พิมพ์หน้านี้ - สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Xenon ที่ 22-06-2012 12:51:39

หัวข้อ: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-06-2012 12:51:39
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

 เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

 
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-06-2012 12:54:05
สวัสดีค่ะ  ไม่ได้มาลงนิยายที่เล้านานแล้ว คิดถึงนักอ่านที่นี่มาก ๆ เลยค่ะ ^^


สำหรับนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น เขียนเพื่อคั่นเวลาระหว่างที่ปัดกำลังปวดหัวคิดพล็อตเรื่องยาวเรื่องใหม่ไม่ออก

เพื่อเป็นการกระตุ้นตัวเอง ที่ดองแม้กระทั่งเรื่องสั้น จึงนำมาลงที่เล้านี่ด้วยค่ะ  ^^" 

และระหว่างปั่นเรื่องนี้ให้จบ ก็จะพยายามเข็นนิยายเรื่องใหม่ให้ได้เช่นกัน


แล้วก็คงต้องกล่าวคำขอบคุณสำหรับคนที่คลิกเข้ามาเพื่อจะอ่านเรื่องนี้นะคะ ^^


----------------------------------------------

นิยายเก่า ๆ ที่ลงไว้ (จบแล้ว)
คุณตำรวจยอดรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=16626.0)  ,  คุณอาที่รัก(แนวโชตะ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=17582.0)  , กรงรัก...พันธนาการใจ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=19318.0)  , The Eden School (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27513.0)  , ดวงใจจ้าวมังกร (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=24780.00) , ม่านราตรี (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27757.0) ,   Miracle Café (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=34057.0) 
ลิขิตรักอสุรกาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35637.0)    ,  เรื่องวุ่น ๆ ของคุณ รปภ. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39294.0)    , ขอโทษที คนนี้พี่จองแล้ว (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43240.0)    , กรงรัก พันธนาการใจ (ฉบับรีเมก) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43253.0)


เรื่องสั้น
คุณพี่...ที่รัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20403.0)   ,  สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33672.0)


นิยายที่ยังไม่จบ
-
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-06-2012 12:57:04
รอค่ะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 22-06-2012 13:06:05


สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก


     “พี่เอส พี่เอส ทางนี้ ทางนี้!”

   เสียงใสจากร่างเล็กเตี้ยป้อมตะโกนเรียกอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำให้เด็กชายวัยสิบขวบต้องอมยิ้มน้อย ๆ แล้วเดินตามเสียงเรียกนั้นไปอย่างไม่รีบร้อนนัก

   “เอ้า ๆ อย่าวิ่งสิปอม เดี๋ยวหกล้มหรอก…”

   ยังไม่ทันที่เด็กชายจะพูดจบดี ร่างเล็กก็สะดุดพื้นดินแถวนั้น ล้มหน้าคว่ำลงไปเรียบร้อย ทำให้คนพูดมีสีหน้าตกใจ แล้วรีบวิ่งตรงไปยังจุดที่ร่างนั้นอยู่ทันที

   “ฮือ ๆ พี่เอส …ปอมเจ็บ”

   เสียงสะอึกสะอื้นพร้อมน้ำใสไหลอาบแก้ม ทันทีที่เห็นว่าหัวเข่าของตัวเองมีของเหลวสีแดงไหลซึมออกมา เด็กชายซึ่งอายุมากกว่าห้าปีรีบเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ามาเช็ดเลือดที่หัวเข่า แล้วผูกเอาไว้ ก่อนจะชวนอีกฝ่ายกลับบ้าน

   “กลับกันเถอะปอม ไปทำแผลกันก่อนนะ แล้วค่อยมาเที่ยวใหม่”

   “ตะ แต่ปอมเจ็บ  เดินไม่ไหว”

   เด็กชายบอกพลางสะอื้น ทำให้คนโตกว่าขมวดคิ้วคิด ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ตามมาอย่างนึกได้

   “งั้นปอมขี่หลังพี่นะ เดี๋ยวพี่พาปอมกลับเอง”

   พอเจ้าตัวพูดจบก็หันหลังและย่อเข่าให้ เด็กชายอายุน้อยกว่ายันกายลุกกะเผลก ๆ เข้ามาขี่หลังอีกฝ่าย โดยระหว่างทางที่กลับบ้าน เจ้าของแผ่นหลังก็คอยชวนคุย และร้องเพลงปลอบไปตลอดเวลา ทำให้น้ำตาที่ไหลรินของร่างเล็กเริ่มเหือดแห้ง ก่อนจะแทนที่ด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา และเสียงหัวเราะร่าเริงตามมาในที่สุด

..
...
..

   …แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านมาแยงตา ทำให้ร่างบนเตียงต้องขมวดคิ้วยุ่งก่อนจะดึงผ้าห่มกายขึ้นมาคลุมศีรษะ เป็นเช่นนั้นอยู่พักใหญ่จนเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังขึ้น

   “รู้แล้ว ๆ เฮ้อ …ขอนอนสบาย ๆ อีกนิดก็ไม่ได้”

   เสียงงัวเงียจากร่างใต้ผ้าห่มบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ มือคลำควานหาปุ่มปิดเสียงนาฬิกา ก่อนจะยันกายขึ้นมานั่ง ด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งตื่น สักพักจึงเดินโซเซเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าล้างตา แล้วจึงกลับออกมาด้วยความสดชื่น

   ‘ไม่ได้ฝันถึงตอนเด็ก ๆ มานานแล้ว ป่านนี้เด็กคนนั้นจะเป็นไงบ้างก็ไม่รู้แฮะ’

   ชายหนุ่มหวนคิดถึงเด็กน้อยตัวเล็ก ๆ ซึ่งเคยเป็นเพื่อนเล่นสมัยเด็กของตน และได้ย้ายตามมารดาของอีกฝ่ายไปตั้งแต่ตอนที่เด็กคนนั้นอายุได้หกปี จนปัจจุบันนี้ผ่านมาสิบห้าปีแล้ว  ตัวเขาเองก็เรียนจบปริญญาตรี  และเลือกทำงานที่พ่อแม่พี่ชายและพี่สาวต้องส่ายหน้า แต่เพราะครอบครัวของเขาเลี้ยงดูลูกหลานกันอย่างไม่คิดบังคับ เขาจึงสามารถทำงานเขียนที่เขารัก แม้จะต้องเสี่ยงกับสภาวะไส้แห้งเป็นพัก ๆ ก็ตาม



        ชายหนุ่มเดินลงจากห้องนอนชั้นสองมายังห้องครัว เขาหยิบขนมปังจากในตู้เย็นมาสองแผ่น จับมันยัดใส่เครื่องปิ้ง ขณะที่เดินไปชงกาแฟอย่างสบายอารมณ์  อาหารเช้าสำหรับเขานั้นเน้นอะไรก็ได้ที่เรียบง่าย เพราะความขี้เกียจแถมยังอยู่คนเดียว เนื่องจากบิดามารดาย้ายตามไปอยู่กับพี่สาวและพี่เขยของเขาที่ต่างจังหวัด ส่วนพี่ชายคนโต ก็แยกไปอยู่กับครอบครัวของเจ้าตัวด้วยเช่นกัน  ส่วนเขานั้นยืนกรานที่จะอยู่ในกรุงเทพฯ แม้จะต้องอยู่คนเดียวก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาไม่คุ้นเคยที่จะไปอยู่ที่อื่น เพราะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็กจนโต และอีกส่วนก็คือ เขารักบ้านหลังนี้ และมีความทรงจำกับมันมากมาย จนไม่อาจตัดใจปล่อยให้เช่าหรือขายบ้านไปตามคำแนะนำของญาติคนอื่นได้

   เจ้าของบ้านเดินถือขนมปังปิ้งและถ้วยกาแฟไปนั่งกินยังห้องรับแขก เขาเดินผ่านป้ายประกาศที่ใส่กรอบทองสวยไว้กลางผนังอย่างโดดเด่น มันคือความภาคภูมิใจในชีวิตของเขา และทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะก้าวเดินสู่เส้นทางของนักเขียนเต็มตัว

   ‘ประกาศนียบัตรฉบับนี้ให้ไว้เพื่อแสดงว่า นายสายใย วงศ์วานเจริญ ได้รับรางวัลชนะเลิศ งานประกวดประเภทเรื่องสั้น โครงการปากกาทองคำ ประจำปี 25XX’

   สายใยนั่งจิบกาแฟโดยตำแหน่งสายตาของเขานั้นตรงกับกรอบป้ายประกาศรางวัลพอดี ชายหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ เมื่อหวนคิดถึงชีวิตในอาชีพนักเขียนที่ผ่านมา มันไม่ได้สวยหรูโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่เขาคิด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรักและพร้อมที่จะฝ่าฟันมันไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่เขายังคงทำไหว

   “ตรื๊ดดดด…”

   เสียงจากโทรศัพท์ตั้งโต๊ะที่ได้ยินทำให้สายใยสะดุ้ง เขาลุกขึ้นไปรับ แล้วก็ต้องแปลกใจที่ปลายสายนั้นเป็นพี่ชายคนโตของเขาเอง

   “มีอะไรหรือครับพี่อาร์ม ถึงโทรมาแต่เช้าแบบนี้”

   สายใยถามกลับไปอย่างสงสัย ปลายสายถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงมีเสียงดังขึ้นตามมา

   “เอส พี่ฝากเอสดูแลคนให้พี่สักหน่อยได้ไหม”

   “คน? ใครหรือครับ?”

   คนฟังถามต่ออย่างแปลกใจ ซึ่งปลายสายก็เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะกล่าวต่อ

   “ลูกชายของลูกค้าคนสำคัญน่ะ”

   ทันทีที่ได้รับคำตอบเสียงโวยวายก็ดังสวนกลับไปอย่างตกใจ

    “อ้าว! แล้วทำไมคนระดับนั้นต้องมาฝากผมดูแลด้วยล่ะพี่ เจ้านายพี่เขาไม่มีงบประมาณไว้สำหรับรับรองแขกหรือไงกัน!”

   เสียงถอนหายใจจากปลายสายดังขึ้นเบา ๆ ก่อนจะมีเสียงตอบตามมา

   “ทำไงได้เล่า พี่ก็ตกใจเหมือนกันตอนรู้เรื่องเข้า แต่ดูเหมือนว่าทางนั้นจะเจาะจงมาแบบนี้เอง ว่าอยากได้การรับรองต้อนรับจากครอบครัวธรรมดา เจ้านายพี่ก็เลยเลือกสุ่มมาเป็นบ้านพี่  แล้วพอพี่แย้งไปว่า บ้านพี่น่ะมีตาอาร์ตที่เพิ่งอายุได้แค่หกเดือน บางทีอาจจะร้องงอแงกวนใจแขกก็ได้ เจ้านายพี่ก็เลยถามว่า พี่ไม่มีญาติคนไหนที่พอจะอาศัยอยู่คนเดียวบ้างหรือ พี่ก็เลยนึกถึงเอสขึ้นมาไงล่ะ”

   “แล้วเจ้านายพี่ก็เลยจะให้ผมคอยรับรองแขกของเขาหรือไง?”

   สายใยถามต่อ ยังคงรู้สึกทะแม่ง ๆ ไม่หาย กับพฤติกรรมของเจ้านายพี่ชายและแขกคนสำคัญผู้นี้

   “ก็อย่างนั้นล่ะ … เอส พี่รู้นะว่าเอสลำบากใจ แต่เจ้านายพี่บอกว่า ถ้าทำให้แขกไม่พอใจ บางทีอาจจะมีผลต่อธุรกิจก็ได้  เฮ้อ… แต่เอาเถอะ ถ้าเอสลำบากใจจริง ๆ พี่จะไปลองขอร้องเจ้านายพี่อีกทีก็ได้ …หวังว่าเขาคงจะไม่ว่าอะไรนะ…เฮ้อ”

   เสียงถอนหายใจสลับพูดของพี่ชายทำให้สายใยกลืนน้ำลายลงคอ สังเกตจากน้ำเสียงก็พอจะฟังออกว่าอีกฝ่ายนั้นหนักใจเพียงใด ชายหนุ่มนิ่งคิดก่อนจะตอบกลับเสียงอ่อย

   “แล้วแขกของเจ้านายพี่ เขาจะมาพักที่นี่กี่วันล่ะ”

   “เห็นว่าจะมาพักที่นี่สองอาทิตย์น่ะ…เอสยอมช่วยพี่แล้วใช่ไหม?”

   ท้ายประโยคน้ำเสียงที่ถามดูมีความหวัง ทำให้สายใยลอบถอนหายใจก่อนจะตอบกลับเบา  ๆ

   “ได้อยู่พี่ ถ้าแขกของเจ้านายพี่ เขาอยากสัมผัสชีวิตบ้าน ๆ จริง ๆ ล่ะก็นะ เพราะพี่ก็รู้ว่าลำพังตัวผมเอง ก็กินง่ายอยู่ง่าย ไม่ค่อยใส่ใจอะไรอยู่แล้ว”

   “เรื่องนั้นพี่บอกเจ้านายไปแล้ว เขาบอกว่าไม่ต้องห่วงอะไร อ้อ เขาให้ค่าเลี้ยงดูกับพี่ไว้ด้วย เดี๋ยวพี่จะโอนเงินไปให้บัญชีของเอสเลยนะ เอสเบิกใช้ได้เต็มที่ตลอดสองอาทิตย์นี้เลย ถ้าเหลือก็ไม่ต้องคืนหรอก”

   สิทธาบอกด้วยน้ำเสียงยินดีอย่างไม่คิดปิดบัง ทำให้ผู้เป็นน้องชายยกยิ้มเนือย ๆ แต่ก็ดีใจที่ช่วยแบ่งเบาภาระของพี่ชายคนเดียวได้

   “แขกของเจ้านายพี่เขาจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ แล้วก็คงไปที่บ้านเราเลยนั่นล่ะ พี่ฝากเอสดูแลด้วยนะ ขอบใจมาก ๆ เลยน้องรัก ส่วนรายละเอียดของแขกพี่จะส่งเมล์ตามไปให้ทีหลังนะ”

   สิทธาเอ่ยตัดบทพร้อมกับวางสายไป ส่วนสายใยนั้นถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงวางหูโทรศัพท์ลงบ้าง

   “ไม่รู้เป็นคุณชายไฮโซจากไหน แต่ให้ตายเถอะ ช่างสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเขาซะจริงเชียว”

   สายใยบ่นอุบก่อนจะเดินไปจัดเก็บกวาดบ้านและห้องนอนของแขกให้สะอาด แม้จะยังคงรู้สึกแปลก ๆ ต่อพฤติกรรมของอีกฝ่ายก็ตาม แต่ในเมื่อรับปากพี่ชายเอาไว้แล้ว ชายหนุ่มก็จำต้องให้คนแปลกหน้าที่อยากสัมผัสชีวิตบ้าน ๆ ผู้นี้ มาอยู่ร่วมชายคากับตน อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้อยู่ดี

 

   …เสียงกดออด และเสียงทุบประตูรั้วปัง ๆ อย่างไร้มารยาทแต่เช้า ทำให้คนที่กำลังนอนหลับสบายต้องขมวดคิ้วยุ่งแล้วเดินไปมองทางหน้าต่างห้องนอนของตนซึ่งอยู่ชั้นสอง

   ตรงหน้ารั้วบ้านของเขาในยามนี้นั้น มีร่างสูงของชายหนุ่มแปลกหน้า สวมแว่นตาดำ ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน กางเกงสีเทาเข้ม  ข้างกายมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่ สายใยมองอยู่สักพักด้วยความงัวเงีย ก่อนจะเบิกตากว้าง  รีบเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งลงมาจากชั้นสอง ตรงไปยังประตูรั้วหน้าบ้านทันที

    “สวัสดีครับ ใช่คุณวิลเลียม แอนเดอสันหรือเปล่าครับ”

   สายใยทักทายพร้อมกับลอบพิจารณาใบหน้าและรูปร่างของอีกฝ่าย มันค่อนข้างใกล้เคียงกับรูปถ่ายที่ได้รับมาจากประวัติแฟ้มคร่าว ๆ ของเจ้าตัวที่ส่งมาทางอีเมล์ของเขาอยู่มาก ทว่าคนฟังนั้นยังคงเงียบ แต่กลับจ้องมาทางสายใยนิ่งจนคนถูกมองรู้สึกกดดัน

   “เอิ่ม … You’re Mr. Anderson?”

   แขกผู้มาเยือนชะงักแล้วยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ แต่คนที่ได้เห็นกลับรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะมันเหมือนยิ้มขันเยาะอย่างคนที่อยู่เหนือกว่าตน

   “ผมพูดไทยได้ แล้วก็ถูกอย่างที่คุณทักนั่นล่ะ ผมชื่อวิลเลียม แอนเดอสัน”

   น้ำเสียงทุ้มฟังนุ่มหูเอ่ยทักตอบด้วยภาษาไทยชัดเจน ก่อนที่คนพูดจะถอดแว่นตาออกเผยให้เห็นนัยน์ตาสีดำเข้ม โครงหน้าและเส้นผมดกดำขลับของอีกฝ่ายนั้นค่อนข้างไปทางเอเชียมากกว่าที่คิด  แต่ก็ยังคงโดดเด่นสะดุดตาผู้พบเห็น เพราะมันเป็นใบหน้าของบุรุษหนุ่มที่ดูดีชวนให้น่าหลงใหลคนหนึ่งทีเดียว

    “ผมคิดว่าทางพี่ชายของคุณ คงแจ้งเรื่องของผมกับคุณไว้บ้างแล้ว”

   วิลเลียมเริ่มบทสนทนาต่อ ทำให้สายใยชะงัก แล้วจึงพยักหน้ารับ

   “ใช่ครับ แต่ผมคิดว่าคุณจะมาตอนสาย ๆ กว่านี้ … อะ ขอโทษครับ เชิญข้างในก่อน”

   สายใยเปิดประตูบ้าน แล้วเตรียมจะเข้าไปช่วยอีกฝ่ายยกกระเป๋าเดินทาง ทว่ากระเป๋าใบนั้นกลับถูกยกขึ้นมาจากเจ้าของกระเป๋าเสียก่อน เจ้าตัวขยับกายเดินเข้าไปในบ้าน แล้วมองชายหนุ่มเจ้าของบ้านอย่างพิจารณาครู่ใหญ่จนสายใยแปลกใจ

   “มีอะไรหรือครับ”

   สายใยถามออกไปตรง ๆ อย่างสงสัย ทว่าคนมองกลับยกยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบกลับมาเบา ๆ

   “คุณตัวเล็กจัง นึกว่าจะสูงกว่านี้เสียอีก”

   สายใยชะงักกึกกับคำพูดที่ได้รับ เขามองอีกฝ่ายที่สูงร้อยแปดสิบกว่าด้วยสายตาขุ่นเคือง แล้วตอบกลับไปอย่างพยายามรักษามารยาทเต็มที่

   “มาตรฐานชายไทยก็สูงราวๆ นี้ล่ะครับ”

   คนถูกหาว่าตัวเล็กตอบเสียงขุ่น ทำให้อีกคนลอบยิ้มนิด ๆ

   “ผมเจอผู้ชายไทยมาเยอะนะ แต่คุณตัวเล็กกว่าที่ผมคิดจริง ๆ ผมคิดว่าคุณน่าจะสูงกว่านี้ … อืม ช่างเถอะ บางทีผมอาจจะมีภาพติดตาในตอนเด็กมากไปก็ได้”

   คำพูดตัดบทของวิลเลียมทำให้สายใยขมวดคิ้วยุ่งอย่างแปลกใจ แต่ชายหนุ่มก็ไม่รอให้อีกฝ่ายซักถาม เขาเดินหิ้วกระเป๋าเดินทางเข้าไปในบ้านทันที

   “จะให้ผมนอนห้องไหน ชั้นบนหรือชั้นล่าง”

   วิลเลียมหันมาถามชายหนุ่มทันทีที่เข้ามาในบ้าน

   “ผมเตรียมห้องให้คุณไว้ที่ชั้นบนเรียบร้อยแล้วครับ เดี๋ยวผมจะพาไป”

   สายใยที่รีบเร่งฝีเท้าตามแขกคนพิเศษมาตอบไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่ก็ต้องพยายามท่องไว้ในใจว่าอีกฝ่ายเป็นคนสำคัญที่พี่ชายเขาอุตส่าห์ฝากฝังเอาไว้

   “ห้องใกล้ห้องพระนั่นสินะ”

   วิลเลียมพึมพำ แล้วจึงเดินก้าวเท้ายาว ๆ ของตนขึ้นไปบนชั้นสองโดยไม่คิดรอเจ้าของบ้าน ทำให้สายใยรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินตามขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

   “เดี๋ยวสิคุณ รอผมก่อน…”

   สายใยชะงักค้างไว้แค่นั้น เมื่ออีกฝ่ายเปิดห้องเข้าไปแล้วหันมาทางเขา

   “ผิดห้องหรือครับ”

   วิลเลียมถามยิ้ม ๆ ส่วนคนฟังนั้นอึ้งไปสักพักก่อนจะสั่นศีรษะเบา ๆ

   “เปล่าครับ ห้องนั้นนั่นล่ะถูกแล้ว”

   “ผมก็เดาว่าน่าจะใช่ห้องนี้”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้สายใยยิ่งรู้สึกแปลกใจมากขึ้นไปอีก แต่ในฐานะเจ้าของบ้านที่ดี เขาจึงเดินตามเข้าไปในห้อง เพื่อที่จะสอบถามว่าอีกฝ่ายต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

   “ไม่เปลี่ยนไปเลยนะห้องนี้”

   เสียงพึมพำจากร่างสูงทำให้สายใยชะงักแล้วหันกลับไปมองอย่างแปลกใจ เพราะเขาได้ยินไม่ค่อยถนัดนัก

   “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

   “เปล่าหรอกครับ ผมแค่ชอบบรรยากาศของห้องนี้”

   วิลเลียมหันมาบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้ ก่อนจะยกกระเป๋ามาวางไว้ที่บนเตียงนอน ทางด้านสายใยนั้นรู้สึกโล่งอกที่อีกฝ่ายชอบห้องที่เขาเตรียมไว้ ซึ่งความจริงแล้วห้องนี้ถูกจัดให้เป็นห้องพักผ่อนของแขกบ้านนี้มาตั้งแต่เขายังเด็ก เพราะเมื่อก่อนนั้นมักจะมีเพื่อนของพ่อและแม่แวะมาเยี่ยมเยียนที่บ้านนี้อยู่บ่อย ๆ และก็เริ่มห่างเหินไป ตั้งแต่พ่อแม่เขาย้ายไปอยู่กับพี่สาวและพี่เขย

   “ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติมก็บอกผมแล้วกัน ผมอยู่ห้องตรงข้ามกับคุณนี่ล่ะ”

    สายใยบอกพร้อมกับเตรียมจะเดินจากไปทำอาหารเช้าง่าย ๆ สำหรับตัวเองและแขก แต่แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินคำพูดไล่หลังตามมา

   “ถ้าผมต้องการคนมานอนเป็นเพื่อนล่ะ คุณจะจัดให้ผมได้ไหม”

   “นี่คุณ บ้านผมไม่ใช่โรงแรมนะ ถ้าคุณต้องการทำเรื่องแบบนั้น ก็ขอเชิญคุณไปพักที่อื่นดีกว่า!”

   สายใยโพล่งใส่อย่างลืมตัว แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่ได้นึกโมโหที่ถูกตวาดใส่แบบนั้น

   “ซีเรียสไปได้ ผมก็แค่หมายถึงเพื่อนร่วมห้อง แบบรูมเมทอะไรแบบนั้น  เห็นแบบนี้ผมค่อนข้างขี้เหงานะ”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มอารมณ์ดี ทำให้สายใยเริ่มรู้สึกตัว เขาพยายามสงบสติอารมณ์แล้วพูดโต้ตอบกลับไปอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “ถ้าคุณมีเพื่อนที่เมืองไทย คุณอยากจะให้เขามาพักเป็นเพื่อนคุณก็ได้อยู่ แต่ผมขอไว้อย่าง ว่าอย่าทำเรื่องไม่เหมาะสมที่บ้านของผม แล้วอีกอย่างผมจะไม่คอยรับผิดชอบดูแลในส่วนของเพื่อนคุณ เพราะมันไม่ได้มีในข้อตกลงที่ให้ไว้ก่อนหน้านี้”

   เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นเบา ๆ จากร่างสูง วิลเลียมมองสายใยยิ้ม ๆ ในแบบที่ชายหนุ่มไม่นึกชอบนัก

   “ทำไมต้องยุ่งยากแบบนั้นล่ะ ในเมื่อมีคุณอยู่”

   สายใยขมวดคิ้วพยายามตีความในคำพูดของอีกฝ่าย

   “ผมหมายถึง ผมไม่ต้องลำบากไปตามหาเพื่อนที่เมืองไทยของผมหรอก… ให้คุณมานอนเป็นเพื่อนผมแทน มันก็โอเคแล้ว จริงไหม”

   วิลเลียมเอ่ยตามมาในสิ่งที่ทำให้คนฟังหน้าบึ้ง

   “ขอโทษ เห็นทีจะไม่ได้ เพราะผมไม่ชอบนอนร่วมห้องกับใคร”

   “จริงหรือ ผมคิดว่าอย่างคุณน่าจะเป็นพวกขี้เหงา ไม่ชอบนอนคนเดียวเหมือนกันเสียอีก”

   วิลเลียมสวนกลับ ทำให้สายใยหน้าบึ้งหนักขึ้นไปอีก

   “ดูท่าว่าคุณจะมองผิดแล้วล่ะครับ”

   สายใยพยายามพูดสุภาพมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งที่ตอนนี้ชักอยากระเบิดเสียงใส่แขกคนสำคัญที่เริ่มจะสร้างปัญหาชวนปวดหัวให้เขาเข้าแล้ว

   “อืม ผมคงเข้าใจผิดไปเอง ก็อย่างว่าล่ะนะ เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยนกันได้”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มที่ดูหมองลงอย่างน่าประหลาด ก่อนที่สักพักใบหน้านั้นจะกลับเป็นยิ้มแย้มดูน่าหมั่นไส้ตามเดิม

   “เอาล่ะ งั้นผมจะนอนพักสักหน่อย อาหารเช้าไม่ต้องทำเผื่อผม เพราะผมทานบนเครื่องมาแล้ว มาปลุกผมตอนอาหารกลางวันเลยแล้วกัน”

   ร่างสูงออกคำสั่งทำเอาคนฟังชะงักนิด ๆ แต่ก็ต้องข่มอารมณ์พร้อมกับพยักหน้ารับรู้แล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับปิดประตูด้วยเสียงค่อนข้างดัง จนคนอยู่ในห้องต้องลอบยิ้มพร้อมสั่นศีรษะอย่างเอือมระอา

   “ตอนเด็ก ๆ ออกจะใจดียิ้มแย้มตลอดแท้ ๆ ทำไมโตมาเป็นคนขี้โมโหแบบนี้ได้นะ…เฮ้อ”

   วิลเลียมถอนหายใจยาว พลางหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขาออกมาเปิดดู ในนั้นมีรูปของเด็กน้อยสองคนยืนยิ้มกว้างเคียงข้างกัน ชายหนุ่มใช้นิ้วไล้ลูบไปที่ภาพของเด็กผู้ชายที่ตัวโตกว่าอีกคน แล้วพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง พร้อมแววตาจริงจัง

   “ผมกลับมาแล้วนะพี่เอส … กลับมาทวงสัญญาของพวกเรา และถึงพี่จะลืม แต่ผมจะไม่ยอมให้พี่ผิดคำสัญญาแน่ …คอยดูแล้วกัน!”



... TBC ...

กลับมาแล้วค่า ยังจำคนเขียนคนนี้ได้อยู่ไหมเอ่ย   สำหรับเรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น (น้ำเน่า) คั่นเวลาระหว่างคิดพล็อตนิยายเรื่องใหม่ .... สำหรับเรื่องนี้คนที่อ่านตอนแรกแล้ว ก็คงเดาได้ตลอดทั้งเรื่อง ^^" เพราะไม่ได้เน้นปมให้ซับซ้อนค่ะ  เขียนเพื่อความบันเทิง เน้นหวาน ๆ เป็นหลัก ไร้ดราม่า  อ่านเอาเพลิน ๆ กันนะคะ

ยังไงก็จะทยอยอัพเดททุกวันนะคะ เพราะปั่นสต็อกไปได้จำนวนหนึ่งและกำลังปั่นใกล้จบแล้ว

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ ^^

หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: reborn23 ที่ 22-06-2012 14:14:18
 :mc4:
เรื่องใหม่  ติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 22-06-2012 15:03:13
รอตอนต่อไป
 :z2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 22-06-2012 15:04:43
welcome back ค่าา :mc4: จำได้ๆ เคยอ่านนิยายคุณอยู่นะ

 ตอนนี้น้องปอมจะมาตามหัวใจกลับคืนแล้วสิเนี่ย
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-06-2012 15:21:32
น้องปอมโตขึ้นหล่อมาดแมนมากสินะพี่เอสถึงจำน้องไม่ได้
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 22-06-2012 18:50:06
แหงะ...หนุกอ่ะ... ติด...มาต่ออีกนะคับ ^_^
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 23-06-2012 08:52:19


/2



   สายใยเดินลงมาหาอะไรกินที่ครัวด้วยความหงุดหงิด เขารู้สึกไม่ค่อยถูกชะตาแขกคนสำคัญผู้นี้สักเท่าใดนัก คงเพราะความที่อีกฝ่ายอายุน้อยกว่าแต่ทำตัวเหนือเขา จนชวนให้หมั่นไส้นั่นเอง

   “ไม่รู้จะทนไหวถึงสองอาทิตย์ไหมนะฉัน เฮ้อ!”

   สายใยบ่นอุบกับตัวเองขณะที่กำลังชงกาแฟดื่ม เขาเดินไปที่โซฟาแล้วทิ้งตัวนั่งด้วยสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ ก่อนที่จะเพลียหลับไปอีกรอบ เพราะเมื่อคืนนั้นเขานั่งเขียนนิยายเกือบโต้รุ่ง แล้วต้องตื่นแต่เช้ามาต้อนรับวิลเลียมอีก 

   ภาพของร่างโปร่งที่นอนหลับฟุบบนโซฟา ทำให้คนที่ลงมาหาน้ำดื่มต้องชะงัก แล้วจึงอมยิ้มน้อย ๆ อย่างนึกเอ็นดู พลางเดินตรงมาหาคนที่นอนหลับอยู่

   “ยังหลับง่ายเหมือนเคยเลยนะ…”

   วิลเลียมพึมพำกับตัวเอง แล้วจึงช้อนร่างตรงหน้าอย่างเบามืออุ้มกลับขึ้นห้องนอนของเขาไปด้วยกัน ก่อนทิ้งตัวลงนอนกอดร่างข้าง ๆ ไปแบบนั้นจนกระทั่งเจ้าตัวหลับตามไปด้วยอีกคน



   “อืม…อุ่นจัง”

   เสียงพึมพำจากร่างโปร่ง พร้อมกับอาการซุกกายเบียดชิดอีกร่างที่อยู่ใกล้กันอย่างลืมตัว ทำให้คนที่นอนหลับอยู่ข้าง ๆ ปรือตาขึ้นมามอง ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับขยับกายกอดอีกฝ่ายตอบอย่างจงใจ

   “งืม…”

   สายใยยังคงหลับสบาย และซุกกายเบียดแนบชิดอกเปลือยของวิลเลียมเข้าไปอีก สัมผัสของอีกฝ่าย และกลิ่นกายหอม ๆ ของเจ้าตัว ทำให้ร่างสูงชักเริ่มรู้สึกแปลก ๆ และลอบถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะตัดสินใจกระซิบข้างหูอีกฝ่าย

   “ถ้าไม่รีบตื่นมาให้ไวกว่านี้ ผมจะปล้ำพี่แล้วนะ”

   เสียงกระซิบและลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดหู ทำให้สายใยรู้สึกจั๊กกะจี้ ก่อนจะปรือตาขึ้นตื่นอย่างงัวเงีย เจ้าตัวนิ่งให้หายมึนงงสักพัก แล้วจึงตาเบิกกว้าง พร้อมกับดันกายขยับออกห่างร่างสูงด้วยความตกใจ

   “เฮ้ย!”

   สายใยอุทานเสียงดังอย่างลืมตัว ส่วนวิลเลียมนั้นอมยิ้มนิด ๆ ด้วยความเอ็นดู เขาตะแคงตัวนอนจ้องตอบอีกฝ่าย และพอสายใยตั้งสติได้ ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วยุ่ง พลางถามกลับเสียงห้วน

   “ทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่กับคุณได้!”

   “ก็ผมลงไปหาน้ำดื่มข้างล่าง เห็นคุณนอนหลับบนโซฟา ดูแล้วไม่ค่อยน่าสบายนัก ก็เลยอุ้มมานอนเตียงด้วยกันยังไงล่ะ”

   วิลเลียมตอบกลับไปตามตรง พร้อมรอยยิ้มยั่วกวนโมโห พลางรอคอยดูท่าทีว่าอีกฝ่ายจะโต้ตอบกลับมาเช่นไร

   “คุณนี่มัน …”

   สายใยพยายามสงบสติอารมณ์ของตนอย่างเต็มที่ แม้ตอนนี้เขาจะเริ่มรู้สึกหงุดหงิดบ้างแล้วก็ตาม

   “ขอบคุณในความมีน้ำใจ แต่คราวหลังไม่ต้องหรอกนะครับ”

   วิลเลียมหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ มองสีหน้าก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวไม่พอใจ แต่เขาก็ยังคงแกล้งตอบกลับกวนโมโหอีกฝ่ายต่อไปอีก

   “ไม่เห็นต้องทำตัวเป็นสาวเวอร์จินแบบนั้นเลยนี่นะ ผมกับคุณก็เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ”

   สายใยกัดฟันกรอดเมื่อได้ยินคำพูดอีกฝ่าย เขาพยายามข่มจิตข่มใจไม่ให้โมโห แล้วลุกขึ้นยันกายจะนั่งแต่ก็ต้องหลุดอุทานเสียงหลง เมื่อมือแข็งแรงคว้าหมับที่ข้อมือของเขา พร้อมกับดึงมาแรง ๆ จนเขาเสียหลักล้มลงไปนอนบนร่างเปลือยครึ่งท่อนของเจ้าตัว

   “นี่นาย!”

   สายใยลืมตัวตวาดลั่น หลังจากพลิกกายกลับมาตั้งหลัก ทว่าวิลเลียมกับยิ้มน้อย ๆ ส่งให้อย่างไม่ถือสา แถมยังแก้ตัวหน้าตาเฉย

   “ขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

   “…ผมจะออกไปเตรียมอาหารกลางวัน”

   สายใยพูดตอบไปหลังจากเงียบไปพักใหญ่เพื่อสงบสติอารมณ์ของเขาไม่ให้หลุดระเบิดออกมา

   “ให้ผมช่วยไหม”

   “ไม่ต้อง ผมเกรงใจ!”

   เสียงปฏิเสธห้วนอย่างสิ้นเยื่อใย ผิดกับคำพูดลิบลับ ทำให้คนฟังต้องหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วยกมือสองข้างในลักษณะยอมแพ้

   “โอเค งั้นผมจะรอกินอย่างเดียวแล้วกันนะ”

   สายใยสะบัดหน้าใส่อย่างหงุดหงิด แล้วจึงเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้อง เขาชักจะไม่ไว้ใจแขกพิเศษคนนี้เสียแล้ว นี่ดีนะตอนที่เขาตื่นขึ้นมายังเห็นว่าอีกฝ่ายใส่กางเกงอยู่ ถ้าเจ้าตัวเปลือยแล้วมานอนกอดเขาล่ะก็ มีหวังเขาคงตะเพิดไล่อีกฝ่ายออกนอกบ้านไปแล้ว

   “ท่องไว้ แค่สองอาทิตย์เท่านั้น ...แค่สองอาทิตย์”

   ชายหนุ่มบ่นพึมพำไปตลอดจนถึงชั้นล่าง เขาจ้องมองอาหารสดที่มีไม่กี่อย่างในตู้เย็น พลางขมวดคิ้วคิดว่าจะทำเอง หรือออกไปซื้อดี  ทว่าพอสายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างในนั้น เจ้าตัวก็ชะงักแล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ที่มุมปาก

   “เป็นไฮโซแต่อยากใช้ชีวิตธรรมดานักใช่ไหม ดีล่ะ งั้นลองกินอาหารพื้น ๆ ดูบ้างแล้วกัน”

   สายใยหยิบไข่ออกมาสองใบจากตู้เย็น เขาคดข้าวสวยที่หุงทิ้งไว้ตั้งแต่เช้ามาสองจาน ก่อนจะตอกไข่ใส่ถ้วย คนไข่ ใส่เครื่องปรุง แล้วเทใส่กระทะที่ตั้งน้ำมันจนร้อนเรียบร้อย

   “นี่ยังใจดีนะเนี่ย ถึงให้กินของอร่อยแบบนี้”

   คนชอบไข่เจียวบอกกับตัวเองอย่างอารมณ์ดี เขาตักไข่แบ่งโปะบนข้าวในส่วนของตัวเองและอีกฝ่าย ทว่าพอเขาเอาจานข้าวไปวางบนโต๊ะอาหาร และคิดจะไปเรียกวิลเลียมลงมากินอาหารกลางวัน เขาก็ต้องชะงักเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินลงมาเสียแล้ว

   “หอมไปถึงข้างบนเลย นึกไม่ถึงเลยว่ามื้อแรกที่กลับไทย จะเป็นไข่เจียวแบบนี้”

   “ถ้าไม่ชอบก็บอกนะครับ จะได้โทรสั่งพิซซ่าอะไรพวกนี้ให้กินแทน”

   สายใยย้อนกลับไป เพราะคิดว่าอีกฝ่ายนั้นประชดที่เขาทำข้าวไข่เจียวให้กิน

   “หือ...พิซซ่าน่ะหรือ ไม่ล่ะ ผมชอบกินข้าวมากกว่าขนมปัง อีกอย่างผมก็ไม่ได้กินไข่เจียวมานานแล้วด้วย  พี่ ๆ ผมไม่ชอบทานไข่ ที่บ้านก็เลยต้องงดเมนูไข่ไปตามระเบียบ”

   วิลเลียมบอกเรื่อย ๆ แล้วเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวที่มีจานข้าววางอยู่ โดยมีสายใยมองตามไปด้วยความแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกินง่ายและไม่เรื่องมากเป็นกับเขาเหมือนกัน

   “อร่อย...คุณทำเก่งขึ้นเยอะนี่นะ”

   คนฟังชะงักกับคำพูดนั้น พลางย้อนถามไปอย่างสงสัย

   “คุณเคยกินที่ผมทำหรือไงถึงว่าผมทำเก่งขึ้น”

   วิลเลียมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงยักไหล่

   “โอ... ผมคงใช้ภาษาไทยผิด ก็ไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นี่นะ ... อืม ผมตั้งใจจะบอกว่า คุณทำอาหารเก่งน่ะ”

   สายใยร้องอ๋อ แล้วจึงตอบกลับไป

   “แค่เจียวไข่ ใคร ๆ ก็ทำได้”

   “หึ ๆ แต่ถ้าพลั้งมือเหยาะน้ำปลาไปมาก ๆ มันก็กลายเป็นไข่เจียวเค็มปี๋ได้นะ”

   สายใยสะดุ้งเฮือก พลางจ้องมองอีกฝ่ายที่ยิ้มน้อย ๆ ให้เขาแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวตรงหน้า 

   “เราคงไม่เคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม”

   สายใยถามอย่างสงสัย วิลเลียมเหลือบตามอง ยิ้มให้แต่ไม่ตอบอะไร นั่นจึงทำให้คนมองขมวดคิ้วยุ่ง แต่สักพักก็ต้องสลัดความคิดว่าเคยรู้จักอีกฝ่ายออกไป เพราะเขาจำไม่ได้หรอกว่า เคยรู้จักไฮโซ เชื้อฝรั่งกับเขาด้วย

   “ผมคงคิดฟุ้งซ่านไปเอง ก็แค่ไข่เจียวเค็ม ๆ ใคร ๆ  ก็พลั้งเผลอทำกันได้นั่นล่ะ ยิ่งตอนนั้นยังอายุไม่ค่อยมากด้วย”

   ชายหนุ่มพึมพำเหมือนจะพูดบอกตัวเองมากกว่าจะสนทนากับอีกฝ่าย ทำให้วิลเลียมต้องลอบมองคนพูด แล้วจึงอมยิ้มแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจอะไรกับคนตรงหน้า

   ‘ยังหรอก...ต้องให้พี่จำผมได้เองต่างหาก ไม่งั้นก็ไม่คุ้มค่ากับที่ผมอุตส่าห์ลงทุนขอร้องพ่อเพื่อมาค้างกับพี่ที่นี่สิ’

    “นี่คุณวิลเลียม มื้อเย็นนี้คุณมีอะไรอยากกินเป็นพิเศษหรือเปล่า”

   วิลเลียมเงยหน้ามองคนถามที่มีแววตาจริงจัง ไม่ได้ถามแบบขอไปที หรือตามมารยาทอย่างที่คิดไว้

   “อืม...ความจริงผมกินอะไรก็ได้ที่เป็นอาหารไทย ...แต่ถ้าให้ระบุ ผมอยากกินแกงจืดวุ้นเส้นหมูสับน่ะ”

   เมนูอาหารที่ทำให้คนฟังสะดุ้ง เพราะเป็นเมนูที่เด็กคนนั้นในความทรงจำของเขาโปรดปรานมากที่สุด และมักจะขอให้มารดาของเขาทำให้กินทุกครั้งที่เจ้าตัวมากินข้าวด้วยกันที่บ้านหลังนี้

   “คุณสายใย...เป็นอะไรไปหรือครับ”

   วิลเลียมถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป สายใยชะงักแล้วรีบสั่นศีรษะก่อนจะพึมพำตอบเบา ๆ

    “ไม่มีอะไร โอเค แกงจืดวุ้นเส้นหมูสับนะ”

   “ครับ...ว่าแต่ถ้าจะกรุณาล่ะก็ ช่วยเรียกชื่อผมโดยไม่ต้องใส่คุณได้ไหม ผมเด็กกว่าคุณหลายปีเลยนะ”

   วิลเลียมบอกตามมา ทำให้คนฟังเลิกคิ้ว แล้วชั่งใจว่าจะเรียกดีไหม เพราะยังไงอีกฝ่ายก็เป็นถึงแขกคนสำคัญของบริษัทพี่ชายอยู่ดี

   “นะครับ เรียก บิล* แทนดีกว่า ฟังดูแล้วสนิทกว่ากันเยอะ” 

   สายใยถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงพยักหน้ารับรู้

   “ก็ได้ งั้นผมจะเรียกอย่างที่คุณอยากให้เรียกแล้วกัน”

   วิลเลียมยิ้มกว้าง แต่นั่นก็ทำให้คนมองชะงัก เพราะใบหน้ายิ้มแย้มของอีกฝ่ายนั้นช่างแสนจะดูดี และดึงดูดสายตาชนิดที่ว่า หากเจ้าตัวไปยิ้มให้สาวที่ไหน มีหวังสาวเจ้าคงจะเคลิบเคลิ้มและตกหลุมรักเอาเข้าง่าย ๆ แน่

    “ถ้าอย่างนั้นผมขอเรียกคุณว่าพี่บ้างได้ไหม”

   คำขอต่อมาทำให้คนฟังหันขวับกลับไปมอง แต่วิลเลียมก็ยังคงยิ้มแย้มไม่เปลี่ยน สายใยขมวดคิ้วยุ่ง แต่พอคิดดูแล้วตัวเองก็อายุมากกว่าจริง ๆ ดังนั้นถูกเรียกพี่ก็เหมาะสมแล้ว ถึงแม้จะดูให้ความสนิทสนมกันเกินไปนักก็ตาม

   “ตามใจคุณแล้วกัน”

    “โอ ดีเลย งั้นผมจะเรียกคุณว่าพี่เอสแล้วกันนะ”

   สายใยพยักหน้าก่อนจะสะดุ้งโหยง แล้วมองคนพูดเขม็ง

   “ใครบอกคุณเรื่องชื่อเล่นผม!”

   “อ้าว ไม่ใช่ชื่อนี้หรือครับ...ผมนึกว่าข้อมูลจะถูกต้องเสียอีก”

   สายใยชะงัก แล้วจึงนึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายก็คงมีข้อมูลของผู้ที่ตนพักอาศัยอย่างละเอียดอยู่แล้ว เขาหน้าแดงนิด ๆ แล้วเกาแก้มแก้เขินค่อย ๆ

   “ง่า...ถูกแล้วล่ะ อืม...ลืม ๆ ที่ผมพูดไปแล้วกัน ขอโทษที่ทำเสียงดุใส่นะ”

   วิลเลียมอมยิ้ม ใบหน้านั้นน่ารักจนเขาอยากจะลุกขึ้นไปหอมแก้มของชายหนุ่มเสียเหลือเกิน แต่ขืนทำแบบนั้นมีหวังไม่โดนต่อย ก็คงโดนด่า

   สู้กระตุ้นให้อีกฝ่ายรู้สึกและนึกถึงเขาได้เองแบบนี้ไปเรื่อย ๆ น่าจะเหมาะกว่า ยังไงเขาก็มีเวลาอยู่กับชายหนุ่มตลอดทั้งสองอาทิตย์นี่อยู่แล้วล่ะนะ

   “อ๊ะ…ถ้างั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะ ถ้าคุณมีอะไรอยากได้เพิ่มเติม ก็ไปเรียกผมที่ห้องแล้วกัน”

   สายใยที่กินข้าวเสร็จแล้วบอกกับชายหนุ่มอ่อนวัยกว่า ซึ่งวิลเลียมก็พยักหน้ารับรู้ แล้วมองไล่ตามแผ่นหลังของอีกฝ่ายไปอย่างไม่วางตา



   พอเข้ามาในห้องส่วนตัว สายใยก็เปิดโน้ตบุค เปิดเน็ต ค้นหาข้อมูลการทำแกงจืดวุ้นเส้นทันที เพราะจริง ๆ แล้ว ถ้าเป็นพวกแกงต่าง ๆ  เขามักจะพึ่งร้านแกงถุงหน้าปากซอยเสมอ แต่เพราะเห็นวิลเลียมกินไข่เจียวที่ตนทำอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็อยากแก้ตัวและลงมือปรุงอาหารให้อีกฝ่ายกินขึ้นมาบ้าง

   “คนอร์หรือ...น่าจะมีติดตู้ไว้บ้างนะ”

   เพราะเดือนก่อนมารดาเขาแวะมาเยี่ยม จึงตุนพวกเครื่องปรุงต่าง ๆ ติดตู้เย็นไว้เพียบ หวังว่ามันจะยังคงเหลือพอให้เขาลงมือทำอาหารในเย็นนี้ล่ะนะ

   พอได้สูตรมาแล้ว สายใยก็จัดแจงพิมพ์มันออกมาลงกระดาษ เขานอนอ่านสูตรทำแกงจืดแล้วก็พลันคิดถึงคนอยากกินขึ้นมา

   “วิลเลียมอย่างนั้นหรือ...ทำไมถึงคิดภาพไปซ้อนกับเด็กคนนั้นได้นะ”

   ชายหนุ่มพึมพำ ก่อนจะถอนหายใจ เขาเดินไปที่โต๊ะทำงาน บนนั้นมีกรอบรูปตอนเขายังเป็นเด็ก ถ่ายคู่กับเด็กชายตัวเล็กน่ารักอีกคน สายใยลูบภาพในกรอบเบา ๆ แล้วยิ้มน้อย ๆ ออกมา

   “คิดมากไปได้ เด็กคนนั้นออกจะน่ารักขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นคนเดียวกับผู้ชายขี้เต๊ะ ปากเสีย อย่างนายวิลเลียมนั่นอยู่แล้วเนอะ”

   แต่ถึงอย่างนั้นสายใยก็อดปฏิเสธไม่ได้ว่า รอยยิ้มตรึงใจนั่น ช่างแสนสะกดสายตาและชวนมอง เหมือนที่เด็กคนนั้นเคยมีให้ไม่มีผิด

   “ไม่ใช่หรอกน่า ถ้าใช่ก็ต้องจำเราได้แล้วสิ!”

   สายใยสรุปเอาเอง แล้วจึงโยนสูตรอาหารไว้บนเตียง ส่วนตัวเขาก็เริ่มต้นทำงานแต่งนิยายต่อ เขาจดจ่อกับงานของตนเป็นอย่างมาก จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น

   “พี่เอส ...หลับอยู่หรือเปล่าครับ”

   “อะ...ปะ เปล่านะ...เอ๋! ห้าโมงแล้วหรือเนี่ย!”

   เสียงโวยวายดังขึ้นจากในห้อง พร้อมกับเจ้าของห้องที่วิ่งหน้าตื่นออกมา ทำให้วิลเลียมชะงัก

    “ผะ...ผม ลืมไปเลย ขอโทษนะ เดี๋ยวผมจะไปเตรียมอาหารเย็นเดี๋ยวนี้ล่ะ”

   สีหน้าสำนึกผิดนั่น ชวนให้คนมองสงสาร วิลเลียมยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงจับบ่าทั้งสองของอีกฝ่ายบีบ ทำเอาสายใยสะดุ้ง

   “ใจเย็น ๆ ... ผมยังไม่หิวเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่า เดี๋ยวผมช่วยพี่ทำอาหารเย็นนี้แล้วกัน”

   สายใยนิ่งอึ้ง แล้วพยักหน้าตอบรับเบา ๆ อย่างไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนัก แต่ก็รู้สึกว่าเขาพอจะเชื่อมั่นคนตรงหน้าได้อยู่บ้าง



   “ผมเคยได้ยินมาว่าพี่เขียนนิยายเป็นอาชีพสินะ”

   สายใยที่เดินนำไปครัวชะงักกึก แล้วจึงหันมามองคนถามด้วยสายตาสงสัย

   “ผมรู้จากข้อมูลที่เขาเตรียมไว้ให้น่ะ”

   วิลเลียมเอ่ยตอบ โดยจงใจละเรื่องที่เขาสั่งให้นักสืบคอยตรวจสอบข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวสายใย ในช่วงระยะเวลาสิบห้าปีนี้มาให้เขาทั้งหมดเท่าที่จะทำได้

   “อย่างนั้นหรือครับ”

   สายใยพึมพำเบา ๆ แม้จะคิดในใจว่า ทางบริษัทของพี่ชายนั้นค่อนข้างจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขามากไปสักหน่อย

   “ผมอยากอ่านนิยายที่พี่เขียนจัง”

   สายใยสะดุ้ง เขาหันไปมองคนถามแล้วยิ้มเจื่อน ๆ

   “ง่า...อย่าดีกว่า ผมว่าคงไม่ใช่แนวคุณหรอก”

   “อ้าว รู้ได้ไงว่าไม่ใช่แนวผม เห็นอย่างงี้ผมก็ชอบอ่านหนังสือนะ และอ่านได้ทุกแนวด้วย”

   วิลเลียมบอกยิ้ม ๆ ทำให้อีกฝ่ายต้องขมวดคิ้วยุ่ง แล้วจึงถอนหายใจออกมาในที่สุด

   “ผมไม่ค่อยชอบให้คนใกล้ตัวอ่านนิยายตัวเอง”

   คำตอบที่ได้รับทำให้คนฟังชะงักแล้วหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ

   “ทำไมล่ะ ปกติของแบบนี้มันต้องให้คนใกล้ตัวช่วยดูให้ไม่ใช่หรือครับ”

   “ก็ผมอายนี่...”

   วิลเลียมมองนักเขียนขี้อายตรงหน้าเขาอย่างนึกขำ แต่เขาก็ไม่กล้าล้อเลียนอะไรไป เพราะดูเหมือนหลังจากหลุดอาการอายแล้ว อีกฝ่ายก็หน้ามุ่ยตามมาติด ๆ

   “โอเค ผมเข้าใจแล้ว ... ตอนนี้เราไปทำอาหารเย็นกันดีกว่า”

   ชายหนุ่มสรุปตัดบท เขาไม่คิดบอกสายใยหรอกว่า หนังสือที่อีกฝ่ายเขียนนั้นได้ผ่านตาเขามาหมดแล้ว แถมยังซื้อเก็บไว้เรื่องละสองชุดอีกต่างหาก โดยเก็บไว้อ่านชุดหนึ่งและสะสมอีกหนึ่งชุด แต่ที่ถามไปก่อนหน้านั้นก็เพื่อต้องการเปิดประเด็นชวนอีกฝ่ายคุยแทนต่างหาก


... TBC ...


*เกร็ดความรู้เล็กน้อยของชื่อเล่นแบบชาวต่างชาติ*

  ชื่อเล่นของชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะเป็นการย่อชื่อ หรือตัดคำ เปลี่ยนเสียงให้สั้น ไม่เหมือนกับชื่อเล่นคนไทย ที่ตั้งกันต่างหากคนละความหมายกับชื่อจริงไปเลย

ยกตัวอย่างเช่น : อดัม ชื่อเล่นก็จะเป็น เอ็ด หรือ เอ็ดดี้    / โรเบิร์ต ก็จะเป็น  บ็อบ , บ็อบบี้ , โรบิน , ร็อบ ,ร็อบบี้ เป็นต้น

 ชื่อเล่นของชื่อวิลเลียม ( William)  ในเรื่อง ความจริงใช้ได้ ทั้งบิล , บิลลี่ , วิล , วิลลี่  แต่ชื่อเล่นที่ติดหูและนิยมตั้งกันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็น "บิล" นี่ล่ะค่ะ

พอดีตอนแรกที่เขียนปัดใช้ชื่อ "วิล" แล้วเจอน้องนักอ่านผู้รู้ทักมา ก็เลยไปศึกษาเพิ่มเติมและเห็นว่าใช้บิลมากกว่าจริง ๆ ก็เลยเปลี่ยนมาเป็น "บิล"  นี่ล่ะค่ะ

หวังว่านักอ่านคงไม่ขัดตานะคะ ^^" (ถ้าจะขัดก็คงขัดตั้งแต่ ชื่อ ปอม อัพเกรด เป็นวิลเลียมละ ตอนเขียนก็ลืมไป ว่าน่าจะใช้ชื่อฝรั่งพื้น ๆ หน่อย มาตอนนี้ก็คงได้แต่เลยตามเลยล่ะนะ แหะ ๆ)
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-06-2012 09:13:51
จะวิลเลียม หรือ บิล ก็คือน้องปอมของพี่เอสล่ะนะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-06-2012 10:05:00
ตอนในฝันยังคิดว่าพี่เอสจะเป็นเมะซะอีก
พอโตมากลับผิดคาด
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-06-2012 12:27:21
  ต้อนรับเรื่องใหม่ ของคนเขียนคนเดิมจ้ะ :pig2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-06-2012 17:09:47
แนวอบอุ่นมาเลย อยากให้พี่เอสจำน้องได้เร็วๆจัง :man1:
แต่ว่าอยู่ดีๆจากปอมทำไมกลายเป็นบิลได้น้อ สิบห้าปีที่ผ่านมา มีอะไรเกิดขึ้นเยอะเลยสิเนี่ย :z1:
รออ่านตอนต่อไปนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 23-06-2012 19:28:59
เนื้อเรื่องน่ารักดีค่ะ อ่านแล้วอยากจะอมยิ้มตลอดทั้งตอนเลย
บวกจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 24-06-2012 10:35:05


/3



   “นี่...บิล คุณเอาวุ้นเส้นไปแช่น้ำไว้ให้หน่อยแล้วกัน”

   สายใยลงมือใช้คนที่อาสามาช่วยเขาทำครัวอย่างเป็นกันเองมากขึ้น ไม่รู้ทำไมพอเห็นอีกฝ่ายทำตามคำสั่งของตัวเองโดยไม่ขัดงอนแบบนี้ มันชวนให้นึกถึงร่างเล็กป้อม ๆ ในสมัยเด็กที่มักจะเชื่อฟังและคอยทำตามคำสั่งของเขาอยู่เป็นประจำ

   “พี่เอส จะให้ผมตั้งน้ำเลยไหม”

   “อือ...ตั้งได้เลย ส่วนปริมาณก็...ก็เท่าไหร่นะ”

   สายใยนิ่งคิด เพราะเขาลืมสูตรอาหารไว้ด้านบน จะวิ่งเอามากางอ่านดูก็กลัวถูกหัวเราะเยาะ เขาเหลือบมองอีกฝ่ายที่รอคอยคำสั่งจากเขา ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอนิด ๆ แล้วจึงบอกออกไป

   “ง่า...ใส่สักครึ่งหม้อก็ได้”

   วิลเลียมยิ้มรับ แล้วทำตามที่บอกแต่โดยดี สายใยลอบถอนหายใจแล้วจึงค้นคนอร์ในตู้เย็น พร้อมกับหยิบผักและหมูสับในนั้นออกมา

   “อาจจะไม่ถูกปากนักนะ เพราะผมถนัดแต่ทำพวกของทอดง่าย ๆ ทั่วไปมากกว่า”

   สายใยรีบออกปากบอกเมื่อเห็นอีกฝ่ายจ้องเวลาเขาทำ วิลเลียมสั่นศีรษะเบา ๆ ก่อนจะยิ้มน้อย ๆ ให้อย่างอ่อนโยน

   “ไม่เป็นไร ผมอยากกินเองนี่ เพราะฉะนั้นต่อให้ออกมารสไหน ผมก็กินได้อยู่แล้ว”

   คำพูดและรอยยิ้มที่ทำให้คนมองใจเต้นแรง แล้วรีบหลบสายตาไปมองทางอื่นทันที

   ‘บ้าน่า จะอายทำไม ผู้ชายเหมือนกันแท้ ๆ’

   สายใยคิดในใจ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าเวลายิ้มแล้ววิลเลียมนั้นค่อนข้างดูดีจริง ๆ

   “โอ๊ย!”

   เพราะมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อย ทำให้ชายหนุ่มไม่ทันระวังและเฉือนมือตัวเองเข้าให้ ดีที่ไม่ได้บาดลึกนัก แต่ก็มีเลือดไหลซึมออกมาอยู่ดี

   “พี่เอส เป็นอะไรไป!”

   วิลเลียมที่กำลังจ้องให้คนอร์ละลายน้ำจนหมด รีบหันกลับมามองสายใยที่หลุดร้องออกมาอย่างตกใจ และพอเห็นเลือดบนนิ้วของอีกฝ่ายเขาก็รีบจับมือชายหนุ่มมาล้างน้ำสะอาด แล้วหันซ้ายหันขวาเพื่อจะหาที่ปิดแผล

   “มะ...ไม่เป็นไร แผลแค่นิดเดียวเอง”

   “เดี๋ยวเชื้อโรคเข้าจะแย่นะครับ”

   วิลเลียมบอก แล้วจึงถามถึงที่เก็บยาสามัญประจำบ้าน สายใยถอนหายใจเบา ๆ แล้วจึงเดินไปหยิบพลาสเตอร์ยาออกมาจากลิ้นชักในตู้โชว์มุมห้องรับแขก แต่ก็ต้องตกใจเพราะวิลเลียมที่เดินตามมาด้วยกัน หยิบแผ่นพลาสเตอร์ยาไปจากมือของเขาเสียก่อน

   “ผมแปะให้”

   “อะ...อืม”

   สายใยยอมทำตามที่อีกฝ่ายขอแต่โดยดี เขาจ้องมองคนที่กำลังแปะพลาสเตอร์ที่นิ้วเขา ยิ่งพอมองใกล้ ๆ แบบนี้ก็ยิ่งเห็นว่าวิลเลียมนั้นหน้าตาดีเอามาก ๆ โดยเฉพาะขนตาสีดำขลับหนาเป็นแพยาวนั่นยิ่งส่งให้นัยน์ตาเรียวยาวชวนมองมากขึ้นไปอีก

   หลังจากที่ปิดแผลให้อีกฝ่ายเสร็จแล้ว วิลเลียมก็รู้สึกว่ามีสายตากำลังจ้องมองตน ซึ่งพอเขาเงยหน้าก็สบกับสายตาของอีกฝ่ายพอดี

   “พี่เอส...จ้องอะไร ติดใจผมหรือ”

   “ปะ เปล่าสักหน่อย!”

   คนถูกจับได้รีบแก้ตัว เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ใบหน้านั้นแดงระเรื่อด้วยความเขินที่ดันเผลอไปจ้องหน้าคนอื่นอย่างเสียมารยาทแบบนั้น

   “ไม่เห็นเป็นไรเลย...ถ้าเป็นพี่ ผมยอมให้จ้องอยู่แล้ว หรือจะทำมากกว่าจ้องก็ได้”

   วิลเลียมบอกด้วยน้ำเสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับใช้สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายนิ่ง จนทำให้คนที่หันกลับมามองใจเต้น  รู้สึกแปลก ๆ กับคนตรงหน้า  ยิ่งได้พูดคุย ได้เข้าใกล้ สายใยก็ยิ่งรู้สึกคุ้นเคยกับอีกฝ่ายมากขึ้นทุกที โดยเฉพาะนัยน์ตาสีดำเรียวยาวที่ดึงดูดให้คนมองคู่นั้น

   “พี่เอส...ไปทำแกงจืดกันต่อดีไหม”

   วิลเลียมเอ่ยตัดบท เพราะขืนปล่อยให้จ้องตากันนานไปกว่านี้ เขาคงอดไม่ได้ที่จะจูบสายใยแน่ 

   “อะ...อืม...นะ นั่นสิ”

   สายใยตอบรับคำเสียงตะกุกตะกัก รู้สึกแปลก ๆ ยามที่ได้จ้องตาอีกฝ่าย ใบหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาประหลาดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

   ทางด้านวิลเลียมนั้นค่อนข้างพอใจกับปฏิกิริยาตอบรับของชายหนุ่มไม่น้อย เขารู้ดีว่าสายใยไม่เคยมีประสบการณ์ด้านความรักเท่าใดนัก เพราะเจ้าตัวเอาแต่เรียน แถมพอเรียนจบก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บตัวเขียนนิยายอยู่บ้าน จนไม่มีโอกาสจะไปคบสาวที่ไหน ดังนั้นถ้าเป็นเรื่องความรักแล้ว ชายหนุ่มดูจะไร้เดียงสาผิดกับอายุของเจ้าตัวอยู่มากทีเดียว

   “พี่เอส ใส่อะไรก่อนดี วุ้นเส้นหรือหมู”

   วิลเลียมหันไปถามคนที่ยืนใจลอยข้างเขา สายใยสะดุ้งแล้วยิ้มเจื่อน ๆ ส่งให้

   “ง่า...วุ้นเส้น...เอ๊ย ไม่สิ หมูต่างหาก ...น่าจะหมูนะ”

   “ครับ ๆ หมูก็หมู”

   วิลเลียมรับคำขำ ๆ ก็ค่อนข้างจะพอรู้มาบ้างว่าอีกฝ่ายไม่ถนัดงานครัว แต่ก็ดีใจที่เจ้าตัวอาสาทำกับข้าวให้เขากิน เพราะฉะนั้นต่อให้จะออกมาแบบไหน เขาก็พร้อมจะรับมันได้เสมอ

   แต่ถึงอย่างนั้นถ้ารสชาติมันออกมาเลวร้ายมาก ๆ วิลเลียมก็คิดว่าจะกินพวกยาแก้ท้องเสียกันไว้ก่อนล่ะนะ

    ….

   “อร่อยผิดคาดแฮะ”

   คำชมดังขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวตักชิมไปคำแรก โดยมีคนทำมองดูด้วยสายตาลุ้นระทึก

   “จริงหรือ!”

   สายใยถามกลับอย่างตื่นเต้น วิลเลียมหัวเราะเบา ๆ แล้วใช้ช้อนตักน้ำแกง ก่อนจะยื่นให้ที่ด้านหน้าของอีกฝ่าย

   “พี่ก็ลองชิมดูสิ อร่อยดีนะ”

   สายใยชะงักกึก หน้าแดงนิด ๆ แล้วสั่นศีรษะเบา ๆ ก่อนจะตอบไปอย่างลืมตัว

   “ไม่เป็นไร พี่ เอ๊ย ผมกินเองได้”

   วิลเลียมชะงักมือที่เตรียมจะป้อนอีกฝ่าย แล้วค่อย ๆ วางลงที่จานก่อนจะนิ่งเงียบไป ทำให้สายใยต้องมองอย่างสงสัย เขานึกว่าวิลเลียมจะโกรธที่เขาปฏิเสธ เลยเตรียมจะขอโทษ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสีหน้าอ่อนโยนและรอยยิ้มสะกดใจของชายหนุ่มอีกครั้ง

   “เมื่อครู่นี้ทำให้ผมรู้สึกดีมากเลย ...พี่แทนตัวเองกับผมว่าพี่แบบนั้นได้ไหม”

   สายใยเงียบกริบ ไม่เข้าใจว่าทำไมคนตรงหน้าถึงอยากให้เขาเรียกตัวเองแบบนั้น ทั้งเรื่องที่ขอเรียกเขาว่าพี่ก่อนหน้านั้นอีกด้วย

   “จะเหมาะหรือ...ยังไงคุณก็เป็นแขก”

   “ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย...นะ... ได้ไหม ผมอยากได้ยินจัง”

   วิลเลียมเริ่มอ้อน ทำให้อีกฝ่ายกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกแปลก ๆ พิกล แต่ก็จำต้องตอบรับไป เพราะไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน อีกอย่างอายุของเขาและอีกฝ่ายก็ห่างกันหลายปีจนเป็นพี่น้องกันได้จริง ๆ อยู่แล้ว

   “ก็ได้...พี่ก็พี่”

   คำพูดพร้อมใบหน้าคล้ายเอียงอายนิด ๆ นั่น ทำให้คนมองชะงัก ก่อนจะลืมตัวเผลอทำบางสิ่งออกไป

   “อา... พี่เอสน่ารักที่สุดเลย ผมรักพี่จัง”

   วิลเลียมบอกแล้วชะโงกหน้าข้ามโต๊ะหอมแก้มคนตรงข้ามไปหนึ่งฟอดใหญ่ อย่างอดใจไว้ไม่ไหว แต่พอเห็นสีหน้าตกตะลึงนั่น ชายหนุ่มก็ต้องถอนหายใจ แล้วจึงเอ่ยตามมา

   “ตอนแรกก็ตั้งใจให้พี่รู้สึกตัวเอง แต่พี่เล่นน่ารักแบบนี้ ผมจะอดใจไหวได้ไง...”

   สายใยเบิกตากว้าง ยังคงมึนงง สับสนนึกอะไรไม่ออก ตั้งแต่โดนผู้ชายด้วยกันหอมแก้มเข้าให้เมื่อครู่แล้ว ทว่าเขาก็ต้องตกใจหนักยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินประโยคถัดมาของวิลเลียม

     “ผมกลับมาแล้วนะพี่ อย่างที่เคยสัญญากันไงล่ะ ว่าถ้าผมเรียนจบเมื่อไหร่ ผมจะมารับพี่เป็นเจ้าสาวน่ะ ...ยังไม่ลืมใช่ไหม”

   “คะ...คุณ...ไม่ใช่สิ หรือว่านะ...นายคือ...”

   คำสัญญาสมัยเด็กที่ชวนให้อมยิ้มด้วยความขบขันกับความไร้เดียงสาของเด็กชายตัวน้อย แต่ตอนนี้สายใยไม่อยากเชื่อเลยว่า อีกฝ่ายจะกลับมาทวงสัญญากับเขาในสภาพที่แตกต่างจากเดิมจนสิ้นเชิง

   “พี่สัญญากับผมแล้วไม่ใช่หรือ ...ผมทำตามสัญญาแล้วนะ เพราะฉะนั้นผมก็หวังว่า พี่คงไม่คิดกลับคำใช่ไหม?”

   วิลเลียมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ มันช่างผิดกันลิบลับกับเด็กชายในความทรงจำของสายใยเสียเหลือเกิน

   “นั่นมัน...ตอนนั้น นายยังเด็ก แล้วก็...”

   สายใยพยายามปฏิเสธ ยังไม่อยากจะเชื่อว่าวิลเลียมจะเป็นคนเดียวกับเด็กตัวน้อยผู้แสนน่ารักคนนั้นของเขา

   “ผมหรือสู้อุตส่าห์ตั้งอกตั้งใจเรียนจนจบได้ในที่สุด แถมยังต้องทะเลาะกับพ่อแล้วก็พี่ชาย เรื่องที่จะกลับมาขอพี่แต่งงานอีก ...เพราะฉะนั้นผมไม่มีทางปล่อยให้พี่ปฏิเสธง่าย ๆ หรอก”

   วิลเลียมตอกย้ำ พลางจ้องชายหนุ่มราวกับจะกลืนกิน จนคนถูกจ้องต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่

   “ง่า...คือ....คือ กินข้าวเย็นกันก่อนดีไหม”

   นักเขียนหนุ่มพยายามจะหลีกหนีความจริงเต็มที่ ทำให้คนที่กำลังจ้องมองเขาเขม็งถึงกับชะงัก ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ

   “โอเค กินก็กิน ไหน ๆ พี่ก็อุตส่าห์ทำเพื่อผมทั้งทีนี่นะ”

   วิลเลียมบอกแล้วกลับมายิ้มอ่อนโยนให้ตามเดิม จนคนถูกมองใจเต้น แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายรู้สึกยังไงกับตนเขาก็ต้องรีบหลบตา ทว่าใบหน้านั้นกลับยิ่งแดงหนักขึ้นกว่าเดิม

   “แต่ถ้ากินเสร็จแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลยนะครับ...พี่เอส”

   น้ำเสียงอันแสนคุกคามดังขึ้นถัดมา ทำให้คนถูกเรียกชื่อนึกอยากจะโทรไปหาพี่ชายให้เอาแขกพิเศษกลับไปเสียเดี๋ยวนี้ ทว่าเขากลับทำได้เพียงพยักหน้านิด ๆ แล้วกินข้าวต่อไปเงียบ ๆ ไม่ได้รู้สึกถึงรสชาติของแกงถ้วยนั้นแต่อย่างใด

   ทางด้านวิลเลียม เขาเองก็คิดว่าตัวเองตัดสินใจสารภาพความจริงเร็วไปสักหน่อย แต่ดูจากปฏิกิริยาของสายใยแล้ว เขาดูท่าทางจะมีหวังมากกว่าวืด และถ้าเขาลองรุกมากกว่านี้อีกสักนิด คงจะทำให้ชายหนุ่มยอมรับในตัวเขาได้ไม่ยากนัก

   ถึงยังไงเขาก็ตั้งใจไว้แล้วว่า นอกจากสายใยซึ่งเป็นรักแรกและรักเดียวตั้งแต่เด็กของเขาแล้ว เขาก็ไม่คิดจะปันใจไปชอบใครอีก และเขาก็ไม่มีทางปล่อยให้คนที่เขารักคนนี้หลุดมือไปได้แน่ เพราะฉะนั้นต่อให้ต้องใช้แผนการเล่ห์กลแค่ไหน เขาก็ต้องทำให้อีกฝ่ายยอมรับรักเขาให้จงได้!

   

   แค่เพียงวันเดียวกลับเกิดเรื่องราวต่าง ๆ มากมายกับสายใย  มีแขกพิเศษมาร่วมพักที่บ้านอันแสนสงบของเขา แล้วแขกคนนั้น ก็ดันเป็นคนเดียวกับเด็กน้อยข้างบ้านที่เคยสนิทกับเขามากมาก่อน แถมเจ้าตัวยังบอกอีกว่า การมาครั้งนี้มาเพื่อจะทวงสัญญาที่เคยให้ไว้สมัยเด็ก และตอนนี้ก็กำลังนั่งนิ่งรอฟังคำตอบอยู่ตรงโซฟาตรงข้ามเขาเสียด้วย

   “ว่าไงครับ พี่เอส ถ้าพี่รับปากตอนนี้ ผมจะได้บอกให้แม่กับพ่อบินมาไทยเลย จะได้ไปสู่ขอกับพ่อแม่พี่ให้เรียบร้อยตามประเพณีที่นี่”

   “บ้ารึ! แต่งงานนะ ไม่ได้เล่นของเล่น จะได้ให้คิดปุ๊บให้คำตอบได้ปั๊บน่ะ!”

   สายใยโวยวาย ยิ่งพอเห็นวิลเลียมพูดด้วยแววตาจริงจังไม่มีล้อเล่น เขายิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก

   “เอาจริงหรือปอม...ไม่ใช่สิ บิล”

   พอรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กน้อยในความทรงจำ สายใยก็เริ่มพูดจาเป็นกันเองกับชายหนุ่มมากขึ้น

   “เรียกอะไรก็ได้พี่ จะบิลจะปอม ถ้าเป็นพี่ผมโอเคทั้งนั้น”

   สายใยมองคนตรงหน้าเขาที่ยิ้มแย้มออกมาอย่างบริสุทธิ์ ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วจึงย้อนถามกลับไป

   “แล้วตอนนี้ใช้ชื่ออะไรอยู่ล่ะ ที่ครอบครัวปัจจุบันนี้เรียกน่ะ”

   “ก็ใช้บิลนี่ล่ะครับ พอแม่หย่า แม่ก็อยากทิ้งอดีตเก่า ๆ ไปให้หมด ทางครอบครัวใหม่ก็เลยช่วยตั้งชื่อให้พวกเราแม่ลูกใหม่กันทั้งคู่นั่นล่ะ”

   สายใยรับฟังอย่างเข้าใจ ถึงตอนนั้นเขายังเด็ก แต่เขาก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ของอีกฝ่ายไม่ค่อยดีนัก พ่อแท้ ๆ ของชายหนุ่มนั้นขี้เหล้า และชอบทำร้ายลูกเมียตอนเมาเสมอ ชายหนุ่มตอนเป็นเด็กน้อยจึงมักถูกฝากให้ครอบครัวเขาเลี้ยงตอนที่มารดาอีกฝ่ายออกไปทำงาน ซึ่งครอบครัวเขาและตัวเขาก็เต็มใจและรักอีกฝ่ายเหมือนสมาชิกในบ้านคนหนึ่ง

   “ครอบครัวใหม่ดีกับนายมากไหม”

   สายใยเปลี่ยนเป็นชวนคุยเรื่องของวิลเลียมแทน เพราะสิบห้าปีแล้วที่เขาไม่ได้ข่าวคราวจากทางนั้นเลย

   “ดีมาก ๆ เลยครับ ...ดีจนผมคิดว่าทำไมผมถึงไม่เกิดเป็นลูกแท้ ๆ ของพ่อ เป็นน้องแท้ ๆ ของพวกพี่ ๆ ไปเสียเลย”

   สายใยมองคนที่มีสีหน้าเปี่ยมสุข แล้วก็อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ เพราะถึงยังไงคนตรงหน้าก็เป็นน้องชายที่เขาเคยรักมากคนหนึ่ง

   “ไม่เป็นไรหรอก สายเลือดบางทีมันก็ไม่จำเป็นต่อชีวิตครอบครัวหรอกนะ มันอยู่ที่ความรักความเข้าใจกันต่างหาก”

   วิลเลียมยิ้มตอบ เขาจ้องมองสายใยนิ่ง จ้องจนนักเขียนหนุ่มเริ่มรู้สึกตัว แล้วจึงรีบหลบตาน้อย ๆ 

   “ผมอยากให้พี่มาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหม่ผมจัง...”

   คำขอนั้นทำให้คนฟังกลืนน้ำลาย อยากจะปฏิเสธออกไป แต่ก็กลัวทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย จะว่าไปเขาก็มีส่วนผิดที่ดันไปเผลอรับปากก่อนจาก เพราะคิดว่าเป็นแค่คำพูดไร้เดียงสาของเด็ก ๆ ใครจะรู้ว่าวิลเลียมจะยึดถือคำสัญญานั้นมาสิบห้าปี แล้วมาขอเขาเป็นเจ้าสาวเอาเข้าจริง ๆ

   “พี่เอสก็ยังโสดไม่ใช่หรือ...หรือพี่เกลียดผม”

   วิลเลียมตีสีหน้าเศร้าสลด   ทำเอาอีกคนสะดุ้งเฮือก

   “ปะ…เปล่านะ”

   สายใยรีบตอบ ถ้าเป็นนายวิลเลียมที่เจอตอนแรกนั่นเขาก็รู้สึกหมั่นไส้อยู่บ้าง แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นคนเดียวกับเด็กในความทรงจำคนนั้นของเขานั่นมันก็อีกเรื่อง

   “ไม่เกลียด แสดงว่ารัก”

   อีกฝ่ายรุกต่อ ทำเอาคนกำลังคิดหนักเผลอตัวตอบรับออกไป

   “เออ...รักก็รัก...”

   สายใยชะงัก แล้วมองอีกฝ่ายที่ทำตาโต พลางยิ้มกว้างตามมาอย่างดีใจ ชายหนุ่มนิ่งคิดว่าตัวเองตอบอะไรออกไป แล้วก็ต้องรีบลุกพรวดปฏิเสธลั่น

    “เฮ้ย! ไม่ใช่นะ!”

   “แต่พี่บอกเองไม่ใช่หรือ”

   วิลเลียมแย้งยิ้ม ๆ ก็รู้หรอกว่าอีกฝ่ายมึน แต่เขาก็อยากเห็นสีหน้าตกใจแบบนี้จากเจ้าตัวเช่นกัน

   “ก็นาย ...โธ่โว้ย!”

   “ฮะ ๆ ใจเย็น ๆ ผมแค่แกล้งแหย่พี่เอง”

   วิลเลียมโบกมือน้อย ๆ ทำให้อีกคนหน้ามุ่ย ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตามเดิมแล้วบ่นอุบเบา ๆ กับตัวเอง

   “แต่ถึงอย่างนั้นก็อยากได้ยินว่ารักกันบ้างจัง”

   ชายหนุ่มหยอดคำหวานที่ทำให้คนฟังขนลุกซู่ แล้วยิ้มเจื่อน ๆ ให้

   “ง่า...ถ้าจะกลับคำสัญญานี่ จะโกรธกันมากไหม”

   วิลเลียมชะงักก่อนจะบอกตามมา

   “ใครจะโกรธพี่ลงล่ะครับ”

   ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมยิ้มหวาน ทำเอาสายใยลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ทว่าเพียงครู่เดียว เขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินประโยคถัดมา

   “แต่หากพี่ผิดสัญญา ผมจะไม่รอทำตามประเพณี แต่จะจับพี่เข้าหอเสียเดี๋ยวนี้เลยล่ะ!”

   พูดไม่พูดเปล่า วิลเลียมนั้นยังขยับกายเข้ามาใกล้จนสายใยสะดุ้งโหยง

   “เดี๋ยวบิล  อย่าล้อเล่นนะ!”

   “ไม่ล้อล่ะพี่ ทนรอมาตั้งสิบห้าปี จู่ ๆ จะมาบอกยกเลิกสัญญา ใครหน้าไหนมันจะทนไหว”

   วิลเลียมบอกเสียงเข้ม ทำเอาสายใยอยากจะร้องไห้ เพราะอีกฝ่ายตัวสูงใหญ่กว่าเขา แถมเรี่ยวแรงก็ดูจะมากกว่า ถ้าปล้ำกันมีหวังเขาคงสู้อีกฝ่ายไม่ได้แน่

   “ดะ  เดี๋ยว ขอเวลาพี่คิดบ้างสิ!”

   สายใยพยายามต่อรอง ทำให้วิลเลียมหยุดเดิน แล้วถามกลับ

   “เท่าไหร่ล่ะครับ”

   “ง่า...ก็สัก...สองอาทิตย์”

   สายใยบอกแล้วเหลือบมองว่าอีกฝ่ายจะว่าไง เพราะเขาตั้งใจว่าพอครบกำหนดสองอาทิตย์ที่วิลเลียมอยู่ที่นี่ เขาจะหาทางหลบไปค้างบ้านเพื่อนเพื่อหนีอีกฝ่ายเสียเลย

   “หืม...สองอาทิตย์อย่างนั้นหรือ”

   วิลเลียมมองคนพูด แล้วซ่อนยิ้มในสีหน้า ก่อนจะตอบกลับไปง่าย ๆ

   “ก็ได้ ผมจะให้เวลาพี่คิดคำตอบสองอาทิตย์”

   สายใยยิ้มออกมาอย่างโล่งอก ทำให้คนมองนึกขำ ทำไมเขาจะเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายคิดอะไร  สิบห้าปีที่ผ่านมา แม้สายใยจะไม่รู้ว่าเขาเป็นยังไงทำอะไรอยู่ แต่ตัวเขานี่ล่ะพยายามทุกอย่างที่จะสืบค้นข้อมูลของชายหนุ่มมาตลอด จนกระทั่งวันที่เรียนสำเร็จ เขาจึงตัดสินใจกลับมาที่ไทยเพื่อทำตามสัญญาที่ให้ไว้สักที

   “ผมหวังว่า คำตอบที่พี่จะให้ จะทำให้ผมพอใจนะ”

   วิลเลียมโน้มใบหน้าลงไปกระซิบคนที่นั่งเผลอ ๆ ก่อนจะงับหูชายหนุ่มเบา ๆ จนเจ้าตัวสะดุ้งเฮือก หน้าแดงทั้งฉุนทั้งอาย แล้วขยับถอยห่างไปชิดริมโซฟาทันที

   ‘อะไรกันวะ ตอนเด็กออกจะน่ารักเหมือนลูกแกะน้อย ทำไมโตขึ้นมามันถึงได้กลายเป็นหมาป่าแบบนี้ไปได้!’

   สายใยคิดในใจอย่างหงุดหงิด โดยเฉพาะหลังจากนี้ที่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกับคนที่คิดจะเอาเขาเป็นเจ้าสาวอีกสองอาทิตย์ เขาก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่าวิลเลียมจะอดทนตามที่สัญญาไว้ได้ไหม หรือจะตบะแตกจับเขาปล้ำเอาเสียก่อนเข้าให้

   ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ล่ะก็ รีบ ๆ หาเมียเสียก่อน เหมือนพี่ชายเคยบอกไว้ก็คงดี!




....TBC...

เรื่องไปแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ นะคะ ^^" อาจจะไม่ถูกใจคนชอบพล็อตสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนนัก แต่พอดีเขียนเพราะอยากได้อะไรหวาน ๆ น่ารัก ๆ ไว้แก้ขัดระหว่างคิดพล็อตใหม่ ก็เลยมาแบบสไตล์นี้ล่ะค่ะ อีกอย่างค่อนข้างเป็นเรื่องสั้นด้วยก็เลยได้ราว ๆ นี้ล่ะนะคะ แหะ ๆ ....แต่ถ้าชอบกันสักนิดก็จะดีใจมากเลยนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 24-06-2012 10:52:47
ขอบคุณคุณปัด :L2:
ชอบนะ ชอบเรื่องแบบนี้ อ่านแล้วสบายใจเหมือนได้พักผ่อน :pig3:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-06-2012 10:59:07
ชอบนะ เรื่องราวน่ารักดี
อาหารการกินเราก็ยังมีของชอบตั้งหลากหลาย
นิยายและเครื่องประเทืองอารมณ์ ก็ใช่จะชอบเพียงแบบเดียว
พี่เอสน่ะ พอครบสองอาทิตย์แล้ว เจ้าความคิดที่ว่าจะหลบไปค้างบ้านเพื่อนน่ะ คงเปลี่ยนไปนะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: maio2000 ที่ 24-06-2012 11:03:44
เข้ามาอ่านแล้วชอบมากๆเลยค่ะ แนวแบบเนี่ยน่ารักดี
เป็นแรงใจเชียร์บิลให้จีบพี่ตินนะคะ
สู้ๆถ้าไม่ยอมก็กดไปเลย :laugh:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-06-2012 11:09:36
อ่านไปยิ้มไป น่ารักดีค่ะ
อยากรู้ว่าสายใยจะยอมสยบกับน้องปอมเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 24-06-2012 13:31:09
น้องปอมเล่นกลับมาลุคใหม่ทำเอาพี่เอสจำไม่ได้เลยอ่ะ
เรื่องน่ารักค่ะ ฮุฮุ ลูกแกะน้อยอัพเลเวลกลายเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ไปแล้วเน้อ
นี่แค่วันแรกที่ประกาศตัวพี่เอสยังทำอะไรไม่ถูกกับยังเขินซะขนาดนี้
วันที่รอคอยของน้องปอมอยู่ไม่ไกลหรอก รุกเข้าไป รุกเข้าปายยย
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-06-2012 17:36:02
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 24-06-2012 17:57:00
พี่เอสกับน้องปอม น่ารักอะ ชอบๆๆ แนวนี้
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 24-06-2012 17:59:47
วู้วววว จากแกะน้อยน่ารัก กลายเป็นหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ไปเลยนะ บิลลลล

พี่เอสอย่าคิดนานนะฮ้าบบบบ เรารอตอนเลิฟๆๆๆๆ

5555 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 3 [24/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 24-06-2012 21:52:50
ชอบสายใยคิดอะไรก็โดนปอมดักทางได้หมด
ปอมเป็นคนที่รักมั่นคงต่อพี่เอสมากถึงเวลาเปลี่ยนแต่ใจคนไม่เปลี่ยนตาม o13
บวกบวกจ้า :L2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 25-06-2012 10:44:05



/4



   รุ่งเช้าของอีกวัน สายใยตื่นขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เพราะมัวแต่คิดมากเรื่องของวิลเลียมจนแทบจะนอนไม่หลับ เจ้าตัวเดินเบลอ ๆ เข้าไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น แต่ความง่วงก็ยังมีมากกว่า ทำให้ชายหนุ่มต้องเดินกึ่งหลับกึ่งตื่นเกาะบันไดลงมาอย่างช้า ๆ จนคนที่ตื่นไวกว่าและกำลังนั่งจิบกาแฟ พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ไปด้วยต้องละสายตาไปมอง ก่อนจะอมยิ้มน้อย ๆ อย่างเอ็นดู

    “เดินลืมตาดี ๆ สิพี่ เดี๋ยวก็ตกบันไดหรอก”

   เสียงเตือนของวิลเลียมทำให้สายใยชะงักกึก ตาสว่าง ทว่าเผลอลนลานจนลืมตัวแทน

   “พี่เอส!”   

   วิลเลียมเรียกเสียงดังด้วยความตกใจ วางแก้วกาแฟจนเกือบเป็นกระแทกแล้วรีบวิ่งไปดูคนที่เสียหลัก ก้นไถลมากับขั้นบันไดเกือบสิบขั้น

   “พี่เอสเป็นอะไรบ้าง หัวกระแทกหรือเปล่า ไปหาหมอไหมพี่!”

   วิลเลียมถามพร้อมกับสำรวจร่างกายอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง สายใยนิ่วหน้าด้วยความเจ็บก่อนจะสั่นศีรษะปฏิเสธตามมา

   “ไม่เอาไม่ไป ไม่ได้เจ็บอะไร แค่ก้นกระแทกเอง”

   วิลเลียมถอนหายใจเพราะอีกฝ่ายดูเหมือนจะดื้อดึงไม่ยอมไปหาหมอท่าเดียว

   “ถ้ากระดูกหักขึ้นมาล่ะพี่”

   สายใยชะงัก แล้วรีบแย้งเสียงอ่อย

   “ไม่หักหรอก ถ้าหักก็ต้องเห็นน่ะสิ”

   “หึ…นั่นมันพวกกระดูกหักนอกเนื้อต่างหาก ถ้าของพี่มันแบบเริ่มร้าว แล้วไม่รีบรักษา ปล่อยไว้ให้หักทิ่มทะลุออกมา พี่จะว่าไง”

   สายใยหน้าซีด กลืนน้ำลายลงคอ แล้วเริ่มสำรวจร่างกายตัวเองอย่างลังเล

   “นะครับ...ไปหาหมอกันนะ”

   วิลเลียมพยายามเกลี้ยกล่อมจนอีกฝ่ายเริ่มใจอ่อน

   “ก็ได้...แต่แค่คลินิกแถวนี้พอนะ”

   คนฟังขมวดคิ้วยุ่ง พลางถอนหายใจหนัก ๆ ตามมา

   “ผมจะให้พี่ไปเอ็กซเรย์ดูทั้งตัวเลยนะครับ คลินิกเขามีเครื่องมือพวกนี้หรือไง ไปโรงพยาบาลนั่นล่ะครับ อ้อ ไปเอกชนแล้วกัน ไม่ต้องรอคิวทำเอกสารโน่นนี่วุ่นวายให้เสียเวลา”

   สายใยทำตาโตด้วยความตกใจ แล้วรีบสั่นศีรษะปฏิเสธ

   “ไม่เอาเด็ดขาด มันแพง เปลืองด้วย!”

   วิลเลียมถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือกดเบอร์ไปหาใครบางคน

   “คุณไกรสรหรือครับ ผมวิลเลียมพูดนะ ช่วยส่งรถมารับผมหน่อย ผมจะไปโรงพยาบาลแถวนี้ ...หือ ไม่ใช่ผมหรอก แต่เจ้าของบ้านที่ผมอาศัยอยู่ด้วยประสบอุบัติเหตุนิดหน่อยน่ะ”

   จากนั้นวิลเลียมก็คุยกับปลายสายอีกเล็กน้อย แล้วจึงตัดสายทิ้ง ทำให้สายใยที่นั่งอยู่จ้องเขม็ง

   “พี่ไม่ไปโรงพยาบาลเอกชนนะ!”

    “หรือครับ...”

   วิลเลียมรับคำลอย ๆ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก เขาอุ้มช้อนร่างของสายใยขึ้นจากพื้นโดยไม่สนใจเสียงโวยวายจากอีกฝ่ายเท่าใดนัก

   “ปล่อยนะบิล! พี่เดินเองได้!”   

   “แน่ใจหรือครับ?”   

   วิลเลียมก้มมองคนอวดเก่งในอ้อมกอดเขา แล้วเอ่ยตามมา

   “ถ้างั้นปล่อยเดี๋ยวนี้เลยแล้วกัน”

   ชายหนุ่มแกล้งทำเหมือนจะปล่อยให้อีกฝ่ายร่วงลงไปกับพื้น ทำเอาสายใยต้องอุทานพร้อมกอดคอร่างสูงหมับด้วยความตกใจ

   “หึ ๆ ผมแค่ล้อพี่เล่นน่ะ ใครจะใจร้ายทำให้ว่าที่เจ้าสาวตัวเองเจ็บซ้ำซ้อนกันล่ะครับ”

   วิลเลียมบอกยิ้ม ๆ ทำเอาสายใยหน้าแดงวาบ ชายหนุ่มทำอะไรไม่ถูกด้วยความอาย ได้แต่ก้มหน้าซุกกับอกกว้างเพื่อไม่ต้องการเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของอีกฝ่ายให้เขาต้องอายซ้ำ

   “นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ”

   ร่างสูงประคองร่างในอ้อมกอดวางบนโซฟาอย่างอ่อนโยน แล้วขยับไปนั่งข้าง ๆ เพื่อคอยดูแลใกล้ชิดสายใยตลอด จนกระทั่งเสียงแตรรถนอกบ้านดังขึ้น

   “เอส! เป็นอะไรหรือเปล่า!”

   ทันทีที่รถจอดสิทธาพี่ชายของสายใยก็รีบลงจากรถมายืนรอที่หน้าประตูพลางตะโกนถามอย่างเป็นห่วง

   “พี่อาร์มมาด้วยหรือนั่น!”   

   สายใยอุทานอย่างตกใจ ไม่คิดว่าแค่เขาตกบันได จะกลายเป็นเรื่องใหญ่จนพี่เขาต้องรีบทิ้งงานเผ่นมาหาแบบนี้ ต้องโทษคนข้างกายนี่ล่ะที่ไม่ยอมแจ้งสาเหตุให้ชาวบ้านเขารับรู้ให้ละเอียดเสียก่อน

   “อืม...พี่อาร์มมาก็ดีแล้ว จะได้ช่วยกันกล่อมให้พี่เอสไปหาหมอ...ที่โรงพยาบาลเอกชน”

   วิลเลียมทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทำเอาสายใยอ้าปากค้าง ก่อนจะหุบปากหมับแล้วรีบเอามือยกปิดปากตนเอง เมื่อเห็นร่างสูงชะโงกหน้าเข้ามาใกล้

   “ชิ! เบื่อคนรู้ทันชะมัด”

   วิลเลียมบ่นเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้หัวเสียอะไรนัก ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปหน้าบ้านเปิดประตูรั้ว แล้วพูดคุยกับสิทธา และอีกคนที่มาด้วยกัน สักพักสิทธาก็เดินตามวิลเลียมเข้ามาในบ้าน ส่วนชายอีกคนนั้นนั่งรออยู่บนรถที่จอดไว้หน้าบ้าน

   “เอส! ให้ตายเถอะ ทำไมซุ่มซ่ามแบบนี้ สามสิบแล้วนะเรา ยังเดินตกบันไดอีกหรือไง”

   ทันทีที่เจอหน้าสิทธาก็ดุน้องชายตัวเองทันที แล้วหันไปทางวิลเลียม

   “ขอโทษนะครับ ที่ทำให้ต้องมาเดือดร้อนเพราะน้องของผมไปด้วยอีกคน”

   สายใยมองทั้งคู่ตาปริบ ๆ จริงอยู่ที่เขาประมาทและพลั้งเผลอ แต่ต้นเหตุหลักที่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้น ก็คือคนที่ยืนทำหน้ายิ้ม ๆ อยู่ข้างพี่ชายของเขานั่นล่ะ

   “ไม่เป็นไรครับพี่อาร์ม ผมกับพี่เอสก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลกันอยู่แล้ว”

   วิลเลียมตอบยิ้ม ๆ แต่ทำให้คนฟังชะงักกึก แล้วหันมามองน้องชายสลับกับแขกคนสำคัญของประธานบริษัทตรงหน้าอีกที

   “เอ่อ...คุณรู้จักผมด้วยหรือครับ”

   “หึ ๆ จำผมไม่ได้หรือพี่   ตอนเด็ก ๆ ผมมากินมานอนที่บ้านนี้ออกบ่อย ๆ แล้วก็มักเล่นซนกับพี่เอสจนโดนพี่ดุอยู่เรื่อยไงล่ะครับ”

   สิทธาเบิกตากว้าง ก่อนจะชี้หน้าอีกฝ่ายอย่างลืมตัว

   “ปะ...ปอม?”

   “ใช่ครับพี่ แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อแล้ว เป็นวิลเลียม เรียกบิลแทนแล้วกันครับ เพราะพี่เอสก็เรียกแบบนี้เหมือนกัน”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้ม  สายใยลอบถอนหายใจเบา ๆ เข้าใจความรู้สึกของพี่ชายตัวเองดี เขาตอนแรกที่รู้ก็ตกใจไม่แพ้กัน ...แต่ก็ดีนะ ที่วิลเลียมไม่บอกจุดประสงค์แท้จริงที่มาเมืองไทยให้พี่ของเขารับรู้ทั้งหมด

   “ไว้ไปคุยกันบนรถดีกว่าครับพี่ ตอนนี้ต้องพาพี่เอสไปหาหมอก่อน  ไปโรงพยาบาลเอกชนนะครับ สะดวกดี  เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง จ่ายผ่านการ์ดผมได้เลย”

   สิทธาพยักหน้ารับรู้อย่างมึนงง จากนั้นเขาก็เตรียมจะไปประคองน้องชายให้เดิน ทว่ากลับโดนวิลเลียมตัดหน้าอุ้มสายใยลอยขึ้นในอ้อมกอดเสียก่อน

   “พี่อาร์ม ผมฝากไปค้นพวกบัตรประชาชนของพี่เอสให้หน่อยนะครับ เดี๋ยวผมพาพี่เขาไปไว้ที่รถก่อน”

   “อ๊ะ...อ้อ จริงสิ งั้นเดี๋ยวผมตามไปนะ”

   สิทธารับคำ แม้จะชะงักที่ถูกชิงน้องชายไปต่อหน้าเมื่อครู่ก็ตาม  จากนั้นชายหนุ่มจึงวิ่งขึ้นบันไดตรงไปชั้นสองหยิบกระเป๋าเงินของน้องชายลงมา แล้วตามไปที่รถ เขาเลือกนั่งด้านหน้าคู่คนขับ เพราะเบาะด้านหลัง มีสายใยและวิลเลียมนั่งอยู่แล้ว

   “ไปโรงพยาบาล** แล้วกันนะคุณชูวิทย์”

   สิทธาหันไปบอกคนขับ แล้วชำเลืองมองดูน้องชายและชายหนุ่มอีกคน ก่อนจะขมวดคิ้วยุ่ง จริงอยู่ที่สมัยเด็กทั้งคู่นั้นสนิทกันมาก แต่เท่าที่เห็นตอนนี้ท่าทางที่วิลเลียมมีต่อสายใย มองยังไงมันก็ไม่เหมือนเพื่อนในวัยเด็กธรรมดาเสียเลย โดยเฉพาะสายตาอ่อนโยนยามที่อีกฝ่ายมองน้องเขา ถ้าสายใยเป็นผู้หญิง สิทธาจะฟันธงได้เลยว่านายวิลเลียมคนนี้ กำลังตกหลุมรักน้องของเขาอยู่แน่

   

   สายใยถูกหมอจับตรวจเอ็กซเรย์ร่างกายเรียกได้ว่าแทบจะศีรษะจรดปลายเท้า ซึ่งก็เป็นที่น่ายินดีว่าอีกฝ่ายไม่มีอาการกระดูกร้าวหรือหักในส่วนใดเลย

   “เห็นไหมพี่บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร บิลก็ยังบังคับให้พี่ตรวจอีก แล้วเป็นไง เปลืองเงินโดยใช่เหตุเลยไหม”

   สายใยบ่นอุบเมื่อรู้ว่าตนปลอดภัยดี ส่วนวิลเลียมนั้นแทนที่จะสลด  เขากลับยิ้มน้อย ๆ ให้คนบ่นแทน

   “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนี่ครับ อีกอย่างตรวจไว้นั่นล่ะดีแล้ว ผมจะได้สบายใจด้วย”

   สายใยนิ่งอึ้ง แล้วรีบหลบตา หน้าร้อนวูบวาบ  รู้สึกได้ถึงความรักใคร่และห่วงใยของคนตรงหน้าที่ไม่คิดจะปิดบังตัวเองเลยสักนิด

   “อะแฮ่ม...ถ้าอย่างนั้นก็กลับกันเถอะเอส แล้วก็...ง่า คุณด้วย”

   สิทธาเรียกอีกฝ่ายอย่างลำบากปาก เพราะถึงจะรู้จักกันตั้งแต่เด็ก แต่สถานะปัจจุบันวิลเลียมก็เป็นถึงลูกชายของคู่ค้าระดับวีไอพีของบริษัทที่เขาทำงานอยู่

   “เรียกผมบิลก็ได้พี่อาร์ม ผมไม่ถือหรอก”

   สิทธาถอนหายใจเบา ๆ แล้วพยักหน้าค่อย ๆ

   “ครับ...แต่ไว้นอกเวลางานนะครับ ไปเถอะเอส”

   สิทธาตรงเข้าประคองร่างของน้องชายก่อนที่วิลเลียมจะถึงตัวอีกฝ่าย ทำเอาคนที่ตั้งท่าจะอุ้มสายใยไปเหมือนขามาชะงักกึก พร้อมกับเพ่งมองตามไล่หลังสิทธาไปอย่างครุ่นคิด

   ‘สงสัยพี่อาร์มจะรู้ตัวแล้วแน่เลย...แต่ก็ไม่แปลกหรอกนะ ก็พี่เขาเป็นคนฉลาด ช่างสังเกตมาตั้งแต่เด็กแล้วนี่’

   วิลเลียมคิดในใจพร้อมยกยิ้ม เห็นทีนอกจากจะกล่อมให้สายใยยอมรับในตัวเขา ภายในสองอาทิตย์นี้ คงต้องดึงสิทธามาให้เป็นพวกของเขาเสียก่อน ไม่อย่างนั้นพี่ชายที่แสนจะรักน้องชายคนนี้ คงต้องหาทางขัดขวางเขาแน่

   ชายหนุ่มคิดอย่างไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจนัก เขาเชื่อว่าสิทธาจะต้องยอมรับในความรักมั่นคงกว่าสิบห้าปีของเขา เพราะสิทธานั้นเป็นพวกค่อนข้างหัวสมัยใหม่ ใจกว้าง และนิยมชมชอบคนที่ซื่อสัตย์และรักษาสัญญาเป็นที่สุด ขอเพียงเขาแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขารักสายใย และพร้อมจะดูแลชายหนุ่มไปตลอดชีวิต เชื่อว่าสิทธาจะต้องใจอ่อนยอมรับและเชื่อมั่นในความรักของเขาที่มีต่อน้องของตนแน่นอน

   

   พอกลับมาถึงบ้าน สายใยก็ต้องอยู่ตามลำพังกับวิลเลียมอีกครั้ง เพราะสิทธาต้องรีบกลับไปทำงานที่ค้างไว้ต่อ แต่ก็ยังบอกว่าจะแวะมาเยี่ยมหลังเลิกงานในเย็นนี้

   “พี่เอสหิวไหม เดี๋ยวผมทำกับข้าวให้กิน”   

   วิลเลียมเหลือบมองดูนาฬิกาที่ตอนนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยง เพราะรีบตรงกลับบ้านเขาจึงไม่ได้แวะทานอาหารที่ไหนเลย

   “บิลทำเป็นด้วยหรือ?”

   “หึ ๆ อย่าดูถูกเชียวนา ผมเข้าครัวช่วยแม่ออกจะบ่อย พอมาอยู่กับครอบครัวใหม่ แม่ก็ไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ มีเวลาพัฒนาฝีมือเรื่องอาหาร แล้วก็มักจะเรียกผมไปเป็นผู้ช่วยประจำนั่นล่ะ”

   พอพูดถึงครอบครัวที่อยู่ด้วยปัจจุบันชายหนุ่มก็มักจะมีรอยยิ้มอย่างมีความสุขเสมอ สายใยจำรอยยิ้มนั้นได้เป็นอย่างดี เป็นรอยยิ้มที่อีกฝ่ายในตอนเด็กมีเฉพาะเวลาอยู่กับเขาและครอบครัวของเขา แต่พอต้องกลับไปบ้านที่มีพ่อขี้เหล้าชอบทำร้ายทุบตีตนและแม่ เด็กน้อยคนนั้นก็มักจะมีแววตาเศร้าสร้อยให้เห็น ดังนั้นตอนที่วิลเลียมบอกว่าให้เขาเลือกเรียกชื่ออีกฝ่ายว่าอะไรก็ได้ เขาจึงเลือกเรียกชื่อใหม่ที่ครอบครัวปัจจุบันตั้งให้แทน  เพื่ออยากให้ชายหนุ่มลืมเรื่องแย่ ๆ ในอดีตไปเสียให้หมด

   “พี่เอส ...จ้องหน้าผมทำไม อ๊ะ หรือว่าตกหลุมรักเข้าให้แล้ว”

   วิลเลียมถามแล้วรีบบอกเข้าข้างตัวเอง ทำเอาสายใยหน้าแดงวาบ แล้วรีบดุใส่

   “บ้าน่ะสิ! พี่ก็แค่คิดถึงเราตอนสมัยเด็ก ๆ แค่นั้นเอง”

   อีกฝ่ายเงียบไปแล้วจึงยิ้มน้อย ๆ  ก่อนจะเดินลงมานั่งคุกเข่าทรุดลงหน้าคนเจ็บ พลางยื่นหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ จนชวนให้หวาดเสียว

   “พี่รำคาญผมไหม ยังชอบผมเหมือนเดิมหรือเปล่า”

    สายใยกลืนน้ำลายลงคอ รู้สึกใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่ เมื่อใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น

   “ง่า...พี่ไม่ได้รำคาญบิลนะ แล้วก็ยังชอบเหมือนเดิม...แต่ไม่ใช่ในแง่นั้น”

   สายใยรีบบอกแล้วก็ต้องเสียใจที่เผลอหลุดปากไปเพราะคนที่กำลังเตรียมยิ้มกว้างต้องชะงักสีหน้า แล้วเปลี่ยนเป็นสลดลงอย่างน่าสงสาร

   “แต่ผมรักพี่...รักมาตลอดสิบห้าปี”

   “แต่ตอนนี้พี่ยังไม่พร้อมจะมีใคร...ไม่สิ...”

   สายใยที่เตรียมจะแก้ตัวเงียบลงสักครู่  แล้วจึงตัดสินใจบอกความจริงที่กังวลอยู่ออกไป

     “พี่กลัวน่ะบิล ...กลัวสายตาผู้คน กลัวพ่อแม่กับครอบครัวพี่จะรับไม่ได้”

   วิลเลียมจ้องมองชายหนุ่มนิ่ง พอเห็นอีกฝ่ายพยายามหลบตาเขาก็ต้องถอนหายใจตามมา

   “พี่เอส... พี่รู้ไหมว่าผมต้องใช้ความพยายามขนาดไหน กว่าจะทำให้พ่อกับแม่ยอมปล่อยผมมาหาพี่ได้ และผมก็เชื่อว่า ผมจะสามารถทำให้ครอบครัวของพี่ยอมรับผมได้ในสักวันหนึ่งเช่นกัน...”

   ชายหนุ่มหยุดเว้นวรรค ซบหน้าลงกับตักของอีกฝ่าย ทำเอาสายใยสะดุ้ง ทว่าอ้อมกอดหลวม ๆ ของชายหนุ่มที่กอดเอวเขา ส่งผ่านความรู้สึกอ่อนโยนและเต็มไปด้วยรัก จนสายใยไม่กล้าปฏิเสธตัดรอนอ้อมกอดนั้นได้

   “...ผมเชื่อว่าความรักของผมที่มีต่อพี่มันไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย ไม่ใช่สิ่งที่สมควรจะโดนดูถูกหรือประณาม ...ผมไม่แคร์หรอกว่าใครจะมองผมว่ายังไง ผมขอแค่คนที่ผมรัก รักผมตอบ แค่นั้นมันก็ทำให้ผมสุขใจ และพร้อมจะใช้ทั้งชีวิตปกป้องคนที่ผมรักและครอบครัวของเขา ไม่ให้ใครมาดูถูกหรือรังแกได้”

   คำพูดที่สื่อออกมาจากหัวใจของคนพูด ทำให้สายใยถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วอึดใจ และเมื่อวิลเลียมยันกายลุกชะโงกตัวเข้ามาใกล้ แม้กระทั่งยามที่ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกันแผ่วเบา สายใยก็ยังคงจ้องมองนัยน์ตาของอีกฝ่ายอย่างไม่คิดละสายตา

    “พี่เอส...ไม่ว่าพี่จะเลือกผมหรือไม่  แต่คนที่ผมจะรักตลอดไป  จะมีเพียงแต่พี่คนเดียวเท่านั้น”

   น้ำเสียงทุ้มนุ่มกระซิบ ริมฝีปากคลอเคลียสัมผัสกันอ้อยอิ่ง ก่อนที่สายใยจะค่อย ๆ พริ้มตาหลับ ยามเมื่อริมฝีปากของอีกฝ่ายบดเบียดกระชับเข้ามาหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ

   สายใยปรือตาขึ้นมามองคนตรงหน้า เมื่อรู้สึกว่าแผ่นหลังของตนสัมผัสกับพื้นผิวโซฟานุ่ม วิลเลียมถอนริมฝีปากออกมา เขาแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน พลางกระซิบบอกรักชายหนุ่มแผ่วเบา แล้วจึงโน้มใบหน้าลงมาประทับบดเบียดริมฝีปากเข้าหากันอย่างดูดดื่มอีกครั้ง...   



... TBC ...



ตอนที่ 4 มาแล้วค่ะ ^^ ..... พี่เอสเริ่มจะหวั่นไหวแล้ว ....แต่จะเสร็จคุณน้องบิลไหม อันนี้ต้องคอยติดตามตอนต่อไปกันนะคะ  :o8:





หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 25-06-2012 11:38:52
+1ให้เบาเบา
ชอบทุกเรื่องที่คุณแต่ง จัดมาเลย
************
แค่วันที่ 2 เองยังหวั่นไกวขนาดนี้ วันที่เหลือม่ะรอดแน่ :impress2:
น่ารักทั้งคู่ ชอบชอบ
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 25-06-2012 18:22:16
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-06-2012 19:06:36
 :impress2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-06-2012 19:14:16
สายใยไม่รอดแหงๆ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: พี่วันเสาร์ ที่ 25-06-2012 20:31:33
ปลื้มใจแทนพี่เอสจริงๆที่มีปอมที่รักมั่นคง :o8:
พี่เอสเริ่มใจอ่อนแล้วปอมรุกอีกนิดเดี๋ยวมีเฮ :laugh:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-06-2012 20:40:33
สายใยระทวยไปเลย อิ อิ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 25-06-2012 20:45:46
พี่เอสจะรอดปลอดภัย จนครบ 2 อาทิตย์มั้ยเนี่ย แอร๊ยยย  แต่ไม่อยากให้รอดนะ 55555555555
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-06-2012 12:23:00
บิลน่ารักแถมชอบหยอดพี่เอสอย่างนี้
เดี๋ยวพี่เอสก็ใจอ่อนยอมรับรักน้องบิลเอง

+1+เป็ดให้เรื่่องน่ารักๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 4 [25/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 26-06-2012 12:30:53
บิลต้องเอาพี่อาร์มเป็นพวกก่อนมั้ง
แต่ใจพี่เอสไปอยู่กับบิลเกือบหมดแล้วล่ะ :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 26-06-2012 12:52:51


/5



   สายใยนอนฟุบหน้ากับโซฟาด้วยความอับอาย ในขณะที่วิลเลียมนั้นกำลังผัดข้าวให้เขากิน และลอบมองร่างบางบนโซฟาเป็นระยะด้วยความเอ็นดู

   ‘บ้าจริง เกือบไปแล้ว ...นี่ถ้าท้องไม่ร้องขึ้นมา จะไปถึงไหนต่อไหนกันนะเรา’

   สายใยคิดในใจอย่างนึกตำหนิตัวเอง ที่ดันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของชายหนุ่มจนเผลอลืมตัวลืมตนแบบนี้ ยิ่งนึกถึงใบหน้าตกใจกึ่งขำของอีกฝ่าย ก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากยิ่งขึ้น

   “เสร็จแล้วครับพี่เอส มากินกันเถอะครับ พออิ่มแล้วจะได้ไม่มีอะไรขัดจังหวะอีก”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำเอาคนที่เงยหน้ามามองหน้าแดงก่ำ แล้วก้มหน้าซุกโซฟาไปอีกรอบ

   “หึ ๆ ขอโทษครับ ไม่แหย่แล้ว มากินข้าวกันเถอะครับนะ หิวไม่ใช่หรือ”

   ชายหนุ่มบอกกึ่งขำกึ่งเอ็นดู สายใยนอนอยู่แบบนั้นครู่หนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้น ใบหน้ายังคงแดงระเรื่ออยู่ให้เห็น จนวิลเลียมต้องเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เพราะสีหน้าแบบนั้นมันช่างดูน่ารักเหลือเกินในสายตาของเขา

   “กินข้าวกันเถอะพี่”

   วิลเลียมยิ้มน้อย ๆ ให้ ซึ่งสายใยก็พยักหน้าค่อย ๆ เพราะเขาก็เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมาเหมือนกัน

   “อร่อยดีนี่”

   สายใยเอ่ยชมหลังจากที่เคี้ยวคำแรกที่ตักเข้าปาก วิลเลียมยิ้มกว้างอย่างดีใจ ทำให้คนกินชะงัก หน้าแดงน้อย ๆ แล้วก้มหน้าก้มตากินต่อไปเงียบ ๆ

   “อยากอยู่กับพี่แบบนี้ไปทุก ๆ วันจังเลยนะ ได้คุยกับพี่ ...เห็นพี่ยิ้ม ...เห็นพี่มีความสุข”

   วิลเลียมพึมพำ แต่พอเห็นสายใยหยุดมือและมีสีหน้าลำบากใจ เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วกินข้าวผัดในจานของตนไปเงียบ ๆ เช่นเดียวกัน จนกระทั่งทั้งคู่กินหมดวิลเลียมจึงเก็บจานเปล่าไปล้าง โดยที่สายใยทักท้วงตามมา

   “เดี๋ยวพี่ล้างเอง บิลไม่ต้องล้างหรอก”

   “ไว้หายดีแล้วจะปล่อยให้ล้างนะครับ ตอนนี้นั่งรอเฉย ๆ ก่อนนะ”

   วิลเลียมหันมาบอกยิ้ม ๆ ทำให้คนท้วงต้องนั่งเงียบ แล้วเฝ้ามองแผ่นหลังของอีกฝ่าย ก่อนจะหวนคิดถึงคำพูดและการกระทำที่ผ่านมาของชายหนุ่ม แล้วเขาก็ต้องก้มหน้ามองโต๊ะ เม้มปากน้อย ๆ อย่างไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

   “พี่เอส...พี่...เป็นอะไรหรือเปล่าครับ เหม่อเชียว”

   วิลเลียมที่ล้างจานเสร็จ เดินมาถามคนที่กำลังนั่งเหม่อ สายใยสะดุ้งเฮือก เมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมาจะจับไหล่เขา  ท่าทางตกใจและพยายามจะเบี่ยงหลบ ทำให้วิลเลียมชะงักแล้วค่อย ๆ ดึงมือกลับมาก่อนจะฝืนยิ้ม

   “ขอโทษ...พี่คงไม่ชอบสินะ”

   “เอ่อ...คือพี่ไม่ได้ตั้งใจ...”

   สายใยพยายามจะแก้ตัว แต่ก็ยังคงสับสนในตัวเองเช่นเดิม เขาไม่ได้รังเกียจวิลเลียม แต่ก็ไม่อยากสานสัมพันธ์ให้มันแน่นแฟ้น มากไปกว่านี้

   “ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ ... แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ เพราะยังไงผมก็เลิกรักพี่ไม่ได้อยู่ดี”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มเศร้า ๆ ทำให้คนมองเจ็บแปลบที่ใจไปด้วย 

   “พี่จะขึ้นชั้นสองเลยหรือเปล่า ผมว่าจะไปนอนพักสักหน่อย ถ้าพี่จะไป ผมจะอุ้มพี่ขึ้นไปให้”

   “...เอ่อ พี่ขอนั่งเล่นอยู่แถวนี้ดีกว่า”

   สายใยปฏิเสธ ทำให้อีกฝ่ายหน้าซึมยิ่งขึ้นไปอีก เจ้าตัวพยักหน้ารับรู้ แล้วจึงเดินกลับขึ้นไปชั้นบน พอสายใยได้ยินเสียงปิดประตู เขาจึงถอนหายใจออกมาแผ่วเบา

   “ขอโทษนะบิล ...ยังไงพี่ก็ทำตามคำสัญญานั่นไม่ได้ ...ไม่ใช่รังเกียจบิลนะ แต่พี่...”

   ชายหนุ่มกลืนคำพูดที่เหลือไว้ในลำคอ เขานอนเอนกายลงบนโซฟา หลับตาลงเพื่อข่มความสับสนในใจซึ่งกำลังเกิดขึ้นในยามนี้

   

   สายใยนอนหลับยาวโดยที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้สึกตัว แต่พอได้ยินเสียงใครคุยกันเบา ๆ แว่วมาเข้าหู เขาก็ลืมตาตื่นขึ้น แล้วก็ต้องพบว่าตนนั้นกำลังนอนอยู่บนเตียงในห้องของตัวเอง

   “พี่ฝากเอสด้วยนะบิล ไว้พี่จะมาเยี่ยมใหม่”

   เสียงทุ้มที่ดังลอดมาจากประตูห้องที่เปิดแง้มทิ้งไว้ ทำให้สายใยขมวดคิ้วเพราะจำได้ว่านั่นคือเสียงของสิทธาพี่ชายของตน

   “ไม่ต้องห่วงนะครับพี่อาร์ม ผมจะดูแลพี่เอสเป็นอย่างดี”

   เสียงของวิลเลียมตอบกลับไป แล้วจึงตามมาด้วยเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ของอีกคนที่ดังขึ้น จากนั้นสายใยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ ค่อย ๆ ห่างออกไป สักพักประตูห้องจึงเปิดออกมา พร้อมกับร่างของใครบางคนที่กำลังทำให้หัวใจของเขาสับสนปั่นป่วนในช่วงนี้

   “อ้าว ตื่นแล้วหรือครับพี่เอส เป็นไงครับ หิวหรือยัง เดี๋ยวผมยกข้าวเย็นขึ้นมาให้พี่นะ”

   วิลเลียมทักทายอย่างยิ้มแย้ม แววตานั้นก็แสดงออกว่าห่วงใยเอาใจใส่เขา จนสายใยต้องรีบหลบตา หน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

   “เอ่อ...ขอบคุณ พี่ยังไม่หิวหรอก...อ๊ะ จริงสิ เมื่อครู่พี่อาร์มมาหรือเปล่า?”

   สายใยรีบเปลี่ยนเรื่องคุย ร่างสูงที่มองอยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ตอบคำถามไปตามตรง

   “ครับ มาได้สักพักแล้ว แต่พี่เอสหลับอยู่ ผมกับพี่อาร์มเลยไปนั่งคุยกันด้านล่าง นี่เมื่อครู่พี่อาร์มเขาก็แวะมาดูพี่อีกรอบ แต่เห็นพี่ยังไม่ตื่นก็เลยไม่ได้ปลุก ตอนนี้ก็กลับไปแล้วครับ”

   สายใยพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะนึกขึ้นได้อีกเรื่อง

   “แล้วพี่ขึ้นมานอนบนห้องนี้ได้ไง...เอ่อ...บิลพามาหรือ”

   ชายหนุ่มถามตะกุกตะกัก วิลเลียมอมยิ้มแล้วพยักหน้า

   “ครับ ผมกลัวพี่จะนอนลำบาก เลยอุ้มขึ้นมา.... ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่ได้ล่วงเกินอะไร”

   ท้ายประโยคเจ้าตัวแย้มยิ้มน้อย ๆ แหย่ ทำให้คนฟังหน้าแดงวาบ แล้วรีบหลบตาอีกครั้ง ใจเต้นแรงอย่างไม่คิดว่าจะเป็นได้ ทั้ง ๆ ที่เฝ้าบอกตัวเองว่าไม่ได้สนใจอะไรอีกฝ่ายเลยแท้ ๆ

   “พี่เอส ...เป็นอะไรไปครับ ...เจ็บตรงไหนอีกหรือเปล่า”

   วิลเลียมแกล้งถาม ทั้งที่มองสีหน้าอีกฝ่ายก็พอจะเดาได้ เขาซ่อนยิ้มไว้ในสีหน้าแล้วทำเป็นวิตกกังวลพร้อมกับขยับมาทรุดนั่งบนเตียงของชายหนุ่ม

   “เอ่อ...พี่ ...เปล่า...คือ...ไม่ได้เจ็บอะไร”

   สายใยบอกเสียงสั่น นึกโมโหตัวเองที่จะพูดจะทำอะไรก็ดูติดขัดไปเสียหมด

   “หรือครับ...ถ้าอย่างนั้นผมก็โล่งอก”

   วิลเลียมบอกพลางถอนหายใจ พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ อย่างอ่อนโยน ทำให้คนมองสบตาด้วยหัวใจกระตุกวูบ ใบหน้าร้อนวูบวาบเมื่อมือใหญ่เอื้อมมาลูบเส้นผมของตนแผ่วเบา

   “คิดถึงสมัยก่อนจังนะครับ เวลาผมเจ็บหรือมีแผล พี่ก็จะคอยปลอบ คอยดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอด ...พี่รู้ไหม ตอนนั้นผมมีความสุขมาก จนบางครั้งผมยังแอบคิดว่า เจ็บบ่อย ๆ ก็ดีนะ จะได้มีพี่คอยห่วงแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”

   วิลเลียมเล่าถึงอดีตสมัยตนยังเป็นเด็กน้อย ทำให้สายใยนึกตามแล้วหลุดอมยิ้มนิด ๆ ก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อลมหายใจร้อน ๆ จากคนใกล้ตัวเป่ารินรดมาใกล้ใบหน้าของเขา

   “พี่เอส... ผมรักพี่นะ”

   คำสารภาพรักหวาน ๆ พร้อมแววตาวาววามที่ส่งประกายความรักอย่างไม่คิดปิดบัง สะกดให้สายใยนิ่งอึ้ง ไม่คิดปฏิเสธหรือหลีกหนี เขาค่อย ๆ ปรือตาลงเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายขยับเข้ามาชิดมากขึ้นทุกที

   “บิล...พี่...อืม...”

   เสียงเรียกชื่อชายหนุ่มแผ่วเบา ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกประทับลง ทำให้คำพูดที่คิดจะบอกออกไปถูกกลืนหายในลำคอ ทว่าผู้รุกรานก็ไม่คิดสนใจว่าร่างบนเตียงจะพูดอะไร เพราะยามนี้เจ้าตัวกำลังเพลิดเพลินกับการลิ้มรสริมฝีปากและเรียวลิ้นหวานชื้นอย่างหรรษา

    “อะ...อืม...พอเหอะบิล...”

   สายใยครางกระเส่า เมื่อร่างสูงกว่าเริ่มไม่พอใจแค่ริมฝีปาก แต่กลับซุกหน้าไซ้ไปทั่วลำคอและลงมาถึงแผ่นอกเนียน เสื้อที่เขาสวมอยู่ถูกโยนไปไว้ข้างเตียง ส่วนกางเกงก็กำลังถูกอีกฝ่ายปลดเปลื้องออกอย่างไม่รีบร้อนนัก

   “พี่เอส...ให้ผมเถอะนะ...ผมอยากกอดพี่”

   วิลเลียมพึมพำเสียงต่ำด้วยความลุ่มหลงในสัมผัสอันแสนหวานที่ได้รับจากร่างบาง

   “มะ...ไม่เอา...พี่...กลัว”

   สายใยบอกเสียงสั่นเมื่อมือใหญ่ดึงกางเกงของเขาลง และลูบไล้ไปทั่วสะโพกแผ่วเบา แม้จะมีชั้นในผ้าฝ้ายนุ่มสวมอยู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงรู้สึกเสียววาบไปทั่วท้องอยู่ดี

   “ยะ...อย่า...อ๊ะ! เจ็บ!”

   สายใยหลุดอุทานเมื่อมือใหญ่บีบเค้นที่สะโพกเขาหนักขึ้นอย่างเผลอตัว ทำเอาวิลเลียมชะงัก หยุดมือ อารมณ์วาบหวามหายไปเกือบหมด

   “พี่เอส! เจ็บมากไหม! ผมขอโทษ...ผมลืมไปว่าพี่เจ็บอยู่”

   ชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเงยหน้ามาละล่ำละลักขอโทษด้วยแววตาสำนึกผิด ทว่าสายใยกลับไม่ได้โกรธ ที่อีกฝ่ายล่วงเกินเขาเมื่อครู่แม้แต่น้อย ทว่าเจ้าตัวกลับตอบออกไปด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและพยายามหลบตาเต็มที่

   “ไม่เป็นไร...พี่อยากพักแล้ว”

   แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ต้องการพักผ่อนจริง แต่วิลเลียมก็จำใจพยักหน้า แล้วถอยห่างออกมายืนข้าง ๆ จ้องร่างบนเตียงด้วยใบหน้าเศร้า ๆ ก่อนจะพึมพำขอตัวกลับห้องไป

   “บ้าชะมัด...ทำไมใจง่ายแบบนี้นะเรา”

   สายใยพึมพำต่อว่าตัวเอง เพราะเมื่อวิลเลียมจากไปแล้ว เขากลับรู้สึกโหยหาสัมผัสเมื่อครู่จากชายหนุ่ม ใบหน้าแดงระเรื่อซุกหลบกับหมอนใบใหญ่ของตน พยายามข่มตาให้หลับ แม้จะทำได้ยากลำบากนักก็ตาม



   เช้าวันถัดมา สายใยขยับตัวพร้อมกับนิ่วหน้าเล็กน้อย บริเวณสะโพกยังรู้สึกช้ำระบมจากอุบัติเหตุเมื่อวาน แต่พอหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อเย็น เจ้าตัวก็ต้องหน้าแดงวาบ เพราะถ้าไม่ใช่เพราะความระบมช้ำดังกล่าวจนทำให้เขาต้องหลุดร้องเจ็บออกมา มีหวังคงได้เลยเถิด แล้วต้องเจ็บบริเวณเดียวกันในอีกแบบแทนแน่

   “บ้าจริง....คิดอะไรลามกแบบนี้กันนะ”

   สายใยบ่น แล้วค่อย ๆ ยันกาย ลุกขึ้นช้า ๆ เข้าห้องน้ำทำธุระส่วนตัวจนเรียบร้อย แต่พอออกมาก็เห็นวิลเลียมนั่งรอเขาอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าห่วงใย

   “พี่เอส...เป็นไงครับ เดินไหวแล้วหรือ”

   สายใยชะงักก่อนจะหลบตาแล้วพึมพำตอบ

   “อะ...อืม ดีขึ้นแล้ว”

   วิลเลียมจ้องคนตรงหน้าที่ไม่ยอมสบตาเขานิ่ง ก่อนที่ตัวเองจะหลุบตาลง แล้วเอ่ยออกไปเสียงแผ่ว

   “... แต่ยังไงพี่ก็ต้องทานข้าวและทานยานะครับ เมื่อวานผมลืมไป ไม่งั้นพี่คงค่อยยังชั่วไวกว่านี้”

   พอพูดถึงเมื่อวานสายใยก็หน้าแดงวาบ พยายามเบือนหน้าหนีเต็มที่ ทว่าอีกฝ่ายที่เงยหน้าขึ้นมาหลังจากนั้นไม่ทันได้เห็น เลยพาลนึกไปว่าชายหนุ่มนั้นโกรธเรื่องที่ตนทำไปเมื่อวาน

   “พี่...ผมขอโทษ...จะด่าว่าทุบตียังไงผมก็ยอม  แต่พี่อย่าเมินผมแบบนี้เลยนะ”

   สายใยสะดุ้งรีบหันกลับไปมองคนพูด แล้วก็ต้องใจหายวาบเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวดของอีกฝ่าย

   “ไม่ใช่นะ! พี่ไม่ได้โกรธบิลเลย! พี่...”

   สายใยรีบแก้ตัวแล้วก็ชะงักก่อนจะหน้าแดงวาบด้วยความเอียงอาย ทำให้คนมองนิ่งอึ้ง ใบหน้าสลดกลับกลายเป็นยิ้มกว้าง แล้วลุกขึ้นมากอดคนตัวเล็กกว่าแน่นอย่างยินดี

   “พี่เอส…พี่ไม่ได้โกรธไม่ได้เกลียดผมสินะ....แสดงว่าผมยังมีหวังใช่ไหม...”

   “บิล...ปล่อยพี่เถอะ...เอ่อ...พี่หิวข้าวแล้วนะ”

   สายใยบอกอาย ๆ ทำให้คนกอดอมยิ้มแล้วยอมปล่อยคนในอ้อมแขนตามมา

   “งั้นไปทานข้าวเช้าด้วยกันนะครับ ...ผมทำข้าวต้มเครื่องไว้ให้พี่ พี่ไปชิมหน่อยสิว่ากินได้ไหม”

   สายใยเบิกตามองคนตรงหน้าอย่างนึกทึ่ง ดูท่าอีกฝ่ายจะถนัดงานครัวเหมือนอย่างที่คุยเอาไว้เสียแล้ว

   “อะ...อืม”

   สายใยรีบหลบตาพยักหน้ารับคำ เพราะขืนจ้องตากันนานกว่านี้ คงไม่แคล้วจะได้อดมื้อเช้าแน่ เพราะยิ่งจ้องนัยน์ตาของอีกฝ่ายก็เริ่มเปลี่ยนเป็นหวานเชื่อมขึ้นมาแทน

   “หึ ๆ งั้นไปกันเถอะครับ”

   ดูเหมือนวิลเลียมจะรู้ตัว เขาอมยิ้มน้อย ๆ แล้วประคองร่างบางข้างกายลงไปด้านล่าง เพื่อไปรับประทานอาหารมื้อเช้าด้วยกัน



   “อร่อยจัง ...นายนี่เก่งนะ”

   สายใยชิมข้าวต้มเครื่องในชามแล้วเงยหน้าไปยิ้มชมคนทำ วิลเลียมยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไป

   “ก็ฝึกเพื่อที่จะมาเป็นเจ้าบ่าวให้พี่นี่ล่ะ ...เวลาเราแต่งงานกัน ผมจะได้คอยดูแลปรนนิบัติพี่ ให้พี่มีความสุขยังไงล่ะครับ”

   คำตอบหวาน ๆ ทำให้คนฟังแทบสำลักข้าวต้ม ใบหน้าขาวแดงวาบ พยายามไม่เงยหน้าสบตาอีกฝ่าย ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มจนหมดชาม

   “รอสักพักค่อยทานยานะครับ”

   วิลเลียมเก็บชามไปวางไว้ในอ่างล้างจาน แล้วมานั่งจ้องหน้าอีกฝ่าย จนสายใยเริ่มอึดอัด

   “บิลไม่มีอะไรทำหรือ”

   “มีสิครับ...ก็มองหน้าพี่ไง”

   คนฟังหน้าแดง แล้วก้มหน้าหลบต่อ จนสักพักวิลเลียมก็ลุกขึ้น แล้วหยิบยาพร้อมน้ำมาวางตรงหน้าชายหนุ่ม

   “ทานยานะครับ”

   “อะ...อืม”

   สายใยรับคำแล้วทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน และพอทานยาเรียบร้อย เขาก็ลุกขึ้น หวังจะหนีไปทำงานบนห้อง แต่อีกฝ่ายก็รวบร่างเขาช้อนขึ้นอก แล้วกระซิบบอก

   “เดี๋ยวผมไปส่งให้ที่ห้องนะ” 

   “ตะ...แต่พี่เดินเองได้...”

   สายใยอุบอิบบอก ทว่าคนอุ้มกลับแย้งกลับด้วยใบหน้าระบายยิ้ม

   “... สะเทือนน้อย ๆ จะได้หายไว ๆ ไงครับ”

   ชายหนุ่มหน้าแดงนิด ๆ แต่ก็ยอมพยักหน้าให้อีกฝ่ายอุ้มกลับห้อง เพราะคิดว่าต่อให้แย้งไปยังไง วิลเลียมก็คงไม่สนใจฟังอยู่ดี

   เมื่อถึงห้องวิลเลียมก็วางร่างโปร่งลงบนเตียง สายใยพึมพำขอบคุณ แต่ก็ต้องชะงักคำพูดเอาไว้ เมื่อร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาประชิดแล้วขโมยชิมริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว

   “ค่าอุ้ม ...ขอบคุณที่ใช้บริการนะครับ”

   บอกแล้ววิลเลียมก็ยิ้มแย้มพลางเดินผิวปากกลับห้องอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้สายใยนั่งตะลึง พอรู้สึกตัว ชายหนุ่มก็โวยวายด้วยใบหน้าแดงก่ำ พร้อมกับเขวี้ยงหมอนไปที่ประตูอย่างหงุดหงิดแกมอาย ที่ถูกแกล้งเอาเปรียบเข้าให้อีกจนได้



...TBC...

แหม....มีแต่คนเชียร์ให้พี่เอสไม่รอด ...ก็นะ  ไม่รอดแน่ แต่เป็นตอนหน้า ๆ นะคะ หุ ๆ ...ก็ติดตามกันไป เรื่องนี้เป็นนิยายขนาดสั้น เพราะงั้นอีกไม่กี่ตอนก็จบแล้วจ้า  ^^"  อ่านเอาหวาน ๆ เติมน้ำตาลให้ชีวิตแก้ขัดกันน้อ 
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 26-06-2012 13:03:23
ขอบคุณคุณปัด :L2:
พี่เอสใจอ่อนเกือบเสร็จน้องบิลแล้ว :o8:
รอวันบ่าวสาวเข้าหอ :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-06-2012 17:01:29
น้องบิลรุกหนักขนาด
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-06-2012 17:32:10
พี่เอสไม่รอดแน่เลย น้องบิลช่างเอาใจขนาดนี้  :o8:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-06-2012 18:20:33
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-06-2012 21:08:36
บิลเร่งทำคะแนนใหญ่เลย แล้วไอ้ตีหน้าเศร้านี่แหละบิลเอ๊ยยย..
ยิ่งเป็นตัวทำคะแนนจากพี่เอสล่ะ
เร่งมือพิชิตใจให้ได้นะบิล ภายในสองอาทิตย์นี่แหละ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 5 [26/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-06-2012 21:40:05
ในที่สุดก็กลับมาตามสัญญา รุกเข้าไปบิล พี่เอสจะได้ใจอ่อน
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 27-06-2012 09:30:53



/6


   ...หลังจากวิลเลียมมาอยู่ร่วมใต้ชายคาเดียวกัน เวลาผ่านไปเพียงแค่อาทิตย์กว่า แต่สายใยกลับคิดว่ามันช่างยาวนานนับเดือนเลยทีเดียว แม้จะลำบากใจที่ถูกอีกฝ่ายคอยรุกเอาเปรียบ แต่ชายหนุ่มก็กลับเริ่มเคยชินจนเหมือนกับอีกฝ่ายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเขาเข้าให้แล้ว จากที่เคยปฏิเสธขัดขืนก็เริ่มโอนอ่อนผ่อนตามโดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้สึกตัว

   “อรุณสวัสดิ์ครับพี่ ...เช้านี้จะทานอะไรดีครับ”

   คนที่แวะมาปลุกแต่เช้าถึงเตียงจูบอรุณสวัสดิ์พร้อมเอ่ยถาม ทำให้คนที่ปรือตาตื่นสะดุ้งเฮือก หน้าแดงก่ำ แล้วรีบยันกายลุกขึ้นนั่งเขยิบหนีไปสุดเตียงพร้อมโวยวายใส่

   “พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่ให้เข้ามาปลุกแบบนี้!”

   วิลเลียมหัวเราะในลำคอ ก่อนจะแสร้งตีหน้าเศร้าสลด แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

   “ขอโทษครับ...ผมผิดเอง พี่อย่าเกลียดผมเลยนะ”

   สายใยสะดุ้งเฮือก พอเห็นใบหน้าแบบนั้นของอีกฝ่ายก็ทำเอาเขาใจอ่อน แล้วจึงอ้อมแอ้มตามมา

   “พี่ก็ไม่ได้เกลียด ...เอาเป็นว่า ถ้าคราวหน้าจะเข้ามา ช่วยเคาะประตูห้องสักหน่อยก็แล้วกัน”

   วิลเลียมซ่อนยิ้มในสีหน้า แล้วจึงเอ่ยถามต่อ

   “ถ้าเคาะแล้วพี่ยังไม่ตื่น จะเข้ามาเลยได้ไหมครับ”

   สายใยขมวดคิ้วมองหน้าคนถาม แต่พอเห็นใบหน้าและดวงตาใสซื่อคู่นั้น ก็ทำให้เขาถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าตอบรับ

   “ถ้าอย่างนั้นก็ได้...แต่ไม่ต้องมาจูบแบบนี้...พี่ไม่ชิน”

   ใบหน้านั้นแดงระเรื่อเมื่อหวนคิดถึงจูบยามเช้า เพราะแทนที่วิลเลียมจะจูบแก้ม หรือหน้าผาก แต่ชายหนุ่มกลับจูบที่ริมฝีปากเขาแทน ซึ่งเขามั่นใจว่ามันไม่น่าจะใช่ความเคยชินของวัฒนธรรมเป็นแน่ นอกจากชายหนุ่มจะจงใจเสียเองมากกว่า

   “ถ้าที่แก้มล่ะครับ...”

   วิลเลียมต่อรอง ทำเอาสายใยชะงัก แต่ในที่สุดเขาก็ต้องกลืนคำตอบปฏิเสธลงคอ เมื่อเห็นแววตาร้องขอที่จับจ้องมาอย่างน่าสงสารคู่นั้น

   “ก็ได้...”

   “รักพี่เอสที่สุดในโลกเลยครับ”

   วิลเลียมบอกแล้วกอดรัดร่างบนเตียงหมับ ก่อนจะหอมแก้มซ้ายขวาของอีกฝ่ายอย่างหากำไร ทำเอาสายใยนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

   “ถ้าอย่างนั้นผมจะไปรอข้างล่างนะครับ ...หรือว่าพี่อยากให้ผมช่วยถูหลังให้ตอนอาบน้ำ ก็บอกนะครับ ผมยินดีบริการ”

   ชายหนุ่มบอกแล้วยิ้มกว้างติดเจ้าเล่ห์ ทำเอาสายใยหน้าแดงวาบ แล้วไล่ให้เจ้าตัวออกนอกห้องไป ก่อนที่เขาจะเดินคว้าผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ ล็อกห้องแน่นหนา ก่อนจะยืนใจเต้นแรงอยู่ในนั้นพักใหญ่ แล้วจึงเริ่มลงมืออาบน้ำชำระล้างร่างกายของตนในเวลาถัดมา

   

   วิลเลียมมองคนที่กำลังเดินลงมาจากชั้นสองด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน ... หลังจากที่สายใยหายจากอาการเคล็ดขัดยอก เขาก็ตัดสินใจว่าจะไม่รีบร้อนลงมือเร่งรุกเข้าหาอีกฝ่ายเหมือนอย่างที่ผ่านมา เพราะเขาอยากให้สายใยเริ่มเคยชินกับตัวเขา มากกว่าที่จะกลัวเขาจนเผลอทิ้งระยะห่าง  ซึ่งถึงแม้มันจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ผลของมันก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกพึงพอใจ และคิดว่า นี่คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะเริ่มลงมือสานสัมพันธ์ขั้นต่อไปสักที...

   “พี่เอสครับ เช้านี้จะกินอะไรดีครับ เดี๋ยวผมทำให้”

   หน้าที่ทำอาหาร เป็นอีกหน้าที่หนึ่งที่วิลเลียมยึดมาจากสายใย เพราะอยากปรนนิบัติเอาใจคนที่เขารักคนนี้ให้มากยิ่งขึ้น

   “นายนี่นะ ...ถ้าเจ้านายพี่อาร์มมาเห็นพี่คงโดนดุแย่เลย”

    สายใยพึมพำพลางถอนหายใจ เพราะต่อให้ปฏิเสธยังไงเพื่อนสมัยเด็กของเขาคนนี้ก็ยังคงดื้อรั้นไม่ยอมฟังสักนิด

   “ไม่เห็นเกี่ยวเลยครับ อีกอย่างมาอาศัยบ้านพี่อยู่ ขืนไม่ช่วยแบ่งเบาภาระอะไรเลย แม่ผมรู้เข้า คงโดนดุเหมือนกัน”

   วิลเลียมโต้กลับ ทำให้สายใยชะงัก ก่อนจะหลุดยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างยอมแพ้ และตอนเช้าเขาจึงอาสาเป็นผู้ช่วยชายหนุ่มแทน เพราะตระหนักดีว่าวิลเลียมนั้นมีฝีมือในการทำครัวดีกว่าเขาอยู่หลายเท่านัก

   “นึกถึงเมื่อตอนเด็กจังนะครับ ....ตอนนั้นผมกับพี่โดนป้าดาบ่นแทบแย่ ที่ทำครัวซะเละเทะไปหมด”

   สายใยสะดุ้งนิด ๆ ที่ถูกพาดพิง เขายิ้มแห้ง ๆ ส่งให้อีกฝ่าย แต่ไม่ได้บอกกับวิลเลียมให้ทราบว่า แม้กระทั่งตอนโต ลองเขาได้เข้าไปช่วยมารดาทำครัวเมื่อไหร่ ก็มักจะถูกบ่นและไล่ออกมานั่งรอแทนเป็นประจำเสมอไม่เปลี่ยนล่ะนะ

   “บิล...ต้องใส่น้ำตาลกี่ช้อนน่ะ”

   สายใยหันมาถามคนข้างกาย แต่พอเขาเงยหน้ารอคำตอบก็ถูกอีกฝ่ายขโมยจูบริมฝีปากเข้าให้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะแสร้งทำเป็นเฉไฉตอบคำถามอีกฝ่ายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “น้ำตาลหรือครับ ...ช้อนเดียวก็พอแล้ว”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มหวาน ทำเอาสายใยหน้าแดงระเรื่อแล้วรีบก้มหน้าหลบตาเตรียมจะตักน้ำตาลพูนช้อนใส่ลงไปในผัดผักตรงหน้า ทำเอาวิลเลียมสะดุ้ง แล้วรีบจับมืออีกฝ่ายปรามเอาไว้ก่อน

   “เดี๋ยวผมปรุงเองดีกว่า พี่เอสช่วยผมหั่นผักทีนะครับ”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน จนคนมองตอบหน้าแดง และพยักหน้ารับ โดยไม่ทันได้เฉลียวใจว่าตัวเองโดนกันท่าออกจากการปรุงรส เพราะอีกฝ่ายเกรงว่ารสชาติจะออกมากินไม่ได้นั่นเอง

   

   และแล้วมื้อเช้าที่แสนอร่อยก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี  วิลเลียมยืนช่วยเป็นลูกมือสายใยล้างจาน เพราะชายหนุ่มไม่ยอมยกหน้าที่ทั้งหมดให้แขกแน่ แม้ว่าอีกฝ่ายจะสนิทสนมรู้จักกันมาตั้งแต่เด็กก็ตาม

   “พี่เอส ...อยากจูบพี่จัง”

   คำพูดเปรยเบา ๆ ทำให้คนที่ยื่นจานที่ล้างแล้วส่งให้อีกฝ่ายเก็บ แทบจะทำจานตกมือ สายใยหน้าแดงวาบ แล้วหันไปโพล่งใส่ด้วยความเขิน

   “ไม่ได้!”

   “ทำไมล่ะ ...แค่จูบเอง ผมอุตสาห์ทำตัวเป็นเด็กดี  ไม่ย่องเข้าหาพี่ในตอนกลางคืนแล้วแท้ ๆ ... ไม่งั้นนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างพี่ ผมลักหลับไปก็ไม่รู้สึกตัวหรอก”

   วิลเลียมออดอ้อน แต่คำอ้อนของเขากลับทำให้คนฟังหน้าร้อนวูบวาบ มือไม้สั่นจนต้องวางจานลง เห็นดังนั้นวิลเลียมจึงจับสายใยล้างมือ และปิดน้ำก๊อกให้เรียบร้อย ก่อนจะประคองมานั่งโซฟาด้วยกัน โดยที่สายใยเองไม่ได้ขัดขืน แถมยังใจเต้นแรงโดยที่เขาก็ห้ามไม่อยู่อีกต่างหาก

   “พี่ก็รู้ว่าผมรักพี่...อยากกอดพี่... ที่ผมต้องอดทนจนถึงตอนนี้ก็เพราะกลัวพี่เกลียดกลัวผม...ถ้าผมเผลอไปบังคับขืนใจพี่เข้า”

   วิลเลียมบอกตรง ๆ ทำให้สายใยยิ่งหน้าแดง ใจเต้นแรงจนเจ้าตัวก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเข้าให้  ทางด้านวิลเลียมนั้นลอบเฝ้าสังเกตปฏิกิริยาของอีกฝ่ายตลอด ชายหนุ่มลอบยิ้มนิด ๆ ที่เห็นสายใยหวั่นไหวกับเขา เจ้าตัวจึงโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น พร้อมกับกระซิบด้วยถ้อยคำอ่อนโยน

   “พี่ครับ... ผมรักพี่จริง ๆ นะ”

   วิลเลียมบอกพร้อมกับโน้มใบหน้าใกล้อีกฝ่ายลงไปทุกขณะ ทว่าสายใยกลับไม่ขัดขืนอันใด คำพูดบอกรักครั้งล่าสุดที่เขาได้ยิน สะกดเขาให้หยุดนิ่งและค่อย ๆ หลับตาพริ้มรอคอยจูบนั้นอย่างเคลิบเคลิ้ม

   “อือ...บิล...พี่...อ๊ะ...”

   คนที่กำลังโดนเล้าโลมครางประท้วงแผ่วเบาเมื่อวิลเลียมเริ่มกระทำมากยิ่งกว่าจูบ แต่กลับลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของเขาและค่อย ๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาทีละชิ้น โดยที่สายใยไม่อาจต้านทานได้

   “พี่เอสของผม... สวยจริง ๆ”

   วิลเลียมเงยหน้าขึ้นมองผลงานของตัวเองอย่างชื่นชม ร่างเปลือยเปล่าที่ยามนี้แดงระเรื่อไปแทบทั้งร่าง โดยเจ้าของร่างหลับตาหนี และพยายามกลั้นเสียงครางของตัวเองอย่างสุดฤทธิ์

   “พี่เอส...อย่ากัดปากแบบนั้นสิครับ...ผมอยากได้ยินเสียงของพี่จัง”

   วิลเลียมอ้อนไปพลางลูบไล้ผิวกายอันน่าหลงใหลของคนที่เขาหลงรักไปพลาง ในที่สุดสายใยก็ทนไม่ไหว ปล่อยเสียงครางหลุดจากริมฝีปากออกมาแผ่วเบา

   “อา...บิล...พอเถอะ...พี่รู้สึกแปลก ๆ...จะแย่อยู่แล้ว...ฮึก!”

   แผ่นอกขาวสะท้านเฮือก เมื่อริมฝีปากของชายหนุ่มผู้อ่อนเยาว์กว่าเม้มยอดอกของเขาแรง ๆ ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างก็ถูกนิ้วมือบีบคลึงกระตุ้นให้ความสุขไม่แตกต่างกันนัก

   “พี่ครับ...ขอผมได้ไหมครับ...นะครับ”

   วิลเลียมครางเสียงกระเส่าพร้อมกับเล้าโลมร่างตรงหน้าด้วยความรักใคร่   ความปรารถนาที่เก็บงำมาตลอดระยะเวลาสิบห้าปี มันทำให้เขาเริ่มควบคุมตัวไม่ไหว จนถึงแม้จะได้ยินคำปฏิเสธจากอีกฝ่าย ชายหนุ่มก็คิดว่าเขาคงจะหยุดตัวเองไม่ได้แล้วเป็นแน่

   “อื๊อ...บิล...พี่....อ๊า!”

   สายใยอุทานเมื่อถูกล่วงล้ำด้วยนิ้วเรียวยาวของอีกฝ่าย เจ้าตัวดิ้นพล่านสั่นศีรษะไปมาด้วยความเจ็บปวด วิลเลียมรีบปลอบประโลมและเฝ้าจุมพิตพลางลูบไล้กระตุ้นอารมณ์ชายหนุ่มไปทั่วเรือนร่าง จนสายใยเริ่มกลับมาคล้อยตามอีกครั้ง

   “พี่ครับ...ผมสัญญานะ ... ว่าผมจะอ่อนโยนกับพี่”

   วิลเลียมกระซิบแผ่วเบา เขาดึงนิ้วออกจากร่างของชายหนุ่มและค่อย ๆ แทนสิ่งนั้นไปด้วยส่วนที่แข็งขึงและเติมเต็มเสียยิ่งกว่า ...เสียงกรีดร้องดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด และอาการเกร็งตอดรัดทำให้วิลเลียมนิ่วหน้า ทว่าชายหนุ่มก็ใช้ความอดทนไม่ผลีผลาม และยังคงปลอบประโลมให้ร่างในอ้อมกอดหายหวาดกลัว จนกระทั่งสายใยเริ่มเคยชินกับสิ่งแปลกปลอมซึ่งอยู่ในร่างของตน

   “เราจะมีความสุขไปด้วยกันนะครับ...ผมสัญญา”

   วิลเลียมกระซิบบอกอย่างอ่อนโยน ทำให้คนที่มีใบหน้านองน้ำตา สะอื้นนิด ๆ ก่อนจะฝืนยิ้มตอบ แล้วจากนั้นสายใยจึงปล่อยกายปล่อยใจให้อีกฝ่ายนำไปอย่างไม่คิดขัดขืน จวบจนกระทั่งทั้งเขาและอีกฝ่ายได้ถึงฝั่งฝัน และปลดปล่อยออกมาในเวลาไล่เลี่ยกันในที่สุด...

   

   วิลเลียมอุ้มร่างของสายใยมาไว้บนเตียงชั้นสอง พร้อมกับเช็ดเนื้อตัวทำความสะอาดให้อีกฝ่ายอย่างรักใคร่ รู้สึกดีใจที่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับคนที่เขาเฝ้ารักมาตลอดตั้งแต่เด็กคนนี้ได้สักที

   “พี่เอสครับ...พี่เป็นของผมแล้วนะครับ นับจากนี้ไปผมจะคอยดูแลพี่ตามสัญญาที่เคยให้ไว้...ผมรักพี่มากเลยนะ”

   ร่างสูงพึมพำแล้วจึงก้มลงจูบหน้าผากคนที่นอนหลับอย่างอ่อนเพลียบนเตียง ก่อนจะเอนกายลงนอนข้าง ๆ และกอดร่างนั้นแน่น พร้อมกับหลับไปด้วยกันในเวลาต่อมาจากนั้นไม่นาน

   

   ...สายใยปรือตาขึ้นมามองรอบด้านอย่างลำบาก เขารู้สึกปวดเมื่อยเนื้อตัวไปหมด แต่เพราะเสียงดังโวยวายที่ได้ยินจึงทำให้เขาไม่อาจจะนอนอยู่เฉยได้

   “อืม...อะไรกันนะ...หนวกหูจริง...”

   ชายหนุ่มพึมพำ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นภาพพี่ชายกำลังยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าห้อง สีหน้าของอีกฝ่ายบ่งบอกถึงความโมโหเต็มที่ ส่วนวิลเลียมเองก็ยืนอยู่ด้วยกัน ทว่าริมฝีปากของเจ้าตัวนั้นบวมเจ่อและมีมีเลือดไหลซึมริมฝีปากออกมาให้เห็น

   “เกิดอะไรกันน่ะพี่...บิล...”

   วิลเลียมหันมาฝืนยิ้มน้อย ๆ ให้กับสายใย แล้วหันไปมองสิทธาด้วยแววตาจริงจัง

   “ผมขอโทษที่ล่วงเกินน้องชายพี่อาร์ม ...แต่ผมรักพี่เอสจริง ๆ ต่อให้พี่รังเกียจ หรือจะทุบตีผมยังไง ผมก็ไม่มีวันยอมปล่อยมือจากพี่เอสไปแน่!”

   สิทธากัดฟันกรอด ก่อนจะสบถอะไรเบา ๆ แล้วหันมาทางน้องชายของตน

   “เอส! บอกพี่มาซิ! เอสเต็มใจเอง หรือหมอนี่มันข่มขืนน้อง!”

   สายใยเงียบกริบ จ้องมองสิทธาที่มีสีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างหวาด ๆ แต่พอหันไปเห็นสีหน้าของชายอีกคน เขาก็ต้องชะงัก แล้วปวดแปลบที่ใจกับรอยยิ้มเศร้า ๆ ของวิลเลียม

   “ผม...”

   สายใยอึกอัก เขากำผ้าห่มที่คลุมกายแน่นสักพัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับพี่ชายของตน

   “ขอโทษครับพี่...ผมเต็มใจ...เอ่อ...ให้บิลกอด...”

   สิทธานิ่งอึ้ง เงียบไปอึดใจ เขาเองก็รู้อยู่หรอกว่าวิลเลียมชอบสายใย แต่เขาไม่คิดว่าน้องชายของตนจะมีใจให้อีกฝ่ายด้วยแบบนี้

   “เอส...น้องก็รู้ว่าความรักแบบนี้ มันไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม...”

   “แต่ว่า...

   วิลเลียมทำท่าจะค้าน แต่สายใยนั้นเรียกชื่อของชายหนุ่มขัดขึ้นก่อน

   “บิล”

   “พี่เอส...”

   สายใยสบตากับชายหนุ่มผู้อ่อนวัยกว่าแวบหนึ่ง ซึ่งแววตาคู่นั้นก็ทำให้วิลเลียมนิ่งไป และยอมเงียบฟังอีกฝ่ายพูดกับสิทธาแทน

   “ผมรู้ครับพี่...ตอนบิลสารภาพรักกับผม ตอนนั้นผมเองก็คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แน่ ...ผมต้องหาทางหลีกเลี่ยงให้ได้...แต่...”

   สายใยหยุดเว้นวรรค เขามองชายหนุ่มซึ่งได้ชื่อว่าผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับเขาด้วยแววตาอ่อนโยนวูบหนึ่ง แล้วจึงหันมาทางพี่ชายอีกครั้ง

   “แต่สุดท้าย ผมก็ทำไม่ได้ครับพี่...ผมทนใจแข็งใจดำ ปฏิเสธคนที่เฝ้าคิดถึงผมมาตลอดสิบห้าปีไม่ลง...พี่ครับ ...การที่มีคนหนึ่งเฝ้าคิดถึงแต่เรา ปรารถนาดีต่อเรา รักเพียงแค่เราคนเดียว ไม่เคยคิดเหลียวมองใคร ...คนแบบนั้น ไม่ใช่หรือครับ ที่จะคู่ควรให้เรารัก และคู่ควรแก่การมอบใจให้เขา ...ใช่ไหมครับพี่”

   สิทธาเงียบกริบเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นน้องชาย เขาทอดถอนหายใจยาวออกมาอย่างเหนื่อยล้า แล้วจึงหันไปมองวิลเลียมนิ่ง

   “ถ้านายทำให้น้องของฉันเสียใจ  ฉันจะไม่มีวันให้อภัยนายเลย ต่อให้นายเป็นลูกชายคนสำคัญของบริษัทคู่ค้าของบริษัทฉันก็ตาม ฉันนี่ล่ะจะลากนายมาอัดให้หนักยิ่งกว่าครั้งนี้แน่!”

   วิลเลียมจ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งอย่างไม่คิดหวั่นเกรง หรือข่มว่าตัวเองฐานะเหนือกว่า ทว่ากลับจ้องมองด้วยแววตาหนักแน่นจริงจัง พร้อมกับลั่นวาจาออกไป

   “แน่นอนครับพี่อาร์ม ...ผมจะไม่มีทางทำให้พี่เอสเสียใจ และจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาดูถูก หรือ รังแกให้พี่เอสเสียใจแน่”

   สิทธาจ้องมองคนตรงหน้าอย่างพิจารณา แต่ก็เห็นเพียงแววตาที่จริงจังดังเช่นคำพูดเท่านั้น

   “ดี! หวังว่าคงทำได้อย่างที่บอกแล้วกัน”

   ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม ก่อนจะเดินเข้ามาหาน้องชายแล้วตบไหล่อีกฝ่ายเบา ๆ

   “ยังไงก็ต้องบอกพ่อกับแม่ให้รู้ด้วยนะ”

   “ครับพี่...”

   สายใยพึมพำ ทั้งที่ยังคงหนักใจว่าจะบอกกับบิดามารดาถึงเรื่องนี้อย่างไรดี

   “ผมจะติดต่อให้พ่อกับแม่บินมาเมืองไทย เพื่อสู่ขอพี่เอสตามประเพณีครับ...”

   วิลเลียมเอ่ยขัดขึ้น ทำให้สองพี่น้องหันขวับมามองแล้วนิ่วหน้านิด ๆ ก่อนที่สิทธาจะถอนหายใจตามมา

   “เฮ้อ! อาจจะดีก็ได้ เพราะแม่กับน้าขวัญตาก็สนิทกันมากอยู่”

   สิทธาตัดบท ก่อนจะหันไปล่ำลาสายใยสักครู่ แล้วจึงขอตัวกลับบ้านไปอย่างเหนื่อยอกเหนื่อยใจ เพราะแต่เดิมแค่จะแวะมาเยี่ยมเยียนถามสารทุกข์สุขดิบน้องชาย กลับกลายเป็นว่าตอนนี้เขาได้น้องเขยเพิ่มขึ้นมาในครอบครัวแทนอย่างปุบปับ ชนิดที่เขาไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวทำใจล่วงหน้าแม้แต่น้อย



... TBC...


ใครที่ลุ้นพี่เอสเสียตัว คงสมหวังกันแล้วสินะคะ  :o8:  สำหรับเรื่องนี้ใกล้จบก็จริงแต่ยังไม่จบ ยืดเยื้อ พร่ำเพ้อไปได้อีกสองสามตอน แหะ ๆ ...ก็แหม ได้ลูกเขาก็ต้องสู่ขอ เข้าหอกันตามประเพณีใช่ไหมล่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-06-2012 09:43:42
ได้น้องเขยที่รักมั่นในตัวน้องชายขนาดนี้มันดีแล้วนะพี่อาร์ม
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-06-2012 09:57:12
แอร๊ยยย และแล้ว พี่เอส ก็ใจอ่อนจนได้ แบบนี้ต้องปิดซอยเลี้ยงนะเนี่ย น้องมันรักจริงหวังแต่งซะขนาดนี้ รีบรับรักน่ะดีแล้วนะ

ถ้าคุณพี่อาร์มไม่ปลื้มน้องเขยคนนี้ อิฉันขอรับอุปการะก็ได้นะ ฮิ้วววววววววววว 555
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 27-06-2012 13:43:53
พี่เอสจ๋าน้องบิลรักขนาดนี้ก็ยอมๆน้องไปเถอะ

ให้เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-06-2012 14:05:01
โอ้ว..ว้าว..ดีใจจัง :m4: พี่เอส  :oo1:เรียบร้อยโรงเรียนน้องบิลไปแล้ว :haun5:
งั้นมาเตรียมตั้งขบวนแห่ขันหมากกันดีกว่า เอ้า...   :m11:โห่.... ฮิ้วววว...
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 27-06-2012 14:10:56
 :-[ ในที่สุด พี่เอสก็ใจอ่อน ฮ่าๆๆๆ ก็น้องน่ารักอ่ะเนอะ ทำไงได้ :impress2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 27-06-2012 15:10:30
น้องบิลทำสำเร็จแล้ว
พี่เอสยอมรับด้วยความเต็มใจ
ทีนี้ก็รอผ่านด่านพ่อแม่ทั้งคู่ :m18:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 27-06-2012 15:47:55
รออ่านต่อ  o13
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 27-06-2012 15:57:33
ฮิ้วววววววววววววววววว
ในที่สุดบิลก็ทำสำเร็จแล้ว
ได้พี่เอสแล้วต้องรักให้มากๆ มากกว่าปัจจุบันด้วย :impress3:
รีบๆมาขอเลย
 :กอด1:  :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 27-06-2012 17:54:46
พ่อตา แม่ยายยังไม่ดุเท่าพี่เขยเลยนะเนี่ย :laugh:
ถ้าเป็นน้องบิลต้องดูแลพี่เอสได้แน่ๆ อย่าปล่อยให้พี่เค้าลำบากนะคะ :กอด1:
ตอนนี้บ้านบิลรวยแล้ว ต้องจัดงานแต่งแบบอลังการแน่เลยใช่ไหม :o8:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-06-2012 23:21:17
ขอร่วมส่งตัวพี่เอสกับน้องบิลเข้าหอด้วยคน
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: RoseBullet ที่ 28-06-2012 00:51:23
โอ้ พี่เอสใจอ่อนแบบเต็มขั้น ร่วมจุดพลุให้น้องบิล แหม ก็รอมั่นคงมาตั้งนานนมเนอะ
เอาจริงๆตอนนี้รู้สึกว่าพี่เอสยอมเพราะใจอ่อน แต่ยังไม่รู้สึกว่าความรู้สึกพัฒนาไปถึงขั้นรัก
ก็ไม่แปลกแหละเพราะห่างกันไปตั้งหลายปี เพิ่งมาใกล้ชิดกันไม่นานนี้นี่เอง
ต่ออีกหลายตอนก็ได้ค่ะ ชอบอ่ะ รอดูตอนน้องไปสู่ขอกับพ่อแม่พี่เอสน้า~
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 6 [27/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 28-06-2012 00:55:16
อ่านแล้วยิ้มให้กับความน่ารักของทั้งคู่จริงๆค่ะ

และแทบจะโฮ่ร้องให้บ้านแตกที่หนูบิลได้ตัวพี่เอสแล้ว  555

รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 28-06-2012 12:00:39


7/


    ...หลังจากสิทธาจากไปแล้ว วิลเลียมที่เดินไปส่งชายหนุ่มถึงหน้าบ้านก็รีบกลับขึ้นมาชั้นสอง เขาเปิดประตูห้องนอนของสายใย แล้วตรงเข้าไปกอดร่างบนเตียงอย่างรักใคร่

   “พี่เอสของผม ... ผมรักพี่ที่สุด”

   “อะไรกันบิล ...ปล่อยนะ จู่ ๆ มากอดทำไมเนี่ย!”

   สายใยโวยวายทั้งตกใจ ทั้งเขิน ที่จู่ ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายกอดหมับเข้าให้แบบนี้

   “ก็แหม...ตอนที่พี่อธิบายให้พี่อาร์มฟัง...เรื่องที่ตัดสินใจยอมรับรักผมน่ะ ผมงี้ซึ้งจนอยากจะกอดจูบพี่เสียเดี๋ยวนั้น ...ติดก็ตรงที่มีพี่อาร์มอยู่ด้วย ขืนทำลงไปมีหวังโดนต่อยอีกเปรี้ยงพอดี”

   วิลเลียมบอกแล้วยิ้มน้อย ๆ ให้ แต่สายใยนั้นกลับเอื้อมมือไปแตะที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง

   “เจ็บมากไหม ...พี่อาร์มมือหนักเสียด้วยสิ”

   คนฟังชะงัก ก่อนจะแย้มยิ้มอ่อนโยน พลางจับมือข้างนั้นของสายใยมาจูบเบา ๆ แล้วตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มที่ไม่จางหาย

   “ไม่หรอกครับ ...มันก็สมควรแล้วนี่นะ ก็ใครใช้ให้ผมล่วงเกินน้องชายของพี่อาร์มเองล่ะ”

   สายใยหน้าแดงวาบด้วยความอาย เขาดึงมือของตัวเองกลับ ซึ่งวิลเลียมก็ยอมปล่อยให้ง่าย ๆ แต่ขยับมานั่งข้าง ๆ แล้วโอบร่างเปลือยในผ้าห่มเข้ามาชิดร่างเขาแทน

   “ผมรักพี่จริง ๆ นะ ...ผมรู้ว่าผมทำผิดต่อพี่เอส ต่อพี่อาร์ม และครอบครัวของพี่ ...แต่ผมรักพี่จนทนไม่ไหว ...ผมอยากให้พี่เป็นของผมคนเดียว ...ผมรู้ ผมเห็นแก่ตัวและอาจจะดูเหมือนเด็กเอาแต่ใจในสายตาพวกพี่  แต่หัวใจของผมมันไม่ยอมรับใครคนอื่นอีกแล้ว ...นอกจากพี่คนเดียวเท่านั้น”

   วิลเลียมพึมพำกับร่างในอ้อมกอด สายใยซบใบหน้าลงกับอกกว้างของอีกฝ่าย รู้สึกซาบซึ้งและตื้นตันใจ ต่อคำสารภาพรักที่เขาเองก็รู้ดีว่า มันกลั่นออกมาจากหัวใจของอีกฝ่าย หาใช่คำเสแสร้งแกล้งเอาใจแต่อย่างใด ...ฟังจากเสียงหัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้เขาในยามนี้ มันก็ยืนยันได้ดีพอแล้ว

   “บิล... พี่เองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะรักบิลได้มากเท่าบิลรักพี่ไหม ...แต่พี่สัญญาว่า นับจากนี้ พี่จะตอบแทนความรักของบิลให้เท่ากับเวลาสิบห้าปีที่บิลมอบมันให้พี่ทั้งหมด”

   “พี่เอส...”

   วิลเลียมครางเรียกชื่ออีกฝ่ายแผ่วเบาด้วยความปลาบปลื้ม เขากอดรัดร่างนั้นแน่นอยู่สักพัก จึงยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ เพราะชายหนุ่มไม่แน่ใจตัวเองว่า หากเขากอดสายใยนานกว่านั้น เขาจะควบคุมตัวเองให้หักห้ามใจได้ไหวไหม 

   “ผมรักพี่นะครับ ...นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวผมไปเตรียมอาหารเย็นให้”

   วิลเลียมจูบที่ริมฝีปากของคนที่เขาประคองให้นอนลงไปกับเตียง แล้วจึงขอตัวออกจากห้อง ทิ้งให้คนบนเตียงนอนหน้าแดงด้วยความเขิน  ถึงแม้พวกเขาจะไปถึงไหนต่อไหนกันเรียบร้อย แต่สำหรับสายใยก็ยังไม่ชินเรื่องพวกนี้อยู่ดี และจะว่าไปแล้ว วิลเลียมก็ถือเป็นคนที่เขาคบหาด้วยแบบคนรักเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้



   หลังจากนั้นอีกสามวัน แม่และพ่อเลี้ยงรวมไปถึงพี่ชายคนโตของวิลเลียมก็บินตามมาสมทบที่เมืองไทย ส่วนพี่ชายอีกสองคนที่เหลือนั้นติดงานด่วนไม่ได้ตามมาด้วย   

   ทางด้านบิดามารดาของสายใยเมื่อได้รับข่าวจากสิทธาว่าจะมีคนมาสู่ขอลูกชายคนเล็กของพวกเขา ทั้งคู่ก็รีบเดินทางมากรุงเทพฯ แม้แต่พี่สาวของสายใยก็ยังทิ้งลูกให้สามีเธอเลี้ยงแล้วตามบิดามารดามาด้วยความเป็นห่วงปนตกใจกับข่าวคราวที่ได้รับ…

   “ฉันต้องขอโทษแทนลูกชายจริง ๆ นะคะคุณดาที่ทำเรื่องไม่ดีไม่งามแบบนี้ขึ้น... แต่ถึงยังไงฉันก็ยืนยันนะคะว่า ลูกชายฉันน่ะรักหนูเอสเขาจริง ๆ”

   แม่ของวิลเลียมบอกกับสุดาแม่ของสายใย เมื่อทั้งสองครอบครัวมีโอกาสได้พบปะพูดคุยกันอย่างเปิดอกถึงความสัมพันธ์ของลูกชายทั้งสองของพวกตน

   “เฮ้อ! พูดตามตรงนะแม่ขวัญ ฉันเองก็ตกใจอยู่เหมือนกันตอนเจ้าอาร์มโทรมาบอก แต่พอรู้ว่าผู้ชายคนที่ว่านั่นคือตาปอม ฉันก็คิดว่าพอจะเข้าใจและรับได้... ก็เด็กคนนี้ติดเจ้าเอสยังกับอะไรดี  จนฉันยังเคยแซวกับพี่ไกรเลยว่า ถ้าตาปอมเป็นผู้หญิง คงจะจับให้หมั้นหมายกันเสียตั้งแต่เด็กไปแล้ว”

   สุดาบอกแล้วยิ้มให้หญิงสาวที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในสมัยก่อน ขวัญตายิ้มน้อย ๆ แล้วเอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายที่ไม่ถือสาหาความลูกชายของเธอ และดูเหมือนว่าทางสุดาและเกรียงไกรจะยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งวิลเลียมและสายใยได้บ้างแล้ว

   “เราเองก็โตขึ้นมากจนเปลี่ยนไปเยอะเลยนะตาปอม ...ไม่สิ ตอนนี้เห็นเอสมันบอกว่าเปลี่ยนเป็นชื่อบิน ๆ อะไรนั่นแล้วใช่ไหม”

   “ชื่อ ‘บิล’ ครับป้าดา แต่ป้าจะเรียกผมปอมก็ได้ ถึงยังไงผมก็ยังเป็นเด็กข้างบ้านจอมซนของป้าดาคนเดิมล่ะครับ”

   วิลเลียมยิ้มหวานตอบ ทำให้สุดายิ่งรู้สึกนึกเอ็นดูมากขึ้น นี่ถ้าสายใยเป็นลูกสาวเธอคงจะยินดีกับทั้งคู่อย่างออกนอกหน้าไปกว่านี้แล้ว

   “ว่าแต่ปอม เอ๊ย บิล  นี่เปลี่ยนไปยังกับคนละคนเลยเนอะ ใครจะเชื่อล่ะคะคุณแม่ ว่าเด็กตัวเล็ก ๆ ที่คอยเดินตามตาเอสต้อย ๆ แบบนั้น จะโตมาหล่อ เท่ สมาร์ท แบบนี้ ....แหม พูดก็พูดเถอะ พี่ล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ นะเอส”

   สิริพี่สาวของสายใยเอ่ยชมวิลเลียม แล้วหันไปแซวน้องชายที่นั่งหน้าแดงก้มหน้าก้มตาอยู่ใกล้ ๆ แถวนั้น

   “จริงสิบิล แล้วแบบนี้จะเอายังไงล่ะ ถ้าแต่งกันแล้วจะให้เอสไปอยู่ที่โน่นด้วย หรือบิลจะมาอยู่ที่นี่แทน”

   คำถามต่อมาของสิรีทำเอาทั้งสองครอบครัวเงียบกริบ เพราะยังไม่ได้คิดตกลงกันเรื่องนี้มาก่อน สำหรับครอบครัวของวิลเลียมที่มาเมืองไทยนี่ก็แค่ต้องการรับผิดชอบเรื่องที่ลูกชายทำลงไป และสู่ขอสายใยมาเป็นเจ้าสาวให้ชายหนุ่ม ตามที่อีกฝ่ายขอร้องเท่านั้น

   “แหงล่ะ... บิลกับแฟนก็ต้องไปอยู่ด้วยกันที่อังกฤษอยู่แล้ว... ฝ่ายนั้นเป็นฝั่งเจ้าสาว  ตามปกติก็ต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชายไม่ใช่หรือ”

   พี่ชายคนโตของวิลเลียมเอ่ยด้วยภาษาไทยที่แม้จะมีสำเนียงออกฝรั่งไปบ้าง แต่ก็ยังออกเสียงได้ชัดเจน แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายฝึกฝนและเรียนการพูดภาษาไทยมาเป็นอย่างดี

   “ไม่ใช่เรื่องที่ลูกจะตัดสินใจแทนน้องนะ แดน เรื่องแบบนี้ต้องให้บิลกับคนรักของเขาเป็นคนตัดสินใจเอง”

   อัลเบิร์ตบิดาบุญธรรมของวิลเลียมหันไปดุลูกชายของเขาด้วยภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำเช่นเดียวกัน  ส่วนชายหนุ่มที่ถูกดุเบ้หน้าแล้วยืนเงียบไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก จนสายใยนึกหวั่นแต่ก็ต้องชะงักเมื่อมือใหญ่ของคนนั่งข้าง ๆ บีบมือเขาเบา ๆ เป็นกำลังใจ

   “ผมรู้ว่าพี่อยากให้ผมกลับไปอยู่ด้วยกัน ...แต่ผมก็รู้ดีว่า พี่เอสน่ะคงไม่อยากจากเมืองไทยและบ้านหลังนี้ไป ...เพราะฉะนั้น ผมตัดสินใจจะอยู่ที่นี่กับพี่เอสครับ”

   วิลเลียมบอกอย่างหนักแน่น ทำให้สายใยก้มหน้าลงเพื่อหลบใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื้นตันของตน ส่วนแดเนียลนั้นมีสีหน้าบึ้งตึง เขาทำท่าเหมือนจะโต้เถียงอะไรบางอย่าง ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ ตามมาภายหลัง

   “ก็ได้...ฉันยอมรับการตัดสินใจของนาย ...แต่ยังไงก็ต้องแวะกลับมาเยี่ยมที่บ้านบ้างนะ  ถ้านายไม่มา ฉันกับ แอนดี้ แล้วก็ โทนี่ จะมาหานายที่นี่เอง รู้ไหม!”

   แดเนียลบอกกับน้องชายต่างสายเลือดที่เขารักเหมือนกับน้องชายแท้ ๆ  ฝ่ายวิลเลียมนั้นจึงยิ้มให้พี่ชายของเขาแล้วเอ่ยขอบคุณแผ่วเบา

   “ในเมื่อลูกตัดสินใจแล้ว พ่อก็จะยอมรับตามนั้น ...ส่วนเรื่องการแต่งงานพ่ออยากให้ทำพิธีทั้งที่นี่ แล้วไปทำที่บ้านเราทางโน้นด้วย ถึงจะทำพิธีทางศาสนาที่นั่นไม่ได้ แต่พ่อก็อยากจัดงานเลี้ยงขึ้นเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวเราเช่นกัน ...ไม่ทราบว่าพวกคุณจะสะดวกกันไหม”

   ท้ายประโยคอัลเบิร์ตหันไปถามทางครอบครัวของสายใย ซึ่งพวกเขาก็สบตากัน แล้วก็พยักหน้าน้อย ๆ พร้อมรอยยิ้มตามมา

   “ได้ค่ะ ถึงฉันจะกลัวเครื่องบินกับอากาศหนาวอยู่บ้าง แต่งานแต่งลูกทั้งที ยังไงก็คงต้องไป”

   สุดาเป็นฝ่ายตอบคำเชิญชวนนั้นแทนทุกคนในครอบครัว ทำให้อีกฝ่ายยิ้มออก

   “อัลคะ... ถ้าเป็นไปได้ เรื่องตั๋วกับค่าใช้จ่าย...”

   ขวัญตากระซิบบอกกับสามี ซึ่งอัลเบิร์ตก็หันมายิ้มน้อย ๆ แล้วพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปบอกกับสุดา

   “ผมอยากให้ทางคุณระบุรายชื่อญาติพี่น้องและแขกที่จะไปร่วมพิธีว่ามีกี่คน เดี๋ยวทางผมจะดำเนินการทั้งเรื่องการขอวีซ่า และค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเดินทางเองครับ”

   ทุกคนในครอบครัวของสายใยสะดุ้ง แล้วรีบปฏิเสธกันยกใหญ่ด้วยความเกรงใจ แต่อัลเบิร์ตและขวัญตาก็ยังคงยืนกรานตามเดิม ทำให้สุดาต้องหันมาปรึกษากับลูก ๆ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

   “ก็ได้ค่ะ งั้นคนที่จะไปร่วมพิธีทางนั้นก็ขอแค่พวกเราเครือญาติกันเองก็พอค่ะ”

   “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ นี่เป็นงานสำคัญที่จะมีเพียงครั้งเดียวในชีวิตนะครับ”

   วิลเลียมรีบพูดแทนบิดา แต่ทางสมาชิกครอบครัวของสายใยต่างสบตากัน แล้วสายใยจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นแทน

   “เพราะเป็นงานสำคัญครั้งเดียวในชีวิตน่ะสิ... พี่ถึงอยากให้มีเฉพาะคนสำคัญสำหรับพี่จริง ๆ ร่วมงานด้วยเท่านั้น”

   คำพูดของสายใยทำให้วิลเลียมนิ่งเงียบและลอบถอนหายใจเบา ๆ เพราะไม่รู้จะเถียงยังไง ทางด้านอัลเบิร์ตนั้นแย้มยิ้มน้อย ๆ อย่างชอบใจในตัวว่าที่ลูกสะใภ้ ที่สามารถควบคุมลูกชายคนเล็กของเขาได้เสียอยู่หมัดด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคเท่านั้น

   “เป็นคนที่วิเศษเหมือนอย่างบิลบอกไว้เลยนะครับแม่ ...ไม่แปลกเลยที่บิลจะรักจะหลงมาได้ถึงสิบห้าปีแบบนั้น...แถมหน้าตาก็น่ารักกว่าที่เคยคิดเอาไว้เสียอีก”

   แดเนียลกระซิบกับแม่เลี้ยงของเขา ยิ่งพอเห็นตอนสายใยยิ้ม เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าน้องชายตัวเองตาแหลมและตัดสินใจได้ไม่ผิด   

   “นั่นสิจ๊ะ ...แม่เองก็ดีใจที่หนูเอสยังคงเป็นคนเดิมที่บิลรัก ...ถ้าเป็นหนูเอสอย่างตอนนี้ แม่ก็เชื่อมั่นว่า พวกเขาจะสามารถฝ่าฟันความทุกข์ และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขตลอดไป”

   ขวัญตากระซิบตอบ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มพูดคุยตกลงกันเรื่องสินสอดทองหมั้น ซึ่งทางครอบครัวของสายใยไม่ได้เรียกร้องอะไรมากนัก แถมยังช่วยกันคอยปรามเวลาอัลเบิร์ตกับลูก ๆ เสนอค่าสินสอดที่ค่อนข้างจะมหาศาลเกินไปในความคิดของพวกเขา

   และกว่าที่ทั้งสองครอบครัวจะเห็นตรงกันและยอมพบกันครึ่งทาง เวลาก็ผ่านไปจนถึงมื้อเที่ยงพอดี สุดาจึงอาสาทำอาหารเลี้ยงทุกคนที่นี่  โดยที่ก็ไม่มีใครปฏิเสธ โดยเฉพาะครอบครัวของอัลเบิร์ตที่ได้รับการบอกเล่าจากขวัญตาและวิลเลียมว่า ฝีมือทำอาหารของสุดานั้นอยู่ในระดับแนวหน้าเลยทีเดียว



   เมื่ออิ่มหนำสำราญกันดีแล้ว  อัลเบิร์ตและขวัญตารวมไปถึงแดเนียลก็ขอตัวกลับไปเตรียมการเรื่องงานแต่งที่พวกเขากำหนดฤกษ์งามยามดีเอาไว้ ในอีกเดือนข้างหน้า ส่วนวิลเลียมนั้นก็จำต้องกลับไปพร้อมบิดามารดาเพื่อจัดการทั้งเรื่องแต่งงาน และเรื่องที่จะย้ายมาลงหลักปักฐานในประเทศไทยแทน  แต่ชายหนุ่มก็ให้สัญญาว่าจะโทรมาคุยกับสายใยบ่อย ๆ 

   “ไม่ต้องทำหน้าเศร้าขนาดนั้นก็ได้ สิบห้าปียังทนรอมาได้ รออีกแค่ไม่ถึงเดือนคงไม่ตายหรอกมั้ง”

   แดเนียลเอ่ยแซวน้องชายของตนที่นั่งทำหน้าเศร้าซึมมาตลอดทางในรถยนต์คันหรู วิลเลียมฝืนยิ้ม แล้วจึงพยักหน้าเบา ๆ

   “นั่นสิครับ ...รออีกแค่ไม่ถึงเดือน...เฮ้อ! ไม่รู้จะทนไหวไหมเนี่ย แค่ห่างกันแป๊บเดียวก็อยากจะกลับไปกอดพี่เอสจะแย่อยู่แล้ว”

   วิลเลียมบ่นพึมพำ ทำให้บิดา มารดา และพี่ชาย ต้องอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อเห็นอาการตกอยู่ในห้วงรักชนิดที่หนักหนากว่าเดิมเมื่อครั้งที่อีกฝ่ายอยู่อังกฤษเสียอีก

   “สุภาษิตไทยเขาเรียก ...อดเปรี้ยวไว้กินหวาน... ยังไงล่ะลูก พอถึงเวลาเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ ผลที่ได้มันก็ยิ่งรสเลิศและอิ่มเอมมากขึ้นเท่านั้น”

   อัลเบิร์ตบอกพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ส่วนขวัญตานั้นหน้าแดงนิด ๆ เพราะเข้าใจในความหมายแฝงของประโยคที่สามีพูดดี

   “จำแต่เรื่องดี ๆ ทั้งนั้น คราวหน้าจะไม่สอนภาษาไทยให้แล้ว”

   ขวัญตาบ่นเบา ๆ แต่คนนั่งข้าง ๆ ก็ยังคงได้ยิน เขารวบร่างของภรรยามากอดและหอมแก้มเนียนนั้นฟอดใหญ่ จนวิลเลียมนึกอิจฉา และยิ่งทำให้คิดถึงสายใยขึ้นมาอีก แต่เขาก็จำต้องอดทนเอาไว้ เพราะการรอคอยในครั้งนี้ มันไม่ว่างเปล่าเคว้งคว้างเหมือนสิบห้าปีที่ผ่านมาอีกแล้ว

    “อีกแค่หนึ่งเดือนเท่านั้นเองนะครับพี่เอส...”

   วิลเลียมพึมพำ แล้วยิ้มน้อย ๆ อย่างเป็นสุขเมื่อนึกถึงอนาคตที่เขาวาดฝันเอาไว้ ...อนาคตที่จะมีคนสำคัญของเขาคอยเคียงข้างกันตลอดไป



... TBC ...

ตอนนี้ตัดตอนมาสั้น ๆ หน่อยนะคะ พอดีจังหวะมันจบช่วง  ....ส่วนตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วค่ะ (เพิ่งเขียนเสร็จก่อนจะแปะตอนนี้นี่ล่ะค่ะ)   ตอนจบรับรอง ยาว+หวาน ถูกใจแน่ค่ะ   ...จะว่าไปเรื่องนี้เน้นเขียนออกแนวหวาน จีบกันไปมาอย่างเดียวเลยนะเนี่ย สงสัยเรื่องหน้าคงต้องลดน้ำตาลลงบ้างแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวเบาหวานจะถามหากัน  :o8:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: nan239 ที่ 28-06-2012 12:56:24
+1ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษเยอะๆๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 28-06-2012 15:04:06
รอๆๆๆจ้า อ่านไปยิ้มไป
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 28-06-2012 16:36:36
ดีใจจังที่ทุกคนรับได้ไม่มีปัญหาให้ปวดกะโหลก ....... หลังจากนี้ก็รอกินเค้กงานแต่งงาน  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-06-2012 17:36:17
ขอเป็นคนถือขันหมากเอกนะคะ :m13:(ใครจะให้เธอถือยะ :3125:)
"...ขันหมากเอกเลือกเอาที่รูปสวย (ไม่ผ่านละแกน่ะ o12)
นุ่งยกห่มผวยจับผิวหน้า
พร้อมกันทันใดก็ไคลคลา
ครู่หนึ่งถึงท่า... "(อิ อิ  ต่ออีกสามคำเป็นออกทะเลแน่)
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 28-06-2012 18:10:16
ขอให้ราบรื่นและมีความสุขน๊ะ  o18
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 28-06-2012 18:13:43
ขอไปยืนกั้นประตูทองได้มั้ย  :laugh:
จะขอค่าผ่านประตูให้เจ้าบ่าวขนหน้าแข้งร่วงเลย :laugh:
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 28-06-2012 18:16:56
ไร้อุปสรรคเตรียมงานแต่งแล้ว :mc4:
อ่านแล้วสบายใจคลายเครียดดีจังคุณปัด :m18:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก ....ตอนที่ 7 [28/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2012 07:41:23
 o13
เค้าขอกันแล้ว อิจฉาที่สุด รอตอนหน้าอย่างจดจ่อ

ปล.เบาหวานก็ไม่กลัว น้ำตาลน่ะเทมาเลยค่ะ  :laugh:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 29-06-2012 11:11:22

ไม่ได้เขียนถึงตอนแห่ขันหมากนะคะ แต่ใครใคร่จิ้นตัวเองอยู่ในขบวนไปกับนายบิลด้วย ก็ตามสบายเลยค่ะ ส่วนคนเขียนขอจองตำแหน่งคนกั้นประตูเงินประตูทองนะคะ ใครจะมากั้นเป็นเพื่อนก็เชิญค่ะ :laugh:
..
..
เชิญอ่านต่อในตอนสุดท้ายและบทสรุปของเรื่องนี้ได้เลยค่ะ ^^

/8



   งานแต่งงานที่จัดขึ้นในไทย สุดาเชิญเฉพาะเครือญาติ และเพื่อนที่สนิทกันเท่านั้น  ซึ่งจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้อับอายเรื่องที่ลูกชายแต่งงานกับผู้ชายด้วยกัน แต่ไม่อยากให้คนนอกมาซุบซิบนินทาในงานแต่งของลูกชาย  อีกอย่างเธอมั่นใจว่า ถ้าเป็นบรรดาญาติมิตรที่สนิทกันดีแล้ว พวกเขาก็ย่อมยินดีกับลูกชายของเธอจริง ๆ 

    ...และมันก็เป็นดังเช่นที่สุดาคิดไว้ พอพวกเขาได้เห็นหน้าเจ้าบ่าวและได้ทราบว่าครอบครัวของอีกฝ่ายมีฐานะมั่นคงเพียงใด ญาติพี่น้องบางคนถึงกับออกปากว่า ถ้าสายใยเป็นผู้หญิงก็คงยิ่งเหมาะสมกันมากยิ่งขึ้น



   “เฮ้อ...เหนื่อยชะมัด...ถ้ารู้ว่าแต่งงานแล้วเหนื่อยแบบนี้ ไม่แต่งเสียก็ดีหรอก”

   สายใยพึมพำกับตัวเองหลังจากที่เข้าห้องหอมาพร้อมกับวิลเลียม  ส่วนสมาชิกทั้งสองครอบครัว ก็ยังคงดื่มฉลองกันข้างนอกและพูดคุยแลกเปลี่ยนชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างถูกคอและเป็นกันเอง

   “โธ่! พี่ครับ... แต่งน่ะดีแล้ว ใคร ๆ เขาจะได้รู้ว่าพี่เป็นของผมอย่างถูกต้องตามประเพณียังไงล่ะครับ”

   วิลเลียมบอกออดอ้อน แล้วกอดคนที่สวมสูทขาวข้าง ๆ อย่างเอาใจ ทำให้สายใยหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย แต่ก็แกล้งทำเป็นแสร้งดุอีกฝ่ายแก้เขิน

   “เหนื่อยมาทั้งวัน น้ำท่าก็ยังไม่อาบ ยังจะมานัวเนียกอดอยู่ได้ ไม่เหนียวตัวหรือไง”

   “แหม...ก็เป็นบ้างล่ะครับ  แต่ช่วยไม่ได้นี่นา ก็ใครใช้ให้พี่น่ารักเองล่ะ ....พี่แต่งชุดไทยในตอนเช้าก็น่ารัก พอเปลี่ยนมาใส่สูทขาวก็ยิ่งน่ารัก...”

   วิลเลียมพร่ำชมจนคนถูกชมยิ่งหน้าแดงหนัก และกลายมาเป็นหน้าแดงก่ำในประโยคท้ายสุด

   “แต่ผมว่านะ...พี่เอส ตอนที่ไม่ใส่อะไรเลยน่ะ น่ารักที่สุดแล้วล่ะ”

   “ลามกจริง ๆ นะนายน่ะ... ใครสั่งใครสอนให้ลามกแบบนี้กันนะ”

   สายใยอุบอิบบ่น ทั้งที่ตอนนี้หน้าตาแดงก่ำไปหมด จนคนมองต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ และเริ่มที่จะหักห้ามอารมณ์ตัวเองเอาไว้ไม่ไหว

   “ผมจะลามกก็กับแค่คนที่ผมรักคนเดียวนี่ล่ะครับ ...”

   วิลเลียมเอ่ยเสียงแหบพร่าพร้อมกับเริ่มลูบไล้ตามผิวกายของร่างในอ้อมกอดอย่างเสน่หา

   “บิล...เดี๋ยวสิ...อย่าเพิ่ง...”

   สายใยห้ามเสียงสั่น เพราะเขาเองก็เริ่มรู้สึกถึงความต้องการที่ถูกปลุกขึ้นมาบ้างแล้ว

   “พี่ไม่อยากทำกับผมหรือครับ...”

   วิลเลียมออดอ้อนพร้อมใช้สายตามองอย่างน่าสงสาร จนสายใยชะงัก แล้วจึงบอกกลับไปด้วยใบหน้าแดงก่ำและท่าทางเอียงอาย

   “ไม่ใช่ไม่อยาก ...แต่อาบน้ำให้เสร็จเรียบร้อยก่อนสิ...”

   วิลเลียมเบิกตากว้าง แล้วยิ้มอย่างยินดี ก่อนจะลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าทั้งของอีกฝ่ายและของตัวเอง อย่างรวดเร็ว จนสายใยไม่ทันได้ตั้งตัว

   “เดี๋ยว! บิล! พี่ถอดเองได้ ..แล้วทำไมบิลต้องถอดด้วยล่ะ!”

   สายใยโวยวาย เมื่อตนถูกผลักล้มไปบนเตียงและถูกดึงกางเกงชั้นในซึ่งเป็นผ้าชิ้นสุดท้ายที่เหลือติดร่างออกมา ส่วนคนถอดก็รีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดและเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าเช่นเดียวกัน

   “ก็พี่บอกว่าให้อาบน้ำเสร็จก่อนไม่ใช่หรือครับ ...ถ้าอาบทีละคนมันก็ช้าน่ะสิ”

   วิลเลียมบอกแล้วยกยิ้มน้อย ๆ ติดเจ้าเล่ห์ ทำให้คนที่กำลังตกตะลึง กลายเป็นหน้าแดงหนัก แล้วโวยวายตามมาเมื่อถูกอีกฝ่ายรวบร่างดึงตัวเข้าไปห้องอาบน้ำด้วยกัน

   “ไม่ต้องบิล! พี่อาบเองได้!  อ๊ะ! เด็กบ้า อย่าจับตรงนั้นสิ…อ๊ะ...ไม่นะ....บิล...”

   เสียงโวยวายค่อย ๆ กลายเป็นเสียงครางแผ่วเบา และกว่าทั้งคู่จะอาบน้ำให้กันจนเสร็จเรียบร้อย สายใยก็แทบจะหลับลงทันทีที่ร่างของตนถูกพามานอนบนเตียง

   “อื้อ...บิล...พี่เหนื่อย...”

   สายใยบอกตามตรง เพราะเห็นว่าวิลเลียมยังคงพร้อมที่จะเริ่มเกมรักระหว่างพวกเขาได้อีกเรื่อย ๆ

   “เหนื่อยก็หลับไปสิครับพี่...”

   “ตะ...แต่...บิลยัง...”

   สายใยกระดากปากไม่กล้าพูดต่อเมื่อเหลือบเห็นส่วนล่างที่ยังคงแข็งขึงของอีกฝ่าย

   “ไม่ต้องห่วงผมหรอก....พี่เหนื่อยพี่ก็พักเถอะครับ ...เดี๋ยวผมจัดการตัวเองได้อยู่แล้ว”

   วิลเลียมบอกพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยน ทำให้สายใยหน้าแดงวาบ เพราะพอจะเข้าใจถึงความนัยที่สื่อมากับคำพูดนั้น

   “ให้พี่ช่วย...ได้ไหม”

   น้ำเสียงอุบอิบแผ่วเบาที่ดังราวกระซิบ ทำให้วิลเลียมนิ่งอึ้ง ก่อนจะแย้มยิ้มออกมาอย่างยินดี เมื่อสายใยเอ่ยย้ำตามมาอีกครั้ง

   “ขอบคุณครับพี่....ผมรักพี่ที่สุดเลย...”

   และภายในคืนนั้น หลังจากที่ต่างฝ่ายต่างได้ปลดปล่อยจนสบายตัวแล้ว ทั้งสองก็นอนแนบชิดกอดก่ายกันไม่ห่าง จนกระทั่งยามเช้ามาเยือนในที่สุด…

   

    งานแต่งงานในไทยนั้นแม้ว่าจะชวนให้สายใยประทับใจมากแล้วก็ตาม ทว่างานแต่งงานและงานเลี้ยงซึ่งจัดกันเองที่คฤหาสน์ของอัลเบิร์ตที่อังกฤษนั้น ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตื้นตันและปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด เมื่อครอบครัวของคนรัก ได้มอบของขวัญวันแต่งงานที่แสนจะเซอร์ไพรส์ให้ เป็นบ้านหลังเล็กที่สร้างไว้ในพื้นที่สวนหลังคฤหาสน์เพื่อมอบให้ทั้งคู่สำหรับอนาคต หากพวกเขาอยากจะกลับมาพักผ่อนที่อังกฤษแห่งนี้ 

   “บ้านในฝันชัด ๆ ออยก็อยากได้แบบนี้สักหลังไว้สำหรับตอนพวกเราแก่เฒ่า จะได้อยู่กันสองคนตายาย คุณว่าดีไหมคะที่รัก”

   สิรีบอกกับสามีของเธอพลางมองบ้านตรงหน้าอย่างชื่นชม เช่นเดียวกับคนอื่น ๆ ที่เพิ่งได้เห็นบ้างหลังนี้  แม้ว่าจะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่มีพื้นที่เพียง 60 ตารางวา  แต่ด้านในนั้นถูกตกแต่งดีไซน์ด้วยเครื่องเรือนอย่างดี  มีมุมห้องทำงานซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ในสวน เหมาะสำหรับนักเขียนอย่างสายใยยิ่งนัก 

    ส่วนห้องนอนก็ถูกตกแต่งอย่างราบเรียบแต่ติดหรู ตามรสนิยมของวิลเลียม เครื่องเรือนเป็นแบบสั่งทำให้เข้ากับตัวห้อง แถมเตียงนอนขนาดคิงไซส์ยังถูกใจวิลเลียมอย่างมาก  โดยเฉพาะส่วนของห้องอาบน้ำภายในห้องนอน  ที่กว้างขวางปลอดโปร่ง แถมยังมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่พอที่จะลงไปแช่กันสองคนสบาย ๆ ตั้งอยู่ติดกับบานกระจกใส สามารถเปิดมู่ลี่ไม้ไผ่ เพื่อชมวิวในสวนได้อีกต่างหาก

   “ห้องนี้เจ๋งจริง ๆ เลยครับ ฝีมือพี่ออกแบบใช่ไหมโทนี่”

   วิลเลียมหันไปถามพี่ชายคนที่สอง ซึ่งแอนโทนีก็ยักไหล่แล้วยิ้มน้อย ๆ ให้

   “เฮ้! ไม่ใช่แค่โทนี่ที่ออกแบบให้นายนะบิล  ฉันก็ช่วยออกแบบห้องครัวให้ด้วย  ตามมาดูสิ”

   พี่ชายคนที่สามรีบเอ่ยขัดขึ้น ทำให้ทุกคนที่มองอยู่หัวเราะเบา ๆ แล้วเดินตามอีกฝ่ายที่แสนกระตือรือร้นนำหน้าไปโชว์ผลงานของเขาบ้าง

   “ว้าว...สวยจังเลยจ้ะ แหม…ถ้าป้าจะขอให้หนูไปช่วยออกแบบห้องครัวที่บ้านให้ จะได้ไหมจ๊ะเนี่ย”

   เคาน์เตอร์เข้ามุมซึ่งถูกออกแบบให้เข้ากับตัวบ้าน และเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์ทำอาหารแทบทุกอย่างให้เลือกสรร ทำให้สุดาถึงกับออกปากด้วยความชื่นชม จนคนออกแบบยิ้มหน้าบานแล้วหันไปบอกกับหญิงสาวทันที

   “ได้อยู่แล้วครับ ไว้ผมได้วันหยุดเมื่อไหร่ ผมจะบินไปไทยหาคุณป้าเลยดีไหมครับ ...แล้วผมก็อยากกินแกงมัสมั่นฝีมือคุณป้าอีกครั้งด้วย”

   อังเดรรีบอ้อนเป็นภาษาไทยตอบ ทำให้แอนโทนีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หมั่นไส้

   “เห็นแก่กินจริงนะนาย”

   “ก็ฝีมือป้าดาทำอร่อยนี่นา ...วันงานแต่งที่ไทย ฉันเห็นนะ นายนั่งเฝ้าถ้วยแกงไม่ยอมแบ่งให้ใครเหมือนกันไม่ใช่รึ!”

   อังเดรแย้งพี่ชาย ทำให้แอนโทนีหันมาจ้องเขม่น ๆ  เพราะความที่ทั้งคู่อายุใกล้เคียงกันจึงมักชอบมีปากเสียงกันบ่อย แต่เวลาเข้าขา ก็มักสนิทกันยิ่งกว่าใคร

   “พอ ๆ มาทะเลาะกันเพราะเรื่องกินขายหน้าจะตาย  ...ว่าแต่โต๊ะอาหารในห้องมันจะใหญ่ไปหน่อยไหมแอนดี้ ฉันว่ามันนั่งกันได้ทั้งครอบครัวเราเลยนะนั่น”

   แดเนียลเอ่ยขัด แล้วทักตามด้วยความสงสัย อังเดรหันมาทางพี่ชาย แล้วยกยิ้มน้อย ๆ อย่างเจ้าเล่ห์

   “ก็ใช่สิพี่ ผมตั้งใจแบบนั้นนั่นล่ะ ถ้าสองคนนี่กลับมาเมื่อไหร่ พวกเราก็จะมากินข้าวด้วยกันที่นี่ด้วย ...เอสเองก็คงทำอาหารเก่งเหมือนป้าดาใช่ไหมล่ะครับ”

   อังเดรหันไปถามสายใยอย่างคาดหวัง ทำเอาสายใยสะดุ้ง แล้วฝืนยิ้มตอบกลับไป

   “ถ้าเป็นอาหารจานไข่ ก็พอไหวครับ”

   คนฟังที่แสนจะไม่ชอบกินไข่เงียบกริบ แล้วลอบถอนหายใจ ก่อนจะฝืนยิ้มน้อย ๆ กับน้องสะใภ้ของตน

   “งั้นไม่เป็นไร  เดี๋ยวให้บิลทำให้กินแทนก็ได้”

   “ครับ ๆ เดี๋ยวระหว่างอยู่เมืองไทย ผมจะไปฝึกวิชาทำอาหารกับป้าดามาแล้วกัน”

   วิลเลียมตัดบท เพราะเห็นสีหน้าอาย ๆ ของคนรัก ทว่าคำพูดของน้องชายก็ทำให้บรรดาพี่ชายทั้งสามยินดีกันออกนอกหน้า

   “เฮ้อ! ลูก ๆ พวกนี้นี่ จะอายุกี่ปีก็ยังเป็นเด็กไม่เปลี่ยน”

   อัลเบิร์ตบ่นเบา ๆ แต่เกรียงไกรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พอได้ยินก็ทำให้เขาหัวเราะในลำคอ แล้วจึงเปรยตอบ

   “สำหรับพ่อแม่ ต่อให้ลูกจะอายุมากแค่ไหน พวกเขาก็ยังคงเป็นเหมือนเด็กเล็ก ๆ ให้เราห่วงอยู่ดีนั่นล่ะครับ”

   อัลเบิร์ตหันมาทางบิดาของลูกสะใภ้ แล้วจึงพยักหน้าพร้อมยิ้มตอบ

   “นั่นสิครับ ผมก็ว่าอย่างนั้น”

   จากนั้นพวกเขาก็พากันกลับไปงานเลี้ยงในสวนกว้างหน้าบ้านกันต่อ และต่างแยกกันไปสนทนาตามประสาหนุ่มสาวและคนสูงวัย

   

   “ตอนที่ผมรู้เรื่องหนูเอสครั้งแรก เพราะผมเห็น บิลพยายามเขียนจดหมายไปหาใครบางคนที่อยู่เมืองไทย  แต่คำลงท้ายที่ว่าจะไปรับหนูเอสมาเป็นเจ้าสาวนี่สิ ทำเอาผมในตอนนั้นนึกขำ ...แต่พอลองคุยกับเขา มันก็ทำให้ผมรู้ว่าเด็กนั่นเอาจริง ...เขาจริงจังจนผมเริ่มนึกกังวล ผมเลยพยายามเกลี้ยกล่อมเขา แต่เขาก็ไม่ฟัง ผมจึงนึกวิธีบางอย่างขึ้นมา จากนั้นจึงยื่นเงื่อนไขว่า ถ้าเขายอมไม่ติดต่อกับหนูเอสจนกระทั่งเรียนจบปริญญา ผมถึงจะยอมรับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ และยอมรับว่าบิลนั้นรักหนูเอสจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลง ...ตอนนั้นผมยอมรับนะ ว่าผมก็แค่หลอกให้ลูกเลิกติดต่อกับหนูเอส เพื่อที่จะได้ลืมไปเอง ...แต่ผมก็ไม่คิดว่า เขากลับทำตามสัญญาที่ให้ไว้จนสำเร็จ ...เพราะอย่างนั้น ผมก็เลยคัดค้านเขาไม่ได้ ตอนที่เขาบอกว่าจะไปหาหนูเอส เพื่อทำตามสัญญาสมัยเด็ก”

    อัลเบิร์ตเล่าถึงความหลังที่ผ่านมา ทำให้ครอบครัวของสายใยได้รับรู้ถึงความพยายามอดทนฝ่าฟันอุปสรรคของวิลเลียม และนึกชื่นชมในตัวของชายหนุ่มมากยิ่งขึ้น

   “ตอนที่บิลมาขออัลไปพบหนูเอสที่เมืองไทย พวกแดนก็อยู่ด้วย  ฉันจำได้เลยว่าวันนั้นพวกเขาทะเลาะกันใหญ่โตจนฉันตกใจ ...ไม่ใช่ว่าพวกพี่ชายของบิลจะรังเกียจหนูเอสหรอกนะคะ  แต่พวกเขารักและเป็นห่วงน้องชายจนเกินไป ...พวกคุณก็น่าจะทราบดี เรื่องความรักของเพศเดียวกัน ใช่ว่ามันจะราบรื่นไปหมดทุกคู่...มีหลายคู่ที่ทนต่อกระแสกดดันของครอบครัว สังคม และคนรอบข้างไม่ไหว จนต้องเลิกรากันไปอย่างเจ็บปวดก็มี ...พวกพี่ชายของบิลจึงไม่อยากให้น้องต้องเป็นแบบนั้น”

   ขวัญตาเสริมขึ้นมา แล้วถอนหายใจเบา ๆ แต่ทางสุดา และเกรียงไกร รวมไปถึงสิทธาและสิรีที่นั่งฟังอยู่ต่างพยักหน้ารับรู้ และเข้าใจในตัวพี่ชายของวิลเลียมดี เพราะพวกเขาเองแต่แรกก็คิดแทบไม่แตกต่างกันนัก แต่พอเห็นความรักและความจริงใจที่วิลเลียมมีให้กับสายใย มันจึงทำให้พวกเขายอมรับทั้งคู่ได้อย่างไม่ยากเท่าใด

   “แต่สุดท้ายบิลก็ทำให้พวกเรายอมรับจนได้... สิบห้าปีมันไม่ใช่เวลาน้อย ๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ ...การที่คนคนหนึ่งยังมั่นคงต่อคนเพียงคนเดียวมาตลอด ...เท่านั้นมันก็เป็นคำตอบถึงความจริงใจที่ลูกชายฉันมีต่อหนูเอสได้แล้ว ...แต่ตอนนั้นพวกเราก็ยังห่วงแค่ว่า ทางหนูเอสจะยอมรับบิลไหมเท่านั้น”

   หญิงสาวเปิดใจเล่าเรื่องฝั่งลูกชายของเธอให้ครอบครัวของสายใยฟัง เพราะเธออยากจะตอกย้ำให้ทุกคนมั่นใจในตัวของวิลเลียมให้มากยิ่งขึ้น ...เพราะถึงแม้จะผ่านพิธีการแต่งงานแล้ว แต่ชีวิตคู่นั้นมันไม่ง่ายอย่างที่ทุกคนเคยวาดหวัง อาจจะมีการกระทบกระทั่งผิดใจกันได้ แต่เธอเชื่อมั่นว่า ความจริงใจตลอด 15 ปีที่ลูกชายเธอมี จะทำให้อุปสรรคทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ดีในที่สุด

   “ไม่ต้องห่วงหรอกครับน้าขวัญ...เอสน่ะถ้าลองยอมรับใครสักคนแล้ว ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็จะยังเชื่อมั่นและไว้ใจคนคนนั้นไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่ ....เพราะฉะนั้นผมมั่นใจว่า พวกเขาจะต้องผ่านอุปสรรคในชีวิตคู่ไปด้วยกัน และครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไปอย่างแน่นอน”

   สิทธาเอ่ยขึ้นอย่างพอที่จะคาดเดาความกังวลของอีกฝ่ายได้ คำพูดของชายหนุ่มทำให้ทั้งสองครอบครัวมีรอยยิ้มตอบรับ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นพูดคุยสนทนาถึงเรื่องราวในอนาคตหลังจากนั้น รวมไปถึงโครงการท่องเที่ยวพักผ่อนเยี่ยมเยียนครอบครัวของทั้งสอง สลับกันในแต่ละปีหลังจากนี้ในอนาคตอีกด้วย

   

   อีกด้านหนึ่ง สายใยกำลังนั่งคุยกับพี่ชายทั้งสามของคนรัก พวกเขาสนิทสนมกันอย่างรวดเร็วจนวิลเลียมชักเริ่มไม่สบอารมณ์

   “พอได้แล้ว...พวกพี่จะคุยอะไรกับพี่เอสนักหนา”

   วิลเลียมรวบร่างของสายใยมากอดแน่น จนคนถูกกอดหน้าแดง ส่วนพี่ชายทั้งสามพอเห็นก็พากันโห่ใส่อย่างรู้สึกขำปนหมั่นไส้

   “จะหึงอะไรกันบิล! พวกพี่ไม่แย่งแฟนนายหรอกน่า”

   แดเนียลบอกกึ่งหัวเราะ ทำให้สายใยยิ่งรู้สึกเขินมากยิ่งขึ้น

   “บิล... ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”

   สายใยดุใส่คนรักเบา ๆ จนอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยร่างในอ้อมกอดอยู่ดี

   “ถ้าไม่ปล่อย...คืนนี้พี่จะไปนอนอีกห้องนะ”

   คำขู่ถัดมาทำเอาคนฟังชะงัก แล้วรีบปล่อยมืออย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แถมยังทำหน้าหงิกงอแล้วเมินไปทางอื่นอย่างน้อยใจอีกด้วย

   “อ้าว ๆ งอนเสียแล้วน้องฉัน ...อย่าเสียเวลาง้อเด็กเลยครับเอส  ไปสมทบกับพวกเราทางโน้นแทนดีกว่า”

   อังเดรที่อายุพอ ๆ กับสายใย เอ่ยชวนชายหนุ่มให้ไปรวมกลุ่มกับทางบิดาของเขา แต่สายใยเริ่มลังเล และพอยิ่งเห็นวิลเลียมงอนมากขึ้นกว่าเดิม เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วยิ้มตอบคนชวน

   “ไว้เดี๋ยวผมตามไปนะครับ...”

   วิลเลียมชะงักกลั้นยิ้มไว้เต็มที่ รู้สึกดีใจที่สายใยเห็นเขาสำคัญกว่า ส่วนพี่ชายทั้งสามต่างสบตากัน แล้วยักไหล่ พลางอมยิ้มอย่างนึกเอ็นดู  ก่อนจะขอตัวเดินไปรวมกลุ่มกับพวกของอัลเบิร์ต ทิ้งให้คู่รักปรับความเข้าใจกันตามลำพัง

   “บิล...โกรธจริง ๆ หรือ...ไม่อยากเห็นหน้าพี่แล้วสินะ”

   ท้ายประโยคน้ำเสียงฟังดูแผ่วลงจนคนฟังใจหาย เลิกแกล้งงอนพลางรีบหันขวับกลับมาอย่างตกใจ

   “ไม่นะครับ! …พี่เอส...แกล้งกันหรือเนี่ย...”

   วิลเลียมที่หันมาเห็นใบหน้ายิ้ม ๆ ของคนรักต้องมุ่ยหน้า รู้สึกเสียท่าที่ถูกหลอกเอาแบบนี้

   “เอาคืนต่างหาก อยากชอบแกล้งพี่ก่อนนักนี่”

   สายใยบอกขำ ๆ และเมื่อเห็นอีกฝ่ายเตรียมจะงอนซ้ำ เขาก็ถอนหายใจเบา ๆ แล้วชะโงกหน้าไปจูบแก้มของคนรักฟอดใหญ่

   “พี่บอกแล้วไง ว่าพี่จะชดใช้เวลาสิบห้าปีของบิลเอง ...เพราะฉะนั้นบิลก็เลิกกังวลไร้สาระว่าพี่จะเปลี่ยนใจได้แล้ว ...คนที่พี่จะรักต่อจากนี้และตลอดไป มีแค่คนตรงหน้าพี่คนนี้คนเดียวเท่านั้นล่ะนะ”

   วิลเลียมนิ่งอึ้ง เม้มปากแน่น ก่อนจะกอดรัดร่างโปร่งตรงหน้าอย่างรักใคร่ แค่คำพูดนี้ของสายใย มันก็ทำให้สิบห้าปีที่ผ่านมาของเขาคุ้มค่าและไม่ว่างเปล่าอีกต่อไป

   “ผมรักพี่นะพี่เอส... ไม่ว่าเมื่อก่อน วันนี้ และวันพรุ่งนี้ต่อไปเรื่อย ๆ  ผมก็จะรักพี่แค่คนเดียวเท่านั้น...ผมสัญญา”

   วิลเลียมพึมพำพลางกอดสายใยแน่นอย่างไม่เกรงสายตาใคร  ส่วนสายใยนั้นหน้าแดงระเรื่อด้วยความอาย  แต่พอเหลือบไปมอง ก็เห็นคนอื่น ๆ ที่มองกลับมายิ้มน้อย ๆ  ทว่าไม่มีใครโห่แซวหรือขัดจังหวะ แต่ต่างพากันพยักหน้า และเดินกลับเข้าไปคุยในบ้านกันต่อ ปล่อยให้ทั้งสองนั่งคุยกระหนุงกระหนิงตามประสาคนรักต่อจากนั้นไปเรื่อย ๆ  จนกระทั่งได้เวลาอาหารเย็น  ทั้งคู่จึงกลับเข้าบ้านไปร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวของพวกเขา และพูดคุยสัพเพเหระกันอย่างมีความสุข ตลอดมื้อเย็นนั้น

   
........


หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Xenon ที่ 29-06-2012 11:13:46




...บทส่งท้าย...



   หลังกลับมาจากงานเลี้ยงแต่งงานที่อังกฤษ สายใยและวิลเลียมก็เดินทางต่อกันตามลำพัง เพื่อไปฮันนีมูนที่บ้านพักส่วนตัวริมทะเล ซึ่งเป็นสมบัติที่อัลเบิร์ตซื้อให้ลูกชายและสะใภ้ของตนที่เมืองไทยเมื่อเดือนก่อน พวกเขาใช้เวลาดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่นั่นเกือบอาทิตย์ จนในที่สุดวันพรุ่งนี้ก็ถึงวันกลับบ้านที่กรุงเทพฯ จนได้

   “ไม่อยากกลับเลย ...อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแบบนี้เรื่อย ๆ จังนะครับ”

   วิลเลียมพึมพำพลางกอดร่างโปร่งที่ยืนเหม่อชมวิวทะเลในยามเย็น สายใยยิ้มน้อย ๆ แล้วจึงเบี่ยงกายหันมาเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย

   “ชอบทะเลมากกว่าบ้านที่กรุงเทพฯ อย่างนั้นหรือ”

   วิลเลียมมองหน้าคนถาม แล้วจึงยิ้มน้อย ๆ ตามมา

   “ชอบทุกที่ที่พี่อยู่ด้วยมากกว่าครับ ... ขอโทษทีครับ พอดีผมรู้สึกมีความสุขมาก จนเกิดกลัวการเปลี่ยนแปลงขึ้นมา...”

   สายใยมองคนรักซึ่งอ่อนวัยกว่าของเขาด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แล้วจึงลูบไล้ใบหน้าหล่อเหลานั่นแผ่วเบา

   “บิล...บางทีคนเราก็หลีกหนีอุปสรรคที่ไม่อยากเจอไปไม่พ้นหรอกนะ ...มันอาจจะมีเรื่องหนักหนา เรื่องกวนใจเข้ามาในชีวิต  ...ถึงพวกเราจะเคยสนิทกันมาก่อนในตอนเด็ก  ถึงบิลจะรักพี่มาตลอดสิบห้าปี แต่ช่องว่างระหว่างวัย และระยะห่างที่เราไกลกันมาตลอด แน่นอนว่ายังไงก็คงจะก่อเกิดปัญหาให้ชีวิตคู่ของพวกเราสักวัน”

   วิลเลียมชะงัก ทำท่าจะแย้งกลับไป แต่ก็ต้องเงียบฟัง เพราะนิ้วของสายใยเลื่อนมาแตะเบา ๆ ที่ริมฝีปากของเขา

   “พี่รู้...ไม่ว่ายังไงบิลก็จะอดทนพยายามเพื่อพี่ ...แต่ถ้าวันไหนบิลรู้สึกว่าบิลทนไม่ไหว บิลเหนื่อย อยากจะบอกใครสักคน ...ก็อย่าให้เก็บความทุกข์เหล่านั้น เอาไว้กับตัวเองเพียงลำพังเด็ดขาด...”

   สายใยหยุดเว้นวรรคน้อย ๆ แล้วแย้มยิ้มอ่อนโยนยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะซบศีรษะลงไปกับแผ่นอกกว้างนั้น

   “ไม่ว่าปัญหา อุปสรรคนั้นจะเกิดจากสิ่งใดก็ตาม ...ขอให้พี่ได้รู้ ได้มีส่วนช่วยแบ่งเบา ให้สมกับเป็นคนรักที่บิลภูมิใจ และเฝ้าคิดถึงตลอดมาสิบห้าปีนี้ ...จะได้ไหม”

   วิลเลียมน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจต่อคำพูดของสายใยนิ่งนัก ...ก่อนหน้านั้น เขาเชื่อว่าสายใยนั้นยังคงไม่ได้รักเขามากเท่าที่เขาเป็น ชายหนุ่มเพียงแค่ใจอ่อนต่อความรักที่เขามีให้ก็เพียงเท่านั้น และนั่นก็ทำให้เขาเกิดความระแวงว่าอีกฝ่ายจะหมดรักเขาในสักวันตลอดเวลา ...ทว่าวันนี้หลังจากได้ยินสิ่งที่สายใยเอ่ยกับเขา ความกังวลเหล่านั้นก็เริ่มเลือนรางหายไปจากหัวใจของเขาทีละน้อย

   “พี่เอส...ผมรักพี่นะครับ...รักมากที่สุด”

   สายใยยิ้มน้อย ๆ กับแผ่นอกกว้าง รู้สึกถึงน้ำเสียงสะอื้นของอีกฝ่าย เขากอดตอบวิลเลียมแน่นขึ้น แล้วพึมพำกลับไป

   “พี่ก็รักบิลนะ ...อาจจะดูเหมือนไม่มากเท่ากับรักที่บิลให้พี่ ...แต่รักของพี่ที่มีให้กับบิล มันจะมีแต่เพิ่มขึ้นทีละน้อย  และไม่มีวันลดลงเด็ดขาด ...พี่สัญญา”

   วิลเลียมยิ้มทั้งน้ำตาอย่างเป็นสุข เขากอดร่างของคนที่เขารักมากที่สุดไว้เนิ่นนาน จวบจนกระทั่งท้องฟ้ารอบกายเริ่มมืดลง

   “เข้านอนกันเถอะบิล ...พรุ่งนี้ขับรถกลับกรุงเทพฯ จะได้ไม่เพลียมาก”

   สายใยตัดบทแล้วยิ้มหวาน ทำให้คนที่เตรียมจะขออะไรบางอย่างชะงัก หุบยิ้มแล้วถอนหายใจแทน

   “ก็ได้ครับ...แต่ถ้ากลับถึงกรุงเทพฯ แล้วล่ะก็ ....”

   ชายหนุ่มค้างไว้แล้วแย้มยิ้มเจ้าเล่ห์จนสายใยเสียวสันหลังวาบ ก่อนจะอุบอิบตอบไปทั้งที่ใบหน้าแดงระเรื่อ

   “ง่า...ไว้ถึงกรุงเทพฯ ก่อนแล้วกันนะ...”

   “หึ ๆ ได้เลยครับ ถ้าอย่างนั้นก็รีบเข้านอนดีกว่าครับ พรุ่งนี้จะได้ออกเดินทางแต่เช้าเลย”

   วิลเลียมบอกด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น จนสายใยชักเริ่มหวาด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังคงมั่นใจได้ว่า พอเวลานั้นมาถึงจริง ๆ คนข้างกายเขา จะต้องอ่อนโยนต่อเขา และทำให้เขามีความสุขอย่างแน่นอน

   จากนั้นทั้งสองก็เข้านอนกันแต่หัวค่ำ ทั้งคู่พูดคุยหยอกล้อกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุด เสียงลมหายใจสม่ำเสมอก็ดังขึ้นจากร่างโปร่ง และทำให้อีกคนที่เหลืออยู่อมยิ้ม วิลเลียมกระชับอ้อมกอดรั้งร่างนั้นมาไว้ใกล้ ๆ แล้วสักพักเขาจึงหลับตามไปในเวลาถัดมา อย่างมีความสุข...





...END…



จบไปแล้วสั้น ๆ สำหรับเรื่องนี้ ^^"  ขอบคุณนักอ่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่าน ถึงแม้จะเป็นเรื่องออกแนวเรื่อย ๆ ไร้อุปสรรค ดูเฉื่อยชาไปสักหน่อย แต่ถ้ามันสามารถทำให้นักอ่านมีรอยยิ้มได้ ปัดก็รู้สึกดีใจมากแล้วค่ะ ขอบคุณจริง ๆ นะคะ

ไว้พบกันใหม่เรื่องหน้าค่ะ ^^ จะพยายามปั่นเรื่องยาวมาลงให้อ่านกันนะคะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 29-06-2012 11:32:21
ขอบคุณคุณปัด :L2:
อ่านสบายๆจบแล้วเสียดายจัง
รอติดตามผลงานต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: MiSS-U ที่ 29-06-2012 12:15:10
 o13

น่ารักมากเลยคู่นี้ พี่เอสกับบิล  :กอด1:

 :pig4:

คุณปัดที่ลงเรื่องน่ารักๆให้ได้อ่านกันนะคะ

+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-06-2012 13:15:57
เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วอิ่ม

ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 29-06-2012 14:26:20
  :กอด1: หนูปัดพร้อมยื่น  :L2:ให้ และคำว่า"ขอบคุณค่ะ"
สำรับเรื่องสั้นที่อ่านแล้วให้อารมณ์ชื่นมื่นและความรู้สึกสุขใจ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: pattybluet ที่ 29-06-2012 14:48:37
อ่านเรื่องนี้แล้วได้อมยิ้มตลอดทั้งเรื่องเลย ชอบมากเลยค่ะ
บวกนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 29-06-2012 15:40:49
อ่านไปยิ้มไป มีความสุขอ่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-06-2012 17:10:17
อดอิจฉาพี่เอสไม่ได้ ที่บิลทั้งรักทั้งหลงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 29-06-2012 18:44:52
 :กอด1: :กอด1: :z2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: rinia ที่ 29-06-2012 19:49:03
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 30-06-2012 08:53:16
รอจ้ารอๆ :z2:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Ju ที่ 30-06-2012 12:47:03
+1 จบแบบ Happy Ending o13
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 03-07-2012 23:09:02
น่ารักจริงๆ คู่นี้
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 03-07-2012 23:36:39
สัญญา. สายใย เชื่อมใจรักจริงๆ o13
ผลิตผลงานใหม่ๆออกมาให้ได้อ่านอีกนะ
 :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-07-2012 23:36:48
รักแท้มีอยู่จริง

น่าอิจฉาจังครับ ^^
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 04-07-2012 05:55:30
อิจฉาสายใยนะรู้ไหม  :o8:
แต่งงานมันดีอย่างนี้เอง น้องบิลก็น่ารักเสมอต้นเสมอปลาย :-[
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 04-07-2012 10:48:14
หวานกันจนน่าอิจฉา ดีใจแทนบิลกับเอสที่ครอบครัวของทั้งสองต่างยอมรับ

+1+เป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 04-07-2012 11:33:06
นุ่มนวลอ่อนโยนดีจังเรื่องนี้ น่ารักค่ะ พระเอกมั่นคงมว๊ากกกก อยากอ่านพิเศษจัง อยากเห็นใครคนใดคนนึงหึงงงง อิอิ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: zetsubo ที่ 06-07-2012 23:49:11
น่ารักอะ >< อ่านแล้วชอบเลยค่าาา อิอิ

พระเอกมั่นคงน่ารักดีจัง >< นายเอกเราก็น่ารัก >< โอ๊ย อ่านแล้วเขิน 55555
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 11-07-2012 00:29:47
บิลน่ารักมาก ๆ เลย เอสก็น่ารักดี พี่ชายบิลท่าทางจะติดใจรสมือแม่เอสเข้าแล้วนะนั่น
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 15-07-2012 15:04:53
หวานมาก  บิลมั่นคงสุดๆเลย นี่สินะที่เรียกว่ารักแท้

ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Rein_Force ที่ 15-07-2012 15:47:33
ขอให้มีความสุขด้วยกันตลอดไปปป   o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: mamaNUT ที่ 15-07-2012 21:25:55
 :L2:อ่านสบายๆ สไตล์ของ Xenon เค้าหล่ะ...เนื้อเรื่องกระชับ  ที่มาที่ไปชัด อารมณ์ไม่สะดุด

รอเรื่องต่อไปจ้าาาาาาาา
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Hikaru23 ที่ 15-07-2012 22:56:31
น่ารักอ่า..อ่านไปยิ้มไป แต่บิลนี่เจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: imissyou ที่ 16-07-2012 01:59:59
เรื่องนี้นจัดเป็นของหวาน หลังจากอ่านอะไรที่หนัก ๆ มา

ทำให้รู้สึกผ่อนคลายนะคะนะ  o13

หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 16-07-2012 11:18:56
ขอบคุณสำหรับ "ความสุข" ที่มอบให้นะครับ อ่านแล้วอิ่มเอมที่สุด

ขอบคุณครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: ladymoon_yy ที่ 21-07-2012 17:58:07
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 21-07-2012 23:06:22
เป็นเรื่องที่ไปเรื่อยๆ แต่อ่านแล้วมีความสุขมากๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 22-07-2012 19:21:15
 o13
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 23-07-2012 02:50:20
อ่านแบบมีความสุข ไม่หวือหวา แต่มันก็น่ารักดีค่ะ ชอบจัง ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-07-2012 11:57:32
หวานๆ เรื่อยๆ อ่านแล้วสุขใจจัง

ขอบคุณมากมายจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 24-07-2012 02:16:17
 :กอด1: น่าฮัก น่ากอดจริงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 24-07-2012 08:34:47
ฮิ้ววววว น้องปอมน่ารักเชียวว ชอบอ่าาา

หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 04-08-2012 20:39:53
ปอมโตขึ้นมา รวบหัวรวบหางซะเลย คิคิ

อ่านอเเล้วมีความสุขมากๆ เลยค่ะ

+1
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 08-08-2012 08:39:46
หวานซะ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 05-09-2012 14:00:59
ขอบคุณค่ะ  :pig4: หลังจากอ่านจบคิดว่า จะไปคลินิคสักหน่อย ไปหายาลดน้ำตาลในเลือดมากินดีฟ่า โฮ๊ะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 07-11-2012 01:35:42
อิจฉาพี่เอส
 :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 07-11-2012 18:54:12
น่ารักจริงๆน้า
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 28-11-2012 12:56:41
 :L2:รักแล้วรอหน่อย
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 02-12-2012 19:04:38
 :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 23-02-2013 23:52:44
 :m3: น่ารักจังเลย
แต่เดี๋ยวนี้จะหาคนที่รักมั่นรักจริงแบบนี้ยากอ่ะ  :o11:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Black Orlov ที่ 27-02-2013 22:12:43
เรื่องนี้น่ารักจัง อ่านแล้วก็เขินนนนน
น้องปอมตัวน้อยคนนั้นกลับมาหาพี่เอส
อยากให้มีพาร์ทตอนเด็กเยอะๆ
เราชอบเวลาเด็กพูดเจื้อยแจ้ว อ้อนนู่นนี่ น่ารักดี 555
ยังกดบวกไม่ได้ บวกเป็ดแทนนะคะ ขอบคุณค่ะ :')
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-03-2013 04:46:52
น่ารักจัง

เป็นความรักที่มั่นคงมาก ชอบจังเลย

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yong ที่ 16-04-2013 12:42:36
เป็นเรื่องหนึ่งที่อ่านแล้วรู้สึกดีมีคว่ามสุขมาก  ขอบคุรผู้เขียนนะครับ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: yong ที่ 19-04-2013 13:42:25
อ่านแล้วมีความสุข คู่น่ารักดี ขอบคุณครับสำหรับความสุขที่ได้อ่าน ให้มีความสุขเช่นกันนะครับ :mew1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 19-04-2013 16:17:32
น่ารักมาก  อ่านแล้วรู้สึกสุขใจ เพราะไม่มีดราม่าอะไร 
ชอบอ่ะ!   :mew1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 07-05-2013 12:42:29
 :-[ :-[ :-[ :-[บิลน่าารักมากกกกกกกกกกกกอะอิดฉาเอส :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-01-2014 22:32:25
รักมั่นคงมาก อิจฉา อิอิ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 17-04-2015 09:21:13
น่ารักโรแมนติคมากเลย พี่เอส กับ บิล
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: Aomampapeln ที่ 25-04-2015 19:37:27
ยิ้มจนปวดแก้มไปหมดละ...น่ารักจริงไรจริง :-[ :-[
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 24-02-2016 12:24:17
 :pig4: :pig4: :pig4:เป็นอะไรที่อ่านแล้วยิ้มได้ทั้งเรื่องอบอุ่นด้วยความรักของบิลและเอสจริงๆ
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 28-02-2016 20:52:41
น่ารักอ่ะ บิลเอส
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 29-02-2016 01:29:00
น่ารักดีอ่ะ หวานนนนน :mew1:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 29-02-2016 02:27:21
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: labelle ที่ 10-05-2016 03:17:39
15 ปี ยาวนานมากค่ะ

บิลมั่นคงมาก มั่นใจมากว่าเอสไม่มีใคร
คือถ้ามี บิลคงตามเช็คทุกคน 5555
น่ารักมากค่ะ สลับบทกันซะงั้น พี่เอสน้องปอม
หัวข้อ: Re: สัญญา สายใย เชื่อมใจรัก (นิยายขนาดสั้น) ....ตอนที่ 8+บทส่งท้าย [29/6/2555]
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 09-02-2017 13:04:23
 :o8: :-[