พิมพ์หน้านี้ - << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 16-04-2014 23:36:15

หัวข้อ: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-04-2014 23:36:15
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ

เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบกรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับhttp://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่


1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด


3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
     

7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
     

7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
     

7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com/)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป


11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป


12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด


13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ


14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ


15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 1 ก้องภพ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-04-2014 23:44:33


                              Only Love Is Real

                                 ให้รักนำทาง

                                บทที่ 1 ก้องภพ


พ.ศ.2507

ขวดนมขวดน้อยตั้งอยู่ไกลเกินไป มือน้อยๆที่อยู่ในเปลนั้นเอื้อมไปไม่ถึง

เพียรพยายามไขว่คว้าเท่าใดก็ไม่ได้ผล ซ้ำร้ายเปลนั้นเอียงจนแทบจะพลิก

เด็กน้อยตัวขาวอ้วนกลมหน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่วัยสามขวบ แทบจะทนไม่ไหวด้วยความหิว

ดวงตาชั้นเดียวยาวรี เพ่งมองไปที่จุดหมาย ก่อนกำหนดจิตใจให้ตั้งมั่น

ขวดนมขวดน้อย ค่อยๆ ขยับตัวเอียงไปมาเล็กน้อย แล้วขยับมาข้างหน้า

เลื่อนมาอย่างช้าๆ จนสุดปลายโต๊ะ เอียงขวดจนแทบจะหล่นร่วง

แต่พอสุดขอบขวด มันกลับยกตัวลอยขึ้นมา ลอยมาด้วยตัวเอง!!

จนแทบจะไขว่คว้าไว้ได้ ประตูห้องก็เปิดออก คนเป็นพ่อยืนอยู่หน้าประตู

เด็กน้อยหันไปมองคนเป็นบิดา สูญเสียสมาธิ

ขวดนมที่ลอยละล่องกลางอากาศพลันร่วงหล่นลงพื้น







ธันวาคม พ.ศ.2528

มอเตอร์ไซค์แฟนธอมคันใหญ่ส่งเสียงกระหึ่มเตือนมาก่อนที่ตัวรถจะเลี้ยวโค้งอย่างสง่าผ่าเผยมาจอดที่

ลานจอดรถข้างกองปราบ อันเป็นที่ประจำของผู้เป็นเจ้าของรถ ซึ่งใครๆที่ทราบกิตติศัพท์ ต่างไม่กล้าที่

จะมาจอดในช่องนี้

ผู้เป็นเจ้าของถอดหมวกกันน็อคสีดำทรงเท่ห์ห้อยไว้ที่แฮนด์รถ แล้วส่องกระจกดูใบหน้าตนเอง ภาพที่

สะท้อนมานั้นคือหนุ่มวัยยี่สิบสี่ ผิวขาวใส ใส่แว่นเรแบนด์สีน้ำตาลเข้ม ไว้ผมรองทรงที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อย

เขาถอดแว่นตาออกแล้วเสียบมันกับสาบเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีแดงดำตัวโปรด เผยให้เห็นดวงตาชั้นเดียว

ยาวรี แต่คมกริบ ก่อนยกมือขึ้นมาแต่งทรงผมให้เข้ารูป

ยิ้มให้กับตัวเองในกระจกรถเมื่อพึงพอใจกับหน้าตาวันนี้ที่เข้าที่เข้าทาง ห่างหายจากหนวดเครา

กลายเป็นหนุ่มหน้าใสคนหนึ่งที่บอกใครก็ไม่เชื่อ ว่าเขาคือนายตำรวจกองปราบหน้าใหม่อนาคตไกล

ร.ต.ต.ก้องภพ เกรียงไกร หรือฉายาในวงการคือ “สายสืบพญายม”

ผู้หมวดหนุ่มตวัดขาลงจากรถมอเตอร์ไซคันใหญ่ เดินผิวปากเข้าไปในที่ทำงานอย่างอารมณ์ดีที่เมื่อวานนี้ปิด

คดีสำคัญสำเร็จไปอีกหนึ่ง เพื่อนร่วมงานต่างทักทายแสดงความยินดีกันอย่างเกรียวกราว

เดินไปนั่งที่โต๊ะประจำตัวพลางเอื้อมมือไปเปิดเครื่องเล่นเทปคาสเซ็ต มีเทปเพลงโปรดที่กำลังฮิตใส่ไว้

อยู่แล้ว เสียงเพลงส่งเสียงเบาๆ ผู้เป็นเจ้าของยกสองเท้าขึ้นพาดไว้กับโต๊ะ ใช้สองมือประสานที่ท้ายทอย

ทอดอารมณ์ตามเพลง





เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด

ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป

ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ

หากเจอเขาเจ้าจงบอกเถิดหนา

อย่ารอช้ารีบเอื้อนเอ่ยเร็วพลัน

บอกว่าฉันคอยรัก คอยรอ คอยพะนอเฝ้ารอทุกวัน
 

เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด

ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป

ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย ๆ ด้วยความปวดร้าวใจ
 
 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด

โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป

ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ

บอกให้เขาคืนหวนกลับมาหาปลอบวิญญาให้ไออุ่นแก่ฉัน

อย่าทอดทิ้งให้ฉันเดียวดาย จงคืนมาแนบใจนิรันดร์
 
 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด

โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป

ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ

ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


(ใจคนคอย/กุ้ง ตวงสิทธิ์ เรียมจินดาและวงเพื่อน 2528)






ชายหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง ชอบเพลงนี้ก็จริง แต่กลับยังคงไม่ซึ้งถึงความหมายชัดแจ้ง ในเมื่อชีวิตนี้ยังไม่

เคยต้องคอยใคร

รูปร่างหน้าตาอย่างเขา รวมไปถึงการศึกษาที่จบจากนายร้อยตำรวจด้วยคะแนนสูงสูด เท่านี้ก็เพียงพอที่

หญิงสาวทั้งหลายพร้อมที่ทอดสะพานให้เขาเดิน

แล้วเขาก็ไม่โง่พอที่จะหักสะพานเหล่านั้นเสียด้วย จึงเป็นที่ร่ำลือถึงความเจ้าชู้ของผู้หมวดหนุ่มคนนี้

แต่กลับไม่มีใครที่สามารถพิชิตใจเขาได้ มีแต่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป หัวใจของเขากลับไม่เคยรู้จักคำว่า

“รัก

เพลงรักเพลงอกหักหลายต่อหลายเพลงจึงไม่อินในหัวใจ ฟังได้เพราะความไพเราะ

หาใช่เพราะความกินใจไม่

แล้วอย่างนี้จะเรียกเขาว่า “สายสืบพญายมผู้ไร้หัวใจ” ได้หรือไม่

ก้องภพถามตัวเอง







หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-04-2014 00:21:10

                              Only Love Is real

                                  ให้รักนำทาง

                                 บทที่ 2 ลางสังหรณ์


กระแสบางอย่างสว่างวาบแล่นมาตามปลายประสาทมาจุดระเบิดที่สมอง ส่งผลให้ผู้หมวดหนุ่มเจ็บจี๊ด

ราวกับเข็มปลายแหลมมาทิ่มตำ เปลือกตาข้างขวากระตุกรุนแรงจนชายหนุ่มต้องยกมือขึ้นปิดตาไว้

รู้สึกใจหายไม่ทราบสาเหตุเหมือนตกจากที่สูง เป็นลางสังหรณ์ที่คอยเตือนภัยมาตั้งแต่จำความได้ แต่ครั้ง

นี้มันกลับรุนแรงชวนให้หวาดหวั่นอยู่ในใจ ราวกับเหตุข้างหน้าที่ต้องเจอมันคือหายนะยิ่งใหญ่

ลางสังหรณ์เตือนภัยได้ แต่ไม่อาจบอกเหตุล่วงหน้าได้ ว่าสิ่งเลวร้ายที่จะเกิดมันคืออะไร ชายหนุ่มจึงได้

แต่ต้องคอยระวังภัยไปทุกเรื่อง และทุกครั้งที่รู้สึกเช่นนี้ตั้งแต่เด็ก

บางครั้งบางคราวก็รู้สึกเป็นเป็น “กรรม” เสียมากกว่า ที่เกิดมาแล้วมีคุณสมบัตินี้ แต่ช่วยไม่ได้ ในเมื่อสิ่ง

ติดตัวเหล่านี้เป็น “กรรมพันธุ์”

เกริก ผู้เป็นบิดาได้เรียกเขาไปพูดคุยเรื่องคุณสมบัตินี้ และภาระหน้าที่ของตระกูลที่ตกทอดกันมาหลาย

ชั่วอายุคน ถึงความพิเศษของ “พลังจิต” ที่มี



“มันไม่ได้เอาไว้โชว์งอช้อนงอส้อมอย่างที่ คนที่มีเพียงน้อยนิดจะเอาไปโอ้อวดออกทีวี”       

พ่อบอกเขาอย่างนั้น

“แต่สำหรับตระกูลเรา ผู้เป็นชายจะสืบทอดกันมาเพื่อให้เอาไว้ต่อสู้กับศัตรูของเราที่มีมาหลายร้อยปี

เช่นกัน

“พวกไหนหรือครับพ่อ

เขาถามอย่างตื่นเต้นด้วยความเยาว์วัยก่อนที่ผู้เป็นบิดาจะตอบอย่างจริงจัง

“พวกใช้เวทมนตร์






“ก้องภพ เข้ามาในนี้หน่อย

ผู้บังคับบัญชาตะโกนเรียกจากภายในห้อง ก้องภพรีบกระวีกระวาดเดินเข้าไป

เขาทำความเคารพก่อนที่จะนั่งเก้าอี้เมื่อเจ้านายอนุญาต

ผู้สูงวัยกว่าผลักซองเอกสารมาเบื้องหน้าเขาก่อนที่จะบอกให้เปิดดู ชายหนุ่มจึงได้เปิดซองดูด้านใน

แม้รูปถ่ายจะเป็นสีขาวดำ แต่ภาพที่เห็นก็ชวนสะอิดสะเอียนไม่น้อย ชายหนุ่มเจ็บจี๊ดที่สมองเหมือนก่อน

เข้ามาในห้อง

เป็นภาพชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตและเมื่อผ่าศพตรวจพิสูจน์ก็พบเศษตะปูอยู่ในท้อง

ก้องภพนิ่งอึ้ง เขาทราบได้ทันทีว่า สงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ในยุคเขา ได้เริ่มต้นแล้ว






“พวกใช้เวทมนตร์ พวกไหนครับพ่อ ใช่พวกที่เสกของเข้าท้องกับพวกที่ไล่ผีหรือเปล่า

ก้องภพในวัยเด็กยังคงเอ่ยถามผู้เป็นบิดา นายเกริกลูบศีรษะคนเป็นบุตรเบาๆ

“พวกนั้นมันพวกจิ๊บจ๊อย พวกที่เป็นระดับสูงจริงๆ น่ะ คอยควบคุมเบื้องหลังพวกนี้น่ะจะมีความสามารถ

พิเศษในการจดจำเวทที่ร่ำเรียน และเมื่อใช้มันออกไป พลังมันจะสูงมาก

เด็กชายก้องภพนิ่งคิด

“แสดงว่าพวกนี้ไม่มีพลังเหมือนพวกเราที่มีมาตั้งแต่เกิด เพียงแต่ใช้การเรียนและฝึกวิชา ก็ไม่น่าจัดการ

ยากนี่ครับ แล้วทำไมพวกมันถึงได้เป็นศัตรูกับพวกเรามานานขนาดนี้

“ก็เพราะพวกมันหลอกใช้พวกที่ต้องการเป็นใหญ่ด้านเวทให้แผ่ขยายอำนาจ ลูกก็รู้ว่าคนเราเชื่อเรื่องพวกนี้

แค่ไหนยามที่ชีวิตอับจนหนทาง และพอคนไปขึ้นกับพวกมันมากๆ การกำจัดก็ยิ่งยากขึ้น เพราะพวกเรามีแค่

หยิบมือเดียว

คนเป็นพ่ออธิบายต่อ

“แล้วพวกเราควรจะทำอย่างไรครับพ่อ

เด็กชายก้องภพถามต่อ

“พวกลูกกระจ๊อกก็ปล่อยไป เรารอจังหวะ เล่นงานพวกตระกูลผู้นำเลยดีกว่า

เกริกตอบ

“แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะครับว่าใครคือพวกผู้นำ

เกริกถอนหายใจ

“นั่นแหละคือปัญหา ตั้งแต่รุ่นปู่ของลูกที่กำจัดพวกมันไปได้เกือบหมด พวกมันก็หายสาบสูญไปเกือบยี่สิบ

ปีแล้ว แต่พ่อเชื่อว่ามันยังไม่หมดไปแต่มันกำลังรอต่างหาก

“รอ รออะไรครับ

“พ่อเคยได้ยินตำนานของพวกมัน ว่าทุกห้าร้อยปีจะมีหนึ่งคนในตระกูลที่จะเกิดมาเป็นคนที่มีความสามารถ

พิเศษมาก ใครก็โค่นไม่ลง และที่สำคัญเมื่อศึกษาจากตำนานที่ว่าแล้ว

เกริกขมวดคิ้วอย่างกลัดกลุ้ม

“ไอ้ห้าร้อยปีที่ว่า มันใกล้จะถึงอีกไม่กี่ปีนี้แล้วน่ะสิ







แฟนธอมคันใหญ่เคลื่อนที่อยู่บนท้องถนนในยามค่ำ แต่แทนที่จะรู้สึกเพลิดเพลินไปกับการขับรถ

ก้องภพกลับรู้สึกตึงเครียด

“นี่เป็นงานใหม่นะก้อง เราไปพบศพที่ตายไม่ทราบสาเหตุและเมื่อนำมาผ่าชันสูตรแล้ว เจออย่างนี้

เฉพาะเดือนนี้ก็เป็นคนที่สี่แล้ว

ผู้เป็นนายเล่าให้ฟังอย่างกลัดกลุ้ม

“มืดแปดด้านไปหมด ตายเพราะคุณไสยจะไปจับมือใครดมได้ แต่ที่บังเอิญคือสี่คนนี้มีรอยสักยันต์

คล้ายกัน

คนเป็นนายชี้ให้ดูในรูป

“แต่เราก็ไม่รู้ว่าไปทำที่ไหนกันมา ตอนนี้ระดับสูงขึ้นไปเลยมอบงานนี้มาให้แผนกเรา

ชายสูงวัยกว่าเดินมาตบไหล่เป็นเชิงให้กำลังใจ

“ช่วยไปสืบหน่อยเถอะ[”

นี่คือสิ่งที่ทำให้ต้องมาปวดสมองอย่างนี้ ที่ทั้งงานในตำแหน่งหน้าที่และงานที่ติดตัวมาแต่เกิดกลายเป็น

งานเดียวกัน






เขาจอดแฟนธอมคันใหญ่ที่หน้าดิสโก้เธคแห่งหนึ่ง ปวดหัวอย่างนี้คงต้องผ่อนคลายบ้าง ยืดตัวก้าวขาลง

จากรถ แล้วจึงเดินไปที่ประตูทางเข้า

ทันทีที่จะก้าวเท้าผ่านประตูเข้าไป ไหล่ก็ถูกเบียดอย่างแรงด้วยใครอีกคนที่เหมือนจะรีบร้อนเข้าไป

ภายในจนชนกับเขา

“โอ๊ะ

เสียงอุทานดังขึ้นจากอีกฝ่าย ก้องภพหันขวับไปมองจึงเห็นร่างนั้นเซไปด้านข้างจากแรงชน

เขารีบคว้าแขนนั้นไว้ไม่ให้ล้มและออกแรงดึงเพื่อให้ร่างนั้นตั้งตัวได้

ร่างที่บางกว่านั้นหันมาสบตากับเขา


หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 20-04-2014 15:31:36
แนวแฟนตาซีไทยรอเนี่ย น่าติดตามค่ะ ก้องจะเป็นรับหรือรุกเนี่ย?  o18
รอตอนต่อไปนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 20-04-2014 17:16:27
อร๊าย   :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3: :m3:
เก๊าชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ไม่เคยอ่านแนวนี้เลย
น่าอ่านมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 20-04-2014 18:04:45
 :mew1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-04-2014 21:30:03
ว้าวว พระเอกเท่นะเนี่ย o13
แต่ถ้านับอายุจนถึงตอนนี้ ก้องก็แก่กว่าพ่อเค้านะ :laugh:
หัวข้อ: Re
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 20-04-2014 21:45:52
เข้ามาติดตามครับผม
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-04-2014 03:13:37
ออกย้อนยุคนิดๆ เนื้อเรื่องแปลกดี ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 2 ลางสังหรณ์ ( ๑๗/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 21-04-2014 20:09:31
น่าสนุกแฮะ   :katai2-1:
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 3 เป็นใครกันแน่ ( ๒๔ /๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-04-2014 11:01:30


                        Only Love Is Real

                          ให้รักนำทาง

                       บทที่ 3 เป็นใครกันแน่


ก้องภพรีบปล่อยแขนนั้นแล้วจึงได้มีเวลามองคนที่เดินมาชนไหล่ หนุ่มน้อยหน้าตาดีใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกับ

กางเกงยีนส์ตัวเก่า แถมด้วยหมวกแก๊ปบนศีรษะ คนแปลกหน้ารีบยกมือไหว้แล้วพูดเร็วๆ

“เฮีย ผมขอโทษ ไม่ทันมองจริงๆเฮียอย่าโกรธเลยนะ”

แล้วเงยหน้ามามองสบตาคนที่ยังคงมองตรงมา

เขากวาดสายตามองเด็กหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเลิกคิ้วทำหน้าสงสัย

“มาคนเดียวหรือเราน่ะ แล้วอายุถึง 20 แล้วหรือยังริมาเที่ยวเธค”

“โธ่เฮีย...”

เจ้าหนุ่มตรงหน้าลากเสียงยาว

“อีกไม่กี่เดือนจะ 20 แล้ว เฮียอย่ามาจับผิดเรื่องอายุเลย แล้วก็มาคนเดียวครับเฮีย หนีพ่อมาเที่ยว”

หนุ่มน้อยทำหน้าเจ้าเล่ห์ มองซ้ายมองขวา

“แหะๆ เฮียก็มาคนเดียวไม่ใช่หรือ ให้ผมนั่งกับเฮียนะ”

เจ้าหนุ่มหมวกแก๊ปเข้ามาทำทีนวดแขนนวดไหล่ประจบ ก้องภพชักสีหน้ารำคาญ

“เออๆ ก็ได้ แต่อย่าทำเรื่องยุ่งนะเอ็ง”

เขาชี้หน้าคาดโทษไว้ก่อน คนอ่อนวัยกว่าทำหน้าแหย แล้วเดินตามก้องภพไปด้านใน

ผู้หมวดหนุ่มเลือกโต๊ะได้ ก็ทรุดตัวลงนั่ง เจ้าหนุ่มน้อยจึงทรุดนั่งตามพลางมองไปรอบตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ

แสงสีต่างๆ ถูกระดมเปิดฉายไปที่พื้นที่ตรงกลางซึ่งเป็นที่โล่งให้คนที่มาเที่ยวได้เต้นรำ แต่ตอนนี้ยังว่าง

เพราะเนื่องด้วยยังเป็นช่วงหัวค่ำ

ก้องภพเรียกบ๋อยมาสั่งเบียร์ แล้วจึงสั่งโค้กมาให้เด็กหนุ่ม เจ้าตัวทำท่าจะประท้วงแต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อก้องภพ

ส่งสายตาดุปรามมา

ดีเจเปิดเพลงสากล ก้องภพนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อได้ยิน และมองไปที่เจ้าหนุ่มหมวกแก๊ป ที่โยกตัวตามจังหวะ

เพลงอย่างสนุกสนาน

“โห เฮีย โยกหน่อย สนุกหน่อยเฮีย”

แถมยังหันมาพยักพเยิดกับเขาให้โยกตาม

“รู้จักด้วยเหรอ เพลงอะไรวะ ไม่เคยได้ยิน”

“เฮ้ย เฮีย เพลงจังหวะดิสโก้กำลังนิยมเลยเฮียไม่รู้จักได้ไง เพลงไลค์อะเวอร์จิ้นน่ะวิทยุเปิดเกือบทุก

สถานีเลยนะ”

ว่าแล้วเจ้าตัวก็ร้องตามแถมยังนั่งเต้นยึกยักไปด้วย



I made it through the wilderness
 Somehow I made it through
 Didnt know how lost I was
 Until I found you
 I was beat incomplete
 Id been had, I was sad and blue
 But you made me feel
 Yeah, you made me feel
 Shiny and new

Like a virgin
 Touched for the very first time
 Like a virgin
 When your heart beats (after first time, with your heartbeat)
 Next to mine
 Gonna give you all my love, boy
 My fear is fading fast
 Been saving it all for you
 cause only love can last
 
 Youre so fine and youre mine
 Make me strong, yeah you make me bold
 Oh your love thawed out
 Yeah, your love thawed out
 What was scared and cold

Youre so fine and youre mine
 Ill be yours till the end of time
 cause you made me feel
 Yeah, you made me feel
 Ive nothing to hide

Like a virgin, ooh, ooh
 Like a virgin
 Feels so good inside
 When you hold me, and your heart beats, and you love me
 
 Oh, oh, oh, oh, oh, oh, oh, oh, oh
 Ooh, baby
 Cant you hear my heart beat
 For the very first time?

(Like a virgin/ Madonna)





ก้องภพนั่งมองไปด้วยความขำแกมทึ่ง ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหมอนี่จะร้องเพลงเข้าจังหวะ แถมเสียงดีอีกต่างหาก

“เป็นนักร้องหรือเอ็งน่ะ”

ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเพลงจบลง เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม ยืดตัวอย่างภูมิใจ

“เสียงดีหรือเปล่าล่ะเฮีย นี่ว่าจะไปเทสเสียงที่นิธิทัศน์นะนี่”

“แล้วพ่อจะยอมหรือไง นี่ขนาดจะมาเที่ยวยังต้องหนีมา” 

เจ้าเด็กหนุ่มทำสีหน้าสลด

“ก็นั่นสิเฮีย พ่อผมเค้าก็ไม่ค่อยจะเหมือนคนอื่นด้วย ว่าแต่นั่งกันมาตั้งนาน ยังไม่รู้จักชื่อเฮียเลย”

คนอ่อนวัยเปลี่ยนเรื่อง เงยหน้ามาถาม

“ชื่อ ก้อง”

ก้องภพบอกชื่อเล่นไป เจ้าหนุ่มข้างหน้าตบมือฉาด

“นั่นไง ผมว่าแล้วว่าชื่อเฮียต้องเท่ห์เหมือนหน้าตา”

ก้องภพมองอย่างหมั่นไส้สุดกำลังเมื่อไอ้เด็กหมวกแก็ปเริ่มเอ่ยปากสรรเสริญ ก่อนจะหันไปสนใจกับนักร้อง

สาวๆที่เริ่มขึ้นมาอวดโฉมบนเวที




ผู้หมวดหนุ่มมองนาฬิกาที่ข้อมือ เมื่อเห็นว่าสมควรกลับ เขาจึงเรียกบ๋อยมาเก็บเงิน หนุ่มน้อยมองอย่าง

เสียดาย

“เฮีย อีกสักหน่อยไม่ได้เหรอ”

อดประท้วงไม่ได้ ก้องภพมองตาเขียวจนหนุ่มน้อยหัวหด

“สี่ทุ่มแล้ว กลับได้แล้ว เดี๋ยวพ่อเอ็งได้แพ่นกระบาลแน่ เออ ว่าแต่ยังไม่รู้ชื่อเอ็งเลย”

ชายหนุ่มถามก่อนกลับ เจ้าหนุ่มหมวกแก๊ปลุกยืนยิ้มแฉ่งก่อนตอบ

“ไม้ครับเฮีย เรียกผมว่าไม้”



หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 4 สิงขร ( ๒๔/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-04-2014 11:09:39

                           Only Love Is Real

                             ให้รักนำทาง

                            บทที่ 4 สิงขร


ธันวาคม พ.ศ.2528

เขาเปิดประตูเข้ามาในห้องส่วนตัว ก่อนปิดประตูแน่นหนาราวกับภายในห้องคือเขตหวงห้ามทั้งๆที่ดูแล้วก็

เป็นห้องของหนุ่มวัยรุ่นธรรมดาที่ดูไม่เป็นระเบียบนัก  กีตาร์ตัวโปรดยังคงวางอยู่บนเตียง

เขาถอดหมวกแก๊ปวางไว้บนโต๊ะ ก่อนหยิบมันขึ้นมาจับคอร์ดกีตาร์และตั้งเสียงเป็นการซ้อมมือตั้งเสียงจน

เป็นที่พอใจ เขาก็ลงมือดีดกีตาร์เพลงโปรดที่เล่นมานานกว่า 2ปี



เพียง...กระซิบบอก..บอกฉันซักคำ
 เธอไม่รักไม่อยากจดจำ จำจดความสัมพันธ์

ครั้ง...ก่อนเคยหวานชื่นต่างคนเว้าวอน
 รอยความรักเกินกว่า จะถอนเลือนจากจิตใจ
 รัก...ละมุนละไมติดตรึงไว้ในความทรงจำ
 ทุกทุก การกระทำจดจำไว้
 พิษ...รักรอยระบม
 ขื่นและขมระทม ทรวงในจดจำไว้
 จนชีพ...วาย
 
 

หาก...ความรักชื่นยั่งยืนแสนนาน
 ใจ..ดวงนี้คงไม่ แหลกลาญช้ำชอกกว่าใคร
 รัก...ละมุนละไมติดตรึงไว้ในความทรงจำ
 ทุกทุก การกระทำจดจำไว้
 พิษ...รักรอยระบม
 ขื่นและขมระทม ทรวงในจดจำไว้
 จนชีพ...วาย
 หาก...ความรักชื่น ยั่งยืนแสนนาน
 ใจ..ดวงนี้คงไม่ แหลกลาญช้ำชอกกว่าใคร
 ช้ำชอกกว่าใคร ช้ำชอกกว่าใคร

(เพียงกระซิบ /อินโนเซนต์ 2526)



เล่นเพลงโปรดจบ เขาวางกีตาร์ลง แล้วทำใจให้เป็นสมาธิท่องคำที่คุ้นอยู่ในใจ

อากาศที่ว่างเปล่าเกาะกลุ่มกันแปลงตัวเป็นสิ่งที่คล้ายกระจกบานใสปรากฏอยู่ตรงหน้า

หนุ่มน้อยยิ้มอย่างพึงใจ

เขาส่องหน้าตัวเองกับกระจกอากาศบานนั้น ภาพที่สะท้อนมาคือหนุ่มน้อยวัยใกล้ยี่สิบที่หน้าหวานราวกับ

ผู้หญิงดวงตาหวานล้ำรับกับจมูกโด่งและริมฝีปากที่แดงเรื่อ จนบางครั้งเขาก็รู้สึกว่าอยากจะมีใบหน้าที่คม

เข้มกว่านี้บ้าง

นึกไปถึงคนที่เพิ่งจากกันที่ดิสโก้เธคก็อดขำไม่ได้ กับการทำตัวที่แก่เกินอายุทั้งๆที่ก็ไม่น่าจะมากกว่าเขา

เท่าไหร่ถึงจะตี๋ขาวแบบฮ่องกงแต่โครงหน้าและส่วนประกอบกลับคมเข้มไม่น้อย ทั้งคิ้วดกเข้ม หรือจมูกที่

โด่งรับกัน

นึกเลยไปถึงวินาทีแรกเจอ และแรกสัมผัส บอกไม่ถูกว่าทำไมรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด

ราวกับคนๆนั้นมีกระแสไฟฟ้าวิ่งวนอยู่ในร่าง พร้อมที่จะส่งมาทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้ไหม้เป็นจุลได้




พ.ศ.2513

ใบลานเก่าแก่ถูกเปิดออก ด้วยความสนใจของเด็กน้อยวัยห้าขวบที่ฉลาดเกินวัย

แก้มยุ้ยตาโตน่ารักน่าเอ็นดู แต่กลับนิ่งสงบราวกับผู้ใหญ่เมื่อเห็นของตรงหน้า

แม้จะอ่านหนังสือยังไม่แตกฉาน แต่เด็กน้อยกลับรู้สึกคุ้นเคยกับอักขระโบราณเหล่านี้

ค่อยๆใช้นิ้วมือกลมป้อมไล้ฝุ่นออกไป แล้วสัมผัสไปตามตัวหนังสือ

เริ่มจากแผ่นแรกที่ง่ายสุด เด็กน้อยสงบใจ แล้วท่องมนต์ตามที่อ่านได้

ตุ๊กตาหมีที่วางอยู่ข้างตัว ค่อยๆลอยขึ้น สูงขึ้น ตาโตคู่นั้นยังคงจ้องมันไม่คลาดสายตา

เมื่อเด็กน้อยมองไปทางซ้าย เจ้าตุ๊กตาก็ลอยไปทางซ้าย

และเมื่อเด็กน้อยเบนสายตามาทางขวา ตุ๊กตาตัวน้อยก็ขยับลอยมาทางขวา

เด็กชายตัวอ้วนกลมหยุดท่องมนต์แล้วยิ้มอย่างพึงใจ

เขาบรรจงปัดฝุ่นบนใบลานเก่าแก่จนหมด แล้วถือกลับไปอย่างหวงแหน

ราวกับมันคือของเล่นชิ้นใหม่


หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 4 สิงขร ( ๒๔/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 24-04-2014 11:44:29
 :mew1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 4 สิงขร ( ๒๔/๔/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 24-04-2014 16:30:21
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 5 เตลิด ( ๒๓ /๕/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-05-2014 21:28:41


                               Only Love Is Real

                                  ให้รักนำทาง

                                  บทที่ 5 เตลิด


ก้องภพล้มตัวนอนแผ่กลางเตียง ดวงตาเหม่อมองเพดานอย่างครุ่นคิด ไม่น่าเชื่อว่าความรู้สึก “แปลกๆ”

ที่มีต่อเจ้าเด็กวัยรุ่นที่เพิ่งแยกกันไม่กี่นาทีนี้ยังคงคุกรุ่นอยู่ในความรู้สึก บอกไม่ถูกว่าทำไม หรือเป็นเพราะ

อะไร เขาเองก็ยังไม่เข้าใจตนเองอยู่เช่นกัน

“ไม้เหรอ ชื่อโบราณพิลึก

เขาพึมพำออกมาอย่างไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านี้ เมื่อใบหน้านั้วนๆเวียนๆอยู่ในหัวสมองอยู่ตลอดตั้งแต่

ขี่เจ้าแฟนธอมคู่ใจกลับมาถึงบ้านจนเขายังไม่รู้ตัวว่าตัวเองมานอนแผ่อยู่อย่างนี้ได้อย่างไร



พยายามหยุดความคิดถึงเจ้าเด็กชื่อโบราณ แล้วหันเหความสนใจมาที่งานที่ได้รับมอบหมาย

ผู้หมวดหนุ่มเดินไปที่โต๊ะทำงานที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของห้อง หยิบภาพอันน่าสยดสยองขึ้นมาดูอีกครั้ง

พลางพิจารณารอยสักที่ข้อมือ เขาหยิบแว่นขยายมาส่องที่รอยสักนั้นเพื่อจดจำให้ขึ้นใจ

หยิบตำราเก่าแก่เล่มหนาที่ผู้เป็นบิดาให้ไว้ศึกษาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อหนุ่มและบอกเล่าภารกิจของชีวิต

ขึ้นมา พลิกดูหน้าที่คั่นไว้ ก่อนอ่านทบทวนอีกครั้ง




“เชื่อกันว่า เหล่าบรรดาผู้ใช้คาถาอาคมจะนิยมเพิ่มไพร่พล โดยการรับเป็นศิษย์แล้วสอนอาคมง่ายๆ ผู้เป็น

ศิษย์จะสักลงอาคมไว้ในส่วนหนึ่งของร่างกายเพื่อเป็นการยืนยันในความภักดี

...สำหรับผู้นำนั้นมีความเชื่อว่า ทุก 500 ปีจะมีผู้มีบุญญาบารมีมาเกิด คนผู้นั้นจะเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ เมื่อผู้นำ

คนนั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จะต้องประกอบพิธีกรรมลับ พร้อมกับของศักดิ์สิทธิ์สามอย่างที่จะปรากฏขึ้น

เมื่อผู้นำคนนั้นพร้อมเต็มที่ ..

..และหากวันใดที่ผู้นำประกอบพิธีกรรมสำเร็จ จะเกิดอาเพศยิ่งใหญ่แก่บ้านเมือง...


ก้องภพปิดตำราลงแล้วถอนหายใจอย่างหนักอึ้ง





ก้องภพลืมตาทันทีที่ได้ยินเสียงสายน้ำแว่วกระทบหู ก่อนกรอกตาไปมาเพื่อตั้งสติ

เพดานขาวสว่างสดใสไม่คุ้นเคยอยู่ในความทรงจำ ปรากฏอยู่ในลานสายตา

เขาทะลึ่งตัวพรวดจากเตียงนอนอ่อนนุ่มลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปมองรอบตัว

ดูเหมือนรอบกายจะเต็มไปด้วยสีขาวที่สุกสว่างไปหมด ไม่ว่าจะเป็นผนังห้องหรือเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย

ขวามือมีประตูที่น่าจะเป็นต้นเหตุของเสียงที่ปลุกเขาขึ้นมา ยังคงมีเสียงสายน้ำแว่วไม่ขาดช่วง

ผู้หมวดหนุ่มลุกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตูนั้นช้าๆ

เป็นบานเลื่อนที่ไม่มีลูกบิด ชายหนุ่มค่อยๆเลื่อนเปิดอย่างระมัดระวัง

ทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า ก้องภพก็เหมือนจะหลุดออกจากการควบคุมตนเอง

ละอองน้ำอุ่นจากฝักบัวอาบน้ำทำให้เกิดฝ้าไอระยิบระยับทั่วห้องน้ำที่ดูกว้างใหญ่เกินจำเป็น

เหมือนจะมีแสงส่องผ่านหักเหจากเบื้องบน บางมุมถึงกับมีแสงเจ็ดสีของรุ้งกินน้ำบังเกิด

ใครบางคนกำลังยืนทอดอารมณ์ไปกับสายน้ำละเอียดนั้น ค่อยๆใช้มือถูไปกับร่างขาวโพลนจนแทบจะกลืน

ไปกับไอน้ำอุ่น

ก้องภพเดินตรงไปยังร่างนั้นราวกับต้องมนต์ แม้จะยังไม่เห็นชัดว่าร่างที่หันหลังให้เขานั้น

เบื้องหน้าคือผู้ใด

เขาหยุดยืนอยู่เบื้องหลังร่างนั้น อย่างไม่กลัวที่จะเปียกปอนสายน้ำอุ่นไปด้วย ดูเหมือนร่างเบื้องหน้า

จะชะงักเล็กน้อย

ฟองสบู่หอมละเอียดส่งกลิ่นชวนให้เขาต้องสูดหายใจเข้าไปอย่างตรึงใจยังคงตกค้างอยู่บนร่างขาว

อดใจไม่อยู่ที่จะเอื้อมมือไปสัมผัสฟองนุ่มลื่นที่อยู่บนไหล่ก่อนที่จะลูบไล้มันไปตามไหล่และแผ่นหลังนั้น

ราวกับจะรับรู้สัมผัส คนตรงหน้าเหยียดตัวตรง ยิ่งกระตุ้นให้ผู้หมวดหนุ่มย่ามใจ

มือที่สัมผัสกับฟองนุ่มค่อยๆเลื่อนลงเบื้องล่างอย่างจงใจ ก่อนที่จะหยุดวางตรงสะโพกของคนเบื้องหน้า

ยิ่งคนตรงหน้าเกร็งตัวรับสัมผัสนั้นยิ่งกระตุ้นให้ก้องภพแทบจะเตลิดจนไม่มีสติสัมปชัญญะ

ไอน้ำอุ่นยังคงกระจายปกคลุมเหมือนภาพในจินตนาการ ยิ่งทำให้เขาอดใจไม่ไหว

มือซ้ายของเขาเอื้อมไปโอบรอบเอวร่างตรงหน้าเข้ามาชิดตัว ร่างเปลือยเปียกชื้นนั้นสั่นไหว

เขาก้มลงใช้ริมฝีปากประทับตรงหลังต้นคอขาวเนียนนั้น กดลงไปจนแนบแน่น

ร่างบางกว่าที่ตกอยู่ภายใต้การโอบรัด แอ่นตัวตรงตอบรับจุมพิตแรกของเขา

ก้องภพใช้มือขวาที่ว่างอยู่กอดรัดเพิ่มยิ่งดึงตัวมาประชิด จนท่อนขาแกร่งของเขาเบียดแน่นกับต้นขา

ของคนเบื้องหน้า

มือซ้ายของเขาเอื้อมไปประคองใบหน้านั้นให้หันมาทางด้านซ้ายมือของเขา

แล้วเขาก็ทำสิ่งที่เขาเองก็ยั้งใจไม่อยู่

ผู้หมวดหนุ่มเอนศีรษะไปใกล้แล้วประทับริมฝีปากลงไป กดแนบแน่นกับริมฝีปากอ่อนบางนั้น

เขาหลับตาลงดื่มด่ำไปกับความหวานราวกับอยู่ในจินตนาการแห่งเทพนิยาย

ค่อยๆบรรจงเม้มกลีบปากนุ่มที่คนตรงหน้าก็ตอบรับ แล้วเขาก็เปิดริมฝีปากนั้นให้กว้างออก

ส่งปลายลิ้นเข้าไปแตะกับลิ้นของคนตรงหน้าเป็นการหยั่งเชิง ดูเหมือนคนตรงหน้าจะอิดเอื้อนเล็กน้อย

เขาไม่รอเวลา รีบส่งปลายลิ้นเข้าไปบดเบียดคลุกเคล้า ริมฝีปากประกบแน่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายถอยร่น

ความรู้สึกที่สร้างความอ่อนหวานจนร่างสั่นสะท้าน จนเขาเองก็ยังอดแปลกไม่ได้ เพราะไม่เคยรู้สึกกับใคร

มาก่อน

จนความรู้สึกเหล่านั้นก่อกำเนิดจนถึงขีดสุด ก้องภพถอนริมฝีปากออก แล้วเหนี่ยวตัวคนตรงหน้าให้หันมา

เผชิญหน้า สบตากับเขาอย่างรวดเร็ว



หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 5 เตลิด ( ๒๓ /๕ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 23-05-2014 22:35:25
ไม้คงเป็นคนคนนั้นซินะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 5 เตลิด ( ๒๓ /๕ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 27-05-2014 13:38:53
สองตะกูลมาดองกันก็ดีนะ ไม่ต้องมาไล่ฆ่ากันด้วย
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 6 เริ่มทำงาน ( ๓ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-06-2014 00:11:47


                        Only Love Is Real


                                                                      ให้รักนำทาง

                                                                   บทที่ 6 เริ่มทำงาน


สิงขรสะดุ้งสุดตัวจากการหลับใหล ก่อนที่จะใช้มือปาดเหงื่อชื้นบริเวณลำคอออก แม้ว่าภายในห้อง

จะปรับอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศไว้เย็นฉ่ำ

“ฝันบ้าอะไรอย่างนี้วะ”

หนุ่มหน้าหวานสบถกับตัวเองเมื่อนึกถึงสิ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้ตื่นกลางดึก

ชัดเจน... มันชัดเกินไปหรือเปล่ากับความรู้สึกจากสัมผัสนั้น เขาแทบจะจำได้แม้กระทั่งความนุ่มหยุ่น

ของริมฝีปากที่เหมือนจะทิ้งรอยไว้ด้วยซ้ำ

สิงขรหันไปดูนาฬิกาบอกเวลา ใกล้จะเช้าแล้ว เขาสะบัดหน้าขับไล่ความมึนงง หนุ่มน้อยเดินจากเตียงเข้า

ห้องน้ำ เปิดน้ำล้างหน้าให้ความสดชื่นช่วยบรรเทา ก่อนที่จะส่องกระจกแล้วก็ต้องตกใจกับริมฝีปากที่แดง

เรื่อราวกับมีบางสิ่งมาบดทับ เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้กระจกใช้มือช่วยยืดผิวหนังออกเพื่อให้เห็นชัดเจนขึ้น

นอกจากรอยแดงแล้ว มุมปากแทบจะเห็นรอยเล็กๆคล้ายรอยขบจากฟันด้วยซ้ำ

เขาหันหลังให้ภาพนั้นแล้วยกมือเกาศีรษะอย่างมึนงงยิ่งกว่าเดิม

“แล้วทำไมไม่ได้เห็นก่อนจะตื่นมาเนี่ย แล้วอย่างนี้จะรู้ไหมว่าเป็นใคร”

เขาบ่นพึมพำกับตัวเองอีกครั้งก่อนจะเดินไปนอนคลุมโปงบนเตียงอีกครั้งอย่างหงุดหงิด







ก้องภพเดินกุมขมับเข้ามาในกองปราบ จนรุ่นพี่อย่าง ผู้กองเคนที่นั่งโต๊ะข้างๆเอ่ยปากทัก

“เป็นไรวะไอ้เสือ หน้าตาอย่างกับกินยามาสักสิบเม็ด”

ผู้หมวดหนุ่มทิ้งตัวลงบนเก้าอี้อย่างหมดแรง

“นอนหลับไม่สนิทน่ะสิพี่ มันเหมือนฝันอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมด ชัดเจนแจ่มแจ๋วอย่างกับดูทีวีสี พอถึง

ไคลแมกซ์ดันสะดุ้งตื่นซะงั้น เลยยังไม่รู้อะไรเป็นอะไรเลย”

“อ้าว ไอ้เสือ”

ผู้กองเคนทำหน้าล้อเลียน

“ฝันถึงสาวคนไหนหรือเปล่า”

ถ้าฝันถึงสาวก็ดีน่ะสิ ก้องภพแค่นยิ้มกับตัวเอง ไม่กล้าบอกรุ่นพี่ว่าไอ้ที่ฝันน่ะ มันกับผู้ชายโว้ยแถมยังติดตา

ติดใจถึงขนาดจำได้ทุกช่วงเวลา เสียอย่างเดียว..

ตอนดึงตัวหันกลับมาทำไมไม่ทำให้เร็วกว่านี้ว้า.. จะได้รู้ว่าเป็นใคร

“เออ แล้วคดีตายเพราะคุณไสยสี่ศพน่ะ ว่าไง จะเริ่มจากไหน”

ผู้กองเคนเปลี่ยนเรื่อง ก้องภพจึงขยับตัวนั่งเป็นการเป็นงาน

“คงต้องไปดูตามแหล่งที่สักยันต์แบบลงคาถาก่อนน่ะพี่ น่าจะมีไม่กี่ที่หรอก อุตส่าห์โกนหนวดโกนเคราแต่ง

หล่อได้ไม่กี่วัน ต้องกลับไปทำตัวโทรมอีกแล้ว”

เขาส่ายหน้าอย่างระอา จนผู้กองเคนหัวเราะ

“จะให้ช่วยอะไรก็บอกนะ”

เคนเสนอตัว ก้องภพโบกมือปฏิเสธ

“ไม่ต้องหรอกพี่ แค่คดีอุ้มเสี่ยร้านทองที่พี่ทำก็หนักพอตัวแล้ว เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”

ผู้หมวดหนุ่มกระตุกยิ้มตาเหี้ยม

“รับรอง จะไม่ให้รอดเลย”







แฟนธอมเสียงกระหึ่มขับตรงเข้ามาในซอยเล็กๆของชุมชนแออัด เด็กเล็กๆวิ่งตามวุ่นวายส่วนคนที่เข็น

รถเข็นอยู่ในซอย บ่นระงมเพราะความกินเนื้อที่ของเจ้ารถเหล็กคันใหญ่

คนขับขี่ใส่เสื้อคลุมลายทหารตัวเก่า มีรอยขาดตรงข้อศอก สวมแว่นเรแบนด์อันเก่ง ใต้คางเริ่มมีไรหนวด

เขียวเป็นแนวทำให้หน้าขาวตี๋มีเสน่ห์นั้นกลับกลายเป็นดิบเถื่อนทันตา

เสียงกระหึ่มหยุดลงหน้าบ้านเล็กโทรมหลังหนึ่งที่อยู่ท้ายซอย มีเสียงคำสวดบางอย่างลอดออกมาจาก

ด้านใน คนขับแฟนธอมยืนพิจารณาหน้าบ้านอยู่ครู่หนึ่ง นี่เป็นจุดที่สามแล้วที่เขาไปมาวันนี้ ซึ่งสองจุดที่

เขาไม่พบสิ่งที่น่าสงสัย

เขาตัดสินใจผลักบานประตูเข้าไปภาพที่ปรากฏให้เห็นคือชายวัยกลางคนนุ่งขาวห่มขาวนั่งขัดสมาธิอยู่

บนแท่นยกสูง เบื้องหลังรายล้อมไปด้วยของขลังนานาชนิด กำลังใช้เหล็กปลายแหลมสักกลางแผ่นหลัง

ให้ชายหนุ่มร่างกำยำ ที่นั่งพนมมืออยู่ พลางทำปากขมุบขมิบสวดอะไรบางอย่างที่เขาก็ไม่เข้าใจ

ผู้ช่วยที่กำลังถือพานเงยหน้ามามองเขา พยักเพยิดให้นั่งรอตรงที่ว่างรออยู่ครู่หนึ่งคนนุ่งชุดขาวก็ประกอบ

พิธีเสร็จแล้วหันมาทางเขา ก้องภพรีบยกมือพนมทำความเคารพ

“ว่าไง พ่อหนุ่มหน้าใหม่ ไม่เคยเห็นหน้า มาจากไหนล่ะนี่”

ชายชุดขาวทักทาย ก้องภพรีบตอบ

“อยู่ในกรุงเทพนี่แหละครับท่านอาจารย์ พอดีผมสนใจเรื่องสักแล้วฟันไม่เข้าแทงไม่เข้า เลยถามคนมี

ความรู้ด้านนี้เขาแนะนำให้มาหาอาจารย์ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ”

ผู้หมวดหนุ่มไม่ลืมหยอดคำหวาน คนชุดขาวหัวเราะอย่างพึงใจ

“ไหนแล้วสนใจลายสักแบบไหน อยากจะสักเสือหรือหนุมานล่ะ”

ก้องภพได้โอกาสล้วงแผ่นกระดาษจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ คลี่ออกดูอีกครั้ง เขาลงทุนสเก็ตภาพรอยสัก

จากแผลของผู้เสียชีวิตใส่กระดาษไม่อยากนำภาพถ่ายติดมาเดี๋ยวแผนจะเสีย

ยื่นแผ่นภาพวาดนั้นให้ คนชุดขาวหยิบไปดูก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยอย่างคนธรรมดาคงไม่สังเกตแต่

ไม่รอดสายตาของผู้หมวดหนุ่ม

“ไปเอามาจากไหน”

อาจารย์ชุดขาวย้อนถามเสียงเข้ม

“นี่มันไม่ใช่ลายธรรมดาที่ใครๆก็สักได้นะ มันต้องมีพิธีกรรมประกอบด้วย”

“ได้มาจากพี่คนหนึ่งที่รู้จักกันครับ ผมกับเขาคุยกันถูกคอ สนใจเรื่องหนังเหนียวเหมือนกัน เค้าเลยวาดมา

ให้”

ชายสูงวัยพยักหน้า ก่อนยื่นแผ่นกระดาษส่งคืน

“ถ้าสนใจจริงๆ ก็ทำให้ได้ แต่ไม่ใช่วันนี้ ต้องเป็นคืนเดือนแรม”

ชายชุดขาวหันไปมองปฏิทิน

“อีกสองวันจะเป็นวันแรม15ค่ำ พ่อหนุ่มมาใหม่ตอนใกล้ๆเที่ยงคืน อาจารย์จะเตรียมการให้”

ก้องภพลอบยิ้มด้วยความพอใจที่มาถูกทาง เขารีบลาชายชุดขาวแล้วออกมาขี่เจ้าแฟนธอมคู่ใจออกจากซอย





ขี่แฟนธอมคันเก่งยังไม่พ้นปากซอยผู้หมวดหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อหางตาเห็นใครบางคนกำลังวิ่งหนีการไล่ล่า

ของจิ๊กโก๋อีก 2-3 คน เขาหันไปมองให้แน่ใจ

“เฮ้ย นั่นมันเจ้าเด็กไม้นี่หว่า ไปกวนบาทาอะไรใครเข้านี่”

ก้องภพรีบบิดคันเร่งรถตีเสมอหนุ่มหน้าอ่อนพร้อมตะโกนเรียก

สิงขรหันมามองเห็นก้องภพก็ใจชื้น รีบวิ่งมากระโดดขึ้นซ้อนท้ายแฟนธอมคันใหญ่ ก้องภพรีบบึ่งรถหนี

จิ๊กโก๋เจ้าถิ่นไปได้หวุดหวิด



แฟนธอมหยุดลงที่สวนสาธารณะเมื่อก้องภพเห็นว่ามันไกลจากที่เกิดเหตุมากแล้ว สิงขรถอนหายใจ

แล้วรีบลงจากรถ ผู้หมวดหนุ่มจึงเดินนำหน้าไปนั่งที่เก้าอี้ริมสระน้ำ

หนุ่มหน้าหวานหัวเราะแหะๆแล้วก้าวตามไปนั่งทำท่าเจี๋ยมเจี้ยมจนผู้หมวดหนุ่มนึกหมั่นไส้

“ไปกวนตีนใครมาล่ะ”

เขาเริ่มต้นประโยคแรก

“โห เฮีย อย่างผมนะจะไปกวนใครเค้าได้ ออกจะเรียบร้อย”

ก้องภพหัวเราะหึๆ

“เรียบร้อยขนาดจิ๊กโก๋ตามกระทืบนี่นะ”

“ก็พวกมันแข่งเล่นสเก็ตกับผมแล้วแพ้ มันก็เลยพาล”

สิงขรชี้แจง ก้องภพเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“เล่นสเก็ตด้วยเหรอ เราน่ะ”

“โอ้ย เฮีย อย่างเซียน เดี๋ยวจะโชว์ให้ดู”

สิงขรเปิดกระเป๋าใบเก่าที่สะพายเฉียงอยู่ข้างตัวแล้วหยิบรองเท้าสเก็ตคู่เก่าออกมาสวมเข้ากับเท้า แล้วเริ่มวิ่ง

ฉวัดเฉวียนอยู่บนทางเดินในสวนสาธารณะจนผู้หมวดหนุ่มนึกทึ่งในความสามารถ นอกจะร้องเพลงเพราะ

เต้นเก่ง เจ้านี่มันยังเล่นสเก็ตเก่งอีกต่างหาก

“เฮ้ย!!”

สิงขรเริ่มเล่นท่ายากจนเสียหลัก เบรกไม่อยู่พุ่งลงสระน้ำ ก้องภพรีบลุกวิ่งตามอย่างตกใจ แต่เมื่อเห็นสภาพ

คนเก่งสเก็ตนอนแช่น้ำอยู่ริมสระร้องโอดโอย เขาก็อดหัวเราะไม่ได้

“เฮีย มัวแต่หัวเราะอยู่นั่นแหละ ช่วยผมขึ้นไปหน่อยสิ จุกจนลุกไม่ขึ้นแล้ว”

“เออๆ แหม หัวเราะนิดเดียวเอง”

ผู้หมวดหนุ่มยื่นมือไปให้สิงขรจับแล้วออกแรงฉุดขึ้นมา สิงขรพยายามทรงตัวแต่เพราะยังใส่รองเท้าสเก็ต

ย่ำโคลนริมสระทำให้การทรงตัวยากยิ่งขึ้นเขาพยายามก้าวขึ้นจากสระโดยการดึงของก้องภพ จนเมื่อขึ้นมาจาก


ขอบสระน้ำได้ หนุ่มหน้าหวานลอยตัวตามแรงฉุดจนชนร่างของคนช่วยเหลือให้หงายหลังไปนอนวัดพื้น

โดยมีเขานอนทับอยู่ด้านบน

ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบก้องภพรู้สึกลมหายใจติดขัด มือที่จับเอวของคนที่อยู่ด้านบนโดยอัตโนมัตินั้น

รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ 6 เริ่มทำงาน ( ๓ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-06-2014 00:56:23
ฝันพร้อมกันอีกตะหาก นั่นแน่ๆ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๗ ทำตามคำสั่ง ( ๗ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-06-2014 19:18:36

                                Only Love Is Real

                                  ให้รักนำทาง

                                 บทที่ 7 ทำตามคำสัง



เวลาเหมือนจะเนิ่นนานไม่มีที่สิ้นสุด ที่ลมหายใจเหมือนจะขาดหายทั้งที่ในความเป็นจริงเกิดขึ้นเพียงเสี้ยว

วินาที

ก้องภพแทบจะปรับระดับสติของตัวเองไม่ได้หากสายตาไม่เหลือบไปด้านบนแล้วมองเห็นลูกมะพร้าว

กำลังจะปลิดขั้วจากต้นของมันที่ปลูกอยู่ริมสระน้ำ และแล้วมันก็ร่วงลงมาจุดโฟกัสตรงกับแผ่นหลังของ

หนุ่มน้อยที่นอนทาบทับร่างอยู่เบื้องบนของเขา ผลมะพร้าวแก่ลอยละลิ่วลงมาตามแรงโน้มถ่วงของโลกจน

ใกล้จะกระแทกแผ่นหลัง

ก้องภพรีบเพ่งสายตาไปที่ลูกมะพร้าวนั้นให้เบี่ยงแรงไปอีกทาง จนมันร่วงกระแทกพื้นห่างจากเขาสอง

คนไปเพียงฟุตเดียว

เสียงและแรงตกกระทบพื้นของลูกมะพร้าวเรียกสติคืนมาให้สิงขรเช่นกัน เขากระพริบตาปริบๆ ก่อนที่จะ

สำรวจว่าตัวเองนอนทับอยู่บนร่างหนา สิงขรตาเหลือกก่อนจะงกๆเงิ่นๆ ลงจากร่างที่นอนพังพาบอยู่

เบื้องล่างไปนั่งหน้าแดงอยู่ข้างๆ

ก้องภพนึกเสียดายอย่างไม่ทราบสาเหตุที่เจ้าหนุ่มน้อยหลุดจากความใกล้ชิดไป เขาลุกขึ้นนั่งปรับสีหน้า

ให้เป็นปกติก่อนพูดขึ้น

“เป็นไง อวดเก่งดีนักสมน้ำหน้า สมควรแล้วที่จิ๊กโก๋มันตามมากระทืบ

“โธ่..เฮีย

สิงขรพูดตัดพ้อพลางเอื้อมมือไปถอดรองเท้าสเก็ตโดยไม่ยอมมองหน้าคนข้างๆเพราะกลัวเขาจะผิด

สังเกตความผิดปกติของความรู้สึกได้

“ก็แค่สะดุดร่องถนนเอง ไม่งั้นเฮียได้เห็นท่ายากกว่านี้อีก เฮ้ออ..ซวยจริงๆวันนี้ วิ่งหนีจิ๊กโก๋ ตกน้ำ

แถมมะพร้าวเกือบตกใส่หัว รอดไปเสี้ยวยาแดงผ่าสิบ ไม่งั้นหัวแตกอีกอย่าง

หนุ่มน้อยบ่นพึมพำ ก้องภพลอบยิ้ม ก็ถ้าเขาไม่ได้ช่วยใช้  “พลังพิเศษ”เปลี่ยนทิศทางไป มะพร้าวลูกนั้นก็

คงจะเพิ่มความซวยให้เจ้าหนุ่มข้างๆจริงๆ

“แล้วเฮียล่ะ มาทำอะไรแถวนี้

หนุ่มน้อยหันมาถามเมื่อทำใจให้เป็นปกติได้แล้ว

“มาหาคนสักยันต์

ก้องภพลุกขึ้นยืนปัดเศษดินออกจากตัว จึงไม่ทันเห็นสิงขรที่ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบนั้น

“เฮียจะสักไปทำไม

สิงขรลุกขึ้นยืนตามพลางเอ่ยเสียงเข้มกว่าที่เคย


“ไม่เห็นต้องสักเลย เฮียเชื่อเรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ”

“อ้าว ไอ้เจ้าไม้

เขาหันไปมองหน้าหนุ่มน้อย

“เป็นลูกผู้ชายก็ต้องมีไว้บ้างสิของอย่างนี้

สิงขรเบ้ปาก


“ไม่เห็นจะเท่ห์เลย เจ็บเปล่าๆ เฮียจะสักลายอะไร”

“ไม่บอก ไม่ใช่เรื่องของเอ็ง ไป กลับกันได้แล้ว จะไปที่ไหนเดี๋ยวไปส่ง

พูดแล้วผู้หมวดหนุ่มก็หันหลังกลับอย่างรวดเร็ว  จนหนุ่มน้อยแทบจะเดินตามไม่ทัน

“อ้าว เฮีย รอด้วย ว้า..เดินเร็วอย่างกับวัวหายเลยนะ

สิงขรบ่นพึม จนก้องภพพูดดังๆกลับมา

“เออ เร็วเข้า ถ้าเอ็งยังช้า จะได้เปลี่ยนจากวัวเป็นควายแน่






ผืนฟ้าเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทเมื่อถึงกาลแห่งรัตติกาล มีเพียงแสงจันทร์เสี้ยวข้างแรมบางๆและจุดเล็กๆของ

ดวงดาวที่มาแต่งแต้ม

สิงขรหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนนุ่มจึงไม่ทันได้เห็นอากาศที่เริ่มวนเวียนบางเบาก่อนจะรวมตัวกันมากขึ้น

ก่อเป็นความหนาแน่นจนเริ่มมองเห็นเป็นรูปร่าง ยืนนิ่งอยู่ข้างเตียงแล้วมองตรงไปยังคนที่นิทราอย่าง

ผาสุกด้วยไอระคุแห่งโกรธารมณ์

ร่างนั้นเอื้อมมือไปกระชากเส้นผมสลวยของสิงขรแล้วกระชากจนร่างบางผวาจากที่นอนขึ้นมา

ยังไม่ทันที่สิงขรจะตั้งตัวได้ ร่างที่ปรากฏก็สะบัดหลังมือใส่ใบหน้าของหนุ่มน้อย จนหน้าเนียนสะบัดไป

ตามแรงปะทะ

สิงขรชาดิกไปทั่วหน้าก่อนที่จะรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ตามมา ต่อมรับรสในช่องปากรู้สึกได้ถึงรสชาติของ

โลหิตที่ไหลซึม และถึงแม้ปากจะแตกจากการถูกทำร้ายก็ยังไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย คอเสื้อชุดนอนถูก

กระชากจนร่างลอยติดมือมา

สิงขรสบตาคนทำร้ายร่างกายตนอย่างกริ่งเกรง

“ใช้ให้ทำงาน ก็มัวแต่ลอยไปลอยมาจนงานเสีย

เริ่มมีเสียงจากร่างนั้น ยิ่งทำให้สิงขรตัวสั่นเทา

“ฝากเรื่องอะไรไว้ก็ไม่เคยได้เรื่อง เมื่อไหร่จะทำตัวได้ดั่งใจเสียที

เจ้าของเสียงปล่อยมือจากคอเสื้อของสิงขรแล้วผลักออก จนชายหนุ่มเซถอยหลัง

“เราก็พยายามแล้ว

สิงขรเอ่ยเสียงเบา แต่ก็ยังไม่สามารถคลายโทสะร้อนรุ่มของอีกฝ่ายได้

“นี่คือพยายามแล้วหรือ ปล่อยให้คนตายไปหลายคนจนตำรวจมันเริ่มเข้ามายุ่ง ไม่กลัวหรอกนะ ตำรวจน่ะ

แต่มันจะมาขวางงานให้ช้าไปอีก ไม่รู้หรือ

เสียงตวาดที่ดังขึ้นจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้สิงขรหน้าซีดลงไปอีก เลือดที่ไหลจากมุมปากเริ่มแห้งเกรอะ มุม

ปากเริ่มมีรอยแดงช้ำให้เห็น ทำให้โทสะของคนที่ลงมือเริ่มคลายลง

“เอาเถอะ ที่ผ่านมาแล้วก็ช่างมัน

น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นรำคาญ

“ต่อไปตั้งใจให้ดีกว่านี้” 

ร่างนั้นเดินไปทรุดนั่งที่เก้าอี้มุมห้องอย่างคุ้นเคย

“ตอนนี้ พบร่องรอยสิ่งที่เรากำลังหาอยู่ในถ้ำบนภูเขาสูงที่พิษณุโลก ลองไปตามหาดู คราวนี้ตั้งใจอย่าให้

พลาดอีก ส่วนเราจะไปฝึกอาคมบทสำคัญ มีอะไรก็ติดต่อมา

ร่างนั้นนิ่งทำสมาธิ ก่อนที่จะค่อยๆจางหายไปเหลือไว้แต่มวลอากาศบางเบา

สิงขรทรุดตัวนั่งชันเข่าก่อนที่จะก้มหน้าลงไป และปล่อยให้น้ำตาช่วยชะล้างความเจ็บปวดออกไปจาก

ร่างกายและจิตใจ






“เดี๋ยวก่อนคร้าบ รอด้วย อย่าเพิ่งออก ผมไปด้วยคน

ก้องภพวิ่งตามขบวนรถไฟที่เริ่มออกตัวอย่างช้าๆแล้วรีบกระโดดขึ้นตามอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะไปยืนหอบอยู่

ตรงประตูเข้าโบกี้ พลางนึกไปถึงเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องรีบหาทางมาดักขึ้นรถไฟสายเหนือที่ดอนเมืองในเวลา

เที่ยงคืนเพราะทราบว่ารถไฟออกจากหัวลำโพงมาแล้ว



ผู้หมวดหนุ่มหยุดยืนที่ประตูบ้านของคนสักยันต์ตั้งแต่ห้าทุ่มของคืนแรม 15 ค่ำตามที่นัดไว้ อย่างแปลกใจ

ที่มันดูเงียบสงบผิดปกติ เขาตะโกนทักไปสักครู่ ก็มีเสียงเปิดประตู แต่คนที่มาเปิดคือคนที่ดูแลอยู่

“อาจารย์ไม่อยู่หรอก

คำตอบที่ได้ถึงกับทำให้ผู้หมวดหนุ่มแปลกใจ

“พอดีอาจารย์ของอาจารย์อีกทีเค้าให้ไปช่วยงานด่วนที่ต่างจังหวัด

คำตอบต่อมายิ่งสร้างความประหลาดใจให้

“ที่ไหน

เขาเอ่ยถามคำถามสุดท้าย

“นู้น..บนเขาที่พิษณุโลกโน่น

ยังไม่ทันหมดเสียงคำตอบ ก้องภพรีบตะบึงเจ้าแฟนธอมกลับบ้าน โยนเสื้อผ้าและของจำเป็นใส่เป้คู่ใจที่

สิ่งของสำหรับเดินทางยังอยู่ในนั้นครบ แล้วรีบเรียกรถแท็กซี่ให้มาส่งดักขึ้นรถไฟที่ดอนเมืองเพราะทราบดี

ว่า ตอนนี้ก็เหลือแต่รถไฟขบวนนี้เท่านั้นที่จะไปพิษณุโลกได้เร็วที่สุดในตอนนี้ แต่ก็เกือบไม่ทันจนเขาต้อง

วิ่งตาม แล้วก็มายืนหอบอยู่ตรงนี้



เมื่อหายเหนื่อยแล้วเขาก็เริ่มเดินหาที่นั่งในโบกี้ผู้โดยสารชั้นสาม ที่ดูเหมือนจะแน่นทุกตู้เพราะเป็น

วันหยุด

จนมาเจอเก้าอี้ตัวหนึ่งที่มีผู้โดยสารนั่งเอนตัวพิงกับผนังรถไฟ แล้วใช้หมวดแก็ปปิดหน้าบังแสงไฟ กินพื้นที่

เก้าอี้เกือบทั้งตัว ทั้งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งนั่งได้สองคน

ผู้หมวดหนุ่มสะกิดเบาๆ

“น้องครับ นั่งด้วยคน

ร่างนั้นยังนิ่ง สงบ ไม่เคลื่อนไหว อิสริยะต้องเขย่าตัวอีกครั้ง

คนที่นั่งกินเนื้อที่ยังคงนั่งนิ่งกับท่านั้น จนก้องภพทนไม่ไหว หยิบหมวกที่พลางแสงไฟออกจากใบหน้า

จนเจ้าของร่างกระพริบตาแล้วหันมามอง

“อ้าว เฮียก้อง มาทำอะไรเนี่ย



หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๗ ทำตามคำสั่ง ( ๗ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-06-2014 21:07:48
มีตัวละครเพิ่มมาอีก 1 แสดงว่าใกล้ความจริงเข้ามาแล้วใช่มั้ยยย
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๗ ทำตามคำสั่ง ( ๗ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: tanuki ที่ 07-06-2014 23:28:57
 :bye2: น่าสนใจดีครับ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๘ เดินทาง ( ๑๕ /๖ /๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-06-2014 19:59:47


                            Only Love Is Real

                               ให้รักนำทาง

                               บทที่ 8 เดินทาง


แสงอรุณเริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าแต่งแต้มให้เป็นสีแดงเรื่อตัดกับท้องนาสีเหลืองสุกของต้นข้าวที่ได้เวลาเก็บ

เกี่ยว 

สิงขรทอดสายตามองไปไกลลิบ แม้รถไฟสายเหนือจะยังคงวิ่งนำทางเขาไปสู่จุดหมาย ทำให้ทิวทัศน์ที่เห็น

เปลี่ยนไป แต่เขากลับคิดวนเวียนอยู่ที่เดิม

ลอบถอนใจเป็นครั้งที่ร้อย กับชะตากรรมบางอย่างที่ถูกกำหนดมาตั้งแต่จำเรื่องราวได้ ถึงแม้บางอย่างไม่

อยากจะลงมือทำ แต่เป็นด้วยหน้าที่และใครบางคนที่คอยบงการอยู่เบื้องหลังทำให้ไม่สามารถปฏิเสธได้

ใครจะรู้บ้างว่าหนุ่มน้อยอายุยังไม่เต็ม20 ปี แต่ต้องแบกภาระไว้จนเต็มบ่า บางครั้งแทบจะหนีไปให้ไกลสุด

ขอบโลก

ชายหนุ่มดึงสติกลับมาหาตัว แล้วเอียงหน้าไปมองใครบางคนที่ใช้ไหล่ของเขาเป็นที่อิงซบแล้วหลับสนิท

นี่ก็อีกคน ชายหนุ่มพึมพำในใจ ไปไหนก็ต้องพบต้องเจอกับชายคนนี้ แถมหลังๆมามีเรื่องให้ต้องใกล้ชิด

แนบสนิท ให้ใจมันเต้นอย่างประหลาด

เขามองดูสภาพของชายที่ซบอิงบ่าหลับใหลไม่รู้เรื่อง ใบหน้าขาวตอนนี้ไรหนวดเขียวครึ้มเริ่มขึ้นปกคลุมที่

ปลายคาง ผมยุ่งเหยิงที่ยังไม่ผ่านการจัดทรง แล้วยังไอ้เสื้อคลุมลายทหารเก่าๆขาดๆนี่อีก ถ้าเป็นเขาคงไม่

พ้นเป็นผ้าขี้ริ้วที่บ้าน

แต่ก็สภาพนี้ไม่ใช่หรือ ที่เห็นทีไรหัวใจมันสูบฉีดให้เลือดลมวิ่งพล่านไปทั่วร่างได้ทุกที

คนที่อยู่ในห้วงคำนึง ค่อยๆรู้สึกตัวจากนิทรา กะพริบตามองไปทั่วๆ แล้วเมื่อพบว่าตัวเองใช้บ่าของเจ้า

หนุ่มแร็พเป็นที่พักพิง ก็รีบขยับตัวตรงแล้วยิ้มเขินๆ

“อ้าว โทษที เมื่อยหรือเปล่า

สิงขรอมยิ้ม ก่อนจะตอบแกมประชด

“ไม่เมื่อยหรอกเฮีย เฮียหลับไปไม่นานหรอก สี่ชั่วโมงเอง

ผู้หมวดหนุ่มเสยผมจัดทรง หัวเราะแก้เขิน ก่อนจะเอ่ยถาม

“ถึงไหนแล้ว

“นครสวรรค์แล้วเฮีย

หนุ่มอ่อนวัยกว่าตอบกลับ

“อีกไม่นานก็ถึงพิษณุโลกแล้ว ว่าแต่ยังไม่ได้ถามเลย ว่าเฮียไปทำอะไรที่นั่น

“ก็ลุงคนที่จะสักยันต์นะสิ แกมาที่พิษณุโลก มาทำไมก็ไม่รู้ ก็เลยต้องตามมา

ผู้หมวดหนุ่มตอบพลางหาวหวอดๆ ก่อนที่จะชะงักเพราะคำถามของเด็กหนุ่ม

“เฮียนั่นแหละตามเขามาทำไม อยากสักอะไรขนาดนั้น

“แหม เอ็ง คนศรัทธานะ อย่ามาขัดเลย แล้วเอ็งล่ะ มาทำไม

“มาตามหาของที่หาอยู่

หนุ่มน้อยตอบเบาๆ ก้องภพหรี่ตามอง

“ตามหาอะไรวะ

“ช่างเถอะ เฮียไม่รู้จักหรอก ไปกินข้าวที่ตู้เสบียงดีกว่า หิวแล้ว มาเดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวไข่เจียวเอง






ไข่เจียวฟูนุ่มวางบนข้าวสวยร้อนๆ วางอยู่ตรงหน้า สิงขรทำตาโต อมยิ้มเหมือนเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจก่อน

จะตักเข้าปากอย่างหิวโหย ก้องภพมองแล้วก็อดอมยิ้มตามด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“จะเลี้ยงทั้งทีเลี้ยงแค่ข้าวไข่เจียวนี่นะ

ก้องภพค่อนขอด

“แหม เฮีย ข้าวไข่เจียวบนตู้เสบียงรถไฟนี่ก็สุดหรูแล้วนะ เฮียจะกินอะไรที่ดูดีมีชาติตระกูลกว่านี้อีก

จะกินหรือเปล่า ไม่กินผมเบิ้ลนะ

พูดพลางยกมือจะหยิบจานจากหน้าผู้หมวดหนุ่ม ก้องภพรีบคว้าจานหนี ยกอีกมือชี้หน้าเจ้าหนุ่มหน้าอ่อน

เป็นการห้ามไว้

“เฮ้ย ไม่ได้ คำไหนคำนั้น บอกเลี้ยงก็ต้องเลี้ยง ว่าแต่เอ็งเลิกเรียกว่าเฮียเสียทีเถอะ มันเหมือนเสี่ยยังไงก็ไม่

รู้

“อ้าวแล้วเฮียจะให้เรียกอะไรล่ะ

สิงขรตักข้าวเข้าปากคำโตพลางถามเสียงอู้อี้

“ก็เรียก พี่ธรรมดาก็พอ ไม่ต้องเรียกเฮีย แล้วนี่ดูทำเข้า ข้าวติดปากหมดแล้ว ทำอะไรเหมือนเด็กเล็กๆเลย

ก้องภพเอื้อมมือไปเช็ดเม็ดข้าวที่มุมปากอย่างอ่อนโยน สิงขรอดไม่ได้ที่จะหลับตาลงแล้วซึมซับสิ่งเหล่านั้น

จนลำคอตีบตันไปหมด

ก้องภพชะงักเมื่อเห็นรอยสีเขียวคล้ำจางๆ ที่มุมปาก เขาขมวดคิ้ว

“แล้วนี่ใครทำอะไร ทำไมมีรอยแผล

เขาถามเสียงดุๆ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้นึกเป็นห่วงและไม่อยากให้มีใครมาแตะต้องหน้าหวานๆนี้

ส่วนสิงขรได้แต่ยิ้มเจื่อน

“ผมเดินชนประตูน่ะ

“ระวังหน่อยสิ

ผู้หมวดหนุ่มดุ

“โตแล้ว ทำไมถึงซุ่มซ่าม หลายครั้งแล้วนะเรา

“คร้าบ

สิงขรยิ้มแป้นรับคำ นึกอบอุ่นในใจที่มีคนเป็นห่วง

“ต่อไปนี้ผมจะระวังไม่ให้เกิดอะไรอีก ผมรู้แล้วว่าพี่ก้องเป็นห่วง

ก้องภพถึงกับสะดุดลมหายใจตัวเอง นี่เขาแสดงออกจนเจ้าหนุ่มตรงหน้านี้มันจับได้เชียวหรือว่าเขารู้สึก

อย่างไร แล้วยิ่งเสียงที่เจ้าหนุ่มนี่มันเรียกชื่อเขาด้วยเสียงนุ่มนวลอย่างนี้ มันทำให้ใจแกว่งชอบกล

“เออ รู้ก็ดีแล้ว รีบๆกินเลย ใกล้จะถึงแล้ว ถ้ากินช้าจะโดนสั่งเบิ้ลให้จ่ายอีกจาน







เสียงหวูดรถไฟดังลั่น ก่อนที่ขบวนรถจะค่อยๆลดระดับความเร็วลงแล้วเทียบท่าชานชาลา

ก้องภพหิ้วกระเป๋าขึ้นบ่า ก้าวลงจากรถไฟ ตามด้วยสิงขรที่แบกเป้กับกีต้าร์คู่ใจก้าวตามมาอย่างงงๆ

ผู้หมวดหนุ่มหันมามอง ก่อนเอ่ยถาม

“เอ็งจะไปไหนต่อ

สิงขรยืนงงอยู่พักใหญ่ก่อนส่ายหน้า

“ไม่รู้เลยพี่ ผมไม่เคยมาพิษณุโลกมาก่อน

“อ้าว แล้วเอ็งจะเริ่มต้นตามหาของที่ตามอยู่ยังไง

สิงขรยักไหล่แบบจนปัญญา ก้องภพได้แต่ถอนใจ

“เอางี้ ไปด้วยกันก่อนไหม โรงแรมราคาถูก สะอาดๆ ที่นี่มีหลายที่ ไปหาที่พักกันก่อน แล้วเอ็งจะเริ่มธุระหา

ของก็เดี๋ยวค่อยคิดกัน

ผู้หมวดหนุ่มเสนอทางเลือกให้ สิงขรยืนนิ่งอย่างลังเล

“อ้าว ว่าไง ไม่ตัดสินใจเสียที ก็อยู่ที่นี่ไปแล้วกัน

ก้องภพหันหลังให้แล้วก้าวเดิน สิงขรตาเหลือกแล้วรีบเดินตาม

“พี่ก้อง รอด้วย





ก้องภพก้าวนำเข้าไปในห้องเล็กแต่สะอาดของโรงแรมแห่งหนึ่ง สิงขรเดินตามเข้าไปอย่างพอใจ

“โห พี่ก้องรู้จักที่นี่ดีจัง รู้ได้ไงว่ามีโรงแรมดีราคาไม่แพงอยู่ด้วย

“มาบ่อย

ตอบกลับพร้อมกับโยนของไปบนเตียงแล้วบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบ

“มาทำไมบ่อย มีแฟนที่นี่เหรอ

สิงขรเดินไปเปิดม่านหน้าต่างให้แสงสว่างส่องเข้ามาในห้อง

“ไม่ใช่โว้ย มาทำงาน เฮ้อ..ไม่พูดกะเอ็งแล้ว อาบน้ำแล้วนอนสักงีบก่อนดีกว่า นั่งหลับมาทั้งคืน

ผู้หมวดหนุ่มถอดเสื้อคลุมลายทหารออกก่อนถอดเสื้อยืดสีดำตาม แล้วโยนไปกองรวมกันไว้บนเตียง

เผยให้เห็นมัดกล้ามเนื้อที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้ออย่างคนออกกำลังกายเป็นประจำ ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องน้ำ

สิงขรหันหลังกลับจากหน้าต่างมาไม่ทันระวัง จึงเกือบปะทะกับร่างขาวแกร่งของก้องภพ



สองร่างชะงักนิ่ง ห่างกันแค่คืบ แทบจะรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนผ่าวของอีกฝ่าย




-------------------------------------- TBC-----------------------------------



นิยายพีเรียดเรื่องนี้ อาจจะไม่ค่อยมีคนอ่านมากนัก เรตติ้งไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

แต่คนเขียนก็จะดื้อลงอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจบนะคะ


 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๘ เดินทาง ( ๑๕ / ๖ / ๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-06-2014 14:39:57
ดูจากชื่อเรื่องแล้ว ไม่คิดว่าเนื้อหา จะเป็นแนวนี้นะค่ะ
สนุกดีค่ะ ชอบ  :mew3:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๘ เดินทาง ( ๑๕ / ๖ / ๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 17-06-2014 02:50:34
น้องไม้เริ่มหลงเสน่ห์พี่ก้องแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๘ เดินทาง ( ๑๕ / ๖ / ๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 17-06-2014 09:34:27
นั่นๆ มีชน อ๊ายยยยยย
เราชอบนะเรื่องนี้ น่าติดตามอ้ะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๘ เดินทาง ( ๑๕ / ๖ / ๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 18-06-2014 12:17:16
ชอบนะคะ เนื้อเรื่อง ภาษาโอเคเลย
น่าติดตามว่าไม้จะใช่คนในคำทำนายรึเปล่า แล้วเงานั่นคือใคร
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๙ แรงปรารถนา ( ๒๖/ ๖ / ๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 26-06-2014 23:01:59


                       Only Love Is Real

                           ให้รักนำทาง

                          บทที่ 9 แรงปรารถนา


อย่างจู่โจมและไม่ทันได้ตั้งตัว แรงดึงดูดมหาศาลเกิดขึ้นทันทีที่ดวงตาสองคู่นั้นสบกัน

ก้องภพไม่เคยเข้าใจถึงคำว่าตกอยู่ในภวังค์มาก่อนจวบจนกระทั่ง ณ ปัจจุบันนี้

หัวสมองของเขาว่างโล่งไม่มีความคิดคำนึงใดๆ แม้กระทั่งความระมัดระวังตัวที่เคยมีอยู่เป็นปกติ

นอกจากวนเวียนมองใบหน้าหวานซึ้งของอีกฝ่าย

ทางด้านสิงขรเองก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก สิ่งที่เคยอยู่ในความคิดคำนึงถึงภาระที่ต้องแบกรับนั้นได้ถูกโยนออก

จากหัวสมองไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หนุ่มน้อยก็ไม่ทันรู้ตัว

ต่างฝ่ายต่างจ้องเข้าไปในดวงตาของอีกคนอย่างล้ำลึกและโหยหา ก่อนที่ก้องภพจะเป็นพ่ายแพ้

เขายกมือขึ้นประคองใบหน้าหวานนั้นดึงมาชิดใกล้ ใช้ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆที่มุมปากแดงเรื่อ ยังคงปรากฏ

รอยช้ำจางๆอยู่ที่ปลายนิ้ว แล้วเขาก็โน้มตัวไปใกล้

สิงขรชะงัก ก้มหน้าหลบสัมผัสนั้น แต่ก้องภพก็ใช้อุ้งมือเชยคางที่ก้มหลบให้เงยขึ้นมา ก่อนกดริมฝีปาก

ไปที่รอยช้ำนั้นเบาๆ

เป็นสัมผัสแรกที่ทั้งคู่ต่างเรียนรู้ซึ่งกัน ก้องภพรู้สึกเย็นเยือกไปทั้งร่าง ก่อนที่จะตามมาทันทีด้วยความร้อน

ระอุ

เขาค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากไปที่ปากแดงราวกับมะเขือเทศสุกของหนุ่มน้อยอย่างติดใจ ประกบมันไว้แนบ

แน่นแล้วส่งผ่านความรู้สึกร้อนผ่าวนั้นไปให้

อา… มันช่างรุนแรง แต่อ่อนหวาน จนสิงขรพร้อมที่จะหลอมละลายไปกับสัมผัสนั่น เขาสอดแขนไปโอบ

รอบเอวแกร่งของก้องภพแล้วดึงตัวมาเบียดแนบด้วยสัญชาตญาณ พร้อมที่จะปล่อยใจให้ลอยละล่อง

ตามใจปรารถนา


ในขณะที่อารมณ์ของหนุ่มน้อยกำลังล่องลอยไปกลับบังเกิดจุดดำเล็กๆขึ้นในหัวสมอง มันใหญ่ขึ้นใน

เสี้ยววินาทีแล้วฟาดเปรี้ยงลงมาราวกับฟ้าผ่าในห้วงจินตนาการ สิงขรร้องลั่นผลักร่างก้องภพออกพ้น

ตัวอย่างรวดเร็ว แล้วกระโจนไปนั่งตัวสั่นงันงกอยู่ที่มุมห้อง

ก้องภพเองก็ต้องยกมือกุมศีรษะทันทีที่รู้สึกได้ถึงแรงผลักที่รุนแรงและรวดเร็วจู่โจมเข้ามาในสมอง

เขาสะบัดหัวเรียกสติกลับคืนมา แล้วหันไปพิจารณาร่างบางที่นั่งตัวสั่นเทาเป็นลูกนกตกน้ำอยู่

ผู้หมวดหนุ่มสืบเท้าเข้าไปใกล้ แล้วคุกเข่าลงเอื้อมมือไปแตะร่างนั้นเบาๆ

สิงขรเงยหน้าขึ้นมองดวงตาแดงเรื่อ  ก้องภพอดไม่ได้ที่จะดึงร่างนั้นมากอดอย่างปลอบประโลม

“ไม่เป็นอะไรแล้วไม้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ใจเย็นนะ

เขาเอ่ยอย่างอ่อนโยน

สิงขรร้องไห้อย่างไม่อาย เขาสวมกอดร่างของก้องภพแล้วซุกตัวอยู่อย่างนั้นราวกับคนที่โหยหาความอบอุ่น

จนก้องภพต้องลูบผมเบาๆด้วยความสงสาร





แสงแดดยามบ่ายส่องผ่านเข้ามาในห้อง ก้องภพนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเล็กมองสิงขรที่ยังไม่ตื่นจากการหลับใหล

อยู่บนเตียงนอน หลังจากที่หมดแรงกับการร้องไห้

ผู้หมวดหนุ่มขมวดคิ้วแน่น เขายังจำการจู่โจมรุนแรงและมาดร้ายในจินตนาการนั้นได้อย่างแม่นยำ

ที่สำคัญคือเขายังหาสาเหตุไม่ได้ว่ามันคืออะไร และต้องการอะไรหรือมันจะเกี่ยวข้องกับหนุ่มน้อยที่อยู่

เบื้องหน้าตรงนี้

เขาลุกจากเก้าอี้ไปนั่งขอบเตียงแล้วก้มมองใบหน้าหวานนั้นอย่างพิจารณาอีกครั้ง

สัมผัสที่ร้อนรุ่มยังคงระอุอยู่ในความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใครมาก่อน

เขาตกใจกับความรู้สึกที่ยอมรับกับตัวเองนั้น ว่าอยากแตะต้องแนบชิดและลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคย

ผ่านเข้ามาในชีวิต

ผู้หมวดหนุ่มเจ้าของฉายา สายสืบพญายม ถึงกับถอนหายใจ นี่เขาเบี่ยงเบนทางเพศไปตั้งแต่เมื่อไหร่

ที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดคือ ทำไมต้องเกิดความรู้สึกเหล่านี้กับคนๆนี้ คนที่เขาเองก็ยังไม่รู้ที่มาที่ไป

แต่เหมือนอะไรบางอย่างที่ทำให้ทั้งสองคนต้องพบเจอกันบ่อยครั้งจนเกิดเป็นความผูกพัน

เขาเอื้อมไปที่ศีรษะของสิงขร ชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะเอื้อมไปลูบผมอย่างแผ่วเบา

“แกเป็นใครกันแน่วะ ไม้





สิงขรลืมตาตื่นมาเมื่อบ่ายจัด เขาสะบัดหัวขับไล่อาการปวดที่เกิดจากการร้องไห้อย่างหนัก ก่อนจะมองไป

ทางห้องน้ำที่ได้ยินเสียงใครบางคนกำลังอาบน้ำอยู่

หนุ่มน้อยตั้งสติลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดเมื่อตอนสาย และเมื่อภาพต่างๆลอยมาในความคิดจน

ครบถ้วน เขาก็รู้สึกร้อนซู่ไปทั้งหน้า

นี่เขาทำอะไรลงไป

สัมผัสที่รุ่มร้อนกลับคืนมาสู่ตัว เขายกมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากเบาๆ ยังคงรู้สึกราวกับเกิดขึ้นไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา

หนุ่มน้อยถอนหายใจที่ต้องยอมรับกับตัวเองว่า เขาติดใจสัมผัสนั้น และโหยหามันอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใคร

มาก่อน

แล้วทำไมมันต้องมาเกิดกับคนๆนี้ด้วย เขาเองก็ไม่เข้าใจ

ความรู้สึกยุ่งยากเกิดขึ้นมาในความคิด นี่เขาเบี่ยงเบนทางเพศไปแล้วหรือ

ที่สำคัญคือ สิงขรรู้ว่าตัวเขาเองจะมีความผูกพันกับใครเป็นพิเศษไม่ได้

และที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมดคือ คนๆนี้จะยอมรับได้ไหม ถ้าวันหนึ่งเกิดรู้ความจริงว่า แท้จริงแล้ว

ตัวเขาน่ะเป็น





ประตูห้องน้ำถูกเปิดอย่างรวดเร็ว ก้องภพที่มีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวคลุมท่อนล่างถึงกับชะงักเมื่อเห็นสิงขร

ตื่นมานั่งอยู่บนเตียง

เขาซ่อนความเก้อเขินไว้ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แล้วเดินมานั่งที่ขอบเตียง

“ตื่นแล้วหรือ หายปวดหัวหรือยัง

ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยทัก

สิงขรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเห็นคนตรงหน้าอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาหลุบตาลงต่ำไม่กล้า

สบตา เมื่ออ้อมแอ้มตอบว่าหายแล้ว

ก้องภพอมยิ้มเมื่อเห็นท่าทางกระดากของหนุ่มน้อย เขาเอื้อมมือไปเชยคางให้สิงขรสบตากับเขา

“ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ หิวแล้ว เดี๋ยวจะพาไปกินข้าวเจ้าอร่อย

สิงขรสบตาคู่นั้น ไม่มีแววล้อเลียนหรือเยาะเย้ย มีแต่ความอบอุ่นที่ฉายแสงอยู่ในนั้น หนุ่มน้อยยิ้มกว้าง

“คร้าบผม พี่ก้อง ไปเดี๋ยวนี้ตามคำสั่งเลย

แล้วสิงขรก็ดีดตัวจากที่นอนลงมายืนข้างเตียง ก่อนที่จะชะงักเมื่อมือเรียวถูกดึงไว้จากคนที่ยังนั่งอยู่ขอบ

เตียง เขาหันกลับไปมองอย่างสงสัย

ดวงตาของผู้หมวดหนุ่มจริงจังเมื่อกล่าวกับเขา


“วันนี้ถ้าแกยังไม่พร้อมจะบอกกับพี่ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันไหนพร้อมแกต้องบอกพี่ว่า แกเป็นใคร










หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๙ แรงปรารถนา ( ๒๖ / ๖ / ๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 27-06-2014 22:44:06
ลุ้นตาม อยากรู้ความจริงแล้วๆ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๑๐ แรกเจอ ( ๑๔ / ๐๗ / ๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-07-2014 21:40:58


                       Only Love is real

                           ให้รักนำทาง

                         บทที่ 10 แรกเจอ
 
สิงขรยังคงวางหน้าไม่ถูก แม้ว่าเวลาจะล่วงมาถึงตอนค่ำแล้ว เขาก้มหน้าก้มตามองแต่เส้นราดหน้า


ที่อยู่ในจานจนแทบจะจำได้แล้วด้วยซ้ำว่ามันขดงอรูปร่างอย่างไรบ้าง


ก้องภพเองก็มองหนุ่มน้อยอย่างขำขันแกมเอ็นดู รู้ดีว่าสิงขรคงยังขัดเขินไม่คุ้นเคยกับสภาพความ

สัมพันธ์คลุมเครือที่เกิดขึ้นของวันนี้


จริงๆแล้วเขาเองก็เก้อกระดากไปไม่น้อยกว่ากัน เพียงแต่ประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่าจึงเก็บซ่อน

อารมณ์ได้ดีกว่าเจ้าหนุ่มตาหวานที่นั่งเขี่ยอาหารในจานอยู่ตรงหน้า


“มันไม่อร่อยหรือไง ถึงได้นั่งเขี่ยไปเขี่ยมา ไม่ยอมกินเสียที”


ผู้หมวดหนุ่มพูดทำลายความเงียบ


“อุตส่าห์พามากินเจ้าอร่อย กลับทำตัวซังกะตาย คราวหน้าจะไม่พามาแล้วนะ”


ก้องภพประดิษฐ์ซุ่มเสียงน้อยใจ จนคนที่นั่งตรงกันข้ามเงยหน้ามายิ้มแหยๆ


“โธ่ พี่ก้อง งอนเป็นวัยรุ่นไปได้”


หนุ่มน้อยลากเสียงเอาใจ พยายามเก็บความขัดเขินไว้ แล้วจึงได้รู้ว่าตนเองนั้นหิวแค่ไหน เนื่องจาก

อาหารยังไม่ตกถึงท้องตลอดวัน เขาตักราดหน้าเข้าปาก เพียงชั่วครู่ก็ไม่มีอะไรเหลือ

“อร่อยจริงๆ อย่างที่พี่ว่า แหม รู้จักเมืองนี้ดีจริงๆ อาหารอะไรอร่อยก็รู้จักแล้วเลี้ยงข้าวผมบ่อยๆนะ”


ให้เลี้ยงตลอดชีวิตเลยไหม...


ก้องภพรำพึงในใจ ก่อนที่จะสะดุ้งกับความคิดตัวเอง นี่เขาจริงจังกับเด็กคนนี้


มากไปหรือเปล่า



ความคิดเหล่านั้นสะดุดลงเมื่อหางตาของผู้หมวดหนุ่มฉายาสายสืบพยายม เหลือบเห็นอะไรบางอย่าง


เขาเอียงหน้าเล็กน้อย ไม่ให้เป็นที่สังเกตเพื่อมองใครบางคนที่คุ้นหน้า


เจ้าอาจารย์สักยันต์ที่เขาลงทุนตามรอยมาถึงที่นี่นั่นเอง ชายหนุ่มอุทานในใจ นึกดีใจที่เจอตัวรวดเร็ว


ไม่ต้องเสียเวลานาน


ผู้หมวดหนุ่มค่อยๆลอบมอง จึงได้เห็นเจ้าอาจารย์คนนั้น กำลังส่งวัตถุอะไรบางอย่างให้ใครบางคนที่

เขามองไม่ชัดรูปร่างสูงโปร่งดูคุ้นตา  อยู่ในชุดสีดำตลอดทั้งร่างกลมกลืนไปกับความมืดทแสงไฟจาก

เสาไฟฟ้าข้างทางส่องไปไม่ถึง คนๆนั้นรับวัตถุจากมืออาจารย์สักยันต์แล้วเดินจากไป

ก้องภพละล้าละลัง เขามองสิงขรอย่างเป็นห่วง แต่งานต้องมาก่อน

“ไม้ รอพี่อยู่ที่นี่ก่อนนะ อย่าเพิ่งไปไหนเดี๋ยวพี่กลับมา”

เอ่ยกับหนุ่มน้อยแล้วผู้หมวดหนุ่มก็รีบวิ่งตามร่างของคนชุดดำไป โดยที่ไม่รู้เลยว่า

ทันทีที่เขาลุกออกจากโต๊ะ หนุ่มน้อยหน้าหวานก็แทบจะกระโจนออกจากโต๊ะเช่นกัน





ก้องภพเดินแกมวิ่งมาจนทันเห็นร่างสูงโปร่งในชุดดำนั่นอยู่ห่างไปไม่มากนักจึงได้ผ่อนฝีเท้า

แต่ดูเหมือนไม่ทันที่จะหลบ เพราะชายชุดดำหยุดเดินเอามือไพล่หลังเหยียดตัวตรง

ก่อนเอ่ยถามแม้จะไม่หันหน้ามา

“ตามมาทำไม”

“ผมตามหาคนอยู่ รู้สึกคุ้นๆบอกไม่ถูก เลยตามคุณมา”

ก้องภพเอ่ยตอบ พลางสืบเท้าเข้าไปหาช้าๆ

“ผมคงจะไม่ใช่คนที่คุณตามหา เพราะผมไม่เคยรู้จักคุณเลย ขอโทษนะ คงต้องขอตัว”

พูดแล้ว ร่างในชุดดำนั้นก็ก้าวเเดินต่อ

ใช่..มันต้องใช่ สัญชาตญาณบอก หางตาขวากระตุกถี่ๆ ก้องภพรู้ได้ว่าคนๆนี้ต้องมีความสำคัญ

เขาตัดสินใจส่งกระแสจิตหยุดร่างนั้นไว้ ก่อนที่จะวิ่งเพื่อไปคว้าตัวให้ได้

เกือบแล้ว แค่ชั่วมือคว้าร่างนั้นสลัดตัวจากพลังของเขา รู้สึกได้ถึงพลังกระแทกย้อนกลับมาแล้วร่าง

นั้นก็แปรสภาพกลายเป็นกลุ่มควันบางเบาที่ก้องภพได้สัมผัสเพียงท่อนแขนเท่านั้นก่อนที่ร่างนั้นจะสลายหายไปจนมองไม่เห็นอีก


ชายกลางคนผู้เป็นคนสักยันต์เดินแกมวิ่งหันรีหันขวางหลังจากส่งมอบ”วัตถุ”บางอย่างให้แก่คนๆนั้น

คนที่มีอำนาจเหนือกว่าทุกอย่าง น่าเกรงขามจนไม่กล้าแม้กระทั่งสบตา เมื่อส่งมอบสิ่งที่ได้รับมา

จากลูกศิษย์คนหนึ่งที่อยู่แถวพิษณุโลก เขารีบติดต่อคนๆนั้นที่ต้องการเจ้า”วัตถุ”นั่น เพราะรู้ว่าเป็นที่

ต้องการแค่ไหน

นึกกระหยิ่มหากสิ่งที่ส่งมอบเป็นของจริง เขาจะได้ของสมนาคุณไม่น้อย

แล้วเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างหนึ่งยืนขวางกลางถนน อาจารย์สักยันต์เงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตกใจ

แทบสิ้นสติ ก็ในเมื่อ......เขาเพิ่งจากคนๆนี้มาเมื่อสักครู่นี้เอง

แต่ชายคนนั้นตอนนี้กลับอยู่ในชุดเด็กแร็พ ใส่หมวกแก๊ปใบโต ยืนทำหน้าเครียดใส่เขา

“นะ..นาย”

เขาเอ่ยปากเสียงสั่น

“มีอะไรกับผมอีกหรือครับ”

สิงขรยืนจ้องหน้าชายคนนี้ รู้ดีว่าเขาส่งมอบ “อะไร” ไปให้ “ใคร”

และรู้ไปอีกด้วยว่า ถ้า “ใคร” คนนั้นทำสิ่งที่อยากทำสำเร็จสิ่งที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงแค่ไหน

ถึงแม้คนที่ว่านั้นจะมีพลังมากกว่าเขา แต่ด้วยความดีในใจทำให้เขารู้ว่าเขาต้องขัดขวางให้สำเร็จ

และจะให้คนๆนั้นรู้ไม่ได้ด้วยว่าเป็นเขาที่เป็นผู้ขัดขวางคนๆนั้นได้ “วัตถุ” ไปหลายชิ้นแล้ว

มันใกล้ความจริงไปทุกที สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงตัดการสื่อสาร ไม่ให้คนๆนั้นรู้ว่า “วัตถุ”ชิ้นต่อไปอยู่

ที่ไหนสิงขรจำเป็นต้องจัดการ

เขายืนจ้องหน้าชายกลางคนอย่างขอลุแก่โทษ ก่อนที่แบมือที่กำไว้เผยให้เห็นตะปูกำใหญ่

แล้วหนุ่มน้อยก็เป่ามันเบาๆ

ตะปูหลายดอกหายวับไปในพริบตา ชายกลางคนสะดุ้งเฮือก ยกมือกุมท้องแล้วล้มลงดิ้นทุรนทุราย

เลือดออกจากปากและจมูกอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะนิ่งตาเหลือกลานหนุ่มน้อยหน้าหวานเดินตรงไปคุกเข่า

เอื้อมมือไปปิดตาคู่นั้นแล้วยกมือไหว้ขออโหสิกรรมเหมือนกับอีกสี่รายที่ผ่านมา
 




ก้องภพเดินตรงมาทางสิงขรที่ยังคงนั่งอยู่โต๊ะในร้านอาหารที่เดิม แล้วยกน้ำดื่มอย่างหิวกระหาย

“รอนานไหมไม้”

หนุ่มน้อยสั่นหน้ายิ้มกว้าง ดีใจที่คนตรงหน้าไม่ได้สังเกตอาการหอบเหนื่อยที่ต้องวิ่งกลับมาที่เดิมอย่าง

รวดเร็วของตน
 
 
 
 
 
 
 
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaL ให้รักนำทาง บทที่ ๑๐ แรกเจอ.. ( ๑๔ / ๐๗ / ๒๕๕๗ )
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 22-07-2014 17:48:36
น่าสนใจๆ ตามมาจากเรื่อง X คร๊า
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๑ เวลาแห่งการทำลายล้าง(๒๓/๗/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 23-07-2014 13:54:20


                           Only Love is real

                              ให้รักนำทาง

                       บทที่ 11 เวลาแห่งการทำลายล้าง

ก้องภพหลับสนิทเมื่อราตรีกาลล่วงผ่านมา แม้ห้องในโรงแรมที่พักจะไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่อากาศ

ในเดือนสุดท้ายของปี ก็ทำให้เขาต้องนอนขดอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่น ต่างจากอีกคนที่นอนอยู่เคียงข้าง

โรงแรมราคาถูกแม้จะสะอาด แต่ก็ไม่สะดวกสบายนัก เตียงที่มีให้ก็เป็นเพียงเตียงห้าฟุตเล็กๆ เพียงเตียง

เดียวที่ดูเหมือนจะเล็กเกินไปสำหรับชายหนุ่มตัวใหญ่สองคนที่ต้องขดตัวนอนอยู่ด้วยกัน

อากาศหนาวเย็นของภาคเหนือตอนล่างไม่เป็นผลต่อสิงขรเลย เขานอนกระสับกระส่ายเหงื่อชื้นเต็มลำคอ

เนื่องด้วยจิตใต้สำนึกสั่งให้เขารู้ว่าอะไรคือผิดชอบชั่วดี

แม้จะรู้ว่ามันคือความจำเป็นที่ต้องทำ และคนที่เขากำจัดไปก็ไม่ใช่คนดีนัก แต่เขาก็รู้ว่าทั้งหมดมันก็ไม่ใช่สิ่ง

ที่ถูกต้อง

ความรู้สึกผิดปรากฏรูปร่างอยู่ในความฝัน เป็นวิญญาณร้ายที่โผล่มาหลอกหลอนและเป็นฝ่ายรุมทำร้ายเขา

ส่วนตัวเขาเองได้แต่ปัดป้องและตะโกนขับไล่

ผู้หมวดหนุ่มสะดุ้งตื่นมาเมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์จากคนที่นอนอยู่ด้านข้าง เขาลุกขึ้นนั่ง

อย่างรวดเร็วและหันไปมองหนุ่มน้อยอย่างตกใจ

ภาพที่เห็นคือสิงขรที่เปลือกตายังคงปิดสนิท แต่สองมือยกโบกไล่และส่งเสียงร้องตะโกนขับไล่อะไร

บางอย่าง

“ไม้ เฮ้ย! เป็นอะไรวะ ตื่นก่อน ไม้”

ผู้หมวดหนุ่มเขย่าตัวคนที่ยังคงนอนหลับตาแรงๆพลางส่งเสียงปลุก

สิงขรผวาเฮือก ผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว ลำคอและแผ่นหลังชื้นไปด้วยเหงื่อ ดวงตาสับสนเงยขึ้นสบตา

กับก้องภพ

“เฮ้ย ฝันร้ายอะไรหรือเปล่าวะ ละเมอเสียงดังมากเลย” 

ก้องภพใช้มือจับที่ต้นแขนของสิงขรพลางถามอย่างเป็นห่วง

สิงขรมองสบตากับแววตาห่วงใยด้วยความเต็มตื้น เขาโผกอดและซุกหน้ากับแผ่นอกกว้างแกร่งนั้น

แล้วน้ำตาก็หยาดหยดมา

ก้องภพเองเมื่อเจออาการแบบนี้จากหนุ่มน้อย เขาก็นิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนที่จะยกมือขึ้นลูบผมสิงขรเบาๆด้วย

ความสงสาร

“เป็นอะไรไปวะไม้ โตขนาดนี้แล้วยังร้องไห้เป็นเด็กอีก”

ก้องภพถามอย่างอ่อนโยน

สิงขรนิ่งอยู่ในอ้อมแขนของก้องภพอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะคลายอ้อมกอดที่ยึดตัวผู้หมวดหนุ่มไว้แล้วเงยหน้า

มาสบตากับก้องภพ

“ถ้าสมมติว่าวันหนึ่ง พี่ก้องรู้ว่าผมเป็นคนไม่ดีทำผิดร้ายแรงมาก พี่จะยกโทษและจะยังดีกับผมเหมือนอย่าง

วันนี้ไหม”

ก้องภพนิ่งอึ้ง เขาสบตากับตาหวานที่บัดนี้แดงเรื่อไปด้วยคราบน้ำตา แล้วหัวใจก็อ่อนยวบ เขายกมือขึ้นปัด

ปอยผมเปียกชื้นที่ตกลงมาปรกหน้าผากมนนั้นแล้วก็อดใจไม่อยู่ที่จะหอมเบาๆที่หน้าผากของเด็กหนุ่ม

“มันอยู่ที่ว่าเจตนาแกคืออะไร ถ้าแกทำเพราะมันจำเป็น และแกสำนึกได้ว่ามันผิดจริง พี่ก็พร้อมจะอภัยให้

แก”

ก้องภพยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้สิงขรจนหมด สิงขรเอียงแก้มสัมผัสอุ้งมือนั้นความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนอย่าง

ที่ไม่เคยมีมาก่อนประทับมันไว้อยู่ในส่วนลึก เขาอยากจะให้เวลาหยุดอยู่แค่นี้แม้จะรู้ดีว่าเป็นไปไม่ได้

“ดึกแล้ว นอนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องเริ่มทำงานแล้ว”

ก้องภพดึงตัวสิงขรมาอยู่ในอ้อมแขน พร้อมล้มตัวลงนอน หนุ่มน้อยซุกร่างเข้ากับอกอุ่นนั้น ก้องภพลูบหลัง

สิงขรอย่างเบามือ จนกระทั่งเขาหลับไปในอ้อมกอดนั้นตลอดทั้งคืน








กลุ่มอากาศค่อยๆหมุนวน แล้วเกาะกลุ่มเกิดเป็นมวลร่าง มันค่อยๆชัดเจนขึ้น จนปรากฏเป็นร่างสูงโปร่งใน

ชุดดำสง่าผ่าเผย หากใบหน้าหวานซึ้งราวกับอิสตรีนั้นจะดูดีกว่านี้ ถ้าผู้เป็นเจ้าของจะไม่อยู่ในอารมณ์โกรธ

เกรี้ยวบึ้งตึง

เขาปรากฏร่างอยู่ในบ้านทรงไทยเก่าแก่หลังใหญ่ ที่ปลูกอยู่ในบริเวณเชิงเขาสูง อากาศที่หนาวเย็นไม่ได้ช่วย

ในอารมณ์คุกรุ่นนั้นดีขึ้นมาเลย

นึกไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นมาได้เมื่อหัวค่ำที่ผ่านมา เมื่อพบเจอกับชายคนนั้น

ชายคนที่เขาคิดว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ไม่มีพิษสง กลับมีพลังที่หยุดเขาให้นิ่งอยู่กับที่เคลื่อนไหวไม่ได้

ดีแต่ว่าวันนี้ยังคงเป็นคืนเดือนแรม ที่เขาจะมีพลังเวทมากเป็นพิเศษจึงสามารถสลัดพลังนั่น แล้วร่ายมนต์

สลายร่างหลุดรอดมา

มันเป็นใคร...เสียดายที่เขายังไม่เห็นหน้า

จะใช่คนที่ปู่ของเขาเคยเล่าให้ฟังก่อนเสียชีวิตหรือไม่ ว่ามันคือตระกูลที่ทำลายล้างครอบครัวของเขาจนหมด

สิ้น เหลือเพียงปู่ที่หนีรอดพาตัวเขาที่ยังเป็นทารกในขณะนั้นมาหลบอยู่ท่ามกลางขุนเขา แล้วเฝ้าฝึกฝนพร้อม

กับตั้งความหวังไว้ที่เขา ว่าจะนำความยิ่งใหญ่กลับคืนมา

แต่ปู่ก็อยู่ไม่ทันวันนั้น วันที่เขาจะอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ วันที่เขาจะตามหา “วัตถุ” ในตำนาน แล้วทำ

พิธีกรรมยิ่งใหญ่เพื่อกลายเป็น ผู้ยิ่งใหญ่ ที่จะมาเกิดทุก 500 ปี

แล้วก็ตามฆ่าพวกมันให้หมด อย่างที่ปู่ต้องการ

ชายหนุ่มเดินมาสบตาตัวเองในกระจก พร้อมกับสัญญา

อีกไม่นานนี้แล้ว ที่เขาจะอายุครบ 20 ปี และตอนนี้ “วัตถุ”บางชิ้นก็ได้มาอยู่ในความครอบครองของเขา

เหลืออีกเพียงไม่กี่ชิ้นหรอกนะ

แล้วพวกแกจะได้สูญสิ้นด้วยฝีมือของเขา

เขามองหน้าและสบตากับเงาในกระจก ที่สะท้อนกลับมา

ใบหน้าที่เหมือนกับสิงขรไม่มีผิดเพี้ยน







หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๑ เวลาแห่งการทำลายล้าง(๒๓/๗/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-07-2014 20:38:22
ตกลงเป็นแฝดกันหรอ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๑ เวลาแห่งการทำลายล้าง(๒๓/๗/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-07-2014 19:30:59
สนุกมากๆชอบนิยายแนวนี้แต่งให้จบนะคะ :L2:
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๒ อะไรคือความจริง (๒/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-08-2014 14:40:54


                          Only Love Is Real

                             ให้รักนำทาง

                        บทที่ 12 อะไรคือความจริง


ก้องภพเดินแกมวิ่งเข้าไปในแผนกนิติเวชของโรงพยาบาลอย่างรีบร้อน เมื่อได้รับข่าวไม่ค่อยดีจากสายสืบ

ของเขา ว่าพบศพอาจารย์สักยันต์นอนตายอยู่ข้างถนน

ผู้หมวดหนุ่มแสดงตัวกับตำรวจท้องที่และสอบถามรายละเอียดต่างๆอย่างเคร่งเครียดที่อีกเบาะแสหนึ่ง

ของเขาต้องดับสูญไป

เขาเดินตรงไปที่เตียงผ่าพิสูจน์ศพ ใส่ถุงมือแล้วชันสูตรพร้อมกับนายแพทย์นิติเวช

ชายคนดังกล่าวเลือดออกทางปากและจมูก และที่สำคัญเมื่อตรวจเอ็กซ์เรย์แล้วพบว่ามีตะปูจำนวนหนึ่ง

อยู่ในช่องท้อง เป็นเหตุให้ระบบอวัยวะภายในฉีกขาด

ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อย เมื่อเห็นมือข้างหนึ่งของผู้ตายที่อยู่ฝั่งเดียวกับที่เขายืนอยู่กำแน่นภายในเหมือนซ่อน

วัตถุอะไรบางอย่างไว้แต่ศพนั้นแข็งตัวเกินกว่าที่เขาจะแกะมันออกโดยไม่ให้เจ้าหน้าที่คนอื่นผิดสังเกต

เขาเพ่งสายตาไปที่มือนั่น แล้วบังคับให้มันค่อยๆคลายตัว

พลังเพียงเล็กน้อยเขาก็สามารถหยิบมันขึ้นมาใส่กระเป๋าเสื้อแจ็กเก็ตไว้ได้ โดยที่ไม่มีใครรู้







สิงขรนั่งนิ่ง ใจสงบแหงนมองพระพุทธรูปอยู่ในวิหาร เขาก้มลงกราบพระด้วยความเคารพก่อนที่

จะนั่งขัดสมาธิ อธิษฐาน

รู้ว่าตัวเองทำผิดศีลข้อ 1 ฆ่าคนตายมาหลายคน แต่เขาเชื่อว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะป้องกันภัยอันตราย

จากความชั่วอันเลวร้ายยิ่งกว่า

“หากลูกยังพอมีบุญบารมีหลงเหลืออยู่บ้าง ลูกขอให้พระพุทธองค์ช่วยลูกด้วย ให้ลูกหาของศักดิ์สิทธิ์ชิ้น

สุดท้ายเจอก่อนคนๆนั้น ขอให้ลูกป้องกันมิให้เขาผู้นั้นก่อการชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ได้สำเร็จ”

หนุ่มน้อยปิดตาลง ทำจิตสงบรำลึกถึงพระรัตนตรัย ก่อนที่จิตจะนิ่ง ดำดิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ

แสงสว่างสดใสสีเขียว ปรากฏให้เห็นในฌานของสิงขร แล้วมันก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นราวกับสีของ

ปีกแมลงทับ มันวาวแม้จะอยู่ในที่มืด ภาพนั้นชัดเจนขึ้นเป็นลำดับ และไกลขึ้น กว้างขึ้น ราวกับกล้องของ

ภาพยนตร์ที่หมุนให้เห็นโดยรอบ

สิงขรระงับความลิงโลดใจไว้ เขาพยายามเก็บรายละเอียดทั้งหมด ก่อนที่ภาพเหล่านั้นจะจางหายไป

หนุ่มน้อยค่อยๆลืมตาขึ้นจากสมาธิ เขายิ้มอย่างเบิกบาน ก่อนที่จะก้มลงกราบพระอย่างเคารพอีกครั้ง







เมื่อเสร็จจากการตรวจชันสูตรร่างของอาจารย์สักยันต์แล้ว ก้องภพก็หามุมสงบอยู่ตามลำพังเขาล้วงวัตถุที่ได้

จากมือของชายผู้นั้นแล้วแบมือออกดู มันคือ ตะปูงอๆดอกหนึ่ง

ผู้หมวดหนุ่มเชื่อว่า ก่อนตายชายผู้นี้อาจจะพอมีสติหลงเหลือใช้คาถาต่อสู้ แต่ก็คงไม่สำเร็จจึงพอจะ

หลงเหลือหลักฐานชิ้นนี้ จนมันตกมาถึงมือเขา

พลังจิตกล้าแกร่งของเขา ไม่ได้มีแค่เพียงเคลื่อนย้าย หยุดสิ่งของเหมือนคนในตระกูลเท่านั้น

แต่หากยังมี พลังอย่างอื่นที่นอกเหนือกว่า

นั่นคือ สัมผัสที่ย้อนอดีตได้เมื่อจับสิ่งของที่เขาต้องการรู้ แต่เขาจะใช้มันเมื่อจำเป็นเท่านั้น

ก้องภพกำมือให้ตะปูนั้นอยู่ในอุ้งมืออีกครั้ง เขาหลับตาลง ตั้งสมาธิ ให้จิตตัวเองจดจ่อกับตะปูในอุ้งมือ

ภาพที่ปรากฏคือ ชายหนุ่มคนหนึ่งในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ตัวโคร่ง และหมวกแก๊ปคุ้นตา ยืนอยู่ต่อหน้า

ชายคนนี้ คนๆนั้นยืนนิ่งก่อนที่จะแบมือเผยให้เห็นตะปูหลายดอก แล้วเขาก็ท่องมนต์

ก้องภพสะดุ้งเฮือก เหงื่อไหลเหมือนอาบน้ำ เขาจ้องตะปูในมือแทบจะไม่เชื่อสายตา

“ไอ้ไม้”






สิงขรบิดขี้เกียจอย่างเมื่อยขบ เมื่อคร่ำเคร่งกับการสเก็ตภาพอยู่นานจนรอบตัวของเขาเต็มไปด้วย

แผ่นกระดาษที่ใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้าง  หนุ่มน้อยหยิบกระดาษถ่ายเอกสารธรรมดาแผ่นหนึ่งที่ตอนนี้เต็มไป

ด้วยรอยดินสอขึ้นมาดูอย่างพอใจ

ภาพที่ปรากฏนั้นคล้ายกับแผนที่ลายทางชี้ทางไปถึงสิ่งที่เขากำลังตามหา จากสิ่งที่เขาเห็นเมื่อนั่งสมาธิ

ช่วงสาย ก่อนที่จะกลับมาเขียนไว้ที่ห้องในโรงแรมเพื่อกันลืม

หนุ่มน้อย หยิบกีตาร์คู่ใจที่หอบหิ้วกันมาจากกรุงเทพมาตั้งคอร์ด แล้วกรีดสายเบาๆทดสอบเสียง ก่อนที่

จะเล่นเพลงฮิตในช่วงนี้



ใจส่งถึงใจเธอ มือจับกันไว้ มองตาแล้วเข้าใจ ไม่ต้องเอ่ยคำ

เดินเกี่ยวแขนกันไป ถ่ายทอดความรัก จงอย่าสนใจใคร ฉันอยู่ใกล้เธอ

เปี่ยมด้วยความรัก ต่อเธอ

ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์

ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นอยู่ตลอดกาล ขอให้ความรัก ที่เกิดขึ้นมานั้นเป็นรักนิรันดร์

คืนเปลี่ยนแม้วันผ่าน กาลเปลี่ยนปรวนแปร รักเรามั่นคงแน่ มิเปลี่ยนแปรไป

เราหล่อหลอมดวงใจ เป็นหนึ่งเดียวกัน คงจะไม่มีวัน เหินห่างกันไกล

เปี่ยมด้วยความรัก ต่อเธอ

(เพลง รักนิรันดร์ /ปั่น ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว/2528)




ก้องภพเปิดประตูเข้ามา ทันได้ยินเสียงคนที่อยู่ในความคิดคำนึงนั้นกำลังร้องเพลงรัก

เขามองหนุ่มน้อยอย่างสับสน

ตลอดทางจนมาถึงโรงแรม เขานึกย้อนไปถึงวันที่พบเจอสิงขรใกล้ๆบ้านของอาจารย์สักยันต์ที่เขาสงสัยว่า

หนุ่มน้อยไปทำไมแถวนั้น

แม้กระทั่งเมื่อค่ำคืนผ่านมา ที่หนุ่มน้อยในอ้อมกอดตลอดคืนเอ่ยถาม

“ถ้าสมมติว่าวันหนึ่ง พี่ก้องรู้ว่าผมเป็นคนไม่ดี ทำผิดร้ายแรงมาก พี่จะยกโทษและจะยังดีกับผมเหมือนอย่าง

วันนี้ไหม”

จนถึงตอนนี้ เขารู้ถึงสาเหตุที่สิงขรถามแล้ว ขาดแต่ที่มาของคำถามเท่านั้น

ก้องภพเดินมาหยุดหน้าสิงขร แล้วทรุดตัวลงนั่งกับพื้นต่อหน้าหนุ่มน้อย สิงขรยิ้มกว้างอย่างสดใส

“กลับมาแล้วหรือ พี่ก้อง งานเสร็จแล้วหรือ”

ผู้หมวดหนุ่ม สบตาสดใสนั้นอย่างกังขาในความรู้สึกของตัวเอง ร่างอุ่นในอ้อมกอดตลอดคืนยังคงประทับ

อยู่ในความรู้สึก และยังโหยหาอยู่ตลอดเวลา เขาคงจะตัดสินใจได้ไม่ยากถ้าเพียงคนตรงหน้าจะไม่ใช่

“คนใช้เวทมนตร์”

สิงขรสบตาคู่นั้นอย่างสงสัย ทำไมวันนี้คนที่เขาคิดถึงตลอดวันถึงได้ดูแปลก ราวกับเป็นคนแปลกหน้า

“พี่ก้องเป็นอะไรหรือเปล่า พี่ก้อง อุ๊บ..” 

เสียงของหนุ่มน้อยถูกดูดกลืนด้วยริมฝีปากของคนแกร่งกว่า ก้องภพดึงตัวสิงขรมาแล้วบดเบียดริมฝีปาก

อย่างเร่าร้อน สับสน จนสิงขรรู้สึกเจ็บ แต่นั่นก็ยังน้อยว่า ความรู้สึกที่หวิวไหวแทบจะขาดใจ ก่อนที่ผู้หมวด

หนุ่มจะปล่อยให้เป็นอิสระ

ก้องภพยกมือประคองแกมบังคับใบหน้าของสิงขรให้สบตากับเขา

“บอกพี่ที ไม้ ว่าแกเป็นใคร”

หนุ่มน้อยมองสบตาอย่างงงงัน

“อะไร พี่ก้อง พี่เป็นอะไร ถามอะไรอย่างนั้น”

“อย่ามาเฉไฉ” 

ก้องภพตะคอกเสียงดุ

“บอกพี่มาว่าแกเป็นใครกันแน่”

เขาบังคับให้ใบหน้านั้นเข้ามาใกล้เพียงแค่ปลายจมูกกั้น ก่อนที่จะส่งเสียงต่ำหนักถามออกไป

“ทำไมพี่เห็นแก ใช้เวทมนตร์ฆ่าคน”







หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๒ อะไรคือความจริง (๒/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-08-2014 19:44:00
อย่าดราม่านะ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๓ ชะตากรรม (๑๔/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-08-2014 12:55:38


                         Only Love Is Real
       
                            ให้รักนำทาง

                           บทที่13 ชะตากรรม

หัวใจของสิงขรกระตุกวูบ  เขาสบตากับแววตาผิดหวังที่มองมาอย่างไร้เรี่ยวแรง

ในที่สุดก็ถึงวันนี้ วันที่เขารู้ดีว่ามันต้องมาถึง เพียงแต่ไม่คาดคิดว่ามันจะมาเร็วมาก

เร็วมากเสียจนเขายังไม่ได้ดื่มด่ำกับความสุขที่เพียงแค่เริ่มจะเกิดขึ้นในชีวิต

ดวงตาหวานซึ้งบัดนี้แดงเรื่อ เอ่อไปด้วยน้ำตาก่อนที่มันจะหยดไหลรินลงมาผ่านร่องแก้ม

“ผมจำเป็น ถ้าพี่ก้องรู้เหตุผล พี่จะเข้าใจ

หนุ่มตาหวานกัดฟันพูด

“แกก็บอกมาสิว่าอะไรคือเหตุผลของแก พี่จะได้เข้าใจ

ก้องภพตะคอกเสียงดังด้วยความเสียใจ

สิงขรเบือนหน้าหนีไปทางอื่น พยายามกลั้นสะอื้นกลืนน้ำตาลงไปไม่ให้มันไหลออกมาอีก แต่ดูเหมือน

จะยากเต็มที

“ผมบอกพี่ไม่ได้หรอก บอกไปพี่ก็ไม่เข้าใจ

ก้องภพสบถเสียงดัง เขาขยุ้มคอเสื้อของหนุ่มน้อยอย่างโกรธจัด

“บอกไม่ได้หรือว่าไม่กล้าบอกกันแน่ ว่าแกคือลูกหลานของตระกูลเวทมนต์ ที่ทำชั่วมานับพันปี

สิงขรชะงักกับคำพูดประโยคนั้นของก้องภพ เขาหันหน้ามาสบตากับผู้หมวดหนุ่มอย่างสงสัย

เต็มที่แล้วก้องภพควรจะรู้เพียงแค่เขาเป็นฆาตกรฆ่าคน แต่ไม่ใช่กับประโยคที่เขาหลุดพูดมาแน่นอน

ทันทีที่คิดสงสัย เขาท่องมนต์ง่ายๆ ในใจ แล้วสิงขรก็ใช้ฝ่ามือนาบไปกับท่อนแขนของก้องภพอย่าง

รวดเร็ว

ก้องภพสะดุ้งเฮือก ฝ่ามือของสิงขรร้อนฉ่าดังเปลวไฟ ผู้หมวดหนุ่มพยายามสะบัดแขนให้พ้นจากฝ่ามือของ

หนุ่มน้อยแต่ไม่สำเร็จ สิงขรวางมือนิ่งเฉยราวกับทากาวไว้

เมื่อไม่มีทางเลือก ก้องภพกัดฟันเพ่งกระแสจิตแล้วพุ่งพลังตรงไปหาสิงขร จนร่างของหนุ่มน้อยกระเด็นไป

กระแทกกับผนังห้อง

ภายในห้องเงียบสงัดราวกับป่าช้า สิงขรพยุงร่างบางของตนหยัดยืนขึ้นมา เขามองก้องภพอย่างไม่เชื่อสายตา

“เฮ้ย..ไม้ พี่ขอโทษ”

ก้องภพเองก็มองหนุ่มน้อยอย่างเป็นห่วง เขาถลันเข้าไปหาสิงขรหวังจะเข้าไปช่วยประคอง แต่ก็ต้องชะงัก

อยู่กับที่ เมื่อสิงขรยกมือห้าม

“อย่าเข้ามา

สิงขรเอ่ยเสียงแข็ง หนุ่มตาหวานเหยียดตัวตรงเป็นสง่าก่อนเอ่ยถามก้องภพด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“พี่เป็นใครกันแน่พี่ก้อง อย่าบอกผมนะว่าพี่คือคนจากตระกูลที่มันทำลายล้างครอบครัวของผม

จนผมไม่เหลือใคร

ก้องภพยืนอึ้ง เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“ถ้าพี่จะบอกว่า ใช่ ล่ะ

กลับมาเป็นสิงขรที่ยืนอึ้ง น้ำตาที่แห้งเหือดไปได้เพียงชั่วครู่ กลับหลั่งรินลงมาอีกครั้ง

นี่คือ ชะตากรรมของเขา ...ใช่ไหม 

หนุ่มน้อยถามตัวเอง นี่คือกรรมที่ย้อนมาสนองโดยที่ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า

นอกจากจะต้องต่อสู้กับคนที่มีอำนาจเหนือกว่าเพื่อความถูกต้อง เขายังต้องห้ำหั่นกับคนๆนี้ คนที่เขา

เพิ่งรู้ตัวว่า รักสุดใจ

สิงขรมองหน้าสบตาก้องภพอีกครั้งราวกับจะฝังไว้ในความทรงจำให้ขึ้นใจ แล้วค่อยๆก้าวเดินถอยหลังไปที่

ประตูห้อง เมื่อสิงขรเปิดประตูได้ เขาพุ่งตัวออกไปอย่างรวดเร็ว

ก้องภพใจหายวาบ เขาวิ่งพรวดพราดตามออกมานอกห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของหนุ่มน้อย

“ไม้ ไอ้ไม้ โว้ย!!”

ก้องภพโมโหแทบเป็นบ้า  เขาวิ่งตามหาสิงขรจนมาหยุดยืนอยู่กลางถนนหน้าโรงแรม รถยนต์ที่ขับผ่านไป

มาต่างก็เบรกและบีบแตรไล่แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอ

“ไอ้ไม้

ก้องภพตะโกนขึ้นฟ้าอย่างเจ็บปวด






ก้องภพเดินคอตกกลับเข้าห้อง ยิ่งเมื่อเห็นสภาพที่ยังมีข้าวของของสิงขรรวมไปถึงกีตาร์ตัวเก่งตัวนั้น แล้ว

เขาก็หมดเรี่ยวแรงเอาดื้อๆ

เขาทรุดตัวลงนั่งตรงจุดที่หนุ่มน้อยนั่งเล่นกีตาร์อยู่เมื่อสักครู่นี้ แล้วถอนหายใจ

นี่คือชะตากรรมของเขา

เขาคงต้องยอมรับกับภาระที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด 

สายตาเหลือบไปเห็นกองกระดาษมากมายที่เป็นผลงานของสิงขร เขาหยิบมันขึ้นมาพิจารณาทีละใบ

มีทั้งใช้ได้บ้าง ใช้ไม่ได้บ้างแล้วเขาก็เจอใบหนึ่ง ใบที่สมบูรณ์ที่สุด ก้องภพมองแล้วค่อยๆคิดตาม

มันเหมือนแผนที่ผสมลายแทง เป็นรูปภูเขาและทางเดินพร้อมทั้งตัวอักษรตัวเล็กที่อธิบายประกอบไว้

จนกระทั่งถึงจุดหมายที่เป็นถ้ำอยู่ในภูเขาสูง

ชายหนุ่มนึกถึงตอนที่เขาถามสิงขรว่ามาที่จังหวัดนี้ทำไม

“มาตามหาของที่หาอยู่

คำตอบดูคลุมเครือเสียเหลือเกิน

แล้วก้องภพก็นึกขึ้นได้ถึงตำนานในหนังสือเก่าแก่ของตระกูลที่เคยอ่านจนขึ้นใจ





...สำหรับผู้นำนั้นมีความเชื่อว่า ทุก 500 ปีจะมีผู้มีบุญญาบารมีมาเกิด คนผู้นั้นจะเป็นผู้นำที่

ยิ่งใหญ่ เมื่อผู้นำคนนั้นอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์จะต้องประกอบพิธีกรรมลับ พร้อมกับ

ของศักดิ์สิทธิ์ที่จะปรากฏขึ้นเมื่อผู้นำคนนั้นพร้อมเต็มที่ ..

..และหากวันใดที่ผู้นำประกอบพิธีกรรมสำเร็จ จะเกิดอาเพศยิ่งใหญ่แก่บ้านเมือง...






สมองของก้องภพแล่นวาบ นี่คือสิ่งที่สิงขรต้องดั้นด้นมาตามหา มันอยู่ในป่าบนภูเขาสูงแถบนี้เอง

ชะตากรรมสินะ

ผู้หมวดหนุ่ม เยาะเย้ยตัวเองในใจ เขาและสิงขรจึงได้เจอกันบ่อยครั้งเกินจำเป็นเพื่อที่จะให้

เขารู้ว่า คนที่เขาต้องกำจัดคือคนๆนี้

ก้องภพพลิกกระดาษไปจนถึงแผ่นสุดท้าย เขาก็ต้องอึ้ง

มันไม่ใช่ภาพลายแทงหรือแผนทิศเหมือนแผ่นอื่น แต่มันเป็นภาพสเก็ตใบหน้าคนที่ต่อให้คนตามัวคนไหน

มามอง ก็ต้องมองออกว่าเป็นตัวเขา

เป็นภาพก้องภพ ที่ยิ้มอย่างยียวนที่เขาทำบ่อยๆ เวลาอยู่กับหนุ่มน้อย 

ก้องภพพยายามควบคุมมือที่สั่นเทาก่อนจะพลิกไปดูข้างหลังกระดาษแผ่นนั้น

                           
                           “รักนิรันดร์


ลายมือสวย เป็นระเบียบ เขียนไว้ลอยๆอยู่กลางแผ่นกระดาษ ก้องภพใช้ปลายนิ้วลูบไปที่ตัวอักษรนั้น ราวกับ

จะเรียกให้คนเขียนมาอยู่ใกล้ๆ

ก้องภพกลั้นสะอื้น เขานำกระดาษแผ่นนั้นมาแนบที่หน้าอก เหมือนหวังว่ามันจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดที่

ท่วมท้นขึ้นมาอย่างมหาศาล



แค่สามพยางค์ในกระดาษ มันทำให้เขามั่นใจในความรู้สึกของตนเองที่มีต่อสิงขรแล้วว่ามันคืออะไร

แค่สามพยางค์ในกระดาษ มันทำให้เขารู้ว่า ต่อให้ชะตากรรมเป็นอย่างไร แต่เขาจะลุกขึ้นสู้เพื่อเปลี่ยนแปลง

ชะตากรรมที่เลวร้ายนั่นให้ได้

ก้องภพก็พับกระดาษภาพใบหน้าตนและแผ่นแผนที่อย่างดี เขายันตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เพื่อลุกไปเก็บของ

เตรียมเดินทาง

เดินทางไปต่อสู้กับชะตากรรมของเขา



หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๓ ชะตากรรม (๑๔/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 14-08-2014 16:32:05
ก้องภพสู้ๆนะ
อ่านเจอครั้งแรก เนื้อเรื่องน่าติดตามมากๆ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๓ ชะตากรรม (๑๔/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 14-08-2014 22:16:41
ไม้น่าจะอธิบายก่อนนนนนน
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-08-2014 22:37:19

                          Only love is Real

                               ให้รักนำทาง

                               บทที่14 อันตราย


สิงขรพุ่งสายตาตรงไปข้างหน้าอย่างแน่วแน่

ภาพที่เห็นคือ ขุนเขาสลับซับซ้อนกว้างใหญ่ไพศาลราวกับต้นไม้ใหญ่น้อยเหล่านั้นจะกวักมือร้อง

เรียกให้เขาก้าวเข้าไป เพื่อตามหาสิ่งสำคัญ

หนุ่มน้อยหลับตาลงระลึกถึงเจ้าป่าเจ้าเขา ตั้งจิตอธิษฐาน แล้วเขาก็ก้าวตรงเข้าไปในป่าลึก

กระเป๋าเป้สะพายหลังบอกให้รู้ว่าสิงขรพร้อม แค่ไหนสำหรับการเดินทางครั้งสำคัญนี้กับสิ่งที่หอบ

หิ้วมา ทั้งของกินและน้ำดื่ม เขามั่นใจว่าจะสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยสิ่งที่เตรียมมาและบวกกับ

เวทมนตร์ที่มี

แล้วก้าวเดินครั้งสำคัญก็เริ่มต้น สิงขรเริ่มต้นการเดินสู่ผืนป่าดงดิบผืนใหญ่ของประเทศเพียงลำพัง

เดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ

การอยู่เพียงลำพังทำให้สมาธิกระเจิดกระเจิงได้มาก หนุ่มน้อยนึกย้อนไปถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาที่

ต้องแยกทางเดินกับชายผู้นั้น ชายคนที่ทำให้หัวใจของเขาพองโตราวกับลูกโป่งยักษ์ แต่มันก็

แตกดับอย่างรวดเร็วและรุนแรงเพียงเพราะต่างคนต่างรู้ถึงความจริงที่อีกฝ่ายปิดบังไว้

น้ำตาไหลลงมาหนึ่งหยด สิงขรรีบใช้หลังมือป้ายมันออกไป และบอกกับใจตัวเองว่า ที่มันไหล

ออกมา เป็นเพราะเขาเหนื่อยจากการเดินตลอดทั้งวัน

หาใช่เป็นเพราะคิดถึงก้องภพ

ตะวันเริ่มอ่อนแรงโรยรา บรรยากาศเย็นเยียบมาเยือนอย่างรวดเร็ว ด้วยเป็นช่วงปลายปีทำให้

กลางวันสั้นนัก สิงขรเริ่มหยุดยืนอย่างอ่อนล้า กระเป๋าเป้ที่หิ้วมาหนักอึ้งราวกับน้ำหนักมันจะ

เพิ่มขึ้นได้

เขารู้สึกเมื่อยขบไปหมดทั้งขาและไหล่บาง หนุ่มน้อยวางมันลงกับพื้นก่อนที่กวาดสายตามอง

โดยรอบ

หนุ่มใช้เวทมนตร์ชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่างส่องแสงแวววาวเป็นจุดคู่กัน อยู่ไกลออกไปไม่มาก

และดูเหมือนมันจะเคลื่อนที่เข้ามาเงียบๆ ในความมืด

สิงขรหนาวเยือกไปทั่วสันหลัง บอกได้ทันทีว่ามันคือแววตาของสัตว์ร้ายในป่าใหญ่ เขามองสบตาคู่

นั้นไว้ พลางเดินถอยหลังช้าๆ

แต่ดูเหมือนเจ้าของแววตาคู่นั้นจะไม่ยอมแพ้ มันเคลื่อนที่มาเรื่อยๆ จนกระทั่งปรากฏตัวต่อหน้า

สิงขร

หนุ่มน้อยใจหายวูบ มันคือเสือลายพาดกลอนตัวเขื่อง ที่ดูท่าจะหิวโซ เจ้าตัวลายเดินนิ่งสงบตรงมา

ทางเขาเรื่อยๆ  สิงขรสบตากับเจ้าตัวลายอย่างตื่นตระหนก ณ วินาทีนี้ เขานึกไม่ออกเลยว่าจะค้นหา

เวทบทใดมาต่อสู้กับสัตว์หน้าขนดุร้ายเยี่ยงนี้

สิงขรค่อยๆก้าวไปด้านหลังอย่างหวาดกลัวอีกครั้ง และก้าวเดินครั้งนี้ เขาพลาด!

หนุ่มน้อยพลาดไปเหยียบกิ่งไม้แห้งกิ่งใหญ่ มันทำให้เขาเสียหลักหงายหลังลงไปกับพื้น

และวินาทีนี้เองที่นักล่ามืออาชีพไม่ปล่อยให้พลาด

เจ้าตัวลายตัวเขื่อง โดดกระโจน มากลางอากาศเพื่อตะครุบเหยื่อ สิงขรหลับตาแน่นทำใจรับสภาพ

เลวร้ายที่จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที

ปังงงง

เสียงระเบิดของอะไรบางอย่างดังขึ้นใกล้ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงร้องของสัตว์หน้าขนตามมา หนุ่ม

น้อยลืมตามองอย่างตกใจ

เจ้าตัวลาย มีเลือดออกที่สีข้าง ดูมันอ่อนแรงลง แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์ มันค่อยๆพยุงตัวขึ้นยืนและเบน

เป้าหมายใหม่อย่างโกรธเกรี้ยว สิงขรมองตามไปที่ต้นเหตุแล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่าเดิม

ผู้ชายที่อยู่ในความคิดคำนึงตลอดการเดินทางในป่าใหญ่ ปรากฏตัวอย่างไม่คาดคิด เขายืนจังก้าถือ

ปืนพกในอุ้งมืออย่างทะมัดทะแมง จ้องตรงไปที่เจ้าลายพาดกลอนตัวนั้นอย่างไม่ให้คลาดสายตา

เจ้าลายเดินตรงมาหาเขาอย่างอาฆาต ก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่ศัตรูอีกครั้ง

สิงขรแทบไม่เชื่อสายตากับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง

เสือลายพาดกลอนตัวเขื่อง ลอยหยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ  ก่อนที่ก้องภพจะเหนี่ยวไกปืน ยิงเข้าที่กลาง

ระหว่างดวงตาคู่นั้นเข้าเต็มๆ

แล้วเจ้าเสือตัวนั้นก็ตกลงมากระแทกพื้นเสียงดังสนั่น นิ่งสงบ ก้องภพยังไม่ไว้วางใจ

เขาก้าวเดินและใช้ปืนเล็งอย่างระมัดระวังไปที่เจ้าลายตัวนั้น ก่อนที่จะใช้เท้าเขี่ยเพื่อตรวจสอบให้

มั่นใจเมื่อเห็นว่าสัตว์ร้ายตายสนิท ผู้หมวดหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วเก็บปืนเข้าที่เอว ก่อน

หันขวับมาทางสิงขร







สิงขรสะดุ้งโหยงเมื่อสบตากับแววตาโกรธเกรี้ยว บึ้งตึงคู่นั้น ให้เขาจ้องกับเสือเสียยังดีกว่าต้องมา

มองตากับคนที่เดินย่างสามขุมเข้ามา และทรุดตัวลงนั่งอยู่เบื้องหน้าของเขา

ก้องภพเอื้อมมือมาบีบคางสิงขร

รู้สึกเจ็บจนสิงขรต้องนิ่วหน้า ส่วนอีกมือก้องภพกระชากต้นแขนของหนุ่มน้อย ให้ลุกขึ้นมายืนต่อ

หน้าเขา

“ทำอะไรลงไปรู้ตัวบ้างไหม ถ้าพี่มาไม่ทันผลมันจะเป็นยังไง

ก้องภพตวาดเสียงดังจนสิงขรตัวสั่น ตอนนี้คนที่เขาคิดถึงน่ากลัวยิ่งกว่าเสือเสียอีก

“คิดจะเดินทางเข้าป่าทั้งที่ไม่เคย ดูสิ ทิ้งรอยไว้เต็มไปหมด อาวุธก็ไม่มี แล้วก็รู้อยู่ว่าตัวเองซุ่มซ่าม

แค่ไหน รู้บ้างไหมว่าพี่เป็นห่วง

สิ้นสุดคำนั้น มือที่บีบคางหนุ่มน้อยอยู่ก็ดึงใบหน้าเข้ามาใกล้ ส่วนมือที่กระชับต้นแขนไว้นั้นก็

เปลี่ยนมาเป็นเหนี่ยวตัวหนุ่มน้อยเข้ามาแนบแน่น  แล้วก้องภพก็บดริมฝีปากลงไปบนปากนุ่มนั้น

รวดเร็วและรุนแรงราวกับจะเป็นการลงโทษเด็กดื้อ อุ้งมือที่กระชับบนคางเรียวบังคับไม่ให้สิงขร

หนีหน้าไปกับบทลงทัณฑ์นั้น และยิ่งคนที่แกร่งกว่าใช้ขาข้างหนึ่งเข้าเกี่ยวล็อคเบียดแน่นกับท่อน

ล่างของสิงขรไว้ เท่านี้หนุ่มน้อยก็ดิ้นไม่หลุด

จุมพิตรุนแรงยาวนานจนสิงขร เจ็บที่ริมฝีปากไปหมด กว่าที่ก้องภพจะคลายความโกรธขึ้งลง แล้ว

เขาก็เพิ่มความเรียกร้องไปกับจุมพิตนั่น มือที่บีบคางคลายความแน่นเหนียว เขาเปลี่ยนมือนั้นมาวาง

แนบแก้มเนียนอย่างเบามือ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปวางแนบที่ต้นคอหนุ่มน้อยแล้วกระชับให้รับกับ

ปลายลิ้นอุ่นที่เปิดทางเข้าไปซอกซอนในช่องปากของสิงขร

มาถึงตอนนี้ สิงขรมืออ่อนเท้าอ่อนไปหมดกับความหวานที่ได้รับจากก้องภพอย่างกระทันหัน จน

แทบจะหมดแรงไปกองกับพื้น

ก้องภพค่อยๆ ถอดถอนริมฝีปากตัวเองอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนที่จะใช้สองมือประคองใบหน้าสิงขรไว้ให้

สบตากับเขา ผู้หมวดหนุ่มใช้หน้าผากตนเองไปชิดกับหน้าผากของสิงขร

“เจ้าไม้บ้า แกรู้ไหมว่าพี่เป็นห่วงแค่ไหน จะหนีมาเพื่ออะไร ทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อน

เขาพูดเบาๆ กับใบหน้าที่ใกล้ชิดนั้น

สิงขรได้ยินน้ำเสียงอบอุ่นแล้วก็อดไม่ได้ ที่ขอบตาจะร้อนผ่าว ไปด้วยความปวดใจ

“พี่ก้องจะตามมาทำไม พี่ก็รู้ความจริงแล้วไม่ใช่หรือว่าผมเป็นใคร ทำเลวไว้แค่ไหน ฆ่าคนตายไปกี่

คนแล้ว พี่จะสนใจผมทำไม

“พี่รู้ว่าแกฆ่าคนตาย แต่ที่พี่สัมผัสได้จากตรงนี้

ก้องภพวางมือไปบนหน้าอกข้างซ้าย ซึ่งเป็นที่ตั้งของหัวใจสิงขร

“พี่รู้ว่าแกไม่ได้เลวโดยสันดาน ถึงได้ตามมาถามหาสาเหตุว่าแกทำเพื่ออะไร แล้วอีกเหตุผลหนึ่งก็

คือ...

ก้องภพปล่อยสิงขรให้เป็นอิสระจากอ้อมกอด แล้วล้วงไปหยิบภาพวาดที่พับอย่างดีในกระเป๋าเสื้อ

แจ็คเก็ตมาคลี่ต่อหน้าหนุ่มน้อย

“พี่จะมาถามคนวาดรูปนี้ ว่าเขาคิดกับคนในรูปอย่างที่เขาเขียนไว้ด้านหลังจริงหรือเปล่า

ก้องภพถาม ก่อนที่จะพลิกให้เห็นข้อความด้านหลังภาพ ที่มีคำว่า  “รักนิรันดร์”










หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-08-2014 23:02:46
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-08-2014 18:24:37
สองคนช่วยกันมันต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้สิ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 19-08-2014 19:18:38
จะเข้าใจกันแล้ว
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: seraty ที่ 23-08-2014 13:57:16
สนุกๆๆๆๆมาต่อไว๐ๆๆๆๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 23-08-2014 14:30:08
กรี๊ดดดดดดด ใกล้ไคลแม็กแล้วหรือยังค่ะ ตกลงสิงขรก็ต้องการมากำจัดฝาแฝดที่คิดจะทำผิดใช่ไหมค่ะ  :hao4: :hao4:
ร่วมมือกับก้องภพเลยสิงขร  :n1: แล้วกำจัดคนนั้นทิ้งไปซะ
อยากเห็นทั้งคู่  :hao6:  :hao6: กันสักที

 :katai5: :katai5: :katai5:

รออ่านอยู่ค่ะ สนุกมากกกกกก  :impress2: :impress2:

สงสารชะตากรรมของทั้งคู่  :mew4:

แต่ปัจจุบันสร้างใหม่ได้นะ  :mew1: ลบเรื่องราวเลวร้ายในอดีตลงซะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 23-08-2014 20:43:56
อร๊าย  พีเรียดแบบนี้.... จัดมาเลยค่ะ เขินนนนนน
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๔ อันตราย (๑๘/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 24-08-2014 14:50:46
 :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๕ คืนนี้ (๒๕/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-08-2014 15:52:27


                          OnLy Love is Real

                              ให้รักนำทาง

                            บทที่ 15 คืนนี้


ผืนฟ้ากว้างแปลงร่างเป็นพรมสีดำมืด ระยิบระยับดารดาษไปด้วยดวงดาวที่แข่งกันอวดแสงพราวตา

หยอกล้อกับดวงจันทร์เพียงครึ่งดวงที่ลอยโผล่พ้นตีนฟ้า

เปลวไฟสีแดงส้มยังคงคุโชนอยู่ภายใต้ผืนป่าใหญ่ นอกจากจะเอาไว้ย่างเนื้อเสือที่ก้องภพเฉือนแบ่งมาแล้ว 

ยังช่วยคลายความหนาวเหน็บให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง

ผู้หมวดหนุ่มส่งเนื้อที่ย่างจนสุกได้ที่ส่งให้สิงขร แต่หนุ่มน้อยเบ้ปากพลางสั่นหน้า

“ไม่เอา พี่ก้อง มันเหม็นสาบ ผมไม่เคยกิน

ก้องภพยกนิ้วขึ้นมาดีดมะกอกที่หน้าผากหนุ่มน้อย ก่อนเอ็ดเบาๆ

“ไม่เคยกินก็ต้องกิน เดินมาทั้งวันแล้วต้องกินให้มีแรง คนอะไรจะมาเดินป่าก็เตรียมตัวมาไม่พร้อมไหนดูซิ

เตรียมอะไรมาบ้าง

ก้องภพยัดเยียดกิ่งไม้ที่เสียบกับเนื้อเสือย่างใส่มือหนุ่มน้อย แล้วถือวิสาสะหยิบเป้ของสิงขรมาเปิดดูสัมภาระ

ข้างใน

“เฮ้ย! ไม้ แกเอาอะไรมาเยอะแยะแต่มันไม่เหมาะกับการเดินป่าเลยว่ะ นี่อะไร ปลากระป๋อง  ขนมปัง

น้ำผลไม้ มันก็โอเคแหละนะ แต่ว่า..

เขาหันไปมองหนุ่มน้อยอย่างเอ็นดู

“แกรู้ไหม ความเหนื่อยล้าจากการเดินในป่า จะทำให้ข้าวของที่แบกอยู่ มันเหมือนมีน้ำหนักเพิ่มอีกสิบ

เท่าตัว

สิงขรพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ พลางใช้มือค่อยๆ ฉีกเนื้อเสือมาดมๆ ก่อนจะส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวหนึบๆ

หนุ่มน้อยจึงรู้ตัวเองว่าหิวโหยเพียงใด เมื่อเขากินมันเรื่อยๆจนเกือบหมดไม้

ก้องภพส่งกระบอกน้ำมาให้ เมื่อสิงขรทำท่าเหมือนเนื้อจะติดคอ หนุ่มน้อยมองอย่างขอบคุณแล้วยกขึ้นดื่ม

อย่างกระหาย

“พี่ก้องตามผมมาถูกได้ยังไง

หนุ่มน้อยเอ่ยถาม ก้องภพจึงควักแผนที่ ที่สิงขรเขียนไว้มาให้ดู

“พี่พยายามแกะจากแผนที่ที่แกเขียนไว้ จนเดาไว้ว่ามันคือแถวนี้ แล้วก็ลองตามรอยแก ซึ่งไม่ยากเลย

ก้องภพเอื้อมมือไปโยกหัวสิงขร ก่อนดึงตัวให้มานั่งใกล้เขา

“แกทิ้งรอยไว้เยอะเลย ทั้งกิ่งไม้ที่เหยียบ ทั้งเศษถุงขนมที่แกกินแล้วโยนทิ้งไว้ตามทาง จนพี่มาเจอแกกำลัง

เล่นอยู่กับไอ้ลายนี่แหละ

“พี่ทำงานอะไร บอกผมได้ไหม

อยู่ๆ สิงขรก็ถามอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย จนก้องภพชะงัก

“ผมสงสัยตั้งแต่พี่มาตามหาคนสักยันต์แล้ว ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่จะเชื่อเรื่องนี้

ก้องภพถอนใจก่อนตอบ

“พี่เป็นตำรวจ มาทำคดีคนตายที่ถูกเสกตะปูเข้าท้อง” 

คำตอบนั้น ทำให้สิงขรหน้าเผือดลง

“แล้วพี่จะจับผมไหม เมื่อพี่รู้แล้วว่าเป็นผม

ก้องภพถอนหายใจอีกครั้งก่อนที่จะหันไปสบตากับตาคู่หวานนั้น

“พี่ไม่รู้หรอกว่าต้องจับแกหรือเปล่า แต่ตอนนี้เราหยุดมันไว้ก่อนได้ไหม

ผู้หมวดหนุ่มถอดเสื้อแจ็คเก็ตออก แล้วนำมันไปคลุมบนไหล่บางของสิงขร  ก่อนจะดึงตัวให้หนุ่มน้อยมา

นั่งชิดใกล้จนไหล่เกยกัน ก้องภพใช้แขนโอบบ่าคู่นั้นไว้

“ยังไม่ตอบเลยว่าคิดยังไงที่วาดรูปพี่ แล้วเขียนคำนั้นไว้

เพียงแค่ก้องภพเริ่มต้นที่จะรุก สิงขรก็รู้สึกร้อนซู่ไปทั่วใบหน้าราวกับจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

“โอ๊ย..จะถามอะไรนักหนานะ

หนุ่มตาหวานแสดงออกโดยการโวยวายขึ้น แล้วพยายามจะแกะมือของก้องภพให้พ้นจากการเกาะเกี่ยว

ผู้หมวดหนุ่มได้แต่หัวเราะแล้วก็ยิ่งกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น

“ถ้าไม่บอก พี่ไม่ปล่อยจริงๆด้วย เร็วบอกมา

ก้องภพก้มหน้างุด ข่มความเขินอายไว้ แล้วพยักหน้าน้อยๆ

“ก็อย่างนั้นแหละ

เขาพูดเบาๆ 

“อย่างที่เขียน

“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย

ก้องภพยิ้มกริ่ม ก่อนที่จะแกล้งแซวเสียงดัง

“โอ๊ย..ไอ้พี่ก้อง

หนุ่มน้อยชักมีโมโหสะบัดตัวออกจากการโอบ ก้องภพรีบดึงสิงขรให้กลับมาท่าเดิม

“พี่ขอโทษ ไม่แซวแล้ว ดีกันนะ

ก้องภพพูดก่อนยิ้มอย่างอบอุ่น

“แล้วพี่คิดยังไง

สิงขรหักห้ามความเขินอาย ก่อนหันไปมองคนข้างๆ แล้วเอ่ยถาม

“ตอนแรกก็ไม่มั่นใจว่ารู้สึกยังไง แต่ตอนนี้ดีใจ

ชายหนุ่มหันไปหอมที่ขมับของคนด้านข้าง

“ดีใจที่รู้ว่าเราคิดตรงกัน

เขาโอบกระชับไหล่บางไว้ให้คลายหนาว

“พี่ขออะไรอย่างได้ไหม

เขาหันไปถามคนข้างๆ สิงขรหันมามองเป็นเชิงสงสัย

“ขอให้วันนี้เราวางทุกอย่างไว้ ทั้งเรื่องหน้าที่ ความรับผิดชอบและสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปไว้ก่อนแล้วขอให้

เหลือแค่เราสองคนเหลือแค่พี่ก้องกับไม้แค่นี้ได้ไหม

สิงขรสบตากับดวงตายาวรีอบอุ่นคู่นั้น ก่อนพยักหน้าให้อย่างเต็มใจ

ก้องภพยิ้มตอบ ก่อนจะดึงร่างที่บางกว่าให้เข้ามาซึมซับความอบอุ่นของอ้อมกอด สิงขรโอบกอดร่างนั้น

อย่างโหยหาความอบอุ่น แล้วนิ่งอยู่ในท่านั้น

เปลวไฟสีส้มแดง ค่อยๆมอดไหม้ไปตามแรงของฟืนที่ลดน้อยลง เหลือแต่ควันคุกรุ่นที่ลอยขึ้นสู่เบื้องบน

เหลือทิ้งไว้แต่บรรยากาศหนาวเย็น

แต่ก้องภพกับสิงขร กลับไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นนั้นเลย เมื่อความอบอุ่นนั้นได้บังเกิดขึ้นในหัวใจของคน

สองคน



















หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๕ คืนนี้ (๒๕/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 25-08-2014 18:22:20
แวะมาให้กำลังใจคนเขียนจ้า  จุ๊บุ ๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๕ คืนนี้ (๒๕/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-08-2014 20:07:28
อ่านแล้วเขิลดี
ไม้นี่โก๊ะจริงๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๕ คืนนี้ (๒๕/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-08-2014 20:51:07
แล้วอีกคนเป็นใครฝาแฝดเหรอ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๖ สิ่งที่ต้องการ (๓๑/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-08-2014 22:29:11

                     Only Love is real

                         ให้รักนำทาง

                       บทที่ 16 สิ่งที่ต้องการ


สิงขรยืนนิ่งก่อนจะปาดเหงื่อที่ลำคออย่างเหน็ดเหนื่อย แม้จะเป็นวันที่ใกล้จะล่วงเข้าปีใหม่ที่อากาศเย็น

เยือก แต่บนเขาสูงตอนบ่ายจัดกลับร้อนระอุ

“พี่ก้องหยุดก่อนเถอะ

หนุ่มน้อยร้องเรียกผู้หมวดหนุ่มที่เดินนำหน้าอยู่ไม่ไกล ก้องภพหันกลับมาเห็นสิงขรหยุดนิ่ง เขาจึงเดินย้อนกลับ

มาหา

“เป็นอะไร เหนื่อยมากเลยหรือ พักดื่มน้ำก่อนไหม

เขาถามสิงขรอย่างเป็นห่วง พลางยื่นกระติกน้ำส่งให้ 

สิงขรรับกระติกน้ำมาแล้วค่อยๆยกขึ้นจิบช้าๆ อย่างที่ก้องภพเคยสอนไว้ ว่าไม่ควรดื่มน้ำเร็วและเยอะเกินไป

เมื่อกระหายน้ำกลางป่าก่อนที่เขาจะทอดสายตาไปยังเทือกเขากว้างใหญ่

“ผมว่าเรามาผิดทางกันหรือเปล่า ผมรู้สึกคุ้นๆว่า ตรงนี้เมื่อวานเราก็มา

หนุ่มน้อยเอ่ยขอคำปรึกษา สิงขรมองไปรอบๆ

“พี่ก็ว่าคุ้นๆนะ แต่ถ้าเรามาตามที่แกวาดไว้ มันก็น่าจะใกล้ถึงถ้ำที่แกจะมาแล้ว แต่นี่ทำไมยังไม่ถึง

หนุ่มน้อยนิ่งคิด ในโลกของไสยศาสตร์ที่เขาคุ้นเคย มันมีอะไรมากมายกว่าที่ก้องภพรู้มากนัก

“ผมว่า เราเดินซ้ำทางเดิมแล้วพี่ก้อง

เขารำพึงเบาๆ แต่ก็ทำให้ก้องภพขมวดคิ้วนิ่งคิด

สิงขรถอนหายใจ ก่อนหลับตาลงแล้วตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บอกกล่าวถึงความจำเป็นต้องดั้นด้น

มาถึงที่นี่ เขาเชื่อว่าความตั้งใจดีของเขาจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปในทางที่ดี



ทันทีที่สิงขรลืมตาขึ้น สิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้หนุ่มน้อยยิ้มได้อย่างพอใจ ต่างจากก้องภพที่ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อ

เห็นภาพตรงหน้า

ต้นไม้ใหญ่ขนาดหลายคนโอบหลายต้น ค่อยๆเคลื่อนย้ายตัวเอง ราวกับภาพสามมิติ เผยให้เห็น ภูเขาสูง

ขนาดย่อม ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าโดดเดี่ยวแยกห่างจากภูอื่นๆในเทือกเขา

ผู้หมวดหนุ่มก้มลงมองแผนที่ในมือ สลับกับภูเขาลูกนั้น ขึ้นๆลงๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อภูเขาลึกลับ

ที่ปรากฏขึ้นเติมเต็มให้รูปในแผนที่นั้นสมบูรณ์แบบ

“เฮ้ย เป็นไปได้ยังไงวะ

ก้องภพสบถออกมา สิงขรก้าวมายืนเคียงข้าง

“ไม่มีอะไรหรอกพี่ก้อง แค่เจ้าป่าเจ้าเขาบังตาจนเราเดินทางช้าไปสามสี่วันเองพี่ ไป เถอะ เสียเวลามาหลาย

วันแล้ว เร่งกันหน่อย

หนุ่มน้อยตบไหล่คนที่ยืนข้างกายพลางชักชวนให้ก้าวเดินต่อไป






ก้องภพและสิงขรเดินทางมาถึงปากถ้ำเมื่อแสงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้วน่าแปลกที่เมื่อยืนอยู่ตรงจุด

นี้ เสียงหรีดหริ่งเรไรที่เคยร้องลั่นดังก้องป่ากลับสงบเงียบ จนวังเวง

ก้องภพสบตากับสิงขรเป็นเชิงถาม ว่าหนุ่มน้อยจะทำเช่นไรต่อเมื่อมาถึงที่นี่

“ผมจะเข้าไป

สิงขรตัดสินใจ

“รอเช้าไม่ดีกว่าหรือ เข้าไปตอนนี้มันอันตรายนะ

ก้องภพทักท้วง

“ไม่ได้หรอกพี่ก้อง ต้องตอนกลางคืนอย่างนี้แหละ เหมาะแล้ว

สิงขรล้วงหยิบไฟฉายในกระเป๋าเป้ มาส่องเข้าไปภายในถ้ำ แล้วก้าวเดินนำไปด้านใน



ภายในถ้ำมืด และอับชื้นมีเพียงแสงไฟฉายของสิงขรที่ส่องแสงนำทาง

จนก้าวล่วงมาถึงกลางถ้ำที่กว้างกว่าส่วนที่เขาทั้งสองเดินผ่านมา หยดน้ำเล็กๆ หยดลงมาอย่างสม่ำเสมอ

จนส่วนหนึ่งของถ้ำเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อมและปรากฏหินย้อยส่องแสงล้อเล่นกับแสงไฟในมือสิงขร

หนุ่มน้อยมองไปรอบๆถ้ำ ก่อนจะหลับตาลงทำสมาธิ แล้วท่องอะไรบางอย่างที่ก้องภพไม่เข้าใจออกมา

แผ่วเบาแทบจับใจความไม่ได้ แล้วเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกครั้ง

สิงขรเดินตรงไปที่ผนังถ้ำด้านหนึ่ง โดยมีก้องภพเดินตามไปอย่างใกล้ชิด สิงขรจ้องไปที่ผนังพลางส่อง

ไฟฉายไปที่จุดๆหนึ่ง แล้วก็เกิดรอยยิ้มพึงใจ

มันคือของเหลวข้นเหนียวปริมาณเพียงเล็กน้อยติดหนึบอยู่ที่ผนังถ้ำ เมื่อส่องไฟไปมันส่องแสงเป็นสีเขียว

ใสแวววาวคล้ายสีปีกแมลงทับ  ก้องภพแทบไม่เชื่อสายตา

“ไม้ อย่าบอกนะว่าที่แกบากบั่นมาถึงนี่เพราะไอ้เจ้าสิ่งนี้

ผู้หมวดหนุ่มหลุดคำพูดออกมา

ของเหลวเหนียวข้นเหมือนมีชีวิตเมื่อได้ยินเสียงก้องภพ มันขยายตัวขึ้นเล็กน้อยก่อนส่องแสงเขียวสดขึ้นราว

กับไม่พอใจ ยิ่งเมื่อผู้หมวดหนุ่มทำท่าจะเข้าไปจับ มันทำท่าจะซึมหายเข้าไปในผนังถ้ำ

“พี่ก้อง อย่าทำอย่างนั้น

หนุ่มน้อยรีบห้ามเสียงหลง ก่อนจะค้นหยิบกล่องใบน้อยออกมาจากเป้อย่างรวดเร็ว

กล่องใบน้อยมีฝาปิด และที่ฝามีอักขระโบราณที่ก้องภพอ่านไม่ออก สิงขรเปิดฝามันออกแล้วท่องมนตร์

เบาๆ ก่อนที่จะยื่นแขนให้กล่องใบน้อยอยู่ใต้ของเหลวเหนียวข้นนั้น

ก้องภพแทบจะตาเหลือกกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้าของเหลวสีเขียว ค่อยๆไหลลงมาเข้าสู่ภายในกล่องด้วยตัวของ

มันเองจนหมด  แล้วสิงขรก็ปิดฝายิ้มกริ่ม

“ไอ้ไม้ แกบอกพี่มาที ว่าสิ่งที่แกตามหามันคืออะไร

หนุ่มน้อยหันไปสบตากับก้องภพ

“เราเรียกว่า เหล็กไหล ขอรับพี่ก้อง









สิงขรค่อยๆ เดินลงจากปากถ้ำอย่างอารมณ์ดี เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ต้องการโดยมีก้องภพเดินตามมาติดๆ 

ป่ากว้างไม่ได้มืดมิดนักเมื่อออกมาจากถ้ำ เนื่องด้วยแสงจันทร์ดวงใหญ่เกือบเต็มดวงนั้นส่องแสงสกาวไปทั่ว

ป่าแต่เมื่อเดินลงไปได้เพียงครึ่งทาง เขาก็ต้องชะงักงันและขนลุกเย็นวาบไปตั้งแต่หัวจรดเท้าเมื่อเงยหน้า

เห็นเงาร่างที่ยืนขวางทางอยู่ไม่ไกลในความมืด

ก้องภพที่เดินตามมาหยุดเกือบไม่ทัน และเมื่อเขาเงยหน้ามองก็เป็นอีกคนที่นิ่งอึ้ง

“เฮ้ย อะไรอีกวะเนี่ย

ก้องภพอุทานอย่างไม่เชื่อสายตา

หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๕ คืนนี้ (๒๕/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: hewlett ที่ 31-08-2014 22:34:57
ตามมาอ่านอีกเรื่อง โพสต์ได้ยาวดีจัง ขออ่านก่อนนะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๖ สิ่งที่ต้องการ (๓๑/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 31-08-2014 23:14:16
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๖ สิ่งที่ต้องการ (๓๑/๘/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-09-2014 19:24:00
ลุ้น :ling2:
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๗ ปะทะ ( ๕/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-09-2014 11:53:48


                      Only love is real

                         ให้รักนำทาง

                       บทที่ 17 ปะทะ


ร่างโปร่งบางคุ้นตาในชุดดำกลมกลืนกับความมืดค่อยๆก้าวเดินมาช้าๆ และเมื่อมาหยุดยืนในที่โล่ง

แสงจันทร์ที่พาดผ่านทำให้มองเห็นใบหน้านั้นชัดเจนขึ้น

ก้องภพถึงกับนิ่งอึ้ง และมองหน้าบุคคลที่มาใหม่กับคนที่ยืนเคียงข้างสลับไปมา

จะไม่ให้ผู้หมวดหนุ่ม ประหลาดใจได้อย่างไร ในเมื่อสองคนนี้หน้าตาราวกับพิมพ์เดียวกัน

เพียงแต่คนที่ยืนเคียงข้างเป็นคนที่เขารู้จัก แต่สิงขรอีกคนนั่นเล่า

ก้องภพนึกย้อนความทรงจำไปถึงวันที่ไล่ตามใครคนหนึ่งที่ตลาดในเมือง แล้วคนๆนั้นหายวับไปต่อหน้า

ต่อตา และเขาก็เห็นเพียงแค่เบื้องหลัง จะใช่คนๆนี้หรือไม่

สิงขรคนใหม่ยิ้มเยือกเย็นส่งผ่านหน้าเขาอย่างไม่สนใจใยดีไปที่สิงขรคนเก่าที่ยืนเคียงข้างเขา

“ทำงานใช้ได้นี่ ได้ของมาในเวลาที่เหมาะสมพอดี ส่งมาให้เราเถอะ” 

สิงขรในชุดดำเดินมาหยุดอยู่หน้าสิงขนคนเก่า แล้วแบมือเป็นเชิงขอ ก้องภพเห็นสิงขรคนที่เขารู้จักรีบเดิน

ถอยหลังพลางหยิบกระเป๋าเป้มากอดไว้อย่างหวงแหน

“ไม่ได้ เราให้ไม่ได้หรอก เราไม่อยากให้นายทำเลวไปมากกว่านี้”

สิงขรในชุดดำใบหน้าเครียดบึ้งตึงอย่างรวดเร็ว เขาสาวเท้าไปใกล้สิงขรคนเก่าที่เดินถอยหลังขึ้นเนิน

อย่างหวาดกลัว

“บังอาจมาก คิดเหรอว่าจะขัดขวางเราได้ ลืมไปแล้วใช่ไหม ว่าเราเป็นใคร”

หนุ่มน้อยในชุดดำตวาดก้อง และเพียงวูบเดียวเขาก็เข้าถึงตัวคนที่คิดหนี แล้วใช้มือบีบคางสิงขรไว้

จนหน้าเหยเก ก่อนที่จะใช้อีกมือทาบไปที่ลำตัวของสิงขร

แสงแดงวาบสว่างขึ้นจากฝ่ามือ สิงขรคนเก่าตาเหลือกลานตะโกนก้องขึ้นอย่างเจ็บปวด

“โอ๊ย!!”

ก้องภพได้สติ เขารีบมองไปที่ร่างในชุดดำ แล้วส่งพลังผลักร่างนั้นจนกระเด็นห่างจากร่างคนที่เขารัก

ร่างของสิงขรคนที่ถูกทำร้ายร่วงลงทรุดนั่งกับพื้น ผู้หมวดหนุ่มถลาไปประคองอย่างเป็นห่วง

“นี่มันอะไรกันไอ้ไม้ ไอ้คนๆนี้มันเป็นใคร”

เขาตะโกนถามเสียงดัง ก่อนหันไปสบตากับสิงขรในชุดดำ




สิงขรในชุดดำนึกย้อนไปถึงวันที่เขาประทะพลังงานนั่นครั้งแรกที่ตลาด เขาเบิกตากว้าง

หรือว่าคนๆนี้จะเป็น...

เขาตะโกนเสียงดังจนสิงขรที่บาดเจ็บสะดุ้งเฮือก

“ทำไมมากับมันได้ รู้ว่ามันเป็นคนในตระกูลศัตรู ทำไมถึงพามันมา จะพามันมากำจัดเราใช่ไหม ไอ้คนทรยศ”

สิงขรที่ก้องภพประคองอยู่ส่ายหน้าปากคอสั่น

“ไม่ เราไม่ได้คิดกำจัดนาย เราไม่ได้ทรยศ แค่เราไม่อยากให้นายทำชั่วมากไปกว่านี้”

“หุบปาก”

สิงขรในชุดดำตวาดอย่างโมโหสุดขีด ดวงตาคมกริบจ้องไปที่แววตาแดงเรื่อของอีกคน ก่อนที่จะ

กระตุกยิ้มที่มุมปาก

“อ้อ เข้าใจแล้ว แกรักกับมันใช่ไหม ไอ้วันนั้นที่ความรู้สึกน่ารำคาญนั่นเกิดขึ้น เป็นเพราะแกมีอะไรกับ

ไอ้ผู้ชายคนนี้แล้วใช่ไหม”

สิงขรในชุดดำนึกไปถึงวันที่เขาออกจากฌานมาพักร่าง แล้วก็มีความรู้สึกหวามประหลาดผุดขึ้นมาใน

หัวสมอง ก่อนที่เขาจะส่งพลังเตือนไปที่หนุ่มน้อยตรงหน้า

“รักกันมากนัก ก็ตายๆไปซะทั้งคู่ อย่าอยู่ขัดขวางงานเราเลย”

สิงขรในชุดดำจ้องตรงมาที่ก้องภพและสิงขรคนเก่าอย่างโกรธขึ้ง แล้วเขาก็ท่องมนตร์

หนุ่มน้อยที่บาดเจ็บตาเบิกโพลงเมื่อเดาทางได้ เขาผลักร่างผู้หมวดหนุ่มไปอีกทางก่อนลำแสงสีแดง

ที่ปรากฏขึ้นที่ฝ่ามือของสิงขรในชุดดำจะมาถึงตัว แล้วอาบไล้ร่างเขาไว้

“อ๊ากสสส” 

สิงขรคนเก่าตะโกนลั่น ตัวเหยียดแอ่นเกร็ง ตาเบิกโพลงอย่างเจ็บปวด

“ไอ้ไม้”

ก้องภพตะโกนอย่างเป็นห่วง ก่อนจะหันไปมองคนที่ทำร้ายคนที่เขารัก แล้วเพ่งพลังกระแทกร่างสุดแรงเกิด

จนร่างในชุดดำกระเด็นล้ม และลำแสงนั่นหยุดลง

ร่างของสิงขรคนเก่าร่วงลงไปนอนกับพื้นราวกับใบไม้ที่ตกจากต้น ส่วนสิงขรในชุดดำใช้มือกุมหน้าท้อง

ด้วยความเจ็บปวด และพยุงตัวเองลุกขึ้น ก่อนที่จะมองมาทางก้องภพอย่างเคียดแค้น

เขาหักห้ามความเจ็บปวดไว้ ท่องมนตร์อีกบท ส่งพลังนั้นมาทางก้องภพโดยตรง

ก้องภพกระโจนหลบ แต่ลำแสงนั่นก็เฉียดท่อนแขนเขาไปจนเกิดรอยไหม้สีกระดำกระด่างอยู่บนเนื้อแขน

เมื่อผู้หมวดหนุ่มหันกลับมามองอีกที สิงขรในชุดดำก็หันหลังวิ่งไปอย่างรวดเร็ว ก้องภพรีบวิ่งตามไปอย่าง

กระชั้นชิด

แต่ร่างในชุดดำนั่น อยู่ๆ ก็กลายเป็นฝุ่นควันหนาหนัก ก่อนจะกระจายตัวอย่างรวดเร็ว

แล้วก้องภพก็มองไม่เห็นสิงขรในชุดดำอีกเลย




ก้องภพมองตามอย่างเจ็บใจที่ปล่อยให้ทายาทสายเวทมนตร์คนสำคัญที่เขาเฝ้ารอมานาน

หลุดรอดไปได้เขา

สัญญากับตัวเอง ว่าเขานี่แหละจะเป็นคนกำจัดทายาทในตำนานคนนี้ ให้สิ้นซาก

ส่วนสิงขรในชุดดำ ก็โกรธไม่น้อยไปกว่ากัน ที่ไปดูถูกคนสายพลังจิต

ผู้ชายคนนี้กล้าแกร่งกว่าที่คิด เถื่อนดิบกว่าที่คาด

แต่ไม่เป็นไร..เขาเชื่อมั่นในเลือดทุกหยาดที่ไหลวนในร่างเขาเองนี่แหละ

จะเป็นคนกำจัดเจ้าผู้ชายทายาทสายพลังจิตคนนั้นเพื่อความมั่นคงของตระกูล





ก้องภพรุดกลับไปหาร่างที่นอนกองอยู่กับพื้นอย่างเป็นห่วง เขาคุกเข่าลงประคองร่างบางขึ้นมาแนบอก

สิงขรตัวร้อนผ่าว แถมบางส่วนในร่างกายมีรอยดำไหม้

“ไอ้ไม้ อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะ อยู่กับพี่ก่อน พี่รักแกนะโว้ย”

ก้องภพตะโกนใส่ร่างที่ไม่ได้สติ และลมหายใจแผ่วเบาในอ้อมกอด




หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๗ ปะทะ ( ๕/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 05-09-2014 14:37:42
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๗ ปะทะ ( ๕/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-09-2014 19:21:12
เป็นฝาแฝดเหรอ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๑๗ ปะทะ ( ๕/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 07-09-2014 10:06:52
พี่ก้องเก่งนะเนี่ย
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๘ ช่วยชีวิต ( ๑๐/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-09-2014 12:54:51


                      Only love is real

                         ให้รักนำทาง

                        บทที่18 ช่วยชีวิต



ความรู้สึกละล้าละลังเกิดขึ้นกับผู้หมวดหนุ่ม เขาไม่เคยมีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลคนที่บาดเจ็บ

จากเวทมนตร์เลย จึงไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไรกับร่างที่หายใจรวยรินอยู่นี้

ห่วงหรือก็แสนห่วงสิงขรคนนี้ ส่วนอีกคนหนึ่งเขาบอกได้เลยว่าแค้นแสนแค้น

ถ้าสิงขรคนนี้เป็นอะไรไป เขาจะตามไปจัดการอีกคนหนึ่งให้สิ้นซากด้วยน้ำมือของเขา




ก้องภพกึ่งประคองกึ่งลากตัวสิงขรที่ไม่ได้สติ ให้มานอนหลบน้ำค้างที่ใต้ต้นไม้ เขาสละเสื้อที่ติดมา

ในกระเป๋าเป้ของเขาปูรองบนพื้นดิน ก่อนจะนำร่างบางของหนุ่มน้อยมานอนพักไว้ที่นี่

เป็นเวลาดึกสงัดแล้ว อากาศหนาวเหน็บจับใจ  ร่างที่อ่อนแอของสิงขรเริ่มออกอาการสั่นสะท้านจากตัว

ที่ร้อนราวกับไฟ ผู้หมวดหนุ่มถอดแจ็คเก็ตลายทางตัวหนาของตัวเองมาห่มเพิ่มความอบอุ่นให้สิงขร

ชายหนุ่มร่างแกร่งเหลือเสื้อยืดตัวบางห่อหุ้มร่างกาย รู้สึกหนาวจนขนลุก แต่เขายอมสละเพื่อให้สิงขรอาการ

ดีขึ้น

เขาเร่งก่อกองไฟใกล้ๆ เพื่อขับไล่ความหนาวเย็นและป้องกันสัตว์ร้าย ก็พอจะช่วยได้ในระดับหนึ่ง

ก้องภพลุกไปใช้มือแตะที่แขนของหนุ่มน้อยอีกครั้ง อุณหภูมิยังไม่ลดลงเลย การใช้มนตราในการทำร้ายผู้อื่น

ผลมันช่างรุนแรงยิ่งนัก

ผู้หมวดหนุ่มล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้ใบเก่ง แล้วควานหาจนเจอผ้าขนหนูผืนเล็กที่มักจะติดกระเป๋าไว้

แล้วคิดหาน้ำที่จะมาเช็ดตัว เขายกกระติกน้ำขึ้นมาดู ยังคงเหลือน้ำอยู่เต็มกระติกแต่ถ้าใช้หมดแล้ว

จะไม่มีเอาไว้เผื่อยามกระหาย คิดไปถึงน้ำในบ่อที่พบในถ้ำ แต่ถ้าเขากลับขึ้นไป มันก็ไกลเกินกว่า

ที่จะทิ้งสิงขรไว้คนเดียวได้

ก้องภพค่อยๆเทน้ำจากกระติกลงบนผ้าขนหนูช้าๆ น้ำแต่ละหยดมีค่าเสมอเมื่ออยู่ในป่า ก่อนที่เขาจะบรรจง

เช็ดตัวให้หนุ่มน้อยเพื่อลดไข้จากปลายแขนเข้าสู่หัวใจ ผู้หมวดหนุ่มค่อยๆ เลิกเสื้อยืดของหนุ่มน้อยขึ้น

“โธ่เว้ย”

เขาสบถเสียงดังลั่นเมื่อมองเห็น รอยช้ำเป็นสีม่วงคล้ำขนาดใหญ่ที่กลางลำตัว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้สิงขร

ไม่ได้สติอยู่ในตอนนี้

ก้องภพตัดใจข่มความแค้นลง แล้วมุ่งความสนใจมาที่หนุ่มน้อยตรงหน้า เขาบรรจงเช็ดตัวให้สิงขรเท่าที่

จะทำได้ ชายหนุ่มเอื้อมมือไปสัมผัสแก้มเนียนที่บัดนี้ขาวซีด

“ไม้ แกอย่าเป็นอะไรนะ พี่ยังฟังแกร้องเพลง รักนิรันดร์ ไม่จบเพลงเลย ลุกขึ้นมาร้องเพลงให้พี่ฟังก่อน

นะ”









ก้องภพแหงนหน้ามองดวงตะวันชิงพลบลับขอบฟ้าอย่างโผเผล ชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่าที่เขานั่งเฝ้าพลางดูแล

สิงขรอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อดึกสงัดที่ผ่านมาจวบจนกระทั่งหนึ่งวันผ่านไป เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะสิ้นแสงลงอีก

รอบ

เขายกกระติกน้ำขึ้นส่อง ไม่มีน้ำเหลืออีกแล้ว มันหมดไปตั้งแต่เมื่อบ่ายที่เขาประคองสิงขรมาดื่มน้ำหยด

สุดท้าย นั่นหมายความว่า ตอนนี้เขาและสิงขรขาดน้ำและอาหารโดยสิ้นเชิง

ตัวที่ร้อนราวกับไฟของสิงขรเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ ยังคงมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติอยู่เล็กน้อย ลำตัวที่มีรอยไหม้

ช้ำจางลงบ้างแล้ว แต่หนุ่มน้อยก็ยังไม่ได้สติ นี่สิที่ก้องภพเป็นห่วง

เขานั่งชันเข่าแล้วซุกหน้าลงกับเข่าของตนอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพึมพำจากสิงขร

ผู้หมวดหนุ่มผวาเข้าไปหาร่างที่เริ่มขยับตัว แขนสองข้างไขว่คว้าอากาศ พึมพำไม่ได้สติ เขาจับมือสองข้าง

ของสิงขรไว้ในอุ้งมือ

“ไม้ ไอ้ไม้ ตื่นได้แล้ว พี่อยู่นี่”

เขาเรียกสติหนุ่มน้อยกลับคืนมา

สิงขรลืมตาช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ กะพริบตาเพื่อปรับระดับสายตาให้คงที่ จึงได้เห็นใบหน้าที่วนเวียนอยู่ใน

ความคิดลอยเด่นอยู่ตรงหน้า

“พี่ก้อง”

หนุ่มน้อยค่อยๆเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน แต่แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ก้องภพยินดีอย่างที่สุด

“เป็นยังไงบ้าง ไม้”

ผู้หมวดหนุ่มเอ่ยอย่างสงสาร สิงขรหลับตาลงอีกครั้งแล้วพึมพำอย่างยากเย็น

“เจ็บคอ”

มันเนื่องมาจากอาการขาดน้ำนั่นเอง ก้องภพก้มมองริมฝีปากนุ่มที่ตอนนี้กลับซีด แตกระแหงเป็นขุยอย่าง

สะท้อนใจ เขาภาวนาครั้งสุดท้ายขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย ก่อนที่จะเททุกสิ่งทุกอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้

ของเขา

ส้มป่าลูกเล็กตกลงมาจากกระเป๋าร่วงลงสู่พื้นดินดังตุ้บ ก้องภพรีบตะครุบมันไว้อย่างดีใจ เขารีบเข้ามา

ประคองสิงขรให้มาอยู่ในอ้อมแขนข้างหนึ่งของเขาแล้วแกะเปลือกส้มออกส้มป่าลูกเล็กเก่าแคระแกนที่

เก็บไว้หลายวันแทบจะไม่มีน้ำ ก้องภพบรรจงบีบมันที่มุมปากแตกซีด เพื่อให้น้ำจากกลีบส้มค่อยๆไหลเข้า

ไปเพิ่มความชุ่มฉ่ำในช่องปากของคนที่อยู่ในอ้อมแขน



ถึงตอนนี้ ผู้หมวดหนุ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ดวงตาและแสบชื้นที่จมูกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาแปลกใจจนต้องตั้งคำถามจากตัวเอง คำตอบที่ได้คือ เขากำลังจะร้องไห้

ร้องไห้ให้กับชะตากรรมที่น่าสงสารของคนที่เขายอมรับกับตัวเองว่า รักสุดใจ

สิงขรเผยอริมฝีปากรับอย่างอัตโนมัติด้วยความหิวกระหาย จนกระทั่งส้มกลีบสุดท้ายจากมือของก้องภพ

สิงขรลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อสติกลับคืนมามากขึ้น เขาสบตากับคนที่ประคองเขาไว้ในอ้อมแขน

“ขอบคุณนะ พี่ก้อง”

หนุ่มน้อยเอื้อมมือไปไล้ที่ใบหน้าของก้องภพเบาๆ ความรักที่มีให้มันมากล้น จนกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำใส

ไหลกลิ้งลงมาตามร่องแก้ม

ก้องภพก้มลงไปจูบพรมบนใบหน้าและเปลือกตาซับน้ำตาให้จนแห้งสนิท ก่อนจะเลื่อนลงไปจุมพิตเบาๆ

ที่ริมฝีปากแห้งแตกระแหงนั้น เนิ่นนาน

ดวงตาสองคู่สบกันอีกครั้ง เมื่อผู้หมวดหนุ่มถ่ายถอนริมฝีปากออก

“พี่ก้อง”

สิงขรเอ่ยขึ้น

“ถ้าผมจะขอให้พี่มอบความสุขให้ผมสักครั้งในชีวิต พี่จะให้ได้ไหม”




หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๘ ช่วยชีวิต ( ๑๐/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 10-09-2014 20:35:40
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๘ ช่วยชีวิต ( ๑๐/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-09-2014 22:07:04
ไม้เอ้ยยยยยย
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-09-2014 13:32:55



                                                             Only Love Is Real

                                                               ให้รักนำทาง


                                                             บทที่
19 ความสุข


ก้องภพก้มลงไปจูบที่เปลือกตาหวานซึ้งอีกครั้งแทนคำตอบ เขาวางสิงขรอย่างเบามือลงบนเสื้อที่เขาปูไว้

ให้หนุ่มน้อยนอนตลอดเวลาที่ไม่ได้สติ

ผู้หมวดหนุ่มถอดเสื้อยืดของสิงขรออกช้าๆ เผยให้เห็นชัดถึงรอยช้ำไหม้เกือบตลอดทั้งลำตัว เขาเอื้อมมือไปแตะ

เบาๆอย่างสงสาร ก่อนที่จะก้มลงไปพรมจูบทั่วบริเวณเหล่านั้นราวกับจะปลอบประโลม แล้วเขาก็ปลด

กางเกงยีนส์ของสิงขรออกไปจากตัวจนเจ้าของร่างนอนสั่นสะท้านเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางความมืดมิด

ในป่ากว้าง

ก้องภพปลดเปลื้องอาภรณ์ของตัวเองตามมา แล้วเอนตัวแนบกายทาบทับร่างที่อุณหภูมิเริ่มร้อนราวกับไฟสุม

เขาเอียงหน้าไปจุมพิตริมฝีปากแตกซีดนั่นอีกครั้ง คราวนี้เขาขบเม้มและดูดดึงริมฝีปาก ก่อนจะส่งปลายลิ้น

อุ่นเข้าไปคลุกเคล้าในช่องปากของหนุ่มน้อย มือแกร่งวางทาบไปบนเนื้อตัวลูบไล้อย่างหวงแหน

เขาถอนจุมพิตก่อนที่จะลากริมฝีปากมาขบเม้มไปทั่วร่าง หนวดเคราดกครึ้มของผู้หมวดหนุ่มบดไถไป

ตามเนื้อตัวยิ่งเพิ่มความรัญจวนจนคนที่อ่อนประสบการณ์ต้องบิดกายและส่งเสียงครางแทบไม่เป็นภาษา

สิงขรสะท้านราวกับมีคนนำน้ำแข็งมาวางบนร่างทุกครั้งที่มือและริมฝีปากที่มีไรหนวดของก้องภพสัมผัส 

มันช่างอ่อนโยนที่เขาแตะต้อง แต่มันก็ทำให้หนุ่มน้อยสะดุ้งอยู่ร่ำไป จนต้องแอ่นกายรับสัมผัสที่ไม่มีว่างเว้น

ก้องภพแยกขาของสิงขรออก เขาเลื่อนตัวเองจนจุดกึ่งกลางร่างทั้งสองมาบรรจบกัน ก้องภพโน้มตัวไปจุมพิต

ที่หน้าผากมนของสิงขร แล้วเกลี่ยผมที่เริ่มยาวรุงรังมาปรกหน้าเบาๆ มือสากกอบกุมสิ่งหวงแหนของอีกฝ่ายไว้

บดเบียดด้วยปลายนิ้ว ปลุกเร้าอารมณ์จนหนุ่มน้อยหอบหายใจเร็วถี่ยิบ สองแขนเรียวคล้องไปรอบคอเหนี่ยวให้

ร่างกายยิ่งแนบเนื้อ เสียงครางแผ่วหลุดออกมาล่องลอยไปกับสายลมหนาวยามราตรี

ผู้หมวดหนุ่มส่งปลายนิ้วไปทักทายเส้นทางรัก นวดคลึงเบาๆ จนคิ้วโก่งที่ขมวดแน่นเพราะรู้สึกเจ็บเริ่มคลายลง

เขารอจนถ้ำน้อยเริ่มชื้นแฉะได้ที่ ก้องภพจึงได้กระซิบเสียงกระเส่าที่ข้างหู

“ความสุขของพี่ คือการที่ไม้มีความสุข”     

ทันทีที่เขาพูดจบ ก้องภพก็แทรกกายที่แข็งแกร่งเข้าไปในร่างของสิงขร

หนุ่มน้อยสะดุ้งเฮือก ความเจ็บแปลบซ่านเข้ามาจนแทบจะตะโกนก้อง แต่มันก็ถูกดูดซับด้วยริมฝีปากของ

ก้องภพจนเสียงนั้นกลายเป็นแค่เสียงอึกอักอยู่ในลำคอ

สิงขรเขยิบตัวหนีตามสัญชาตญาณ แต่ก้องภพก็รั้งสะโพกนั้นไว้ ผู้หมวดหนุ่มขยับตัวให้หนุ่มน้อยรู้สึก

สบายขึ้นชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะยกสะโพกสิงขรขึ้นสูงอีกเล็กน้อย แล้วเขาก็ดันร่างตัวเองจนสุดตัว

สิงขรเกร็งร่างรับ สองมือของเขาตะปบเข้าที่แผ่นหลังของผู้หมวดหนุ่ม แล้วกอดรัดร่างนั้นให้แน่นเข้าด้วย

สัญชาตญาณ จนก้องภพเองก็เผลอครางเบาๆ แม้ริมฝีปากจะยังคลอเคลียอยู่ที่ยอดอกสีสวยของหนุ่มน้อย

ที่เขาทั้งงับ โลมเลียจนมันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา

ความรู้สึกแปลกใหม่เริ่มเกิดขึ้นแทนความเจ็บปวด ก้องภพควบคุมจังหวะจนสิงขรต้องบิดกายและคราง

เบาๆ เมื่อความรัดรึงบีบเค้นเริ่มมาเยือน

“โอ๊ะ..พี่ก้อง ผม..ผม..อื้อ..

หนุ่มน้อยครางไม่เป็นภาษา แทบบอกความรู้สึกไม่ถูกเมื่อกล้ามเนื้อส่วนนั้นมันเร้นรัดอย่างที่เขาบังคับตัวเอง

ไม่ได้  ยิ่งผู้หมวดหนุ่มคุมเกมส์ถี่กระชั้นเขายืดตัวสูงและดึงสะโพกหนุ่มน้อยให้รับกับหน้าขาก่อนเร่งจังหวะ

สุดท้ายเร็วรัว

กล้ามเนื้อในร่างหนุ่มน้อยบีบอัดอย่างชัดเจน จนสิงขรรู้สึกเหมือนมีพลุระเบิดไปทั่วร่าง แสงระยิบระยับ

พร่างพราวอยู่ในหัว

ความปีติเป็นสุขเกิดขึ้นในใจมหาศาล จนผลิตเป็นหยาดน้ำตาหยดรินลงมาจากหางตาลงสู่พื้นดิน








สิงขรในชุดดำสะดุ้งเฮือกอยู่บนที่นอนในบ้านกลางหุบเขา เมื่ออยู่ๆ ความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งตรงจู่โจมเข้ามา

แทนที่ความเจ็บปวดที่ได้รับจากการต่อสู้ มันเป็นความรู้สึกหวามไหวประหลาดที่เขาไม่รู้จักมาก่อน จนตัว

สั่นสะท้านไปทั้งร่าง

เขาใช้สองแขนกอดตัวเองไว้ แล้วนอนคู้ตัวเหมือนเด็กในครรภ์มารดา ราวกับมันจะช่วยกำจัดเจ้าความรู้สึก

บ้าๆ นี่ออกไปได้สำเร็จ








แสงแห่งอรุโณทัยขับเคลื่อนจนขอบฟ้าทิศตะวันออกเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ อากาศที่หนาวเหน็บก่อให้เกิด

ฝ้าละอองแห่งไอหมอกระเรี่ยอยู่ตามพื้นดินบนเขาสูงจนมองแล้วคล้ายกลุ่มไอสีขาวได้ล้อมรอบยอดภูสูง

เหล่านั้นไว้

สิงขรค่อยๆกะพริบตาเมื่อตื่นจากหลับใหลในท่านอนตะแคงคุดคู้อยู่ ก่อนที่เขาจะตั้งสติและสำรวจตัวเอง

แล้วหนุ่มน้อยก็ร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้าเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อราตรีที่ผ่านมา

และยิ่งรู้สึกถึงท่อนแขนที่พาดผ่านลำตัวกอดรัดจนไม่ได้รู้สึกถึงความหนาวเหน็บ มาจากคนที่ยังหลับสนิท

อยู่เบื้องหลัง ความอบอุ่นก็ยิ่งบังเกิดขึ้นในใจ จนอดอมยิ้มอยู่คนเดียวไม่ได้

ท่อนแขนแกร่งที่วางแนบลำตัวขยับรัดจนร่างสิงขรแนบไปกับคนที่เป็นเจ้าของท่อนแขนนั้น

ก่อนที่หนุ่มน้อยจะรู้สึกถึงจุมพิตเบาๆที่ต้นคอ

“ตื่นแล้วหรือ

เสียงอบอุ่นดังขึ้นใกล้ๆหูของสิงขร  ก้องภพดึงร่างที่นอนตะแคงหันหลังให้หันกลับมานอนสบตากับเขาจน

ได้   ผู้หมวดหนุ่มจูบเบาๆที่หน้าผากของหนุ่มน้อย

“สวัสดีปีใหม่นะ ไม้

สิงขรอ้าปากหวอ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าวันนี้เป็นวันอะไร เรื่องที่เกิดขึ้นมากมายจนเขาแทบจะลืมวันลืมคืนไป

แล้ว

“สวัสดีปีใหม่ฮะ พี่ก้อง

หนุ่มตาหวานอมยิ้ม ทักทายตอบ

“เมื่อคืนหลับสนิทดีไหม

ก้องภพถามเจือรอยยิ้ม จุดประกายแดงเรื่อ ไปทั่วแก้มเนียนของอีกฝ่าย

“จะสนิทได้ไงเล่า พี่ก้องนี่นะ

สิงขรก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตาวิบๆวับๆของอีกฝ่าย

ก้องภพหัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจูบแรงๆที่แก้มเนียนนั้น แล้วเขาก็ลุกขึ้น พร้อมกับช่วยพยุงสิงขรให้ลุกนั่ง

“หิวแล้ว ไม่มีอะไรตกถึงท้องมาวันกว่า จะออกไปหาอาหาร ก็กลัวแกจะเป็นอันตราย

ก้องภพพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น ก่อนที่จะหันไปพิจารณาสิงขร เมื่อแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ยามเช้าส่อง

เต็มที่

ใบหน้าที่ขาวซีดเมื่อวันที่ผ่านมา วันนี้ดูแจ่มใสมีเลือดฝาดมากขึ้น ตัวที่ร้อนราวกับไฟก็ลดลงจนแทบจะเป็น

ปกติ รอยไหม้ช้ำที่กลางลำตัวก็จางลง จนไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง

“พี่จะออกไปหาอาหารกับน้ำ แกอยู่ดูแลตัวเองพอได้แล้วใช่ไหม

เขาป้อนคำถามไปที่ธนทัต หนุ่มน้อยพยักหน้าอย่างมั่นใจ

“งั้นก็ดีแล้ว รอพี่อยู่ที่นี่ พี่ไปไม่นานหรอก

ก้องภพยิ้มให้ ก่อนที่จะจุมพิตเบาๆที่ริมฝีปากของสิงขรแล้วเขาก็ลุกขึ้นเดินลงไปจากเนินเขา

ทันทีที่ร่างของก้องภพลับสายตา รอยยิ้มที่หนุ่มน้อยมีก็ค่อยๆลดลง จนเหลือแต่สีหน้าที่เป็นกังวล

วันนี้คือวันปีใหม่ เวลาที่มีดูจะน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อนึกถึงพิธีกรรมที่ใครอีกคนต้องการให้เกิดขึ้น

โชคดีที่เมื่อวันที่พบเหล็กไหลได้ก้องภพช่วยไว้ และเป็นวันพระจันทร์ข้างขึ้น ทำให้พลังของอีกคนลดน้อย

ถอยลงไม่เช่นนั้น ของศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสุดท้ายนี้ต้องตกไปถึงมือคนๆนั้นอย่างแน่นอน

สิงขรเงยหน้ามองท้องฟ้าราวกับจะมองให้ทะลุไปถึงคนที่ขีดเส้นชะตากรรมของเขาไว้ ถ้ามันเป็นทางเดียว

ที่เขาจะช่วยไม่ให้ความเลวร้ายบังเกิดขึ้นได้ เขาจะยอมรับมัน

หนุ่มน้อยคว้ากระเป๋าเป้ที่บรรจุสิ่งสำคัญไว้ แล้วหยิบกล่องที่บรรจุเหล็กไหลขึ้นมา  เหล็กไหลสีเขียวนี้

นับว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่ามาก เหล็กไหลมีชีวิตของมันเอง ชอบความเย็น เงียบ และที่สำคัญ มันจะอยู่กับ

คนดี

สิงขรนั่งขัดสมาธิ วางกล่องบรรจุเหล็กไหลตรงหน้า ก่อนที่จะระลึกถึงพระรัตนตรัย เขาบอกกล่าวถึง

วัตถุประสงค์อยู่ในใจ พลางอธิษฐาน แล้วจึงกำหนดใจทำสมาธิ

จนเวลาผ่านไปครู่หนึ่ง สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็บังเกิด


หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: omelet ที่ 18-09-2014 17:15:38
เพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ตามจนถึงตอนล่าสุดล่ะคะ

ชอบมากๆนะคะ รอติดตามอ่านอยู่คะ ดูยังมีปม/ความลับอยู่ไม่น้อย
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 18-09-2014 17:25:54
เกิดอะไร
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 18-09-2014 18:32:34
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 18-09-2014 19:32:39
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 18-09-2014 20:01:08
จะเกิดอะไรขึ้นกับเหล็กไหลล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๑๙ ช่วยชีวิต NC เบาๆ ( ๑๘/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 21-09-2014 10:41:14
 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 24-09-2014 13:45:42


                                                Only love Is Real

                                                     ให้รักนำทาง

                                               บทที่ 20 ทำไมต้องมีอีกคน


ของเหลวเหนียวข้นสีเขียวใสคล้ายกับปีกแมลงทับ ค่อยๆ ลอยออกจากกล่อง สูงขึ้น สูงขึ้น

มันมาหยุดอยู่กลางศีรษะของสิงขร สงบนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเลื่อนต่ำลงมาวางตัวแนบสนิทกับกลุ่มผมนุ่ม

ของเขา และค่อยๆ ซึมลงเข้าไปในร่างของสิงขรจนหมด แล้วร่างของหนุ่มน้อยก็ปรากฏเป็นไอสว่างสีเขียว

นวลไปตลอดทั้งตัว

ก้องภพเดินขึ้นเนินเขากลับมา เขาหอบหิ้วทั้งผลไม้กระติกใส่น้ำดื่ม รวมทั้งปลาแม่น้ำตัวเขื่องกลับมาด้วย

แต่เมื่อเห็นคนที่เขานอนกอดตลอดทั้งคืนมีสภาพอย่างนี้ก็ตกใจจนแทบสิ้นสติเขาโยนเสบียงทั้งหลาย ลงบน

พื้นแล้วรีบวิ่งมาที่ร่างของหนุ่มน้อย

“ไอ้ไม้

ก้องภพเรียกเสียงดัง สิงขรค่อยๆ เรียกตัวเองให้คืนจากสมาธิ แล้วกะพริบตาปริบๆมองก้องภพที่ยืนหน้าเครียด

“เสียงดังไปได้พี่ก้อง

หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติ ไอสีเขียวจางหายไปจนหมด

“นี่เกิดอะไรขึ้นกับแก

คราวนี้เป็นก้องภพบ้างที่ยืนมองตาปริบๆ

ให้ตายสิ! เมื่อไหร่เขาจะคุ้นชินกับพวกวิชาอาคมเสียทีนะ

“ก็แค่หาที่เก็บที่ปลอดภัยให้เหล็กไหลเท่านั้นเอง

หนุ่มน้อยยักไหล่

“แกอย่าบอกนะ ว่าไอ้ที่เก็บอะไรของแกน่ะ มันคือ…”

ก้องภพนิ่งงันเมื่อคิดถึงสิ่งที่สิงขรทำลงไป

“ถูกแล้วพี่ก้อง ที่เก็บเหล็กไหลที่ดีที่สุด ก็คือร่างของผม

หนุ่มน้อยพูดเสียงเบา ยอมรับตรงๆ

ก้องภพใจหายวาบ เขาถลาเข้าไปเกาะกุมไหล่ทั้งสองของสิงขร

“แล้วแกลองบอกพี่มาซิ ว่าถ้าแกอีกคนหนึ่งที่มันเลวสิ้นดี คิดจะเอาเหล็กไหลไปให้ได้ มันจะต้องทำยังไง

สิงขรเงียบไปพักใหญ่ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น ดวงตาที่เงยขึ้นมาสบตากับผู้หมวดหนุ่มนั้น

จริงจัง ชัดเจน ก่อนที่จะพูดเน้นทีละคำ

“มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้น คือเขาจะต้องฆ่าผม










บ้านทรงไทยใต้ถุนสูงสร้างจากไม้สักมั่นคงแข็งแรง ตั้งอยู่โดดเดี่ยวในหุบเขาที่มีภูเขาสูงล้อมแทบจะทุกด้าน

เหมือนเป็นปราการชั้นเยี่ยมที่ช่วยปกป้องจากอันตราย

มันก็เหมือนตัวเขาที่จำเป็นจะต้องสร้างปราการทางจิตใจปกป้องตัวตนไว้  เมื่อรับรู้ถึง “หน้าที่” ตั้งแต่ยังเด็ก

ใครจะเข้าใจถึงความขมขื่นของเด็กชายคนหนึ่งที่ครอบครัวถูกกำจัดไปหมด เหลือรอดเพียงผู้เป็นปู่วัยชรา

ที่หอบหิ้วกันมาอยู่ที่นี่ และเพียรพยายามที่จะสั่งสอนให้ผู้เป็นหลานได้กอบกู้เกียรติยศกลับคืนมา

“จำไว้นะ สิงขร”

ผู้เป็นปู่มักจะเรียกเขาด้วยชื่อจริงอยู่เสมอ

“หลานเป็นคนที่มีพรสวรรค์ด้านมนตรายิ่งกว่าใครในตระกูลเราที่ปู่เคยรู้ ปู่เชื่อว่าหลานนั่นเอง

คือคนในตำนาน คนที่จะเป็นจอมเวทที่ยิ่งใหญ่ หลานต้องฝึกตนเองเพื่อเตรียมพร้อมกับการ

ก้าวไปสู่จุดนั้น และปู่เชื่อว่าหลานทำได้”

ผู้เป็นปู่ยื่นตำราเก่าแก่กว่าที่เขาเคยเห็นมาตรงหน้า เขารับมันมาถือไว้ในมือน้อย

“ปู่รู้ว่าหลานเข้าใจทุกอักขระในมนตรา หลานต้องศึกษามัน พิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่เพื่อก้าว

ไปสู่ความเป็นเจ้าแห่งจอมเวท จงเตรียมตัวเตรียมใจเสีย ความรู้สึกอ่อนแอที่อยู่ในจิตใจ

หลานต้องกำจัดให้หมดสิ้น”

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม จึงต้องมีเขาอีกคน กำเนิดขึ้นมาบนโลกใบนี้







“ถึงเวลาที่จะเล่าให้พี่ฟังหรือยังว่าแกคือใคร แล้วไอ้แกอีกคน มันคือใคร”

ก้องภพถามขึ้น เมื่อเขาและสิงขรเริ่มต้นเดินทางกลับออกไปจากป่ากว้างแห่งนี้

“ผมก็คือคนที่ต้องทำงานให้เขา ในงานที่เขาทำไม่ได้ อย่างเช่นมาหาเหล็กไหลนี่ไง”

สิงขรตอบแบบกำปั้นทุบดิน ไม่ได้ให้ความกระจ่างใดๆแก่ก้องภพแม้แต่น้อย

“ทำไมหน้าเหมือนกันอย่างกะแกะ เป็นแฝดกันเหรอ” 

ผู้หมวดหนุ่มพยายามถามต่อ สิงขรนิ่งคิด

“ก็คงคล้ายๆอย่างนั้นแหละ พี่ก้อง เพราะความรู้สึกบางอย่างเราก็สื่อถึงกันได้ ถ้าเขาไม่ได้อยู่ในสมาธิ”

“อย่างเช่นวันนั้นใช่ไหม วันที่เรา เอ่อ..จูบกันครั้งแรก”

คำถามนั้นเรียกเลือดฝาดขึ้นมาบนใบหน้าหนุ่มน้อย เมื่อย้อนคิดไปถึงวันแรกที่ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน

ในโรงแรม แล้วเกิดเหตุแนบชิดแต่ก็ต้องหยุดมันลงด้วยพลังอะไรบางอย่างที่ขัดขวางไว้

“ก็อะไรทำนองนั้น”

สิงขรตอบอุบอิบ

“แล้วทำไมแกสู้มันไม่ได้ล่ะ”

ก้องภพยังคงตั้งคำถาม แม้จะกำลังเดินไต่ลงจากที่สูง

“ผมไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นผู้นำนี่ ต้องเขาโน่นแหละ อัจฉริยะตัวจริง ผมมันก็แค่ไอ้คนอ่อนแอคนนึง”

สิงขรค่อนขอดตัวเองเสียงขื่น จนก้องภพต้องหยุดเดิน แล้วหันมาสบตา

“เป็นอย่างนี้แหละดีแล้ว ถ้าเก่งแล้วต้องเหี้ยมโหด พี่ก็ไม่ไหวนะ พี่รักแกที่แกเป็นแบบนี้แหละ”

คำบอกรักง่ายๆนั่นเรียกเลือดลมมาเลี้ยงบนใบหน้าสิงขรได้ไม่น้อย

เขาทุบหลังก้องภพดังพลั่กแก้เขิน ก่อนที่จะรุนหลังให้ผู้หมวดหนุ่มเดินนำต่อ

“แล้วมันมีชื่อไหม พี่จะได้เรียกมันเวลาด่าได้ถูกตัว”

สิงขรนิ่งไปอีกรอบ คนๆนั้นมีชื่อแน่ จริงๆแล้ว ต้องถามเขาต่างหาก ว่าเขามีชื่อหรือเปล่า

“เขาชื่อ สิงขร”

“มันจะทำอะไรต่อไป ไอ้เจ้าสิงขรนี่” 

ก้องภพยังคงทำหน้าที่ซักฟอกต่อ

“ก็หาของศักดิ์สิทธิ์ให้ครบสามอย่าง ตามที่ตำราประกอบพิธีกรรมบอกไว้ เขาได้ไปสองอย่างแล้วคือ

เขี้ยวเสือไฟ กับ คตแก้วกายสิทธิ์ เหลืออย่างสุดท้ายคือเหล็กไหลในตัวผมนี่แหละ”

“แกจะต้องทำอย่างไรต่อล่ะไม้”

“หน้าที่ของผม คือ หนี”

สิงขรตอบเสียงจริงจัง

“เขาจะต้องประกอบพิธีกรรมในวันเกิดของเขา คืออีก สามเดือนข้างหน้า ผมมีหน้าที่คือหนี

ไม่ให้เขาฆ่าผมให้นานที่สุด อย่างน้อยก็ต้องหลังวันเกิดของเขา”




ไม่มีทางที่มันจะมาฆ่าแกได้ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่....

ก้องภพคิดในใจเพราะเขานี่แหละ จะตามหา และฆ่าไอ้คนที่หยิ่งยโสนั่นให้ตายไปตามบรรพบุรุษ

ก่อนถึงวันเกิดครบรอบยี่สิบปีของมัน

เขาสาบานในใจ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-09-2014 20:10:39
ปมเรื่องสิงขรและสิงขรนี่ต้องค่อยๆ คลายนะ
เดี๋ยวเรางง 555555
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 26-09-2014 20:32:23
ความรู้สึกสื่อถึงกัน!!!!!
แล้วถ้าฆ่าสิงขรคนนั้น แล้วสิงขรคนนี้ล่ะจะไม่เป็นไรเหรอ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 26-09-2014 22:05:05
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Takarajung_TK ที่ 27-09-2014 08:18:20
แฟนตาซีย้อนยุค น่าสนใจ

ทำไมอ่านแล้วรู้สึกเหมือนไม้เป็นร่างอาคมของสิงขรเลย
อย่างนี้ถ้าฆ่าสิงขร ไม้จะตายด้วยรึเปล่า

รออ่านจ้ะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๐ ทำไมต้องมีอีกคน ( ๒๔/๙/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 27-09-2014 14:23:14
ลุ้นตามตลอดเลย
แต่แอบกลัวว่าถ้าสิงขรตาย
ไม้จะยังมีชีวิตได้มั้ย
ตกลงไม้เป็นใครกันแน่ ‼︎‼︎
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๑เดินทางอีกครั้ง( ๐๕/๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-10-2014 13:25:43


                                            Only Love Is Real
                                               ให้รักนำทาง

                                          บทที่
21 เดินทางอีกครั้ง

“ถ้าแกจะหาที่หลบไอ้โหดนั่นให้พ้นละก็ ที่นี่แหละปลอดภัยที่สุดแล้ว


ก้องภพพูดขึ้นเมื่อเปิดประตูรั้วบ้านหลังหนึ่งแล้วเกาะเกี่ยวแขนสิงขรให้ก้าวเข้าไป เมื่อเขาและสิงขรเดินทาง

กลับมาจนถึงกรุงเทพ

สิงขรแหงนหน้ามองบ้านไม้สองชั้นที่สร้างกึ่งไทยปนยุโรปหลังเก่าแต่ยังคงความแข็งแรงหลังนั้น ก่อนที่จะ

หันมามองก้องภพอย่างสงสัย ผู้หมวดอมยิ้มแล้วหันมาตอบคำถามในใจหนุ่มน้อย

“บ้านพี่เองแหละ รกหน่อยนะ หนุ่มโสดอยู่คนเดียวก็เป็นอย่างนี้แหละ พ่อไม่อยู่ไปเมืองนอก”

“อ้าว แล้วทำไมพี่ไม้ไม่หาสาวมาดูแลให้ล่ะ จะได้ไม่รก”

สิงขรเอ่ยคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบที่แท้จริงสักเท่าไหร่นักออกมา ทำให้แขนแกร่งของอีกฝ่ายที่เกาะเกี่ยว

อยู่นั้นเลื่อนมาเป็นกุมมือเรียวนุ่มไว้ แล้วจับจูงให้เดินตามเข้าไปในบ้าน

“เมื่อก่อนก็มีเยอะคนมาดูแลน่ะ แต่คงต้องเลิกหมดแล้ว เจอตัวจริงแล้วนี่”

ก้องภพหันมาสบตาหวานซึ้งคู่นั้นอย่างมีความหมาย จนเจ้าของดวงตาต้องหลบสายตาไปทางอื่นด้วยความ

เก้อเขิน

“ทำเป็นพูดไป เดี๋ยวพอเจอคนอื่นพูดโน่นพูดนี่ใส่ ขี้คร้านพี่จะรีบถีบหัวส่งผมน่ะสิ”

คำพูดประโยคนั้นทำให้ก้องภพชะงัก เขาดึงสิงขรให้หยุดเดินอยู่ที่เชิงบันได มือที่จับจูงมือนุ่มปล่อยออก

ก่อนที่จะใช้มือทั้งสองดึงไหล่ของสิงขรให้มาสบตากับเขา

“อย่าพูดอย่างนั้น ชีวิตของพี่ไม่เคยขึ้นอยู่กับสังคม พี่ไม่ได้สนใจว่าใครจะพูดยังไง เพียงแต่ช่วงแรกก็แค่ไม่

มั่นใจความรู้สึกของตัวเอง แต่เมื่อมั่นใจแล้ว ถึงตายพี่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ”

ผู้หมวดหนุ่มเอียงหน้าแล้วบรรจงกดริมฝีปากไปที่ปากนุ่มแนบสนิท และเมื่อเขาถอนจุมพิต สองมือที่กุม

ไหล่หนุ่มน้อย ก็ดึงร่างบางเข้ามาในอ้อมกอด มือแกร่งลูบที่ศีรษะสิงขรเบาๆ

“เชื่อมั่นในตัวพี่นะไม้”

สิงขรซุกหน้าลงกับบ่าที่รองรับ สองแขนของเขาสอดรอบตัวก้องภพแล้วกอดตอบ นึกขอบคุณทุกความรู้สึก

ที่ชายคนนี้มีให้

ผู้หมวดหนุ่มดันตัวสิงขรออกจากอ้อมกอดเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นที่บ่า เขาเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาให้

หนุ่มน้อยอย่างเบามือ

“อ้าว ร้องไห้อีกแล้ว ขี้แยเป็นเด็กน้อยเลยนะมึง ไปพักผ่อนกันเหอะ กว่าจะมาถึงบ้านเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว”

เสียงพูดดังๆนั้นเรียกเสียงหัวเราะจากสิงขรได้แม้จะยังยกหลังมือเช็ดน้ำตาตัวเองอยู่ ก้องภพดึงแขนหนุ่ม

น้อยให้เดินตามขึ้นบันไดไปชั้นสอง

“แล้วพี่จะให้ผมอยู่ห้องไหนล่ะ”

คำถามนั้นจุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาบนใบหน้าคนที่เดินนำ

“แล้วมึงจะถามทำไม ในเมื่อคำตอบมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าพี่ไม่ยอมให้มึงนอนที่อื่นนอกจากห้องและเตียงของ

พี่”
 










ก้องภพลืมตาโพลงในความมืดเมื่อดึกสงัด เขาหันไปมองคนที่นอนตะแคงซุกร่างอยู่ข้างๆอย่างสำรวจ

เมื่อมั่นใจว่าสิงขรหลับสนิทเขาก็ค่อยๆดึงแขนของหนุ่มน้อยที่วางพาดลำตัวของเขาอย่างเบามือ แล้วลุกออก

จากเตียงเดินด้วยฝีเท้าเบากริบไปที่โต๊ะเก้าอี้ตัวเล็กมุมห้อง

ผู้หมวดหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์ใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วรูดซิปช่องเล็กที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าล้วงหยิบ

อะไรบางอย่างออกมา

เศษผ้าขาดสีดำชิ้นเล็กคือสิ่งที่ก้องภพหยิบมันออกมาจากกระเป๋า มันคือเศษผ้าที่มาจากสิงขรอีกคนหนึ่ง

ที่ถูกกิ่งไม้ในป่าเกี่ยวจนขาด เมื่อครั้งต่อสู้กับเขา

ด้วยความช่างสังเกตและสัญชาตญาณของอาชีพตำรวจ เขาจึงได้หลักฐานสำคัญชิ้นนี้มา มันจะเป็นตัวเบิก

ทางชั้นเยี่ยมที่จะทำให้เขาควานหาตัวทายาทแห่งมนตรามากำจัดให้ได้

ก้องภพกำมันไว้ในมือแล้วหลับตาลงส่งกระแสจิตไปที่เศษผ้าสีดำชิ้นเล็ก ภาพของคนที่หน้าตาพิมพ์เดียวกับ

คนที่เขารักวิ่งปราดผ่านมา ราวกับภาพยนตร์ที่ถูกฉายด้วยความเร็วแล้วก็ปรากฏภาพของบ้านทรงไทยหลัง

หนึ่งแวบเข้ามาในสมอง ชายหนุ่มรีบบันทึกลงไปในความทรงจำก่อนที่ภาพนั้นจะเลือนหายไป

ผู้หมวดหนุ่มค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้น  รอยยิ้มพึงใจเกิดขึ้นบนใบหน้า แผนการเดินทางเพื่อกำจัดทายาทแห่ง

เวทมนตร์ เริ่มเกิดเป็นรูปร่างในห้วงแห่งความคิด

เขาจึงไม่ได้เห็นคนที่หลับสนิทบนเตียงนุ่มเบื้องหลัง ลืมตามองเขาด้วยความสงสัยตั้งแต่เขาลุกไปจากเตียง

แล้ว



12มกราคม 2529

“พี่จะไปทำงานต่างจังหวัด แกอยู่คนเดียวที่นี่ได้ไหม รับรองปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์”

ก้องภพพูดขึ้นตอนเช้าตรู่ของวัน เมื่อเขาคิดว่าร่างกายที่อ่อนล้าจากการเดินทางกลับจากภูเขาสูง มาพักผ่อนที่

บ้านหลายวันแล้ว ได้รับการฟื้นฟูสภาพจนกลับมาแข็งแกร่งและพร้อมที่จะเดินทางไกลอีกครั้ง

สิงขรเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ก้องภพยกแก้วกาแฟตรงหน้าขึ้นจิบโดยไม่ยอมสบตา

“ก็ไปสืบคดีทั่วๆไปนี่แหละ มันก็ต้องทำงานบ้างนะ เดี๋ยวโดนไล่ออกกันพอดี”

“แล้วพี่ก้องจะไปเมื่อไหร่”

หนุ่มน้อยถามอย่างนึกเป็นห่วง

“ก็ไปวันนี้แหละ”

ก้องภพถอนหายใจแล้วลุกเดินมาใกล้ เกี่ยวกระหวัดให้ร่างที่บางกว่าเข้ามาอยู่ในอ้อมแขน เขากดริมฝีปากไป

ที่ไรผมหนุ่มน้อยอย่างหวงแหน ดวงตามีแววกังวลซ่อนอยู่

“อยู่คนเดียวก็ต้องระวังตัวด้วยนะ รู้ไหม”

สิงขรขมวดคิ้ว สบตาคู่นั้นอย่างค้นหา

“มันต้องเป็นผมไม่ใช่หรือที่ต้องบอกให้พี่ระวังตัว”

สิงขรลอบถอนหายใจ เขาปล่อยร่างบางนั้นให้เป็นอิสระ ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋เป้คู่ชีพที่เตรียมพร้อมจะ

เดินทางมาแบกไว้ที่หลัง แล้วเดินมาหยุดยืนต่อหน้าและโน้มตัวไปจูบเร็วๆที่เรียวปากนุ่มนั้น

เขาหันหลังให้สิงขรแล้วเดินตรงออกไปจากตัวบ้าน แต่ก็ต้องหยุดยืนนิ่งอยู่กลางทางเดินก่อนถึงประตูรั้ว

เมื่อได้ยินเสียงเรียกดังขึ้น

“พี่ก้อง”

สิงขรก้าวยาวๆ มาหา แล้วดึงแขนให้ผู้หมวดหนุ่มหันมาเผชิญหน้า ดวงตาสองคู่สบกันอย่างล้ำลึก ก่อนที่

ร่างทั้งสองจะผวามากอดกัน

เรียวปากนุ่มของสิงขรเป็นฝ่ายกดเบียดแนบสนิท ก้องภพเผยอริมฝีปากให้อย่างเต็มใจและเรียกร้อง หนุ่ม

น้อยขบเม้มริมฝีปากของคนรักไว้อย่างอาวรณ์

“ปลอดภัยกลับมานะพี่ก้อง ไม่ว่าจะทำอะไรขอให้คิดเยอะๆ บางครั้งสิ่งเดียวที่พี่คิดจะทำ มันอาจจะส่งผลถึง

หลายสิ่งที่จะตามมา”

หนุ่มน้อยเอ่ยอย่างจริงจัง ดวงตาแดงเรื่อ

“และอย่าลืม ว่ามีผมที่คอยให้พี่ก้องกลับมาอย่างปลอดภัยอยู่ที่นี่ อย่าลืมนะ”

ก้องภพเอื้อมมือไปวางบนศีรษะของสิงขร เขายิ้มให้หนุ่มน้อยที่หน้าหวานราวกับผู้หญิงตรงหน้า

“พี่ไม่มีวันลืม”

เขาให้คำมั่น ก่อนที่จะตัดใจกลับหลังเดินตรงไปที่ประตูรั้ว

 
สิงขรหลับตาลงเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นภาพที่ก้องภพก้าวเดินออกจากประตูรั้วนั้น
 







 --------------------------------------------------------------------


คนอ่านอาจจะสงสัยว่าทำไม เวลาในเรื่องมันต้องเป๊ะ
ขอชี้แจงว่า เรื่องนี้มีที่มาจากแฟนฟิคนะคะ
แล้วคู่จิ้นที่นำมาแต่ง พระเอกเกิด 21 มกราคม
ส่วนนายเอกเกิด 30 มีนาคม
ซึ่งมันจะมีผลต่อเนื่องในเนื้อเรื่องเพื่อความฟินของขาจิ้นน่ะค่ะ


หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๑ เดินทางอีกครั้ง( ๐๕/๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 06-10-2014 13:43:03
ขอบคุณครับ รอตอนต่อไปอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๑ เดินทางอีกครั้ง( ๐๕/๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 10-10-2014 13:59:28
เราก็สงสัยเหมือนกันนะว่าถ้าสิงขรคนนึงต้องตายแล้วอีกคนล่ะถ้าสองคนเป็นแฝดก็คงอยู่ได้แต่ถ้าไม่ใช่แฝดแต่เป็นอีกหนึ่งคนที่แยกออกมาจากคนเดียวกันมันจะอยู่ได้เหรอ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๒ ต่อสู้ ( ๑๐ /๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-10-2014 19:45:08

                                                                  Only Love is real

                                                                    ให้รักนำทาง

                                                                  บทที่ 22 ต่อสู้


17 มกราคม 2529


ก้องภพวางกระเป๋าเป้ลงบนพื้นอย่างเหนื่อยล้า เขาเงยหน้ามองบ้านทรงไทยเก่าแก่ภายใต้การบดบังจาก

ต้นไม้ใหญ่อย่างพึงพอใจ ตระกูลแห่งเวทมนตร์เลือกชัยภูมิการซ่อนตัวได้ไม่เลวเลย เมื่อคิดถึงความ

ยากลำบากในการที่เขาติดตามหานานนับเป็นสัปดาห์

รั้วกว้างสร้างจากศิลาแกร่งหนา เก่าแก่ ถูกปกคลุมไปด้วยเถาไม้เลื้อยหลากชนิด ประตูรั้วเหล็กกล้า มีรอย

สนิมเกาะแต่ยังคงความแข็งแรงให้เห็นได้ชัด

ผู้หมวดหนุ่มกระตุกยิ้ม ถึงเวลาที่เขาจะทำลายล้างทายาทที่เหลือของคนที่ใช้มนตราให้สิ้นซาก ไม่นึกกลัว

เลยสักนิด เมื่อเขาเดินตรงไปที่รั้วเหล็กตรงหน้า แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว ก็ต้องชะงักเมื่อปรากฏบางสิ่งโผล่พ้นมา

จากพื้นดินตรงหน้าแนวกำแพงสูง

ร่างของซากศพเดินได้หลายตนยืดตัวสูงขึ้น พวกมันมองมาทางปรปักษ์เช่นเขาอย่างเกรี้ยวกราด ก่อนจะพุ่ง

ตรงเข้ามาหมายเอาชีวิต

ก้องภพขมวดคิ้ว เขายื่นสองแขนออกไปจนสุดแล้วกำหนดพลังออกมา

ราวกับพลังนั้นจะระเบิดออกมาจากสองแขน อสุรกายบางตนก็ระเบิดแหลกสลาย บางตนก็คล้ายกับถูกบีบ

รัดที่คอจนขาดกระเด็น เวลาเพียงไม่นาน ทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง

คนมาเยือนเดินตรงเข้าสู่ประตูรั้ว ลองออกแรงขยับแต่ก็ไม่สำเร็จ จนเขาต้องออกแรงใช้พลังพิเศษอีกครั้ง






เปลือกตาที่ปิดบังดวงตาคมอยู่เปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเจ้าของรู้สึกถึงพลังงานแปลกปลอมบางอย่างที่รุกล้ำ

อาณาเขตเข้ามา ไม่เลวเลยที่ผ่านบรรดาอสุรกายเข้ามาจนถึงเขตภายในได้ แววตาที่เคยหวานบัดนี้วาวโรจน์

ไปด้วยไฟแห่งความแค้น

ร่างกายที่บาดเจ็บจากการปะทะโดยไม่ได้ตั้งตัว ตอนนี้ได้ถูกฟื้นฟูจนกลับมาสมบูรณ์แบบอีกครั้ง และ

เขาพร้อมแล้วที่จะเผชิญหน้า

มาเลย..ไอ้คนที่มาจากตระกูลที่สร้างความหายนะให้กับชีวิตของเขา สิงขรคนนี้ยินดีต้อนรับ







ทันทีที่ก้องภพก้าวผ่านบันไดขั้นบนสุดเข้าสู่เขตตัวเรือนไทย เขาก็รู้สึกหนาวยะเยือกอย่างไม่รู้สาเหตุ ตาขวา

กระตุกรุนแรงจนเขาต้องยกมือมาปิดเปลือกตาไว้อยู่ชั่วครู่  ก้องภพค่อยๆมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง

แล้วจึงตัดสินใจก้าวเดินต่อไปจนผ่านเข้ามาในห้องโถงกว้างผู้หมวดหนุ่มพยายามมองหาผู้เป็นเจ้าของบ้าน

แต่ทุกอย่างกลับเงียบสงบ

เงียบเกินไป

เขาบอกตัวเอง เมื่อเทียบกับการต้อนรับก่อนเข้าสู่อาณาเขตเมื่อสักครู่ ก้องภพไม่เชื่อว่าจะไม่มีผู้ใดอาศัยหลบ

ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้

ชายหนุ่มชะงักเมื่อหางตาของเขาเหลือบไปเห็นห้องเล็กมืดที่มีทางเข้าอยู่ถัดไปจากห้องนี้ เขายืนชั่งใจอยู่ชั่ว

ครู่ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าไป

เมื่อเท้าสองข้างของเขาก้าวผ่านเข้ามาภายในห้องเล็กทุกสิ่งทุกอย่างก็พลันชะงักงัน


ร่างของก้องภพหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนถูกพันธนาการไว้ด้วยอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น เขาพยายามดิ้นรนที่

จะทำให้ตนเองได้รับอิสระจากการถูกจำกัดการเคลื่อนไหว แต่ก็ไม่เป็นผล ยิ่งดิ้นเท่าไร ก็ดูเหมือนเชือก

ล่องหนนี้จะยิ่งรัดแน่นขึ้นไปอีก

“จะดิ้นรนไปทำไม ถ้ารู้ว่าทำไปแล้วก็ไม่ได้ผล

น้ำเสียงคุ้นหูดังขึ้นที่มุมใดมุมหนึ่งของห้อง ก่อนที่แสงสว่างจะเจิดจ้าไปทั่วห้อง แล้วก้องภพก็ต้องอึ้ง เมื่อ

เห็นร่างผู้เป็นเจ้าของบ้านปรากฏกายอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลจากเขา

ถ้าไม่นับว่าเคยพบเจอกันมาแล้วถึงสองครั้ง นี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เผชิญหน้ากับทายาทแห่งมนตราอย่าง

ชัดเจน

ใบหน้าและรูปร่างไม่มีส่วนไหนเลยที่จะไม่เหมือนคนที่เขารักจนหมดใจ ยกเว้นแววตาคู่นั้น

แววตาที่ไม่มีความร่าเริงสดใส สนุกสนานชวนให้เบิกบานอย่างอีกคน แต่กลับฉายโชนแต่รังสีแห่งความ

โกรธแค้น เกลียดชัง ชวนให้เขารู้สึกสะอิดสะเอียน

“ก็นับว่าเก่งพอตัวที่มาถึงนี่ได้ แต่รู้ใช่ไหม ว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด ที่จะกำจัดเราได้

ร่างโปร่งบางเดินอย่างสง่า และดูยะโสในสายตาของก้องภพ มาหยุดยืนต่อหน้าเพียงเอื้อมมือถึง ผู้หมวด

หนุ่มพยายามดิ้นรนให้พ้นสภาพที่ทำอะไรไม่ได้นั้น แต่ก็ไม่สำเร็จ

“โธ่เว้ย แน่จริงก็ปล่อยกูสิวะ ไอ้พ่อมดหมอผี

เขาตะโกนด่าทอดังลั่น ด้วยความหงุดหงิดที่ทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้

คำเรียกที่ศัตรูตรงหน้าใช้ ยิ่งทำให้แววตาคู่นั้นโชนแสงคุกรุ่นหนักขึ้นไปกว่าเดิม สิงขรก้าวพรวดมาเพียง

ก้าวเดียวเขาก็ถึงตัวก้องภพ มือเรียวยื่นเข้ามาทาบที่แผ่นอกของเขาแล้วมันก็ร้อนวาบขึ้น

อ๊ากกกสสส

ก้องภพร้องลั่นอย่างเจ็บปวด ร่างแกร่งถึงกับดิ้นรนให้หลุดพ้นอย่างทุรนทุราย แต่ก็ไม่เป็นผล

เขายังไม่สามารถต่อกรกับคนที่อยู่ตรงหน้าได้แม้แต่นิดเดียว

สิงขรชักมือกลับออกมา เมื่อสาแก่ใจที่จะสร้างความเจ็บปวดเบื้องต้นให้กับคนๆนี้ คนที่บรรพบุรุษของมัน ทำให้

เขาบ้านแตกสาแหรกขาด กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่เด็ก มันจะมาเข้าใจอะไร

กับความทุกข์ทรมานที่เขาต้องทนรับและแบกมันไว้แต่เยาว์วัย

เขายกมือขึ้นมาบีบคางของผู้หมวดหนุ่มจนแน่น แล้วสิงขรก็มองลึกเข้าไปในดวงตาของก้องภพ




ก้องภพชะงักงันเมื่อสบตากับดวงตาวาวโรจน์ที่เก็บซ่อนอารมณ์ลึกล้ำมหาศาล ราวกับภูเขาไฟที่รอวันปะทุ 

มีทั้งความเกลียดชัง โหยหา ว้าเหว่ อย่างไม่น่าเชื่อว่าคนที่อายุเพียงเท่านี้จะมีความรู้สึกที่รุนแรงเช่นนี้

ดวงตาคู่นั้นตรงดิ่งเข้าไปในใจเขาราวกับจะให้ทะลุเข้าไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

แต่แล้วสติของก้องภพก็กลับคืนมา เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ดูหมิ่นจากใบหน้าหวานๆตรงหน้า

สิงขรยิ่งออกแรงบีบกรามของก้องภพจนแทบหัก ก่อนจะพูดให้ก้องภพเกิดความแปลกใจ

“ไม่เคยคิดมาก่อนใช่ไหม  ว่าจะต้องมาเสียทีคนอย่างเรา คุณสายสืบพญายม นายตำรวจชื่อดังแห่งกอง

ปราบ














หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๒ ต่อสู้ ( ๑๐ /๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 10-10-2014 22:41:57
โอ๊ยยยย ค้างคาสุดๆไปเลยงานนี้!!!
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๒ ต่อสู้ ( ๑๐ /๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 12-10-2014 17:09:45
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๒ ต่อสู้ ( ๑๐ /๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 16-10-2014 07:18:10
ต่อ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๒ ต่อสู้ ( ๑๐ /๑๐/๒๕๕๗) เวทXพลังจิต
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 16-10-2014 21:06:49
รออออออออ

ค้างคามากกก

สิงจรทั้ง2เป็นคนๆเดียวกันสินะ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๓ ความสับสนที่เกิดขึ้น( ๑๖ /๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 16-10-2014 22:01:23

                                                              Only Love Is Real

                                                                 ให้รักนำทาง

                                                         บทที่ 23 ความสับสนที่เกิดขึ้น


ก้องภพหงุดหงิดถึงขีดสุดเมื่อรู้ว่าสิงขรมีข้อมูลส่วนตัวของเขา แต่เขาเองกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคนๆนี้เลย

นี่เขาประมาทเกินไปใช่ไหม

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมสิงขรอีกคนหนึ่งจึงได้เกรงบุคคลนี้มากมายนัก เมื่อเขาได้เผชิญหน้าครั้งสำคัญ

หนุ่มน้อยคนนี้ ไม่ได้มีแค่พรสวรรค์ด้านมนตราเพียงอย่างเดียว แต่ประกอบด้วยความชาญฉลาดของ

มันสมองยิ่งทำให้ความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า

ผู้หมวดหนุ่มพยายามตั้งสติเรียกความมั่นใจกลับคืนมา เขาค่อยๆ รวบรวมสมาธิกำจัดบ่วงรัดร่างกายที่มอง

ไม่เห็น

ก้องภพยิ้มเยาะใส่หนุ่มน้อยที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“ไม่มีทางหรอก แกก็รู้ดี ว่าพวกแกไม่มีวันที่จะชนะ

สิ้นสุดประโยคนั้น โทสะของสิงขรก็พุ่งถึงขีดสุด เขายกมือขึ้นเตรียมทำร้ายก้องภพอีกครั้ง แต่คราวนี้ก้องภพ

ไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกทำร้ายฝ่ายเดียว

ร่างที่หลุดจากพันธนาการโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ พุ่งตรงเข้าชนโครมที่ร่างบางของสิงขร จนหงายหลังไปกับ

พื้นอย่างไม่ทันตั้งตัว โดยมีร่างที่หนากว่าของก้องภพล้มทับมาด้วยกัน

สิงขรพยายามดิ้นรนให้พ้นจากการถูกคุกคาม สองมือที่ยังเป็นอิสระปัดป่ายป้องกันตัว ข้างหนึ่งถึงกับต่อย

เข้าที่ปลายคางของก้องภพ

“โอ๊ย!”

ผู้หมวดหนุ่มถึงกับนับดาวไปชั่วเสี้ยววินาที หมัดของคนผอมๆนี่ก็หนักใช่เล่น

ก้องภพยื้อยุดจับแขนสองข้างของสิงขรได้เป็นผลสำเร็จ เขายึดแขนสองข้างนั้นไปเหนือศีรษะของสิงขร

แล้วล็อคมันติดกับพื้นด้วยมือของเขา

สิงขรโกรธราวกับไฟไหม้ป่า  เขามองหน้าก้องภพด้วยโทสะ ก่อนที่จะเริ่มท่องบริกรรมคาถา

แต่เขาก็ทำไม่สำเร็จ เมื่อถูกขัดขวางจากคนที่หยุดเขาไว้ด้วยวิธีการที่เขาก็ไม่คาดคิด

ก้องภพหยุดการท่องมนต์ของสิงขรไว้ด้วยการปิดปากหนุ่มน้อยโดยใช้ปากของเขา ริมฝีปากประกบแน่น

รุนแรงอย่างไม่ปราณีปราศรัย เขาลงโทษความอหังการ์นั้นด้วยการขบเม้มรุนแรงที่ริมฝีปากของสิงขรจน

แทบจะห้อเลือด โดยไม่สนว่าสิงขรจะดิ้นขลุกขลักอยู่ภายใต้ร่างของเขา

แปลกที่ปรากฏความคุ้นเคยขึ้นมาในความรู้สึก โทสะของก้องภพบรรเทาเบาบางลง  แล้วกลับบังเกิดความ

พลุ่งพล่านอย่างอื่นมาแทนที่ ความรุนแรงลดลงจนริมฝีปากนั้นกลายเป็นขบเม้มดึงดูด เขาใช้ลิ้นดุนบังคับริม

ฝีปากของสิงขรให้เปิดกว้าง แล้วส่งปลายลิ้นเข้าไปคลุกเคล้า

สัมผัสที่เปลี่ยนไปทำให้สิงขรแทบคลั่ง ร่างกายที่ออกแรงต่อต้านในตอนแรก มาถึงตอนนี้กลับสั่นไหวอย่าง

ที่เขาบังคับมันไม่ได้ หัวใจของเขาเต้นแทบระเบิด ยิ่งเมื่อลิ้นอุ่นของก้องภพ เข้าไปซอกซอนทั่วทั้งโพรงปาก

แขนทั้งสองข้างที่พยายามสะบัดให้หลุดจากการเกาะกุมกลับหมดแรงเอาดื้อๆ

ก้องภพปล่อยมือที่จับล็อคแขนของสิงขรไว้ แล้วสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีดำ วางมือแนบไปกับเนื้อ

เนียนที่ซ่อนอยู่ เมื่อมาถึงตอนนี้ร่างของสิงขรก็สั่นสะท้านไปหมด










หนุ่มน้อยที่ยืนรดน้ำต้นไม้ในเขตบ้านไม้ทรงยุโรปหลังเก่ากลางเมืองหลวงสะดุ้งเฮือก สายยางที่ถืออยู่หลุด

ร่วงลงจากมือ ก่อนที่เขาจะยกมือกุมศีรษะ เมื่อความหวามไหวประหลาดรุนแรง พุ่งตรงเข้ามาในสมอง จน

ปวดหัวแทบระเบิด เขากลั้นใจส่งพลังเข้าไปสกัดความรู้สึกรุนแรงในหัวสมองนั้น จนกระทั่งหมดเรี่ยวแรง

ขาสองข้างหมดแรงจนล้มลงไปนอนกองอยู่กลางสนามหญ้า







ก้องภพกำลังเตลิดไปกับอารมณ์จนลืมทุกสิ่งอย่างรอบตัว ร่างที่สั่นสะท้านอยู่ภายใต้ร่างเขายิ่งก่อเร้า

ให้เขาย่ามใจมากขึ้น

พลังบางอย่างจู่โจมเข้ามาในหัวสมอง รวดเร็ว รุนแรง จนเขาต้องร้องอุทานเสียงดัง และปล่อยสิงขรเป็น

อิสระอย่างกะทันหัน

หนุ่มน้อยผวาสูดลมหายใจเข้าเหมือนคนจมน้ำอยู่หลายเฮือก จนสติกลับคืนมาแล้วเขาก็ผลักร่างก้องภพจน

กระเด็นออกจากการทาบทับ ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว

เขาใช้มือกุมที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ราวกับจะปลอบให้มันหยุดสั่นระรัว พร้อมกับมองหน้าก้องภพอย่าง

คาดไม่ถึง

ผู้หมวดหนุ่มเอง ก็ไม่คิดว่ารูปการจะออกมาอย่างนี้ เขามองหนุ่มน้อยอย่างขอลุแก่โทษ แต่สายตาที่ได้รับ

กลับมา มันยิ่งคุโชนยิ่งกว่าเก่า คราวนี้เขาเห็นน้ำใสที่คลอในหน่วยตาด้วยความแค้นเคือง

สิงขรก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว ก่อนจะหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไป

“เฮ้ย เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งไป

ก้องภพรีบวิ่งตามไป แม้จะรู้ว่าร่างนั้นจะต้องหายลับไปจนได้

เขามาหยุดยืนอยู่ที่บันไดบ้าน แล้วนั่งลงกุมขมับ กับความสับสนที่เกิดขึ้นในจิตใจ








ร่างที่โผลเผลขึ้นมาจากสนามหญ้าเดินช้าๆมานั่งที่เก้าอี้ข้างสนาม สิงขรเอื้อมมือไปวางตรงตำแหน่งของ

หัวใจ เผื่อบางทีอาการที่มันเต้นระรัวอาจจะดีขึ้น

มันต้องเกิดอะไรขึ้นสักอย่าง กับคนที่เชื่อมความรู้สึกกับเขาได้ และสิ่งที่เกิดขึ้นมันต้องรุนแรงพอที่จะทำให้

คนที่เย็นชาอย่างนั้น มีปฏิกิริยาโต้ตอบในหัวสมอง

หรือว่า

อย่าเลย อย่าให้เรื่องที่เขาหวาดหวั่นจะเป็นเรื่องจริง สิงขรตื่นตระหนกในใจ เขารีบวิ่งอย่างรีบร้อนเข้าไปใน

ตัวบ้าน แล้วรื้อค้นหาบางสิ่งบางอย่าง จนกระทั่งพบในตู้เอกสาร

สูติบัตรแจ้งเกิดของก้องภพอยู่ในมือ เขามองวันเดือนปีตกฟาก ของผู้หมวดหนุ่มแล้วคำนวณในใจอย่าง

คล่องแคล่ว ในเมื่อวิชาจับยามสามตาเป็นวิชาพื้นฐานของคนที่ใช้อาคมอย่างพวกเขา

มือที่ถือกระดาษแผ่นนั้นสั่นระริก เมื่อผลจากการคำนวณแจ้งชัด หนุ่มน้อยวิ่งขึ้นไปบนชั้นสอง รีบโยนของ

จำเป็นลงกระเป๋าอย่างรวดเร็ว

สิงขรก้าวออกมาจากประตูรั้ว และปิดมันลงอย่างแน่นหนา เขาจำเป็นต้องออกเดินทางอีกครั้ง

ก้องภพกำลังตกอยู่ในอันตราย!



หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๓ ความสับสนที่เกิดขึ้น ( ๑๖ /๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: mcooky ที่ 28-10-2014 01:10:54
มาต่อเถิดหนาคนดี ติดตามและเป็นกำลังใจให้คนเขียน
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๔ อะไรคือสันติวิธี ( ๒๘ /๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-10-2014 17:04:06


                                                            Only Love Is Real

                                                                  ให้รักนำทาง

                                                           บทที่ 24 อะไรคือสันติวิธี


20 มกราคม 2529

ก้องภพปาดเหงื่อที่หน้าผากอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อเดินวนเวียนอยู่ในหุบเขาสูงอยู่หลายวันแต่ก็ยังหาตัว

สิงขรไม่พบ ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าคนยะโสที่ทำให้เขาสับสนนั้นจะหนีไปได้ไกลจนเขายังตามหาตัวไม่

เจอ จนบัดนี้


เคยสอบถามจากสิงขรอีกคนถึงวิชาล่องหน จึงได้รู้ว่า มันใช้ได้เพียงชั่วเวลาไม่นานจึงเอาไว้ใช้ยามจำเป็น

เท่านั้น เขาจึงไม่เชื่อว่าทายาทแห่งตระกูลเวทมนตร์ จะหลุดรอดสายตาเขาไปได้

ผู้หมวดหนุ่มไตร่ตรอง ถึง “พลังพิเศษ” อีกอย่างหนึ่งของเขาที่จะใช้ในการตามหาสิงขร เพราะรู้ว่า

ความสามารถพิเศษนี้ใช้พลังงานจากร่างกายสูง จนอาจจะไม่ปลอดภัยที่จะใช้มัน


….แต่ถ้าจำเป็น เขาก็พร้อมที่จะเสี่ยง


ก้องภพตัดสินใจยืดกายเต็มความสูง หลับตาลงเปิดโสตประสาทการรับรู้ทางเสียงแทนการมองด้วยตา

เสียงต่างๆปรากฏให้ได้ยินรอบทิศไม่เว้นแม้แต่เสียงสัตว์ป่าทั้งหลาย เขาค่อยๆ ใช้พลังพิจารณาอย่างละเอียด

ก่อนจะได้ยินเสียงสายน้ำที่ตกลงมาจากที่สูง และเสียงหายใจของมนุษย์


ใช่แน่นอน ก้องภพลิงโลด เขาพยายามจับทิศทางเสียงของสายน้ำจนแน่ชัด แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นมา

ผู้หมวดหนุ่มเซไปข้างหน้าอย่างอ่อนแรง กำลังลดน้อยถอยลงไปกับการทุ่มเทในครั้งนี้จนแทบจะหมด

ก้องภพค่อยๆ เดินไปยังทิศทางของน้ำตกอย่างมั่นใจ










สายน้ำสีขาวที่ตกจากผาสูงฟุ้งกระจาย แตกเป็นฟองละเอียดนวลเย็นตาเมื่อถึงพื้นน้ำเบื้องล่าง

ทัศนียภาพอันสวยงามเหล่านี้กลับไม่ได้ทำให้สิงขรรู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย  เมื่อเขารับรู้ถึงการมาเยือนอีก

ครั้งของศัตรูหมายเลขหนึ่ง

คิดไป เขาก็นับถือชายผู้ใช้พลังจิตคนนี้อยู่เหมือนกัน ที่สามารถตามหาเขาจนพบเป็นครั้งที่สอง

แล้วก็อดโมโหตัวเองไม่ได้เช่นกันในวันนั้น เมื่อถูกจู่โจมถึงตัวอย่างไม่คาดคิด ซ้ำร้ายกลับรู้สึกวาบหวามไปกับ

สิ่งที่ถูกกระทำจนเกือบเสียเชิง



ก้องภพก้าวเข้ามาจนอยู่ไม่ไกลจากร่างโปร่งบางที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่บนโขดหินริมธารน้ำ

มองผ่านๆก็เหมือนหนุ่มน้อยที่ทอดสายตาชมทิวทัศน์งาม แต่เขารู้ว่ามันไม่ใช่ จะประมาทไม่ได้อีกแล้ว

กับคนๆนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ เขาจะให้รู้ไม่ได้เลยว่า แค่แรงทรงกายยังแทบไม่มี


“เรามาคุยกันอย่างสันติวิธีดีกว่าไหม” 


เขาทักทายคำแรกด้วยการเสนอทางเลือก

สิงขรหันหน้ามามองผู้หมวดหนุ่มด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะผินร่างกลับมายืนเผชิญหน้ากับก้องภพที่

ยืนระดับต่ำกว่าอยู่บนพื้นดิน


“อะไรคือสันติวิธี”


หนุ่มน้อยเลิกคิ้วถาม


“ทำไมถึงเพิ่งมาคิดสันติวิธีตอนนี้ ทำไมนายไม่ไปบอกบรรพบุรุษของนายว่าให้มาคุยกันอย่างสันติวิธี

กับครอบครัวของเรา ไม่ใช่ฆ่าครอบครัวของเราจนหมด จนเราไม่เหลือใคร”


สิงขรค่อนขอดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ จนความรู้สึกวูบไหวด้วยความสงสารเจือเข้ามาในความรู้สึกของ

ก้องภพ


“ก็พวกแกมันหลอกให้คนหลงใหลมัวเมาไปกับไสยศาสตร์ งมงายไม่เข้าเรื่อง แล้วก็ไปทำชั่วช้าสารพัด” 


ก้องภพตอบโต้ด้วยเหตุผลที่เขาได้ยินมาตลอดชีวิต จุดประกายโทสะในแววตาสิงขร

ดูท่ามันคงเป็นสันติวิธีไม่ได้เสียแล้ว

หนุ่มน้อยตาดุ เดินลงมาจากโขดหิน ตรงมาหยุดยืนอยู่เบื้องหน้าของเขา ก่อนจะตั้งคำถามที่ตอบยาก


“แล้วพวกไหนบ้างที่ต้องมัวเมาไปกับไสยศาสตร์ คนที่มีความอ่อนแอในจิตใจ มีปัญหาชีวิตมากมายที่แก้ไม่

ตก ถามหน่อย พวกเขาจะหาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจากที่ไหน ถ้าไม่มาพึ่งพวกเรา”


สิงขรแค่นยิ้มที่มุมปาก เมื่อเห็นก้องภพเถียงไม่ออก


“เราทำให้พวกเขากลับไปมีความหวังอีกครั้ง แม้มันจะริบหรี่ แต่มันก็เป็นแสงสว่างเล็กๆ ช่วยพวกเขา ยามที่

ชีวิตมืดมิด ส่วนพวกนายที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนดี…”


สิงขรสบตากับก้องภพตรงๆ อย่างเคียดแค้น


“กลับมาฆ่า  มาทำลายพวกเราเพียงเพราะอยากโชว์ให้คนอื่นเห็นว่าพวกนายเก่งกาจ นี่นะหรือคือคำว่า

ดีของพวกนาย แล้วมันต่างอะไรกับพวกบ้าอำนาจที่คิดว่าตัวเองดีแต่คนอื่นเลวหมด”




“แต่พี่ก้องไม่ใช่คนอย่างนั้น เชื่อเราเถอะ”


น้ำเสียงกระหืดกระหอบของบุคคลที่สามแทรกเข้ามา จนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมองพร้อมกัน


“ไอ้ไม้ มาที่นี่ได้ไง”


ก้องภพไม่อยากจะเชื่อสายตาเมื่อเห็นคนที่เขารักมายืนอยู่ตรงนี้ แต่หนุ่มน้อยกลับมุ่งความสนใจไปที่สิงขร

อีกคนหนึ่ง เขาเข้าไปเกาะแขนสิงขรในชุดดำเพื่อขอร้อง


“เอามือออกไปจากตัวเรา ไอ้คนทรยศ”


สิงขรชุดดำตวาดอย่างฉุนเฉียวเมื่อเห็นคนที่เหมือนตัวเองอย่างไม่มีผิดเพี้ยน


“เราไม่ได้ทรยศ แต่เราไม่อยากให้นายทำพิธีบ้าๆนั่น ตอนนี้นายก็เก่งกว่าคนอื่นมากแล้ว นายจะอยาก

กลายเป็นไอ้เจ้าแห่งเวทนั่นทำไม นายก็รู้ว่ามันไม่ได้มีผลดีต่อร่างของนายสักนิด”


ก้องภพยืนมองคนสองคนที่รูปร่างหน้าตาเหมือนกันเถียงกันอย่างไม่เข้าใจ อะไรคือร่างใหม่ของเจ้าแห่งเวท

เขาไม่รู้เรื่องเลย


“มันเป็นสิ่งที่เราตัดสินใจแล้ว เอาเหล็กไหลมาให้เรา แล้วไสหัวไปให้พ้น”


สิงขรชุดดำแบมือต่อหน้า แต่สิงขรคนที่ผู้หมวดหนุ่มเรียกว่าไม้ยืนหน้าซีดเผือด


“อย่าบอกนะว่า…”


ทายาทแห่งมนตราสบถออกมา ก่อนที่จะผลักร่างของอีกคนล้มจนหงายหลังแล้วเตรียมเข้าไปทำร้ายซ้ำ


“ไอ้ไม้”


ก้องภพตะโกนอย่างเป็นห่วง ก่อนที่จะถลาเข้าไปผลักอกสิงขรในชุดดำ จนเซไปอีกทาง แล้วจึงเข้าไปประคอง

สิงขรที่นั่งกองอยู่กับพื้น

สิงขรชุดดำโมโหถึงขีดสุด


“รักกันนักก็ตายไปพร้อมกันเลย”


ทายาทแห่งมนตราท่องบริกรรมคาถา ดวงตาคุโชนไปด้วยไฟแห่งโทสะ แล้วเขาก็จ้องไปที่ก้องภพ

ลำแสงไฟสีแดงเพลิง พุ่งตรงออกจากดวงตาของสิงขรในชุดดำ เล็งไปสู่ร่างของชายผู้ใช้พลังจิต ที่มัว

กังวลอยู่ในความห่วงใยที่มีต่อคนรัก

ก้องภพที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวหันกลับไปมองลำแสงที่พุ่งมาอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ เขาหลับตาลงเมื่อ

รู้ว่าคงหลบไม่พ้น และวาระสุดท้ายของชีวิตเขาได้มาถึงแล้ว

ร่างของก้องภพกระเด็นไปด้านข้าง ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงระเบิดเผาไหม้อยู่ใกล้หู เมื่อเสียงนั่นเงียบลง

เขากลับไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิด



กลายเป็นร่างของสิงขร ที่หยุดนิ่งอยู่กับที่แล้วค่อยๆล้มลงไปกองกับพื้น ด้วยร่างกายที่ดำไหม้และลมหายใจ

ที่ขาดห้วง













หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๔ อะไรคือสันติวิธี ( ๒๘ /๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 28-10-2014 22:40:21
อะไร๊... นี่มันอะไรกัน เคลียร์ซิ... แบบนี้มันไม่โอ!!!!
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๔ อะไรคือสันติวิธี ( ๒๘ /๑๐/๒๕๕๗)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-10-2014 19:02:13
ยังไงต่อไม้จะตายมั้ย
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๕ จุดเริ่มต้น ๑/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 01-11-2014 20:07:54

                                                                  Only love is real

                                                                      ให้รักนำทาง

                                                                  บทที่ 25 จุดเริ่มต้น


สรรพเสียงทุกอย่างนิ่งสนิท มีเพียงเสียงของสายน้ำที่ยังคงแสดงให้รู้ว่าโลกยังไม่หยุดหมุน

ก้องภพจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อสายตา รวมถึงบุคคลต้นเหตุเจ้าของลำแสงแห่งไฟนั่นด้วย

ว่าคนที่นอนกองอยู่กับพื้นจะกล้าสละตัวเองผลักก้องภพจนพ้นทาง และใช้ร่างของตนรองรับลำแสงแห่งการ

ทำลาย จนต้องอยู่ในสภาพนี้


ไม่จริง!!!


ก้องภพตะโกนไม่เป็นภาษาอย่างคลุ้มคลั่ง เขาถลาเข้าประคองร่างที่ดำไหม้นั้น ก่อนที่จะมองไปยังคนที่ลงมือ

ทำอย่างโกรธเกรี้ยว

กลายเป็นดวงตาของก้องภพที่คุโชนด้วยไฟแห่งโทสะ พลังทั้งหมดที่ยังคงเหลือถูกส่งไปกระแทกร่างของ

สิงขรในชุดดำจนกระเด็น


“ถ้าไอ้ไม้เป็นอะไรไป กูจะฆ่ามึง”


สิงขรชุดดำ ค่อยๆเหยียดกายเต็มความสูง ดวงตายังคงเย็นชาไร้ความรู้สึก 


เอาเถอะ ...


เขาจะปล่อยให้ทายาทแห่งตระกูลที่ได้ทำลายล้างครอบครัวของเขา ได้ลิ้มรสชาติความเจ็บปวดที่มาจากการ

สูญเสียดูบ้าง ก็คงไม่เลวนัก

สิงขรหันหลัง เดินตัวตรงเข้าไปในเขตป่ากว้าง ทิ้งให้ร่างที่เหมือนตนราวกับพิมพ์เดียวนอนหายใจรวย

รินอยู่ในอ้อมกอดของก้องภพ



ก้องภพใจแทบสลาย เขามองใบหน้าขาวซีดแตกต่างจากร่างที่ร้อนไหม้อย่างสงสาร มือแกร่งที่เคยมั่นคง

บัดนี้ สั่นระริกอย่างที่เขาควบคุมไม่ได้ ค่อยๆเอื้อมไปวางบนแก้มเนียน


“ไม้ แกทำอย่างนี้ทำไม แกทำทำไม”


เขาคร่ำครวญเสียงสั่นไหว ยิ่งแทบขาดใจ เมื่อเห็นสิงขรสะดุดกับลมหายใจของตนเอง


“ผมยังไม่ได้บอกพี่...”


สิงขรเอ่ยเสียงอย่างยากเย็น ดวงตาแดงก่ำเพ่งมองใบหน้าของก้องภพ


“ผมเป็นร่างที่... เค้าเสกขึ้นมา ผมเป็น... เป็นอีกความคิดหนึ่งของเขา. . ”


สิงขรพยายามที่จะยกมือขึ้น ก้องภพคว้ามือที่ไหม้ดำนั้นมาจูบที่กลางฝ่ามือและยกมาแนบแก้มของเขา


“ขอร้อง...อย่า อย่าฆ่า พี่จะเห็นผมในตัวเขา ได้ไหม..”


ดวงตาคู่หวานชื้นไปด้วยหยาดน้ำ ก่อนจะหยาดหยดลงมา


“แต่มันทำแกเจ็บ มันทำให้แกเป็นอย่างนี้ แกจะปกป้องมันทำไม” 


ก้องภพตะโกนเสียงดัง


“เพราะเขาก็คือ..ผม ...อย่าให้เขาทำสำเร็จ ...อย่าให้เขาได้เหล็กไหลไป รับปาก..ได้ไหม..”


ก้องภพเจ็บปวดไปกับคำขอนั้น แม้กระทั่งวินาทีนี้ เขายังอยากจะพุ่งไปหักคอไอ้โหดชาติชั่วนั่น

แต่เมื่อสบตากับดวงตาคู่หวานที่ขอร้องเป็นครั้งสุดท้าย เขาก็ต้องกล้ำกลืนมันไว้ ด้วยการพยักหน้ารับ

สิงขรยิ้มอย่างอ่อนแรงเป็นการขอบคุณ ก่อนที่ลมหายใจจะสะดุดอีกครั้ง


“สะ..สุขสันต์วัน กะ..เกิดนะ พี่ก้อง..”


คำพูดตะกุกตะกักอย่างเหนื่อยอ่อนนั้น ทำให้ความอดทนของผู้หมวดหนุ่มขาดสะบั้น ก้อนสะอื้นที่แล่น

มาจุกที่ลำคอ ไม่สามารถกลั้นไว้ได้ น้ำตาจากผู้ชายแข็งแกร่งที่ไม่เคยมี บัดนี้ไหลรินเป็นทางหยดลงมา

ต้องแก้มเนียนในอ้อมแขน



จะมีความสุขได้อย่างไร ถ้าจะต้องจำไปทุกปี ว่าทุกครบรอบวันเกิดของเขา คือวันตายของคนที่เขารัก



สิงขรมองภาพพร่าเลือนนั้นราวกับจะเก็บมันไว้ในลึกที่สุดในหัวใจ คุ้มแล้วที่จะสละชีวิตที่ไม่มีค่าของ

เขาให้กับคนที่รักที่สุด เมื่อเขารู้แล้วว่าดวงของก้องภพถ้าไม่ “ถึงฆาต” ก็ต้อง “เสียของรัก”

เขาเลือกแล้ว ที่จะเป็น “ของรัก” ที่คนตรงหน้าจะสูญเสียไป

แค่เห็นก้องภพยังมีลมหายใจอยู่ต่อหน้า เขาก็เป็นสุขที่สุด


“ขอโทษ..ที่..คง ...ไม่ได้ร้องเพลงรักนิรันดร์ ..ให้ ..พี่ฟัง อีกแล้ว..”


ลมหายใจของหนุ่มน้อยขาดเป็นช่วง เขาอ้าปากหายใจอย่างหิวโหยอากาศเพื่อต่อชีวิตให้ยาวนานขึ้น

แม้เพียงวินาทีเดียวก็ยังดี

ก้องภพดึงร่างนั้นมากอดแนบอก แนบแก้มลงไปกับใบหน้าของสิงขร


“ไม้ พี่จะรอ พี่จะฟังเพลงที่ไม้ร้อง อยู่ร้องเพลงให้พี่ฟังก่อน พี่สัญญา พี่จะฟังทุกๆเพลงของไม้เลยนะ”


ก้องภพคร่ำครวญ เมื่อลมหายใจของคนที่รักหยุดนิ่งเป็นระยะ และเปลือกตาหรุบต่ำ

สิงขรพยายามลืมตาอีกครั้ง เพื่อมองหน้าคนที่รักจนสุดใจเป็นครั้งสุดท้าย



ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ขอให้เขาเกิดมาเป็นตัวจริง ขอให้เขาได้พบและรักกับคนๆนี้ทุกชาติทุกภพ



สิงขรอธิษฐาน ก่อนที่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายจะขาดช่วงในอ้อมกอดของก้องภพ


“ไอ้ไม้.....”


ก้องภพตะโกนทั้งน้ำตา ร่างบางที่กกกอด ค่อยๆ รางเลือนเบาบาง กลายเป็นฝุ่นจางๆลอยไปตามสายลม

เหลือทิ้งไว้เพียงกิ่งไม้เก่าๆ ที่ตัดแต่งเป็นรูปคน และ ของเหลวข้นสีเขียวใส







สิงขรหยุดชะงักกลางป่า

เมื่อรับรู้ถึงมวลอากาศบางเบาที่ไหลวนอยู่รอบตัว ก่อนที่จะกำซาบเข้าไปในตัวเขาทุกอณูขุมขน

เขาถอนหายใจ

ขอต้อนรับการกลับคืนสู่ร่าง สิงขร






 :ling2: :ling2: :ling2: :ling2:











หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๕ จุดเริ่มต้น ๑/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 02-11-2014 00:24:44
กรี๊ดแปป... มันดราม่าสุดๆไปเลยอ่ะงานนี้ เจ็บปวดดดดดด
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๖ ผู้มาเยือน ๕/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 05-11-2014 12:57:32

                                                                    Only Love Is Real

                                                                       ให้รักนำทาง

                                                                    บทที่ 26 ผู้มาเยือน


14 กุมภาพันธ์ 2529


เขาเหม่อมองกรอบรูปที่อยู่ตั้งอยู่ตรงหน้า ก่อนที่จะหยิบมาเพ่งมองลึกเข้าไปในนั้นราวกับจะให้เจ้าของมัน

ลุกขึ้นมาคุยด้วย เหมือนเช่นทุกๆวัน

ก้องภพถอนหายใจ

ใบหน้าที่เคยฉายชัดด้วยความหล่อคม มาถึงวันนี้ผู้เป็นเจ้าของปล่อยให้รกเรื้อไปด้วยหนวดเครา

ขาดการเอาใจใส่ดูแล


วันนี้เป็นวันแห่งความรัก วันที่ทุกคนบนโลกเฉลิมฉลองกับคนที่ตนเองรัก ยกเว้นเขา

กรอบรูปในมือ ไม่มีรูปอะไรเป็นพิเศษนอกจากรูปภาพวาดด้วยดินสอที่บ่งบอกว่าคนในรูปนั้นคือก้องภพ

เฉพาะวันนี้ เขาแกะด้านหลังของกรอบรูปออกแล้วหยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมาเพียงเพื่อจะพลิกไปด้านหลัง

ที่ซ่อนอยู่ ก้องภพใช้ปลายนิ้วไล้เบาๆอย่างคิดถึง


“รักนิรันดร์


คำง่ายๆ สั้นๆ แต่มันทำให้เขาปวดร้าว และคิดถึงคนที่เขียนมันขึ้นมาจับใจ




“แยกร่างเหรอ ลูกไปเจอมางั้นเหรอ


ผู้เป็นบิดาโทรศัพท์ทางไกลมาจากต่างประเทศ ก้องภพถือโอกาสนี้ถามข้อข้องใจที่เขาไม่เข้าใจ


“ก็เคยได้ยิน แต่ว่ามันก็ยากนะ ต้องคนฝีมือถึงจริงๆ จึงจะทำสำเร็จ เค้าว่ากันว่ามันจะแยกจิตใจ ความรู้สึก

ความประพฤติที่ไม่เหมือนกัน ออกจากตัวคนนั้น งงไหมลูก


“พ่ออธิบายเพิ่มได้ไหมครับ ผมยังไม่เข้าใจเลย


ผู้หมวดหนุ่มถามกลับ


“คนเรานี่นะก้อง มีทั้งความคิดที่ดีและไม่ดีอยู่ในตัวเราเองทั้งสองด้าน ขึ้นอยู่กับว่าด้านไหนจะมีอิทธิพลที่

มากกว่าสามารถหยุดความคิดของอีกฝั่งได้ ในกรณีที่ลูกเล่ามา พ่อเดาเหตุการณ์ได้ว่า ปู่ของทายาทคนนั้น

คงต้องเตรียมพร้อมให้หลานขึ้นเป็นเจ้าแห่งเวทมนตร์โดยการแยกเอาจิตใฝ่ดี ออกไปไว้กับอีกคน เพื่อให้ตัว

จริงนั้นมีแต่ความเข้มแข็งและโหดเหี้ยม จะได้ไม่มีความลังเลในการกระทำการใดๆต่อจากนั้น

“พ่อครับ แล้วถ้าเจ้าตัวที่เสกขึ้นมาเกิดตายไปล่ะพ่อ จิตมันจะคืนเข้าร่างเดิมไหม แล้วเจ้าตัวหลักมันจะจำ

เรื่องที่เกิดขึ้นกับไอ้เจ้าตัวเสริมได้ไหม


ก้องภพถามอย่างมีความหวัง


“อืม พ่อไม่มั่นใจเรื่องนี้เลยลูก ว่าแต่ทำไมถามเรื่องนี้เยอะจัง มีอะไรหรือเปล่าก้อง”


“เอ่อ ไม่มีหรอกครับพ่อ”


ผู้หมวดหนุ่มปฏิเสธก่อนจะพูดคุยกับผู้เป็นบิดาอยู่อีกครู่หนึ่งจึงวางหู

ก้องภพหันไปมองกีตาร์ตัวที่ตั้งอยู่ข้างเตียง แล้วหยิบมันขึ้นมากรีดนิ้วไปที่สายเบาๆ

หวังไว้ในใจลึกๆ ว่าผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงของมันจะกลับมาเล่นให้ฟัง








เพล้งงงง

แก้วน้ำใบใสลอยละลิ่วไปกระทบกับผนังบ้านจนแตกละเอียด เศษแก้วร่วงพรูกระจายเต็มพื้น

ไม่ใช่เพราะด้วยเวทอันใด แต่เป็นเพราะผู้เป็นเจ้าของบ้านขว้างมันเพื่อระบายอารมณ์อัดอั้นของตัวเอง

สิงขรไม่เข้าใจ

ว่าทำไมทุกครั้งที่เผลอไผล จะต้องมีใบหน้าของไอ้คนที่ใช้พลังจิตมาวนเวียนอยู่ในความคิด

แล้วเมื่อใบหน้านั้นปรากฏ หัวใจเจ้ากรรมก็พาลเต้นรัวอย่างโหยหา จนเขาไม่มีสมาธิที่จะฝึกวิชาใดๆ ทั้งที่รู้

ว่าเวลามันได้ใกล้เข้ามาทุกขณะ

ซ้ำร้าย ของศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสุดท้ายยังอยู่ในมือของผู้ชายคนนั้นอีก

เขาหลับตาลง อยู่ๆ ภาพบ้านทรงยุโรปเก่าแก่ก็ปรากฏขึ้นในห้วงแห่งความคิด เหมือนเป็นบ้านที่เขาคุ้นเคย

ถึงแม้เขาจะมั่นใจว่าไม่รู้จักบ้านหลังนี้มาก่อน

หนุ่มน้อยตาคมลืมตาขึ้น คงต้องไปเยือนผู้เป็นเจ้าของ เพื่อชิงเหล็กไหลมาประกอบพิธีกรรมให้ทันเดือน

หน้า

เพื่อเหล็กไหลหรอกนะ หาใช่เพราะความคิดถึงเจ้าของบ้าน

สิงขรบอกตัวเอง







เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 หากเจอเขาเจ้าจงบอกเถิดหนา


 อย่ารอช้ารีบเอื้อนเอ่ยเร็วพลัน


 บอกว่าฉันคอยรัก คอยรอ คอยพะนอเฝ้ารอทุกวัน


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 ฝากไปทีได้ไหมนกเจ้าวานนำข่าวไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย ๆ ด้วยความปวดร้าวใจ


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 บอกให้เขาคืนหวนกลับมาหาปลอบวิญญาให้ไออุ่นแก่ฉัน


 อย่าทอดทิ้งให้ฉันเดียวดาย จงคืนมาแนบใจนิรันดร์


 


 เจ้าบินไปแห่งใดนกเจ้าบินไปแห่งใด


 โปรดนำคำพูดไปนกเจ้าวานนำติดไป


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ


 ถึงคนที่ฉันเฝ้าคอย คอยด้วยความปวดร้าวใจ

(กุ้ง ตวงสิทธิ์ เรียมจินดาและวงเพื่อน 2528)




ก้องภพเอื้อมมือไปกดปิดเครื่องเล่นเทป แล้วถอนหายใจ

เพลงโปรดที่เคยฟังจนขึ้นใจ แต่ยังไม่เคยเข้าใจในความหมาย มาวันนี้ทุกพยางค์ในเพลงช่างแจ่มชัด

อยู่ๆ มวลอากาศในห้องก็เริ่มเกาะตัวหนาขึ้น มากขึ้น เด่นชัดจนเกิดเป็นร่างของใครบางคน ยืนอยู่เบื้องหลัง

ก้องภพกระตุกยิ้มโดยไม่หันไปมอง


“มาจนได้นะ ไอ้ชาติชั่ว


เขากล่าวต้อนรับผู้มาเยือนที่เฝ้ารออยู่นานแล้ว











หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๕ จุดเริ่มต้น ๑/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 05-11-2014 13:11:08
โหย กะลังสนุกเลย จัดหนักเลยก้องภพ ส่งมอบเหล็กไหลขาวขุ่นให้แทน :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๖ ผู้มาเยือน ๕/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-11-2014 16:38:51
คนดีตายแต่คนชั่วกลับยังอยู่
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 07-11-2014 01:09:17

                                                            Only Love Is Real

                                                               ให้รักนำทาง

                                                           บทที่ 27 จิตใต้สำนึก


หัวใจของสิงขรกระตุกวูบ ที่ในสายตาของคนตรงหน้าเขาก็มีสิทธ์เป็นเพียง “ไอ้ชาติชั่ว” คนหนึ่งเท่านั้น

ก็คงจะเป็นอย่างนั้นในเมื่อเขาเป็นคนกำจัด “คนรัก” ของคนๆนั้น ใครจะมองเป็นคนดีได้

ช่างเถอะ...

สิงขรกำจัดความรู้สึก “แปลกๆ” ทิ้งไป เขาสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความเชื่อมั่นที่ดูเหมือนจะ

ลดน้อยถอยลงตั้งแต่อีกจิตหนึ่งกลับคืนสู่ร่าง


“ก็แค่มาขอของคืน เอามาให้เราซะ เราก็จะไปแล้ว


สิงขรปั้นเสียงหยิ่งยโสอย่างที่เคยเป็นยิ่งสร้างความคุกรุ่นให้แก่ผู้หมวดหนุ่มจนต้องลุกขึ้นยืนแล้วหันมา

ประจันหน้ากับสิงขรอย่างรวดเร็ว


“ไม่ให้ มีอะไรไหม


ก้องภพเลิกคิ้วถามด้วยเสียงกวนอารมณ์ จนสิงขรเริ่มหงุดหงิด


“มันเป็นของเรา นายไม่มีสิทธิ์ยึดมันไว้ หรือว่านายกลัวว่าถ้าเราได้ไปแล้วเราทำพิธีสำเร็จ นายจะสู้เรา

ไม่ได้


“ไม่ได้กลัวโว้ย แต่มันไม่ใช่ของของมึง มันเป็นของไอ้ไม้ที่ลำบากไปตามหา ในขณะที่มึงนั่งสบายอยู่


ในบ้าน คอยเวลาแย่งชิงมาจากมันต่างหาก

ก้องภพพูดอย่างเดือดดาล

สิงขรกระตุกยิ้มที่มุมปาก


“ก็มันเป็นหน้าที่ที่มันต้องทำอยู่แล้วนี่ไม่เห็นจะแปลก มันเกิดมาเพื่อทำตามคำสั่ง จะต้องไปสนใจอะไร

กับแค่ ไอ้กิ่งไม้แห้งๆที่มารวมกับจิตที่มันอ่อนแออย่างนั้น



ความอดทนของก้องภพที่มีน้อยอยู่แล้วหมดสิ้นลงทันทีเมื่อสิงขรพูดประโยคนั้นจบลง  เขากระโจนพรวด

เดียวก็ถึงตัวสิงขร โดยที่หนุ่มน้อยยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ

มือสองข้างของก้องภพล็อคแน่นที่ข้อมือของสิงขร แล้วเขาก็ใช้ร่างดันให้สิงขรถอยหลังไปกระแทกผนัง

ด้านหลังอย่างแรง


ยังไม่ทันที่สิงขรจะร้องออกมาเพื่อระบายความเจ็บปวด ก้องภพก็ปิดปากเขาอย่างรวดเร็ว และรุนแรง

ริมฝีปากที่กดเบียดลงไปเต็มไปด้วยโทสะ ราวกับว่ากลีบปากบางของสิงขรนั้นเป็นแค่เครื่องมือระบาย

ความโกรธเกรี้ยวที่ผู้หมวดหนุ่มมีต่อคนที่ถูกกระทำอยู่ตรงหน้า เขาขบเม้มริมฝีปากล่างของหนุ่มน้อยจนห้อ

เลือด


ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นในความรู้สึกที่สูญเสีย ยิ่งอีกร่างมาให้เห็นหน้าและย้ำเตือนความรู้สึกคิดถึง โหยหา เขาก็ยิ่ง

ระบายความคลุ้มคลั่งอย่างไม่ปราณี

สิงขรตะโกนร้องในใจอย่างเจ็บปวดที่กลายเป็นเครื่องรองรับอารมณ์เกรี้ยวกราดของก้องภพ

ศักดิ์ศรีที่ยังเต็มเปี่ยมทำให้เขาพยายามอ้าปากและใช้ฟันกัดเข้าที่ริมฝีปากของก้องภพอย่างรวดเร็ว


“โอ๊ย !!!


ก้องภพร้องลั่น มือที่จับล็อคแขนของหนุ่มน้อยปล่อยลงโดยอัตโนมัติมากุมที่ปากของตัวเอง

สิงขรได้ที มือที่เป็นอิสระจึงได้ฟาดหลังมือเข้าที่ใบหน้าก้องภพอย่างแรง จนหน้าของผู้หมวดหนุ่มหันไป

ตามแรงนั้น

เมื่อหันกลับมาอีกที มุมปากนั้นมีคราบเลือด ที่หนุ่มน้อยก็ไม่มั่นใจว่าจากฟันที่กัดหรือจากหลังมือของ

เขากันแน่ซึมออกมา

แต่ที่มั่นใจคือโทสะที่ระเบิดอยู่ในดวงตาคู่ยาวรีนั่น ทำให้เขาหนาวจับใจ!!




สิงขรคิดหาทางหนีให้พ้นพายุแห่งความเกรี้ยวกราด เขาเตรียมท่องมนต์เพื่อพาตนเองไปให้พ้นจาก

เหตุการณ์บ้าๆนี้

แต่ไม่สำเร็จ..

ดวงตาของก้องภพลุกวาบขึ้น ก่อนที่จะกระชากแขนของสิงขรแล้วเหวี่ยงจนร่างบางนั้นเซถลาไปบนเตียง

ที่ตั้งอยู่ โดยที่สิงขรยังไม่ทันจะเริ่มท่องคาถา

สิงขรผวาลุกจากท่วงท่าที่เสียเปรียบ แต่ก็ไม่ทันเมื่อก้องภพพุ่งตัวมาคร่อมอยู่บนร่าง พลางดึงแขนของ

หนุ่มน้อยออกจากกันดันไปเหนือศีรษะ แล้วอุ้งมือแกร่งก็ล็อคมันติดกับที่นอนนุ่มด้วยมือเพียงข้างเดียว


“คิดจะหนีด้วยเวทมนตร์ของมึงหรือ ไม่มีทางหรอกโว้ย


ก้องภพตะคอกใส่หน้า


“กูจะทำให้มึงเจ็บ เจ็บยิ่งกว่าที่ไอ้ไม้มันโดนแกทำร้ายทั้งร่างกาย และจิตใจเป็นร้อยเท่า


ก้องภพใช้มือข้างที่เหลือกระชากเสื้อเชิตสีดำจนกระดุมหลุดกระเด็น ผ้าบางส่วนขาดวิ่น เขาฝังใบหน้าลงไป

ที่ซอกคอหนุ่มน้อย แล้วขบไปแรงๆ

สิงขรสะดุ้งเฮือกตั้งแต่จุดแรกที่ก้องภพโจมตี หนุ่มน้อยตาหวานพยายามที่จะสะบัดตัวไปให้พ้นจากร่างที่

ทาบทับไว้แต่ดูเหมือนยิ่งขยับตัวเท่าใด ก็ยิ่งถูกก้องภพกดเบียดเพิ่มน้ำหนักมากขึ้น จนอยู่ภายใต้แรงบังคับ

ของคนที่อยู่เบื้องบน

ก้องภพขบเม้มไล่จากซอกคอ ทุกที่จะทิ้งรอยแดงจางๆไว้ ลงมาจนถึงยอดอกที่พุ่งชูชัน ผู้หมวดหนุ่มจึงดูดดึง

เข้าไว้ในปาก  ใช้ปลายชิวหาโลมเลีย ก่อนที่จะเม้มมันเข้าไว้ด้วยริมฝีปากของเขา

สิงขรแอ่นกายผวาเมื่อสัมผัสนี้มาถึง เขานึกเจ็บใจที่ร่างกายสะท้านตอบรับโดยไม่ฟังคำสั่งจากสมอง แขนที่

ตอนแรกพอจะมีแรงต้านอยู่บ้าง ตอนนี้กลับอ่อนแรงจนคล้ายเป็นอัมพาต

มือที่กระชากเสื้อจนขาดวิ่น เปลี่ยนมาพยายามที่จะรูดซิปกางเกงผ้าเนื้อดี แต่มันไม่ถนัด ก้องภพจึงออก

แรงกระชากอีกครั้ง แล้วถือโอกาสตอนที่สิงขรตกอยู่ในวังวนของเขากระชากมันออกไปจากต้นขาของ

สิงขรรวมถึงปราการด่านสุดท้าย

สิงขรนึกเจ็บใจที่ใส่กางเกงตัวนี้มา แต่ที่เจ็บใจกว่าคืออาการที่ร่างกายตอบรับเมื่อก้องภพเลื่อนใบหน้าไปที่

จุดกึ่งกลางของลำตัวของเขาแล้วขบเม้มมันไว้ ปลายลิ้นชำนาญของผู้หมวดหนุ่มถูกใช้งานอย่างมี

ประสิทธิภาพ ทั้งขบเม้ม โรมเร้า จนแกนกลางนั้นแทบจะจมหายไปในช่องปาก


“อื้อ ฮัก ฮัก”


ก้องภพไม่ต้องจับล็อคแขนของสิงขรแล้วในตอนนี้ เมื่อหนุ่มน้อยกลับเป็นฝ่ายจับดึงรั้งที่เส้นผมของผู้หมวด

หนุ่มแทนพร้อมส่งเสียงครางเป็นระยะ  สิงขรได้ยินเสียงคำรามในลำคออย่างพอใจจากคนที่บุกจู่โจม

น้ำตาของสิงขรไหลจากหางตาลงมาเปื้อนที่ไรผมอย่างเจ็บใจ ที่ทำอะไรก้องภพไม่ได้ ซ้ำร้ายร่างกายยังตอบ

รับสัมผัสจากคนๆนี้ เหมือนเป็นสัมผัสที่คุ้นเคยและโหยหา

ก้องภพยกตัวขี้น เขาปลดเข็มขัดและจัดการถอดกางเกงตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะใช้มือแยกขาของสิงขร

ให้กว้างออก แล้วดันตนเองเข้าไป

หนุ่มน้อยเบิกตากว้างอยู่ภายใต้การดึงดันของร่างที่ทาบทับไว้ ความเจ็บปวดที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวจู่โจมจน

ต้องร้องอุทานออกมาตามที่จิตใต้สำนึกสั่งการ


“พี่ก้อง ผมเจ็บ





หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 07-11-2014 22:03:28
เมื่อจิตกลับมารวมกันก็ต้องรอดูว่าฝ่ายไหนจะชนะจิตชั่วหรือจิตดี
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: kokoro ที่ 08-11-2014 06:41:55
หวังว่าจิตฝ่ายดีจะดึงความรู้สึก ความนึกคิดมามีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆนะ

ว่าแต่ว่าพี่ก้องคะ น้องบอกเจ็บทีนี้ จะปราณีน้องมั้ย :mew2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 08-11-2014 16:11:34


รอรอรอ รออ่านต่ออยู่น้า . :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 08-11-2014 21:19:04
ค้างงงงงง :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๗ จิตใต้สำนึก ๗/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-11-2014 00:42:06
จิตดีกลับเข้าร่างแล้วสิงขรน่าเอ็นดูอ่ะ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๘ พบเพื่อลา ๑๐/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 10-11-2014 20:54:15

                                                                 



                                              Only love is real

                                                  ให้รักนำทาง

                                             บทที่ 28 พบเพื่อลา
 


ก้องภพชะงักตัวอยู่บนร่างบางนั้นอย่างงงงันเมื่อได้ยินคำเรียกที่คุ้นหู ก่อนที่จะสบตากับแววตาที่ยังเลื่อนลอย


คู่นั้น



“ขอร้อง อย่า อย่าฆ่า พี่จะเห็นผมในตัวเขา ได้ไหม..”


คำขอสุดท้ายของคนที่รักสุดใจดังขึ้นมาในความทรงจำ เขามองลึกเข้าไปในดวงตาที่เคยหยิ่งยโส แต่ตอนนี้

เขากลับเห็นดวงตาที่คุ้นเคยแอบซ่อนอยู่


แต่มันหยุดไม่ได้เสียแล้ว...



ก้องภพถอนหายใจลึกยาว มือแกร่งลูบที่ไรผมเปียกชื้น




“ยังเจ็บอยู่ไหม”


เขาถามเบาๆ หนุ่มน้อยเบื้องล่างนิ่งงันพลางเม้มปากแทนคำตอบ


“เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะไม้”



 ก้องภพกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่จะเริ่มขยับตัวอีกครั้งช้าๆ และอ่อนโยน

ร่างแกร่งยกขาหนุ่มน้อยให้สูงขึ้นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด และเปิดทางให้ช่องว่างนั้นกว้างขึ้น

เขาค่อยๆขยับเอว จนเห็นว่าคนเบื้องล่างคลายความเจ็บปวดลงแล้ว และพร้อมที่จะเดินทางไปพร้อมเขา

ก้องภพจึงยกขาสองข้างของสิงขรให้เกี่ยวกระหวัดรอบลำตัวของเขาไว้ มือหนึ่งของผู้หมวดหนุ่มกุมแน่น

และเค้นคลึงไปที่เนื้ออ่อนของสิงขร พร้อมกับเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น เร็วขึ้น

จนกระทั่งเขารู้สึกบีบอัดรุนแรงที่ท้องน้อยเมื่อถูกกล้ามเนื้อของอีกฝ่ายรัดแน่นเป็นจังหวะ

ก้องภพรุกเร้ารัวเร็ว จนทุกอย่างระเบิดขึ้นภายในร่างของสิงขร เขาครางเสียงต่ำผสานกับเสียงร้องที่

ไม่เป็นภาษาของหนุ่มน้อย

ก่อนที่เขาจะซบหน้าลงกับร่างของคนเบื้องล่าง แล้วจุมพิตเบาๆเป็นรางวัล

แล้วสิงขรก็หลับใหลอยู่ในอ้อมกอดของเขาตลอดคืน


 














อากาศในตอนเช้ายังคงเย็นชื้น แสงจากขอบฟ้าเริ่มเป็นสีแดงเรื่อ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาให้เห็นเด่นชัด

ก้องภพตื่นนานแล้ว แต่ยังไม่ยอมขยับตัว กลับกระชับอ้อมแขนรัดคนที่นอนหันหลังให้แน่นมากขึ้น

มองเห็นรอยแดงที่ลำคอของคนที่อยู่ในอ้อมแขนแล้ว ผู้หมวดหนุ่มถึงกับถอนหายใจที่ปล่อยให้ความเดือด

ดาลเข้าครอบงำ จนทำรุนแรงถึงเพียงนี้

ร่างบางที่นอนหันหลังเริ่มขยับตัวช้าๆ ก่อนที่จะยกหัวหันหน้ามาสบตากับเขา แล้วก็ชะงัก

สิงขรทำท่าจะลุกออกจากที่นอน แต่คนที่นอนเอกเขนกอยู่ก็คว้าเอวบางให้กลับมาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อม

กอดอีกครั้ง แถมยังคว้าผ้าห่มผืนหนามาคลุมมิดหัว



“จะรีบตื่นไปไหนล่ะ ยังไม่สว่างดีเลย หนาวด้วย”


ผู้หมวดหนุ่มพึมพำเบาๆ พลางใช้คางกดศีรษะ ให้ร่างนั้น

นิ่งอยู่ในอ้อมกอด


“ปล่อยนะ ปล่อยเรา”


เสียงอู้อี้นั้นลอดออกมา จนก้องภพถอนหายใจอย่างรำคาญ


“อยากให้ปล่อย ก็ดูสภาพตัวเองตอนนี้ก่อนนะ จะออกไปไหนได้ เอาสิ ถ้าอยากไปจริงๆ ก็เชิญเลย”


ว่าแล้วก้องภพก็กระชากผ้าห่มออก แล้วปล่อยตัวหนุ่มน้อยจากอ้อมกอด


ก้องภพผวาลุกขึ้นมานั่งบนเตียง ก่อนจะก้มไปสำรวจตัวเองแล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อร่างกายไร้อาภรณ์ใดๆ

ติดกาย แถมยังมีรอยแดงจางๆเป็นหลักฐานจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาอยู่แทบทั้งตัว

หนุ่มน้อยหน้าแดงก่ำ ยื้อยุดผ้าห่มจากมือก้องภพแล้วมาคลุมรอบตัว เลือดแห่งความกระดากยิ่งลามไปถึงใบ

หูเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะหึหึมาจากก้องภพ

สิงขรแทบจะหลับตาไม่ทัน เมื่ออยู่ๆร่างที่เปล่าเปลือยเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ของคนตรงหน้าก็ขยับกายลุก

นั่ง แล้วดึงตัวเขาไปกอดไว้ทั้งผ้าห่ม


“หลับสบายไหมเมื่อคืนน่ะไม้”


 เสียงพูดอ่อนโยนดังขึ้นใกล้ๆหู แต่กลับเรียกการต่อต้านจากหนุ่มน้อยอีกครั้ง



“อย่ามาเรียกเราว่าไม้”


ร่างที่อยู่ภายใต้การปกคลุมของผ้าห่มพยายามผลักไส


“คนที่เรียกเราว่าไม้มีคนเดียว คือแม่ของเรา ที่เหลือเราไม่อนุญาต”


หนุ่มน้อยเสียงแข็งแต่มีหรือที่ผู้หมวดหนุ่มจะสนใจ


“แหม ก็เพิ่มโควต้าให้อีกสักคนมันจะยากเย็นอะไร จะเรียกไม้ ใครจะทำไม ไม้ ไม้ ไม้”


ก้องภพลอยหน้าลอยตาพูด สิงขรได้แต่เม้มปากด้วยความขัดเคือง


“ว่าแต่ตอนนี้หิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันนะ”


อยู่ๆผู้หมวดหนุ่มก็ชวนง่ายๆ สิงขรส่ายหน้า


“ไม่ได้ เราต้องไป เอ่อ ไปอาบน้ำก่อน”


 สิงขรก้มหน้างุด ก้องภพลอบยิ้มอย่างนึกเอ็นดู


“เออ นั่นสินะต้องอาบน้ำก่อน อาบด้วยกันนะ ประหยัดน้ำ”


สิงขรตาเหลือกเมื่อได้ยินก้องภพพูดจบ หนุ่มน้อยส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก้องภพก็ไม่ได้ให้โอกาส

เขาลุกขึ้นดึงผ้าห่มออกจากตัวสิงขร แล้วคว้าร่างบางแบกขึ้นบ่า เดินเข้าห้องน้ำไปด้วยกันอย่างง่ายดาย









สิงขรนั่งหน้ามุ่ยเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆจากคนที่นั่งตรงข้ามบนโต๊ะอาหาร พลางก้มหน้าดูสภาพตนเอง

ร่างบางอยู่ในชุดของก้องภพที่ประกอบด้วยเสื้อยืดตัวเก่าและกางเกงยีนสีซีด ที่เมื่ออยู่บนร่างเขามันดูใหญ่

เทอะทะราวกับเด็กที่ขโมยชุดผู้ใหญ่มาใส่ และยิ่งไม่คุ้นตาเมื่อเขาเคยแต่ใส่ชุดดำมาตลอด


“กินข้าวกันก่อน ทำสุดฝีมือเลยนะ” 


ก้องภพเชื้อเชิญ พลางตักกับข้าวใส่จานให้สิงขร และบังคับขู่เข็ญให้หนุ่มน้อยกินไปจนตลอดมื้ออาหาร
 














สิงขรหยิบกรอบรูปที่บรรจุรูปสเก็ตของก้องภพขึ้นมาดู ใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึก เมื่อก้องภพเดิน

มาใกล้  หนุ่มตาหวานวางมันลงที่เดิมก่อนเอ่ยถาม


“หมอนั่นวาดล่ะสิ”


ก้องภพไม่ตอบแต่กลับดึงแขนสิงขรไว้ให้หันมาสบตา


“ไอ้ที่คิดจะทำอยู่เลิกคิดเลิกทำได้ไหม”


 ก้องภพเอ่ยถามจริงจัง


“แล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ ที่เคยบาดหมางกันมาแต่อดีต ก็เลิกแล้วต่อกัน ผมจะลืมด้วยเรื่องที่คุณกำจัดเจ้าไม้

เพราะอย่างไร คุณกับมันก็คือคนๆเดียวกัน”



สิงขรสบตาก้องภพอย่างค้นคว้า พบแต่ความจริงจังจริงใจอยู่ในแววตานั้น


“มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ ที่นายจะลืม”


สิงขรย้อนถามเสียงขื่น เขาดึงความเป็นตัวเองกลับคืนมาจนสำเร็จต่อหน้าก้องภพ


“แต่มันไม่ง่ายสำหรับเราที่ต้องแบกเกียรติยศของครอบครัวไว้บนบ่ามาตลอดชีวิต”


สิงขรท่องมนต์บทง่ายๆในใจ แล้วเป่าลมใส่ก้องภพเบาๆโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

อยู่ๆ ก้องภพก็รู้สึกง่วงงุนอย่างประหลาด เขาเซไปมา ก่อนที่สติจะดับวูบลง

สิงขรประคองร่างแกร่งไม่ให้ล้ม พลางจัดให้นอนที่โซฟารับแขก หนุ่มน้อยมองหน้าก้องภพอีกครั้ง

ดวงตาถือดีเมื่อครู่บัดนี้แดงเรื่อ สิงขรโน้มตัวไปจุมพิตที่ปากแดงนั้นเบาๆ


“ขอโทษนะ ที่ทำอย่างที่พี่ต้องการไม่ได้ พี่ก้อง ลาก่อน”
 












ร่างบางเดินตรงไปที่ห้องนอน ก่อนที่จะนิ่งคิดถึงสถานที่ที่ก้องภพจะเก็บเหล็กไหลไว้

สิงขรเดินไปที่กีตาร์ที่วางอยู่มุมห้อง แล้วหยิบมันขึ้นมาคว่ำหน้าลง เขาค่อยๆขยับจนกล่องเล็กๆที่อยู่

ภายในกีตาร์เลื่อนและตกลงมาใส่มือ

หนุ่มน้อยลูบกีตาร์อย่างรักใคร่เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ร่างจะค่อยๆจางลง กลายเป็นมวลอากาศที่หมุนวน

และจางหายจนหมดในที่สุด


 


 
 
 

อย่าลืมไปอ่าน เพลิงพ่าย กันด้วยนะคะ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43444.0)




หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๘ พบเพื่อลา ๑๐/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 10-11-2014 22:07:23
หลงรักเรื่องนี้ เพิ่งเข้ามาอ่านแล้ววางไม่ลงเลยค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๘ พบเพื่อลา ๑๐/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 11-11-2014 09:09:32
เจ็บปวดฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๘ พบเพื่อลา ๑๐/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 11-11-2014 15:57:43
(ใจ)แข็งจริงๆนะ สิงขร ไม่สงสารพี่ก้องเหรอ
จัดซักดอก ก่อนลา :hao6: :hao6: 5555
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๘ พบเพื่อลา ๑๐/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 12-11-2014 20:57:41
สิงขรทำไมไม่ปล่อยวางล่ะลูก? ภาระแบกไว้มันหนักนะ

ความพยาบาทคือของหวาน แต่เสพมาก ๆ ก็เบาหวานรับประทานนะลูก

ขอให้รักนำทางให้สิงขรไม่ตัดสินใจผิด เฮียก้องรออยู่นะครับผม
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 13-11-2014 18:30:43

                                                                 Only love is real

                                                                  ให้รักนำทาง

                                                            บทที่ 29 ตามหาหัวใจ


ก้องภพรู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อเกือบบ่าย เขาสะบัดศีรษะไล่ความง่วงงุนก่อนตั้งสติ

และเมื่อสติมา เขาก็ฉุกคิดได้ ชายหนุ่มลุกพรวดจากโซฟาแล้ววิ่งเข้าไปในห้องนอน แล้วหยิบกีตาร์ขึ้นมา

เขย่า

เงียบสนิท

ผู้หมวดหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งพิงเตียงอย่างหมดแรง และยกมือกุมศีรษะ

แค่กำลังจะเริ่มต้น ก็จบลงอย่างไม่เป็นท่า

ป่านนี้ สิงขรคนนั้นจะไปได้ไกลแค่ไหน แล้วกว่าเขาจะตามตัวได้ ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าใด





เสียงโทรศัพท์ดังจากห้องรับแขก ปลุกเขาให้ตื่นจากความกลัดกลุ้ม ก้องภพโผเผลไปรับสาย


    “ก้อง เมื่อวานที่คุยกับลูกเรื่องทายาทคนนั้น เราต้องรีบแล้วนะ”


ผู้เป็นบิดาโทรศัพท์ทางไกลน้ำเสียงร้อนรน


    “เดี๋ยวครับพ่อ ใจเย็นค่อยๆพูด มีอะไรนะครับ”


    “ก็เรื่องที่เราคุยกันเรื่องไอ้พิธีกรรมอะไรนั่น จำได้ไหมก้อง ต้องรีบตามหาตัวคนๆนั้นโดยเร็ว เพราะพ่อไปหา

ข้อมูลมาแล้ว ฤกษ์ทำพิธีของพวกมัน ต้องภายในวันที่ 30 เดือนมีนานะก้อง”

ชายหนุ่มยังงงไม่หาย


    “ทำไมล่ะพ่อ ทำไมต้องก่อนวันนั้น”


    “ลูกดูข่าวบ้างไหม เดือนหน้าดาวหางฮัลเล่ย์ ดาวหางที่คนไทยเชื่อว่าเป็นดาวมฤตยูจะผ่านโลกของเราไงลูก

แล้วดาวหางนี่แหละ ที่พวกนั้นมันเชื่อว่า จะช่วยส่งเสริมให้พิธีมันสำเร็จ”


ก้องภพยกมือขึ้นนวดขมับอีกครั้งเมื่อวางสายจากผู้เป็นบิดา พยายามนึกย้อนกลับไปถึงรายละเอียดที่เคยคุย

กับสิงขร


    “เขาจะต้องประกอบพิธีกรรมในวันเกิดของเขา คืออีก สามเดือนข้างหน้า ผมมีหน้าที่คือหนีไม่ให้เขาฆ่า

ผมให้นานที่สุด อย่างน้อยก็ต้องหลังวันเกิดของเขา


“แล้ววันเกิดมัน วันที่เท่าไหร่ล่ะ” เขาถามต่อในวันนั้น


    “30 มีนาคม”
















สิงขรเดินใจลอยกลับเข้าไปในป่า

เมื่อก่อนหัวใจของเขาเคยมั่นคงด้วยความรับผิดชอบต่อวงศ์ตระกูลที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เกียรติยศ

กลับคืนมา

แต่เมื่อใครบางคนผ่านเข้ามาในชีวิต มันทำให้เขาต้องหยุดฟัง เสียงของหัวใจบ้าง

เพียงแต่ถ้ามันจะเดินไปด้วยกันได้ คงจะดีไม่น้อย


อะไรบางอย่างปรากฏขึ้นในลานสายตา สิงขรหันขวับไปมอง

ร่มคันเล็กสีน้ำตาลเข้มปักวางอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มุ้งหยาบที่คลุมร่มอยู่ถูกพับเก็บขึ้นเหนือร่ม

พระภิกษุชราน่ากราบไหว้ นั่งขัดสมาธิหลับตาอยู่ ใต้ร่มใบเล็ก ให้ความรู้สึกเย็นตา เย็นใจ

หนุ่มน้อยเดินตรงเข้าไปหยุดตรงหน้า แล้วทรุดตัวก้มกราบ

พระภิกษุลืมตามองอย่างเอ็นดู


   “จะไปไหนเล่า พ่อหนุ่ม”


สิงขรอึ้ง นั่นสิเขาจะไปไหน


    “ยังไม่ทราบเลยครับหลวงตา ว่าจะไปไหน”


    “หลงทางมาหรือไง ถึงไม่รู้ใจตนว่าจะไปทางไหน”


พระภิกษุยิ้มให้อย่างปราณี


    “เลือกทางไหนก็ได้ที่ทำให้ลูกสบายใจ และไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน”


   “แม้ว่าทางนั้นจะไม่ได้ทำให้เรามีเกียรติ มีศักดิ์ศรีหรือครับ หลวงตา”


    “อะไรคือเกียรติ คือศักดิ์ศรีของลูก เอามาวางให้หลวงตาดูหน่อยได้ไหม”


พระภิกษุถามในสิ่งที่สิงขรตอบไม่ได้


    “สิ่งที่จำเป็นในชีวิตคือปัจจัย 4  อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค แสดงว่าเกียรติยศ ศักดิ์ศรี

ก็ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต ใช่หรือเปล่า”


สิงขรเงยหน้าสบตากับพระภิกษุอีกครั้ง


    “ถามใจของเจ้าให้แน่ ว่าจะเลือกทางไหน”


พระภิกษุกล่าวสอนอีกครั้งก่อนหลับตาลง สิงขรก้มลงกราบอีกครั้งก่อนลุกเดินจากไปด้วยหัวใจที่ยังหนักอึ้ง









20 มีนาคม 2529

ก้องภพทิ้งตัวลงบนที่นอนอย่างหมดแรงทั้งตัวและใจ ทั้งงานหลักอาชีพตำรวจที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ ก็ยัง

ไม่สามารถหาคำตอบไปให้เบื้องบนได้ ว่าคนที่ฆ่าคนด้วยคุณไสยคือใคร แม้คำตอบนั้นจะชัดแจ้งอยู่ในใจ

แล้วยังมีคดีอื่นที่ได้รับมอบหมายเพิ่มขึ้นอีก

ทั้งเรื่องของคนที่หนีไปพร้อมทั้งขโมยหัวใจ ความรู้สึกของเขาไปด้วย

กี่ครั้งที่พยายามตามหา ไม่ว่าจะออกตามหรือใช้พลังพิเศษ เขาก็ยังไม่พบวี่แววของสิงขร

จนแทบจะยอมแพ้

ที่เป็นห่วงที่สุดคือการตัดสินใจของสิงขรในการประกอบพิธีกรรม ที่เขาไม่รู้เลยว่าถ้าทำสำเร็จอะไรจะเกิด

ขึ้นกับคนที่เขามีใจให้

ก้องภพหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน จิตเริ่มสงบเมื่อใกล้เข้าสู่ภาวะแห่งการหลับใหล

ภาพป่ากว้างคุ้นตาปรากฏในภวังค์ ก่อนที่จะตามมาด้วยถ้ำลึกที่มืดมิด

ผู้หมวดหนุ่มลืมตาโพลง ทำไมเขาไม่ได้คิดถึงที่นี่ ที่ที่มีความสำคัญต่อเขาและสิงขรอีกแห่งหนึ่ง

ก้องภพกระโจนลุกจากเตียงเตรียมเคลียร์งานที่ค้างอยู่ และเดินทางอีกครั้ง

รอก่อนนะ ไม้










29 มีนาคม 2529

แสงแดดยามบ่ายจัดยังคงส่องลอดคบไม้ใหญ่ ให้เห็นปากทางเข้าถ้ำ  แต่เมื่อมองเข้าไปภายในกลับเห็นแต่

ความมืดมิด

ก้องภพยืนพักอยู่ที่ปากทางเข้าถ้ำอย่างเหน็ดเหนื่อย กว่าจะมาได้เขาต้องจัดการงานอีกหลายอย่าง

และกว่าจะเดินทางกลางป่ามาถึงที่นี่ ก็ล่วงเข้าไปจนถึงวันสุดท้ายที่จะเกลี้ยกล่อมให้สิงขรเปลี่ยนใจ

เขาก้าวเข้าไปในถ้ำหลังจากที่ปรับสายตาให้คุ้นชินกับความมืด จนมาถึงภายในถ้ำที่เป็นห้องโถงใหญ่

ร่างคุ้นตาใส่ชุดดำยืนหันหลัง กลมกลืนกับความมืด หันขวับมาทันทีเมื่อได้ยินเสียงผู้ลุกล้ำ

ก้องภพยิ้มอย่างดีใจ ส่วนสิงขรมองอย่างตกใจที่ก้องภพพบเจอเขาได้ในที่สุด

ผู้หมวดหนุ่มผวาเข้ามากอดร่างนั้นจนแน่น


    “ไม้ หนีมาทำไม รู้ไหมว่าเป็นห่วงแค่ไหน คิดถึงแค่ไหน”


สิงขรหลับตาลง กลั้นสะอื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลรินผ่านร่องแก้ม






















หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 13-11-2014 18:48:16
ยอมๆเหอะสิงขร อย่าเยอะ เลือกเอาระหว่างพิธีกรรม กะ พิธีกาม 555 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 13-11-2014 18:52:55
 :L1:    :pig4: 
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 13-11-2014 19:09:12
ยอมๆเหอะสิงขร อย่าเยอะ เลือกเอาระหว่างพิธีกรรม กะ พิธีกาม 555 :laugh: :laugh:


ชอบความเห็นรีนี้อ่ะ
เห็นแนวทางแล้วนะไม้ เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-11-2014 19:16:06
ใช้ใจนำทาง
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๒๙ ตามหาหัวใจ ๑๓/๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: ipookza ที่ 15-11-2014 16:53:15
มาต่อเร็วๆนะ กำลังสุนกเลย พึ่งเคยอ่านสนุกมากค่ะ แนวนี้หาคนแต่งยากจริงๆ
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๐ พิธีกรรม ๑๗ /๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-11-2014 21:39:32

                                                                  Only Love is real

                                                                       ให้รักนำทาง

                                                                     ที่ 30 พิธีกรรม


สิงขรไม่อยากจะยอมรับกับตัวเองจนกระทั่งตอนนี้ว่าผู้ชายคนที่กอดเขาจนแน่น ช่างมีอิทธิพลต่อเขา

เหลือเกิน

มือที่แนบอยู่กับลำตัวค่อยๆยกขึ้นอย่างลังเล และเมื่อยอมรับใจของตนได้ สองมือนั้นก็กอดตอบจนแนบแน่น

สิงขรฝังใบหน้าตัวเองลงกับบ่ากว้างที่รองรับ แล้วร้องไห้อย่างไม่อาย

ก้องภพปล่อยให้หนุ่มน้อยร้องไห้อยู่พักหนึ่ง  แล้วเขาก็ดันตัวสิงขรออก เอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา


“ทำไมรู้ว่าเราอยู่ที่นี่” 


สิงขรเอ่ยถาม


“ก็เพราะคุณขโมยหัวใจของผมมาด้วย ผมเลยต้องมาตามที่หัวใจของผมมันอยู่ และพามันกลับ


สิงขรสบตาก้องภพในความมืด ดวงตาคู่นั้นช่างกระจ่างชัดอยู่ในความรู้สึก มีแต่ดวงตาของเขาที่อับแสงลง

จนต้องหลบสายตา


“เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ นายก็รู้


หนุ่มน้อยพูดเสียงขื่น ก้องภพประคองใบหน้านั้นให้หันกลับมาสบตาเขาอีกครั้ง


“มันเป็นไปได้ ถ้าคุณอยากให้เป็น


ก้องภพโน้มตัวไปจุมพิตที่หน้าผากสิงขร


“แค่ตอบผมสักคำว่าคุณรักผม เหมือนอย่างที่ผมรักคุณหรือเปล่า


สิงขรมองสบตาก้องภพ ก่อนที่จะตอบอย่างมั่นใจ


“เรารักนาย


ก้องภพยิ้มเมื่อได้ยินคำตอบนั้น เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะหนุ่มน้อยเบาๆ


“ถ้าคุณรักผม ไหนลองเรียกผมว่าพี่ก้องทีสิ แล้วเลิกใช้คำแทนตัวเองว่าเราด้วย


“พี่ก้อง ผมรักพี่


สิงขรเอ่ยอย่างกระดาก แต่นั่นก็ทำให้ก้องภพดีใจเป็นที่สุด

เขาบรรจงมอบรางวัลให้สิงขรด้วยจุมพิตที่อ่อนหวานที่สุด จนหนุ่มน้อยสะท้านไปทั้งร่างก่อนที่สิงขร

จะปล่อยใจและกายไปกับคนที่เขายอมรับกับตนเองแล้วว่ารักจนหมดใจ

เพราะครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้รู้จักความสุข สิงขรบอกกับตัวเอง











เสียงลมพัดเสียดสีกับกิ่งไม้แว่วมาจากภายนอก กลิ่นไอความชื้นลอยมาปะทะจมูก เวลานั้นได้มาถึงแล้ว

สิงขรลุกขึ้นยืน ลำตัวเหยียดตรงหน้าเชิด เตรียมก้าวเท้าออกเดิน


“จะไปไหน


เสียงดุดังขึ้นจากคนที่ลุกตามอย่างรวดเร็ว


“มันถึงเวลาแล้ว


สิงขรตอบเสียงเย็นชา ก้องภพรีบลุกมาดักหน้าและยึดต้นแขนสองข้างของสิงขรไว้


“พี่ไม่ให้ไป ทำไมล่ะไม้ ความรักของพี่มันเปลี่ยนใจไม้ไม่ได้เลยหรือ ที่พี่ดั้นด้นมาที่นี่มันไม่มี

ความหมายเลยใช่ไหม


ก้องภพตัดพ้อ


“พี่ไม่เข้าใจผมหรอก ว่าผมต้องแบกรับอะไรบ้าง พี่รู้ไหม ผมฝันเห็นพ่อแม่ ฝันเห็นปู่ทุกคืน พวกเขามาทวง

คำสัญญาจากผม ผมต้องนอนฝันร้ายทุกคืนพี่รู้บ้างไหม ผมทรยศพวกเขาไม่ได้


“ไม่ได้


ก้องภพกางแขนกั้น


“ไม่มีทางที่ไม้จะผ่านพี่ไปได้ ถ้าพี่ไม่ตายเสียก่อน


“พี่อย่าบังคับผม


สิงขรตะโกนก้องไปทั่วถ้ำ แต่ก้องภพยังคงยืนนิ่งที่เดิม


ดวงตาคู่หวานลุกวาบ สิงขรท่องมนต์ แล้ววางมือไปที่ลำตัวของก้องภพจนตัวแดงวาบ ก้องภพร้องลั่นก่อนที่

จะทรุดตัวลงด้วยความเจ็บปวด สิงขรเดินตัวตรงผ่านร่างนั้นไป

เขาหันกลับมาอีกครั้งเมื่อเกือบลับสายตา


“ลาก่อน พี่ก้อง” 


แล้วร่างนั้นก็เลือนหายไป









พยับเมฆลอยต่ำปกคลุมท้องฟ้า แสงอัสนีบาตสว่างแปลบปลาบ ส่องให้ร่างที่ยืนเด่นบนยอดเขายิ่งดูน่า

เกรงขาม

สิงขรยืนนิ่งอยู่หน้าแท่นที่วางของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามเพื่อรอเวลาเที่ยงคืนตรง ที่จะก้าวเข้าสู่วันใหม่

นี่เป็นภาระที่เขารับผิดชอบ ภาระที่เขาเตรียมตัวรับมันตั้งแต่วัยเยาว์ บัดนี้มันถึงเวลาแล้ว

ลำแสงสีแดงปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้าด้านหนึ่งก่อนที่มันจะเดินทางมาจนใกล้ยอดเขา

มาแล้วสินะ ดาวมฤตยูในตำนาน

สิงขรเริ่มท่องมนต์บทที่เตรียมไว้จนขึ้นใจ เร็วขึ้น ดังขึ้น เสียงฟ้าฝนยิ่งกระหน่ำตอบรับและเมื่อแสงแห่ง

ดาวหางใกล้จะตรงหัว ของศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นก็เริ่มมีแสงสว่างเรืองรอง

ยกเว้นเหล็กไหล

สิงขรเพ่งตามองอย่างแปลกใจ


“มันไม่สำเร็จหรอกไอ้ไม้ ในเมื่อเหล็กไหลในกล่องนั้นน่ะ มันเป็นของปลอม


สิงขรหันไปมองอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียง แล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่า

ก้องภพที่ยืนตัวงอ ด้วยอาการบาดเจ็บถือกล่องใส่เหล็กไหลเรืองแสงในมือ!!

เขาเดินตรงเข้ามาใกล้ พลางเลิกคิ้วถาม


“แกคิดว่าพี่จะโง่ เก็บของสำคัญไว้ให้หาได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ


สิงขรมองอย่างเจ็บใจ ยิ่งลำแสงแห่งดาวหางส่องตรงหัว แสงจากของศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งเรืองรองท้องฟ้ายิ่ง

ปั่นป่วน ลมพัดจนยอดไม้หักโค่น ฟ้าแลบแปลบปลาบ ส่งเสียงร้องดังลั่น


“พี่ก้อง ส่งมาให้ผม เดี๋ยวนี้


สิงขรตะโกนอย่างร้อนรน แต่ก้องภพได้แต่ยืนกระตุกยิ้มอย่างสะใจ


“อยากได้ ก็เข้ามาเอาเองสิ


สิงขรไม่มีทางเลือก เขาโผเข้าใส่ก้องภพแต่ก็ต้องกระเด็นออกมา เมื่อผู้หมวดหนุ่มใช้พลังของเขาต้านไว้

ทายาทแห่งมนตราไม่ยอมแพ้ สิงขรท่องมนต์รัวเร็ว เกิดลำแสงแดงวาบขึ้นที่ฝ่ามือ แล้วเขาก็สะบัดใส่

ก้องภพ แต่คนใช้พลังจิต ใช้สายตาเพ่งมองผลักลำแสงนั้นจนคลาดร่างเขาไปนิดเดียว

ผู้หมวดหนุ่มเงยหน้ามองลำแสงสีแดงบนท้องฟ้านั่นแวบหนึ่งแล้วก็รู้ว่ามันถึงเวลาแล้ว เมื่อลำแสงของมัน

แดงก่ำ ก่อนที่จะพุ่งวาบเข้าหาแท่นพิธี

ก้องภพตัดสินใจเพ่งสายตาไปที่สิงขรใช้พลังผลักร่างของหนุ่มน้อยให้เสียหลักล้ม

เขาเบนพลังนั้นไปผลักแท่นพิธีจนมันกระเด็นจากพื้นลอยขึ้นไปในอากาศ แล้วเขาก็ขว้างกล่องเหล็กไหล

ลอยละลิ่วไปใกล้แท่นพิธี

ลำแสงพุ่งวาบจากดาวหางตรงดิ่งเข้าหาแท่นพิธี จนเกิดเป็นไอหนาสีแดงกลางอากาศ  ท้องฟ้าลั่นครืน

แล้วแสงอสุนีบาตก็ฟาดเปรี้ยงลงมา



ก้องภพกระโจนเข้าบังร่างสิงขรก่อนที่สายฟ้าจะฟาดลงถึงพื้นดิน

ลำแสงสีแดงของดาวหางแล่นผ่านท้องฟ้าไปอีกด้านหนึ่ง สถานการณ์เริ่มเข้าสู่ปกติ เมฆฝนคล้อยผ่านจน

เหลือเพียงละอองบางเบา เวลาแห่งพิธีกรรมผ่านพ้นไปแล้ว

สิงขรเหลือบตามองอย่างเจ็บใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะรู้ดีว่ามันเกิดจากความหวังดี

ก้องภพปล่อยตัวสิงขรให้เป็นอิสระ เขาสบตาหนุ่มน้อยอย่างดีใจที่ไม่เกิดอะไรขึ้น

เขาเอื้อมมือมาจับเบาๆที่ใบหน้าของสิงขร





แต่แล้ว มันกลับตกลงพร้อมร่างกายของก้องภพที่ทรุดลงไปนอนกองกับพื้น







เพื่อนนักอ่านสาวกเรื่อง X-theme the series

รบกวนตอบโพลเรื่องรวมเล่มด้วยนะคะ

http://goo.gl/forms/We7Ud6pLWh

ขอบคุณค่ะ






















หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๐ พิธีกรรม ๑๗ /๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 17-11-2014 22:58:19
พี่ก้องงง :sad4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๐ พิธีกรรม ๑๗ /๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: naamsomm ที่ 18-11-2014 17:44:27
มาต่อด่วนจ้า
ติดมากกกกกกกกกกก
สนุกมากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๐ พิธีกรรม ๑๗ /๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 18-11-2014 19:04:39
เกิดไรขึ้น  :katai1:  :katai1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๐ พิธีกรรม ๑๗ /๑๑/๕๗ นิยายพีเรียด
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 18-11-2014 19:13:14
 :hao5: 
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-11-2014 19:11:46


                                                              Only love is real

                                                                ให้รักนำทาง

                                                              บทที่ 31 รักนิรันดร์


“พี่ก้อง” 


สิงขรตกใจสุดขีดกับสภาพที่เขายังไม่รู้สาเหตุ หนุ่มน้อยรีบถลาเข้ามาสำรวจร่างของก้องภพ ก่อนที่จะ

พบว่าแผ่นหลังของผู้หมวดหนุ่มเต็มไปด้วยรอยไหม้เกรียม


“พี่ก้อง พี่ถูกฟ้าผ่าหรือ


สิงขรร้องลั่นจนแทบจะขาดใจ


ก้องภพตาค้าง หัวใจของเขาหยุดเต้น สิงขรรีบวางร่างนั้นกับพื้นดิน แล้วกดไปที่ตำแหน่งของหัวใจรัวเร็ว


“พี่ก้อง พี่ต้องไม่เป็นอะไรนะ ต้องอยู่กับผมนะ


สิงขรตะโกนอย่างเสียสติ เมื่อก้องภพไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น

ร่างที่หยุดหายใจ ผวาเฮือก ตาที่ค้างอยู่เบิกกว้างก่อนที่จะกลับมามองหนุ่มน้อยอย่างห่วงใย


“ไม่เป็นไร ใช่ไหม


กลับเป็นเสียงที่แผ่วเบานั้นที่เป็นฝ่ายถาม สิงขรน้ำตาไหลพราก


“ไม่ ผมไม่เป็นไร


ก้องภพยิ้มอย่างอ่อนแรง ลมหายใจอ่อนระโหย


“ดีแล้ว


มือของเขาค่อยๆเอื้อมมาเช็ดน้ำตาให้สิงขร


“อย่า ร้องไห้ พะ พี่รัก มะ ไม้ นะ” 


เขาสำลักเฮือก สูดลมหายใจทางปากอีกครั้ง


“สุขสันต์วันเกิด


ลมหายใจนั้นขาดห้วง สิงขรดึงร่างนั้นมากอดแล้วตะโกนลั่นไม่เป็นภาษาอย่างเจ็บปวดที่สุดในชีวิต


“พี่ก้อง.....








5 ปีผ่านไป


อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวาพุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ

สะหวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโมธัมมัง นะมัสสามิ

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆสังฆัง นะมามิ





พระภิกษุหนุ่มรูปงามเช็ดถูโบสถ์จนสะอาดเอี่ยม จึงมานั่งต่อหน้าพระประธาน

เมื่อจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัยแล้ว จึงได้นั่งขัดสมาธิ ทำใจให้สงบแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร

โดยเฉพาะแผ่เมตตาให้กับคนๆนั้น ที่ยังมีร่องรอยเจือจางอยู่ในใจตลอดเวลา แม้จะคลายความรุ่มร้อนเสียใจ

ลงมากแล้วเมื่อผันชีวิตเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์หันหลังให้กับวิชาอาคมโดยสิ้นเชิงตั้งแต่วันนั้น วันที่คนที่ยึด

หัวใจไว้ได้จากไป

จิตใจที่ติดอยู่ในไฟแห่งโทสะเลือนหาย ความเย็นใจเย็นกายสร้างความสงบให้ พระภิกษุหนุ่มปวารณาตน

จะรับใช้พุทธศาสนาไปจนกว่าร่างนี้จะสิ้นอายุขัย และกรรมเก่า

ดวงตาคู่หวานจับจ้องไปที่องค์พระอย่างสงบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดลงช้าๆ

วางกิเลสและนิวรณ์ทั้งปวง ก่อนที่จะเข้าสู่สมาธิ

คำอธิษฐานที่เคยมีล่องลอยมาอาบไล้ราวกับสายลม


ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดมีจริง ขอให้เขาเกิดมาเป็นตัวจริง ขอให้เขาได้พบและรักกับคนๆนี้ทุกชาติทุกภพ









ธันวาคม พ.ศ.2534

พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ

พบภิกษุหนุ่ม ละสังขาร ท่านั่งสมาธิ ชาวบ้านแห่กราบไหว้


                                                                            จบบริบูรณ์






บทส่งท้าย


อธิศหันกลับไปมองก็ต้องอึ้งกับภาพที่เห็นชายหนุ่มที่ก้าวลงมาจากรถยุโรปคันใหญ่เงาวับนั้น

กลับเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นที่ดูเหมือนจะอายุน้อยกว่าเขาเสียอีก

หน้าหวานใสนั้นขัดกับบุคลิกที่ดูขรึมเชิด หน้าตรงหลังตรงไม่เหลือบแลสิ่งใดราวกับคนทั้งโลกไร้ค่า

สำหรับเขาคนนั้น


หนุ่มหน้าหวานลงมายืนเต็มตัว มองตรงไปที่รถคันเกิดเหตุ

นี่คือครั้งแรกที่อธิศสาบานได้ว่าเพิ่งเคยเจอและได้ยินเสียงของผู้ชายที่ยืนนิ่งห่างไปไม่ไกลนัก 

แต่เขาเองไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ชายหนุ่มที่ดูหยิ่งยะโสคนนี้ถึงได้มีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของเขาได้

มากมายขนาดนี้

หรืออาจจะเป็นเพราะความตี่นเต้นและความกลัว ชายหนุ่มถามตัวเอง แต่ก็สามารถตอบได้ในทันทีว่าไม่ใช่

ความรู้สึกในใจมันวูบไหวประหลาด เหมือนกับได้พบสิ่งที่รอคอยมานาน





“คุณเชื่อเรื่อง Soulmate ไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวตั้งคำถามขึ้นมาอีก



“คนที่คุณคุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกันและกันไปทุกๆชาติ คนที่คุณรู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อคุณ ผมเชื่อนะว่ามันมีจริง

แล้วผมก็เชื่อว่าคุณจะพบคนๆนั้นจนได้



ทำไมจะไม่เชื่อ ...


ธีทัตตะโกนในใจ เขาหลับตาลงเหมือนจะไม่อยากให้คนตรงหน้ามองเห็นความจริงในแววตาและความรู้สึก

ที่ลึกล้ำ

ก็ไม่ใช่เพียงแค่แวบแรกที่สบตาในคืนวันนั้นแล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกหรือ ที่ทำให้เขาและอธิศได้มายืนอยู่ตรงนี้



“พี่ซันจำได้ไหมว่าเคยถามผมเรื่อง Soulmateคนที่คุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกัน”

หนุ่มตาหวานเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง อธิศยิ้มให้ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ


“พี่คือคนนั้นของผม


ธีทัตพูดเสียงหนักแน่น อธิศยิ้มให้อีกครั้งอย่างยินดีที่ได้ยิน





จากเรื่อง รักได้ไหมผู้ชายธรรมดา
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0)





 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------






สอบถามเรื่องรวมเล่ม X-theme  The seriesใครเคยอ่านแวะไปตอบโพลให้บ้างนะคะ

http://goo.gl/forms/aqLzva7wcw (http://goo.gl/forms/aqLzva7wcw) ขอบคุณค่ะ



หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-11-2014 19:35:41
ไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้แป๊บเดียว จบแล้วง่าาา
บรรยานความรุ้สึกไม่ถูกเลย
ช่วงก่อนจบมันเป็นอะไรที่ทั้งสุขทั้งเศร้าน่าดู
ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นัค๊าา
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 20-11-2014 20:27:34
โหยยยยย จบแล้วเหรอ ขัดใจอยู่นุดนุงนะ  :ling1:
แต่ยังไงก็ขอบคุณคนแต่งน้าาาาา :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 20-11-2014 22:19:49
เศร้านะ... แต่ซึ้ง... ไม่น่าตายเลยเธอเอ๋ย.... กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-11-2014 02:47:11
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: jum1201 ที่ 21-11-2014 12:07:53
 :pig4: :L2: ขอบคุณสำหรับนิยายดีดี สนุกมากคะ
เป็นกำลังใจให้เรื่องต่อไปนะจ๊ะ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-11-2014 12:15:11
 o13
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 22-11-2014 07:21:24
อยากจะร้องไห้

เศร้าอ่ะขอรับ

ถึงจะซึ้งแต่มันก็เศร้า

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 22-11-2014 11:44:46
จบแล้วอ่ะ แงงง้
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 06-12-2014 23:24:42
อ่านแล้วชอบเลยยยย  o13
:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 30-12-2014 16:48:53
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
แต่งเก่งมากเลยอ่ะ สุดยอดเลย
เค้าร้องไห้เลยอ่ะ  จะตามไปอ่านเรื่องต่อไปนะจ๊ะ
ขอบคุณมากเลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 02-01-2015 15:37:12
 o13
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: natsikijang ที่ 03-01-2015 21:48:30
 :L2:สนุกมากค่ะ  เพิ่งเข้ามาอ่านเจอ อาจจะเพราะชื่อเรื่องทำให้ใครหลายคนพลาดเรื่องนี้ไปค่ะ ชื่อเรื่องมันออกแนวหวานๆ น่าเสียดายมากก
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 04-01-2015 17:03:54
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :heaven :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 08-01-2015 14:43:32
ตอนอ่านแรกๆ ก็ว่าชอบแล้ว แต่พอเจอตอนจบว่ามีการเชื่อมโยงไปอีกเรื่องด้วย คือปลาบปลื้มมาก
ปรบมือรัวๆให้นักเขียนเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ จะรอติดตามผลงานต่อไป
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: domeloly ที่ 17-01-2015 12:29:41
เอิ่มคือเรียกไอ้ไม้ดูแปลกๆไงไม่รุ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: Pling ที่ 06-03-2015 14:25:34
ขออนุญาตเม้นทีเดียวหลังอ่านจบละกันเนอะ

เราชอบนิยายแฟนตาซีอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าเรื่องนี้ก็สนุกดีนะ!! ถึงแม้ว่าตอนจบจะไม่ได้คู่กันในเรื่องนี้ก็เถอะ  :sad4:
จริงๆอ่านเรื่อง "รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา" ไปก่อนเรื่องนี้ตั้งนาน แล้วพอเห็นลิ้งค์ในตอนจบเรากลับไปอ่านอีกรอบเลยค่ะ มันต่อกันจริงๆใช่ไหมคะ ชอบเรื่องนั้นอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์ ##อวสานแล้วฝากย้ายห้องค่ะ ##
เริ่มหัวข้อโดย: abc_b ที่ 20-03-2015 22:41:42

ฮือ~จบเศร้าจุง :hao5:
ตอนแรกนึกว่าเป็นแฟนตาซีสไตล์ไทยๆแล้วจบอย่างแฮ้ปปี้
ยังดีเหมือนมีภาคต่อเลยอ่ะ(ขอเข้าใจว่าอย่างงั้นละกัล)เลยดับรมณ์เศร้าไปได้นิดนึง
แล้วจะตามไปอ่านอย่างไวค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 03-05-2015 21:20:01
ชื่อเรื่องกับเนื้อหาคนละแนว
ถ้าไม่อ่านไม่รู้เลยว่าจะแฟนตาซีย้อนยุค
ดีใจที่มาไล่อ่านตามเก็บทุกเรื่องของน้องคนแต่ง
ไม่ใช่แนวตลาดแต่สนุกน่าประทับใจนะ
พระเอกเหมือนมีแฟนสองได้ท้ังคู่ 555
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 15-05-2015 13:45:26
สนุก ชอบเรื่องนี้มากเลยคะถึงจะไม่สมหวังในการครองคู่กัน ขอบคุณนะค่ะสำหรับนิยายดีๆ สนุกๆ ^^
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง บทที่ ๓๑ รักนิรันดร์
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 11-07-2015 11:15:50
แต่งดี อินตามมมม
หัวข้อ: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 11-07-2015 14:31:08
อาจจะไม่ใช่นิยายแนวกระแสนิยม
แต่เราก็แต่งแล้วจนจบ
ตอนนี้มีจำหน่ายทาง Ebook แล้ว
ใครรักใครชอบไปสอยกันได้ค่ะ


ซื้อ Only love is real ให้รักนำทาง (https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDczMTkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjgwMDMiO30)


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 17-07-2015 19:21:36
สนุก ลุ้น เศร้า



และสุดท้าย ซึ้งงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 04-08-2015 16:51:19
จบได้ทั้งซึ้งและก็เศร้ามาก
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 04-08-2015 19:25:17
 :pig4: สนุกลุ้นทุกตอนเลย ตอนจบเศร้าจัง
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-08-2015 05:12:31
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 14-08-2015 21:44:36
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ ที่เขียนเรื่องนี้ให้เราได้อ่านกัน
มันดีมาก จริงๆนะ ถ้าใครมาอ่านเม้นเราขอให้เชื่อเถอะ ว่าดีจริง
ตอนจบทั้งเศร้าและซึ้งมากๆ แต่ก็รู้สึกดีมากๆด้วย ^^
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 15-08-2015 11:23:31
ปวดใจตอนตาย

ขอบคุณค่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง ขายทาง Ebook แล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: spyhico ที่ 23-08-2015 16:34:01
สนุกมาเลย แต่ไม่น่าจบเศร้าเลย กระซิกๆๆ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 15-05-2016 20:47:59
ชอบเนื้อเรื่องจังค่ะ   สนุกดีอ่านแร้วไม่เบื่อเรยคร่า.  ชอบไม้กะพี่ก้องมากเรย. มา เปนกำลังใจให้คร่า. ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: Mitnai ที่ 15-05-2016 21:45:14
เศร้าช็อตไม้ตายมากๆ ถึงจะเดาเรื่องได้แล้วว่าสิงขรต้องมาแทนก็เถอะ
ฮืออออออ ขอบคุณค่ะ ♥
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 01-07-2016 08:30:28
สนุกมาก แต่จบสะละ
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 12-09-2016 12:34:54
สนุกมาก ๆ ครับ จบได้แปลกดี 

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 27-09-2016 11:41:00
สนุกมากๆเลยค่ะ ลุ้นว่าจะได้กันไหม สุดท้ายได้คู่กันจริง แม้จะชาติหน้าก็เถอะ จะตามไปอ่านชาติหน้าเหมือนกันค่าาา  o13
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 23-12-2016 19:36:34
ปวดใจกับการจากลาที่เกิดขึ้นแต่ก็ยังดีใจที่ทั้งคู่ได้กลับมารักกันอีก
จะติดตามอ่านต่อไปค่ะ
รักพี่ก้องภพ กับ ไม้  :mew2: :mew2: :mew2:
                                                             :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: bluecoco ที่ 05-01-2017 22:40:49
โอ๊ยยยย หลงรักเรื่องนี้ ดีงามมากที่สุด อ่านช้าไปสามปี แต่ของดีไม่ว่าเวลาผ่านไปกี่ปีก็มีค่า เช่นนิยายเรื่อนี้
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 25-01-2017 21:34:39
 :กอด1:
แต่งเก่งมากค่าสู้ๆๆๆ

 o13 o13
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 26-01-2017 16:13:20
เศร้า :katai1:
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 29-01-2017 12:14:15
ดีที่ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ยังมีจิตฝั่งดีช่วยไว้อยู่
ไม่งั้นคงต้องจบด้วยกันทั้งคู่

แต่ก้องภพคะ คือสู้กันนี่ต้องถึงตัว ถึงปากขนาดนั้นหรอ 5555
สิงขรไม่ได้เลวร้ายแต่แรก แต่เพราะถูกเลี้ยงมาแบบนั้น ก็ไม่แปลก

ความดีชนะทุกอย่างจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: tangtey59 ที่ 10-02-2018 23:05:27
 :hao7:เรื่องนี้สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 24-02-2018 13:32:56
เรายังคงรักBelove.  ในทุกๆผลงาน

 :pig4:
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: KittybabymApi ที่ 30-07-2018 21:29:43
เข้ามาตามเก็บทุกเรื่องของไร้ท์belove เรื่องนี้เป็นยุคเริ่มต้นรู้สึกว่าncน้อยไปหน่อย555  สนุกแปลกแฟนตาซีดีค่ะ
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 28-09-2018 12:53:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: << OnLy Love Is ReaLให้รักนำทาง >>
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaWikit ที่ 02-01-2019 20:27:58
น่าจะเป็นคนสุดท้ายของเรื่องนี้
แต่เราก็คือคนมาตามเก็บทุกเรื่องของ BELOVE
จะต่อด้วย "รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา"
"เพลิงพ่าย" (ภาคต่อของ "ร้ายซ่อน")
เดี๋ยวไปตามต่อใน Twitter นะ  @klam_natamon