(http://upload.sodazaa.com/image.php?id=B728_5145E743&jpg) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36776.msg2282419#msg2282419) (http://game.sodazaa.com) (http://radio.sodazaa.com)
ทาสรักเงารัตติกาล (Dark)
Part 1 (K)
‘หัวใจของผมถูกพันธนาการตั้งแต่ได้พบเจอกับเขา...เมื่อตอนนั้น...’
“ไอ้เด็กนี่ใช่ไหมที่นายบอกให้ผ่าเอาอวัยวะไปขาย” เสียงผู้ชายตัวโตผิวคล้ำกล้ามเป็นมัดๆ ที่ยืนอยู่ค้ำหัวผมเอ่ยถามเพื่อนคนข้างๆ
“เออ คนนี้แหละ แม่งเป็นใบ้เลยดันขายไม่ออก น่าเสียดายว่ะทั้งๆ ที่หน้าตาก็ดูน่ารัก แต่อย่างว่าไม่มีเสียงมันจะไปมีอารมณ์อะไร” เพื่อนคนข้างๆ ที่ผิวขาวกว่าเอ่ยบอก ก่อนที่สายตาจะลามเลียไปทั่วร่างกายที่เปล่าเปลือยเกือบทั้งหมดของผม
นี่ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงนะ...สมองตอนนี้เบลอไปหมด ดวงตาเลื่อนลอยดูไม่มีจุดหมายปลายทาง
...อืม...จริงด้วยสิ...พ่อกับแม่ขายผมเพื่อปลดหนี้การพนันของบ่อนแห่งหนึ่ง จากนั้นผมก็ถูกขายต่อมาจากที่นั่นมายังคลับ ‘สัตว์เลี้ยง’ นี่พ่อกับแม่คงไม่ได้บอกใครสินะว่าผมเป็นใบ้เพราะจากที่ได้ยินเขาพูดๆ กันมาว่าราคาตัวผมแพงอยู่พอตัว แต่คลับนี่ก็ยอมทุ้ม หึๆ แล้วเป็นไงสุดท้ายก็ได้ของมีตำหนิจนต้องเอามาผ่าตัดขายอวัยวะ
“จริงอย่างที่มึงพูด นี่กูก็ไม่ได้ปล่อยมาหลายวันแล้ว เจ้านายคงไม่ว่าหรอกใช่ไหมว๊ะที่จะ ‘เอา’ ของมีตำหนิก่อนที่จะควักเครื่องในขาย” เสียงผู้ชายตัวผิวคล้ำพูดต่อ มือหยาบเริ่มลูบไล้ไปตามแขนของผมอย่างช้าๆ เหมือนกับยั่วอารมณ์ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เลย มันขยักแขยงจนอยากจะอ้วกกับสัมผัสนี้เสียมากกว่า ถ้าไม่ติดที่ว่าถูกจับกรอกยาอะไรสักอย่างก่อนที่จะถูกเอาขึ้นไปโชว์เหมือนสัตว์เลี้ยงบนเวทีประมูล ผมคงมีแรงที่จะขัดขืน หากแต่ตอนนี้ขนาดแรงที่จะขยับร่างกายยังแทบจะไม่มีแล้วผมจะเอาแรงอะไรไปขัดขืนมัน
...เอาเถอะ จะตายอยู่แล้ว อยากทำอะไรก็ตามแต่พวกมันจะทำเถอะ...
“ฮะๆ ถ้ามึงจะเอามึงต้องให้กูเอามันก่อนแล้วมึงก็ค่อยเอาต่อจากกู ตอนนี้กูเงี่ยนโคตร” ผู้ชายผิวขาวที่เป็นคนแบกผมลงจากเวทีมาถึงหลังคลับเอ่ยบอกเพื่อน
“อ้าว! ไหงงั้นว๊ะ” อีกฝ่ายเริ่มโวยวายเมื่อถูกเอาเปรียบ
ผมมองดูคนทั้งสองที่กำลังทะเลาะกันอย่างเลื่อนลอย ก่อนที่จะเงยหน้ามองเพดานบนห้องอย่างไม่มีอะไรจะทำ อยากให้พวกมันทำอะไรก็ทำจะได้ฆ่าผมให้ตายเสียที ไม่อยากอยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว
...ไม่เหลือใครแล้ว
...ไม่มีที่ไปแล้ว
...อยากตายไปให้พ้นๆ ...
“กูเล็งมันตั้งแต่ก่อนที่จะเอาขึ้นประมูลแล้ว แม่ง เนื้อนุ่มได้โล่เลยว่ะ น่าตาก็น่าเร้าอารมณ์ แต่เสียทีดันไม่มีเสียง ไม่อย่างนั้นมันคงไม่มีทางรอดมาถึงขี้ข้าอย่างกูหรอก เข้าใจ๋” ผู้ชายผิวขาวอธิบายให้เพื่อนฟังอย่างกวนๆ แต่ดูเหมือนผู้ชายผิวคล้ำจะยังไม่เข้าใจเพราะคิ้วขมวดกันไม่ยอมคลาย
“ไม่โว้ย! ถ้าจะเอาก็ต้องเอาด้วยกัน อย่าเอาเปรียบกันสิวะ!” ชายผิวคล้ำตะคอกอย่างหัวเสีย แต่คนผิวขาวดันผิวปากอย่างอารมณ์ดีที่ได้ แกล้งเพื่อนตัวเอง
“เออๆ เล่นกันสามคนก็สนุกนะกูว่า” คำพูดหยาบคายทุกคำพูดเสียดแทงเข้ามาในหูของผม ผมค่อยๆ หลับตาช้าๆ สูดหายใจเข้าออกเมื่อทั้งสองร่างเริ่มโลมเลียตามร่างกายของผม
“ทำอะไรกันอยู่” เสียงเย็นๆ ดังสะท้อนไปทั่วห้องแคบๆ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นสาบ ผู้ชายสองคนที่กำลังโลมเลียผมหยุดชะงักการกระทำก่อนที่จะหันหน้าไปหาคนที่ยืนอยู่หน้าประตู แต่ตัวผมเลือกที่จะหลับตาอยู่อย่างนั้นราวกับคนที่ใกล้จะตาย จากนั้นทุกสัมผัสบนตัวของผมก็หายไปเมื่อคนทั้งสองเดินตรงไปหน้าประตู
“เฮ้ย! มึงเป็นใคร เข้ามาที่นี่ได้ยังไง!” เสียงตะโกนของผู้ชายผิวคล้ำเอ่ยถามคนที่เข้ามาขัดจังหวะอย่างอารมณ์เสีย ถึงผมจะไม่ได้ลืมตามองผมก็รู้ว่าตอนนี้มันโกรธขนาดไหนที่มีคนมาขัดอารมณ์มัน
“ฉันถามว่าพวกนายทำ...”
“ขอโทษครับที่กระผมมาช้า!” เสียงตะโกนของผู้มาใหม่คนที่สองเอ่ยบอกใครบางคนก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเท้าเข้ามาในห้อง
“เจ้านายมีอะไรเหรอครับ” เสียงผู้ชายตัวขาวเอ่ยถามผู้ที่มาใหม่
“พวกแกไปเอาเด็กคนนั้นมา มีคนมาซื้อเด็กคนนั้นแล้ว” ผู้ชายที่เป็นเจ้านายเอ่ยบอกลูกน้องทั้งสองคน จากนั้นผมก็รู้สึกได้ว่ามีคนคว้าแขนผมให้ลุกขึ้น แต่ผมก็ไม่มีแรงพอที่จะลุกขึ้น แล้วจู่ๆ ก็มีคนโอบตัวผมไปอุ้มในท่าอุ้มเจ้าหญิง ก่อนจะมีเสื้อมาคลุมผมไว้ทั้งตัว
กลิ่นหอมเย็นๆ กับสัมผัสจากมือของคนที่อุ้มผมอยู่เย็นยะเยือกราวกับจะไม่มีความอบอุ่นอะไร แต่มันกลับทำให้ใจของผมเต้นแรงอย่างน่าประหลาด แม้ตัวไม่รู้สึกอบอุ่นกายแต่ใจกลับอบอุ่น
“สินค้าเป็นยังไงบ้างครับ มีตำหนิหรือเปล่า หากมีตำหนิท่านสามารถนำมาคืนทางคลับเราได้ภายในสามวันนะครับ แต่ทางคลับเราจะขอดูสภาพของสินค้า ก่อนถ้าหากเสียหายเพราะท่านเราก็จะหักเงินที่ท่านจ่ายตามสภาพของสินค้าส่วนเงินที่เหลือก็จะคืนให้กับท่านนะครับ” ผู้ชายที่เป็นเจ้านายเอ่ยบอกลูกค้าที่กำลังอุ้มผมอยู่
“อืม” คนที่อุ้มผมตอบสั้นๆ ก่อนที่จะขยับคล้ายกำลังเดินออกจากห้องแสนอับนี้
“ขอบคุณที่ใช้บริการทางคลับเรา โอกาสหน้าเชิญใหม่นะครับ” เสียงตะโกนเบาๆ บอกคนที่กำลังอุ้มผมอยู่
ผมรู้สึกได้หลังจากที่เดินมาไม่นาน รู้สึกได้ว่า...ผมออกมาจากคลับนรกนั่นแล้ว ความปิติยินดีแล้นเข้ามาในอก...รู้สึกได้ว่าไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอีกต่อไปแล้ว เมื่อคนที่อุ้มผมเดินออกมาได้สักพักก็หยุดเดินแล้วค่อยๆ วางผมลงบนพื้นที่มีหิมะคลุมไปหมดก่อนที่จะดันไหล่ของผมให้อิงกับอะไรบางอย่างที่อยู่ด้านหลัง ร่างกายเย็นสะท้านอยากโผไปหาอ้อมกอดเดิมแต่ก็ทำไม่ได้เพราะฤทธิ์ของยาที่ถูกจับกรอกปากยังไม่หมด
“จำไว้นะเด็กน้อย จากวันนี้เจ้าเป็นของข้า ข้าคือชีวิตและหัวใจของเจ้า เจ้าจะไม่ได้เป็นอิสระจนกว่าข้าจะตาย เจ้าจะตาย หรือข้าจะปลดปล่อยเจ้าไป” ผมสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างช้าๆ
“ดี เช่นนั้นจากวันนี้เจ้าจะกลายเป็นทาสของข้า จงทิ้งอดีตที่เลวร้ายของเจ้าไปเสียแล้วมาเริ่มชีวิตใหม่ตั้งแต่วันนี้ ด้วยนามของข้า ลาร์ค อัลเกร เดอเมอรัส ผู้เป็นเจ้าชีวิตของเจ้า จะขอเปลี่ยนนามเจ้าได้หรือไม่” ผมพยักหน้าช้าๆ อย่างเข้าใจ และร่างกายของผมก็เริ่มขยับได้เกือบปกติ แต่ผมก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้น
“นามจากนี้ของเจ้าลูซ...ลูซ อัลเกร เดอเมอรัส” เสียงเย็นก้องกังวานไปทั่วหัวใจของผมทำให้รู้สึกอุ่นวาบ ก่อนที่เสื้อที่คลุมหัวผมจะถูกเปิดออกช้าๆ แสงสว่างส่องลอดเข้ามาในดวงตาที่ปิดอยู่ของผม มือเย็นเยียบเอื้อมมาสัมผัสที่แก้มของผมอย่างแผ่วเบา
ผมลืมตาขึ้นช้าๆ แสงสว่างวาบเข้ามาดวงตา ก่อนที่ผมจะเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
ผู้ชาย ใบหน้าคม จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากอย่างพอดี ผมสีเทา สีผิวซีดราวกับกระดาษ และที่ทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ ก็คือดวงตาสีเทาแสนเย็นชา แค่มองดูก็รู้แล้วว่าคนตรงหน้าสูงส่งกว่าผมมากขนาดไหน ทุกอย่างที่หล่อหลอมเป็นตัวเขาดูลงตัวทุกอย่าง หล่อเหลาปนงดงามแต่ก็แฝงไปด้วยความดุดัน แข็งกร้าว เข้มแข็งและเย็นชาราวกับน้ำแข็งที่จะไม่มีวันละลายลงได้ง่ายๆ
ผมมองคนตรงหน้าก่อนที่ดวงตาสีฟ้าของตัวเองจะรื้นด้วยน้ำตาสีใสและไหลลงสู่พื้นหิมะด้านล่าง ผมโผเข้าไปกอดร่างตรงหน้าแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง
ไม่รู้ทำไม...ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้ แต่ผมกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาดแม้เขาจะไม่ได้ยิ้มให้หรือหัวเราะ แต่ทุกสัมผัสที่เขากระทำกับผม ผมรับรู้ได้ว่าเขาทะนุถนอมผม สำหรับผมเด็กที่ถูกเลี้ยงมาอย่างไม่เคยได้รับความรักจากพ่อหรือแม่แค่การกระทำแค่นี้ก็สามารถทำให้ผมกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ ของเขาได้แล้ว
‘ผมสัญญาจะอยู่กับคุณตลอดไปจนลมหายใจสุดท้ายของผมจะเหลืออยู่’ ผมพึมพำออกมาอย่างไม่มีเสียง
ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ก็ล่วงเลยมาได้ถึง 3 อาทิตย์ แล้วที่ผมมาอยู่กับลาร์ค ผมกับเขาไม่ได้คุยอะไรกันมากเพราะผมพูดไม่ได้ ตอนแรกผมนึกว่าเขาจะเสียใจที่ผมพูดไม่ได้ แต่ไม่ใช่เลย เขาบอกว่าเขารู้อยู่แล้วว่าผมเป็นอย่างนี้แล้วอีกอย่างเขาก็ไม่ชอบคนพูดมากมันน่ารำคาญ
อ่า นี่แหละคือความโชคดีของผม ผมพูดคุยกับเขาโดยขยับปากแม้จะไม่มีเสียงออกมาแต่เขากลับรู้ได้โดยทันที ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงผมจะไม่มีเสียงผมก็สามารถใช้ชีวิตอยู่กับเขาได้อย่างปกติ
ก๊อกๆ
ตอนนี้ผมมาเคาะประตูหน้าห้องของลาร์ค ก่อนที่คนในห้องจะตะโกนบอกผมว่า
“มีอะไรลูซ!” เสียงตะคอกนั่นผมชินมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วล่ะ
‘ทานข้าวครับ’ ผมบอกอย่างไม่มีเสียง แต่คุณเชื่อเถอะว่ายังไงลาร์คก็รู้ว่าผมต้องการจะบอกอะไร
“ขอโทษทีทานไปก่อนแล้วกัน ตอนนี้ข้ากำลังยุ่งอยู่!” ลาร์คบอกผม ผมพยักหน้าเบาก่อนที่จะเตรียมตัวหันหลังเดินออกไปจากหน้าห้อง
เพล้ง!
เสียงแก้วแตกดังออกมาจากในห้อง ผมตกใจก่อนที่จะตั้งสติได้ก็รีบไปทุบประตูหน้าห้องของลาร์คทันที
ปัง! ปัง! ปัง!
‘ลาร์ค! ลาร์ค! ลาร์คเป็นอะไรหรือเปล่า!’ ผมตะโกนถามคนในห้องแบบไม่มีเสียง
“ไม่! ข้าไม่เป็นอะไร เจ้ารีบไปกิน... อ้าาาาาาาาาาา!” ลาร์คยังพูดไม่จบประโยคผมก็ทุบประตูปังๆ อีกรอบ ตะโกนถามแล้วก็แล้ว ทุกอย่างในห้องเงียบเมื่อผมแนบหูเข้ากับประตู แม้แต่เสียงหายใจผมก็ไม่ได้ยิน รับรู้ได้เพียงความหนาวยะเยือกที่ลอดออกมานอกห้อง แม้จะเป็นความหนาวยะเยือกที่คุ้นเคยแต่ผมก็อดรู้สึกว่าหนาวมากไม่ได้
ผมตัดสินใจไปหยิบกุญแจจากห้องเก็บของของลาร์คที่อยู่ชั้นใต้ดิน ที่ๆ ผมอยู่กับลาร์คเป็นคฤหาสน์หลังเก่าๆ หากมองดูจากภายนอกจะคิดว่าเป็นเพียงคฤหาสน์ร้างผีสิงเพราะมีแต่ต้นไม้แปลกๆ ปกคลุมเต็มไปหมด แต่พอเข้ามาด้านในที่นี่งามยิ่งกว่าที่ใดๆ เสียอีก
เมื่อผมได้กุญแจแล้วก็รีบสาวเท้าไปยังห้องของลาร์คทันที ในใจก็ภาวนาแต่ว่าอย่าให้ลาร์คเป็นอะไรไป ไม่อย่างนั้นผมคงอยู่ต่อไปไม่ได้หากว่าไม่มีเขา
แก๊ก!
ผมไขกุญแจห้อง เมื่อปลดล็อคได้ก็เปิดประตูออก
...ความเย็นยะเยือกจากในห้องทำให้ผมต้องกอดอกตัวเองอย่างเหน็บหนาว ในนี้มืดสนิท แต่ก็ยังพอมีแสงลอดเข้ามาเล็กน้อย ทำให้ผมมองเห็นบ้างนิดหน่อย ผมยืนนิ่งสักพักสายตาก็เริ่มปรับจนชินกับความมืด ผมมองไปรอบๆ เห็นเตียงใหญ่ตั้งอยู่กลางห้องจึงรีบสาวเท้าตรงไปที่เตียงทันที
เคร้ง!
เสียงเหล็กขยับกระทบกันทำให้ผมหรี่ตาลงมองคนที่อยู่บนเตียง
...แต่จู่ๆ เหมือนกับร่างที่อยู่บนเตียงจะกระโจนมาหาผมหากก็มาไม่ได้คย้ายติดอะไรอยู่ ผมอ้าปากเมื่อเห็นสิ่งนั้น
‘ลาร์ค!!!!’ ผมตะโกนอย่างไร้เสียง มองสีหน้าของลาร์คมองผมอย่างกับอาหารชั้นเลิศ ราวกับเวลาหยุดนิ่ง ในหัวผมตีกันวุ่นวายไปหมด
นี่มันอะไรกัน ทำไมลาร์คถึงเป็นอย่างนี้ ผมจ้องเข้าไปในดวงตาที่เคยเป็นสีเทาแต่บัดนี้กลับกลายเป็นสีแดงฉานราวกับเลือด ตัวผมสั่นสะท้านไปหมดอยากจะช่วยร่างตรงหน้าแต่ก็กลัวเกินไป ทั้งตัวสั่นไปด้วยความหนาวบวกกับความกลัว ลาร์คเริ่มแยกเขี้ยวขู่ผม ทำให้ผมเห็นเขี้ยวที่ยาวกว่าปกติอยู่สองซี่ ลาร์คจ้องผมไม่วางตา
...ไม่ใช่สิ! ลาร์คจ้องมองคอของผมไม่วางตาต่างหาก คำแรกที่ผุดเข้ามาในหัวของผมก็คือ
แวมไพร์!
ไม่จริงน่า...ลารค์น่ะเหรอจะเป็นแวมไพร ลาร์คที่แสนจะใจดีของผมน่ะเหรอจะเป็นปีศาจไร้หัวใจอย่างนั้น นี่ผมคงฝันไปสินะ ที่จริงตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนเตียงอยู่ผมยังไม่ตื่นแน่ๆ
...ผมหลับตาลงอย่างนิ่งๆ สูดหายใจเข้าออกก่อนที่จะลืมตาขึ้น
ทุกอย่างไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม ลาร์คยังคงมีตาสีแดงและแยกเขี้ยวใส่ผมไม่หยุด แต่แล้วลาร์คก็หยุดและทรุดตัวนอนกับที่นอน หน้าตาคล้ายคนใกล้จะตายทำให้ผมสั่นไปทั้งตัว
‘ลาร์ค!’ ผมตะโกนอย่างตกใจ ลาร์คค่อยๆ ลืมตาที่อ่อนแรงขึ้นดวงตาเป็นสีเทาแต่เพียงพริบตาก็กลายเป็นสีแดง
“หนีไปลูซ หนีไป...” ลาร์คพึมพำเบาๆ พอที่ผมจะได้ยินเพราะห้องนี้มันเต็มไปด้วยความเงียบ
ผมลังเลอยู่ชั่วครู่ ชั่งใจว่าลาร์คใช่แวมไพร์จริงหรือไม่ ก่อนจะอ้าปากแล้วกัดที่นิ้วโป้งของตัวเองพอให้เป็นแผลและมีเลือดไหลออกมาไม่มากแล้วยื่นไปใกล้ๆ ลาร์ค
เคร้ง!
“อ้าาาาาาาาาาาาา!!!!!!!” ลาร์คร้องตอบสนองก่อนที่จะพยายามขืนโซ่ที่พันธนาการทั้งแขนและขาของตัวเอง เมื่อได้กลิ่นเลือดจากนิ้วผม
ผมปิดปากร้องไห้เมื่อเห็นลาร์คเป็นอย่างนี้ ลาร์คดิ้นร้นและคลั้งราวกับสัตว์ป่า ดวงตาสีแดงก่ำจ้องมองผมอยากกระหาย ผมทรุดตัวร้องไห้ลาร์คก็เริ่มสงบและกลับไปนอนแน่นิ่งอยู่เหมือนเดิมเมื่อไม่มีสิ่งกระตุ้น
เมื่อร้องไห้จนเหนื่อยอ่อนผมก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้อง แต่ก่อนที่จะออกจากห้องก่อนไม่วายหันไปมองลาร์ค ที่กำลังนอนแน่นิ่งดวงตาสีแดงทอดมองผมอย่างเศร้าๆ
ผมเดินเข้ามาภายในห้องครัวที่แสนกว้างพลางนึกถึงลาร์ค
ลาร์คเป็นแวมไพร์กินอาหารไม่ได้ กินได้เพียงแต่เลือดแต่ทำไม...ลาร์คมานั่งกินข้าวกับผมทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าตัวเองกินไปก็ไม่อิ่มอยู่ดี...หรือว่า...
...ลาร์คทำอย่างนี้ก็เพื่อผม
น้ำตาที่เหือดแห้งไปเริ่มไหลมาอีก ผมปิดหน้าร้องไห้อย่างเสียใจ
ไม่ใช่! ลาร์คไม่ได้ไร้หัวใจเสียหน่อย ลาร์คมีความรู้สึก ลาร์คไม่ใช่ปีศาจไร้หัวใจ ผมลุกขึ้นเดินไปหยิบมีดและแก้วมาก่อนที่จะหลับตากรีดข้อมือตัวเองจนเลือดสีแดงคาวคลุ้งไหลออกจากข้อมือเป็นทางยาวและเอาแก้วมารองเลือดที่หยดลง
มีต่อด้านล่างอีกนะคะ
VVVV
VVV