื่อเห็นท่าทีกระวนกระวายใจที่คนใต้ร่างแสดงออกมา ชายหนุ่มถอดสูทออกจากลำตัวพลางโยนมันไปไว้ปลายเตียง ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นทาบทับกายแกร่งเหนือร่างโปร่งของอีกคน มือข้างหนึ่งรูดเนกไทด์ของตนออกพลางเหวี่ยงทิ้งสะเปะสะปะ นาวาเบิกตากว้าง ใจเต้นระรัวเมื่อรับรู้ว่าอีกคนต้องการอะไร

“ทำให้ฉันพอใจสินาวา อ้อนฉัน เอาใจฉัน นอนกับฉัน ไม่ใช่มาพยศใส่ฉันที่เป็นเจ้าชีวิตของนายแบบนี้” ชายหนุ่มพูดเสียงนุ่มขณะกรีดนิ้วไปตามปมเชือกของชุดโรงพยาบาล นาวาน้ำตาคลอพลางเม้มปาก ยากที่จะปฏิเสธเพราะทุกวันนี้หน้าที่เขาคือทำให้อีกฝ่ายพอใจ

“คุณเอก นี่มันโรงพยาบาล...รอให้ผมกลับบ้านก่อนได้ไหมครับ” คนตัวเล็กกว่าต่อรอง หากแต่คนที่ร้างราเรื่องอย่างวามานานแบบพันเอกมีหรือจะสนใจ ชานหนุ่มคลายปมเชือกออกจนเผยให้เห็นแผ่นอกขาวของคนตรงหน้า นาวายกมือขึ้นมาจับมือของอีกคนเพื่อห้ามเมื่อเห็นว่าจุดหมายต่อไปคือกางเกงของเขา

“อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดนักเลยน่า” ร่างสูงพูดเสียงขุ่นแต่ทว่าอีกคนกลับเอาแต่ส่งสายตาอ้อนวอนกลับมา

“อยากให้ฉันไปลากตัวน้องนายมาระบายอารมณ์แทนนักใช่ไหม” ขู่ขึ้นเสียงเฉียบอย่างทุกที และก็ได้ผลเมื่อนาวายอมปล่อยมือให้ชายหนุ่มได้รูดเอาอาภรณ์ท่อนล่างให้ลงไปกองรวมกันอยู่ที่ข้อเท้าเล็ก พันเอกไม่รอช้า แยกเรียวขาขาวออกจากกันก่อนจะเบียดความต้องการเข้ากับบั้นท้ายของคนป่วย แม้จะมีเนื้อผ้าของกางเกงขวางกั้นทว่านาวากลับรู้สึกถึงตัวตนของอีกคนที่พองโตคับกางเกงได้เป็นอย่างดี

“คุณ...อ๊ะ!” เรียกอีกคนเสียงแผ่วก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อถูกพันเอกบดจูบลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว กลีบปากสีชาดเคล้าคลึงกับริมฝีปากนุ่มหยุ่นของคนใต้ร่าง ลิ้นร้อนแทรกตัวเกี่ยวกระหวัดลิ้นนุ่มของนาวาอย่างโหยหา พันเอกครางต่ำในลำคอขณะใช้สองมือปลดเข็มขัดและเลื่อนกางเกงที่สวมใส่อยู่ลงเล็กน้อย ริมฝีปากยังคงบดจูบอยู่กับกลีบปากหวานล้ำของอีกคน ชายหนุ่มผละใบหน้าออกเล็กน้อยขณะจับความแข็งแกร่งบดเบียดเข้าหาช่องทางอุ่นร้อนของอีกคนโดยไม่รีรอ

“อึ่ก คุณเอก อื้อ” นาวาร้องเสียงหลง ครางหวีดหวิวด้วยความเสียด เสียววูบวาบในช่องท้องเมื่ออีกคนดันกายเข้ามาภายในร่างโดยไม่มีการหล่อลื่นใดๆ พันเอกกดกายเข้าหาอย่างรวดเร็วราวกับโหยหาช่องทางของเขามาเนิ่นนาน ความฝืดเคืองนำพาความเจ็บแสบแล่นริ้วจนสองมือต้องยกขึ้นมาจิกไหล่ของคนด้านบนจนแน่น

“อืมมมม” ร่างสูงครางเสียงทุ้มต่ำยามดันกายเข้าจนสุดความยาว นาวาขาสั่นระริก ความอึดอัดถาโถมมากกว่าความเสียวซ่าน พันเอกมองคนที่นอนหอบน้ำตาคลอด้วยความชอบใจ ก่อนจะค่อยๆ ขยับกายเข้าออกช้าๆ เพิ่มระดับความเร็วขึ้นเมื่อช่องทางด้านหลังของคนตัวขาวเริ่มคุ้นชินกับความต้องการของเขา ริมฝีปากของร่างสูงดูดดึงขบเม้มทั่วลำคอระหงขณะหยัดกายโถมความต้องการใส่ร่างของนาวาเต็มแรง เตียงของโรงพยาบาลเริ่มขยับไปมาเนื่องจากแรงขยับกายของพันเอกที่มากขึ้น มือข้างที่ถูกใส่น้ำเกลือของนาวาเริ่มรู้สึกเจ็บและมีเลือดไหลย้อนแต่กลับไม่มีใครสนใจ ร่างขาวผวากอดคนตัวสูงแน่นเมื่อความเจ็บแปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหวามไหว หัวใจเต้นระส่ำกับจังหวะของร่างกายที่ขยับสอดประสาน ชายหนุ่มปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์และยอมให้พันเอกทำในสิ่งที่เจ้าตัวต้องการ ปฏิเสธไปก็ไร้ประโยชน์ สุดท้ายจึงได้แต่ส่งเสียงครางหวานและปลดเปลื้องทุกความรู้สึก จมจ่อมอยู่ในวังวนของความต้องการทางด้านร่างกายที่ธรรมชาติสรรค์สร้างอย่างยอมจำนน

ทางด้านพันเอกเองก็ยังคงตักตวงความหอมหวานจากนาวาโดยไม่มีทีท่าว่าจะเหน็ดเหนื่อย ร่างสูงสอดกายประสานแน่นหนักเรียกเสียงครางสั่นเครือจากคนใต้ร่าง นาวาน้ำตาคลอหน่วยขณะเรียกชื่อคนที่ขยับโยกเข้าออกเหนือร่างของเขาไม่ขาดปาก พันเอกจ้องใบหน้าหวานที่ขึ้นสีแดงก่ำพลางแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนเอง เอวสอบควบทะยานเข้าออกสุดแรงกำลังขณะจับขาข้างหนึ่งของนาวาขึ้นมาวางพาดที่ลาดไหล่แกร่ง หอมหวาน เย้ายวนจนควบคุมสติแทบไม่อยู่

“คุณเอก อ๊ะ อ๊า”

“วา...อาาา” ต่างฝ่ายต่างครางเรียกชื่อของอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงแหบพร่า กิริยาของนาวาในยามนี้ดูน่ารักน่าใคร่จนคนมองหยุดความต้องการของตัวเองไม่ได้ พันเอกกัดฟันกรอด ก้มลงบดเบียดจูบซับริมฝีปากอวบอิ่มของคนใต้ร่างอย่างเร่าร้อน กลิ่นกายหอมอ่อนๆ มอมเมาให้หัวใจของคนทั้งคู่เต้นระส่ำด้วยความหวามไหว กลิ่นน้ำหอมของพันเอก กลิ่นเหงื่อจางๆ ที่ปะปนไปกับเสน่ห์ของร่างหนั่นแน่นพาให้คนใต้ร่างร้องหวีดหวิวเมื่อรับรู้ถึงแรงขับเคลื่อนโยกไหวเหนือกาย นาวาแหงนหน้าครางฮือ ในขณะที่พันเอกเองก็เร่งจังหวะสอดสวนกระแทกความแข็งขืนเข้าเสียดสีเนื้อร้อนอ่อนนุ่มของร่างหอมละมุนด้านใต้อย่างเร่าร้อนและรุนแรง

ไม่นานร่างของทั้งคู่ก็กระตุกเล็กน้อย ปลดปล่อยความต้องการออกมาจนเปรอะ เสื้อเชิ้ตของพันเอกปรากฏคราบน้ำขาวขุ่นของนาวาในขณะที่ช่องทางด้านหลังของคนตัวเล็กกว่าเองก็ถูกความสุขสมของร่างสูงอัดฉีดจนล้นทะลัก นาวาหอบหายใจถี่ยิบ สองมือยังจิกเกร็งอยู่บนร่างของคนด้านบน ไม่นานเขาก็ถูกจัดแจงให้นอนคว่ำ ก่อนที่ความแข็งขืนของอีกคนจะกระแทกกายเข้าแนบชิดกับร่างของเขาอีกครา แผ่นหลังบางของนาวาแนบติดกับแผ่นอกแกร่งของพันเอกจนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ ร่างสูงก้มลงคลอดเคลียสันกรามของคนตัวขาว ไล้ลิ้นร้อนไปทั่วหลังใบหูของนาวาก่อนจะกระซิบเสียงสั่นสะท้านพร้อมกับขยับร่างกระแทกเข้าออกในกายบางอีกครั้ง

“คิดว่าฉันไม่รู้งั้นเหรอว่านายกับพระพายกำลังโกหกอะไรฉันอยู่”

นาวาตัวชาวาบหลังจากที่อีกคนพูดจบ พันเอกแสยะยิ้มยามอัดกายเข้าออกแรงขึ้นพลางกัดใบหูเล็กของอีกคนอย่างยั่วเย้า

เขารู้ รู้มาตลอดว่านาวายังคงเป็นของเขา

นาวายังเป็นของเขามาตลอดตั้งแต่ครั้งแรกที่เจ้าตัวยอมมอบกายให้แก่กัน

“ต่อไปนี้หน้าที่นายคือคอยนอนให้ฉันระบายอารมณ์ทุกคืน ฉันปล่อยนายร้างเรื่องอย่างว่ามาเดือนนึงเต็มๆ แล้วนาวา หลังจากนี้อย่ามาอ้อนให้ฉันหยุดอีกถ้าไม่อยากให้น้องเจ็บตัว เข้าใจไหม”

“ฮึก อ๊ะ อ๊า” ร่างขาวครางเสียงสั่นหลังจากถูกอีกคนตอกร่างเข้าหารุนแรง นาวากัดฟันกับสิ่งที่ได้รับรู้ก่อนจะเอาแต่ส่งเสียงครางเรียกชื่อของพันเอกซ้ำอีกครั้งและอีกครั้ง

หลังจากวันนี้ สิ่งเดียวที่นาวาได้รู้ คือการที่พันเอกมักจะเดินนำเขาหนึ่งก้าวเสมอ

...

เสียงหอบหายใจหนักๆ ของนาวาดังขึ้นหลังจากที่เซ็กซ์ระหว่างเขาและพันเอกจบลง ร่างโปร่งทอดกายนอนหงายบนเตียงกว้าง เหงื่อกาฬผุดขึ้นเต็มตัวดูเย้ายวน สองขาอ้ากว้างในขณะที่สะโพกกลมกลึงยังแนบชิดกับร่างกายแข็งแกร่งของอีกคน ความเป็นชายของพันเอกยังคงฝังตัวแน่นในช่องทางด้านหลัง ร่างสูงเท้าแขนลงข้างใบหน้าขาวซีดจ้องมองคนที่นอนอ่อนระทวยใต้ร่างไม่วางตา

อยู่ๆ ก็รู้สึกว่านาวาน่ารักน่าใคร่ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ทั้งปากสีสดนี้ แผ่นอกขาวนี้ เอวคอดพอดีมือนี้ ผิวเนื้อนุ่มนิ่มขาวนวลตาเหล่านี้ ไหนจะบั้นท้ายกลมกลึงนุ่มหยุ่นกับโพรงอุ่นร้อนที่แสนจะรัดรึงนั่น

ทำไมทุกๆ อย่างที่เป็นนาวาดูน่ารักนัก

ทำไมทุกๆ อย่างที่เป็นของของเขาดูน่าเสน่หาเสียเหลือเกิน...

“ออกไปได้แล้วครับ” นาวาพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกคนยังแช่ร่างอยู่อย่างนั้น พันเอกหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปดูดดึงกลีบปากนุ่มของอีกคนพลางกระสิบเสียงพร่า

“ออกได้ยังไง ยังแข็งอยู่เลย” ไม่พูดเปล่า ชายหนุ่มยังแกล้งอีกฝ่ายด้วยการดึงร่างออกเล็กน้อยและดันกลับเข้ามาใหม่ คนถูกแกล้งครางฮือพร้อมกับเสียงเสียดสีของท่อนเนื้อใหญ่โตแข็งขืนกับโพรงอุ่นร้อนที่เฉาะแฉะไปด้วยน้ำกามขาวขุ่นที่พันเอกปล่อยออกมา ร่างสูงยกยิ้มชอบใจในขณะที่นาวาได้แต่หลับตาแน่น สองแก้มแดงปลั่งด้วยความเขินปะปนไปกับความอับอาย

“สภาพนายตอนนี้เหมือนพวกขายน้ำข้างถนนชะมัด” พันเอกอดไม่ได้ที่จะพ่นวาจาถากถางออกมาอย่างลืมตัว ด้วยหวังว่าจะได้เห็นอาการดื้อดึงแสนน่ารักของอีกฝ่าย และเขาก็ไม่ผิดหวัง

“ผมไม่เคยรู้หรอกจนกระทั่งคุณบอก แสดงว่าคลุกคลีกับคนประเภทนี้บ่อยสินะครับ” อารมณ์กรุ่นโกรธผลักดันให้นาวาเผลอพูดสวนกลับไปอย่างเจ็บแสบ คนถูกย้อนแค่นหัวเราะอย่างนึกชอบใจ ก่อนจะคว้าคางมนของอีกฝ่ายเอาไว้ ออกแรงดึงให้ใบหน้าขาวหันมาประจันหน้ากัน

“ไอ้ปากกับเสียงหวานๆ ของนายมันมีประโยชน์แค่ตอนโดนฉันปล้ำจริงๆ สินะ ตอนปกติมันถึงได้ขยันยั่วโมโหเก่งนัก”

“อึ่ก...”

“อย่าพยศอย่าจองหองให้มันมากนักนาวา ฉันไม่ได้อารมณ์ดีบ่อยๆ หรอกนะ”

“อื้อ!” กลีบปากอิ่มร้องเสียงหลงเมื่อพันเอกกระแทกกายแรงๆ เข้าหาครั้งหนึ่งก่อนจะถอนร่างออกไป นาวาขยับกายลุกขึ้นนั่งทันทีที่อีกคนปล่อยให้เขาเป็นอิสระ สองมือสั่นระริกเอื้อมไปหยิบชุดคนไข้ที่ถูกทึ้งออกจากร่างมาใส่อย่างรวดเร็ว หัวใจดวงน้อยเต้นแรงบีบอัดจนเจ็บหน่วงไปทั่ว นาวาก้มหน้ากอดตัวเองแน่น ไม่สนใจร่างสูงที่กำลังแต่งตัวอย่างเงียบๆ อยู่ข้างเตียง พันเอกมองร่างขาวที่ดูจะมีสีสันขึ้นกว่าตอนเจอกันครั้งแรกแม้จะแค่เล็กน้อยพลางยกมือไปเกลี่ยแก้มขาวของอีกคนเบาๆ

“กลับไปก็ทำหน้าที่ตัวบำเรอให้ฉันคนเดียว อย่ามาประชดว่าอยากจะอ้าขาให้ลูกน้องฉันอีก เพราะถ้ามีครั้งที่สองนายโดนลูกน้องฉันจับทำเมียจริงๆแน่ แม้แต่พระพายก็ช่วยนายไม่ได้”

“...”

“และถ้านายฉลาดพอก็อย่าคิดหนี ทำให้ฉันพอใจแล้วนายจะมีชีวิตที่ดี เข้าใจไหม”

“...”

“ฉันถามว่าเข้าใจไหม” พันเอกกดเสียงต่ำเมื่ออีกคนไม่ตอบ นาวาพยักหน้าเร็วๆ พลางรับคำเสียงเบาเมื่อจับน้ำเสียงได้ว่าอีกคนกำลังเริ่มหงุดหงิด

“ครับ”

“หึ...ดี” ร่างสูงโฉบใบหน้าลงสูดดมความอ่อนนุ่มของแก้มขาว ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อลับร่างของคนใจร้ายนาวาก็ได้แต่ร่ำไห้เงียบๆ มองคราบขาวกลิ่นคาวคลุ้งที่เปรอะบนเตียงกว้างด้วยดวงตาพร่ามัว น้ำตาสีใสแข่งกันคลอหน่วยขึ้นมาบดบังทัศนียภาพ ในใจสิ้นหวัง มองไม่เห็นความสุขในอนาคตข้างหน้าแม้แต่น้อย จะอยู่อย่างสงบสุขได้อย่างไร ในเมื่อเขาต้องหายใจภายใต้ร่มเงาของตระกูลกฤตภาส จะมีความสุขได้อย่างไร ตราบใดที่ยังต้องอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับพันเอก เขามองไม่เห็นหนทางใดเลยนอกจากชิงตายเสียให้พ้นๆ

สุดท้ายเมื่อพบว่าหนทางแห่งอนาคตมืดมน สิ่งเดียวที่ทำได้คือการร้องไห้ให้กับความอัปยศของโชคชะตา

-(มีต่อค่ะ)-
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 09-10-2014 17:08:00
เจอเรื่องนี้ที่ธัญวลัย เวลาอ่านก็เลยติดที่จะอ่านที่นั่น  :laugh: มาให้กำลังใจที่นี่ด้วยค่ะ ฝากจัดการ   :beat:   :z6:  อิพันด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: diszalove_ ที่ 09-10-2014 17:38:00
ก็หวังว่า นาวาจะไม่รักพันเอกง่ายๆ นะ โดนทำอะไรขนาดนี้แล้ว โดนข่มขืน บลาๆ
ถ้ายอมง่ายๆ มันก็แปลกๆ ล่ะนะ อีกอย่าง ลองคิดดู เราจะรักคนที่ทำร้ายเราได้งั้นเหรอ?
ถ้ารักได้ ก็ต้องใช้เวลาใช่มั้ยล่ะ? อีกอย่าง อย่าหวั่นไหวอะไรง่ายๆ นะ อย่าน้ำเพิ่งน้ำเน่าเลย ขอร้องนะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 09-10-2014 18:30:08
เชียร์รามเป็นพระเอก จำได้ว่าอ่านในเว็บธัลเหมือนกันสนุกเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 09-10-2014 20:09:12
บอกได้คำเดียวว่าหน่วง  :o12:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Fuzz ที่ 09-10-2014 23:20:48
เป็นอะไรที่ปวดใจเหลือ  :o12:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 10-10-2014 02:17:10
มีใครเลวกว่านี้อีกไหม...
ในโลกจริงจะมีอะไรแบบนี้หรือเปล่า...คำถามมันอยู่ในหัว การสั่งฆ่า ใช้เงินปิด มีจริงๆไหม
อ่านนิยายที่ไรต้องเอาไปคิดกับเรื่องจริงทุกที
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 10-10-2014 09:43:29
เจอแบบนี้เข้าไป จะรักกันลงได้ยังไงเนี่ยะ
คือนาวาโดนหนักมาก มากจน เฮ้ย ถ้าคนปกตินี่ชิ่งตายไปแล้ว
ในขณะที่พันเอก เลวมาก เลวจนไม่น่าเป็นพระเอกเลย
และเลวมากจนไม่น่าจะให้นาวาหลงรักได้
ที่สุดของที่สุด คือกลัวรามจะแก้แค้นโดยใช้พายเป็นเครื่องมือ
คราวนี้เรื่องจะบานปลาย เฮ้อ
อ่านแล้วแอบเครียด แต่ก็ยังอยากอ่านอยู่ดี
รอตอนต่อไปนะคะ ขอให้นาวาพ้นทุกข์เร็วๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: minyjae ที่ 11-10-2014 17:29:43
สงสัยมากว่าเรื่องนี้พระเอกนายเอกจะรักกันยังไง :z3:

NC ครั้งแรกของนาวา อ่านแล้วสงสารนางมากเลย อินสุดๆ

ชอบมากเลยค่เรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Paparazzi ที่ 11-10-2014 20:11:15
อ่านจบปุ๊บต้องรีบมาเม้นท์เพราะทนกับความเลวของพันเอกไม่ไหว 555
ทั้งๆที่จริงๆแล้วชอบอ่านะที่พระเอกโหดๆ ซาดิสม์ ๆ (เข้าใจว่าเรื่องพันเอกน่าจะเป็นพระเอกเพราะคนแต่งบอกว่าพระเอกเลวมากกกก)
แต่เรื่องนี้เกินไปอ่าา คือนาวาต้องนอนกับผู้ชายกี่คนต่อกี่คน เป็นเดือนอ่ะ ตูดพรุนพอดีินายเอกเรา

เพราะฉะนั้น. ขอมโน ฟินนะเร่ว่าพระเอกคือรามละกัน ไม่ว่าท้ายที่สุด รามมันจะไปคู่กะใคร
โดนใจเราอ่ะ จริงๆรามมันก็เลววว แต่เลวแบบที่เราพอรับได้
และยังมีใจที่ยังรักมั่นคงดี

ถ้าเราเป็นนาวาตอนที่เกาะสะพานดูรามโดนโยนลงแม่น้ำ เราคงกระโดดตามลงไปชัวร์
นาวาที่เป็นเราคงตายไปตั้งแต่ตอนนั้นละ น้องก็น้อง ไม่สนละ ตัวใครตัวมัน  :laugh:

คนเขียนแต่งเก่งอ่ะ.  เราอินเลยเห็นมะ 555

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-10-2014 22:27:06
มันส์อ่ะ
สุดยอด มีอะไรๆๆมาตลอด
รออ่านน่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: earntaetae ที่ 12-10-2014 01:09:01
พระเอกกับนายเอกจะรักกันได้ไหมเนี่ย พันเอกเลวมากกก ยังมีความเป็นพระเอกหลงเหลืออยู่มั้ย :m31: รามเป็นพระเอกได้ป่าวววว สงสารนาวา ทนอยู่ได้ไง
คนเขียนเก่งมากที่ทำให้เราเดือดปุดๆกับพันเอกได้ เป็นกำลังใจให้จ้า  o13
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sowza3366 ที่ 12-10-2014 09:15:02
เลวไม่เหมือนคนเลยพระเอก ขอ Bad end ได้ไหม  เกลียดพระเอก  ให้ลูกน้องข่มขืนเขานี้  แลจะไม่รู้สึกรู้สา เลวไปทั่วเกะกะระรานมาก   :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 12-10-2014 11:07:09
ช่างเป็นบุคคลที่ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการซะจริงนะ  :mew5:
ทำลงไปโดนไม่รับรู้เลยว่าสิ่งนั้นมันสารเลวขนาดไหนอ่ะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-10-2014 12:09:17
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:ตูสงสารวาที่สุดเลยยยยยยยยย :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 12-10-2014 12:38:50
เลวขนาดนี้จะรักกันยังไงนะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: youuue ที่ 12-10-2014 14:22:46
นะ  นะ  นี่มัน  สุดยอดของ ดาร์กไวโลเลนซ์ :a5: :jul1: :ling3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 12-10-2014 15:01:24
เลวจริงๆ :angry2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 12-10-2014 21:08:04
เข้ามาอ่าน อึ๊อฮึออออออออออ พระเอกหรอเนี่ยะทำไมมันเลวยิ่งกว่า***เสียอีก
ขอภาวนา สุดท้ายขอให้มันไม่เหลืออะไรสักอย่างในชีวิต ขอให้ทุรนทุรายปวดใจไปตลอกกาล ส๊าธุ!!!!!!! :call: :call:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 17-10-2014 12:15:16
เข้ามาอ่าน โห พระเอกนี่เลวอย่างจริงจังเลยนะคะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: chanzx ที่ 17-10-2014 20:13:57
พระเอกนี่มันน่า  :beat:  :angry2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 18-10-2014 21:17:55
คุณพันเอกคะ แบบว่าตกลงคุณคือพระเอกจริงๆใช่ป่ะ
มาครบสูตรจริงๆ สงสารน้องวาจัง ต้องทรมารไปจนถึงเมื่อไร
แต่ก็ยังดีนะที่มีพระพายมาคอยช่วยเหลือ ถึงแม้ว่าจะสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้างก็เถอะ
ส่วนคุณราม ยังจะรอดมั้ย คงต้องติดตามกันต่อไป
prให้เสร็จสับ มาต่ออีกน้า
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: เกลียวคลื่น ที่ 18-10-2014 22:00:12
แม่งโคตรบ้าอ่ะ พระเอก
หวังว่าตอนจบมันจะเจ็บเจียนตายเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 19-10-2014 04:39:47
สงสารวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 19-10-2014 20:50:06
ถ้ารามฆ่าพ่อแม่พันเอกจริง ก็พอจะเข้าใจเหตุผลนะ   แต่ไม่น่าดึงวามาเลย สงสารวา ยิ่งเรื่องเทียนอีก  เพลียกับพระเอกจริงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 19-10-2014 23:27:20
พันเอกนี่พระเอกแน่ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ju11221 ที่ 20-10-2014 01:32:32
อ่านๆไปพอรับได้ อย่างน้อยที่พระเอกยังรักษาคำพูด และคิดว่าจะไม่ยอมให้ใครได้นายเอก
.
.
 o22
แต่ขอเตะก้านคอมันทีนึง ตอนที่บอกให้ลูกน้องไป...นายเอกอย่างนั้นตั้งเดือนนึง!!!!!  :a5:

(ขออภัย) มึงแมร่งคนรึป่าวไอ้เอกกกก อยากตายด้วยฝ่าพระบาทคนอ่านไหม  :z6: :z6: :z6:

รีบมาต่อนะคะๆๆๆๆๆๆ จะมาเปิดดูทุกวันเลยค่ะ รอๆ ถึงจะไม่ค่อยชอบเอกแต่ก็จะเชียให้เปนพระเอกเหมือนเดิมม :mew6:

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 02-11-2014 00:52:22
พระเอกนี้แบบ ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยอะ ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ

รามกลับมาจะลงที่ใคร พายหรือเทียนเนี้ย น่าสงสารหมดอะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 8 UP (9/10/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 07-11-2014 18:10:50
ไม่กี่วันให้หลังรถยนต์คันหรูของพันเอกก็แล่นเข้ามาจอดเทียบบริเวณหน้าบ้านในช่วงเช้าตรู่ นาวาค่อยๆ ก้าวลงจากรถพลางสบตากับเหล่าแม่บ้านที่มายืนรอรับเขากันถ้วนหน้า ขาดก็แต่พระพายกับนะโมที่ไม่อยู่เพราะติดเรียนและติดสอนกันทั้งคู่

“ขวัญเอ๊ยขวัญมา คุณวาของป้า หายดีแล้วใช่ไหมคะ” เอื้องคำเอ่ยถามคนตัวขาวพลางลูบหน้าลูบหลังร่างโปร่งแผ่วเบา นาวาพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้มินตราที่ส่งยิ้มดีใจมาให้เขา พูดคุยกันอยู่สักพักก็ถูกสั่งให้เดินเข้าบ้าน ไม่ใช่ใคร ก็พันเอกจอมเผด็จการนั่นแหละ

หลังจากเหตุการณ์ในห้องพักวันนั้น ทัศนคติที่นาวามีต่อพันเอกก็ดูจะเลวร้ายลง เดิมทีเขาเองก็รู้สึกเกลียดประมุขของบ้านหลังนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งถูกอีกฝ่ายเอาแต่ใจใช้กำลังบังคับข่มขู่ยิ่งทำเอาเขาไม่อยากอยู่ใกล้อีกคนมากขึ้นไปอีก แต่ก็นั่นแหละ นาวาคิดว่าเขาเหมือนกำลังถูกสาป ไม่ว่าจะทำหรือคิดอะไรก็มักถูกมัจจุราชในคราบเทพบุตรคอยขัดขวางอยู่เสมอ

“ให้คนขนของของนาวาไปไว้ที่ห้องนอนใหญ่ด้วย” เสียงประกาศิตของพันเอกสั่งพายุด้วยใบหน้าราบเรียบท่ามกลางอาหารมื้อเย็นที่มีเขากับนะโมร่วมโต๊ะกับสองพี่น้องกฤตภาส พายุที่ยืนนิ่งด้านหลังพยักหน้าในขณะที่พระพายอ้าปากหวอ นาวาก้มหน้างุดหลบสายตาของทุกคน รู้ดีว่าพันเอกคิดจะทำอะไรกับตัวเขา

“อะไรกันครับพี่เอก ทะ...ทำไมให้พี่วาไปนอนห้อง...ห้องใหญ่” น้องอ้อมแอ้มถาม เป็นอันรู้กันดีว่าห้องนอนใหญ่ที่ว่านั่นคือห้องนอนของพันเอก นาวาเม้มปากแน่นรอฟังคำตอบจากอีกคน พระพายขยับปากกำลังจะพูดบางอย่างออกมาแต่ทว่าผู้เป็นพี่ชายกลับชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน

“ห้องนอนข้างๆ ห้องใหญ่ที่ฉันตั้งใจจะยกให้นาวายังแต่งไม่เสร็จ เพราะฉะนั้นตั้งแต่คืนนี้นาวาก็มานอนกับฉันไปพลางๆ ก่อน อีกอย่างนะโมเปิดเทอมแล้ว ฉันอยากให้น้องมีเวลาส่วนตัวไว้อ่านหนังสือ ห้องอื่นก็ยังไม่เรียบร้อยดี ไปอยู่สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้หรอก”

“เอ๋...มะ ไม่กวนหรอกครับพี่เอก พี่วาไม่เสียงดัง นะอ่านได้” นะโมค้านตาใสด้วยความไม่รู้ พระพายหยักหน้าเห็นด้วย ดวงตาฉายแววกังวล แต่พันเอกกลับพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“บอกว่าย้ายก็คือย้าย ช่วงนี้ฉันต้องเคลียร์งานดึก นาวาเองก็ต้องอยู่ช่วยด้วย ห้องเดิมอยู่คนละฝั่งขนาดนั้นจะให้เดินไปเดินมาทุกคืนก็คงไม่ไหวหรอก”

“แต่...มันจะไม่แปลกเหรอครับที่พี่วาไปนอนกับเจ้านายแบบนั้น” นะโมเถียง

“ไม่แปลกหรอก เมื่อก่อนตอนฉันอยู่พวกพายุก็ขึ้นไปนอนเล่นด้วยบ่อยๆ อีกอย่าง มันจะแปลกอะไรในเมื่อนาวากับฉันเป็นผู้ชายเหมือนกันทั้งคู่”

“...”

“ทีนี้ยังจะเถียงอะไรอีกไหม”

ทั้งโต๊ะอาหารเงียบลงจนน่าอึดอัด พระพายปรายตามองพันเอกอย่างตำหนิและไม่พอใจ นะโมกับนาวาก้มหน้างุด คนน้องนั้นรู้สึกไม่เข้าใจว่าเหตุใดพันเอกจึงให้อภิสิทธิ์นาวาไปนอนด้วยเช่นนั้น หากแต่นาวากลับได้แต่ปลงยอมรับชะตากรรมและภาวนาว่านะโมจะไม่ติดใจอะไรในเรื่องนี้

บรรยากาศมื้อเย็นกร่อยลงหลังจากคำสั่งของประมุขของบ้าน พระพายหัวเสียใส่พี่ชายจนไม่ยอมปริปากพูดกับใคร เดินดุ่มๆ ขึ้นห้องและปิดประตูเสียงดัง นะโมเดินขึ้นห้องหน้าหงอยหลังจากถูกสั่งให้ขึ้นไปอ่านหนังสือ ส่วนนาวาก็ถูกลากขึ้นห้องนอนเช่นกัน

ปัง!

เสียงปิดประตูห้องที่ดังขึ้นทำเอานาวาสะดุ้งโหยง ข้าวของของเขาถูกย้ายมาที่นี่แล้ว เจ้าตัวยืนนิ่งอยู่หน้าประตูขณะที่อีกคนชนไหล่เขาไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าห้องน้ำเงียบๆ ใช่ว่าไม่รู้ว่าต้องทำอะไร แต่อยู่ๆ ก็รู้สึกแปลกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

“จะไม่ตามมาบริการกันหน่อยหรือไง” ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนโดนเจ้าของห้องแขวะด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ เท่านั้นแหละจึงต้องเดินตามร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องน้ำอย่างจำยอม พันเอกไม่มียางอาย ผู้ชายคนนี้หน้าด้านหน้าทน นาวารู้ข้อนี้ดีกว่าใคร แต่ถึงรู้ดีแล้วอย่างไรเล่า แม้จะถูกล่วงเกินมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะทำใจให้ชินกับร่างเปลือยที่เดินโทงๆ โชว์อะไรต่อมิอะไรต่อหน้าเขาอย่างไม่อายได้เสียเมื่อไหร่ นาวาก้มหน้างุดแก้มแดงก่ำกับความใหญ่โตของสิ่งที่เคยฝังเข้ามาในร่าง พันเอกยิ้มมุมปากกับกิริยานั้นก่อนจะเดินลงอ่างน้ำพร้อมกับสั่งให้นาวานั่งบนขอบอ่างแล้วสระผมให้

“มันจะเปียก ผมอาบน้ำแล้ว” เอ่ยแย้งขึ้นแต่กลับถูกดุด้วยสายตา นาวาสบตาคมของคนที่นั่งมองเขานิ่งๆ แล้วก็ได้แต่เม้มปาก

“ทำตัวให้คุ้มเงินที่ฉันเจียดให้หน่อยก็ดี ไม่มีฉันน้องชายจะได้เรียนต่อไหม?” เอียงคอถามอย่างคนเหนือกว่าทำเอานาวากัดฟันแน่น นั่นประไรเล่า พอขัดใจก็ยกเรื่องแบบนี้มาอ้างเสมอ ก็ไม่ใช่เพราะตัวพันเอกเองหรอกหรือที่ไม่ยอมปล่อยเขาไป บีบให้อยู่ บีบให้ปรนนิบัติ เผด็จการสิ้นดี

สุดท้ายจึงต้องนั่งลงที่ขอบอ่าง ดึงร่างกำยำมาพิงหน้าขา เอนหัวลงกับตักและสระผมให้เบาๆ เหมือนอีหนูบริการเสี่ย เมื่อสระผมเสร็จก็ตามด้วยนวดขมับให้ผ่อนคลาย แถมยังถูกบังคับให้อาบน้ำให้ ปิดท้ายด้วยการมีเซ็กซ์ในอ่างถึงสองรอบติด

นาวาเหนื่อยจนแทบสิ้นสติ ออกจากโรงพยาบาลวันแรกก็โดนพันเอกเล่นงานเสียหนัก ถูกรังแกอย่างเอาแต่ใจ แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็ไม่ใช่การข่มขืน เป็นการยินยอมทั้งที่ใจเจ็บแทบขาด อ้าขาให้อีกคนขยับกายหยัดเข้าออกซ้ำๆ เพราะกลัวน้องชายจะโดนอย่างเดียวกัน

นะโมคือชีวิต นาวาทำลายชีวิตตัวเองไม่ได้ ไม่มีวัน ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีวันทำอย่างนั้น

ไม่รู้ว่าหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีก็นอนอยู่บนเตียงกว้าง มีแขนแกร่งที่เคยทำร้ายโอบกอดเอาไว้ ใบหน้าขาวแนบชิดกับแผ่นอกกว้าง ลมหายใจร้อนเป่ารดบริเวณผิวแก้ม ดวงตาของพันเอกปิดสนิท ใบหน้าหล่อเหลามีเสน่ห์สงบนิ่ง จมจ่อมอยู่ในห้วงนิทรา นาวาถือวิสาสะจ้องมองเจ้าของอ้อมกอดอยู่เนิ่นนาน เก็บรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ท่ามกลางความเงียบก่อนจะสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ คนที่คิดว่ากำลังนอนหลับกลับลืมตาขึ้นมามองเขา บรรยากาศโดยรอบเหมือนหยุดชะงักไปชั่วขณะ พันเอกจ้องใบหน้าขาวในขณะที่นาวาเองก็ไม่ได้หลบสายตาไปไหน

“นอนไม่หลับหรือไง” เสียงราบเรียบแหบพร่าเอ่ยถาม นาวาพยักหน้า ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อบอกให้อีกคนรู้ว่าเขาอึดอัดกับอ้อมกอดนี้ พันเอกยกยิ้ม สองแขนกระชับร่างขาวเข้ามาแนบชิดมากยิ่งขึ้น

“อย่ามาทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวกับผัวตัวเองไปหน่อยเลย มากกว่ากอดก็ทำมาแล้ว นอนซะ อย่าให้ต้องสั่งอีกเป็นครั้งที่สอง”

“ผมอึดอัด...คุณปล่อยผมเถอะครับ” เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาพลางขืนตัวต้านแรงแขน ได้ยินเสียงอีกคนจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะยอมปล่อยเขาในที่สุด ไม่วายแขวะด้วยคำพูดดูถูกถากถางที่ทำเอาคนฟังถึงกับต้องเม้มปากแน่นกลั้นความกรุ่นโกรธเอาไว้

“สะดีดสะดิ้งเข้าไปเถอะ เสียตัวมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งยังไม่เจียมตัวอีก คิดว่าตัวเองยังสดยังซิงอยู่หรือไง รูกลวงซะขนาดนั้นแท้ๆ”

พรึ่บ!

“ถ้าจะมาพูดจาทุเรศๆ ใส่กันแบบนี้ผมขอตัวกลับไปนอนกับน้องนะครับ” นาวาลุกขึ้นจากเตียง ทนไม่ไหวกับคำกล่าวว่าของอีกคน ถึงจะไร้อำนาจไร้พละกำลังในการต่อกรกับชายคนนี้ แต่นาวาก็ไม่อาจทนโดนดูถูกด้วยถ้อยคำรุนแรงเช่นนี้ได้ ร่างโปร่งตวัดขาลงจากเตียง ไม่สนใจร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกปิดของตนเอง เดินตรงดิ่งไปยังประตูห้องและกำลังจะคว้าลูกบิดประตูเอาไว้ หากทว่ากลับถูกร่างสูงของใครอีกคนตามมากระชากแขนเอาไว้เสียก่อน ร่างขาวหมุนกลับไปประจันหน้ากับอีกคน กายเปล่าเปลือยแนบชิดกับร่างสมส่วนสมความเป็นบุรุษเพศ พันเอกเปลือยท่อนบน ยังดีที่ยังมีกางเกงนอนขายาวสวมปิดกายท่อนล่างเอาไว้ นาวาเม้มปากแน่นเมื่อผิวกายเนียนละเอียดต้องกับความเย็นของเครื่องปรับอากาศจนขนอ่อนลุกชัน พันเอกกระชับกอดร่างของคนตัวขาวเอาไว้แน่นพลางเลื่อนมือลงไปบีบเค้นก้อนเนื้อกลมกลึงของนาวาเต็มแรง

“อื้อ คุณ...” คนถูกรังแกร้องเสียงหลง จ้องใบหน้าดุดันด้วยความขัดใจก่อนจะต้องเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนดันร่างของเขาให้ถอยหลังจนแนบกับบานประตู

“สอนไม่เคยจำ สันดานพยศนี่มันแก้ไม่หายสินะ ลืมไปแล้วหรือไงว่ารับปากอะไรเอาไว้ที่โรงพยาบาล ให้ทวนความจำให้ไหมพ่อตัวดี” คนเผด็จการกระซิบเสียงเย็นข้างหู หงุดหงิดที่ถูกปลุกกลางคันแถมยังต้องมาเจออาการพยศไม่รู้เวล่ำเวลาของเชลยตรงหน้าอีก

“ไปหยิบเสื้อผ้าในตู้มาใส่แล้วขึ้นเตียงนอนดีๆ ซะนาวา อย่าให้ต้องสั่งซ้ำ รู้เอาไว้ด้วยนะว่ามนุษย์มันไม่มีการจำกัดรอบของการมีเซ็กซ์ต่อวันหรอก เพราะงั้นถ้าพยศอีกวันนี้นายได้โดนกระแทกอีกหลายครั้งจนขี้เกียจจะนับแน่” ร่างสูงพูดขู่ นาวาเกร็งตัวทันทีกับประโยคดังกล่าว ความรู้สึกท้อแท้ผิดหวังประเดประดังเข้ามาจนอึดอัดไปทั่วทั้งอก สุดท้ายจึงเลือกเอ่ยออกไปให้อีกคนได้ฟัง

“ทำไมคุณถึงใจร้ายนักคุณเอก คุณกับคุณรามเกลียดกันทำไมต้องลากผมกับน้องเข้ามาเกี่ยวด้วย แล้วยังตอนนี้อีก คุณน่าจะสมใจกับการแก้แค้นคุณรามแล้ว แต่ทำไมถึงยังไม่พอ ทำไมถึงยังไม่ปล่อยผมกับน้องไปสักที สนุกมากนักเหรอกับการเห็นผมเป็นเชลยในกรงขังของคุณ”

“ปากมากจริงนะ เคยบอกไปแล้วว่าฉันเสียกับนายไปเยอะ มันก็ต้องมีถอนทุนคืนกันบ้าง อีกอย่างนายก็น่าจะรู้นี่ว่าไอ้รามมันยังไม่ตาย เรื่องอะไรจะต้องปล่อยนายไปแล้วให้มันมาคาบนายไปแดกต่อวะ สู้เก็บนายเอาไว้แล้วรอเวลาให้มันมาดิ้นทุรนทุรายตรงหน้าเพราะช่วยอะไรนายไม่ได้มันสนุกกว่ากันเยอะ” พันเอกพูดพลางยิ้มหยัน นาวาได้ฟังก็ได้แต่คับแค้นใจ แช่งชักหักกระดูกให้พันเอกรีบๆ หายไปจากโลกนี้เสียโดยเร็ว

“ระวังเถอะคุณพันเอก ระวังสิ่งที่คุณทำในวันนี้มันจะย้อนกลับมาทำร้ายคุณเข้า ถ้าวันใดวันหนึ่งคุณล้ม สาบานด้วยชีวิตว่าผมจะกระทืบคุณซ้ำให้จมฝ่าเท้าเลยคอยดู” นาวาพูดขึ้นเสียงกร้าวทำเอาคนฟังหัวเราะร่วนอย่างนึกขัน

“เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ นายยังต้องอยู่รองมือรองเท้าฉันอีกนานนาวา อยู่เป็นไอ้ตัวประจำเตียงของฉันจนกว่าฉันจะทำให้รามมันสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง อ้าขาให้ฉันจนกว่าไอ้รามมันจะตาย ถึงตอนนั้นฉันอาจจะปล่อยนายไปก็ได้” ร่างสูงพูดขึ้น นาวาแทบน้ำตาร่วงหลังจากจบประโยค พันเอกไม่ยอมรามืออย่างที่คิดเอาไว้ และแน่นอนว่าชีวิตเขาไม่มีทางหลุดพ้นจากเงาของคนคนนี้

“คุณมีหัวใจบ้างไหม” ร่างโปร่งถามเสียงแผ่ว เป็นคำถามจากใจจริงที่เขานึกสงสัย ผู้ชายคนนี้เลวทรามต่ำช้าจนนาวาไม่แน่ใจว่าพันเอกยังมีหัวใจอยู่หรือไม่ ยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า คนที่กำลังทำลายชีวิตเขาตรงหน้านี้เป็นคนหรือว่าปีศาจร้ายกันแน่

คนคนหนึ่งจะเลวได้ขนาดนี้เลยงั้นหรือ

“คุณเป็นคนเลวจากจิตใต้สำนึกจริงๆ งั้นเหรอ ไม่เคยรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำไปเลยหรือไง เคยเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเองบ้างไหม” นาวาเค้นถาม หวังอยากจะเห็นแววตาไหววูบของคนตรงหน้า แต่เปล่าเลย พันเอกไม่แม้แต่จะสะทกสะท้านกับสิ่งที่เขาถาม หนำซ้ำยังหัวเราะราวกับเป็นคำถามงี่เง่าปัญญาอ่อน

“หยุดคิดฝันเฟื่องเหมือนในละครน้ำเน่าได้แล้วนาวา เลิกทำตัวน่ารำคาญแล้วไปนอนซะ ถ้ายังดื้อด้านหน้ามึนทำตาใสซื่ออยู่อีกคราวนี้โดนดีแน่” พันเอกพูดขึ้นอย่างนึกรำคาญเต็มทน นาวาไม่เคยหลาบจำ ไม่เคยเข็ดหรือลืมกันแน่ว่าเขาขู่อะไรไว้ หรือเพราะคนแบบนี้เข้าข่ายไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตากัน

คนที่เอะอะก็เอาแต่พยศใส่นี่มันช่างน่าหงุดหงิด

น่าหงุดหงิดและน่าสนใจไปในเวลาเดียวกัน

“เดี๋ยว ผมมีเรื่องอยากตกลงกับคุณ เรื่องของนะโม อย่าทำอะไรน้องนะ ผมขอล่ะ ขอร้องจริงๆ” นาวาพูดขึ้นเมื่ออีกคนกำลังจะลากเขาไปที่เตียงนอน พันเอกหันกลับมาชักสีหน้าหงุดหงิด ปล่อยร่างเปลือยขาวให้เป็นอิสระพลางเดินไปกระแทกตัวนั่งลงบนเตียงกว้าง

“มานอนซะนาวา เรื่องนะโมฉันไม่ทำอะไรหรอก ยังไม่เลวขนาดดึงเด็กตัวแค่นั้นเข้ามาเกี่ยว แถมน้องชายฉันก็หวงมันยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เสียอีก พอใจหรือยัง”

“ผมจะเชื่อใจคุณได้ยังไง”

“ไม่ต้องเชื่ออะไรทั้งนั้น ฉันไม่มีคำสัญญาให้ แต่ตราบใดที่นายไม่ดื้อไม่พยศจนฉันหมดความอดทน เด็กนะโมมันก็อยู่เซ่อๆ ของมันแบบนั้นไปเรื่อยๆ นั่นแหละ จะมีก็แต่นายที่ยังต้องเจออะไรอีกเยอะ ฉันจะทำให้นายกร้านโลกจนรามมันขาดใจตายแทบเท้าเลยแหละว่ะ”

“...”

“หมดเรื่องแล้วใช่ไหม จะมานอนได้หรือยัง ยืนแก้ผ้ายั่วให้ฉันลากมาล่ออีกรอบหรือไง!” ท้ายประโยคร่างสูงตะคอกเล็กน้อย นาวารีบเดินไปหยิบเสื้อในตู้มาสวมอย่างรีบเร่งก่อนจะก้าวขึ้นเตียงนอน คราวนี้เขาไม่ยอมให้พันเอกกอดจนอีกฝ่ายถอดใจนอนหันหลังให้ ประโยคที่พันเอกพูดกับเขาก่อนหน้ายังลอยวนเวียนให้ได้ขบคิด

จะเชื่อคนคนนี้ได้ไหม นาวาควรแน่ใจหรือเปล่าที่ว่าพันเอกไม่ได้คิดยุ่งอะไรกับนะโมจริงๆ

ไม่รู้ เขาไม่แน่ใจ ทุกอย่างมืดมนไปเสียหมด


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 07-11-2014 18:31:21
พันเอก จะแบดไปไหนลูกกก :beat:  :z6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 07-11-2014 18:54:47
พันเอกเลวสุดในซีรีย์แล้วใช่ไหมเนี่ย
ดีใจที่มาต่อ อ่านทั้งในธัญวลัยและในเล้าเลยน้า
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 07-11-2014 19:50:57
เทียนจะทำตามที่พันเอกบอกไหม อย่าทำเลย สงสารราม  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 07-11-2014 20:16:53
 :hao5:    :ling2:  สงสารนาวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 07-11-2014 21:35:54
พันเอกทันเข้าชิงนายร้ายทันไหม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 07-11-2014 22:20:11
พระเอกร้ายมากกกก แต่เนื้อเรื่องภาษาสวยค่ะ ชอบ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 07-11-2014 22:47:06
นาวาน่าสงสาร เมื่อไหร่พันเอกจะเป็นผู้เป็นคนกับเขาซะที   :z6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 07-11-2014 23:01:33
พันเอกไม่ชอบนาวาบ้างหรือไง
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ROCKLOBSTER ที่ 07-11-2014 23:12:35
เอก ทำเอา พระเอกทุกเรื่องที่ว่าเลวๆ ชิดซ้ายกันไปเลย :mew5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.1 //P.3// (7/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 08-11-2014 12:49:10
ตอนที่ ๑๐


“แต่งตัวซะ”

เสียงของพันเอกดังขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวโยนเสื้อผ้าเนื้อดีสีเข้มใส่หน้าของนาวาเต็มแรง ร่างโปร่งขมวดคิ้วมองสูทที่ตกลงไปกองอยู่บนพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองพันเอกอย่างฉงน

“ใส่ทำไมครับ” เอ่ยถามเรียกสีหน้าขัดใจให้ฉายชัดบนใบหน้าของอีกคน

“วันนี้ฉันมีธุระต้องทำ และนายเองก็ต้องไปกับฉัน” ร่างสูงพูดขึ้น นาวาถอนหายใจ ไม่วายประชดกลับ

“ไม่ใช่ว่าผมมีหน้าที่แค่บริการคุณบนเตียงอย่างเดียวหรอกเหรอครับ”

“โฮ่ ช่างกล้าพูดจริงนะพ่อตัวดี ลีลาก็ห่วยแตกซะขนาดนั้น อ้าขาให้ทั้งชาติยังเทียบกับเงินค่าเทอมของน้องนายเทอมเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“...”

“อย่างนายน่ะ ยี่สิบบาทฉันยังคิดหนักเลย” จบประโยคดูถูกนั้นนาวาก็คว้าเสื้อผ้าขึ้นมาก่อนจะเบี่ยงตัวเข้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเย้ยดังไล่หลัง เกลียดนักกับคำดูถูกถากถางของอีกคน แต่ที่อดทนก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

ไม่นานร่างสูงโปร่งก็เดินออกมา สูทสีเข้มที่สวมใส่ขับให้นาวาดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลจนคนมองหัวใจเต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ

เบื้องหน้าของพันเอกในตอนนี้คือผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านาวาดูดีมากจริงๆ

“ลงไปรอที่โต๊ะอาหารซะไป เดี๋ยวตามลงไป” ประมุขของบ้านสั่งเสียงเรียบก่อนจะเบือนหน้าหนีพลางกัดฟันกรอดกับความรู้สึกแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง นาวาพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินออกจากห้องนอนมา ดีแล้วที่ไม่ต้องอยู่ต่อล้อต่อเถียงกับพันเอก เดี๋ยวพาลจะโดนอีกฝ่ายลงไม้ลงมือใส่อีกจนได้

ออกมาจากห้องนอนได้ไม่เท่าไหร่ก็เห็นพระพายที่เพิ่งออกมาจากห้องเช่นกัน เขายิ้มส่งไปให้ อีกฝ่ายพอเห็นเขาก็เดินเข้ามาหาและจับตัวนาวาใหญ่

“โดนพี่เอกทำอะไรบ้างหรือเปล่าครับคุณวา เจ็บตรงไหนหรือเปล่า” พระพายถามเสียงเครียด นาวาส่ายหน้า ตอบกลับไปว่าไม่มีอะไร ทั้งที่ความจริงมันมี แต่เขาไม่อยากพูด เพราะคิดว่าอีกหน่อยก็คงจะชินไปกับมันไปเอง

“ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณพายสบายใจได้”

“จะให้ผมสบายใจได้ยังไง ผมช่วยอะไรคุณไม่ได้เลยสักนิด”

“ช่างมันเถอะครับ อีกเดี๋ยวก็คงชินไปเอง ลงไปกินข้าวกันเถอะ หิวจะแย่แล้ว” นาวารีบตัดบท ส่วนหนึ่งเพราะรู้สึกหิวมากจริงๆ อีกทั้งไม่อยากขุดคุ้ยเรื่องราวให้มันใหญ่โตไปอีก อะไรที่ผ่านไปแล้วก็จะพยายามไม่เก็บเอามาใส่ใจก็แล้วกัน

เมื่อลงมาถึงโต๊ะอาหารก็เห็นนะโมในชุดนักเรียนนานาชาติดูน่าเอ็นดูกำลังช่วยเอื้องคำจัดสำรับ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นนาวาเจ้าตัวก็ยกยิ้มและทักทายเสียงใส

“พี่วามากินข้าวกัน วันนี้นะเข้าครัวช่วยป้าเอื้องด้วยล่ะ”

“พี่จะท้องเสียไหมเนี่ย” นาวาเย้าน้อง นะโมหน้าหงิกในขณะที่พระพายกลั้นหัวเราะ บรรยากาศโดยรอบดูสดใส ทั้งสามชีวิตนั่งประจำที่เมื่อสำรับอาหารเช้าถูกจัดเรียบร้อยแล้ว พระพายเป็นคนแรกที่ลงมือกินอย่างไม่เกรงใจใครจนเอื้องคำได้แต่ส่ายหน้า ยกยิ้มเอ็นดูคุณหนูคนเล็กของบ้าน

“ช้าๆ ค่ะคุณพาย ประเดี๋ยวจะติดคอเอาได้นะคะ”

“โหยไม่หรอกป้า เรื่องกินผมมืออาชีพอยู่แล้ว ว่าแต่ผัดบวบนี่อร่อยดีนะครับ ไม่คุ้นรสเลย นะทำป่ะ” ท้ายประโยคหันมาถามน้องชายของนาวาที่กำลังนั่งยิ้ม ตามองไปที่ใบหน้าขาวรออย่างคำตอบ แต่มือกลับตักผัดบวบเข้าปากช้อนต่อช้อนจนคนรอบข้างนึกขำ

“ครับ พี่พายชอบเหรอ ไว้คราวหน้านะทำให้อีกนะ” นะโมพูดอย่างเอาใจ พระพายพยักหน้าหงึกหงัก

“เอาๆ พี่ชอบผัดบวบ เป็นผักอย่างเดียวที่กินได้ ยิ่งถ้าเป็นพี่จักรทำยิ่งอร่อย แต่รายนั้นกว่าจะเข้าครัวทำให้ทีต้องอ้อนเป็นอาทิตย์เลย” บ่นอุบอิบไปถึงลูกน้องคนสนิทของพันเอก นะโมเลิกคิ้วก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม

“พี่พายชอบพี่จักรเหรอครับ” เอ่ยปากถามในสิ่งที่สงสัย ทำเอาพระพายถึงกับสำลักข้าวหน้าดำหน้าแดงจนนาวาต้องลูบหลังเบาๆ

“จะบ้าเหรอ คิดได้ไงน่ะ ถ้าชอบแบบคนรักนี่ไม่มีทางอ่ะ อีกอย่างพี่จักรน่ะชอบผู้หญิง อย่างพี่น่ะไม่ใช่สเป็คหรอก” พระพายพูดขึ้นคอตั้งตรง แก้มขาวอวบอูมก่อนจะก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ นะโมหัวเราะคิกคักก่อนจะหันมาถามนาวาด้วยน้ำเสียงสดใส

“แล้วนี่พี่เอกยังไม่ลงมาเหรอครับ” สิ้นคำถามทำเอานาวาชะงัก เหลือบมองหน้าพระพายที่มองมาเช่นกันก่อนจะปั้นยิ้ม

“คงกำลังแต่งตัวอยู่น่ะ วันนี้คุณเขาจะให้พี่ตามไปทำธุระด้วย”

“อ๋อ มิน่าล่ะพี่วาแต่งตัวซะน่ารักเชียว” นะโมกระเซ้า นาวาส่งยิ้มให้น้องก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักข้าวกินเงียบๆ ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันระหว่างน้องชายของเขากับพระพาย

“อ๊ะพี่เอก มาทานข้าวครับ” เสียงนะโมดังขึ้นเรียกให้ใบหน้าซูบซีดหันกลับไปมองด้านหลัง พันเอกในสูทสีเทาก้าวเดินเข้ามาอย่างมั่นคง ใบหน้าหล่อเหลายกยิ้มให้น้องชายเขาเพียงเล็กน้อยก่อนจะเดินมาแตะแผ่นหลังของเขาเบาๆ

“อิ่มแล้วหรือยัง” ร่างสูงเปิดปากถาม นาวาพยักหน้าตอบรับ พันเอกจึงดึงให้ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันไปบอกน้องเขาเสียงราบเรียบ

“ช่วงนี้ขอยืมตัวพี่ชายเราหน่อยนะนะโม งานพี่เยอะมากน่ะ ไม่ว่ากันใช่ไหม”

“อ่า...ครับ” นะโมรับคำแต่นาวายืนตัวแข็งทื่อ

“แล้วแกล่ะเจ้าพาย ช่วงนี้งานเป็นยังไงบ้าง” พันเอกหันไปถามผู้เป็นน้องชาย พระพายเบือนหน้าหนี แสดงอาการเด่นชัดว่าไม่อยากสุงสิงกับพันเอกจนร่างสูงถอนหายใจ กระนั้นฝ่ามือใหญ่ที่เคยทำร้ายนาวาสารพัดก็ยื่นไปวางแหมะบนหัวพระพายนิ่งๆ แล้วพูดเสียงนุ่ม

“ไปนะ ฝากดูความเรียบร้อยที่บ้านด้วยก็แล้วกัน” จบประโยคก็ดึงแขนนาวาออกจากบ้าน ร่างโปร่งเดินตามแต่โดยดี ในหัวยังคงมีภาพเหตุการณ์ก่อนหน้าอยู่ในห้วงความคิด

เดิมทีนาวาคิดมาตลอดว่าพันเอกเลือดเย็น ยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่วันนี้ ตอนที่ร่างสูงพูดคุยและมองไปยังน้องชายทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจ

ดูเหมือนว่าพันเอกยังมีความเป็นคนอยู่ ไม่มากก็น้อยนั้นแหละ ผู้ชายคนนี้รักครอบครัวมากกว่าอะไรทั้งสิ้น แม้จะรักในแบบของตัวเองแต่นาวาก็ดูออกเพราะเขาเองก็มีน้องชาย ดูแววตาก็รู้ว่าพันเอกรักพระพายมาก รักมากกว่าชีวิตเสียด้วยซ้ำ เพราะหากไม่รักคงไม่นั่งลูบนาฬิกาเรือนโปรดที่ใส่ประจำแบบนั้นหรอก พระพายเป็นคนบอกเองว่าเจ้าตัวซื้อให้พันเอกเป็นของขวัญวันเกิด ดูก็รู้ว่ามันไม่ใช่ของมีราคา เป็นแค่นาฬิกาข้อมือธรรมดาที่ไม่ได้เสริมความภูมิฐานให้คนใส่เลยแม้แต่น้อย ออกจะราบเรียบและไม่สวยเสียด้วยซ้ำเพราะพระพายบอกว่าตอนที่ซื้อนั้นเขาอยู่เพียงแค่ชั้นประถมปลาย เก็บเงินหยอดกระปุกแล้วทุบมันซื้อด้วยตัวเอง แม้จะไม่สวยเหมือนนาฬิกามียี่ห้อแต่พันเอกกลับใส่มันทุกวัน นาวาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่ามันยังใช้การได้อยู่ไหม

“คุณก็ดูมีหัวใจ แต่ทำไมถึงได้ทำตัวเลวนัก” นาวาตัดสินใจเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบบนรถ พันเอกหยุดมือที่กำลังไล้ไปบนตัวเรือนของนาฬิกาก่อนจะผินหน้ามามองหน้าเขาด้วยแววตาไร้อารมณ์

“ใครใช้ให้นายเปิดปาก” ร่างสูงเอ่ยถาม นาวาหยุดคำพูดที่กำลังจะเอ่ยทันทีพลางส่ายหน้าไปมา เห็นแบบนั้นอีกคนจึงได้แต่หัวเราะในลำคอพลางยกยิ้มสมเพช

“นั่งเงียบไปก็ไม่มีใครว่านายเป็นใบ้นะนาวา เพราะไม่มีคนใบ้ที่ไหนเรียกชื่อฉันแทบเป็นแทบตายตอนอยู่บนเตียงหรอก”

“คุณมันก็เก่งแต่รังแกคนไม่มีทางสู้ ปากก็เอาแต่จิกกัดกันอยู่ได้ เคยมีคนพูดไหมว่านี่มันนิสัยของผู้หญิง” นาวาสวนขึ้น ที่กล้าต่อปากต่อคำขนาดนี้เพราะเริ่มระอากับความเยอะของพันเอกเต็มทน จ้องแต่จะพูดแขวะเขาทุกทีที่มีโอกาส

และดูเหมือนคำพูดของนาวาจะไปสะกิดต่อมโมโหของอีกคนเข้าอย่างจัง ร่างสูงหันหน้ามามองนาวาด้วยดวงตาวาวโรจน์ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าคอของคนตัวขาวให้เข้ามาใกล้

“ปากว่างเป็นไม่ได้เลยหรือไงวะ เห็นไม่แตะนะโมเข้าหน่อยนี่ได้ใจสินะ อย่าลำพองตัวให้มันมากนักนาวา ตัวเองอยู่ในฐานะตัวขัดดอกก็ควรทำตัวให้สมกับหน้าที่ตัวเองหน่อย”

“ผมก็คนนี่ ไม่มีใครทนโดนดูถูกโดนทำร้ายทั้งๆ ที่ไม่ผิดอะไรได้หรอก ยอมรับหน่อยเถอะว่าคุณมันงี่เง่า คนพาล” นาวาเปิดปากด่า พันเอกกัดฟันกรอด ออกแรงบีบต้นคอของร่างโปร่งจนคนตัวขาวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ร่างสูงไม่สนใจ ตะคอกใส่หน้านาวาเสียจนพายุและจักรที่กำลังขับรถแอบมองหน้ากันอย่างอึดอัดใจ

คุณนาวานี่ขยันยั่วให้เจ้านายของพวกเขาโมโหเสียจริงๆ

“เป็นแค่อีตัวไอ้ตัวก็เก็บปากไว้ครางเก็บขาไว้อ้าดีกว่าไหม อย่าเสนอเอาหน้าโง่ๆ กับสมองกลวงๆ ที่จบแค่ชั้นมัธยมมาต่อปากต่อคำกับฉันหน่อยเลย ยิ่งพูดยิ่งน่าสมเพช” พันเอกกราดเสียงด่า นาวาชะงักกึก ตัวแข็งทื่อ หัวใจวูบโหวงกับคำด่าที่รุนแรงกระทบจิตใจ

“ใช่สิ คุณไม่เป็นผมคุณไม่รู้หรอก ผมยังเรียนไม่จบมหาลัย ใช่ ผมมันโง่ นั่นก็ถูกอีก ผมมันคนตกอับ เด็กกำพร้า เออผมไม่เถียง แล้วยังไง แล้วผมไม่ใช่คนเหมือนคุณหรือไง ผมเจ็บเป็นร้องไห้เป็น ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้เรื่องอะไรสักนิดแต่กลับต้องเหมือนตกนรกทั้งเป็นเพียงเพราะความแค้นบ้าๆ ของคุณ ผมผิดใช่ไหมที่เกิดมาเป็นคนที่คุณรามรัก ผมผิดมากไหมที่เกิดมาเป็นคนที่เขามีใจให้ ทั้งๆ ที่ผมแทบไม่รู้จักเขาด้วยซ้ำ ถ้าแค้นมากก็ไปลงที่เขาสิ มาพาลเอาชีวิตผมกับน้องไปทรมานเพื่ออะไร ผมเจ็บนะคุณเอก เจ็บจนไม่อยากจะหายใจแล้ว ฮึก...” นาวาพรั่งพรูสิ่งที่อัดอั้นออกมาลั่นรถ น้ำตาร่วงเผาะผ่านแก้มขาว ต่อว่าพันเอกเสียงสั่นเครือ ดวงตาฉายแววตัดพ้อระคนเจ็บปวด ร่างทั้งร่างสั่นระริกก่อนจะหลั่งน้ำตาต่อหน้าพันเอกที่นิ่งอึ้งไปแล้ว

“เป็นบ้าอะไรวะ ผีเข้าหรือไง” เมื่อตั้งสติได้พันเอกก็ถามขึ้นเสียงห้วน เสยผมขึ้นอย่างหงุดหงิด นาวากลั้นสะอื้น ขยับกายออกห่างจากพันเอกและเปลี่ยนไปเป็นมองวิวข้างถนนแทน ปล่อยให้อีกคนพรูลมหายใจด้วยความหงุดหงิดเพราะทำตัวไม่ถูกกับกิริยาของนาวาก่อนหน้านี้

“ทีหลังอย่ามาตะคอกใส่หน้ากันแบบนี้อีก ฉันขอเตือน” ทว่าพันเอกก็ยังคงเป็นพันเอกอยู่วันยันค่ำ ไม่คิดสำนึกหรือสนใจกับสิ่งที่นาวารู้สึก ได้แต่เอ่ยสั่งเสียงเฉียบกลับมา นาวาสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกกำลังใจก่อนจะเอนหัวพิงกับเบาะรถอย่างอ่อนล้า ปากอิ่มเม้มแน่นกลั้นเสียงสะอื้น น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างเงียบๆในขณะที่พันเอกเองก็ได้แต่ถอนหายใจซ้ำๆ

เมื่อกี้ยังด่าเขาว่านิสัยเหมือนผู้หญิงแท้ๆ แต่ตัวเองกลับมาเป็นเสียเอง...

บรรยากาศภายในรถเงียบลงถนัดตา ไม่มีใครปริปากอะไรออกมาจนสร้างความอึดอัด นาวาเหม่อมองไปยังวิวทิวทัศน์ด้านนอก มองท้องฟ้าสีสันสดใสและหมู่นกที่กำลังบินว่อน  แม้จะมีตึกบดบังแต่ทว่าความงดงามของฟ้าผืนกว้างยังคงฉายชัด ร่างโปร่งมองตามนกคู่หนึ่งที่กำลังกางปีกบินเคียงคู่ไปกับรถของเขา ดวงตากลมมองปีกที่แผ่สยายลู่ลมลอยละล่องแล้วก็เผลอยกมือขึ้นแตะกระจกรถโดยไม่รู้ตัว

อิจฉา

นาวารู้สึกอิจฉานกที่มันมีอิสระ สามารถโบยบินไปทั่วฟ้าได้อย่างใจต้องการ ไม่ต้องถูกล่ามอยู่ในกรงทั้งเป็น ไม่ต้องถูกหักปีกลิดรอนอิสระภาพเฉกเช่นเขา นาวาอยากโบยบินออกจากกรงขังที่แสนทรมานนี้แล้วล่องลอยไปในที่ที่จะให้อิสระเขาได้อย่างที่ใจต้องการ ที่ไหนสักแห่งที่ไม่สนว่าเขาเป็นใครหรือจบอะไรมา เป็นที่ที่ได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่ต้องกังวล อาจจะเป็นเหนือสุดของประเทศ หรือเกาะสักแห่งทางภาคใต้ หรือแม้แต่หมู่บ้านเล็กๆ ทางแถบภาคอีสาน อยู่กันแบบพอเพียง ไม่ต้องพึ่งเงิน เกื้อหนุนกันด้วยน้ำใจ นอนกลางดินกินกลางผืนหญ้าสีเขียวขจี ไม่ต้องตื่นขึ้นมาบนเตียงหรูหราและออกมาเจอตึกสูงตระหง่านระฟ้าอย่างที่เป็นดังเช่นทุกวันนี้

แต่นั่นมันก็แค่ความฝัน ฝันลมๆ แล้งๆ ที่ไม่มีวันเป็นความจริง ร่างโปร่งยกยิ้มสมเพชตัวเองก่อนจะปิดเปลือกตาลง พับความฟุ้งซ่านเก็บเอาไว้และสั่งให้ร่างกายหยุดพัก กระทั่งผล็อยหลับไปในที่สุด




นาวาถูกปลุกให้ตื่นหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ร่างโปร่งก้าวลงจากรถด้วยอาการสะลึมสะลือ ในหัวยังมึนงงอีกทั้งเปลือกตาเองก็กึ่งปิดกึ่งปรือขึ้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองขยับตัวมาลงฝั่งพันเอกทั้งๆ ที่ควรเปิดประตูฝั่งตัวเองลงตั้งแต่เมื่อไหร่ และเพราะยังจับต้นชนปลายไม่ถูกนาวาจึงเกิดอาการวูบไปเล็กน้อย เกือบจะทรุดลงไปกองกับพื้นเสียแล้ว แต่ทว่ามือแข็งแรงของพันเอกกลับไวยิ่งกว่า คว้าหมับเข้าที่เอวของเขาก่อนจะรั้งนาวาให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอด

“โอ๊ะ!” ร่างโปร่งอุทานด้วยความตกใจ หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เพราะอะไรน่ะหรือ...จะเพราะอะไรเล่าถ้าไม่ใช่คนที่กำลังกอดเขาเอาไว้อยู่ตอนนี้

“เป็นบ้าอะไรนักหนา ทำไมชอบทำตัวให้ขายขี้หน้าอยู่เรื่อย” เสียงทุ้มดังขึ้นในระยะประชิด นาวาเงยหน้าขึ้นไปมองเล็กน้อยแล้วก็ต้องผงะเมื่อปลายจมูกของตัวเองสัมผัสกับจมูกของอีกคนเข้า

!!!

คนตัวขาวเบิกตากว้างเล็กน้อย ร่างกายแข็งทื่อชั่วขณะ ลมหายใจอุ่นๆ รินรดกันและกันในขณะที่ริมฝีปากเฉียดกันเพียงเสี้ยว นาวาไม่กล้าพูดอะไร เพราะมั่นใจว่าถ้าขยับปากเพียงนิดเดียวเขากับพันเอกต้องจูบกันแน่ๆ

ทางด้านพันเอกเองก็ผงะไปเล็กน้อยก่อนจะจ้องใบหน้าขาวของอีกคนนิ่ง ไม่บ่อยนักที่จะได้มีโอกาสพิจารณาใบหน้าของนาวาเช่นนี้ นาวาเป็นคนผิวเนียนละเอียด ผิวเนื้อก็มีเฉดสีระเรื่อน่ามอง แม้จะไม่สวยขนาดหญิงสาวแต่นาวาก็ไม่ได้ถึงกับขี้เหร่จนดูไม่ได้ สิวเม็ดเล็กๆ ขึ้นประปรายคงเพราะนอนดึก ใต้ตาคล้ำเล็กน้อย ดูโทรมกว่าที่เจอกันแรกๆ แต่ก็ไม่ซูบซีดเป็นผีตายซาก คงเพราะผ่านการร่วมรักกับเขามาทำให้ดูเปล่งปลั่งขึ้นเล็กน้อยจากสารแห่งความสุขที่หลั่งเมื่อถึงจุดสุดยอด บวกกับการได้กินอาหารครบห้าหมู่เลยทำให้นาวาดูเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น อดไม่ได้ที่จะเลื่อนสายตาลงไปมองกลีบปากอิ่มที่เขาเคยประทับจูบด้วยความใคร่กระหาย ริมฝีปากคู่นี้หวานแค่ไหนนั้นพันเอกรู้ดี เขาชิมมันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่น่าแปลกที่กลับไม่รู้สึกเบื่อเลยสักนิด มันหอมหวาน เย้ายวน น่าดึงดูดใจยิ่งกว่าน้ำหวานบ่อไหนๆ ที่เคยได้ลิ้มลอง

สองร่างยืนแนบชิดกันท่ามกลางผู้คน เหมือนหลงอยู่ในโลกส่วนตัวชั่วขณะ นาวารู้สึกว่าร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น หน้าท้องแกร่งที่มีเสื้อผ้าขวางกันสัมผัสกับกายของเขาทำเอาไปไม่เป็น

อยู่ๆ ก็ใจสั่นขึ้นมา

และก่อนที่พวกเขาจะจ้องกันนานไปมากกว่านี้ เสียงกระแอมไอของลูกน้องคนสนิทก็ดังขึ้น พันเอกได้สติ ผละกายออกห่างจากนาวาราวกับโดนของร้อนในขณะที่นาวาได้แต่มึนงง พอหันไปมองข้างกายก็เห็นร่างสูงของจักรและร่างโปร่งของพายุยืนกลั้นยิ้ม นาวาเก้อเขินขึ้นทันทีอย่างไม่มีสาเหตุ ยกมือขึ้นเกาแก้มและยิ้มแหยๆ ไม่ยอมมองไปยังร่างสูงของอีกคนแม้แต่น้อย

“ไว้ก่อนนะครับนาย ตอนนี้งานสำคัญที่สุด” เป็นจักรที่กล้าเอ่ยแซวพันเอกพร้อมกับยิ้มขำ พันเอกตวัดตามองมาอย่างดุๆ แต่คนโดนเขม่นไม่เคยนึกกลัว ในขณะที่พายุย้ายตัวเองเข้าไปใกล้นาวาที่ยืนนิ่งก่อนจะยกยิ้มแต้

“คุณวาหิวไหมครับ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม” พายุเอ่ยถาม นาวายกยิ้ม กำลังจะพยักหน้าตอบรับแต่กลับโดนดึงแขนให้ไปยืนใกล้พันเอกแทน คนดึงไม่ใช่ใคร ก็เจ้าตัวนั่นแหละ

“ฉันไม่ได้พานาวาออกมาเที่ยวเล่น หมอนี่ต้องเข้าไปกับฉันด้วย” พันเอกพูดขึ้นเสียงเรียบทำเอาพายุหุบยิ้ม

“อ้าว ผมนึกว่านายจะไปกับพี่จักรซะอีก”

“วันนี้จักรจะไปกับนาย ให้เวลาพักผ่อนจนกว่าฉันจะคุยธุระเสร็จแล้วจะโทรเรียก”

“ว้า ว่าจะพาคุณวาไปซนแถวนี้สักหน่อย ... โอ๊ยๆ ล้อเล่นครับนาย” พายุเอ่ยขึ้นเสียงทะเล้นก่อนจะเบี่ยงตัวหนีแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าพันเอกมองมาอย่างอาฆาต คนเป็นลูกน้องได้แต่ยิ้มชอบใจก่อนจะกระโดดเหยงเข้าไปเกาะไหล่นาวาแล้วหอมแก้มใสอย่างรวดเร็วทำเอาคนโดนหอมถึงกับยืนแข็งทื่อ

ฟอดดด

“คุณวาแก้มหอมจริงๆ ด้วย มิน่านายผมถึงจ้องเอาๆ ขนาดนั้น อ๊ะๆ...ผมไปแล้วก็ได้ ฮ่าๆๆๆ” พายุยกยิ้มตาหยีเมื่อเจอสายตาวาวโรจน์จากผู้เป็นนาย รีบคว้ามือจักรที่ยืนนิ่งให้เดินไปขึ้นรถ ขับออกไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้นาวายืนงงอยู่ที่เดิม

จะว่าไปความสัมพันธ์ระหว่างพายุกับพันเอกนี่ก็แปลก ดูเหมือนพายุจะเป็นลูกน้องคนเดียวที่กล้าเล่นหัวเจ้านายโดยไม่ดูสถานการณ์หากไม่นับยามที่เจ้าตัวทำให้เจ้านายโกรธ พันเอกเองก็ไม่ได้ไม่พอใจ ออกจะชอบใจเสียด้วยซ้ำ ต่างจากจักรและคนอื่นๆ ที่วางตัวอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าและให้ความเคารพพันเอกอยู่มาก จะว่าพายุเป็นเด็กปีนเกลียวไร้มารยาทก็ไม่ใช่ ยามใดจริงจังพายุก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย

“จะมองตามมันอีกนานไหม” เสียงแขวะดังขึ้นด้านหลังทำให้นาวาหลุดจากภวังค์ พอหันไปมองก็เจอคนตัวโตยืนมองเขาด้วยใบหน้าราบเรียบ นาวาถอนหายใจอย่างระอา เดินเข้าไปยืนข้างกายของพันเอกก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม

“มีอะไรให้ผมรับใช้ล่ะครับ”

“หึ” คนตัวโตกว่าแค่นหัวเราะ ก้าวขาเดินนำนาวาเข้าไปภายในตัวอาคารอย่างเงียบๆ รอบตัวของคนทั้งคู่ดูสงบราวกับทะเลนิ่งที่ไร้คลื่นลมพายุ หากแต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าอาการนิ่งเงียบของพันเอกนั้น มันก็คือสัญญาณของพายุลูกใหญ่ที่ใกล้จะปะทุขึ้นและทำลายสิ่งรอบข้างให้พังพินาศนั่นเอง

...

-(มีต่อค่ะ)-
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 08-11-2014 13:14:58
 :katai2-1: เพิ่งจะเข้ามาอ่าน เรื่องนี้ครั้งแรกอ่านลวดเดียวเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 08-11-2014 14:00:43
พันเอกจะเลวก็เลวไม่สุด  ถ้าเลวจริงๆพระพายไม่แข็งข้อขนาดนี้ห
รอกมั้ง   ที่เป็นอย่างนี้เพราะต้องการแก้แค้นรามเฉยๆแหละ  โฮงววววววว :ling3:
ปล.  คนแต่งสู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 08-11-2014 14:20:30
แม้พันเอกคิดอะไรกะนาวาหรือเปล่าเรียกเมียเต็มปากแถมเป็นแม่เมียราคาแพงอีกด้วย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 08-11-2014 15:04:34
เลวเกินบรรยาย :angry2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-11-2014 01:34:17
พันเอกร้ายจัง
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 09-11-2014 07:12:43
อะ อะ ไอ้เอ๊กกกกกกก แก๊!! :angry2: :angry2: :z6:ทำลูกฉันอีกแล้วนะ! ไอ้บ้า ไอ้&*@%#&&#*&+-%  :mew6: :mew4:โถ่ลูกแม่ :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Kathe ที่ 09-11-2014 07:27:52
 :katai1: :katai1: :katai1: สักวันแกต้องได้ดิ้นตายแน่ๆ พันเอก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 09-11-2014 11:54:10
เข้ามาอ่ารวดเดียวเหมือนกัน พันเอกช่างโหดร้ายนัก
ขอยกให้เป็นคนเลวที่หนึ่งในเล้าเลยละกัน
สงสารก็แต่นาวา โดนกระทำย่ำยีอย่างป่าเถื่อน
ส่วนพระพายน่ารักดีนะ เราชอบพระพาย แต่ในเรื่องโน้น โดนนายรามจัดการไปแล้ว

รออ่านตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 09-11-2014 12:44:47
 :angry2: พระเอกเลวเกินให้อภัย   เป็นไปได้ เปลี่ยนพระเอกเป็นรามเหอะ และให้ไอ้เอกหน้าบาทานี่ โดนเอาคืนจนมันอกแตกตาย  มะแร่ง หะเหรี้ยได้ใจมาก

จะติดตาม รอดูวันหายนะของมัน ไอ้พระเอกส้นเท้า   :hao3:

อร๊ายยยยย อินมากๆๆๆ บอกเลย  สงสารนายเอกมากๆ  +1  คับ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 09-11-2014 13:36:21
ตั้งแต่อ่านมา.  พันเอกเลวทรามมาก :a5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: u_cosmos ที่ 11-11-2014 00:57:12
ไม่มีอะไรจะกล่าวกับไอ้คุณพันเอกหฤโหด
ที่ให้แยกมานอนนี่คือหวงใช่มั้ย กลัวแก้แค้นไม่สะใจงั้นสิ
ยิ่งอานยิ่งรู้สึกสงสารวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 11-11-2014 19:45:22
อยากเห็นวันที่พันเอกล้ม  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 11-11-2014 22:52:21
สารเลวแบบสุดติ่งจริงๆอ่ะ นายพัน(ล้าน)เอกเนี่ย  :mew5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 11-11-2014 23:52:47
พันเอก แกนี้มันชั่วไม่สมควรเป็นพระเอกเลยจริงๆ รอวันสมน้ำหน้ามัน :angry2: :angry2: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 12-11-2014 09:24:19
อ่านแล้วถึงกับเครียด เรื่องนี้เป็นเรื่องของตัวร้ายใช่ไหม  พระเอกยังไม่เกิดหรือออย่างไร ร้ายกาจมากก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 12-11-2014 13:27:34
พันเอกมันไม่มีหัวใจจริงๆสินะ
รอดูวันที่มันล้ม เมื่อนั้นละมันส์แน่ๆ
แต่อย่างว่า ดีกรีพระเอก ยังไงก็เป็นพระเอกอยู่วันยังค่ำ  :serius2:
รอดูตอนต่อไปนะคะ ว่าจะเป็นยังไง
เป็นกำลังให้คนแต่งค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 20-11-2014 14:30:47
เลวได้อีก...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 20-11-2014 17:50:24
ตั้งแต่อ่านนิยายในเล้ามา บอกตรงๆเลยว่า
พระเอกคนนี้เลวสุดๆ  :katai1: :katai1:
โอยยย!!! ไมเกรนขึ้น
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 21-11-2014 13:41:41
ยังรออ่านอยู่นะ.. :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: hanahana ที่ 21-11-2014 14:40:33
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ ดาร์กจริงอะไรจริง ต่อจากนี้คือคำชื่นชมพระเอกเรื่องนี้โดยเฉพาะ5555
เราอินมากอ่านไปนี่นึกว่านั่งอยู่กับนาวากับพันเอกในบ้านด้วย :katai1:
อิเฮียพันเอกนี่ความจริงเป็นผู้ร้ายปลอมตัวมาเป็นพระเอกใช่มั๊ย
หาความดีที่มียังไม่ได้เลยที่อ่านมาเลวตั้งแต่เปิดเรื่องยันตอนนี้
เลวโดยกมลสันดารใช่มั๊ย เรื่องพ่อกับแม่คือตรวจสอบละเอียดยิ๊บๆอีกทีได้มั๊ยพ่อคุณ
แค้นมากแต่มาลงกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง ชั่วได้อีก
เหมือนจะทำอะไรเพื่อสนองความต้องการของตัวเองจนชีวิตคนอื่นเหมือนผักเหมือนปลา
นี่ขนาดพี่แกคิดได้แล้วน่ะว่าบ้านเมืองมีกฎหมายยังขนาดนี้ บังคับทุกคนที่สามารถทำให้ตัวเองสมใจ
สารเลวได้ใจจริงๆเหยียบทุกคนจมดินหมด แล้วคำพูดอิตาพันเอกแต่ล่ะคำอย่าพูดได้มั๊ย
อย่าเอ่ยปากออกมาเลยแม่งหาคำดีดีไม่มีเลย เสียดแทงทำร้ายจิตใจทุกคำ
น้องนุ่งก็ไม่เว้น ความเลวทุกสิ่งอย่างรวมอยู่ในตัวมาก ยังมีด้านที่ดีซักนิดติดตัวอยู่บ้างมั๊ย
ถ้ามีรีบเอาออกมาโชว์น่ะพันเอก ก่อนที่จะไม่ได้โชว์ เพราะทั้งน้องทั้งนาวาจะไม่มีใครอยู่ดู(ว๊ากกกอินเวอร์)
ก็หวังว่าเรื่องที่ทำจะไม่หักมุมว่าแม่งคิดผิดมาตั้งแต่ต้นน่ะอิคุณพระเอก ทำไปแล้วมาเสียใจทีหลังคาดว่าจะไม่ทันล่ะน่ะ  :m16:
อ่านไปก็สาปพระเอกไป เขียนได้เข้าถึงมากค่ะ สนุกมากเราชอบ5555 o13
อ่านแล้วความอินเราพุงทะลุเพดานมาก เป็นกำลังใจให้น๊าคุณMarch. Marcia  มาต่ออีกน่ะค่ะ จะรอจ้า :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: tepzakiku ที่ 21-11-2014 18:46:39
บีบหัวใจได้อีก ชอบมากนิยายแนวนี้

พระเอกเลวๆแบบนี้ถูกใจ    :hao6:แต่ก็แอบสงสารนายเอก

พระเอกจะเลวแค่ไหนแต่ขออย่างให้เศร้ามากไปนะ(กลัวน้ำตาไหล) :z3:

ปล.คนแต่งนิยายเก่งมากคะขอบคุณนะคะที่แต่งมาสนองความต้องการคนอ่าน 5555

รอตอนต่อไปอยู่นะคะ :oo1:

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-11-2014 20:52:13

“วันนี้ไม่มีสอนเหรอคะคุณพาย ทำไมมานั่งเหม่ออยู่ตรงนี้ได้” เสียงคุ้นเคยของหญิงสูงวัยที่พระพายนับถือเหมือนญาติผู้ใหญ่ดังขึ้นด้านหลัง ร่างโปร่งหันไปหาเอื้องคำพร้อมกับยกยิ้ม ดวงหน้าได้รูปส่ายไปมาเบาๆ

“ไม่ครับป้า มีอีกทีวันมะรืน” พระพายตอบพร้อมกับขยับกายให้หญิงตรงหน้านั่งข้างกัน

“ป้าเอื้องครับ บอกผมได้ไหม พ่อกับแม่ตายเพราะทรยศคนตระกูลกลทีบ์จริงๆ เหรอครับ” พระพายถามในสิ่งที่ตนสงสัยมาเนิ่นนานแต่ไม่เคยได้รับคำตอบ คำถามของเขาทำเอาอีกฝ่ายชะงัก ใบหน้าโรยราเบนหลบไปอีกทางก่อนจะถอนหายใจ

“ป้าเองก็ไม่รู้อะไรมากนักหรอกนะคะ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนน่ะคุณท่านกับคุณลักษณ์...ป้าหมายถึงพ่อของคุณรามน่ะค่ะ เมื่อก่อนท่านทั้งสองเป็นเพื่อนรักกัน แล้วก็จะมีเพื่อนอีกสองคนจากบ้านพรหมพิริยะแล้วก็อัศม์เดช”

“...”

“สี่คนนี้สนิทกันมาเพราะรุ่นก่อนๆ เขาก็ทำธุรกิจร่วมกัน อย่างฝั่งคุณลักษณ์ก็มีหอยมุกแล้วก็รีสอร์ทที่ภูเก็ต บ้านเราก็จะเป็นเครือโรงเเรมที่พักและทัวร์ท่องเที่ยว ส่วนคุณสิบทิศพ่อของคุณสิบตรีก็ทำหน้าที่ส่งเครื่องประดับไปนอกประเทศ จะมีก็แต่ฝั่งพรหมพิริยะนั่นแหละค่ะที่แปลกหน่อยเพราะเป็นหมอกันหมด แต่ก็เหมือนเป็นหมอประจำตระกูลสามตระกูลนี้”

“ครับ เรื่องนี้ผมก็พอรู้มาอยู่บ้าง”

“ค่ะ สมัยก่อนสี่บ้านนี้ก็เกื้อกูลกันดี พวกคุณๆ เขาก็เฮไหนเฮนั่น สนุกกันตามประสาหนุ่มๆ จนกระทั่งเจอคุณบุษบา...”

บุษบา

“แม่ของคุณราม” พระพายพูดเสียงแผ่ว ป้าเอื้องพยักหน้า ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มของพระพายด้วยความรักใคร่

“คุณๆ เขาถูกใจคุณบุษกันมาก แย่งกันจีบอุตลุตไปหมดจนผู้ใหญ่ปวดหัว แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ความใจแข็งเด็ดเดี่ยวของเธอล่าถอยกันไป เห็นแต่คุณลักษณ์กับคุณพัฒพงษ์เท่านั้นล่ะค่ะที่ยังไม่ยอมเลิก” ป้าเอื้องพูดขึ้น พระพายยกยิ้มเมื่อคิดภาพพ่อของเขากับพ่อของรามแข่งกันจีบผู้หญิง

“แต่สุดท้ายลุงลักษณ์ก็ได้หัวใจอาบุษไปครองใช่ไหมครับ”

“ค่ะ ช่วงนั้นคุณพัฒแกเสียใจยกใหญ่ ไม่หลับไม่นอนเอาแต่เพ้อถึงคุณบุษตลอด จนคุณปู่ของคุณหนูต้องเรียกตัวคุณประกายเดือนกลับมาจากเมืองนอกและบังคับให้คุณเดือนกับคุณพัฒแต่งงานกัน” เอื้องคำเล่าถึงตรงนี้ก็เงียบไป พระพายผ่อนลมหายใจยาวก่อนจะยกยิ้มขืนๆ

“พ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงานกันเพราะรักจริงๆ ด้วย” เอ่ยพูดกับคนตรงหน้า หญิงสูงวัยพยักหน้ารับน้อยๆ ก่อนจะดึงตัวคุณหนูของเธอเข้ามากอด เมื่อก่อนพระพายถามเธอเสมอเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เอื้องคำก็ไม่ได้เล่าให้ฟังเพราะพันเอกกำชับเอาไว้ ชายหนุ่มไม่อยากให้ภาพครอบครัวในแบบที่พระพายฝันเอาไว้พังทลายลง แต่เอื้องคำคิดว่าตอนนี้คุณหนูพระพายของเธอเติบโตพอที่จะรับรู้เรื่องราวเหล่านี้แล้ว

“ผมพอเดาออกตั้งนานแล้วล่ะ”

“คุณเอกกำชับป้าไม่ให้บอกคุณพายน่ะค่ะ คุณเขาไม่อยากให้คุณพายเสียใจที่รู้ว่าพ่อแม่แต่งงานกันเพราะถูกบังคับ กลัวคุณพายคิดว่าตัวเองไม่ควรจะเกิดมา”

“...”

“คุณเขาไม่อยากให้คุณพายคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่เกิดมาจากหน้าที่ของพ่อแม่ที่ต้องมีลูกเอาไว้สืบสกุล ไม่อยากให้คุณพายคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่ไม่ได้เกิดมาเพราะความรัก ไม่อยากให้คิดเหมือนที่คุณเขาเคยคิดน่ะค่ะ” เอื้องคำลูบหัวชายหนุ่มตัวขาวที่กำลังซุกอกเธอนิ่งๆ

“ป้าเองก็ไม่อยากให้คุณพายคิดมากนะคะ อย่าคิดว่าไม่มีใครรักไม่มีใครต้องการ คุณพายยังมีคุณเอกที่รักคุณมากยิ่งกว่าใครๆ ยังมีคุณจักร คุณพายุ มีมีน มีป้าอยู่”

“ครับ ผมไม่เป็นไร แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมอยู่ๆ เราถึงแตกหักกับสามบ้านนั้น” พระพายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย

“คงเพราะรักมากเกินไปล่ะมั้งคะ”

“...”

“คุณพัฒรักคุณบุษมากเกินไปจนละเลยคุณเดือน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณเดือนกำลังท้องคุณพันเอกอยู่ ก็ตามประสานั่นแหละค่ะ ผู้หญิงที่ไหนจะชอบคนที่สามีเรารักจริงไหมคะ”

“ครับ พอนึกออก”

“นั่นล่ะค่ะ คุณเดือนเธอเลยไม่ชอบคุณบุษนัก ยิ่งคุณพัฒท่านเผลอทำสาวใช้ท้องเพราะเมาคุณเดือนเธอยิ่งโกรธหนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเกรงใจหน้าตาของครอบครัว ทนอยู่มาจนคุณเอกเข้าชั้นประถม ช่วงนั้นคุณพัฒไปมาหาสู่ที่บ้านกลทีบ์บ่อยจนคุณเดือนเธอไม่พอใจ คุณเขาก็ทะเลาะกันตั้งแต่นั้นจนเรื่องมาเกิดตอนคุณเอกกำลังจะจบม.หกพอดิบพอดี”

“...”

“ทางนั้นเขาบอกว่าคุณเดือนไปโกงเงินเกี่ยวกับฟาร์มมุกที่จะร่วมลงทุนกัน ประจวบเหมาะกับที่คุณลักษณ์กับคุณบุษเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ด้วย คุณรามเลยส่งคนมาตัดสายเบรกรถของคุณพัฒกับคุณเดือนจนรถคว่ำน่ะค่ะ”

“ไม่สมเหตุสมผลเลย แค่เรื่องเงินเล็กๆ น้อยๆ ทำไมต้องฆ่าแกงกันขนาดนี้ละครับ” พระพายพูดกลางป้องขึ้นมาด้วยความคลางแคลงใจ นี่น่ะหรือเหตุผลที่ทำให้ผู้ชายคนนั้นฆ่าพ่อแม่ของเขา

“เอ่อ...อันนี้ป้าเองก็ไม่ทราบค่ะ” เอื้องคำพูดขึ้น พระพายขมวดคิ้วฉับทันทีก่อนจะหันมามองหน้าเธอพร้อมกับยิงคำถาม

“มันไม่ใช่แค่นี้หรอกใช่ไหมครับ”

“ป้าไม่ทราบจริงๆ ค่ะคุณหนู เรื่องนี้ป้าบอกคุณเอกแกไปแล้วว่าป้าไม่ขอยุ่ง ไม่ว่าจะเป็นยังไงมันเป็นเรื่องของพวกคุณๆ เอง คุณเอกเป็นคนไม่ฟังใครนอกจากตัวเอง ป้าพูดป้าเตือนอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์ คุณรามเองก็ใจร้อน ต่างคนต่างก็แรงใส่กันทั้งคู่ ปล่อยไปตามเวรตามกรรมเถอะค่ะคุณพาย” เอื้องคำบอก เธอแก่เกินจะวิ่งตามความแค้นของหนุ่มสาวแล้ว อีกทั้งยังเป็นผู้น้อย และพันเอกเองในตอนนี้ก็มาเกินครึ่งทางเสียแล้ว

“ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ความจริงมันจะเป็นเพราะอะไร อนาคตข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น คุณพายสัญญากับป้าได้ไหมคะว่าคุณจะเข้มแข็งและมีสติ อย่าเป็นเหมือนคุณเอกไปอีกคนเลยนะคะ ป้าต้องใจสลายแน่ๆ หากคุณหนูของป้ากลายเป็นคนเลวร้ายแบบนั้น” เอื้องคำลูบแก้มของพระพายแผ่วเบาด้วยความหวงแหน คุณหนูเล็กของกฤตภาสนั้นอ่อนเดียงสานัก หากถูกดึงลงไปแปดเปื้อนเธอคงใจสลาย พระพายไม่เหมาะกับสิ่งเหล่านี้ เธอไม่อยากเห็นบ้านหลังนี้ร้อนเป็นไฟขึ้นมาอีก แค่พันเอกก็พอแล้ว พันเอกคนเดียวก็เพียงพอแล้ว

“สัญญากับป้านะคะ อย่าให้ความโกรธความเกลียดทำลายความดีของคุณเด็ดขาด นะคะคุณพาย” หญิงสูงวัยกำชับ พระพายยกยิ้ม สวมกอดหญิงตรงหน้าแน่นพร้อมกับพยักหน้าแผ่วเบา

“ครับป้า ผมสัญญา”




บนโต๊ะอาหารภายในภัตตาคารสุดหรูของโรงแรมชื่อดังเต็มไปด้วยอาหารราคาแพงมากมายที่ยังไม่ถูกตักเลยแม้แต่จานเดียว นาวานั่งนิ่งลอบมองร่างสูงที่นั่งอยู่ด้านตรงข้าม ก่อนจะหันกลับมามองคนข้างกายที่กำลังจิบกาแฟด้วยท่าทีไม่ทุกข์ร้อน บรรยากาศบนโต๊ะคุกรุ่น ชายหนุ่มสองคนผู้มีใบหน้าหล่อเหลาทำเพียงแค่ทักทายกันเล็กน้อยก่อนจะนั่งเงียบ พันเอกยื่นเอกสารไปให้อีกฝ่ายเปิดอ่านก่อนจะนั่งจิบกาแฟไปพลางๆ ส่วนอีกฝ่าย...พอเปิดอ่านไปได้สักพักก็ปรายตาขึ้นมามองหน้าเขาก่อนจะยกยิ้มมุมปาก เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเริ่มเปิดประเด็นขึ้นด้วยใบหน้าราบเรียบ

“ที่นัดมาวันนี้ ถ้าให้เดาคงเกี่ยวกับเกาะนาคาใช่ไหม” สิ้นประโยค คนถูกถามก็ยกยิ้ม ในขณะที่นาวาได้แต่นั่งนิ่งข้างกายของพันเอกด้วยความงุนงง ไม่เข้าใจว่าจะลากเขามาด้วยเพราะเหตุใด

“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน ผมอยากจะขอซื้อที่บนเกาะนั่นทั้งหมด ได้ข่าวว่าเจ้าของเกาะยังนอนใกล้ตายอยู่ที่โรงพยาบาล มันคงไม่มีปัญญาฟื้นขึ้นมาดูแลเกาะหรอกใช่ไหม” พันเอกยกยิ้ม จ้องใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งตรงข้ามนิ่ง นาวาเม้มปากแน่นเมื่อเริ่มจะเดาได้ว่าเจ้าของเกาะแห่งนั้นเป็นใคร หันไปมองปฏิกิริยาของอีกคนอย่างเงียบๆ

“ถามมาตรงๆ ผมก็ตอบตรงๆ เลยว่าไม่ได้ ผมเป็นแค่คนดูแลความเรียบร้อยภายในเกาะแทนเขา ไม่มีอำนาจที่จะขายเกาะให้ใคร ถ้าคุณอยากได้ก็ต้องติดต่อขอซื้อกับเจ้าของตัวจริง” คนตรงหน้าตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและหนักแน่น พันเอกยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้พลางจ้องคนที่นั่งอยู่ตรงข้าม แขนแกร่งวาดพาดไปยังเก้าอี้ของนาวาก่อนจะโอบร่างโปร่งเข้ามาใกล้ ใบหน้ายิ้มแย้มค่อยๆ เคร่งขรึมก่อนจะแปรเปลี่ยนกลายเป็นดุดัน สรรพนามที่เคยไพเราะเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

“อย่าให้กูต้องพูดซ้ำเลยไอ้สิบ ขายเกาะให้กูซะ มึงคิดว่าไอ้รามมันจะดวงแข็งรอดอีกเป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ”

พันเอกพูดอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่าทำเอา ‘สิบตรี อัศม์เดช’ กัดฟันกรอด หันไปมองนาวาที่กำลังมองพวกเขาอย่างไม่เข้าใจก่อนจะพูดเสียงรอดไรฟัน

“มึงคิดว่ากูกับไอ้นายไม่รู้เหรอว่ามึงส่งน้องเทียนไปฆ่าไอ้ราม มึงมันระยำไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ” สิบตรีพูดจบก็ได้รับรอยยิ้มเย้ยหยันจากพันเอก ในขณะที่นาวาหันขวับไปมองคนข้างกายด้วยความตกใจ กำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ต้องร้องอุทานเมื่อพันเอกเปลี่ยนมือที่โอบไหล่เขาเอาไว้มาบีบท้ายทอยเต็มแรงจนนาวาเบ้หน้า

“คุณเอก ผมเจ็บ” นาวาประท้วง สิบตรีกัดฟันกรอดก่อนจะจ้องพันเอกด้วยแววตาดุดัน

“ปล่อยคุณวาซะเอก” ร่างสูงตรงข้ามเอ่ยขึ้น พันเอกทำเพียงแค่แค่นหัวเราะก่อนจะตวัดสายตาไปมองนาวาที่กำลังเบ้หน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้

“เมียกู กูจะทำอะไรยังไงก็ได้ ทำไมต้องฟังมึง”

“ถ้ามึงคิดว่าการทำร้ายคุณวาแล้วจะทำให้กูยอมขายเกาะล่ะก็นะ กูขอบอกว่ามึงคิดผิด” สิบตรีพูดขึ้น ใช่ว่าอยากจะเห็นนาวาโดนทำร้าย แต่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขายเกาะให้กับพันเอกจริงๆ และถึงรามยังอยู่เขาก็เชื่อว่าเพื่อนเขาไม่ยอมขายสิ่งที่เจ้าตัวรักเท่าชีวิตนั่นหรอก

ด้านพันเอกเองที่พอใช้นาวาขู่ไม่ได้ผลก็พ่นลมหายใจออกอย่างหงุดหงิด รู้ดีอยู่แล้วตั้งแต่แรกว่าสิบตรีไม่ได้แคร์นาวาเหมือนกับราม แต่ที่พานาวามาด้วยเพราะอยากให้พวกมันได้รู้ว่านาวาทุกข์ทรมานแค่ไหนตอนที่อยู่กับเขา เป็นการกระตุ้นกลายๆ ให้อีกฝ่ายร้อนรนหาทางทำอะไรสักอย่างเพียงเท่านั้น

“หึ กูก็แค่ลองมาถามมึงเล่นๆ ดู เผื่อมึงจะเห็นเศษเงินดีกว่าเศษสวะที่นอนพะงาบอยู่บนเตียง แต่ก็นะ...ไม่นึกเลยว่าพวกมึงจะยังยึดมั่นในความเป็นเพื่อนโง่ๆ แบบนั้นอยู่อีก ระวังจะทำอะไรแล้วไม่เจริญล่ะ” พันเอกเย้ย นาวาขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจ หันไปมองร่างสูงด้วยอารมณ์คุกรุ่น คนคนนี้ช่างเป็นผู้ชายที่มีทัศนคติที่แย่ยิ่งนักในสายตาเขา พันเอกเหมือนคนบกพร่องทางอารมณ์และการมองโลก ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนคิดแบบนี้หลงเหลืออยู่บนโลก

“เมื่อก่อนมึงก็เคยมีเอก เพียงแต่มึงเลือกให้ความแค้นอยู่เหนือทุกอย่างและทิ้งมันไป กูยังหวังให้มึงกลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”

สิบตรีพูดเสียงเรียบ ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกๆ แล้วเขาไม่ได้โกรธที่พันเอกเป็นแบบนี้ ก่อนจะเกิดเรื่องพวกเขาทั้งสี่คนรักกันยิ่งกว่าอะไรดี โดยเฉพาะรามกับพันเอก ไม่นึกไม่ฝันว่าทุกอย่างจะกลายเป็นแบบนี้ เหมือนโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้า เหมือนหมอกขุ่นมัวที่บดบังหนทางแห่งชีวิตจนมองไม่เห็นอนาคต

“พวกกูพร้อมจะให้อภัยมึงเสมอนะเอก”

ปึง!

“หุบปาก! อย่างมึงจะไปเข้าใจอะไร พ่อแม่มึงไม่ได้ถูกฆ่าตายนี่!” พันเอกตะคอกราวกับคนสิ้นสุดความอดทนหลังจากที่ใช้สองมือแกร่งทุบโต๊ะเสียงดังจนแขกในภัตตาคารคนอื่นๆ หันมามอง พอเห็นว่าเป็นใครคนเหล่านั้นก็รีบก้มหน้าหลบเสียแทบไม่ทัน นาวาเองก็ได้แต่เม้มปาก ยกมือขึ้นลูบแขนแกร่งของพันเอกอย่างลืมตัว มันเป็นไปตามสัญชาตญาณ ร่างกายมักจะไวกว่าความคิดเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน จริงๆ ควรจะนั่งนิ่งๆ แต่เขากลับขยับตัวไปลูบแขนพันเอกให้อีกฝ่ายใจเย็นเสียแล้ว

“กูอยากให้มึงลองสืบดูให้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือไม่ก็เปิดอกคุยกับรามมันจริงๆ จังๆ ดีกว่ามาคิดเองเออเองแบบนี้” สิบตรียังคงสงบ ไม่มีอาการตกใจให้เห็น พันเอกตาวาวโรจน์ แค่นหัวเราะก่อนจะยกยิ้มอย่างนึกสมเพช สมเพชทั้งตัวเองและอีกฝ่าย

“ไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไง ไอ้เพื่อนทรยศนั่นก็เป็นคนฆ่าพ่อแม่กู มันทำพระพายเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก น้องกูเพิ่งจะสิบปีตอนต้องมาเสียพ่อเสียแม่ เด็กตัวแค่นั้นต้องถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่าไม่มีพ่อไม่มีแม่มาจนขึ้นมัธยม พวกกูทำผิดอะไรมันถึงมาตัดสินแบบนี้” พันเอกระเบิดอารมณ์ ดวงตาแดงก่ำ ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมที่ไหนในขณะที่นาวาได้แต่นิ่งเงียบ สิบตรีถอนหายใจ เบือนหน้าหนี

“กูต้องแบกรับทุกอย่าง ต้องเลี้ยงน้องมาคนเดียว หึ...จะว่าไปกูเลี้ยงน้องเองมาตั้งแต่น้องเกิดแล้ว เพราะแม่มัน แม่ไอ้เหี้ยรามไง ตัวที่หว่านเสน่ห์ทำลายครอบครัวของคนอื่นไปทั่ว!”

“มึงบ้าไปแล้วเอก มึงก็รู้ว่าอาบุษไม่ได้เป็นคนแบบนั้น!” สิบตรีเถียงแทนมารดาของเพื่อน ไม่ชอบใจที่พันเอกโยงเรื่องเองและคิดเองเสร็จสรรพ นี่เพื่อนเขากำลังถลำลึกมากเกินไปแล้ว พันเอกกำลังจะกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่เขาไม่เคยรู้จัก

“พวกมึงต่างหากที่บ้า บ้าไปอยู่ข้างมันแทนที่จะเป็นกูไอ้สิบ มันฆ่าพ่อแม่กูแต่มึงกลับมองว่ากูผิด หึ ด่ากูเลวชาตินัก ถามตัวเองดูก่อนไหมว่าใครที่ใจดำแล้วก็เลือดเย็นกว่ากัน!” พันเอกทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็หุนหันเดินจากไป นาวามองตามหลังแผ่นหลังกว้างไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกก่อนจะหันมามองสิบตรีที่ก็มองตามพันเอกไปเช่นกัน

“ขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้ตกใจ” สิบตรีพูดเสียงสุภาพ นาวายกยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า

“ผมต่างหากครับที่ต้องขอโทษคุณ เอ่อ...คุณจะรังเกียจไหมครับถ้าผมจะถามอาการของคุณราม” นาวาพูดขึ้นด้วยท่าทีนอบน้อม สิบตรียกยิ้ม ไม่แปลกใจว่าทำไมเพื่อนของเขาถึงหลงรักคนคนนี้ นาวาเป็นคนมีเสน่ห์ ยิ้มสวยและมีดวงตาที่น่ามอง

“ตอนนี้ก็รอดูอาการอยู่ครับ หมอบอกว่าอาการดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย”

“ครับ...ผม...ขอโทษนะครับที่เป็นต้นเหตุให้คุณรามเป็นแบบนี้” นาวาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด สิบตรีรีบส่ายหน้าหวือก่อนจะพูดขึ้น

“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณแทนไอ้รามมัน คุณไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เลยแต่ต้องมารับกรรมแทนเพื่อนผม ไอ้เอกมันบ้า ไอ้รามแคร์อะไรหรือรักใครมันก็ชิงทำร้ายให้ไอ้รามเจ็บตลอด ไม่สนว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว แค่ให้รามมันเจ็บเอกมันพร้อมจะทำทุกอย่าง” สิบตรีพูดขึ้น นาวาถอนหายใจอย่างอ่อนล้าก่อนจะยกยิ้มขืนๆ

“ผมชินแล้วละครับ ไม่มีอะไรหนักหนาเกินกว่าการเสียครอบครัวหรอก” นาวาพูดขึ้น ทั้งคู่มองหน้ากันก่อนจะต่างคนต่างเงียบ สิบตรีมองจานข้าวนิ่งๆ ราวกับคนกำลังใช้ความคิดในขณะที่นาวาเองก็ได้แต่จมอยู่กับอดีต ก่อนจะโพล่งขึ้นมาเมื่อนึกได้ถึงบทสนทนาของพันเอกและสิบตรีเมื่อก่อนหน้านี้

“จริงสิ! เมื่อกี้คุณบอกว่าคุณเอกส่งคนไปฆ่าคุณรามเหรอครับ”

“อ๋อ...ครับ ไอ้เอกมันส่งน้องชายต่างแม่ไปทำงานที่โรงพยาบาลภูเก็ตเพื่อให้ฆ่ารามมันน่ะ คุณรู้จักไหม ที่ชื่อเทียนน่ะ”

“เคยได้ยินชื่อน่ะครับ”

“...”

“แล้ว...” นาวากำลังจะเอ่ยถามว่าคนคนนั้นทำสำเร็จไหม สิบตรียกยิ้มอย่างรู้ว่าร่างโปร่งจะถามอะไรก่อนจะยิ้มบางๆ

“ไม่ต้องห่วงครับ รามปลอดภัยดี ส่วนเด็กคนนั้นเองก็ถูกทำโทษเล็กๆ น้อยๆ โทษฐานทำตัวไม่น่ารัก” ร่างสูงพูดพลางยกยิ้มเจ้าเล่ห์ นาวาได้แต่ยิ้มแหยๆ อย่างนึกห่วง และแล้วบรรยากาศระหว่างพวกเขาก็เงียบลงไปอีกครั้ง นาวาอยากจะลุกไปตามพันเอกแต่ก็กลัวจะเสียมารยาท พวกเขาทั้งคู่ปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมรอบตัวอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะเป็นสิบตรีที่เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่ทำเอานาวาเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ

“คุณวาครับ หนีไปกับผมไหม...”

“!!!!”

“ไปซะตอนนี้ ตอนที่ยังมีโอกาส ไม่อย่างนั้นไอ้เอกอาจจะทำร้ายคุณมากกว่านี้ก็ได้ รามมันใจสลายแน่ถ้าตื่นขึ้นมาแล้วเห็นคุณทุกข์ทรมานแบบนี้”

“คุณ...ผม...”

“ไปกับผม ไปอยู่ในที่ที่ไอ้เอกมันจะตามไม่เจอ คุณไม่จำเป็นต้องเจอเรื่องแบบนี้...นะครับ”

“ผม...ไม่รู้”

“ไปเถอะครับ ก่อนที่คุณจะไม่มีโอกาสแม้แต่จะออกจากห้องนอนของมัน”


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 9.2 //P.3// (8/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-11-2014 20:54:09
...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 29-11-2014 21:33:18
 :เฮ้อ:  จะไปก็ติดนะโมอีก ถ้าเอานะโมไป การเรียนอีก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-11-2014 21:34:42
พระเอกเรื่องนี้มันทั้งเลวทั้งโง่ :เฮ้อ: 

อ่านทีไรแอบสาปส่งทุกที พระเอกหรือตัวโกงนะนี่ :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 29-11-2014 22:11:37
 :katai1:  พระเอกนี่เสมอต้นเสมอปลายมากไปป้ะ
เพลียแทนนาวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 29-11-2014 22:17:55
เรื่องการตายของพ่อแม่พันเอกอาจจะมีเงื่อนงำอย่างอื่นมากกว่านี้นะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 29-11-2014 22:41:01
เลวได้สม่ำเสมอจริงๆนะพันเอก

นาวาก็คิดบวกเข้าไว้นะ ถึงจะเจ็บก็ต้องทน ทนจนมันชินไปเอง

คิดเอาไว้ว่าน้องสำคัญที่สุด

ตอนนี้สงสารพระพายมากกกกก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 29-11-2014 23:20:20
 :hao5: พระเอกเลวได้ใจ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 30-11-2014 20:48:27
คุณสิบไปช่วยน้องโมก่อน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: minyjae ที่ 30-11-2014 20:51:32
พันเอกเลว แต่เราชอบมาก  :hao7:
อยากรู้ว่าพันเอกจะรักนาวายังไง ตื่นเต้นๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 30-11-2014 20:56:27
เหมือนทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นนะ   :mew4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 30-11-2014 21:21:39
วันนึงที่พันเอกไม่เหลือใครรักนั่นแหละถึงจะรู้สึกตัว
เอ้ะ!! หรือว่ามันไม่มีความรู้สึก  :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 03-12-2014 20:50:04
คือ เครียดอ้ะ แบบบบย ไม่รุจะด่าอิตาพันเอกยังไงดี
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 10-12-2014 14:47:53
หนีไหมมม นาวาาา

มาต่อน้าาา อยากอ่านแล้วว 555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 10-12-2014 20:15:20
ไปไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นน้องโม จัเป็นยังไงละ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 16-12-2014 17:35:17
ตอนที่ ๑๑ : โง่



เนิ่นนานที่ร่างสูงของสิบตรีนั่งเงียบจ้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบ นาวาคิดไม่ตก คิ้วขมวดอย่างสับสน ใจหนึ่งไม่อยากกลับไปทุกข์ทรมานกับคนอย่างพันเอกอีกแล้ว แต่อีกใจกลับต่อต้านอยู่เนืองๆ เฝ้าเตือนสติเขาว่าณะโมล่ะ น้องชายจะเป็นเช่นไรหากเขาเอาตัวรอดไปเพียงลำพัง พันเอกจะหันไปทำอะไรน้องแทนเขาหรือเปล่า พระพายจะช่วยอะไรได้ไหม เรื่องราวมันจะเลวร้ายลงไปมากกว่าเดิมหรือเปล่า

ไม่ได้หรอก เขาทิ้งณะโมไปไม่ได้ นาวาบอกกับตัวเองแบบนั้น

“ผม...ผมไปกับคุณไม่ได้ครับ”

“...”

“ผมทิ้งน้องไปไม่ได้ ณะโมยังอยู่ที่บ้าน ถ้าผมไปผมไม่รู้เลยว่าพันเอกจะทำอะไรน้องชายของผม อีกอย่าง มันคงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าสิ่งที่ผมเคยผ่านมันมาแล้วหรอกครับ แค่นี้ผมทนได้” นาวาพูดขึ้น สิบตรีหัวเราะออกมาเบาๆ นั่นสินะ เขาลืมไปได้ยังไงกันว่านาวามีน้องชายอยู่หนึ่งคน ทั้งรักทั้งหวงแหนเด็กคนนั้นอย่างกับอะไรดี และตัวเขาเองก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะช่วยทั้งนาวาและน้องชายได้พร้อมกันหรอก

“ครับ...ผมเข้าใจ” สิบตรีเอ่ยขึ้น นาวามองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้านิ่งๆก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อม

“ยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณมากนะครับที่ให้การช่วยเหลือ ถึงผมจะรับมันไว้ไม่ได้ก็ตามที” ร่างโปร่งพูดขึ้น สิบตรีเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับคนตรงหน้าก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นหลุดยิ้มอย่างนึกเอ็นดู ชายหนุ่มพิจารณาใบหน้าของนาวาและกริยาต่างๆแล้วก็ได้แต่นั่งยิ้ม

นาวาเป็นคนที่เหนือความคาดหมาย

“คุณเป็นคนดีมาก ไม่แปลกใจเลยทำไมไอ้รามมันถึงเอาแต่เพ้อ” อดเอ่ยแซวขึ้นมาไม่ได้ นาวาหัวเราะแหยๆออกมาก่อนจะเปลี่ยนเป็นแก้มแดงระเรื่อเมื่อสิบตรีหลุดพูดประโยคหนึ่งซึ่งทำเอานาวาถึงกับใจกระตุก

“บางทีความดีของคุณอาจจะเปลี่ยนใจไอ้เอกได้ ผมไม่เคยได้ยินเอกมันเรียกใครว่าเมียมาก่อนเลยคุณรู้ไหม”

“เอ่อ...”

“ถึงจะยังไงก็เถอะ นี่เป็นเบอร์ติดต่อของผม ถ้าคุณมีอะไรอยากให้ผมช่วยก็โทรหาได้เลยนะครับ” สิบตรียื่นนามบัตรให้กับร่างโปร่งตรงหน้า นาวารับมันไปถือเอาไว้ก่อนจะกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ทั้งคู่คุยอะไรกันอีกเล็กน้อยก่อนต่างฝ่ายต่างจะแยกย้ายกัน ก่อนไปสิบตรีก็ยังไม่วายกำชับนาวาเรื่องของพันเอกด้วยความเป็นห่วง

“มันอาจจะดูแปลกไปสักหน่อย แต่ถ้าคุณเลือกที่จะอยู่กับมัน ยังไงผมฝากมันด้วยนะครับคุณวา ไอ้เอกมันเป็นคนใจร้อนไม่ฟังใคร อาจจะดูเลวก็จริงแต่มันก็น่าสงสาร ผมว่าที่มันทำร้ายคุณก็แค่เพราะคุณเป็นคนที่ไอ้รามรัก ลึกๆมันคงไม่อยากจะทำแบบนี้หรอก ผมเองก็คงช่วยอะไรมันไม่ได้เพราะตอนนี้ก็เหมือนเป็นศัตรูมันกลายๆไปแล้ว”

“...”

“คุณคงสงสัยว่าทำไมผมถึงเข้าข้างคนที่ฆ่าพ่อแม่ของคนอื่นอย่างไอ้รามใช่ไหม” สิบตรีถามขึ้น นาวาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะยืนนิ่งอย่างรอคอยคำตอบ

“พวกผมไม่ได้เข้าข้างรามมันหรอก ผมกับไอ้นายเราอยู่ตรงกลางมาตลอด คิดว่าให้มันจัดการกันเอาเอง พวกผมจะไม่เข้าไปยุ่งด้วย ได้แค่ให้ความช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆ ถ้ารามเดือดร้อนผมก็พร้อมช่วย ไอ้เอกเดือดร้อนผมก็จะไม่นิ่งเฉยแต่ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความแค้นบ้าๆนี่น้อยที่สุดและต้องแน่ใจว่าไม่กระทบอีกฝ่าย แต่เป็นไอ้เอกเองที่คิดไปว่าเราสองคนไม่ดูดำดูดีมันจนแยกตัวออกไป...”

“คุณรามฆ่าพ่อแม่คุณพันเอกจริงๆเหรอครับ” นาวาถามขึ้น สิบตรีพยักหน้ารับก่อนจะขยายความ

“ครับ รามมันบอกแบบนั้น แต่มันก็บอกพวกผมแค่นั้น ไม่ได้บอกอะไรเพิ่ม ไอ้นี่ก็เอาแต่อมพะนำจนเรื่องมันเลวร้ายแบบนี้นี่แหละ เชื่อผมเถอะ ถ้ามันฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่มันมาชิงตัวคุณกลับแน่ๆ” สิบตรีพูดอย่างที่ใจคิด

“ผมดูโง่มากไหมครับที่มีโอกาสแต่ไม่คิดจะหนี” นาวาตัดสินใจถามขึ้นมาในที่สุด สิบตรียกยิ้ม ยกมือขึ้นลูบผมนุ่มของนาวาอย่างนึกเอ็นดูก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

“คุณไม่ได้โง่หรอก คุณแค่ยังมีห่วงอยู่และมีความอดทนมากพอกับสิ่งที่ไอ้เอกมันทำ ตอนนี้ เวลานี้มันเป็นเรื่องของคุณ ไอ้เอกแล้วก็ไอ้รามสามคน ผมก็ได้แต่คอยมองอยู่ห่างๆ เพราะงั้นถ้าคุณอยากให้เรื่องมันจบก็เปลี่ยนใจพวกมันและทำให้พวกมันหันมานั่งคุยกันดีๆให้ได้”

“...”

“ผมเชื่อว่าถ้าเป็นคุณ ทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นแน่นอน” สิบตรีทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็ขอตัวเดินจากไป นาวายืนเคว้งอยู่บริเวณหน้าโรงแรมพลางคิดถึงคำพูดของคนที่เพิ่งจะเดินไป เขาน่ะเหรอจะสามารถทำให้พันเอกกับรามหันมาคุยกันดีๆได้ คนอย่าง นาวา ชนกันต์ คนนี้น่ะเหรอ ไม่มีทางหรอก ยิ่งกับพันเอกแล้วยิ่งไม่มีทางเข้าไปใหญ่ เห็นๆ กันอยู่ว่าพันเอกมองเขาเป็นเพียงเครื่องมือในการแก้แค้นรามและของเอาไว้เล่นแก้เบื่อ นาวาไม่มีความสำคัญอะไรขนาดจะไปบงการพันเอกได้แน่นอน ชายหนุ่มคิดพลางถอนหายใจก่อนจะได้สติและพบว่าตอนนี้เขายืนอยู่เพียงลำพังโดยไร้เงาของพันเอก จะว่าไปพันเอกก็หุนหันออกมาจากร้านอาหารตั้งนานสองนานแล้วนี่นา คิดได้แบบนั้นร่างโปร่งก็มองซ้ายมองขวาเพื่อหาใครอีกคน เพียงไม่กี่วินาทีก็เห็นรถยนต์ของพันเอกจอดอยู่พร้อมกับร่างสูงของจักรที่กำลังโยกหัวพายุเล่นแล้วยกยิ้ม นาวารีบสาวเท้าเข้าไปใกล้คนทั้งคู่ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นทันที

“คุณจักรคุณยุ คุณเอกละครับ”

“อ้าว นายไม่ได้อยู่กับคุณวาหรอกเหรอครับ” พายุหันมาถามตาโต นาวาส่ายหน้าหวือก่อนจะตอบ

“ไม่ครับ ออกมาก่อนผมสักพักแล้วล่ะ ผมนึกว่านั่งรออยู่บนรถแล้วซะอีก”

“อ่า...งั้นนายก็คงไปเดินแถวๆ นี้ละมั้งครับ พี่จักร...โทรตามนายดิ้” ท้ายประโยคพายุหันไปสั่งร่างสูงของจักรด้วยใบหน้าติดจะยุ่งนิดหน่อย จักรล้วงเอามือถือขึ้นมากดตามอย่างว่าง่าย ต่อสายหาพันเอกสักพักเจ้าตัวก็ส่ายหน้า

“ปิดเครื่องครับ”

“ปกตินายไม่ปิดเครื่องนะ...มีเรื่องอะไรกันรึเปล่าครับคุณวา” พายุหันมาถามนาวา

“ก็...เหมือนว่าคนที่คุยงานด้วยจะเป็นเพื่อนเก่าของคุณเอกเขาน่ะครับ แล้วก็ทะเลาะกันนิดๆ หน่อยๆ แล้วเขาก็หุนหันเดินออกมาเลย”

“เอาไงดีพี่ ถ้านายปิดเครื่องแบบนี้มีทางเดียวคือรอแค่นั้นแหละ”

“ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น เอาอย่างนี้...แกขับรถไปส่งคุณวาที่บ้านไป แวะรับน้องณะที่โรงเรียนด้วย เดี๋ยวฉันจะรอนายอยู่นี่ จะลองเดินๆดูแถวนี้ด้วย” จักรพูดขึ้น พายุพยักหน้าก่อนจะหันมาหานาวาที่ยืนมองซ้ายมองขวาด้วยแววตาเป็นกังวล

“คุณวาครับ กลับไปรอที่บ้านก่อนดีกว่า ไปครับขึ้นรถ”

“แต่...จะดีเหรอครับ ผมว่าเราช่วยกันเดินดูแถวๆนี้ก่อนไหม”

“โถ่คุณวา นายน่ะยี่สิบแปดยี่สิบเก้าแล้วนะครับ โตเป็นควายแล้วไม่ต้องห่วงหรอกครับ กลับบ้านถูกแน่นอนรายนั้น” พายุพูดขึ้นเมื่อนาวายังยืนละล้าละหลังอยู่กับที่ แอบอมยิ้มน้อยๆกับใบหน้าฉายแววเป็นห่วงจนปิดไม่มิดของอีกคน สงสัยจริงๆว่าโลกนี้จะมีคนดีแบบนาวาอีกสักกี่คน นายเขาทั้งร้ายใส่สารพัดแต่ก็ยังมีกะจิตกะใจเป็นห่วงกันแบบนี้

“เอางั้นเหรอครับคุณพายุ” นาวาถามด้วยความไม่แน่ใจก่อนจะยอมก้าวขาขึ้นรถเมื่อลูกน้องของพันเอกยืนยันว่าพันเอกจะไม่เป็นอะไร เมื่อชายหนุ่มขึ้นไปนั่งแหมะอยู่บนรถแล้วพายุก็รีบวิ่งปุเลงๆไปประจำที่คนขับก่อนจะออกรถไปอย่างนิ่มนวล ดูไม่สะทกสะท้านผิดกับคนที่นั่งด้านหลังที่ยังขมวดคิ้วอย่างคิดไม่ตก

“คุณพันเอก คุณไปอยู่ที่ไหน”





23.47 น.

เข็มนาฬิกาบนผนังชี้บอกเวลาดึกดื่นใกล้เที่ยงคืนเต็มทีหากแต่นาวากลับไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ ร่างโปร่งมองที่ว่างข้างเตียงด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวาย พันเอกยังไม่กลับบ้าน นี่มันก็ห้าทุ่มจวนจะหกทุ่มเข้าไปแล้วแต่จักรและพายุก็ยังไม่ติดต่อมา อันที่จริงก็ถูกแล้วที่ฝ่ายนั้นจะไม่ได้แจ้งอะไรเขา มันไม่จำเป็นเลยและนาวาเองก็ไม่มีมือถือติดตัว การจะโทรเข้าบ้านในเวลาดึกดื่นเช่นนี้ก็รังแต่จะทำให้คนอื่นๆแตกตื่นกันไปหมดเสียเปล่าๆ

หลังจากที่พายุแวะรับณะโมที่โรงเรียนและมาส่งเขาที่บ้านเจ้าตัวก็ขับรถออกไป เห็นบอกว่าจะไปรอพันเอกเป็นเพื่อนจักรแล้วก็หายกันไปตั้งแต่นั้น พอบอกให้ป้าเอื้องและพระพายฟังสองคนนั้นก็ได้แต่ยักไหล่แล้วบอกว่าช่างเถอะ เมื่อก่อนพันเอกก็เป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว ก็คงหลบไปดื่มเหล้าที่ไหนสักแห่งนั่นแหละ แต่ถึงทุกคนจะบอกไม่ให้นาวาห่วงแต่เขารู้ดี ลึกๆในใจนาวาก็อดเป็นกังวลไม่ได้อยู่ดี จะว่าเป็นห่วงมันก็ใช่ ทั้งๆที่พันเอกทำร้ายเขาเอาไว้สารพัดแท้ๆแต่นาวาก็ยังนึกห่วงคนใจร้ายแบบนั้น นึกหงุดหงิดกับตัวเองเหลือเกินแต่ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายเลยเลือกที่จะขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างในห้องนอนของพันเอกเสีย

อย่าถามเชียวว่าทำไมต้องมานอนห้องของพันเอก ก็ณะโมน่ะสิ เผลอล็อคห้องแถมยังหลับไปแล้ว นาวาเคาะเรียกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิด สุดท้ายเลยต้องพาตัวเองเข้ามานั่งแหมะอยู่ในห้องพันเอกและเอาแต่จ้องนาฬิกาสลับกับที่นอนของผู้ชายคนนั้นด้วยความเป็นห่วงอยู่แบบนี้

น่าโมโหจริงๆ ทำไมต้องไปห่วงคนพรรค์นั้นด้วยก็ไม่รู้สิน่า

แกร้ก.

“อ้าวคุณวา นึกว่านอนอยู่ห้องน้องซะอีก” เสียงของพายุดังขึ้นหลังจากที่ประตูห้องนอนถูกเปิดออกโดยฝีมือของเจ้าตัว นาวาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองเจ้าของเสียง พลันดวงตากลมก็ต้องเบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจเมื่อพบว่าข้างๆพายุเป็นพันเอกที่เมาอ้อแอ้คอพับคออ่อนไม่ได้สติ

“อะไรกันครับคุณยุ ทำไมเขาถึงเมาแบบนั้นล่ะ” นาวาถามขึ้น ผวาตัวเข้าไปหาพายุแทบไม่ทันเมื่อเห็นว่าอีกคนจวนเจียนจะล้มอยู่ร่อมร่อ พายุไม่ใช่คนตัวโตมากนัก แต่ก็ไม่ได้ดูตัวเล็กจนเกินไป เพียงแต่พอมาอยู่ใกล้พันเอกซึ่งตัวสูงใหญ่กำยำเลยดูเหมือนหนูกำลังแบกราชสีห์ก็ไม่ปาน

“แอบไปนั่งกินเหล้าที่ร้านประจำน่ะครับ คงเครียด คุณวาช่วยผมพยุงนายไปนอนบนเตียงหน่อย” พายุเอ่ย เขากำลังจะวูบแล้ว ก็เจ้านายน่ะตัวหนักน้อยเสียเมื่อไหร่ พาขึ้นบันไดมาได้ก็ถือว่าเป็นโชคมากเต็มที

“อ่า...ผมฝากคุณวารับช่วงต่อได้ไหม ผมโคตรง่วงเลยง่ะ” พายุพูดขอขึ้นอย่างเกรงๆ นาวาหันไปมองตาปรือๆของบอดี้การ์ดคนเก่งแล้วก็ยกยิ้มละไมพลางพยักหน้า พายุหัวเราะแหยๆก่อนจะขอโทษเล็กน้อยแล้วก็รีบเดินขยี้หูขยี้ตาเป็นเด็กๆออกจากห้องไป

ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบเมื่อประตูห้องนอนปิดลง นาวามองคนที่นอนหลับอยู่ตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ไม่นานเขาก็ออกมาพร้อมกับผ้าชุบน้ำหมาดๆและนำมันมาซับใบหน้าและลำคอของพันเอกเบาๆพอให้อีกคนได้หลับสบาย นาวาคิดว่าพันเอกหลับสนิทไปแล้วหากแต่เขาคิดผิด เพราะทันทีที่ผ้าชุบน้ำแตะลงบนแก้มของอีกคนร่างสูงที่เขานึกว่าหลับก็ลืมตาขึ้นมาอย่างรวดเร็วก่อนจะกระชากร่างของเขาลงไปนอนราบกับเตียงนอนพลางเคลื่อนกายขึ้นมาคร่อมทับนาวาเอาไว้ทั้งตัว

“ค...คุณ!!” นาวาอุทานเสียงหลงขณะจ้องตากับคนเมาตรงหน้า พันเอกกดข้อมือขาวลงจนแทบจะจมกับเตียงนอนก่อนจะหอบหายใจอย่างรุนแรง ลมหายใจร้อนผ่าวเจือกลิ่นฉุนจัดของแอลกอฮอล์บอกได้เป็นอย่างดีว่าพันเอกนั้นดื่มหนักมากแค่ไหน

“คุณเอก ปล่อยผมแล้วนอนลงดีๆ” ร่างโปร่งพูดขึ้น พยายามจะดิ้นหนีหากแต่แรงของคนด้านบนก็มีมากเกินกว่าที่เขาจะสามารถพาตัวเองให้หลุดพ้นออกมาได้ นาวามองเครื่องหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่นก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อพันเอกก้มลงแตะจมูกลงบนซอกคอของเขา

“คุณเอก! ปล่อย คุณเมามากแล้วนะครับ” ร่างโปร่งเอ่ยประท้วงก่อนจะเริ่มดิ้นหากแต่ก็ถูกพันเอกออกแรงตรึงร่างเอาไว้แน่นพร้อมกับเสียงคำรามในลำคอของคนเมา

“หยุดทำตัวน่ารำคาญเสียที!” พันเอกบริภาษดวงตาวาวโรจน์แดงก่ำ นาวาขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

“คุณเอก คุณเมามากแล้วนะ สติคุณไม่มีแล้ว นอนเถอะ”

“หุบปาก!”

“...”

“เกลียด ไอ้พวกกลทีบ์ ไอ้เลวระยำ แม่งชั่วกันหมด หักหลังฉัน ได้ยินไหมนาวา! มันหักหลังฉัน” พันเอกตะโกนกร้าวอย่างไร้สติ นาวาเม้มปากแน่นกับดวงตาฉายแววเจ็บปวดนั้น แม้ว่าน้ำเสียงและถ้อยคำจะดูหวาดหวั่นน่ากริ่งเกรงแค่ไหนหากแต่ดวงตาของชายหนุ่มตรงหน้าของเขาฉายชัดทุกความรู้สึก เปิดเปลือยทุกความเจ็บปวดจนนาวาใจกระตุก

พันเอกก็คงไม่ต่างอะไรไปจากเขา สูญเสียครอบครัว ต้องเป็นหัวหลักดูแลน้องๆ แต่ที่แย่กว่าคือพ่อแม่ของคนตรงหน้าถูกเพื่อนสนิทฆ่าตาย ขนาดนาวาที่ถูกอุบัติเหตุพรากครอบครัวไปยังใจแทบขาด แล้วคนที่พ่อแม่ถูกฆ่าจะรู้สึกยังไง

พันเอกเติบโตมาได้ยังไง พระพายเติบโตมาในรูปแบบไหน

ลึกๆ แล้วแก่นแท้ของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไรกันแน่ จะเป็นเพียงชายหนุ่มขี้เหงาผู้สูญเสียทุกๆสิ่งในชีวิตไป สูญสิ้นซึ่งศรัทธา หรือจริงๆแล้วเป็นพันเอกผู้ร้ายกาจอย่างที่แสดงออก ไม่รู้ นาวาไม่รู้และมองไม่ออกเลยสักนิด

แต่สิ่งเดียวที่เขารู้ในตอนนี้คือบาดแผลในใจของพันเอกถูกสะกิดเข้าเสียแล้ว

“ฉันจะทำให้ไอ้รามมันลืมไม่ลงเลยว่าความทรมานเจียนตายมันเป็นยังไง ฉันจะทำให้นายเป็นของฉัน ทั้งตัวและหัวใจ จะแย่งมันมาให้หมด นายเป็นของฉัน ของของฉัน คนของฉัน...ของฉันแค่คนเดียวนาวา เป็นของฉันแค่คนเดียว” พันเอกประกาศกร้าวต่อหน้าเขาก่อนจะโฉบใบหน้าลงมาบดขยี้ริมฝีปากของนาวาเต็มแรง ร่างโปร่งครางอื้ออึงพลางดิ้นหนี สองมือยกขึ้นผลักไสกำแพงเนื้อตรงหน้า

“อื้อ...คุ...อย่า” นาวาวอนเสียงแผ่วหากแต่อีกฝ่ายกลับจู่โจมเขาด้วยความรุนแรงราวกับพายุโหมกระหน่ำ พันเอกถูกฤทธิ์สุรากลืนกินสติสัมปชัญญะไปจนแทบหมดสิ้น เขาว่ากันว่าน้ำเมาสามารถปลุกจิตสำนึกของคนได้ดูท่าจะจริง ตอนนี้ชายหนุ่มพรั่งพรูความเจ็บแค้นและอดีตอันทุกข์ทรมานออกมาจนหมดก่อนจะระบายทุกอย่างลงบนร่างโปร่งของนาวาอย่างไร้ความปราณี นาวากรีดร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ แต่เขาก็ชินกับมันเสียแล้ว ครั้งแรกที่ถูกทำร้ายมันเจ็บกว่านี้หลายเท่านัก ร่างโปร่งนอนนิ่งขณะจ้องโครงหน้าได้รูปของคนที่กำลังเหยียบย่ำความเป็นคนของเขาอย่างรุนแรงก่อนจะหลับตาลงและเบือนหน้าหนี

ทำซะให้พอพันเอก ทำร้ายเขาเสียให้พอ ก่อนที่ความอดทนของเขาจะหมดสิ้นลง...
.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : CHAPTER 10 //P.4// (29/11/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 16-12-2014 17:35:48

ร่างสูงโปร่งพลิกตัวหันหลังทันทีที่พันเอกถอนร่างออกไปจากกาย นาวาไม่พูดอะไรนอกเสียจากถอนหายใจก่อนจะนิ่วหน้า รู้สึกชาไปทั่วทั้งเชิงกรานและสะโพก พันเอกไม่ยั้งแรงกับร่างกายของเขาเลยแม้แต่น้อย กลับกันผู้ชายคนนี้กลับทำเหมือนนาวาเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิตที่เจ็บปวดไม่เป็นเสียอย่างนั้น

“นายนี่มันโง่กว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลยนาวา มีโอกาสหนีแท้ๆแต่ก็ยังกลับมา” พันเอกเอ่ยขึ้นหลังจากระบายความกรุ่นโกรธจนพอใจแล้ว นาวาถูกมือของอีกคนพลิกให้กลับไปสบตาด้วย ร่างโปร่งหลบสายตาของอีกคนก่อนจะตอบเสียงแหบแห้ง

“ผม...ทิ้งณะโมไปไหนไม่ได้ คุณก็รู้”

“หึ โง่เอ๊ย” ร่างสูงแค่นหัวเราะก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป นาวามองตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าแกร่งกำยำของอีกคนพลางเม้มปากแน่น จะให้เขาบอกยังไงว่านอกจากจะทิ้งน้องไม่ลงแล้ว นาวากลับรู้สึกว่าเขาปล่อยให้พันเอกเจ็บปวดกับความแค้นครั้งนี้เพียงลำพังไม่ได้ พันเอกเลวร้าย ข้อนี้นาวารับรู้ดี พันเอกเลือดเย็นและไร้ความปราณี ข้อนี้นาวาเองก็พบเจอมากับตัวแล้ว ถูกอีกฝ่ายทำร้ายจิตใจและร่างกายสารพัดจนแทบจะทนไม่ไหวในบางครั้ง สิ่งเหล่านี้ที่นาวาเจอควรทำให้เขาเกลียดพันเอกสิ เขาควรจะเกลียดชังคนที่เห็นเขาเป็นเพียงหมากตัวหนึ่งในการแก้แค้น แต่ทว่านาวากลับรู้สึกต่อพันเอกมากกว่านั้น มันเป็นความรู้สึกที่ถูกจุดขึ้นมาควบคู่กับความหวาดกลัวและเกลียดชัง

ความสงสารเห็นใจ

พันเอกเองใช่ว่าจะไม่เคยมีอดีตที่แสนเจ็บปวด ชายคนนั้นเจอความเลวร้ายมากกว่าที่นาวาเจอมาหลายเท่าตัวนัก แต่เพราะเจ้าตัวเลือกที่จะแสดงออกแบบผิดๆโดยใช้การแก้แค้นแทนการปล่อยวางและใช้เหตุผลจึงทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้

หากถามว่านาวาเกลียดพันเอกมากไหม เขาตอบได้เลยว่าเกลียด แต่หากถามว่าเกลียดมากแค่ไหน มากพอที่จะแช่งชักหักกระดูกหรือไม่ใยดีเลยรึเปล่า ข้อนี้เขาตอบไม่ได้

ทางด้านพันเอกเองหลังจากที่พ่นวาจาหยาบคายว่าร้ายใส่ร่างที่นอนอยู่บนเตียงเขาก็เดินหลบเข้ามาในห้องน้ำ ไม่อยากจะอยู่มองหน้านาวาให้หงุดหงิดมากกว่าเดิมสักเท่าใดนัก เขาไม่เข้าใจนาวาเลยสิน่า ทำไม...ทั้งๆที่แน่ใจว่าสิบตรีต้องยื่นข้อเสนอพานาวาหนีแต่ทำไมเจ้าตัวถึงยังอยู่ ทำไมถึงยังกลับมาแถมยังมาอยู่ในห้องนอนของเขา เกลียดเขามากไม่ใช่หรอกหรือ ขยะแขยงและอยากจะอยู่ห่างๆเขามากแล้วทำไมถึงยังมาดูแลกันแบบนี้ บอกตามตรงว่าพันเอกสับสน ยังมีคนแบบนาวาอยู่อีกงั้นหรือ

“เหี้ยเอ๊ย...” ชายหนุ่มสบถเสียงเบากับตัวเอง มือข้างหนึ่งยกขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิดและสับสน นึกไม่ถึงจริงๆว่านาวาจะทนไม้ทนมือเขาขนาดนี้ แน่ล่ะพอมาคิดดูดีๆแล้วเขาก็พอจะเข้าใจ เหตุผลหลักๆที่เจ้าตัวยังไม่ไปไหนก็เพราะณะโมยังอยู่บ้านเขา นาวารักน้องชายมากเสียจนทิ้งไปไหนไม่ได้ หวงแหนน้องจนยอมสละความสุขของตัวเอง ข้อนี้พันเอกพอเข้าใจ แต่การตามมาดูแลเขาแบบนี้ทำไมต้องทำ นั่นละที่เขาไม่เข้าใจ หากเป็นเขาถ้าโดนทำร้ายสารพัดแน่นอนว่าพันเอกไม่มีวันเข้าใกล้คนที่ทำให้ตนเจ็บปวดเจียนตายหรอก

ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว สุดท้ายจึงเลือกที่จะอาบน้ำชำระร่างกายให้สร่างเมาและไล่ความหงุดหงิดงุ่นง่านออกจากหัวใจ ปล่อยให้สายน้ำเย็นๆไหลชโลมไปทั่วร่าง ขับไล่ความร้อนรุ่มออกไปก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันเอวและก้าวออกจากห้องน้ำ เมื่ออกมาก็พบว่านาวากำลังค่อยๆตวัดกายลงนั่งข้างเตียง แผ่นหลังขาวผ่องสะท้อนแสงไฟพาให้คนมองรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ยามเมามายพันเอกเซ็กซ์จัดมากกว่าปกติเป็นเท่าตัวอยู่แล้ว ยิ่งมีอารมณ์กรุ่นโกรธผสมปนเปอยู่ในนั้นการร่วมรักเพียงรอบเดียวมันจึงไม่เพียงพอ แต่กระนั้นเขาก็ไม่คิดจะทารุณร่างโปร่งตรงหน้าไปมากกว่านี้

“จะไปไหน” พันเอกเอ่ยถาม เดินตรงเข้าไปหาร่างเปล่าเปลือยที่กำลังยืนขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะรีบคว้าเอวของอีกคนเอาไว้เมื่อนาวาผวาจะล้มลงไปนั่งจุ้มปุ๊กกับเตียงอีกรอบ

“ฉันถามว่าจะไปไหน หูหนวกหรือไง” ร่างสูงถามย้ำเสียงดุ นาวาเบนหน้าหนีก่อนจะตอบเสียงเบา

“อาบน้ำครับ”

“งั้นกอดคอ”

“เอ๋?”

“กอดคอฉันเอาไว้” พันเอกสั่งเสียงเข้มหากแต่อีกคนยังทำหน้างุนงงจนร่างสูงขัดใจ ชายหนุ่มชักสีหน้าใส่นาวาก่อนจะย่อตัวลงเล็กน้อยและช้อนร่างโปร่งขึ้นอุ้มและเดินตรงไปยังห้องน้ำในขณะที่นาวาผวากอดคออีกคนเอาไว้แทบไม่ทัน

“ค...คุณเอก! ผมเดินเองได้”

“ปากดี” ร่างสูงพูดเพียงเท่านั้นนาวาก็หุบปากฉับ พันเอกพาร่างโปร่งเข้ามาภายในห้องน้ำก่อนจะปล่อยนาวาลงช้าๆพร้อมกับคอยพยุงร่างโปร่งตลอดเวลาที่นาวาล้างตัว นาวาทำหน้าไม่ถูกเมื่อเจอสายตาคมคอยจ้องมองทุกการกระทำ ในใจบอกตัวเองว่าไม่ต้องอายอะไรอีกแล้วเพราะพันเอกทำมากกว่าเห็นเสียด้วยซ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อดจะหน้าร้อนผ่าวไม่ได้ ยิ่งเมื่อร่างกำยำของอีกคนขยับเข้ามาประชิดพร้อมกับกระชับเอวของเขาเอาไว้แน่นพลางสอดนิ้วเข้ามาในช่องทางด้านหลังเพื่อทำความสะอาดร่างโปร่งก็ยิ่งอายหนัก

“อ่ะ...คุณเอก...เบาหน่อยครับผมเจ็บ” นาวาประท้วงเสียงเบาเมื่อถูกอีกฝ่ายกระแทกนิ้วเข้าหาอย่างแรง พันเอกก้มมองคนที่กำลังหน้าแดงก่ำพลางจุดยิ้มเล็กน้อยก่อนจะควานนิ้วไปทั่วโพรงอ่อนนุ่มของอีกคนและกวาดเอาน้ำรักของเขาออกมา นาวาร้องฮือในลำคอเมื่อถูกแกล้ง ขาขาวชาไปทั้งแถบในขณะที่ร่างกายสั่นระริก ได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจข้างใบหูก่อนพันเอกจะหยุดแกล้งเขาและปล่อยให้นาวาล้างตัวอีกรอบอย่างสงบก่อนจะออกจากห้องไป ไม่นานนาวาก็ตามออกมาพบว่าพันเอกนอนคว่ำหน้าผล็อยหลับไปแล้ว ร่างโปร่งเดินไปแต่งตัวอย่างเงียบๆก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียงและปีนขึ้นไปล้มตัวลงนอน หันหลังและขยับให้ห่างจากเจ้าของเตียงมากที่สุดก่อนจะหลับตาลง

แต่เพียงไม่นานนาวาก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเขาถูกวงแขนแกร่งของพันเอกคว้าเอวเอาไว้และดึงเข้าไปใกล้ แผ่นหลังของนาวาแนบติดอยู่กับแผ่นอกของอีกคน ร่างสูงกอดนาวาแน่นก่อนจะขยับใบหน้าเข้าคลอเคลียอยู่บริเวณหลังคอพลางกระซิบเสียงเบาหวิว

“หลับซะ”

ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้พันเอกเลือกที่จะพูดกับเขาแบบนี้ เพียงสองคำกับน้ำเสียงราบเรียบก็ทำเอานาวาสั่นสะท้านในอก อ้อมกอดของพันเอกไม่อบอุ่น นาวาปฏิเสธมันมาตลอดแต่ในวันนี้กลับยอมให้อีกคนดึงไปกอดง่ายๆ เพียงแค่ได้รู้อดีตบางส่วนของคนคนนี้กลับทำเอานาวาใจอ่อนยวบ

ไม่ดี...แบบนี้มันไม่ดีเลย

ดูท่าว่าตอนนี้หัวใจของเขา...เริ่มจะทรยศเจ้าของมันเสียแล้ว





แสงแดดอ่อนๆลอดผ่านรอยแยกของผ้าม่านส่องเข้ามากระทบลงบนใบหน้าขาวของคนที่กำลังหลับใหล ท่าทางราวกับเด็กน้อยดูน่าเอ็นดูยิ่งนักในความคิดของคนที่ลืมตาตื่นขึ้นมาก่อน พันเอกนอนมองคนในอ้อมกอดเงียบๆ ไล่สายตาไปตามโครงหน้ากึ่งหล่อเหลาและกึ่งหวานสวยที่ผสมเข้ากันอย่างลงตัวของอีกคน แพขนตาเรียงตัวสวยกับเปลือกตาปิดสนิทพาให้ชายหนุ่มก้มตัวลงแตะริมฝีปากลงบนเปลือกตาข้างหนึ่งของนาวาอย่างลืมตัว คลอเคลียกลีบปากสีชาดกับผิวเนื้อบนเปลือกตาของอีกคนด้วยความเผลอไผลก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงครางอืออาดังลอดออกมาจากร่างของคนที่นอนหลับอยู่

“อื้อ...”

พันเอกละใบหน้าออกห่างทันทีเมื่อตั้งสติได้ก่อนจะขมวดคิ้วพลางถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ชายหนุ่มมองใบหน้าของคนข้างกายด้วยแววตาอ่านไม่ออกอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ ขยับตัวก้าวขาลงจากเตียงแล้วเดินหายลับเข้าไปในห้องน้ำในที่สุด

คล้อยหลังร่างสูงของพันเอกไปได้ไม่นานนาวาก็ลืมตาตื่น ร่างโปร่งบิดขี้เกียจเล็กน้อยพลางมองที่ว่างข้างเตียงก่อนจะโล่งอกที่เห็นว่าอีกคนลุกออกไปแล้ว นาวาก้าวลงจากเตียงพลางนิ่วใบหน้าด้วยความเจ็บเสียดไปทั่วร่างเป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก สองร่างสบตากันนิ่งๆก่อนที่พันเอกจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีและเดินเลี่ยงไปยังห้องแต่งตัว นาวามองตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นความเงียบงันที่อีกฝ่ายส่งมาให้ก่อนจะเม้มปากอย่างครุ่นคิด นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วก็หน้าร้อนวูบ พันเอกยังคงรุนแรงกับร่างของเขาไม่เปลี่ยนหากแต่กลับมีบางสิ่งบางอย่างแปลกไป

แปลกทั้งตัวเขาและตัวพันเอกเองด้วย

“นาวา...”

“...”

“นาวา”

“...”

“นาวา”

“...”

“วา!!!”

“ค...ครับ!” ร่างโปร่งสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงตะโกนดังออกมาจากห้องแต่งตัว

“มานี่หน่อย” เสียงของพันเอกดังขึ้นราบเรียบ นาวาจึงลุกขึ้นเดินไปคว้าเสื้อคลุมอาบน้ำขึ้นมาสวมก่อนจะเดินไปหาอีกคนที่ห้องแต่งตัว พันเอกปรายตามองร่างโปร่งเพียงชั่วครู่ก่อนจะยื่นเน็คไทด์ไปตรงหน้า

“แต่งตัวให้ฉันหน่อย” ร่างสูงพูดเสียงราบเรียบ นาวาอึกอักทันที ดวงตากลมล่อกแล่กเสียจนพันเอกเริ่มจะหงุดหงิด

“เอ่อ”

“ได้ไหม?” ชายหนุ่มถามย้ำก่อนจะสบตากับร่างโปร่งนิ่ง นาวาพยักหน้าแผ่วเบาก่อนจะรับเน็คไทด์มาพาดเอาไว้ที่แขนขาว ขาเรียวก้าวเข้าไปประจันหน้ากับร่างสูงแกร่งกำยำก่อนที่มือทั้งสองข้างจะยกขึ้นมาแตะลงที่รังดุมของเสื้อเชิ้ตที่ยังไม่ทันได้ติด พันเอกก้มลงมองคนตัวเล็กกว่าที่กำลังค่อยๆติดกระดุมให้เขาด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ใบหน้าของนาวาจดจ่ออยู่กับเสื้อเชิ้ตบนตัวของเขา จนเมื่อกระดุมเม็ดบนสุดถูกติดเรียบร้อยร่างโปร่งจึงถอยหลังเล็กน้อยและคว้าเน็คไทด์ขึ้นมาคล้องคอของอีกฝ่ายเอาไว้และเริ่มต้นผูกด้วยใบหน้าราบเรียบ ไม่นานกลีบปากสีเนื้อก็ขยับเอ่ยออกมาเป็นคำพูดเรียกสติของพันเอกให้หวนคืน

“เสร็จแล้วครับ”

“อะ...อืม”

“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว งั้นผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ” นาวาพูดขึ้นเร็วๆพร้อมกับหมุนตัวเดินหนี ใบหน้าสีซีดขาวร้อนผ่าว ยังรับรู้ได้ถึงลมหายใจของพันเอกที่เป่ารดใบหน้า ชายหนุ่มคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วรีบตรงดิ่งเข้าห้องน้ำก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นทันทีที่ประตูปิดลงพร้อมกับถอนหายใจ

ให้ตายเถอะนาวา เขาแค่ทำดีด้วยนิดๆหน่อยๆก็อ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟแบบนี้อีกไม่นานต้องแย่แน่ๆ สิ่งที่พันเอกพูดเอาไว้นั้นไม่ผิดเลย เขาโง่มาก ทั้งๆที่มีโอกาสหนีแล้วแต่ก็ยังอยู่ แบบนี้มีแต่คนโง่เท่านั้นที่ทำกัน

โง่...นาวาโง่มากจริงๆ



โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 16-12-2014 18:02:47
 :katai2-1:  โล่งอกขึ้นมานืดนึง หวั่นไหวกันบ้างเนาะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 16-12-2014 18:51:32
หวั่นไหว ไหวหวั่น :hao3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 16-12-2014 19:23:24
หวานแบบเถื่อนๆ  เขิลจุงงง  :impress2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 16-12-2014 19:41:44
แอบหวาน  :o8: เฮียเอกก็ลดความโหดลงหน่อย เค้ากลัวแทนนาวา  :sad4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: hanahana ที่ 16-12-2014 20:15:40
เหมือนจะแอบหวานกันแบบ  หลบๆ หน่วงๆหนักๆ บีบใจดี เหมือนจะสุขก็ยังสุขไม่สุด55
พันเอกเหมือนจะคิดได้แล้วหน่อยนึง ดีใจด้วยน่ะนายอย่างน้อยก็ยังคิดได้บ้างนิดนึงก็ยังดี
อยู่ในช่วงต่างคนก็ต่างหวั่นไหว สู้กับหัวใจกันต่อไป จะเอาใจช่วยอยู่ตรงมุมนี้น่ะ55555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 16-12-2014 20:53:50
หวั่นไหวด้วยคน  :o8:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 16-12-2014 21:10:31
มารอกัน อิตาพันเอกจะคิดได้กี่ตอนนนนน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 16-12-2014 21:19:46
รอๆช่วงปลดปล่อยสวัสดิกะจร้าาาาา
ขอแบบที่มีพลังทำลายล้างสูงนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 16-12-2014 22:28:07
ก็หวังว่าจะค่อย ๆ หวานกันไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 16-12-2014 23:32:39
อยากรู้ความจริง มันต้องมีอะไรแน่ๆ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 17-12-2014 00:16:12
มาให้กำลังใจจ้า

กำลังตามอ่านอยู่
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 17-12-2014 01:42:29
โถๆ คุณพันเอกกก

โง่ๆๆๆ อย่ามมาปกปิดความรู้สึก เรารู้หรอกนะ ว่านายด่ากลบเกลื่อน 555

ติดตามต่อเน้อออ
ขอบคุณมากนะคะะ เป้นกำลังใจให้ ฮรึบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 17-12-2014 04:39:27
พันเอกแม่งงงง ไม่รู้จะด่าคำไหนดี
สงสารวาโคตรๆๆ รอวาปลดปล่อย บึ้มเป็นโกโก้ครันช์ 555555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 17-12-2014 08:15:44
มีความรู้สึกอื่นเกิดขึ้นมา อีกไม่นานคงจะรักกัน ตอนนี้เอาแบบไม่รู้ตัวกันไปก่อน

เข้าใจน้องวานะ ดีใจที่น้องยังคงอยู่เคียงข้างพันเอก เชื่อว่าน้องจะล้างจิตใจของเขาได้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 17-12-2014 10:04:35
 :o8: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 17-12-2014 10:39:04
พันเอกมันบ้า+โง่+เลว  :serius2: วาเมื่อไรจะมีความสุขละเนี่ย ไม่ไว้ใจการกระทำของพันเอกเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 17-12-2014 11:17:15
 :angry2: วาเอ้ยยยย เล่นตัวหน่อยสิลูก อย่าเพิ่งไปมีใจกับมันง่ายๆ  เล่นงานมันให้หนักๆหน่อยไอ้พระเอกเลวๆเนี่ย  :m31:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 17-12-2014 21:31:21
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Linea-Lucifer ที่ 17-12-2014 21:42:06
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
ชอบโมเม้นท์แบบนี้วววว
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 17-12-2014 23:36:41
ตอนนี้มีออร่าละมุนหัวใจแปลกๆ ชอบอ่ะ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-12-2014 00:26:00
เรื่องมันเป็นแบบนี้นี่เอง

ก็น่าเห็นใจทุกคนนะ

เพียงแต่วิธีการที่เลือกทำไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง

อ่านมาถึงตอนที่11แล้ว

ยังหาไม่เจอเลยว่าพระเอกกับนายเอกจะรักกันได้ยังไง

งั้นรออ่านตอนต่อไปจ้า

ปล อ่านทันแล้วจ้า
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-12-2014 22:54:36
มารออ่านจ้า

แบบว่าติดใจแล้ว

รอๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 19-12-2014 23:45:25
อินังเอกเริ่มแล้วๆ ใจเริ่มเขวแว้ววว ฮะฮ่า!:laugh:
น้องวาอย่าลืมเล่นตัวนะลูก เดี๋ยวนังเอกมันได้ใจ หึ!!
จะเป็นยังไงต่อไปน้อ :hao3: :z2: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: AoMSiN555 ที่ 20-12-2014 10:54:26
รออยู่นะ ติดตามๆ  :impress2: :impress2: สู้ๆละ   :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 02-01-2015 15:58:31
 :เฮ้อ:  หายไปนานจัง คิดถึงอ่ะ  :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 12-01-2015 18:24:00
ตอนที่ ๑๒ : หึงหวง



“ป้าเอื้องครับ รบกวนจดรายการของใช้ที่หมดแล้วหน่อยได้ไหมครับ พอดีผมจะออกไปซื้อของซักหน่อยน่ะ” เสียงของนาวาดังขึ้นด้านหลังทำให้เอื้องคำที่กำลังล้างจานอยู่ถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย หญิงสูงวัยเอี้ยวตัวกลับไปมองร่างโปร่งในชุดลำลองสีอ่อนสบายตาที่ยืนถือกระดาษกับปากกาจ้องหล่อนตาแป๋วแล้วก็ได้แต่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ

“อุ๊ย เดี๋ยวป้าไปเองดีกว่าค่ะคุณวา วันนี้วันหยุด คุณพักผ่อนกับคุณณะดีกว่านะคะ”

“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับป้า พอดีของใช้ผมกับ...เอ่อ...กับของคุณเอกหมดพอดีน่ะครับ” นาวาพูดเสียงอ้อมแอ้ม ซ่อนสีแดงจางๆที่แต้มอยู่บนแก้มขาว เอื้องคำนิ่งงันไปชั่วครูก่อนจะพยายามมองหาแววตาหม่นหมองภายในดวงตากลมของอีกคนแต่ทว่ากลับพบเพียงแต่แววของความขวยเขินเสียจนน่าแปลกใจ

“เอ่อ...เอางั้นเหรอคะ”

“ครับ” นาวาพยักหน้าหงึกหงัก เอื้องคำจึงรีบล้างไม้ล้างมือพลางเช็ดมือเสียให้แห้งก่อนจะรับกระดาษและปากกาในมือนาวามานั่งเขียน นาวาเห็นดังนั้นจึงเดินอ้อมไปยังอ่างล้างจานก่อนจะลงมือทำงานต่อจากเอื้องคำอย่างเงียบๆ เสียงเปิดน้ำและเสียงกุกกักที่ดังขึ้นทำเอาหญิงสูงวัยเงยหน้าขึ้นไปมองก่อนจะลอบอมยิ้มเมื่อเห็นนาวากำลังขะมักเขม้นล้างจานต่อจากหล่อน จะไม่ให้เอ็นดูสองพี่น้องตระกูลชนกันต์ยังไงไหวก็ในเมื่อแต่ละคนกริยามารยาทนั้นงดงามไม่ต่างจากกุลสตรี แม้ประมุขของบ้านจะใจดำสารพัดแต่นาวาก็ยังปฏิบัติตัวดีอยู่เสมอ ไม่แปลกที่ทุกคนในบ้านจะรักและเอ็นดูนาวากับณะโมไม่น้อย

ยกเว้นก็แต่เจ้าของบ้านนั่นแหละ

เอื้องคำคิดพลางส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจ แต่แล้วหล่อนก็ต้องชะงักเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของพันเอกกำลังยืนพิงกรอบประตูจ้องมองแผ่นหลังของนาวาด้วยสายตาราบเรียบแต่แฝงความเอ็นดูเอาไว้แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม พันเอกทอดสายตามองร่างโปร่งที่กำลังยุกยิกอย่างเงียบๆพลางยกยิ้มมุมปากด้วยความลืมตัวก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเอื้องคำมองอยู่ คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิดเล็กๆที่ถูกจับได้ว่าแอบมองเชลยแค้นด้วยสายตาแปลกๆแบบไหน ชายหนุ่มแสร้งทำตาดุใส่หัวหน้าแม่บ้านที่เคารพนับถือก่อนจะหมุนตัวแล้วเดินหนีไป คนมองตามได้แต่แปลกใจกับท่าทีอ่อนลงไปมากของพันเอกก่อนจะหันไปมองแผ่นหลังของนาวาอีกครั้ง

มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างพันเอกกับนาวากัน?

นาวากลับขึ้นมาบนห้องนอนอีกครั้งพร้อมด้วยกระดาษที่มีรายการของใช้ที่จำเป็นต้องซื้อเสียยาวเหยียด ร่างโปร่งเงยหน้ามองนาฬิกาบนผนังบอกเวลาแปดโมงเช้า อีกชั่วโมงกว่าๆห้างถึงจะเปิด นาวาจึงคิดจะลงไปช่วยป้าเอื้องดูแลความเรียบร้อยภายในบ้านและเรือนคนงานด้านหลังเสียหน่อย

แต่ยังไม่ทันจะได้ออกไปไหน เจ้าของห้องก็ก้าวเท้าออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่มีหยดน้ำเกาะพราวทั่วลำตัวเปลือยเปล่าและเส้นผมสีดำสนิท นาวาสบตากับพันเอกชั่วครู่ก่อนจะหมุนตัวเดินหนีทว่าพันเอกกลับรีบขัดขึ้นมาก่อน

“จะไปไหน” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงราบเรียบ จ้องมองแผ่นหลังในชุดลำลองดูดีเข้ากับเจ้าตัวด้วยความรู้สึกสับสนเล็กๆในใจ จะเรียกนาวาเอาไว้ทำไมนักหนา พันเอกได้แต่ถามตัวเอง

“ลงไปช่วยงานป้าเอื้องครับ” นาวาตอบ ยังคงยืนหันหลังให้พันเอกอยู่อย่างนั้น

“ค่อยไป มาช่วยฉันแต่งตัวหน่อย” เจ้าของห้องสั่งเสียงเฉียบขาด นาวาหมุนตัวกลับทำท่าจะแย้งแต่ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใดๆจึงทำได้เพียงแต่หมุนตัวเดินเข้าห้องแต่งตัวและหยิบชุดออกมาจากตู้เสื้อผ้าอย่างเงียบๆ ทางด้านพันเอกเองเมื่อเห็นอีกคนทำตามอย่างไม่อิดออดก็ยกยิ้ม สองขาก้าวเดินตามหลังของนาวาไปอย่างเงียบๆก่อนจะหยุดมองอีกคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าสำหรับวันหยุดให้เขาไม่พูดไม่จา

“ช่วงสายเห็นว่าจะไปซื้อของที่ห้าง” พันเอกเอ่ยขึ้น นาวาชะงักนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะตอบรับเสียงเบา

“ครับ ของใช้หลายอย่างในห้องนี้หมด ของณะโมก็หมด แล้วก็ของหลายอย่างของบรรดาแม่บ้านแล้วก็ที่เรือนพักบอดี้การ์ดด้วยครับ”

“แล้วมีเยอะไหม” พันเอกถามขึ้นเมื่อนาวาพูดจบ นาวาหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนกอดอกพิงหลังกับตู้เสื้อผ้าอีกตัวก่อนจะพยักหน้า

“ก็...ค่อนข้างเยอะครับ”

“อืม งั้นฉันจะไปด้วย” พันเอกพูดขึ้น นาเบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อยอย่างแปลกใจก่อนจะตั้งสติได้รีบปฏิเสธอีกคนเป็นพัลวัน

“ไม่เป็นไรครับ ผมออกไปกับคุณจักรหรือคุณพายุดีกว่า” นาวาพูดขึ้น พันเอกได้ยินคำตอบของอีกคนก็ทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน

“เดี๋ยวนี้ดูนายจะสนิทกับลูกน้องของฉันเหลือเกินนะ ไปทำอีท่าไหนล่ะไอ้ยุมันถึงได้ร้องหาซะเหลือเกิน”

“...”

“อย่าลืมว่าบ้านนี้ฉันมีสิทธ์ทุกอย่าง อีกอย่างฉันเองก็อยากไปเดินดูของใช้ของตัวเองเหมือนกัน เพราะงั้นวันนี้ฉันจะไปกับนายด้วย นายคงไม่ว่าอะไรหรอกใช่ไหม หืม?” พันเอกถามกลับพร้อมกับเอียงคอแสยะยิ้ม นาวาได้แต่ลอบถอนหายใจก่อนจะตอบรับเสียงแผ่วเบา

“แล้วแต่คุณเลยเถอะ”

“อืม ก่อนอื่นมาทำหน้าที่เมียที่ดีหน่อย ต่อไปนี้หน้าที่นายในทุกเช้าคือแต่งตัวให้ฉัน เข้าใจไหม” พันเอกออกคำสั่ง นาวาได้ยินก็ขมวดคิ้วฉับด้วยความไม่พอใจก่อนจะเถียงอย่างลืมตัว

“คุณก็มีมือมีเท้า แต่งตัวเองแค่นี้ไม่น่าจะยากนี่ครับ”

“อยากให้เมียแต่งให้ นายมีปัญหาอะไรไหม” พันเอกยียวนกลับมาด้วยสีหน้าราบเรียบแต่นาวากลับหน้าบึ้ง

“มีแน่คุณเอก ก็คนที่เป็นเมียคุณคือผมนี่ไง ถ้าวันไหนคุณต้องตื่นแต่ดึกผมไม่ต้องแหกตาขึ้นมาแต่งตัวให้คุณตลอดเลยหรือไง เรื่องแค่นี้ทำเองก็ได้นี่นา!” นาวาเผลอขึ้นเสียงอย่างลืมตัว พันเอกเลิกคิ้วกับประโยคของร่างโปร่งที่เถียงเขาฉอดๆก่อนจะยกยิ้ม รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

“รู้ตัวด้วยเหรอว่านายเป็นอะไรกับฉันน่ะ หึหึหึ” ร่างสูงเอ่ยขึ้น นาวากำลังจะอ้าปากเถียงอีกครั้งก่อนจะนึกได้ว่าก่อนหน้านี้พูดอะไรออกไป ริมฝีปากอวบอิ่มปิดฉับพลางเม้มแน่น แก้มสองข้างแดงระเรื่องแต้มเฉดสีของความเขินอายดูน่ามอง พันเอกก้าวเดินเข้าไปประชิดกับร่างโปร่งของนาวาก่อนจะคว้าเอวของอีกคนไว้แน่น ดึงนาวาเข้ามาปะทะกับแผงอกกำยำพร้อมกับคลอเคลียจมูกกับแก้มนุ่มนิ่มแดงระเรื่อของอีกคน

“อย่ายั่วกันให้มากนักนาวา ความอดทนของฉันที่จะไม่จับนายเมคเลิฟหน้าตู้เสื้อผ้ามันต่ำนะรู้เอาไว้ด้วย”

“อื้อ...คุณเอก ยะ...อย่า” นาวารีบร้องประท้วงพลางเบือนหน้าหนี พันเอกขยับจมูกตามความหอมหวานของอีกคนก่อนจะกดลงบนแก้มของนาวาแรงๆและสูดดมความหอมฟอดใหญ่ นาวาใจสั่นระริกกับท่าทีจู่โจมที่ไร้ความดุดันของพันเอกก่อนจะยืนนิ่งเมื่ออีกคนกดจูบแผ่วเบาลงบนขมับของเขา

“ออกไปรอข้างนอกซะ ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหว” ชายหนุ่มกระซิบข้างหูของนาวาเสียงแหบพร่า จบประโยคร่างโปร่งก็วิ่งตื๋อออกไปอย่างรวดเร็ว พันเอกมองตามหลังของนาวาพร้อมกับแสยะยิ้มกับปฏิกิริยาของอีกคน

“โง่” ร่างสูงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไร้อารมณ์ ต่างจากเมื่อครู่ลิบลับ หน้ากากของคนที่กำลังสับสนในความรู้สึกของตนถูกถอดทิ้งเมื่ออยู่เพียงลำพัง แผนการที่ผุดขึ้นในใจกำลังไปได้สวย นาวากำลังเริ่มสับสนและสิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่างให้เขาได้เจาะเข้าไปในกำแพงหัวใจของอีกคนได้

การได้มาแต่ตัวมันไม่สะใจมากพอสำหรับเขา พันเอกต้องได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนาวามาเป็นของตน ไม่ว่าจะเป็นร่างกาย ชีวิต หรือแม้แต่หัวใจ และเมื่อถึงวันนั้น วันที่ทั้งตัวและหัวใจของนาวายอมสยบอยู่ใต้อำนาจของเขา พันเอกก็จะขยี้นาวาให้แหลกยับต่อหน้าคนอย่างรามให้มันได้รับรู้ถึงความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส เขาจะทำให้คนอย่างราม กลทีบ์ ยอมพ่ายแพ้และสยบอยู่แทบเท้าอ้อนขอชีวิตของคนที่ตนรักเหมือนสวะชั้นต่ำคนหนึ่ง

พันเอกคิดอย่างมุ่งมั่น โดยไม่ได้ล่วงรู้ถึงอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เขาไม่รู้...ว่าสิ่งที่ควบคุมยากมากที่สุดนั้นคือหัวใจ และเพราะสิ่งที่เรียกว่า ‘หัวใจ’ นี่แหละ ที่จะทำให้คนที่เคยอยู่สูงสุดอย่างพันเอกถูกฉุดให้ตกลงพื้นอย่างหมดท่า เขาประมาทหัวใจของตัวเอง ร่างสูงประมาทความรู้สึกสะกิดใจวูบวาบเพียงเล็กน้อยยามอยู่ใกล้กับนาวา

พันเอกไม่มีทางได้รู้...ว่าในอนาคตนั้น คนที่จะพ่ายแพ้และยอมสยบไม่ใช่ราม แต่เป็นตัวของเขาเอง เป็นพันเอกเองที่จะต้องเป็นฝ่ายยอมสยบให้กับนาวาอย่างไร้ข้อกังขาใดๆ เพียงเพราะอีกคนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่เขารักอย่างหมดหัวใจจริงๆ





“นั่นอะไร”

“แชมพูของณะโมครับ”

“แล้วห่อนั่นอะไร”

“ผ้าอนามัยของน้องมีนกับสาวใช้คนอื่นๆครับ”

“แล้วนั่นล่ะ...”

“แปรงสีฟันครับ”

“แล้วทำไมต้องซื้อไปเยอะขนาดนั้น นายมีปากเป็นสิบๆโหลเหรอ”

“เอ๊ะคุณ บ้านคุณมีลูกน้องสามคนมั้งครับ!” นาวาหันไปแหวคนที่เอาแต่เดินตามหลังเขาพร้อมกับถามนั่นถามนี่ไม่หยุดปาก ร่างโปร่งอยากจะเอาหัวโขกเสาห้างให้หายเครียด พันเอกผีเข้าหรือไงนะ ทำไมตั้งแต่สร่างเมาคืนนั้นถึงได้ทำตัวบ้าๆบอๆกวนประสาทเขาแบบนี้

“หึ ก็ถามดู” ร่างสูงส่งยิ้มยียวนพลางเลิกคิ้วถาม นาวาทิ้งกล่องแปรงสีฟันและยาสีฟันใส่รถเข็นอย่างแรงด้วยความไม่สบอารมณ์ก่อนจะพูดเสียงห้วน

“คุณจะไปไหนก็ไปเถอะครับ นัดเวลามาเลยก็ได้ว่าให้เวลาผมซื้อของเท่าไหร่แล้วค่อยไปเจอกันที่รถ”

“อยากเดินกับเมีย มีปัญหาเหรอ” พันเอกลอยหน้าลอยตาถามด้วยใบหน้าราบเรียบ นาวาหยุดกึกก่อนจะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ยืนแสยะยิ้มอยู่ด้านหลังแล้วก็ควันออกหู ประโยคเมื่อครู่ที่ร่างสูงพูดนั้นไม่ได้เบาเลยซักนิด และในตอนนี้คนที่ยืนซื้อของอยู่ไม่ไกลพวกเขาก็หันมามองนาวาด้วยสายตาเคลือบแคลง

“เมีย...หึ!”

คำก็เมีย! สองคำก็เมีย! ทำไมถึงได้ชอบย้ำถึงความตกต่ำของเขานัก!

“งั้นผัวอย่างคุณก็ช่วยเมียอย่างผมเข็นรถหน่อยก็แล้วกัน!”

ปึง!

“อั่ก!...นาวา!” พันเอกกัดฟันเรียกชื่อคนที่เดินสะบัดตูดหนีไปหลังจากที่กระแทกรถเข็นมาใส่ท้องเขาเต็มแรง ร่างสูงหันไปมองคนรอบตัวก็พบว่าหลายคนส่งยิ้มเอ็นดูระคนขำขันมาให้ ชายหนุ่มส่งยิ้มแหยๆกลับไปก่อนจะกัดฟันและรีบเข็นรถเข็นตามหลังของนาวาไป ชายหนุ่มมองตามอีกคนที่เลือกของใช้ต่ออย่างเงียบๆ นาวาปรายตามองคนที่เข็นรถตามมาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ก่อนจะหันไปหยิบของใช้ต่อ ริมฝีปากอิ่มแอบยกยิ้มอย่างนึกสะใจและนั่นทำให้พันเอกรู้สึกไม่สบอารมณ์

“ยิ้มอะไร” ร่างสูงเอ่ยถามเสียงแข็ง นาวายักไหล่ วางสำลีและแพ็คของกระดาษทิชชู่ลงบนรถเข็นพลางเดินถอยหลังออกมาก่อนจะหมุนตัวหันหลังกลับไปเพื่อที่จะเลือกของต่อ แต่พอหันกลับไปร่างโปร่งก็ชนเข้ากับร่างสูงของใครบางคนเข้าจนเกือบจะหงายหลังล้มแต่อีกฝ่ายกลับคว้าเอวของเขาเอาไว้ได้ก่อน

“เฮ้ย!...”

หมับ!

“อ๊ะ” ร่างโปร่งอุทานด้วยความตกใจ อ้อมแขนแข็งแกร่งของร่างสูงตรงหน้าคว้าเขาเอาไว้มั่นก่อนจะโอบเอาไว้ประชิดตัว พันเอกเผลอกำรถเข็นเอาไว้แน่นพลางกัดฟันกรอดอย่างลืมตัว ส่วนนาวาเองก็เงยหน้ามองคนที่เขาเผลอเดินชนเข้าก่อนจะเบิกตากว้าง

“พี่ก้อง”

“อ้าว! วา” นาวาฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่เขาเผลอชนเข้าเป็นใคร ก้องภพ ชายหนุ่มที่มักนำของมาแจกที่ ‘บ้านนภาวัลย์’ สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่ที่นาวาเคยอาศัยอยู่ ก้องภพอายุมากกว่านาวาประมานห้าปี พวกเขารู้จักกันครั้งแรกตอนนาวาอายุได้เพียงสิบห้าปีเนื่องจากอีกฝ่ายมักถูกมารดาบังคับให้มาสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าด้วยเสมอ แรกเริ่มเดิมทีก้องภพไม่ชอบและเบื่อหน่าย หากแต่พอรู้จักนาวาเขากลับรู้สึกสนุกและสบายใจทุกครั้งจนในที่สุดก้องภพก็กลายเป็นขาประจำของบ้านนภาวัลย์ไปในที่สุด

“พี่ก้องสบายดีรึเปล่าครับ ผมคิดถึงพี่มากเลย เด็กๆเป็นยังไงบ้าง” นาวาถามด้วยความตื่นเต้น หารู้ไม่ว่าประโยคของเขาไปสะกิดความไม่พอใจของใครอีกคนเข้าให้ พันเอกกัดฟันกรอดจ้องแผ่นหลังของร่างโปร่งด้วยความไม่พอใจก่อนจะตวัดสายตาขึ้นไปมองใครอีกคนที่รูปร่างสูงกำยำพอๆกับเขา

“พี่ก็เหมือนกัน ตั้งแต่ออกจากบ้านไปก็ไม่ติดต่อมาเลยนะ นึกว่าลืมกันไปแล้วซะอีก” ก้องภพกระเซ้าพร้อมกับยกมือขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มนิ่มของนาวาอย่างนึกเอ็นดู กริยาดังกล่าวทำเอาพันเอกรู้สึกเหมือนมีมีดเล่มเล็กมาสะกิดใจเข้าให้ ดวงตาคมทรงอำนาจมองนาวาที่ยืนยิ้มโดยลืมเขาไปเสียสนิทแล้วก็นึกโมโห ร่างสูงปล่อยมือออกจากรถเข็นและเดินตรงดิ่งไปหาคนทั้งคู่ที่ดูขัดหูขัดตานักก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“นาวา เหลือของที่ต้องซื้อเยอะมากเลยไม่ใช่เหรอ” พันเอกจบประโยคพร้อมกับยืนประชิดแผ่นหลังของนาวาด้วยท่าทีไร้ความรู้สึก ก้องภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนจะจ้องมองผู้มาใหม่ด้วยความสงสัย ถึงอย่างนั้นก็ยังรักษามารยาทเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยมด้วยการเอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

“สวัสดีครับ ผมก้องภพครับ เป็นคนรู้จักของน้องวา”

“ครับ ผมพันเอก เป็นเจ้านายของนาวา” พันเอกตอบกลับไป นึกขัดใจกับสรรพนามที่ก้องภพใช้เรียกร่างโปร่งแต่ก็ต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้

“คุณนี่เองที่ช่วยวาเอาไว้ ผมขอบคุณมากๆเลยนะครับ วาน่ะเป็นเด็กดี ขยัน จริงๆผมเองก็ตั้งใจให้เขามาอยู่กับผมเหมือนกันแต่บอกเจ้าตัวยุ่งนี่ช้าไป ฮะๆ” ก้องภพพูดติดตลก นาวายกยิ้มจางๆก่อนจะลอบมองพันเอกด้วยด้วยท่าทีกริ่งเกรง พันเอกส่งยิ้มน้อยๆกลับไปให้ก่อนจะหันไปมองนาวาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

“ไปซื้อของต่อกันได้แล้วล่ะ เดี๋ยวต้องไปทำธุระกันต่ออีก”

“คะ...ครับ ถ้ายังไง ผมกลับก่อนนะครับพี่ก้อง” นาวาหันไปยกมือไหว้อีกคน ก้องภพพยักหน้าก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้

“จริงสิ พี่ขอเบอร์เราไว้หน่อยได้ไหม ว่างๆจะได้โทรหา คิดถึงจะแย่ละ” ชายหนุ่มพูดขึ้น นาวาหันไปมองพันเอกก่อนจะอึกอักตอบก้องภพเสียงเบาหวิว

“ผมยังไม่ได้ซื้อโทรศัพท์เลยครับพี่ก้อง”

“อ้าว...” ก้องภพพูดขึ้นก่อนจะชะงักเมื่อพันเอกยื่นนามบัตรของตัวเองไปให้แทนพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ติดต่อผ่านทางผมก่อนก็ได้ครับ ไว้เดี๋ยวผมจะพาเขาไปออกโทรศัพท์ไว้ใช้ติดต่อกับคุณทีหลัง”

“อ่าา งั้นก็ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ” ก้องภพเอ่ยขึ้นก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะแยกย้ายกันไป นาวามองตามแผ่นหลังของอีกคนไปด้วยแววตาที่พันเอกอ่านไม่ออก และนั่นทำให้ร่างสูงรู้สึกหงุดหงิดจนต้องเอ่ยวาจาเชือดเฉือนออกมา

“มองตามมันตาไม่กระพริบแบบนี้ นึกอยากจะไปอยู่กับมันนักหรือไง” พันเอกปรายตามองกริยาของนาวาหลังจากจบประโยค นาวาหันมามองเขาก่อนจะเลี่ยงไม่ต่อล้อต่อเถียงด้วย ร่างโปร่งเดินไปยังรถเข็นที่พันเอกทิ้งมาก่อนจะเข็นมันไปทางอื่นโดยไม่ได้เอ่ยปากเรียกอีกคนเลยแม้แต่น้อย พันเอกกัดฟันกรอดอย่างข่มอารมณ์ก่อนจะเดินตามหลังนาวาไปด้วยท่าทีฮึดฮัด

“อย่ามาเดินหนีกันแบบนี้นะนาวา” ชายหนุ่มพูดพลางคว้าไหล่ของร่างโปร่งเอาไว้ นาวาหยุดกึก หันมามองใบหน้าหล่อเหลาด้วยความไม่พอใจ

“ผมว่าคุณกลับไปก่อนดีกว่าไหมครับ ถ้ายังหงุดหงิดใส่ผมแบบนี้เดี๋ยวก็ซื้อของไม่เสร็จกันพอดี คุณก็รู้ว่าผมไม่มีทางหนีคุณไปไหนได้” ร่างโปร่งพูดขึ้นเร็วๆก่อนจะรีบเข็นรถหนีพันเอกไปด้วยความรำคาญ ด้านพันเอกเองก็ได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าทำไมถึงปล่อยให้นาวาเข็นรถหนีไปดื้อๆแบบนั้น สุดท้ายชายหนุ่มจึงทำเพียงแค่สบถในลำคอก่อนจะก้าวเดินออกไปจากบริเวณนั้นด้วยความหัวเสีย
.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๑ P.4 (16/12/57)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 12-01-2015 18:26:34

เอื้องคำมองสองร่างที่เดินเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ได้แต่เลิกคิ้วแปลกใจกับบรรยากาศชวนอึดอัดโดยรอบ เมื่อเช้าพันเอกกับนาวาออกไปซื้อของด้วยกัน ก่อนออกไปทั้งคู่ก็ดูปกติกันดี แต่ไหงตอนกลับมาพันเอกถึงได้มีท่าทีหงุดหงิดแบบนั้นกันเล่า นี่อย่าบอกนะว่านาวาเผลอทำอะไรให้เจ้านายของหล่อนโกรธเคืองอีกแล้ว

“จะมีวันไหนที่บ้านหลังนี้สงบสุขบ้างไหมนะ” เธอพึมพำก่อนจะถอนหายใจ ดวงตาอ่อนแสงมองตามนาวาที่เดินดุ่มๆขึ้นห้อง ทิ้งของที่ซื้อเอาไว้ในรถให้ลูกน้องของพันเอกทยอยขนลงมาเอง ในขณะที่ประมุขของบ้านเองก็เอาแต่มองตามแผ่นหลังของอีกคนไม่วางตา

“ป้าเอื้อง จัดการของใช้ที่ซื้อมาให้เรียบร้อยด้วยนะครับ” พันเอกหันมาสั่งงานเสียงห้วนก่อนจะเดินฉับๆตามหลังของนาวาไป เอื้องคำมองตามด้วยความเป็นห่วง กลัวจะเกิดเรื่องอะไรรุนแรงขึ้นมาอีก วันนี้พระพายกับณะโมเองก็ไม่อยู่บ้าน หากพันเอกทะเลาะกับนาวาจริงไม่แคล้วเจ้านายของเธอคงลงมือทำร้ายให้นาวาได้เจ็บตัวอีก

“นี่เจ้ายุ คุณเขาทะเลาะอะไรกันอีกรึเปล่า” เอื้องคำเอ่ยถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นร่างโปร่งของพายุถือถุงของสดเข้ามาภายในครัว คนถูกถามเลิกคิ้วทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้า

“ก็ทะเลาะแหละป้า เพิ่งจะตีกันไปบนรถหยกๆก่อนถึงบ้านนี่เอง” พายุตอบพร้อมกับช่วยเอื้องคำจัดของ

“มีอะไรให้ทะเลาะมากมายกัน ทำไมเราไม่ห้ามเจ้านายเขาบ้าง คุณวาช้ำหมดแล้ว บอกคุณเอกเพลาๆบ้างเถอะ ถือว่าป้าขอ”

“โหย นายเขาไม่ตบไม่ตีคุณวาหรอกป้าก็รู้ มากสุดแค่ผลักกับบีบๆจับๆนั่นแหละครับ”

“แต่ไอ้ผลักๆบีบๆของนายเราน่ะคนผอมๆแบบคุณวาเขาก็เจ็บนะตายุ คุณเขาตัวแค่นั้น ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันได้ทุกวี่ทุกวัน ป้าละไม่เข้าใจ” เอื้องคำพูดเสียงอ่อน พายุยิ้มแหยๆกลับไปให้ก่อนจะยักไหล่

“ครั้งอื่นผมไม่รู้นะป้า แต่ที่ตีกันรอบนี้นี่เพราะนายเขาหึงแหละ”

“หึง? คุณเอกน่ะเหรอหึงคุณวา” หญิงสูงวัยเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงแปลกใจ ตีกันทุกวันด่ากันทุกคืนแบบนั้นน่ะเหรอจะมาหึงหวงกันได้

“ช่ายยย ก็ตอนขากลับน่ะมีคนโทรเข้าเบอร์นายแล้วขอสายคุณวาน่ะป้า คุณวาแกก็คุยไปยิ้มไป ยิ้มหวานด้วยนะ เนี่ยผมแอบมองยังใจสั่นเลย แล้วพอวางสายปุ๊บนายก็เอาเลย ด่าๆแขวะๆแล้วก็จับจูบซะ โหย ผมกับไอ้พี่จักรงี้แทบขับรถเสยฟุตบาทข้างทางแน่ะป้า” พายุเล่าด้วยใบหน้าขึงขังก่อนจะยกมือขึ้นมากุมแก้มแสร้งเขิน เอื้องคำถึงกับอ้าปากค้างกับคำบอกเล่าที่ดูไม่น่าเชื่อของคนตรงหน้า

“ไม่ใช่หรอก คุณเอกเธอเกลียดคุณวาจะตายไม่ใช่หรือไง ก็ดูทำเขาซะขนาดนั้น” เธอพูด พายุยู่ปากอย่างขัดใจก่อนจะคลอนหัวไปมา

“นายน่ะเกลียดคุณรามครับป้า ไม่ได้เกลียดคุณวาหรอก ออกจะตรงข้ามด้วยซ้ำเหอะ ผมผู้ชายด้วยกัน ผมมองออก”

“ก็ถ้ารักแล้วจะทำร้ายคุณเขาทำไม” เอื้องคำสวนพร้อมกับส่งค้อนไปให้ชายหนุ่มร่างโปร่งที่แอบหยิบส้มในถุงมาแกะกินเล่นอย่างสบายอารมณ์ พายุชะงักกับคำถามของหญิงตรงหน้าก่อนจะยักไหล่

“เออ อันนี้ไม่รู้ว่ะป้า อาจจะรักแต่ยังไม่รู้ตัวมั้ง เนี่ยป้ารู้ไหม ตั้งแต่นายได้คุณวาเป็นเมียนะ ต่อหน้าพวกผมต่อหน้าคุณวานี่ด่าเขาไฟแล่บ คิดแผนการเสร็จสรรพอย่างกับสายลับ แต่พอลับหลังเหรอ โหย มองตามคุณวาตาเป็นประกายเลยป้า ไอ้ยุรู้ ไอ้ยุเห็น” พายุพูดพลางยืดอกยืนตัวตรงอย่างภูมิใจก่อนจะร้องโอ๊ยเบาๆเมื่อถูกเคาะหัวจากผู้มาใหม่ด้านหลัง

“เพราะไอ้ยุมันขี้เสือกน่ะสิ เดี๋ยวจะฟ้องนายว่ามึงนินทาท่าน อ่ะ...ป้าครับ ผ้าอนามัยครับ” เสียงของจักรดังขึ้นขัดจังหวะ เอื้องคำหันไปมองถุงของใช้สำหรับผู้หญิงในมือของบอดี้การ์ดตัวสูงก่อนจะยกยิ้ม

“ขอบใจจ้ะ จริงๆป้าก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอกเพราะเริ่มเข้าวัยทองขึ้นไปทุกทีแล้ว ก็คงเป็นของพวกยัยมีนกับน้ำอุ่นนั่นแหละ”

“ของยัยถึกแหงๆ ไม่น่าใช่ของน้ำอุ่นหรอกครับ ก็รายนั้นเขาท้องอยู่”

“อะไร ใครท้อง!?!”

“อ้าว อุ่นยังไม่บอกป้าเหรอ ก็ไอ้สันต์มันมาบอกกับผมว่าหลาน...ป้า...ทะ...ท้อง...ชิบหายแล้วไอ้สันต์ กูขอโทษ” จักรยั้งปากแทบไม่ทันเมื่อเผลอหลุดพูดอะไรที่ไม่สมควรออกมา เอื้องคำมองหน้าซีดเผือดของคนพูดก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของจักรด้วยใบหน้าเครียดๆ ส่วนพายุรายนั้นรีบปลีกตัวเดินหนีออกไปตั้งแต่จักรหลุดประโยคที่ไม่สมควรออกมาประโยคแรกแล้ว

“มันอะไรกันพ่อจักร ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้น ป้าจับต้นชนปลายไม่ถูกแล้วนะ” หญิงสูงวัยถามเสียงสั่น หัวใจเต้นรัวยิ่งกว่าตอนเห็นพันเอกข่มเหงนาวาข้างสระว่ายน้ำเมื่อเดือนก่อนๆเสียอีก อาจเพราะน้ำอุ่นเป็นหลานสาวของเธอ แม้จะเคยหวั่นอยู่บ้างเพราะตระกูลกฤตภาสมีบอดี้การ์ดเพศชายอยู่จำนวนไม่น้อย แต่พันเอกก็เคร่งครัดเรื่องชู้สาวมากและทุกคนก็อยู่กันอย่างสงบเรื่อยมา ไม่นึกว่าอยู่ๆจะมาได้ยินเรื่องที่ทำเอาสะเทือนใจคนหัวโบราณทั้งยังเกิดกับหลานของตัวเอง รู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกินกับเรื่องวุ่นวายที่มีเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อนภายในบ้านหลังนี้ ฝ่ายเจ้านายก็หมกมุ่นอยู่กับการแก้แค้น ฝ่ายลูกน้องยังมาทำเรื่องให้หล่อนเจ็บช้ำน้ำใจอีก

“เอ่อ...”

“ไปตามตัวต้นเรื่องมาเดี๋ยวนี้” เอื้องคำพูด สองมือจับโต๊ะเอาไว้และพยายามจะประคองสติไม่ให้ตัวเองล้มลงกับพื้น จักรหน้าหมอง นึกขอโทษเพื่อนร่วมงานอยู่ในใจที่ทำให้เรื่องแดงขึ้นมา

“ครับ” ชายหนุ่มรับคำก่อนจะเลี่ยงเดินออกไป เมื่ออยู่ลำพังเอื้องคำก็ถึงกับต้องทรุดตัวลงกับพื้นพร้อมถอนหายใจก่อนจะสะดุ้งเบาๆเมื่อได้ยินเสียงตึงตังดังแว่วขึ้นมาจากชั้นสองของบ้าน หญิงสูงวัยมองขึ้นไปด้านบนอย่างเหม่อลอย ดวงตาอ่อนล้ามีน้ำใสรื้นขึ้น นึกขอโทษนาวาอยู่ในใจที่วันนี้เธอคงขึ้นไปช่วยหยุดพายุอารมณ์ของพันเอกไม่ได้เพราะมีอีกเรื่องที่สำคัญกว่าต้องจัดการ

ได้แต่หวังว่าคงไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับบุคคลสองคนที่อยู่บนห้องนอนแห่งนั้น





ปัง!

“ไอ้ก้องภพนั่นมันเป็นใคร” เสียงทุ้มถามขึ้นด้วยความหงุดหงิดทันทีที่พาตัวเองและนาวาเข้ามาในห้องนอนใหญ่ได้ ก่อนหน้านี้นาวาหนีเขาไปขลุกตัวอยู่ในห้องนอนของณะโมแต่มีหรือที่คนอย่างพันเอกจะหาทางเข้าไปลากตัวอีกคนมาเคลียร์สิ่งที่คั่งค้างอยู่ในใจไม่ได้ ชายหนุ่มจ้องใบหน้าขาวซีดบึ้งตึงที่นั่งนวดแขนตัวเองอยู่บนเตียงก่อนจะถามซ้ำ

“ฉันถามว่าไอ้ก้องภพอะไรนั่นเป็นใคร”

“เขาชื่อก้องภพ เกียรติกุลย์ เจ้าของโชว์รูมรถยี่ห้อดังที่บ้านคุณก็มีอยู่สองคัน...”

“ฉันไม่ได้อยากรู้ว่ามันชื่ออะไรหรือทำงานที่ไหน แต่ที่อยากรู้คือนายกับมันเป็นอะไรกัน” พันเอกสวนขึ้นเสียงดุดันเมื่อเจอประโยคยียวนของนาวาเข้าให้

“คุณคงไม่คิดว่าผมกับเขามีอะไรกันหรอกนะครับ” นาวาย้อนถาม จ้องหน้าของอีกคนไม่วางตาในขณะที่พันเอกยืนหายใจแรงด้วยความกรุ่นโกรธอยู่ในอก

“คุณเป็นคนฉลาด คงไม่พลาดท่าตกม้าตายด้วยการแสดงความโง่ในเรื่องแบบนี้หรอกนะ” นาวาพูดต่อก่อนจะลุกขึ้นยืนและกำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ไม่ทันที่จะก้าวผ่านร่างสูงกำยำแขนขาวก็ถูกคว้าเอาไว้พร้อมกับแรงดึงจากอีกฝ่ายที่มากเสียจนร่างโปร่งลอยหวือกลับมาประจันหน้ากับพันเอกอีกครั้ง

“ฉันรู้ดีว่าว่าผัวคนแรกและคนปัจจุบันของนายคือฉัน แต่ที่ฉันอยากรู้คือนายกับมันเป็นคนรักกันใช่ไหม”

“...”

“ตอบ!”

“ไม่ครับ” นาวาตอบกลับ คิ้วสวยขมวดมุ่นด้วยความไม่พอใจก่อนจะเบือนหน้าหนี “ที่คุณปล้ำจูบผมในรถเพราะเรื่องแค่นี้งั้นใช่ไหม แค่เพราะผมคุยโทรศัพท์กับพี่ก้องเหรอครับ” ร่างโปร่งถามเสียงแผ่ว

“ไม่ใช่ก็ดี แล้วอย่าริอาจไปทำตัวเป็นโสเภณีใส่ผู้ชายคนอื่นเป็นอันขาด” พันเอกสั่งเสียงเฉียบ รู้สึกหัวเสียจนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่ในขณะที่นาวาหันหน้ากลับมามองใบหน้าได้รูปของร่างสูงตรงหน้าก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ

“คุณ...หึงผมอยู่เหรอ”

!!!!!

“อาการเหมือนคนกำลังหึง” นาวาพูดขึ้น พันเอกอึกอักเม้มปากแน่นก่อนจะขมวดคิ้ว สองแขนออกแรงผลักร่างของนาวาให้ล้มลงไปนั่งแหมะบนเตียงก่อนจะปฏิเสธเสียงแข็งกร้าว

“เอาอะไรมาพูด ไร้สาระ!”

“...” นาวาก้มหน้างุด รู้สึกตื้อไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงแผ่วเบาพร้อมกับลอบมองปฏิกิริยาอีกคนไปด้วย

“พี่ก้องเขา...ชอบผม”

“...”

“คุณรามเองก็รักผม เมื่อวันก่อนพายุเองก็บอกว่า...ชอบผม”

!!!!

“ไม่แน่เวลาคุณเผลอ ผมอาจจะลองลงไปลิ้มรสแรงรักของพายุกับพี่ก้องดูก็ได้ บางทีพวกเขาอาจจะขย่มเก่งกว่าคุณเป็นหนะ...อื้อ!”  นาวาลองพูดยั่วด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพันเอกคว้าปลายคางของเขาให้เชิดขึ้นและกระแทกริมฝีปากลงมาเต็มแรง บดขยี้กลีบปากอิ่มของนาวาราวกับต้องการจะลงโทษที่เขากล้าพูดประโยคไม่เข้าหูนั่นออกมา

“อยากหัดแรดนักหรือไงนาวา” ร่างสูงถอนริมฝีปากออกก่อนจะพูดเสียงต่ำ นาวาเม้มปากแน่น อาการเหมือนคนกำลังหึงจนหน้ามืดนั่นทำเอาเขาสับสนไปหมด พันเอกทำเหมือนหึงเขาทำไมกัน นาวาไม่เข้าใจเลยสักนิด

“ผมแค่อยากลอง” คนตัวขาวเอ่ยขึ้น พันเอกกันฟันจนสันกรามขึ้นแล้วก็ผลักนาวาให้นอนราบลงไปกับเตียงอย่างรวดเร็วก่อนจะตามขึ้นไปทาบทับร่างโปร่งเอาไว้และปลดกางเกงของนาวาและอันเดอร์แวร์ออกอย่างรวดเร็วจนนาวาร้องเสียงหลง

“คุณทำบ้าอะไร!”

“เคยเตือนแล้วใช่ไหมว่าอย่ายั่วโมโหฉัน” พันเอกกระซิบเสียงลอดไรฟัน นาวาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยถาม

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคุณเอก! อยู่ๆคุณก็โมโหเอง กับผมน่ะคุณก็โมโหใส่ตลอดอยู่แล้วไม่ใช่หรือไง!!!”

“แล้วไอ้ที่พูดปาวๆเมื่อกี้นี่มันอะไรล่ะ ปากกล้าขาแข็งนักหรือไงห๊ะ!” พันเอกตวาด นาวาได้ฟังก็ยิ่งขมวดคิ้วด้วยความงุนงงหนักเข้าไปอีก

“ก็ผมอยากลองจริงๆนี่”

“ไม่มีวัน! อย่าริทำตัวแรดใส่ผู้ชายคนอื่นอีกเป็นอันขาด! ถ้าอยากมาก็มาขอฉัน เดี๋ยวจะจับอ้าขาแล้วขย่มแรงๆให้ร้องไม่ออกเลยพ่อตัวดี!!!!”

“อื้อ!” นาวาร้องประท้วงเมื่อถูกปิดปากอีกรอบอย่างรุนแรง สองมือผลักไหล่แกร่งของพันเอกให้พ้นทางแต่แรงเขากลับสู้แรงของพันเอกแทบจะไม่ได้ เรียวขาขาวถูกแยกออกกว้างในขณะที่อีกคนเลื่อนมือไปปลดกางเกงของตัวเองและร่นลงเพียงเล็กน้อย นาวาเม้มปากแน่นก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นบีบไหล่แกร่งของพันเอกแรงๆจนอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา

“ยะ...หยุดได้ไหม” ร่างโปร่งเอ่ยขอเสียงสั่นพร่า ดวงตากลมสั่นระริกหากแต่พันเอกกลับตอกกลับด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“ทำไมฉันต้องเชื่อนาย”

“มันยังไม่ค่ำเลยคุณเอก ผมขอร้อง” นาวาเว้าวอน “ผมรู้ว่าผมห้ามอะไรคุณไม่ได้ แต่ผมขอนะ ไม่ใช่ตอนนี้”

“...”

“คะ...คืนนี้ผมจะยอมตามใจคุณทุกอย่าง ขอแค่คุณหยุด นะครับ” นาวาต่อรอง พันเอกชะงักมองใบหน้าซีดเผือดของนาวาก่อนจะนิ่งไป นาวาจ้องอีกคนอย่างใจจดใจจ่อ เตรียมใจรับสิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้เพราะรู้ดีว่าพันเอกไม่มีทางฟังเขาแต่ก็อดที่จะพูดไม่ได้

“การถูกคุณฝืนใจบ่อยๆบางครั้งมันทำให้ผมกลัวการมีเซ็กซ์...กับคุณ”

“...”

“ผมรู้ว่าผมไม่ได้มีอำนาจหรือมีสิทธิ์ให้คุณทำตามคำขอ แต่อย่างน้อยผมก็อยากให้คุณฟังผมบ้าง ลึกๆแล้วคุณไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก...ใช่ไหมครับ” นาวาพูดเสียงแผ่วตัดสินใจลองใช้เหตุผลและคุยเปิดอกกับคนตรงหน้ามากกว่าการสาดวาจาร้ายๆใส่กันเหมือนเมื่อก่อน

“นะคุณเอก” นาวาใช้ไม้ตายสุดท้ายอ้อนเสียงแผ่วเบา สองมือบีบไหล่ของอีกคนพลางจ้องตากับคนที่นิ่งค้างไปนานตรงหน้า ได้ยินเสียงพันเอกถอนหายใจก่อนจะซบหน้าลงบนซอกคอของเขาแล้วสบถหยาบคายออกมายาวเหยียด

นาวานอนนิ่งอยู่ใต้ร่างของอีกคน สองมือวางไว้บนลาดไหล่ของร่างสูงในขณะที่หัวใจแกว่งไปมาเมื่อสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดอยู่บริเวณซอกคอ พันเอกคลอเคลียริมฝีปากกับลำคอระหงของคนใต้ร่างก่อนจะแลบลิ้นออกมาไล้เลียผิวเนื้อนวลเนียนเบาๆ เจ้าของร่างข้างใต้ขนลุกซู่ย่นคอหนี กลีบปากสีสดเม้มแน่น พันเอกดูดดึงผิวเนื้อของนาวาจนเกิดรอยอยู่สองสามรอยก่อนจะผละตัวออกไป

“แต่งตัวซะแล้วก็ลงไปช่วยป้าเอื้องทำกับข้าว เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วจะตามลงไป” ร่างสูงพูดเสียงเรียบ ไม่ยอมมองหน้าของนาวาเลยแม้แต่น้อย ฝ่ายนาวาเองพอได้ยินแบบนั้นก็รีบลุกขึ้นหยิบกางเกงที่ถูกถอดทิ้งเอาไว้ขึ้นมาใส่อย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งปุเลงๆไปที่ประตูห้องนอน ก่อนออกจากห้องร่างโปร่งก็หันมามองอีกคนที่เดินไปควานหาบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบก่อนจะเอ่ยเสียงนุ่ม

“ขอบคุณนะครับ” นาวาเอ่ยขึ้นจากใจจริงก่อนจะหุนหันออกจากห้องไป ทิ้งให้อีกคนยืนมองบานประตูที่ปิดสนิทนั้นด้วยความรู้สึกสับสน พันเอกยกมือขึ้นมาเสยผมอย่างหงุดหงิดก่อนจะอัดบุหรี่เข้าไปเต็มปอด เขาไม่ได้เครียดที่ไม่ได้มีอะไรกับนาวา แต่สิ่งที่พันเอกเครียดคือตะกอนความขุ่นมัวในหัวใจของเขาตอนนี้มากกว่า

ไม่ได้โง่ที่จะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แต่เขาไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆถึงได้มีความรู้สึกต้องห้ามแบบนี้เกิดขึ้นมามากกว่า

เขาเป็นคนฉลาด ใช่ ข้อนี้เขารู้ตัวเองดี แต่บางครั้งความฉลาดก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป การรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตนเองบางทีมันก็เป็นดาบสองคม

ยามใดความรู้สึกที่ไม่ควรจะเกิดดันเกิดขึ้นมาโดยไม่จำเป็น

ยามนั้นกลับเป็นเวลาที่ความฉลาดไร้ประโยชน์มากที่สุด



โปรดติดตามตอนต่อไป



- นาวาเป็นคนเซื่องๆ อึนๆ ไม่ค่อยแข็งกร้าว...แต่เชือดนิ่มค่ะบอกเลย 55555555555555 ใครกลัวน้องวาใจอ่อนก่อนนี่ไม่ต้องห่วงเลยค่ะ คนที่น่าห่วงคือพันเอกนั่นแล หลังจากนี้จะมาแบบซอฟต์ๆแล้วเดี๋ยวพระเอกเราจะโดนเล่นงานหนักๆ #ความโรคจิตจงสถิตอยู่กับท่าน ฮาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-01-2015 18:42:20
 :กอด1:   เย้มาต่อแล้ว
ดีใจจัง. ตอนนี้แหละนาวา จัดเลยหนักๆเอาให้หลงหัวปักหัวปำ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 12-01-2015 18:59:35
เอาให้อยู่หมัดเลยนาวา ชั่วดีนัก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 12-01-2015 19:51:59
มาต่อให้ดีใจมากๆเลย

รอมาตลอดเลย

มีแอบไปส่องที่อื่นบ้าง

ใช่เป็นห่วงคุณพันเอกจริงๆนั่นแหละ

อย่าเผลอมีใจให้นาวาละ

ทำกับนาวาไว้เยอะเดี๋ยวจะเจ็บหนักแน่ๆ อิอิ

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 12-01-2015 19:57:49
รู้สึกสะใจ นี่ขนาดนาวาเอาคืนเล็กๆน้อยๆนะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 12-01-2015 20:11:01
ดีมากค่ะลูก เชือดนิ่ม ๆ เจ็บนาน ๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Melonlove ที่ 12-01-2015 20:25:12
พันเอกต้องโดนเยอะๆ แค่นี้ยังไม่พอ   ยังแค้นแทนนาวาไม่หาย (ปล.ขอจัดคืนพันเอกเยอะๆน๊า)  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-01-2015 20:28:18
แหล่ว แหล่ว แหล่ะ พันเอกเริ่มจะเชื่องแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 12-01-2015 20:39:54
เราชอบพระเอกแบบนี้จะเอาาาา :sad4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ตาล ที่ 13-01-2015 00:24:15
ขอให้นาวากับรามอยู่ด้วยกันเถอะ ให้พันเอกเจ็บปวด หรือไม่ก็ขอให้นาวาตายตอนจบ เอาแบบหักมุม จะไม่เสียดายเลยถ้านาวาตาย ให้พันเอกแม่งทรมานขาดใจตาย........
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-01-2015 01:06:12
กรี๊ดดดด ในที่สุดก็มาต่อซะที
ติดตามในเล้ากับธัญวลัย
คืออ่านที่มาแค่ 35% ไปสามรอบได้ คิดถึงมาก
พันเอกนี่เท้าอยุ่ปากหลุม(รัก)แล้วบอกเลย
รอหนูวาเอาคืน ให้เอาให้หนัก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 13-01-2015 01:27:02
จัดการหนักเลยก็ดีนะนาวา   :hao3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: badbadsumaru ที่ 13-01-2015 03:53:33
อยากเจอวาสายโหด 55555
นี่ปล่อยให้คุณเอกตายใจใช่ไหม
หัวข้อ: e: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-01-2015 09:45:41
พันเอกเริ่มแพ้การอ้อนของนาวาแล้ว
ทีนี้ละอะไรมันก็คงไม่เป็นตามแผนหรอก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 13-01-2015 11:29:50
 :hao5:  ดีใจมากเลยคับ รออ่าน ติดตามอยู่ตลอดเลย

ยังไงก็สงสารน้องวาสุดๆ  อยากให้น้องวาแกล้งทำให้หึงหนักๆเลย สะใจดี  5555+  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 13-01-2015 12:28:04
บอกเลยเราชอบซาดิสม์
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 13-01-2015 13:02:37
พันเอกกกกก#กดเสียงต่ำ
หึหึหึ แกเสร็จแน่ กร้ากๆๆๆๆๆๆๆ o18
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 13-01-2015 16:15:11
เชือดไปเลยค่ะ. เอาให้เจ็บเท่ากับที่เคยโดนเลยนะคะ. นาวา
ตอนนี้พันเอกรู้ความรู้สึกตนเองแล้ว.   ว่ารักนาวา.  ต่อไปจะเป็นยังไงน้าาา
น่าติดตามมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 13-01-2015 17:06:19
ให้ได้อย่างที่พูดนะพันเอกว่าจะไม่หวั่นไหวไม่คิดอะไรไปมากกว่าการแแก้แค้น
ขอให้ทำได้อย่างที่พูดให้ตลอดนะ และนาวาก็น่ารักน่าสงสารเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 13-01-2015 17:42:16
 :man1: :man1: :man1:

อิอิอิ   ถล่มพันเองหนักๆๆ เลย น่ะ

 :really2: :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 13-01-2015 17:57:31
ใกล้ถึงคราวนาวาแล้วใช่มั้ยค่ะ :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: TiTeE ที่ 14-01-2015 23:09:32
คนเซื่องๆ อึนๆ ไม่ค่อยแข็งกร้าว ไม่ได้หมายความว่า โง่และไม่มีเล่ห์เลี่ยมนะคะ กร๊ากกกกกก
ไอ้คนที่ประมาณว่า ตัวฉันเป็นรองเธอทุกอย่าง และต้องทำความต้องการของเธอทุกอย่าง
แต่ความจริงคนที่ออกคำสั่งกลับกลายเป็นคนที่ทำตามความต้องการของคนที่ถูกสั่งโดยไม่รู้ตัวเนี่ย
มันก็มีเน๊อะๆ และอยากให้นาวาเป็นคนน๊านนนนนน ฮ่าๆ ๆ

#ไม่เอามาม่าโน๊ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๒ P.5 (12/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 26-01-2015 20:56:26
ตอนที่ ๑๓ : Wed the bed



หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายและขับไล่ความฟุ้งซ่านภายในหัวแล้ว ร่างสูงของพันเอกก็ก้าวลงมาจากชั้นสองอย่างเงียบๆ จุดหมายคือห้องโถงสำหรับใช้พักผ่อน แต่พอลงบันไดขั้นสุดท้ายมาได้ชายหนุ่มก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้น

“ป้าผิดหวังในตัวเราสองคนมากจริงๆ” เสียงเอื้องคำดังแว่วเข้ามาให้ประมุขของบ้านได้ฉงนใจเล่น พันเอกเดินตามต้นเสียงไปก็พบร่างท้วมของหญิงสูงวัยยืนนิ่ง มีพระพายกับณะโมประคองเอาไว้ ปลายเท้าของทั้งคู่ยังมีถุงขนมมากมาย เดาว่าคงเพิ่งจะกลับมาไม่นาน และตรงหน้าของเอื้องคำคือน้ำอุ่น สาวใช้ซึ่งเป็นหลานสาวของเธอกับนายสันต์หนึ่งในบอดี้การ์ดมือดีของพันเอก ทั้งคู่นั่งคุกเข่าก้มหน้านิ่ง ฝ่ายหญิงสะอื้นออกมาเบาๆ มีนาวาคอยกอดปลอบอยู่ข้างๆ

“เกิดอะไรขึ้น” เสียงทรงอำนาจของพันเอกดังขึ้นทำเอาคนที่เหลือสะดุ้งโหยง พันเอกเดินขมวดคิ้วเข้ามาในวงก่อนจะปรายตามองสองคนที่คุกเข่าอยู่ก่อนจะเบนหน้าไปมองเอื้องคำที่ยืนตาแดงอยู่ไม่ห่าง

“นายครับ ผมขอโทษ” สันต์พูดขึ้นพร้อมกับค้อมตัวลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อม

“ขอโทษเรื่องอะไร”

“ผม...ผมทำอุ่นท้องครับนาย” บอดี้การ์ดหนุ่มตอบเสียงหนักแน่นมั่นคงเมื่อพันเอกถาม เอื้องคำน้ำตาตกอีกรอบก่อนจะเอ่ยปากให้พระพายและณะโมพาออกจากตรงนี้ นาวาเงยหน้าขึ้นมามองพันเอกก่อนจะถอนหายใจเมื่อเห็นดวงตาคมวาวโรจน์เจิดจ้า

“พูดใหม่ซิสันต์ เมื่อกี้นายบอกฉันว่าอะไรนะ” พันเอกเอ่ยถามเสียงเย็นยะเยือก ฝ่ายคนถูกถามก้มหน้าลงก่อนจะเม้มปากแน่น

“ผมทำน้ำอุ่นท้องครับนาย”

ผัวะ!

“ฮึก พี่สันต์/คุณเอก” สาวใช้นามน้ำอุ่นกับนาวาผวาร้องขึ้นมาพร้อมกันเมื่อเห็นพันเอกชกใบหน้าคมของลูกน้องเต็มแรง สันต์ทรุดตัวเสียหลักไปเล็กน้อยก่อนจะขยับตัวกลับมานั่งคุกเข่าอีกรอบ

“ผมขอโทษครับคุณเอก”

“น้ำอุ่นอายุเท่าไหร่” ประมุขของบ้านถามเสียงต่ำอย่างน่ากลัว

“สิบเก้าครับ” สันต์ตอบ พันเอกแค่นหัวเราะก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน

“ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่าบ้านนี้มีกฎว่ายังไง แล้วไม่ใช่ว่ามึงไม่รู้ว่าน้องยังอายุแค่นี้ แต่ทำไมยังทำตัวให้ป้าเอื้องกับกูเสียใจ” ร่างสูงจบประโยคพร้อมกับมองหญิงสาวที่เขานึกเอ็นดูเหมือนน้องเหมือนนุ่งด้วยความรู้สึกตื้อๆ สรรพนามที่เปลี่ยนไปบ่งบอกให้ทุกคนที่ได้ฟังรับรู้ว่าพันเอกกำลังโกรธแล้วจริงๆ

“คุณเอกขา อุ่นขอโทษ ถ้าจะผิดก็ผิดที่อุ่นด้วย ฮึก อุ่นใจง่ายเอง คุณเอกอย่าทำอะไรพี่สันต์เลยนะคะ” น้ำอุ่นวอนขอเสียงสั่น พันเอกถอนหายใจอย่างหนักหน่วงก่อนจะหันไปหาฝ่ายชายและถามด้วยน้ำเสียงกรุ่นโกรธ

“ที่ผ่านมาก็เห็นเข้าตามตรอกออกตามประตูกันมาตลอด ถามจริงๆนะว่ามึงมีอะไรกับน้องไปกี่ครั้ง”

“...”

“สันต์...ตอบ”

“ครั้งเดียวครับคุณเอก”

“เจริญดีแท้ น้ำยาดีจริงๆเลยนะมึง” ร่างสูงสบถ

“ผมขอโทษคร...” / “เลิกพูดขอโทษได้แล้ว!!!”

“...”

“กูควรจะไล่มึงออกดีไหมวะไอ้สันต์”

“คุณเอก อย่าไล่พี่สันต์เลยนะคะ อุ่นผิดเอง อุ่นยั่วพี่สันต์เอง” น้ำอุ่นรีบเว้าวอนเมื่อได้ฟังสิ่งที่เจ้านายพูดจบ

“อุ่นหึงคุณวา ฮึก...ก็คืนนั้นพี่สันต์ไปนอนกับคุณวาตามคำสั่งคุณเอก อุ่นทนไม่ได้ อุ่นกลัวพี่สันต์หลงคุณวาแล้วทิ้งอุ่นไปจริงๆ” น้ำอุ่นอธิบายเสียงสั่น นาวาทำหน้าเหวอในขณะที่พันเอกส่งเสียงเหอะออกมาดังๆ

“ทำอะไรสิ้นคิด ศักดิ์ศรีของตัวเองยังไม่รู้จักรักษา เป็นไงทีนี้ พลาดมามันแก้อะไรได้ไหมน้ำอุ่น”

“ฮึก”

“เลิกร้องได้แล้วอุ่น ฉันไม่ไล่ไอ้สันต์ออกหรอก” พันเอกพูดขึ้นอย่างตัดรำคาญ ทั้งคู่มองหน้ากันพลางยิ้มอย่างดีใจก่อนจะขอบคุณพันเอกเป็นพัลวัน ร่างสูงถอนหายใจ คิ้วเข้มขมวดกันจนยุ่งเหยิงก่อนจะเอ่ยเสียงราบเรียบ

“มึงพาอุ่นไปขอขมาป้าเอื้องซะ ทำพานบายศรีอะไรให้ดีๆ เสาร์หน้าก็พาน้องไปฝากท้องอะไรให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องแต่งงานคงจัดอะไรใหญ่โตให้ไม่ได้ ไปจดทะเบียนกันแล้วก็คงจัดกันแค่ในบ้าน มึงมีอะไรจะค้านไหม”

“ไม่ครับคุณเอก แค่นี้ก็กรุณามากแล้วครับ”

“จะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะไป” ร่างสูงโบกมือไล่ บอดี้การ์ดหนุ่มจึงรีบประคองน้ำอุ่นขึ้นแนบอกก่อนจะขอตัวเดินจากไป นาวามองตามแผ่นหลังของคนทั้งคู่ก่อนจะหันไปมองพันเอกที่ยืนทำหน้าเครียดอยู่ตรงหน้า ไม่เคยเห็นพันเอกในมุมแบบนี้มาก่อนทำเอานาวาถึงกับประหลาดใจ

“คุณมีความเป็นผู้นำมากกว่าที่ผมคิดเอาไว้ซะอีกนะครับ” อดจะเอ่ยชมด้วยใบหน้าซื่อๆออกมาไม่ได้ พันเอกตวัดสายตามามองนาวาก่อนจะแค่นยิ้มกลับมาให้

“ผิดกับนายที่ไม่มีดีอะไรเลยสินะ” ชายหนุ่มแขวะกลับทำเอานาวาหน้าตึง ร่างโปร่งหน้าหงิกใส่คนตัวสูงกว่าก่อนจะเดินหนี พันเอกมองตามนาวาก่อนจะถอนหายใจแรงๆ ในอกรู้สึกหนักอึ้งกับความขุ่นมัวของม่านหมอกภายในใจ

อะไรที่บังคับไม่ได้นี่มันช่างน่ารำคาญจริงๆ





มื้อเย็นของบ้านกฤตภาสดำเนินไปอย่างเงียบๆ วันนี้นาวากับณะโมเป็นฝ่ายเข้าครัวทำกับข้าวเองแทนเอื้องคำที่ขอตัวไปนอนพักเนื่องจากยังคงช็อคกับเรื่องเมื่อตอนเย็นอยู่ สองพี่น้องตระกูลกฤตภาสนั่งมองกับข้าวมากหน้าหลายตาที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำย่อย พระพายตาเป็นประกายเมื่อสาวใช้ยกผัดบวบฝีมือของณะโมมาเสิร์ฟ มือขาวกำช้อนและส้อมเอาไว้แน่นพร้อมกับเม้มปาก กริยาน่าเอ็นดูตกอยู่ในสายตาของทุกคนบนโต๊ะโดยเฉพาะผู้เป็นพี่ชาย พันเอกทอดสายตามองน้องอย่างอ่อนโยนก่อนจะหลุดยิ้มในแบบที่นาวาไม่เคยเห็น

“เสิร์ฟครบยังอ่ะ กินได้ยัง หิวแล้วนะ” พระพายพูดขึ้น พยายามไม่เสียมารยาทอย่างการตักอาหารก่อนแต่เลือกที่จะเงยหน้าขึ้นมาถามพันเอกกับนาวาตาใส นาวาหลุดยิ้มก่อนจะหันไปมองพันเอกที่พยักหน้าให้น้องเล็กน้อย เพียงเท่านั้นคนตัวขาวตรงหน้าก็ก้มหน้าก้มตาตักกับข้าวใส่จานและเคี้ยวตุ้ยๆท่าทางเอร็ดอร่อยจนคนรอบข้างพลอยมีความสุขตามไปด้วย

“พี่พายกินเยอะจัง ตัวก็แค่นี้เอาไปไว้ไหนเนี่ย” ณะโมแซวยิ้มๆ ตอนนี้ผัดบวบใส่ไข่ของเขาพร่องลงไปเกือบครึ่งด้วยฝีมือของพระพายที่นั่งแก้มป่อง

“เรียนหนักมันก็ต้องการพลังงานเป็นธรรมดาล่ะน่า ว่าแต่ทำไมณะทำกับข้าวอร่อยจัง ปกติบวบมันต้องขมนะ ของณะทำไม่ขมเลยแถมสีอ่อนน่ากินด้วย”

“อ๋อ ก็ผมปลอกเปลือกบวบก่อนไงครับ บางคนเวลาทำเขาไม่ปอกมันเลยขมไง”

“เหรอๆ หูยแล้วดูไข่ดิ อร่อยได้อีก ทำบ่อยๆนะ” พระพายพูดแล้วยกยิ้ม นาวามองณะโมที่นั่งคุยเจื้อยแจ้วกับพี่พายของเจ้าตัวแล้วก็อยากจะขอยืดช่วงเวลาแบบนี้ออกไปให้นานที่สุด

“พี่เอกไม่กินผักอ่ะ เห็นตักกินแต่เนื้อกับไข่ กินผักด้วยซี่! เอ้า!” คนเป็นน้องพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นว่าพี่ชายตนไม่ยอมตักผักกินเลยแม้แต่น้อย พันเอกหน้าบึ้งทันทีพลางมองบวบสีเขียวอ่อนที่นอนแน่นิ่งอยู่ในจานของตัวเองก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาค้อนน้องชายตัวเองยกใหญ่

“ฉันไม่ชอบผักแกก็รู้”

“ไม่กินผักจะไม่โต!” พระพายสวนทั้งๆที่ข้าวยังเต็มสองแก้ม พันเอกกรอกตาไปมาก่อนจะตักบวบคืนน้องไป

“ฉันไม่โตไปมากกว่านี้แล้วล่ะ แกนั่นแหละต้องกินเยอะๆ ดูสิตัวอย่างกับหนูพุก ผลักทีปลิวไกลถึงดาวอังคารแล้วมั้งเนี่ย” คนเป็นพี่พูดพลางกลั้วหัวเราะ พระพายหน้าบึ้งย่นจมูกใส่พันเอกก่อนจะก้มหน้าก้มตาตักข้าวเข้าปากไม่สนใจใคร ในขณะที่ณะโมนั่งหัวเราะน้อยๆพลางส่งยิ้มไปให้พันเอกที่ยังคงมองน้องชายไม่วางตา

นาวามองบรรยากาศโดยรอบแล้วรู้สึกผ่อนคลายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากไม่นับเรื่องที่พันเอกทำตัวไร้เหตุผลด้วยการดึงเขามาทำร้ายสารพัดบ้านหลังนี้ก็น่าอยู่ไม่น้อย ร่างโปร่งนั่งกินข้าวเงียบๆพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนจะชะงักเมื่อมีเนื้อคำโตแน่นิ่งอยู่ในจานข้าว

“เล็มแต่ข้าวแล้วเมื่อไหร่จะมีเรี่ยวมีแรง” เป็นพันเอกนั่นเองที่ตักกับข้าวมาใส่จานให้เขา นาวาเงยหน้ามองใบหน้าคมเหรอหราอย่างงงๆในขณะที่พระพายนั่งอึ้งไปเล็กน้อย ส่วนณะโมเองก็เอียงคอแปลกใจก่อนจะไม่สนใจและหันไปกินข้าวต่ออย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว

“เอ่อ...ขะ...ขอบคุณครับ” ร่างโปร่งเอ่ยขอบคุณเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินไปอย่างเงียบๆ

พอมีครั้งที่หนึ่งครั้งต่อๆไปก็ตามมา ตลอดมื้ออาหารนั้นหลายคนก็ได้แต่แปลกใจที่พันเอกคอยตักกับข้าวใส่จานของนาวาเป็นระยะๆ และคนที่แปลกใจมากที่สุดคงจะไม่พ้นบุตรคนเล็กของกฤตภาสที่ได้แต่ขมวดคิ้วงุนงงกับบรรยากาศที่ดูผ่อนคลายลงถนัดตาของทั้งคู่ เกิดอะไรขึ้นระหว่างพันเอกกับนาวาอย่างนั้นหรือ?

“อ๋า ของคาวหมดไปก็ถึงคราวของหวาน เมนูนี้เชฟวาวาทำสุดฝีมือเลยนะครับเนี่ย แต่นแต๊นนนนนน...บัวลอยยยย~” เสียงเจื้อยแจ้วของณะโมที่นำเสนอของหวานฝีมือของนาวาดังขึ้นพร้อมกับบัวลอยหลากสีที่ลอยวนอยู่ท่ามกลางน้ำกะทิสีขาวนวลตา พระพายกลืนน้ำลายอึกใหญ่พลางกำช้อนแน่นในขณะที่พันเอกเองก็จ้องของหวานตรงหน้าไม่วางตา

“เนี่ยเป็นสูตรเด็ดของเชฟวาวาเลยนะครับ บัวลอยจะนุ่ม เหนียวนิดหน่อยพอให้รู้สึกละมุนลิ้น น้ำกะทิเองก็หวานพอดี สีสันสดใส การันตีโดยณะโมนักชิมสิบทิศ!” คนอายุน้อยที่สุดบนโต๊ะยืดอกนำเสนออย่างภาคภูมิใจในขณะที่พระพายเอาแต่ร้องประท้วงตาเป็นประกาย

“เสิร์ฟเลยๆๆๆๆๆๆ”

“เมื่อกี้ใครบ่นว่าอิ่มแล้ว” พันเอกสวนขึ้นเมื่อรู้สึกหมั่นไส้ท่าทีของน้องชายจนคนโดนแขวะต้องหันมาแลบลิ้นใส่

“แบร่ะ!” เท่านั้นแหละเสียงหัวเราะก็ดังครืนขึ้นทั่วบริเวณ นาวาลอบมองใบหน้าผ่อนคลายของพันเอกก่อนจะยกยิ้มจางๆ ปล่อยให้เวลาดำเนินไปเรื่อยๆพลางดื่มด่ำกับมื้ออาหารที่แสนสุขอย่างที่ไม่เคยได้รับ ปลดเปลื้องความทุกข์ที่แบกรับทิ้งลงพื้นชั่วคราวก่อนจะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับความสุขและความอบอุ่นที่ลอยอวลอยู่ตรงหน้าราวกับภาพความฝัน





หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไปด้วยเสียงหัวเราะและบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบที่ใครหลายๆคนคาดไม่ถึง พันเอกก็ปลีกตัวเข้าห้องทำงานเพื่อไปเคลียร์งานเอกสารเหมือนที่ทำเป็นประจำในขณะที่พระพายกับณะโมใช้พื้นที่ในห้องนั่งเล่นติวหนังสือกันอย่างขะมักเขม้น นาวาเองก็ปลีกตัวเข้าไปเคลียร์ความเรียบร้อยและทำความสะอาดโต๊ะอาหารและห้องครัว ร่างโปร่งล้างจานอย่างเงียบๆพลางคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

อยากให้ทุกๆวันเป็นเหมือนอย่างวันนี้ ไม่ต้องเป็นของเล่นของพันเอก ไม่ต้องเจ็บตัวเพราะความผิดที่ไม่ได้ก่อ ไม่ต้องรองรับความโหดร้ายจากร่างสูงกำยำนั่น

“อ้าวคุณวา ล้างจานอยู่เหรอครับ” ขณะคิดอะไรเพลินๆเสียงสดใสของพายุก็ดังขึ้นด้านหลัง คนที่กำลังล้างจานอยู่สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับไปมองด้านหลัง เห็นร่างโปร่งของพายุยืนยิ้มตาปิดอยู่ไม่ไกล

“ครับ แล้วคุณยุมาทำอะไรในห้องครัวเหรอครับ” นาวาเอ่ยถามเป็นจังหวะเดียวกับที่จานใบสุดท้ายถูกวางเอาไว้บนชั้นวางพอดิบพอดี

“ผมมาทุบหัวหอมให้ป้าเอื้องน่ะครับ เห็นว่าแกคัดจมูก” บอดี้การ์ดหนุ่มตอบพร้อมกับเดินไปหยิบหอมแดงออกมาพร้อมกับเขียงพลาสติกและมีดปอกผลไม้ นาวาขมวดคิ้วด้วยความงุนงงก่อนจะร้องอ๋อเมื่อพายุอธิบายเพิ่มเติม

“คุณวางงใช่ม้า คืองี้ครับ...เวลาคนสมัยก่อนเขาเป็นหวัดหรือมีน้ำมูก เขาจะทุบหอมแดงใส่ถ้วยเล็กๆแล้ววางข้างหมอนหรือไม่ก็หัวเตียงน่ะ กลิ่นของมันจะช่วยให้จมูกโล่งแล้วก็หายใจสะดวกขึ้น”

“อ๋อ ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะครับ”

“ภูมิปัญญาชาวบ้านน่ะครับ บ้านนี้เวลาใครเป็นหวัดก็ไม่ค่อยพึ่งยาหรอกครับ โดยเฉพาะนาย คัดจมูกมาทีไรเดินเข้ามาทุบหอมไปดมเล่นประจำ” พายุพูดยิ้มๆ สองมือก็วุ่นอยู่กับการใช้สันมีดทุบหอมแดงตรงหน้า

“เอ๊ะ คุณพันเอกป่วยเป็นด้วยเหรอ” นาวาเผลอถามออกมาอย่างซื่อๆทำเอาพายุหัวเราะพรืด

“นายก็คนนะครับคุณวา ตอนเด็กป่วยบ่อยจะตายไป ชอบทำให้ตัวเองป่วยแล้วอ้อนคุณหญิงกับคุณท่านน่ะครับ” พายุเล่าพร้อมกับยกยิ้มในขณะที่นาวานิ่งไป “ตอนเด็กๆนายเป็นคนขี้อ้อนมาก คงเพราะคุณท่านกับคุณหญิงเอาแต่ทำงานแล้วก็ต่างใช้ชีวิตใครชีวิตมัน ไม่มีหรอกครับที่จะมาอยู่กับแบบพ่อแม่ลูก”

“...”

“นายน่ะน่าสงสารมากนะครับคุณวา แต่ก็น่าหมั่นไส้ด้วยแหละเนาะ คุณวากำลังคิดแบบนี้อยู่แน่ๆ ผมรู้ ฮ่าๆ” พายุเย้าทำเอานาวาส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ พวกเขาคุยอะไรกันต่ออีกเล็กน้อยก่อนที่บอดี้การ์ดหนุ่มจะขอตัวออกไป นาวาหันมาตรวจสอบความเรียบร้อยในครัวก่อนจะเดินออกมา เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าดึกมากแล้วและพระพายกับณะโมเองก็แยกย้ายกันขึ้นห้องไปแล้วด้วย ร่างโปร่งก้าวเดินขึ้นไปชั้นบน ตรงดิ่งไปยังห้องนอนของผู้เป็นน้องชายก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องนอนที่ไหน

นาวาหมุนตัวกลับไปยังทิศทางที่ตั้งของห้องนอนใหญ่ เอื้อมมือจับลูกบิดและหมุนเข้าไปก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

“ทำอะไรทำไมถึงได้ขึ้นมาช้า” พันเอกเอ่ยถามเสียงเรียบ นาวาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาถือเอาไว้ก่อนจะตอบกลับเสียงเบา

“ล้างจานครับ เอ่อ...คุณอาบน้ำหรือยัง”

“อืม”

“ครับ...งั้น ผมขอตัวอาบน้ำสักครู่นะครับ”

“จะทำอะไรก็ทำ” พันเอกบอกปัด นาวาเห็นดังนั้นก็เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ ไม่รู้ว่าพันเอกยังจะจำได้หรือเปล่าว่าเมื่อตอนกลางวันเขาพูดอะไรเอาไว้ ถ้าเป็นทุกทีร่างสูงต้องกระโจนเข้ามารวบตัวเขาแล้วกดลงกับเตียงไปแล้ว แต่นี่พันเอกกลับมีท่าทีปกติ บางทีอาจจะไม่ใส่ใจและไม่สนใจในสิ่งที่นาวาบอกไปก่อนหน้านี้ก็เป็นได้

ก็ขอให้พันเอกไม่สนใจและปล่อยให้เขานอนดีๆจริงๆเถอะ

ไม่นานนาวาก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ผมเปียกชุ่ม หยดน้ำสีใสเกาะพราวตามเส้นผมนุ่มและใบหน้าได้รูป ร่างขาวโปร่งภายใต้เสื้อคลุมอาบน้ำสั่นน้อยๆในขณะที่เจ้าของร่างก้าวเดินผ่านหน้าของพันเอกเพื่อไปยังห้องแต่งตัว พันเอกวางหนังสือเอาไว้บนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะมองนาวาด้วยสายตาราบเรียบ ยังไม่ทันที่คนตัวเล็กกว่าจะได้เดินพ้นรัศมีเตียงเสียงทรงอำนาจก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

“จะไปไหน” พันเอกถามอีกฝ่ายพลางตวัดขาก้าวลงจากเตียง นาวาเม้มปากแน่นใจเต้นไม่เป็นส่ำราวกับล่วงรู้อนาคต “ฉันถามว่าจะไปไหน” พันเอกถามซ้ำเมื่ออีกคนยังเงียบกริบ ฝ่ามือใหญ่ยกขึ้นแตะท่อนแขนที่โผล่พ้นเสื้อคลุมอาบน้ำทำเอาอีกคนสะดุ้งโหยง

“ไป...ใส่เสื้อผ้าครับ” นาวาตอบเสียงแผ่วเบาพลางเบือนหน้าหนี สองขาขยับก้าวไปข้างหน้าหวังจะเดินออกจากตรงนี้แต่ทว่าข้อมือกลับถูกอีกคนคว้าหมับเอาไว้แน่น

“คุณ ผมจะไปแต่งตัว” นาวาหันไปพูดกับใครอีกคน และสิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือใบหน้าหล่อเหลาที่เคลื่อนเข้ามาใกล้พลางกระซิบชิดใบหู

“ใส่ทำไม เดี๋ยวก็ต้องถอด เสียเวลา”
!!!
“ไปที่เตียงสิ” ร่างสูงพูดต่อ ดวงตาคมมีเสน่ห์จ้องมองใบหน้าขาวซีดของนาวาพลางดึงแขนคนตัวเล็กกว่าไปยังเตียงกว้าง

นาวามองเตียงขนาดคิงไซส์ตรงหน้าด้วยความหวาดหวั่น ใช่ว่าไม่เคยมีสัมพันธ์กับพันเอกบนเตียงนั่นแต่ทุกครั้งมันมักเริ่มต้นโดยที่นาวาไม่สามารถตั้งตัวหรือขัดขืนได้ กว่าจะรู้อีกทีก็ถูกสอดใส่เข้ามาและหมดหนทางจะดิ้นหนีเสียแล้ว

หากแต่ครั้งนี้พันเอกกลับเลือกที่จะจับจูงมือเขาไปที่เตียงนอนมากกว่าฉุดกระชากลากถู

ครั้งนี้พันเอกไม่ได้กดร่างของเขาลงด้วยแรงกำลังทั้งหมดที่มีแต่เลือกที่จะค่อยๆประคับประคองร่างของเขาให้นอนราบลงไปกับเตียงอย่างช้าๆ

พันเอกอ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นาวาสัมผัสได้ถึงความแผ่วเบาบนปลายนิ้วที่จรดผิวกายแม้จะเพียงน้อยนิด ภายใต้ท่าทีดุดันทางสายตาและบรรยากาศโดยรอบมีความอุ่นร้อนอ่อนระโหยจากการกระทำของร่างกำยำตรงหน้าแทรกซ่อนอยู่

“นาวา” เสียงกระซิบเรียกชื่อหวานหูดังผะแผ่ว ทำเอาคนที่กำลังมึนงงอยู่ได้สติก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพบว่าตอนนี้เขากำลังทอดกายอยู่บนเตียงกว้าง สาบเสื้อคลุมอาบน้ำแยกออกเผยให้เห็นร่างขาวโพลนกับกลิ่นหอมอ่อนๆจากครีมอาบน้ำ สองขาแยกออกจากกันโดยมีร่างสูงสมส่วนของพันเอกแทรกกายอยู่ตรงกลาง

.

.

.

.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 26-01-2015 20:57:02
“วา” พันเอกเรียกชื่อเขาซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงแหบพร่า มือแกร่งตวัดเอาเรียวขาข้างหนึ่งของนาวาขึ้นมาวางพาดเบาๆบนบ่าแกร่งก่อนจะเอียงใบหน้าเข้าหาและแลบลิ้นร้อนชื้นออกมาไล้เลียต้นขาเขาแผ่วเบา

“ค...คุณเอก” นาวาเรียกอีกคนเสียงสั่น ดวงตาของพันเอกยามนี้ฉายแววบางอย่างที่ร่างโปร่งไม่เคยเห็น มันลุกโชนไปด้วยเพลิงปรารถนาที่แตกต่างออกไปจากทุกที อุณหภูมิในกายของคนที่นอนอยู่พุ่งขึ้นสูงเมื่อพันเอกลากปลายลิ้นของตนไปมาแผ่วเบา ฝากรอยสัมผัสฉ่ำชื้นฝังลงผิวเนื้ออ่อนละมุนทำเอาอีกคนสั่นไปทั้งร่าง นาวาแทบจะหดขาหนีแต่มือแกร่งของอีกคนก็ยึดมันเอาไว้แน่น พันเอกอ้าปากงับต้นขาของอีกคนแผ่วเบาก่อนจะเปลี่ยนไปเป็นดูดดึงจนเกิดเสียงน่าอาย

“อือ คุณ...คุณเอก” คนตัวเล็กกว่าครางเรียกชื่ออีกคนเสียงแหบระโหย นาวาใจสั่นไปทั่วทั้งอกขณะมองภาพตรงหน้าไม่วางตา พันเอกในตอนนี้ดูเซ็กซี่และน่าสัมผัสกว่าทุกวัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่แต่ในเวลานี้ร่างกายของเขาสั่นระริกไปด้วยความกลัวปะปนกับกระสันอยาก ความร้อนผะแผ่วจากลิ้นของพันเอกลากไล้ไปทั่วเรียวขา ขาอีกข้างถูกยกขึ้นมาพาดบ่าแกร่งจนทำให้ตอนนี้ท่าทีของทั้งคู่ดูล่อแหลมเสียจนหัวใจสองดวงเต้นรัวภายในอก

นาวาทึ้งผ้าปูที่นอนเต็มแรงยามที่ถูกอีกคนดูดดึงผิวเนื้อบริเวณต้นขาด้านในทั้งสองข้าง พันเอกฉกชิมราวกับร่างโปร่งเป็นเนื้ออันแสนโอชะ และเมื่อพอใจร่างแกร่งกำยำตรงหน้าก็ปล่อยขาทั้งสองข้างของเขาให้ตกลงมาแนบอยู่ที่เอวสอบ ร่างโปร่งหอบหายใจตัวแดงก่ำ พันเอกแลบลิ้นออกมาเลียริมฝีปากของตนพลางจับขาของนาวาและแยกมันออกกว้าง ดวงตาคมตวัดลงไปมองความแข็งขืนของคนตัวเล็กกว่าที่ตื่นตัวขึ้นเพียงแค่เขาจู่โจมบริเวณซอกขา เรื่อยไปจนถึงจีบพับสีสดทางด้านหลัง เสื้อคลุมอาบน้ำบัดนี้หลุดออกเผยร่างเปลือยสีระเรื่อแก่สายตา ประมุขของบ้านกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กับความเย้ายวนตรงหน้าก่อนจะกระชากเอวคอดของอีกคนเข้าหาเต็มแรง ดึงรั้งร่างขาวให้ลอยหวือจนบั้นท้ายกลมกลึงกระแทกเชิงกรานของอีกคนทำเอาทั้งสองร่างถึงกับหลุดครางด้วยความเร้าอารมณ์

“อื้อ...” เสียงครางแผ่วหลุดออกมาจากกลีบปากอวบอิ่มก่อนที่ริมฝีปากสีชาดของพันเอกจะฉกฉวยลงไปประทับแน่น แขนขาวยกขึ้นโอบรอบลำคอของพันเอกอย่างลืมตัว ปากอิ่มอ้าออกตอบรับสัมผัสของคนด้านบนอย่างยอมจำนน พันเอกปัดป่ายมือไปทั่วร่างขาวโพลนของคนข้างใต้ก่อนจะคำรามเสียงทุ้มต่ำเมื่อนาวาเผลอตัวแอ่นร่างขึ้นบดเบียดจนผิวกายเสียดสีกัน

ความอดทนของชายหนุ่มสิ้นสุดลง

ร่างสูงยืดตัวขึ้นก่อนจะจัดการกับกางเกงขายาวและอันเดอร์แวร์ของตนเอง ฝ่ามือหนาทำเพียงแค่รั้งมันลงเล็กน้อยก่อนจะปล่อยให้ความต้องการดีดตัวออกมาภายนอก นาวาได้สติทันทีที่เห็นความแข็งขืนของคนตรงหน้า ร่างโปร่งขยับตัวหนีอย่างรวดเร็วแต่กลับถูกพันเอกตะครุบเอวเอาไว้ได้เสียก่อน

“จะไปไหน”

“ผะ...ผม...” ร่างโปร่งอึกอัก พันเอกมองแววตาวูบไหวของนาวานิ่งๆก่อนจะเท้าแขนลงกับเตียงกักร่างของอีกคนเอาไว้

“วา” ชายหนุ่มเรียกชื่อของคนตัวเล็กกว่าเสียงนุ่ม นาวาจ้องหน้าของคนที่อยู่ๆก็เปลี่ยนท่าทีจนน่าใจหายอย่างสับสน

“ให้ฉัน...ได้ไหม” พันเอกร้องขอเสียงแหบพร่า จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมของนาวาอย่างแนวแน่ ความปรารถนาล้นปรี่ออกมาทำเอาร่างโปร่งร้อนวูบ กลีบปากเม้มแน่นอย่างสับสนขณะปล่อยกายให้พันเอกขยับเข้าหาและสวมกอดอย่างช้าๆ

“ทำไมอยู่ๆถึงทำแบบนี้” คนตัวเล็กกว่าเอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ พันเอกจูบซับทั่วพวงแก้มสีระเรื่อก่อนจะกระซิบชิดผิวนวลเนียน

“แบบไหน”

“แบบนี้ แบบที่ผมไม่เคยเห็น ทำไมถึงไม่ร้าย” นาวาเสียงสั่นเมื่อถูกอีกคนไล่จูบไปทั่วแก้มเรื่อยลงไปถึงลำคอและแผ่นอกสีซีด คำถามของอีกคนทำเอาร่างสูงชะงัก

“เกลียดรึเปล่าที่ทำแบบนี้” ประมุขของบ้านไม่ตอบแต่กลับถามขึ้นมาแทน นาวาหมุ่นหัวคิ้วอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเบือนหน้าหนีเมื่ออีกคนขยับลงมากระซิบแผ่วเบาข้างหูพร้อมกับค่อยๆแทรกร่างเข้ามาในตัวของนาวาอย่างช้าๆ

“เกลียดกันมากไหมวา เกลียดฉันมากไหม”

“อ๊ะ! ค...คุณ อาาาาา”

“ถ้าไม่ทำร้าย จะเกลียดกันน้อยลงหรือเปล่า” พันเอกยังคงถามเสียงแผ่วเบาขณะที่ร่างกายกำยำยังคงฝ่าความคับแน่นเข้าหาอีกคนจนสุดความยาว นาวาบีบไหล่กว้างของคนบนร่างแน่น กลีบปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อความเจ็บแล่นริ้วไปทั่ว พันเอกผละตัวออกมาเท้าแขนกักร่างของอีกคนไว้และจ้องดวงหน้าขาวที่กำลังแดงก่ำ มือข้างหนึ่งผละจากพื้นเตียง ยกขึ้นมาลูบไล้ผิวแก้มของนาวาแผ่วเบาในขณะที่สะโพกสอบเริ่มขยับเข้าออกเป็นจังหวะ

“อื้อ! ฮ่ะ...อ๊าาาาา” นาวาครางเสียงหวีดหวิว สองมือละลงไปจิกผ้าปูที่นอนแน่น ความร้อนระอุที่กำลังเสียดสีอยู่ภายในร่างทำเอาร่างโปร่งสั่นสะท้าน แผ่นหลังบางแอ่นขึ้น พันเอกเบียดร่างลงไปแนบชิดกับคนด้านใต้ก่อนจะก้มลงไล้เลียริมฝีปากสีสดของนาวาแนบแน่นในขณะที่เอวสอบยังโจนจ้วงถาโถมเข้าหาบั้นท้ายขาวเต็มแรง

สองร่างขยับกายเป็นจังหวะสอดประสาน เสียงบั้นท้ายขาวกระทบกับหน้าขาของร่างสูงใหญ่ดังลั่นไปทั่วบริเวณ นาวากรีดร้องเสียงรัญจวน หลับตาลงซึมซับความอ่อนโยนที่แทรกซ้อนอยู่ในจังหวะที่แสนจะดุดันเร่าร้อนของอีกฝ่าย ใบหน้าขาวเชิดรั้นยามกายแกร่งของอีกคนกระทบจุดเร้าภายในร่าง ลมหายใจร้อนผ่าวของคนตัวโตกว่าเป่ารดทั่วร่างเปลือยเปล่า สองกายแนบชิด ละทิ้งโลกแห่งความเป็นจริงเอาไว้เบื้องหลัง มอมเมายั่วเย้าอยู่กับโลกแห่งราคะที่หลอมรวมทั้งคู่เป็นหนึ่ง

“คุณเอก” นาวาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่นสะท้าน ร่างโปร่งโยกไหวตามแรงส่ง ขาทั้งสองข้างสั่นระริก ช่องทางอุ่นร้อนขยับบีบตัวรัดความปรารถนาที่กำลังเสียดสีเร่งเร้าอย่างไม่ยั้งแรง นาวากัดริมฝีปากแน่น กลัวตัวเองจะส่งเสียงครางลั่นอย่างเผลอไผล เหงื่อกาฬของคนทั้งคู่ชุ่มไปทั่วร่าง พันเอกจ้องใบหน้าบิดเบี้ยวตามแรงอารมณ์ของนาวาด้วยความรู้สึกสับสนก่อนจะเร่งจังหวะ ถาโถมความต้องการตอกย้ำว่าร่างกายนี้เป็นของเขา

นาวาครางเครือด้วยความกระสันซ่าน สะโพกเล็กส่ายรับแรงอารมณ์ของคนด้านบนอย่างร้อนเร่า เสียงจังหวะรักดังก้องไปทั่วโสตประสาท ทั้งคู่ปล่อยกายและใจให้โลดแล่นอยู่ท่ามกลางความต้องการทางร่างกาย กกกอดกดย้ำประสานร่างเป็นของกันและกัน หลงลืมว่าแท้จริงแล้วพวกเขาเกลียดกันมากเพียงใด ลบเลือนความเป็นจริงว่าพวกเขาต่างก็ไม่เคยนึกใยดีอีกฝ่ายเลยแม้เสี้ยววินาที

จังหวะพายุที่โหมกระหน่ำยังคงดำเนินต่อไปเนิ่นนาน พันเอกกระแทกสะโพกหนั่นแน่นเข้าใส่ร่างนาวาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ปลดปล่อยความต้องการเข้าไปในร่างของอีกคนหลายครั้งแต่กลับรู้สึกว่ายังไม่หนำใจมากพอ เพลงรักจบลงและเริ่มต้นขึ้นใหม่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา เสียงเรียกชื่อข้างหูดังผะแผ่วผสมผสานกับเสียงครางหวานล้ำ หยาดเหงื่อและน้ำรักเปรอะไปทั่วร่างและเตียงกว้างที่พวกเขาให้รองรับแรงอารมณ์ ท่วงท่าร่วมรักมากมายถูกนำมาใช้โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ต่างคนต่างสาดความต้องการทางเพศใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร

กว่าพายุทุกอย่างจะมอดดับลงเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบรุ่งสาง

พันเอกกระแทกกายหนักแน่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยความต้องการเข้าไปในร่างโปร่งที่นอนหอบตัวแดงอยู่ใต้ร่าง ชายหนุ่มแช่ตัวเองอยู่ในร่างของนาวาเนิ่นนาน ดวงตาคมจ้องลึกลงมองร่างขาวที่เซ็กซี่สะดุดตากว่าทุกทีด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก พันเอกยกมือขึ้นไล้หยาดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่ตามใบหน้าของอีกคนออกแผ่วเบาขณะค่อยๆถอนกายออกช้าๆ

“อืออ...” นาวาครางฮือ ช่องทางด้านหลังที่ผ่านการร่วมรักมาค่อนคืนโล่งวาบเมื่อร่างแกร่งของอีกคนถอดถอนออกไป จีบพับสีสดขยับตัวบีบรัดโหยหาส่วนเติมเต็มก่อนหน้า คราบความต้องการมากมายไหลย้อนออกมาเปรอะไปทั่วผ้าปูที่นอน ผ้าห่มยับยู่ยี่ สภาพเตียงนอนขณะนี้ราวกับผ่านสมรภูมิรบมาก็ไม่ปาน

“นอนพักเถอะ” พันเอกบอกเสียงราบเรียบพลางถอนหายใจ เขาไม่รู้ตัวเลยว่ารุนแรงกับคนตรงหน้าไปมากแค่ไหนจะกระทั่งทุกอย่างจบลง ความสับสนที่มีในใจผลักดันให้เรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้น พันเอกหวังจะหาคำตอบให้กับหัวใจตัวเองว่าแท้จริงแล้วเขาคิดกับคนตรงหน้าเช่นไรแต่ก็ไร้ประโยชน์

การร่วมรักกับนาวาไม่ได้ทำให้ความขุ่นมัวภายในใจกระจ่างขึ้น ซ้ำยังขุ่นมัวยิ่งกว่าเดิม

พันเอกไม่อยากยอมรับว่าเขารู้สึกอะไรกับนาวา เขาไม่อยากเรียกอาการไม่พอใจยามมีใครอื่นเข้าใกล้ร่างโปร่งว่า ‘หึง’ ไม่อยากรับรู้ว่าอยู่ๆก็เกิดอาการ ‘หวง’ เชลยแค้นตรงหน้าขึ้นมา

แต่มันจะเป็นอะไรไปได้นอกจากสองคำนี้เล่า

ไม่อยากยอมรับแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ เพียงแค่เห็นนาวาพูดคุยยิ้มแย้มกับผู้ชายคนอื่นความหึงหวงก็แล่นปราดไปทั่วร่าง

ถ้าถามว่าใครใจง่าย พันเอกก็คงต้องตอบว่าตัวเขาเองนั่นแหละ ทั้งๆที่หมกมุ่นอยู่กับความแค้นมาตลอด สนใจแต่ความเจ็บปวดของรามมากเกินไปจนลืมระวังหัวใจของตัวเอง ปล่อยปละละเลยให้ความรู้สึกถูกใจในรสรักและอะไรบางอย่างภายในตัวของนาวาเติบโตขึ้นจนบัดนี้มันเกาะกุมพื้นที่ในหัวใจไปเกือบครึ่ง

ทั้งๆที่แข็งแกร่งมาตลอด แต่พอมาเจอนาวา เพียงครั้งแรกที่เห็นใบหน้าขาวซีดของอีกคนผ่านรูปถ่ายแผ่นเล็กๆ หัวใจที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้าของเขาก็พลันอ่อนยวบเหมือนขี้ผึ้งลนไฟ

แต่จะให้เขากลับตัวตอนนี้มันก็คงสายเกินไป นาวาเกลียดเขา และก็คงจะเกลียดยิ่งกว่าเดิมหากเขายังคงดึงดันที่จะทำร้ายอีกคนต่อไป ชายหนุ่มมีทางเลือกไม่มากนัก เขาต้องเลือกระหว่างการละทิ้งความรู้สึกดีๆที่อาจจะพัฒนาเป็นความรักที่มีให้กับนาวา หรือเลือกที่จะเดินหน้าแก้แค้นรามต่อไปโดยต้องทำร้ายนาวาต่ออย่างเลือดเย็น

บางทีคำตอบมันอาจจะไม่ได้ยากเย็นนัก หากแต่พันเอกกลับไม่หนักแน่นพอที่จะเลือกมันมากกว่า เขาไม่รู้...ว่าควรจะเลือกหนทางไหน

ระหว่าง ความสุขในอนาคต กับ ความสมหวังในการแก้แค้น

จะยอมละทิ้งสิ่งที่เคยสูญเสีย เมินความเจ็บปวดที่ตัวเองและน้องชายเคยประสบพบเจอในวัยเยาว์ และเลือกที่จะเริ่มต้นใหม่และทำความรู้จักกับคนที่ถูกใจตั้งแต่แรกเห็น ทำราวกับไม่เคยมีเรื่องคลางแคลงใจกับอดีตเพื่อนสนิทย่างรามงั้นหรือ

ไม่หรอก...เขาทำไม่ได้

ฝ่ายนั้นฆ่าพ่อแม่ของเขา ทำให้เขาต้องระหกระเหินไร้เสาหลักอยู่นานนับปี ฉกชิงเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากชีวิตของเขา เหลือทิ้งเอาไว้เพียงกิจการของครอบครัวที่ล้มละลายอย่างไม่เป็นท่ากับหัวใจดวงน้อยๆที่แสนบอบช้ำของพระพาย

แม้ความรักในตัวเพื่อนเก่าแก่บอกให้ล้มเลิกอยู่บ่อยครั้ง หากแต่พอย้อนรำลึกไปถึงสิ่งที่รามเคยทำ ความเจ็บปวดในวันวานก็ยังคงแล่นริ้วไปทั่วทั้งอก

มันพรากพ่อแม่ของเขา

เล่นงานจนบริษัทของเขาย่อยยับ

และที่สำคัญที่สุดคือการทำร้ายจิตใจของพระพาย น้องชายหัวแก้วหัวแหวนเพียงหนึ่งเดียวก่อนจะหายตัวไป

แล้วเหตุนี้จะให้เขายอมละทิ้งความแค้นที่มีมาเนิ่นนานและเริ่มต้นใหม่ เขาทำไม่ได้

พันเอกทำไม่ได้จริงๆ



โปรดติดตามตอนต่อไป



- แอบแง้มอดีตของนายหัวกับหนูพายเพิ่มมาอีกจึ๋งนึง แต่ก็คงเดากันได้ไม่ยากอ่ะเนาะ 55555
- เรื่องนี้เป็นวายไทยเรื่องแรกที่แต่ง พล็อตตอนนี้หลวมโครกมากๆ ช่องว่างพรึ่บ ยังไงก็ต้องขออภัยหากมีอะไรไม่สมเหตุสมผลในบางประการด้วยนะคะ ติชมและให้คำแนะนำกันได้ตลอดเลยน้า ^^
- สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกคนด้วยนะคะ เราอ่านแล้วแรงฮึดล้นหลามมาก (แต่หล่อนก็ยังอู้นะยะ 5555) ยังไงก็เจอกันตอนหน้าเน่อ ><
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 26-01-2015 21:07:33
 :katai2-1:   ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 26-01-2015 21:13:46
 สนุกมากค่ะ
สงสารก็แต่นาวา. ถูกใช้เป็นเครื่องมือ
แถมพันเอกยังไม่ยอมปล่อยวางอีก
 :mew2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: jaokhwan ที่ 26-01-2015 21:19:33
อยากให้คนเขียนมาต่อเร็วๆ อยากให้ถึงตอนที่นาวาลุกขึ้นมาสู้ อยากเห็นวันที่พันเอกต้องคุกเข่าขอร้องนาวา :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 26-01-2015 21:44:26
เฮียเอกกก  ค่อยๆคิดนะคะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 26-01-2015 21:45:14
มันเลือกยากจริง ๆ ความรักกับความแค้น มันไปด้วยกันไม่ได้เลย
พันเอกกับนาวามันจะจบที่ตรงไหนไม่เข้าใจเลย มีแต่รามคนเดียวที่รู้ซินะว่าอะไรเป็นอะไร
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 26-01-2015 22:03:25
ในเมื่อรู้ใจแล้วก็ทำตัวดีๆหน่อยนะคุณพันเอก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 26-01-2015 22:11:04
 :ling1: อึดอัดกับพันเอก โตแล้วนะโว้ย คิดให้นานๆ หน่อย

แต่ก็นั่นแหล่ะ ดูท่าจะเลือกความแค้นต่อไปซินะ ศพไม่สวยแน่พันเอก ตายหยั่งเขียด
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 26-01-2015 22:18:46
เมื่อไหร่ อิตานี่จะคิดเป็น คิดได้ว่า

แก้แค้นไปคนตายกัอไม่ขึ้นมา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: white shark ที่ 26-01-2015 23:31:08
ทำไมพระเอกเรื่องนี้ดูเลวจังคะ
นี่สาบานนะว่ามันเป็นพระเอกกก
โฮกกกก เราเชียร์พี่รามน้องพายอยู่นะฮับ น่าย๊ากกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: wavalove ที่ 26-01-2015 23:56:00
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tomybsl ที่ 27-01-2015 00:09:33
จ้ะพ่อคุณ!!จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ แต่จงรับรู้เอาไว้ว่ายังมีคนที่คอยสมน้ำหน้าแกอยู่ตรงนี้  :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 27-01-2015 00:15:12
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 27-01-2015 00:16:32
พันเอกกกกกก...หัดกินผักหน่อยดิ เดี๋ยวก็ท้องผูกหรอก ที่อารมณ์นายเสียบ่อยๆเนี้ยเป็นเพราะไม่กินผักแน่ๆเชื่อเราสิฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-01-2015 00:37:03
นี่ถ้านาวาท้องได้คงท้องเพราะคืนนี้แหละ
พ่อคุณเล่นจัดหนักจัดเต็มซะขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 27-01-2015 07:01:12
รู้สึกเหมือนเฮียจะตกหลุมรักนะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 27-01-2015 10:57:56
 :hao6:  นี่อาจจะเป็นครั้งแรก ที่วา เสียตัวแบบ กึ่งเต็มใจ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 27-01-2015 15:31:27
ขอให้พันเอกคิดได้เร็วๆค่ะ  :call:

รอตอนต่อไปค่ะ  :z13:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 27-01-2015 17:20:21
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 27-01-2015 19:28:49
อย่ามาคิดได้ในวันที่สายแล้วกัน หุหุ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: hongzaa ที่ 27-01-2015 20:53:58
พันเอกกกกกก กลับตัวก็ไม่ได้ ให้เดินต่อใจก็ลังเลอีกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
สงนาวาาาา นาวาน่ารักนะเอกกก อย่าทำร้ายนาวาเลยยยย

............... เรื่องของนายหัวกะพระพายนี่มันแอบมีเบื้องหน้าเบื้องหลังสินะ
รึพระพายเคยรักนายหัวแล้วโดนหักอกกกกก งื้ออออออ
สงสารพระพายลวงหน้าแปปปปปปปปปปปปป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: KakukI ที่ 28-01-2015 02:17:10
งือ~ เฮียเอกรีบๆรู้ใจตัวเองเถอะ แก้แค้นไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก :mew2:
มีแต่จะทำให้แย่ไปกันใหญ่
เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PoPuAr ที่ 28-01-2015 11:49:27
ตอนนี้เป็นการร่วมรักแบบคนรักที่หวานอ่อนโยนมากๆ

แต่อะไรหวานๆคงอยู่ได้ไม่นาน เพราะพันเอกมันไม่ถนัด ชอบความรุนแรงมากกว่า

รอวันที่จะตกหลุมรักนาวาจนถอนตัวไม่ขึ้น

อยากอ่านเรื่องของรามกับหนูพระพาย อัพถึงไหนแล้วคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 28-01-2015 13:18:42
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Namphungcandy ที่ 28-01-2015 23:00:13
เราจิตตกกับนิยายเรื่องนี้มากคือพระเอกเกินไปอย่าเรียกพระเอกเลยไม่มีคุณสมบัติเลยมากกว่าคนแต่งแต่งได้ดีมากค่ะบอกก่อนเลยเราสมัครสมาชิกเพื่อนิยายเรื่องนี้เลยคือพระเอกบอกให้ลูกน้องไปจุดๆ.. วันละคนน้ำตาแตกคือรับไม่ได้เกินไปแล้วนาวาาาาาาาาาาาT^T แช่งให้พระเอกตายๆไปซะ :z3: :z3: :hao5:
ไม่ติดตามต่อเพราะรับเรื่องนี้ไม่ได้คือมันหนักหนาเกินไปกับร่างบอบบางแบบนั่น
ถ้าโดนพี่เอกคนเดียวก็ว่าไปอย่างนี้คนงานTT^^^TTY เอดส์ไม่แดกนายเอกกูเหรออิพี่เอกเกลียดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 28-01-2015 23:36:27
เราจิตตกกับนิยายเรื่องนี้มากคือพระเอกเกินไปอย่าเรียกพระเอกเลยไม่มีคุณสมบัติเลยมากกว่าคนแต่งแต่งได้ดีมากค่ะบอกก่อนเลยเราสมัครสมาชิกเพื่อนิยายเรื่องนี้เลยคือพระเอกบอกให้ลูกน้องไปจุดๆ.. วันละคนน้ำตาแตกคือรับไม่ได้เกินไปแล้วนาวาาาาาาาาาาาT^T แช่งให้พระเอกตายๆไปซะ :z3: :z3: :hao5:
ไม่ติดตามต่อเพราะรับเรื่องนี้ไม่ได้คือมันหนักหนาเกินไปกับร่างบอบบางแบบนั่น
ถ้าโดนพี่เอกคนเดียวก็ว่าไปอย่างนี้คนงานTT^^^TTY เอดส์ไม่แดกนายเอกกูเหรออิพี่เอกเกลียดดดดดดด

อ่า...เราไม่รู้เหมือนกันว่าคุณคนอ่านได้อ่านตอนต่อจากนี้หรือเปล่า แต่ถ้าอ่านต่อจะรู้ว่าเราเฉลยจุดนี้ไปเรียบร้อยแล้วและมันไม่รุนแรงอย่างที่คิด แต่ก็ไม่เป็นไรเนาะ ยังไงก็ต้องขอขอบคุณมากๆน้า พระเอกโดนสรรเสริญสุดๆ 5555555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Namphungcandy ที่ 29-01-2015 00:01:07
เราอยากอ่านอ่ะ ! เราเสียน้ำตาไปกับนาวาหลายหยดมากอินจัดกับนิยายไรเตอร์
เฉลยยังไง เราต้องอ่านต่อล่ะกลัวน้ำตาไหลบอกได้ไหมเฉลยแบบไหนเซอร์วิสที่ตรงไหน
คือมันหน่วงอ่ะ ปวดใจ คนอ่านจริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-01-2015 00:07:47
เราอยากอ่านอ่ะ ! เราเสียน้ำตาไปกับนาวาหลายหยดมากอินจัดกับนิยายไรเตอร์
เฉลยยังไง เราต้องอ่านต่อล่ะกลัวน้ำตาไหลบอกได้ไหมเฉลยแบบไหนเซอร์วิสที่ตรงไหน
คือมันหน่วงอ่ะ ปวดใจ คนอ่านจริงๆ  :hao5:
ถ้ายังไม่ได้อ่านต่อก็สามารถอ่านต่อได้เลยค่ะสบายใจได้ ไม่ได้ดราม่าอย่างที่คิดเลยน้าาา ทุกอย่างแฮปปี้แน่นอน เราเอาหัวเป็นประกันเลย  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Namphungcandy ที่ 29-01-2015 00:15:18
จร้า ขอบคุณนะค่ะไรเตอร์ เราจะติดตามผลงานไรเตอร์นะ
เราอ่านถึงตอนที่ 8 ตอนไปโรงบาลและจร้า หน้าที่2
ขอโทษนะ ทำไหมถึงต้องให้นาวาจุดๆกับลูกน้องพระเอกด้วย


เราหน่วงตรงนี้ มันเป็นอะไรที่บีบหัวใจคนอ่าน  :ling3: 
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 30-01-2015 22:39:10
อ่านทันแล้ววววว

โอ๊ยยยยยย อิตาพันเอกนี่ก็นะ จะจมอยู่อะไรกับความแค้นนักหนา นั่นก็เพื่อนหรือเปล่า เคยลองเปิดใจไปคุยกันดีๆ ให้รู้เรื่องรู้ราวหรือยัง?
อิตารามก็ดูงึมงำ เฮ้ยยยยยย แกคุยกันก่อนไหม?

อะไรเนี่ย อยู่ๆไปลงกับน้องวาแบบนั้นได้ยังไง นี่ตอนแรกๆอิตาพันเอกนี่น่าป๊าบมากเลยนะ รู้สึกอยากจะเอามือทะลุจอไปจับหัวโขกกำแพงสักป๊าบ อะไรจะเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางขนาดนั้น ฮึ้ยยยยย

สงสารน้องบ้าง ถนอมน้องบ้าง อยากจะให้น้องได้เอาคืนจริงๆเหอะค่ะ ฮึ้ยยยยย ขัดใจ

(ขออภัย อารมณ์มาเต็มไปนิด แหะๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: earntaetae ที่ 06-02-2015 16:34:25
ทำไมรู้สึกตอนนี้ละมุน :impress2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 06-02-2015 20:36:26
ถ้าถามว่าให้เลือกทางไหน

คนอ่านก็จะตอบว่า

ให้เลือกข้อแรก และละทิ้งความแค้น

ลองมองดีๆว่ามีความสุขแค่ไหน ตอนเวลาทานอาหารเย็นบนโต๊ะ

จำความรู้สึกดีๆไว้นะพันเอก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-03-2015 23:19:33
(http://image.ohozaa.com/i/83a/HTKAcr.png)
ตอนที่ ๑๔ : สิ้นสุดความอดทน



นาวาลืมตาตื่นขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้นด้วยความอ่อนล้า ร่างขาวเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มขยับตัวเล็กน้อยขับไล่ความเมื่อยขบออกไปจากร่างก่อนจะชะงักเมื่อรู้สึกถึงแรงกอดรัดบริเวณช่วงเอว ชายหนุ่มก้มลงมองวงแขนแกร่งที่โอบรัดร่างของเขาแน่นในขณะที่ลมหายใจร้อนผ่าวเป่ารดอยู่บริเวณหลังคอให้ใจสั่นเล่นๆ กลีบปากอิ่มเม้มแน่นเมื่อลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้จนหมด แก้มขาวขึ้นสีระเรื่อเมื่อนึกได้ว่าตัวเองเผลอปล่อยตัวไปตามอารมณ์ราคะจนตอบรับสัมผัสของพันเอกอย่างลืมอาย

ลืมว่าเคยถูกพันเอกย่ำยีศักดิ์ศรีมากแค่ไหน

ลืมว่าเคยถูกเทวดาใจร้ายคนนี้ทรมานทั้งกายและใจมามากเพียงใด

ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง เพียงแค่อีกฝ่ายทอดสายตาอ่อนโยนพร้อมกับกระซิบถ้อยคำออดอ้อนอ่อนหวานข้างหู เอ่ยขอให้เขายินยอมทอดกายร่วมรักอย่างร้อนเร่าราวกับคนรักกัน

ราวกับว่าเราทั้งคู่เป็นคนรักกัน

“คิดอะไรอยู่”
“คุณเอก...” นาวาเรียกอีกคนเสียงแผ่วเมื่อจู่ๆพันเอกก็ขยับเข้ามาสวมกอดร่างของเขาแน่นขึ้นพลางเลื่อนใบหน้าเข้ามากระซิบเสียงหวานข้างหู ผิวแก้มของคนตัวโตแนบลงกับแก้มของนาวาพาให้ดวงหน้าร้อนวาบ พันเอกกดจมูกลงบนขมับบางอย่างอ่อนโยนก่อนจะถามซ้ำ
“ฉันถามว่าคิดอะไรอยู่”
“เปล่าครับ คุณ...ปล่อยเถอะ มันเช้าแล้ว” คนตัวขาวขืนตัวหนีเมื่อมือแกร่งลูบไล้ไปทั่วผิวกายพาให้ร่างร้อนวูบ นาวาขยับตัวลงจากเตียงพลางคว้าปลายผ้าห่มผืนใหญ่มาปิดร่างเอาไว้ ร่างโปร่งหันรีหันขวางทำอะไรไม่ถูก อยากจะปล่อยผ้าห่มเอาไว้บนเตียงและเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำแต่เขาก็ยังไม่กล้าพอจะเปลือยกายต่อหน้าใครอีกคน แต่หากจะให้ดึงผ้าห่มไปพันตัวเป็นหนอนยักษ์ก็คงทำไม่ได้เพราะบนเตียงนี้มีผ้าห่มเพียงแค่ผืนเดียว ชุดคลุมอาบน้ำที่ใส่เมื่อวานก็ลอยไปตกอยู่ตรงไหนแล้วไม่รู้

และในขณะที่นาวากำลังยืนคิดไม่ตกอยู่นั้นเขาก็ต้องหวีดร้องเมื่อพันเอกตามมาคว้าเอวหมับก่อนจะดึงให้ล้มลงไปนั่งแหมะบนตักแกร่งบนเตียงกว้าง นาวาหันไปมองคนที่มีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างนึกกลัวพลางขืนตัวไม่ให้ร่างสูงกอด

“คุณเอก ปล่อยครับ ผมจะไปอาบน้ำ”

“เดี๋ยวรออาบพร้อมกัน” พันเอกกระซิบ คลอเคลียริมฝีปากกับผิวแก้มขาวเย้ายวนตรงหน้า นาวาได้ฟังก็เม้มปากแน่น ตัดสินใจหันไปประจันหน้ากับพันเอกและเอ่ยถามขึ้นมาตรงๆ

“คุณต้องการอะไรกันแน่ครับคุณเอก บอกผมมาตรงๆเลยดีกว่า”

คำถามของนาวาทำเอาร่างสูงชะงัก ดวงตาคมปลาบจ้องมองแววตาสั่นไหวไม่เข้าใจของนาวาพลางเบือนหน้าหนี

จะให้ตอบยังไงว่าเขาเองก็ไม่รู้ ตัวพันเอกเองก็ยังสับสนในความรู้สึกลึกๆเช่นกัน

“อยู่ๆคุณก็มาทำดี มาพูดดีด้วย ทำเหมือนกับว่าเราสองคนรักกันทั้งที่ก่อนหน้านี้เรายังอยู่คนละฟากของกำแพง คุณทำให้ผมกลัวรู้ไหม” นาวาร่ายยาว รู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกระชับอ้อมแขนให้ร่างของเขาขยับเข้าไปใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นก่อนจะเงียบราวกับจงใจเมินสิ่งที่ได้ยิน คนตัวขาวเม้มปากเมื่อพันเอกเงียบกริบ ร่างโปร่งขืนตัวหนีอ้อมแขนแกร่งก่อนจะก้าวลงจากเตียงทว่ากลับต้องยืนแข็งทื่อเมื่อได้ยินสิ่งที่พันเอกเอ่ยออกมา

“ก็แค่อยากจะมีความทรงจำดีๆระหว่างกันบ้างก็เท่านั้น”
 

...
 

ความทรงจำดีๆงั้นหรือ เหลวไหลสิ้นดี
 

“ปล่อยผมกับน้องไปนั่นแหละคือความทรงจำดีๆระหว่างเราในแบบที่ผมต้องการ” นาวาเอ่ยขึ้น ไม่แม้แต่จะหันไปมองร่างสูงของคนด้านหลัง ชายหนุ่มเดินไปคว้าเสื้อคลุมขึ้นมาสวมก่อนจะก้าวเข้าไปภายในห้องน้ำ ทิ้งให้พันเอกนั่งอยู่บนเตียงกว้างด้วยความรู้สึกสับสนพลางกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิดใจ

เห็นได้ชัดว่ามีแค่เขาคนเดียวที่สับสนเป็นบ้าเป็นหลังไปเองคนเดียว นาวาเกลียดเขา ไม่ว่ายังไงพันเอกก็ไม่มีวันลบล้างความเกลียดภายในใจของนาวาไปได้

แต่ก็ยังหวัง...หวังลมๆแล้งๆทั้งที่รู้ว่าความหวังนั้นไม่มีวันเป็นจริง

พันเอกก็แค่หวัง

อย่างน้อยก็ขอให้มีเรื่องดีๆระหว่างกันก่อนจากลาบ้างก็เท่านั้นเอง





“พี่วาครับ ผมอยากมาคุยเรื่องณะโมหน่อยได้ไหม” เสียงของพระพายดังขึ้นในช่วงสายของวันพร้อมกับร่างเพรียวสะดุดตาที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีอ่อนกับกางเกงขาสามส่วนสำหรับใส่อยู่บ้าน นาวายกยิ้มพลางขยับกายให้พระพายนั่งลงข้างกันก่อนจะขมวดคิ้วเมื่ออีกฝ่ายวางโบชัวร์ของโรงเรียนกวดวิชาลงตรงหน้าเขา

“ผมอยากให้ณะโมเรียนกวดวิชาครับ ลองถามเจ้าตัวดูแล้วก็บอกว่าอยากเรียนแต่เกรงใจเรื่องค่าใช้จ่ายเลยให้มาขออนุญาตพี่ก่อน”

“ไม่หรอกครับคุณพาย ผมว่าอย่าเลย เปลืองเงินเปล่าๆ” นาวารีบปฏิเสธ พอเห็นตัวเลขในโบชัวร์แล้วก็ได้แต่แอบถอนหายใจกับราคาสูงลิ่วที่ผ่านสายตา ฝ่ายพระพายพอได้ฟังก็หน้าหงิกก่อนจะเป่าลมหายใจออกมาฟอดใหญ่

"ขี้เกรงใจกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย เงินแค่นี้ขนหน้าแข้งพี่เอกไม่ร่วงหรอกครับ ส่งเด็กกำพร้ายี่สิบสามสิบคนเรียนจนจบปริญญาโทยังไหว”

“ไม่ดีกว่าครับ แค่เขา...เอ่อ...แค่ส่งให้น้องผมเรียนจนจบมอปลายผมก็คิดว่าน่าจะเพียงพอแล้ว”

“อ้าว! ไหนตอนแรกตกลงกันไว้ว่าจะส่งให้ณะเรียนจนถึงมหาลัยเลยละพี่วา” พระพายถามอย่างฉงนเมื่อได้ยินนาวาบอกมาแบบนั้น คนถูกถามเม้มปากแน่นก่อนจะอ้อมแอ้มตอบ

“ผมคงไม่อยู่ที่นี่นานขนาดนั้น” ใช่ นาวาไม่คิดจะอยู่กับพันเอกจนน้องชายเรียนจบปริญญาตรีเป็นแน่ มันทรมานเกินไปสำหรับเขา แค่ถูกใช้เป็นเครื่องมือให้อีกฝ่ายแก้แค้นและเล่นสนุกกับร่างกายรวมไปถึงจิตใจราวกับของเล่นชิ้นหนึ่งมันก็มากเกินพอแล้ว นาวาไม่รู้เลยว่าหากอยู่กับพันเอกไปจนณะโมเรียนจบแล้วเขาจะเหลืออะไรไว้ให้ตัวเองได้ภาคภูมิใจได้บ้าง

“คุณพระพายไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายหรอกนะครับ ผมจะพยายามหามาใช้คืนคุณพันเอกทุกบาททุกสตางค์แน่นอน” นาวาเอ่ย แต่ถึงจะบอกไปแบบนั้นแต่เขาก็ไม่เห็นหนทางที่จะชดใช้หนี้สินทางการศึกษาของน้องชายเลยแม้แต่น้อย

“พี่วาไม่มีความสุขเหรอครับ” พระพายถามขึ้นอย่างลืมตัวก่อนจะสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายตะคอกใส่

“มันก็ต้องแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...เอ่อ ขอโทษครับ ผมลืมตัว” เอ่ยขอโทษด้วยความรู้สึกผิดเมื่อเผลอขึ้นเสียงให้คุณหนูของบ้านตกใจ พระพายหลุบสายตาลงมองมือตัวเองก่อนจะถอนหายใจ

“ผมขอโทษ ผมลืมไปว่าเรื่องมันยังไม่จบ” คนตัวขาวเอ่ยขึ้นก่อนจะเผลอยกมือขึ้นมาลูบบางอย่างที่ห้อยอยู่บนลำคอแผ่วเบา

“ผมมองไม่เห็นปลายทางของชีวิตตัวเองเลยนอกจากความตาย ถ้าพวกเขายังไม่หยุด ถ้าคุณพันเอกยังไม่ยอมปล่อยวาง สิ่งเดียวที่ผมเหลืออยู่ในตอนนี้ก็มีแค่ชีวิตของผมแล้วนะครับ” นาวาเอ่ยขึ้นอย่างคนที่หมดแล้วซึ่งหนทาง ร่างโปร่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะพึมพำเสียงแผ่วเบาแต่ทว่ากลับดังก้องเข้าไปในโสตประสาทของอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“บางทีถ้าผมไม่โลภอยากมีเงินมีที่อยู่จนหน้ามืดตามัว ชีวิตแบบคนไร้บ้านของผมกับน้องอาจจะดีกว่านี้ก็ได้”

“พี่วา...”

“ตะลอนหางานทำ หาเงินมาเลี้ยงชีวิตไปวันๆ ดีกว่าต้องมาอยู่สุขสบายแต่เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่แบบนี้” ชายหนุ่มพูดจบพลางก้มลงมองมือที่ประสานกันจนแน่นด้วยดวงตาว่างเปล่า ความเหนื่อยล้าอ่อนแรงถาโถม ความเจ็บปวดแปรเปลี่ยนเป็นความชินชา ความน้อยเนื้อต่ำใจในโชคชะตากลับกลายเป็นการก้มหน้ายอมรับมันและเลือกที่จะมองผ่านให้เป็นเพียงฝุ่นธุลี

ถือซะว่าความทรมานและโชคร้ายเหล่านี้เป็นเพียงแค่บททดสอบของการเป็นมนุษย์

หากอดทนและผ่านมันไปได้ นั่นหมายความว่าเขาคู่ควรกับการมีลมหายใจอยู่ต่อไปบนโลก

แต่หากเมื่อใดที่ความอดทนสิ้นสุดลง เมื่อนั้นก็คงเป็นวันเดียวกันกับที่ลมหายใจของนาวาจะหยุดลงเช่นเดียวกัน...





บทสนทนาของนาวาและพระพายจบลงเพียงเท่านั้น หลังจากที่นาวาพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นฝ่ายกฤตภาสผู้น้องก็เงียบกริบ ดวงหน้าขาวทอดมองมาที่ร่างสูงโปร่งด้วยความสงสารสุดใจ พระพายทำเพียงแค่ยกมือขึ้นไปบีบไหล่ของนาวาเพื่อให้กำลังใจก่อนจะปลีกตัวออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้นาวาได้อยู่เพียงลำพังเพื่อพักกายและจิตใจที่ต้องแบกรับเรื่องราวมากมายมาเนิ่นนาน

และเมื่อนาฬิกาบอกเวลาของมื้ออาหารในยามเที่ยง นาวาก็ถูกเรียกให้ไปเข้าครัวเพื่อทำกับข้าวให้พระพายกับพันเอกที่วันนี้เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องทำงานกิน นาวาสังเกตมาสักพักแล้ว เขาไม่รู้หรอกว่าพันเอกทำงานเกี่ยวกับอะไรแต่มันก็คงเป็นธุรกิจส่วนตัว ดูท่าจะกิจการดีไม่น้อยเพราะฝ่ายนั้นมีกินมีใช้เหลือเฟือ ประมาณเอาจากขนาดของบ้านที่แทบจะไม่ต่างอะไรกับคฤหาสน์เลยสักนิด แม้จะไม่หรูหราและกว้างขวางเท่าแต่เนื้อที่ภายในบ้านกฤตภาสก็มีเยอะจนเหลือกินเหลือใช้ ขนาดว่ามีเรือนพักคนใช้และเรือนบอดี้การ์ดแยกหญิงชายสองฟากฝั่งด้านหลังแต่ก็ไม่ได้ทำให้ตัวบ้านดูอึดอัดรกชัฏแต่อย่างใด นอกจากจะมีเรือนพักที่เกินจำนวนคนงานแล้ว ข้างกันยังมีเรือนกระจกขนาดกลางสำหรับปลูกต้นไม้และส่วนหย่อมขนาดย่อมเอาไว้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ หากตัดปัญหาเรื่องนิสัยและการกระทำอันต่ำทรามของเจ้าของบ้าน กฤตภาสก็ถือเป็นบ้านในฝันของนาวาเลยก็ว่าได้

นาวาชอบไปนั่งเล่นในเรือนกระจก ในนั้นมีเรือนไม้เล็กๆตั้งอยู่ วันไหนที่เขาทำงานบ้านทุกอย่างเสร็จแล้วและไม่มีอะไรทำเวลาทั้งหมดก็จะถูกใช้ไปกับการนั่งมองต้นไม้ใบหญ้าภายในนั้น อย่างน้อยธรรมชาติก็ทำให้เขาผ่อนคลายก่อนจะต้องไปปะทะคารมกบพันเอกไม่เว้นแต่ละวัน

“เหม่อไปไหนแล้วคะคุณวา” เสียงของมินตราดังขึ้นพร้อมกับมือเล็กที่แตะลงมาบนแผ่นหลังทำเอานาวาสะดุ้งเพียงเล็กน้อยก่อนจะยกยิ้มเก้อๆ

“โทษทีนะมีน คิดอะไรนิดหน่อยน่ะ” ร่างโปร่งตอบพร้อมกับก้มลงมองกับข้าวหลากสีสันตรงหน้า วันนี้มื้อเที่ยงของบ้านหลังนี้มีจำนวนมากกว่าที่เคยเพราะพระพายไม่มีเรียนและไม่คิดออกไปไหน นาวาเลยต้องทำกับข้าวเอาใจคนช่างกินช่างออดอ้อนเสียหน่อย

“มีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าคะคุณวา บอกมีนได้นะคะ” มินตราเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง นาวาก้มลงมองใบหน้าหวานของสาวใช้ตรงหน้าพลางยกยิ้มพร้อมกับยีผมของสาวเจ้าด้วยความเอ็นดู

“อย่าทำตาหวานใส่กันแบบนั้นสิมีน เดี๋ยวคุณจักรมาเห็นละก็หึงแย่” เอ่ยถึงบอดี้การ์ดฝีมือดีของพันเอกทำเอาคนถูกแซวค้อนวงใหญ่แก้เขิน ไม่รู้ว่าพันเอกจะรู้ไหมว่าจักรกับมินตรากำลังพัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างเงียบๆ แต่หลังๆมานี้ความสนิทสนมของทั้งคู่มีมากขึ้นจนนาวาและพระพายดูออก

“คุณวาก็ เลิกแซวมีนเลยนะคะ” มินตราเอ่ยเสียงกระเง้ากระงอด นาวาหัวเราะเบาๆกับท่าทีน่าเอ็นดูนั้นก่อนจะเอ่ยเตือนกลายๆ

“ระวังอย่าให้เหมือนคุณสันต์กับน้ำอุ่นเข้าล่ะ ถึงคุณจักรจะเป็นมือดีแต่ถ้าประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแล้วคราวนี้คงบ้านแตก”

“โห ไม่บอกมีนก็รู้แล้วล่ะค่ะ คราวยัยอุ่นน่ะคุณเอกน่ากลัวจะตายไป มีนล่ะกลัวคุณเขาไล่ยิงพี่สันต์จนไส้ไหลจริงๆ” สาวใช้หน้าหวานบ่นอุบติดตลกเรียกเสียงกลั้นขำเบาๆให้ดังขึ้น นาวาคิดภาพตามคำบอกเล่าดังกล่าวพลางหลุดหัวเราะก่อนจะส่ายหน้าไล่ความคิดเพ้อเจ้อออกไปจากหัว

“ดูเขาหัวโบราณดีนะ คงให้เกียรติคนรักน่าดู ว่าแต่...คุณเอกของมีนน่ะมีคนรักรึเปล่า” ร่างโปร่งเอ่ยถามออกไปอย่างลืมตัวทำเอามินตราถึงกับเอียงคอด้วยความแปลกใจกับคำถามของชายหนุ่มตรงหน้า

“คนรัก?”

“อื้ม ผู้หญิงที่เขารักน่ะ แล้วถ้ามี...เธอไม่ว่าอะไรเลยเหรอที่คนรักของตัวเองมาทำอะไรกับ...เอ่อ...กับผู้ชายแบบนี้” นาวาเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกักก่อนจะเม้มปากแน่นเมื่อรู้สึกร้อนซู่ไปทั่วใบหน้า มินตราขมวดคิ้วงงกับคำถามนั้นก่อนจะถามเขากลับด้วยน้ำเสียงฉงน

“เอ๋ ขนาดนี้แล้วคุณวายังไม่รู้อีกเหรอคะว่าคุณเอกเป็นเกย์”

“อะ...อะไรนะ?” นาวาทวนคำของอีกคนอย่างไม่เชื่อหู มินตราทำหน้าเหรอหราด้วยความตกใจเล็กน้อยก่อนจะพูดซ้ำ

“ก็...คุณเอกมี...เอ่อ...มีอะไรกับคุณวาแล้ว มีนก็นึกว่าคุณวาจะรู้แล้วซะอีกว่าคุณเอกเขาไม่ชอบผู้หญิง”

“ห๊ะ? เขาไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้นเท่านั้นหรอกเหรอ” คราวนี้เป็นนาวาที่แปลกใจบ้าง ที่ผ่านมาเขาคิดเสมอว่าที่พันเอกมีความสัมพันธ์กับเขาเพียงเพราะต้องการให้รามเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ไม่ได้คิดว่าพันเอกจะรักชอบเพศเดียวกันแต่อย่างใด

“แค้นไม่แค้นมีนไม่รู้นะคะ แต่คุณเอกเป็นเกย์ค่ะ...คุณพระพายก็ด้วย”

“ห๊ะ!?!?!?” นาวาอึ้งซ้ำสองกับคำกล่าวของมินตรา พันเอกชอบผู้ชายว่าน่าตกใจแล้ว แต่การที่พระพายเองก็รักชอบเพศเดียวกันนั่นยิ่งน่าตกใจมากกว่า

ฝ่ายมินตราเองพอเห็นหน้าตาปูเลี่ยนของอีกคนก็หลุดหัวเราะออกมาดังลั่น

“นี่คุณวาไม่รู้จริงๆเหรอคะเนี่ย คนแถวๆนี้เป็นเกย์ซะเยอะเลยค่ะ เพื่อนคุณพันเอกก็เป็นกันเกือบหมด อันที่จริงก็ไม่เชิงว่าจะเป็นอะไรทำนองนั้นหรอกนะคะ คงประมาณว่าผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ได้ ถ้ารักใครถูกใจคนไหนก็ไม่ได้มองเรื่องเพศน่ะค่ะ”

“ผม...ตกใจ” นาวาครางเสียงเบาทำเอามินตราขำหนัก

“คุณวานี่ก็ ผู้ชายที่ไหนจะมีอะไรกับผู้ชายล่ะคะ” ร่างเล็กกระเซ้าทำเอานาวาทำหน้าไม่ถูก ดวงตาคู่กลมเสตาหลบสายตาขบขันของมินตรายกใหญ่พลางบ่นพึมพำ

“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ”

“ฮะๆ คุณวาเนี่ยน่ารักจังน้าาาาาา มีนดีใจนะคะที่มีคุณวากับคุณณะอยู่ ตั้งแต่คุณสองคนเข้ามาคุณพระพายก็สดใสร่าเริงขึ้นเยอะ ก่อนหน้านี้นอกจากคุณเอกแล้วคุณพายแกก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เห็นป้าเอื้องเล่าว่าเคยอกหักมาเลยกลายเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์แย่ไปเลย”

“อกหัก?” คนน่ารักอย่างพระพายน่ะหรือที่จะอกหัก

“ค่ะ อย่าเอ็ดไปเชียวนะคะ มีนก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก ตอนนั้นคุณพายเธอยังเด็ก ส่วนผู้ชายคนนั้นก็คนคุ้นเคยกัน แต่ไหงถึงมาหักอกคุณหนูของมีนได้ก็ไม่รู้” มินตรายังคงบ่นไปเรื่อยตามประสาในขณะที่นาวายืนนิ่งและตั้งใจฟังอย่างเงียบๆ

“เห็นแหวนที่คุณหนูพายแกคล้องไว้บนสร้อยคอประจำนั่นไหมคะ มีนเคยหลุดปากถามครั้งนึงว่าใครให้มา เท่านั้นแหละค่ะ ถูกคุณพายเมินไปเป็นอาทิตย์เลย ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ายังจะเก็บของของคนทิ้งเราไปแล้วเอาไว้ทำไม เฮ้อ!”


แหวนงั้นหรือ?
 

ใช่ นาวาคลับคล้ายคลับคลาว่ามักจะเห็นแหวนวงเล็กๆที่มีขายตามแผงลอยตลาดนัดห้อยอยู่ที่คอของพระพายเป็นประจำ ตอนแรกเขาก็นึกว่าเป็นไอเทมประจำตัวของอีกฝ่ายเลยไม่ได้คิดสนใจมากนัก แต่พอลองนึกย้อนกลับไปนาวากลับรู้สึกว่าแหวนวงนั้นคุ้นตาเสียเหลือเกิน

มันคุ้นตา ไม่ใช่เพราะเห็นมันขายตามแผงลอยข้างถนน...

หากแต่มันเหมือนกับว่าเขาเคยเห็นแหวนอีกวงที่เหมือนกันบนนิ้วมือของใครบางคนต่างหาก...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+] : ตอนที่ ๑๓ P.6 (26/1/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-03-2015 23:21:20

มื้อเที่ยงของวันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีเพราะพันเอกไม่ยอมออกมานั่งร่วมโต๊ะ ประมุขของบ้านสั่งให้มินตราจัดสำรับแยกต่างหากและนำไปให้ในห้องทำงาน บนโต๊ะอาหารวันนี้จึงมีเพียงแค่พระพายกับนาวาเท่านั้นที่นั่งกินข้าวและคุยอะไรไปเรื่อยเปื่อย

ตกเย็นกฤตภาสคนน้องก็ชวนนาวาออกไปข้างนอกโดยอ้างว่าจะพาไปรับณะโมที่โรงเรียน คราแรกพันเอกทำท่าจะปฏิเสธหากแต่มีหรือที่คนอย่างพระพายจะฟัง เมื่อพันเอกเห็นว่าผู้เป็นน้องยังยืนยันที่จะพานาวาออกไปด้วยให้ได้คนเป็นพี่ก็ไม่กล้าขัด ทำเพียงแค่พยักหน้านิ่งๆก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานอีกครั้งทิ้งให้นาวามองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความกังวลเล็กๆในใจ วันนี้ทั้งวันพันเอกแทบไม่พูดกับเขาเลยหากไม่นับบทสนทนาที่คุยกันไปเมื่อเช้า ใจหนึ่งชายหนุ่มก็อดดีใจไม่ได้เพราะจะได้ไม่ต้องไปปะทะคารมกับร่างสูงให้เจ็บช้ำ แต่อีกใจนาวากลับรู้สึกร้อนรนเมื่อเห็นอีกคนเย็นชาใส่

“ถ้าคุณไม่อยากให้ผมไป ผมไม่ไปก็ได้นะครับ” ร่างโปร่งตัดสินใจเอ่ยขึ้นหลังจากรวบรวมความกล้าเข้ามาหาประมุขของบ้านถึงห้องทำงานพลางลอบมองปฏิกิริยาของอีกคน พันเอกทำเพียงแค่ปรายตามองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ก็ไม่ได้ห้าม ออกไปเปิดหูเปิดตาซะบ้างก็ดีไม่ใช่เหรอ”

นาวาเงียบกริบ ยืนงุ่นง่านอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่ก่อนจะถอนหายใจ

“ถ้างั้นคุณอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหมครับ ขากลับเห็นคุณพระพายบอกว่าจะพาแวะโต้รุ่งด้วย” ร่างโปร่งเอ่ยถามพลางกลั้นหายใจรอคำตอบ พันเอกเงยหน้าจากกองเอกสารขึ้นมามองใบหน้าขาวของนาวาก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมคู่สวย นาวาชะงักไปชั่วครู่กับสายตาของคนตรงหน้าพลางเสตาหลบ พันเอกเห็นอาการหลบเลี่ยงนั้นก็ใจกระตุกวูบก่อนจะถอนหายใจ กลีบปากได้รูปขยับเปล่งเสียงเย็นชาราบเรียบบอกกับอีกคนก่อนจะก้มหน้าลงไปจดจ่ออยู่กับเอกสารตรงหน้าต่อเพื่อตัดบทสนทนา

“เอาเป็นผัดไทยก็แล้วกัน ถ้าไม่มีก็ข้าวผัดพริกหมูธรรมดาก็ได้ ซื้อมาเผื่อคนอื่นในบ้านด้วย เรื่องเงินบอกเจ้าพายนั่นล่ะ”

“ครับ” นาวารับคำก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อบานประตูปิดลงพันเอกก็ทิ้งปากกาลงอย่างรวดเร็วพลางสบถในลำคอด้วยความหงุดหงิด กายแกร่งกำยำเอนหลังทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้พลางถอนหายใจด้วยความอึดอัด อากัปกริยาของนาวาที่บ่งบอกชัดเจนว่าหวาดกลัวและไม่ใคร่อยากจะอยู่ใกล้เขาทำเอาพันเอกปวดหนึบไปทั่วทั้งอก ยิ่งนานวันความรู้สึกที่มันไม่ควรจะเกิดก็ยิ่งชัดเจนจนน่ากลัว ไม่รู้เลยจริงๆว่าเขาสูญเสียการควบคุมอวัยวะบริเวณอกข้างซ้ายซึ่งเป็นตำแหน่งของหัวใจไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีความรู้สึกอึดอัดก็ร่ำร้องก่อตัวเป็นรูปร่างของความรู้สึกที่พันเอกชิงชัง

ครั้งหนึ่งเคยได้ยินใครสักคนกล่าวเอาไว้ว่า ความแค้น ความเกลียดชัง หรือแม้แต่ความดี สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นจุดกำเนิดของความรักแทบทั้งสิ้น

พันเอกไม่เคยเชื่อ ไม่เคยคิดจะเชื่อว่าคนที่เกลียดกัน แค้นกัน จะหันกลับมามอบความรู้สึกดีๆให้แก่กันได้ แต่วันนี้เขาเพิ่งได้ค้นพบว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นเป็นความจริง เพราะสุดท้ายไม่ว่าจะทำตัวร้ายกาจกับนาวามากเพียงใด ทำตัวเลวร้ายไร้เหตุผลกับอีกคนมากแค่ไหน แต่ความรู้สึกถูกตาต้องใจที่เกิดขึ้นก็ยังเด่นชัดเกินกว่ากรุ่นโกรธในตัวของอีกคนอยู่ดี

อาจเพราะแท้จริงแล้วพันเอกไม่ได้เกลียดนาวาจากก้นบึ้งของหัวใจ ที่ทำไปทั้งหมดก็เพียงเพราะอยากให้ใครอีกคนเจ็บปวด นาวาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องราวอันยุ่งเหยิงนี้มาตั้งแต่แรก เป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ที่ถูกเขาจองจำในกรงขังแห่งความแค้นเพียงเพราะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดวงใจของใครอีกคน

ณ เวลานี้ พันเอกตระหนักได้ถึงผลเสียของการลากคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในเกมการแก้แค้นของเขาแล้ว เขารับรู้แล้วว่าสิ่งที่ตามมาหลังจากลงมือทำร้ายคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อย่างเลือดเย็นมันให้ผลกระทบกับตัวเองมากแค่ไหน

กรงแค้นที่เคยก่อร่างสร้างขึ้นเพื่อเก็บกักดวงใจของรามไว้กับตัว บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นกรงรักที่ย้อนกลับมาพันธนาการตัวเขาให้จมจ่อมอยู่กับความผิดพลาดของตัวเอง กับดักที่วางเอาไว้เพื่อล่อให้คนอย่างรามเสียท่า บัดนี้หันกลับมาสร้างความเสียหายให้กับตัวพันเอกเองอย่างเจ็บแสบจนถึงที่สุด

ทุกสิ่งทุกอย่างพังลงเพียงเพราะสิ่งเดียว

ความรัก...





หลังจากที่พระพายและนาวาออกไปรับณะโมและแวะซื้อของ สองสามชั่วโมงให้หลังรถคันหรูก็แล่นเข้ามาภายในบริเวณบ้านก่อนที่เสียงเอะอะโวยวายจะดังขึ้นให้พันเอกที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ต้องขมวดคิ้ว ไม่นานทั้งสามคนก็เดินหยอกล้อกันเข้ามาในบ้านโดยมีลูกน้องของเขาหิ้วของพะรุงพะรังเต็มไม้เต็มมือไปหมด พันเอกพับหนังสือพิมพ์วางเอาไว้บนโต๊ะพลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ตั้งใจจะเดินเข้าไปหาน้องชายที่ลากนาวาเข้าครัวไปแต่ก็ต้องชะงักไปเสียก่อนเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

เบอร์โทรแปลกตาปรากฏอยู่บนหน้าจอทำเอาประมุขของบ้านขมวดคิ้ว ร่างสูงกดรับและยกโทรศัพท์แนบหูก่อนจะหน้าตึงไปเล็กน้อยเมื่อปลายสายเอ่ยทักขึ้นด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น

[สวัสดีครับคุณพันเอก ผมก้องภพนะครับ]

ก้องภพ... ผู้ชายที่เขากับนาวาเจอวันไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าด้วยกัน

“ครับ ผมจำได้” พันเอกตอบกลับพลางเม้มปากแน่นเมื่อเห็นว่านาวากำลังยกจานผัดไทยและแก้วน้ำมาให้เขา

[พอดีผมมีเรื่องอยากคุยกับน้องวาเขาหน่อย ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนคุณเอกรึเปล่าครับ] ปลายสายถามขึ้นด้วยน้ำเสียงกริ่งเกรงเป็นกังวล พันเอกอยากจะตอบกลับไปเหลือเกินว่ารบกวนเป็นที่สุดแต่ก็ทำไม่ได้ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดอย่างลืมตัวเมื่อเห็นว่านาวาเดินเข้ามาถึงบริเวณห้องนั่งเล่นที่เขานั่งอยู่พลางวางจานผัดไทยและแก้วน้ำลงกับโต๊ะ สุดทายจึงจำใจต้องบอกปลายสายไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไม่รบกวนครับ น้องวาของคุณอยู่ใกล้ผมพอดี” ร่างสูงเน้นคำที่ก้องภพใช้เรียกอีกฝ่ายพลางปรายตามองปฏิกิริยาของนาวา ร่างโปร่งเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าพันเอกกำลังคุยกับใคร ประกายตาวิบวับฉายแววตื่นเต้นเสียจนคนมองหงุดหงิดจนต้องเสหน้าหลบ

“งั้นเชิญคุณก้องตามสบายเลยนะครับ...นาวา คุณก้องจะคุยด้วย” พันเอกบอกกับปลายสาย ท้ายประโยคหันไปบอกนาวาพลางยื่นมือถือไปให้ นาวารับไปแนบหูอย่างรวดเร็วก่อนจะลุกขึ้นยืนและหมุนตัวเดินหนีด้วยความลืมตัว

“ครับพี่ก้อง คิดถึงจัง” เพียงแค่ประโยคแรกที่ทักทายกันก็บาดหูคนฟังเสียจนพันเอกต้องแค่นหัวเราะ ชายหนุ่มกำหมัดแน่นพลางพยายามระงับอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองลง แต่ก็ยังไม่วายนึกโมโหไม่ได้เมื่อเสียงหวานของนาวาดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท

“ครับ เพิ่งกลับมาถึงน่ะ...ฮ่าๆ ณะสบายดีครับ น้ำหนักขึ้นตั้งเยอะแน่ะ” นาวาพูดคุยกับปลายสายเสียงสดใส แตกต่างจากเวลาพูดกับพันเอกอย่างสิ้นเชิง และนั่นยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดงุ่นง่านจนพันเอกนั่งไม่ติดที่

“ฮะๆ ไม่ขนาดนั้นหรอกครับพี่ก้อง อืม...วายังไม่ได้ซื้อมือถือซะด้วยสิ เอายังไงดีเนี่ย เอ๋...พี่กล้องจะพาไปซื้อเหรอ เอาจริงเหรอครับพี่ ผมไม่ปฏิเสธของฟรีหรอกนะ ฮ่าๆๆ อ๊ะ! ค...คุณเอก”

พรึ่บ!

“ขอโทษนะครับคุณก้องที่ต้องเสียมารยาท แต่พอดีแบตมือถือใกล้จะหมดแล้วและผมต้องใช้ติดต่องาน แค่นี้ก่อนนะครับ”

[อ่ะ อ้าว...ดะ...]

ติ้ด!

“คุณทำอะไรของคุณ!” เสียงแหวของนาวาดังขึ้นเมื่ออยู่ๆพันเอกก็ตรงเข้ามากระชากมือถือออกไปจากหูของเขาอย่างเสียมารยาทพลางพูดกับก้องภพเสียงแข็งก่อนจะตัดสายทิ้ง นาวามองพันเอกที่หน้าบูดบึ้งอย่างไม่เข้าใจ เหนือสิ่งอื่นใดคือโกรธที่พันเอกตัดการสนทนาของเขากับก้องภพโดยพลการ

“ผมคุยของผมอยู่ดีๆแล้วทำไมคุณต้องมาแย่งไปตัดสายทิ้งอีกแล้ว คุณเป็นบ้าอะไรของคุณ” นาวาถาม ใบหน้าฉายแววไม่พอใจเต็มเปี่ยมซึ่งพันเอกเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

หงุดหงิดจนอยากจะหาที่ระบายเต็มแก่

และคนที่จะเป็นที่รองรับอารมณ์ก็คงไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นตัวต้นเหตุอย่างนาวานั่นแหละ!

“ฉันสิต้องถามว่าทำอะไร นี่มันโทรศัพท์ของฉัน หัดมีความเกรงใจกันบ้างสินาวา” พันเอกพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ นาวากัดปากเมื่อเจอคำต่อว่านั้นก่อนจะเถียงคอแข็ง

“แต่คุณก็ไม่ควรแย่งกลับไปดื้อๆ ผมกำลังคุยธุระอยู่!”
 

“คุยธุระหรือนัดกันออกไปพลอดรักกันแน่ จ๊ะจ๋าเสียงหวานนักเชียว หัดอายคนใช้ในบ้านบ้าง อย่ามาทำตัวต่ำในบ้านหลังนี้!”

“นี่! อย่าคิดว่าทุกคนต้องทำตัวต่ำความคิดหยาบช้าเหมือนคุณทุกคนจะได้ไหม ผมเริ่มจะหมดความอดทนกับคุณแล้วนะคุณเอก พอกันทีเถอะ! ถ้าคุณไม่อยากให้พี่ก้องโทรเข้ามือถือของคุณ ผมก็จะซื้อมือถือของตัวเอง!” นาวาเผลอขึ้นเสียงดังลั่นจนคนอื่นๆในบ้านตกใจ ณะโมที่เพิ่งจะลงมาจากชั้นบนเดินเข้ามารั้งแขนผู้เป็นพี่ชายเอาไว้ด้วยเพราะไม่เคยเห็นประมุขของบ้านกับพี่ชายตนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงมาก่อน

“อยากได้ก็หาเงินไปซื้อเอาเองสิ คิดว่าตอนนี้ตัวเองมีเงินติดตัวอยู่กี่บาทกันเชียว ไอ้ที่อยู่ดีกินดีทุกวันนี้มันก็เงินฉันทั้งนั้น!” พันเอกตวาดกลับไปด้วยความหงุดหงิดไม่แพ้กัน ร่างโปร่งของนาวาเม้มปากแน่นจ้องใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่ยอมแพ้ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นพลางยกยิ้ม

“ผมไม่คิดจะขอเงินคุณอยู่แล้วนี่ พี่ก้องเขาบอกจะซื้อให้ฟรีๆด้วยซ้ำ”

“หึ ที่มันให้ฟรีเพราะไปขายตัวให้มันเอาแล้วมากกว่ามั้ง ใครมันจะไปใจดีขนาดซื้อมือถือให้คนที่ไม่ใช่แม้แต่แฟน!” พันเอกเย้ยหยันพลางกวาดสายตามองนาวาที่ยืนตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ ร่างสูงแสยะยิ้มพลางส่งสายตาดูแคลนไปให้อีกคน นาวากำหมัดแน่นพลางแสยะยิ้มกลับไปให้พันเอกบ้าง

“ขายตัวใช่ไหม ได้! คุณพูดเองนะคุณพันเอก” นาวาขึ้นเสียงกร้าวก่อนจะกวาดสายตามองไปทั่วบริเวณ สาวใช้หลายคนยืนมองอยู่ห่างๆ ณะโมยังคงจับแขนเขาเอาไว้แล้วลูบขึ้นลงให้ใจเย็น ส่วนพระพายยืนอยู่ข้างพายุที่ทำหน้าตาวิตกกังวล นาวาจ้องร่างโปร่งของพายุพลางนึกบางอย่างขึ้นมาได้ นาทีนี้เขาโมโหพันเอกจนกล้าทำทุกอย่างที่อีกคนไม่ชอบ เมื่อคิดได้ดังนั้นนาวาก็สะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของณะโมพลางเดินดุ่มๆเข้าไปเกาะแขนพายุเอาไว้หมับ ใบหน้าขาวซบลงกับแผ่นอกของบอดี้การ์ดตัวขาวก่อนจะส่งเสียงยั่วเย้าแหบพร่าไปให้อีกคน

“คุณยุครับ ผมขายตัวให้สามคืน สนใจไหม คุณเคยบอกว่าชอบผมไม่ใช่เหรอ” นาวาออดอ้อนเสียงหวานทำเอาหลายชีวิตภายในบ้านเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พันเอกกัดฟันกรอด ในอกรู้สึกร้อนผ่าว ร้อนรนยิ่งกว่าถูกไฟสุม

โดยที่ไม่มีใครคาดคิด พันเอกก้าวเดินไปกระชากแขนของคนตัวขาวให้หันมาประจันหน้าก่อนจะก้มลงทาบริมฝีปากลงบนกลีบปากอิ่มของนาวาท่ามกลางสายตาของใครหลายคน นาวาเบิกตากว้างเมื่อถูกอีกคนบดเบียดริมฝีปากเข้าหาอย่างรุนแรงราวกับต้องการจะลงโทษ เมื่อได้สติสองมือเล็กก็ยกขึ้นผลักไสอีกคนออกจากตัว แต่นอกจากประมุขของบ้านจะไม่สะทกสะท้านแล้วร่างสูงยังออกแรงดันร่างของนาวาเข้าไปกระแทกกับกำแพงและตะโบมจูบเขาต่อหน้าเหล่าสมาชิกภายในบ้านที่ยืนอึ้ง

“ขายตัวงั้นเหรอ ผัวยืนอยู่ทนโท่ยังกล้าปากดีอีกนะ ฉันจะสั่งสอนให้หลาบจำไปเลยว่านายเป็นของฉัน!”

“อื้อ!!!”

นาวาร้องเสียงหลงเมื่อพันเอกคำรามเสียงดังกึกก้องก่อนจะก้มลงดูดดึงริมฝีปากของเขาจนเกิดเสียง ดวงตากลมเหลือบไปเห็นสาวใช้หลายคนยกมือขึ้นปิดปากด้วยความคาดไม่ถึงก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองน้องชายที่ยืนอยู่ไม่ไกล ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามสักคนคงเพราะยังช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ คนอื่นๆอาจจะแค่ตกใจเพียงเล็กน้อยแต่ไม่ใช่กับณะโม ร่างเล็กอ้าปากค้างตัวแข็งทื่อ มองดูพันเอกปล้ำจูบเขาต่อหน้าต่อตา ดวงตาของณะโมที่ฉายแววแปลกๆทำเอานาวาได้สติ ร่างโปร่งรวบรวมแรงทั้งหมดผลักอกพันเอกให้ออกห่างก่อนจะใช้กำปั้นทุบอกแกร่งเต็มแรง

“คุณทำอะไรของคุณ! น้องผมยืนอยู่ตรงนั้นนะ! ณะโมยืนอยู่ตรงนั้น!!!!” ร่างโปร่งขึ้นเสียงขณะออกแรงทุบอกของพันเอกเต็มแรง พันเอกได้สติกับประโยคดังกล่าวพลางหันไปมองณะโมที่ยืนอยู่ไม่ไกลก่อนจะหันมามองนาวาที่มองเขาด้วยสายตาตัดพ้อปนชิงชัง

นาวายืนหอบหนักพลางเลื่อนสายตาไปมองน้องชายที่ยืนช็อคด้วยความเสียใจก่อนจะเม้มปากแน่น ดวงตากลมร้อนผ่านพลางเลื่อนขึ้นไปสบตากับพันเอกด้วยแววตากรุ่นโกรธปนตัดพ้อ

“ผมเกลียดคุณ” นาวาเอ่ยขึ้นเสียงสั่นก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ริมฝีปากแรงๆจนเห่อช้ำ พันเอกครางเรียกอีกคนเสียงเบาเมื่อได้สติก่อนจะผวาเข้าไปคว้าร่างนาวาเอาไว้เมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังจะหนีขึ้นห้องแต่กลับไขว่คว้าได้เพียงสัมผัสแผ่วเบาของอากาศ

“วา...”

“ผมเกลียดคุณ!!!” นาวาทิ้งท้ายเอาไว้เพียงแค่นั้นก็หนีขึ้นห้องและปิดประตูเสียงดังลั่น พันเอกได้แต่มองขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านก่อนจะกัดฟันกรอดและสบถออกมาเสียงดุดันจนคนรอบข้างสะดุ้งตัวโยน

“โถ่เว้ย!!!!!!”

เขาทำผิดพลาดอีกแล้ว

และครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่จะเปลี่ยนชีวิตของพันเอกไปตลอดกาล



โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-03-2015 23:24:16
(http://image.ohozaa.com/i/83a/HTKAcr.png)
ตอนที่ ๑๕ : การกลับมา



“จะบอกผมได้รึยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมพี่ถึงน็อตหลุดขนาดนั้น” พระพายถามขึ้นหลังจากที่กึ่งลากกึ่งจูงพี่ชายตัวโตเข้ามาในห้องทำงานแล้ว หลังจากนาวาหนีขึ้นห้องพันเอกก็เอาแต่ยืนนิ่งจนคนรอบข้างผวา พระพายบอกให้ณะโมตามขึ้นไปดูพี่ชายบนห้องในขณะที่เขาเองก็พาพันเอกเข้ามาหลบสงบสติอารมณ์อยู่ในห้องทำงานเช่นกัน

“พี่เอก” คนอายุน้อยกว่าเรียกพันเอกเสียงดุเมื่อเห็นว่าร่างสูงยังคงยืนนิ่ง พันเอกถอนหายใจ ยกมือขึ้นเสยผมไปด้านหลังก่อนจะเดินอ้อมโต๊ะทำงานไปทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้คล้ายคนหมดแรงยืน

“ฉันหึงเขา”

“ห๊ะ?” พระพายทวนคำอย่างไม่เชื่อหูก่อนจะเบิกตากว้าง พันเอกจ้องหน้าขาวของน้องชายด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะพูดซ้ำ

“ฉันหึงนาวา ชัดไหม” คราวนี้พระพายได้ยินชัดเต็มสองหู คนเป็นน้องทำหน้าเหลือเชื่อพลางเดินเข้าไปหาพันเอกและนั่งลงบนโต๊ะทำงานอย่างถือวิสาสะก่อนจะใช้สองมือตะปบแก้มของอีกคนเต็มแรงและถามเสียงหลง

“พี่เนี่ยนะหึงพี่วา”

“...”

“ให้ตายเถอะ มันเป็นไปได้ยังไง ไปรู้สึกกับเขาถึงขนาดหึงได้ยังไง” พระพายถามขึ้นพลางจ้องใบหน้าหล่อเหลาของพันเอกด้วยสายตาคาดคั้น อีกฝ่ายขืนใบหน้าออกจากฝ่ามือเล็ก จัดการรวบเอาข้อมือบางของพระพายเอาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวก่อนจะเบือนหน้าหนี

“ไม่รู้เหมือนกัน อาจจะรู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยก็ได้” ร่างสูงตอบพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง พระพายเงียบกริบกับคำบอกของผู้เป็นพี่พลางเม้มปากแน่น

“พี่รู้ใช่ไหมว่ากับพี่วาน่ะพี่เดินมาผิดทาง”

“รู้ แต่ก็เพราะทางนี้ไม่ใช่เหรอที่ทำให้ฉันได้เจอกับเขา” พันเอกเถียงน้อง ถ้าไม่ใช่เพราะอยากแก้แค้นรามเขาก็คงไม่ต้องสืบหาจุดอ่อนของอีกคนจนทำให้เจอกับนาวา ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการเล่นงานรามเขาก็จะไม่มีวันรับรู้ว่ามีนาวาอยู่บนโลก แต่ก็เพราะความแค้นนั่นแหละที่ทำให้พันเอกต้องเลือกทำร้ายนาวาทั้งที่เจ้าตัวไม่ผิดอะไรจนทำให้ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้

“แล้วพี่จะทำยังไงต่อไป ผมว่าเราจบเรื่องนี้กันเถอะ แก้แค้นไปพ่อกับแม่ก็ไม่ฟื้นขึ้นมาอยู่ดี” พระพายพูดเสียงอ่อน ดึงศีรษะคนเป็นพี่เข้ามากอดเอาไว้แนบอก พันเอกยกมือขึ้นโอบร่างน้องชายเอาไว้อย่างอ่อนล้า แนบแก้มกับแผ่นท้องของอีกคนอย่างต้องการที่จะพักใจ

“มันไม่จบง่ายๆหรอก อีกไม่นานรามมันก็จะกลับมาอีก” พันเอกพึมพำเสียงอู้อี้พลางนึกถึงใครอีกคนที่เขาสั่งให้ไปทำงานชิ้นสำคัญที่ภูเก็ตแต่จนป่านนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้ รู้ดีว่านั่นเป็นสัญญาณของความล้มเหลวแต่พันเอกก็ยังเลือกที่จะนิ่งดูดาย ปล่อยให้คนคนนั้นรับมือกับสิ่งที่อยู่ที่นั่นเพียงลำพัง

เขารู้ดีว่าส่องแสงทำไม่สำเร็จ เด็กนั่นฆ่ารามไม่ได้แต่ก็ไม่คิดที่จะทำอะไรหรือให้ความช่วยเหลือ ปล่อยให้คนที่นั่นจัดการลงโทษน้องชายต่างมารดาตามแต่ที่ต้องการโดยไม่ยื่นมือเข้าไปช่วย

พันเอกเกลียดส่องแสง พอๆกับที่เกลียดราม

เขาอยากกำจัดลูกนอกสมรสของบิดา พอๆกับที่อยากจะกำจัดรามไปให้พ้นทาง

แต่ถึงจะเกลียดยังไง ลึกๆแล้วพันเอกกลับนึกกลัว เขากลัวว่าความผูกพันในอดีตที่มันแน่นหนามากกว่าที่คิดจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเขาจนสุดท้ายต้องกลายเป็นผู้แพ้อย่างจนหนทาง

“วันหนึ่งรามมันจะกลับมา และมันจะทำฉันเจ็บอีก”

“...”

“เมื่อสิบเอ็ดปีก่อนมันทำเราเจ็บยังไง ครั้งนี้มันก็จะทำอีก”

“พี่เอก...”

“ไม่ว่ายังไง ฉันจะไม่มีวันปล่อยนาวาให้กับใคร ต่อให้ต้องล่ามเด็กนั่นเอาไว้กับเตียง ขังไว้ไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ฉันก็จะทำ และต่อให้ต้องฆ่าไอ้รามอีกสักกี่ครั้ง ฉันก็จะทำ...ทำจนกว่ามันจะตายไปให้พ้นๆ” พันเอกพูดขึ้นเสียงดุดันพลางกระชับอ้อมกอดรัดร่างของพระพายแน่น ร่างเล็กเม้มปากกับคำพูดของผู้เป็นพี่ สัมผัสเย็นเยียบบริเวณแผ่นอกตอกย้ำถึงการมีตัวตนของใครอีกคนในความทรงจำ

พันเอกแค้น พระพายเองก็แค้นไม่ต่างกัน

พันเอกเจ็บ เขาเองก็เจ็บไม่ต่างกัน

เจ็บที่ลึกๆแล้วพวกเขาทั้งคู่ยังคงหวนนึกถึงความทรงจำวัยเยาว์ ความทรงจำที่มิตรภาพยังคงโอบล้อมอยู่รอบกาย ความทรงจำก่อนที่พวกเขาจะถูกตัดขาดออกจากกันเพียงเพราะการตายของผู้เป็นบุพการี

พันเอกยังผูกพันกับเพื่อนเก่า แม้จะแค้นแต่ความรักความผูกพันที่มีก็ตัดไม่เคยขาด ตัวพระพายเองก็เช่นกัน เขายังคงผูกพันกับเพื่อนสนิทของพี่ชายคนเดิมคนนั้นที่เคยมอบความสุขที่สุดในชีวิตให้ก่อนจะนำพาฝันร้ายที่น่ากลัวที่สุดมาให้

 

คนคนนั้น...คนที่ฉกชิงเอาทุกอย่างไปจากเขา

 

‘พี่รักน้องพายนะ’

‘รักเหมือนกัน พายรักพันเอกด้วย รักนายด้วย รักสิบด้วย พายรักทุกคน!’

‘ฮะๆ อ่ะ พี่ให้ แหวนวงนี้แทนคำสัญญา วันหนึ่งถ้าพายโตขึ้น พี่จะกลับมาพาเราไปอยู่ด้วย’

‘อื้อ พายจะตั้งตารอเลย’

‘ครับ งั้นขอคำสัญญาหน่อยสิ’

‘สัญญา? พายสัญญา!’

‘ไม่เอาเป็นคำพูด เอาสัญญาแบบอื่นสิ’

‘แบบไหนอ่า เราสัญญาแบบไม่ต้องพูดได้ด้วยเหรอ’

‘ได้ครับ ไม่ต้องใช้ปากพูด แต่สัญญาด้วยตัวของพายแทน ตกลงไหม’

‘ตกลง!’

 

ไม่เคยลืมแม้จะผ่านมานานกว่าสิบเอ็ดปี พระพายไม่เคยลืมเหตุการณ์วันนั้น

 

วันที่ตอกย้ำความโง่งมของเด็กคนหนึ่ง

 

วันที่หัวใจของเขาถูกเหยียบย่ำจนแหลกสลายกลายเป็นเพียงเถ้าธุลี

 

 

 

 

 

ในขณะที่สองพี่น้องของตระกูลกฤตภาสกำลังนั่งปลอบใจกันอยู่เงียบๆในห้องทำงาน ภายในห้องนอนของณะโมเองก็เงียบกริบไม่ต่างกัน นาวานอนคว่ำหน้าเอาหมอนปิดหัวอยู่บนเตียงกว้าง ยอมรับว่าโมโหจนลืมตัว ร่างโปร่งถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะนิ่งไปเมื่อได้ยินเสียงเปิดประตู

“พี่วา” เป็นณะโมที่เข้ามา ร่างเล็กมองพี่ชายที่นอนคว่ำบนเตียงด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเดินเข้าไปวางมือบนแผ่นหลังของอีกคน

“ณะไม่รู้ว่าทะเลาะอะไรกันหรอกนะ แต่พี่รู้ใช่ไหมว่าพี่เป็นคนผิด” คนอายุน้อยกว่าเปิดประเด็นแบบไม่อ้อมค้อม นาวาพยักหน้ากับหมอน

“ลงไปขอโทษพี่เอกเขาเถอะครับ พี่วาเสียมารยาทากเลยรู้ตัวไหม เรื่องมือถือน่ะ” ณะโมติติง นาวาหันขวับไปมองหน้าน้องชายก่อนจะอ้าปากเถียง

“ทีเขาทำผิดกับพี่ไม่เห็นเขาจะขอโทษสักคำ ดีแต่ทำร้าย เรื่องจูบนั่นก็อีกละ แล้วทำไมพี่จะต้องไปขอโทษเขา”

ณะโมยิ้มอ่อนๆกับคำเถียงของพี่ชาย นาวาน่ะเวลาโกรธหรือดื้อก็ไม่ต่างอะไรไปจากเด็กเอาแต่ใจคนหนึ่ง งอแงนักล่ะรายนี้ แต่ก็ไม่บ่อยนักหรอกที่ณะโมจะเห็นพี่ชายหลุดมาดจนกลายเป็นเด็กไม่รู้ภาษาให้เขาต้องเอ่ยปากเตือน ก็คงถึงที่สุดจริงๆ

“แม่พรสอนอะไรกับเราพี่วาจำได้ไหม” คนตัวเล็กเอ่ยถึงผู้ดูแลประจำบ้านเด็กกำพร้าที่เคยอยู่ นาวานอนเงียบ ปล่อยให้น้องชายพาตัวขึ้นมานอนข้างกันและโอบกอดเอาไว้พลางกระซิบข้างหู

“ไม่ว่าใครจะเป็นฝ่ายผิด แต่คนที่น่ายกย่องก็คือคนที่รู้ถึงความผิดของตัวเองและเอ่ยขอโทษออกมาด้วยความเต็มใจ”

“...”

“จริงอยู่ที่ณะไม่รู้ว่าพี่กับเขาทะเลาะอะไรกัน แต่เรื่องมือถือนั่นพี่เป็นฝ่ายผิด และคนผิดก็ต้องขอโทษนะครับ” ณะโมพูดขึ้นพลางไล้มือลงบนผิวแก้มของคนข้างกาย นาวาหลับตาลงอย่างอ่อนล้าก่อนจะเค้นเสียงพูดออกมาอย่างสั่นเทา

“ณะ พี่เหนื่อย”

“...”

“เหนื่อยมากเลย พี่เหนื่อยมากจริงๆ” นาวาพึมพำ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างน่าสงสาร ณะโมซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของพี่ชายพลางประสานมือลงกับมือขาวของอีกคนและบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ

“ณะถามได้ไหมว่ามันเกิดอะไรขึ้น” คนเป็นน้องตัดสินใจถามในสิ่งที่ตนคลางแคลงใจมาเนิ่นนาน

“ที่พี่เอกเขาพูด ที่บอกว่าพี่วาเป็น...เอ่อ...เป็นของเขา มันหมายความว่ายังไง”

“...”

“ณะรู้ว่าทุกคนในบ้านกำลังกันณะออกจากเรื่องบางอย่าง แต่ความลับมันไม่มีในโลกหรอกนะพี่วา สักวันณะต้องรู้อยู่ดี บอกมาเถอะ” ณะโมวอนขอ ใช่ว่าเขาจะเป็นเด็กซื่อๆโง่ๆอย่างที่แสดงออกไป เขารู้ดีว่าบ้านหลังนี้และคนที่นี่ปกปิดอะไรบางอย่างเอาไว้แต่ก็เลือกที่จะทำตัวว่านอนสอนง่ายมาตลอดเพราะอีกฝ่ายให้โอกาสทางการศึกษาแก่เขา

ตั้งแต่ย้ายเข้ามา นาวาไม่เคยมีความสุข แม้พี่ชายเขาจะยิ้มแต่ก็เป็นยิ้มที่โรยราเสียเหลือเกิน ณะโมรู้ว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น แต่ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านั้นคืออะไร

“บอกณะมาเถอะ แล้วณะสัญญาว่าจะทำเป็นไม่รู้อะไรเหมือนอย่างที่เคยเป็น นะพี่วา” คนตัวเล็กกว่าอ้อนวอน นาวาเม้มปากแน่น ดึงร่างน้องเข้ามากอดแนบอกก่อนจะก้มลงจูบขมับเล็กหลายทีอย่างหวงแหน

“วันนั้นคนของเขายื่นข้อเสนอให้เรามาอยู่ที่นี่ ให้ณะได้เรียน มีที่อยู่หลังออกจากบ้านเด็กกำพร้า แลกกับการที่พี่ต้องทำงานให้เขา” ร่างโปร่งเริ่มต้นเล่าทุกสิ่งทุกอย่างพลางลูบหัวกลมของน้องชายแผ่วเบาราวกับกำลังเล่านิทานกล่อมน้องนอน

“ตอนแรกพี่ก็คิดว่าคงจะเป็นงานทั่วไป ขับรถ ดูแลบ้าน ทำสวนหรืองานบ้านจุกจิกอย่างที่คนที่จบแค่มอหกอย่างพี่พอจะทำได้ แต่ไม่ใช่ งานที่เขาจะให้พี่ทำมันมีมากกว่านั้น...”

“...”

“คุณพันเอกต้องการใช้พี่เป็นเครื่องมือแก้แค้นเพื่อนของเขาเพียงแค่เพราะว่าพี่เป็นคนที่ผู้ชายคนนั้นหลงรัก หึ ไม่มีเหตุผลสิ้นดี” ท้ายประโยคนาวาแค่นหัวเราะพลางพูดเสียงแข็ง ณะโมขมวดคิ้วมุ่นหลังจากจบประโยคของพี่ชายแต่ก็เลือกที่จะเงียบและฟังสิ่งที่นาวาเล่าต่อ

“เขาใช้พี่เป็นเครื่องมือทำให้ผู้ชายคนนั้นเจ็บปวดและอ่อนแอ เขาทำให้พี่ทรมานเจียนตายต่อหน้าผู้ชายคนนั้น ทำร้ายพี่อย่างเลือดเย็นและส่งผ่านความเจ็บปวดของพี่ไปให้อีกคนได้รับรู้ และแทนที่เมื่อทุกอย่างจบเขาจะปล่อยพี่ไป แต่ไม่ เขาล่ามพี่เอาไว้เหมือนขังหมาไว้ในกรง ตอกขาพี่ให้อยู่แต่ในบ้านหลังนี้ อยู่ใต้อำนาจของเขาโดยไม่รู้เลยว่าอนาคตข้างหน้าจะเป็นยังไง”

“พี่วา”

“มันเจ็บมากณะรู้ไหม แต่สิ่งเดียวที่ยังทำให้พี่ยอมทนอยู่แบบนี้เพราะเขารับปากว่าณะจะมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าการออกไปเร่ร่อนอยู่ข้างนอก ณะจะได้เรียน มีเตียงอุ่นๆนอน มีเสื้อผ้าดีๆใส่ ได้กินของอร่อยๆครบทุกมื้อ”

“...”

“แค่นั้นมันพอแล้วสำหรับพี่ ต่อให้เขาจะร้ายใส่พี่แค่ไหน ทำตัวไม่มีเหตุผลใส่พี่มากเท่าไหร่แต่พี่ก็สาบานกับตัวเองว่าพี่จะทน ทนอีกแค่สามปีให้ณะเรียนจบมอปลายแล้วสอบชิงทุนให้ได้เพื่อที่เราจะได้ออกไปจากที่นี่ แต่มันก็เป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ...”

“...”

“การใช้ชีวิตกับคนที่ข่มขืนตัวเองมันไม่ง่ายเลยนะณะโม”

!!!!

“พี่ทำไม่ได้ ถึงตอนนี้เขาจะดีกว่าครั้งแรกที่เจอกัน แต่สิ่งที่เขาทำกับพี่มันทำให้พี่เกลียดการอยู่ใกล้เขา และพี่กำลังจะทนไม่ไหว”

“พี่อยากจะเห็นแก่ตัวพาเราทั้งคู่ออกไปเร่ร่อนข้างนอกหลายครั้ง อยากหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ แต่ถ้าหนี เราก็ต้องหนีตลอดไปเพราะเขาบอกว่าจะไม่ปล่อยเราไว้ และอนาคตณะก็จะดับลงซึ่งพี่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นไม่ได้”

“พ...พี่วา”

ณะโมครางด้วยความอึ้งเมื่อเห็นแววตาเจ็บปวดฉายชัดอยู่บนใบหน้าของพี่ชาย ดวงตากลมร้อนผ่าวเมื่อนึกย้อนไปถึงช่วงเวลาที่ผ่านมาที่พวกเขาอยู่ในบ้านหลังนี้ เขาไม่เคยรู้ว่านาวาต้องเจอกับอะไรและต้องทุกข์ทรมานแค่ไหน พี่ชายเขาอดทนกับคนพวกนี้มาได้ยังไงตั้งหลายเดือน ทำไมเขาถึงได้ละเลยความเป็นไปของนาวาจนทำให้พี่ต้องถูกทำร้ายแบบนี้

“พี่ขอณะแค่อย่างเดียว หลังจากนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตั้งใจเรียนและสอบชิงทุนให้ได้ เรียนให้จบ หางานดีๆทำและพาพี่ออกไปจากที่นี่ ณะต้องยืนให้ได้ด้วยตัวเอง ณะต้องไปให้ถึงจุดสูงสุด อย่าให้สิ่งที่พี่ทุ่มเททั้งหมดมันสูญเปล่า”

“แต่...”

“ได้โปรดณะโม มันอาจจะดูไม่มีหวัง อาจจะดูนาน แต่นั่นเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้พี่อดทน พี่เสียความเป็นคนไปมากเพื่อแลกกับพื้นฐานการเรียนของณะ ให้ณะมีกำลังมากพอที่จะยืนได้ด้วยตัวเอง ณะเรียนมหาลัยได้เมื่อไหร่นั่นเท่ากับว่าสิ่งแลกเปลี่ยนระหว่างพี่กับเขาจบลงแล้วและเราจะไป” นาวาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ทว่าณะโมกลับน้ำตาตก

“มันนานเกินไป สามปีนะพี่วา เราจะทนอยู่ที่นี่ได้นานขนาดนั้นได้ยังไง” ร่างเล็กเอ่ยขึ้น นาวากัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือดก่อนจะหลับตาลงและกอดน้องแนบอก

“แค่ตั้งใจเรียน ณะมีหน้าที่แค่นี้ ที่เหลือเป็นหน้าที่พี่ อย่าเอาตัวเองเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ พี่ขอแค่นี้”

“ฮึก...”

“ใช้เงินที่พวกเขาเสียไปกับเราให้มันคุ้มค่า ใช้มันซะณะโม ใช้ทรัพย์สินของคนพวกนี้ถีบตัวเองไปให้สูงที่สุด พี่ขอแค่นี้จริงๆ”

 

 

 

 

 

โรงพยาบาลประจำจังหวัดภูเก็ต

“อ้าวน้องเทียน มีอะไรรึเปล่าจ๊ะ” เสียงของพยาบาลสาวที่ขึ้นเวรดึกเอ่ยทักร่างเล็กของส่องแสงที่เดินเข้ามาภายในโรงพยาบาลด้วยใบหน้าฉงน คนถูกทักหันไปมองสาวสวยในชุดสีขาวสะอาดตาพลางกัดปากแน่น ดวงตากลมตื่นตระหนกชั่วครู่ก่อนจะแปรเปลี่ยนกลับมาอ่อนหวานตามเดิม

“คุณหมอนายอยู่ไหมครับพี่จันทร์” เอ่ยถามพยาบาลสาวพลางสอดส่ายสายตาไปโดยรอบ บรรยากาศเงียบเหงายามค่ำคืนส่งผลให้ภายในโรงพยาบาลดูวังเวงชอบกล หากแต่สำหรับบุคลากรทางการแพทย์อย่างพวกเขาก็คงจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว

“คุณหมอกลับไปที่แฟลตจ้ะ เห็นว่าจะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วจะลงมาดูอาการคนไข้ห้องสองหนึ่งสามน่ะค่ะ น้องเทียนถามหาคุณหมอทำไมคะ”

“อะ...อ๋อ เปล่าครับ งั้นผมขอตัวกลับห้องก่อนนะครับพี่จันทร์” ส่องแสงรีบตัดบทเมื่อถูกถามพลางยกมือไหว้คนตรงหน้า ร่างเล็กหมุนตัวกลับเดินออกมา ฝ่ายพยาบาลสาวก็ได้แต่ยืนงุนงงกับเด็กหนุ่มก่อนจะยักไหล่และก้มลงทำงานของตัวเองต่อ

เมื่อเห็นว่าพยาบาลที่ขึ้นเวรอยู่สาละวนกับการกรอกข้อมูลคนไข้ย้อนหลังและตรวจเช็คข้อมูลบางอย่างในคอมพิวเตอร์ ส่องแสงก็อาศัยจังหวะนั้นเดินปรี่เข้าไปยังส่วนของห้องพักสำหรับคนไข้ จุดมุ่งหมายคือห้องพักพิเศษ 213 ซึ่งมีป้ายชื่อของคนไข้ติดเอาไว้หน้าห้อง

‘ราม กลทีบ์’

มือขาวหมุนลูกบิดประตูเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะปิดมันลงแผ่วเบา ความมืดด้านในเป็นสิ่งแรกที่เด็กหนุ่มสัมผัสได้ ส่งแสงใช้เวลายืนนิ่งอยู่นานกว่าจะปรับสายตาให้ชินพลางเดินเข้าไปใกล้คนที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงอย่างช้าๆ ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือดแทบจะไร้สีเลือด ร่างกายที่เคยกำยำล่ำสันเริ่มจะซูบผอม ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนบนเตียงยังคงหลับใหล สายระโยงรยางค์ที่ส่องแสงเคยเห็นตอนมาอยู่ที่นี่แรกๆหายไป รามในตอนนี้เหมือนคนที่กำลังนอนหลับ คะเนจากสายตาคร่าวๆส่องแสงคิดว่าคนตรงหน้าคงอาการดีขึ้นมากและกำลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว

 

จะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้

 

เขาต้องฆ่าราม

 

“พี่ราม เทียนขอโทษ” กลีบปากอิ่มพึมพำเสียงแผ่วเบา มือข้างหนึ่งล้วงเอาเข็มฉีดยาที่ซ่อนไว้ในกระเป๋าเสื้อขึ้นมาถือไว้แน่น ตากลมทอดมองร่างใหญ่ที่นอนนิ่งของอีกคนพลางขยับปลายเข็มไปที่สายน้ำเกลือของคนตรงหน้า ชั่วขณะที่กำลังจะแทงเข็มเข้าไป ความทรงจำในวัยเยาว์ก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างจะเริ่มขึ้นก็ฉายชัดขึ้นมาราวกับเดจาวู

 

‘ฮืออออออ’

‘เทียนเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมครับ’

‘พี่เอกตีเทียน ฮึก เทียนโดนตี ฮือออ’

‘ขวัญเอ๊ยขวัญมา มาหาพี่รามเร็วคนเก่ง มาให้พี่รามกอดหน่อย...มึงตีน้องทำไมเนี่ยเอก’

‘น้องสอบตกคณิตศาสตร์ กูอุตส่าห์สอนคูณเลขหารเลขซะดิบดี ตกได้ไงก็ไม่รู้ สอนไม่รู้จักจำ’

‘ฮือออ’

‘เฮ้ย น้องเพิ่งจะกี่ขวบเอง มึงนี่...โอ๋ๆ เด็กดีของพี่ราม ไม่ร้องนะครับคนเก่ง’

‘ฮึก เทียนไม่เก่ง เทียนไม่อยากเรียนหนังสือแล้ว’

‘เน้ แค่โดนตีแค่นี้ไม่อยากเรียนเชียว ไม่เอาครับ สอบครั้งหน้าเอาใหม่เนาะ เดี๋ยวพี่สอนเอง คราวนี้เอาคะแนนเต็มให้พี่เอกเหวอไปเลย’

‘ฮึก ต...แต่เทียนโง่’

‘ทุกคนต้องเคยโง่ก่อนถึงจะฉลาดได้ไง ถ้าเทียนตั้งใจแล้วสอบผ่าน เดี๋ยวพี่จะให้ขี่คอ’

‘จริงนะ...’

‘จริงจ้า ทีนี้หยุดร้องไห้ได้แล้ว ดูสิ ตาแดงจมูกแดงหมด ลูกหมูเอ๊ย หึหึ’

‘ไม่ใช่ลูกหมูซะหน่อย!!!!’

‘ใช่สิ ทำไมจะไม่ใช่ ลูกหมูตัวอ้วนของพวกพี่นี่แหละ ฮ่าๆๆๆๆๆ’

 

“ฮึก เทียนขอโทษ” ส่องแสงสะอื้นแผ่วเบาพลางกำเข็มในมือแน่น ดวงตากลมฉ่ำวาวไปด้วยน้ำตา เขารักรามเหมือนที่รักพันเอก แม้ในวันที่รับรู้ว่าคนตรงหน้าฆ่าพ่อของเขาเทียนก็ยังเทิดทูนบูชารามเหมือนเดิม คนตรงหน้าคอยปลอบเวลาที่เขาถูกพันเอกหรือคนอื่นๆแกล้ง คอยสอนการบ้าน คอยให้ส่องแสงขี่คอ อีกทั้งยังเป็นคนเดียวที่จำวันเกิดของเขาได้และมีของขวัญวันเกิดให้ทุกปี

 

เขารักรามเหมือนคนในครอบครัว

 

และตอนนี้ส่องแสงกำลังจะต้องทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต

 

เขากำลังจะฆ่าหนึ่งในคนที่เขารักมากที่สุด

 

“ผมขอโทษ...”

.

.

.

 

แกร๊ก

 

“ทำอะไร!!!!”

 

!!!!

 

“นายกำลังจะทำอะไรไอ้ราม...”

 

“พ...พี่นาย” ร่างเล็กเอ่ยชื่อของผู้มาใหม่ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา เข็มในมือร่วงหล่นลงพื้นด้วยความตกใจ นารายณ์ก้มลงมองสิ่งที่ตกลงพื้นก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมามองใบหน้าซีดเผือดของคนตรงหน้าพลางขบกรามแน่น สองเท้าของนายแพทย์หนุ่มย่างสามขุมเข้าหาร่างเล็กที่ลนลานอยู่ข้างเตียงคนป่วย

“ไอ้พันเอกส่งมาสินะ”

“ผ...ผมขอโทษ มันจำเป็น ขอโทษ”

“ระยำเอ๊ย!”

“อ๊ะ! พี่นายปล่อย!” ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่อถูกร่างสูงตรงหน้ากระชากตัวเข้าหา นารายณ์จ้องหน้าหวานดวงตาวาวโรจน์ดุดัน หลงนึกว่าส่องแสงจะเป็นกลาง แต่สุดท้ายคนตรงหน้าก็เลือกอยู่ข้างพันเอกและทำร้ายรามได้ลงคอ

“พี่ผิดหวังในตัวนายมากนะเทียน ทั้งที่รามมันรักมันเอ็นดูนายมาตลอด แต่สิ่งที่ตอบแทนคือแบบนี้งั้นเหรอ!” นารายณ์เค้นเสียงถาม สองมือบีบต้นแขนเล็กเต็มแรงจนส่องแสงถึงกับร้องประท้วง

“พี่นาย เจ็บ”

“มานี่เลยไอ้ตัวดี เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกยาว!” นายแพทย์หนุ่มคำรามเสียงกร้าว สองมือลากคนตัวเล็กให้เดินตามออกไปจากห้อง ส่องแสงส่ายหน้าหวือ ขืนตัวเต็มกำลังไม่ยอมขยับตามแรงดึงของอีกคน แต่สุดท้ายแรงของคนตัวสูงใหญ่กว่าก็ย่อมชนะแรงของอีกคนที่มีเพียงน้อยนิด ไม่นานร่างเล็กก็ถูกนายแพทย์หนุ่มลากออกไปด้วยอารมณ์คุกรุ่น ทิ้งเข็มฉีดยาให้แน่นิ่งอยู่บนพื้นพร้อมกับร่างของนายหัวแห่งเกาะนาคาน้อยที่ยังไม่ได้สติอยู่บนเตียง

 

แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาทีต่อมา ท่ามกลางความเงียบงันมืดมิดที่โอบล้อมโดยรอบ นิ้วเรียวยาวได้รูปที่มีแหวนสีเงินสวมอยู่ที่นิ้วก้อยก็ขยับแผ่วเบา พร้อมกับเปลือกตาสีเนื้อที่ค่อยๆปรือเปิดขึ้นอย่างช้าๆ

“นา...วา...”
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 09-03-2015 23:25:24
ร่างเล็กของส่องแสงถูกนารายณ์ลากกลับมายังแฟลตที่ตั้งอยู่บริเวณหลังโรงพยาบาล คราแรกคนตัวบางขืนตัวเอาไว้สุดกำลัง ปากก็อ้อนวอนร้องขอให้นารายณ์ไว้โทษด้วยความตื่นตระหนก แต่ร่างสูงกลับทำเพียงเอ่ยปากขู่ให้ส่องแสงปิดปากและเดินตามมาอย่างเงียบๆถ้าไม่อยากเจ็บตัว และแน่นอนว่าคนอายุน้อยกว่าไม่เชื่อฟัง ยังคงเปิดปากอ้อนวอนต่อไปจนกระทั่งถูกนารายณ์ปิดปากเอาไว้ด้วยปากของเจ้าตัวเอง

พอถูกจูบคนตัวเล็กก็นิ่งสนิท ก้มหน้าก้มตากัดปากแน่น สองขาเดินตามแรงลากถูลู่ถูกังของนารายณ์มายังห้องพักที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้บุคลากรภายในองค์กร เมื่ออยู่ลำพังในที่ส่วนตัวส่องแสงก็ถูกอีกคนซักฟอกเรื่องราวทั้งหมด คนอายุน้อยกว่าจำใจต้องเล่าความจริงทุกอย่างออกไปด้วยความหวาดกลัว แต่ไหนแต่ไรมาในช่วงที่ทั้งสี่ตระกูลยังคงสนิทชิดเชื้อไม่มีเรื่องบาดหมางกันนั้น ตัวเขามักจะหวาดกลัวนารายณ์และพันเอกมาแต่เด็ก ด้วยเพราะส่องแสงถูกสองคนนั้นกลั่นแกล้งตามประสาวัยคะนองอยู่เป็นประจำ จะมีก็แต่รามเท่านั้นที่คอยดูแลเขาในขณะที่สิบตรีทำเพียงแค่มองอยู่ห่างๆอย่างเงียบๆ

เมื่อครั้งยังเด็กพันเอกชอบดุที่เขาเรียนได้ไม่ดีพอ บางครั้งก็ลงมือตีหากคะแนนของส่องแสงไม่เป็นที่น่าพอใจ ในขณะที่นารายณ์นั้นชอบพาเขาไปเจ็บตัว แกล้งให้ล้มหรือชอบพาไปเล่นอะไรพิเรนทร์เกินกว่ากำลังของพวกเขา สารพัดอย่างจนส่องแสงต้องมีแผลกลับบ้านทุกวัน

เขาจำได้ดีว่าเมื่อก่อนตนเองกลัวการเข้าใกล้นารายณ์มากแค่ไหน แต่พอเติบโตขึ้นมาสักพักพวกเขาก็ห่างเหินกันไปเพราะอีกฝ่ายเรียนหนักเพื่อเตรียมตัวสอบแพทย์ และไม่นานหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องระหว่างพันเอกกับรามจนความสัมพันธ์ของพวกเขาแตกหักออกเป็นสองฝั่ง

 

ตั้งแต่นั้นส่องแสงก็ไม่ได้พูดคุยกับนารายณ์หรือรามอีกเลย อาจจะมีพบเจอสิบตรีและทักทายกันบ้าง แต่กับร่างสูงตรงหน้า พวกเขาทั้งคู่กลายเป็นคนแปลกหน้ากันตั้งแต่นั้นจนกระทั่งส่องแสงสอบติดแพทย์ในมหาวิทยาลัยเดียวกับที่นารายณ์เรียนอยู่ นอกจากนี้นารายณ์กับเขายังเป็นสายรหัสกันอีกด้วย และสิ่งที่เขาไม่เคยลืมเลยคือช่วงที่เพิ่งเข้าไปเรียนปีหนึ่งใหม่ๆ ตอนนั้นได้เกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นกับเขาและนารายณ์ เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ส่องแสงเลือกที่จะดรอปเรียนเอาไว้ละรอจนกว่านารายณ์จะจบออกไปเขาถึงกลับเข้าไปเรียนใหม่อีกครั้ง หลีกเลี่ยงการพบเจอกับคนตรงหน้าเท่าที่จะทำได้

 

พวกเขาทั้งคู่เผลอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันในคืนเลี้ยงสายรหัส

 

ส่องแสงจำได้ดีว่าตกใจมากแค่ไหนที่ตื่นขึ้นมาในสภาพเปลือยเปล่า ข้างกายมีร่างขาวสมส่วนของนารายณ์หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ อาการเจ็บยอกตามร่างกายและเศษถุงยางที่ใช้แถวมากกว่าสามชิ้นบนพื้นยืนยันได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้า แม้เขาจะไม่ใช่ผู้หญิงและไม่คิดจะทวงถามความรับผิดชอบหากแต่แววตาและคำพูดผลักไสไล่ส่งของนารายณ์ก็ทำให้ส่องแสงเลือกที่จะดึงตัวเองออกจากการพบเจอกับนารายณ์ในที่สุด และตั้งแต่คืนนั้นพวกเขาก็ไม่ได้พบกันอีกเลย

 

จนกระทั่งวันที่ส่องแสงถูกพันเอกสั่งให้มาฝึกงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้

 

“ผมขอโทษ แต่ผมจำเป็นต้องทำ” ส่องแสงเอ่ยขอโทษเสียงเบาหลังจากเล่าทุกอย่างให้อีกฝ่ายฟังจนจบ นารายณ์ยืนนิ่งทอดสายตามองร่างบอบบางที่นั่งตัวสั่นบนเตียงกว้าง แววตาดุดันกวาดมองร่างตรงหน้าก่อนจะเอ่ยเสียงเย็นยะเยือก

“รู้ไหมว่าไอ้เอกมันเห็นนายเป็นแค่หมารับใช้”

“...”

“มันเกลียดนาย อยากจะฆ่านายให้ตายไปให้พ้นๆ มันไล่นายออกจากบ้านเหมือนหมูเหมือนหมา จำสิ่งที่มันทำได้ไหม” คุณหมอหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันทำเอาอีกฝ่ายกัดฟันแน่นแต่ก็ยังคงนั่งเงียบไม่ยอมปริปาก

“อยากให้มันยอมรับงั้นเหรอ อยากให้มันมองนายเป็นน้องชายเหมือนเมื่อก่อนเหรอ หึ โง่มากเทียน มันเป็นความคิดที่โง่มาก นายรักไอ้เอกมากขนาดกล้าฆ่าไอ้รามมันลงเลยสินะ”

ส่องแสงเม้มปากแน่นพลางเบือนหน้าหนีกับประโยคที่อีกคนเอ่ยกับเขา ทางด้านนารายณ์เองก็ได้แต่ก้มลงมองร่างเล็กที่นั่งไหลงองุ้มพลางสะกดกั้นอารมณ์โมโหเอาไว้ กลีบปากคู่สวยเอ่ยถามส่องแสงด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกพาให้อีกคนใจเต้นไม่เป็นส่ำ

“พี่จะทำยังไงกับคนที่จ้องจะฆ่าเพื่อนพี่ดี นายคิดว่ายังไง? ส่งให้ตำรวจดีไหม หรือส่งกลับไปให้ไอ้เอกมันเฆี่ยนนายให้ตาย”

“...”

“หึ มาคิดๆดูแล้ว ส่งนายกลับไปหาไอ้เอกก็ดูจะทำร้ายจิตใจคนคุ้นเคยกันไปหน่อยว่าไหม” คุณหมอหนุ่มเอ่ยพลางแสยะยิ้มเมื่อหวนนึกถึงความทรงจำเมื่อวันวาน ร่างสูงก้าวเดินเข้าคนตัวเล็กที่ถอยหนีอย่างอัตโนมัติ ไม่กี่อึดใจส่องแสงก็ถูกกระชากเข้าปะทะกับกายแกร่งกำยำเต็มแรง กลีบปากอิ่มหวีดร้องเสียงหลงในขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะอย่างชอบใจ

นารายณ์มีความสุขเสมอเมื่อเห็นคนตรงหน้าถูกต้อนให้จนมุม

“มารำลึกความหลังกันหน่อยดีกว่า ยังจำได้ไหมว่าคืนนั้นเราครางเรียกชื่อพี่ไปกี่ครั้ง”

!!!!

“ม...ไม่ พี่นาย ปล่อย! อื้อ!...” เสียงร้องขัดขืนถูกริมฝีปากของร่างสูงดูดกลืนให้หายกลับลงไปในลำคอ ร่างเล็กตัวสั่นสะท้านเมื่ออีกฝ่ายคุกคามหนัก ข้อมือคู่สวยทั้งผลักทั้งดันแผงอกแกร่งของนารายณ์เต็มแรงหากแต่ก็ไร้ประโยชน์

สุดท้ายด้วยพละกำลังที่ด้อยกว่าและสรีระร่างกายที่แตกต่างกันมากเกินไปก็ทำให้ร่างเล็กตกอยู่ใต้อาณัติของนารายณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสียงสะอื้นดังผะแผ่วท่ามกลางจังหวะรักที่ถูกบรรเลงขึ้นอย่างเอาแต่ใจ คุณหมอหนุ่มที่เหล่าพยาบาลและคนไข้เคยชื่นชมว่าใจดีและเป็นสุภาพบุรุษบัดนี้ไม่ต่างอะไรไปจากปีศาจร้าย สองมือฉีกทึ้งอาภรณ์ของร่างเล็กจนส่องแสงเปลือยเปล่า เรียวขาขาวถูกคนบนร่างบังคับให้แยกออกกว้างก่อนที่ส่องแสงจะน้ำตาตกเมื่ออีกฝ่ายขยับกายผนึกร่างเข้าหาอย่างรุนแรงราวกับเขาเป็นเพียงตุ๊กตายางที่มีไว้เพื่อระบายอารมณ์ใคร่

นารายณ์หยัดร่างลงลึกฝากฝังแก่นกายเข้าออกภายในช่องทางอุ่นร้อนอ่อนนุ่ม แรงบีบรัดที่บ่งบอกว่าตั้งแต่คืนนั้นจนถึงวันนี้ส่องแสงไม่เคยทอดกายให้ผู้ใดทำเอาหัวใจของร่างสูงเต้นระส่ำไปทั่วทั้งอก ความต้องการทางร่างกายทบทวีขึ้นพร้อมๆกับความหวงแหนที่ผุดขึ้นภายในจิตใจ ดวงหน้าน่ารักแดงก่ำ ริมฝีปากอิ่มขบกัดเข้าหากันจนแน่นในขณะที่แก้วตาคู่ใสเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาดูน่ามองนักในความคิดของเขา

คิดถึงมากเหลือเกิน

เขาคิดถึงร่างนี้มากจริงๆ

 

“อึ่ก อ๊ะ...”

 

Rrrrrr

 

“อาาาา”

“ฮึก พี่นาย...ป...ปล่อย”

 

Rrrrrrrrr

 

“อื้อ พะ...พี่นา...อึ่ก”

“ซี๊ดดดดด”

 

Rrrrrrrrrrrrrr

 

“ฮึ่ม! ใครแม่งโทรมาตอนนี้วะ!!!!” ชายหนุ่มสบถออกมาเสียงแข็งกร้าวด้วยความหงุดหงิดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอ เมื่อเห็นว่าเป็นชื่อของนางพยาบาลที่จำได้ว่าเขาเคยมีสัมพันธ์ด้วยก็ตั้งใจที่จะตัดสายทิ้ง หากแต่ด้วยความเป็นหมอก็ทำให้นารายณ์เลือกที่จะกดรับสายก่อนจะกรอกเสียงลงไปด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

“ครับคุณน้ำ”

[หมอนายคะ คนไข้ห้องสองหนึ่งสามรู้สึกตัวแล้วค่ะ!!!]

“!!!”

[รบกวนคุณหมอลงมาที่ตึกสักครู่ได้ไหมคะ คือ...คนไข้เอาแต่ถามหาคุณหมอน่ะค่ะ]

“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบลงไป” ชายหนุ่มพูดจบพร้อมกับกดตัดสาย นารายณ์วางโทรศัพท์ลงบนที่นอนก่อนจะปรายตามองร่างแน่งน้อยที่หอบสะท้านใต้ร่าง สองมือเท้าแขนลงกับเตียงพลางจ้องใบหน้าของส่องแสงด้วยดวงตาพราวระยับก่อนจะยกยิ้มชอบใจ

“เสียใจด้วยนะเทียนที่งานของนายไม่สำเร็จ ตอนนี้รามฟื้นแล้ว” ร่างสูงพูดพลางดึงกายออกจนเกือบสุดก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปใหม่เต็มแรงจนคนด้านใต้หวีดร้องเสียงหลง

“อ๊ะ! จะ...เจ็บ ฮึก ผมเจ็บ”

“รอพี่อยู่ที่นี่ ห้ามหนีไปไหนเหมือนครั้งก่อนอีก ไม่อย่างงั้นจะมาหาว่าพี่ใจร้ายไม่ได้นะครับ...เด็กดี” คุณหมอหนุ่มทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบก่อนจะดึงร่างออกอย่างรวดเร็วจนส่องแสงผวาเฮือก นารายณ์จ้องมองช่องทางรักที่บอบช้ำด้วยดวงตาวาวโรจน์ก่อนจะยกยิ้ม ชายหนุ่มขยับตัวขึ้นไปจูบซับขมับเล็กของคนตรงหน้าก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เสื้อกาวน์สีขาวที่วางพาดอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลถูกหยิบขึ้นมาสวมพร้อมกับสองมือที่จัดการกับซิปกางเกงที่ถูกปลดลงก่อนหน้า ชายหนุ่มก้าวไปยังประตูห้องพลางเปิดออก ดวงตาดำขลับเลื่อนกลับมามองคนบนเตียงเพียงเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจเดินออกไปจากห้องพร้อมกับปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา

เมื่อบานประตูปิดลงความเงียบสงัดก็โอบล้อมบรรยากาศโดยรอบ ส่องแสงขยับตัวลุกขึ้นนั่งก่อนจะค่อยๆเคลื่อนกายลงจากเตียง หากทว่าพอเท้าเล็กแตะพื้นร่างทั้งร่างก็ทรุดฮวบลงอย่างอ่อนแรง หัวเขาเล็กกระแทกกับพื้นห้องจนเกิดเสียง ร่างบางเม้มปากแน่นพลางน้ำตาตก ความเจ็บจี๊ดจากหัวเข่าและความรู้สึกเจ็บเสียดที่ช่องทางด้านหลังหลอมรวมให้ชายหนุ่มปล่อยน้ำตาให้ไหลเอื่อยลงอาบแก้ม สองขาชันเข่าขึ้นและโอบกอดเอาไว้แน่น ดวงหน้าขาวซบลงกับหัวเข่าก่อนจะนั่งร้องไห้อย่างเงียบๆ ฟันขาวขบกัดเข้าหากันแน่นและบอกตัวเองให้อดทนกับสิ่งที่ได้พบเจอ

ให้คิดเสียว่าเป็นฝันร้ายอย่างหนึ่งที่ต้องเจอ

แล้วสักวันทุกอย่างจะต้องดีขึ้น

สักวัน...

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

เฮียเอกโดนแย่งซีนอีกแล้ว 55555555555555555555
เจอกันใหม่ตอนหน้านะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 09-03-2015 23:50:55
ฝ่ายพระเอกมีแต่นิสัยร้ายๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 10-03-2015 00:40:28
เฮ้ออออ  หน่วงได้ทุกตอนจริงๆๆๆๆ  ไม่รุ้จะใจแข็งอ่านได้ถึงไหน เศรัาา ทุกตัวละครเลยย  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 10-03-2015 01:09:30
เรื่องของเฮียเอกเริ่มดีขึ้น แต่เรื่องของพี่นายนี่..  :mew6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ChinaGirlKrt ที่ 10-03-2015 05:39:44
หน่วงทุกตอนจริงๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 10-03-2015 09:20:52
อ่านแรกๆชอบรามนะแต่ตอนนี้หมั่นไส้ล่ะ ตายซะก้ดี นายคือคนทำให้พะพายเสียใจจจจ :m16:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 10-03-2015 19:33:02
เพิ่งเห็นว่าเอามาลงในนี้ด้วย
เราเคยอ่านค้างไว้ในอีกที่ แต่ลืมเซฟลิ้งค์ไว้ ;___;
กลับมาอ่านกี่รอบก็ไม่ชอบพันเอก แงงงงงงง ใจร้ายยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 11-03-2015 19:36:18
 :hao5:   ดีใจสุดๆ   ในที่สุดก็อัพสักที  เค้ารอนานมากเลยรู้ไหม  :hao5: :hao5:

สงสารนาวา ตอนที่เล่าทุกอย่างให้น้องชายฟัง เราเองน้ำตาไหลเลย  :hao4:

ขอให้นาวา ผ่านเรื่องราวไม่ดีไปได้เร็วๆด้วยเถิด   อิพันเอก เลิกปากแข็ง แล้วสารภาพรักซะนะ :angry2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boommerang ที่ 21-03-2015 13:38:16
คุณคนเขียนทำเราค้างอีกแน่ๆๆ.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: angel_Z4 ที่ 21-03-2015 17:01:33
กรี๊ดดดดดดดดดดดดมาอีกคู่แล้ว งือออออออไม่นะๆๆๆ รู้ไหมว่ามันค้าง!!!/ผิด
อะเฮือกกก เอกเอ้ยเอกหมดเเล้วมาดเอ็งอ่ะ :z13:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 21-03-2015 18:02:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 25-03-2015 16:42:14
ชีวิตนายเอกทุกคนดาม่าไปไหม จะรักกันได้จริงๆหรอ ทำร้ายกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 27-03-2015 20:14:23
ตอนที่ ๑๖ : สองฟากของกำแพง - ๑ -



“รู้สึกยังไงบ้าง” นารายณ์ถามร่างสูงของรามด้วยน้ำเสียงเครียดก่อนจะใช้สเต็ทโตสโคปแนบอกของคนตรงหน้าพลางจับชีพจรของคนที่หลับไปนาน

“เวียนหัว จะอ้วก” นายหัวหนุ่มตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบแห้งก่อนจะคว้าเอาน้ำเปล่าขวดที่สามขึ้นมาดื่ม นารายณ์ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่ออาการของรามไม่มีอะไรน่าวิตกนักนอกจากขาดสารอาหารเพราะต้องสอดท่อให้อาหารตลอดเวลาที่คนตรงหน้ายังไม่ได้สติ

“อาการปกติของคนที่หลับไปนานนั่นแหละ มึงขาดสารอาหารด้วย เดี๋ยวกูให้ยาเจริญอาหารแล้วก็ยาบำรุงเลือดแล้วก็นอนพักฟื้นจนกว่าจะแข็งแรงถึงจะให้ออกนะ”

“กูหลับไปนานแค่ไหน” รามถามเสียงราบเรียบ ความทรงจำก่อนที่จะหยุดการรับรู้ค่อยๆก่อร่างสร้างตัวเข้ามาในโสตประสาทจนรู้สึกปวดหัว นารายณ์มองเพื่อนอย่างเป็นห่วงก่อนจะตอบเสียงนิ่งเรียบ

“นานพอดู กูเองก็ไม่ได้นับ ตอนแรกมึงเกือบจะไม่รอดแล้วด้วยซ้ำ”

“แล้วช่วงที่กูหลับมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง” นายหัวหนุ่มถามขึ้นพลางหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของนารายณ์ด้วยดวงตาจริงจัง คุณหมอหนุ่มเลื่อนเก้าอี้ข้างเตียงมานั่งพลางจ้องใบหน้าซีดเซียวของคนบนเตียงไม่วางตา

“ไอ้เอกจะซื้อเกาะของมึงแต่ไอ้สิบไม่ยอมขาย ส่วนคุณวา เห็นไอ้สิบบอกว่าชวนเขาหนีแล้วแต่คุณวาไม่ยอมหนีเพราะติดน้องชาย”

“...”

“ตอนนี้ก็ดูจะยักแย่ยักยันอยู่กับไอ้เอกในบ้านนั่นแหละ แต่มันก็ไม่ทำร้ายอะไรคุณวาเขา ออกจะดูแลดีด้วยซ้ำ”

“หึ เพราะมันทำระยำกับวาเอาไว้จนไม่รู้จะทำเหี้ยอะไรแล้วไงนาย” รามสวนพลางกำหมัดแน่น นารายณ์ตบแขนเพื่อนให้ใจเย็นก่อนจะเอ่ยต่อ

“เรื่องคุณวาน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เรื่องเทียนนี่สิที่กูห่วง” จบประโยคของคุณหมอตัวสูงรามก็หันขวับกลับมามองหน้าเพื่อนพลางขมวดคิ้วแน่น

“เทียนทำไม เป็นอะไร” ร่างสูงถามด้วยความเป็นห่วง รามรักส่องแสงเหมือนน้องชายคนหนึ่งเพราะน้องน่าสงสาร จำได้ว่าหลังจากเกิดเรื่องที่เขาฆ่าบิดามารดาของพันเอกส่องแสงกับคุณปานดาวผู้เป็นมารดาก็ถูกพันเอกไล่ออกจากบ้าน ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เขาเองก็มีสภาพร่อแร่ ต้องหลบลงมาอยู่ภาคใต้จึงไม่ได้ติดต่ออะไรไปหาอีกคน และก็ไม่ได้เจอส่องแสงอีกเลยหลังจากนั้น

“ไอ้เอกมันใช้ให้เทียนมาฆ่ามึง และน้องก็ทำ”

!!!

“ตอนนี้น้องอยู่บนห้องกู อยากคุยไหมกูจะโทรตาม” นารายณ์เอ่ยขึ้นในขณะที่รามยังคงอึ้งอยู่ ชายหนุ่มขมวดคิ้วแน่นพลางส่ายหน้าไปมา

“ยังดีกว่า กูยังไม่พร้อมจะเจอใครตอนนี้”

“อืม”

“เดี๋ยวนะ...ทำไมน้องไปอยู่ที่ห้องมึง?” รามเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงดุดันจนนารายณ์ชะงัก คุณหมอหนุ่มเสตาหลบการคุกคามทางสายตาของรามก่อนจะตอบ

“ไว้เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง”

“ถ้าเป็นอย่างที่กูคิดนะไอ้หมอ กูออกจากโรง’บาลเมื่อไหร่กูกระทืบมึงจมตีนแน่” รามยกมือขึ้นชี้หน้าเพื่อนพร้อมกับเอ่ยเสียงอาฆาตทำเอานารายณ์ถึงกับหลุดขำ ร่างสูงส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะถามรามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“แล้วเรื่องคุณวากับไอ้เอกละ มึงจะทำยังไงต่อไป”

“...” นายหัวหนุ่มถึงกับเงียบเมื่อเจอคำถามนี้ ใบหน้าหล่อเหล่าทว่าซีดเซียวเคร่งขรึมลงอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่รามจะเอนตัวลงนอนและจ้องแหวนเงินเกลี้ยงเกลาที่สวมอยู่บนนิ้วก้อยข้างซ้ายของตนเองด้วยแววตาว่างเปล่า

“เอาวาคืนมาและจบเรื่องเหี้ยๆนี้ซะ”

“มันไม่ง่ายมึงก็รู้” นารายณ์เอ่ยเสียงเครียด พันเอกไม่มีทางยอมคืนนาวาให้รามง่ายๆแน่ เขาเอาหัวเป็นประกันได้เลย

“ในเมื่อมันไม่ยอมให้ดีๆเราก็ต้องหาของไปแลก” นายหัวหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางยกยิ้มมุมปากในขณะที่นารายณ์ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

“มึงหมายความว่ายังไงราม มึงมีอะไรไปต่อรองกับมันด้วยหรือไง”

“หึหึ ทำไมจะไม่มีล่ะ”

“...”

“ก็หัวใจของพันเอก กฤตภาสนั่นไง”

“หัวใจ?”

“ใช่ หัวใจ พระพายคือหัวใจของมัน”

“นี่มึงคงไม่คิด...”

“ในเมื่อมันทำร้ายคนที่กูรักได้ กูก็ทำร้ายคนที่มันรักยิ่งกว่าชีวิตได้เหมือนกัน...”





หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากเหตุการณ์วันนั้นทั้งนาวาและณะโมก็เงียบลงไปจนทุกคนสังเกตได้ ณะโมจากที่เคยร่าเริงก็ไม่พูดไม่จากับใคร ทั้งที่พระพายพยายามเข้าไปพูดคุยอยู่หลายครั้งแต่เด็กหนุ่มก็ทำเพียงแค่ยกยิ้มแกนๆและขอตัวกลับขึ้นห้อง ส่วนนาวาเองก็ยังคงทำงานบ้านเหมือนอย่างเคยแต่ก็พูดน้อยลงกว่าเดิมมาก อาการของสองพี่น้องสร้างความลำบากใจให้แก่คนในบ้านเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะประมุขของบ้านอย่างพันเอก

วันที่เกิดเรื่องนาวาเดินมาขอโทษเขาเรื่องโทรศัพท์ก่อนจะขนเสื้อผ้าย้ายกลับไปนอนกับน้องชาย พันเอกอยากจะรั้งตัวของอีกฝ่ายเอาไว้แต่เพราะยังมีความผิดติดตัวจึงได้แต่มองตามแผ่นหลังของอีกคนไปอย่างเงียบๆ นาวาพูดกับเขานับคำได้ ถามคำตอบคำและมีเพียงสีหน้าเย็นชาใส่กันจนพันเอกอึดอัดไปทั่วทั้งอก

“เห็นนาวาไหม” ร่างสูงเอ่ยถามสันต์ที่วันนี้ทำหน้าที่เป็นคนขับรถแทนพายุที่มีธุระต้องไปทำ คนถูกถามโค้งตัวให้พันเอกเล็กน้อยก่อนจะลอบมองใบหน้าทรุดโทรมของผู้เป็นนายด้วยความสงสารจับใจ

“อยู่กับน้ำอุ่นครับ เห็นว่ากำลังคุยเรื่องฝากท้องอยู่ที่เรือนด้านหลัง”

“เหรอ...” พันเอกตอบรับเสียงเบาพาให้ลูกน้องถอนหายใจ

“นายยังไม่ปรับความเข้าใจกับคุณวาอีกเหรอครับ” สันต์ถามขึ้นพลางลอบมองปฏิกิริยาของอีกคน พันเอกส่ายหน้าไปมาช้าๆก่อนจะก้าวเข้าไปนั่งในรถคันหรูโดยมีบอดี้การ์ดหนุ่มก้าวเข้ามาประจำที่นั่งคนขับในเวลาไล่เลี่ยกัน

“อยู่แบบนี้น่าอึดอัดออกนะครับคุณเอก ผมว่าลองไปคุยกับคุณวาดูหน่อยไหม”

“จะให้ไปคุยอะไรละสันต์ ระหว่างเรามันไม่ได้ดีมาตั้งแต่ต้น ตัวฉันเองยังไม่อยากจะยอมรับความรู้สึกของตัวเองเลย” พันเอกพูดขึ้นพลางหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า

“คุณเอกยังคิดจะใช้คุณวาแก้แค้นรามอยู่อีกไหมครับ” สันต์เอ่ยถามพลางค่อยๆออกรถ พันเอกลืมตาจ้องมองเพดานหลังคารถอย่างเงียบงันก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่รู้สิ นอกจากการทำร้ายหัวใจมันยังมีอะไรที่ฉันทำได้อีกเหรอ” ผู้เป็นเจ้านายย้อนถามจนบอดี้การ์ดหนุ่มเงียบไป

“นั่นสินะครับ” ร่างสูงเอ่ยพึมพำเสียงเบาก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อไป นายของเขาพูดถูก นอกจากการทำลายหัวใจของรามด้วยการย่ำยีนาวาต่อหน้าแล้วเขาก็ไม่เห็นวิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดไปมากกว่านี้อีกแล้ว

“ฉันส่งคนไปตามฆ่ามันแล้ว ฉันถือว่าตัวเองได้แก้แค้นในส่วนของครอบครัวไปแล้ว ถ้ามันตายก็นับว่าเรื่องจบ”

“คุณเอกก็ทราบดีว่าคุณเทียนไม่มีวันฆ่าผู้ชายคนนั้นได้ ทำไมถึงยังส่งคุณเทียนไปภูเก็ตละครับ” สันต์เอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัยมาตลอดอย่างกล้าๆกลัวๆ พันเอกแค่นหัวเราะกับคำถามนั้นก่อนจะเบนสายตาออกไปมองวิวทิวทัศน์สองข้างทาง

“คงเพราะอยากยืมมือคนที่นั่นกำจัดลูกเมียน้อยอย่างเทียนละมั้ง”

“...”

“เทียนไม่มีทางเอาตัวรอดได้หรอกในที่แบบนั้น เด็กนั่นมันหัวอ่อน ไม่ว่าจะฆ่าไอ้รามมันได้หรือไม่ได้สุดท้ายมันก็จะถูกคนที่นั่นลงโทษอย่างสาสมอยู่ดี”

“ผมถามจริงๆนะครับ คุณเอกไม่รักคุณเทียนเลยเหรอ” บอดี้การ์ดร่างสูงเอ่ยถามขึ้นอย่างอดไม่ได้ พอรู้มาบ้างว่าส่องแสงเป็นลูกที่เกิดจากบิดาของพันเอกกับสาวใช้ภายในบ้าน แต่จากที่ฟังเอื้องคำเล่ามาดูเหมือนว่าเมื่อครั้งที่เจ้านายเขายังเด็กก็ดูจะรักส่องแสงดีๆแท้ๆ แล้วทำไมอยู่ๆถึงได้ไล่ส่องแสงกับมารดาออกจากบ้านและไม่คบค้าสมาคมอีกเลยทั้งที่สายเลือดครึ่งหนึ่งของทั้งคู่ก็ไม่ต่างกัน

“เคยรัก” พันเอกตอบคนเป็นลูกน้องเสียงแผ่วเบาทำเอาอีกฝ่ายเงียบกริบ

“เคยรักเทียนมากยิ่งกว่าชีวิต สัญญากับพ่อเอาไว้ด้วยว่าจะดูแลจนวินาทีสุดท้ายที่อยู่บนโลก แต่นั่นมันก่อนที่จะรู้ความจริงว่าเทียนเป็นลูกที่เกิดจากการที่พ่อไปมีผู้หญิงคนอื่น” ร่างสูงเล่าด้วยน้ำเสียงเจือแววเจ็บปวดอยู่ในทีจนคนถามเงียบกริบ

“น้องชายของฉันมีแค่พระพาย ชีวิตทั้งชีวิตฉันยกให้แค่พระพายเพียงคนเดียวเท่านั้นแหละสันต์ และฉันก็ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ฉันรักมีความสุข” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหนักแน่นจนคนฟังถึงกับยกยิ้มจางๆ

“ผมรู้ แต่ตอนนี้คุณเอกไม่ได้มีคนที่รักแค่คนเดียวแล้วไม่ใช่เหรอครับ”

“...”

“คุณบอกว่าคุณยอมทำทุกอย่างให้คนที่รักมีความสุข แต่ตอนนี้คุณวาดูไม่มีความสุขเลยนะครับ”

“...”

“คำว่ารัก มันพูดง่ายพอๆกับคำว่าขอโทษนั่นแหละครับคุณเอก ลองทิ้งทุกอย่างเอาไว้ด้านหลังให้พวกผมจัดการและหาความสุขจริงๆใส่ตัวดูหน่อยสิครับ ถือว่าผมขอร้อง...”



เพราะคำพูดของบอดี้การ์ดหนุ่มที่เอ่ยกับพันเอกในรถนั่น วันนี้ทั้งวันร่างสูงจึงเอาแต่นั่งเหม่ออยู่ในห้องทำงานของตนเองบนตึกสูงระฟ้า มือแกร่งหมุนปากกาเล่นพลางจ้องวิวทิวทัศน์ที่มีแต่ตึกรามบ้านช่องมากมาย เสียงถอนหายใจดังครั้งแล้วครั้งเล่าทำเอาผู้มาใหม่ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาถึงกับยกยิ้มอ่อนๆอย่างนึกเห็นใจ

“ถอนหายใจบ่อยแก่เร็วนะพี่” พระพายในชุดนักศึกษาเดินเข้ามาหาพันเอกพร้อมกับอ้อมไปนวดไหล่ให้คนเป็นพี่ชาย พันเอกส่งยิ้มให้น้องชายชั่วครู่ก่อนจะหันมาสนใจงานตรงหน้าแต่กลับต้องเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าขาวของพระพายแทนเมื่อได้ยินคำถามบางอย่างจากอีกคน

“รามฟื้นแล้วนะ”

“อะไรนะ”

“ผมบอกว่ารามฟื้นแล้ว พี่เทียนทำงานไม่สำเร็จ”

“แกรู้ได้ไงว่าฉันส่งเทียนไปภูเก็ต” พันเอกถามพลางขมวดคิ้ว พระพายจ้องใบหน้าหล่อเหลาของพี่ชายด้วยสายตาจริงจังก่อนจะตอบ

“รู้นานแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อไหร่พี่เอกจะเลิกทำร้ายพี่เทียนทางอ้อมสักที นั่นก็ลูกพ่อนะ”

“...”

“พอสักทีเถอะพี่ แค่นี้เรายังเจ็บกันไม่พออีกเหรอ ต้องรอให้มีคนตายไปก่อนรึเปล่าถึงจะหยุด” พระพายพูดเสียงอ่อนพลางเม้มปากแน่น

“เราทำลายอนาคตพี่วาไปคนหนึ่งแล้ว อย่าทำร้ายพี่เทียนอีกคนเลยนะ นั่นพี่น้องของเรานะพี่เอก”

“เทียนไม่ใช่น้องฉัน ฉันมีน้องชายคนเดียว” พันเอกสวนขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พระพายฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมจำนน

“เอาเถอะ คนอย่างพี่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาหรอก วันไหนที่พี่เทียนเจ็บกลับมาผมจะรอดูว่าพี่จะทนอยู่เฉยได้รึเปล่า” พระพายพูดทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็ผละออกห่างจากคนเป็นพี่พลางเดินไปนั่งแหมะที่โซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่มุมห้อง พันเอกมองตามแผ่นหลังของคนอายุน้อยกว่าพลางส่ายหน้าก่อนจะก้มหน้าลงเคลียร์งานต่อ

.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ ๑๔+ตอนที่ ๑๕ P.7 (09/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 27-03-2015 20:14:48
ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นหลังจากที่ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบได้ไม่ถึงสามนาที สองพี่น้องเงยหน้าขึ้นจากงานไปมองประตูก่อนที่พระพายจะเบ้ปากเมื่อเห็นคนที่เปิดประตูเข้ามาใหม่ในขณะที่พันเอกทำเพียงแค่เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ

“ไงไอ้เอก กูมากวนรึเปล่าวะ”

“ไม่เท่าไหร่ มีอะไรรึเปล่า” ร่างสูงเอ่ยออกไปพลางมองร่างสูงของผู้มาใหม่

“กูจะมาบอกว่าคืนพรุ่งนี้พวกไอ้ปราชญ์นัดกินเหล้า มันให้กูมาบังคับมึงไปให้ได้”

“กินเหล้า?”

“ใช่ ที่เดิมนั่นแหละ มันบอกจะเปิดตัวแฟน งานนี้เบี้ยวไม่ได้นะเว้ย...อ้าว น้องพายก็อยู่เหรอครับ ไม่เจอกันนานเลยเนาะ” ‘พีระ อติวัฒน์’ พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจจนปิดไม่มิดเมื่อเห็นว่าพระพายเองก็อยู่ภายในห้องทำงานแห่งนี้ด้วย ร่างสูงกวาดสายตามองร่างโปร่งของพระพายด้วยแววตาจาบจ้วงอย่างเสียมารยาทยามที่พันเอกเผลอก่อนจะรีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเมื่อเห็นว่าพันเอกหันมามอง

“สวัสดีครับพี่พีท” พระพายจำต้องยกมือไหว้เพื่อนสนิทของพี่ชายอย่างเสียไม่ได้แม้จะนึกไม่ชอบใจกับนิสัยและสายตาของคนตรงหน้า พีระอมยิ้มมุมปากมองใบหน้าขาวของคนตัวเล็กก่อนจะเอ่ยปากชวนพระพายถึงการนัดแนะสังสรรค์กันวันนี้

“จะว่าไปมึงก็เอาน้องพายไปด้วยดิวะ ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก...ไปด้วยกันนะครับ” ท้ายประโยคพีระหันไปกะลิ่มกะเลี่ยใส่น้องชายของเพื่อน

“ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมมีงานต้องทำเยอะ ถ้ายังไงผมขอตัวก่อนดีกว่า พี่พีทกับพี่เอกจะได้คุยกันตามลำพัง สวัสดีครับ” ร่างขาวพูดเร็วๆพลางรีบดึงตัวเองออกห่างจากพีระให้มากที่สุด สองมือยกมือไหว้คนอายุมากกว่าทั้งสองพลางคว้าเอากระเป๋ามาสะพายและก้าวฉับๆออกมาจากห้อง ทิ้งให้พีระมองตามแผ่นหลังบางด้วยสายตาวาวโรจน์ดุดันก่อนจะหันมาหาพันเอกที่ยังคงง่วนอยู่กับงานบนโต๊ะ

“ตกลงมึงจะไปใช่ไหมเอก”

“อืม”

“เออๆ เจอกันที่เดิม กูไปละ”

“เออ” กฤตภาสคนพี่ออกปากไล่พลางกลั้นขำ พีระยกยิ้มน้อยๆก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของอีกคน ดวงตาคมสอดส่ายสายตาไปทั่วก่อนจะปะทะเข้ากับร่างของพระพายที่กำลังยืนคุยกับเลขาของพันเอกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่รอให้อีกฝ่ายได้ไหวตัวทันร่างสูงของพีระก็ก้าวเดินเข้าไปประชิดตัวพระพายเอาไว้ก่อนจะถือวิสาสะโอบเอวบางเอาไว้พลางดึงร่างเล็กให้ขยับเข้าไปชิดอก

“มาอยู่นี่นี่เอง หาตั้งนาน” ชายหนุ่มแสร้งเอ่ยเสียงแปลกใจในขณะที่พระพายขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด พระพายขืนตัวออกจากพันธนาการของพีระก่อนจะเอ่ยลาเลขาสาวแล้วรีบจ้ำอ้าวหนีไป ทิ้งให้พีระต้องยิ้มแหยๆก่อนจะแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“งอนผมนะครับคุณนาง ขอตัวไปง้อน้องก่อนนะ”

“คะ...เอ่อ ค่ะๆ” เลขาสาวรับคำอย่างงงๆก่อนจะเดินจากไป พีระเห็นดังนั้นจึงรีบตามร่างเล็กของพระพายไปก่อนจะฉุดแขนขาวเอาไว้แล้วลากน้องชายของเพื่อนเข้าสู่มุมอับสายตา

“พี่พีท! จะทำอะไรผม ปล่อยเลยนะ!” ร่างเล็กแหวขึ้น เขาไม่เคยนึกชอบเพื่อนของพี่ชายคนนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว พีระเป็นผู้ชายคนเดียวที่พระพายเข็ดขยาดเพราะอีกฝ่ายแสดงออกว่าสนใจเขาและคุกคามอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักครั้ง อีกทั้งยังพูดจาลามเลียหยาบโลนเสียจนพระพายขยะแขยง

“พี่ไม่อยู่ตั้งหลายเดือน ไม่คิดถึงพี่บ้างเหรอครับ หืม?”

“ทำไมผมต้องคิดถึงพี่ด้วย ปล่อยได้แล้ว อย่ามาทำรุ่มร่ามกับผมแบบนี้นะ พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบ” พระพายเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน หากแต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุเมื่อร่างเล็กถูกพีระดันจนแผ่นหลังชิดกับผนังข้างๆ มือหนาถือวิสาสะล้วงเข้าไปใต้เสื้อนักศึกษาของคนตัวขาวก่อนจะลูบไล้หน้าท้องแบนราบของพระพายแผ่วเบาจนคนถูกคุกคามถึงกับร้องเสียงหลง

“พี่พีท!”

“ชู่ว อย่าเสียงดังสิครับคนดี” พีระกระซิบเสียงแหบพร่าก่อนจะคลอเคลียจมูกลงข้างแก้มนุ่ม พระพายเม้มปากแน่นขนลุกซู่ไปทั่วกาย สัมผัสร้อนผ่าวแผ่กระจายไปทั่ว ทั้งจากจมูกโด่งรั้นและฝ่ามืออุ่นร้อนที่ลูบไล้ไปทั่วผิวกาย

“ถ้าพี่พีทยังวุ่นวายกับผมแบบนี้อีกผมจะฟ้องพี่เอก!” พระพายเอ่ยขึ้นเสียงสั่น พอกันที เขาจะไม่ทนให้เพื่อนของพี่ชายคนนี้ทำอนาจารกับร่างกายของเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว ที่ผ่านมาเพราะเห็นว่าผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือพี่ชายเขาอยู่บ่อยๆจึงต้องทน แต่นับวันพีระยิ่งหนักข้อ จากที่แค่จับในตอนนี้กลับทั้งกอดทั้งหอมแถมยังรุกไล่จนพระพายหาทางหนีไม่ได้

“หึ ก็เอาสิครับ ถ้าน้องพายอยากให้ไอ้เอกมันรู้ว่าน้องชายที่มันรักนักหนาเสียตัวให้ไอ้ชั่วที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ทำบัตรประชาชน”

!!!!!

“อย่าคิดว่าพี่ไม่รู้นะว่าไอ้เจ้าของแหวนที่อยู่บนคอของเรามันลากเราไปทำอะไรที่ห้องเก็บของในวันจบการศึกษา” พีระเอ่ยขึ้นพลางแสยะยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าของพระพายซีดเผือด

“พ...พี่รู้ได้ยังไง”

“พี่ไม่ได้รู้อย่างเดียวหรอกนะน้องพาย แต่พี่ทั้งเห็น ทั้งได้ยินเลยแหละครับ”

!!!!

“รู้สึกยังไงครับ รสชาติของการถูกเอาตั้งแต่อยู่ปอสี่ ไอ้รามมันกระแทกเราถึงใจดีไหม”

“พี่พีท!!!!”

“อ้อ ก็คงถึงใจอยู่แหละเนาะ ทั้งร้องทั้งอ้าขาให้มันเอาซะขนาดนั้น ไอ้รามมันแตกไปหลายน้ำเลยนี่”

พลั่ก!

เสียงฝ่ามือดังขึ้นทันทีที่พีระพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตามแรงชกของคนตัวเล็กกว่า กลิ่นคาวคละคลุ้งกระจายไปทั่วโพรงปากจนรู้สึกได้ พระพายหอบหนักหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธปนอับอายในขณะที่พีระทำเพียงแค่ใช้ลิ้นดันกระพุงแก้มอย่างกวนอารมณ์

“พี่จะไม่บอกไอ้เอกเรื่องของพายกับไอ้ราม ตราบใดที่น้องพายยอมพี่ดีๆ ตกลงไหมครับ” ร่างสูงหันกลับมาแสยะยิ้มพลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูขาว พระพายเม้มปากแน่นก่อนจะชั่งน้ำหนักระหว่างทางเลือกที่มี

ถ้าบอกพันเอก รายนั้นจะโกรธเกลียดรามขึ้นอีกเป็นสิบๆเท่า เขาไม่อยากให้ความแค้นที่กำลังส่อเค้าว่าเจือจางต้องปะทุขึ้นอีกเพราะอดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่ถ้าไม่บอก พระพายแน่ใจว่าตนไม่มีทางรอดพ้นเงื้อมือของพีระไปได้เป็นแน่

เขาควรจะเลือกหนทางไหน?

ร่างเล็กเม้มปากแน่น เงยหน้าจ้องมองโครงหน้าได้รูปที่กำลังมองเขาด้วยดวงตาพราวระยับ ฝ่ามือของอีกฝ่ายยังลูบวนอยู่แถวหน้าท้องและส่งผ่านความสะอิดสะเอียนมาไม่ขาดสาย

ไม่ พระพายไม่ชอบการอยู่กับผู้ชายคนนี้ เขาเกลียดการตกเป็นเบี้ยล่างของผู้ชายคนนี้ และเขาจะไม่มีวันยอมผู้ชายคนนี้

“ผมไม่มีทางยอมพี่หรอก ต่อให้ผมตายผมก็ไม่มีวันยอม”

“พาย!!!”

“อยากจะฟ้องอะไรพี่เอกก็เชิญ เรื่องมันเป็นอดีตไปแล้ว ผมเชื่อว่าพี่เอกแยกแยะได้” ร่างเล็กเชิดหน้าพลางพูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงแม้ในใจจะหวาดหวั่น พีระกัดฟันกรอดจ้องมองคนที่เขาหมายจะเด็ดดอมลงมาเชยชมแต่เจ้าตัวกลับไม่ใยดีต่อความรู้สึกที่เขามีให้

“อยากจะลองดีกับพี่ใช่ไหมพระพาย นายอยากลองดีมากนักใช่ไหม”

“หึ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าคนขี้ขลาดอย่างพี่จะทำอะไรได้บ้างนอกจากฟ้องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว จะบอกอะไรให้นะครับพี่พีท นายรามที่ว่าเลวนักหนายังมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่าพี่ร้อยเท่าพันเท่าอีก จำเอาไว้!” ร่างเล็กทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยน้ำเสียงดุดันก่อนจะสะบัดตัวออกจากอีกฝ่ายและเดินหนีออกมา เมื่อแน่ใจว่าหนีอีกคนพ้นพระพายก็ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางเม้มปากแน่น สองมือยกขึ้นกำแหวนเงินเกลี้ยงเกลาที่ห้อยคอเอาไว้พลางหลับตาแน่นและชันเข่าขึ้นมาก่อนจะซบใบหน้าลงอย่างอ่อนแรง ความทรงจำในวันนั้นฉายชัดขึ้นมาภายในโสตประสาท ตอกย้ำถึงความโง่และการกระทำที่น่าอับอาย ความรู้สึกร้อนวูบวาบยังคงติดอยู่ตามร่างกายแม้จะผ่านมานานสิบเอ็ดปีแล้วก็ตาม สัมผัสร้อนผ่าวแผ่วเบาจากปลายนิ้ว ความร้อนชื้นจากริมฝีปากและตัวตนความเครียดขึงขนาดพอดีตัวของชายหนุ่มที่ย่างเข่าสู่วัยรุ่นตอนกลาง ร่างกายที่เริ่มมีมัดกล้ามและเสียงแตกห้าวที่ครางอึงอลอยู่ข้างหู

เขายังจำได้ดี พระพายยังจดจำทุกสัมผัสเสียงสรรพเสียงในวันนั้นได้ดี

วันนั้น...วันที่เขาถูกป้ายมลทินทางร้ายกายด้วยความไม่ประสีประสา วันที่เขาถูกฉุดลงสู่ความโสมมของกามารมณ์ก่อนวัยอันควร วันที่เขาถูกผู้ชายอย่าง ‘ราม กลทีบ์’ ล่อหลอกให้มีสัมพันธ์ทางกายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

และเป็นวันเดียวกันกับที่อีกฝ่ายสังหารบิดามารดาของเขาอย่างเลือดเย็น





ตกเย็นรถยนต์คันหรูของพันเอกก็เคลื่อนตัวเข้ามาจอดภายในโรงรถอย่างช้าๆ สองพี่น้องตระกูลกฤตภาสก้าวลงมาจากรถก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้าน ทันทีที่เข้าไปก็เห็นนาวากำลังจัดสำรับอาหารเย็นรออย่างเงียบๆโดยมีณะโมเป็นลูกมืออยู่ไม่ห่าง พันเอกจ้องร่างขาวที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขาเลยแม้แต่น้อยก่อนจะลอบถอนหายใจในขณะที่พระพายได้แต่มองพี่ชายด้วยความเห็นใจ

“อ้าว ทำไมวันนี้ได้กลับมาพร้อมกันละคะคุณเอกคุณพาย ป้ากำลังจะให้เจ้ายุออกไปรับคุณหนูพายอยู่พอดีเชียว” เสียงเอื้องคำดังขึ้นขัดบรรยากาศมาคุภายในห้องอาหาร พระพายปรับสีหน้าให้เป็นปกติพลางหันไปยิ้มให้แม่บ้านก่อนจะเดินเข้าไปกอดเอื้องคำแน่นและส่งเสียงออดอ้อนอย่างที่ทำเป็นประจำ

“พอดีเรียนเสร็จไวเลยไปหาพี่เอกที่บริษัทน่ะครับ”

“ไปกวนพี่เขาอีกแล้วใช่ไหมคะเนี่ย” เอื้องคำเย้าทำเอาพระพายยกยิ้มแหย

“แหะ เปล่าสักหน่อย ผมเป็นเด็กดีจะตายป้าเอื้องก็รู้”

“ค่าๆ ป้าทราบค่ะ ไปล้างไม้ล้างมือเสียเถอะค่ะคุณทั้งคู่ คุณวากับณะตั้งสำรับเสร็จพอดี” เอื้องคำบอกก่อนจะพยักเพยิดไปยังโต๊ะอาหารที่มีกับข้าวมากมายส่งกลิ่นหอมอ่อนๆมาให้ท้องร้องเล่น พระพายกับพันเอกเดินตามกันไปล้างมืออย่างเงียบๆก่อนจะกลับเข้ามานั่งประจำที่โดยมีมินตราทำหน้าที่ตักข้าวสวยให้เหล่าผู้เป็นนาย

“แล้วพี่วากับณะละครับ” พระพายเอ่ยถามเมื่อวันนี้บนโต๊ะอาหารมีเพียงเขากับพี่ชายเพียงแค่สองคน อันที่จริงเขากับพันเอกนั่งกินข้าวกันแค่สองพี่น้องมาตั้งแต่เกิดเรื่อง นาวากับณะโมทำเพียงแค่จัดเตรียมสำรับขึ้นโต๊ะก่อนจะพากันหายลับไม่เห็นตัว

“ทานข้าวอยู่ในครัวกับน้ำอุ่นแล้วก็พี่สันต์ค่ะ” มินตราอ้อมแอ้มตอบ พันเอกชะงักคำสิ่งที่ได้ยินก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสั่งสาวใช้หน้าหวานด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ไปตามสองคนนั้นมานั่งกินข้าวด้วยกัน”

“ค่ะๆ เดี๋ยวมีนไปตามมาให้นะคะ” มินตราละล่ำละลักก่อนจะวิ่งฉิวออกจากห้องอาหารไป ไม่นานหญิงสาวก็กลับเข้ามาใหม่พร้อมกับสองพี่น้องตระกูลชนกันต์และน้ำอุ่นที่ทำหน้าแหยๆ

“นั่งสิ ทั้งคู่นั่นแหละ” ประมุขของบ้านสั่งเสียงเฉียบ นาวาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยสายตาราบเรียบก่อนจะจูงมือณะโมให้ไปนั่งข้างๆพระพาย

“นาวามานั่งข้างฉัน” ร่างสูงเอ่ยขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าคนตัวขาวกำลังจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผู้เป็นน้องชาย นาวาขมวดคิ้วทันทีด้วยความไม่พอใจก่อนจะจำใจยอมเดินอ้อมไปนั่งกับพันเอกด้วยใบหน้าบึ้งตึง ณะโมมองตามพี่ชายก่อนจะเบนสายตาไปมองร่างสูงใหญ่ของพันเอกที่ยังจ้องนาวาไม่วางตา เด็กหนุ่มเม้มปากแน่นดวงตาวาวโรจน์ก่อนจะเอ่ยขึ้นลอยๆพลางปรายหางตาไปมองคนที่นั่งหัวโต๊ะด้วยแววตาชิงชังกรุ่นโกรธ

“ผมรู้เรื่องทุกอย่างแล้วนะครับคุณพันเอก”

สิ้นประโยคทั้งโต๊ะก็หันไปมองณะโมเป็นตาเดียว พันเอกแค่นยิ้มพลางจ้องใบหน้าของเด็กหนุ่มด้วยแววตาเรืองอำนาจ ร่างสูงนั่งเงียบอย่างรอคอยว่าณะโมกำลังคิดจะทำอะไรในขณะที่นาวาส่ายหน้าปรามน้องชายด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“แล้วไง รู้แล้วทำอะไรได้งั้นเหรอ” พันเอกท้าทายกลับไปด้วยน้ำเสียงติดจะเย้ยหยัน ณะโมยกยิ้มบางเบาแต่ดูน่ากลัวยิ่งนักในความรู้สึกของคนมองก่อนที่เด็กหนุ่มจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรื่นเริง

“ก็ไม่ทำไมหรอกครับ แค่อยากบอกให้รู้ว่าผมรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว”

“...”

“รู้ว่าคุณทำอะไรพี่ชายของผมไปบ้าง แล้วก็รสนิยมทางเพศของคนส่วนใหญ่ในบ้านหลังนี้” เด็กหนุ่มพูดพลางมองพันเอกและพระพายด้วยสายตาว่างเปล่า ร่างสูงกัดฟันกรอดจ้องหน้าคนอายุน้อยกว่าเขม็งก่อนจะกดเสียงต่ำอย่างเย็นยะเยือก

“อย่ามาลามปามฉันกับพระพายนะณะโม”

“ผมไม่กล้าขนาดนั้นหรอกครับ”

“...”

“แค่อยากขอร้องว่าต่อไปนี้อย่าทำอะไรพี่ชายของผมอีกก็พอ แล้วพวกเราจะอยู่เงียบๆไม่วุ่นวาย” เด็กหนุ่มพูดพลางสบตากับพันเอกไม่หลบ นาวาเม้มปากแน่นจ้องหน้าน้องชายทีพันเอกทีด้วยความกังวล ยิ่งเห็นว่าประมุขของบ้านนิ่งผิดปกติก็กลัวใจของอีกฝ่ายเหลือเกิน

“ณะ กินข้าวได้แล้ว” คนเป็นพี่ออกปากปราม ณะโมเบนสายตากลับมาที่นาวาก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ ปากเล็กกำลังจะขยับเพื่ออ้าปากโต้เถียงหากแต่คนเป็นพี่กลับส่ายหน้าไปมาและส่งสายตาดุๆกลับไป

“หึ” เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นมาจากหัวโต๊ะ พันเอกจ้องเด็กหนุ่มไม่วางตาก่อนจะเบนสายตากลับมายังคนข้างกายนี่ไม่ยอมสบตากับเขาเลยแม้แต่น้อย

“ฉันไม่ทำอะไรพี่นายหรอกณะโม”

“...”

“ถ้าเขาไม่เต็มใจ”

“ผมมั่นใจว่าพี่วาไม่มีวันเต็มใจให้คุณทำเรื่องแบบนั้น ใช่ไหมครับพี่วา” ณะโมตอกกลับพันเอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะหันไปถามนาวาที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองใคร

“พี่วา ตอบณะมาสิ” คนเป็นน้องเร่งเร้าจนนาวาต้องเงยหน้าขึ้น แก้มขาวแดงระเรื่อน่ามอง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธหรืออายกับบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร สุดท้ายเมื่อเห็นสายตาดุๆของน้องนาวาจึงต้องพยักหน้าพลางตอบรับในลำคอเสียงแผ่วเบา

“อืม”

“หึหึหึ” ประมุขของบ้านลอบมองกริยาของนาวาพลางยิ้มขำ ยิ่งเห็นว่าคนตัวเขาหน้าแดงก่ำก็ยิ่งนึกเอ็นดูจนอยากแกล้งเสียให้เข็ด ชายหนุ่มหันกลับไปสบตากับณะโมที่นั่งมองนาวาด้วยใบหน้างอง้ำพลางแสยะยิ้มเมื่อเห็นอาการของเด็กหวงพี่ชายที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้าอ่อนเยาว์นั่น

เหมือนพระพายเมื่อก่อนไม่มีผิด...

พอคิดถึงตรงนี้พันเอกก็หันไปมองน้องชายของตนบ้างก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นว่าพระพายดูซึมลงถนัดตา คิ้วเข้มขมวดมุ่นมองน้องชายนั่งเขี่ยข้าวเหม่อลอยไม่สนใจใคร พันเอกพอจะสังเกตได้ว่าน้องของเขาเปลี่ยนไปตั้งแต่อยู่ที่บริษัท พอพีระกลับไปได้สักพักพระพายก็กลับเข้ามาหาเขาใหม่ก่อนจะนั่งเงียบตลอดจนถึงเวลาเลิกงาน

เป็นอะไรไป...

โปรดติดตามตอนต่อไป

เฮียเอกแกโดนแย่งซีนมากี่ตอนละเนี่ย 5555555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 27-03-2015 20:20:35
ก็นั่นน่ะสินะ. พี่เอกค่าตัวแพงมั้ง
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 27-03-2015 20:58:22
น้องพระพายน่าสารอ่ะมีแต่คนจ้องจะขย้ำ :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 27-03-2015 22:29:21
มีคนเลวโผล่มาเพิ่มอีกแล้วนะ  :m16:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 28-03-2015 00:40:59
เรื่องนี้น่าสงสารทุกคน อ่านไปอึดอัดไป แต่ก็ตามอ่านอยู่ดี  :เฮ้อ:  :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 28-03-2015 00:57:43
รามกำลังซ้ำรอยพันเอก พันเอกหงอยเชียวตอนนี้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 28-03-2015 01:43:16
รามก็ทำกับพระพายเกินไป ถึงน้องจะรักจะชอบก็เถอะ
น้องเพิ่งอายุเท่าไหร่เชียว
วนเป็นลูปไปอีกรอบ
ณะโมก็แค้นตามการเสี้ยมสอนของพี่ชาย
เป็นลูปเพิ่มมาอีกชั้น
เห็นแต่พระพายนี้แหละที่พยายามออกจากวังวนอันนี้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 28-03-2015 07:56:20
หมั่นไส้รามมากขึ้นทุกวัน..ทุกวัน...ไอ้เอี้ย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 28-03-2015 09:17:55
ยาวสะใจดี  แต่เค้าขอแบบอัพบ่อยๆไม่ได้เหรอ  :hao4:

ชอบเรื่องนี้มาก สงสารวากับณะโม  แถมตอนนี้พระพายก็น่าสงสารอีกคน  :katai1:

อัพอาทิตย์ละครั้งทีเถ๊อะ  :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 28-03-2015 11:14:38
 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: punnicha ที่ 28-03-2015 22:18:26
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 28-03-2015 23:57:46
ล้างแค้นกันไปมาอย่างนี้ เมื่อไรความแค้นจะสิ้นสุดซักที
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 29-03-2015 07:16:02
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าชายหมูตอน ที่ 29-03-2015 17:57:04
พระเอก+นายเอก
เอก+วา
ราม+พระพาย
นาย+เทียน
เหลือคู่รักม้ามืดใครจะได้น้องณะไปเป็นนายเอกในใจ
ตัวพระที่เข้าชิง พายุ บริการ์ดมาดกระล่อน
สิบ นายตำรวจใหญ่ ก้อง เจ้าของโชว์รูมรถ
คู่รักม้ามืดจะลงตัวที่พระเอกคนใด
ปล.ใคร่ขอความเห็นใจให้นายเอกของเราท้องได้ด้วยนะครับ จะได้รักกันได้จริงๆสักที
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 29-03-2015 20:40:40
รามนี่เลวเลยนะ  :z3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 16 P.8 (27/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 29-03-2015 23:27:20
เลวๆ ทั้งนั้นเลย ไม่รู้จะเม้นด่าใคร อยากเอไบกอนฉีดให้ตายยกรังกันเลยทีเดียว ณะโมจะถูกใครกระทำอีกคนหรือเปล่าเนี่ย ไม่นะะะะ ตกใจมากพระพายป.สี่เลยเหรอลูก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 30-03-2015 21:58:26
:: CHAPTER 17 ::
สองฟากของกำแพง - ๒ -



สถานเริงรมย์ในยามค่ำคืนคลาค่ำไปด้วยนักท่องราตรีทั้งหญิงและชายมากหน้าหลายตา เสียงเพลงจังหวะไม่คุ้นหูดังกึกก้อง แสงไฟระยิบระยับหลากสีที่เคลื่อนตัวไปมาทำเอานาวาถึงกับเวียนหัว ยิ่งกลิ่นน้ำหอมฉุนๆของผู้คนมากมายที่ปะปนไปมาในอากาศยิ่งทำให้ร่างโปร่งอยากจะอาเจียนให้รู้แล้วรู้รอด

“ไอ้เอก ทำไมคุณวาดูหน้าซีดๆวะ” เสียงของ ‘นักปราชญ์’ หนึ่งในเพื่อนสมัยเรียนของพันเอกพูดขึ้นเมื่อสังเกตเห็นนาวาที่นั่งหน้าซีดเผือด พันเอกที่กำลังคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่หันกลับมามองคนข้างกายตามเสียงท้วงของเพื่อน คิ้วเข้มขมวดมุ่นจนดูยุ่งเหยิงในขณะที่มือหนาก็รวบเอาร่างของนาวาให้ขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น

“เป็นอะไรไป ไม่ชอบที่แบบนี้หรือไง” เอ่ยถามคนตัวเล็กกว่าข้างกายพลางก้มหน้าลงไปใกล้เพื่อฟังคำตอบ นาวาถอนหายใจ สองมือยกขึ้นดันไหล่แกร่งให้ห่างแต่พันเอกก็ดื้อรั้นเกินกว่าจะยอมปล่อยตัวให้เคลื่อนไปตามแรงมือของเขา อีกฝ่ายยังคงขยับเข้ามาแนบชิดกับร่างของนาวาพลางจ้องมองมาด้วยสายตาเป็นห่วง

“ไม่ชอบครับ ผมกลับบ้านได้รึยัง” ร่างโปร่งจำใจตอบ “นั่งห่างๆผมหน่อยได้ไหม มันอึดอัด” นาวาฮึดฮัด ความกรุ่นโกรธยังคงไม่จางหาย และมันก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นไปอีกเมื่อวันนี้เขาถูกพันเอกลากให้มาผับด้วยอย่างถือวิสาสะ ไม่ได้ถามความสมัครใจของเขาสักคำแถมยังแนะนำนาวาให้เพื่อนๆของตัวเองรู้จักในฐานะ ‘เมีย’ อีกต่างหาก

“อยู่ใกล้ฉันสักนาทีมันจะตายหรือไง” พันเอกแขวะเสียงเบาด้วยความไม่ชอบใจ นาวาไม่ตอบ ร่างโปร่งเลือกที่จะเบือนหน้าหนีทำเอาพันเอกถึงกับต้องผ่อนลมหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรไม่ดีใส่อีกคนไปอีกจนได้

“ทำไมถึงอยากกลับเร็วนักละ” พันเอกถาม คราวนี้เสียงอ่อนลงพลางยกมือขึ้นปัดปอยผมที่ตกลงมาปิดหน้าให้นาวาอย่างเบามือด้วยความลืมตัว ร่างโปร่งชะงักกับการกระทำของร่างสูงก่อนจะตอบเสียงแผ่ว

“ผมเหม็นกลิ่นน้ำหอมของคนที่นี่ กลิ่นมันฉุนตีกันไปหมด ถ้ายังไม่ให้กลับก็ขอออกไปอยู่กับคุณยุที่รถได้ไหม”

“...”

“ผมกับคุณยุเราเป็นแค่เพื่อนกันครับคุณเอก” นาวาเอ่ยย้ำเมื่อเห็นแววตาไม่พอใจเล็กน้อยของอีกคน พันเอกถอนหายใจพลางมองใบหน้าซูบซีดของคนตัวขาว จมูกโด่งแตะลงข้างขมับของนาวาแผ่วเบาจนร่างโปร่งใจสั่น

“ระหว่างทางเดินไปหาเจ้ายุก็ระวังตัวด้วย อย่าไปเถลไถลที่ไหนละ มันอันตรายมากนายรู้ใช่ไหม”

“ครับ”

“อืม ไปเถอะ ฉันอยู่คุยกับเพื่อนอีกสักพักแล้วจะรีบตามไป” พันเอกพูดขึ้น นาวาเอ่ยขอบคุณเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยินก่อนจะลุกขึ้น แต่เขาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อพันเอกคว้าข้อมือขาวเอาไว้เสียก่อน

“ครับ?”

“โกรธมากไหม เรื่องเมื่อครั้งก่อนน่ะ”

“...”

“ไม่ได้ตั้งใจให้โมรู้ แต่ตอนนั้นโมโหมากจริงๆ” พันเอกพูดขึ้น แม้สองสามวันมานี้นาวาจะพูดคุยกับเขาแต่น้ำเสียงและแววตาของนาวาที่มองมามันเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด และเขาก็ไม่ชอบท่าทีห่างเหินแบบนี้ของนาวาเลยสักนิด

การที่นาวาทำเหมือนพันเอกเป็นคนอื่นทั้งที่เคยนอนร่วมเตียงกันมันทำให้พันเอกรู้สึกเหมือนมีมือมาบีบหัวใจของเขาเอาไว้อยู่ตลอดเวลา

“ช่างมันเถอะครับ ผมไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอก ขอตัวนะครับ” นาวาตัดบทอย่างรวดเร็วและรีบเดินออกไป พันเอกมองตามแผ่นหลังของร่างโปร่งแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะหันมาสนใจเพื่อนทั้งโต๊ะที่นั่งเงียบมองมาที่เขาเป็นตาเดียว

“นี่พวกกูตาฝาดกันไปเองหรือมึงหลงเมียมากจริงๆวะไอ้เอก อาลัยอาวรณ์ชิบหาย” เพื่อนคนหนึ่งทักขึ้น ก่อนที่วงสนทนาจะเปลี่ยนหัวเรื่องมาเป็นการซักไซ้ไล่เรียงเรื่องราวของพันเอกแทน

“คนนี้ไปเจอมาจากไหน ลูกเต้าเหล่าใคร ทำงานอะไรวะ”

“นั่นดิ ผิวงี้ขาวจั๊วะเลย หน้าตาก็ดูเซื่องๆซื่อๆ ไม่เหมาะกับคนเจ้าเล่ห์มากความเลวแบบมึงเลยว่ะ”
“เรื่องมันยาว กูขี้เกียจเล่า” ร่างสูงบอกปัดพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มจนหมด คนที่เหลือโห่ร้องด้วยความเสียดายก่อนที่พีระจะเป็นฝ่ายสวนขึ้นอย่างรู้ทัน

“ขี้เกียจเล่าหรือหวงกันแน่ อีหรอบนี้กูว่ามันไปปล้ำเขาชัวร์”

“พีท ใครสั่งใครสอนให้มึงพูดความจริงวะ กูอุตส่าห์อุบอิบไว้ตั้งนานนะเนี่ย ฮ่าๆๆๆๆๆ” วงเหล้าออกปากแซวพันเอกยกใหญ่ ฝ่ายคนที่ตกเป็นประเด็นสนทนาทำได้เพียงส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนจะนั่งฟังเพื่อนพูดโต้ตอบกันอย่างเงียบๆ

“คนนี้จริงจังเหรอวะเอก” นักปราชญ์ถามขึ้นเสียงเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน พันเอกเงยหน้ามองเพื่อนก่อนจะถอนหายใจ

“ไม่รู้ เราเริ่มต้นกันไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”

“นอกจากพระพาย กูก็ไม่เคยเห็นมึงจะเทคแคร์ใครขนาดคุณวามาก่อนเลยนะ”

“เพราะกูทำผิดกับเขาเอาไว้มากเกินไปน่ะสิ” พันเอกพึมพำ เหม่อมองแก้วน้ำสีอำพันตรงหน้าพลางถอนหายใจอีกครั้งด้วยความหงุดหงิด เขาไม่ชอบที่ตัวเองเหมือนจนอยู่ในกับดักที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น เหมือนถูกกรงที่ตัวเองเป็นเจ้าของกักขังเอาไว้ ทั้งๆที่เหยื่อควรจะเป็นนาวาและผู้ล่าคือตัวเขาหากแต่แท้ที่จริงแล้วคนที่ถูกต้อนให้อับจนหนทางน่ะคือพันเอกต่างหาก

“กูก็พอรู้มาบ้างเรื่องของมึงกับฝั่งนั้น ใช่คุณวารึเปล่าที่ไอ้รามมันตามเฝ้าอยู่เป็นปีๆ” นักปราชญ์ตัดสินใจถามขึ้น เขาเองเป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลายของพันเอก รู้จักรามกับคนอื่นๆก็เพียงผิวเผิน แต่ก็รับรู้เรื่องราวของพันเอกและฝ่ายนั้นอยู่ห่างๆมาโดยตลอด

“อืม นาวาเป็นคนที่มันรัก และกูก็ทำร้ายเขา แล้ว...”

“แล้วมึงก็แพ้ภัยตัวเอง กูไม่แปลกใจเลย” ร่างสูงมองพันเอกยิ้มๆพลางต่อประโยคของเพื่อน

“กูไม่รู้หรอกนะเอกว่าเปลือกนอกที่มึงแสดงออกน่ะเป็นยังไง แต่สำหรับพวกกู มึงก็แค่คนหลงทางที่ต้องการที่ยึดเหนี่ยวทางใจ มึงใจอ่อนง่าย และมึงอ่อนแอกว่าที่ตัวมึงคิดอีก อย่างมึงจะเลวได้สักกี่น้ำกันเชียววะ”

นักปราชญ์พูดพลางยกยิ้ม พันเอกเป็นเด็กที่ขาดความรักมาตั้งแต่เล็กๆ เป็นคนที่ไร้หลักพักพิงและเติบโตขึ้นมาด้วยการอยู่เพียงลำพัง ไม่เคยได้รับความรักของพ่อแม่ ความรักที่มีอยู่กับตัวเองพันเอกก็ทุ่มเทใช้มันในการให้ความอบอุ่นผู้เป็นน้องชายจนแทบหมด เขารู้ดีว่าพันเอกไม่อยากให้น้องอ่อนแอและรู้สึกขาดเหมือนกับเจ้าตัวเอง พันเอกเติมเต็มความรักความอบอุ่นให้คนอื่นจนล้นและใช้มันหมดจนไม่เหลือเอาไว้รักตัวเอง

เหตุผลที่เพื่อนร่างสูงของเขาคนนี้รักคุณนาวาก็คงไม่พ้นอยากได้รับความรักตอบแทนบ้างในแบบที่ต่างออกไป จากภายนอกที่เห็นนาวาคงเป็นคนที่ดูแลคนเก่ง อ่อนโยน พูดจาสุภาพและกริยามารยาทเรียบร้อย เป็นคนอบอุ่นออกมาจากภายในซึ่งพันเอกอยู่ใกล้ก็คงรู้สึกอยากถูกดูแล ความรู้สึกต้องการให้อีกฝ่ายปกป้องดูแลถูกกาลเวลาหล่อหลอมให้กลายเป็นความต้องการ ต้องการให้อีกคนอยู่เคียงข้าง เป็นคู่คิด คู่ชีวิตและคอยเติมเต็มสิ่งที่พันเอกไม่เคยได้รับจากคนอื่น

“เรื่องของกูกับเขามันไม่ง่ายไอ้ปราชญ์ วาเขาเกลียดกู เราเหมือนอยู่กันคนละฟากของกำแพง และกูก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะจากกูไป ไม่รู้ต้องทำตัวยังไง กูแค้นไอ้ราม กูอยากให้มันเจ็บ แต่สิ่งที่กูทำกับวามันกลับทำให้กูทรมานซะเอง และตอนนี้กูก็ยังเลือกทางเดินชีวิตไม่ได้ว่าจะหยุดแล้วรับผิดชอบในสิ่งที่ทำหรือเดินหน้าต่อแล้วทำให้นาวาเกลียดกูไปตลอดชีวิต” พันเอกเอ่ยในสิ่งที่ตนคิดออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ไม่ใช่รามคนเดียวหรอกที่เจ็บเมื่อเห็นนาวาถูกย่ำยี พันเอกเองก็รู้สึกแย่ไม่ต่างกันที่เป็นคนลงมือทำลายผ้าขาวที่แสนบริสุทธิ์ให้แปดเปื้อนด้วยน้ำมือของตัวเอง

“คิดง่ายๆเลยนะเอก ทางไหนที่มึงมีความสุขที่สุดและมีคนที่เจ็บปวดน้อยที่สุด ความแค้นไม่เคยทำให้คนดีขึ้น มันเป็นสิ่งจรรโลงใจชั่วคราว มึงแก้แค้นไอ้รามมันได้ครอบครัวมึงก็ไม่มีวันกลับมา คิดถึงสิ่งที่ตัวเองอยากจะมีไปตลอดชีวิตสิวะ ความสุขของมึง ความสุขของน้องชายมึง ความสุขของคนที่มึงรัก ปล่อยวางได้แล้วไอ้เอก ลุงพัฒกับอาเดือนท่านไปสบายแล้วนะ"

“...”

“คนเราถูกสอนให้มองโลกต่างกัน และกูเชื่อว่าคุณวาถูกเลี้ยงดูมาดีมากพอที่จะรู้จักคำว่าให้อภัยแล้วก็ให้โอกาส ขึ้นอยู่กับมึงแล้วว่าจะเลือกเดินหน้าสั่งสมความผิดของตัวเองจนเขาเกลียด หรือหยุดแล้วเดินกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำ รับผิดชอบกับความผิดของตัวเองและเริ่มต้นทำให้คุณวารัก”

“กู...”

“คิดให้ดีไอ้เอก คิดให้ดีว่าจะจมอยู่ในวังวนของความแค้นที่มันจะไม่มีวันจบสิ้นหรือหยุดและเดินออกมาสร้างเส้นทางชีวิตของตัวเองเสียใหม่ ไม่มีใครกำหนดชีวิตของมึงได้เท่ากับตัวมึงเองหรอกนะเว้ย”

………………..………………..………………..

กว่าพันเอกจะขอตัวกลับบ้านได้ก็เกือบตีสาม พอเดินออกมายังลานจอดรถก็เห็นนาวาทอดตัวนอนอยู่เบาะหลังในขณะที่พายุเองก็เอนเบาะฝั่งคนขับรถหลับคอพับไม่ต่างกัน พันเอกส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจกับบอดี้การ์ดร่างเล็กกว่าก่อนจะเดินเข้าไปปลุกพายุเสียงเบาเพราะกลัวคนที่นอนด้านหลังตื่น พอปลุกลูกน้องคนสนิทได้ก็เลือกที่จะเดินไปเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับและก้าวขึ้นไปนั่งและบอกให้พายุออกรถเพื่อตรงกลับบ้าน ใช้เวลาเพียงไม่นานรถยนต์คันหรูก็แล่นเข้ามาจอดสนิทที่หน้าตัวบ้าน พายุเอี้ยวตัวเพื่อที่จะหันกลับไปปลุกนาวาหากแต่พันเอกแตะไหล่เป็นเชิงห้ามก่อนจะเอ่ยเสียงเบา

“ไม่ต้องปลุกหรอก เดี๋ยวฉันอุ้มขึ้นไปเอง”

“หา เอาจริงดิคุณเอก” คนตัวเล็กกว่าเผลอร้องอย่างลืมตัวจนถูกเจ้านายเคาะหน้าผากเบาๆ พายุยกมือขึ้นคลำหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะย่นจมูกส่งค้อนใส่อีกคน

“นายก็ คุณวาไม่ใช่คุณหนูพายนะครับ สูงกว่าตั้งเท่าไหร่ ตัวสูงกว่าผมตั้งห้าเซ็นแน่ะ” แถมหน้าตาหล่อกว่าพายุอีกแน่ะ

“แต่ก็ผอมกะหร่อง ตัวเบาอย่างกับนุ่นพอๆกับนายแหละยุ” พันเอกเถียงคนเป็นลูกน้อง พายุทำหน้าแหยๆมองผู้เป็นเจ้านายแล้วก็นึกค่อนขอดอีกฝ่ายในใจ บางทีเขาก็อยากจะถามพันเอกเหลือเกินว่าทำไมถึงมอบหมายหน้าที่บอดี้การ์ดคนสนิทให้ทั้งๆที่เขาไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะสามารถยืนเคียงข้างเป็นลูกน้องคู่คิดคู่บุญบารมีของอีกฝ่ายได้เลย ฝีมือการต่อสู้หรือก็ด้อยกว่า ทักษะการป้องกันตัวและการสังเกตก็แทบจะเทียบผู้เป็นนายไม่ติด ยิ่งรูปร่าง...อย่าให้พูดเลยเถอะ พันเอกน่ะตัวใหญ่อย่างกับกำแพงเนื้อเดินได้ ในขณะที่พายุตัวสูงเลยบ่าของเจ้านายมาไม่ถึงคืบ บางทีเดินๆไปยังถูกคนอื่นทักเลยว่าเขาน่ะเป็นเมียพันเอกหรือเปล่า ด้วยเพราะพายุนอกจากจะตัวเล็กกว่าแล้วท่าทางเขายังองอาจได้ไม่เท่าพันเอกหรือจักรเลยสักนิด ออกจะเหมือนเด็กมหาลัยแสบๆที่คอยร้องตะแง้วอยู่ข้างคนท่าทางดุดันแบบพันเอกเสียด้วยซ้ำ ยังถูกเลขาของพันเอกแซวอยู่เป็นประจำว่าเขาน่ะเหมือนลูกแมวที่พันเอกพาติดตัวไปด้วยมากกว่าจะเป็นลูกน้อง

“คุณเอกทำไมชอบล้อปมด้อยผมอีกแล้วอ่ะ ก็คนมันไม่โตเองนี่นา ให้ผมไปเป็นคนสวนแทนลุงปองยังคุ้มเงินค่าขนมมากกว่ามาเป็นบอดี้การ์ดอีกนะครับเนี่ย” พายุบ่นอุบ นึกน้อยเนื้อต่ำใจในพัฒนาการทางร่างกายของตัวเองเหลือเกิน พันเอกหลุดยิ้มเมื่อเห็นใบหน้ายุ่งเหยิงของลูกน้องคนสนิท มือแกร่งยกขึ้นโยกหัวพายุอย่างเอ็นดูก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน

“ก็ไม่ได้คิดว่าจะใช้ให้นายมาคุ้มครองอะไรขนาดนั้น ฉันเอานายมาเป็นไม้กันหมาต่างหาก นายก็รู้ว่าฉันไม่ชอบเวลามีคนมาเกาะแกะนอกเหนือจากเรื่องงาน”

“แหม ผมจะขึ้นคานก็เพราะคุณเอกใช้ผมเป็นไม้กันหมาเนี่ยแหละครับ รับผิดชอบผมเลย ทุกวันนี้ก็ถูกคนมองว่าเป็นเมียนายจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว นี่คุณแก้วเธอถามผมประจำเลยนะว่าท้องกับนายไปหรือยัง ดูเลขาคุณเอกเอาเถอะ เหอะ” พายุบ่นกระปอดกระแปด คนในบ้านอาจจะไม่ได้คิดอะไร หากแต่พอออกสังคมหรือไปทำงานที่บริษัทพันเอกก็มักจะตัวติดกับพายุเสมอ แม้แต่ยามออกงานสังคมก็เลือกที่จะไปกับพายุแทนที่จะเป็นแก้วกิรตาเลขาสาวสวยหน้าห้อง ไม่แปลกที่คนจะมองว่าพวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ด้วยเพราะรู้รสนิยมทางเพศของพันเอกดี ฝ่ายพันเอกเองก็ไม่คิดจะทำอะไรให้กระจ่าง ปล่อยให้คนรอบกายเข้าใจผิดเพราะมันส่งผลดีต่อเขาหากแต่ทำให้พายุต้องลำบากแทน

“ยัยแก้วก็แซวไปงั้นแหละ เอาน่า อย่างน้อยก็โล่งใจเถอะว่าฉันมองนายเป็นแค่น้องชายเจ้าปัญหามากกว่าอยากจะจับทำเมีย ดื้อๆแสบๆแบบนายนี่เอาไม่ลงจริงๆว่ะยุ ใครได้นายไปนี่ชีวิตมืดมนไปทั้งชาติ” พันเอกเอ่ยติดตลกก่อนจะลงจากรถและเดินไปเปิดประตูหลัง พายุส่งค้อนมาให้พร้อมกับบ่นอุบอิบแต่เขาไม่สนใจ ร่างสูงขยับเข้าไปภายในตัวรถและค่อยๆช้อนร่างของนาวาขึ้นมาแนบอกก่อนจะหมุนตัวเดินขึ้นบ้านไป ปล่อยให้พายุจัดการปิดประตูและขับรถไปเก็บในโรงรถตามหน้าที่ของตน

“เอาตัวพี่ชายผมไปไหนมาเหรอครับ” เสียงราบเรียบบ่งบอกถึงความไม่สบอารมณ์ดังขึ้นทันทีที่พันเอกวางนาวาลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบา ร่างสูงหันไปมองณะโมที่ยืนอยู่หน้าห้องด้วยใบหน้าราบเรียบก่อนจะเดินออกจากห้องไปประจันหน้ากับอีกคน ไม่ลืมปิดประตูห้องเอาไว้เพราะเห็นเค้าลางว่าตัวเองจะต้องทะเลาะกับน้องชายของนาวาเป็นแน่

“ลงไปคุยกันที่ห้องทำงาน” ร่างสูงตีหน้าขรึมจ้องมองเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งตรงหน้า ตั้งแต่ณะโมรู้ความจริงอีกฝ่ายก็ทำตัวเยือกเย็นมากขึ้นทุกที จากที่แต่ก่อนเคยมีท่าทีเคารพกริ่งเกรงและเรียกเขาอย่างออดอ้อนว่าพี่เอกอย่างนั้นพี่เอกอย่างนี้ บัดนี้กลับแทนคำนำหน้าว่า ‘คุณ’ แสดงถึงความห่างเหินและการไม่ยอมรับในตัวของเขาอย่างกลายๆ

“ผมขอถามตรงๆเลยก็แล้วกัน คุณคิดจะทำอะไรกับพี่วาอีกกันแน่” ณะโมถามขึ้นทันทีที่เดินตามประมุขของบ้านเข้ามาภายในห้องทำงาน พันเอกปรายตามองร่างเล็กของณะโมนิ่งๆก่อนจะถามย้อนกลับไป

“แล้วคิดว่าไงละ”

.

.

.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 30-03-2015 21:58:45
“คุณกำลังหลอกให้พี่วารักแล้วก็จะสลัดพี่วาทิ้ง” ณะโมเอ่ยขึ้นโดยไม่คิดจะอ้อมค้อม พันเอกแค่นยิ้มหยันกับคำกล่าวของอีกคน

“ฉลาดนี่ แล้วไงต่อละ”

“คุณตั้งใจจะทำให้พี่วารักคุณ ใช้พี่ชายผมทำให้คนที่คุณแค้นเจ็บปวดที่คุณได้ทั้งตัวและหัวใจพี่วาไป แล้วคุณก็จะเหยียบย่ำพี่ผมจนจมดิน หึ วิธีการของคนขี้ขลาดที่ทำร้ายคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร”

“อืม ก็จริง” พันเอกยอมรับพลางแสยะยิ้ม

“ฉันตั้งใจหลอกให้พี่นายรักฉัน หลอกฟันแล้วก็ทิ้ง แทะจนไม่เหลือชิ้นดีก่อนจะส่งของเหลือไปให้ไอ้รามมันได้ยอกใจเล่น รู้แบบนี้แล้วยังไง จะไปฟ้องนาวางั้นเหรอ” พันเอกพูดพลางจ้องใบหน้าอ่อนเยาว์ไม่วางตา อย่างณะโมน่ะจะไปเข้าใจอะไร แผนทุกอย่างที่ว่ามามันพังไม่เป็นท่าไปตั้งแต่วันที่พันเอกรู้ตัวว่าหึงหวงนาวาจนเกินเหตุนั่นแล้ว

หลอกให้นาวารักงั้นหรือ หึ เป็นพันเอกต่างหากที่รักอีกฝ่ายอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“พี่วาไม่มีทางหลงรักคุณง่ายๆหรอกคุณพันเอก ไม่ว่าจะยังไงผมจะไม่มีวันยอมให้คุณได้รักกับพี่ชายผมอย่างมีความสุขแน่นอน คนเลวๆแบบคุณสมควรทุกข์ทรมานกับสิ่งที่ตัวเองเคยทำเอาไว้” ณะโมเอ่ยเสียงแข็งพลางจ้องหน้าพันเอกด้วยแววตาชิงชัง

“ถ้าแตะพี่ชายผมอีก ผมจะฆ่าคุณ” เด็กหนุ่มเอ่ยพลางมองพันเอกด้วยดวงตาวาวโรจน์ ภายนอกณะโมอาจจะดูใสซื่ออ่อนแอ แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าแท้จริงแล้วเด็กหนุ่มผู้นี้เด็ดเดี่ยวและเลือดเย็นกว่าที่ใครคาดคิด

ณะโมมีนิสัยหลายอย่างที่คล้ายคลึงกับพันเอกมาก มากพอที่ต่างฝ่ายต่างมองกันออก พันเอกมองดูเด็กหนุ่มก็รู้สึกเหมือนกำลังส่องกระจกมองเห็นตัวเองในวัยเยาว์ กล้าคิด กล้าทำ เข้มแข็งเหมือนๆกัน แม้ภายนอกณะโมจะแสดงออกว่าเป็นแค่คนอ่อนต่อโลกที่น่าปกป้องหากแต่ภายในเด็กคนนี้น่าหวาดหวั่นเสียเหลือเกิน ณะโมกำลังหวาดกลัว กลัวนาวาพลาดท่าให้กับพันเอก และความกลัวนี่เองที่ผลักดันให้มนุษย์ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด

“ถ้าคิดว่าเด็กกะโปโลอย่างนายมีปัญญาฆ่าฉันได้ ก็ลองดู” พันเอกเอ่ยท้า ไม่ใช่ประโยคประชดประชันแต่เป็นคำท้าทายอย่างแท้จริง

ณะโมกำหมัดแน่นข่มอารมณ์ความไม่พอใจ ดวงตาคู่สวยจ้องใบหน้าหล่อเหลาของพันเอกเขม็ง และยิ่งจ้องมากขึ้นเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยบางอย่างออกมา

“นายอยากรู้ไหมว่าฉันกับพี่นายมีอะไรกันไปกี่ครั้งแล้ว”

“...”

“จริงอยู่ที่ฉันข่มเหงเขา แต่อย่างี่เง่าไปเลยน่าณะโม นายคิดจริงๆเหรอว่าฉันจะปล้ำนาวาทุกครั้งที่มีเซ็กซ์กัน”

“คุณนี่มัน!...”

“เด็กอย่างนายน่ะทำอะไรไม่ได้หรอก อย่าเอาตัวเข้ามายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่นักเลยณะโม ถ้ายังมาขวางทางของฉันกับนาวาอีก อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

“แล้วปล่อยให้คุณทำร้ายพี่วาอีกน่ะเหรอ ไม่มีทาง!!!!”

“...”

“ที่ผมทนเงียบอยู่ทุกวันนี้เพราะพี่ชายผมขอไว้ แต่ถ้าวันไหนที่คุณทำพี่วาเจ็บ เมื่อไหร่ที่คุณทำพี่วาร้องไห้ วันนั้นจะเป็นวันตายของคุณ จำเอาไว้”

เด็กหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบก่อนจะหุนหันออกจากห้องทำงานของพันเอกด้วยความไม่พอใจ เขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลยแม้แต่น้อย พันเอกทำราวกับว่าณะโมเป็นเพียงเด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเสียอย่างนั้น

เหอะ แล้วเขาจะทำให้อีกฝ่ายได้รู้ ว่าประเมินค่าของณะโมต่ำเกินไป

ร่างเล็กเดินตุบตับกลับขึ้นห้องนอน ไม่วายมองบานประตูของห้องนอนห้องใหญ่ด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาไม่เคยรู้เลยว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาภายในนั้นมีอะไรเกิดขึ้นกับพี่ชายบ้าง นอกจากต้องทอดร่างให้พันเอกระบายอารมณ์แล้ว นาวายังต้องเจอกับนรกแบบไหนอีกกัน

และเมื่อเข้ามาภายในห้องนอนของตนเองได้แล้วร่างเล็กก็รีบหยิบโทรศัพท์ที่พระพายเคยซื้อเอาไว้ให้ไว้ใช้ติดต่อกันขึ้นมาและกดโทรออกไปยังเบอร์ที่คุ้นเคย รอเพียงไม่นานปลายสายก็ส่งเสียงงัวเงียกลับมาพร้อมกับคำด่าอีกเป็นกระบุง

[นี่มันกี่โมงกี่ยามกันแล้วห๊ะ คนจะหลับจะนอน!]

“เจมส์ นี่ฉันเอง...ณะโม” ณะโมกรอกเสียงเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่นกลับไปพลางเม้มปาก “ขอโทษที่กวนเวลานอน แต่มีเรื่องอยากให้ช่วย”

[หืม โมเองเหรอ ว่าไงละ] อีกฝ่ายที่พอเห็นว่าเป็นเพื่อนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอย่างณะโมก็เอ่ยถามกลับมาเป็นภาษาไทยชัดแจ๋ว

“นายบอกว่าพ่อนายขายอาวุธ ใช่ไหม” เด็กหนุ่มถามเพื่อนต่างชาติของตัวเอง ได้ยินอีกฝ่ายเงียบไปอึดใจก่อนจะถามกลับมาเสียงราบเรียบ

[ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน]

“นั่นมันไม่สำคัญหรอก ที่ฉันถามเพราะอยากจะขอความช่วยเหลือ” ณะโมพูดต่อ เจมส์เป็นเพื่อนร่วมชั้นที่โรงเรียนนานาชาติที่เขาเพิ่งจะเข้าไปเรียนเมื่อหลายเดือนก่อน อีกฝ่ายเป็นหนุ่มลูกครึ่งหน้าตาดีแต่มีนิสัยกร่างและเกเร ณะโมไปแอบได้ยินเจ้าตัวคุยกับบรรดาเพื่อนสนิทหลังโรงเรียนเกี่ยวกับกิจการขายอาวุธของทางครอบครัวเมื่อไม่นานมาแล้ว และตอนนี้เขาคิดว่าเจมส์สามารถช่วยเขาได้

“ฉันอยากจะขอซื้อปืนสักกระบอก มันแพงมากหรือเปล่า” เด็กหนุ่มพูดขึ้นพลางหยิบสมุดบัญชีที่พระพายเคยเปิดว้ให้และโอนเงินมาให้ใช้ทุกๆเดือนขึ้นมาดู ยอดเงินในบัญชีมีมากพอขนาดซื้อบ้านใหม่ได้หลายหลังแต่ณะโมก็ไม่เคยแตะมันเลยเพราะความเกรงใจ

แต่วันนี้เขาจะใช้เงินของคนพวกนี้ และหลังจากนี้เป็นต้นไปณะโมจะผลาญทรัพย์สินของบ้านกฤตภาสให้ได้มากที่สุด ให้มันสาสมกับสิ่งที่นาวาเสียไป

[นายจะเอาไปทำอะไร มันไม่ใช่ของเด็กเล่นนะ] ปลายสายถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ณะโมสบถฮึดฮัดด้วยความขัดใจก่อนจะตอบกลับเสียงห้วน

“นั่นมันธุระของฉันน่า นี่ฉันมาในฐานะลูกค้านะเจมส์”

[...]

“เอาเป็นว่าฉันอยากได้ปืนที่น้ำหนักเบาและมีขนาดกะทัดรัด ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่เกินอาทิตย์นี้ ราคาฉันไม่เกี่ยง หวังว่านายคงมีความสามารถมากพอที่จะหามันมาได้นะ” ท้ายประโยคณะโมใช้วิธีท้าทายอีกฝ่ายกลับไป ได้ยินเสียงแค่นหัวเราะดังมาจากปลายสายก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยตอบรับเรียกรอยยิ้มให้แต้มไปทั่วใบหน้าอ่อนเยาว์ของเด็กหนุ่ม

[พรุ่งนี้นายได้ของที่ต้องการแน่ที่รัก]

“ขอบคุณนะ ขอบคุณ”

[แต่เรื่องเงินน่ะ เปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม ฉันไม่อยากได้] ปลายสายพูดต่อทำเอาเด็กหนุ่มขมวดคิ้ว

“แล้วนายต้องการอะไร”

[หึ...เซ็กซ์น่ะ ให้ได้รึเปล่าล่ะ]

“!!!!!”

[ว่าไงโม ปืนดีๆแลกกับเซ็กซ์ ยอมจ่ายเป็นร่างกายตัวเองไหม] อีกฝ่ายเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ณะโมเม้มปากแน่น แน่นอนว่าเขาไม่ได้ชอบผู้ชายและไม่คิดที่จะชอบด้วย

“ฉันบอกแล้วจะฉันจ่ายไม่อั้น” เด็กหนุ่มต่อรองก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะกลับมา

[ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ ฉันแค่อยากได้ร่างกายนายมากกว่า เลือกเอานะ จะเอาก็ยอมนอนกับฉัน แต่ถ้าไม่...ฉันก็คงช่วยอะไรนายไม่...]

“ก็ได้ ฉันตกลง” ณะโมพูดสวนขึ้นทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ จะไปยากอะไรกับอีแค่การนอนกับใครสักคน

“ฉันให้ทั้งตัวทั้งเงินเลยก็ได้” ร่างเล็กว่าต่อ อยากจะถลุงเงินออกจากบัญชีใจจะขาด ได้ยินปลายสายหัวเราะแว่วเข้ามาก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบตกลง

[งั้นเที่ยงวันพรุ่งนี้เจอกันหลังโรงเรียนนะ อย่ากลัวไปก่อนซะละ] เจมส์เอ่ยย้ำก่อนจะตัดสายไป ณะโมมองโทรศัพท์ด้วยแววตาราบเรียบก่อนจะถอนหายใจ

เขาคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ต้องมีอาวุธเอาไว้ป้องกันตัว อย่างน้อยๆถ้าพันเอกคิดจะทำร้ายนาวาอีกคราวนี้ณะโมก็จะไม่อยู่เฉยทำตัวอ่อนแอไร้ประโยชน์

ถ้าพันเอกทำนาวาน้ำตาตกเมื่อไหร่ ณะโมสาบานด้วยชีวิตเลยว่าเขาจะฆ่าพันเอกทิ้งด้วยมือของเขาเอง...

………………..………………..………………..

“คุณเอกครับ เรื่องงานของคุณหญิงลาวัลย์ที่ใช้สถานที่ของเราจัด คุณเอกจะไปร่วมงานไหมครับ” พายุเอ่ยขึ้นเมื่อผู้เป็นนายเดินลงมาจากชั้นสองของบ้านในวันรุ่งขึ้น คนตัวเล็กกว่ายื่นการ์ดเชิญให้พันเอกพลางยกยิ้มให้นาวาที่เดิมตามหลังลงมา

“ฉันเป็นเจ้าของสถานที่ ไม่ไปก็ถูกเขาเฉ่งเอาพอดีน่ะสิ”

“ถ้าคุณเอกไม่สะดวก ให้คุณแก้วเธอไปแทนก็ได้นะครับ” พายุเอ่ยขึ้นเพราะรู้ดีว่าพันเอกไม่ชอบออกงานสังคมเท่าใดนัก ปีหนึ่งเจ้านายของเขาเลือกที่จะปรากฏตัวเพียงสองถึงสามงานเท่านั้น นอกเหนือจากนี้ก็จะใช้วิธีส่งตัวแทนไปเสียมากกว่า

“ไม่เป็นไร งานนี้งานใหญ่ ไม่ไปคงเสียมารยาท” พันเอกเอ่ยเสียงราบเรียบพลางมองตามแผ่นหลังของนาวาที่จูงมือณะโมเข้าห้องครัวไปอย่างเงียบๆ พายุมองตามสายตาของพันเอกพลางยกยิ้ม ดูก็รู้ว่ายังมึนตึงกับคุณวาอยู่

“พาคุณวาไปด้วยก็ได้นะครับคุณเอก เผื่อคุณเขาจะหายงอน” พายุเอ่ยแซวเรียกให้ผู้เป็นประมุขของบ้านหันกลับมาเขกหัวเข้าให้

“จุ้นไม่เข้าเรื่อง ไปถอยรถมาได้แล้วไปจะได้ไปทำงาน”

“อ้าว ไม่อยู่กินข้าวเช้าก่อนเหรอครับ”

“ไม่ละ วันนี้มีประชุมเช้า ไปเอารถออกได้แล้วไป” พูดเพียงเท่านั้นพายุก็วิ่งฉิวออกไปตามคำสั่ง พันเอกมองตามหลังลูกน้องจนลับสายตาก่อนจะหันไปมองยังทิศทางที่นาวาจูงมือณะโมหายลับไป

สองขาไม่รักดีก้าวเดินพาร่างสูงกำยำไปยังห้องครัว ดวงตาคมปะทะเข้ากับแผ่นหลังของนาวาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่หน้าเตาในขณะที่ณะโมที่อยู่ในชุดนักเรียนคอยยืนลุ้นอยู่ไม่ห่าง คำพูดของนักปราชญ์ที่เคยบอกเขาเอาไว้เมื่อคืนลอยกลับเข้ามาในโสตประสาทให้พันเอกได้หยุดคิด

“คนเราถูกสอนให้มองโลกต่างกัน และกูเชื่อว่าคุณวาถูกเลี้ยงดูมาดีมากพอที่จะรู้จักคำว่าให้อภัยแล้วก็ให้โอกาส ขึ้นอยู่กับมึงแล้วว่าจะเลือกเดินหน้าสั่งสมความผิดของตัวเองจนเขาเกลียด หรือหยุดแล้วเดินกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองทำ รับผิดชอบกับความผิดของตัวเองและเริ่มต้นทำให้คุณวารัก”

ถ้าหากพันเอกหยุดทุกอย่างในตอนนี้ ความสัมพันธ์ของเขากับนาวาจะเป็นยังไง
หากหยุดทุกอย่างเอาไว้กลางคัน นาวาจะยอมให้อภัยเขาไหม
แล้วกับรามละ หากพันเอกหยุด อีกฝ่ายจะหยุดด้วยไหม

พันเอกได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจซ้ำๆ โดยลืมคิดไปว่า แรกเริ่มเดิมทีนี้รามไม่เคยเริ่มต้นมัน อดีตเพื่อนสนิทของเขาไม่ใช่คนเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างนี้ รามจบทุกอย่างในวันที่พ่อแม่ของพันเอกสิ้นใจ หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็ทำเพียงแค่ใช้ชีวิต ลืมอดีต และต่างคนต่างอยู่

หากแต่เป็นพันเอกเองนั่นแหละที่เป็นคนเริ่มหมากกระดานแห่งความแค้นโดยการใช้นาวาเป็นผู้เคราะห์ร้าย และในเมื่อตนเองเป็นผู้เริ่ม แล้วอยู่ๆจะหยุดเกมกลางคันทั้งๆที่ทำอีกฝ่ายเอาไว้อย่างเจ็บแสบขนาดนั้น มันก็คงเป็นไปไม่ได้

แม้พันเอกจะยอมหยุดทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้เพราะความรัก หากแต่รามกลับกำลังเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเอาคืน

พันเอกหยุดแล้ว หยุดทุกอย่างในวันที่รู้ตัวว่าพลาดท่าให้เชลยในกรงขังของตนจนหมดหัวใจ

หากแต่รามกลับกำลังเริ่มต้น เริ่มต้นทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ตระกูลกฤตภาสพินาศลงไปอีกครั้งเหมือนในอดีต

กงล้อแห่งโชคชะตาของพวกเขากำลังสวนทางกันโดยสิ้นเชิง

โปรดติดตามตอนต่อไป

เอาล่ะค่ะ มาพลิกกระดานกันบ้างดีกว่า หุหุ
เฮียเอกตอนแรกโดนด่าหนักมาก แต่ตอนนี้นายหัวโดนด่าหนักกว่าหลายเท่า ;D
แต่ตราบใดที่นิยายเรื่องนี้ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพคนเลวนะคะ #สุภาษิตบ้านไหนสอนยะ ฟฟฟฟฟ
ตามสไตล์เรานั่นแหละ ไม่เคยเขียนนิยายที่มีคนดีจ๋าหรือเลวจัดอะไรแบบนั้น
ทุกคนเป็นเหรียญที่มีสองด้าน ทุกคนนิสัยแย่ นิสัยดี มีหลายมุมมองและมีการเลือกที่จะแสดงออกให้คนอื่นเห็นแตกต่างกันไป อ่านนิยายของเราไม่ต้องหาตัวร้ายโดยกำเนิดเพราะไม่มีค่ะ ตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์มีเรื่องราวความรักเป็นของตัวเอง(คนอ่านบอก งั้นแสดงว่าตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์เป็นพระเอกสินะ ถถถถถถถถ) และเช่นเดียวกัน ตัวละครทุกตัวมีสิทธิ์สูญหายไปตามความเป็นจริง บางคนอาจจะเด่นในเรื่องนี้ เป็นพระเอกในเรื่องนี้ แต่ไปตายในเรื่องหน้าก็ได้ใครจะไปรู้เนาะ #พูดเป็นลางทำไม 5555555555

สุดท้ายนี้ ใครใจดี สามารถติชมหรือแสดงความคิดเห็นเพื่อเป็นกำลังใจให้เราได้นะคะ ขอบคุณค่ะ
เจอกันตอนหน้านะจ๊ะ -3-
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 30-03-2015 22:01:26
 :serius2:
ณะโม ม่ายยยยยย อย่านะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 30-03-2015 22:02:24
 :กอด1:   กอดคนเขียน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 30-03-2015 22:26:39
คือตอนนี้มันวนเป็นงูกินหางที่ดึงเอาคนอื่นใกล้ๆเข้ามาร่วมด้วย
ตอนแรกเราสงสารนายหัว-นาวานะ
แต่มาตอนนี้ดูเหมือนกับว่าทุกคนโดนขยำเละตุ้มเป๊ะเป็นเนื้อเดียวกันหมดแล้ว
คือมันกลายเป็นสีเทากันไปหมด ท่าทางจะเป็นไปอีกต่อๆกันเป็นทอดๆไป

พันเอกทำเพราะว่าถูกกระทำ คนถูกกระทำก็สืบสานการกระทำต่อคนอื่นต่อเป็นทอดๆไปอีก
ณะโมก็กลายเป็นอะไรไปแล้ว สมกับที่นาวาเสี้ยมสอน
นายหัวที่ทำกับพระพายตอน ป.4 นี่มันอะไรกัน? ท่าทางจะมาลากพระพายไปยำต่อ
มาคุณหมอทั้งสองคนอีก
เราว่าเหลือพระพายแหละที่ยังไม่กลายพันธ์ุ

ไม่ได้บ่นนะ งึมงำเฉยๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 30-03-2015 22:58:57
งืม เรื่องง่ายๆ ทำตามหัวใจตัวเอง จะทำร้ายคนที่เรารักเพื่ออะไร หรือจะรอจนไม่เหลือใครให้รัก  เครียด โกรธ เกลียด ตัวละคร แต่รักคนแต่งน้า ด้วบๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 30-03-2015 23:49:43
เข้าใจเฮียเอกนะอยากจะจบเรื่อง แต่มันมาไกลเกินจะหยุดง่ายๆแล้วอะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 31-03-2015 00:16:11
ณะโม นี่“ โง่”มากอ่ะ นึกว่าจะเป็นเด็กที่ฉลาดกว่านี้ เข้าใจว่าแค้นพันเอกจนต้องหาปืน แต่โง่นะแทนที่จะหาทางอื่นเพื่อซื้อปืนแทนที่จะเอาตัวเข้าแลก เงินก็มี ถ้าตอนนั้นไม่มีเงินจนต้องยอมเอาตัวเข้าแลกยังพอเข้าใจได้ แถมมิหนำซ้ำ ยังบอกว่าจะให้ทั้งเงินทั้งตัวนี่ก็ “ควาย”แล้วล่ะ สมงสมองไปหมด จะถลุงเงินน่ะ ใช่ว่าพระพายจะใส่เงินให้ทุกวันให้ถลุงไม่มีวันหมด ใช่เงินบ้านนั้นได้สบายประหนึ่งเป็นน้องพันเอกซะเองหรือจะเป็นเจ้าของทรัพย์สมบัตินั้นพระพายคงเฉพาะในส่วนที่จะใช้จ่ายไม่ลำบากแต่ละเดือนแทนที่จะคิดถึงอนาคต ควรเก็บเงินให้มากสุด แล้วพานาวาหนีไปให้ไกล มีเงินพอที่จะเริ่มต้นชีวิตได้ไม่ต้องให้เหมือนกันอดีตที่ผ่านมา เหมือนหมาจนตรอก ขอด่าหน่อยเหอะ โง่เกิน อยากถลุงเงินเขา ทำหยั่งกะพันเอกเปิดให้ถลุงเสรีงั้นแหละ แถมเงินนั้นพระพายก็ให้ไว้ ซึ่งจะเอาไว้ใช้ยามจำเป็นกลับคิดว่า จะถลุงเงินนี้ให้หมด ซะบ้านนั้นจะได้เดือดร้อนหารู้ไม่ ตัวนั่นแหละจะเดือดร้อนยามที่จำเป็นต้องใช้เงินที่พระพายฝากให้ไว้ พันเอกพระพายเดือดร้อนไปด้วยไหมก็ ไม่ โง่จะเสียทั้งตัวแถมจะเสียทั้งเงินโดยที่ฝ่ายนั้นไม่ได้เสนออีก ///ดีนะพันเอกยังมีเพื่อนที่ดีคอยเตือนสติอย่างปราชญ์ เอาใจช่วยพันเอก ช่วงนี้ขมเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 31-03-2015 00:34:31
เฮ้อออ. คนนึงหยุดอีกคนนึงเริ่ม. เมื่อไหร่จะจบสิ้น
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-03-2015 06:47:22
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 31-03-2015 11:22:39
โมแม่ง
ทำไรไม่คิดว่ะ :/ *อินมากก*

ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 31-03-2015 12:56:47
ถ้าณะโม ยอมเอาตัวเข้าแลกปืนนี่น่าเสียดายมากเลย   อย่างน้อย อยากให้ ณะโม ไม่มีมลทินเหมือนพี่ชาย
หรือไม่ก็ให้ณะโม เป็นฝ่ายรุกนายเจมส์ แบบนี้พอยอมรับได้ :hao3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 31-03-2015 13:44:06
ณะโม...คิดอะไรอยู่ การทำแบบนี้จะยิ่งทำให้เรื่องทุกอย่างแย่ลง
ตอนนี้พันเอกจะวางมือ แต่คนจะเริ่มคือราม
ถ้าจะถามว่าความผิดใคร พูดยากอะ แต่ละคนมีเหตุผลของตัวเอง
ทำไปเพราะมีความแค้นกันทั้งนั้น
แต่หลังๆมานี้ เริ่มมีหลายคู่โผล่มากันแล้ว
มีอะไรให้ลุ้นเยอะ ติดแต่...นายเอกน่ารันทดทุกคน ฮ่าๆ
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 31-03-2015 14:59:50
มันก็วนเข้ามาในลูปแก้แค้นเหมือนเดิม
เรื่องมันคงไม่จบไม่สิ้นสำหรับความแค้น
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Chocolate1134 ที่ 01-04-2015 00:52:16
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ อ่านรวดเดียว 17 ตอนเลย
แล้วก็ได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่ว่า คุณเอกมันเลวมากก อ๊ากกก  :katai4:

แต่พออ่านมาถึงตอนนี้แล้ว...อืมม รามคงจะแก้แค้นสินะคะ
พันเอกจะโดนย้อนบ้างแล้ว สะใจจังเลยค่ะ 555

ส่วนณะโม ...นี่หนูยอมทำขนาดนี้เพื่อปืนเลยเหรอ พี่วารู้เสียใจน่าดู
มีดทำครัวแถวๆนั้นก็แก้ขัดไปก่อนได้นะจ๊ะ (ไม่ใช่แล้วมั้ง)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 17 P.8 (30/03/58)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 01-04-2015 22:53:47
เคยคิดว่าณะโมน่ารักจนตอนนี้อยากจะด่าประสาทหรือเปล่า ก็รู้ๆอยู่ว่าพี่ทรมารเพราะอะไร แต่ตัวเองดันใช้เรื่องนั้นต่อรอง เหอะ บ้าไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 04-04-2015 21:12:14
:: CHAPTER 18 ::
จุดเปลี่ยน


ณะโมมองกระบอกปืนในมือพลางครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อตอนกลางวัน เจมส์ไม่ได้เอาเงินหรือแม้แต่ตัวของเขาไป อีกฝ่ายถามเพียงแค่ว่าเขาจะเอาปืนไปใช้ทำอะไร พอณะโมบอกว่าเอาไว้ปกป้องพี่ชายฝ่ายนั้นก็ให้เขามาฟรีๆพลางบอกวิธียิงอีกต่างหาก นับว่าอีกฝ่ายเป็นคนดีกว่าที่เด็กหนุ่มคิดเอาไว้ และเพราะเหตุนี้เองจึงทำให้เจมส์กับเขาสนิทกันขึ้นมาในระดับหนึ่ง และจากการพูดคุยกันในวันนี้ทำให้ณะโมฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ เจมส์บอกว่าเขาไม่มีอะไรมั่นคงที่จะเป็นรากฐานไปสู่อนาคต ทั้งเงินและที่พักก็เป็นของพันเอกแทบทั้งสิ้น ถ้าจะให้ดีณะโมควรมีเงินเก็บต่างหากเอาไว้เผื่อสักวันหนึ่งพันเอกเกิดคิดเฉดหัวเขากับนาวาทิ้งจะได้ไม่ลำบาก

และเพราะเหตุนี้เองณะโมจึงตัดสินใจถอนเงินออกมาจำนวนหนึ่งซึ่งไม่มากเกินไปก่อนจะนำมาเก็บใส่กระเป๋าของตัวเองพร้อมๆกับปืนที่เพิ่งจะได้มา ณะโมตั้งใจเอาไว้ว่าเขาจะถอนเงินออกมาทุกวัน อาจจะวันละร้อยสองร้อยไปจนถึงห้าร้อยและนำมาเก็บเอาไว้ที่ห้องของตัวเอง เพราะการที่เงินยังอยู่ในบัญชีนั่นก็เท่ากับว่าพันเอกสามารถทำอะไรก็ได้กับเงินเหล่านั้น มันอาจจะดูแย่ที่ทำแบบนี้กับคนที่ให้ทั้งที่พักและการศึกษา แต่เพราะพันเอกเองก็ทำลายศักดิ์ศรีของพี่ชายเขาไปมาก เท่านี้ก็ถือว่าเสมอกัน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ณะ นี่พี่เองนะ” เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงของนาวาทำเอาเด็กหนุ่มรีบเก็บปืนและเงินลงกระเป๋าและซ่อนเอาไว้ใต้เตียงอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งไปเปิดประตูห้องให้พี่ชายเข้ามา

“พี่วาจะนอนแล้วเหรอครับ” เอ่ยถามอย่างแปลกใจ ปกติเวลานี้นาวาจะต้องอยู่ช่วยป้าเอื้องตรวจสอบความเรียบร้อยภายในครัวและรอบๆบ้าน แต่ไหงนาวาถึงขึ้นมาหาเขาทั้งที่ยังไม่ถึงสี่ทุ่มครึ่งกัน

“เอ่อ...คุณเอกบอกให้พี่ไปนอนด้วยน่ะ” นาวาอ้อมแอ้มตอบพลางคิดไปถึงคำสั่งของประมุขของบ้านที่เดินมาบอกให้เขาไปนอนที่ห้องนอนใหญ่ในวันนี้ ณะโมขมวดคิ้วด้วยความไม่ชอบใจก่อนจะเอ่ยรับอย่างจำใจ

“ก็ไปสิครับ พี่ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเขาอยู่แล้วนี่”

“ณะ...” นาวาเรียกน้องชายเสียงอ่อย คิดผิดเหลือเกินที่บอกความจริงกับอีกฝ่ายไป ณะโมเป็นพวกรักแรงเกลียดแรง ทุกวันนี้เด็กหนุ่มไม่สุงสิงกับใครในบ้านและกลายเป็นเด็กไม่น่ารักไปโดยปริยาย

“พี่วาไปเถอะครับ เดี๋ยวเขาจะรอ”

“...”

“ถ้าโดนผู้ชายคนนั้นรังแกอีก ร้องตะโกนให้ดังๆเลยนะครับ” ณะโมอดกำชับพี่ชายไม่ได้ นาวากลั้นหัวเราะกับใบหน้าขึงขังของน้องก่อนจะพยักหน้ารับและบอกฝันดีกับอีกฝ่ายเบาๆ ณะโมยกยิ้มจางๆก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดพี่ชายครั้งหนึ่งและผละออกมา ดวงตากลมมองตามแผ่นหลังของนาวาที่หายลับเข้าไปในห้องนอนของพันเอกแล้วก็ถอนหายใจ

“พี่กำลังใจอ่อนรู้ตัวรึเปล่า” ณะโมพึมพำเสียงแผ่วเบาพลางมองบานประตูที่ปิดสนิทด้วยความหนักใจ

นาวากำลังใจอ่อน ณะโมรู้จักพี่ชายของตัวเองดีกว่าใคร

ยิ่งใจอ่อนมากเท่าไหร่ ก็หมายความว่านาวากำลังหวั่นไหวมากเท่านั้น

 

………………..………………..………………..

 

“พรุ่งนี้จะพาไปซื้อสูทนะ” เสียงทุ้มของพันเอกดังขึ้นเมื่อนาวาเปิดประตูห้องนอนเข้ามาอย่างเงียบๆ ร่างสูงนอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียง ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดแผงอกกำยำในขณะที่ท่อนล่างมีกางเกงขายาวเนื้อผ้าบางเบาสวมติดอยู่

“ซื้อทำไมครับ” นาวาเอ่ยถามร่างสูงพลางเดินไปยังอีกฝั่งของเตียงนอนและก้าวขึ้นไป พันเอกหันกลับมาสนใจหนังสือในมือก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา

“อีกไม่กี่วันจะมีงานที่โรงแรม ฉันจะพานายไปด้วย”

“ทำไมผมต้องไปด้วยละครับ” นาวาอดถามออกไปไม่ได้ คิ้วเข้มขมวดมุ่นด้วยความไม่เข้าใจ พันเอกปรายตามองร่างโปร่งเพียงเล็กน้อยก่อนจะตอบอ้อมแอ้ม

“ก็...เห็นว่าวันๆอยู่แต่บ้าน เลยอยากพาออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง”

จบประโยคของคนตัวโตนาวาก็เลิกคิ้วขึ้นสูงในขณะที่พันเอกแสร้งกระแอมไอแก้เก้อ จะให้เขาบอกยังไงว่าที่พานาวาไปด้วยน่ะเพราะอยากจะประมูลสร้อยสวยๆสักเส้นมาง้อ หรือไม่ก็ให้อีกคนได้ไปเปิดหูเปิดตาและยอมกลับมาคุยกับเขาดีๆเหมือนอย่างเคย

เผื่อใครจะยังไม่รู้ นี่แหละคือวิธีการง้อของพันเอกละ

“อย่ารบกวนคุณเลยครับ ผมอยู่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรสักเท่าไหร่” นาวาปฏิเสธแทบจะในทันที ก่อนจะล้มตัวลงนอนและหันหลังให้กับอีกคน ใช่ว่าจะไม่รู้ว่าพันเอกกำลังพยายามง้อให้เขาหายโกรธ แต่ทำไปก็ไร้ประโยชน์เพราะนาวาไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องไปติดใจกับการกระทำอันอุกอาจนั้น แรกเริ่มเดิมทียอมรับว่าไม่พอใจที่ถูกจูบต่อหน้าใครหลายคน แต่นาวาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปแคร์อีกฝ่ายและโกรธจนเป็นบ้าเป็นหลังหรอก

ทางด้านพันเอกเองพอเห็นอีกคนจบบทสนทนาด้วยการนอนหันหลังให้ก็ถอนหายใจ ร่างสูงวางหนังสือไว้ข้างเตียงก่อนจะขยับเข้าหาอีกคน แผ่นอกเปลือยเปล่าแนบชิดกับแผ่นหลังของนาวาก่อนที่วงแขนแกร่งจะโอบเอาเอวบางและดึงร่างโปร่งเข้าไปใกล้

“ยังโกรธเรื่องวันนั้นอยู่อีกเหรอ หืม” พันเอกกระซิบถาม รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเกร็งตัวทันทีที่เขากอด ร่างสูงกระชับอ้อมแขนรั้งนาวาเข้าหาตัวเองพลางคลอเคลียจมูกโด่งที่ท้ายทอยของอีกคนเสียจนนาวาใจสั่น

“ฉันขอโทษ” พันเอกเอ่ยเสียงเบาหากนาวากลับได้ยินอย่างชัดเจน ร่างโปร่งนอนเม้มปากแน่น ไม่เข้าใจเรื่องราวระหว่างเขากับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ในบ้านหลังนี้ในฐานะอะไร พันเอกยังเก็บเขาเอาไว้ทำไมในเมื่อในตอนนี้รามก็ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน เก็บเขาเอาไว้ทรมานเล่นๆ หรือเก็บเอาไว้เป็นนายบำเรอยามเหงา หรือเอาไว้เป็นคนใช้อีกคนของบ้าน นาวาไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“นอนเถอะครับ ดึกแล้ว” นาวาเอ่ยขึ้นเสียงเบาเพื่อตัดบทสนทนาทำเอาอีกฝ่ายนิ่งไป พันเอกคลายอ้อมกอดเล็กน้อยก่อนจะซบหน้าลงกับหลังคอของนาวาพลางสูดดมกลิ่นหอมจางๆจากร่างของอีกคน

“กอดหน่อยนะ ได้ไหม”

“...”

“ให้นอนกอดหน่อยนะวา”

“มันอึดอัดนะครับคุณเอก” นาวาประท้วง ไม่ใช่ข้ออ้างแต่อย่างใดแต่นาวาอึดอัดจริงๆ

“งั้นหันมาฝั่งนี้สิ เร็ว” เจ้าของห้องเอ่ยขึ้นทำเอานาวาจิ๊ปากอย่างขัดใจ คนจะหลับจะนอนทำไมพันเอกต้องมากวนใจด้วยสิน่า ว่าแล้วร่างโปร่งก็พลิกตัวไปประจันหน้ากับอีกคนด้วยใบหน้ายุ่งๆบ่งบอกถึงความหงุดหงิดเล็กน้อย

“พอใจแล้วใช่ไหมครับ กรุณานอนได้แล้...อ๊ะ”

นาวาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อพอพลิกตัวกลับมาอีกฝ่ายก็กดจูบลงบนหน้าผากของเขาแทบจะในทันที นาวาเงยหน้ามองใบหน้าราบเรียบของพันเอกด้วยความไม่เข้าใจในขณะที่พันเอกขยับกายให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าอีกคนพลางซุกใบหน้าเข้าหาซอกคอและแผ่นอกของอีกคนช้าๆ

“ไม่กอดก็ได้ แต่อย่าพลิกตัวหนีละ” ร่างสูงสั่งก่อนจะปิดตาลง นาวาเม้มปากแน่น จะผลักหนีก็ทำไม่ได้แต่จะให้เขานอนทั้งที่หน้าของพันเอกยังอยู่แถวคอก็คงจะหลับไม่ลง

“จะนอนไหมวา ถ้าไม่นอนจะได้พาทำอย่างอื่น” น้ำเสียงอู้อี้ดังขึ้นมาจากเจ้าของห้องทำเอานาวาต้องถอนหายใจ ร่างโปร่งผละกายลุกขึ้นไปปิดไฟก่อนจะกลับมานอนบนเตียงท่าเดิม พันเอกยกยิ้มบางเบาท่ามกลางความมืดมิด อยากจะยกมือขึ้นไปกอดอีกคนใจจะขาดแต่ก็กลัวว่านาวาจะบ่นอึดอัดและหลับไม่สบาย เพียงไม่นานลมหายใจเข้าออกของคนตัวเล็กกว่าก็ดังอย่างสม่ำเสมอ พันเอกผละออกจากซอกคอของอีกคนพลางเท้าแขนมองใบหน้าเนียนโดยอาศัยแสงไฟจากด้านนอกที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามา มือแกร่งยกขึ้นลูบไล้แก้มขาวแผ่วเบาอย่างทะนุถนอมก่อนจะขยับเข้าไปใกล้นาวาช้าๆและแอบหอมแก้มใสของอีกคนเบาๆ

ในเวลานี้สิ่งที่ทำได้มากสุดก็คงเป็นแค่การฉวยโอกาสกับคนนอนหลับ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไรพันเอกคงทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ได้ แม้อยากจะทิ้งทุกอย่างและเริ่มต้นชีวิตใหม่กับนาวาแต่ก็ยังติดปัญหาตรงที่พันเอกไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมองเขาเช่นไร พันเอกไม่รู้ว่านาวารู้สึกยังไงกับเขา อีกทั้งรามเองก็ยังไม่ตายและไม่นานฝ่ายนั้นคงกลับมาเอาคืน

ทางออกสำหรับเรื่องนี้แม้จะมีอยู่ไม่มากแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเลย หนทางที่ดีที่สุดในการจบเรื่องทุกอย่างคือการที่เขาปล่อยนาวาและน้องชายไป แต่ทั้งๆที่รู้ว่าการปล่อยให้นาวามีชีวิตเป็นผลดีแต่พันเอกก็ตัดใจปล่อยให้อีกฝ่ายหลุดมือไปไม่ได้

เขาอยากครอบครองนาวาเอาไว้คนเดียว อยากให้อีกฝ่ายอ่อนโยนกับเขาเพียงแค่คนเดียว นาวาเป็นคนของเขา เป็นเมียของพันเอก และมันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

ไม่ว่าใครก็มาพรากนาวาไปจากเขาไม่ได้หรอก

 

………………..………………..………………..

 

เช้าวันรุ่งขึ้นพันเอกสั่งให้นาวาไปทำงานด้วยเพราะเขามีประชุม นาวาเลยต้องไปนั่งแกร่วอยู่ในห้องทำงานของพันเอกด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย บางทีเลขาสาวของชายหนุ่มก็เข้ามาพูดคุยแก้เบื่อบ้างแต่ไม่นานเธอก็ต้องออกไปทำงานที่ได้รับมอบหมาย นาวารอพันเอกจนเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ พอรู้สึกตัวอีกทีก็เห็นพันเอกเดินเข้ามาพร้อมกับพายุพลางพูดคุยกันด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“ถ้ายังไงเดี๋ยวผมตรวจสอบความเรียบร้อยให้อีกทีก็ได้ครับ คุณเอกพาคุณวาออกไปซื้อชุดเถอะ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง” พายุเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกยิ้ม พันเอกได้แต่คิดในใจว่าเขาคิดถูกแล้วที่ส่งเสียพายุและจักรจนทั้งคู่เรียนจบปริญญาตรีและกลายเป็นคนมีความสามารถเทียบเท่ากับเขา เวลางานที่บริษัทมีปัญหาคนสนิทของเขาทั้งสองคนก็ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่อง ถ้าถามถึงคนที่พันเอกอยากให้มารับกิจการต่อจากเขาก็คงเป็นหนึ่งในสองคนนี้นั่นแหละ

“อืม ให้จักรอยู่ช่วยทางนี้ไปก็แล้วกัน เดี๋ยววันนี้ฉันจะขับรถเอง” ร่างสูงทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็ลากนาวาพ่วงด้วยเลขาคนสวยอย่างแก้วกิรตาออกมาจากบริษัท ตลอดทางไปห้างสรรพสินค้านาวาแทบจะไม่มองไปที่ไหนเลยนอกจากคนข้างกาย เขามองจนกลายเป็นจ้อง จ้องเสียจนพันเอกแค่นหัวเราะก่อนจะเอ่ยถามว่ามองอะไรนักหนา

นาวาได้แต่ส่งค้อนให้อีกคน ก็แน่ละ จะไม่ให้เขามองได้ยังไง ร้อยวันพันปีนาวาไม่เคยเห็นพันเอกขับรถเองสักครั้ง ทุกทีเจ้าตัวจะเป็นฝ่ายนั่งหลังและให้ลูกน้องขับไปไหนมาไหนตลอด

“เหมือนเป็นเจ้านายแล้วแกเป็นลูกน้องฉันเลยอ่ะไอ้เอก ขอถ่ายรูปท่านประธานตอนขับรถแบบสามัญชนไปให้ลูกชายกับสามีที่บ้านดูได้ไหมคะ” แก้วกิรตาเอ่ยเย้าพลางมองเจ้านายจากทางเบาะหลัง นานๆทีเธอจะได้มานั่งในตำแหน่งที่ผู้เป็นนายนั่งประจำในขณะที่พันเอกไปเป็นคนขับรถแทนก็อยากจะขอแซวอีกฝ่ายเสียหน่อย

“หุบปากไปเลยแก้ว” พันเอกเอ็ดหญิงสาวเสียงดุ แต่มีหรือที่แก้วกิรตาจะนึกกลัว ความจริงแล้วความสัมพันธ์ของทั้งคู่นอกเวลางานคือเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมของกันและกันไม่แปลกที่จะพูดจาสนิทสนมกันได้ถึงระดับนี้ แก้วกิรตารู้จักพันเอกมากพอๆกับที่จักรและพายุรู้จัก และในบางเรื่องเธอซึ่งเป็นหญิงสาวมักจะเข้าใจพันเอกได้ดีกว่าใครๆ

อย่างเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนเช่นความรัก

เลขาสาวเอียงคอมองคนที่นั่งคู่กับเจ้านายพลางยกยิ้ม ตั้งแต่เห็นพันเอกจูงมือนาวาเข้าบริษัทมาเมื่อเช้าเธอก็เข้าใจได้ทันทีว่าเพื่อนของเธอคนนี้กำลังจะเปลี่ยนไป

หรือบางทีอาจเปลี่ยนไปแล้วก็ได้

พันเอกที่เธอรู้จักตั้งแต่ช่วงจบม.ปลายเป็นคนที่ทำทุกอย่างเพื่อเอาคืนให้กับครอบครัว รายนั้นเรียนเพื่อถีบตัวเองให้มีอำนาจ ทำทุกอย่างให้ตัวเองมีอิทธิพลมากพอเพื่อที่จะใช้สิ่งเหล่านั้นแก้แค้นคนที่ทำให้ครอบครัวต้องพังพินาศ พันเอกไม่เคยรักในสิ่งที่เรียน ไม่นึกรักในอาชีพที่ทำ และไม่ใคร่เสน่หาในตัวใครคนไหนนอกจากคนในครอบครัว ก่อนหน้านี้เพื่อนตัวสูงเป็นเหมือนนักธุรกิจไร้หัวใจ เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาให้ทำทุกอย่างเพื่อให้พวกกลทีบ์ล่มจม

แต่พอมีคุณนาวาเข้ามาในชีวิตทุกอย่างก็เริ่มเปลี่ยนไป

แม้จะสายไปแต่หนทางข้างหน้าสำหรับทั้งคู่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง แก้วกิรตาคิดถึงตรงนี้แล้วก็ได้แต่ลอบถอนหายใจ ได้แต่หวังว่าเรื่องราวทุกอย่างจะไม่เลวร้ายลงไปมากกว่าเดิม

“เดี๋ยวเธอพาวาไปร้านสูทก่อนเลยนะ ขอหาที่จอดรถก่อน” เสียงของพันเอกดังขึ้นดึงสติของเลขาสาวให้กลับมาสู่ปัจจุบัน หญิงสาวหันไปมองรอบกายแล้วก็เบ้หน้าเมื่อเห็นว่าห้างสรรพสินค้าในวันนี้คนเยอะมากกว่าทุกๆวัน

“ไปร้านสูทข้างนอกดีกว่าไหม แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบที่ที่คนเยอะๆ เวียนหัว”

“ซื้อที่นี่แหละ เสร็จแล้วจะได้แวะกินข้าวเลย ขี้เกียจขับรถแล้ว”

“ชิ...งั้นมาค่ะคุณวา เดี๋ยวเราลงกันตรงนี้แล้วให้ไอ้เอกมันไปวนหาที่จอดตามยถากรรมของมันไป” เลขาสาวเอ่ยพลางก้าวลงจากรถ ความร้อนจากฝุ่นควันและอากาศที่อบอ้าวทำเอาหญิงสาวหน้าหงิกทันทีที่ผิวสัมผัสเข้ากับบรรยากาศโดยรอบ นาวายกยิ้มมองกริยาน่ารักของหญิงสาวข้างกายก่อนจะถอนเสื้อแขนยาวที่ใส่มาคลุมไหล่อีกฝ่ายให้

“ใส่ไว้ก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผิวคุณแก้วจะเสีย”

“โอ๋ยพ่อคุณของบ่าว แก้วผิวเสียก็ช่างมันเถอะค่ะ แต่งงานมีสามีจนลูกสองแล้ว ระดับนี้ไม่ต้องห่วงสวยไปอ่อยใครแล้วค่ะ” แก้วกิรตาเอ่ยเย้าเรียกรอยยิ้มหวานจากคนข้างกาย

“คุณวาเถอะค่ะต้องใส่ นี่ถ้าผิวขาวๆเกิดไหม้แดดขึ้นมาแก้วถูกไอ้เอกกระทืบตายคาเท้ามันแน่ๆ โทษฐานทำหวานใจมันดำปิ๊ดปี๋”

“โถ่คุณแก้วก็ ผมไม่ใช่หวานใจของคุณเอกนะครับ” นาวาเอ่ยอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ตั้งแต่รู้จักกันในตอนเช้าเลขาสาวของพันเอกก็เอาแต่ยัดเยียดฐานะคนรักของเจ้านายมาให้เขาอยู่ตลอดเวลา นาวาปฏิเสธอย่างไรอีกฝ่ายก็ไม่ฟัง เอาแต่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ล้อเลียนมาให้

“เอาเถอะค่า ใครเล่าจะรู้ใจเราเท่าตนเอง แก้วว่ารีบเข้าไปข้างในดีกว่าค่ะ ร้อนจนจะละลายอยู่แล้ว” หญิงสาวเอ่ยก่อนจะจูงมือนาวาเข้าไปในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ทั้งคู่ตรงดิ่งขึ้นไปยังโซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก่อนจะมาหยุดอยู่หน้าร้านขายเสื้อสูทร้านหนึ่ง แก้วกิรตาพานาวาเข้าไปลองชุดสูทด้านในรอพันเอกซึ่งตามมาหลังจากนั้นไม่นานนัก สองนายบ่าวจับนาวาลองเสื้อผ้าตามใจราวกับแต่งตัวตุ๊กตา นาวาหัวหมุนไปพักใหญ่เพราะบางช่วงแก้วกิรตากับพันเอกก็ทะเลาะกันเองเพราะความเห็นไม่ตรงกัน

“แก้วว่าสีขาวตัวเมื่อกี้เหมาะกับคุณวามากกว่านะคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพลางมองสูทที่นาวาสวมใส่อยู่ ร่างโปร่งหันไปมองพันเอกอย่างขอความเห็นบ้าง

“อืม สีขาวก่อนหน้าดูดีกว่าจริงๆ”

“คุณวาใส่สีขาวแล้วน่าปล้ำอ่ะดิแก ฉันรู้หรอก อย่าให้มันมากนักนะยะ” แก้วกิรตาเอ่ยแซวเพื่อนตัวสูง ประโยคของเธอทำเอาพันเอกหันไปมองอย่างดุๆในขณะที่นาวาหน้าร้อนวูบ

“คุณวาไปลองสูทตัวเมื่อกี้ให้ดูอีกทีหน่อยสิคะ” เลขาสาวไม่สนใจพันเอกแต่หันกลับมาบอกกับนาวาแทน ร่างโปร่งยกยิ้มพลางพยักหน้าก่อนจะรับเอาสูทสีขาวบริสุทธิ์มาถือเอาไว้และตรงดิ่งไปยังห้องลองเสื้อทันที แต่ยังไม่ทันจะได้ปิดประตูลงกลอน ประตูห้องลองก็ถูกเปิดด้วยฝีมือของพันเอกก่อนที่ร่างสูงจะพาตัวเองเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆนี้ด้วย

“คุณเอก!”

“อย่าเสียงดังนักสิ เดี๋ยวคนเขาก็รู้หรอกว่าเราทำอะไรกัน”

“ทำอะไรที่ไหนละคุณ ออกไปเลยนะ!” นาวาแหวหน้าแดงก่ำก่อนจะถอยหลังจนแผ่นหลังชิดกับผนังห้องเมื่ออีกฝ่ายขยับตัวเข้ามาใกล้ พันเอกมองคนตัวขาวตรงหน้าด้วยใบหน้าราบเรียบ หากทว่ามุมปากกลับกระตุกยิ้มโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้สังเกต

“ฉันถามอะไรหน่อยสิ” ร่างสูงพูดขึ้นพลางยกสองมือขึ้นทาบกับผนัง กักร่างของนาวาให้ไร้หนทางหนี นาวาเม้มปากแน่นพลางมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำไม่หยุด

“ออกไปถามข้างนอกก็ได้นี่ครับ”

“ไม่ได้”

“...”

“นายเกลียดฉันมากไหมวา” พันเอกไม่รีรอ เขาส่งคำถามออกไปตรงๆให้อีกฝ่ายตกใจ นาวามองพันเอกด้วยสายตาไม่เข้าใจพลางเบือนหน้าหนี

“ทำไมถึงถามแบบนั้นละครับ”

“เพราะจะได้ทำตัวถูก ถ้านายเกลียดฉันจะขอโอกาสแก้ตัว แต่ถ้าไม่...ฉันจะขออย่างอื่น” ร่างสูงพูดเสียงเบาพลางจ้องหน้านาวาด้วยสายตาจริงจังจนคนถูกมองต้องเสตาหลบ สิ่งที่พันเอกจะขอมันคืออะไร? หากอีกฝ่ายเอ่ยออกมาความสัมพันธ์ของพวกเขาจะเปลี่ยนไปหรือเปล่า

“ที่เคยบอกว่าเกลียดฉันต่อหน้าทุกคน นายเกลียดฉันจริงๆรึเปล่า”

“...”

“บอกได้ไหม”

“ถ้าผมบอกว่าผมไม่ได้เกลียดคุณ คุณจะขออะไรจากผม” นาวาเอ่ยถาม อีกฝ่ายนิ่งไปชั่วอึดใจก่อนที่จะเคลื่อนหน้าเข้าหานาวาและแต้มริมฝีปากลงบนกลีบปากอวบอิ่มในวินาทีต่อมา นาวาตัวแข็งทื่อกับจูบของอีกคนแต่เพียงไม่นานพันเอกก็ผละออกไป

“ขอความรัก”

!!!

“ถ้าไม่เกลียดฉัน นายจะรักฉันได้ไหม”

“คุณ...” นาวามองพันเอกด้วยความสับสน เขาสับสนและตกใจมากจริงๆกับสิ่งที่อีกฝ่ายเพิ่งจะพูดมันออกมา พันเอกเองก็มองเห็นแววตาสับสนของนาวา ร่างสูงขยับเข้าหาร่างโปร่งพลางยกมือขึ้นลูบแก้มใสแผ่วเบาและกดจูบลงบนหน้าผากมนของคนที่เขาหวงแหนสุดใจ

“ฉันรู้ว่ามันกะทันหัน และไม่หวังให้นายตอบรับ แต่อย่างน้อยๆก็อย่าเกลียดกันเลยนะ”

“คุณเอก...” นาวาเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเบา พันเอกก้มลงสบตาคู่กลมสุกใสของคนตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มอย่างอ่อนโยน เป็นยิ้มที่นาวาไม่เคยได้รับมันมาก่อน เป็นยิ้มที่พันเอกมอบให้เพียงแค่คนที่รักเท่านั้น

และไม่รู้อะไรดลใจ จู่ๆวงแขนขาวผ่อนของนาวาก็ยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งก่อนจะรั้งใบหน้าของพันเอกให้โน้มลงมารับจูบอ่อนหวานจากเขา นาวาเผยอปากครอบครองริมฝีปากของร่างสูงพลางหลับตาลง พันเอกกระชับเอวของนาวาเอาไว้ด้วยสองมือพลางกดร่างกำยำของตัวเองเข้าแนบชิด ริมฝีปากของทั้งคู่แตะแต้มดูดดึงกันและกันอย่างเร่าร้อน ต่างคนต่างทิ้งทุกสิ่งเอาไว้ภายนอก มีเพียงความต้องการจากก้นบึ้งของจิตใจภายในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้

นาวาครางออกมาเสียงแผ่วเบายามเมื่อลิ้นร้อนของตนถูกลิ้นของอีกฝ่ายเกี่ยวรัดเอาไว้ พันเอกแลกจูบดูดดื่มเสียจนนาวาแทบขาดอากาศหายใจ สองมือของร่างสูงปลดเปลื้องสูทบนตัวของนาวาออกทีละชิ้นจนมันลงไปกองอยู่แทบเท้า และนาวาเองก็เช่นกัน มือเรียวปลดเอาเสื้อผ้าของพันเอกออกจากกายจนตอนนี้ร่างของทั้งคู่แทบจะเนื้อแนบเนื้อ พันเอกอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนในขณะที่นาวาเหลือเพียงชั้นในปกปิดกาย ร่างสูงผละจูบออกมามองใบหน้าขาวที่สองข้างแก้มแดงก่ำก่อนจะก้มลงหอมแก้มนาวาฟอดใหญ่อย่างอดใจไม่ไหว ริมฝีปากสีชาดเลื่อนเข้าไปขบเม้มที่ใบหูขาวพลางกระซิบอ้อนวอน

“ขอนะ”

“คุณเอก...แต่ที่นี่มัน...ฮื่อ” นาวาร้องประท้วงเมื่อถูกอีกฝ่ายรูดรั้งอันเดอร์แวร์สีเข้มออกจากกาย ร่างขาวเปลือยเปล่าอวดความน่าหลงใหลต่อสายตาของคนมอง พันเอกรวบร่างเล็กกว่ามากอดเอาไว้พลางบดจูบลงบนกลีบปากสีระเรื่อของนาวาอีกครั้งซึ่งนาวาเองก็เอียงหน้าเผยอปากรับสัมผัสหวามไหวจากอีกฝ่ายแต่โดยดี ลืมทุกกาละและเทศะรอบกาย ทอดกายให้พันเอกเชยชมด้วยอารมณ์ความต้องการที่ถูกปลุกปั่นขึ้นตามครรลอง กว่าจะรู้ตัวว่าเผลอไผลไปกับความอ่อนโยนของคนตรงหน้าก็เมื่อยามที่ทั้งสองร่างผสานกันเป็นหนึ่งเดียวท่ามกลางพื้นที่แคบๆภายในห้องลองเสื้อแห่งนี้เสียแล้ว

นาวาเสียรู้ เผลอยอมให้อารมณ์ใคร่จากส่วนลึกของจิตใจครอบงำ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่เหมาะไม่ควร รู้ทั้งรู้ว่ามันผิด แต่ถึงจะรู้อยู่เต็มอก แต่เขาก็ยังเต็มใจให้อีกฝ่ายตักตวงเอาทุกอย่างไปจนหมด

พันเอกได้ไปจนหมดแล้วจริงๆ...

Loading...


Talk…
เหมือนจะหวาน เหมือนกำลังจะผ่านไปได้ด้วยดีเนาะ ฮ่าาาาา (คนอ่านบอกเหรออออออ) หลังจากนี้…เราไม่สามารถบอกได้จริงๆค่ะว่าจะเกิดอะไรขึ้น เอาเป็นว่าขอให้นักอ่านทุกท่านคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ให้พร้อม ใครมีหมวกกันน็อคก็อย่าลืมหยิบมาสวมด้วยนะคะ อะไรก็เกิดขึ้นได้ตราบใดที่ท้ายตอนไม่มีคำว่า The End หึหึหึหึ

เจอกันอีกทีครึ่งหลังนะจ๊ะ
I ❤ You
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 04-04-2015 21:39:33
ปัญหาน่าจะเป็นณะโมกับรามนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 04-04-2015 21:45:39
 :mew2:   เอาล่ะสิ. คนเขียนจะพาไปดริฟท์อีกแล้ว
เตรียมหมวกกันน็อคพร้อมถุงลมนิรภัยก่อน.

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 04-04-2015 22:12:27
พันเอกแซ่บมาก ทุกสถานที่จริงๆ
ถนอมๆวาของเค้าหน่อยจิ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-04-2015 22:27:45
โอย ถ้ามันจะพลิกได้ตลอดแบบนี้ แถมอาจมีมาม่าชามโต

ขอกลับมาอ่าอีกที the end เลยได้มั้ยอ่ะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 05-04-2015 01:21:26
อร๊ายยย ตอนนี้กำลังฟิน. แต่สปอยส ตอนหน้าซะน่ากลัวเลยยยย.  ขอเตรียมใจก่อนนะ ปรับอารมณ์ไม่ทันอะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 05-04-2015 08:52:31
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 05-04-2015 12:16:54
กะลังจะหวานกันแล้วเชียวแต่คนเขียนสปอย
ให้ระวัง :เฮ้อ: :เฮ้อ:รามจะโผล่มาใช่ไหม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 05-04-2015 12:51:05
เราเขิล  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-04-2015 21:40:27

………………..………………..………………..

 

หลังจากเหตุการณ์ภายในห้องลองเสื้อในวันนั้นนาวาก็เอาแต่หลบหน้าพันเอกจนทุกคนในบ้านสังเกตได้ เขาตัวติดกับณะโมอยู่ตลอดเวลา แม้พันเอกจะสั่งให้ไปนอนที่ห้องนอนด้วยกันนาวายังถึงกับขัดคำสั่งของประมุขของบ้านและหนีไปขลุกตัวอยู่กับน้องชายภายในห้องเสียอย่างนั้น

แต่ถึงจะหนีอย่างไรในวันนี้มันก็เปล่าประโยชน์ไปเสียหมดเพราะวันนี้เขาต้องออกงานกับพันเอก นาวายืนจ้องมองชุดสูทสีเข้มที่ตนเองสวมพลางถอนหายใจ จริงๆเขาควรจะได้สูทสีขาวตัวที่แก้วกิรตาเลือกให้ แต่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นภายในห้องลองเสื้อวันนั้นทำเอาชุดสูทตัวนี้ที่นาวาสวมใส่อยู่เปื้อนน้ำรักจากทั้งของนาวาและพันเอกเป็นวงกว้าง สุดท้ายพวกเขาจึงตกลงกันซื้อสูทตัวนี้กลับมาสวมแทน

“คุณวาน่ารักจัง” เสียงพายุเอ่ยชมคนของเจ้านายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นาวาทำหน้าปั้นยากใส่ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่พายุชมแบบนั้น

“หล่อไม่ได้เหรอครับคุณยุ น่ารักนี่มันใช้กับผู้หญิงนะ”

“โอ๋ย ผมใช้คำไม่ผิดหรอกครับ คุณวาน่ารักจริงๆ” พายุชมเปาะตาเป็นประกาย ร่างสูงระหงของนาวาในชุดสูทสีเข้มเข้ารูปส่งผลให้นาวาดูน่าหลงใหล ใบหน้าขาวชวนมองประดับไปด้วยสีชมพูระเรื่อจากความเขินอาย กลีบปากอิ่มที่พายุนึกสงสัยถึงความนุ่มนิ่มเม้มแน่นแทบจะตลอดเวลาทำเอาเขานึกอยากจะจูบให้ขึ้นสี แต่ถึงอย่างนั้นก็ได้แค่คิดละนะ ก็นาวาน่ะของรักของหวงของพันเอกเชียวนะ

ยืนคุยกับพายุไปได้สักพักพันเอกก็เดินลงมาจากห้อง นาวาหลบสายตาของคนที่มองมาก่อนจะก้าวขึ้นรถ ส่วนพันเอกเองก็ได้แต่ยกยิ้มจางๆเพราะรู้ดีว่าครั้งนี้นาวาไม่ได้โกรธแต่เขินเสียมากกว่า

ไม่นานรถยนต์คันหรูของพันเอกก็แล่นมาจอดที่หน้าโรงแรมของตน พันเอกพานาวาก้าวลงจากรถก่อนจะเข้าไปข้างในในฐานะเจ้าของสถานที่ ภายห้องโถงจัดเลี้ยงขนาดใหญ่ของโรงแรมในเครือกฤตภาสกรุ๊ปคราคล่ำไปด้วยเหล่าคนมีฐานะมีหน้ามีตาในสังคม ในงานมีการจัดแสดงเครื่องประดับที่ทำจากเพชร ไข่มุก และอัญมณีอื่นๆอีกมากมาย

“ไม่เห็นบอกว่าเป็นงานประมูลเครื่องประดับ” นาวาอดแขวะพันเอกไม่ได้เมื่อเข้ามาในงาน พายุกับจักรที่เดินตามหลังมาถึงกับหลุดยิ้มเมื่อเห็นท่าทีของนาวาที่มีต่อเจ้านายของตน แบบนี้ก็แสดงว่าพันเอกง้อนาวาสำเร็จแล้วกระมัง

“ก็ไม่ได้ถาม ชอบไหมล่ะ” พันเอกเอ่ยถาม นาวาส่ายหน้าพรืดทันทีก่อนจะมองค้อนคนตัวสูงกว่าที่ส่งยิ้มเอ็นดูมาให้ ทำไมเดี๋ยวนี้พันเอกยิ้มบ่อยนักก็ไม่รู้ หลังจากวันที่ไปซื้อชุดสูทนั่นแหละ ยิ้มเสียจนนาวานึกหมั่นไส้

มันไม่ใช่การแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์หรือเยาะเย้ยอย่างที่ชอบทำเมื่อก่อน หากแต่เป็นยิ้มล้อเลียนให้นาวาหน้าแดงเสียมากกว่า

“ผมดูของพวกนี้ไม่เป็นหรอก”

“อืม งั้นไปโซนอาหารสิ เขาจัดเป็นอาหารว่างกับขนมเยอะแยะ ไปดูๆไว้เผื่อจะลักจำกลับไปทำกินที่บ้าน” พันเอกพูดพลางพยักเพยิดไปยังโต๊ะอาหารและเครื่องดื่มที่ตั้งอยู่ข้างๆ นาวามองตามสายตาของอีกคนก่อนจะขมวดคิ้ว

“ลักจำอะไรกันละคุณเอก ใครมันจะไปมองแล้วรู้เลยว่าอันนี้ต้องทำยังไง มีส่วนผสมอะไรบ้าง” นาวาเอ็ดร่างสูงทำเอาพันเอกหัวเราะออกมาเบาๆ

“ก็จำหน้าตามันไว้แล้วถามเจ้ายุหรือไม่ก็จักรว่าคืออะไร กลับไปก็ไปเปิดกูเกิ้ลหาวิธีทำสิวา” พันเอกบอกพลางเรียกชื่อเล่นของนาวาด้วยน้ำเสียงขบขัน นาวาฮึดฮัดเบาๆที่ถูกแกล้งก่อนจะแอบหยิกแขนของพันเอกไปทีด้วยความหมั่นไส้

“คุณมันบ้า” ร่างเล็กกว่าเอ่ยปากด่าพันเอกอย่างหัวเสีย ฝ่ายคนถูกว่าก็เอาแต่มองใบหน้ายุ่งเหยิงของนาวาแล้วอมยิ้ม ดูเหมือนว่าการที่พันเอกปากตรงกับใจมันจะทำให้นาวายอมเปิดใจมากขึ้น ฝ่ายนั้นไม่ได้ทำตัวเย็นชาห่างเหินเหมือนเมื่อก่อน กลับกันนาวาก็เริ่มแสดงอารมณ์ที่มากกว่าการนอบน้อมก้มหน้าก้มตาฟังคำสั่งอย่างในอดีต

พันเอกชอบแบบนี้มากกว่าจริงๆ นาวาที่หลากหลายอารมณ์กับเขาที่ทำตัวเป็นตัวเอง เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่งที่อยากแหย่คนที่ตัวเองรู้สึกดีด้วย ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดา ไม่ขึ้นตรงกับการแก้แค้นที่รังแต่จะเป็นทุกข์

ไม่รู้ว่าตอนนี้รามที่อยู่ภูเก็ตจะทำอะไรอยู่ และไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาทำเอาไว้ก่อนหน้านี้จะส่งผลอะไรตามมา แต่ในใจของพันเอกก็ได้แต่ภาวนา เขาขอให้รามหายไป ขออย่าให้รามปรากฏตัวขึ้นมาทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเขา อย่าให้คนคนนั้นกลับเข้ามาในชีวิตของเขาและนาวาอีก เพราะตอนนี้พันเอกพร้อมที่จะทิ้งทุกอย่างเอาไว้ข้างหลังแล้วจริงๆ

อาจจะดูเห็นแก่ตัว แต่พันเอกอยากหยุดทุกอย่างแล้วจับมือนาวาเดินไปพร้อมๆกันบนเส้นทางใหม่

ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นอีกเลย

 

………………..………………..………………..

 

“คุณวาวา ขนมนี่มันอะไรอ่ะครับ อร่อยจัง” เสียงตื่นเต้นของพายุเรียกให้นาวาที่กำลังจ้องเครื่องดื่มหลากสีให้หันไปมอง ร่างโปร่งยกยิ้มเมื่อเห็นคนสนิทของพันเอกกำลังทำหน้าตื่นตาตื่นใจจ้องมองถ้วยขนมในมือตาเป็นประกาย

“นั่นลูกชุบครับ คุณยุไม่เคยกินเหรอ?” นาวาถามพลางกลั้นขำ จะว่าไปงานนี้ก็มีแต่ขนมไทยที่นาวากินเป็นประจำสมัยยังอยู่บ้านเด็กกำพร้าทั้งนั้น ที่ไม่คุ้นตาเห็นจะเป็นพวกเครื่องดื่มเสียมากกว่า

และแทนที่จะเป็นเขาที่ต้องถามไถ่เรื่องเมนูอาหาร แต่ไหงกลับเป็นพายุเองที่แปลงร่างเป็นเจ้าหนูจำไมทำท่าทางน่ารักแบบเด็กถามเขาละนี่

“ไม่เคยครับ นานๆทีผมจะมีของหวานตกถึงท้องสักครั้ง ที่เคยกินก็มีแค่พวกเค้กกับช็อกโกแลตอ่ะคุณวา” พายุพูดทั้งที่สองแก้มยังเต็มไปด้วยลูกชุบหลากสี นาวาขำพรืดออกมาเสียยกใหญ่ก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดมุมปากให้อีกฝ่าย

“กลืนก่อนสิคุณ เลอะหมดแล้วเห็นไหม”

“แหม รู้สึกเหมือนมางานกับแม่ ฮ่าๆๆ”

“คุณยุ!”

“โอ๋ๆ ผมล้อเล่น อ๊ะ...เดี๋ยวผมมานะครับคุณวา ขอตัวไปดูแลความเรียบร้อยของงานก่อน คุณวารอตรงนี้ห้ามไปไหนนะครับ...เดี๋ยวผมถูกนายเตะเอา” พายุเอ่ย ท้ายประโยคยื่นหน้าเข้ามากระซิบกระซาบกับนาวายกใหญ่ก่อนจะผละออกไป นาวามองตามแผ่นหลังของพายุจนลับตาก่อนจะหันกลับมาหยิบขนมกินแก้เบื่อ เขาไม่รู้จะทำอะไรดี จะเดินตามพันเอกที่ต้องวิ่งวุ่นทั่วงานก็ถูกเจ้าตัวบอกแกมบังคับให้ยืนอยู่จุดๆเดียว เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพันเอกจะพาเขามางานนี้ด้วยทำไมทั้งๆที่ตัวนาวาช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด

“สวัสดีครับคุณวา”

“อ๊ะ...คุณ...เมื่อตอนนั้น”

นาวาอุทานเมื่อร่างสูงของใครคนหนึ่งเอ่ยทักเขาขึ้นพลางแตะไหล่เขาเบาๆ จำได้ว่าคนคนนี้เป็นคนที่พันเอกเคยพาเขาไปคุยด้วยเรื่องซื้อเกาะอะไรสักอย่าง แต่อีกฝ่ายไม่ยอมขาย ชื่ออะไรนะ...

“ผมสิบตรีครับ เพื่อนไอ้รามแล้วก็...เพื่อนไอ้เอก”

“อ๋อ คุณสิบ ที่คุณเอกเคยขอซื้อที่ดินใช่ไหมครับ” นาวาเอ่ยพลางยกยิ้ม ครั้งหนึ่งคนคนนี้เคยชวนเขาหนีด้วยนี่นา

“ครับ คุณวาสบายดีรึเปล่า ไอ้เอกมันได้ทำร้ายอะไรไหมครับ” สิบตรีถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง นาวายกยิ้มจางๆพลางส่ายหน้าก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกใดๆ

“ไม่ครับ ก็ปกติดี แล้วเอ่อ...คุณราม...เขาสบายดีไหม” ร่างโปร่งเอ่ยถามเสียงเบาพลางลอบมองพันเอกที่กำลังง่วนอยู่กับการคุยงานอยู่อีกฝั่งของห้องโถง สิบตรีมองตามสายตาของนาวาพลางยกยิ้มก่อนจะคว้าข้อมือขาวเอาไว้แล้วกระซิบเสียงแผ่วเบา

“ตามผมมาสิครับ”

“เอ๊ะ...ด...เดี๋ยวครับคุณสิบ” นาวายังไม่ทันจะได้ถามอะไรไปมากกว่านี้ก็ถูกสิบตรีจูงมือออกมาจากงาน ร่างสูงพานาวาขึ้นมาบนดาดฟ้าของโรงแรมซึ่งอยู่ถัดจากชั้นที่ใช้จัดงานเพียงสองชั้น ลมเย็นๆในยามค่ำคืนปะทะใบหน้าขาว ร่างโปร่งสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างผ่อนคลายก่อนจะชะงักเมื่อมองเห็นแผ่นหลังของใครอีกคนยืนอยู่ไม่ห่าง

“กูพาคุณวามาหาแล้วนะ” สิบตรีเอ่ยขึ้นพลางพยักเพยิดให้นาวาที่ยังยืนอึ้งเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย นาวาขมวดคิ้วมุ่นในขณะที่หัวใจเต้นระส่ำ รูปร่างสูงดูแปลกตา มองจากข้างหลังเขาไม่รู้จริงๆว่าอีกฝ่ายเป็นใคร

แต่พอเดินเข้าไปใกล้ๆและฝ่ายนั้นหันมานาวาก็ได้แต่เบิกตากว้าง ดวงตาคู่สวยสั่นระริกในขณะที่อกข้างซ้ายวูบไหว ความโล่งอกตีตื้นขึ้นมาขณะมองใบหน้าซูบซีดของอีกฝ่าย

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นละครับ” ร่างสูงในชุดสูทสีเทาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน น้ำเสียงที่นาวาได้มีโอกาสฟังเพียงไม่กี่ครั้งหากแต่จำขึ้นใจ และกว่าจะรู้ตัวร่างทั้งร่างของเขาก็ถูกอีกฝ่ายสวมกอดเอาไว้เสียเต็มอ้อมแขน ร่างสูงกระชับกอดรัดร่างของนาวาจนแน่นราวกับโหยหามานาน ริมฝีปากได้รูปกดจูบที่ขมับของนาวาแผ่วเบาพลางกระซิบบอกว่าคิดถึงเขาซ้ำๆในขณะที่นาวายังคงยืนอึ้ง หัวสมองของเขาในตอนนี้ตื้อไปหมด จับต้นชนปลายทุกอย่างไม่ถูกเอาเสียเลย

“คุณ...”

“ผมคิดถึงคุณ”

“คุณยังไม่ตาย...”

“ครับ ผมยังอยู่ และผมกลับมาพาคุณไปจากที่นี่”

“ราม คุณปลอดภัย! ให้ตายเถอะ...เป็นคุณจริงๆ คุณยังไม่ตายจริงๆ” นาวาละล่ำละลั่กเสียงสั่นพลางยกมือกอดคนตรงหน้าตอบกลับไป เป็นรามจริงๆด้วย แม้จะซูบผอมไปเล็กน้อยหากแต่คนตรงหน้าคือรามจริงๆ

“ฮึก...ผมนึกว่าคุณ...”

“ชู่ว อย่าร้อง”

“อึ่ก”

“ผมมารับคุณ ไปอยู่กับผมนะ ผมสัญญาว่าจะดูแลคุณกับน้องให้ดีที่สุด กลับไปกับผมนะวา” รามเอ่ยข้างหูพลางกอดร่างโปร่งเอาไว้อย่างรักใคร่หวงแหน นาวาเม้มปากแน่นน้ำตาไหลอย่างเงียบๆ ความโล่งใจและความสบายใจที่อีกคนยังมีชีวิตอยู่ทำให้เขารู้สึกเหมือนยกของหนักออกไปจากใจจนหมดสิ้น

“ผมรักคุณนาวา ผมรักคุณ”

“ฮึก...”

“ไปกับผมนะ เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน ลืมทุกอย่างให้หมด จำแค่ผมคนเดียว แค่ผมคนเดียวก็พอ” รามกระซิบบอกเสียงหวาน หากแต่ทั้งคู่รวมไปถึงสิบตรีก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเสียงกึกก้องดุดันของใครอีกคนดังขึ้นในไม่กี่วินาทีต่อมา

“ปล่อยเมียกูเดี๋ยวนี้!”

“คุณเอก!” / “ไอ้เอก...”

“จะไม่มีใครหน้าไหนเอาตัวนาวาไปทั้งนั้น ปล่อยวาคืนมาแล้วกลับไปอยู่ในที่ที่มึงควรอยู่ซะ!!!” พันเอกตวาดกร้าวพลางจ้องรามด้วยสายตาไม่เกรงกลัว หากแต่ในใจของเขาในตอนนี้กลับหวาดหวั่น ยิ่งภาพที่นาวายกมือขึ้นกอดรามยิ่งทำให้ความกลัวเกาะกุมจิตใจของเขามากขึ้นไปทุกขณะ

เขากลัว กลัวเหลือเกิน

กลัวว่าจะต้องเสียนาวาไป

สิ่งเดียวที่เขาต้องการในตอนนี้มีเพียงแค่นาวา แค่คนคนนี้

นาวาคนนี้เท่านั้น

โปรดติดตามตอนต่อไป


Talk…
นายหัวมาแล้นนนนนนนนน ฮ่าาาาาาาาาาา
เรื่องนี้ยิ่งเขียนยิ่งรู้สึก... ทำไมมันป่วงแบบนี้ก็ไม่รู้เนาะ (คนเขียนรู้ตัว ถถถ)
อืม...หลังจากนี้ก็ใกล้จะถึงตอนที่เชื่อมกับเรื่องลวงรักแล้ว เราเชื่อว่าหลายคนรอกันนานมากใช่ไหม อีกนิดเดียวนะคะ อีกนิดเดียวนายหัวก็จะลงจออย่างเป็นทางการแล้วววว ><
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-04-2015 21:42:45
:: CHAPTER 19 ::
ความสูญเสีย


 

“คุณเอก เบาๆครับผมเจ็บ” นาวาประท้วงเมื่อร่างสูงของพันเอกเอาแต่ลากเขาไปยังลานจอดรถด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด ข้อมือขาวถูกคนตัวสูงบีบแน่น พันเอกกัดฟันกรอดไม่สนใจเสียงร้องของนาวาเลยแม้แต่น้อย ยังคงตั้งหน้าตั้งตาลากถูลู่ถูกังร่างโปร่งอย่างลืมตัว

พอมาถึงรถพันเอกก็เหวี่ยงนาวาจนร่างขาวเซไปกระแทกกับประตู นาวานิ่วหน้าเมื่อรู้สึกว่าข้อมือของตนได้รับบาดเจ็บ ชายหนุ่มหันกลับไปเผชิญหน้ากับคนที่กำลังอารมณ์ไม่มั่นคงก่อนจะพยายามใจเย็น

“คุณเอก”

“ถ้าฉันไม่ตามขึ้นไปเจอ นายก็จะไปกับไอ้เวรนั่นใช่ไหม!” พันเอกตะคอกถาม ตอนนี้เขากลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวอย่างที่ไม่เคยกลัวมาก่อน กลัวนาวาจะหายไป กลัวคนตรงหน้ากลายเป็นของคนอื่น

“กอดกันแน่นซะขนาดนั้น นายมีผัวแล้วนะนาวา!”

“นี่คุณ! พูดบ้าอะไรของคุณเนี่ย หา!!!” นาวาโวยขึ้นมาบ้างเมื่อพันเอกพูดจบ

“จริงๆมันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คุณทำร้ายผมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ใครจะไปอยากอยู่กับคนที่ดีแต่บ้าอำนาจและจมปลักอยู่กับความแค้นแบบคุณกัน” นาวาประชดพลางเชิดหน้า ประโยคของร่างโปร่งส่งผลให้อารมณ์คุกรุ่นของพันเอกยิ่งโหมกระพือ ร่างสูงตรงเข้าไปคว้าแขนขาวเอาไว้ก่อนจะเค้นเสียงต่ำถามอีกคน

“อยากไปอยู่กับมันจริงๆใช่ไหมวา นายอยากออกไปจากชีวิตฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ ที่ผ่านมาสิ่งที่ฉันพยายามทำมันไม่มีค่าอะไรเลยหรือไง” ร่างสูงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจือแววเจ็บปวด นาวาเม้มปากแน่น

มีสิ นาวาอยากจะบอกเหลือเกินว่าสิ่งที่พันเอกทำมันส่งผลต่อจิตใจของเขามากแค่ไหน แต่ความดีที่อีกฝ่ายมีให้มันก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ เป็นสิ่งที่นาวาจดจำได้เลือนราง เป็นเหมือนความฝัน เหมือนการหลอกลวงมากกว่าจะเป็นความจริง ต่างจากการกระทำที่แสนจะเลวร้ายที่เขาต้องเจอ การที่พันเอกย่ำยีร่างกายของเขาต่อหน้าคนอื่น การสั่งให้เขานอนกับลูกน้องของเจ้าตัว หรือแม้แต่คำพูดคำจาที่ดูถูก สายตาเย้ยหยันยามทอดมองมา ทำเหมือนนาวาเป็นคนที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สิ่งเหล่านี้ยังฝังอยู่ใจใจของเขาและมันก็ยังติดตรึงเป็นรอยแผลที่ไม่มีวันหาย

“คุณยังจำสิ่งที่คุณทำกับผมได้ไหมคุณเอก คุณข่มขืนผมต่อหน้าใครหลายคน ต่อหน้าคุณพายุ ต่อหน้าคุณราม สั่งให้ผมนอนกับลูกน้องของคุณ ถ้าคุณพระพายไม่ช่วยเอาไว้ ป่านนี้ลูกน้องคุณทั้งบ้านคงได้เป็นผัวผมกันไปหมดแล้ว! สิ่งที่คุณพยายามทำมันลบล้างสิ่งที่ผมต้องเจอไม่ได้หรอก”

“...”

“อีกอย่าง ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการที่อยู่ๆคุณมาทำดีด้วยเพราะเหตุผลอะไร ปับปุบก็พลิกอารมณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ มันเหมือนความฝันมากกว่าจะให้ผมเชื่อว่ามันจริง” นาวาพรั่งพรูความรู้สึกออกมาก่อนจะจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีดำขลับของร่างสูง พันเอกไม่โต้ตอบ มันจริงอย่างที่นาวาพูดมาทุกอย่าง ขนาดตัวเขาเองยังแทบจะไม่เชื่อว่าจะมาเผลอมีใจให้กับนาวาได้ แล้วนับประสาอะไรที่จะให้นาวาเชื่อกัน

“ผมอยู่กับคุณก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น มันไม่แปลกหรอกครับที่ผมจะอยากไปอยู่กับคนที่ต้องการดูแลผมกับน้องจากใจจริง”

“ฉันจะไม่ปล่อยให้นายไปไหนทั้งนั้น” พันเอกโพล่งขึ้นทันที และก่อนที่นาวาจะได้ท้วงอะไรร่างสูงก็จับคนตัวขาวยัดใส่รถยนต์ก่อนจะขับออกไปทันที

“คุณ! เดี๋ยวสิ แล้วคุณจักรกับพายุเขาจะกลับยังไง!!!” นาวาเอ่ยถามไปถึงลูกน้องคนสนิทที่ไม่ได้ตามมาด้วย หากแต่พอถูกพันเอกตวาดใส่คนตัวขาวจึงหุบปากฉับ

“เงียบ! ไม่ต้องไปหวงสองคนนั้นหรอก มันเอาตัวรอดได้!”

ตลอดทางมีแต่ความเงียบงันที่โรยตัวโดยรอบระหว่างคนทั้งคู่ พันเอกกำพวงมาลัยเอาไว้แน่นพลางกัดฟันกรอด ส่วนนาวาเองก็ได้แต่ยกมือขึ้นมากำเข็มขัดนิรภัยเอาไว้เพราะอีกฝ่ายขับรถเร็วมากเกินความจำเป็น บางครั้งก็นึกโกรธตัวเองที่ไปประชดจนพันเอกโกรธแบบนั้น แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่นาวาพูดไปก็ล้วนเป็นความจริงแทบทั้งสิ้น

พันเอกถามเขาว่าอยากไปอยู่กับรามไหม เขาก็ตอบไปตามความรู้สึกว่าอยาก การอยู่กับรามต้องดีกว่าอยู่กับพันเอกแน่อยู่แล้ว

แต่ที่พันเอกไม่ถาม คือเขาจะไปอยู่กับรามแน่จริงๆหรือเปล่าต่างหาก

อยากไปอยู่กับจะไปอยู่มันต่างกัน ใช่ว่าพอรามกลับมาแล้วนาวาจะยอมตามไปอยู่กับอีกฝ่ายอย่างง่ายๆเสียที่ไหน เขาต้องดูผลที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตเสียก่อนสิถึงจะถูก

และอีกอย่าง ถึงจะอยากไปจากพันเอกยังไง แต่ลึกๆแล้วนาวาก็ไม่อาจปฏิเสธหัวใจตัวเองได้หรอก หัวใจของเขามันเอาแต่เต้นบอกว่าให้อยู่กับพันเอก คอยอยู่ข้างๆและเปลี่ยนผู้ชายไร้หัวใจคนนี้ให้มีชีวิตที่เป็นของตัวเองจริงๆ ไม่ใช่อยู่ไปวันๆเพื่อความแค้นที่เจ้าตัวจำฝังใจ

ถามว่ารู้สึกยังไงกับพันเอก ตอนนี้นาวาไม่รู้ เขาไม่ได้เกลียดพันเอกมากมายขนาดนั้นเพราะรู้ดีว่าลึกๆแล้วพันเอกก็เป็นเพียงคนคนหนึ่งที่สูญเสียคนที่รัก เป็นคนที่บอบช้ำจากความไม่สมบูรณ์ของครอบครัว เพราะนาวาเคยได้รับความรักอย่างอบอุ่นมาโดยตลอด เขานึกไม่ออกเลยว่าหากชีวิตเขาเป็นเหมือนพันเอกแล้วเขาจะยังสามารถเข้มแข็งได้ขนาดนี้รึเปล่า

แต่ถึงจะไม่ได้เกลียด แต่ก็ใช่ว่าจะรัก

มันเป็นความรู้สึกสงสารเวทนาเสียมากกว่า

คนที่ต้องจมอยู่กับความแค้น คนที่ไม่เคยมีความสุขในชีวิต คนที่เหมือนตกอยู่ในกับดักของความรู้สึกที่ไม่เหลือใคร มันเหมือนกับตายทั้งเป็น

หากพันเอกพร้อมที่จะหยุด เพียงแค่เอ่ยปากว่าจะหยุดเรื่องราวทุกอย่าง นาวาก็พร้อมที่จะให้อภัยและคอยอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจ คอยประคับประคองและฉุดรั้งอีกฝ่ายขึ้นมาจากกรงแค้นที่ขังเจ้าตัวเอาไว้มานานนับปี

ขอเพียงแค่เอ่ยออกมา นาวาก็พร้อมที่จะอยู่เคียงข้างคนคนนี้

เคียงข้างคนที่ครั้งหนึ่งเคยย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นคนของเขาอย่างเลือดเย็น

 

………………..………………..………………..

 

“ผมขอแนะนำว่าอย่าพยายามแย่งคุณวากลับไปเลยนะครับ อย่าหาว่าผมสอดรู้เลย แต่คุณวาไม่ใช่คนของคุณมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” พายุเอ่ยขึ้นพลางจ้องมองไปยังร่างสูงของรามและสิบตรีด้วยแววตาราบเรียบ พันเอกฉุดเอานาวาออกไปได้สักพักแล้ว ตอนนี้บนดาดฟ้าของโรงแรมจึงเหลือเพียงแค่เขาและรามกับสิบตรีที่ยังยืนนิ่ง

“ฉันว่านายต่างหากมั้งที่สอดรู้ นี่มันเรื่องของนาย บ่าวชั้นต่ำอย่าเอาตัวเข้ามายุ่งสิ” เป็นสิบตรีที่เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันนิดๆ ดวงตาคมจ้องมองร่างโปร่งที่ตัวเล็กกว่าเขาอยู่มากด้วยแววตาไม่ชอบใจ เขาไม่เคยนึกชอบลูกน้องของพนเอกคนนี้เลยสักนิด หลายครั้งที่อีกฝ่ายทำตัวเสียมารยาทใส่เขาเวลาเจอกันตามงานสังคม สายตาที่คอยจับจ้องอยู่ตลอดเวลาทำเอาสิบตรีนึกอยากจะเดินไปควักลูกตากลมที่ฉายแววซุกซนนั่นทิ้งเสีย

“คุณเองก็เป็นคนนอกเหมือนกันนั่นแหละ ไม่ได้ต่างกับผมเท่าไหร่เลยนี่” พายุหันไปแหวใส่ร่างสูงของสิบตรีด้วยความไม่ชอบใจ สิบตรีไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนชอบดูถูกเขายังไงวันนี้ก็ยังเหมือนเดิม

เมื่อก่อนผู้ชายคนนี้ทำร้ายเขาด้วยคำพูดยังไง ปัจจุบันก็ไม่ได้ต่างไปเลยแม้แต่น้อย

พายุยังจำได้ดี เมื่อก่อนพายุกับจักรเป็นเพียงเด็กเร่ร่อนที่ขโมยของตามร้านค้าเพื่อประทังชีวิตไปวันๆ ต่อมาไม่นานพวกเขาก็ถูกอุปการะโดยประมุขของตระกูลกฤตภาส พัฒพงษ์ผู้เป็นบิดาของพันเอกส่งเสียให้ทั้งเขาและจักรเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับพันเอกและผู้ชายพวกนี้ กับรามและนารายณ์พายุไม่เคยมีปัญหาด้วย พวกเขาก็พูดคุยกันตามปกติทั่วไป จะมีก็แต่สิบตรีนี่แหละที่มักจะแขวะเขาอยู่เป็นประจำ ทั้งๆที่เมื่อก่อนพายุเองก็ชื่นชมในความสามารถที่มีมากมายของอีกฝ่ายแท้ๆ แต่สิบตรีกับเป็นพวกอีโก้สูง แบ่งชนชั้นวรรณะและเลือกคบแต่พวกที่ฐานะเท่าเทียมกับตนเอง คิดแล้วมันก็น่าโมโห ก็ดีแล้วละที่พันเอกแตกหักกับคนพวกนี้ พายุจะได้ไม่ต้องทนปั้นหน้ายิ้มแย้มให้สิบตรีต่อว่าด่าทอเวลาเจอกันตามลำพังอีก

“ผมว่าพวกคุณกลับไปเถอะครับ แล้วก็อย่ามายุ่งวุ่นวายกับคุณเอกแล้วก็คุณวาอีก เจ้านายของผมแก้แค้นในส่วนที่คุณรามเคยทำแล้ว ถือว่าหายกันก็แล้วกัน” พายุเอ่ยขึ้นพร้อมกับหมุนตัวเพื่อที่จะเดินหนี หากแต่ร่างโปร่งก็ถูกรามคว้าแขนเอาไว้ได้ก่อนที่อีกฝ่ายจะยกมือขึ้นมาบีบลำคอขาวของพายุเต็มแรงจนคนตัวเล็กกว่านิ่วหน้า

“อึ่ก!”

“หายกันงั้นเหรอ มันทำฉันเกือบตายแล้วนายยังมีหน้ามาพูดว่าหายกันอีกเหรอพายุ ง่ายไปหน่อยมั้ง” รามเค้นเสียงต่ำพลางกวาดมองใบหน้าขาวด้วยแววตาเย็นยะเยือก

“ไอ้พ่อพระของนายมันทำระยำอะไรเอาไว้ก็สำนึกซะบ้าง”

“อึ่ก...แค่ก ก็คุณฆ่าคุณหญิงกับคุณท่านก่อนทำไม!” พายุเถียงก่อนจะต้องร้องเสียงหลงเมื่อร่างของเขาถูกรามเหวี่ยงจนปลิวหวือไปหาสิบตรีที่รอรับเอาไว้ได้

“โอ๊ย ปล่อยนะเว้ย!” คนตัวเล็กกว่าแหวเมื่อถูกสิบตรีกอดหมับ ทำไมถึงได้โง่แบบนี้นะพายุ ทั้งๆที่ควรจะรีบหนีออกไปจากตรงนี้ยังมีหน้ามายืนต่อปากต่อคำกับผู้ชายพวกนี้อยู่อีก ถึงจะพอมีทักษะการป้องกันตัวอยู่บ้างแต่ระดับรามและสิบตรีน่ะพายุเทียบไม่ติดหรอก ทั้งสรีระร่างกายและความเร็ว ไหนจะพละกำลังอีกล่ะ

นี่มันฆ่าตัวตายชัดๆ

“แล้วตระกูลพวกนายทำเลวอะไรไว้บ้างละ หรือว่าทำเลวเอาไว้เยอะจนจำไม่ได้ว่าทำลายชีวิตของใครไปแล้วบ้าง” รามแสยะยิ้ม มองร่างโปร่งของพายุที่ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของสิบตรีก่อนจะเหยียดยิ้ม ลูกน้องของพันเอกคนนี้ช่างน่าสมเพชจริงๆ

“คุณท่านกับคุณหญิงไม่ได้โกงเงินพวกคุณ ถึงโกงก็ไม่เห็นจะต้องฆ่าแกงกันเลยนี่ คนที่เลวน่ะคือพวกกลทีบ์ต่างหาก!” พายุเถียงกันจะหันไปมองค้อนอีกคนที่ยิ่งเขาพูดมากเท่าไหร่ อ้อมแขนนั้นก็ยิ่งรัดตัวเขาแน่นมากขึ้นเท่านั้น

“กูว่ากลับกันเถอะว่ะ เบื่อเด็กนี่เต็มทนแล้ว” สิบตรีที่เริ่มจะต้านทานแรงดีดดิ้นของพายุไม่ไหวพูดขึ้น เขาไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับตระกูลของพันเอกและรามหรอก และเขาเองก็ไม่ได้อยู่ข้างรามเสียเต็มตัว ก็แค่ช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆและไม่ได้สอดมือเข้าไปยุ่งมากมายนัก

“ฝากไปบอกเจ้านายของนายด้วยนะพายุ อีกไม่นานฉันจะไปตามเอานาวากับน้องชายคืนมา และเมื่อถึงเวลานั้นฉันจะทำให้มันไม่เหลืออะไรเลย” รามทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเดินจากไป สิบตรีเองก็ปล่อยร่างโปร่งให้เป็นอิสระก่อนจะเดินตามเพื่อไปอย่างเงียบๆ ไม่ได้สนใจพายุที่กัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจเลยแม้แต่น้อย

“จนถึงตอนนี้กูก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมพวกมึงถึงได้เริ่มฆ่ากัน” สิบตรีเอ่ยถามนายหัวหนุ่มขณะที่ทั้งคู่กำลังก้าวเดินไปตามชั้นทางเดินของโรงแรมและตรงดิ่งไปยังลิฟต์ที่อยู่สุดทางเดิน รามยกยิ้มมุมปากกับคำถามของอีกฝ่ายก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“มึงไม่ต้องรู้แหละดีแล้ว ให้มันเป็นเรื่องของกูกับไอ้เอกสองคนก็พอ”

“สองคนมากกก กูยื่นตีนเข้ามาเกี่ยวขนาดนี้แล้วเนี่ย กูจำเป็นต้องรู้ป่ะวะ” ร่างสูงพูดขึ้นพลางส่ายหน้า รามไม่ตอบอะไรกลับไป ชายหนุ่มทำเพียงแค่ยกยิ้มพลางก้าวเดินต่อไปอย่างเงียบๆ

 

………………..………………..………………..

 

รถยนต์คันหรูของพันเอกแล่นเข้ามาจอดภายในบริเวณบ้านอย่างรวดเร็ว พอดับรถได้ร่างสูงก็ไม่รีรอ ชายหนุ่มตรงเข้าไปดึงตัวนาวาออกมาจากรถอย่างไม่นึกถนอมก่อนจะลากแขนของร่างโปร่งเข้าไปในตัวบ้านอย่างรุนแรง

“คุณเอก ผมเจ็บ” นาวาปรามเพื่อให้อีกคนใจเย็นหากแต่พันเอกกลับทำเพียงหันหน้ามามองเขาและออกแรงบีบข้อมือของนาวาแน่นขึ้นไปอีก

“โอ๊ย! ผมเจ็บจริงๆนะคุณ!” นาวาร้องเสียงหลง เสียงร้องของชายหนุ่มทำเอาพระพายและณะโมรวมถึงแม่บ้านเดินเข้ามาหาคนทั้งคู่ด้วยความตกใจ

“อะไรกันพี่เอก ทะเลาะอะไรกัน” พระพายเอ่ยถามพี่ชายที่ยังยืนยื้อนาวาเอาไว้ในขณะที่อีกฝ่ายพยายามจะแกะมือหนี

“คุณพายมาเอาคุณเอกไปสงบสติอารมณ์ทีสิครับ” นาวาเอ่ยกับพระพายด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง เขาเองก็เริ่มหงุดหงิดกับอาการไม่ฟังใครของพันเอกขึ้นมาเหมือนกัน ก็เพราะเอาแต่คิดเองเออเองไม่ถามและไม่ฟังคำอธิบายแบบนี้นี่ไงเขาถึงไม่อยากจะอยู่ด้วย

“พี่เอกปล่อยคุณวาก่อน มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน” พระพายหันไปบอกพี่ชายพลางดึงตัวณะโมเอาไว้เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มกำลังจะกระโจนเข้าไปร่วมวงด้วยอีกคน ณะโมหันมาตวัดสายตามามองพระพายด้วยแววตาโกรธขึง แต่พระพายก็เลือกที่จะเมินเฉยกับสายตาแบบนั้นและกันไม่ให้เด็กหนุ่มเข้าไปทำให้เรื่องมันยุ่งยากยิ่งกว่าเดิม

ในขณะที่ทุกคนกำลังวุ่นวายอยู่กับการบอกให้พันเอกใจเย็น เจ้าตัวกลับไม่สนใจใครหน้าไหน ร่างสูงเอาแต่จ้องนาวาก่อนจะลากนาวาขึ้นห้องท่ามกลางเสียงร้องห้ามของคนอื่นๆ ณะโมกัดฟันกรอดสะบัดตัวให้พ้นจากพันธนาการของพระพายเมื่อเห็นพี่ชายถูกลากดุ่มๆขึ้นห้อง เด็กหนุ่มวิ่งตามคนทั้งคู่ไปอย่างรวดเร็วแต่ก็ไม่ทัน พันเอกปิดประตูใส่หน้าณะโมเสียงดังลั่นจนเขาได้แต่ทุบประตูด้วยความเจ็บใจ

“คุณเอก ปล่อยพี่วาออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” คนเป็นน้องตะโกนกร้าวพลางทุบประตูห้องแรงๆด้วยเพลิงโทสะ ยิ่งได้ยินเสียงร้องประท้วงของนาวาแว่วมาก็ยิ่งร้อนรนจนต้องลงมาขอกุญแจสำรองจากเอื้องคำที่ยังยืนคุยกับพระพายด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

“ป้าเอื้องครับ โมขอกุญแจสำรองห้องนอนใหญ่หน่อยได้ไหม”

“โม พี่ว่าลองปล่อยให้พี่เอกกับพี่วาคุยกันตามลำพังเถอะ อย่าเพิ่งเข้าไปกวนทั้งคู่ตอนนี้เลย” เป็นพระพายที่เอ่ยขัดขึ้นมา เขาไม่เห็นด้วยเท่าใดนักที่จะให้ณะโมขึ้นไปขัด ด้วยรู้นิสัยพันเอกดีว่าคงต้องการความเป็นส่วนตัวเอามากๆถึงเลือกที่จะฉุดกระชากนาวาขึ้นไปบนห้องแบบนั้น

“ปล่อยให้คุยกัน? คุณพระพายแน่ใจเหรอครับว่าพี่ชายคุณจะแค่คุย ก็เห็นๆกันอยู่ว่าเขาจะทำร้ายพี่ชายผม” ณะโมขึ้นเสียง ตั้งแต่รู้ความจริงเขาก็ไม่เคยเรียกพันเอกและพระพายว่าพี่อีก

พระพายมองเด็กหนุ่มที่เขานึกเอ็นดูเหมือนน้องชายด้วยสายตาเจ็บปวด คนถูกมองถึงกับสะอึกไปชั่วครู่ก่อนจะเสตาหลบ ความรู้สึกผิดในใจตีตื้นขึ้นมาจนไม่กล้าสู้หน้า พระพายดีกับเขามาก ช่วยเหลือและดูแลทุกอย่างตั้งแต่ณะโมมาอยู่ที่นี่ แต่พอคิดถึงสาเหตุที่เขากับพี่ชายต้องมาอยู่ในบ้านหลังนี้มันก็อดโกรธเคืองอีกคนไม่ได้

“พี่เชื่อว่าพี่เอกไม่ทำร้ายพี่วาหรอก” เพราะพันเอกไม่ทำร้ายคนที่ตัวเองแคร์แน่ๆ พระพายได้แต่ต่อประโยคนี้อยู่ในใจ หากแต่คนที่ไม่เคยรู้ถึงความหวั่นไหวของพันเอกที่มีต่อนาวาอย่างณะโมกลับยิ่งฉุน เด็กหนุ่มมองว่าพระพายเข้าข้างพี่ชายของตนจึงพูดออกไปอย่างบันดาลโทสะ

“คุณก็พูดได้ พี่น้องกันนี่”

“โม...”

“เหอะ” ณะโมสะบัดหน้าหนี หลายคนอาจมองว่าที่ทำไปเพราะโกรธแต่จริงๆแล้วเขาไม่อยากเห็นใบหน้าเจ็บปวดของพระพายเสียมากกว่า ถึงภายนอกจะทำทีว่าโกรธแค้นสองพี่น้องจากตระกูลกฤตภาสยังไง แต่ลึกๆแล้วณะโมก็ยังคงมีความรู้สึกดีๆให้กับพระพายอยู่

พระพายเหมือนพี่ชายอีกคนของเขา ใช่ว่าเขาอยากจะทำตัวไม่น่ารักใส่ แต่ณะโมไม่มีทางเลือก

“กุญแจสำรองน่ะพวกเราไม่มีหรอกค่ะคุณโม อยู่ที่ห้องคุณเอกหมด” เป็นเอื้องคำที่เอ่ยขึ้นมาแทน ณะโมเม้มปากแน่นกับประโยคของหญิงสูงวัยก่อนจะหมุนตัวเดินกลับขึ้นไปชั้นบนโดยไม่พูดไม่จา

เด็กหนุ่มเดินมายืนเกาะประตูห้องนอนของพันเอกอีกครั้งพลางคิดหาทางพาตัวนาวาออกมา ไม่รู้ว่าทั้งคู่ผิดใจกันเรื่องอะไรอีกแต่ณะโมไม่อยากเห็นพี่ชายถูกทำร้ายอีกต่อไปแล้ว แค่ที่ผ่านมาที่นาวาต้องทุกข์ใจโดยที่เขาไม่รู้ก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นน้องชายที่ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย นาวาปกป้องเขามาโดยตลอด และตอนนี้ณะโมจะขอเป็นฝ่ายดูแลพี่บ้างจะเป็นไรไป

‘คุณเลิกบ้าสักทีได้ไหมคุณเอก แล้วก็ปล่อยผมไปได้แล้ว!’

เสียงของนาวาดังแว่วมาจากในห้องให้ณะโมได้ยิน เด็กหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความไม่สบายใจพลางจับใจความสิ่งที่คนในห้องคุยกัน

‘งั้นก็บอกฉันมาสิวา บอกมาว่านายจะอยู่กับฉัน’ เสียงพันเอกขัดขึ้นพร้อมกับเสียงตึงตังแผ่วๆที่ณะโมได้ยินทำเอาเด็กหนุ่มใจคอไม่ดี

‘ผมไม่อยากอยู่ให้คุณมาทำร้ายผมหรอกนะคุณเอก’

‘อ้อ นายจะบอกว่านายอยากไปอยู่กับไอ้รามงั้นสิ’

‘ผมไม่อยู่กับใครทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นคุณหรือใคร ถ้าคุณยังทำตัวแบบนี้ผมจะออกไปจากที่นี่ ปล่อยผมได้แล้ว!’

‘นายคิดว่าฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆงั้นเหรอ อย่าหวังเลยนาวา ตราบใดที่นายยังเป็นคนของฉัน เป็นเมียฉัน ต่อให้นายตายฉันก็จะตามไปลากนายกลับมา ถ้าใครหน้าไหนมันคิดจะมาเอาตัวนายไปมันก็ต้องข้ามศพฉันไปก่อน!!!’

‘คุณมันเลว เผด็จการ! คนไร้เหตุผลแบบคุณสักวันจะไม่เหลือใครอยู่ข้างๆ ทุกคนจะหนีคุณไปหมด ผมเกลียดคุณ ผะ...อื้อ! ปล่อยนะ!’

“พี่วา!” ณะโมร้องเรียกพี่ชายเสียงหลงเมื่อน้ำเสียงของคนในห้องเริ่มขาดหายไป เด็กหนุ่มทุบประตูห้องพลางร้องเรียกพันเอกเสียจนพระพายต้องวิ่งขึ้นมาดู ณะโมเม้มปากแน่นหันไปขอความช่วยเหลือจากอีกฝ่าย แววตาเว้าวอนแดงก่ำทำเอาพระพายต้องเดินเข้ามาหาพร้อมกับเคาะเรียกพันเอกด้วยใบหน้าฉายแววกังวล

“พี่เอก เปิดประตูให้ผมหน่อย”

จบประโยคสิ่งที่พระพายกับณะโมได้รับคือความเงียบงัน พระพายขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงบางอย่างดังลอดออกมาจากข้างใน

‘คุณเอก...อ๊ะ...’

‘อย่าทิ้งกันไปไหนเลยนะวา’

‘อึ่ก คุ...อาาาา’

‘อย่าทิ้งฉันเลยนะ’

‘อ๊ะ...อ๊าาาา’

เสียงครางหวีดหวิวยังคงดังต่อเนื่องพร้อมกับเสียงบางอย่างที่ดังสอดประสานกัน พระพายหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอายในขณะที่ณะโมทำหน้าปั้นยาก เด็กหนุ่มยังคงมีใบหน้าร้อนรนอยากจะเข้าไปหาพี่ชายภายในห้องหากแต่พระพายก็ได้แต่ส่ายหน้า

“เข้าไปตอนนี้ไม่เหมาะหรอกโม”

“คุณพาย! พี่ชายคุณรังแกพี่วาอยู่นะ” ณะโมอดที่จะท้วงขึ้นมาไม่ได้ พระพายเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้า สุดท้ายจึงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจดึงแขนณะโมและออกแรงลากเด็กหนุ่มให้ลงไปข้างล่างด้วยกันท่ามกลางเสียงเอะอะโวยวายของคนที่ไม่เต็มใจจะออกห่างจากบานประตู

“ปล่อยผมนะเว้ย!”

“ไม่ปล่อย พี่ขอละโม เราก็น่าจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง” พระพายเอ็ดก่อนจะค่อยๆดึงน้องให้ลงบันไดอย่างระมัดระวัง ณะโมถลึงตามองอีกคนด้วยความกรุ่นโกรธก่อนจะสวนกลับทันควัน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ จะอะไรซะอีกละถ้าไม่ใช่ว่าพี่ชายคุณกำลังปล้ำพี่วาอีกแล้ว พอเลยนะ ต่อไปนี้พวกคุณไม่ต้องมายุ่งกับผมอีกแล้ว!!” ณะโมทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก็สะบัดตัวให้หลุดจากการเกาะกุมอย่างรุนแรงจนพระพายเซเล็กน้อย ร่างโปร่งเกือบจะร่วงลงจากบันไดแต่มือขาวก็คว้าเอาราวบันไดไว้ได้พอดิบพอดี

ณะโมหน้าซีดด้วยความตกใจไปวูบหนึ่ง ปากบางตั้งใจจะเอ่ยขอโทษหากแต่สุดท้ายเจ้าตัวก็เลือกที่จะหันหลังหนีขึ้นไปบนห้องของตัวเองในที่สุด

พระพายมองตามแผ่นหลังเล็กด้วยความเสียใจก่อนจะเอ่ยพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“พี่ขอโทษ...”
.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 [50%] P.9 (04/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 05-04-2015 21:43:16

………………..………………..………………..

 

พันเอกทอดสายตามองร่างเปลือยเปล่าข้างกายด้วยแววตาอ่อนโยน นาวานอนหลับตาพริ้มลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวเสียพลังงานไปเยอะจากกิจกรรมก่อนหน้านี้ กลีบปากอวบอิ่มของคนตัวขาวแดงก่ำและบ่มเจ่อขึ้นมาจากการถูกจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่า พันเอกก้มลงหอมแก้มนุ่มติดต่อกันหลายครั้งก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปกดจูบที่ขมับของอีกคนอย่างขอลุแก่โทษ

เขาเผลอใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลจนดึงดังรังแกนาวาอีกแล้ว พอคิดไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้านี้ก็นึกเจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้ความกลัวครอบงำจิตใจจนเผลอทำให้นาวาไม่พอใจ เขาควรเปิดอกคุยกับอีกฝ่ายดีๆมากกว่าสาดวาจาแรงๆใส่ให้นาวาประชดกลับมาด้วยประโยคไม่น่าฟัง

“ฉันขอโทษ” ร่างสูงได้แต่เอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด ตั้งใจเอาไว้ว่าเมื่ออีกคนตื่นขึ้นมาเขาจะเปิดอกคุยกับนาวาจริงๆจังๆและขอโอกาสเริ่มต้นใหม่

ร่างสูงหันไปมองคนข้างกายอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นสวมเสื้อผ้าและเช็ดตัวให้นาวาอย่างเบามือ เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้วชายหนุ่มจึงเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ตรงดิ่งลงไปชั้นล่างและเดินไปยังทิศทางของห้องทำงาน

เมื่อไปถึงสิ่งแรกที่พันเอกทำคือถามไถ่ตรวจสอบว่าพายุและจักรกลับมาถึงบ้านแล้วหรือยัง ได้ความว่าทั้งคู่นั่งแท็กซี่กลับกันมาหลังจากงานจบ ร่างสูงเอ่ยขอโทษลูกน้องเสียยกใหญ่ที่ละทิ้งหน้าที่แต่ทั้งคู่ก็บอกปัดว่าไม่มีปัญหาอะไร

พันเอกเคลียร์งานที่ทำค้างเอาไว้ต่อ จวบจนเวลาล่วงเลยเข้าไปพักใหญ่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ร่างสูงขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เหลือบตามองนาฬิกาที่ตั้งโต๊ะก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีก ตอนที่เขาลงมาไฟในบ้านปิดสนิท แล้วใครกันที่มาเคาะประตูห้องทำงานของเขา และไม่รอให้เสียงเคาะดังขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง ประมุขของบ้านก็เดินไปเปิดประตูห้องออกก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจที่เห็นณะโมยืนมองเขาด้วยสายตาราบเรียบ

“ยังไม่นอนอีกหรือไง” พันเอกเอ่ยถามเด็กหนุ่มพลางขมวดคิ้ว ณะโมส่ายหน้าไปมาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแปลกไปจากเดิมจนคนฟังจับความรู้สึกได้

“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ ขออนุญาตเข้าไปคุยข้างในได้ไหมครับ”

“อืม เข้ามาก่อนสิ” พันเอกรับคำก่อนจะขยับตัวเปิดทางให้เด็กหนุ่มเดินเข้ามา ณะโมเดินเข้าไปภายในห้องทำงานของร่างสูงด้วยท่าทีสงบนิ่ง พันเอกถอนหายใจก่อนจะค่อยๆปิดประตูห้องและหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้ากับอีกคน แต่ทว่าพอหันกลับมาร่างสูงก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อพบว่าณะโมกำลังยืนนิ่งจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาดุดัน ในมือมีปืนพกกระบอกหนึ่งจ่อมาที่เขา ณะโมยกระดับปืนขึ้นไปยังหน้าอกของอีกคนก่อนจะขึ้นนกปืนเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกได้ทุกเมื่อ

“ไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน”

“หึ สำคัญด้วยเหรอครับ ยังไงๆสุดท้ายไอ้ปืนกระบอกนี้ก็จะส่งคุณลงนรกอยู่ดี” เด็กหนุ่มแสยะยิ้มพลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พันเอกได้แต่สบถในใจ สิ่งที่เขาคิดไว้นั้นไม่ผิดเลยสักนิด น้องชายของนาวาไม่ใช่เด็กน้อยใสซื่ออ่อนหวาน หากแต่ณะโมคนนี้ลึกๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรไปจากพันเอกเลยสักนิด

กล้าทำทุกอย่างอย่างไม่คิดลังเลเพื่อความพึงพอใจของตนและความสุขของคนที่รัก

“เอามันไปทิ้งซะณะโม นายไม่อยากใช้มันหรอก” พันเอกเกลี้ยกล่อม สองเท้าค่อยๆสืบสานเข้าไปใกล้เด็กหนุ่มอย่างช้าๆโดยที่อีกคนไม่ทันสังเกต หรือบางทีณะโมอาจจะเห็นแต่ยังยอมให้พันเอกเดินเข้ามาหา  เพราะเป้าหมายน่ะ...ยิ่งอยู่ใกล้เท่าไหร่โอกาสที่เขาจะยิงพลาดก็ยิ่งมีน้อยมากเท่านั้น

“หึ กลัวเหรอครับ”

“...”

“คุณเคยบอกนี่ ว่าถ้าอยากให้พี่วาเป็นอิสระต้องข้ามศพคุณไปก่อน” ณะโมเริ่มต้นประโยคด้วยน้ำเสียงราบเรียบในขณะที่พันเอกยังคงก้าวเดินเข้ามาหาเด็กหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

“ผมจะไม่ยอมให้พี่ชายผมตายทั้งเป็นเพราะคนแบบคุณอีกแล้ว อโหสิให้ผมด้วยก็แล้วกัน!”

 

ปัง!!

 

สิ้นประโยคของณะโม เสียงปืนก็ดังกึกก้องไปทั่วบ้าน พันเอกผงะไปหลายก้าวก่อนจะรู้สึกชายิบที่หัวไหล่ นาทีนั้นชายหนุ่มรับรู้ได้ทันทีว่ากระสุนจากปืนในมือของอีกคนเจาะเข้าร่างของเขาเข้าเต็มๆ หากแต่พันเอกก็ไม่มีเวลาคิดอะไรมากไปกว่านี้เมื่อเห็นว่าณะโมกำลังจะยิงเขาซ้ำ และคราวนี้เด็กนั่นเล็งเป้ามาที่ศีรษะของพันเอกแทน

ไวเท่าความคิด ร่างสูงขยับเข้าไปยื้อแย่งมัจจุราชในมือของเด็กหนุ่มด้วยความรวดเร็ว นอกห้องเริ่มมีเสียงเอะอะโวยวายแว่วเข้ามาหากแต่ณะโมก็ยังดึงดันที่จะปลิดชีวิตของพันเอกให้ได้

ร่างของคนทั้งคู่ยื้อแย่งปืนในมือกันอยู่เนิ่นนาน อันที่จริงหากเป็นเวลาปกติแน่นอนว่าพันเอกจะต้องได้เปรียบณะโมอยู่แล้ว แต่ในตอนนี้บาดแผลที่ถูกกระสุนฝังตัวอยู่ที่ไหล่บั่นทอนพละกำลังของชายหนุ่มลงไปมากกว่าครึ่ง ฝ่ายณะโมเองก็มีเรี่ยวแรงที่มาจากความเคียดแค้นชิงชัง สองร่างจึงยื้อยุดฉุดกระฉากกันอย่างไม่มีใครยอมใคร

 

ปัง!

 

โดยไม่มีใครคาดคิด เสียงปืนนัดที่สองดังขึ้นอีกครั้งจนร่างของพันเอกและณะโมชะงัก พันเอกตัวชาวาบหัวใจ ในอกวูบโหวงเหมือนมีมือมาควักหัวใจของเขาออกไปจากอก ชายหนุ่มเรียกชื่อของคนตรงหน้าเสียงแผ่วเบา ตามลำคอและใบหน้าคมคายเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงฉาน

 

เลือด...ที่ออกมาจากร่างของณะโม

 

“อึ่ก...”

“โม!!!” ร่างสูงเรียกชื่อคนตัวเล็กเสียงดัง ปืนในมือร่วงลงกระทบกับพื้นห้อง พันเอกช้อนร่างของณะโมขึ้นมาแนบอกแทบจะในทันที สองขาก้าวเดินออกจากห้องทำงานก่อนจะตะโกนบอกพระพายที่เพิ่งจะวิ่งลงมาจากห้องนอนชั้นบนด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน

“พี่เอก...เกิดอะไรขึ้น”

“พาย ไปเอารถออก”

“พี่เอ...” / “ฉันบอกให้ไปเอารถออก ณะโมถูกยิง ไปเดี๋ยวนี้!!!!!”

พันเอกตวาดเสียงแข็งกร้าวเมื่อเห็นคนเป็นน้องยังยืนช็อคอยู่ที่ปลายบันได พระพายสะดุ้งโหยงก่อนจะรีบวิ่งออกไปนอกบ้าน สวนกับจักรและพายุที่วิ่งเข้ามาทั้งที่ยังอยู่ในชุดนอน

“นายครับ...คุณโม!!!!” พายุร้องเสียงหลงเมื่อเห็นสภาพของคนในอ้อมกอดของพันเอก ร่างของณะโมโชกไปด้วยเลือด พันเอกกัดฟันกรอดใจเต้นไม่เป็นส่ำ พายุรีบวิ่งเข้ามาหาผู้เป็นนายในขณะที่จักรตามพระพายออกไปถอยรถอย่างรวดเร็ว

พายุมือไม้สั่นกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น ชายหนุ่มวิ่งเข้ามาประชิดตัวพันเอกก่อนจะอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นว่าพันเอกเองก็ถูกยิงไม่ต่างกัน ร่างโปร่งกุลีกุจอเข้าไปเพื่อรับร่างณะโมมาอุ้มหากแต่พันเอกกลับไม่ยอม

“คุณเอก...เดี๋ยวผมอุ้มให้ คุณเองก็บาดเจ็บ”

“ไม่ ฉันอุ้มเอง ฉันไหว”

“แต่คุณเอกครั...คุณวา...”

เสียงของพายุขาดหายไปก่อนจะแทนที่ด้วยชื่อของคนที่พันเอกไม่อยากได้ยินที่สุดในชีวิต ร่างสูงตัวเย็นเฉียบพลางหันไปมองคนที่กำลังยืนอยู่บนชั้นสองของบ้าน และทันทีที่นาวาเห็นสภาพของเขาและคนในอ้อมกอดร่างโปร่งก็กรีดร้องเสียงดังลั่นก่อนจะรีบวิ่งลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว

“ณะ!!!!”

นาวาถึงตัวน้องในไม่กี่วินาทีต่อมา เป็นจังหวะเดียวกับที่มีเสียงรถมาจอดเทียบหน้าบ้าน พันเอกไม่รีรอให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ ร่างสูงพาร่างของณะโมขึ้นรถโดยมีนาวาผวาตามไปไม่ห่าง ใบหน้าขาวสูบซีด ทั้งเนื้อทั้งตัวชาวาบ น้ำตาที่น้อยครั้งจะหลั่งรินบัดนี้ไหลอาบแก้ม ร่างทั้งร่างของนาวาสั่นระริกขณะก้าวขึ้นไปนั่งบนรถ

“ณะ ฮึก ทำไมเป็นแบบนี้ ฮึก” คนเป็นพี่เอ่ยเสียงกระท่อนกระแท่น ใจแทบสลายเมื่อแตะตรงไหนก็มีแต่เลือดของน้องชายติดมือมา

“มันเกิดอะไรขึ้น ฮึก มันเกิดอะไรขึ้น!!!!!” นาวาหันไปถามอีกคนที่มีสภาพย่ำแย่ไม่ต่างกัน พันเอกอุ้มณะโมเอาไว้ไม่ห่าง ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของณาวาแต่กลับออกปากบอกจักรให้เร่งความเร็วของรถขึ้นไปอีก นาวามองพันเอกด้วยแววตาเจ็บปวด กลีบปากบางเม้มแน่น ยิ่งเห็นร่างโชกเลือดของน้องชายในอ้อมกอดของอีกคนก็ยิ่งรู้สึกว่าหัวใจถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ ชายหนุ่มขยับเข้าไปคว้ามือณะโมมาจูบซ้ำๆ เลื่อนตัวไปจูบทั่วใบหน้าก่อนของคนที่รักมากที่สุดในชีวิตก่อนจะชะงักไปเมื่อเห็นสภาพของณะโมใกล้ๆอย่างเต็มตา

 

และในวินาทีนั้น นาวาก็ได้แต่ร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจเมื่อพบว่าน้องชายของตนถูกกระสุนเจาะยิงเข้าที่ใต้คางจนทะลุออกไปทางด้านหลัง

 

“ฮึก ไม่ ณะ ได้โปรด อย่าทิ้งพี่ไปแบบนี้ ฮือออ ไม่เอาแบบนี้ กลับมา ฮึก กลับมา”

 

ต่อให้โรงพยาบาลมาตั้งอยู่ตรงหน้าก็ไร้ประโยชน์

ต่อให้มีหมอเป็นสิบเป็นร้อยคนอยู่ข้างๆในตอนนี้ก็ไม่ได้ช่วยอะไร

เพราะน้องชายของเขาไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

 

ณะโมไม่อยู่แล้ว

 

ยังไม่ทันได้บอกรัก ยังไม่ทันได้เห็นน้องเติบโตก็ต้องมาเสียไป

ทุกสิ่งที่นาวาพยายามสร้าง ทุกอย่างที่เคยหาให้ ทุกความเหนื่อยยาก ทุกความทรมาน ทุกความทรงจำที่แสนมีค่าที่เคยมีร่วมกัน

บัดนี้กลับกลายเป็นความว่างเปล่าอย่างแท้จริง

 

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 05-04-2015 22:05:14
หน่วงใจจังเลย ครับ    :o11:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 05-04-2015 22:16:41
สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 05-04-2015 22:20:58
 :m15:  คนเป็นทรมานกว่าคนตายเสมอ

บางทีก็คิดนะว่าตายๆกันหมดแล้วเมื่อไหร่จะได้รู้ความจริง
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 05-04-2015 22:40:01
อ่านละไม่เข้าใจวะ เกลียดเพื่อนของรามทุกคนคือ ไอ่เอี้ย มึงจะเข้ามันทำไมนักเคยเปนเพื่อนกับเอกหนิ พวกมึงแม่งชั่ว กุเกลียดจิงๆเพื่อนแบบนี้ นาวาก้งั้นๆอ่านๆไปก้เริ่มหมั่นไส้ นะโมนี่ไอ่เนรคุน เดี๋ยวพี่มึงก้มาโทดพันเอกอีกทั้งๆที่มึงยิงเค้าก่อน โว้ะ ห่าไรวะ
เกลียดสุดก้รามอ่ กุ หมั้นไส้แม่งจิงๆ
รักนักรักหนานาวา เหี้ยเพื่อนคบมาเปนสิบปีมึงยังฆ่าพ่อแม่เค้าได้ทำร้ายน้องชายเค้าได้ ที่อย่างงี้จะปกป้องนาวากับน้องชาย ถุ้ย!ไอ่____ มึงแม่ง กุด่าไม่ออก
เรื่องนี่สงสารพะพาย พันเอกนี่เฉยๆช่างแม่ง ก้ดูดิไม่ได้ทำไรผิดไอ่เหี้ยรามก้มาทำเงี่ย ดูไอ่เนรคุนนะโมมันทำ คือ หนุคะ ชีวิตอนาถชิบ__ ต้องทำบุญ 999 วัดคะ 9 วัดไม่พอ กรวดน้ำแผ่เมตตาบ่อยๆ เพราะชีวิตเจอแต่สัตว์ อิฉันคงอยุ่เชียไม่ได้ทุกตอนเนื่องจากแพ้ผงชูรส รับประทานมาม่าไม่ได้ จะเกิดอาการคลั่ง(แค้น...ค้าง)
.
สุดท้ายขอบคุนคนเขียนนะคะ เขียนดี คำผิดแทบไม่มี เขียนลื่น อ่านทีอารมมาเตม สู้ๆ รออยุ่นะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 05-04-2015 22:50:54
คิดไว้แล้ว...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: parn11 ที่ 06-04-2015 01:32:07
เราว่าระหว่างนาวากับพันเอกมาไกลเกินไปแล้ว
ถ้าจะมารักกันคงแทบจะแหกโค้งเลบก็ว่าได้
ยิ่งถ้าณะโมเป็นอะไรไปแทบจะมองไม่เห็นหนทางที่จะรักกันของสองคนเลย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 06-04-2015 02:16:51
รู้สึกอ่านจบ และมีแต่คำสบถว่า เชี่ย จริง ๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 06-04-2015 02:32:06
โอ๊ยยยย. เครียดแทนนนนน. เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-04-2015 02:47:26
ว่าแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ไม่อยากจะโทษพันเอกหรอกนะที่ณะโมต้องมาตายแบบนี้อ่ะ มันเป็นเพราะความใจร้อน ไม่ฟังเหตุผล ใช้แต่กำลัง ทำแบบนี้มันก็ไปกระตุ้นให้ณะโมต้องลุกขึ้นมาปกป้องพี่ที่เค้ารักนะซิ บอกเองแท้ๆ ว่าณะโมนิสัยคล้ายตัวเองแล้วทำไมไม่คิดว่าณะโมจะทำแบบนี้

ส่วนณะโมหนูก็ใจร้อนเกินไป ไม่รู้จะว่ายังไงก็รู้ว่าห่วงพี่ตัวเองล่ะน่ะ แต่วิธีเอาคืนพันเอกหรือวิธีปกป้องนาวาก็มีเยอะแยะ ทำไมต้องใช้วิธีนี้ด้วยน้า เศร้าใจแทนนาวาเลย

เฮ้อออ ไม่ยักเห็นว่าจะมีวิธีไหนให้พันเอกกับนาวารักกันได้เลยเมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นนาวาต้องโทษพันเอกชัวร์ๆ ต่อให้รู้ว่าความจริงเป็นยังไงก็เถอะ ถ้านาวารักพันเอกได้เนี่ยะพ่อพระเลยนะเพราะยังไงต้นเหตุที่ณะโมต้องตายก็เพราะคนเริ่มเรื่องทุกๆ อย่าง ก็คือพันเอก(เฉพาะตอนนี้นะยังไม่รวมราม)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 06-04-2015 04:13:32
เฮ้อ ~ มองไม่เห็นทางเลยทีนี้ อุตส่าห์หวานๆเร่าร้อนในห้องลองเสื้อ เปิดใจกันแล้วแท้ๆ นึกว่าไปงานพันเอกจะได้สร้อยให้นาวาสักเส้น เหมือนที่ตั้งใจว่าจะง้อ หวานๆความสัมพันธ์พัฒนา ไหงกลายเป็นงี้ไปได้ จะโทษพันเอกก็คงไม่ได้หรอกเข้าใจที่จะฟิวส์หลุดคือนาวาก็ไปเติมเชื้อเข้าไปไง นางหวงนางกลัวนาวาทิ้ง อยู่แล้วไง พอพันเอกเห็นนาวากอดราม เห็นบอกว่าอยากไปอยู่กับราม แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่พันเอกจะโมโห และขึ้นขนาดนี้ คนมันเคยมีประเด็นว่าเกลียดกันถึงขั้นฆ่าแกงกันให้ตายมาแล้ว นาวาเลือกจะพูดแต่พูดไม่หมดในสิ่งที่คิด แถมคำพูดนั้นเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีด้วยสิก็เลยยิ่งไปกันใหญ่เลยทีนี้ นาวาก็น่าจะรู้พื้นนิสัยพันเอกดี จะคาดหวังให้พันเอกเข้าใจในสิ่งที่อยู่ในใจนาวาก็คงยาก แค่ทุกวันนี้ก็เริ่มดีขึ้นเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อยเพราะรักนาวานี่แหละ ส่วนณะโม ก็เฮ้อ~เอาใจช่วยพันเอกละกันศึกหลายทางไหนจะน้อง ที่จะต้องโดนรามทำร้าย ไหนจะคนรักจะทำยังไงดีละทีนี้เมื่อณะโมมาตายแบบนี้ #ปวดใจ#เครียด
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 06-04-2015 11:37:54
 :katai1: เครียด
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 06-04-2015 12:08:07
โอ๊ยยยยยไปไม่เป็นเลยเจอตอนนี้เข้าไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-04-2015 00:06:08
มาให้กำลังใจก่อนจ้า

ยังอ่านไม่ทัน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kimjuy_o ที่ 08-04-2015 11:46:46
กรรม
กรรรเวร ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกหน่วง
บอกแล้วว่าณะโมทำเรื่องให้แย่ไปกว่าเดิม
ทีนี้จะเป็นไงต่อไปอีก
คงต้องรอตอนต่อไปสินะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่า
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ~ ฤดูใบไม้ผลิ ~ ที่ 09-04-2015 21:11:57
ณะโม  :m15:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sosi ที่ 09-04-2015 23:33:00
สงสารนาวา :mew6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 18 - 19 P.9 (05/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mana_ai ที่ 10-04-2015 00:37:23
บีบคั้นจิตใจมาก T T
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 18-04-2015 19:16:28
:: CHAPTER 20 ::
การจากลา

 

พันเอกยืนมองนาวาที่เอาแต่ปักหลักนั่งอยู่ข้างเตียงของณะโมด้วยความเป็นห่วง นาวาไม่ยอมพูดจากับใครเลยทันทีที่ถึงโรงพยาบาล อีกฝ่ายเอาแต่ร้องไห้ราวกับคนกำลังจะขาดใจ ยิ่งคำยืนยันจากหมอว่าณะโมไม่อยู่แล้วทั้งที่พวกเขาเพิ่งจะอุ้มร่างเล็กลงจากรถก็ยิ่งทำให้นาวาเหมือนคนไร้สติ เอาแต่กอดร่างไร้วิญญาณของน้องชายและร้องไห้ ร้องเสียจนพระพายร้องไห้ตามก่อนจะเดินเข้าไปกอดนาวาจากข้างหลังอย่างปลอบประโลม

“คุณเอก ไหวนะครับ” พายุเดินเข้ามาแตะลำแขนแกร่งของผู้เป็นเจ้านายด้วยความไม่สบายใจ ดวงตาเรียวเหลือบมองแผลจากการถูกยิงของร่างสูงที่บริเวณหัวไหล่ อาการของพันเอกไม่ร้ายแรงนักเพราะเจ้าตัวเบี่ยงร่างหนีวิถีกระสุนได้อย่างหวุดหวิด จากที่ณะโมเล็งตำแหน่งหัวใจของเขาเลยกลายเป็นว่ากระสุนไปฝังตัวอยู่ช่วงไหล่แทน

เดิมทีคุณหมออยากให้พันเอกนอนพักรักษาตัวเพราะถึงบาดแผลจะไม่ลึกมากแต่แผลจากการผ่าตัดเอากระสุนออกก็ยังเสี่ยงที่จะติดเชื้อ แต่พันเอกไม่มีเวลาที่จะมากังวลเรื่องแบบนั้น เขาเป็นห่วงนาวามากกว่าสิ่งอื่นใด สุดท้ายจึงต้องให้หมอพันแค่ผ้าพันแผลและผละออกมาหาอีกคนที่อยู่ห้องดับจิตแทน

“ผมว่าคุณเอกนอนโรงพยาบาลสักคืนสองคืนดีไหมครับ ผมเป็นห่วง กลัวคุณเป็นอะไรไปอีกคน”

“ไม่หรอก ฉันไม่เป็นไร” พันเอกบอกปัดความห่วงใยของลูกน้องด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า ชายหนุ่มมองภาพนาวาด้วยสายตาเจ็บปวด ร่างโปร่งสะอื้นจนตัวโยน ละทิ้งทุกเกราะกำแพงที่เคยมี กลับกลายเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่หัวใจกำลังแหลกละเอียดเมื่อไร้คนที่รักอยู่เคียงข้าง

พันเอกไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้นาวาในตอนนี้ ภาพที่ณะโมถูกยิงย้อนกลับเข้ามาในโสตประสาทซ้ำๆราวกับเดจาวู ยิ่งเสียงร่ำไห้ของนาวาดังแว่วมาให้ได้ยินมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งตอกย้ำว่าคนที่สมควรตายเป็นเขามากขึ้นเท่านั้น

อยากปลอบประโลมมากแค่ไหนแต่ก็ทำไม่ได้

อยากเดินเข้าไปกอดแล้วกระซิบข้างหูว่าไม่เป็นไรแต่ก็ยังไม่กล้า

ณะโมตายก็เพราะเขา ถึงแม้มันจะเป็นอุบัติเหตุแต่พันเอกก็มีส่วน เขาทำให้คนที่รักมากที่สุดคนหนึ่งต้องเสียน้ำตา

ไม่เคยมีครั้งไหนที่พันเอกเกลียดตัวเองได้เท่ากับครั้งนี้เลยจริงๆ

 

 

 

 

 

“เป็นยังไงบ้าง” พันเอกเอ่ยถามน้องชายที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนของเจ้าตัวด้วยความเป็นห่วง พระพายยกยิ้มจางๆให้กับชายหนุ่มก่อนจะเดินเข้ามาแตะดูแผลที่ไหล่ของคนตัวสูงก่อนจะพูดเสียงแผ่วเบา

“หลับไปแล้วละครับ พอดีผมแอบผสมยานอนหลับใส่ลงไปในข้าวให้พี่วากินด้วยน่ะ” คนเป็นน้องตอบ แน่นอนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้คนที่รักน้องยิ่งกว่าชีวิตอย่างนาวาไม่มีทางนอนหลับได้แน่น ดังนั้นพระพายจึงแอบใส่ยานอนหลับแล้วบังคับให้อีกฝ่ายกินข้าวกินปลาเสียก่อนจะพานาวากลับมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของเขาและให้นอนพักผ่อน ตอนแรกนาวาดึงดันที่จะลงมาอยู่จัดการทุกอย่างให้เสร็จสิ้นหากแต่ไม่นานเจ้าตัวก็ผล็อยหลับไป ปากก็ละเมอชื่อณะโมออกมาให้คนฟังได้แต่มองอย่างสงสาร

พอนึกไปถึงเหตุการณ์ที่โรงพยาบาลพระพายก็ได้แต่เจ็บแปลบในใจ นาวาไม่ยอมห่างจากน้องเลย เอาแต่กอดศพของณะโมและร้องไห้เป็นเวลานาน ร้องเสียจนเสียงแหบแห้ง พวกเขาเรียกให้กลับบ้านก็ไม่ยอมขยับ สุดท้ายพายุเลยต้องมาดึงตัวนาวาออกมาและพากันกลับมาบ้าน

แรกเริ่มนาวาขัดขืนสุดกำลัง อีกฝ่ายไม่ยอมไปไหนนอกจากยืนยันที่จะปักหลักอยู่กับน้อง พันเอกเองก็ไม่กล้าเข้าไปใกล้ให้เรื่องแย่กว่าเดิม ตัวพระพายเองก็ยื้อแรงของนาวาเอาไว้ไม่ไหว หากแต่พอพายุพูดเตือนสติของนาวาเพียงไม่กี่ประโยคร่างโปร่งถึงได้สงบลง

‘คุณวาครับ อย่าหาว่าผมใจร้ายเลยนะครับ แต่เราต้องยอมรับความจริง’

‘ฮึก’

‘ถึงคุณจะอยู่นี่ เอาแต่กอดศพน้องมันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว คุณวาที่ผมรู้จักเป็นคนมีสติและมีเหตุผลมากกว่านี้ กลับบ้านก่อนนะครับ ผมขอร้อง’

พระพายจำได้ดีว่าหลังจากจบประโยคนั้นนาวาก็เอาแต่กอดพายุแน่นก่อนจะยอมให้อีกคนจูงมือพาขึ้นรถแต่โดยดี ตลอดทางนาวาเอาแต่ซุกตัวอยู่กับอกของพายุในขณะที่พี่ชายของเขาต้องย้ายตัวเองไปนั่งข้างหน้าขนาบข้างกับคนขับ พระพายมองพายุที่กำลังกอดปลอบคนตัวขาวก่อนจะหันไปมองพันเอกที่เอาแต่ปิดปากเงียบไม่พูดไม่จา ยอมรับว่าจนถึงตอนนี้ตัวเขาเองก็ยังคงตกใจไม่หาย ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหันเสียจนตั้งตัวไม่ทัน ในอกวูบโหวงเหมือนถูกจับโยนไปมาในอากาศ ขนาดพระพายยังช็อคขนาดนี้ แล้วนาวาเล่าจะเป็นเช่นไร

“ยังไงฝากดูเขาหน่อยนะ อย่าพยายามให้อยู่คนเดียวเป็นอันขาด” พันเอกกำชับ พอเห็นน้องชายพยักหน้ารับก็โล่งใจ

“แล้วเรื่องณะละครับ” ร่างเล็กเอ่ยถามคนเป็นพี่ พอพูดถึงคนที่เพิ่งจะจากไปอย่างกะทันหันก็อดที่จะใจหายไม่ได้

“เดี๋ยวฉันจะลงไปให้ปากคำกับตำรวจ ส่วนเรื่องงานศพจักรรับหน้าที่เป็นคนจัดการ”

“ครับ...พี่เอก ผมว่าพี่ลองไปคุยๆกับพี่วาดูหน่อยไหม ผมไม่รู้หรอกนะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ผมมั่นใจว่าพี่ไม่ได้ตั้งใจอยากจะให้มันเป็นแบบนี้” พระพายตัดสินใจเอ่ยขึ้นก่อนจะเลื่อนมือไปบีบมือของพันเอกเพื่อให้กำลังใจ พันเอกมองหน้าน้องก่อนจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาวางบนหัวของพระพายพลางลูบเบาๆอย่างรักใคร่

“ไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” ร่างสูงบอกคนเป็นน้องก่อนจะยกยิ้มเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ พระพายถอนหายใจ มองคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เขารู้ดีว่าพันเอกเองก็แย่ไม่ต่างจากนาวาเท่าใดนัก

“ครับ พี่เองก็อย่านอนดึกนะ ร่างกายพี่ก็ไม่โอเคอยู่ด้วย เดี๋ยวจะล้มลงไปอีกคน” คนอายุน้อยกว่ากำชับ พันเอกหลุดยิ้มกับน้ำเสียงบอกกล่าวแกมสั่งของพระพายก่อนจะพยักหน้า ชายหนุ่มยืนส่งน้องชายจนเข้าห้องนอนเรียบร้อยจึงหันกลับมาเคลียร์ความเรียบร้อยด้านนอก

ร่างสูงเดินลงไปคุยกับเหล่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่มาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและสอบปากคำกับเขา ตำรวจหลายนายเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานทั้งในห้องทำงานและห้องนอนของณะโม กว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่เสียแล้ว

พันเอกทิ้งตัวลงบนโซฟาบริเวณห้องนั่งเล่นด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ทั้งบ้านกลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เหลือบตามองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลาที่เอื้องคำและสาวใช้คนอื่นๆจะตื่นขึ้นมาจ่ายตลาด และยังไม่ทันไรก็ปรากฏร่างของคนในความคิดที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเศร้าสลดดวงตาแดงก่ำ

“คุณพระคุณเจ้าของป้า ไม่เป็นอะไรนะคะ” เอื้องคำถามพลางจ้องมองผ้าพันแผลที่หัวไหล่ของพันเอกด้วยสายตาสั่นระริก

“ผมไม่เป็นไรครับป้าเอื้อง ป้าไปทำงานเถอะครับ” พันเอกเอ่ยกับหญิงสูงวัยที่เขาให้ความเคารพด้วยน้ำเสียงนอบน้อม เอื้องคำมองเจ้านายด้วยแววตาอ่อนแสงก่อนจะยกมือขึ้นลูบใบหน้าคมคายแผ่วเบา

“เข้มแข็งนะคะคุณเอก ป้าเชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดีขึ้น”

“...”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าลืมว่ายังมีคนอีกมากที่รักคุณจากใจจริง ทั้งคุณพาย ทั้งป้า ไหนจะเจ้ายุและคนอื่นๆ อย่าคิดว่าตัวเองอยู่ตัวคนเดียวนะคะ”

“ครับป้า ขอบคุณมากนะครับ” พันเอกยกยิ้มก่อนจะขอตัวขึ้นไปพักผ่อน ร่างสูงเดินขึ้นชั้นบนของบ้านและกำลังจะเข้าห้องนอนหากแต่สายตากลับเหลือบไปเห็นพระพายเดินออกมาจากห้องเข้าพอดี

“เป็นยังไงบ้างครับ” คนอายุน้อยกว่าถามขึ้น ร่างเล็กเดินงัวเงียเข้ามาหาพันเอกก่อนจะลูบแขนแกร่งไปมาแผ่วเบา

“เดี๋ยวตำรวจจะนัดให้ปากคำอีกทีหนึ่ง...แล้วนาวาตื่นรึยัง” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกคนที่เมื่อคืนเข้าให้ไปนอนที่ห้องพระพาย

“ยังครับ พี่เอกจะเข้าไปดูหน่อยไหม” คนตัวเล็กกว่าถามขึ้นก่อนจะลอบมองปฏิกิริยาของพันเอก เมื่อเห็นว่าพี่ชายมีแววตาลังเลพระพายก็ได้แต่ยกยิ้มก่อนจะตบแขนของอีกคนเป็นเชิงปลอบใจ

“เข้าไปนอนกับพี่วาเถอะครับ พอตื่นแล้วก็เปิดอกคุยกันซะ ยิ่งปล่อยเอาไว้นานเรื่องก็ยิ่งบานปลายนะครับพี่เอก”

“แต่...”

“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น เห็นผลของการกระทำที่ไม่สนใจใครของพี่รึยัง ผมอยากให้พี่หยุดเรื่องนี้ซะแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพี่วา ถือว่าทำเพื่อผม ผมอยากเห็นพี่เอกมีความสุข” พระพายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง พันเอกถอนหายใจอย่างหนักหน่วงพลางดึงร่างน้องเข้ามากอดแน่น

“เขาไม่ให้อภัยฉันหรอก” ร่างสูงกระซิบชิดกระหม่อมของคนเป็นน้อง

“ลองดูสิครับพี่เอก ไม่ลองไม่รู้นะ”

“...”

“พาพี่วาหลบไปอยู่ที่อื่นสักพัก ไปอยู่ในที่ที่เรื่องราววุ่นวายพวกนี้ตามไปไม่ถึง ส่วนเรื่องคนทางนี้ให้เป็นหน้าที่ของผมเองนะ” คนเป็นน้องบอก เขารู้ดีว่าตอนนี้พันเอกกำลังถูกทุกอย่างรุมเร้า พระพายแค่อยากให้พี่ชายได้หยุดพักเสียบ้าง และอยากให้พันเอกพานาวาออกไปจากสถานการณ์นี้ด้วย

“เชื่อผมนะ ไม่ต้องห่วงที่นี่ เราถูกเลี้ยงมาให้ทำหน้าที่แทนกันได้ในเวลาแบบนี้นี่แหละ ปล่อยวางแล้วทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการบ้างเถอะนะครับ ถือซะว่าผมขอร้อง” พระพายทิ้งท้ายเอาไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะดันหลังพี่ชายให้เข้าไปหานาวาในห้อง พันเอกมองร่างโปร่งที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียง คราบน้ำตาแห้งกรังเปรอะแก้มทำเอาใจของร่างสูงสะท้านวาบ สองขาพาตัวเองเดินไปหาคนที่นอนอยู่อย่างไม่รู้สึกตัว พอได้สติอีกทีก็พบว่าตอนนี้เขากำลังรั้งร่างของนาวาเข้ามากอดแนบอกเสียแล้ว

“ฉันขอโทษนะ” ชายหนุ่มกระซิบแผ่วเบาพลางแต้มริมฝีปากลงบนหน้าผากมน ไม่รู้ว่าหากตื่นขึ้นมานาวาจะมีปฏิกิริยาเช่นไร แต่อย่างน้อยๆขอให้เขาได้สูดดมกลิ่นไอหอมหวานจากร่างของคนตรงหน้าในยามหลับก็พอ

ไม่นานนักพันเอกก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปเพราะความเหนื่อยล้า ลมหายใจร้อนผ่าวเข้าออกสม่ำเสมอ เป็นเวลาเดียวกันกับที่นาวาลืมตาตื่นขึ้นมา ร่างโปร่งชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าตัวเองถูกกอด พอหันไปมองใบหน้าคมคายของพันเอกขอบตาของนาวาก็ร้อนผ่าว ในหัวหวนนึกถึงสิ่งที่พบเจอก่อนจะหลับและภาวนาขอให้มันเป็นเพียงแค่ความฝัน หากทว่าพอมองผ้าพันแผลที่หัวไหล่ของคนข้างกายนาวาก็ได้แต่นอนนิ่งน้ำตาตกลงสู่หมอน

เรื่องเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน

เขาเสียน้องชายไปแล้ว

นาวาขยับตัวออกจากอ้อมกอดของอีกคน เขารู้ดีว่าพันเอกไม่ผิดเพราะก่อนที่จะขึ้นมานอนทุกคนในบ้านได้ดูกล้องวงจรปิดภายในห้องทำงานกันหมด พันเอกเล่าให้ฟังว่าเพราะอยากปกป้องพี่ชาย อยากให้นาวาเป็นอิสระจึงคิดจะฆ่าพันเอกทิ้งเสีย พันเอกเองพอถูกยิงนัดแรกเข้าไปกลไกทางร่างกายก็สั่งให้เข้าชาร์จอีกคนเพื่อป้องกันตัว ไม่คิดไม่ฝันว่าปืนมันจะลั่นจนต้องมาเสียณะโมไปแบบนี้

“อ๊ะ...พี่วา จะไปไหนน่ะครับ” เสียงทักของพระพายดังขึ้นเมื่อเห็นนาวาเดินออกมาจากห้องนอน คนถูกทักหันไปมองใบหน้าขาวก่อนจะลดสายตาลงมองถาดอาหารในมือของอีกคน พระพายมองตามสายตาของนาวาก่อนจะยกยิ้มบางเบา

“ผมเอาข้าวเช้าขึ้นมาให้พี่กับพี่เอกน่ะ หิวหรือยังครับ”

“ไม่ครับ ผมขอตัว” นาวาปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย็นชา แม้ในใจจะบอกว่าพระพายไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แต่นาวาก็ห้ามตัวเองไม่ได้ จะให้เขาคุยกับคนในบ้านหลังนี้เหมือนเดิมคงต้องใช้เวลา

“พี่วาจะไปไหนครับ” ฝ่ายพระพายก็ยังไม่ยอมแพ้ คนตัวเล็กกว่าถามนาวาที่กำลังเดินหนีด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นาวาเม้มปากแน่น ในใจลังเลว่าควรจะบอกความจริงออกไปดีไหม สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจพูดสิ่งที่ตัวเองคิดในใจออกไปให้อีกคนได้ฟัง

“จะไปห้องครับ ผมจะไปเก็บเสื้อผ้า”

“เก็บเสื้อผ้า? พี่วาหมายความว่ายังไงครับ” พระพายขมวดคิ้ว ในใจหวาดหวั่นกับคำตอบของอีกคนจนเผลอกำถาดอาหารในมือจนแน่น นาวามองใบหน้าได้รูปของคุณหนูคนเล็กของบ้านก่อนจะเบือนหน้าหนี

“ผมจะออกไปจากที่นี่”

“!!!”

“ที่ผมมาอยู่ที่นี่เพราะน้อง ที่ยอมทุกอย่างจนถึงทุกวันนี้ก็เพราะน้อง ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ผมต้องอยู่ที่นี่ต่อไป” นาวาพูดพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอด พยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นจนเกินไป เมื่อวานนาวาร้องไห้มากจนเกินพอแล้ว หลังจากนี้เขาจะพยายามเข้มแข็งและไม่ร้องไห้อีกไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

“แต่...พี่วา”

“คุณพายอย่าห้ามผมเลยนะครับ ข้อตกลงระหว่างผมกับคุณเอกมันจบลงแล้ว เขาใช้ผมแก้แค้นคุณรามและกับค่าเล่าเรียนของณะโม ตอนนี้ณะโมไม่อยู่แล้ว และพี่ชายคุณก็ทำร้ายผมต่อหน้าคุณรามไปแล้ว ก็เท่ากับว่าเรื่องระหว่างผมกับเขามันจบลงแล้ว”

“พี่วา ใจเย็นๆก่อนนะครับ รอคุยกับพี่เอกก่อนดีกว่านะ เรื่องความแค้นอะไรนั่นตอนนี้มันไม่สำคัญแล้ว พี่เอกเขาไม่ได้...”

“พอเถอะครับคุณพาย ผมไม่อยากพาตัวเองเข้าไปทรมานอยู่ในวังวนของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว” นาวาพูดพลางมองพระพายด้วยแววตาเจ็บปวดจนคนถูกมองชะงัก พระพายก้มหน้าลงจนคางแทบจะชิดอกอย่างยอมจำนน นาวาเห็นดังนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในห้องนอนที่เคยถูกจัดเอาไว้ให้เป็นห้องของณะโมก่อนจะเริ่มเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ที่เขาและน้องนำมันมาจากบ้านเด็กกำพร้า นาวานั่งพับเสื้อผ้าใส่กระเป๋าท่ามกลางความเงียบงัน น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลลงอาบแก้มโดยไร้เสียงสะอื้น ความอ้างว้างหดหู่โอบล้อมรอบกายทำเอาร่างทั้งร่างหนาวยะเยือก ความจริงที่ตอกย้ำว่าเขาไม่เหลือใครแล้วทำให้นาวารู้สึกท้อแท้ เหนื่อยล้าเสียจนอยากจะตามไปอยู่กับน้องชายและพ่อกับแม่

มันคงจะดีกว่าหากเขาเป็นอีกคนที่สิ้นลมหายใจ

มันคงจะดีไม่น้อยหากนาวาจะได้ไปเจอพ่อแม่และณะโมอีก

ไม่มีเหตุผลอะไรให้เขาต้องมีชีวิตอยู่บนโลกโดยปราศจากคนที่รัก นาวาจะอยู่ไปทำไม จะอยู่กับความทรมานเหล่านี้ไปเพื่ออะไรในเมื่อท้ายที่สุดแล้วเขาก็ต้องอยู่เพียงลำพัง

ไม่หรอก นาวาขอเลือกตามไปอยู่กับครอบครัวเสียยังจะดีกว่าการใช้ชีวิตไปวันๆอย่างไร้จุดหมายแบบนี้

“นั่นสิ จะอยู่ไปทำไม” ร่างโปร่งพึมพำก่อนที่สายตาจะสะดุดเข้ากับกรรไกรที่วางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง นาวาลุกขึ้นเดินสะโหลสะเหลเข้าไปหยิบมันขึ้นมาไว้ในมือ ความคมวาววับของปลายกรรไกรตัดผมสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ ชายหนุ่มง้างกรรไกรขึ้นสูงอย่างไม่รอช้าก่อนจะแทงมันลงบนข้อมือขาวของตนเองอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วแขนพร้อมกับเลือดสีเข้มที่ไหลออกจากบาดแผล นาวาสบถในลำคอเมื่อนึกขึ้นได้ว่าควรจะแทงกรรไกรเข้าที่หัวใจมากกว่าจะทำงี่เง่าด้วยการแทงมันลงบนข้อมือ ร่างขาวดึงเอาปลายแหลมออกจากมาก่อนจะง้างขึ้นอีกครั้ง และตำแหน่งที่เขาจะปักมันลงบนผิวเนื้อในครั้งนี้ก็คือหน้าอกข้างซ้ายของตนเอง

แต่ยังไม่ทันจะได้ปลิดชีพตัวเองอย่างที่ใจนึก ประตูห้องก็ถูกเปิดด้วยฝีมือของพันเอกก่อนที่ชายหนุ่มจะเบิกตากว้าง นาวาหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะลงแรงดึงของมีคมในมือเข้าหาตัวทว่ากลับช้าเกินไป พันเอกถึงตัวของเขาก่อนที่ปลายกรรไกรจะได้ฝังลงบนอกของเขา

“คุณเอก! ปล่อย!” นาวาร้องเสียงหลงพลางยื้อเอาของในมือกลับมาหากแต่ถูกพันเอกแย่งไป ร่างสูงตะคอกใส่หน้าของนาวาด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าก่อนจะกดร่างโปร่งลงบนเตียงกว้าง

“บ้าไปแล้วหรือไงวา คิดจะทำอะไรหา!!!!”

“คุณก็เห็นอยู่ จะมาห้ามผมทำไม เอากรรไกรมานี่นะ!” นาวาเอ่ยพลางยื้อแย่งกรรไกรในมือ หากแต่พันเอกกลับกำมันแน่นไม่ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายได้มันไป

“อย่าทำอะไรไร้สติแบบนี้อีกนะนาวา รู้ไหมว่าฉันตกใจมากแค่ไหน”

“เรื่องของคุณ ก็ผมจะตาย ผมอยากตายคุณได้ยินไหม ผมอยากตาย!!!” นาวาตะโกนกร้าว คราวนี้ร่างโปร่งหลุดเสียงสะอื้นออกมาอย่างสุดทน สองแขนออกแรงทุบอกของพันเอกเต็มแรงโดยไม่สนบาดแผลบนหัวไหล่ของอีกคนเลยแม้แต่น้อย

“ผมจะอยู่ไปทำไมในเมื่อทุกคนทิ้งผมไปหมด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เห็นแก่ตัวทิ้งผมไปจนหมด ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งณะโม ทุกคนทิ้งผมไปหมดเลย!”

“...”

“ฮึก ทำไมถึงปล่อยให้ผมอยู่คนเดียว ทำไมต้องปล่อยให้ทรมานบนโลกคนเดียว ฮือ ไมไม่เอาผมไปด้วย ทำไมพวกเขาไม่เอาผมไปด้วย” ท้ายที่สุดนาวาก็ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะทน พันเอกคว้าข้อมือเล็กมาไว้ในมือพลางหยิบเสื้อมากดแผลให้อีกฝ่าย กลีบปากสีชาดก้มลงจูบขมับของอีกคนอย่างหวงแหนในขณะที่นาวายังคงร้องไห้ออกมาไม่หยุด

“ผมคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ ฮือ”

“ชู่ว วา ไม่เป็นไร ฉันอยู่ตรงนี้ ขอโทษนะ ฉันขอโทษ” พันเอกกระซิบข้างหู ร่างข้างใต้ของเขาสั่นระริก เสียงร้องไห้ดังเคล้ากับเสียงตัดพ้อต่อว่าคนที่จากไป นาวาในตอนนี้เหมือนคนไร้สติ ไม่สนใจบาดแผลของตนเอง ไม่แม้แต่จะสนใจพันเอกที่กำลังกอดตัวเองเอาไว้แน่นและจูบซับหยาดน้ำตาที่สองข้างแก้ม ร่างโปร่งเอาแต่ร้องไห้หาพ่อแม่เหมือนเด็กหลงทาง เสียงสะอื้นหนักทำเอาขอบตาของพันเอกร้อนผ่าว สองแขนกอดกระชับร่างของนาวาเข้ามาแนบอกก่อนจะเอ่ยขอโทษซ้ำไปซ้ำมาท่ามกลางเสียงคร่ำครวญของคนที่ไร้สติข้างกาย

“ไม่อยากอยู่แล้ว ฮึก ให้ผมตายเถอะ นะคุณเอก ให้ผมตาย” นาวาเว้าวอน พยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของคนตัวโตกว่าเพื่อไปคว้าเอากรรไกรที่พันเอกโยนทิ้งไปขึ้นมา

“ให้ผมตายนะคุณเอก ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมเจ็บ ฮึก ได้โปรด”

“วา อย่าเป็นแบบนี้ ฉันขอโทษ แต่อย่าเป็นแบบนี้”

“ฮึก ให้ผมไปอยู่กับพวกเขาเถอะนะ ผมไม่โกรธคุณหรอก ผมยกโทษให้ แต่ขออย่างเดียว ปล่อยผมไปเถอะนะ”

“วา อย่า”

“ให้ผมมีชีวิตเป็นของตัวเอง ปล่อยผมกลับไปอยู่ในโลกของผมได้ไหมครับ ผมขอร้อง โลกของผมอยู่กับพ่อกับแม่ ชีวิตของผมอยู่กับน้อง ผมต้องไปอยู่กับพวกเขา” นาวาอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พันเอกเม้มปากแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนี

นาวาเจ็บ เขาก็เจ็บ

เจ็บ...ที่เขาลงมือทำลายชีวิตของคนคนหนึ่งจนพังยับเยิน

หรือว่าเส้นทางระหว่างนาวาและพันเอก กำลังจะกลายเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบอย่างแท้จริง?
.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 18-04-2015 19:17:49
นาวาอาละวาดจนหลับด้วยความอ่อนเพลียในเวลาต่อมา พันเอกจัดการทำแผลให้กับคนตัวเล็กกว่าในขณะที่อีกคนจมลึกเข้าสู่ห้วงนิทรา โชคยังดีที่แผลของนาวาไม่ลึกมากนักแต่ก็ยังถือว่าน่าเป็นห่วง ชายหนุ่มจึงโทรตามแพทย์ให้มาดูอาการ เมื่อแน่ใจว่านาวาปลอดภัยดีแล้วเขาถึงได้โล่งใจ

ร่างสูงทอดสายตามองคนที่หลับลงเพราะฤทธิ์ยาก่อนจะลูบกลุ่มผมนุ่มของนาวาด้วยความทะนุถนอม ดวงตาคมจ้องมองคราบน้ำตาบนปรางแก้มใสของคนในอ้อมกอดพลางก้มหน้าลงไปจูบซับมันแผ่วเบา พระพายที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามามองภาพตรงหน้าแล้วก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้ พันเอกคงรักนาวามากจริงๆถึงได้ปฏิบัติต่ออีกฝ่ายแบบนั้น

“กินอะไรรองท้องหน่อยครับพี่เอก จะได้กินยาหลังอาหาร” คนตัวขาวบอกกับพี่ชายเสียงเบาก่อนจะยกถาดอาหารไปให้พันเอกถึงเตียง

“พาย อยู่คนเดียวได้ไหม” อยู่ๆพันเอกก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พระพายขมวดคิ้วมุ่นมองหน้าคนเป็นพี่ชายด้วยความฉงน

“ทำไมครับ”

“จะพานาวาไปอยู่ที่อื่นสักพักไง” ร่างสูงตอบพลางชำเลืองมองนาวาเล็กน้อย พระพายอมยิ้มกับประโยคของคนตรงหน้าก่อนจะรีบตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

“ได้ครับ เรื่องนั้นไม่มีปัญหา”

“แน่นะ” พันเอกถามขึ้นอีกครั้งด้วยความไม่แน่ใจ พระพายพยักหน้าหงึกหงัก ยืนยันหนักแน่นให้อีกคนสบายใจก่อนจะส่งยิ้มเป็นกำลังใจไปให้

“ไปเถอะครับ เชื่อผม จนกว่าพี่วาจะดีขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยกลับมา”

“อืม”

“แล้วพี่เอกจะไปเมื่อไหร่ครับ” คนเป็นน้องถามขึ้น พันเอกหันไปมองนาวาพลางลูบกระหม่อมของอีกคนก่อนจะตอบกลับไป

“วันนี้”

“...”

“จะไปวันนี้เลย แล้วก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ คงติดต่อกันยากหน่อยเพราะที่ที่จะไปแทบไม่มีอะไรเลย หรือบางทีอาจจะติดต่อกันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ” พันเอกพูดขึ้น พระพายมองใบหน้าหม่นหมองของคนเป็นพี่ก่อนจะยกมือขึ้นไปบีบแขนของอีกคนเบาๆ

“ไม่ต้องห่วงนะพี่เอก ไปเถอะครับ เดี๋ยวงานทางนี้พี่ยุกับพี่จักรจัดการให้”

“ขอบใจมากนะที่อยู่ข้างพี่ตลอดมา” พันเอกหันไปพูดกับน้องก่อนจะดึงพระพายเข้ามากอดหลวมๆ คนตัวขาวยกมือขึ้นกอดตอบร่างสูงก่อนจะยกยิ้ม

“ก็ผมเหลือพี่ชายอยู่แค่คนเดียวแล้วนี่นา”

“ดูแลตัวเองดีๆด้วยละ” ร่างสูงพูดพลางลูบหัวน้องแผ่วเบา พระพายพยักหน้ากับอกของอีกคนก่อนจะผละออกไป

และในวันนั้น สมาชิกทุกคนภายในบ้านกฤตภาสก็มายืนเรียงรายกันหน้าบ้านเพื่อส่งประมุขของบ้านขึ้นรถ พันเอกไม่ได้บอกใครว่าจะพานาวาไปไหน ชายหนุ่มทำเพียงแค่ฝากฝังให้ทุกคนดูแลตัวเองก่อนจะอุ้มร่างของนาวาที่หลับลึกขึ้นรถและขับออกไป

พระพายมองตามท้ายรถของพี่ชายด้วยสายตาราบเรียบ อยู่ๆในอกก็รู้สึกวูบโหวง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าบทสรุปของการกระทำทุกอย่างจะลงเอยเช่นนี้ แม้ปากจะบอกให้พันเอกไป หากแต่อีกฝ่ายไปจริงๆเขากลับรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ให้ความรู้สึกไม่เหมือนเคย อีกทั้งการหายไปอย่างเงียบๆเท่ากับเป็นการหนีปัญหาที่ยังคาราคาซังอยู่ด้วย

ทางด้านพายุที่สังเกตเห็นแววตาวูบไหวของคุณหนูคนเล็กของบ้านก็ยกยิ้มอย่างเข้าอกเข้าใจ ร่างโปร่งเดินเข้าไปคว้ามือของพระพายมากุมเอาไว้ก่อนจะบีบเบาๆ

“เมื่อทุกอย่างดีขึ้นคุณเอกจะกลับมาครับ” คนเป็นลูกน้องเอ่ยขึ้น พระพายยิ้มตอบก่อนจะพยักหน้า

“แล้วฝั่งนั้นมีท่าทีเอาคืนอะไรไหมครับพี่ยุ” พระพายถามถึงราม ในใจอดสั่นไหวไม่ได้เมื่อต้องเอ่ยชื่อผู้ชายคนนั้น ทั้งๆที่ตั้งใจว่าอดีตก็เป็นเพียงแค่อดีต เขาโยนทุกความทรงจำทิ้งไปและเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว หากแต่ลึกๆในใจแล้วมลทินที่ผู้ชายคนนั้นลวงหลอกให้เขาหลงใหลก็ยังคงสะกิดใจทุกครั้งที่นึกถึง

ไหนจะแหวนที่ห้อยอยู่ที่ลำคอขาวของเขานี่อีก

มันควรจะถูกทิ้งไปตั้งนานแล้วแต่พระพายกลับทิ้งมันไม่ลง เขายังคงใส่เอาไว้เพื่อตอกย้ำว่าครั้งหนึ่งเคยโง่งมงายให้รามหลอกทำร้ายจิตใจอย่างเลือดเย็น และแน่นอนว่าครั้งนี้พระพายจะไม่ยอมตกเป็นเบี้ยล่างให้รามทำอะไรได้อีก

“คนของเรารายงานมาว่าทางนั้นยุ่งอยู่กับรายได้ของบริษัทอยู่ครับ คงเพราะหายไปนาน เห็นว่าหุ้นตกเยอะเอาการ คงจะประวิงเวลาให้ไม่มาวุ่นวายกับเราได้สักสองสามอาทิตย์หรือมากกว่านั้น”

“อืม ถึงตอนนั้นผมก็ปิดเทอมพอดี เดี๋ยวผมยกเลิกทริปขึ้นเหนือดีกว่า จะได้อยู่ช่วยพวกพี่รับมือกับคนพวกนี้ด้วย” พระพายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด พายุชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยค้านด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ไม่ดีหรอกครับคุณพาย ปิดเทอมเป็นเวลาหาประสบการณ์นะครับ คุณพายอยากขึ้นไปสอนเด็กม้งบนดอยมากเลยไม่ใช่เหรอ ทางนี้ผมกับพี่จักรรับมือไหว”

“แต่ผม...”

“ไปเถอะครับ ถือซะว่าไปพักผ่อนด้วยนะครับคุณครู” พายุกระเซ้า พระพายหน้าแดงก่ำเพราะยังไม่ชินกับการที่มีคนมาเรียกตัวเองว่าคุณครูนัก คนตัวขาวฟาดเพียะลงบนไหล่ของพายุเต็มแรงจนอีกคนร้องโอดโอยเสียลั่น

“โอ๊ย มือหนักจัง!”

“พี่ยุ!”

“โอ๋ๆ ผมยอมแล้ว เข้าบ้านเถอะครับ เราต้องคุยกันเรื่องงานศพของคุณณะโมอีก” พายุพูดขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ พระพายเองก็หยุดกึกไปทันทีก่อนจะปรับสีหน้าให้ราบเรียบ คิ้วเข้มขมวดเล็กน้อยพลางกัดริมฝีปากแน่น

“พี่วาจะเป็นยังไงนะถ้ารู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่จัดงานศพน้องแบบนั้น”

“ผมว่าคงอาละวาดใส่คุณเอกยับแน่ๆ หรือไม่ก็อาจจะนิ่งเงียบเสียจนน่ากลัว” พายุสันนิษฐาน ในใจก็ได้แต่ภาวนาขอให้นาวาไม่อาละวาดเสียจนเกิดอะไรร้ายแรงขึ้นซ้ำอีก แล้วก็ขอให้เจ้านายของเขาซื้อใจของนาวามาให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะต้องสิ้นสุดลงอย่างแท้จริง

 

 

 

 

หลายวันให้หลังงานศพของณะโมก็ถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆที่วัดแห่งหนึ่งไม่ใกล้ไม่ไกลจากละแวกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ช่วงเวลาที่ผ่านมาคนในบ้านกฤตภาสต่างก็วิ่งวุ่นกันหมดเนื่องจากงานที่รัดตัว จักรที่อยู่ในฐานะรองผู้บริหารและพายุเองก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพราะพันเอกไม่อยู่ โชคยังดีที่พวกเขาทั้งคู่ได้รับการยอมรับจากคนในบริษัทจึงไม่เป็นปัญหาในยามที่ประธานบริษัทขอลาพักผ่อนแบบไม่มีกำหนดเช่นนี้ ส่วนพระพายเองก็ต้องวิ่งวุ่นกับการสอบและเคลียร์งานที่มหาวิทยาลัย อีกทั้งยังต้องเป็นเจ้าภาพในงานศพของณะโม ทำเอาร่างเล็กถึงกับสะโหลสะเหลเนื่องจากอดนอนมาหลายวัน หวิดจะล้มหมอนนอนเสื่อจนทุกคนในบ้านเป็นห่วง

และแม้จะมีงานล้นมือมากมาย หากแต่พระพายก็หวังเอาไว้ลึกๆว่าพันเอกจะติดต่อกลับมาบ้าง หากแต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไร้วี่แวว จากที่คิดว่าตัวเองตัดสินใจดีแล้วที่แนะนำพี่ชายไปแบบนั้นพระพายก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ความกระวนกระวายใจที่ไม่รู้ว่าพันเอกกับนาวาเป็นตายร้ายดีอย่างไรทำเอาพระพายเครียดหนักกว่าเดิม และในที่สุดคุณหนูคนเล็กก็วูบหมดสติกลางงานศพในวันที่สองทำเอาทุกคนใจหาย

“นี่ไงคะ ป้าบอกแล้วไงว่าพักบ้าง คุณพายก็ไม่เชื่อป้าเลย” เอื้องคำเอ็ดคนที่นอนแผ่หลาอยู่บนเตียงนอน พระพายหัวเราะแหะกลับมาให้ก่อนจะเอ่ยขอโทษอีกคนเบาๆที่ทำให้เป็นห่วง

“เฮ้อ เอาเถอะค่ะ พรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้ว คุณพายไม่ต้องไปก็ได้นะคะ”

“ไม่ได้ครับป้าเอื้อง ยิ่งวันสุดท้ายยิ่งต้องไป ผมไม่เป็นอะไรจริงๆ” คนตัวขาวยืนยันเสียงหนักแน่นทำเอาคนอายุมากกว่าส่ายหน้าอย่างอ่อนอกอ่อนใจในความดื้อดึง หญิงสูงวัยจัดการให้พระพายดื่มนมหนึ่งแก้วตามด้วยยาบำรุงก่อนจะบังคับให้ร่างเล็กนอนพักผ่อน เพียงไม่นานพระพายก็หลับสนิทด้วยความอ่อนล้า เอื้องคำมองชายหนุ่มตรงหน้าพลางลูบกลุ่มผมนุ่มแผ่วเบา พระพายหน้าเหมือนแม่มากเหลือเกิน ทั้งผิวพรรณขาวผ่อง โครงหน้าได้รูป ริมฝีปากสีธรรมชาติและจมูกโด่งรั้นเล็กจุ๋มจิ๋ม หากแต่สิ่งที่เหมือนผู้เป็นพ่อมีเพียงอย่างเดียวคือดวงตา

ดวงตาที่เมื่อมองยามใด เอื้องคำก็ได้แต่รู้สึกยอกในอก แววตาเด็ดเดี่ยวดื้อรั้นของพระพายหวนให้เธอนึกถึงใครคนหนึ่ง

“แกน่าจะได้มาเห็นตาหนูของแก เจ้ากร...” หญิงสูงวัยพึมพำเสียงบางเบาท่ามกลางความเงียบงัน ชื่อที่เอื้อนเอ่ยไม่ใช่ชื่อของพัฒพงษ์อย่างที่ควรจะเป็น หากแต่เป็นชื่อต้องห้ามในบ้านหลังนี้

ชื่อของคนที่เป็นผู้ให้กำเนิดของพระพายอย่างแท้จริง

 

โปรดติดตามตอนต่อไป

 

Talk…
ไหนใครบอกว่าไม่ดริฟท์แล้ว พูดดดดด (เอ็งอ่ะแหละ) อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วยังจะพาดริฟท์อีกเนาะ 5555555
เพราะฉะนั้นถ้านิยายยังไม่จบอย่าเพิ่งวางใจว่าจะไม่พาดริฟท์นะคะ ฮู่วววว >w<
ไม่มีอะไรจะพูดมาก ต้องรออ่านกันเอาเองเนาะ เหลืออีกประมาณ 5 ตอนก็ลาจอแล้วจ้ะ (คนอ่านบอกใกล้เวลาเลิกทรมาน ฮาาา)
สุดท้ายนี้ ขอบคุณทุกกำลังใจนะจ๊ะ อ่านแล้วใครใจดีก็ติชมได้น้า
เจอกันตอนหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-04-2015 19:36:59
 :monkeysad:   สงสารนาวา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 18-04-2015 19:48:47
 :เฮ้อ: สงสารพระพายล่วงหน้า  :sad11:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 18-04-2015 19:49:17
ก้งงกะตัวเองอยู่ ตั้งใจว่าจบละค่อยอ่าน เจออัพทีไรก้มาอ่านทุ้กกกที รุ้ว่ามันเศร้าก้ยังหน้ามึนอ่านต่อไป จบเรื่องนี้น้ำตาไหลสงสารหนุพายต่อเรื่องโน้นอีก โอ้ชีวิต :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 19-04-2015 09:38:16
สะใจ  5555+

จัดมาเลย  ดราม่า หนักๆ   พระเอกตาย นายเอกเป็นบ้า  ก็จัดมา  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 24-04-2015 04:40:57
แง้มประวัติพาย แต่ถึงจะคนละพ่อ ยังไงพันเอกก็ยังคงรักพายไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ดีคงไม่ทำร้ายเหมือนเทียน แต่เอาจริงๆลึกๆๆๆๆๆๆๆคิดว่าพันเอกก็รักเทียนนะ รอดูถ้าพันเอกรู้ว่าคนอื่นมาทำร้ายเทียน คงจะได้เห็นสายใยความเป็นพี่ที่จริงๆแล้วก็ยังมีต่อเทียน ยิ่งตอนนี้นิสัยเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้เริ่มห่วงพายละ นาวาสู้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-04-2015 19:09:55
:: CHAPTER 21 ::
เริ่มต้นจาก 0

 

อากาศเย็นสบายในตอนเช้าตรู่ปลุกให้พันเอกลืมตาตื่นขึ้นมาช้าๆ ชายหนุ่มวาดมือไปข้างกายที่ซึ่งมีร่างของใครอีกคนนอนร่วมเตียงเคียงหมอนก่อนจะดึงนาวาเข้ามาใกล้ จมูกโด่งก้มลงสูดดมความหอมของนาวายามหลับอย่างที่ทำเป็นประจำในตอนที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว ร่างโปร่งขมวดคิ้วมุ่นครางอืออาเสียงเบาก่อนจะค่อยๆปรือตาขึ้นอย่างช้าๆ

พอเห็นว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอ้อมกอดใครนาวาก็ออกแรงดิ้นอย่างเช่นทุกครั้ง ความโกรธเคืองที่ถูกพันเอกพาตัวออกจากบ้านโดยพลการยังคงกรุ่นกลิ่นอยู่ในอก แม้เวลาจะผ่านไปหลายวันแล้วหากแต่มันไม่ได้ช่วยให้นาวารู้สึกดีขึ้นสักนิด

“ปล่อย!” นาวาแหว ดวงหน้าได้รูปตวัดมองคนตัวโตกว่า ใจหนึ่งอยากจะจิกเล็บลงบนแผลที่ไหล่ของอีกคนนักแต่ก็ไม่กล้าพอ

“ขอโทษ” ทางด้านพันเอกเองเมื่อเห็นว่านาวาไม่พอใจมากจริงๆก็เอ่ยขอโทษแผ่วเบาก่อนจะยอมปล่อยอีกคนให้เป็นอิสระ นาวาผุดตัวลุกขึ้นนั่งแทบจะในทันทีก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและคว้าผ้าเช็ดตัวขึ้นมา ร่างโปร่งหยิบเสื้อผ้าที่พันเอกพับเอาไว้ให้ที่มุมห้องก่อนจะเดินลงจากบ้านไปโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่น้อย จุดหมายคือห้องน้ำหลังบ้านที่ตั้งห่างออกไปไม่ไกลนัก นาวาเดินลงบันไดบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิดก่อนจะเหลือบตามองลูกหมาจรจัดที่ชอบมาขอข้าวเขากินเป็นประจำ

“ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นด้วยหรอกนะวันนี้” ชายหนุ่มเอ็ดใส่เจ้าตัวเล็กพันทางหน้าตามอมแมม สัตว์สี่ขาแสนรู้เอียงคอมองเขาก่อนจะเห่าออกมาเสียงเล็กเสียงน้อย นาวาถอนหายใจกับอารมณ์ที่ไม่คงที่ของตนเองก่อนจะสะดุ้งไปเล็กน้อยเมื่อพันเอกเดินตามลงมาและวางมือลงบนไหล่เขา

“ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวฉันให้ข้าวเจ้าหลงมันเอง” พันเอกเอาใจ ด้วยรู้ดีว่าตั้งแต่ถือวิสาสะพาอีกคนมาที่นี่นาวาก็มีเพียงลูกสุนัขจรจัดตัวนี้เท่านั้นที่ช่วยคลายเหงาให้ สถานที่ที่พันเอกพานาวามาอยู่นั้นไม่มีอะไรเลย มันเป็นบ้านไม้สองชั้นยกตัวขึ้นสูงตามแบบฉบับบ้านของชาวบ้านตามชนบททั่วไป บนบ้านมีเพียงห้องนอนกับลานโล่งๆ ไม่มีทีวีหรือเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ใดๆ สิ่งอำนวยความสะดวกเดียวที่มีให้คือไฟฟ้าที่ติดๆดับๆบ้างเป็นบางครั้ง

ชั้นใต้ถุนเป็นแคร่ไม้สีเหลี่ยมผืนผ้าสำหรับนั่งเล่น ข้างๆมีเปลผูกเอาไว้ไม่ไกลนัก มีห้องขนาดพอดีเอาไว้ใช้เป็นห้องครัว ข้างในมีแค่เตาแก๊ส เตาถ่าน และเครื่องปรุงอีกสองสามอย่าง ส่วนห้องน้ำจะอยู่ห่างออกไปทางหลังบ้าน เดินประมาณสิบเก้าก็จะถึง

บ้านหลังนี้เป็นบ้านของคนที่พันเอกรู้จัก เขาติดต่อขอมาอยู่ชั่วคราวเพราะที่นี่เหมาะสำหรับใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและเงียบสงบ ห่างออกไปเกือบยี่สิบกิโลก็จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ  นอกจากที่นี่จะปลีกวิเวกยากต่อการค้นหาแล้ว พื้นที่ตรงนี้ยังอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติภูเรือเสียด้วย สิ่งที่ต้องระวังในยามค่ำคืนคือสัตว์ป่า แม้อุทยานจะมีรั้วรอบขอบชิดแต่พันเอกก็ยังเป็นห่วงนาวาอยู่ดี ยิ่งนาวายังอารมณ์ขึ้นๆลงๆแบบนี้เขาก็ยิ่งปล่อยให้ห่างตัวไม่ได้

พันเอกยังจำได้ดี วันแรกที่พวกเขามาถึงที่นี่นาวาอาละวาดหนัก เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายใช้กำลังทุบตีเขา นาวากรีดร้องก่นด่า บางครั้งถึงกับหยิบมีดในครัวมาขู่เขา หากแต่พันเอกกลับยอมให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกายเขาจนพอใจ ขอแค่นาวาไม่ทำร้ายตัวเองก็พอ

วันเวลาผ่านไป จากคำกรีดร้องกลายเป็นอ้อนวอน นาวาขอให้เขาพากลับบ้าน ไปร่วมงานศพของน้อง แต่พันเอกก็ไม่สามารถให้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการได้ และเมื่อรับรู้ว่าวอนขออย่างไรก็ไร้ประโยชน์ หลังจากนั้นไม่นานนาวาก็ไม่เอื้อนเอ่ยอะไรอีก เอาแต่ทำท่าทีโกรธเคืองพันเอกอยู่ตลอดเวลา และพูดคุยเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

พันเอกเองก็ไม่ได้เร่งรัด เขาใจเย็นขึ้นมากและรอเวลา รอให้นาวาเปิดใจคุยกันแบบมีเหตุผล ค่อยๆปรับความเข้าใจกันอย่างช้าๆและพันเอกเองก็พร้อมจะยอมรับผิดในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำลงไป

เขาพร้อมจะชดใช้ทุกอย่างให้นาวา แม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง พันเอกก็ยินยอมที่จะสังเวยมันเพื่อไถ่บาป

พันเอกยอม ยอมทุกอย่างแล้วจริงๆ

ช่วงสายของวันพันเอกปล่อยให้นาวานอนหลับอยู่บนเปลใต้ถุนบ้านเพียงลำพัง ส่วนตัวเขานั้นก็คว้ากุญแจรถและขับรถไปยังหมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ห่างออกไป พันเอกนัดกับคนรู้จักให้ซื้อน้ำมันมาให้ อีกฝ่ายชวนเขาให้อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยกันเสียก่อนแต่พันเอกก็รีบปฏิเสธเพราะเป็นห่วงนาวา ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะไปรับเอาน้ำมันที่ฝากซื้อและตรงดิ่งกลับบ้าน

“คนที่อยู่ที่บ้านเนี่ย สำคัญมากเลยเหรอวะ มากี่ทีๆก็รีบกลับ ไม่อยู่กินข้าวกินปลาด้วยกันเลย” เสือแสน อดีตนักค้าอาวุธเถื่อนที่ผันตัวไปทำงานช่วยตำรวจและเป็นเจ้าหน้าที่ประจำอุทยานแห่งชาติถามขึ้น เขารู้จักพันเอกเพราะทั้งคู่เคยให้ความช่วยเหลือแก่ตำรวจในคดีเปิดโปงธาตุแท้ของนักการเมืองทุจริตคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน แม้จะไม่สนิทกันมากนักแต่พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าทั้งคู่ไว้ใจกันและกันได้

“สำคัญพอๆกับน้องชาย” พันเอกตอบคำถามของอีกคนในขณะยกน้ำมันขึ้นไว้ท้ายกระบะ คนถามแค่นหัวเราะกับคำตอบของพันเอกก่อนจะมองใบหน้าคมคายที่ดูซีดเซียวลงไปถนัดตา

“ไปทำระยำกับเขาเอาไว้เยอะสิท่า ถึงได้ถ่อมาปรับความเข้าใจกันถึงนี่”

พันเอกไม่ตอบ นั่นยิ่งยืนยันในสิ่งที่แสนคิดว่ามันถูกต้อง ร่างสูงเดินเข้าไปหาพันเอกพลางยกมือขึ้นตบบ่าแกร่งเบาๆเป็นเชิงให้กำลังใจ

“ถ้ามันไม่ร้ายแรงมาก เชื่อเถอะว่าเดี๋ยวเขาก็ใจอ่อน”

“หึ แล้วถ้ากูเป็นต้นเหตุให้น้องชายเขาตายล่ะวะ มึงยังคิดว่าเขาจะใจอ่อนให้กูอยู่ไหมไอ้แสน” พันเอกสวนขึ้น แค่นยิ้มสมเพชให้กับตัวเองก่อนจะพูดต่อ

“กูไม่แม้แต่จะให้เขาอยู่จัดงานศพน้องด้วยซ้ำ”

“แล้วมึงก็จะไถ่โทษเขาแบบลุ่มๆดอนๆแบบนี้เนี่ยเหรอวะ? นี่ มึงฟังนะไอ้เอก วันนี้เขาอาจจะเกลียดมึง แต่เมื่อเวลาผ่านไปในอนาคต เชื่อเถอะว่าความรู้สึกของคนเรามันก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คนทุกคนเกิดมาก็ต้องตายก็ทั้งนั้นแหละ”

“...”

“ดูอย่างกูกับเมียสิ เมื่อก่อนอรเขาเป็นลูกตำรวจใหญ่ในขณะที่กูเป็นโจรค่าหัวสูงลิ่ว ที่ลูกชายกูตายก็เพราะมีพ่อของอรเขาเป็นต้นเหตุ แต่แล้วไง มันเป็นเพราะอุบัติเหตุ ไม่มีใครอยากให้มันเกิด พอเวลาผ่านไปกูก็เห็นอะไรๆมากขึ้น ความมีสติทำให้กูเป็นคนมีเหตุผลมากขึ้น เราชุบชีวิตคนตายไม่ได้หรอกนะไอ้เอก เรากลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เรากำหนดอนาคตเองได้”

“มันไม่เหมือนกันไอ้แสน กูทำร้ายเขา ทำชีวิตเขาพัง ทำให้เขาไม่เหลือใคร กูจะมีหน้าไปขอให้เขารักกูอีกเหรอวะ” พันเอกพูดพลางขมวดคิ้ว อีกฝ่ายทำเพียงแค่ยกยิ้มก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“กูก็เคยทำร้ายอร เคยแค้นที่พ่อของอรฆ่าลูกกู กว่ากูจะคิดได้ว่ากูรักเขาก็เกือบจะเสียลูกตัวเองไปอีกคนแล้ว มึงน่ะยังดีที่รู้ใจตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ”

“...”

“มึงก็อย่าคิดว่ามึงทำเพราะขอให้เขาเห็นใจสิ มึงก็แค่ทำไปเรื่อยๆ เคยทำร้ายเขามากเท่าไหร่ก็ชดใช้ให้มากกว่าเดิม สิ่งที่มึงทำคือการชดเชย ชดเชยโดยไม่หวังว่าจะได้อะไรกลับมาไหม  ยิ่งมึงบอกว่ามึงทำลายชีวิตเขา มึงเองนั่นแหละที่ต้องมอบชีวิตของตัวเองทดแทนในส่วนที่เขาไม่มีโดยไม่ต้องคิดไม่ต้องถามว่าผลสุดท้ายแล้วเขาจะให้อะไรมึงกลับมา” แสนพูดขึ้นก่อนจะยกยิ้มเมื่อเห็นลูกชายวิ่งฉิวเข้ามาเกาะขา

“สำหรับกู การปล่อยให้คนที่เรารักไปเผชิญโลกคนเดียวโดยไม่ยอมทำอะไรเลยไม่เรียกว่าไถ่โทษ มันเรียกว่าผลักภาระ แต่การมอบชีวิตของตัวเองและทุกสิ่งทุกอย่างที่มีชดใช้เขาและดูแลเขาให้ดีที่สุดต่างหากถึงจะเรียกว่าไถ่โทษ”

“แต่…”

“ชดเชยสิ่งที่มึงช่วงชิงมาซะ หาวิธีอุดรอยโหว่ที่มึงทำเอาไว้ มันอาจจะทดแทนกันไม่ได้ แต่ก็ดีกว่าปล่อยเขาไปตามทางหรือทำไปเพราะรอความเห็นใจแบบที่มึงกำลังทำอยู่  ถ้าท้ายที่สุดแล้วเขายังต้องการที่จะเดินจากไป ถึงตอนนั้นมึงค่อยปล่อยเขาไป เชื่อกู”

เสือแสนทิ้งท้ายให้พันเอกได้สะกิดในใจก่อนจะขอตัวอุ้มลูกชายเข้าบ้าน พันเอกมองตามแผ่นหลังของคนที่ครั้งหนึ่งเคยทำผิดพลาดมากมายอย่างนึกชื่นชม แสนพูดถูก เขาไม่ควรเอาแต่คิดเองเออเองว่านาวาจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ ไม่ควรพะว้าพะวงหรือกังวลว่าผลสุดท้ายแล้วนาวาจะยกโทษให้หรือไม่ ที่ผ่านมาแม้พันเอกจะตั้งใจไถ่โทษ แต่ลึกๆแล้วเขาก็ยังเห็นแก่ตัวที่อยากให้ผลของการกระทำออกมาในรูปแบบที่ต้องการ เขาทำเพื่อให้นาวายกโทษให้ ไม่ได้ทำเพื่อชดเชยความรู้สึกและศักดิ์ศรีของอีกฝ่ายอย่างแท้จริง

แต่หลังจากนี้พันเอกจะไม่สนสิ่งที่จะได้รับ เขาจะเดินหน้าชดเชยสิ่งที่เขาพรากมาจากนาวา พันเอกจะไถ่โทษทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำเอาไว้ ไม่ว่าคำตอบของนาวาจะออกมาในรูปแบบไหน เขาก็จะยอมรับมัน บัดนี้นาวาเป็นประกาศิตอยู่เหนือเขาทุกอย่าง

นาวาอยู่เหนือพันเอกในทุกๆอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ชีวิต

และหัวใจ…

 

 

 

เกือบสามสิบนาทีให้หลังรถยนต์ของพันเอกก็แล่นเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ชายหนุ่มแบกแกลลอนน้ำมันลงจากรถพลางมองไปยังใต้ถุนบ้านเพื่อมองหานาวา คิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างรวดเร็วเมื่อพบว่าบริเวณนั้นมีเพียงเจ้าหลงนอนหลับอยู่ พันเอกใจกระตุกวูบพลางจ้ำอ้าวขึ้นชั้นบน วางถังน้ำมันลงและเดินไปยังห้องนอน ร่างสูงเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นนาวากำลังจะแขวนคอตัวเองกับคานไม้บนเพดาน

“วา!!!” พันเอกเรียกชื่อนาวาเสียงดังลั่นห้องก่อนจะก้าวเท้ายาวๆเข้าไปคว้าร่างของอีกคนเอาไว้ได้ทัน ร่างสูงดึงนาวาออกมาให้ห่างจากผ้าปูที่นอนที่อีกฝ่ายดึงออกมาจากเตียงก่อนจะดันร่างของนาวาให้ขยับเข้าไปชิดผนังและเอาตัวเองกักเอาไว้

“นายคิดจะทำอะไรของนาย!” คนตัวโตตะคอกใส่ใบหน้าขาว ดวงตาวูบไหวด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว นาวากำลังจะผูกคอตาย และถ้าพันเอกมาช้ากว่านี้เขาคิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นยังไง

“ปล่อยนะ!”

“อยากให้ฉันอกแตกตายนักหรือไงวา อย่าทำอะไรสิ้นคิดแบบนี้อีก” พันเอกยังคงพูดในขณะที่นาวาเอาแต่ก้มหน้าเม้มปากแน่น ร่างขาวโปร่งสั่นสะท้าน นึกโกรธเคืองอีกคนมากนักที่คอยแต่จะเข้ามาทำให้นาวารู้สึกแย่ไปหมด

“คุณจะรู้สึกยังไงนั่นมันก็เรื่องของคุณ แต่ผมไม่อยากอยู่ มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องอยู่ในเมื่อคนที่ผมรักตายไปหมดแล้ว!” นาวาเถียงขึ้นมาบ้างจนพันเอกชะงัก

“นายคิดว่านี่คือทางออกเหรอ นายไม่เห็นถึงคุณค่าของตัวเองเลยหรือไง นายคิดว่าพ่อกับแม่นาย รวมถึงณะโม พวกเขาจะดีใจเหรอที่เห็นนายยอมแพ้เอาง่ายๆแบบนี้”

“อย่าเอาคนตายมาอ้างนะ! หยุดพูดถึงครอบครัวของผมซะที คนอย่างคุณมันจะไปรู้อะไรล่ะ เก่งแต่พรากความสุขของคนอื่นไม่ใช่เหรอ อย่างคุณมันจะไปรู้อะไรได้ คิดอะไรเป็น ไอ้คนเห็นแก่ตัว!” นาวาด่ากราด ความรู้สึกที่เก็บกดมานานระเบิดออกมาอย่างห้ามไม่ได้ สองแขนยกขึ้นทุบไหล่ของคนตรงหน้าซ้ำๆพลางพร่ำบอกให้พันเอกเปิดทางให้เขา

“ออกไปให้พ้น ปล่อยผมไปสักทีคุณเอก ผมทรมานจะตายอยู่แล้วคุณรู้บ้างไหม แค่ปล่อยให้ผมตาย แค่ยอมให้ผมไปอยู่กับครอบครัวตัวเองมันยากตรงไหน มันยากตรงไหน!!!”

“ยากตรงที่ฉันรักนายไง!”

“!!!”

“ฉันรักนาย รักนายมากจนยอมทิ้งทุกอย่าง ยอมหยุดทั้งๆที่รอการแก้แค้นนี่มาเป็นสิบปี ยอมก้มหัวให้ แล้วจะให้มองคนที่ฉันรักฆ่าตัวตายน่ะเหรอ” พันเอกพูดขึ้นบ้าง จ้องตากับนาวาที่บัดนี้ยืนนิ่งกับคำพูดของเขา

“ฉันเสียนายไปไม่ได้วา เสียใครไปไม่ได้อีกแล้ว” พันเอกพูดพลางซบหน้าลงกับลาดไหล่เล็กของอีกคน สองแขนตวัดร่างนาวาเข้ามากอดแน่นด้วยความหวาดกลัว สองร่างสั่นสะริกอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน

“อยู่กับฉันได้ไหมวา อยู่ด้วยกันนะ” พันเอกกระซิบกับร่างที่เริ่มสั่นเพราะแรงสะอื้น นาวาขยุ้มเสื้อของพันเอกเต็มแรงขณะซบหน้าลงกับอกของคนตัวสูงกว่า

“แต่ณะโมตายแล้ว ฮึก เขาตายในบ้านหลังนั้น ผมกลับไปอยู่ที่นั่นไม่ได้ ผมอยู่กับคุณไม่ได้ เรารักกันไม่ได้คุณเอก” นาวาพูดพลางกลั้นสะอื้น พันเอกมาพูดอะไรเอาป่านนี้ อีกฝ่ายมารักเขาทำไมในตอนนี้ คำสารภาพของคนคนนี้ไม่ได้ช่วยให้นาวารู้สึกดีขึ้นเลย แต่ในทางกลับกันนาวารู้สึกแย่ลงกว่าเดิม ทำไมโลกถึงต้องเหวี่ยงคนที่ไม่สมควรจะรักมาให้เขาอยู่ร่ำไป

“ผมรักคุณไม่ได้” ร่างโปร่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดก่อนจะเม้มปากแน่น พันเอกหลับตาลงเมื่อได้ฟังประโยคนั้นจบ สองแขนกระชับร่างของนาวาเอาไว้แน่นก่อนจะเอียงหน้าเข้าไปจูบขมับบางของนาวาซ้ำๆแล้วกระซิบข้างหู

“ไม่ต้องรักกันก็ได้ แต่อย่าเกลียดกันได้ไหมวา”

“...”

“ฉันขอในฐานะผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง อย่าเกลียดฉัน และอย่าคิดฆ่าตัวตายอีก” พันเอกวอนขอเสียงแผ่วเบาจนนาวาเจ็บในอก ร่างสูงผละออกมาสบตากับนาวาพลางยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาออกจากแก้มขาว ริมฝีปากสีชาดเคลื่อนเข้าไปจูบซับน้ำตาบริเวณหางตาเปียกชื้นของอีกคน เรื่อยลงมายังปรางแก้มทั้งสองข้างก่อนจะคล้อยต่ำลงไปยังมุมปากเล็กของอีกคนแผ่วเบา

ชั่ววินาทีที่พันเอกกำลังจากเลื่อนหน้าเข้าไปจูบซับกลีบปากนุ่มหยุ่นของอีกคน นาวาก็ได้สติเสียก่อน ร่างโปร่งขืนตัวออกห่างจากพันธนาการก่อนจะเบือนหน้าหนี

“คุณจะยอมชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปไหม” คนตัวขาวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พันเอกเอียงหน้าเข้าไปกดจูบทั่วสันกรามได้รูปของอีกคนพลางพยักหน้า ร่างสูงดันนาวาลงนอนราบไปกับพื้นห้องก่อนจะคร่อมกาบลงไปทาบทับเหนือคนตัวเล็กกว่า นาวามองลำคอแกร่งและคางของอีกฝ่ายก่อนจะพูดต่อ

“คุณจะยอมทำทุกอย่างจนผมพอใจ แล้วปล่อยผมไปมีชีวิตในแบบที่ผมต้องการไหม”

“...” พันเอกถึงกับเงียบเมื่ออีกฝ่ายพูดประโยคนี้จบลง ชายหนุ่มจ้องมองแววตาแนวแน่ของนาวาด้วยความเจ็บปวดก่อนจะจำใจพยักหน้า

“งั้นรักผม รักให้มากๆ รักให้หมดทั้งหัวใจของคุณ” นาวาพูดพลางยกสองมือขึ้นประคองแก้มของพันเอกเอาไว้ ร่างโปร่งออกแรงดึงให้อีกฝ่ายโน้มตัวลงมารับจูบจากเขาก่อนจะผละใบหน้าออกมาและกระซิบชิดริมฝีปากของอีกคนด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“รักผมให้มากกว่าชีวิตของคุณ แล้วหลังจากวันนี้ นี่จะเป็นบทลงโทษที่คุณควรได้รับมัน” จบประโยคนาวาก็ยินยอมทอดกายให้พันเอกเชยชมอีกครั้งอย่างไม่อิดออด เสียงครางหวานหูดังขึ้นคละเคล้าไปกับเสียงจังหวะเร่าร้อนระหว่างคนสองคน นาวายอมให้พันเอกตักตวงความหอมหวานจากร่างกายไปเท่าที่เจ้าตัวต้องการ ร่างโปร่งยอมให้อีกฝ่ายสอดใส่ถาโถมเข้ามาในกายครั้งแล้วครั้งเล่า ปล่อยตัวไปใจไปกับอารมณ์ใคร่ของร่างกายที่ปะทุขึ้น

รักเสียให้พอ ตักตวงให้มากๆ

ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้แตะต้องกายของเขาอีก

จนกว่าจะสาสม พันเอกจะไม่มีวันได้แตะต้องหรือได้รับแม้แต่เศษซากของหัวใจที่นาวาเป็นอันขาด

ไม่มีวัน...





งานสวดศพของณะโมในวันสุดท้ายปรากฏร่างของคนที่พระพายไม่เคยคิดว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง การมาของรามสร้างความหวดหวั่นให้กับเขาไม่น้อย พระพายจ้องร่างสูงกำยำของอีกคนด้วยความตกใจ นึกขัดใจตัวเองอยู่ในทีเมื่อความรู้สึกส่วนลึกดันโล่งอกที่เห็นว่ารามปลอดภัยดี แม้ร่างกายจะซูบผอมไปบ้าง หากแต่ความน่าเกรงขามของรามก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย

ทำไมเขาจะต้องห่วงคนคนนี้อยู่ตลอด

ทำไมพระพายถึงไม่หลาบจำว่าอดีตที่เคยเจอมันเลวร้ายมากแค่ไหน

น่าสมเพชสิ้นดี

“ไม่คิดจะเชิญกันหน่อยเหรอ” นายหัวหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนตัวขาวพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา พระพายเก็บความรู้สึกลึกลงไปในใจก่อนจะทำทีเบือนหน้าหนี

“ทำไมต้องเชิญ คุณไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับผมหรือว่าคนตายสักหน่อยนี่ครับ” พระพายพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไม่แพ้กัน ส่งผลให้ดวงตาของรามวาวโรจน์ขึ้นมาพลางหัวเราะในลำคอ

“พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยนะพระพายว่าเราไม่เกี่ยวข้องกัน ฉันเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าถ้าฉันป่าวประกาศให้คนเขารู้ว่านายเคยเกี่ยวกับฉันในห้องเก็บของ นายจะยังเสแสร้งทำเป็นไม่สนิทชิดเชื้อกันได้อยู่ไหม” รามพูดพร้อมกับยกยิ้ม ร่างสูงเน้นคำว่าเกี่ยวเสียงหนักแน่นพลางจ้องใบหน้าขาวนัยน์ตาพราวระยับ

ก่อนหน้านี้รามยอมรับว่าเขาลืมเลือนพระพายไปแล้ว อีกฝ่ายไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย ของเล่นที่มันถูกใช้เล่นจนหมดประโยชน์มันไม่มีค่าอะไรกับเขาเลยสักนิด แต่หลังจากที่พระพายให้ความช่วยเหลือเขากับนาวาที่บ้านในวันนั้นรามถึงได้สะกิดใจอะไรบางอย่างเกี่ยวกับอีกคนขึ้นมาได้

พระพายเป็นคนใจดี เป็นที่รักของคนรอบข้าง และยังเป็นแก้วตาดวงใจของพันเอก หากจะมีวิธีไหนที่จะเอาคืนพันเอกได้อย่างสาสมกัน ก็คงเป็นวิธีนี้วิธีเดียวเท่านั้น

ถ้าจะทำให้พันเอกตายทั้งเป็น ก็มีแต่จะต้องฉกชิงแก้วตาดวงใจของมันเอามาไว้กับตัว และใช้วิธีอย่างเดียวกันกับที่มันทำกับคนที่เขารัก ในเมื่อพันเอกเล่นงานคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างนาวาได้ รามเองก็ทำได้เช่นเดียวกัน และจนกว่าเขาจะหาตัวพันเอกและนาวาพบ เขาก็จะพาพระพายไปเล่นด้วยกันที่เกาะฆ่าเวลา

ถือซะว่าทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะมารับไปอยู่ด้วยกัน

สัญญา ที่รามพูดมันเพียงเพื่อหว่านล้อมให้พระพายยอมทอดกายให้เชยชมอย่างยินยอมพร้อมใจ

สัญญา ที่ไม่ต่างอะไรไปจากคำลวงเลยแม้แต่น้อย

ทางด้านพระพายเองเมื่อได้ยินประโยคของร่างสูงตรงหน้าก็ได้แต่เสแสร้งเชิดหน้าขึ้น ดวงตาคู่สวยสบเข้ากับแววตาดุดันของรามพลางตอกกลับไปด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“อดีต ยังไงมันก็เป็นอดีตอยู่วันยันค่ำ ผมไม่จำความรู้สึกห่วยๆแบบนั้นให้รกสมองหรอก ดีแล้วที่พี่เอกได้พี่วาไปแทนที่จะเป็นคุณ อย่างน้อยพี่ชายของผมก็ทำให้พี่วาครางเสียงดังได้มากกว่าที่คุณทำแน่ๆ” ร่างเล็กพูดจบก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในศาลา รามมองตามแผ่นหลังบางของพระพายด้วยความโมโห สองมือกำหมัดแน่นไม่คาดฝันว่าเด็กน้อยที่แสนน่ารักในวันวานจะกลับกลายเป็นคนที่มีวาจาเชือดเฉือนได้ขนาดนี้

“นายหัวครับ เข้าไปเคารพศพกันเถอะครับ” เสียงของลูกน้องคนสนิทดังขึ้นเรียกสติ รามกัดฟันกรอดก่อนจะถอนหายใจและพยักหน้า

วันนี้ไม่ใช่วันของเขา เจตนาจริงๆของรามคือการมาเคารพศพของณะโมเพียงเท่านั้น

ส่วนพระพาย ครั้งนี้เขาจะปล่อยให้อีกคนย่ามใจต่อล้อต่อเถียงเขาไปก่อน แต่อีกไม่นานหรอก อีกไม่นานรามจะทำให้คุณหนูคนเล็กของตระกูลกฤตภาสต้องมาสยบแทบเท้าเขาอีกครั้งอย่างยอมจำนน พระพายจะต้องพ่ายแพ้ให้แก่เขา

ทั้งตัว และหัวใจ

 

 

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-04-2015 19:11:45
:: CHAPTER 22 ::
กลับสู่ความเป็นจริง

 

หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ สิบเอ็ด สิบสอง...

เป็นเวลาเกือบสิบสองอาทิตย์เข้าให้แล้วที่นาวาอยู่ที่นี่ อยู่ในที่ที่ไม่รู้จัก

และอาศัยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง

สิบสองอาทิตย์ เท่ากับสามเดือน สามเดือนของข้อตกลงที่พวกเขาสร้างขึ้นเมื่อครั้งที่นาวาเคยคิดจะผูกคอตายในวันนั้น

‘ผมจะอยู่ที่นี่เพียงแค่สามเดือน ระหว่างที่อยู่ที่นี่คุณไม่มีสิทธิ์จำกัดอิสรภาพของผม คุณจะต้องยอมตามใจผมทุกอย่าง เรื่องณะโม ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของคุณ ผมไม่ถือโทษโกรธเรื่องนั้น ผมอโหสิให้ แต่เรื่องที่ผ่านมาที่คุณทำร้ายผม คุณตั้งใจ มันเป็นคนละส่วนกันกับการตายของณะโม และผมจะไม่ยกโทษให้’

นาวาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด เขาเป็นคนมีเหตุผลมากพอที่จะแยกแยะได้ว่าน้องชายตายเพราะความประมาทของตัวเอง พันเอกไม่ผิด และนาวาก็ไม่สมควรไปพาลเพราะความเสียใจกับอีกฝ่าย เขารู้ดีว่าพันเอกเองก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น

แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำกับเขาตั้งแต่เจอกันครั้งแรก นาวาปล่อยให้มันผ่านเลยไปโดยไม่ทำอะไรไม่ได้

สำหรับความทรงจำแย่ๆเหล่านั้น การถูกข่มขืน การถูกลวนลาม ถูกหยามศักดิ์ศรี ถูกกดขี่ความเป็นมนุษย์

สิ่งเหล่านี้ลบล้างด้วยคำว่ารักไม่ได้หรอก

มันไม่ใช่การแก้แค้น ไม่ใช่การเอาคืน แต่มันคือสิ่งที่พันเอกจะต้องชดใช้

“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงงัวเงียของร่างสูงดังขึ้นเมื่อนาวาถือผ้าเช็ดตัวลงมาจากบ้าน ร่างโปร่งปรายตามองไปยังต้นเสียงก่อนจะยกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายลุกจากเปลที่ใช้นอนตลอดคืนและเดินมาหาเขา ไม่ผิดหรอก เปลใต้ถุนบ้านเป็นที่นอนของพันเอกจริงๆ

หลังจากที่เซ็กซ์แสนดุเดือดนั่นจบลง นาวาก็เปรยขึ้นมาว่าไม่อยากนอนใกล้อีกฝ่ายอีก เขาลุกขึ้นใส่เสื้อผ้าและปรายตามองอีกคนก่อนจะพูดซ้ำว่าไม่ต้องการนอนร่วมเตียงกัน เย็นวันนั้นพันเอกจึงหอบหมอนใบเล็กและผ้าห่มผืนบางลงไปนอนที่ใต้ถุนบ้านอย่างว่าง่าย และตั้งแต่คืนนั้นนั่นก็เป็นที่นอนของพันเอกมาตลอดสามเดือน พันเอกไม่ปริปากบ่น แม้บางทีนาวาจะใจอ่อนเรียกอีกฝ่ายขึ้นมาบนบ้านเพราะอากาศค่อนข้างเย็น แต่พันเอกก็ยังยืนยันว่านอนได้ ไม่เป็นไร

นอกจากพวกเขาจะแยกกันนอนแล้ว ตลอดสามเดือนที่ผ่านมาพันเอกก็ไม่เข้าใกล้นาวาเกินกว่าที่กำหนด ร่างสูงจะคอยมองอยู่ห่างๆ คอยให้ความช่วยเหลือและให้สิ่งที่ต้องการโดยที่นาวายังไม่ทันจะร้องขอ

ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่มีอะไรก้าวหน้า แต่ก็ไม่แย่ลง ซึ่งแค่นี้ก็นับว่าดีมากแล้วสำหรับพันเอก

และในวันนี้ก็ครบกำหนดที่พวกเขาจะอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้าย

ทั้งคู่อาบน้ำแต่งตัวและเก็บของอย่างเงียบๆ นาวาตรวจสอบความเรียบร้อยของบ้านก่อนจะเดินลงมาและชะงักเมื่อเห็นเจ้าหลงนั่งส่ายหางมองหน้าเขาอยู่

“จะเอามันไปอยู่ด้วยเหรอ” พันเอกถามขึ้น นาวาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“มันเป็นเพื่อนที่ผมไว้ใจได้ เป็นสิ่งเดียวที่ผมมีในตอนนี้”

พันเอกได้ยินแล้วก็อยากจะแย้งนักว่านาวายังมีเขา แต่การกระทำเลวร้ายที่ผ่านมามันยังค้ำคอทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไรออกไป สุดท้ายจึงได้แต่ยกยิ้มและพยักหน้าให้กับอีกคนเพียงเท่านั้น

“แล้วหลังจากกลับไป จะเป็นยังไงต่อ” ร่างสูงถามอย่างมีความหวัง นาวาเงยหน้ามองอีกคนด้วยแววตาราบเรียบก่อนจะหันกลับไปเล่นกับเจ้าหลงต่อ

“เราจะเคลียร์กับคุณราม แล้วหลังจากนั้นผมจะไป”

“วา แต่...”

“ไม่มีแต่ครับ เรื่องของพวกคุณควรจบลงได้แล้ว อย่าให้มีใครต้องมาเจ็บแบบผมอีกเลย”

“แล้วนายล่ะ นายจะไปอยู่ที่ไหน” พันเอกถามด้วยความเป็นห่วง ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้นาวาอย่างลืมตัวก่อนจะตั้งสติได้เมื่อเห็นว่าอีกคนถอยหลังให้ห่างออกไปจากตัวเขา ร่างสูงหน้าเจื่อนกับท่าทีของคนตัวเล็กกว่าพลางยืนนิ่ง

“ผมอยู่ได้ทุกที่แหละครับ ยกเว้นบ้านหลังนั้น” นาวาตอบ น้ำเสียงยามพูดถึงบ้านของพันเอกเย็นชาและแฝงความปวดร้าว คนเป็นเจ้าของบ้านถึงกับพูดไม่ออก แน่ใจในนาทีนั้นเองว่าต่อให้เปลี่ยนใจนาวาได้ ต่อให้นาวายอมทิ้งทุกอย่าง แต่บ้านหลังนั้นก็ยังคงเป็นฝันร้ายที่ติดอยู่ในใจของอีกคนไปตลอดชีวิต

นาวาจะไม่มีวันกลับไปใช้ชีวิตกับมันอีกเป็นอันขาด

“ไม่ลืมอะไรแล้วใช่ไหม” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนตัวขาวข้างกายขณะยกกระเป๋าเสื้อผ้าขึ้นไปเก็บบนรถ นาวาส่ายหน้าพลางตอบอีกฝ่ายกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่าตอนมาก็มาแต่ตัวจะให้เอาอะไรกลับไปได้

“นั่นน่ะ ยืนรอแล้วดูสิ” พันเอกชี้ไปที่ลูกหมาตัวจ้อยที่ยืนส่ายหางอยู่ไม่ไกล นาวามองตามทิศทางของนิ้วยาวก่อนจะเดินเข้าไปอุ้มเจ้าสัตว์สี่ขาขึ้นมาแนบอก

“ไม่เอาไว้กระบะหลังได้ไหม ผมกลัวมันตก” นาวาเอ่ยขอ ก้มลงหอมเจ้าสุนัขตัวเล็กฟอดหนึ่งพลางบ่นอุบว่าตัวเหม็นมาอีกแล้ว ทั้งที่เพิ่งจะอาบน้ำไปเมื่อวานแท้ๆ

“เอางั้นก็ได้ ขึ้นรถเถอะ” ร่างสูงเอ่ยพลางรอให้นาวาอุ้มเจ้าหลงขึ้นไปนั่งบนรถ ร่างสูงตามขึ้นไปประจำตำแหน่งของคนขับก่อนจะสตาร์ทรถและเข้าเกียร์ให้รถเคลื่อนตัวออกจากบริเวณบ้าน

คนตัวขาวมองภาพสะท้อนของบ้านไม้จากกระจกข้าง ในอกวูบโหวง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าระยะเวลาสามเดือนกว่าที่อยู่ที่นี่นาวาผูกพันกับบ้านหลังนั้นไม่น้อย

ใช่...ผูกพันกับบ้าน แต่ไม่ได้รู้สึกอะไรกับคนข้างกายที่พามาอยู่

ความโกรธเคืองยังคงขุ่นมัวอยู่ในอก สามเดือนที่ผ่านมามันเสียเปล่า ระยะเวลาที่ใกล้ชิดกันไม่ได้ช่วยเยียวยาอะไรเลยแม้แต่น้อย และนอกจากจะไร้ค่าแล้วยังเป็นการถ่วงเวลาให้อะไรมันยืดเยื้อไปมากกว่าเดิมอีกด้วย

เรื่องมันควรจะจบตั้งแต่วันที่ณะโมตาย แต่พันเอกกลับยื้อให้เวลาเสียเปล่ามาตั้งสามเดือน แต่ถึงอย่างนั้นนาวาก็ไม่ได้ปริปากพูดว่าการกระทำและการเอาใจใส่ที่อีกฝ่ายทำมามันสูญเปล่าหรอก เขาแค่ปล่อยให้อีกฝ่ายพะเน้าพะนอเอาใจไปเรื่อยๆ ไม่ได้แสดงออกว่าใส่ใจหรือไม่แต่อย่างใด

แค่ชอบที่เห็นคนอย่างพันเอกตะเกียกตะกายทำสิ่งไร้ค่าต่อหน้าต่อตาก็เท่านั้น

อยากชดใช้งั้นหรือ...ก็เอาสิ

อยากไถ่โทษ...ทำไปเลย เขาไม่ว่า

อยากจะทำอะไรก็ทำมาเถอะ เพราะทำไปก็เท่านั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างมันไร้ค่าในสายตาเขาไปตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายสารภาพว่ารักเขาแล้ว

กับการกระทำเลวร้ายที่เคยทำร้ายกันในวันวาน แล้วอยู่ๆจะมาชดเชยด้วยการดูและเอาใจใส่ราวกับไข่ในหินแล้วพร่ำเพ้อว่ารักหมดใจน่ะหรือ...มันก็ง่ายเกินไป

นาวาถูกกดหัวให้ต่ำตั้งเท่าไหร่ ถูกทำร้ายจนยับเยินตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ทั้งๆที่เขาไม่ผิดอะไร เป็นแค่คนที่ถูกลูกหลงจากความพาลของคนไม่รู้จักคิด ถูกทารุณทั้งกายและใจไปตั้งมาก จะให้มาใจอ่อนยวบเพียงแค่ลมปากบอกรักจากซาตานร้ายที่อยู่ๆก็ผันตัวกลับไปเป็นเทพบุตรงั้นหรือ ใครเชื่อก็โง่เต็มที

สำหรับพันเอก หากให้นาวาประมาณตัวเลขของระดับความสัมพันธ์ ตอนนี้คงให้เลขศูนย์ไปอย่างไม่ลังเล

เขาไม่ได้เกลียดพันเอกขนาดจะคิดติดลบจนมองหน้าไม่ได้ แต่ ณ ตอนนี้นาวาก็ไม่คิดจะมองอีกฝ่ายในแง่บวกหรือยอมเปิดใจ ‘รัก’ ผู้ชายที่ดีแต่ทำร้ายคนอื่นแบบไม่สนเหตุผลหรอก

แต่คนอย่างนาวาจะไปรู้อะไร

ลืมอะไรไปหรือเปล่า

ลืมไปแล้วหรือ ว่าตนเองใจอ่อนมากแค่ไหนน่ะ ...นาวา ชนกันต์...

เสียงบีบแตรที่ดังขึ้นหน้าประตูรั้วพาให้เหล่าคนใช้ในบ้านรีบกุลีกุจอเปิดประตูให้นายใหญ่กันแทบไม่ทัน นาวาจ้องมองตัวบ้านหลังโตโออ่าพลางกลืนน้ำลายแล้วเบือนหน้าหนี สองแขนกระชับเจ้าลูกสุนัขในอ้อมอกเอาไว้แน่นก่อนจะท่องกับตัวเองในใจว่าเดี๋ยวความทรมานนี้ก็จะมอดดับลง

อีกไม่นานหรอก อีกไม่นานเขาก็จะได้ไปให้พ้นจากกรงขังที่เป็นดั่งขุมนรกนี่เสียที

“ผมจะย้ายไปนอนเรือนคนใช้ด้านหลังนะครับ หวังว่าคุณคงจะไม่ขัดข้อง” นาวาเอ่ยเสียงราบเรียบให้พันเอกได้ค่อนขอดในใจว่าตนจะไปขัดอะไรได้ ทุกวันนี้เขาก็ยกนาวาขึ้นเชิดชูให้อยู่เหนือทุกอย่างไปหมดแล้ว

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบนาวาก็สรุปเอาเองในใจว่าพันเอกตกลง ร่างโปร่งอุ้มเจ้าหลงลงจากรถอย่างเงียบๆพลางเดินลัดเลาะไปยังหลังบ้าน เขาวางลูกสุนัขลงกับพื้น เจ้าสี่ขาตัวสั่นงันงก ดูท่าจะตื่นสถานที่ไม่น้อยจนอดที่จะยกยิ้มออกมาไม่ได้

“คุณวา!!!!” เสียงคุ้นเคยของเอื้องคำดังขึ้นพร้อมกับอาการโถมตัวเข้ากอดของหญิงสูงวัยที่เขาเคารพ

.
.
.
.
.
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 20 P.10 (18/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 29-04-2015 19:12:50
“คุณวาเป็นยังไงบ้าง สบายดีไหมคะ ถูกคุณเอกรังแกอะไรอีกไหม” เอื้องคำถามรัวเสียงสั่น นาวายกยิ้ม ส่ายหน้าและบอกว่าเขาสบายดีก่อนจะกอดร่างท้วมของหญิงตรงหน้าอีกครั้ง

“ฮึก ป้าใจหายหมด นึกว่าคุณจะเป็นอะไรไปอีกคนซะแล้ว”

“อีกคน? ป้าเอื้องหมายความว่ายังไงครับ” นาวาขมวดคิ้ว เอื้องคำน้ำตาร่วงผล็อยกับคำถามของเขาก่อนจะตอบกลับมาพร้อมกับปล่อยโฮ

“คุณพายค่ะ คุณพายหายตัวไป ฮือออ”

“ว่าไงนะ!”

“ป้าใจจะขาดอยู่แล้วค่ะคุณวา”

“หายไป...หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ป้าไม่ทราบค่ะ แต่สามเดือนก่อนคุณหนูแกขึ้นไปเชียงใหม่ กำหนดกลับเมื่ออาทิตย์ที่แล้วแต่ก็ยังไม่มีวี่แววเลย ป้าโทรหาก็ติดต่อไม่ได้ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง พอจะติดต่อคุณเอกก็ติดต่อไม่ได้อีก พวกเจ้ายุเจ้าจักรก็ตามหากันให้ทั่วแต่ก็ยังไม่เจอ” เอื้องคำสะอื้น ในอกร้าวรานนักเมื่อคุณหนูสุดรักของเธอหายตัวไป

“ป้าไม่รู้จะทำยังไงแล้วค่ะคุณวา กลัวคนทางนั้นเล่นงานคุณหนู”

“คนทางนั้น? ป้าหมายถึง...”

“พวกกลทีบ์ ป้ากลัวคุณหนูถูกพวกกลทีบ์จับไป”

นาวาเม้มปากแน่นกับคำบอกของเอื้องคำ ชายหนุ่มฝากเจ้าหลงไว้กับเธอก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าไปในบ้านใหญ่ เมื่อเข้าไปยังห้องโถงสิ่งแรกที่เห็นคือภาพที่พันเอกเหวี่ยงรูปภาพนับสิบลงกับพื้นพร้อมกับอาละวาดเหมือนคนไร้สติ

“กูจะฆ่ามัน! ไอ้ระยำเอ๊ย กูจะฆ่ามัน!!!!!” ประมุขของบ้านตะโกนกร้าวดวงตาแดงก่ำ พายุกับจักรเองก็ดูจะกำลังโมโหอะไรบางอย่าง นาวาขมวดคิ้ว เป็นจังหวะเดียวกับที่พัดลมบนเพดานพัดเอารูปภาพสองสามใบปลิวมาตกอยู่แนบเท้า

นาวาก้มลงมอง คิ้วขมวดด้วยความฉงนก่อนจะย่อตัวเก็บรูปที่ว่าขึ้นมาถือเอาไว้ และทันทีที่ดวงตาทั้งสองเห็นบุคคลในภาพชัดเจนก็เบิกกว้างพลางอุทานเสียงหลง

“คุณพาย...”

พันเอกหันขวับตามเสียงร้อง มองเห็นร่างของนาวายืนอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มกัดฟันกำหมัดแน่นในขณะที่นาวาใจเต้นไม่เป็นส่ำกับสิ่งที่เห็น

“คุณยุ นี่มันอะไรกันครับ ทำไม...” ยังไม่ทันจบประโยคนาวาก็ต้องเงียบไปเมื่อเห็นว่าไหล่กว้างสั่นระริก ทุกสายตามองไปยังพันเอกที่ทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนแรง สองมือปิดหน้า ปากพึมพำชื่อน้องชายที่หวงแหนเอาไว้ไม่หยุด

“รูปพวกนี้ถูกส่งมาที่บ้านเมื่ออาทิตย์ก่อน ผมพยายามติดต่อคุณเอกแล้วแต่ก็ติดต่อไม่ได้ เราพยายามสืบต้นตอของรูปดูเผื่อว่าจะเป็นรูปตัดต่อแต่ก็ยังไม่คืบหน้าจนกระทั่งพวกคุณกลับมานี่แหละครับ” พายุอธิบายขึ้นขณะเดินเข้าไปทรุดตัวลงกับพื้นและบีบมือเจ้านายเอาไว้แน่น เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เขานึกย้อนไปถึงวันที่พันเอกเอารูปของตัวเองกับนาวาในห้องทำงานออกมาล้างและฝากให้เขาส่งไปให้รามเมื่อหลายเดือนก่อน

“เป็นมัน ไอ้เลวระยำนั่น กูจะฆ่ามัน” พันเอกเค้นเสียงลอดไรฟันอย่างคลั่งแค้น นาวาก้มลงมองรูปภาพในมืออีกครั้งก่อนพลางเม้มปากแน่น เดาได้ไม่ยากนักหรอกว่าใครเป็นคนส่งภาพนี้มา

“คุณต้องจบเรื่องนี้ได้แล้วนะคุณเอก เห็นหรือยังว่าความแค้นมันไม่เคยส่งผลดีกับใครเลย ผมต้องมาถูกคุณทำร้าย น้องชายคุณต้องถูกข่มขืน คุณยังคิดจะตอกกลับด้วยวิธีแรงๆอีกเหรอ”

นาวาพูดอย่างไม่ได้นึกเห็นอกเห็นใจคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย คิดดูแล้วมันก็สาสมกันอยู่ เขาถูกพันเอกย่ำยีทั้งที่ไม่เต็มใจโดยไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร คราวนี้พันเอกจะโดนเล่นงานคืนบ้างมันก็คงจะสาสมกัน

“แก้แค้นกันไปกันมาแบบนี้เมื่อไหร่มันจะจบ จะดึงเอาคนที่ไม่รู้เรื่องอีกสักกี่คนมารับรู้ความทรมานของพวกคุณด้วย คุณมีความสุขเหรอคุณเอก ที่มีชีวิตอยู่ทุกวันนี้มันดีแน่แล้วใช่ไหม” ร่างโปร่งขมวดคิ้ว เค้นถามอีกคนพลางเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาพันเอกก่อนเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

“แต่มันทำระยำกับน้องฉัน! นายเห็นสภาพพระพายไหมวา นั้นน้องฉัน! เด็กนั่นเป็นคนนะ ไม่ใช่หมาตัวเมียที่มันจะเอาเหมือนกำลังติดสัตว์โดยไม่สนใจใคร!!!!”

“ผมก็คน!!!” นาวาตะคอกขึ้นมาบ้างอย่างเดือดดาลทำเอาพันเอกชะงัก

“น้องคุณเป็นคน แล้วผมล่ะ...ผมก็คนเหมือนกันนะคุณเอก ที่น้องคุณเป็นแบบนั้นมันเพราะใคร ก็เพราะคุณไม่ใช่เหรอ!”

“...”

“เขาโดนข่มขืนเหมือนหมาตัวหนึ่ง ก็เหมือนกับที่คุณทำเหมือนผมเป็นหมาตัวเมียที่มีดีแค่นอนให้คุณกระทำซ้ำๆเวลาคุณอยาก มันต่างกันตรงไหนครับ” นาวาเค้นเสียงถาม ร่างโปร่งสะท้านขึ้นมาในอกเมื่อสบกับแววตาเจ็บช้ำของพันเอก

“ให้เรื่องมันจบที่ผมกับน้องคุณได้ไหม ไปหาเขา ไปเคลียร์กันให้จบๆซะ อย่าทำร้ายกันไปทำร้ายกันมาอีกเลย มันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก”

“...”

“ถ้าที่คุณบอกว่าคุณรักผมมันเป็นเรื่องจริง แสดงให้ผมเห็นสิว่าคุณพร้อมจะจบทุกสิ่งทุกอย่าง อย่าก่อความผิดขึ้นมาใหม่ทั้งๆที่ความผิดเดิมยังไม่ถูกลบล้างเลยจะได้ไหม ผมขอร้อง” สิ้นคำ ร่างของนาวาก็ถูกแขนแกร่งรั้งเข้าไปกอดแน่น พันเอกซบใบหน้าลงกับลาดไหล่เล็ก ร่างสูงใหญ่สั่นระริกด้วยความหวาดกลัวและรู้สึกผิด เขาไม่ควรปล่อยให้พระพายอยู่ที่นี่คนเดียว เขาควรจะอยู่ดูแลน้อง ควรจะอยู่ข้างๆน้องอย่างที่ทำมาตลอด

ตอนที่น้องเจ็บ ตอนที่น้องร้องไห้ พันเอกมัวทำอะไรอยู่

“มันจะจบใช่ไหมวา พระพายจะไม่เป็นไรใช่ไหม” พันเอกพูดพลางกอดร่างโปร่งให้แน่นขึ้น “ฉันขอโทษ ขอโทษสำหรับทุกอย่าง ฉันขอโทษวา ขอโทษที่ทำร้ายนาย”

นาวาเงียบกริบ ไม่ได้เอ่ยปากอะไรกับคำขอโทษของคนที่กำลังกอดเขาเอาไว้ ชายหนุ่มหันไปมองพายุที่นั่งน้ำตาไหลอยู่ข้างๆ มือเรียวเอื้อมไปปาดน้ำตาออกจากอีกคนให้ก่อนจะยกยิ้ม

“เข้มแข็งครับ”

“คุณวา” พายุครางฮือก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเผลอทำตัวอ่อนแอต่อหน้าพันเอกไปเสียได้ นาวาหันมาดันตัวออกจากร่างสูงและมองใบหน้าสับสนของพันเอกด้วยใบหน้าราบเรียบ

“คิดให้ดีนะครับว่าจะเอายังไง แต่ถ้าเอาผมเข้าไปเกี่ยวอีก ถ้ายังคิดทำเลวๆกับผมอีก ต่อให้ผมตายผมก็จะไม่ให้อภัยคุณ” นาวาทิ้งท้ายเอาไว้พลางลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มือเรียวบีบไหล่แกร่งเป็นเชิงให้กำลังใจก่อนจะเดินหนีไป พันเอกมองตามแผ่นหลังเล็ก รับรู้ถึงความเย็นชาของอีกคนมาตั้งแต่วันที่เขาสารภาพว่าหลงรักอีกฝ่ายไปหมดใจ

ไม่ได้โกรธนาวาหรอกที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากยุ่งเรื่องของเขา ไม่ได้คลางแคลงใจเลยแม้แต่น้อยที่นาวาทำทีเฉยเมยเมื่อเห็นว่าพระพายถูกกระทำในแบบเดียวกัน  พันเอกรู้ดีว่าสิ่งที่พระพายโดนกระทำมันคือสิ่งที่เขาเคยทำเอาไว้กับนาวาแทบทั้งสิ้น เขาไม่โกรธที่นาวาไม่ใส่ใจ แต่มันอดเสียใจไม่ได้ที่อีกฝ่ายไม่คิดแคร์หรืออยู่เคียงข้างยามเขาเสียหลักเลยแม้แต่น้อย

จะไปหวังอะไรมากมายละพันเอก เพราะตนเองไม่ใช่หรือที่เคยทำร้ายทารุณอีกฝ่ายไว้ตั้งมากมาย กับสิ่งที่นาวาเจอ สิ่งที่เขาทำเอาไว้ ยังคิดหวังให้นาวายอมอ่อนให้ในเร็ววันมันก็คงเป็นความคิดที่ง่ายดายเกินไป

ตอนนี้สิ่งที่สำคัญไม่ใช่การมานั่งเสียใจกับสิ่งที่เคยทำพลาด แต่คือการเริ่มต้นแก้ไขในสิ่งเลวร้ายที่ตัวเองทำไปต่างหาก

เขายอมแล้ว ยอมละทิ้งทุกอย่างและเป็นฝ่ายหยุดโดยไม่มีข้อแม้ และยิ่งแน่ใจว่าจะทิ้งความแค้นทุกอย่างไปจนสิ้นในวันนี้ ในทันทีที่เห็นรูปพระพาย เขายอมทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว ขอให้พันเอกได้น้องกลับคืนมา

เขาขอแค่ให้ได้พระพายกลับคืนมา

ต่อให้ต้องคุกเข่าขอร้องใคร

เขาก็ยอมทั้งนั้น

พันเอกยอมทุกอย่างจริงๆ...

“ยุ”

“ค...ครับ”

“จัดการเรื่องไปภูเก็ต ฉันจะไปรับน้องกลับบ้าน” พันเอกพูดพลางลูบใบหน้าคมคาย พายุยกมือขึ้นวางบนหัวเข่าของผู้เป็นนายพลางสบตาแดงก่ำของอีกคน พันเอกผ่อนลมหายใจออกมาอย่างนากลำบาก ในอกเจ็บเสียดไปเสียหมดจนแทบขาดใจ

จะไปรับน้องกลับคืนมา แล้วจบเรื่องทุกอย่างที่มันคาราคาซังนี่ซะ

ถึงเวลาปลดเปลื้องความทุกข์ทรมานเสียที




3 วันต่อมา
เกาะนาคาน้อย, จังหวัดภูเก็ต


เสียงของสปีทโบ๊ทสองลำแล่นเข้ามาจอดเทียบท่าเรียกให้เหล่าคนงานจำนวนหนึ่งซึ่งง่วนอยู่กับการทำความสะอาดกระชังปลาเงยหน้าขึ้นไปมอง ‘รุ่งฟ้า’ หนึ่งในลูกน้องคนสนิทของรามหันไปสั่งคนงานแถวนั้นว่าให้ไปตามนายหัวมา บอกว่าแขกคนสำคัญมาหา ส่วนเขาก็ทำหน้าที่เดินไปต้อนรับด้วยใบหน้าราบเรียบ

“สวัสดีครับคุณพันเอก ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรกับนายหัวรึเปล่าครับ” รุ่งฟ้าเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เสแสร้งเป็นมิตร ดวงตาสีเข้มกวาดมองไปทั่วใบหน้าอิดโรยและทรุดโทรมของคนตรงหน้าก่อนจะมองเลยไปด้านหลัง ร่างโปร่งชะงักไปเล็กน้อยเมื่อพบว่าคนสำคัญของนายหัวก็มาที่นี่ด้วย

...นาวา ชนกันต์…

“เจ้านายของคุณอยู่ที่ไหน มันเอาน้องผมไปไว้ที่ไหน!” พันเอกเดินชนไหล่ของรุ่งฟ้าไปอย่างไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ร่างสูงเดินดุ่มๆเข้าไปยังทิศทางของบ้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่รามจูงมือใครอีกคนเดินออกมา

“พาย!” พันเอกร้องเรียกชื่อน้องเมื่อเห็นเต็มตาว่าคนที่อยู่หลังรามเป็นใคร ชายหนุ่มผวาเข้าหาแก้วตาดวงใจด้วยความรวดเร็วทว่ากลับต้องชะงักเมื่อพบว่ารามรวบตัวพระพายเข้าไปกอดแนบอก

“ปล่อยน้องกู!!!” ชายหนุ่มตะโกนเสียงกระชาก ส่วนรามทำเพียงแค่แสยะยิ้มกลับมาให้

“หายหัวไปไหนมาตั้งหลายเดือน รู้ไหมว่าเมียกูร้องไห้หามึงทุกคืนเลย” นายหัวหนุ่มแห่งเกาะนาคาน้อยย้ำชัดเจนถึงสถานะความสัมพันธ์ของเขาและพระพาย พันเอกกัดฟันกรอด เกือบจะหุนหันเข้าไปทำร้ายอีกฝ่ายแต่นาวากลับจับแขนเอาไว้แน่น

“ส่งน้องกูคืนมาราม แล้วมึงอยากได้อะไรกูยอมให้หมด ขอแค่คืนพระพายให้กู” พันเอกกัดฟัน ยิ่งเห็นใบหน้าขาวที่เคยสดใสของพระพายอาบไปด้วยน้ำตาก็ยิ่งเหมือนจะตายลงให้ได้

พันเอกรักน้อง รักมากยิ่งกว่าชีวิต เขาทนให้น้องร้องไห้ต่อหน้าต่อตามากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว

“ส่งคืน? หึ มึงจำได้ไหมไอ้เอก ตอนกูขอให้มึงปล่อยคุณวา มึงทำยังไง”

“...”

“มึงไม่คืนเขาให้กู! ไม่แม้แต่จะปล่อยเขาไป แต่มึงกลับเอาเขาต่อหน้าต่อตาคนอื่น เหยียบย่ำศักดิ์ศรีเขาจนแทบไม่เหลือความเป็นคน!!!!” รามตะโกนด้วยความคลั่งแค้น คำพูดของชายหนุ่มสะกิดให้นาวาเจ็บขึ้นมาในอก ร่างโปร่งปรายตามองพันเอกที่เอาแต่พึมพำขอโทษก่อนจะถอยไปยืนอยู่ด้านหลังเพราะไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายกับเรื่องราวของคนพวกนี้อีก

เขาจะไม่ช่วยใคร จะขอแค่ยืนดูอยู่เฉยๆ เป็นเพียงผู้ชม

“มึงจับคุณวากดน้ำ ปล้ำเขา แล้วยังทรมานสารพัด ไม่ยอมปล่อยเขาไป ยังมีหน้ามาขอให้กูปล่อยน้องมึงอีกเหรอไง!”

“กูขอโทษ…” พันเอกสวนขึ้นมา สองแขนยื่นออกไปหวังจะคว้าตัวพระพายกลับคืนมาแต่รามกลับกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น

“แค่คำพูดมันลบล้างอะไรไม่ได้หรอก อยากรู้ไหมว่าน้องมึงเจออะไรบ้าง อยากฟังไหมว่าน้องร้องหามึงยังไงตอนถูกกูจับทำเมียซ้ำๆทุกคืน มึงอยากฟังไหม!!!”

“พอแล้ว! ปล่อยน้อง! กูขอล่ะราม มึงเห็นไหม น้องร้องไห้แล้ว น้องกูกลัวไปหมดแล้ว ปล่อยเขา คืนพระพายมา” พันเอกร่ำร้อง ยิ่งเห็นพระพายสะอื้นกับอกของรามมากขึ้นเท่าไหร่หัวใจก็ยิ่งบีบรัดจนเจ็บไปหมดมากเท่านั้น

“กูรู้ว่ากูเลว กูทำให้ใครหลายคนต้องเจ็บ ทำให้ชีวิตของคนที่มึงรักพัง กูขอโทษราม ขอโทษ…”

“...”

“จบเรื่องนี้ได้ไหม มึงจะให้กูชดใช้ยังไงกูยอมทำทั้งนั้น ขออย่างเดียว ปล่อยน้องกู” พันเอกอ้อนวอนในขณะที่รามมองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง

“รักมากเหลือเกินนะน้องชายคนนี้น่ะ ทีเทียนมึงกลับทำร้ายจิตใจน้องมันตั้งมาก อ้อ...กูก็ลืมไป มึงบอกเองว่าเทียนเป็นลูกชู้สินะ” รามแสยะยิ้ม ก้มลงมองพระพายที่จ้องเขาพลางส่ายหน้าน้ำตาอาบแก้ม

“คุณราม อย่า ฮึก...อย่าพูด ได้โปรด”

“กูจะบอกอะไรให้นะพันเอก คนที่เป็นลูกชู้น่ะไม่ใช่เทียนหรอก แต่เป็นน้องชายหัวแก้วหัวแหวนของมึงคนนี้ต่างหาก! พระพายต่างหากที่เป็นลูกชู้! ลูกของแม่ร่านๆของพวกมึงกับคนสวนในบ้านนั่นไง!!”

“ม...ไม่จริง…” พันเอกคราง ในขณะที่รามยืนแสยะยิ้มด้วยความสะใจอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ยังมีความจริงที่ทำให้มึงช็อคได้มากกว่านี้อีกนะ อยากรู้นักใช่ไหม อยากรู้มากใช่ไหมว่าทำไมกูฆ่าพ่อแม่มึง” รามเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ เป็นจังหวะเดียวกับที่คนงานพาร่างของใครคนหนึ่งเข้ามา ทุกสายตามองไปยังผู้มาใหม่ที่ถูกจับให้นั่งคุกเข่าแทบเท้าของราม และที่ทำให้ทุกคนอึ้งยิ่งกว่าคือการที่พระพายเรียกอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงร้าวราน

“พ่อ”

“!!!” ฝั่งพันเอกเบิกตากว้างกับสรรพนามที่พระพายเรียกชายคนนั้น แม้แต่นาวาเองที่ยืนมองอยู่ห่างๆยังอดตกใจไม่ได้ พายุและจักรขมวดคิ้วพลางมองรามที่ตะโกนสั่งคนที่บอกว่าเป็นบิดาตัวจริงของพระพายด้วยน้ำเสียงดุดัน

“เล่าความจริงให้พวกมันฟังไปสิครับคุณคุณากร เล่าความสกปรกโสมมในอดีตของพ่อแม่มันให้ลูกมันตาสว่างสักที!”

รามเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดัน มองคุณากรที่นั่งคุกเข่าก้มหน้านิ่ง และเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังนิ่ง ชายหนุ่มจึงขู่ขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

“จำครั้งล่าสุดที่คุณไม่เชื่อฟังผมได้ไหมคุณกร จำได้ไหมว่าบทลงโทษมันไปตกอยู่ที่ใคร”

“ผ...ผมยอมแล้ว เล่าแล้ว อย่าทำอะไรเขาเลย” คุณากรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบระโหยพลางหันไปสบตากับพันเอกและเริ่มเปิดปากเล่าด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

“พระพาย...เป็นลูกของคุณเดือนกับผม” คุณากรก้มหน้าพลางเม้มปากเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของพระพายแว่วเข้ามาในหู ส่วนพันเอกยังคงยืนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินพลางส่ายหน้า

“ไม่เชื่อ พระพายเป็นน้องผม” ชายหนุ่มเค้นเสียงตอบ หากแต่คุณากรกลับส่ายหน้าไปมา

“เขาเป็นลูกผมครับคุณเอก”

“...”

“ตอนนั้นคุณเดือนเธอแค่อยากแก้แค้นที่คุณพัฒไปทำปานดาวท้องจนมีเทียนออกมา เราลักลอบมีอะไรกันหลายปีจนกระทั่งมีพระพาย…ที่ผมมั่นใจเพราะช่วงนั้นคุณพัฒกับคุณเดือนไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวกันเลย” คุณากรเงียบไปพลางลอบมองปฏิกิริยาของพันเอกไปด้วย

“แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องราวทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะคุณพัฒท่านยังรักคุณบุษบาอยู่ การแต่งงานกับคุณประกายเดือนเป็นเพียงแค่การแต่งงานตามหน้าที่ มันเป็นการคลุมถุงชน”

“...”

“พอมีคุณ ฝั่งคุณบุษก็มีคุณรามตามมาติดๆ คุณเดือนเธอไม่พอใจที่คุณพัฒเอ็นดูคุณรามมากกว่าคุณซึ่งเป็นลูกแท้ๆของตัวเองเลยตั้งตัวเกลียดคุณบุษบามาตั้งแต่นั้น” คุณากรเล่าความหลังท่ามกลางความเงียบงัน

“จนกระทั่งคุณพัฒเมาและทำปานดาวท้อง คุณเดือนก็ยิ่งไม่พอใจที่สามีไม่ซื่อสัตย์ และเรื่องยิ่งบานปลายเมื่อข้างกายคุณพัฒมีปานดาว ส่วนในใจก็ยังมีคุณบุษบา คุณพัฒมีที่ยืนให้ผู้หญิงทั้งสองคนแตกต่างกันไป แต่กลับไม่มีที่ยืนให้เธอ”

“แม่…” พันเอกครางเครือ ขอบตาร้อนผ่าวจนนาวาที่ยืนอยู่ห่างๆต้องเดินกลับเข้ามาและสอดมือเข้ามาบีบมือแกร่งเอาไว้แน่น

“คุณเดือนเธอเลยเกลียดทั้งแม่ของคุณรามและแม่น้องเทียนมาตลอด ความเกลียดในใจของเธอยิ่งมีมากขึ้นเมื่อคุณพัฒละเลยคุณแต่กลับไปมอบความรักให้น้องเทียนและคุณรามซึ่งเป็นลูกของผู้หญิงที่เขารัก ในขณะที่คุณพ่อของคุณมีปานดาว มีคุณบุษในใจ คุณเดือนเธอกลับไม่มีใคร เธอต้องอยู่คนเดียว”

“...”

“เธอเลยประชดด้วยการให้ผมทำให้เธอหายเหงา…” คุณากรสูดลมหายใจเข้าปอด ริมฝีปากคลี่ยิ้มบางเบาก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมองพระพายพลางเอ่ยกับอีกคนด้วยน้ำเสียงแสดงถึงความรักที่เต็มเปี่ยม

“จนกระทั่งเรามีพระพายออกมา”

ถึงตรงนี้พันเอกก็ทรุดลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงจนพระพายครางเรียกชื่อพี่ชายเสียงหลง

“พอแล้ว ไม่อยากฟังแล้ว…” พันเอกบอกเสียงแหบแห้ง แต่คุณากรก็ยังเล่าต่อตามคำสั่งของราม

“เราทั้งคู่ไม่บอกใครว่าพระพายเป็นลูกของผม คุณเดือนโกหกว่าเป็นลูกของคุณพัฒ แต่คุณพัฒท่านก็ไม่เชื่อ จนกระทั่งคุณบุษเธอกำลังตั้งท้องลูกคนที่สองเรื่องทุกอย่างมันก็เกิดขึ้น”

“สามีเธอต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ คุณพัฒเลยอาสาดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ยอมกลับมานอนบ้านเลยสักวันจนคุณเดือนโกรธจัด เธอสั่งให้ผมไปจัดการคุณบุษบาซะ” พอเล่ามาถึงตรงนี้คุณากรก็กลืนน้ำลายลงด้วยความยากลำบาก

“คุณเดือนขู่ว่าถ้าผมไม่ทำ เธอจะพรากพระพายไปจากผม”

“...”

“ผมเลยต้องทำ...ผมฉุดคุณบุษไปข่มขืนที่โกดังร้างแห่งหนึ่ง วันนั้นสามีเธอกลับมาพอดีและเขามาช่วยเอาไว้ ผมเลยไม่มีทางเลือกต้องฆ่าพวกเขาทิ้งด้วยการขับรถเบียดให้คนทั้งคู่เสียหลักจนรถคว่ำตาย”

“!!!!”

“เป็นพวกคุณ เป็นแม่ของคุณที่เริ่มต้นทุกอย่าง เป็นกฤตภาสที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้” คุณากรพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง พระพายมองร่างของพี่ชายที่กำลังสั่นระริกก่อนจะปล่อยโฮเมื่อเห็นว่าพันเอกเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม

ทั้งเจ็บปวด ทั้งหวงแหน และผิดหวัง

ความจริง...เจ็บปวดกว่าความฝันเสมอ

 

โปรดติดตามตอนต่อไป



ใครผิด ใครถูก อยู่ที่มุมมองของผู้อ่านค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: gwaiplay ที่ 29-04-2015 19:25:45
ชอบเรื่องนี้มาก นาวาพันเอก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 29-04-2015 19:43:39
เรื่องโอล่ะพ่อไปกันใหญ่ แล้วปมมันสลับซับซ้อนเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 29-04-2015 19:52:36
รีบมาต่อนะคะ ปมอดีตกำลังคลี่คลาย ลุ้น ลุ้น  :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Rambluesky ที่ 29-04-2015 20:02:59
ค้างงงงงงง อยากอ่านต่อมากๆเลยครับ ปมกำลังคลาย  :serius2: :serius2:

รออ่านต่อนะครับ  :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 29-04-2015 21:36:09
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 29-04-2015 22:13:41
สงสารพระพาย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 29-04-2015 22:19:14
 :a5:  :katai1:
ซับซ้อน คาดไม่ถึง ความจริงทำให้เจ็บกันทุกฝ่าย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 01-05-2015 01:21:54
อ่านมาถึงตอนนี้  เริ่มสงสารพระเอกขึ้นมาแล้วแฮะ  นี่ละหนา  ทำอะไร ไม่คิดให้ดี ไม่สืบให้รอบคอบ
สุดท้าย  จะพลอยไม่เหลือใครอยู่ข้างๆสักคน
 :hao4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 01-05-2015 20:42:20
ม่าย  :katai1:

ทำไมเป็นงี้อ่ะ  :z3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: pattapong200320 ที่ 01-05-2015 21:50:34
บอกได้คำเดียว. เจ็บและจุกมากค่ะ
ความแค้นไม่เคยทำให้ใครมีความสุขจริงๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 02-05-2015 20:12:49
ที่แรกนึกว่าเรื่องแนวนี่ncอย่างเดียว
แต่มันสนุก มีให้ลุ้นได้ทุกตอน
ตอนทำไม่คิดโดนเองบ้างเลย
สรุปคนดีสุดคือนาวา(แต่ชีวิตรัดทดบัดซบมาก)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 03-05-2015 21:43:22
มีเรื่องคาดไม่ถึงตลอด  :a5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ak@tsuKII ที่ 05-05-2015 08:38:08
มันเป็นแบบนี้นี่เอง ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ กระทำผิดกันทั้งหมด บิดเบี้ยว เลยพบจุดจบที่น่าเศร้า เฮ้อ แต่อิคุณพ่อพัฒไรนั่น สมควรโดนลูกหลงตามเมียด้วย สมแล้ว เป็นตัวก่อเรื่องที่สุด ลูกเมียก็มีแล้ว กลับจะเป็นจะตายกับลูกเมียคนอื่น ส่วนทางแม่รามเนี่ยก็ไม่รู้ว่าวางตัวเหมาะสมไหมนะ ใสๆ ปล่อยให้พัฒเข้ามาข้องเกี่ยวน่าจะไล่ๆไปซะ แม้อาจจะไม่มีอะไร แต่น่าจะคิดถึง ครอบครัวอีกฝ่ายบ้างจะโดนแรงแค้นจากผู้ ญ อีกคนก็ไม่แปลก ส่วนเดือนถึงจะโดนทำร้าย แต่เธอก็ร้ายกาจมาก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 12-05-2015 18:47:43
:: CHAPTER 23 ::
พี่ชาย น้องชาย

 

“เป็นพวกคุณ เป็นแม่ของคุณที่เริ่มต้นทุกอย่าง เป็นกฤตภาสที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้”

พันเอกเงียบกริบ จ้องพระพายด้วยสายตาสับสน ความรู้สึกหลากหลายตีรวนขึ้นมาในอก ความรู้สึกผิดหวัง รู้สึกผิดประเดประดังเข้าหาจนแทบบ้า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขารักพระพายมากเท่าชีวิต รักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นน้องน้อยตัวย่นผิวสีแดงก่ำในห่อผ้าอ้อม รักเพราะนึกว่าน้องคือเครื่องยืนยันว่าพ่อกับแม่ยังรักกันอยู่

แต่ไม่ใช่ ไม่ใช่เลย

พันเอกเกิดจากหน้าที่และความจำเป็น

ส่องแสงเกิดจากความมึนเมา

ส่วนพระพาย...เด็กที่เขาหลงคิดว่าเกิดจากเยื่อใยเส้นสุดท้ายกลับกลายเป็นว่าเกิดจากความหงอยเหงาเคียดแค้นของผู้เป็นแม่

ซ้ำยังไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดที่แท้จริง

“นี่ใช่ไหมเหตุผลที่มึงฆ่าพ่อแม่กู นี่ใช่ไหมเหตุผลที่แท้จริง” พันเอกค่อยๆลุกขึ้นยืนโดยมีนาวาคอยช่วย ดวงตาแดงก่ำจ้องรามที่ยืนตีสีหน้าราบเรียบอยู่

“ยังมีอะไรที่กูต้องรู้อีกไหม” ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงแหบแห้ง ไม่แม้แต่จะชายตาแลคนตัวเล็กที่รามกำลังกอดอยู่เลยแม้แต่น้อย พระพายเห็นกริยาของพี่ชายก็สะอื้นไห้จนตัวโยน รู้ดีว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นเหมือนส่องแสง

เขากำลังจะถูกพันเอกเกลียดชัง

ทางด้านรามเองก็ได้แต่มองสภาพน่าสมเพชของอดีตเพื่อนรัก ริมฝีปากของนายหัวหนุ่มยกยิ้มขึ้นราวกับสะใจเสียเต็มประดา หากแต่ภายในใจกลับสะท้านไหวกับภาพความเสียหายทางอารมณ์ของคนในอ้อมกอดและเพื่อนเก่าอย่างพันเอก ยิ่งเห็นว่าคนเข้มแข็งอย่างพันเอกกำลังร้องไห้ก็ยิ่งร้าวในอก

พันเอกไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากใคร ข้อนี้เขารู้ดี

พันเอกเหมือนตัวคนเดียวมาตั้งแต่เด็ก ภายนอกอาจจะดูเข้มแข็งหากแต่ลึกๆในใจอีกฝ่ายก็แค่เด็กชายขี้เหงาที่พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ รามรู้ดีว่าพันเอกเปราะบางยิ่งกว่าใคร และเพราะเหตุนี้เขาจึงเลือกที่จะอ้างว่าที่ฆ่าพ่อแม่ของอีกคนเพราะทั้งคู่โกงเงินของตระกูลเขา

ให้พันเอกเข้าใจไปแบบนั้นมันคงจะดีกว่าต้องมารับรู้ความจริงที่จะทำลายหัวใจจนแหลกไม่มีชิ้นดี

แต่ความลับมันไม่มีในโลก และมันถึงเวลาแล้วที่พันเอกจะต้องรับรู้ถึงความเลวร้ายในอดีต

“วันที่พ่อแม่กูตาย กูอยู่บ้านคนเดียว” ชายหนุ่มเปิดปากด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาจ้องมองนาวาที่ยืนเคียงข้างพันเอกก่อนจะเบนกลับมามองคนในอ้อมกอดของตน

“กูเป็นแค่เด็กอายุสิบแปด นั่งเล่นเกมอยู่กับลูกของแม่บ้านที่ห้องนั่งเล่น”

“...”

“แต่อยู่ๆก็มีผู้ชายเกือบสิบคนบุกเข้ามา...ข่มขืนผู้หญิงในบ้าน ข่มขืนเด็กผู้ชายที่นั่งเล่นเกมกับกู และกำลังจะทำกับกูแบบเดียวกัน แถมยังฉีดยาไอซ์ใส่กูด้วย หึ” รามแค่นยิ้ม นึกย้อนไปถึงวันนั้นแล้วความรู้สึกหวาดกลัวก็ยังคงติดค้างอยู่ในใจ ความรู้สึกตอนได้ยินเสียงกรีดร้อง ภาพความน่ากลัวที่เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังถูกย่ำยี และความหวาดหวั่นตอนที่ถูกปลายเข็มทิ่มเข้ามาภายในผิวกาย

รามฝันร้ายมานานนับปีจากเหตุการณ์นั้น

“แต่กูก็หนีออกมาได้ กูจำหน้ามันได้หมดทุกตัว รู้อะไรไหม...พวกมันคือคนที่แม่มึงส่งมาเก็บกู”

“!!!”

“หลังจากพ่อแม่กูตาย แม่มึงก็ยังไม่หยุด เธอโกงเอาทรัพย์สินทุกอย่างจนบริษัทใหม่ที่เพิ่งจะสร้างล้มละลายลง และกูทนให้เธอเหยียบกูจนจมดินไม่ได้เลยตัดสินใจส่งคนไปตัดสายเบรกเพื่อหยุดเธอซะ แต่กูไม่คิดว่าอาพัฒจะโดนลูกหลงจนตายไปด้วย”

“คุณราม...ฮึก”

“หลังจากนั้นกูก็หนีกลับมาอยู่ที่นี่ ทรมานกับการลงแดงที่แม่งเจ็บเจียนตาย กว่าจะรักษาอาการติดยาหายก็นานนับปี”

“...”

“และก่อนมา กูระบายความแค้นทุกอย่างไว้กับน้องมึง” รามพูดพลางก้มลงมองคนที่อ้อมแขน พระพายเม้มปากแน่นเมื่อรู้ว่ารามกำลังจะพูดอะไรก่อนจะก้มหน้านิ่ง

“กูหลอกพระพายไปทำระยำในห้องเก็บของหลังโรงเรียน ให้แหวนน้องเอาไว้แลกกับสัญญาว่าจะรับไปอยู่ด้วยกัน โกหกว่ารักน้องแล้วก็ทิ้งมา”

“ฮึก”

“กูไม่เคยรักน้องมึงจริงๆ ไม่ว่าจะวันนั้น หรือวันนี้ก็ไม่รัก...ไม่มีวันรัก” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา รับรู้ถึงอาการสั่นไหวของคนในอ้อมกอดก่อนจะยอมปล่อยให้พระพายทรุดลงไปหาคุณากรในที่สุด

“ที่กูบอกความจริงไม่หมดเพราะกูรู้ว่ามึงจะเป็นยังไง มึงยังไม่พร้อม และกูคิดเอาไว้ว่าเมื่อกูเอาคืนแล้วทุกอย่างก็จบ จะยอมให้มึงเอาคืนในแบบที่มึงต้องการโดยไม่ตอบโต้จนกระทั่งมึงดึงคุณวามาเกี่ยว กูทนไม่ได้”

“...”

“ถ้ามึงอยากจะจบ ก็มาเอาตัวพระพายคืนไป กูพร้อมจบให้เสมอเพราะถือว่าน้องมึงชดใช้ในสิ่งที่กูโดนมามากเกินพอแล้ว” รามพูดพลางก้าวถอยหลัง เปิดโอกาสให้พันเอกเข้ามาพาตัวน้องที่ยังร้องไห้ออกไป แต่อีกคนกลับยังยืนนิ่ง จ้องมองพระพายที่ถูกคนเป็นพ่อกอดไว้ด้วยสายตาอ่านไม่ออก

“กูจะชดใช้ให้” พันเอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเรียกให้รามเงยหน้าขึ้นไปมอง

“กูจะชดใช้ในสิ่งที่มึงเสียไปให้หมด จนกว่ามึงจะพอใจ” ร่างสูงเอ่ยพร้อมกับก้าวเดินอย่างมั่นคงไปหาราม โดยไม่คาดคิด พันเอกคุกเข่าลงตรงหน้าเจ้าของเกาะแห่งนี้พลางพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“จะชดใช้ให้จนกว่ามึงจะพอใจ แล้วหลังจากนั้นเราทั้งคู่คงไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”

“มึงควรกลับไปซะเอก กลับไปแล้วต่างคนต่างอยู่”

“ให้กูได้ชดใช้เถอะ ในส่วนที่แม่กูเคยทำเอาไว้ เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างในใจกันอีก” รามแค่นยิ้มเมื่อฟังจบ มองคนเสียหลักตรงหน้าเพียงชั่วครู่ก่อนจะมองไปยังร่างโปร่งของนาวาที่ยืนอยู่ไม่ห่าง

“มันขึ้นอยู่กับคุณวา ว่าเขาอยากให้มึงชดใช้ให้เขายังไง ถ้าเขาพอใจ เรื่องระหว่างเราก็ถือว่าจบ”

ทุกสายตามองไปยังร่างของนาวาทันทีที่รามพูดจบ คนถูกมองเลิกลั่กชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ ดวงตาสีเข้มก้มลงมองพันเอกด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกก่อนจะเบือนหน้าหนี

“ให้เขาทำงานที่เกาะสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็แล้วกัน” นาวาบอกเสียงอ้อมแอ้ม

“ผมหมายถึง...ชดใช้ในส่วนของคุณรามด้วยการเป็นคนงาน ส่วนเรื่องของผม เมื่อเขาพร้อม ผมจะบอกเขาเองว่าผมต้องการอะไร” นาวาพูดพลางสบตากับพันเอกอย่างไม่ลดละ ฝ่ายรามเองก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับรู้ก่อนจะสั่งให้รุ่งฟ้าบอกให้คนทำความสะอาดห้องพักที่เรือนคนงานเอาไว้สองสามห้อง รุ่งฟ้ารับคำหากแต่ยังขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจ รามยกยิ้มกับท่าทีของลูกน้องก่อนจะเฉลยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มพลางปรายตามองพันเอกด้วยแววตาว่างเปล่า

“ก็ในเมื่ออยากชดใช้นักก็ให้มันทำงานแลกหนี้ไป หาที่นอนหมอนมุ้งให้มันด้วยล่ะ ส่วนนาย...” ร่างสูงปรายตามองไปยังพระพายที่เอาแต่มองพี่ชายด้วยแววตาห่วงหา

“ฉันปล่อยนายคืนพี่ชายสุดที่รักแล้ว ไปนอนกับมันก็แล้วกัน”

รามเองก็อยากจะรู้นัก ว่าพันเอกจะทำยังไงกับพระพาย เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ใช่น้องแท้ๆ

จะยังหวงแหนรักใคร่เหมือนเดิม

หรือผลักใสไล่ส่ง ทำทีเกลียดชังทั้งที่ผูกใจรักตั้งแต่น้องยังเป็นทารกเหมือนคราวที่ทำกับส่องแสง

จะทำยังไงกันแน่ละ พันเอก...

 

 

 

 

 

“พอนอนได้ไหมครับ” รามเดินเข้ามาถามนาวาหลังจากที่สั่งให้รุ่งฟ้าทำความสะอาดห้องนอนแขกเอาไว้ นาวาหันมามองเจ้าของบ้านพลางยกยิ้มก่อนจะพยักหน้า

“ตอนนี้คุณวายังถูกมันทำร้ายอยู่ไหม” นายหัวหนุ่มเปิดประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม

“ไม่แล้วครับ ตรงกันข้ามเลยล่ะ” ร่างโปร่งยกยิ้มบางเบา “เขาบอกผมแบบที่บอกกับคุณ ทั้งขอโทษ ทั้งพยายามชดใช้ แล้วก็...”

บอกว่ารัก...

“แล้วคุณก็ให้อภัยง่ายๆ?” รามขึ้นเสียงสูง มองนาวาที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงด้วยความไม่เข้าใจ ฝ่ายนาวาพอได้ยินก็ส่ายหน้าปฏิเสธ

“สิ่งที่เขาทำในตอนนี้มันลบล้างฝันร้ายของผมไม่ได้หรอก แต่ผมไม่ใช่คนที่จะมาผูกใจเจ็บ ในเมื่อเขาขอโอกาสแก้ตัว ผมก็จะให้” นาวาพูดขึ้น รามกำลังจะอ้าปากเถียงแต่ก็หยุดเอาไว้และรอฟังสิ่งที่อีกคนจะพูดต่อ

“ทั้งชีวิตผมเจอแต่เรื่องแย่ๆ และที่ทำให้ผมเจียนตายคือการเสียน้อง ผมคิดว่าไม่มีใครทรมานเท่าผมอีกแล้ว...จนได้ฟังเรื่องในวันนี้”

“คุณวา...”

“ทั้งคุณ ทั้งคุณเอก ทั้งพระพาย ล้วนแล้วแต่มีชีวิตอยู่บนความบิดเบี้ยวของโชคชะตาที่มากกว่าผม ผมไม่เกลียดใครที่ดึงผมเข้ามาเกี่ยว แต่ผมก็ไม่อยากจะอยู่ในวังวนนี้อีก ถ้าคุณจะกรุณา อย่าเอาผมเข้าไปเกี่ยวอีกจะได้ไหมครับ” นาวาสบตากับร่างสูงอย่างจริงจังก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ไม่ต้องแค้นแทนผม ให้มันเป็นเรื่องของพวกคุณ ผมมาที่นี่เพื่อที่จะเป็นผู้ชม มาเพื่อมองดูว่าคุณเอกเขาจะชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปยังไง และคุณ...จะทำยังไงกับสิ่งที่ตัวเองทำเอาไว้กับพระพาย” นาวาเอ่ยถึงใครอีกคนที่ตอนนี้เดินตามพันเอกและคนอื่นๆไปยังเรือนคนงาน รามชะงักไปชั่วครู่พลางเบือนหน้าหนี

“ผมกับพระพายเราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน”

“เหรอครับ แต่พระพายรักคุณนะ ใครๆก็ดูออก” นาวาพูดขึ้นพลางยกยิ้มเมื่อเห็นอีกฝ่ายกัดฟันกรอด

“แต่ผมไม่ได้รักเขา คุณก็รู้ว่าคนที่ผมรักคือคุณ” ร่างสูงเดินเข้ามาหาพลางคุกเข่าลงตรงหน้าของนาวา สองมือแกร่งรวบมือขาวเอาไว้แล้วบีบเบาๆ

“ผมไม่สนว่าคุณจะเจออะไรมา ไม่สนว่าคุณเคยเป็นของใคร เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม” ร่างสูงวอนขอ ดวงตาคมปลาบจ้องใบหน้าขาวของนาวาด้วยแววตาจริงจัง คนถูกมองขยับตัวอย่างอึดอัด ทำตัวไม่ถูกกับประโยคของอีกคน

เขาไม่รู้จะตอบรามไปว่ายังไง

นาวาเป็นคนมีตำหนิ เป็นเหมือนนกที่มีกรงเป็นของตัวเอง มีเจ้าของ

แม้จะไม่ใช่เจ้าของทางใจ แต่ผู้ชายคนนั้นก็ได้ขึ้นชื่อว่าเคยครอบครองร่างกายของเขามาแล้ว ถึงจะไม่ได้รักแต่นาวาก็รู้ดีว่าสัมผัสของพันเอกยังฝังแน่นอยู่ทุกอณูผิว

ถึงเขาจะเป็นผู้ชาย มันก็คงจะไม่ผิดใช่ไหมที่เขาจะยึดติดกับคนแรกที่ได้ต้องกายกัน แม้มันจะเป็นฝันร้ายเมื่อยามหลับตา แต่มันก็เป็นความจริงที่ว่าสิ่งที่พันเอกทำมันก็ไม่ต่างจากการตีตราจองเขาเอาไว้ การที่นาวาจะเริ่มต้นใหม่กับใครคนอื่นทั้งที่ร่างกายเคยเป็นของใครอีกคนแบบนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่เขาควรทำ เขายังทำใจไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังไม่ใช่ในตอนที่เขายังคงจำสัมผัสและสีหน้าท่าทางของพันเอกได้ขึ้นใจอยู่แบบนี้

“ผมยังไม่พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับใครในตอนนี้ครับคุณราม ผมขอโทษ” ตัดสินใจเอ่ยออกไปอย่างที่ใจคิด “ผมรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ชาย แต่ผมมีสิทธิ์รักนวลสงวนตัว มีสิทธิ์รักในคุณค่าของร่างกายตัวเอง ตอนนี้ผมไม่คิดจะเปิดรับใครเข้ามาในชีวิตทั้งนั้น และถึงจะคิด คนคนนั้นก็ไม่ใช่คุณ”

ร่างสูงของรามนิ่งไปกับประโยคของนาวา ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหนักหน่วง ในอกวูบโหวงกับคำปฏิเสธของคนตรงหน้า

“เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้ใช่ไหมครับ” นาวาเอียงคอถาม หวั่นใจและรู้สึกผิดไม่น้อย เขากำลังทำร้ายความรู้สึกของรามอยู่หรือเปล่านะ...

คนคนนี้รักเขา เคยเจ็บและเกือบตายเพราะเขา แต่ ณ ตอนนี้ ในเวลานี้ นาวากลับปฏิเสธอีกคนไปอย่างไร้เยื่อใย นาวารู้ว่าตัวเองแย่ แต่เขาแค่อยากเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนความรู้สึกของใครทั้งนั้น

นาวาทำเพื่อคนอื่นมามาก เขาแค่อยากตัดสินใจเลือกทางเดินให้กับชีวิตของตัวเอง เลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการและพึงพอใจบ้าง มันอาจจะดูย้อนแย้งกับอดีตที่ผ่านมาไปสักเล็กน้อย แต่ในเมื่อเลือกที่จะสนใจแค่อนาคต อดีตจะเป็นยังไงเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น

“ผมเข้าใจ มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง”

“ครับ”

“ว่าแต่...คุณอยากเดินเที่ยวแถวนี้หน่อยไหม ผมเลี้ยงหอยมุกเอาไว้แล้วก็มีกระชังปลาอนุบาลสัตว์น้ำด้วย เดี๋ยวผมพาไปดู” รามเบี่ยงประเด็นเพราะไม่อยากให้นาวาเครียดมาก คนถูกถามชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า ร่างสูงจึงพานาวาออกมาเดินดูแถวกระชังปลาที่สร้างยื่นออกไปในทะเลที่มีระดับความลึกมากพอ ทางเดินเป็นเพียงไม้สองแผ่นวางคู่กัน นาวาหวิดจะตกทะเลอยู่หลายครั้งเพราะกระแสน้ำทำเอารามต้องคว้าแขนเล็กเอาไว้พลางหัวเราะบางเบา

“ระวังด้วย”

“ครับ...อ๊ะ มีโลมาด้วย” ร่างโปร่งพึมพำ มองลูกโลมาตัวจ้อยแหวกว่ายอยู่ในกระชังขนาดใหญ่ บริเวณหางมีบาดแผลเหวอะหวะที่รามบอกว่ามันได้มาจากอวนแหของชาวประมง

“แล้วแบบนี้คุณจะปล่อยมันกลับไปไหม”

“ให้อาการมันดีกว่านี้ก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะส่งไปที่สถานอนุรักษ์สัตว์น้ำให้เขาดูแลต่ออีกทีหนึ่ง” รามยกยิ้ม มองนาวาที่จ้องลูกโลมาตาเป็นประกายก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเห็นร่างเล็กของพระพายเดินเข้ามาหา

“พี่วา”

“อ้าว...คุณพาย มีอะไรรึเปล่าครับ” นาวาหันไปถามคนตัวขาวที่ยืนนิ่งอยู่ห่างๆในขณะรามมองคนที่มาขัดจังหวะด้วยความไม่พอใจ ร่างสูงฮึดฮัดในลำคอแผ่วเบาก่อนจะขอตัวเดินไปทางอื่น พระพายมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยแววตาวูบไหว ร่างเล็กเม้มปากแน่นจนนาวาอดสงสารไม่ได้ ต้องเดินเข้าไปหาพระพายก่อนจะคว้ามือขาวเข้ามาจับเอาไว้แน่นจนอีกฝ่ายสะดุ้ง

“คุณพายมีอะไรครับ” นาวายกยิ้ม เอ่ยถามร่างเล็กที่ผอมลงไปถนัดตาพลางจูงมือพระพายกลับเข้าฝั่ง

“เอ่อ เรื่องณะโมน่ะครับ” คนถูกถามอ้ำอึ้ง ชั่งใจอยู่ชั่วครู่ว่าควรจะพูดกับนาวาดีไหม

“ผมยังเก็บอัฐิของณะไว้ที่บ้าน รอพี่วา...” พระพายหยุดพูดพลางช้อนดวงตาขึ้นมองปฏิกิริยาของอีกคน นาวาเงียบลงไปถนัดตาเมื่อคิดถึงเรื่องน้อง ในอกวูบโหวง ขอบตาเรียวร้อนผ่าวทำเอาคนมองร้อนรน

“ขอโทษนะครับพี่วา ขอโทษแทนพี่เอกด้วยที่พาตัวพี่ไปแบบนั้น ขอโทษที่จัดงานศพโดยไม่มีพี่ พี่วาจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่อย่าเกลียดผมเลยนะ” พระพายพูดขึ้นด้วยความร้อนใจ มือขาวบีบมือของนาวาเบาๆพลางส่งสายตาขอโทษขอโพยมาให้ นาวามองคนตัวเล็กกว่าด้วยความเอ็นดูก่อนจะดึงมือออกจากการเกาะกุมและยกขึ้นมาวางบนศีรษะของคนตรงหน้าแล้วลูบเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ ผมเกลียดคุณไม่ลงหรอก”

ร่างโปร่งยกยิ้มบางเบาก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง “แล้วนี่...คุณเอกละครับ”

“ไปช่วยคนงานที่ท่าเรืออีกฝั่งของเกาะน่ะครับ เกาะนี้จะมีสองฝั่งซ้ายขวา ฝั่งนี้เป็นบ้านส่วนตัวของคุณรามและฟาร์มมุก อีกด้านถัดออกไปอีกก็จะเป็นหมู่บ้านเล็กๆและท่าเรือของชาวประมง ตรงส่วนนี้รวมๆจะอยู่ทางปีกขวาของเกาะ” พระพายเล่าให้คนตัวสูงกว่าก่อนจะก้าวเดินเลียบชายหาดไปเรื่อยๆ

“เข้าไปข้างในหน่อยก็จะมีสวนปาล์มกับสวนมะพร้าว ส่วนพื้นที่ทางปีกซ้ายจะเป็นป่าและหน้าผา แต่ก่อนจะถึงผาก็มีน้ำตกอยู่ สวยมากเลยนะครับ ว่างๆเดี๋ยวผมจะพาไปเล่นน้ำ” คนตัวขาวยกยิ้ม นาวามองพระพายอย่างนึกอึ้งแล้วก็อดที่จะกระเซ้าเย้าแหย่ไม่ได้

“คุณพายรู้ละเอียดเหมือนเป็นเจ้าของเกาะเลยนะครับเนี่ย”

“ก็...แรกๆหนีบ่อยน่ะครับ เลยเหมือนเป็นการทัวร์เกาะไปในตัวด้วย แต่หนียังไงก็ถูกจับกลับมาเหมือนเดิม” ร่างเล็กพูดติดตลก นาวาชะงักกับคำบอกของอีกคนก่อนจะเงียบไป

“คุณพายเกลียดคุณรามไหม” ร่างโปร่งตัดสินใจเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ พระพายหันมามองคนตัวสูงกว่าพลางส่ายหน้า

“ผมไม่เกลียดเขาหรอก แต่เกลียดตัวเองมากกว่า...” พระพายพูดพลางก้มลงมองหาดทรายสีเนื้อและฟองของน้ำทะเลที่ถูกพัดขึ้นมาบนชายหาด “ผมเกลียดความมั่นคงในใจของตัวเอง เมื่อก่อนผมรู้สึกกับเขายังไง ตอนนี้ใจผมมันก็ไม่เคยเปลี่ยน ทั้งๆที่เขาก็ร้ายใส่สารพัด ทำร้ายทั้งร่างกายแล้วก็จิตใจผมตั้งมาก แต่ผมกลับเกลียดเขาไม่ลง ไม่แม้แต่จะมีความคิดที่จะรู้สึกกับเขาแบบนั้น”

“...”

“ผมมันโง่มากใช่ไหมพี่วา กับคนที่ทำร้ายกันขนาดนั้นผมยังเกลียดเขาไม่ลงเลย” พระพายพูดด้วยน้ำเสียงสมเพชตัวเอง นาวาหลุดขำออกมาเพียงเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าไปมาเบาๆ

“ไม่เห็นโง่เลย ผมเองก็ไม่ได้ต่างเท่าไหร่” ชายหนุ่มพูด ทำเอาพระพายต้องหันมามองเสี้ยวหน้าขาวของนาวาอย่างรวดเร็ว

“ทั้งที่พี่ชายคุณร้ายใส่ผมขนาดนั้น ผมก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะรู้สึกเกลียดอะไรเขามากมาย ความรู้สึกที่มีในตอนนี้ก็แค่โกรธ ไม่รู้สิครับ ชีวิตผมผ่านความเลวร้ายมามาก คุณเอกก็เหมือนกับอุปสรรคแย่ๆที่แค่ผ่านเข้ามา เดี๋ยวสักพักทุกอย่างก็ดีขึ้น”

“พี่วา...รักพี่เอกเหรอครับ” พระพายถามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ นาวาหันไปยิ้มให้คนถามก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่ครับ”

“...”

“คุณเอกเป็นแค่คนที่เป็นเจ้าของกาย แต่ไม่ใช่เจ้าหัวใจ ถึงจะบอกว่าไม่ได้เกลียดที่เขาเคยทำไม่ดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นรักเขาต้องบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยจะดีกว่า” นาวาพูดออกไปตามความรู้สึก

“ไม่ว่าพี่ชายคุณจะทำอะไรหรือรู้สึกยังไง สำหรับผมแล้วเขาก็แค่คนที่ผมรู้จักชื่อ ที่ผมยังอยู่เพราะผมต้องการบางอย่างจากเขา ถ้าได้มาแล้วถึงตอนนั้นผมก็จะไป” นาวายกยิ้ม มองหน้าพระพายที่มองกลับมาด้วยแววตาไม่สบายใจ

“แล้วพี่วาจะไม่ให้โอกาสพี่เอกหน่อยเหรอครับ พี่เอกรักพี่มากนะ” ร่างเล็กอดถามขึ้นมาไม่ได้ ให้นาวาเกลียดพันเอกยังจะดีกว่าการไม่รู้สึกอะไรด้วยแบบนี้ การไม่รู้สึกอะไรเลยของนาวาบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าอีกฝ่ายพร้อมที่จะหายออกไปจากชีวิตพันเอกได้ทุกเมื่อ

“ตอนนี้ไม่ครับ ผมอยากให้เราทั้งคู่จบกันแค่นี้” นาวาพูดขึ้นก่อนจะเหม่อมองออกไปยังผืนน้ำสีครามตรงหน้า “ทุกคนมีโอกาสเป็นของตัวเอง แต่ผมแค่อยากขอเวลา”

ใช่...สิ่งเดียวที่จะช่วยเยียวยาบาดแผลในใจของนาวาได้ก็คือเวลา

แค่เวลาเท่านั้น

 

…………………………………………………………………………………………………………….

 

“อ้าวพี่รุ่งคนสวย ลมอะไรหอบมาถึงนี่เลยจ๊ะ” เสียงหวีดร้องโห่แซวของหนึ่งในชาวประมงที่กำลังลำเลียงปลาลงจากเรือดังขึ้นเมื่อรุ่งฟ้าเดินมาถึง คนถูกแซวกรอกตาไปมาอย่างเบื่อหน่าย ร่างโปร่งแจกนิ้วกลางให้เหล่าคนงานปากเปราะไปทีหนึ่งก่อนจะตะโกนด่า

“สวยพ่อมึงสิไอ้เหี้ย!”

“อู้ว สวยดุซะด้วย” อีกฝ่ายไม่วายต่อล้อต่อเถียง รุ่งฟ้าพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดพลางส่งสายตาเชือดเฉือนไปให้

“เอาคนงานใหม่มาส่งสามคน ไอ้พวกจิ๊กโก๋มึงอย่าก่อเรื่องละ นี่คนของนายหัว” ร่างโปร่งกวาดสายตามองคนงานก่อนจะหันมาพูดกับชายหนุ่มสามคนที่เดินตามหลังมาด้วยใบหน้าราบเรียบ

“เดี๋ยววันนี้พวกคุณช่วยคนงานขนปลาขึ้นจากเรือนะ กรมอุตุบอกมาว่าเย็นนี้พายุจะเข้า ไว้พรุ่งนี้ผมจะบอกเพิ่มเองว่าต้องทำอะไรบ้าง พอเสร็จแล้วก็กลับห้องไปอาบน้ำอาบท่าซะ เดี๋ยวจะให้คนเอาข้าวยาปลาปิ้งไปให้”

“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพวกผมหากินกันเอาเอง” พันเอกพูดสวนร่างโปร่งด้วยน้ำเสียงขอไปที รุ่งฟ้าเหยียดยิ้มใส่คนตัวโตก่อนจะเย้ยเสียงสูง

“คุณคงลืมไปแล้วมั้งว่าที่นี่เป็นเกาะ ไม่ได้มีร้านกับข้าวสองข้างทางหรอกนะ”

“...”

“อย่าถือตัวให้มากนักเลยคุณพันเอก คุณหาเรื่องเอง จริงๆกลับไปเงียบๆก็ดีอยู่แล้ว ไม่น่าเสนอหน้ามาขอชดใช้อะไรไร้สาระแบบนี้ด้วยซ้ำ” รุ่งฟ้าอดพูดออกมาไม่ได้ เขามั่นใจว่าถ้าพันเอกยอมจบและกลับไปอย่างเงียบๆนายหัวรามก็ไม่เกี่ยง นายของเขาพร้อมปล่อยคนพวกนี้ให้เป็นอิสระแน่นอน เดิมทีก็ไม่ได้คิดจะทำร้ายอะไรอีกฝ่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่เป็นแบบนี้เพราะพันเอกเองนั่นแหละที่ขอชดใช้

รุ่งฟ้าอดสงสัยไม่ได้ ไอ้ที่ว่าชดใช้น่ะ...พันเอกกำลังชดใช้อะไรอยู่

ชดใช้ที่พ่อกับแม่ตัวเองเคยทำไม่ดีเอาไว้ หรือชดใช้ที่ตัวเองทำเลวๆกับคุณนาวากัน?

หรือกำลังชดใช้ทั้งคู่

แล้วเรื่องที่นายหัวของเขาทำร้ายพระพายล่ะ พันเอกคิดจะเอาคืนอะไรอีกไหม

เขาตามคนพวกนี้ไม่ทันจริงๆ

“ผมเคยทำอะไรเอาไว้ก็จะชดใช้ให้หมดนั่นแหละ จะได้หมดเวรหมดกรรมกันไปสักที ผมเองก็ไม่ต้องคลางแคลงใจอะไรอีก อย่างน้อยก็ไม่ถูกคนแถวนี้ตราหน้าว่าหน้าตัวเมีย ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด” พันเอกพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดวงตาคมดุปรายตามองรุ่งฟ้าด้วยท่าทีนิ่งๆ ฝ่ายคนฟังชะงักไปชั่วอึดใจ ร่างโปร่งเบือนหน้าหนีพลางถอนหายใจ

“เอาเถอะ ไปทำงานได้แล้ว ฝนใกล้จะมาแล้ว ผมไปละ” พูดจบก็หมุนตัวเดินหนี ไม่วายถูกคนงานแซวตามหลังจนต้องถอดรองเท้าแล้วโยนใส่พวกมันจนแตกฮือไปคนละทิศคนละทาง

“โหดชิบ” พายุบ่นไล่หลังพลางย่นจมูก จักรที่ยืนข้างกันได้แต่ส่ายหัวมองคนตัวเล็กอย่างอ่อนใจ มือใหญ่ยกขึ้นยีหัวร่างโปร่งเบาๆ จนพายุเอ็ดตะโรใหญ่ก่อนที่ทั้งคู่จะตามพันเอกไปช่วยคนงานทำงานอย่างเงียบๆ

ดูเหมือนว่าที่รุ่งฟ้าบอกว่าพายุจะเข้านั้นเป็นเรื่องจริง เพราะหลังจากที่พันเอกขนปลาขึ้นจากเรือยังไม่ทันไร ฝนก็เทกระหน่ำลงมาราวกับฟ้ารั่ว เหล่าชาวประมงกุลีกุจอทำงานของตัวเองกันยกใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน พันเอกกับลูกน้องคนสนิทเองก็ได้วิ่งตากฝนจากท่าเรือมายังเรือนพักของคนงานที่อยู่ห่างกันเกือบเป็นกิโล

“ฝนตกหนักแบบนี้ คืนนี้จะนอนหลับไหมเนี่ย” พายุบ่นอุบ มองลมกรรโชกที่พัดเอากิ่งไม้ใบหญ้าให้ไหวเอนอย่างรุนแรงด้วยความไม่ชอบใจ เสียงฟ้าแลบแปลบปลาบพาให้หัวใจสั่นไหว เขาไม่ชอบเวลาฝนตกหนักแถมมีฟ้าร้องฟ้าผ่าเอาเสียเลย

“ตกขนาดนี้คุณรุ่งคงเอาข้าวมาส่งให้ไม่ได้แล้ว ทนหิวกันหน่อยนะ” พันเอกมองฟ้าพลางเอ่ยบอกทั้งจักรและพายุ ทั้งคู่บอกปัดว่าชินแล้วกับการอดมื้อกินมื้อก่อนจะขอตัวแยกย้ายเข้าไปอาบน้ำอาบท่า แต่ยังไม่ทันที่ใครจะได้ขยับตัวเสียงคุ้นเคยของพระพายก็ดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่หอบเอาถุงกับข้าวและถ้วยจานมาเต็มอ้อมแขน

“พี่เอก พี่ยุ พี่จักร”

“คุณพาย! ทำไมตากฝนมาแบบนี้ละครับ” พายุร้องเสียงหลง ตรงเข้าไปดึงร่างเล็กเข้ามาใกล้พลางขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง

“ผมเอาข้าวจากบ้านพ่อกรมาให้ กลัวไม่มีใครเอาข้าวมาส่งน่ะครับ” พระพายยกยิ้ม หันไปมองพันเอกที่ยืนนิ่งแล้วก็รีบวิ่งปุเลงๆเข้าไปหาคนเป็นพี่ชาย

“วันนี้คุณพ่อทำแค่ไข่เจียวกับน้ำพริก แล้วก็มีข้าวสวย ผมเห็นว่ามีปลาทูเลยทำป่นมาเพิ่มให้ด้วย พี่เอกกินได้ไหม” ร่างเล็กพูดพลางแกะถุงกับข้าวเทใส่จานที่เตรียมมา พันเอกก้มลงมองพระพายที่กระตือรือร้นดูแลเขาเสียยกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก ความจริงที่เพิ่งได้รู้เมื่อตอนกลางวันทำเอาร่างสูงสับสน ขายาวก้าวถอยหลังออกห่างจากร่างเล็กก่อนจะเอ่ยตัดบทเสียงเรียบ

“เอากลับไปเถอะ ฉันไม่หิว”

“แต่คุณรุ่งบอกว่าพี่ทำงานหนัก ต้องกินนะพี่เอก สองสามคำก็ยังดี” พระพายพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองหน้าคมคายของคนเป็นพี่ พันเอกขมวดคิ้ว ตัดสินใจพูดกับพระพายออกไปตามตรง

“กลับไปซะพระพาย ฉันยังไม่พร้อมจะคุยกับคนอื่นตอนนี้”

“พี่เอก...” พระพายครางในลำคอ ในอกเจ็บลึกกับคำว่า ‘คนอื่น’ ของพี่ชายจนใจหาย

“อย่าเพิ่งมาให้เห็นหน้าได้ไหมพระพาย เห็นแก่ฉันที ช่วยอยู่ห่างๆฉันสักพักเถอะ อย่าให้ฉันต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้เลย” ร่างสูงพูดอย่างไม่เห็นใจความรู้สึกของคนฟังเลยแม้แต่น้อย พระพายมองพี่ด้วยแววตาวูบไหว อดจะเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาให้คนฟังใจหายไม่ได้

“โกรธมากเลยเหรอครับ”

พันเอกสะอึก เงียบไปกับคำถามของน้องแล้วเบือนหน้าหนี

“ผมเลือกเกิดไม่ได้หรอกนะพี่เอก ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเป็นลูกพ่อพัฒเหมือนกับพี่” ร่างเล็กพูดพลางยิ้มขืน “ผมรักพี่ที่สุดนะ พี่ไม่รักผมแล้วก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับผม พี่เอกเป็นคนเดียวที่ผมรักมากกว่าชีวิตของผมเอง” พระพายหลุดสะอื้นเสียจนพายุแทบจะเข้าไปกอด จักรดึงคนข้างกายเอาไว้พลางส่ายหน้า ไม่สนใจใบหน้างอง้ำของพายุที่มองมาเลยแม้แต่น้อย

เขาเข้าใจดี จักรเองก็สงสารพระพายไม่แพ้กัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนในครอบครัว คนนอกไม่ควรเข้าไปก้าวก่ายไม่ว่าจะยังไงก็ตาม

“กลับไปเถอะพระพาย” พันเอกพูดขึ้น “กลับกรุงเทพไปซะ นายไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว”

“อยู่กับพี่ไง รอกลับพร้อมกันเลย” พระพายพูดขึ้น สองขากำลังจะก้าวเข้าไปหาคนตรงหน้าหากแต่พันเอกกลับก้าวออกให้ห่าง พอเห็นแบบนั้น น้ำตาเม็ดใสก็ร่วงผล็อยลงผ่านผิวแก้มของคนเป็นน้องแทบจะในทันที

“ไปเถอะพระพาย ฉันเห็นนายแล้วรู้สึกแย่มากจริงๆ” จบประโยคร่างสูงก็เดินหนีเข้าห้อง ในขณะที่พระพายยังคงยืนอยู่ที่เดิมแม้บานประตูจะปิดลงแล้ว

สิ่งที่เจ็บกว่าการที่รามบอกว่าไม่มีวันรักเขา ก็คือการถูกพี่ชายที่รักมากที่สุดหันหลังให้อย่างไม่คิดใยดีกัน

พระพายได้แต่บอกตัวเองว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวพันเอกก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

เขาไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวพันเอกก็จะกลับมาเป็นพี่ชายคนเดิมของเขาเหมือนเดิม

ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม...

 

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 21-22 P.10 (29/04/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 12-05-2015 18:51:15
:: CHAPTER 24 ::
รักแท้ดูแลไม่ได้



‘ผมเลือกเกิดไม่ได้หรอกนะพี่เอก ถ้าเลือกได้ก็อยากจะเป็นลูกพ่อพัฒเหมือนกับพี่’
‘ผมรักพี่ที่สุดนะ พี่ไม่รักผมแล้วก็ไม่เป็นไร แต่สำหรับผม พี่เอกเป็นคนเดียวที่ผมรักมากกว่าชีวิตของผมเอง’


 

“โธ่เว้ย!”

พันเอกสบถออกมาด้วยความสับสนหลังจากหนีหน้าพระพายเข้ามาในห้องพักของตัวเอง คำพูดของคนเป็นน้องที่บอกกับเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพาให้ร่างสูงรู้สึกอึดอัด ลึกๆอยากจะดึงร่างแน่งน้อยเข้ามากอดแนบอกและบอกว่ายังไงก็รัก

หากแต่ความจริงที่เพิ่งได้รับรู้มันกลับตีตื้นขึ้นมาค้ำคอ กับคนที่เกลียดชังการนอกใจอย่างพันเอกแล้ว...การรับรู้ว่าน้องชายที่หวงแหนดั่งแก้วตาดวงใจเกิดขึ้นมาเพราะความล้มเหลวของตระกูลทำให้พันเอกรู้สึกเหมือนถูกผลักตกเหวลึก ยากที่จะปีนกลับขึ้นมาโดยไร้บาดแผล เขาเกลียดการลักกินขโมยกิน เกลียดคนสองใจ เกลียดการเล่นชู้เพราะรู้ดีว่าคนที่ซื่อสัตย์นั้นจะเจ็บเจียนตายมากแค่ไหน เพราะเหตุนี้เขาจึงทำร้ายเทียนทุกวถีทางและเลือกที่จะมอบความรักให้พระพายมากกว่าใครๆ

แต่พอได้มารู้ว่าพระพายเองก็ไม่ใช่เด็กที่เกิดจากบิดาและมารดาของเขา ซ้ำยังเกิดจากความตั้งใจ ไม่ใช่ความมึนเมาเอาแต่ได้อย่างคราวของพ่อเขากับปานดาวแม่ของเทียน มันทำให้พันเอกรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโง่

หลังจากนี้ พันเอกรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาอาจจะไม่เหมือนเดิม ให้ทำใจได้ง่ายดายเพียงไม่กี่วันก็คงเป็นไปไม่ได้ อะไรหลายๆอย่างมันแปรเปลี่ยนไปเสียหมดจนพันเอกเหมือนกับคนตาบอดที่กำลังหลงทาง

แต่ถึงจะมีหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไป แต่ลึกลงไปในใจของเขาก็ยังมั่นคง

พันเอกยังรักน้องเหมือนเดิม เขายังรักพระพายเหมือนเดิม รักเหมือนกับที่ลึกๆ แล้วเขาก็ยังรักส่องแสงเหมือนเดิม

รักยิ่งกว่าชีวิต

รักมากยิ่งกว่าสิ่งใด...

 

 

 

 

วันรุ่งขึ้นพันเอกตื่นขึ้นมาทำงานแต่เช้า ร่างสูงสวมใส่เสื้อผ้าที่รุ่งฟ้าจัดหามาให้ก่อนจะเดินไปยังท่าเรือ ระหว่างทางดวงตาคมดุก็บังเอิญปะทะเข้ากับร่างโปร่งของนาวาที่กำลังนั่งเล่นอยู่ริมหาด ชายหนุ่มจึงนึกขึ้นได้ว่ามัวแต่วุ่นวายเรื่องของตัวเองจนลืมนาวาไปเสียสนิท

“วา” คนตัวสูงเดินเข้าไปหาพลางทรุดตัวลงนั่งข้างอีกคน นาวาหันมามองพันเอกพลางเลิกคิ้วขึ้นก่อนจะหันกลับไปสนใจผืนน้ำตรงหน้าต่อ

“เมื่อวานขอโทษด้วยนะ” พันเอกเอ่ยขึ้น มือแกร่งยกขึ้นปัดปอยผมออกจากปรางแก้มขาวของอีกคนแผ่วเบา นาวาขมวดคิ้ว หันกลับมามองพันเอกอีกครั้งพลางเอ่ยถาม

“ขอโทษ? ขอโทษเรื่องอะไรกันครับ”

“ก็...มัวแต่วุ่นวายเรื่องเมื่อวานจนลืมนายไปซะสนิท นายนอนที่ไหน” พันเอกถามพลางขยับเข้าไปใกล้ร่างโปร่งอย่างถือวิสาสะ

“นอนบ้านคุณรามครับ” นาวาตอบเสียงเบา “เห็นคุณรามบอกว่าคุณได้ไปนอนที่เรือนคนงาน คุณนอนสบายไหม”

พันเอกยกยิ้มกับคำถามที่เจือแววห่วงใยของอีกคน “นอนได้ ว่าแต่นายเถอะ จะกลับกรุงเทพพร้อมกับพายุแล้วก็จักรก่อนก็ได้นะ สองคนนั้นต้องกลับไปเคลียร์งาน ส่วนฉันก็คงอยู่ใช้หนี้ให้เจ้าของเกาะจนกว่ามันจะพอใจถึงจะได้กลับ” พันเอกพูดขึ้น นาวาส่ายหน้าปฏิเสธไปให้ก่อนจะย้อนถาม

“ไม่คิดว่าผมจะอยู่กับคุณรามเหรอครับ”

“...”

“ทำไมถึงมั่นใจนักว่าผมจะกลับไปอยู่กับคุณ” นาวาแสร้งถามด้วน้ำเสียงราบเรียบ พันเอกหน้าเจื่อนกับประโยคของอีกคนพลางเงียบลงไปถนัดตา ร่างโปร่งเห็นแบบนั้นก็หลุดหัวเราะออกมาผะแผ่วพลางส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

“อย่าคิดมากเรื่องของผมเลย ผมไม่ไปไหนหรอกครับเพราะผมยังไม่ได้ในสิ่งที่ผมต้องการ”

“หืม?”

“คุณจัดการเคลียร์เรื่องคุณรามให้เรียบร้อยซะให้หมดก่อนเถอะ ผมยังอยู่ข้างๆ คุณไม่ไปไหน ไว้ทุกอย่างจบลงเมื่อไหร่ผมจะบอกเองว่าต้องการอะไรเป็นค่าตอบแทนสำหรับสิ่งที่ผมสูญเสีย” นาวาพูดขึ้น พันเอกยกยิ้มจางๆ พลางเลื่อนมือขึ้นไปลูบแก้มนิ่มของอีกคนอย่างรักใคร่ ริมฝีปากสีชาดเอ่ยขอบคุณแผ่วเบาหากแต่นาวากลับส่ายหน้าหวือปฏิเสธคำขอบคุณนั้นพลางตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดตลก

“ถ้าคุณรู้ว่าจะต้องจ่ายค่าความเป็นคนของผมด้วยอะไร คุณจะไม่มานั่งขอบคุณแล้วมองผมตาหวานแบบนี้หรอก”

“ไม่ว่าอะไรฉันก็พร้อมให้นายได้ทุกอย่างนั่นแหละ” พันเอกพูดพลางยืดตัวเข้าไปกดจูบลงบนขมับของนาวาอย่างรวดเร็ว คนถูกฉวยโอกาสผละหนีออกแทบไม่ทันพลางขมวดคิ้ว นาวากำลังจะอ้าปากด่าคนตัวโตตรงหน้าแต่พันเอกก็ฉวยโอกาสหอมแก้มเขาไปฟอดใหญ่อีกครั้งและรีบวิ่งหนีไป ทิ้งให้ร่างโปร่งได้แต่นั่งขมวดคิ้วมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความไม่ชอบใจ

“ฉวยโอกาสเก่งชะมัด ให้ตายสิ” นาวาพึมพำ น้ำเสียงติดจะห้วนสั้นแสดงถึงความไม่พอใจ หากแต่ริมฝีปากอิ่มกลับยกยิ้มขึ้นบางเบาโดยไม่รู้ตัว...

 

ทางด้านพันเอกเองหลังจากเดินออกมาและตรงไปยังท่าเรือก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างเล็กของพระพายยืนถือปิ่นโตพลางส่งยิ้มบางเบามาให้ ใบหน้าขาวซีดเผือด ผิวเนียนละเอียดมีรอยช้ำจางๆ ที่พันเอกเพิ่งจะสังเกตเห็น

“พ่อกรให้ผมยืมครัวทำกับข้าวมาให้น่ะ เมื่อคืนพี่ก็ไม่ได้กินอะไรเลย เดี๋ยวจะไม่สบายไปซะก่อนนะครับ” พระพายพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงละล้าละหลัง พันเอกปรายตามองปิ่นโตในมือของอีกคนแล้วก็สะบัดตัวเดินหนีออกมา หากแต่พระพายก็ยังคงวิ่งปุเลงๆ ตามหลังพี่ชายตัวโตอย่างไม่ยอมแพ้

“จะตามมาทำไม เกะกะ” คนเป็นพี่ขมวดคิ้ว นี่พระพายไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาบอกไปเมื่อานเลยหรือไงกันนะ อุตส่าห์บอกไปแล้วว่าอย่ามาให้เห็นหน้ากันสักพักแต่ก็ยังดื้อด้านไม่ฟังกัน ให้เวลาเขาทำใจสักนิดไม่ได้เลยหรือไงกัน

“ถ้าไม่อยากให้ตามพี่เอกก็กินข้าวก่อนสิ แล้วผมจะไม่มาให้เห็นหน้าเลย” พระพายเถียงด้วยใบหน้าขึงขัง ได้ยินเสียงฮึดฮัดจากคนเป็นพี่แล้วก็นึกน้อยใจ ถ้าหากคนที่ถือปิ่นโตเป็นนาวาแทนที่จะเป็นเขาพันเอกคงยิ้มร่าและรับมาเปิดกินอย่างง่ายดายเลยสินะ

“ฉันจะกินไม่กินมันก็เรื่องของฉัน ก็บอกแล้วไงว่าให้ไปให้พ้นๆ”

“พี่เอก! ทำไมพี่พูดแบบนี้ละ” พระพายตัดพ้อ สองขาหยุดกึกมองแผ่นหลังกว้างของพี่ชายด้วยความเสียใจ

“ผมแค่เป็นห่วง กลัวพี่จะป่วย พี่ก็แค่กินข้าวแล้วผมก็จะไม่มาให้เห็นแล้ว แค่นี้ไม่ได้เลยเหรอครับ โกรธมากเลยเหรอ” ร่างเล็กพูด ริมฝีปากสีสดเบ้ราวกับเด็กเล็ก พันเอกหลับตากับสิ่งที่ได้ยินพลางถอนหายใจ ชายหนุ่มหมุนตัวไปประจันหน้ากับพระพายพลางย่างเท้าเข้าไปหยุดยืนอยู่ไม่ห่างร่างของน้อง ดวงตาคมดุจ้องใบหน้าขาวพลางพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“มันยิ่งกว่าคำว่าโกรธอีก ให้เวลาฉันหน่อยพระพาย บอกตามตรงว่าฉันรู้สึกแย่มากจริงๆ ทางที่ดีช่วยไปให้พ้นจากเกาะนี้ กลับกรุงเทพไปซะ ถ้ายังรักฉันอยู่ก็ช่วยทำตามที่ฉันบอกด้วย” พูดจบพันเอกก็ฉวยเอาปิ่นโตในมือของน้องมาถือเอาไว้ก่อนจะโยนทิ้งลงทะเล พระพายเบิกตากว้าง กลีบปากอิ่มเรียกชื่อพี่ชายเสียงดัง สองมือกำหมัดแน่นสะกดกลั้นความเสียใจเอาไว้ในขณะที่พันเอกตะโกนกร้าวด้วยความไม่พอใจ

“ถ้าของพวกนี้มันมาจากน้ำจิตน้ำใจของพ่อของนายฉันก็ไม่ต้องการ”

“ฮึก”

“ไปซะพระพาย กลับกรุงเทพไป อย่ามาร่วมหัวจมท้ายกับฉันที่นี่ การเดินตามฉันในตอนที่ฉันยังทำใจไม่ได้มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ต่อให้นายตายลงต่อหน้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร คิดให้ดีๆ นายเองก็น่าจะรู้ว่าฉันนิสัยยังไง”

พันเอกทิ้งท้ายเอาไว้ก็เดินหนีออกมา ชายหนุ่มเดินตรงไปยังท่าเรือเพื่อไปสมทบกับรุ่งฟ้าและรอรับงานที่จะต้องทำ แต่พอไปถึงก็ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นร่างสูงของรามยืนคุยกับรุ่งฟ้าหน้าตาเคร่งเครียด ร่างสูงปรับสีหน้าให้ราบเรียบอย่างรวดเร็วพลางเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ รามปรายตามองพันเอกพลางแค่นหัวเราะ ชายหนุ่มยกแขนขึ้นกอดอก ไม่วายออกปากแขวะอีกคนจนรุ่งฟ้าต้องถนหายใจ

“หน้าตาอิดโรยมาเลยนี่ ทำไมวะ หรือถนัดแต่ออกคำสั่ง”

“สรุปจะให้กูทำอะไร ต้องทำอีกนานแค่ไหน บอกมาให้ชัดเจนเลยกูจะได้เคลียร์งานทางนั้นถูก” พันเอกเลือกที่จะถามรามกลับ วันนี้เขาบังคับให้จักรกับพายุกลับกรุงเทพเพราะงานและบริษัทของพวกเขาขาดคนดูแลนานมากไม่ได้

“หึ...กูไม่ชั่วเหมือนมึงหรอกเอก มึงทำงานวันนี้เสร็จกูถือว่าเราหายกัน” รามตอบคำถามของอีกคนด้วยน้ำเสียงวาวโรจน์ รุ่งฟ้าปรายตามองผู้เป็นนายด้วยสีหน้าลำบากใจ ส่วนพันเอกกลับขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

“มึงหมายความว่ายังไง...”

“กูจะให้มึงออกไปหาปลาคนเดียว ถ้าได้เต็มห้าตะกร้านั่นเมื่อไหร่ก็กลับมาแล้วก็ไสหัวออกไปจากชีวิตกูกับคุณวาซะ” รามพูดพลางยกยิ้ม ไม่วายเอ่ยขู่ด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “จำทางกลับมาให้มันได้ด้วยละ ติดอยู่กลางทะเลกูไม่ช่วย จะปล่อยให้ตายห่าเป็นผีเฝ้าทะเลไปซะ”

“เหอะ” พันเอกแค่นยิ้ม ชายหนุ่มเดินผ่านร่างของคนทั้งคู่ไปยังเรือประมงที่จอดเรียงกันอยู่

“ลำไหน” ร่างสูงเอ่ยถาม รามชี้มือไปยังเรือขนาดกลางลำหนึ่ง พันเอกไม่รีรอ ชายหนุ่มก้าวขึ้นเรือโดยมีคุณากรอาสาขับเรือไปให้เพราะกลัวว่าพันเอกจะหาทางกลับมาไม่ได้เพราะไม่ใช่ชาวเล

“ผมไปเองได้ คุณลงไปอยู่กับลูกคุณเถอะไป” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแข็ง ดวงตาคมปลาบตวัดมองคุณากรที่ยิ้มอ่อนๆมาให้พลางกัดฟันกรอด...เขาไม่อยากลงเรือกับผู้ชายคนนี้เลยสักนิด ให้ตายเถอะ

“ให้ผมขับให้เถอะครับคุณเอก ขากลับจะได้ไม่หลงทาง” คุณากรพูดขึ้น พันเอกชั่งใจอยู่นานแต่สุดท้ายก็พยักหน้าส่งๆ ทั้งสองออกติดเครื่องเรือพลางค่อยๆออกทะเลโดยมีรามกับรุ่งฟ้ามองตามจนลับสายตา

“ดีแล้วเหรอครับนายหัว อากาศแบบนี้ไม่ควรออกเรือเลยนะครับ” รุ่งฟ้าถามขึ้นด้วยความไม่สบายใจ รามยกยิ้ม ดวงตาคมดุจ้องผืนน้ำทะเลที่เคลื่อนตัวอย่างสงบพลางยักไหล่

“คนเราถ้ามันถึงคราวตาย ต่อให้นอนอยู่บ้านเฉยๆมันก็ต้องตายอยู่ดีแหละรุ่ง” นายหัวหนุ่มทิ้งท้ายเอาไว้พลางหมุนตัวเดินกลับไปทำงาน รุ่งฟ้ามองน้ำทะเลด้วยความไม่สบายใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายร่างโปร่งจึงได้แต่ถอนหายใจก่อนจะหันกลับไปทำงานของตัวเองต่อบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหนทั้งเขาและเหล่าคนงานบริเวณท่าเรือก็ได้ยินเสียงโวยวายของพระพายดังแว่วเข้ามากระทบโสตประสาท พอหันไปมองก็เห็นร่างเล็กของพระพายกำลังยืนประจันหน้ากับรามอยู่ไม่ไกล

“คุณส่งพ่อกับพี่ชายของผมออกทะเลทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้เสี่ยงมีพายุแบบนี้น่ะเหรอ บ้าไปแล้วหรือไงคุณราม บ้าเอ๊ย!!!!” พระพายตะโกนก้อง สองมือยกขึ้นผลักอกคนตัวโตกว่าพลางสบถเสียงดัง

“หึ ทำไม ทีมันยังเคยคิดฆ่าฉันด้วยการโยนฉันลงน้ำเลยด้วยซ้ำ กับอีแค่ออกไปหาปลาแค่นี้มันไม่ตายหรอก” ร่างสูงของนายหัวหนุ่มเอ่ยเถียง ชายหนุ่มคว้าข้อมือเล็กเอาไว้แน่นพลางรั้งร่างของพระพายเข้ามาประชิดอกแต่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายก็ต้องหันไปด้านข้างอย่างรุนแรงเมื่อรามถูกพระพายตบหน้าฉาดใหญ่อย่างรวดเร็ว

เพียะ!

“ไอ้เลว ถ้าพ่อกับพี่เอกเป็นอะไรไปผมฆ่าคุณแน่!!” ร่างเล็กขู่เสียงแข็ง รุ่งฟ้ากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่กับภาพตรงหน้าก่อนจะสะดุ้งเบาๆเมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาคว้าร่างของพระพายเข้ามากระแทกจูบจาบจ้วงต่อหน้าผู้คน เสียงอู้อี้ดังลอดลำคอข่าว ร่างสูงปล้ำจูบพระพายจนพอใจก่อนจะผละออกพลางยกมือขึ้นมาบีบคางเล็กเอาไว้แน่น

“เห็นตอแหลตั้งแต่มาถึงที่นี่วันแรกแต่ไม่เคยมีปัญญาทำได้สักที เก่งแต่ครางเวลาถูกผัวคนนี้เอาเช้าเอาเย็นนั่นแหละวะ มานี่!” รามตะโกนกร้าวพลางย่อตัวลงอุ้มพระพายขึ้นมาพาดบ่า รุ่งฟ้าเบิกตากว้าง สองขาพาตัวเองเข้าไปใกล้กับคนทั้งคู่ก่อนจะหยุดนิ่งเมื่อถูกสายตาของนายหัวปรามเอาไว้

“ปล่อย! ไอ้เหี้ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้!!”

“เออ หยาบเข้าไปเถอะ เดี๋ยวจะโดนผัวเอาแบบหยาบๆก็วันนี้นี่แหละ ไหนๆพ่อกับพี่นายก็เตรียมตัวไปลงนรกกันหมดแล้ว ฉันจะกรุณาส่งนายขึ้นสวรรค์แทนพวกมันสองคนก็แล้วกัน!” รามพูดพลางแบกร่างพระพายไปยังบ้านหลังใหญ่ รุ่งฟ้าอ้าปากพะงาบๆ ดวงตากลมจ้องมองร่างของพระพายที่ดีดดิ้นก่นด่าเจ้านายของเขาเสียงดังลั่น ใจหนึ่งก็นึกเห็นใจพระพายไม่น้อย แต่จะให้รุ่งฟ้าขัดคำสั่งนายหัวมันก็ใช่เรื่อง

ได้แต่หวังว่านายของเขาจะถนอมคุณพระพายบ้าง

สักเล็กน้อยก็ยังดี...

 

 

.......................................................................................

 

 

พลั่ก!

“โอ๊ย!” เสียงร้องของพระพายดังขึ้นทันทีที่ร่างเล็กถูกรามเหวี่ยงลงบนเตียงกว้างอย่างไม่ปราณี ร่างเล็กกัดฟันกรอดในขณะที่รามตามขึ้นมากดร่างขาวจนจมฟูก ข้อมือเล็กถูกตรึงกับพื้นเตียงในขณะที่คนด้านบนจ้องใบหน้าขาวไม่วางตา

“ไง จำเตียงนี้ได้ไหม” รามเอ่ยถามเสียงแหบพร่า ริมฝีปากหยักยกยิ้มยั่วเย้าจนพระพายกัดฟันกรอด ดวงตาคู่สวยวูบไหว จำได้ดีว่าเตียงหลังนี้ ห้องนอนห้องนี้คือห้องที่เขาเคยถูกรามทำร้ายย่ำยีตลอดระยะเวลาสามเดือนที่อยู่ที่นี่

“คุณมันเลว จำเอาไว้ว่าคุณไม่มีทางชนะพี่เอกหรอก ไม่ว่ายังไงฝ่ายที่จะแพ้ก็คือคุณ!!!” พระพายเถียงพลางยกยิ้มเย้ยหยัน “คุณคงคิดว่าตัวเองเหนือกว่าสินะที่ทำให้ครอบครัวเราระหองระแหงได้ หึ คุณมันโง่กว่าที่ผมคิดจริงๆ”

“พระพาย!” รามตะโกนใส่หน้าอีกคนด้วยความหงุดหงิด ร่างสูงรวบข้อมือเล็กขึ้นไปกองอยู่เหนือหัวก่อนจะถอดเข็มขัดออกมาพันธนาการมือขาวเอาไว้ พระพายกัดฟันกรอดเมื่อรับรู้ว่าไร้ทางหนี ขอบตาเรียวร้อนผ่าวพลางยิ้มเยาะให้กับโชคชะตาของตัวเอง

“พี่วาเขาจะรู้บ้างไหมว่าคนที่ต่อหน้าแสนดีอย่างคุณ ลับหลังมันก็ไม่ต่างจากโจรเถื่อนที่ดีแต่ทำร้ายคนไม่มีทางสู้! ถ้าคุณไม่รู้อะไรก็รู้เอาไว้ซะ พี่วารักพี่เอก! ต่อให้คุณปล้ำผมต่อหน้าคนทั้งเกาะยังไง มันก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าพี่วาเขาเป็นเมียพี่เอกหรอก พี่วาเป็นของพี่เอก เป็นของพี่ชายผม ไม่ใช่คุ...อื้อ!!!” เสียงของร่างเล็กขาดหายไปในลำคอเมื่อร่างสูงกระแทกริมฝีปากลงไปบนกลีบปากอ่อนนุ่มของพระพายเต็มแรงอย่างบันดาลโทสะ นายหัวหนุ่มดูดดึงกลีบปากสีอ่อนของคนตัวเล็กกว่าอย่างรุนแรง พระพายกรีดร้องอื้ออึงพลางส่ายหน้าหนีหากแต่คนตัวสูงก็ตามมาประกบจูบอย่างไม่ยอมแพ้

มือแกร่งของรามเองก็ไม่น้อยหน้า ทั้งปัดป่ายไปทั่วเรือนร่างซูบซีดก่อนจะฉีกทึ้งเสื้อผ้าที่พระพายสวมใส่ออกจากร่างแน่งน้อยเสียจนมันขาดวิ่น

“เอาสิ! เอาเลย! ไอ้คนป่าเถื่อน พอไม่ได้ดั่งใจก็ใช้กำลัง คุณมันหน้าตัวเมีย!”

“ไม่ต้องท้าหรอก ฉันทำแน่ จะทำแรงด้วย” รามพูดเสียงสูงพลางยืดตัวขึ้นรูดซิปกางเกงลง ร่างข้างใต้เม้มปากแน่นเมื่ออาภรณ์ชิ้นล่างของอีกฝ่ายหลุดออกจากร่าง เสียงสะอื้นไห้ดังเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากสีธรรมชาติในขณะที่รามกำลังรูดรั้งร่างกายให้แข็งขืน

“ฮึก เกลียด...ผมเกลียดคุณ” พระพายบริภาษร่างสูงเสียงสั่น รามแสยะยิ้มกับคำต่อว่านั้นพลางรั้งสองขาให้แยกกว้างออกจากกันพลางจดจ่อความแข็งขืนกับจีบพับสีสดทางด้านหลัง

“หึ ปากอย่างใจอย่างจริงนะ มาดูกันว่านายจะเกลียดผัวตัวเองอย่างที่ปากว่าไหม” ร่างสูงเอ่ยพลางกดความต้องการเข้าไปในร่างเล็กเต็มแรงโดยไม่มีการเบิกทาง

“อ๊ะ! โอ๊ยยยย ฮึก รามมันเจ็บ ผมเจ็บ!!!” พระพายกรีดร้อง แผ่นหลังขาวเนียนแอ่นขึ้นจนลอยเหนือเตียง ความเจ็บปวดของการถูกล่วงล้ำทำเอาร่างแน่งน้อยน้ำตาตก ร่างสูงสูดปากกับความคับแน่นของคนใต้ร่างพลางเลื่อนมือไปกระชับเอวคอดบางของพระพายเอาไว้แน่นและเริ่มขยับกายเข้าออกเป็นจังหวะ

“คุณราม หยุดนะ ไหนคุณบอกว่าเกลียดผมไง คุณรักพี่วาไม่ใช่เหรอ แล้วคุณมาทำแบบนี้กับผมทำไม” พระพายตัดพ้อก่อนจะครางเครือเมื่อช่วงล่างถูกกระแทกหนักหน่วงตั้งแต่เริ่ม รายเหยียดยิ้มกับประโยคของอีกคน ชายหนุ่มดึงร่างออกจากโพรงอุ่นร้อนก่อนจะกระแทกกลับเข้าไปใหม่เต็มแรง ร่างเล็กหวีดร้องเสียงหลง ความเจ็บเสียดจุกแน่นแล่นวนไปทั่วร่าง แรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วงส่งให้ร่างเล็กไหวคลอน

“เซ็กซ์กับรักมันไม่ต้องมาคู่กันหรอก ขอแค่อยาก คลำดูไม่มีหางก็จับมาเอาได้หมดแหละ” รามเอ่ยเสียงเย็นเยียบ พระพายสะอื้นฮักกับประโยคของอีกคน มือขาวที่ถูกพันธนาการเอาไว้เหนือหัวจิกทึ้งผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายอารมณ์ หัวใจดวงน้อยเหมือนถูกโยนลงสู่หุบเหวลึก เสียงจังหวะเกมกามที่ดังแว่วเข้ามากระทบโสตประสาทค่อยๆกรีดหัวใจดวงน้อยให้เป็นแผลเหวอะหวะขาดวิ่นจนเกินเยียวยา

“ถ้าผมตายคุณคงจะดีใจมากใช่ไหม ฮึก อยากให้ผมตายมากนักใช่ไหมคุณราม” ร่างเล็กเอ่ยเสียงสั่นสลับกับหวีดร้องลั่นห้อง เสียงเตียงลั่นตามจังหวะร้อนของสองร่างดังสลับกับเสียงหัวเตียงกระทบกับผนังห้อง รามไม่ตอบคำถามของคนข้างใต้ ชายหนุ่มโถมแรงสอดจ้วงความแข็งขืนเข้าออกภายในช่องทางด้านหลังของพระพายสุดแรง ใบหน้าคมคายก้มลงดูดดึงผิวเนื้อนวลเนียนแถวลำคอและแผ่นอก ร่างสูงตักตวงความหอมหวานจากแรงราคะที่กำลังคุโชนอย่างไม่สนใจสิ่งอื่นใดรอบกาย

ท่ามกลางเสียงครางลั่นและเสียงสะอื้นไห้ รามลืมเลือนสติสัมปชัญญะทั้งหมดพลางย่ำยีกายขาวจนสาแก่ใจ เวลายังคงดำเนินต่อไป จากเช้าสายไปบ่ายคล้อย เสียงครางแหบระโหยยังคงดังผะแผ่วในขณะที่ร่างแน่งน้อยยังคงถูกกระแทกถี่ยิบเสียจนชายิบไปทั่ว กว่ารามจะหยุดทุกสิ่งทุกอย่างก็เมื่อตอนที่พระพายหมดสติคาอกแกร่งไปเสียแล้ว...

รามถอนกายออกจากร่างเล็ก ชายหนุ่มเอื้อมมือไปปลดเปลื้องพันธนาการออกจากข้อมือบางพลางขยับร่างของพระพายให้นอนในท่าที่สบายมากกว่าเดิม ดวงตาคมมองใบหน้าขาวซีดที่มีคราบน้ำตาอาบแก้ม มือแกร่งเอื้อมไปปาดรอยชื้นออกจากหางตาของอีกคนพลางถอนหายใจ เมื่อความกรุ่นโกรธทุเลาลงจึงได้สติและรับรู้ว่าตนลงมือทำร้ายพระพายอีกแล้ว

ชายหนุ่มห่มผ้าให้คนตรงหน้าพลางก้าวลงจากเตียง หยิบเศษเสื้อผ้าของพระพายไปโยนลงถังขยะ ร่างสูงทำความสะอาดให้ร่างเปลือยเปล่าของพระพายก่อนจะหยิบเสื้อเชิ้ตตัวโตมาสวมให้คนที่นอนหลับอยู่บนเตียง เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นรามก็เอาแต่นั่งมองคนบนเตียงด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก กระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นรามถึงได้รู้สึกตัว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“นายหัวครับ อยู่ในนั้นไหม” เสียงของรุ่งฟ้าเล็ดรอดเข้ามา รามหยิบเสื้อกล้ามขึ้นมาสวมก่อนจะเดินออกไปด้านนอกด้วยใบหน้าราบเรียบ

“มีอะไร”

“ผมเอาบัญชีมาให้น่ะครับ แล้วก็มาเตือนว่าถึงเวลาไปดูฟาร์มมุกกับกระชังปลาแล้ว นายจะไปตอนนี้เลยไหมครับ” รุ่งฟ้าเอ่ยถาม คนถูกถามชั่งใจชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้า

“แล้ว...เอ่อ คุณพระพายละครับ” ร่างโปร่งลอบถามผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ รามพยักเพยิดเข้าไปในห้องพลางตอบด้วยน้ำเสียงไม่สะทกสะท้าน

“หลับอยู่ในห้อง”

“...”

“มีอะไรข้องใจรึเปล่า” นายหัวหนุ่มอดถามลูกน้องคนสนิทไม่ได้ รุ่งฟ้าถอนหายใจก่อนจะเอ่ยเตือน

“ร้ายใส่เขาขนาดนั้น ระวังคุณพายเขาทนไม่ไหวขึ้นมาจริงๆนะครับ ถึงตอนนั้นนายหัวนั่นแหละจะเดือดร้อน” รุ่งฟ้าพูดอย่างคนที่รู้ตื้นลึกหนาบางของคนทั้งคู่ดี

“นายหัวอาจจะโกหกใครต่อใครก็ได้ว่าไม่รักเขา จะโกหกคุณพายหรือแม้แต่ตัวเองก็ได้ แต่นายโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกนะครับ”

“...”

“รีบๆยอมรับหัวใจตัวเองได้แล้วนะครับ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป” รุ่งฟ้าทิ้งท้ายเอาไว้ให้คนตัวสูงกว่าได้ขบคิดก่อนจะเดินหนีไป รามมองตามแผ่นหลังโปร่งของคนสนิทพลางยกยิ้มอย่างนึกขำ รุ่งฟ้าก็เป็นซะแบบนี้ รามไม่ได้โกหกตัวเอง เขาไม่ได้รักพระพายเสียหน่อย

ใช่ เขาไม่ได้รักพระพาย

รามได้แต่บอกกับตัวเองแบบนั้นในใจอย่างเงียบๆ

 

 

.......................................................................................

 

 

พระพายลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งในช่วงเย็นของวัน ร่างเล็กขยับตัวอย่างช้าๆ อาการปวดเมื่อยเจ็บแปลบแผ่กระจายไปทั่วทั้งร่าง แม้จะไร้เรี่ยวแรงมากแค่ไหนแต่พระพายก็ไม่มีเวลาอ้อยอิ่งมากนัก เสียงฟ้าร้องครืนด้านนอกทำเอาร่างเล็กใจเต้นระส่ำ ไม่มีเวลาแม้แต่จะหากางเกงขายาวมาสวมใส่ สุดท้ายด้วยความเป็นห่วงอีกสองคนที่ออกทะเลไปอย่างจับใจพระพายจึงพาร่างของตัวเองออกจากห้องไปในสภาพเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงขาสั้นบางเบาเพียงเท่านั้น จุดหมายของเขาคือสปีทโบ๊ทที่จอดเทียบอยู่บนท่าเรือเล็กที่ตั้งอยู่ไม่ห่างจากตัวบ้าน ร่างเล็กวิ่งเหยาะๆไปตามพื้นทรายโดยปราศจากรองเท้า และในขณะที่พระพายกำลังจะวิ่งไปยังจุดหมาย ชายหนุ่มก็พบนาวาและรุ่งฟ้ากำลังยืนคุยกันหน้าตาเคร่งเครียดอยู่บนสะพาน

“พี่วา! คุณรุ่ง!”

“คุณพาย!!!”

“พี่เอกละครับ พี่เอกกลับมารึยัง” พระพายตรงดิ่งเข้าไปถามคนทั้งคู่ด้วยความร้อนรน รุ่งฟ้ากับนาวาหน้าเครียด ทั้งคู่ส่ายหน้าปฏิเสธพาให้ร่างเล็กใจสั่นด้วยความเป็นห่วงพี่ชายกับผู้เป็นบิดา

“ยังเลยครับ ดูท่าฝนจะตกแล้วด้วย” รุ่งฟ้าเอ่ยด้วยความไม่สบายใจ คนฟังเม้มปากแน่น ทั้งนาวาและพระพายเริ่มยืนไม่ติดที่ด้วยความกังวลใจ พระพายกวาดสายตามองผืนน้ำที่เริ่มเคลื่อนไหวรุนแรง กระแสน้ำตรงหน้าเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับแรงลมและเสียงฟ้าร้อนที่ดังสนั่นเป็นระยะๆ

และในขณะที่ร่างเล็กกำลังวิตกกังวลอยู่นั้น ดวงตาคู่สวยก็สะดุดเข้ากับสปีทโบ๊ทที่จอดเทียบท่าอยู่ พระพายรีบวิ่งไปยังเรือลำเล็กพลางกระโดดลงไปอย่างรวดเร็ว ร่างเล็กฉีกยิ้มเมื่อเห็นกุญแจยังเสียบค้างอยู่ โดยไม่รีรอ พระพายก็รีบสตาร์ทเครื่องและแล่นเรือออกไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตานาวาและรุ่งฟ้าที่ยืนอ้าปากค้าง

“คุณพาย!!!!!” ชายหนุ่มทั้งคู่ประสานเสียง นาวามองเรือสีขาวที่ค่อยๆหายลับไปจากสายตาด้วยความไม่สบายใจ

“คุณวายืนรออยู่ตรงนี้นะครับ ถ้าฝนตกให้รีบเข้าไปหลบอยู่ที่ศาลาข้างๆ เดี๋ยวผมขอไปตามนายหัวก่อน” รุ่งฟ้าพูดเร็วๆ นาวาพยักหน้าพลางปล่อยให้ร่างโปร่งวิ่งกลับไปยังตัวบ้านอย่างรวดเร็ว

นาวาหันกลับมาจ้องผืนน้ำตรงหน้าอีกครั้ง ดวงตากลมพยายามกวาดมองไปทั่วเพื่อหาเรือของใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นพระพายหรือแม้แต่พันเอก

จนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที สายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาและตกหนักมากขึ้นเรื่อยๆ นาวารีบวิ่งเข้าไปหลบฝนบริเวณศาลาที่ตั้งอยู่ข้างๆ สายตายังคงจับจ้องผืนน้ำที่เริ่มผันแปรเบื้องหน้า ในใจภาวนาของให้คนที่อยู่ท่ามกลางเกลียวคลื่นปลอดภัย

หลังจากนั้นไม่นาน คำภาวนาของนาวาก็สัมฤทธิ์ผล ร่างโปร่งเบิกตากว้างเมื่อเห็นเรือประมงแล่นเข้ามาจอดเทียบท่าเรือเล็กก่อนที่ร่างสูงจะก้าวลงมาจากเรือ

“คุณเอก!”

“วา...” พันเอกอุทานเสียงหลงเมื่อร่างโปร่งวิ่งเข้ามากอดเขาเต็มแรง นาวาสะอื้นแนบอกกว้าง ในใจนึกโล่งอกอย่างน่าประหลาดเมื่อเห็นว่าคนตัวสูงกลับมาอย่างปลอดภัย

“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม ฮึก คุณปลอดภัยใช่ไหมคุณเอก” ร่างโปร่งพึมพำ สองแขนทึ้งเสื้อกล้ามของคนตัวโตกว่าเอาไว้ พันเอกเอียงคอมองคนในอ้อมกอดอย่างแปลกใจก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นยกยิ้มแต่งแต้มทั่วใบหน้า แขนแกร่งยกขึ้นโอบรัดร่างเล็กกว่าเอาไว้แน่นพลางก้มลงกระซิบข้างหู

“ฉันไม่เป็นไร ดีใจนะที่นายเป็นห่วง”

“ใครไม่ห่วงก็บ้าแล้ว ขนาดคุณพระพายยังขับเรือออกไปตามคุ...เดี๋ยวนะครับ แล้วคุณพายละ คุณพายอยู่ไหน!” นาวาถามอีกคนเสียงหลงพลางมองไปยังเรือประมงที่จอดเทียบท่าอยู่ด้านหลัง พันเอกขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะถามนาวากลับด้วยความไม่เข้าใจ

“พระพายออกไปตามฉัน?”

“ใช่ พอเมฆเริ่มตั้งเค้าคุณพายก็ขับเรือออกไปตามหาคุณ”

“อะไรนะ!” พันเอกร้องเสียงหลง เป็นจังหวะเดียวกับที่รามและรุ่งฟ้าเดินเข้ามาใกล้คนทั้งคู่ ร่างสูงสบสายตาวูบไหวของพันเอกก่อนจะเคลื่อนไปมองผืนน้ำทะเลสีครามตงหน้าที่ก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นขนาดใหญ่ตามแรงลม

หัวใจของรามกระตุกวูบ พอๆกับพันเอกที่ตัวสั่นระริก กว่าจะรู้สึกตัว ทั้งรามและพันเอกก็กระโดดลงสปีทโบ๊ทลำเล็กที่จอดอยู่ไม่ห่างก่อนจะสตาร์ทเครื่องและขับออกทะเลไป

พันเอกกัดฟันกรอด ขอบตาร้อนผ่าวยามสอดส่ายไปรอบทิศ เสียงท้องฟ้าลั่นครืนดังแข่งกับเสียงคลื่นที่กำลังโหมไปทั่วท้องน้ำ รามสบถในลำคอเมื่อเรือของเขาเกือบจะถูกคลื่นจมไปหลายครั้ง

ชายหนุ่มทั้งคู่ได้แต่ภาวนาท่ามกลางพายุที่กำลังคร่าเอาความหวังของพวกเขาไปทีละเล็กทีละน้อย

พวกเขาได้แต่ภาวนา

ขอให้พระพายปลอดภัย...

 
โปรดติดตามตอนต่อไป

ตอนหน้าจบแล้วนะคะ *^*
(คนอ่านบอก ห๊ะ? 555555)
สำหรับคู่รามxพระพาย มีเรื่องแยกจ้ะ ^^
เจอกันตอนหน้านะคะ
:mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: valenna yy ที่ 12-05-2015 19:07:55
ตามอ่านเีรื่องนี้ทั้งในเล้าทั้งธัญวลัย
เปนกำลังใจให้น้าา ตอนหน้ามาเร็วๆ
รออ่านลวงรักอยู่ อย่าโหดกะพะพายลูกรักมากนักนะคะคนเขียน :o12:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 12-05-2015 19:23:26
 :sad4:   พระพาย. อย่าเพิ่งหายไปกับทะเลนะลูห
ไอ้รามบ้า.
รอตอนจบค่ะ. ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-05-2015 19:28:04
อ่านจากทั้งสองเวบเหมือนกัน

อ่านกี่ทีก็เครียด  :z3:

ว่าแต่ ตอนหน้าจบแล้วเหรอ  :m26:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 12-05-2015 19:32:55
ง่าาาา  จะจบแล้วเหรอ  :katai1:

ยังไงก็ขอให้ตอนจบไม่เศร้าจนเกินไปละกันนะ

เพราะตอนนี้ หลายๆอย่างมันคลี่คลายออกมาด้วยดีแล้ว  :hao4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ตาล ที่ 12-05-2015 19:40:29
ขอให้พระพายความจำเสื่อมจนจำไอ้คุณรามไม่ได้เถอะ
...ให้ลืมความรัก...จนรามทนไม่ไหวกะอักเลือดไปเลย 5555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 12-05-2015 19:50:44
เอิ่ม  คุณรามคะ คนที่เขาไม่แคร์ไม่รักแล้วเห็นอีกฝ่ายเป็นแค่รูเนี่ยเขาไม่เรียก*รู*ว่าเมียกันหรอกนะคะ   

คนเราพอได้เจอจุดที่ต่ำสุดๆแล้วจะปลงได้เยอะนะ  พันเอกก็เหมือนกัน ชีวิตที่ผ่านมาเหมือนกับว่ามีแต่ทิฐิ เป็นที่ตั้ง แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้อธิบายกันแต่รับเรื่องต่างๆสืบต่อมาเป็นรุ่นๆโดยไม่ได้มีการตามหาความจริง ทั้งพ่อและแม่พันเอกเป็นคนที่น่ารังเกียจทั้งคู่สร้างปมไว้ให้ลูกรับต่อๆกันมา  ที่รามทำกับพระพายและพันเอกทำกัยนาวานั้นถึงเป็นพระเอกก็รับลำบากมากๆค่ะ  พระพายที่โดนล่อลวงทางเพศตั้งแต่กี่ขวบเอง  ต้องชดใช้กันด้วยชีวิตทั้งชีวิตค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: p^tarn ที่ 12-05-2015 19:57:35
แอบย่องมาดูเรื่อยๆ. ตั้งแต่เปิดเรื่องแล้ว แต่สารภาพเลยว่าไม่กล้าอ่านจริงจัง ได้แต่รอให้จบก่อน ไม่ใช่คุณเขียนไม่ดีนะ. แต่เพราะเขียนดีมาก ดีขนาดที่ว่าแค่แอบอ่าน บางช่วงบางตอน.  ก็ปวดใจ บีบใจมากๆ. รู้สึกเหมือนจะขาดใจ   และกลัวว่าถ้าอ่านครึ่งๆกลางๆ มันจะขาดใจซะก่อนนิยายเรื่องนี้จะจบ. ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับงานเขียนดีๆแบบนี้นะคะ พิมพ์เมื่อไหร่แจ้งข่าวด้วยนะคะ ไอเทมแบบนี้จะไม่ยอมพลาดแน่นอน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-05-2015 12:03:46
รอๆสมน้ำหน้าอิตาราม
ส่วนนาวากะพันเอกเค้าคง
จะโอเคกันแล้วละทีนี้น้องพาย
จะหายไปกับคลื่นทะเลไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 23-24 P.10 (12/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 13-05-2015 20:59:20
พระพายอย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 13-05-2015 22:22:09
...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: amisezmin ที่ 13-05-2015 22:44:03
อ้าว!!งานนี้มีสิทธิ์ติดคุกเลยนะเนี้ย :katai1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 13-05-2015 22:45:02
 :a5: เงิบกับโค้งสุดท้ายนี้นะ  สรุป วาอยากให้พันเอกติดคุกเพื่อชดใช้ให้ตัวเอง

อืม อืม เอาที่นางสบายใจละกัน  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: noksamsee ที่ 13-05-2015 23:03:52
คนเขียนเคยบอกแล้ว ว่าเรื่องนี้ตอนจบไม่แฮปปี้  ทำใจค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 13-05-2015 23:18:43
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: taroni ที่ 14-05-2015 19:41:39
 นาวาตัดสินใจเด็ดขาดมาก  :o12:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [50%] P.10 (13/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: March. Marcia ที่ 14-05-2015 19:46:13
:: CHAPTER 25 ::
ชดใช้

 

 

เสียงพื้นรองเท้ากระทบกับทางเดินหน้าห้องฉุกเฉินดังขึ้นตามจังหวะการเดินของสองร่างที่เดินสวนกันไปมา พวกเขาสงบอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลยตั้งแต่เกิดเรื่องจนกระทั่งตอนนี้ พันเอกยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาคมจ้องประตูห้องฉุกเฉินด้วยความร้อนใจ ความรู้สึกอึดอัดเหมือนไร้อากาศหายใจแผ่ขยายรอบตัว ชายหนุ่มได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจขณะรอคอยให้ประตูห้องถูกเปิดออกมาพร้อมกับข่าวของพระพาย

พันเอกยังจำสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ดี จำมันได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสียงท้องฟ้ากรีดร้องท่ามกลางผืนน้ำที่สั่นไหวก่อตัวเป็นเกลียวคลื่นกลางท้องทะเล สายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงจนบาดผิว ความมืดมิดของหมู่เมฆทะมึนสีเข้มที่บดบังทัศนยภาพ และที่ชัดเจนมากที่สุดก็คือเรือสีขาวนวลตาที่ลอยคว้างอยู่ตรงหน้าพร้อมกับร่างของพระพายที่พลัดตกลงทะเลมัจจุราชต่อหน้าต่อตาของเขากับราม ทั้งคู่ไม่รีรอที่จะกระโดดลงไปช่วย หากแต่กระแสน้ำในยามที่สภาพอากาศเลวร้ายส่งผลให้ร่างของพระพายถูกพัดลงสู่ห้วงลึกอย่างรวดเร็ว กว่าพวกเขาจะคว้าตัวเอาไว้ได้ทั้งพันเอกและรามก็เกือบจะสิ้นลมจมน้ำตามกันไปอีก

และทันทีที่คว้าร่างเล็กกลับขึ้นมาบนเรือได้ รามก็รีบบึ่งขึ้นฝั่งทันที กระแสน้ำและพายุฝนทำเอาเรือของพวกเขาถูกพัดออกนอกเส้นทางอยู่บ่อยครั้ง รามเองก็แทบจะจำเส้นทางขึ้นฝั่งไม่ได้ แต่เพราะร่างขาวที่ไร้สติในอ้อมกอดของพันเอกนั่นทำให้เขาฝ่าพายุและพาพระพายขึ้นฝั่งมาได้แม้จะเสียเวลาไปหลายชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาล สิ่งแรกที่เห็นคือนารายณ์ที่กำลังจะลงเวร ข้างกายมีส่องแสงที่เดินตามมาติดๆ

“นาย!!!”

“เฮ้ย! พวกมึง...” / “พี่เอก!” ทั้งนารายณ์และส่องแสงอุทานเสียงหลง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าพันเอกอุ้มร่างของพระพายแนบอก

“พาย!” แพทย์ทั้งสองอุทาน ก่อนที่นารายณ์จะรีบพาตัวของพระพายเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็วและยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมาเลยจนกระทั่งตอนนี้

“ทำไมนานจังวะ!” นายหัวหนุ่มแห่งเกาะนาคาน้อยสบถลั่นเมื่อเริ่มจะหมดความอดทน นารายณ์พาพระพายเข้าไปนานมากแล้ว นานจนเขาร้อนไปทั่วทั้งอก ยิ่งคิดถึงสิ่งที่ทำเอาไว้กับพระพายรามก็ยิ่งรู้สึกผิด หากพระพายเป็นอะไรไป รามสาบานว่าเขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง

“พวกพี่นั่งกันก่อนเถอะครับ คุณพายถึงมือหมอแล้ว” ส่องแสงที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ ยอมรับว่าคาดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอพันเอกหลังจากที่เขาขาดการติดต่อกับอีกฝ่ายไป ส่วนรามเอง...ตั้งแต่วันที่อีกฝ่ายรู้ว่าเขาตั้งใจจะปลิดชีพ เจ้าตัวก็ไม่มาให้ส่องแสงเห็นหน้าอีก

“นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนะเทียน ทำไมถึงเข้าไปนานนัก” รามพูดขึ้นมาอีกพลางกัดฟันกรอด พันเอกเองก็มองหน้าส่องแสงเหมือนต้องการคำตอบเช่นเดียวกัน

คนถูกถามได้แต่ส่ายหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออกมาพร้อมกับใบหน้าอิดโรยของนารายณ์

“ไอ้นาย เมียกูปลอดภัยใช่ไหม” รามเป็นคนแรกที่ตรงดิ่งเข้าไปหาร่างสูงของคุณหมอหนุ่ม ประโยคของร่างสูงเรียกสายตาคมกริบของพันเอกให้ตวัดขึ้นไปมอง ชายหนุ่มกัดฟันกรอดกับคำเรียกขานของรามแต่ก็เลือกที่จะปิดปากเงียบและรอฟังสิ่งที่นารายณ์กำลังจะพูด

“น้องขาดออกซิเจน น้ำทะเลเข้าไปในถุงลมกับปอดเยอะมาก ทำให้เกิดภาวะ Electrolyte Imbalance” นายแพทย์หนุ่มพูดขึ้นด้วยใบหน้าคร่งเครียด

“มันคืออะไร” พันเอกถามขึ้น สองมือกำแน่นเข้าหากันในขณะที่นารายณ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า

“ภาวะที่น้ำและเกลือแร่ในร่างกายไม่สมดุลน่ะ ตอนนี้พยาบาลกำลังขับน้ำออกอยู่...” นารายณ์พูดพลางจ้องมองใบหน้าของคนทั้งคู่ไม่วางตา “พระพายโพแทสเซียมต่ำ มันอาจจะมีผลเรื่องกล้ามเนื้อและระบบประสาท รวมถึงกล้ามเนื้อหัวใจด้วย”

นายแพทย์หนุ่มพูดจบทั้งรามและพันเอกก็หน้าซีดเผือด

“แล้วสรุปพายจะรอดไหม?” พันเอกถามเสียงแผ่ว หัวใจเจ็บเสียดและกลัวกับคำตอบของนารายณ์มากเหลือเกิน

“รอดน่ะรอด แต่อาการหลังจากนี้นี่แหละที่น่าเป็นห่วง น้องอาจจะเบลอๆ เหนื่อยง่าย กล้ามเนื้อตามร่างกายยังใช้งานได้ไม่เต็มที่ คือระบบต่างๆในร่างกายน้องรวนมากเลยตอนนี้ ร่างกายขาดออกซิเจนด้วยไง นี่ยังดีที่ที่สมองไม่ขาดออกซิเจนไปด้วย ไม่งั้นไม่รอดแน่ๆ” ร่างสูงของนารายณ์พูดขึ้น พาให้คนฟังโล่งออกไปตามๆกัน รามทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นทันทีที่ฟังจบพลางเอ่ยขอบคุณนารายณ์ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

คุณหมอหนุ่มมองภาพตรงหน้าแล้วก็อดที่จะหงุดหงิดไม่ได้เลยต้องออกปากเตือน

“มึงทำอะไรไว้ รู้ใช่ไหมราม”

“...”

“จริงๆพระพายจะไม่เป็นหนักขนาดนี้ ถ้ามีแรงพอที่จะดึงตัวเองขึ้นจากน้ำ” นารายณ์พูดเสียงราบเรียบ นึกย้อนไปถึงร่องรอยตามร่างกายของคนไข้ในห้องแล้วก็พาลอยากจะเขย่าคอรามเพื่อเตือนสติให้รู้สึกตัว

“น้องถูกทำร้ายมาก่อนจะตกน้ำ และกูมั่นใจว่าคนทำก็คงเป็นไอ้คนที่ประกาศปาวๆว่าน้องเป็นเมียมันอย่างมึง กูพูดถูกไหม?” คราวนี้พันเอกหันขวับไปมองรามแทบจะทันทีหลังจากที่นารายณ์พูดจบ ร่างสูงตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อรามแทบจะทันทีก่อนจะกระแทกร่างสูงเข้ากับผนังของโรงพยาบาลพลางกัดฟันกรอด

“มึง!!!”

“...” รามเงียบกริบ เลือกที่จะเบนหน้าหนีสายตาแข็งกร้าวของพันเอกไปอีกทางพลางพึมพำคำขอโทษเสียงแผ่วเบาให้ได้ยินกันแค่สองคน พันเอกหลับตาแน่นเพื่อสะกดกลั้นอารมณ์เอาไว้ก่อนจะผละกายออกห่าง

“พอกันที จบกันสักที กูจะไม่ยอมเสียน้องไปเพราะเกมงี่เง่านี่อีกแล้ว” ร่างสูงพูดขึ้น ขอบตาร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อรับรู้ได้ถึงความหวาดกลัวจากก้นบึ้งของจิตใจในวินาทีที่เกือบจะสูญเสียน้อง

พอกันสักที จบเรื่องบ้าๆนี่เสียที

“กูจะกลับกรุงเทพ จะพาพระพายกลับ” ชายหนุ่มพูดเสียงสั่น เงยหน้ามองรามที่มองมาด้วยแววตาวูบไหวก่อนจะย้ำเจตนารมณ์ของตัวเองอย่างหนักแน่น

“กูจะพาน้องกลับ แล้วหลังจากนี้ กฤตภาสกับกลทีบ์จะไม่มีอะไรติดค้างกันอีก”

ไม่มีอะไรต้องติดค้างกันอีกต่อไปแล้ว ขอให้มันจบลงตรงนี้ จบความทรมานนี้เสียที

จบมันเสียที ทั้งความแค้น ความเกลียดชัง

หรือแม้แต่ความรัก...

 

 

 

1 เดือนต่อมา

ร่างเล็กของพระพายนั่งนิ่งอยู่บนรถเข็นขณะมองผู้เป็นพี่ชายที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าหวานที่เริ่มมีน้ำมีนวลและสดใสขึ้นส่งยิ้มบางเบาให้คนที่ตรงดิ่งเข้ามาคุกเข่าตรงหน้า พันเอกคว้ามือขาวของน้องเข้ามากดจูบบางเบาก่อนจะเอ่ยถามถึงอาการป่วยที่เป็นอยู่

“ปกติดีครับ แต่ก็ยังมีเหนื่อยบ้าง พรุ่งนี้พี่นายนัดตรวจค่าเกลือแร่ในร่างกายตอนสิบโมงเช้า” พระพายบอกคนตรงหน้า หลังจากเรื่องทุกอย่างคลี่คลายก็ดูเหมือนว่าพระพายจะยิ้มบ่อยมากกว่าเมื่อก่อน “จริงๆผมเดินเองได้แล้วนะพี่เอก ไม่เห็นต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลาอย่างนี้เลย”

คนเป็นน้องโอดครวญ พันเอกน่ะตื่นตูม ทั้งๆที่พระพายก็แค่มีอาการแข้งขาอ่อนแรงในบางครั้งบางคราว บวกกับหัวใจเต้นผิดจังหวะเนื่องจากสมดุลในร่างกายยังไม่คงที่ แต่พันเอกกลับไม่ยมให้เขาทำอะไร บังคับให้นั่งจุ้มปุ๊กอยู่บนรถเข็นและขู่ว่าถ้าลุกขึ้นมาแล้วพลัดตกบันไดหรือหกล้มเข้าจะโกรธไปตลอดชีวิต

รู้ทั้งรู้ว่าจุดอ่อนของพระพายคือการถูกพี่ชายตัดเยื่อใยก็ยิ่งยกขึ้นมาขู่เสียจนคนเป็นน้องเงียบกริบและยอมทำตามคำสั่ง

“พี่ไม่อนุญาตให้ลุกขึ้นมาเดินจนกว่าหมอจะบอกว่าเราหายแล้วจริงๆ” พันเอกดุจนพระพายหงอย ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องไปถามหาใครอีกคนแทน

“แล้ววาละ”

“พี่วาอยู่บนห้องครับ วันนี้เขาร้องไห้ด้วย” พอพี่ชายถามถึงนาวาพระพายก็รีบฟ้องถึงอาการของอีกคน พันเอกขมวดคิ้วพลางถามถึงสาเหตุ คนเป็นน้องได้แต่ถอนหายใจ แผ่นหลังเล็กเอนตัวลงพิงกับพนักรถเข็นแล้วบ่นพึมพำ

“วันนี้พี่ยุพาไปวัด เห็นบอกว่าจะพาพี่วาเอาอัฐิของโมไปไว้ พอกลับมาผมก็เห็นพี่เขาร้องไห้แล้ว”

“...”

“ไหนๆเรื่องพี่กับคุณรา...เอ่อ เรื่องพี่กับผู้ชายคนนั้นก็จบลงไปแล้ว ทำไมไม่รีบปรับความเข้าใจกับพี่วาสักทีละครับ” พระพายเอ่ยถาม เลี่ยงที่จะไม่เอ่ยถึงผู้ชายคนนั้นหลังจากที่พันเอกพาเขากลับมาที่กรุงเทพ

พระพายไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มีเพียงคำบอกเล่าจากพันเอกแค่ว่าทุกอย่างจบลงแล้ว ทั้งตระกูลกฤตภาสและตระกูลกลทีบ์ต่างก็ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ทุกคนล้วนแล้วแต่พ่ายแพ้ให้กับเกมที่รังแต่จะทำลายคนรอบข้าง ทั้งรามและพันเอกเลือกที่จะหยุดทุกอย่างและโยนมันทิ้งไปพร้อมกับพายุที่โหมกระหน่ำในคืนนั้น ทันทีที่พระพายแข็งแรงมากพอคนเป็นพี่ก็รีบพาน้องกลับมาพักฟื้นต่อที่กรุงเทพ ไร้วี่แววของคนจากเกาะนาคาน้อย ไม่ว่าจะเป็นรุ่งฟ้า หรือตัวเจ้าของเกาะเองก็ตาม

มีเพียงร่างสูงกำยำของพิภพ ซึ่งเป็นส.ส.ในจังหวัดภูเก็ตและเป็นญาติห่างๆของรามที่เข้ามาเยี่ยมพระพายเพียงลำพัง ทั้งยังฝากคำขอโทษของผู้ชายคนนั้นและยินดีทำทุกอย่างเพื่อชดใช้ พระพายได้แต่ยิ้มรับและฝากคำกล่าวกลับไปว่าอโหสิให้  หลังจากวันนั้นทั้งสองตระกูลก็รู้ดีว่าเส้นทางชีวิตของพวกเขาแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเรื่องทุกอย่างจบลง พันเอกเองก็เคลยร์กับบรรดาเพื่อนเก่าที่เคยมึนตึง ทั้งนารายณ์ ทั้งสิบตรี แม้ความสัมพันธ์จะต่อไม่ติดแต่ก็นับว่าดีขึ้นมากเพราะคนทั้งสามพูดคุยกันในฐานะคนรู้จักและตกลงร่วมธุรกิจกันในบางโอกาส

ส่วนส่องแสง พระพายไม่รู้ว่าพี่ชายอีกคนกับพันเอกมีความสัมพันธ์กันในแง่ไหน แต่อย่างน้อยๆเขาก็แน่ใจว่ามันดีขึ้นเพราะอีกฝ่ายมาเยี่ยมเขาที่บ้านทุกวันพร้อมกับนารายณ์ พระพายเองก็พอรู้มาบ้างว่าส่องแสงกับนารายณ์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน เขาเองก็ดีใจที่เห็นพี่มีความสุข แต่ดูเหมือนพันเอกจะไม่คิดแบบนั้น เจ้าตัวเอาแต่เขม่นนารายณ์พลางกำชับทุกครั้งว่าไม่อยากร่วมวงศาคณาญาติกัน

เหมือนกับเป็นการบอกกลายๆว่าไม่ยอมรับนารายณ์เป็นน้องเขย

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แม้พันเอกจะตั้งแง่แบบนั้นแต่ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าที่ทำแบบนั้นเพราะพันเอกหวงส่องแสงตามประสาก็เท่านั้น

ทุกสิ่งทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีมากขึ้น ผู้คนรอบกายยิ้มแย้มมากขึ้น บ้านกฤตภาสเองก็เตรียมตัวต้อนรับสมาชิกใหม่ซึ่งก็คือลูกของน้ำอุ่นและสันต์ รวมไปถึงข่าวดีของมินตรากับจักรที่ตกลงปลงใจจะแต่งงานสร้างชีวิตคู่ด้วยกัน ความโศกเศร้าหดหู่ที่เคยมีกำลังจะจางหายไป สายสัมพันธ์ของมิตรภาพและครอบครัวกำลังถูกถักทอขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ทุกคนมีความสุข

ยกเว้นนาวา...

นาวาเป็นคนเดียวที่โดดเดี่ยว พระพายมองเห็นแววตาหม่นหมองโศกเศร้าของอีกฝ่ายในทุกครั้งที่สบตากัน เมื่อครั้งกลับมาจากภูเก็ตใหม่ๆพระพายเคยถามว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเลือกที่จะกลับมากับพันเอกแทนที่จะอยู่กับราม อีกฝ่ายได้แต่ยกยิ้มและตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ผมไม่ได้รักคุณราม ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมกับเขาจะต้องอยู่ด้วยกัน ส่วนที่ตามคุณเอกกลับมา เพราะผมยังไม่ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ”

พระพายไม่รู้ว่าสิ่งที่นาวาต้องการจากพันเอกคืออะไร เขาได้แต่หวังว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะจบลงด้วยดี เขาอยากให้พันเอกกับนาวาลงเอยกัน

“ไหนๆตอนนี้เราทุกคนก็เข้าใจกันดีแล้ว ผมอยากได้พี่วามาเป็นพี่สะใภ้นะ” พระพายเอียงคอพลางยกยิ้ม พันเอกยกมือขึ้นยีกลุ่มผมนุ่มนิ่มของพระพายแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู

“พี่รู้ พี่เองก็อยากได้เขามาเป็นคนรักเหมือนกัน”

“งั้นขึ้นไปดูพี่วาเขาหน่อยสิครับ ผมเห็นพี่วาเศร้าแล้วรู้สึกไม่ดีเลย” พระพายบอก คนเป็นพี่รับคำก่อนจะปล่อยให้เอื้องคำมาดูแลพระพายต่อ ส่วนร่างสูงของพันเอกก็ตรงดิ่งขึ้นไปบนบ้าน ตรงดิ่งไปยังห้องนอนที่เคยเป็นของณะโมก่อนจะเปิดเข้าไปอย่างระมัดระวัง

ร่างโปร่งของนาวานอนหลับตาพริ้ม ขาเรียวเหยียดยาวไปกับความกว้างของเตียงนอน บนใบหน้าขาวปรากฏรอยเปรอะเปื้อนของคราบน้ำตา พันเอกเกลี่ยมือไปปาดน้ำตาออกจากปรางแก้มใส สัมผัสของพันเอกทำเอาเปลือกตาสีเนื้อปรือขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนที่กลีบปากสีอ่อนจะขยับเอื้อนเอ่ยเป็นชื่อของพันเอกแผ่วเบา เจ้าของชื่อยกยิ้ม เคลื่อนตัวขยับเข้าไปกดจูมลงบนหน้าผากมนของนาวาแผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

“เป็นอะไรไป พระพายบอกนายร้องไห้”

นาวาไม่ตอบ ชายหนุ่มลุกขึ้นนั่งในขณะที่พันเอกขยับตัวคุกเข่าตรงหน้าของคนตัวเล็กกว่าพลางคว้าสองมือเล็กมาจับเอาไว้แล้วลูบไปมาแผ่วเบา

“คิดถึงน้องเหรอ” พันเอกถามซ้ำ นาวายกยิ้มกับคนตรงหน้าที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในชั่วพริบตาแล้วก็ยังเงียบเหมือนเดิม พันเอกก้มลงมองมือขาวของอีกคนก่อนจะถอนหายใจ

“วา ให้ทำยังไงนายถึงจะมีความสุข อยากให้ฉันชดใช้ให้นายยังไงนายถึงจะกลับมายิ้มได้” ร่างสูงถามขึ้นพลางวางคางลงกับต้นขาของนาวา ดวงตาคมที่เคยดุดันตลอดเวลาอ่อนแสงลง แก้วตาสีเข้มตวัดขึ้นมองใบหน้าราบเรียบของนาวาพลางส่งแววเว้าวอนไปให้

เขาไม่อยากเห็นนาวาใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆเหมือนคนที่ไร้จิตวิญญาณ เป็นเหมือนเครื่องจักร์ที่ภายในว่างเปล่า กลวงโบ๋ไร้ซึ่งความสุข ไร้ความรู้สึก

เหมือนกับคนที่ไร้หัวใจ

“คุณพร้อมที่จะชดใช้หรือยังละครับ” นาวาย้อนถาม ผละมือข้างหนึ่งออกจากการเกาะกุมและเลื่อนขึ้นมาลูบแผ่วเบาที่ผิวแก้มของพันเอก ตากลมมองใบหน้าหล่อเหลาด้วยแววตาที่อ่านไม่ออก

“ถ้าคุณยังไม่พร้อม ผมจะยังไม่พูดว่าผมอยากให้คุณทำอะไร” นาวาให้ตัวเลือกกับอีกฝ่าย “ใช้เวลาอยู่กับน้องและครอบครัวอีกสักหน่อยก็ดีนะ” ร่างโปร่งเอ่ยบอก หากแต่พันเอกกลับส่ายหน้าพร้อมกับยืนยันหนักแน่นว่าพร้อมที่จะชดใช้ในสิ่งที่เคยทำเอาไว้

“ฉันยอมทำให้นายได้ทุกอย่าง แต่ขอได้ไหม ปล่อยวางให้ตัวเองได้มีความสุขบ้างนะวา ณะโมไปสบายแล้วนะ ทุกอย่างมันจบแล้ว ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำร้ายนายอีก ขอโอกาสให้ฉันได้เริ่มต้นใหม่ได้ไหม” ร่างสูงพูดขึ้น มองเห็นแววตาวูบไหวของคนตรงหน้าแล้วก็ได้แต่กดจูบแผ่วเบาบนหลังมือขาวอย่างปลอบประโลมและเว้าวอนขอโทษ นาวาน้ำตาร่วงเผาะ แม้ปากบอกว่าทุกอย่างเป็นเพียงอดีตที่กำลังจะผ่านพ้นไป หากแต่พอย้อนกลับไปนึกถึงสิ่งที่ตัวเองถูกกระทำ สิ่งที่ตัวเองเคยสูญเสีย บาดแผลในใจที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาก็กลัดหนองจนเจ็บช้ำ

“ถ้าคุณอยากเริ่มต้นใหม่ คุณก็ต้องชดใช้ในสิ่งเลวร้ายที่ตัวเองเคยทำ” นาวาพูดเสียงสั่น หยิบมือถือที่เคยเป็นของณะโมขึ้นมากดเบอร์ค้างเอาไว้บนหน้าจอพลางยื่นมันไปตรงหน้าของอีกคน

‘0231400XX’ ตัวเลขที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอทำเอาพันเอกขมวดคิ้วด้วยความฉงน ชายหนุ่มเอ่ยถามคนตรงหน้าถึงเจ้าของเบอร์ดังกล่าว นาวาทำเพียงแค่ยกยิ้มก่อนจะกดโทรออก รอสายเพียงไม่นานปลายสายก็กดรับพร้อมกับพูดบางอย่าง

นาวาสูดลมหายใจเข้าปอด หยดน้ำตาร่วงหล่นลงกระทบผิวแก้ม ดวงตาสีเข้มจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาที่ฉายแววตกใจทันทีที่เขาเอ่ยพูดกับปลายสาย

“ครับคุณตำรวจ ผมต้องการแจ้งความ”

!!!!

“ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และกักขังหน่วงเหนี่ยวครับ” นาวาเอ่ยชัดถ้อยชัดคำขณะมองของคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้า พันเอกเรียกชื่อเขาเสียงแผ่วในขณะที่เขาให้ที่อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยน้ำเสียงสั่นสะท้าน เมื่อสิ้นสุดบทสนทนา ร่างโปร่งก็ได้แต่มองพันเอกที่ยังคงนิ่งค้างอยู่กับที่

“สำหรับศักดิ์ศรีและทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมสูญเสียไป จ่ายมันคืนด้วยสิ่งนี้ คุณทำได้ไหม” นาวาเอ่ยขึ้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เจ็บร้าวไปทั่วทั้งอก

“ผมไม่ได้อยากทำแบบนี้ แต่ผมมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ถ้าไม่ได้ทำอะไรเลยกับสิ่งที่ผมต้องเจอ ผมไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะลืมสิ่งที่คุณเคยทำ ไม่รู้ว่าจะทำใจอยู่บนโลกที่ไม่มีน้องได้ตอนไหน เมื่อไหร่ผมจะเลิกฝันร้าย” นาวาสะอื้น ทุกสิ่งที่เคยบอกว่าจะลืมมันกลับฝังแน่นอยู่กับตัว มันไม่เคยจางหายไปไหน เศษเสี้ยวของความสูญเสียและชิ้นส่วนของฝันร้ายยังคงซุกซ่อนอยู่ในความทรงจำ

“คุณขอให้ผมไม่ฆ่าตัวตาย ขอให้ผมมีความสุข ขอให้ผมปล่อยวาง ขอมามากมาย แต่ผมอยากจะขอแค่อย่างเดียว แค่อย่างเดียวเท่านั้น ฮึก”

“วา อย่าร้อง...”

“ชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำทีเถอะคุณเอก ได้โปรด ชดใช้ในสิ่งที่คุณทำกับผมที ฮึก ผมขอร้อง”

พันเอกยืดตัวขึ้นดึงอีกคนขึ้นมากอดเอาไว้แนบอก ริมฝีปากตอบตกลงในสิ่งที่นาวาต้องการซ้ำๆ ด้วยรู้ดีถึงความผิดที่ตัวเองเคยทำเอาไว้กับอีกคน

พันเอกไม่โกรธที่นาวาตัดสินใจแบบนี้

เขาแค่กลัว...

กลัวว่าพอกลับออกมาแล้ว เขาจะเสียนาวาไปตลอดกาล

 

………………………………………………………..

 

และในวันเดียวกันนั้นเอง การปรากฏตัวขึ้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจสร้างความตกอกตกใจให้แก่ทุกคนภายในบ้าน นาวาถูกพันเอกจูงมือลงมาจากชั้นบนก่อนที่ร่างสูงจะเรียกตัวพายุและจักรเข้าไปคุยธุระบางในห้องทำงาน ส่วนตัวเขาก็ทำหน้าที่ให้ข้อมูลกับตำรวจ

เล่าถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองเคยถูกเจ้าของบ้านกระทำ

เมื่อตำรวจทราบข้อกล่าวหา พันเอกถูกเชิญไปให้ปากคำและเจ้าตัวรับสารภาพ นาวาขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย พันเอกถูกโทษจำคุก 4 ปี และถูกปรับอีกจำนวนหนึ่ง เมื่อพระพายและคนในบ้านรู้ข่าว ทุกคนต่างมองนาวาด้วยสายตาคลางแคลงใจ

โดยเฉพาะพระพายที่เอาแต่ถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้

นาวารู้ดีว่าตัวเองเลือดเย็น เขาเลือกที่จะไม่ตอบ ได้แต่มองพันเอกที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวเอาไว้

ทั้งคู่สบตากันเนิ่นนาน พันเอกคุยบางอย่างกับนายตำรวจข้างกายก่อนจะเดินมาหานาวาที่ยืนนิ่งโดยมีพระพายนั่งร้องไห้อยู่บนรถเข็น

“คุณอาจจะคิดว่าผมเลือดเย็น ใจดำ หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สำหรับผม ความรัก กับ ความถูกต้อง มันเป็นสิ่งที่ผมแยกออกจากกัน ผมไม่ได้เกลียดคุณนะคุณเอก ในความทรงจำที่เลวร้าย บางครั้งคุณก็เป็นเหมือนเทวดาที่ทำให้ผมรู้สึกว่าชั่วนาทีหนึ่งตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลก” นาวาพูดขึ้น ในขณะที่ทั้งพันเอกรวมไปถึงตัวพระพายเองนิ่งเงียบเพื่อรอฟัง

“แต่สิ่งที่คุณทำ มันไม่ถูก ไม่ว่าคุณจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน ร่ำรวยมากขนาดไหน ผมอยากบอกให้รู้ว่าคุณไม่มีสิทธิ์ย่ำยีคนที่ด้อยกว่าไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณจะโกรธ จะเกลียดผมยังไงก็ได้ แต่เพื่อความยุติธรรมของตัวเอง ผมต้องทำ”

“ฉันรู้ ฉันเข้าใจ...”

“แล้วก็ไม่ต้องห่วงพระพายหรอกครับ ผมจะดูแลเขาให้ และสัญญาว่าจะทำให้คนที่ทำร้ายพระพายได้รับบทเรียนไม่น้อยไปกว่าคุณ” นาวาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพลางยกยิ้ม พันเอกมองใบหน้าขาวของนาวาด้วยแววตาอ่อนแสงก่อนจะยกมือขึ้นลูบปรางแก้มใสของคนตรงหน้าแผ่วเบา

“ถ้าฉันกลับออกมา นายจะยังอยู่ไหม”

“...”

“จะยังให้โอกาสกับฉันไหม ทิ้งทุกอย่าง ลืมอดีตซะ แล้วเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน”

“ผมลืมอดีตไม่ได้หรอกครับ” นาวาสวนประโยคของอีกคน “ผมลืมมันไม่ได้ เมื่อไหร่ที่นึกถึงกฤตภาส ผมก็ยังคิดได้เสมอว่ามีความทรงจำกับพวกคุณในแบบไหน”

“...”

“แต่ถึงจะลืมมันไม่ได้ แต่ผมก็เปลี่ยนมันไปเป็นแค่ความทรงจำได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลา” ร่างโปร่งพูดขึ้น ดวงตากลมช้อนขึ้นมองพันเอกก่อนจะส่งยิ้มให้คนตัวสูงกว่า

ยิ้มที่บ่งบอกว่านาวาได้ปลดเปลื้องความทุกข์ทั้งหมด

ยิ้มที่บ่งบอกว่านาวาพร้อมปล่อยให้เรื่องเลวร้ายกลายเป็นเพียงความทรงจำอย่างแท้จริง

“ชดใช้ในสิ่งที่คุณทำเอาไว้ แล้วเมื่อไหร่ที่คุณกลับมา ถ้าใจคุณยังไม่เปลี่ยน ผมจะรอ...” นาวาเอ่ยพลางเขย่งเท้าขึ้นกดจูบลงบนแก้มของพันเอกท่ามกลางผู้คนมากมาย

“จะรอคุณสักที่ ถึงตอนนั้นเราจะรู้จักกันในฐานะนาวากับคุณพันเอกที่ไม่มีอะไรให้ติดค้างกันอีก เราอาจจะเป็นคนรู้จักกัน เป็นเพื่อนกัน เป็นอะไรก็แล้วแต่ในแบบที่เวลาและการกระทำของเราทั้งคู่ส่งให้มันเป็นไป และถ้าคุณยังไม่เปลี่ยนใจจากคนที่ทำให้คุณเป็นแบบนี้ ผมเองก็พร้อมเรียนรู้และเริ่มต้นใหม่กับคนที่เคยทำร้ายผมเหมือนกัน”

“หึ งั้นรอหน่อยนะ เก็บโอกาสเอาไว้ให้ฉันคนเดียวก็พอแล้ว เข้าใจไหม” พันเอกหัวเราะพลางเอ่ยเสียงแผ่ว นาวายกยิ้ม พยักหน้าบางเบาให้กับคนตรงหน้าก่อนจะกระซิบข้างใบหูของร่างสูง

“คุณเองก็ต้องเก็บโอกาสนั้นเอาไว้ให้ผมเหมือนกัน”

พันเอกยกยิ้ม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่พาตัวออกไป นาวามองตามแผ่นหลังกว้างของผู้ชายที่เคยใจร้ายมากที่สุดจนลับสายตา นับแต่นี้ ความสัมพันธ์ครั้งเก่าของเขาและพันเอกสิ้นสุดลง ความรู้สึกทุกอย่างย้อนกลับไปสู้จุดเริ่มต้น ไม่มีความแค้น ไม่มีการเอาคืน ไม่หลงเหลือสิ่งใด

เหลือเพียงตัวตนในอดีตที่ต่างถูกแปรเปลี่ยน

พันเอกชดเชยความผิดที่ทำเอาไว้แล้วในวันนี้ ความทรงจำของนาวาที่มีต่ออีกฝ่ายแปรเปลี่ยน

พันเอก กฤตภาส ไม่ใช่ซาตานร้ายในสายตาเขาอีกต่อไป

แต่เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง

ผู้ชายที่ถ้าหากได้เจอกันอีกครั้ง นาวาจะยิ้มให้อีกฝ่ายในทุกฐานะอย่างที่อีกฝ่ายอยากให้เป็น

 

The End

 

 

 

 

ยังเหลือตอนพิเศษอยู่นะคะ ลงเว็บหลายตอนเหลย อย่าเพิ่งทิ้งเฮียเน่ออออ ><

ตอนพิเศษที่จะลงในเว็บมี

- พันเอก x นาวา

- พันเอก x พระพาย

- พันเอก x น้องเทียน

ส่วนตอนอื่นๆที่เหลือติดตามในเล่มนะจ๊ะ


สำหรับเรื่องคำวิจารณ์ ไม่มีอันไหนที่ไม่ถูกใจเราค่ะ ที่อ่านๆมานี่ชอบหมด 55555555555 จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยเรารับฟังหมด ส่วนเรื่องตอนจบ คิดเสียว่ามันเป็นนิยายเรื่องหนึ่งก็แล้วกันเนาะ สไตล์การเขียนของเรามันมีทั้งส่วนที่สมเหตุสมผลสักเล็กน้อยและส่วนอมตะนิยมตามสังคมไทย สารภาพว่าเราไม่กล้าเขียนแบดเอ็นเลยค่ะ 555555555 เพราะฉะนั้นความน้ำเน่ามันก็จะมาลงที่ตอนจบ แฮปปี้ทุกเรื่องนั่นเอง ฮาาาาาาาาาา

สุดท้ายนี้...ดราม่ามันอืดมาก เราเองก็กลัวทำให้คนอ่านไม่พอใจจนถึงขั้นเกลียดเราไปอีก เครียดทั้งคนอ่านทั้งคนเขียนเลยทีเดียว เพราะงั้นเลิกม่าแล้วมาหื่นกันดีกว่าเนาะ อ่านป๋าภัทรร้อยเมียเพื่อให้อารมณ์เย็นลงกันดีกว่า จะได้แฮปปี้ (คนอ่านบอกเรื่องนั้นระอุกว่าพันเอกไปอิ๊กกกกกกก) 55555


สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณทุกๆกำลังใจ ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่นักอ่านได้แสดงมุมมองออกมาให้เราได้กลับไปขบคิด ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ คำติติง และคำติชมที่ทุกคนร่วมแสดงกันเข้ามา หากนิยายเรื่องนี้มีส่วนใดส่วนหนึ่ง(หรือทุกส่วน)ที่ผิดพลาด ทำให้คนอ่านไม่พอใจหรือไม่สบายใจ ตัวคนเขียนต้องขอโทษและขออภัยในความผิดพลาดมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนคงไม่โกรธเราน้าาาาาา (.   .)

สถานีต่อไป...นายหัวกับน้องพาย >>> จิ้ม (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47028.msg3071380#msg3071380) <<< โลดค่าพ่อแม่พี่น้องงงง >w<
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 14-05-2015 19:51:05
ปูเสื่อ+เตรียมไบกอน รอตอนหวานๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Isunn ที่ 14-05-2015 19:52:17
ทำใจไว้ตั้งแต่แรกๆแล้วล่ะ  จำได้ว่าตอนแรกๆ มีแต่คนเกลียด และแช่งพระเอกไปต่างๆนาๆ

บทสรุปออกมาแบบนี้ ถือว่าดีมากๆ อย่างน้อยก็ไม่ได้ชดใช้ด้วยชีวิต  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 14-05-2015 19:53:15
 :katai2-1:

ชอบตอนจบมากๆค่ะ. ขอบคุณสำหรับนิยายและตอนจบนะคะ  กว่าจะสร้างออกมาได้มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ต่อไปให้เป็นเรื่องของเวลาเนอะ ความทรงจำคนเรามันเปลี่ยนกันไม่ได้ แต่เราสร้างเงื่อนไขกับปัจจุบันและอนาคตได้
 วันหน้าอาจได้มาพบกันเพื่อเริ่มต้นใหม่. ภาวนาให้มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสียที
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ตาล ที่ 14-05-2015 20:03:26
อย่างน้อยกลับออกมาก็จะกลับมาร่วมทางกันได้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Heisei ที่ 14-05-2015 20:04:52
จบเรื่องได้ดี ขอบคุณนะคะ
อาจจะดูเป็นการจบแบบนิยายไปหน่อย แต่เราชอบแบบนี้นะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 14-05-2015 20:24:40
จบแบบนี้ก็ถือว่าดีแล้วนะเราว่า
เราอ่านๆมายิ่งกลัวมันจะแบด
มากกว่านี้อีก
รอๆป๋าภัทรกะเรื่องน้องพายคร้า
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 14-05-2015 20:26:09
จบเรื่องได้ดีนะคะ
ไม่คิดมาก่อนว่าจะให้พันเอกชดใช้ให้
แบบนี้ แต่ก็ถือว่ายุติธรรมดีนะคะ
รอตอนพิเศษนะคะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 14-05-2015 20:43:39
เราพอใจกับการจบแบบนี้นะ คือผิดก็ว่าไปตามผิด นี่แสดงว่าพันเอกกํต้องขึ้นศาลด้วยสินะถึงจะได้รับตัดสินเป็นโทษออกมา  ระวังอย่าก้มเก้บสบู่ในเรือนจำแล้วกันนะเฮียเอก

นาวาสูญเสียทุกอย่างจริงและความผิดเรื่องณะโมนาวาก็ต้องยอมรับด้วยว่าตัวเองมีส่วน ยอมรับตรงจุดนี้แล้วก็ก้าวต่อไป

รอนายหัวค่ะ แต่ก็ขอให้นายหัวชดใช้ความผิดที่ทำต่อพระพายด้วย รามยิ่งหนักกว่านะเราว่าเพราะทำกับพระพายตั้งแต่อายุไม่เท่าไหร่  การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กเป็นอะไรที่ผิดอย่างเหลือล้นสำหรับเรา ต่อให้เด็กสมยอมก็เถอะ

เราขอปรบมือให้คนเขียนกับตอนจบค่ะเป็นเมจเสจที่ดีมากส่วนหนึ่งเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 14-05-2015 20:47:48
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kor.korn ที่ 14-05-2015 21:47:24
อยากจะบอกว่า

เมื่อคืนอ่านตอน 50% ก่อนนอน นอกจากจะนอยด์ทั้งวันแล้ว ยังทำให้แบบ เฮ้อออ เอาแทปเล็ทไปกดรีเฟรชในแลปแบบรัวๆเลยครับ ดีที่หัวหน้าไม่อยู่ แฮ่ๆ

มาเห็นอีกทีตอนเลิกงานครับ แบบ เอ้อออ พลิกคว่ำคาโค้งมากครับ รู้สึกแปล๊บๆไปหมดเลย ไม่คิดว่าจะอินขนาดนี้ แม้จะยอมรับกับคำพิพากษาของนาวาด้วย แต่ใจก็กลับมัวๆครับ

พันเอกที่สุดท้ายก็เป็นผู้ที่ติดในกรงขัง นั้นไม่ได้แตกต่างกับนาวาที่ติดอยู่ในกรงรักเช่นกัน
ขอบคุณสำหรับนิยายในอีกหนึ่งมุมมองดีดีครับ
(ปล.ช่วงนี้นิยายที่ชอบจบรัวๆ นี่นั่งร้องไห้หาเรื่องใหม่อ่านไม่ทันเลยทีเดียวครับ)
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 14-05-2015 23:27:15
จบแบบนี้ก็ดีนะ   :katai3:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 29-05-2015 12:34:39

(http://f.ptcdn.info/990/017/000/1397951716-251-o.jpg)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: snowprince108 ที่ 29-05-2015 15:59:28
จบแล้วววววว ไม่รู้จะสงสารใครดี  :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 29-05-2015 16:22:59


ขอบคุณที่แบ่งขอรับ

ลุ้นทุกตอน

เศร้าได้

หน่วงได้

อยากได้ตอนพิเศษจัง

หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 30-05-2015 21:01:50
 o13
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 31-05-2015 12:26:19
อ่านรวดเดียวจบเลยค่า มาไม่ทันตอนกำลังลงอยู่ แต่จะไปติดตามเรื่องลวงรักต่อนะคะ

ชอบเรื่องนี้มากถึงแม้พระเอกจะโหดหินขนาดไหนก็ตาม สิ่งที่เราชอบก็คือ พันเอกเป็นคน "พูดจริงทำจริง" น่ะค่ะ

ไม่มีการแค่ขู่เฉยๆ ส่วนนาวาก็มีน้ำอดน้ำทนได้ดีมากเหลือเกิน

จะติดตามอ่านผลงานไปเรื่อยๆนะคะ ชอบภาษามากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 31-05-2015 23:30:19
 o13
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: shoi_toei ที่ 01-06-2015 00:30:37
จบได้ใจเจ้จิง ๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-06-2015 10:58:47
 :sad4: :o12:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: sodawan1 ที่ 01-06-2015 16:54:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: eddiam ที่ 01-06-2015 20:47:10
อยากให้ทำขายเปนอีบุ๊คด้วยอะค่ะ  กิกิ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 02-06-2015 01:05:59
ชอบตอนจบที่สุดเลย  :sad4: เป็นอะไรที่สาสมกับความเลวของพระเอกแล้ว
ความจริงเราอยากให้รามโดนแบบนี้บ้าง ดูจากสภาพพระพายแล้วรามไม่สมควรรอดคุก
จะรอเรื่องเต็มๆของสองคนนี้นะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 02-06-2015 14:15:33
หน่วงจิตหน่วงใจมากคะคุณผู้ชมม
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: New_Tai ที่ 03-06-2015 10:15:02
อ่านแล้วววหน่วงมากกกก จะติดตามเรื่องรามกับพระพายยนะคร๊าาาา
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 04-06-2015 03:44:41
เรื่องจบ แต่คนอ่านยังไม่จบนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 04-06-2015 20:47:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 06-06-2015 00:25:42
เขียนดีมาก ครบรสดีนะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆ นะฮ๊าฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 06-06-2015 01:25:20
อ่านรวดเดียวจบเลย
สนุกมาก อินมาก สงสารวามากๆ สงสารพะพาย

ตอนจบ คนทำผิดก็ต้องชดใช้เนอะ
เอาน่า พันเอกรับโทษไม่กี่ปีก็ได้ออกมาแล้ว

อยากอ่านหลังจากพันเอกพ้นโทษจัง จะเป็นยังไงต่อ นาวายังอยู่ที่เดิมไหม พันเอกจะทำยังไง
และคนอื่นๆ จะเป็นอย่างไร
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 06-06-2015 18:26:54
:z10: :sad2: :sad5: :a6: :a5: <--- ความรู้สึกหลังอ่านเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 06-06-2015 22:03:30
 :sad4: :hao5: อ่านไปปวดใจไป สนุกมากกกกกกกกกก นี่นั่งอ่านจนจบในวันเดียว

ดีนะที่จบแบบให้พระเอกติดคุก

รอตอนพิเศษด้วยใจจดจ่อ

 :katai5: ไปอ่าน รามxพาย ต่อดีกว่า...
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 11-06-2015 10:02:20
 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: เอกรักวาโดยไม่ร้....
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ิbenz ที่ 11-06-2015 12:45:52
 :hao7: เขารักกัน :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 14-06-2015 21:36:54
 :L1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 20-06-2015 20:40:35
เข้ามาอ่านเรื่องนี้ รวดเดียวจบ   เราถูกใจตอนจบแบบสุดๆ ชอบมาก    สมเหตุสมผลดีอ่าาา   เพราะการข่มขื่นแล้วสุดท้ายจบด้วยเผลอรักกัน และจบแฮปปี้แทบลืมไปหมดว่าตอนแรกเป็นไง   จบแบบนั้นมันไม่อินเลย เกือบทุกเรื่องเป็น ขอบคุณที่คนเขียนสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นตัวเองออกมาให้ได้เพลิดเพลินกันนะคะ

ปล.เราอยากติดตามรามจริงๆ  รายนั้นก็ใช่จะถูกมีส่วนที่ผิดเหมือนกันยังอยากเห็นบทเรียนที่นาวาบอกเอาไว้กะคุณเอกว่ารามก็จะต้องเจอเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: i love y ที่ 11-07-2015 18:27:55
ตั้งแต่อ่านมาเสียใจมากเลยค่ะที่ณะเสียชีวิตไม่สามารถอ่านต่อได้อีกแต่คนเขียนเขียนดีมากนะค่ะหน่วงและเสียใจมากจริงๆไม่เคยรู้สึกหน่วงใจเท่านี้มาก่อนตั้งแต่อ่านนิยายsmมาเรื่องนี้ตอนณะเสียสะเทือนใจจริงๆแต่ยังไงก็ขอบคุณนะค่ะที่เขียนนิยายให้อ่านTT
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 11-07-2015 18:58:32
เป็นนิยายที่เราชอบมากๆเรื่องนึงเลย นึกถึงยามไหน อารมณ์หน่วงก็ผุดขึ้นมาทันที ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: monaligo ที่ 11-07-2015 19:12:55
เป็นบทสรุปของเรื่องที่ดีมากค่ะ ชอบมากกกกกกกกก พันเอกได้รับผลของตัวเอง เหลือรามละจะได้รับบทเรียนอะไร
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 13-07-2015 13:29:15
ยังไงก็ควรชดใช้  ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 14-07-2015 14:59:12
อ่านตอนแรกๆนี่หน่วงมากกก บอกเลย
น้ำตาซึม พระเอกเลวไปไหน //แต่ก็ก็ปิดจอเลิกอ่านไม่ได้
ตอนหลังๆค่อยดีขึ้นมาหน่อย
รอตอนพิเศษนะคะ <3

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: moongold ที่ 31-07-2015 00:22:59
ทำไมเรื่องนี้ตัวพระดูโหดร้ายทุกคนเลย ทั้งพันเอก ราม นารายณ์
แต่เนื้อเรื่องลุ้นระทึกมากเลยครับ ยังไงจะรอตอนพิเศษ
แอบอยากรู้ว่า นารายณ์กะส่องแสงทำไมลงเอยกันง่ายดายจัง
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 07-08-2015 07:06:13
ชอบเรื่องนี้ เพราะคนแต่งเขียนดีมากๆ ภาษาชวนอ่าน เดินเรื่องลื่นไหล (+1)
โครงก็สนุก แม้จะอิรุงตุงนัง ดริฟท์ปาดกันไปกันมาข้นคลั่ก แต่อ่านแล้วก็เข้าใจอารมณ์อย่างดี อินตามมากๆ

พวกลูกๆซวยถ้วนหน้าทั้งสองฝั่ง เพราะรุ่นพ่อรุ่นแม่ทำตัวอ้อย กิเลสราคะหนาเกินเยียวยาจริงๆ
แต่สรุปว่า ขอเข้าข้างพันเอกกับพระพาย พระเอกเรื่องนี้ไม่ได้รู้เรื่องตื้นลึกหนาบางอะไรกับเค้า
เดินไปตามภาระความแค้นเป็นสเต็ปทื่อๆชั่วๆ ตามสไตล์คนที่ขาดความรักจากพ่อแม่ และเพื่อนที่มีก็เหมือนไม่มี

ในตอนจบ ก็ยังรู้สึกด้วยว่า...นาวาไม่ได้ "รัก" พันเอกสักเท่าไหร่ มีแค่ความผูกพันบางเบา
การส่งพันเอกเข้าคุก ก็เข้าใจได้ในแง่เอาถูกเอาผิดตามกฏหมาย นางคงหายแค้นไปบ้าง ที่คนผิดต้องชดใช้กรรม
แต่มันไม่ได้ทำให้รักกันอะไรขึ้นมานี่นา เพราะก่อนหน้านี้ก็เห็นบอกว่า รู้สึกเฉยๆกับพระเอก ไม่รัก ไม่เกลียด
ที่บอกจะรอ เผื่อจะเริ่มต้นกันใหม่ จะยิ้มรับทุกฐานะที่อีกฝ่ายอยากให้เป็น ...ไม่ค่อยอยากจะเชื่อ (ถ้ารักคงไม่จับผัวใส่คุก)
เวลาช่วยเยียวยาความเศร้าในหัวใจก็จริงอยู่ แต่มันไม่ได้ช่วยเพิ่มพูนความรักสักหน่อย
ทุกอย่างต้องมาเริ่มต้นที่ศูนย์! สงสารคนที่ต้องกลับมาทำแต้ม ดันรักจนติดเพดานอยู่คนเดียว #ทีมพันเอก
หรือจริงๆนาวานางปากแข็ง เป็นคนอยู่ในกรอบจัดๆ ถ้าจะยอมรับว่า รักคนที่เคยทำไม่ดีด้วยง่ายๆ จะดูไม่สมราคา...รึเปล่า

ผิดมั้ยเนี่ย ที่ดันไม่อยากให้เค้าคู่กันซะแล้ว ทั้งๆที่เชียร์ให้รักกันมาตลอด (อุดมคติสวนทางกับความเป็นจริง)
แอบคิดว่า พระเอกก็เกย์อยู่แล้ว ถ้าในนั้น ได้เจอคนที่เข้ามาทุ่มเทรักให้จริงๆจากก้นบึ้งของหัวใจก็คงดี ศีลเสมอกันดีด้วย อิอิ
แต่มั่นใจว่าพระเอกที่รักมั่นคง เกลียดคนเจ้าชู้แบบพวกพ่อๆแม่ๆ คงกลับมาหานางฟ้านางสวรรค์ของเขาแน่นอน #ชูป้ายไฟพันเอก

ปล. ที่นาวาบอกจะดูแลพระพายให้ เอ่อ พระพายต้องพ่อพระมากเลยนะ ถึงจะไม่โกรธคนที่เอาพี่ตัวเองเข้าคุกเนี่ย
แล้วคนในบ้านนั้น ไม่เขม่นนางกันบ้างเหรอ เป็นคนดีกันจัง เป็นชั้นๆมีแอบเบ้ปากใส่เบาๆอ่ะ
จริงๆสงสารนางมาตลอด จนตอนมารู้เบื้องลึกบ้านพระเอกนี่แหละ เริ่มว่าเยอะ รู้สึกว่านางซ้ำพระเอกหนักไป คุก 4 ปีเลยนะ
ตัวผัวก็แมนๆไม่ต่อรองด้วยจ้า แบบขอเมียบำเพ็ญประโยชน์สาธารณะแทนไรงี้ กลายเป็นพ่อพระกันทั้งพี่ทั้งน้องในตอนท้าย ...ดีงาม!
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 09-08-2015 08:40:49
ถึงจะหน่วงๆแต่ก็จบได้ดีค่ะ พันเอกสมควรชดใช้สิ่งทึ่ทำ รอเรื่องใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [The End 100%] P.11 (14/05/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Baitaew ที่ 24-08-2015 23:12:57
จิตใจวาเด็ดเดี่ยวมากๆเหมือนกัน ก็อย่างว่า ความรักกับความถูกต้องมันคนละเรื่อง ชอบนะที่จบแบบนี้ แต่... อยากอ่านตอนเขากลับมาเจอกันแล้วอ่ะ 555555 


ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆแบบนี้ให้อ่านะคะ :)
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: PAiPEiPEi ที่ 01-09-2015 23:05:51
จังหวะเหมาะมากค่ะ   อ่านเรื่องนี้จบไปซักพักใหญ่ๆ   แล้วเราก็เพิ่งไป Like page ของคุณ March มาแปบๆนี่เอง
เเล้วก็อัพตอน 4 ปีต่อมาพอดี  คือดีใจอะถ้าไม่บังเอิญตามไปไลค์ อาจไม่ว่างตามและพลาดตอนนี้ไปแล้วก็ได้

จำได้ลางๆว่าตั้งแต่อ่านเรื่องนี้มา บรรยกาศตอนนี้ละมุนสุดเเล้วค่าา   พันเอกเปลี๊ยนไป๊!!  แล้วช่วงติดคุกพี่แกไปทำกิจกรรมอะไรมาคะ   นึกว่าจะผอมโทรมลง  นี่ตัวใหญ่ขึ้นคือไร 5555555   อาหารอร่อย??  หรือไปฝึกกิจกรรมสร้างอาชีพในนั้นมาคะ?  55555
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Viewonohm ที่ 01-09-2015 23:52:52
คิดถึงเฮียที่สุดฮือออ   :ling1:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 03-09-2015 19:57:38
ดีใจที่ได้อ่านบทสรุปของนาวากับพันเอกนะคะ
ขอบคุณมากๆ แต่สงสารพระพายจังเลย

 :mew1: 
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 05-09-2015 12:05:06
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 08-09-2015 10:43:27
เอกเหมือนจะดีขึ้นแต่กับพระพายนี่สิ
รอๆรามกะพระพายไหนจะพี่หมอกับเทียนอีก
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ : ตอนที่ 25 [After Story 01] P.12 (1/9/58)
เริ่มหัวข้อโดย: snack ที่ 08-09-2015 13:19:33
เพิ่งจะได้อ่านเรื่องนี้...พระเอกเลวววววมากที่สุดละเป็นวานี่คงลาตายไปก่อนน้องแล้วเนี่ย

เนื้อเรื่องแบบหน่วงมากแต่ก็เลิกอ่านไม่ได้และยังรอตอนของพระพายอยู่นะคะ

พระพายน่ารักน่าสงสารอยากให้เรื่องร้ายๆผ่านไป

หัวข้อ: Re: GAIOLA DE AMOR { :: ก ร ง รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 15-11-2015 17:05:28
ไหนตอนพิเศษอ่ะะะะะ ไหนนนนนน ไหนนนนน ตัวเองลืมไม่ได้น้าาาา ฮือๆ กลับมาต่อเถอะะะะะ
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 22-04-2016 11:11:33
 o13
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 22-04-2016 18:57:55
 :pig4:
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-04-2016 14:44:14
ในที่สุดก็อ่านจบ ฮูเร่!!  :hao7:
ชอบอ่านเรื่องหน่วงๆแบบนี้ ก็ตามอ่านมาเรื่อยๆจนมันจบลงจนได้

เป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกเครียดพอควรเลยนะเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 24-04-2016 09:53:02
ตามอ่านมา2วันค่ะ อ่านจบแล้ววววว
บีบหัวใจมากเลยค่ะ นี่ไม่รู้คุณรามจะเจอน้องพายรึยัง
อยากอ่านตอนสวีตคุณเอกกะวาอีกเยอะๆเลยค่า
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 26-04-2016 11:24:35
กว่าจะอ่านจบ เสียน้ำตาไปประมาณ 8 ไห

พล็อตเกินคาดค่ะ ตอนแรกนึกว่าแนวขืนใจ แล้วนายเอกก็รักพระเอกอย่างไม่มีเหตุผล ตามแบบฉบับนิยายน้ำเน่าโง่ๆที่เขียนกันเกลื่อนตลาด อ่านมาถึงตอนจบ อืม โอเค รับได้ๆ

แต่เรน่าโกรธรามค่ะ เหตุการณ์ในอดีตก็จบไปแล้ว ยังตามมาข่มขืนน้องพระพายต่อ โอ้ยยยย จิตใจทำด้วยอะไรกัน

ป.ล. แล้วตอนพิเศษ 3 ตอนอ่ะคะ? ทวงๆ อยากอ่าน ฮือออ
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: ♥♥ดอกช่อบานสะพรั่ง♥♥ ที่ 29-04-2016 08:20:35
 o13 เป็นตอนจบที่ชอบมาก ก็อย่างที่นาวาพูดมันต้องใช้เวลา ขอบคุณนิยายเรื่องนี้ ขอบคุณคนเขียน  :L2:
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: Feporchz ที่ 13-05-2016 13:40:17
คือจนจบมีตอนที่ทำให้ยิ้มได้แค่ตอน4ปีต่อมา 555
ส่วนตอนอื่นมันอะไรจะบีบหัวใจขนาดนั้น
นึกว่าจะจบแบบแบดเอนด์ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: zaturday ที่ 18-05-2016 15:37:13
นิยายหน่วงตับ ปวดไต เฮ้ออออ
นิยายสนุกค่ะ แต่เราขำไม่ออก กว่าจะถึงตอนสุดท้ายนี่พาดริฟแหกโค้งเกือบตายตั้งหลายรอบ เป็นคนเขียนที่ผูกปมได้เก่งมาก และคลายปมได้ดี แต่เรายังคิดไม่ออกอยู่ดีว่านายหัวรามจะได้รับบทเรียนแบบไหนถึงจะสาสมควาทเหี้ยที่ได้กระทำ นี่เรายังไม่ได้อ่านลวงรักนะ แต่แค่รับรู้ผ่านเรื่องเลห์รักเท่านั้น มองดูเรื่องลวงรักนี่น่าจะจบแบดเอน เพราะรามเหี้ยเหลือเกิ้นนน
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 20-05-2016 02:23:39
คิดถึงจัง กลับมาอีกที เอ้า! สี่ปีละ  :hao7:
หัวข้อ: Re: { :: เล่ห์รัก :: } + END | REWRITE
เริ่มหัวข้อโดย: pharat k. ที่ 20-05-2016 16:30:30
คนเขียน เขียนดีมากกกก ชอบ (พระเอกหรือผู้ร้ายคะนั่นเลวชาติซะ) และที่ชอบอีกอย่างคือ คนที่ทำผิดกฏหมายก็ต้องใด้รับโทษที่เค้าทำ ซึ้งมันเป็นความจริง
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: shannara ที่ 30-05-2016 18:41:09
อ่านจบแล้วค่ะ

อ่านไปก็หงุดหงิดไป พวกเอ็งคุยกันมากกว่านี้ไม่ได้รึไง ความสัมพันธ์เพื่อน มีไว้ทำแป๊ะอะไร
ปัญหาอยู่ที่ ไม่ยอมพูด และไม่ยอมฟัง โอยย
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 31-05-2016 22:57:13
สนุกกกกกก อ่านมันทั้งวันหยุดไม่ได้เลย ฮือออ แต่ละคู่นี่กระชากไตไปมั้ยยย อินจัด
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 19-08-2016 08:21:28
ดราม่าถูกจริตมาก ๆ โซ้ยซะอิ่มเอมเลย

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: PrimYJ ที่ 20-08-2016 10:30:41
เป็นอะไรที่นักหน่วงหัวใจมาก
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 20-08-2016 23:02:21
จบได้โหดมากบอกเลย ใจสลาย :hao5:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 09-09-2016 02:35:18
แล้วพระพายกับรามอ่ะยังไง
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-10-2016 12:54:54
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 03-11-2016 23:52:51
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 11-12-2016 19:45:09
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: mymiracle ที่ 17-12-2016 11:20:32
ถ้าจะบอกว่าจบดีไปนี่ผิดไหม...นานเอกควรได้เริ่มต้นชีวิตใหม่มากกว่าต้องมารอพระเอก
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: toonsora ที่ 25-12-2016 10:36:24
อันดับแรก ติดแฮชแท็กก่อน #ทีมพันเอก :m15:

  เราอ่านแล้วรู้สึกว่าพันเอกผิดจริงในเรื่องของนาวา แต่เรื่องทั้งหมดเกิดจากพันเอกมั้ย ก็ไม่ พันเอกทำร้ายนาวา อันนั้นเป็นเรื่องของพันเอกกับนาวา แต่เรื่องปัญหาสองตระกูลเรารู้สึกว่ามันไม่ใช่ความผิดพันเอกเลย รามที่รู้เรืองทั้งหมดก็ต้องรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพันเอกกับพระพาย
  แต่สุดท้ายก็ระบายความโกรธทั้งหมดใส่พระพายที่ยังเด็ก ดึงทุกอย่างเข้ามาอยู่ในวังวน ถ้าพันเอกจะรู้แค่ว่ารามฆ่าพ่อแม่ตัวเองต้องแก้แค้นเป็นเราๆก็ทำนะ ในฐานะของคนที่รู้แค่ว่าพ่อแม่ถูกฆ่าโดยเพื่อสนิทตัวเอง มันไม่แปลกที่จะรู้สึกว่าถูกหักหลัง แต่รามทำทุกอย่างอย่างลับหลังทั้งหมด เหยียบย่ำความรู้สึกของคนที่เรียกว่าเพื่อน ฆ่าพ่อแม่เขา ข่มขืนน้องเขา เพื่อนที่มีก็เข้าข้างราม เลิกคบไปเหอะ ยิ่งกับสิบตรีนี่เลิกคบไปเลย  :เฮ้อ:
  รามที่รู้ทุกอย่างแปลว่าต้องรู้ ว่าคนที่สั่งฆ่าคือแม่ของพันเอกไม่ใช่พันเอก แล้วที่พันเอกแก้แค้นไม่เห็นรามมันเป็นอะไรเลย อย่างดีก็โดนซ้อมก็ไม่ตายนี่ แต่ตัวเองฆ่าพ่อแม่เขาแบบไม่รู้สึกผิด ล่อลวงน้องเขาแล้วทิ้งตั้งแต่ป.4 คือ...เป็นคนนี่ทำไม่ได้นะ แล้วที่รามบอกว่ารักนาวานี่จะจริงหรอ เฝ้ามาเป็นปีก็จริงแต่แค่เข้าไปคุยยังไม่เคย มันรักไม่ได้หรอก ถ้าชอบหรือหลงรูปก็อีกเรื่อง:serius2:
  ส่วนณะโมเราว่าคาร์แร็กเตอร์มันหลุดไปหน่อยมั้ย ตอนแรกมานี่ใสๆเลยนะ และถ้าจะบอกว่าเป็นคนเด็ดขาดเลือดเย็น บุคคลิกมันแบ๊วแบบนี้เลยหรอ ถ้าบอกว่าเป็นคนเด็ดขาด มันต้องเป็นคนที่ประเมินสถานการณ์ได้ดีกว่านี้มั้ยอ่ะ แต่นี่ดูเหมือนเด็กขาดสติ ทำอะไรเกินตัว ยิ่งทำยิ่งแย่
  นาวานี่ปิดน้องเกือบตาย บอกให้คนนู้นคนนี้ช่วยปิด แต่แค่น้องถามคำเดียว เล่าหมดเปลือกไม่เหลือเลย แล้วจะปิดทำไม
PS. เขียนดีแล้วค่ะ แต่เรารู้สึกว่ามันยังมีบางจุดที่ยังไม่make senseเท่าไหร่กับคาร์แร็คเตอร์ตัวละครหลายๆตัว อ่านแล้วมันสะดุดนิดนึง แต่ภาพโดยรวมกับโครงเรื่องดีแล้วนะคะ
อาจจะเม้นยาวไปหน่อยเนอะ :hao5:
Ps1.ขอบคุณสำหรับผลงานดีๆนะคะ




หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 27-12-2017 19:22:52
ซีรี่ย์ที่หนักและหน่วง น้ำตาท่ใมจอ  :m15:  :monkeysad: :hao5:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: ANIKI. ที่ 28-12-2017 07:16:13
ขอเม้นก่อน ยังอ่านไม่จบ แต่รู้สึกไมาโอเค ไม่โอเคมากๆถ้านาวาจะรักพันเอกจริงอยู่ว่าคนมีอะไรกันทุกวัน แต่เซ็กส์กับความรู้สึกรักใคร่ไม่ควรอยู่ด้วยกัน ไม่อยากเห็นนาวารักพันเอกกก ม่ายยยยย รามสิ รามได้ไหม
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 28-12-2017 22:11:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: fager_yaoi ที่ 23-02-2018 21:39:15
ตอนพิเศษอยู่ไหนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: iikol ที่ 19-05-2018 22:33:38
รู้สึกเสียเวลาที่อ่านมายี่สิบกว่าตอน ตอนที่รู้บทสรุป(ช่วงคลายปม)ของเรื่อง

แรกๆปมมาสวยๆ สวยมาตลอด คิดแค่ว่าถ้าประคองแบบนี้ไปจนจบ หรือตัดสวยๆแบบให้ตายกันไปครึ่งเรื่อง อีกครึ่งอยู่แบบกึ่งเป็นกึ่งตาย ไม่มีใครสมหวัง ก็น่าจะดีไม่น้อย

แล้วก็ลากเอาคนนอกเข้ามาพัวพันให้หนุกๆอีก เช่นป้าแม่บ้าน ชื่อไรนะ เอื้อย เอื้อง เอื้อ อะไรสักอย่างอะ ถ้าป้าแกโดนลูกหลงตายก็น่าสนุกไม่น้อย ส่วนที่เลือกให้นะโมเป็นคนตายถือว่าตอบโจทย์ (ส่วนตัวเชียร์ให้คุณรามตายแต่ต้นเลยนะ 5555 ก็พี่แกฆ่าพ่อแม่ข่มขื่นน้องขนาดนั้น)

จนตอนเฉลยทั้งหมดนี้แหละ ไอ้ที่พ่อได้แม่ แม่ประชดพ่อ แม่ไปเอาคนนู้น พ่อไปเอาคนนี้ อันนี้เริ่มเลอะเทอะละ เลอะเทอะแบบเลอะเทอะอะ งื้ออ

ตัวละครหลายๆตัวในเรื่องค่อนข้างจะมีคาแร๊คเตอร์ขัดกันในตัวเองแบบอะไรที่ไม่ควรอยู่ด้วยกันได้กลับมาเขย่ารวมกัน
หรือบางตัวสร้างขึ้นมาจากพื้นเพนึง บรรยายว่าเกิดเติบโตมาในครอบครัวสิ่งแวดล้อมนึง แต่นิสัยกลับตรงข้าม เหมือนกันให้เด็กที่เกิดในคุกรู้จักมารยาทแบบเจ้าชายอะ

แต่ก็นะ ที่ว่าไปเป็นแค่บางจุดที่โผล่มากไม่มาก เพราะโดยรวมแล้วถือว่าตีโจทย์แตก โดยเฉพาะกับพล๊อตเรื่องที่ใช้คาแร๊คเตอร์ตัวละครเน้นๆในการดำเนินเรื่อง สามารถสร้างตัวละครออกมาให้มีมิติได้ถึงจุดนี้นับว่าไม่เบาเลย

หลายอย่างในเรื่องที่สมเหตุสมผลดีสมบูรณ์ มีบ้างเล็กน้อยที่ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้สะดุดอะไร
เอาง่ายๆอะ ยกเว้นเรื่องณะโมอะนะ
แต่ถ้าถามว่า ตลค ไหนไม่เมคเซนต์มากที่สุดคงเป็นคุณรามนี่แหละ หลายๆอย่างทำให้พี่แกต้องรับบทตัวไม่สมเหตุสมผลเพื่อให้เรื่องดำเนินได้ ถ้าขัดๆถูๆดีๆ ตัวละครนี้น่าจะไปรอดไม่ยาก

เหมือนปมส่วนที่เป็นวังวนแค้นอะ เฉพาะตอนที่พูดเรื่องแก้แค้นวนลูป ตรรกะของตัวละครหลายตัวมาก ที่เพี้ยน เพี้ยนหนักแบบ หา!? ได้หรอ
แล้วก็รู้สึกว่า(ถ้าจำไม่ผิดนะ)ตอนต้นเรื่องเปรยๆประมาณว่าคุณรามเคยข่มขืนพระพายต่อหน้าคุณเอกแบบที่คุณเอกโดนตรึงอยู่ (รู้สึกจะเป็นฉากในห้องใต้ดิน) ถ้าจำถูกคนเขียนคงลืมปมนี้อะ เพราะไม่เคยพูดถึงอีกเลยทั้งๆที่เป็นเรื่องใหญ่มากเลยน้าา (ถ้าจำผดขออภัย มึนๆเบลอๆ 555)

(อันนี้เริ่มสวนตัว) อุตส่าห์นั่งซึมซับความดาร์กมาตั้งนาน มาจบซะเคลียร์เรียบร้อย นี่ถ้าเป็นนิยายฝรั่งนะคงจบแบบ พรึบ ! แล้วก็ให้คนอ่านตามสาปแช่งนักเขียนที่หัวเราะสะใจ ถถถถ

ยอมรับตรงๆเลยว่าตอนอ่านไปได้กลางๆเรื่อง คือตั้งใจไว้แล้วว่าพอจะคลายปมเมื่อไหรเราจะเลิกอ่านทันที เพราะรู้สึกว่าคนอ่านคนอื่นๆเชียร์กันเต็มที่ให้เข้าไลน์พิมพ์นิยมคือร้ายมาเอาคืนกลับ ไม่โกง ทำพระ/นายเจ็บมา ต้องเจ็บกลับไม่โกง แต่เรากัดฟัน (5555) อ่านจนจบได้นะ เพราะมันก็ไม่ได้พิมพ์นิยมแบบโลกสวยขนาดนั้นนน

แต่ก็นะ เข้าใจว่าคนไทยชอบอะไรสวยๆ ทุกอย่างต้องแฮปปี้เอนด์ เพื่อสนองนีดทุกคน เลยต้องจบแบบพิมพ์นิยมแบบนี้ (แต่แอบเสียดายคาแร๊กเตอร์พระเอกนิดหน่อยที่ประกอบมาดิบดีแต่เอามาย่ำยีซะ ...เอิ่ม) แถมยัดเยียดจับๆคู่ให้ครบคู่อีก บางอันมันไม่อินก็ไม่ต้องให้เค้าคู่กันก็ได้นะครับ -.-

ส่วนเนื้อเรื่องแยกของคุณราม.... เราคิดว่าบารมีฮีไม่พออะ ออร่าพระเอกไม่รู้จะไปออกตรงไหน อย่างพระพายน่าจะพอเป็นนายเอกได้ แต่คุณรามเค้าพอมาเทียบกับคุณเอกแล้วออร่าฮีโดนข่มอะ พูดง่ายๆไม่น่าเกิด
(ส่วนตัวคิดว่าเนื้อเรื่องนางเป็นแค่ไซส์สตอรี่ก็หรูแล้ว)

แต่เดี๋ยวขอเตรียมใจสำหรับไปอ่านเรื่องคุณรามก่อน เพราะมันต้องขัดใจเรามากแน่ๆ (ขอโทษ TT_TT มันไม่ไหวจริงๆ เราชอบดาร์คๆนะ ยิ่งปวดตับยิ่งชอบ แต่ไม่ใช่แนวดาร์คแล้วจบแบบคุณธรรมจริยธรรมอะ เราชอบดาร์คแล้วดาร์คให้สุด ดาร์คเสมอต้นเสมอปลาย)



สุดท้ายคือ ยังไงก็รักคนเขียนนะ  :กอด1:  อะไรที่พิมพ์ไปแล้วไม่โอเค หรือไม่ชอบเราก็ขอโทษจริงๆ หรือให้ลบออกก็ได้นะ (ย้อนขึ้นไปอ่านแล้วตกใจเอง)

— รักส์ :oo1:
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 27-09-2020 03:39:09
  รอมาเนิ่นนานตั้งแต่เมื่อหลายสิบปีก่อน
 
มือแกร่งคว้าโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมากดเบอร์โทรออกอย่างรวดเร็ว
ผ่านมาหลายสิบปีแต่ยังมีเบอร์โทรของศัตรู อืมมมม ไม่ธรรมดาจริงๆ
หัวข้อ: Re: ✙ กรงรัก กับดักเทวา ✙ [DARK ROMANCE and SM,18+]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 27-09-2020 04:25:16
  ผมว่าผมจำป้ายทะเบียนรถคันนั้นได้”

พระพายเสียงเข้มขึ้น ดวงตาคู่สวยจ้องมองคนสนิทของพี่ชายอย่างคาดคั้นจนคนถูกมองต้องรีบเบี่ยงเบนความสนใจ

“ผมว่าคุณพายขึ้นไปรอบนห้องก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวถ้ามาม่าสุกแล้วผมจะยกขึ้นไปใ-”

“รถคันนั้นเป็นรถของคุณรามใช่ไหมครับ” 
ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว รถยังทะเบียนเดิม ป้าดดดดดดด ถถถถถถถถถถ+
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 28-09-2020 16:39:36

อ่านจบ ครั้งเดียวยาวๆ ไป :mew5: :mew5:
ขอบอกว่า ดราม่า ทั้งเรื่อง เสียน้ำตา ไปหลายๆ แต่ เคลียร์ให้จบหลังพี่เอก ติดคุก 4 ปี เลยไม่ได้หรือ
หงุดหงิดใจ  แบบนี้ถือว่าจบไม่สวย  เพราะยังไม่มีความแน่นอน.. ใจคนเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
เพราะนาวา ก็ไม่ได้รัก พี่เอก เพียงแต่เป็นคนไม่ยึดติดแล้ว ปล่อยวางไป..

ขอขอบคุณนักเขียน  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ✙ ANGEL WITH A SHOTGUN ✙ กรงรัก กับดักเทวา [พันเอก x นาวา]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 15-02-2022 15:37:42
สารบัญ

ตอนที่ ๑

ตอนที่ ๒

ตอนที่ ๓

ตอนที่ ๔

ตอนที่ ๕

ตอนที่ ๖

ตอนที่ ๗

ตอนที่ ๘

ตอนที่ ๙

ตอนที่ ๑๐

ตอนที่ ๑๑

ตอนที่ ๑๒

ตอนที่ ๑๓

ตอนที่ ๑๔

ตอนที่ ๑๕

ตอนที่ ๑๖

ตอนที่ ๑๗

ตอนที่ ๑๘

ตอนที่ ๑๙

ตอนที่ ๒๐

ตอนที่ ๒๑

ตอนที่ ๒๒

ตอนที่ ๒๓

ตอนที่ ๒๔

ตอนที่ ๒๕ [จบ]

??? ลิงก์ไม่ขึ้น
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 16-02-2022 16:40:31
 :seng2ped:
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: Freezz ที่ 20-02-2022 19:36:59
อ่านจบแล้วว  อึน มึนมากครับ
ไม่เห็นมีตอนพิเศษเลยครับบบบ
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 21-03-2024 19:40:45
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)

หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 22-04-2024 19:09:38
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 43บ./1วัน กด *777*7721*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 75บ./2วัน กด *777*7724*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 113บ./3วัน กด *777*7719*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7722*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 97บ./2วัน กด *777*7725*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 140บ./3วัน กด *777*7720*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 70บ./1วัน กด *777*7723*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8 (https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)


AIS ระบบเติมเงิน เอไอเอส เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 31 มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k (https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k)
หัวข้อ: Re: { :: พยศรัก :: } + END | *เปลี่ยนชื่อเรื่อง (เดิม : เล่ห์รัก)*
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-04-2024 19:50:46
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 43บ./1วัน กด *777*7721*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 75บ./2วัน กด *777*7724*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 113บ./3วัน กด *777*7719*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7722*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 97บ./2วัน กด *777*7725*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 140บ./3วัน กด *777*7720*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 70บ./1วัน กด *777*7723*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8 (https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)


AIS ระบบเติมเงิน เอไอเอส เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 31 มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k (https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k)