พิมพ์หน้านี้ - สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: midnight ที่ 10-03-2014 22:27:17

หัวข้อ: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-03-2014 22:27:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////



ปฐมบท


ดาวดาราประกายงามกลางผืนฟ้า

ยามทิวาราตรีสงัดเงียบ

งดงามล้ำยากยิ่งสิ่งใดเปรียบ

แสงดาราคงเทียบเคียงเจ้าจันทรา


โอ้ ศศินใจเจ้านั้นคงเจ็บปวด

คงร้าวรวดด้วยกรรมใดของเจ้าหนา

เจ้าจำต้องเป็นเงาของสุริยา

อยู่เรื่อยมาทุกราตรีเป็นอาจิณ


รังสิมาผู้ยิ่งใหญ่แห่งอัมพร

นามขจรลือไกลไม่จบสิ้น

ผู้คนนับถือเจ้ายิ่งชีวิน

สุริยินทร์ถิ่นเจ้านั้นช่างไพศาล


สามดาราจักอยู่คู่วิหายสะ

มิอาจจะขาดดวงใดไปชั่วกาล

เพื่อคงไว้ซึ่งโลกาจนชั่วนาน

และสืบสานปฏิญญาแห่งทวยเทพ


+++++++++++++++++++++++++



สวัสดีค่ะ ^+++^

คราวนี้เริ่มเรื่องมาด้วยบทกลอน สำหรับเรื่องนี้เป็นแนวไทย ๆ (จักร ๆ วงศ์ ๆ ประมาณนั้นค่ะ)

คงคอนเซปแนวย้อนยุคตามฉบับ แหะ ๆ

ฝากตัว(อีกรอบ) ด้วยนะคะ ^^

ปล. เรื่องเก่าที่เคยลง... ฟิ้วไปแล้วเรื่องนึงค่ะ(มัวแต่นั่งเรียน เข้าแลป ทำงานพิเศษ ลืมมาต่อ หายเรียบร้อย //อาย)  :-[

เรื่องที่แต่ง(จบแล้ว)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32113.0

ตำนานรักสองราชวงศ์(เรื่องยาว)

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36513.0

เรือจ้างลำแกร่ง (เรื่องสั้นของวันครู)




++++++++++++++

แจ้งข่าวค่ะ

สิ้นเดือนนี้พี่ชายของคนเขียนจะบวช หลังพี่ชายบวจจะมาอัพตอนต่อไปให้นะคะ

ช้าขั้นรุนแรงเลย 5555 ขออภัยด้วยค่ะ

ขอจัดการงานหลวงให้เสร็จก่อนนะะ อย่าเพิ่งทิ้งกันไปน้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2014 00:07:38
ปฏิญญาที่ ๑

แสงสีทองสาดส่องนภากว้าง

ความมืดจางหมู่ปักษาออกหากิน

ผู้คนตื่นจากนิทราหมดฝันสิ้น

มุ่งสู่ถิ่นทำหาเลี้ยงเพื่อครอบครัว



ยามที่แสงแห่งสุริยาสาดส่องไปทั่วอาณาจักรวสุนธรา ผู้คนทั้งหลายต่างตื่นจากการหลับใหลขึ้นมาเพื่อทำงานของตนอย่างแข็งขัน

เหล่านางกำนัลวัยกำดัดผิวพรรณผุดผาดงดงามต่างเดินกันจัดเตรียมของให้เจ้านายของพวกนางวุ่น ผ้าทอสีอ่อนงดงามสะบัดพลิ้วตามจังหวะการก้าวเท้ามองดูเพลินตา

ดวงเนตรคมทอดมองเหล่านางกำนัลน้อย ริมโอษฐ์บางเหยียดยิ้มน้อย ๆ อย่างมีสุข...

สงคราม... ที่ทำให้ต้องเกิดการสูญเสียและความหวาดกลัวไปทั่วหย่อมหญ้าได้จบลงไปแล้ว แม้นว่าวสุนธราจักต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของอุษณกร แต่อย่างน้อยก็ได้รับการช่วยเหลือ ฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมางดงามดังเดิมเช่นนี้

“เจ้าพี่ เจ้าพี่สุริเยนทร์เพคะ”เสียงหวานใสของเจ้าน้องนางดังขึ้น ก่อนที่ร่างผอมบางจะย่างก้าวเข้ามาใกล้พระองค์

“มีอะไรหรือ ศรวิษฐาน้องพี่”สุรเสียงนุ่มทุ้มตรัสถามพระขนิษฐาอย่างอ่อนโยน เจ้าน้องของพระองค์นับวันก็ยิ่งงดงามขึ้น ช่างน่าภาคภูมิยิ่ง

“เสด็จพ่อเรียกพบเพคะ เจ้าพี่... พระองค์ทรงรับสั่งเรียก เจ้าพี่ น้อง และเจ้าน้องเพคะ... เจ้าพี่ทรงเห็นเจ้าน้องบ้างไหม น้องเดินผ่านมาจากตำหนักใหญ่ถึงที่นี้ ยังมิเห็นเจ้าน้องเลยแม้เพียงเงา”เจ้าหญิงองค์น้อยเอ่ยถามพระเชษฐาของพระนางด้วยสีพระพักตร์บึ้งตึง

“ศรก็รู้ ศศินน่ะมิได้หาตัวได้ง่าย ๆ”พระพักตร์หล่อเหลาเบือนออกไปทางบัญชรกว้าง “แต่ก็มิน่าอยู่ไกลจากที่นี้เท่าไหร่กระมั้ง...”
ศรวิษฐามองตามเจ้าพี่ของพระนางไปด้านนอก

“ศศิน ศศินคคนานต์ น้องอยู่แถวนี้หรือเปล่า”สุริเยนทร์ไทวะร้องเรียกอนุชาแห่งตน เหล่านางกำนัลและทหารรักษาพระองค์ทั้งหลายที่อยู่รายรอบนั้นหันไปมองเจ้าชายองค์โตของพวกเขา ก่อนที่จะหันมามองหาองค์ชายรองที่เจ้าชายเรียกหา “ศศินคคนานต์”

“พะยะค่ะ เจ้าพี่”ร่างสูงโปร่งก้าวออกมาจากกอไม้ทึบ ในมือเรียวถือหนังสืออยู่เล่มหนึ่ง บ่งบอกว่าพระองค์ทรงทำอันใดอยู่ตรงกอไม้นั้น “มีเรื่องอันใดหรือพะยะค่ะ”

“เสด็จพ่อเรียกพบเจ้า ข้าและน้องหญิง...”องค์ชายใหญ่ทรงบอกกล่าวแก่น้องรองของพระองค์อย่างนุ่มนวล “รีบไปกันเถิด สายมากแล้ว”

“เพคะ”เจ้าหญิงหนึ่งเดียวที่กำเนิดจากรานีของวสุนธราขานรับ


ทั้งสามก้าวเดินไปด้วยกันด้วยรอยยิ้ม พวกเขาพูดคุยกัน หยอกล้อกัน เป็นที่น่าชื่นใจในความผูกพันของพี่น้องที่มีให้แก่กันและกันในสายตาของทุก ๆ คน

ถึงแม้จะบอกว่าพูดคุยกันไป แต่ถ้ามองให้ดี คงจะรับรู้ได้ว่าการพูดคุยกันเป็นการพูดคุยของคนเพียงสองคนเท่านั้น...


หนึ่ง... องค์ชายผู้เป็นแสงสว่างแห่งแผ่นดิน


หนึ่ง... เจ้าดาราผู้เป็นที่รัก


แล้วจันทร์เจ้าเล่า... เหตุใดจึงถูกหมางเมินยิ่งนัก


ดวงตาหวานทอแสงหม่นเมื่อได้รับฟังการหยอกล้อของเจ้าพี่ทั้งสองของพระองค์ แต่ก็มิทรงตรัสอันใดออกมาแม้เพียงน้อย

ในส่วนลึกของหฤทัยนั้นช่างเจ็บปวดยิ่งนัก แต่ใดมา แม้นจะกำเนิดมาเป็นผู้น้องที่สมควรได้รับการดูแลจากพี่ ๆ แต่นั่นคงเป็นเพียงความฝันที่เงาของดวงอาทิตย์อย่างพระองค์มิอาจเอื้อม

ด้วยดวงจันทร์ที่ไม่มีแสงในตนเองอย่างเขาน่ะหรือ จะเทียบเคียงเจ้าสุริยาและดวงดาราที่ทอแสงบนท้องนภาอย่างกล้าหาญได้


ตำหนักใหญ่ที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินช่างงดงามนัก ทุกสิ่งอย่างที่อยู่ภายในพระตำหนักแห่งนี้ล้วนจัดทำขึ้นมาอย่างประณีต บรรจง เพียงแค่มองผ่านก็รู้ถึงความเอาใจใส่ในงานแต่ละชิ้นของช่างศิลป์มากฝีมือ

“เสด็จพ่อพะยะค่ะ”เชษฐาองค์โตเอ่ยเรียกพระราชบิดาของตนที่ประทับยืนเหม่อมองท้องนภาอันกว้างใหญ่อยู่ริมพระบัญชร “ทรงเรียกลูกและน้อง ๆ มามีเรื่องอันใดหรือพะยะค่ะ”

“สุริเยนทร์ไทวะ ศรวิษฐา ศศินคคนานต์”องค์กษัตริย์แห่งวสุนธราตรัสเรียกชื่อบุตรของพระองค์เบา ๆ “พ่อมีเรื่องที่ต้องบอกให้พวกเจ้ารับรู้”

“เรื่องอันใดหรือเพคะ เสด็จพ่อ”เจ้าหญิงร่างบางทรงตรัสถามขึ้น “มีเรื่องใหญ่หรือเพคะ...”

“มันก็มิใช่เรื่องใหญ่อะไรมากหรอก ศรวิษฐา”ผู้เป็นบิดาหันวรกายกลับมาหาลูก ๆ ของพระองค์ “เพียงแค่องค์ชายรพีธรณิน องค์รัชทายาทแห่งอุษณกรจะเสด็จมายังวสุนธราของเราในวันพรุ่งก็เพียงเท่านั้น...”

“รัชทายาทแห่งอุษณกรจะเสด็จมาหรือพะยะค่ะ”พระขนงเรียวขมวดเข้าหากันน้อย ๆ ดวงเนตรฉายแววเคร่งเครียด “ทรงเสด็จมาด้วยเรื่องอันใดหรือ เสด็จพ่อ”

“มาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี สุริเยนทร์”พระเนตรคมเบนมาสบกับโอรสของพระองค์อย่างสื่อความนัยน์ “ทรงเสด็จมาเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี...”

“คำพูดสวยหรูที่ว่ามาเจริญสัมพันธไมตรี แท้จริงก็เป็นเพียงคำลวงหลอก ความจริงนั้นไซร้ พระองค์จักต้องมาเอาผู้ใดไปเป็นตัวประกันเป็นแน่ใช่ไหมเพคะ เสด็จพ่อ”องค์ศรวิษฐาตรัสเสียงเข้มด้วยแรงอารมณ์ ดวงพักตร์ที่งดงามบึ้งตึงด้วยความโกรธาที่ประทุขึ้นในอุระ

“เป็นอย่างที่เจ้าคิดกระมัง ศรวิษฐา”พระองค์อดที่จะถอนพระทัยไม่ได้ เมื่อคำนึงถึงวันพรุ่ง “ขัตติยะที่มีศักดิ์สูงสุดแห่งวสุนธรา... มีสิทธิ์ขึ้นครองแผ่นดินต่อจากพ่อก็มีแต่พวกเจ้าทั้งสาม... เช่นนี้แล้ว รพีธรณินจักต้องนำพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งไปเป็นแน่...”

“เช่นนั้นคงมิพ้นน้องหญิง...”สุริเยนทร์ไทวะเอื้อมหัตถ์มาแตะกรเรียวของพระน้องนางด้วยความห่วงใย พระองค์มิอยากให้เจ้าน้องยาต้องไปตกระกำลำบากเลย “น้องเป็นหญิง นอกจากจะไปเป็นตัวประกันแล้ว ยังสามารถข่มเหงนางได้... เสด็จพ่อ... ลูก...”

“อย่าเพิ่งร้อนใจไป สุริเยนทร์  มันก็คงมิแน่เสมอไปว่าจะเป็นศรวิษฐา”องค์กษัตริย์คลี่ยิ้มบางให้กับบุตรชาย ทำให้ความกังวลขององค์ชายใหญ่ยิ่งเพิ่มพูน ลางสังหรณ์แปลก ๆ เข้าเกาะกุมร่างกายของพระองค์ช้า ๆ “เจ้าคิดจะเตรียมการอย่างไรก็ตามใจเจ้า พ่อเรียกพวกเจ้ามาเพื่อบอกเรื่องนี้เพียงเท่านั้น”

“พะยะค่ะ เสด็จพ่อ”ร่างสูงน้อมกายลงน้อย ๆ “เช่นนั้นลูกขอทูลลา”

“ทูลลาเพคะ เสด็จพ่อ เสด็จแม่”


เจ้าชายและเจ้าหญิงองค์โตแห่งแผ่นดินหันกายเดินจากตำหนักใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว กษัตราแห่งแผ่นดินปรายเนตรมองโอรสองค์รองน้อย ๆ ก่อนที่จะเสด็จออกไปอีกพระองค์หนึ่ง


“เจ้ามิพูดอะไรหน่อยหรือ ศศินคคนานต์”มารดาแห่งแผ่นดินตรัสกับโอรสองค์รองของพระนางที่นิ่งเงียบมาตั้งแต่เริ่มการพูดคุยจนถึงตอนนี้ “เจ้าคงกำลังคิดอยู่สินะ ว่าตัวเจ้านั้นมีสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นครองราษฎร์ด้วยเช่นนั้นหรือ”

“พะยะค่ะ เสด็จแม่... ลูกมิเคยคิดว่าลูกนั้นจะมิสิทธิ์ที่จะได้ขึ้นครองแผ่นดินนี้ต่อจากพระบิดาพะยะค่ะ”เสียงทุ้มหวานตอบกลับอย่างสัจจริง รอยยิ้มบางเบาคลี่ส่งให้กับมารดาของตน

“เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนั้นเล่า ศศิน ลูกแม่”

“ลูกเป็นเพียงเจ้าชายที่ไร้ความสามารถคนหนึ่ง... ลูกมิได้มีความเก่งกาจเฉกเช่นเจ้าพี่ มิได้มีความปราชญ์เปรื่องเช่นเจ้าน้องหลายคน...”

“แต่ลูกเป็นผู้ที่มีจิตใจที่ดีงามที่สุด ศศิน”หัตถ์เรียวบางลูบไล้เกศานิ่มเบา ๆ อย่างปลอบโยน “การปกครองแผ่นดินนี้ มิจำเป็นต้องเก่งกาจ มิจำเป็นต้องเปรืองปราชญ์นัก ขอแค่เพียงลูกมีคุณธรรม มีเมตตาต่อประชาชน เพียงเท่านี้ ตัวลูกก็จักเข้าไปอยู่กลางใจของทุกคนได้ ทุกคนจะภักดีต่อลูก ถวายให้ลูกได้แม้กระทั่งชีวิต”

“เฉกเช่นที่เสด็จพ่อและเจ้าพี่ได้รับ”ศศินคคนานต์ต่อท้ายคำของพระมารดาของพระองค์อย่างนุ่มนวล

ดวงเนตรเรียวช้อนขึ้นมองเสด็จแม่ของพระองค์ แววตาที่สับสน

“ลูกไม่ทราบหรอกพะยะค่ะ ว่าพรุ่งนี้จะเป็นเช่นไร แต่อะไรจะเกิด มันต้องเกิด เจ้าพี่สุริเยนทร์ยังคงเป็นเสาหลักให้กับพี่น้องทุกคน เจ้าพี่ศรวิษฐาแม้จักเจ้าอารมณ์ไปบ้าง แต่พระนางก็ทรงรับผิดชอบต่อหน้าที่ เป็นแสงที่ส่องประกายให้กับพสกนิกร แม้ว่าเพลานี้พระนางจะทรงกริ้ว แต่ลูกเชื่อว่าไม่นานก็จะทรงลืมเลือนและหายเป็นปกติ”

“ศศิน...”

“เช่นนี้แล้ว ลูกก็จะต้องทำหน้าที่ของลูกให้ดีที่สุดมิใช่หรือพะยะค่ะ แม้ลูกจะมิใช่ที่โปรดปรานของเสด็จปู่ และเสด็จพ่อดังเช่นเจ้าพี่ทั้งสอง ก็มิได้หมายความว่าลูกจะทิ้งบ้านเมืองแห่งนี้นะพะยะค่ะ...”

“ศศินคคนานต์... ลูกรักของแม่”


+++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-03-2014 00:30:57
เข้ามาจิ้มเรื่องใหม่คุณมิดไนท์ อิอิ
ศศินคิดจะสละตัวเองไปแทนพี่ๆสินะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2014 00:36:48
เข้ามาจิ้มเรื่องใหม่คุณมิดไนท์ อิอิ
ศศินคิดจะสละตัวเองไปแทนพี่ๆสินะ


อุ๋ย คนคุ้นเคย 555

เปล่านะคะ เรื่องนี้คนโดนเอาตัวไปไม่มีสิทธิ์เลือก สิทธิ์ขาดอยู่ที่คนมาเลือกค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 11-03-2014 00:38:34
นายเองเราท้องได้สินะ ฮี่ๆ จิ้มๆๆชอเลยแนวนี้ :z13:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-03-2014 18:06:44
มารอด้วย
 :katai2-1:
ปล.คิดถึงหนิงกวางงงง :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2014 18:55:13
มารอด้วย
 :katai2-1:
ปล.คิดถึงหนิงกวางงงง :hao5:

ลืมมาต่อ โดนลบค่ะ ;-;

เอาไว้จะส่งตอนต่อให้ทาง PM นะคะ

<3 <3
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฐมบท +ปฏิญญาที่ 1 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 11-03-2014 19:09:47
นายเองเราท้องได้สินะ ฮี่ๆ จิ้มๆๆชอเลยแนวนี้ :z13:
หะ
ถ้าอย่างนี้ต้องเกาะขอบจอกันเลยทีเดียว
บวกและเป็ดขอบคุณ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2014 22:55:22
ปฏิญญาที่ ๒

สุริยาจากแดนไกลมาเยือนถิ่น
พื้นแผ่นดินอันสมบูรณ์สัตว์พืชพันธุ์
เพื่อเจริญไมตรีผูกสัมพันธ์กัน
แฝงนัยน์อันน่าหวาดหวั่นในจิตใจ


เช้าวันรุ่งความวุ่นวายยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ มาเยือนในพระราชวังแห่งนี้ นางกำนัลน้อยใหญ่วิ่งวุ่นจัดเตรียมห้องหับที่พักนอน ตรวจสอบความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไปรวมกันที่ล้านกว้างหน้าตำหนักใหญ่ เหล่าทหารกล้าตั้งขบวนยาวตามรายทาง เพื่อต้อนรับเจ้าชายแห่งอุษณกร

เหล่านางกำนัลสาวสวยตระเตรียมของมากมาย ทั้งเครื่องคาวหวาน พวงมาลาที่ร้อยอย่างงดงามมารอท่า เพื่อทูลเกล้าถวายแด่ราชนิกุลต่างเมืองตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบ

เหล่าองค์หญิงและบุตรีชั้นสูงต่างพากันแต่งโฉมด้วยผ้าแพรไหมทองาม ประทินผิวด้วยเครื่องงามชั้นเลิศ เครื่งประดับทางหรูหราถูกหยิบยกออกมาใส่อย่างเต็มยศ โดยมิมีใครยอมน้อยหน้ากว่าใครเลยแม้เพียงน้อย

ด้วยหวังว่าจะตกถังข้าวสาร ได้เป็นนางสนมนางในของว่าที่ผู้ครองแผ่นดินใหญ่ในภายภาคหน้า

เจ้าหญิงศรวิษฐาทรงเครื่องทองแพรไหมปักลายด้วยดิ้นเงิน ดิ้นทองงดงามสมศักดิ์เจ้าฟ้า แม้นพระนางจะทรงอยากผัดเปลี่ยนไปทรงเครื่องธรรมดาสักเพียงไร... แต่จักต้องรักษาหน้าของเสด็จพ่อและแผ่นดินเอาไว้เสียก่อน... จะทรงเอาแต่พระทัยมิได้เป็นเด็ดขาด

องค์สุริเยนทร์ไทวะทรงชุดทรงไหมสีน้ำเงินเรียบ ๆ ตามแบบของพระองค์เฉกเช่นทุกวัน เพียงแต่ทรงยศอย่างเต็มศักดิ์กว่าทุกคราเพียงเท่านั้น

ส่วนองค์ศศินคคนานต์นั้นทรงชุดสีขาวบริสุทธิ์ มิได้มียศฐาประดับมากมาย มีเพียงตราของเจ้าฟ้าประดับไว้เพียงเป็นสัญลักษณ์ของ ขัตติยวงศ์


แต่ถึงกระนั้น ดวงจันทร์ดวงนี้ก็โดดเด่นมิแพ้เจ้าทิวากรและดารกาเลยแม้แต่น้อย


เพียงไม่นานขบวนเสด็จของรัชทายาทต่างเมืองก็มาถึง ขบวนที่ดูเรียบ ๆ ไม่ได้หวือหวาอย่างที่คาดการณ์เอาไว้ แต่กลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งทรงอำนาจของเหล่าทหารผู้องอาจ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนที่มารอรับเสด็จได้เป็นอย่างยิ่ง

ดวงตาสามคู่จับจ้องมองขบวนทหารนี้ด้วยความรู้สึกที่ต่างกันไป... ทั้งตื่นตะลึง ตื่นตระหนก หวาดหวั่น แต่ก็มิอาจแสดงอาการใด ๆ ออกมาได้

ศศินคคนานต์เงยพักตร์ขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองบุคคลที่อยู่บนหลังม้าทั้งหลาย ดวงตาสีไพรินสบกับตาคมที่ทอแสงกล้า เพียงเสี้ยววินาทีที่ได้สบกัน เนตรสีรัตติกาลนั้นกลับฉายแววพึงใจ...

ความสับสนแล่นเข้าสู่ใจเจ้าจันทรา แววตาเมื่อครู่คืออะไร คนผู้นั้นคือใครกัน... เหตุใดถึงดูทรงอำนาจยิ่งนัก


สองเจ้าชายแหละเจ้าหญิงเสด็จไปยังตำหนักใหญ่อย่างเร่งรีบ เพื่อให้ทันเวลาเสวยอาหารเช้า มิให้ผู้ใหญ่และผู้มาเยือนต้องรอนาน
ส่วนศศินคคนานต์นั้นก็ไปยังตำหนักใหญ่เช่นกัน... แม้มิได้อยากก้าวเข้าในตำหนักแห่งนั้น...


ตำหนักที่มีคนที่ชังพระองค์นัก


แต่... เพื่อพระมารดาที่รัก... พระองค์จักต้องไป...


อืม... ไปแค่ให้เสด็จแม่เห็นว่าเรายังสบายดีอยู่นั้นก็กระมัง... ถ้าเข้าไปภายใน อาจจะถูกตำหนิได้...


เอาตามนี้แล้วกัน


ดวงหน้ามนพยักหน้าน้อย ๆ กับตัวเอง ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าตนเองให้เร็วขึ้นตามหลังเจ้าพี่ทั้งสองของเขาไป

“ขออภัยที่มาช้าเพคะ / พะยะค่ะ เสด็จพ่อ เสด็จแม่”เจ้าสุริยาและเจ้าดาราน้อมกายลงถวายคำนับก่อนจะเข้านั่งประจำที่ของพระองค์อย่างว่องไว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท

“เราขอแนะนำลูกทั้งสองของเราให้รู้จัก”องค์กษัตริย์แห่งวสุนธราหันไปตรัสกับรัชทายาทต่างแดนด้วยรอยยิ้ม “สุริเยนทร์ไทวะ และศรวิษฐา”

องค์รพีธรณินพยักพระพักตร์น้อย ๆ เชิงทักทาย คลี่รอยยิ้มอ่อนประดับมุมโอษฐ์น้อย ๆ พระองค์ทอดพระเนตรมองที่ว่างข้างองค์ชายผู้ร่วมโต๊ะอย่างสงสัย...

ศรวิษฐาเหลือมองบุรุษข้างกาย พระพักตร์หวานแดงเรื่ออ่อน ๆ

ช่างเป็นเจ้าชายที่สง่างามอะไรเช่นนี้ เกศาดำเงา ดวงตาสีอำพันเรียวรี นาสิกโด่งพอเหมาะ โอษฐ์บางงาม แม้จะไร้ซึ่งรอยยิ้ม ดวงพักตร์เหล่ายิ่ง...


โอ้... ไม่นะ ทำไมใจของข้าถึงเต้นรัวเช่นนี้กัน...


ศศินคคนานต์เอียงพักตร์น้อย ๆ เพื่อให้เห็นความเป็นไปในห้องเสวย ดวงเนตรสีไพรินสบกับพระมารดา รอยยิ้มอ่อนโยนคลี่ส่งให้บ่งบอกว่าตนยังคงสบายดี

รานีองค์งามพยักพระพักตร์ให้โอรสองค์รองน้อย ๆ รอยยิ้มอ่อนหวานคลี่ส่งให้ด้วยความรัก...

รพีธรณินหันตามสายพระเนตรของพระแม่ของดินแดนแห่งพื้นดิน ดวงตาสีอำพันสบกับตาสีน้ำเงินสุกสว่างชั่ววินาที ก่อนที่เจ้าของดวงตาคู่นั้นจะหลบหายไป...


ใครกัน...


“เอาล่ะ... เรามารับประทานอาหารกันเลยดีกว่า”องค์ภาณุวัฒน์ตรัสกับทุกคน “หวังว่าเจ้าจะชอบอาหารของเมืองเรานะ รพีธรณิน”
รอยยิ้มบางคลี่ส่ง แต่ดวงเนตรยังคงเฉยชามิแปรเปลี่ยน...

“อาหารเหล่านี้เป็นของขึ้นชื่อของอาณาจักรเราเพคะ หม่อมฉันสั่งให้คนครัวจัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อองค์ชายเลยเพคะ”เสียงอันอ่อนหวานของเจ้าจอมดาราเอ่ยขึ้น รอยยิ้มหวานใสฉาบใบหน้าสวย ยิ่งเสริมให้ร่างบางดูงดงามยิ่งกว่าเดิม

“เช่นนั้นหรือ”

องค์รพีเสวยสำรับจานละนิด จานละหน่อย และมิทรงรับอาหารจานเดิมซ้ำแม้เพียงสักจาน

“มิถูกปากหรือ ท่านรพีธรณิน”องค์ชายสุริเยนทร์ไทวะเอ่ยขึ้นหลังจากที่ทอดพระเนตรเห็นข้าวในจานขององค์ชายตรงหน้ามิได้ลดลงเสียเท่าไร

“ขออภัย เรายังไม่ชินกับอาหารรสจัดน่ะ”องค์ชายค้อมศีรษะลงน้อย ๆ เชิงขออภัย

“โอ้... ทางเราต้องขออภัยจริง ๆ เพคะ คราหน้าหม่อมฉันจะทำให้ดีกว่านี้”ศรวิษฐากุมอกน้อย ๆ ดวงตาหลุบลงอย่างสำนึกผิด
ยังไม่ทันที่ใครจะได้เอ่ยอะไร... เครื่องเสวยที่มิได้มีผู้ใดสั่งก็ถูกยกเข้ามาด้วยฝีมือของนางกำนัลสาว

มัสมั่น เขียวหวาน น้ำพริกปลาทู อาหารง่าย ๆ ถูกวางลงที่โต๊ะเสวย ก่อนที่เหล่านางกำนัลจะถวายคำนับ ถอยกายออกไป
เหล่าราชนิกุลทั้งหลายมองสำรับที่มาใหม่ด้วยความประหลาดใจ แต่ก็มิมีใครพูดอันใดออกมา

เจ้าชายต่างเมืองตักเขียวหวานอุ่นขึ้นมา กลิ่นหอมของมันช่วงเย้ายวนพระทัย พระองค์ทรงเสวยเล็ก ๆ ก่อนที่จะทรงชิมจานต่อไป...
นับว่าเป็นการกู้สถานการณ์บนโต๊ะเสวยกลับมาได้ เมื่อองค์ชายของเมืองแม่นั้นเสวยอาหารด้วยท่าทีพึงพอใจและสามารถเสวยได้จนหมด

องค์รานี เมื่อทรงได้ลิ้มรสเครื่องเสวยที่ยกมาใหม่นั้นได้แต่ทรงประทับนิ่ง มิอาจพูดอันใดออกมา...


พระนางทรงจำได้ดี... นี่... เป็นรสมือของศศิน... โอรสของพระนาง


ฝ่ายศศินคคนานต์ที่เข้าไปในห้องเครื่องหลังจากที่เห็นเครื่องเสวยบนโต๊ะได้แต่กุมหัตถ์ของตนน้อย ๆ สีพระพักตร์ดูเป็นกังวลนัก...


มิรู้ว่าจะถูกปากของเจ้าชายไหม... แต่เราทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้ว จะถูกจับได้ไหมนะ...


“เจ้ารองเพคะ...”นางกำนัลครัวเอ่ยเรียกเจ้าชายของพวกนางเบา ๆ “ของหวานจะเอาอะไรดีเพคะ... เจ้าหญิงมิได้ทรงสั่งเอาไว้เสียด้วย...”

“จะทำอะไรมากมายตอนนี้คงไม่ทันแน่... เคี่ยวกะทิเร็วเข้า”องค์ศศินสูดลมหายใจลึกก่อนที่จะลงมือทำของหวานปิดท้าย


หวังว่าจะถูกปากล่ะนะ...



“อืม... ต่อไปก็ของหวานสินะ”องค์ภาณุวัฒน์ตรัสขึ้น “เจ้าเตรียมอะไรไว้หรือ ศรวิษฐา”

“คะ... คือ...”ใบหน้าหวานซีดเผือดลง... พระนางลืมของหวานหลังเครื่องเสวยไปเสียสนิทเลย ด้วยคราแรกนั้นทรงมิพอพระทัยที่จะได้พบดวงสุริยาต่างถิ่นนี้ จุงออกรับสั่งไปแบบส่ง ๆ “คือ... ลูก...”

นางกำนัลชุดเดิมเดินถือของหวานเข้ามาด้วยท่าทีสุภาพ สมเป็นสาวชาววังที่ได้รับการอบรมมาอย่างดีตั้งแต่ยังเยาว์

“ลอดช่องน้ำกะทิสินะ... ดีเลย อากาศวันนี้ก็อ้าวมิใช่น้อย ได้กินของชื่นใจเช่นนี้ ดีจริง”

ศรวิษฐาได้แต่มองของหวานด้วยความฉงน... พระนางมิได้สั่งของพวกนี้กับนางกำนัล... เหตุใดถึงมีมาได้กัน... ตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว
ถึงอย่างไร อาหารมื้อนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี แม้จะมีเรื่องให้ประหลาดใจไปบ้าง แต่ก็มิเรื่องใหญ่อันใด


“เย็นนี้จะมีงานเลี้ยงต้อนรับ สุริเยนทร์ ศรวิษฐา ดูแลเจ้าชายรพีธรณินให้ดีล่ะ”

“พะยะค่ะ / เพคะ เสด็จพ่อ”

++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 2 มาอย่างไวค่ะ (ถ้ามีส่วนไหนเพิ่มหรือแก้ไข จะมาลงเพิ่มให้น้า(แก้สามรอบแล้วค่ะ 5555)

หลงอวี้กับหนิงกวาง ลืมมาต่อ ถูกลบไปแล้วนะคะ ในเด็กดีก็โดนแบนไป(ขออภัยอย่างยิ่ง TT")

ถ้ายังมีใครอยากอ่านทั้งคู่อยู่ เดี๋ยวจะส่งตอนต่อให้ทางPM หรือถ้าอ่านทั้งเรื่องจะส่งให้ทางอีเมลล์นะคะ...

จนกว่าจะสมบูรณ์ คงยังไม่ลงใหม่น่ะค่ะ ^^" (หรืออาจจะไม่ลงใหม่แล้ว แหะๆ)

ขอบคุณค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 11-03-2014 23:04:51
^
งวดนี้เป็นแม่ศรีเรือนแหละ 5555
ปูลู ส่งตอนใหม่มาาา QAQ
จาอาวหนิงกวางงงงง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-03-2014 23:12:55
^
งวดนี้เป็นแม่ศรีเรือนแหละ 5555
ปูลู ส่งตอนใหม่มาาา QAQ

เรื่องที่แรกนักรบ เรื่องสองนักปราชญ์ เรื่องสามเลยมาแม่ศรีเรือนเลยเจ้าค่ะ 5555 (ทำกับข้าวเป็นอย่างเดียว...)

ตอนใหม่ของเรื่องไรเอ่ยย // อย่าเพิ่งโยนอะไรมาน้าา TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: linsalia ที่ 11-03-2014 23:23:19
แต่งเก่งจังเลยคะ นับถือๆ ^-^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 11-03-2014 23:52:20
^
งวดนี้เป็นแม่ศรีเรือนแหละ 5555
ปูลู ส่งตอนใหม่มาาา QAQ
จาอาวหนิงกวางงงงง

 :hao5: เอาหนิงกวางด้วยคนน ตอนนั้นอ่านยังไม่ได้สมัครไอดีเลยT^T เพิ่มจะมาสมัคร อะเหื้อสมกับเป็นนายเอกแม่ศรีเรือนขนานแท้สินะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 12-03-2014 01:14:30
คิดถึงหนี่กวางนิดๆ  :L1: ไม่เป็นไรมี ศศิน มาดามใจแล้ว
ปอลิ. น่าติดตามมากคะ ลงเร็วๆนะเค้าค้างอ่ะ :monkeysad:
ปอลิ2. เค้าชอบนายเอกที่ทำอาหารเป็นมันสื่อให้รู้ว่ามีเสน่ห์ปลายจวัก :hao5: :hao5: สามีรักสามีหลง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: phana_qbz ที่ 12-03-2014 01:39:36
ติดตามมมมมมมมมมมม ชอบแนวๆนี้  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 12-03-2014 10:49:36
หลงรักศศิน
..พ่อไม่ชอบศศินหรอ?? หรือว่าอะไร
ในเมื่องานเลี้ยงต้อนรับที่ควรเป็นงานใหญ่ คนต้องครบ แต่นี่ลูกหายไปทั้งคนเชียวนะ!!
\\ลูกสาวดูแย่จังค่ะ ไม่ชอบเลย สังหรณ์ว่าอาจต้องเป็นตัวปัญหา...

ปล.อยากอ่านหลงอวี้กับหนิงกวางค่า ตั้งแต่แรกเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 2 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-03-2014 11:43:58
โฮ่ววว เห็นด้วยกับรีบนค่ะ
อย่างกับศศินเป็นใครก็ไม่รู้ที่ไม่ใช่ลูก
นั่นลูกคนเล็กเลยนะะะะะะะ
ความจริงต้องมีแต่คนโอ๋สิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2014 14:42:11
ปฏิญญาที่ ๓

รักบังเกิดในใจเจ้าดารา
กับองค์ภาณุมาศผู้เรืองศรี
เจ้าชายอุษณกรผู้ชาตรี
นามภูมีขจรไกลไปทั่วแดน

องค์สุริเยนทร์ไทวะและเจ้าหญิงศรวิษฐา นำเสด็จองค์ชายรัชทายาทแห่งอุษณกรไปยังพระตำหนักที่ประทับ... ตามหน้าที่ ที่ได้รับมอบมาจากผู้เป็นบิดา

ศรวิษฐาแอบเหลือบมององค์ชายต่างเมืองด้วยดวงหทัยที่เต้นรัว ดวงหน้าหวานประดับรอยยิ้มพิมพ์ใจตลอดเวลา อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน... รอยยิ้มนั้นช่างดูอ่อนหวาน ดวงเนตรหยาดเยิ้ม พระนางมีท่าทีเขินอายดั่งดรุณีแรกแย้มที่มิเคยพานพบบุรุษใด

ส่วนองค์ชายผู้มาเยือนนั้นมิได้สนใจผู้ที่แอบเมียงมองพระองค์อยู่เลยแม้เพียงนิด กลับทรงคำนึงถึงดวงตาสีน้ำเงินสว่างคู่นั้น ดวงตาที่ติดตรึงในความทรงจำ... แม้จะได้เห็นเพียงชั่ววินาที แต่พระองค์ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความหมองเศร้านั้น...


ใครกัน... ทำไมถึงเศร้าหมองนัก...


“ที่นี่คือตำหนักที่ประทับของท่าน รพีธรณิน”สุริเยนทร์ไทวะผายมือไปยังตำหนักสีขาวพิสุทธิ์ “นี่คือตำหนักวารินธร เป็นตำหนักที่มีเส้นทางน้ำเล็ก ๆ รายรอบ...”เสียงทุ้มกล่าวถึงตำหนักแห่งนี้ไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ดวงตาคมยังจับจ้องขนิษฐาของตนอย่างไม่ละสายตา


ศรวิษฐาชอบรพีเช่นนั้นหรือ...


รพีธรณินนิ่งฟังคำของเจ้าชายแห่งวสุนธราพร่ำไป โดยที่สมองของพระองค์นั้นมิได้จดจำมันเลย... ปล่อยผ่านเลยไปกับสายลมที่พัดมา

ผ่านไปพักหนึ่ง การบรรยายของเจ้าชายเจ้าถิ่นก็จบลง แขกผู้มาเยือนจึงได้เข้าไปในตำหนักรับรองเสียที...

นางกำนัลสาวแรกรุ่น หน้าตางดงามนับสิบนางถูกส่งมาเพื่อรับใช้เจ้าชายแห่งเมืองแม่... แต่ละนางนั้นเอวบาง ร่างน้อย ผิวนวลเนียนขาวผ่อง ห่มกายด้วยผ้าสีสันสวยงามน่ามอง ต่างจากเวลาปกติที่สวมใส่กันนัก อีกทั้งยังน้อยชิ้นกว่าที่เคย

ความงามวิไลทั้งหน้าตาและกิริยา มารยาทนั้น ทำให้ศรวิษฐาไม่พอใจมิใช่น้อย แต่ก็มิอาจที่จะแสดงอาการออกมาได้


ไม่เป็นไร... ถึงอย่างไรพระองค์ก็มีศักดิ์ที่สูงกว่า อีกทั้งเป็นเจ้าหญิงสายเลือดสีน้ำเงินเพียงคนเดียวที่เหมาะสมกับเจ้าชายรูปงามผู้นี้...


รอยยิ้มเย็นคลี่ออกมาบาง ๆ ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มหวานหยด เมื่อพระนางนึกถึงวันเวลาที่จักได้อยู่ข้างวรกายสูงในอนาคต

สุริเยนทร์ไทวะได้แต่แอบถอนหายใจ เมื่อเห็นเช่นนั้น จากคราแรกที่ไม่พอใจนักไม่พอใจหนา เมื่อได้ข่าวว่าสุริยาต่างถิ่นผู้นี้เดินทางมาเยือน...

แต่บัดนี้กับเพ้อฝันถึง... ใจสตรีช่างหยั่งยากยิ่ง


แต่ที่หยั่งมิได้มากกว่านั้นก็...

เหตุใดเสด็จพ่อถึงให้เจ้าชายมาประทับที่แห่งนี้กัน... ในเมื่อพระองค์ทรงชังศศินยิ่งนัก เมื่อเจ้าชายมาประทับที่นี้ เวลาเสด็จมาพบ ก็อาจจะเจอศศินได้แท้ ๆ แม้ตำหนักแห่งนี้จะไม่ห่างจากตำหนักของหญิงศรก็เถอะ... แต่ตำหนักวายุไพรีก็ใกล้กว่าอยู่ดี...

หรือทรงคิดจะให้เจ้าชายเอาตัวเจ้าน้องศศินไป...

ไม่น่า... ถึงแม้ว่าจะไปเป็นเชลย แต่ก็ยังมียศศักดิ์ประดับตัว อย่างน้อยก็ต้องได้อยู่อย่างสุขสบาย... เสด็จพ่อจักต้องการให้โอรสที่ทรงชังน้ำหน้านักหนาได้สุขสบายเช่นนั้นหรือ

ใจดาราหยั่งยาก      เพียงใด(พอทราบ)
กษัตริย์เราวัดใจ         ไม่ได้
ลึกสุดหยั่งลงไป         หาไม่(พานพบ)
ฤาพ่อของเราไซร้         บ่ได้มีหัวใจ

   สุดจะคาดเดาจริง ๆ


   

“เจ้ารองเพคะ...”นางกำนัลวัยกลางคนนางหนึ่งคลานเข่าเข้ามาหาเจ้าชายร่างบางที่เหม่อมองสระบัวอยู่เพียงลำพัง “เจ้ารองเพคะ เครื่องเสวยในงานเลี้ยงทิวานี้จะให้ทางห้องเครื่องเราจัดอะไรขึ้นถวายบ้างเพคะ...”

“เจ้าพี่ศรวิษฐามิได้สั่งการเอาไว้แล้วหรือ แม่แย้ม”ศศินคคนานต์หันมาเอ่ยถามด้วยเสียงอันอ่อนโยน... “หน้าที่ตรงนี้ เสด็จพ่อให้เจ้าพี่จัดการมิใช่หรือ...”

“เพคะ เจ้ารอง แต่เจ้าหญิงศรวิษฐายังมิทรงสั่งการใด ๆ มาเลยเพคะ... หม่อมฉันเกรงว่าจะจัดเครื่องเสวยมิทันการ...”แม่แย้มคนครัวมีสีหน้าลำบากใจ ถ้าเป็นพระองค์อื่นนางคงมิกล้าที่จะออกอาการมากมายเช่นนี้ แต่กับเจ้ารอง พระองค์มิทรงถือตัว และโปรดที่จะรับรู้โดยตรงเสียมากกว่า “หม่อมฉันให้แม่ฤดีไปถามดู แต่พระนางก็มิได้สั่งการใด ๆ ลงมา แม่ฤดีแจ้งแกหม่อมฉันว่าเจ้าหญิงมิทรงสนพระทัยสิ่งใดเลยเพคะ ทรงเหม่อลอยราวกับอยู่ในห้องรักกระไรอย่างนั้น”

“เป็นเช่นนั้นหรือ...”ดวงเนตรงามปิดลงอย่างใช้ความคิด “อย่างนั้น เราไปช่วยท่านทำดีกว่า”

“เจ้ารอง...”

“ถึงอย่างไร เราก็มิมีอะไรต้องทำอยู่แล้ว...”ร่างเพรียวยันกายลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง “ไป... ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะมิเสร็จเอาได้”

“เพคะ... เจ้ารอง”


ตกเย็นเจ้าจันทร์แห่งแผ่นดินก็จำต้องวางมือจากงานที่ทำในครัว เพื่อกลับไปแต่งกายให้เรียบร้อยก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มขึ้น แม้พระองค์จะไม่ได้อยากเข้าร่วมงานเลี้ยงไม่ว่าที่ใดก็ตามเลยแม้เพียงเล็กน้อย แต่ด้วยพะบัญชาที่สั่งลงมา คงจักต้องจำใจเยี่ยมหน้าเข้าไปในงานนี้

“ต้มยำกุ้งแม่น้ำนี้ เดี๋ยวเจ้าตักใส่ในหม้อดินใบนี้ ส่วนสามเกลอแสร้งว่า ให้เอาใส่ในชามเผือกสานอันนี้ เข้าใจใช่ไหม”

“เจ้าค่ะ”นางกำนัลผู้ช่วยในครัวขานรับอย่างขันแข็ง พวกนางช่วยกันทำตามรับสั่งของเจ้ารองด้วยรอยยิ้ม

“เช่นนั้น เราไปก่อนแล้วกัน เมื่อถึงเวลาก็เข้าขึ้นโต๊ะได้เลยนะ”

“เจ้าค่ะ”

ศศินกลับตำหนักของตนอย่างเร่งรีบ แล้วจัดการองค์เองอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลานั้น... ถึงแม้ว่าร่างกายของพระองค์จะรู้สึกล้าและอยากที่จะพักมากเพียงไรก็ตาม

คงถือเป็นโชคดีของโอรสที่เจ้าหลวงทรงชัง เครื่องทรงจึงมิได้มีอันใดมากมายอย่าผู้พี่ที่เป็นโอรสองค์โปรด ทำให้สามารถผลัดเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าชายองค์รองเสด็จมาถึงพระตำหนักใหญ่ด้วยเวลาเฉียดฉิว ก่อนที่เครื่องเสวยจักมาขึ้นโต๊ะ ดวงตาเรียวกวาดมองโดยรอบ ก่อนที่จะทรงตัดสินใจไปประทับร่วมกับขุนนาง แทนที่จะไปประทับที่ประทับของพระองค์เอง...

เป็นที่แน่นอนว่า องค์ภาณุวัฒน์ย่อมไม่พอพระทัย... เมื่อพระโอรสที่ทรงชังยิ่งนั้นหักหน้าพระองค์ด้วยการไปนั่งที่อื่น ที่มิใช่ตำแหน่งที่จัดเตรียมเอาไว้ให้

ลูกทรพี

“ศศิน มานั่งที่ของเจ้าซะ”พระปิตุลาแห่งอาณาจักรรับสั่งรอดไรฟัน ตาคมดุจพญาเหยี่ยวจ้องมองนัดดาคนที่สามอย่างกราดเกรี้ยว

ร่างบางย้ายที่นั่งที่ทรงมองว่าเหมาะสมกับตนมานั่งข้างพระเชษฐาอย่างรวดเร็ว ดวงหน้ามนก้มลงไม่เงยขึ้นมามองใครแม้เพียงสักคนหนึ่ง... เอาแต่ก้มหน้าก้มตาให้เกศาสีเปลือกไม้บดบังใบหน้านั้น...

สำรับคาวหวานถูกยกมาตั้งทีละอย่าง เครื่องเสวยในครั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาหารที่รสไม่จัดนัก เพื่อให้องค์รพีเสวยได้โดยง่าย

“เป็นอย่างไรบ้าง รพี มื้อนี้พอไหวไหม”องค์กษัตริย์ตรัสกับเจ้าชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงนุ่ม แฝงความเป็นห่วงเป็นใย “ถ้ารสจัดเกินไปบอกกับลูกศรได้ คราหน้าจะได้ถูกปากเจ้า...”

“รสชาติกลมกล่อมนักพะยะค่ะ ฝ่าบาท มิจัดเกินไปและมิจืดจาง”เจ้าชายรพีธรณินหันไปตอบกับองค์เหนือหัวแห่งเมืองลูก “คนครัวของพระองค์ฝีมือดียิ่งพะยะค่ะ”

“เช่นนั้นก็ดีไป”รอยยิ้มกว้างฉาบทับใบหน้าของเจ้าแผ่นดิน “ฮ่า ๆ ข้าคงจักต้องตบรางวัลให้กับห้องเครื่องเสียหน่อยแล้วสินะ...”

“เจ้าพี่เพคะ...”องค์รานีที่ประทับนิ่งมานานตรัสขึ้นเบา ๆ

“มีอะไรหรือ นิศามณี”

“เจ้าพี่ทราบไหมเพคะ... ว่าอาหารต่าง ๆ ที่เจ้าพี่และทุก ๆ คนรับประทานอยู่นี้คือรสมือของผู้ใด...”

จันทราดวงน้อยที่นิ่งมานานถึงกับอยู่เฉยไม่ได้ ศศินหันพักตร์ไปหาพระมารดา ดวงตาฉายแววหวาดหวั่น เขาส่ายหน้าน้อย ๆ ให้กับเสด็จแม่ของตน...

“รสมือใครหรือเจ้า...”

ดวงหน้าหวานซีดเผือด ริมฝีปากบางลั่นระริก ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลุกขึ้น น้อมทำความเคารพผู้สูงศักดิ์กว่า แล้วเดินหายออกจากตำหนักไปอย่างรวดเร็ว

“เอ๊ะ ไอ้ลูกคนนี้นิ...”พระขนงเข้มมุ่นเข้าหากัน พระเนตรวาวโรจน์ด้วยความกริ้วที่แล่นริ้วทั่วสรรพางค์ “ข้าต้องขอโทษแทนเจ้าลูกไร้มารยาทของข้าด้วยนะ รพีธรณิน”

“มิเป็นไรหรอกพะยะค่ะ... ฝ่าบาท”

งานเลี้ยงเป็นไปอย่างราบลื่น ท่ามกลางความสงสัยในพระทัยของเจ้าหญิงคนงามแห่งวสุนธรา ด้วยความที่ทรงเพ้อพกกับความฝันที่ต้องมาถึงในอีกไม้ช้า จนทำให้พระนางทรงละเลยเรื่องเครื่องเสวยที่รับมอบให้ดูแล้ว เลือนลืมไปเสียสนิทใจ

พระองค์มิได้สั่งการอันใดลงไปแม้แต่น้อย... เหตุใดถึงมีอาหารเลิศรสเหล่านี้ขึ้นมาได้กัน...

เป็นอีกครั้ง... ที่รานีคู่บัลลังก์ต้องทนอึดอัดพระทัย... อยากจะบอกเหลือแสนว่าทั้งหมดนี่เป็นผลงานของลูกชายคนรองของพระนาง

แต่... มิอาจบอกไปได้... ด้วยความหวาดกลัวที่ลูกน้อยมี

+++++++++++++++++++++++++++

มาไวเคลมไวสำหรับสามตอนแรกค่ะ 5555

หลังจากนี้... อา... ยังแต่งกลอนในเรื่องไม่เสร็จ =////=" คงมีอืดกันเล็กน้อย แหะๆ

โชว์สกิลภาษาไทยที่ เอ่อ... ไม่มีซะแล้วมิดไนท์

หวังว่าจะไม่ขัดหูขัดตาทุกคนนะคะ ^^" (ข้าพเจ้างมโคลงสี่สุภาพมาสามชั่วโมง ได้แค่นี้ 5555 เขิน ถนัดกลอนแปดมากกว่า)

เดี๋ยวจะไปแต่งกาพย์ต่อ... ^+++^//

จ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ... เอ่อ ก็ยังไม่ได้ไปไกลกว่าเดิมเท่าไหร่นะคะ 5555 มัวแต่ไปนั่งแก้คำผิด เสริมตรงโน้น ตัดตรงนี้...

ถ้ายังมีคนอ่าน เดี๋ยวเอาไฟล์ต้นฉบับอัพโหลดมาลงให้อ่านนะคะ (ในไฟล์มีชื่อตอนที่เขียนไว้ล่วงหน้าด้วย 5555 ถ้าได้ไปกรู้เลยค่ะว่าเหลืออีกกี่บทจะจบ... ตอนพิเศษที่ยังอยู่แค่ครึ่งเดียวอีก (เขิน))

ติชมกันได้นะคะ (เอ่อะ ตอนสั้น อันนี้รู้แจ้งแก่ใจค่ะ แหะๆ พยายามจะยาวแล้ว ก็ได้แค่สามหน้าเอสีกันอีกหน่อย ๆ บู้)

ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-03-2014 15:13:48
ศศินน่าสงสารมากอะ
เฮ้ออออ พ่อก็เป็นอะไรนะไม่รักลูกเหรอ
มาต่อไวๆนะคะ อยากอ่านนนนนมากกก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 12-03-2014 16:24:29
จะกลัวทำไมลูก สเน่ห์ปลายจวักผัวรักผัวหลงนะ ฮาาา :laugh:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 12-03-2014 16:24:49
ชอบมาก มาอัพบ่อยๆนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: momoku ที่ 12-03-2014 17:21:10
 :hao7: :hao7: :katai1:
ชอบบบบ สตรียังอาย แม่ศรีเรือน มาก
ติดตามๆๆ เป็นกำลังใจให้ คนเขียนนะคะ  :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 12-03-2014 17:25:02
 :เฮ้อ: น่าสงสารจัง พ่อก็นะ  :m16: รักลูกเท่ากันมากกกก
พี่สาวนี้สงสัยอยากได้พระเอกเป็นคู่ครองมากสินะ
ปล.สนุกอ่ะ มาต่อเร็วๆนะเค้าอยากอ่าน :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-03-2014 18:06:33
เอ๊ะ... เรื่องนี้ใครเป็นพระเอก...

อย่าเพิ่งรู้กันเร็วจิ 5555

โอเค เดาง่ายจริง ๆ

// เรื่องหน้าเอาใหม่ แฮ่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 12-03-2014 18:11:09
ชอบๆ แนว Mreg  :katai2-1:
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 12-03-2014 18:11:13
อึดอัดแทนศศินจริงๆ
ท่านรพีจะเอาศศินไปจากที่นี่หรือเปล่านะ
งานนี้ต้องตามลุ้นแบบชิดติดขอบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 12-03-2014 21:03:38
ชอบแม่ศรีเรือน เรียบร้อย ขี้กลัว แล้วก็จิตใจดี
ชอบที่สุด มาต่ออีกนะ(ไม่รู้จะอธิบายยังไง พอเข้ามาอ่านเจอนิสัยศศินเข้าไปแทบกรี๊ด)
หานิสัยแบบนี้มานานแต่ก็น้อยแสนน้อย ว่าแต่ทำไม ดาราถึงไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร
 ยัยนี่หนิ สมอ้างเฉยเลยน่าหมั่นไส้...เจ้าชายคนโตก็อีกคน ศศินออกจะน่ารักทำไมถึงไม่รัก
น้องตัวเองแท้ๆ พ่อก็อีก โอ๊ย...ยิ่งอ่านยิ่งขัดใจกับครอบครัวนี้เพราะงั้นเจ้าชายจากแดนไกล
เลือกน้องศศินกลับเมืองไปแล้วต้องเลี้ยงดูอย่างดี อย่าให้ริ้นไรมาไต่ตอม เข้าใจป่ะ!?

อินไปหน่อย ถือซะว่ารวบยอดสามตอนที่ไม่ได้เม้นท์ให้แล้วกัน..นะ!
เอาล่ะ.....ตามตอนต่อไป(รีบมาไวๆนะ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 00:38:52
จะรีบมาต่อนะคะ ^^'

// แต่ถ้ารีบมากเดี๋ยวหมกสต็อกเอาได้นะมิดไนท์ มีอยู่ 9 จาก 20 เอง 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-03-2014 01:45:10
สงสารศศินอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 13-03-2014 02:04:58
อยากแปลงกายเป็นนักฆ่า ไปสังหารราชาองค์นี้จริงๆ ทำมรักลูกไม่เท่ากัน
นี่ถ้าไม่ได้ พระจันทร์ (ขอเรียกเป็นฉายานายเอกนะชื่อย๊าวยาวจำไม่ค่อยได้) งานนี้มีล่ม
และหงุดหงิดใจเสียจริง.  อยากให้ถึงฉากที่พระองค์ขอร้องวิงวอนต่อลูกชังเสียจริง






จะติดตามค่ะ


อยากรู้จังว่าสายเลือดสีน้ำเงินนั้นคืออะไร และทำไม พระจันทร์ถึงได้มีนัยน์ตาสีน้ำเงินดุจห้วงท้องทะเลกัน (ชอบนายเอกท้องหุุ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 13-03-2014 03:18:19
โถ่ๆๆ ศศินน่าสงสารจัง ไร้ตัวตนสุดๆ :hao5:

องค์รพีช่วยพาศศินออกไปจากที่นี่ทีเถอะนะ ชีวิตอย่างกับนางสาวซินเดอเรลล่า...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 13-03-2014 07:10:55
สงสารศศินอ่ะ ทำไมพ่อถึงไม่รักอ่ะ
เราสงสัย ? ว่าศศินเป็นลูกคนเล็กใช่ไหม ทำไมอ่านไปอ่านมากลายเป็นลูกคนรองอ่ะ ?
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 07:18:23
สงสารศศินอ่ะ ทำไมพ่อถึงไม่รักอ่ะ
เราสงสัย ? ว่าศศินเป็นลูกคนเล็กใช่ไหม ทำไมอ่านไปอ่านมากลายเป็นลูกคนรองอ่ะ ?

ลูกคนเล็กในรานี ลูกชายคนรองของราชวงศ์ค่ะ // ส่วนองค์ชายคนอื่นในราชวงศ์ที่เกิดจากนางสนม... ไร้บทบาท5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: cho_co_late ที่ 13-03-2014 08:05:57
ไม่เข้าใจว่าทำไมศศินถึงโดนเกลียดทั้งพ่อและปู่ขนาดนั้น ดูแล้วศศินก็เด็กเรียบร้อยๆธรรมดานี่นา
ขอให้เจ้าชายรพีขอศศินไปเถ๊อะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-03-2014 09:03:07
ศศินหนีออกมาทำไมล่ะ
พี่สาวดูระริกระรี้มากอ่ะ
หลงผู้ชายจนลืมหน้าที่ :(
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 3 (P.1)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 13-03-2014 09:27:25
มาตามดูศศินด้วยคน

ทำไมพ่อถึงดูเกลียดชังศศินชอบกล?  :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 10:32:08
ปฏิญญาที่ ๔

ก้าวเดินกลางฝูงชนในยามสาย
เพื่อผ่อนคลายและเยี่ยมชมความสุขี
ของประชาชนคนในธาษตรี
พร้อมสุรีย์ต่างถิ่นร่วมมองดู



ยามตะวันทอแสงสาดท้องนภา หลังจากที่เสวยอาหารเช้าเสร็จ องค์ภูมีก็ทรงรับสั่งให้ลูกทั้งสองพาองค์รพีธรณินไปชมความงดงามของวสุนธรา...

ซึ่งทั้งสองก็ยินดีรับหน้าที่นั้นด้วยความยินดี

ศศินคคนานต์ที่ไม่รู้ความใด ๆ ในท้องพระโรงก็ออกจากวังไปยังตลาดในเมืองเช่นกัน... เขาตั้งใจที่จะไปซื้อของต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ทำขนมหวานหลังอาหารให้กับทุกคน...

ของในวังนั้นมีการส่งเข้าไปทุกวัน แต่บางอย่างนั้นก็ไม่พอใช้ ยิ่งช่วงนี้มีงานเลี้ยงมากมาย ไข่ไก่ที่เป็นของหลักย่อมไม่พอใช้ในการทำ

ผ้าคลุมสีน้ำตาลถูกเลือกออกมาใช้ เจ้าจันทรคลุมกายแล้วออกจากวังไปอย่างเงียบ ๆ


“รพี ท่านมีที่ไหนที่ต้องการจะไปเยี่ยมชมเป็นพิเศษหรือเปล่า”สุริเยนทร์ถามขึ้น หลังจากที่เดินมาได้พักหนึ่ง  พระองค์ทรงสังเกตสีพักตร์ของเจ้าชายผู้มาเยือนอยู่ตลอด...

แต่ก็มิเปลี่ยนแปลงไปเลยแม้เพียงสักนิด... ยังคงเรียบเฉยราวกับไม่ยี่ระต่อสิ่งใด

“เราไม่มีที่ใดทีอยากชมเป็นพิเศษหรอก สุริเยนทร์”เสียงตอบกลับก็ยังคงเป็นเสียงที่เรียบเฉย... เรียบเสียจนทำให้คนนำเที่ยวเสียกำลังใจไปไม่น้อย...

ศรวิษฐาหาเรื่องราวต่าง ๆ มาคุยกับเจ้าชายหนุ่ม แต่พระองค์ก็ไม่ได้มีอารมณ์ร่วมกับนางเลยแม่แต่น้อย นางถามอะไรก็ตอบคำ สองคำ...


ช่างน่าน้อยใจนัก....


“ไข่ไก่ ได้แล้ว... น้ำตาลมีอยู่ แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า... อืม... มีอยู่สินะ”เสียงทุ้มออกหวานพึมพำเบา ๆ ในขณะที่เดิน แต่ก็มิพันจากการได้ยินของเจ้าชายผู้เงียบขรึม “เอ... อะไรอีกนะ มะพร้าวมีอยู่... อ่อ... ลูกจันทร์ ๆ ต้องซื้อลูกจันทร์ด้วยสินะ”

ขาเรียวก้าวไปข้างหน้าอย่างว่องไว ผ่านหน้าชนชั้นสูงทั้งสามไปอย่างไม่สนใจ มุ่งไปยังร้านขายของตรงหน้าอย่างรวดเร็ว

เสียงที่ฟังดูคุ้นเลยเรียกความสงสัยจากองค์สุริเยนทร์ไทวะได้ชะงัก... แต่... จะใช่เช่นนั้นหรือ...


ศศินคคนานต์จะออกมาข้างนอกอย่างนั้นหรือ...


“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด”ยังไม่ทันที่จะได้เดินเข้าไปถาม เสียงกรีดร้องแหลมก็ดังขึ้น

ผู้คนที่รายรอบ ณ ที่นั้นต่างหันกันไปมองเป็นตาเดียว... เจ้าหญิงน้ององค์งามกรีดร้องอย่างหวาดกลัวเมื่อชายร่างสูงใหญ่ คลุมหน้าด้วยผ้าสีดำ ถือดาบแหลมคมวิ่งเข้ามาฟาดฟัน

“เจ้าน้อง...”เจ้าชายองค์โตแห่งวสุนธราชักดาบออกจากฟัก วิ่งเข้าโรมรันกับศัตรูตะโกนก้อง เมื่อมีเจ้าโจรชั่วคนหนึ่งเงื้อมดาบอยู่หลังขนิษฐาของตน

รพีธรณินเอากายตนเข้าไป บังอันตรายให้กับหญิงสาว ดวงเนตรคมปิดลงเตรียมรับความเจ็บปวด...


นึกโทษตัวเองไม่น้อยที่ไม่พกอาวุธมาด้วย


ฉึก

หยดเลือดไหลลงมาเปรอะเปื้อนธรณี... เจ้าสุริยาจากแดนไกลลืมเนตรขึ้น... ไม่ใช่โลหิตของพระองค์... ดวงพักตร์คมเบือนไปมองภาพด้านหลัง

มีดสั้นด้ามจับเงินเสียบเข้ากลางหน้าผากที่คลุมไว้ด้วยผ้า ร่างใหญ่ของผู้ไม่ประสงค์ดีเอนลงล้มตึงไปกับพื้น... ตายคาที่

“ถ้าจะทรงสนพระทัยแต่กับผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว... ต่อให้ทรงมีเก้าชีวิตเฉกเช่นวิฬาร์ก็คงจักรักษาเอาไว้มิได้หรอกนะพะยะค่ะ”

มือเรียวกุมดาบแน่นเข้าฉะกับศัตรูคู่กับเชษฐา ผ้าคลุมที่ปิดบังใบหน้าเอาไว้ร่นลงจนเผยให้เห็นดวงหน้ามน... ใบหน้าที่มิได้หวานสวยราวสตรี แต่ก็มิได้หยาบกร้านเหมือนบุรุษ...

“มากเกินกว่าจะสู้ไหวกระมัง... ศศิน”เสียงทุ้มกระซิบเบา เมื่อพระองค์และอนุชาตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู “จะเอาอย่างไรดี...”

“น้องจะเปิดทางให้เอง... เจ้าพี่พาเจ้าพี่หญิงและเจ้าชายกลับวังไปเถิด...”โอษฐ์บางเม้มแน่น หยดเหงื่อซึมออกมาตามหน้าผาก

“เจ้าเหนื่อยอ่อนขนาดนี้... ไม่ไหวหรอก น้องพี่”เจ้าชายใหญ่แย้งขึ้นอย่างไม่เห็นด้วย “เจ้ามิได้แข็งแรงดังเช่นทหาร... พี่จะปล่อยให้เจ้าตายได้อย่างไร”

“เจ้าพี่... เพลานี้เราต้องรักษาชีวิตของเจ้าชายรพีธรณินและเจ้าพี่ศรวิษฐาเอาไว้เสียก่อน... มิเช่นนั้นทุกคนอาจต้องตายตกไปตาม ๆ กัน...”

“ถ้าเช่นนั้น พี่จะพาหญิงศรกลับวัง ส่วนเจ้า คุ้มกันองค์รพีกลับวัง... เราจะต้องไปเจอกันที่ตำหนักใหญ่ เข้าใจไหม ศศินคคนานต์”ด้วยความที่ทรงรักและห่วงใยพระน้องนางที่ขวัญเสีย จนทำให้ลืมองค์ว่าควรที่จักปกป้ององค์ชายแผ่นดินแม้ มิใช่เจ้าน้องยาผู้มากฝีมือ แล้วผลักภาระไปให้กับอนุชาเช่นนี้

“... พะยะค่ะ เสด็จพี่”ศศินเจ้าก็ตอบรับแต่โดยดี ไม่มีค้าน

สุริยาเจ้าถิ่นจะทรงคิดได้ตอนนี้... ก็สายไปเสียแล้ว

แต่คงมิเป็นไร องค์รพีจักคง... ไม่สิ ต้องช่วยน้องชายของพระองค์ได้เป็นแน่แท้


สองพี่น้องพุ่งเข้าฝ่าวงล้อม ก่อนที่จะพาตัวของคนสำคัญทั้งสองมุ่งกลับไปยังวังหลวงทันที

“ตามมันไป”กลุ่มโจรวิ่งไล่ตามเจ้าจันทร์และเจ้าสุริยาต่างเมืองไปทั้งหมด โดยไม่สนใจสองพี่น้องที่วิ่งไปอีกทางเลยแม้แต่น้อย

“สวรรค์โปรด...”เสียงลอดไรฟันแผ่วเบา “ท่านวิ่งนำไปก่อน... ข้าจะรั้งพวกมันเอาไว้ข้างหลังเอง...”

“...”ไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ

องค์รพีธรณินเอื้อมหัตถ์มาหยิบเอาดาบเล่มหนึ่งไปจากศศินก่อนที่จะพุ่งเข้าโรมรันกับคนชั่วตรงหน้าอย่างไม่กลัวเกรง

จักให้คนในเมืองลูก มาปกปององค์ชายผู้นำทัพไปต่อกรกับศัตรูต่างแดนได้อย่างไร... มันขายขี้หน้าเสียจริง

“โถ่เอ้ย!!”จิตใจแสนร้อนรน ความกังวลเริ่มเข้าสู่ภายในจิตใต้สำนึก


ถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาจะทำอย่างไรกัน


ร่างผอมก้าวเข้าไปในวงต่อสู้ ใบดาบคมเชือดเฉือนผิวเนื้อของกลุ่มคนตรงหน้า เลือดสีสดหลั่งรินลงมาอย่างต่อเนื่อง

“ระวัง!!”แขนเรียวผลักร่างสูงให้ออกห่างจากคมดาบของคนใจมาร โลหิตสีเข้มไหลซึมออกมาจากบาดแผลบริเวณต้นแขนที่ไปรับแทนจ้าวสุริยา โชคยังดีที่โดนแค่เฉี่ยว ๆ เพียงเท่านั้น

ด้วยความโกรธา เจ้าศศินถึงกับคว้าดาบสังหารคนพวกนี้อย่างไม่ปราณีเหมือนคราแรกที่ได้สู้กัน...

พระองค์เชื่อแล้วว่าความใจอ่อนนั้นสามารถพาชีวิตของคนไปได้


พระแสงส่องฟาดฟันศัตรูสิ้น
ให้ดับดิ้นชีวาละสังขาร
ข้างหน้าตนมิใช่คนคือหมู่มาร
ที่มาพาลหมายชีวิตพระองค์ไป

โลหิตแดงสาดกระเซ็นทั่วท้องที่
เหล่าปักษีโบยบินขึ้นหนีไกล
ปวงประชาที่พบเห็นแทบขาดใจ
ซากศพใครมิตายดีอยู่กลางลาน


สององค์ชายร่วมกันสังหารเจ้าหมู่โจรที่ไม่รู้จักกาลเทศะเหล่านี้จนสิ้น... ไม่เหลือเอาไว้สอบสวนแม้เพียงสักคนเดียว...

องค์ศศินคคนานต์รีบพาองค์รพีกลับเข้าวังอย่างรวดเร็วที่สุด ไม่สนใจบาดแผลที่ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาของตนเลยแม้เพียงนิด

ความเร็วของฝีเท้าเริ่มลดลงเมื่อเข้าใกล้ตำหนักใหญ่... ระหว่างทางที่ผ่านนั้นทหาร นางกำลังหลายคนร้องทักเจ้าชายองค์รองด้วยความตกใจกับโลหิตที่เปรอะเปื้อนพวกนั้น...

“ศศิน...”สุริเยนทร์ไววะตรงปรี่เข้ามากอดอนุชาของตนทันทีเมื่อพบหน้า “เจ้าปลอดภัยไหม น้องพี่ บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่...”

“น้องบาดเจ็บเล็กน้อย ขอบพระทัยที่ทรงห่วงพะยะค่ะ เจ้าพี่”เสียงหวานตอบกลับเรียบ ๆ ก็จะหันไปสบตากับพระบิดาของพระองค์

“เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่... รพีธรณิน”เสียงทุ้มเอ่ยถามเจ้าชายต่างเมือง โดยไม่แยแสบุตรของตนเลยแม้เพียงน้อย

“บาดเจ็บที่มือเล็กน้อย ไม่เป็นไรมากพะยะค่ะ ฝ่าบาท”องค์ชายแห่งอุษณกรตอบกลับเบา ๆ ตามความจริง

ร่างใหญ่ลุกขึ้นจากบัลลังก์ที่ประทับทันที เมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่จะก้าวลงมาอยู่ตรงหน้าโอรสองค์รองของพระองค์อย่างรวดเร็ว
เพี๊ยะ!!

หัตถ์หนาตวัดตบดวงหน้าหวานฉาดใหญ่ด้วยความโกรธา พระเนตรคมทอประกายกล้า

“เจ้าลูกไม่รักดี อ่อนหัดยิ่งนัก เหตุใดเจ้าถึงไม่ปกป้องเจ้าชายให้ดี ปล่อยให้เขาบาดเจ็บได้อย่างไร ไอ้ลูกชั่ว”เสียงตวาดดังก้องท้องพระโรงแห่งนี้

ดวงตาสีไพลินฉายแววเศร้าหมอง แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากบุรุษตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย...

เจ้าชายรพีธรณินทอดพระเนตรภาพตรงหน้าด้วยสีพระพักตร์เรียบเฉย แต่พระเนตรฉายแววโกรธขึงบ่งบอกถึงความรู้สึกภายใน

เหตุใดถึงไม่ฟังเหตุผลกันสักนิด ไม่ห่วงลูกของตนบ้างหรืออย่างไร ทั้งที่บาดเจ็บมากกว่าผู้มาเยือนอย่างพระองค์ แต่กลับซ้ำเติมเช่นนี้...

“พอได้แล้ว...”เสียงเรียบเอ่ยขึ้น เจ้าสุริยาแห่งเมืองแม่ก้าวเข้าไปหาร่างสูงใหญ่ของผู้ครองเมือง “พอเสียทีกับสิ่งที่ไร้เหตุผลเช่นนี้”

กรแกร่งโอบไหล่ร่างบางเดินออกจากท้องพระโรงไปโดยไม่เหลียวหลังกลับไปมองใครสักคน...

ดวงเนตรคมจับจ้องโอรสองค์รองที่หันมาอย่างบอกความนัยน์...


ดูแลเจ้าชายให้ดี... ไม่เช่นนั้น


ตาย!!!!!

++++++++++++++++++++++++++++++++

มาแล้วค้าา กลับไปกลอนแปด ไวกว่าฉันทลักษณ์อื่น 5555

เรื่องที่ทำไมพ่อกับปู่เกลียดศศิน เดี๋ยวตอนหน้ามีแย็บ เฉลยเต็มตอนสิบค่ะ

สุริเยนทร์ไม่ใช่ไท่รักน้องชายนะคะ อย่าเพิ่งเข้าใจคุณพี่ผิด แต่ด้วยอีกคนเป็นน้องสาว เป็นผู้หญิงเลยต้องดูแลกันหน่อย

ส่วนคุณนายศร... รอดูกันไปค่ะ 5555

ลูก ๆ ของเหล่าสนม... ไร้บทสิ้นดี :hao7: แต่ก็มีนะคะ ไม่ได้มีกันแค่สามคนพี่น้องนาา แต่พวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการบริหารประเทศ เลยไม่ออกหน้ามาน่ะค่ะ

 :z2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 13-03-2014 10:39:26
น่าสนุกๆ
ศศินมีเสน่ห์ยังไงไมีรู้
หรือเราชอบแนวเคะอาภัพนะ :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 13-03-2014 10:41:39
ดูท่าจะเกลียดมาก  เอะอะก็ลงที่ศศินหมด   :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 13-03-2014 11:15:09
รู้สึกว่าน้องดาราจะแร่ดเงียบนะเพคะ




แบบ... แอบเพลียนางเล็กๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 13-03-2014 11:29:29
เจ้าพี่หญิงอยากได้องค์ชายรพีหรือพะยะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-03-2014 11:31:34
รอฟังเหตุผลที่ชิงชังเจ้าจันทร์ดวงน้อย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-03-2014 11:40:09
ศศินน่าสงสาร :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-03-2014 11:52:13
พ่อโหดดดด
ศศินน่าสงสารเกินไปแล้ววววว
ฮือออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 13-03-2014 11:52:29
 :hao7: :hao7: :hao7: o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 13-03-2014 12:15:12
ศศินน่าสงสาร พ่อนิสัยดีสุดๆห่วงเจ้าชายต่างเมืองมากกว่าลูกตัวเอง :เฮ้อ:
แล้วพ่อจะสำนึกว่าควรดูแลลูกให้มากๆตอนไหน :m16:
แต่พี่สาวเริ่มเป็นแบบ....(บรรยายไม่ถูก)
ปล.เราชอบนายเอกแบบที่พ่อไม่รักจังเลย
ปล2. สนุกนะคะแต่มันสั้นไปนิดหรือเราอ่านเร็วไปมันเลยสั้นก็ไม่มั่นใจ :hao4: เนื้อเรื่องสนุกมากทำให้อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 13-03-2014 12:16:13
มีปมอะไรในอดีต เดี๋ยวรอดู =w=bหนุกมากฮับ o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 12:22:43
ศศินน่าสงสาร พ่อนิสัยดีสุดๆห่วงเจ้าชายต่างเมืองมากกว่าลูกตัวเอง :เฮ้อ:
แล้วพ่อจะสำนึกว่าควรดูแลลูกให้มากๆตอนไหน :m16:
แต่พี่สาวเริ่มเป็นแบบ....(บรรยายไม่ถูก)
ปล.เราชอบนายเอกแบบที่พ่อไม่รักจังเลย
ปล2. สนุกนะคะแต่มันสั้นไปนิดหรือเราอ่านเร็วไปมันเลยสั้นก็ไม่มั่นใจ :hao4: เนื้อเรื่องสนุกมากทำให้อยากรู้ตอนต่อไปเร็วๆคะ

สั้นค่ะ 5555 มีไม่เกินสี่หน้าเอสี่... พยายามจะยาวอยู่ค่ะ แต่ก็ยังไม่พ้นสี่หน้าสักที TT"
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 13-03-2014 12:39:21
รู้สึกอยากอ่านอีก่อ่ะ


แง้ๆๆๆอยาหอ่านๆ // งอแง :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 13-03-2014 13:18:16
สนุกมากค่ะ!!! สงสารศศิน
ขอติดตามเรื่องนี้อย่างเหนียวแน่นค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 13-03-2014 13:56:09
ชอบอ่ะ แนวนี้หาอ่านยากมากกกกกกกกก !!

ศศิน น่าสงสาร ต้องมีคนดูแลซะแล้ว
 :mew6:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 13-03-2014 14:18:25
ไม่ใช่ว่ามาแนวไม่ใช่ลูกตัวเองหรือเป็นลูกตัวเองแต่ไม่ได้อยากให้เกิด ทำแม่ตาย อะไรงี้นะ อะไรมันจะจงเกลียดชังกันขนาดนั้น

และถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็.... รันทดแท้ศศิน.... :sad11:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 13-03-2014 15:05:06
อาภัพจริงๆ  :mew4: :mew4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 15:07:52
ไม่ใช่ว่ามาแนวไม่ใช่ลูกตัวเองหรือเป็นลูกตัวเองแต่ไม่ได้อยากให้เกิด ทำแม่ตาย อะไรงี้นะ อะไรมันจะจงเกลียดชังกันขนาดนั้น

และถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็.... รันทดแท้ศศิน.... :sad11:

รานียังอยู่ค้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 13-03-2014 15:26:25
โอ๊ยยยย เจ้าชายรองน่าสงสารอ่าาาาาาาา

เด็จพ่อใจร้าย บ้าที่สุดๆๆๆๆๆๆ   :ling1:  (ด่าแรงได้เท่านี้  :ling2: )

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 13-03-2014 15:49:23
โอ้โห....นี่มันอาราย~กาน~เนี่ย~
ยัยดารา....จะมาน้อยใจอะไรรพีไม่ทราบ ตัวเองยังไม่ถูกเลือกว่ารพีจะเอานะ
ทำเป็นน้อยใจ...บู~   เอาล่ะสุดท้ายศศินก็น่ารักสุดๆอยู่ดี(ไม่ได้ลำเอียงนะ)
ตอนนี้ได้รู้ถึงความรักของพี่คนโตที่มีให้กับศศินได้บ้างอ่ะนะ
ตอนท้ายเหมือนจะหวาน แต่ก็...อ่ะนะ ชอบเรื่องนี้แต่ถ้าจะให้ดี ขออีกตอน :impress2:

ยาวอีกแล้ว อินอีกแล้วไม่เป็นไรเนอะแต่ขออีกอย่าง เรื่องมายาวกว่านี้ได้ม้ายยย~
 :o12: :o12: :sad4: :sad4:

ตามตอนต่อไป...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 13-03-2014 17:49:31
ศศินน่าสงสารจัง เสด็จพ่อใจร้าย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: asmar ที่ 13-03-2014 18:28:43
รอตอนต่อไปอยู่นะ :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 13-03-2014 20:03:36
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 13-03-2014 20:44:47
ศศินไม่ได้มีพละกำลังมากมายเท่าพี่ชาย ไม่ได้มีหัวสมองดีเลิศเยี่ยงพี่สาว แต่ที่ศศินมีคือความคล่องแคล่วและว่องไว
ชักเกลียดพี่ชายพี่สาวของศศินแล้วสิ คุณพี่สาวเธอก็ช่างใจง่ายเสียจริง!
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 13-03-2014 21:00:40
เง่อ พ่อทำแบบนี้กับศศินได้งัย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 13-03-2014 21:10:48
โห แย่อะ มีพ่อแบบนี้ กี่ชีวิตก็ไม่พอหริ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-03-2014 21:29:50
จะพยายามมาต่อให้ยาวๆนะคะ ^^'
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 13-03-2014 22:19:17
ชิงชังลูกจังเลย ทำเหมือนไม่ได้เป็นอะไรกัน น่าเศร้ายิ่ง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 13-03-2014 22:21:03
อารมณ์ค้างงงงงงง  :katai1: :katai1: :katai1:

สงสารศศินอ่ะ ทำไมเป็นถึงกษัตริย์ แต่ไม่มีความยุติธรรมเลยอ่ะ ศศินทำอะไรผิดดดดด :z6:  :z6:

ดาราก็อีกคน ท่าทางจะเป็นตัวปัญหาแน่ๆอ่ะ ฮึ่ยยยๆๆ คนเขียนทำเค้าโมโหค้าง~!! รีบๆมาต่อด้วยนะคะ

ปล.ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆให้อ่านกันค่ะ แอร๊ยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: linsalia ที่ 13-03-2014 22:26:15
เสด็จพ่อใจร้ายยยย สงสารศศินจัง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 13-03-2014 22:41:07
ทำเหมือนไม่ใช่ลูกตัวเอง  :m16:

คงไม่ใช่เพราะคำทำนายบ้าบออะไรหรอกนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 4 (P.2)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 13-03-2014 23:07:45
สงสารศศิน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 01:50:33
ปฏิญญาที่ ๕

ดูแลปกป้องเจ้าจันทร์น้อย
และเฝ้าคอยรับฟังความในใจ
ยินอดีตที่ถูกฝังอยู่ภายใน
อยู่ภายใต้ใบหน้าอันอ่อนโยน



มืออันอบอุ่นที่ยื่นเข้ามาช่วยเหลือยามที่จิตใจนั้นบอบช้ำ สร้างความรู้สึกแปลก ๆ ภายในดวงหฤทัยของเจ้าชายองค์รองได้อย่างดี

ดวงเนตรงามเหลือบมองร่างที่นั่งอยู่เคียงข้าง... มือที่ยื่นมาปกป้องนั้นช่วยพันแผลที่ต้นแขนให้อย่างนุ่มนวลและอ่อนโยน...

อ่อนโยน... จนมิอยากจะเชื่อว่าคน ๆ นี้จะแสดงออกมาได้

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ...”รอยยิ้มบาง ๆ คลี่ส่งให้ร่างสูง ดวงตาคู่ที่ตราตรึงนั้นฉายแววดีใจอย่างมิปิดบัง “ให้กระหม่อมทำแผลให้นะพะยะค่ะ...”

“อืม...”หัตถ์ซ้ายยื่นให้กับคนตรงหน้า ศศินจับมือใหญ่นั้นแผ่วเบา “ทำไมเจ้าถึงดูดีใจนัก...”

“ดีใจ...”ศศินเงยหนาขึ้นมองร่างสูง “ออ... แต่เล็กมาไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อกระหม่อมเหมือนดั่งพระองค์น่ะพะยะค่ะ”

“ปฏิบัติ...”

“พะยะค่ะ... มิเคยมีใครปกป้องกระหม่อมต่อหน้าเสด็จพ่อ มิมีใครให้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่กระหม่อมต่อหน้าพระพักตร์ และก็ไม่เคยมีใครทำแผลให้กระหม่อมเช่นนี้”รอยยิ้มหวานฉาบทับบนใบหน้ามน “กระหม่อมรู้สึกดีใจมากเลยพะยะค่ะ”

“...”

“เอาล่ะ... เสร็จแล้วพะยะค่ะ”

ผ้าพันแผลสีขาวสะอาดพันทบออกมาอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม... ไม่สมกับเวลาน้อยนิดที่ใช้ในการพันแม้เพียงน้อย...

“เย็นมากแล้ว... กระหม่อมขอตัวก่อนนะพะยะค่ะ เจ้าชาย”องค์ศศินลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วน้อมกายให้กับคนตรงหน้าน้อย ๆ “ขอบพระทัยอีกครั้งพะยะค่ะ”

มือหนาคว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อนที่จะเดินออกไป เจ้าจันทรหันมามองด้วยความงุนงง... จะทรงรั้งตัวเขาไว้ทำไมกัน...

“ต่อไปไม่ต้องใช้คำราชาศัพท์กับข้า...”พูดเพียงเท่านี้... แล้วก็ปล่อยแขนเรียวออก “เจ้ามียศศักดิ์เทียบเทียมข้า มิต้องทำตัวราวบ่าวไพร่เช่นนี้”

“...”ศศินคคนานต์อดไม่ได้ที่จะกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนที่จะยิ้มออกมาน้อย ๆ แม้ภายในใจยังไม่เข้าใจนัก “พะยะค่ะ... ขอรับ เจ้าชาย”

คงมิโปรดฟังราชาศัพท์ให้รำคาญหูกระมัง

“รพี...”เสียงทุ้มเอ่ยเบา ๆ “ชื่อของข้า... รพี”

“เสด็จพี่รพี...”

รอยยิ้มอบอุ่นคลี่ส่งให้เมื่อได้ยินชื่อตนออกจากโอษฐ์บาง... รอยยิ้มแรกตั้งแต่มาเยือนอาณาจักรแห่งนี้


เช้าวันต่อมา... ศศินคคนานต์ได้แต่นอนนิ่งบนแท่นบรรทมหรือไม่ก็ลุกขึ้นเดินไปมาอย่างช้า ๆ ไม่อาจที่จะลุกขึ้นมาทำอันใดได้เหมือนปกติ...


โดนพิษบาดแผลเล่นงานแล้วสิเรา...


ร่างบางนั่งนิ่งบนเก้าอี้ไม้แกะสลักภายในตำหนัก นิ้วเรียวนวดขมับของตนเบา ๆ

“วันนี้เราคงทำเครื่องเสวยขึ้นถวายไม่ไหวจริง ๆ ล่ะ แม่แย้ม”เสียงหวานแหบน้อย ๆ เอ่ยกับนางกำนัลห้องเครื่องคนสนิทแผ่วเบา “เราต้องขอโทษจริง ๆ”

“ทรงพักผ่อนเถอะเพคะ เจ้ารอง”หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงเป็นใย “อย่าฝืนพระวรกายทำอะไรนะเพคะ”

“อืม...”

เครื่องเสวยในวันนี้จึงเป็นฝีมือของคนครัวทั้งหมด... โดยที่ไม่มีเจ้าชายองค์รองกำกับอย่างเคย...

ส่งผลให้ความอยากอาหารขององค์ชายต่างแดนน้อยลงไปด้วย

“อืม... สำรับพวกนี้รสชาติไม่เหมือนปกตินะ อิ่ม”องค์ภาณุวัฒน์ตรัสกับหัวหน้าคนครัวอย่างแม่อิ่มด้วยความสงสัย “เกิดอะไรขึ้นหรือ”

“เอ่อ... คือ...”แม่อิ่มอึกอักไม่ตอบในทันที.... จะให้นางตอบได้อย่างไรว่าคนทำครัวหลักอย่างจ้าวศศินไม่ได้ลงมือทำ... “เอ่อ...”

“ศศินเป็นอะไรหรืออิ่ม”รานีคนงามถามขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทีของแม่ครัววัยกลางคน “ศศินลูกข้าเป็นอะไร เหตุใดจึงไม่ลงครัวเหมือนปกติ”

“... เจ้ารองเป็นไข้เพคะพระแม่เจ้า”อิ่มหันไปทูลต่อองค์นิศามณีเสียงสั่น “เจ้ารองจับไข้จึงไม่สามารถมาทำเครื่องเสวยได้ในวันนี้เพคะ”

“ตายจริง... เหตุใดจึงไม่มีใครมาบอกข้า”ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีเมื่อได้สดับฟังเช่นนั้น “มีใครไปตามท่านหมอมาตรวจลูกข้าหรือยัง”

“หม่อมฉันให้แม่เรไรไปตามมาแล้วเพคะ”

“ข้า.... ข้าจะไปหาเจ้าศศิน”รานีองค์งามผละจากโต๊ะเสวยหมายจะเสด็จไปยังตำหนักของโอรสตน

“หยุด นิศามณี”เสียงเย็นของผู้ครองแผ่นดินตรัสขึ้นขัด “ร่างกายเจ้าไม่แข็งแรงนัก ถ้าไปติดไข้จากมันจะทำอย่างไร”

“เจ้าหลวง...”

“ไม่มีข้อโต้แย้ง ให้หมอไปรักษามันเท่านั้นก็พอแล้ว”


โอ้ลูกน้อยยาใจของแม่นี้
เจ้าจะมีไข้หนักหนาสักเพียงไร
ตัวแม่อยากเฝ้าเจ้าชิดใกล้
จำห่างไกลด้วยพระบัญชา

พ่อเจ้านั้นใจดำยิ่งนัก
มาเอ่ยหักห้ามแม่ไม่ให้หา
ไม่ให้ไปพบเฝ้าเจ้าลูกยา
แม่เล่าหนาใจแทบขาดรอน


องค์รพีธรณินที่สดับฟังอยู่พักใหญ่ทรงลุกขึ้นยืน แล้วก้าวไปหานางกำนัลอิ่ม

“พาข้าไปหาศศิน”

“...เพคะ เจ้าชาย”

สองร่างเดินออกจากท้องพระโรงไปอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางสายตาของทุก ๆ คน


เหตุใดองค์รพีถึงต้องมีท่าทีเป็นห่วงเจ้าน้องด้วยนะ ข้าไม่เข้าใจจริง ๆ


“องค์ภาณุวัฒน์ไม่โปรดศศินเช่นนั้นหรือ”เสียงทุ้มเอ่ยถามนางกำนัลที่เดินนำหน้าเบา ๆ

“เพคะ เจ้าชาย”

“ด้วยเหตุใดกัน”

“เจ้าหลวงและเจ้าปู่ไม่โปรดเจ้ารองเพราะตอนเจ้ารองเกิดนั้น พระแม่เจ้าทรงตกพระโลหิตอย่างหนัก ทำให้พระวรกายอ่อนแอลงจนไม่สามารถมีโอรสหรือธิดาได้อีกน่ะเพคะ”แม่อิ่มทูลตอบด้วยเสียงเศร้า “ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองพระองค์จึงโทษว่าเป็นความผิดของเจ้ารอง ถ้าเพียงเจ้ารองไม่เกิดมา พระแม่เจ้าก็จะทรงแข็งแรง... ทั้งที่จริงแล้วที่พระแม่เจ้าตกเลือดนั้นเป็นความผิดของพระสนมอุสราแท้ ๆ”

“งั้นหรือ...”

“เพคะ... เจ้ารองจึงต้องลำบากไม่น้อย เลยทีเดียว”ดวงหน้ากลมเงยขึ้นมองตำหนักตรงหน้าด้วยแววตาอันอบอุ่น “ถึงแล้วเพคะ ตำหนักของเจ้ารอง...”

ทั้งสองก้าวเข้าไปในตำหนักที่ตกแต่งอย่างเรียบ ๆ เครื่องเรือนเครื่องใช้ก็มีน้อยนิดจนน่าตกใจ

“เจ้ารอง... เจ้ารองเพคะ ขออนุญาตนะเพคะ”แม่อิ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องบรรทมขององค์ศศิน “เจ้ารองเพคะ เจ้าชายมาเยี่ยมเจ้ารองเพคะ”

“เอ๊ะ...”ร่างเล็กผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะทิ้งตัวลงกลับไปนอนดังเดิม “อา...”

“ลุกขึ้นเร็วแบบนี้ก็ต้องหน้ามืดเป็นธรรมดา”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ขณะที่กายสูงเข้ามาใกล้แล้วประทับลงที่ขอบเตียงนุ่ม “เป็นอย่างไรบ้าง...”

“เอ่อ... เราไม่เป็นไรหรอก... เพียงแค่มีไข้เล็กน้อยเท่านั้นเอง”ดวงหน้าซีดเซียวคลี่รอยยิ้มอ่อน ๆ ส่งให้ “ท่านเถอะ... ระวังติดไข้จากเรานะ...”

“ข้าไม่ได้อ่อนแอเช่นนั้นเสียหน่อย”

แม่อิ่มที่คุกเข่ามองทั้งคู่อยู่พักหนึ่งยิ้มออกมาอย่างดีใจ เมื่อนางเห็นแววตาสดใสขององค์ชายรองที่นางรักราวกับลูก

ร่างอวบค่อย ๆ ถดกายหายออกจากห้องไป...


นางจะต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกแก่ทุกคน


“ได้ทานอะไรบ้างหรือยัง”รพีเอ่ยถามอย่างที่เอนกายอยู่บนเตียงนิ่ง

“ทานแล้ว... แม่แย้มยกข้าวต้มมาให้ทานแล้ว”เสียงแหบตอบกลับแผ่วเบา “แล้วท่านล่ะ ได้ทานอะไรบ้างหรือยัง”

“ข้าทานแล้ว”

“ได้ยินว่าทุกคนทานอาหารน้อยกว่าปกติ... จริงหรือ เสด็จพี่รพี”เขาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

“คงจะเป็นเช่นนั้น... อาหารมื้อนี้รสชาติไม่เหมือนปกติ”

“...”

ดวงตาหวานหลุบลงอย่างสำนึกผิด... เพราะพระองค์ประชวร จึงไม่สามารถลุกขึ้นไปทำหน้าที่ได้เหมือนทุกวันแท้ ๆ

“อย่าคิดว่าเป็นความผิดตนเองสิ...”หัตถ์หนาลูบเกศานิ่มเบา ๆ “เจ้ามิได้มีหน้าที่ทำครัวมิใช่หรือ เจ้าจันทราของข้า”

“อืม... มันไม่ใช่หน้าที่ของข้า...”

“นอนเถอะ... พักผ่อนได้แล้ว จะได้หายไว ๆ”

“อืม...”

ดวงเนตรปิดลงช้า ๆ รอยยิ้มอ่อน ๆ คลี่ออกมาอย่างมีความสุข


อ่า... เจ้าจันทราของข้า... อย่างนั้นหรือ

+++++++++++++++++++++++++++


แอบมาอัพตอนจะตีสอง

สั้นอีกแล้ว อย่าเพิ่งเชือดกันนะคะ TT" // ยังคงสั้นต่อไป จนถึงบทที่ 10 ที่ยากกว่าชาวบ้าน

ตั้งใจแต่ง 20 บท จบ... เอ่อ... ต้องจบสิ เนอะ 55555

ติชมกันได้นะคะ

 :mew1:

แอบมางุบงิบตรงนี้นิดนึง(ไม่ต้องใส่ใจค่ะ 5555)
ฮือออออ ดีใจที่ยังมีคนอ่านนะคะ T^T ตอนแรกจะไม่ลงแล้วเรื่องนี้แล้ว คิดเองเออเองว่าคงไม่มีใครอ่านจนแต่งไปได้ครึ่งนึง ตัดสินใจลองลงดู ไม่มีคนอ่านก็ไม่เป็นไร ปรากฎว่ามีคนอ่านด้วย YwY ดีใจสุด ๆ เลยค่ะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตั้งใจแต่งมากกว่าเรื่องอื่น เพราะชอบคำกลอนภาษาไทย ถนัดกลอน8 มากกว่ากลอนอื่น ๆ (ใครที่มีตำนานรักในมือ คงเห็นปกหลังที่เป็นกลอนใช่ไหมคะ 555) แต่ก็แบบ จะกลอน 8 ทั้งเรื่องคงไม่ใช่ เลยไปขุดเอาความรู้เดิม ทั้งโคลงสี่ กาพย์ยานี กาพย์ฉบัง มาใช้เสริมให้ดูมีอะไร (แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไร 5555) แต่ก็ไม่รู้ว่ารำคาญกลอนต่าง ๆ ที่แทรกลงไปในเรื่องไหม... (ถ้าถอนกลอนบทไหนไม่ได้ หรือยาวไปไม่ถอด บอกก็ได้นะคะ เดี๋ยวจะถอดความไว้ให้ค่ะ)

จริงๆเรื่องนี้มีพล็อตไว้จนจบแล้ว... แต่ด้วยความเอ่อ... สะเพร่าของตัวเอา ตอนโลกหนังสือเรียนม.ปลายทิ้ง เผลอทิ้งไปด้วย ฟิ้วค่ะ กลอนนำบทหายวับไป ต้องคิดใหม่หมดเลย... (ยังดีที่ฉากอย่างว่าพิมพ์ไว้แล้วในคอม ไม่งั้นแต่งใหม่อีกนี่... ตายยย)

ไว้แอบงุบงิบใหม่บทหน้าค่ะ แฮ่

ปล. ทายกันไหมคะว่าคนเขียนเรียนมหาลัยคณะอะไรอยู่ 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 14-03-2014 02:14:25
จิ้มคนเขียนหุหุ

แหม แลเหนือหัวทรงไร้เหตุผลเสียจริง เอาเหตุผลงี่เง่าที่ไม่สมควรเป็นเหตุผลมาอ้างเพื่อความเกลียดชังแบบนี้ใช้ได้ที่ไหน หาคนรับเคราะห์มารับความผิดแบบนี้ไม่น่ามาเกิดป็นจ้าวเลยนะ. และเพราะความมักมากไม่ใช่หรือไร มีสนมเล็กสนมน้อย จนเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าใจเดียวจริงๆจะมีใครมาริษยาแย่งความดีความชอบไหม(รู้ว่าค่านิยมแบบเก่าๆหรือแบบจีนเก่านิยมมีน้อยมีหลวง ) แต่เพราะมีน้อยมีหลวงนี่แหละปัญหาถึงได้มีมากมายนัก ลอบฆ่าลอบสังหารเพื่อเป็นหนึ่ง เหอะน่าสมเพช



ปล.  อินไปหน่อยขออภัย :P
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 14-03-2014 02:16:19
 :katai1: :katai1: :katai1:  สั้นอ่ะ  จะเอายาวๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 14-03-2014 02:29:58
นั่นไงว่าละ ไม่ผิดจากที่เดาเท่าไหร่เลย เสด็จพ่อนี่ไร้สาระจริงๆ เลย ตัวเองไม่เริ่ม เด็กมันจะเกิดได้ป่ะ ชิ!! :m16:

รพีกับศศินเริ่มใกล้ชิดกันขึ้นเรื่อยๆ แล้วน้าา :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: cho_co_late ที่ 14-03-2014 02:36:28
มันเขินตรงเจ้าจันทราของข้านี้แหล่ะ  -//////-
อะไรกัน เป็นของเจ้าชายรพีตั้งแต่เมื่อไรกันหึ ขี้ตู่จุงเบยยย
มีลางจะได้ไปอยู่กับรพีจริงซะล่ะม้างงง มาต่ออีกนะคะ :D
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 14-03-2014 03:21:38
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะค่ะ  :bye2:  :bye2:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 14-03-2014 04:07:35
 :ling1:สาเหตุเล็กมากอ่ะ พ่ออคติ ศศินเลือกเกิดได้ป่ะ ทำไม่ไม่ดูแลตอนรานีท้องอ่ะ ถ้าโทษควรโทษสนมสิมาโทษลูกทำไม :katai1:ขัดใจสุดๆ
รู้สึกดีแปลกๆที่เรียก "เจ้าจันทราของข้า" และ "เสด็จพี่รพี"เราคิดไกลมากเลยอ่ะที่เรียกคำพวกนี้ -////-
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 14-03-2014 08:25:39
เหอะ! เนี่ยนะเหตุผลที่เกลียดลูกตัวเอง
ไม่ได้คิดจะโทษคนอื่นเลย มาโทษเอาเด็กที่เกิดมาแบบไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวอะไร ถ้าสมมุติพระราชินีทรงสิ้นพระชนม์คงฆ่าศศินให้ตายตกตามพระมารดาไปแน่ๆ
คนแบบนี้ไม่สมควรเป็นพ่อคนหรือแม้แต่ราชาเสียด้วยซ้ำ เพราะราชาคือผู้ที่มีจิตใจกว้างขวาง แต่นี่แม้แต่ลูกตัวเองยังไม่ยกโทษให้ จิตใจนี่ช่างคับแคบซะจริง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-03-2014 08:33:12
อคติมากอะแกร แหม ตอนท้องสงสัยไม่ดูแลดีๆ แล้วดั๊นนน โทษเด็กซะงั้น ถ้ารู้จักนี่ตบหน้าหงายอะ :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 14-03-2014 09:07:49
โห เจ้าหลวงงี่เง่ามากกก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 14-03-2014 09:19:26
เอิ่ม ... เหตุผล  :katai1:

สั้นมากค่ะ ยังไม่จุใจเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Meen_Emp ที่ 14-03-2014 09:27:04
อ๊ากกกกก....เจ้าจันทราของข้า  >//<
เสด็จพี่รพี ....
เริ่มจะมีความสุขแล้วสินะ  เจ้ารอง

 :mew3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 14-03-2014 09:47:32
สนุกมากเลยค่ะ เราชอบเรื่องแนวโบราณมากกกก  :-[

มาต่อไวๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 14-03-2014 10:03:44
เข้ามาบอกว่าตามอ่านเรื่องนี้อยู่นะคะ
ชอบมากเลย สงสารเจ้ารองมาก ยิ่งรู่เหตุผล ยิ่งเกลียดพ่อกับปู่มากกว่าเดิม

เป็นกำลังใจให้จ้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 14-03-2014 10:13:40
เหตุผลไร้สาระ  :m16:

 ทำไมต้องโทษเด็ก ไปโทษคนสร้างเรื่องนู้น  :angry2:

งี่เง่าทั้งพ่อ ทั้งปู่  :z3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 14-03-2014 10:24:02
เพิ่งเข้ามาอ่าน
รู้สึกพลาดมากที่มาอ่านเรื่องนี้ช้าไป
สนู๊กสนุก
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบมากค่ะ  :mew1: :mew1: :กอด1: :กอด1:
กอดคนเขียนแรงๆ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 14-03-2014 10:38:28
เจ้าจันทราของข้า......
....
..
.
เขินนนนนนนนนนนนนนนน  :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-03-2014 10:54:59
เป็นเจ้าหลวงดูแลบ้านเมืองได้อย่างไรในเมื่อแม้แต่ลูกในไส้ยังละเลย

เหตุและผลไม่รู้จักเสาะหาหรือ :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 14-03-2014 11:59:19
ชอบเรื่องแนวนี้มากเลย แต่เพิ่งเห็น  :pig4: นักเขียน นะคะ

ศศินน่าสงสารมากเลย องค์รพีช่วยเป็นที่พึ่งของน้องด้วยนะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 12:01:49
เห็นความดุเดือดในคอมเมนต์

เก็บความหวานไว้ค่ะ เรื่องนี้หน่วงจิตอีกหลายตอน...

// แวบหาย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 14-03-2014 12:28:39
เจ้ารองจะมีความสุขขึ้นใช่ไหม ㅠㅅㅠ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 14-03-2014 12:46:16
ในสุดสุดก็รู้เหตุผล อยากจะบอกว่าเอิ่ม... ขอตบทีเดะ!! :beat: :beat: แหมไปโทษลูไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ตัวเองดูแลไม่ดีเองแท้ๆ
โง่ไปนะตัวเธอ :z6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 16:22:54
เดี๋ยวแอบมาลงตอนใหม่ตอนดึก ๆ

//ฟิ้วว (หายตัว)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 14-03-2014 16:24:06
เค้ารออยู่น๊าา(มากดดัน)

คนเขียนเรียนอยู่ภาคไหนอ่า (จะได้ทายถูก)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 16:37:51
เค้ารออยู่น๊าา(มากดดัน)

คนเขียนเรียนอยู่ภาคไหนอ่า (จะได้ทายถูก)

ภาคกลางค่ะ 55555 มิดไนท์ใจดี มิดไนท์มีชอร์ย

1 นิเทศน์ศาสตร์
2 อักษรศาสตร์
3 เทคนิคการแพทย์
4 นิติศาสตร์
5 มนุษย์ศาสตร์
6 อื่น ๆ (โปรดระบุ)

ค่ะ ^^

// ถ้ามีคนทายถูกจะลงตอนต่อไปให้เลย 55555 (วันนี้อารมณ์ดีมากมาย เกรดอกมาแล้วผ่านทุกตัว แฮร่)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 14-03-2014 16:49:42
ขอให้เจ้ารองมีความสุขมากๆนะค้า เจ้าพี่รพีเลือกน้องเลยน้าาาา ดูแลน้องดีๆด้วย  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Onosaka ที่ 14-03-2014 16:57:25
อักษรศาสตร์...มั้ง 555  รออยุ่นะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 14-03-2014 17:11:45
สนุกมากค่าา ติดตามๆ :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 17:58:06
ทายถูกแล้วจะมาลงน้าา 55555 // นั่งงมบท11รอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: judeer ที่ 14-03-2014 18:52:46
สงสารศศินทำดีแต่ไม่มีใครรู้ :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-03-2014 19:01:28
เสด็จพ่อไม่มีเหตุผลเลย สู้เสด็จพี่รพีก็ไม่ได้  อิอิ
ปล. เสด็จพี่รพีขี้ตู่อะ "เจ้าจันทราของข้า" หุหุ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-03-2014 19:16:11
คนเป็นพ่อไม่น่าทำตัวแบบนี้เลยนะ แย่มากก
ไม่น่าปกครองใครได้เลยยยย หึยยย

ปล.ถ้าให้เดาน่าจะเรียนพวกอักษรหรือศิลปศาสตร์หรือเปล่าคะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 20:38:00
มีให้อีกคำใบ้นะคะ^^

ราชาวดี

^+++^//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 14-03-2014 20:52:44
เดาไม่ถูก  :heaven 
นิเทศ เปล่าอ่ะ (ฝันอยากเรียนคณะนี้)





รอตอนใหม่ ยามดึกๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 5 (P.3)
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthip ที่ 14-03-2014 21:45:52
แบบว่าเหตุผลที่เกลียดมันเกิดไปไหม

พระมเหสีก็ช่วยอะไรลูกไม่ได้เลย

มันน่าหงุดหงิด จริง ๆ

สงสารเจ้ารองมาก


ไม่ชอบท่านพ่อและปู่ของเจ้ารองเลย ไม่มีเหตุผลมาก

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-03-2014 23:09:54
ปฏิญญาที่ ๖

เจ้าน้องน้อยที่รักของรำไพ
ช่วงนี้ใจเจ้าดูจักสุขี
รอยยิ้มหวานพาอบอุ่นทั่วแดนตรี
นัยน์ตามีประกายความสุขสันต์



องค์สุริเยนทร์ไทวะทรงทอดพระเนตรมองน้องร่วมอุทรทั้งสองด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง... ตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น
ศศิน อนุชาของพระองค์ดูมีความสุขและมีรอยยิ้มที่ดูไม่ฝืนเหมือนปกติอยู่บ่อยครั้ง แม้จะยังดูไม่ค่อยสบายนักก็ตามที...

ส่วนหญิงศร... นับวันยิ่งดูเหม่อลอยราวกับนางอยู่ในห้วงฝัน บางครั้งก็ดูทุกข์ใจราวกับมีเรื่องใหญ่โตเกิดขึ้นกับนาง... ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างก็ปกติดี

หรือไม่ปกติกันนะ...

แต่เอาเถอะ... ไม่ว่าจะเกิดอะไร มันก็คงเป็นเรื่องรวมที่ทำให้หญิงศรได้รับบทเรียนบางอย่างบ้าง... ก่อนที่จะเสียนิสัยไปมากกว่านี้

ถ้านางไม่เอาอารมณ์เป็นใหญ่... ล่ะนะ

พระองค์อดไม่ได้ที่จะเบนพระเนตรไปมองเจ้าชายต่างถิ่น... นี่ก็แปลก แม้จะดูนิ่ง ๆ เหมือนกับปกติ แต่บรรยากาศรอบ ๆ นั้นไม่เย็นชาเหมือนตอนที่ได้พบกันครั้งแรก... แล้วก็อยู่ไม่ค่อยห่างจากศศินนักด้วย

หรือว่าเราคิดมากไปเองนะ...

อืม... อย่างไรก็ตาม ถ้าศศิธรดวงน้อยของข้ามีความสุข นั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดแล้ว

องค์ชายใหญ่แห่งแดนดินก้มพักตร์ลงทำงานของพระองค์ต่อด้วยรอยยิ้ม แม้จะทรงเคืองพระทัยเล็ก ๆ ที่เจ้าชายต่างถิ่นมาใกล้ชิดกับอนุชาของตน

แต่ถ้าศศินมีรอยยิ้ม เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว...

แม้เสด็จพ่อจะต้องการผลักไสดวงจันทร์ของพระองค์ไปให้พ้นจากสายตา... แต่พระองค์จะทรงรั้งเอาไว้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

พระองค์มีน้องชายร่วมอุทรเพียงคนเดียว... มีน้องคนนี้คนเดียวที่มาฉุดรั้งให้พระองค์ต้องเติบใหญ่ มาเป็นกำลังให้พระองค์รู้ว่าต้องสู้เพื่อปกป้องน้องชายผู้อ่อนแอ มิให้ใครมารังแกเขาได้... เหมือนครั้งยังเยาว์ ที่น้องชายร่วมบิดารวมหัวกันมาแกล้งน้องน้อยที่ไร้กำลัง

นึกแล้วโมโหในความอ่อนแอของตนในครานั้นยิ่งนัก ถ้าเพียงพระองค์ตั้งพระทัยฝึกฝนมากกว่านั้น ซ้อมให้มากอีกสักหน่อย ศศินคงไม่ได้รับบาดแผลให้ปวดพระทัย... เป็นแผลใจจนถึงวันนี้

เคราะห์ดี ที่ไม่เป็นแผลเป็นให้มีราคี

“เจ้าพี่สุริเยนทร์พะยะค่ะ”เพียงแค่เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเบา ๆ เรียกความสนใจของพระองค์ได้ชะงักยิ่งนัก “น้องเรียงแผ่นงานให้เสด็จแล้วนะพะยะค่ะ”

“งั้นหรือ... ขอบใจเจ้ามา ศศิน”รอยยิ้มอบอุ่นคลี่ส่งให้จากใจ “มานี่หน่อยสิ น้องพี่”

ร่างบางก้าวเข้ามายืนข้างเสด็จพี่ของตนตามคำเรียกขาน ดวงหน้ามนเอียงน้อย ๆ เชิงสงสัย

“ศศิน...”กรแกร่งโอบรั้งร่างเล็กให้ทรุดลงมานั่งบนพระเพลา พระพักตร์หล่อเหลาเกยไหล่เล็ก “น้องรักของพี่... ช่วงนี้เจ้ายังมีสุขดีใช่ไหม”

“พะยะค่ะ เสด็จพี่ น้องมีความสุขดี”ทั้งนัยน์ตา ทั้งดวงหน้า บ่งบอกถึงความสุขที่มี มิได้ทรงโปปดเลยแม้เพียงน้อย

“ดีแล้ว... ดีจริง ๆ ที่น้องยังมีความสุข”เสียงพึมพำในลำคอแผ่วเบา พระหัตถ์หนาแตะที่หน้าผาก ที่ลำคอของน้องชาย “ไข้ก็ไม่มีแล้วสินะ”

“พะยะค่ะ น้องแข็งแรงดีแล้ว”

นาสิกโด่งสูดความหอมที่แก้มนุ่ม ก่อนที่จะทรงปล่อยร่างของอนุชาออกจากอ้อมกร ศศินผินหน้าไปหอมแก้มเชษฐาของตนเบา ๆ ก่อนที่จะลุกขึ้น

“อะไรที่น้องทำแล้วมีความสุข ก็ทำมันต่อไปนะ ศศินคคนานต์”เสียงทุ้มเอ่ยอย่างอ่อนโยน “พี่จะคอยเป็นกำลังให้น้อง คอยปกป้องน้องตลอดไป”

“พะยะค่ะ เสด็จพี่”

แขนเรียวโอบกอดร่างของผู้เป็นพี่แน่น แล้วเดินออกจากห้องอักษรไปอย่างเงียบ ๆ

บรรยากาศอันอบอุ่นอบอวนอยู่ในห้องนี้ ความรัก ความห่วงใยที่พี่ชายที่มีให้แก่น้องชายช่างเป็นสิ่งที่น่าปลื้มใจเป็นอย่างยิ่ง

ในเวลานี้ ศศินคคนานต์อบอุ่นใจยิ่งนัก เมื่อเขารู้สึกว่าเขามีพระเชษฐาที่แสนดีถึงสององค์

องค์หนึ่ง... พี่ชายร่วมอุทร ผู้คอยช่วยเหลือเขาอยู่ลับ ๆ เสมอ คอยประคองให้ผ่านวันเวลาที่หม่นหมอง คอยยื่นมือมาฉุดรั้งตนเอาไว้เวลาที่กำลังจะล้มลง ให้สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

องค์หนึ่ง... รัชทายาทแห่งแดนไกล ผู้มาเยือน คอยพูดคุย รับฟังความนัยน์ที่เก็บไว้ และปลอบโยนเขายามเสียใจ


พี่ชายที่แสนดี


องค์ศรวิษฐารู้สึกราวกับมีไฟมาสุมอกทุกคราที่เห็นภาพของคนที่พระนางหลงรักนั้น พูดคุยหยอกล้อกับอนุชาของพระนางเอง

อยากจะเข้าไปกระชากเจ้าน้องออกจากมือใหญ่นั้น เอาตัวเจ้าน้องไปให้ไกลสุดหล้า มิให้ได้พบเจอกันอีก...

แต่นั่นก็เป็นได้เพียงแค่ความคิดที่อยู่ภายในจิตใจเท่านั้น

พระนางจักทำกิริยาไม่งามเช่นนั้นให้เจ้าชายรพีธรณินเห็นมิได้เป็นอันขาด...

ควรจะทำอย่างไรดีนะ... จะทำอย่างไรให้พระองค์หันมาสนพระทัยในตัวของพระนาง... มิใช่เอาพระทัยใส่แต่เจ้าน้องศศินเช่นนี้
ก่อนที่อะไร ๆ จะสายเกินกว่าจะแก้ไข...

สีพระพักตร์ของเจ้าหญิงศรวิษฐานั้นแลดูเครียดขึงจนเหล่านางกำนัลหวาดผวา... ด้วยเกรงว่าพระอารมณ์ของพระนางจะระเบิดออกมาในไม่ช้า

เมื่อถึงเวลานั้น... พวกนางคงแย่

นางกำนัลทั้งหลายได้แต่หลบไปอยู่ในมุมเล็ก ๆ ไม่ให้เป็นที่เกะกะสายพระเนตรของผู้เป็นนาย หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวแทบทุกวินาที

สวรรค์ โปรดอย่าให้พระนางโกรธาไปมากกว่านี้เลย เห็นแก่บ่าวตาดำ ๆ ด้วยเถิดเจ้าค่ะ


เจ้าหญิงศรวิษฐาทรงลุกขึ้นจากที่ประทับ เสด็จออกน้องตำหนักไปอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางสายตาตกใจของเหล่าข้าราชบริพาร

พระนางจะไปไหนกัน... ถึงแม้จะสงสัยและใคร่รู้กันสักเพียงไร แต่ก็มิมีใครกล้าพอที่จะตามเสด็จพระนางไป แม้เพียงสักคน

พระนางทรงก้าวเดินตรงไปยังตำหนักเล็ก ๆ ที่ร่มรื่นอย่างตำหนักปักษาธร ตำหนักของเจ้าน้องของพระนางเองด้วยพระพักตร์เรียบเฉย

“ศศิน...”เสียงหวานตรัสเรียกอนุชาที่กำลังนั่งโขกหมากรุกกับทหารองครักษ์คนสนิทอยู่ในสวนงาม “มีเวลาพอจะคุยกับพี่สักหน่อยไหม”

“พะยะค่ะ เจ้าพี่”ร่างเพรียววางมือจากสิ่งที่กระทำอยู่ลง ลุกขึ้นตามพระพี่นางของตนไปอย่างเงียบ ๆ ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของเหล่าข้าราชบริพารที่รับใช้พระองค์มานาน

เจ้าหญิงศรวิษฐาเสด็จนำเจ้าน้องของพระองค์มายังสระน้ำหลังตำหนัก พระนางประทับยืนนิ่งเหม่อมองไปยังบัวหลวงและเหล่าภุมราที่โบยบิน

“เจ้าคิดอย่างไรกับเจ้าชายรพี ศศิน น้องพี่”พระนางทรงเปรยถามเบา ๆ กับอนุชาองค์น้อย “เจ้ารักพระองค์ใช่หรือไม่”

“มิได้เป็นเช่นนั้นพะยะค่ะ เจ้าพี่”เจ้าจันทราเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงมั่นคง “องค์รพีธรณินเปรียบเสมือนพระเชษฐาของกระหม่อมพะยะค่ะ”

“แล้วเจ้าเข้าไปใกล้ชิดกับพระองค์ด้วยเหตุใด”ศรวิษฐาตวาดลั่น ดวงเนตรสวยฉายแววกราดเกรี้ยวอย่างไม่ปิดบัง “ถ้าเจ้าไม่ได้คิดอันใดกับพระองค์”

“น้องไม่ได้คิดอะไรกับองค์ชายจริง ๆ พะยะค่ะ เจ้าพี่”ศศินยืนยันอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “องค์รพีเปรียบเสมือนพระเชษฐาของน้อง น้องมิเคยคิดเกินเลยกับพระองค์พะยะค่ะ”

“ข้าไม่เชื่อ!!!!!!”

“เจ้าพี่...”

“ถ้าเจ้ามิได้คิดอะไร เช่นนั้นเจ้าจงถอยห่างออกมาจากพระองค์ อย่าเข้าใกล้พระองค์อีก”พระนางกดเสียงเย็นชาใส่เจ้าน้อง ทั้งที่ทรงรู้อยู่เต็มอุระว่าผู้ที่เข้าหามาใช่เจ้าน้องของพระนาง แต่เป็นตัวของเจ้าชายรพีธรณิน... แต่จักให้ทรงทำพระทัยได้อย่างไรว่าบุรุษที่พระนางหลงรักนั้นใส่พระทัยกับอนุชาที่ไม่มีอะไรเลยอย่างศศินคคนานต์ “ออกมาให้ห่างพระองค์ อย่าให้พระองค์ได้เห็นเจ้าแม้เพียงเส้นผม”

“...”ศีตภาดวงน้อยเม้มโอษฐ์แน่น แม้จะทรงชื่นชม และยินดีที่เจ้าชายเมืองแม่มาพูดคุย มาคอยดูแลเล็ก ๆ แต่... จะเห็นเขาดีกว่าสายโลหิตของตนคงมิได้ “พะยะ...”

“เจ้าคิดจะทำอะไร ศรวิษฐา”ยังไม่ทันที่เจ้าปักษาธรจักได้ให้คำมั่นกับดารกา สหัสรังสีผู้เรืองฤทธิ์ก็ก้าวเข้ามาขัดเสียก่อน ด้วยสีพระพักตร์ที่น้อยครั้งจะได้เห็น... สีพระพักตร์ที่แสดงถึงความโกรธเคืองพระทัย ที่แม่จะพยายามเก็บซ่อน แต่ก็ไม่มิด “เจ้าคิดจะบีบบังคับเจ้าน้องให้ทำอันใดอีกกัน”

“เจ้าพี่สุริเยนทร์... ก็ศศินจักแย่งองค์รพีไปจากน้อง น้องไม่ยอมหรอกนะเพคะ”เจ้าหญิงองค์งานทูลฟ้องแก่เชษฐาของพระนาง แต่เล็ก แต่น้อย ด้วยความที่เป็นขนิษฐา จึงทำให้พระนางถูกตามพระทัย และทรงได้ทุกอย่างที่ประสงค์มาตลอด และครั้งนี้ก็จักต้องเป็นเช่นนั้น “เจ้าพี่ต้องจัดการให้น้องนะเพคะ”

“เจ้าสมควรจะรู้ตัวได้แล้วนะ ศรวิษฐา เลิกทำตัวเป็นเด็กน้อยอมมือเสียที อย่างไรเจ้าชายก็ต้องทรงเลือกเจ้าไปอยู่ดี ในวันนี้พระองค์จะทรงพูดคุยกับเจ้าน้อง แต่ก็เพียงในวันนี้ ในช่วงนี้ มิใช่ตลอดไป”องค์สุริเยนทร์ทรงติเจ้าน้องนางเสียงเข้ม “เจ้าควรมีใจที่เอื้อเฟื้อบ้าง หญิงศร เจ้าควรรู้ว่าองค์รพีของเจ้าเป็นองค์รัชทายาท อีกไม่นานต้องขึ้นเป็นกษัตริย์ แน่นอนว่าพระองค์มิได้มีเจ้าเพียงคนเดียว”

“เจ้าพี่!!”เจ้าหญิงน้อยแผดเสียงลั่นตำหนักที่เงียบงันจนข้ารับใช้ต้องพากันออกมาแอบดู ด้วยความที่พระเชษฐาของพระนางนั้น มิเคยสักคราที่จะไม่เข้าข้างพระนาง แต่มาวันนี้กลับเข้าข้างอนุชาผู้โง่เง่า ทำไม ทำไมกัน! “เจ้าพี่ทรงติน้อง เจ้าพี่ไม่ทรงรักน้องแล้ว”

“เจ้าพี่หญิง”ศศินเอื้อมมือไปแตะบ่าของผู้เป็นภคินี แต่กลับถูกพระนางปัดออกแล้วหันวรกายมาผลักองค์จนล้มลง

“เพราะเจ้า เพราะเจ้าคนเดียว เจ้าเอาความรักของเจ้าพี่ไปจากข้า เจ้าเอาทุกอย่างไปจากข้า ข้าเกลียดเจ้า ศศินคคนานต์ ข้าเกลียดเจ้า”เสียงแหลมสูงของสตรีตะโกนในหน้าของเจ้าจันทร ก่อนที่ร่างเพรียวของดารกาจักวิ่งหายไป โดยไม่เหลียวหลังกลับมาเลย

“เจ้าพี่...”

หยาดน้ำตาไหลหยดที่หางเนตร เจ็บปวดเหลือแสนที่ถูกภคินีที่รักยิ่งบอกเกลียดเช่นนี้... สุริเยนทร์ไทวะที่เห็นพระอนุชาเสียพระทัย ก็ได้แต่โอบกอดร่างของน้องน้อยเอาไว้เพื่อปลอบโยน..


พระองค์ไม่ควรจะเกิดมาจริง ๆ

######################

มาต่อให้แล้วค้าา

แต่ไม่มีใครทายถูกนะคะ คณะที่คนเขียนเรียนอยู่ 5555

เฉลยคือ เทคนิคการแพทย์ ค่ะ ^^ // คำใบ้คือ ราชาวดี อันนี้ถ้ารู้ก็รู้กันเลยล่ะค่ะ 5555

ผลสอบออกมาผ่านหมด ลงฉลองก่อนหมดวัน แฮ่

 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 14-03-2014 23:22:56
โถ่ศศิน ชีวิตลำเค็ญเหลือเกิน :z3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-03-2014 23:31:08
 :mew2: ศศินผู้น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 14-03-2014 23:32:05
จะติดตามอ่านค่ะ น่าสนใจว่าไม่มีแนวโน้มว่าจะมีแฟนตาซี แล้วศศินจะท้องได้ยังไง
้ถ้าคนที่นี่ส่วนใหญ่ไม่ต้องการ เจ้าชายรพีก็ช่วยรับตัวศศินไปอยู่ด้วยเถอะ ถึงศศินอาจจะไม่เต็มใจไปก็เถอะนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 14-03-2014 23:44:17
ศรวิษฐาจ๊ะ... เดี๊ยนขออนุญาตหยาบนะเพเค๊อะ... อิสันดานนนนนน ไม่ต้องบอกก็รู้ได้นิสัยเสียๆ มาจากใคร!! :angry2:

นางเอกมักจะถูกรุมทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเสมอ... ศศินที่น่าสงสาร :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 14-03-2014 23:44:50
น่าสงสารดวงจันทร์ดวงน้อย

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 14-03-2014 23:51:40
น่าสงสารมาก :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: cho_co_late ที่ 14-03-2014 23:58:01
ทุกคนคงคิดว่ารพีจะเอาตัวคุณพี่สาวไปสินะ
แต่ดูแล้ว ยังไงรพีก็เอาศศินไปแหงๆ
รพีคงไม่อยากให้ศศินต้องอยู่ในสังคมที่มีแต่คนไม่ชอบอย่างทุกวันนี้หรอกมั้ง
คุณพี่ชายอย่ามาห้ามไม่ให้รพีเอาศศินไปนะ!
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-03-2014 23:58:40
พี่สาวก็ไม่รักน้องชาย
เวรกรรม เฮ้อออออ
ยังดีที่มีพี่ชายรักนะ ไม่งั้นคงจะแย่แน่ๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 15-03-2014 00:00:37
เพิ่งมาติดตามเรื่องนี้ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

สงสารศศินอะ
ติดตามนะคะ ชอบเรื่องสไตล์นี้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 15-03-2014 00:06:20
โธ่ นางมารร้าย รพีเขาเป็นผัวหล่อนรึ ก็ไม่ใช่ จะหึงหวงในสิ่งที่ตัวเองไม่มีสิทธิ์ได้รึ ฐานะก็สูงส่งแต่ทำกริยาต่ำช้าชั่งน่าละอายยิ่งนัก



ปล. อินไปหน่อย ขออภัยครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 15-03-2014 00:08:43
โอยยยยยยยย
สงสารศศินที่สุด รันทดจริงชีวิต
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 15-03-2014 00:09:56
รอตอนต่อไปนะคะ
อยากอ่านตอนต่อไปแล้วอ้ะ
ไม่ชอบดาราเลย
 :katai1: :katai1: :katai1:
ปล.ว่าแล้วต้องเรียนเทคนิคฯแต่มาอ่านช้าเกินไป
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 15-03-2014 00:13:35
แหม่ อ่านเรื่องนี้ทีไรอย่างตบคนทุกที เดี๊ยนขึ้น!!  :beat: :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-03-2014 00:19:51
ยัยเจ้าหญิงน่าโดนสักชุด :beat:


หล่อนไร้สาระมาก ขี้อิจฉามากๆด้วย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-03-2014 00:45:46
สงสารศศินอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-03-2014 01:05:08
ศศินก็มีปมจนอ่อนแอแท้ พ่อคุณ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: GUN-SIRORAT ที่ 15-03-2014 01:19:41
แอบจิ้น ตอนที่สุริกับศศิน หอมแก้มกัน -"- 55555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-03-2014 02:16:54
แอบจิ้น ตอนที่สุริกับศศิน หอมแก้มกัน -"- 55555


จิ้นอะไรค้าา พี่น้องค่ะ พี่น้อง // แอบยิ้มไกลๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 15-03-2014 07:47:13
โถ ศศิน โดนรังแกตลอดเลย โอ๋
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Onosaka ที่ 15-03-2014 08:04:00
ทำไมทำงี้อ่ะองค์หญิง เดี๋ยวปั๊ดโบก!!! ศศินไม่ผิดซักหน่อยนะตัวเองนั่นแหละคนเค้าไม่สนแร้วยังละเมอเพ้อพกอีก องค์ชายรพีพาศศินไปอยู่ด้วยเร็วๆนะสงสารศศินมากอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-03-2014 09:05:26
ทำไมหาชะนีแต่ละเรื่องไม่เคยจะทำตัวมีสาระ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 15-03-2014 09:17:11
เจ้าหญิงนี่น่ารังเกียจจริงๆ บ่าวไพร่ยังไม่อยากเฉียดใกล้

ศศิน น่ารัก นิสัยอ่อนโยน องค์รพีย่อมอยากชิดใกล้เป็นธรรมดา  :-[
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 15-03-2014 10:02:09
....งึมๆ......แล้วเจ้าชายรพีหายไปหนายยยย
เหลือแต่ยัยดาราที่คิดว่าน้องชายแย่งผู้ชายไปทั้งๆที่..มันไม่ช่ายยย
แต่แรกรพีก็ไม่ได้สนใจนางอยู่แล้ว..แต่นางก็คิดไปได้...อ่ะนะ
เป็นผู้หญิงประเภทชอบทึกทักเอาเองสินะ..นี่หรือคือเจ้าหญิง...
มาตอนนี้ที่คิดไว้ว่าพี่คนโตไม่รักน้องคงไม่ใช่แล้ว..นี่มันรักจะตาย
ต้องขอโทษพี่สุริเยนทร์ด้วยนะที่เข้าใจผิดไป...อ่ะนะ
    ไหนๆก็เป็นแม่ศรีเรือนแล้วดีพร้อมทุกอย่างแต่ถ้าจะดีกว่านี้
ถ้าศศินท้องได้ด้วยจะเป็นชายาทั้งทีไม่มีลูกเป็นของตัวเองไม่ได้
จริงป่ะ(อย่าใส่ใจ..ชอบเพ้อเจ้อ..อ่ะนะ)แต่ถ้าได้ก็ดีเนอะ

ตามตอนต่อไป...จ้าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 15-03-2014 10:44:43
 :กอด1:  ศศิน


พ่อกับปู่ ก็เอาทิฐิตัวเองเป็นที่ตั้ง สงสารศศิน จะโดนเกลียดทั้งชีวิตก็ไม่ไหวนะ 
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 15-03-2014 12:19:48
สงสารศศินอ่ะ

 :o12: :o12: :o12: :o12:

องค์รพีเอาศศินไปเลย

ไปให้ไกลจากพวกนี้เลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-03-2014 14:16:41
หญิงศรแค่เอาแต่ใจ ไม่ได้ร้ายเล๊ย จริงๆน้า

 :z2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 15-03-2014 15:07:30
พี่สาวเอาแต่ใจสุดๆ แค่เห็นน้องชายอยู่กับคนที่ตัวเองแอบชอบทำเป็นรับไม่ได้มาไล่น้อง นิสัยเอาใจเหมือนพ่อสุดๆ น้องชายก็ต้องยอมสินะ เฮ้อ!!  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: PROGESTERONE ฮอร์โมนของความเป็นแม่. ตอนที8 [15/03/14]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 15-03-2014 16:17:49
ทำตัวไม่สมควรเกิดมาเป็นพี่เลย
องค์รพี่อย่าทรงเอานางไปนะ เดี๋ยวนางก็คงหาเรื่องเดือดร้อนให้เป็นแน่ ผู้หญิงเห็นแก่ตัวแบบนี้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg=ผู้ชายท้องได้) ปฏิญญาที่ 6 (P.4)
เริ่มหัวข้อโดย: zizits ที่ 15-03-2014 16:41:59
เจ้าชายอยู่ไหนนน ไม่โผล่มาช่วยศศินนน :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-03-2014 22:09:39
แอบมาแปะหนิงกวางไว้ให้อ่านกันค่ะ // ยังไม่จบ และเพิ่มจากที่เคยค้างไว้เมื่อนานมาแล้ว จิ๊ดนึง 5555

ขอบคุณ คุณmomoku ที่ใส่ลายน้ำและแปลงไฟล์ให้มิดไนท์นะคะ // เดี๋ยวจะลองไปทำตามที่แนะนำทำดูค่ะ ^3^

http://www.upload-thai.com/download.php?id=4ebc9c91050f3e14035b47be0e3d1862

คำเตือน อ่านแค่ถึงบทล่าสุด ก่อนที่จะเป็นชื่อบทต่อๆไป อย่าเลื่อนลงไปที่ตอนพิเศษ... ไม่งั้นจะรู้สึกค้างสถานเดียวนะคะนะ 5555

ปล. ใครมีนิยายแนวแฟนตาซีแนะนำบ้างไหมคะ อยากอ่าน  :impress2:

ปล.2 ถ้าอัพช้า แสดงว่าคนเขียนติดนิยายอยู่ค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 15-03-2014 22:31:15
มากดดัน เพื่อตอนต่อไป  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 15-03-2014 22:45:02
เจ้ารพีพาเจ้าน้องไปเถอะค่ะ ที่นี่มีแต่คนบ้า  :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_Love ที่ 16-03-2014 02:49:34
เค้าโหลดหนิงกวางไม่ได้อ่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2014 03:01:03
เค้าโหลดหนิงกวางไม่ได้อ่ะ  :monkeysad:

PM มาหาคนเขียนนะคะ เดี๋ยวส่งทางเมลล์ให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 16-03-2014 06:45:58
ดีใจด้วยครับขอให้ได้ A เยอะๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 16-03-2014 14:09:16
เป็นพี่น้องกันแท้ๆยังทำแบบนี้กับน้องได้ เฮ้ออ พ่อกับปู่ก็เหมือนกัน สงสารศศิน
 
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 16-03-2014 14:37:41
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ย๊ากกกกกกกกกก ยัยพี่สาว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 16-03-2014 16:38:54
หายไป 2 วันคิดถึงศศินเป็นบ้าเลย ซิกๆ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 16-03-2014 18:58:12
รอตอนต่อไปนะคะ
มาต่อเร็วๆนะ อย่าหายไปอย่างงี้สิ คนอ่านคิดถึงค่า
ถ้าติดนิยายก็แวะมาลงบ้างนะคะ
เห็นแต่คนอ่านตาดำๆน๊า
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 16-03-2014 20:12:43
สงสารศศินอ่ะ หญิงศรก็กระไร เห็นผู้ชายดีกว่าความสุขของน้อง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2014 20:32:31
หายไป 2 วันคิดถึงศศินเป็นบ้าเลย ซิกๆ :ling1: :ling1:
รอตอนต่อไปนะคะ
มาต่อเร็วๆนะ อย่าหายไปอย่างงี้สิ คนอ่านคิดถึงค่า
ถ้าติดนิยายก็แวะมาลงบ้างนะคะ
เห็นแต่คนอ่านตาดำๆน๊า
 :mew2: :mew2:


เดี๋ยวมาค้าา ยังเกลาบทไม่เสร็จค่ะ ^+++^// มาคืนนี้ล่ะค่ะ... (มั้ง)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 16-03-2014 20:50:46
จ้า จะรอนะ
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-03-2014 21:22:57
เพิ่งเห็นเรื่องนี้อ่ะ ชอบสำนวนค่ะ
เมื่อไหร่จะพาศศินไปเสียที ศศินจะได้มีความสุขเอาหวาน ๆ ไม่เอามาม่านะ 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 16-03-2014 21:55:13
 :m15: ศศินน่าสงสารมากกกกอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 6 (P.4) (แอบแปะหนิงกวาง P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 16-03-2014 22:26:05
จะติดตามนะค่าา o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2014 22:55:21
ปฏิญญาที่ ๗


ทินสิริเจ้าเอ๋ยรู้บางไหม
จันทรไซร้จักต้องจากเจ้าไปไกล
ด้วยแสงแห่งแผ่นดินที่มาใกล้
พรากจันทร์ไปจากอ้อมกอดจอมดารา



อีกไม่นานเจ้าสุริยาต่างแดนจักต้องกลับยังถิ่นของพระองค์แล้ว ผู้คนต่างพากันตื่นเต้น เมื่อจะถึงเวลาที่เจ้าชายต่างแดนจักต้องเลือกเอาคนกลับไปกับพระองค์

ไม่แน่ว่าอาจจะเลือกไปมากกว่าหนึ่งก็ได้

เหล่าสนม นางใน แม่นางที่สูงศักดิ์ซุบซิบกันอย่าสนุกปาก คาดเดากันไปต่าง ๆ นานาว่าผู้ใดที่จักได้ไปเยือนแผ่นดินอุษณกรที่ยิ่งใหญ่กับองค์ชายรูปงาม

หญิงสาววัยกำดัดในวังต่างภาวนาให้เป็นตนเอง ที่จะได้อยู่ในอ้อมแขนของทินกรผู้ยิ่งใหญ่ แม้จะต้องเป็นแค่ผู้น้อยขอดน้ำแกงก้นหม้อก็ตามที่


แต่... ผู้ที่จักตัดสินใจ ก็คือองค์รพีธรณินเอง


หลังจากวันที่จ้าวดาราวิวาทใส่เจ้าจันทรา ศศินคคนานต์ก็หายหน้าไปจากสายพระเนตรขององค์รัชทายาทรพีธรณินไปอย่างเงียบเชียบ ไม่ว่าพระองค์จะทรงตามหาสักเท่าไรก็ไม่พานพบ ไปที่ตำหนักก็ไม่พบเจอ ภายให้ห้องเครื่องที่ปกติเจ้าจันทรจะมาขลุกอยู่ก็ไม่อาจพบเห็น ราวกับดวงจันทร์ดวงน้อยนั้นหายไปกับสายลม

เครื่องเสวยที่ยกขึ้นมา ก็มิใช่รสมือที่เคยคุ้น...

แม้นจะอยู่นอกเมืองขององค์เอง แต่หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง เรื่องที่สองพี่น้องมีปากเสียงกันนั้นลอยเข้าพระกรรณของพระองค์ตั้งแต่ชั่วยามแรกหลังจากที่เกิดเหตุ

ยิ่งเป็นตัวตัดสินพระทัยให้แน่ชัดขึ้น ว่าจะทรงเลือกเอาผู้ใดไปยังแผ่นดินแม่


ข้าวอบผอบทิพย์ , กุ้งนอนแห , แกงคั่วเงาะในมะพร้าวหอม , ห่อหมกบัวหลวง ที่จัดใส่จานอย่างบรรจงแต่ง ถูกยกขึ้นเป็นสำรับในวันนี้ แม้นจะไม่มากมาย แต่ก็เต็มไปด้วยความประณีตบรรจงสร้าง ที่ชาวห้องเครื่องเต็มใจจัดถวายให้กับองค์เหนือหัว

รสมือที่ไม่ได้ลิ้มรสมาพักใหญ่ เรียกความสนพระทัย องค์ชายผู้ยิ่งใหญ่แห่งอุษณกรทรงตักชิมลิ้มรสสำรับทุกจานอย่างพินิจ ก่อนที่รอยยิ้มพึงพอใจจะฉาบทับพระพักตร์อย่างสุดกลั้น

ห่างหายมาหลายวัน ในที่สุดก็กลับมา... เจ้าวราลีดวงน้อย

เครื่องเสวยในมื้อนี้กว่าครึ่งหมดไปด้วยพระองค์ ความพึงพระทัยที่ได้รับในทุกคำที่ได้ลิ้มสัมผัส ราวกับยาเสพติดที่ยากจะถอนตัว
สุดแสนจะเสียดายเมื่อหมดลง

“โอรสองค์รองของพระองค์มีรสมือที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เจ้าหลวง”องค์ชายแผ่นดินแม่ตรัสขึ้น หลังจากที่เครื่องสำรับคาวหวานถูกยกออกไปจนหมด

“นับเป็นเกียรติของลูกเราจริง ๆ ที่ได้รับคำชมจากเจ้า”องค์รานีทรงตอบรับแทนพระสวามีที่มีสีพระพักตร์บึ้งตึง แน่สิ พระองค์ทรงชังโอรสที่เป็นแก้วตาดวงใจของพระนางยิ่งนัก จะยิ้มรับอย่างหน้าชื่นตาบานคงใช่ที่ “ศศินคงดีใจที่ได้รับคำชมจากเจ้า องค์ชาย”

“ข้าหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น” วรกายแกร่งเอนพิงเขนยที่วางอยู่ข้างองค์ “เพียงแต่... หลายวันมานี้เรามิได้พบหน้าองค์ศศินเลยแม้เพียงเสี้ยว”

“โอรสของเราคงมิได้ทำให้ท่านไม่พอใจใช่ไหม”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง หวั่นเองอาญาจากพระบิดาของลูกชายจักลงทัณฑ์ให้วิธูน้อยของพระนางต้องบาดเจ็บ

“มิได้เป็นเช่นนั้น เพียงแต่เรามีเรื่องที่ประสงค์จะบอกแก่เขาเพียงเท่านั้น”พระหัตถ์หนายกขึ้นน้อย ๆ พาลมาให้ใจของผู้เป็นมารดาเย็นลง

“เรื่องที่จะบอกแก่ลูกเราคือเรื่องอันใด เจ้าพอจะบอกแก่ข้าได้หรือไม่”องค์ภาณุวัฒน์เอื้อนเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากที่เงียบมานาน

“เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องแจ้งแก่ท่านอยู่แล้ว เจ้าหลวง”พระเนตรคมสบกับคนตรงหน้า “ข้าจักพาศศินคคนานต์กลับไปยังอุษณกรกับข้า”

“หมายความว่า... เจ้าเลือกเอาศศินไปเช่นนั้นหรือ”

“ใช่... เราขอตัวเขากลับไปกับเรา หวังว่าท่านจะไม่มีปัญหาอันใดหรอกนะ เจ้าหลวง”

“โอ้... ข้าไม่มีปัญหา”รอยยิ้มยินดีคลี่ออกมา โดยหารู้ไม่ว่าองค์เองกำลังจะสูญเสียดวงจันทร์ที่คอยคุ้มครองเมืองไปให้กับผู้อื่น

“เป็นเช่นนั้นก็ดี... เรามีกำหนดกลับยังอุษณกรในอีกสามวันข้างหน้า หวังว่าทางท่านจะเตรียมการทุกอย่างให้พร้อม”

“แน่นอน องค์ชาย”


พระบรมราชโอการถูกส่งไปยังตำหนักขององค์ชายศศินคคนานต์ ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้คน ภายในวังหลังต่างวิ่งวุ่นเตรียมการส่งเสด็จเจ้ารองของพวกเขา ด้วยหัวใจที่แห้งเหี่ยว

พระเมตตาที่ล้นเกล้ากำลังจะจากพวกเขาไปแล้ว

รานีคนงามแห่งวสุนธราปิดพระตำหนักมิเปิดให้ผู้ใดเข้าพบหน้า แม้แต่พระสวามี พระนางทรงเย็บปักถูกเครื่องหอบใบน้อยด้วยน้ำตาที่อาบพักตร์ หวังให้ลูกน้อยเก็บไว้เป็นที่พักใจ


ทุกฝีเข็มแม่ปัก      วอนลูกรักให้มีสุข
อย่าได้มีความทุกข์         ให้สุขรุกล้ำแทนที่
ยามเจ้าจรจากไป      พร้อมดวงใจของแม่นี้
ปกป้องเจ้าราคี         มิให้มีมากล้ำกราย


องค์สุริเยนทร์ไทวะขลุกองค์อยู่กับพระอนุชาทั้งวันทั้งคืน กรแกร่งโอบกอดร่างเล็กเอาไว้แทบทุกวินาที หัวใจของพี่ช่างเจ็บปวดนัก เมื่อน้องชายคนสำคัญ น้องชายที่เปรียบเป็นน้ำทิพย์หล่อเลี้ยงชีวิตของพระองค์กำลังจะต้องเดินทางจากไป อย่างที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีกครั้ง คิดแล้วปวดดวงฤทัยยิ่ง น้องพี่


องค์ศศินเองก็นิ่งไปพักใหญ่ พระองค์ทรงรู้สึกชาไปทั่วสรรพางค์ ดวงเนตรกลมโตเหม่อลอยมองไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร... มันเป็นไปได้อย่างไรกัน เหตุใดจึงเป็นพระองค์ มิใช่พระพี่นาง... องค์ชายที่ไร้ความสำคัญในราชวงศ์อย่างพระองค์นี่น่ะหรือ ที่ถูกเลือกไปเป็นเชลย...

“เจ้าพี่... เจ้าพี่หญิงจักทรงเป็นอย่างไรบ้าง...”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยอย่างคนที่ไม่มีสติอยู่กับตัว “เจ้าพี่หญิงจะต้องเสียพระทัยมากเป็นแน่... พระนางจะเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าพี่”

“ศศิน ฟังพี่นะ... เจ้าไม่ต้องกังวลใจเรื่องศรวิษฐา นางไม่มีทางเป็นอะไรไปได้หรอก เจ้ารู้ว่านางเข้มแข็งเพียงไร น้องพี่ เจ้าเองจักต้องเข้มแข็งเอาไว้ รู้ไหม”สุริเยนทร์ไทวะตรัสกับอนุชาแผ่วเบา “เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ให้ได้... ขอเพียงเจ้ายังมีชีวิตอยู่... ก็เพียง
พอแล้ว อยู่เพื่อรอพี่... สักวันหนึ่ง พี่จะไปรับเจ้ากลับมายังบ้านของเรานะ ศศิน”

“เจ้าพี่...”

“พี่เคยได้ยินมาว่าอุษณกรนั้นแปลกยิ่งนัก มียาที่ทำให้สตรีที่มีไม่สามารถมีครรภ์ได้นั้นสามารถมีครรภ์ได้ บุรุษใดที่ดื่มยานั้นเข้าไป จักสามารถตั้งครรภ์ได้เหมือนกับสตรี...”พระกรหนาโอบรัดร่างของน้องน้อยเอาไว้แน่น “พี่มิอาจคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะนำมาใช้กับเจ้าหรือไม่... แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เจ้าจะต้องอดทนและผ่านพ้นมันไปให้ได้... เข้าใจใช่ไหม น้องพี่”

“พะยะค่ะ... เสด็จพี่”เสียงนุ่มสั่นเครือ “น้องจะอดทน...”

เพราะนี่... คงเป็นอย่างสุดท้ายที่จะทำให้อาณาจักรของพวกเขานั้นปลอดภัย


ส่วนทางด้านศรวิษฐา พระนางเก็บตัวอยู่แต่ในพระตำหนัก บานทวารถูกปิด เช่นเดียวกับบัญชร ตำหนักของพระนางตกอยู่ในความเงียบงัน นาน ๆ ครั้งถึงจะมีนางกำนัลเดินเข้าออกจากภายใน

อัลสุชลไหลรินอาบปรางนวล ทั้งที่คิดไว้แล้วว่าทุกอย่างจะต้องเป็นไปอย่างที่พระนางประสงค์... แต่นี่กลับผิดพลาดไปหมด
แทนที่จะเป็นพระนาง ทั้งที่ควรจะเป็นเช่นนั้น


แต่ทำไม ทำไมกัน


ทำไมถึงเป็นศศิน


ทำไมต้องเป็นเจ้าอนุชาผู้โง่เง่า อ่อนแอคนนั้น


ทำไม... มันจะต้องแย่งชิงทุกอย่างไปจากพระนาง


ทำไม... ทำไมกัน ทำไมสวรรค์ถึงส่งมันมาทำร้ายข้าแบบนี้ด้วย


แม้จะทรงอยากกรีดร้องออกมาให้หายอัดอั้น แต่ก็มิอาจที่จะทำได้ ทุกอย่างสุมอยู่ในอุระ รอคอยวันที่ปะทุออกมาให้ผ่อนคลาย
ความเจ็บแค้น โกรธเคืองเข้าครอบงำสติสัมปชัญญะของพระนางจนสิ้น ความรักที่มีต่อองค์ชายต่างถิ่นบังพระเนตรที่เคยเฉียบคมจนหมด ถ้าไม่ติดว่าทรงต้องการให้องค์ชายที่ทรงหลงใหลมองพระนางเป็นสตรีที่เพียบพร้อมในทุกด้าน เป็นสตรีที่เหมาะกับการอยู่เคียงข้างพระวรกายมากที่สุด ในเวลานี้พระนางก็คงทรงแล่นไปฉีกอกอนุชาเป็นชิ้น ๆ ให้หนำพระหฤทัย ไม่มาร่ำไห้อย่างสุดจะกลั้นเฉกเช่นนี้เป็นแน่แท้


วันนี้ ทุกอย่าง อาจจะตกอยู่ในน้ำมือของแก


แต่วันหน้า มันต้องกลบมาเป็นของข้า... ทั้งความรัก ความเอ็นดูของเจ้าพี่สุริเยนทร์ และความรักอันอบอุ่นขององค์รพีธรณิน


มันต้องเป็นของข้า... ไม่ใช่เจ้า


มันเป็นของข้า


ศศินคคนานต์


###########################

มาแล่ว มาแล้ววววค้าาาาา ใครเขวี้ยงอะไรมา อย่าลืมมาเอาคืนนะคะ มาต่อแล้ว  :mew1:

ในสต็อกใกล้หมด... หลังๆมีช้านะคะ =////=

แวบแล้วว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 16-03-2014 23:17:24
นางร้าย นางอิจฉาสินะจ๊ะศรวิษฐา เปิดตัวได้ชัดเจนมั่กกกก

ไม่ต้องเดาว่าจะมีเหตุอะไรเกินขึ้นในอนาคต เรื่องไม่ดีมีแหง่มๆ  ขอสงสารศศินน้อยล่วงหน้า :hao5:





หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 16-03-2014 23:19:05
มาอัพบ่อยๆนะ  ชอบมาก

เป็นนิยายที่น่าสนใจและแต่งได้ดีมาก

เป็นกำลังใจให้นะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: linsalia ที่ 16-03-2014 23:19:14
มาแล้ววววววว รอตั้งนาน สนุกมากเลยคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-03-2014 23:20:26
ยอดเยี่ยมมากตัดสินใจได้เลิศต่อไปศศินจะมีความสุขใช่มั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-03-2014 23:30:24
พี่สาวนี่ก็ร้ายไปนะ
นั่นน้องตัวเองเลยนะ
ยังจะคิดทำร้ายกันได้ลงคอ
ไม่ไหววววววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 16-03-2014 23:32:53
ศศินสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 16-03-2014 23:34:36
วายยยยยยยยยย รำไม่ดีโทษปี่โทษกลองหลาววว

 :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 16-03-2014 23:36:07
ผีบ้าเข้าสิงเต็มรูปแบบเลยนะเนี่ย

เรางงอย่างเดียวเอง ทำไมพ่อกับปู่เกลียดนัก? จะบอกว่าเจ้านางป่วยมากมันก็น้อยไปนะ
ถ้าแค่นี้แล้วเกลียดแบบเหยียดหยามขนาดนี้.. ตรูว่าพ่อกับปู่ก็ป่วยทางจิตล่ะ ไม่มีเหตุผลเลย
เป็นเจ้าแผ่นดีน่าจะมีสติมากกว่านี้  หรือป่วยจริง เลยส่งผลให้มีอาการทางจิตสืบไปทางลูกสาวด้วย
ต่อให้ใช้เหตุว่าสมัยโบราณมีความเชื่อเรื่องโชคลางมากๆ ก็ยังไม่พอให้แสดงออกขนาดนี้

ขออภัยถ้าเมนท์เหมือนย้ำประเด็นนี้ แต่เหตุผลมันทั้งแปลกและน้ำหนักน้อย
ถ้าจะแค่นี้มันน่าจะมีเรื่องลักษณะนิสัยเข้ามาถ่วงด้วยว่าเป็นประเภทไม่ค่อยมีเหตุผล หรือมีปมอื่นที่ยังไม่ได้เล่า

รอตอนต่อไปนะคะ

ปล.ตกลงรพีหลงรสมือนายสินะ  เราอ่านสำรับทีไร กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานลอยมาทุกทีเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 16-03-2014 23:41:30
วุ้ย เป็นพี่สาวแท้ๆ กลับอิจฉาน้อง ไม่ดีไม่ดี คราวนี้ศศินจะทำงัยน๊า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2014 23:44:02
ผีบ้าเข้าสิงเต็มรูปแบบเลยนะเนี่ย

เรางงอย่างเดียวเอง ทำไมพ่อกับปู่เกลียดนัก? จะบอกว่าเจ้านางป่วยมากมันก็น้อยไปนะ
ถ้าแค่นี้แล้วเกลียดแบบเหยียดหยามขนาดนี้.. ตรูว่าพ่อกับปู่ก็ป่วยทางจิตล่ะ ไม่มีเหตุผลเลย
เป็นเจ้าแผ่นดีน่าจะมีสติมากกว่านี้  หรือป่วยจริง เลยส่งผลให้มีอาการทางจิตสืบไปทางลูกสาวด้วย
ต่อให้ใช้เหตุว่าสมัยโบราณมีความเชื่อเรื่องโชคลางมากๆ ก็ยังไม่พอให้แสดงออกขนาดนี้

ขออภัยถ้าเมนท์เหมือนย้ำประเด็นนี้ แต่เหตุผลมันทั้งแปลกและน้ำหนักน้อย
ถ้าจะแค่นี้มันน่าจะมีเรื่องลักษณะนิสัยเข้ามาถ่วงด้วยว่าเป็นประเภทไม่ค่อยมีเหตุผล หรือมีปมอื่นที่ยังไม่ได้เล่า

รอตอนต่อไปนะคะ

ปล.ตกลงรพีหลงรสมือนายสินะ  เราอ่านสำรับทีไร กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานลอยมาทุกทีเลย

เฉลยตอน 10 ค่ะ...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 16-03-2014 23:45:20
อ่านจบเร็วจริง ฮือ.. :o12: สงสารศศินล่วงหน้า
พี่สาวคะ เจ้าคิดเจ้าแค้นไปไหมคะ น้องยังไม่ทำไรเลย คนที่ตัดสินใจคือองค์รพี พี่ทำตัวเองนิน่า :เฮ้อ:
ปล. เข้ามาดูทุกชั่วโมงเห็นอัพปุ๊บกดอ่านทันที
ปล.2 มีคำพิมพ์ผิดนะคะตรงที่คุยกับเสด็จพี่ตรงคำลงท้ายอ่ะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 16-03-2014 23:50:33
รอตอนต่อไปนะคะ
 :mew1: :mew1:
 :ling1: :ling1: :ling1:
ลุ้นตอนต่อไปค่าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-03-2014 23:52:26
อ่านจบเร็วจริง ฮือ.. :o12: สงสารศศินล่วงหน้า
พี่สาวคะ เจ้าคิดเจ้าแค้นไปไหมคะ น้องยังไม่ทำไรเลย คนที่ตัดสินใจคือองค์รพี พี่ทำตัวเองนิน่า :เฮ้อ:
ปล. เข้ามาดูทุกชั่วโมงเห็นอัพปุ๊บกดอ่านทันที
ปล.2 มีคำพิมพ์ผิดนะคะตรงที่คุยกับเสด็จพี่ตรงคำลงท้ายอ่ะคะ

ขอบคุณค่ะ >< มีนแวบผ่านตาไป ไปแก้เดี้ยวนี้ล่ะค่ะ ^3^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 16-03-2014 23:55:00
มาแล้ว :hao5:  ศศินจะกลายเป็นพรัะชายาขององค์รพีใช่ไหมอ่ะ  ถ้าถูกจับตัวไปทำไม่ดีๆนี่มีนอยด์กับคนเขียนเลยนะ  พระพี่รองของศศินปล่อยมันเพ้อคนเดียวต่อไป  คนบ้างอะไรคิดไม่ดีได้กับน้องตัวเองยังขี้อิจฉาอีก  ทั้งๆทร่มีทุกอย่างมากกว่าศศิน  ได้ความรักจากผู้เป็นพ่อ  องค์สุรัิเยนท์ก็ตามใจ  แค่นี้ยังไม่พอทำใจยอมรับความจริงไม่ได้รึไง  ว่าองค์รพีเห็นเพชรเม็ดงามอย่างศศิน  แต่มองไม่เห็นชะนีหน้าตาดีแต่มีมีอะไรดีอย่างเธอ  แลดูช่างน่าสมเพช!!!!!!!!  อย่ากล้ามาทำอะไรศศินล่ะ  ไม่งั้นแช่งให้ทุกคนเกบียด(แค่นี้ยังเกลียดไม่พอ)

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 16-03-2014 23:59:03
ยิ่งอ่านยิ่งเสพติดเหมือนมีเท่าไหร่ก็ไม่พออ่าน ซิกๆ


มีพิมพ์ผิด อยู่คำหนึ่ง ตรง เจ้าค่พ ต้องเป็นเจ้าค่ะ (สงสัยจะรีบจัด)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-03-2014 00:10:30
ชอบศศินจัง~

สู้ๆนะ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 17-03-2014 00:32:46
ประโยคเด็ดมันอยู่ที่มียาทำให้ท้องได้ซินะ ><

จัดมาแรงเลยนะคะ รอๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 17-03-2014 00:34:51
กลายร่างเป็นนางร้ายเต็มขั้น หวังว่ารพีธรณินจะปกป้องศศินได้นะ
พาไปแล้วก็ต้องทำให้มีความสุขให้ได้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 17-03-2014 01:40:12
ตอนที่สิบจะเฉลยสินะว่าทำไมถึงได้เกลียดกันนัก  ลุ้นๆ แต่คุณพี่สาวนี่ผีเข้าแล้วไม่ออกด้วย= = ใครก็ได้ลากชีไปไกลๆที
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 17-03-2014 02:09:02
จะเจออารายร้ายแรงมั้ยเนี่ยย ต้องตามมม
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 17-03-2014 02:53:47
แล้วพ่อจะเสียใจที่ปล่อยเจ้ารองไป
 :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 17-03-2014 07:04:18
 o13 น่ารักมากกกกกก สนุกอะชอบ อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 17-03-2014 08:10:00
ชะนีที่ไม่ได้ผู้ชายเพราะตัวเองเป็นเหตุ เที่ยวแค้นไปทั่วเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-03-2014 08:31:17
เฉลยตอน 10 ค่ะ...

นั่งพับเพียบรอตอน 10 ค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Onosaka ที่ 17-03-2014 08:42:19
ในที่สุด.....องค์ชายรพีก็เลือกศศินแว้ววว (>///<) ตอนนี้ประเด็นที่อยากรู้มากกกกกกกกก ก็คือถ้าศศินไม่อยู่แล้วที่เมืองจะเป็นยังไง
Ps.คนเขียนก็สู้ๆนะคะเรารอตอนต่อไปอยุ่นะคะสู้ๆค่ะ คนเขียนแต่งดีมากเลยค่ะ เราอินกับนิยายของคนเขียนมากกก อ้อ แต่ขอให้คนเขียนระวังเรื่องคำผิดด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-03-2014 09:06:24
รังสีอิจฉาชัดเจนมากๆ เหอะๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 17-03-2014 09:17:27
องค์รพีตัดสินใจได้เยี่ยมมาก หากดวงจันทร์จากอาณาจักรนี้ไปคงมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย
พระพี่นาง นางช่างนางสงสาร น่าจะอกแตกตายในห้องเลยยิ่งดี ไม่ต้องมาเป็นมารขวางความสุขของผู้อื่นเช่นนี้ แต่ชีวิตนางก็แค่ก็คงอาภัพพอแล้ว มิมีใครใคร่รักใคร่เอ็นดู จนเป็นหญิงสาวใจดำมืดบอด มิมีใครใคร่ที่จะอยู่ร่วมด้วย แค่หายใจร่วมก็แทบไม่มี
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 17-03-2014 09:28:35
ในที่สุด องค์รพีก็เลือกศศินคคนานต์ ไปด้วย ดีใจสุดๆ

ใครจะอยากเอาไฟไปอยู่ใกล้ตัวหล่ะ สมยัยเจ้าหญิงจริงๆ เอิ้กๆๆ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 17-03-2014 09:36:21
เลือกแล้วต้องดูแลให้ดีๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-03-2014 09:38:20
ในที่สุด.....องค์ชายรพีก็เลือกศศินแว้ววว (>///<) ตอนนี้ประเด็นที่อยากรู้มากกกกกกกกก ก็คือถ้าศศินไม่อยู่แล้วที่เมืองจะเป็นยังไง
Ps.คนเขียนก็สู้ๆนะคะเรารอตอนต่อไปอยุ่นะคะสู้ๆค่ะ คนเขียนแต่งดีมากเลยค่ะ เราอินกับนิยายของคนเขียนมากกก อ้อ แต่ขอให้คนเขียนระวังเรื่องคำผิดด้วยนะคะ


จะพยายามนะคะ คำผิดบางทีมันผ่านตา ถ้าเห็นแจ้งได้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 17-03-2014 10:00:36
เลือกองค์ชายรองไป แล้วทางโน้นจะยอมรับกันหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 17-03-2014 10:16:36
อยากให้เอาเจ้านางไปเก็บอ่ะ

เฮ้อ รักจนตาบอด  :hao4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 17-03-2014 10:42:52
มารออีกแล้ว ^▽^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.5)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 17-03-2014 11:20:35

อีกไม่นานเจ้าสุนิยาต่างแดนจักต้องกลับยังถิ่นของพระองค์แล้ว ผู้คนต่างพากันตื่นเต้น เมื่อจะถึงเวลาที่เจ้าชายต่างแดงจักต้องเลือกเอาคนกลับไปกับพระองค์

องค์สุริเยนทร์ไทวะขลุกองค์อยู่กับพระอนุชาทั้งวันทั้งคืน กรแกร่งโอบกอดร่างเล็กเอาไว้แทบทุกวินาที หัวใจของพี่ช่างเจ็บปวดนัก เมื่อน้องชายคนสำคัญ น้องชายที่เปรียบเป็นน้ำทิพย์หล่อเลี่ยงชีวิตของพระองค์กำลังจะต้องเดินทางจากไป อย่างที่ไม่รู้ว่าเมื่อใดจะได้พบกันอีกครั้ง คิดแล้วปวดดวงฤทัยยิ่ง น้องพี่
 
น่าจะมีคำพิมพ์เท่านี้มั้งคะ เราอ่านซ้ำรอบที่ 2 เจออยู่เท่านี้ไม่มั่นใจว่าจะมีอีกหรือเปล่านะคะ
สุริยา
แดน
เลี้ยง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-03-2014 11:22:30
น่าจะมีคำพิมพ์เท่านี้มั้งคะ เราอ่านซ้ำรอบที่ 2 เจออยู่เท่านี้ไม่มั่นใจว่าจะมีอีกหรือเปล่านะคะ
สุริยา
แดน
เลี้ยง


ขอบคุณค้า เดี๋ยวกลับไปแก้ไขค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 17-03-2014 14:19:24
น่ากลัวมาก :a5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-03-2014 17:42:06
แก้ไขที่ผิดเรียบร้อยแล้วนะคะ ถ้ามีจุดไหนผิดก็แจ้งกันได้เลยนะคะ จะรีบมาแก้ไขค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 17-03-2014 18:37:03
พี่สาวคนงามคงยอมไม่ได้
ดูแลเจ้าจันทราให้ดีนะองค์รพี
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 17-03-2014 19:24:06
ดูแลดวงจันทร์ให้ดีๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: minakosun ที่ 17-03-2014 23:13:38
ว่าแล้ว! ว่าแล้วๆๆ ว่าแล้วว่าองค์ชายรพีต้องเลือกศศินอย่างแน่นอน!
หมั่นไส้พี่สาวอ่ะ น้องแท้ๆยังมิวายคิดร้าย
หวังว่าพอศศินไปกับองค์รพีแล้วคงจะไม่มีเรื่องอีก

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 7 (P.6)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 17-03-2014 23:39:08
รอตอนต่อไปนะคะ
หึยๆๆยัยพี่สาว
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-03-2014 00:33:43
ปฏิญญาที่ ๘

เดินทางเข้าไปสู่พงไพรี
จากแดนตรีไปสู่กรงขังใหม่
ต่อจากนี้เป็นเยี่ยงไรสุดคาดได้
อาจต้องไซร้เป็นเชลยให้ย่ำยี



ในที่สุดก็ถึงวันที่ศีตภาต้องจากวสุนธราไป ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้ที่ได้รับพระเมตตาจากพระองค์ตลอดมา

ขบวนเสด็จถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เหล่าทหารหาญเรียงแถวตรงตั้งแต่หน้าวัง ยังหน้าประตูเมือง เพื่อน้อมส่งพระราชอาคันตุกะคนสำคัญ และองค์ชายรองแห่งราชวงศ์

รานีนิศามณีทรงโอบกอดแก้วตาดวงใจของพระนางแน่น อัลสุชลไหลอาบปรางนวลด้วยอาวรณ์ ลูกน้อยของพระนางต้องจากไปแล้ว ทั้งที่ทรงเตรียมพระทัยที่จักต้องจากลาลูกคนหนึ่งไว้แต่แรก แต่คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเป็นโอรสองค์เล็กองค์นี้ แก้มตาดวงใจของแม่คนนี้ หัตถ์เรียวเล็กส่งมอบถุงหอมบุหงารำไปให้ลูกยาด้วยน้ำตาที่หลั่งริน

“แม่ให้เจ้าเก็บไว้นะลูกรัก จำไว้นะลูก... แม่จะอยู่ข้างกายเจ้าเสมอ”

สุริเยนทร์ไทวะโอบกอดอนุชาของตนอย่างอ่อนโยน แม้จะทรงทำใจได้แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากก็อดที่จะห่วงหา และเสียใจมิได้ พระองค์ทรงหมายมั่นไว้ในดวงกมลว่า สักวันหนึ่ง จักต้องพาเจ้าน้องยากลับสู่บ้านของเราให้ได้

ส่วนองค์หญิงคนงามศรวิษฐานั้น ทรงทอนพระเนตรเจ้าน้องของพระนางอย่างชิงชัง ความฝัน ความวาดหวังของพระนางพังทลายลง อย่างไม่เหลือชิ้นดี พระนางจะทรงเก็บความแค้นนี้ไว้ รอวันที่จะสะสางบัญชีช้ำ

เหล่าทหารทุกคนแจ้งแก่ใจดีว่าที่พวกตนยังยืนหยัด และมีชีวิตอยู่ได้นี้ ส่วนหนึ่งมาจากพระเมตตาที่เปี่ยมล้นของเจ้ารอง ที่ทูลเสนอขอให้อุษณกรมาช่วยรบในครานั้น ผ่านพระเชษฐา ทุกคนนั้นซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่องค์ศศินได้มอบให้เต็มหัวใจ

ในวันนี้ พวกเขาขอน้อมส่งเสด็จอย่างสมเกียรติ แม้นองค์เจ้าหลวงจะมิได้มีบัญชา แต่ทุกคนพร้อมใจกันเรียงแถวอย่างองอาจตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง เมื่อถึงฤกษ์ยามเวลาเสด็จ ทุกนายต่างพากันชูดาบ ขึ้นซุ้มกระบี่ตลอดทางเสด็จของเจ้ารอง ถวายให้เป็นสิ่งแรก และสิ่งสุดท้าย ทดแทนคุณที่ไม่อาจจะมีโอกาสได้ทดแทนอีกต่อไป

ปวงประชาหมอบกายถวายคำนับแด่องค์ชายผู้เสียสละ ต่างรู้แจ้งแก่ใจว่าการไปของพระองค์ครั้งนี้ เป็นการไปเพื่อเป็นเชลย มิให้วสุนธราเหิมเกริมแยกตัวออกจากอุษณกร อาจจะโดนรังแก อาจจะมิได้อยู่ดีเฉกเช่นเมืองถิ่นกำเนิดอย่างเช่นที่เคยผ่าน

แม้ทุกคนจะไม่ค่อยได้พบพระพักตร์ขององค์ชายรองมากนัก แต่ความนับถือ ความเลื่อมใสที่มีต่อพระองค์ก็มิได้น้อยไปกว่าสายเลือดขัตติยะคนอื่น ๆ เลย

ตั้งแต่หน้าพระราชวัง จนถึงประตูเมือง องค์ศศินไม่อาจที่จะทำพระทัย เงยพักตร์มองผู้มาส่งเสด็จพระองค์ได้ ความเสียใจ ความคะนึงหา ถาโถมเข้ามาไม่หยุด

ต่อแต่นี้ไป... พระองค์คงมิได้กลับมาที่แห่งนี้อีก...


จำต้องจากออกจากอกมารดา
โปรดแม่จ๋ารักษากายดูแลตัว
บุตรคนนี้ของท่านนั้นแสนชั่ว
ไม่อาจดูท่านทั่วชั่วชีวัน


ใช้เวลาไม่นานก็ออกมานอกประตูเมือง มุ่งหน้าเข้าสู่ป่าใหญ่ที่เป็นทางเชื่อมระหว่างวสุนธราและอุษณกร ระยะทางของทั่วสองอาณาจักรนั้นไม่ได้ห่างไกลกันมากนั้น ถ้าเร่งเดินทางเพียงเจ็ดวันก็ถึงที่หมาย

และแน่นอนว่าขบวนเสด็จครั้งนี้ไม่ได้สนใจอันใดว่าจักต้องทำให้ผู้ที่พามาด้วยนั้นลำบากหรือไม่ พวกเขาเร่งเดินทางกลับเมืองแม่กันอย่างไม่หยุดพักจนถึงเย็น


วันและคืนผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรเจ้าจันทราก็ห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนมาได้ห้าวันเสียแล้ว... ช่วงเวลาที่ผ่าน แม้นว่าโอษฐ์เรียวจะคลี่ยิ้ม แต่นัยน์ตานั้นว่างเปล่ายิ่งนัก

“เสด็จพี่”เสียงทุ้มห้าวที่ไม่คุ้นเคยดังลอดเข้ามาในกระโจมที่ประทับชั่วคราวขององค์รัชทายาท ก่อนที่ร่างสูงโปร่งจะก้าวเข้ามาภายใน

“ภาสวร เป็นไงมาไง หืม น้องไม่ได้อยู่ในวังหรอกหรือ”รพีธรณินเงยพักตร์จากหนังสือขึ้นมาหาอนุชาแห่งตนอย่างสนเท่ห์

“เสด็จพ่อให้น้องมารอรับเสด็จพี่ที่นี่น่ะพะยะค่ะ กองทหารของเราอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ น้องให้พวกเขากระจายตัวอารักขาเสด็จพี่เรียบร้อยแล้วพะยะค่ะ”สุริยภาสวรประทับลงข้างพระเชษฐา ดวงเนตรจับจ้องร่างเพรียวลมที่นั่งนิ่งอยู่ไม่ไกล “ผู้นี่คือ...”

“อ้อ... องค์ชายศศินคคนานต์แห่งวสุนธรา ศศิน นี่คืออนุชาของเรา สุริยภาสวร”หัตถ์หนาผายออก ใบหน้ามนก้มให้น้อย ๆ เชิงทักทาย แต่ก็ไม่เอื้อนเอ่ยคำใดออกมา “เสด็จพ่อขุดเจ้าออกมาจากแม่นางนลินประไพได้ด้วยหรือ”

“นางกลับไปเรือนของนางน่ะ เสด็จพี่”รอยยิ้มย่องฉาบทับบนดวงพักตร์ “ท่านก็ทราบดี ว่าน้องมิได้จริงจังกับผู้ใด นางเดินเข้ามา น้องก็สนอง เพียงแค่นั้น”

“นิสัยเจ้าชู้ ไก่แจ้เช่นนี้ ควรเลิกได้แล้วนะ น้องพี่”องค์รพีส่ายพระพักตร์น้อย ๆ “ใครกันที่จะกำเจ้าให้อยู่ในมือได้ พี่อยากจะเห็นจริง ๆ”

“คงยากกระมัง”ผู้เป็นน้องหัวเราะออกมาเบา ๆ “ว่าแต่ เสด็จพ่อทรงรับสั่งให้พาอีกองค์มามิใช่หรือ”

“ถ้าเจ้าได้พบนาง เจ้าจะทำเช่นเดียวกับพี่”

สองพี่น้องสนทนาพาทีกันพักใหญ่ โดยมีแขกผู้ที่เหมือนจะได้ หรือไม่ได้รับเชิญนั่งฟังอย่างเงียบเชียบ ไม่กล่าวขัดอันใดแม้เพียงสักคำ

ความรู้สึกที่อยู่ในใจของศศินตอนนี้ คงมีเพียงความน้อยเนื้อต่ำใจ เมื่อหวนคิดถึงตัวเองกับพี่น้องที่มี ไม่เคยสักคราที่จะได้พูดคุยด้วยรอยยิ้มเช่นนี้ ทุกครั้งที่ได้พร้อมหน้า พระพี่นางก็มักจะกราดเกรี้ยวเสมอ ส่วนพระเชษฐาแม้จะทรงพูดคุยกับพระองค์บ้าง แต่ก็น้อยครั้งยิ่งนัก

มีแต่ตอนที่จะจากมา... ที่เจ้าพี่สุริเยนทร์พูดคุยกับตนมากกว่าเรื่องราชกิจ และเรื่องสารทุกข์สุขดิบทั่วไป

นึกแล้วก็อดเสียพระทัยไม่ได้...

คงไม่มีแล้ว วันเวลาที่จะได้นั่งฟังพี่ทั้งสองพูดคุย แม้จะเป็นแค่เพียงเงาส่วนเกิน

คงไม่มีแล้ว อ้อมกอดที่คอยปลอบประโลมในราตรี เมื่อโดนติเตียนด่าว่าอย่างรุนแรง

ไม่มีอีกแล้ว...


“เจ้าดูเศร้าหมองนัก ศศิน”รพีธรณินก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าร่างเพรียว หัตถ์อุ่นลูบกลุ่มผมนุ่มเบา ๆ “มีอะไรที่เราพอจะช่วยได้ไหม”

“คนที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมา จะไม่ให้โศกเศร้าเลย คงมิใช่กระมัง เสด็จพี่”สุริยภาสวรเอยกายพิงหมอนอิงอย่างสบายอารมณ์ “น้องว่าปล่อยองค์ชายไว้อย่างนั้นก่อนจะดีกว่านะพะยะค่ะ”

“ถ้ามีอะไรที่เราช่วยเจ้าได้ ก็บอกเรามานะ ศศิน”ว่าจบก็ทรงกลับไปประทับยังที่เดิมของพระองค์ “ภาสวร น้องคิดอย่างไรกับคำของท่านโหราจารย์น่ะ”

“น้องก็ไม่รู้ แต่เสด็จพ่อจักต้องเชื่อแน่”พระองค์ทรงยักไหล่เล็กน้อย แล้วกระตุกยิ้มที่มุมโอษฐ์ “อย่างไรเขาก็ต้องเป็นของเสด็จพี่ มิใช่หรือ”

“ไม่แน่หรอก... ท่านโหราไม่ได้บอกมาหมด เราจะได้รู้กันก็ตอนที่กลับไปถึงเท่ากัน”องค์รัชทายาททรงผินพักตร์ไปมองอนุชา “เจ้ามิได้สนใจเขาอยู่อย่างนั้นหรอกหรือ”

“มิได้ ๆ น้องชมชอบสตรีผู้งดงามมากกว่า”

คำพูดคุยที่บ่งบอกให้คนที่นั่งฟังอยู่ได้รู้เลยว่ากับราชนิกุลต่างเมืองทั้งสองกำลังพูดถึงพระองค์อยู่... หรือว่าสิ่งที่เจ้าพี่สุริเยนทร์ตรัสจะเป็นจริง...

เจ้าจันทรได้แต่แอบคิดอยู่ในใจเพียงลำพัง


เมื่อดวงตะวันลับขอบฟ้า นางกำนัลวัยกำดัดที่ตามเสด็จก็พากันคลานเข่าเข้ามายังหน้ากระโจมที่ประทับ พร้อมด้วยสำรับเต็มสองมือ

“เครื่องเสวยเพคะ องค์ชาย”หัวหน้านางกำนัลเอ่ยหน้ากระโจม ก่อนที่ร่างของสามขัตติยะจะก้าวออกมาจากภายใน

“ตั้งตรงนี้ล่ะ”จบคำของผู้เป็นนาย เหล่านางกำนัลก็วางเครื่องเสวยลงอย่างนุ่มนวล “นี่เป็นอาหารของเมืองเรา เจ้าลองทานดูนะ ศศิน”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”ศีตภาดวงเดียวในที่แห่งนี้เอ่ยน้อมรับ รอยยิ้มบางเบาคลี่ออกมาให้ทุกคนได้ชื่นใจ “ขอบคุณพวกเจ้ามาก”

“มิได้เพคะ เป็นหน้าที่ของพวกหม่อมฉันอยู่แล้ว”หัวหน้านางกำนัลรีบหมอบกายลงเมื่อองค์ชายต่างแดนน้อมกายให้ “ถ้าทรงโปรดสิ่งใดเพิ่ม แจ้งแก่หม่อมฉันได้ หม่อมฉันจะจัดมาถวายนะเพคะ”

“ขอบคุณ...”ดวงตาไพลินเหลือบขึ้นมองท้องนภากว้างที่เต็มไปด้วยแสงของดวงดาราที่สุกสกาว “วันนี้... เป็นคืนเดือนมืด...”

“ใช่ วันนี้คือวันแรม 15 ค่ำ”องค์รพีตรัสรับ “ทำไมหรือ”

“รัตติกาลบดเบียดบังนิศารัตน์
ให้พลาดพลัดจากท้องนภาใหญ่
ให้เจ้าดารกาเจิดจ้าไกล
ให้สว่างไสวไปทั่วแดน”คำกลอนยอยศดวงดาวถูกเอื้อนจากกลีบปากบาง ดวงตาที่เหม่อมองยังท้องอัมพรนั้นยิ่งฉายแววเศร้าโศกหาใดเปรียบ

“เจ้าจันทร์เอ๋ยโปรดเลยอย่าทุกข์ทน
สุริยนนี้จักอยู่เคียงข้างเจ้า
ทิฆัมพรนี้จะมีเพียงสองเรา
อย่าขลาดเขลาวอนอดทนอีกไม่นาน”สุริยภาสวรที่เข้าใจความนัยน์ในคำกลอนนั้นเอ่ยปลอบโยนอย่างไม่รู้องค์ “แม้นจะมองไม่เห็นดวงจันทร์บนท้องฟ้า ก็มิได้หมายความว่าดวงจันทร์นั้นจะหายไปไหน หรือใครลบเลือนมันไป เพียงแต่ดวงจันทร์นั้นอาจจะกำลังช่วยผู้คนที่วอนขอพรจากดวงจันทร์อยู่ก็เป็นได้”

รอยยิ้มอ่อยโยนปนปลื้มปีติฉาบทับบนใบหน้าหวาน ดวงตาที่เคยฉายแววโศกเศร้ากลับสุกใส คำปลอบประโลมแทรกลึกเข้าไปในหัวใจที่โดนกรีดซ้ำมาหลายปี ราวกับถูกชโลมให้ชุ่มชื้นด้วยน้ำทิพย์จากสวรรค์

รอยยิ้มที่แม้แต่องค์ชายรพีธรณินก็ยังเพิ่งได้ประสบพบครั้งแรก ตรึงใจขององค์ชายทั้งสองเอาไว้ จนยากที่จะละสายตาออกไป


อย่างไร... ดวงจันทร์ดวงนี้ก็ช่างเหมาะกับรอยยิ้มที่สว่างไสว มากกว่าความโศกาที่แสดงออกมาอยู่เป็นนิจจริง ๆ

+++++++++++++++++++++++++

มีตัวละครงอกออกมาอีกหนึ่งตัวแล้วจ้า  :hao3:

ถ้ามีคำผิดตรงไหนบอกกันคนเขียนได้เลยนะคะ จะร่อนมาแก้ไขค่ะ ^^

ขอบคุณที่ยังอ่านกันอยู่นะคะ 5555 ขอบคุณค่ะ <3

ปล. เมื่อไหร่... จะถึงไคลแมกซ์ของเรื่อง // สลบ

ปล.2 เฮาทำไฟล์เวิร์ดตำนานรักหายค่ะ // ช้ำใจ ไปเขียนจ้าวหัวใจต่อดีกว่า  :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 18-03-2014 00:42:29
คุณน้องนี้เจ้าชู้นัก หาสามีมากำราบก็ดีนะ  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 18-03-2014 00:44:29
สู้ๆ คนเขียนอย่าเพิ่งสลบน้าาาา  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-03-2014 00:45:02
ไคลแมกซ์ของเรื่องคงไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่ดราม่าหรอกนะคะ

ทำไมอ่านแล้วตะหงิด ๆ ว่าพระเอก 'อาจจะ' ไม่ใช่องค์รพี
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-03-2014 00:49:35
ไคลแมกซ์ของเรื่องคงไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่ดราม่าหรอกนะคะ

ทำไมอ่านแล้วตะหงิด ๆ ว่าพระเอก 'อาจจะ' ไม่ใช่องค์รพี

อยากจะบอกว่าไคลแมกซ์ของเรื่อง ตั้งไว้ที่บท 14-15 ค่ะ...  :hao7:

ณ ปัจจุบัน... บทที่ 12 ยังไม่จบ... // โดดลงมหาสมุทรแปป  :z3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 18-03-2014 00:51:35
ศศินดูถูกตัวเองทำไมคะ คนเรามีดีกันทุกคนนะถึงจะมีคนเกลียดมากยังไงก็ต้องมีคนรัก อย่างศศินมีคนรักเยอะกว่ามีคนเกลียดนะ อร๊างงง มีคนชอบ(นิสัย,รอยยิ้ม)เพิ่มแล้ว รู้สึกจะมีคนหลงมากกว่าเก่า :hao3:
ปล. รู้สึกดีจ๊ายดีใจทีอัพแล้ว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-03-2014 01:03:10
แอบเห็นด้วยกับความเห็นที่ว่า
พอเจอน้องชายรพีเข้าไปแล้วดูเหมือนพระเอกจะสลับกัน ฮ่าๆ
แต่ยังไงก็เชียร์พี่ชายนะค้าา อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 18-03-2014 02:12:26
ละสายตาไม่ได้ทั้งสององค์  หมายความว่าไงอ่ะ :-[
แล้วยังเครื่องการทำนายดวงชะตาอีก   คนเขียนชอบทำค้างอ่ะ :sad4:  มียี่สิบตอนจบ?
แล้วใครคือพระเอก  องค์รพีใช่ไหม คึคึ  มีมาม่าไหมอ่ะ  ไม่อยากกินเลย o18  นอตอนต่อไป  เป็นกำลังใจให้คนเขียน  หุหุ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-03-2014 03:22:42
ละสายตาไม่ได้ทั้งสององค์  หมายความว่าไงอ่ะ :-[
แล้วยังเครื่องการทำนายดวงชะตาอีก   คนเขียนชอบทำค้างอ่ะ :sad4:  มียี่สิบตอนจบ?
แล้วใครคือพระเอก  องค์รพีใช่ไหม คึคึ  มีมาม่าไหมอ่ะ  ไม่อยากกินเลย o18  นอตอนต่อไป  เป็นกำลังใจให้คนเขียน  หุหุ

ค่ะ 20 บท จบเรื่องหลัก ตอนพิเศษอีกตอนสองตอน ค่ะ ^^ // แต่กลอนนำบทไว้จบแล้ว

เรื่องนี้ไม่ยาวค่ะ 5555

แล้วเดี๋ยวจะไปแต่งหนิงกวางต่อให้จบ จะได้เริ่มซีรีย์สุดท้ายของ season of love ค่ะ

// กลิ้งๆไปนอน

// พระเอก... รู้ๆกันอยู่เนอะ~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 18-03-2014 03:27:21
ได้แต่หวังว่า พอไปถึงเมืองนั้นแล้วจะไม่โดนกลั่นแกล้งแบบรุนแรงนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Onosaka ที่ 18-03-2014 07:10:07
ศศินอย่าเศร้าไปเลยนะ ยังมีองค์ชายรพีอยู่ข้างๆนะศศิน ส่วนภาสวรนี่คู่กะพี่สุริเยนไทวะชิมิคะ? 555
ปล.คนเขียนมาต่อไวมากเลยอ่ะ อยากให้ถึงตอนที่สิบไวๆ 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 18-03-2014 07:42:55
 :sad4:  ศศินอย่าเศร้าสิ อ่านแล้วเศร้าตามอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 18-03-2014 07:52:33
เฮ้อเห็นความอิจฉาริษยาที่ซ่อนอยู่แล้วสุดจะเหนื่อยใจแทน พี่น้องกันไม่น่าจะทำกัน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 18-03-2014 08:49:42
โถๆ ศศิน ทุกคนต่างดีหมดนั่นแหละ แต่อยู่ที่จะดีมากดีน้อยเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 18-03-2014 09:04:50
ไปอยู่นู่นเจ้าจันทร์ของเราคงไม่ตกระกำลำบากหรอกนะ
รพีก็ช่วยดูแลเจ้าจันทร์ให้ดีด้วยนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 18-03-2014 09:35:14
ว๊ายยยย ตอนแรกวาดหวังไว้ว่ายังไงองค์รพีก็ต้องเป็นพระเอก

แต่แหม........ องค์น้องก็เข้าท่าดีนะ แบบ เจ้าชู้ไก่แจ้ แต่พอเจอศศินก็หยุด

โฮะๆ ไม่รู้เรื่องเป็นไง ตามใจคนแต่ง  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 18-03-2014 09:48:51
รู้สึกอยากให้ สุริเยนทร์ไทวะ คู่กับ สุริยภาสวร
 :hao6: :hao6: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 18-03-2014 10:24:20
ศศินน้อย อย่าเศร้าเลย ยังมีองค์รพีนะ ที่เห็นว่าเจ้าจันทร์ดีกว่าใคร

ส่วนองค์น้องอยากให้คู่กับเจ้าพี่สุริเยนนะ  :กอด1: นักเขียน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 18-03-2014 11:25:34
ชอบอ่ะ.  รอตอนต่อไปแทบไม่ไหว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 18-03-2014 14:04:17
รอตอนต่อไปนะคะ
 :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 18-03-2014 15:30:19
แปลว่าที่องค์รพีเดินทางไปรับเชลยเพราะโหรทำนายว่าเป็นคู่บุญที่จะนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองสินะ
หวังว่าไปถึงแล้ว ศศินจะได้รับเกียรติและการปฏิบัติที่เมตตาจากราชวงศ์นะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 18-03-2014 15:35:42
พี่น้องจะรักคนๆเดียวกันมั้ยยยยย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 18-03-2014 17:26:29
แหม เล่นเอาดวงอาทิตย์ออกมาอีกดวงรวมเป็น 3 ดวงแล้วดวงไหนจะได้อยู่คู่ดวงจันทร์กันนะ
(กลัวคนแต่งหักมุมอ่ะ กลัวว่าพระเอกจะไม่ใช่รพี :ling3:)

น่ากลัว~น่ากลัวจริงๆ :katai1: :katai1:

ตามตอนต่อไปเน้อ~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 18-03-2014 17:44:06
แสดงว่าต้องมีคำทำนายเกี่ยวกับศศินแน่เลยช่ายป่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-03-2014 20:34:37
 :z2: :z2: :z2:

คนเขียนแต่งไปตามโครงที่วางเอาไว้ ไม่มีพลิกออกนอกเส้นทางเลยน้า

// แล้วเส้นทางคนเขียนเป็นแบบไหนหว่า... 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 18-03-2014 22:55:22
รอจร้าาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 18-03-2014 23:01:47
ไหนๆศศินก็จากที่แห่งนั้นมาแล้ว ก็อย่าได้มีใครมาทำร้ายอีกเลยเถอะ  :call:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 18-03-2014 23:36:07
เหมือนจีบกันด้วยกลอนเลยอ่ะ

โอยย เขินนนนนน

 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 18-03-2014 23:57:33
คือพระเอก คือพระรอง แอร๊ยยย
อย่าแย่งกันนะ ศศิน คู่กับรพี เท่านั้น ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 19-03-2014 00:39:39
อยากอ่านหนิงกวาง  ^▽^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-03-2014 01:49:38
คงไม่ใช่ สามพีหรอกนะ ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-03-2014 10:59:35
คงไม่ใช่ สามพีหรอกนะ ><

ไม่สามพีค้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 8 (P.7)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 19-03-2014 18:07:30
รออยู่มาต่อไวๆๆๆๆๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-03-2014 18:21:25
ปฏิญญาที่ ๙

มาเยือนถึงอุษณกรแดนศรี
เมืองอันมีความมั่งคั่งแสนสุขสันต์
จันทร์เจ้าถูกมอบให้องค์อีกองค์พลัน
ให้มีครรภ์เพื่อความยิ่งใหญ่ของแดน



ในที่สุดก็เข้าสู่เขตของเมืองหลวงแห่งอุษณกร การเดินทางที่แสนเร่งรีบ มาถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย โดยไม่มีติดขัด
แต่มัน... เร็วเกินไปในความรู้สึกของผู้ที่เปรียบเป็นเชลยศักดิ์

ดวงเนตรสีฟ้าสวยทอดมองดินแดงที่ไม่เคยเห็นอย่างหวาดหวั่น แต่มิแสดงออกมา ด้วยศักดิ์ศรีแห่งขัตติยวงศ์ ด้วยศักดิ์ศรีแห่งบุรุษเพศ

จักแสดงความอ่อนแอออกมามิได้

ประชาชนชาวอุษณกรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส ผ้าแพรผืนงานโบกพลิ้ว ดินแดนแห่งนี้แม้นอยู่ห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนไม่ไกลนัก แต่อากาศที่สัมผัสได้ช่างแตกต่างเหลือแสน

ความเย็นสบายจากสายลม และความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ที่ฉายแสง พาให้ใจเบิกบาน ต่างจากความหนาวเย็นของวสุนธรา ดินแดนที่เปี่ยมด้วยสายลมหนาว

ผู้คนแหวกทางให้กับขบวนเสด็จอย่างรู้หน้าที่ และทุกคนในที่นั้นต่างพากันเรียงแถวเพื่อรอรับชมพระบารมีแห่งเชื้อพระวงศ์อย่างเป็นระเบียบ

องค์รพีธรณินก็มิทำให้ความคาดหวังของปวงประชานั้นสูญเปล่า ทรงเอื้อมหัตถ์เปิดบัญชรให้พสกนิกรของพระองค์สามารถมองเข้ามาเห็นภายในได้ อีกทั้งยังทรงโบกพระหัตถ์น้อย ๆ ให้กับทุกคน

องค์ชายผู้น้องสุริยภาสวรทรงท้าวกรกับขอบบัญชร รอยยิ้มพร่างพรายคลี่ส่งให้กับประชาชนของพระองค์อย่างทั่วถึง... สมกับเป็นองค์ชายเจ้าชู้แห่งราชวงศ์จริง ๆ

ส่วนเจ้าชายต่างถิ่นอย่างศศินคคนานต์ ได้แต่มองซ้าย เหล่ขวา พยายามทำกิริยาท่าทางให้นิ่งเฉย ทั้งที่ภายในดวงหฤทัยนั้นรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

ที่วสุนธรา ผู้คนต่างใส่เสื้อที่มีแขนยาวลงมา เพื่อป้องกันตนเองจากลมหนาวที่โหดร้าย ยิ่งในช่วงเหมันต์ ยิ่งหนาวเหน็บเสียดถึงกระดูก

แต่ ณ อุษณกร แห่งนี้ ผู้คนต่างใส่เสื้อผ้าที่ดูเบาสบาย เหล่าสตรีบ้างก็ห่มผ้าสไบเฉียง บ้างก็ใส่เกาะอกสีสดใส นุ่งผ้าถุงยาวกรมเท้าเดินไปมาดูงดงาม ส่วนบุรุษ ส่วนใหญ่ที่ได้เห็นนั้นใส่เสื้อแขนสั้นสีเข้มกัน

เมื่อทรงก้มลงมามองชุดทรงที่ส่วนใส่อยู่นั้น ความรู้สึกว่าเป็นตัวประหลาดก็ลุกล้ำเข้ามาเกาะกุมดวงฤทัย แต่... ทรงเป็นคนต่างถิ่น จะมีเสื้อผ้าที่กลมกลืนมาผลัดเปลี่ยนได้อย่างไร...

ผู้คนทุกหมู่เหล่าพยายามเหลือบมองเข้ามาในเกวียน นอกจากจะชมพระบารมีขององค์ชายทั้งสองแล้ว ยังอยากที่จะพบเห็นขัตติยวงศ์ต่างแดนด้วย

“ที่อุษณกรแห่งนี้ เราไม่ได้บังคับให้ประชาชนหมอบกราบเมื่อมีเชื้อพระวงศ์ผ่านมา ด้วยพระปรีชาและพระเมตตาของเสด็จพ่อ ที่ทรงโปรดที่จะเห็นความเท่าเทียบของผู้คน และโปรดที่จะทอดพระเนตรความทุกข์ของพสกนิกร เพื่อที่พระองค์จะได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือพวกเขาได้ทันท่วงที”รพีธรณินหันมาเอ่ยกับคนต่างถิ่นด้วยเสียงที่นุ่มนวล ภายในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความเทิดทูลบูชาพระบิดายิ่ง “แม้นว่าทำเช่นนี้แล้ว จะอันตรายต่อการลอบสังหาร แต่ก็ทรงยินดีที่จะรับมันไว้ เพื่อการผลักดันให้อาณาจักรของเรายิ่งใหญ่เหนือผู้ใด”

“วสุนธราของเราอาจจะไม่สามารถเทียบเทียมกับท่านได้ในเรื่องความก้าวหน้าของผู้คน และเราก็มิได้อยากที่จะขึ้นเป็นใหญ่เหนือใคร ขอเพียงพวกเราได้อยู่อย่างสงบเช่นนี้ตลอดไปก็เพียงพอแล้ว”ศีตภาต่างแดนเปรยขึ้นหลังจากได้รับฟัง เพื่อให้ผู้ที่ได้ฟังได้รู้ว่าดินแดนของตนนั้นมิได้มีความคิดที่จะทำการใหญ่เป็นแน่ “และที่ตัวเรายอมเดินทางมาที่แห่งนี้โดยง่าย ก็เพื่อยืนยันให้ได้รู้...”

ทรงตรัสไว้เพียงเท่านั้น มิเอ่ยอันใดต่อ แม้จะมีความในใจอีกมากมายสักเพียงไรก็ตามที...


เพียงไม่นาน ขบวนเสด็จก็เข้าสู่เขตพระราชฐาน นางกำนัลน้อยใหญ่เรียงแถวต้อนรับเมื่อเกวียนเปิดออก น้ำใสลอยด้วยดอกมะลิหอมชื่นใจถูกยกมาร่อท่า ก่อนจะนำผ้านุ่มชุบบิดหมาดถวายขึ้นให้ซับพักตร์ มาลัยพวงงามถวายแด่องค์ชายผู้มาเยือนเป็นการต้อนรับ

ร่างโปร่งบางก้าวเข้าไปในพระตำหนักใหญ่ต่างแดนอย่างมั่นคง แม้นจะรู้สึกหวาดหวั่น แต่ก็จะขอเข้มแข็งเพื่อเกียรติยศแห่งราชวงศ์


ศศิชาช่างชวนมองกลางภากร
ขนตางอนคิ้วโก่งรับเจ้าดวงตา
สีไพลินที่สุดแสนน่าค้นหา
ควรแก่การไขว่คว้ามาย่ำยี

ขาวผุดผาดยิ่งมองพิศยิ่งสูงค่า
ทั้งเครื่องหน้าทั้งกายางดงามศรี
สมศักดิ์เจ้าฟ้าชายเจ้าชาตรี
ใต้สุรีย์แสงประกายงามน่าชม


ตลอดทางที่ผ่านมาศศินเอาแต่เก็บตัว แทบไม่พูดจากับผู้ใด มักจะก้มหน้าก้มตาอยู่เพียงลำพัง มีเพียงในราตรีนั้นที่ได้เห็นรอยยิ้มชวนตราตรึง แต่อนุชาแห่งรพีธรณินนั้นมิเคยได้เพ่งพิศดวงหน้าของเชลยศักดิ์อย่างถ้วนถี่

มาวันนี้ทรงได้เห็นความงามที่แตกต่างของผู้คนในดินแดนของพระองค์อย่างเต็มพระเนตร จนอดที่จะยิ้มพึงใจ และอยากได้มาครอบครองมิได้...

ดอกไม้งามขาวพิสุทธิ์ ถ้าถูกย่ำยีจนขาดรอดจัดหอมหวานเพียงไร

“ยินดีต้อนรับสู่อุษณกร องค์ชาย”รอยยิ้มใจดีคลี่ส่งมาให้กับผู้มาเยือนจากกษัตริย์แห่งแผ่นดินแม่ “ตัวข้ายินดีนักที่ได้พบเจ้าจันทราผู้อ่อนโยนแห่งวสุนธรา เดินทางรอนแรมมาถึงที่นี้คงเหนื่อยไม่ได้”

“พระเมตตาปกเกล้า ข้าพระองค์มิได้รู้สึกเหนื่อยล้าอันใดพะยะค่ะ ขอบพระทัยที่ทรงห่วงใยผู้มาเยือนอย่างกระหม่อม”ร่างเพรียวโค้งลงอย่างนอบน้อม “ได้ยินเกียรติศัพท์ของพระองค์มานาน เป็นเกียรติของกระหม่อมจริง ๆ ที่ได้พบกับจอมกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้”

“เจ้าก็พูดเกินไป องค์ชาย”คำที่ฟังเหมือนจักถ่อมตัว แต่ก็แฝงด้วยน้ำเสียงพึงพระทัยในคำยกยอ “ข้าเป็นพียงกษัตริย์ผู้ปกครองคนหนึ่งที่โชคดีทีข้าราชบริพารที่เก่งกาจเพียงเท่านั้น”

ครานี้ศศินกลับมิเอื้อนเอ่ยอันใดต่อ รอยยิ้มบางเบาคลี่ส่งให้

“แต่ว่านะ... รพีธรณิน พ่อสั่งเจ้าว่าอะไร”เสียงที่ฟังอ่อนโยนในคราแกกับเยือกเย็นฉันในฉับพลัน “เจ้าขัดคำสั่งพ่อเช่นนี้ ไม่เห็นพ่ออยู่ในสายตาเลยหรือกระไร”

“โปรดอย่าเพิ่งทรงกริ้วเลยพระเจ้าค่ะ”บุคคลผู้หนึ่งเดินเข้ามาภายในท้องพระโรง บุรุษผู้นี้ดูมีอายุแล้วไม่น้อย นุ่งขาว ห่มขาว ในมือถือกระดานดำเอาไว้มั่น คงมีความสำคัญต่อราชวงศ์ไม่น้อย... มิเช่นนั้นองค์กษัตริย์ก็มิหยุดสดับฟังเช่นนี้ “โปรดฟังข้าพระองค์ก่อนเถิด”

“ว่ามา ท่านโหราจารย์”

“จันทราจ้าวมาเยือนแดน      ช่างประเสริฐแสน
เป็นนิมิตแห่งสุขี

ให้กำเนิดบุตรยิ่งดี         เพื่อถิ่นเรานี้
ระบือขานรุ่งเรืองไกล

โปรดราชามอบองค์ให้      ดวงสุรีย์ไป
พร้อมด้วยยาลับของเรา

วอนจันทร์จงกลืนกินเข้า      เพื่อทายาทเจ้า
จักได้ก่อกำเนิดมา”

ว่าจบโคลงกลอน นางกำนัลสาวผู้หนึ่งก็ได้เดินเข้ามาพร้อมถามที่มีถ้วยยาในมือ ควันสีขาวล่อยล่องบ่งบอกถึงตัวยาที่เคี่ยวมาอย่างสดใหม่

“โอสถเพคะ”นางเอ่ยขึ้นอย่างนอบน้อม ย่อกายถวายให้แก่องค์ชายต่างถิ่นด้วยรอยยิ้มบาง “มิต้องกลัวนะเพคะ โอสถนี้มิได้ทำให้ท่านต้องเจ็บปวดอันใด ไม่ต่างจากโอสถบำรุงพระวรกายเลยเพคะ”

“ดื่มเสียสิ ศศินคคนานต์”องค์อินทัช กษัตริย์แห่งอุษณกรตรัสเร่ง เมื่อเห็นร่างเพรียวยืนนิ่ง

หัตถ์เรียวรับถ้วยมามาถือ ริมฝีบากบางเม้มแน่นอย่างช่างใจ... แต่พระองค์ก็มิมีอะไรจะเสียอีกแล้ว เตรียมใจมากก็ไม่น้อย...
เอาก็เอา

ทรงกลั้นพระทัยดื่มยาไปจนหมดท่ามกลางความพึงพอใจของผู้กุมอำนาจสูงสุดแห่งแผ่นดินแม่

“ดี ท่านโหรา ท่านบอกว่าเราควรมอบดวงจันทร์ดวงนี้ให้กับดวงสุริยาใช่หรือไม่”จ้าวแผ่นดินอันอุดมหันไปหาโหราจารย์ผู้มาให้คำทำนาย พระพักตร์คมเข้มประดับรอยยิ้มสว่างไสว

“ใช่แล้วพระเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้น ข้าขอมอบเจ้าชายแห่งวสุนธราให้กับลูก สุริยภาสวร”รพีธรณินหันไปหาพระบิดาของพระองค์อย่าไม่เชื่อในกรรณของพระองค์เอง

เหตุใดถึงมอบให้กับภาสวร ไม่ใช่พระองค์

“เสด็จพ่อ... เหตุใดจึงทรงยกองค์ชายให้ลูก มิใช่เสด็จพี่เล่าพะยะค่ะ”อย่าว่าแต่องค์รัชทายาทเลย แม้แต่ผู้ที่ได้รับมอบให้ดูแลยังอดที่จะสงสัยมิได้...

ส่วนเจ้าศศิธรดวงน้อยนั้นชะงักนิ่งตั้งแต่แรกที่ได้สดับฟัง จนตอนนี้ยังแทบเรียนสติกลับคืนมามิได้


เหตุใดกันเรื่องจึงเป็นเฉกเช่นนี้   
องค์ไม่มีสิทธิ์ใดจะเอ่ยค้าน
ถูกมอบให้กับองค์วิวัสวาน   
หมดวาบหวานในหทัยในบันดล


แม้นอยากจะร้องเรียกสิทธิ์ตนบ้าง แต่ก็อับจนซึ่งคำกล่าว  แต่ถึงกระนั้นก็มีความคิดบางอย่างกระตุ้นซึ่งกำลังใจที่เหือดหายไปได้...

อย่างน้อย ก็ไม่ผิดต่อเจ้าพี่ศรวิษฐา...

อย่างน้อย ตนก็มิได้แย่งชิงในสิ่งที่พระพี่นางต้องการ

อย่าน้อย... ก็มิต้องรู้สึกผิดไปชั่วชีวัน


“พ่อยกให้เจ้า เพราะเจ้าคือผู้ที่คู่ควร”อาจจะไม่ใช่คำตอบที่กระจ่างแจ้งนัก แต่ก็ทำให้ทุกคนในที่นั้นหมดคำค้านคัด “รพี แม่หญิงโศภิตสารินรอคอยเจ้าอยู่ที่ตำหนักตั้งแต่วันวาน อย่าลืมไปหานางด้วยล่ะ”

“พะยะค่ะ เสด็จพ่อ”

... โศภิตสาริน... สายน้ำงาม ใครกันนะ...

แอบคิดอยู่ในใจ แต่เหมือนว่าจะมีใครอีกคนที่อยู่ไม่ไกลจากศีตภาผู้นี้นั้นได้ยินความใน


“แม่นางโศภิตสาริน เป็นพระชายาของเสด็จพี่รพีธรณิน กระจ่างใจแล้วใช่ไหม ศศิรของข้า”องค์ชายสุริยภาสวรกระซิบข้างกรรณเล็ก


พระชายา...


โอ้... สวรรค์ ถ้าพี่หญิงทรงทราบจักเป็นอย่างไร

************************************

มาแล่ว มาแล้ววว

มีคนเดาถูกเรื่องคนน้องด้วย 5555

อย่าเพิ่งเขวี้ยงอะไรมาน้าา นี่ยังไม่ใช่จุดไคลแมกซ์ของเรื่องงง

ตอนต่อไปยาว... ถึงฉากอย่างว่าที่แสนจะภูมิใจแล้วค้าาา

ปล. กาพย์ฉบัง 16 ปรากฎกาย แต่งยากยิ้งกว่าโคลงสี่ TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 19-03-2014 18:52:07
อ๊าววววววววววว
ตกลงใครเป็นพระเอกเล่าเพคะ!!
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-03-2014 18:53:12
เอาอย่างนั้นจริงสิ !!!


 :katai4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 19-03-2014 19:00:16
หักมุม

ประเด็นคือ คนพี่มีใจให้ ศศินนะ แอบสงสารทั้งเขาและเมียเขา มันอีรุงตุงนัง

อย่ายอกนะว่าที่ผ่านมา รู้สึกแค่พี่น้อง เง้อ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-03-2014 19:02:09
หักมุม

ประเด็นคือ คนพี่มีใจให้ ศศินนะ แอบสงสารทั้งเขาและเมียเขา มันอีรุงตุงนัง

อย่ายอกนะว่าที่ผ่านมา รู้สึกแค่พี่น้อง เง้อ

แค่เลี้ยวโค้งที่ 1 เองค้า เดี๋ยวมีโค้งสอง...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-03-2014 19:30:41
อ้าว.....หวยออกที่น้องชายเหรอนี่ 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 19-03-2014 19:33:21
แหมมมม หลุดโค้งกันถ้วนหน้าเลยนะเนี่ย :laugh:

แต่ถ้ายึดตามชื่อเรื่อง ศศินคู่กับคนน้องก็น่าจะถูกแล้ว ส่วนองค์รพีก็ปล่อยให้เป็นพระรอง ความรู้สึกมันยังไม่หยั่งลึก ก็ยังพอจะแก้ไขได้อยู่

ยกเว้นคนแต่งจะพาแหกโค้งรอบที่สอง ที่สาม ที่สี่ แต่....ไม่เป็นไรค่ะ เตรียมตัวเงิบเต็มที่ พร้อมละ 555555+
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: mamajie ที่ 19-03-2014 19:33:45
 :m31: โค้งสองมันคืออะรายยยยยยยยยยยยยยยยยย   โอ๊ยยยยยยยยย       ยิ่งคิดยิ่งเครียดงอแง งอนนน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 19-03-2014 19:36:48
 :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: zizits ที่ 19-03-2014 19:45:46
หักมุมเฉยเลย จาเอาองค์รพีอ้ะะะะ :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 19-03-2014 19:57:16
ตอนแกอ่านกลอนแล้วคิดตามนิดๆ พออ่านจบแล้วอืมมมม :z3: :z3: ให้คนน้องหรอ  :ruready เรารอตอนต่อไป เร็วๆนะ และเราจำได้ว่าตอนที่ 10 ยาวกว่าตอนอื่น จริงนะไม่หลอกเรานะ :pig4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-03-2014 19:59:22
หักศอกกันเสียหลายโค้งเชียวนะ ไงล่ะ งงดิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 19-03-2014 19:59:52
รู้สึกสะดุดขาตัวเอง :ruready หน้าแหกเลยอ่ะ

แต่ก็ดีแล้วที่เป็นของน้ององค์รพี  ไม่อยากให้ศศินใช้ของร่วมใคร  ไม่เคยรู้มาก่อนว่าองค์รพีมีเมียอยู่แล้ว :katai1:

ตอนนี้เงิบอยางแรง  แต่ไม่เป็นไร  เราเต็มใจเงิบ :laugh:  ขออย่างเดียว  อย่างให้เจ้าจันทรต้องช้ำใจ(และร่างกาย)    :hao3: 

เต้าจะรักกันไหมอ่ะ  แต่อยากให้รักอ่ะ  คนน้องเจ้าชู้อยู่เลย  ยังไว้ใจไม่ได้  ต้องติดตามต่อไป  มาต่อเร็วๆนะค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 19-03-2014 20:01:53
 :z13:   มีโค้งสองอีก  อะไรหว่า

รอตอนหน้า  มีNCป้ะ   อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 19-03-2014 20:07:57
 o22 ผิดคาดแฮะ ตาอยู่คว้าพุงปลาไปชัดๆเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 19-03-2014 20:14:24
อ้าว อ้าว อ้าวววววววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 19-03-2014 20:15:52
เงิบกับโค้ง 1 แปป 55555555 แต่คนน้องก็ดีเค้าชอบพระเอกแบดๆร้ายๆดูเพลบอย อิอิ  :hao6:
จริงๆชอบนิยายที่แบบเปิดมา พระเอกน่าจะเป็นคนนี้ แต่จริงๆไม่ใช่นะ ดูหักมุมดี รอคนแต่งพาหักโค้งที่สอง ไม่รู้จะหักกลับมาหรือหักออกไป 55555555555555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-03-2014 20:18:53
มีโค้งต่อไป ~

น้องชายได้ไปซะงั้น  :ruready
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-03-2014 20:20:35
ตอนแกอ่านกลอนแล้วคิดตามนิดๆ พออ่านจบแล้วอืมมมม :z3: :z3: ให้คนน้องหรอ  :ruready เรารอตอนต่อไป เร็วๆนะ และเราจำได้ว่าตอนที่ 10 ยาวกว่าตอนอื่น จริงนะไม่หลอกเรานะ :pig4:

ตอน 10 มี 5 หน้า A4 ค่ะ 5555 ยาวกว่าตอนอื่น... หน้านึง // โดนเตะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 19-03-2014 20:26:20
แหกโค้งเลยเนี่ย



ไหงเป็นคนน้องละเนี่ย




รอคอยตอนหน้าครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 19-03-2014 20:28:25
เง้อ! เงิบเลยท่าน
เสียใจอ่ะ รพี๊! ToT คนเขียนใจร้าย ไอ้เราก็อุตส่าห์ฟิน
ตอนต่อไปฉากที่อยากเห็นที่สุดงั้นเหรอ -.,- (ไม่รู้เล้ยจริงจริ๊งว่าฉากไหน) หึ หึ
อยากเห็นศศินท้องเร็วๆ จังเลย สุริยภา (เรียกถูกไหมอ่ะ ฮุฮุ) จะดูแลทั้งสองคน (รวมที่อยู่ในท้อง) ดีหรือเปล่า >-<
แต่ว่าชอบตอนสุดท้ายที่ศศินคิด ถ้าหากพี่หญิงทรงทราบ...ก็คงฮาแตกบวกกับสมน้ำหน้าเลยงานนี้ - -++ ไร้ซึ่งความสงสารใดๆ 55+
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-03-2014 20:34:05
เงิบจ่ะ o22

เงิบตั้งแต่กลอนเกริ่นต้นเรื่องแระ

นึกว่าตีความผิด...ก็ยังดีกว่าไปเป็นเมียรอง

แต่ดูท่าทางองค์ชายสุริยจักรวาล(?)จะSMมิใช่น้อย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 19-03-2014 21:12:09
โอ้วววว พลิกโผหรือนี่ กริ๊ดๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-03-2014 21:25:33
กำ ยกให้น้องซะงั้น
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 19-03-2014 21:34:30
เงิบ!!! ที่ผ่านมามันคืออะไร

แล้วมีเมียแล้ว ทำไมทำงี้หลอกให้เราฟิน เสียใจ เซ็ง  :o12:

8ตอนที่ผ่านมาคืออะไร เสียความรู้สึกจัง เฮ้อออออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 19-03-2014 21:34:58
เป็นแบบนี้ได้อย่างไง  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-03-2014 21:39:24
อาจจะมีหักโค้งอีกแต่มั่นใจลึก ๆ ว่าองค์น้องนี่แหละพระเอกจากชื่อเรื่อง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: minakosun ที่ 19-03-2014 22:20:32
รู้สึกจะเดาพระเอกผิดกันเป็นแถบเลยแหะ 555 รวมถึงตัวข้าน้อยเองก็ด้วย
อดผิดหวังนะนิที่พระเอกไม่ใช่องค์ชายรพี เอ๊ะ! หรือจะหักมุมมากกว่านี้อีก
ยังก็ต้องรอลุ้นกันในบทถัดไป 555
รออ่านอยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 19-03-2014 22:53:57
ถ้าคนน้องเป็นพระเอก เราจะรออ่านตอนจบที่เดียวแล้วนะ :m16: :seng2ped:
คนน้องดูจะอารมณ์ร้อนไป แถมเจ้าชู้อีก ไม่ค่อยชอบเท่าไร (นางเอกดี ทำให้คนน้องดูเลว)
ปล.แต่พูดจริงนะถ้าคนน้องเป็นพระเอกเราจะอ่านตอนจบทีเดียวเลย รอดูตอนต่อไปก่อน ขอให้เป็นคนพี่   :call: :bye2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-03-2014 22:56:27
ใจร่ม ๆ กันก่อนนะคะทุกคน

รอโค้งต่อไปที่เป็นโค้งไคล์แมกซ์ก่อนน้า 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 19-03-2014 23:07:19
มันคืออะไร


ค้าง  มาต่อเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-03-2014 23:23:36
 :hao4: :hao4: :hao4:ซะงั้น :hao4: :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 19-03-2014 23:50:20
รอตอนต่อไปนะคะ
 :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: greensoda ที่ 19-03-2014 23:50:33
อ่านแล้วเงิบเลยทีเดียวววว :a5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 20-03-2014 00:00:39
เหยียบเบรคกะทันหันทีเดียวเชียว ดีแล้วที่ได้คนน้อง ถึงเจ้าชู้มาก แต่ดีกว่าไปเป็นน้อยให้คนพี่ คนน้องคงยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนใช่ไหมคะ ได้เป็นหลวงใช่ไหมคะ??? รึจะแหกโค้งอีก แต่ไม่เห็นบ้านเมืองจะรุ่งเรืองยังไง พี่น้องจะตีกันเพื่อแย่งจันทรารึเปล่า ไหนจะ บรรดาเด็กๆในสต็อกของเจ้าสุริยาอีกล่ะ จันทราโดนผีพุ่งใต้พุ่งชนแน่ ไม่อะไรกะใครเป็นพระเอก เพราะเจ้าจันทร์ก็ดูไม่มีใจอะไรให้ใครแต่แรก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 00:04:33
ถ้าคนน้องเป็นพระเอก เราจะรออ่านตอนจบที่เดียวแล้วนะ :m16: :seng2ped:
คนน้องดูจะอารมณ์ร้อนไป แถมเจ้าชู้อีก ไม่ค่อยชอบเท่าไร (นางเอกดี ทำให้คนน้องดูเลว)
ปล.แต่พูดจริงนะถ้าคนน้องเป็นพระเอกเราจะอ่านตอนจบทีเดียวเลย รอดูตอนต่อไปก่อน ขอให้เป็นคนพี่   :call: :bye2:

คนน้องไม่ได้ดูเลวขนาดนั้นนนนน เหมือนจะร้าย แต่คนดีนะคะ 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 20-03-2014 00:04:40
เอาไปเลย3คำ

ถึง กับ เงิบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 00:06:57
เหยียบเบรคกะทันหันทีเดียวเชียว ดีแล้วที่ได้คนน้อง ถึงเจ้าชู้มาก แต่ดีกว่าไปเป็นน้อยให้คนพี่ คนน้องคงยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตนใช่ไหมคะ ได้เป็นหลวงใช่ไหมคะ??? รึจะแหกโค้งอีก แต่ไม่เห็นบ้านเมืองจะรุ่งเรืองยังไง พี่น้องจะตีกันเพื่อแย่งจันทรารึเปล่า ไหนจะ บรรดาเด็กๆในสต็อกของเจ้าสุริยาอีกล่ะ จันทราโดนผีพุ่งใต้พุ่งชนแน่ ไม่อะไรกะใครเป็นพระเอก เพราะเจ้าจันทร์ก็ดูไม่มีใจอะไรให้ใครแต่แรก

ใช่ค้า คนน้องไม่มีหลวง... มีเล็ก มีน้อย แบบคนเจ้าชู้ทั่วไป แต่ไม่มีใครจริงจัง...

ปล. แง้มเลยว่าคนของคนพี่น่ากลัวกว่าค่ะ 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthip ที่ 20-03-2014 00:24:41
พลิกล็อคสุด ๆ  ใครคือพระเอกจงออกมา


 :hao4: :hao4: :hao4:

แบบว่าอ่านแล้วเงิบเลย  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-03-2014 01:22:37
ตามอ่านถึงตอนล่าสุด  เงิบมากค่ะ

แต่ก็คิดไว้ตั้งแต่ชื่อเรื่องแล้ว  ว่าพระเอกต้องชื่อเกี่ยวกับพระอาทิตย์แน่ๆ 
อ่านแรกๆยังสงสัยเลยว่าพี่ชายแท้ๆจะเป็นพระเอกหรือไร  แต่ยังดีที่ไม่ใช่ค่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: kangteuk1995 ที่ 20-03-2014 01:57:52
คนพี่เป็นคนครองราชคนต่อไปไม่ใช่เหรอ
ถ้าคู่กับคนน้องมันไม่ค่อยเข้ากับกลอนที่ว่า
“จันทราจ้าวมาเยือนแดน      ช่างประเสริฐแสน
เป็นนิมิตแห่งสุขี

ให้กำเนิดบุตรยิ่งดี         เพื่อถิ่นเรานี้
ระบือขานรุ่งเรืองไกล

โปรดราชามอบองค์ให้      ดวงสุรีย์ไป
พร้อมด้วยยาลับของเรา

วอนจันทร์จงกลืนกินเข้า      เพื่อทายาทเจ้า
จักได้ก่อกำเนิดมา”

ดวงสุรีย์ คือคนน้องเหรอ?
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 20-03-2014 02:10:16
โอ้โห เหยียบเบรค ดิ๊บแทบไม่ทัน :katai1:

ก็ยังดีนะ ไม่ต้องไปเป็นสนมของใคร ศศิน วู้ๆ :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: dark-soleil ที่ 20-03-2014 02:41:27
มิเป็นไรมิได้ ข้าพเจ้ามิได้ "เงิบ" กับตอนนี้เท่าไหร่นัก และพยายามจะระวัง มิให้ต้องแหกโค้งลงเหวจากตอนหน้าหน้า

555 รีบมาต่อเถอะค่ะ รอศศินอยู่ :ling1: :ling1:


หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 03:08:00
คนพี่เป็นคนครองราชคนต่อไปไม่ใช่เหรอ
ถ้าคู่กับคนน้องมันไม่ค่อยเข้ากับกลอนที่ว่า
“จันทราจ้าวมาเยือนแดน      ช่างประเสริฐแสน
เป็นนิมิตแห่งสุขี

ให้กำเนิดบุตรยิ่งดี         เพื่อถิ่นเรานี้
ระบือขานรุ่งเรืองไกล

โปรดราชามอบองค์ให้      ดวงสุรีย์ไป
พร้อมด้วยยาลับของเรา

วอนจันทร์จงกลืนกินเข้า      เพื่อทายาทเจ้า
จักได้ก่อกำเนิดมา”

ดวงสุรีย์ คือคนน้องเหรอ?

ทั้งคนพีา และ คนน้อง ในชื่อต่างมีคำที่มีความหมายว่าพระอาทิตย์อยู่ค่ะ

แต่คนพ่อก็มีเหตุผลที่ยกให้คนน้องเหมือนกัน (ซึ่งคนน้องก็เดาได้ว่าเพราะอะไร)

*รพี  สุริยะ  ภาสวร สามคำนี้แปลว่าพระอาทิตย์ทั้งหมดค่ะ


โปรดระวัง โค้งสองนะคะ ทุกท่าน 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 20-03-2014 07:10:55
To รออ่านนะสนุกมากอยากรู้ว่าศศินจะเปงของใคร
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 12:47:42
เหมือนโดนสาปแช่งอยู่...

// ฮัดเช้ย ;-;
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 20-03-2014 14:24:08
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ
ปูเสื่อรอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 20-03-2014 14:49:57
อยากอ่านต่อ :ling1: (ดิ้นกระแด่วๆ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 20-03-2014 15:48:50
ต้องรอลุ้นสินะ จะหักมุมยังไงต่อ
สงสารศศิน จะถูกยกให้ใครไม่มีสิทธิ์เลือก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 20-03-2014 19:36:50
คนเขียนกรุณาอย่าเลี้ยวบ่อย...........
..........คนอ่านหัวใจจะวาย งืมๆตกใจที่บอกว่ายกให้คนน้อง แต่ตกใจกว่าที่คนพี่มีชายาแล้ว
ต้องบอกว่าองค์อินทัชไม่อยากให้ศศินไปเป็นเมียน้อยใครสินะ(รึเป็นคนเขียนที่เป็นคนกำหนด)
ต้องรอดูโค้งหน้าสินะว่าจะเป็นไง

ปล.หวังว่ารพีจะไม่สติแตกจนไปข่มขืนศศินนะ(ก็แหมเชียร์รพีนี่นา)
ตามตอนต่อไปจ้า :hao6: :hao5: :L2: :mc4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 9 (P.8)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-03-2014 20:36:18
ทั้งคนพีา และ คนน้อง ในชื่อต่างมีคำที่มีความหมายว่าพระอาทิตย์อยู่ค่ะ

แต่คนพ่อก็มีเหตุผลที่ยกให้คนน้องเหมือนกัน (ซึ่งคนน้องก็เดาได้ว่าเพราะอะไร)

*รพี  สุริยะ  ภาสวร สามคำนี้แปลว่าพระอาทิตย์ทั้งหมดค่ะ


โปรดระวัง โค้งสองนะคะ ทุกท่าน 5555
อย่างงี้ สุริยภาสวร ได้เปรียบสินะนี่
เพราะเล่นเบิ้ลอาทิตย์สองดวงเลยค่ะ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 22:17:57
ปฏิญญาที่ ๑๐

วันคืนผ่านพ้นไปช่างร้าวรวด
แสนเจ็บปวดแสนอับอายหวังสุขี
ทอนกายบางนอนบำเรอสวามี
เยี่ยงสตรีบำเรอกามในช่องคาว



หลังจากที่การสนทนาในท้องพระโรงจบลงก็มีการรับประทานอาหารร่วมกันในตอนเย็น องค์อินทัชดูเปรมปรีดิ์ยิ่งนักกับคำทำนายที่เพิ่งได้รับ ลืมเลือนความโกรธาที่มีสิ้น

เมื่อฟ้ามืดองค์ชายรองสุริยภาสวรก็ทรงพาตัวเชลยศักดิ์กลับพระตำหนักของพระองค์ด้วยพระพักตร์ยิ้มกริ่ม

ไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจ้าชายต่างแดนผู้นี้มาอยู่ในครอบครอง แม้นจะแอบปรารถนาผู้ในพระหฤทัยเล็ก ๆ ก็ตามที

อาจจะด้วยพระองค์ยังมิมีพระชายาเป็นตัวเป็นตน เสด็จพ่อจึงมอบให้ก็เป็นได้...

ถึงเป็นบุรุษก็คงไม่เลว... แต่จะเอาผู้ชายเจ้าชู้อย่างพระองค์อยู่หมัดไหม

ว่ากันอีกที

“คงผิดหวังล่ะสิ ที่เป็นเรา มิใช่เสด็จพี่”สุรเสียงทุ้มตรัสกับคนข้างพระวรกายระหว่างทางเสด็จกลับพระตำหนักในยามเย็น

“เราไม่ได้คาดหวังอันใด จักเป็นผู้ใดสุดท้ายตัวเราก็ต้องถูกย่ำยี”ศศินตอบกลับด้วยเสียงสั่น ที่วสุนธราการร่วมเพศนั้นเป็นเรื่องที่ประหลาด แม้อาจจะยอมรับได้ แต่ก็มิทรงเคยพบมาก่อน...

อย่าว่าแต่เพศเดียวกันเลย... แม้แต่สตรีพระองค์ก็มิเคยแตะต้องให้หม่นหมองมีราคี

“เตรียมใจเอาไว้ก็ดี... เพราะเรามิได้อ่อนโยนอย่างเสด็จพี่รพีหรอกนะ”หัตถ์หนาเลื่อนลงไปที่บั้นท้าย ลูบไล้บีบเคล้นอย่างน่าไม่อาย

“ท่าน!!”เจ้าจันทราผลักไสร่างสูงออกให้ห่างกาย จู่ ๆ มาทำเช่นนี้กับพระองค์ได้อย่างไรกัน

“จุ๊ ๆ ไม่เอาน่า ทุกคนในวังนี้รู้ว่าข้าเป็นอย่างไร”กรแกร่งรั้งร่างเพรียวให้มายืนชิดองค์ “เจ้าต้องมาเป็นเมียข้า รู้จักนิสัยของสวามีไว้บ้างก็มิเสียหาย”

“...”ใบหน้ามนบึ้งตึง เป็นพี่น้องท้องเดียวกันแท้ ๆ แต่กลับแตกต่างกันราวฟ้ากันเหวก็มิปาน

“ไม่เอาน่า เจ้าเหมาะกับรอยยิ้มมากว่า”ภาสวรแตะปรางเนียนเบา ๆ “น่ายินดีจริง ๆ ที่ได้เจ้ามา... ราตรีนี้คงยาวไกลนัก”

“ท่านจะ...”

“แหม่... เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเริ่มกันเลยสิ”เสียงนุ่มทุ้มกระซิบที่ข้างหู “เจ้าจะได้มีทายาทให้ข้าไว ๆ อย่างไรล่ะ”
ว่าจบก็มันใบหูนิ่มเบา ๆ ก่อนที่จะทรงลากเอาศีตภาคนงามเข้าสู่ตำหนักของตน


นางกำนัลสาวงามหยาดเยิ้มปานนางสวรรค์ นุ่งน้อยห่มน้อยจำนวนหลายนางกรูกันเข้ามาพาองค์ชายของพวกเขาไปชำระกายา โดยมีอีกจำนวนหนึ่งเข้ามารับใช้นายคนใหม่ของตำหนักด้วยรอยยิ้ม

ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างการอาบน้ำ อีกทั้งยังรวดเร็วจนน่าตกใจ

มารู้ตัวอีกที ศศินคคนานต์ก็มายืนอยู่ในห้องบรรทมของสุริยภาสวรเสียแล้ว พระองค์กวาดตาดูรอบ ๆ อย่างเหม่อลอย

ที่นี่... คือที่ ที่จะต้องมาประทับอยู่อย่างนั้นหรือ... แล้วยัง... ช่างเถอะ ขอแค่มีชีวิตอยู่... เพื่อรอเจ้าพี่สุริเยนทร์มารับกลับสู่วิมารก็พอแล้ว... ที่เหลือก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาไป

ระหว่างที่ทรงปล่อยให้สติล่องลอยอยู่นั้น ใครอีกคนที่ยังไม่อยากพบก็เข้ามาอยู่ข้างหลังพระองค์เสียแล้ว พระกรหนาที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อโอบรัดเอวบางแน่น ก่อนจะปลดอาภรณ์ที่ทรงสอบอยู่ออกอย่างรวดเร็วจนพระวรกายของพระองค์เปลือยเปล่า โดยที่ยังมิทรงได้ขยับกายใด ๆ

“เจ้ารู้ไหม... ถึงข้าจะมีสาวงามรายรอบมากน้อยเพียงไร... แต่มิมีผู้ใดที่เคยได้ร่วมห้องนอนเดียวกับข้า...”ร่างสูงผลักเจ้าชายต่างถิ่นไปชินขอบหน้าต่างที่ปิดสนิท “น่ายินดีกับเจ้าจริง ๆ ที่ได้เป็นคนแรกและคนเดียวในการใช้ห้องนอนของข้าเป็นสนามรักเช่นนี้”
ผ้าผืนใหญ่ที่ห่มกายมาถูกสะบัดออก เจ้าชายแห่งอุษณกรเข้าประกบปากกับจันทร์ต่างถิ่น ชิวหาอุ่นร้อนกว่าเอาความหอมหวานในโพรงปากของฝ่ายตรงข้างอย่างเอาแต่พระทัย พระหัตถ์สากฟ้อนเฟ้นกายเปลือยปลุกอารมณ์

โดยไม่ปล่อยโอกาสให้คนในกำมือนั้นได้โต้แย้ง ขัดขืน พระองค์ทรงส่งลำลึงค์ใหญ่เข้าล่องล้ำในร่างของผู้ที่จะต้องเป็นแม่ให้กับบุตรของพระองค์อย่างไร้ความปรานี


ดวงจันทราใต้แสงเจ้าสุริยา   
หยาดน้ำตาไหลซึมด้วยเจ็บปวด
ยิ่งดูดกลืนเข้าลึกยิ่งร้าวรวด   
สองขาทรวดทรุดลงขอบบัญชร

สองมือกำใบหน้าก้มน้ำตาริน   
สุดเสียงสิ้นเอ่ยคำร้องอ้อนวอน
กระตุกกายใส่เข้ามิดใจขาดรอน
โปรดอาทรเพียงนิดคงสุขใจ

ดึงสะโพกรั้งกระแทกไร้เมตตา
เจ็บจนชาร้าวจนขาดสติไป
อัลสุชลและหยาดเหงื่อหลั่งรินไหล
เปลี้ยตัวไร้เรียวแรงหดหมดแรงกาย

แทรกเข้าลึกถี่ระรัวตัวสั่นคลอน
ความเจ็บจรไปมาไม่ห่างหาย
ตอกย้ำกายและใจไม่เสื่อมคลาย
อยากสลายหายไปในเฉียบพลัน

มือลูบไล้ฟ้อนเฟ้นกายกระหายหื่น
ความขมขื่นวนในอกครองชีวัน
อาทิตยากลืนกินเจ้าดวงจันทร์
กระแทกทั้นเพื่อหลั่งรักหลั่งวารี

ประกบปากจูบดูดดื่มกวาดความหวาน
ตัวคงสานสัมพันธ์สร้างสุขี
สนองความต้องการที่ยังมี
มิปราณีมิเมตตากิระณา

สายน้ำอุ่นพุ่งฉีดเข้าภายใน
หลั่งเข้าไปคั่งค้างในกายา
เสียงทุ้มครางบอกความสุขจากโอษฐา
ก่อนถอนกามาออกจากทางสวรรค์

กรแกร่งรั้งดึงร่างบางขึ้นพาดบ่า
ทรงนำพาไปยังแท่นไม่ไกลนั้น
ทาบกายทับสอดแทรกลึกสานสัมพันธ์
กินเจ้าจันทร์อย่างกระหายอีกครั้งครา

เสียงสวาทดังประสานเหล่าจักจั่น
ณ ห้องบรรทมพันแสงทั้งทิวา
ย่ำยีซ้ำตอกย้ำใจศีตภา
ด้วยกามารมณ์แห่งรังสิมันตุ์


แสงอาทิตย์ส่องฟ้าแยงตาประกับความรู้สึกเย็นชื้น ปลุกใครผู้ที่กำลังอยู่ในห้องนิทราต้องตื่นขึ้นมา... เพียงขยับองค์เล็กน้อยก็ทรงรู้สึกรวดร้าวไปทั่วกาย

โดยเฉพาะช่วงล่างที่โดยย่ำยีอย่างหนักทั้งราตรี

“ตื่นแล้วหรือ”เสียงทุ้มกระซิบแผ่วเรียกความสนใจให้หันไปหาคนข้างพระวรกาย ที่กุมผ้าชุบน้ำซับดวงพักตร์พระองค์อยู่ “เจ้าตัวรุม ๆ ข้าเลยเช็ดตัวให้”

“ขอบคุณ...”เสียงแหบน้อย ๆ ตอบกลับแผ่วเบา “ท่านเช็ดตัวให้เรา... ทั้ง เอ่อ...”

“ข้าเช็ดให้เจ้าทั้งตัวนั่นแหละ”รอยยิ้มล้อเลียนคลี่ส่งมาให้ “เจ้าจะได้สบายตัวไง ข้าไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำถึงขนาดปล่อยให้เมียตัวเองนอนเหนอะหนะไม่สบายกายหรอกนะ”

“... ท่านเป็นคนยังไงกันแน่นะ”คำเปรยกับตัวเองเบา ๆ แต่ในห้องที่เงียบงันเช่นนี้ จะลอดพ้นกรรณของคนที่อยู่เขียงข้างคงเป็นไปไม่ได้

“ข้าก็เป็นของข้าแบบนี้... มิได้อ่อนโยนเช่นเดียวกับเสด็จพี่ แต่ข้าก็มิได้โหดร้ายทารุณเช่นกัน ถึงข้าจะดูมักมาก แต่ก็มิเคยหักหาญผู้ใดก่อน”หัตถ์อุ่นลูบไล้ปรางนวล ก่อนที่จะเลื่อนลงไปดึงรั้งผ้าแพรขึ้นคลุมกายบาง “มีแต่เจ้าเท่านั้น ที่ข้าช่วงชิงมาโดยที่มิเต็มใจ แต่ข้าดีใจนะ ที่ได้ครอบครองเจ้าเช่นนี้... ถึงเจ้าจะรังเกียจข้าก็เถอะ”

“...”ศศินหน้าแดงเรื่อ หลบสายตาของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของตน “ใครว่า... ข้ารังเกียจท่าน”

รอยยิ้มกว่าฉาบทับพระพักตร์ ก่อนที่จะทรงเข้าฟัดแก้มนุ่มของคนร่วมเตียงอย่างเปรมปรีดิ์ ตัวศศินคคนานต์เองก็ปลงตกแล้ว ปล่อยทุกอย่างให้ไปตามฟ้าลิขิต แม้นจะรู้สึกอับอายและเสียศักดิ์ศรีที่ถูกย่ำยีจนช้ำไปทั่วร่าง แต่อย่างน้อยก็ขอมีความสุขบ้าง... คงมิเป็นไร

“ไม่เอาน่า... เราเจ็บนะ”เจ้าจันทร์น้อยผลักไสร่างใหญ่ออกเบา ๆ เมื่อกายของตนเริ่มสั่นคลอน “อย่าเพิ่งขยับตัวเราสิ มันเจ็บ...”

การผลักทีเล่นที่จริงครั้งนี้ แม้ใจของสุริยภาสวรจะอยากนัวเนียกับคนตัวหอมข้าง ๆ ต่อ แต่ก็ยังมิอยากให้เจ็บกายจนกลัวเกรงพระองค์ไปก่อน ยอมปล่อยตัวแต่โดยดี

“ทำไมเจ้าถึงยอมข้าโดยง่ายเช่นนี้ล่ะ... ศศิน”แม้นจะทรงรู้ว่าเป็นคำที่ไม่ควรถาม แต่ก็มิอยากให้คาพระทัย “เจ้ามีใจให้กับเสด็จพี่ไม่ใช่หรือ”

“เรา... ไม่ได้มีใจให้ใครทั้งนั้น”เสียงตอบที่แผ่วเบา ภายในห้องที่เงียบสนิท ดังก้องในพระกรรณ “เจ้า... องค์ชายรัชทายาท ทรงเป็นพระเชษฐาของเรา เรายังมิได้เลยเถิดไปกว่านั้น... และมิมีวันที่จะเป็นเช่นนั้น”

“เช่นนั้นหรือ... แต่ข้าว่าเสด็จพี่ทรงชมชอบเจ้าไม่น้อยเลยนะ”ภาสวรเหม่อมองไปยังบัญชาที่เปิดแง้ม “เสด็จพี่ดูตกพระทัยมากตอนที่เสด็จพ่อยกเจ้าให้ข้า... พระองค์ดูผิดหวัง... และเสียใจ”

“... แต่เราดีใจมากกว่า ที่เรามิได้ผิดต่อเจ้าพี่ศรวิษฐา... และไม่ต้องไปเป็นน้อยใคร”เสียงที่เอ่ยช่วงหลังนั้นแผ่วเบายิ่ง จนแทบฟังไม่รู้ความ

“จริงสิ... ข้าพอจะทราบแล้วนะ ว่าเหตุใดเสด็จพ่อจึงยกเจ้าในกับข้า”พระเนตรคมหันมาสบกับดวงตาสีไพลินสวยมราฉายแววสงสัย “คงเพราะข้าเกินในช่วงที่พระอาทิตย์ทรงกลด โหราหลายคนเชื่อว่าข้าเป็นบุตรของสุริยเทพลงมาเกิด... น่าจะเพราะเหตุนี้กระมัง”

“เราเกิดในวันที่พระจันทร์เต็มดวง และใหญ่ยิ่งกว่าทุกปี...”

“องค์ชายเพคะ...”เสียงของนางกำนัลสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาเรียกความสนใจของคนทั้งคู่ “โอสถเพคะ”

องค์ชายรองแต่อุษณกรรับถ้วยยาอุ่นมาไว้ในมือ แล้วค่อย ๆ ประคองร่างที่บอบช้ำด้วยน้ำมือขององค์เองขึ้นมาดื่มช้า ๆ

ตัวศศินเองก็ได้แต่แอบคิดในใจว่า ต้องดื่มยาขม ๆ นี่ไปอีกสักกี่ถ้วยกัน...

“ขอบใจเจ้ามาก ออกไปได้แล้วล่ะ”คำที่ฟังดูอ่อนโยนเสียจนไม่อยากจะเชื่อว่าออกมาจากโอษฐ์ขององค์ชายที่มักจะเกรี้ยวกราดอยู่เป็นนิจ ทำเอานางกำนัลที่ได้ยินตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนจะรีบจรลีตัวนางออกไปนอกห้องบรรทมอย่างว่องไว “ศศิน... ถึงอย่างไรเราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีกนาน ข้าอยากรู้จักเจ้าให้มากกว่านี้... เจ้าพอจะเล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟังได้หรือไม่”

“...ถ้าท่านอยากฟัง เราจะเล่าให้ฟัง... แลกกับการที่ท่านต้องเล่าเรื่องของท่านให้เราฟังบ้าง ท่านตกลงไหม”องค์ชายต่างถิ่นยื่นข้อเสนอ ซึ่งได้รับการตกลงด้วยการพยักหน้ารับของคนข้าง ๆ “ท่านรู้ไหม... เราเกิดมาก่อนเวลาอันควร ทั้งที่ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่ด้วยยาขับที่พระสนมอุสราหลอกล่อให้พระมารดาทรงดื่มเข้าไป ทำให้เราต้องออกมา วันนั้นพระมารดาตกเลือดอย่างหนัก เป็นเหตุให้ร่างกายอ่อนแอลงจนท่านหมอหลวงทูลแก่พระบิดาว่าพระนางมิสามารถมีครรภ์ได้อีก มันทำให้พระบิดาและพระปิตุลาโกรธามาก... แต่มิอาจที่จะลงโทษพระสนม ซึ่งเป็นเจ้าหญิงต่างแดนได้ ความโกรธนั้นเลยมาลงกับเรา... พระองค์ตั้งนามให้เราเป็นดวงจันทร์... ดวงจันทร์ที่ไม่มีแสงในตัวเอง ไม่สามารถเปล่งประกายได้ดังเช่นดวงดาวและพระอาทิตย์
จริง  แล้วพระองค์มิต้องการให้เราเรียนรู้อะไรเลยแม้เพียงสักอย่าง แต่เจ้าพี่สุริเยนทร์ทรงอดรนทนไม่ได้ เข้ามาสอนทุก ๆอย่างที่เชื้อพระวงศ์ควรรู้ให้กับเรา จนวันหนึ่งเสด็จพ่อทรงยอมให้พระอาจารย์มาสอนเรา เสด็จพี่จึงห่างออกไปดูแลพี่หญิงแทน ช่วงเวลาหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากมายนักหรอก... ก็มีระหกระเหิน เดินทางบ้าง โดนขังบ้าง โดนลงอาญาบ้าง... เพียงเท่านั้น”

“เท่าที่เราได้ยินมา องค์ภาณุวัฒน์มิโปรดเจ้าอย่างมาก... มิน่าใช่ด้วยเหตุผมเพียงเท่านี้กระมัง”

“เรื่องนั้น...”ดวงตาที่เคยประกายสดใส เศร้าหมองลงทันที เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต “เพราะเราเคยทำให้เจ้าพี่สุริเยนทร์เกือบสิ้นพระชนม์... จากที่ทรงมิโปรดเราอยู่แล้ว เสด็จพ่อจึงแทบตัดขาดกับเราเลยทีเดียว”

“ไม่ต้องเล่าแล้ว... ศีตภาน้อยของข้า ไม่ต้องเล่าแล้ว”พระองค์มิอาจจะสดับฟังน้ำเสียงที่แฝงความเจ็บปวดได้อีก เจ้าจันทราสำหรับพระองค์อย่างไรก็เหมาะกับรอยยิ้มมากที่สุดอยู่ดี

ระหว่างที่เล่าถึงความหลังของตนนั้น โดนที่ไม่รู้องค์ เจ้าศศินทรงซุกกายเข้ากับแผ่นอกหนาอุ่นที่เต็มไปด้วยมันกล้ามสวยงาม ราวกับจะขอการปกป้อง

แม้พระองค์จะไม่เก่งกาจเทียบเคียงทหารหาญ แต่ก็พอมีฝีมือติดตัวไว้ป้องกันตัวจากภัยร้ายอยู่บ้าง... เพียงเท่านั้น

กิริยาเช่นนี้ทำให้จ้าวสุริยาอกยิ้มอย่างเอ็นดูไม่ได้ ถึงแม้ว่าคนในอ้อมกอดพระองค์จะเป็นบุรุษ ถึงแม้ว่าจะไม่มีกายนุ่มนิ่ม ใบหน้างดงามเยี่ยงสตรี แต่ก็มีเสน่ห์

เสน่ห์ที่ทำให้รู้สึกหลงใหล

“ถึงตาข้าเล่าบ้างแล้วสิ”หัตถ์อุ่นเกลี่ยกลุ่มเกศานุ่มที่บดบังดวงหน้าของชายา (?) ของพระองค์ไปทันใบหูเบา ๆ “ข้าเกินในวันที่พระอาทิตย์ทรงกลด จึงได้ชื่อว่าสุริยภาสวร ซึ่งแปลได้ว่าพระอาทิตย์ เป็นโอรสคนที่สามของอุษณกร แต่เสด็จพี่รองของข้าเป็นโอรถของนางกำนัล ถึงได้ยศศักดิ์ แต่ก็มิมีสิทธิ์เสียงอันใด แต่เล็กข้าต้องเข้ารับการฝึกฝนทางการทหาร และพลเรือน ราชกิจต่าง ๆ เพื่อคอยเป็นกำลังให้กับเสด็จพี่รพี ข้ามีนิสัยเสียที่มากรักไปทั่ว อาจจะเพราะตอนอยู่ในกองทหารนั้นห่างจากสตรีไปพักใหญ่ เมื่อได้โอกาสเลยหยุดตนเองไม่ได้... ตัวข้ามิได้มีชายาอย่างที่ควร อาจจะเพราะข้าเป็นคนแบบนี้ล่ะมั้ง ถึงไม่มีใครเอา”
ทรงพูดด้วยน้ำเสียงกลัวหัวเราะ ทีเล่นทีจริง แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้าลึก ๆ

“แต่ตอนนี้... ข้ามีเจ้าแล้ว ข้าอาจจะไม่ดีพร้อมเหมือนเสด็จพี่ แต่ข้าจะพยายามเลิกนิสัยเดิม ๆ ของข้าไป... แม้มันอาจจะต้องใช้เวลา... แต่อย่าเพิ่งเกลียดข้าเลยนะ... ศศิน”สุริยภาสวนกระซิบอย่างเว้าวอน พระองค์ทรงกอดร่างเปลือยในอ้อมแขนแน่น ราวกับว่ากลัวเขาจะหายไปอย่างไรอย่างนั้น “ข้า... ข้าอาจจะทำให้เจ้าเสียใจ ในตอนนี้ ข้าอาจจะไม่ได้มีเจ้าเพียงคนเดียว แต่ข้าสัญญา ว่าข้าจะไม่ทิ้งเจ้าไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น... ข้าจะไม่ทิ้งเจ้า”

รอยยิ้มอ่อนโยนฉาบทับบนใบหน้า ตั้งแต่เดินทางมาก็ได้เตรียมใจเอาไว้บ้างแล้วว่าเรื่องมันอาจจะเป็นเช่นนี้... แต่ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สุดจะคาดเดาเกิดขึ้น...

อย่างเรื่องในตอนนี้... เพียงข้ามคืนก็ตกเป็นคนของที่เพิ่งพบหน้าได้ไม่นาน ได้รับบัญชาจากกษัตริย์เมืองแม่ให้มีโอรส ได้รู้ว่าเสด็จพี่รพีมีพระชายาแล้ว และ... ได้รู้ถึงความหลังของคนที่เป็นเจ้าของพระองค์

“ท่านสัญญากับเราแล้วนะ... จำเอาไว้ด้วยล่ะ”คำสัญญา... ที่เพิ่งเคยได้รับเป็นครั้งแรก คำสัญญาที่จะไม่ทิ้งให้พระองค์โดดเดี่ยว เคว้งคว้าง อีกต่อไป... เพียงเท่านี้ ก็พอพระทัยแล้ว...

จริง ๆ

“ศศิน... ข้ามีเรื่องจะบอกเจ้าด้วยล่ะ”เสียงทุ้มแหบพร่าเอื้อนเอ่ยขึ้นมาแผ่วเบา เรียกให้คนที่นอนซุกกายอยู่เงยพักตร์ขึ้นมองอย่างสงสัย “ราตรีที่ผ่านมา... กายเจ้าตอดรัดเรามาก... เร้าอารมณ์ยิ่งนัก”.

“...”

“เพราะอย่างนั้น... ข้าขออีกรอบนะ”

ไม่ว่าเปล่า สุริยะเจ้าถิ่นก็เริ่มบรรเลงบทเพลงรักบทเตียงอุ่นกับเจ้าจันทราดวงน้อยอย่างไม่รู้จักอิ่ม ไปอีกครึ่งค่อนวัน... เสียงครวญครางดังลอดออกบานทวารทำเอาทหารที่เฝ้าประตู และดรุณีน้อยทั้งหลายหน้าแดงไปตาม ๆ กัน

องค์ชายทั้งสองคงอิ่มหนำกันแล้ว... คงยังมิต้องการเครื่องเสวยในเพลานี้กระมัง...

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ไปหลายวัน... ยังดีที่ทั้งสองพระองค์ยังนึกได้ว่ายังต้องเสวยพระกะยาหาร... มิเช่นนั้นคงไม่ออมารับเดือนรับตะวันกันเลยกระมัง

*************************

วิ่งหลบกองอวยรพีแปป  :hao7:

อย่าเพิ่งวางใจจนกว่าเรื่องจะจบค่ะ 5555 ไม่มีอะไรที่คาดเดาได้จากคนแต่งคนนี้...

โค้งสองยังรออยู่... เตรียมรับมือในอีก 2-3 ตอนนะคะ  :bye2:

// วิ่งหลบระเบิด ฟิ้ว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 20-03-2014 22:36:45
โอ๊ยยยยยยยยยยย เขินหน้สแดง หูแดงไปหมดแล้ววววววววว :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :o8: :-[ :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-03-2014 22:43:13
ศศินถูกกินแล้ว อ๊ากก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 20-03-2014 22:46:36
 :pighaun: เลือดพุ่ง แง.. :z3: ค้างอ่ะ :z3: ตอนต่อไปขอเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ได้ไหมอ่ะเราอยากอ่านมันค้างมากกกอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 20-03-2014 22:47:12
เฮ่ยยยยยยยยยย ประเด็นเรื่องทำพี่ชายเกือบตายนี่มันคาใจมาก

รอโค้งหน้า จะรูปตัวยู หักศอก หรือ โค้งเอส เราก็พร้อมจะผ่านมันไปค่ะ

ชีวิตศศินน่าสงสาร  สุริยภาสวร นายต้องดีให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-03-2014 22:48:20
โค้งสอง?? 


น่ากลัวนะ....   :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 20-03-2014 22:49:38
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 20-03-2014 22:50:17
มิน่า ทำไมชื่อเรื่องถึงเป็นสุริยายอแสง ตกลงรพีไม่ใช่พระเอกแล้วอ่ออ :ling3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 20-03-2014 22:53:51
อุ้ยยยย ทำไมใจเราเทให้องค์รองไปแล้วล่ะ เอียงกะเท่เร่เลยด้วย :m20:

อะไรก็ตาม... ในเมื่อสัญญาแล้ว ก็อย่าทำให้ศศินน้อยเสียใจมากนักล่ะ ชีวิตรันทดมามากพอแล้ว  อยากให้มีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 20-03-2014 22:56:08
อยากเจอเหตุการณ์แหกโค้งรอบสองแล้วอ่ะ  ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น  nc  มาเป็นกลอนเชียว :hao6:  คือองค์น้องเป็นพระเอกใช่ป่ะ  คึคึ  ใจจริงเราไม่อยากให้ศศินเป็นเมียน้อยใคร  แบบนี้ก็ดีแล้ว  ข้าวใหม่ปลามัน  ไม่ยอมห่างกันเลย  เหตุการณื์ยังเป็นแบบนี้อีกหลายวัน  ฮ่าๆๆๆๆ  ไม่ออกมารับเดือนรับตะวันขนาดนั้นกันเชียว  อย่างนี้ก็ลูกดกบ่ะทีนี้  สุริยาภาสวรข้อร้องอย่าทำร้ายศศินให้ต้องช้ำใจ  ดูแลศศินดีๆนัะ  นี่แท้ให้หมดหน้าตักเลย  อน่าทิ้ง  อย่านอกกายนอกใจ  ไม่งั้นมี บึ้มมมมมม!!!!!!!!!!!!!  น่ะจร๊ะ  หุหุ :katai3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 22:57:19
เฮ่ยยยยยยยยยย ประเด็นเรื่องทำพี่ชายเกือบตายนี่มันคาใจมาก

รอโค้งหน้า จะรูปตัวยู หักศอก หรือ โค้งเอส เราก็พร้อมจะผ่านมันไปค่ะ

ชีวิตศศินน่าสงสาร  สุริยภาสวร นายต้องดีให้ได้นะ

ประเด็นนี้ เจอกันหลังจบค่ะSP // ถ้าได้แต่ง 55555

:pighaun: เลือดพุ่ง แง.. :z3: ค้างอ่ะ :z3: ตอนต่อไปขอเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ได้ไหมอ่ะเราอยากอ่านมันค้างมากกกอ่ะ

อูยยย ถ้าต่อ11 ไว รอ 12 นานนะคะ... (ยังไม่ถึงไหนเลยค่ะ บทที่ 12...)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 20-03-2014 23:00:19
ชอบสุริยะมากกว่ารพีนะ
และก็ไม่อยากให้ศศินมีหลายสามีด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 20-03-2014 23:05:04
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:


 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:


ไม่ต้องมีโค้งสองหรอก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 20-03-2014 23:06:50
อย่าแหกโค้งมากนะ

คนอ่านหัวใจจะวายยยย

โค้งเป็นไงไม่รู้

รู้แต่ว่าโค้งนี้โดนใจอ่ะ

ชอบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 20-03-2014 23:22:33
 :hao6: :hao6: :hao6:เจ้าจันทร์โดนตะวันกินไปเรียบร้อยซะแล้ววววววววว :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 20-03-2014 23:23:55
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:


มาต่อน้อยจังเลยนะ

รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 20-03-2014 23:28:13
เมื่อไรจะท้อง......(เค้าเพิ่ง...กันเอง) :ling1:
 :ling1: :hao6: o13 :katai3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 20-03-2014 23:37:11
เจ๋งอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 20-03-2014 23:39:19
ขอไปหายาแก้เมาก่อน....ประเดี๋ยวโค้งเยอะอิฉันมึน :m29:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: karmdodcom ที่ 20-03-2014 23:40:02
ยังคงชูป้ายไฟเชียร์น้องภาส....  :hao7:
ก็นั่นล่ะ ไม่อยากให้น้องศศินไปเป็นน้อยใคร...
ภาส ถึงไม่อ่อนโยน แต่พยายามแบบนี้ น่าเร้าใจกว่ากันเยอะ (อัลไลห์ของเอรํงงงง)
นับถือคนแต่งมากค่ะ ที่สามารถแต่งฉากอย่างว่าให้ออกมาเป็นกลอนได้  :call:
ว่าแต่ เมื่อก่อนศศินเคยไปทำอะไร คุณพี่เขาถึงได้เกือบมีอันเป็นไป

ปล. เดาไม่ผิดที่คูรน้องหญิงจะกลายเป็นตัวปัญหา คุณพี่นี่อนาคตยังเดาไม่ออก คุณพ่อของศศิน..ก็ยังเดาไม่ออก แต่คุณพ่อของน้องภาส...คิดว่าอาจมีปัญหาอีกนะ \\ส่่วนคุณรพีเราไม่แน่ใจ เพราะดูจืดจางในสายตาเราเหลือเกิน (ลำเอียงโคตรๆ)
รอตอนต่อไปค่าาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: mamajie ที่ 20-03-2014 23:49:15
เราเริ่มพอใจกับสาวมีของศศินคนนี้เเล้ว อย่าเปลี่ยนตอนโค้งสองนะได้โปรดดดดด ไม่อยากให้ดวงจันทร์ดวงน้อยดวงนี้ถูกย้ำยีอีก :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 20-03-2014 23:50:55
พ่อกับปู่ปัญญาอ่อนอ่ะ
สนมวางยาแท้ๆ  เด็กมันจะไปรู้อะไรด้วยว้า  ไปลงกับเด็กเฉยเลยเนาะ
นั่นหรอ ความคิดของเจ้าคนนายคน  ถึงว่าทำไมได้เป็นแค่เมืองขึ้นเขาอยู่อย่างนั้น  ไม่แปลกใจเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-03-2014 23:57:59
ยังคงชูป้ายไฟเชียร์น้องภาส....  :hao7:
ก็นั่นล่ะ ไม่อยากให้น้องศศินไปเป็นน้อยใคร...
ภาส ถึงไม่อ่อนโยน แต่พยายามแบบนี้ น่าเร้าใจกว่ากันเยอะ (อัลไลห์ของเอรํงงงง)
นับถือคนแต่งมากค่ะ ที่สามารถแต่งฉากอย่างว่าให้ออกมาเป็นกลอนได้  :call:
ว่าแต่ เมื่อก่อนศศินเคยไปทำอะไร คุณพี่เขาถึงได้เกือบมีอันเป็นไป

ปล. เดาไม่ผิดที่คูรน้องหญิงจะกลายเป็นตัวปัญหา คุณพี่นี่อนาคตยังเดาไม่ออก คุณพ่อของศศิน..ก็ยังเดาไม่ออก แต่คุณพ่อของน้องภาส...คิดว่าอาจมีปัญหาอีกนะ \\ส่่วนคุณรพีเราไม่แน่ใจ เพราะดูจืดจางในสายตาเราเหลือเกิน (ลำเอียงโคตรๆ)
รอตอนต่อไปค่าาา

555555 อ่านแล้วพอเข้าใจไหมคะ กลอนอ่า.. กลัวมันปิ้วอยู่เหมือนกัน TT // แต่งไว้ตอนม.6 น่ะค่ะ เรียนฟิสิกส์อยู่แล้วเซ็งๆ นั่งแต่งกลอนมาใช้ 5555 ปัจจุบันขึ้นปี2 ^+++^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: minakosun ที่ 21-03-2014 00:06:12
มีโค้งอีกประมาณ2-3ตอนข้างหน้า หรือว่า!? ศศินจะแท้ง!? //โดนกองอวยตบตี
ไม่เอาน่าคุณนักเขียนค่ะะะะ โค้งมากไปคนอ่านจะหายวาบๆเลยนะค่ะ
ไอ้โค้งแรกก็ทำเอาแฟนคลับองค์ชายรพีล้มป่วยกันเป็นแถบๆแล้ว
อย่าให้ได้มีโค้งที่น่าหวาดเสียวกว่านี้อีกเลย

แหมแต่ว่าองค์ชายรองก็โรงแมนซ์ติกดีนะค่ะ แต่เราเป็นกองอวยฝ่ายกลาง อิอิ
รออยู่ทุกวันนะค่ะะะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-03-2014 00:14:21
มีโค้งอีกประมาณ2-3ตอนข้างหน้า หรือว่า!? ศศินจะแท้ง!? //โดนกองอวยตบตี
ไม่เอาน่าคุณนักเขียนค่ะะะะ โค้งมากไปคนอ่านจะหายวาบๆเลยนะค่ะ
ไอ้โค้งแรกก็ทำเอาแฟนคลับองค์ชายรพีล้มป่วยกันเป็นแถบๆแล้ว
อย่าให้ได้มีโค้งที่น่าหวาดเสียวกว่านี้อีกเลย

แหมแต่ว่าองค์ชายรองก็โรงแมนซ์ติกดีนะค่ะ แต่เราเป็นกองอวยฝ่ายกลาง อิอิ
รออยู่ทุกวันนะค่ะะะ

ไม่แท้งงง ลูกของภาสวรอยู่ดีกินดี จ้ำม่ำค้า 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 21-03-2014 00:34:13
 o22
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-03-2014 01:12:24
ขออย่าไห้มีหลลยพระสวามีเลยสาธุ ไม่อยากให้เป็นน้อยใครด้วย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 21-03-2014 01:21:06
รอตอนต่อไปนะคะ
คนน้องหื่นฝุดๆ
 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 21-03-2014 01:23:11
อย่าแหกโค้งเป็นพอT^T


ยังมึนอยู่กับพระเอกตัวจริง

โผล่มาไม่กี่ตอน โฉบไปและ(╯﹏╰)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 21-03-2014 02:51:39
 :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun: :-[ :-[ :-[  :oo1: :oo1:

แต่โค้งหน้านี้จะเป็นไง  :serius2: :serius2:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 21-03-2014 07:40:39
คนเขียนมาวางระเบิดให้อ้าปากค้างอีกแล้วอ่ะ -O-
อุตส่าห์ทำใจได้ที่องค์สุริยะเป็นสวามีของศศิน แต่พอได้ยินว่าอย่าพึ่งวางใจก็เล่นเอาเหงื่อตกเลย - -;;
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: AiiSoul ที่ 21-03-2014 08:48:26
เรื่องนี้สนุกมากค่ะ ถูกจริตเรามาก
เราชอบแนวนี้~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 21-03-2014 10:27:59
สุริยภาสวรจะไม่ตายใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 21-03-2014 11:45:06
 :pighaun:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 21-03-2014 12:16:17
5555555555@ha ha @ฮาเกินบรรยาย
หื่นจังเลยนะสงสารศศินอะ5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: cinn1st ที่ 21-03-2014 12:29:44
ตอนนี้เอนเอียงไปหาคนน้องมากแล้ว รพีรีบๆมาเรียกคะแนนคืนเร้วววว -/-
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 21-03-2014 13:47:50
สัญญาแล้วนะ อย่าทิ้งกันนะ :o8:

จะโค้งไหนก็ไม่กลัวละ ไม่หวั่นแม้วันมามากโว้ยยย :angry2: //อัลไล
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 21-03-2014 15:19:02
เห้ยยยยยยย!! ไหงกลายเปงงี่ง่า

อะไรแว๊ มาต่อด่วนเลยยยยยย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-03-2014 15:52:44
คนเขียนมาวางระเบิดให้อ้าปากค้างอีกแล้วอ่ะ -O-
อุตส่าห์ทำใจได้ที่องค์สุริยะเป็นสวามีของศศิน แต่พอได้ยินว่าอย่าพึ่งวางใจก็เล่นเอาเหงื่อตกเลย - -;;

// ยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ^+++^//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 21-03-2014 15:55:12
แค่โค้งแรกิ ก็ใจหายจะแย่ละ ทำไมโค้งสองมาไว้จัง ขอเวลาทำใจแปปนะ ฮื้อออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 21-03-2014 16:12:43
 :katai4: :katai4: :hao6: :hao7: o13 :heaven
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 21-03-2014 16:30:19
ยังดีที่ศศินเหมือนจะมีความสุขดี
แต่ คะ คะ โค้งสอง มันยังจะมีอีกเหรอ T^T
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-03-2014 19:42:43
โค้งสองนี่คงไม่ได้หมายความว่ารพีจะชิงตัวศศินคืนไปนะ
ม่ายยยยยยยยยยยยย โค้งแบบนี้ไม่เอาาาาาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 21-03-2014 21:38:26
ไม่แท้งงง ลูกของภาสวรอยู่ดีกินดี จ้ำม่ำค้า 555

ทำไมไม่บอกว่าลูกศศิน  ทำไมถึงบอกลูกของภาสวร
หรือจะมีลูกต่างพ่อคะเนี่ย  กลัวใจคนเขียนอ่า   
มาม่าเอาเองล่วงหน้า 555+
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-03-2014 22:41:00
เหมือนมีคนเดาทางเรื่องถูก...

ว้าาา เอาอีกโค้งดีไหม เพิ่มอีกโค้ง แฮ่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 21-03-2014 22:51:31
ยังไงก็อยากให้ดีกับศศินมากๆแล้วกัน ไม่อยากให้เสียใจอีก  :mew2:


แล้วก็อย่าให้แหกโค้งมากนักนะ เสียว  :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 22-03-2014 00:22:02
ทำไมไม่บอกว่าลูกศศิน  ทำไมถึงบอกลูกของภาสวร
หรือจะมีลูกต่างพ่อคะเนี่ย  กลัวใจคนเขียนอ่า   
มาม่าเอาเองล่วงหน้า 555+

พออ่านคอมเม้นต์นี้  เริ่มคิดตาม  อ้าวเ_ยแล้วไง  จะมีคนได้ศศินอีกหรอ  แล้วจะเกิดเป็นลูกต่างพ่อสินะ  คนท่ี่จะมาเป็นพ่อของลูกศศินอีกคนคง้เป็นองค์รพีรึป่าว.......โอ้ยใจไม่ดี  เราไม่อยากให้ศศินมีหลายผัวอ่ะ  แล้วไม่อยากให้เป็นน้อยใครด้วย  ยุบหนอพ่องหนอ  มาต่อเร็วๆนะค่ะ  จะได้รู้กันไปเลย  :call:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 10 (P.10)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 22-03-2014 00:30:31
 ปูฟูกนอนรอ ศศิน (อยากเห็นเจ้าตัวเล็กเร็วๆจัง
) :katai3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-03-2014 01:29:25
ปฏิญญาที่ ๑๑

นงคราญงามสร่างขาวผุดผ่อง
เยื้องย่างย่องลุกล้ำเข้าตำหนัก
วาดหวังว่าจะได้พบสบพักตร์
กับคนรักที่เฝ้ารอหลายโมงยาม



สุริยภาสวรที่ลุกหายไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง กลับมาในตำหนักอีกคราก็บ่ายคล้อย ทิ้งกายลงนอนบนตักของศศินที่นั่งนิ่งพิงหมอนอิงอยู่บนเตียง...

ก็อยากจะลุกไปเดินอยู่ แต่ยังไม่ค่อยไหวเท่าไร เลยจำต้องนั่งเป็นหุ่นอยู่ตรงนี้

“เหนื่อยเหรอ”คำถามโง่ ๆ ที่แฝงแววเป็นห่วงเป็นใย เรียกรอยยิ้มจากคนที่เอาดวงหน้าซุกหน้าท้องของพระองค์อยู่ได้เป็นอย่างดี

“อือออออออ”เสียงครางยาวแหบดังตอบรับเบา ๆ “ใช้งานข้าเยี่ยงพวกทาส ไม่เห็นใจกันบ้าง”

“ท่านขาดราชกิจมาหลายวัน ย่อมมีงานมากมายรออยู่”ไม่คิดจะปลอบใจกันเลยนะ ดวงจันทร์น้อย รอให้ถึงยามราตรีเถอะ ข้าจะเล่นเจ้าให้น่าดู “จริงสิ... ภาสวร เรามีเรื่องอยากจะถามเสียหน่อย”

“อันใดหรือ ที่รัก”หยอดเล็กน้อย ให้พอหอมปากหอมคอ พระองค์โปรดปรานยิ่ง เมื่อแก้มใส ๆ นั้นขึ้นสีระเรื่อ ดูน่ารัก

“ทำไมเมืองของท่านต้องคิดยาแบบนี้ขึ้นมาหรือ”ดวงตากลมเหล่ไปมองถ้วยยาที่ว่างเปล่า บ่งบอกว่าที่พระองค์ตรัสนั้นหมายถึงยาอะไร

“เพราะราชวงศ์ของเรามักจะไม่ค่อยมีทายาทน่ะสิ”เสียงตอบอู้อี้ แต่ก็ยังพอจับใจความได้ตอบกลับมา “ยาที่ให้เจ้าดื่ม นอกจากจะทำให้สตรีที่ไม่สามารถมีบุตรได้ มีบุตรได้ และบุรุษสามารถตั้งครรภ์ได้แล้ว ยังช่วยให้คนที่มีบุตรยาก มีโอกาสที่จะมีบุตรมากขึ้นด้วย”

ก็พอจะกระจ่างอยู่หรอก... กระมัง

“ศศิน... ข้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้เลย”

“ให้เราทำอะไรให้ท่านทานไหม ภาสวร”เจ้าจันทร์น้อยเอ่ยถามคนที่อยู่ด้วยกันมานานนับเดือนด้วยรอยยิ้ม...  คิดดูแล้ว... เดือนนี้พระองค์แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเลย...

โดน... เสียจนหมดแรง อีกทั้งยังไม่หายเจ็บเสียที...

“หืม...”องค์ชายรองแห่งอุษณกรเงยพักตร์ขึ้นมามองศศิน รอยยิ้มกว้าง “เอาสิ”

“ท่านอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”

“เอ... เจ้าอยากทำอะไร ก็ทำเถอะ ข้าทานได้หมดอยู่แล้ว”องค์ภาสวรยันองค์ลุกขึ้นจากพระเพลานุ่ม แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่ไม่น้อย แต่แลกกับการได้ทานอาหารของศีตภา ก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่

“เช่นนั้น รอเราสักครู่นะ”ร่างโปร่งยันกายขึ้นจากแท่นบรรทม นางกำนัลประจำองค์ที่ถูกส่งมารับใช้ ปราดเข้ามาประคองพระชายา (?) ของพวกนางกันอย่างรู้หน้าที่

“ถ้าเจ้าไม่ไหว ไม่ต้องตอนนี้ก็ได้นะ ศศิน”เมื่อจ้าวสุริยาทรงเห็นผู้ที่อยู่ข้างกายพระองค์เดินหยั่งพื้นไม่เต็มบาท “ให้ห้องเครื่องทำให้ก็ได้ เจ้ามาพักเถอะ”

“มิเป็นไรหรอก แค่นี้เอง”รอยยิ้มอ่อนโยน บวกความตั้งใจที่มี ทำให้อีกฝ่ายมิอาจจะเอ่ยขัดขึ้นมาอีก ได้แต่ปล่อยให้ร่างโปร่งนั้นออกไปพร้อมกับนางกำนัลที่ช่วยพยุงกาย

“มีใครสักคนอยู่ด้วยนี่มันดีจริง ๆ เลยนะ”อดที่จะเปรยขึ้นไม่ได้ เมื่อคิดถึงอดีตที่ผ่านมา ความโดดเดี่ยวที่เคยมีก็หายไปหมด
เพราะคนที่เข้ามาในชีวิตอย่างไม่คนฝัน... เพียงคนเดียว



ดรุณีน้อยแรกรุ่น ผิวนวลเนียน กายบาง ขาวอวบอิ่มเยื้องย่างเข้ามาตามทางเดิน ผ่านสวนหน้าพระตำหนัก เข้ามาจนถึงพระราชฐานขององค์ชายรองแห่งอุษณกร

ตำหนักวสันตมาลี

“เรามาขอเข้าเฝ้าองค์ชายสุริยภาสวร”เสียงอันอ่อนหวานเอื้อนเอ่ยบอกกับทหารราชองครักษ์ที่รักษาการอยู่หน้าบานทวาร “กรุณาหลีกทางให้กับเราด้วย”

ทหารที่ได้ยินคำกล่าวหันมามองหน้ากันเชิงปรึกษา แม่นางนลินประไพเป็นสตรีที่องค์ชายทรงโปรดนัก ก่อนที่องค์ศศินจะมา...
แล้วพวกเขาควรจะปล่อยให้นางเข้าไปหรือไม่ดีนะ...

“กรุณาหลีกทางด้วย”น้ำเสียงเริ่มเย็นลง เมื่อทหารทั้งสองไม่ยอมเปิดทางให้นางเข้าไป “มิเช่นนั้นเราจะทูลต่อองค์ชายว่าพวกเจ้าเสียมารยาทกับเรา”

องครักษ์ทั้งสองยอมเปิดทางให้แม่หญิงเข้าไปแต่โดยดี มิได้กลัวคำขู่ แต่แม่หญิงเป็นคนโปรด ถ้าไปทำอะไรขัดใจมากมายเข้า เกรงจะมีภัยไปถึงครอบครัวพวกเขาได้

“องค์ชายเพคะ”เสียงทีคุ้นเคยเรียกให้องค์ชายเจ้าของพระตำหนักผู้ที่กำลังเคลิ้มฝันต้องผุดลุกขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว “หม่อมฉันมาเข้าเฝ้าเพคะ”

“นลินประไพ”สุริยภาสวรขานชื่อสตรีตรงหน้าอย่างตกใจ พระองค์ลืมสตรีนางนี้ไปเสียสนิทใจเลย “เจ้ามาได้อย่างไรกัน”

“องค์ชายทรงบอกกับหม่อมฉันไว้ว่ากลับมาแล้วจะทรงเสด็จไปพบหม่อมฉันที่เรือน นี่ก็ผ่านมาแรมเดือนแล้ว พระองค์ก็มิเสด็จมาเสียที หม่อมฉันเลยมาหาพระองค์เพคะ”ร่างอรชรแน่งน้อยเยื้องย่างอย่างกุลสตรีเข้ามาหาพระองค์อย่างนุ่มนวล “หม่อมฉันคิดถึงพระองค์มากนะเพคะ องค์ชาย”

นางย่อกายลงคุกเข่าที่ข้างพระแท่น ดวงตาหยาดเยิ้มช้อนมองอย่างออดอ้อน รอยยิ้มพริ้มพรายยั่วยวนให้รู้สึกลุ่มหลง

ถ้าเป็นเมื่อก่อน พระองค์คงฉุดนางขึ้นมาบรรเลงบทกามใส่ให้หนำพระทัย ก่อนจะเอาใจสักเล็กน้อยก่อนจากลา... แต่วันนี้ สายตาเช่นนี้ ใบหน้าเช่นนี้ ทั้งที่ยังเหมือนเดิม แต่กลับไม่ทำให้ดวงฤทัยสั่นคลอนได้อีก

ก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกับว่า คนที่ไม่เคยรู้จักกันมากก่อนเพียงคนเดียว จะสามารถเปลี่ยนแปลงพระองค์ไปได้ขนาดนี้ในเวลาเพียงน้อย...


แต่มันก็เป็นไปแล้ว


“องค์ชายเพคะ”เสียงหวานเอ่ยเรียกให้บุรุษที่อยู่ในห้องภวังค์หันมาสนใจนางอย่างออดอ้อน “องค์ชายมิทรงคิดถึงหม่อมฉันบ้างหรือเพคะ”

ผ้าคลุมไหล่ตกลงไปอยู่บนพื้นตั้งแต่เมื่อไร ไม่อาจทราบ เผยให้เห็นช่วงไหล่นวลเนียน เนินอกที่อวบอิ่ม ท่อนแขนเรียวยาว... ร่างน้อยขยับเข้ามาแนบชิด กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของน้ำปรุงที่ประทินโฉมมาอย่างประณีต

“องค์ชาย”ร่างบอบบางเคลื่อนกายเข้ามาใกล้องค์ มือเรียวเล็กนั้นค่อย ๆ ปลดผ้าแพรไหมที่พันกายออกอย่างช้า ๆ “หม่อมฉันมาหาพระองค์แล้วนะเพคะ”

จะบอกว่าพระองค์ทรงไม่รู้สึกอันใดเลยก็คงใช่ที่ พระองค์ทรงเป็นบุรุษ... มีหญิงสาวมาเปลือยกายตรงหน้า จะนิ่งเฉยไม่รู้สึกอะไรดั่งพระอิฐพระปูนคงไม่ใช่


ดรุณีน้อยเปลือยกายตรงหน้า
ผ่องนวลน่าสัมผัสหลงใหล
นงคราญเจ้าเผยเห็นอกหน้าใจ
เชิญชวนให้ไล้ลูบกายา


ปทุมทันเต่งงามยอดชมพูเรื่อเผยให้เห็นตรงหน้า ชวนให้จับต้อง รอยยิ้มยั่วเย้ามีจริตคลี่ส่งให้กระตุ้นดำกฤษณาที่เร้นในกายให้ประทุขึ้น มือเรียวเล็กไล้ลูบกายตน จากคอระหง ผ่านอกสร่าง ลงถึงเอวคอด แล้วเลื่อนลงไปยังผ้าไหมที่นุ่งบังช่วงล่าง นางปลดสายเข็มขัดเงินอย่างเชื่องช้าอ้อยอิ่ง ก่อนที่ผ้าไหมสีน้ำเงินปักลายงามจะลงไปกองอยู่บนพื้นตามผ้าส่วนอื่น ๆ ไป

กายบางยันขึ้นโอบกอดบุรุษผู้สูงศักดิ์ตรงหน้า บดเบียดร่างเข้าหาอย่างอ้อนออด หมายมั่นในดวงใจว่าจักต้องได้รับความรักอย่างเอ่อล้นเป็นแน่


และมันควรจะเป็นเช่นนั้น...


ร่างนวลเนียนของสตรีวัยแรกรุ่นบดเบียดวรกายแกร่ง เสียงหวานกระซิบกระเซ้า กระตุ้นให้เกินอารมณ์กาม อย่างที่ยากจะฉุดรั้ง


เสน่ห์แห่งสตรี... ใครเล่าจะทนทาน


องค์ชายรองยังทรงทำนิ่งเฉย แม่พระองค์จักทรงรู้สึกวูบวาบไม่น้อยแล้ว แต่ในพระหฤทัยยังนึกถึงดวงหน้าของเจ้าจันทราที่คู่กาย
ไม่อยากทำให้เสียใจ... แต่จะผลักไสโฉมตรูที่เคยเคียงหมอนเมื่อครั้งก่อนเก่าก็คงใช่ที...

ความคะนองมากรักของพระองค์ หวนกลับมาทำร้ายองค์เองก็ครานี้... ช่างน่าลำบากพระทัยยิ่งนัก... จักทรงทำอย่างไรดี

ก่อนที่จะมีอะไรเลยเถิดไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ก็มีเสียงประตูเปิดดังขึ้นเรียกสติขององค์สุริยภาสวรให้หวนกลับมาสู่ร่าง

“ศศิน!”


องค์บอบบางที่มีนางคอยประคอง
ผู้สนองตัณหาองค์ทุกคืนค่ำ
องค์ที่คอยมอบกายให้ความสุขล้ำ
ที่องค์จำติดตราตรึงในดวงใจ

ใบหน้าซีดดวงตาเบิกตื่นตระหนก
นางที่ยกสำรับมาต่างสั่นไหว
รอยยิ้มเซียวคลี่ฉาบส่งมาให้
พาหทัยไหวหวั่นอย่างกังวล


“เราคงมาผิดเวลาไปเสียแล้ว...”เสียงหวานแหบเอ่ยอย่างเรียบเฉย เฉกเช่นเดียวกับดวงพักตร์และพระเนตรที่ไม่ฉายแววใด ๆ “ขอเชิญฝ่าบาททรงปฏิบัติกิจต่อเถอะ เรา... ข้าพระองค์จักพานางกำนัลออกไปเองพะยะค่ะ”

จบคำไม่มีท่าทีอ้อยอิ่งให้เดินไปงอนง้อ แม้นสภาพร่างกายจะไม่สมบูรณ์พร้อม แต่องค์ศศินก็ทรงหันกายกลับหลัง เกินกลับออกไปทางเดิมที่ทรงเสด็จเข้ามา ร้อนถึงองค์ชายเจ้าถิ่นต้องรีบผลักไสนวลอนงค์ออกห่างแล้วลุกขึ้นเสด็จตามไป

“องค์ชาย องค์ชายเพคะ”นงเยาว์ผู้งดงามร้องเรียกองค์ชายที่เมินเฉยต่อนางอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่ก่อนหน้าทรงดีต่อนางเหลือแสน เพียงพบหน้าก็มอบความอบอุ่นให้ไม่รู้สิ้น...


แต่เหตุใดวันนี้จึงหมางเมินกันเช่นนี้


“แม่หญิงเจ้าคะ...”นางกำนัลวัยกำดัดนางหนึ่งเดินเข้ามาหานาง พร้อมด้วยผ้าแพรเนื้อนิ่ม คลี่ออกคลุมกายเปลือยอย่างแผ่วเบา “องค์ชายทรงมีองค์ศศินมาหยุดพระองค์แล้ว พระองค์ก็มิมีใจอื่นให้ผู้ใดอีก...”

“หมายความว่าอย่างไร เฟื่องฟ้า... มันหมายความว่าอย่างไรกัน”หยาดน้ำตาไหลรินลงมาอาบแก้มนวล “พระองค์มิรักข้าแล้ว มิใยดีกับข้าแล้วใช่หรือไม่... บอกข้ามาสิ เฟื่องฟ้า”

“ที่จริงแล้ว... พระองค์มิได้ทรงโปรดแม่หญิงมาตั้งแต่แรกแล้วเจ้าค่ะ”นางมิอาจจะโป้ปด จึงได้บอกกล่าวความจริงให้กับหญิงตรงหน้าได้เตือนใจตนเองอีกครา “แม่นางทราบแก่ใจดี ว่าพระองค์ทรงมีเล็ก มีน้อยไปทั่ว... แต่ทั้งเดือนที่ผ่านนับตั้งแต่องค์ศศินมาประทับในพระตำหนัก... พระองค์ก็มิได้ทรงไปพบหญิงสาวคนใดอีกเลย... แม่หญิงทำใจเถอะนะเจ้าคะ”

นลินประไพร่ำไห้อย่างโศกา อยากจะนึกแค้นผู้เข้ามาแทนที่ แต่ก็ไม่ถูกควร เมื่อนางก็รู้อยู่เต็มอกแต่ทำเป็นปิดตาข้างหนึ่งไว้ นึกคิดว่าสักวันผู้ที่นางรักจะหันมารักนางบ้าง...

แต่วันนี้นางรู้แล้ว... ว่าสิ่งที่นางเฝ้าฝันไม่มีทางเป็นจริง...


“ศศิน รอข้าก่อน”ร่างสูงวิ่งเข้าไปโอบกอดวรกายบางจากด้านหลัง โอบรัดไว้แน่นจนมิอาจที่จะเคลื่อนกายไปที่ใดได้ “ข้าไม่ได้ทำอะไรกันนางเลยนะ ศศิน ข้าไม่ได้ทำอะไร”

“ทรงทำกิจเสร็จแล้วหรือพะยะค่ะ”เสียงที่ถามกลับมาช่างเฉยชา จนทำให้คนได้รับฟังพระทัยเสีย พระองค์ยิ่งโอบรัดแน่นกว่าเก่า อย่างหวาดหวั่น

“ข้ามิได้ทำอะไรกับนาง ข้ากับนางไม่มีอะไรต่อกันอีกแล้ว”เสียงทุ้มกระซิบข้างหูแผ่วเบา ร่างที่เกร็งอยู่ในคราแรกค่อย ๆ ผ่อนลงช้า ๆ

“... ภาสวร ท่านอดทนอีกหน่อย... ถ้าเรามีทายาทให้ท่านแล้ว หลังจากนั้นท่านคงได้อยู่กับคนที่ท่านชอบพอ... มิใช่คนที่ถูกยัดเยียดให้เฉกเช่นข้า”น้ำเสียงที่เสียดสีตนเองให้ดูต่ำต้อย แอบตัดพ้อในโชคชะตาของตนทำดวงหฤทัยของอีกคนหนึ่งสั่นคลอน “ถึงวันนั้น ท่านกับเราคงหมดพันธะต่อกันแล้วกระมัง...”

“ไม่ ศศิน เจ้าต้องอยู่กับข้า ข้าจะไม่ให้เจ้าไปไหน”สุริยภาสวรพูดอย่างร้อนรน พร้อมทั้งจับร่างบางให้กลับหันหน้ามาหาพระองค์ “เจ้ากับข้าต้องไม่จากกันสิ ใช่ ข้าไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น เราจะต้องอยู่ด้วยกัน”

“ด้วยเหตุใดกันเล่า... ท่านกับเราถึงต้องอยู่ด้วยกัน...”

“เพราะ... เจ้าเป็นคนที่หยุดข้าได้... เจ้าเป็นเพียงคนเดียวที่ข้าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ อยู่ด้วยแล้วมีความสุข เป็นตัวของตัวเอง การมีเจ้านอนอยู่เคียงข้างทำให่ข้านอนหลับสนิทได้ทุกคืน...”พระองค์เอ่ยความในใจออกมาเบา ๆ ใบหน้าคมขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย “ข้า... ข้ารักเจ้าเข้าแล้วล่ะ ศศินคคนานต์”

ผู้ที่ได้สดับฟังยืนนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ องค์ภาสวรชอบพระองค์? เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ...

“ท่าน...”

“ข้ารักเจ้า ได้ยินไหม ศศิน ข้ารักเจ้า...”ไม่รอให้อีกฝ่ายต้องถามย้ำ พระองค์ขอบอกซ้ำไปก่อน ให้คนตรงหน้าได้มั่นใจ “ถึงเจ้าจะไม่รักข้า... แต่ข้าเป็นคนเห็นแก่ตัว ข้าจะกักเจ้าเอาไว้ให้อยู่กับข้า ใช้ชีวิตกับข้าไปจนวันตาย”

ใบหน้าหวานแดงก่ำ เมื่อได้ยินคำหวานที่มอบให้มา ใจดวงน้อยเต้นระรัวอยู่ในอุระราวกับว่าจะกระดอนออกมาอย่างไรอย่างนั้น...

ถึงแม้ว่าจะทรงโดนเอาเปรียบทุกค่ำคืน... โดนลุกล้ำเข้ากายอย่างไม่หยุดหย่อน ต้องเจ็บองค์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน...

แต่ถึงกระนั้นก็คะนึงหาคน ๆ นี้เมื่อไม่ได้อยู่ใกล้... ไม่อยากที่จะห่างไกลกัน... ยินดีที่ถูกโอบกอดเอาไว้ในอ้อมแขนที่อบอุ่นนั้นอย่างเปรมปรีดิ์ รู้สึกเจ็บยอกในอกเมื่อเห็นนงคราญนางนั้นเข้ามาใกล้ชิดจนแทบจะเป็นร่างเดียว... เช่นนี้ มันเรียกความความรักหรือเปล่า

ก็คง... ใช่


“เราก็รักท่าน... ภาสวร”

######################

หมดสต็อกนะคะ 5555 อีก 9 ตอนต่อไปจะเริ่มช้าแล้ว... ยังไม่จบบท 12

หวาน ๆ กันบ้างเนอะ ^^//

กลอนของบทที่ 10 พอจะรู้เรื่องไหมคะ แต่งฉากอย่างว่าเป็นกลอน...(ให้ไปถอดกันตามใจ 5555) ไม่รู้ว่าจะได้อารมณ์กันไหม..

บทนี้... ไม่มีอะไร บทหน้า... ก็ยังไม่มีอะไรอยู่ดี ยังไม่ถึงโค้งต่อค่ะ ^+++^//

 :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-03-2014 01:35:52
บอกรักกันแล้วววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-03-2014 01:43:38
อย่ามีโค้งเยอะเลยนะ  ใจหายใจคว่ำหมด  :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-03-2014 01:55:59
ความผูกพันมันกันๆให้แน่นๆ :impress2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 22-03-2014 02:02:58
อยากให้เป็นโค้งหวานๆจัง (มันมีเรอะ)

ดีเนอะผู้หญิงคนนี้รู้ว่าเขาไม่แลก็ยอมถอย อืมๆ.  เป็นคนที่ควรเอาเยี่ยงอย่าง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: GUN-SIRORAT ที่ 22-03-2014 03:02:38
พอได้ยินอย่างนี้ทำให้แน่ใจได้ว่า พระเอกอาจจะไม่ใช่ ภาสกร .
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 22-03-2014 03:33:24
คนเขียนจ๋า~~ :mew2:  เรื่องนี้จบแฮปปี้ไหมอ่ะ

ถ้าเป็นแบบที่พูดไป เร่าก็พร้อมจะฟันฝ่าไปกับคนเขียนและคนอ่านอีกหลายๆคนกับโค้งที่พากันแหก

แคนเขียนตอบให้คนอ่านได้รับรู้ พวกเราจะได้มีกำลังใจในการอ่านต่อ  เพราะตอนนี้กลัวใจคนเขียนเหลีือเกินกับการแหกโค้ง  กลัวจะช็อคตายตั้งแต่ยังอ่านไม่จบ :hao5:  แค่บอกใหเพวกเราชื่นใจ  เท่านั้นก็เพียงพอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 22-03-2014 03:34:52
ภาษาสวยจนคิดว่า นายเอกตายก็จะดันทุรังอ่านต่อ  :ling3:
อย่าโค้งมากเลยค่ะ เริ่มเมาเกวียนแล้ว(ยังขี่เกวียนอยู่)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-03-2014 03:43:25
คนเขียนจ๋า~~ :mew2:  เรื่องนี้จบแฮปปี้ไหมอ่ะ

ถ้าเป็นแบบที่พูดไป เร่าก็พร้อมจะฟันฝ่าไปกับคนเขียนและคนอ่านอีกหลายๆคนกับโค้งที่พากันแหก

แคนเขียนตอบให้คนอ่านได้รับรู้ พวกเราจะได้มีกำลังใจในการอ่านต่อ  เพราะตอนนี้กลัวใจคนเขียนเหลีือเกินกับการแหกโค้ง  กลัวจะช็อคตายตั้งแต่ยังอ่านไม่จบ :hao5:  แค่บอกใหเพวกเราชื่นใจ  เท่านั้นก็เพียงพอ

จบแฮปปี้ค่ะ ^+++^ ไม่มีใครตาย พระนายอยู่ด้วยกัน

ภาษาสวยจนคิดว่า นายเอกตายก็จะดันทุรังอ่านต่อ  :ling3:
อย่าโค้งมากเลยค่ะ เริ่มเมาเกวียนแล้ว(ยังขี่เกวียนอยู่)

ศศินไม่ตายนะคะ พระอาทิตย์สามดวงก็ไม่ตาย ดาราก็ไม่ต่ย อยู่กันครบบ

โค้งต่อไปไม่ได้น่ากลัว... นะ // ก็เดาๆกันได้อยู่~


ปล. อยากอ่านฉากอย่างว่าเป็นร้อยแก้ว หรือ ร้อยกรอง กันคะ ^^'
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-03-2014 03:56:07
งะ อยากอ่านอีกก!!
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: pasallatel ที่ 22-03-2014 05:26:15
เพิ่งมาอ่านค่ะเรื่องนี้
อยากบอกว่าพลิกล็อคมากเลยอะ
ตอนแรกตาค้างเลย นึกว่ารพีเป็นพระเอก อึ้งมากค่ะ o22
แต่ยังไงก็ขอให้ศศินมีความสุขบ้างนะคะ
ไม่อยากเห็นนายเอกทุกข์หนักมากกว่านี้แล้วจริงๆ
แต่ชีวิตคนก็นะ เลือกไม่ได้หรอกว่าจะสุขตอนไหน ทุกข์ยังไง
แต่ก็หวังว่าศศินจะมีความสุขในท้ายที่สุดนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 22-03-2014 06:02:58
เกือบไปแล้วไหมล่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 22-03-2014 07:31:34
รอลุ้นว่าจะมีอะไรหักมุมอีกบ้าง เอ...หรือว่าพี่ของพระจันทร์เจ้าจะต้องอยู่เมืองนี้เช่นเดียวกับจันทร์
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 22-03-2014 07:41:19
ขอบคุณมากคับปกติเปงคนไม่อ่านนิยายแบบนี้ศัพยากแต่พออ่านเรื่องนี้แล้วบอกตรงว่าอยากอ่านทุกวันสนุกมากผู้เขียนบอกเหลืออีก9ตอนรู้สึกเสียดายสั้นจังแต่ถ้าตีออกเปงรูปเล่มนี่จะซื้อเลย..ยังไงก็อย่าหายไปนานนะคับเดี๋ยวจะหมดสนุก........ ขอบคุณมากคับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 22-03-2014 07:42:11
เง้อเกือบแล้วพลาดง้อไม่ได้ละแย่เลย




จะมีแหกโค้งอีกเหรอเง้อๆลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-03-2014 07:42:30
เกือบไปแล้วมั้ยอะ เกือบมาเห็น อิอิอิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-03-2014 07:50:21
ผู้หญิงอย่างนี้ดีนะ ไม่น่าหมั่นไส้ รู้สถานะตัวเอง เก่งๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: minakosun ที่ 22-03-2014 09:26:24
อินังนั่นมันเป็นใคร!? แต่ช่างเถอะตอนต่อไปนางคงจะไม่ได้ออกแล้วล่ะมั้ง
ตอนนี้ภาสวรกันศศินใจตรงกันแล้ว! โอ้ย! ฟินเฟ่อ!!
ตอนนี้ยังธรรมดาๆอยู่ แต่ตอนหน้าคงจะมีโค้งแล้วล่ะมั้ง...

รอลุ้นว่าโค้งแต่ไปจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 22-03-2014 09:32:06
ลุ้นกันต่อไป   -____-
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 22-03-2014 09:32:50
นี่ถ้ามีอะไรกับแม่หญิงนางนั้นจริงๆ เราจะสนับสนุนคนเขียนให้มีการโค้งหักศอก (?) เลยค่ะ
แต่เห็นคนอื่นเค้าเมนว่าศศินของเราจะมีสวามีหลายพระองค์ ไอ้เราก็ใจหาย ผู้ต้องสงสัยอันได้แก่ องค์รพี กับสวามีองค์ปัจุบันและท่านพี่ของศศิน
ไม่น้าาา แค่นี่ศศินยังรันทดไม่พออีกเหรอค่ะ T-T
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 22-03-2014 10:06:59
รักกันแล้วๆ เขิน ~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 22-03-2014 10:51:09
 :hao7: :hao6: :hao6: :hao6: o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 22-03-2014 10:59:55
อยากบอกว่า ตูไม่น่าหลงเข้ามาอ่านเลย :serius2:


มันหักทุกมุม ทุกโค้ง ที่ตูคิดเอาไว้ :ling1:


มุมแรก คิดว่า ต้องเป็น ชายรพี ที่ได้คู่กับ ศศิ ฮีต้องเป็นคนเย็นชา เถื่อน แบบ จำเลยรัก ตบจูบ แต่กลับชอบศศิจริงๆ มีใจให้ แต่ ดันมีเมียซะนี่  :katai1:

มุมสอง คิดอีกว่า หรือจะเป็น แนว Incest (เขียนถูกไหมวะ) มีฉากจิ้นเยอะ แบบเย็นชา ไม่ใส่ใจ แต่พี่รักเอ็งนะ ประมาณนี้ ก็ไม่ใช่อีก :เฮ้อ:

มุมคาดไม่ถึง อยากจะกรีดร้อง :ling1: ฮีเป็นใครวะ  :a5:ไม่ได้ลงแรงลงใจ แต่ได้ลงกาย ศศิซะแล้ว แถมนิสัยก็สุดๆ แต่สุดท้าย ได้ทั้งกายได้ทั้งใจ ศศิ ไปครอง แต่ฮีก็พยายามจะทำให้เห็นว่า จะปรับตัวให้ได้ จนคิดว่า เอาวะขอให้จบที่ ภาสวร ทีเถ๊อะ :call:

อีกมุมสุดๆ คือ คนเขียน บอกมีแหกโค้งอีก ทำเอาตูจนมุมไม่รู้จะจิ้นไปมุมไหนต่อเลยอ่ะ :hao5:

อุ้ย เกือบลืม มุมหลบใน ที่คิดไว้ว่า เนื้อคู่ของศศิ อาจจะเป็น องค์ชายที่เกิดจากสนมที่ว่าเป็นพี่องค์ชายภาสวร ที่ยังไม่มีบท แต่สุดท้ายดาวรุ่งพุ่งแรงแซงงทุกทางโค้งกันแน่ o18 ตูคิดลึกและเยอะไปเปล่าวะ :mew5:

ถึงจะรู้ว่า แฮบปี้ อยู่กันครบ แต่จุดจบ ศศิอยู่กับใครกันแน่ ไม่อยากเดาแล้ว กลัวผิดคาด ผิดหวัง :ling2:

ต้องติดตามตอนต่อไปๆๆๆๆๆๆ ใช่ป่ะ :z2:

แต่ต้องชม คือ ภาษา  o13 สวยงาม ลื่นไหล ถึงมีคำผิดบ้างประปราย ก็แก้ไขได้จ๊ะ

เป็นกำลังใจให้น้องศศิต่อไป  :mew1:

อีกนิด แอบห่วง น้องศศิ คงไม่มีหลายสามีใช่ป่ะ ทั้งที่อ่านแล้วมันดูเข้าเค้า ถึงแม้จะมีเหตุให้ต้องมีก็เถอะ ไม่เอานะ ขอร้อง :mew6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 22-03-2014 11:49:41
ตอนนี้ดูน่ารัก(?) หวานมาก(?) เรากลัวโค้งต่อไปจัง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 22-03-2014 12:33:48
ลองอ่านซ้ำอีกรอบก็ยังคาใจเรื่องเลือดสีน้ำเงิน  :ling2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 22-03-2014 12:36:24
รอตอนต่อไปนะคะ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-03-2014 14:39:03
ลองอ่านซ้ำอีกรอบก็ยังคาใจเรื่องเลือดสีน้ำเงิน  :ling2:

สายเลือดสีน้ำเงินเป็นคำใช้เรียกแทน ขัตติยวงศ์ค่ะ...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 22-03-2014 14:50:29
เจอคนที่ใช่แล้วก็หยุดตัวเองลงได้แล้วววว

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 22-03-2014 15:22:54
ผู้หญิงคนนี้ยังดีกว่าพี่สาวศศินเยอะนะคะ
รายนั้นเขาไม่เคยให้ความหวัง  แต่บ้าไปเองแท้ๆ  แถมมาพาลน้องอีกต่างหาก   
เห็นผู้ชายดีกว่าน้อง  แหม่!  พูดแล้วขึ้น
 :angry2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Altasia ที่ 22-03-2014 16:09:21
ถ้าพลิกล็อคเรื่องพระเอกอีกเนี้ย หัวใจอาจจะวายได้เลยนะคะ

ตอนแรกเชียร์รพี คิดว่ายังไงซะรพีก็ต้องพระเอกล่ะ

ต่อมาดันเป็นภาสวรคนน้องที่ได้เปิดซิง ได้ทั้งตัวและหัวใจโดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ง่ายไปปะ? เลยทำให้ไม่ค่อยแน่ใจว่าภาสวรจะใช่พระเอกแน่เหรอ?

แต่ว่านะ ยังไงก็โดนภาสวรไปแล้ว ก็ไม่อยากจะให้โดนรพีอีก เดี๋ยวมันจะดูไม่ดีถ้าจะได้ทั้งพี่ทั้งน้อง ไม่อยากให้นายเอกดูเหมือนคนหลายผัว เอ้ย! หลายสามี

สงสารดวงจันทร์เจ้าเสียจริง

ปล.อันที่จริงแล้ว เราชอบดวงจันทร์นะ เราคิดว่ามันสวยและมีเสน่ห์ดี ทุกคืนเราจะต้องแหงนมองดวงจันทร์เสมอ ไม่ว่าจะจันทร์เสี้ยวหรือเต็มดวงก็ชอบหมด เพราะงั้นนะศศิน ถึงจะไม่มีใครรู้สึกถึงตัวตน หรือมีคนรังเกียจ แต่อย่างน้อยเราคนหนึ่งล่ะที่รักต๊ะเองที่สุด จุ๊บๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 22-03-2014 17:35:08
สงสารดวงจันทร์อีกแล้ว

ขอหวานหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-03-2014 17:50:50
มันมีช่วงเวลาที่หายไปอยู่นะคะ

เจอกันในตอนแทรกค่ะ ^^// (ห๊ะ มีตอนแทรกด้วย)

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 22-03-2014 21:30:02
อรั๊ยย้ะ! ไม่รู้ภาสกรใจง่าย(?)หรือนายเอกของเราใจเร็วเกินไปกันแน่น้อออ

โอ๊ะย้ะๆ จะเป็นยังไงกันแน่น๊าาาาา พระเอกจะใช่ภาสกรหรือไม่ติดตามได้ที่.................แฟนเพจไรท์ 5555

หรือไม่ก็นั่งรอไรท์ปั่นตอนต่อไปเสร็จก่อน แล้วค่อยลุ้นเอาๆ   :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-03-2014 22:15:09
 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 22-03-2014 23:24:38
 :z3: ตกลงว่าพระเอกยังไม่โผล่มาเหรอ หรือยังไง

 :really2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-03-2014 23:46:06
:z3: ตกลงว่าพระเอกยังไม่โผล่มาเหรอ หรือยังไง

 :really2:

ว่าจะให้ตามกันจนจบ 5555

พระเอกก็นี่แหละค่ะ สุริยภาสวร...

จริงๆตอนแรกจะให้รพีนะ.. แต่ก็พ่อคุณมีเมียแล้ว ไม่รวมน้อยทั้งหลายอีก...

ถ้าไม่มี จะให้ศศินขึ้นเป็นรานีตอนท้ายก็... อืมม ยกให้คนน้องดีกว่าค่ะ ^^'


ส่วนคู่นี้เขารักกันยังไงนั้น... รอดูตอนแทรกนะคะ ^+++^ // เตรียมมีดไว้สับภาสวรกันก็ได้... เชื่อว่าอยากจะสับเป็นชิ้นๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 23-03-2014 00:09:36
 :impress2: :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: mamajie ที่ 23-03-2014 00:24:36
ว่าจะให้ตามกันจนจบ 5555

พระเอกก็นี่แหละค่ะ สุริยภาสวร...

จริงๆตอนแรกจะให้รพีนะ.. แต่ก็พ่อคุณมีเมียแล้ว ไม่รวมน้อยทั้งหลายอีก...

ถ้าไม่มี จะให้ศศินขึ้นเป็นรานีตอนท้ายก็... อืมม ยกให้คนน้องดีกว่าค่ะ ^^'


ส่วนคู่นี้เขารักกันยังไงนั้น... รอดูตอนแทรกนะคะ ^+++^ // เตรียมมีดไว้สับภาสวรกันก็ได้... เชื่อว่าอยากจะสับเป็นชิ้นๆ
อยากกรี๊ดร้องให้ก่องโลกฮิ้วววววววววววววววววววววววววว   ดวงจันทร์ดวงน้อยไม่ต้องมีหลายผัวแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 23-03-2014 00:31:29
นางดีจน ทุกคนควรเอาเยี่ยงอย่างนะเขาไม่รักก็ยอมถอย

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

กลัวภาสวรจะไม่ใช่พระเอก ไม่เอานะ!!!

รอโค้งต่อไป
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-03-2014 03:02:18
อยากกรี๊ดร้องให้ก่องโลกฮิ้วววววววววววววววววววววววววว   ดวงจันทร์ดวงน้อยไม่ต้องมีหลายผัวแล้ว  :hao7:

^+++^ รอติดตามนะคะ

พระเอกคือ ภาสวร แต่ก่อนหน้าจะจบ... ไม่รู้นะ

// กลิ้ง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 24-03-2014 03:07:08
^+++^ รอติดตามนะคะ

พระเอกคือ ภาสวร แต่ก่อนหน้าจะจบ... ไม่รู้นะ

// กลิ้ง

เห็นบอกเตรียมมีดไว้สับตาองค์รอง  แปลว่ารายนั้นต้องทำอะไรนอกลู่นอกทางแน่ๆ
เพราะงั้น  ขอสนับสนุนให้ศศินมีหลายผัวโลดค่ะ
ถ้าอีกฝ่ายมันมีหลายเมีย   ทำไมศศินจะมีมั่งไม่ได้ล่ะเนอะ   หึหึ
 o18
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-03-2014 11:45:50
โอ๊ยไม่ไหว

สงสารศศินอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 24-03-2014 14:49:50
บอกรักกันแล้ว หวังว่าจะดราม่าไม่หนัก
ศศินเจ็บปวดมามากแล้วอยากให้มีความสุขซะที
แอบอยากรู้ตินนี้องค์รพีเป็นยังไงบ้าง จะเสียดายศศินรึเปล่า อย่ากลับใจรับบทตัวอิจฉานะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 24-03-2014 16:41:09
3P จบหมดเรื่อง กร๊ากกก // หลบฝ่าตีนคนอ่าน+คนเขียน  o18
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-03-2014 19:56:47
เตรียมมีดสับตามคนเขียนบอก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 24-03-2014 20:53:46
อีกไม่เกิน 2 วันมาอัพน้า กำลังกระดึ๊บๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 25-03-2014 12:41:38
 :mew3: :mew3: :mew3:บอกรักกันแล้วววววววววว :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 11 (P.11)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 25-03-2014 16:01:44
เห็นเรื่องนี้มานานแล้วแต่แค่บุ๊คมาร์คไว้ วันนี้มารอพี่ทำงานเลยลองอ่าน
ส่วนตังก็ชอบแนวแบบนี้อยู่แล้ว โบราณ(?)ดี
ตอนแรกโหววววหักมุมซะ อ่านไปบอกจะหักมุมอีก แอ่ก อย่าหักเยอะเลยนะสงสารคนอ่านหน่อย
หักยังไงก็ได้ให้ศศินคู่กับภาสวร  ไม่ต้องหักแบบ เคะกลายเป็นเมะ เมะกลายเป็นเคะนะคะ(ฮา)

โอ่ยทำไมหวั่นในใจแปลกๆ(ฮ่าๆ)



พระเอกคือ ภาสวร แต่ก่อนหน้าจะจบ... ไม่รู้นะ



ก่อนหน้าจะจบหมายความว่ายังไงค๊าาาาาาTT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-03-2014 03:29:52
ปฏิญญาที่ ๑๒

กลิ่นเหม็นหืนชวนองค์เหียนอาเจียน
ร่างนวลเนียนเซียวซีดทรุดลงหน้า
บานทวารไร้แรงเรี่ยวซึ่งกายา
โปรดใครมาช่วยข้าให้ปลอดภัย



ร่างสูงโปร่งยันกายขึ้นจากขอบสระเล็ก ๆ ในห้องสรง นางกำนัลตรงปรี่พากันเอาผ้ามาเช็ดพระวรกายให้ ก่อนที่จะสวมชุดทรงอย่างนุ่มนวล

“เรียบร้อยแล้วเพคะ”เสียงหวานเอ่ยทูลต่อผู้เป็นนายเมื่อจัดชุดทรงเสร็จเรียบร้อยแล้ว “ทรงดูยิ้มแย้มกว่าปกตินะเพคะ มีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นหรือเพคะ”

“ข้าดูมีความสุขขนาดนั้นเลยหรือ”เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามกลับ ก่อนที่จะทรงหันพระวรกายไปหานางกำลังคนสนิท “ไม่มีเรื่องอันใดหรอก ข้าเพียงรู้สึกดีก็เพียงเท่านั้น”

“โถ่ หม่อมฉันก็คิดว่าองค์สุริยภาสวรทรงทำอะไรให้พระองค์รู้สึกเปรมปรีดิ์เสียอีก”นางทำหน้าผิดหวังน้อย ๆ ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างร่าเริง “ช่างเถอะเพคะ หม่อมฉันรอดูวันอื่น ๆ ก็ได้เพคะ”

“เจ้านี่นะ... หวังอะไรกันอยู่กันแน่”

“องค์ศศินเพคะ”นางกำนัลอีกนางหนึ่งก้าวเข้ามา พร้อมด้วยถ้วยที่พระองค์เริ่มรู้สึกเกลียดมันขึ้นมาไม่น้อย... “โอสถเพคะ”

“ต้องดื่มมันไปอีกนานแค่ไหนกันนะ”รำพึงเบา ๆ กับองค์เองก่อนที่จะทรงรับถ้วยโอสถมาดื่มแต่โดยดี คราแรกที่ได้ลิ้มสัมผัสก็รู้สึกกว่าขมอยู่หรอก... แต่ให้ดื่มทุกวันเช่นนี้ก็ทรงชินไปเสียแล้ว “ขอบใจเจ้ามาก”

“มิเป็นไรเพคะ องค์ชาย”นางถดกายคลานออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วอย่างนอบน้อม

“จะทรงเสด็จไปไหนก่อนไหมเพคะ”นางกำนัลประจำองค์ทูลถามเสียงใส ถึงแม้นจะทรงเป็นดั่งเชลย แต่ก็เป็นเชลยที่มีสิทธิ์จะไปไหนมาไหนภายในวังแห่งนี้ได้ตามอำเภอใจ โดยที่จะต้องอยู่ในสายตาของนางกำนัลและทหารภายในวัง...


ก็ยังดีกว่าโดนกักขังไว้ในตำหนัก...


“คงยังไม่ได้หรอก...”ถ้าทรงเสด็จไปตอนนี้แล้วสุริยภาสวรตื่นขึ้นมาไม่พบพระองค์ เดี๋ยวจะวุ่นวายกันอีก...

“อ่อ... องค์ชายสุริยภาสวรยังมิทรงตื่นบรรทมสินะเพคะ พระองค์จะทรงรอองค์ชายให้แต่งองค์เรียบร้อยก่อน ถึงจะทรงเสด็จออกไปใช่ไหมเพคะ”นางพูดด้วยเสียงกระเซ้า เย้าแหย่ ถ้าเป็นนายคนอื่นคงได้โดนโบยไปแล้วเป็นแน่... โชคดีนักที่ได้องค์ชายต่างเมืองผู้นี้เป็นนาย

“เจ้านี่นะ...”มิทรงตอบคำถาม แต่ทรงเสด็จกลับไปที่ห้องบรรทมแทนคำตอบ

ผิดจากที่คิดเสียที่ไหนกันล่ะเพคะ

นางกำนัลคนสนิทได้แต่แอบยิ้ม นับตั้งแต่วันที่ถูกส่งมารับใช้องค์ศศิน นางรู้สึกมีความสุขนัก ที่ได้แอบมองนายทั้งสองของนางหยอดคำหวานใส่กันบ้าง แตะเนื้อต้องตัวกันบ้าง ถ้ามีองค์ชายน้อยเมื่อไหร่ ตำหนักแห่งนี้คงครื้นเครงน่าดูชมเชียว

ไปขอพรต่อทวยเทพให้ทรงมีองค์หญิงน้อย องค์ชายน้อยไว ๆ ดีกว่า


“ท่านตื่นแล้วหรือ ภาสวร”เจ้าจันทร์เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ ด้วยปกติแล้วถ้ามิทรงเข้ามาปลุก ดวงสุริยาข้างกายก็มิเคยลุกขึ้นตื่นจากนิทราเลยสักครา

“ฮืม...”ดวงตาคมปรือปรอย เกศานุ่มยุ่งฟู สุริยาภาสวรยันกายลุกขึ้นจากแท่นบรรทม โดยลืมองค์ไปว่าภายใต้ผ้าแพรที่ปิดอยู่นั่น มิได้สวมอาภรณ์ใดไว้ "ข้าต้องไปหาเสด็จพี่... ไม่รู้จักทรงเรียกทำไม”

“ก่อนที่ท่านจะไปไหน... ควรสวมใส่เครื่องทรงก่อนดีกว่า”ถึงแม้ว่าจะเห็นกันอยู่ทุกราตรี เกินเลยไปไกลแล้ว แต่ก็อดที่จะรู้สึกประหม่ามิได้...

สุริยภาสมองเหล่มองร่างที่ยืนอยู่ไม่ไกลด้วยสายพระเนตรกรุ้มกริ่ม ก่อนที่จะทรงฉุดเอาศศินเอามาโอบกอดและมอบจุมพิตยามเช้าให้อย่างหวานชื่น

“ชักไม่อยากไปไหนแล้วสิ”

“อย่าทำสันหลังยาว ท่านต้องไปจัดการราชกิจของท่านให้เสร็จก่อน”นิ้วเรียวบีบจมูกโด่งเบา ๆ รอยยิ้มอ่อนโยนคลี่ส่งให้อย่างเคย “เรารอท่านอยู่ที่นี่แหละ มิได้ไปไหนไกลเสียหน่อย”

“ถ้ากลับมาข้าไม่พบเจ้า ข้าจะลงโทษเจ้าให้สาแก่ใจ”ริมฝีปากอุ่นทาบทับกลีบปากนุ่มเบา  ก่อนที่จะทรงไปทำกิจธุระของตน แล้วจึงเสด็จออกจากตำหนักไป


“เสด็จไหนไหมเพคะ”นางกำนัลคนสนิทคลานเข่าเข้ามาหาทันที เมื่อเห็นองค์ชายผู้เป็นเจ้าของตำหนังเสด็จออกไปแล้ว

“น้อย ดูเจ้าอยากออกข้างนอกจริงเลยนะ”พระพักตร์มนเบือนมาหานางกำนัลข้างกาย “เจ้าอยากออกไปพบผู้ใดหรืออย่างไรกัน”

“โถ่ องค์ชาย อย่าทรงทำเหมือนจับผิดหม่อมฉันเช่นนั้นสิเพคะ”นางกำนัลสาวค้อนผู้เป็นนายน้อย ๆ สองแก้มแดงปรั่ง”ก็ทรงรู้อยู่นี่เพคะ”

“รู้อะไรหรือ”รอยยิ้มบางเบาฉาบทับบนดวงหน้า ดวงตาหวานนั้นแอบแฝงด้วยแววตาที่พราวระยับ นานครั้งนักที่จะทรงหยอกผู้ใดเล่น

“องค์ชายเพคะ”

“เราไม่หยอกเจ้าแล้วก็ได้”วรกายบางลุกขึ้นจากพระที่นั่ง ทรงรู้สึกหน้ามืดนิด ๆแต่เพียงชั่วครูก็หายไป “เราจะไปเดินเล่นในสวนเสียหน่อย เจ้าจะไปพบใครก็ไปเถอะ”

“เพคะ”


สุริยภาสวรเดินตรงไปยังตำหนักของผู้เป็นพี่อย่างเร่งรีบ หมายมั่นในพระทัยว่าจะทรงรีบทำกิจทั้งหลายให้เสร็จแล้วจะรีบกลับไปยังตำหนักของพระองค์

“เสด็จพี่ทรงเรียกน้องมี มีอะไรหรือพะยะค่ะ”ร่างสูงนั่งลงบนพระที่นั่งตรงข้างผู้เป็นเชษฐาอย่างสบาย ๆ นัยเนตรกวาดมองฎีกาที่อยู่บนโต๊ะ ก็มิได้มากมายอันใด...

“เดี๋ยวนี้ถ้าพี่ไม่เรียก เจ้าก็มิมาให้เห็นหน้าเลยนะ ภาสวร”รพีธรณินวางของในมือลง ก่อนจะเงยพักตร์ขึ้นสบหน้าอนุชา "ศศินช่างเก่งกาจยิ่งนัก ที่ทำให้น้องชายของพี่อยู่ในกำมือของเขาได้”

“เจ้าพี่ก็ทรงพูดเกินไป”แม้นจะเป็นเรื่องจริงแท้ แต่จักให้ยอมรับกันเลยคงมิได้ เพียงแค่นี้ก็เสียเชิงองค์ชายมากรักไปไม่น้อยแล้ว

“งั้นรึ”องค์รัชทายาททรงยิ้มขำ ดวงเนตรคมจับจ้องน้องของตนอย่างรู้ทัน “ขนาดแม่นางนลินประไพคนโปรดของเจ้า เจ้ายังละทิ้งเพื่อไปตามศศินได้ เช่นนี้หรือ ไม่อยู่ในกำมือของเจ้าจันทรา”

“น้องเพียงมิอยากให้เขาต้องเสียใจ”

“รักมากหรือ”

“น้องมิรู้... ถ้าการที่ไม่อยากห่างไกลกัน ไม่อยากให้ใครมองเห็นศศิน ไม่อยากให้ศศินมองผู้ใด ถ้าไม่มีเขาน้องก็มิอาจหลับนอน มิได้พบหน้าก็รู้สึกไม่อยากอาหาร ถ้าเช่นนี้เรียกได้วารักมาก... ก็คงเป็นเช่นนั้น”สุริยภาสวรตอบกลับอย่างสัจจริง

รพีธรณินทอดพระเนตรมองอนุชาด้วยวามรู้สึกที่หลายหลากนัก...


ในคราแรกพระองค์คิดไว้ว่าถ้าศศินอยู่กับภาสวรแล้วไม่มีความสุข จะทูลต่อเสด็จพ่อให้ยกศศินมาให้พระองค์... แต่เจ้าจันทร์ก็มีรอยยิ้ม

ในคราต่อมาก็ทรงคิดว่าถ้าภาสวรยังรักในแม่นางนลินประไพ ก็จะทรงรอให้ศศินมีโอรสอย่างที่เสด็จพ่อต้องการแล้วขอตัวเขากลับคืนมาให้อ้อมแขนนี้


แต่ภาสวรรักศศิน...


ในขณะเดียวกันศศินก็รักภาสวร


ทั้งสองรักกันก็เป็นเรื่องน่ายินดี...


แต่พระหฤทัยของพระองค์เล่า... จักต้องเจ็บอยู่แบบนี้ต่อไปเช่นนั้นหรือ... ใจเมื่อพระองค์ก็ทรงชอบพอในตัวของเจ้าศีตภาเช่นกัน

มันไม่มีหนทางใดที่จะทำให้ศศินมารักในตัวพระองค์ได้เลยหรือ... แต่ถ้าเป็นเช่นนั้น อนุชาที่รักของพระองค์คงจักต้องเจ็บปวดเป็นแน่...

จะทรงเป็นพี่ที่ใจดำทำร้ายน้องของตัวได้ลงหรืออย่างไร...

พระองค์ต้องทนเจ็บเช่นนี้อย่างนั้นหรือ...

“เสด็จพี่ เสด็จพี่พะยะค่ะ”สุริยภาสวรร้องเสียพระเชษฐาของพระองค์อยู่หลายครั้ง “ทรงเป็นอะไรหรือพะยะค่ะ เสด็จพี่”

“ไม่มีอะไรหรอก...”


ศศินคคนานต์เดินอย่างเชื่องช้าในสวนที่เต็มไปด้วยดอกไม้ พืชพรรณต่าง ๆ ที่ถูกจัดแต่งอย่างงดงาม มีบ่อน้ำเล็ก ๆ อยู่ไม่ไกล น้ำนั้นใสจนเห็นก้นบ่อ มีหมูมัจฉาแหวกว่ายอย่างเริงรื่น

หมู่มัจฉาสีสันงามจับตา
ว่ายแหวกมาผ่านไปในวารี
เจ้าช่างดูเริงรื่นล้นสุขี
พาลข้านี้ยิ้มตามอย่างเริงใจ

ทรงประทับมองมวลนกที่โผบินอยู่บนท้องนภา ฝูงปลาที่แหวกว่ายในน้ำอยู่พักใหญ่ ตะวันเริ่มทอแสงแรงขึ้น จึงทรงตัดสินใจกลับเข้าตำหนัก

วันนี้แปลกประหลาดนัก คราที่สองแล้วที่ทรงลุกแล้วรู้สึกเวียนศีรษะ แต่ก็ยังทรงประคององค์เดินกลับเข้ายังตำหนักได้อยู่

กลิ่น...

กลิ่นอะไร... เหตุใดช่างชวนเหียนเช่นนี้ ชั่วยามที่แล้วยังมิมีกลิ่นเช่นนี้เลยมิใช่หรืออย่างไรกัน

มึน... มันหัวยิ่งนัก ยิ่งก้าวเข้ามาในตำหนักลึกขึ้นเท่าไหร่ กลิ่นที่รบกวนนั้นยิ่งแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ

ร่างเพรียวทรุดลงหน้าบานทวารของห้องบรรทม พระองค์ทรงไร้เรี่ยวแรงที่จะเปิดเข้าไปแล้วจริง ๆ ยิ่งสูดดมกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นี้ ยิ่งทำให้ทรงรู้สึกคลื่นเหียนยิ่ง

แต่จะทรงอาเจียนออกมาก็มิมีอะไรจะออก...

“ภาสวร... ช่วยเราด้วย”เสียงหวานอ่อนระโหยครางแผ่วเบา หวังให้คนรักที่ทำงานอยู่มาช่วยพระองค์ให้พ้นจากความกระอักกระอ่วนแสนอึดอัดนี้

สติที่พยายามประคองไว้นั้นเริ่มหดหายลง ความมืดมิดเริ่มเข้ามาแทนที่ แต่ก่อนที่จะทรงสิ้นสติได้ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นลั่น

“ศศิน”องค์ภาสวรที่เพิ่งเสด็จกลับมาถึงร้องลั่นพระตำหนัก ร่างสูงโปร่งวิ่งเข้ามาโอบอุ้มชายา (ที่ยังมิได้แต่งตั้งอย่างเป็นทางการ) ของตนขึ้นอย่างร้อนรน “เจ้าสม ไปตามหมอหลวงมาเดี๋ยวนี้ เร็ว”

“พะยะค่ะ”ทหารผู้ติดตามคนสนิทวิ่งออกจากพระตำหนักไปอย่างรวดเร็ว โดยมิสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหม แม้นจะเจอขุนนางที่ศักดิ์ใหญ่กว่าสักเพียงไรก็ตามที

องค์ชายรองทรงพาร่างที่ซีดเซียวห้องบรรทมไป ก่อนจะทรงค่อย ๆ วางร่างที่ไร้เรี่ยวแรงลงบนพระแท่นอย่างนุ่มนวล

“อย่าเป็นอะไรไปนะ ศศิน”

หมอหลวงที่สมไปตามนั้น วิ่งพรวดพราดมาอย่างรวดเร็ว โดยมิห่วงซึ่งภาพลักษณ์และสังขารของตน แม้นจะรู้สึกเหนื่อย แต่ชีวิตคนสำคัญที่สุดสำหรับเขา

“ท่านหมอ ศศินเป็นอันใดหรือ”เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเมื่อหมอหลวงวัยกลางคนค่อนไปทางปลายจับชีพจรของครึ่งชีวิตของพระองค์เสร็จ

“องค์ศศินมิได้เป็นอัดใดหรอกพะยะค่ะ องค์ชาย”รอยยิ้มยินดีฉาบทับบนใบหน้าที่มีริ้วรอยตามวัยที่ล่วงเลย “ยินดีด้วยนะพะยะค่ะ องค์ศศินทรงตั้งพระครรภ์แล้วพะยะค่ะ”

“ตั้งครรภ์!!”

#################

มาแล้วค้าาา แต่งเสร็จลงเลย เจอคำผิดบอกกันได้ค่ะ

ตอนหน้าจะเป็นตอนแทรก ในช่วงเวลาที่ศศินเข้ามาอยู่กับภาสวรใหม่ ๆ นะคะ ^^ (เตรียมเชือด)

ค่อย ๆ เข็นออกมา แฮร่

โค้งต่อไป... ไม่หลุดไปจากที่คาดกันหรอกค่ะ อยู่แถว ๆ นั้นแหละ แต่สุดท้ายก็คู่กับภาสวรอยู่ดี...

// รพีมีบทแล้วนะคะ 55555  :z2:

ปล. ฉาก... อยากอ่านเป็นบทความหรืออ่านเป็นกลอนดีคะ 5555 (เจอต้อนก่อนไปแล้วบทนึง... อ่านรู้เรื่องไหมคนแต่งไม่รู้ ไม่กล้าให้เพื่อนดูตอนที่แต่งเสร็จในคาบฟิสิกส์...)

ปล.2 เรื่องต่อไปจะแต่งแนวมหาลัย(ทำหน้ามุ่งมั่น) >>> ไร้ซึ่งความถนัดในแนวนั้น T^T (เอาจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิให้จบก่อนดีกว่าไหม มิดไนท์ เอิ๊ก)

//เพ้อตอนตีสาม...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 26-03-2014 03:49:36
หนุ่มมหาลัยอย่างเพิ่งเล๊ยยยยยยย
เอาจ้าวหัวใจให้จบก่อนตัวเธอ   :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-03-2014 04:47:25
หนุ่มมหาลัยอย่างเพิ่งเล๊ยยยยยยย
เอาจ้าวหัวใจให้จบก่อนตัวเธอ   :sad4:

 :katai4: ปั่นๆๆๆๆ แต่งเสร็จอีกบทแล้วน้า... เหลืออีก เอ่อ 12 บท(จาก 35 บท)ก็จะจบแล้ววว จ้าวหัวใจ ^+++^//

เอ่อ... ทำไมเรื่องโน้นบทเยอะ สุริยามีแค่ 20 เองหว่า...  :-[

#วิ่งหนีก่อนโดนจิ้ม  :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 26-03-2014 05:11:16
ท้องแล้วๆ ภาสวรจะต้องทะนุถนอมศศินให้มากนะ

ไม่งั้นจะหันไปเชียร์รพี

 :z4: :z4: :z4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 26-03-2014 06:04:15
ท้องแล้วจ้าาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 26-03-2014 06:17:52
ท้องแล้วไวจริงๆ


รออ่านตอนต่อไปค้าบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mancha KHIRI ที่ 26-03-2014 06:35:21
ท้องแล้ววววว ว่าแต่...จะหลุดโค้งออกนอกทางหลักจริงๆ ด้วยง่ะ ไว้จะเอายาดมจ่อจมูก โบกพัดเรียกลมรอให้เขาหาทางกลับทางหลักกันก็แล้วกันนะคะ


ใกล้จิเป็นลม~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 26-03-2014 06:49:13
จุดพุ เย้!! ท้องแล้ว องค์รพีอย่าแย่งองค์ศศินนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 26-03-2014 06:57:11
โอ้พระเจ้ามีลูกแล้วว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mooping-7 ที่ 26-03-2014 07:09:39
 :L1:  รอลุ้นตอนหักมุม
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: krit24 ที่ 26-03-2014 07:18:17
ป่องแล้ว หนูศศิน ต้องเตรียมกินมาม่าหรือเนี่ย อย่าชามโตมากนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 26-03-2014 07:26:08
สมควรแก่การท้องนะ แหม บ่อยซะขนาดนั้น :-[
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 26-03-2014 07:30:55
ตั้งครรภ์แล้วภาศวรจะทำอย่างไร
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 26-03-2014 07:50:45
รพีเอ๋ย...จะทำอะไรก็ใคร่ครวญให้รอบคอบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 26-03-2014 08:05:01
เย้ๆๆ ท้องแล้ววววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 26-03-2014 08:50:15
ตอนต่อๆไป เหมือนจะดราม่า  o22
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 26-03-2014 09:03:43
กรี๊ด ท้องแล้ว ดีใจจัง หวังว่าดราม่าจะไม่มากนะคะ อยากเห็นศศินมีความสุขจริงๆสักทีค่ะ :hao5:


ปล. อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว อยากรู้ว่าเค้ารักกันได้ไง อิอิ
ส่วนฉากนั้น ขอโหวตเป็นร้อยแก้วละกันค่ะ เพราะได้อ่านร้อยกรองไปแล้วนี่นา  :haun4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 26-03-2014 10:25:11
ว้ากกกกกกกกกกกก!!!!! ศศินท้องแล้วอ่ะ :katai2-1:

ขิอเป็นโอรสได้ไหมค่ะคนเขียน  พอดีอิชั้นชอบเด็กผช.อ่ะคะ โฮะๆๆๆ  :haun5:

ท่ี่คนเขียนบอกให้เตรียมมีด  นี่คือบทแทรกตอนที่ศศินมาอยู่วังใหม่ๆสินะ  แต่เราเตรียมเครื่องโม่เนื้อหมู้ไวแล้ว  สับคงไม่ซะใจ  โม่แม่งให้เละกันไปเลย เคี้ยก!!!!  ฮ่าๆๆๆๆฟๆ :hao7:

ดีใจที่มาต่อแล้ว  และดีใจที่คนเขียนตอบเม้นไขความกระจ่าง  ไม่เก็บงำให้พากันลุ้น(จนหัวใจจะวาย) ตอนสุดท้ายก็ยังคู่กับภาสวรอยู่ดี   :impress2:  เป็นปลื้ม  ศศินไม่ต้อว้เป็นน้อยใคร  ไม่ต้องมัีหลายผัว.........ส่วนรพีถ้าพ่อคุณจะมีเมียเยอะขนาดนี้ :angry2:  อย่าคิดจะมาแอ่มศศินของชั้น(?)เลย!!! :fire:

ปล.นักคนเขียนฝุดๆ  อิอิ   :กอด1: มากอดที
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: noo123 ที่ 26-03-2014 10:33:17
องค์ศศินท้องแล้ว เย้!  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-03-2014 10:48:49
เป็นกำลังใจให้ทั้งศศินและคนแต่งค่ะ 55555555
ท้องแล้วๆๆๆๆ ส่วนพี่รพีจะทำอะไรกันนะ
มีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Aly-Q ที่ 26-03-2014 12:15:52
ท้องแล้ว!!!!!!!!
งี้ก็อดฉาก....อะดิ...
แต่จะว่าไปตั้งแต่มาอยู่นี่ศศินไม่ได้ทำอะไรเลยเนอะ
นอกจากอยู่ในห้อง เดินเล่น แต่ก็นะคนน่ารักทำอะไรก็น่ารัก

ตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 26-03-2014 12:19:11
อ๊ากก กก ก อย่าอ่า่นต่ออออออ


ท้องแล้วววว ว ว ว  ว


หักมุมนี่คือแท้งรึเปล่า(กรี๊ดดด อย่าประหารชีวิตหม่อนชั้นเลยเพคะ องค์ภาสวร)
อยากอ่านต่ออ่าาา><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 26-03-2014 13:10:08
รอตอนต่อไปนะคะ
ว้าวๆๆๆ ท้องแล้วๆ
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 26-03-2014 14:02:52
ท้องปุ๊ป ตัดจบปั๊ป แง๊งงงงง!!

เด่วกัดซะเลยนี่คนเขียน

รีบมาต่อเลยน้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 26-03-2014 14:31:31
ท้องแล้ว แต่ดราม่าใกล้มาชิมิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-03-2014 18:49:51
คุคุ รอติดตามกันนะคะ ^+++^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 26-03-2014 19:28:39
ท้องแล้ว  o13 เร็วทันใจเลยนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-03-2014 19:59:06
องค์รพีอย่าแทรกเข้ามาเหอะขอร้องอย่ามาทำให้องค์ศศินต้องมีมลทินให้พระองค์ทรงมีพระสวามีองค์เดียวพอ
ส่วนองค์ภาสวรเตรียมรอมีดขว้างได้เลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-03-2014 21:40:22
ท้องปุ๊ป ตัดจบปั๊ป แง๊งงงงง!!

เด่วกัดซะเลยนี่คนเขียน

รีบมาต่อเลยน้าา

เดี๋ยวก่อนนน กำลังติดสามีตีตราค้า =///=

จบแล้วจะไปปั่นๆๆๆ แหะๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 26-03-2014 22:00:48
เจ้าตัวเล็กอยู่ในท้องแล้ว
เห็นบทรพีตอนนี้คงไม่มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นหรอกนะ//ทำหน้าไม่แน่ใจ
ยังไงองค์สุริยก็ทรงดูแลศศินให้ดีนะ เกิดดีไม่ดีลูกหลุดออกจากท้องแล้วจะเป็นเรื่อง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 26-03-2014 22:13:31
วายยยยยยยย นั่งรอลุ้นกันเลยทีเดียวเชียววว

ศศินท้องๆๆๆๆๆ .........เย่!

จริงๆเค้าก็ชอบหวานๆนะ แต่แหม๋....เหมือนมันขาดอะไรไปบางอย่างงง

................ มาม่า

............

.........

......

รสต้มยำกุ้งไง๊!  :hao7:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 26-03-2014 22:18:29
คึ คึ จบแบบมีความสุขก็ยิ้มแล้ว แม้นว่าระหว่างทางต้องกินยาลดความวิงเวียนจากโค้งหักศอก :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 26-03-2014 23:20:48
ท้องแล้ว :mc4:
องค์รพีตัดใจเถอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: minakosun ที่ 26-03-2014 23:47:56
ท้องแล้ววววว เฮ ~~~ ศศินยินดีด้วย
แหมน้ำยาดีไม่เบาเลยนะค่ะท่านภาสวร
องค์ชายรพีนี่อะไร? โค้งต่อไปไม่ต้องมาเอาศศินไปจากท่านภาสวรเลยนะ !
ลูกชายของศศินกับภาสวรจะออกมาหล่อหรือสวยกันนี่!?

ติดตามรอตอนต่อปายยย~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 27-03-2014 00:07:45
ดีจัยด้วยจ้า ศศินจะมีน้องแว้วววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: Tinkerbell ที่ 27-03-2014 00:40:21
รอศศินคลอด (พึ่งท้องแต่อยากเห็นน้องแล้วง่ะ  :mew2:)

มารอตอนต่อไปจ้า สู้ๆ   :L2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 27-03-2014 06:41:52
ท้องแล้ว!!!!!!!!
งี้ก็อดฉาก....อะดิ...
แต่จะว่าไปตั้งแต่มาอยู่นี่ศศินไม่ได้ทำอะไรเลยเนอะ
นอกจากอยู่ในห้อง เดินเล่น แต่ก็นะคนน่ารักทำอะไรก็น่ารัก

ตามตอนต่อไป

ฉาก... ตอนต่อไปค่ะ บทแทรก 55555


แต่งเสร็จเพิ่มอีกตอนแล้วนา... แต่เป็นเรื่องจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิอ่า // วิ่งหนี
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: monalism ที่ 27-03-2014 16:14:49
ศศินท้องแล้ว :laugh:

งานนี้รพีจะมีแผนอะไรรึเปล่าเนี่ย กลิ่นจากตานี่ชักแหม่งๆ ไหนจะเจ้าหญิงที่คดียังไม่เคลีนร์อีก โจทย์เยอะแท้เหล่า :เฮ้อ:

ปล.รอคอยบทแทรกอยู่นะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: korinasai ที่ 27-03-2014 20:14:58
รอตอนต่อไป  :z3:
กลัวใจคนแต่งจังเลย จะให้จันทราน้อยเจอกับอะไรอีก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 27-03-2014 20:25:04
แม่เจ้า :a5:
  :oo1: ไมถึงห้านาทีในท้องเรื่อง น้องศศิป่องแล้ว โอว ช่างมีน้ำยาดีอะไรเช่นนี้ พี่พระอาทิตย์ :heaven

แต่ ไม่เป็นไร กว่าจะคลอด ก็ยังxxxกันได้อีก :hao6:

แต่หวังว่า คุณชายรพีคงไม่ดีแตก แอบแทรกแซงต่อแขนต่อขาให้น้องสะใภ้นะ  :hao5:
ไม่เอา ไม่เอา เขาสงสารน้องพระจันทร์ เกิดมาก็ซวยพอแล้ว โดนกลั่นแกล้ง โดนเกลียดตลอด :mew6:

ถ้าจะดราม่า ก็อย่านานนะ ขอร้อง :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 28-03-2014 00:59:03
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 28-03-2014 22:35:42
อ๊ากๆๆ ทำไมเป็นเยี่ยงนี้? ทำไมจันทรเจ้าที่น่ารักของเค้าถึงไม่ได้คู่กับองค์รัชทายาท?
ทำไมได้คู่กับพระอาทิตย์ดวงรองเช่นนี้? ทำไมกัน? ทำไมทุกๆอย่างที่เราคาดไว้ถึงกลับตาลปัตรเยี่ยงนี้?
เจ้าจันทร์ดวงนี้ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไร ทั้งต้องโดนบิดาแท้ๆในสายเลือดเกลียดชัง
โดนพระขณิษฐาในไส้จงเกลียดจงชัง ต้องมาเป็นเฉลยให้ถูกย่ำยีซ้ำๆจนตั้งครรภ์ ทำไม?
ทำไม? ข้าพเจ้าไม่เข้าใจจริงๆ โอ๊ย!!!!! ไม่ไหวละ อยากจะกรีดร้องดังๆ เราเข้ามาอ่านรวดเดียวเลย
อ่านปุ๊ปติดปั๊ป ให้ตาย! ทำไมมันเศร้าเยี่ยงนี้ เราเสียน้ำตาไปหลายหยดละนะเนี่ย ToT
ศสินน่าสงสารมากแบบมากๆๆๆเลยอ่ะ ตอนนี้ก็ท้องแล้วอ่ะ แล้วจะไงต่อ เราว่าคนเขียนต้องเตรียมอะไร
ไคลแม๊กซ์ อะไรหักมุม อะไรที่ดราม่าอีกชัวร์เลย ไม่อยากจิเดาจริงๆ อ๊ากๆๆๆๆ
ทำไมมันเป็นแบบนี้ เราเชียรองค์รัชทายาทสุดหัวใจเลยนะ แต่ดูศสินก็มีความสุขดีอ่ะ
ก็ไม่อยากให้คนแสนดีแบบองค์จันทราเสียใจอ่ะ ฮือๆ มาต่อไวๆนะคะ
เราอยากอ่านต่อแล้วแหละ โคตรค้างเลย เออใช่ๆ ขอชมคุณคนเขียนเลยนะคะ
แต่งโคลงออกมาดีม๊าก! แต่งกลอนก็เพราะมาก! เรียนอักษรจุฬาป่ะเนี่ย? 555
เราเดาเฉยๆ อย่าว่าเรานะ 555555 เอาเป็นว่าปูเสื่อรอตอนต่อไปคะ
รักคนเขียนนะ จุ๊ฟๆ~ >3<
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 28-03-2014 23:01:46
สงสัยบทแทรกต้องมีอะไรให้อยากกระทืบภาสวรแน่เลยอ่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: mamajie ที่ 29-03-2014 20:57:53
ฉาก... อยากอ่านเป็นบทความหรืออ่านเป็นกลอนดีคะ

^
^
^
อะไรก็ได้คะ ขออย่างเดียววววววววววววววววว   :ling3: :ling3: อย่า ให้รพี...กับศศินเลยขอร้องงงงงงงงงงงงงงงงง :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 31-03-2014 12:59:14
อยากอ่านก่อนสงกรานต์นะรออยู่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 31-03-2014 17:02:07
อยากอ่านก่อนสงกรานต์นะรออยู่

ค้าา เดี๋ยวเอามาลงให้ก่อนครึ่งนึง... ฉาก... เป็นฉากที่ไม่ถนัดที่สุด ไปได้ที่ละติดๆTTอืดเป็นทากคลานเลย ฮือออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 02-04-2014 18:18:30
กลับมาต่ออีกครั้งต้องมาต่อเยอะๆๆนะให้หายคิดถึงนะคับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 02-04-2014 20:23:30
หายเลย

เมื่อรัยจะมาต่อนี่  รอนะ :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 02-04-2014 22:48:33
ท้องแล้วจ้าาาา ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 02-04-2014 23:23:11
คิดถึงศศินจังเลยย มาต่อเร็วๆนะจ้ะคนเขียน  :z13: :z13: :z2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 12 (P.13)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 05-04-2014 20:51:06
 :bye2: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-04-2014 00:36:01
ปฏิญญาพิเศษ : บทแทรกน้ำข้นพิเศษ

กาลเวลาหมุนผ่านเปลี่ยนแปรผัน
ใจคนนั้นแปรเปลี่ยนได้ด้วยรัก
เวลาเป็นตัวช่วยให้สมัคร
ให้ตระหนักถึงความจริงภายในใจ



หลังจากที่เข้ามาอยู่ในตำหนักวสันตมาลี ทุกค่ำคืนก็มีแต่ตกอยู่ใต้ร่างของสุริยาผู้ครอบครอง เจ็บปวดทุกราตรีถึงรุ่งสาง อ่อนแรงลงเพียงใดถ้ายังมิเต็มอิ่มก็มิทรงปล่อยให้ได้พักหายใจ แม้จะพยายามไม่คิดอะไร แต่บางครั้งก็ทรงอดที่จะตัดพ้อในโชคชะตาของตนไม่ได้

ไม่มีสิทธิ์จะขัดขืน ไม่มีสิทธิ์จะปฏิเสธ ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ได้แต่ทน ทน และทน

สิ่งที่ยึดหัวใจดวงนี้เอาไว้ ก็คงเป็นสัญญาที่ได้รับมา... แม้อาจจะไม่ได้อย่างที่คำมั่น แต่อย่างน้อย.. ก็เป็นที่พึ่งทางใจ

เฝ้ารอ... รอวันที่จะได้กลับไปอยู่ใต้ปีกที่คอยปกป้องภัยอันตรายจากภายนอกของเจ้าพี่ที่เป็นทุกอย่างในชีวิตของพระองค์

แม้นจะไม่สมกับชายชาตรี... แต่นั่นก็เป็นความเคยชินที่สั่งสมมามากกว่าสิบปี... ยากนักจะเปลี่ยนผัน

“โอสถเพคะ”ถ้วยแล้ว ถ้วยเล่า ทั้งขมทั้งฝาด สุดจะเบื่อ สุดจะทานทน... แต่จำยอมต้องดื่มทุกอรุณ ด้วยหน้าที่... ที่ไม่ได้เต็มใจจะรับมัน

ร่างเพรียวก้าวออกมาจากห้องสรง กวาดพระเนตรแลเห็นผู้เป็นเจ้าของตำหนักก้าวออกไปด้านนอก พระองค์อดที่จะแอบถอนหายใจไม่ได้...


อย่างน้อยก็ทนรับแต่ยามค่ำคืน


“องค์ศศินเพคะ”เสียงที่ไม่คุ้นหูดึงความสนใจของผู้ที่ยืนนิ่งอยู่กลางห้องโถง “องค์ศศิน หม่อมฉัน น้อย เพคะ ฝ่าบาททรงส่งหม่อมฉันให้มารับใช้พระองค์เพคะ”

“องค์อินทัชส่งเจ้ามาหรือ”

“เพคะ”นางขานรับเสียงใส นางกำนัลวันแรกรุ่น ผิวขาวเนียน ใบหน้าน่ารักน่าเอ็นดู เหมาะกับรอยยิ้มที่สดใสยิ่งนัก แม้นจะไม่ได้สวยหยาดเยิ้มปานนางสวรรค์ แต่ก็มองดูเพลินตา ชุดที่สวมใส่แต่งต่างจากนางกำนัลที่เดินไปมาอยู่บ้างด้วยมีเครื่องเงินประดับกาย มิใช่ทองแดงเช่นนางอื่น นั่งคุกเข่าอยู่ข้างพระองค์อย่างเรียบร้อย

“ยินดีที่ได้รู้จักนะน้อย”รอยยิ้มอ่อนโยนคลี่ส่งให้อย่างเป็นมิตร พาลเอาหัวใจดวงน้อยพองโต “ต่อจากนี้ข้าก็ขอรบกวนหน่อยนะ”

“มิได้เพคะ”บ่าวตัวน้อยหมอบกายลงกับพื้นอย่างกลัวเกรง “หม่อมฉันมีหน้าที่รับใช้พระองค์อยู่แล้ว มิได้รบกวนอันใด”

ดวงตากลมโตฉายแววตกอกตกใจ นางหมอบตัวสั่นระริกจนร่างเพรียวอดไม่ได้ที่จะย่อกายลงไปลูบไล้หลังนวลเพื่อปลอบโยน

นางกำนัลวัยสาวแอบเหลือบตาขึ้นมองผู้เป็นนายอย่างฉงน องค์ชายผู้มียศศักดิ์สูงศักดิ์ แม้ว่าจะทรงเป็นเชลยจากต่างแดน แต่ก็ทรงได้รับสิทธิให้อยู่ในตำหนักที่กว้างใหญ่ ได้รับเกียรติ์ที่สูงเชื้อพระวงศ์ต่างแดนองค์อื่น ๆ มากมายไม่น้อยเลย

แต่ก็มิทรงถือองค์ว่ายิ่งใหญ่ อีกทั้งยังทรงลดองค์ลงมาหานางกำนัลธรรมดาอย่างนางด้วย...


การได้มารับใช้องค์ชายต่างแดนอาจจะดีกว่าที่คิดเอาไว้ก็เป็นได้กระมัง


“เราจะไปเดินรอบ ๆ เสียหน่อย เจ้าจะไปกับเราไหม น้อย”เสียงอันอ่อนโยนเอ่ยถามนาง หลังจากที่นางหายสั่นและยันกายขึ้นมานั่งคุกเข่าอยู่ข้างพระวรกายพระองค์แล้ว

“ไปเพคะ องค์ชาย”น้อยตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติ สุภาพ เรียบร้อย สมกับเป็นกุลสตรีชาววังที่ได้รับการอบรมอย่างดีตั้งแต่ยังเล็ก

องค์ศศินแย้มยิ้มบาง ก่อนที่จะทรงก้าวเดินออกไปนอกพระตำหนัก สู่สวนพฤกษาที่สวยงาม ทั้งพืชดอก ไม้ผล ถูกปลูกไว้ และหมั่นจัดแต่งให้งดงาม สมเป็นพระราชวังแห่งอุษณกร เมืองที่มั่งคั่ง และเปี่ยมอำนาจที่สุดในแดนดิน

“ดอกไว้ที่นี่มีมากมายนัก”รอยยิ้มอ่อนโยนฉาบทับบนดวงหน้าหวาน “หลากหลายพันธุ์ยิ่งกว่าที่วสุนธรารวมกันทั้งเมืองเสียอีก”

“เช่นนั้นหรือเพคะ”น้อยทวนถามอย่างสนใจ แต่เล็กมานางมิเคยได้รับรู้ถึงเมื่ออื่น ๆ เลย นี่เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้ กระตุ้นต่อมนางนัก

“ใช่แล้วล่ะ”ศศินตอบกลับอย่างแผ่วเบา ดวงเนตรที่ฉายแววเศร้าหมองเหม่อมองมวลบุปผาตรงหน้าอย่างอาลัย “ที่วสุนธรานั้นหนาวเย็นเกินกว่าที่จะปลูกอะไรได้มากมาย พืชพันธุ์หลายชนิดเมื่อโดนกระแสลมอันโหดร้ายก็พากันล้มตาย แห้งเหี่ยวไปเสียเยอะ”

“เช่นนั้นแล้ว... จักมีพืชพรรณใดให้ชาวบ้านได้เก็บกินหรือเพคะ”ในอุษณกรที่นางอยู่นั้น ไม่ว่าจะเมื่อใดก็มีผลไม้ให้ได้เก็บมาทานกันเสมอ แต่ถ้าต้นไม้ล้มตาย... จะมีอะไรตกถึงท้องคนที่ไม่มีฐานะกันเล่า

“ธรรมชาติมิได้โหดร้ายถึงขนาดที่ไม่เหลืออะไรให้เลยนะ น้อย ยังพอมีพืชผลบางชนิดทนต่อความหนาวเย็น ออกดอกออกผลให้ได้ประทังชีวิต แม้จะมิได้มีมากมายเท่าที่แห่งนี้ แต่ก็พอจะให้ผ่านพ้นวันคืนอันโหดร้ายไปได้”จ้าวจันทราเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

“แต่ถึงกระนั้น ก็คงยากลำบากมากใช่ไหมเพคะ”นางกำนัลสาวน้อยจำไมถามกลับไปอีก ก่อนที่จะสะดุ้ง เมื่อรู้ตัวว่าถามอะไรที่เกินขอบเขตของนายบ่าวมากเกินไป “หม่อมฉันขออภัยเพคะ หม่อมฉัน...”

“แม้ว่าบางสิ่งบางอย่างจะดูเลวร้าย แต่ถ้าเราทำใจกว้างยอมรับในสิ่งที่เกิด ทำใจรับในสิ่งที่มี ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ลำบากเพียงไหน เราก็จะผ่านมันไปได้”ร่างเล็กดูสูงใหญ่ขึ้นทันทีในสายตาของนางกำนัลรับใช้ ในคราแรกนางคิดอยู่ว่าเจ้านายของนางผู้นี้คงเป็นองค์ชายผู้อ่อนแอต่างเมืองธรรมดา... เท่านั้น “น้อย ชีวิตไม่ได้สวยหรู ถ้าไม่รู้จักคำว่ายากลำบาก ก็มิรู้จักคำว่าสุขสบายเช่นกัน พวกเจ้าถือกำเนิดในเมืองที่อุดม ถือเป็นบุญที่ทำมาแต่ปางก่อน... แต่ถ้าเจ้ายึดมั่นกับสิ่งที่เห็น สิ่งที่มี ยามที่เจ้าต้องทุกข์ ก็คงยากจะก้าวพ้น”

“องค์ชาย...”รอยยิ้มบางเบาคลี่ส่งให้นาง ก่อนที่จะหันหลังให้

“เจ้าจะไปไหนก็ไปเถอะ เราอยู่แถวนี้ล่ะ”

“เพคะ”


ร่างเพรียวก้าวเดินอย่างเชื่องช้าไปตามทางที่รายรอบด้วยมวลบุปผางดงาม กลิ่นหอมจรุงใจ แต่ก็ไม่อาจทำให้ใจที่ฟุ้งซ่านสงบลงได้...

แม้จะดูนิ่งเฉยอยู่แทบจะตลอดเวลา แต่ใช้ว่าใจของพระองค์จะสงบ อยากส่งข่าวให้พระมารดาและพระเชษฐารู้เรื่องราว แต่ก็อับจนหนทางที่จะทำดังใจ...

หรือจะทรงคิดมากเกินไป

ถ้าบอกตามตรงกับสุริยภาสวรไปว่าทรงต้องการส่งข่าว ก็อาจจะได้รับอนุญาต และช่วยเหลือในการส่งข่าวก็เป็นได้...

ไม่ลองก็คงไม่รู้กระมัง

แล้ว... ในเวลานี้องค์ภาสวรจะทรงประทับอยู่ที่ใดกันนะ

ศศินคคนานต์ย่างก้าวเดินไปเรื่อย ๆ จนเข้ามาในเขตที่แปลกตา กลิ่นดอกไม้รุนแรงขึ้นกว่าข้างนอกที่เดินผ่าน  สีสันก็สดสวย ยั่วยวนนัก... หรือเป็นเขตของนางห้าม?

แม้จะทรงเอะพระทัย แต่ความอยากรู้ก็มีมากกว่าสิ่งอื่นใด เจ้าจันทราต่างถิ่นจึงเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ข้างหน้าเป็นศาลากลางแจ้งหลังงามกลางบ่อบัวที่มีดอกบัวหลากสีสันแข่งกันชูช่อ มีต้นไม้ใหญ่ในความร่มเย็นมากมาย เป็นการดีที่พระองค์ได้แอบดู

ความสามารถที่แม้แต่เจ้าพี่ก็มิทรงทราบ... มือเรียวยึดเกาะ ขาส่งแรง ปีนป่ายต้นไหมใหญ่ขึ้นไปนั่งมอง ใช้ใบสีเขียวขจีนั้นพรางกาย

สาวงามร่างเปลือยเปล่าทอดกายอย่างยั่วยวน ขาเรียวงามนั้นอ้ากว้างให้บุรุษหนึ่งเดียวในที่แห่งนั้นได้ล่วงล้ำเสียงครางกระเส่า กรุ่นกลิ่นกามาแผ่กระจาย

เสียงกรีดร้องอย่างสุขสมดังขึ้น ก่อนที่เสียงนวลเนื้อกระทบกันจะหยุดลง หญิงสาวที่พระองค์ทรงเห็นใบหน้าได้ชัดเจนกว่าบุรุษที่หันหลังให้นั้น หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนที่จะลุกขึ้นหมอบกายให้กับผู้ที่สูงศักดิ์กว่าอย่างนอบน้อม

แม้จะเห็นแค่เพียงแผ่นหลัง ใช่ว่าพระองค์จะจำมิได้ว่าคนผู้นั้นคือใคร...

ผู้ที่ให้สัญญากับเขาว่าจะจะเลิกมากรัก จะไม่ทอดทิ้งพระองค์

ผู้ที่เขากำลังตามหา...

เจ้าของตัวเขา... สุริยภาสวร


น่าน้อยใจนักเชียว...


++++++++++++++++++++

มาก่อน 50% 55555 อืดมากมาย TT

// วิ่งหลบรองเท้า ใกล้จะฉาก... ละค้า ฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 10-04-2014 01:13:45
 :กอด1:  โอ๋ๆๆๆ อย่าหลบเลย รองเท้านะ ไม่ปาใส่คนเขียนหรอกกกกก แต่จะถือไปตบ สุริยภาสวร  แทนเลย  :beat:    :katai1:   เข้าใจละ ว่าทำไมถึงบอกว่า งานนี้มีเละ   :z6: 
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 10-04-2014 01:22:03
สุริยภาสวร โดนซะแก  :fcuk: :fcuk: :fcuk:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 10-04-2014 01:28:17
โอ๊ยๆๆๆ เป็น50%ที่เจ็บปวดมากๆเลยค่ะ ดูๆแล้วสุริยะทั้ง2ดวงของเมืองนี้
ขยันทำร้ายจิตใจจันทราคนงามของเรากันจริงๆเลย เฮ้อ~ สงสารสุดๆ
โล๊ะเลยค่ะ หาพระเอกใหม่ด่วย (โดนตบ) 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: fahhee_zeze ที่ 10-04-2014 02:16:30
=[]=! พระเอกกกกก มัวสอยชะนีอยู่ได้ ศศินเห็นแล้วนะ !! อุ้ย เอาแล้วจุ้ย!!!  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 10-04-2014 06:28:05
เจ้บปวดเกินไปTT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: supizpiz ที่ 10-04-2014 06:35:18
อะไรกันเนี้ยยยยยยยย /ถือรองเท้าไปตบๆสุริยภาสวร :katai1:
รักคนเขียนเหมือนเดิมนะจุ้บๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-04-2014 07:11:16
กร๊ากกกกกกก  ตูว่าแล้ว
เดี๋ยวมีพี่น้องชิงหนุ่มกันแน่  หึหึ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-04-2014 07:39:51
คนเขียนขอแอบงีบละคะ

ไม่ไหวแล้วววว T-T//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-04-2014 07:44:24
 :a5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-04-2014 07:59:37
ขนาดนอนกะศศินทุกคืน ยังไปมีหญิงอื่นได้อีก มันน่านัก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 10-04-2014 08:02:45
กรี๊ดดดด รออีก 50% ที่เหลือ พร้อมรองเท้าในมือ หึหึ :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 10-04-2014 08:18:16
สุริยภาสวร    :m31: :fire: :angry2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: someone0243 ที่ 10-04-2014 08:34:24
อุแหมม จ้าวจันทรจับทำหมันเลยดีไหมลูก ถ้าจะขนาดนี้  :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 10-04-2014 09:23:56
ฮึ้ย ศศิ โวยเลยอย่ายอมนะ ห้ามยอมเด็ดขาด ไหนบอกจะอยู่จะมีแค่คนเดียว  :z6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-04-2014 10:31:20
โฮ่ววว
โดดฟรีคิกภาสวรสักทีสองที
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 10-04-2014 10:34:04
เกิดอัลไลขึ้น??


ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 10-04-2014 11:26:32
จะสมน้ำหน้าดีไหม ให้ศศินโกรธไปข้างนึงเลย


สะใจดี(ฮึ่ยยยย คนมันอิน ห้าๆ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 10-04-2014 11:33:12
ตายๆ นอกใจแล้วหรือ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 10-04-2014 12:29:33
 :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 10-04-2014 12:47:41
กระโดดถีบตีนคู่   :z6: 
ทำร้ายจิตใจกันมากไปนะ

สงสารอ่ะ  สัญญาทำไม ในเมื่อทำไม่ได้

เดี๋ยวยุนายเอกให้ไปกิ๊กกะคนอื่นเลย :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 10-04-2014 13:28:11
 :hao5:  :hao5: :hao5: น่าสงสารศศิน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-04-2014 14:31:20
เอาจริงๆเลยนะ  คือ สนับสนุนให้ศศินมีคนใหม่
ในเมื่อมันมีได้ เราก็ต้องมีได้   อย่าไปรักนวลสงวนใจอีกเลย  ทำมั่งให้มันรู้สึกมั่ง หึหึ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 10-04-2014 14:38:53
โอ้ยยย ค้างคา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Toon_TK ที่ 10-04-2014 16:30:37
ค้างงงงงงงงงงงงงง
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Thanthip ที่ 10-04-2014 16:55:09
สงสารจัง พลัดบ้านเกิดมา

อยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุข

จะเป็นไงต่อนะเจ้าจันทรา

เปลี่ยนพระเอกเลย

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 10-04-2014 18:06:25
อ้าวววววววววว  :a5: ทำไมทำกันอย่างงี้   o22
รอครึ่งหลังนะคะ
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 10-04-2014 18:32:34
แง แจกมาม่าทำไม //ตบตีคนเขียน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-04-2014 20:36:27
อย่าเพิ่งเกลียดพระเอกของเรากันน้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 11-04-2014 16:29:33
โหยยยย
สงสารจันทร์น้อยอ่ะ
แหมมมม
พ่ออาทิตย์หน้ากระแทกมากกกกก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-04-2014 22:42:07
สงสารจัง พลัดบ้านเกิดมา

อยู่ที่ไหนก็ไม่มีความสุข

จะเป็นไงต่อนะเจ้าจันทรา

เปลี่ยนพระเอกเลย

 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

อูยยยย ดวงอาทิตย์ 3 ดวงแล้วว เปลี่ยนพระเอกอีก จะเป็นพี่น้องแล้วนะคะ 5555 // คนเขียนอวยสุริเยนทร์ไทวะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 12-04-2014 00:49:22
เจ็บปวดใจแทนศศินน่ะเนี่ย

นอนด้วยกันทุกคืน.ยังไปมีอะไรกับหญิงอื่นอีก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 12-04-2014 20:32:11
อีก 50% จะมาต่อในช่วงสงกรานต์นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 12-04-2014 20:54:55
 :o12: :sad4:  มาต่อเลยได้มั้ย  คนอ่านจะลงแดงตาย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 12-04-2014 22:14:43
เจ้าพระอาทิตย์เลิกหากินกลางคืน มาเก็บตกตอนกลางวันแทนหรือไง ใจร้ายจริงๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(50%) (P.15)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 12-04-2014 23:28:36
ใช่จริงๆเหรอ เราว่า องค์สุริยภาสวร ไม่น่าเป็นคนสับปรับชอบผิดคำพูดนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2014 01:31:15
บทแทรก (ต่อ)

นางกำนัล (?) นุ่งน้อยห่มน้อย ร่างเพรียวบางสะโอดสะองเดินขนาบข้างร่างเล็กของดรุณีวัยกำดัดแรกแย้มเข้าไปในศาลาใหญ่ที่นายเหนือหัวของพวกนางประทับอยู่อย่างแช่มช้อย

“องค์ชายเพคะ”เสียงอ่อนหวานเอื้อนเอ่ยขึ้นไปดังนัก แต่ก็ลอยเข้ากรรณของผู้ที่แอบซุ่มมองอยู่ไม่ห่างได้ชัดเจนยิ่ง “นางเป็นนางกำนัลที่ถูกส่งมาใหม่ พวกหม่อมฉันจึงพานางมาพบพระพักตร์ หมายให้องค์ชายประทานความเมตตาให้นางสักครั้งเพคะ”

“เจ้าเงยหน้าขึ้นมาให้ข้าได้พิศดวงหน้าเจ้าได้ชัดเจนหน่อยสิ”เสียงทุ้มแหบรับสั่งแก่ร่างเล็กบางที่หมอบกายอยู่ตรงหน้า สาวน้อยที่มาใหม่นั้นตัวสั่นเล็ก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นให้ได้เห็นดวงหน้าหวาน แต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมเล็กน้อย สวยงามสมวัยดั่งดอกไม้แรกแย้ม ดวงตากลมโตหวานซึ้งหยาดคลอด้วยน้ำตา กระตุ้นดำกฤษณาในกายยิ่ง “งดงามไม่น้อยนะเจ้า เจ้ามีนามว่าอันใดหรือ”

“มะ. หม่อมฉัน... หม่อมฉันมีนามว่า บงกชเพคะ”เสียงเล็กตอบกลับสั่น ๆ นัยน์ตาที่สั่นระริกพอกับน้ำเสียง ยิ่งเรียกอารมณ์ดิบของบุรุษเพศได้ดีนัก

ศศินที่มองอยู่นานอดที่จะสงสารแม่นางน้อยที่จะเข้าสู่ปากพยัคฆ์มิได้ พลันหางตาแลเห็นพวงลำไยที่อยู่ไม่ไกลมือนัก หัตถ์เรียวเอื้อมไปเด็ดเอาลำไยพวงใหญ่จากต้นที่อยู่ด้านหลังพระองค์มา

ไม่รู้แรงที่จะขว้างไปจะมีพอสำหรับระยะห่างที่ไม่น้อยนักไหม แต่อย่างน้อยที่สุดก็คงเพียงพอให้ผู้ที่อยู่ในที่แห่งนี้ตกใจแล้วแยกจากได้... กระมัง

เด็ดลูกหนึ่งออกมาก่อน แล้วขว้างออกไป แม้จะมิใช่ด้วยแรงทั้งหมดด้วยเกลงว่าจะหงายตกลงจากกิ่งมะม่วงใหญ่ แต่ก็ได้ดังใจต้องประสงค์ ลำไยลูกน้อยลอยลิ่วไปโดนกลางหลังขององค์ชายเจ้าของถิ่น ไม่แรกนักแต่ก็พอที่จะให้หันมามองหาต้นเหตุ

“อะไรกันน่ะเพคะ”สาวงามที่คาดว่าน่าจะเป็นที่โปรดปรานมากที่สุดถลาเข้ามาหาร่างสูง “ใครกันที่กล้าเล่นพิเรนทร์เช่นนี้ ทรงบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่เพคะ”

“ไม่ ข้าไม่เป็นอะไร”องค์ภาสวรเอ่ยกลับด้วยสุรเสียงที่แฝงไปด้วยพระอารมณ์กรุ่นโกรธ “ถ้าไม่อยากต้องอาญา ก็จงโผล่หน้าของเจ้ามาเดี๋ยวนี้ มันผู้ใดกล้าเหิมเกริมในวัง คงรู้ว่าต้องโทษหนักหนาเพียงไร ถ้าออกมายอมรับโดยดี ข้าจะลดโทษให้สักหน่อย ไสหน้าออกมาเดี๋ยวนี้”

เสียงตวาดสั่นพระตำหนักแห่งนี้ จนราชนิกุลที่อยู่ภายใน หยอกเอิ้นกำนางห้ามปลดปล่อยกามารมณ์ต้องก้าวออกมาดู ไม่เว้นแม้แต่องค์ชายรัชทายาทผู้ยิ่งใหญ่แห่งอุษณกร

“เกิดอันใดขึ้นหรือ ภาสวร”องค์ชายรพีธรณินตรัสถามผู้เป็นอนุชาด้วยเสียงที่อ่อนโยน “ผู้ใดทำให้เข้ากริ้วโกรธเช่นนั้นหรือ”

“น้องมิทราบ แต่มันคงอยู่ไม่ไกลนักหรอก”พระพักตร์หล่อเหลาแสดงถึงความโกรธเกรี้ยวจนนางบำเรอรอบข้างต้องถดกายหนีด้วยกริ่งเกรงในพระอารมณ์ “มิเช่นนั้น อ้าย อี ที่อยู่ในที่แห่งนี้ทั้งหมดต้องรับโทษทัณฑ์อย่างเท่าเทียม”

“ถ้าทรงอยากหาผู้มารับโทษทัณฑ์ ก็มาลงกับเราสิ”เม็ดลำไยถูกขว้างมาจากด้ายบน ประกอบกับเสียงที่เคยคุ้น ทำให้ทุกพระองค์ในที่นั้นต้องเงยขึ้นไปหา “อย่างท่านมิควรได้รับทั้งผล แต่รับไปเพียงเม็ด สมควรยิ่งแล้ว”

“ศศิน เป็นเจ้าหรือ”องค์ภาสวรเอ่ยเรียกนามด้วยเสียงที่อ่อนลง “ลงมาคุยกันเถิด อย่ามัวแต่นั่งอยู่บนต้นไม้เช่นนี้เลย”
ดวงเนตรหวานคมหลุมมองร่างใหญ่อย่างเย็นชา ก่อนที่จะขยับกายลงจากต้นไม้ใหญ่อย่างคล่องแคล่ว

วรกายสูงเพรียวก้าวเข้าไปหาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นสวามีของตนอย่างเยือกเย็น ขาเรียวย่างก้าวไปอย่างมั่นคง ใบหน้าเรียบเฉย

“เป็นอะไรไป หืม จันทราของข้า”กรแกร่งรั้งเอวบางเข้ามากอด “ข้าทำอะไรให้เจ้าไม่พอใจอย่างนั้นหรือ”

“เรามิได้ไม่พอใจท่าน... แต่เหตุใดถึงไม่มองความรู้สึกของผู้ที่อยู่ตรงหน้าท่านบ้าง”เสียงที่ตอบกลับมาช่างเย็นชานัก แม้จะแอบสั่นในบางคำ แต่ก็ถูกกดให้ดูเรียบเฉย แต่ก็ไม่รอดพ้นจากการสังเกตของผู้ที่เคียงหมอน และผู้ที่ต้องการในตัวของจ้าวศศิน “ใจของท่านไม่เห็นความหวาดหวั่นของผู้อื่นอยู่ในสายตาของท่านเลยหรืออย่างไร”

“...”สุริยภาสวรหันไปมองหญิงสาวที่หมอบตัวสั่นอยู่ไม่ไกล ก่อนจะหันมาหาผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้า “ข้า... ข้าขอโทษ”

“ศศิน เจ้าคงมีความสำคัญกับอนุชาของข้ามากเลยสินะ”รพีธรณินรำพึงเบา ๆ ก่อนจะหันกายเดินกลับเข้าไปภายในตำหนักของนางห้าม

องค์ภาสวรทรงกุมมือของศศินเอาไว้ ก่อนที่จะทรงลากพากลับพระตำหนักไป

“ข้าขอโทษที่ทำให้เจ้าไม่พอใจนะ ศศิน”ริมโอษฐ์อุ่นประทับจุมพิตที่มือเรียวอย่างอ้อนออด “เอาอย่างนี้ เราจะทำให้เจ้าอารมณ์ดีขึ้นสักหน่อยแล้วกัน”

“...”เจ้าจันทร์น้อยมิตอบอันใดกลับ ดวงเนตรสีไพลินฉายชัดให้เห็นถึงความผิดหวังในตัวของคนที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่ปิดบัง

“เปลี่ยนอาภรณ์เถอะ เราจะพาเจ้าไปเที่ยวนอกวัง”รอยยิ้มอบอุ่นคลี่ส่งให้ ก่อนที่จะทรงหันไปเรียกนางกำนัลเข้ามาจัดการเครื่องทรง

ผลัดเปลี่ยนองค์มาอยู่ในชุดชาวบ้านสามัญ แล้วออกไปนอกวังพร้อมด้วยองครักษ์ที่ถูกสั่งมาให้คอยคุ้มครอง ดูแล

วันนี้ในเมืองหลวงของอุษณกรแห่งนี้จัดงานประเพณีประจำปีขึ้น ผู้คนต่างเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม มีของขายไปทั่วให้ได้ลิ้มลอง เกมการละเล่นพื้นเมืองแสดงให้เห็นอยู่ตามรายทาง

“มาเต้นรำด้วยกันไหมจ๊ะ”หญิงสาวสูงวัยคนหนึ่งเอ่ยชักชวนคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ให้เข้ามาสนุก ศศินจ้องมองการเต้นพื้นเมืองอย่างสนใจ จนภาสวรดึงรั้งกายเพรียวเข้าไปร่วมวงเต้นกับผู้คนในละแวกนั้น

เสียงดนตรีจังหวะสนุกสนาน เรียกรอยยิ้มจากองค์ชายต่างถิ่นที่อารมณ์คุกกรุ่นมาหลายโมงยาม แม้จะไม่รู้จักท่าทางพื้นเมืองอะไร แต่ก็มีผู้ที่คอยให้จังหวะ คอยชักนำอย่างจ้าวสุริยาอยู่ ทำให้ท่วงท่าดูกลมกลืน ไม่แปลกประหลาดจากผู้ใดไป

เสียงเพลงยังบรรเลงต่อเนื่อง แต่คนในลานเริ่มหยุดเต้นกันไปทีละคู่ ๆ ทุกคนหันมาจับจ้องบุรุษสองคนที่เต้นคู่กันอยู่กลางวงอย่างสนอกสนใจ ด้วยท่าทางที่นุ่มนวล

หนึ่ง... ชายหนุ่มใบหน้าแต้มยิ้มดูอ่อนโยน ดวงตาที่ประกายสดใส ประกอบกับร่างเพรียวในชุดสีขาวสะอาด ขัดให้ผิดที่ขาวอยู่แล้วยิ่งขาวจัด มองเพียงชั่ววินาทีก็รับรู้ได้ว่าเป็นคนต่างเมืองเป็นแน่

หนึ่ง... หนุ่มหน้าคมเข้ม นัยเนตรประกายระยับ รับรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความนัยน์ ร่างใหญ่ในชุดรัดกุมดูคล่องตัว ยิ่งพิศดูยิ่งรู้สึกถึงความสูงศักดิ์ที่แผ่ออกมาโดยมิรู้ตัว

แต่... จะมีชนชั้นสูงลงมาเดินเล่น เต้นรำในตลาดเช่นนี้หรือ... คงมิใช่กระมัง

เสียงเพลงหยุดลง พร้อมเสียงปรบมือให้บุรุษทั้งสอง ศศินมองไปรอบ ๆ อย่างงุนงง แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยอันใด ก็ถูกลากออกไปเสียงก่อน

สององค์ชายเดินเที่ยวเล่นจนฟ้ามืด วันนี้ได้รับพระบรมราชานุญาตเป็นพิเศษให้พำนักตำหนักนอกวังได้ ทั้งสองจริงเลือกที่จะไปค้างคืนในตำหนักนอกวังแทนที่จะกลับเข้าวังไป

ดวงดาวมากมายทอแสงระยับบนท้องฟ้ากว้าง เจ้าจันทรามองขึ้นบนภาด้วยแววตาที่เผยให้เห็นถึงความหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด ชัดเจน... จนภาสวรอดที่จะโอบประคองร่างโปร่งในมาอยู่ในอ้อมแขนมิได้

“เจ้ามองท้องฟ้าทีไร มักจะเศร้ามองทุกทีเลย ศศิน”เสียงทุ่มเอ่ยขึ้นเบา ๆ กับคนที่อ้อมกอด “เหตุใดจึงดูเป็นทุกข์นักเล่า”

“เราคิดถึงเสด็จแม่ คิดถึงเจ้าพี่...”เสียงอ่อนโยนตอบกลับแผ่วเบา น้ำเสียงที่ได้รับฟังนั้นช่างดูเศร้าหมอง “เราอยากส่งข่าวให้ทั้งสองพระองค์ได้รู้ว่า เรายังอยู่ดี... ไม่ต้องห่วง”

“เดี๋ยวข้าจะทูลต่อเสด็จพ่อให้”ไม่จำเป็นต้องร้องขออันใด สุริยาข้างวรกายก็เสนอขึ้น หมายได้รับรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขจากคนที่อยู่เคียงกัน “ขอเพียงเจ้าอย่าได้ทำใบหน้าหมองเศร้าเช่นนี้เลย”

“...”ใบหน้ามนหันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างกันอย่างฉงน “เหตุใด...”

“เพราะข้าชอบใบที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของเจ้ามากกว่าน่ะสิ”กลีบปากชมพูระเรือถูกทาบทำด้วยริมฝีปากนุ่ม ชิวหาอุ่นแทรกเข้าไปในโพรงปากเล็ก กวาดเอาความหอมหวานภายในอย่างไม่รู้จักพอ “เช่นนั้นแล้ว... ยิ้มเถอะนะ คนดีของข้า”

หัตถ์อุ่นไล้ปรางนวล ไล่มาถึงคอระหง แทรกสาบเสื้อบางเข้าไปลูบไปผิวกายภายใน ก่อนจะปลดอาภรณ์ที่สวมใส่ออกไปอย่างไม่ใยดี

“อ๊ะ... อื้อ”ศศินครางในลำคอ ร่างเล็กถูกกดลงบนพื้นเย็น แม้ใจจะร่ำร้องอยากวอนขอให้ขึ้นไปบนเตียง แต่ในเวลานี้ บุคคลที่จะครอบครองตัวเขาคงไม่รับฟังอะไรแล้ว

“ศศิน ศศินของข้า”เสียงทุ้มพร่ากระซิบอย่างยั่วเย้า นิ้วเรียวลูบไล้ปากทางสวรรค์แผ่วเบา “จันทราน้อยของข้า ที่รัก ที่รัก”

“อื้อ ภาสวร”ศีตภาองค์งามบิดการเร้าด้วยแรงอารมณ์ที่เจ้ารังสิมามอบให้ แม้นจะผ่านวันคืนมาหลายเพลา แต่ครานี้เป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาข้างนอกพระราชวัง แปลกที่ก็พาใจเต้นรัวดีนัก “อ๊ะ อย่า...”

กายหนาลุกขึ้นปลดเสื้อผ้าตัวเองออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อเรียบตึง แผ่นอกที่อบอุ่น หน้าท้องที่อุดมไปด้วยกล้ามเนื้อเป็นมัดตึง ต่างจากร่างที่นอนราบอยู่กับพื้นยิ่งนัก

ลำลึงค์ผงาดชี้หน้ามน แม้จะนอนด้วยกันแทบทุกราตรี แต่ก็มิเคยได้เห็นส่วนสงวนที่แทรกเข้าไปในกายของเขาอย่างเต็มตาสักครา... จนมาวันนี้ ที่ได้เห็น ทำให้ศศินอดที่จะกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่ได้...

โอฬารเช่นนี้... ตนรับเข้าไปได้อย่างไรกัน

เมื่อได้เห็น กายยิ่งเกร็งหนัก จนจ้าวสุริยาอดไม่ได้ที่จะแย้มยิ้มออกมา พระองค์ทรงกดส่วนหัวให้แตะริมฝีปากบางเบา ๆ เรียนสายตาตื่นตระหนกจากคนข้างใต้ได้ดีนัก

“ภาสวร...”

“ฮะ ข้าไม่แกล้งเจ้าก็ได้”สุริยภาสวรหัวเราะเบา ๆ แล้วจุมพิตใบหน้าชื้นเหงื่อไปหลายที “ข้าจะเข้าไปละนะ...”

“เอ๊ะ อ๊ะ ไม่ ฮึก เจ็บ”ส่วนหัวกดเข้าไปในช่องทางที่ไม่ได้รับการขยายก่อน ร่างของผู้รองรับเกร็งแน่นด้วยความเจ็บปวดที่ไล่ขึ้นมาทั่วร่างกาย “เราเจ็บ เอาออกไป ฮึก”

น้ำตาใส ๆ หยาดหยดลงมาอย่างไม่อาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ภาสวรหยุดการกระทำลง ยังคงแทรกเข้าลึกลงไป แม้ว่าจะฝืดเคืองสักแค่ไหนก็ตามที

กลิ่นเลือดลอยเข้านาสิกราวกับเป็นตัวกระตุ้นเรียกอารมณ์ดิบของบุรุษเพศให้พลุ่งพล่าน แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าร่างบางนั้นยังไม่พร้อม แต่เมื่อแทรกเข้าไปสุดแล้วพระองค์กลับทรงขยับกระแทกกายเข้าออกอย่างไม่สนพระทัยในเสียงร้องอย่างเจ็บปวดของชายาเลย

ศศินเองก็ได้แต่พยายามผ่อนคลายตัวให้มากที่สุด แม้ว่าความเจ็บจะตีขึ้นมาอยู่แทบจะตลอดเวลาก็ตามที ได้แต่ยอมให้ทำตามใจเช่นนั้นต่อไป ครั้งแล้ว ครั้งเล่า จากพื้น ไปโต๊ะ ไปเตียง... จนรุ่งสาง...


แม้ยามอยู่ด้วยกันจะแสนดีเพียงไร... แต่ถึงเวลานี้ทีไร... ตอนแรกเข้าก็ทรมานเกือบทุกครั้งไป แม้ว่าปลายทางจะสุขสมก็ตามที


แต่ยามที่อ่อนโยน... ก็ช่างอบอุ่นยิ่งนัก


++++++++++++++++++

บทแทรกนี่ เป็นช่วงเวลาก่อนที่ศศินจะตั้งท้องนะคะ เป็นตอนก่อนที่ภาสวรจะเลิกยุ่งกับนางห้ามไปโดยปริยายค่ะ 5555 ยิ่งแต่ง ยิ่งมึน

กลับเข้าเนื้อเรื่องหลักดีกว่า TT"

เห็นอย่างนี้ ภาววรเขาก็รักศศินมากนา... // ดูต่อไป ในครึ่งหลังของเรื่องค่ะ 5555

มีคนเดาถูกเยอะอยู่นะคะ ครึ่งหลัง จำใจอ่านกันไปก่อนน้า ถ้าไม่โดนใจ TT วางเรื่องไว้แบบนั้น ไม่อยากพลิกให้กลับมาอีกแบบ

แวบละค่ะ ไปแต่งต่อ (แต่คนละเรื่อง กรรม 555)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 17-04-2014 01:45:22
เราเห็นว่าอัพเราดีใจมาก//ซับน้ำตา
ศศินลูก...ลูกเล่นเม็ดลำไยเลยหรอเราว่าน่าจะเอามะม่วงทั้งลูกเลยดีกว่านะ จะได้จำและไม่ทำอย่างนี้อีก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-04-2014 01:55:53
อยากรู้ว่าศศินทำยังไงที่ภาสวรหยุดยุ่งกับหญิงอื่นอะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2014 02:04:58
อยากรู้ว่าศศินทำยังไงที่ภาสวรหยุดยุ่งกับหญิงอื่นอะค่ะ

เพราะจดหมายจากสุริเยนทร์ไทวะค่ะ ^^ // มีเนื้อหาในเรื่องหลักที่จะมาต่อค้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 17-04-2014 02:45:17
ฟินค่าาาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: rinny ที่ 17-04-2014 03:39:55
ศศินคะ ลำไยมันลูกเล็กไปนะ เราแนะนำให้ปาทุเรึยนค่ะ ปาโดนตรงไหนเป็นรูที่นั่น เอาให้เข็ดไปเลย 5555
ดูๆแล้ว เราว่าพระเอกเรื่องนี้น่าฆ่าให้ตายวันละ3รอบ เราทำใจไม่ได้จริงๆนะเนี่ยที่ภาสวรเป็นพระเอก
พระเอกไรวะ ไม่ถนอมภรรยาเลย มาถึงก็เสียบเอาๆ เป็นเสียมหรือไงห๊ะ? ศศินท้องแล้ว มาม่าชัวร์
ตัวสำคัญคงเป็นดวงอาทิตย์อีกดวงแน่ๆ เฮ้อ~ เศร้า ขอเวลาทำใจแปป
แต่คนเขียนต้องมาลวงไวๆน้า เราจิรอ >^<
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 17-04-2014 06:43:39
แค่มาอัพก็ดีใจหนักหนาแล้ว :hao5:
อีภาสวรนี่น่าเอาขวานจามหัวจริงๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 17-04-2014 07:24:23
สนุกสนานมากมายแต่ภาสวรเนี่ยหื่นจังเลยนะโหดกับศศินเสมอเลยเวลามีอะไรกัน5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 17-04-2014 08:19:42
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 17-04-2014 08:25:20
ภาสวรเนี่ยนะหื่นมากเล่นซะทุกที่เลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 17-04-2014 09:22:26
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 17-04-2014 10:31:32
อ๊ายยยย  :o8:  ศศินจ๋าาา จัดการเลยเอาให้เด็ดขาด  :hao6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 17-04-2014 10:40:50
ศศิน ไม่น่าจะเอาแค่เม็ดลำไยเลยนะเนี้ย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-04-2014 11:05:00
เห็นด้วยกับหลายๆความเห็น วันหลังถ้ามีอีก
หักแล้วโยนไปทั้งกิ่งเลยดีกว่าศศิน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: manutty ที่ 17-04-2014 11:41:28
น้องพระจันทร์ น่าจะขว้างตั้งแต่ตอนที่พระสวามี :oo1: กับนางชะนีแล้วนะ  แนะนำให้หย่อนรังมดแดงแฝงหมามุ่ยไปด้วยถ้ามันมีนะ  :fire: กับตาเลยนะ องค์ภาสวร วอนทีนจริงๆ  :m16: น้องพระจันทร์ก็ยังทนดูจนเสร็จอีก :z3: ไม่พอยังมีพาแนะนำต่ออีก แค่เม็ดยังน้อยไป ต้องโค่นทั้งต้นใส่กระบาลให้หมดเลย :angry2: หมั่นไส้อีนางชะนีทำเป็นห่วง องค์ภาสก็โกรธ โมโห เป็นไง เป็นไง พอเห็นคนมาขัดขวาง เงิบเลยดิ เก่งจริงทำพระจันทร์สิ ทำสิ จะได้โดนน้องพระจันทร์ :beat: ไม่พอ  :z6: อีกหลายๆรอบ ทั้งสามี ทั้งชะนี เอาให้หน้าหงายให้หมดไปเลย ไอ้ที่บอกกิริยาตูเอง :laugh: น้องศศิคงไม่มีกิริยาสถุนเยี่ยงนี้ แต่ก็อย่าได้อ่อนข้อให้นะจ๊ะ ถึงอีกฝ่ายจะเป็น ชะนี ก็เถอะ สั่งสอนซะบ้างถ้ามาหือกับน้อง ส่วนสามี จัดให้หนัก  :m31:

ดีนะที่คนเขียนบอกเป็นตอนก่อนหน้าที่น้องศศิจะท้อง หลังจากนั้นมีเหตุให้ภาสกรไม่ทำอีก แต่กว่าจะเลิก ศศิคงจะต้องเจ็บช้ำทั้งกายทั้งใจไม่น้อยกับพระสวามีที่ฝากตัวกับใจไว้ให้ พร้อมถ้อยคำสัญญาอีก  :hao5: ส่งสารศศิมาก ก่อนฮีจะเลิก สั่งสอนให้หลาบจำหน่อยนะ อย่าง กลับไปบ้านเกิด ปล่อยให้ง้อนานๆหน่อย เอาให้ไม่กล้าทำอีก :katai2-1:

ส่วนฉาก :haun4: :jul1: อืม ก็ฟินนะถึงพี่ทิดย์จะหื่นจัดจนไม่เบิกทงเบิกทางน้องศศิสักนิด ดิบเถื่อนจริงๆ  :pighaun: แต่มีแอบฮา แหม่ แหม่ กลัวเมียเห็นไม่ชัด เอาไปจ่อถึงปากเลยนะ :m20:  เป็นน้องศศิเขาจะกัดให้ หมั่นเขี้ยว :hao6: ถ้าเขาอ่านและเข้าใจไม่ผิดนะ ที่เอาส่วนหัวกดไปจ่อปากน่ะ มันใช่ไหม ใช่ป่ะ :-[

ติดตามพฤติกรรมกันต่อไป  :z2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2014 19:20:13
ทุเรียน... มะม่วง... กะเอาภาสวรตายกันเลยใช่ไหมคะ 555

จิ้มเม้นบน ใช่ค่ะ ^^ หยอกกันถึงปาก 5555

++++++++++

หลังๆเร่ื่องจะไปไวแล้วน้าา คุณพี่ศร  จะกลับมามีบทละ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 17-04-2014 20:26:46
 :m16:   ในวังมันไม่มีต้น ทุเรียนสินะ ถึงได้กลายเป็นเม๊ดลำไย  ความจริงน่าจะ หักทั้งกิ่งทั้งก้าน แล้วปาไปทั้งพวกเลย แค่เม๊ดเดียวยังน้อยไป  แต่ก็นะ ไหนๆก็จะลงไปหาอยู่แล้ว น่าจะหาก้านเหมาะๆมือ แล้วตบแสกหน้าแม่งสะเลย  แต่ศศินก็นะ  ดูจนจบ   :hao3:   แต่ล่ะเชื่อ ฮีแกจริงๆ เนียนๆเลยนะ เรื่องง้อเนี่ย   o18   แต่จะกลับเข้าบทหลักแล้ว  มาม่าๆๆๆ  :katai1:   แต่ก็ต้องทนกันไปสินะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-04-2014 23:16:17
:m16:   ในวังมันไม่มีต้น ทุเรียนสินะ ถึงได้กลายเป็นเม๊ดลำไย  ความจริงน่าจะ หักทั้งกิ่งทั้งก้าน แล้วปาไปทั้งพวกเลย แค่เม๊ดเดียวยังน้อยไป  แต่ก็นะ ไหนๆก็จะลงไปหาอยู่แล้ว น่าจะหาก้านเหมาะๆมือ แล้วตบแสกหน้าแม่งสะเลย  แต่ศศินก็นะ  ดูจนจบ   :hao3:   แต่ล่ะเชื่อ ฮีแกจริงๆ เนียนๆเลยนะ เรื่องง้อเนี่ย   o18   แต่จะกลับเข้าบทหลักแล้ว  มาม่าๆๆๆ  :katai1:   แต่ก็ต้องทนกันไปสินะ  :katai5:

อาจจะไม่มาม่าก็ได้น้าา

// โดนเปลือกทุเรียนโยนมา

ปล. คนเขียนไม่ชอบทุเรียนค่ะ 555 เหม็น TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 18-04-2014 00:31:39
เอิ่ม  บทแทรก?? 
อันที่จริง น่าจะเรียกว่า บทพาให้งง มากกว่านะคะ

ไม่ค่อยชอบนิยายที่แต่งไป 12345 แล้วย้อนมา3.2 3.3 แบบนี้เลยค่ะ   
เหมือนมันไม่สมบูรณ์  และมันพาลให้คนอ่านเขว  งง หลงเข้าข้างทาง  ไม่ชอบอย่างแรงเลยแหละ  มันเหมือนอ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า ฉันต้องไปอ่านใหม่ทั้งหมดมั๊ยเนี่ย  เพราะทำไมตูไม่เข้าใจเลย  อะไรประมาณนี้

ไม่อยากให้เรียกบทแทรก  อยากให้เรียกเป็น .2 .3 .4 .5 อะไรก็แล้วแต่มากกว่า  เช่น มันต่อจากตอนที่ 139 ก็บอก 139.5 
คนอ่านจะได้เรียงไทม์ไลน์เรื่องได้ถูก เรียงสมองจูนสมองได้ถูกค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 18-04-2014 00:44:55
เอิ่ม  บทแทรก?? 
อันที่จริง น่าจะเรียกว่า บทพาให้งง มากกว่านะคะ

ไม่ค่อยชอบนิยายที่แต่งไป 12345 แล้วย้อนมา3.2 3.3 แบบนี้เลยค่ะ   
เหมือนมันไม่สมบูรณ์  และมันพาลให้คนอ่านเขว  งง หลงเข้าข้างทาง  ไม่ชอบอย่างแรงเลยแหละ  มันเหมือนอ่านแล้วให้ความรู้สึกว่า ฉันต้องไปอ่านใหม่ทั้งหมดมั๊ยเนี่ย  เพราะทำไมตูไม่เข้าใจเลย  อะไรประมาณนี้

ไม่อยากให้เรียกบทแทรก  อยากให้เรียกเป็น .2 .3 .4 .5 อะไรก็แล้วแต่มากกว่า  เช่น มันต่อจากตอนที่ 139 ก็บอก 139.5 
คนอ่านจะได้เรียงไทม์ไลน์เรื่องได้ถูก เรียงสมองจูนสมองได้ถูกค่ะ

จริงๆจะเขียนให้เป็น SP ค่ะ บทนี้เป็น 1 ใน 3 SP ท้ายเรื่องแต่เสร็จก่อน เลยเอามาลงเป็นบทแทรกระหว่างทางตันที่เนื้อเรื่องหลัก...(ใจจริงจะลงต่อบทที่ 11 แต่พอดีลืม TT') ต่อๆไปไม่มีแล้วค่ะ เป็นเนื้อเรื่องหลักจนจบค่ะ อีกประมาณ 7-8 บท

ในบทแทรกทั้งบทไม่ได้มีส่วนอะไรมากในเนื้อเรื่องปกติค่ะ แค่เป็นช่วงเวลานึงของศศิน ที่ได้มาอยู่ในต่างเมือง เรียกว่าเป็นบทที่ไม่ได้โยงกับเนื้อเรื่องปกติก็ได้ค่ะ (บทที่เขียนเพื่อยำภาสวรตามความหมั่นไส้... แหะๆ)

ถ้าไม่ชอบยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ ^^

ปล. บทต่อไปน่าจะลงได้ในสัปดาห์หน้าค่ะ ก็ยังไม่มีอะไร มาม่ายังไม่มา...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 18-04-2014 00:59:02
น่าจะปามะม่วงใส่หัวเลย

ไม่เห็นใจศศินเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-04-2014 04:47:36
จะรอดูคนกลับใจ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: monalism ที่ 21-04-2014 11:11:46
น่าเสียดาย.... ที่วังน่าจะปลูกทุเรียนบ้าง

ภาสวร :m31:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: TheP ที่ 23-04-2014 12:26:07
รอๆๆ เรื่องนี้ด้วยคน พึ่งได้เข้ามาอ่านติดงอมแงมเลย

รีบมาต่อนะๆๆๆ น้าาา :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 23-04-2014 13:39:10
ชอบอ่านแบบเป็นบทเขียนมากกว่ากลอน
เข้าใจง่ายกว่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 23-04-2014 17:48:02
เข้ามารอเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 26-04-2014 00:03:33
เพิ่งได้อ่านเจอ แล้วติดเลยละค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย

และเพิ่งจะรู้ว่า นักเขียน เป็นคนแต่งเรื่องจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ

ที่คนอ่านชอบมากเลยดีใจสุดๆเลยละค่ะ แต่อ่านเรื่องนี้ไป ก็แอบคิดถึง

จ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ เหมือนกันค่ะ  :katai4:

รอตอนต่อนะค่ะ กด +++  :hao7: :hao6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 26-04-2014 02:00:03
เพิ่งได้อ่านเจอ แล้วติดเลยละค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย

และเพิ่งจะรู้ว่า นักเขียน เป็นคนแต่งเรื่องจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ

ที่คนอ่านชอบมากเลยดีใจสุดๆเลยละค่ะ แต่อ่านเรื่องนี้ไป ก็แอบคิดถึง

จ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ เหมือนกันค่ะ  :katai4:

รอตอนต่อนะค่ะ กด +++  :hao7: :hao6:

จ้าวหัวใจไปได้ไวกว่าเรื่องนี้อีกค่ะตอนนี้ 5555 แต่งไปคู่กัน

ถ้าจบแล้วจะนำมาลงใหม่นะคะ

สุริยายอแสง ตอนต่อกำลัง... กระดึ๊บค่ะ ไปได้ครึ่งบท เหลืออีกครึ่งบท TT//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 27-04-2014 22:44:41
จ้าวหัวใจไปได้ไวกว่าเรื่องนี้อีกค่ะตอนนี้ 5555 แต่งไปคู่กัน

ถ้าจบแล้วจะนำมาลงใหม่นะคะ

สุริยายอแสง ตอนต่อกำลัง... กระดึ๊บค่ะ ไปได้ครึ่งบท เหลืออีกครึ่งบท TT//


จะรอนะค่ะ อิอิ ดีใจมากมาย มานั่งเฝ้าเลยค่ะ :hao6: :katai4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 28-04-2014 21:57:41
แปะประกาศไว้นิดหน่อยนะคะ

โน้ตบุ๊คคนเขียนไม่ยอมเชื่อมเน็ตเดี๋ยวหาทางซ่อมแล้วจะมาลงตอนต่อนะคะ

อาจจะช้าเล็กน้อย คุณแม่ของคนเขียนเข้ารพ. บวกกับงานมหาลัยที่กองมา ขอจัดการอะไรๆก่อนนะคะ ;-;//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: armlporsch ที่ 29-04-2014 14:14:42
ศศินอยู่เมืองตัวเองก็โดนทั้งพ่อทั้งปู่เกลียดชัง
มาอยู่เมืองนี้ในฐานะเชลยแถมคนที่ครอบครองตัวเอง
กลับเป็นคนน้องสุริยภาสวรไม่ใช่รพีธรณินคนพี่ที่เป็นคนนำตัวมา
แต่สุริยภาสวรก็ดูรักใคร่ศศิินดี  มารอดูกันว่าสุริยภาสวรจะเลิกนิสัยเจ้าชู้ได้หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 29-04-2014 18:04:43
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 30-04-2014 22:40:03
ความเจ้าชู้ประตูดิน มันติดเป็นสันดานยากจะขุดฉันท์ใด

การที่จะทำให้รักเดียวใจเดียวแลซื่อสัตย์มั่นคงก็ยากฉันท์นั้น
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 03-05-2014 05:52:48
หายสาบสูญไปเลยนะเธอได้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 04-05-2014 19:57:51
ถ้าคอมหายเอ๋อแล้วจะมาต่อให้นะคะ ^^'
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: ฟ้าสีคราม ที่ 04-05-2014 23:32:27
ชอบมากกกกกกกก ชอบทั้งคำเรียก ทั้งการเขียนเรือง
แต่ศัพท์ ทำงงอยู่เหมือนกันนะคะ แหะๆ
สงสารศศินจริงๆ ตอนอ่าน

ยังจะรอตอนต่อไปนะคะ ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 04-05-2014 23:40:51
เงียบกริบเลย :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 04-05-2014 23:55:31
 :katai5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: Cheeze ที่ 05-05-2014 00:14:56
เราพึ่งได้เข้ามาอ่าน อ่านรวดเดียวเลยค่ะ
ชอบมาก ปกติก็ชอบอ่านแนวนี้อยู่แล้ว
คนแต่งก็แต่งได้ดีเลยนะคะ
ตอนแรกเราชอบองค์รพีมากจริงๆ
คือปันใจให้ไปแล้ว อึ้งมากทีเดียวที่องค์ภาสวรได้น้องศศินไป ฮือ
แต่ไหงเราอ่านไปอ่านมาชอบองค์ภาสวร มากกว่าก็ไม่รู้
โอ้ยยยย คนดีๆ มันไม่ถึงใจสินะ อุ๊บบบ ฮา อย่ามาม่ามากนะคะ
มันจะมีอะไรหักมุมอีกมั้ยเนี่ย คือตอนนี้เราชอบองค์ภาสวรมากกว่าแล้ว  :mew2: :mew2: :mew2:

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ แนวนี้แต่งยากมาก
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ จุ้บๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 05-05-2014 11:32:10
มันน่านักเชียวภาสวร


รังแกจันทราน้อยได้ยังไง


หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ ?? บทแทรก(ครึ่งหลัง) (P.16)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 06-05-2014 16:00:00
ทุเรียนปาเหรอน้อยไป เอามะพร้าวเราไปเพิ่มดิ หัวบานแน่  o18
รอค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-05-2014 01:09:25
ปฏิญญาที่ ๑๓

เจ็บแสนเจ็บเพื่อลูกน้อยต้องจำทน
ดวงหน้ามนซีดเปิดไร้เลือดสี
ใกล้แล้วเจ้าใกล้แล้วเวลาที่
ลูกน้อยนี้จักออกมาลืมตา



นับตั้งแต่วันที่หมอหลวงมาตรวจพระวรกายของเจ้าชายต่างเมืองแล้วแจ้งแก่นายเหนือหัวสูงสุดของแผ่นดินอุษณกร ความเป็นอยู่ของเจ้าศีตภาแห่งวสุนธราก็มีการเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อยเลยทีเดียว

สุริยภาสวรได้รับราชโองการให้คอยอยู่ดูแลชายา(?) ที่ยังไม่เป็นทางการเสียทีของตนจนกว่าจะให้กำเนิดทายาท แน่นอนว่าเขายินดีรับคำสั่งนี้เป็นอย่างยิ่ง และเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับเจ้าจันทราที่น่ารักของเขาทั้งวันคืน

ตัวศศินคคนานต์นั้นถูกสั่งห้ามมิให้ทำกิจกรรมอันใดที่ต้องใช้แรงมาก ทางที่ดีก็ให้นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่เฉย ๆ บนแท่นบรรทมได้ยิ่งดี แต่ก็ทำลืมในบางเวลา (ซึ่งบ่อยครั้ง) ออกไปเดินเล่นรับลม สูดอากาศในสวนดอกไม้ ซึ่งผลที่ได้คืออาการคลื่นเหียนที่ไม่พึงประสงค์นัก

รพีธรณินเข้ามาเยี่ยมเยียนอนุชาของพระองค์บ่อยครั้ง และทุกครั้งก็ทรงกลับไปเสียพระทัยที่พระตำหนักเสมอ ทรงคิดอยู่บ่อยครั้งว่าเหตุใดผู้ที่อยู่ข้างกายดวงจันทร์ต่างแดนนั้นมิใช่พระองค์... ทั้งที่พระองค์เป็นผู้พาเจ้าจันทร์มา อีกทั้งยังทรงเป็นรัชทายาท

แน่นอนว่าผู้ที่มีความสุขที่สุดย่อมเป็นองค์อินทัช กษัตริย์แห่งอุษณกรที่ทรงยิ้มไม่หุบ พระพักตร์ผ่องใสอยู่ตลอดวัน จนเหล่าขุนนางพากันยิ้มชื่นไปด้วย

“ศศิน เจ้าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม”เสียงทุ้มกระซิบถามว่าที่พระมารดาที่เพิ่งหยุดอาเจียนไปได้พักหนึ่ง “เดี๋ยวข้าสั่งให้ห้องเครื่องทำให้เจ้านะ อยากทาน อยากดื่มอะไร บอกข้าได้เลย รู้ไหม คนดี”

โอษฐ์อุ่นประทับจูบหนัก ๆ ที่ขมับชื้นเหงื่อ กรแกร่งโอบประคองร่างบางเอาไว้ไม่ห่างกาย ช่างเป็นภาพที่สวยงามนัก ใครได้พบเห็นก็ต่างพากันอมยิ้มอย่างยินดี

“ยังหวานชื่นเหมือนเคยนะเพคะ”เสียงหวานดังขึ้นระหว่างที่สององค์ชายยังอยู่ในโลกส่วนตัวกันอย่างมิสนใจผู้ใด “หม่อมฉันเอามะม่วงน้ำปลาหวานมาให้ คิดว่าองค์ชายศศินคงอยากเสวยของเปรี้ยว ๆ มิน้อย”

“ขอบใจท่านมาก พระชายาโศภิตสาริน”องค์ภาสวรเป็นผู้ตอบรับแทนคนข้างกายที่ยังมีใบหน้าซีดเซียว “ตัวท่านเองอีกไม่นานคงมีข่าวดีเช่นกันกระมัง”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หม่อมฉันจะรีบส่งคนมาบอกเลยเพคะ”ชายาแห่งองค์รพีคนงามหัวเราะด้วยใบหน้าผ่องใส “ระยะแรกก็แพ้หนักเช่นนี้ อีสักพักก็จะดีขึ้นเองเพคะ องค์ชายศศิน ทรงอดทนไว้นะเพคะ”

“ขอบพระทัยที่ทรงห่วงพะย่ะค่ะ พระชายา”ศศินยิ้มรับเซียว ๆ ก่อนที่จะทรงอ้าโอษฐ์รับเอาชิ้นมะม่วงจากมือพระสวามีมากิน

“เป็นอย่างไรบ้าง”องค์ชายรองถามเบา ๆ เมื่อเห็นคนที่อยู่ในอ้อมแขนกัดเอามะม่วงที่ดูน่าจะเปรี้ยวเข็ดฟันไม่น้อยไปเคี้ยวตุ้ย ๆ “เปรี้ยวหรือเปล่า”

“อื้ออ ไม่หรอก อร่อย”ใบหน้ามนส่ายน้อย ๆ แล้วยื่นมือไปหมายจะหยิบเอามะม่วงที่พระชายาแห่งองค์ชายรัชทายาทนำมาฝากมาทาน แต่ภาสวรกลับเลื่อนจานหนีแล้วหยิบเอามาป้อนแทน “ขอบคุณ”

“เอาไว้หม่อมฉันจะนำมาถวายให้อีกนะเพคะ”แม่หญิงโสภิตสารินยิ้มให้กับเจ้าจันทร์น้อยอย่างเอ็นดู “ถ้าขาดเหลืออะไรบอกหม่อมฉันได้เลยนะเพคะ หม่อมฉันจะจัดหามาให้”

“นั่งคงเป็นการรบกวนพระชายาเกินไปกระมัง”เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับพร้อมรอยยิ้มอ่อน ๆ “คนของข้าก็มีไม่น้อย ให้พวกเขาจัดการก็ได้ มิต้องรบกวนพระชายาหรอก”

“โอ้... หม่อมฉันยินดีทำให้พวกท่าน มิได้เป็นการรบกวนแม้เพียงน้อย”นางยังคงรักษาสีหน้าได้อย่างดี แม้ว่าจะถูกปฏิเสธมาอย่างไร้เยื่อใย “หม่อมฉันมิวางใจพวกบ่าวนัก เกรงว่าจะรับสินบนผู้ใดมาทำร้ายองค์ชายได้ เหมือนกับที่พี่ของหม่อมฉันโดน...”

บรรยากาศที่ดูอบอุ่นในคราแรก ตอนนี้กลับขรึมลง เมื่อนึกถึงพระชายาคนแรกขององค์รัชทายาทที่ถูกนางห้ามที่ไว้ใจลอบปลงพระชนม์ไปครั้งเมื่อตั้งพระครรภ์

ศศินที่ไม่รู้เรื่องอันใดก็มิปริปากถาม แม้จะแอบอยากรู้ไม่น้อย แต่นี่เป็นเรื่องภายในอุษณกร ถ้ามีใครอยากจะบอกค่อยรับรู้ แต่ถ้าไม่...

ไม่รู้ก็อาจจะดีกว่า

“พระชายา กระหม่อมขอบพระทัยที่ทรงห่วงใยอีกครั้งนะพะยะค่ะ”เมื่อเงียบไปได้พักหนึ่งแล้วก็ยังมิมีใครเอ่ยอันใดออกมา ศศินจึงตัดสินใจทำลายความเงียบนั้นลง “กระหม่อมขอรับความหวังดีนั้นไว้ ถ้าขาดเหลืออันใดจะให้น้อยไปแจ้งนะพะยะค่ะ”

“ได้เลยเพคะ ถ้าต้องการสิ่งใด หม่อมฉันจะรีบนำมาถวายให้”ยิ่งพิศยิ่งเอ็นดู ก็มิรู่ว่ามีอะไรมาดลใจนาง แต่เห็นองค์ชายน้อยคนนี้แล้ว นางรู้สึกถูกชะตานัก “หม่อมฉันเห็นองค์ชายเหมือนน้องชายของหม่อมฉัน ถ้ามีอะไรที่อยากพูดคุยมาสนทนากับหม่อมฉันได้ทุกเมื่อเลยนะเพคะ”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”ดวงเนตรกลมใสดังลูกแล้วค่อย ๆ ปรือลงทีละน้อย ความง่วงงุนเข้าครอบงำว่าที่พระมารดาอย่างสุดจะห้ามได้

สุริยภาสวรประคองร่างของศศินให้เอนกายลงนอนบนแท่นบรรทมนุ่ม ผ้าแพรผืนบางคลี่ออกห่มให้อย่างเป็นห่วงเป็นใย

พระชายาโสภิตสารินมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลายหลาก หนึ่งในนั้นคือความอิจฉา ความน้อยเนื้อต่ำใจ... ที่นางมิเคยได้รับความอ่อนโยน ดูแลเอาใจใส่เช่นนี้จากพระสวามีเลย

ไม่มีเลยที่จะได้รับอะไรที่เป็นของนางเอง...

อ้อมแขนที่โอบกอด... ก็มีผู้อื่นมาแบ่งปัน

เสียงกระซิบที่ข้างกรรณ... ก็มิได้เป็นของนางคนเดียว น่าน้อยใจนัก...

“ระยะนี้ศศินอ่อนเพลียนัก หวังว่าพระชายาคงมิถือสาที่จะให้เขาได้นอนพักผ่อนหรอกนะ”แม้คำพูดจะฟังดูอ่อนโยน แต่ในน้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความเย็นชา

“เพคะ หม่อมฉันทราบดี”นางยังคงตอบรับด้วยรอยยิ้ม นางรู้แจ้งดีว่าองค์ชายรองยังมิวางพระทัยให้นางได้ใกล้ชิดชายาของพระองค์ แต่ถึงอย่างไร นางก็จะใช้ความบริสุทธิ์ใจที่นางมีเอาชนะพระทัยให้ได้ “หม่อมฉันขอทูลลาไปก่อนนะเพคะ องค์ชายจะได้ทรงพักผ่อนให้เต็มที่”

นวลอนงค์องค์งานยอบกายลงน้อย ๆ ก่อนที่จะออกนอกบานทวารไปพร้อมกับนางกำนัลผู้ติดตาม

“พักผ่อนเถอะนะ ศศิน เดี๋ยวถึงเวลาข้าจะเรียกเจ้าขึ้นมาทานข้าว ดื่มยา”หัตถ์อุ่นลูบไล้กลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน “ข้าอยู่ตรงนี้ จะไม่ทิ้งเจ้าไปไหน เช่นนั้น จงหลับให้สบายเถอะนะ”

ศศินคคนานต์ยิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างสุขใจ


วันคืนผ่านไปอย่างเรียบง่าย ง่ายเสียจนทำให้ผู้ที่อยู่แต่ในตำหนักรู้สึกเบื่อหน่ายไม่น้อยเลย นางกำนัลส่วนพระองค์ก็แอบดอดออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง เมื่อองค์ชายผู้เป็นเจ้าของตำหนักประทับอยู่ด้วย

ศศินมองความเป็นไปรอบตัวอย่างเบื่อ ๆ อยากจะเดินเหินในสวนก็ไม่ได้ อยากจะลงครัวทำอาหารก็โดนห้าม ได้แต่นั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ในตำหนักตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์ จนถึงเวลานี้... ร่วมห้าเดือนแล้ว

ยิ่งกว่านักโทษเสียอีกกระมัง

แต่ก่อน ถึงแม้ว่าจะเหมือนอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็มีอิสรเสรี จะออกไปนอกวังเมื่อไรก็ได้ เดินเหินไปไหนก็ได้ แม้จะอึดอันในบางครา แต่ตอนนี้ จะไปไหนก็ต้องอยู่ในสายตาของคนมากมาย ถูกห้อมล้อมเสียจนอดคิดไม่ได้ว่าตนจะถูกแห่แทนนางแมวเวลาขอฝนหรือไม่

ก็เข้าใจ... ว่าเกรงจะมีคนทำร้าย เกรงว่าจะหกล้ม เกรงว่าจะได้รับบาดเจ็บ

แต่... อยู่เฉย ๆ แบบนี้มันก็น่าเบื่อไปเช่นเดียวกัน

แต่ยังดี ที่ยังมีจดหมายจากพระแม่เจ้า และรัชทายาทแห่งวสุนธราส่งมาบอกเล่าชีวิตและความเป็นไปให้รู้บ้าง ยิ่งได้อ่าน ยิ่งคิดถึงนัก

คิดดูแล้ว ชีวิตของพระองค์ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย นับตั้งแต่วันที่ก้าวเข้ามาอยู่ในต่างเมือง จากเจ้าชายผู้ไม่เป็นที่ประสงค์ มาเป็นเชลยศักดิ์ จนได้รับแต่งตั้งให้เป็นชายาขององค์ชายรองของแดนแม่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ราชโองการมาพร้อมกับพิธีแบบง่าย ๆ แต่ครบครัน เสร็จสิ้นในสามวัน เพื่อไม่ให้พระองค์ต้องเหนื่อย และกระทบถึงบุตรในครรภ์
ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่... ล่ะมั้ง

แต่นั่น... ก็แลกด้วยชีวิตที่เคยได้ทำอะไรมากมาย มานั่ง ๆ นอน ๆ กิน ๆ อยู่อย่างนี้... น่าเบื่อยิ่งนัก

แอบได้ยินนางกำนัลพูดกันว่า ที่เป็นอยู่อย่างนี้นั้น พระองค์ได้รับการดูแลยิ่งกว่าพระสนมเอกที่ตั้งครรภ์กับองค์เหนือหัวเสียอีก


“ภาสวร... เราอยากออกไปเดินข้างนอก”ศศินก้าวไปหาร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ไม่ไกล ท้องที่เริ่มนูนเด่นนั้นอาจจะทำให้รู้สึกเป็นภาระไปเสียหน่อย แต่เมื่อนึกถึงชีวิตน้อย ๆ แล้วก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้

“เจ้านี่นะ ไม่ชอบอยู่เฉย ๆ เลยจริง ๆ”มือหนาลูบไล้แก้มนุ่มเบา ๆ “เมื่อวานก็ไปตำหนักใหญ่ วันนี้จะออกไปรับลมที่สวนอย่างนั้นหรือ”

“ไม่ได้เหรอ...”ดวงตากลมช้อนมองอย่างออดอ้อน แบบที่ถ้าเป็นเวลาปกติจะไม่มีทางได้เห็นเป็นแน่ เรียกได้ว่าเป็นไม้ตายที่เก็บไว้เลยก็ได้...

ได้ชื่อว่าไม้ตาย... แน่นอนว่า... ยอม

“ไปสิ”

ร่างสองร่างขององค์ชายเดินทอดน่องอยู่ในสวนสวย หนึ่งคนเคยประคองอีกร่างที่เดินอย่างเชื่องช้าเอาไว้ ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก

มวลบุปผาราวกับรับรู้ว่าสุริยันจันทราจักก้าวเข้ามาทอประกาย ต่างพากันชูช่อส่งกลิ่นเย้ายวนให้เคลิบเคลิ้ม ผ่อนคลาย

ภาสวรประคองร่างท้วมให้นั่งลงบนพื้นหญ้านุ่มหัตถ์หนาลูบไล้ครรภ์ที่นูนป่องออกมา ก่อนที่จะทรงโค้งกายลงไปจุมพิตเบา ๆ อย่างรักใคร่

“เจ้าคิดว่าลูกของเราจะเป็นบุรุษ หรือสตรีกัน ศศิน”เสียงทุ้มเอ่ยถามว่าที่พระมารดาที่นั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ข้างวรกาย

“แล้วท่านอยากให้ลูกของเราเป็นบุรุษหรือสตรีกันเล่า ภาสวร”จันทร์เจ้าถามกลับด้วยรอยยิ้มบางเบา ดวงตาทอแสงอ่อนลงเมื่อได้พูดถึงบุตรที่จะเกิดมาในไม่ช้า

“ข้าหรือ... จะเป็นหญิง หรือชาย ข้าก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น แต่ข้าก็อยากได้ลูกชายสักสองคน ลูกสาวสักคนสองคนก็คงดีไม่น้อย”

“หืม สี่คนเชียวหรือ”

“เจ้าจะมีให้ข้าไหม ศศิน”ดวงตาคมสบกับคู่สนทนาอย่างออดอ้อน “เถอะนะ ๆ ยามแก่จะได้มีพวกเขาคอยดูแลไง  ไม่ดีเหรอ”

“ตามแต่ใจท่านแล้วกัน”ใบหน้ามนแดงก่ำ เบื้อหน้าหนีคนข้างกาย ท่ามกลางเสียงหัวเราะเบา ๆ ของเจ้าสุริยา

“เจ้าพูดเองนะ ศศิน”จมูกโด่งสูดความหอมจากแก้มแดง ๆ นั้น เบา ๆ “ข้าไม่พลาดแน่”

บรรยากาศหวาน ๆ แผ่กระจายมาจากเจ้านายทั้งสอง พาลพาให้ข้ารับใช้ทั้งหลายพากันยิ้มแย้มอย่างยินดี ก่อนหน้านี้ในช่วงที่เจ้านายทั้งสองของพวกเขายังไม่ลงรอยกันนั้น ยิ่งกว่าฟ้าครึ้ม พายุเข้าเสียอีก เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม แทบจะไม่มีให้เห็น

ถึงจะดูไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ข้ารับใช้ใกล้ชิดทั้งหลายรู้กันดี ว่าฝ่ายหนึ่งดื้อเงียบ ไม่หือ ไม่อือ ไม่ยิ้มให้กับอีกคนเลย แต่พอพบกันองค์รัชทายาทกลับแย้มยิ้มอย่างงดงามให้ ส่วนอีกฝ่ายก็เอาแต่ใจ ไม่เห็นหน้าอินทร์หน้าพรหม ทำร้ายกันเองมามากไม่น้อยเลย

ขอบคุณสวรรค์จริง ๆ ที่ทำให้ทั้งสองพระองค์ลดทิฐิลงแล้วหันหน้าเข้าหากันได้... จนมีความสุขอย่างทุกวันนี้


“อีกไม่กี่เดือนจะได้พบกันแล้วนะ ลูกน้อยของพ่อ”


หลังจากวันที่ทั้งสองพระองค์เผลอบรรทมไปในสวน หลังจากวันนั้นองค์ศศินก็ทรงประชวรไข้ และโดนสั่งห้าม มิให้ออกไปนอกตำหนักเกินครึ่งชั่วยามต่อวัน

จนวันนี้ เข้าเดือนที่แปดแล้ว ครรภ์ที่เคยราบเรียบ ตอนนี้นูนเด่น เด็กน้อยในท้องคงแข็งแรงนัก ถึงได้ดิ้นให้ผู้เป็นบิดาและมารดาได้หัวเราะกันบ่อยครั้ง

ความรู้สึกเจ็บหน่วง ๆ เริ่มเข้าหาว่าที่พระมารดาไม่เว้นวัน แต่ก็มิปริปากบอกใครให้รู้ ด้วยคิดว่าคงเป็นเพราะลูกน้อยดิ้นในท้องบ่อยครั้ง

แต่ความเจ็บนั้นเริ่มถี่ขึ้น นานขึ้นในหนึ่งวัน จนเริ่มเอะพระทัย... หรือว่ามันจะมิใช่ความเจ็บที่เกิดจากการที่ลูกขยับตัวกันนะ...

จนวันนี้... ความเจ็บนั้นสุดจะกลั้นจนทรุดลงไปโอดโอย ทำเอาคนรอบข้างตกใจกันไปหมด สุริยาภาสวรตะโกนลั่นให้คนไปเรียกหมอหลวง ส่วนพระองค์โอบอุ้มเอาร่างของพระชายาไปยังเตียงนุ่มอย่างร้อนรน

“ทนหน่อยนะ ศศิน เดี๋ยวหมอหลวงก็มาแล้ว”เสียงทุ้มปลอบประโลมร่างที่นอนบิดกุมท้องใหญ่โตเอาไว้ด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
ชายาของพระองค์เป็นอะไร ทำไมถึงได้ดูเจ็บปวดเยี่ยงนี้

“เจ็บ เราเจ็บเหลือเกิน”เสียงแหบเครือครวญครางออกมาจากลำคอ ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังนั้นอดที่จะรู้สึกเจ็บปวดไปด้วยมิได้ “ทำไม... ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ อึก โอ้ย”

“ไม่เป็นไรนะคนดี เจ้าต้องไม่เป็นไร”

#####################

มาต่อแบบมึน ๆ 5555 ตอนแรกจะมาลงตั้งแต่วันเสาร์แล้วค่ะ แต่มันสั้นเกิน เลยต่ออีกหน่อย จนมาได้ลงวันนี้ แหะ ๆ

เอาล่ะ ตอนต่อไปที่รอคอย ^+++^ ปั่น ๆ ๆ

// วิ่งแวบ ก่อนจะโดยเปลือกทุเรียน โทษฐาน ดองเป็นระยะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 08-05-2014 01:20:54
ขอให้คลอดอย่างปลอดภัยน้าาา  :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 08-05-2014 01:35:10
อ่าาาาาา มาแล้ว

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 08-05-2014 02:06:45
 :mew1:   อร๊ากกก ศศินมาแล้ว คิดถึงมากๆๆๆๆ   :กอด1:    มาคราวนี้ ท้องโตซะละ   :hao3:   แต่เหมือนวิบากกรรม กำลังตั้งเค้ามาแต่ไกลๆ เอ๊ะ หรือว่าจ่อปากประตูแล้วหว่า   :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: me_toey ที่ 08-05-2014 02:10:42
ขอให้คลอดอย่างปลอดภัย :call:
 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 08-05-2014 06:36:17
ในที่สุดก็ได้อ่านสักที  ศศิน้ป็นอะไรหรอ จะคลอดแล้ว?ก่อนกำหนดเลย?  ได้อ่านทั้งทีแต่ดันค้าง :hao5: คนเขียนรีบๆมาต่อนะ อย่าทิ้งไว้นานเค้าคิดถึงมากกกกกกกก :mew2:  อยากอ่านอีกอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 08-05-2014 07:49:56
มาต่อให้อยากแล้วจากไปนะท่านแ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 08-05-2014 07:51:00
กรี๊ดดดด ดีใจได้อ่านตอนต่อแล้ว ว่าแต่ขอให้ศศินคลอดปลอดภัยน้า
แล้วพอมีคนแรกปุ๊ป พ่อคงรอปั๊มคนต่อไปให้ครบสี่แน่เลย 555 :z1:

ปล. โชคดีที่ศศินไม่ได้ไปเป็นน้อยนะเนี่ย ขอให้ชายาอีกคนจริงใจและเป็นมิตรกับศศินจริงๆเถอะ
และรอ(ตอนแทรก?)ที่จะรอดูว่าทำไมมารักกันได้ และภาสวรเลิกเจ้าชู้ได้นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 08-05-2014 08:11:23
ศศินจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ  :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 08-05-2014 09:15:41
จะคลอดแล้วๆๆ เย้ ขอให้สมบูรณ์แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูกนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 08-05-2014 09:35:45
กำลังจะคลอดแล้ว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 08-05-2014 10:49:21
จะเป็นอะไรมั้ยนะ ;_;
ขอให้ปลอดภัยทั้งแม่และเด็กนะะะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 08-05-2014 10:50:45
ขอให้คลอดอย่างปลอดภัย ไม่มีดราม่าด้วยเถิด ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-05-2014 10:57:12
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-05-2014 11:57:56
จะคลอดเเล้วเฮ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-05-2014 14:14:50
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 08-05-2014 14:54:30
'ง่ะ เป็นอะไรอ่ะ อย่างแท้งน้า(ตบปากตัวเอง ปากเสียๆ)


ขอให้โชคดีน้า อย่าหักมุมหักโค้ง หักเลี้ยว แหกโค้งอะไรเลยนะ(สาธุจ่ะ)

.....................................

อย่าดองนานน้าอยากอ่านแล้วอ่าาา  สงสารเถอะนะ(ห้าๆ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 08-05-2014 16:16:03
ขอให้ศศินคลอดอย่างปลอดภัยด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-05-2014 17:32:53
จะเป็นอะไรไหมอะ o22

**** วอนคุณมัชฌิมาราตรี โปรดอย่าแหกโค้งอีกเลย สาธุ :call: ****
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-05-2014 18:09:21
เดี๋ยวหลงลูกใหญ่เลยทีนี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 08-05-2014 20:49:38
จะคลอดแล้วใช่ไหม ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Ghost-666 ที่ 08-05-2014 21:12:19
เย้!! จะคลอดแล้วดีใจสุด  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-05-2014 00:03:00
จะตลอดล้าาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 09-05-2014 00:10:21
โอ้ยยยยยยยยยยย   ขอให้ปลอดภัย   :katai1: 

+1 ให้คนเขียน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 09-05-2014 01:05:21
จะคลอดอย่างปลอดภัยใช่มั้ย
เอาใจช่วยนะ ไม่คิดว่าจะมีช่วงเวลาทรมานอย่างบทแทรกด้วย
ทัั้งสองคนก็ผ่านอะไรกันมามากกว่าที่คิด ตอนนี้ก็ยิ้มดีใจที่รักกันหวานชื่น
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: mamajie ที่ 09-05-2014 17:54:13
 :katai1: :mew2:ยังหมั่นไส้อีภาสวรไม่หาย ยิ่งคิดยิ่งหมั่นไส้ :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 09-05-2014 22:54:46
เพิ่งมาตามอ่านคะ บอกตรงๆตอนที่สิบเอ็ดแอบเงิบอะ ยกให้ภาสวรอ่า แต่อ่านต่อก็โอเคค หวานๆดูศศินจะมีความสุข หวังว่าจะคลอดอย่างปลอดภัย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-05-2014 10:34:53
อุ๊ ให้ภาสวรเป็นพระเอกน่ะ ดีที่าุดแล้วจริงๆนา

ใครไม่เชื่อ... (หัวเราะชั่วร้าย)

// แวบหายไปแต่งต่อ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 10-05-2014 15:32:20
ห๊ะ จะคลอดแล้วเหรอ?

โอ๊ว ขอให้คลอดได้ปลอดภัยทั้งแม่และลูกน่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: knoxziekanoon ที่ 10-05-2014 16:25:43
พึ่งเข้ามาอ่านคะ สนุกมากๆ น่าติดตาม แต่มันต้องมีคลื่นใต้น้ำอะไรแน่ๆรู้สึกตะหงิดๆ (ไปเอง)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 10-05-2014 22:22:06
ขอให้ปลอดภัยนะองค์ชาย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-05-2014 01:11:01
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกดีค่ะ ชอบ ๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 31-05-2014 22:19:18
ลุ้นๆ ขอให้ปลิอดภัย  :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 01-06-2014 00:11:33
คิดถึงจังเลย รออยู่น้า  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: meeoldly ที่ 01-06-2014 00:17:01
มานั่งรอตอต่อไป

 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 01-06-2014 02:59:54
แง๊  เค้าค้างงงงงงงงงงงงง

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 01-06-2014 13:12:44
สนุกมากเลยค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Cheeze ที่ 02-06-2014 22:32:48
รออยุ่นะคะะะ หายไปไหนหนออออ
งืออออออออออออออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: Pumpkin_23 ที่ 03-06-2014 10:06:12
รออยู่น้าาาา

อยากอ่านมากกกกกกก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 04-06-2014 01:28:11
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ นี่แหละแนวที่ชอบเลย  :L1:  อ่านตอนแรกที่เอื้อนกลอน คิดว่าจะไม่ไหวซะแล๊ะ ไอเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนภาษาไทยมากอยู่ค่ะ อ่านพวกกลอนทั้งหลายแล่เกือบไม่กระดิกเลย แต่ไอก็ชอบความสละสลวยของภาษาไทยนะคะ 
แต่กลอนของเรื่องนี้อ่านรู้เรื่องค่ะ อ่านง่ายมากเลย เพราะงั้นก็ติดหนึบบบบเลยเชียว  :กอด1:
ฉะนั้น...อย่าดองนานค่ะ มาต่อเรื่อยๆสิ! เดือนละตอนนี่ไม่ไหวนะ มาต่อได้แล้วค่ะ!!  :angry2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-06-2014 09:17:13
หวังว่าคงคลอดด้วยดีนะ  ไม่ใช่มีเหตุร้ายเกิด :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 08-06-2014 17:13:39
มารออ่านตอนต่อไป  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-06-2014 17:49:35
มารึยังหนอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-06-2014 20:16:10
สิ้นเดือนจะคลานมาอัพนะคะ ;-;//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-06-2014 20:33:09
ต้องมาจริงๆนะครับ ;w; ) //
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: Pithchayoot ที่ 08-06-2014 22:27:23
เอาใจช่วยคุณแม่มือใหม่ฮะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 09-06-2014 19:25:10
มารอฮะ  :')
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: silver ที่ 09-06-2014 21:53:45
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 13 (P.17) แจ้งข่าวหน้า 1
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-06-2014 21:42:43
ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ นี่แหละแนวที่ชอบเลย  :L1:  อ่านตอนแรกที่เอื้อนกลอน คิดว่าจะไม่ไหวซะแล๊ะ ไอเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนภาษาไทยมากอยู่ค่ะ อ่านพวกกลอนทั้งหลายแล่เกือบไม่กระดิกเลย แต่ไอก็ชอบความสละสลวยของภาษาไทยนะคะ 
แต่กลอนของเรื่องนี้อ่านรู้เรื่องค่ะ อ่านง่ายมากเลย เพราะงั้นก็ติดหนึบบบบเลยเชียว  :กอด1:
ฉะนั้น...อย่าดองนานค่ะ มาต่อเรื่อยๆสิ! เดือนละตอนนี่ไม่ไหวนะ มาต่อได้แล้วค่ะ!!  :angry2:

^+++^ ยังพออ่านรู้เรื่องใช่ไหมคะ >< ไม่มั่นใจเรื่องกลอนเท่าไหร่ แหะๆ

เดี๋ยวมาต่อค้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-07-2014 01:27:08
ปฏิญญาที่ ๑๔

โองการใหม่มอบให้ส่งบัญชา
กรีดใจเจ้าจันทราให้ชุ่มเลือด
รับฟังแล้วกายาเหมือนแห้งเหือด
อยากขอเชือดตัวตายในบันดล


หมอหลวงถูกตามตัวมาอย่างว่องไว ก่อนที่ทั้งพระตำหนักจะเข้าสู่ความวุ่นวาย เมื่อหมอหลวงสังการลงมาให้เตรียมห้องเพื่อนใช้ในการประสูติการของขัตติยวงศ์องค์ใหม่อย่างเร่งรีบ

องค์ชายสุริยภาสวรถูกสั่งให้ออกมารอข้างนอกกับพระบิดา พระมารดา และเสด็จพี่ของพระองค์ พระพักตร์หล่อเหลาฉายแววกังวลอย่างเปิดเผย

“ภาสวร เจ้าไม่ต้องเคร่งเครียดกังวลไป ศศินคคนานต์กับลูกจะต้องไม่เป็นอะไรเป็นแน่”พระมารดาแห่งอุษณกรเข้ามาปลอบโยนพระโอรสของพระนางด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“แต่ศศินดูเจ็บปวดยิ่งนัก...”

“เจ็บคลอดก็เช่นนี้ มิได้เกิดอะไรร้าย ๆ หรอก คราที่แม่จะคลอดเจ้า แม่ก็เจ็บเช่นเดียวกัน”แขนเรียวโอบกอดบุตรชายของตนเอาไว้อย่างอ่อนโยน “เจ้าทั้งสองเป็นบุรุษ มิเคยได้รับรู้ความรู้สึก มิเคยได้พบเห็นสตรียามคลอดย่อมไม่รู้เรื่องเช่นนี้ แม่เคยผ่านจุดนี้มาแล้ว เจ้าเชื่อแม่เถอะ”

ภาสวรไม่เอ่ยตอบอะไร เอาแต่มองบานประตูที่ปิดแน่นด้วยความรู้สึกที่หลายหลาก ยิ่งเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของชายา ยิ่งทำให้ใจที่สั่นไหวอยู่แล้วนั้นสั่นคลอนเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก

หนึ่งวินาที เหมือนหนึ่งปี กว่าจะผ่านพ้นไปนั้นเชื่องช้ายิ่ง นางกำนัลวิ่งเข้าออกเป็นว่าเล่น ยิ่งได้เห็นน้ำที่เป็นสีแดงนั้น ยิ่งทำให้ภาสวรอยากจะวิ่งเข้าไปอยู่เคียงข้างคนรักของพระองค์

พระองค์ทรงทำได้แค่เฝ้ามองอยู่ตรงนี้เท่านั้นจริง ๆ หรือ

น่าจะมีสิ่งที่ทรงทำได้มากกว่านี้สิ... ไม่ มันต้องมีสิ

ร่างโปร่งยันหายขึ้น หมายจะเปิดเข้าไปภายในห้องที่ชายาของพระองค์กำลังให้ประสูติกาลทารกร้อย แต่ก็ถูกองค์ชายรพีธรณินฉุดรั้งเอาไว้

“น้องควรนั่งรอคอยอยู่ตรงนี้ ภาสวร พี่รู้ว่าน้องห่วง แต่นี่คือสิ่งเดียวที่น้องและทุกคนทำได้”ผู้เป็นพี่เอ่ยเสียงนิ่ง ๆ “นั่งลงเสีย น้องพี่”

สุริยภาสวรได้แต่กัดฟันนั่งลง เฝ้ามองบ้านทวารที่ปิดสนิทด้วยดวงหฤทัยที่ร้อนรนดังมีไฟแผดเผาให้รู้สึกปวดร้าวอยู่เป็นระรอก

ยิ่งยามที่ได้ยินเสียงกรีดร้องที่ฟังดูเจ็บปวดยิ่งนัก พาลให้พระองค์อยากที่จะพุ่งตัวเข้าไปหาชายาที่อยู่ภายในยิ่งขึ้นไปอีก

ถ้ามิมีมืออันอบอุ่นของพระมารดาฉุดรั้งเอาไว้ และคำของผู้เป็นพี่คอยปลอบประโลมใจให้นิ่งสงบขึ้น... เพียงเล็กน้อย

ความชุลมุนยิ่งเพิ่มพูนเมื่อเด็กน้อยจะออกมาดูโลก นางกำนัลน้อยใหญ่วิ่งเปลี่ยนน้ำในกะละมังทองเหลืองวุ่น เสียงร้องของศศิน เคล้าเสียงของหมอหลวงดังเป็นระรอก..


ก่อนที่ทุกอย่างจะนิ่งสงบไป


พร้อมกับเสียงร้องของเด็กที่ลอดออกมาให้ผู้เฝ้ารอได้ยินยล เสียงที่แทรกลึกเข้าไปในหัวใจของผู้เป็นเครือญาติ ดังน้ำทิพย์ชโลมจิตใจให้ชื้นชุ่ม

หมอหลวงเปิดบานประตูออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม พร้อมกับผายมือเชื้อเชิญทุกพระองค์ให้เข้าไปข้างใน

“เป็นโอรสพะยะค่ะ ฝ่าบาท... อย่าเพิ่งทรงอะไรมาก องค์ศศินยังต้องอยู่ไฟอีกระยะหนึ่งนะพะยะค่ะ”หมอหลวงทูลต่อองค์ชายสามด้วยน้ำเสียงนอบน้อม กึ่งยินดี

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านมาก”ร่างโปร่งก้าวเข้าไปหาอีกคนที่นั่งพิงหมอนนุ่มอยู่บนแท่นบรรทม โดยมีนางกำนัลคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา


ทารก น้อยตัวแดงเล็กน่ารัก
เจ้าดวงพักตร์อิ่มเอมดูผ่องใส
ลูกน้อยเจ้าน่าชังเสียกระไร
 สายคล้องใจพ่อและแม่เจ้าลูกยา

นางกำนัลสาวช่วยประคองโอรสน้อยให้อยู่ในอ้อมแขนของพระมารดา ศศินและภาสวรมองเด็กตัวน้อยด้วยความรักที่เปี่ยมล้น

 "เดี๋ยวข้าช่วยประคองเจ้าเอง ศศิน"อ้อมกอดอันอบอุ่นโอบร่างเพรียวและลูกเอาไว้ด้วยความรัก "เจ็บมากไหมเจ้า"

"เจ็บจนแทบขาดใจ แต่เรายินดีนัก ที่จะรับมัน"รอยยิ้มซีดเซียวแย้มให้กับสวามี "โอรสของเราน่ารักน่าชังนัก ภาสวร"

"ใช่แล้ว ศศิน"โอษฐ์อุ่นกดจูบหนัก ๆ ที่ขมับชื้นเหงื่อ พร้อมทั้งส่งรอยยิ้มอันอบอุ่นอ่อนโยนให้กับคนในอ้อมแขน "เจ้าเก่งมาก ที่รัก"

กลิ่นอายแห่งรักอบอวนไปทั่วทั้งห้องกว้าง นางกำนัลที่ได้เฝ้ามองต่างพากันยิ้มอย่างปลาบปลื้มยินดี  แต่ก็มีบุคคลหนึ่งที่มองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวด...


หลายวันผ่านพ้น ทั้งวังหลวงแห่งอาณาจักรอุษณกรนั้นต่างมีแต่รอยยิ้มที่เปลี่ยมสุข เมื่อโอรสน้อยถือกำเนิดขึ้น ของขวัญจากประชาชนที่อยากถวายให้นั้นถูกส่งเข้ามาไม่ขาด...

มากมายนัก... นี่ยังไม่รวมของขวัญจากดินแดนเพื่อนบ้านเลย

"เสด็จพ่อ... เหตุใดท่านถึงยกศศินให้ภาสวร มิใช่ลูกหรือพะยะค่ะ"อยู่ ๆ องค์รพีธรณิณก็เอ่ยถามพระราชบิดาขึ้น ครั้งเมื่ออยู่กันสองต่อสอง

"เพราะภาสวรเป็นคนเจ้าสุริยา ตามคำทำนายอย่างไรเล่า รพี"ผู้เป็นพระบิดาตอบกลับด้วยพระพักตร์ที่ยิ้มแย้ม สดใส

"แต่ตัวลูกก็เป็นดวงสุริยะแห่งอุษณกรเช่นกัน"รพีธรณิณค้านวาจาผู้เป็นพ่อ ด้วยเสียงเครือ "ลูกถือกำเนิดในวันที่ดวงอาทิตย์ฉายแสงกล้า อีกทั้งยังตกฝากเวลาที่ดวงตะวันนั้นอยู่เหนือหัว เสด็จพ่อ ท่านทราบได้อย่างไรว่าผู้ที่อยู่ในคำทำนายนั้นเป็นน้องภาสวร มิใช่ลูก"

องค์อินทัชนิ่งเงียบไปในบันดล จริงเสียด้วย พระองค์ทรงคำนึงถึงแต่พระอาทิตย์ทรงกลด มิได้เฉลียวใจอันใด... แล้วถ้าผู้ที่อยู่ในคำทำนายนั้นมิใช้โอรสองค์รองที่กำเนิดจากพระมเสีอย่างที่ทรงคิดเล่า

ทรงพลาดเสียแล้ว...

ทางแก้ล่ะ...

จริงสิ...

"ข้าจะให้ศศินคคนานต์มีโอรสกับเจ้าอีกองค์หนึ่ง รพีธรณิณ"


สายขัตติยวงศ์องค์น้อยช่างแข็งแรง เป็นที่ชื่นใจของผู้เฝ้ามองนัก รอยยิ้ม ความสุขอบอวนไปทั่ววังหลวง ไม่ทันไรก็ผ่านมานานนับเดือน

งานเฉลิมฉลองทั่วทั้งอาณาจักรถูกจัดขึ้นในวันที่เด็กน้อยนั้นเจริญวัยครบ 50 วัน แต่ก็จัดอย่างเรียบง่าย เพราะองค์ชายสุริยภาสวร และองค์ศศินคคนานต์นั้นทูลขอเอาไว้

แต่กระนั้นก็จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ เมื่อองค์ชายน้อย สุริยมาส มีอายุครบขอบปี

และห้ามมีข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น

เป็นการยื่นคำขาดสุดท้ายจากผู้ปกครองแผ่นดินอุษณกรแห่งนี้


หลังจากที่ผ่านการฉลองครบ 50 วันขององค์ชายน้อยไปด้วยดี องค์กษัตริย์แห่งอุษณกรก็ทรงมีพระราชโองการถึงพระมารดามือใหม่ โดยมิฟังเสียงค้านขัดของโหราห์แห่งเมืองนอนแม้เพียงคำ

"มีพระราชโองการมาถึงองค์ศศินพะยะค่ะ"องครักษ์คู่กายราชาวัยกลางคนก้าวเข้า มาในตำหนักขององค์ชายสามด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก กับสิ่งที่จะต้องเกิด ตัวเขาเองยังไม่เห็นด้วยเลย นับประสาอะไรกับองค์ศศินที่จะเป็นผู้รับวิบาศกรรมนี้เล่า

จะไม่ตกใจจนสิ้นสติหรือ

ศศินส่งโอรสน้อยในอ้อมกรให้กับแม่นม ก่อนที่จะรับเอาพระบรมราชโอการนั้นไปเปิดอ่าน โดยมีองค์ภาสวรนั่งอยู่เคียงข้าง

ทั้งสองพระองค์กวาดตาอ่านข้อความภายในอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะชะงักค้าง กายแข็งทื่อ พระราชสารในมือร่วงหล่นลงพื้นไป

“นี่มันเรื่องบ้าอะไร”ภาสวรตะโกนก้องตำหนักด้วยความเกรี้ยวกราด “เสด็จพ่อทรงทำเช่นนี้ หมายความว่าอย่างไรกัน!!!”

“ตามที่เขียนเอาไว้นั่นแหละ ภาสวร”ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นพระราชบิดาก้าวเข้ามาอย่างองอาจ “ศศินจักต้องมีพระโอรสกับรพีธรณินอีกองค์หนึ่ง”

“ด้วยเหตุใดเสด็จพ่อ ศศินเป็นชายาของลูก เหตุใดท่านถึงมีพระราชโองการเช่นนี้ออกมาได้”องค์ชายตรัสถามผู้เป็นพอเสียงดวง ดวงเนตรสั่นระริกด้วยความโกรธ สับสน เสียใจ

“เพื่อความรุ่งเรืองของอาณาจักรของเรา เรื่องแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยนัก”องค์อินทัชตรัสด้วยสุรเสียงเยียบเย็น “หลังจากนั้นพวกเจ้าจะอยู่กินอย่างไรก็ตามแต่ใจ”

“แต่...”

“นี่เป็นคำสั่ง เจ้ามิมีสิทธิ์ขัด รู้ไว้ สุริยภาสวร”เสียงที่ตอกกลับมานั้นเปรียบดังแท่งน้ำแข็งแทงเข้ากลางใจสองดวง “ข้าหวังว่าเจ้าคงรู้หน้าที่ ศศิน”

เมื่อทรงตรัสจบ ก็เสด็จกลับไปในทันที โดยมิหันมามององค์ชายทั้งสองเลยแม้แต่น้อย

“ศศิน... เรา... เราหนีไปด้วยกันไหม”ภาสวรเอ่ยถามคนรักด้วยน้ำเสียงและแววตาที่มุ่งมั่น “ข้าจะดูแลเจ้ากับลูกเอง... เช่นนั้น...”

“ภาสวร... สุริยมาศยังเล็กเกินกว่าที่จะออกไปลำบาก”เสียงที่ตามกลับมาช่างแหบพร่าและสั่นเครือ “เรา... เรากลัวลูกจะเป็นอะไร”

“เช่นนั้นแล้ว... เจ้าจะยอมให้เสด็จพี่กอดเจ้า มีโอรสกับเจ้าเช่นนั้นหรือ...”

“ถ้านั่น... ทำให้ลูก และท่านปลอดภัยแม้จะเจ็บเจียนตาย เราก็จำต้องทำ”รินโอษฐ์บางสั่นระริก ศศินเอื้อมกายขึ้นจุมพิตริมฝีปากเรียวเบา ๆ “ท่านจะรังเกียจเราไหม...”

“ไม่ ข้าไม่มีวันรังเกียจเจ้า”พระกรแกร่งตวัดกายบางเมาโอบรัดเอาไว้อย่างหวงแหน “ข้า... ข้าจะทนได้อย่างไร จะทนให้เจ้าต้องอยู่ใต้ร่างชายอื่นได้อย่างไร... เกียรติของเจ้า ศักดิ์ศรีของเจ้า ข้า... ข้า”

“ภาสวร... เราเป็นบุรุษ การที่ตั้งครรภ์ได้ การที่อยู่ใต้ร่างผู้อื่น ก็เสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรีมากแล้ว... จะเพิ่มไปอีกสักอย่างคงมิเสียหายอะไร”เอ่ยเองก็กรีดใจตัวเอง ใช่ เรื่องพวกนั้นพระองค์ทิ้งมันไปหมดนับตั้งแต่วันที่ตกเป็นของชายตรงหน้าแล้ว...

“ศศิน...”

“ครานี้ เราจะปกป้องท่านและลูกของเรา สุริยภาสวร”


ในคืนนั้น ศศินคคนานต์จักต้องก้าวไปยังสถานที่ ที่ไม่เคยคุ้น สถานที่ ที่มิทรงคาดคิดว่าจะต้องเข้ามา อย่างตำหนักต้องห้าม... ตำหนักของนางห้าม

เพื่อไม่ให้เรื่องที่พี่น้องมีเมียเดียวกันแพร่งพรายออกไป...

“ข้าเฝ้ารอวันนี้ รู้ไหม เจ้าจันทร์น้อย”เสียงนุ่มทุ้มอ่อนโยนเมื่อคราที่เคยได้สนิทสนม แต่ครั้งนี้กลับฟังแล้วเสียใจยิ่งนัก “ข้ารอที่จะได้กอดเจ้า มีเจ้าข้างกายอยู่ตลอด ศศิน”

“จะทรงทำก็รีบเข้าเถิด ฟ้าสางเมื่อใด กระหม่อมต้องรีบกลับไปหาพระโอรส”คำหวานที่ฟังรื่นหูนั้นผ่านเลยไปอย่างไม่คิดจะใส่ใจ

”มิเห็นต้องรีบเร่งอันใดเลย...”ถึงปากจะพูดเช่นนั้น แต่หัตถ์หนากลับค่อย ๆ ปลดผ้าผ่อนที่ร่างเพรียวนั้นใส่สวมมา “งามเหลือเกิน เจ้าจันทรา”

ร่างของศศินเอนกายลงบนพระแท่นนุ่มตามแรงของผู้ชักนำ กายเปล่าเปลือยแนบชิดกันถ่ายทอดไออุ่น

ยามที่ขาเรียวถูกแหกกว้าง ศศินนั้นได้แต่เบือนหน้ามองไปทันบัญชรที่เปิดกว้าง มองดวงจันทร์ที่ทอแสงอ่อน ดูมืดมัว

เหมือนรับรู้ถึงความทุกข์ของเขา

ยามที่ลึงค์อุ่นร้อนแทรกเข้ามาในกาย เหมือนมีเข็มอาบยาพิษแทงเข้าไปในหัวใจดวงน้อย หยาดน้ำตาไหลรินลงมาเงียบ ๆ เคล้าเสียงครางแหบ


เจ็บปวดนัก... ที่ดวงหฤทัยดวงนี้


เจ็บปวด... จนอยากจะตายจากไปให้พ้น ๆ เสียจริง


ภาสวร... เราขอโทษ...



++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้าา ช้าอีกแล้ว TT แต่งยากจริง ๆ ตอนนี้ หาเวลามาต่อได้จนจบสักที (คนเขียนเพิ่งปิดเรียนซัมเมอร์ของมหาลัยค่ะ ^^)

มาต่อก็พาเรื่องปวดใจมาเลย... อย่าเพิ่งปาอะไรใส่คนเขียนนะคะ TT โดยเฉพาะทุเรียน

แต่งไป ปวดใจไป แต่งเอง วางเรื่องเองแท้ๆ TT // จะแก้ก็แอบขี้เกียจวางเรื่องใหม่ แต่งกลอนใหม่... ทำใจกันต่อไปนะคะ

ถ้ามีคำผิดตรงไหน แจ้งได้เลยนะคะ (เพิ่งแต่งจบบท ลงเลย อาจจะมีคำผิดบ้าง เบลอบ้างน่ะค่ะ)

 :mew1:

มีใครคิดถึง หญิงศรบางไหมเอ่ยย

ขอตอบหน่อยนะคั เรื้องนี้เป็นเรื้องหนึ่งที่เราติดตาม มันน่านสนุกค่ะ แต่หลังจากเจอพล็อตโอเคมันพลิกแนว แต่เราเฉยๆะค่ะ พอคาดได้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่าย เนื้อเรื่องเริ่มไม่ต่อเนื่อง มันกระจัดกระขายมากขึ้น ยอมรับค่ะว่าเสียความรู้สึกค่ะ คือสุขยังไม่ทันโอเคเศร้ามาต่อ มันเป็นพล็อตแล้วแต่ผู้เขียนที่จเขียน แต่เราคงโบกมือลาค่ะ ไม่ไหว เพราะดราม่าจริงแต่ยังไม่คั้นอารมณ์เราไม่เท่าไร เหตุผลมันดูไม่ต่อเนื่องด้วยค่ะ

ขอยคุณนะคะ ที่อ่านมาถึงตอนนี้ ^^

ต้องยอมรับค่ะว่าบางช่วงคนเขียนเองก็ยังต่อเรื่องไม่ดี บางช่วงตัดตอนไปแบบไว ๆ (ต่างจากจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิที่เคยลง อันนั้นยืดยาวเลยทีเดียว 555) ยิ่งตอนนี้ แต่งในมือถือ กะว่าจะไปขยายความในคอม ก็ไม่ได้ทำ เพราะเห็นว่าดองนานมากแล้ว... (อันทีี่จริงเรื่องนี้วางพล็อตไว้ตอนมัธยม มาเขียนค้างเอาไว้ถึงตอนที่ศศินและภาสวรมีอะไรกัน(แต่งกลอนทิ้งไว้) และมาต่อตอนต่อ ตอนมหาลัย พล็อตครึ่งหลังหายไปกับกองหนังสือเรียนจนต้องมาต่อใหม่(ทำให้ช่วงที่ศศินซื้อใจภาสวรได้หายไป...) แล้วก็หายอีก เพิ่งแต่งออกมาใหม่ค่ะ บอกตรง ๆ ว่าเคว้งจนจะไม่ต่อแล้ว ในตอนแรก แต่ใจยังนึก ยังมีคนรออ่านอยู่นะ เลยทำให้เป็นส่วนที่ช่วงแรกช่วงหลังเริ่มกระจายหนัก กับพล็อตที่วางใหม่ถึง 3 รอบ ขออภัยค่ะ) และอาจจะด้วยเป็นคนที่ยังเขียนสื่ออารมณ์ได้ไม่ดีนัก จึงทำให้ไม่สุดในหลาย ๆ เรื่อง ขอขอบคุณสำหรับคำติชมนะคะ ถ้ามีโอกาสคงได้พบกันในเรื่องหน้าค่ะ

สำหรับใครที่ได้อ่านตรงนี้ และจะติดตามอ่านต่อ เนื้อเรื่องจะไม่มีพลิกแล้วนะคะ ไม่ได้ยกให้ใครแล้วนะคะ เนื้อเรื่องจะไปต่อทางตรงแล้ว ยังไงศศินก็กลับไปอยู่กับภาสวรเหมือนเดิม แต่เรื่องจะไปจนจบยังไง ติดตามต่อนะคะ อีก 6 บทก็จะจบแล้วค่ะ

อาจจะดูเหมือนไม่ตั้งใจแต่งเท่าจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ (ถ้าเคยอ่านกัน) แต่ขอบอกเลยนะคะ ว่าสุริยายอแสงนี้ คนเขียนทุ่มเทในการเขียนไม่น้อยกว่าเรื่องอื่น ๆ ค่ะ โดยเฉพาะในด้านภาษา จริงๆคนเขียนเป็นคนที่ไม่ได้ชอบอ่านพวกวรรณคดี โคลงกลอน พวกนี้เลย (ชอบแฟนตาซี...) อาจจะมีจุดพลาดมากมาย แต่จะขอปรับปรุงต่อไปนะคะ // แต่คงไม่มีแนวนี้ออกมาแล้วล่ะค่ะ (แต่จะต่อจ้าวหัวใจให้จบนะคะ... ถ้ามีคนอ่าน555) จะหันไปเอาดีแนวอื่นบ้าง แนวนี้พอแนวเรื่องที่วางไว้หายก็ไปไม่ถูกจริง ๆ TT (พูดตรง ๆ ก็คงต้องบอกว่า แอบท้อแล้ว ท้ออีกล่ะค่ะ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 06-07-2014 01:55:29
ในที่ส๊วดดด ก็กลับมาแล้ว คิดถึงม๊ากกก  :mew1:    แต่มาแบบน้ำตาเจิ่งนองเนี่ย   :o12:


  :z3:    น่าตบอิท่านพ่อนัก  อิตารพีด้วย  :z6:   :beat:   :katai1:  สงสารภาสวร  สงสารศศินด้วย  :hao5:   
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Rina ที่ 06-07-2014 02:34:15
ขอตอบหน่อยนะคั เรื้องนี้เป็นเรื้องหนึ่งที่เราติดตาม มันน่านสนุกค่ะ แต่หลังจากเจอพล็อตโอเคมันพลิกแนว แต่เราเฉยๆะค่ะ พอคาดได้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่าย เนื้อเรื่องเริ่มไม่ต่อเนื่อง มันกระจัดกระขายมากขึ้น ยอมรับค่ะว่าเสียความรู้สึกค่ะ คือสุขยังไม่ทันโอเคเศร้ามาต่อ มันเป็นพล็อตแล้วแต่ผู้เขียนที่จเขียน แต่เราคงโบกมือลาค่ะ ไม่ไหว เพราะดราม่าจริงแต่ยังไม่คั้นอารมณ์เราไม่เท่าไร เหตุผลมันดูไม่ต่อเนื่องด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mkyok5 ที่ 06-07-2014 02:50:26
 :o12: :o12: :o12: :sad4:เสียใจแต่ไม่เท่ากับนานๆทีจะมาต่ออะค่ะ


มันทำให้ค้างคาขอลืมเรื่องนี้ไปดีกว่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: beautjang ที่ 06-07-2014 02:52:38
แต่งต่อไปเรื่อยๆนะคะ ชอบมาก เนื้อเรื่องโอเคภาษาสวยดีค่ะ

เหมือนได้ดูละครพีเรียดเลย รอค่ะ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-07-2014 03:15:39
:o12: :o12: :o12: :sad4:เสียใจแต่ไม่เท่ากับนานๆทีจะมาต่ออะค่ะ


มันทำให้ค้างคาขอลืมเรื่องนี้ไปดีกว่า

อยากรีบต่อนะคะ 5555 แต่ถ้าให้ลงไวๆ เรื่องคงเละ และกระจายกว่านี้แน่ ;-; ไว้จบแล้วค่อยมาอ่านกันก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ค้างคา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-07-2014 03:39:15
 :o12: ทำไมถึงได้ใจร้ายกันขนาดนี้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 06-07-2014 04:27:00
โหหหหหห ทำไมเด็จพ่อใจร้ายเยี่ยงนี้ๆๆๆๆๆๆ
เนื้อเรื่องจะไปยังไงต่อไปเนี้ย ลุ้นๆ
จะมีตอนของลูกบ้างมั้ยๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 06-07-2014 06:44:09
คิดได้นะเนี้ย ให้มีลูกกับคนพี่อีกทั้งๆที่ยกให้คนน้องแล้ว ฮึ้ย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 06-07-2014 07:15:57
เฮ้ย............แบบดีใจมากอ่ะที่เห็นเรื่องนี้มาต่อ

แต่พออ่านแล้วแบบเกลียดรพีมากอ่ะ สงสารศศินและภาสวรจริงๆ แต่ที่เกลียดที่สุดคือกษัตริย์ ทำแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย เห็นศศินเป็นเครื่องผลิตลูกเหรอ แล้วต่อไปเค้าจะอยู่เป็นครอบครัวกันได้อย่างไร แถมไ่ม่รู้ว่าชายาของรพีจะพลิกจากดีเป็นร้ายใส่ศศินรึป่าว ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆ


ปล. เป็นกำลังใจให้นะคะ สำหรับเราแม้จะรับไม่ค่อยได้กับพลอตเรื่องตอนนี้ แต่บอกได้เลยว่าจะอ่านต่อ เพราะเราชอบเรื่องนี้มากจริงๆ และจะรออ่านจนจบนะคะ หวังว่าจะไม่ทำร้ายจิตใจคนอ่านและ ศศินมากไปกว่านี้เลยนะคะ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 06-07-2014 07:28:54
งื่อมันบาดลึกเสียดแทงจิตใจ
ต้องตกเป็นของคนอื่นด้วย โอ๊ย เศร้าไปแล้ว
ศศินเข้มแข็งมากเลย เอาใจช่วยนะคะ

เอาใจช่วยคนแต่งด้วย สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 06-07-2014 07:49:04
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 06-07-2014 09:08:30
 ทำไม่เสด็จพ่อใจร้ายแบบนี้!!! ทั้งๆที่ลูกตัวเองรักศศินขนาดไหนก็เป็นที่รู้ๆกันอยู่  ทำแบบนี้ไม่รู้หรือไงว่าต้องมีคนเจ็บเจียนตายกี่รน  คนที่ทุกข์ทรมานอีกกี่คน  เพีงเพราะความเห็นแก่ตัวขององค์ชายระคนเดียวที่อยากได้ศศิน ทั้งๆที่ตัวเองก็มีพระมเหสีอยู่แล้ว  ทพไมไม่เอาเวลาที่นั่งปวดใจกับศศินไปดูเเลเอาใจใส่พระชายาของตัวเอง  เสด็จพ่อก็อีกคน ทำไมไม่คิดจะถามคนทำนายเลยนึไงทั้งๆที่ตัวเองไปเอาตัวศศินมาก็เพราะเหตุคำทำนายไมาใช่ ทีแบบนี้เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่เชียวนะ  ไม่ได้คิดถึงใจลูกตัวเองเลย เอาตัวเองเป็นที่ตั้งล้วนๆ :m16:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 06-07-2014 09:16:45
สงสารศศินอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: eye-lifestyle ที่ 06-07-2014 10:49:38
 :a5:




 :katai4:





 :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 06-07-2014 11:10:00
 :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 06-07-2014 11:15:07
ช็อคมาก Q_________________Q
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 06-07-2014 11:17:43
เฮ้ย ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย  สงสารศศินจริงๆ  :hao5:

กษัตริย์อินทัช ไม่เห็นใจศศินเลย  :angry2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 06-07-2014 11:29:18
 :katai1: :hao5: :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ►MoNkEy-PrInCe◄ ที่ 06-07-2014 11:41:11
หนุกมาก ชอบเรื่องแนวนี้
ภาษาของคนแต่งดีมากเลย
แต่คนอ่านสมองกรวง
บางคำต้องขออากู๋ช่วยแปล
รออ่านตอนต่อๆไปน๊าา อย่าหายล่ะ
แอบสงสารศศินเล็กๆ
หวังว่าคงจะไม่มีโค้ง 3 4 5 หรอกนะ
เดี๋ยวคนอ่านจิช้ำใจตาย

 :pig4:  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: himmel ที่ 06-07-2014 11:42:47
เสด็จพ่อคะ คนนะไม่ใช่แม่พันธ์ุ  :m16:  :m31:
ส่วนรพีแกกจะเห็นแก่ตัวไปไหมห่ะ  :angry2:
โอ๊ยคนอ่านปวดใจ  :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 06-07-2014 11:54:28
คนเขียนใจร้ายที่สุด ㅜㅂㅜ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 06-07-2014 11:56:22
เจองี้ ช็อค o22
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: lalitalx ที่ 06-07-2014 12:16:23
สงสารศศินสุดใจ แต่ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ เราชอบเรื่องนี้มากๆยิ่งอ่านยิ่งชอบ
เรารู้สึกว่าคนเขียนใจถึงนะ ที่ยอมแต่งพล็อตนี้ออกมา คือโดยส่วนตัวเป็นคนชอบพล็อตแบบ เดาพระเอกอ่ะ
คือ เรื่องทั่วๆไป ก็จะเป็นอารมณ์แบบ ผชคนแรกออกมาก็เป็นพระเอก หรือคนที่มีอะไรกับนายเอกเป็นพระเอกอะไรประมาณนี้
เราชอบตอนที่ ตอนแรกคิดว่ารพีเป็นพระเอก แต่ตอนหลังมาเป็นภาสวร แล้วตอนนี้ก็รพีอีก? เรื่องนี้ซับซ้อนจริงๆ
แต่เชียร์ภาสวรไปแล้วง้าา 5555555555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 06-07-2014 14:22:11
ศศิน ณ จุดนี้ ข้าอิจฉาเจ้ายิ่งนัก
ได้ทั้งน้อง ได้ ทั้งพี่ :a5:

ไม่ใช่แหละ น่าสงสารศศิน จัง คงเจ็บปวดมิใช่น้อย :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 06-07-2014 14:42:45
ทำใจได้ยังไงกันนะ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 06-07-2014 15:24:02
ใจร้ายจัง ไม่คิดถึงจิตใจของศศินเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 06-07-2014 16:34:48
ไม่นะะะะะะะ อย่าทำอย่างนี้ T.T
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 06-07-2014 18:00:58
น่าสงสารศศินและภาสวรจังรพีร้ายจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 06-07-2014 21:08:06
ศศินต้องเจ็บปวดขนาดนี้...กว่าจะทำใจรักกับภาสวรได้
แล้วนี่ยังไม่จบไม่สิ้นอีก องค์รพีเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว
มีแต่จะบ่มเพาะความโศกเศร้า เคียดแค้นชิงชังระหว่างสายเลือด
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: Mississippi ที่ 07-07-2014 01:11:37
3Pไปเลยค่ะ ฮืออออออออออออออ :o12:
เพิ่งเข้ามาอ่าน แปะลิ้งไว้นานแล้ว สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย
ปล บทอัศจรรย์ของศศินและภาสวรทำเอาตาค้าง อิ๊สๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z10:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-07-2014 23:14:22
สงสารศศินสุดใจ แต่ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ เราชอบเรื่องนี้มากๆยิ่งอ่านยิ่งชอบ
เรารู้สึกว่าคนเขียนใจถึงนะ ที่ยอมแต่งพล็อตนี้ออกมา คือโดยส่วนตัวเป็นคนชอบพล็อตแบบ เดาพระเอกอ่ะ
คือ เรื่องทั่วๆไป ก็จะเป็นอารมณ์แบบ ผชคนแรกออกมาก็เป็นพระเอก หรือคนที่มีอะไรกับนายเอกเป็นพระเอกอะไรประมาณนี้
เราชอบตอนที่ ตอนแรกคิดว่ารพีเป็นพระเอก แต่ตอนหลังมาเป็นภาสวร แล้วตอนนี้ก็รพีอีก? เรื่องนี้ซับซ้อนจริงๆ
แต่เชียร์ภาสวรไปแล้วง้าา 5555555555

ภาสวรเป็นพระเอกค่ะ 5555

เรื่องนี้พร็อตเปลี่ยน 3 รอบ ตามจำนวนบทกลอนที่ทำหายไปเป็นช่วงๆ TT // ยังดีที่บทตอน NC ไม่หาย ถ้าหายก็จบกันค่ะ ฮือออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 08-07-2014 01:48:22
ปวดร้าว รอต่อ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 08-07-2014 04:40:43
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: КίmY ที่ 08-07-2014 17:10:30
แบบจุกจนพูดไม่ออกอ่ะ    :hao7:
รอนะฮะ  :')
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 10-07-2014 01:36:08
3Pไปเลยค่ะ ฮืออออออออออออออ :o12:
เพิ่งเข้ามาอ่าน แปะลิ้งไว้นานแล้ว สนุกมากค่ะ อ่านรวดเดียวจบเลย
ปล บทอัศจรรย์ของศศินและภาสวรทำเอาตาค้าง อิ๊สๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z10:

รพีก็มีคู่ของเขานะคะ...
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 10-07-2014 11:59:47
สงสารศศินอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 10-07-2014 22:55:25
สงสารศศินสุดๆ ต้องท้องจริงๆอะ ไม่เอานะ ม่ายย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: tamji12 ที่ 12-07-2014 02:18:20
เปลี่ยนได้มั๊ยอ่าา ชอบเรื่องนี้มากเลยนะ แต่มาเจอดราม่าหนักขนาดนี้ก็ไม่ไหว :m15:
ขอชมเลยค่ะว่าแต่งได้ดีมากกกกกกก แต่งจนเราอินเข้าใจความรู้สึกของตัวละครเลย
เพราะเราอินไงเลยรับไม่ได้ สงสารมาก เจ็บไปด้วยเลย
เป็นความฝันได้มั๊ยอ่ะค่ะ TT
ถ้าได้กันแบบนี้จริงๆ เราคงทำใจอ่านไม่ลง มันเจ็บอ่า แงๆ แต่เราชอบมากจริงนะ
ไม่ใช่แต่งไม่ดีนะค่ะ แค่เราทนไม่ได้แค่นั้นเอง
ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ   :mew1:
ขอโทดนะค่าาา :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ใบหญ้า ที่ 12-07-2014 21:27:57
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดไรต์กรีดหัวใจเรามาก TT
อย่าให้ท้องลูกรพีเลย มันสารเลวไม่สมควรได้เป็นพ่อของลูกศศิน กรี้ดๆๆๆๆๆ
ตอนแรกแอบเชียร์ให้มันเป็นพระเอกตอนนี้อยากให้มันตายๆๆๆๆๆไปซะ
นิสัยน่าเกลียด ไอ้คนเห็นแก่ตัว คนเค้าไม่รักยังเสือกจะแย่งมาอีก เมียก็มีอยู่แล้ว
ถ้ามันรักศศินจริงมันจะไม่มีวันทำแบบนั้น เกลียดมัน เกลียดๆๆๆๆๆๆๆ
ให้ตายเหอะ เกลียดมันจนตัวสั่นไปหมดเลย
ขอให้พ่อพระเอกตายๆๆๆๆๆๆ ตายไปซะ ไอ้เลว
ศศิสู้ๆน่า ภาสวรมาฆ่าไอ้พี่เวรตะไลของแกเลยน้า
ฆ่ามานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :katai1: :ling1: :fire: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
 
//ไรต์จ๋าอย่าโหดกะศศินมากน้า เราจะขาดใจตายแย้ว TT สู้ๆน้าเค้าอุส่าห์ตามมาจากจอมใจจักรพรรดิ แต่งต่อน้าอย่าทิ้งน้า นานๆมาต่อสักนิดก็ได้ อย่าน้อยก็มีเค้าคนหนึ่งรออ่านอยู่ TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mirimiror ที่ 13-07-2014 13:52:40
 :hao5: :hao5: :hao5:
เพิ่งได้อ่าน อ่านที่เดียวรวดเลย ใจจะขาดดดด
ขออย่าให้ศศินมีลูกกับรพีเลย
เพราะถ้ามีลูกกับรพี ความสัมพันธ์จะซับซ้อน

คหสตล้วนๆค่ะ อยากให้ศศินมีความสุขให้สุดๆ
แต่นี่ยังมีความสุขไม่ทันสุดความทุกข์ก็แทรกมาแล้ว

ปล. คู่รพีโผล่มาเร็วววววๆ
มาต่อเร็วๆนะคะ ใจจะขาดแล้ววววววว

 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 13-07-2014 14:08:24
รพีเลวอ่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 13-07-2014 15:51:15
 :katai5: :katai5:หงึกๆ เข้ามารอ ศศิน(ผู้แสนจะโชคร้าย อุตส่าห์โชคดีกลับเขายังจะโชคร้ายอีก เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ) :hao5:

ยังรออยู่นะคะ ถึงเรื่องมันจะดราม่า หน่วงจิใจ แต่เราก็เคารพการตัดสินใจเเละการแต่งของคนเขียนนะคะ ขอให้ตอนจบศศินแฮปปี้กับภาสวรเป็นพอนะคะ  ชอบมากเลย อ่านอีกรอบรอนะคะ><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: yokky34 ที่ 13-07-2014 17:42:38
ตกใจมากเหมือนกันตอนอ่านกลอน แต่ไม่คิดว่าจะหักมุมจนหงายเงิบ คือ เราคิดว่ารพีไม่มีเหตุผลเลยค่ะ ขอให้ข้าได้ไว้ก่อน ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าทั้ง 2 คนรักกัน ไม่สงสารน้องเลยเหรอ จะไม่ถามศศินซักคำว่าเต็มใจมั้ยเลยเหรอ คือ เขาเพิ่งคลอดลูกนะคะ คือเราก็พูดไม่ถูก แต่เราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล ไม่มีการคิดไตร่ตรองของตัวละคร ทั้งตัวรพีเองและพระราชา คือจะบอกว่าเรารับไม่ได้ก็คงใช่ แต่ไม่ได้เลิกอ่านหรอกนะคะ แต่ถ้าอีก 6 ตอนจบคงต้องขอข้ามตอนหน้าไปเพราะรับไม่ไหวจริงๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 13-07-2014 20:51:42
ตกใจมากเหมือนกันตอนอ่านกลอน แต่ไม่คิดว่าจะหักมุมจนหงายเงิบ คือ เราคิดว่ารพีไม่มีเหตุผลเลยค่ะ ขอให้ข้าได้ไว้ก่อน ทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าทั้ง 2 คนรักกัน ไม่สงสารน้องเลยเหรอ จะไม่ถามศศินซักคำว่าเต็มใจมั้ยเลยเหรอ คือ เขาเพิ่งคลอดลูกนะคะ คือเราก็พูดไม่ถูก แต่เราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล ไม่มีการคิดไตร่ตรองของตัวละคร ทั้งตัวรพีเองและพระราชา คือจะบอกว่าเรารับไม่ได้ก็คงใช่ แต่ไม่ได้เลิกอ่านหรอกนะคะ แต่ถ้าอีก 6 ตอนจบคงต้องขอข้ามตอนหน้าไปเพราะรับไม่ไหวจริงๆ ค่ะ

ตอนหน้าไม่ต้องข้ามก็ได้นะคะ ไม่มีอะไร แค่พ่อลูก พี่น้องคุยกัน(แถลงให้กระจ่างว่าทำไมคนพ่อถึงทำแบบนี้) ถ้าจะข้าม แนะนำให้ข้ามตอนที่ 16 ค่ะ

เปลี่ยนได้มั๊ยอ่าา ชอบเรื่องนี้มากเลยนะ แต่มาเจอดราม่าหนักขนาดนี้ก็ไม่ไหว :m15:
ขอชมเลยค่ะว่าแต่งได้ดีมากกกกกกก แต่งจนเราอินเข้าใจความรู้สึกของตัวละครเลย
เพราะเราอินไงเลยรับไม่ได้ สงสารมาก เจ็บไปด้วยเลย
เป็นความฝันได้มั๊ยอ่ะค่ะ TT
ถ้าได้กันแบบนี้จริงๆ เราคงทำใจอ่านไม่ลง มันเจ็บอ่า แงๆ แต่เราชอบมากจริงนะ
ไม่ใช่แต่งไม่ดีนะค่ะ แค่เราทนไม่ได้แค่นั้นเอง
ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะค่ะ   :mew1:
ขอโทดนะค่าาา :o12:

ไม่เป็นไรค่ะ ^^ แต่ถ้าคาใจจะอ่านต่อ แนะนำให้รอถึงตอนที่ 17 นะคะ ค่อยกลับมาอ่านเบา ๆ สบายๆ

ความสุขของศศินอยู่ท้ายเรื่องค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: mkx91 ที่ 13-07-2014 21:02:07
มาอ่านรวดเดียวแล้วถึงตอนล่าสุด ก็รู้สึกเชียร์ศศินกับภาสวรมากกว่านะคะ ทั้งๆที่ตอนแรกๆอ่านไปก็กังวลใจอยู่เหมือนกันว่าองค์ชายจะหยุดที่ศศินคนเดียวแน่หรือเปล่า แล้วพระองค์ก็ทำได้จริงๆ อันนี้หล่ะค่ะที่เป็นจุดเปลี่ยนที่รู้สึกว่าน่าเชียร์มากกว่าองค์รัชทายาท เจอกันก่อนก็ใช่ว่าจะได้ใจเสมอไปหล่ะเนอะ ฮืออออออ อีกอย่างองค์รัชทายาทก็มีพระชายาเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ฝ่าบาทไม่น่าทำแบบนี้เลย ใจร้ายกับศศินมาก ร้าวใจมากกับความเสียสละของนายเอก ยอมทุกอย่างเลย คุณนักเขียนอย่าใจร้ายกับนายเอกเลยนะคะ สงสารองค์ชายกับพระโอรสด้วยเถอะนะคะ  :ling1:

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 14 (P.19)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-07-2014 03:41:02
อีก 2-3 วันจะมาต่อตอนต่อไปนะคะ

ใกล้ออกจากอู่ล่ะค่ะ ;-; เหลืออีกครึ่งตอน (ใกล้มากเลยเนอะ ฮือออ)

คู่ของรพีกำลังมาค่ะ รอนิดนึงง เขาไม่อยู่ขวางพระนายเรานานหรอก... ไปกลัวเหล่าสนมกันดีกว่านา... อุ๊บส์

// ยัง ยังไม่เลิกทำร้ายตัวละคร TT

// จ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ ไว้สุริยายอแสงจบ จะไปเข็นมาลงใหม่นะคะ <3 อันนั้นก็ใกล้จบแล้วเหมือนกัน (รู้เลยทำไมช้านัก ;-;')
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-07-2014 04:36:06
ปฏิญญาที่ ๑๕

การมาเยือนต่างถิ่นของดารกา
เหมือนดั่งพาอัมฤตให้สุขี
น้ำตานองอาบหน้าหมดเปรมปรีดิ์
วอนเจ้าพี่ฟังคำน้องอย่าโกรธา

นับได้ว่าฟังยังมีตา บันดาลให้คำสั่งของผู้เป็นเจ้าแห่งอุษณกรสำเร็จในเร็ววัน ดวงจันทราที่แสนจะบอบช้ำจึงได้กลับอยู่อ้อมอกของสหัสรังสีอีกครา

ร่างเล็กเอนหลังพิงแผงอกแกร่งของคนรักอย่างอ่อนแรง แขนเรียวอุ้มลูกน้อยวัยสิบเดือนเอาได้ด้วยความรัก ความคะนึงหา แม้ว่าจะได้พบกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

แต่ค่ำคืนที่ตกอยู่ใต้อ้อมกอดของผู้อื่นนั้นช่างยาวนาน เวลาไหลไปอย่างเชื่องช้า ตอกย้ำความเจ็บช้ำในหัวใจของศีตภายิ่งนัก

“อย่าร้องไห้เลย ศศิน”สุริยภาสวรกระชอบอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเพื่อปลอบโยนคนตรงหน้า “เจ้าไม่ผิด เรื่องนี้คนที่ผิดมีเพียงเสด็จพ่อและเสด็จพี่...”

“เรา...”เสียงแหบแห้งสั่นเครือ “เรา... ภาสวร เรา...”

“เจ้าไม่ต้องขอโทษแล้ว ศศิน”โอษฐ์อุ่นกดจูบที่ขมับชื้นเหงื่อเบา ๆ “ไม่ต้องขอโทษแล้ว ข้าได้ยิน ได้รับทุกคำขอโทษของเจ้าทุกคืนค่ำ”

“เหตุใดเสด็จพ่อของท่านจึงทำกับเราเช่นนี้... เหตุใดกัน”คำถามที่วนซ้ำในหัวของพระองค์อยู่ทุกคืนวัน เหตุใดต้องทำร้ายพระองค์เช่นนี้ด้วย

“เรื่องนั้น... ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง”ภาสวรเอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ “กัลยา เจ้าพาองค์ชายสุริยมาสไปนอนก่อน”

เมื่อได้ยินรับสั่ง แม่นมสาวก็คลานเข้ามาพาองค์ชายน้อยที่นางได้รับเกียรติให้น้ำนมแก่พระองค์ไปเข้าบรรทมอย่างเงียบเชียบ



ย้อนไปเมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากที่ศศินต้องทนทุกข์อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นเชษฐาแห่งสวามีไปได้เดือนเศษ

จิตใจของสุริยภาสวรนั้นร้อนรน เจ็บปวด และเต็มไปด้วยความเคืองแค้น เคืองโกรธพระเชษฐา และพระบิดายิ่งนัก ที่ทำร้ายครอบครัวของพระองค์เช่นนี้

ทรงกัดฟันทน ทน ทน แต่ทำนบที่สูงลิ่วนั้นก็ได้พังทลายลงเมื่อได้เห็นน้ำตาของศศิธรผู้เป็นที่รัก ที่ไหลรินออกมาเงียบ ๆ ในสวนลึก ซึ่งเป็นที่ ที่พระองค์มักจะพาศศินมานั่งเล่นเสมอ

ความเจ็บปวดนั้นทบทวีคูณเข้าไปอีก เมื่อเห็นร่างกายที่ซูบผอมลงไปของดวงใจของพระองค์ แม้นจะเพียงน้อยนิดก็ตามที

วินาทีนั้น องค์สุริยภาสวรมิสนใจหน้าอินทร์ หน้าพรหมอีกต่อไป เสด็จบุกเข้าห้องทรงอักษรของพระบิดาของพระองค์ด้วยความโกรธาที่สุมอยู่ในอก

“เสด็จพ่อ เหตุใดพระองค์จึงทรงทำกับลูก กับศศินเช่นนี้”เสียงที่เอ่ยออกมานั้นฟังดูร้าวราย และเจ็บปวดยิ่งนัก “พระองค์ทรงทราบบ้างไหมว่าลูกกับศศินเจ็บปวดแค่ไหน... จะทรงทราบบ้างไหมว่าศศินต้องเสียน้ำตาไปมากมายเท่าไรแล้ว ทรงทราบบ้างไหมพะยะค่ะ”

“พูดพอหรือยัง ภาสวร”ผู้เป็นพ่อตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “นับว่าเจ้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไม่น้อย ที่เก็บอารมณ์มาได้เป็นเดือนเช่นนี้”

“เสด็จพ่อ”

“หยุด และฟังพ่อ”สุรเสียงที่ตรัสนั้นเริ่มเข้มขึ้น และทรงอำนาจ “เจ้ารู้นิสัยของพี่เจ้าดีมิใช่หรืออย่างไร ถ้าไม่ให้โดยตรง สักวันพี่เจ้าก็จักต้องลักพาตัวศศินคคนานต์ไปกกกอดอยู่ดี”

“...”ใช่ เสด็จพี่ต้องทำเช่นนั้นแน่ ถ้าทรงหลงมัวเมา ต้องการคนรักของเขามากขนาดนั้น... แต่...

“อีกทั้งยังมีคำทำนายของท่านโหราจารย์ที่ผ่านมาที่เมืองท่าอีก เจ้าอยากให้นครของเราล่มสลายหรืออย่างไร สุริยภาสวร”

“คำทำนาย... คำทำนายอะไรอีกเล่า ท่านโหราของเราคดค้านการกระทำเช่นนี้ของเสด็จพ่อมิใช่หรือพะยะค่ะ”จ้าวสุริยาสูดปัสสาสะลึก ควบคุมอารมณ์ให้มั่นคง

“มิใช่ผู้นั้น ท่านโหราจากต่างแดนต่างหากเล่า ท่านทำนายไว้ 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกได้เป็นจริงขึ้นแล้ว คือการเกิดสงครามขึ้น และเราจะเป็นผู้กำชัย ส่วนอีกเรื่อง ท่านทำนายถึงเรื่องนี้เอาไว้”กระดาษสีเหลืองโทรม ๆ แผ่นหนึ่งถูกยื่นมาให้ตรงหน้าองค์ชายหนุ่ม

ยามใดที่สุริยานั้นแก่นแย่ง
จุดเปลี่ยนแปลงจะใกล้เข้ามา
ด้วยเหตุจากผู้รับพรจากจันทรา
เพลงกามาจะลุกโชนดั่งเปลวไฟ

หากอาทิตย์แดนดินเริ่มเกรี้ยวกราด
เริ่มวิวาทให้รู้สึกปั่นป่วนใจ
หาไม่ตามคำเขานั้นแล้วไซร้
แผ่นดินจะลุกไหม้ล่มจมดับสิ้น


“อาทิตย์แดนดินคือพี่เจ้า รพีธรณิน เจ้ารู้ พ่อรู้ ทุกคนรู้ ถ้าพี่เจ้าโกรธ จะเป็นอย่างไร คราแรกพ่อก็มิเชื่อคำทำนายนี่ดอก แต่มันเป็นเรื่องจริง และเกิดขึ้นจริง เจ้าคิดว่าพ่อควรจะปล่อยให้แผ่นดินนี้ล่มสลายหรืออย่างไร”องค์อินทัชสบเนตรกับโอรสของพระองค์นิ่ง

ใช่... รพีธรณิน เป็นผู้ได้รับพรจากพระเพลิง ยามใดที่เกรี้ยวกราดถึงขีดสุด แผ่นดินจะแห้งแล้งดุจถูกเพลิงลุกไหม้อย่างไม่ปรานี

ส่วน สุริยภาสวร เป็นผู้ได้รับพรจากดวงอาทิตย์ ให้เป็นแสงนำทางสว่างแก่ทุกคน

คำทำนายที่ติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด นั้นเป็นเรื่องจริงแท้ และเคยสำแดงเดชมาก่อนหน้า

“เจ้าไม่ต้องห่วงไปนักหรอก เมื่อใดที่พี่เจ้าถอดใจ เมื่อนั้นทุกอย่างก็จบ”คำที่ฟังดูปัดความรับผิดชอบยิ่ง แต่ก็มิอาจที่จะเถียงได้ “อีกอย่าง อีกไม่นานพนคุณก็จะเดินทางกลับมาแล้ว”

“นพคุณหรือพะยะค่ะ”ภาสวรทวนชื่ออย่างประหลาดใจ “เขายังมิตายหรือพะยะค่ะ เสด็จพ่อ”

“ยัง เขายังมีชีวิตอยู่ แต่ข่าวคราวที่เขาพยายามส่งมาหาเรานั้นมิมาถึง จนกระทั้งได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของชนกลุ่มน้อยในป่า จนได้สุริเยนทร์ไทวะ เชษฐาของศศินช่วยเขาเอาไว้ แต่บาดแผลนั้นสาหัสนัก เพิ่งจะดีขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ และถ้าดีขึ้นพอที่จะเดินทางได้แล้ว เขาจะกลับมา”

สวรรค์ สวรรค์เป็นใจให้กับพระองค์แล้ว เมื่อนพคุณกลับมา หลังจากที่หายออกไปหลายปี จนนึกกว่าสิ้นใจไปแล้ว บุคคลที่รพีธรณินรักยิ่งชีวิต

ความทุกข์นี้คงอีกไม่นาน จะได้รับการปัดเป่าเสียที


“นพคุณหรือ...”ศศินทวนคำของคนรักเบา ๆ ก่อนจะนึกได้ และขยับกายไปหยิบเอาจดหมายฉบับหนึ่งออกมา “เช่นนั้นแล้ว อีกเดือนเศษเขาคงจะมาถึง”

“เจ้ารู้ได้อย่างไรกัน หืม เจ้าจันทร์น้อย”

“เจ้าพี่สุริเยนทร์ทรงส่งข่าวมาว่าเจ้าพี่ศรวิษฐาจะทรงเสด็จมายังอุษณกรแห่งนี้เพื่อร่วมงานฉลองครอบรอบ 1 ปีของสุริยมาศ”มือเรียวคลี่จดหมายในมือให้ภาสวรได้อ่านดู “เจ้าพี่หญิงคงกริ้วไม่น้อยถ้าได้รู้...”

“เช่นนั้นเจ้าควรห่วงตัวเองเสียมากกว่า ที่รัก”เสียงรำพึงเบา ๆ ลอยเข้ากรรณ ทำให้ทรงนึกได้ว่าในตอนนี้ พระองค์มิได้มีตัวคนเดียว...

แต่มีลูกน้อยอีกคนในครรภ์ที่แม้จะไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เขาก็ถือกำเนิดขึ้นมาให้ได้ชื่นชมแล้ว


ในที่สุดขบวนเสด็จของเจ้าหญิงแห่งวสุนธราก็มีถึง ประชาชนชาวอุษณกรไม่น้อยออกมารับเสด็จ ด้วยหวังจะได้ชื่นชมพระบารมีของเจ้าหญิงต่างถิ่น

แน่นอนว่าไม่ผิดหวัง เมื่อเจ้าหญิงแสนงามนั้น ทรงออกมาประทับนอกเกวียนที่ประทับให้ได้แอบเหลือบยลโฉมไปตลอดทาง

ผิวขาวผุดผาด ริมฝีปากอิ่ม สองปรางนวลแดงระเรื่อด้วยอากาศที่อบอุ่น อันมิเคยได้สัมผัสบ่อยนัก ด้วยพระองค์นั้นถือกำเนิดในเมืองหนาว

“อุษณกรยินดีต้องรับ องค์หญิง”องค์อินทัชตรัสด้วยรอยยิ้ม เมื่อเจ้าหญิงศรวิษฐาเสด็จมาเข้าเฝ้า “ได้ยินคำล่ำลือถึงความงามของเจ้มาเนิ่นนาน วันนี้ได้พบ นับว่ามิผิดจากคำกล่าวลือนั้นเลยจริง ๆ”

“ทรงชมหม่อมฉันมากเกินไปแล้วเพคะ”เสียงอันอ่อนหวายตอบกลับอย่างนอบน้อม “หม่อมฉันเองก็ได้รับฟังคำร่ำลือถึงพระบารมีของพระองค์มามากนัก และที่หม่อมฉันได้พบเห็นนั้น ก็มิต่างจากคำคนเลยเพคะ”

ต่างคนต่างยกยอกันเอง สร้างความพึงใจให้แก่กันและกันไม่น้อย

“เจ้าเดินทางมาเหนื่อย ๆ คงอยากพักผ่อนแล้ว เราจะให้คนนำทางไปยังตำหนักรับรองแล้วกัน”เมื่อทรงได้ยลโฉมนงเยาว์แล้ว พระองค์ก็ทรงส่งสัญญาณให้กับข้าราชบริพารที่ตั่งท่ารอรับพระบัญชา

“หม่อมฉันอยากพบอนุชาของหม่อมฉันเพคะ”องค์ศรวิษฐาตรัสทะลุกลางเป้า พระนางอยากรู้ให้ไวที่สุดว่าข่าวที่สายสืบที่พระนางแอบส่งมานั้นเป็นจริงหรือไม่

“ได้สิ ข้าจะให้เขาไปพบเจ้าที่ตำหนัก”
หลังจากได้รับคำแล้ว พระนางก็ทรงเสด็จตามข้าหลวงคนหนึ่งไปยังตำหนับรับรองด้วยความร้อนลุ่มในใจ

“นพคุณ เจ้าก็ไปพบรพีธรณินเสียสิ เดี๋ยวเราค่อยมาสนทนากันก็ได้”

“พะยะค่ะ ฝ่าบาท”


ศศินคคนานต์ก้าวไปยังตำหนักรับรองของเจ้าพี่ของพระองค์อย่างรวดเร็ว เท่าที่ผู้ที่ตั้งครรภ์สี่เดือนเศษจะทำได้ โดยมีน้อย นางกำนัลรับใช้คอยประคองอยู่ไม่ห่าง

เมื่อมาถึงตำหนัก องค์ศศินทรงเสด็จเข้าไปเพียงลำพัง และให้นางกำนัลทั้งหมดออกมา เพื่อนที่จะได้พูดคุย สนทนากับผู้เป็นพี่อยากสบายใจ

“เจ้าพี่ เจ้าพี่ศรวิษฐา”เสียงนุ่มเอ่ยเรียกพระภคินีของพระองค์ด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความปลื้มปีติ “เจ้าพี่ทรงสบายดีไหมพะยะค่ะ”

“เป็นอย่างที่เล่ากันมาจริง ๆ สินะ”คำที่ตอบกลับมานั้นช่างเยียบเย็นยิ่งนัก เสียดลึกเข้าไปในหัวใจของจ้าวจันทรา “เจ้าอุ้มลูกขององค์ชายรพีจริง ๆ สินะ ศศินคคนานต์”

“เจ้าพี่...”ทรงทราบได้อย่างไรกัน ทั้งที่ประกาศออกไปว่าพระองค์ทรงตั้งครรภ์บุตรคนที่สองของภาสวรแท้ ๆ ด้วยท่าทีอึกอักของผู้เป็นน้องนั้นเอง ทำให้พระนางได้รู้ชัดแล้วว่าสิ่งที่พระนางต้องการทราบนี้เป็นความจริง

ความโกรธเคืองที่สั่งสมมันจุกรวมที่อุระ ความผิดหวัง น้อยใจ ถาโถมเข้ามาไม่หยุด พระนางไม่ได้อะไรเลย แต่เหตุใดอนุชาที่โง่เง่ากลับได้ทุกอย่าง

ทุกอย่างที่ทรงต้องการ

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นแค่ผู้หญิงคนนึง ไม่มีความคิด ไม่มีเส้นสาย ไม่มีปัญญาจะทำอะไรนอกจากนั่งรอให้ใครสักคนมาของแต่งข้าออกไปหรืออย่างไรกัน”องค์หญิงศรวิษฐาตวาดลั่นด้วยแรงอารมณ์ ดวงเนตรที่หวานฉ่ำจ้องมองมาที่ร่างของอนุชาอย่างดุร้าย “เจ้าแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไป ข้าควรจะปล่อยเข้าเอาไว้อีกเช่นนั้นหรือ”

มีดสั้นถูกดึงออกมาจากปลอก ขาเรียวย่างก้าวเข้ามาใกล้น้องชายเรื่อย ๆ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีถูกปัดปลิวทิ้งไปอย่างไม่รู้ตัว

“เจ้าคิดว่าข้าควรให้ก้างขวางคอในชีวิตข้า มีชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุขเช่นนั้นหรือ... เจ้าได้ทุกอย่าง ในขณะที่ข้าไม่ได้อะไรเลย เจ้าน้องธรพี”สุรเสียงถูกกดให้ต่ำลงสร้างความกดดันให้กับคนตรงหน้า วินาทีนี้พระนางอยากจะฉีกดวงจันทร์ตรงหน้าให้เป็นชิ้น ๆ ไม่ให้อยู่รกหูรกตาอีกต่อไป

“เจ้าพี่... เจ้าพี่ฟังน้องก่อน น้องมิได้อยากให้เรื่องราวเป็นเช่นนี้จริง ๆ น้องมิอาจเลือกได้...”ฝ่ายศศินพยายามให้น้ำเย็นเข้าลูบ หวังจะได้ผล ขอแค่เจ้าพี่ของตนฟังตนสักน้อยก็ยังดี “น้องมิได้คิดอะไรเกินเลยกับองค์รพีจริง ๆ”

“ไม่คิด ไม่คิดอย่างนั้นหรือ แล้วเด็กในท้องนั่นมันจะเกิดมาได้อย่างไร ไอ้น้องวิปริต”ดารกาแห่งวสุนธราแค่นเสียงอย่างดูถูก พร้อมส่งสายตาเหยียดหยามให้กับน้องชายของพระนาง “เป็นบุรุษอยู่ดี ๆ ริจะตั้งครรภ์เยี่ยงสตรี น่ารังเกียจนัก คนอย่างเจ้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำ”

“...”หยาดน้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตาคู่สวย คำต่อว่าบาดลึกเข้าไปในหัวใจของผู้รับฟังยิ่งนัก... “ถ้าน้องเลือกได้... น้องขอตายตั้งแต่วินาทีแรกที่เหยียบเข้ามาในนครแห่งนี้เสียดีกว่าต้องมาเป็นเช่นนี้...”

“แล้วทำไมเจ้าไปตายไปเสียล่ะ”

“ภาระ หน้าที่ ทุกอย่างบีบบังคับ ทุกอย่างโถมเข้ากดดันมาที่น้อง น้องหมดทางไปแล้ว ถ้าน้องหยามเกียรติเขาด้วยการตาย เจ้าพี่คิดว่าเขาจะยอมปล่อยเราไปอย่างนั้นหรือ”

“ตอนนี้ก็ยังไม่สายที่เจ้าจะตาย”หัตถ์เรียวโยนมีดที่ถือเอาไว้มาตรงหน้าผู้เป็นน้อง “ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ข้าเป็นตัวประกันแทนเจ้าได้”

“...”ศศินมองมีเล่มสวยตรงหน้าอย่างสะเทือนใจ เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา “ถ้าชีวิตของน้อง และบุตรในท้อง ซื้อเป็นนัดดาของเจ้าพี่ จะทำให้เจ้าพี่มีความสุขได้ น้องขอยอมตาย”

วินาทีนั้น เมื่อองค์หญิงศรวิษฐาได้สดับฟัง และทอดพระเนตรเห็นน้ำตาของผู้เป็นน้อง สติก็พลันคืนกลับมา น้องชายที่คอยช่วยเหลือพระนางเสมอ น้องที่คอยแอบเอาสิ่งต่าง ๆ มาให้ยามพระนางถูกกักบริเวณ น้องที่ยอมสละทุกอย่างเพื่อให้พระนางและพระเชษฐามีความสุข น้องที่พระนางเคยปฏิญาณว่าจะรักและคอยดูแลตลอดไป แล้วทรงทำแบบนี้ได้อย่างไร พระนางรีบวิ่งไปปัดเอามีดที่จะแทงเข้าไปในอกของอนุชาที่คลานตามกันออกมาคนเดียวของพระนางทิ้ง และกอดร่างโปร่งเอาไว้แน่น

“พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ ศศิน พี่ขอโทษ”อัลสุชลไหลรินออกมาจากดวงตาคู่โต พระนางทำเช่นนี้ลงไปได้อย่างไรกัน “พี่มันแย่ พี่ให้ความหึงหวง ความโลภเข้าครอบงำจิตใจ พี่มันเลว พี่.. พี่...”

สองพี่น้องกอดกันร่ำไห้

คนหนึ่งหลังน้ำตาด้วยความโศกเศร้าที่ทำให้เกือบเสียอนุชาอันเป็นที่รักไป

อีกคนหนึ่งหลั่งน้ำตาด้วยความปีติที่ได้ภคินีคนเก่า ครั้งที่ยังเยาว์คืนมา


ความรักช่างน่ากลัวนัก ยามที่มันบังตา ทำให้คน ๆ หนึ่งสามารถบ้าคลั่ง หมายมั่นจะสังหารได้แม้แต่พี่น้องที่ผูกพักกันมาเนิ่นนานได้ เพื่อจะครอบครองคนอีกคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ผ่านมา... และผ่านไป


++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้าา รอบนี้มาไวแล้วน้าา เข็นตอนใหม่มาอย่างว่องไว... กำลังใจล้นมาก TT อยา่าเพิ่งทิ้งกันไปหมดนะคะ

คู่ของรพีกับมาแล้ววว

จริง ๆ คนเขียนเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องดราม่า... แต่ทำไมยิ่งแต่งยิ่งหน่วงก็ไม่รู้ TT ไม่เป็นไร ท้าย ๆ ศศินจะมีความสุขแล้วล่ะค่ะ

ปล. เรื่องของคู่รพี ไม่มีตอนยาวนะจิ๊ มีออกแค่สั้น ๆ นะคะ 555 // ถ้าไม่ขี้เกียจเขียน ก็อาจจะมีคู่เขาให้ได้อ่านกัน... มั้ง

 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: supamat_ice ที่ 16-07-2014 05:01:37
พี่น้องปรับความเข้าใจกันได้แล้ว เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 16-07-2014 05:52:57
เกือบไปแย้วว TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 16-07-2014 05:59:23
ศศินเอ๊ยยยย ชีวิตน่าสงสารจริง  :mew6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 16-07-2014 06:46:09

เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ~ :hao4:
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 16-07-2014 06:52:56
อ่านตอนนี้แล้วส่ายหัว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 16-07-2014 07:40:40
ศศินน่าสงสารมากๆๆพอจะมีความรักก็ถูกทำลายน่าสงสารเสียจริงรอติดตามตอนต่อไปนะขอบคุณจริงๆๆๆแต่งได้ดีมากครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 16-07-2014 08:04:51
เกิดเป็นศศินนี้แสนลำบากจริงๆ

ขอให้มีความสุขไวๆล่ะกัน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 16-07-2014 08:10:17
ดีนะมีสติไม่ฆ่าน้องตัวเอง
ส่วนรพีคู่มาแล้วใช่ไหมคะดีเลยจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับศศิน เย่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 16-07-2014 09:29:32
พี่น้องเข้าใจกัน น้ำตาจิไหล  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: mkx91 ที่ 16-07-2014 09:57:43
ในเวลาร้ายๆก็ยังมีเรื่องดีๆพอให้ยิ้มได้อยู่บ้าง แต่ยังไงก็สงสารศศินอยู่ดีแล้วนี่ยังมาท้องกับคนพี่อีก แต่รู้สึกว่าภาสวรจะไม่รังเกียจลูกในท้องของศศินใช่ไหม ยังไงก็ผ่านมันไปให้ได้นะ ไหนๆนพคุณก็กลับมาแล้ว รีบไปจัดการกับเจ้ารพีเถอะเพคะ หม่อมฉันรอวันนี้มานานเหลืือเกิน  :m15:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 16-07-2014 10:00:57
สงสารศศินอ่ะ เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 16-07-2014 10:04:44
น่าสงสาร..:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 16-07-2014 10:09:36
เข้าใจกันได้สักที
ส่วนพระอาทิตย์คนพี่ก็นิสัยแย่มาก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 16-07-2014 10:22:58
ต้องให้เจ็บช้ำไปถึงไหนหนอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-07-2014 11:06:06
 :sad4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: sweetbasil ที่ 16-07-2014 12:30:37
ในความโชคร้าย ก็ยังมีโชคดีอยู่บาง
อย่างน้อย ก็มีพระสวามีกับโอรสที่รักเจ้านะ ศศิน :o12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 16-07-2014 12:48:27
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 16-07-2014 13:44:22
สงสารจริงๆ ว่าแต่คนที่น่าสงสารสุดคือชายาของรพีป่าวเนี่ย

ปล. ลูกของศศินออกมาจะเรียกใครว่าพ่อคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-07-2014 14:00:30
สงสารจริงๆ ว่าแต่คนที่น่าสงสารสุดคือชายาของรพีป่าวเนี่ย

ปล. ลูกของศศินออกมาจะเรียกใครว่าพ่อคะ

ภาสวร ค่ะ

ส่วนตัวสงสารสุริเยนทร์มากกว่าค่ะ บทไม่ค่อยมีแล้ว น้องสองคนยังไม่อยู่กับเจ้าตัว ชายาก็ยังไม่มีอีก 555

คนเขียนไม่ได้จ่ายค่าตัวให้ค่ะ แฮร่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 16-07-2014 14:24:22
งะเรื่องมีเงื่อนงำทุกอย่างเลยจิงๆ รออีกน้า อย่าให้ไปนานจิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 16-07-2014 16:07:14
หัวใจเค้ากลับมาแล้วต่อไปศศินก็ไม่ต้องไปหารพีอีกใช่ไหม  ใช่ไหมคนเขียน เค้าสงสารศศิน  :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-07-2014 16:16:13
หัวใจเค้ากลับมาแล้วต่อไปศศินก็ไม่ต้องไปหารพีอีกใช่ไหม  ใช่ไหมคนเขียน เค้าสงสารศศิน  :hao5:

ใช่ค้าา ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 16-07-2014 20:06:02
โชคดีจริงๆที่ รพีมีคนที่รักมาก
ไม่อย่างนั้นศศินคงต้องทุกข์ไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 16-07-2014 22:00:44
สงสารศศิน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 17-07-2014 00:58:59
 :sad4:  ศศินเอ๊ยยย ชีวิตนู๋จะรันทดหดหู่ไปไหนเนี่ยลูก  แบบว่า อิตารพี ก็มีคนที่รักสุดหัวใจอยู่แต่กลับทำแบบนี้


เห้อออ  มันช่าง....... แถมขัดไม่ได้ด้วย ไม่งั้นเมืองวินาศ  โอ๊ยๆๆ ชั้นล่ะปวดหัวกับพ่อคุณจริงๆ 


ภาสวรอีกที่น่าสงสารที่ต้องมานั่งเห็นเมียตัวเองกลายเป็นเมียพี่โดยที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย  :o12: 


ยังดีนะที่ศศินดีกับพี่สาวแล้ว เห้อ แต่กว่าจะดีได้ เสียน้ำตาไปอีก ปี๊ปนึง  :hao5: 


จุ๊ฟๆ  รอนู๋ศศินตลอด ขอบคุณคนเขียนมากนะที่เอามาลง  :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 17-07-2014 04:56:11
รออ่านคู่รพี นพคุณ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-07-2014 16:11:23
รออ่านคู่รพี นพคุณ

ถ้ามีโอกาสจะแต่งออกมานะคะ ^^v
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: ใบไม้ใบหญ้า ที่ 19-07-2014 15:42:47
แอบรับไม่ได้นิดๆทีท้องลูกรพีจนได้
กรี้ดดดดดดดดดดดดดด
เลวๆแบบมันไม่สมควรเป็นพ่อคน
ภาสวรเอาลูกรพีมาเลี้ยงเองเลยน่ะ
ให้เป็นลูกของภาสวรกับศศินเลย
ห้ามยกให้รพีน่ะ ห้ามๆๆๆๆๆ
เดี่ยวจะติดเชื้อเลวจากพ่อมัน -3-
 :ling1: :ling1: :ling1:
ศศินเค้ารักศศินน้าสู้ๆ >3< จุ๊บเหม่งๆๆๆๆ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: art101 ที่ 19-07-2014 19:46:38
เกินไปไหมนิ เกินไป :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 15 (P.20)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-07-2014 23:28:05
เดี๋ยวเน็ตบ้านใช้ได้เมื่อไหร่จะมาลงตอนต่อไปให้นะคะ

เน็ตเป็นอะไรไม่รู้ T^T
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-07-2014 22:10:40
ปฏิญญาที่ ๑๖

พิษรักแรงหึงหวงแห่งสตรี
หวาดทวีเมื่อครรภ์เริ่มนูนใหญ่
รวมมือกันกำจัดศัตรูใจ
ให้มันไซร้ไร้ซึ่งชีวีวัน



งานฉองครบรอบ 1 ชันษาขององค์ชายน้อยสุริยมาศใกล้จะมาถึงแล้ว พลเมืองมากมายต่างติดป้าย ประดิษฐ์โคมลอย หมายมั่นจักขอพรให้องค์ชายมีพระพลานามัยแข็งแรง สมบูรณ์ ในค่ำคืนอันสุขสันต์นี้

ประชาชนในเมืองต่างพากันปรึกษา หารือ และเริ่มทำอาหารหลายหลายชนิดมารวมกัน เพื่อร่วมกันดื่มกินฉลอง พวกผู้ชายที่ไม่ลงครัวก็รวมใจกันทำเพิงไม้ ต่อแคร่เพื่อให้ทุกคนได้มีที่นั่ง ให้อาหารได้มีที่วาง

ช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่งนัก แต่มีเมฆค่อยเป็นดั่งร่มใช้กันแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาทั้งวันให้ผู้ที่ทำงานได้ร่มเย็น ต่างจากวันอื่น ๆ ในช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา

ภายนอกพระราชวังว่าครึกครื้น เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ในวันคล้ายวันประสูติขององค์ชายน้อยแล้ว ภายในพระราชวังก็มิได้ด้วยกว่ากันเลย

หลายวันมานี้มีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาในเมืองหลวงจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นราชทูตที่องค์กษัตริย์ได้เชิญมาเพื่อร่วมงานฉลอง และประกาศก้องถึงราชนัดดาที่ถือกำเนิด

ของขวัญสูงค่าถูกนำมาบรรณาการอย่างมิมีใครยอมน้อยหน้าใคร ทั้งที่เด็กตัวเล็ก ๆ ยังไม่รู้คุณค่าของสิ่งของพวกนั้นด้วยซ้ำไป
แต่หน้าตาของเมือง เกียรติ์ และศักดิ์ศรี คงมิมีผู้ใดยอมผู้ใดเป็นแน่

เก็บเข้ากองคลังต่อไป...

แต่นับว่ายังดีที่หลายเมืองเอาผ้าทอผืนนุ่มมาถวายด้วย ให้ทางห้องเย็บปักได้เอาไปตัดออกมาเป็นชุดให้องค์ชายน้อยได้สวมใส่ต่อไป

ศศินและภาสวรมองความวุ่นวายตรงหน้าด้วยความอ่อนใจ รวมถึงองค์ชายน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นบิดาด้วย... คงจักมิชอบความวุ่นวายนี้นัก ถึงได้ซุกบ่าของพระบิดาตลอดเวลาเช่นนี้

“มิรู้ว่าจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไม”องค์สุริยภาสวรตรัสเบา ๆ กับคนข้างกายที่นั่งนิ่ง “วุ่นวายกันไปหมด ทั้งที่มิใช้บุตรขององค์รัชทายาทอย่างเสด็จพี่เสียหน่อย”

“เสด็จพ่อของท่านคงอยากที่จะประกาศศักดาให้ทุกเมืองได้รู้ อีกทั้งเป็นกระประกาศก้องว่านครแห่งนี้ไม่ไร้ซึ่งทายาทที่จะเป็นใหญ่เหลือหมู่เหล่าในภายภาคหน้า... กระมัง”ศศินตอบกลับมาอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างที่เริ่มอวบขึ้นจากการตั้งครรภ์ห้าเดือนเกือบหกเดือนค่อย ๆ เอนกายพิงพนักพิง

“ปวดหลังหรือ”ผู้ที่คอยมองชายาอยู่ตลอดเวลาเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง “ไปพักก็ไหมเจ้า”

“มิเป็นไรหรอก... เรายังทนไหว”รอยยิ้มอ่อนคลี่ให้บางเบา

จะให้ทำอย่างไรได้เล่า เมื่อจำต้องตั้งครรภ์ติดกันขนาดนี้ ร่างกายยังมิทันฟื้นฟูสมบูรณ์พร้อม แต่ด้วยยาบำรุงต่าง ๆ นานา ทำให้พอจะประคับประคองไปได้

แต่ถึงกระนั้น พักหลังมานี่ก็เหนื่อยง่าย และอ่อนเพลียเหลือเกิน... แล้วยังต้องมาเจอช่วงเวลาที่ต้องนั่งรับของขวัญกับองค์ชายทั้งวันอีก

แต่จักให้นอนอยู่เฉย ๆ ก็น่าเบื่อเกินไป

“แมะ แม่”สุริยมาศส่งเสียงเรียกพระมารดาให้กับมาสนใจตน มือเล็ก ๆ ยื่นออกมาหา “อุ้ม อุ้ม”

ศศินคคนานต์ยิ้มให้กับท่าทีอันน่ารักน่าชังของลูกน้อย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปอุ้มบุตรชายตัวอวบอ้วนมานั่งบนตักด้วยความรัก

“มาสของแม่ มาสเป็นเด็กดีไหมเอ่ย”เสียงทุ้มหวานเอ่ยถามพระโอรสด้วยร้อยยิ้มอ่อนโยน “ไหน ตอบแม่หน่อยสิ มาสเป็นเด็กดีไหมเอ่ย”

“ดี ดี มาด เดะ ดี”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ของผู้เป็นบิดาและมารดาดังขึ้น สุริยมาสก็พลอยหัวเราะไปด้วย แม้จะยังไม่รู้เรื่องอะไรตามประสาเด็กก็ตามที
ดูแล้วอบอุ่นยิ่งนัก

“ยังอบอุ่นเช่นเคยนะเพคะ”ร่างเพรียวบางของสตรีนางหนึ่งก้าวเข้ามาในตำหนักอย่างแช่มช้อย “หม่อมฉันเอาผลไม้ดองมาให้เพคะ”

“ขอบคุณมากพะยะค่ะ พระชายา”ศศินโค้งกายให้โสภิตสารินน้อย ๆ พร้อมส่งรอยยิ้มให้ “พระองค์เอาของมาให้กระหม่อมทุกวันเช่นนี้ ตัวพระชายาได้ทานอะไรมาบ้างหรือยัง พระองค์ดูผอมลงไปไม่น้อยเลยนะพะยะค่ะ”

“หม่อมฉันได้ทานอิ่มทุกมื้อเพคะ”นางเลือกที่จะประหยัดคำพูดให้มากที่สุด ด้วยใจมิอยากจะพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตำหนัก
เรื่องวุ่นวายที่สนมทั้งหลายก่อขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน นับตั้งแต่วันที่นพคุณกลับมา... อาจจะด้วยนางรู้อยู่แล้วว่าองค์รพีทรงมีคนในหัวใจอยู่ แม้จะเคยคาดเดาว่าเสียชีวิตกันไปก่อนหน้านี้ก็ตาม...

แม่นางโสภิตสารินมองดวงหน้าของศศินคคนานต์ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ก่อนหน้า นางเคยสงสัยนัก ว่าเหตุใดพระสวามีของนางนั้นถึงมองชายาแห่งอนุชาด้วยความคะนึงหา และต้องการตัวนัก... จนวันนี้ นางจึงได้รู้...

จมูกที่โด่งรั้น ริมฝีปากที่เรียวบาง ความคล้ายคลึงของยอดทหารเอกและองค์ชายต่างเมืองนั่นช่างมากเหลือเกิน ไหนจะดวงตาสีน้ำเงินสุกสว่างที่ฉายแววโศก ระคนใสซื่อนี่อีก

ยิ่งเพ่งพิศยิ่งทำให้หวนนึกถึงคนรัก... กระมัง

ยิ่งได้เห็น องค์ชายต่างแดนผู้นี้ช่างคล้ายคลึงกับนพคุณเหลือเกิน

เรื่องนี้... คงยังมิอาจปริปากบอกคนตรงหน้าได้ และอาจจะไม่มีวันได้พูดบอกเลยก็เป็นได้... เพียงเท่านี้ก็วุ่นวาย... วุ่นวายมากเกินพอแล้วจริง ๆ

ตัวนางเองมิใช่ไม่รักในพระสวามี แต่ก็ต้องตัดใจให้ได้... เพราะอย่างไร ในใจของพระองค์ก็มิเคยมีนางอยู่... นางได้แต่เฝ้ามอง เฝ้าดูแล ในแบบที่สตรีคนหนึ่งจะทำได้...

เพียงเท่านั้น... จริง ๆ

พระชายาโสภิตสารินจมอยู่ในห้วงคิดของนาง ดวงตาที่สวยหวานนั้นฉายแววโศกเศร้าเสียคนผู้ที่มองอยู่รับรู้ได้... แต่ก็มิรู้ว่าจะปลอบโยนอย่างไร

เมื่อพวกเขาเองก็ถูกทำให้เจ็บช้ำเอาไว้ไม่น้อยเลย



ในที่สุดวันแห่งการเฉลิมฉลองก็มาถึง วันนี้จะเป็นวันแรกที่ประชาชนจะได้ชื่นชมพระบารมีขององค์ชายน้อยเป็นครั้งแรก ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศจึงแห่กันมายืนออรวมกันอยู่ที่หน้ากำแพงพระราชวัง

เหล่าเชื้อพระวงศ์ สนมนางใน ภายในวังหลวงต่างแต่งตัวประชันกันอย่างเลิศหรู สนมหรือนางในคนใดมีเสื้อผ้าแปลกใหม่จากต่างเมือง ก็พากันหยิบยกออกมาสวมใส่ให้ตนนั้นโดดเด่นกว่าผู้ใด

แน่นอนว่าเจ้าจันทราดวงน้อยนั้นยังคงอยู่ในชุดสีขาวสว่างไสวเคียงคู่กับจ้าวสุริยาเช่นเคย ส่วนองค์ชายน้อยผู้เป็นเจ้าของงานนั้นอยู่ในชุดสีน้ำเงินเข้ม ตัดเข้ารูปกับร่างเล็ก ๆ

นี่นับได้ว่าเป็นงานเลี้ยงฉลองครั้งแรกนับตั้งแต่ที่องค์ชายศศินคคนานต์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุษณกรเลยทีเดียว ความยิ่งใหญ่ อลังการประจักษ์แก่สายตาของสองพี่น้องแห่งวสุนธรา สร้างความตื่นตาตื่นใจไม่น้อย

ยามสาย องค์ชายสุริยภาสวร พร้อมด้วยองค์ศศินและองค์ชายน้อยนั้นขึ้นไปบนกำแพง ทักทายประชาชนที่เฝ้ามองอยู่ข้างล่าง พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณในการร่วมเฉลิมฉลองในวันมงคลเช่นนี้

ในเวลาเที่ยง ยามที่สุริยาส่งแสงแรงกล้า พิธีมอบยศก็ได้เริ่มขึ้น เพื่อสถาปนาให้องค์ชายน้อยได้เป็นองค์ชายที่ชอบธรรมโดยสมบูรณ์

เมื่อถึงเวลาเย็น การแสดงของนางรำเริ่มขึ้น ดนตรีจังหวะสนุกสนานบรรเลงดัง การรำที่อ่อนช้อย แฝงความเข้มแข็งได้แสดงให้ประจักษ์ เป็นกระแสดงชุดแรกก่อนที่การรำอวยพระจะตามติดออกมา


นวลลอองามตาในอาภรณ์
งดงามงอนชดช้อยให้หวานจิต
รอยยิ้มยวนแย้มยิ้มโปรยเป็นนิตย์
ให้หวนคิดคำนึงถึงคืนวาน

ยามย่อกายเหยียดกายช่างน่าหลง
ดวงเนตรคงตรึงติดในดวงมาน
ให้ข้านี้อยากยิ่งจะพบพาน
จะสืบสานเจ้านงคราญมาข้างกาย


หลังจากที่การแสดงจบลง สาวงามมากหน้าก็ถูกเรียกใช้ให้อยู่ข้างกายเหล่าขุนนางทั้งหลายที่มาร่วมงาน รวมถึงองค์ชายที่ยังทรงไร้ซึ่งคู่ครองทั้งหลายด้วย

ยิ่งค่ำ การร่ำสุราเมลัยเคล้านารีก็มากขึ้น ศศินเริ่มเห็นท่าไม่ดี จึงได้ขอตัวพาองค์ชายน้อยกลับมายังตำหนักพร้อมด้วยภาสวร โดยมีองค์ชายรัชทายาท พระชายาโสภิตสาริน และที่ขาดไม่ได้ นพคุณ คอยรับหน้าแขกเรื่อในงานแทน

หลังจากที่ชำระกายเสร็จสุริยมาสก็หลับไปคาบ่าของผู้เป็นบิดา เรียกรอยยิ้มของบุพการีทั้งสองได้เป็นอย่างดี ในราตรีนี้ครอบครัวจึงได้นอนด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน


หลังจากจบงานฉลอง ผู้มาเยือนก็ค่อย ๆ ทยอยกลับไป คงจะมีแต่เจ้าหญิงศรวิษฐาที่ทรงประทับอยู่ต่อ เพื่อดูแลอนุชาที่อุ้มครรภ์หกเดือนมิให้ต้องออกแรงหนักหนา

“เจ้าพี่ยังมิทรงเสด็จกลับเช่นนี้ จะดีหรือพะยะค่ะ”ผู้เป็นน้องเอ่ยถามภคินี เมื่อทั้งสองอยู่ด้วยกันเพียงลำพังในตำหนัก “เช่นนี้เจ้าพ่อจิทรงติเตียนหรือพะยะค่ะ”

“ข้าส่งสารกลับไปที่เมืองแล้ว อย่างไรข้าก็มิกลับจนกว่าเจ้าจะคลอด”ศรวิษฐาวางผ้าทางพระนางนำมาปักลายให้หลานตัวน้อยที่จะถึงกำเนิดขึ้นมาลง “อีกทั้งตอนนี้เจ้าพ่อมิมีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้หรอก”

“มิมีเวลาหรือพะยะค่ะ”ศศินทวนคำอย่างฉงน จะไม่มีได้อย่างไรกันนะ... ในเมื่อเจ้าพี่สุริเยนทร์ก็ทรงแบ่งเบาได้มาแล้ว ยังมีเจ้าน้องสาม เจ้าน้องสี่อีก

“ใช่ เวลานี้เจ้าพ่อทรงต้องการหาคู่ครองให้กับเจ้าพี่สุริเยนทร์ ทรงมิเอาเวลามาสนพระทัยเรื่องหยุมหยิมพวกนี้หรอก”พระนางยั๊กไหล่อย่างมิใส่ใจอะไร “ทำอย่างไรได้ เจ้าพี่มิทรงมีพระชายาเสียที เจ้าพ่อก็ต้องทรงร้อนใจเป็นธรรมดา”

“นั่นสินะพะยะค่ะ”เจ้าจันทราหัวเราะในลำคอเบา ๆ เมื่อคิดถึงสีพระพักตร์ของพระเชษฐาในยามนี้ “จะทำอย่างไรได้ เจ้าพี่มิเคยสนใจนารีเลยแม้เพียงคน”

“ใช่ เจ้าพ่อถึงร้อนใจอย่างไรเล่า”เจ้าหญิงคนงามแห่งวสุนธนราสรวลออกมาเสียงดัง ก่อนจะหันมาหยิบยกเอาผ้าแพรนุ่มมาปักต่อ

ในระหว่างที่สองศรีพี่น้องกำลังสนทนากันอย่างออกรส นางกำนัลน้อยสองนางคลานเข่าเข้ามาพร้อมด้วยถาดใส่ผลไม้ พวกนางวางถาดในมือลงบนโต๊ะ ก่อนที่จะคลานออกไปเงียบ ๆ

ศศินยื่นมือออกมาหยิบเอามะม่วงชิ้นหนึ่ง จิ้มลงในน้ำปลาหวานในชมกระเบื้องอย่างดี ก่อนที่จะกัดกินเข้าไปในปาก เช่นเดียวกับศรวิษฐา

เพียงคำแรกที่กลืนลงสู่กระเพาะ อาการปวดร้อนก็เข้าครอบงำทั้งวรกาย มือเรียวทั้งสองกุมท้องแน่น ใบหน้าบิดเบี้ยงอย่างเจ็บปวด

“น้อย น้อย ตามหมอหลวงเร็ว น้อย”ศรวิษฐาตะโกนลั่น พร้อมทั้งปราดเข้าไปประคองร่างของน้องชายเอาไว้มั่น “น้อย ตามหมอหลวงมา เร็วเข้า”

นางกำนัลคู่กายของชายาแห่งจ้าวสุริยารีบวิ่งไปลากหมอหลวงมือฉมังจากโรงหมอมาอย่างว่องไว โดยมิสนใจแล้วซึ่งกิริยามารยาท ผ้าถงผ้าถุงที่สวมใส่จะกระจุย กระเชิงก็ช่างมัน

“ท่านหมอเจ้าคะ มาทางนี้เร็วเจ้าค่ะ เร็ว”

หมอหลวงถูกหิ้วมายังตำหนักขององค์ชายสามอย่างว่องไว พร้อมทั้งถูกผลักเข้าไปตรวจดูอาการของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระชายาของเจ้าของตำหนักทันที แม้จะยังแอบตั้งสติไม่ได้ แต่เมื่อเห็นคนป่วยอยู่ตรงหน้า สัญชาตญาณของความเป็นแพทย์ก็เข้าครอบงำทันที

องค์ภาสวรที่เห็นนางกำนัลที่น่าจะดูแลคนรักของพระองค์อยู่วิ่งหน้าตั้งผ่านหน้าไป ก็รีบเสด็จกลับมาที่ตำหนักด้วยใจที่ร้อนรนทันที ทรงพุ่งเข้าไปในห้องบรรทมอย่างมิสนใจเสียงห้ามของนางกำนัลและพระญาติฝ่ายศศินเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้ทั้งสองตัดสินใจเข้าไปในห้องบรรทม เพื่อดูอาการของผู้ที่พวกนางเป็นห่วงสุดใจด้วย อย่างมิสนใจหน้าอินทร์หน้าพรหมอีกต่อไป

คล้อยหลังจากเจ้าของตำหนักกลับมา เหล่าราชนิกุลหลายพระองค์รวมทั้งองค์กษัตริย์และองค์รัชทายาทก็เสด็จมาด้วย ด้วยได้ข่าวว่าหมอหลวงถูกเรียกมาตรวจองค์ศศินอย่างฉับพลัน ทำให้รู้ได้ทันทีว่าต้องมีเรื่องเกินขึ้นแน่

ศศินนอนขดกายอยู่บนเตียงอย่าเจ็บปวด มือทั้งสองยังคงกุมท้องเอาไว้มิยอมปล่อย ผู้เป็นหมอจึงจำต้องฝืนดึงพระกรของพระชายาออกมาจับชีพจร และรีบนำยาลูกกลอนออกมาให้ร่างบนเตียงเสวยเข้าไปทันที

“หมอหลวง ชายาเราเป็นอะไร”สุริยภาสวรตรัสถามเสียงแผ่ว ใบหน้าหล่อเหลาซีดเผือนเมื่อเห็นดวงพักตร์ที่ฉายแววทรมานของผู้เป็นดั่งดวงใจ “ศศินเป็นอะไร!!”

“โปรดอย่าเพิ่งกริ้วไป พระชายามิทรงเป็นอะไรแล้วพะยะค่ะ”หมอหลวงทูลตอบอย่างรัวเร็ว “กระหม่อมให้ทรงให้โอสถแล้ว นับว่ายังโชคดีนักที่มิทรงเป็นอะไรมาก... แต่กระหม่อมสงสัยนักว่าทรงเสวยยาขับเลือดลงไปได้อย่างไร”

“ยา... นอกจากยาที่ท่านส่งมาให้น้องข้าดื่มเมื่อเช้ากับอาหารเช้าแล้ว จนตอนนี้น้องข้ายังมิได้ทานอะไรเลย...”ไม่สิ... ไม่ใช่ มีอีกอย่างหนึ่งที่นางแนะอนุชาได้รับประทานเข้าไป... ” น้อย ออกไปหยิบถาดสองใบบนโต๊ะมาสิ”

“เพคะ”น้อยรับออกมายกเอาถาดสองใบเข้าไปทันที โดยมิสนใจเลยว่าจะหนักแค่ไหน... หรือว่านางเริ่มถึกแล้วนะ... ไม่มั้ง... ต้องไม่สิ “นี่ใช่ไหมเพคะ”

“มะม่วงน้ำปลาหวานเช่นนั้นหรือ...”หมอหลวงหยิบเอาถ้วยน้ำปลาหวานขึ้นมาเพ่งพิศ ก่อนจะสังเกตเห็นอะไรบางสิ่งที่นอนก้นอยู่ จึงได้ลองล้วงขึ้นมาเพื่อดู “ผงกาแฟเช่นนั้นหรือ แล้วยัง กลิ่นสมุนไพรพวกนี้อีก”

“เพราะของพวกนี้ใช่ไหม น้องข้าถึงเป็นเช่นนี้”หัตถ์เรียวกำแน่นอย่างโกรธแค้น พระนางจะต้องรู้ให้ได้ว่าอ้ายอีพวกไหนมันกล้าทำเช่นนี้กับอนุชาของพระนาง

“ผู้ที่ตั้งครรภ์มิควรดื่มกาแฟ แล้วยิ่งมีสมุนไพรที่มีฤทธิ์ขับเลือดพวกนี้อีก ใครกันนะที่โหดร้ายได้ขนาดนี้”หมอหลวงพึมพำอย่างอ่อนใจ มิอยากจะคาดเดา แต่คำตอบก็ขึ้นมาอยู่ในสมองของเขาแล้ว

องค์ภาสวรได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น โอบกอดร่างของศีตภาเอาไว้ในอ้อมแขน หัตถ์หนาถือผ้าคอยซับเหงื่อที่ไหลซึมออกมาอย่างนุ่มนวล

“องค์หญิงเพคะ”นวลส่งจดหมายฉบับหนึ่งให้กับร่างเพรียวบางที่กำลังสั่นด้วยความโกรธ “หม่อมฉันเจอสิ่งนี้อยู่ใต้จานมะม่วงเพคะ”

ศรวิษฐากางจดหมายออกอ่านอย่างรวดเร็ว เนื้อความในนั้นยิ่งทำให้นางกราดเกรี้ยวมากขึ้น จนแทบจะลุกเป็นไฟ

“ข้าไม่ไว้ชีวิตพวกมันแน่...”แม้จะยังมิรู้ว่าผู้ใด แต่อย่างไรก็คงมิพ้นพวกสนมขี้อิจฉาพวกนั้นเป็นแน่... โง่นักที่เขียนจดหมายมาท้าทายเช่นนี้ “หมอหลวง ประกาศออกไปว่าศศินแท้งแล้ว”

“แต่...”

“ข้าบอกให้เจ้าประกาศไปอย่างนั้น ก็จงทำ!!”เสียงที่ตรัสออกมานั้นเย็นชา แฝงความโกรธเกรี้ยวไว้เต็มเปี่ยม “น้อยเตรียมของที่จำเป็นเสีย ข้าจะไม่ให้น้องข้าอยู่ในนครแห่งนี้อีกต่อไปแล้ว”

คำสั่งที่ไร้คนค้าน แม้แต่ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์ชายแห่งอุษณกรก็ตามที...

วินาทีนี้อยากจะไปให้พ้น ๆ เสียด้วยซ้ำ ขอไปตั้งแต่ตอนนี้เลยจะได้ไหม... ไปจากสถานที่ ที่ทำร้ายพวกเขาให้มีแต่เจ็บช้ำเช่นนี้

ยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ก็มิขอมีอีกต่อไป ขอเพียงมีกันและกัน ก็เพียงพอแล้ว...



+++++++++++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า ตอนนี้มาแบบกระชัด รวมเนื้อหาไปเยอะเลย TT // เดี๋ยวค่อยกลับมาใส่น้ำ 555

รวมช่วงดราม่าไม่ให้จี๊ดกันไปมากนะคะ ^^" (อย่าเขวี้ยงอะไรมาน้าา T^T)

ตั้งแต่ตอนต่อไปถึงจบ(ในอีกสามตอน) จะเป็นช่วงความสุขของศศิน แล้วนะคะ ^++++^ เบา ๆ ไม่มีอะไรแล้ว เย้

ไปขุดจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิ... มาแต่งต่อดีกว่า... หรือขึ้นเรื่องใหม่เลยดีหว่า...

ปล. มิดไนต์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยากตั้งเพจ แต่กลัวร้าง 5555 วิ่งล่ะค่ะ // ทำไมตอนนี้ดูพูดมากล่ะ ;-;

ตอนนี้ลงไว ก่อนเที่ยงคืนล่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 21-07-2014 22:34:55
ใครวางยาศศินเนี่ย หวังว่าจะไม่ใช่พระชายานะ

อ่านเรื่องนี้แล้วงงนิดนึงคือ รพีพอได้ศศินแล้วก็ไม่สนใจต่อเลยเหรอ ขนาดมีลูกแล้ว เพราะไม่เห็นรพีจะมายุ่งอะไรกับศศินอีก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกว่ารักจะเป็นจะตาย และเรื่องที่ศศินมีอะไรกับรพีนั้น สรุปว่าคนในวังรู้หมดเหรอคะ ตอนแรกอ่านเข้าใจว่าเป็นความลับ เพราะขนาดศศินถวายตัวยังต้องไปตำหนักที่ไม่มีคนรู้อ่ะค่ะ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 21-07-2014 22:41:01
ร้ายมากวางยาขับเลือดเหมือนตอนแม่ของเจ้าจันทร์ท้องเจ้าจันทร์แล้วโดน
พระชายาของคนพี่หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 21-07-2014 22:46:21
ใครวางยาศศินเนี่ย หวังว่าจะไม่ใช่พระชายานะ

อ่านเรื่องนี้แล้วงงนิดนึงคือ รพีพอได้ศศินแล้วก็ไม่สนใจต่อเลยเหรอ ขนาดมีลูกแล้ว เพราะไม่เห็นรพีจะมายุ่งอะไรกับศศินอีก ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้บอกว่ารักจะเป็นจะตาย และเรื่องที่ศศินมีอะไรกับรพีนั้น สรุปว่าคนในวังรู้หมดเหรอคะ ตอนแรกอ่านเข้าใจว่าเป็นความลับ เพราะขนาดศศินถวายตัวยังต้องไปตำหนักที่ไม่มีคนรู้อ่ะค่ะ



ไม่ใช่พระชายาค่ะ นางเป็นคนดีที่โลกลืม(ของแท้)

รพี อยู่ในช่วงสนใจคนรักเก่าที่เพิ่งกลับมาน่ะค่ะ เลยละเลยอีกคนไปบ้าง ตามนิสัยจริงของเขา // ตามที่อินทัชบอก รพีถอดใจเมื่อไหร่ก็ถอนตัวเอง ถึงเวลาของเขาแล้วค่ะ ^^ กลับไปอยู่กับคนรักของเขาได้แล้ว (บวกน้องชายเขาเริ่มหวงก้างแล้ว...)

คนที่รู้เรื่องของรพีกับศศินจะมีคนในตำหนักของศศินเอง กับตำหนักของรพีบางคนที่หูตาเป็นสับปะรดค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-07-2014 22:49:41
ใครกันช่างทำได้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: INeLo ที่ 22-07-2014 00:33:51
อั้ยหยาาาาา ใครเป็นคนทำหว่า  o18 o18
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 22-07-2014 00:40:09
รพีเป็นคนแบบนี้เอง

พอได้แล้ว ปล่อยให้ศศินตั้งครรภ์ไม่ได้สนใจ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-07-2014 00:41:13
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 22-07-2014 00:41:42
ใครนะที่ทำได้ หรือจะเป็นแผนของอีพี่ตัวร้ายกันแน่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: GintoniC ที่ 22-07-2014 00:44:09
ใครเป็นคนร้ายหนอ  :hao4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 22-07-2014 01:24:33
นิสัยมากอะ ตัวเองไม่ได้ไม่มีแต่กลับมาทำร้ายคนอื่นแบบนี้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: yymomo ที่ 22-07-2014 05:56:54
 :z6:  อิตารพีไม่ใช่นิสัยละ  สันดานเสียมากอ่ะ  แบบว่า ได้แล้วไม่สนไม่มาดูแลพอคนรักเก่ากลับมาเนี่ย ทิ้งๆคว้างๆเลย   :katai1:

แต่เอ๊ะ เดวนะ    :ruready   เราต้องดีใจสินะที่อิตารพีจะไม่มารังควาน  ศศินกับภาสวรแล้ว   :3125:  แต่อยากให้มีบทเรียน

กับอิตารพีบ้างจัง  ไม่ไหวๆสันดานแบบนี้  :m16: 

ว่าแต่ใครมันกล้าวางยา ศศินนะ  :m31:  เอามันไปประหารเจ็ดชั่วโคตรรรรรรรรรรร   :angry2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 22-07-2014 07:17:59
ชั่วร้ายที่สุดกล้าดีอย่างไรมาทำร้ายศศินรอต่อนะมันค้าง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 22-07-2014 08:03:11
ศรวิษฐาตอนนี้เท่มากเลย แลดูเด็ดเดี่ยว

ขอเดาว่าพระชายาเป็นคนทำรึเปล่าคะ ง่าไม่รู้สิ
อยากอ่านต่อแล้ว><

...............

/ไม่ใช่พระชายาแล้วใครกันละเ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 22-07-2014 08:36:22
แค่มะม่วงก็รู้แล้วว่าใคร


ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Mani ที่ 22-07-2014 09:27:25
ขอบทเรียนแรงๆให้อีตารพีหน่อยนะคะ หมั่นไส้อ่ะ -,-
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-07-2014 10:21:13
 :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 22-07-2014 10:35:20
ท่านหญิงทำได้ดีมากกก  o13

พาศศินออกไปจากเมืองเลย ~  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 22-07-2014 18:23:58
ถถถถถถ  ยังไม่ทันจะพักฟื้นก็ต้องมาท้องอีกแล้ว  อิพ่อใจฮ้ายยยยยย :ling1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 22-07-2014 18:48:44
ไม่ทันไร ก็โดนทำร้ายอีกแล้ว โถ เจ้าจันทร์ดวงน้อย :m15:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: dreeanm ที่ 22-07-2014 22:34:41
ตอนแรกแอบคิดว่าศศินจะแท้งจริงๆซะเเล้ว ยังรับความจริงเรื่องเป็นลูกรพีไม่ได้ TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 23-07-2014 01:54:16
ใครเปนคนทำ
พระชายาดูปลงแล้วไม่น่าใช่
หรือจะเปนนพคุณ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 23-07-2014 10:32:25
ทำไมต้องทำร้ายศศินด้วย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 23-07-2014 11:21:14
ไปให้พ้นๆก็ดี มีแต่เรื่อง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 23-07-2014 21:04:50
คนที่วางยาศศินไม่ใช่ว่าคนโปรดเก่าของสามีนางหรอกน่ะ ไอหย๋าซวยแล้วสิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: nonbungsanovii ที่ 24-07-2014 04:32:21
คงไม่ใช่แม่นางรำไพระไพไรนั่นนะ ชื่อนี้เปล่าหว๊า 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: KoTo_Nat ที่ 24-07-2014 05:29:55
คนที่วางยาจะใช่ องค์กษัตริย์ หรือเปล่า แต่มันจะไปขัดแย้งกับคำทำนายอีกที่ว่าทั้งคู่เมื่อมีลูกแล้วจะทำให้บ้านเมืองเจริญ

หรือว่าพอมีลูกคนเดียวแล้วจะเฉดหัวออกจากเมืองไป

หรือจะเป็นคนรักขององค์รัชทายาท แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้

ไม่อยากให้พระชายาเป็นคนทำเลย คืออยากให้นางเป็นคนรับเลี้ยงลูกของศศินเมื่อคลอดออกมา

เพื่อช่วยให้นางไม่เหงาจากการทอดทิ้งของพระสวามี แต่ก็อยากให้พี่สาวของศศินเลี้ยงอีกเหมือนกัน

โอ้ย เครียด 555555 รีบมาต่อนะครับจะรอติดตาม ว่าเรื่องจะเป็นยังไงต่อ

ไม่อยากให้จบเลย(ที่บอกว่ายังมีอีกสามตอนจบนะ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: JustWait ที่ 24-07-2014 17:03:01
รอค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 24-07-2014 19:38:28
ติดตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 25-07-2014 01:01:00
คิดว่าบรรดานางเล็กของตาภาสนี่แหละ  ได้ข่าวว่ามีเยอะใช่ย่อยพอกับคนพี่เลยหนิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: llPETCHll ที่ 25-07-2014 07:44:31
พากลับเมืองเลยค่ะขุ่นเพ่ T__T
ใครทำศศินนนนน หรือจะเป็นนพคุณ ???

งง ไปหมดแล้ววววว TT__TT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 16 (P.21)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 25-07-2014 08:06:24
สงสารศศินอะ ดีที่เข้าใจกันกะพี่สาวแล้ว หรือว่าแกล้งให้ตายใจกันนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-07-2014 05:17:53
ปฏิญญาที่ ๑๗

หลบหลีกเลี่ยงซ้อนเร้นกายออกจากวัง
ที่คุมขังอันสวนหรูแสนกดขี่
ให้จันทรเจ้ามัวหมองด้วยราคี
ดวงสุรีย์รีบพานำกลับแดน



เจ้าหญิงศรวิษฐาทรงเค้นสมองวางแผนที่จะพาอนุชาของพระนางหนีออกจากพระราชวังแห่งอุษณกรนี้ทันทีที่อาการดีขึ้น พระนางติดต่อไปยังเจ้าชายสุริเยนทร์ไทวะให้จัดเตรียมสถานที่ลับเอาไว้ซ่อนกายของผู้เป็นน้อง โดยมิให้มีผู้ใดล่วงรู้

น้อย นางกำนัลผู้ภัคดีแอบจัดเตรียมของต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับนายทั้งสามของนางอย่างเต็มใจ และเก็บในส่วนของนางเองด้วย
นายของนางอยู่ที่แห่งใด นางจะขอตามไปรับใช้หนนั้น

กัลยาเองก็พร้อมที่จะไปกับนายของนางด้วย นางจะขอตามติดไปดูแลองค์ชายน้อยให้เติบโตขึ้น ต่อให้ถ้าถูกจับได้จะต้องโทษร้ายแรงเพียงใดก็ตาม

หลอหลวงวันชัยที่ตกกระไดพลอยโจรรับรู้ทุกอย่าง ทำให้ต้องคอยช่วยเหลือ สนับสนุนแผนการนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่อีกใจเขาก็ยินดีอย่างยิ่งที่จะช่วยเหลือ เพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่จะเกิดมา

และอีกสองคนที่ทำให้หลาย ๆ อย่างในแผนการราบรื่นขึ้น คือ แม่หญิงโสภิตสาริน ที่ยินดีจะช่วยให้ผู้ที่นางเห็นเป็นน้องมาตลอดพ้นจากความทุกข์ในวังที่เอาแต่ทำร้ายเขาไม่หยุดนี้เสียที และนพคุณ ที่ต้องการจะตอบแทนบุญคุณที่วสุนธราเคยช่วยเหลือเขาในยามที่อยู่คาบเกี่ยวระหว่าความเป็นและความตายในครานั้น

การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปอย่างรัดกุม โสภิตสารินพยายามควานหาสิ่งของจำเป็นสำหรับเด็กต่าง ๆ มามากมาย เพื่อมอบให้แก่น้อย เอาไปให้องค์ชายน้อย และเด็กที่กำลังจะเกิดมาได้ใช้สอย

นพคุณคอยสังเกตการณ์ และชุดรั้งองค์รัชทายาท องค์อินทัชในบางครั้ง ที่นึกจะเสด็จไปตำหนักขององค์ชายสามโดยมิบอกล่วงหน้า ด้วยเหตุผลต่าง ๆ เท่าที่จะชักแม่น้ำออกมาได้... และนับว่าเป็นเรื่องดีที่ทั้งสองพระองค์ชมชอบการล่าสัตว์นัก จึงทำให้เรื่องนี้เป็นข้ออ้างชั้นดีอยู่เสมอ

แผนการต่าง ๆ ดำเนินการไปเรื่อย ๆ จนพร้อมที่จะลงมืออย่างรวดเร็ว ควันยาสลบพร้อมที่จะใช้งาน สัมภาระบางส่วนถูกขนย้ายออกไปเรียบร้อย ด้วยความร่วมมือจากทหารที่รู้เห็น และรับสินบน

ศศินคคนานต์เองก็พร้อมที่จะออกไปแล้วเช่นกัน พระองค์แข็งแรงขึ้นแล้ว แม้จะยังไม่เท่าปกติ แต่ก็พร้อมที่จะเดินทางออกไปจากวังหลวงแห่งนี้

“เจ้าพี่ จะมิทรงเสด็จไปด้วยหรือพะยะค่ะ”ศศินเอ่ยถามทวนซ้ำอีกครั้ง เมื่อแผนการเริ่มต้นขึ้น ควันยาสลบถูกปล่อยในทุกตำหนัก ทุกหนแห่งในวังหลวง แม้แต่ในตำหนักขององค์ชายสามเองก็ตาม มีเพียงผู้ที่ร่วมมือในแผนการที่นั้นที่นำผ้ามาปิดจมูกเอาไว้ได้ มิให้สลบล้มลงไป

“ถ้าเจ้าไปก็จะมิมีตัวประกันอีก ข้าจะอยู่ที่นี่ เป็นตัวประกันแทนเจ้า เพื่อนครของเรา”ศรวิษฐาตอบกลับด้วยรอยยิ้มหวาน “ไปเถอะ ศศิน ไม่ต้องห่วงข้า และอย่าส่งข่าวมา ถ้าเจ้าอยากจะบอกอะไรกับข้า ให้บอกกับเจ้าพี่สุริเยนทร์ อย่าส่งข่าวมาที่นี่ จำไว้ น้องพี่”

“เจ้าพี่...”

สองพี่น้องกอดกันแน่น ความสัมพันธ์ที่เหมือนครั้งยังเยาว์วัยกลับคืนมาอีกครั้งอย่างสมบูรณ์ พี่สามที่รัก และเป็นห่วงน้อยชายตัวน้อยผู้อ่อนแอกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ถูกความริษยา และความโกรธเคืองบดบังมาเนิ่นนาน

“เราจะต้องได้พบกันอีก น้องพี่”

เจ้าหญิงคนงามแห่งต่างเมืองยืนส่งน้องกลับส่งแผ่นดินแม่ทั้งน้ำตา นับจากนี้ไปอนุชาของพระนางคงจะได้มีความสุขเสียที หมดสิ้นความทุกข์ที่เคยมีมา


ดารกาขอส่งดวงจันทรา
ให้ออกมานอกคุกที่คุมขัง
น้องเอยพี่ขอพรให้ด้วยความหวัง
ขอพลังแห่งดวงดาวช่วยคุ้มครอง


ให้น้องพี่มีสุขเกษมสันต์
หมดทุกข์พลันหมดน้ำตาที่เนืองนอง
ให้เจ้าอยู่กับคนรักเป็นคู่สอง
ให้ตระกองกอดค้ำตลอดไป


เกวียนลำน้อยถูกลากออกไปไกลลิบตา มุ่งหน้าสู่ป่าใหญ่โดยมิมีการหันหลังกลับไปมองยังที่ ที่จากมา พาผู้ที่อยู่ภายในมุ่งหน้าไปยังจุดหมายอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

องค์ชายน้อยสุริยมาศราวกับรู้ว่ากำลังออกเดินทาง พระองค์นั่งนิ่งเงียบไม่งอแง และไม่เดินซุกซนเหมือนปกติ อาจจะมีบ้างที่เดินไปหาบิดาที มารดาที แต่สุดท้ายก็กลับไปนั่งอยู่บนตักของแม่นมอย่างสงบ เป็นเด็กน้อยที่รู้ความจริง ๆ

“องค์ชายเพคะ เราจะไปที่ไหนกันหรือเพคะ”น้อยถามด้วยรอยยิ้มกว้าง นางยินดีนักที่ได้ออกมาจากวังหลวงที่น่าเบื่อเสียที ถึงแม้ว่าจะต้องจากลาจากบุคคลที่นางแอบชอบพออยู่ก็ตามที

“ป่าหมอกใกล้ ๆ พระราชวังแห่งวสุนธราน่ะ”องค์ศศินตอบกลับอย่างอ่อนโยน แล้วเหม่อมองไปข้างหน้า “ในป่าแห่งนั้น ถ้ามิมีผู้ที่เชี่ยวทางนำทาง ก็มิมีทางไปถึงแน่”

“ด้วยเหตุอันใดหรือเพคะ”นางถามกลับอีกรอบด้วยความอยากรู้ “เหตุใดถึงมิมีทางไปถึงหรือเพคะ”

“เพราะป่าแห่งนั้นจะถูกหมอกคลุมอยู่ตลอดทั้งปี และทางก็วกวนยิ่ง ถึงแม้ว่าภายในจะมิได้มีสัตว์ร้ายมากมาย แต่แค่เส้นทางก็ทำเอาถอดใจได้แล้วเหมือนกันนะ ถ้าพลาดก็อาจจะตกไหล่เขาลงไปในหุบเหวลึกเลยก็เป็นได้”ศศิธรอธิบายช้า ๆ เพื่อให้นางกำนัลคนสนิทเข้าใจ “แม้แต่คนในวสุนธราเองก็มีน้อยคนเท่านั้นที่จะเข้าไปแล้วมีชีวิตกลับออกมาได้”

“แล้วเช่นนี้ เราจะเข้าไปได้หรือเพคะ”

“มีเราอยู่ เหตุใดจะเข้าไปไม่ได้ล่ะ”ศศินคคนานต์หันกลับมามองจ้องตากับน้อยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม “เรากับเจ้าพี่เข้าออกที่แห่งนั้นจนปรุแล้วล่ะ และยังแอบสร้างบ้านเล็ก ๆ เอาไว้ที่นั่นด้วย”


ในระหว่างที่สุริยันและจันทราพากันหลบหนี หลังจากที่ควันยาสลบสิ้นฤทธิ์ลง ผู้คนที่หลับใหลก็พากันตื่นขึ้นมา ความวุ่นวายเริ่มบังเกิดเมื่อพวกเขาได้พบว่าเชื้อพระวงศ์ได้หายตัวออกไปถึงสามองค์...

และหนึ่งในนั้นมีองค์ชายน้อยผู้ที่อู้เป็นกษัตริย์หมายมั่นจะให้ครองแผ่นดินในภายภาคหน้าอีกด้วย

ผู้คนจำนวนมากถูกจับกุมมาสอบสวน ความโกลาหลบังเกิดขึ้นภายในพระราชวังอย่างหาที่เปรียบมิได้ ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งสี่ก็พากันปิดปากเงียบ มิเอ่ยอันใดออกมา

และแน่นอนว่า ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยคนแรกย่อมมิพ้นผู้เป็นภคินีเธออย่างเจ้าหญิงศรวิษฐาแห่งวสุนธรา แต่จะเอาความอันใดกับพระนางได้ ในเมื่อพระนางเองก็เป็นราชนิกุล

“องค์หญิง อนุชาของเจ้า โอรสข้า และนัดดาของข้า หายไปไหนเช่นนั้นหรือ”องค์อินทัชตรัสถามเรียบ ๆ โดยให้เนื้อเสียงที่กดดัน แต่ก็มิได้ทำให้เจ้าหญิงคนงามสะดุ้งสะเทือนเลยแม้เพียงน้อย

“เป็นหม่อมฉันที่ต้องทูลถามพระองค์เสียมากกว่าว่าอนุชาของหม่อมฉันหายไปไหนกัน เหตุใดเมื่อหม่อมฉันตื่นมาแล้วจิมิพบหน้า”ศรวิษฐาสวนกลับไปอย่างเย็นชา “หรือพระองค์ทรงอยากจะเล่นซ่อนหากันหรือเพคะ”

“ข้ามิได้มีเวลามาเล่นสนุกเช่นนั้นหรอก... เจ้ามิพบเห็นพวกเขาเลยหรือ”

“ตัวหม่อมฉันพำนักอยู่ในตำหนักรับรอง จะให้ได้พบใครนอกเสียจากนางกำนัลที่พระองค์ส่งมารับใช้หม่อมฉันเล่าเพคะ”ดรุณีน้อยโต้กลับเสียงแข็ง “พระองค์ต่างหาก ทรงเอาอนุชาของหม่อมฉันไปไว้หนใดกันแน่”

“พอ...”ยังไม่ทันที่หนึ่งกษัตริย์หนึ่งเจ้าหญิงจะได้ถกเถียงกันต่อ ก็มีเสียงของบุคคลอีกคนหนึ่งขัดขึ้นมาเสียก่อน “จะทะเลาะกันด้วยเหตุอันใด”

“รพีธรณิน เจ้ามิห่วงเมียเจ้าเลยหรืออย่างไร”ผู้เป็นบิดาตรัสถามด้วยแรงอารมณ์ โดยมิได้ไตร่ตรองในเนื้อความที่เอื้อนเอ่ยมา “เจ้ามิห่วงน้อง ห่วงเมียเจ้าหรืออย่างไร”

“เสด็จพ่อ ลูกจะทวนให้ฟังอีกครั้งว่าลูกคืนศศินให้กับภาสวรแล้ว ศศินเป็นของภาสวร และยังเป็นอย่างนั้นตลอดไป แม้ว่าลูกและเขาจะเคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมาก็ตามที”องค์รัชทายาทตอบกลับพระบิดาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “นับตั้งแต่วันที่นพคุณกลับมา ตัวลูกได้ให้สัญญากับภาสวรแล้วว่าจะไม่แตะต้องศศินในเชิงชู้สาวอีก และลูกจะรักษาสัญญานั้นไปทั้งชีวิต”

ใช่... ด้วยสัญญานั้นพระองค์ได้กรีดเลือดสาบานต่อหน้าองค์เทวาแล้ว และพระองค์ต้องรักษาไว้... ดังเช่นในวันที่เจ้าศีตภาโดนวางยา ใจนั้นอยากจะเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบประโลมใจ แต่ก็มิอาจจะทำได้ด้วยกลัวจะผิดคำสัตย์ที่ให้ไว้

มิใช่เฉยชา มิทรงห่วงใยในตัวของผู้ที่เคยหลับนอน... แต่จะให้ไปอยู่ตรงหน้าเป็นหนามยอกใจตลอดคงมิใช่การดีนัก... ทรงทำผิดพลาดไปแล้วจริง ๆ ในครานี้

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ”นพคุณคุกเข่าลงตรงหน้าจ้าวผู้ครองแผ่นดิน ใบหน้ามนเงินขึ้นสบตากับผู้สูงศักดิ์ “นับตั้งแต่วันที่กระหม่อมกลับมา ก็ได้รับฟังเรื่องมากมาย เรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างที่กระหม่อมมิได้อยู่ในพระราชวัง... กระหม่อมเห็นใจองค์ชายสามและองค์ศศินนัก ทั้งสองพระองค์ต้องเจ็บปวดยิ่งเป็นแน่... ด้วยความชอบที่กระหม่อมเคยทำและสั่งสมมา ขอได้โปรด ปล่อยทั้งสองพระองค์ไปตามทางที่ทั้งสองเลือกด้วยเถอะพะยะค่ะ”

นพคุณทูลออกมาด้วยใจ เป็นคำที่กลั่นออกมาโดยมิได้ตระเตรียมไว้ล่วงหน้า เรื่องราวที่ได้รับฟังจากพระชายาโสภิตสารินนั้นช่างน่าเศร้านัก ทั้งที่องค์ศศินที่เคยได้ยินมาจากองค์สุริเยนทร์นั้น ทั้งไร้เดียงสา ขี้กลัว อีกทั้งยังอ่อนแอ กลับต้องโดนทำร้ายให้บอบช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า...

“ไม่ได้... นครของเราจะขาดองค์ชายน้อยไม่ได้”องค์อินทัชตัดรอนด้วยสุรเสียงที่เฉียบขาด “องค์ชายน้อยจักต้องเป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อจากรพี เราจะขาดเขาไม่ได้”

“ผู้ที่จะสืบทอดราชสมบัติต่อจากลูก ย่อมเป็นบุตรของลูกเอง”รพีธรณินสวนกลับทันที ดวงเนตรคมฉายแววแข็งกล้าสบกับผู้ทรงอำนาจตรงหน้าอย่ามิกลัวเกรง “มิใช่ทายาทของผู้ใด”

“ยังมีเรื่อง...”

“ถ้าเรื่องตัวประกัน หม่อมฉันยังอยู่ที่นี่เพคะ”เจ้าหญิงศรวิษฐาเอ่ยขึ้นก่อนที่องค์อินทัชจะหาข้อโต้แย้งออกมา บรรยากาศในห้องแห่งนี้นั้นกดดันยิ่ง “หม่อมฉันยังอยู่ที่นี่ และจะอยู่แทนอนุชาของหม่อมฉัน เท่านี้ก็หมดปัญหาแล้วใช่ไหมเพคะ”

“...”หมดคำใดจะโต้เถียง ถึงจะพูดเรื่องคำทำนายที่ทรงเชื่อนักเชื่อหนาออกมาก็คงมิเป็นผล ด้วยความโกรธาของรพีธรณินคงจะแผดเผาแผ่นดินให้เป็นจุณ

“เรื่องรัชทายาท หม่อมฉันจะมีให้เองเพคะ”แม่นางโสภิตสารินกล่าวขึ้นบ้าง “หม่อมฉันจะมีให้เอง มิต้องกังวลพระทัยไปเพคะ”

เท่านี้ก็หมดคำแย้งอย่างสิ้นเชิง จะเรื่องตัวประกันเอย เรื่องรัชทายาทเอย ทุกอย่างมีหนทางแก้ปัญหาทั้งนั้น ราวกับเป็นแผนการที่ถูกเตรียมเอาไว้...

แผนการ...

ใช่แล้ว... ถ้าสุริยภาสวรและศศินคคนานต์จะหนีออกไปได้อย่างเรียบง่าย จะต้องมีการวางแผนอย่างดี และมีผู้ที่คอยให้ความร่วมมือ...

ทั้งหมดคงเป็นแผนการของพวกเขา... สินะ

ช่างน่าโมโหนัก... แต่ก็สุดจะทำอะไรได้ในตอนนี้แล้ว

พระองค์ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอก ครานี้จะยอมถอนทัพกลับไปตั้งหลักก่อนก็ได้


กว่าจะเข้ามาถึงเมื่อวสุนธราก็ใช้เวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ด้วยการเดินทางที่เป็นไปอย่างเรื่อย ๆ ไม่ได้เร่งรีบอย่างที่ควรจะเป็น และเพื่อไม่ให้กระเทือนถึงครรภ์ของผู้เป็นเจ้าชายแห่งวสุนธรา

“มาถึงแล้วหรือ ศศิน น้องพี่”เจ้าชายสุริเยนทร์ไทวะที่เสด็จมารออยู่ที่ชานเมืองตั้งแต่สองวันก่อนเอ่ยกับผู้เป็นน้อง เมื่อทรงเห็นเจ้าจันทราโผล่หน้าออกมาจากเกวียน “เหนื่อยหรือเปล่าเจ้า”

“พอดูพะยะค่ะ เจ้าพี่”ศศินก้าวออกมาจากเกวียน มายืนตรงหน้าพระเชษฐา “เจ้าพี่ทรงมาประทับที่นี่ แล้วพระราชวังล่ะพะยะค่ะ”

“มิเป็นไรหรอก พี่บอกเจ้าพ่อไว้ว่าจะออกตรวจราชการภายนอกสักเดือน สองเดือนน่ะเจ้า”วงแขนแกร่งโอบกอดร่างของอนุชาไว้ด้วยความคะนึงหา “เจ้าเถอะ เป็นอย่างไรบ้าง มิเหนื่อยเกินไปใช่ไหม”

“ไม่พะยะค่ะ เจ้าพี่ น้องสบายดี”ศศินกอดพี่ชายที่รักของตนตอบ ดวงหน้ามนซุกเข้าที่อกของพี่ชายตรงหน้าอย่างออดอ้อน “เสด็จแม่ทรงเป็นอย่างไรบ้างหรือพะยะค่ะ”

“ทรงพระเกษมสำราญดี พี่บอกเสด็จแม่ว่าเจ้ากลับมา พระองค์ทรงดีพระทัยนัก หมายมั่นว่าจะออกมาหาเจ้าให้ได้ในเร็ววันนี้”องค์ชายใหญ่ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “เราไปยังที่พักกันเถอะ เจ้าจะได้พักผ่อน หลานพี่จะได้แข็งแรง ๆ”

สุริเยนทร์ไทวะนำทุกคนเข้าสู่ป่าสายหมอกข้างพระราชวัง ทรงนำทางไปยังที่พำนักเล็ก ๆ ของสามพี่น้องเมื่อครั้งยังเยาว์ที่พระองค์ทรงมาจัดการบูรณะใหม่ตั้งแต่ได้รับแจ้งว่าอนุชาจะกลับมา

ทั้งยังส่งข้ารับใช้ที่สนิทกับเจ้าจันทร์มาที่แห่งนี้เกือบทั้งหมดเสียด้วย... นับว่ายังมีโชคอยู่บ้างที่พระแม่เจ้าทรงเข้าข้าง เป็นผู้สั่งการด้วยองค์เอง

ฝ่ายใน ใครจะกล้าขัดพระนางกัน

“เจ้ารองเพคะ”เสียงที่ไม่ได้ยินมานานนับปีดังขึ้นเรียกนายเหนือหัวด้วยความยินดี ศศินที่ออกมาจากเกวียนหันไปมองอย่างประหลาดใจ “เจ้ารอง”

“แม่แย้ม”ร่างอวบอ้วนของผู้มีครรภ์ก้าวเข้าไปหาหญิงวัยกลางคนค่อนไปวัยทองอย่างรวดเร็ว เท่าที่ตนจะทำได้ แต่ก็ยังช้ากว่าหญิงตรงหน้าที่วิ่งเข้ามาหาพระองค์อย่างไม่สนใจในมารยาทที่เคยได้รับอบรม และไปอบรมผู้อื่นแล้ว “แม่แย้ม มาได้อย่างไรกัน แม่แย้ม แม่แย้ม”

“พระแม่เจ้าให้หม่อมฉันมารับใช้เจ้ารองเพคะ”เมือสากของคนครัวผู้เป็นที่รักยื่นมาจับมือเรียวอย่างทะนุถนอม “หม่อมฉันคิดถึงเจ้ารองเหลือเกินเพคะ ดีใจจริง ๆ ที่ได้พบเจ้ารองอีกครั้งหนึ่ง”

“เราก็คิดถึงแม่แย้มนัก มิมีใครรู้ใจเราเท่าแม่แย้มจริง ๆ”ใช่ เรื่องอาหารการกิน แต่เล็กพระองค์ได้แม่แย้มผู้นี้เป็นคนคอยดูแลมาตลอดจนเติบใหญ่ เรียกว่าติดรสมือไปเสียแล้ว

“อย่าเพิ่งรำลึกอะไรกันเลย เข้าไปข้างในก่อนเถอะ เจ้าอิน ยกของเข้าไปด้วยล่ะ”สุริเยนทร์ไทวะเอ่ยขันขึ้นก่อนที่ทั้งสองจะกอดคอกันร้องไห้อยู่ด้านนอกนี้ “ไปคุยกันข้างในดีกว่าเจ้า”

“นั่นสิ ลูกเริ่มง่วงแล้วด้วย ศศิน”สุริยภาสวรที่อุ้มองค์ชายน้อยอยู่แจ้งแต่คนรัก เมื่อลูกน้อยเริ่มสัปหงก คอพับคออ่อนเสียแล้ว
ทุกคนพากันเข้าไปด้านในด้วยสีหน้าที่แจ่มใส กว่าจะเดินทางมาถึงที่นี่ก็ใช้เวลาไม่น้อย สิบกว่าวันที่ใจระทึกว่าจะมีทหารตามล่าพวกเขาหรือไม่...

แต่ก็มาถึงที่หมายจนได้

“จริงสิ หญิงศรส่งจดหมายมาให้เจ้าด้วย น้องพี่”หัตถ์หน้าหยิบเอาผ้าพับผืนหนึ่งออกมาให้กับผู้เป็นน้อง “สิ่งที่เจ้าอยากรู้คงอยู่ในนั้นแล้วล่ะ”

มะลิน้อย วิฬาร์ของข้า คิดถึงเหลือเกินกลิ่นหอมที่เคยอยู่เคียงกาย เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ไม่เจ็บป่วยไข้ใช่หรือไม่ ตัวข้ายังสบายดี มิโดนผู้ใดรังแก... แต่ใครจะกล้ามารังแกข้ากัน คนคุ้มกันข้าเยอะเสียจริง ข้าบอกให้เจ้ามากับข้าก็มิยอมมา เอาเถอะ ปล่อยไป ให้เจ้าเหี่ยวเฉาอยู่ที่นั่น

ข้ามาที่นี่ก็นานพอดูแล้ว ใครจะคอยให้ข้าวให้น้ำเจ้ากันนะ มะลิน้อยเอ๋ย ข้าเจอบัวเหลืองที่เจ้าเกลียดแสนเกลียดด้วยล่ะ ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะมีดอกบัวสีนี้ด้วย ถ้าเจ้าอยู่คงฟันเรียบ พังราบแน่  แต่ไม่ต้องห่วงนะเจ้าตัวน้อย ข้าฟันมันแทนเจ้าไปแล้ว ทิ้งลงกับสายน้ำนั่นแหละ

ดอกบัวที่เจ้าแพ้พิษสงของมันนี่กำจัดยากนัก ต้องใช้คุณทั้ง 9 เข้ากำจัด ยังดีที่มีสายน้ำอยู่ใกล้ เลยทำให้เอาไปทิ้งได้โดยง่าย มิเช่นนั้นข้าคงต้องปีนกำแพงวังสูง ๆ นี่ออกไปทิ้งเองกระมัง

ข้าล่ะไม่ชอบสีเหลืองเสียจริง น่าเหนื่อยใจนักกับสีที่เป็นไปด้วยราคะนี่ ทำไมต้องมีมันด้วยนะ

ที่อุษณกรนี่สุขสงบดีจริง ๆ มวลบุปผาบานสะพรั่งสวยงาม อยากให้เจ้ากับลูกแมวตัวน้อย ๆ ของเจ้าได้เห็นเหลือเกิน ตราตรึงใจยิ่งนัก

เจ้าพี่สุริเยนทร์ ระหว่างที่น้องไม่อยู่นี่ เจ้าพี่ต้องดูแลแมวน้อยของน้องให้ดี อย่าให้ป่วยให้ไข้ เอาไว้น้องได้กลับไปเมื่อไหร่หญิงจะไปดู ถ้าเจ้าแมวน้อยเป็นอะไรไป น้องจะไม่ให้อภัยเจ้าพี่เลยแน่

ฝากเจ้าพี่ดูแลเจ้าพ่อ เจ้าแม่ด้วย บอกพวกท่านด้วยว่าน้องคิดถึงพวกท่านทุกลมหายใจ


ศรวิษฐา



“วิฬาร์น่าจะหมายถึงเจ้าใช่ไหม แล้วดอกบัวสีเหลืองคืออะไรหรือ ศศิน”สุริเยนทร์ตรัสถามอย่างไม่เข้าใจในเนื้อความ “ข้าไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่เลย”

“ถูกแล้วล่ะ ภาสวร ตอนเด็ก ๆ เจ้าพี่หญิงทรงเรียกเราว่าลูกแมวน้อย ส่วนดอกบัวสีเหลืองนี่...”ศศินทำท่าชั่งใจ ก่อนที่จะนึกอะไรออกมาได้ “เด็กคนนั้น...”

“เอ... ดอกบัว ๆ อืม... บงกช บงกช”ศศินและภาสวรมองหน้ากันอย่างตกตะลึง “คนที่วางยาเจ้าคือเด็กคนนั้นอย่างนั้นหรือ... ไม่จริงกระมัง”

“เราก็ไม่รู้เหมือนกัน...”

“บงกชใช่นางกำนัลในตำหนักต้องห้ามที่ทรงช่วยเอาไว้ครานั้นหรือเปล่าเพคะ พระชายา”น้อยเอ่ยถามขึ้น หลังจากฟังมานาน

“ใช่แล้วล่ะ น้อย เด็กคนนั้นที่เราไม่ให้ภาสวรเปิดบริสุทธิ์ของนาง...”

“พระชายาเพคะ การที่นางกำนัลในตำหนักต้องห้ามนั้น มิได้รับใช้องค์ชายที่หมายจะถวายตัวตั้งแต่คราแระนั้น เป็นการเสียหน้ายิ่งนัก และพวกนางมักจะโดนนางกำนัลที่เหลือดูแคลน และเหยียดยามยิ่งนัก ด้วยถือว่าถูกเจ้านายทิ้งตั้งแต่แรกพบ นางคงจะคิดแค้นมิน้อย อีกอย่างหม่อมฉันทราบมาว่าบงกชผู้นั้นเป็นนางกำนัลของพระสนมจินดา พระสนมขององค์ชายรัชทายาทที่ส่งไปเป็นนางห้าม หวังจะใช้ความงดงามและความใสซื่อที่หลอกลวงของนางตกถังข้าวสารได้เลื่อนขั้นมาเป็นฐานอำนาจให้กับพระสนมด้วยนะเพคะ”

“จินดา จินดา”องค์สุริเยนทร์ทวนชื่อซ้ำ ๆ แล้วทรงหันไปหานางกำนัลสนิทของผู้เป็นน้อง “จินดานี่ เป็นคนต่างเมืองใช่ไหมเจ้า”

“เพคะ เห็นว่าเป็นพระสนมจากต่างเมืองที่ส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการเพคะ องค์ชาย”น้อยผู้รอบรู้ตอบกลับอย่างมั่นใจในข่าวคราวของนาง ถึงจะคอยรับใช้ผู้เป็นนายไม่ขาด แต่ข่าวของนางนั้นแม่นยำแน่นอน ด้วยเพื่อนสนิทของนางเป็นถึงเจ้าแม่กรมข่าวภายในวังหลังเชียวนะ

“นางอาจจะเป็นหลานของพระสนมอุสราก็ได้นะ... พี่จำได้ว่าพระนางมีพระนัดดาชื่อจินดาอยู่”เสียงทุ้มเอ่ยกลับอนุชาอย่างแผ่วเบา “น้อย เจ้ารู้ไหมว่านางมาจากเมืองไหน”

“ถ้าหม่อมฉันได้ยินมาไม่ผิด พระนางมาจากเมืองสิสิรนาเพคะ”

“เช่นนั้นก็คงมิพลาดแล้วล่ะ”องค์ชายแห่งวสุนธราตรัสอย่างเหนื่อยอ่อน “พระสนมอุสราก็มาจากสิสิรนาเช่นเดียวกัน”


จากแม่มาสู่ลูก... มิรู้ว่าเป็นกงกรรมกงเกวียนหรืออย่างไร ที่จักต้องมาพบเจอชะตากรรมอันโหดร้ายเช่นนี้...


หวังวิบากกรรมนี้จักจบลงเสียที... อย่าได้จองเวรไปสู่ลูก สู่หลานของเจ้าจันทราอีกเลย

+++++++++++++++++++++++++++++

ชะชะช่า ถ้าใครนึกชื่อบงกชไม่ออกให้กลับไปอ่านบทพิเศษนะคะ 5555 ชีอยู่ในนั้นค่ะ

เหมือนจะแอบยาวเบา ๆ กับตอนนี้นะคะ ^^

ศศินได้กลับมาอยู่ใต้ปีกของพี่ชายแล้ว เย้ คนเขียนอวยพี่น้องค้าา  :z2:

หมายมั่นปั้นมือจะทำเพจ... ได้ทำจนได้ ^^

https://www.facebook.com/flymoon.midnight

สามารถเข้าไปทวง ไปคุยเล่นกันได้นะคะ ^^ // อาจจะร้างก็เป็นได้ เอาล่ะต้องขยันอัพกันหน่อย 555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 30-07-2014 07:12:39
ศรวิฐาพี่สาวศศินนางเป็นคนวางยาเพื่อลอกศศินแน่เลยให้ออกวัง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 30-07-2014 07:34:56
ตอนนี้เหมือนขาดบทบาทของภาสวรเลยนะมันยังไงไม่รู้เหมือนว่าภาสวรไม่ได้หนีมากับศศินนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: kms ที่ 30-07-2014 08:54:31
เอ๊อะพระราชานี้รักลูกบ้างมั้ยเนี้ย
ปล่อยลูกไปเหอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 30-07-2014 09:41:51
ศศิน  :กอด1:   ในที่สุดก็ได้กลับมา อยู่ที่เมืองอยู่กับภาสวร  :hao3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 30-07-2014 09:47:12
ต่อไปศศินจะมีความสุขแล้ว ว่าแต่นางกำนัลแต่ละคนนี่น่ากลัวจริงๆ :กอด1:


ปล. งงว่าทำไมนพคุณจึงมีลูกกับรพีไม่ได้ ในเมื่อมียานั้นอยู่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: meili run ที่ 30-07-2014 10:33:37
 :hao6: :hao6: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 30-07-2014 10:45:23
 :3123:

หวังว่าต่อจากนี้จะแฮปปี้กันทุกคนนะ อิอิ

ขอบคุณคนเขียนค่า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 30-07-2014 10:57:44
ะจ้าจันทร์ไปขวางการเป็นใหญ่ของเขาเลยโดนวางยาเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: oreena ที่ 30-07-2014 11:21:22
ติดตามมมม    :mew3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-07-2014 11:39:14
ตอนนี้เหมือนขาดบทบาทของภาสวรเลยนะมันยังไงไม่รู้เหมือนว่าภาสวรไม่ได้หนีมากับศศินนะ

ตอนนี้ยกให้เป็นตอนของสามพี่น้องน่ะค่ะ ^^

ต่อไปศศินจะมีความสุขแล้ว ว่าแต่นางกำนัลแต่ละคนนี่น่ากลัวจริงๆ :กอด1:


ปล. งงว่าทำไมนพคุณจึงมีลูกกับรพีไม่ได้ ในเมื่อมียานั้นอยู่

นพคุณสามารถมีลูกกับรพีได้ แต่จะมีปัญหาเรื่องสายเลือดค่ะ นพคุณมีศักดิ์เป็นแค่องครักษ์ ก่อนหน้าเป็นไพร่สามัญน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 30-07-2014 12:59:20
ซับซ้อนยิ่งนัก แต่ชอบจิงๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 30-07-2014 14:15:47
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 30-07-2014 16:45:10
กษัตริย์หวงอำนาจมากกว่าห่วงลูกนี่ ไม่ดีเลยนะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 30-07-2014 22:10:18
ศรวิฐาพี่สาวศศินนางเป็นคนวางยาเพื่อลอกศศินแน่เลยให้ออกวัง

ไม่ใช่นะคะ 5555 จริงๆพี่เขารักน้องมาเลยน้าา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 31-07-2014 05:22:37
เพิ่งเข้ามาอ่ารเรื่องนี้สนุกมากๆ
ชอบแนวประมาณนี้มากๆๆ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 31-07-2014 05:45:55
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 31-07-2014 17:42:15
ไอ้องค์รัชทายาทนัีน แม่งมักมากกกก ทำให้ดวงจันทร์เสียใจ มีราคี เลวววววววว

เรื่องดำเนินเร็วมากกกก แต่สนุกมากกกกก


มาต่ออีกๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 31-07-2014 22:30:37
สรุปเดาพลาดจากแม่นางผู้เลอโฉมของภาส กลายมาเป็นนางบงกชกลัวเป็นเมียของคนอื่น ไม่รู้จักบุญคุณเลยศศินช่วยไว้แท้ยังกล้วแว้งกัดอีก อสรพิษชัดๆ  :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-07-2014 23:01:01
สรุปจะเอาใครเป็นพระเอกค้าาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 01-08-2014 11:42:26
อ่า

เรื่องนี้ปมเยอะอ่ะ  เดามิถูกเลย 555+
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 01-08-2014 13:14:15
หนีออกมาได้แล้ว จากนี้จะเป็นอย่างไรต่อน่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 01-08-2014 21:42:17
สรุปจะเอาใครเป็นพระเอกค้าาาา

พระเอกคือภาสวรค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 01-08-2014 22:18:10
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22)
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 01-08-2014 23:59:17
เพิ่งมาอ่าน

สนุกมากๆเลย

ติดตามครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 11-08-2014 19:20:20
มาแจ้งข่าวเล็กๆนะคะ

คนเขียนไม่ได้หายไปไหนนะคะ TT ตั้งใจจะมาอัพเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

พอดีคุณแม่ของคนเขียนเข้าทำบอลลูนหัวใจ เลยต้องดูคุณแม่ก่อนนะคะ บวกกับเตรียมกิจกรรมรับน้องมหาลัยด้วย

เอาไว้เสร็จเรื่องแล้วจะรีบมาลงให้นะคะ

อย่าเพิ่งทิ้งกันไปน้าา

ถ้ามีอะไรพูดคุยกับคนเขียนโดยตรง สามารถแชทหาคนเขียนได้ในเพจนะคะ
https://www.facebook.com/flymoon.midnight (อยากทวงนิยายก็ได้ ไม่ว่ากันค่ะ 5555)

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 11-08-2014 19:40:26
รับทราบจ้าคนแต่งจ๋า  ขอให้คุณแม่หายไวๆนะคร๊า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 11-08-2014 22:06:54
ขอให้คุณแม่หายป่วยไวไวนะรอเสมอนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-08-2014 23:58:39
จ้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 14-08-2014 05:52:05
ครับ ขอให้คุณแม่หายเร็วๆนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 20-08-2014 23:21:25
รับทราบ ขอให้คุณแม่หายไวๆนะค่ะ
รอตอนต่อไป ว่าจะเป็นยังไงกันต่อ :really2: :really2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 21-08-2014 01:00:44
ขอให้คุณแม่หายไวไวนะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 17 (P.22) แจ้งข่าว P.23
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 21-08-2014 01:48:04
ขอให้คุณแม่สุขภาพแข็งแรงนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-09-2014 01:08:32
ปฏิญญาที่ ๑๘

สุขยิ่งกว่าสิ่งใดที่เคยมี
ยามลูกนี่ยิ้มให้อย่างเริงรื่น
คู่ชีวิตโอบประคองใช่ใครอื่น
ทุกคนตื่นเต้นกับบุตรน้อยในครรภ์

ผ่านมานับเดือนที่เจ้าจันทรกับสู่มาตุภูมิ บ้านเกิดเมืองนอนของตน ทุกวันช่างเปี่ยมสุข ข้างซ้ายมีพระเชษฐาที่เทิดทูล ข้างขวามีองค์ชายที่ตามกันมาจากเมืองใหญ่ผู้เป็นที่รัก

และในวันนี้... เป็นวันที่รานีแห่งวสุนธรา ผู้เป็นพระมารดาจะเสด็จมาหา แม้ว่ามิทราบถึงข้ออ้างที่องค์สุริเยนทร์ชักมาทูลหลอกล่อต่อองค์เจ้าหลวงให้องค์รานีเสด็จออกนอกพระราชวังมาได้ แต่เรื่องนั้นมิใช่เรื่องสลักสำคัญอันใดเท่ากับการที่ตนจะได้พบหน้าแม่อีกครา

“ภาสวร เราจะออกไปรอพบเสด็จแม่ที่ชายป่า ท่านจะไปกับเราไหม”ศศินเอ่ยถามคนรักที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับบุตรชายที่เริ่มเจริญวัย “มาสไปรอเสด็จยายกับแม่ไหม หืมม”

“ศศิน เจ้ารออยู่ที่นี่เถอะ ไม่ต้องออกไปไกลหรอก อย่างไรเสด็จแม่ของเจ้าก็ต้องเสร็จมาที่นี่”สุริยภาสวรตรัสห้ามทันทีเมื่อได้รับฟังคำของคนข้างกาย “กว่าเจ้าจะออกไปถึง เสด็จแม่เจ้าก็ทรงมาถึงที่นี่ก่อนกระมัง”

“แต่...”องค์ภาสวรทรงปล่อยองค์ชายน้อยลงให้เดินเล่น แล้วหันมาโอบร่างอวบอ้วนของชายาที่อุ้มครรภ์เกือบแปดเดือนเอาไว้แทน

“ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วคลอดก่อนกำหนดจะทำอย่างไรล่ะ หืม”สุริยาแห่งเมืองใหญ่ลูบไล้ท้องที่นูนโตเบา ๆ แม้นว่าจะไม่ใช่บุตรของเขาแท้ ๆ แต่ความรักที่มอบให้จะไม่น้อยไปกว่าที่มอบให้กับสุริยมาสเป็นแน่ “เพียงแค่ตัวยาคราที่แล้ว หมอหลวงก็บอกข้าไว้ว่าลูกอาจจะเกิดมาไม่ปกตินัก ถ้าเป็นอะไรไปอีก จะทำอย่างไรเล่า คนดีของข้า”

“...”ศศินคคนานต์หมดคำเอ่ย ใช่... ยาขับเลือดคราวที่แล้ว ถึงแม้ว่าจะถอนฤทธิ์ของมันได้ทัน แต่ก็กระเทือนต่อบุตรในครรภ์ไม่น้อย และจากที่ผ่าน ๆ มาที่หมอหลวงได้เปิดตำราที่จดเกี่ยวกับการรักษาเอาไว้ บ่งว่าเด็กที่เกิดมามักจะไม่สมบูรณ์เช่นเด็กคนอื่น ๆ

“ไม่ว่าลูกจะเกิดมาเป็นอย่างไร พ่อจะเลี้ยงดูลูกให้เติบใหญ่เองนะลูก”เสียงทุ้มกระซิบเบา ๆ รอยยิ้มอ่อนโยนฉาบทับบนดวงพักตร์

“มาสจะดูแลน้อง มาสจะดูแลน้อง”องค์ชายสุริยมาสเดินเตาะแตะเข้ามาหาพระมารดาของพระองค์ มือเล็ก ๆ ลูบเบา ๆ ที่ท้องของผู้เป็นแม่ “มาสจะปกป้องน้องเอง”

องค์ชายน้อยนับว่าเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด และมีพัฒนาการที่เกินวัยไปไม่น้อยเลย เพียงขวยเศษก็สามารถพูด และเข้าใจสิ่งง่าย ๆ ได้แล้ว อาจจะยังพูดประโยคยาว ๆ มิได้แต่ก็นับว่าเก่งกาจไม่น้อยทีเดียว

“ใช่แล้ว มาสจะต้องดูแลน้อง รักน้องรู้ไหม”ภาสวดยิ้มกว้างให้กับบุตรชาย หัตถ์หนายื่นมาขยี้หัวทุย ๆ อย่างหมั่นเขี้ยว “มาสจะต้องปกป้องน้องตลอดไปนะ”

“มาสจะปกป้องน้องเอง”

เสียงพูดคุย เสียงหัวเราะดังไปทั่วบ้านหลังน้อย รอยยิ้มและความสุขแผ่ขยายออกไปจนข้าราชบริพารที่ตามเสด็จมานั้นต่างรับรู้ได้ และยินดีไปด้วย

น้อยมองเจ้านายของนางด้วยความสุขที่เปี่ยมล้น ตั้งแต่มาที่นี่นางอาจจะลำบากขึ้นบ้าง ต้องออกไปซื้ออาหาร ทำความสะอาด และซักเสื้อผ้าเองอย่างที่อยู่ในวังของอุษณกรไม่เคยต้องทำ แต่แลกกับความสุขของผู้เป็นนาย แลกกับรอยยิ้มที่ฉายชัดให้นางได้เห็น ถือว่าคุ้มค่ายิ่งนัก

ลำบากกว่านี้นางก็พร้อมที่จะทำ

“ทั้งสองพระองค์ทรงดูพระเกษมสำราญยิ่ง เจ้าว่าไหม น้อย”กัลยากระซิบถามเพื่อนนางกำนัลเบา ๆ อย่างมีความสุข “ต่างจากตอนอยู่ที่วังลิบลับเลย”

“เป็นเช่นนั้นล่ะ กัลยา ข้าหวังจริง ๆ ว่าความสุขนี้จะยืนยง อยู่กับทั้งสองพระองค์ไปตราบนานเท่านาน”น้อยตอบกลับด้วยเสียงที่เบาไม่แพ้กัน “พอกันทีกับความทุกข์ที่ทั้งสองพระองค์ต้องแบกรับ ข้าไม่อยากเห็นอีกแล้ว”

“ข้าก็เช่นกัน”

ยังไม่ทันที่สองสาวนางกำนัลจากอุษณกรจะได้พูดคุยกันต่อ เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น พร้อมกับแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาอยากเต็มที่

“ศศิน ศศินคคนานต์”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยชื่อของบุคคลที่ทรงคะนึงหามาตลอด “ลูกแม่ ลูกแม่ เป็นอย่างไรบ้างลูก แม่คิดถึงลูกจริง ๆ”

วรกายบางถลาเข้ากอดโอรสองค์เล็กของพระนาง หัตถ์เรียวเล็กลูบไล้กายของบุตรชายอย่างอ่อนโยน อีกทั้งยังพลิกไปมาราวกับต้องการตรวจดูว่าโอรสของพระนางมีส่วนใดที่บุบสลายหรือไม่

“เสด็จแม่ เสด็จแม่”ทำนบที่ตั้งไว้พังทลายลง หยาดอัลสุชลหลั่งไหล เมื่อได้เห็นพระมารดาของตนอยู่ตรงหน้า “ลูกสบายดี ลูกกลับมาหาพระองค์แล้ว เสด็จแม่”

เสียงที่เอ่ยนั้นสั่นเครือยิ่ง สองแม่ลูกกอดกันกลมด้วยความคิดถึงและห่วงหาอาลัยนัก

สุริยภาสวรที่นั่งนิ่งอยู่นานยันกายลุกขึ้น พร้อมกับอุ้มพระโอรสของตนออกไปนอกบ้านอย่างเงียบเชียบ ให้ผู้ที่พลัดพรากจากกันไปนานได้รำลึกถึงความหลังกันสองคน

บางครา นับตั้งแต่เสด็จมาถึงที่แห่งนี้ ก็ทรงอดรู้สึกมิได้ว่าเป็นส่วนเกินยิ่งนัก พี่น้องได้พบหน้า แม่ลูกได้พบกัน เจ้าจันทรามีความสุข มีรอยยิ้ม

แล้วพระองค์เล่า...

เจ้าชายพลัดถิ่น หนีออกจากวัง มายังดินแดนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยมา พี่น้องก็มิได้ติดต่อ ข่าวคราวจากญาติมิตรก็มิอาจได้รับ มีแต่ต้องฟังข่าวจากองค์ชายเจ้าถิ่น และข่าวโคมตามตลาดที่พูดกันไป

คิดถึง... พี่น้องที่คอยพูดคุย คอยหยอกล้อกัน หรือจะเรียกว่าทรงรู้สึกเหงาและหว้าเหว่ก็คงไม่ผิด... ในเมื่อที่แห่งนี้ราวกบมิมีที่ให้พระองค์ยืนเลย...

แต่ถึงกระนั้นพระองค์ก็มิเคยนึกเสียใจที่จากมาเช่นนี้... การที่ได้เห็นรอยยิ้มของชายาอันเป็นที่รักนั้น นับว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ยอมเสียไปแล้วจริง ๆ

“เหม่ออะไรอยู่หรือท่านภาสวร”เสียงที่เริ่มคุ้นชินเอ่ยถามจากทางด้านหลัง เรียกความสนใจของพระองค์ “ท่านพอจะมีเวลาพูดคุยกับเราไหม”

“ได้สิ”พระองค์ตอบรับง่าย ๆ ก่อนจะหันไปหานางกำนัลพี่เลี้ยงที่เดินออกมา “กัลยา พาสุริยมาสไปวิ่งเล่นก่อน”

“เพคะ องค์ชาย”กัลยาเข้ามารับองค์ชายน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของพระบิดาอย่างรวดเร็ว และพาไปยังอีกฝั่งนึง โดยที่ยังอยู่ในสายพระเนตรของผู้เป็นนาย

“ท่านมีอะไรจะพูดกับข้าหรือ องค์ชาย”องค์ภาสวรหันมาหาผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่เขยของพระองค์พร้อมตรัสถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

“ก็มิได้มีอะไร... เพียงแต่เราเห็นว่าท่านดูไม่มีความสุขเท่าที่ควร”เสียงนุ่ม ๆ ตอบกลับมาอย่างเนิบ ๆ ดวงตาสีน้ำเงินเช่นเดียวกับผู้เป็นน้องนั้นทอดมองคนข้าง ๆ อย่างอ่อนโยน “ท่านมีอะไรอยู่ในใจใช่ไหม เล่าให้เราฟังก็ได้ ถือเสียว่าเราเป็นพระเชษฐาของท่านคนนึง... ไม่สิ เราเป็นเชษฐาของท่านอยู่แล้วนิ”

“...”พระองค์สบพระเนตรกับองค์ชายแห่งวสุนธราอย่างงงงวย ด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่คนตรงหน้าจะสื่อออกมา

“ก็ท่านเป็นสวามีของอนุชาเรา เป็นพระเทวันของเรา เป็นครอบครัวเดียวกับเราแล้วมิใช่หรือ”หัตถ์เรียวยื่นมาลูบพระเกศาขององค์ชายต่างแดนเบา ๆ “ดูแล้วท่านคงมิได้สูงวัยกว่าเราหรอก เพราะอย่างนั้นเราเป็นพี่ท่านก็ถูกแล้ว”

“ท่านใจดีเหมือนน้องชายท่านเสียจริง”สุริยภาสวรอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ ครั้งที่อยู่ในอุษณกร ศศินเองก็ใจดีกับข้ารับใช้ทุกคน จนพวกเขารักและเทิดทูล มาที่นี่ มาเจอคนพี่ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าครอบครัวของพระองค์นั้นทำร้านผู้เป็นน้องของเขาไว้ไม่น้อย แต่ก็ยังมีใจที่จะเอาใจใส่พระองค์อีก

“แน่อยู่แล้ว เราเลี้ยงเจ้าน้องศศินมากับมือของเราเองเลยนะ”สุริเยนทร์ไทวะเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้าง “แม้ว่าหลัง ๆ เราจะไม่ค่อยได้ดูแลเขาเท่าไหร่ก็ตามที... แต่ตอนยังเล็กเราคอยสั่งสอน คอยดูแลเขามาตลอดเลย... เอาเถอะ เรากลับเข้าเรื่องกันดีกว่า ท่านมีอะไรในใจหรือ ถึงได้ดูไม่ยิ้มแย้มเช่นนี้”

“ก็มิได้มีอะไร...”สุริยาต่างแดนหลบตาเจ้าถิ่น มิให้เห็นความรู้สึกวูบไหวที่ฉายชัด “คงจะ... เหงากระมัง อยู่ที่นี่ข้ามิรู้จักใคร อยู่ที่นี่นอกจากศศินข้าก็ไม่รู้จะพูดกับใคร จะออกไปเดินท่องภายนอกก็มิได้ จะส่งข่าวให้เสด็จพี่ก็มิควร... จนตอนนี้ ผ่านมาก็พักใหญ่แล้ว มิรู้ว่าที่พระนครจะเป็นอย่างไรบ้าง ผู้คนในตำหนักวสันตมาลีจะเป็นเช่นไร แล้วยังท่านหมอที่ตกกระไดพลอยโจรต้องมารับรู้และช่วยเหลือพวกเราอีก...”

ถ้อยคำที่แถลงออกมานั้นสร้างรอยยิ้มบางให้กับผู้รับฟัง องค์ชายใหญ่แห่งเมืองลูกยิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้ฟังความในที่เอื้อนเอ่ย

“เสด็จแม่ก็มิรู้ว่าจะกริ้วสักแค่ไหนที่ข้าหนีออกมาโดยมิเอ่ยคำลา ไม่แม้แต่จะวางจดหมายเอาไว้ พระองค์ยิ่งมิแข็งแรงเท่าไรนักด้วย”

“ท่านต่างจากที่เราเคยได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่านมาไม่น้อยเลยนะ สุริยภาสวร”เจ้าชายสุริเยนทร์เปรยขึ้น ขณะที่เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนตั่งใกล้ ๆ “ไม่สิ ต้องเรียกว่าท่านเปลี่ยนไปมากเสียคงจะถูกต้องมากกว่ากระมัง”

“ท่านเคยได้ยินมาว่าข้าเป็นอย่างไรกับเล่า”

“ที่ข้ารับรู้มานั้น ท่านเป็นคนไม่มิยอมใคร มิเห็นใครในสายตา มิเคยแม้แต่จะเอ่ยปากชมผู้ใดนอกจากสาวงามที่ให้ความสุขท่านบนแท่นบรรทม”รอยยิ้มยังคงพร่างพรายบนใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายเมืองลูก “ท่านเปลี่ยนไปจากที่ข้ารับรู้จริง ๆ”

“คงจะเป็นเช่นนั้น...”พระองค์ยอมรับแต่โดยดี ไม่เถียงและไม่แก้ตัวอะไรทั้งนั้น... ใช่ พระองค์เป็นคนเช่นนั้นจริง ความจริงที่มิอาจจะปฏิเสธได้เลย “จนกระทั่งได้พบอนุชาของท่าน ข้าถึงเปลี่ยนไป เปลี่ยน... มาเป็นข้าในทุกวันนี้”

“น้องเราคงมิอิทธิพลต่อใจของท่านไม่น้อยเลย”สุริเยนทร์ไทวะมองลึกเข้าไปในดวงตาขององค์ชายตรงหน้า “ท่านน้อยใจที่น้องเรามิได้มีแต่ท่าน มองแต่ท่าน อยู่กับท่านตลอดเหมือนครั้งที่ยังอยู่ในนครของท่านใช่ไหม ภาสวร”

“ท่านช่างรู้ดีเสียจริง”ภาสวรแค่นยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบัง นับว่าเป็นคนที่ต้องระวังไม่น้อย เจ้าชายผู้นี้รับรู้ความรู้สึกของคนรอบข้างได้เก่งนัก... ทั้งที่แม้แต่เสด็จพี่ของพระองค์เองยังมิเคยล่วงรู้ความใจของพระองค์เลยแท้ ๆ “เป็นคนแรกเลยนะ ที่จับความรู้สึกของข้าได้”

“ไม่หรอก... เราเชื่อว่าน้องเรารับรู้ความรู้สึกของท่านดี แต่มิเอ่ยออกมา”เจ้าชายองค์โตยังคงยิ้มพราย ประกายในดวงเนตรดูสดใสเมื่อได้พูดถึงอนุชา “ศศินเป็นเด็กที่รู้ทุกอย่าง แต่มิเคยปริปากพูดอะไรเลย ถ้ามิมีใครเอ่ยกับเขาก่อน ไม่เคยเรียกร้องอันใด... นั่นทำให้น้องเราสูญเสียความสุขไปไม่น้อย นับว่ายังดีที่ได้พบกันท่าน น้องเราได้มีความสุขของตนเองเสียที มิต้องทนทุกข์อีก การที่เขายอมให้ท่านล่วงล้ำเข้าไปในความเป็นส่วนตัวของเขา แสดงว่าเขารักท่านมากจริง ๆ”

“ข้าทราบดี ศศินเป็นคนที่เข้าใจ และรักข้า... แต่ถึงกระนั้นในบางเวลาข้าก็อดน้อยใจในสิ่งที่เป็นอยู่มิได้... ในอาณาจักรแห่งนี้ ข้าโดดเดี่ยวยิ่ง คนรู้จักหรือก็ไม่ถึงหยิบมือ ที่ทางหรือก็ไม่รู้อะไร ข้าเหมือนเช่นคนตาบอด ข้ามิรู้จะเดินไปทางไหน ในบางคราข้าก็คิดว่าตัวข้านั้นจะอยู่เพื่ออะไร... นอกเสียจาก...”เนตรคมทอดมองไปยังลูกน้อยที่อยู่กับพระพี่เลี้ยงด้วยความรักที่มากล้น “เขา ที่เป็นแก้วตาดวงใจของข้า”

ความอุ่นวาบแผ่ซ่านขึ้นมาเบื้องหลัง พร้อมกันความรู้สึกโอบกระชับที่เอวหนา พระองค์รับรู้ได้ถึงลมหายใจที่รดหลังอย่างแผ่วเบา และหัวใจที่เต้นอย่างรัวเร็ว

“เรามิได้อยากทำให้ท่านรู้สึกว้าเหว่เช่นนี้... เรา... เราแค่ดีใจที่ได้พบกับเจ้าพี่ กับเจ้าแม่อีกครา... มิได้ตั้งใจจะให้ท่านโดดเดี่ยวเลย”เสียงที่เอ่ยออกมาช่างสั่นเครือยิ่งนัก ทำเอาใจของผู้ที่ได้รับฟังนั้นปวดลึก

“เจ้าได้ยินตั้งแต่ต้นอย่างนั้นหรือ...”สุริยภาสวรถามกลับไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา พระองค์มิได้อยากให้คนรักรับรู้เรื่องราวพวกนี้ มิอยากให้ต้องเก็บไปคิดเลย... “อย่าได้ใส่ใจเลย ศศิน มันเป็นแค่ความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราวของข้า... เพียงแค่นั้น”

“ไม่... ท่านดูไม่มีความสุข จะให้เรานิ่งเฉยได้อย่างไร”แขนที่โอบรัดยิ่งแน่นเข้าไปอีก เมื่อนึกถึงคำของพระสวามี “ท่านยอมละทิ้งทุกอย่าง ยอมออกมาจากวังที่แสนสุขสบาย มิทอดทิ้งเรา ให้เรามีความสุข... แต่ท่านกลับมีความทุกข์ เราจะนิ่งเฉยได้อย่างไรกัน ภาสวร”

องค์ชายต่างถิ่นดึงแขนเรียวออก ก่อนที่จะหมุนกายไปกอดรัดร่างอวบของว่าที่พระมารดาลูกสองไว้อย่างอ่อนโยน รอยยิ้มบางคลี่ให้จากใจ

“ใครว่าข้าไม่มีความสุขกัน... เพียงแค่มีเจ้า ข้าก็สุขจนมิรู้จะเอาความสุขนั้นไประบายที่ใดแล้ว”นาสิกโด่งสูดดมความหอมจากแก้มนุ่ม ๆ นั้นเบา ๆ “ข้าอาจจะเหงาไปบ้าง รู้สึกโดดเดี่ยวในบางเวลา แต่ข้าก็มีความสุขทึกคราที่ได้อยู่กับเจ้า ได้พูดคุย ได้หยอกล้อ... รู้ไหม ศศินของข้า”

“แต่...”

“เจ้าเป็นแสงจันทร์ส่องนำทางข้า
ชี้ชีวานี้ให้สุขสดใส
มอบรักที่งดงามเปี่ยมล้นในใจ
อย่างที่ใครก็มิอาจทำแทน”เสียงนุ่มกระซิบในกรรณเล็กเบา ๆ บอกถึงความนัยน์ทั้งมวลที่มีอยู่ภายในหัวใจที่เคยมีกำแพงสูงตระหง่าน “หัวใจของข้าเป็นของเจ้า กายของข้าเป็นของเจ้า ลมหายใจข้างข้าก็เป็นของเจ้า เพียงเจ้ามีความสุข ข้าก็มีความสุขเช่นกัน ถึงเวลานี้ ข้ายังมิอาจปรับตัวได้ แต่อีกไม่นาน ข้าจะกลับมายิ้มดังเดิม”

“ท่านมิศร้าใจหรือ ที่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมา ต้องจากครอบครัวที่เป็นที่รักเช่นนี้”คำถามที่คาใจเจ้าจันทราอยู่เสมอ นับตั้งแต่วันที่เดินทางจากเมืองแม่มา “มีผู้คนมากมายรอท่านกลับไปอยู่มิใช่หรือ...”

“ข้าไม่เคยนักเสียใจที่จากมา”นิ้มเรียวปาดหยาดน้ำใส ๆ ที่เอ่อล้นขึ้นมาจากดวงตาคู่สวยอย่างทะนุถนอม “บ้านเกิดของข้าคืออุษณกร แต่เมืองนอนของข้าคือทุกหนแห่งที่ข้ามีเจ้า”

ทั้งสองกอดกันแนบแน่นท่างกลางสายลมที่พัดอย่างอ่อนโยน โอบล้อมกายของทั้งคู่เอาไว้ ทำให้ผู้ที่คอยเฝ้ามองทั้งหลายต่างมีรอยยิ้มไปด้วย


เจ้าหญิงศรวิษฐายังคงส่งข่าวมาเป็นระยะ บอกถึงความเป็นไปในอุษณกรให้กับทุกคนได้รับรู้... และเรื่องน่ายินดีก็ได้ส่งมาถึง ในวันที่แสนจะน่ายินดี

องค์ชายศศินคคนานต์ให้กำเนิดพระโอรสองค์ที่สอง พร้อมกับข่าวที่ถูกส่งมาว่าพระชายานลินประไพนั้นทรงตั้งพระครรภ์แล้ว นับเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง

และที่น่ายินดียิ่งกว่าสิ่งอื่นใดคือ ผู้นำสารมาส่งในครานี้คือนพคุณ ที่ใช้ข้ออ้างในการมาเยือนว่าออกมาดูความเป็นไปของชายแดน เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้เป็นเจ้าเหนือหัวได้สงสัยอะไร

“องค์ชายน้อยตัวเล็กจังเลยนะพะยะค่ะ”นพคุณที่อุ้มทารกน้อยเอาไว้มองด้วยความรู้สึกแปลกใจ “ข้าพระองค์เคยอุ้มเด็กมาหลายคน ล้วนแต่มีร่างกายที่ใหญ่กว่านี้...”

“ทินสิริถือกำเนิดก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังเกิดเรื่องมากมาย จะเป็นเช่นนี้ก็คงมิแปลกกระมัง”รานีแห่งวสุนธราเป็นผู้ชี้แจ้งข้าสงสัยอย่างอาทร “น่าสงสารยิ่งนัก มิรู้ว่าหลายยายจะเติบใหญ่ขึ้นเป็นอย่างไร”

ทุกชีวิตตกอยู่ในความเงียบงัน... ใช่ เด็กที่เกิดก่อนเวลา อีกทั้งยังเคยผ่านวิกฤตที่เคยเกือบจะตายมาแล้ว น้อยคนนักจะรอดออกมาเป็นเด็กที่สมบูรณ์พร้อม อย่างตัวของศศินเองก็ยังมีร่างกายที่ไม่แข็งแรงดังเช่นพระเชษฐา หรือพระภคินี ครั้งเมื่อตอนยังเยาว์วัย ก็ป่วยออด ๆ แอด ๆ มา ตลอด เพิ่งจะมาแข็งแรงเอาตอนที่เจริญวัยแล้ว

“ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร แม่ก็จะดูแล และรักลูกนะ ทินสิริของแม่”ศศินเอ่ยกับลูกน้อยเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอาดูร แม้ว่าจะมิใช่บุตรที่เกิดกับคนที่เขารักก็ตามที

“มาส มาสต้องดูแลน้องรู้ไหม มาสห้ามทิ้งน้องไปไหน สัญญากับพ่อนะ”องค์ภาสวรตรัสกับโอรสของตนด้วยเสียงที่มั่นคง “จำไว้นะลูก ดูแลน้อง อย่ารังแกน้องนะ”

“มาสจะดูแลน้อง ไม่ทิ้งน้องตลอดไป มาสสัญญา”เด็กน้อยเกี่ยวก้อยกับพระบิดาด้วยรอยยิ้มกว้าง ทุก ๆ คนมองภาพตรงหน้าอย่างเอ็นดู หัวเราะในคำพูดของเด็กตัวเล็ก ๆ และไม่ยึดอะไรเป็นจริง เป็นจังนัก ด้วยตัวองค์ชายยังมิเจริญวัย ยังมิรู้เรื่องอะไรนัก และยังคงไม่รู้ถึงความหมายของสิ่งที่ได้เอ่ยออกมา

แต่ใครจะรู้... ว่าองค์ชายสุริยมาสผู้นี้จะยึดมั่นในคำสัญญาที่ให้ไว้กับผู้เป็นพ่อมากยิ่งนัก... มากถึงขนาดที่ยอมแลกได้แม้แต่ชีวิตของตนเพื่อปกป้องน้องน้อยต่างบิดาคนนี้

ครอบครัวสุขสันต์ อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา รอยยิ้มแห่งความสุขแผ่ขยายไปทั่วอาณาบริเวณ ตั้งแต่ผู้เป็นนาย จนถึงข้ารับใช้ ถึงนายทหารที่อยู่ไกลออกไป

และทุกคน... ก็หวังว่าความสุขในวันนี้จะยืนยงต่อไปตราบนานเท่านาน

++++++++++++++++++++++++++

มาต่อแล้วค้า ขอโทษที่มาช้านะคะ TT วิกฤตชีวิตเบา ๆ ในช่วงนี้ คุณแม่ทำบอลลูนเสร็จไปสองเส้น ดวงตาข้างหนึ่งของคนเขียนก็ดันมาอักเสบเบา ๆ (ตอนนี้ใกล้จะหายเป็นปกติแล้วค่ะ) แล้วคุณตา(น้องของคุณยาย) ก็มาเสียไปมื่อวันจันทร์อีก...

ตอนนี้อาจจะมึน ๆ หน่อย ไว้มีโอกาสจะมาแก้ไขนะคะ

อีกสองตอนจะจบแล้ววว  :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 03-09-2014 01:43:11
ศศินตลอดแล้ว  ในที่สุดก็เป็นครอบครัวสุขสันต์สักที เหรื่อยมาเยอะแล้วศศินมีความสุขกับเค้าสักทีนะ ภาสวรดูแลศศินดีๆนะแล้วก็ไม่ต้องน้อยใจแล้ว ศศินออกจะรักภาสวรขนาดนี้ :katai5:

แล้วองค์รพีนี่ไม่ได้รักกับนพคุณหรอ หรืออะไรยังไงยังไม่เก็ทอ่ะ  แล้วที่ว่าพระมเหสีท้องนี่ท้องกับองค์รพีชิมิ คือตอนนี้ค่องใจกับเรื่งนพคุณกับองค์รพีมากจริงๆไหนจะเรื่องที่พระมเหสีท้องอีก คือแบบจำเป็นต้องท้องหรือว่าองค์รพีรักถึงทำให้ท้องอ่ะ แล้วนพคุณล่ะ สับสนงงงวยอย่างแรงอ่ะตอนนี้
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-09-2014 02:01:21
ศศินตลอดแล้ว  ในที่สุดก็เป็นครอบครัวสุขสันต์สักที เหรื่อยมาเยอะแล้วศศินมีความสุขกับเค้าสักทีนะ ภาสวรดูแลศศินดีๆนะแล้วก็ไม่ต้องน้อยใจแล้ว ศศินออกจะรักภาสวรขนาดนี้ :katai5:

แล้วองค์รพีนี่ไม่ได้รักกับนพคุณหรอ หรืออะไรยังไงยังไม่เก็ทอ่ะ  แล้วที่ว่าพระมเหสีท้องนี่ท้องกับองค์รพีชิมิ คือตอนนี้ค่องใจกับเรื่งนพคุณกับองค์รพีมากจริงๆไหนจะเรื่องที่พระมเหสีท้องอีก คือแบบจำเป็นต้องท้องหรือว่าองค์รพีรักถึงทำให้ท้องอ่ะ แล้วนพคุณล่ะ สับสนงงงวยอย่างแรงอ่ะตอนนี้

นพคุณเป็นชนชั้นไพร่ค่ะ นลินประไพเลยจำเป็นต้องมีลูกเพื่อสืบราชสมบัติต่อจากรพี(ตอนที่แล้วรพีบอกว่า ลูกของเขาจะต้องครองบัลลังก์ต่อจากเขา ไม่ใช่ลูกของคนอื่น ^^) เพื่อกันปัญหาเรื่องสายเลือด รพีจึงมีลูกกับนลินประไพที่เป็นพระชายา ถึงแม้ว่าจะรักกับนพคุณก็ตามทีค่ะ (เรื่องของคู่นี้อาจจะแต่งให้ได้อ่านกัน ถ้ามีโอกาสนะคะ)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 03-09-2014 02:13:30
คงจะมีความสุขกันได้ซะทีน่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: supamat_ice ที่ 03-09-2014 02:36:25
จะจบแล้ว ง่าาาา  คงไม่มีเรื่องอะไรแล้วน่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 03-09-2014 07:41:11
ดีใจที่สุดท่าจบแล้วออกเป็นรูปเล่มเราจองเลยนะศศินเป็นคนน่าสงสารแต่อย่างไรก็ตามวันนี้ศศินก็มีความสุขแล้ว. เราอ่านแล้วรู้สึกว่าพี่ชายของภาสวรเป็นคนเห็นแก่ตัวมากเราอยากให้นพคุณได้กับพี่ชายของศศินา..
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 03-09-2014 08:10:18
เอาใจช่วยคนแต่งนะคะสู้ๆคะ><

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 03-09-2014 09:52:15
หวังว่าความสุขคงไม่จางหายเร็วเกินไปนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 03-09-2014 11:28:56
ได้แต่หวังว่าความสุขจะอยู่ไปนานๆ ให้คู่นี้ได้หวานบ้างเจอแต่เรื่องร้ายๆมาเยอะแล้ว

คนเขียนก็สู้ๆนะ เดี๋ยวก็หาย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-09-2014 11:45:25
อีกสองตอนจะจบแล้ววววววว
ครอบครัวนี้จะได้มีความสุขซะทีนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-09-2014 13:31:25
งะอารายเนีย ทิ้งปมไว้ซะน่ากลัวเบย

มาสจะยอมแลกชีวิตเพื่อสิริเชียวรึ ตายๆ ไม่ได้น้า

พี่น้องจะรักกันเอง ชิมิๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 03-09-2014 17:37:56
สุริยมาสน่ารักจัง หวังว่าน้องที่ออกมาจะน่ารักเหมือนมาสนะ
อยากรู้ว่าพี่สาวศศินต้องอยู่โน่นตลอดไปเลยหรอคะ และอยู่ตำแหน่งอะไรคะ



ปล. จะจบแล้ว ขอตอนหวานๆคู่นี้ได้ป่าวคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-09-2014 17:54:48
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-09-2014 19:15:24
สุริยมาสน่ารักจัง หวังว่าน้องที่ออกมาจะน่ารักเหมือนมาสนะ
อยากรู้ว่าพี่สาวศศินต้องอยู่โน่นตลอดไปเลยหรอคะ และอยู่ตำแหน่งอะไรคะ



ปล. จะจบแล้ว ขอตอนหวานๆคู่นี้ได้ป่าวคะ อิอิ

น่าจะหวานแบ้วนะคะ 555 หมดทางโค้ง หมดดราม่าแล้ววว
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 03-09-2014 19:23:45
ขอให้มีความสุขมากๆนะ ศศิน :กอด1:

ปล. ยังรอหนิงกวางอยู่นะตะเอง :m12:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-09-2014 20:17:46
ขอให้มีความสุขมากๆนะ ศศิน :กอด1:

ปล. ยังรอหนิงกวางอยู่นะตะเอง :m12:

หวาาา น้องหนิงกำลังรีค้า แต่เสริมเพิ่มจากเดิมอยู่ ฟฟฟฟ

กะจะลงสองเรื่องไปพร้อมกันเลยย // น้องหนิงแต่งจะจบแล้วว เย้~
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 04-09-2014 11:59:47
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: auntreory ที่ 06-09-2014 01:13:55
ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว 55555 งงกันเลยทีเดียว

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 07-09-2014 19:45:39
ลืมเรื่องนี้ไปแล้ว 55555 งงกันเลยทีเดียว



ลืมกันแล้วหรือคะ TvT"
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 14-09-2014 22:37:39
ตรอบครัวสุขสันต์ :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 20-09-2014 00:15:26
ตอนต่อไปรอกันหน่อยนะคะ TT เขียนฉาก... ไม่เวิร์คสักที

// เห็ยแววได้เบนกล้อง แง๊
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: zazoi ที่ 20-09-2014 08:21:52
งือ ขอแบบไม่เบนกล้องนะคะ อยากอ่านคู่นี้อีก อิอิ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 03-10-2014 09:50:24
งือ ขอแบบไม่เบนกล้องนะคะ อยากอ่านคู่นี้อีก อิอิ

พยายามจะไม่เบนอยู่ค่ะ ;-;

15 ตุลาจะมาต่อนะคะ ขอไปอ่านหนังสือสอบก่อนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: jilantern ที่ 03-10-2014 10:18:02
จะมีดราม่าอีกไหมน้อออออออ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 03-10-2014 15:34:43
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: kapook_koopak ที่ 03-10-2014 23:54:32
โชคดีกับการสอบนะคะ

ชอบน้องมาสจังเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 04-10-2014 00:29:48
คนเขียนสู้ๆ

เป็นกำลังใจให้ขอรับ

รอต่อไป

กลัวความสุขจะหายไปจัง

คนเขียนอย่าใจร้ายกับจันทราน้อยเลยขอรับ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-10-2014 01:41:25
รีบๆมาน้า เด้กเกษตรปะหว่า สอบเส้ด15เนี่ย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: Shadownights ที่ 04-10-2014 03:26:25
รักน้องให้มากๆน๊าา มาส อยากให้องค์ชายศศินมีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 04-10-2014 05:57:39
สนุกมากเลย ชอบเจ้าจันทร์ดวงนี้จังเลยค่ะ
เพิ่งได้ิ่านครั้งแรกยิงยาวมาถึงตอนนี้เลย ลุ้นตลอดเลยค่ะ กลัวไปหมด 55555 เห็นคนเขียนบอกอีก 2 ตอนนี่หวานๆแล้ว ดีใจจจจ


รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 18 (P.24)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 06-10-2014 01:24:16
จะมีดราม่าอีกไหมน้อออออออ

ไม่มีแล้วค้าาา เนื้อเรื่องหลัก ไม่มีดราม่าแล้ว

รีบๆมาน้า เด้กเกษตรปะหว่า สอบเส้ด15เนี่ย
ไม่ใช่ค่ะ 5555 เด็ก HCU ค่ะ

สนุกมากเลย ชอบเจ้าจันทร์ดวงนี้จังเลยค่ะ
เพิ่งได้ิ่านครั้งแรกยิงยาวมาถึงตอนนี้เลย ลุ้นตลอดเลยค่ะ กลัวไปหมด 55555 เห็นคนเขียนบอกอีก 2 ตอนนี่หวานๆแล้ว ดีใจจจจ


รอตอนต่อไปค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ ^3^ ยิงยาวด้วยย <3
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-10-2014 03:06:33
ปฏิญญาที่ ๑๙

อ้อนวอนขอให้กลับสู่แดนแม่
ไร้ข้อแม้ขอแค่เพียงกลับไป
สัญญาว่าจะไม่บีบบังคับใจ
ดวงจันทร์ให้ชอกช้ำเช่นกาลก่อน


วันคืนผ่านไปไม่ไหลย้อนกลับ เรื่องราวต่าง ๆ มากมายก็ผ่านพ้นเช่นกัน มีดีย่อมมีร้าย ปะปนกันไป ตามยถากรรมของแต่ละคน ทุกวันที่ผ่านพ้นย่อมมีเรื่องราวที่แตกต่างกันไป

อันดับแรก รานีนิศามณีและเจ้าชายองค์โตแห่งวสุนธราก็ต้องกลับสู่วังหลวงไปหลังจากที่ทินสิริถือกำเนิดได้ไม่นาน แม้จะไม่อยากจากลา แต่จะให้เจ้าหลวงรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มิได้... ทุกคนย่อมมีหน้าที่ของตน

เจ้าดาราที่พลัดถิ่นไปอยู่แดนไกลนั้นยังคงสุขสบายดี และคัดค้านการขึ้นเป็นพระชายาอีกคนของเจ้ารพีอย่างไม่ยอมลง แม้ว่าจะเป็นพระบัญชาจากองค์กษัตริย์โดยตรงก็ตามที... และแน่นอนว่าเจ้ารพีก็คัดค้านเช่นกัน ด้วยพระองค์เองก็มิอยากรับใครเข้ามาอยู่ข้างกายอีกแล้ว

พระชายานลินประไพได้ให้กำเนิดพระราชธิดาองค์น้อยแสนน่ารักเป็นองค์แรก แม้ว่าจะทรงผิดหวังไปสักหน่อย แต่องค์อินทัชก็ทรงรักใคร่พระราชนัดดาองค์น้อยเป็นอย่างยิ่ง ทรงพระราชทานพระนามองค์หญิงน้อยว่า ฤทัยกลินท์ ซึ่งมีความหมายว่า ดวงใจของพระอาทิตย์ องค์รัชทายาทเองก็ทรงรัก และเอ็นดูองค์หญิงไม่น้อย พระองค์ทรงทุ่มเทเวลาให้กับพระธิดาองค์แรกของพระองค์อย่างหมดใจเช่นกัน

ส่วนนพคุณ แม้ว่าจะได้รับอนุญาตให้มิต้องออกรบอีก แต่ด้วยสายเลือดความเป็นทหารที่เข้มข้นของตัวเขานั้น เขาเองก็อดที่จะจับดาบขึ้นมาพุ่งรบกับศัตรูมิได้ ยังคงวิ่งวนเวียนแถบเมืองหลวงและชายแดนอยู่เสมอ แต่ก็ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัวเขามิอยากที่จะอยู่ในวังหลวง

แม้ว่าคอยบอกตัวเองอยู่เสมอว่าองค์รัชทายาทมิใช่ของเขา แต่ก็อดเจ็บปวดลึก ๆ ไม่ได้ ยอมที่ได้เห็นพระองค์อุ้มลูกน้อยเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน โดยมีพระชายาที่งดงามอยู่ข้างพระวรกาย... ยิ่งได้มอง ยิ่งนึกเปรียบเทียบกับตนเองที่เป็นแค่คนเดินดินคนหนึ่งที่เคยมีโอกาสได้รับความรักจากผู้สูงศักดิ์...

และคงถึงเวลาที่เขาจะต้องเจียมตัวเองเสียที

นพคุณค่อย ๆ เดินห่างออกมาจากพระวรกายขององค์ชายรพีธรณินน้อย ๆ อย่างมิให้พระองค์ได้รู้สึกตัว เขาค่อย ๆ ถอนตัวออกจากหัวใจรักที่ได้รับ แม้จะรู้สึกเจ็บปวด... แต่รั้นจะดึงดันต่อไปคงได้เจ็บมากกว่านี้เป็นทบทวี...

สิ่งที่ถูกต้อง... ก็มิใช่สิ่งที่ถูกใจเสมอไป

ความเหินห่างที่มากขึ้นเรื่อย ๆ นั้นเริ่มสร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้เป็นองค์ชายที่ทรงเริ่มสังเกตได้ ดวงใจของพระองค์ยังคงรักมั่นอยู่ที่ราชองครักษ์ส่วนพระองค์มิเสื่อมคลาย แม้ว่าจะมิได้ใกล้ชิดกันเท่าไรนัก

เรื่องของทั้งสองดำเนินไปอย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางสายตาของคนใกล้ชิด ที่เริ่มเห็นรอยแยกของความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และได้แต่ปรารถนาว่ามันจะจบลงด้วยดี...

แน่นอนว่าองค์อินทัชนั้นก็ยังทรงกดดันที่จะมีพระราชนัดดาที่เป็นบุรุษเพศเพื่อสืบราชบัลลังก์ของอุษณกรต่อไป และเป็นเรื่องที่องค์รพีเองก็มิอาจจะค้านขัด... ยังทรงต้องหลับนอนกับพระชายาของพระองค์ต่อไป แม้ว่าดวงหทัยจะทรงคะนึงหาเจ้านกน้อยที่ตั้งท่าจะโผบินออกไปในทุกวินาที


ศศินคคนานต์อุ้มเด็กน้อยที่อายุเกือบครบขวบแล้ว แต่ก็ยังไม่เริ่มเดิน และยังไม่สามารถพูดอะไรเป็นคำ ๆได้ เสียที พัฒนาการของเด็กน้อยเป็นไปอย่างเชื่องช้าทุก ๆ ด้าน... รวมทั้ง ด้านร่างกายด้วย สร้างความกังวลใจให้กับผู้เป็นมารดา และบิดาเป็นอย่างยิ่ง

สุริยมาศนั้นเจริญวันขึ้นมาอย่างภาคภูมิ ทั้งด้านสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด ด้านร่างกายที่สมบูรณ์ แข็งแรง ใจตอนนี้เขาสามารถเดินได้อย่างมั่นคง พูดได้ถูกต้อง และเริ่มเรียนรู้การยิงธนูจากผู้เป็นพ่อแล้ว

“ทินสิริ ไหนให้พ่ออุ้มหน่อยเร็ว”แขนแกร่งรั้งเอาร่างเล็กของลูกเลี้ยงมาโอบกอดเอาไว้อย่างรักใคร “ไหน เรียกพ่อหน่อยสิลูก”

“แอ๊ แอ๊”ก็ยังเป็นเสียงอ้อออของเด็กอยู่ตามเคย ทั้งที่เวลาผ่านมาสิบเดือนแล้วแท้ ๆ

“กัลยา พาองค์ชายน้อยเข้าไปพักก่อน ตากแดดตากลมมากเข้าคงมิดีนัก”องค์ภาสวรส่งเด็กตัวน้อยให้กับพระพี่เลี้ยง ขณะเดียวกันก็ส่งสายตาให้กับคนรักอย่างมีความนัยน์

“เพคะ”หญิงสาวคลานเข่าเข้ามารับเอาองค์ชายเข้าไปในเรือนอย่างเงียบเชียบ

“ศศิน ทินสิริยังมียอมพูดเลย... เป็นเช่นนี้จะดีหรือ”เมื่อกัลยาลับสายตาไปแล้ว พระองค์ก็เอ่ยกับคู่ชีวิตอย่างเป็นกังวลนัก “ลูกยังไม่เติบใหญ่ขึ้นเลย เจ็บออด ๆ แอด ๆ มาหลายต่อหลายครั้ง อีกทั้งยังไม่เริ่มที่จะลุกเดิน ทั้งที่จะครบขวบในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วแท้ ๆ”

“ภาสวร ท่านอย่าเพิ่งกังวลไปเลย ลูกจะต้องพูดได้ จะต้องเติบใหญ่ขึ้นมาให้เราทั้งคู่ได้ชื่นใจแน่”ศศินเองก็เป็นกังวลที่ลูกน้อยนั้นไม่เติบโตอย่างที่ควร แต่จะให้พระองค์ซึ่งเป็นแม่รู้สึกหดหู่ ย่อท้อ คงใช่ที “ท่านต้องเชื่อว่าลูกจะต้องหาย ต้องเติบใหญ่ให้เราได้ภูมิใจ เรามีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูเขาให้ดี และต้องคอยประคองเขาให้รอดถึงฝั่งมิใช่หรือ”

“ศศิน ข้ามิเคยหวั่นเกรง ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ข้าก็พร้อมที่จะดูแลเขา แต่ข้าหวั่นใจ”อ้อมแขนแกร่งโอบรั้งร่างของคนข้างกายให้เข้ามาแนบชิด “ข้ากลัว กลัวว่าวันใด หากเราทั้งคู่เป็นอะไรไป ใครจะดูแลทินสิริ ใครจะเป็นหลักยึดให้ลูกก้าวเดินต่อไป เมื่อลูกยังมิอาจยืนด้วยขาทั้งสองของเขาได้”

คำพูดที่สะท้อนถึงความนัยน์อย่างไม่ปิดบัง มิใช่ว่ารังเกียจที่มิใช่บุตรของตน แต่ห่วงใยชีวิตในวันข้างหน้าของเด็กตัวน้อยที่ต้องก้าวเดินไป อนาคตที่ยังอีกยาวไกลนัก

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่...”เสียงเล็ก ๆ ของโอรสองค์โตดังขึ้นในภวังค์ เรียกให้บุคคลทั้งสองหันมาสนใจในร่างเล็กที่ยืนอยู่ไม่ไกล “มาศจะดูแลน้องเอง”

“มาศจะดูแลน้องยังไง หืม”องค์ภาสวรทรงแกล้งตรัสถามพระโอรสอย่างหยอกล้อ ด้วยเห็นว่าบุตรของตนนั้นยังเล็กนัก “มาศจะเอาอะไรไปปกป้องน้องล่ะ”

“มาศจะดูแลน้อง อยู่กับน้อง คอยเช็ดตัวยามน้องเป็นไข้ คอยป้อนข้าวยามน้องไม่มีแรง มาศจะสอนน้องให้น้องทำทุกอย่างได้เหมือนที่มาศทำ มาศจะดูแลน้องตลอดไป”เสียงของเด็กชายเอ่ยตอบพระบิดาอย่างมั่นคง เฉกเช่นเดียวกับดวงตาที่ฉายแววมั่น “มาศจะไม่มีวันทิ้งน้อง เพราะอย่างนั้น เสด็จพ่อ เสด็จแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะ”

คำพูดที่เกินกว่าวัยไปโขใหญ่ทำเอาสุริยภาสวรและศศินคคนานต์นิ่งอึ่งไปครู่หนึ่ง ดวงเนตรของทั้งสองมองบุตรชายวัยสองขวบเศษอย่างตื่นตะลึง

“สุริยมาศ ลูกไปจำคำพวกนี้มาจากไหนลูก”องค์ศศินอดที่จะทรงเอ่ยถามกับลูกไม่ได้ กับคำพูดคำจาที่ได้รับฟังนั้น สร้างความแปลกใจให้พระองค์เป็นอย่างยิ่ง

“ลูกไม่ได้จำมาจากไหน นี่เป็นคำที่ดังอยู่ในหัวของลูกมาตลอด นับตั้งแต่วันที่น้องถือกำเนิดขึ้นมา”สุริยมาศตอบกลับด้วยรอยยิ้มกว้าง “มาศจะดูแลทินเอง เสด็จพ่อเสด็จแม่โปรดวางใจ”

จบคำเด็กน้อยก็เดินกลับเข้าไปในเรือน ไปยังห้องของผู้เป็นอนุชาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ทิ้งให้พระบิดา และพระมารดาประทัยอยู่ด้วยกันสองพระองค์

“ภาสวร ที่มาศเล่านั่นคือ...”ศศินตรัสถามพระสวามีด้วยความมึนงง อะไรเป็นอะไรกันแน่ สุริยมาศของพระองค์นั้นโตเกินวัยเกินไปเช่นนั้นหรือ...

“คงเป็นฟ้าที่ลิขิตให้สุริยมาศคอยดูแลทินสิริกระมัง...”ทั้งที่ปกติพระองค์มิเคยชื่อในโชคชะตา ในสิ่งที่เรียกว่าฟ้าลิขิต แต่ครานี้... ก็อดที่จะเชื่อมิได้ “เอาเถอะ... ถ้าสุริยมาศคอยดูแล้วเจ้าตัวน้อยอยู่ ก็คงวางใจได้แล้ว”

“ท่านก็เลิกทำหน้าเคร่งเครียดได้แล้ว รู้ไหม”นิ้วเรียวยาวนวดคลึงที่ระหว่างคิ้วของเจ้าดวงอาทิตย์ที่รักเบา ๆ “วางใจเถอะ ลูกจะต้องมีชีวิตที่ดีแน่”

“นั่นสินะ”พระเนตรคมทอดมองร่างบางในอ้อมอก ก่อนจะคลี่รอยยิ้มกรุ่มกริ่ม “ถึงเรื่องของเราบ้างแล้ว... ข้าว่าเรามิได้... มานานแล้วนะ ศศิน”หัตถ์อุ่นลูบไล้เอวที่คอดลงอย่างนุ่มนวล “ข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน”

“ฟ้ายังสางอยู่เลยนะ ภาสวร”ดวงตาสีฟ้าใสเหลือบมองไปบนท้องนภาที่สุกสว่าง “ลูกก็อยู่”

“ลูกมิได้เฝ้ามองเราเสียหน่อย... ฟ้ายังสว่างแล้วกระไร ข้ามิได้รักกับเจ้ากลางแจ้งเสียหน่อย”นาสิกโด่งสูดความหอบหวานจากแก้มเนียนอย่างฉกฉวย “มาเถอะ ที่รัก”

สุริยภาสวรไม่ว่าเปล่า อุ้มเอาร่างโปร่งเดินเข้าห้องนอนของทั้งคู่ไป โดนมิสนใจสายตาของสุริยมาศที่เหลือบมองมาจากห้องของตนและอนุชาเลยแม้แต่น้อย


หัตถ์หนาค่อย ๆ ปลดเอาอาภรณ์ของคนรักให้ร่วงหล่นลงสู่พื้นไปทีละชิ้น ๆ ผิวขาวนวลของคนเมืองหนาวได้ประจักษ์สู่สายตาของผู้จ้องมองอีกครั้ง

หลังจากที่ห่างหายกันมาพักใหญ่ ด้วยกิจที่ไม่อยากหวนคิดถึง ร่างเพรียงบางของเจ้าจันทร์ก็ได้คืนสู่อ้อมกอดของคนรักอย่างสมบูรณ์...

หัตถ์อุ่นหนาลูบไล้เรือนกายที่นวลเนียนอย่างพึงใจ ไล้ขึ้นข้างบน วนลงข้างล่าง ฟ้อนเฟ้นเนื้อขาวเนียนให้ขึ้นสีเรื่อ ร่างของจันทราบิดน้อย ๆ ด้วยแรงอารมณ์ที่พัดโหมเข้ามา

ดวงเนตรอันฉ่ำเยิ้มสบกันอย่างหวานซึ้ง ก่อนที่องค์ชายผู้อยู่เหนื่อกว่าจะแทรกกายเข้าไปในร่างของผู้ที่อยู่ใต้ร่างอย่างเชื่องช้า
ด้วยเลิกร้างกับเรื่องเช่นนี้มาหลายโมงยามแล้ว ความเจ็บปวดที่ไม่อยากจะทนนั้นได้โถมกลับมาสู่เจ้าจันทราอยากสุดจะห้าม ร่างเพรียวผวาเข้าโอบคอของคนตรงหน้า ใบหน้าชื้นเหงื่อซบลงกับซอกคอแกร่ง

หยาดเหงื่อที่หลั่งไหลเคล้ากลิ่นกาม เสียงแห่งความรักของทั้งคู่ดังผะแผ่วออกจากห้องบรรทมจนถึงยามทิวากาล กว่าที่จะหยุดลง...


เพียงแค่ขยับก็รู้สึกว่าทั้งกายจะแตกร้าว ความรู้สึกที่มิได้พบเจอมานาน แต่ถึงกระนั้นในดวงหฤทัยก็เต็มไปด้วยความสุขเล็ก ๆ กับการที่ได้อยู่ในอ้อมแขนของคนรัก

ศศินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ แสงสว่างพุ่งเข้าสู่ดวงตาจนต้องหรี่ลงพักหนึ่งถึงจะปรับสู่สภาพปกติได้ ภาพแรกที่เข้าสู่การรับรู้คือแผ่นหลังกว้างของผู้เป็นแสงสว่างในหัวใจของพระองค์... และสิ่งที่อยู่ในหัตถ์ของคนตรงหน้านั้นทำให้พระองค์ต้องเม้มโอษฐ์แน่นอย่างตริตรอง...

“ท่านอยากมีลูกอีกหรือ ภาสวร”ทรงอดที่จะส่งเสียงออกไปถามมิได้ ดวงพักตร์ที่หล่อเหลา แต้มรอยยิ้มบางหันมาหาพระองค์ “เราสา...”

“พอแล้วล่ะ ศศิน”นิ้วเรียวแตะที่ริมฝีปากแดงช้ำเบา ๆ เชิงให้หยุดที่จะพูดคำ ๆ นั้นออกมา “เรามีลูกกันสองคนแล้ว พอแล้วล่ะ”

“แต่...”ลูกของท่านมีเพียงคนเดียว... คำที่ไม่อยากจะพูด แต่คนที่ได้รับฟังนั้นเข้าใจเป็นอย่างดี สุริยภาสวรเอื้อมมือขึ้นลูบไล้กลุ่มเกศานุ่มเบา ๆ

“ทินสิริคือลูกของเรา เขาเป็นลูกของเราสองคน”องค์ภาสวรเอ่ยไป จ้องมองเข้าไปในดวงตาสีฟ้าใสไป ย้ำให้ฝังลึกสู่หัวใจของคนตรงหน้า “เท่านี้ก็พอแล้ว ข้ามิได้อยากมีโอรสธิดามากมาย... อีกทั้งมิอยากให้เจ้าต้องเจ็บแล้ว... เพียงเท่านี้ เจ้าก็น่าอดสูมากพอแล้ว ศศิน”

ศศินคคนานต์ก้มหน้าลงต่ำอย่างสลดใจ ใช่... พระองค์ถือกำเนิดเป็นบุรุษ รูปร่างก็บ่งบอกถึงความเป็นบุรุษ มิใช่สตรี กับการที่ต้องเป็นพระชายา กับการที่ต้องมีพระโอรส... มันก็น่าอดสูกับชะตากรรมที่ได้รับนัก

“เรามาเลี้ยงพวกเขาทั้งสองคนให้ดี ให้เติบใหญ่ขึ้นอย่างน่าภาคภูมิกันดีกว่า คนดีของข้า”นาสิกโด่งรั้นกดลงที่หน้าผากเกลี้ยงเกลาเบา ๆ

“อืม พวกเขาจะต้องเติบโตขึ้นมาอย่างที่พวกเราหวังแน่นอน”โอษฐ์อิ่มประทับจุมพิตที่จากสากเบา ๆ ก่อนที่ทั้งสองพระองค์จะมอบความรักให้กันอีกครั้ง... และอีกครั้ง


หลายปีพ้นผ่าน มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย ทั้งความสุขและความทุกข์ แต่ถึงกระนั้น องค์ชายพลัดถิ่นก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข

ในเรื่องแรกก็คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าขององค์ชายรพีธรณิน ที่นพคุณนั้นหายตัวออกจากพระราชวังไป และมิติดต่อกลับไปเลย และแน่นอนว่าตัวนพคุณนั้นได้ย้ายถิ่นฐานของตัวเองมาอยู่ในอาณาจักรวสุนธรากับองค์ชายภาสวรแทน ด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง...

ที่จากมามิใช่ว่าไม่รัก แต่จะให้องค์หญิงน้อง องค์ชายน้อยที่ถือกำเนิดมารู้ได้อย่างไร้ว่าพระบิดาของพวกเขานั้นมิได้รักใครในตัวพระมารดาเลย อีกทั้งยังรักกับองครักษ์ธรรมดา ๆ คนหนึ่งที่ไม่คู่ควร... เช่นนี้ขอจากมาเสียก่อนที่จะมีเรื่องร้าย ๆ อะไรเกิดขึ้นให้เป็นแผลภายในจิตใจของทุกคนเสียยังจะดีกว่า

ใช่แล้ว พระชายานลินประไพถือประสูติองค์ชายน้อยที่พระวรกายสมบูรณ์ แข็งแรงแก่องค์รัชทายาทแล้ว ท่ามกลางความสุขของอาณาประชาราษฎร์ และองค์กษัตริย์

องค์ชายสุริยมาส ยิ่งเจริญวัยยิ่งเห็นถึงความเฉลียวฉลาด ทรงมีพัฒนาการที่เลยวัยไปไม่น้อย และที่สำคัญคือพระองค์นั้นหวงและห่วงอนุชาคนเดียวของพระองค์ยิ่งชีพ... ส่วนองค์ชายทินสิรินั้น เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าเป็นเด็กที่โตช้า ทั้งร่างกายและสติปัญญา กว่าที่เด็กน้อยจะยอมเดินก็มีอายุได้สองขวบเศษแล้ว แต่ถึงกระนั้นผู้เป็นพระบิดาและพระมารดาก็ยังคงรัก และเอาใจใส่ลูกน้อยเป็นอย่างดี

รานีนิศามณีและองค์ชายสุริเยนทร์ไทวะทรงเสด็จมาหาพระราชนัดดาบ้างเป็นครั้งคราว อาจจะมิบ่อยครั้งนัก แต่ทุกคราที่มาก็จะมีของติดไม้ติดมือมาฝากทุกคนในตำหนักสวนหมอกแห่งนี้เสมอ

เมื่อได้อยู่กันพร้อมหน้า ทุกคนก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แม้ว่าจะยังมีเรื่องในใจอยู่บ้าง แต่นั่นก็มิสำคัญเท่าความสุขที่มีในวันนี้...

แต่ความสุขก็มิได้อยู่กับใครได้นานนักหนา ในปีที่องค์ชายสุริยมาสมีพระชนมายุได้ 6 ชันษา ถัดจากนั้นไม่นานนัก

ในวันที่ฝนพรำลงมา หลังจากที่นพคุณได้ติดตามสุริเยนทร์ไทวะไปเป็นทูตต่างเมืองไม่นาน ก็มีคนจำนวนมากวิ่งกรูกันเข้ามาในป่าหมอกแห่งนี้

ทหารที่อยู่ในชุดพร้อมรบแห่งอุษณกรตีวงโอบล้อมพระตำหนักสายหมอกเอาไว้แน่นหนา องค์ชายผู้อาศัยทั้งสองสบเนตรกันอย่างหวาดหวั่น ทั้งสองพระองค์ตัดสินพระทัยก้าวออกไป โดยให้น้องกำนัลทั้งหมดคอยดูแลองค์ชายน้อยเอาไว้... และหากมีอะไรเกิดขึ้น ให้พาองค์ชายน้อยทั้งสองหนีไปตามช่องทางลับที่ซุกซ่อนเอาไว้

“สุริยภาสวร เจ้ามาอยู่ที่นี่เองหรือ”สุรเสียงที่เคยคุ้น เสียงของบิดาผู้ให้กำเนิดพระองค์มาดังขึ้น ทำให้องค์ชายผู้หนีออกจากวังมาตกตะลึงมิใช่น้อย “พ่อตามหาเจ้ามา 5 ปี ในที่สุดก็ได้พบ”

“ถวายบังคมพะยะค่ะ เสด็จพ่อ”องค์สุริยภาสวรและศศินคคนานต์น้อมกายลงถวายคำนับแด่องค์กษัตริย์แห่งอุษณกรอย่างนอบน้อย “ทรงเสด็จมาได้อย่างไรหรือพะยะค่ะ”

“พ่อส่งคนตามหาเจ้าไปทั่วทุกสารทิศ จนเมื่อไม่นานมานี้มีคนได้พบเจ้าเข้าไปร่วมงานฉลองในเมืองหลวงของวสุนธรา พ่อจึงได้จัดทัพออกมาตามหาเจ้า”เสียงที่ตรัสออกมานั้นเต็มไปด้วยความคะนึงหา ความเป็นห่วงยิ่งนัก พระวรกายที่บึกบึนองอาจสมเป็นชายชาติทหารซูบผอมลงไปเล็กน้อย องค์อินทัชทรงขยับกายลงจากหลังอาชา ก้าวเข้ามาหาพระโอรสช้า ๆ “ภาสวร กลับบ้านของเรากันเถอะลูก กลับบ้านของเรา แม่ของเจ้า และพ่อคิดถึงเจ้ามากรู้ไหม”

“เสด็จพ่อ...”จ้าวสุริยาเอื้อมหัตถ์ไปกุมมือเรียวของคนข้างพระวรกาย เพื่อเรียกกำลังใจให้กลับมา... เพียงแค่ได้พบพระบิดา พระองค์ก็แทบจะถลาเข้าไปกอด และตอบรับที่จะกลับไป... แต่ถ้าต้องไปสู่วังวนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดนั้นอีก อีกครึ่งชีวิตของพระองค์คงมิอาจที่จะทานทนไหว

“พ่อจะไม่บังคับอะไรอีกแล้วลูก ขอแต่พวกเจ้ายอมกลับไป กลับสู่บ้านของเรา กลับสู่นครของเรา แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว ความเป็นใหญ่อะไรนั่น พ่อก็ไม่เอาแล้ว กลับกันเถอะนะลูกพ่อ”

องค์ชายสุริยภาสวรหันไปหาองค์ศศินด้วยความสับสน พระองค์ควรที่จะกลับ... หรือไม่กลับไปกัน

จะเลือกทางไหน ถึงจะไม่ต้องทนแบกรับความเจ็บปวดนั้นอีก...

###############################

อู้การอ่านหนังสือมาต่อนิยายค่ะ 555 เหลืออีก 3 วิชาถึงจะสอบเสร็จ (ชีทหนาปาหัวหมาแตก TT) ใครให้เอาสรีและแลปสรีรวมกันในข้อสอบเดียวคะอาจารย์ (บ่นนอกเรื่องค่ะ 555)

เหลืออีก 1 ตอนแล้วว พยายามไม่ดราม่า แต่ทำไมมันออกมาหน่วง ๆ ก็ไม่รู้ ฮือออ (แต่งตอนอารมณ์มันหน่วง ๆ มันเลยหน่วงตามอารมณ์เลยค่ะ แหะๆ)

ขอบคุณที่ยังติดตามอ่านกันมานะคะ >< คิดว่าเรื่องนี้เป็นแนว mpreg เรื่องสุดท้ายของคนเขียนแล้วล่ะค่ะ (ถ้าไม่คลอดแนวแฟนตาซีออกมานะคะ 555) จบเรื่องนี้จะเอาจ้าวหัวใจ จอมใจจักรพรรดิมาลงใหม่ (พร้อมกับการปรับเนื้อเรื่องใหม่ ให้โอเคขึ้น) แล้วก็อาจจะลงคู่กับนิยายที่เป็นแนวปัจจุบัน... ที่นั่งแต่งง๊อง ๆ แง๊ง ๆ อยู่ 2 เรื่อง สลับไปสลับมา ยังไม่รู้จะเอาเรื่องไหนลงก่อนดีระหว่าง
weeeek series เรื่องของหนุ่ม ๆ ในกลุ่ม 7night ที่มีวันเกิดเป็นแต่ละวันของสัปดาห์ แบ่งเป็น 7 ตอนใหญ่ ของ 7 คู่
กับ
The four boys เรื่องของคนสี่คนที่มีชีวิตต่างสไตร์กันต้องมาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน (เรื่องนี้มี 2 คู่หลัก กี่คู่ย่อยยังไม่ได้วาง 555)

เฮ้ออ จ้ำจี้ต่อไปค่ะ 555

//เวิ่นยาว บ่งบอกความเครียดในสมอง... ออกพรรษาแล้ว อย่าลืมไปทำบุญกันนะคะ พบกันตอนหน้า ตอนสุดท้ายค้า  :mew1:

ปล. มีใครไปคอมมิคอเวนิวกับฟิคชั่นมาร์เก็ตไหมคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: PhInNoI ที่ 08-10-2014 03:39:12
จะจบละ รออยู่นะ
Get A นะจ๊ะคนเขียน  o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 08-10-2014 06:29:28
มัน.....จะว่ายังไงดีนะ

มันแปลกไป แต่คนเขียนบอกว่าไม่ดราม่าแล้ว

ข้าเจ้าจะเชื่อตามนั้น

รอตอนต่อไปขอรับ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 08-10-2014 06:42:27
ไม่เอาดราม่านะ แค่นี้หนูศศินก็โดนเยอะพอแหละ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 08-10-2014 07:22:37
อยากได้นิยายเรื่องนี้มาก.. .องค์รพีแย่มากมายไม่คิดถึงลูกที่เกิดกับศศินเลย
เราอยากให้นพคุณได้กับพี่ชายของศศิน.องค์รพีจะได้เจ็บๆๆๆๆอยากให้คนที่ทำให้ทินต้องพิการได้รับกรรมของคนเลว.. ภาสวรอย่ากลับไปเลยสงสารศศินเวลาเห็นหน้ารพี
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 08-10-2014 08:37:14
ไม่ดราม่าแล้วใช่มะ งั้นกลับเมืองไปเล๊ยยย :hao7:

ป.ล. ไม่ได้ไล่นะ 55555555555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 08-10-2014 09:01:06
ขอให้ไม่ดราม่า .... นะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 08-10-2014 09:49:20
 :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-10-2014 11:45:53
พี่มาสกับน้องทิน :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 08-10-2014 14:12:28
หลงรักสุริยะมาศจัง ดูเท่ห์ตั้งแต่เด็กเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 08-10-2014 14:39:32
เพลียกับเสด็จพ่อนะ

มาถึงตอนนี้แล้วทำใจเชื่อยากเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 08-10-2014 15:29:45
ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: kapook_koopak ที่ 08-10-2014 17:11:54
อึมครึม แฮะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-10-2014 17:18:23
จะจบแล้ววววว
แอบจิ้นคู่เด็กน้อยทั้งสองคนอะ อิอิ

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 08-10-2014 18:36:12
จะจบละ รออยู่นะ
Get A นะจ๊ะคนเขียน  o13

สาธุค่ะ (T/l\T) ขอให้ผ่าน ขอให้ A (เพิ่งจะมิดเทอม 555 ฮือออ)


+++++++

ไม่ดราม่าค่ะ ไม่ดราม่า... วางเรื่องนี้ไว้ใส ๆ ไม่มาม่า (มองแต่ละตอน) อืม...

พี่มาส น้องทิน น่ารักที่สุด <3
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 08-10-2014 19:09:33
ขอให้มีความสุขทุกคนนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-10-2014 19:24:48
วายรุ่นเยาว์
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 08-10-2014 19:44:36
สงสารนพคุณอ่ะ   :hao5:  เริ่มรู้สึกเกลียดรัชทายาทกับพระชายาล่ะ  แลดูจะมีความสุขกันเหลือเกินนะโดยเฉพาะชายาอ่ะ  เพราะพวกเธอทำให้นพคุณเจ็บช้ำ  :m31:

ศศินกับภาสวรขอให้พบกับความสุขนะ  อย่าได้ต้องแบกรับอะไรแบบนั้นอีกเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 09-10-2014 07:17:34
อยากได้นิยายเรื่องนี้มาก.. .องค์รพีแย่มากมายไม่คิดถึงลูกที่เกิดกับศศินเลย
เราอยากให้นพคุณได้กับพี่ชายของศศิน.องค์รพีจะได้เจ็บๆๆๆๆอยากให้คนที่ทำให้ทินต้องพิการได้รับกรรมของคนเลว.. ภาสวรอย่ากลับไปเลยสงสารศศินเวลาเห็นหน้ารพี

อันนี้ต้องดูในตอนพิเศษค่ะ อุ๊ ^x^'
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 09-10-2014 08:13:38
นพคุณน่าสงสารอ่ะตอนนี้ องค์รพี(แม่ง)ฮึ่ยยยยย เอามันไปเก็บเลยป่ะ
เด็กน้อยสองพี่น้องก็น่ารัก ดูแลทินดีๆนะมาส><
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 09-10-2014 13:39:05
จะเอาอีกกT^T ยังไม่พอๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 09-10-2014 19:55:27
เอายังไงละ กลับไปลูกคนเล็กจะทำยังไง คิดดีๆนะ ศศินละ จะเป็นยังไง
ครั้งก่อนเขาก็บอกยกศศินให้แล้วต่อมาทำแบบไหน
ยังเชื่อได้อีกหรือ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 10-10-2014 09:37:08
สนุกมากกก ติดตามๆ :L2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 14-10-2014 00:24:07
บทสุดท้ายขะเข็นมาลวในเร็วๆนี้นะคะ ใกล้เสร็จแล้ววว ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: miho ที่ 14-10-2014 16:41:42
ใกล้จะจบแล้วสิน่ะ อย่าดราม่าเลยสงสารศศินจะแย่อยู่แล้ว ขอให้นพคุณรักกับพี่ของศศินเลย ส่วนรพีก็กระอักเลือดตายไปซะ สมน้ำหน้า ภาสไม่ต้องกลับเลย ถ้ากลับไปศศินแย่แน่ๆ  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปฏิญญาที่ 19 (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 15-10-2014 09:34:01
รู้สึกทุเรศกับความคิดของพ่อภาสวรตั้งแต่ให้ศศินไปมีรู้กับไอ้บ้านั้น ้วมาตอนนี้ยังจะมาขอร้องให้กลับไปอยู่วัง รู้สึกมันเชื่อไม่ได้ว่าพ่อมันจะจริงใจ
ถ้ามีพ่อแล้วสั่งให้ทำเรื่องทุเรศๆแบบนี้เราไม่นับเป็นพ่อแล้วล่ะ เข้าใจว่าทำเพราะคำทำนายแต่จิตใจลูกตัวเองไม่เคยสนใจ ส่วนไอ้องค์รพีนี่เห็นแก่ตัวและทุเรศยิ่งกว่าพ่อมันอีก รู้ว่าเป็นเมียน้องชายยังจะหน้าด้านไปขอ สรุปคือทั้งพ่อทั้งไอ้องค์รพีนี่น่าจะโดนเอาคืนเจ็บๆบ้างนะ รู้สึกจะเห็นแก่ตัวมานาน
ส่วนพ่อมันที่มาตามกลับวังอย่าไปกลับเลย คิดว่าคนที่ยัดเยียดชูกชายอีกคนให้ไปเป็นผัวของเมียลูกชายอีกคนมันดีเหรอ ทุเรศ เราอ่านมาเนื้อเรื่องมันออกแนวดราม่าเกินไปหน่อยป่ะอ่านแล้วเหนื่อยแทน แต่ใช้ภาษาได้ดีมากอันนี้ยอมรับ สุดท้ายคือเกลียด2พ่อลูกพวกนี้มาก มีดีแค่ภาสวร จะรอดูว่าอี2พ่อลูกมันจะสำนึกกับสิ่งที่ภาสวรกับศศินเสียใจไปมั้ย น่าจะไม่สำนึกถึงสำนึกก็ลบล้างความทุเรศที่ทำไว้ไม่ได้หรอก หรือเห็นว่าเป็นพ่อพระเอกเลยไม่อยากจะทำให้เจ็บกับสิีงที่มันทำไป ถ้าเขียนออกมาแบบนั้นโคตรไม่สมเหตุสมผล ที่พ้ช่อมันยังทำกับลูกได้

ขอโทษที่เมนต์ยาวนะ ถ้าไม่พอใจเดี๊ยวลบทืิ้งให้ก็ได้

ยาวกว่านี้ก็ได้นะคะ <3 ^^ เรื่องความรู้สึกของอินทัชรออ่านในตอนสุดท้ายนะคะ ว่าทำไมเขาถึงมาตามลูกกลับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-10-2014 19:30:58
ปัจฉิมบท


กลับสู่ยศฐาจ้าวบรรดาศักดิ์
ปรปักษ์ในวังนั้นหมดสิ้น
ดาราเจ้ารับน้องกลับคืนถิ่น
เรื่องน่ายินดีมาไม่ขาดตอน


สุริยภาสวรมีสีพระพักตร์ที่เคร่งเครียด ใจหนึ่งก็ทรงอยากกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนของพระองค์เอง แต่อีกใจหนึ่งก็ห่วงถึงความรู้สึกของคู่ชีวิต และลูกน้อย

จะให้เอาตนเป็นที่ตั้งเช่นกาลก่อนคงมิได้แล้ว

“ลูกขอเวลาคิดก่อนนะพะยะค่ะ เสด็จพ่อ...”องค์ภาสวรตัดสินใจยังไม่ตอบตกลงหรือปฏิเสธอะไร แต่ขอเวลาในการตัดสินใจแทน “อีกสองวัน ลูกจะไปให้คำตอบกับเสด็จพ่อเองพะยะค่ะ ระหว่างนี้ขอพระองค์ทรงโปรด ให้ลูกและครอบครัวอยู่ด้วยกันตามลำพังเถิดพะยะค่ะ”

ยังไม่ทันที่องค์อินทัชจะเอื้อนเอ่ยวจีใด วรกายบางร่างน้อยของรานีแห่งวสุนธราก็ประกฎกายขึ้นเสียก่อน องค์นิศามณีเยื้องย่างเข้ามาอยู่เบื้องหน้าของกษัตราผู้ยิ่งใหญ่พร้อมส่งรอยยิ้มอ่อนหวานให้อย่างเป็นมิตร

“ขอประทานอภัยที่มิได้ออกมาต้อนรับให้เร็วกว่านี้นะเพคะ พระองค์คงจะทรงเป็นกษัตริย์แห่งอุษณกรใช่ไหมเพคะ”พระเนตรที่หวานตรึงใจช้อนขึ้นสบกับกษัตริย์แดนแม่ตรงหน้า “เป็นเกียรติที่ได้พบนะเพคะ”

“...เจ้าคงเป็นรานีแห่งวสุนธรา”ดวงเนตรคมกวาดมองร่างตรงหน้าอย่างพินิตพิจารณา “งดงามสมคำร่ำลือจริง ๆ”

“พระองค์ทรงชมหม่อมฉันมาไปแล้วเพคะ”พระนางตอบกลับอย่างถ่อมองค์ “ในเมื่อพระองค์ทรงให้เกียรติเสด็จมาเยือนถึงวสุนธราแห่งนี้ ก็ขอทรงโปรด เสด็จไปที่พระราชวันกับหม่อมฉันเถิดเพคะ”

“แต่...”

“เมื่อถึงเวลา พวกเขาจะไปพบพระองค์ ณ พระราชวังเองเพคะ”คำพูดที่กดดัน ช่างขัดกับรอยยิ้มที่ตราตรึง องค์นิศามณีจ้องมองบุรุษตรงหน้าอย่างกดดัน “ไปกันเถอะเพคะ ก่อนที่อากาศจะหนาวไปมากกว่านี้”

ราวกับมีมือมาผลักให้องค์สูงใหญ่นั้นก้าวตามสตรีร่างบางไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งที่ทรงได้ยินมาว่ารานีนิศามณีนั้นเป็นสตรีที่อ่อนหวานและสงบเสงี่ยมแท้ ๆ

แต่ทำไมถึงดูมิใช่ ราวกับฟ้ากับเหวเช่นนี้...

แน่นอนว่ามิมีบุคคลภายนอกคนใดได้ล่วงรู้ถึงเหตุที่สตรีผู้สงบเสงี่ยมอย่างพระแม่แห่งวสุนธรานั้นเปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้ได้เช่นไร... ด้วยลูกที่ทั้งรักทั้งห่วงต้องถูกพรากไปจากอก ต้องไปทนทุกข์อยู่นานนับปี โดยที่พระนางมิอาจยื่นมือเข้าไปช่วยได้เลย ด้วยความอ่อนแอ และการยอมคนมาตลอดของพระนางเอง ที่ทำให้ลูกคนเล็กต้องทุกข์ทน หลังจากต้องจากลากันไปไม่นาน พระนางก็เริ่มแข็งข้อกับองค์ภาณุวัฒน์ และมิยอมสิ่งที่พระนางไม่เห็นควรเรื่อยมา

สิ้นแล้วซึ่งความอ่อนน้อม สิ้นแล้วซึ่งการยอมโอนอ่อน พอกันทีกันความเจ็บปวดที่แสนสาหัสนั้น พระนางให้คำมั่นกับองค์เองไว้ว่าจะไม่ยอมให้ลูกคนใดของพระนางต้องเจ็บปวด และทุกข์ทนจากความอ่อนแอของพระนางอีกต่อไป

แม้พระนางต้องทำให้ได้ ถึงแม้นว่าจะต้องหักกับองค์เจ้าหลวงก็ตามที


“ศศิน...”สุริยภาสวรเอ่ยเรียกคนที่ยืนอยู่ข้างกายของพระองค์ตลอดเวลา หลังจากที่เหล่าทหารจากดินแดนของพระองค์นั้นหายไปจนหมดจากสายพระเนตรแล้ว “ข้า...”

“เรารู้ว่าท่านอยากกลับไป เรามิคัดค้านหรอกนะ”มือที่ยังจับกุมกันอยู่นั้นกระชับแน่นขึ้นอย่างให้กำลังใจ “เลือกในสิ่งที่ท่านอยากให้มันเป็นไปเถอะ”

“แต่... ถ้าการตัดสินใจของข้ามันผิดพลาดล่ะ”พระองค์เคยพลาดมาครั้งหนึ่งแล้ว... และมิอยากที่จะเห็นคนที่พระองค์รักต้องทนทุกข์อีกแล้ว “ข้ากลัว ข้ากลัวว่าเรื่องร้าย ๆ มันจะเข้ามาหาเจ้าอีกเพราะข้า”

“หากคำว่าผิดพลาดของท่านคือการที่เราอาจจะเจ็บปวด มันก็จะไม่มีคำว่าผิดพลาดหรอกนะ ภาสวร...”ศศินยิ้มให้อย่างอ่อนโยนอย่างเคย “เพราะเราก็เลือกเช่นกัน... เลือกที่จะอยู่ข้างท่าน เลือกที่จะอยู่กับท่าน ไม่ว่าจะต้องพบเจออะไรในวันข้างหน้า แต่เราเลือกแล้ว ที่ข้างกายจะมีท่าน เช่นเดียวกับที่ข้างกายท่านจะมีเรา”

ดวงตาสองคู่สบกันด้วยความเข้าใจ ก่อนที่จะพากันเดินกลับเข้าไปในตำหนักที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น ไปหาลูกน้อยที่รอคอยอยู่ข้างใจด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น

โอรสของพระองค์ต้องการคนดูแล ต้องการการรักษาจากหมอที่เก่ง และต้องการพระอาจารย์คอยสอนสั่ง... เพราะอย่างนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพระองค์คือการกลับไป...

แม้ว่าอาจจะต้องเจ็บ เพราะต้องไปพบกับบุคคลที่สร้างรอยแผลขนาดใหญ่เอาไว้ในหัวใจของพระองค์และคนรัก อย่างเข้าพี่รพีธรณินก็ตามที่...

แต่จะให้มุดหัวอยู่ในกระดอง แล้วปล่อยให้ลูกน้อยเป็นเช่นนี้ต่อไปก็คงมิได้ มิใช่รังเกียจ แต่ความเป็นห่วงที่ท้นท่วมหัวใจ... ถ้าหากวันใดพระองค์กับศศินมีอันเป็นไป ทินสิริจะอยู่อย่างไร แม้นว่าสุริยมาสจะคอยดูแล แต่ลูกก็ยังเล็กนัก ยังเล็กเกินกว่าที่จะยืนด้วยตัวเองได้

ซึ่งศศินเองก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ตัวเขาก็ห่วงลูกน้อยที่ให้กำเนิดมาอยู่เต็มหัวใจเช่นกัน


เมื่อครบสองวันตามที่ได้เอ่ยเอาไว้ สุริยภาสวรและศศินคคนานต์ก็เดินทางเข้าไปยังวังหลวงแห่งวสุนธราเพื่อเข้าพบองค์กษัตริย์ที่รอคำตอบของทั้งสองพระองค์อยู่

แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะได้ก้าวเข้าไป ก็ได้ยินเสียงสนทนาเล็ดลอดออกมาเสียก่อน

“ถ้าพวกเขาทั้งสองยอมกลับไปกับท่าน ท่านจะทำอย่างไรกับพวกเขา.. ไม่สิ ท่านจะทำอะไรกับโอรสของหม่อมฉันอีกไหมเพคะ”เสียงที่คุ้นหูมาตลอดหลายปีที่พ้นผ่านเอ่ยถามใครอีกคนที่รู้อยู่แก่ใจ “ตัวเราไม่ทราบหรอกว่าท่านคิดอะไร อย่างไร แต่เรามิอาจทนเห็นลูกของเรา หลานของเราต้องเจ็บปวดอีก”

“ข้าแค่ต้องการให้ลูกของข้ากลับไป”เสียงที่ตอบกลับมานั้นนิ่งสนิท “เจ้าเป็นแม่คนเจ้าก็รู้ การไม่ได้เห็นหน้าลูก ไม่รู้แม้กระทั่งว่าลูกเป็นอย่างไร สบายดีหรือไม่ ไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่ามันเจ็บปวดแค่ไหน”

ศศินยื่นมือไปจับหัตถ์ใหญ่ รอยยิ้มบางเบาคลี่ส่งให้เป็นกำลังใจ สุริยภาสวรเองก็อาจจะมิได้มีชีวิตที่ต่างจากพระองค์นัก มิได้เป็นที่รัก แต่อย่างน้อยก็ไม่เป็นที่ชัง

“ในวันนี้เราก็มิทราบว่าลูกของท่านจะให้คำตอบอย่างไร ถ้าพวกเขาต้องการกลับไป เราก็มิมีเรื่องอะไรจะคัดค้าน แต่หากว่าพวกเขาปฏิเสธ ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะค้านอะไรเขาอีก”คำที่เหมือนประโยคธรรมดา แต่น้ำเสียงที่เอ่ยนั้นแฝงแววข่มขู่เอาไว้

“ข้าทราบดี ถ้าไม่บังคับพวกเขาอยู่แล้ว ข้าแค่หวังว่าเขาจะกลับไปกับข้า ข้าจะไม่ขออะไรอีกแล้ว”คำพูดที่ฟังดูน่าซึ้งใจ แต่กับบุตรชายของพระองค์นั้น... รู้อยู่แก่ใจดีว่าคงมีจุดประสงค์อื่นเป็นแน่

แต่พระองค์ก็ตั้งสินใจแล้วที่จะกลับไป... เพื่อลูกน้อย ทินสิริยังต้องการหมอหลวงในการรักษา และต้องการคนดูแล... มิใช่แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ

แต่เป็นทั้งชีวิต

สุริยภาสวรบีบมือเรียวแน่น ก่อนที่จะคลายออกหลวมแล้ว แล้วตัดสินใจเดินเข้าไปภายใน... ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะกลับไปสู่วังวนที่อาจจะโหดร้ายอีกครั้ง ด้วยความเต็มใจ

“พวกเจ้ามาแล้วหรือ”องค์อินทัชตรัสทักด้วยพระพักตร์ที่แย้มยิ้ม

“พะยะค่ะ เสด็จพ่อ ลูกนำคำตอบที่พระองค์ต้องการมาถวายพะยะค่ะ”องค์ชายทรงตัดบทก่อนที่จะได้ยินคำที่ไม่จริงใจ ที่ทำให้พระองค์รู้สึกเสื่อมศรัทธาในตัวของพระบิดาไปมากกว่านี้...

ไม่ใช่ไม่รัก พระองค์ทรงรัก และห่วงใจพระบิดาของพระองค์เสมอ... แต่กับความศัทธาในฐานะของกษัตริย์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตานั้นไม่มีอีกแล้ว...

“ลูกจะกลับไปพะยะค่ะ”

คำตอบที่สดับฟังนั้นทำให้องค์ราชาแห่งดินแดนที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในยุคยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงใจ  และมิทรงคิดจะถามถึงเหตุผลของการตัดสินใจของบุตรชยเลยแม้แต่น้อย

“ดี ในอีกสามวันเราจะเดินทางกลับกัน”


องค์ชายสุริยภาสวรและพระชายา รวมถึงพระโอรสและนางกำนัลได้กลับคืนสู่วังหลวงอีกครา หลังจากที่หายออกไปนานนับปี งานเลี้ยงฉลองถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ พร้อมกับการสถาปนาองค์ชายทินสิริขึ้นเป็นองค์ชายแห่งอุษณกร

“พี่ไม่คิดว่าเจ้าจะยอมกลับมาง่ายดายเช่นนี้นะ ภาสวร”องค์รพีธรณินที่ประทับอยู่ข้างพระอนุชาเปรยขึ้นเบา ๆ “เจ้าคงมีเหตุผลอะไรที่ยิ่งใหญ่พอให้ตัดสินใจกลับมานที่แห่งนี้เป็นแน่”

“อะไรทำให้เสด็จพี่ทรงคิดอย่างนั้นหรือพะยะค่ะ”องค์ภาสวรถามกลับด้วยรอยยิ้มที่บางเบา ในขณะที่พระเนตรจ้องมองคนรักที่ป้อนอาหารให้กลับลูกน้อย

“ที่แห่งนี้ทำร้ายเจ้า และครอบครัวของเจ้ามามาก มากเกินกว่าที่เจ้าจะกลับมาแบกรับความทรงจำอันเจ็บปวดนี้ได้อีก”สุรเสียงที่ตรัสนั้นเรียบนิ่ง นัยเนตรฉายแววเศร้าหมอง “เจ้าคงมีเหตุจำเป็นที่ต้องกลับมาสินะ”

“น้องไม่ปฏิเสธในเรื่องนั้นพะยะค่ะ ใช่ น้องมีเหตุจำเป็นที่ต้องกลับมา”พระองค์ทอดมองไปยังพระโอรสองค์เล็กอย่างอาทร โดยมิเอ่ยอะไรอีก

“ทินสิริเช่นนั้นหรือ...”องค์รัชทายาททรงมองตามสายตาของผู้เป็นน้องไป ก่อนจะตรัสขึ้นแผ่วเบา “พี่ขอถามตามตรง... ทินสิริ... คือลูกของพี่ใช่หรือไม่”

“ทินสิริเป็นลูกของน้องและศศิน...”ดวงตาสีทองสุกสว่างจ้องมองผู้เป็นพี่อย่างแข็งกร้าว “เขาเป็นลูกของพวกเรา มิใช่ของท่าน”

“อย่างนั้นหรือ”รพีธรณินสบเนตรกับอนุชากลับด้วยแววตาที่รู้ทัน แม้จะไม่เคยได้พบ มิเคยได้อุ้ม ได้ดูแล แต่ความรู้สึกของพระองค์นั้นส่งเสียบอกพระองค์อยู่ตลอดเวลาว่า เด็กคนนี้คือบุตรของพระองค์ แต่พระองค์จะไม่ทรงเซ้าซี้อีก เพราะถึงอย่างไร บุตรชายคนนี้ก็ไม่ใช่ของพระองค์... “วันนี้ พรุ่งนี้ และตลอดไป เขาคือลูกของเจ้า ภาสวร”

ราวกับคำมั่นในมอบให้ว่าพระองค์จะมิมีวันที่จะแย่งเอาลูกคนนี้กลับคืนมา นับตั้งแต่วันนี้ พระองค์จะขอแค่ได้ดูแลลูกอยู่ห่าง ๆ ก็เพียงพอแล้ว... จะไม่ทรงเข้าไปทำร้าย ‘ครอบครัว’ ของผู้เป็นน้องให้ต้องมีรอยแผลอีก...

“เสด็จพี่ทรงเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะพะยะค่ะ”องค์ชายภาสวรอดที่จะเอ่ยขึ้นมิได้ “ทรงมิดื้อดึงเหมือนเช่นกาลก่อนแล้ว”

“เจ้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากแล้ว จะให้พี่เป็นเด็กอยู่หรืออย่างไร”พระองค์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ “ข้าคงต้องโตขึ้นสักที... ก่อนที่ทุกอย่างจะเลวร้ายลงไปมากกว่านี้”

หัตถ์หนากำตราของราชองครักษ์ส่วนพระองค์เอาไว้แน่น ภาสวรเหลือบไปเห็นจึงได้แต่เงียบ และความเงียบงันก็เข้ามาครอบคลุม

ดวงหฤทัยของรัชทายาทแห่งอุษณกรคงมีแต่องครักษ์คนเดียวของพระองค์ไปอีกนานแสนนาน...

ทางด้านเจ้าหญิงศรวิษฐา ก็ทรงเข้าไปช่วยพระอนุชาดูแลนัดดาทั้งสองด้วยรอยยิ้ม พระนางดีพระทัยยิ่งนักที่ได้พบกับน้องอีกครา

“เจ้าพี่... หลังจากนี้จะทรงอยู่ที่นี่ต่อไป หรือจะทรงเสด็จกลับวสุนธราหรือพะยะค่ะ”ศศินถามขึ้นหลังจากที่สุริยมาศเข้ามาขอดูแลทินสิริเอง และคอนป้อน คอยเช็ดข้าวปลาที่เปรอะเปื้อนกายน้องด้วยตั้งใจ

“พี่จะอยู่ที่นี่กับน้อง อยู่จนกว่าจะมั่นใจว่าน้องจะมีความสุขที่แท้จริง พี่ถึงจะกลับนครของเรา”เจ้าหญิงคนงานตอบกลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง “พี่จะช่วยน้องดูแลหลาน ๆ เองนะ”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ เจ้าพี่”ศศินเองก็รู้สึกดีใจไม่น้อยที่พระภคินีจะอยู่กับตนต่อไป “แล้วเสด็จพ่อจะมิทรงตำหนิหรือพะยะค่ะ”

“ใครสน น้องสนหรือ พี่ไม่สน”พระนางยั๊กไหล่อย่างไม่ยี่ระต่อคำถาม “เจ้าพ่อมีพะโอรส พระธิดามากมาย ขาดพี่ไปสักคนมิเห็นจะเป็นอะไร”

“โถ่ เจ้าพี่...”สุดจะเอ่ยคำใด ด้วยคำของเจ้าจันทร์มิเคยเปลี่ยนใจเจ้าจอมดาราได้อยู่แล้ว

“เรื่องนั้นพี่จะจัดการเอง แต่ตอนนี้พี่แน่ใจว่าจะมิมีใครทำร้ายเจ้าอีกเป็นแน่”ดวงตาสีฟ้าใสฉายแวววาวโรจน์ แน่ล่ะ ตลอดเวลาที่ทรงประทับอยู่ที่นี่ พระนางคอยแต่จับเอาพวกที่เป็นอริกับอนุชาของนางมาจัดการลงทัณฑ์ด้วยศาลเตี้ยมาโดยตลอด เผื่อว่าวันใดที่ศศินจะได้อยู่อย่างมีความสุข

ทดแทนในสิ่งที่พระนางเคยผิดพลั้งไป


หลังจากที่งานเลี้ยงเลิกรา ทุกคนแยกย้ายกลับไปยังบ้าน ยังตำหนักของตน ศศินและภาสวรส่งลูกทั้งสองเข้านอนพร้อมกับให้พระที่เลี้ยงเข้าไปเฝ้าดู หากองค์ชายต้องการอะไร

ส่วนพวกเขาก็มาประทับอยู่ที่ตั่งตรงระเบียงของพระตำหนักโดยมิพูดอะไรกัน แต่มือข้างหนึ่งของทั้งคู่จับกันเอาไว้แนบชิด มอบไออุ่น ส่งผ่านกำลังใจให้แก่กันและกัน

“เรากลับกันมาแล้วนะศศิน”เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากปล่อยให้ความเงียบงันนั้นปกคลุมมานาน “เรากลับมาในที่แห่งนี้กันแล้วนะ”

“อืม พวกเรากลับมาแล้ว”รอยยิ้มบางเบาฉาบทับบนใบหน้าที่อ่อนเยาว์ ดวงตาที่สว่างไสวเหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้ากว้างใหญ่

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ”เสียงของทั้งคู่ประสานเป็นหนึ่ง ก่อนที่จะหันมามองหน้าซึ่งกันและกันด้วยความขบขัน

“ต่อไปนี้ข้าจะดูแลเจ้ากับลูกให้ดี จะไม่มีใครมารังแกเจ้าได้อีกแล้ว”มือเรียวลูบไล้ปรางนุ่มเบา ๆ ก่อนที่จะโน้มกายลงไปมอบจุมพิตให้กับคนรักอย่างลึกซึ้ง “ข้าจะปกป้องเจ้าเอง ที่รักของข้า”

“ข้ารักท่านนะ ภาสวร”

“ข้าก็รักเจ้าเช่นกัน ศศินของข้า หัวใจของข้า”

*******************************

จบแล้วค้าาา  :mew1:

เขียนจนจบจนได้ จริง ๆ ก็คิดว่าจะไม่จบแล้วนะคะ เรื่องนี้ 5555

เขียนได้หน่วงแล้ว หน่วงอีก TT ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะเขียนได้หน่วงขนาดนี้ แล้วยังพลิกไป พลิกมาอีก ขอโทษด้วยค่ะ

นิยายแนว mpreg เรื่องสุดท้ายของคนเขียนแล้วค่ะ ^++++^ ถ้าไม่ออกแนวแฟนตาซีมา ก็คงไม่เขียนแนวนี้แล้ว พอใจแล้วค่ะ 5555 จริงๆที่เขียนแนวนี้เพราะก่อนหน้า ไม่ค่อยมีให้อ่าน(ทำนอง ไม่มีให้อ่านก็แต่งอ่านเองนี่ล่ะค่ะ) ตอนนี้มีเรื่องสนุกๆให้อ่านเยอะแล้ว ไปตามของคนอื่นเขา (ความสุขในมุมเล็กๆ) ตอนนี้ติดอยู่หลายเรื่องเลย

ในเรื่องนี้ทางคนเขียนไม่ได้ตัดจบ หรือีบให้จบอะไรนะคะ วางเรื่องมาตั้งแต่แรกแล้วว่าจะให้จบแบบนี้ค่ะ ^^ // บทกลอนที่แต่งของต่ละตอนก็แต่งไว้ตั้งแต่ตอนวางเรื่องเมื่อ 2 ปีที่แล้วค่ะ)

ขอฝากเพจของคนเขียนไว้สักหน่อยนะคะ https://facebook.com/flymoon.midnight  ^^ ตั้งใจว่าจะแต่งฟิคเดรโกแฮร์รี่ต่อ ^w^ // กับนิยายเรื่องใหม่... ที่ขอทำต้นฉบับให้มีสต็อกก่อนค่อยลงลงค่ะ

พบกันเรื่องหน้านะคะ

ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนจบนะคะ คนเขียนน้อมรับคำติชมของทุกคน และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในเรื่องต่อ ๆ ต่อ นะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-10-2014 19:43:36
อาห์ เด็จพี่โหดจริงๆ
มีความสุขกันซะที หลังจากดรามามาหลายตอน //พรากก

ยังคงรอหนิงกวางอย่างใจจดใจจ่อนะตะเอง :กอด1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-10-2014 19:53:27
อาห์ เด็จพี่โหดจริงๆ
มีความสุขกันซะที หลังจากดรามามาหลายตอน //พรากก

ยังคงรอหนิงกวางอย่างใจจดใจจ่อนะตะเอง :กอด1:

หนิงกวางเพิ่งแก้ต้นฉบับถึงตอนที่ 7 เองค้า 5555
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 19-10-2014 20:14:18
มันจบแบบคาใจน่ะค่ะ จบเหมือนไม่รู้เลยว่าอนาคตของทั้งสองคนจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 19-10-2014 20:48:03
ขอบคุณ ขอบคุณ ขอบคุณ :)
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 19-10-2014 23:18:14
มันจบแบบคาใจน่ะค่ะ จบเหมือนไม่รู้เลยว่าอนาคตของทั้งสองคนจะเป็นยังไง

อนาคตทั้งสองจะออกนอกวังค่ะ (มีในตอนพิเศษที่จะไม่ได้ลงให้อ่านค่ะ)

ขอบคุณค้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-10-2014 23:30:34
สงสารลูกคนเล็กอ่ะ  ขอให้หายเป็นปกติแล้วกันเนอะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 19-10-2014 23:48:40
จบแล้วววววว ซึ้งในความรักของทั้งคู่ ทั้งหนักแน่น มั่นคง และให้อภัย :mew6: :mew6: :mew6:

รอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-10-2014 01:22:55
งะจบซะละ จะมีให้อ่านอีกมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-10-2014 01:31:45
แฮปปี้เอ็นดิ้งกันหมดแล้ว
ดีจริงๆ

ขอบคุณคนเขียนที่มาต่อให้จนจบนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: kitwiphat ที่ 20-10-2014 07:35:59
มันจบง่ายไปเนอะ..แต่ก็ดีแล้วจะได้มีความสุข
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25)
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 20-10-2014 09:08:18
จบแล้ว สนุกง่า ก็ถือว่าแฮปปี้อ่ะนะ ขอบคุณคนแต่งมากๆค่ะ ไว้รอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 22-10-2014 07:19:06
จบเรียบไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ ตั้งใจให้จบแบบที่พ่อแม่เห็นแก่อนาคตของลูกค่ะ ต่อต่อ ถ้ามีโอกาสคงได้อ่านกันนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay 13 ที่ 22-10-2014 15:15:53
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-10-2014 18:33:30
งะจบซะละ จะมีให้อ่านอีกมั้ยนะ

ตอนพิเศษไม่มีลงให้ตอนนี้นะคะ ขอโทษด้วยคะ่ TwT
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 23-10-2014 22:31:06
จะจบแล้วหรือ

จะไม่ถามหาตอนพิเศษ

แต่อยากบอกว่า....

มันยังไม่อิ่มเลย

อยาก(กิน)อ่านต่อ

แต่ข้าเจ้าก็ฟินไปแล้ว

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: jessiblossom ที่ 23-10-2014 22:54:40
ยินดีด้วยค่ะจบแล้ว ติดตามผลงานนักเขียนนะค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 25-10-2014 20:20:12
จบแล้ว


ในที่สุดก็สงบสุขเสียที



ขอบคถณมากครับจะติดตามผลงานต่อไปคร้าบ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 25-10-2014 20:34:12
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44135.msg2853451#msg2853451

เรื่องใหม่ที่กำลังแต่งอยู่นะคะ ใครสนใจสามารถคลิกเข้าไปอ่านได้ค้าา ^^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 26-10-2014 02:26:30
 :mew6:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 23-11-2014 00:29:02
ย่อง ๆ เอ่อ สามารถตามตอนพิเศษกันต่อได้ในเล่มนะคะ(ตอนเกือบต่อเนื่องกับเนื้อเรื่องค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับต่อเลย 555) TwT//
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 23-11-2014 05:55:30
เหมือนจะยังไม่จบคุณพ่อดูเหมือนจะมีแผนการณ์อะไรอยู่
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 09-12-2014 10:23:17
จบแล้ว  :hao5:
ขอให้เจ้าชายน้อยหายไวๆนะ อย่างน้อยที่สุดก็ขอให้มีความสุขกับทุกๆวัน
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ekuto ที่ 09-12-2014 12:06:06
ง่า อยากให้แต่งนี้อีกอ่ะครับ

แนวจักรๆวงๆ ไม่ค่อยมีแนวนี้เท่าไร แล้วก็ชอบภาษาที่ใช้ด้วยครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 09-12-2014 22:59:11
หน่วงมากกกกกกก
แรกๆเหมือนจะอบอุ่น
แต่พออ่านไปเรื่อยๆก็พลิกไปพลิกมาตลอด
นำพาความหน่วงมาตลอดๆ
ติดตามมาจากจอมใจฯ
นั่นก็แอบหน่วงนิดๆเหมือนกัน
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 10-12-2014 02:52:08
ชอบมากค่ะ

เนื้อเรื่องดีมากกก   o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 10-12-2014 15:16:51
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ

แม้จะมีเรื่องเจ็บช้ำให้เราต้อง

เสียใจก็เถอะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 11-12-2014 01:16:02
จบแบบค้างๆคาๆอ่ะ

คือพ่อภาสวรมีแผนไรหรือเปล่า

ทางพ่อศศินจะรักและดีกับศศินไหม

มาสกับทินจะเป็นไงต่อ

แล้วที่สำคัญเลย นพคุณกับรพีอ่ะ ยังไงๆ จบแบบเนี่ยหรอ

แล้วไหนไปอยู่กับภาสวรไม่กลับมาด้วย?
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mickeyz.min ที่ 11-12-2014 20:48:51
สนุกมากๆๆๆๆ แต่เราไม่ชอบมาม่าแบบนี้ ใจร้ายเกินไป โหดร้ายมากๆๆๆ :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PJansam ที่ 12-12-2014 08:34:02
คือดีอ่ะ อ่านข้ามวันข้ามคือ องค์ชายมาศตัวน้อยน่ารักมากเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 12-12-2014 13:23:11
อ่านจนจบ ก็ยังอยากโดดเตะหน้า องค์อินทัชซังกะบ๊วย นี่อยุ่ดี

ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 16-12-2014 23:12:12
คนแต่งจบ แต่คนอ่านมิอยากจบ. แงๆๆ เหมือนยังมีปมอยู่
เรื่องรพีนพคุณ แม้จะสะใจรพีที่โดนซะบ้าง แต่ก็สงสารนพ ส่งนพให้สุริเยนทร์ซะเถอะ คึคึ
ไหนจะองค์ชายน้อยมาสกับทิน โอ้ย คู่นี้มาแว่บๆเด็กน้อยๆแต่ทำเอาจิ้น
มว้ากกกกก เรื่องเด็ดพ่อทั้งสองกับเด็ดปู่ก็ยังมิเคลียร์ เหมือนจะจริงใจแต่ก็ไม่
โอ้ยยย อยากอ่านต่อ อืม ว่าแต่ นลินประไพ นี่คือกิ๊กเก่าของภาสวรมิใช่รือ
ส่วนพระชายาของรพีชื่อโสภาสนิ แต่ตอนหลังๆชายากลายเป็นนลินปนะไพซะงั้น
หรือนลินปนะไพได้ขึ้นเป็นชายาอีกคนของรพี หรือเราพลาดตอนไหนไป :serius2:
ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายดีๆจ้า ภาษาสวยมาก กลอนเพราะสุดๆ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 16-12-2014 23:37:02
คนแต่งจบ แต่คนอ่านมิอยากจบ. แงๆๆ เหมือนยังมีปมอยู่
เรื่องรพีนพคุณ แม้จะสะใจรพีที่โดนซะบ้าง แต่ก็สงสารนพ ส่งนพให้สุริเยนทร์ซะเถอะ คึคึ
ไหนจะองค์ชายน้อยมาสกับทิน โอ้ย คู่นี้มาแว่บๆเด็กน้อยๆแต่ทำเอาจิ้น
มว้ากกกกก เรื่องเด็ดพ่อทั้งสองกับเด็ดปู่ก็ยังมิเคลียร์ เหมือนจะจริงใจแต่ก็ไม่
โอ้ยยย อยากอ่านต่อ อืม ว่าแต่ นลินประไพ นี่คือกิ๊กเก่าของภาสวรมิใช่รือ
ส่วนพระชายาของรพีชื่อโสภาสนิ แต่ตอนหลังๆชายากลายเป็นนลินปนะไพซะงั้น
หรือนลินปนะไพได้ขึ้นเป็นชายาอีกคนของรพี หรือเราพลาดตอนไหนไป :serius2:
ขอบคุณคนแต่งสำหรับนิยายดีๆจ้า ภาษาสวยมาก กลอนเพราะสุดๆ
ไม่ได้ข้ามค่ะ ^^ นลินประไพจะขึ้นเป็นชายารองค่ะ เพราะโสภิตสารินไม่มีบุตรชาย // จะขึ้นเป็นตอนพิเศษหลังรวมเล่มออกค่ะ ^3^
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 17-12-2014 10:33:13
ไม่ได้ข้ามค่ะ ^^ นลินประไพจะขึ้นเป็นชายารองค่ะ เพราะโสภิตสารินไม่มีบุตรชาย // จะขึ้นเป็นตอนพิเศษหลังรวมเล่มออกค่ะ ^3^

ขอบคุณที่ตอบข้อสงสัยนะคะ
ตอนพิเศษในหนังสือหรอคะ
คือขอรบกวนอีก ทีนี้เรากลับไปอ่านอีกรอบ มีข้อสงสัยอีกข้อคือ
ตอนพิเศษที่เป็นตอนแทรก ตอนที่ศศินไปหยุด
ภาสวรไม่ให้เปิดบริสุทธิ์บุษบา คือจบตอนนั้น
เหมือนจะมีคนถามไปแล้วเรื่องศศินทำยังไง
ให้ภาสวรหยุดได้ ทีนี้คนเขียนก็ตอบว่าเพราะ
จดหมายของสุริเยนรท์ และจะมีเนื้อหา
อธิบายขยายความในตอนหลัก แต่เราอ่านจนจบ
ก็ไม่เจอ หรือเราข้ามตอนไหนไปรึเปล่า
แหะๆ ขอรบกวนอีกที ขอบคุณค่ะ
แล้วหนัสือจะมีอีบุ๊คมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: midnight ที่ 17-12-2014 17:24:01
ขอบคุณที่ตอบข้อสงสัยนะคะ
ตอนพิเศษในหนังสือหรอคะ
คือขอรบกวนอีก ทีนี้เรากลับไปอ่านอีกรอบ มีข้อสงสัยอีกข้อคือ
ตอนพิเศษที่เป็นตอนแทรก ตอนที่ศศินไปหยุด
ภาสวรไม่ให้เปิดบริสุทธิ์บุษบา คือจบตอนนั้น
เหมือนจะมีคนถามไปแล้วเรื่องศศินทำยังไง
ให้ภาสวรหยุดได้ ทีนี้คนเขียนก็ตอบว่าเพราะ
จดหมายของสุริเยนรท์ และจะมีเนื้อหา
อธิบายขยายความในตอนหลัก แต่เราอ่านจนจบ
ก็ไม่เจอ หรือเราข้ามตอนไหนไปรึเปล่า
แหะๆ ขอรบกวนอีกที ขอบคุณค่ะ
แล้วหนัสือจะมีอีบุ๊คมั้ยคะ

ไม่ได้อยู่ในหนังสือค่ะ เนื่องจากเป็นตอนของผู้หญิง เลยจะลงให้ในเพจหลังจากที่หนังสือออกค้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 23-12-2014 14:18:44
ไม่ได้อยู่ในหนังสือค่ะ เนื่องจากเป็นตอนของผู้หญิง เลยจะลงให้ในเพจหลังจากที่หนังสือออกค้า

อ่อค่ะ แล้วจะมีอีบุ๊คมั้ยคะ
คือแล้วที่เราถามไปว่าศศินทำยังไงให้ภาสวร
ไม่นอกลู่นอกทางหรือไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นอีก
ที่คนเขียนเคยบอกว่าเป็นเพราะจดหมาย
ของสุริเยนทร์อ่ะค่ะ. เหมือนว่าหลังจากมีศศิน
ภาสวรก็มีคนอื่นมาเรื่อยๆตลอดจนถึงตอนที่
ศศินไปเห็นเองและขัดขวางไม่ให้เปิดบริสุทธิ์บุษบา
แล้วหลังจากนั้นล่ะค่ะ   ภาสวรยอมเลิกพฤติกรรม
แบบนี้ได้ยังไง เรากลับไปอ่านอีกรอบก็ไม่มีบอก
มีแต่ที่คนเขียนบอกไว้แค่ว่าเพราะจดหมายของ
สุริเยนทร์แต่ก็ไม่ได้อธิบายเพิ่มใดๆ
เรายังคาใจมากจนถึงทุกวันนี่555
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-03-2015 20:02:56
สนุกมากค่ะ เนื้อเรื่องพลิกไปพลิกมาจนเราปรับอารมณ์ตามไม่ทันเลย งุ้ยย~ o22 แต่เกลียดรพีกับเสด็จพ่อจังค่ะ ชิ! ไม่ให้อภัยนะคะบอกไว้เลย แง่ง!
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: บูมเบส ที่ 23-03-2015 01:39:47
อ่านรวดเดียวจบกับเรื่องนี้ตอนแรกจะทิ้งไม่อ่านต่อแล้วยิ่งอ่านยิ่งสงสารตัวเอกอ่ะ
เกลียดอีพีกับพ่อพระเอกมากคือมันทั้งคู่เลวมากถ้าไม่มีมีทั้งคู่จะดีมากโดยเฉพาะไอ้พีน่าจะโดนหนักกว่านี้
เลวมากบอกเลย คือได้คนที่ตัวเองชอบแล้วก็ทิ้งขว้างทุกคนเหมือเสื้อผ้าขนาดลูกก็ไม่เอาแล้วยังแย่งลูกเมียคนอื่นหน้าด้าน
ชั่วจริงๆๆๆคนแบบนี้จริงๆควรไม่เหลือใครเลย
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 23-03-2015 19:27:46
ร้องไห้จนปวดหัวเลย :hao5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชินจังไม่กินหัวหอม ที่ 24-03-2015 19:18:30
ขอบคุณมากครับ ภาษาเราว่าดีแล้ว แต่เนื้อเรื่องช่วงกลางๆเรื่องเราว่ามันไม่ค่อยลื่นไหลเท่าไหร แต่เนื้อเรื่องถือว่าสนุกมากแล้วครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-03-2015 22:57:54
เชื่อคำทำนายเลยให้เป็นเมียพี่ชายอีกคน พอท้องแล้ว พี่ชายก็ได้เจอคนรักที่พลัดพราก เลยสัญญากับคนรักว่าจะไม่ยุ่งกับศศินอีก ?


เพื่ออะไร ?



 :เฮ้อ:


ขอบคุณที่แต่งให้อ่านครับ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Niinuii ที่ 18-07-2015 23:21:34
ตัดสินใจเข้ามาอ่านเพราะMPreg 5555
อ่านไปอ่านมา ดีอ่า สนุก ชอบๆ
ขอบคุณนะ :L1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ อึน ที่ 19-07-2015 02:13:42
สนุกมากค่า
ภาษาสวยทำให้อ่านแล้วไม่อยากหยุดอ่าน
เลยอ่านมันรวดเดียวเลย
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีดีมามห้อ่านนะค่าาาา
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 19-07-2015 15:13:08
 :impress2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมโก๋ ที่ 21-07-2015 19:49:10
อ่านจบล้าวว สนุกมาก ภาษาสวย ขอบคุณคนเขียนมากๆจ้า
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tequila ที่ 10-02-2016 14:44:28
อ่านรวดเดียวจนจบเลย :katai2-1: :katai2-1: สนุกมากกก เราตามเธอมาจากตำนานรักสองราชวงศ์(ใช่ป่าวว้าาาา น่าจะใช่แระ 5555)
ขอบคุณที่แต่งนิยายให้อ่านนะค้าาาา ขอให้เรื่ิงทำนองนี้ไปเรื่อยๆเลยน้าาา เราขอบ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 11-05-2016 10:05:03
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Mitnai ที่ 12-05-2016 15:13:57
ชอบจังค่ะ ชอบชื่อศศินคคนานต์ เพราะมาก อยากได้เรื่องต่อของสุริยมาศกับทินสิริด้วยค่ะ5555555
ขอเสนอชื่อทิฆัมพรที่แปลว่าท้องฟ้า กับอังศุธรที่แปลว่าพระอาทิตย์
หวังว่าจะได้เอาไปตั้งชื่อให้ลูกของสุริยมาศกับทินสิรินะคะ555555
ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ ♥
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 28-08-2016 00:59:02
เอิ่ม...แบบว่าอ่านไม่จบอ่ะ
ตอนแรกนึกว่าศศินจะได้คู่รพี แต่ดันโดนยกให้คนน้องสะงั้น
ก็โอเคทำใจอ่านต่อเห็นรักกันแล้วกะคนน้องจนมีลูกด้วยกัน แต่อ่านมาถึงตอนที่ศศินต้องไปมีอะไรกะคนพี่อีกนี่รับไม่ได้
เลยไม่อ่านต่อดีกว่า ทำใจไม่ได้ :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: i_Tipz ที่ 10-09-2016 00:29:08
อ่านกี่รอบก็ชอบบ   :mew1: :mew1:

อ่านไปน้ำตาซึม น้ำตาหลากตลอด
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 17-09-2016 02:40:08
อ่านจบล่ะแบบพูดไม่ออก นิยายเรื่องนี้แสดงด้านเห็นแก่ตัวของทุกตัวละครออกมาได้ดีจริงๆ สงสารศศินอยู่คนเดียว โดนความเห็นแก่ตัวของทุกคนทำร้าย โดยเฉพาะรพีทุเรศมาก ตั้งแต่พระนายได้กันนี่แสดงออกมาแต่ความทุเรศ รักตัวเองเห็นแก่ตัวที่สุด จนบทสุดท้ายนี่ยังไม่เว้น เขามีความสุขกันแล้วยังมาทำลายด้วยการถามว่านี่ลูกตัวเองอีกหรอ แค่เขาเห็นหน้าคุณก็ทุกข์กันพอล่ะ
พล๊อตเรื่องน่าสนใจแต่นักเขียนทำร้ายตัวละครมาก
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 17-09-2016 23:02:45
 :mew1:

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการหักมุมมีอยู่ในนิยายเสมอ ^^'
สงสารศศินแต่ก็ดีใจที่องค์ภาสวรทรงรักใคร่และดูแลตลอด
ไม่คิดว่าองค์รพีจะทรงเห็นแก่ตัวขนาดนี้เลยจริงๆนะคะ คิดผิดมากกก! อุตส่าห์เชียร์ตอนแรก ตอนหลังนี่แทบจะสาปส่ง 55555
ผิดกับองค์หญิง(จำชื่อไม่ได้ คนที่เป็นพี่ของศศิน) ตอนแรกเกลียดนางมาก แต่ตอนหลังรักนาง สนับสนุนนางสุดๆ >3<'
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Aunttk ที่ 18-09-2016 00:21:03
อ่านกี่รอบน้ำตาไหลมันทุกรอบ สงสารน้องงงงง :mew4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: suginosama ที่ 04-10-2017 17:00:55
อ่านแล้วอยากให้มีตอนต่อไปเลยค่ะ
น่ารัก สนุกมากๆเลยค่ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 05-10-2017 04:35:05
ถ้าคิดจะหนีอยู่แล้วก็น่าจะหนีตั้งแต่คืนก่อนจะโดนรพีมันทำล่ะ ลูกยังเล็กไม่ใช่เหตุผลที่ต้องทน ร่างกายไม่แข็งแรงไปอุ้มขึ้นเกวียนนู่นนี่นั่น ที่ไม่ทำเพราะอ่อนแอไงล่ะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 07-02-2018 07:30:49
โฮวววววในที่สุดก็อ่านจบแล้ววว ช็อคหนักมาก หักมุมมาห เสียน้ำตาไปหลายช่วง แต่ก็ดีใจที่ได้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 07-02-2018 08:47:05
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: May.rinz ที่ 25-05-2018 17:38:52
 :hao3:ชอบในความหักมุมของเรื่อง รออ่านรุ่นลูกจะมีมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-05-2018 00:23:53
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 08-06-2018 19:51:42
เรื่องมันดราม่านิดๆ ตรงไหนหว่า ว่าแต่พ่อเจ้าจันทร์นี่คือไม่นักลูกอะไรขนาดนั้น เมียไม่สบายเพราะสนมตัวเองมาโทษลูกที่พึ่งเกิด ???

มันมีบางปมไม่เคลียร์นะ
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: sk_bunggi ที่ 09-06-2018 01:18:40
 o13 o13
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 18-07-2020 10:47:59
เอ้อออสนุกดีอ่ะ ดราม่าพอกรุบกริบ รักๆใคร่ๆไม่เข้าใครออกใครจริงๆ แต่ท้ายสุดทุกคนก็มีวิธีเดินทางใช้ชีวิตและความรักของตัวเอง  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 20-07-2020 02:07:27
อ่านอย่างหน่วงๆ
เป็นเรื่องที่พลิกได้ตลอดเวลาจริงๆ
จบได้เก่ง..555
 :bye2: :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: สุริยายอแสง จันทราคล้อย (mpreg) ปัจฉิมบท (P.25) จบแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tong_pub ที่ 20-07-2020 21:51:10
เอิ่ม...แบบว่าอ่านไม่จบอ่ะ
ตอนแรกนึกว่าศศินจะได้คู่รพี แต่ดันโดนยกให้คนน้องสะงั้น
ก็โอเคทำใจอ่านต่อเห็นรักกันแล้วกะคนน้องจนมีลูกด้วยกัน แต่อ่านมาถึงตอนที่ศศินต้องไปมีอะไรกะคนพี่อีกนี่รับไม่ได้
เลยไม่อ่านต่อดีกว่า ทำใจไม่ได้ :mew5: :mew5:

เราอ่ทนถึงตอนยกให้คนน้องเสร็จปุ๊บรีบมาอ่านเม้นทันที
เจอเม้นนี้คือคงต้องขอบายนิยาย