พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: OumkaCho ที่ 24-01-2014 21:34:43

หัวข้อ: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 24-01-2014 21:34:43
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
######################################################################
เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องสมมติที่นักเขียนจินตนาการเท่านั้น


Part 1



“อ๊ะ...อ๊ะ..อ๊า...อื๊อ”


“อา..อึก..อา” 


สองร่างที่กำลังสอดประสานกายแนบแน่น เร่งเร้าจังหวะให้อุณหภูมิในห้องร้อนฉ่า เสียงครางกระเส่าหวานปนเปไปกับเสียงทุ้มแหบพร่าแสดงถึงความพึงพอใจซึ่งกันและกัน


“อา ภิฌา อย่าตอดเร็วนักสิ”

“ฌา ม่ะ..ไม่ไหวแล้ว อื๊อ อ๊ะ..ตะ ตฤณ ตฤณ อ๊าาา”


“อาา”


ร่างบอบบางขาวนวลกรีดร้องด้วยความสุขสมก่อนอีกคนที่กำลังขยับกายเข้าออกอยู่บนด้านบนจะคำรามกึกก้องแล้วปลดปล่อยสายน้ำสีขาวขุ่นให้ไหลแทรกซึมเข้าไปเต็มช่องทางคับแคบจนล้นทะลักออกมาเปรอะหว่างขาเรียวสวย


“รอให้ฉันออกไปก่อนครึ่งชั่วโมง เธอค่อยตามออกไป”  ร่างสูงพูดบอกกับผมหลังจากที่เขาอาบน้ำแต่งตัวกันเสร็จแล้ว หึ ผมไม่รู้สึกอะไรหรอก มันเป็นแบบนี้มานาน นานจนผมชินเสียแล้ว



ทุกคืนหลังจากนอนด้วยกัน เขามักจะบอกผมแบบนี้เสมอ ครึ่งชั่วโมงของการรอคอย  เวลาที่รู้สึกยาวนาน กับการต้องทนอยู่คนเดียวในห้องที่เพิ่งจะได้กอดกัน กอดกับเขาคนนั้น คนที่ผมเฝ้ารอเขาอยู่ทุกคืน ยิ่งคิดผมก็ยิ่งเจ็บปวด อยากจะยืนอยู่เคียงคู่กับเขาอย่างเปิดเผยแต่คงไม่มีวัน
.
.
.
.
“ผมกลับมาแล้วครับ” ภิฌาพาร่างบอบบางกลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย


“อ้าว ไงลูกชาย กลับมาซะดึกเลยนะ แอบไปเดทกับสาวที่ไหนมาหรือเปล่าลูก” ผู้หญิงในวัยสามสิบกว่า ๆ แต่หน้าตายังสะสวยไม่สร่าง มารดาของภิฌาทักขึ้น


“เปล่าซะหน่อยครับแม่ ฟอดดด คิดถึงแม่จัง”


“หือ อะไรกัน แม่ไปเที่ยวแค่ไม่กี่วันเองทำเป็นเด็กติดแม่ไปได้ คุณตฤณดูลูกเราสิ อ้อนชะมัด คึค  แล้วนี่หิวข้าวมั้ยลูก กินอะไรมารึยัง”


“กินมาแล้วฮะ ผมเพลียจังเลย ขึ้นไปนอนก่อนนะครับ”


แม่กลับมาแล้วสินะ แทนที่จะดีใจแต่ทำไมถึงไม่รู้สึกอะไรเลยล่ะ ที่บอกว่าคิดถึงก็พูดไปงั้นแหละอยากให้แม่ดีใจก็เท่านั้นเอง ที่จริงหลายวันที่แม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนไม่ได้คิดถึงแม่เลยด้วยซ้ำ บางครั้งผมยังคิดเล่น ๆ เลยว่า ถ้าแม่หายไปเลยก็คงจะดี ผม...เป็นลูกที่เลวมากสินะ



‘ก๊อก ๆ ๆ ’


“ครับ ว่าไงครับ”


“แม่เองจ้ะ เอานี่ดื่มซะ แล้วอย่าลืมแปรงฟันก่อนนอนนะลูก” ผมเปิดประตูให้แม่ ก่อนจะรับเอานมอุ่น ๆ มาดื่มก่อนนอน 


‘ก๊อก ๆ ๆ ’



“อะไรครับแม่ ผมดื่มนมหมดแล้วจริ...พ่อ...อ๊ะ!” ด้วยความที่นึกว่าเป็นแม่อยากจะพคุยอะไรด้วยอีกหรือเปล่า ผมจึงเปิดประตูออกกว้างโดยไม่ทันคิดว่านอกจากแม่แล้วยังมีใครอีกคนอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน


ตฤณแทรกตัวเข้ามาในห้องนอนของผม ผมที่เป็นลูกชาย ลูกติดของภรรยา  อย่างถือวิสาสะ คนตัวโตเอามือดันประตูปิดแล้วกดล็อคทันที สายตาคมจ้องมองผมด้วยแววตาดุดัน


อะไรของเขา! ตฤณเป็นอะไร เข้ามาในนี้ทำไม ก็ ก็ที่นี่มันที่บ้านนะ ถ้าแม่รู้เข้าล่ะก็


“คุณพ่อมีอะไรครับ ผมเหนื่อย อยากนอน” ผมพยายามเบี่ยงตัวหลบวงแขนแกร่งที่กักตัวผมอยู่ที่บานประตู  ผมไม่ไหวแล้วจริง ๆ วันนี้มันเหนื่อย เหนื่อยใจกับสภาพชีวิตที่เป็นอยู่เต็มทน


“ไปไหนมาห๊ะ! บอกว่าครึ่งชั่วโมง แล้วนี่มันกี่โมงเข้าไปแล้ว ห๊ะ!”

 ยังไม่ทันที่ผมจะเดินไปถึงเตียง แขนก็ถูกกระชากอย่างแรงปะทะเข้ากับอกแกร่งของคนตรงหน้า ตฤณบีบแขนผมแน่นจนมันขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำ ที่จริงผมก็นอนเล่นอยู่ที่โรงแรมนั่นแหละ ไม่ได้ไปไหนหรอก แค่ยังไม่อยากกลับบ้านเพราะรู้วันนี้แม่จะกลับมา ขามันก็ไม่อยากขยับเอาเสียดื้อ ๆ ใจคอยแต่คิดว่า บ้าน มันไม่ใช่ที่ของผม แต่มันเป็นที่ของแม่ กับสามีของแม่....ตฤณ


“ฉันถาม เธอต้องตอบ”


“ผมอยู่ที่โรงแรมครับคุณพ่อ โรงแรมที่ผมไปนอนอ้าขาฟรี ๆ ให้คุ.. อ๊ะ!” ผมยังพูดไม่ทันจบ ก็รู้สึกหน้าชาแสบร้อนขึ้นมาทันที เมื่อโดนแรงปะทะจากฝ่ามือหนาเข้าที่แก้ม น้ำตาผมไหลพราก มองผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาตัดพ้อ ทำไม ตบผมทำไม เขาเห็นผมเป็นอะไร เป็นหุ่นยนต์ที่มีสิทธิทำตามแต่เขาจะสั่งงั้นเหรอ



“ฉันถามแค่ว่าไปไหน ไม่ได้ให้อธิบาย เฮ้ออ คราวหลังอย่ากลับผิดเวลาอีก อย่าทำให้เป็นห่วงนะ” ตฤณพูดไปพลางยกมือขึ้นลูบไล้ที่แก้มผมข้างที่เพิ่งโดนเขาตบเมื่อครู่เหมือนปลอบโยน


“อย่าขัดคำสั่ง อย่าขัดใจฉัน จำเอาไว้ด้วย” ผู้ใหญ่ตรงหน้าพูดจบก็อุ้มผมไปวางลงบนเตียง ริมฝีปากหนาก้มลงจูบแผ่วเบา อ่อนโยน มือหนาลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผมผ่านเนื้อผ้าบางเบา แค่นี้ แค่เพียงเท่านี้ ผมก็ยอมจำนนต่อคนตรงหน้าแล้ว 



ไม่น่าเชื่อว่าผู้ใหญ่คนที่กำลังกอดก่ายปลุกเร้าผมอยู่นี้ จะอายุเกือบ 40 แล้ว หน้าตาที่ดูอ่อนเยาว์เหมือนหนุ่มวัยฉกรรจ์สามสิบต้น ๆ เท่านั้น รูปร่างสมส่วนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างคนชอบออกกำลังกาย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีผมก็ไม่เคยเอาชนะเขาได้ซักที ไม่เคย ไม่เคยเลย และที่สำคัญ ไม่เคยเอาชนะความรู้ผิดชอบชั่วดีได้เลยซักครั้งนับตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ลิ้มลองรสสัมผัสจากคนบนร่าง



“อ๊ะ..อ๊า” เสียงครางของผมดังเล็ดลอดออกมาจากฝ่ามือที่พยายามปิดกั้นเสียงตัวเองเอาไว้ แต่ตฤณไม่ได้สนใจเลยซักนิด เขาสอดใส่รุนแรง เร่งเร้าเหมือนแกล้งผม มือหนาบีบขยำสะโพกอวบของผมปลุกเร้าจนผมต้องสวนสะโพกเข้าหา จังหวะสอดประสานเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ผมบีบรัดตัวตนของตฤณแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ปลดปล่อยออกมาทั้งคู่ ตฤณครางเสียงดังจนผมต้องรีบประกบปากอีกฝ่ายปิดเสียงคำรามนั้น ร่างสูงคงชอบที่เห็นผมเป็นฝ่ายรุกก่อน จากนั้นก็วนเวียนกลับไปเหมือนเดิม ผมกอดรัดแน่นทุกครั้งที่เขาแทรกตัวลงมา ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนเช้า




3 ปีเต็มที่ผมลักลอบเป็นชู้กับตฤณ ผู้ชายที่เป็นสามีของแม่ เป็นพ่อเลี้ยงของผม หึ ฟังดูน่าขยะแขยงดีมั้ยล่ะ ถ้าแม่รู้แม่คงเสียใจมากผมไม่อยากเห็นแม่เสียใจ แต่ผม...ก็มาไกลจนกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว รู้ตัวอีกทีผมก็ขาดตฤณไม่ได้แล้ว



ตฤณรักผมหรือเปล่า ผมไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ เขาขาดร่างกายของคนอกตัญญูคนนี้ไม่ได้ เขาต้องการผม ผมรู้ และผมก็สนองให้เขาอย่างถึงที่สุด เด็กอายุ 18 อย่างผมไม่หลงเหลือความไร้เดียงสาอีกต่อไป ความเป็นเด็กของผมมันเริ่มลดน้อยถอยลงนับแต่วันที่แม่จูงมือผมเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เมื่อ 4 ปีก่อน




TBC.

ที่เคยเขียนเอาไว้เป็นแฟนฟิคค่ะ อันนี้ปรับให้เป็น Y ไทย ค่ะ หวังว่าจะชื่นชอบกันนะคะ^^

ขอบคุณคุณ iamnan นะคะ แก้ชื่อพระเอกเเล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.1
เริ่มหัวข้อโดย: เสน่ห์นางนวล ที่ 24-01-2014 21:38:43
บริจาคเลือดเรียบร้อยแล้วค่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 24-01-2014 21:52:45
ยังมีหลุดชื่อตฤณเป็นซีวอนอยู่เลยนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.1
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 24-01-2014 22:17:58
ยังเปลี่ยนชื่อไม่หมดเลย ซีวอนเต็มเลย สู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.2
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 25-01-2014 19:51:24
Part 2


4 ปีก่อน ครั้งแรกที่ผมได้พมกับเขา พ่อเลี้ยงของผม ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่เขามีต่อผมอย่างพ่อกับลูกชายทั่วไป ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กอายุ 14 ที่เติบโตมาด้วยความรักของแม่ แม่ที่เป็นทั้งพ่อและแม่ให้กับผม แม่ที่ให้ความรักกับผมอย่างสุดหัวใจ


แม่ท้องผมตั้งแต่อายุ 15 .....ท้อง ไม่มีพ่อ  แต่แม่ก็บอกกับผมเสมอว่า แม่ไม่ได้เสียใจที่มีผม เพราะผมคือของขวัญที่เกิดจากความรักของแม่ ถึงแม้ว่าเจ้าของชีวิตอีกครึ่งในตัวผมเขาจะไม่ต้องการก็ตาม


ผมไม่คิดที่จะหาคำตอบว่าพ่อคือใครเพราะทุกครั้งที่ผมเผลอพูดอะไรที่เกี่ยวกับพ่อ แววตาของแม่จะหม่นหมองลง ผมไม่อยากเห็นแม่ทุกข์ใจ แม้ผมจะอยากรู้เต็มทีว่าทำไมพ่อถึงทิ้งผมไป จริงอยู่ที่แม่ให้ความรักกับผมจนหมดตัวหมดใจ แต่ผมเองกลับรู้สึกว่าเท่าไรมันก็ไม่พอเสียที


แม่หนีออกจากบ้านตั้งแต่รู้ตัวว่ามีผมอยู่ในท้อง ไม่ใช่เพราะว่ามีปัญหากับที่บ้านแต่เพราะแม่ละอายใจที่ทำให้ตากับยายผิดหวัง แม่ไม่อยากให้ใครนินทาว่าร้ายตากับยาย แม่จึงตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่คนเดียวนับตั้งแต่นั้น


เด็กสาวอายุ 15 ปีที่กำลังอุ้มท้องอีกชีวิต เรียนยังไม่ทันจบชั้นมัธยม ก็ต้องอดทนทำงานทุกอย่างเท่าที่ใครเขาจะเมตตาให้ทำ โชคดีที่แม่ไปเจอกับซ้อเหลย เจ้าของคลับที่แม่กับผมทำงานตอบแทนแลกกับห้องนอนเล็ก ๆ บนชั้น 3 ของร้านเป็นที่อยู่อาศัย


ถึงจะไม่มีพ่อ แต่ผมก็เติบโตมาอย่างดีด้วยความรักความเอาใจใส่จากแม่ แม่ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในคลับ เสิร์ฟทั้งอาหารและเหล้า ที่จริงแม่ไม่ชอบชงเหล้าให้ลูกค้าเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะค่าทิปจากผู้ชายที่มาหาความสุขเอากำไรชีวิต จากผู้หญิงของคลับ และนั่นทำให้แม่ยอมนั่งเบียดตัวเข้าหา ยอมให้ผู้ชายพวกนั้นแตะเนื้อต้องตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็เพื่อผม


แม่บอกกับผมเสมอว่าให้ผมตั้งใจเรียน มีหน้าที่เรียนก็เรียนอย่างเดียว เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ เรื่องเงินเป็นหน้าที่ของแม่ แม่ทำคนเดียวได้ แต่ผมก็รั้นที่จะช่วยอยู่ดี ทุกวันหลังเลิกเรียนผมจะรีบมาหาแม่ที่คลับ กอดแม่ให้ชื่นใจ เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้ฟังก่อนที่จะเข้าครัวไปช่วยลุงไม้พ่อครัวของคลับ ถ้าวันไหนมีการประมูล ลูกค้าจะเยอะกว่าปกติผมก็จะออกมาช่วยเสิร์ฟอาหาร แต่ก็จะโดนแม่ดุทุกที แม่ไม่ชอบให้ผมออกมานอกครัว แม่บอกว่าลูกค้าทุกคนที่มาเที่ยวที่คลับไม่มีคนดี ๆ นักหรอก


เราสองแม่ลูก ใช้ชีวิตหาเข้ากินค่ำอย่างที่คนภายนอกเห็นคงอดรู้สึกสงสารเวทนาไม่ได้ แต่เราก็มีความสุขกันดี แม่ไม่เคยคิดจะหาพ่อคนใหม่ให้กับผม ...จวบจนกระทั่งวันหนึ่งที่เขาคนนั้น พ่อเลี้ยงของผม.... ตฤณ  เข้ามาใช้บริการที่คลับในวันที่มีการประมูล ผมจำเขาได้แม่นยำ ผมยกอาหารไปเสิร์ฟโต๊ะที่เขานั่งอยู่ ในขณะที่บนฟลอร์กลางร้านกำลังจัดการประมูลเพื่อนหนึ่งคืน แม่บอกกับผมแบบนั้น  ว่าพี่ ๆ ที่ติดเบอร์ให้ลูกค้ามาประมูลจะพาลูกค้าออกไปเที่ยวตามประสาหนุ่มสาวได้ 1 คืนเต็ม ๆ


แต่เขากลับไม่สนใจพี่ ๆ สาวสวยบนฟลอร์นั่นเลยซักคน เขาดื่มเหล้าไปเงียบ ๆ หันไปคุยกับเพื่อนบ้างบางครั้ง แต่ที่ทำให้ผมไม่อาจละสายตาไปจากเขาได้ คือรอยยิ้มที่เขาส่งมาให้ผม แลดูอ่อนโยนราวกับสิ่งที่ผมโหยหามานาน มือหนายกขึ้นลูบหัวผมแผ่วเบา แล้วเอ่ยกระซิบข้างหูผมว่า


“นายเป็นเด็กดีนะ”


ผมยิ้มตอบรับกับคำชมเชยนั้น คำพูดของแม่ผุดเข้ามาในหัว ‘ที่คลับไม่มีคนดี ๆ เข้ามาเป็นลุกค้าหรอก’ บางทีแม่อาจจะคิดผิดก็ได้ ก็คน ๆ นี้ไง คนดี ๆ อย่างน้อยก็มีแล้ว 1 คน




นับจากวันนั้น ผมก็เฝ้ารอ รอที่จะเจอเขาอีก แค่อีกครั้งก็พอ วันไหนที่ต้องอยู่แต่ในครัว ผมก็มักจะชะเง้อมองหาร่างสูงอยู่ร่ำไป แต่ก็ต้องผิดหวังทุกที แม่เห็นท่าทางหงอย ๆ ของผม ก็เอาแต่ถามผมด้วยความเป็นห่วงเป็นใย แต่ผมไม่รู้จะตอบแม่ยังไงดี ก็ผมกลัวจะโดนแม่ดุนี่นา


จน 2 สัปดาห์ต่อมา เวียนมาถึงวันที่มีการประมูลอีกครั้ง ผมอยากจะเข้าไปกอดซ้อเหลยที่ยอมขอร้องแม่ให้ผมออกมาเสิร์ฟอาหารได้ เพราะมันทำให้ผมได้พบกับเขาอีกครั้งหนึ่ง ผมยกอาหารไปเสิร์ฟโต๊ะของเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยทั้งที่ภายในหัวใจไม่ถูกจังหวะ เมื่อผมจะหมุนตัวกลับ ตฤณกลับรั้งแขนของผมเอาไว้ ยื่นพวงกุญแจที่มีตุ๊กตาลูกแมวตัวจ้อยห้อยอยู่ให้กับผม



“ฉันให้เธอ” พูดจบเขาก็ส่งยิ้มให้กับผม ผมที่ได้แต่ยืนงงกับของที่อยู่ในมือ จนแม่เรียก  ผมถึงได้สติแล้ววิ่งไปหาแม่ แน่นอนว่าผมต้องโดนดุอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันรุนแรงกว่าเดิมตรงที่ว่าผมไปรับของจากลูกค้ามา และนั่นทำให้แม่ไม่ชอบใจ แม่ทำท่าจะทิ้งลงถังขยะ แต่ผมก็หยุดแม่ไว้ได้ด้วยน้ำตาที่ไหลพราก คุกเข่าขอร้องแม่ว่าอย่าทิ้งมันเลย  แม่ถอนหายใจหนัก ๆ ยัดมันกลับใส่มือผม แม่ลูบหัวผมเป็นเชิงปลอบเบา ๆ แล้วเดินไปชงเหล้าให้ลูกค้าต่อ


และคืนนั้นก็เป็นคืนสุดท้ายที่ผมได้เจอเขาในคลับ เพราะเช้าวันรุ่งขึ้นชีวิตของผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป  ห้องเล็ก ๆ ของคลับที่ผมกับแม่เคยใช้เป็นที่ซุกหัวนอน คลับที่เคยเป็นที่ทำงานของแม่ ซ้อเหลยเจ้าของคลับที่แอบให้เงินค่าจ้างผมเสมอ ลุงไม้พ่อครัวที่เอ็นดูผมเหมือนลูก  เพียงแค่ข้ามคืน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมเคยสัมผัสกลายเป็นเพียงความหลัง



รุ่งขึ้นอยู่ ๆ ก็มีรถลีมูซีนสีดำมาจอดอยู่หน้าคลับ พาผมกับแม่ไปส่งที่ ที่ผมไม่เคยนึกฝันว่าจะได้ย่างกรายเข้ามา แม่จูงมือผมเข้าไปที่คฤหาส์นหลังใหญ่ พาผมเดินเข้าไปหาผู้ชายรูปร่างคุ้นตาที่นั่งรอผมกับแม่อยู่ก่อนแล้ว แม่บอกกับผมว่า ผู้ชายคนนี้คือพ่อใหม่ของผม ผู้ชายคนที่เพิ่งให้ของขวัญกับผมเมื่อคืน ผู้ชายคนที่อ่อนโยนกับผมเสมอแม้เราเคยรู้จักกัน ผู้ชายคนที่กำลังจะเป็นสามีของแม่ ผู้ชายที่ชื่อว่า. . . ตฤณ  รัตนากร


TBC.
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.2
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 26-01-2014 12:29:05
อ่านตอนช่วงแรกที่คิดกับแม่ว่า ถ้าแม่ไม่อยู่ก็ดีนี่แรงนะ ถึงจะคิดเล่นๆ ก็เถอะ  แถมมีกัน 2 คนแม่ลูก ลำบากด้วยกันตั้งแต่เด็ก ความรักที่มีให้กับแม่น่าจะมากกว่าให้กับพ่อเลี้ยงนี่นะ แต่ว่านั่นเป็นความคิดของปัจจุบัน กับ อดีตเมื่อ 4 ปีก่อนนะ  แต่ก็ชอบค่ะ แนวนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.2
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 26-01-2014 14:27:46
สะอึกอ่ะ
แอบสงสารแม่  :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.2
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 26-01-2014 19:21:56
มันหน่วงจิต
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.3
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 26-01-2014 22:36:19
Part 3



“ภิฌา กลับดึกอีกแล้วนะลูก” ทันทีที่กลับมาถึงบ้าน แม่ที่ยืนรอผมอยู่แล้วก็ทักขึ้น


“ฟอดด ตอนแรกว่าจะไม่กลับ แต่คิดถึงแม่ ต้องรีบกลับมาหอมแก้มนิ่ม ๆ นี่ก่อนนอน คิคิ”


“หืออ ตัวหอมเชียว ลูกชายแม่ไปอาบน้ำบ้านสาวที่ไหนหรือเปล่าน๊า”


“โธ่ บ้านไอ่พจน์เหมือนเดิมละครับ แม่ก็รู้” ใช่ แม่รู้มาตลอดว่าผมชอบไปทำการบ้านอยู่ดึก ๆ ที่บ้านสุพจน์ เพื่อนสนิท สนิทขนาดที่ว่ารู้ทั้งรู้ว่าผมไปนอนค้างกับคนอื่นแต่มันก็ยังไม่ปริปากบอกใคร ไม่ใช่ว่ามันจะเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่ผมทำ แต่ชีวิตใครชีวิตมันต้องเลือกเอง พจน์ พูดเตือนสติผมแบบนี้เสมอ และผมก็เลือกแล้ว  ผมไม่เคยบอกใคร แม้แต่กับพจน์ ว่าคนที่ผมไปหา ยอมให้เขาเล่นสนุกกับร่างกายผมคือใคร  ไม่อยากให้เพื่อนเป็นห่วงจนบ้า และไม่อยากเสียเพื่อนหากมันรู้ว่า ภิฌา ที่แสนดีของมัน เลวได้มากแค่ไหน


“จ้า ๆ แหมก็แค่แซวเล่นเองคุณลูกชายสุดที่รัก แม่ไปนอนก่อนนะ”

“ครับ ฝันดีนะครับ รักแม่มากที่สุดเหมือนกัน”

“ปากหวาน เออนี่ภิฌา พ่อเขาอยู่ในห้องทำงานแหนะ เห็นว่าจะคุยอะไรด้วย เข้าไปอ้อนพ่อมั่งนะ เดี๋ยวนี้นะอ้อนแต่แม่ พ่อเขาน้อยใจล่ะแย่เลย ทีแต่ก่อนติดกันอย่างกะฝาแฝด คึคึ แม่ไปนะจ้ะ”
.
.
.
สองขาพาผมที่จิตใจว่างเปล่าเหมือนคนไม่มีสติ มาหยุดยืนอยู่หน้าบานประตูไม้โอ๊คหนาอย่างดี ห้องทำงานของพ่อ  พ่อเลี้ยงที่เพิ่งกอดผมด้วยความใคร่อย่างลึกซึ้งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ หึ ให้ผมอ้อนเขาน่ะเหรอ แม่คงไม่รู้หรอก ว่าผมน่ะ... อ้อนเขาอยู่ทุกคืน


แต่ถ้าแม่จะยื่นโอกาสให้ขนาดนี้แล้วล่ะก็ ผมไม่รับไว้คงน่าเสียดายแย่ ก็ห้องทำงานของพ่อน่ะมันที่เก็บเสียงชั้นดีนี่นา  จะว่าไปผมก็ไม่ได้เข้าไปในห้องนี้นานแล้ว นับตั้งแต่วันนั้น วันที่พ่อทำให้ผมเรียกเรียกร้อง โหยหา ครางเรียกเขาว่า . . .ตฤณ
.
.
.

“ภิฌาเด็กดี มานี่ซิ” หนุ่มวัยใหญ่วัยฉกรรจ์กวักมือเรียกบุตรชายของภรรยา ซึ่งจดทะเบียนรับเป็นบุตรบุญธรรมของตนเองเรียบร้อยแล้ว


“ภิฌา ไปหาคุณพ่อสิลูก” ร่างโปร่งของคุณแม่ยังสาวบอกกับลูกชายตัวน้อยที่ยังมีท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ ไม่กล้าเข้าไปทำความคุ้นเคยกับอีกคน


“คุณพ่อ? หรือครับ” ภิฌายังคงไม่กล้าเดินเข้าไปหาตฤณ ในหัวอัดแน่นไปด้วยความสับสน เมื่อวานผู้ชายคนนี้ยังเป็นเพียงลูกค้าที่คลับ แม่เองก็ออกจะไม่ชอบด้วยซ้ำ และทำไมอยู่ ๆ วันนี้ร่างสูงตรงหน้าจึงกลายมาเป็นคุณพ่อของเขาได้ล่ะเนี่ย


“จ้ะ คุณพ่อ ต่อไปนี้คุณตฤณคือพ่อของลูก”


“โอ๊ยยย”


“หยิกตัวเองทำไมน่ะเรา ไหนแม่ดูซิ แก้มแดงหมดแล้ว โธ่ลูก”  ณดาลูบแก้มใสที่เป็นรอยแดงเบา ๆ คนเป็นแม่ตกใจที่อยู่ ๆ ลูกชายสุดที่รักของเธอก็หยิกแก้มตัวเองเข้าอย่างจัง


“ไหนมาให้พ่อดูซิ” ตฤณเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าหาเด็กชายตัวบอบบางแล้วอุ้มให้มานั่งตักตนเอง


ตอนแรกภิฌาก็ไม่ยอมท่าเดียวดิ้นไปมาอยู่บนตักแกร่งจะหาทางลงให้ได้ ก็มันน่าอายไม่ใช่เหรอ อายุตั้ง 14 เข้าไปแล้วให้มานั่งตักคนอื่น ถึงจะเป็นคนที่รู้สึกดี ๆ ด้วยก็เหอะ


แต่สุดท้ายร่างเล็กก็ต้องยอมจำนนต่อความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้าไปถึงหัวใจ  ตฤณโอบกอดคนเด็กชาย โยกตัวไปมาคล้ายกับไกวเปลให้ จนภิฌาเริ่มเคลิ้มละเมอเรียกอีกคนว่าคุณพ่อ ๆ จนเผลอหลับไปในที่สุด
.
.
.
.
“คุณพ่ออออ   ฌาไปด้วย” คนตัวขาววิ่งออกมาหน้าประตูบ้านลากเสียงยาวเรียกคนตรงหน้า แม้จะเป็นหนุ่มเต็มตัวตามบัตรประชาชนในวัย 15 ปี แต่ ภิฌาก็ยังทำตัวเป็นลูกชายตัวน้อยขี้อ้อนที่น่ารักของพ่อและแม่เสมอ


“พ่อไปทำงาน ฌาอยู่กับแม่นะครับ ห้ามดื้อ” ตฤณตอบกลับลูกชายที่เขาเฝ้าทะนุถนอมมาแรมปีด้วยความเอ็นดู

“วันนี้วันหยุดนะ คุณพ่อไปทำงานทำไม ฌายังหยุดเรียนเลย”

“หึหึ พ่อไปแป๊บเดียว เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว ถ้าทำตัวดีตอนเย็นกลับมาจะมีของขวัญมาให้ ตกลงไหม”

“ตกลง ๆ ฌาจะรอนะครับ จุ๊บ” พอคนตรงหน้าพูดถึงของขวัญ ภิฌาก็รีบตกลงทันที ก่อนที่ตฤณจะเดินขึ้นรถ ลูกชายที่น่ารักก็ขอบคุณล่วงหน้าด้วยการจุ๊บริมฝีปากเบา ๆ


“ไงคุณลูกชาย ไปอ้อนอะไรคุณพ่ออีกคะ ห๊ะ”

“ผมเปล่าซะหน่อย แม่ก็ คุณพ่อบอกว่าไปทำงาน แต่ผมอยากไปด้วย คุณพ่อไม่ให้ไปเลยจะซื้อของขวัญมาให้แทนครับ คิคิ”

“ตายจริง คุณกิจ   คุณตฤณไปฮ่องกงไม่ใช่หรือคะวันนี้” ณดาถามพ่อบ้านที่เปรียบ    เสมือนผู้ใหญ่ที่ตฤณรักและเคารพ


“ครับ ท่านไปคุยธุรกิจกับทางนู้น เห็นว่ายังตกลงกันไม่ได้ คุณหนูโดนคุณพ่อหลอกแล้วล่ะครับ เร็วที่สุดก็น่าจะเมืองไทยพรุ่งนี้นะครับ”พ่อบ้านสูงวัยตอบกลับคุณผู้หญิงของบ้าน แต่ไม่ลืมหยอกคุณหนูตัวน้อยด้วยความเอ็นดู


“คุณตานิสัยไม่ดี คุณตาโกหกอ่ะ ผมไม่เชื่อหรอก คุณพ่อไม่เคยหลอกผม เดี๋ยวคุณพ่อก็ต้องกลับมา คุณพ่อบอกแป๊บเดียวก็แป๊บเดียวสิครับ” ภิฌามองค้อนชายแก่อย่างงอน คนเป็นแม่ได้แต่ส่ายหัวกับท่าทีที่ติดตฤณจนเกิดเหตุ

 นึกย้อนกลับไปณดาไม่เคยคิดเลยว่าเขากับลูกจะมีวันนี้ได้ นับแต่วันที่ตฤณหยิบยื่นโอกาสให้กับหล่อน

.
.
.
“ภิฌาไปไหน” ณดาถามหาลูกชายเมื่อเลยเวลารับประทานอาหารค่ำมาสักครู่แล้ว

“คุณหนูไปนั่งรอคุณท่านอยู่หน้าบ้านค่ะ คุณผู้หญิง”

“ช่วยไปตามภิฌาให้ฉันทีนะ”

“ครับแม่” คนตัวขาวที่มีรอยแดงตามตัวเพราะไปนั่งตากยุงรออีกคนกลับมาบ้าน เดินเข้ามาในห้องอาหารด้วยท่าทางเซื่องซึม สายตาเลื่อนลอยไม่อยากอาหารเอาเสียเลย อยากจะรอกินพร้อมคุณพ่อมากกว่า

“ภิฌา ฟังแม่นะ ถ้าคุณพ่อมาช้านั่นเพราะคุณพ่อมีหน้าที่ต้องทำงาน คุณพ่อไม่ตั้งใจที่จะโกหกหรือทำร้ายจิตใจลูกหรอกนะ แต่ถ้าลูกไม่กินข้าวแล้วคุณพ่อรู้เข้า    คุณพ่อจะไม่สบายใจนะ”

“แต่ผมไม่หิว” ลูกชายตัวบางโกหกเสียงเบาหวิว ทั้งที่หิวจะแย่ แต่อยากรอผู้ใหญ่อีกคนกลับมากินพร้อมกันมากกว่า

“เฮ้ออ ตามใจ หิวเมื่อไหร่ก็ลงมาละกัน แม่จะเก็บไว้ให้นะ อ้อ แล้วคืนนี้คุณพ่อคงไม่กลับ ภิฌามานอนกับแม่ไหมลูก”

“ไม่ล่ะครับ ผมขอนอนห้องเดิม เดี๋ยวคุณพ่อกลับมาแล้วไม่เจอผม คุณพ่อจะเหงา ผมขึ้นไปก่อนนะครับ”
 
ณดามองตามหลังลูกชายไป ลึก ๆ ก็โหยหาอยากจะนอนกอดเจ้าเด็กตัวขาวเหมือนเมื่อก่อนที่ยังอยู่กันสองคนแม่ลูกบ้าง ถึงแม้จะดีใจที่ภิฌาเข้ากับสามีใหม่ของหล่อนได้เป็นอย่างดี


แต่บางครั้งณดาก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ภิฌาติดตฤณเหลือเกิน ไปไหนต่อไหนกับ       ตฤณมากกว่าอยู่กับหล่อนที่เป็นแม่แท้ ๆ เสียอีก ณดาคิดมากถึงขั้นนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อน ๆ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเหมือน ๆ กันคือ ภิฌาไม่เคยมีพ่อมาก่อนเป็นธรรมดาที่เด็กอยากใช้ชีวิตกับอีกฝ่ายมากกว่าแม่


ถึงจะแปลกใจอยู่บ้างที่ตฤณพยายามใกล้ชิดและสนิทสนมกับภิฌาเป็นพิเศษ แต่อาจเป็นเพราะลูกชายของหล่อนเป็นเด็กน่ารัก หัวอ่อน เชื่อฟังผู้ใหญ่ และเมื่อภิฌายอมรับตฤณเป็นพ่อจริง ๆ เจ้าตัวเล็กก็ยิ่งขี้อ้อนให้คุณพ่อคนใหม่ต้องยอมตามใจเสียไปทุกอย่าง  จนคนเป็นแม่บังเกิดเกล้าเองก็อดจะอิจฉาสองพ่อลูกคู่นี้ไม่ได้


ภิฌานอนห้องนอนใหญ่ห้องเดียวกับตฤณ เดิมทีภิฌามีห้องนอนเป็นของตัวเอง แต่เพราะเจ้าตัวชอบอ้อนให้คุณพ่อคนใหม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังเสมอและก็เผลอหลับไปทุกที เจ้าของบ้านจึงสั่งให้ย้ายข้าวของของภิฌาเข้าไปอยู่ด้วยกันเสียเลย
ส่วนตัวณดาเองนอนแยกห้องกับคุณตฤณอยู่แล้ว ตฤณไม่เคยล่วงเกินเธอเลยดังคำสัญญาที่เคยให้วันตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขาว่าขอเพียงดูแลหล่อนและลูกเท่านั้น


ณดายอมรับกับตัวเองเลยว่า เพราะความดีที่ตฤณมีต่อหล่อนกับลูกทำให้ผู้ชายคนนี้เอาชนะใจของหล่อนได้ ตอนแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่ หล่อนคิดเพียงอย่างเดียวว่าเพื่อลูก ณดาอยากให้ภิฌาสบายและอยู่ในสังคมที่ดีกว่า  เมื่อตฤณเข้ามาเสนอว่าจะดูแลหล่อนกับลูกดั่งสมาชิกในครอบครัว    ณดาจึงไม่ลังเลเลยที่จะตกลง ลองเสี่ยงดู
.
.
.
“อื้ออ” ลูกแมวตัวขาวขยับตัวยุกยิกทันทีที่รู้สึกว่ามีใครบางคนมารบกวนการนอน รู้สึกเหมือนโดนอุ้มออกจากเตียงนอน เปลือกตาหนัก ๆพยายามลืมขึ้นมาเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น


“เหวอออ คุณพ่อ!” เมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นตัวเองอยู่เหนือพื้น แขนบางรีบคว้าหลักยึดใกล้มือ  กอดคอของร่างสูงแน่น อาการตกใจระคนไปกับความดีใจเมื่อเห็นว่าคนที่อุ้มเขาลงไปชั้นล่างเป็นใคร


“คุณกิจบอกว่า วันนี้มีเด็กดื้อไม่ยอมกินข้าว” ตฤณพูดลอย ๆ ไม่เฉพาะเจาะจงว่ากำลังดุใครอยู่ แต่คนในอ้อมกอดก็รู้ตัวอยู่ดี ลูกแมวตัวขาวเกร็งตัว เถียงขึ้นมาทันที


“คุณตาขี้ฟ้อง ชิ” เสียงหวานพูดบ่นเบา ๆ แต่อีกคนก็ยังได้ยินชัดเจนอยู่ดีในเวลาที่ดึกสงัดเช่นนี้


“อยากเป็นโรคกระเพาะหรือไงห๊ะ เด็กไม่ดี เอ้า ดื่มนมซะ” ตฤณวางภิฌาลงบนเคาท์เตอร์ในครัวเล็กที่อยู่ในตึกใหญ่ มีไว้สำหรับทำอุ่นอาหารหรือชงเครื่องดื่มง่าย ๆ พร้อมกับรินนมใส่แก้วใบใหญ่ให้ลูกชายจอมดื้อดื่ม


ถึงจะนอนหลับไปแล้ว  แต่เมื่อเห็นของกินอยู่ตรงหน้ากระเพาะว่าง ๆ ของร่างบางก็ไม่อาจปฏิเสธความหิวได้ มือบางยกขึ้นดื่มรวดเดียวด้วยความหิวจนเลอะย้อยลงมาตามมุมปาก แต่ภิฌาไม่สนใจจะเช็ดออก ลิ้นเล็กเลียแผล่บ ๆ ตามประสาเด็กไม่โตตามวัย


สายตาปรือหวาน ๆ ที่ยังไม่ตื่นเต็มที่มองตฤณด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มก่อนที่แขนเรียวจะโอบรอบคอของผู้เป็นพ่อแล้วจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากหยัก

“เด็กไม่ดี”

“ก็ฌารอกินพร้อมคุณพ่อนี่นา”

“ดื้อ”

“แล้วไหนล่ะของขวัญ” ภิฌาถามพร้อมกับชูมือให้อีกคนอุ้มขึ้นห้องนอนทั้งที่อายุก็ไม่เด็กแล้ว

“ของขวัญก็คือพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว”

“โหย ไม่เห็นอยากไปเลย อยากอยู่บ้านกับคุณพ่อมากกว่า”

“วังน้ำเขียวเลยนะ ดอกไม้สวย ๆ ทั้งนั้นเลยไปไหม ไปกันสองคน”

“ไป ๆ แล้วแม่ล่ะครับ”

“แม่เค้าไม่ว่างหรอก ฌาไม่อยากไปกับพ่อเหรอ”  ทุกครั้งที่คนตัวโตพาลูกชายไปเที่ยวก็จะไปกันแค่สองคนเสมอ เพราะในสายตาของตฤณมีเพียงภิฌาเท่านั้น    ภิฌาผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา

“ไม่ใช่นะ! ฌาอยากอยู่กับคุณพ่อที่สุดเลย”


ตฤณมองลูกชายจำเป็นที่กอดคอเขาแน่นอย่างกับลูกลิงแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เด็กผู้ชายหน้าหวานที่เจอกันครั้งแรก เขาก็รู้สึกอยากจะดูแลไม่ให้ลูกแมวตัวน้อยที่แสนบริสุทธิ์ต้องแปดเปื้อน 



TBC.

มันเป็นนิยายสีเทาอ่ะเนาะ ให้กำลังใจภิฌากันด้วยนะคะ ^^ ชื่อนายเอกนี่คิดอยู่นานมาก ชอบกันไหมคะ พยายามมากที่จะหาชื่อที่ไม่เป็นผู้หญิงเกินไป และไม่เป็นผู้ชายเข้มเกินไป ลงที่ชื่อนี้ :)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.3
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 26-01-2014 23:06:01
ยังดีที่ไม่ได้สามีคนเดียวกับแม่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.3
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 27-01-2014 00:04:41
โล่งไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 29-01-2014 18:09:46
Part 4

“คุณตา คุณพ่อล่ะ” เสียงตึงตังวิ่งลงมาจากรถยนต์ พลางมองหาคนตัวโต

“คุณท่านยังไม่กลับจากงานเลี้ยงเลยครับคุณหนู”

“แล้วแม่ล่ะครับ”

“คุณผู้หญิงก็ไปกับคุณท่านนั่นแหละครับ”

“โหยย อุตส่าห์รีบกลับมาบ้าน สอบเสร็จก็ให้พี่ชาญวิทย์ไปรับกลับมาเลยนะเนี่ย เซ็ง” นักเรียนภิฌาเดินเบื่อ ๆ ขึ้นไปนอนเล่นบนห้องนอน วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการใช้ชีวิตม.ต้น คนตัวเล็กดีใจที่จะได้ปิดเทอมใหญ่เสียที และที่รีบตรงดิ่งกลับมาบ้านก็เพื่อจะอ้อนขออนุญาตจากคุณพ่อไปเที่ยวปิดเทอมกับบ้านไอ่พจน์เสียหน่อย รายนั้นชวนไปเที่ยวบ้านคุณปู่ที่ต่างจังหวัดด้วยกัน

หลังจากทานอาหารค่ำโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวเสร็จแล้ว  ร่างบางก็นั่งดูทีวีไปเรื่อยเปื่อยอย่างเซ็ง ๆ ไม่มีอะไรทำ สายตาก็คอยชะเง้อมองไปหน้าประตูบ้านรอใครบางคนกลับมา รอไปรอมาความง่วงงุนก็เข้าครอบงำ แม่บ้านสาวเห็นคุณหนูตัวขาวสัปหงกแล้วสัปหงกอีกก็ทนไม่ไหว จึงปลุกให้ขึ้นไปนอนในห้อง  ขาเรียวเดินโซเซเข้าไปในห้องนอน พอหัวถึงหมอนปั๊บก็หลับสนิทลงไปทันที
.
.
.
‘เพล้ง!!!’

“เฮือก สะเสียงอะไรกัน ...อ๊ะรถ คุณพ่อกลับมาแล้วนี่นา” ร่างบางที่หลับไปนานแล้วสะดุ้งตกใจตื่นเพราะได้ยินเหมือนเสียงแก้วแตกมาจากชั้นล่าง เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างก็เห็นรถคันใหญ่ที่ตฤณใช้ประจำจอดอยู่

“อ้าว แม่ไปไหน รถก็กลับมาแล้วนี่นา ไม่ได้กลับมาด้วยกันเหรอ”     ภิฌาค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปหาแม่ที่นอนอยู่อีกห้อง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า

‘โธ่ว้อย!’

คนตัวขาวรีบวิ่งลงไปชั้นล่างทันทีที่ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยโหวกเหวกโวยวาย ยิ่งไม่เห็นผู้เป็นแม่นอนอยู่ในห้องเหมือนทุกวัน ร่างบางก็พาลคิดไปว่าหรือพ่อกับแม่กำลังทะเลาะกัน

ภิฌามาหยุดยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของตฤณ พื้นที่หวงห้ามที่ภิฌาไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าไป โดยตฤณให้เหตุผลว่าเป็นสถานที่สำหรับทำงานไม่ใช่สนามเด็กเล่น

เสียงเข้มตะโกนลั่นห้อง ทำให้ขาเรียวชะงักไม่กล้าเคาะประตูเข้าไปข้างใน แต่อีกใจก็กลัวว่าคุณพ่อจะโมโหถึงขั้นทำร้ายแม่หรือเปล่า ถึงภิฌาจะยังเป็นเด็กวัยรุ่นอยู่แต่เรื่องพวกนี้เจ้าตัวเคยพบเห็นมาจนชินตาสำหรับคนที่เติบโตมาในคลับ ภายนอกอาจมองว่าคนตัวเล็กไร้เดียงสาไม่เข้าใจโลก แต่ลึก ๆ แล้วภิฌาเข้าใจจนอยากจะลืมให้หายไปจากสมอง

‘ก๊อก ๆ ๆ ’ ในที่สุดมือบางก็ตัดสินเคาะประตูไปสองสามที แล้วหยุดรอฟังปฏิกิริยาจากคนในห้อง

“ใคร! บอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามรบกวน!” เสียงเข้มตะคอกกลับมาออกมา

“คุณพ่อ ฌาเองครับ คุณพ่อเป็นอะไร คุณแม่ล่ะ...”  คนตัวเล็กตอบกลับคนในห้องยังไม่ทันจบประโยคดี บานประตูก็เปิดผลั่วะออกมา มือหนาฉุดแขนเรียวขาวเข้าไปในห้อง

“ฌา...ภิฌาของพ่อ ใครหน้าไหนก็แย่งลูกไปจากพ่อไม่ได้ ฌา ฌา..ฮึก...ฮึก” ท่อนแขนหนากอดรัดร่างบอบบางไว้แน่น  ไหล่แกร่งสั่นไหวน้อย ๆ

“คุณพ่อ ฌาอยู่นี่แล้ว ฌาอยู่กับคุณพ่อ ไม่ไปไหนหรอกครับ ใจเย็นๆนะครับ ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่เป็นไร” ถึงจะยังสับสนว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ คนตัวโตถึงสติแตกได้ขนาดนี้ แต่คนตัวเล็กก็เลี่ยงที่จะถามออกไป แขนเรียวกลับยกขึ้นโอบกอดร่างหนากลับไป มือขาวลูบหลังปลอบประโลมคนตรงหน้าที่เขารักดั่งพ่อแท้ ๆ ก็ไม่ปาน

สำหรับภิฌา นอกจากแม่ที่เป็นเหมือนเจ้าของชีวิต ตฤณก็คงเป็นเจ้าของหัวใจของเขา ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตร่วมกับอีกคนมาไม่มีวันไหนที่ภิฌาจะไม่คิดถึงคนตรงหน้า แม้จะเจอกันทุกวันก็ตาม ภิฌาเป็นผู้ชายเบอร์หนึ่งและหนึ่งเดียวของ    ภิฌา

“ต่อให้เป็นแม่ของเธอ ฉันก็ไม่ยกให้หรอกนะ ฉันมีแค่เธอ แค่เธอคนเดียว”

“คุณพ่อ เมาแล้วนะครับ ขึ้นห้องกันเถอะครับ”

“โอ๊ย...คุณพ่อ.. .อ๊ะ!”

ตฤณผลักภิฌาลงกับโซฟาตัวใหญ่ กระชากเสื้อผ้าของคนตัวเล็กออกอย่างรุนแรงมือหนาดึงทึ้งจนขาดวิ่น  ไม่กี่นาทีร่างกายขาวเนียนก็เปลือยเปล่าปรากฏแก่สายตา ไหล่บางเล็กสั่นไหวงุนงงกับการกระทำของร่างสูง

ริมฝีปากร้อนของคนตัวโตประกบลงมาบนริมฝีปากบางของภิฌา บดเบียดดุดัน รุนแรง ด้วยความตกใจภิฌาจึงเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น คนตัวเล็กดิ้นรนขัดขืนพยายามผลักบ่าแกร่งที่โถมทับเขาไว้ทั้งตัวออกไป

“อ๊า เจ็บ ๆ คุณพ่อ ผมเจ็บ อึก ฮึก..อ๊า”  ท่อนนิ้วยาวสอดเข้ามาในช่องทางคับแคบ แทรกเข้าไปในร่องลึกที่ไม่เคยถูกล่วงล้ำมาก่อน ภิฌาสะดุ้ง เปิดปากร้องครางด้วยความทรมาน ส่งผลให้ลิ้นหนาสอดเข้ามาดูดเลียไล้ชิมความหวานในโพรงปากของคนตัวเล็กได้

ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดดูดดึงลิ้นเล็กอย่างร้อนแรง มือหนาตรึงสองข้อมือเล็กที่ทุบตีบ่าแกร่งไว้แน่น ดวงตาเข้มจ้องมองคนใต้ร่างด้วยสายตาดุดันเต็มไปด้วยอารมณ์ร้อนแรง ริมฝีปากหนาบดจูบลงมาไม่หยุด  ภิฌาหายใจหอบสะท้านไปด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ อาการเจ็บช่วงล่างเริ่มบรรเทาลง

ตฤณผละออกจากริมฝีปากสีแดงที่บวมเจ่อจากการกระทำของเขา เปลี่ยนเป้าหมายมาที่ยอดอกสีชมพูที่ชูชันเหมือนรอให้เขาครอบครอง

“อาา” ตฤณส่งเสียงฮึมฮัมในลำคออย่างพอใจกับร่างกายที่ไวต่อการตอบสนองของอีกคน

“อ๊ะ..คุ..คุณพ่อ..อ๊ะ..อ๊า..แฮ่กๆๆ..อ๊ะ..อ๊าา” ร่างบางดิ้นพล่านไปด้วยความเสียวซ่านเมื่อโดนรุกทั้งบนและล่าง เมื่อริมฝีปากร้อนครอบครองตุ่มไตเม็ดเล็กดูดเลียจนอกบางชุ่มไปด้วยน้ำลายของร่างหนา บั้นท้ายอวบอิ่มก็บิดเร่าเด้งสวนนิ้วยาวที่เพิ่มจำนวนขึ้น  ผนังด้านในเผลอตอดรัดนิ้วยาวตามจังหวะที่คนตัวโตขยับเข้าออก แผ่นอกขาวเนียนหอบสะท้านจนปลดปล่อยออกมาเลอะหน้าท้องแกร่งในที่สุด

ตฤณกระชากข้อเท้าเล็กพาดบ่าแกร่งของตัวเองด้วยความรุนแรง คนตัวเล็กมองการกระทำของคนบนร่างด้วยความอ่อนแรง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงหอบเอาอากาศเข้าปอด มือบางยันอกหนาออกด้วยแรงอันน้อยนิด

“อึก...อื้อออออ”  ภิฌาร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เมื่อตฤณกดส่วนแข็งแกร่งเข้ามาจนสุดในคราเดียว ร่างบางสมองขาวโพลนไม่หลงเหลือความคิดใด ๆ ทั้งสิ้น น้ำตาไหลพรากแสบที่ช่องทางด้านล่างซึ่งไม่เคยถูกล่วงล้ำมาก่อน 

“อ๊ะ..คุ..คุณพ่อ..อ้า..ได้โปรด..หยุด..หยุดเสียที...อ๊ะ”  ตฤณมองคนใต้ร่างที่ร้องเรียกขอให้เขาหยุด  ด้วยสายตาที่เร่าร้อนเต็มไปด้วยอารมณ์ความต้องการ ยิ่งภิฌาส่งเสียงร้องครางเท่าใด ตฤณก็ยิ่งโหมแรงเข้าใส่มากเท่านั้น

ภิฌารู้สึกเหมือนโดยมีดกรีดแทง  เจ็บเสียดทุกครั้งที่ตฤณขยับกายเข้าออก ผ่านไปซักพักเมื่อร่างกายบอบบางเริ่มปรับตัวได้  ความเจ็บปวดทางกายก็เปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านครอบคลุมไปทุกอณู

คนตัวเล็กลืมตามองภาพตรงหน้าด้วยความพร่ามัวผ่านม่านน้ำตาที่เปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้า  หน้าท้องแกร่งกระแทกกระทั้นเสียดสีหน้าท้องขาวของร่างบางถี่ระรัว  ขาเรียวที่พาดอยู่บนบ่าแกร่งสั่นระริกไปตามแรงที่คนตัวโตโหมตัวตนเข้าใส่

“อ๊ะ...ซี๊ด..อ๊ะ..อ๊ะ”  สองกายประสานเข้าหากัน สอดแทรกลึกกระตุ้นให้ไฟราคะลุกฮือ แขนเรียวโอบรอบลำคอหนา ปลายเล็บจิกลงที่ต้นแขนหนาทุกครั้งที่ที่ส่วนแข็งแกร่งโจนจ้วงบดเบียดเข้ากับจุดเร้า
“อาา..โอยย..อืมม” ตฤณครางในลำคออย่างพึงพอใจเมื่อแก่นกายถูกคนใต้ร่างตอดรัดแน่น  ผนังร้อนภายในดูดกลืนบีบรัดถี่รัว

“คะ..คุณพ่อ..ไม่..ผม..อ๊ะ”

“เรียกชื่อฉัน เรียก”

“คุณพ่อ..ไม่ไหว..ละแล้ว”

“เรียกชื่อฉัน ภิฌา  เรียก!”

“ตะ ตฤณ..อ๊า..ตฤณ..ตฤณ..อ๊ะ..อ๊าา” ขาเรียวเหยียดเกร็งเมื่อถึงขีดสุดและปลดปล่อยมาอีกครั้งอย่างสุขสม  ตฤณจูบขมับที่ชื้นเหงื่อของภิฌาทั้งที่ยังหยัดกายเข้าออกอย่างรุนแรง

“อย่า..อา..อย่าทิ้งฉัน ..ภิฌา..อย่าทิ้งฉัน..อ่าา”  คนตัวโตบอกกับคนร่างบางก่อนที่จะเร่งกระแทกรัวปลดปล่อยเข้ามาเต็มช่องทางสวาทจนชุ่มไปหมด

“อ๊า..ตฤณ..ตฤณ..ตฤณ..อืมม” ภิฌาครางเรียกอีกคนเสียงแผ่วเบาด้วยความอ่อนเพลีย

“อืมม ภิฌาของฉัน..อา..ซี๊ดด..เธอเป็นของฉัน ชองฉันคนเดียว”   พูดจบตฤณก็จับคนตัวเล็กให้นอนคว่ำ มือหนายกสะโพกอวบให้สูงขึ้น ฝังตัวตนที่ร้อนผ่าวเข้ามาจนสุดแล้วขยับเข้าออกอย่างจาบจ้วงรุนแรงไปจามอารมณ์

“อ๊า..อ๊ะ..ตฤณ..ไม่..อ๊ะ..อ๊า”  เสียงหวานครางลั่นห้องปนเปไปกับเสียงเนื้อกระทบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่ายาวนานตลอดทั้งคืน
.
.
.
.
“ปิดปากให้สนิท อย่าให้ใครรู้ว่าฉันกอดเธอแบบไหน” พูดจบตฤณก็เดินออกจากห้องทิ้งให้คนตัวเล็กที่ร่างกายบอบช้ำจากการกระทำเมื่อครู่นอนนิ่งน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด

ร่างกายที่เคยขาวเนียนบัดนี้เต็มไปด้วยรอยแดงเป็นจ้ำ ๆ ขาเรียวหุบเข้าหากันสั่นระริก น้ำสีใสปนกับเลือดไหลเยิ้มออกมาตามซอกขา ไหล่บางสั่นไหว ปวดระบมไปทั่วทั้งตัวจากแรงกระแทกที่ร่างสูงโหมกระหน่ำเข้าใส่ ภิฌาลืมตามองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอย น้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้า

ร่างบางค่อย ๆ หลับตาลง จินตนาการว่าตัวเองกำลังฝันไป ผู้ชายคนที่เพิ่งเดินออกไปจากห้องไม่ใช่ตฤณ  ไม่ใช่  คุณพ่อของเขาไม่มีวันทำแบบนี้  ไม่มีวัน


TBC.

แก้ชื่อแล้วนะคะ เจอหลงเป็นชื่อแฟนฟิคอยู่ 2 ที่ = = ขอโทษจริง ๆ ค่ะ เราพิมพ์ในWordเป็นชื่อแฟนฟิคค่ะ เวอร์ชั่นคุณพ่อตฤณ กับ น้องภิฌา นี่เพิ่งเอามาแก้เเล้วลงที่นี่ ขออภัยด้วยนะคะ 2 ครั้งแล้วที่ไม่รอบคอบ เฮ้ออ ขอเวลาอีกนิดนะคะติดเขียนอีกเรื่องนึงไว้ที่เด็กดี เดี๋ยวพรทิวาจะมาอัพน้องภิฌาเร็ว ๆ นี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 29-01-2014 19:57:13
เรื่องน่าสนใจมากเลย   สู้ต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 29-01-2014 22:15:53
ภิฌาน่าสงสาร
แต่ว่า
ดูแบบ เหมือนไม่ค่อยรักแม่เลยอ่ะครับ
แอบหลอนๆนะ  :a5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 30-01-2014 09:49:10
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 30-01-2014 11:22:31
เรื่องสนุกดี แต่ดันมีชื่อภาษาเกาหลีปนมาด้วย งงเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.4
เริ่มหัวข้อโดย: Lovecartoon1996 ที่ 30-01-2014 15:26:54
สนุกมากค้าบบวแต่ไมมีชื่เกาหลีด้วยอ่างงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.5
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 31-01-2014 04:25:19
Part 5



‘แอ๊ดดดด’

เสียงประตูไม้บานใหญ่เปิดเข้ามาในห้อง เงาดำมืดปรากฏขึ้นเคลื่อนไปยังทิศทางที่มี คนตัวขาวเปลือยเปล่านอนขดตัวอยู่อย่างน่าสงสาร แขนหนาโอบอุ้มร่างกายบอบบางขึ้นแนบอกด้วยอาการสั่นเทา ขยับเท้าก้าวเดินอย่างช้าๆ พาคนในอ้อมอกขึ้นไปชั้นบน


“ขอโทษ ขอโทษ พ่อขอโทษ”  เสียงพึมพำเบา ๆ พูดซ้ำไปซ้ำมาเหมือนคนไม่ได้สติ  ร่างสูงวางภิฌาลงบนเตียงนุ่ม ร่างสูงเช็ดตัว ทำความสะอาดให้คนตัวเล็ก นิ้วยาวเกลี่ยผมที่ปรกหน้าของคนนอนหลับไม่ได้สติออก ก้มลงจุมพิตที่หน้าผากแผ่วเบา  ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
.
.
.
.
“คุณตฤณ คุณตฤณคะ ทำไมมานั่งหลับอยู่ตรงนี้ล่ะคะ”  ภรรยาคนสวยกลับเข้าบ้านมาในตอนเช้า  และเอ่ยทักสามีที่นั่งหลับอยู่บนเคาท์เตอร์บาร์


“หือ...อื้อ..”


“คุณตฤณ โธ่ ณดาขอโทษ นี่คุณดื่มทั้งคืนเลยหรือคะ ณดาขอโทษ ณดาแค่ประชดคุณเท่านั้นเอง”  ร่างโปร่งสวมกอดสามีจากทางด้านหลังเอ่ยพร่ำคำขอโทษด้วยความรู้สึกผิด โดยหารู้ไม่ว่าอีกคนก็ได้ทำผิดลงไปอย่างไม่น่าให้อภัย


“ณดา? ณดาหรือ ณดานี่คุณจริง ๆ น่ะหรือ ณดา..ผม...ผะ..ผม”


“ณดาขอโทษนะคะ ณดาแค่น้อยใจคุณเท่านั้นเอง ณดาอยากให้คุณสนใจณดาบ้าง   ณดากับลูกเป็นของคุณ พวกเราไม่หนีคุณไปไหนทั้งนั้น เชื่อณดานะคะ ผู้ชายคนนั้นก็แค่เพื่อน  เป็นแค่เพื่อนจริง ๆ นะคะ คุณตฤณ”


“ผม..ผมขอโทษ” ตฤณก้มลงคุกเข่าต่อหน้าผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา สองมือกำเข้าหากันแน่น ไหล่แกร่งสั่นไหวอย่างรุนแรงเพราะรู้ตัวว่าได้สิ่งที่ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังรับไม่ได้กับการกระทำที่เลวร้ายของตัวเอง รู้สึกผิดต่อภรรยาที่ทำร้ายลูกชายผู้เป็นเหมือนชีวิตของเธอ


“คุณตฤณ! ณดาต่างหากล่ะคะที่ต้องขอโทษ ที่หนีคุณไปแบบนั้นเมื่อคืน ลุกขึ้นเถอะค่ะคุณตฤณ  ต่อไปนี้เราจะคุยกันดี ๆ ไม่หนีหน้ากันแบบนี้อีก นะคะ”


“ผม..ณดา..ผม” ร่างสูงยังคงคุกเข่าไม่กล้าเงยหน้าสบตาอีกฝ่าย มองไม่เห็นหนทางแก้ไข เปลือกตาปิดสนิทแน่น สมองมืดแปดด้าน นึกทบทวนเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น จะว่าเมาไม่ได้สติก็ไม่เชิง เพราะเขารู้ตัวมีสติทุกการกระทำของตนเอง  แต่เหมือนอารมณ์จะอยู่เหนือเหตุผล และเขาไม่สามารถต้านทานแรงอารมณ์นั้นได้


ตฤณนึกไปถึงร่างบอบบางอีกคนที่ยังคงนอนหลับสนิทอยู่บนห้องนอน  ตั้งแต่เจอ ภิฌาครั้งแรกเขาก็ถูกชะตากับอีกฝ่าย เอ็นดูในความน่ารัก ความขยันของอีกคน อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกแมวตัวน้อย หากภิฌาเจ็บ เขาเจ็บยิ่งกว่า


ตฤณเลี้ยงดูภิฌามาอย่างดี ให้ความรัก ความอบอุ่นแก่อีกฝ่ายเปรียบดั่งดวงใจ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความใกล้ชิดแปรเปลี่ยนไป สายตาที่มองร่างบางไม่เหมือนเดิม ใช่ เขารู้ตัวเองดี ว่าความรักที่มอบให้อีกคนไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป  แต่ตฤณห้ามใจตัวเองได้ทุกครั้งจนกระทั่ง....เมื่อคืน


ยิ่งเห็นร่องรอยจากการกระทำที่แสนเลวทรามของตนเองด้วยแล้ว ร่างสูงของเจ้าของคฤหาสน์ก็ยิ่งเจ็บปวดเจียนตาย  ไม่รู้ว่าต้องตายไปอีกกี่สิบชาติถึงจะชดใช้ความผิดนี้ได้


“...ตฤณ...คุณตฤณ..คุณตฤณคะ! ได้ยินณดาไหมคะ ลุกขึ้นเถอะค่ะ ณดาไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว คุณจะไม่สนใจณดายังไงก็ได้ แค่คุณดูแลณดากับลูกแบบนี้ อย่างที่เป็นมาตลอด แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ ณดาไม่ทิ้งคุณไปไหนหรอกค่ะ”


“ณดา...”


“ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ลืมมันไป  ลืมไปให้หมดนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคะ”


“ลืม? แค่ลืมมันไปใช่ไหม ได้ ต้องลืม ต้องลืมให้หมด”  ตฤณพึมพำเสียงเบาซ้ำ ๆ เหมือนย้ำกับตัวเอง คนตัวโตลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองสบตากับภรรยาที่กำลังยืนยิ้มให้กับเขา ริมฝีปากหนาจุมพิตลงบนหลังมือบางเบา ๆ เหมือนเป็นการขอโทษและพร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา
.
.
.
.
คุณกิจคะ ตั้งโต๊ะอาหารได้เลยนะคะ”


“ครับ คุณผู้หญิง”


“เอ๊ะ..แล้วนี่ เจ้าตัวแสบของณดาไปไหนล่ะคะเนี่ย  ปล่อยให้คุณพ่อสุดที่รักมานั่งหลับอยู่ข้างล่างได้อย่างไรกัน คิคิ”

“คือ...คะ..คือ..” ไหล่แกร่งสั่นเทา ร้อนรนในอกเฝ้าคิดหาคำตอบให้ภรรยา

“คุณตฤณ! เป็นอะไรคะ หายใจลึก ๆ นะคะ ค่อย ๆ นะคะ” ร่างโปร่งตกใจกับอาหารของสามี มือบางเฝ้าปลอบประโลมลูบหลังให้ร่างหนา  ความรู้สึกผิดเกาะกินในใจ นึกก่นด่าตัวเองที่ทำอะไรไม่รู้จักคิด ประชดด้วยการบอกว่าจะพาลูกหนีไป สามีที่แสนดีของเธอถึงได้มีอาการเหมือนใจแตกสลายแบบนี้


“ดีขึ้นแล้วนะคะ...คุณกิจ  ภิฌาไปไหนคะ คุณพ่อเป็นแบบนี้แล้วยังนอนหลับสบายอยู่ได้อย่างไร”


“เอ่อ...คือ..คุณหนูเธอไม่สบายครับ เป็นไข้ครับ ผมให้เด็กยกข้ามต้มไปให้กินบนห้องแล้วครับ”  พ่อบ้านวัยชราตอบคุณผู้หญิงของบ้านด้วยความรู้สึกผิดไม่กล้ามองสบตา  ถึงแม้จะสงสารคุณหนูตัวน้อยเพียงใด แต่เรื่องของเจ้านายเขาไม่มีสิทธิยื่นมือเข้าไปยุ่ง เขาก็ได้แต่หวังว่าทุกสิ่งจะดำเนินไปในทางที่ดีขึ้น   


“ตายจริง คุณตฤณทานไปก่อนนะคะ ณดาขอตัวไปดูลูกก่อน”

‘หมับ’ มือหนาคว้าแขนบางไว้แน่นไม่ให้ไปไหน

“ปล่อยลูกพักผ่อนเถอะ เธอ..อยู่กับฉัน..ก่อนได้ไหม”  คนมีชนักติดหลังสะดุ้งสุดตัว พยายามหาทางไม่ให้ภรรยาขึ้นไปเห็นหลักฐาน ร่องรอยความเลวของตัวเอง


“แต่ว่า ลูก...”

“ขอร้องล่ะ  ณดา” ณดาที่ยังลังเลอยู่ในตอนแรก ก็ตัดสินใจนั่งลงข้างสามีเมื่ออีกฝ่ายเอ่ยปากขอร้อง นับเป็นครั้งแรกที่สามีของเธอมีอาการห่วงหาอาทร และมองเธอด้วยสายตาอ้อนวอน
.
.
.
เมื่อรับประทานอาหารเช้าเสร็จ  ณดาก็ต้องแปลกใจที่สามีบ้างานของเธอยอมหยุดงาน  โดยให้เหตุผลว่าอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอตามประสาคู่ชีวิตบ้าง  และที่ทำให้เธอยิ่งฉงนใจเข้าไปใหญ่ก็คือ ตฤณสั่งให้แม่บ้านย้ายข้าวของส่วนตัวของเขา เข้าไปไว้ในห้องนอนของเธอ


ถึงจะไม่เข้าใจการกระทำของอีกคนแต่ณดาก็เลือกที่จะปิดปากเงียบเอาไว้ เธอกลัวว่าหากถามออกไป ตฤณจะยกเลิกคำสั่งกลางคัน  ณดาคิดว่าบางทีสิ่งที่ทำทำลงไปเมื่อคืนก็ส่งผลดีเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อตัวเธอ  อย่างน้อยตฤณก็เริ่มเห็นความสำคัญของเธอ อาจจะมากกว่าคนที่ยังนอนซมอยู่ในห้องนอนใหญ่ด้วยซ้ำ เมื่อสามีที่เธอเฝ้ามองและโหยหามาตลอด เริ่มเบนสายตาจากลูกชายมาที่เธอ


TBC. อ่านทวน 2 รอบแล้วนะคะ ถ้าหลงชื่อตัวละครแฟนฟิคไปอีกต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ ถ้าใครอยากอ่านเวอร์ชั่น แฟนฟิค วอนคยู เชิญเสพได้ที่เด็กดีเลยคะ ชื่อเรื่องเดียวกันเลยค่ะ ^^

ขอบคุณสำหรับทุกความเห็นที่ให้กำลังใจและแนะนำ ช่วยบอกคำถูกผิดให้นะคะ ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ ตอนนี้พรทิวาเบลอมากค่ะ TT จะตีห้าเเล้ว เพิ่งเขียนนิยายที่เด็กดีเสร็จแล้วก็เอาคนบาปตอน5มาลงชื่อคุณแม่เยอะมาก เปลี่ยนกันตาลาย 555 คือตอนนี้พรทิวาเขียนคนบาปถึงตอนที่ 9 แล้วค่ะ _ _" ทั้ง ๆ ที่บอกว่าเรื่องสั้น จะพยามให้จบภายใน 10 ตอนนะคะ
PS. 新春快乐  新年发财. สุขสันต์วันตรุษจีน มั่งมีศรีสุขกันถ้วนหน้านะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.5
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 31-01-2014 07:37:10
 o14 o15
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.5
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 31-01-2014 08:55:34
ไม่รู้จะสงสารใครดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.5
เริ่มหัวข้อโดย: supermyrainbow ที่ 31-01-2014 09:57:00
มาต่อเร็วๆนะ เนื้อเรื่องน่าสนใจมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.5
เริ่มหัวข้อโดย: ★KVH™★ ที่ 31-01-2014 17:23:53
รอครับ  :katai4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.6
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 31-01-2014 23:08:57
Part 6


ขาเรียวค่อย ๆ ก้าวเดินลงบันไดมายังชั้นล่าง เป็นเวลาหลายวันที่เขาเอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่บนห้อง นอนซมอยู่บนเตียงเพราะพิษไข้ แต่น่าแปลกทั้งที่เขาป่วยขนาดนี้กลับไม่มีใครเหลียวแล นอกจากคุณตาพ่อบ้านผู้สูงวัยที่ขึ้นมาดูอาการของเขาทุกวัน


 หึ ป่วยทั้งกาย ป่วยทั้งใจ เจ็บปวดเจียนตายจากการกระทำของคนที่รักที่ยิ่งกว่าใคร แล้วก็ถูกทิ้งให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวในคฤหาสน์หลังใหญ่ ผู้ชายคนนั้นเห็นเขาเป็นอะไร ย่ำยีหัวใจเขาจนแตกสลายแล้วยังอารมณ์ดีพาแม่เขาไปพักร้อนที่มัลดีฟส์ ทะเลในฝันของแม่อีก

ร่างบางนั่งลงกับม้าหินใต้ต้นไม้ร่มรื่นในสวน  แววตาเหม่อลอยมองไปบนท้องฟ้าสดใส  พยายามเงยหน้าให้ขึ้นสูงเข้าไว้  แต่น้ำใส ๆ ที่ตาก็ยังไหลลงมาเตือนให้เจ้าของดวงตาสวยได้รับรู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อนเป็นเรื่องจริง


เสียงรถยนต์ที่ดังขึ้นใกล้เข้า  บ่งบอกให้รู้ว่าคู่รักเจ้าของบ้านกลับมาแล้ว  ภิฌาลุกขึ้นยืน หายใจเข้าลึก ๆ เหมือนเรียกกำลังใจให้ตัวเอง ขาเรียวก้าวฉับ ๆ เข้าไปในบ้าน อยากจะเดินเลยผู้ใหญ่สองคนที่กำลังเดินเข้ามา  แต่สายตาที่เหลือบไปเห็นคนทั้งสองกลับตรึงขาให้ติดอยู่กับพื้นแน่น  ไม่มีเรี่ยวแรงจะขยับก้าวหนี


มือหนาที่เคยโอบกอด สะกิดตุ่มไต ลูบไล้ร่างกายบอบบางของภิฌา บัดนี้กลับกุมกระชับมือบางของภรรยาไว้แน่น ราวกลับกลัวว่าผู้หญิงข้างกายจะหายไป  บรรยากาศหวานซึ้งที่คนตัวโตมอบให้กับแม่  มันทำให้ลูกชายคนนี้อยากจะอาเจียนเต็มทน


“อ้าว ภิฌาเป็นอย่างไรบ้างลูก หายดีแล้วใช่ไหม” 

“เอ่อ ครับ ผมหายดีแล้วครับ”  ภิฌาตอบคำถามของแม่  แต่สายตากลับมองไปที่ร่างสูงอีกคน

“มานี่เถอะจ้ะ คุณพ่อกับแม่ซื้อของมาฝากลูกเยอะแยะเลยนะ”

“เหรอครับ ที่จริงไม่เห็นต้องลำบากเลยนะครับ คุณพ่อกับแม่ตั้งใจไปสวีทกันสองคน ไม่จำเป็นต้องนึกถึงผมก็ได้”  ภิฌาตอบกลับกึ่งประชดอีกคน  ที่เมินเขา แล้วเดินเลยขึ้นบันไดไป

“โธ่ ลูก  อย่าน้อยใจเลยน่า แม่ขอโทษนะจ้ะ แม่เห็นคุณพ่อเครียด ๆ   เราเองก็ยังป่วยอยู่  แม่ก็เลยชวนคุณพ่อไปกันแค่สองคน  ลูกคงไม่โกรธแม่หรอกนะ”

“ผมจะไปโกรธแม่ได้อย่างไรล่ะครับ  เฮ้อ ไหนผมขอดูของฝากหน่อยสิครับ ถ้าแม่ซื้อมาไม่ถูกใจผมโกรธจริง ๆ นะ”

“ฮึ ๆ เรานี่จริง ๆ เลย”

“เอ่อ ลูก แล้วนอนคนเดียวเป็นไงมั่งจ้ะ นอนได้ใช่ไหม”

“ก็..ได้ครับ”  ก็ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อก็นอนคนเดียวมาตั้งหลายคืนแล้ว  ตั้งแต่คืนนั้น  คืนที่คน ๆ นั้น  คนที่เรียกว่าพ่อ ทิ้งให้เขานอนหนาวอย่างทรมานใจ 

“ก็ดีแล้วจ้ะ  เห็นลูกไม่เป็นไรแบบนี้แม่ก็เบาใจ  เราน่ะโตแล้ว จะขึ้นม.ปลายแล้วนะ  ได้มีห้องนอนเป็นของตัวเองดีจะตาย ใช่ไหมล่ะ”

“ครับ ก็คงงั้น” ดีที่สุด ดีจนไม่อยากนึกถึงอ้อมกอดแสนอบอุ่นที่เคยดูแลเขาอยู่ทุกคืน  ดีจนต้องคอยบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าคน ๆ นี้มันก็แค่เด็กเก็บมาเลี้ยง ดีจนต้องคอยเตือนตัวเองไม่ให้โหยหาคิดถึงใครอีกคน  เป็นแบบนี้น่ะดีที่สุดแล้ว

.
.
.
.
คืนที่แสนโหดร้ายนั้นภิฌาไม่รู้ว่าตัวเองมาอยู่บนเตียงนอนที่แสนคุ้นเคยได้อย่างไร  แต่คงไม่พ้นคุณตา  แค่เขามองตาของคนสูงวัย  คนตัวเล็กก็รู้ได้ทันทีว่า พ่อบ้านกิจรับรู้ที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว


ภิฌาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองใช้ชีวิตได้ปกติขนาดนี้ได้อย่างไรกัน  ไม่รู้ว่าตัวเองทนไปได้อย่างไรที่ใช้ชีวิตร่วมกับคนร้ายตัวโต  ซ้ำยังเรียกอีกคนว่า ‘คุณพ่อ’ ได้อย่างถนัดปากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ดวงตาเศร้าสร้อยมองไปยังคนสองคนที่เดินกุมมือกันอย่างคู่รัก  ทุกครั้งที่ภิฌาเห็นตฤณกับแม่เดินไปส่วนไหนของบ้าน  สายตาหวานมักจะเผลอมองตามไปเสมอ  หึ น่าสมเพชชะมัด  ถูกกระทำย่ำยีไม่ต่างจากสัตว์  โดนเขาทิ้งไม่เหลียวแล  แต่ก็ยังโหยหาความอบอุ่นจากคนนั้น อยู่ร่ำไป


ทุกครั้งที่ถูกตฤณหมางเมินใส่  แม้ร่างบางจะแสร้งทำเป็นเฉยเมยเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับการกระทำของอีกคน  แต่ที่จริงในใจมันเจ็บเสียดเหมือนโดนกรีดแทง 


นับแต่คืนนั้น ไม่มีคืนนั้นไหนที่ภิฌาจะไม่ฝันร้าย  เสียงหวานละเมอเรียกหาแต่ คุณพ่อ ๆ หวังให้อีกคนมอบความอบอุ่นให้ตื่นจากฝันร้าย ฝัน...ที่คนถูกเรียกหาเป็นคนก่อให้เกิด  และทุกครั้งภิฌาก็สะดุ้งตื่นจากฝันเอง ตื่นมาเพื่อพบเพียงความมืดของค่ำคืน สองมือบางคอยโอบกอดตัวเองอย่างเดียวดาย


ร่างบอบบางสั่นไหว กัดผ้าห่มผืนหนาร้องไห้สะอึกสะอื้นเสียงเบา  ไม่มีอีกแล้ว  คุณพ่อที่แสนดี  คุณพ่อที่เป็นเหมือนดั่งของขวัญเช้าวันคริสต์มาส คุณพ่อที่เป็นทุกสิ่งของภิฌา ไม่มีอีกแล้ว ไม่มี
.
.
.
.
เมื่อความทรมานถึงขีดสุด  จิตใจที่พ่ายแพ้ต่อความรู้ผิดชอบชั่วดี  ความเจ็บปวดที่เคยโดนกระทำย่ำยี ไม่ได้ช่วยให้คนตัวเล็กสำนึกอีกต่อไป  จิตใจที่แสนทุกข์ทรมานโหยหาความรักที่เคยมี 


สองขาเรียวพาร่างกายบอบบางเดินเข้าไปในห้องนอนฝั่งตรงข้าม  ห้องนอนของแม่  ห้องนอนที่ผู้ชายคนนั้นทิ้งเขา แล้วเข้าไปนอนอยู่ทุกคืน  เข้าไปนอนกับแม่ และวันนี้





แม่ไม่อยู่บ้าน.......


TBC. มาต่อให้ด้วยความรวดเร็ว (เร็วแล้วเรอะ) ^^ อย่าเพิ่งเกลียดขี้หน้าพระเอก นายเอก ของเราน๊า :) เป็นกำลังใจให้น้องภิฌาด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.7
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 03-02-2014 22:27:58
Part 7


“เธอ! ออกไป”  เสียงทุ้มเอ่ยปากไล่คนตัวเล็กที่เพิ่งเข้ามาในห้องที่ตัวเองนอนอยู่


“ไม่! ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น คุณทำแบบนี้กับผมไม่ได้!”  ภิฌาตะโกนใส่หน้าคนตัวโตเท่าที่แรงตัวเองจะมี


“ฉันบอก ให้ ออก ไป ซะ  อย่าให้ต้องพูดซ้ำเป็นครั้งที่สาม” ร่างสูงลุกเดินมาใกล้คนตัวขาว  เสียงเข้มพูดเบา ๆ ทว่าหนักแน่น


“ไม่! เราต้องคุยกันให้รู้เรื่อง! คุณจะเมินผมอย่างนี้ไม่ได้! หรือว่าต้องให้คนอื่นมันรู้เรื่องของเราก่อนคุณถึงจะยอมคุย” คนตัวเล็กเหมือนคนสติแตกพูดไปก็ร้องไห้ไป ไม่รับรู้อีกแล้วว่าจะมีใครได้ยินบ้าง


“ภิฌา! หยุดบ้าเสียที” ตฤณกระชากแขนเรียวพาเดินกลับเข้าไปในห้องนอนอีกห้อง  ห้องนอนที่เขาเคยนอนกอดลูกชายตัวน้อยอย่างสุขใจ


“ได้โปรด ฮืออ..อย่าทำกับผมแบบนี้..ฮึก.. อย่าทิ้งผมไปแบบนี้..คุณพ่อ  ฮืออ ได้โปรดอย่าทิ้งฌา  อย่าทิ้งฌา..อย่าทิ้ง..ฮืออ”


เสียงร้องไห้อ้อนวอนอย่างน่าสงสารของอีกคนเรียกให้ร่างสูงหยุดชะงัก  ขาที่กำลังจะก้าวออกไปจากห้องจำต้องหันกลับมามองคนตัวเล็กที่คุกเข่าร้องไห้ฟูมฟายอยู่แทบเท้าของเขา 



ตฤณมองลูกแมวของเขาที่สะอื้นไห้ตัวไหวอย่างรุนแรง  ภิฌาของเขากำลังเจ็บปวด  เจ็บปวดเพราะเขา


“ได้โปรด..อึก..ฮืออ.. คุณพ่อ..ฌายอมทุกอย่าง...ให้ทำอะไรก็ได้...แต่อย่าเมินฌาแบบนี้..ฮืออ..”


“ภิฌาหยุด หยุด ฉันบอกให้หยุดได้แล้ว!”


“ฮึก..อึก..อึก”


“ฟังฉันนะ  ต่อไปนี้ระหว่างเรามันก็แค่คนแปลกหน้าเท่านั้น  ไม่สิ..ที่จริงเราก็เป็นคนแปลกหน้ากันแต่แรกอยู่แล้ว  เรื่องที่เกิดขึ้นลืมมันซะให้หมด  ก็แค่ความผิดพลาด ลืมมันซะ”  ตฤณพูดจบก็ตัดใจเดินออกจากห้อง  แต่แขนผอมบางกอดขาเขาไว้แน่น  น้ำตาที่ไหลลงเปียกชุ่มปลายเท้าไม่ยอมให้เขาได้เดินหนีไปไหน


“คะ..ฮึก..แค่..ฮือออ..แค่ความผิดพลาด..ฮึก..สินะ..หึหึ..ฮ่าๆๆเราเป็นคนแปลกหน้างั้นหรอ..ฮ่ะๆๆ ก็ดีสิ ผมก็ทำแบบนี้ได้สินะ”


ภิฌาเหมือนคนไม่ได้สติ พูดกับตัวเองไปพลาง หัวเราะไปพลาง ร่างบางลุกขึ้นยืน แล้วเดินเข้าหาร่างสูง เขย่งปลายเท้าจุมพิตที่ริมฝีปากหนาย้ำ ๆ ลิ้นเล็กพยายามสอดเข้าไปปลุกเร้าลิ้นหนาให้ตื่น


“ตฤณ...อย่าปฏิเสธผมเลย  ขอแค่คุณอย่าเมินผม ไม่ว่าอะไร....ผมให้คุณได้ทุกอย่าง”  ภิฌาพูดจบก็เดินถอยหลังจนชิดขอบเตียง  มือขาวแกะกระดุมเสื้อนอนออกทีละเม็ด ๆ ปลายนิ้วเรียวสะกิดยอดอกตัวเองพร้อมกับกัดปากเชิญชวนคนตรงหน้าเต็มที่


“อย่าทำแบบนี้  เธอไม่รู้หรอกว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไร”  ตฤณมองร่างขาวเนียนที่ปรากฏแก่สายตาด้วยความอดกลั้น


“ไม่ได้เหรอครับ  อย่าเมินกันแบบนี้สิ  ก็แค่ตอนที่เราอยู่ด้วยกันก็ยังดี  ผมจะปิดปากให้สนิท”  ร่างกายเปลือยเปล่านั่งชันขาอยู่ที่ขอบเตียง  หัวเข่าเสียดสีกันไปมา ฟันขาวกัดริมฝีปากล่างมองคนตัวโตด้วยสายตายั่วเย้า


“ฮึ่มม...อย่าทำแบบนี้ฌา..อย่า” ร่างสูงหายใจหนัก ๆ พยายามเค้นเสียงออกมาเป็นคำพูด  แต่สายตาก็ไม่ได้ละไปจากภาพตรงหน้าแม้แต่น้อย


“คุณทนไหวเหรอครับ  ใจร้ายจังเลยน๊า  ฌายอมทุกอย่างขนาดนี้แล้ว คุณยังเมินฌาอีกเหรอ  เสียใจจัง”


พูดจบร่างกายที่แสนยั่วยวนก็อ้าขาออกกว้างเผยให้เห็นช่องทางสีสวยที่คนตรงหน้าเคยได้ลิ้มลองมาแล้วว่ามันรัดแน่นถึงใจเขาแค่ไหน  มือเล็กเอื้อมลงไปกอบกุมแก่นกายน่ารักของตัวเอง รูดรั้งให้ตั้งชันกระตุ้นอารมณ์ตัวเองต่อหน้าร่างสูง เสียงร้องครางเบาหวิวดังออกมาเบา ๆ กระตุ้นอารมณ์คนที่ยืนมองดู ให้ตื่นตัวเต็มที่


“เธอเลือกเองนะ”  สิ้นเสียง ร่างหนาเดินเข้าประชิดตัวอีกคนที่นั่งรออยู่บนเตียง


ริมฝีปากของตฤณประกบลงไปบดจูบริมฝีปากของภิฌาอย่างรุนแรง ลิ้นหนาไล่ต้อนลิ้นเล็ก ไล้เกี่ยวพันกันไปมาอย่างดูดดื่ม  มือบางขยุ้มเสื้อนอนของอีกคนแน่น


“อ๊ะ..อื๊ออ..อ๊ะ”

ตฤณผละออกไปถอดเสื้อผ้าของตัวเองอย่างรวดเร็ว แล้วยกตัวภิฌาขึ้นมานั่งบนตักของตัวเอง มือหนาลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบาง  นิ้วยาวสะกิดยอดอกเล็ก จนคนบนตักเสียวซ่านนั่งตัวบิดเร่าไปมา ส่งเสียงร้องครางอย่างทรมาน


เอาเข้าจริง ภิฌาก็ยังเป็นภิฌาที่ไร้เดียงสาอยู่เหมือนเคย  ร่างบางยกแขนขึ้นไปโอบรอบคอตฤณเอาไว้อย่างตื่นเต้น  หลับตาแน่นรู้สึกวูบวาบอยู่ในอก


“อื้ออ..อื้มม” ร่างสูงยังคงส่งจูบบดเบียดริมฝีปากบางไม่เลิก  ตฤณใช้มือข้างหนึ่งจับท้ายทอยของคนบนตักไว้แน่นล็อคไม่ให้หันหน้าหนี  มือบางสองข้างจิกเข้าไปที่บ่าแกร่ง พยายามผลักอกหนาเมื่อร่างกายรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ


“แฮ่กๆๆ ...อื้ออ..อ๊ะ..อ๊า” ตฤณจะยอมผละออกเปลี่ยนไปซุกไซร้ที่ซอกคอขาวแทน  มือหนาจับเข้าที่กลางกายของคนตัวเล็กขยับรูดรั้งกระตุ้นอารมณ์ของคนเยาว์ มือบางจิกเล็บลงที่ผิวกายเข้มเพื่อระบายอารมณ์ทรมานที่มวนอยู่ในท้อง


“เฮือก...อึก..อ๊า” ภิฌาตัวเกร็งขึ้นทันทีที่อยู่ ๆ ตฤณก็สอดนิ้วเข้าไปในช่องทางคับแคบไม่ทันได้เตรียมใจ นิ้วร้อนขยับเข้าออกให้คนบนตักขยับสะโพกไปมาด้วยความเสียวซ่านส่งเสียงหวานครางเหมือนเชิญชวนอีกคน


“ฮืมมม”  เสียงเข้มครางออกมาเมื่อ ช่องทางอ่อนนุ่มของภิฌาตอดรัดนิ้วของตฤณไว้แน่น  สะโพกที่ขยับส่ายวนไปมาส่งผลให้บั้นท้ายเนื้อแน่นบดเบียดอยู่กับแท่งร้อนของร่างหนา 


“ยกตัวขึ้น” ตฤณสั่งคนบนตักเสียงแหบพร่า เขาอดทนรอไม่ไหวอีกต่อไป แทบอยากจะฝังกายเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อนของอีกคนสุดความยาวในคราเดียว  มือหนาถอนนิ้วออกจากช่องทางสวาทเปลี่ยนมารูดรั้งอาวุธประจำกายที่โป่งพอรอรับความอบอุ่นจากร่างกายของอีกคน  ภิฌาขยับยกตัวขึ้นก่อนที่จะค่อย ๆ กดตัวลงมาบนแก่นกายแข็งแรงของอีกคน


“อาา”

“อ๊าาาาา!”


สองเสียงครางออกมาพร้อมกัน  เมื่อร่างหนาใจร้อนจับเอวคอดกดตัวลงมากลืนกินแท่งร้อนของตนจนหมด  ตฤณมองใบหน้าหวานของร่างบางที่น้ำตาไหลพราก กัดปากแน่นเพราะความอึดอัดที่เข้าโจมตีไปทั้งช่วงล่างก็ยิ่งกระตุ้นให้อารมณ์ของร่างสูงประทุยิ่งขึ้น


“อืมม..อาา”  หลังจากทิ้งตัวตนแช่ค้างเอาไว้สักครู่  มือหนาก็จับเอวบางให้ขยับโยกตัวขึ้นลงช้า ๆ   ก่อนที่ลูกแมวตัวขาวจะขยับเองได้เร็วขึ้นตามความต้องการที่เร่าร้อนอยู่ภายใน  ร่างบางเรียนได้อย่างรู้เร็วตอดรัดอีกคนถี่ ๆ จนร่างหนาอดที่จะครางออกมาไม่ได้


“อ๊ากกกก” ภิฌาครางลั่นเมื่อตฤณสวนสะโพกขึ้นมาในจังหวะเดียวกับที่ตัวเองกดตัวลงมา  แท่งร้อนแทรกตัวเข้าลึกกว่าเดิม กดกระแทกเข้าที่จุดเร้าจนร่างบางจุกปนเสียวไปหมด


“เรียกฉัน..อา..เรียกชื่อฉัน..อืออ”

“ตะ..อื้อ...ตฤณ...อ๊ะ..ตฤณ..อ๊ะ...อ๊า”



‘ปั่บ....ปั่บ.....ปั่บ’


สะโพกสอบกระแทกกายขึ้นสวนเน้น ๆ จนได้ยินเสียงเนื้อแนบเนื้อกระทบกัน  ปนกับเสียงร้องครวญครางปานจะขาดใจ  สองเสียงครางลั่นอย่างสุขสมอยู่เกือบถึงเช้า
.
.
.
.
“ต่อไปนี้เธอต้องทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น  อย่าลืมคำพูดของตัวเองด้วยล่ะ  จำไว้ว่าเธอเลือกเอง”  เมื่อเต็มอิ่มกับกิจกรรมแสนเร่าร้อนที่ทำอยู่เกือบทั้งคืน ตฤณก็พูดสั่งคนที่นอนหมดเรี่ยวแรงอยู่บนเตียงใหญ่  แล้วเดินออกไป  โดยไม่หันกลับมามอง

ภิฌามองแผ่นหลังของคนที่ตักตวงความสุขจากร่างกายของเขาตลอดคืน  น้ำตาไหลพรากเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าหวาน  มือบางกำผ้าห่มเกร็งแน่น  ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดกับสิ่งที่ทำลงไป  ในใจรู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดแทงเข้าที่แผลเดิม  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแค่ความผิดพลาดที่อีกคนยังอยากเล่นสนุกอยู่


จิตสำนึกส่วนดีคอยย้ำเตือนให้ออกห่างผู้ชายคนนั้นซะ  คน ๆ นั้นไม่ใช่แสงอาทิตย์ยามเช้าที่มอบความอบอุ่นให้แก่เขาอีกแล้ว  แต่ภิฌาก็ไม่อาจปฏิเสธใจตัวเองได้ว่าหากเป็นตฤณ.....ร่างกายและหัวใจดวงนี้ก็พร้อมยินยอมเสมอ


TBC.
ตอนนี้เขียนไปก็สงสารน้องฌามาก น้องแลดูสับสนในชีวิตแบบจะเอาไงดีนะ อยากให้คุณพ่อกอดเหมือนเดิม แต่พอได้ลิ้มลองรสชาติหวานเวอร์ของคุณพ่อก็เหมือนเด็กน้อยที่หลงไปเสพติดเพราะคุณพ่อหยิบยื่นให้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.7
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 04-02-2014 09:59:32
น่าสงสารชา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.7
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 04-02-2014 17:12:08
ทั้งๆที่รู้ว่าไฟก็เต็มใจที่จะเข้าไป เฮ้อ... :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.7
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 04-02-2014 20:24:08
สงสารอ่า มารอจร้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 05-02-2014 19:34:49
Part 8


“คุณพ่อมีอะไรครับ  หรือว่า...ยังไม่หายร้อน”  ผมเดินเข้าไปถามคนที่นั่งก้มหน้าเซ็นเอกสารอยู่บนโต๊ะทำงาน  ผมไล้มือลงไปคลอเคลียลูบไล้แผงอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตสีเข้มที่เพิ่งจะกอดรัดจนผมร้อนเป็นไฟเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง

“ไปเลือกมา”  มือหนายื่นเอกสารให้ปึกหนึ่งโดยที่ไม่ได้ละสายตาขึ้นมามองผมเลยด้วยซ้ำ

“นี่มัน?”

“อีกไม่นานก็จะจบม.6 แล้ว คิดซะ ว่าเธออยากจะเข้าเรียนที่ไหน เลือกมาซักU(university)” ตฤณพูดเสียงราบเรียบไม่สนใจผมที่กำลังขมวดคิ้วหน้า และแดงไปด้วยอารมณ์ร้อนเลยซักนิด

“คุณ...ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ! ไล่กันง่าย ๆ อย่างนี้ได้ยังไง!”  ผมตะคอกใส่หน้าผู้ใหญ่ตัวโตที่ยังคงสนใจเอกสารตรงหน้ามากกว่าที่จะเงยหน้าขึ้นมาคุยกันให้รู้เรื่อง

“มันเป็นอนาคตที่ดี  ดีกว่าอยู่ที่นี่”

“หึ โกหก  ตอแหล” เมื่อนึกว่าอีกคนต้องการผลักไส ไล่ให้ไปไกล ๆ เสียงสั่น ๆ ก็พ่นคำผรุสวาทออกมาโดยไม่คิด

“ภิฌา! อย่ามาทำหยาบคายที่นี่นะ”

“อ๋อ ทำไม ถ้าที่โรงแรม จะหยาบ จะร่าน เท่าไรก็ได้งั้นสิ”

 “ภิฌา!” ร่างสูงตบโต๊ะดังปัง เรียกชื่อผมเสียงเข้มเมื่อทนไม่ไหวกับกิริยาของคนในปกครอง บ่งบอกให้รู้ว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้ควรจะหลีกหนีให้ไกลที่สุด หึ คิดว่าตัวเองเป็นต่อแล้วจะทำอย่างไรกับผมก็ได้งั้นสิ

“อะไรกันคะ คุณตฤณ ฌา เกิดอะไรขึ้น ฌาหนูไปทำอะไรให้คุณพ่อโกรธลูก”  แม่รีบวิ่งเข้ามาในห้องทำงานของสามีเมื่อได้ยินเสียงเข้มตะคอกชื่อผม ลูกชายสุดที่รักของเธอ

“ก็ถามสามีแม่ดูสิ” ถึงจะรู้ว่าเป็นกิริยาที่ไม่สมควรแต่ก็ยังอยากที่จะทำ ในเมื่อผมให้เขาได้ทุกอย่าง ยอมถวายให้ทั้งตัวและใจขนาดนี้ แล้วเขาล่ะ ตฤณให้อะไรผมกลับมาบ้างนอกจากหาวิธีไล่ผมไปไกล ๆ แบบนี้

“เธอ หึ่มมม” ตฤณลุกขึ้นยืนเต็มความสูงสาวเท้าก้าวเข้ามาประชิดตัวตัวผม เขากระซิบลอดไรฟันชิดใบหูเอ่ยให้ได้ยินกันแค่สองคนที่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนหูอื้อตาลายขึ้นมาทันที 

“อย่าลองดีกับฉัน จะให้ฉันบอกแม่เธอเองไหมล่ะ” 

ผมตัวเกร็งขึ้นมาทันที มือบางกำหมัดเข้าหากันแน่น เหลือบมองไปที่ผู้ให้กำเนิดที่กำลังส่งสายตาอาทรเป็นห่วงเป็นใยมาให้  สุดท้ายผมจึงได้แต่ก้มหน้าตอบคำถามแม่อย่างปวดใจ

“คุณพ่อจะให้ผมไปเรียนเมืองนอกครับแม่  แต่ผมไม่อยากไป เราก็เลยทะเลาะกันนิดหน่อย”

“เมืองนอก...คุณตฤณคะ  ค่อยให้ลูกไปตอนเรียนโทไม่ได้เหรอ  อย่าเพิ่งให้ไปเลยนะคะ ณดาห่วงลูก”  ภรรยาและแม่ผู้แสนดีที่ทั้งรักทั้งหวงลูกชายคนเดียว พยายามขอร้องสามีช่วยลูกชายเลว ๆ อย่างผมอีกแรง

“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคุณ  ออกไปก่อน”

“แต่ว่า ณดา..”

“ฉันบอกให้ออกไป!”

“อย่ามาขึ้นเสียงใส่แม่นะ! คุณไม่มีสิทธิ”  ผมทนไม่ได้ที่เห็นเขาตวาดแม่แบบนั้น ถึงเขาจะไม่ใส่ใจแม่เท่าไหร่  แต่อย่างน้อยแม่ก็คอยดูแลเขามาตลอดเกือบ 4 ปี  แม่ ผู้หญิงที่แสนดี ดีจนผมจะเป็นบ้าอยู่แล้วที่ไม่อาจห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้ทรยศต่อแม่ไม่ได้

“อ้อ...แล้วฉันมีสิทธิอะไรบ้างล่ะ  สิทธิในความเป็น...”

“หยุดนะ!” ผมพูดเสียงดังออกมาเพื่อหยุดคำพูดของคนตัวโต ตัวผมสั่นไปทั้งร่าง ว่ากันว่า คนทำผิดมักจะมี ชนักติดหลัง และตอนนี้ผมก็กำลังรู้สึกแบบนั้นอยู่ ผมไม่รู้ว่าเขาจะพูดอะไรออกมาบ้าง แต่มันไม่มีทางเป็นคำพูดดี ๆ ไปได้หรอก

“กะ..ก็ได้ค่ะ ณดาไปรอข้างนอกแล้วกันค่ะ  ภิฌาอย่าเสียงดังใส่คุณพ่ออีกนะลูก แม่ไม่เป็นไร”  แม่พูดจบก็เดินออกจากห้องไป  ผมกำหมัดสองข้างแน่น  เจ็บปวดที่เห็นแม่ทำหน้าเศร้าแบบนั้น  เจ็บใจที่ทำอะไรเพื่อแม่ไม่ได้ซักอย่าง

“...ฌา...ภิฌา! หันมานี่ ฟังนะ  ถ้าสอบเข้ามหาลัยรัฐคณะที่ฉันเลือกให้ไม่ได้ เธอต้องไปเรียนเมืองนอก ตกลงตามนี้นะ” 

 “ก็ได้ครับ”  ผมจำใจรับปากอย่างเสียไม่ได้ ตอนที่กำลังจะเดินออกไปก็ต้องชะงักเมื่อมือหนารั้งแขนเอาไว้ก่อนที่จะพูดขึ้นว่า

“จำไว้ อย่าขัดคำสั่งฉัน  ถ้าไม่อยากให้แม่เธอต้องตายทั้งเป็น”

ผมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย   เดินดุ่ม ๆ ออกไปอย่างแค้นเคืองใจ จิกเล็บเข้ากับฝ่ามือจนแน่น  แต่ไม่ได้รู้สึกถึงความเจ็บแสบที่มือเลยซักนิด ตรงนี้ที่หัวใจต่างหากที่มันเจ็บปวดทรมานจนอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด 

ผมเดินออกมานั่งที่เก้าอี้สวน ข้างเรือนไม้หลังเล็ก  เป็นเรือนไม้ประยุกต์ชั้นเดียวแบบโบราณ เวลาไม่สบายใจผมมักจะออกมานั่งเล่นตรงนี้เสมอ ศิลปะแบบไทย ต้นไม้ที่ร่มรื่นช่วยทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้เสมอ  แต่ตั้งแต่ที่แม่ใช้เรือนกาแลที่ว่านี้เป็นที่วาดรูปผมก็เปลี่ยนไปขลุกอยู่กับคุณตากิจที่สวนกล้วยไม้อีกฟากของบ้านแทน  ไม่อยากเห็นเวลาแม่วาดภาพเพราะแต่ละภาพที่ออกมา มันข่างกัดกินความสุขของคนดูเหลือเกิน เชื่อว่าคนวาดก็คงทุกข์ทรมานไม่ต่างจากภาพที่เห็น

ผมผิดเองที่โง่งมเฝ้ารอให้ผู้ชายคนนั้นกลับมาเป็นคนเดิม คนที่อบอุ่น คนที่รักผมอย่างจริงใจ  ตอนนี้คงมีแค่ผมที่ยังโง่รักเขาอยู่ฝ่ายเดียว  ไม่ว่าเขาจะเลวกับผม เลวกับแม่แค่ไหน  ยิ่งนานเข้าผมก็ยิ่งเกลียดตัวเอง  เกลียดที่ยังโง่งมคอยแต่เรียกหาเขาอยู่ร่ำไป

ยิ่งคิดหาหนทางที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปเท่าไร  ผมก็ยิ่งปวดหัว สมองมันตื้อไปเสียหมด  ถ้าผมไม่อยู่ที่นี่แล้วแม่จะเป็นยังไงต่อไป ผมนึกภาพไม่ออกเลย ตั้งแต่ที่ผมต้องเปลี่ยนสถานะจากลูกรักเลื่อนขั้นมาเป็นอะไรซักอย่างที่มีหน้าที่ไม่ต่างจากนางบำเรอ  ตฤณก็ยิ่งเปลี่ยนไปเป็นคนละคน 

ตฤณไม่หลบหน้า ไม่เมินใส่ผมก็จริง แต่เขากลับกลายเป็นคนอารมณ์รุนแรง ถ้าจะถามว่าแรงแค่ไหนผมคงเป็นคนที่รู้ดีที่สุดเพราะร่างกายที่เน่าเฟะของผมนี่แหละที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ที่ว่านั่นเกือบทุกคืน  แม้แต่กับแม่คนที่แสนดีที่สุดตฤณยังเย็นชาใส่จนคนรับใช้ในบ้านยังรับรู้ได้  ถึงร่างสูงจะไม่ย้ายของออกจากห้องนอนแม่  แต่ตฤณมักจะเก็บตัวอยู่ในห้องทำงานเกือบถึงเช้า แล้วค่อยเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวในห้องนอนเพื่อไปทำงาน

ลึก ๆ แล้วผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกที่ตฤณทำแบบนี้  จิตสำนึกส่วนเลวโห่ร้องดีใจที่ร่างสูงสนใจแค่ผมเพียงคนเดียวถึงจะเป็นแค่ที่ระบายอารมณ์ก็เถอะ  แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังห่วงแม่อยู่ดี  กลัวว่าถ้าไม่มีนางบำเรอที่ปิดปากเงียบอย่างผมแล้ว ตฤณจะไปคว้าเอาของข้างทางมากิน  ถ้าแม่รู้เข้าแม่จะเจ็บปวดแค่ไหนผมไม่กล้าจินตนาการเลย สุดท้ายแล้วก็คงเป็นผมเองที่จะทนไม่ได้หากว่าตฤณมีคนอื่นนอกจากผม

บ้านที่เคยสดใส เป็นที่แสนสุขและอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าพร้อมกัน 3 คนพ่อแม่ลูก ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคุกที่แม้จะสะดวกสบาย แต่คนในบ้านกลับมีชีวิตแค่อยู่ไป วัน ๆ เท่านั้นเอง ผมไม่รู้เลยว่าปลายทางของเรื่องอุบาทว์นี้จะจบลงอย่างไร แต่ขอแค่อย่างเดียว ขอให้เป็นผม ขอให้ลูกชั่ว ๆ คนนี้เป็นคนที่รับความเจ็บปวดนั้นเอาไว้เอง
.
.
.
.
“เฮ้ยเป็นไรวะ ทำหน้ามืดมนมากอ่ะ” พจน์เพื่อนรักของผมช่างสังเกตเสมอ

“ปวดหัว คิดไม่ออกว่าจะทำไงดี” ผมตอบเพื่อนกลับไป  ถ้าหากว่ามันจะถามต่อว่าเรื่องอะไร แน่นอนว่าผมก็ไม่คิดจะปิดบังเพื่อนรักคนนี้อยู่แล้ว  อย่างที่บอกพจน์รู้เรื่องของผมทุกอย่าง มันเป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับผมเสมอ

“เรื่อง?”

“นั่นไง กะแล้วว่าต้องถาม ฮ่า ๆ ๆ”

“เออ ๆ ไม่อยากรู้หรอก เชอะ”

“ถุยทำงอน ไม่บอกเพื่อนรักคนนี้ได้ไงล่ะ  คืองี้พ่อกุอ่ะ จะให้ไปเรียนต่อเมืองนอก”

“ก็ดีสิ แล้วทำไม ไม่อยากไป?  ห่วงแม่ หรือหวงพ่อ” ใครฟังก็คงนึกขำว่าผมคงเป็นเด็กติดพ่อติดแม่  แต่ผมไม่ขำด้วย เพราะสายตาที่เพื่อนรักคนนี้ส่งมาให้ มันจริงจัง จนผมไม่รู้จะตอบกลับไปยังไงดี  ไม่แน่พจน์อาจจะรู้แล้วว่าคนที่ผมไปหาที่โรงแรมเกือบทุกคืนเป็นใคร  ต้องขอบคุณมันจริง ๆ ที่ไม่พูดออกมาให้ผมต้องรู้สึกแย่ไปมากกว่านี้

“ก็...ทั้งสองคนแหละ  แต่ห่วงแม่มากกว่า กุไม่อยู่แม่อาจจะลำบาก”

“ไปเถอะมึง เผื่ออะไร ๆ จะดีขึ้น ยังไงกุก็เรียนวิทยาลัยแถวนี้อยู่แล้ว กุดูแม่ให้ อย่าห่วงเลย”

“เมื่อกี้แอบได้ยิน ใครจะไปเมืองนอก”  นี่ก็เพื่อนอีกคนของผมครับ  แต่อย่าบอกความลับอะไรให้มันรู้เชียว  อิฐรู้ โลกรู้ ชัดนะครับ  ที่จริงอิฐมันเป็นรุ่นพี่พวกผม 2 ปี แต่ที่ต้องมาเรียนชั้นเดียวกันเนี่ย ไม่ใช่ว่าเป็นเด็กอ่อนแอต้องอยู่บ้าน หรือเป็นเศรษฐีเด็กโดนลักพาตัวอย่างในละครหรอกนะครับ อิฐจัดอยู่ในจำพวกเด็กรักเรียนน่ะครับ เรียนละเอียด เลยต้องซ้ำชั้นเสีย 2 ปี

“นู่น ภิฌานู่น ไม่น่าโง่ถาม คิดว่าคนเป็นโรคกลัวเครื่องบินอย่างกุจะไปเรียนหรือไง”

“จริงดิ เออกุก็ว่าจะไปนะ  งั้นขอถามหน่อยดิว่าต้องเตรียมตัวไงบ้างวะ”

“งั้นมาบ้านกุละกัน เอกสารอยู่ที่บ้านว่ะ”  ถึงจะยังงง ๆ กับเพื่อนคนนี้ที่เอาแต่เล่นไปวัน ๆ ไม่นึกว่ามันจะใฝ่เรียนเหมือนคนอื่นเขา  แต่ผมก็ออกปากชวนมันไปคุยกันที่บ้านเรื่องเรียนนอกแล้ว  ดีเหมือนกันสงสารพ่อแม่มันครับ บอกตรง ๆ

เลิกเรียนผมก็ตรงกลับบ้านทันที  สร้างความแปลกใจให้กับพี่ ๆ แม่บ้านเป็นอย่างมากรวมไปถึงคุณตาพ่อบ้านแสนใจดีของผมด้วย  และทุกคนคงยิ่งแปลกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อผมพ่วง อิฐไอ่เพื่อนจอมบื้อมาด้วยอีกคน  ปกติทุกคนเคยเห็นแต่พจน์เท่านั้น

“คุณตาสวัสดีครับ  แม่ล่ะครับ”  ผมเอ่ยทักทายคุณตา ผู้ใหญ่ในบ้านที่ดูแลผมอย่างดีตั้งแต่ผมเข้ามาเป็นสมาชิกของบ้าน

“คุณผู้หญิงไปอยู่ที่เรือนเล็กครับ  ส่วนคุณท่านอยู่ในห้องทำงานครับ” 

ถึงว่าไม่เห็นโทรตาม  ที่แท้ก็กลับมาบ้านแล้วนี่เอง สงสัยจะงานเยอะ ก็ดีจะได้คุยกับไอ่หมีบ้านี่ให้รู้เรื่องไป ผมเองก็ยังไม่ได้ดูรายละเอียดอะไรเลยเหมือนกัน  หึ ดูมันตลกชะมัด สงสัยจะปวดฉี่ยืนบิดไปมาอยู่ได้

“งั้นผมพาเพื่อนไปนั่งคุยบนห้องก่อนนะครับ  ไม่ต้องให้ใครรบกวนนะครับ”

“ผมจะให้เด็กเอาขนมกับน้ำขึ้นไปให้นะครับ” 

“ไม่ต้องหรอกครับ  พวกผมยังอิ่มอยู่เลย”  ผมพูดจบก็ลากคนข้าง ๆ เดินเข้าบ้านแล้วตรงไปยังห้องนอนของผมทันที  ขืนให้แม่บ้านเอาขนมนมเนยยกขึ้นมาให้อีก มีหวังเจ้านี่ก็ต้องอดใจไม่ไหว ยัดลงท้องอีกแน่ ๆ แล้วบอกจะลดความอ้วน

เฮ้ออ เหตุผลที่มันอยากไปเรียนเมืองนอกก็เพราะพี่ชายข้างบ้านที่มันหมายปองมาตั้งแต่เด็กหนีมันไปเรียนนอกเรียบร้อยแล้วน่ะสิครับ  มันก็เลยอยากพาหน้าตาและหุ่นสุดเพอร์เฟคของมันไปนอกด้วย ก็คือจะไปตามจีบเขานั่นแหละ   
.
.
.
.
“เป็นยังไงบ้าง เสียงเข้มถามคนสูงวัยที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง

“เป็นเพื่อนครับ ไม่เคยเห็นหน้า แต่น่าจะคบกันมาพอสมควรแล้วดูสนิทสนมกันดีนะครับ ไม่น่ามีอะไร”

“ไว้ใจได้แน่หรือ” เสียงเดิมยังคงถามต่อไปด้วยท่าทีเรียบนิ่ง

“ไม่ค่อยแน่ใจครับ”

“ให้เวลาแค่ 10 นาที” ร่างสูงยังคงพูดด้วยท่าทีปกติเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“ครับนายท่าน” คนสูงวัยรับคำแล้วเดินออกไปจัดการตามหน้าที่ทันที  เมื่ออีกคนพ้นประตูออกไปแล้ว เจ้าของห้องที่ทำเหมือนว่าสนใจเอกสารตรงหน้านักหนาก็เงยหน้าขึ้น  มือหนากำกล่องกำมะหยี่สีดำแน่นจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
.
.
.
.
‘ผลั่วะ’
‘ปัง’ 
“คุณทำแบบนี้ได้ยังไง!”  ผมฟาดมือลงบนโต๊ะทำงานของตฤณสุดแรง

“ฉันทำอะไร” ร่างสูงยังคงใจเย็นก้มหน้าอ่านเปิดแฟ้มอ่านเอกสารที่กองพะเนินอยู่บนโต๊ะทำงาน

“รู้อยู่แก่ใจ เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่า”

หึ  ยังจะมาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอีก แล้วจะมีใครหน้าไหนกล้าเสียมารยาทต่อเพื่อนของเขาแบบนี้ถ้าคนตรงหน้าไม่ได้สั่ง  ผู้ใหญ่นิสัยไม่ดี แย่ที่สุดเลย

“ต่อว่าฉันอยู่ในใจรึไง หืมม”  ตฤณลุกออกจากโต๊ะทำงานแล้วมานั่งข้าง ๆ ผมบนโซฟา  มือหนาสอดเข้าที่เอวผมแล้วยกขึ้นจนผมตัวลอยไถลมานั่งอยู่บนตักของเขา

“จะดิ้นให้มันได้อะไร ห๊ะ!”

“ก็นี่มันที่บ้านนะ ปล่อยเลยนะ ตฤณ บอกให้ปล่อยไงเล่า” ผมพยามดิ้นหนีอ้อมแขนแกร่งที่รังแต่จะรัดเอวผมแน่นขึ้นเรื่อย ๆ

“ที่บ้านแล้วยังไง หึ คิดว่าฉันไม่มีสิทธิ ถึงได้พาผู้ชายมาสนุกกันถึงบ้านเลยสินะ”

“ตฤณ!” ผมจิกเล็บลงกับท่อนแขนที่กอดรัดหน้าท้องผมอยู่อย่างแรง พยายามกลั้นน้ำใสๆที่รื้นอยู่บริเวณหัวตา ความน้อยใจ เสียใจ เจ็บใจ ผสมปนเปไปหมดจนผมไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไหนกันแน่ แต่ที่ชัดที่สุดคงจะเป็นน้ำตาที่มันอยากจะไหลออกมาประจานเจ้าของเสียเหลือเกิน

“หึ จิกให้เลือดออกได้ยิ่งดีนะ เพราะเวลาฉันเอาคืนเธอจะเจ็บเป็นสิบเท่า” คนตัวโตพูดด้วยน้ำเสียงเลือดเย็น  เขาต้องการอะไรกันแน่  อยู่ ๆ ก็ให้คนมาพาตัวอิฐออกไป  ซักพักเจ้าหมีเพื่อนผมก็โทรมาบอกว่ากลับบ้านแล้ว พอถามถึงเรื่องที่ยังคุยค้างไว้ อีกฝ่ายก็บอกว่าเรียบร้อยแล้ว  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเพื่อนผมต้องโดนทำอะไรซักอย่าง  ไม่งั้นมีหรือนกแก้วนกขุนทองในร่างหมีอย่างอิฐจะเงียบได้

“ก็คุณ ว่าผมทำไมล่ะ นั่นเพื่อนผมนะ เพื่อนน่ะเข้าใจไหม”  ผมตอบร่างสูงกลับไปตามตรง ที่คิดว่าผมจะประชดอีกคนโดยใช้อิฐเป็นแพะน่ะไม่มีทางซะหรอก ไม่ใช่ว่ารักเพื่อนอะไรมากมาย แต่ถึงประชดให้ตายยังไง คน ๆ นี้ที่เป็นเจ้าของหัวใจก็ไม่เคยเหลียวแลอยู่ดี

 “ฉันรู้แล้ว  เอาล่ะ นั่งเล่นอยู่ในนี้ก่อน รอให้ฉันทำงานเสร็จก่อน แล้วค่อยขึ้นบ้านพร้อมกัน”  ตฤณบอกผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ่อนโยนขึ้น  ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกดี พาลนึกถึงวันเก่า ๆ บางทีถ้าผมไม่อยู่ที่นี่แล้ว อะไร ๆ มันอาจจะดีขึ้นอย่างที่พจน์บอกก็เป็นได้
ผมนอนเล่นมือถืออยู่บนโซฟาได้ซักพัก แชทคุยกับพจน์นั่นแหละ  อย่างน้อยผมก็ยังห่วงเพื่อนผมบ้างล่ะนะ พจน์รับปากว่าจะไปดูอิฐให้

อยู่ ๆ อีกคนในห้องก็ปิดแฟ้มเสียงดังปัง ทำเอาผมสะดุ้งใจหายใจคว่ำ  เหลือบมองไปทางต้นเสียงก็เห็นร่างสูงทำหน้าบูดเบี้ยว ผมยังไม่อยากจะโดนระเบิดใส่ตอนนี้เลยลุกจะเดินออกไปนอกห้อง อีกอย่างก็ชักจะหิว ๆ ขึ้นมาบ้างแล้ว

“จะไปไหน” ตฤณถามด้วยน้ำเสียงกระด้างซึ่งทำให้ผมรับรู้ได้ทันทีว่าคงไม่ดีแน่ๆถ้าจะเดินหนีออกไปเฉย ๆ

“ผมหิว จะหาอะไรกินครับ”

“ไม่ต้องนั่งอยู่นี่แหละ”  ผมยืนมองสบตาอีกคนนิ่ง ๆสุดท้ายก็ต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้  จะต่อว่าตฤณว่าไม่มีเหตุผลก็ไม่ได้อีกเพราะตั้งแต่ผมกลับมาจากโรงเรียนอีกคนก็ทำเรื่องไม่มีเหตุผลไปหลายเรื่องแล้ว จนปัญญาไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทนหิวก็ได้วะ แต่เมื่อมองไปยังแฟ้มเอกสารที่กองอยู่บนโต๊ะแล้ว ผมคงจะได้เป็นโรคกระเพาะก็คราวนี้ล่ะมั้ง

“ขนมกับน้ำชาค่ะ คุณหนู” ผมลุกขึ้นนั่งอย่างงง ๆ ที่อยู่ ๆ แม่บ้านก็เอาขนมสารพัดอย่างซึ่งก็มีแต่ของชอบของผมทั้งนั้น เดินถือเข้ามาให้ หันไปทางคนตัวโตก็ยังง่วนอยู่กับงานไม่มีทีท่าว่าจะใส่ใจอะไรในชีวิตนอกจากกระดาษตรงหน้า

แต่เมื่อสังเกตจากรอยยิ้มของแม่บ้านสองคนนี้แล้ว ผมก็มั่นใจได้ว่าคงเป็นตฤณนั่นแหละที่สั่งให้สองคนนี้เอาขนมเข้ามาให้  พวกแม่บ้านคงได้เรื่องไปนินทาเจ้านายเรื่องใหม่แน่นอน ตื่นเต้นกันน่าดู คงจะคิดว่าคุณหนูที่แสนดีของพวกเธอกับเจ้าของบ้านที่แสนเย็นชากลับมาคุยกันดี ๆ ได้เหมือนเดิมแล้ว หึ มันก็แค่ภาพลวงตาเท่านั้นแหละ
.
.
.
.
“ถ้าไปอยู่ที่นู่นแล้ว เธอจะคิดถึงคนแก่คนนี้บ้างไหมนะ คนดี”  ฝ่ามือหนาลูบไล้ที่เส้นผมของคนที่นอนหลับอยู่บนโซฟาอย่างนุ่มนวล พูดเสียงแผ่วเบาด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากใจ


TBC.
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 08-02-2014 07:51:00
บอกไปเลยว่ารัก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: TheWolf ที่ 09-02-2014 20:45:10
 :mew2: หนุกดี ติดตามๆ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-02-2014 22:01:09
ดราม่าสนุกๆเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 10-02-2014 23:44:37
สงสารณิฌา ตฤณนี่ยังไง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 11-02-2014 00:21:41
ตฤณโคตรเลว ณิชาโคตรร่านอ่ะ
ไม่รู้จะสมน้ำหน้าใครดี คงเป็นณิดาที่น่าสงสารที่สุด
แต่ตัวต้นเหตุคงไม่พ้นตฤณ หาใหม่ประชดเลยณิฌา
สะใจดี :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: IRIS ที่ 11-02-2014 01:47:06
มาแอบพูดตอนน้องมันหลับแล้วน้องมันจะรู้มั้ยฟายยย คนแก่แม่มโง่จิง
สรุปได้กับคนแม่รึยัง ถ้าเอาทั้งแม่ทั้งลูกนี่บัดซบมากนะแกเนี่ย
ส่วนณิฌาตอนอาจอ้างได้ว่านั้นยังเด็กแล้วยังเป็นเด็กที่ขาดพ่อ พอได้มีพ่อได้ความรักจากพ่อ พอมาวันนึงถูกเมินก็เลยอยากได้ความรักนั้นคืนถึงกับยอมทุกอย่างไม่ว่ามันจะถูกหรือผิดก็ไม่สน แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วนี่ว่าความรักที่อยากจะได้ มันไม่มีทางจะได้ แถมยังทำให้คนที่รักเราอย่างแม่เจ็บปวด ก็น่าจะพอได้แล้วมั้ง คิดได้ซะทีเถอะนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 11-02-2014 02:29:25
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 12-02-2014 02:11:33
สวัสดีค่ะ พรทิวานะคะ คือจะมาแจ้งข่าว แง่มๆ ๆ  แบบว่า อย่าสาปแช่งเค้านะ เค้าต้องแก้งานให้เสร็จภายในเดือนนี้ เลยจะมาต่อนิยายให้เดือนมีนาคมเป็นต้นไปนะคะ  :mew1:

ส่วนเรื่องคนยาปนี้ สงสารน้องภิฌากันเถิด น้องน่าสงสารมากน๊า โดนกระทำจากไอ่แก่บ้ากามเมาแล้วระรานชาวบ้านเขา รอติดตามนะคะ ว่าเรื่องจะเป็นไงต่อ และภิฌาจะจัดการปัญหาที่มันชักใยกันไปมาแบบนี้ยังไง อ้อส่วนเรื่องที่ถามว่า กับณดานี่ยังไง คือ พี่ตฤณไม่แลอ่ะค่ะ พี่ตฤณโรคจิด จิตใจฝักใฝ่แต่กับลูกชายไม่แท้อ่ะค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 12-02-2014 06:37:39
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 26-02-2014 16:15:19
ยังรอกันอยู่ไหมเอ่ยยย คืนนี้ดึก ๆ จะมาต่อนะคะ ตอนนี้ว่างแป๊บนึงเลยเอาอิมเมจมาฝากให้ดูก่อน ชอบคู่พี่น้องคู่นี้ของไต้หวันมากเลย เลยขอยืมอิมเมจมาหน่อยจ้า ^^

(https://fbexternal-a.akamaihd.net/safe_image.php?d=AQBOZMv5L65gmtyH&w=377&h=197&url=https%3A%2F%2Ffbcdn-sphotos-f-a.akamaihd.net%2Fhphotos-ak-frc1%2Ft1%2F1947328_718246198205780_337621456_n.jpg&cfs=1)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 26-02-2014 23:41:09
 :hao5: กลัวมาม่าชามโต
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.9-50%
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 27-02-2014 02:52:57
Part 9

 

“สงสัยเมืองไทยหิมะจะตกแน่ ๆ เลย ลูกชายแม่อยู่บ้านเนี่ย”

 

“โธ่แม่ วันนี้วันหยุดนะครับ จะให้ผมไปโรงเรียนหรือไงกัน”  ผมบอกแม่ที่เพิ่งกลับมาจากไปช้อปปิ้งที่ห้างสรรพาสินค้า เห็นซื้อของบำรุงสุขภาพเยอะแยะ ๆ แม่คงจะไปเยี่ยมซ้อเหลยเร็ว ๆนี้แน่เลย


 

“ทุกทีเราอยู่ที่ไหนล่ะ แม่เห็นวันหยุดทีไรออกไปเที่ยวกับเพื่อนทุกที  หรือว่าใกล้สอบจ้ะ หืม”

 


“ก็ทำนองนั้นล่ะครับ เออแม่จะไปเยี่ยมซ้อเหลยหรอครับ เห็นซื้อโสมมาเยอะแยะเลย”

 


“จ้ะ พรุ่งนี้แม่ว่าจะไปเยี่ยมแกหน่อย”


 

“งั้นผมไปด้วย” ผมร้องขอแม่จะไปด้วย  เพราะคนบาปหนาอย่างผมเข้าวัด สวดมนต์ ทำบุญมากแค่ไหน ก็คงไม่มีใครยกโทษให้ ผมก็แค่รอเวลาโดนชำระความก็เท่านั้นเอง อย่างน้อยก็ขอทำตัวมีประโยชน์บ้างก็ยังดี

 


“ไม่ได้ ต้องอ่านหนังสือรู้ไหมคุณลูกชาย  สอบเอนทรานซ์ให้ติดนะลูก แม่ไม่อยากให้เราไปเรียนไกลหูไกลตา ถ้าสอบไม่ติดแล้วเราต้องไปอยู่ตั้งอเมริกา หรืออังกฤษแม่จะทำยังไงห๊ะลูก หืมม ไม่มีเราอยู่ให้กอดแบบนี้ แม่จะทำยังไงเล่า ไปๆ ขึ้นไปอ่านหนังสือได้แล้ว ทีวีน่ะเลิกดูได้แล้วนะ คนเก่งของแม่” แม่พูดไปก็กอดผมไปพลางโยกตัวไปมา เหมือนตอนผมเป็นเด็ก ๆ เลย มัน...อบอุ่นดีจัง

 



แม่ร่ายยาวมาเป็นชุดจนจบ ผมจึงต้องย้ายสังขารเดินขึ้นบันได เข้าไปอ่านหนังสือในห้องนอน  ผมรู้ขีดความสามารถของตัวเองดี ผมมันเป็นประเภทหลงใหลในศิลปะและดนตรี  แต่มหาลัยที่สามารถรั้งช่วยให้ผมยังอยู่ที่เมืองไทยได้ ดันไม่มีคณะจำพวกนี้เสียน่ะสิ  ด้านวิชาการที่อดหลับอดนอนท่องหนังสืออยู่ทุกคืน ๆ นี่ ก็ไม่ค่อยจะแน่ใจนักหรอกว่าจะพอช่วยคนสมองรอยหยักน้อยอย่างผมผ่านเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยเป้าหมายได้หรือเปล่า



.

.

.


วันนี้ผมรีบตื่นนอน อายน้ำแต่งตัว ลงมากินอาหารเช้าพร้อมกับแม่ ก่อนที่แม่จะไปเยี่ยมซ้อเหลยที่บ้านชานเมืองเกือบจะถึงเกาะอยุธยา  เมื่อคืนผมนั่งประดิษฐ์ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ฝากแม่ไปให้ซ้อเหลยด้วย เป็นการ์ดป๊อบอัพที่ทำขึ้นเองพร้อมกับเขียนข้อความอวยพรขอให้อาซ้อหายป่วยไวไว

 


“เออฌา แม่ว่าจะค้างเสียหน่อยนะจ้ะ”

 



“ได้ไงอ่ะ! แค่อยุธยาเองนะแม่ ไม่เห็นต้องค้างเลย”  ทันทีที่แม่บอกว่าจะค้างที่บ้านซ้อเหลย  ผมก็โวยวายทันทีไม่ได้อยากจะทำกิริยาที่ไม่ดีใส่แม่หรอกนะ  แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะในเมื่อวันนี้มันหยุด ผมไม่มีเรียน และผู้ชายคนนั้นก็หยุด ไม่ได้ไปทำงาน  บอกตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมเหนื่อยใจเต็มที  ตั้งแต่ที่เขาขับไสไล่ส่งผมอีกครั้งด้วยการยื่นข้อเสนอให้ไปเรียนต่อที่เมืองนอก  พอเห็นหน้าเขาทีไรผมก็นึกโมโหขึ้นมาทุกที  ไม่มีอารมณ์จะไปบำเรอให้ใครมีความสุขได้หรอกนะ



 

“เอ๊ะ ฌา  เรานี่ยังไงนะซ้อแกไม่สบายนะ แล้ววันนี้ก็วันประมูลที่ร้านคงยุ่งมากเลยไม่มีใครว่างมาอยู่กับซ้อหรอก แม่เลยว่าค้างเสียหน่อยน่าจะดี  เข้าใจไหม เจ้าลูกชายยยยย หือออ”



 

“โอ๊ยยย ขะ..เข้าใจแล้ว โอยย แม่ดึงทำไมเนี่ย แก้มย้วยหมด”  ผมกับแม่พูดคุย หยอกล้อกันอย่างสนุกสนานอยู่หน้าประตูบ้าน  ผิดกับร่างสูงอีกคนที่เพิ่งจะเดินลงมาจากชั้นบน

 


“อรุณสวัสดิ์ค่ะตฤณ  คุณลงมาพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวณดาจะไปเยี่ยมซ้อเหลยแกน่ะค่ะแล้วก็จะค้างอยู่ที่นั่นเลยซักคืนหนึ่ง ขออนุญาตนะคะ”  แม่ทักทายคนที่เพิ่งตื่นลงมากินอาหารเช้าด้วยคำถามพลางส่งยิ้มหวานไปให้อีกคน

 


“อืมม คุณไปเถอะ”  ตฤณตอบรับแม่โดยที่ไม่ได้ใส่ใจจะหันไปมองหญิงสาวผู้เป็นภรรยาแต่อย่างใด

 


“ลูกรัก อย่างอนเป็นผู้หญิงหน่อยเลยไว้คราวหน้าแม่จะพาไปด้วยนะ  วันนี้ก็ดูแลพ่อแทนแม่ด้วยนะ เจ้าตัวแสบ” แม่พูดทิ้งท้ายไว้กับผมก่อนจะเดินขึ้นรถไป ประโยคธรรมดา ๆ แต่ดูไม่ธรรมดาสำหรับผมกับร่างสูงอีกคน  แค่แวบเดียวผมก็เห็นว่าตฤณยกยิ้มที่มุมปากกับคำพูดของแม่

 


เมื่อแม่นั่งรถยนต์ยี่ห้อหรูออกไปพ้นจากประตูรั้วคฤหาสน์แล้ว  คนตัวโตก็ลุกจากโต๊ะอาหารเดินมาหาผมที่นั่งๆ นอน ๆ ดูรายการการ์ตูนตอนเช้าวันอาทิตย์อยู่

 

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ....อึก”  ผมตัวเกร็งขึ้นมาทันทีหมดอารมณ์จะหัวเราะสนุกสนานไปกับการ์ตูนในจอโทรทัศน์  เขาไม่พูดอะไรเอาแต่บีบนวดไหล่ของผม  มือหนาลูบไล้ไปตามหัวไล่จนมาถึงแขน  ผมหลับตาแน่นภาวนาให้เขาหยุดทำบ้า ๆ เสียที  ที่นี่มันบ้านนะ  บ้านของเขากับแม่  ผมมีสิทธิ์จะทำเรื่องชั่ว ๆ ที่นี่ได้ยังไง  มือบางก็ยิ่งประสานเข้าหากันแน่น  จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นเข้า  กลัวว่าเรื่องเลวร้ายนี้จะรู้ถึงหูแม่ ถ้าแม่รู้ขึ้นมาล่ะ ถ้ามีใครบอกแม่  ผมกลัวว่าแม่จะเสียใจ   กลัว....ว่าต่อไปตฤณจะไม่กอดผมอีก กลัวไปหมดทุกอย่าง



 

 

“เถอะน่า ฉันคิดถึงเธอนะ ไม่ได้กอดตั้งหลายวัน”


TBC. เอาไปก่อน 50% เน้อออ ขอโทษนะคะที่มาดึกมากก เกือบเช้าเลย ทำงานเสร็จก็นวดให้แม่ต่อน่ะคะ :) กว่าจะหาเวลามาปรับนิยายได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: super hero ที่ 27-02-2014 05:16:03
ดราม่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 27-02-2014 15:55:10
ตฤณ เห็นแก่ตัวจริงๆ

ถ้ารักก็ขอกับแม่ภิฌา ดีๆสิ


ปล. ตอนต้นๆ ยังแอบเห็น ซีวอนอยู่น่ะจ๊ะ 5555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.8
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 27-02-2014 17:49:47
ต้นเหตุมันเกิดจากติณป่ะ แต่ฌาก็ใ่ย่อย แค่สลับกันไปสลับกันมาในบางโอกาส   :katai5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.9-100%
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 01-03-2014 21:05:38
“เถอะน่า ฉันคิดถึงเธอนะ ไม่ได้กอดตั้งหลายวัน” 

เขากระซิบบอกเบา ๆ ที่ข้างหูผมพ่นลมหายใจอ่อน ๆ ที่ซอกคอเหมือนกระตุ้นชักจูงให้ผมเต็มใจปรนเปรอให้ความสนุกกับเขา

“ตะ..แต่ว่าที่นี่มัน..” ผมส่ายหัวไปมาอย่างแรง ในใจนึกถึงแต่ว่าถ้าเกิดมีใคร. . .

“กลัวอะไรเล่าเด็กน้อย  แม่เธอไม่อยู่เสียหน่อย” ร่างสูงบดเบียดริมฝีปากหนาลงมาไซร้ซอกคอขาวของผม ดูดดึงจนมันเป็นรอยแดง มือหนาก็ฟอนเฟ้นไปทั่วอกบางของผมผ่านเนื้อผ้าบางเบา

“อ๊ะ..อื้อ ตะ..ตฤณ อย่า!”

“ฉันรอที่ห้องของเรานะ” ตฤณพูดแค่นั้นก่อนจะปรายตามองผมยิ้ม ๆ แล้วเดินขึ้นไปชั้นบน  เขารู้ว่าจะเกิดอะไรต่อจากนี้  ผมเองก็รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป  เพราะผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ซักที
.
.
.
“คุณผู้หญิงไหนบอกว่าคืนนี้ไม่กลับไงครับ”  พ่อบ้านทักคุณผู้หญิงของบ้านด้วยความเป็นห่วง

“พอดีว่าวันนี้มีคนเฝ้าอาซ้อแล้วค่ะ ฉันเลยกลับบ้านดีกว่า เซอร์ไพรส์ไอ่ตัวยุ่งด้วย เมื่อเช้างอนใหญ่เลยพอฉันบอกว่าจะค้างที่อยุธยา”

“แล้วกลับมายังไงครับ  น่าจะโทรบอกกันหน่อย ผมจะได้ให้คนไปรับ”

“ซ้อให้คนของคลับมาส่งฉันน่ะค่ะ  แล้วนี่บ้านเงียบเชียว พ่อลูกเขาอยู่ไหนกันล่ะคะ”  ณดาชะเง้อมองเข้าไปในบ้านมองหาลูกชายและสามี

“ไม่อยู่หรอกครับ นายท่านพาคุณหนูออกไปข้างนอก”

“อะไรกัน  ลูกจะสอบอยุ่แล้วยังจะพาไปเที่ยวอีก  แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะคะ  สองคนนั้นไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานแล้ว  บางทีถ้าพ่อกับลูกกลับมารักกันเหมือนเดิมก็คงจะดี  คุณกิจว่าไหมคะ”  คุณพ่อบ้านไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มบาง ๆ  ให้กับคุณผู้หญิง

“แกเห็นวันนี้ไหม ฉันล่ะดีใจกับคุณหนูจริง ๆ นะ คุณพ่อเธอพาออกไปเที่ยวข้างนอกด้วยล่ะ”

“นั่นสิ นายท่านกับคุณหนูเลิกทำสงครามเย็นกันซะได้บ้านคงสใสน่าดู ฉันล่ะคิดถึงวันเก่า ๆ จริง ๆ “

“แต่พาไปที่โรงแรมเนี่ยนะ คุณหนูจะสนุกตรงไหน แปลกล่ะสิไม่ว่า ไม่รู้นานท่านจะแกล้งโกรธคุณหนูของฉันไปถึงไหน”

“ป้าคิดมากจัง วันนี้ตอนขึ้นไปทำความสะอาดชั้นบนนะ ฉันเห็นนายท่านกับคุณหนูออกจะรักใครกันดี เดินโอบกันน่ารักเชียว”

“เธอว่าอะไรนะ!”  ณดาที่กำลังเอาของฝากจากอยุธยาไปแจกจ่ายแม่บ้านกลับต้องชะงักกับคำพูดซุบซิบนินทาของเหล่าแม่บ้านที่กำลังพักกินมื้อเย็นกันอยู่ในโรงครัว

“คะ..คุณผู้หญิง!”  หลายเสียงประสานกันดังระงมเมื่อผู้เป็นนายอีกคนของบ้านปรากฏตัวขึ้น  ทุกคนต่างก้มหน้ากันอย่างสำนึกผิดที่เอาเอาเรื่องของเจ้านายมาพูดถึงลับหลังแม้เรื่องที่พูดคุยกันจะไม่ได้จงใจพูดให้เจ้านายเสียหายก็ตาม

“สา เมื่อกี้เธอพูดว่าอะไรนะ!” ณดาถามแม่บ้านยังสาวอีกครั้ง

“นายท่านพาคุณหนูไปเรียนรู้งานการโรงแรมครับคุณผู้หญิง  สายังเด็ก ผมต้องขออภัยแทนหลานสาวด้วยนะครับ ทุกคนออกไปทำงานได้แล้ว” คุณพ่อบ้านพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่แม่บ้านต้นเหตุจะเปิดปากตอบ

“ค่ะ คุณพ่อบ้าน”

“เดี๋ยว สาฉันขอโทษนะจ้ะที่เสียงดัง  ทำงานเสร็จแล้วขึ้นไปหาฉันบนห้องทีนะ”

“ค่ะ คุณผู้หญิง”  แม่บ้านสาวรับคำก่อนจะรีบเดินออกไปทำงานตามคำสั่งของคุณพ่อบ้าน

“คุณผู้หญิงจะให้สามันขึ้นไปทำอะไรหรือครับ”

“กังวลอะไรคะคุณกิจ  ฉันแค่เสียใจที่แสดงกิริยาไม่ดีใส่ก็เท่านั้นเอง ยังไงแกก็เป็นหลานของคุณ ฉันอยากจะให้ของขวัญไถ่โทษน่ะค่ะ เสื้อผ้าสวย ๆ ก็เหมาะกับคนน่ารัก ๆ ใช่ไหมล่ะคะ”  ณดาพูดจบก็ส่งยิ้มให้คุณพ่อบ้านแล้วเดินออกจากครัวไปทางห้องนั่งเล่น

.
.
.

“สา เธอแค่บอกสิ่งที่เธอเห็นมาให้หมด แล้วอย่าบอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ถือว่าฉันขอร้อง”  ณดาพูดด้วยเสียงเว้าวอนขอร้องแม่บ้านที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“คือ ตอนหนูทำความสะอาดอยู่ชั้นบนหนูได้ยินเสียงแปลก ๆ  พอหนูเข้าไปใกล้ถึงรู้ว่าต้นเสียงมาจากห้องนอนใหญ่ของนายท่านที่คุณหนูเอาไว้ใช้อ่านหนังสือ  แล้วซักพักนายท่านก็เดินออกมาจากห้องนั้นค่ะ” 

แม่บ้านสาวพูดความจริงตามที่ตนเห็นทั้งหมดด้วยความเห็นใจที่คุณผู้หญิงถึงกับพูดว่าขอร้อง  คุณผู้หญิงคงอยากรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับลูกชายกลับมาเป็นดังเดิมแล้วหรือยัง

“งั้นหรือ”

“ค่ะ นายท่านออกมาบอกให้หนูไปเอาซุปข้าวโพดของโปรดคุณหนูมาให้ที  แล้วซักพักหนูก็เห็นนายท่านพาคุณหนูเดินลงบันไดมาพากันออกไปข้างนอก  น่ารักเชียวค่ะ ดูเหมือนคุณหนูเธอจะป่วยนะคะ นายท่านเลยคอยพยุงตัวตลอดเวลาเลยค่ะ  โอบประคองกันน่ารักเชียว คุณผู้หญิงไม่ต้องห่วงนะคะ ที่นี่กำลังกลับมาสดใสแล้วล่ะค่ะ”


“อืม ขอบใจมากนะ เอ้านี่ ฉันให้ เธอออกไปได้แล้ว”  ณดานั่งนิ่งอยู่ที่ปลายเตียงในหัวคิดแต่เรื่องที่เพิ่งได้รับฟังจากจากปากแม่บ้านสาวหลานพ่อบ้าน  จิตใจร้อนรุ่มอยากจะพูดคุยกับสามีและลูกชายซะเดี๋ยวนี้ว่ามีอะไรปิดบังหล่อนหรือเปล่า  มือบางกำหมัดแน่น ในใจร้องขอให้สิ่งที่คิดมันผิดไป

.
.
.

“ไปถึงไหนกันมาล่ะ”  มือที่กำลังโอบเอวผมอยู่ปล่อยลงข้างกาย  พอเงยหน้าขึ้นผมก็เจอกับใบหน้าเรียบตึงของแม่  ขาผมก้าวไม่ออกไปชั่วขณะรู้ตัวเลยว่าตอนนี้ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วคงจะซีดลงไปอีก  ไหนว่าวันนี้แม่ไม่กลับบ้านไง


“ว่าไงภิฌา ตกลงว่าวันนี้พ่อเขาพาไปเที่ยวไหน  ถึงกลับมาซะดึกดื่นเชียว”  ผมนึกอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรแม่กลับไปดี  ยืนนิ่งอยู่นานจนแม่เดินเข้ามาประชิดตัว  สองมือบางยึดไหล่ผมไว้แน่น แม่ถามพลางบีบหัวไล่ผมเบา ๆ เหมือนเรียกสติให้ผมตอบ


“ก็พาไปเที่ยวห้างใกล้ ๆ นี่แหละ พอดีมีงานด่วนที่โรงแรมนิดหน่อยเลยอยู่ยาว”  ตฤณตอบแม่แทนผมที่ยังตัวสั่นไม่หาย  ก้มหน้าหลบแววตาสงสัยของแม่ที่จ้องมองอยู่ 


“แล้ว สนุกไหมลูก”

“โอ๊ย!”  แม่ถามต่ออีกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แต่มือบางยังจับไหล่ผมแน่นและเมื่อผมยังเงียบนิ่งไม่ตอบอะไรออกไป เรียวเล็บก็ยิ่งจิกลงที่เนื้อของผมแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนผมต้องร้องออกมา


“เธอ! ทำอะไรเนี่ย จิกลูกทำไม ภิฌามาให้ฉันดูซิ”


“ผม ไม่เป็นอะไรครับ”


“อย่าดื้อ” ตฤณผลักแม่ออกไปให้พ้นตัวผม แล้วถกแขนเสื้อผมขึ้นเพื่อดูรอยแดงที่เล็บสีสวยของแม่จิกลึกลงจนเลือดไหลออกมานิด ๆ


“เลือด! แม่..แม่ขอโทษนะลูก วันนี้แม่  แม่รู้สึกไม่คอยดีน่ะ ไป เข้าบ้านนะเดี๋ยวแม่ทำแผลให้”


“ไม่เป็นไรครับแม่ แผลแค่นี้เอง”  เมื่อเห็นว่าแม่ตกใจ แววตาที่น่ากลัวตอนแรกหายไปแล้วผมก็เข้าไปกอดแม่แล้วยิ้มให้พร้อมกับส่ายหัวบอกให้รู้ว่าที่แม่ทำลงไป แม่ไม่ผิดอะไรเลย ผมต่างหากที่ผิด สิ่งที่ลูกชายคนนี้ทำลงไปต่างหากที่ผิด ผิดจนไม่น่าให้อภัย หากแม่จะทำร้ายผม  มากกว่านี้ก็ยังได้



“ขอโทษนะลูก แม่เครียด ๆ น่ะจ้ะ เลยเผลอทำลูกขนาดนี้”  แม่บอกกับผมด้วยความรู้สึกผิดพร้อมกับทำแผลให้ผมไปด้วย ซึ่งอันที่จริงแผลแค่นี้แค่เช็ดแอลกอฮอล์ก็พอ แต่แม่ก็ยังใส่ยาให้อยู่ดี


“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ”  ผมยิ้มไปให้แม่แล้วนอนหนุนตักนิ่มที่ผมไม่ได้สัมผัสมาหลายปี  พยายามแสร้งทำเป็นเด็กดีไร้เดียงสาเพื่อให้แม่สบาย


“เอ่อ ฌา แม่มาคิด ๆ ดูแล้วนะ  แม่ว่าลูกไปเรียนเมืองนอกอย่างที่คุณพ่อเขาแนะนำก็ดีแล้วนะ  ถึงแม่จะไม่เคยไปแต่ที่นู่นน่าจะมีอะไร ๆ ดี ๆ เยอะแยะล่ะมั้ง คนอื่นเขาถึงได้ขวนขวายอยากจะไปเรียนกัน”


“แต่ผมไม่ใช่คนอื่น ผมไม่อยากไปนี่นา  ผมอยากอยู่กับแม่  นะครับ นะ”  ผมลุกขึ้นนั่งทันทีที่แม่พูดสิ่งที่ผมไม่ชอบใจอย่างแรง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแม่ไม่ต้องการให้ผมอยู่ใกล้ ๆ



“อยากอยู่กับแม่งั้นเหรอ อย่าเลยแม่อยู่ได้สบายมาก เอาล่ะ ขึ้นนอนเถอะ ดึกมากแล้ว” แม่พูดแค่นั้นแล้วเดินหนีผมขึ้นไปนอนทันที  ผมไม่เข้าใจสายตาที่แม่มองมาตอนที่ผมบอกว่าอยากอยู่กับแม่  แววตานั้นมันดูเศร้ายังไงชอบกล  หรือว่าแม่จะรู้เรื่องแล้ว  แต่ก็ไม่น่าจะใช่  ถ้าแม่รู้ แม่จะนิ่งได้ขนาดนี้เชียวเหรอ  ผมนั่งจมกับความคิดวนเวียนอยู่แต่กับเรื่องราวความรักของผมกับใครอีกคน 

ความรักที่กำลังทำร้ายผู้หญิงคนที่เพิ่งทำแผลให้ผม  นั่งอยู่ได้ซักพักผมลุกขึ้นเดินไปขึ้นนอน  เดินผ่านประตูไม้บานใหญ่ห้องทำงานของตฤณ  เหมือนผมถูกดึงดูดให้เขาไปหาเขาจิตใจที่เลื่อนลอยลากสองขามาหยุดอยู่หน้าห้องนี้อีกครั้งมือขาวยื่นออกไปจับลูกบิดประตู


‘เฮ้อออ’ ผมถอนหายใจเบา ๆ ล้มเลิกความตั้งใจแล้วเดินขึ้นบันไดจากไป  อยากจะเข้าไปหาร่างสูงพูดคุยตกลงกันให้รู้เรื่อง  มาวันนี้ตั้งแต่เห็นแววตาสั่นไหวแลดูเศร้าสร้อยของแม่ นั่นทำให้ผมอยากเลิก  อยากจบ  พอแล้วกับทุกสิ่งทุกอย่าง 

แต่ผมก็กลัว  กลัวคำที่ตฤณเคยขู่เอาไว้  ถ้าจบ นั่นหมายถึงแม่ต้องรู้ทุกอย่างแล้วมันจะมีค่าอะไรกับการที่ผมอยากจะเลิกทำเรื่องเลวทรามที่มันเกิดอยู่ทุกวี่ทุกวันนี้เพื่อแม่กันเล่า


ผมนอนคว่ำหน้าลงกับเตียงพยายามคิดหาทางออกกับเรื่องบ้า ๆ นี้  จะทำยังไง ๆ จะทำยังไงดี  ถ้าเป็นที่โรงแรมคงจะตกลงกันง่ายกว่าอยู่ที่บ้าน  เมื่อคิดได้ผมก็พยายามปลดปล่อยความคิดที่หนักอึ้งแล้วข่มตาหลับเพื่อรอเวลาสิ้นสุดเรื่องชั่วช้านี้เสียที

TBC.  ที่หายไปหลายวันไปงานแฟนสวีทติ้ง จิ้น ฟิน เวอร์ มาค่ะ ชื่องานยาวมาก 555 กลับบ้านมาจะอัพหลายเรื่องก็มีอันต้องจบ มือซ้ายใช้การไม่ได้ เอ็นข้อมืออักเสบ กำมือยังปวดเลย TT จับอะไรก็ร่วง ฮือออ

ปล.2 พรทิวารวมเล่เวอร์ฟิคชั่นไป ส่วนเวอร์นี้สนใจอยากให้รวมเล่มกันไหมคะ ราคาเบาม๊ากก เล่มละ 170 บาทเท่านั้น เม้นบอกกันได้นะคะ จะได้รวมแบบเวอร์ Y ไทย จ้า :)

พรทิวามีแฟนเพจนะคะ>> https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2/219957994701272 (https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2/219957994701272)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.9 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 01-03-2014 21:54:45
 :katai1: สรุปว่าความจริง แม่ก็อยากได้ตฤณสินะ ตอนแรกๆทำเป็นไม่อยาก หลังนี่เปลี่ยนไปเยอะนะแม่คุณ
เหมือนจะหวงลูกแต่ที่เธอแสดงออกแวบแรกมันไม่ใช่

และดราม่ากำลังจะมาชิมิ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.9 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 01-03-2014 22:32:28
เลิกก็ทันนะ   :ruready
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.9 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 01-03-2014 23:42:59
ผิดที่ใครละนี่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-30% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 03-03-2014 21:12:27
Part 10




“ผมเตรียมน้ำอุ่นไว้ให้แล้วครับ คุณมาเหนื่อย ๆ อาบน้ำก่อนนะครับ”  ผมเข้าไปควงแขนร่างสูงที่เพิ่งเข้ามาในห้องสวีท(suite)หรูชั้นบนสุดของโรงแรมที่คุ้นเคยดี



ดูท่าทางเขาต้องกำลังงุนงงอยู่แน่ ๆ แต่ตฤณก็ยอมให้ผมจับมือแล้วเดินตามผมเข้ามาในห้องน้ำ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย คงเพราะที่จู่ ๆ ผมก็เปลี่ยนมาเป็นเด็กช่างเอาใจยิ้มหวานให้เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด




“คิดจะทำอะไรไม่ทราบ”  คนตัวสูงถามขึ้นขณะที่ผมกำลังลูบไล้ไปทั่วอกแกร่งพลางเงยหน้าแล้วยิ้มหวานที่คิดว่ายั่วยวนที่สุดเท่าที่จะทำได้ส่งไปหาเขา



“ฌาจะอาบน้ำให้ไง วันนี้คุณชลม์บอกว่าที่บริษัทมีเรื่องวุ่น ๆ คุณตฤณอารมณ์ไม่ดีเลย ฌาเลยอยากช่วยให้คุณผ่อนคลาย นะครับ ให้ฌาอาบน้ำให้นะครับ น๊า นะ” ผมพูดเสียงหวานหว่านล้อมให้คนตรงหน้าได้รู้สึกผ่อนคลาย  ค่อย ๆ เอื้อมมือขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ กลัวว่าจะทำให้ร่างสูงจับได้ว่าที่อยู่ ๆ ก็มาออดอ้อนเอาใจเพราะมีเป้าหมาย เดี๋ยวเขาจะพาลโมโหร้ายใส่ผมเอาน่ะสิ




“กางเกงล่ะ ไม่ถอดหรือไง” ตฤณพูดเสียงนิ่ง ๆ ด้วยท่าทีเรียบเฉย ส่วนผมน่ะเหรอรู้สึกร้อน ๆ รุ่ม ๆ ยังไงชอบกลป่านนี้ใบหน้ามันคงทรยศจนทำให้อีกคนเห็นสีแดงซ่านลามไปถึงใบหูแล้วล่ะมั้ง





“ตกลงวันนี้ฉันจะได้อาบน้ำไหม ห๊ะ!” ผมยืนนิ่งอยู่นานจนคนตัวโตทนไม่ไหว ตะคอกใส่ผมเสียงดังลั่นกึกก้องไปทั่วห้องน้ำ ผมค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับที่ซิบกางเกงของร่างหนาด้วยมือสั่นเทาไม่กล้าจะรูดซิบกางเกงลง ถึงจะเคยเห็นอาวุธร้ายที่ทำให้ผมทุรนทุรายอยู่เกือบทุกคืน แต่ผมก็ยังไม่ชินกับมันเสียที ยิ่งต้องมาเห็นใกล้ ๆ ท่ามกลางแสงสว่างจ้าจากหลอดไฟในห้องน้ำที่มีกระจกรอบด้านด้วยแล้วใจผมมันยิ่งเต้นผิดจังหวะไปจากทุกครั้ง





‘มันจะมาเขินอะไรตอนนี้วะภิฌา เกิดตฤณหงุดหงิดขึ้นมาก็อดพอดี’




“เฮ้อออ เธอออกไปเหอะ ฉันอาบเองดีกว่า วันนี้เหนื่อยมากจริง ๆ อยากจะนอนพักผ่อน”




“ไม่เอานะ! คะ..คือ..คือ ก็..ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะอาบให้ก็อาบให้สิ” ผมร้องออกมาเสียงหลงเมื่อตฤณพูดพลางดันหลังผมเบา ๆ ให้ออกไปจากห้องน้ำ ได้ยังไงกันล่ะคนอุตส่าห์ใจกล้าหน้าด้านทั้งยั่วทั้งอ่อยขนาดนี้แล้วนะ ถอดใจไม่ได้เด็ดขาด




ผมหลับหูหลับตารีบถอดเสื้อผ้าให้อีกคนจนเปลือยทั้งตัว แต่ชีเปลือยตัวโตกลับยื่นทื่อไม่ขยับลงอ่านซะอย่างนั้น นี่แกล้งกันหรือเปล่าเนี่ยผมบอกว่าจะบริการอาบน้ำให้ก็จริงแต่จะให้ผมอุ้มเขาลงอ่างเหมือนที่เขาทำกับผมบ่อย ๆ น่ะไม่ไหวหรอกนะ เขายืนมองผมนิ่ง ๆ ซักพักเสียงทุ้มก็เปิดปากทำลายความเงียบขึ้น




“เธอจะอาบน้ำทั้งชุดอย่างนี้หรือไง”

กรี๊ดดด ยังไม่จบนะฮะ อย่าเพิ่งสาปแช่งเค้า เค้าเจ็บมือจริง ๆ ตอนนี้ต้องพึ่ง Myonal อยู่ TT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-30% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 03-03-2014 22:21:09
 :katai1: ค้างจริง อะไรจริง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-30% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 05-03-2014 16:30:54
เดาใจคุณตฤณไม่ถูก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-100% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 06-03-2014 22:14:28
Part 10 (ครบ100%)

“เธอจะอาบน้ำทั้งชุดอย่างนี้หรือไง”

ตฤณพูดจบก็ก้าวขาลงไปแช่ตัวในน้ำอุ่นกำลังพอดีที่ผมเตรียมเอาไว้ให้ ผมก้มหน้าช่างใจอยู่ว่าจะทำยังไงดี ลืมคิดไปเลยว่าอาบน้ำด้วยกันมันก็ต้อง....อย่างนั้นนั่นแหละ อย่างที่ใคร ๆ เขาก็คิดกันทั้งนั้น  แต่ถ้าไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อนขืนยอมทำตามอารมณ์ตฤณไปกว่าผมจะหายเพลียตื่นมาอีกคนก็ไม่อยู่ให้คุยแล้ว


ผมยืนนิ่งคิดไปคิดมาจนกระทั่งเห็นร่างสูงลุกขึ้นดูเหมือนจะอาบน้ำเสร็จแล้ว ผมจึงรีบถอดชุดนักเรียนออกโดยไม่ลังเลเหลือไว้แค่เพียงเสื้อกล้ามตัวบางกับกางเกงชั้นในสีขาวแล้วรีบลงไปในอ่างทันที ผมผลักร่างหนาให้กลับลงไปนั่งอย่างเดิม

แล้วขึ้นนั่งบนตักแกร่งขยับตัวไปมาบดเบียดลงกับส่วนแข็งแรงยั่วเย้าให้ตฤณมีอารมณ์คล้อยตาม เทสบู่เหลวลงบนอกกว้างมือนิ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นอกกว้างพร้อมกับยิ้มหวานพยายามให้คนตรงหน้าหลงใหล  บีบนวดทุกส่วนของร่างกายบึกบึนเพื่อให้ผ่อนคลายจากความเครียดที่สะสมมาทั้งวัน


นับว่าเป็นโชคดีของผมที่วันนี้ตฤณมีเรื่องงานให้ต้องสะสางแบบเร่งด่วนมาทั้งวัน  ดูจากท่าทางที่เขาดูเหนื่อยล้าเต็มทน แต่ยังก่อน ผมยังให้เขานอนไม่ได้หรอกจนกว่าเขาจะอารมณ์ดีมากนี้ หลงใหลผมมากกว่านี้ แล้วจากนั้นจะขออะไร ไม่ว่าอะไรเขาก็ต้องยอม  ผมหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นอ่ะนะ เพราะขนาดเรื่องไปเรียนต่อเมืองนอก   ตฤณยังยอมให้ต่อรองได้เลยว่าหากสอบเข้ามหาลัยดังได้จะล้มเลิกแผนทุกอย่าง


“คุณตฤณชอบไหมครับ นวดแบบนี้ดีไหม” เปลือกตาของคนตัวโตหลับพริ้มด้วยความสบายตัวคลายจากอาการปวดเมื่อย

“อืมม ดี อ่า ตรงนั้นแหละ อ่า วันนี้ฉันปวดเมื่อยไปทั้งตัว อืมม      ฌาลุกขึ้นเถอะ”

“ทะ ทำไมล่ะครับ” ผมถามออกไปพร้อมด้วยแววตาสงสัยอย่างเด็กที่ไม่รู้ประสาทั้ง ๆ ที่เข้าใจดีว่าเพราะอะไร มือเล็ก ๆ ของผมที่บีบนวดลงบนบ่าแกร่งให้เจ้าของได้ผ่อนคลาย  ขณะเดียวกันด้านล่างสะโพกอิ่มก็ขยับอยู่ไม่สุขคอยกระตุ้นให้ร่างสูงเครียดเขม็งอยู่ตลอดเวลา


“วันนี้ฉันเหนื่อย จริง ๆ  อยากนอนพัก”


“หึ แก่แล้วเหรอเนี่ย คุณตฤณของผมยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลยนี่นา”

“อ้อนจริงน๊า วันนี้ อยากได้อะไร หืมม” มือของตฤณเริ่มลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผมนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าเส้นชัยอยู่แค่เอื้อม นิ้วหนาสะกิดเข้าที่ยอดอกของผมจนรู้สึกวูบไหวอยู่ในท้อง


“อ๊ะ ตฤณ อยะ..อย่าเพิ่งครับ อึก..อ๊ะ..อาบ..อาบน้ำก่อนนะ”

“ฉันอาบเสร็จแล้ว มา ให้ฉันอาบให้เธอมั่งดีกว่า” ตฤณถกเสื้อกล้ามขึ้นไปจนถึงใต้คางผม ความร้อนจากฝ่ามือใหญ่ที่ถูไถไปทั่วตัวทำให้หัวใจผมเต้นแรงขึ้น  ใบหน้าร้อนรุ่มเขินอายกับภาพที่เห็นเพราะไม่ว่าจะมองไปทางไหนผมก็เห็นแต่ร่างบอบบางขาวจัดกำลังขยับโยกตัวส่ายไปมาอยู่บนตักร่างสูง เหมือนกับว่าความร้อนรุ่มจากมือหนากำลังแผดเผาร่างบางในกระจกให้หลอมละลาย

“อ๊ะ..ตฤณ อื้อ..อย่าเลียสิ..อ๊ะ..อ๊า..พะ..พอก่อน”

“หึหึ ฉันแค่แกล้งเธอเล่นเท่านั้นเอง มาเถอะแช่น้ำนานไปจะไม่สบายเอา” คนตัวโตอุ้มผมที่ตัวอ่อนยวบอยู่ในอ่างขึ้นแนบอกพาออกไปยังส่วนของห้องนอนกว้าง ผมนั่งแหมะลงบนเตียงอย่างคนสติเลือนรางเต็มที  ลมหายใจที่ติดขัดเมื่อสักครู่ยังไม่กลับมาเป็นปกติดีเท่าไหร่

“หึ ดูทำหน้าเข้า อยากหรือไง เสียใจด้วยนะวันนี้ถ้าอยากก็ต้องทำเอง เพราะฉันจะนอนแล้ว” ตฤณพูดขึ้นนิ่ง ๆ ใบหน้ายกยิ้มขึ้นที่มุมปาก หลังจากที่เขาซับหยดน้ำที่เกาะพราวไปทั่วตัวผมจนแห้งเขาก็จัดการหยิบเอาเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาออกมาสวมให้ผม
เพราะหากไม่นับว่าห้องนี้เป็นห้องทำงานสำหรับนางบำเรออย่างผม ห้องนี้ยังเป็นห้องที่เขามักจะมานอนพักประจำในวันที่มีงานเร่งด่วนต้องสะสางจนดึกอีกด้วย


ถึงแม้จะรู้สึกดีกับการกระทำบางอย่างของตฤณ ที่รับรู้ได้ว่าคนตรงหน้านี้อ่อนโยนขึ้นคล้ายกับใครบางคนในความทรงจำสีจาง  แต่เพราะคำพูดที่เชือดเฉือนลงที่ก้อนเนื้อด้านซ้าย จุกกับคำพูดของคนตัวโตที่ดูถูกดูแคลนกันอย่างไรเยื่อใย

เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย จนผมเองไม่รู้แล้วว่าจะทำยังไงกับหัวใจตัวเองดีที่มันรักคนตรงหน้าเหลือเกิน แต่มันก็เจ็บเจียนตายเพราะคนตรงหน้าเช่นกัน ตฤณมีอิทธิพลต่อเขาอย่างน่าประหลาด

ผมกัดริมฝีปากแน่นตัดสินใจพูดร้องขอออกไป ในเมื่อตฤณเห็นผมเป็นแค่ของเล่นระบายอารมณ์ อยากเมื่อไหร่ก็เรียกมาตามสั่งได้ทุกเวลา ก็คงไม่ยากเท่าไหร่ถ้าจะโยนของเล่นเก่า ๆ ชิ้นนี้ทิ้งไป หาของใหม่มาเล่นด้วยคงสนุกกว่าเยอะ

“คุณไม่อยากก็ดีแล้ว เพราะผมก็เบื่อเต็มที อยากเมื่อไหร่ก็บอก จะให้คุณชลม์หาเด็กใหม่มาให้ก็แล้วกัน” ผมพูดจบแล้วเดินไปทางประตูห้องทันที แต่ร่างสูงของตฤณก็ผลุดลุกขึ้นลงจากเตียงรีบมาคว้าตัวผมไปกอดทันที

“งอนอะไรเล่า ฉันพูดหยอกเล่นแค่นั้นเอง ก็บอกแล้วไงว่าถ้าเธอเป็นเด็กดี ฉันก็จะดีด้วย อย่าขัดใจฉัน”

“เฮ้อ ผมพูดจริงนะ ....ตฤณ.....ผมว่า เราเลิกทำแบบนี้เถอะ ผมสงสารแม่ ..เล่นชู้...ลับหลังแม่แบบนี้ ..ถ้าแม่รู้..ผม....ผม”

“เธอไม่อยากอยู่ใกล้ ๆ ฉันเหรอ ไม่รักฉันแล้วสินะ”

“ม่ะ..ไม่ใช่นะ! ผม..ผม..ผมรักคุณ! .ฮือออ...ผมมันเลว ๆ..แต่ผมรักคุณ รักคุณ”


“ชู่ว์..ชู่ว์ ไม่เอาไม่ร้องนะคนดี เราอย่าเพิ่งคุยเรื่องคนอื่นกันเลยนะ วันนี้ดึกแล้วนอนซะ”ผมพยายามเค้นเสียงบอกความต้องการออกไปที่มันอัดแน่นอยู่ในอกออกไปจนได้ คิดว่าจะต้องโดนคนตัวโตทำร้ายโทษฐานที่คิดหนีจากสถานะที่เขายัดเยียดให้เสียแล้ว แต่ผิดคาด แขนแข็งแรงกลับโอบกอดผมไว้แน่นปลอบใจไม่ให้ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปมากกว่านี้


“มา นอนซะ เด็กดี พรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน”


“นอนที่นี่? ผมว่า ผมกลับไปนอนบ้านดีกว่า” ถึงจะเหนื่อยทั้งกายทั้งใจอยากจะพักผ่อนเต็มทน  แต่ถ้าไม่กลับบ้านแม่จะเป็นห่วง ผมรู้ว่าแม่รอผมทุกคืน แม่ไม่ยอมนอน แม่จะรอจนกว่าผมกลับถึงบ้านแล้วกอดราตรีสวัสดิ์ผม แม่ทำแบบนี้ทุกวันที่แม่อยู่บ้านไม่ได้ไปค้างต่างจังหวัด รอลูกรักอย่างผมที่กลับมาจากการไปทำเรื่องเลว ๆ ลับหลังแม่


“แม่เธอไม่อยู่ ซ้อเหลยป่วยหนักต้องเข้าโรงพยาบาล แม่เธอโทรมาบอกฉันตั้งแต่เมื่อตอนเย็นแล้ว”


“อาซ้อเข้าโรงพยาบาล! แม่ไม่เห็นบอกผมเลยนะ”


“ช่างเถอะ อย่าคิดอะไรมากเลย คืนนี้เรานอนกันที่นี่แหละ พรุ่งนี้ค่ำ ๆ ค่อยกลับบ้านก็แล้วกัน ฝันดีเด็กน้อย” ตฤณกระซิบข้างหูของผมริมฝีปากหนาไล่จูบตั้งแต่หน้าผากเรื่อยลงมาที่เปลือกตาทั้งสองข้าง แก้ม จมูก จนถึงริมฝีปากจุมพิตแสนหวานที่ได้รับไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปภายในทำให้ผมรู้สึกอุ่นซ่านไปถึงหัวใจ อาการเครียดอึดอัดค่อย ๆ จางลงจนในที่สุดผมก็หลับตาลงเข้าสู่นิทราไม่รับรู้อะไรอีกต่อไป

TBC. จบตอนที่10แล้วฮะ มีทั้งหมด 12 ตอนนะคะ

พรทิวาถามหน่อย ถ้าจะตีพิมพ์นิยายเรื่องนี้ราคาอยู่ที่ 170 ต่อเล่ม(ยังไม่รวมค่าส่ง)

ในเล่ม12ตอนจบ+ตอนพิเศษอีก 2 ตอน บทส่งท้ายอีก 1 สนใจกันไหมคะ เดี๋ยวลงทำโพลอีกที คือเค้าพิมพ์เวอร์ชั้นแฟนฟิคไปแล้ว แต่อยากได้เวอร์ชื่อไทย ๆ เก็บไว้อีก ^^ ถ้าสนใจก็เม้นบอกกันมั่งนะคะ :)

พรทิวามีเพจน๊า>>

https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2/219957994701272 (https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2/219957994701272)

ปล.ในเพจอาจจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวนะคะ เพราะช่วงนี้ใกล้สอบปิดเล่มจ้า เลยไม่ได้อัพนิยายตอนใหม่ ๆ แต่เรื่องคนบาปนี่เขียนจบแล้วจ้าเลยเอามาลงได้

ปล.2 ขอบคุณทุกคนที่อ่านและทุกคนที่มาเม้นนะคะ พรทิวามีกำลังใจดีเลยค่ะ ตรงไหนแปลก ๆ ไม่ดี ไม่ชอบ ก็บอกกันนะคะ เป็นทานให้นักเขยนฝึกหัดค่า :)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-100% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 06-03-2014 22:51:32
 :z3: สรุปตฤณมันยอมรับว่าชอบแล้วใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.10-100% หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 07-03-2014 07:32:02
อืม ตฤณเราปวดหัวกับนายจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.11 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 10-03-2014 02:22:00
Part11



“อื้ม” ผมพยายามจะพลิกตัวหันไปอีกด้านเมื่อรู้สึกหงุดหงิดเหมือนมีอะไรมาคลอเคลียอยู่ตรงแก้มรบกวนการนอนของผม แต่ก็ขยับไม่ได้ซักทีด้วยความที่ยังง่วงนอนอยู่ผมเลยไม่สนใจนอนต่ออีกครั้ง  แต่เมื่อรู้สึกเหมือนโดนลูบแก้มอีกครั้งผมจึงฝืนความขี้เกียจค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมาก็พบกับใบหน้าของอีกคนที่อยู่ชิดใบหน้าของผม จมูกโด่งสวยได้รูปนั้นถูไถไปมากับแก้มนิ่มของผม

“อื้อ ตฤณ แก้มผมช้ำหมดแล้ว” ผมพูดกับคนตัวโตแล้วซุกเข้ากับอกแกร่งหนีริมฝีปากของอีกคนไรหนวดของตฤณทำเอาแก้มผมขึ้นรอยแดงจาง ๆ เลยอ่ะ

“เช้าแล้ว หิวหรือยัง” มือหนาลูบหัวผมเบา ๆ จับปอยเส้นผมของผมเล่นไปมาอย่างสบายใจ ไม่มีความทุกข์ร้อนใด ๆ ในชีวิตเลยสินะ ผิดกับผมที่รู้สึกอัดอัดกับการหลบ ๆ ซ่อน ๆ และความรู้สึกถูกทิ้ง

ทุกครั้งที่ได้อยู่กับเขาแค่สองคน ผมจะมีความสุขมาก ๆ สุขจนล้นเลยทีเดียว คงจะจริงอย่างที่ใคร ๆ ว่ากันไว้ว่า ความสุขอยู่ได้ไม่นาน ความทุกข์ก็จะมาเยือนเราเสมอ เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าก็คงหมดเวลาของผมแล้ว กลับไปบ้านก็จะไม่ตฤณของผม และจะไม่มีตลอดไป เพราะวันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่ายังไงผมก็ต้องเลิกให้ได้ ถึงจะเจ็บแค่ไหนก็ต้องยอม ผมยอมเจ็บคนเดียว เจ็บเจียนตายก็ยอมเพื่อแม่ ผู้หญิงที่แสนดีที่สุดในโลก ผมยอม

“เช้าแล้วเหรอครับ กลับบ้านเลยดีไหม” ผมเงยหน้าถามคนตัวโตที่ยังคงนอนกอดผมอยู่

“กลับค่ำ ๆ ก็ได้นี่ แม่เธอยังไม่กลับเสียหน่อย”

“อืมม ก็ได้ครับ  ตฤณ วันนี้ผมจะตามใจคุณทุกอย่างเลย” พูดจบผมก็หอมแก้มสากแรง ๆ หนึ่งทีพร้อมกับส่งยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดไปให้

ถึงคุณจะไม่ได้รักผมเลยก็ตาม แต่วันนี้ แค่วันนี้เท่านั้นที่ผมจะตามใจคุณทุกอย่าง วันสุดท้ายของเรา ผมขอให้มันเป็นวันที่น่าจดจำตลอดไป

“หืมม ทุกอย่างเลยเหรอ หึหึ” ตฤณถามพลางหัวเราะไปด้วย เจ้าแววตาเจ้าเล่ห์แบบที่เอาไว้มองเหยื่ออย่างผมนั่นแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

“ทุก อย่าง เลย ครับ” ผมตอบเขากลับไปด้วยน้ำเสียยงหนักแน่นย้ำชัด ๆ ทีละคำ

“งั้น เช้า ๆ แบบนี้ทำอะไรกันดีล่ะ”

“กินอาหารเช้าครับ คิคิ” ผมตอบตฤณแล้วลุกจากเตียงวิ่งหนีคนตัวโตออกนอกห้องนอนทันที  เดินเข้ามาในส่วนของครัวเปิดดูตู้เย็นว่าพอจะมีของสดอะไรใช้ทำอาหารเช้าง่าย ๆ ได้บ้าง

“มีแต่น้ำเปล่าทั้งนั้นแหละน่า มานี่เลย มาให้กินซะดี ๆ หิวแล้วเนี่ย” ตฤณตามออกมาหาผมที่ครัว มือหนาสอดเข้าที่เอวผมจากด้านหลังกอดผมไว้แน่นแล้วแกล้งเอาคางที่เต็มไปไรหนวดครูดกับแก้มผมไปมา

“อ๊ะ ไม่เอานะ ผมหิวแล้วน๊า คุณไม่หิวหรือไง โทรสั่งให้คนเอาของสดขึ้นมาให้หน่อยสิ”

“โทรสั่งอาหารเลยไม่ดีกว่าเหรอ”

“แต่ผมอยากทำอาหารให้คุณทานนี่นา นะครับ นะ ยังไงก็อยู่นี่ทั้งวันอยู่แล้ว ของสดแหละดีครับ เดี๋ยวมื้อกลางวัน มื้อเย็นเราทำกินกันที่นี่แหละเน๊อะ” ผมส่ายหน้าให้ร่างสูง แล้วอ้อนให้อีกคนทำตามความต้องการของผม

ถึงคนตรงหน้าจะเลวร้ายแค่ไหน อย่างน้อยตลอดหลายปีที่ผ่านมาเขาก็ส่งเสียให้ผมกับแม่มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดีเกินไปด้วยซ้ำ ความทรงจำครั้งสุดท้ายของเราผมอยากจะทำอะไรเพื่อเขาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยังดี

ใครรู้เข้าคงสมเพชผมน่าดู โดนเขากระทำย่ำยีให้เจ็บปวดเจียนตาย เป็นที่ระบายอารมณ์เหมือนกระโถนที่รองรับขยะทุกอย่างเอาไว้ แต่ผมก็ยังจะรักเขา รักผู้ชายคนนี้ รักไปได้ยังไงก็ไม่รู้

ตอนแรกตฤณเป็นเหมือนเทวดาที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตผม เติมความรักให้ทั้งสี่ห้องหัวใจอบอุ่นกำลังดี  แต่เมื่อความสุขมันเต็มปรี่จนร้อนราวกับไฟแผดเผา ตฤณก็เหมือนซาตานที่ผมไม่อาจต้านทานได้

“ฉันโทรบอกให้คนเอาของขึ้นมาให้แล้วนะ อีกซักพักคงมีขึ้นมา ระหว่างนี้ฉันอยากจะ..”

“พอเลยนะ  คุณไปอาบน้ำดีกว่า นะครับ นะ” ผมปฏิเสธทันทีทั้งที่ร่างสูงยังพูดไม่ทันจบแล้วก็นึกขึ้นได้ว่าผมไม่ควรจะขัดใจอีกฝ่ายแบบนี้เดี๋ยวตฤณจะพาลอารมณ์เสีย คิดได้ดังนั้นผมจึงรีบอ้อนคนตัวโตทันที พูดเพราะ ๆ แล้วยิ้มหวานให้

“หึ กลัวโดนทำโทษรึไง รอยยิ้มไม่ธรรมชาติเอาซะเลยนะ” ผมหุบยิ้มทันทีที่อีกคนรู้ทันความคิดผม แต่ก็ยังดีที่เขาแค่แขวะกลับมาไม่ลงไม้ลงมือเหมือนทุกครั้ง

“มานี่เลยมา” ตฤณจูงมือผมไปทางห้องนั่งเล่นที่มีโซฟาตัวใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง

“คุณตฤณอ่ะ!”

“อะไร นี่ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัวเลยนะ เมื่อคืนเด็กที่ไหนก็ไม่รู้งอแงให้ปลอบอยู่ทั้งคืนเลย” ร่างสูงถอดเสื้อแล้วนอนคว่ำลงบนโซฟาทิ้งให้ผมที่ยังอายกับประโยคเมื่อครู่ยืนอึ้งอยู่คนเดียว เชอะ ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย

“ยืนเหม่ออะไร ห๊ะ” ผมสะดุ้งตื่นจากภวังค์ทันทีที่มือใหญ่ของตฤณกระชากแขนผมให้ล้มลง ร่างสูงพลิกตัวโอบกอดผมไว้เบียดกันอยู่บนโซฟา

“ดุอีกละ”

“ก็ถ้าเป็นเด็กดี ไม่ขัดใจล่ะก็นะ..”

“ถ้าอยากให้นวดก็นอนลงไปเลย” ผมผลักอกหนาของอีกคนให้ออกห่างแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมลงมือบีบนวดให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย
ผมนวดหลังให้ตฤณได้ซักพัก พนักงานของโรงแรมก็นำของสดสำหรับทำอาหารขึ้นมาให้ที่ห้อง ผมจึงละมือไปทำอาหารเช้าให้ตัวเองและคนตัวโตที่นอนหลับสบายอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ คงจะเหนื่อยกับงานมาทั้งวันถึงได้หลับสนิทไม่รู้เรื่องขนาดนี้


“อื้อ หอมจัง  ฮ้าาว..ฌา ทำไมไม่ปลุกฉันล่ะ” คุณตฤณที่คงจะตื่นเพราะกลิ่นหอม ๆ ของอาหารมื้อเช้าที่ผมทำลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจซ้ายขวาไปมา แล้วเดินตรงมาทางครัว

“ผมเห็นคุณกำลังหลับสบายเลยไม่อยากกวน ข้าวต้มหมูสับ กับไข่เจียวกุ้งสับนะครับ อยากได้อะไรเพิ่มไหม” ผมหันหน้าไปถามร่างสูงที่ท้าวแขนเกาะขอบเคาท์เตอร์หน้าครัวอยู่

“อืม แค่นี้ก็พอ เช้า ๆ แบบนี้ฉันกินเยอะไม่ไหว เธอก็รู้นี่”

“ก็รู้น่ะสิครับ เลยทำแค่นี้  อื้ออ คุณตฤณไปนั่งที่โต๊ะเลยนะ ผมหิวแล้วนะ!” ผมแหววใส่คนตัวโตที่เดินมาซ้อนอยู่ข้างหลังมือไม้ก็ไม่ค่อยจะอยู่สุข ปัดป่ายลูบไล้ไปทั่วหน้าท้องของผม

“หึหึ รู้ใจจริง ๆ นะ เมียใครหว่า”




 “ก็แค่เมียน้อยจะสนใจทำไม อ๊ะ!” จะด้วยความน้อยใจหรือหงุดหงิดที่คนตัวโตเอาแต่ลูบไปมากับเนื้อตัวผมเหมือนจะแกล้งเล่น ก็ไม่ทราบได้ หลังจากเงียบไปซักพักผมก็ทนไม่ไหวโพล่งออกไป ตฤณคงจะไม่พอใจที่ผมพูดพาดพิงไปถึงคนอื่น พาดพิงถึงแม่ เมียแต่ง เมียที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แม่คือผู้หญิงที่ผมแตะต้องไม่ได้ ห้ามพูดถึงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน พูดถึงแม่เมื่อไหร่เป็นอันว่าต้องทะเลาะกันแล้วผมมักจะได้แผลทุกที


“พูดอะไร ห๊ะ! อย่าไปคิดถึงคนอื่นได้ไหม ห๊ะ คนกำลังอารมณ์ดีอยู่แท้ ๆ"

“ก็ผมพูดความจริง” ผมตอบเขาพลางก้มมองอาหารที่อยู่ในจานไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย

“ออกไปเลยไป!”

“วะ..ว่าไงนะ นี่ขอแค่วันนี้ วันเดียว คุยกันดี ๆ ไม่ได้เลยหรอ วันสุดท้ายของเรา คุณให้ผมไม่ได้ใช่ไหม!” ผมตะโกนใส่หน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโห ข้าวก็ยังไม่ได้กินซักคำเลยนะ พอไม่พอใจก็เอาแต่ไล่ เออ รู้หรอกน่ะว่าไม่ใช่คนสำคัญ เป็นแค่ของเล่น

“พูดอะไรของเธอฉันหมายถึงออกไปนั่งที่โต๊ะอาหารนู่น ฉันไม่ได้อยากจะทะเลาะให้เหนื่อยหรอกนะ ช่วงนี้งานที่บริษัทก็ยุ่งมากพอแล้ว”

“อ้าว กะ..ก็คุณ ผมนึก..ว่า” ผมอึ้งไปเลยทันทีที่ตฤณเฉลยว่าที่ไล่น่ะ คือไล่ให้ผมออกไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร คำพูดมันจุกอยู่ที่คอไม่รู้จะพูดอะไรกับอีกคนดี สุดท้ายผมก็ต้องถอยหลบร่างสูงที่ยกจานอาหารออกไปจากครัว โดยมีผมเดินตามไปนั่งฝั่งตรงข้าม

“กินข้าวเสร็จแล้วมีเรื่องจะคุยด้วยนะ”

“คุยอะไรอ่ะ ไม่คุยได้ไหม ไปเที่ยวกันเหอะ” ผมต่อรองกับเขา ไม่อยากคุยด้วยเลยจริง ๆ กลัวว่าคุยไปคุยมาจะรวนเรเปลี่ยนไปเป็นทะเลาะกันอีกซะล่ะมากกว่า

“ไม่ได้ คุยกันก่อนเสร็จแล้วจะพาไปเที่ยว”

“ไม่เอา วันนี้ไม่อยากทะเลาะด้วยนะ เหนื่อย” พูดจบผมก็ลงมือตักข้าวต้มเข้าปากไม่สนใจคนตรงหน้าอีกเลย

“แล้วใครคนเริ่ม ใครที่บอกว่าวันสุดท้ายของเรา ห๊ะ! เมื่อกี้ใครพูด ฉันได้ยินนะ” ได้ยินเสียงเข้มตะคอกใส่ผมถึงกับทำช้อนที่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากหล่น เมื่อกี้นึกว่าคนตัวโตจะไล่ให้กลับบ้านเลยเผลอพูดสิ่งที่ตรึกตรองมาตลอดออกไป

 ดีเหมือนกันพูดกันซะให้รู้เรื่อง ผมคิดไว้นานแล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง วันที่ผมจะกล้าตัดสินใจให้มันเด็ดขาดลงไปซักที กลัวอย่างเดียวกลัวว่าอีกคนจะไม่ยอมรับฟังแล้ววันสุดท้ายของเราจะไม่เหลือความทรงจำแสนสุขให้ผมเก็บไว้ติดตัว

“ก็ตามที่..เฮ้ออ ตามที่พูดนั่นล่ะครับ คุณคงเข้าใจอยู่แล้ว” ผมถอนหายใจพยายามเค้นเสียงออกมาเป็นคำพูดด้วยท่าทีเรียบนิ่งไม่แสดงอาการอ่อนไหวหรือเจ็บปวดใด ๆ ให้อีกคนได้รับรู้

“ให้เข้าใจอะไร! อยากเลิกมากนักใช่ไหม! ทำไม หาผัวใหม่ได้แล้วหรือไง!”

“ตฤณ! มันจะมากไปแล้วนะ” ผมฉุนจัดที่ร่างสูงพูดจาเหยียบย่ำผมขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ผมมีเขาแค่คนเดียว

“ฉันไม่สนใจว่าไอ้นั่นมันจะเป็นใคร เลิกกับมันซะ! ไม่งั้นจะแม่เธอได้รู้เรื่องของเราแน่!”

“คุณตฤณ! เกินไปแล้วนะ! ลากเอาแม่มาเกี่ยวด้วยทำไม” ผมลุกขึ้นยืนด้วยความโมโหกับประโยคที่อีกคนพูด ไม่ไหวแล้วนะ ผมไม่ไหวแล้วจริง ๆ ผมไม่รู้จะทำยังไงเลยหากแม่จะต้องมารับรู้เรื่องราวอันแสนเน่าเฟะของสามีตัวเองกับลูก แม่จะเป็นยังไง ผมไม่กล้าคิดเลย

“นั่งลง กินข้าวให้หมดก่อน แล้วค่อยคุยกันต่อ” ตฤณถอนหายใจหนัก ๆ เหมือนพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเองแล้วพูดกับผมด้วยท่าทีเรียบนิ่ง เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ผมยืนตัวสั่นมองเขาด้วยความโมโห

“ไม่กิน! คุยมาเลยดีกว่าว่าคุณจะเอายังไง! ยังไม่เบื่อใช่ไหม! ทำไม จะอยากเก็บไว้ทำไม ของเล่นชิ้นเดิม ๆ อย่างผมน่ะ  อ้อ เก็บไว้ทรมานเล่นสินะ!”

“อย่ามาทำตัวน่ารำคาญนะ ภิฌา” ตฤณกดเสียงต่ำบอกกับผมโดยที่ร่างสูงไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองผมเลยด้วยซ้ำ เห็นแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหว ไหน ๆ วันนี้ก็คงไม่มีความทรงจำดี ๆ ให้จดจำอยู่แล้วนี่


‘โครม’


“ภิฌา!” ผมจับเก้าอี้ตัวที่ผมนั่งเมื่อไม่กี่นาทีก่อนเหวี่ยงไปด้านข้างชนผนังที่มีชั้นลอยวางแก้วคริสตัลประดับสวยงามจนมันหล่นลงมาแตกกระจาย

“เป็นบ้าอะไร! ไอ้เด็กไม่ดี!”

“เออ ไอ้เด็กคนนี้มันชั่ว ทั้งเลวทั้งร่าน วัน ๆ แม่งก็นอนเอากับผัวของแม่ เลวขนาดนี้คุณจะมาสนใจผมทำไม!"

“หยุดบ้าเดี๋ยวนี้นะ! อย่าเดิน!” เมื่อเห็นร่างสูงตะโกนเรียกชื่อผมเสียงดัง ดวงตาวาวโรจน์ของคนตัวโตที่จ้องมองผมเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อก็ทำให้ใจผมหวิว ๆ อยู่เหมือนกัน สองขาค่อย ๆ ถอยหลังออกห่างจากอีกฝ่าย

“โอ๊ย!”

“โธ่ว้อย! มานี่เลย!” ขณะที่ผมกำลังก้าวถอยหลังพลางจ้องหน้าอีกคนไม่วางตา เท้าผมก็เหยียบเข้ากับเศษแก้วที่แตกกระจายอยู่บนพื้น ตฤณเดินมาประชิดตัวผมทันทีแล้วอุ้มผมไปนั่งที่โซฟาหน้าโทรทัศน์ตัวใหญ่ในห้องรับแขก

“อึก..อื๊อ”

“เจ็บก็ร้องออกมา จะกลั้นไว้ทำไม”

“ก็มัน.. งื้อ” ตฤณว่าเข้าให้ระหว่างที่หยิบเอาเศษแก้วออกจากฝ่าเท้าของผม ผมได้แต่ก้มหน้ามองมือหนาที่กำลังทำความสะอาดเท้าของผมด้วยน้ำเกลือ น่าแปลกที่คนตรงหน้าผมตอนนี้ทำแผลที่เท่าให้ผมอย่างไม่นึกรังเกียจ ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วเราสองคนทะเลาะกันแทบตาย

“แผลลึกอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ถึงขนาดต้องเย็บหรอก ระหว่างนี้ก็อย่าเดินลงส้นข้างนี้ให้มากแล้วกัน” ตฤณพันแผลให้ผมเสร็จก็เงยหน้าหล่อคมเข้มแลดูอ่อนเยาว์ของตนเองขึ้นมามองสบตากับผม ทำเอาผมรีบก้มหน้างุดชิดอกตัวเองหนีหน้าอีกฝ่ายแทบไม่ทัน

“เฮ้อ ใช่ว่าจะมีแต่เธอที่ไม่อยากทะเลาะ ฉันก็เหนื่อยแล้วเหมือนกันนะ เรามาคุยกันดี ๆ ตกลงไหม”

“ผะ..ผมอยากละ..” ผมยังพูดไม่ทันจบตฤณก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“ข้อนี้ฉันให้ไม่ได้ เธอก็รู้ เอาเป็นว่าระหว่างที่อยู่ไทยเราจะไม่มาที่นี่อีก แต่ฉันจะไปหาเธอที่เมืองนอกแทน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องแม่ของเธอ”

“คุณมันเห็นแก่ตัว!”

“กินข้าวได้แล้ว” ตฤณลุกเดินไปหยิบจานอาหารของเราทั้งสองคนมาวางไว้บนโต๊ะกระจกขนาดย่อมหน้าจอโทรทัศน์ แล้วโทรศัพท์เรียกแม่บ้านขึ้นมาเก็บกวาดซากกระจกที่เละเทะไม่เป็นท่าอยู่ในห้องอาหารเพราะฝีมือผม

“กินข้าว!”

“.....” ผมทั้งโกรธ ทั้งหงุดหงิดไม่เข้าใจคนตรงหน้าจนตัวสั่นไปหมด แต่มือสั่น ๆ ก็พยายามจับช้อนตักข้าวเข้าปาก
กว่าเราจะกินข้าวเช้ากันเสร็จเรียบร้อยด้วยฝีมือทำอาหารที่ลุงชองสอนผมมาตั้งแต่จำความได้  ห้องอาหารก็สะอาดเรียบร้อยเหมือนไม่เคยมีสงครามขนาดย่อมเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นเราก็นั่งดูทีวีกันเงียบ ๆ


ตฤณจัดท่าให้ผมนั่งอยู่บนโซฟาระหว่างขาของเขาทั้งสองข้างแขนหนาโอบกอดผมเอาไว้ ปลายคางแหลมทิ้งน้ำหนักลงบนกลางศีรษะของผม โดนแบบนี้เข้าไปผมก็ไม่กล้าจะขยับไปทางอื่นเลย แม้ว่าจะนั่งจนตัวเกร็งปวดกล้ามเนื้อไปทั้งตัวแล้วก็ตาม

“จะร้องให้มันได้อะไร ห๊ะ! น่ารำคาญจริง ๆ” ร่างสูงผลักผมออกจากตัวแล้วเดินเข้าหนีไปอาบน้ำ

ผมเหนื่อยเหลือเกินคิดไม่ตกจริง ๆ ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อจากนี้ ชีวิตที่มีตฤณมันก็ร้อนเหมือนโดนเผาอยู่ตลอดเวลา ส่วนชีวิตที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกายแค่คิด ก็รู้สึกหนาวยะเยือกเหมือนจะขาดใจตายให้ได้ ไปเรียนเมืองนอกตามที่ร่างสูงเสนอน่ะเหรอ หึ คงไม่พ้นตำแหน่งนางบำเรอนักเรียนนอกอยู่ดี แต่ไม่แน่อยู่ไกลกันขนาดนั้นเขาอาจจะลืมผมก็ได้ รักแท้มักจะแพ้ใกล้ชิด แล้วยิ่งระหว่างผมกับเขามันใช่ความรักซะที่ไหนกัน


“ตฤณ” ผมเดินเข้าไปในส่วนของห้องแต่งตัวมองอีกฝ่ายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างสูงทำหน้าไม่สบอารมณ์ที่เห็นหน้าผม เลิกคิ้วหนาขึ้นเป็นเชิงถามว่ามีอะไร

“ถะ..ถ้าฌาไปเรียนเมืองนอกอย่างที่คุณต้องการ ขะ..ขออะไรอย่างนึงได้ไหม ม่ะ..ไม่ใช่เงื่อนไขอะไรนะ! แต่เป็นคำขอร้อง นะครับ นะ” ผมกลั้นใจพูดออกไปกับสิ่งที่เป็นกังวลอยู่ในใจผมตอนนี้ พอเห็นคนตัวโตเริ่มจะทำหน้าดุออกมาอีกครั้งผมก็รีบพูดเสียงหวานกับอีกฝ่ายทันทีพร้อมกับขยับเข้ามาใกล้ยื่นเสื้อเชิ้ตสีสวยส่งให้เขา

“ขออะไร” ตฤณปัดมือผมออกไม่ยอมแต่งตัวให้เรียบร้อยแต่ดึงแขนผมเข้าปะทะกับเข้ากับตัวเขาแนบสนิทกับช่วงบนที่เปลือยเปล่าด้านล่างมีผ้าขนหนูสีขาวพันไว้รอบเอว

“รับปากได้ไหมว่าจะให้”

“ไม่ได้ อย่างเธอมีสิทธิอะไรมาสั่งฉัน บอกมาว่าจะขออะไร” ผมสูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ นึกหมันไส้อีกคนที่ไม่ตกหลมพราง

“ว่าไง ก็ตามใจนะถ้าเธอไม่..อื้ม..” ผมใจกล้าหน้าด้านแขนที่คล้องรอบคอหนาเปลี่ยนมายึดไหล่แกร่งไว้แน่นแล้วโน้มหน้าลงไปจูบริมฝีปากหยักแต่ไม่ได้ลุกล้ำเข้าไปด้านใน ไม่ไหวหรอกผมอายจริง ๆ นี่นา

“หึ แค่นี้ไม่พอหรอกนะ แต่จะยกเว้นให้ก็แล้วกัน ฉันชอบนะเวลาเธออ้อนฉันแบบนี้น่ะ” ตฤณยิ้มให้ผมเป็นเชิงอนุญาตว่าตกลงว่าจะไม่โกรธหากผมยังยอมให้เขาเล่นง่าย ๆ อยู่เหมือนเดิม ของเล่นราคาถูกก็คงแบบนี้สินะ แต่ช่างเถอะเขาจะคิดยังไงก็ช่าง ผมเจ็บจนชินแล้ว

“ฝากดูแลแม่ด้วยได้ไหม คุยกับแม่บ้าง แม่รักคุ..อื้อ อื้มม” มือหนากดท้ายทอยผมไว้โน้มลงมารับจูบจากเขา ตฤณกดจูบย้ำ ๆ ดูดดุนริมฝีปากของผมทั้งบนและล่างจนมันบวมช้ำไปหมด ลิ้นร้อนพยายามสอดแทรกเข้ามาข้างในให้ได้ แต่ผมปิดปากไว้แน่น ขืนปล่อยให้เข้ามาเดี๋ยวจะยาวคุยไม่รู้เรื่องกันพอดี สุดท้ายตฤณก็ยอมผละออกจากริมฝีปากผม มือหนายกขึ้นปัดปอยผมที่ลงมาปิดหน้าปิดตาออกให้


“แฮ่ก ๆ ๆ คุณนี่มัน แฮ่ก ๆ ” ผมหายใจหอบซบหน้าเข้ากับอกแกร่งของอีกคน


“บอกแล้วใช่ไหม ว่าอย่าพูดถึงคนอื่นฉันไม่ชอบ!”

“แม่ไม่ใช่คนอื่น! แม่เป็นเมียคุณนะ!”

“อย่ามาทำเป็นพูดดี หึ ลึก ๆ แล้วเธอเองก็อยากให้ณดาหายไปใช่ไหมล่ะ แน่ล่ะสิ ร่านซะขนาดนี้ ติดใจฉันทั้งแม่ทั้งลูก”

“ตฤณ! ไอ้คนเลว”



‘เพียะ’



“จะไปไหน! กลับมานี่นะ!”


“โอ๊ยย” ผมโกรธจนเผลอตบใบหน้าคมออกไป สายตาดุดันโกรธจัดหันกลับมามองจนผมขนลุกด้วยความกลัว สองเท้าก็ออกวิ่งหนีร่างสูงทันที แต่มือยังไม่ทันเอื้อมไปถึงลูกบิดประตูห้อง ตฤณก็กระชากคอเสื้อผมจากด้านหลังแล้วเหวี่ยงผมเข้ากับกำแพง หลังผมกระแทกเข้าอย่างแรงเจ็บร้าวระบมไปทั้งตัว


“กล้าตบฉันเหรอ ห๊ะ! เดี๋ยวนี้กล้าตบฉันเหรอ”

“อื้อ อ่อย” มือหนาบีบปากผมราวกับถูกคีมเหล็กบีบให้กระดูกแตก ผมดิ้นอย่างแรงหมายจะให้หลุดพ้นจากพันธนาการจากอีกฝ่าย

“เทิดทูนแม่เหลือเกิน แต่ยอมทรยศแม่เพื่อมานอนกับฉันอยู่ดี ก็อย่าเอาผู้หญิงคนนั้นมาเป็นข้ออ้าง!”

“อึก..อ่อย อือ ฮือ อีออน อ่อย ฮืออ” ร่างสูงออกแรงบีบกรามผมแรงขึ้นเรื่อย ๆ เจ็บจนน้ำตาไหลพยายามเค้นเสียงเป็นคำพูดออกไป ขอร้องให้เขาปล่อย

“อยากเลิกนักใช่ไหม! อยากมีหลายผัวนักรึไง ก็ดี งั้นเรามาเริ่มเรียนกันเลยดีไหม ฉันจะสอนเธอเอง เวลาไปนอนกับ ไอ้ตัวอื่นมันจะได้ติดใจเธอไง” ตฤณลากผมเข้าไปในห้องนอนแล้วเหวี่ยงผมลงบนเตียงอย่างแรง

“คิดจะไปก็อย่ากลับมาอีก เพราะฉันไม่ชอบใช้ของมือสอง มันสกปรก!” พูดจบมือหนาก็กระกระชากเสื้อผ้าออกจากตัวผมทันที ไม่ได้ถอดออกให้อย่างที่ควรจะทำชุดที่สวมใส่อยู่ถูกดึงกระชากไปคนละทิศคนละทางเสียดสีเป็นรอยแดงตามตัวผมจนแสบร้อนไปทั่ว

“ตฤณ อย่านะ!”

“หุบปากแล้วเก็บเสียงไว้ครางให้ฉันฟังดีกว่า”

“ตฤณ มัน อื้อ พอ ได้โปรด อ๊า” ผมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและหายใจหอบเพราะปลายนิ้วยาวของอีกฝ่ายสอดลึกเข้ามาภายในช่องทางสวาทอย่างไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว นิ้วยาวหมุนวนครูดไปกับผนังร้อนด้านใน

“ไม่เอาแล้ว! พอซักที ฮือ อึก ฮือออ”

“หึ ปากว่าไม่ แต่รัดนิ้วฉันแน่นขนาดนี้แล้วเนี่ยนะ”

“ตฤณได้โปรด” ผมขอร้องด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมกับน้ำใส ๆ ที่รื้นขึ้นในดวงตา

“อา ผิวเธอมันลื่นเนียนดีจริง ๆ ชักจะทนไม่ไหวแล้วสิ” พูดจบร่างสูงก็ถอยห่างออกไปกระตุกปมผ้าขนหนูที่เอวออกเบา ๆ ก็เผยให้เห็นความต้องการของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

“อ๊ะ  อื้อ อยะ อย่า” ผมครางเสียงกระเส่าเมื่อร่างสูงโถมตัวนอนลงทับผมเอาไว้ทั้งตัว ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียเข้าที่ยอดอกจนกระตุ้นอารมณ์ผมให้สูงขึ้น มือเล็กทุบตีหัวไหล่หนาพยายามดันคนตัวโตให้ออกห่าง ขาเรียวพยายามดิ้นขยับทั้งที่ถูกกดตรึงไว้กับเตียง

“หึ”

“อื๊อ อ๊ะ อ๊า” ริมฝีปากหนาครอบครองเม็ดเล็กบนแผ่นอกบางดูดดุนจนแข็งเป็นไต อีกข้างก็ถูกนิ้วหนาบีบบี้กระตุ้นให้ชูชัน ผมจิกเล็บลงบนบ่าแกร่งแหงนหน้าขึ้นเผยอปากส่งเสียงครางระบายความเสียวซ่าน

“อ๊าาาา” สุดท้ายผมก็ห้ามความต้องการของตัวเองไม่ไหว ยินยอมให้คนตัวโตเล่นสนุกกับร่างกายตัวเองเหมือนทุกทีเมื่อริมฝีปากหยักร้อนครอบลงมาที่ส่วนอ่อนไหวของผม

“อ๊ะ ตฤณ อย่า  อื๊อ อ๊ะ อ๊ะ ไม่ ไม่ไหว” มือหนายึดสะโพกผมเอาไว้แน่น ริมฝีปากรูดรั้งขึ้นลงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น ผมขยำจับผ้าปูเตียงไว้แน่นปลายเท้าจิกเกร็งลงบนเตียงใหญ่ด้วยความเสียวซ่าน


“อ๊า อื๊อ อ๊ะ อ๊ะ อ๊า ตฤณ” สะโพกอวบเผลอยัดกายเด้งเข้าหาคนตัวโต มือปัดป่ายลงไปกำเส้นผมดำดำของร่างสูงให้แนบชิดเข้ากับส่วนอ่อนไหวของผมยิ่งขึ้นด้วยความอารมณ์ร้อนที่สูงขึ้น แต่แล้วตฤณก็หยุดทุกอย่างลงผละกายออกห่าง ผมที่อยากจะปลดปล่อยออกมาเต็มทนได้แต่มองการกระทำของเขาด้วยความสับสน เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงหวานด้วยความทุรนทุราย

“อยากให้ฉันช่วยเหรอ ก็ขอร้องสิ”

“อึก อึก ไม่!”

“ก็ตามใจนะ” พูดจบผู้ใหญ่รูปร่างดีก็นั่งพิงหลังเข้ากับหัวเตียง เอนตัวเปล่าเปลือยเหยียดขาอย่างสบายใจ

“อา ดีจัง” มือหนารูดรั้งแท่งร้อนของตัวเองส่งเสียงครางเหมือนจะยั่วให้ผมทนไม่ไหว

“ตะ ตฤณ ช่วย ช่วยผมด้วย” ผมคลานเข้าไปหาอีกคนที่นอนหงายพิงหัวเตียงร้องขอให้เขาทำเรื่องสวาท

“หึ มานั่งนี่สิ” ร่างสูงยกยิ้มเข้าที่มุมปาก ตบหน้าแข้งตัวเองเบา ๆ บอกให้ผมไปนั่งบนตักที่เห็นชัดว่าอะไร ๆ ของเขามันตื่นตัวแข็งขืนชี้ขึ้นมาเต็มที่

“ฮึก ฮือ อือ”ผมคลานไปนั่งบนตักของอีกฝ่ายรูสึกได้ถึงแก่นกายร้อนผ่าวที่เสียดสีเข้ากับช่องทางคับแคบของผม ผมกอดคอร่างสูงไว้แน่นซุกหน้าเข้ากับอกผายเปลือยเปล่าของเขาด้วยความความอับอาย น้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มตัวสั่นไหวด้วยจิตใจที่ขยะแขยงตัวเอง ภิฌาคนเลว ร่านอยากจะนอนกับคนมีเจ้าของ เจ้าของที่ว่าก็แม่บังเกิดเกล้าที่แสนดี


“ร้องทำไม ตาบวมหมดแล้ว ฉันชอบเวลาเธอครางเสียงหวานให้ฉันฟังมากกว่านะ” มือหนาลูบไล้อยู่บริเวณแก้มก้นอวบ บีบขยำเนื้อแน่นอย่างหมันเขี้ยวก่อนที่จะยกตัวผมให้สูงขึ้น ถูไถส่วนแข็งแรงเข้ากับช่องทางด้านหลังของผม มือเล็กกอดคออีกคนไว้แน่นแล้วค่อย ๆ แยกหัวเข่าออกกว้างเพื่อรองรับคนตัวโตอย่างรู้งาน

“อา อ๊ะ อื้อออ!” ผมค่อย ๆ กดตัวลงบนส่วนปลายของแก่นกายร้อนช้า ๆ โดยมือใหญ่ช่วยพยุงตัวผมไว้อีกทีก่อนที่จะตัดสินนั่งทับลงไปทีเดียวจนมิดลำเมื่อความต้องการที่จะปลดปล่อยมันสั่งให้ทำตามแรงอารมณ์จนไม่สนใจว่าตัวเองจะเจ็บร้าวเพียงใด

“อาห์”

“อร๊างงง” เสียงคำรามแหบพร่าของคนตัวโตและเสียงครางของผมดังกึก้องผสมปนเปไปทั่วห้องนอนกว้างด้วยความเสียวสะท้าน ตฤณกดคอผมให้โน้มลงมารับจูบร้อนแรงจากเขา

“อ๊ะ อ๊ะ” ผมนั่งนิ่งไม่ขยับด้วยความเจ็บและอึดอัดจนอีกฝ่ายทนไม่ไหวต้องเด้งสะโพกสอบขึ้นมากระทุ้งภายในผมเบา ๆ เป็นการบอกให้ขยับตัวกลาย ๆ

“อา มันแน่น อ๊ะ ตฤณ ลึกไป มัน อ๊ะ อ๊า” คนตัวโตเร่งเร้าไม่ยอมหยุดจนผมต้องยกตัวขึ้นขยับลงช้า ๆ เท่าที่จะทำไหว

“ดี อาห์ อย่างนั้นแหละ ขยับแบบนั้นล่ะ ฌา อา อืม อา”

“อ๊ะ อา อ๊ะ อ๊า ตฤณ ตฤณ อ๊าาาา” เมื่อส่วนแข็งแรงกดสอดลึกเข้ากระแทกจุดเร้าภายในผมก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปขยับกายขึ้นลงเร็วขึ้นตามความต้องการ


‘ปัง ปัง ปัง’


“ตฤณ อื๊อ สะ เสียง อ๊า”

“ช่างเถอะน่า ลูกน้องก็อยู่หน้าประตู ไม่มีใครเข้ามาได้หรอก คงเสียงห้องอื่น อาห์ ดี เร็วอีก อีก อย่างนั้นแหละ อา”



‘ผลั่วะ’



“นี่มันอะไรกัน!”

TBC. เขียนเองเขินเอง แอร๊ยย บทอัศจรรย์นี่มันเขียนยากง่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.11 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 10-03-2014 13:24:30
อ๊ากกกกกก ค้างค่ะ มาต่อเร็วๆนะคะ
สนุกมากกกเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.11 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: janek_alo ที่ 10-03-2014 15:02:28
แม่มาแน่นอน   :ling3: :ling3: :ling3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.11 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 11-03-2014 00:40:12
 :hao5: โอย ดราม่ากำลังมา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.11 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 11-03-2014 05:57:25
หะ! มาม่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.13 หน้า2 [11-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 11-03-2014 23:25:09
‘ผลั่วะ

“นี่มันอะไรกัน!”

ต่อค่ะ

“แม่!” ทันทีที่ประตูถูกเปิดเข้ามาอย่างแรงผมที่กำลังนั่งขย่มกายอยู่บนตัวของตฤณก็หันหลังไปดูด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าเป็นใคร ร่างกายที่กำลังร้อนด้วยไฟราคะก็หยุดชะงักทันที ตัวชานิ่งงัน น้ำตาไหลพรากด้วยความกลัวและเสียใจเมื่อเห็นหน้าแม่


“สารเลว!”


“แม่ ฌาขอโทษ ฮือ อือ ขอโทษ ขอโทษ ฮืออ”


“มาทำไม! ใครอนุญาตให้เข้ามา ห๊ะ! เธอมีสิทธิอะไรมาว่าคนของฉัน ออกไป!” ร่างสูงพลิกกายมาอยู่บนร่างผมด้วยความรวดเร็วดึงผ้าห่มมาคลุมกายผมมิดถึงปลายคางแล้วกอดผมไว้พลางลูบหลังปลอบผมที่กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น ไล่แม่ที่กำลังเดินดุ่มเข้ามาใกล้


“ไอ่ชั่ว ไอ่เลว แกทำกับฉันแบบนี้ได้ยังไง ห๊ะ!”

“แม่  ฮืออ ฌา อือ ฮืออ ฌาขอ อึก ขอโทษ”


‘เพียะ’


“แม่!” แม่เดินเข้ามากระชากตัวผมให้ออกห่างจากตฤณแล้วฟาดมือตบใบหน้าคมเต็มแรง

“สารเลว แกทำได้ยังไง ทำลงไปได้ยังไง ภิฌาเป็นลูกนะ ลูกคุณนะ ฮือออ นะ นานแค่ไหน"

"..."

"ฉันถามว่านานแค่ไหนแล้ว!” แม่ร้องไห้กอดผมไว้แน่น

“ตั้งแต่วันที่ผมคุกเข่าขอโทษคุณ”


“คุกเข่า ขะ ขอโทษงั้นเหรอ...คุณตฤณ! ทำไม ทำไมคุณถึงเลวแบบนี้ ลูกอายุเท่าไร คุณไม่รู้เหรอ ไอ้สารเลว ทำกับฉัน กับลูกแบบนี้ได้ยังไง!”


“แม่อย่า! ฌาผิดเอง อย่าทำเขา ฌาเลวคนเดียว ฮือออ ตฤณหยุดแม่สิ ฮืออ ฌารักเขา อึก ฌาอยากให้เขากอด ฌาผิดเอง ฌามันเลว ฌาหลอกแม่ ฮืออ” แม่ผละมือจากผมแล้ววิ่งเข้าใส่ตฤณทั้งทุบทั้งตีใส่แรงไม่ยั้ง แต่ร่างสูงกลับไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เห็นแบบนั้นผมก็ทนไม่ไหวเ ข้าไปแทรกกลางขอร้องให้แม่หยุดท้าร้ายเขา


“ภิฌา! รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา ได้ผัวคนเดียวกับแม่เนี่ยนะ อยากให้คนอื่นเขานินทาแบบนี้ใช่ไหม ห๊ะ! แกอย่าไปวิปริตตามมัน ผู้ชายคนนี้ทำให้แกต้องเป็นแบบนี้รู้ไว้ซะ ออกมานี่ มาหาแม่”


“ฮืออ ฌาเลวเองคนเดียว ฌาร่านเอง อึก แม่ ฮืออ แม่อย่าเกลียดเขาเลยนะ ฮึกฮืออ” ผมส่ายหน้ากอดตฤณไว้แน่นไม่ยอมปล่อยจนกว่าแม่จะเลิกทำร้ายเขา ผมไม่อยากให้ครอบครัวในฝันของแม่ต้องพังลงย่อยยับเพราะผมอีกแล้ว ทำไมกัน ทั้ง ๆ ที่พรุ่งนี้ผมก็จะไม่อยู่ให้แม่กับตฤณต้องหมางใจกันแล้วแท้ ๆ ทำไมเรื่องมันถึงกลายมาเป็นแบบนี้ได้


“ไอ้ลูกไม่รักดี นี่แกเห็นไอ้วิปริตนี่มันดีกว่าแม่แกงั้นเหรอ!”

“หยุดว่าลูกซักที! ณดา”

“ฉันว่าคุณต่างหาก ไอ้เลว เลวที่สุด สร้างตราบาปให้เด็กมันได้ยังไง คุณทำได้ยังไง ถึงภิฌาจะเป็นคนอื่นสำหรับคุณ แต่ก็เป็นลูกของฉัน ฉันที่เป็นภรรยาของคุณนะ!”


“ผมรู้ ผมถึงขอร้องคุณไง แต่คุณเองที่ไม่ฟังอะไรเลย คุณก็สร้างตราบาปให้กับลูกเหมือนกันนั่นแหละ! อ้อ อีกอย่างคุณลืมอะไรไปหรือเปล่าภิฌาน่ะเป็นลูกบุญธรรมของผมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คุณต่างหากที่เป็น.....คนอื่น”


“ตฤณ แก! ไอ้ชั่ว สารเลว”


“คุณตาช่วยทีสิฮะ!” แม่ตะโกนใส่หน้าร่างสูงก่อนจะปรี่หมายจะเข้ามาทำร้ายอีก ผมเลยตะโกนขอร้องให้คุณตาพ่อบ้านช่วย

“ไม่ต้อง ปล่อยเธอ ผมสมควรแล้ว” แต่ร่างสูงกลับโบกมือไล่บอดี้การ์ดที่คุณตาเพิ่งจะเรียกเข้ามาให้ออกไปข้างนอก

“นายท่าน คุณผู้หญิงพอเถอะครับ สงสารคุณหนูเถอะครับ”

“อึก..ฮึก..แม่ แม่ แม่ผิดเอง ที่  ที่ทำให้ลูกต้องมาอยู่กับไอ้สารเลวคนนี้! จน ... จนเรื่องมันกลายเป็นแบบนี้”

“ไม่ใช่นะ! ฌาต่างหากที่ผิด แม่ไม่ผิดเลยครับ ฮึก แม่ไม่ผิดเลย ฮือออ ฌาเริ่มก่อนทุกอย่าง ฌามันไม่ดีเอง แม่อย่าร้องไห้เลยนะ อึก..ฮึก..ฌาตัดสินใจแล้ว ฌา..ฌาจะไปจากที่นี่ จะ..จะไม่อยู่ให้แม่กับคุณตฤณต้องผิดใจกันอีกแล้ว ฮือออ” ผมกอดแม่ร้องไห้พูดทุกอย่างตามที่คิดแต่ไม่เคยกล้าทำเสียที ผมไม่สนใจตัวเองอีกแล้ว แค่ผู้หญิงตรงหน้าร้องไห้ผมก็ร้าวไปทั้งใจ

"ภิฌา! เธอ หยุดทำเพื่อผู้คนนี้ซักที!" ตฤณตวาดออกมาเสียงดังดึงตัวผมแยกออกมาจากแม่

"ก็คุณเองไม่ใช่เหรอ ที่อยากให้ผมไปไกล ๆ อย่างที่ผมเคยบอกคุณ ภิฌาคนนี้ยอมคุณทุกอย่าง"

TBC. เฮ้ออออ เหนื่อยไปกับครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.12 หน้า2 [11-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 12-03-2014 00:00:57
แอบดีใจ+โล่งใจที่แม่รักฌามากกว่าติณ และไม่ด่าไม่ว่าและโทษลูกตัวเองเลย
มันซึ้งตรงนี้แหละ คือยังเห็นลูกดีกว่าผู้ชาย
นึกว่าจะเจอดราม่าแบบแม่เกลียดลูกเพราะแย่งผู้ชายกันซะแล้ว
ถูกของแม่อีกอย่างที่บอกว่าฌาเป็นแบบนี้เพราะติณจริงๆแหละ
ติณเริ่มก่อนแล้วอยู่ๆมาผลักไสฌาออกจากชีวิตไปเอง
ต้นเหตุจริงๆก็คือติณนั่นแหละ :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา Part.12 หน้า2 [11-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 12-03-2014 01:03:31
แม่ยังดี ที่ไม่ทำร้ายลูก
รู้สึกได้ว่าฌากำลังหนีจากทุกๆอย่าง
สงสัยเรื่องจะไปกันใหญ่แล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 16-03-2014 16:32:02
Part End


หลังจากเกิดเรื่องเกิดราวขึ้นใหญ่โตในวันนั้น ผมขอย้ายตัวเองพร้อมข้าวของจำเป็นมาอาศัยอยู่ที่โรงแรมคนเดียว ไม่กล้าสู้หน้าแม่ และผมคิดว่าแม่เองก็คงไม่อยากจะเห็นหน้าผมซักเท่าไร ถึงแม่จะว่าร้ายตฤณต่าง ๆ นานา แต่ผมดูออกจากแววตาของแม่ว่าแท้จริงแล้วแม่ก็ยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจ


ช่วงที่อยู่โรงแรมผมเอาแต่เรียนและอ่านหนังสือเพื่อเตรียมตัวสอบปลายภาคที่โรงเรียนคุณตาพ่อบ้านช่วยผมเตรียมเอกสารหลายอย่างเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ ไม่ได้ไปเที่ยวเล่นกลางคืนที่ไหนอย่างที่เคยทำประจำและไม่นาน วันที่ผมต้องจากทุกคนที่เมืองไทยก็มาถึง


วันเดินทางแม่ไม่มาส่งผมที่สนามบินมีเพียงตฤณและคุณตาพ่อบ้านเท่านั้นที่มาส่ง คุณตายื่นจดหมายฉบับเล็ก ๆ ให้ผมพร้อมกับบอกว่าแม่ฝากมา และยังกำชับให้เปิดอ่านตอนอยู่บนเครื่องแล้ว


ตฤณดึงผมเข้ามากอดแน่นกดจูบที่หน้าผากพร้อมกระซิบขอโทษผมแผ่วเบา เหมือนกับว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายของเรา


เขาพูดอะไรอีกแต่ว่าผมเดินห่างออกมาแล้วทั้งยังเสียงประกาศในสนามบินที่ดังกลบเสียงของร่างสูงอีก ผมจึงไม่ได้ยินที่เขาพูด ผมทำท่าจะเดินกลับมาหาแต่เขาโบกมือแล้วขยับปากว่าไปเถอะ ผมจึงเดินผ่านตม.เข้าไปด้านใน


จนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้วที่ผมต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเพียงลำพัง วันนี้เป็นวันปีใหม่มองไปก็เห็นคู่รักเดินกอดกันเป็นคู่ ๆ บางครอบครัวก็พาลูกและภรรยาออกมาเดินเล่นชมพลุวันปีใหม่กันทั้งนั้น นั่นสินะ อยู่กันเป็นครอบครัวพ่อ แม่ ลูก ใคร ๆ ก็คงอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบนี้กันทั้งนั้น


ผมที่ไม่มีใครรู้จักเดินเล่นอยู่ลำพัง มีเพียงเพื่อนต่างชาติที่รู้จักกันผิวเผิน ไม่มีคนที่จะคอยให้กำลังใจหรือแลกเปลี่ยนเรื่องราวได้อย่างสบายใจเหมือนอยู่บ้าน บ้านที่ไม่รู้ว่าจะกล้าแบกหน้าเอาความอัปยศกลับไปเมื่อไหร่ คนที่นั่นคงไม่มีใครต้องการผมแล้ว ผมออกมาซะได้ก็คงดีที่สุดสำหรับทุกคนแล้ว


แต่อย่างน้อยชีวิตโดดเดี่ยวที่นี่ก็สร้างความสบายใจให้ผมมากกว่าตอนอยู่ที่เมืองไทยเสียด้วยซ้ำ อย่างน้อยผมก็รู้สึกว่าไม่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ หรืออยู่ด้วยความหวาดระแวงอีกต่อไป


แม่ไม่ติดต่อมาเลยตฤณเองก็เช่นกัน ถึงจะเสียใจอยู่บ้าง แต่การใช้ชีวิตเพียงลำพังทำให้ผมโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ จัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น


ผมยังจำจดหมายที่แม่ฝากคุณตาพ่อบ้านมาให้ได้ขึ้นใจ เนื้อความในจดหมายไม่ได้ยาวอะไรมากมาย แม่เพียงแต่เขียนบอกว่า
'แม่เสียใจ และขอโทษที่ทำร้ายลูก ทำให้ลูกต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ เป็นตราบาปในชีวิต ต่อจากนี้ขอให้ลูกตั้งใจเรียนเพราะความรู้คือสิ่งที่ไม่ว่าใคร จะยิ่งใหญ่มีอำนาจรวยล้นฟ้ามาจากไหนก็ไม่สามารถพรากมันจากลูกไปได้ ชีวิตนับจากนี้แม่จะเฝ้าดูความเจริญของลูก ขอให้ลูกพบเจอแต่สิ่งที่ดี’


ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ต้องขอโทษผมด้วยทั้ง ๆ ที่ประโยคนี้ควรจะเป็นผมต่างหากที่ขอโทษ ความผิดและบาปที่ผมก่อขึ้นไม่รู้ว่าจะต้องชดใช้ด้วยอะไรถึงจะสาสม


แม้จะไม่ได้รับเมลล์ตอบกลับจากแม่หรือตฤณเลยก็ตาม แต่ผมยังส่งอีเมลล์บอกเล่าเรื่องราวชีวิตในแต่ละวันกลับไปหาคุณตาพ่อบ้านเสมอรวมถึงเพื่อนรักของผมซึ่งคนทั้งสองไม่ละเลยผม พวกเขายังคงส่งอีเมลล์มาคุยให้ผมคลายเหงาจากอาการคิดถึงบ้านอยู่เสมอ แม้ว่าบ้านที่อยู่จะไม่ได้เป็นบ้านแสนสุขในฝันเหมือนอย่างบ้านคนอื่น แต่อย่างน้อยที่นั่นก็มีคนที่ผมรักอยู่หลายคนทีเดียวและคน ๆ เดียวที่ผมยังคิดถึงอยู่เสมอ


คุณตาเขียนอีเมลล์มาบอกเล่าถึงชีวิตของคนในบ้าน ทุกคนมีความสุขปกติดี แม่ก็มีความสุขกับงานศิลปะไปแกลลอรี่ของเพื่อนสนิทอยู่ทุกวันไม่ได้เศร้าซึมอยู่แต่บ้านอย่างตอนเกิดเรื่องใหม่ ๆ


ตฤณเองก็ทำงานหนักเหมือนเคย ผมบอกคุณตาให้ดูแลเขาเป็นพิเศษไม่รู้ว่าคุณตาจะว่าว่าผมอวดรู้หรือเปล่าที่เอาแต่บอกว่าตฤณชอบอะไร ไม่ชอบอะไรทั้งที่อีกฝ่ายก็ดูแล ตฤณมาแต่เล็ก ๆ


หลัง ๆ มานี้คุณตาบอกว่าตฤณอารมณ์ดีขึ้นมาก ไม่เหวี่ยงวีนลูกน้องรุนแรงเวลาที่ทำงานพลาดเหมือนเคยอีกแล้ว กลับมาเป็นคุณตฤณ เจ้านายใจดีคนเดิมเกือบ 100% ผมได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจอยากเจออีกครั้งจัง ผู้ชายที่ใจดีคนนั้น คนที่ยังติดอยู่ในใจทุกครั้งที่หลับตา


คิดดูแล้ว ถ้าหลาย ๆ อย่างมันจะลงเอยด้วยดีแบบนี้ ผมคงจะตัดสินมาเรียนเมืองนอกกลางคันก่อนที่แม่จะรู้เรื่องแล้ว สิ่งที่เป็นตราบาปในใจผมมาตลอด ไม่ใช่เรื่องที่ว่าผมเลวระยำแค่ไหนที่ไปยอมมอบกายถวายตัวให้ตฤณ หรือเผลอไผลรักอีกคนเต็มหัวใจ หากแต่เป็นบาปที่ผมทำให้แม่ต้องรับรู้และเสียใจ ผิดหวังในตัวผม ทำให้แม่กับสามีของแม่ต้องบาดหมางกัน


รู้ว่าผิดแต่ก็ยอม อย่างที่เคยบอก ภิฌาคนนี้ยอมจำนนต่อผู้ชายที่ชื่อตฤณอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ


แต่ในวันนี้เมื่อรู้แล้วว่าคนที่ผมรักทั้งสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างปกติสุขแล้ว ที่นั่นบ้านหลังนั้นใหญ่โตแค่ไหนก็คงไม่มีที่อยู่ของผมอีกต่อไป ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่รู้สึกผิดว่าผมทิ้งแม่ ผู้หญิงที่แสนวิเศษของผม ชีวิตต่อจากนี้ของผมคงต้องอยู่ที่อังกฤษ มองดูลอนดอน อาย และบิ๊กเบนสว่างไสวภายใต้พลุปีใหม่อย่างโดดเดี่ยวตลอดไป


ภิฌาคนนี้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่แข็งแรงไม่อ่อนไหวไปกับอารมณ์ และจะไม่มีวันกลับไปสร้างความเดือนร้อนให้คนที่บ้านอีกแล้ว ผมจะไม่ทำให้แม่เสียใจอีกแล้วครับ


ถึงจะรักแค่ไหน แต่ผมต้องทนให้ได้ ทนอยู่กับความเจ็บปวดที่ผมสร้างมันขึ้นมาเอง แล้วปล่อยให้คู่สามีภรรยาเขาได้ใช้ชีวิตปกติอย่างที่ควรจะเป็น


มนุษย์เราเป็นสัตว์ประเสริฐมีสมองและสติที่สามารถยับยั้งชั่งอารมณ์ของตนได้ อยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้มันหรือเปล่าเท่านั้นเอง อย่าปล่อยให้อารมณ์ครอบงำจิตใจจนกลายเป็นตราบาปของชีวิต


บาปที่เราสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวของเราเอง



End

จบแล้วค่า ^^
พรทิวามีเพจนะคะเข้าไปพูดคุยกันได้ >> พรทิวา (https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2/219957994701272)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 16-03-2014 17:48:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: GUN-SIRORAT ที่ 16-03-2014 18:16:18
อ่าว ไมจบงี้อ่ะ
ตฤนรักภิฌา
แล้วแม่มาเกี่ยวอะไรด้วย - -' งง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: หมอตัวเปียก ที่ 16-03-2014 20:26:07
ตฤนผิดเต็มๆ ตฤณรักภิฌา แต่วิธีการที่ตฤณทำมันไม่ถูกต้อง อยากได้ลูกแต่เอาแม่ สุดท้ายก็มาเอาลูก

สุดท้ายก็เจ็บกันหมด สงสารภิฌาที่สุดอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 16-03-2014 23:15:11
 :a5: ช็อค สรุปไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ทำไมยอมปล่อยกันง่ายจัง

คือเข้าใจว่าเกรงใจแม่
แต่ตฤณก็ไม่ได้แต่งงานแล้วก็ไม่ได้มีอะไรกับแม่
ทั้งๆที่ตอนนี้ทุกอย่างมันค่อนข้างลงตัว
ตฤณกับภิฌา น่าจะคบกันได้แล้ว
ถ้าแม่โมโหขนาดไม่ชอบตฤณเลยจะอยู่บ้านตฤณทำไม
ก็แปลว่าแม่น่าจะให้อภัยแล้ว

สุดท้ายเราก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคบกันไม่ได้

ขอตอนพิเศษด่วนนนนนนนนนนนนน  :ling1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 16-03-2014 23:50:42
แม่ณิชามีอะไรปิดบังไว้หรือเปล่า แล้วตฤณตั้งใจจะบอกอะไร
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 17-03-2014 17:58:19
ที่เขียนมาทั้งหมด คนดำเนินเรื่องคือน้องฌานะคะ ที่เขียนไปเป็นความคิดของน้องฌาล้วน ๆ เป็นทางเดินที่นายเอกของเราตัดสินใจแล้ว อยากให้นักอ่านรับรู้ถึงการเติบโตของน้องนะคะว่าน้องเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้จักอดทน อดกลั้น ไม่มีอะไรที่เป็นได้อย่างใจเราคิดเสมอไปหรอก

 รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ รอตอนพิเศษอยู่ใช่ไหม คิ๊_____คิ๊  :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: paojijank ที่ 17-03-2014 20:14:38
ขอบคุณค่ะ จะรอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 17-03-2014 22:30:11
ที่เขียนมาทั้งหมด คนดำเนินเรื่องคือน้องฌานะคะ ที่เขียนไปเป็นความคิดของน้องฌาล้วน ๆ เป็นทางเดินที่นายเอกของเราตัดสินใจแล้ว อยากให้นักอ่านรับรู้ถึงการเติบโตของน้องนะคะว่าน้องเริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้จักอดทน อดกลั้น ไม่มีอะไรที่เป็นได้อย่างใจเราคิดเสมอไปหรอก

 รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ รอตอนพิเศษอยู่ใช่ไหม คิ๊_____คิ๊  :really2:

สรุปว่ามี ตอนพิเศษที่คนอื่นดำเนินเรื่องใช่ไหม เย้!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-03-2014 23:32:01
อ่านเรื่องนี้แล้วควรจะดีใจมั้ยมีหลายคอมเม้นท์เขียนชื่อภิฌาผิดแต่ ๆ ๆ ๆ เป็นชื่อที่ถูกต้องของเราเพราะปกติน้อยคนม๊ากกกกกมากที่จะเขียนถูก 555

เรื่องนี้ตฤณผิดเต็ม ๆ ทำทุกอย่างให้มันรวนไปหมด แม้ว่าทั้ง 2 จะรักกันยังไงแต่ก็ไม่พ้นข้อครหาคราบาปอยู่ดีเพราะยังไงนั่นก็คือพ่อเลี้ยงหรือพ่อบุญธรรมยิ่งไม่ควรอย่างยิ่ง เรื่องไร้ศีลธรรมแบบนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงบนโลกสกปรก ๆ ใบนี้ เราชอบนะที่จะจบแบบนี้เพราะวงจรอุบาทว์มันควรจะจบลงไม่ใช่ไหลต่อไปเป็นเรื่องปกติเพียงเพราะคำว่ารักกัน ไม่อยากจะให้มองว่าเป็นเรื่องปกติแม้มันจะเป็นเพียงนิยายอ่านเอาสนุกก็เถอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา ตอนจบ หน้า3 [16-03-2014 ]
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 24-03-2014 01:03:14
ตอนพิเศษจะมาเมื่อไหร่ยังไม่รู้เลย ขอแปะว่าจบไปก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 24-03-2014 03:54:30
เย้ๆๆ

รอตอนพิเศษ 555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: omuya ที่ 24-03-2014 22:54:34
เฮ้ออออ เศร้า T^T
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 25-03-2014 19:40:40
 :a5: อ่า จบแบบนี้ก็ถือว่าขัดใจคนอ่านแบบเราละนะ เพราะเราชอบเสพนิยายจบสวย 

แต่ว่านะ มันเหมือนมีปมในใจอะไร ของ คุณพ่อ กับ แม่ ที่ไม่เคลียร์อยู่นะ คาดว่าคงจะอธิบายอยูในตอนพิเศษใช่มะ

คงต้อง รอ รอ และก็ รอ 

>>>>> ที่ถามว่าถ้ารวมเล่มมีใครสนใจบ้าง สำหรับเรา ถ้าราคา ตามที่แจ้งไว้ก็โอเคนะ แต่ขอถามว่า จะมีอะไรเพิ่มเติมนอกจากเนื้อเรื่องที่ลงในเล้าบ้างคะ รบกวนชี้แจงรายละเอียดเพิ่มหน่อยค่าาาาา

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 28-03-2014 12:47:54
โธ่~ น้องภิฌา

 :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 28-03-2014 16:23:35
ต............ต................ตอน...................พิเศษษษษษษษษษษ  :dont2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 29-03-2014 23:51:31
ขอตอนพิเศษษษษษษษษษษษษษษ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mox2224 ที่ 30-03-2014 17:08:26
รอตอนพิเศษจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: himenana ที่ 30-03-2014 21:21:54
 :a5: จบ โดนใจเลยอ่ะ  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: prince magic ที่ 31-03-2014 22:46:18
รอตอนพิเศษนะคะ
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: neno.jann ที่ 01-04-2014 17:59:10
ชอบอ่ะะะ นั่งรอสเปเชียลเซอวิสสสสส อร๊ายยยยยย :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 01-04-2014 21:24:21
ขอบคุณครับผมมมมม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: loveyou15379 ที่ 02-04-2014 10:25:51
แง้ ดราม่า จบแบบเง้ออออออ เสียใจ
แอบขัดใจชื่ออ่ะ บางที่เป็นซีวอน กับ คยู

สนุกมากๆเลย ขอบคุณนะค้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 07-04-2014 01:15:01
:a5: อ่า จบแบบนี้ก็ถือว่าขัดใจคนอ่านแบบเราละนะ เพราะเราชอบเสพนิยายจบสวย 

แต่ว่านะ มันเหมือนมีปมในใจอะไร ของ คุณพ่อ กับ แม่ ที่ไม่เคลียร์อยู่นะ คาดว่าคงจะอธิบายอยูในตอนพิเศษใช่มะ

คงต้อง รอ รอ และก็ รอ 

>>>>> ที่ถามว่าถ้ารวมเล่มมีใครสนใจบ้าง สำหรับเรา ถ้าราคา ตามที่แจ้งไว้ก็โอเคนะ แต่ขอถามว่า จะมีอะไรเพิ่มเติมนอกจากเนื้อเรื่องที่ลงในเล้าบ้างคะ รบกวนชี้แจงรายละเอียดเพิ่มหน่อยค่าาาาา

 :pig4:

เพิ่งสอบเสร็จวันนี้สดๆร้อนๆ เลยมาตอบช้านะคะ

แฟนฟิคที่รวมเล่มพร้อมส่งอยู่ตอนนี้มีตอนพิเศษเป็นมุมมองดำเนินเรื่องโดยพระเอกค่ะ รวม 150 หน้า แต่ แต่ แต่ ใน Y ไทยเราจะเอามุมมองของพระเอกลงในเนตแล้วเพิ่มตอนพิเศษในเล่มเป็นวันสำคัญตามเทศกาลแทนค่ะ จำนวนคงจะมากกว่านี้ราคาเพิ่มขึ้นแต่จะไม่ให้เกิน 250 บาทจ้า  :mew1:

ปุจฉาอันนี้ถามนักอ่านทุกคนที่ติดตาม คนบาป นะคะ คือเค้าจะลงมุมมองของตฤณแต่หัวข้อนี้มันอยู่ในนิยายโพสจบแล้ว จะให้เค้าลงต่อในนี้หรือว่าให้ลงเป็นอีกหัวข้อหรืออย่างไรดีคะ ^^  เพิ่งสอบเสร็จเมื่อหกโมงเย็นวันนี้เองกราบขออภัยที่หายเงียบไปนาน  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 27-10-2014 16:46:18
คนเขียนใจร้ายยยยยยย  :sad2: เอาภิฌากลับมาก๊อนนน :dont2:
ยิ่งอ่านยิ่งเศร้า แม่กับตฤณผิดนะเรื่องนี้ เด็กคือผ้าขาวผืนบางๆ คุณเล่นสาดสีใส่ผ้าอย่างนี้เห็นแล้วสงสารเด็ก :sad4:
แล้วแม่ขอโทษภิฌาเรื่ออะไร คุณตฤณไปตกลงอะไรกับแม่หรือเปล่าก็จะเอาสองแม่ลูกมาอยู่ด้วย  :serius2:
ปมค่ะคนเขียน ปม ปม ปมเยอะเลย  :sad3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 28-10-2014 03:41:36
นี่คนเขียนนะคะ คือ เพิ่งเคลียร์อะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตได้ ใครเรียนนิติ ยินดีด้วยค่ะ แตะมือกัน :z6:
 ตอนนี้จบโทแล้วแต่เนติยังง่อยอยู่นะคะ ขาไม่ครบ ช่วงนี้ยังไม่เปิดเทอมเนติก็เลยจะมาต่อนิยายที่ดองไว้ หลายเรื่องอยู่ คนเขียนขอลงเรื่องคนรัก ให้จบก่อนนะคะ ตอนพิเศษใกล้จบแล้ว ส่วนคนบาปนี้เขียนเวอร์แฟนฟิคจบแล้วแต่ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อตัวละครค่ะ ขอเขียนเรื่องสั้นอีก 2 เรื่องจบก่อนนะคะ แล้วจะมาต่อตอนพิเศษเรื่องนี้ให้ค่ะ

ขออภัยด้วยนะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 28-10-2014 10:06:09
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ สนุกมากค่ะ ปกติไม่ชอบแนวดราม่าจบไม่แฮปปี้เท่าไร
แต่รู้สึกว่าจบแบบนี้ดีแล้วค่ะ จะว่าไปมันเป็นเรื่องผิดศีลธรรมจิงๆ
จะให้มามีความสุขบนความทุกข์ของแม่มันก็ไม่ถูกต้อง
แต่แอบงงๆกับพฤติกรรมตฤณอ่ะ ทำไมบางทีก็ดีบางทีก็ร้าย
อยากอ่าน part จองตฤณบ้างคะว่าคิดอะไรกันแน่ แต่สรุปแล้วเรื่องนี้ณาน่าสงสารที่สุดค่ะ
รออ่านตอนพิเศษค่ะ ขอหวานๆบ้างนะคะ


เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 28-10-2014 18:30:34
การกระทำที่ผิดพลาดขการกระทำที่ผิดพลาดของตฤณส่งผลร้ายมาก สงสารภิฌาแต่สงสารภิฌาแต่ก็สงสารณดาด้วยถ้าไม่ตัดสินใจผิดเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: vilaroly ที่ 28-10-2014 23:17:45
จบดีมาก แต่เจ็บ    :z3: :z3: :z3: :o12:


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(แจ้งข่าว หน้า3)
เริ่มหัวข้อโดย: lahlunla ที่ 29-10-2014 19:08:15
มีตอนพิเศษไหมคะ อยากรู้เรื่องราวต่อจากนี้ค่ะ

ชื่อน้องน่ารักจัง  มีความหมายไหมคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 30-10-2014 04:24:21
Intro ตอนพิเศษ





'ปึก'


ร่างสูงใหญ่เจ้าของธุรกิจติดอันดับของประเทศ ปิดแฟ้มเล่มสุดท้ายลงไปด้วยความเหนื่อยอ่อน นิ้วหนาบีบนวดลงที่หว่างคิ้วของตัวเอง มองออกไปนอกหน้าต่างไม่แสงธรรมชาติหลงเหลืออยู่อีกแล้ว เขาปลดเนกไทให้หลวมขึ้น บิดตัวไปมาเพื่อความเมื่อยขบ 

ธุรกิจของขาครอบคลุมหลายอย่างเว้นก็แต่พวกกิจการใต้ดินอะไรเทือกนั้น ร่างสูงใหญ่ไม่เอาตัวเองไปเกลือกลั้วด้วย ถึงกระนั้นแม้จะสะอาดแค่ไหน  นักธุรกิจที่กินตลาดเกือบทั้งประเทศอย่างร่างสูงย่อมต้องมีคนอิจฉาเป็นธรรมดาที่ไปขัดขวางความเจริญของคู่แข่ง

เขาที่เป็นคนกว้างขวางในวงสังคมแม้จะออกงานจำพวกที่คนทั่วไปเรียกว่างานไฮโซได้นับครั้งก็ตาม

เขาชายโสดที่ผู้คนต่างหมายปอง ตฤณ พิชยะธาร

การที่มีลูกน้องซึ่งเชี่ยวชาญการต่อสู้ ต้องผูกมิตรกับนักการเมืองระดับชาติเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท รวมไปถึงซุ้มมือปืนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี บางคนจึงมองว่าคน ๆ นี้ ก็ไม่ต่างจากมาเฟียดี ๆ นี่เอง

หลักการของตฤณ พิชยะธาร คือการเลี้ยงคนนอกจากจะเลี้ยงด้วยเงินแล้วก็ต้องเลี้ยงด้วยใจ  บางคนซื่อสัตย์กับเงินแต่บางคนก็ซื่อสัตย์ด้วยความศรัทธา
..
..
..

ทุก ๆ เดือน ร่างสูงจะให้เลขาพาลูกน้องบอดี้การ์ดไปเลี้ยงฉลองที่คลับเพื่อตอบแทนที่ดูแลรักษาชีวิตของเขาเป็นอย่างดี
แต่วันนี้ไม่รู้ว่า คนตัวโตนึกครึ้มอะไรขึ้นมาก็ไม่ทราบ จึงอยากจะลองเข้าไปดูเสียหน่อยว่าคลับที่พวกลูกน้องมันชอบกันนักกันหนา กี่ที ๆ ไม่เคยเปลี่ยนไปที่อื่นซักทีมันมีอะไรดี


เสียงเพลงที่ดังลั่นออกมาถึงข้างนอกร้านจากทั่วสารทิศ บ่งบอกได้ดีว่าเขากำลังยืนอยู่ ณ ที่ใด ย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนในแบบของผู้ใหญ่ เหมาะแก่การเริงรมย์ของหมู่ภมร


จากบันทึกของตฤณ.....


.................ครั้งแรกที่ผมเข้าไปที่คลับนั้น ก็ต้องสะดุดตากับเด็กเสิร์ฟผู้ชายตัวเล็กผอมแห้ง พนักงานเสิร์ฟผู้ชายเพียงคนเดียวของคลับ ตัวก็แค่นั้นแต่ทำงานจนหัวหมุน น่าเอ็นดูจนน่าแกล้ง แค่จ้องมองอีกฝ่ายไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น  เด็กนั่นก็ก้มหน้าหลบตาลนลานไปทางอื่นเสียอย่างนั้น

“นายเป็นเด็กดีนะ”  นั่นคือประโยคแรกที่ผมเผลอพูดออกไปโดยไม่ทันได้ไตร่ตรอง ให้ตายสิ เด็กนั่นจะคิดว่าผมประหลาดไหม แต่เพราะการที่ผมเอาแต่เฝ้ามองทุกอิริยาบทของอีกฝ่ายที่เหมือนร่ายมนต์สะกดผมไว้ จิตใต้สำนึกจึงชนะสมองที่ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เผลอยกมือลูบผมอ่อนนุ่มพร้อมกับเอ่ยความคิดของตัวเองออกไป


ต้องขอบคุณเทวดาตัวน้อยคนนี้อีกครั้ง ที่ทำให้ผมไม้เก้อเมื่อส่งรอยยิ้มไปให้ รอยยิ้มสดใสแบบเด็ก ๆ ที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้หัวใจที่แทบจะกลายเป็นน้ำแข็งของผมชุ่มชื้นขึ้นมาบ้างเเล้ว ขอบคุณจริง ๆ


.................ครั้งที่สองที่ผมตามพวกลูกน้องไปฉลองสละโสดของบอดี้การ์ดคนหนึ่งของผมและเป็นการปลดประจำการไปในตัว   แน่นอนว่าคนมีครอบครัวแล้ว อันตรายรอบตัวผมคงไม่เหมาะที่จะให้ใครทำงานอยู่ข้างกายด้วย   ผมจึงย้ายให้ไปทำหน้าที่อื่นที่ไม่ใช่การเสี่ยงตายแทน

และครั้งนี้.....เป็นครั้งที่สองที่ผมได้ผมกับเทวดาตัวน้อย ๆ ที่ทำงานไม่รู้จักหยุด   แม้ว่าร่างกายของเจ้าตัวจะเมื่อยล้าเต็มทีแล้วก็ตาม   


ผมยื่นพวงกุญแจที่มีตุ๊กตาลูกแมวตัวจ้อยห้อยอยู่ให้  ผมค้างมือไว้กลางอากาศ แต่เขายังนิ่ง ด้วยกลัวว่าจะร่างเล็กปัดมือผมทิ้ง ผมจึงอาศัยความเป็นลูกค้ายัดพวงกุญแจใส่มือคนตัวเล็กแทน อา...ดีจัง ผมรุ้ว่าเขาจะต้องชอบ ทำไมน่ะเหรอ ก็รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าเนียนนั่นยังไงล่ะ


ช่างเป็นพวงกุญแจที่เหมาะกับเด็กคนนี้เสียจริง เห็นแมวทีไรเป็นต้องมีใบหน้าคนตัวเล็กลอยทับซ้อนทุกครั้งไปสินะ หึหึ


 หน้าหวาน ๆ เข้ากับปากสีแดงสวย บอบบางน่ารัก  จนกลัวว่าจะผิดรูปร่างบิดเบี้ยวจนแตกไปเมื่อไหร่ก็ได้   อยู่ดี ๆ ความคิดที่ว่า จะต้องดูแลเด็กคนนี้ให้ได้ก็เข้ามาในหัวของผม.....ไม่รู้สิ ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน จากที่ไม่เคยมีความคิดว่าจะเพิ่มสมาชิกในครอบครัว แต่กับเด็กคนนี้ แค่เห็นหน้าน่ะมันไม่พอหรอก ไม่พอจริง ๆ



ผมถามเจ้าของคลับที่สนิทกันดีว่าอยากจะรับเลี้ยงเด็กน้อยที่ดูบริสุทธิ์ดั่งลูกแมวแรกเกิด ซ้อเหลยเจ้าของคลับจึงแนะนำผมให้กับแม่ของเด็กน้อยคนนั้นให้ ภายหลังผมจึงทราบว่าลูกแมวของผมมีชื่อที่น่ารักสมกับเจ้าตัวว่า ‘ภิฌา’


TBC.



ตอบ คุณ Around Me นะคะ : ชื่อน้องภิฌานี้เราคิดเองค่ะ แต่ไม่ได้คิดแบบผุดขึ้นมาหรอกนะคะ เราเข้าไปหาในชื่อมงคล พยายามหาชื่อกลางที่เวลาใช้เรียกไม่ดูเป็นผู้ชายจนเกินไป ไม่ดูเป็นผู้หญิงจนเกินไปค่ะ

ส่วนใหญ่ชื่อจะเป็น'ภิชา' แบบนี้ค่ะ อันนี้ส่วนตัวรู้สึกไปเองว่าเวลาเขียนเป็นชื่อจริงแล้วดูผู้หญิงจัง (ตลกบ้าบอความคิดตัวเองมากค่ะ 555 ) เลยเปลี่ยน ช เป็น ฌ ซึ่ง จะมีชื่อคล้าย ๆ นี้ คือ อนภิชฌา แปลว่าไม่โลภค่ะพอตัดเหลือแค่ ภิฌา เลยชอบมาก คิดเอาเองว่าสมกับตัวละคร เพราะน้องเป็นคนโลภคนหนึ่งเลยค่ะ เพียงแต่เป็นมนุษย์ที่กลับตัวกลับใจได้ เท่านั้นเอง

ฝากติดตามกันด้วยน๊า มีข้อติ ข้อชม เม้นมาได้เลยนะฮะ นักเขียนพร้อมรับฟังอย่างยิ่งค่ะ อ้อ เค้ามีเพจนะคะ Search คำว่า พรทิวา เลยค่า ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: nokkaling ที่ 30-10-2014 08:00:17
เศร้า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 30-10-2014 09:26:49
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย ส่วนตัวแล้วเราชอบแบบนี้นะคะ เป็นตอนจบที่เราโอเค เป็นคนเสพนิยายที่เรียลพอสมควร รออ่านมุมของคุณพ่อค่ะ
ยังติดชื่อจากแฟนฟิคมาอยู่นะคะ น่าจะเป็นตอนที่ 11 ที่แทนตัวเองว่าคยู แล้วก็มีตอนที่บอกว่าอยู่เกาหลีจะไม่มาที่นี่แต่จะไปหาที่เมืองนอก เราว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นอยู่ไทยนะคะ
ปล.คนเขียนเป็นวอนคยูสินะคะ เราเป็นคิเฮ  :hao6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 30-10-2014 19:25:37
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย ส่วนตัวแล้วเราชอบแบบนี้นะคะ เป็นตอนจบที่เราโอเค เป็นคนเสพนิยายที่เรียลพอสมควร รออ่านมุมของคุณพ่อค่ะ
ยังติดชื่อจากแฟนฟิคมาอยู่นะคะ น่าจะเป็นตอนที่ 11 ที่แทนตัวเองว่าคยู แล้วก็มีตอนที่บอกว่าอยู่เกาหลีจะไม่มาที่นี่แต่จะไปหาที่เมืองนอก เราว่าน่าจะเปลี่ยนเป็นอยู่ไทยนะคะ
ปล.คนเขียนเป็นวอนคยูสินะคะ เราเป็นคิเฮ  :hao6:

ขอบคุณมากเลยค่าที่บอก ^^ แก้แล้วนะคะ เราก็เบลอ ๆ ค่ะ อ่านทวนอยู่หลายรอบเลย   :a5: แต่ก็ยังมีผิดอยู่ ฮือออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 31-10-2014 08:50:10
บันทึกของคุณตฤณอย่างนั้นสินะ
แต่คุณแม่ดูท่าจะผิดหนักนะเพราะคุณตฤณไม่ได้รักเธอตั้งแต่ทีแรกแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(Intro ตอนพิเศษ) 30/10/57
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 01-11-2014 11:01:49
จบแล้ว

แม้ว่าจะไม่สมหวัง

แต่ก็ยังมีความหวัง

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 1) 3/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 03-11-2014 00:00:56
เค้าทำอีบุคแล้วค่ะ เลยขอลบตอนพิเศษนะคะ ติดตามในอีบุคต่อได้เลยนะคะ แถมตอนพิเศษยกกำลัง2 ให้อีก 3 ตอนค่ะ ในราคา 99 บาท จ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 1) 3/11/57
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 04-11-2014 11:50:40
ดีใจที่คนเขียนมาต่อตอนพิเศษค่ะ เพราะอยากรู้ part ของตฤณบ้าง
ว่าทำไมถึงเป็นคนเด๋วร้ายเด๋วดี คิดอะไรในใจกันแน่
แอบหวังลึกๆว่าจะให้สองคนนี้คู่กัน แต่ก็ไม่อยากให้ทำร้ายจิตใจแม่นะคะ
แต่ทำไมพอเป็น part ของพระเอก ดูแม่นายเอกกลายเป็นตัวร้ายไปเลย
ตอนอ่านที่นายเอกเป็นตัวดำเนินเรื่อง แม่เป็นคนดีมากจนเราสงสารแม่อ่ะ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ ขอหวานๆบ้างนะคะ ดราม่าเยอะแล้วค่า...


เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 2) 8/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 08-11-2014 03:55:19
เค้าทำอีบุคแล้วค่ะ เลยขอลบตอนพิเศษนะคะ ติดตามในอีบุคต่อได้เลยนะคะ แถมตอนพิเศษยกกำลัง2 ให้อีก 3 ตอนค่ะ ในราคา 99 บาท จ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 2) 8/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: My_yunho ที่ 08-11-2014 08:38:58
สงสารตฤณ-ภิฌา จังๆๆๆๆๆ

รอต่อจร้าาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 3) 19/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 19-11-2014 01:18:31
เค้าทำอีบุคแล้วค่ะ เลยขอลบตอนพิเศษนะคะ ติดตามในอีบุคต่อได้เลยนะคะ แถมตอนพิเศษยกกำลัง2 ให้อีก 3 ตอนค่ะ ในราคา 99 บาท จ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 3) 19/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 19-11-2014 09:42:53
ดีใจที่มาต่อตอนใหม่ค่ะ เดาว่าเรื่องนี้น่าจะจบแบบแฮบปี้นะคะ แอบกรี๊ดดีใจ
ถ้าแม่กะพระเอกไม่ได้มีอะไรกัน การที่พระเอกกะนายเอกจะรักกันก็ไม่ผิดศีลธรรมอะไร
กรี๊ด...ดีใจสุดฤทธิ์  รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ ชอบมากค่ะ


เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 3) 19/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 19-11-2014 12:58:26
มาอ่านตอนพิเศษ แล้วเราว่ามองไงแม่ก็แกล้งโง่อ่ะ

อินางอยากได้ผช.จนตัวสั่น
ตฤณก็พิลึกมาก นักข่าวมาแล้วไง เกริ่นมาว่ามีอำนาจด้านธุรกิจ
วันงานแถลง สื่อสิ่งพิมพ์คนไหนจะเอาข่าวลงก็จัดเลย


สำหรับเรามาอ่านตอนพิเศษแล้วเจอช่องว่างพิลึกๆ จนงงหนักกว่าเดิม เหมือนไม่ใช่เรื่องเดียวกัน
คือ มันต่อกันไม่เนียนค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 3) 19/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 19-11-2014 15:28:59
ไม่รู้สิ ถึงคนเขียนจะพยายามแก้ต่างให้ณดายังไง เราก็มองไม่เห็นส่วนดีในตัวผู้หญิงคนนี้เลย
แม่อิจฉาแม้กระทั่งลูกอันนี้ก็ว่าหนักแล้วนะ แต่เป็นแม่ที่แย่งความสุขของลูกเราไม่ไหวจะให้อภัยจริงๆ
คนที่เจ็บก็คือภิฌากับคุณตฤณนะ แต่ที่ผู้หญิงคนนี้เจ็บก็เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเธอเอง
ในเมื่อฝ่ายชายไม่ได้ตั้งใจเอาหล่อนเข้ามาอยู่ในบ้านตั้งแต่แรก ที่หล่อนได้มาอยู่ในบ้านก็เพราะลูกชาย หล่อนไม่มีสิทธิอะไรในตัวคุณตฤณเลยนะ ทะเบียนสมรสก็ไม่ได้จด เป็นแค่คนอาศัยที่เกาะใบบุญลูกชายตัวเองแท้ๆ ยังไม่สำนึก คิดเข้าข้างตัวเองว่าคุณตฤณพิศวาสในตัวหล่อน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 3) 19/11/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 19-11-2014 18:39:12
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ 4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 24-12-2014 22:23:35
ตอนพิเศษ 4

ตลอดระยะเวลาสี่ปีที่ภิฌาเรียนอยู่ที่อังกฤษผมไม่ติดต่อไปหาเขาเลย ผมไม่กล้าที่จะพูดคุยหรือเห็นหน้าเขาถ้าหากว่าผมยังจัดการเรื่องวุ่นวายนี่ยังไม่จบ  เด็กคนนั้นเองก็ไม่ติดต่อมาหาผมก่อนเช่นกันแต่เลือกที่จะติดต่อมาหาพ่อบ้านแทน   หึ มันน่าจับตีซะให้เข็ด  ทำเหมือนไม่คิดถึงกันเสียอย่างนั้น
 
ไม่ว่าจะผ่านเหตุการณ์อะไรมามากมายภิฌาก็ยังเป็นภิฌาลูกแมวตัวน้อยที่น่ารักของผมเหมือนเดิม อีเมลล์ฉบับแรก ๆ เจ้าตัวเขียนถามไถ่ถึงทุกคนในบ้าน ทุกคนจริง ๆ ไม่เว้นแม่แต่บรรดาสาวใช้ที่เอ็นดูคุณหนูของบ้านและตามใจเป็นที่หนึ่ง ถามถึงณดาแม่ของเจ้าตัว ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถามถึงผมว่าทำงานหนักไปหรือเปล่า ฝากให้พ่อบ้านช่วยดูแล หึ ลุงแกจะมาดูแลอะไรผมได้แก่ปานนั้น ผมต่างหาที่ต้องคอยดูแลคุณตาสุดที่รักของร่างเล็ก
 
 
อีเมลล์ฉบับหลัง ๆ มักจะถามไถ่เรื่องของผมเป็นหลักเพราะเจ้าตัวสบายใจแล้วจากอีเมลล์ฉบับก่อนหน้าที่พ่อบ้านส่งไปหาว่าไม่ต้องห่วงณดา เพราะเธอมีความสุขดีกับชีวิตปัจจุบันที่ตอนนี้ใช้ศิลปะบำบัด เยียวยาจิตใจ  อันที่จริงรายนั้นกำลังไปได้สวยกับเจ้าของแกลลอรี่ชื่อดังแต่ผมไม่ให้พ่อบ้านบอกกับภิฌาไป ให้บอกเพียงแค่ว่าเป็นเพื่อนสนิทกันเท่านั้น ผมอยากให้ภิฌากลับมาหาผมด้วยความต้องการของเขาเอง ไม่ใช่ว่าโล่งใจที่แม่มีคนอื่นแล้วจึงยอมทำตามความต้องการของผม
 
 
ช่วงหลัง ๆ เป็นผมเองที่เขียนอีเมลล์โต้ตอบกับอีกฝ่าย ปลอมตัวเป็นคนแก่สูงวัยให้คำปรึกษากับภิฌามาตลอดสี่ปี ผมมีความสุขทุกครั้งที่อีกฝ่ายถามถึงผมด้วยความเป็นห่วง ยิ้มไปกับภาพในจอคอมพิวเตอร์ทุกครั้งที่ร่างบางส่งรูปถ่ายของตัวเองมาให้ดูว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่   อา... ผมคิดถึงลูกแมวของผมเหลือเกิน
 
 
 
ส่วนผมกับณดา  เราสองคนยอมลดทิฐิและนั่งคุยกันถึงปัญหาที่คาราคาซังอยู่ เรื่อยมา  ผมรู้ดีว่าณดาก็เป็นห่วงความรู้สึกของ ภิฌาไม่น้อยไปกว่าผม   สุดท้ายเมื่อเธอยอมรับว่าไม่ว่าจะอย่างไรผมก็ไม่สามารถเป็นสามีของเธอได้ เธอจึงขอจากไปจากชีวิตของผม เธอขอออกจากบ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่มาเกือบสี่ปีเพื่อแยกไปอยู่ตามลำพัง   แต่ผมไม่เห็นด้วย ผมยกเรือนไม้ทรงไทยประยุกต์ชั้นเดียว ซึ่งตั้งอยู่ริมสวนที่เธอชอบใช้เป็นสตูดิโอวาดรูปให้กับเธอ ข้าวของทุกชิ้นของเธอผมให้ย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้  ณดาดูจะตกใจไม่น้อยกับข้อเสนอของผมเธออาจจะคิดว่าผมเห็นเธอเป็นแค่ก้อนกรวดข้างถนนที่ไม่มีค่าอะไรจะทำอย่างไรกับเธอก็ได้ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย   อย่างน้อยเธอก็เป็นแม่ผู้ให้กำเนิดคนที่ผมรัก หากไม่มีเธอผมคงไม่มีความสุขได้มากขนาดนี้ ผมไม่อยากให้เธอออกไปลำบากกับโลกภายนอกเพียงลำพัง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่สามารถให้เธออยู่ร่วมชายคาเดียวกับผมได้ ผมไม่อยากให้ใคร ๆ มองว่าเราเป็นสามีภรรยากัน   เพราะภิฌาคือคน ๆ เดียวเท่านั้นที่จะมาเป็นนายผู้หญิงของคฤหาสน์ตระกูลพิชยะธารได้
 
 
นับว่าโชคดีที่เวลาผ่านไปไม่กี่ปี ผลงานการวาดภาพของเธอที่ผมเสนอให้เอาออกแสดงที่แกลลอรี่ของเพื่อนร่วมวงการธุรกิจ จึงทำให้ณดาได้มีโอกาสได้พบรักกับผู้ชายที่ดีพร้อม และยังเป็นคนที่รักเธอด้วยใจจริง แต่ถึงอย่างนั้นณดาก็ยังคงปิดกั้นหัวใจตัวเองไม่กล้าที่จะเสี่ยงเต็มที่ ไม่ยอมตกลงแต่งงานกันแฟนที่คบหาดูใจกันเสียทีบ้านที่ผมยกให้ก็ไม่กลับมาดู ผมก็ได้แต่หวังว่าเธอจะเปิดหัวใจอีกครั้ง ผมเองก็รู้สึกผิดและอยากให้เธอมีความสุขเช่นกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเธอผมเองก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อยที่ไม่ทำอะไรให้มันเด็ดขาดเสียแต่ทีแรก
 
สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะย้ายออกไปอยู่คนเดียว  เธอซื้อห้องชุดหรือคอนโดด้วยเงินที่ผมเคยให้ไว้ใช้ทุกเดือนตลอดเวลาที่เคยอยู่ด้วยกันรวมเข้ากับเงินที่ได้จากการขายภาพของเธอ ศิลปินหน้าใหม่ของวงการจึงสามารถยืนได้ด้วยลำเเข้งของตนเองโดยที่ไม่ได้ลำบากอย่างแต่ก่อน
ณดาให้ความเห็นว่าในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าควรจะมองใคร ก็ควรจะหันหลังจบกับอดีตและสับสนในใจให้ขาดกันไปเลย อย่างคำพังเพยที่ว่า ‘ตัดบัวอย่าให้เหลือใย’
 
 
ครับ และหลังจากที่ผมทนหงุดหงิดกับอีเมลล์ที่เหมือนจะยังโทษตัวเองไม่ยอมกลับมาบ้านทั้ง ๆ ที่เรียนจบแล้วของภิฌา  ด้วยคำแนะนำของคุณลุงพ่อบ้านที่ผมนับว่าเป็นผู้อาวุโสในครอบครัวเพราะท่านดูแลผมมาตลอดตั้งแต่วัยเด็ก  ผมจึงตัดสินใจเร่งทำงานแล้วเก็บกระเป๋าเดินทางไปอังกฤษทันที กระเป๋าที่เอาไปมีแต่ Carry on เท่านั้นผมถือขึ้นเครื่องโดยไม่เสียเวลาเช็คอิน เพราะยังไงผมคงไม่อยู่ที่นู่นนานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะยังไงผมต้องพาหัวใจของผมกลับบ้านให้ได้ กลับมาอยู่ด้วยกันที่ ‘บ้านของเรา’
 
 
TBC.
Talk : เป็นกำลังใจให้คนแก่ด้วยน๊า ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 24-12-2014 22:45:11
เชิญคุณนักอ่านลงทัณฑ์บัญชา จนสมอุราจนสาแก่ใจ . . .นักเขียนน้อมรับทุกความเห็น ขอโทษจากใจจริงที่เขียนเรื่องนี้ออกมาไม่ถูกใจหลาย ๆ คน แต่ในฐานะคนเขียน เราปูเนื้อเรื่องตามความคิดที่เราว่าควรจะเป็น ใจร่ม ๆ นะคะ นิยายก็คือนิยายเนอะ ^^


พรทิวาเสียใจจริง ๆ ที่อธิบายได้ไม่ดีพอจนทำให้คุณนักอ่านรังเกียจคุณตฤณ จริงๆแล้วคุณตฤณรักน้องแบบลูกชายนะคะ แต่ไปไงมาไงจิตใจมันกลับคิดไกลกว่านั้น แต่ตฤณก็ผิดจริงๆนั่นแหละค่ะ ที่ไม่อธิบาย ไม่สนใจสังคมรอบข้าง ไม่ทำอะไรให้มันเด็ดขาดตั้งแต่แรก ซึ่งท้ายที่สุดน้องจะตัดสินใจอย่างไรก็สุดแท้แต่นักอ่านจะตัดสินใจค่ะ สำหรับนักเขียนอยากให้น้องเลือกทางที่น้องคิดว่ามีความสุขนะคะ พรทิวาคิดว่าความรู้สึกผิด รู้สึกรังเกียจตัวเอง ฝันร้าย ร้องไห้ เสียใจ อยู่มาตลอดเวลาหลายปีคือโทษทัณฑ์ที่ทรมานเหลือเกินค่ะ

 ต่อจากนี้จะเป็นตอนพิเศษนะคะ พิเศษอีกแล้ว 55555  คือเป็นพิเศษของพิเศษอีกที อาจจะไม่เกี่ยวกับเนื่อเรื่องหลัก สนใจติดตามกันนะ พรทิวาว่าจะลงในอีบุ๊คล่ะ ใน MEB น่ะค่ะ ต้นทุนไม่เยอะแค่ค่าปกกะค่าธรรมเนียมอย่างเดียวจะได้ราคาไม่แพงเนอะ  ปกเสร็จเเล้วจะมาลงให้ดูกันจ้า  ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ╰Äρρłәßәѓѓÿ╮ ที่ 26-12-2014 01:42:04
จะได้เจอกันแล้ว  :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-12-2014 09:32:31
จะดีกันแล้วใช่ไหมๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: rogerr ที่ 29-12-2014 18:58:28
ตกลง แฮปปี้แอนดิ้งใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 30-12-2014 08:21:04
ดีใจที่เคลียร์ปัญหาได้ทุกอย่างแล้ว
ต่อไปก็น่าจะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาเนอะ อยากให้ภิฌามีความสุขสักที
แล้วตอนพิเศษตอนหน้ายังเอามาลงในนี้อีกป่าวคะ
อยากอ่านตอนที่ 2 คนนี้เจอกันสักทีค่ะ


เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป Ver. ตฤณ-ภิฌา จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ4) 24/12/57 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: miniminiXD ที่ 04-01-2015 23:45:49
เรื่องนี้ไม่ต้องแฮปปี้เอ็นดิ้งหรอกค่ะ =..=
เพราะไม่ว่ามองมุมไหนตฤณก็เป็นผู้ชายที่กากมากๆ
ความคิดความกังวลของตฤณมันดูจ๊าดง่าวสุดๆอ่ะ
เรารูสึกว่าตฤณเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัวยังไงไม่รู้
ก็แค่หนีปัญหาไปวันๆ ได้แต่กลัวกับผลที่อาจจะเกิดขึ้น

ทั้งๆที่มีทั้งเงิน ทั้งอำนาจ และอยู่ในระดับที่ต้องมีความรู้และการศึกษาระดับสูง
แต่จัดการผู้หญิงธรรมดาที่สู้ไม่ได้สักทางไม่ได้

ตอนเอาเค้าเข้ามาอยู่บ้านใหม่ๆอ่ะ ปล่อยใครก็ไม่รู้มายกหางตัวเองเป็นคุณนายของบ้านได้ยังไง...
จะบร้าเหรออ! มีเหตุผลมากกกกกกก
บอกห่วงความรู้สึกภิณาเลยไม่บอกว่าไม่ได้เป็นปั๋วแม่...
เชรี้ย!! ที่ทำอยู่นี่ไม่เลวร้ายกว่ารึไง?
กลัวเค้าหอบลูกหนีไป...
แล้วเงินกับอำนาจหน่ะ เมิงมีไว้ทำอาร๊ายยยยยยยย
มีให้บ่นอีกเยอะค่ะ เรื่องผู้ชายคนนี้ แต่แค่นี้ก็รู้สึกว่ายาวมากละ :try2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป:จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ5-จบบันทึกของตฤณ) 15/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 15-01-2015 04:50:36
เค้าทำอีบุคแล้วค่ะ เลยขอลบตอนพิเศษนะคะ ติดตามในอีบุคต่อได้เลยนะคะ แถมตอนพิเศษยกกำลัง2 ให้อีก 3 ตอนค่ะ ในราคา 99 บาท จ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป:จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ5-จบบันทึกของตฤณ) 15/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: ohho99 ที่ 15-01-2015 09:12:11
จบไปแล้วแบบ happy ending ดีใจที่ภิฌาได้พบความสุขสักทีค่ะ
แต่ตอนท้ายดูพระเอกหมดสภาพหนุ่มธุรกิจแสนเย็นชา
กลายเป็นง๊องแง๊ง กลัวเมียไปซะงั้น ตลกดีค่ะ 555


เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป:จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ(ตอนพิเศษ5-จบบันทึกของตฤณ) 15/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-01-2015 22:12:09
จบแบบแฮปปี้แบบนี้น่ะดีแล้วววว
ภิน่ารักจริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป:จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: OumkaCho ที่ 22-01-2015 02:44:35
1.ลิงก์ซื้ออีบุคสามารถโหลดไว้อ่านได้ทั้งในคอมและมือถือค่ะ ในราคา 99 บาท  ซื้อผ่านเว็บจะถูกกว่า AppStore ของIOS แถมตอนพิเศษให้ 3 ตอน >> <iframe width="430" height="220" src="https://www.mebmarket.com/embed.php?seller_link=http%3A%2F%2Fwww.mebmarket.com%2Findex.php%3Faction%3DBookDetails%26data%3DYToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNjg1MjQzIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjE0NzEiO30" frameborder="0" ></iframe>


2.สำหรับผู้ที่สนใจรูปเล่มลิงก์นี้ค่ะ>> http://www.tunwalai.com/chapter/151742/e-book-และ-pre-order-รูปเล่มจ้ะ?page=1 (http://www.tunwalai.com/chapter/151742/e-book-และ-pre-order-รูปเล่มจ้ะ?page=1)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-03-2015 09:19:00
 :pig4:  จบแบบนี้ก็ดีค่ะ ทุกอย่างเป็นเรื่องของอนาคต
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 27-04-2015 10:40:41
เจ็บทุกฝ่าย ..... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Storm_Dragon ที่ 28-04-2015 13:48:13
อ่านแล้วโมโหคนแก่ :katai1:

จบแบบนี้ดีแล้วค่ะ

ขอให้น้องตัดใจได้ อย่ากลับไปหาคนแก่เลย

คนอะไร นิสัยแบบบบ โอ้ยยย อ่านแล้วโมโหค่ะ อินมาก   :katai4:

ทำอะไรคาราคาซัง คิดอะไรทำไมไม่พูด รู้ก็รู้ว่าพูดไปแล้วมันทำร้ายจิตใจคนฟัง ก็ยังจะพูด

สงสารแต่น้องฌา....ฮือ T_T

 :z3:  :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-03-2016 22:12:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Feporchz ที่ 19-06-2016 17:08:03
อ่านจบล้ะ ความรู้สึกคือคาราคาซังมาก แต่ก็ชอบค่ะ เนื้อเรื่องดำเนินไว น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 21-06-2016 22:53:29
ขอบคุณค่ะ
อ่านแล้วหน่วงจิตดีจริงๆเลย ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 30-10-2016 02:32:18
ดีจริงๆ ที่สุดท้ายทุกอย่างก็ลงตัว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 12-12-2016 11:15:45
เรื่องนี้มันเทาเข้มจนดาร์กอะนะ.  รับรู้ความรู้สึกแค่ภิชา (หา ช. เชอไม่เจอค่ะ). ฝ่ายเดียว.  จบแบบนี้ที่คิดว่าดี    มันเลยไม่เคลียร์.   ด้านของตฤณ และแม่ว่ายังงัย.    ขอบคุณ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]คนบาป: จบแล้วย้ายได้เลยค่ะ (e-bookค่ะ) 26/1/58 P.4
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 27-02-2020 23:40:08
เออบาปจริง แต่สนุกว่ะ 55555 อ่านไปก็วึบๆวาบๆ ขึ้นๆลงๆ ดีนะสุดท้ายก็เคลียร์  สนุกอ่ะ ชอบๆ