พิมพ์หน้านี้ - ♥ [เรื่องสั้น] เหนือฝัน ตอนที่ 4 (จบ) 20/07/12
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: -west- ที่ 24-06-2012 20:54:48
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
(http://dl.glitter-graphics.net/pub/1267/1267761pggbvxciek.gif)
งานเขียนที่ผ่านมา
01 - Friend's brother, brother's friend เมื่อเพื่อนสงสัยว่าพี่ชาย... [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32944.0)
02 - เรื่องสั้น เหนือฝัน [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33691.0)
03 - รักเร่ Dalhia [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36452.0)
04 - เรื่องสั้น หลบรัก [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39195.0)
05 - คำประกาศของความรู้สึกใหม่ Adore you [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40483.0)
06 - Special Happiness ฝากรักไว้ข้างบ้าน [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40617.0)
08 - When the wind blow back [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43545.msg2809650#msg2809650)
09 - โอบตะวัน [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45980.0)
10 - candy [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=48823.0)
11 - At first sight [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49998.msg3229151#msg3229151)
12 - สู่กลางใจ | a tu co ra zon [End] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53541.0)
13 - หลังม่าน | behind the scene [End] ***Ft. Afterday (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=53818.0)
14 - กลพยัคฆ์ [Continued] (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=57275.0)
เ ห นื อ ฝั น
(http://1.bp.blogspot.com/-a-jvRVrF61U/T4ai4BrkrbI/AAAAAAAAluc/6cQkhiyMT1Q/s1600/704601jrshuu1ia1.gif)
content
บทที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33691.msg2035436#msg2035436)
บทที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33691.msg2039702#msg2039702)
บทที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33691.msg2052061#msg2052061)
บทที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33691.msg2062280#msg2062280)
-
:mc4: :mc4: :mc4:
-
มารอค่ะ
-
ตอนที่ 01
ปานฝันเข้าใจว่าเขาเป็นเด็กกำพร้า และไร้ญาติขาดมิตรตั้งแต่ปานวาดผู้เป็นแม่จากไปเมื่อหลายปีก่อน กระทั่งได้รับโทรศัพท์จากสายนิรนามซึ่งติดต่อมาจากทางภาคเหนือโดยชายผู้อ้างตัวว่าเป็นพ่อเลี้ยง ที่เขามีเพียงภาพความทรงจำอันเลือนรางเหลือเกินอยู่ในหัว
ภาพวันที่แม่ร่ำร้องแทบขาดใจตอนที่พ่อเดินจากไป แม้วัยนั้นเขายังเล็กเหลือเกินก็ยังพออ่านออกถึงความรู้สึกเจ็บปวดไม่ต่างกันในแววตาของบุรุษผู้ทิ้งเขากับแม่ไว้เบื้องหลังได้เป็นอย่างดี
ฝันไม่โกรธพ่อหรอกที่เลือกทำเช่นนั้น เมื่อคนเรามาถึงทางแยก สิ่งที่ต้องทำคือตัดสินใจ
ในเมื่อแม่เป็นคนมาที่หลังดังนั้นพ่อจึงต้องหันกลับไปดูแลภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายซึ่งกำลังจะให้กำเนิดลูกชายในสายเลือด ไม่ใช่เขา ที่เป็นแค่ลูกติดเมียน้อย
มันถูกต้องโดยไม่ต้องคิดทบทวนให้เสียเวลา เพราะถ้าเป็นฝัน เขาก็จะทำเช่นเดียวกันกับชายแก่
แต่ปานฝันก็อดคิดไม่ได้ว่าบางทีพ่ออาจเคยลืมไปแล้วว่ายังมีเลือดเนื้อเชื้อไขของสตรีอันเป็นที่รักอยู่ กระทั่งที่เจอกันอีกหนในงานศพของแม่เมื่อวันเวลาผ่านมาร่วม 20 ปี
ถึงคราเดือดร้อน ต้องพึ่งพาใครสักคนให้ไว้ใจในมหานครใหญ่ ภาพของชายหนุ่มวัย 24 ผู้มีแววตาโศกกับกระจับปากได้รูปละม้ายว่าถอดแบบจากมารดา จึงปรากฏสะท้อนขึ้นมาในตาพร่างของชายวัยกลางคน
ปานฝันก้มหน้าลงมองนาฬิกาคาสิโอที่เขาซื้อตอนลดราคา 30%อีกครั้ง หลังจากเลยเวลานัดหมายมาราว 20 นาที วันนี้ฝนตกหนักดังนั้นฝันจึงไม่แปลกใจสักนิดถ้าเครื่องจากเชียงใหม่จะลงจอดที่สนามบินดีเลย์ กระนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องยืนขาแข็งถอนหายใจรอน้องชายต่างสายเลือดอีกนานแค่ไหน กระทั่งผู้ชายผิวขาวเหลืองค่อนไปทางซีดจัด สวมเสื้อยืดสีชมพูบานเย็นและแว่นกันแดดสีเดียวกับเส้นผมตลอดจนกางเกงยีนส์ขาเดฟซึ่งเป็นลักษณะคร่าวๆที่อีกฝ่ายบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของคิมหันต์ ลูกชายในไส้เพียงคนเดียวของพ่อปรากฎตัว และอย่างที่ชายแก่บอกไว้ ว่าแม้การแต่งกายของคิมหันต์จะดูเหมือนคนปกติทั่วไปแต่ปานฝันจะสังเกตน้องและจดจำได้เองราวถูกมนต์สะกด และมันก็เป็นเช่นนั้นจนชายหนุ่มนึกว่ามันประหลาด
“พี่ฝัน?”
เด็กชายที่ได้รับการฝากฝังเอ่ยทักให้เจ้าของชื่อรู้สึกตัว ปานฝันรับคำในลำคอก่อนยื้อกระเป๋าลากใบเล็กมาถือนำน้องชายเดินออกจากสนามบิน ข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่ปานฝันได้จากบิดาคือคิมหันต์ถูกเลี้ยงดูอย่างค่อนข้างเข้มงวดและเป็นระเบียบ ฟูมฟักทะนุถนอมราวไข่ในหินตั้งแต่ลืมตาดูโลกจวบจนปัจจุบันที่ได้งานพลัดมาต่างถิ่นแถมยังเป็นนครแห่งแสงสีที่มีอันตรายล้อมรอบทุกลมหายใจเสียด้วย ดังนั้นพ่อและแม่ของเด็กหนุ่มจึงกังวลจนแทบจะให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่รับงานในบริษัทยักษ์ใหญ่แล้วนอนตีพุงกินสมบัติเก่าอยู่บ้าน จนเจ้าตัวต้องรั้นเอ่ยถามกับบุพการีว่าถ้าวันหนึ่งเขาไม่มีพ่อแม่คอยหนุนหลังแล้ว คิมหันต์จะใช้ชีวิตอยู่บนโลกอันแสนโหดร้ายนี่ได้อย่างไร
ดังนั้นคุณหญิงยศวดีจึงยอมปล่อยให้ลูกชายย้ายมาทำงานที่กรุงเทพภายใต้ความดูแลของอดีตหนามยอกอกหล่อน
เวลาก็ผ่านมาเนิ่นนานเหลือเกิน อีกทั้งปานวาดก็จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาร่วม4ปีแล้ว คุณหญิงจึงขออโหสิกรรมให้ครอบครัวของปานฝันที่ตอนนี้เหลือเพียงเขา ตัวคนเดียว
นิวบีทเทิลสีฟ้าเป็นสมบัติชั้นล่าสุดที่ปานวาดซื้อก่อนสิ้นใจซึ่งงวดสุดท้ายยังทิ้งภาระเอาไว้ให้ลูกชายผ่อน จวบจนบัดนี้มันกลายเป็นสมบัติของบุรุษหนุ่มเต็มตัว เพื่อนฝูงมักแซวกันสนุกสนานว่ารถดูน่ารักผิดกับคนใช้ซึ่งมีออร่าสีทมึนแผ่กระจายรอบกายตลอดเวลา ทว่าฝันก็ยังคงใช้อย่างทะนุถนอมจนแม้มันตกรุ่นแล้วเขาก็ยังรักษาไม่ให้เกิดร่องรอยขีดข่วนสักนิดเหมือนสมัยที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เช่นเดียวกับสมบัติชั้นอื่นๆที่เป็นตัวแทนของมารดา
ปานฝันกับแม่ เป็นครอบครัวน่ารักๆที่อยู่ด้วยกันเพียงสองคนและสัญญาว่าจะดูแลซึ่งกันและกันจนกว่าจะสิ้นใจ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ทั้งคู่โอบกอดกันด้วยความสิ้นหวังและเจ็บปวด ตั้งแต่พ่อแท้ๆกับปานวาดเลิกรากันไป กระทั่งชายผู้มาจากทิศเหนือสร้างรอยยิ้มให้แม่และเขาอีกครั้ง ก่อนจะกรีดลงบนแผลเดิมของหญิงสาวให้เผชิญกับความโดดเดี่ยวแทบขาดใจ
ถึงตอนนี้ ฝันกลับรู้สึกดีใจที่ปานวาดด่วนจากไป เพราะถ้าเขาต้องเป็นฝ่ายทิ้งปานวาดไปก่อน ฝันไม่รู้เลยว่าเขาจะให้อภัยตัวเองที่ทำร้ายแม่เป็นคนที่ 3 ได้อย่างไร
“พ่อบอกว่าบ้านพี่ฝันอยู่ใกล้ bts "
ทันทีที่นิวบีทเทิลเคลื่อนตัวออกจากสนามบิน เด็กหนุ่มชาวเหนือก็หันมาถามทำลายความเงียบซึ่งกำลังทำให้ทั้งคู่เริ่มอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกเสียก่อน ปานฝันยังคงตอบรับในลำคอเท่านั้นไม่สานต่อเรื่องราวให้มากความ
“ที่ทำงานของพี่ฝันก็อยู่ใกล้บริษัทเหนือใช่ไหมครับ”
ปานฝันเหลือบตามองเด็กหนุ่ม อันที่จริงคิมหันต์ดูเหมือนจะพอรู้เรื่องราวโดยคร่าวของเขามาก่อนเช่นกันถึงได้ชวนคุยในเรื่องส่วนตัว ทว่าชายหนุ่มยังคงให้ความเงียบเป็นเครื่องมือสื่อสาร เขาไม่ใช่คนถนัดที่จะพูดพร่ำอะไรให้มากความซึ่งเป็นนิสัยเดิมตั้งแต่ยังเล็ก ปานฝันจองจำตัวเองอยู่ในความเงียบสงัดเพราะคิดว่าการสานสัมพันธ์มันเจ็บปวดและน่ารำคาญ
เจอ พบ จบ จาก...
เขาไม่เคยเป็นที่จดจำของใคร และไม่ได้อยากเป็น ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยหากปานฝันจะไม่มีคนที่คบหากันในรูปแบบของคนรักแม้วัยจะใกล้เลขสามเข้ามาทุกที ผิดกับอีกคน ที่ถึงแม้เขาจะนิ่งเฉยใส่เท่าไร แต่กลับดูเหมือนคิมหันต์ไม่ได้สะทกสะท้านหรือเหน็บหนาวในปฎิกิริยาที่ไม่ได้เป็นมิตรนักของพี่ชายเลยสักนิด เขายังชวนปานฝันคุยต่อแบบไม่รู้สึกประหม่า
“วันนี้พี่ฝันพาเหนือเที่ยวกรุงเทพหน่อยได้ไหมครับ”
เหนืออ้อนขอ สายตาสกราวจ้องออกไปนอกตัวกระจกที่มีหยดฝนเกาะพราว เม็ดของน้ำฝนเริ่มตกหนัก ถี่ และใหญ่ขึ้นกว่าช่วงที่ออกจากสนามบินในตอนแรก มันบดบังทัศนียภาพของตัวเมือง หนำซ้ำยังเร่งให้แอร์ในรถเย็นจัดจนไหล่บางของคิมหันต์ต้องห่อตัวลง
“ไว้วันหลังแล้วกัน ฝนตกไปเที่ยวไหนก็ไม่สนุก”
ปานฝันตอบ เขาเลื่อนมือไปปรับแอร์ให้อุณหภูมิในรถสูงขึ้น ตาคมเหลือบมองน้องชายที่สะท้อนภาพอยู่ในกระจกมองหลังนิ่ง
“ครับ”
เหนือรับคำอย่างว่าง่าย พลันหลุบสายตาลงต่ำเมื่อสบตากับพี่ชายในเรือนกระจกด้วยความบังเอิญ
บ้านหลังที่นิวบีทเทิลสีฟ้าอ่อนเลี้ยวเข้ามาจอดเป็นบ้านเดี่ยวขนาดเล็กมากเมื่อเทียบกับบ้านที่เชียงใหม่ของคิมหันต์ หากแต่ทำเลใจกลางเมืองหลวงขณะที่ผู้คนยังต้องเบียดเสียดหาที่อยู่กันบนอากาศก็ทำให้เหนือรู้ว่าคุณวาดกับลูกชายมีฐานะที่มั่นคงพอตัว ปานวาดทำงานในโรงเรียนสอนดนตรี ขณะที่ปานฝันลูกชายคนเดียวของหล่อนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เรียกได้ว่าเป็นลูกไม้ที่งอกออกจากต้นเลยก็ว่าได้ ในเมื่อปัจจุบันปานฝันเป็นบุคลากรวัยหนุ่มของมหาวิทยาลัยชื่อดังในคณะดุริยางคศิลป์ อีกทั้งยังเป็นที่ปรึกษางานเพลงของค่ายดนตรียักษ์ใหญ่ด้วยวัยเพียง 28
ตอนที่เหนือได้ยินเรื่องราวของพี่ชายจากปากพ่อ เขายังอดร้อง "ว้าว..." ในความมหัศจรรย์ของปานวาดที่เลี้ยงดูพี่ฝันมาเพียงคนเดียวให้เป็นดั่งฝัน สมชื่อมาได้ขนาดนี้
คิมหันต์ถอดรองเท้าผ้าใบไว้ตรงประตูทางเข้า เดินตามพี่ชายเข้าบ้านพลางกวาดสายตาไปโดยรอบห้องโถง มีแกรนด์เปียโนขนาดใหญ่กับเชลโล่วางอยู่ในมุมที่สะดุดตาถ้ามองจากประตูบ้าน ไม่ไกลกันนักเป็นตู้หนังสือที่จุไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับทฤษฎีดนตรีเกือบทั้งหมดซึ่งถูกจัดวางเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ โซฟาหนังแบบปรับเอนได้ถูกตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือของตู้หนังสือ มีโต๊ะเล็กซึ่งวางขวดโหลใส่ปลาทอง 2 ตัวไว้ภายใน นอกจากนั้นยังมีชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่ริมประตูฝั่งที่เป็นทางเชื่อมจากห้องโถงไปยังส่วนอื่นของบ้าน
น่าแปลก ที่บ้านหลังนี้ไม่มีโทรทัศน์? เห็นทีปานฝันและปานวาดคงเป็นคนสุนทรีย์ประเภทที่ไม่ชอบเสียงจอแจเสียกระมัง
"ห้องทางซ้ายเดิมเป็นของฉัน แต่เมื่อวานฉันย้ายสัมภาระทั้งหมดไปอยู่ห้องแม่แล้ว เหลือเตียง ตู้เสื้อผ้า กับโต๊ะเขียนหนังสือเอาไว้ ของขาดเหลือหรือจะตบแต่งอะไรก็หาซื้อเพิ่มเอาเองเลย ห้องนั้นฉันยกให้"
ปานฝันยื่นดอกกุญแจสีเงินที่สะท้อนกับแสงไฟวาวให้น้องชาย คิมหันต์รับไว้ในมือขณะที่เจ้าบ้านเริ่มพูดต่อ
"ห้องครัวอยู่ด้านหลัง ตั้งแต่แม่ไม่อยู่ฉันก็ไม่ค่อยได้ทำอาหาร มีโจ๊กซอง มาม่า พวกของแห้งอยู่ในชั้นกับข้าว ส่วนตู้เย็นจะเก็บน้ำดื่มกับเบียร์กระป๋องเป็นส่วนใหญ่ อยากจะกินก็แกะได้ ตามสบาย"
"เหนือไม่ดื่มแอลกอฮอลล์"
ปานฝันกดยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย ไม่แปลกใจสักนิดที่คิมหันต์จะไม่เคยดื่มเบียร์ เพียงแค่พูดเผื่อไว้ว่าหากเจ้าเด็กที่อยู่ในกรอบจริยธรรมดีงามจะอยากรู้อยากลองเสียบ้างเขาก็ไม่ห้าม ปานฝันไม่ได้ตั้งใจจะดูแลคิมหันต์อย่างเข้มงวดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เหมือนแม่ ที่ไม่เคยกำหนดกฎเกณฑ์อะไรในชีวิตชายหนุ่มสักครั้ง ซึ่งปานฝันคิดว่ามันทำให้เขารู้สึกเข้มแข็งเวลาที่ปานวาดจากไป
"ส่วนบุหรี่ ถ้าอยากสูบก็ไปหลังบ้าน ฉันไม่อยากให้ควันติดผ้าม่านมันกำจัดกลิ่นยาก"
"ผมไม่สูบบุหรี่" เหนือแย้งอีกครั้ง หากแต่พี่ชายหันกลับมาบอกเขาเสียงนิ่ง
"ฉันพูดว่า 'ถ้า'.."
คราวนี้คิมหันต์พยักหน้าลงหงึกหงัก ปานฝันเดินไปเปิดไฟตรงทางเดินเชื่อมระหว่างห้องนอน 2 ห้องและห้องครัว อย่างที่เจ้าบ้านเกริ่นแต่แรกว่าห้องนอนทางซ้ายเป็นของเหนือ ดังนั้นห้องนอนทางขวาก็จะเป็นของฝัน ตรงไปจากห้องโถงเป็นครัวและห้องน้ำ ทว่าสิ่งที่สะดุดตาคิมหันต์กลับเป็นภาพไวนิลใส่กรอบหลุยส์บนผนังสีขาวสะอาดต่างหาก ขาเล็กเผลอเดินก้าวผ่านหน้าเจ้าบ้าน และยกมือขึ้นวางบนรูปถ่ายขนาดใหญ่ราวถูกสะกด
ภาพของชายหนุ่มซึ่งกำลังเปาแซ็กโซโฟนกับสตรีที่ยังดูสวยสง่ายามบรรเลงเปียโนทำให้ตาของเหนือเป็นประกายวาววับ
"คุณวาดสวยมากครับ พ่อบอกว่าดวงตาของคุณวาดดึงดูด ถ้าได้สบแม้เพียงครั้งเดียวจะรู้สึกราวต้องมนต์"
"เพราะแบบนั้นถึงได้ชื่อปานวาดยังไงล่ะ"
คิมหันต์พยักหน้าเห็นด้วยกับชายหนุ่ม จริงอย่างที่พี่ฝันว่า คุณวาดงดงามราวกับเป็นภาพวาดจากสรวงสวรรค์ และสิ่งที่ดึงดูดมากที่สุดคือดวงตาสีดำขลับซึ่งสะท้อนแววเศร้าซึมเอาไว้
ช่างเหมือนกันกับ...
คิมหันต์เหลือบตามองเสี้ยวหน้าพี่ชายที่ยังคงมองภาพถ่ายของตนกับแม่ในงานแสดงดนตรีเมื่อ 5 ปีก่อนด้วยความคิดถึง มันเป็นงานแรก และสุดท้ายที่ฝันกับคุณวาดได้ขึ้นเวทีร่วมกันก่อนโรคมะเร็งจะรุมเร้าพรากสังขารไปจากผู้หญิงที่ใจดีที่สุดในความคิดของฝันไปอย่างไม่มีวันกลับ
"พี่ฝันรักคุณวาดมากเลยนะครับ"
"ใครบ้างไม่รักแม่.."
ปานฝันเอ่ย นัยน์ตาชายหนุ่มยังเปี่ยมไปด้วยความทรงจำมากมายระหว่างเขากับมารดาในบ้านหลังนี้ ที่เปียโนตัวนี้ และเชลโล่ซึ่งแม่มักเล่นก่อนนอนเป็นประจำซึ่งเขายังหยิบขึ้นมาสีบรรเลงเพลงของแม่บ้างเป็นครั้งคราว
"เหนือไม่เคยเห็นคนที่รักแม่กระทั่งไม่ยอมมีแฟนเพราะกลัวมีเวลาให้แม่น้อยลงแบบพี่ฝันนี่ครับ"
คิมหันต์พูดกลั้วหัวเราะเชิงหยอกล้อ แต่มันกลับเป็นความจริงอย่างไม่น่าเชื่อ ปานฝันไม่เคยชายตามองใคร เขาฝักใฝ่ที่จะเรียนในงานดนตรีที่แม่รักส่วนเวลาที่เหลือทั้งหมดเขายกให้ปานวาด สตรีผู้โดดเดี่ยวของเขาราวกับจะเป็นคนเติมเต็มความอ้างว้างในใจมารดาได้ จวบจนบัดนี้เพื่อนหลายคนลั่นระฆังวิวาห์ไปแล้ว ทว่าปานฝันกลับไม่เคยรู้สึกอิจฉามิตรสหายที่มีแม่บ้านเป็นของตัวเองกันแล้วเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มแค่นยิ้มพลันหลุบสายตาลงต่ำ
"พื้นฐานครอบครัวแต่ละคนมันต่างกัน เหนือ ฉันกับแม่ เรามีกันแค่ 2 คน"
ปานฝันคิดว่าน้องชายที่มีทุกอย่างเพรียบพร้อมอย่างคิมหันต์คงไม่เข้าใจ เด็กหนุ่มที่เติบโตมาพร้อมความรักและใส่ใจจากคนรอบข้างคงมีความรักมากพอที่จะแจกจ่ายให้ใครต่อใครโดยไม่ต้องลังเล
แต่สำหรับฝัน มันไม่ใช่แบบนั้น..
ชายหนุ่มแตะมือวางลงบนรูปถ่ายของปานวาด ซึ่งแม้แต่ยามยิ้มยังดูเศร้าจนเขาอยากจะร้องไห้ไปด้วย แม่มีแค่เขา และเขาก็มีแค่แม่
ถึงตอนนี้ เขาจะต้องใช้ชีวิตตามลำพัง แต่ปานฝันก็คิดว่าเขาคงไม่เจอผู้หญิงที่ประเสริฐขนาดปานวาดอีกแล้ว นั่นเป็นอีกเหตุผลที่เขายังปิดหัวใจให้ตายอย่างสงบบนอกด้านซ้ายของตัวเอง
"เพราะแบบนั้นผมถึงมาที่นี่..."
ปานฝันสะดุดในแววตาเมื่อประโยคนั้นของน้องชายจบลง เขายังคงแน่นิ่งไม่ไหวติง กระทั่งมือหยาบถูกคิมหันต์ดึงมาแนบแก้มใส
"ต่อไปนี้ไม่ต้องเหงาแล้วนะ"
--------------------------------
To be continue
ฝากเรื่องสั้นด้วยค่ะ 4 ตอนจบ เป็นรักเหงาๆที่ชื่อเรื่องสิ้นคิดมาก :m23:
-
ออกแนวหน่วงนิดๆ
-
ตอนท้ายๆรู้สึกจะลงซ้ำนะ
ฝันดูอึมครึมได้ใจ
-
ตอนท้ายๆมันซ้ำรึป่าวค่ะ. น่าติดตามมากค่ะเดาไม่ถูกว่าใครจาเป็นรับดีนะใจอยากให้ฝันเป็นแต่น้องชายก็ดูจะเด็กอยู่.
เปนกำลังใจค่ะ :กอด1:
-
ตอนท้ายๆรู้สึกจะลงซ้ำนะ
ฝันดูอึมครึมได้ใจ
ตอนท้ายๆมันซ้ำรึป่าวค่ะ. น่าติดตามมากค่ะเดาไม่ถูกว่าใครจาเป็นรับดีนะใจอยากให้ฝันเป็นแต่น้องชายก็ดูจะเด็กอยู่.
เปนกำลังใจค่ะ :กอด1:
ขอบคุณที่เตือนค่ะ แก้แล้วๆ :กอด1: :กอด1: :กอด1:
-
อ่านไป ถอนหายใจไป
-
เหมืนฝันจริงๆอึมครึม
-
:-[ :-[ :-[ อร๊ายยยยยย พี่ฝันกะน้องเหนือ :o8: :o8:
-
เรื่องนี้อิทธิพลมาจากช่วงที่ฝนตกและเพลงนี้ค่ะ
http://www.youtube.com/watch?v=_eTAbIWSlnE
ฝากด้วยนะคะ
ตอนที่ 02
ปลายเดือนมิถุนายน พายุหอบเอาเม็ดฝนหยดรินตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันจวบจนพระอาทิตย์ตก กระทั่งบัดนี้แม้เข็มนาฬิกาจะบ่งบอกว่าควรแก่เวลานอนของเหนือแล้ว เสียงของน้ำฝนดังคงดังเปาะแปะยังสะท้อนมาในห้องนอนซึ่งถูกปิดไฟมืดสนิทให้เจ้าของห้องนอนลืมตาโพลง
แค่ลำพังเสียงฝนตกตอนกลางคืนสำหรับคนต่างถิ่นก็ทำให้รู้สึกเคว้งคว้างอยู่แล้ว ยิ่งยามมันเคล้ามากับเสียงเชลโล่ในห้องโถง ยิ่งทำให้หัวใจเล็กบีบตัวลงอย่างประหลาด เหนือไม่แน่ใจว่าเขาเหงา กำลังคิดถึงบ้าน ตื่นเต้นกับงานวันพรุ่งนี้ แปลกที่ หรือเป็นเพราะประโยคบ้าๆที่ตัวเองพูดเมื่อสบเข้ากับดวงตาไร้แววคู่นั้นของพี่ชายเป็นครั้งที่ 2 ของวันกันแน่
บางทีทั้งหมดอาจเป็นเหตุผลทำให้เหนือนอนไม่หลับ
ร่างกายบอบบางขยับพลิก แล้วถอนหายใจออกมาเสียงแผ่ว เขาเฝ้าจินตนาการถึงการมีพี่ชายสักคนไว้ปรึกษา ชวนทำเรื่องพิเรนทร์ๆนอกกรอบคุณแม่ มีชีวิตอิสระเป็นของตนเองมาตั้งแต่เล็ก หากแต่เพราะตัวเป็นลูกชายคนเดียวที่ผ่านการทำกิ๊ฟท์มาครั้งแล้วครั้งเล่าของคุณหญิงยศวดี ดังนั้นถึงถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวดมาตั้งแต่เด็ก
คิมหันต์เกิดในฤดูร้อน และคุณหญิงอยากให้สามีของหล่อนพึงระลึกไว้ว่ามีลูกชายอยู่เมืองเหนือหล่อนจึงตั้งชื่อให้เขาเช่นนี้ การถือกำเนิดของบุตรชายเป็นเรื่องที่ดีเพราะมันทำให้สามีของหล่อนกลับบ้านและเลิกรากับภรรยาลับจากเมืองกรุงได้ในที่สุด
กระนั้นเหนือก็รู้ดีว่าพ่อรักคุณปานวาดมากเพียงใด เขารับฟังเรื่องราวต่างๆของญาติที่ไม่เกี่ยวพันกันทางสายเลือดผ่านปากของชายวัยกลางคนตั้งแต่เล็ก รูปภาพของคุณปานวาดกับพี่ปานฝันถูกเก็บไว้อย่างดีลับตาคุณหญิง กระนั้นวันที่โทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลในกรุงเทพดังขึ้น บิดาก็เร่งเก็บเสื้อผ้าจองตั๋วเครื่องบินหอบเขาซึ่งยังอยู่ในเครื่องแบบมหาวิทยาลัยเชียงใหม่มางานศพของหญิงในตำนานกันตามลำพังโดยไม่ให้มารดารู้
คิมหันต์มองพี่ชายอยู่ห่างๆ เขาไม่รู้จะไปแนะนำตัวกับผู้ชายที่นั่งเรียบร้อยหน้าโลงศพนั้นว่าอะไร
ตาคู่นั้นของปานฝันไร้แวว ไม่มีหยดน้ำตาแต่กลับทำให้เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดและโดดเดี่ยวได้อย่างชัดแจ้ง
“ถ้าเหนือเรียนจบ เหนือจะมาอยู่กับพี่ฝันได้ไหม?”
คิมหันต์ถามบิดาขณะที่นั่งเครื่องกลับเชียงใหม่ สายตาของพ่อเหม่อลอยออกไปด้านนอกซึ่งเต็มไปด้วยกลุ่มเมฆสีขาวตัดกับพื้นสีฟ้า ไม่มีคำตอบจากบิดาจนเหนือคิดว่ามันคงเป็นเพียงฝันลมๆแล้งๆของเขาอีกครั้ง
เหมือนกับฝันว่าจะได้เรียนโรงเรียนสหศึกษา เหมือนกับฝันว่าจะมีเพื่อนในรูปแบบที่ต่างไป เหมือนกับฝันที่เขาจะได้นั่ง2แถวกลับบ้านเหมือนคนอื่นบ้าง เหมือนกับฝันว่าเขาจะมีแฟนสาวน่ารักๆสักคน
คิมหันต์เป็นลูกคุณหนูโดยสมบูรณ์แบบกระทั่งบริษัทขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นติดต่อมาหลังจากเรียนจบ มันเป็นโอกาสอันดีของเขาทั้งในเรื่องหน้าที่การงาน จวบจนไปถึงชีวิตประจำวัน
แต่เมื่อได้ใช้ชีวิตกับปานฝัน กลับไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาจินตนาการไว้
เขาไม่ได้รับการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายของตน แต่กำลังถมบ่อเหวแห่งความเคว้งคว้างให้อีกฝ่ายต่างหาก
พี่ฝันไม่ใช่พี่ชายที่จะพาเขาเตะบอลและเล่นโคลนสนุกๆ แต่กลับเป็นชายหนุ่มที่เขาอยากจะเอื้อมมือไปจับเอาไว้ไม่ให้มันสั่นไหวพร้อมกับบอกว่า “ไม่ว่าจะต่อไปจะเป็นยังไง พี่ฝันก็ยังมีเหนือนะ...”
ชายหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง เขาพลิกตัวมากอดหมอนข้างใบสีขาว เสียงเชลโล่สงบลงแล้วเหลือเพียงเสียง แต่ก แต่ก ของเข็มนาฬิกาสลับกับเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาดังเปาะแปะเท่านั้น
ประตูห้องสีขาวถูกเปิดออก คิมหันต์ปิดตาหลับแทบไม่ทัน เขาไม่เข้าใจตัวเองสักนิดเดียวว่าทำไมต้องแกล้งทำเป็นนอนแล้วทั้งๆที่พี่ฝันไม่ได้จะเข้ามาดุที่เขาพลิกตัวไปมาไม่รู้จักหลับจากนอนทั้งๆที่พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าสักหน่อย เปลือกตาอ่อนสงบนิ่งอยู่นาน เขารอให้แสงไฟที่ลอดมาจากด้านนอกมืดลงทว่าเวลาผ่านไปนานนับนาทีประตูก็ยังคงเปิดทิ้งไว้อยู่
คิมหันต์ลังเลว่าเขาควรลืมตาขึ้นหรือไม่ ทว่าสัมผัสอ่อนโยนจากมืออุ่นที่แตะลงบนเส้นผมทำให้เด็กหนุ่มตัดสินใจแกล้งหลับต่อ
ไม่มีเสียงพูดใดๆหลุดออกมาจากปาก ปานฝันเดินออกจากห้องน้องชายต่างสายเลือดไปอย่างเงียบเชียบ ทิ้งไว้เพียงแววตาสับสนของคนบนเตียงที่ปรือเปิดมองบานประตูค่อยๆปิดลงอย่างเชื่องช้าเท่านั้น
คิมหันต์ค่อนข้างเป็นที่ถูกใจของเพื่อนร่วมงานหลังจากเริ่มงานวันแรก รูปร่างหน้าตาอินเทรนด์ราวหนุ่มเกาหลีจวบกับผิวขาวของชาวเหนือทำให้ป้าแก่ๆตลอดจนเสือสิงห์กระทิงแรดครึกครื้นกันใหญ่ หลังเลิกงานพนักงานและหัวหน้าถึงกับกระตือรือล้นเหลือเกินที่จะจัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณหนูในร้านอาหารที่เป็นผับแอนด์เรสเตอรองค์ใกล้สำนักงาน คิมหันต์กดโทรศัพท์บอกพี่ชายที่ตกลงว่าจะมารับในช่วงสัปดาห์แรก เป็นระยะเวลานานกว่าอีกฝ่ายจะรับสาย
“ว่าไง”
“พี่ฝันรับสายช้า”
“สอนอยู่ เพิ่งเลิก อีก 20 นาทีรอแถวออฟฟิศไปก่อน”
ปานฝันคิดว่าคิมหันต์โทรเร่ง เขารีบเก็บเอกสารการสอนลงกระเป๋าโดยใช้คอเอียงหนีบโทรศัพท์เอาไว้
“เปล่าๆ เหนือไม่ได้เร่ง จะบอกว่าวันนี้ที่ออฟฟิศมีเลี้ยงที่ร้าน the cafe สัก3ทุ่มค่อยมารับเหนือได้ไหม?”
ปานฝันยกแขนขึ้นมาดูเวลา เขาเกือบจะตอบรับคำในลำคอแล้วแต่ดูเหมือนน้องชายจะเปลี่ยนใจเสียก่อน “หรือพี่ฝันจะมาทานด้วยกัน?”
“ไม่ล่ะ นายอยู่กับเพื่อนดีกว่า”
“แล้วพี่ฝันจะทานมื้อเย็นกับใคร?”
กับใคร? อย่างนั้นหรือ? คิ้วหนาของปานฝันขมวดเข้าหากันเล็กน้อย โดยปกติแล้วเขามักเจียวไข่กินง่ายๆที่บ้านต่อด้วยเบียร์ซักกระป๋องแล้วนั่งอ่านหนังสือหรือเล่นดนตรีจนกว่าจะเข้านอน ลืมนึกไปแล้วว่าบางทีคนเราก็ควรมีเพื่อนกินข้าวในบางมื้อบ้าง
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวฉันกลับไปกินที่บ้านเอง”
“ถ้าพี่ฝันจะกลับบ้านแล้วเดี๋ยวเหนือให้พี่ที่ออฟฟิศไปส่งก็ได้ จะได้ไม่ต้องวนรถกลับไปกลับมา”
“จำทางกลับได้แล้วหรือไง?” ปานฝันถาม คราวนี้ปลายสายเงียบไปซึ่งเป็นคำตอบให้พี่ชายอย่างดีว่าเหนือยังไม่คุ้นทาง คิมหันต์ถอนใจหนักด้วยความเกรงใจพลางกระชับโทรศัพท์ในมือแน่น
“ถ้าอย่างนั้นพี่ฝันมาด้วยกันเถอะ จะได้รู้จักเพื่อนๆเหนือด้วย คนอื่นไม่ว่าอะไรหรอก”
คิมหันต์ลองอ้อนอีกครั้ง ปลายสายเงียบไปพักใหญ่ให้คนขอใจเต้น สุดท้ายแววตาสับสนของปานฝันก็สงบลงพร้อมกับคำตอบซึ่งเป็นที่พอใจของน้องชาย
“อีก20นาทีเจอกันที่ร้านก็แล้วกัน...”
ฤดูฝนยังคงทำหน้าที่ของมันไม่ขาดตก แม้เวลาล่วงมาดึกดื่นจนเริ่มเข้าวันใหม่แล้ว เม็ดฝนก็ยังโปรยปรายไม่รู้จักหลับนอน
นิวบีทเทิลคันสีฟ้าแล่นผ่าละอองฝน ไฟหน้าสีส้มเหลืองสาดกระทบหยดน้ำให้เห็นท่ามกลางความมืด ล้อยางคุณภาพดีค่อยๆบรรจงหยุดอย่างนิ่มนวลเมื่อเข้าสู่โรงรถชายคาบ้านหลังที่เขาใช้พำนักพักพิงเป็นประจำ
“....เหนือ”
สารถีหันไปเรียกน้องชายต่างสายเลือดเบาๆ เขาสะกิดที่เสื้อแขนยาวสีขาวแต่เด็กหนุ่มก็ไม่ยอมลืมตาเปิด กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคละคลุ้งตลบภายในรถนั่นไม่ใช่ของปานฝัน เขาไม่ดื่มโดยให้เหตุผลกับเพื่อนพนักงานของคิมหันต์ว่าต้องขับรถ อีกทั้งยังต้องดูแลเหนือซึ่งคงไม่แคล้วถูกรับน้องจากเพื่อนร่วมงานด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ครั้งแรกในชีวิต
สุดท้ายก็ไม่ต่างจากที่เขาคาดการณ์ คิมหันต์เมามายไร้สติตั้งแต่เดินออกจากร้านจนบัดนี้ก็ยังไม่สร่าง
ชายหนุ่มถอนหายใจ สัดท้ายก็ต้องหิ้วปีกพยุงคิมหันต์ให้ลุกเดินอย่างทุลักทุเลเข้ามาในห้องนอน วางร่างเล็กลงบนเตียงนุ่มเบามือแล้วเลื่อนไปปัดเกลี่ยผมเส้นเล็กที่ร่วงลงปาปกใบหน้าค่อนไปทางหวานซึ่งกำลังเห่อแดงไปจนถึงใบหู
“เป็นยังไงบ้าง?”
ตากลมโตเหมือนลูกหมาของคิมหันต์ปรือเปิด เขาส่ายหัวเมื่อพี่ชายเอ่ยถามด้วยความไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี ทั้งชาและร้อนไปทั้งหน้า ลำคอ หัวใจก็เต้นถี่จนสมองปวดมึนไปหมด
“เดี๋ยวฉันเอาผ้ามาเช็ดหน้าให้ อยากอ้วกไหม?”
คิมหันต์ส่ายหน้าอีกครั้ง ปานฝันจึงลุกไปเตรียมผ้าเช็ดตัวชุบน้ำพอหมาดในห้องน้ำ นานมากแล้วที่ชายหนุ่มไม่ได้ดูแลใครสักคน เป็นเวลาร่วม 4 ปีที่เขาหายใจตามลำพัง ทว่าพอกลับเข้ามาในห้องที่เปิดเพียงไฟโคมเอาไว้ เจ้าบ้านกลับไม่พบร่องรอยของน้องชายอย่างทีแรก
ติ๊ง - - -
เสียงเปียโนดีดกังวาฬจากห้องโถง ปานฝันถือผ้าเช็ดตัวกับกะละมังเล็กเดินตามเสียงไป อย่างที่คิดคือคิมหันต์นั่งตาปรือปรอยโงนเงนอยู่หน้าแกรนเปียโนสีดำซึ่งเป็นที่รักยิ่งของมารดา
“เหนืออยากฟังพี่ฝันเล่นเปียโน”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมาพูด ปานฝันวางกะละมังพลาสติกไว้บนโต๊ะเล็กข้างโหลปลาทองแต่หยิบผ้าเช็ดตัวยื่นให้คนเมา คิมหันต์รับมาเช็ดหน้าตัวเองแรงๆไล่ลงมายังลำคอที่ปานฝันไม่สังเกตในทีแรกว่ามันแดงเถือกไม่ต่างกัน
“เพลงที่พี่ฝันเล่นกับคุณวาด เหนืออยากฟัง”
ปานฝันนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดียวกันกับคิมหันต์เพียงแต่คนละทิศกัน ปานฝันหันหน้าเข้าหาเปียโนตัวใหญ่ขณะที่น้องชายหันหลังให้
“เสียดายที่นายไม่มีโอกาสได้ฟังเสียงของแม่...”
“เป็นเพลงที่แม่ชอบที่สุด”
ปานฝันยิ้มเมื่อความทรงจำที่ว่าเพลงนี้เขาได้ยินมันเกือบทุกคืนจากปากกระจับของแม่นับตั้งแต่วันที่พ่อของคิมหันต์จากไป บางทีแม่ก็ร้องเพลงจนจบ บางทีก็ร้องไห้ก่อนมันจะจบ
และบางที ก็ไม่มีเสียงร้องไห้หรือร้องเพลงหลุดออกมาจากปากของแม่เลยสักนิด กระนั้น เขาก็ยังจำความหมายของเพลงได้อย่างขึ้นใจ
ในวันนี้มีเพียงเสียงเปียโนเท่านั้นที่ตอบรับฉัน
และเชลโล่เก่าๆตัวนั้นช่างเงียบเหลือเกิน
มันทำให้ฉันเดาได้อย่างแน่นอนเลยว่า เธอตัดสินใจที่จะจากฉันไป
ฉันไม่เชื่อเธอที่บอกกับฉันว่าเสียใจเหลือเกินที่ต้องจากกัน
แต่แม้อยากจะอยู่ด้วยกัน จูงมือเธอและกอดเอาไว้เหมือนในวันวาน ฉันก็ทำไม่ได้แล้ว...
ได้เพียงแต่หวัง ว่าใครคนนั้นจะรักเธอได้มากกว่า
และสิ่งที่ฉันทำได้ตอนนี้คือจากเธอไป
เธออยากจะให้ฉันพูดอะไรล่ะตอนนี้?
ฉันแค่ไม่อยากที่จะต้องเดินต่อไปคนเดียว
ทำไมเธอมักจะทำให้ฉันต้องยิ้มในเวลาที่ฉันไม่ต้องการ
ฉันทนมองเธอตอบรับความรักเขาไม่ได้
แต่อย่ากังวลไปเลย
ฉันจะอยู่ต่อไปโดยไม่มีเธอ
ในเมื่อเธอจากไปไกล
ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องอยู่ที่นี่
แต่กับแค่เธอจากไป ทำไม่ฉันถึงไม่สามารถลืมความเจ็บปวดนี้ได้นะ
ฉันไม่สามารถทำได้สักครั้ง
ได้แต่ปล่อยให้มันผ่านไปอย่างเงียบๆ
ฉันต้องเรียนรู้ที่จะหักห้ามใจไม่ให้รักเธอ
นั่นเพราะฉันรักเธอ...
คิมหันต์หลับตาลง เขารู้สึกเจ็บปวดและเคว้งคว้างกับความรู้สึกว่างเปล่าของปานฝัน ทุกห้วงทำนองเมโลดี้กัดกินใจจนแม้พี่ชายจะใช้เพียงเสียงดนตรีเป็นเครื่องมือสื่อสารยังทำให้เหนือรู้สึกร้อนผะผ่าวที่ขอบตา
ดนตรีจบลงแล้ว เหลือไว้ซึ่งเสียงฟ้าร้องครืนอยู่บนท้องนภา
ปานฝันหันเอียงหน้ามาหาน้องชาย ขณะเดียวกัน คิมหันต์ก็เอี้ยวตัวไปหาอาจารย์หนุ่ม ตาของเหนือปรือปรอยด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ผสานกับดนตรีซึ้งกินใจทำให้มันดูหวานหยดเป็นพิเศษ ขนตาเป็นแพของน้องชายตัวเล็กงอนงามเหลือเกินเมื่อได้จ้องเข้าไปใกล้ เช่นกัน นี่เป็นครั้งที่สามที่คิมหันต์ได้สบตากับปานฝัน
และเหนือก็ถูกสะกดดังคำพ่อกล่าว..
ระยะห่างระหว่างใบหน้าของชายหนุ่มทั้ง 2 ลดน้อยถอยลงราวกับกำลังดึงดูดซึ่งกันและกัน เปลือกตากลมโตของคิมหันต์ค่อยๆปรับระดับลดลงกระทั้งปิดสนิทอย่างรู้งาน ปานฝันจรดริมฝีปากลงบนกลีบปากแดงฉ่ำอย่างเชื่องช้าราวต้องมนตร์ บัดนี้โลกอันเปล่าเปลี่ยวของพี่ชายค่อยๆเปิดออกให้คนตรงหน้าก้าวเข้ามาช้าๆด้วยรสจูบ
“..................”
แม้แรกสัมผัสยามกลีบปากประกบลงไปจะแผ่วเบาทว่ากลับวาบหวามขึ้นมาในหัวใจแห้งผาก รสชาดหวานฉ่ำชุ่มลิ้นค่อยๆมัวเมาให้ปานฝันไม่อาจหยุดแค่แตะเพียงแผ่วเบา กลิ่นลมหายใจผสานกับแอลกอฮอล์ที่ผ่อนออกมาของน้องชายยั่วเย้าให้ปานฝันติดกับ การเคลื่อนไหวของริมฝีปากค่อยๆขยับไปอย่างนุ่มนวลราวกับกลัวว่าปากสีสดของอีกฝ่ายจะเจ็บช้ำ ปานฝันไม่เคยใช้ริมฝีปากนี้จูบใคร แต่น่าแปลกที่เขากลับจุมพิตคนตรงหน้าได้อย่างช่ำชอง ช่วงชิมรสหวานที่ขยับรับเก้ๆกังๆได้อย่างไม่มีเบื่อ เขาสั่งให้คิมหันต์ค่อยๆเผยอกลีบปากออกจากกันด้วยลมหายใจอุ่น ใช้มือข้างหนึ่งนวดคลายอาการเกร็งตัวลงบนท้ายทอยเหนือแล้วเอียงคอให้ปลายลิ้นค่อยๆสอดเข้าไปตามหารสหวานเหมือนภุมรีย์เฝ้าฝักใฝ่น้ำหวานจากมวลดอกไม้
“อืม.....”
เหนือเผลอร้องครางออกมาอย่างลืมตัว ตอนนี้เขาเหมือนเป็นแมวเชื่องๆที่ถูกเจ้าของลูบคางให้เคลิบเคลิ้ม ปลายลิ้นของปานฝันตวัดเลียและดึงดูดช่วงชิงเอาลมหายใจของคิมหันต์ไป ยิ่งเมื่อถูกจูบลึกเข้ามาแค่ไหน เด็กหนุ่มก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองถูกดึงขึ้นสูงมากเท่านั้น
“ฮื้อ....อื้ม....”
ทั้งอึดอัดและผ่อนคลาย ยิ่งเมื่อปลายนิ้วของปานฝันสอดสางเข้าไปในไรผมเล่นยิ่งทำให้สมองว่างเปล่า หัวใจเต้นถี่แรงจนไม่กล้าปรือตาเปิด กระทั่งอีกฝ่ายถอนริมฝีปากออกไป
เหนือมองตามปากที่แดงจัดของพี่ชายแล้วยกมือขึ้นมาจับตรงอกด้านซ้ายของตัวเอง มันเต้นตุบ ตุบ ราวกับจะหลุดออกมาอยู่รอมร่อ ขณะที่ปานฝันยกมือขึ้นมาลูบหน้าตัวเองแล้วเบือนหนีไปอีกทาง
“เข้านอนซะ”
เจ้าบ้านเอ่ยกับน้องชายเสียงนิ่ง คิมหันต์พยักหน้าลงหงึกหงักผุดลุกเข้าไปในห้องนอนของตัวเองลงกลอนอย่างดิบดี ขณะที่ปานฝันกลับมีแววตาสับสนอยู่หน่อยๆตามลำพัง
--------------------------------
To be continue
-
มันจะเป็นความรักระหว่างพี่น้องต่างสายเลือดใช่มั้ย^^
ปานฝัน ผู้ชายที่ดึงคนอ่านเข้าไปในโลกอึมครึมแต่ก็หวาบหวาน
รอติดตามต่อไป
-
อึนๆ จริงๆเลย
-
บรรยากาศมัวจริงๆ
-
อึมครึมได้อีก
:o11:
-
รอตอนต่อไปจ้า :really2:
-
จูบแล้วววววววววววววววว!!
-
:o8:
-
:-[ :-[ :-[ อ่านตอนนี้แล้วเคลิ้ม :man1: :man1:
o13
-
รักแบบอึมครึม
-
ดัน ดัน
นานแล้วเน้อ.....
-
bitter sweet ...
จะรักกันได้ไหมน้าาา...?
-
เป็นเรื่องที่บรรยากาศอึมครึม อบอวลไปด้วยความเศร้า ความเหงา
แต่...ลงตัวมากๆ เลยค่ะ...สมชื่อเรื่อง ว่า เหนือฝัน จริงๆ...
ยิ่งเป็นคู่พี่น้องต่างสายเลือดด้วย.....
ชอบมากเลยค่ะ แล้วจะรออ่านต่อนะคะ >____<
-
ตอนที่ 03
“ถ้ามันจะยุ่งยากขนาดนี้ออกไปหาอะไรกินข้างนอกก็ได้มั้ง”
ปานฝันกับคิมหันต์ใช้เวลาวันเสาร์อยู่ด้วยกันที่บ้าน ซึ่งเหมือนว่าชีวิตถูกตั้งนาฬิกาปลุกด้วยความเคยชินไปแล้วว่าทั้งคู่จะต้องตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ น้องชายอาสาลุกออกไปตลาดหน้าปากซอย ซื้ออาหารสดกลับมาพะรุงพะรังเต็มสองมือด้วยความตั้งใจว่าจะทำกับข้าวกินเองที่บ้านเสียบ้าง
ตลอดเวลาตั้งแต่ที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ เหนือก็กลายเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไปที่ตื่นมาดื่มกาแฟเป็นมื้อเช้า เที่ยงวันลงมากินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกใต้สำนักงาน ส่วนตอนเย็นก็เป็นป้าในตลาดที่คอยทำกับข้าวใส่ถุงให้เขาซื้อกลับมากินกับพี่ชาย
ปานฝันกลับบ้านไม่เป็นเวลานัก แต่ไม่เคยกลับดึก บางวันเลิกสอนตั้งแต่เที่ยงก็เข้าบริษัทเพลง บางทีก็ไม่ไปสอนแต่หิ้วเอกสารมาตรวจเช็คที่บ้าน ดังนั้นนอกจากอาหารมื้อเย็นที่เหนือต้องคอยซื้อกลับมาแล้วเด็กหนุ่มยังอดไม่ได้ที่จะเหมาขนมปังรวมไปถึงผลไม้มาติดบ้านเผื่อว่าพี่ชายหิวจะได้ไม่ต้องฝากท้องไว้กับอาหารกึ่งสำเร็จรูปหรือเมนูไข่ที่กินมาตลอด 4 ปี
“ทำเป็นจริงๆหรือ?”
ปานฝันเกยคางกับไม้ถูพื้น เขาทำความสะอาดบ้านทุกวันเสาร์เป็นกิจวัตร ปัดกวาดเช็ดถูฝุ่น ล้างขวดโหลใส่ปลาและซักผ้า ชายหนุ่มไม่แปลกใจสักนิดถ้าเหนือจะทำความสะอาดบ้านไม่เป็น คุณหนูคงมีคนงานคอยเก็บกวาดเช็ดถูให้จนเคยตัว แต่ที่จู่ๆเจ้าตัวกลับรั้นบอกว่าจะทำข้าวซอยให้เขาทานเป็นมื้อเที่ยงนี่ เป็นสิ่งที่ปานฝันไม่อยากจะเชื่อ
“ตอนอยู่เชียงใหม่เหนือเป็นลูกมืออันดับหนึ่งของพี่เตยเลยนะ พี่ฝันไปทำอย่างอื่นเถอะเดี๋ยวเสร็จแล้วเหนือเรียก”
“อย่าเผาครัวฉันเชียว เตะโด่งออกจากบ้านจริงๆด้วย”
คิมหันต์ยิ้มกว้างให้พี่ชายให้วางใจแล้วหันไปเทขิงปลอกเปลือกแล้วซึ่งหั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงครก โขลกละเอียดจากนั้นก็ตักน้ำพริกแกงเผ็ดใส่ตามลงไป
“ไม่ต้องห่วงจริงๆ เครื่องซักผ้าร้องแล้วเอาผ้าไปตากเถอะ”
ปานฝันเหลือบมองน้องชายด้วยหางตา เห็นท่าทางโขลกพริกแกงคล่องแคล่วใช้ได้คงเป็นลูกมืออันดับ 1 ในครัวอย่างที่เจ้าตัวโม้ไว้จริงเขาจึงยอมเดินออกมา เครื่องซักผ้าหน้าห้องน้ำยังร้องส่งสัญญาณเสร็จสิ้นการทำงานไม่หยุดกระทั่งฝันเดินไปเปิดฝาออก เสื้อผ้าที่ซักเขาไม่ได้แยกระหว่างของตัวเองกับน้องชายแต่แยกเป็นผ้าขาวและผ้าสีเท่านั้น
ชายหนุ่มยกตะกร้าผ้าผ่านพ่อครัวหัวป่า ด้านหลังที่ต่อจากครัวมีราวตากผ้าวางอยู่ มือใหญ่สะบัดเสื้อเชิร์ตแล้วแขวนเข้ากับไม้ เสื้อผ้าของปานฝันกับคิมหันต์แค่หยิบมาก็รู้แล้วว่าชุดไหนเป็นของใคร ไม่ใช่แค่เพราะความชินตา แต่ขนาดตัวที่ต่างกันอย่างชัดเจนต่างหาก
ฝันแขวนเสื้อตัวสุดท้ายยกขึ้นเกี่ยวกับราว พาลนึกถึงตอนสมัยที่แม่ยังอยู่ งานทำความสะอาดบ้านจะตกเป็นของปานวาด ฝันอาสากับแม่หลายครั้งแต่สุดท้ายก็ได้แต่จับโน่นนิดจับนี่หน่อย
เขาถามปานวาดว่าไม่เหนื่อยบ้างเหรอ? นอกจากงานที่โรงเรียนแล้วเสาร์อาทิตย์ยังต้องมาทำความสะอาดบ้านอีก คำตอบที่เขาได้ตอนนั้นคือมันก็เพลินดีที่เราจะได้ทำอะไรดีๆให้กับตัวเองและคนที่เรารัก เวลาที่เดินเข้ามาในบ้านที่เรียบร้อย เวลาได้เห็นปานฝันสวมเสื้อผ้าสะอาดรีดกลีบคมกริบ เวลาที่ปานวาดกับลูกชายได้อยู่ร่วมกันในสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้หล่อนสบายใจ
เวลาที่ได้ทำกับข้าวแล้วปานฝันทานจนหมดก็เช่นกัน มันทำให้ปานวาดรู้สึกดีจนหายเหน็ดเหนื่อย
ปานฝันเผลอยิ้ม บางทีเขาก็พอจะเข้าใจความรู้สึกของปานวาดก็ตอนนี้
“ข้าวซอยเสร็จแล้วนะครับพี่ฝัน”
คิมหันต์สวมผ้าคลุมกันเปื้อนสีฟ้าลายจุดออกมาชะเง้อเรียก พี่ชายยกตะกร้าผ้าเข้าบ้านตามเหนือเข้าไปติดๆ บนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาวางถ้วยใส่ข้าวซอยไก่ไว้ 2 ชาม กับผักดองอีก 1 จาน เหนือนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นฝั่งตรงข้ามฝันพลางยิ้มกว้างขวางเมื่ออีกฝ่ายจับช้อนขึ้นมาตักชิมรสชาดน้ำข้าวซอยจากฝีมือคนท้องถิ่น
ปานฝันนิ่งอยู่พักใหญ่หลังจากแตะลิ้นลงชิมแล้วพยักหน้าหงึกหงัก ถือว่าเป็นข้าวซอยรสชาดเยี่ยมเลยทีเดียว ไม่มีคำพูดเอ่ยชม แต่พี่ชายกลับตั้งหน้าตั้งตากินข้าวซอยฝีมือคิมหันต์ให้พ่อครัวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เย็นนี้เหนือจะทำไก่น้ำแดงกับต้มจืดตำลึง พี่ฝันอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ?”
“หืม? ไม่หรอก แต่จะทำกับข้าวกินเองทุกมื้อเลยหรือ?”
“แค่เสาร์อาทิตย์น่ะครับ กินข้าวนอกบ้านทุกวันน่าเบื่อออก ยิ่งฝนตกแบบนี้กินข้าวที่บ้านอิ่มๆจะได้นอนหลับต่อเสียเลย สบายดี”
ปานฝันเห็นด้วยกับน้องชาย ทั้งคู่ทานมื้อเที่ยงกันเงียบๆไม่มีบทสนทนาต่อจากนั้นกระทั่งข้าวซอยในจานหมดเกลี้ยง คิมหันต์ยกจานเข้าไปเก็บในครัว ฝนเริ่มลงเม็ดอีกแล้วโชคดีที่บริเวณราวตากผ้ามีหลังคาคลุม แต่ผ้าที่ซักในช่วงนี้คงมีกลิ่นอับหน่อยๆ เหนือส่ายหัวเขาไม่รู้ว่าตัวเองชอบหรือเกลียดฤดูฝนมากกว่ากัน
เสียงเชลโล่ดังแว่วมาจากห้องโถงอีกครั้ง เหนือไม่สงสัยสักนิดที่พี่ฝันจะเป็นคนดนตรีมือฉมัง เพราะการดำเนินชีวิตปัจจุบันของปานฝันมันคือเสียงดนตรีมากกว่าการพบเจอผู้คนเสียอีก
คิมหันต์เคยใช้เวลาส่วนใหญ่ทุ่มเทไปกับการเรียนและทำตัวเป็นลูกที่ดีของพ่อและแม่ ขณะเดียวกันเขาเห็นคนส่วนมากใช้ชีวิตเกินครึ่งไปกับสื่อบันเทิงชนิดต่างๆโดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์ค ปัจจุบันคนเราต้องการเป็นที่มองเห็นของใครหลายๆคนที่เราไม่รู้จักเพียงเพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าเรายังมีตัวตนอยู่ อันที่จริงในเคสของเขาและคนอื่นๆจัดอยู่ในประเภทเดียวกันคือต้องการเป็นที่รักและสนใจ
ขณะที่พี่ฝันต่าง เขาชอบใช้ชีวิตแบบไม่ให้ใครมองเห็น ตัดขาดตัวเองจากโลกภายนอกมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่อยากให้ใครมารัก และไม่ได้ต้องการคนมาสนใจ เขาเลือกที่จะสละเวลามากกว่าค่อนชีวิตไปกับเครื่องดนตรีให้เป็นเพื่อนคอยขับกล่อมและปลอบประโลม
พี่ฝันไม่ได้เข้มแข็งหรอก เขาอ่อนแอ
คิมหันต์ยิ้มละมุนเดินเข้ามาภายในห้องสี่เหลี่ยม เสียงของเชลโล่กับเสียงหยดน้ำเปาะแปะด้านนอกช่างทำให้บรรยากาศดูเย็นยะเยือกอย่างประหลาด เขามองภาพชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่นัยน์ตาเศร้าสีเครื่องดนตรีเงียบๆ กระทั่งเพลงที่ปานฝันเล่นจบลง
มันไม่ใช่เพลงนั้นที่พี่ฝันเล่นวันที่เขาเข้ามาที่นี่ครั้งแรก และไม่ใช่เพลงที่พี่ฝันบรรเลงก่อนที่จะจูบกัน..
คิมหันต์ยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากอย่างลืมตัว ตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงมันอีกราวกับไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กระนั้น เหนือก็ไม่ได้คิดจะทวงหาเอาความรับผิดชอบจากชายผู้ช่วงชิงจุมพิตแรกของเขาไปหรอก
แค่ให้มีเก็บไว้ในความทรงจำ ก็เกินพอแล้วสำหรับเหนือ
เขาเผลอยิ้ม เมื่อปานฝันเงยหน้าขึ้นมาสบตา
“มีอะไร?”
“ผมอยากลองเล่นเชลโล่ พี่ฝันสอนผมได้หรือเปล่า?”
ปานฝันมีสีหน้าลังเลอยู่ครู่หนึง เชลโล่ตัวนี้เป็นเชลโล่ที่ปานวาดรักมาก ช่วงที่แม่ยังมีชีวิตอยู่เขาเองยังมีโอกาสได้แตะมันค่อนข้างน้อย ปานวาดไม่ได้ดุว่า แต่เพราะฝันรู้ว่ามารดาค่อนข้างหวงเครื่องดนตรีชิ้นนี้เขาจึงไม่ค่อยเข้ามายุ่มย่ามสักเท่าไร
ถึงปานวาดไม่อยู่แล้ว เขาก็ยังไม่แน่ใจว่าควรจะสอนคิมหันต์ดีหรือไม่
“ได้ไหมครับ?”
เหนือถามซ้ำ เมื่อปานฝันสบตากลมโตที่กำลังร้องขอ สุดท้ายเขาก็พยักหน้าลงรับคำ
“มานั่งนี่สิ”
คิมหันต์กระพริบตาปริบ 'นี่' ที่ฝันพูดถึงหมายถึงที่ว่างตรงหว่างขาซึ่งเดิมเป็นที่วางเชลโล่ ที่จริงเหนือก็รู้อยู่หรอกว่าท่าทางเวลาเล่นเครื่องสีดังกล่าวมันค่อนข้างดูไม่เรียบร้อยสักเท่าไร แต่เขาก็ไม่ได้นึกว่าต้องมานั่งซ้อนหน้าผู้สอนซึ่งมันละม้ายกับเขาขึ้นไปนั่งบนตักปานฝันอยู่รอมร่อ
หากเหนือเป็นแค่ลูกศิษย์ คงไม่ยืนหน้าแดงก่ำเขินครูของตัวเองเป็นแน่ แต่เขาให้ฝันสอนเพราะคิดว่าถ้าดนตรีเป็นชีวิตของพี่ชาย เขาก็อยากทำความรู้จักปานฝันมากกว่านี้
"มาสิ.."
ชายหนุ่มเร่งเร้า คิมหันต์ขบริมฝีปากตัวเองเข้าหากัน เดินไปนั่งตรงตำแหน่งว่าง ให้แผ่นหลังตัวเองชนกับอกหนาของอาจารย์ผะแผ่ว
"กางขาออก เอาเชลโล่วางตรงนี้ ถนัดขวาใช่ไหม งั้นเอียงพาดมา ขยับตัวให้ถนัดจะได้ไม่ต้องเกร็ง..."
ปานฝันอธิบายพร้อมวางเครื่องดนตรีอันเป็นที่รักของแม่วางทำมุมอย่างเบามือ เขาคว้ามือนุ่มของน้องชายขึ้นมาจับคันชัก ส่วนอีกข้างสอนให้เหนือไล่คอร์ดลงบนเส้นสาย
คิมหันต์มองฝ่ามืออุ่นที่ซ้อนเขาไว้ทั้งมือ ไม่เคยคิดว่าตัวเองตัวเล็กกระทั่งได้นั่งเทียบตัวแนบชิดกับปานฝันตอนนี้นี่แหละ เหนือแทบจะจมไปกับอ้อมอกกว้างของพี่ชายไปทั้งตัวแล้วด้วยซ้ำ
ปานฝันก้มหน้าลงมองมือที่บังคับปลายนิ้วน้องชายจับคอร์ด จมูกเป็นสันได้กลิ่นอ่อนๆเฉพาะตัวของคิมหันต์ กลิ่นที่หวานถูกจมูกเหมือนวันที่เขาจูบเหนือ เพียงแต่วันนี้มันไม่เจือกลิ่นละมุดหมักมาด้วย
ปานฝันตั้งใจเหลือบตาขึ้นมองหน้าคิมหันต์ แต่เมื่อช้อนตาขึ้นกลับพบว่าตัวเองถูกมองก่อนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
"...ตั้งใจหน่อย"
ฝันพูดแก้เก้อ เหนือรับคำในลำคอแล้วหลุบสายตาลง แก้มขาวแดงปลั่ง น่ารักจนพี่ชายต้องลอบยิ้ม
"ท่าทางนายไม่เหมือนคนที่จะสนใจดนตรีสักเท่าไร"
ชายหนุ่มพูดตามที่คิด ผลก็คือน้องชายรับสารภาพพยักหน้าหงึกหงัก
"ทำไมถึงอยากให้สอนล่ะ"
"ก็ดนตรี คือพี่ฝัน..."
ตากลมช้อนขึ้นมองพี่ชายผ่านม่านขนตา
"แล้วเหนือ ก็ชอบพี่ฝัน"
ปานฝันชะงัก ตาดำนิ่งสนิทเมื่อน้องชายเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงโทนอ่อน ปลายตาคมของชายหนุ่มเห็นภาพคิมหันต์คลี่ยิ้มบางเบาแล้วหลุบตาลงอีกครั้ง
“เหนือเลยชอบดนตรี...”
มันเป็นตรรกะง่ายๆตามแบบฉบับคิมหันต์ เสียงเม็ดฝนหล่นเปาะแปะช่างดูไพเราะเหลือเกินเมื่อผสานรวมกับอ้อมกอดอบอุ่น
ใช่.. เมื่อประโยคนั้นจบลง มือของปานฝันก็ละสัมผัสจากหลังมือของน้องชายเลื่อนมาโอบรัดรอบเอวคอดช้าๆ สันคางของอาจารย์หนุ่มวางเกยลงบนไหล่เล็ก ตาคมกริบปิดลงเงี่ยหูฟังเสียงเม็ดฝนโปรย พัดลมแขวนพัดเป่าให้ปลายผมของเหนือปลิวว่อนแผ่วเบาระมาโดนใบหน้าหล่อเหลาของปานฝัน
เหมือนเป็นจุมพิตจากสายลมผ่านเส้นผมเพียงชั่วครู่ให้ชุ่มฉ่ำในหัวใจ อ้อมแขนของปานฝันโอบรัดอีกฝ่ายแน่นขึ้น
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กอด..
นานแค่ไหนแล้วที่ไม่รู้สึกถึงความอบอุ่น..
หากคิมหันต์โตมาพร้อมความรักที่ถูกเติมเต็ม เขาคงเก็บความรักที่ถูกมอบให้ไว้จนล้นปรี่
หากปานฝันโตมาพร้อมความอ้างว้าง เขาคงอยากที่จะแชร์ความรู้สึกรัก ได้รับและถ่ายทอดให้ใครสักคนอย่างเชื่องช้าและค่อยเป็นค่อยไป
พ่อของคิมหันต์เป็นคนที่ทำให้เหนือชื่นชมพี่ชายต่างสายเลือดตั้งแต่ที่ยังไม่พบเจอ ขณะเดียวกัน ปานฝันก็อดคิดไม่ได้ว่า ปานวาดเป็นคนที่ทำให้คิมหันต์มาอยู่ที่ตรงนี้
อยู่ในอ้อมกอดของเขา
“เหนือมีความสุขมากที่ได้อยู่กับพี่ฝัน”
อาจเป็นเพราะชายหนุ่มปิดตา เขาจึงได้ยินเสียงคิมหันต์พูดชัดเจนดังก้องกังวาล
“ฉันก็มีความสุข...”
ฝันตอบ..
--------------------------------
To be continue
-
เพิ่งกดเข้ามาอ่านอีกรอบเมื่อกี๊แล้วคุณคนแต่งก็มาอัพพอดีเลย อะไรจะใจตรงกันปานนั้นนน :-[
น่ารักจัง...มันดูเหงาๆ เศร้าๆ อึมครึมๆ แต่ในความหม่นมันก็หวานๆแบบบอกไม่ถูก...
ยังไงก็ได้ขอให้ได้รักกัน ขอให้มีความสุขก็พอ :]
ขอบคุณมากค่ะ :กอด1:
-
ชอบอะครับ มาต่อไวๆนะครับ
-
ตอนนี้แม้จะยังหม่นๆ แต่...หวานมากกก เลยค่าาาา
:-[ :-[ :-[
เอาไปเลย + เป็ดค่าาา > <
-
งืมมม ทั้งคู่ชอบกัน
เป็นรักที่เหงาดีเนอะ
คุณแม่จะมาพาเหนือไปไหม คงไม่หรอกเนอะ *0*
-
อ่านไปเขินนนนไป
-
พึ่งเข้ามาอ่าค่ะ อบอุ่นดีจังเลย :กอด1:
-
แล้วยังงี้จะรักกันได้ยังไง
+1+เป็ดจ้ะ
-
ตอนที่ 04
ค่อนข้างเป็นเรื่องเหนือจินตนาการสำหรับปานฝันว่าวันหนึ่งกิจวัตรประจำวันของเขาจะเปลี่ยนไป
อาจารย์หนุ่มนั่งตรวจข้อสอบจากกระดาษคำตอบของลูกศิษย์ในห้องพักครูของมหาวิทยาลัยในช่วงเย็น ทั้งที่ตัวเองสอนเสร็จตั้งแต่บ่ายเพราะรอเวลาเลิกงานของใครบางคนที่มักจะอ้อนให้เขารับส่งมากกว่ายอมนั่งรถไฟฟ้ากลับบ้านเอง กระนั้นปานฝันก็ยอมตามใจน้องชายอยู่เป็นนิจ
“อ้าว ครูฝัน ยังไม่กลับไปจำศีลอีกหรือคะ?”
คนที่กระเซ้าเป็นอาจารย์สอนดนตรีเช่นเดียวกัน หล่อนจบจากโรงเรียนดนตรีเดียวกับปานฝัน กระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย ตั้งแต่ปริญญาตรีตลอดจนไปถึงระปริญญาเอกยังเรียนคณะเดียวกันมาตลอดหากแต่ต่างสาขาทำให้ เมธาวีรู้จักนิสัยของ ครูฝัน ดีเป็นพิเศษ
“รอรับน้องชายเลิกงานน่ะ”
“เอ๊ะ เท่าที่เมจำได้ฝันเป็นลูกโทนของครูวาดนี่”
“เรื่องมันยาวน่ะ เอาเป็นว่าเป็นญาติห่างๆที่มาอยู่ด้วยแล้วกัน”
ปานฝันเป็นชายในอุดมคติของใครหลายคนตั้งแต่สมัยเรียน หนึ่งในนั้นก็หมายรวมไปกับเมธาวีด้วย หากแต่โลกที่ปิดสนิทของชายหนุ่มไม่เคยนำพาซึ่งความหวังมาให้สาวน้อยจนน่าเหนื่อยใจ
“จริงรึ? อย่างพี่ฝันนี่จะรับใครมาอยู่ด้วย เป็นไปได้ด้วยเหรอ? เมนึกว่าอยากจะอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเสียอีก”
“ที่จริงก็ตั้งใจไว้แบบนั้นเหมือนกัน”
เมธาวีท้าวแขนกับโต๊ะทำงานของปานฝัน อดใจไม่ได้ที่จะไล่สายตามองรูปหน้าได้สัดส่วนของชายหนุ่มผู้เคร่งขรึม เขาดูจริงจังกับทุกอย่างแบบไม่มีช่องว่างให้ได้รีแลกซ์เลยสักนิด แต่ก็นั่นแหละ ปานฝันยังเป็นปุถุชนทั่วไป เขายังยิ้มและหัวเราะ หรือนานๆทีจะมีมุกหน้าตายให้คนรอบข้างพอผ่อนคลายบ้าง
“วันนี้วันเกิดมิน แวะไปอวยพรน้องที่คอนโดหน่อยไหม?”
ภูมินทร์เป็นน้องชายคนเดียวของเมธาวีที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวแต่คนละเอกกับปานฝัน ทางนั้นจบนิเทศการแสดงและตอนนี้เป็นพระเอกหนุ่มเต็มตัวแล้วด้วย กระนั้น สมัยเรียนที่ปานฝันค่อนข้างสนิทสนมกับเมธาวี ภูมินทร์ก็ติดพี่ฝันแจอยู่เหมือนกัน
“จัดงานกันกี่โมงล่ะ? เดี๋ยวลองถามเหนือดูเผื่ออยากเจอดารา”
เมธาวีคลี่ยิ้ม “ 2 ทุ่มเป่าเทียน ถ้าไม่ได้มีธุระที่ไหนไปก่อนก็ได้ สั่งอาหารมาหนำเลย”
สุดท้ายคิมหันต์กับปานฝันก็มาอยู่ในคอนโดขนาด 143 ตารางเมตรย่านสุขุมวิทกับแขกเหรืออีกราวๆยี่สิบชีวิต มีกลุ่มเพื่อนสมัยมัธยม4 -5 คน เพื่อนมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นรุ่นน้องปานฝันอีกเกือบ 10 ซึ่งต่างยกมือไหว้เขาตามมารยาทด้วยความคุ้นหน้า ส่วนที่เหลือเป็นเพื่อนนักแสดงที่สนิทๆกันของพระเอกหนุ่ม
เสียงดนตรีเร่งเร้าภายในห้องสี่เหลี่ยมราคาสิบล้านกว่า เมธาวีคอยจัดเตรียมเสบียงอยู่ในครัว เพื่อนบางคนตั้งวงไพ่ บางกลุ่มดื่มเหล้าแลกเปลี่ยนความคิดสนุกสนาน พื้นที่หน้าโทรทัศน์ถูกแปรสภาพเป็นฟลอร์เต้นรำสำหรับแขกผู้ร่วมงานบางส่วน
แต่เจ้าของงานกลับนั่งตาแป๋วจิบวิสกี้มองคนไม่คุ้นหน้าตาไม่กระพริบ
“เหนือมีแฟนหรือยังครับ?”
ไอ้มินเป็นเกย์ ปานฝันก็พอจะรู้อยู่ หมอนี่ควงเด็กหนุ่มไม่ซ้ำหน้าแต่ก็ดูไม่ได้จริงจังกับใครเป็นพิเศษตั้งแต่สมัยเรียนตามแบบฉบับผู้ชายหน้าตาดีนั่นแหละ แต่พอมันให้ความสนใจคิมหันต์ ปานฝันก็รู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ
“ยังครับ คุณมินมีอะไรหรือเปล่าเนี่ยนั่งจ้องเหนือตั้งแต่เข้ามาแล้ว”
โอ๊ย ที่ถามนี่โง่จริงหรือแอ๊บแบ๊วกันแน่ ตาเป็นประกายวาววับขนาดนั้นมองปราดเดียวก็รู้ว่าภูมินทร์มันจ้องจะเขมือบเด็กหนุ่มเนื้อขาวอยู่ ปานฝันหันหน้าหนีแล้วยกแก้วแอลกอฮอล์ขึ้นดื่มด้วยความหงุดหงิด
หงุดหงิดทั้งรุ่นน้องเจ้าของวันเกิด
หงุดหงิดทั้งไอ้เด็กเมื่อวันซืนที่นั่งทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อไม่รู้เรื่องราวนั่นแหละ
รู้อย่างงี้ไม่พามาก็น่าจะดี
“ก็เหนือน่ารัก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ายังไม่มีแฟน นี่โสดรอผมหรือเปล่า?”
ภูมินทร์ยังรุกหนัก ยิ่งเป็นรุ่นเดียวกันแล้วมันยิ่งไม่เกรงใจอีกฝ่าย จ้องแก้มขาวๆของเด็กหนุ่มหน้าอ่อนส่งแววเจ้าชู้ทางสายตาไปให้ไม่ปิดบัง
“ฮะๆ มินตลกอะ เลิกมองเถอะน่า เหนือชักจะเขินแล้ว”
คิมหันต์ยิ้มกลบเกลื่อน ยกมือขึ้นโบกเพราะเริ่มอึดอัดกับท่าทีของอีกฝ่าย ภูมินทร์ที่เขาเห็นในโทรทัศน์หล่อน้อยกว่านี้แต่ก็กระชากลมหายใจแม่บ้านติดละครมานักต่อนัก กระนั้น ถ้าจะให้มานั่งจีบกันตรงๆแบบนี้เห็นทีเหนือจะไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไร
“กูไปเติมเหล้านะ”
ปานฝันไม่ได้ตั้งใจจะสะบัดเสียงห้วนหรอก แต่มันเป็นไปเอง ภูมินทร์หันมาฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนพี่สาวเหมือนดีใจนักหนาที่ปานฝันลุกออกไปเขาจะได้ทำอะไรสะดวก ภูมินทร์ลุกมานั่งโซฟาตัวเดียวกับคิมหันต์ที่เดียวกับที่ฝันลุกไปเมื่อครู่
“แล้วมาอยู่กรุงเทพนี่ได้ไปไหนบ้างยัง ว่างๆไปเที่ยวกับผมนะ เดี๋ยวพาตะลอน”
มือเล็กที่วางอยู่บนหน้าตักถูกดาราหนุ่มฉวยไปรวดเร็ว คิมหันต์ตกใจพยายามรั้งออกแล้วเหลือบมองผู้ชายที่เดินลุกจากไปอย่างไม่ใยดีจากนั้นสีหน้าก็สลดลงเล็กน้อย ตากลมเหลือบมองไปหลังครัวที่ปานฝันหายไปกับเมธาวีแล้วถอนหายใจ
ตั้งแต่ตอนที่ไปรับแล้วมีหญิงสาวหน้าตาดีนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถแล้ว คิมหันต์ต้องระเห็จตัวเองไปเบาะหลังมองเมธาวีกับปานฝันคุยกันสนิทสนมด้วยความรู้สึกปวดมวนในช่องท้องประหลาดๆ
เขาเอนตัวพิงเบาะโซฟากำมะหยี่ ยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่มเพราะเริ่มปั้นหน้ายิ้มใส่ภูมินทร์ไม่ไหว
“ไม่สนุกเหรอ?”
“อ้อ เปล่า เหนื่อยๆกับงานน่ะ”
ถึงพูดแบบนั้น แต่ตาดำสีนิลก็มองไปทางห้องครัวไม่กระพริบ ภูมินทร์มองตามจุดปลายทางของสายตาหวานแล้วเหมือนพอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้าง เขาเอื้อมมือไปวางบนพนักพิงโซฟาให้ดูเหมือนกำลังโอบเด็กหนุ่มอยู่กลายๆ
“เป็นแฟนกับพี่ฝันเหรอ?”
“เอ๊ะ? เปล่าหรอก พี่น้องกันเฉยๆ”
“ฮะๆ โทษทีนะ ผมก็ถามอะไรแปลกๆ รู้อยู่แท้ๆว่าพี่เมกับพี่ฝันน่ะเป็นแฟนกัน”
คิมหันต์ยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นมาดื่ม
“งั้นเหรอ....?”
เสียงกระซิบจากปากแดงจัดเบา แต่ภูมินทร์ก็ได้ยินมันชัดเจน รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นที่มุมปาก เขาใช้ปลายนิ้วไล้ลอนผมที่ประอยู่บนปกเสื้อบนของน้องชายรุ่นพี่แล้วเอื้อมตัวเข้าไปกระซิบใกล้
“เดี๋ยวเหนือถือเค้กให้ผมเป่าเทียนหน่อยนะ”
คิมหันต์รับคำในลำคอ เขาเบี่ยงหลบปลายจมูกของคนเจ้าชู้ไม่ทันเลยถูกฉวยหอมแก้มเข้าไปเต็มแรง หัวคิ้วบางติดจะขมวดเข้าหากันเหลือบไปมองในครัวเป็นระยะ และนั่นทำให้เด็กหนุ่มรู้ว่าท่าทางที่ภูมินทร์ทำเขาอึดอัดเทียบไม่ได้เลยสักนิดกับดวงตาโศกของพี่ชายที่จับจ้องมาเขม็งไม่กระพริบ
******
เสียงที่ดังจากแกรนเปียโนตัวใหญ่กลางบ้านดุดันและแข็งกระด้าง คิมหันต์วางแปรงสีฟันลงบนแก้วแล้วก้มลงบ้วนปากสองถึงสามครั้งก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ นักดนตรีที่บรรเลงเสียงเกรี้ยวกราดยังคงนั่งขยับปลายนิ้วพริ้วไหวอยู่ในที่ๆสมควรจะอยู่ ตาคมไม่ได้มองโนตเพลงที่กางอยู่หากแต่มันเลื่อนลอยแบบจับจุดไม่ได้ เคลื่อนปลายนิ้วไปตามแรงขับดันของจิตใจที่ทำให้เหนือรู้สึกว่าวันนี้เพลงของพี่ฝันไม่ได้ไพเราะเอาเสียเลย
“ห้องน้ำว่างแล้วนะครับ”
คิมหันต์ตะเบ็งเสียงผ่านดนตรีแต่ก็ไม่ได้ทำให้ปลายนิ้วของพี่ชายสะดุดทำให้เหนือไม่แน่ใจว่าพี่ฝันจะได้ยินที่เขาพูดหรือเปล่า เท้าเปลือยเปล่าของเด็กหนุ่มเคลื่อนไปใกล้คู่สนทนา แต่อาการหมางเมินตั้งแต่ที่งานปาร์ตี้ทั้งๆที่พี่ฝันเป็นคนพาเขาไปแท้ๆนั่นทำให้คิมหันต์รู้สึกโมโห แต่สุดท้ายเขาก็ปล่อยให้พี่ชายเล่นดนตรีที่ฟังดูดุดันนั้นจนจบ
ปานฝันนั่งหอบอยู่บนเก้าอี้เปียโนตัวเดิม ตัวที่แม่เคยนั่งข้างๆสอนเขากดไล่โน้ต ตัวที่เขานั่งบรรเลงมันด้วยตัวเอง ตัวที่เขามอบ ‘จูบแรก’ ให้อีกคนที่ไม่ประสาเหมือนๆกัน
จากนี้ไปชีวิตเขาจะมีเหนือ วูบหนึ่งที่ฝันเคยคิดแบบนั้น แต่วันนี้ภูมินทร์กลับสอนเขาว่า ‘อย่าลำพองใจไป’
‘มินขอพรแล้วเป่าเค้กสิ’
เมธาวีเร่งเร้าท่ามกลางแสงเทียนที่ถูกปักบนเค้กปอนด์ ดวงตาของเจ้าของงานวันเกิดมองคนถือแวววับ ยกมือมาประสานกันไว้บนอก
‘พรข้อนี้ผมควรขอจากใครดี จากเทวดา จากเหนือ หรือจากพี่ฝัน...’
ทั้งห้องคงไว้ซึ่งเสียงเงียบงัน มีเพียงรอยยิ้มหยอกล้ออย่างรู้ทันจากกลุ่มเพื่อนเท่านั้นที่ทอดส่งต่อกันและกันจนปานฝันรู้สึกว่างเปล่าในช่องท้องแต่กลับจุกขึ้นมาถึงอก
‘ของขวัญวันเกิดปีนี้ ผมขอ’เหนือ’ได้เหรือเปล่า?’
‘เหนือไม่ได้เตรียมอะไรมาให้หรอกนะครับ’ คนถือเค้กรีบปฏิเสธพัลวัน แต่ภูมินทร์ไม่ได้มีทีท่าเสียดายเลยสักนิด
‘ผมหมายถึง ขอตัว ขอใจของเหนือ ได้หรือเปล่า’
เสียงหวีดหวิวผิวปากดังเซ็งเซ่ แต่สำหรับปานฝันแล้วมันกำลังเป็นเสียงที่กรีดลงไปในใจเขาต่างหาก คิมหันต์ยิ้มน้อยๆหลบตาพลางส่ายหน้า
‘แบบนั้นคงต้องถามพี่ฝันแล้วแหละว่าจะยกเหนือให้หรือเปล่า’
ภูมินทร์หันมองรุ่นพี่ยิ้มๆ เขาก้มลงเป่าเค้กเมื่อเห็นว่าปานฝันสาดเหล้าลงคอแบบไม่คิดจะตอบหรือหยอกล้ออะไรเขามากไปกว่านั้น
อยากไปก็ไปสิ.. เขาจะมีสิทธิ์ไปหวงห้ามหรือไงกัน
“พี่ฝันเป็นอะไร”
เสียงของน้องชายปลุกให้ปานฝันหลุดออกจากภวังค์ ชายหนุ่มนิ่งไม่ให้คำตอบน้องชาย หนำซ้ำยังลุกหนีให้อีกฝ่ายคว้าข้อมือเอาไว้เสียอีก
“พี่ฝัน.. ทะเลาะกับพี่เมหรือ?”
คิมหันต์กัดริมฝีปากล่างแน่น รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาที่กระบอกตา ท่าทีปั้นปึ่งแถมยังเปิดโอกาสให้เขาอยู่กับภูมินทร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่านี่จะให้เขาคิดยังไงนอกเสียจากพี่เมให้พี่ฝันช่วยเป็นพ่อสื่อให้เขากับพระเอกหนุ่ม และพอเห็นว่าเขาไม่เล่นด้วยคงเอาไปทะเลาะไม่พอใจ ทั้งๆที่เป็นแฟนกันแท้ๆแต่กลับช่วยเหลือน้องชายของแฟนตัวเองไม่ได้เลย
“ฉันจะไปทะเลาะกับเมทำไม”
“จะไปรู้เหรอครับ เหนือเห็นพี่ฝันอารมณ์ไม่ดีตั้งแต่ในงานแล้ว นึกว่าทะเลาะกับแฟนเสียอีก”
“ฉันกับเมไม่ได้เป็นแฟนกัน ไม่ได้ทะเลาะกันด้วย อย่ายัดเยียดฉันให้คนโน้นคนนี้”
“คนที่ทำแบบนั้นน่ะพี่ฝันต่างหาก!”
คิมหันต์เผลอตวาดเสียงลั่น ปานฝันสะบัดหน้ามองขณะที่อีกฝ่ายกลับก้มหน้า ปล่อยให้น้ำตาหยดลงพื้นแหมะ แหมะ ทั้งๆที่ไม่อยากจะร้องแท้ๆ ดังนั้นพอรู้ตัวว่ากลั้นไม่ได้แล้วเหนือจึงเลือกที่จะก้มหน้าให้ปอยผมหน้าร่วงลงมาปิดสภาพน่าเวทนาของเขาสักเสี้ยวก็ยังดี
ปานฝันเม้มปากเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ในใจวูบไหวเมื่อเห็นว่าแด็กผู้ชายตรงหน้ากำลังสั่นไปทั้งร่าง มือที่รั้งเขาไว้เมื่อครู่ลู่อยู่ข้างลำตัวกำหมัดเข้าหากันจนมือขาวๆสามารถเห็นเส้นเลือดปูดโปนออกมาได้ชัด
“พี่ฝันต่างหากที่ยัดเยียดเหนือให้มินอยู่ได้”
“คนรักกันชอบกันจะให้ฉันขวางหรืออย่างไร?”
“เหนือบอกไปแล้วนี่ว่าเหนือชอบพี่...”
“นั่นมันความรู้สึกของพี่น้อง” ฝันว่า
“ถ้าจะคิดว่าเป็นพี่น้องก็คิดไปคนเดียวสิ อย่ายัดเยียดให้ผมคิดเหมือนพี่ อย่ายกผมให้คนโน้นคนนี้... มันเจ็บนะ..”
ปานฝันกระพริบตาถี่ เจ็บ ใช่ สำหรับเขามันก็เจ็บ แต่ที่เจ็บจนน่ารำคาญที่สุดคือฝันไม่รู้ว่าเขาเจ็บเพราะอะไร
เห็นสองคนมองตากัน เห็นมินสนใจเหนือ เห็นน้องชายตัวเองในอ้อมแขนของรุ่นน้องอีกคน มันเจ็บ..
ทั้งๆที่ เหนือก็ไม่ได้บอกว่าจะทิ้งเขาไปเหมือนที่แม่ทำเลยสักนิด เหนือยังอยู่กับเขา เวลานี้ ตอนนี้ แต่เขาก็ ยังเจ็บ
ความรู้สึกของพี่น้องอะไรนั่น ปานฝันไม่คิดหรอกว่ามันจะเกิดขึ้นได้ เลือดคนละสาย โตมาคนละสังคม มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่จู่ๆก็โผล่มาให้เขารับผิดชอบทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเคยมีตัวตนอยู่ด้วยอีกต่างหาก
แค่รับมาอยู่ด้วยตามหน้าที่ที่สมควร แต่ที่ไม่สมควรคือความรู้สึกบ้าบอที่เกิดขึ้นนี่ต่างหาก
โง่แค่ไหน ปานฝันก็รู้ดีว่ามันไม่ใช่สายสัมพันธ์ของพี่น้อง
“ก็แค่สับสน.. ก็แค่สงสารเท่านั้นแหละ”
สิ่งที่คิมหันต์รู้สึก มันเกิดจากความคิดนั้นเท่านั้น ส่วนสำหรับเขา มันก็เกิดจากความเหงาก็เท่านั้น
“ไม่ใช่ความรู้สึกแบบที่นายเข้าใจหรอก เหนือ”
“เหนือไม่เข้าใจอะไรหรอก พี่ฝันรู้ไหมเหนือดำเนินชีวิตมาได้ยี่สิบกว่าปีนี่ด้วยความไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเรียนโรงเรียนชายล้วน ไม่เข้าใจว่าทำไมคบเพื่อนต่างฐานะไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงห้ามเล่นกลางแดด ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมีคนคอยรับคอยส่ง รู้อย่างเดียวว่านั่นมันคือความพอใจของแม่เพราะตอนนั้นเหนืออยู่กับแม่ แต่ตอนนี้ชีวิตเป็นของเหนือ เหนืออยู่ด้วยตัวเองแล้วดังนั้นเหนือจะทำอะไรตามความพอใจของตัวเองบ้าง”
“เหนือแค่อยากชอบพี่ฝัน เหนืออยากอยู่กับพี่ฝัน เหนือไม่อยากให้พี่ฝันไล่เหนือไปไหน ให้เหนือทำได้ไหมเล่า! หรือมันลำบากเกินไป พูดมาสิว่าพี่ฝันไม่ได้คิดแบบเดียวกับเหนือ พูดมาว่าพี่ฝันไม่ได้ต้องการเหนือเลย!!”
ปานฝันนิ่ง เขาเป็นคนที่คิดอะไรมากเกินไปเสมอๆ และนี่อาจเป็นอีกครั้งที่ฝันรู้สึกว่าเขากำลังทำนิสัยแบบนั้นอีกแล้ว
คิมหันต์ตัวสั่นเทิ้ม ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาสบตาชายที่เอาแต่เงียบหลังจากไม่พอใจอยู่นาน เหนือไม่อยากเข้าข้างตัวเองนักหรอกว่าพี่ชายโกรธเพราะความหึงหวง แต่ถ้าตัดเรื่องเมธาวีไม่ได้ทะเลาะกับพี่ชาย มิหนำซ้ำยังไมได้เป็นแฟนกันตามคำลวงของภูมินทร์ด้วยซ้ำ เหนือก็คิดไม่ออกแล้วว่าปานฝันกำลังโกรธเรื่องอะไร
“หยุดใช้สมองสักทีได้ไหม พี่ฝันตอบเหนือตามที่หัวใจของพี่ฝันบอกได้หรือเปล่า”
บางทีมันอาจเหมือนการเล่นดนตรี ไม่ต้องท่องจำตัวโน๊ตให้มันเมื่อยตุ้มนักก็ได้
ปานฝันมองหน้าของน้องชายที่น้ำตาอาบแก้มขาวเอาไว้นิ่ง ไม่ชอบเลยที่หน้าหวานของคิมหันต์ไม่ได้ประดับด้วยรอยยิ้มเหมือนอย่างเคย ยิ่งน้ำตาที่เกิดจากความเสียใจนั่น กำลังทำให้ปานฝันรู้สึกระบมในหัวใจ
ไม่ชอบเลยจริงๆ..
“เหนือ...”
“ครับ”
คิมหันต์รับคำอย่างว่าง่าย สบตากับพี่ชายนิ่งและบางทีเขาก็ได้รับคำตอบแล้วว่าปานฝันคิดกับเขาเช่นไร
หมับ!
แขนเพียงข้างเดียวเท่านั้นที่ทำให้ทั้งตัวคิมหันต์ลอยเข้ามาปะทะอก ปานฝันซุกจมูกลงไปดมดอมบนเรือนผมเส้นเล็กของน้องชายแล้วยกมืออีกข้างขึ้นกอดคนตัวเล็กกว่าไว้ทั้งตัว ขณะที่คิมหันต์ค่อยๆยกมือขึ้นกอดเอวอีกฝ่ายไว้เช่นกัน
“นอกจากแม่แล้ว... ความรักทั้งหมดที่ฉันมี จะฝากไว้ที่นายได้ไหม”
ปากสีอ่อนของคนในอ้อมแขนคลี่ยิ้ม คิมหันต์กระชับอ้อมแขนอีกฝ่ายให้แน่นขึ้นแล้วสะอื้นฮักแทนคำตอบ
“นี่.. ไม่ได้บอกให้ร้องไห้หนักกว่าเดิมนะ หยุดได้แล้ว”
“ก็เหนือดีใจนี่...”
“อืม.. รู้แล้ว”
ปานฝันตอบ เขาเองก็อดคลี่ยิ้มออกมาในความน่ารักของน้องชายไม่ได้เหมือนกัน พูดว่าดีใจทั้งๆที่เสียงอู้อี้ สูดน้ำมูกฟื้ดฟ้าดในกอดของเขา แบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน
“ต่อไปนี้เวลาใครถามห้ามบอกว่าญาติแล้วนะ ต้องบอกว่าแฟน เข้าใจไหม”
พอได้ตำแหน่งปุ๊บ คิมหันต์ก็รีบสำแดงเดชออกคำสั่งชายหนุ่มเสียงเข้ม ปานฝันรับคำแล้วหัวเราะในลำคอ
ทั้งๆที่คิดมาตลอดว่าอนาคตมีหวังตัวเองจะได้เป็นครูเพลงแก่ๆนั่งเล่นดนตรีเงียบๆตามลำพังในบ้านเดี่ยวในกลางเมืองเสียแล้ว แต่จากนี้มันคงเปลี่ยนไป
ออกจะเหนือฝันสักหน่อย กับการที่เขาจะใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน แต่กระนั้น ฝันรู้ดีว่าเขาทำได้ดีแน่ๆ ปานฝันเคยรักแม่และดูแลอีกฝ่ายได้สมบูรณ์แบบแค่ไหน ทำไมเขาจะไม่รู้
ต่อจากนี้เช่นกัน
เขาจะดูแลคนในอ้อมแขนให้มั่นใจได้เลยว่าครั้งนี้ คิมหันต์จะมีโอกาสร้องไห้เพราะเขาเป็นครั้งสุดท้าย
“พี่รักเหนือนะ..”
คิมหันต์ยิ้ม “เหนือรู้ เหนือก็รักพี่เหมือนกัน”
เสียงกระซิบบอกแว่วรำพัน ขณะที่เม็ดฝนค่อยๆโปรยปรายกระทบหลังคา บรรเลงให้ทั้งสองฝ่ายค่อยๆโน้มตัวเข้าหากันช้าๆ
ให้แม้แต่อากาศก็ไม่มีโอกาสได้คั่นกลางระหว่างริมฝีปากของทั้ง 2 ฝ่าย
ทั้งๆที่อุณหภูมิภายนอกกำลังลดต่ำลงเรื่อยๆ แต่ใจของปานฝันและคิมหันต์แล้ว กลับรู้สึกอุ่นวาบในอกอย่างบอกไม่ถูก
♥♥♥♥♥ HAPPY ENDING ♥♥♥♥♥
-
น..น่ารักมากเลยค่าาา
ตอนแรกอ่านแล้วรู้สึกบีบหัวใจมาก แต่พอตอนจะจบกลับหวานขนาดนี้...
เหนือฝัน ทำให้ทั้งเจ็บปวด ทั้งเขินได้ในตอนเดียว ชอบมากเลยค่าาา
รู้สึกไม่อยากให้จบยังไงก็ไม่ร้ ฮาๆๆๆ :o8:
-
นึกว่าจะไม่ได้คู่กันซะแล้ว แต่ฝันขี้หึงเหมือนกันนะ
-
น่ารักกก เหนือกับพี่ฝัีน น่ารักมากมายเลยย
พี่ฝันแอบโกหกตัวเองด้วย หึงน้องก็บอกไปเลย
มินแค่ออกมาป่วนแค่นี้ใช่ไหมค้าบ หุหุ
-
น่ารักมากๆ :กอด1:
-
เขียนดีจังเลยค่ะ หม่น เหงา ไปด้วยเลย แอร๊ยยยยยยยยส์
-
เหนือน่ารัก :)
-
เพิ่งได้มาอ่าน ตอนจบรู้สึกจะรวมอะไรหลายๆอย่างมากเลย ทั้งเศร้าของเหนือ โกรธหึงหวงของปานฝัน เจ้าเล่ห์ของมิน และความน่ารักของเหนือที่ทำให้อ่านแล้วยิ้มตามไปด้วย 555+ >_<
-
:กอด1:น่ารักมาก
-
อ่านถึงตอนจบแล้วรู้สึกอิ่มเอม เขาทั้งคู่เกิดมาเพื่อเติมเต็มซึ่งกันและกัน
น้องเหนือน่ารักมากมาย ชอบ ชอบ
-
งือ ออ ออ ออ ชอบน้องเหนือจ้า
เค้ามาเจอเรื่องนี้ช้าไปจริงๆ อยากโหวตเป็นเรื่องสั้นสุดประทับใจจังงงงง
ชอบมากกกก จนคิดว่าถ้าเป็นเรื่องยาวคงเคลิ้มมากกกก
ปล.ภูมินทร์นี่คนเดียวกะรุ่นน้องเฮียบีมแน่ๆ 5555
-
โอ้ เรื่องนี้ อ่านแล้ว....รู้สึก...รักเลยอ่ะ
-
-//ม้วนตัวสามตลบด้วยความเขิน
โอ๊ยยย จบน่ารักมากกกกกกก
ชอบบรรยากาศของเรื่องจังเลยค่ะ มันดูเหงาๆ อึมครึมๆ แต่ในขณะเดียวกันมีบรรยากาศหวานๆ ใสๆ คลออยู่ในเนื้อเรื่อง :-[
เหมือนกำลังโดนดูดเข้าไปในโลกของพี่ฝัน
ผู้ชายคนนี้ทั้งให้ความรู้สึกหนาวเย็นและอบอุ่นไปพร้อมๆกัน ปลื้มค่ะ ปลื้มมมมม
ส่วนน้องเหนือ รายนี้น่ารักมากกกกกก
ซื่อตรงจริงๆ ชอบเหนือก็ส่วนนี้แหละ บอกออกมาตรงๆ แสดงออกมาตรงๆ เหมาะสมกับผู้ชายซึนๆแบบพี่ฝันจริงๆ
คนเขียนขา ขอตอนพิเศษได้ไหม?
สี่ตอนมันไม่เพียงพออออ :monkeysad:
-
วันเหงาเหงา
เข้ามารับความรักความอบอุ่นจาก น้องเหนือของพี่ฝัน .. :กอด1: :o8:
-
อ๊ากกกกก จากหน่วงๆ มาหวานขนาดนี้ได้ไงเนี่ยยยย 4 ตอนมันไม่พอจริงๆ ค่ะ
อยากได้เรื่องราวหลังจากนี้อีกกกก ฮรือๆๆๆๆ
-
เปิดเรื่องด้วยความเหงา ดีนะที่ปิดท้ายด้วยความอบอุ่น o13 :pig4:
-
โฮววว ว ว
เหนือฝัน
น่ารักมากกกก
... หน่วง ... อุ่น ... หวาน ... >w<
-
น่ารัก อ่านแล้วอบอุ่นในใจ
-
โหย...เป็นเรื่องสั้นที่สุขสุดๆไปเลยค่ะ
ชอบลุคของพี่ฝันมาก
น้องเหนือก็น่ารัก
เป็นคู่ที่เติมเต็มซึ่งกันและกันจริงๆ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องดีๆแบบนี้ให้อ่านกันนะคะ ^^
-
อ้าว จบแล้วเหรอ นึกว่าจะมีต่อ เพราะถ้าครอบครัวรู้ มาม่าแหงมๆ เหอๆ
-
น้องเหนือมาเพื่อรักและเติมเต็มชีวิตเหงา ๆ ของพี่ฝัน
ถ้าน้องไม่แอคทีฟมีหวังพี่ฝันกลายเป็นฝันค้างแน่ ๆ
คิมหันต์เกิดในฤดูหนาว (จากตอนที่ 2) /.............คิมหันต์ = ฤดูร้อน เหมันต์ = ฤดูหนาว
ภูมินทร์หันมาฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนพี่ชาย (จากตอนที่ 4) /.............เพื่อนพี่สาว
-
น่ารักมากเลย :sad11: น้ำตาซึม ดีใจ
จบอย่างสุขสมหวัง o13
-
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[น่ารักอะชอบเรื่องนี้จังเลย :o8: :o8: :o8:
-
น้องเหนือมาเพื่อรักและเติมเต็มชีวิตเหงา ๆ ของพี่ฝัน
ถ้าน้องไม่แอคทีฟมีหวังพี่ฝันกลายเป็นฝันค้างแน่ ๆ
คิมหันต์เกิดในฤดูหนาว (จากตอนที่ 2) /.............คิมหันต์ = ฤดูร้อน เหมันต์ = ฤดูหนาว
ภูมินทร์หันมาฉีกยิ้มกว้างให้เพื่อนพี่ชาย (จากตอนที่ 4) /.............เพื่อนพี่สาว
ขอบคุณมากค่ะ
-
อบอุ่นมากอ่ะ .. :กอด1:
-
อบอุ่นมากกกกกกกกกกกกกก
พี่ฝันอบอุ่นจังเลย
งื้ออออออออออออออออออ > <
อยากได้ตอนพิเศษอะ นะ นะ น้าาาาาาาาา
-
o13
-
ชอบมากเลยค่ะ เขียนได้อารมณ์มากบอกไม่ถูก
อ่านแล้วมันมัวตามอารมณ์วาดฝัน
แต่ก็แอบหวานตามอารมณ์น้องเหนือเลย
ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องนี้ให้ได้อ่านนะค่ะ
-
โอ้ยละลาย จบไปอย่าแฮปปี้
-
น่ารักมากเลยค่ะ
ติดตามเรื่องต่อไปนะคะ :กอด1:
-
ขอบคุณครับ
-
เห็นว่าเป็นคนแต่งเดียวกับเฮียบีม-เน็ตก็บึ่งเข้ามาอ่านเลยค่ะ555555
โดยที่อ่าวมันตั้งแต่เรื่อง7 โธพลาดไปได้อย่างไงT_T
ตอนแรกอึมครึมมากเลยอ่านแล้วก็อึดอัดนิดๆแต่จบแฮปปี้ก็รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจละคะ55555
-
ภูมินทร์นี่เกิดมาเพื่อสร้างความร้าวฉานให้คู่รักเขาใช่มั้ยเนี่ย ๕๕๕
-
น้อง....เหนือ โมเอะ ... T[]T (กรีดร้องโหยหวน)
อ่านแล้วรู้สึกถึงความหน่วงในตอนแรกแต่ก็เริ่มค่อยๆยิ้มเมื่ออ่านตอนถัดมา
คิดว่าจะจบเศร้าเสียแล้วค่ะ โฮๆๆๆ แต่น่ารักจริงๆ ชอบคุณพี่ฝันอะ แลเย็นชา แต่ถ้าทำให้คนแบบนี้มารักได้นะ
โอ้โห แน่นอนว่าฮีทุ่มหมดหน้าตัก อิอิ น้องเหนือก็น่ารัก น่าฟัดขนาดนี้เนอะ
ชอบบรรยากาศในเรื่องมากๆเลยค่ะ ฝนตก แต่ทำให้รับรู้ถึงความรู้สึกของสองคนนี้ดีจัง
ฝนตกมันก็หนาวๆร้อนๆอะเนอะบางครั้ง (ยิ้ม)
ขอบคุณที่แต่งมาให้อ่านกันจ๊ะ ^^
-
เนื้อเรื่องน่ารักมากค่ะ
แต่เรื่องนี้ ภาษาแปลกๆนะคะ
บางประโยคก็มีคำซ้ำซ้อน เช่นชื่อคิมหันต์ แล้วก็ยังมาเหนือ
ตอนที่ 1-2 ยังมาอึมครึมๆ
พอมาตอน 3-4 ภาษาเริ่มลื่นไหล แต่เหมือนนิสัยตัวละครจะเปลี่ยนด้วย
เล็กๆ น้อยๆ นะคะ
แต่ส่วนใหญ่แล้ว เขียนได้ดีค่ะ น้องเหนือก็น่ารัก พี่ฝันก็เท่ห์
แต่อยากบอกว่าสองคนนี้ เปลี่ยนชื่อกันได้ จะเป๊ะมากค่ะ
-
เนื้อหาดีจัง..
สะท้อนจิตใจได้อย่างดีด้วย รู้สึกถูกใจเรื่องนี้
ส่วนตัวชอบปานฝันนะ
ชอบมากๆ เขียนนิยายดีๆ แบบนี้ต่อไปนานๆนะ :)
แล้วจะติดตามไปเรื่อยๆ จ้า
-
น้องเหนือน่ารักมากๆ
+1 นะคะ
-
เนื้อเรื่องสนุกค่ะ ชอบพี่ฝันกับน้องเหนือค่ะ น่ารัก :กอด1: :pig4:
-
ไม่อยากจะคิดถึงตอนแม่เหนือรู้เลยว่าจะเป็นยังไง
-
น่ารัก :o8:
-
:กอด1:
-
:L1: :L1: :L1:
-
ชีวิตปานฝันน่าเศร้า แต่ของเหนือก็เศร้าเหมือนกัน
ดีใจที่ได้มาเติมเต็มให้กันน ^^
-
:-[อ่าาา น่ารักจัง
-
เมะอ่อนไหวกับเคะคุณหนูมาเจอกัน เติมเต็มกันและกัน
อ่านแล้วได้อารมณ์หวานๆดีค่ะ^^
-
เป็นเรื่องสั้นที่น่ารักดีชอบเหนือที่มาทำให้ฝันไม่ต้องเหงาอีกต่อไป
-
อ๊ายเรื่องนี้น่ารักมากๆเลยค่ะ
อ่อนหวานกันดีจัง ตอนแรกเราก็นึกว่าตาฝันจะเป็นพวก s เพราะครอบครัวมีปัญหาซะอีก
ที่ไหนได้ พี่น้อง ? คู่นี้หวานหยดย้อยกันเสียไม่มีล่ะ ♥
น่ารักมากๆเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆ ที่ได้เขียนมาให้อ่านกันนะค่ะ ♥
-
รู้สึกอุ่นไปด้วยเลย :-[
-
น่ารัก
ขอบคุณค่ะ
:กอด1:
-
อบอุ่นอ่ะ ยกนิ้วให้เลย o13
-
อ่านไปหน่วงไป เนื้อเรื่องอึมครึม
สุดท้ายดีใจที่จบอย่างมีความสุข เย้ๆ
-
จากหนาวเหน็บ มาเป็นอบอุ่นได้ เหนือฝันจริงๆคะ :L2:
ขอบคุณผู้เขียนนะคะ :pig4:
-
เหนือฝันจริง ๆ คิมหันต์ น่ารักกกก >///<
-
:กอด1: :3123: :L1:
-
อุ่น เข้าไปถึงใจเลย
-
มาอ่านแล้ว เย้ๆ
น่ารักมากกกก ปนในความอึมครึม เอิ๊กส์
ภูมินทร์นี่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของทุกคู่ใช่ไหม ฮ่าๆๆ
ปล. มีคำผิดอยู่นะครับ เอาคร่าวๆ ที่จำได้ละกันครับ
"รสชาติ" อะครับ แหะๆ ขี้ลืม
-
:L2: :L2:
-
ต้องขอบคุณน้องมินที่ทำใหพี่ฝันรู้ใจตัวเอง :heaven
-
ชอบมากก
อ่านแล้วสงสารปานฝันมากอะ
ดีแล้วที่ไม่ได้เป็นคนโกรธแค้นอะไรพ่อตัวเอง
สุดยอดมากอะ
คู่นี้ก็น่ารักมาก
ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มให้แก่กัน
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้นะคะ
-
น่ารักมากๆเลยยยย
:pig4:
-
อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ :o8:
ขอบคุณนักเขียนค่ะ
-
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นอ่ะ :o8:
-
สนุก
-
ถ้าถามว่า อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วนึกถึงสีอะไร ขอตอบว่า "สีเทาอมชมพู" ค่ะ
เพราะแม้จะให้ความรู้สึกเหงา อึมครึม แต่ลึกๆก็ยังมีความรู้สึกอ่อนโยน อ่อนหวาน
ขอบอกว่า ประทับใจ มากๆเลยค่ะ ^^
-
เหนือน่ารักสุดๆเลย
นึกว่าจะจบแบบเศร้าแล้วซะอีก
น่ารักทั้งคู่อ่ะ
-
อ่านจบแล้ว เย้ๆ ตอนแรกอ่านค้างไว้ 2ตอน แต่ไม่ได้แปะไว้
กลับมาหาอ่านอีกที เกือบหาไม่เจอแนะ หาตั้งนาน
เริ่มเรื่องมาออกจะหดหู่นะ แต่การเล่นเรื่องเล่าได้อบอุ่นมากๆ
แล้วแถมตอนจบ ยังจบซะหวานนนนน...หยดเลย
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆ
:L2: :pig4: :L2:
-
พี่ฝันกะน้องเหนือน่ารักมากๆ
ชอบตรรกะของเหนือจริงๆ คิดได้นะ 55555
-
อ่านแล้วชอบน่ารักดีค่ะ
รู้สึกอบอุ่นและผูกผันตามตัวละครเลย
แถมยังรู้สึกถึงความรักที่ไม่หวือหวา ง่ายๆ ไม่เร่งเร้า ค่อยเป็นค่อยไป
ชอบค่ะ
ขอบคุณคนเขียนสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ
-
ขอใช้คำว่าละมุนละไม จะเหมาะกับนิยายเรื่องนี้มาก
เรื่องเหมือนจะแอบดราม่าด้วยความไม่สมบูรณ์ของครอบครัวและครอบครัวที่สมบูรณ์จนเกินไป
แจ่สนุกอ่ะ เป็นความรักแบบละมุนละไมนะ ถ่ายทอดจากดนตรี มันได้ความรู้สึกฝนตกจริงๆอย่างในนิยายเลย
ฝนตก เหงาๆ คนสองคน โอยยยยยยยยยยยยย
หวานนนะ แต่ไม่ใช่หวานเว่อร์ เป็นหวานน้อยๆ แต่ละมุนอะ 555+
ชอบๆ สนุกกกกก
-
อ่านแล้วหัวใจมันอุ่นวาบจริงๆ
-
อุ่นจังค่ะ เรื่องน่ารักๆของ 2 พี่น้องต่างสายเลือด ..... ต่อไปนี้คงไม่เหงาอีกแล้ว
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวอบอุ่นนี้ และเป็นกำลังใจให้คนแต่งเสมอนะคะ
-
:m1: :m1: :m1:
-
ขอบอกแค่สั้นๆละกันนะ
น่ารักอ่ะ
-
เป็นเรื่องสั้นที่อบอุ่นมากๆๆ อ่ะค่ะ
-
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆครับ
-
ชีวิตนายไม่เหงาแล้วนะฝัน
ชีวิตนายได้ทำสิ่งที่อยากทำแล้วนะเหนือ
ชีวิตของสองคนนี้มัน "เหนือฝัน" จริง ๆ
-
น่ารักและอบอุ่นมากมาย : )
-
เวลาอ่านเหมือนมีเมฆอึมครึม
แต่พออ่านจบปั๊บบบ :katai5:
..
..
เขินอ่ะ :กอด1:
-
เรื่องนี้น่ารักอ่ะ อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ
งานเขียนของคุณ west ดีทุกเรื่องเลย แต่ไม่เข้าใจทำไม เราถึงพลาดเรื่องสั้นหลายๆ เรื่องของคุณได้
วันหยุดนี้ขอยกให้นิยายคุณ west เลยค่ะ อิอิ ^^b
-
น้องเหนือน่ารัก
-
o13
-
โอโห้ สมัยภูมินทร์ยังเป็นตัวป่วน นิยายเรื่องนี้ทำให้รู้สึกเบาสบายเลย เป็นรักใสๆ แบบผู้ใหญ่
-
น่ารักมากๆเลย ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาให้ครับ :กอด1:
-
หวานซึ้ง ก่อนจะหวานได้นี่สะท้อนความจริงในสังคมคำว่าครอบครัวได้ดีเลยค่ะ
-
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นดีๆ นะคะ รอติดตามผลงานเรื่องต่อไป :กอด1:
-
กลับมาเม้นต์หลังจากอ่านไปนานแล้ว (พึ่งได้สมัครเล้า TT)
อบอุ่นทุกครั้งที่อ่าน ชอบสํานวนการเขียนด้วยค่ะ
ยิ่งฉากตอนที่สอนดนตรีแล้วนั่งกอดกันอยู่เฉยๆ นั้น...บรรยายออกมาอบอุ่นหัวใจมากค่ะ
รอติดตามผลงานอยู่เรื่อยๆ นะคะ o13 o13
-
ขอบคุณคุณ -west- ครับเขียนเรื่องดีๆมาให้อ่าน
เรื่องนี้อ่านจบสองรอบแล้ว ชอบการเขียนของคุณมากครับ
:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
-
อ่าน2 3รอบแล้วพี่ฝันน้องเหนืออออ ละมุนจริงๆ >///< :L2:
-
อ่านแล้วรู้สึกอุ่นๆเนอะ
-
เขียนได้เรียบๆ เงียบๆ แต่ก็หวานมากๆ
ขอบคุณมากนะคะ เหนือน่ารัก ส่วนฝันก็ปากร้ายไม่น้อยนะ แต่ละอย่างที่คิดแต่ไม่พูดออกมาเนี่ย
-
ตอนแรกที่เห็นชื่อเรื่องนึกว่าเป็นพวกเหนือจินตนาการรึเปล่า ปรากฎว่าคิดผิด ฮา เรื่องน่ารักมากเลย ชอบฝันจริงๆเลย ขอบคุณเรื่องดีๆค่ะ
-
เหนือฝันจริงๆ ละ :)
-
...อุ่น...
:กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
:mew3: อ่านแล้ว อบอุ่น ขึ้นมาเลย แหะ ขอบคุณค่ะ
-
โอ้ยเรื่องนี้น่ารักมาก มันอึนๆ อึมครึมนะ แต่อบอุ่ม
เปิดเพลงตามที่คนแต่งลงไว้คลอไปด้วย ยิ่งชอบเลย
เพราะมาก ^^
-
น่ารักมาก มันโหวงๆในอก อ่านแล้วมองเห็นภาพตามได้ไม่ยากเลย อบอุ่น หนาว เหงา คุณ-west- จะเป็นนักเขียนในดวงใจผมอีกคน
-
ตัดจบ แอบคิดไม่ได้ว่าเหนือจะได้อยู่กับฝันนานแค่ไหนก่อนหญิงแม่มาตาม -_-
-
อบอุ่นมากค่ะ
-
อบอุ่นนนนนน
-
อ่านตอนแรกก็แอบน้ำตาคลอแล้วอ่ะ
ยิ่งตอนพี่ฝันบอกว่า พี่ฝันกับแม่มีกันแค่ 2 คน
โอ้ยยยย สัมผัสได้ถึงพลังงานความอ้างว้างระดับเก้า
สงสารพี่ฝันสุดดดดดดดด T_T
-
รู้สึกจะบังเอิญไปนิด
กดเข้ามาอ่านตอนแรกปุ๊บ
ฝนที่บ้านตกลงมาปั๊บเลย
ยิ่งเปิดเพลงที่ลงไว้ให้ด้วย
ยิ่งได้อารมณ์สุดๆ
ขอบคุณสำหรับนิยาย
:pig4:
-
เรื่องน่ารักมากค่ะ อ่านแล้วประทับใจกับความรู้สึกที่ค่อยๆเปิดออกมาจนเป็นแฟนกัน
-
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่อง นี้ แต่ง ดี มากเลยค่ะ
อ่าน แล้ว อบอุ่น มากกก
-
เรื่องนี้หวานๆ ใสๆ น่ารัก :-[ :-[ :-[
-
o22 อ่านแล้วเหงามาก
การอยู่กับความเหงาได้ และมีความสุขไปกับมันได้ทำให้เรื่องนี้ดูเหงาจนเย็นเยือก
ถ้ามีสักคนมาเติมเต็มความเหงานั้นให้ช่องว่างที่เคยมีหายไป
กลับทำให้ทุกอย่างดูสวยงาม และน่าประทับใจ
สุดท้าย แอบน่าสงสารคุณหญิงอยู่ลึกๆ ไม่รู้ไปทำกรรมอะไรไว้...
-
ขอบคุณค่ะ อบอุ่นมากมายย
-
หัวใจหล่นตาตุ่มเลย กลัวฝันยึดติดกับคำว่าพี่น้อง กลัวน้องเหนือเสียใจ
ดีมากๆ เลย ที่ทั้งสองเข้าใจกันและกัน. ^^
-
ภูมินทร์ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆเลยน้า
เหนือฝันหรา มันต้องฝันเหนือ หุหุ เนื้อเรื่องช่างสั้นได้ใจ เรื่องเหมือนจะเศร้า แต่เจอตอน4 เข้าไป หวานแหววซะงั้น ดีแล้วๆ
ปล. คุณใหญ่รู้ไหมเนี่ย มาป่วนเขาน่ะ
-
เหงาๆ
อุ่นๆ
หวานๆ
เขากับบรรยายกาศหลังฝนตกมากๆ
-
เปิดเสียงดนตรีคลอไปกับการอ่าน
น้ำตาเม็ดเล็กหยดลงช้าๆ ราวกับว่าเจ็บปวด ทว่าแท้จริงแล้วอบอุ่น อุ่นด้วยความรักของเรื่องราวเหนือฝัน
-
:L2:
-
อ่านเพลินดีครับ เหนือน่ารักอ่ะ *-*.....
-
อ่านช่วงแรกรู้สึกเหงา ๆ เศร้า ๆ แต่พออ่านจบก็ยิ้มได้น่ารักดีครับ
ขอบคุณครับ
-
:กอด1: :กอด1:
:pig4:
-
เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยค่ะ. :-[ ถึงบรรยากาศจะดูเหงาๆไปบ้างเพราะสายฝนก็เถอะ.เฮ้อ~ แต่ปริ่มสุดๆจ้า.ช้อบ.ชอบ.ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะค้าา. :กอด1:
-
o13 ในที่สุดต่างก็รู้ใจตนเอง อึดอัดแทนตั้งนานแน่ะ
-
:pig4:
-
สารภาพว่าอ่านตอนแรกนึกว่าพี่ฝันเป็นเคะ น้องเหนือเป็นเมะซะอีก ฮ่าๆๆๆ
แต่พออ่านตอนสอง อ้าวเปลี่ยนบทบาทกัน พอรู้ว่าน้องเหนือเคะ ก็พยายามปรับเปลี่ยนความคิดในหัวใหม่จนมองน้องเหนือน่ารักมุ้งมิ้งขึ้นมาเลย ส่วนพี่ฝันจากที่จินตนานการตอนแรกว่าเป็นเคะ ก็มองมุมใหม่ก็เลยรู้สึกว่าพี่ฝันเท่ขึ้นมาเลยค้า หนุ่มเหงา หนุ่มซึน โอ้ยยยย ฟรุ้งฟริ้งมากค่ะ
ชอบพี่ฝันและน้องเหนือนะคะ คนเขียนเก่งมากเลย ขนาดเรื่องสั้นยังทำให้อ่านแล้วเข้าไปอินกับเรื่องราวหม่นๆ เหงาๆ ของคนสองคนได้ o13 :mew1:
-
เนื้อเรื่องเบาๆ ปนหวาน อ่านแล้วไม่เครียดดี
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นดีๆจ้าาา
จะดีมั่กๆ ถ้าเพิ่มตอนพิเศ :hao7:
-
:hao5: งื้ออออ น่ารักมากเลย
-
ขอบคุณ สำหรับเรื่องสั้นนี้ครับ รู้สึก อบอุ่นเนอะ :o8: :o8:
-
กลับมาอ่านอีกกี่ริบก็ยังเป็นเรื่องราวที่อบอุ่นเหมือนเดิม
-
น่ารักกกกและอบอุ่นมากกกกค่ะ
-
ยิ้มแก้มแตกกกกก :hao5:
เป็นเรื่องที่อบอุ่นมากค่ะ ชอบบบบบ
-
อ่านเป็นรอบที่2 :pig4:
-
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ :กอด1: :pig4:
-
น่ารักกก ทั้งเหนือทั้งฝันเลย
-
อบอุ่นฝุดๆ :-[
-
งื้อออ สนุกมากๆ เลยค่ะ อยากให้มีหลายๆ ตอนเลย ทั้งอบอุ่นปนโศก เหงาๆ แต่อมยิ้ม o13
-
อ่านกี่ครั้งก้อยังน่ารัก^^
-
น่ารักกก เหนือกับพี่ฝัีน น่ารักมาก
ตอนแรกอย่างหน่วงมีหงหึงด้วย กรี๊ดดดดดดดดดด
แต่จบแบบรักันๆๆๆ น่ารักที่สุด
-
น่ารักกกกกดก
-
อบอุ่น บรรยากาศแรกหม่นๆ แต่พอเกือบจบก็ดีขึ้นหวานๆ
-
ทำไมอบอุ่นขนาดนี้!!!? เหนือผู้ที่เข้ามาเติมเต็มชีวิตของฝันให้สมบรูณ์ยิ่งขึ้น อ่านแล้วรักเหนือกับพี่ในมาก :mew2: :mew2:
-
อ่านไปหน่วงบ้าง ยิ้มบ้าง ตอนจบนี่อย่างน่ารักเลยอ่ะ :-[ :-[
-
น่ารักกกกกกกกกกกก
เป็นสี่ตอนที่แบบ อ่านแล้วเคลิ้ม
เหนือต้องหน้าตาน่ารักมากแน่ๆเลยอะ :ling1:
ชอบบบบบบบ ชอบบุคลิกของปานฝันด้วย
ดูแบบผู้ชายติสท์ๆ :hao6:
อบอุ่นมากๆค่า ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นนะคะ
-
แอด fav ไว้นานแล้วเพิ่งได้มาอ่าน
พี่ฝัน น้องเหนือ น่ารักมากกกก >///<
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นสนุกๆนะคะ
-
น้องเหนือน่ารัก ชอบบบ :mew2:
-
มันดีต่อใจมากเลย
:กอด1: :กอด1:
-
ละมุนละไมมาก :L1:
-
พี่ฝันก็หวานเป็นนี่หน่า 55555555555555
เอ็นดูเหนือสุดตัว งิองือ
-
ชอบบรรยากาศแบบนีัจัง อบอุ่นหัวใจที่สุด
ขอบคุณมากๆนะคะ
-
น่ารักมาก ดูอบอุ่นมาก
ชอบบบบบบ รักเลยยยยย
-
คิดถึงพี่เวสจังเลย คิดถึงความอบอุ่นกริ้บกร้าว ลูกอมฮาร์ตบีท
เอียนมาม่าอะพี่ผงชูรสมันฝืดคอ กลับม๊าา5555
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
รักแรกและรักเดียวของกันและกัน
-
ตอนแรกดูหม่นๆ แต่จบได้หวานมากเลยค่าาาา o13
-
อื่อหืมมมมม หวานซะ
ใจนึงกะอยากให้เป็นเรื่องยาว แต่ต้องดราม่าแน่ๆ เลยย
-
พี่ฝันไม่เหงาแล้วนะะะะ ><
-
น้องเหนือน่ารักมากมายยยย พี่ฝันห้ามทำน้องเสียใจนะจ๊ะ รักน้องมากๆน้าาา
-
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
-
ตอนเริ่มต้นดูเหงามาก พอตอนจบอ่านแล้วอบอุ่นเลย
-
อบอุ่นหัวใจ :-[
-
เกือบไปแล้วนะพี่ฝัน...น้ำตาซึมเล็ก ๆ :sad11:
ชอบจัง :L1: :pig4:
-
้ชอบจัง หวานปรเศร้า น้ำตาคลอเลยค่ะ ฮืออ
-
หือออออ กลับมาอ่านอีกรอบ
ชอบ ชอบมาก ชอบบรรยากาศ ชอบความรุ้สึก
รัก เหนือฝัน
-
ฮื่ออออ อ่านเพลินมากก ภาษาสวยมากค่า
ไม่ดราม่าไปปป แต่แบบรู้สึกอ่านแล้วอินได้
ตอนแรกเหนชื่อนึกว่าพี่ฝันจะรับอ่าวไม่ใช่
ฮ่าาาา
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นดีๆนะคะ
-
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจัง มีความรู้สึกแบบรักตัวละครไม่รู้ตัว ตอนที่อ่านตอนแรกแล้วเล่าถึงปานวาดนี่ร้องไห้เลย ทำมห้รักแม่ตัวเองมากขึ้นอีก ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ :pig4: :pig4:
-
:pig4: :pig4: :pig4: เหนือลูกกกฮืออออมันดีมาก
-
มีความอบอุ่นมาเติมเต็มความหม่นหมองแล้ว :mew2:
-
พี่ฝันกับน้องเหนือ
น่ารักมากๆ อ่านตอนฝนตกคือได้ฟีลมากก
อบอุ่นนน :กอด1:
-
:pig4: :pig4: :pig4:
-
หวานแบบเบาๆ
ขอบคุณนักเขียน
:mew1: :mew1: :mew1:
-
ความต่าง มาเติมเต็มกันละกัน :กอด1:
-
สั้นๆ อุ่นๆ ได้ใจความครับ 555
ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้ และรอเรื่องใหม่นะครับ :impress2:
-
:L2: :L2: :L2:
:pig4: :pig4: :pig4:
-
มาสั้นๆแต่ดี :pig4: