ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ[/size]
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
๑๐/๕/๒๕๓๕
อาทิตย์ที่รัก
กระบองเพชรที่เราให้พี่มาเกือบจะกลายเป็นวิญญาณกระบองเพชรไปซะแล้ว
พี่ผิดเองที่มัวแต่ทำงานยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลมันก็เลยซีดเป็นจุดเป็นดวง หงิกงอ หงิกเหมือนหน้าเราเลยละ
ลำปางหนาวมาก นี่พี่ไม่ได้พูดเล่นหรอกนะ แต่หนาวจริงๆ ฝาไผ่สานไม่ได้กันลมหนาวให้พี่สักเท่าไหร่ โชคดีที่พี่มีผ้าห่มหลายผืน ถ้าหนาวมากก็ต้องจุดไฟผิงเอา ที่โรงเรียนเด็กๆต้องใส่เสื้อกันหนาวมาโรงเรียน กางเกงก็ต้องใส่กางเกงขายาว ใส่กางเกงวอร์มน่ะ เด็กผู้หญิงยังใส่เลย พี่รู้สึกเหมือนได้เป็นครูสอนเต้นแอโรบิคมากกว่าครูคณิตศาสตร์เสียอีก
เมื่อวันก่อนพี่ออกไปเดินแถวๆบ้าน เห็นว่ามีดอกไม้แปลกๆเต็มไปหมดเลย คนแถวนี้ชอบปลูกต้นไม้ดอกไม้กันมาก พี่คิดว่าเพราะอากาศดี ต้นไม้เลยชอบ ไว้พี่จะถ่ายรูปมาให้ดู เสียแต่แถบนี้คงจะหาร้านอัดรูปยากหน่อย บนเขาบนดอยมันจะไปมีได้เสียที่ไหน นี่พี่ก็ต้องฝากลุงร้านขายของชำหย่อนจดหมายลงตู้ไปรษณีย์ให้ ตู้ในเมืองน่ะ ลุงเขาต้องขึ้นๆลงๆดอยไปซื้อของมาเข้าร้าน พี่ก็เกรงใจแกอยู่ แต่แกใจดีมากอาสาจะไปส่งให้ไม่คิดเงินพี่เลยสักบาท
คนที่นี่น่ารักดีจัง แต่ก็ยังสู้อาทิตย์ของพี่ไม่ได้เลยสักนิด
ที่บ้านเป็นอย่างไรบ้าง อาทิตย์ปิดเทอมหรือยัง แล้วปีนี้จะลงเรียนภาคฤดูร้อนหรือเปล่า
พี่อยากให้เรานั่งรถไฟขึ้นมาหาพี่จังเลย จะได้พาไปเที่ยวในตัวเมือง พี่คิดถึ้งคิดถึง เราจัง
พี่จะรออ่านจดหมายนะครับ
พี่ภู
๓/๐๗/๒๕๓๕
อาทิตย์ครับ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาฝนตกหนักมาก อากาศที่เย็นอยู่แล้วก็ยิ่งเย็นเข้าไปใหญ่ แถมความชื้นมาด้วยอีกอย่าง พี่ตื่นขึ้นมาตัวรุมๆเหมือนจะไม่สบาย ใจอยากจะนอนแผ่อยู่บนที่นอนแต่ก็ทำไม่ได้ ต้องลุกขึ้นแต่งตัวไปสอนหนังสือ ถ้าพี่รู้ว่าโตขึ้นแล้วต้องรับผิดชอบเรื่องนี้เรื่องนั้นเยอะแยะมากมาย พี่ก็จะไม่โตหรอก พี่จะยอมเป็นเด็กนอนดูดนิ้ว รอให้อาทิตย์ทำงานเลี้ยงพี่ไง
อ้อ พี่มีเรื่องจะเล่าให้ฟังด้วย ก็วันพุธหลังจากวันที่ฝนตกหนักๆวันนั้น พี่ตื่นเช้าจะออกไปโรงเรียน พอเดินออกมาหน้าบ้านพี่ดันเหลือบไปเห็นปู่คำปัน (คนข้างบ้านน่ะ) แกนอนพับอยู่บนลานดินเชิงกระได พี่รีบพาแกไปส่งอนามัยเลย แต่ไม่ได้ไปคนเดียวนะ พอพี่อุ้มปู่แกออกมาจากบ้านชาวบ้านคนอื่นเห็นเข้าก็เฮโลกันไปเกือบทั้งบาง ปู่คำปันก็เลยได้ขึ้นท้ายกระบะของคนแถวนั้นนั่นแหละซิ่งปรู๊ดเดียวถึงตัวหมอ ชาวบ้านเต็มอนามัยเลย ลุ้นกันเหมือนกับจะถูกหวย สุดท้ายหมอบอกปลอดภัยดีแล้วถึงยอมทยอยกันกลับบ้าน
พี่นับถือน้ำใจของคนที่นี่จริงๆเลยนะ อาทิตย์รู้มั้ยว่าปู่คำปันมีคนไปเยี่ยมทั้งวันแทบไม่ได้พักเลย พยาบาลไม่รู้ว่าจะเอาของเยี่ยมไข้วางไว้มุมไหนแล้วเพราะมันเยอะไปหมด ของเยี่ยมไข้ของเขาก็ไม่เหมือนที่กรุงเทพนะ ไม่มีของแพงๆหรอก กระเช้าสานสวยๆก็ไม่มี จะมีก็ผลไม้บ้าง ของป่าบ้าง เด็กตัวเล็กๆเห็นพ่อกับแม่เอาของมาฝากปู่ ก็เลยไปเด็ดดอกไม้มาให้ปู่บ้าง เด็ดกันไปเด็ดกันมาก็เล่นกันแข่งกัน สรุปแล้วดอกไม้กองเต็มหน้าตักปู่คำปัน ตอนพี่เข้าไปหาแกพี่จามแทบตาย อาทิตย์ก็รู้ว่าพี่แพ้เกสรดอกไม้
จำได้ไหมที่อาทิตย์พาพี่ไปงานแสดงพรรณไม้ดอกปลายปีที่แล้วน่ะ พี่ต้องใส่ผ้าปิดจมูกทั้งวันเลย หายใจก็ลำบาก กินอะไรก็ลำบาก เราเองหัวเราะร่วนล้อว่าพี่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง พี่ยังจำได้ไม่ลืมเลยนะ พี่จำได้ทุกอย่างเลยละ เหมือนว่าเหตุการณ์เพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้เอง พี่หลับตาก็ยังเห็น จำได้ไหมเมื่อตอนอาทิตย์เดินเข้าไปในซุ้มกุหลาบ อาทิตย์หันมาบอกพี่ว่าดอกกุหลาบสีแดงสวยไม่เท่ากับดอกกุหลาบสีขาวหรอก เพราะดอกกุหลาบสีแดงเห็นบ่อยจนน่าเบื่อ ดอกกุหลาบสีขาวหายาก ไม่ค่อยมีใครเอามาปักแจกัน
พี่จำได้ถึงขนาดนี้เลยนะ อาทิตย์แปลกใจไหม
ถ้าตอนนั้นพี่รู้ว่าเราจะต้องจากกัน เห็นทีพี่จะยอมไปให้อาทิตย์เห็นหน้าจนเบื่อ ดีกว่ามานั่งคิดถึงจนทนไม่ไหวแบบนี้
พี่ถอนหายใจจนปอดจะช้ำไปหมดแล้วรู้ไหม
คิดถึงมาก
จาก
พี่ภู
๑๒/๐๘/๒๕๓๕
นายอาทิตย์
หกเดือนแล้วที่พี่มาทำงานที่นี่ พี่เริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ชนบทเสียแล้วสิ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร ไปไหนพี่ไม่ต้องเผื่อเวลาเหมือนตอนอยู่เมืองกรุง เพราะรถไม่ติด พอเลิกงานก็กลับถึงที่พักแค่ห้านาทีเท่านั้นเอง อาทิตย์รู้ไหมว่าตอนที่พี่ทำงานอยู่แถวเทเวศน์ พี่ยืนโหนรถเมลล์เกือบสองชั่วโมง ถ้าเจอคนขับรถรุ่นๆขับรถกระชากไปกระชากมาวันนั้นก็โชคร้ายไป ต้องยืนเกร็งจนกว่าจะถึงป้าย กลับถึงหอพักมืดค่ำหมดแรงจะทำอะไร พอหัวถึงหมอนก็หลับทันทีเลย วันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่มืดรีบลนลานไปทำงานใหม่อีก ชีวิตที่กรุงเทพทำให้พี่รู้สึกเหมือนว่าตัวเองกลายเป็นหุ่นยนต์ พี่ไม่ชอบเลย
อาทิตย์ครับ พี่คิดว่า พี่จะย้ายมาประจำอยู่ที่นี่เสียเลย พี่รักที่นี่ รักสภาพความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย เด็กๆก็ต้องการพี่ ชาวบ้านหวังว่าพี่จะมอบอนาคตมอบชีวิตใหม่ให้ลูกๆของพวกเขา และพี่ก็คิดว่าพี่ทำได้
มีแค่เรื่องเดียวที่พี่ยังติดใจอยู่ พี่ไม่อยากให้เราสองคนต้องอยู่ไกลกันเลยนะ พี่ไม่ได้กลัวว่าจะมีใครเข้ามา พี่มั่นใจในตัวเรา มั่นใจว่าระหว่างเรามันจะไม่เปลี่ยนไป พี่อยากให้เราสองคนอยู่ใกล้ๆ พี่แค่กลัวระยะทาง เราอยู่ห่างกันแสนไกล พี่กลัวว่าความห่างจะทำให้เราต้องเสียใจ
ถ้าอาทิตย์อยู่ตรงนี้กับพี่ พี่คงจะไม่ต้องคิดเรื่องราวอะไรมากมายคนเดียว อาทิตย์คงจะมีความเห็นดีๆให้พี่ อาทิตย์ทำให้พี่สบายใจได้เสมอ
ปล.พี่ได้ข่าวมาว่าสถานการณ์ที่กรุงเทพตอนนี้ไม่ปลอดภัย อาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้นมาได้ อาทิตย์ระวังตัวให้มากนะครับ เห็นท่าไม่ดีก็อย่าออกไปเรียนเลยมันอันตราย พี่อ่านหนังสือพิมพ์ที่โรงเรียนแล้วอดนึกถึงอาทิตย์ไม่ได้ พี่เป็นห่วง ถ้ามีอะไรรีบโทรเลขมาหาพี่นะครับ
รักษาตัวนะครับ พี่จะรอวันที่เราตอบจดหมายกลับ
รักและคิดถึง
ภูริช
๒๕/๐๙/๒๕๓๕
อาทิตย์ครับ
นี่เป็นจดหมายฉบับที่สี่แล้วนับตั้งแต่พี่ย้ายมาประจำอยู่ที่ลำปาง ข่าวดีก็คือในช่วงลอยกระทงพี่มีเวลาว่างพอที่จะลงไปกรุงเทพฯ หมายความว่าเราจะได้เจอกัน ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่ช่วงสั้นๆ แต่พี่เชื่อว่าอาทิตย์ต้องดีใจไม่น้อยไปกว่าตัวพี่แน่ๆ
อาทิตย์คิดว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันดี พี่ให้เราเป็นคนคิดนะ ที่ไหนก็ได้พี่ไม่เกี่ยง ถ้าอาทิตย์ไปด้วย จะเจ็ดหรือสิบย่านน้ำพี่ก็พร้อมจะไป แต่เอ...พี่ก็ชักจะคิดถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นที่วังบูรพาเหมือนกันน้า... อาทิตย์ไม่คิดถึงข้าวหมูแดงเฮียฮุยเหรอ นั่นแน่!พี่แอบได้ยินเสียงท้องเราร้องด้วยล่ะ
อาทิตย์ไปลอยกระทงเป็นเพื่อนพี่นะ ไม่ต้องเป็นวันลอยกระทงก็ได้ อาทิตย์จะได้ไปลอยกับแม่กับน้อง สักวันหรือสองวันก่อนจะถึงวันกระทงเราก็ไปลอยกันก่อน อาทิตย์ว่าปีนี้ที่ภูเขาทองคนจะเยอะไหม พี่ว่าคนต้องเยอะแน่ อีกตั้งห้าเดือนแน่ะกว่าจะขึ้นเดือนสิบสอง พี่จะซ้อมร้องเพลงลอยกระทงทุกวันเลย แล้วจะไปร้องให้เราฟัง อย่าให้ชาวบ้านแถวนี้เขวี้ยงอะไรลงหลังคาพี่ก่อนก็แล้วกัน...
แล้วเราจะเตรียมร้องเพลงอะไรให้พี่ฟังบ้างเอ่ย?
คิดถึงมาก
จากภูริช
๐๑/๑๐/๒๕๓๕
อาทิตย์ที่รัก
ใกล้จะเดือนพฤศจิกายนแล้วนะ อากาศที่นี่เย็นสบายกำลังดี ปู่คำปันกับพี่สนิทกันมากเลยเดี๋ยวนี้ แกชอบเอาแคบหมูที่แกทำเองมาให้พี่ ส่วนพี่จะชอบออกมานั่งชานเรือนตอนโพล้เพล้ เวลาเห็นแกก็จะเรียกแกขึ้นมานั่งด้วยกัน พูดคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้สารพัน บางวันก็เอาแคบหมูนั่นแหละมานั่งกินกัน บางวันก็แค่นั่งฟังไม้ฟืนในกองไฟมันลั่น วันไหนฝนตกน้ำฝนซึมจากลงมา ชานจะเปียกไปหมด วันนั้นถึงไม่ได้เห็นหน้าปู่แก
ปู่คำปันเล่าให้พี่ฟังว่า ปู่อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด แต่งงานที่นี่ แล้วแกก็จะตายที่นี่ พี่ถามว่าแล้วย่าล่ะไปไหน ทำไมไม่อยู่กับปู่ ปู่บอกว่าย่าเสียไปเมื่อเก้าปีก่อน เผาที่วัดหน้าหมู่บ้านนี้เอง ปู่อยู่คนเดียวนับแต่นั้นมา พี่ก็สงสัยว่าปู่อยู่คนเดียวได้เหรอ
มนุษย์เราจะทนอยู่ได้เหรอ อยู่เพียงลำพัง ณ สถานที่เดิมที่เคยอยู่กับคนที่เรารัก ในเมื่อคนที่เรารักก็จากไปแล้วแสนนาน แต่พี่ไม่เคยเอ่ยปากถาม พี่มองเห็นตาพร่าๆของปู่คำปันขณะที่แกเล่าเรื่องอดีตย้อนกลับไป พี่มั่นใจว่าในอดีตที่ผ่านมาของปู่คำปันนั้นเต็มไปด้วยความสุข ถึงแม้ว่าแกจะแก่ลงกว่าเมื่อก่อน หรือแก่ลงไปอีกกี่สิบปี ความสุขของแกก็จะยังอยู่ ในกระท่อมไผ่ขัดแตะหลังนั้นก็จะยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำดีๆ
อาทิตย์รู้ไหมว่าพี่ภูริชคนนี้ พอปู่คำปันจบเรื่องเล่าของแกปุ๊บ พี่ก็รีบวิ่งเข้าไปหยิบปากกากับกระดาษจดหมายทันที เพื่อจะมาเขียนให้เราได้อ่าน พี่อยากให้เราได้อ่านเรื่องของปู่คำปัน พี่อยากให้ความสุขของเราทั้งสองคนอาทิตย์และพี่ คงอยู่เนิ่นนานเหมือนที่ปู่คำปันมีให้ป้า
อาทิตย์รู้ไหมว่าตั้งแต่วันที่เราบอกลากันที่ชานชาลานั้น ทำไมพี่ยืนมองอาทิตย์อยู่เสียตั้งนาน
เพราะตอนนั้นพี่อยากจะจำใบหน้าของเราไว้ให้นานแสนนาน แต่ที่สุดแล้วพี่ก็จำไม่ได้ทั้งหมด เพราะพี่พยายามมากจนเกินไป พอพี่นึกถึงครั้งนั้น บางทีก็ชัด บางทีก็มัว หรือกลายเป็นอย่างอื่นไป
พี่จำได้ว่า พอรถไฟเริ่มเคลื่อนออกจากชานชาลา พี่ชะเง้อโบกมือให้อาทิตย์ ตอนนั้นรถไฟพาให้ระยะห่างระหว่างเราเพิ่มมากขึ้นทุกทีๆ พี่ยืนจ้อง พี่มองอาทิตย์อยู่เนิ่นนาน เพราะพี่อยากจะจดจำอาทิตย์ไว้ให้มากที่สุด แต่แล้วพี่ก็จำไม่ได้ ว่าอาทิตย์ใส่เสื้อสีขาว หรือสีครีม ตลกไหม
พี่จำไม่ได้ว่าอาทิตย์ยื่นมือข้างไหนมาบีบต้นแขนพี่
จำไม่ได้ว่าอาทิตย์กระซิบเบาแค่ไหน
จำไม่ได้ว่าอาทิตย์หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเมื่อไหร่
พี่นั่งพิงพนักแข็งๆบนรถไฟ แล้วพยายามคิดเรียบเรียงเรื่องราวมากมาย
แล้วพี่ก็รู้...
ไม่ว่าไกลแค่ไหนพี่จะต้องได้กลับมาเจอหน้าอาทิตย์อีกครั้งเป็นแน่ เพื่อตอบคำถามทั้งหมดในใจพี่
อาทิตย์ครับ
นับจากวันนั้น ไม่ว่าเรื่องราวที่จำ หรือจำไม่ได้ มันยังคงวนเวียนอยู่รอบๆตัวพี่
มันคุกรุ่นอยู่ในกองไฟ
อุ่นอยู่ในหมอนที่หนุน
มันสัมผัสพี่ผ่านธารไหลเย็น และพร่างพรมผ่านละอองฝน
มันช่างละเอียดลออและมีความหมาย
ทุกที่ที่พี่ไป ทุกที่ที่พี่สัมผัส
นับจากวันนั้นพี่ไม่ได้หยุดถึงคิดเราอีกเลย
และจะยังคิดถึงเราตลอดไป
ด้วยรัก
ภูริช
๕/๑๑/๒๕๓๕
อาทิตย์ที่รัก
ขณะที่เรากำลังอ่านจดหมายฉบับนี้พี่อาจจะถึงกรุงเทพฯแล้ว หรือจวนจะถึง อีกสี่วันพี่จะออกจากลำปาง ถ้ากะเวลาไม่ผิดมากนักพี่ก็จะถึงกรุงเทพฯทันเวลาพอดี
พี่จะไปคอยเราอยู่ที่ท่าพระจันทร์นะ พออาทิตย์เรียนเสร็จจะได้เดินออกจากมหาวิทยาลัยมาหาพี่เลย
มาถึงแล้วก็มองหาผู้ชายใส่เสื้อสีฟ้า หน้าตาคุ้นเคย ผู้ชายคนที่ชอบยิ้มหน้าบานเหมือนที่เราว่านั่นแหละ
พี่ไม่อยากบอกก่อนเลยว่าพี่เตรียมอะไรไว้ให้อาทิตย์ ตอนที่พี่เขียนจดหมายนี้มันก็อยู่ในมือของพี่ด้วยสิ
พี่อดใจไม่ไหว แต่ก็จะะเฉลยให้ฟัง
“เจ้ากระบองเพชรต้นนั้นมันออกดอกแล้วละครับ”
ไม่ต้องดีใจจนกระโดดไปหรอก!
พี่รู้ว่าเราดีใจ พี่ก็จะเอาไปคืนให้เจ้าของของมันแล้วล่ะ ตอนนี้มันคิดถึงเจ้าของมันแย่ละ
พี่จะเก็บความคิดถึงไว้ก่อนจนกว่าจะได้เห็นหน้าเรานะ
อย่าปล่อยให้พี่รอนานเชียวล่ะ
คิดถึงที่สุดและรักที่สุด
จาก
พี่ภูริช
๙/๑๑/๒๕๓๕
ใบแจ้งรับจดหมาย
กรมไปรษณีย์
ตามที่มีจดหมายนำส่งจากคุณ
ชื่อ
- ภูริช ชยะกร
ทางไปรษณีย์ต้องขออภัยที่ไม่สามารถนำจ่ายให้ท่านได้เนื่องจาก
เหตุขัดข้องที่นำจ่ายผู้รับไม่ได้
- เสียชีวิต
ขอให้ท่านนำใบแจ้งฯ ฉบับนี้ พร้อมหลักฐานประจำตัวของท่าน
ไปติดต่อขอรับจดหมายคืน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ ตามวันเวลาที่กำหนด
สิ่งของ
- ซองขนาดเล็ก
จำนวน
- ๖
ทางกรมไปรษณีย์ต้องขออภัยในความล่าช้าและความไม่สะดวกมายังผู้ใช้บริการ
ลงชื่อ ตรีกร เจ้าพนักงานไปรษณีย์ภูมิภาค ผู้ออกใบแจ้ง