พิมพ์หน้านี้ - << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Belove ที่ 20-11-2013 12:19:42

หัวข้อ: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-11-2013 12:19:42
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com)  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม








แนะนำตัวสำหรับตัวผู้เขียนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ในเล้าเป็ดแห่งนี้ค่ะ
ปกติจะแต่งแฟนฟิคของ The star 8 อยู่ในเด็กดี ใช้นามปากกาว่า Belove
เพิ่งจะมีโอกาสเข้ามาในคลับแห่งนี้ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ



สำหรับนิยายเรื่องนี้ เริ่มต้นจากแฟนฟิคเรื่องแรกของผู้เขียนค่ะ
ผู้เขียนนำมาเปลี่ยนชื่อ พระเอก นายเอก และปรับปรุงข้อความอีกเล็กน้อย
แล้วจึงนำมาลงในเล้า ชอบหรือไม่ชอบ เม้นท์เป็นกำลังใจและติชมกันได้นะคะ
 

ติดต่อพูดคุยกับผู้เขียนได้ทางทวิตเตอร์ @klam_natamon
ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ




หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-11-2013 12:45:27

รักได้ไหมผู้ชายธรรมดา
บทที่1


แสงแดดยามบ่ายส่องแสงร้อนแรงผ่านผนังกระจกของตึกสูงใจกลางเมืองหลวงเข้ามา ทำให้

ภายในออฟฟิศอากาศร้อนอบอ้าว แม้จะมีเครื่องปรับอากาศกำลังแรงก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วย

บรรเทาไปได้สักเท่าไหร่

อธิศเปิดปากหาวเต็มที่ แขนสองข้างบิดขี้เกียจขับไล่ความเมื่อยล้าหลังจากที่นั่งทำบัญชีสินค้าของ

บริษัทตั้งแต่สายๆ จนถึงตอนบ่าย ก่อนจะถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย

ใช่สิ เขานึกเบื่อตัวเองอยู่เหมือนกันกับชีวิตที่แสนจะธรรมดาของเขา เมื่อคิดถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา

บางทีเขาเองก็อยากจะเกิดมามีพรสวรรค์อะไรที่ทำให้เขาดูเด่นและแตกต่างจากคนอื่นบ้าง ไม่ใช่

อะไรก็ดูธรรมดาไปหมดทุกอย่างขนาดนี้

หน้าตาเหรอ..เขาลองมองเงาตัวเองที่สะท้อนมาจากจอคอมพิวเตอร์ มันก็ไอ้ตี๋คนหนึ่ง ดวงตารีชั้น

เดียว จะมีดีหน่อยก็ที่จมูกโด่งตามธรรมชาติ ไม่ต้องทำศัลยกรรม รูปร่างก็พอค่อยยังชั่วที่ได้

ความสูงโปร่งมา แต่ทั้งหมดก็สามารถหาได้ทั่วไปจากผู้ชายเดินถนนคนอื่นๆ

จะมาดูที่ฐานะหรือ เขายักไหล่กับตัวเอง ก็แค่หนุ่มต่างจังหวัดคนหนึ่งที่พ่อแม่เป็นคนจีน ขายทอง

อยู่ในตลาดใหญ่ของจังหวัดทางภาคอิสาน ถามว่าจนไหม ก็ไม่ได้เดือดร้อนแต่ก็ไม่ถึงกับรวยจนล้น

ฟ้า

การศึกษาถึงแม้จะจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ที่พ่อให้เรียน แต่เกรดก็ธรรมดา

เป็นที่สุด

จะมองหาพรสวรรค์ของตัวเองสักด้าน ก็หาไม่เจอเอาเสียเลย จะเป็นนักร้องก็ร้องเพลงเดียวร้อย

ทำนอง จะเป็นนักเขียนแม้แต่เรียงความก็สอบตก

เฮ้อ...คนอะไรมันช่างจะธรรมดาอย่างนี้ เขาอดตัดพ้อในโชคชะตาไม่ได้



มองตรงไปที่ประตูทางเข้า อธิศรีบปรับท่าทางการนั่งทันทีเมื่อเห็นร่างโปร่งบางของสาว

ประชาสัมพันธ์คนสวย เดินเข้ามาในแผนกและตรงมาหาเขา

จิ๊บจ๋า ไม่เจอกันสองวันสบายดีป่ะ ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะ” 

เขายิ้มแป้นส่งคำทักทายให้คนงามประจำบริษัท

พอเลย ซัน ไม่ต้องมาชม”

จิ๊บโบกมือปฎิเสธวุ่นวาย 

แกหยอดคำหวานกะล่อนของแกจีบฉันมาตั้งแต่เข้ามาบริษัทนี้พร้อมกัน จนเดี๋ยวนี้...”

จิ๊บชูนิ้วสองนิ้วลอยผ่านหน้าเขา

สองปีละ แกยังไม่เลิกอีกเหรอ”

แหม จิ๊บก็”

เขาส่งเสียงโอดครวญ

ก็เราว่าจิ๊บโดนอ่ะ”

โดนอะไรของแก”

จิ๊บตกหลุมพรางถามต่อ

ก็โดนเรารักแล้วไง”

อธิศรีบตอบไปอย่างรวดเร็ว

โห ไอ้บ้าซัน”

จิ๊บคว้าปากกาบนโต๊ะขว้างใส่หน้าอกเขาด้วยความระอา

แกคิดนานไหมไอ้มุขเสี่ยวของแกเนี่ย ไม่พูดด้วยแล้วเสียเวลาทำงาน เอายอดไตรมาสที่แล้วมา

เลย เสร็จหรือยัง”

จิ๊บแบมือหราทวงงาน

อธิศจึงหยิบปึกกระดาษที่เตรียมเอาไว้ให้พร้อมกับทำหน้ามุ่ย

แกนี่น้า... ซัน”

จิ๊บส่ายหน้าอย่างระอา

รูปร่างหน้าตาของแกมันก็ดีอยู่หรอก นี่ถ้าแกลดความรั่วของแกได้บ้าง คงมีผู้หญิงเอาแกเป็น

แฟนบ้าง นี่อาร้ายย..”


จิ๊บลากเสียงยาว

เล่นอกหัก ปีละ4ครั้ง แกทำยอดยิ่งว่าบัญชีบริษัทอีกนะนี่”

จิ๊บ ไปเลยไปทำงาน”

อธิศโบกมือใส่หญิงสาว

ไม่ตกลงเป็นแฟนกะเราก็อย่าตอกย้ำให้เจ็บใจ กลับไปประจำตำแหน่งเลย”

ย่ะ แหมพ่อหนุ่มกะล่อน ไปล่ะ แล้วอย่าไปเที่ยวกลางคืนดึกนักนะยะ มันอันตราย”

จิ๊บยื่นหน้าแป้นแล้นมาใกล้

ด้วยความเป็นห่วงจากผู้หญิงที่ไม่เอาแกเป็นแฟน ฮะฮะฮ่า”

จิ๊บสะบัดหางม้าเดินจากไปปล่อยให้อธิศนั่งฮึดฮัดคนเดียวอย่างเจ็บใจ





ดึกดื่นค่อนคืน ในคืนวันศุกร์วันที่ควรจะไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนกับใครสักคน แล้วเขามาทำอะไร

คนเดียวริมถนนนะ

อธิศถอนหายใจด้วยความเหงา

ก็แค่ผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตจิตใจ เขาก็แค่อยากจะมีใครสักคนที่มาเดินเคียงข้าง ไปกินข้าว ไปดู

หนังเป็นเพื่อนกัน ไม่ใช่ต้องทำกิจกรรมที่ว่ามาเพียงลำพังเช่นนี้

กลับไปห้องพักในคอนโดที่ครอบครัวซื้อไว้ให้ตั้งแต่เข้ามาเรียนในกรุงเทพ เขาก็ต้องกลับไปอยู่

เพียงลำพังกับความเหงาเหมือนทุกๆ วัน

เฮ้อ”

เขาถอนหายใจอย่างเหงาหงอย ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงดังของเครื่องยนต์เลี้ยวเข้ามาในซอย

ลึกที่เขาเดินอยู่

อธิศหันไปมองก็เห็นรถยุโรปสีดำขัดเป็นเงาวับ สองคันขับตามกันมาด้วยความเร็วสูง ชายหนุ่ม

กระโดดหลบไปอยู่หลังเงามืดของเสาไฟฟ้าด้วยความตกใจ

รถสองคันพุ่งผ่านจุดที่เขายืนอยู่ คันแรกขับส่ายไปมาอย่างน่ากลัวเหมือนคนขับไม่สามารถบังคับ

พวงมาลัยได้ รถคันหลังจึงพุ่งตรงมาชนท้ายรถคันแรก จนรถคันแรกนั้นเสียหลักลงข้างทางไปชน

กับถังขยะ เลยหน้าชายหนุ่มไปไม่กี่สิบเมตร

อธิศเกือบหลุดปากร้องออกไปด้วยความตกใจ ดีที่เอามือปิดปากตัวเองทัน เขาทรุดตัวลงนั่งใช้เสา

ไฟและความมืดพรางตัวไว้

ชายฉกรรจ์สองคนในเสื้อแจ็คเก็ตสีดำเปิดประตูรถลงมาจากรถคันหลังแล้วเดินก้าวตรงไปยังรถ

คันแรกที่จอดอยู่ริมทาง เมื่อถึงจุดหมายหนึ่งในสองคนนั้นหยิบบางสิ่งออกมาจากเอวอย่าง

รวดเร็ว

ดวงตาของอธิศเบิกโพลง สติแทบไม่อยู่กับตัวเขาปิดปากตัวเองแน่นกว่าเดิมด้วยความหวาดกลัว

ราวกับว่าเพียงแค่ลมหายใจก็อาจทำให้พวกนั้นหันมาเห็นเขาได้

ชายคนนั้นเล็งกระบอกปืนไปทางหน้าต่างรถคันแรกที่แตกร้าวเป็นทางก่อนจะลั่นกระสุนปืนอย่าง

รวดเร็ว

เปรี้ยง !!

อธิศซุกหน้าลงกับเข่าสองข้างอย่างกริ่งเกรงตัวสั่นพั่บๆ เป็นลูกนก ก่อนที่จะค่อยๆ หรี่ตาขึ้น

มองเหตุการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง

ชายฉกรรจ์สองคนเหลียวมองไปมาว่ามีใครเห็นเหตุการณ์หรือไม่ และช่วงเวลานั้นก็มีอยู่เสี้ยว

วินาทีที่ชายสองคนหันมาทางเขา

เพียงเสี้ยววินาทีในความมืดมันก็เพียงพอที่เขาจะเห็นหน้าฆาตกรสองคนนั้นอย่างชัดเจน!

ชายหนุ่มตัวสั่นเทาเพียงแค่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตน ถ้าชายสองคนนี้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้

เหมือนโชคเข้าข้างที่หลอดไฟเสียมุมนี้จึงมืดพอที่จะพรางตัวให้เขาได้

ชายฉกรรจ์สองคนนั้นรีบเดินกลับมาขึ้นรถของตนและรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว

ทิ้งให้ชายหนุ่มยังคงนั่งสั่นเทาที่มุมเสาไฟฟ้าเพียงคนเดียว กับรถยนต์ที่มีผู้เสียชีวิตตรงหน้า


หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 20-11-2013 12:52:53

จากที่เป็นคนธรรมดามาตลอดแต่จะไม่ธรรมดาก็คราวนี้สินะ

+ 1 + เป็ดต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: ทั่วหล้า ที่ 20-11-2013 13:32:08
โอ้!เรื่องใหม่น่าอ่านอ่ะ o13 มาต่อเร็วๆนะครับ :L2: :mc4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: jenzda ที่ 20-11-2013 13:44:55
เจิมมม เป็นกำลังให้นะคะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 20-11-2013 14:15:23

                                  รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
                                                  บทที่2


ชายหนุ่มมีเวลานั่งขดตัวสั่นสะท้านแข้งขาอ่อนด้วยความหวาดกลัวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ

ก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงของเครื่องยนต์อีกคันหนึ่งขับมาจอดใกล้รถคันเกิดเหตุอย่าง

รวดเร็ว อธิศก้มหน้ายกสองมือขึ้นกุมศีรษะอย่างระแวดระวัง  ดวงตายาวรีค่อยๆ เปิดขึ้นเพื่อมองเหตุการณ์

ตรงหน้า ก็พบว่ารถคันสุดท้ายที่มาจอดนั้นเป็นรถยุโรปคันโตที่หรูหรา ราคาคงแพงระยับอย่างที่คนธรรมดา

เช่นเขาคงได้แค่มอง

ประตูด้านหน้าทั้งสองด้านเปิดออกทันทีที่รถจอดสนิท และมีชายสองคนใส่แจ็คเก็ตสีเข้มก้าวลงมา

อย่างรวดเร็ว

ชายหนุ่มรีบหันหน้ากลับมาทันทีเนื่องจากกลัวเหตุการณ์จะซ้ำรอย แต่เขาก็ต้องหันกลับไปอีกครั้งเมื่อได้ยิน

เสียงประตูรถด้านหลังเปิดออก


อธิศหันกลับไปมองก็ต้องอึ้งกับภาพที่เห็น ชายหนุ่มที่ก้าวลงมาจากตอนหลังของรถยุโรปคันใหญ่เงาวับนั้น

ควรจะมีใบหน้าดุเข้มคล้ายคลึงกับพวกที่เขาเห็นมาก่อนหน้านี้ แต่กลับกลายเป็นชายหนุ่มวัยรุ่นที่ดูเหมือน

จะอายุน้อยกว่าเขาเสียอีก หน้าหวานใสนั้นขัดกับบุคลิกที่ดูขรึม เชิด ตัวตรงหลังตรง ดวงตาจ้องเขม็งไปที่

รถยนต์คันที่ถูกยิงไม่เหลือบแลสิ่งอื่น ราวกับคนทั้งโลกไร้ค่าสำหรับเขาคนนั้น

หนุ่มหน้าหวานก้าวลงมายืนเต็มตัว มองตรงไปที่รถคันเกิดเหตุ ก่อนออกคำสั่งอย่างรวดเร็วกับชายสองคน

แรก

“ไปดูอาเกียรติในรถ”

นี่คือครั้งแรกที่อธิศสาบานได้ว่าเพิ่งเคยเจอและได้ยินเสียงของผู้ชายที่ยืนนิ่งห่างไปไม่ไกลนัก 

แต่เขาเองไม่รู้เหตุผลว่าทำไม ชายหนุ่มที่ดูหยิ่งยะโสคนนี้ถึงได้มีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจ

ของเขาได้มากมายขนาดนี้

หรืออาจจะเป็นเพราะความตี่นเต้นและความกลัว ชายหนุ่มถามตัวเอง แต่ก็สามารถตอบได้ในทันทีว่าไม่ใช่

ความรู้สึกในใจมันวูบไหวประหลาด เหมือนกับได้พบสิ่งที่รอคอยมานาน

ชายใส่แจ็คเก็ตสองคนก้าวยาวๆ กลับมายืนตรงหน้าหนุ่มน้อยคนนั้นก่อนรายงานให้ทราบว่า

ขายคนที่ชายหนุ่มเรียกขานว่า อาเกียรติ นั้นเสียชีวิตแล้วหนุ่มหน้าหวานขบกรามกรอด

แววตายะโสนั้น แทบจะลุกเป็นไฟ

ก่อนที่จะควบคุมอารมณ์และสั่งลูกน้องให้ตรวจสอบร่องรอยต่างๆ

อธิศรีบก้มหน้าคู้ตัวอีกครั้ง ด้วยความหวาดกลัว พยายามทำตัวให้กลมกลืนกับความมืดที่สุด

แต่ก็ไม่พ้น!


หนึ่งในสองชายชุดดำเห็นเขาเข้าแล้ว ก่อนที่จะเดินตรงดิ่งมากระชากคอเสื้อของเขาให้ลุกและเดินตามไป

เหวี่ยงจนเขาเซมาหยุดยืนตรงหน้าหนุ่มน้อยหน้าหวาน

อธิศยืนตัวงอไหล่กว้างลู่ลงตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ก็อดไม่ได้ที่เงยหน้าสบตาหนุ่มน้อยหน้าดุคนนั้น

เมื่อตาต่อตาสบกันครั้งแรกอธิศก็ต้องนิ่งงัน กับดวงตายาวรีคู่นั้น

นัยตาดำขลับที่บ่งบอกถึงความยะโส แต่อธิศกลับสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง มันเหมือนกับมีบ่อน้ำที่ทั้งกว้าง

และลึกสุดจะหยั่งถึง แฝงตัวอยู่ภายใต้กรอบกั้นแห่งความยะโส

“อยู่ตรงนี้มานานแล้วหรือ”

หนุ่มหน้าหวานพูดกับเขาโดยตรงเป็นครั้งแรกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เหมือนไม่มีเหตุการณ์ร้ายแรง

อะไรเกิดขึ้นราวกับสอบถามเรื่องดินฟ้าอากาศ อธิศพยักหน้ารับ  ขณะที่ยืนขาสั่นปากสั่น

“เห็นหน้าชัดไหม”

หนุ่มหน้าหวานยังคงส่งคำถามมาเรื่อยๆ แต่อธิศกลับรู้สึกว่าช่างเป็นคำถามที่ตอบยากเหลือเกิน

“ถามว่า เห็นหน้าชัดไหม ทำไมไม่ตอบ”

หนุ่มหน้าหวานเดินเข้ามาใกล้ เสียงที่ส่งมาในรอบนี้เน้นทุกพยางค์จนอธิศต้องรีบตอบเสียงสั่น

“ชะ ชัด”

หน้าหวานกระตุกยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะพูดประโยคต่อไปที่ทำให้อธิศแทบหงายหลัง

“สงสัยต้องเชิญไปพักผ่อนด้วยกันแล้ว”

ดวงตาคมคู่นั้นเพียงแค่หันไปมองลูกน้อง ชายสองคนนั้นก็ปรี่มาหาชายหนุ่ม

เขาไม่รอช้าหันหลังกลับใส่เกียร์หมา โกยอ้าวอย่างรวดเร็ว


แต่ก็ไม่เร็วไปกว่าคนที่ฝึกมาอย่างชำนาญ ชายหนึ่งในสองคนวิ่งมาคว้าตัวเขาไว้ได้ และลากตัวไปยัง

กระโปรงท้ายรถ ชายอีกคนที่รออยู่แล้วหยิบเอาเชือกมามัดมือเขาไว้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับพลาสเตอร์

ปิดปากจนขยับไม่ได้


การรับรู้ด้วยดวงตาของอธิศถูกปิดลงเมื่อมีถุงผ้าสีดำมาครอบศีรษะเขาไว้

ก่อนที่เขาจะถูกอุ้มใส่ท้ายรถคันนั้น


---------------------------------------------------------------------------------------------


วันแรกที่โพส ขอเปิดตัวพระเอก นายเอกของเรา เท่านี้ก่อนนะคะ แล้วจะรีบมาโพสต่อบ่อยๆ นะคะ


ขอบคุณมากๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: Yarkrak ที่ 20-11-2013 14:39:52
 :mc4: :mc4: :mc4:
ต้อนรับเรื่องใหม่จ้า
แล้วตัวหนังสือทำไมมันโดดเป็นสองคอลัมภ์อ่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 20-11-2013 15:01:44
ชักไม่ธรรมดาแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: jj_girl ที่ 20-11-2013 16:56:40
โอ๊ยยย   ตื่นเต้นๆ


น่าสนใจอ่ะ


รอมาต่อตอนต่อไปค่ะ


ลุ้นๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-11-2013 21:07:32

                                            รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
                                                     
                                                    บทที่ 3
ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเจ็บใจ มันเกิดอะไรขึ้นกับหัวใจที่เต้นโครมครามนี้ เพียงแค่สบตากับไอ้

หนุ่มหน้าตี๋ตาชั้นเดียวนั่น

ราวกับมีแม่เหล็กในดวงตาคู่นั้นเมื่อได้สบตาด้วย ความเป็นตัวของตัวเองที่เคยควบคุมได้แทบจะ

ละลายหายไปชั่วขณะ แทบลืมไปว่าลูกน้องเก่าแก่คนสนิทของพ่อ ที่ตนก็ให้ความเคารพอยู่

ถูกยิงตายไปเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

ซ้ำยังให้ลูกน้องจับตัวจับยัดท้ายรถ ดิ้นขลุกขลักอยู่ข้างหลังนี่เอง

ธีทัตใช้กำปั้นทุบเบาะรถระบายอารมณ์ จนลูกน้องสองคนด้านหน้าหันมามองแวบหนึ่ง

เขาพยายามควบคุมอารมณ์ให้กลับมาอยู่ในความปกติ ชายหนุ่มลอบถอนหายใจ

ชีวิตของลูกชายคนเดียวในตระกูลที่มีอิทธิพลระดับสูงในด้านมืด ทำให้ถูกสั่งสอนและฝึกฝนมา

แทบจะตั้งแต่เกิดเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะด้านการศึกษา การต่อสู้ ธีทัตหัวเราะเยาะตัวเองในใจ

จะมีเด็กที่ไหนที่หัดจับปืนก่อนปากกาเสียอีก

ยิ่งในเรื่องการควบคุมอารมณ์ยิ่งแล้วใหญ่ แสดงออกมากไปก็ไม่ได้ เดี๋ยวศัตรูจะจับทางได้

อยากจะไปทำกิจกรรมอย่างที่วัยรุ่นในอายุเช่นเขาทำกัน อย่าได้หวังถ้าไม่มีบอดี้การ์ด

อย่างต่ำ 2 คน อย่าได้คิดจะออกนอกบ้าน

ด้านธุรกิจเขาเองก็ต้องเริ่มเรียนรู้จากบิดาแม้อายุจะแค่ย่าง 20 แต่ความรับผิดชอบธุรกิจหลายร้อยล้าน

และชีวิตของผู้คนอีกหลายร้อยที่อยู่ในสังกัด ก็มาตกอยู่บนบ่าสองข้าง

ธีทัตเอนตัวพิงเบาะรถพลางหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน

หนุ่มวัยรุ่นผู้อยู่ท่ามกลางอิทธิพลมืดนึกอยากจะไปเกิดเป็นลูกตาสีตาสาเสียเหลือเกิน





อธิศหลับตาลงอีกครั้งเมื่อสายตายังปรับกับแสงสว่างไม่ได้ เขาค่อยๆกระพริบตาจนสามารถ

มองสิ่งต่างๆรอบตัวได้ชัดเจน มือสองข้างเป็นอิสระ พลาสเตอร์ปิดปากถูกลอกออกเป็นสิ่งสุดท้าย

ของพันธนาการ เขาจึงเหลียวมองไปรอบๆตัว

แม่เจ้าโว้ย!

นี่มันบ้านหรือพระราชวังแวร์ซายเว้ยเฮ้ย อลังการงานสร้างจริงแท้ เขาอุทานในใจ

ก่อนจะมาสะดุ้งเฮือกเมื่อ

สบตากับดวงตาหวานปนดุคู่นั้นที่นั่งจ้องเขา อยู่บนโซฟาหรูในห้องนี้

แม้แต่อยู่บ้าน บุคลิกเจ้าหนุ่มวัยรุ่นคนนี้ก็ยังถือว่าเนี้ยบ อธิศคิดในใจ ก่อนจะสะดุ้งอีกที

เมื่อหนุ่มหน้าหวานพยักพเยิด

“นั่งสิ”

หนุ่มหน้าหวานตาคมยังคงมองมาเมื่อเห็นเขายังละล้าละลังไม่กล้านั่ง

“นั่งได้ ไม่กัดหรอก”

อธิศรีบนั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามทันที เมื่อจบประโยคนั้น ไม่คิดว่าคำพูดแบบนั้นจะหลุดมาจากหน้านิ่งๆ

ตาดุๆ

“รู้ใช่ไหมว่าไปเห็นเหตุการณ์อะไรเข้า”

เจ้าหนุ่มหน้าหวานพูดเรื่อยๆ แต่ใจของอธิศกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ดีที่พวกมันไม่เห็น ถ้ามันรู้ว่ามีคนเห็น ไม่ปล่อยให้รอดหรอก”

เจ้าของดวงตาคมหยิบหนังสือรถสปอร์ตมาอ่านเล่น พลางพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติ

แต่อธิศกลับรู้สึกหนาวยะเยือกเหมือนจะรู้ชะตากรรมของตนเอง

“อยากรอด อยู่ที่นี่ไปก่อน”

เจ้าหนุ่มหน้าหวานพูดพลางจ้องดูรูปรถคันงาม

“อะไรนะ!อยู่ที่นี่”

อธิศตกใจ

“คุณจะบ้าเหรอ ผมอยู่ไม่ได้หรอก งานผมล่ะ ผมต้องส่งงานพรุ่งนี้นะ ไม่งั้นโดนหัวหน้าด่าแน่”

เขาโวยวาย เจ้าหนุ่มหน้าหวานวางหนังสือลงอย่างรำคาญ เขาโน้มตัวมาข้างหน้าแล้วมองตาอธิศอีกครั้ง

“อยากจะตายหรืออยากจะมีชีวิตรอดไปให้คนอื่นด่า ถ้าอยากรอดก็อยู่ที่นี่ผมช่วยคุณได้

แต่ถ้าอยากตายก็ออกไปได้”

ชายหนุ่มตาชั้นเดียวนั่งอึ้งในคำพูดประโยคสุดท้าย อย่างไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร

แต่เจ้าของบ้านก็จัดการสั่งให้สาวใช้เตรียมห้องให้

“จัดห้องติดกับห้องของผมครับ พี่แจ๋ว”
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่4
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 26-11-2013 20:09:56

                                                             รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                                                       บทที่ 4


ชายหนุ่มตาชั้นเดียวเดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้อง เข้ามาในตอนแรกเขาถึงกับอึ้งในความโอ่อ่าหรูหรา แต่เมื่อ

มาคิดได้ว่า นี่ไม่ใช่มาเที่ยวพักผ่อนแน่ๆ เขาก็เริ่มกลุ้มใจ อันตรายก็เข้าใจอยู่แต่ดูเหมือนอยู่ที่นี่ จะอันตรายกว่า

ไหม

สบตากับตาคมทีไรทำไมรู้สึกว่าเจ้าหนุ่มคนนั้น คนที่แม้แต่ชื่อเขาก็ยังไม่รู้ ช่างเป็นคนที่มีอะไรเก็บไว้ในใจ

มากมาย จนคนอย่างเขาที่ไม่เคยเก็บอะไรไว้ได้รู้สึกตกใจ

มันเหมือนมีความเรียกร้องโหยหาอะไรบางอย่างแต้มสีอยู่ในลูกตาดำขลับนั้น ส่งผลอยากให้ค้นคว้าหาคำตอบ

ยิ่งกว่าความกลัวอันตรายในชีวิตจนไม่กล้าปฏิเสธที่จะไม่อาศัยอยู่ที่นี่

อะไรบางอย่างที่เขาเองก็ยังตอบใจตัวเองไม่ได้


ชายหนุ่มหน้าตี๋หยุดเดินเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู เขาเดินไปเปิดประตูแง้มมองว่าใครอยู่หน้าห้องก็ต้องตกใจ

เมื่อไอ้หนุ่มหน้าหวานมายืนอยู่ตรงหน้าประตู เขาค่อยๆเปิดประตูกว้างขึ้น เจ้าหนุ่มตาคมที่ครองพื้นที่ความคิด

ไว้เมื่อครู่เดินตัวตรง มานั่งที่เก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ริมหน้าต่างในขณะที่เขายังยืนเก้ๆกังๆ อยู่กลางห้อง

เจ้าหนุ่มตาคมอยู่ในชุดนอนราคาแพง เขามองชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยังอยู่ในชุดเดิม แล้วกระตุกยิ้ม

ใช่..กระตุกยิ้ม อธิศใช้คำนั่นแหละ เพราะมันเป็นกระตุกยิ้มจริงๆ ก่อนที่ปากแดงเรื่อนั้นจะกลับมาเป็น

เหมือนเดิม

“ผมลืมไปว่าคุณไม่มีอะไรมาเลย

เจ้าหนุ่มตาคมพูดขึ้น


“เดี๋ยวจะให้เด็กเอาชุดมาให้เปลี่ยน”

“ขอบคุณนะ แต่ไม่ต้องก็ได้มั้ง ตอนเช้าก็กลับได้ไม่ใช่เหรอ

อธิศถามอย่างไม่มั่นใจ

คิ้วเข้มเหนือตาคมเลิกขึ้นเล็กน้อย ดวงตาดำขลับส่งประกาย บอกให้รู้ว่า หนุ่มหน้าหวานกำลังขบขัน

“นี่คุณคิดอย่างนั้นเหรอ

หนุ่มหน้าหวานเอ่ยถาม

“นี่ไม่รู้เหรอว่า ต้องอยู่จนกว่าทางผมจะเคลียร์เรื่องเสร็จ

“เฮ้ย จริงอ่ะ แล้วมันนานแค่ไหนกว่าคุณจะเคลียร์เสร็จ

อธิศรีบถามอย่างตกใจ หนุ่มหน้าหวานได้แต่ยักไหล่

“ไม่รู้สิ มีเรื่องกับกลุ่มนี้ทีไร ผมเห็นพ่อใช้เวลาเคลียร์นาน

เขาพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“คุณก็อยู่ไปเรื่อยๆนี่แหละ

“ได้ไงล่ะคุณ

อธิศแย้งมาบ้าง


“ถ้าผมไม่ไปทำงานเค้าก็ต้องสงสัยว่าผมหายไปไหน ทางบ้านผมที่ต่างจังหวัดอีกล่ะ ถึงผมจะไม่ใช่ลูกรักมาก

นัก แต่ป๊าก็ห่วงผมนะ

สาบานได้ว่าเมื่อพูดประโยคนั้นจบลง เขาเห็นแววตาดำขลับนั้นวูบไหวไปชั่วครู่ นี่เขาไปสะกิดต่อมอะไรเข้านะ

“เอาเป็นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าคุณลาป่วยวันนึงก่อนแล้วกัน แล้วเดี๋ยวระยะไกลค่อยคิด ว่าแต่ผมยังไม่รู้จักชื่อ

คุณเลย

“ผมชื่อ อธิศ เรียกผมว่าซันก็ได้

กระตุกยิ้มอีกแล้ว มันจะหัวเราะไปเลยไม่ได้หรือไงนะ เวลาขำเนี่ย

“ผมชื่อธีทัต เรียกผมว่ากันดั้มก็ได้

เจ้าหนุ่มตาคมแนะนำเลียนแบบ เขาถึงกับเอ๋อ เมื่อได้ยินชื่อเล่นเจ้าหนุ่มหน้าขรึมนี่

“กันดั้ม มีคนชื่อประหลาดอย่างนี้ในประเทศไทยด้วยเหรอ

เขาหลุดปากออกไป

“มีสิ ผมนี่ไง แม่ผมชอบดูหนังหุ่นยนต์

ดวงตาคมวูบไหวอีกแล้ว อธิศอยากจะเขกหัวตัวเอง

ได้พูดกันไม่กี่คำ นี่เขาสะกิดติ่งไปกี่ติ่งแล้วนี่

ธีทัตลุกขี้นยืนตัวตรงเดินตรงมาหยุดตรงหน้าเขา พลางเอื้อมมือมาตรงหน้า

“ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณซัน แม้ว่าเหตุที่รู้จักกันจะไม่ค่อยงดงามสักเท่าไหร่

อธิศเอื้อมมือไปจับตอบ

ราวกับความร้อนถ่ายเทถึงกันได้ เขารู้สึกร้อนวูบวาบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า






หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 26-11-2013 22:36:33
ธ ธงเหมือนกันเลย คนนึงอยากธรรมดา ส่วนอีกคนไม่อยากธรรมดา ><
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 27-11-2013 06:52:38
 :katai2-1:  :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 27-11-2013 10:48:12

เมื่อไหร่จะได้กลับบ้านนะ

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: kataiyai ที่ 27-11-2013 13:30:36
สป๊าคตั้งแต่แรกเห็นเลย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 28-11-2013 23:38:53

                                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
                             
                                             บทที่ 5



ธีทัตเดินเข้ามาในห้องของเขาอย่างหงุดหงิดโดยไม่มีสาเหตุ ทุกอย่างเขาจึงนำมันไประบาย

กับหมอนที่อยู่บนเตียง


เวลาเพียงไม่ถึงสองชั่วโมงที่ผ่านมา หัวใจเต้นผิดจังหวะไม่รู้กี่รอบ


เพียงเพราะอยู่ใกล้และได้สบตากับไอ้หนุ่มออฟฟิศหน้าตี๋นั่น


มันมีอิทธิพลราวกับไปนอนให้เอาเครื่องช็อตไฟฟ้ามาช็อตร่างกาย


เขาสบถด่าตัวเองพึมพำที่ไปรับเจ้าหน้าตี๋นั่นกลับมาบ้านด้วย ทั้งที่เรื่องแค่นี้ใช้ลูกน้องทำก็ได้


แถมยังให้มาอยู่ห้องติดกันให้มันคันในหัวใจเล่นๆ


แกเป็นอะไร ธีทัต เขาถามตัวเองไม่รู้กี่รอบ


เจ้าหนุ่มหน้าตี๋ที่พบเจอตามห้างสรรพสินค้าได้ทั่วไป กลับมาวิ่งวกวนกวนหัวใจอยู่อย่างนี้


ชายหนุ่มหน้าหวานหงายหลังลงบนเตียงนุ่มพลางใช้หมอนปิดหน้าตนไว้ ราวกับจะปิดกั้นความรู้สึก


ไม่ให้ยอมรับความจริงที่เป็นอยู่
 
 
 



ธีทัตเดินสบายๆมาหยุดอยู่หน้าประตูบานใหญ่บานหนึ่ง ก่อนหันตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว


ทำให้อธิศที่เดินตามมาด้วยเบรคตัวโก่ง ก่อนที่จะสบตากับตาหวานคู่นั้น


แววตานั้นล้ำลึกอัดอั้น ราวกับรู้สึกกดดันจากอะไรบางอย่างที่ต้องเผชิญผิดกับท่าทีสบายๆที่แสดงออก


ธีทัตชี้ไปที่เก้าอี้รับแขกชุดเล็กๆที่อยู่ข้างประตู


“คุณนั่งรอที่นี่ก่อน ผมจะเข้าไปพบพ่อ”


หนุ่มตาหวานเอ่ยก่อนที่จะเคาะประตูและผลักประตูบานใหญ่เข้าไป


อธิศทรุดตัวลงนั่ง อย่างไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่านี้ เจ้าหนุ่มตาหวานปิดประตูไม่สนิท เขาจึงได้เห็นเหตุการณ์


ชัดบ้างไม่ชัดนัก แต่สำหรับเสียง ทุกอย่างชัดเจนโดยเฉพาะเสียงตบโต๊ะดังลั่น


“ฉันเคยบอกแกหลายครั้งหลายหนแล้วใช่ไหมว่าให้ระวัง อย่าออกไปเพ่นพ่านที่ไหนตามลำพัง


แกก็รู้ว่าแกคือจุดอ่อนที่ไอ้พวกนั้นมันกะจะเล่นงาน ทำไมแกไม่เชื่อ”


ธีทัตยืนนิ่ง หลับตาลงครู่หนึ่งก่อนที่กล่าวตอบ


“ผมระวังแล้วครับ แต่พวกมันมามากเกิน...”


“พอแล้ว เจ้ากัน แกมันก็เอาแต่เลือกพวกสวะไป ทำไมไม่เอามือดีๆ จนเจ้าเกียรติต้องตามไปช่วย”


พ่อของหนุ่มตาหวานพูดเสียงดัง


“สำนึกเสียบ้างว่าแกทำให้ชั้นต้องเสียมือดีไปคนหนึ่ง”


ธีทัต หลับตาลงอีกครั้ง มือสองข้างกำแน่นจมูกโด่งรั้นนั้นเริ่มมีสีแดงเรื่อ


เขาเม้มริมฝีปากแน่น


นี่พ่อห่วงแค่เสียคนสำคัญไป แล้วตัวเขาล่ะ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเคยนึกเป็นห่วงบ้างไหม


“แล้วไอ้เจ้าพยานที่แกเก็บมาด้วยน่ะ ก็ดูแลกันเองก็แล้วกันฉันจะไม่เข้าไปยุ่งด้วยก่อเรื่องดีนัก


หัดแก้ปัญหาด้วยตัวเองบ้าง จะได้โตเป็นผู้ใหญ่เสียที”


ชายกลางคนผู้มีอิทธิพลระดับสูงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องอย่างรวดเร็ว


อธิศที่นั่งอยู่หน้าห้องรีบลุกขึ้นยืนเมื่อเขาเดินผ่าน บิดาของหนุ่มหน้าหวานหันมามองเขา


เพียงแวบเดียวก่อนเดินจากไปอย่างไม่ใส่ใจ
 


หนุ่มหน้าตี๋ค่อยๆโผล่หน้าไปมองคนที่ยังอยู่ภายในห้อง หลังจากที่เงียบไป


สิ่งที่เห็นตรงหน้าทำให้อธิศ ถอนหายใจด้วยความสงสาร


ก็ไอ้เจ้าวัยรุ่นที่ตัองโตเกินวัยนั่น นั่งบนโซฟาตัวใหญ่อย่างหมดแรง ลำคอที่เคยเชิดตรงนั้นพิงอยู่กับขอบโซฟา


แล้วยกมือสองข้าง วางประกบปิดดวงตาไว้
 


ให้ตายสิ เขาคิดว่าเจ้าหนุ่มนั่นกำลังร้องไห้
 
 
 
 
 

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 29-11-2013 11:53:36
รีบเข้าไปปลอบเร็วๆนะ
อัพวันที่ก็ดีนะ จะได้รู้ว่ามาต่อ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-11-2013 21:26:55
รีบเข้าไปปลอบเร็วๆนะ
อัพวันที่ก็ดีนะ จะได้รู้ว่ามาต่อ






ทำยังไงคะ เพิ่งเข้ามาเล้าเป็ด เค้าอัพวันที่กันยังไง
คือยังงงๆ อยู่เลย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 6 [ อัพใหม่ 30 พ.ย.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-11-2013 12:28:01

                                            รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

 
                                                       บทที่ 6
 

อธิศนั่งลงใกล้ๆกับธีทัต ต่างคนต่างอยู่ในความเงียบ


เจ้าของตาชั้นเดียวนึกเปรียบเทียบชีวิตของเขากับหนุ่มอ่อนวัยกว่าที่อยู่ด้านข้าง


ตลอดชีวิตของเขาไม่เคยรู้สึกถึงความอ้างว้าง เนื่องจากเป็นครอบครัวใหญ่ เยอะไปหมดทั้งพ่อแม่พี่น้อง


ลุงป้าน้าอา จนเขาคิดว่ามันวุ่นวายมากเกินไปด้วยซ้ำ


เขาหันไปมองเจ้าหนุ่มตาหวานที่ยังคงอยู่ในสภาพเดิม ความร่ำรวยโอ่อ่านี้จะช่วยอะไรได้ถ้าปราศจาก


ความอบอุ่น


“แม่ของคุณไปไหนแล้ว”


เขาเอ่ยถามขึ้น


“แม่ผมตายไปหลายปีแล้ว”


เจ้าหนุ่มตาหวานตอบกลับจากสภาพเดิม อธิศนึกอยากจะกัดลิ้นตัวเองเมื่อได้ฟังคำตอบ


ชีวิตที่เต็มไปด้วยความกดดันคาดหวัง แถมยังไม่มีคนให้กำลังใจ เจ้าหนุ่มนี่มันใช้อะไรหล่อเลี้ยง


ชีวิตมันจนโตได้ขนาดนี้นะ อธิศอดทึ่งไม่ได้


“คุณอายุเท่าไหร่”


หนุ่มตาชั้นเดียวถามต่อ


“20”


ธีทัตตอบกลับ เล่นเอาอธิศอึ้งอีกรอบ เมื่อนึกว่าตัวเองวัย20ปีนั้นทำอะไรอยู่


“พี่น้องล่ะ ไม่มีเหรอ เพื่อนล่ะ”


เขายังไม่ละความพยายาม


“ผมเป็นลูกคนเดียว ส่วนเพื่อนเหรอ เฮอะ ใครมันอยากจะมาเป็นเพื่อนกับผมจริงๆ


คนที่อยากเป็นก็กลัวอันตราย ส่วนไอ้คนที่เข้ามาก็อยากใช้ประโยชน์”


ธีทัตพูดหยันๆ ทำให้อธิศนิ่งไปอีกรอบ


“นี่คุณ”


หนุ่มตาชั้นเดียวพูดทำลายความเงียบขึ้นมา


“ผมมานอนคิดดูแล้ว ไหนๆผมก็ต้องให้คุณคุ้มครองความปลอดภัยให้อยู่ดี เพราะฉะนั้น


ทำไมเราไม่มาเป็นเพื่อนกันล่ะ”


ธีทัตปล่อยมือออกจากกัน แล้วหันมามองหน้าอธิศอย่างแปลกใจ


“คุณนี่นะ จะมาเป็นเพื่อนผม”


เจ้าหนุ่มตาหวานถามอย่างไม่แน่ใจ อธิศยักไหล่


“ก็ถ้าคุณคิดว่า คนธรรมดาอย่างผมกับคุณชายอย่างคุณไม่แตกต่างกันเกินไปล่ะก็ ผมโอเคนะ”


เป็นครั้งแรกที่อธิศเห็นรอยยิ้มจากเด็กหนุ่มคนนั้น เขารู้สึกกระตุกวาบอยู่ในใจ


น่าจะยิ้มบ่อยๆ


รอยยิ้มจากเจ้าหนุ่มนั้น ทำให้โลกนี้สดใสขึ้นมาทันตาเห็น


เอาเถอะ เขาอาสาจะเป็นคนสร้างรอยยิ้มให้เจ้าชายน้อยคนนี้เอง เขาสัญญา


“เรียกผมว่า พี่ซันก็ได้ ถ้าคุณต้องการ”
 
 
 
 
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: BaGgYsOdA ที่ 01-12-2013 22:45:04
มาต่อเร็วๆๆน่ะครับ ^^

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 7 [ อัพ 2 ธ.ค.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 02-12-2013 22:05:01

                                                รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา



                                                   บทที่ 7




อธิศรู้สึกเก้ๆกังๆ แปลกที่แปลกทางอยู่ในรถยุโรปคันใหญ่เมื่อยามรัตติกาลมาเยือน


เมื่อเขาต้องมานั่งอยู่ตอนหลังของรถข้างๆ เจ้าหนุ่มตาหวานที่นั่งเต๊ะท่าเป็นคุณชายอยู่ตลอดเวลา


เขาเองก็ยังนึกแปลกใจอยู่ที่ธีทัตยังกล้าชวนเขามาเที่ยว แม้จะเพิ่งเกิดเรื่องไปเมื่อคืนที่ผ่านมา


“ไม่เห็นต้องกลัว เรื่องก็มีเกือบทุกวันอยู่แล้ว”


เจ้าหนุ่มตาหวานบอกเขาอย่างนั้น


“นายน้อยต้องพาบอดี้การ์ดไปด้วย”


คนเก่าแก่ที่ดูแลในบ้านยืนยัน ธีทัตมีสีหน้ารำคาญใจแวบหนึ่งก่อนจะปรับระดับกลับมาเป็นปกติ


“ตามเคนกับก้องมาก็แล้วกัน ไปด้วยกันบ่อย”


เจ้าหนุ่มตาหวานเลือก


“แต่สองคนนั่นมันยังเด็กนะครับ”


คุณลุงคนนั้นยังท้วง ธีทัตหันขวับไปมอง


“ถ้าไม่เป็นสองคนนี้ ก็ไม่ต้องมี ลุงบุญจะเอาอย่างนั้นก็ได้นะครับ”


หนุ่มตาหวานพูดเสียงเข้มจนคุณลุงคนเก่าแก่จำใจต้องอ่อนข้อให้ในที่สุด


และธีทัตก็ลากเขามาด้วย จนเขาต้องมานั่งตัวลีบอยู่ในรถหรูคันนี้


ด้านหน้าเป็นชายหนุ่มตัวสูงใหญ่โกนผมขับรถ กับเจ้าหนุ่มวัยรุ่นสูงขาวที่มองอย่างไรผมก็ไม่เชื่อว่าจะมาเป็น


บอดี้การ์ดได้ นั่งมาคู่กัน ทุกคนแต่งกายสบายๆ แต่ก็ดูออกว่ามีระดับจากเนื้อผ้าชั้นดี


อธิศอยากจะรู้เหมือนกันว่าเจ้าหนุ่มมาดคุณชายแบบนี้จะไปเที่ยวที่แบบไหนในยามค่ำคืน




เรื่องที่ทำให้แปลกใจยังมีไม่สิ้นสุดเมื่อเคนจอดรถตรงถนนตะนาว


อย่าบอกว่าที่ที่คนระดับคุณชายคนนี้จะเที่ยวก็คือ..


ธีทัตหันมาให้คำตอบที่กระจ่างแจ้ง


“เราจะมาเที่ยวถนนข้าวสารกันครับ”


ชายหนุ่มตาชั้นเดียวอยากจะเอาศีรษะกระแทกเบาะรถให้ตายซะตรงนั้น


เขาเริ่มเข้าใจความรู้สึกของคนเป็นพ่อเจ้าหนุ่มพยศนี่ เห็นเงียบๆอย่างนี้ บทจะเฮี้ยวหยอกเสียเมื่อไหร่


และก็คงไม่มีใครกล้าขัดใจด้วย


เขาเดินพร้อมกับธีทัต โดยมีเคนและก้องประกบอยู่ด้านข้าง ความที่บอดี้การ์ดยังดูวัยรุ่นและทำตัวสบายๆ


เหมือนมาเที่ยว จึงทำให้ไม่เป็นที่สงสัย


หนุ่มตาหวานเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้เป็นว่าเล่น ยิ่งถ้าใครมายืนร้องเพลงเปิดหมวก ธีทัตจะหยุดดูนานเป็น


พิเศษแถมยังหย่อนเงินให้อย่างงาม จนอธิศที่เดินตามเริ่มเมื่อย


แต่เหตุการณ์ปกติสุขก็เริ่มจะหมดไป เมื่อเคนมากระซิบอะไรข้างๆหูของเจ้าหนุ่มตาหวาน


อธิศเห็นธีทัตเหลือบตาไปดูเพียงเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าให้เคนว่าเขารับรู้แล้ว แล้วจึงเดินออกจากบริเวณนั้น


เจ้าหนุ่มตาหวานหันมามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนถามว่า


“พี่ซันวิ่งเร็วไหม”


หนุ่มตาชั้นเดียวพยักหน้ารับหงึกๆทั้งที่ยังไม่เข้าใจว่าธีทัตจะถามทำไม  ธีทัตอมยิ้มแล้วพูดให้งงอีกรอบ


“งั้นไม่ต้องทำอะไรนะพี่ วิ่งไปที่รถอย่างเดียว”


อธิศยังคงทำหน้างงๆ  ก่อนที่ทุกอย่างจะกระจ่างเมื่อเขาเห็นชายฉกรรจ์ ที่เขาไม่แน่ใจว่า 4 หรือ 5 คน


วิ่งกรูกันเข้ามาหาเจ้าหนุ่มหน้าหวาน


แต่ธีทัตยังคงยืนนิ่ง พลางหันหน้ามาทางเขาแล้วพูดมาคำเดียวว่า


“วิ่ง”


อธิศตั้งสติได้ หันหลังกลับใส่เกียร์นักวิ่งโกยอ้าวไปจากตรงนั้น จนคิดว่าไกลพอดูจึงได้หยุดและหันกลับมามอง


ธีทัต เคน และ ก้อง สู้กับชายพวกนั้นได้สูสี ดูจะเหนือกว่าด้วยซ้ำจนพวกนั้นหมอบกระแตไป นายและลูกน้องจึง


ได้เดินมาทางเขา


จนเดินมาเกือบถึง หนึ่งในชายที่มาหาเรื่อง ควักปืนออกจากเอวแล้วเล็งมาที่ธีทัต


อธิศตกใจสุดขีด เขารีบร้องตะโกนลั่น


“ระวัง ปืน”


ด้วยความรวดเร็วที่อธิศคาดไม่ถึง ธีทัตควักปืนกระบอกเล็กจิ๋วออกมาหันกลับไปยิงชายคนนั้น


“เปรี้ยง!!!”



 
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 02-12-2013 22:30:25
 :katai1: :katai1: :katai1:
ใครมายิงวะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 8 [ 9 ธันวาคม 2556 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 09-12-2013 19:35:35
                                                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                                        บทที่ 8



อธิศค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองเหตุการณ์หลังจากเสียงปืนเงียบลง


สิ่งที่เห็นคือ ธีทัตที่ยืนนิ่ง มือขวากำปืนแน่น และยังคงเล็งไปที่ชายคนนั้น


เสียงโอ๊ย ดังลั่นเข้าหู อธิศใจหายวาบเกรงจะเป็นเสียงจากเจ้าหนุ่มตาหวาน


แต่ไม่ใช่


เจ้าหนุ่มตาหวานยิ้มเยาะที่ริมฝีปาก ส่วนชายคนที่ยกปืนเล็งมาคราแรกกลับใช้มือซ้ายกุมข้อมือขวา


ที่มีเลือดทะลัก


ธีทัตเดินกลับไปที่ชายคนนั้น ทรุดตัวลงนั่งและกระชากคอเสื้อคนมือเจ็บขึ้นมาแล้วตะคอกใส่หน้า


“อย่าคิดว่าจะทำอะไรได้ง่ายๆ ไม่ใช่เด็กอมมือ”


ธีทัตปล่อยมือจากคอเสื้อชายคนนั้น แล้วเดินตัวตรงสองมือล้วงกระเป๋าตรงมาทางอธิศ พลางเอื้อมมือสะกิด


ที่ไหล่เบาๆ


หนุ่มตาชั้นเดียวสะดุ้งเฮือก รีบลุกขึ้นยืน เรียกสติกลับมาหาตัว หันไปมองหน้าธีทัตก็เห็นยืนอมยิ้ม


ดวงตาคู่สวยเป็นประกาย


ให้ตายเหอะ เห็นแล้วอยากจะควักลูกตาให้หลุดออกมา


“กลับกันเถอะครับ พี่ซัน หมดสนุกแล้ว”


ว่าแล้วเจ้าหนุ่มตาหวานก็เดินนำไปที่รถก่อนก้าวขึ้นไป


อธิศ ก้าวตามไป โดยที่มีเคนและก้องก้าวตามไปนั่งประจำตำแหน่งและขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว


ดูแล้วทุกคนแทบจะไม่ได้บอบช้ำอะไรกันนัก


“พี่ซันไม่เคยมีเรื่องอะไร กับใครเลยหรือ”


ธีทัตเอียงหน้ามาถาม อธิศสั่นหน้าเร็วๆ


“ไม่ครับ ผมกลัวเจ็บ”


หมดเสียงคำตอบของอธิศ เขาได้ยินเสียงเจ้าหนุ่มตาหวานหลุดหัวเราะมาเบาๆ


เคนกับก้องหันมามองหน้ากันราวกับว่าเสียงหัวเราะนั้นเป็นสิ่งประหลาด เมื่อมันหลุดออกมาจากคนเป็น


เจ้านาย


เมื่อหัวเราะจนหนำใจ ธีทัตจึงเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดกับเขา


“ก็ดีนะครับพี่ กลัวเจ็บ ก็ไม่ต้องมีเรื่อง ไม่ต้องชกต่อยไม่ต้องต่อสู้ ชีวิตก็ไม่มีอันตราย ไม่ต้องคอยระวัง”


อธิศหันไปมองสีหน้าคนพูด เมื่อเสียงหัวเราะหมดไปกลับกลายเป็นความเงียบขรึมเช่นเดิม



ไม่ชอบเลย ..


หนุ่มตาชั้นเดียวบ่นกับตัวเอง เขาอยากให้เจ้าหนุ่มที่นั่งข้างๆ หัวเราะเหมือนเมื่อครู่มากกว่า


“เอาน่าคุณ ชีวิตอย่างคุณมันเท่ห์ออก รู้ตัวไหม สาวๆมองตรึม อย่างผมนี่มันธรรมดาเกิน


คุณรู้ไหม ผมน่ะทำลายสถิติ อกหักปีเดียวสี่หนเลยนะคุณ”


ได้ผล เจ้าหนุ่มตาหวานจุดรอยยิ้มในดวงตาขึ้นมาอีกครั้ง


“ขนาดนั้นเลยหรือ ผมอยากให้มีคนปฏิเสธผมบ้างจัง”


ธีทัตเอ่ยขึ้น อธิศมองด้วยหางตา ก่อนพูดตอบ


“เฮอะ ใช่สิ คุณมันเพอร์เฟ็คนี่ ใครจะไปสู้ได้”


เขาแกล้งส่งเสียงค่อนขอด ธนทัตอมยิ้มได้อีกครั้ง


“ได้คุยกับคุณแล้วสนุกดีนะ”


ธีทัตหันมามองหน้าเขา


“ไม่ค่อยมีใครกล้าพูดคุยกับผมอย่างคุณหรอก”


ธนทัตส่งสายตาขอบคุณผ่านมาให้ก่อนพูดกับหนุ่มตาชั้นเดียวว่า



“เรียกผมว่า กันดั้มก็ได้นะ ถ้าคุณต้องการ”



 
 
 
 
 
 
 
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 9 [18/12/2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-12-2013 13:37:45
                                                                                                                       รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
                                                                                                     

                                                                                                           บทที่ 9


เสียงสายลมพัดรุนแรง ท้องฟ้ายามรัตติกาลในคืนนี้มีกลุ่มเมฆลอยต่ำมองดูเป็นสีแดงคล้ำ


มีแสงแวบของฟ้าแลบเป็นระยะ ราวกับจะบอกให้รู้ว่าพายุฝนใกล้มาเยือน


อธิศเดินไปที่หน้าต่างห้อง เอื้อมมือจะไปปิดหน้าต่าง เสียงฟ้าคำรามส่งเสียงกึกก้อง


ชายหนุ่มชะงัก


ไม่ได้กลัวเสียงฟ้าร้อง เพียงแต่เหมือนได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนไม่ได้ศัพท์แว่วมาแข่งกับเสียงฟ้า


ฟ้าร้องดังมาอีกครั้ง ชายหนุ่มตั้งใจฟัง  คราวนี้มั่นใจเสียงตะโกนนั้นมาจากห้องข้างๆแน่นอน


เขาปิดหน้าต่างเรียบร้อยจึงเดินออกไปนอกห้อง แล้วเดินตรงไปที่ประตูของห้องติดกัน


หยุดยืนอยู่หน้าประตูด้วยความไม่แน่ใจ แต่ก็ตัดสินใจเคาะประตู


รออยู่ครู่หนึ่ง ประตูค่อยๆเปิดออก ให้เห็นบุคคลที่อยู่ข้างใน


เป็นชายหนุ่มตาหวานขี้เก๊กคนเดิมหรือเปล่า อธิศไม่แน่ใจ แต่หนุ่มน้อยตรงหน้านี้หน้าตาเหรอหรา


ผมที่เคยแต่งทรงอย่างดีตลอดเวลาบัดนี้ยุ่งเหยิง


แววตาที่เคยมั่นใจ ยโสหายไป ตอนนี้เจ้าหนุ่มตรงหน้า ไม่ต่างอะไรกับเด็กหลงทาง


เขาก้าวเข้าไปในห้อง ไม่มีคำเอ่ยค้านจากเจ้าของ แล้วเสียงฟ้าคำรามก็ดังสนั่นอีกรอบ


เจ้าหนุ่มตาหวานตรงหน้าผวาเฮือก พุ่งตรงมาทางเขา แล้วกอดไว้แน่น


อธิศตกใจกับการกระทำของหนุ่มน้อยที่เคยยโส มีเรื่องชกต่อย ยิงปืนแม่นราวกับจับวาง


แต่มาบัดนี้ กลับยอมศิโรราบเพียงแค่เสียงฟ้าร้อง


ไม่ได้นึกรังเกียจที่หนุ่มน้อยเข้ามากอด กลับนึกเห็นใจในความกลัว ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาให้โตเกินวัย


แต่หัวใจเล่า มันยังคงเป็นเด็ก


สองมือของอธิศยกมาโอบกอดรอบตัวของธีทัตเป็นการปลอบโยน


เสียงฟ้าคำรามเงียบลงชั่วครู่ เพื่อเปิดโอกาสให้สายฝนกระหน่ำเทลงมาราวกับฟ้ารั่ว

ธีทัตได้สติ ค่อยๆคลายอ้อมแขนที่กอดรัดตัวอธิศออก พร้อมด้วยสีหน้าจืดเจื่อน

ชายหนุ่มที่เคยสง่าทุกท่วงท่ากลับมายอมสยบให้กับเรื่องแค่นี้


เขากัดริมฝีปากตัวเองด้วยความเจ็บใจ ไม่กล้าสบตาเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว


แต่..ไม่มีคำพูดใดๆที่หลุดมาจากปากชายตรงหน้า ชายที่เขาใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเมื่อครู่


ชายหนุ่มตรงหน้ากลับลากแขนเขามาที่เตียงใหญ่ แล้วดันตัวธีทัตให้นั่งลงที่เตียง


แล้วอธิศก็นั่งลงข้างๆ



เสียงฟ้าคำรามแว่วมาอีกครั้งธีทัตใช้สองมือปิดหูไว้แล้วตะโกนลั่น


อธิศดึงตัวเจ้าหนุ่มตาหวานมากอดแล้วลูบหลังเป็นการปลอบโยน พลางลากตัวให้มานั่งคู่กัน


ธีทัตผวากอดเครื่องยึดเหนี่ยวตรงหน้าอีกครั้ง ราวกับคนจมน้ำที่ไขว่คว้าอากาศ



ราวกับเพิ่งค้นพบสิ่งที่โหยหามาเนิ่นนาน



 
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 10 [18/12/2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 18-12-2013 13:51:07
                                                       รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                                       บทที่ 10


แสงอรุณแรกฉายแสงส่องริมขอบฟ้า หลังฝนตกตลอดคืนทำให้รุ่งเช้าอากาศยังคงเย็นฉ่ำ


ธีทัตค่อยๆกระพริบตาเมื่อรู้สึกตัว ความรู้สึกเมื่อยขบเกาะกินที่แขนทั้งสองข้าง


เรียกสติกลับคืนมา พร้อมกับความรู้สึกที่ถูกกอดรัดด้วยไออุ่นจากอะไรบางอย่าง


เมื่อลืมตาอย่างสมบูรณ์ธีทัตถึงกับอึ้งเมื่อเห็นสภาพตัวเอง ที่สวมกอดใครบางคนที่ยังคงหลับสนิท


นี่เขานอนท่านี้ตลอดทั้งคืนเลยหรือ


ธีทัตถามตัวเอง พลางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำคืน


ความกลัวที่มีมาตลอดชีวิต ที่ไม่มีใครมาคอยปลอบกลับหายไปเมื่อได้อยู่ใกล้เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว


สองแขนอันอบอุ่นที่กอดรัดเวลาเขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง และคอบลูบหลังอย่างอ่อนโยนเมื่อเขาสงบลง


ธีทัตค่อยๆซึมซาบความรู้สึกนี้ลงไปในหัวใจ


หนุ่มตาหวานรีบขยับออกจากอกอุ่นนั้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นผู้เป็นเจ้าของขยับตัวตื่น


ธีทัตรีบลุกขึ้นนั่งหันหลังให้หนุ่มตาชั้นเดียว ราวกับว่ากลัวอธิศจะจับได้ถึงจังหวะการเต้นที่ผิดปกติ

ของหัวใจ


อธิศใช้มือควานหาใครบางคนที่เขาใช้แทนผ้าห่มอุ่นมาตลอดคืน ใครบางคนที่เป็นเด็กในร่างสูงใหญ่


เมื่อเจอแต่ความว่างเปล่าเขาจึงค่อยๆลืมตา พร้อมกับรวบรวมสติ


ตลอดคืนที่ฟ้าคำรามก้องที่เขาคอยกอดปลอบโยนคนที่นั่งหันหลังให้ ชายหนุ่มแอบยิ้มให้แผ่นหลังนั้น


มันเป็นความรู้สึกดีใจในส่วนลึกที่สามารถดูแล ปลอบโยนได้ในยามที่บุคคลตรงหน้าอยู่ในสภาวะไม่ปกติ


สามารถคุ้มครองให้ความอบอุ่นกับคนที่ถูกฝึกมาให้เข้มแข็งตลอดเวลา


“ตื่นแล้วเหรอ”


เขาทักเป็นคำแรกในตอนเช้า


“ฝนหยุดตกแล้วหรือ”


“อืม หยุดตกแล้ว”


เจ้าหนุ่มตาหวานตอบกลับมาเสียงเบา


“ขอบคุณนะ ที่มาอยู่เป็นเพื่อน”


“นี่คุณกลัวเสียงฟ้าร้องมาตลอดเลยหรือ”


อธิศตะแคงตัว มาทางธีทัต ยกศีรษะแล้วใช้มือยันกับที่นอนมองหน้าหวานแล้วยิ้มให้


“ผมกลัวมานานแล้ว ทำอย่างไรก็ไม่หาย”


เจ้าหนุ่มตาหวานเล่าให้ฟัง


“ตอนเด็กแม่ยังอยู่ ผมยังมีแม่คอยปลอบ แต่พอแม่เสียก็ไม่มีใครกล้ามายุ่ง”


เสียงช่วงท้ายแผ่วลงไปเรื่อยๆ อธิศจับได้ถึงอารมณ์ที่โหยหาความอบอุ่นจากคนที่นั่งหันหลังให้


เขาดันตัวลุกขึ้นนั่งยิ้มที่มีให้อ่อนโยนจนธีทัตน้ำตารื้น


“กันดั้ม”


เขาเรียกเสียงอ่อนโยน ก่อนใช้มือไปดึงไหล่ทั้งสองของเจ้าหนุ่มตาหวานให้หันมาสบตา


“ต่อไปนี้ ถ้าฝนตกฟ้าร้องอีกผมจะมาอยู่เป็นเพื่อน คุณจะได้ไม่กลัว แล้วผมขอคุณอย่างหนึ่ง


ขอให้เห็นผมเป็นเพื่อนหรือพี่ ถ้าคุณอยู่กับผมอย่ามาเก๊ก อยากจะหัวเราะหรือร้องไห้ก็ทำเลย


คุณทำได้ไหม”


อธิศจ้องเข้าไปในตาคู่หวานนั้น ดวงตาที่ราวกับมีบ่อน้ำกว้างลึกซ่อนตัวอยู่ ธีทัตมองกลับอย่างค้นคว้า


แต่เมื่อพบกับแววตาที่มีแต่ความซื่อจริงใจ ก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า


อธิศยิ้มอย่างพอใจ เขายกมือขึ้นยีผมของเจ้าหนุ่มตาหวานเล่นราวกับเจ้าหนุ่มหน้าหวานนี่เป็นน้องชาย


ธีทัตได้แต่แปลกใจ ที่เขายอมให้ผู้ชายคนนี้เล่นกับเขาได้ ทั้งๆที่ไม่เคยมีใครก่อนหน้านี้ที่จะทำแบบนี้

กับเขา


“ผมกลับห้องไปอาบน้ำก่อนดีกว่า คุณจะนอนต่อก็ได้นะ”


อธิศกล่าว พลางสบัดผ้าห่มหนาหนักออกจากตัวแล้วจะก้าวลงเตียง


ปลายเท้าไม่พ้นผืนผ้าห่มทำให้อธิศเสียหลักจะร่วงจากเตียง ธีทัตผวาไปดึงแขนอธิศไว้เพื่อไม่ให้ตกเตียง


แต่ก็ไม่สำเร็จ อธิศเองก็ตัวสูงใหญ่มิใช่น้อย


ร่างทั้งสองจึงร่วงจากเตียงไปพร้อมกัน ธีทัตล้มไปทับร่างอธิศ



หน้าต่อหน้าชนกันถูกที่ถูกเวลา ริมฝีปากของธีทัตทับทาบกับริมฝีปากของอธิศ



ให้ตายเหอะ…



อธิศสบถในใจ หัวใจแทบจะหยุดเต้นเหมือนมีไฟฟ้ามาช็อต


เขาเผลอใช้สองมือโอบเอวธีทัตไว้ ราวกับไม่อยากจะให้ร่างนี้ลุกจากไปไหน



 


 
 
 
 
 
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: a-o-pai ที่ 18-12-2013 16:02:02
สนุกจัง
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 18-12-2013 21:40:27
สนุกมากกกกกกกกกกกกมากกกกกเลยค่ะ
อ่านรวดเร็วกันดั้มน่าสงสารอะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 11 ( 22/12/56)
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-12-2013 12:33:46
                                                             รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
                                                     

                                        บทที่ 11

ธีทัตสะท้านเยือกเข้าไปในหัวใจก่อนที่จะรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แล่นตามมา


ความอบอุ่นนี้แผ่ซ่านไปทั่วร่างแทบจะทุกอณูขุมขนราวกับมันส่งผ่านมาจาก


สองมือที่โอบเขาไว้และริมฝีปากที่ยังคงประทับอยู่ความอบอุ่นที่เคยโหยหา


และเรียกร้องมาตลอดชีวิต เหมือนจะได้มาอย่างง่ายๆกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันได้เพียงไม่กี่วัน


ธีทัตพยายามเรียกสติกลับคืนมา เขาค่อยๆใช้มือดันที่หน้าอกของอธิศใบหน้าที่ประทับ


แนบสนิทหลุดจากกัน แต่ยังคงห่างกันไม่ถึงคืบ เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวยังไม่ยอมปล่อยสองมือที่โอบรอบ


อธิศมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่หวานนั้นอีกครั้ง ค้นหาร่องรอยแห่งความโกรธหรือพายุแห่งอารมณ์ใดๆ


ที่อาจเกิดขึ้น เขากลัวว่าคนที่เขายังไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปอาจไม่พอใจ


แต่...ไม่หากเขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองจนเกินไปนักดูเหมือนจะมีแต่ร่องรอยแห่งความสับสนปนเป


ยุ่งเหยิง ผสมกับอารมณ์แห่งความโหยหาอยู่ลึกๆ


อธิศไม่เข้าใจตนเองเช่นกัน ว่าอะไรที่ทำให้เขารู้สึกพอใจกับสัมผัสแบบนี้สัมผัสที่ไม่คุ้นเคย


แต่กลับไม่รู้สึกเลวร้าย แถมยังรู้สึกพอใจในส่วนลึกที่ได้ใกล้ชิด


หนุ่มตาชั้นดียวค่อยๆตั้งสติอีกครั้งก่อนที่จะยอมปล่อยมือ


ธีทัตรีบลุกขึ้นยืนให้พ้นจากสถานการณ์แห่งความใกล้ชิดนี้ 


เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ธีทัตรู้สึกถึงความเก้อเขินไม่กล้าสบตา เขารู้สึกร้อนวูบทั่วใบหน้า


ลามไปถึงใบหู คนที่เคยวางตัวเชิดหยิ่งไม่สนใจมนุษย์หน้าไหนกลับกลายเป็นคนที่วางตัวไม่ถูก


เมื่อยืนอยู่ใกล้ผู้ชายตรงหน้า


“ระวังหน่อยสิพี่ซัน  เดี๋ยวได้เจ็บตัวหรอก”


ธีทัตกล่าวแก้เก้อ ไม่ยอมสบตา


 “ขอโทษนะ คราวหน้าจะระวังมากกว่านี้”


อธิศกล่าวยิ้มๆ แต่ไม่ได้บอกว่าจะระวังอะไรนี่นะ“


ไหนบอกว่าจะไปอาบน้ำไม่ใช่หรือ รีบไปสิ”


ธีทัตถือโอกาสรุนหลังให้อธิศเดินไปทางประตูเขาเปิดประตูและดันตัว


หนุ่มตาชั้นเดียวออกไปพ้นประตูห้องแล้วก็รีบปิดบานประตู ทันทีที่อยู่เพียงคนเดียวในห้อง


ธีทัตถึงกับเข่าอ่อน เขาหันหลัง และใช้บานประตูใหญ่เป็นที่พักพิงก่อนที่จะทรุดตัวลงนั่ง


กับพื้นหนุ่มตาหวานใช้มือไปจับที่หน้าอกข้างซ้าย ราวกับจะปลอบให้มันเต้นช้าลง


หลังจากที่รู้สึกว่ามันเต้นเร็วจนแทบจะหลุดมานอกร่าง


หวั่นไหวไปกับรอยประทับแรกที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนนั้น

มือที่จับหน้าอกข้างซ้าย ย้ายมาลูบแผ่วที่ริมฝีปากบางที่ยังคงแดงเรื่อ

ก่อนที่จะอมยิ้มอยู่คนเดียว


ทันทีที่ออกจากห้องของเจ้าหนุ่มตาหวาน อธิศก็ถึงกับเข่าอ่อนกับความรู้สึกแปลกใหม่

เขาใช้บานประตูใหญ่นั่นเองเป็นที่พักพิงร่างแล้วทรุดลงนั่งกับพื้น

ก่อนที่จะนึกไปถึงสัมผัสเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

เผลอเอื้อมมือมาลูบที่ริมฝีปากแผ่วๆ พลางคิดถึงรสสัมผัสที่ได้โอบกอด

จะดีเพียงใดหากได้สัมผัสความรู้สึกนี้ไปทุกวัน หนุ่มตาชั้นเดียวถามตัวเอง

โดยไม่รู้เลยว่ามีใครอีกคนเฝ้าถามตนเองเช่นกัน

และใครคนนั้นก็อยู่ห่างเพียงแค่บานประตูใหญ่ที่กั้นขวางไว้เท่านั้น   

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 12 [25/12/56]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-12-2013 22:05:23




                                                                      รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                                                                     บทที่ 12


“แกต้องไปอเมริกา”

นายธนา ผู้คุมบังเหียนธุรกิจในเงามืดเอ่ยขึ้นลอยๆ กับธีทัตผู้เป็นบุตรชายในช่วงบ่ายหลังจากที่

เขาเรียกธีทัตเข้ามานั่งพูดคุยในห้องทำงาน แต่ดูเหมือนบรรยากาศจะเต็มไปด้วยความเงียบอึมครึม

เสียมากกว่า

ธีทัตเงยหน้าขึ้นจากการเล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถือราคาแพง มองหน้าผู้เป็นบิดา

พลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย

“พ่อจะให้ผมไปกี่วันครับ”

ธีทัตเอ่ยถาม ราวกับการไปต่างประเทศนั้นเหมือนไปเดินเที่ยวเล่นตามห้างดังกลางกรุง

นายธนาหันมาสบตากับบุตรชายเพียงคนเดียวก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“นานเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แกจะไปอยู่เป็นปีเลยก็ได้ อ้อ..ฉันว่าแกถือโอกาสไปเรียนต่อที่โน่นเลยดีกว่า”

ธีทัตขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

“เกิดอะไรขึ้นครับเหตุการณ์ไม่ปกติหรือไง พ่อถึงไล่ผมไปอเมริกา”

หนุ่มตาหวานเอ่ยคำถามแกมประชดประชันในทีกับบิดา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้นายธนาเริ่มอารมณ์เสีย

“เจ้ากัน จะมีวันไหนไหม ที่แกจะพูดกับฉันดีๆบ้าง”

ผู้เป็นบิดาเริ่มส่งเสียงดัง

“นี่ก็เพราะฉันเป็นห่วงแกหรอก ถึงให้แกไปอยู่ที่โน่นก่อน เรื่องคราวนี้มันร้ายแรงกว่าที่แกคิด

มันไม่ใช่แค่หาเรื่องกันธรรมดาอย่างที่เคยเป็นมา”

ธนาหันมามองหน้าธีทัตตรงๆ ก่อนจะพูดอย่างจริงจัง

“คราวนี้พวกมันกะจะโค่นฉันลงให้ได้ มันคงต้องทำทุกวิถีทางแน่นอน แล้วแก

เจ้ากัน แกคือจุดอ่อนของฉันที่จะทำให้พวกมันเอามาต่อรองกับฉันได้ ดังนั้นแกต้องไปให้พ้นสถานการณ์นี้”

“อ้อ..”

ธีทัตพึมพำในลำคอพลางสบตาผู้เป็นบิดาด้วยแววตาเยาะหยัน ก่อนที่จะเบือนสายตาไปทางอื่นเพื่อซ่อนรอย

แห่งความน้อยใจเอาไว้

“ผมเพิ่งรู้ว่าพ่อเห็นผมเป็นแค่จุดอ่อนของพ่อ”

ชายหนุ่มหน้าหวานกล่าวต่อด้วยเสียงสั่นๆ

บ่อน้ำใสลึกที่ตะกอนนอนก้นอยู่ในจิตใจถูกหมุนวนจนทำให้ตะกอนเบื้องล่างลอยขึ้นมา

ทำให้น้ำใสเบื้องบนขุ่นมัว ธีทัตพยายามอดกลั้นไม่ให้ธารเน้ำนั้นไหลซึมออกมาทางดวงตา

ความรู้สึกต่อต้านชายตรงหน้าที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดามีอยู่มากเป็นทุนเดิม ยิ่งได้ยินประโยคที่ไม่คิดว่า

บุคคลตรงหน้าจะกล้าพูด ทำให้หัวใจที่โหยหาความอบอุ่นอยู่แล้วเจ็บปวดราวกับถูกกรีดให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

ธีทัตลุกขึ้นยืน กำหมัดและกัดริมฝีปากแน่น ราวกับจะให้ความเจ็บปวดดังกล่าวช่วยชำระความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำ

ใจให้หมดไป ดวงตาที่เคยหวานใสบัดนี้แดงเรื่อ และส่งสายตาตัดพ้อไปสู่ชายที่ลุกขึ้นยืนประจันหน้า

โดยมีเพียงโต๊ะทำงานเป็นตัวกั้นขวาง

“กล่าวโดยสรุปก็คือ พ่อกลัวคู่แข่งจะกำจัดพ่อให้พ้นทางโดยการจับผมเป็นตัวประกันเพื่อเอามาต่อรอง

พ่อก็เลยจะส่งผมไปให้พ้นหูพ้นตา”

ธีทัตกล่าวเสียงดังพลางเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามแต่มันก็ดูเหมือนเขากำลังกวนโมโหคนเป็นพ่อเสียมากกว่า

ธนาตบโต๊ะดัง ปัง!

“เจ้ากัน ทำไมแกไม่เข้าใจฉันบ้าง”

ธนาเองก็ส่งเสียงดังตอบมาไม่แพ้กัน ธีทัตยิ้มหยันในสีหน้า

“ทำไมจะไม่เข้าใจล่ะครับคุณพ่อ.. เข้าใจดีทีเดียวแหละ  พ่อรักทุกอย่างที่มีและไม่ยอมสูญเสียมันไป

สิ่งเดียวที่พ่อยอมสูญเสีย นั่นคือผม”

ชายหนุ่มยกหลังมือขึ้นป้ายหยดน้ำออกจากดวงตาที่ห้ามไม่ได้ในที่สุด

“ผมถามพ่อสักคำเถอะ ผมและแม่เคยมีคุณค่าบ้างไหมในสายตาพ่อ พ่อเคยรักพวกเราบ้างไหม”

ธีทัตตะโกนใส่ชายตรงหน้า

“กันดั้ม”

ธนาเองก็ส่งเสียงตวาดลั่นด้วยความเจ็บปวดไม่แพ้กัน

“แต่ก็เอาเถอะ พ่อเห็นผมเป็นแค่จุดอ่อน ผมก็จะไม่อยู่ให้พ่อได้รำคาญใจ”

ธีทัตเอ่ยคำตัดพ้อเป็นคำสุดท้ายก่อนที่จะเดินก้าวยาวๆ ออกไปภายนอกห้องด้วยความฉุนเฉียว

นายธนารีบเดินตาม พลางตะโกนเรียกบุตรชายเสียงดังลั่น แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุดอารมณ์ที่ราวกับระเบิด

ของผู้เป็นบุตรได้ นายธนาจึงตะโกนให้บริวารในบ้านรีบห้ามธีทัต





อธิศวางนิตยสารในมือลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขานอนเอกเขนกอยู่ในห้องนั่งเล่น และได้ยินเสียงผู้เป็นบิดา

ของเจ้าหนุ่มหน้าหวานตะโกนให้คนในบ้านช่วยกันรั้งตัวธีทัตไว้

ยังไม่ทันสิ้นเสียงดี เขาเห็นเจ้าหนุ่มหน้าหวานเดินผ่านห้องไปอย่างรวดเร็ว ถ้าตาไม่ฝาด

เขาเห็นธีทัตยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา

อธิศรีบเด้งตัวขึ้นจากโซฟาตัวนุ่มและรีบวิ่งตามเจ้าหนุ่มหน้าหวาน ที่เห็นหลังไวๆ ว่าเดินแกมวิ่งไปที่โรงรถ

วิ่งมาเกือบทัน ก็เห็น เคนกับก้องวิ่งอ้าวไปดักชายหนุ่มผู้เป็นเจ้านายตรงหน้าและพยายามสกัดไว้

ธีทัตยกมือชี้หน้าบอดี้การ์ดสองคนนั้นเหมือนจะบอกว่า ถ้าเข้ามามีเรื่องแน่ ก่อนที่จะเดินพรุ่งตรงไปยังรถ

สปอร์ตส่วนตัว

เคนและก้องไม่ยอมแพ้คนเป็นนาย เขาสองคนพุ่งตัวเข้าล็อคชายหนุ่มไว้

ธีทัตฉากหลบ ต่อยสวนเคนและก้องไปคนละหมัดจนสองหนุ่มหน้าหงาย แล้วธีทัตก็เดินไปเปิดประตูรถสปอร์ต

คันเล็กหรูแล้วสตาร์ทรถพุ่งออกจากโรงเก็บรถอย่างรวดเร็ว

อธิศ รีบวิ่งมาขวางหน้ารถสปอร์ตคันนั้นพลางหลับตาด้วยความเสียวไส้ ธีทัตที่เห็นอธิศในระยะใกล้เบิกตา

กว้างก่อนที่จะยกเท้าเหยียบเบรกจมมิด

รถสปอร์ตคันนั้นหยุดอยู่ห่างจากตัวหนุ่มตาชั้นเดียวเพียงเสี้ยวเล็บ นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับอธิศ

เขารีบวิ่งไปที่ประตูรถแล้วเคาะกระจกเงาวับ ธีทัตกดปุ่มเลื่อนกระจกลงดวงหน้ายังคงเชิดตรงไม่วอกแวก

อธิศตะโกนถามด้วยความตกใจ

“คุณทำบ้าอะไร แล้วนี่จะไปไหน”

ธีทัตหันหน้ามาสบตากับตาชั้นเดียวนั้น ก่อนจะให้คำตอบ

“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่นี่”

อธิศอึ้งไปชั่วขณะก่อนตัดสินใจ

“งั้นผมจะไปกับคุณด้วย”

ธีทัตไม่เอ่ยถามให้มากความ เขากดปุ่มปลดล็อกประตูในทันที อธิศรีบเปิดประตูแล้วกระโดดเข้ารถ

แล้วธีทัตก็เหยียบคันเร่งจมมิดตั้งแต่อธิศยังปิดประตูไม่สนิทด้วยซ้ำ









หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 12 [25/12/2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-12-2013 22:50:35
อื้ม....กันดั้มจะไปไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 12 [25/12/2556]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 26-12-2013 07:13:25
หนีไปอยู่ด้วยกันสองคนเลยสบายใจดี
แต่คุณพ่อก็คงมีเหตุผลนั้นแหละ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 12 [25/12/2556]
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 26-12-2013 15:06:17
จะไปอยู่ไหนกันล่ะนั่น
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 13 [04/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-01-2014 12:03:17



                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา


                        บทที่ 13


รถสปอร์ตคันหรูที่ใครๆต้องเหลียวมองขับเคลื่อนมาด้วยความเร็วสูง

ในช่วงบ่ายที่ใครๆก็ต้องนำยานยนต์มาวิ่งบนท้องถนน

นวัตกรรมความเร็วขับเคลื่อนลัดเลาะปาดซ้ายขวาโดยไม่เกรงกลัวจะพุ่งเข้าชนใครทั้งสิ้น

ราวกับคนในนั้นก็ไม่ได้ห่วงชีวิต

แต่ภายในรถกลับมีเสียงตะโกนอยู่ดังลั่น มันเป็นเสียงของหนุ่มตาชั้นเดียวที่โหวกเหวกโวยวายด้วยความตกใจ

“เฮ้ย ๆๆๆ เบาๆๆ กันดั้ม เบา โอ๊ยๆๆ จะชนแล้ว เฮ้ย”

อธิศนั่งตัวเกร็งและหลับตาแน่นทุกครั้งที่เจ้าหนุ่มตาหวานเหยียบคันเร่งปาดรถคันอื่น

ธีทัตขมวดคิ้วด้วยความรำคาญใจ เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวที่นั่งข้างๆ ไม่เคยรู้จักสมรรถนะ ความเร็วระดับนี้บ้างหรือ

อย่างไรนะ รู้ไหมว่ามาตะโกนข้างๆกันอย่างนี้มันเสียสมาธิแค่ไหน

ธีทัตปรายตามองคนที่นั่งมาด้วยแวบหนึ่ง และเมื่อเขาหันกลับไปมองเบื้องหน้าก็ต้องตกใจสุดขีด

เบื้องหน้าเป็นสี่แยกที่ไม่มีไฟสัญญาณจราจร แล้วตอนนี้มีรถบรรทุกคันใหญ่ ขับพุ่งตรงมาจากด้านขวา

ธีทัตขับรถมาเร็ว และใกล้เกินกว่าที่จะเหยียบเบรก เขาตัดสินใจหักพวงมาลัยเลี้ยวไปทางซ้าย

รถเสียหลักเกือบพุ่งลงข้างทางแต่ธีทัตพยายามประคองไปได้อีกช่วงหนึ่ง ก่อนที่รถจะหยุดลงที่ริมถนน

ศีรษะของอธิศพุ่งไปชนกระจกรถด้านหน้าดังตุ๊บ เขาร้องดังลั่น พลางใช้มือนวดคลำหน้าผาก

ธีทัตนิ่งอึ้ง เขาเองก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน มือสองข้างกำพวงมาลัยรถแน่น เหลือบตามองเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว

อย่างขอลุแก่โทษ

อธิศสบถดังลั่นด้วยความโมโห ก่อนจะหันหน้ามาต่อว่าคนขับเสียงดัง

“เล่นบ้าอะไรเนี่ย กันดั้ม อยากตายนักหรือไง เห็นหรือเปล่าว่ามันอันตราย”

ธีทัตเงียบเสียงไปไม่ตอบโต้ จนอธิศเองก็แปลกใจ

“ผมขอโทษนะ”

ธีทัตเอ่ยมาอย่างแผ่วเบา หน้าเสียจนคนต่อว่าเองก็สงสาร

“ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี”

อธิศอดรนทนไม่ได้ จึงถอนหายใจแรงๆมาเสียหนึ่งที ก่อนพยายามทำจิตใจให้เป็นปกติ แล้วจึงพูดขึ้น

“แต่การทำอย่างนี้ไม่ได้ทำอะไรให้มันดีขึ้น ซ้ำร้ายยังทำให้แย่ลงไปอีก ถ้าเกิดเมื่อครู่เบรกไม่อยู่จะเกิดอะไรขึ้น

พ่อคุณก็ต้องเสียลูกชายไปหนึ่งคน...”

“หยุดพูดถึงคนคนนั้น”

ธีทัตตะโกนสวนตั้งแต่อธิศพูดยังไม่จบประโยค ธีทัตพิงศีรษะกับเบาะรถ และใช้สองมือปิดหน้า

“เค้าไม่เคยรักผมหรอก ไม่เคยใยดี เค้าไม่เห็นผมอยู่ในสายตาเค้า”

ไหล่ที่เคยผึ่งผายบัดนี้ลู่ลงและสั่นไหวเหมือนกับไม่สามารถที่จะแบกรับอะไรได้อีกแล้ว

อธิศมองภาพตรงหน้าด้วยความสะท้อนใจ นี่เองคือตะกอนที่อยู่ในใจผู้ชายตรงหน้า

ตะกอนที่เหมือนนอนนิ่งที่ก้นหลุม วันใดถูกกวนให้ฟุ้งขึ้นมาก็พร้อมที่จะทำให้น้ำใสนั้นขุ่นมัว

เขาเอื้อมมือไปบีบที่ไหล่ของธีทัตอย่างเห็นใจ ธีทัตปล่อยมือที่ปิดหน้าออกแล้วหันมาสบตา

เหมือนมีอะไรมาจุกอยู่ตรงคอ พูดอะไรไม่ออกเมื่อได้เห็นแววตาที่เห็นใจ เข้าใจจากหนุ่มตาชั้นเดียว

น้ำที่อดทนกักเก็บอยู่ในใจ ไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตก อธิศคว้าตัวเจ้าหนุ่มหน้าหวานมากอด

ธีทัตสะอื้นเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาร้องไห้อยู่ภายใต้การปลอบใจของผู้ชายที่เขาไม่รู้จัก

แม้หัวนอนปลายเท้า

ร้องอยู่พักใหญ่จนไม่มีน้ำตาอธิศก็ดันตัวเขาออกมาจากอ้อมกอด พลางใช้มือลูบที่ท้ายทอยของธีทัต

“ดีขึ้นไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยถามเสียงอบอุ่น ธีทัตพยักหน้าน้อย ๆ ก้มลงใช้คอเสื้อของตนเป็นที่เช็ดคราบน้ำตา

“แล้วคราวนี้จะสงบสติอารมณ์เล่าให้ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น”

อธิศเอ่ยถาม

“เค้าจะส่งผมไปอเมริกา ผมไม่อยากไป”

ธีทัตกล่าวโดยสรุป

“แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ”

อธิศพึมพำ

“ผมยังไม่อยากกลับบ้าน อยากไปไหนไกลๆสักพัก”

ธีทัตเอ่ยขึ้น อธิศไม่รู้จะห้ามอย่างไรเพราะรู้ว่าน้ำเชี่ยวไม่ควรเคลื่อนเรือไปขวาง เขานิ่งคิดก่อนตัดสินใจ

“งั้นเอาอย่างนี้ ไหนๆ คุณก็มั่วขับมาถึงตรงนี้แล้ว เดี๋ยวผมจะพาคุณไปเองรับรองคุณต้องชอบ”

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยเสียงสดใส ธีทัตมองเป็นเชิงถาม

“น่า เดี๋ยวก็รู้เอง แต่ผมไม่ให้คุณขับรถแล้ว อันตรายสำหรับชีวิตผมมาก เดี๋ยวคุณมานั่งฝั่งนี้”

อธิศจัดแจงเปิดประตูลงจากรถแล้วอ้อมมาฝั่งคนขับ

เขาเปิดประตูแล้วดึงธีทัตออกมา พลางโบกมือไล่ให้หนุ่มหน้าหวานเดิมอ้อมไปนั่งแทนที่เขา

ธีทัตทำตามอย่างงงๆ

อธิศเข้านั่งประจำที่คนขับ  ถูมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันเป็นทำนองว่าพร้อมแล้ว

“พร้อมที่จะออกเดินทางไปกับกัปตันอธิศแล้วก็ไปกันเลย”

ชายหนุ่มตาชั้นเดียวยิ้มอีกครั้งแล้วนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะหันไปหา ธีทัต



“ว่าแต่รถของคุณสตาร์ทยังไงเหรอ”




หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 13 [04/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 04-01-2014 12:40:00
อธิศเท่ห์ได้ไม่นาน มาตกม้าตายซะงั้น
รึว่ามันเป็นมุกชวนขำ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 13 [04/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchet ที่ 04-01-2014 13:15:49
5555จะไปกันรอดมั้ยเนี่ย กันเอ้ยพ่อเค้าคงมีเหตุผลแหละ อย่าคิดมากๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 13 [04/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-01-2014 18:28:53
นี่จะรอดถึงที่หมายมั้ย555555555555555555555555
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 13 [04/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: andear ที่ 04-01-2014 18:56:14
เกือบล่ะ เกือบจะเท่ห์แล้ว  555555555
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-01-2014 13:20:40





                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                            บทที่ 14


ดวงไฟดวงใหญ่กำลังจะตกจากท้องฟ้า ความมืดเริ่มเข้ามายึดพื้นที่ ยังคงมีแสงสีแดงเรื่อจางๆอยู่ริมขอบฟ้า

ทิศตะวันตก แสงดาวระยิบระยับเริ่มโผล่พ้นความมืดเข้ามาอวดแสงเรียงราย และอากาศเริ่มเย็นลงแม้จะเป็น

ช่วงปลายฝนต้นหนาว

รถสปอร์ตคันหรูเคลื่อนที่มาอย่างช้าๆ เข้ามาจอดตรงหน้าบ้านสองชั้นหลังใหญ่ที่บริเวณชั้นล่าง

เปิดโล่งและมีเคาน์เตอร์ยกสูงอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งจัดเป็นโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ราว

5-6โต๊ะ


ธีทัตเอียงหน้าไปมองคนขับจำเป็นที่กำลังทำท่าภาคภูมิใจที่สามารถบังคับรถมาถึงที่หมาย

ได้อย่างปลอดภัยแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้

จากหัวเราะน้อยๆ ธีทัตเริ่มส่งเสียงดังขึ้นจนถึงขั้นเอากุมท้อง อธิศเหล่ตามอง

“ขำอะไรขนาดนั้น ผมไม่ใช่เท่ง เถิดเทิงนะคุณ”

“คุณขับรถผมมาเขาใหญ่ ด้วยกำลังรถขนาดนี้ ผมเคยขับชั่วโมงเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณ...”

ธีทัตชี้หน้าอธิศ

“คุณใช้เวลาขับสามชั่วโมงกว่า ด้วยความเร็วไม่เกิน80กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณทำลายสถิติความช้ามาก พี่ซัน”

อธิศเหล่มองเจ้าหนุ่มตาหวานอีกครั้ง ก่อนทำเสียงค่อนขอดอยู่ในลำคอ

“เฮอะ..แล้วมันปลอดภัยไหมล่ะ ถ้าให้คุณขับ ป่านนี้ไม่ถึงหรอกเขาใหญ่น่ะ คุณได้ไปเที่ยวเขาไกรลาศแน่

ไป ลงรถคืนนี้เราจะพักกันที่นี่แหละ”

ว่าแล้วอธิศก็เปิดประตูรถเดินนำเจ้าหนุ่มหน้าหวานเข้าไปที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างของตัวบ้าน

“ป้าสมบูรณ์สวัสดีคร้าบ”

ชายหนุ่มตาชั้นเดียวส่งเสียงดังเอ่ยทักหญิงกลางคนตัวท้วมที่ยืนคุมเคาน์เตอร์แต่ไกล

หญิงร่างท้วมเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ต้องยิ้มกว้างอย่างยินดีเมื่อเห็นว่าเป็นอธิศ

“ต๊าย พ่อซัน ลมบ้าหมูหอบมาถึงนี่เลยนะ สบายดีหรือเปล่า”

ป้าสมบูรณ์เจ้าของรีสอร์ทเอ่ยตอบเสียงดังอย่างคุ้นเคย

“ป้าครับ ไม่ต้องถึงขั้นลมบ้าหมูมั้งครับ แค่ลมคิดถึงก็พอ”

อธิศสวมกอดสาวร่างท้วมอย่างสนิทสนม

“แล้วมากันกี่คนล่ะนี่ ป้าจะได้เตรียมบ้านให้ถูก”

ป้าสมบูรณ์เอ่ยถาม

“มากันแค่สองครับ กัน มานี่สิ”

เขากวักมือเรียกเจ้าหนุ่มตาหวานแล้วเอ่ยแนะนำ

“นี่ คนนี้เลย ป้าสมบูรณ์เจ้าของรีสอร์ทแสนสวยที่นี่ แล้วก็นี่ ป้าครับคนนี้ชื่อกันดั้ม”

ธีทัตยกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยอย่างเก้ๆ กังๆ เนื่องด้วยตลอดชีวิต ไม่เคยต้องยกมือไหว้ใคร

ป้าสมบูรณ์รับไหว้ด้วยความเอ็นดู

“งั้นเดี๋ยวจัดหลังบนเขาให้นะ”

หญิงร่างท้วมหันกลับมาเอ่ยกับหนุ่มตาชั้นเดียว

“โอ๊ย..หรูไปไหมครับป้า หลังนั้นน่ะ”

ชายหนุ่มท้วงขึ้น ป้าสมบูรณ์รีบยกมือห้าม

“ช่วงนี้มันปลายฝนยังไม่มีแขกมากเท่าไหร่ ซันไปอยู่เถอะ นานๆมาที”

อธิศยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนจะเอ่ยอีกเรื่อง

“ป้าครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป วันนี้มากะทันหันจริงๆ ผมกับกันดั้มไม่มีอะไรมาเลย รบกวนป้าเรื่องนี้ได้ไหม”

“ได้สิลูก เดี๋ยวป้าจะเอาเสื้อผ้าของลุงไปให้นะ แล้วซันก็เอาชุดเก่ามาให้ป้าซักให้”

เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวยกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้ง ป้าสมบูรณ์จึงได้เรียกเด็กมาพาสองหนุ่มไปที่พัก





ธีทัตเดินสำรวจรอบบ้านพักหลังเล็กกะทัดรัดที่อยู่บนเนินเขาอย่างพอใจ

ตัวบ้านแต่งแบบคาวบอย และมีระเบียงอยู่ด้านนอกเพื่อให้แขกที่มาพักออกมานั่งชมบรรยากาศฟาร์มกว้าง

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ทได้  ตัวบ้านแต่ละหลังอยู่ห่างกันพอควรทำให้ดูเป็นส่วนตัวและเงียบสงบ

ธีทัตเอียงหน้าไปมองอธิศที่กำลังรับเสื้อผ้ามาจากเด็กที่ป้าสมบูรณ์ส่งมาก่อนที่จะปิดประตูบ้าน

“พี่ซันมาที่นี่บ่อยหรือ”

ธีทัตเอ่ยถาม

“ตอนสมัยเรียนมาตลอดแหละ มาจนสนิทกับเจ้าของ”

อธิศตอบกลับก่อนมองมาทางเจ้าหนุ่มตาหวาน

“อยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะสบายใจแล้วกลับไปเผชิญหน้าความจริง”

ธีทัตสีหน้าสลดลงเมื่อต้องกลับมาคิดถึงปัญหาของตน

อธิศจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

“คุณเข้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ที่นี่กลางคืนอากาศเย็นเดี๋ยวจะเป็นหวัด”





พระจันทร์ข้างขึ้นลอยส่องแสงสว่างอยู่กลางผืนพรมสีดำ ล้อมรอบไปด้วยเกล็ดระยิบจากดวงดาว ราวกับเพชร

เม็ดเล็กประดับประดาให้ผืนผ้าสีดำแห่งรัตติกาลงดงามอย่างที่ธีทัตไม่เคยได้เห็นชิดใกล้แบบนี้

หนุ่มตาหวานยืนเกาะระเบียงไม้ที่ยื่นออกมานอกตัวบ้านมองบรรยากาศอย่างหลงใหล

เขาไม่เคยได้มาเที่ยวในสถานที่แบบนี้มาก่อน

ตลอดชีวิตตั้งแต่เด็กจนเป็นวัยรุ่น เขาเดินทางไปต่างประเทศทั่วโลกชั้นนำมาเกือบทุกที่

แต่ไม่มีที่ไหนที่ทำให้เขารู้สึกสงบลง และอยากที่จะอยู่นิ่งพักเรื่องทุกอย่างได้อย่างที่นี่

ใกล้เมืองหลวงแค่นี้ เหมือนปากกับจมูก ชายหนุ่มอมยิ้ม

ใจลอยไปถึงเรื่องที่เกิดเมื่อตอนบ่าย รอยยิ้มที่ตนเองเป็นคนจุดขึ้นมาก็ดับลง

เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์อันเลวร้ายลงเรื่อยๆ ระหว่างตนกับผู้เป็นบิดา



สายลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่าน อากาศกลางหุบเขาเริ่มทำให้รู้สึกเย็นชื้น

ธีทัตยืนห่อไหล่ด้วยความหนาวเพราะใส่เพียงเสื้อยึดตัวบาง



ผ้าคลุมผืนบางถูกนำมาวางไว้ให้บนไหล่ทั้งสองข้าง

ธีทัตรู้สึกอุ่นวูบแปลกๆ เหมือนคนที่นำมาให้จะส่งผ่านความอบอุ่นมาทางผืนผ้าผืนนั้น






หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 06-01-2014 14:50:50
 :ling1:รอ :katai5:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: bb_b ที่ 06-01-2014 15:20:12
 :hao4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 06-01-2014 17:58:19
รอจ๊า  น้องกัน คุณพ่อรักหนูนะ ท่านแค่แสดงออกไม่เก่งเอง
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-01-2014 21:01:37
สนุกมากเลยคะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 06-01-2014 22:11:29
พี่ซันอบอุ่น อิอิ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Theodore ที่ 06-01-2014 22:36:36
ชอบๆ มาต่อเร็วๆนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 14 [06/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 07-01-2014 11:24:24
พี่ซันดูแลดี๊ดี
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 08-01-2014 23:26:27




                  รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา


                       บทที่ 15


ธีทัตมองตามผ้าคลุมผืนนั้นไปจนถึงมือเรียวที่จับชายผ้า ความรู้สึกอบอุ่นส่งผ่าน

ราวกับคนที่เขยิบมายืนเกาะระเบียงอยู่ข้างๆจะเป็นตัวนำไฟฟ้า

แปลกที่รู้สึกสั่นไหวไปกับการกระทำเพียงแค่เล็กๆน้อยๆของผู้ชายคนนี้

ผู้ชายธรรมดาที่ดูจะเซ่อซ่าไม่น้อย

แต่เมื่อต้องอยู่ด้วยกัน กลับทำให้เขายิ้มและหัวเราะได้อย่างไม่ขัดเขิน

“เห็นมายืนชมวิวยามดึกอยู่นานแล้ว น้ำค้างลงเดี๋ยวจะเป็นหวัด

อธิศเอ่ยขึ้น เขาไม่เข้าใจตนเองเหมือนกันที่มีเจ้าหนุ่มตาหวานอยู่ในสายตาตลอดเวลา

คิดไปถึงเหตุการณ์ที่ต้องตกกระไดพลอยโจนให้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ เพียงแค่ไม่กี่วัน

ที่ได้เรียนรู้นิสัยใจคอของคนที่ยืนอยู่ด้านข้าง

จริงๆจะกลับไปอยู่คอนโดตนเองก็ได้ อธิศมั่นใจว่าจะไม่มีอันตราย เพราะคนที่มีเรื่องคราวนั้น

ไม่ได้เห็นใบหน้าของเขา

แต่ก็ตัดใจออกจากบ้านหลังใหญ่ไม่ได้ก็เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ต่างหาก

เด็กที่ถูกบังคับโตก่อนวัย ราวกับมะม่วงบ่มแก๊สให้สุกเร็วขึ้น ไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ

มันเกิดความรู้สึกอยากปกป้องอยากดูแลอย่างที่ไม่เคยเกิดกับใคร

ทำได้แม้กระทั่งพาเจ้าหนุ่มนี่หนีพ่อกันมาถึงกลางขุนเขา

“ที่นี่สวยดี และสงบมาก

ธีทัตเอ่ยทำลายความเงียบ 

“ผมไม่เคยเห็นดวงจันทร์ที่ไหนสวยเท่าที่นี่มาก่อนดาวที่นี่ก็ดูดวงใหญ่มาก มันขัดเจนไปหมด

เหมือนกับผมสามารถเอื้อมมือไปจับมันลงมาได้

ธีทัตเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์แล้วรำพึงเบาๆ  อธิศหันตัวกลับและใช้ระเบียงไม้เป็นที่พิง

เพื่อหันหน้ามาสบตากับธีทัต

“คุณอยากขออะไรจากดวงจันทร์ไหม

อธิศเอ่ยถาม  เจ้าหนุ่มตาหวานอึ้งไปครู่ใหญ่ก่อนจะแค่นยิ้ม

“พี่ซันว่าผมควรจะขออะไรล่ะ ควรจะขอแก้วแหวนเงินทอง หรือขอช้างขอม้า

ธีทัตกลืนก้อนสะอื้นลงคอ

“เงินทองผมก็มีเหลือเฟือ ไม่มีช้างไม่มีม้า แต่ผมมีรถสปอร์ต

เจ้าหนุ่มตาหวานพูดราวกับประชดตัวเอง

เขาแหงนหน้ามองดวงจันทร์อีกครั้ง 

“ถ้าดวงจันทร์ให้ได้จริง ผมแค่ต้องการใครสักคน ที่พร้อมจะให้ความรักกับผมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

คนที่พร้อมจะยืนเคียงข้างเวลาที่ผมล้ม ก็แค่นั้นเอง ดวงจันทร์จะให้ได้หรือเปล่า

ธีทัตหันมาสบตาอธิศ

“คุณก็ลองอธิษฐานดูสิ ความจริงอาจจะส่งมาแล้วแต่คุณไม่รู้ตัวก็ได้

อธิศยิ้มให้ตาหวานๆคู่นั้น

“คุณเชื่อเรื่อง soulmate ไหม”

หนุ่มตาชั้นเดียวตั้งคำถามขึ้นมาอีก




“คนที่คุณคุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกันและกันไปทุกๆชาติ คนที่คุณรู้ว่าเขาเกิดมาเพื่อคุณ

ผมเชื่อนะว่ามันมีจริงแล้วผมก็เชื่อว่าคุณจะพบคนๆนั้นจนได้

ทำไมจะไม่เชื่อ ...ธีทัตตะโกนในใจ เขาหลับตาลงเหมือนจะไม่อยากให้คนตรงหน้ามองเห็นความจริง

ในแววตาและความรู้สึกที่ลึกล้ำ


ก็ไม่ใช่เพียงแค่แวบแรกที่สบตาในคืนวันนั้น แล้วรู้สึกคุ้นเคยหรอกหรือ ที่ทำให้เขาและอธิศ

ได้มายืนอยู่ตรงนี้

เพียงแต่อธิศ เป็นผู้ชาย เช่นเดียวกันกับเขา ความรู้สึกผิดธรรมชาติคอยย้ำเตือนตัวตนมาตลอดหลายวันว่ามัน

ไม่ใช่ ธีทัตไม่อยากจะยอมรับความจริง

ถึงแม้บิดาจะมีเบื้องหลังอยู่ในอิทธิพลมืด แต่เบื้องหน้าครอบครัวก็มีธุรกิจอื่นๆ

เขาเองก็เป็นหนุ่มน้อยเนื้อหอม เซเลปในวงสังคมที่ผู้หญิงต่างก็วิ่งเข้าหา

แต่หากไม่เคยมีใครในนั้นที่คิดจะผูกพัน หรือคิดว่าใช่คนที่เขาตามหา


ความรู้สึกนั้น ดันมาเกิดกับคนๆนี้ เขาอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเสียตรงนี้

ยิ่งอุบัติเหตุที่ทำให้ได้ชิดใกล้ในคืนแห่งพายุฝนยิ่งเป็นข้อพิสูจน์ ว่าตัวธนทัตเองไม่ได้รังเกียจ

ซ้ำยังโหยหาอย่างแปลกประหลาด

“ดึกแล้ว น้ำค้างลงหนักคุณควรเข้าไปพักผ่อน

อธิศเอ่ยก่อนขยับตัวยืนตรงเต็มความสูง เขาเอื้อมมือไปจับกระชับชายผ้าคลุมที่พาดผ่านไหล่สองข้าง

ของธีทัตให้กระชับแน่น แล้วหยุดนิ่งอยู่ท่านั้น

เขายังไม่อยากปล่อยมือจากหนุ่มน้อยที่ยืนเผชิญหน้า มือเรียวที่จับกระชับผ้าผืนนั้นค่อยๆเลื่อนไปจับ

ที่ต้นแขนทั้งสองข้างก่อนดึงเข้ามาชิดใกล้

สบตากับธีทัตแล้วก่อให้เกิดความรู้สึกมากมาย อยากจะใกล้ชิดแนบสนิทอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร

ยกมือข้างหนึ่งขึ้นปัดปอยผมที่ตกมาระหน้าผาก เพียงแค่นี้ก็เกิดแรงดึงดูดมหาศาลระหว่างกัน

ยิ่งดึงหนุ่มตาหวานมาใกล้ชิดมากขึ้น จนใบหน้าระหว่างกันลดช่องว่างเหลือไม่ถึงคืบ

อดใจไม่ไหวที่จะโน้มใบหน้าไปที่ธีทัต หวังที่จะทำตามอำเภอใจ

ธีทัตเอียงหน้าหลบอย่างไม่ทราบสาเหตุ ริมฝีปากของเขาจึงประทับได้แค่ขมับและไรผมนุ่ม

แต่แค่เพียงเท่านี้ อธิศก็อยากจะอยู่อย่างนี้ไปตลอดคืน




หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 09-01-2014 04:07:50
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 09-01-2014 06:41:46
พี่ซันธรรมดาสะทีไหนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 09-01-2014 07:11:29
หุหุ ถึงกับอดใจไม่ไหวเลยเหรอพี่ซันนน
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Theodore ที่ 09-01-2014 10:24:45
หวานมากๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 15 [08/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 09-01-2014 17:27:13
อยากลงไปดีดดิ้น กรี๊ดดดดดดดดด
หวานมากกกก
มีจูบขม่งจูบขมับ ฟินนนนอ่า (บ้าไปแระ)
ก็ธีทัตน่าร๊ากกกก..นี่นา
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 16 [12/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-01-2014 20:03:27


                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                      บทที่ 16


มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นอย่างยากที่จะอธิบายได้ แม้จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความขัดเขิน

และโมโหตัวตนที่ไม่อาจยอมรับความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น

ธีทัตไม่อยากจะยอมรับว่า เขาเองรู้สึกดีกับการกระทำของอธิศ

และก็ยังทำใจลำบากที่จะยอมรับว่า เขารู้สึกอย่างไรกับผู้ชายตรงหน้า

อธิศปล่อยมือออกจากต้นแขนของธีทัต ตัวเขาเองก็ตกใจไม่น้อยที่กล้าหาญทำสิ่งนี้ลงไป

เพียงแค่ปล่อยอารมณ์ตามใจ นี่เขาปรารถนาจะใกล้ชิดหนุ่มรุ่นน้องคนนี้ขนาดนี้เชียวหรือ

“ผมขอโทษ”

อธิศกล่าว

“คุณควรไปพักผ่อนได้แล้ว วันนี้คุณเจออะไรมาเยอะแล้ว”

หนุ่มตาชั้นเดียวเปลี่ยนเรื่อง

“เดี๋ยวคุณไปนอนห้องด้านในนะ มันมีห้องน้ำอยู่ในห้องด้วย”

ธีทัตชะงักเมื่อคิดถึงเรื่องที่นอน ก่อนหันไปมองหน้าเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวเป็นเชิงถาม

อธิศยิ้มแป้น

“มันมีสองห้อง ไม่ต้องเป็นห่วงน่า ผมไม่บุกไปหาคุณหรอก”




เขาเปิดประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องที่ยังมืดมิด พยายามปรับสายตาให้คุ้นชินแล้วจึงตรงไปที่เตียงนอน

เตียงที่มีคนๆนั้นนอนหลับใหล คนๆนั้นที่จะรู้ตัวหรือไม่ว่าได้เข้าไปวิ่งเล่นในความฝันของเขาตลอดทั้งคืน

เขานั่งลงหมิ่นๆที่ขอบเตียง เจ้าหนุ่มตาหวานนอนหลับตาพริ้มท่าทางมีความสุข

อยากจะรู้นัก ว่าฝันอะไร ได้ฝันอย่างเดียวกันกับเขาบ้างหรือไม่

เห็นแก้มที่ดูนุ่มน่าสัมผัส อยากจะรู้จริงๆว่ามันนุ่มอย่างที่ตาเห็นหรือเปล่า

อดที่จะใช้ปลายนิ้วไล้เพียงแผ่วเบาที่แก้มนุ่มนั้น

แต่ก็ต้องชะงักเพราะเจ้าของดูเหมือนจะรำคาญพลิกตะแคงหน้าหนี

อธิศถอนหายใจเฮือกใหญ่เพื่อปรับอารมณ์ ก่อนที่จะเขย่าตัวธีทัต

“กันดั้ม  ตื่นได้แล้ว”

ธีทัตงัวเงียขึ้นมา แล้วเพ่งมองชายที่นั่งอยู่ตรงหน้าพลางคิดว่านี่อยู่ในความฝันหรือเปล่า

ฝันเลือนลางจับใจความไม่ได้ แต่จำได้ว่ามีคนๆหนึ่งอยู่ด้วยทุกฉากตอน

คนๆนั้นเข้ามาโลดแล่นอยู่ในความฝันราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ เขากระพริบตาถี่ๆ

“กี่โมงแล้ว พี่ซัน”

ชายหนุ่มเอ่ยถาม

“ตีห้า”

เจ้าหนุ่มตาชั้นเดียวตอบกลับ เล่นเอาธีทัตตาเหลือก ก่อนจะมุดศีรษะกลับเข้าไปอยู่ในผ้าห่มอุ่น

“ตื่นเถอะ อย่ามัวนอนเดี๋ยวพลาดโอกาส”

อธิศยื้อแย่งผ้าห่มออกจากตัวหนุ่มน้อย

“โอกาสอะไร พี่ซัน ยังไม่สว่างเลย”

ธีทัตทำเสียงอู้อี้ในลำคอ

“มาถึงนี่แล้ว ต้องไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ที่ฟาร์มนี่มีจุดชมวิวสวยมากเลยนะ จะพาไปไง”

นั่นเองถึงได้เรียกร้องความสนใจจากหนุ่มน้อยให้ลุกสะลึมสะลือมาแต่งตัวได้

อธิศรีบลากแขนธีทัตมานอกบ้านอย่างรวดเร็วเหมือนกลัวเจ้าหนุ่มตาหวานจะเปลี่ยนใจ

“ไกลไหม พี่ซัน แล้วเราจะไปอย่างไรล่ะ”

ธีทัตปิดปากหาว ก่อนจะถามอย่างงัวเงีย

“จากจุดนี้ไปสักกิโลหนึ่งจะมีหน้าผาชื่อผาดวงแก้วเป็นจุดชมวิวของที่นี่ เราจะไปตรงนั้นโดยเจ้านี่”

อธิศผายมือไปให้ธีทัตเห็นพาหนะ ธีทัตตาถึงกับตาเหลือก

“จักรยานเก่าคันนี้นี่นะ”

หนุ่มตาหวานถาม อธิศมองอย่างภาคภูมิใจ

“โธ่คุณ เก่าแต่ยังแข็งแรงนะ ผมไปยืมป้าสมบูรณ์มาเพื่อพาคุณไปโดยเฉพาะ ผมขี่เองคุณซ้อนไป เดี๋ยวไม่ทัน”

ว่าแล้วอธิศก็คว้าจักรยานคันเก่งมาแล้วตั้งท่า พลางพยักเพยิดให้ธีทัตมาซ้อนท้าย

หนุ่มตาหวานซ้อนท้ายจักรยานอย่างเก้ๆกังๆ อธิศเริ่มปั่นอย่างรวดเร็ว ธีทัตเกือบหงายหลัง

“ คุณ เกาะเอวผมไว้สิ เดี๋ยวก็ได้หงายหลังลงไปนอนวัดพื้นหรอก”

ชายหนุ่มตะโกนบอกคนซ้อนท้าย ธีทัตรีบใช้สองมือเกาะที่เอวหนุ่มตาชั้นเดียว

อธิศยิ้มกริ่ม ปั่นจักรยานพลางผิวปากอย่างอารมณ์ดี





ท่ามกลางความมืดมิด ที่แสงดาวยังคงส่องแสงพร่างพราวกันในปลายแห่งราตรี

แม้จะยังไม่ใช่ฤดูหนาวแต่ด้วยความสูงของพื้นที่ทำให้หมอกจางเริ่มเกาะตัวหนาแน่น

อธิศขี่จักรยานมาจอดที่ซุ้มเล็กซุ้มหนึ่งมีป้ายชื่อบอกสถานที่ตั้งอยู่หน้าซุ้ม

ธีทัตเดินไปอย่างตื่นเต้นแม้จะยังมีเพียงความมืดปกคลุม

ลานกว้างเบื้องหน้าที่ต่ำลงไปมีทะเลหมอกน้อยๆ มาเฉิดฉายเรียกร้องความสนใจ

ปลายฟ้าเบื้องหน้าเริ่มเปิดเป็นสีน้ำเงินเข้ม ราวกับม่านในโรงละครกำลังจะเริ่มเปิดการแสดง

อธิศเดินหอบมายืนข้างๆ

“เฮ้อ เกือบไม่ทัน”

เขามองค้อนๆไปที่คนที่ยืนข้างๆ

“เดินตัวปลิวมาเชียวนะ”

“ก็ผมขี่จักรยานไม่เป็นนี่ แล้วพี่ซันนก็เป็นคนเสนอตัวขี่มาเองไม่ใช่หรือครับ”

ธีทัตอมยิ้มเมื่อมองเห็นสภาพของเจ้าหนุ่มตาชั้นเดียว

“ก็ไม่นึกว่าคุณจะตัวหนักนี่ เมื่อก่อนขี่มาคนเดียว เดี๋ยวนี้มีคุณมาด้วย”

อธิศพูดยิ้มๆ

“เดี๋ยวจะสอนขี่จักรยานนะ มาอีกเมื่อไหร่จะได้เปลี่ยนกันบ้าง”

ธีทัตรู้สึกร้อนซู่ตลอดใบหน้าเมื่ออธิศพูด เขาหันหน้าหนีกลัวอธิศจับได้

“ไปยืนตรงริมหน้าผากัน”

อธิศถือโอกาสลากแขนคนข้างๆให้เดินตาม





แสงอรุณแรกของวันค่อยๆโผล่พ้นริมขอบฟ้าทางทิศตะวันออกที่อยู่เบื้องหน้า

รัศมีของลูกไฟดวงโตค่อยๆฉายฉานเป็นสีส้มแดง สะท้อนแสงกับสายหมอกที่เริ่มเกาะตัวหนา

ธีทัตอึ้งเมื่อเห็นภาพนี้ เขามองอย่างหลงใหลราวกับภาพตรงหน้ามีเวทมนต์สะกดไว้

อธิศยิ้มเมื่อเห็นธีทัตชอบภาพตรงหน้า อยากจะให้ภาพนี้ประทับอยู่ในความทรงจำของหนุ่มน้อยไปไม่รู้เลือน

อากาศย่ำรุ่งหนาวและชื้น อธิศถอดเสื้อคลุมออก เมื่อสักครู่ออกกำลังโดยขี่จักรยานจึงไม่รู้สึกหนาวเท่าไหร่

เขาใช้เสื้อคลุมของเขาวางบนบ่าสองข้างของธีทัต เจ้าหนุ่มตาหวานละสายตาจากภาพอรุณแรกแย้มตรงหน้า

หันมามองอย่างขอบคุณ

อธิศมองใบหน้านั้นในช่วงแสงแรกแห่งวันที่มีความสุกสว่างพาดผ่าน ราวกันต้องมนต์เช่นกัน

เอื้อมมือไปประคองใบหน้านั้นอย่างเผลอไผล แล้วเอียงหน้าไปใกล้

ส่งริมฝีปากของตนไปจุมพิตประทับไว้บนริมฝีปากแดงเรื่อของอีกคน

ไม่มีคำเอ่ยห้ามหรือปฏิกิริยาขัดขืนใดๆจากอีกฝั่ง นอกจากการตอบรับอย่างเต็มใจ

อธิศ อยากจะหยุดเวลาอยู่ตรงนี้ไว้ ให้นานเท่านาน








หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 16 [12/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 12-01-2014 20:18:42
 :o12:เค้าจูบกันแล้ว
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 16 [12/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 12-01-2014 20:44:32
ว้าว จูบกันแล้ว
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 17 [17/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 17-01-2014 01:19:42


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                        บทที่ 17


รถสปอร์ตคันหรูขับมาโฉบเฉี่ยวแถวห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง

ธีทัตตัดสินใจใช้ชีวิตที่รีสอร์ทต่อ จึงได้ชวนอธิศมาซื้อของใช้ส่วนตัว

เดินเลือกของอย่างเพลิดเพลินทำให้หนุ่มตาหวานขาดความระมัดระวังอย่างที่เคยทำมาตลอดชีวิต

เขาจึงไม่ทันได้สังเกตชายใส่เสื้อคลุมสีดำที่เห็นธีทัตตั้งแต่รถหรูขับผ่าน

ชายชุดดำแอบตามจนมั่นใจ หยิบเครื่องมือสื่อสารมากดถ่ายรูป แล้วจึงกดโทรออกไปยังปลายทาง






“ห่วยที่สุด!”

นายธนาตบโต๊ะด่ากราดลูกน้อง ที่ยืนเรียงรายอยู่ตรงหน้า

“แค่คนๆเดียว พวกเอ็งยังหาไม่ได้แล้วอย่างอื่นจะไว้ใจได้ไหม เจ้ากันมันหายวันหนึ่งแล้ว ยังตามกลิ่นไม่ได้

แย่มาก”

นายธนาทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานตัวนุ่มอย่างอารมณ์เสีย

“นายครับ”

ลูกน้องมือดีอีกโผล่หน้ามาจากนอกห้อง ก่อนส่งเสียงตื่นเต้น

“เจอร่องรอยการใช้บัตรเครดิตแล้วครับ”

นายธนารีบหันไปมองอย่างสนใจ ลูกน้องจึงรีบกล่าวต่อ

“นายน้อยใช้บัตรเครดิตซื้อของที่โคราช”

ผู้เป็นบิดานึกโล่งอกที่ร่องรอยยังอยู่ไม่ไกลนัก เขารีบสั่งการ

“อายัดบัตรเครดิตของเจ้ากันทุกใบ ดูสิว่าถ้ามันไม่มีเงินมันจะทำอะไรได้ แล้วก็พวกแก”

ธนาชี้ไปที่ลูกน้องที่ยืนรอรับคำสั่ง

“พลิกแผ่นดินตามหาเจ้ากันมาให้ได้ และต้องกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย ไป!”

ทันทีที่จบคำสั่ง บรรดาลูกน้องรีบสลายตัวไปทำงาน ธนาทิ้งน้ำหนักตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน

ธนาเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปเล็กๆที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาดูอย่างสะท้อนใจ มันตั้งอยู่ตรงนี้เป็นสิบปีแต่เขาก็ไม่คิดจะ

เคลื่อนย้ายไปไหน และมักจะหยิบขึ้นมาดูเวลาที่เขาเครียดและท้อ

ภาพที่ปรากฏเป็นภาพของเขาในวัยหนุ่มกว่านี้ นั่งเคียงข้างด้วยหญิงสาวที่สวยสง่า ตรงกลางคือเด็กชายคน

หนึ่งตัวอ้วนกลมที่ยิ้มอย่างสดใส เขาเอื้อมมือไปแตะบนใบหน้าของหญิงสาวคนนั้น

“ทัศนีย์ ผมขอโทษที่เลี้ยงลูกได้ไม่ดี ผมไม่รู้จะทำอย่างไร”

ธนากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น

“เจ้ากันมันคิดว่าผมไม่รัก แต่มันไม่รู้หรอกว่าผมรักมันที่สุด แต่ก็จำเป็นที่ต้องเลี้ยงให้มันแกร่งด้วยตัวมันเองให้

เร็วที่สุด”

ชายผู้เป็นบิดาของหนุ่มตาหวานยังรำพันกับภาพถ่ายนั้น

“ตอนนี้เจ้ากันตกอยู่ในอันตราย คุณช่วยดูแลลูกชายเราด้วยนะ อย่าให้เขาเป็นอะไร”

ธนาใช้หลังมือเช็ดหยดน้ำตา

“ผมเสียคุณไปคนหนึ่งแล้ว ผมจะไม่ยอมสูญเสียลูกชายเราไปเป็นอันขาด ถ้าผมเสียเจ้ากันไปอีกคนผมคงขาด

ใจ”






“หึหึ”

อธิศกระหยิ่มยิ้มย่อง พลางทำตาเจ้าเล่ห์

“หนีอย่างไรก็ไม่พ้นหรอก รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ มาให้พี่กินซะโดยดี”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นพลางย่างสามขุมเข้าหา

ธีทัตมองด้วยใจระทึก

“แล้วก็ไม่ต้องคิดจะต่อสู้ด้วย เพราะพี่ไม่ไว้ชีวิตแน่ๆ ว้ากกกก”

อธิศกระโจนหนี เมื่อทอดปลาทูแล้ว น้ำมันกระเด็นใส่ ธีทัตถึงกับหัวเราะลั่น ผู้ชายคนนี้ทำให้เขาหัวเราะ

ได้ตลอดเวลาจริงๆ

“พี่ซันนครับ ถ้าพี่ซันจะหาเรื่องได้แม้กระทั่งปลาทูขนาดนี้”

หนุ่มตาหวานยกมือกุมท้องด้วยความขำขัน

“ปลาทูมันยังไม่กลัวเลยครับพี่ซัน”

อธิศค้อนขวับ แต่มันดูเหมือนเขาสะบัดมากกว่า ปากก็บ่นไปพลางทอดปลาทูไปด้วยก่อนจะตักใส่จาน

“มา กันดั้มทานข้าวกันเถอะ ผมทอดสุดฝีมือเลยนะ”

อธิศกวักมือเรียกให้ธีทัตตามออกมาเมื่อเขาตั้งอาหารที่ระเบียงนอกบ้านเรียบร้อย



ลูกไฟดวงโตดวงเดียวกับเมื่อยามเช้าทำงานตลอดวันขับเคลื่อนจากฝั่งฟ้าด้านหนึ่งมาจนถึงอีกด้านหนึ่ง

และเตรียมที่ปิดฉากของตนในวันนี้เพื่อให้ตัวละครอื่นๆได้ทำหน้าที่ของตนบ้าง

อธิศใช้ช้อนตักแบ่งปลาทูแล้วเขี่ยก้างออก ก่อนนำไปวางบนจานข้าวของธีทัต

หนุ่มหน้าหวานนั่งมองการกระทำของอธิศ สลับกับมองกับข้าวที่อยู่ตรงหน้า

ไม่มีอาหารวิเศษเลิศหรูจากภัตตาคารใดๆ นอกจากไข่เจียวหนึ่งจานและปลาทูทอดเกรียมๆ

และก็คนที่นั่งอยู่ตรงหน้า

ธีทัตตักข้าวใส่ปากพร้อมกับรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ข้าวคำนี้รสชาติช่างอร่อยยิ่งกว่าร้านอาหารชั้นนำทั่ว

ทุกมุมโลก

หยดน้ำหยดหนึ่งกลิ้งจากดวงตาผ่านแก้ม อธิศเงยหน้ามอง เขาตกใจ

เอื้อมมือมากุมมือของธีทัตแล้วเอ่ยถาม

“เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม”

ธีทัตอมยิ้ม สั่นหน้าพลางเอื้อมอีกมือที่เหลือมาวางบนมือของอธิศอีกชั้น

“ขอบคุณนะ พี่ซัน ขอบคุณที่พี่ก้าวเข้ามาในชีวิตผม”






หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 17 [17/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2014 03:32:21
กำลังมีความสุขอยู่ อย่าพึ่งมีเรื่องเลยนะ :ling3:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 17 [17/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 17-01-2014 10:45:26
พี่ซันก็อบอุ่น ._.
กันดั้มชีวิตน่าสงสาร ถ้าคุณพ่อทั้งห่วงทั้งรักทำไมไม่แสดงให้เห็น
ร้อยทั้งร้อยทำงี้ก็เหมือนการบังคับอยู่ดี
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 17 [17/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: minjeez ที่ 17-01-2014 15:04:07
สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 18 [22/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 22-01-2014 18:40:15


                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                      บทที่ 18


ธีทัตยกสองมือพนมจรดหน้าผากเมื่อพระภิกษุเดินจากไป

นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เคยได้มาใส่บาตรในตอนเช้าอย่างนี้

ยิ่งได้มากับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ที่กำลังเบิกบานเต็มที่ หนุ่มตาหวานก็ได้แต่แอบยิ้ม ไม่รู้จะร่าเริงอะไรนักหนา

อธิศใช้ไหล่มาชนไหล่ของเขาก่อนเอ่ยถาม

คุณอธิษฐานอะไร บอกหน่อยสิ”

บอกไม่ได้หรอกครับ พี่ซัน ความลับ”

เขาแกล้งยิ้มเจ้าเล่ห์ใส่หนุ่มตาชั้นเดียวบ้าง

โธ่..กันดั้ม...”

อธิศลากเสียงท้ายยาวๆ ธีทัตบอกไม่ถูกเลยว่าเขารู้สึกดีแค่ไหนที่คนตรงหน้าทำเสียงอย่างนี้

บอกหน่อยสิ ว่าอธิษฐานให้เจอกันอีกหรือเปล่า”

อธิศเอ่ยถามเบาๆหนุ่มตาหวานหน้าแดงก่ำ อธิศถึงกับหัวเราะออกมา

ไม่ล้อแล้วก็ได้ กลับกันเถอะเดี๋ยววันนี้ผมจะพาไปเที่ยวน้ำตก”

หนุ่มตาชั้นเดียวคว้ามอเตอร์ไซค์คันเก่าของรีสอร์ทที่ขี่มาใส่บาตร มาสตาร์ทรถแล้วเร่งให้ธีทัตมาซ้อนท้าย

สายลมที่พัดผ่านใบหน้ายามจักรยานยนต์ขับเคลื่อน อ่อนโยนยิ่งกว่าที่คิด

ธ๊ทัตใช้สองมือโอบรอบเอวของอธิศ

หนุ่มตาชั้นเดียวอมยิ้ม เขาใช้แขนซ้ายของเขามาวางทาบไปกับแขนซ้ายของธีทัต

อยากจะให้ถนนสายนี้ยาวไกลออกไปไม่มีวันจบสิ้น






เมื่อมอเตอร์ไซค์คันเก่าแล่นมาจอดหน้าบ้านพัก  อธิศและธีทัตก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถกระบะ

กลางเก่ากลางใหม่จอดอยู่หน้าบ้าน

ความสดใสร่าเริงบนใบหน้าของหนุ่มหน้าหวานเริ่มหายไปกลายเป็นความเคร่งเครียด หน้าเชิดหลังตรงอีกครั้ง

ไม่ทันได้ให้โอกาสแปลกใจนานกว่านั้น บอดี้การ์ดวัยรุ่นคู่ใจของธีทัตก็รีบก้าวลงมาจากรถ

นายน้อย”

เคนเรียก

ตามเร็วใช้ได้เหมือนกันนะ”

ธีทัตแค่นยิ้ม กล่าวประชด

กลับบ้านเถอะครับ นายใหญ่เป็นห่วงมาก”


ก้องช่วยพูดอีกคน ธีทัตมองด้วยหางตา

ไม่กลับ”

ธีทัตกระชากเสียงตอบ

แต่ตอนนี้นายน้อยอยู่ในอันตรายจริงๆนะครับ ฝั่งโน้นอาจจะส่งคนมาแล้ว”

เคนรีบพูดเพื่อให้เจ้านายเปลี่ยนใจ

ธีทัตลอบถอนหายใจ ก็แค่นี้สินะแค่ไม่ต้องการตกเป็นเบี้ยล่างอีกฝ่าย ช่างเป็นอะไรที่น่าเบื่อหน่ายสิ้นดี

หนุ่มหน้าหวานหันไปทางอธิศ

พี่ซัน บอกว่าจะพาไปเที่ยวน้ำตกไม่ใช่หรือครับ ไปกันเลยดีกว่า” 

อธิศทำหน้าเหรอหรา

ผมว่า ถ้ามันจะเป็นอันตรายจริง กลับก่อนดีกว่าไหม...”

พี่ซันครับ!”


ธีทัตเสียงดังแทรกก่อนที่หนุ่มตาชั้นเดียวจะพูดจบประโยค ทำให้อธิศต้องรีบกลืนคำพูดเกลี้ยกล่อมลงคอ

พี่จะไปกับผมไหม ถ้าไม่..ผมจะไปคนเดียว”

ธีทัตกล่าวเสียงเข้ม

อธิศมองหน้าธีทัต สลับกับเคนและก้องไปมา ก่อนที่จะตัดสินใจตามน้ำไปก่อน

โอเคๆ เราไปกัน”


อธิศสบตาเคนและเจน ก่อนจะเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ โดยมีธีทัตเดินตาม

มอเตอร์ไซค์คันเก่าเคลื่อนที่ไปแล้ว เคนและก้องมองหน้ากันอีกครั้งก่อนจะขับรถกระบะตามไปห่างๆ





รถมอเตอร์ไซค์เคลื่อนผ่านป้ายบอกชื่อน้ำตก อธิศจอดรถ แล้วหันไปมองเจ้าหนุ่มหน้าหวานพลางเลิกคิ้ว

ถึงแล้วครับ นายน้อย จะเอาอย่างไรต่อก็โปรดบัญชา”

ธีทัตถอนหายใจก่อนมองอธิศด้วยหางตา

ก็เรามาเที่ยวกันไม่ใช่หรือครับ พี่ซัน เดี๋ยวเราก็ไปเดินดูน้ำตกกัน”

อธิศตัดสินใจดึงไหล่ทั้งสองข้างของธีทัตให้หันมาเผชิญหน้ากัน

กันดั้ม มีเหตุผลหน่อย ผมรู้ว่าคุณโกรธพ่อคุณ แต่ผมไม่อยากให้คุณเอาความโกรธมาทำให้ตัวคุณ

เป็นอันตราย


อธิศพยายามเตือนสติหนุ่มน้อยตรงหน้า

ผมรู้ที่ผ่านมาคุณอาจจะไม่ห่วงตัวเอง เพราะคุณดูแลตัวเองได้ แต่ตอนนี้เท่าที่ฟังมันดูน่ากลัวนะ

อย่างน้อย คุณก็ไม่ควรที่จะทำให้ผมเป็นห่วง” 

ธีทัตสบตาอธิศ

พี่ซันห่วงผมด้วยหรือครับ”

มากด้วย”

อธิศเน้นคำพูด


“ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณอาจจะไม่มีใคร แต่ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ผมอยากให้คุณรู้ ว่าคุณมีผม”

ธีทัตมองลึกเข้าไปในดวงตาของอธิศอีกครั้ง ความจริงใจและห่วงใยอย่างแท้จริงนั้นแทบจะทำให้ความโกรธ

ทั้งหมดบรรเทาไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ยังไม่ทันที่ธีทัตจะตัดสินใจอย่างหนึ่งอย่างใด เงาบางอย่างที่ไหววูบมาทางด้านข้างก็ทำให้ธีทัตตกใจแทบสิ้น

สติ

พี่ซัน ระวัง!!”





หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 18 [22/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 22-01-2014 18:54:21
อ้ากกกกกกกกกกกพวกเลววววววววววววว
ถ้าพี่ซันเป็นอะไรนะแกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 18 [22/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 22-01-2014 19:54:11
อ่าาาาาาทำไมคราวนี้มันสั้นจัง
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 19 [25/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 25-01-2014 21:53:13




                      รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                           บทที่ 19


ธีทัตผลักอธิศออกไปให้พ้นสิ่งที่พุ่งตรงมา ก่อนที่ตัวเขาจะถอยหลังหลบอย่างรวดเร็วเป็นการตั้งหลัก

สายตามองรอบตัวด้วยความชำนาญ นับแล้วชายฉกรรจ์จำนวน 5 คนยืนล้อมอยู่

คำนวณความสามารถของตนอาจจะพอสู้ได้ หนักใจก็คือคนที่รีบลุกจากพื้นมายืนอยู่ข้างๆ

อย่างน้อยก็ยังมั่นใจว่าฝั่งตรงข้ามต้องการจับเป็น แต่ก็ไม่อยากให้อธิศติดร่างแหไปด้วย

หนุ่มตาหวานกับหนุ่มตาชั้นเดียวหันหลังชนกัน

อธิศเองก็ตกใจไม่น้อย พยายามตั้งสติกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขอแค่ไม่เป็นภาระกับคนที่เขาเป็นห่วง

“พี่ซัน”

ธีทัตกัดฟันกระซิบ

“หลบอย่างเดียวเลยนะครับ”

พูดจบธีทัตชิงเป็นฝ่ายลงมือปล่อยหมัดใส่คนที่อยู่ใกล้สุด

คนที่เหลืออีกสี่ มองหน้ากันแล้วเริ่มลงมือ

อธิศพยายามจะดึงเอวคนหนึ่งไว้ ผลที่ได้คือกำปั้นที่ลอยมาปะทะมุมปากจนเซ

แม้จะถูกฝึกมาเป็นอย่างดีแต่ด้วยจำนวนคู่ต่อสู้ที่มากกว่า ธีทัตเองก็โดนไปไม่ใช้น้อย

เขาเริ่มมึนศีรษะ ขาสั่นอ่อนแรงจนอยากจะทรุดตัวนั่งกับพื้น จัดการไปได้สองคนที่สลบไป

ยังเหลืออีกสาม

แขนแทบจะยกไม่ขึ้น ดวงตาล่องลอย มองเห็นกำปั้นที่ลอยมาเตรียมปะทะหน้าหวานแต่ป้องกันไม่ไหว

อธิศคว้ากิ่งไม้กิ่งใหญ่ใกล้มือได้เขารีบลุกขึ้นนำมันไปประเคนเต็มๆที่ท้ายทอยจนชายคนนั้นล้มลง

เสียงรถกระบะจอดลง เคนและกอ้งพุ่งตัวออกจากรถได้จังหวะ ทั้งคู่จับคู่ต่อสู้กับชายที่เหลือ เคนตะโกนบอก

อธิศ

“พานายน้อยหนีไปก่อน”

เขาจึงได้สติ รีบเข้าไปประคองธีทัตให้ลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าไปในเขตป่า

หนึ่งในสองคนที่สลบกองกับพื้นเริ่มได้สติ ลุกขี้นมานั่งสะบัดหัว ก่อนลุกขึ้นวิ่งตามสองหนุ่มไป




หนุ่มตาชั้นเดียวพยายามทั้งประคองและลากธีทัตด้วยความเป็นห่วง

“เร็ว กันดั้ม เดินเร็วอีกนิดไหวไหม ไปให้พ้นตรงนี้ก่อน”

เจ้าหนุ่มหน้าหวานโดนไปไม่ใช่น้อย

แก้มบางใสที่เขาเคยแอบลูบไล้บัดนี้แดงช้ำจากรอยกำปั้นมุมปากที่เขาเคยประทับอย่างอ่อนหวาน

ตอนนี้กลับแตกมีเลือดซึม

อธิศนึกเจ็บใจตนเองที่วินาทีแห่งความฉุกเฉินเช่นนี้ เขาช่วยอะไรไม่ได้

ซ้ำจะเป็นภาระตัวถ่วงให้คนที่เขาห่วงใยเป็นที่สุด

ชายที่วิ่งตามมาพุ่งมาจากด้านหลัง คว้าคอเสื้ออธิศแล้วกระชาก ชายหนุ่มเสียหลักล้มลง

ธีทัตหลุดมือจากการประคองเขารีบหันไปมองดูเหตุการณ์ด้วยความตกใจ

ชายคนนั้นคว้ามีดพกในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาสะบัดในมือ แล้วยิ้มอย่างเป็นต่อ

“ยอมไปกับผมเถอะ จะได้ไม่มีใครตาย”

มันพูดอย่างเหี้ยมโหด

ธีทัตยิ้มตอบที่มุมปาก ก่อนใช้ฝ่าเท้าประเคนวิชาเทควันโดไปที่ลิ้นปี่ เรื่องอะไรจะยอมสิ้นลายง่ายๆ

หมอนั่นเสียหลักเซไป ก่อนจะตะโกนสบถด้วยความโมโห

มันพุ่งตรงมาทางธีทัต พลางส่ายมีดพกในมืออย่างฉวัดเฉวียน จ้องเล่นงานหนุ่มหน้าหวาน

อย่างไม่คิดจะจับเป็นอย่างที่ได้รับคำลั่งมา

ธีทัตเดินถอยหลังหลบ ใช้สายตามองอย่างใช้สมาธิ ชายคนนั้นพุ่งปลายมีดเข้าใส่

โชคร้ายหนุ่มตาหวานสะดุดก้อนหินทำให้เสียหลักเซไปด้านหลัง ปลายมีดยังคงพุ่งตรงมาทางหน้าอก

ธีทัตใจหายวาบวินาทีแห่งชีวิตนั้น เขาคิดว่าปลายมีดได้มาเสียบพักอยู่ที่ร่างเขาแน่ๆ

อธิศพุ่งตรงมาจากมุมไหนธีทัตเองก็ไม่ทันมอง หนุ่มตาชั้นเดียวผลักเขาออกจากรัศมีมีด



“แคว่กก”


ธีทัตตกใจแทบสิ้นสติเมื่อได้ยินเสียงผ้าขาดและเห็นเลือดปรากฏอยู่บนไหล่ขวาของอธิศ

“พี่ซัน”

เขาตะโกนด้วยความเป็นห่วง แต่อธิศกลับใช้สองมือของเขาจับข้อมือศัตรูแล้วหักบิด

ได้ผล!! มีดร่วงจากมือตกลงบนพื้น อธิศเตะเข้าหว่างขาชายคนนั้นสุดแรง

ศัตรูร้องลั่นตัวงอด้วยความเจ็บปวด

หนุ่มตาชั้นเดียวรีบคว้ามีดที่อยู่บนพื้นแล้วเสียบไปที่ท้องชายคนนั้นมิดด้าม เลือดทะลักจากบาดแผลไหลนอง

ลงมา

ชายฉกรรจ์ร้องลั่นดังกว่าเดิม เขาดิ้นพลาดๆก่อนจะสลบไปเพราะเสียเลือดและเจ็บปวดจากบาดแผล



อธิศตาเหลือก เขาก้มหน้ามองสองมือของตนที่กล้าทำเช่นนั้นด้วยความตกใจ

ก่อนจะหันไปมองไหล่ขวาของตนที่เลือดยังคงไหลทะลัก เมื่อเหตุการณ์วิกฤตหมดลง ความรู้สึกเจ็บปวดเริ่ม

ตามมา

อาการของคนสุญเสียเลือดเกิดขึ้นกับอธิศ เขาเวียนหัว คลื่นไส้ ชีพจรเบาเร็ว แล้วขาสองข้างก็ยืนไม่ไหว

ธีทัตถลามาประคองร่างก่อนเขย่าตัวเขาแล้วตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างบ้าคลั่ง


นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เขาได้ยิน

ก่อนสติทั้งหมดจะดับวูบลง





หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 19 [25/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: bb_b ที่ 25-01-2014 22:55:25
 :hao4: อะไรยังไง  :ruready
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 19 [25/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-01-2014 00:24:38
อย่าเป็นอะไรนะ T^T
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 20 [31/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 31-01-2014 21:08:26


                           รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                               บทที่ 20


อธิศค่อยๆ กระพริบตา สมองยังไม่คลายจากความมึนงง รู้สึกได้ว่านอนอยู่บนที่นอนแข็งๆ

ภาพแรกที่เห็นคือ เพดานสีควันบุหรี่มอๆที่ไม่คุ้นตา เสาน้ำเกลือที่มีถุงน้ำเกลือห้อยอยู่

ปริมาณสารละลายหมดไปเกือบค่อน และถุงเลือดที่เกือบหมดอีกหนึ่งถุง

เขาพยายามทบทวนความทรงจำในเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่จะมานอนอยู่ตรงนี้

แล้วก็ต้องสะดุ้งในใจถึงชื่อที่สว่างวาบมาในสมอง

“กันดั้ม

ทันทีที่เขาพยายามจะลุกขึ้นนั่งก็รู้สึกปวดแปลบที่ไหล่ด้านขวา อธิศตั้งสติก่อนสำรวจตัวเอง


ไหล่ขวาของเขาถูกพันด้วยผ้าพันแผล มันพันรอบลำตัวแล้วเฉียงกลับไปที่ไหล่เพื่อความแน่นหนา

มีรอยเลือดซึมอยู่เล็กน้อย มือซ้ายมีเข็มพลาสติกต่ออยู่กับสายน้ำเกลือและถุงเลือด

และด้านซ้ายนี่เองที่เขาเห็นภาพที่ต้องอมยิ้ม

เจ้าหนุ่มตาหวานนั่งฟุบหลับอยู่ตรงนี้ ตรงเตียงที่เขานอนอยู่ ใบหน้าเอียงมาทางเขา

ราวกับจะมองให้ตัวเขาอยู่ในสายตาตลอดเวลาเมื่อยังไม่ได้หลับ

อธิศมองภาพนั้นอย่างอ่อนโยน เจ้าหนุ่มตาหวานที่เคยเชิดหยิ่ง บัดนี้หลับสนิทราวกับเด็กน้อย

รอยหมัดบนใบหน้าตอนนี้บางจุดก็กลายเป็นสีเขียวช้ำ บางจุดก็เป็นสีม่วง

อธิศยกมือซ้ายขึ้นไปลูบที่มุมปากธีทัตเบาๆ รอยแตกยังปรากฏให้เห็น

ธีทัตผวาเฮือกขึ้นมาทันทีที่รับสัมผัสเบาบางนั้น

เขาลุกขึ้นยืนแล้วมองอธิศอย่างสำรวจ แล้วก็ต้องยิ้มอย่างพึงพอใจเมื่อคนที่กึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง

ในโรงพยาบาลชุมชนแห่งนี้ปลอดภัย

ในห้องพิเศษของโรงพยาบาลแม้จะมีเตียงเล็กๆ ให้คนเฝ้านอนได้ แต่ธีทัตสมัครใจที่จะมานั่งเฝ้าตรงนี้

เฝ้ามองเพื่อให้เห็นชายตรงหน้าในสายตา เฝ้ามองความปลอดภัย แม้จะรู้ว่าพ้นขีดอันตราย

เพียงแต่เสียเลือดไปมากเขาก็ยังไม่ไว้ใจ

อธิศยังคงเอื้อมมือซ้ายมาที่ใบหน้าของเขาพลางลูบบริเวณที่ฟกช้ำเบาๆ

“เจ็บไหม

เขาเอ่ยถาม ธีทัตส่ายหน้า มันควรเป็นตัวเขาที่เอ่ยถามคำนี้เมื่อเห็นสภาพแผลที่ไหล่

ธีทัตเอื้อมมือไปกุมมือซ้ายของอธิศไว้ มองผู้ชายตรงหน้าอย่างขอบคุณ แล้วโน้มตัวลง

เป็นฝ่ายที่ประกบริมฝีปากที่มีรอยแผลลงไปทาบทับกับริมฝีปากชายคนที่นอนอยู่บนเตียง

ลืมไปแล้วว่าตัวเองยังไม่ได้พูดอะไรกับอธิศแม้แต่คำเดียว




"นายน้อยไม่ควรจะดื้อแบบนี้อีกแล้ว

คนต่อว่านายตัวเองเล็กน้อย เมื่อเข้ามานั่งรวมกัน

ในห้องพักของอธิศ

“คราวนี้รอดมาได้ แต่คราวต่อไปล่ะ มันจะยิ่งส่งคนมาเยอะกว่านี้

เคนคาดการ

“แล้วควรจะทำอย่างไรครับ

อธิศเอ่ยถาม เคนเงยหน้ามองเล็กน้อย ยังคงแปลกใจกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ผู้ชายบนเตียง

กล้าหาญเข้ามาช่วย และคนเป็นนายตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเขาคนนั้นได้รับบาดเจ็บ

แต่ด้วยความเป็นลูกน้อง แม้จะสนิทกันจะไม่อาจเอ่ยถาม

แต่เมื่อมาลงเรือลำเดียวกัน เคนต้องพักเรื่องที่สงสัยไว้ก่อน

“คงจะกลับกรุงเทพยังไม่ได้ภายในวันสองวันนี้ จะกลับไปที่รีสอร์ทที่นายน้อยไปพักก็ไม่ได้ เราคงต้องอยู่โคราช

ต่อแต่ย้ายที่พัก

เคนตัดสินใจ

“หมออนุญาตให้คุณออกจากโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้ เราคงต้องไปอยู่โรงแรมเล็กๆ กันก่อน แล้วค่อย

หาทางให้ทางบ้านมารับ จะดีกว่ากลับกันเอง




อธิศก้าวนำธีทัตเข้ามาในห้อง กวาดสายตาไปมองรอบๆแล้วถอนหายใจ

ห้องเล็กๆ ในโรงแรมเล็กๆ สมใจเจ้าบอดี้การ์ดโกนหัวล่ะ

ห้องแคบเท่ารูหนู เตียงเล็กๆหนึ่งเตียงกับเก้าอี้หวายเก่าๆ 2 ตัว

ตัวเขานั้น ไม่เท่าไหร่ สงสารก็แต่คุณชายจอมหยิ่งนี่แหละ จะอยู่ไหวไหม รำพึงในใจก่อนหันไปมอง

ธีทัตเดินก้าวตามเข้ามา กวาดสายตามอง แล้วก็เลิกคิ้วอมยิ้ม

ชีวิตที่เคยอยู่แต่สถานที่ใหญ่โตต้องมาอยู่ในที่แคบและอึดอัดแบบนี้

แต่ทำไมกลับไม่รู้สึกเดือดร้อนอะไรเลย

“ไหวไหม กันดั้ม

หนุ่มตาชั้นเดียวเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง

อยากจะตอบออกไปว่า เขาอยู่ได้ทุกที่ ขอให้มีคนข้างหน้าอยู่ด้วย

แต่...ไม่หรอก เดี๋ยวจะได้ใจเปล่าๆ ธีทัตจึงตอบไปธรรมดาว่า

“ไหวสิครับ พี่ซัน









หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 20 [31/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 31-01-2014 21:36:15
ทำไมกันดั้มน่ารักขึ้นทุกๆตอน
พี่ซันก็แสนดี๊แสนดี
แอร้กกกกกกกผ่านพ้นวิกฤตไปเร็วๆนะทั้งสอง
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 20 [31/01/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-02-2014 16:48:22
แหม.....หวานไม่เลือกสถานการณ์เลยเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 21[06/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 06-02-2014 20:25:21




                      รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                          บทที่ 21


อธิศวางตัวไม่ถูก เมื่อต้องมาอยู่ร่วมห้องกับหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้าจริงๆ

สองคืนที่ผ่านมาแม้จะอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน แต่ก็อยู่กันคนละห้อง

และ..แม้จะยอมรับว่ามีความรู้สึกที่พิเศษอยู่ในใจ  ก็ยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของอีกฝ่าย

มันอาจจะเป็นแค่ความเหงา ขาดความอบอุ่นของเด็กน้อยที่อยู่ในร่างผู้ใหญ่

ที่ทำให้แสดงออกชัดเจนอย่างเช่นวันวาน

หนุ่มตาชั้นเดียวลอบถอนหายใจ

ธีทัตเองก็ยืนหันรีหันขวางอยู่กลางห้อง ทั้งๆที่ห้องก็เล็กนิดเดียว

แต่นั่นยิ่งทำให้เขาไม่รู้จะไปยืนมุมใด เพราะไม่ว่าตรงไหนเขาก็สามารถแลเห็นหนุ่มตาชั้นเดียวได้

ยอมรับว่าความรู้สึกที่มีนั้นมันพิเศษอย่างที่ไม่เคยมีให้ใคร

ยิ่งนึกไปถึงเมื่อวันวานที่กล้าเสนอจุมพิตเป็นการขอบคุณนั้น นึกแล้วก็ให้รู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า



อธิศหันตัวกลับมา พอดีกับที่ธีทัตจะก้าวเดินไปหา

ร่างสองร่างแทบชนกันที่กลางห้อง ทั้งคู่หยุดชะงัก

ใกล้กันแค่เพียงคืบ ตาต่อตาสบกัน ทั้งสองมองกันอย่างค้นคว้า ยังคงมีแต่ความเงียบเข้าปกคลุม

เป็นธีทัตที่ได้สติก่อน

“พี่ซัน ยังเจ็บแผลไหมครับ

พูดไปแล้วธีทัตก็แทบจะกัดปากตัวเอง ที่ไม่รู้จะพูดอะไรที่มันดีไปกว่านี้

ไม่เข้าใจตัวเองเลย ว่าทำไมต้องรู้สึกขัดเขินทุกครั้งที่อยู่ใกล้ ราวกับผู้ชายตรงหน้ามีพลังพิเศษที่ดูดความ

มั่นใจในตัวตนของเขาออกไปจนหมดสิ้น

อธิศยิ้มกว้าง สัมผัสได้ถึงความขัดเขินที่หนุ่มน้อยตรงหน้าแสดงออก อย่างน้อยก็ยังรู้ว่าไม่ได้มีความ

รังเกียจอยู่ในความรู้สึก

“นิดหน่อย

เขากล่าวตอบ


“ไม่มากแล้ว แค่เห็นคุณปลอดภัย ผมก็โอเคนะ”

“ขอบคุณนะ

ธีทัตเพิ่งได้เอ่ยคำนี้ออกมา

“ผมรู้ว่าพี่ซันไม่เคยต้องต่อสู้กับใคร ผมขอโทษที่พาพี่มาลำบาก

“ผมไม่เคยคิดว่าเป็นความลำบาก

อธิศรีบเอ่ย

“แค่เห็นว่าคุณปลอดภัย นั่นคือความสบายใจของผม

อธิศพูดเสียงหนักแน่น

“แต่ตอนนี้ ผมอยากให้คุณช่วยผมหน่อย” 

ธีทัตเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“หมอห้ามไม่ให้แผลเปียกน้ำ คุณช่วยเช็ดตัวให้ผมหน่อยได้ไหม เหนียวตัวจะแย่อยู่แล้ว





อธิศนั่งอยู่บนเก้าอี้หวายตัวเล็กที่มุมห้อง ธีทัตยกกะละมังใบเล็กใส่น้ำมาวางบนพื้นใกล้ตัว

หนุ่มตาชั้นเดียวลอบมองท่าทางเก้ๆกังๆ ของหนุ่มน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

หนุ่มตาหวานหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ใส่มาในกะละมังน้ำขึ้นมาบิดแล้วคลี่ให้ผ้าขยาย ก่อนยื่นส่งให้อธิศ

หนุ่มตาชั้นเดียวมองเป็นเชิงถาม

“พี่ซันครับพี่เจ็บไหล่ขวาข้างเดียว ข้างซ้ายไม่ได้เป็นอะไร เพราะฉะนั้นพี่เอาไปเช็ดหน้าเองนะครับ

อธิศอดหัวเราะเบาๆไม่ได้

“คร้าบบ ได้ครับผมเช็ดหน้าเอง

หนุ่มตาชั้นเดียวรับผ้ามาเช็ดบนใบหน้าและต้นคอ ก่อนยื่นส่งให้ธีทัต

พลางจ้องเขม็งว่าธีทัตจะทำอะไรต่อ

ธีทัตหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่กล้าสบตาชายตรงหน้า เขานิ่งอยู่นานก่อนจะพูดเบาๆ

“พี่ซันถอดเสื้อสิครับ ผมจะเช็ดตัวให้

“อะไรนะ คุณพูดอะไรนะ ผมไม่ได้ยิน

อธิศทำหน้าเหรอหรา ยิ่งทำให้ธีทัตรู้สึกว่าเลือดไปเลี้ยงสมองน้อยลงจนเริ่มมึนงงไปหมด

“พี่ซัน

เจ้าหนุ่มตาหวานเริ่มส่งเสียงดัง อธิศรีบยกมือซ้ายขึ้นห้ามเป็นทำนองว่ายอมแพ้

“โอเค ๆ ไม่ต้องเสียงดัง เข้าใจแล้ว

อธิศพยายามถอดกระดุมเสื้อเชิต แต่ด้วยยังเจ็บที่ไหล่ขวาทำให้เอื้อมมือมาช่วยแกะกระดุมได้ยากยิ่ง

ธีทัตถอนหายใจเมื่อเห็นความพยายามของอธิศ หนุ่มตาหวานอดรนทนไม่ได้จึงยื่นมือเข้าช่วยเหลือ


ปลดกระดุมเรียบร้อย หนุ่มตาชั้นเดียวถอดเสื้อจากทางด้านซ้ายไม่ยากเย็นนัก แต่พอถึงด้านขวาเขาก็นิ่ว

หน้าด้วยความเจ็บ

ธีทัตรีบคุกเข่าแล้วยืดตัวตรงเพื่อให้ความสูงได้ระดับกับคนที่นั่งบนเก้าอี้หวายตัวเก่า ก่อนที่จะช่วยถอด

เสื้อจนสำเร็จ

บรรจงเช็ดตัวให้อธิศทางด้านหน้า และเอื้อมไปเช็ดที่แผ่นหลังจนสะอาดโดยระวังไม่ให้ผ้าพันแผลเปียก

ตลอดเวลาที่ธีทัตเช็ดตัวให้อย่างอ่อนโยน ภาพเหล่านั้นอยู่ในสายตาของอธิศโดยตลอด

เขามองทุกอิริยาบทของหนุ่มน้อยด้วยความเต็มตื้น เพราะรู้ดีว่าคนระดับธีทัตไม่เคยทำเช่นนี้ให้แก่ใคร

ธีทัตวางมือจากผ้าเช็ดตัวก่อนที่จะสบตากับอธิศ เขาก้มลงมองที่แผลของหนุ่มตาชั้นเดียว

เอื้อมมือไปแตะที่รอยแผลแผ่วเบา แล้วเงยหน้าถามคนตรงหน้า

“เจ็บไหม

อธิศส่ายหน้าน้อยๆ เขาเอื้อมมือซ้ายมากุมมือของธีทัตไว้ก่อนที่จะเอามาวางที่หน้าอกด้านซ้ายที่เป็นตำแหน่ง

หัวใจ

แขนขวาที่ยังพอยกได้ถูกส่งไปประคองที่ใบหน้าหวานนั้น เขาใช้ปลายนิ้วลูบที่แก้มของเจ้าหนุ่มหน้าใส

มุมปากแม้จะไม่มีคราบเลือดแล้ว แต่ยังมีรอยช้ำปรากฏให้เห็นจางๆ อธิศค่อยๆใช้นิ้วหัวแม่มือไปลูบ

อย่างแผ่วเบา

โน้มตัวไปด้านหน้าก่อนกดริมฝีปากไปที่รอยช้ำนั้น ราวกับจะใช้เป็นเครื่องมือช่วยเยียวยาก่อนที่จะเลื่อนไปทาบ

ทับสนิทกับปากแดงเรื่อ

มือซ้ายของอธิศปล่อยมือของธีทัตให้เป็นอิสระ แต่กลับย้ายที่ไปโอบเอวของหนุ่มตาหวาน แล้วดึงให้เข้ามาชิด

ใกล้ มือขวาที่ประคองใบหน้าหวานนั้นก็เลื่อนไปกระชับที่ท้ายท้อยของธีทัตเพื่อให้ตอบรับกับริมฝีปากของเขา

ค่อยๆและเล็มความหวานเปิดทาง ธีทัตแทบหายใจไม่ออก ต้องอ้าปากเพื่อกอบโกยอากาศ อธิศรีบฉวยโอกาส

ส่งปลายลิ้นเข้าแทรกซึม จนธีทัตตกใจ



หัวใจของหนุ่มตาหวานเต้นระรัว แขนขาไร้สิ้นเรี่ยวแรงยากที่จะขัดขืน ยิ่งริมฝีปากของหนุ่มตาชั้นเดียวบดเบียด

คลุกเคล้า และเรียกร้องไม่จบสิ้นด้วยสัมผัสจากปลายลิ้นของอธิศ

จวบจนเขารู้สึกแทบขาดใจนั่นแหละ อธิศถึงยอมปลดปล่อย มอบอากาศให้หายใจอีกครั้ง

แต่หนุ่มตาชั้นเดียวก็ไม่ปล่อยให้เขารอดนานนัก เมื่อทำให้ธีทัตแทบขาดใจอีกครั้งด้วยคำพูด

อธิศกระซิบที่ข้างหู แต่มันสะท้อนไปทั่วทั้งร่างกายและหัวใจ


“ผมรักคุณ ขอให้ผมทำให้คุณรู้ว่าผมรักคุณแค่ไหน ได้ไหมกันดั้ม”



หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 21 [ 06/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 07-02-2014 16:00:32
พี่ซันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
กันดั้มเขินตัวระเบิดไปแล้ว
ตอบเลยกันดั้มตอบเลยยยยย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 22 [ 12/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 12-02-2014 23:18:50


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                       บทที่ 22


ธีทัตหลับตาลงสั่นสะท้านไปทั้งร่างเมื่อได้ยินคำบอกรักจากชายตรงหน้า

ความรู้สึกดั่งคนที่หลงทางอยู่กลางทะเลทราย ใกล้หมดลมหายใจ

แต่มีใครสักคนยื่นหยดน้ำทิพย์มาให้เพื่อต่อชีวิต มันช่างชุ่มชื่น สดใส และอ่อนหวานยิ่งนัก

หนุ่มตาหวานลืมตาขึ้นสบตากับอธิศ แล้วกระซิบตอบเบาๆเช่นกัน

“ลองดูสิ ผมก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคุณจะรักผมได้แค่ไหน

อธิศยิ้มให้หนุ่มน้อยตรงหน้าอย่างอ่อนหวาน  มือขวาที่ยังคงประคองท้ายทอยดันให้ใบหน้านั้นเงยขึ้น

เล็กน้อย แล้วเขาก็ทำให้ธีทัตรู้จักความรักจากเขาด้วยบทเรียนแรก

อธิศก้มลงเรียกร้องคำหวานจากธีทัตอีกครั้ง เขาเริ่มต้นที่หน้าผากมน ประทับริมฝีปากของเขาลงมา

ตั้งแต่เปลือกตาแสนหวานของธีทัตไล่มาจนถึงริมฝีปากของหนุ่มน้อย คราวนี้เขาเรียกร้องเอาแต่ใจมากขึ้น

มือซ้ายที่โอบเอวไว้ดึงให้ธีทัตลุกขึ้นยืนตามเขา แล้วโอบกระชับตัวเข้ามาจนลำตัวแนบชิดติดกัน

ธีทัตแทบขาดใจ รู้สึกได้ถึงมือที่ร้อนผ่าวของอธิศที่ชอนไชเข้าไปภายในเสื้อยืด

ต้นขาแข็งแกร่งนั่นอีกเล่า ที่บดเบียดแนบชิดกับต้นขาของเขาราวกับจะหลอมละลายให้กลายเป็นเนื้อเดียวกัน

เขาสะดุ้งเฮือกเมื่อบทเรียนต่อไปเริ่มตามมา อธิศฝังจมูกโด่งลงบนซอกคอก่อนใช้ริมฝีปากขบเนื้ออ่อน

ตรงนั้น แล้วตามต่อด้วยปลายลิ้นราวกับเขาเป็นไอศกรีมรสหวานที่น่าลิ้มลอง

ธีทัตอยากจะตะโกนก้องบอกให้หนุ่มตาชั้นเดียวหยุดการกระทำเช่นนี้ แต่ก็ต้องตกใจที่เสียงที่ตนส่งไป

กลับเป็นเสียงครางเบาๆอย่างสุขสม

อธิศยิ้มอย่างพอใจ เขาโจมตีต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ใช้โอกาสที่ธีทัตยังคงหลงทางให้เป็น

ประโยชน์ ลอบถอดเสื้อยืดตัวบางผ่านศีรษะของหนุ่มน้อยโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึก

เขาก้มตัวลงเปลี่ยนเป้าหมายไปโจมตีเม็ดบัวเม็ดน้อย ธีทัตผวาเฮือก แอ่นตัวยืดขึ้นก่อนใช้สองแขนกอดรัด

แน่นรอบตัวของหนุ่มตาชั้นเดียว

อธิศนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย เมื่อปลายนิ้วของหนุ่มหน้าหวานเฉี่ยวไปที่แผลของเขา

เอื้อมมือไปจัดการกางเกงตัวหลวมของธีทัตให้พ้นไปจากพันธนาการของร่างกายเป็นชิ้นสุดท้าย

แล้วจึงใช้มือไปเกาะกุมแกนกลางของร่างกายหนุ่มหน้าหวาน

ธีทัตถึงกับสะดุ้งเมื่อมือร้อนผ่าวนั้นตรงเข้าจู่โจมจุดสำคัญ เหมือนสมองว่างเปล่าไร้ซึ่งความคิด

หรือสติสัมปชัญญะใดๆที่จะสามารถประคองตัวอยู่ได้ จนไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายก็เร่งจัดการกำจัด

พันธนาการออกจากส่วนล่างจากร่างกายเช่นกัน

เหลือเพียงกายแนบกาย เนื้อแนบเนื้อที่เสียดสี ร้อนแรงราวกับสามารถจุดประกายไฟขึ้นมาได้

อธิศครางเสียงแผ่วเบาเมื่อเขาดึงมือของหนุ่มน้อยจากการโอบรัดให้เป็นฝ่ายมาเกาะกุมแกนกลางของ

เขาบ้าง

ธีทัตร้อนวูบไปทั่วร่างเมื่อรู้สึกว่าชิ้นกล้ามเนื้อที่อธิศบังคับให้ตนเกาะกุมนั้นขยายตัวขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

หนุ่มตาชั้นเดียวกลับมาวนเวียนแสวงหาความหวานจากริมฝีปากของเขาอีกครั้ง โดยที่ยังไม่ยอมปล่อยมือ

ที่บังคับให้ธีทัตเกาะกุมอยู่ อธิศค่อยๆประคองกึ่งควบคุมให้ธีทัตเดินถอยหลังไปจนแผ่นหลังของหนุ่ม

ตาหวานประชิดผนังห้อง                                         

อธิศหยุดซุกไซ้หาความหวานจากใบหน้าของเขาชั่วครู่ แล้วเอ่ยเสียงสั่น

“ผมจะบอกรักคุณแล้วนะ

โดยไม่รอคำตอบอธิศจับตัวธีทัตหันหน้าเข้าหากำแพง และจับมือของหนุ่มตาหวานให้ดันกำแพงนั้นไว้

มือขวาของคนอยู่เบื้องหลังเอื้อมไปโอบกอดรัดรอบตัวคนด้านหน้า ก่อนใช้มือซ้ายไปประคองใบหน้าของ

ธีทัตให้หันมาทางด้านข้าง

ต้นขาแกร่งของคนเบื้องหลังบดเบียดทับทาบใช้ความแข็งแรงดันขาของธีทัตให้แยกจากกันแล้วเบียดอัด

ลำตัวของเขาแนบแน่น ก่อนที่จะดันแกนกลางของเขาเข้าไปในรวมในร่างของหนุ่มน้อยตาหวาน

ธีทัตเบิกตากว้างกับความรู้สึกเจ็บปวดราวกับร่างกายที่แทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยง เขาแทบจะตะโกน

ร้อง แต่เสียงนั้นก็หายไปเพียงเพราะมันถูกปิดด้วยริมฝีปากของชายเบื้องหลัง

อธิศสอนบทเรียนที่สำคัญที่สุดอย่างโหยหาเรียกร้อง เขาขยับเอวเป็นจังหวะนุ่มนวล มือที่โอบกายหนุ่ม

น้อยไว้เลื่อนไปกุมจุดสำคัญด้านหน้าอีกครั้งพร้อมกับริมฝีปากที่บดเคล้าที่รุนแรงขึ้น

ธีทัตแทบจะยืนไม่อยู่กล้ามเนื้อทุกส่วนสั่นสะท้านความเจ็บปวดช่วงแรกหายไป กลับกลายเป็นความรู้สึก

แปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัส

อธิศเกร็งช่วงล่าง ค่อยๆผ่อนลมหายใจเข้าออก เขาหยุดพักชั่วขณะ ในขณะที่ธีทัตเองก็ผวาเมื่อเขาหยุด

หนุ่มตาหวานเป็นฝ่ายเกร็งกล้ามเนื้อภายในอย่างเรียกร้อง

อธิศปล่อยใบหน้าของธีทัตให้เป็นอิสระ ก่อนกระซิบว่า

“ใจเย็นนะ อย่าเพิ่งรีบ

เขาใช้แขนโอบรัดรอบลำตัวของคนเบื้องหน้าจนแน่นก่อนยกตัวธีทัตลอยจากพื้นโดยที่ไม่ยอมให้ร่างแยกจาก

กัน  เดินถอยหลังเพียงสองก้าวก็ถึงเตียงเล็ก

อธิศทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงแล้วให้ธนทัตนั่งอยู่บนต้นขาของเขา สองแขนที่โอบรอบลำตัวขยับสอนให้

ธีทัตขยับยกสะโพกเป็นจังหวะ

พร้อมกันกับเขา

ราวกับดนตรีที่บรรเลงเข้าคู่กัน ธีทัตเกร็งตัวบิดเร่า รู้สึกได้ถึงกล้ามเนื้อส่วนนั้นที่เขม็งเกลียวแน่นไม่อาจบังคับ

ได้

อธิศเองก็บังคับแกนกลางอย่างที่สุดเมื่อรู้สึกถึงการรัดรึงที่ส่งผ่าน จวบจนกระทั่งธีทัตระเบิดเสียงคราง

ไม่เป็นภาษาและกล้ามเนื้อเกร็งแน่นยาวนานสั่นสะท้านทั้งร่าง อธิศจึงปล่อยตัวตนให้ระเบิดตามมา

ธีทัตที่อยู่เบื้องบนขณะนี้ปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับความสุขที่อธิศสอนและมอบให้ ร่างกายยังไม่หยุด

สั่น ก่อนที่เขารำพึงออกมาอย่างบังคับใจไม่ได้

“พี่ซัน ผมรักพี่



หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 19-02-2014 19:32:43

                                 รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                                   บทที่ 23




ธีทัตลืมตามองเพดานอย่างทำใจไม่ถูกเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป

มันเป็นไปแล้ว มันเกิดขึ้นไปแล้ว มันหวนกลับมาไม่ได้อีก

แต่ถ้าย้อนเวลากลับไป เขาก็คงตัดสินใจเช่นเดิม

เขาลอบถอนหายใจแผ่วๆ ไม่อยากให้คนที่นอนหลับใหลอยู่ข้างๆรู้สึกถึงความว้าวุ่นเมื่อคิดไปถึงเหตุการณ์

ในอนาคต

ความผูกพันมักเป็นดาบสองคมเสมอ อาจทำให้เรามีความสุขกับคนที่เรารัก หรืออาจนำมาซึ่งอันตราย

รู้สึกถึงอ้อมแขนของคนข้างๆ ย้ายที่มาวางพาดรอบกาย ก่อนที่จมูกโด่งนั้นจะมาวนเวียนอยู่แถวใบหน้า

“นอนไม่หลับหรือ คิดเรื่องอะไร”

 อธิศเอ่ยถามเบาๆ ก่อนจะฝังจมูกไว้ที่ซอกคอให้ขนลุกเล่น

“คิดถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรครับ พี่ซัน”

ธีทัตตอบกลับเสียงเบา จนอธิศผงกหัวมาสบตา

“อย่าคิดถึงหรือเป็นห่วงในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเลย เครียดเปล่าๆ ปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”

อธิศใช้นิ้วมือเกลี่ยปลายผมที่ปรกหน้าผากของหนุ่มตาหวานก่อนก้มไปหอมเบาๆ

“แล้วตอนนี้ ปัจจุบันนี้ ผมดีใจมากนะที่มีคุณอยู่ข้างๆ”

ธีทัตรู้สึกถึงความอบอุ่นได้จากรอยยิ้มและคำพูด

อธิศก้มลงและเล็มที่กลีบปากหวานเนิ่นนานก่อนจะกระซิบข้างๆหู


“ว่าแต่ตอนนี้ ปัจจุบันนี้ คุณจะยอมให้ผมบอกรักคุณอีกสักครั้งได้ไหม กันดั้ม”




 
 
เสียงทุบประตูดังขึ้นถี่ๆ ทำให้ทั้งอธิศและธีทัตสะดุ้งสุดตัว ในตอนเช้า

ธีทัตทะลึ่งพรวดลุกขึ้นแล้วกระโดดไปที่ประตู เขาจับลูกบิดในท่าระวังแล้วตะโกนถาม

“ใคร”

เสียงภายนอกเงียบไปชั่วครู่ก่อนคำตอบที่ได้กลับมาจะทำอธิศที่อยู่ภายในห้องหนาวยะเยือก

“ฉันเอง”

 เสียงของบิดาธีทัตดังขึ้นภายนอกทำให้ผู้เป็นบุตรชายยืนหน้าซีด เขาหันมามองหน้าอธิศอีกครั้ง

ก่อนตัดสินใจเปิดประตู

นายธนาก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วรวมทั้งคนสนิทอีกสองคน  ก่อนที่จะมายืนอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่ม

ทั้งสอง อธิศมองเห็นเคนและก้องยืนหน้าขรึมอยู่ด้านนอก

นายธนามองหน้าธีทัตและอธิศสลับกันอย่างเดือดดาลก่อนที่ฝ่ามือของเขาจะลอยละลิ่วมาปะทะ

ใบหน้าหวานของบุตรชายจนหันตามแรงฝ่ามือ และปรากฏเป็นรอยมือรอยใหญ่

อธิศผวาเข้าหาแต่กลับถูกลูกน้องนายธนาตรงเข้าจับตัว เขาพยายามดิ้นแต่ไม่เป็นผลจึงได้แต่มองไปที่

ธีทัตด้วยความห่วงใย

“แกทำอะไรของแก”

 ธนาตวาดลั่น ธีทัตหันกลับมามองหน้าผู้เป็นบิดาด้วยความผิดหวัง

“ฉันก็หลงเป็นห่วงแก อุตส่าห์ให้คนตามหา ทั้งๆที่แกไม่เคยคิดจะเป็นห่วงตัวเองเลย แล้วนี่อะไร”

เขาชี้หน้าอธิศ

 “แกมัวแต่มายุ่งอยู่กับไอ้คนที่เพิ่งรู้จัก ฉันถามแกจริงๆ แกเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า”

ธีทัตมองหน้าผู้เป็นบิดา ความรู้สึกเจ็บปวดที่โดนตบหน้ายังไม่เท่าความเจ็บใจที่คนตรงหน้าด่าทอ

ตาที่เคยหวานบัดนี้แดงกล่ำ เขากัดฟันกลั้นน้ำตาไว้

“แล้วถ้าผมเป็นจริงๆ พ่อจะทำอะไรครับ”

ธีทัตเงยหน้ามองคนเป็นบิดาด้วยหางตา

 “เกิดจะมาสนใจเอาตอนนี้ ช้าไปไหมครับพ่อ”

 ธีทัตเน้นตรงคำท้ายยิ่งเป็นการยั่วนายธนาให้เกิดโทสะ

“ไอ้กัน”

 นายธนาเงื้อมือขึ้นอีกครั้ง ธีทัตเกร็งกล้ามเนื้อใบหน้าขึ้นรอรับ

อธิศอาศัยทีเผลอสะบัดหลุดจากการเกาะกุมถลันเข้าไปขวางกั้นระหว่างพ่อกับลูก มือใหญ่ที่เงื้อแล้วสะบัดนั้น

จึงกระทบกับใบหน้าของเขาเต็มๆ

นายธนาเองก็ยืนอึ้งกับเหตุการณ์ตรงหน้า เขาสบตากับอธิศที่ยังคงยืนกั้นกลางระหว่างเขาและบุตรชาย

ไม่ยอมขยับ

“อย่าทำกันดั้มเลยครับ ผมขอร้อง”

หนุ่มตาชั้นเดียวยกมือไหว้

“กันดั้มน่าสงสารมาก คุณอย่าดุแกงส้มเลย”

 เสียงนั้นอ่อนโยนและวอนขอไม่มีทีท่าโกรธเคืองกับความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

เป็นนายธนาที่นิ่งไปด้วยความคาดไม่ถึง ผู้ชายคนนี้กล้าดีอย่างไรถึงได้มาขอเช่นนี้ ทั้งๆที่เขาก็ลงมือขนาดนี้

ผู้เป็นบิดาออกคำสั่งกับลูกน้อง

“เอาตัวเจ้ากันกลับไป “

 ธีทัตผวา

“ไม่นะพ่อ ผมไม่กลับ”

ลูกน้องคนสนิทตรงดิ่งมายึดแขนผู้เป็นนายน้อยไว้ แม้ธีทัตจะดื้อดึงดันแค่ไหน ก็ไม่สามารถสลัดหลุดได้

อธิศพยายามจะเข้ามาช่วย ก็ถูกอีกคนหนึ่งมาจับตัวไว้

“นายครับ แล้วเจ้านี่เอาไง”

คนที่จับตัวเขาไว้ถามขึ้น

“ปล่อยไว้ที่นี่แหละ มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมัน”

นายธนาสั่ง แล้วหันมามองหน้าคนเป็นบุตรชาย

ธีทัตหยุดดิ้น เพราะรู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ เขามองผู้เป็นบิดาอย่างโกรธแค้น ชิงชัง

ธนาถอนใจกับสายตาที่ธีทัตมองมา ทำไมเขาจะไม่รู้ถึงความรู้สึกที่ส่งตรงมานั้น ได้แต่เบือนหน้าหนี

แล้วออกคำสั่ง

“กลับ”

ธีทัตผวาอีกรอบนึกเป็นห่วงอธิศ

 “พี่ซัน”

เขาตะโกนออกไป ก่อนที่จะถูกลากไปด้วยลูกน้องผู้เป็นบิดา

ชายที่ยึดตัวอธิศไว้เหวี่ยงตัวเขาไปกลางห้อง ชายหนุ่มรีบหมุนตัวกลับหมายจะวิ่งไปช่วยธีทัต

             ผลั่กกก..


ชายคนที่เพิ่งเหวี่ยงตัวเขาต่อยเข้าที่รอยแผลที่ยังคงไม่หายดี อธิศร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดราวกับแผล 

นั้นจะแยกตัวเขาให้เป็นชิ้นๆ ความเจ็บปวดทำให้ต้องทรุดตัวลง แล้วชายคนนั้นก็รีบเดินตามผู้เป็นนาย

ออกไป

อธิศกัดฟันประคองตัวลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งตามบุคคลทั้งหมดไป จนถึงถนนหน้าโรงแรม

สิ่งที่เห็นมีเพียงท้ายรถหรูที่ขับออกไปอย่างรวดเร็ว เขาตะโกนเรียกหนุ่มน้อยตาหวานดังลั่น

แต่สิ่งที่ทำให้ก็มีเพียงคุกเข่าลงนั่งอยู่กลางถนน มองขบวนรถที่แล่นไปลับตา...






หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 19-02-2014 23:06:27
ซันไปเอากันดั้มกลับมานะ :sad4:

แล้วฝากตัวเป็นลูกเขยมาเฟียยึดเอาอำนาจซะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 19-02-2014 23:44:24
ลุ้นๆ

พ่อหนุ่มตาชั้นเดียวจะเป็นยังไงต่อไปน๊าาาา  :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 20-02-2014 09:59:14
กันดั้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม :hao5: :ling1: :angry2: :serius2: :o12: :sad4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 20-02-2014 10:06:05
ทำไมคุณพ่อไม่มีเหตุผลเอาซะเลยนะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 23 [ 19/02/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 20-02-2014 13:21:51
ใครทำพี่ซันนนนนนนนนนน ฆ่ามานนนนนนมาทำพี่ซันเราได้อย่างไงงงงงงง
คุณพ่อใจร้ายมากจริงๆนะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 24 [ 04 /03 /2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 04-03-2014 12:35:09


                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                           บทที่ 24


ธีทัตถูกดันและผลักให้เข้าไปในห้องของเขา ชายหนุ่มฮึดฮัดก่อนหันไปคว้าแจกันแก้วใบใหญ่ขว้างไปที่

ลูกน้องของผู้เป็นบิดาเพื่อระบายอารมณ์ ชายคนนั้นหลบฉากแจกันแก้วจึงลอยไปกระทบกับฝาผนังแตก

กระจาย

“ไอ้กัน”

นายธนาเดินเข้ามาคว้าคอเสื้อผู้เป็นบุตรชายแล้วส่งเสียงดัง

“หยุดบ้าได้แล้ว ฉันไม่เคยสอนให้แกทำตัวอย่างนี้”

ธีทัตดึงมือผู้เป็นบิดาออกจากคอเสื้อพลางสบตาคนเป็นพ่อ

ธนาได้แต่นึกสะท้อนอยู่ในหัวอก เมื่อเห็นแววตาของลูกชายคนเดียวนั้นแดงก่ำ มีแต่ความเจ็บช้ำตัดพ้อ

และโกรธเคืองส่งผ่านมา เขาเองได้แต่หวังว่าเมื่อเหตุการณ์ร้ายๆผ่านไปธีทัตจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องทำ

“ใช่ครับ พ่อไม่เคยสอน แต่ทุกสิ่งที่พ่อทำลงไปบีบให้ผมต้องทำตัวอย่างนี้”

ธีทัตอดทนไม่ไหวที่จะเก็บงำความรู้สึก การที่บิดาของตนได้กันอธิศไปจากชีวิตนั้น

เหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ความรู้สึกเก็บกดต่อผู้เป็นบิดาขาดสะบั้น และเขาก็ไม่เห็นความจำเป็น

ที่จะต้องเก็บมันไว้อีกต่อไป

“ตั้งแต่เด็กจนโตพ่อบังคับให้ผมทำตามใจพ่อมาตลอด ทั้งเรื่องเรียนเรื่องเที่ยว ชีวิตส่วนตัว ไม่เคยมีสักครั้งที่

ผมได้เป็นตัวของตัวเอง “

ธีทัตระเบิดคำพูดที่อยู่ในใจพร้อมกับเช็ดน้ำตาที่มันหลั่งไหลออกมาราวทำนบแตก

“แล้วมันไม่ดีตรงไหน เจ้ากัน”

นายธนาเสียงดังตอบ

“ที่ฉันพยายามทำทุกวันนี้ก็เพื่อให้แกมีเงินใช้ สุขสบายจะได้ไม่ลำบากเหมือนในอดีต ฉันทูนหัวทูนเกล้า

ให้แกทุกอย่างที่จะหาได้ในโลก แกยังไม่พอใจหรือ”

“ไม่”

ธีทัตตะโกนก้อง

“ผมไม่ได้ต้องการแก้วแหวนเงินทองของพ่อ สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือความอบอุ่นจากพ่อ

อยากให้พ่อมากอดผมบ้างเวลาผมไม่สบายใจ อยากได้ยินพ่อปลอบผมเวลาผมทุกข์ พ่อให้ผมได้ไหม “

นายธนายืนอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากคนเป็นบุตร นี่เขาพลาดอะไรไปหรือเปล่า

“ผมแสวงหาและรอคอยแค่สิ่งเหล่านี้จากพ่อ รอว่าเมื่อไหร่ที่พ่อจะมีให้ผมได้บ้าง แต่ก็ไม่มี ในขณะที่ผู้ชาย

คนนั้น คนที่พ่อบอกว่าไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้านั่นแหละเค้ามีสิ่งเหล่านี้ให้ผม เค้ามีให้ในสิ่งที่ผมต้องการ

แล้วอย่างนี้ พ่อจะไม่ให้ผมรักเขาได้อย่างไร”

ธีทัตหันหลังให้คนเป็นพ่อพยายามกลั้นสะอื้นไว้แต่ก็ไม่สำเร็จ สิ่งที่นายธนาเห็นนั้นจึงเป็นแผ่นหลังสูงใหญ่

ของคนเป็นลูกชายที่สั่นสะท้านจากการร้องไห้ เขาเดินเข้าไปใกล้ร่างนั้น เอื้อมมือจะไปวางลงบนบ่าของ

ธีทัต แต่ก็ยังไม่กล้า มือใหญ่นั้นจึงตกลงมาข้างตัว

ธีทัตจึงไม่ได้เห็นชายที่มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจมืดต้องเดินคอตกออกไปจากห้องของผู้เป็นบุตรชาย





อธิศเบียดตัวเข้าแทรกกับฝูงชนบนรถไฟฟ้าในเย็นวันจันทร์เพื่อกลับคอนโด ยังคงเสียวแปลบที่ไหล่ขวา

กับแผลที่ยังไม่หายสนิท

กลับมาทำงานเป็นปกติหลังจากที่ลางานไป 3 วัน พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ นับรวมไปถึง เสาร์และอาทิตย์ที่เรื่อง

ทั้งหมดเกิดขึ้น

เมื่อเช้าวานนี้เองที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวที่นครราชสีมา ก่อนที่จะหาทางซมซานกลับมาถึงกรุงเทพได้เมื่อบ่าย

แล้ว

กลับมาใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้แต่เพื่อนร่วมงานก็ไม่ได้สงสัยที่เขาลาป่วยไปสามวัน

มีแต่ตัวเขาเองเท่านั้นที่รู้ รู้ว่าทุกสิ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว มันเหมือนมีอะไรที่ได้มาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ในชีวิต แล้วสิ่งเหล่านั้นก็ลอยหายไป   เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียง 5 วันเท่านั้น แต่เป็น 5 วันที่เขาต้อง

จดจำไปตลอดชีวิต

เขาเดินทอดน่องอย่างไร้อารมณ์ไปเรื่อยๆ ในทางเข้าคอนโดของเขา เหมือนอย่างคืนนั้นวันนั้นที่เป็นต้นเหตุ

ของเรื่องทั้งหมด แล้วก็ต้องหยุดชะงัก

เสียงเครื่องยนต์จากรถยี่ห้อแพงแล่นมาจอดดักทาง ชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกรูกันลงจากรถ

อธิศสะดุ้งวาบเมื่อเห็น หนึ่งในนั้นคือหนึ่งในห้าที่เขาและธีทัตมีเรื่องด้วยที่น้ำตกแน่นอน

หันกลับเตรียมใส่เกียร์นักวิ่งทีมชาติ แต่ก็ไม่ทัน

เขาโดนจับและถูกผลักเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว โดยที่ยังทำอะไรไม่ทันแม้แต่ตะโกนขอความช่วยเหลือ





อธิศถูกบังคับให้นั่งลงในห้องเล็กของบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง เขากวาดสายตาไปทั่วๆ ก็แทบจะหยุดหายใจ

นอกจากคนที่มีเรื่องกันที่น้ำตกแล้ว คนที่เขาเห็นหน้าสองคนในคืนวันเกิดเหตุก็อยู่ในห้องหลังนี้ด้วย

เขาหยุดสายตาที่ชายคนหนึ่งซึ่งนั่งตรงข้าม เหมือนจะเคยเห็นตามข่าวสังคม เขานึกแปลกใจที่คนๆนี้จะเป็น

หัวหน้ากลุ่มที่มีปัญหากับคนเป็นบิดาของธีทัต

ชายคนนั้นเลิกคิ้วมองอย่างแปลกใจเมื่อเห็นหน้าของเขา ก่อนหันกลับไปถามคนจับตัวมาเพื่อความแน่ใจ

ว่าไม่ผิดตัว เขาจึงหันกลับมาแล้วเริ่มต้นพูด

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจ คุณไม่เจ็บตรงไหนนะ”

เขาเอ่ยถาม

“คุณจับตัวผมมาทำไม ผมทำอะไรให้คุณ”

อธิศทำใจดีสู้เสือถาม ชายผู้เป็นหัวหน้ากระตุกยิ้มก่อนตอบ

“อ้อ..คุณไม่ได้ทำอะไรผมหรอก นอกจากเอามีดเสียบพุงลูกน้องผมไปหนึ่งคน และนอกจากนั้น ผมได้ข่าว

มา...” 

คนเป็นหัวหน้า โน้มตัวมาพูดจริงจัง 

“ข่าวว่า คุณเป็นคนสำคัญของลูกนายธนา จริงหรือเปล่า”

อธิศเสียววาบเมื่อเดาความคิดของอีกฝ่ายได้ เขารีบปฏิเสธปากสั่น

แต่ดูเหมือนชายคนนั้นจะเชื่อมั่นในเรื่องที่รู้มา จึงหัวเราะอย่างเป็นต่อ

“คุณจะปฏิเสธก็ไม่เป็นไร แต่ยังไงผมก็ต้องให้คุณอยู่กับผมก่อน จนกว่าผมจะได้ตัวลูกชายเจ้าธนามา”


อธิศตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วินาทีนี้ได้แต่ภาวนาให้นายธนาคุมตัวธีทัตไว้ให้สำเร็จ



หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 24 [ 04/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-03-2014 12:45:19
พี่ซันแย่อีกละ
ถ้าพ่อกันดั้มไม่ช่วยก็ใจดำมากๆอะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 24 [ 04/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 04-03-2014 17:12:10
ซวยแล้วพี่ซันนน  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 24 [ 04/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 04-03-2014 22:39:56
 :katai1: อ้าว แย่แล้ว
สรุปว่า กันดั้มต้องมาช่วยพี่ซันเหรอเนี่ย
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 25 [ 14/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-03-2014 22:41:09


                         รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                            บทที่ 25


ธีทัตนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เนื่องจากผู้เป็นบิดาสั่งกักบริเวณไม่ให้ไปไหน

เขานอนมองเพดานราวกับจะให้มันเป็นจอภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องที่ผ่านมาระหว่างเขากับอธิศซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ใจก็นึกเป็นห่วงหนุ่มตาชั้นเดียวเพราะรู้ดีว่าอาการบาดเจ็บนั้นยังไม่หายสนิท ธีทัตได้แต่ยก

สองมือขึ้นลูบหน้าอย่างกลัดกลุ้ม

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นธีทัตยกขึ้นดูก็เห็นเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นตา เขากดปุ่มตอบรับแล้วยกขึ้นแนบหูอย่างเซ็งๆ

“คุณธีทัต”

เสียงไม่คุ้นหูแว่วมาจากในโทรศัพท์

“ตอนนี้คุณอธิศอยู่กับผม”

จบประโยคนั้นนั่นเองที่ทำให้หนุ่มตาหวานลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ

“ว่าอะไรนะ”

เขาตะโกนถาม

“จริงๆก็ไม่อยากให้เขามาเดือดร้อนด้วยหรอก แต่บังเอิญว่าอยากจะเชิญคุณมาเป็นแขกสักหน่อย ก็เลยต้องให้

คุณคนนั้นเขามารอก่อน”

เสียงนั้นยังพูดมาเรื่อยๆ แต่มันกลับทำให้ธีทัตแทบจะลุกเป็นไฟ

“เอาเป็นว่าถ้าอยากจะมาเยี่ยมเยียนกันก็มาที่…”

เสียงตามสายนั้นบอกสถานที่มาก่อนที่จะตัดไปโดยที่ไม่ปล่อยให้ธีทัตซักถามมากไปกว่านั้น

ธีทัตตั้งสติ เขายกมือขึ้นนวดขมับด้วยความกลุ้ม พยายามข่มความร้อนใจและคิดหาหนทางก่อนที่จะตัดสินใจ

กดโทรศัพท์หาก้อง คนสนิท

ก้องก้าวเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็วทันใจคนเป็นเจ้านาย ธีทัตสบตาก้องเพื่อหยั่งความรู้สึก

“ก้อง ฉันกับแกก็เป็นเพื่อนเล่นกันมานานนะ”

คนเป็นนายเริ่มเอ่ยกับคนที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้อง

“ฉันคิดอะไร เป็นยังไง แกน่าจะเดาออก เมื่อตะกี้มีโทรศัพท์มาหาฉัน บอกว่าเขาจับพี่ซันไว้”

ธีทัตเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าก้องพลางสบตาขอร้อง

“พี่ซันคือคนสำคัญของฉัน ถ้าฉันอยากจะขอร้องแกให้ช่วย”

ก้องสบตาคนเป็นนาย ดูเหมือนว่าเขาจะไม่แปลกใจที่ธีทัตพูดคำนั้นออกมา

“ถ้าคนๆนั้นเป็นคนสำคัญของนาย ผมก็ตกลง”

คนเป็นลูกน้องเอ่ยขึ้น ธีทัตยิ้มและตบไหล่ก้องอย่างยินดี

“แล้วเราจะออกไปกันอย่างไรล่ะนาย นายใหญ่สั่งกักบริเวณขนาดนี้”

ก้องคิดไม่ตกแต่ธีทัตก็ยังยิ้มได้

“ไม่มีอะไรขัดขวางได้หรอก ถ้าจะไปจริงๆ จำทางที่พวกเราแอบหนีไปตอนเด็กๆไม่ได้หรือ”

ก้องตกใจ

“ไอ้ทางหมาลอดนั่นน่ะนะ นายเอาจริงดิ”

ก้องถามย้ำ ธีทัตพยักหน้า

“ทางนั้นแหละ มีแค่เราสองคนที่รู้นะก้อง”





พุ่มไม้เลื้อยที่ปกคลุมหนาแน่นบดบังช่องเล็กๆที่แตกเป็นช่องโหว่พอให้คนลอดได้ของกำแพงหนาหลังบ้าน

เริ่มชยับสั่นไหว ก้องใช้มือค่อยๆ ดึงกิ่งไม้ที่รกเรื้อออก เนื่องจากเขาและธีทัตผู้เป็นนายไม่ได้ใช้เส้นทางนี้

นานแล้วพุ่มไม้นี้จึงขึ้นรกยิ่งกว่าเดิมจนแทบไม่มีใครรู้

เป็นการดียิ่งสำหรับงานนี้ที่สองหนุ่มเจ้านายและลูกน้องจะแอบหนีไปด้วยกันอีกเหมือนสมัยวัยเยาว์

ก้องเองก็นึกสนุกไม่น้อย จัดการกับพุ่มไม้ได้พอตัวผ่าน เขาก็คลานมุดลอดช่องกำแพงไปไม่ยากนัก

แต่ติดตรงคนตามทีหลัง เพราะธีทัตตัวสูงใหญ่กว่าก้อง ช่องทางที่เคยมุดตัวออกไปได้ดูจะแคบลง

ธีทัตมองซ้ายขวา ก่อนคว้าเอาเศษอิฐมาถือและส่งให้ก้องที่ไปรออีกฝั่งช่วยกันค่อยกะเทาะกำแพงออกให้

ช่องกว้างขึ้น จนเริ่มได้เหงื่อกำแพงก็กว้างพอสมใจ

หนุ่มตาหวานค่อยๆมุดตัวออกไปภายนอก ก่อนที่จะพ้นหมดตัว เขาหันกลับมามองลอดช่องกำแพง เพื่อ

มองบ้านที่คุ้นเคยอีกครั้ง

ไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อชีวิต แต่จะร้ายหรือดี เขาได้ตัดสินใจแล้วที่จะทำตามที่ใจ

เรียกร้องเป็นครั้งแรก

และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย..

นึกถึงคนเป็นบิดาอย่างอาลัย ถึงแม้ความสัมพันธ์จะไม่ลงรอยกันนัก แต่เขาก็รักคนเป็นบิดาเช่นกัน

ธีทัตถอนหายใจ ก่อนจะมุดลอดช่องกำแพงออกไปจนหมดตัว แล้วยืนขึ้นยืดตัวตรงโดยมีก้องยืนข้างกาย

ลูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ราวกับว่านี่คือลมหายใจแห่งอิสรภาพที่เขาได้สัมผัสมันเป็นครั้งแรก

ใจคิดไปถึงหนุ่มตาชั้นเดียวที่เขาเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ ก่อนหันไปสบตากับคนเป็นลูกน้อง

มีกันแค่สองคน ... แต่ก็ต้องไป

รอก่อนนะครับพี่ซัน ผมจะไปหาพี่เดี๋ยวนี้





หลายมื้อแล้วที่คนเป็นนายน้อยรับประทานอาหารไม่หมด นายบุญ พ่อบ้านเก่าแก่ของนายธนานึกในใจ

อย่างเป็นห่วง

คราวนี้นายน้อยทะเลาะกับผู้เป็นบิดารุนแรงจนมีคำสั่งให้อยู่แต่ภายในรั้วบ้าน แต่นายน้อยเองก็หมกตัวอยู่

แต่ในห้องไม่ยอมออกมาภายนอกห้องเช่นกัน จนนายบุญต้องเป็นฝ่ายยกอาหารมาให้ทุกมื้อ

มื้อนี้ก็เช่นกัน เขาเคาะประตูห้องเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนเปิดประตูเข้าไปและมองหาผู้เป็นนาย

โดยปกตินายน้อยจะชอบนั่งที่ริมหน้าต่าง แต่วันนี้ไม่มีแม้แต่เงา เขาจึงรีบวางถาดอาหารแล้วหาคนเป็นนาย

ทุกซอกมุม

สายตาเหลือบไปเห็นเศษกระดาษแผ่นเล็กที่ตกอยู่บนเตียง นายบุญหยิบขึ้นมาดูเห็นลายมือคนเป็นนายจด

ที่อยู่ที่ไหนสักแห่งไว้

เพ่งมองแล้วคิดตามถึงที่อยู่นี้ พลันเดาเหตุการณ์ทุกอย่างปะติดปะต่อ ก่อนจะตกใจจนแทบสิ้นสติ

เขาวิ่งออกไปนอกห้องแล้วตะโกนโวยวาย

“นายใหญ่ แย่แล้ว นายน้อยไปหาพวกมันแล้ว”










หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 25 [ 14/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 15-03-2014 00:09:58
 :katai1: ลุ้นๆๆๆ รีบๆไปช่วยพี่ซันเร็ว
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 25 [ 14/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 15-03-2014 07:01:23
อ๊ากกกกก นายใหญ่จะไปช่วยกันดั้มไหม
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 25 [ 14/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 27-03-2014 05:03:37
ขอให้ไปหาและะกลับมาอย่างปลอดภัย ทั้งคู่นะ  :ruready
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 26 [ 30/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 30-03-2014 12:12:01


                   รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                     บทที่ 26



อธิศเดินไปมาเหมือนหนูติดจั่น ไม่ได้ถูกมัดหรือพันธนาการใดๆอย่างที่คิด

แต่ก็ถูกกักขังให้อยู่แต่ในห้องเล็กๆไปไหนไม่ได้

นึกแปลกใจในความขัดแย้งของนักธุรกิจใหญ่สองคนที่ลงทุนถึงขั้นมีการฆาตกรรม  และจนถึงขั้นใช้เขาเป็น

ตัวล่อให้คนเป็นลูกของอีกฝ่ายเข้ามาในวงล้อม

นึกเป็นห่วงก็แต่เจ้าหนุ่มตาหวานที่อารมณ์ร้อนจนยากที่ห้ามได้

คิด คิด คิด ถึงวิธีที่จะแก้ไขสถานการณ์ จนตัดสินใจล้วงโทรศัพท์เครื่องเก่าที่แอบอยู่ในกระเป๋ากางเกง

รอดจากการถูกยึดมาได้เนื่องจากเป็นมือถือจอขาวดำเก่าแก่แถมหน้าจอเป็นรอยร้าว

จนอาจไม่เป็นที่คาดคิดว่ามันจะยังคงใช้งานได้อีก

กดเปิดเครื่องรอให้การค้นหาสัญญาณโทรศัพท์เรียบร้อย อธิศกดเบอร์ที่คุ้นอยู่ในใจ แล้วรอให้ปลายทาง

รับสาย

“ป๊าเหรอ ซันเองครับ”





ทันทีที่ธีทัตและเจนหยุดยืนที่ประตูรั้ว ประตูนั้นก็ถูกเปิดออก

ธีทัตยืดตัวตรง หลังตรงหน้าเชิด ดวงตายโส ราวกับไม่มีใครอยู่ในสายตาได้กลับคืนมาหาอีกครั้ง

เขาก้าวเดินอย่างสง่าผ่านเข้าไปด้านใน ผ่านบรรดาสมุนนับสิบเข้าไปกับก้องเพียงสองคนจนถึงเก้าอี้รับแขก

ที่มีเจ้าของถิ่นนั่งรออยู่

ธีทัตเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนตรงหน้า

“ไม่นึกว่าจะเป็นคุณ”

ธีทัตเอ่ยทักคำแรก 

“คุณอาบดินทร์” 

ชายหนุ่มเอ่ยชื่อ ส.ส.ชื่อดังฝั่งรัฐบาลที่มีแนวโน้มว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีสมัยหน้า ไม่แปลกใจที่คนระดับนี้กลับมี

เบื้องหลังอยู่ในเงามืดเพียงแต่สงสัยที่คนๆนี้มามีปัญหากับผู้เป็นบิดาของเขาต่างหาก

“กล้าหาญใช้ได้นะ ที่มากันแค่สองคน แสดงว่าข่าวที่ได้มาเป็นความจริง”

คนสูงวัยกว่ายิ้มที่มุมปาก

“คนที่ผมเชิญมาคงมีอิทธิพลต่อคุณจริงๆ”

ปลายเสียงส่งมาเป็นเชิงเยาะ จุดประกายโทสะไหววูบในดวงตาคนอ่อนวัยกว่าก่อนจะจางหายไปด้วยการ

ควบคุมอารมณ์ที่ได้รับการสั่งสอนมาแต่เด็ก

ธีทัตเป็นฝ่ายกระตุกยิ้มให้คนอาวุโสบ้าง

“ผมก็นึกไม่ถึงเหมือนกัน ว่าคุณมีปัญหากับพ่อถึงกับต้องไปจับตัวคนที่คุณเองก็ไม่รู้จักมาเป็นเหยื่อล่อ

เพื่อให้ผมมาติดกับ ช่างเป็นวิธีที่กล้าหาญเช่นกัน”

ได้ผล ว่าที่รัฐมนตรีมีใบหน้าโกรธจัดกับคำต่อว่าแสบๆ ของเด็กรุ่นลูก เขาทำท่าจะชักปืนออกจากเอว

แต่ช้ากว่าธีทัตและก้อง ที่คว้าปืนจากเอวมาเล็งตรงหน้าคนเป็นหัวหน้า ในขณะที่ลูกน้องของบดินทร์ก็เล็ง

ปืนมาที่สองหนุ่ม

“ไหนคุณบอกว่าเชิญผมมาคุย นี่ยังไม่ได้เริ่มคุย ก็จะใช้ไม้แข็งเลยหรือ”

ธีทัตส่งยิ้มกวนๆให้บดินทร์

“บอกลูกน้องคุณเก็บปืนดีกว่า คุณคงไม่อยากลองฝีมือของอดีตแชมป์เยาวชนยิงปืนทีมชาติอย่างผมหรอก

ใช่ไหม”

บดินทร์ชักสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ส่งสัญญาณให้ลูกน้องเก็บปืน ธีทัตและก้องเห็นว่าทุกคนเก็บปืนเรียบร้อย

จึงเก็บปืนไว้ที่เดิม

“เขาอยู่ที่ไหน”

ธีทัตเอ่ยถามเสียงเครียด

“รบกวนคุณช่วยพามาด้วย ไม่อย่างนั้นที่คุณให้ผมมาถึงที่นี่ก็ไม่เกิดประโยชน์”

บดินทร์หัวเราะในลำคอก่อนสั่งให้ลูกน้องนำตัวหนุ่มตาชั้นเดียวมา



อธิศถูกนำตัวมาที่ห้องเจรจา เขาสบตากับธีทัตอย่างเป็นห่วง คาดไว้ไม่มีผิดว่าเจ้าหนุ่มตาหวานคง

หาทางหนีออกมาจากบ้านไม่ยากด้วยความดื้อรั้นที่มีอยู่เต็มตัว ตอนนี้ได้แต่ภาวนาให้การแก้ไขปัญหาของ

เขาสำเร็จลุล่วงทันเวลา

ธีทัตสบตากับอธิศอย่างคลายกังวลไปได้เรื่องหนึ่งที่เห็นหนุ่มตาชั้นเดียวปลอดภัย ไม่มีถูกทำร้าย

หนุ่มตาหวานหันหน้ามาเจรจากับบดินทร์ต่อ

“คุณต้องการอะไรจากพ่อผม” 

บดินทร์โน้มตัวมาคุยกับเด็กรุ่นลูกอย่างจริงจัง

“ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มอีกสัก สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่อาต้องการจากพ่อของคุณ”

ธีทัตแทบจะยกมือกุมขมับ

แม้จะยังไม่ได้ลงไปช่วยคนเป็นบิดาอย่างเต็มตัวแต่เขาก็รู้ดีว่าที่บดินทร์ขอนั้น ไม่มีทางที่ธนาผู้เป็นพ่อ

จะยอมได้

“คุณอาก็ทราบว่าพ่อคงตัดสินใจเองไม่ได้”

เขาเริ่มเจรจา

“มันต้องแล้วแต่นายระดับสูงสุดไม่ใช่หรือ”

บดินทร์ชักสีหน้า เนื่องจากเหตุผลนี่แหละที่ทำให้เขาจัดการอะไรไม่ได้มากกว่านี้ ในเมื่อเขาทราบดีว่า เหนือ

จากเขา และธนา รวมถึงอีกหลายๆกลุ่ม ก็ยังอยู่ภายใต้การกำกับของนายระดับสูงสุดอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้

ควบคุมการค้าทั้งหมดตั้งแต่ประเทศไทย กินอาณาเขตไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน นายระดับสูงคนนี้เองจะ

เป็นคนจัดการส่วนแบ่งการตลาดทั้งหมด



“แต่ถึงนายใหญ่จะสั่งมา ฉันก็ไม่ยอมแกหรอก ไอ้บดินทร์

ธีทัตและอธิศแทบจะหงายหลังเมื่อได้ยินเสียงนั้น บดินทร์ทะลึ่งพรวดขึ้นยืนทันทีเมื่อเห็นคนที่บุกเข้ามาในบ้าน

พร้อมสมุนจำนวนไม่น้อย

“ไอ้ธนา!!”

บดินทร์ขบกรามกรอดเมื่อเห็นศัตรูทางการค้าบุกมาเยือนถึงถิ่น ธนาเดินเข้ามาประจันหน้า

“ทำไม ไอ้ขี้ขลาดที่ชอบเล่นสกปรก ทำได้แม้กระทั่งจับตัวคนไม่มีทางสู้มาเป็นตัวประกัน ถุย..”

ไม่ทันจบประโยค บดินทร์ก็ตรงเข้าชกหน้าผู้เป็นบิดาของธีทัต และทันทีที่คนเป็นนายของทั้งสองฝั่งเริ่มลง

มือ ลูกน้องก็พลอยตะลุมบอนกันไปด้วย

อธิศถือโอกาสพุ่งตัวเข้ามาดึงแขนของธีทัตให้มายืนหลบที่มุมห้องแม้เจ้าหนุ่มตาหวานจะสะบัดแขน

เพื่อจะเข้าไปช่วยผู้เป็นบิดา

“พี่ซัน ปล่อยผม ผมจะไปช่วยพ่อ”

ธีทัตพยายามดึงแขนของตนให้หลุดจากการดึงรั้งของอธิศ

“กันดั้ม มันอันตรายนะเชื่อผมเถอะ”

อธิศเพียรพยายามขอร้อง ธีทัตหันไปมองธนาอย่างละล้าละลังบดินทร์ใช้ช่วงชุลมุน

และธนาเสียหลักเข้าขัดขาจนธนาล้มลง ก่อนจะควักปืนจากเอวแล้วเล็งไปที่ธนา

“กันท่ากูนัก ก็อย่าอยู่ให้หนักโลกเลยมึง”

บดินทร์ง้างไกธีทัตใจหายวูบ เขาตัดสินใจใช้มือข้างที่เหลือจากการดึงผลักอธิศอย่างแรงจนเสียหลัก

แล้วพุ่งตัวเข้าผลักคนเป็นบิดาอย่างรวดเร็ว พอดีกับที่เสียงปืนดังขึ้น
“เปรี้ยง!!!”
















หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 26[ 30/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-03-2014 12:25:35
ตัวหนังสือมันเล็กไป เล็กมากๆ
 :ruready
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 26[ 30/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 30-03-2014 18:04:12
โว๊ะ ค้างอย่างแรง ลุ้นๆ :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 26[ 30/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 30-03-2014 21:54:11
 :hao5: แง ตัดฉับเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 26[ 30/03/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: FahFon ที่ 31-03-2014 00:23:30
คะ คะ ค้างงงงงงง
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 27 [ 03 /04 /2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 03-04-2014 22:27:36

                        รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                             บทที่ 27


ทันทีที่เสียงปืนนัดแรกเงียบลง ทุกคนจึงได้สติ

ธีทัตที่ล้มตัวเพราะพุ่งเข้าผลักคนเป็นบิดายืนอึ้ง ความเจ็บปวดเริ่มส่งจากปลายประสาทเข้าสู่การทำงาน

ของสมอง เขาก้มหน้ามองสีข้างตัวเองก่อนใช้มือซ้ายจับกดแผลที่ชายโครงซ้าย โลหิตทะลักทลายไม่หยุด

หย่อน

ใบหน้าที่ขาวเนียนอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งซีดไม่มีสีเลือด เขาพยายามตั้งสติ แต่ไม่เป็นผล อาการมึนงงเริ่มมาเยือน

ก่อนที่สติจะขาดหาย

ธนาตกใจแทบสิ้นสติ วินาทีนั้นเขารีบคว้าตัวธีทัตเข้ามาประคองตะโกนเรียกชื่อผู้เป็นบุตรชาย โดยไม่

สนใจคนเป็นศัตรู

บดินทร์ย่ามใจ เขาเล็งปืนไปที่พ่อลูกคู่นั้นอีกครั้ง ก่อนจะง้างไกเป็นรอบที่สอง


อธิศเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ธีทัตพุ่งตัวเข้าผลักผู้เป็นบิดา และคนที่มีความหมายต่อชีวิตถูกยิงล้มลง

เหมือนใจจะขาดวิ่นออกจากร่าง ยิ่งเห็นบดินทร์ง้างไกอีกครั้ง       

อธิศเลือดเข้าตา

เขาตรงเข้าใช้สองมือประสานทุบที่กลางหลังของบดินทร์จนเสียหลัก ก่อนที่จะตามไปซ้ำด้วยหมัดจาก

กำปั้นของเขาอีกหลายหมัด

บดินทร์สะบัดหน้าอย่างมึนงงเมื่อโดนโจมตีจากบุคคลที่เขาคิดว่าไม่มีพิษสง เมื่อหายมึนบ้างแล้ว

โทสะจึงเข้าครอบงำเต็มที่

ไอ้ห่ะ..รักกันดีนักก็ตายกันซะให้หมด อย่าอยู่เลยมึง”

เขาทำท่าจะเล็งปืนมาทางอธิศ แต่หนุ่มตาชั้นเดียวไวกว่า เขาตรงเข้าแย่งปืนจากบดินทร์ ใช้สองมือจับข้อมือ

ของบดินทร์แล้วพยายามบิดหัก

ปืนทำท่าจะหลุดจากมือ แต่บดินทร์ก็เหนียวพอตัวเขากดนิ้วชี้จนปืนลั่น

โอ้ยย..”

ลูกปืนถากต้นแขนข้างซ้ายของอธิศ ชายหนุ่มใช้แรงแขนเฮือกสุดท้ายบิดจนปืนหลุดจากมือบดินทร์ หนุ่มตาชั้น

เดียวรีบเตะปืนไปให้พ้นทาง

บดินทร์ทุบเข้าที่แผลที่ต้นแขนซ้ายของอธิศ จนเขาร้องลั่นก่อนจะใช้มือขวามากุมที่แผลต้น แขนซ้าย

บดินทร์ยังไม่หยุด เขาชกเข้าที่ลิ้นปี่ของอธิศจนจุก ต้องทรุดตัวลงนั่ง

แต่ก่อนที่บดินทร์จะทำร้ายอธิศมากไปกว่านี้ เสียงปืนนัดที่สามก็ดังขึ้น พร้อมกับกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่ง

ที่กรูเข้ามา ด้วยการนำของชายชราที่ยังดูแข็งแร็งและน่าเกรงขาม

ทุกคนหันไปมองไม่เว้นแม้แต่นายธนาที่ประคองธีทัตอย่างเป็นห่วง บดินทร์หน้าซีดก่อนพึมพำเบาๆ

นายใหญ่”

คนที่ได้ชื่อว่านายใหญ่กวาดสายตาไปมองความเละเทะของเหตุการณ์โดยรอบห้อง ก่อนที่จะมาหยุด

สายตาที่หนุ่มตาชั้นเดียว

เมื่อเห็นสภาพอธิศ สายตาของชายชราเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว ดุดัน เขาระเบิดเสียงออกมาอย่างไม่ไว้

หน้าใคร

ใคร ใครมันบังอาจทำร้ายลูกกู”





ธนายืนมองคนเป็นบุตรชายที่นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องผู้ป่วยอาการหนักในโรงพยาบาลเอกชนอย่างเป็น

ห่วง

แผลที่ชายโครงซ้ายได้รับการผ่าตัดนำกระสุนออก แต่หนุ่มตาหวานเสียเลือดไปมาก ตอนนี้รอบตัวจึงเต็มไป

ด้วยถุงน้ำเกลือและถุงเลือด

คนเป็นบิดาเอื้อมมือไปลูบศีรษะบุตรชายเบาๆ ก่อนที่จะรำพึงเสียงเศร้าๆ

พ่อเคยบอกกันแล้วใช่ไหมว่าเราไม่ควรมีความรัก เพราะความรักจะทำให้เกิดความห่วง มันคือสิ่งที่เป็น

อันตรายต่อชีวิต เหมือนอย่างที่พ่อห่วงกัน รักกัน กลัวจะเกิดเหตุอย่างวันนี้ แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้

คนเป็นบิดาพยายามกลั้นสะอื้นเมื่อนึกถึงความรู้สึกกลัวที่ต้องสูญเสีย

ถ้ากันเป็นอะไรไป พ่อจะอยู่อย่างไรในเมื่อพ่อขาดแม่ไปคนหนึ่งแล้ว อย่าทิ้งพ่อไปเลยนะ”

เขามองหนุ่มน้อยที่นอนอยู่ตรงหน้าอย่างรักใคร่อีกครั้งก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้อง

ธีทัตค่อยๆ ลืมตาก่อนมองตามหลังคนเป็นบิดาที่เดินออกไปแล้วยิ้ม

ขอบคุณครับพ่อที่รักผม ผมก็รักพ่อเหมือนกัน”


หนุ่มตาหวานพึมพำตามหลังคนเป็นบิดา ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้งอย่างเป็นสุข




ตกลงลื้อจะเอายังไง อาซัน”

ชายชราน่าเกรงขามที่ทุกคนให้ความเคารพยำเกรง บัดนี้นั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟารับแขก

หนุ่มตาชั้นเดียวผู้ซึ่งทุกคนเพิ่งรู้ว่าเป็นบุตรชายของผู้เป็นนายใหญ่ที่สุด กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

แผลที่ต้นแขนซ้ายได้รับการตกแต่งแล้ว รวมทั้งแผลที่ไหล่ขวาที่ปริแยกจากการต่อสู้ก็ถูกทำให้ใหม่เช่นกัน

โธ่ ป๊าก็”

เขาพูดคุยกับชายชราเหมือนเป็นเพื่อนเล่น

“ก็อย่างที่เล่าให้ฟังนั่นแหละ ป๊าจะถามสักกี่รอบคำตอบก็เหมือนเดิม”

ที่ป๊าถามเพราะจะให้ลื้อถามใจตัวเอง ตกลงว่าลื้อจะมาทางนี้แน่ใช่ไหม ชอบเจ้าหนุ่มนั่นแน่ๆใช่ไหม”

ก็ถ้า ผมรักเค้าจริงๆ ป๊าจะว่าไงล่ะ”

อธิศถามผู้เป็นบิดาอย่างกริ่งเกรงอยู่บ้าง กลัวผู้เป็นบิดาจะไม่เข้าใจ

อาซัน ตั้งแต่เด็กจนโตลื้อเคยเห็นป๊าขัดใจลูกสักคนไหม”

คนเป็นพ่อถาม

“ลูกคนไหนอยากทำอะไร ป๊าไม่เคยขัด ป๊ารู้ว่าสิ่งที่ป๊าทำมันไม่ดีแต่ในเมื่อมันถอนตัวไม่ได้ สิ่งที่ป๊าจะชดเชยให้

คือลูกทุกคนมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ตามใจ

ผู้เป็นบิดาพูดเป็นงานเป็นการ

อย่างลื้อไม่ชอบงานธุรกิจของป๊า ลื้ออยากมาใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดา เรียนอย่างคนธรรมดา ป๊าก็ไม่เคย

ห้าม บอกให้ไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ไป ป๊าก็ไม่ว่า ถ้าลื้อจะรักเจ้าหนุ่มลูกนั่น แล้วมีความสุข ป๊าจะห้าม ได้ยังไง

อธิศประคองตัวเดินมาหาผู้เป็นบิดาอย่างรักใคร่ เขายกมือขึ้นไหว้อย่างเคารพและกอดรอบเอวบิดาไว้

ป๊า ผมรักป๊าจัง ขอบคุณมากนะที่เข้าใจผม”

หนุ่มตาชั้นเดียวยิ้มอย่างดีใจที่คนเป็นบิดาเข้าใจ แต่เมื่อคิดไปถึงบิดาของหนุ่มตาหวาน อิสริยะ ก็ต้องถอนใจ

อยากให้ คุณธนาเข้าใจอย่างป๊าบ้างจัง”

ชายชราโบกมืออย่างรำคาญ

ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ป๊าจะคุยกะอีเอง อีเชื่อฟังป๊าอยู่แล้ว ดีเหมือนกันป๊าจะได้ฝากฝังลื้อให้ไปฝึกฝีมือกะอี

ลื้อจะได้เก่งๆขึ้นมาหน่อย











หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 27 [ 03/04/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 04-04-2014 00:56:36
 :hao3: พี่ซันกำลังจะเข้าวงการมาเฟียแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 27 [ 03/04/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-04-2014 01:34:15
พี่ซันไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาแล้วล่ะค่ะ555555555555
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 27 [ 03/04/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: วัวพันปี ที่ 04-04-2014 10:56:02
 :ling1:เรานึกภาพกันดั้มเป็นผู้ชายธรรมดา ใส่ผ้ากันเปื้อน ทำกับข้าวให้พี่ซันมาเฟียคนใหม่อ้ะ
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทที่ 28 [ 14/04/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-04-2014 19:32:35


                รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                 บทที่ 28


อธิศยืนมองธีทัตที่ยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนเพลีย

อาการของหนุ่มน้อยตาหวานไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ตอนนี้ย้ายมานอนพักในห้องผู้ป่วยพิเศษได้แล้ว

อธิศเอื้อมมือไปแตะที่แก้มซีดเบาๆอย่างกลัวเป็นการรบกวน

ธีทัตค่อยๆกระพริบตาขึ้นมอง ยังคงเบลอจากการนอนหลับที่ยาวนาน

แต่เห็นใบหน้าที่หยุดยืนอยู่ข้างเตียงเป็นใบหน้าเดียวกับที่มาโลดแล่นในความฝัน ก็อดที่จะยิ้มให้ไม่ได้

อธิศยิ้มตอบอย่างอ่อนโยน เขาใช้ปลายนิ้วลูบไล้ที่ใบหน้าของหนุ่มตาหวาน ก่อนที่จะโน้มตัวไปกดริม

ฝีปากลงบนเปลือกตาเบาๆ แล้วลากไล้มาที่ใบหน้า ก่อนที่จะมานิ่งสนิทที่ริมฝีปาก

ธีทัตตอบรับจุมพิตนั้น แล้วหลับไปอีกครั้งอย่างมีความสุข






อธิศนั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมต่อหน้าธีทัต

ส่วนธีทัตก็นั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล หลังจากที่ฟื้นตัวดีแล้ว และได้รับการ

บอกเล่าเรื่องราวต่างๆเมื่อตอนยังไม่มีสติ

“โธ่..กันดั้ม...”

อธิศลากเสียงท้ายยาวๆ เป็นการงอนง้อ

“หยุดพูดเถอะครับ คุณอธิศ”

ธีทัตเรียกชื่อเต็มของคนที่นั่งง้ออยู่ เนื่องจากยังเคืองที่เพิ่งรู้ความจริง

“คุณบอกผมว่าคุณมาจากอีสาน พ่อแม่ขายทองอยู่ในตลาด แล้วไปอย่างไรมาอย่างไรครับ

ถึงได้มาเป็นคุณชายลูกท่านประธานสูงสุด”

ธีทัตค่อนขอด

“ร้านทองน่ะเรื่องจริงนะ”

อธิศพยายามอธิบายเสียงอ่อยๆ

“ป๊าน่ะมีผมตอนอายุมากแล้ว แม่ผมเค้าเป็นเมียคนที่สามของป๊า แล้วแม่ไม่ชอบออกงานสังคม ป๊าเค้าก็

เลยเปิดร้านทองให้แม่ขาย ส่วนผมก็เหมือนเป็นลูกคนเล็ก เพราะว่าพี่ๆที่เกิดจากแม่อีกสองคน เค้าก็โตกว่า

ผมเยอะ ผมเองก็ไม่อยากจะไปยุ่งกับธุรกิจของป๊าก็เลยไม่ค่อยมีคนรู้จักผมหรอก”

ธีทัตยังคงใช้หางตามองมาอย่างไม่เชื่อถือคนพูดนัก

“โธ่..กันดั้ม..”

เขาใช้มุขเดิมคราวนี้เพิ่มเติมด้วยการลุกขี้นยืนแล้วพยายามใช้สองแขนโอบกอดหนุ่ม

ตาหวานอย่างไม่เป็นปกติ เพราะตัวเขาเองก็ยังเจ็บที่ไหล่ขวาและต้นแขนซ้าย

ส่วนตัวธีทัตเองจะผลักไสก็ลำบากเพราะแผลที่ลำตัวก็ใหญ่มิใช่น้อย จึงจำเป็นจะต้องปล่อยให้อธิศ

กอดไว้

“เราสองคนผ่านเรื่องต่างๆมากันตั้งมากมายแม้เวลาที่เรารู้จักกันมันจะแค่ไม่กี่วัน

แต่มันพิสูจน์ไม่ได้หรือ ว่าเรารักกันแค่ไหน”     

อธิศเปลี่ยนเป็นโหมดจริงจัง

“คุณไม่เห็นต้องสนใจเลยว่าที่มาของผมจะเป็นอย่างไร ขอให้คุณรู้แต่ที่ไป”

อธิศหอมที่หน้าผากคนเจ็บกว่าอย่างอ่อนโยน

“ว่าผมจะเดินไปพร้อมคุณ อยู่เคียงข้างคุณไปทุกที่ ผมสัญญานับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”

ธีทัตมองมาที่อธิศอย่างเต็มตื้น เขาเชื่อมั่นในทุกถ้อยคำที่อธิศสัญญา

“พี่ซัน จำได้ไหมว่าเคยถามผมเรื่อง soulmateคนที่คุ้นเคยและเกิดมาเพื่อกัน”

หนุ่มตาหวานเป็นฝ่ายเอ่ยถามบ้าง อธิศยิ้มให้ รอให้อีกฝ่ายพูดต่อ

“พี่คือคนนั้นของผม”

ธีทัตพูดเสียงหนักแน่น อธิศยิ้มให้อีกครั้งอย่างยินดีที่ได้ยิน

ดวงตาสองคู่สบตากันอย่างลึกล้ำ ตะกอนขุ่นมัวที่เคยตกอยู่ในใจธีทัต บัดนี้ได้ถูกกำจัดไปหมดสิ้น

หลังจากที่คนตรงหน้าก้าวเข้ามาในชีวิตแล้วนำความสดใสมาให้

ส่วนอธิศก็ได้ส่วนเติมเต็มที่เฝ้าคอยค้นหา คนที่จะมาเดินเคียงคู่กันอย่างที่เขาต้องการ

ไม่มีคำใดๆในโลกนี้อีกแล้วที่จะแทนความรู้สึกเหล่านี้ได้ อธิศแสดงออกถึงความรักด้วยการก้มหน้าไป

ปิดปากที่เริ่มมีสีแดงฝาดด้วยริมฝีปากของเขา

ธีทัตตอบรับอย่างเต็มใจ





-------------------------------  จบแล้วจ้า ----------------------------











หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา บทส่งท้าย [ 14/04/2557]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 14-04-2014 19:37:35


                        บทส่งท้าย


“คุณซันนนน..”

เคนยกมือขึ้นเกาศีรษะที่โกนเกลี้ยงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรได้ดีกว่านี้

นายธนาเองก็ยกมือมานวดขมับอย่างปวดหัว

กระดาษเป้ายิงที่ใช้ฝึกยิงปืนถูกชักรอกนำกลับมาให้ผู้เป็นเจ้าของที่ยืนยิ้มแหยๆได้ดู

ไม่มีร่องรอยใดๆที่แสดงให้เห็นว่าลูกปืนได้ยิงเข้าเป้า


ธีทัตหัวเราะอยู่อีกมุมหนึ่งไกลๆ เมื่อมองเห็นเหตุการณ์ และพอเดาสถานการณ์ได้

เขาก้มหน้าลงจดคอร์ดเพลง และเกากีตาร์เบาๆพร้อมร้องเพลงคลอไปด้วย





เคยเป็นคนไม่สนใจอะไร ก็ทำไปตามที่คิด

ในชีวิตไม่มี สักคนที่รู้และเข้าใจ

 ว่าในใจดวงนี้ ที่ใครใครก็มองไม่ดี

 มันมีแต่รักมากมาย ทั้งหมดเพราะเธอ

ทำให้โลกของฉัน ถูกเติมเต็มด้วยรักของเธอ


ได้ลอยล่องไป

 ให้ใจได้ยิน ท่วงทำนองที่แสนอ่อนหวาน

 รักของฉันที่มีอยู่ เต็มใจให้เธอได้รู้เอาไว้

 ต่อจากนี้เต็มใจฉันให้เธอ

การดูแลด้วยหัวใจ งดงามทำให้ฉันได้รู้


ว่าประตูแห่งใจ ที่ปิดเอาไว้ไม่ได้แข็งแรง

 ความเย็นชาที่จริง มันเป็นแค่การแสดง

 ประตูที่เคยแข็งแรง ก็เปิดเพราะเธอ

ทำให้โลกของฉัน ถูกเติมเต็มด้วยรักของเธอ


ได้ลอยล่องไป

 ให้ใจได้ยิน ท่วงทำนองที่แสนอ่อนหวาน

 รักของฉันที่มีอยู่ เต็มใจให้เธอได้รู้เอาไว้

 ต่อจากนี้เต็มใจฉันให้เธอ

 บอกกับเธอให้รู้ และจะย้ำให้เธอมั่นใจ

 จะคอยดูแล ด้วยรัก

ทำให้โลกของฉัน ถูกเติมเต็มด้วยรักของเธอ


ได้ลอยล่องไป

 ให้ใจได้ยิน ท่วงทำนองที่แสนอ่อนหวาน

รักของฉันที่มีอยู่ เต็มใจให้เธอได้รู้เอาไว้

 ต่อจากนี้เต็มใจฉันให้เธอ






                       จบบริบูรณ์



ป.ล. เพลงเต็มใจ ของแกงส้ม ธนทัต ค่ะ

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 14-04-2014 21:08:24
ชอบคู่นี้มากกกกกก เรียบง่าย (มั้ง) จบเเบบเรียบง่ายเเต่ประทับใจอ่ะ
soulmate อร๊ายยยย อยากมีบ้าง 55555 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 14-04-2014 21:48:34
 :sad5: อยู่ๆก็จบ ยังไม่สะใจเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 14-04-2014 22:12:04
สนุกดีอ่ะ ยังอยากอ่านต่ออยู่เลยยย  :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-04-2014 22:18:43
อ๊ะ..จบแล้ว
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 14-04-2014 22:42:26
จบแล้วๆ ฝึกบ่อยๆ นะพี่ซัน จะได้ยิงเข้าเป้าบ้าง อิอิ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 14-04-2014 23:15:44
จบได้อบอุ่นน่ารักมากอ่านเรื่องนี้เหมือนกำลังดูหนังอยู่เลย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 15-04-2014 00:01:58
พี่ซันธรรมดาที่ไหน



เทห์สุดๆไปเลยต่างหาก



ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 15-04-2014 03:17:59
ถามคำนึง พี่ซันธรรมดาตรงไหนอะคะ 555 มีตอนหวาน ๆ อีกนิดส์ ปะ อยากอ่านอะ อยากเขิล 555
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-04-2014 08:21:32
พี่ซันแกไม่ธรรมดาเลยนะนี่
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา จบแล้วจ้า [ 14/04/2557 ] ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 15-04-2014 16:29:02
น่ารักมากเลยเรื่องนี้ แหมพี่แกธรรมดามาก (พี่ซัน)
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 15-04-2014 22:22:05

                           รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา

                              ตอน พิเศษ

ถสปอร์ตคันหรูค่อยๆเคลื่อนเข้ามาจอดอย่างสง่าผ่าเผยในเวลาโพล้เพล้ หน้าบ้านสองชั้นที่ชั้นล่าง

ดัดแปลงเป็นเคาน์เตอร์ และห้องอาหาร เสียงเครื่องยนต์ยังคงส่งเสียงอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เงียบสนิทลง

โดยที่ผู้เป็นเจ้าของยังคงนั่งคุยกันกระหนุงกระหนิงอยู่ในรถ

“ผมบอกแล้วว่าผมจะขับเอง พี่ซันก็ไม่เชื่อ รั้นอยากจะเป็นคนขับแล้วเป็นไง

เสียงนุ่มของหนุ่มตาหวานดังขึ้นก่อน

“รถสปอร์ตแรงขนาดนี้ พี่ยังขับได้ช้าขนาดเต่าแซง จนพี่เคนกะเจ้าก้องตามมาทีหลังยังมาถึงก่อน หลับรอ

เราไปสิบตื่นแล้ว

“น่า กันดั้ม

หนุ่มตาชั้นเดียวเริ่มมีคำพูดเอื้อยเอ่ยตอบหลังจากปล่อยให้อีกฝ่าย บ่นตั้งแต่กรุงเทพจนมาถึงรีสอร์ทที่เขาใหญ่

“ก็เรามาเที่ยวกันไม่ใช่เหรอ จะรีบไปทำไมล่ะ เราก็ขับรถชิลๆ ดูวิวทิวทัศน์ข้างทางบ้าง

“ชิลๆ

ธีทัตเลิกคิ้ว

“จะชิลไปไหมครับกรุงเทพ เขาใหญ่ เกือบห้าชั่วโมง ถ้าเป็นผม ผมขับถึงหนองคายไปแล้ว อุ๊บส...” 

เสียงธีทัตขาดหายไปในลำคอเมื่อถูกคนที่นั่งข้างคว้าต้นคอแล้วส่งจุมพิตหวานมาเป็นการปิดปาก

จนแทบจะขาดใจนั่นแหละ อธิศถึงได้ยอมปล่อย

“ขี้บ่นจริงเลย แฟนผม ถ้าบ่นอีกก็ต้องเจอแบบนี้แหละ

หนุ่มตาชั้นเดียวพูดยิ้มๆ มองมาทางธีทัตที่ยังนั่งหน้าแดงเคืองไม่เลิก

“ไป ลงจากรถเหอะ ป้าสมบูรณ์แกมายืนคอยหน้าบ้านแล้ว

แล้วอธิศก็ขโมยหอมแก้มเนียนของคนข้างๆอีกฟอด ก่อนจะเปิดประตูรถแล้วเดินนำไป

“สวัสดีคร้าบ ป้าสมบูรณ์

ชายหนุ่มส่งเสียงทักทายนำทางก่อนที่จะตรงเข้าไปกอดเอวหญิงร่างท้วม

“สวัสดี ซัน แหม มากันอีกแล้วคู่นี้ เมื่อสองเดือนก่อนมาแล้วก็หายไปไหนไม่รู้ ทิ้งรถหรูๆไว้ ไอ้เราก็เป็นห่วง

กว่าจะส่งคนมาเอารถไป สวัสดีจ้ากันดั้ม ยังหล่อเหมือนเดิมนะ

ป้าสมบูรณ์เอ่ยทักยืดยาวอย่างคนช่างพูด ก่อนที่จะทำท่ากระซิบกระซาบกับหนุ่มตาชั้นเดียว

“นี่ซัน ป้าถามหน่อยเถอะ ตกลงซันกับกันดั้มมีความสัมพันธ์กันยังไงอ่ะ เป็นงี้ๆกันหรือเปล่า

ป้าสมบูรณ์ยกมือสองข้างแล้วเอานิ้วชี้มาชิดกัน

“ตะกี้ แอบเห็นจุ๊บกันในรถด้วย ไม่ได้แอบดูนะ มองมาพอดี

“แหม ป้าก็

อธิศเกาศีรษะอย่างเขินๆ เหลือบมองธีทัตที่เดินไปหาน้ำดื่มในเคาน์เตอร์

“นั่นแหละ อย่างที่ป้าเข้าใจ นั่นน่ะ แฟนผม ป้ารังเกียจหรือเปล่า

อธิศถาม

“รังกงรังเกียจอาร้ายย ฟินล่ะไม่ว่า ไม่รู้หรือว่าป้าน่ะเป็นสาววายนะ โน่ริทป้าก็จิ้น ฮั่นแกง เต๋าคชาป้าก็ชอบ

น่ารักดีออกคบกันไปนานๆนะ แล้วแวะมาบ่อยๆ ป้าจะได้ฟินนานๆ

ป้าสมบูรณ์ใช้คำทันสมัยตอบมา จนอธิศหัวเราะอย่างชอบใจ

“แล้วเจ้าสองหนุ่มที่มาถึงก่อน เจ้าหัวโล้น กับ เจ้าหนุ่มหน้าญี่ปุ่นมันเป็นแฟนกันด้วยหรือเปล่า

ป้าสมบูรณ์กระซิบถามอีกที เล่นเอาหนุ่มตาชั้นเดียวหน้าเหวอ

“เอิ่มม ไม่ใช่หรอกมั้งป้า เอ..หรือว่าใช่หว่า โอ้ย ไม่รู้อ่ะป้า รอผมไปสืบมาก่อนนะ แต่ตอนนี้ผมพากันดั้ม

ไปที่บ้านพักก่อนนะครับ ก่อนที่จะบ่นมากกว่านี้

อธิศพาธีทัตมาไหว้ป้าสมบูรณ์อีกครั้ง ก่อนที่จะเดินตรงสู่บ้านพัก





ผืนฟ้ากว้างใหญ่กลายเป็นสีดำสนิท มีดวงดาวนับล้านแข่งกันทอแสงระยิบระยับราวกับจับคู่เต้นรำ

อากาศบนเขาในช่วงเดือนมกราคม เย็นชื้นจนก่อให้เกิดไอหมอกบางๆ และเกร็ดน้ำค้างเกาะตามยอดหญ้า

ธีทัตนั่งดีดกีตาร์ พิงอยู่บนอกกว้างของอธิศ ที่โอบกอดหนุ่มตาหวานไว้ โดยมีผ้าห่มผืนใหญ่ห่มรอบทั้งสองคน

อยู่ที่ระเบียง

เคนกับก้องเข้าห้องนอนไปนานแล้ว ตามคำขอร้องแทบจะกราบกรานของหนุ่มตาชั้นเดียว

“เคน ก้อง ขอร้องล่ะ ไปหลับไปนอนกันเหอะ อย่าอยู่เป็น กขค เลย ไม่ใช่อะไรหรอก ผมกลัวคุณ

เป็นตากุ้งยิง

อธิศกดริมฝีปากไปที่แก้มใสนั้นอย่างทะนุถนอม ก่อนที่โอบกระชับให้ธีทัตคลายหนาว

“เมื่อไหร่ผมจะเก่งจนดูแลคุณได้เสียทีนะ

อธิศพึมพำเบาๆ ธีทัตอมยิ้ม เมื่อนึกเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่กี่วัน

ชื่อเสียงของอธิศเริ่มขจรขจายไปทั่วในฐานะลูกคนเล็กของนายใหญ่ จนถึงหูของมาเฟียข้ามชาติที่คิดจะ

ลองดี ส่งคนมาลอบทำร้าย และกลับกลายเป็นธีทัต เคนและก้องปราบจนหมอบกลับไปโดยที่อธิศได้แต่

ยืนมองตาปริบๆ

นายใหญ่ก็ได้ฝากให้นายธนาบิดาของธีทัต ดูแลอธิศจนเคนและก้องแทบจะย้ายมาสังกัดดูแลอธิศแทนอยู่แล้ว

ทั้งหมดจึงได้ติดสอยห้อยตามกันมาถึงเขาใหญ่

“ผมไม่ได้อยากให้พี่ซันดูแลผมนี่

หนุ่มตาหวานตอบยิ้มๆ ทำให้อธิศชะงัก

“ผมดูแลตัวเองได้ ผมอยากให้พี่อยู่ใกล้ๆ ผมอย่างนี้ตลอดไปต่างหาก

ธีทัตพูดต่อ จุดรอยยิ้มบนใบหน้าหนุ่มตาชั้นเดียวได้

“ผมแต่งเพลงใหม่เสร็จแล้ว เดี๋ยวเล่นให้ฟังนะ

หนุ่มหน้าหวานขยับกีตาร์เข้าที่เริ่มดีดเป็นทำนองก่อนร้องเพลงคลอ






เวลาที่เจออะไรเซ็งเซ็ง ก็เลยอารมณ์ไม่ดี

 มันมีแต่ทำให้ใจ กระวนกระวายไม่ดีสักอย่าง

 ก็มีเธอนั้นที่เข้ามา ทำให้ใจมันเย็นทุกที

 เวลาที่เจอเรื่องราวอะไร ที่ทำให้มันท้อใจ

ไม่มีแก่ใจจะทำเรื่องร้าย ให้เป็นเรื่องดี

 ก็ยังเป็นเธอทุกที ที่มาบรรเทาให้มันโล่งใจ

 คนเดียวเท่านั้นเลย สามารถเปลี่ยนโลกเดิมเดิม

 ที่เคยซึม ที่เคยเศร้า เหงาอยู่ข้างในก็หายไป

 
 แค่เธอยิ้ม ก็ทำให้ฉันใจละลาย

 ก็รู้ไหมเธอ I LOVE YOUR SMILE

 มันช่วยหยุดอาการ ที่ไม่ค่อยมีแรงเวลาที่เจอเรื่องเลวร้าย

 แค่ยิ้มเยอะเยอะ ให้คนที่ใจชอบป่วย

รอยยิ้มของเธอช่วยได้ ติดใจเหลือเกินyour smile

 ก็เป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร I LOVE YOUR SMILE
 

 แค่อยากให้รู้มันเสพติด ยิ้มเธอมันฝังในความคิด

 ขโมยใจไปทีละนิด

 ทุกครั้งที่เธอส่งยิ้มให้ มันทำให้โลกที่วุ่นวาย

 หยุดเคลื่อนหยุดไหว เหมือนว่าฉันนั้นฝันไป

 เก็บยิ้มเธอไว้ในใจ 'cause I Love Your Smile

 จะมองกี่ทีจะมองกี่ครั้ง ก็ทำให้ฉันยิ้มตาม

 คงดีถ้ายิ้มเอาไว้อย่างนั้น ฉันยังไม่เบื่อ

 อยากบอกว่าฉันโชคดี ที่มีเธอคอยดูแลหัวใจ

 คนเดียวเท่านั้นเลย สามารถเปลี่ยนโลกเดิมเดิม

 ที่เคยซึม ที่เคยเศร้า เหงาอยู่ข้างในก็หายไป

 
 แค่เธอยิ้ม ก็ทำให้ฉันใจละลาย

 ก็รู้ไหมเธอ I LOVE YOUR SMILE

 มันช่วยหยุดอาการ ที่ไม่ค่อยมีแรงเวลาที่เจอเรื่องเลวร้าย

 แค่ยิ้มเยอะเยอะ ให้คนที่ใจชอบป่วย

 รอยยิ้มของเธอช่วยได้ ติดใจเหลือเกินyour smile

 ก็เป็นอะไรที่ไม่เหมือนใคร I LOVE YOUR SMILE

(เพลง I love your smile ของแกงส้ม TS8)





ธีทัตวางกีตาร์ลงเมื่อเล่นเพลงจบ เขาหันไปสบตากับอธิศ

“สิ่งที่ผมหวังจากพี่ ก็มีแค่รอยยิ้มและกำลังใจจากพี่ พี่จะให้ผมได้ไหมพี่ซัน

อธิศดึงตัวธีทัตมาในอ้อมกอดอีกครั้ง กดศีรษะธีทัตให้ตรงกับตำแหน่งของหัวใจ แล้วกระชับผ้าห่ม

จนธีทัตรู้สึกถึงไออุ่น

“ผมไม่รู้จะตอบคุณอย่างไร เอาเป็นว่าผมขอให้คุณฟังคำตอบจากใจผมแล้วกันนะ

ธีทัตซุกตัวกับแผ่นอกกว้างนั้น เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะสอดประสานกับหัวใจของเขาราวกับจะบอกให้โลกรู้

ว่า คนสองคนจะอยู่เคียงข้างกันไปตราบนานแสนนาน




ธีทัตซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่นก่อนที่จะต้องตื่นเพราะถูกปลุกด้วยจุมพิตหวาน

“กี่โมงแล้ว พี่ซัน

เขางัวเงียเอ่ยถาม

“ตีห้าแล้ว เรามีนัดกันลืมแล้วหรือ

คำตอบกลับมานั้น ทำให้ธีทัตเด้งตัวขึ้นมาจากที่นอนคว้าเสื้อกันหนาวมาใส่อย่างรวดเร็ว แล้วรีบเดินตามอธิศ

มาที่หน้าบ้านพัก

อธิศตั้งจักรยานแล้วพยักพเยิดใส่ ธีทัตหน้าเหรอหรา

“ก็ผมสอนคุณขี่จักรยานไปแล้วไง รอบนี้คุณขี่พาผมไปบ้าง





ธีทัตหอบตัวโยนจนแทบจะทิ้งจักรยานไปกับพื้นในขณะที่อธิศบิดขี้เกียจแล้วเดินไปรอที่จุดชมวิวผาดวง

แก้วก่อนกวักมือหยอยๆ เรียกธีทัต

“อ้าว กันดั้ม มาเร็ว พระอาทิตย์จะขึ้นแล้ว

ธีทัตแทบจะมองค้อนก่อนที่จะก้าวยาวๆตามอธิศไป

แสงแรกแห่งวันฝ่าพ้นไอหมอกหนาขึ้นฉายแสงสดใส เหมือนกับเมื่อครั้งก่อนที่เคยมา

อธิศบรรจงกดจุมพิตไปที่ริมฝีปากแดงเรื่อแข่งกับแสงอาทิตย์นั้น แล้วโอบกอดธีทัตจนแนบชิด

ราวกับจะบอกว่าไม่มีอะไรมาพรากพวกเขาจากกันได้ นานเท่านาน




เคนและก้องตาเหลือก เมื่อแอบมองลอดกิ่งไม้มาเห็นฉากรัก เขาสองคนตามมาห่างๆไม่ให้เจ้านายทั้งสองรู้ตัว

จนมาเจอของดี

“มีแฟนนี่ มันดีอย่างนี้เองนี่หว่า

ก้องรำพึงเบาๆ ก่อนจะหันมาสบตากับเคน

“เฮ้ย!!...”

เคนยกมือผลักหน้าก้องจนหงาย ก่อนจะเดินหนี โดยมีก้องเดินตาม

“พี่เคน รอด้วย..




                                จบตอนพิเศษ

ลืมไปว่าแต่งตอนพิเศษเก็บไว้ด้วย

เอามาลงให้เลยแล้วกันนะคะ









หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 15-04-2014 22:37:33
 :-[ โอ๊ย หวานน้ำตาลขึ้น
น่ารักมากกกกกกกกกกกก

ก้องกับเคนนี่ยังไงๆนะ แอบมีซัมติงป่าว ช่วยแถลงไขหน่อย หึหึ  o18
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: mapreaw ที่ 15-04-2014 22:44:23
ตายแล้ว น้ำตาลขึ้น เบาหวานกำเริบอีกแล้ว หวานกันจิงๆเล้ย :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 15-04-2014 23:30:40
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Elizabeth_TonnY ที่ 16-04-2014 00:20:22
หวานจริง หวานจัง
 :katai2-1: :hao5:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 22-06-2014 14:12:20
 o13
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: SWIM ที่ 23-06-2014 12:07:48
หวานมากกกกกก มดขึ้น อิ้อิ้
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 23-06-2014 13:41:01
ตอนนี้สุดท้ายนี่เรียกน้ำตาลในเลือดได้ดีทีเดียว  :mew1:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 23-06-2014 21:51:35
 :impress2:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 26-06-2014 23:08:49
อ่านแล้วเพลินดี จบแบบมีความสุข พลอยมีความสุขกับทั้งคู่ไปด้วย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: ฟองสบู่ ที่ 26-06-2014 23:27:50
ชอบมากเลยครับ  o13
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 28-06-2014 04:06:43
เรื่องนี้ซึ้งและน่ารักมาก ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: benji ที่ 20-07-2014 10:17:40
 o13 :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Itachishang ที่ 20-07-2014 22:27:56
 :L2:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: makone ที่ 23-08-2014 15:51:51
บอกได้คำเดียวว่า น่ารักๆๆๆๆๆๆอ่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: natt lUcky ที่ 26-08-2014 23:24:42
น่ารัก สรุปคนธรรมดาไม่ธรรมดาที่สุด
ตกลงเจ้าหัวโล้นกับหนุ่มญี่ปุ่นนี่เป็นแฟนกันปะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 22-10-2014 23:06:11
ขอบคุณค่ะ เรื่องสนุกดี แต่ตัวอักษรเล็กไปนะ :mew1:

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ] จบจริงๆแล้ว ย้ายได้เลยนะคะ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 23-10-2014 19:08:53
จบแล้วเหรอ สนุกอยู่เลย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 22-11-2014 22:54:51
ฟินอ่ะ

ลั่ลล้าไปเรื่อย

เห็นเขาสมหวังเราก็มีความสุข

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 02-01-2015 21:11:05
 o13
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 06-01-2015 07:09:35
สนุกมากกกกกกกก เขียนสนุกทุกเรื่องเลยจร้าาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 06-01-2015 07:12:43
สนุกมากกกกกกกก เขียนสนุกทุกเรื่องเลยจร้าาาา
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 06-01-2015 18:02:31
พี่ซันกับกันดั้มหวานจัดดดดด กรี๊ดดดด :heaven :heaven :heaven :heaven :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 29-03-2015 07:47:22
สนุกๆ
สรุปพี่ซันไม่ธรรมดาสุดเลย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Aumy8059yaoi ที่ 01-05-2015 20:28:13
อยากอ่านคู่ ก้องเคนจัง อิอิ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 03-05-2015 22:16:49
เป็นเรื่องแนวมาเฟียที่มุ้งมิ้งอีกเรื่อง
อยากเป็นคนธรรมดาของเธอ
อาซันของป๊ะขนาดยังไม่ได้ฝึกวิชายังเก่งใช่ย่อย
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 15-05-2015 18:43:46
เรื่องนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ ตอนแรกนึกว่าพี่ซันจะเป็นฝ่ายโดนซะอีก ก็นะกันดั้มก็ลูกมาเฟีย แต่มาตอนนี้พ่อพี่ซันใหญ่กว่าก็ถูกล่ะที่กันดั้มโดน น่ารักอ่ะ ขี้อายด้วย ขอบคุณนะค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kunkai ที่ 15-05-2015 20:56:52
แล้วก้อง-เคนล่ะ
อย่าทิ้งไว้เฉยๆสิ
  :hao3:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: choinudee ที่ 15-05-2015 23:40:05
น่ารักจัง

ผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 16-05-2015 10:45:13
ตอนที่ซันโทรหาป๊าให้มาช่วยก็ยังคิดอยู่ว่าป๊าต้องเป็นคนสำคัญมากคนหนึ่งแน่
แล้วก็เป็นหัวหน้าใหญ่สุดซะ
ที่นี้พ่อตาก็ขวางความรักของกันและซันไม่ได้แล้ว
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา ตอนพิเศษ [ 15/ 04 /2557 ]
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 16-05-2015 11:02:12
Soulmate
หากันจนเจอเยอะ
หัวข้อ: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Belove ที่ 29-05-2015 00:46:55



นิยายเรื่อง รักได้ไหมผู้ชายธรรมดา


ขายทาง Mebmarket แล้วค่ะ


สนนราคา 109 บาท


อุดหนุนกันได้นะคะ


https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NjoiNDczMTkyIjtzOjc6ImJvb2tfaWQiO3M6NToiMjYwMzYiO30


 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 29-05-2015 22:05:26
โอยยยย เรื่องนี้น่ารักกุ๊กกิ๊ก :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: karuna ที่ 31-05-2015 10:34:12
 :impress2: กุ๊กกิ๊ก ๆ จนอิจฉาตาร้อนเลยอ่าา
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 13-06-2015 14:08:18
สนุกและน่ารักมุ้งมิ้งมากกกกค่าา
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Milinyj ที่ 20-06-2015 17:18:09
ตามอ่านมาจากร้ายซ่อนรัก เรื่องนี้ควจะฟินไม่แพ้กัน ชอบสำนวนการเขียนของคนแต่งมากกกกกก. จะติดตามเรื่องอื่นๆต่อไปจ้าาาาา  :mew1: :impress2: :haun4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 25-06-2015 01:45:29
น่ารักอ่ะ มากๆๆครับ อ่านเพลินมาก ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Dark_Evil ที่ 25-06-2015 15:43:12
หวานนนนนนน จนอิจฉาเลยคู่นี้
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 27-06-2015 15:10:50
น่ารักอย่างรุนแรง
ขอบคุณคนแต่งมากค่าสำหรับนิยายน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 13-07-2015 15:54:13
น่ารัก ฟินเบาๆ~~
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-08-2015 11:49:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 09-08-2015 15:53:31
สนุก ๆ   น่ารัก ๆ ชอบ ๆ
:pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 09-08-2015 19:38:51
เคนก้องนี่ยังไง 5555
น่ารักดีค่ะเรื่องนี้  :mew1:
ขอบคุณคนแต่งนะคะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 15-08-2015 23:13:40
ขอขอบคุณค่ะ เรียบง่ายแต่สนุกมาก (⌒_⌒)
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: May@love ที่ 10-11-2015 07:36:11
พี่ซันผู้ชายธรรด๊าธรรมดาจริงๆๆ 555
เรื่องน่ารักดีค่ะ อ่านง่ายและสนุก
ขอยคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 23-11-2015 19:34:25
ซัน - กันดั้ม น่ารักมาก ๆ ครับ ....... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: samsung009 ที่ 23-11-2015 22:35:09
 :pig4:
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-12-2015 23:10:10
สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา แจ้งข่าวการขาย Ebook [29/05/58]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 25-12-2015 13:56:09
น่ารักมุ้งมิ้งที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 02-05-2016 15:39:42
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 04-05-2016 00:11:11
เฮียซันรีบๆเก่งขึ้นเร็วๆนะคะ 5555 :hao7:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: spsygk ที่ 05-05-2016 14:46:52
เป็นลูกชายนายใหญ่ซะงั้น5555 :katai5:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 16-05-2016 14:21:30
หักมุมซะงั้น.    เนื้อเรื่องอ่านสบายๆ. ขอบคุณคร่า
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 30-06-2016 23:53:52
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: chandrarat ที่ 27-09-2016 13:22:00
อ่านจนจบแล้ว มีความรู้สึกว่า คุณซัน อธิศ คุณนะไม่ธรรมดาที่สุดในเรื่องแล้วอ่าค่า 555  :laugh: :laugh:
น่ารักมากๆ เลยน้า พี่ซันน้องกันดั้ม คู่บอดี้การ์ดก็น่ารักนะค่ะ มีแววนะเนี่ย อิอิ  :hao6:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 27-09-2016 20:32:23
โอ๊ยยยยยย หวานค่าาาาน  :ling1: ฟินมากน้ำตาลกระจาย อร๊ายยยย ขอบคุณมากค่าาา  :hao7:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-12-2016 01:29:03
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

พี่ซันน่ารักไปไหนนะหลงพี่ซันบอกเลยกันดั้มก็นะน่ารักน่าหลงเหมาะกับพี่ซันมากเลย
#ตามมาจากเรื่องOnly Love Is Real ให้รักนำทาง  :L1: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:


                                 
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 25-12-2016 17:29:59
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: areenart1984 ที่ 03-09-2017 03:00:24
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-09-2017 22:37:54
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: TaemyG ที่ 05-12-2017 22:16:22
น่ารักดี :man1:
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: จิรัตฐิติกาล ที่ 06-01-2018 10:56:00
สนุก ชอบ อ่านรอบสองแล้ว สู้ ๆ นะค่ะ
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: suikajang ที่ 01-08-2018 10:20:50
 :pig4:  รักแรกพบยามเมื่อสบตา สนุกมากค่ะ น่ารักดี  o13
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaWikit ที่ 09-02-2019 09:44:13
กลับมาอ่านอีกรอบในปี 2019 / 9 กพ. 2562

ยังคงความรู้สึกดีดีกับนิยายเรื่องนี้
อยากบอกไรท์ว่า อ่านแล้ว สบายใจจัง
หัวข้อ: Re: << รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา >>
เริ่มหัวข้อโดย: tpaibull ที่ 08-03-2019 22:00:45
อ่านง่ายๆ แถมน่าติดตาม ขอบคุณมากคะ