พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: tonkhaw ที่ 03-02-2012 09:12:56

หัวข้อ: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 03-02-2012 09:12:56
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


หัวข้อ: Re: มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 03-02-2012 09:14:34
ตอนที่๑

นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของคนเขียนเลยครับ อ่านเเล้วขอกำลังใจด้วยนะครับ ผิดดพลาดตรงไหนก็ติกันได้คนเขียนจะพยายามเเก้ไขให้ ขอบคุณครับ




         กลุ่มคณะสำรวจกลุ่มเล็กๆเดินเข้าเข้าสู่ป่าดิบชื้นที่อยู่บริเวณภาคใต้ของประเทศ เพื่อทำการสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ รวมถึงความหลากหลายของสัตว์ที่อาศัยในผืนป่าแห่งนี้ พรานอ่ำ เป็นพรานที่คณะเดินทางได้จ้างจากในหมู่บ้าน
เพื่อนำทางพวกเขาด้วยราคาที่ไม่สูงเท่าไรนัก เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะคุยโม้ โอ้อวดไปเสียหน่อยแต่ด้านการเดินป่านี้ก็คงต้องยอมรับจริงๆว่าเขาชำนาญมาก นี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่พวกเขาได้เข้ามายังป่าดิบชื้นนี้ ครั้งแรกนั้นพวกเขาโชคดีที่ได้พบสัตว์สายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนถึง 3 ชนิด แต่ครั้งนี้เขาจะวางแผนไว้ว่าจะเข้าไปสำรวจในป่าที่ลึกเข้าไปกว่าครั้งก่อนมาก ชาวบ้านในหมู่บ้านที่คณะสำรวจได้จ้างพรานอ่ำมานั้นได้เล่าถึงเรื่องราวลี้ลับต่างๆที่อยู่ภายในผืนป่าให้พวกเขาได้ฟังมากมาย
ทั้งเผ่ากินคน สัตว์ดุร้าย รวมถึง นาคา ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาให้ความสนใจมากที่สุด ชาวบ้านเล่าว่าในป่านี้มีนาคาตนหนึ่งอาศัยอยู่มีลักษณะเป็นคนครึ่งงู ช่วงบนเป็นคนช่วงล่างเป็นงู เผ่ากินคนนับถือนาคาตนนี้เป็นเทพเจ้า พรานรุ่นก่อนเคยเล่าไว้ว่าพวกเผ่ากินคนได้สร้างแท่นหินที่ใหญ่โตมากลึกเข้าไปในส่วนที่ลึกที่สุดของป่า เป็นสถานที่ๆเป็นที่อยู่ของนาคาและใช้เป็นที่มอบเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคาเองด้วย แต่ไม่เคยมีใครพบเห็นตัวเป็นๆจะมีก็เพียงแต่รูปวาดที่เก่ามากแล้วเท่านั้น

           กฤตนัย ชายหนุ่มรูปร่างก่ำย่ำ ที่หลงใหลธรรมชาติได้เดินทางมาพร้อมกับคณะสำรวจเป็นครั้งที่สอง หากแต่จุดประสงค์ของเขาในครั้งนี้แตกต่างไปจากผู้อื่น เขาอยากจะพิสูจน์เรื่องราวของนาคาที่ตนได้รับรู้มาจากชาวบ้าน เขาพยายามเก็บข้อมูลจากหลายคนๆที่เป็นคนเฒ่าคนแก่ของหมู่บ้านที่พอจะรู้เรื่องราวของนาคาแต่ก็ได้มาไม่มากนัก เพราะเป็นเรื่องที่เล่ากันมานานมากแล้วทำให้เนื้อเรื่องไม่ปะติดปะต่อกันสักเท่าไร

   “คุณนัยมาคราวนี้จะเก็บเนื้อเยื่ออะไรกลับไปตรวจสอบอีกหรือเปล่าครับ” สัณหวัชชายหนุ่มร่างบางที่ติดตามคณะมาด้วย ถามขึ้นหลังจากที่เข้ามาในป่าได้ไม่นาน

   “แล้วแต่ดวงล่ะครับ ถ้าครั้งนี้เจออะไรน่าสนใจก็คงเก็บกลับไป”

   “ครั้งนี้เห็นว่าคุณพัชรพลจะเข้าไปลึกกว่าครั้งก่อนมาก ผมหวังว่าเราจะได้เจออะไรแปลกเหมือนคราวที่แล้ว”

   “ผมก็คิดเช่นกันครับ”นัยเร่งฝีเท้าเพื่อให้ทันพรานอ่ำที่นำต้นทาง เขาอยากรู้ว่าครั้งนี้เขาจะเข้าไปได้ลึกมาแค่ไหน

   “พรานอ่ำ เราจะเดินไปได้ลึกแค่ไหนของป่านี้ครับ” ในใจของนัยเขาหวังว่าจะได้เข้าไปยังใจกลางป่า เพื่อพิสูจน์เรื่องของนาคาตนนั้น

   “บริเวณขอบของใจกลางของป่า แต่ไม่ถึงหรอกเพราะที่ตรงนั้นมีเผ่ากินคนเป็นอันตรายอย่างมาก ข้ากลัวว่าพวกเจ้าจะเอาชีวิตไม่รอดกัน”พรานอ่ำพูดพร้อมทั้งใช้มีดฟันต้นไม้และเถาวัลย์ที่ขวางทางไปพลาง

   ‘บริเวณขอบของใจกลางป่าอย่างนั้นหรอ อย่างนี้เขาอาจจะใช้เวลาที่คณะเผลอแล้วแอบเข้าไปในส่วนกลางป่าได้นี่’นัยคิดแผนการในใจ จากคำบอกของพรานอ่ำเขาต้องเดินสามถึงสี่วันถึงจะถึงบริเวณที่ได้วางแผนเอาไว้ ยังมีเวลาอีกมากในการเตรียมเสบียงและอาวุธต่างๆเขาคิดว่าหากระวังสักหน่อยก็คงไม่เจอกับเผ่ากินคนหรือไม่แน่อาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ

   ในตอนเที่ยงของวันแสงของพระอาทิตย์ทำให้ป่าดิบชื้นแห่งนี้ดูอบอ้าวมากกว่าปกติ กลุ่มคณะสำรวจได้หาพื้นที่สำรวจหยุดพักหลังจากที่เดินมาตั้งแต่เช้ามืด

   “ผมออกไปหาฟืนเองครับ”ธนุสอาสาไปเก็บฟืนเพื่อใช้ในการก่อไฟ

          การเดินทางในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คน พัชรพล สัณหวัช พรานอ่ำ ธนุส และกฤตนัยเอง แต่ด้วยความเจ้าเล่ห์ของธนุสทำให้กฤตนัยไม่ชอบใจเท่าไร เขายอมรับเลยว่าเขาระแวงผู้ชายคนนี้ตลอดเวลา หลังจากที่จัดการกับอาหารเที่ยงที่หุงหาเอาง่ายๆ กลุ่มคณะสำรวจก็เดินทางต่อ จนมาถึงบริเวณอยู่ใกล้กับบริเวณที่พวกเขามาเมื่อครั้งก่อน แม้จะไม่ลึกมากเท่าไรแต่ก็มีความอุดมสมบูรณ์และมีสัตว์ป่าหลากหลายพันธ์เลยทีเดียว กฤตนัยคีบเอามูลของสัตว์ขึ้นมาใส่หลอดก่อนจะปิดฝา เขาจะนำไปตรวจสอบว่าสัตว์กินอะไรเข้าไปบ้างเพื่อดูถึงปริมาณของแหล่งอาหาร คนอื่นก็ทำเช่นเดียวกันกับเขาในสิ่งที่ตนเองสนใจ

“ไหวไหมวัช หน้าตาดูไม่ดีเลย ผมว่าคุณน่าจะพักก่อนนะ”กฤตนัยมองไปยังสัณหวัชที่มีท่าทางอิดโรยกว่าทุกคนในกลุ่มเพราะเขาไปคนที่ตัวเล็กและอ่อนแอที่สุด

“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหวอยู่”สัณหวัชตอบพลางยิ้มให้กฤตนัย สัณหวัชกลัวว่าตนจะเป็นตัวถ่วงเวลาและทำให้การเดินทางในครั้งนี้ล่าช้าลง

“เอางั้นหรอครับ ถ้าไม่ไหวบอกผมนะ”

“ขอบคุณครับ”

          เดินมาจนบ่ายคล้อยก็เข้ามาถึงบริเวณสำรวจเมื่อครั้งที่แล้ว คณะสำรวจหยุดเพื่อจะดูว่าสภาพแวดล้อมต่างๆได้เปลี่ยนไปมากน้อยเพียงใด สัณหวัชรู้สึกโล่งใจที่ได้พักสักที พัชรพลและธนุสต่างเดินแยกไปคนละทางเพื่อสำรวจป่า ทางด้านพรานอ่ำเองก็เดินเพื่อจะหาแหล่งน้ำสำรองเอาไว้หลังจากเมื่อเที่ยงและตอนเดินทางได้ดื่มจนใกล้หมดแล้ว

   “ดื่มน้ำหน่อยนะ วัช ท่าทางคุณไม่ดีเลย”

   “ขอบคุณครับ”สัณหวัชรับน้ำมาดื่มอย่างกระหาย ใจเต้นแรงกว่าที่เคย เขารู้ตัวดีว่าไม่เหมาะกับกิจกรรมที่โลดโผนแบบนี้เลยแต่เพราะคนตรงหน้าเขาถึงมา

   “ดีขึ้นไหมครับ”

   “ครับดีขึ้นมาก”

   “ทำไมคุณถึงมาสำรวจในครั้งนี้ละครับ ปกติผมเห็นคุณอยู่แต่ในห้องแลป”ทั้งสัณหวัชและกฤตนัยต่างก็ทำงานอยู่ในหน่วยงานเดียวกันเป็นหน่วยงานของรัฐที่อนุรักษ์และฟื้นฟูป่ารวมถึงพัชรพลและธนุสด้วยเพียงแต่อยู่คนละแผนกเท่านั้นเอง

   “ผม............อยากจะมาเห็นด้วยตัวเองน่ะครับ ตรวจจากตัวอย่างเพียงอย่างเดียวถึงจะรู้ถึงลักษณะของป่าแต่มาเห็นด้วยเองมันย่อมดีกว่าอยู่แล้ว ใช่ไหมละครับ”สัณหวัชตอบอย่างรวดเร็วเรื่องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นเรื่องที่ถนัดที่สุดอยู่แล้ว เขาเป็นคนเรียนเก่งมากเมื่อเรียนจบก็ถูกจองตัวให้มาทำงานทันทีและเขาเองก็ยอมรับเพราะต้องการเช่นนั้นเหมือนกัน

   “คุณนัยคิดยังไงกับเรื่องนาคาอะไรนั้นครับ”สัณหวัชรีบเปลี่ยนเรื่อง

   “ไม่รู้สิครับ ผมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากพิสูจน์”

   “แต่ที่รู้มาที่ตรงนั้นมันอยู่ลึกมากเลยนี่ครับ  แถมยังมีเผ่ากินคนอีกผมเกรงว่าถ้าเราทำอย่างนั้นจะอันตรายมาก”สัณหวัชพูดขัดความคิดของกฤตนัย เขารู้นิสัยของกฤตนัยดี เป็นคนที่คิดจะทำอะไรแล้วต้องสำเร็จ ถ้าไม่ก็ไม่หยุด เขากลัวว่ากฤตนัยจะทำอย่างที่พูดจริงๆ

   “แล้วคุณไม่อยากรู้หรอครับ”

   “ก็อยากครับแต่ผมห่วงความปลอดภัยของตัวผมเองมากกกว่า”

   “แย่จังเลยนะครับ ยังนี้ผมก็ต้องไปคนเดียวน่ะสิ” พูดจบกฤตนัยก็เดินไปสำรวจพื้นที่ป่าแบบคนอื่นบ้าง เหลือเพียงแต่สัณหวัชที่ยังคิดไม่ตกกับคำพูดของกฤตนัย


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 03-02-2012 09:42:44
พลอตน่าสนใจ บวกๆ ให้จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: wiwanana ที่ 03-02-2012 12:37:09
ดันๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 03-02-2012 13:52:16
พลอตเรื่องน่าสนใจดีค่ะ จะรออ่านนะคะ :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 03-02-2012 14:09:19
รอตอนต่อไปจ้า

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 03-02-2012 15:58:06
รับเรื่องใหม่ :mc4:
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: murasakisama ที่ 03-02-2012 16:21:25
เปิดเรื่องได้น่าสนใจมากค่ะ ติดตามนะคะ :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 03-02-2012 17:20:12
น่าสน
จะเจอเผ่ากินคนมั้ยนะ
แล้วนาคาจะมาในรุปแบบไหน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 03-02-2012 19:23:42
รอตอนต่อจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 04-02-2012 06:23:19
มีคนอ่านนิยายด้วย

ขอบคุณคุณนักอ่านเงาแลละไม่เงานะครับ

เห็นโพสกับวิวขยับก็มีกำลังใจแล้ว

วันอาทิตย์จะมาต่อให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Artemis ที่ 04-02-2012 10:39:05
เนื้อเรื่องน่าสนใจ อ่านแล้ว อยากให้รู้ว่านายเอกจะเป็นใคร ระหว่างคนกับนาคา

ขอบพระคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: เลิฟลี่ ที่ 04-02-2012 11:25:58
เนื้อเรื่องแปลกน่าสนใจค่ะ  รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๑ อัพ (๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 05-02-2012 19:53:10
ตอนที่ ๒





   แสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงและค่อยๆเคลื่อนตัวลงต่ำจนลับหายไป ต้นไม่หนาใหญ่ที่ขึ้นคลุมเอาไว้ทำให้ดูมืดกว่าปกติ ทั้งกฤตนัย พัชรพล และธนุสใช้เวลาค่อนข้างนานในการสำรวจป่าแถบนี้ พรานอ่ำจึงแนะนำให้พักที่นี้สักคืนเพราะกลัวว่าหากเดินทางฝ่าความมืดไปจะเป็นอันตรายถึงแม้จะชินกับเส้นทางก็ตาม สัณหวัชและธนุสตอนนี้ทั้งคู่กำลังนั่งล้อมกองไฟ เพราะอุณหภูมิที่ลดต่ำลงให้ความรู้สึกเย็นๆแต่ไม่ถึงกับหนาว พรานอ่ำลงมือย่างปลาที่จับมาจากแหล่งน้ำที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก พัชรพลและกฤตนัยได้กลิ่นจึงเร่งเตรียมเต็นท์ 2 หลังสำหรับคืนนี้ โดยจะมีพรานอ่ำเฝ้ายามเป็นคนแรกและผลัดเวรกันไปเมื่อครบสองชั่วโมง

   ทุกคนทานอาหารกันอย่างเงียบๆคงเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและการสำรวจ จนเมื่อจัดการกับอาหารตรงหน้าจนหมดแล้ว พัชรพลขอตัวเข้าไปเขียนรายงายการสำรวจในเต็นท์ พร้อมทั้งสัณหวัชและธนุสที่ขอตัวไปนอนเช่นเดียวกัน ด้านพรานอ่ำเองก็แยกตัวไปเฝ้ายามโดยทิ้งระยะห่างเต็นท์ไม่ไกลเท่าไร เมื่อได้มานั่งอยู่คนเดียวกับบรรยากาศเดิมๆแบบนี้ทำให้เขานึกถึงสมัยยังหนุ่ม ครั้งแรกๆที่เข้าป่าใหม่ เรื่องราวลี้ลับต่างๆ เขาฉุดคิดถึงเรื่องประหลาดที่แม้แต่คนที่อยู่กับป่ามาตั้งแต่เด็กอย่างพรานอ่ำเองก็แทบไม่เชื่อสายตาของตัวเอง เรื่องของ “เสือสมิง”

“กาแฟสักแก้วไหมครับพราน”กฤตนัยยืนแก้วกาแฟให้พรานอ่ะใกล้จนกลิ่นหอมลอยเข้าจมูก

“ขอบใจ”กฤตนัยยิ้มรับและนั่งลงข้างๆ

“เท้าเองเบาเหมือนกันนี่”พรานอ่ำเอยทักขึ้นเมื่อสังเกตว่ากฤตนัยเดินมาหาเขาโดยไม่มีเสียงฝีเท้าเลย

“ใช่ว่าคนตัวใหญ่เท้าต้องหนักทุกคนนี่ครับ ดูอย่างพรานสิ” พรานอ่ำมองกฤตนัยด้วยความชื่นชม เขารู้สึกว่ากฤตนัยเป็นคนฉลาดและมีความสามรถพอตัวเลยทีเดียว

   บทสนทนาจบลงทั้งคู่นิ่งเงียบฟังเสียงหรีด หริ่ง เรไร ที่ร้องระงมทั่วป่า จนกระทั่งพรานอ่ำโพล่งเรื่องหนึ่งขึ้นมา

“เองเคยได้ยินเรื่องเสือสมิงไหมว่ะ”กฤตนัยเลิกคิ้วเป็นเชิงตอบ แสงจากตะเกียงทำให้มองเห็นได้ชัดเจน

“สมัยข้ายังหนุ่มๆเคยเจอเสือสมิงครั้งหนึ่ง เกือบเป็นผัวเสือสมิงสะแล้ว อยากฟังไหมข้าจะเล่าให้ฟัง”กฤตนัยตอบตกลงทันที   เขาเป็นคนชอบเรื่องลึกลับแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งได้มาฟังจากปากของคนที่มีประสบการณ์โดยตรงเอง ทำให้เขาตื่นเต้น

“เสือสมิงเป็นตำนานเล่าขานกันมานานมากแล้ว เล่ากันว่าเสือสมิงเป็นเสือที่ดุร้ายมักจับคนเป็นอาหาร เมื่อกินคนมากเข้าวิญญาณคนที่เสือกินเข้าไปนั้นก็จะสิงสู่ในกายเสือ ทำให้เสือตัวนั้นมีอาถรรพ์สามารถแปลงกายได้ แต่ก็มีคนต้องการเป็นเสือสมิงเช่นเดียวกัน คือเรียกเอาวิญญาณเสือสมิงนั้นเข้าสิงสู่ในกายตน ผนวกกับอาคมด้านเดรัจฉานวิชาทำให้คนนั้นกลายเป็นเสือสมิง   และเมื่อกินคนเข้าไปก็จะกลายเป็นเสือสมิงโดยสมบูรณ์” พรานอ่ำเว้นช่วงในการพูดเพื่อให้กฤตนัยได้คิดตาม

“เมื่อข้ายังหนุ่มได้เข้าป่ามากับพรานเส็ง พรานมีชื่อในหมู่บ้านสมัยนั้น พร้อมกับไอ้ก้อนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันอีก 1 คน วันนั้นข้าตั้งใจจะเข้าล่ากวางอ่อนเห็นเขาบอกว่าเขามันขายได้เป็นหมื่น ข้าก็อยากจะจับเงินหมื่นกับเขาบ้าง เดินทางกันจนดึกดื่นค่ำมืดก็หยุดพักทำห้างกันเสร็จเรียบร้อย ข้าก็เฝ้ายามแบบเดียวกับคราวนี้ละ ข้าเฝ้าอยู่จนดึก ฟ้ามืดสนิทและเงียบมาก เสียวจิ้งหรีดสักตัวไม่มีให้ได้ยินสักเอะ สักพักก็มีผู้หญิงสวยเดินมาหาข้า ขอบอกว่าสวยนะโว้ย มันบอกว่ามันเหงาให้ข้าลงไปหา”

“แล้วพรานทำยังไงละครับ”กฤตนัยถามเมื่อเรื่องชักจะตื่นเต้นขึ้นทุกที

“ข้าก็ลงไปสิว่ะ สาวๆสวยๆใช่จะมีให้เห็นกันง่ายๆ”

“รนหาที่น่ะสิพราน”

“อ้าวไอ้นี่ เป็นเองจะไปไหมล่ะ สาวนะโว้ย สวยเสียด้วย อกนี้ยังกับลูกแตงโม”

“เอาละพอเถอะพราน แล้วเรื่องมันเป็นยังไงต่อ”

“พอข้าลงไปหามัน มันก็ลากไปพุ่มไม้ใหญ่ใกล้ๆ กอด จูบกับมันได้สักพักข้าก็ได้กลิ่นคาวเลือด ตอนนั้นข้าชักใจไม่ดี สติกลับมา ผู้หญิงที่ไหนมันจะมาอยู่ในป่าลึกไม่มีคนอย่างนี้ ข้าก็ทำเนียนใจดีสู้เสือไปก่อน”

“อ่อ มีที่มาอย่างนี้เอง”

“อะไรของเอง”

“ก็ ใจดีสู้เสือไง พรานสำนวนสุภาษิตน่ะ”

“ทะลึ่งล่ะ ไอ้นี่”

“ล้อเล่นครับ แล้วพรานรอดออกมาได้ไง”

“ข้าก็เผ่นสิวะ รอจังหวะที่มันเผลอวิ่งกลับห้างเห็นพรานเส็งกับไอ้ก้อนไต่ห้างลงมาแล้ว แต่ยังไม่ทันจะถึงเสือมันก็กระโจนมาหาข้าเสียก่อน โชคยังดีที่พรานเส็งมีลูกปืนอาคม มันกระโจนมาก็ยิงขวางเอาไว้ สุดท้ายมันเจ็บหนัก ถอยไปเอง”

“อ้าวแล้วพรานไม่ได้ช่วยพรานเส็งเลยหรอ ไหนว่าเก่งนักเก่งหนา”

“ข้าจะช่วยได้ไงล่ะวะ ข้ายังหนุ่มวิชาก็มีไม่มากแต่ตอนนี้สิใครหน้าไหนก็สู้ข้าไม่ได้”กฤตนัยเอือมกับพรานอ่ำที่อวยเข้าตัวเองตลอด พลันนึกถึงเรื่องของนาคา ดูพรานอ่ำเองท่าทางจะเข้าป่าบ่อยน่าจะรู้อะไรดีๆเยอะเลยทีเดียว

“พรานรู้อะไรเกี่ยวกับนาคาบ้างไหมครับ”

“นาคาหรอ ก็ไม่มากไปกว่าคนอื่นหรอกไม่มีใครเคยเจอนาคาตัวเป็นๆสักคนหรือไม่ก็ตายก่อนจะได้เจอ”

“ทำไมล่ะพราน”

“ก็ทางเข้าป่าลึกมันผ่านหมู่บ้านกินคนน่ะสิวะ ขึ้นเดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามีหวังตายโหงกันพอดี”

“และทำยังไงถึงจะเข้าไปได้ล่ะพราน”

“ก็เข้าไปตอนมันหลับ แต่ใช่ว่ามันจะง่ายๆน่ะโว้ย ไอ้พวกนี่มันหูไวยังกับหมา ไม่เก่งจริงตายตั้งแต่ก้าวแรกนู้น เองจะรู้ไปทำไมวะหรืออยากเจอนาคา”

“แล้วลุงไม่อยากเจอหรอ”

“จะเจอไปทำไม เจอแล้วทำอะไรได้ แต่ถ้าเกิดเองได้เจอขึ้นมาจริงๆวันนั้นอาจจะเป็นวันตายของเองก็ได้ใครจะไปรู้ ข้าเตือนเองไว้น่ะโว้ยอย่าไปยุ่งกับเรื่องอย่างนี้ เกิดตายขึ้นมาจริงๆแล้วจะหาว่าข้าไม่เตือนเอง”

   กฤตนัยคุยกับพรานอ่ำจนถึงเวลาเปลี่ยนเวรเฝ้ายาม เขาเลยอาสารับหน้าที่เฝ้ายามต่อ คำพูดของพรานอ่ำทำให้เขากลับมาคิดถึงจุดประสงค์ของตนเองว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เขาเพียงแค่ต้องการพิสูจน์ให้เห็นกับตาหลังจากนั้นก็ออกจากป่าแล้วกลับบ้าน หรือเมื่อได้เจอนาคาแล้วเขาจะจับกลับมาแต่มันจะง่ายดายขนาดนั้นเลยหรอ ไหนจะเผ่ากินคน ไหนจะสัตว์ป่ายิ่งลึกเข้าไปก็ยิ่งน่ากลัว เขารู้ว่านาคาเป็นเรื่องที่เหนือธรรมชาติมันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่เขาตัดสินใจลงไปแล้วยังไงสะเขาก็จะไป ไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจอย่างแน่นอน


________________________________________________________


   พรานอ่ำตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้ามืดพร้อมกับพัชรพลซึ่งทำหน้าที่เป็นคนเฝ้ายามคนสุดท้ายเข้าไปปลุกเพื่อนทั้ง 3 คนที่ยังหลับอยู่ภายในเต็นท์ เขาคิดว่าหากเดินทางตั้งแต่เช้าจะทำให้ถึงที่หมายเร็วขึ้น บริเวณป่าที่ลึกเข้าไปมีต้นไม่ใหญ่ขึ้นเบียดเสียดกันเต็มไปหมดอีกทั้งพื้นยังแฉะชื้นไปด้วยน้ำ พวกเขาต้องแต่งตัวกันอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันแมลงหรือถากที่จะเกาะกินเลือดหรือเข้าไปในร่างกายได้

“พรานอ่ำผมอยากรู้ว่าต้องเดินทางอีกกี่วันจะถึงป่าแถนนั้นครับ”พัชรพลถามเวลาเพื่อจะได้วางแผนการเดินทางได้อย่างถูกต้อง

“ถ้าไม่หยุดพักระหว่างทางเลยทั้งวันข้าว่าสองคืนก็น่าจะถึงแต่ถ้าพักก็คงจะมากกว่านั้น”

“แล้วไม่มีทางที่ไวกว่านี้แล้วหรอครับ”หากมีทางที่เร็วกว่านี้ก็คงจะดี พัชรพลเป็นคนที่มีความเป็นผู้นำสูงเขามักจะตัดสินใจเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดถึงถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าในการเดินทางครั้งนี้

“ไม่มีหรอก นี่ก็ไวสุดแล้วหรือเองจะเดินทางทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้ข้าไม่ว่าอะไรแต่เพื่อนเองจะไหวหรือเปล่าไอ้หนุ่มหน้ามนนั้น เมื่อวานลมก็จะจับมันเข้าให้แล้ว”นั่นสิ สัณหวัชคงจะไม่ไหวแน่ๆ อันที่จริงพัชรพลเอก็พอเหตุผลที่สัณหวัชมาในสำรวจในคราวนี้เขาอยากจะห้ามแต่ก็ไม่อยากก้าวก่ายจนเกินไป งั้นก็ไม่มีทางเลือกคงต้องเดินทางเฉพาะกลางวัน ถ้าหากพักเฉพาะเวลาทานอาหารคงจะช่วยเร่งเวลาได้มาก

   อาหารเช้าวันนี้ยังคงเป็นปลาฝีมือพรานอ่ำเช่นเคยเพียงแต่เพิ่มอาหารกระป๋องที่เพิ่มด้วยเท่านั้น ตามด้วยกาแฟอีกคนละถ้วยทั้งคณะก็พร้อมเดินทางต่อ

“เอาล่ะทุกคน วันนี้เราจะเดินทางกันทั้งวันโดยไม่หยุดพักจะพักก็ต่อเมื่อถึงเวลาทานอาหารแล้วเท่านั้น ผมคิดว่าถ้าเราทำอย่างนี้จะช่วยเร่งเวลาและทำให้งานสำรวจของเราในครั้งนี้เสร็จไวขึ้น มีใครจะแย้งอะไรไหม”พัชรพลแจงแผนการกับลูกทีมหลังจากที่เก็บของและจัดการกับสถานที่จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

   สัณหวัชรู้สึกไม่พอใจนิดๆ รู้ทั้งรู้ว่าเขาคงไม่ไหวแน่ๆทำไมถึงต้องเดินทางขนาดนั้นด้วย อีกอย่างงานครั้งนี้ก็ให้เวลาตั้งครึ่งเดือนไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรีบขนาดนี้ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อไม่มีใครแย้งเขาเองก็ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของใคร

“ถ้าไม่มีก็ตกลงตามนี้ นัยผมฝากวัชไว้ด้วยนะ”พัชรพลรู้ดีว่าสัณหวัชไม่ไหวแน่นอน หากฝากไว้กับกฤตนัยคงจะทำให้คลายความกังวลไปได้บ้าง ที่จริงแล้วเข้าไม่จำเป็นต้องรีบขนาดนี้ก็ได้แต่งานเสร็จเร็วเท่าไรก็ยิ่งเป็นการดีเท่านั้น นี้เป็นนิสัยของเขามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

พรานอ่ำเป็นคนหน้าทางเช่นเดิมโดยมีพัชรพลเดินรั้งท้าย เมื่อเดินทางมาเกือบครึ่งค่อนวันป่าแถบนี้เป็นอย่างที่พัชรพลคิดไว้ไม่มีผิดมันสมบูรณ์มาก เถาวัลย์ กิ่งไม้ขึ้นหนามากกว่าปกติเป็นอุปสรรคในการเดินทางของพวกเขา แต่พรานอ่ำเองยังคงทำงานได้เป็นอย่างดี ตลอดการเดินทางมีเสียงสัตว์ใหญ่ให้ได้ยินบ้างเป็นบ้างครั้งแต่ก็ไม่เห็นตัว

“วัชคุณเป็นอะไร ทำไมหน้าซีดๆ”กฤตนัยถามขึ้นเมื่อสังเกตอาการของสัณหวัชมาสักครู่หนึ่งแล้ว

“ไม่เป็นไรครับ ผมแค่รู้สึกเจ็บข้อเท้านิดหน่อย”

“ไหนขอผมดูหน่อย”เขาดันหลังให้คนเจ็บนั่งลงบนขอนไม้ทำให้ทั้งกลุ่มต้องหยุดและสิ่งที่พบก็คือปลิงที่ดูดเลือดจากข้อเท้าสัณหวัชจนตัวเขื่องโดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องเลย พอเห็นตัวการสัณหวัชหน้าซีดลงยิ่งกว่าเก่าเขาไม่ได้กลัวปลิงแต่มันมาเกาะอยู่กับตัวอย่างมันก็ต้องมีบ้างที่จะรู้สึกกลัวปนขยะแขยง กฤตนัยคงจับสังเกตได้จึงพูดปลอบใจให้หายกลัว

“ธนุสขอไฟแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิงโดยระวังไม่ได้โดนข้อเท้าเข้า ใช้เวลาอยู่หลายนาทีกว่าปลิงจะหลุดออกมาได้

   เมื่อปลิงตัวดำหลุดออกมา สัณหวัชหน้าซีดลงยิ่งกว่าเดิมเลือดยังคงไหลจากแผลถึงแม้จะประคบสมุนไพรห้ามเลือดที่พรานอ่ำหามาให้แล้วก็ตาม กฤตนัยจึงให้สัณหวัชขี่หลังเขาอีกไม่นานก็เที่ยงแล้วเขาคิดว่าน่าจะไหว กระเป๋าจากหลังของเขาถูกถ่ายไปให้คนเจ็บที่เกาะอยู่บนหลัง

   สัณหวัชรู้สึกเกรงใจและสงสารกฤตนัยที่ต้องมาแบกตนไว้อย่างนี้ เหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าเป็นตัวบอกอาการของคนตัวโตได้เป็นอย่างดีแต่ในขณะเดียวกันเขาเองก็รู้สึกดีนี่เป็นครั้งแรกที่ได้อยู่ใกล้กันมากขนาดนี้ เขาแอบเอนซบศีรษะลงบนไหล่กว้างอย่างลืมตัว ทางด้านกฤตนัยเองก็เกิดความรู้สึกอยากปกป้อง   ดูแลสัณหวัชตั้งแต่เมื่อไรเขาเองก็ยังไม่รู้ เพียงแต่ตอนนี้เขาเองก็รู้สึกอิ่มเอมใจเช่นเดียวกับสัณหวัช



-เนื่องจากนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องเเรก เนื้อเรื่องอาจจะดูไม่สมเหตุสมผล ถ้ามีตรงไหนที่รู้สึกว่ามันไม่ดี ติชมได้เลยนะครับ คนเขียนจะได้เอาไปปรับปรุง
-ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อ่าน โพส และ+ นิยายให้นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 05-02-2012 20:16:08
พล็อตเรื่องน่าสนใจนะค่ะ การผจญภัยในป่าลึก มีทั้งนาคา เผ่ากินคน เสือสมิง
การบรรยายก็ทำได้ดีทีเดียว เป็นกำลังใจและติดตามตอนต่อไปนะค่ะ... :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 05-02-2012 21:30:07
ชอบแนวนี้อะ...จะรอตอนต่อไปนร้า :oni2:


ปล.....
“ธนุสขอไปแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะหล่อนไปที่ตัวของปลิง
อ่านแล้วงงๆ...คือหมายถึงอย่างนี้หรือป่าว :m28:
“ธนุสขอไฟแช็กให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไฟแช็กมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 05-02-2012 22:05:49
สนุก รอตอนต่อไป
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 05-02-2012 22:38:47
เรื่องแรกจริงหรอ?เก่งมากกเลย ^^
ตกลงนาคาจะเกี่ยวข้องอะไรกับคนกลุ่มนี้นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 05-02-2012 23:12:11
ชอบแนวนี้อะ...จะรอตอนต่อไปนร้า :oni2:


ปล.....
“ธนุสขอไปแฉกให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไปแฉกมาก่อนที่จะหล่อนไปที่ตัวของปลิง
อ่านแล้วงงๆ...คือหมายถึงอย่างนี้หรือป่าว :m28:
“ธนุสขอไฟแช็กให้ผมหน่อย”กฤตนัยรับไฟแช็กมาก่อนที่จะลนไปที่ตัวของปลิง


ครับหมายความตามนั้นแหละครับ
ขอบคุณที่เตือนนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 06-02-2012 02:04:45
รอๆๆๆ ว่าเมื่อไรจะได้เจอนาคา  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: shinigami C.K. ที่ 06-02-2012 13:05:23
พลอตน่าสนใจมากครับ เหอะๆ  o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 06-02-2012 13:42:39
อีกเดี๋ยวคงได้เจอนาคาแน่ๆเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 06-02-2012 15:23:21
เนื้อเรื่องน่าสนใจมากค่ะ  o13
อย่าบอกนะว่าสัณหวัชเป็นนายเอกอ่ะ
+1 จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 06-02-2012 16:48:48
เข้ามาจิ้ม แต่ยังไม่ได้อ่านเดี๋ยวตามมาอ่านนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 06-02-2012 18:33:45
น่าสนใจอะ แต่ตอนนี้ยังดูไม่ออกว่าใครจะเป็นพระเอก นายเอกอะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 06-02-2012 19:01:10
มาให้กำลังใจสำหรับเรื่องใหม่ค่ะ +1 :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 06-02-2012 23:58:38
ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะครับ

อ่านคอมเม้นแล้วก็อมยิ้มคนเดียว

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนอ่านเรื่องเเนวยังนี้ ตอนแรกเขียนคาดว่าจะไม่มีคนอ่านสะเเล้ว

แต่เรื่องแรกมีคนสนใจ แค่นี้ก็ดีใจแล้วครับ

เอาละพล่ามมามาก ขอบคุณสำหรับเม้น และบวก

พรุ่งนี้จะลงตอนที่ 3 ให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) มนตร์นาคา ตอนที่๒ น.๑ อัพ (๕/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 07-02-2012 07:34:32
ตอนที่๓




   สองคนเริ่มสนิทกันมากยิ่งขึ้นอาจเป็นเพราะความใกล้หรือเพราะหน้าที่ของกฤตนัยที่ต้องดูแล สัณหวัชก็ตามแต่
 เขามักจะแกล้งยอกให้สัณหวัชโกรธอยู่เสมอ มันน่ามองเขารู้แค่นั้น

“คุณแกล้งผมอีกแล้วนะ นัย”สัณหวัชโวยเพราะตั้งแต่ที่พัชรพลฝากให้กฤตนัยดูแลเขา เขาก็มักจะโดนแกล้งอยู่เสมอ

“ผมไปแกล้งอะไรคุณ”

“ก็คุณเอากระเป๋าผมไปแล้วไม่บอกผมสักคำ”

“ผมแค่จะช่วยคุณถือต่างหาก”

“แต่นั้นก็ทำให้ผมหามันไม่เจอ คุณก็เห็นแต่ไม่ยอมบอกผม”

“ก็คุณไม่ได้ถาม”

“แต่คุณก็น่าจะบอก คุณเอาไป”

“สรุปผมผิด”

“ใช่”

“หึหึ...โอเคผมขอโทษ”กฤตนัยหัวเราะในลำคอก่อนจะพูดขอโทษออกมาใกล้หูของสัณหวัชที่ยืนตัวเกร็ง

“ก็แค่.....”ก็แค่อะไรกัน สัณหวัชคิด

“ก็แค่....แค่แกล้งคุณแล้วมันตลกเท่านั้นเอง ฮ่าๆๆ”กฤตนัยหัวเราะรวนแล้วปล่อยให้สัณหวัชยืนฟืดฟัด ต่อยลมอยู่คนเดียว




___________________________________________________________________




   หลายวันที่ผ่านมากฤตนัยเร่งเตรียมของใช้และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางของเขาโดยใช้เวลาตอนที่ทุกคนเผลอแต่
ของส่วนใหญ่เขาก็เตรียมตั้งแต่ก่อนเดินทางแล้วเพียงแต่เช็คดูว่ายังขาดเหลืออะไรอีกหรือไม่ อย่างตอนนี้ก็เช่นเดียวกัน
ทั้ง4คนกำลังเตรียมห้างสำหรับนอนในคืนนี้ พรานอ่ำบอกว่าป่าแถบนี้อยู่ค่อนข้างลึก ดังนั้นสัตว์ป่าก็เลยชุมเป็นพิเศษ
เพื่อไม่เป็นการประมาทจนเกินไปจึงทำห้างและพักอยู่บนนั้น กฤตนัยพยายามเตรียมของโดยไม่ให้ทุกคนสงสัยหรือเกิดพิรุจ
 แต่นั้นก็ไม่อาจรอดจากสายตาของสัณหวัชได้ เขาสังเกตพฤติกรรมของกฤตนัยตั้งแต่วันที่เขาพูดเกี่ยวกับนาคา
สัณหวัชกลัวว่าเขาจะไปจริงๆ นี่ก็คืนที่สามแล้วที่เขาอยู่ในป่า ใกล้จะถึงป่าจุดที่วางแผนไว้เต็มที
 หวังว่ากฤตนัยจะไม่ทำอย่างที่เขาคิดเอาไว้

“นัยคุณทำอะไรอยู่”กฤตนัยทำท่าเหมือนกำลังจัดอะไรบ้างอย่างลงในกระเป๋าใบโตนั้น

“ปะ..เปล่านี่ครับ ผมแค่.....จะหยิบไฟแฉกเอาไปจุดไฟน่ะ”เขาหยิบไฟแฉกชูขึ้นให้สัณหวัชเห็น ก่อนจะเดินออกไป
พักนี้เขามีท่าทางแปลกๆ

“คุณพลผมว่าพักนี้ นัยมีท่าทางแปลกๆคุณคิดเหมือนผมไหม”สัณหวัชถามความเห็นของพัชรพลถ้ามีคนสังเกตเห็น
เหมือนกับเขานั้นก็หมายความว่า กฤตนัยกำลังพยายามทำอะไรอยู่อย่างแน่นอน

“ไม่นี่ ผมว่าเขาก็ปกติดี”

“งั้นหรอครับ ผมว่านัยกำลังจะทำอะไรบ้างอย่าง ผมเห็นเขาจัดกระเป๋าไว้ด้วย”

“คุณคิดมากไปหรือเปล่า กระเป๋านั้นก็คงสำหรับเดินทาง”

“แต่นัยพูดอะไรบ้างอย่างกับผมเกี่ยวกับนาคา ผมกลัวว่าเขาจะตามหามัน”

“นัยเขาเป็นคนฉลาด เขาคงไม่ทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองลำบากอย่างนั้นหรอกครับ”

“แต่...”

“เอาล่ะ ถ้าคุณสงสัยขนาดนั้นผมจะถามเขาให้ ตกลงไหมครับ”

“เออ..ครับ ก็ได้ครับ”

   พัชรพลต้องไม่เชื่อเขาแน่ๆ เขาคงต้องสังเกตกฤตนัยให้มากกว่านี้ เขาจะเข้าไปในนั้นได้อย่างไรคนเดียว ในนั้นอันตราย
จะตายแล้วถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะทำอย่างไร แต่ดูเหมือนว่ากฤตนัยเองจะระวังตัวมากกว่าที่คิดหลังจากที่รู้ว่า
เขาสังเกตอยู่ เขาแทบไม่เห็นอาการแปลกๆของกฤตนัยเลยมันยังเป็นปกติ แต่พักนี้ดูเหมือนว่ากฤตนัยจะคุยกับพรานอ่ำ
ถี่ขึ้นแต่ละครั้งใช้เวลานาน ไม่แน่เขาอาจจะหาทางเขาไปที่นั้น ในป่านั้นและคนที่รู้ทางดีที่สุดก็คือ พรานอ่ำ

 กว่าจะจัดการทุกอย่างเสร็จตะวันก็คล้อยจนเย็น ทุกคนต่างรีบทำหน้าที่ของตัวเองให้ทันก่อนฟ้ามืด กฤตนัย พัชรพล ธนุส
และสัณหวัชต่างก็ออกไปสำรวจป่ากันคนละทาง ส่วนพรานอ่ำเองก็ออกไปหาของป่ามาไว้เหมือนกัน กฤตนัยวางแผน
เอาไว้ว่าคืนนี้เขาจะออกเดินทางโดยไม่ให้ใครรู้ ตอนนี้ขณะที่เขากำลังสำรวจอยู่เขาหยิบกระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ออกมาด้วย
กฤตนัยซ่อนกระเป๋าไว้ตรงโคนต้นไม้ไหญ่ไม่ลืมที่จะใช้เศษไม้ กิ่งไม้บังไว้ ช่วงนี้เป็นคืนเดือนหงายอีกไม่นาน
พระจันทร์ก็จะเต็มดวงแล้ว ดังนั้นการเดินทางในครั้งนี้คงไม่ลำบากสักเท่าไรประกอบกับไฟฉายที่มีอยู่ด้วยแล้วเขา
ว่างานนี้คงไปได้สวยที่เหลือก็คงรอเวลาและหาทางออกมาจากที่นั้น

“พรุ่งนี้เราจะถึงที่หมายเมื่อไรครับพรานอ่ำ”พัชรพลถามขึ้นขณะที่ทั้งคณะเริ่มต้นทานอาหารอยู่รอบกองไฟ

“สักราวๆบ่าย2ไม่เกินนั้น”

“แล้วเองจะอยู่กันอีกสักกี่คืนว่ะ”

“ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงอีกสองสามคืนน่ะพราน เราต้องสำรวจผืนป่าบริเวณนั้นอย่างละเอียด”

“เออก็ดี แต่ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีน่ะโว้ย แถวนั้นอันตราย เสือ สิงห์ มันชุม”

“พรานพูดยังนี้ ผมก็แย่นะสิครับ”ธนุสที่นั่งเงียบพูดขึ้นมา ถ้าเกิดเจอขึ้นมาจริงๆเขาก็แย่นะสิ

“ก็ใครใช้ให้พวกเองเข้ามาลึกขนาดนี้ละว่ะ จะมาโทษข้าก็ไม่ได้”

“ก็มันงานน่ะพราน ขืนผมไม่ทำก็โดนไล่ออกทีนี้ซวยกว่าเก่า”

“เออๆข้าก็เตือนให้พวกเองระวังไว้ ไม่ได้บอกว่าจะเจอนี่โว้ย”

“ครับ”ธนุสลากเสียงยาว ก่อนลุกปืนขึ้นห้างไป

   บทสนทนายังคงเดินต่อไปเพียงแต่ตอนนี้เหลือเพียงแค่4คนเท่านั้น ทุกคนดูเหมือนจะคุยจนเพลินยกเว้นสัณหวัช
เขากำลังจับพิรุจของกฤตนัยอยู่ แต่กฤตนัยเองก็ไม่แสดงอาการอะไรออกมา ทำให้เขารู้สึกโมโหเล็กๆ หรือว่ากฤตนัย
ไม่ได้คิดทำอะไรอย่างที่เขาคิดไว้แต่มันน่าสงสัย เขาก็แค่อยากรู้ จนดึกมากแล้วพรานอ่ำบอกให้พวกเขาขี้นห้าง
ครั้งนี้เป็นพัชรพลที่เฝ้าห้างเป็นคนแรก กลางคืนในป่ามันมืดจริงๆมีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องสอดผ่านใบไม้เท่านั้นที่พอ
จะช่วยให้มองเห็นได้

   กฤตนัยเมื่อขึ้นห้างมาแล้วก็แกล้งหลับเขารับหน้าที่เฝ้ายามที่สองตั้งแต่เที่ยงคืนถึงตีสองนั้นเป็นเวลาเหมาะที่
จะออกเดินทางหากยิ่งใกล้เช้าเขาก็กลัวว่าจะมีคนตื่นมาเจอเข้า วันทั้งวัน ไม่ใช่สิ!!!หลายวันแล้วที่สัณหวัชมักจะแอบมอง
เขารู้ว่าสัณหวัชสงสัยว่าเขากำลังตามหานาคาเขาพลาดเองที่พูดเรื่องนี่สัณหวัช แต่ตอนนี้ก็เป็นไปตามแผน
เขากำลังเฝ้ายามอยู่ ทุกคนหลับสนิทเหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้น กฤตนัยค่อยๆไต่ลงห้างอย่างช้าๆไม่ให้เกิดเสียง
แล้วเดินไปยังจุดที่เก็บกระเป๋าอย่างเงียบกริบ โดยอาศัยแสงจากดวงจันทร์นำทาง เขาต้องแน่ใจว่าห่างจากห้างพอ
ไม่มีใครเห็นแสงไฟฉายจึงจะหยิบมาใช้

   สัณหวัชลืมตาขึ้นเมื่อกฤตนัยไต่ลงห้าง เขาแกล้งหลับมาตลอด แต่กฤตนัยอาจจะลงไปทำธุระส่วนตัวข้างล่าง
สัณหวัชไม่ได้ติดใจอะไรถ้าไม่เห็นว่าบ้างสิ่งหายไป กระเป๋า...กระเป๋าใบนั้น ใบที่กฤตนัยถือติดตัวตลอดมันหายไป
เขาหาอย่างไร ก็หาไม่เจอ เป็นอย่างที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ สัณหวัชคว้าเป้ที่คิดว่าต้องได้ใช้แน่นอนแล้วรีบไต่ลงห้าง
เดินไปตามทางที่เห็นแผ่นหลังของกฤตนัยลางๆ ไม่ให้รู้ กฤตนัยหายไปหลังต้นไม้ใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นพร้อมกับเป้ใบนั้น
เขาควรรีบตามกฤตนัยไปรอถึงเช้าแล้วค่อยออกไปหาถึงตอนนั้นกฤตนัยคงไม่ใจร้ายไล่เขากลับอย่างแน่นอน
เดินออกมานานมากแล้ว กฤตนัยหยิบกระบอกไฟฉายมาก่อนเปิดมันนั้นทำให้สัณหวัชตามได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
แต่มันไม่เป็นอย่างนั้นป่าแถบนี้รกมาก เขาเดินไม่ถนัดต้องคอยปัดกิ่งไม้ที่บังทางเดินสลับกับมองคนข้างหน้าที่เดิน
อย่างคล่องแคลว แล้วเขาก็มองไม่เห็นกฤตนัย แม้แต่แสงไฟฉาย เขามองไม่เห็น กฤตนัยหายไปไหน
สัณหวัชคลาดกับกฤตนัยสะแล้ว แต่ที่แย่ไปกว่านั้น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาอยู่ที่ไหน

“นัย คุณอยู่ไหน”สัณหวัชตะโกนเรียกกฤตนัยในความมืด ไม่มีแม้แต่เสียงตอบรับมีแต่เสียงสะท้อนของเขาดังไปก้องป่า

“นัย”

“นัย”

“กฤตนัยคุณอยู่ไหน..อือ..ผมกลัว”ประโยคสุดท้ายเรียบและเบา น้ำตาคลอเบ้า เขาจะทำอย่างไรดี



 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


-เรื่องนี้จะแต่งแค่ไม่กี่ตอนนะครับ คาดว่าไม่น่าจะเกิน 10 ตอน(เรื่องสั้นมาก)เพราะวางพลอตไว้แค่สั้นๆ
ไม่อยากใส่อะไรลงไปมากกลัวว่ามันยืดเยื้อเเละน่าเบื่อ พยายามเดินเรื่องเร็วๆ(หรือยัง)ครับ
-ตอนหน้าน่าจะเจอกับนาคาแล้ว คิดว่านาคาจะเป็นเเบบไหนลองทายมาได้นะครับ
-ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นและ+ นะครับ ^^

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: White ที่ 07-02-2012 08:07:41
เนื้อเรื่องน่าสนใจ
แต่จะผิดมั้ยเนี่ย ที่อ่านแล้ว รู้สึกไม่ชอบ วัช ซะอย่างนั้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 07-02-2012 11:57:05
ใครจะมาช่วยเอ่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 07-02-2012 12:14:55
อารมณ์น้องๆ เพชรพระอุมานะคะ

ตอนแรกนึกว่า นาคา คือหนึ่งในตัว พระ หรือ นาย

แต่นี่เหมือน จะจัด ตัว พระ-นาย ไว้แล้วรึป่าว ?

นัยกล้ามากนะคะ ออกไปในป่าลึกคนเดียวเนี่ย สุดยอด o22

ส่วนวัชก็...ความรักทำให้คนยอมทำทุกอย่างสินะ เรื่องจริงนี่เปรียบได้ว่าฆ่าตัวตายชัดๆเลย

(พ่อเราเคยใช้ชีวิตอยู่บนเขาใหญ่ ในป่าดิบลึกเมื่อสามสิบกว่าปีก่อนค่ะ พ่อบอกว่าป่าดงดิบจริงๆ ไม่ใช่สิ่งที่เราเห็นในละครหรือในหนังที่เค้าหาโลเกชั่นแบบ คนและเครื่องมือเข้าไปถึงได้ มันไม่ได้โปร่งอย่างนั้น ของจริงคือแม้แต่ตอนกลางวันก็แทบไม่มีแสงใดๆ  เพราะความหนาแน่นของใบไม้ต้นไม้ที่มากจนแสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึงพื้นดิน)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: nataxiah ที่ 07-02-2012 13:35:24
อ่านแล้วคิดเหมือนรีบนเลยครับ ระพินท์ ภูไท (เขียนผิดอีกแน่ๆ)

แต่เนื้อเรื่องสนุกดีครับ บรรยายดีด้วย เรื่องแรกเก่งจริงๆ ครับ

ขอแนะนำนิดหน่อยนะครับ (ไม่ได้เก่งมาก แต่อยากบอกคงไม่คิดมากนะครับ)

คำผิดเท่าที่อ่านมาทั้งสามบทยังมีอยู่ประปรายครับ (ของตัวเองยังแก้ไม่หมดเลยมาบอกคนอื่นเขาอีก แหะๆ)

หลังสัญลักษณ์คำพูด "....." เว้นวรรคสักครั้งก็ดีนะครับ จะได้อ่านง่ายมากขึ้น และหลัง ๆ ด้วยก็ดีครับ

นิดนึงคำว่า "เอง" ที่พรานคุยกับตัวพระ น่าจะเขียนแบบนี้นะครับ "เอ็ง"

เป็นกำลังใจให้นะครับ +1 เลย

แล้วก็รีบหายตัวไปก่อนดีกว่า ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Sahara_min ที่ 07-02-2012 16:28:10
อิอิ  แอบมาจิ้มให้ก่อน เด๋วมาอ่านตอนเย็นน๊าๆๆ
เรื่องแรกหรอ สู้ๆ นะคะ นักเขียนเหมือนกัน อิอิ
[/b]
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 07-02-2012 16:43:43
เอาแล้วไง นับรีบโผล่ออกมาเร็ว วัชเค้าใจเสียนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ผงฟู ที่ 07-02-2012 17:28:44
อ่า เห็นภาพ ชัดเจน มาก แนวนี้ก็ดีนะคะ

ตื่นเต้นไปอีกแบบดี


แอบมีกลัวแทนวัช...


ปล.รูปดิสคนเขียนนี่ใครหรอคะ น่ารักน่าจิ้นเป็นนายเอกมากมาย ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 07-02-2012 18:19:06
แอบกลัวแทนสัณหวัช
อย่าตามไปเลย ในป่าลึกตอนดึกคงน่ากลัวน่าดู
+1 จ้า รอเจอนาคาอยู่นะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-02-2012 19:55:25
นาคา จะกลายเป็นวัชป่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-02-2012 20:37:49
เป็นไงต่อไปละเนี่ย  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 07-02-2012 20:57:19
วัชหลงกับกฤตซะแล้ว...จะยังไงต่อละนี่ :a3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 08-02-2012 04:18:24
เดาไม่ถูกเลย ว่าใครจะโดนนาคาจับไป  :m28:

ปล ขอเดาว่า นาคา น่าจะเป็นพระเอกมั้ง ??????
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 08-02-2012 11:04:44
รอตอนต่อไป
ลุ้นว่านาคาจะเป็นตัวพระ หรือ นาย อิ อิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 08-02-2012 19:59:53
มาให้กำลังใจคนแต่งครับ เรื่องแรก สู้ๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-02-2012 08:57:07
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะครับ    คืนนี้จะทาต่อตอน4ให้นะครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Artemis ที่ 09-02-2012 11:16:42
มารอค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 09-02-2012 15:58:07
การผจญภัย survival (ของจริง) ในป่าดงดิบกำลังจะเริ่มต่อจากนี้สินะ...
รอการปรากฏตัวของ นาคา และ เผ่ากินคน  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-02-2012 19:40:50
ตอนที่๔




กลางดึกอันเงียบสลัด หลายสิ่งดูสงบนิ่งภายใต้ความมืดแต่ไม่ใช่กับสัณหวัช ตอนนี้เขาสติแตกวิ่งวนไปทั่วป่า
ราวกับคนสติไม่สมประกอบร้องเรียกหากฤตนัยจ้าละหวั่น เขากลัวมาก มันมืด เขามองไม่เห็นพยายามคล้ำทาง
ไปเรื่อยๆ กิ่งไม้ หนามเกาะเกี่ยวตัวเป็นระยะแต่เขาไม่ได้หยุดยังคงวิ่งต่อไป ทิศไหนไม่รู้เป็น ทิศไหน
มันมั่วไปหมดเหมือนวิ่งอยู่ในเขาวงกต เขาปวดหัวและล้าไปทั้งตัว นี้เช้าแล้วหรือยัง???? ทำไมยังมองไม่เห็นทาง
ไม่มีแสงสักที บางทีที่ตรงนี้ ที่เขายืนอยู่อาจลึกจนเกินไป เขาควรจะใจเย็นและเดินต่อไป อยากจะหันหลังกลับ
แต่ทำไม่ได้แล้วเขาจำทางไม่ได้ และตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะไปทางไหน สัณหวัชชั่งใจอยู่สักครู่
คิดกับปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ ระหว่างหาทางกลับห้าง หรือเดินหน้าต่อตามกฤตนัย เขาควรจะทำอย่างไร??
ป่านนี้ธนุสจะตื่นและพบว่าเขากับกฤตนัยหายตัวไปแล้วหรือยัง หรือพัชรพลกำลังวางแผนกับพรานอ่ำตามหาพวกเขา
อยู่หรือเปล่า แต่พัชรพลยังมีพวกต่างกับกฤตนัยที่ไม่มีใคร.......... สุดท้ายสัณหวัชก็ตัดสินใจเดินหน้าต่อตามหากฤตนัย
เขารู้ที่หมายของกฤตนัยมันคงไม่ยากนัก แต่เพราะความมืดทำให้เขากลัว สัณหวัชพยายามนิ่งอยู่กับที่เพื่อที่
จะไม่ให้ตัวเองหลงไปมากกว่านี้และรวบรวมสติ เขาหยิบเข็มทิศออกมาและหาทิศของกลางป่าสถานที่ที่กฤตนัย
เดินทางไปมันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนนี้ก็ปาเข้าไปตี 4 แล้วสัณหวัชวิ่งวนในป่ามาเกือบๆ 2 ชั่วโมง
เขาควรจะพักผ่อน และพอรุ่งเช้าค่อยคิดหาทางไปต่อ สัณหวัชแอบหวังไว้ในใจว่าทุกอย่างจะเรียบง่ายเหมือนในละคร
เขาจะได้เจอกับกฤตนัยแล้วประสบการณ์ครั้งนี้จะกลายเป็นเรื่องตลกที่เอาไว้คุยกันในกลุ่ม ถึงแม้ว่าเขาอาจจะไม่มีโอกาส
ออกจากป่าแห่งนี้อีกเลยก็ตาม เขารู้ดี



เสียงดังคล้ายฝีเท้าที่ย่ำลงบนใบไม้ดังอยู่รอบๆตัวเขา สัณหวัชบีบตัวเองเข้ากับโค่นต้นไม้ใหญ่ มันอาจจะช่วย
บังตัวเขาจากสัตว์แต่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกปลอดภัยเลย เหมือนฆ่าตัวตาย!! เขาคิดกับตัวเอง เขาเสียใจนิดๆหลัง
จากที่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป เขาไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ในการเดินป่า ลึกๆแล้วเขาคิดว่าตัวเองคงไม่รอด
นี่คือเรื่องจริงมันไม่ใช่ละครที่สุดท้ายแล้วจะมีคนมาช่วย หรือพระเอกจะได้ยินเสียงนางเอกถึงแม้จะอยู่ห่างกันแค่ไหนก็ตาม
คืนทั้งคืนเขาตะโกนเรียกกฤตนัยจนเจ็บคอ ได้รสเลือดนิดน้อยแต่เขายังร้องต่อ มันน่ากลัวมากในวินาทีนั้น
คล้ายๆกับเด็กอนุบาลที่หลงกับพ่อแม่ในซุปเปอร์มาเกตแล้วพยายามเดินวนตามหาจนทั่วแต่หายังไงก็หาไม่เจอ
จนสุดท้าย รปภ ก็มาช่วยไว้ แต่ในป่าแบบนี้จะหา รปภ ได้ที่ไหน สัณหวัชเคลิ้มจนใกล้จะหลับเต็มทีแต่เพราะความกลัว
กับบรรยากาศ เขาทนฝืนตัวเองไว้ จนสุดท้ายเมื่อความง่วงมาถึงขีดสุดเขายอมแพ้และหลับไป




_______________________________________________






“ เจอไหมพราน ” พัชรพล ธนุส และพรานอ่ำ ต่างแยกกันออกตามหาทั้งสัณหวัชและกฤตนัยกลางดึก
หลังจากที่ทั้งคู่ออกไปสักระยะหนึ่ง เป็นพรานอ่ำที่ตื่นขึ้นแต่ไม่พบกฤตนัยที่น่าจะเฝ้ายามอยู่ซ้ำสัณหวัชยังหายไปอีกคน

“ ไม่วะ ” พรานอ่ำส่ายหน้าก่อนจะตอบอย่างเหนื่อยๆ

“ ธนุส เป็นไงเจอนัยกับวัชไหม ”

“ ทางนี้ก็ไม่เจอ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหนกัน ” ธนุสหอบแห่กข้างชายทั้งสอง

“ ข้าว่าเพื่อนเอ็งคงไปไกลแล้วละ รอพรุ่งนี้เช้าค่อยตามหาเอ็งว่ายังไง ”

“ ไม่...หาตอนนี้เลยไม่ได้หรือพราน ถ้าเกิดเพื่อนผมเป็นอะไรไป.... ”

“ ถ้าพวกเอ็งสองคนอยากตายก็เชิญ แต่ข้าไม่เอาด้วยแค่ออกมาตามหามันกลางดึกก็อันตรายจะแย่ ขืนไปไกลกว่านี้
มีหวังหลงทางกันพอดี ” พวกเขาออกตามหากฤตนัยและสัณหวัชไม่ไกลจากห้างเท่าไรนัก เพราะดึกมากและ
เพราะความมืดทำให้ยิ่งลำบากและอันตราย ลำพังแค่พรานอ่ำคนเดียวคงพอเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าให้สองคนนี้ไปด้วย
เขาไปมั่นใจในความปลอดภัย


พัชรพลกลับขึ้นห้างด้วยอาการกระสับกระส่าย เขารู้สึกห่วงเพื่อน อยากออกไปตามหาแต่ถ้าทำอย่างนั้นเขาเองก็อาจจะหาย
ไปอีกคนก็ได้ จึงได้แต่เชื่อพรานอ่ำ เขาคิดอยู่ทั้งคืนถึงเหตุผลหลายๆข้อที่ทำให้สองคนนั้นหายไป แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
กฤตนัยและสัณหวัชต่างก็ปกติดีในสายตาของเขา ไม่มีท่าทางแปลกอะไร


“ หรือเขาสองคนจะแอบออกไปจากป่าแล้ว ” ธนุสเองก็คิดหนักไม่ต่างจากพัชรพลเพียงแต่ความคิดความอ่าน
การใช้เหตุผลอาจจะต่างกันมากก็เท่านั้น

“ ไม่น่าจะใช่เพราะถ้าเขาไม่อยากอยู่ในป่า แล้วทำไมถึงยังขอรวมการสำรวจครั้งนี้ละ ”

“ ก็อาจจะเกิดกลัวทีหลัง ป่านี้น่ากลัวจะตายจะมืดจะสว่างแทบไม่ต่างกัน ” ธนุสยกเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้

“ แต่กฤตนัยไม่ใช่คนอย่างนั้น หมอนั้นไม่ใช่คนที่จะกลัวอะไรง่ายๆส่วนสัณหวัชเองก็ไม่เห็นจะมีทีท่าว่าจะกลัวอะไร
ตั้งแต่เดินทางกันมา มีก็แต่อาการเหนื่อยจากการเดินทางก็เท่านั้น” พัชรพลยกเหตุผลมาหักล้างกับความคิดของธนุส
เขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าคนอย่างกฤตนัยจะกลัวเรื่องแค่นี้ มันต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก

“ ผมว่าบางทีสองคนนั้นอาจจะออกไปด้วยกัน เราน่าจะคอยดูตอนเช้าอาจจะกลับมาทั้งคู่ หรือไม่ก็ใครคนหนึ่ง ” พักหลัง
กฤตนัยและสัณหวัชสนิทกัน เขาเห็น น่าจะไปด้วยกัน ทำธุระอะไรบางอย่าง ตอนนี้พัชรพลคิดได้เพียงแค่นั้น
นอกจากการสำรวจเขาไม่เห็นว่าจะมีเป้าหมายอื่นอีกแล้ว


ธนุสรับหน้าที่เฝ้ายามต่อหลังจากที่ขึ้นห้างมาแล้ว พัชรพลพยายามข่มตาให้หลับตอนนี้เวลาราวๆตีสาม พรานอ่ำเอง
หลับตั้งแต่ขึ้นห้างมา พัชรพลเข้าใจเพราะพรานอ่ำต้องนำทางมันทำให้เขาเหนื่อยแล้วยิ่งมาเจอเรื่องแบบนี้ยิ่งเหนื่อยขึ้น
อีกเท่าตัว ในป่านั้นมืดมากจริงๆ เขายอมรับว่าไปตามหากฤตนัยและสัณหวัชไม่ห่างจากห้างสักเท่าไร ถึงจะใจแข็ง
แต่ก็ต้องรู้สึกกลัวกันบ้าง แล้วสองคนนั้นจะเป็นอย่างไร สัณหวัชจะเป็นอย่างไรบ้าง





___________________________________________






ในเช้าวันใหม่ตอนนี้ก็ใกล้จะหกโมงเช้าเต็มที แต่มองยังไงๆก็ไม่ใช่ ป่านี้ค่อนมืดทึบ แสงส่องลงมาได้ไม่เต็มที่
คงเป็นเพราะใบไม้ที่ปกคลุมทั่วทั้งป่า เช้าๆยังนี้คล้ายๆกับมีหมอกบางๆจับอยู่ตามยอดไม้ พัชรพลสังเกตตั้งแต่
เมื่อวานที่ออกสำรวจแล้วว่าป่าแถบนี้อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ ต้นไม้ขึ้นแนบชิดติดกันสะจนแน่นไปหมด แทบจะพูด
ได้เลยว่าหากหลงกันไปไม่มีทางหาเจอได้แน่นอนเพราะต้นไม้บังไว้หมด


ทุกคนตื่นขึ้นด้วยอาการไม่สู้ดีหนัก ธนุสเองยังคงดูงัวเงียเหมือนคนหลับไม่เต็มอิ่มไม่เว้นแม้แต่พรานอ่ำเอง ไม่มีใคร
พูดอะไรกันเหมือนอย่างทุกวัน พวกเขานั่งแยกกันทานอาหารเช้า จนเริ่มเก็บของ ตอนนี้ถึงเวลาต้องตัดสินใจ
กับเรื่องที่เกิดขึ้น พัชรพลไม่รู้จะทำอย่างไรดี เขาสับสันระหว่างทำงานให้เสร็จก่อนหรือจะออกตามหาเพื่อนของเขาก่อน
กระเป๋าเป้พร้อมเครื่องมือต่างๆถูกสะพายขึ้นบนบ่าเรียบร้อย แต่ทั้งกลุ่มไม่มีคนขยับ พรานอ่ำเองก็มีเพียงหน้าที่นำทาง
ไปจุดหมายแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าผู้นำจะยังเลือกจุดหมายไม่ได้

“ ผมไม่รู้ ” พัชรพลเอยขึ้นเขาต้องการคำแนะนำ

“ อะไร ” ธนุสมองพัชรพลด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ พรานอ่ำเองพอจะรู้แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร

“ ผมไม่รู้ว่าจะทำการสำรวจต่อหรือตามหาสองคนนั้นดี ”

“ แล้วแต่เอ็งข้ามีหน้าที่นำทาง เรื่องที่หมายเป็นเรื่องของพวกเอ็ง ”

“ ผมอยากตามหาพวกเขาแต่ผมไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน ” พัชรพลเข้าตาจน เขามองไปที่ธนุสต้องการความเห็น
แต่เขาส่ายหน้า ธนุสเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

“ นาคา ”

ทั้งพัชรพลและธนุสต่างก็มองไปยังพรานอ่ำ เขาไม่เข้าใจที่พรานอ่ำพูด

“ อะไรนะพราน ”

“นาคา ไอ้หนุ่มนั้นถามข้าเรื่องนาคา ”

“ ใครลุง นัยใช่ไหม” พัชรพลลนลาน เขาอยากรู้เต็มที คำพูดของพรานทำให้เขานึกถึงคำพูดของสัณหวัชก่อนหน้านั้นได้




“คุณพลผมว่าพักนี้ นัยมีท่าทางแปลกๆคุณคิดเหมือนผมไหม”สัณหวัชถามความเห็นของพัชรพลถ้ามีคนสังเกตเห็น
เหมือนกับเขานั้นก็หมายความว่า กฤตนัยกำลังพยายามทำอะไรอยู่อย่างแน่นอน

“ไม่นี่ ผมว่าเขาก็ปกติดี”

“งั้นหรอครับ ผมว่านัยกำลังจะทำอะไรบ้างอย่าง ผมเห็นเขาจัดกระเป๋าไว้ด้วย”

“คุณคิดมากไปหรือเปล่า กระเป๋านั้นก็คงสำหรับเดินทาง”





“แต่นัยพูดอะไรบ้างอย่างกับผมเกี่ยวกับนาคา ผมกลัวว่าเขาจะตามหามัน”

“ นาคา ใช่ก่อนหน้านั้น วัชพูดเกี่ยวกับเรื่องนาคา เขาบอกว่านัยมีท่าทางแปลก เขาคิดว่านัยจะตามหามันแต่ตอนนั้น
ผมไม่ได้ใส่ใจอะไรเพราะเห็นว่านัยเองก็มีท่าทีปกติ ”

“ ไอ้หนุ่มมันถามข้ามาหลายวันแล้ว เรื่องนาคาไหนจะเรื่องทางไป เรื่องเผ่ากินคนอีก ”

“ แล้วลุงไม่แปลกใจบ้างหรือไง ”

“ ข้าจะรู้ได้ไงละวะ มันถามมาข้าก็ตอบใครจะไปรู้ว่ามันจะบ้าตามหาจริงๆ ”

“ แล้วเอายังไงลุง ”

“ เรื่องของพวกเอ็งไม่เกี่ยวกับข้า แต่บอกไว้ก่อนถ้าจะให้ข้าเข้าหามันในป่านั้นข้าไม่ไปนะโว้ย ”

“ ลุงช่วยผมหน่อยนะ ”

“ไม่โว้ย พวกเอ็งก่อเรื่องกันเองแก้กันเองก็แล้วกันข้าไม่ยุ่งด้วย ” พรานอ่ำพูดทีจริงทำท่าจะเดินกลับ แต่พัชรพล
รั้งเขาเอาไว้สะก่อน





______________________________________





กฤตนัยเดินทางมาทั้งคืน เขาพยายามตามทิศทางของเข็มทิศและคำแนะนำของพรานอ่ำ ถึงจะมองเห็นทาง
ไม่ถนัดนักแต่ก็คิดว่าตัวเองคงไม่หลง แสงจากกระบอกไฟฉายอันเดียวที่มีอยู่เป็นเครื่องช่วยนำทางในขณะนี้
แต่เขาเห็นแค่ในวงแคบๆเท่านั้น นาฬิกาดิจิตัลแสดงเวลาเวลาตีห้ากว่าๆ เขาเหนื่อยเต็มที่ เมื่อวานทั้งเดินทาง
สำรวจ หนำซ้ำเขาไม่ได้นอนทั้งคืน กฤตนัยมองหาพื้นที่ที่กว้างพอที่จะก่อกองไฟกับเอนตัวลงนอน เขาไม่ต้องการ
ที่จะหลับจนลึกเกินไปเผื่อว่าแถวนั้นอาจจะมีสัตว์ใหญ่อาศัยอยู่เขาจะได้รู้สึกตัว กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มอย่างแรก
ที่เขานึกถึงมันคงจะทำให้เขาตื่นตัวได้บ้าง กฤตนัยนั่งลงข้างกองไฟที่เพิ่งก่อเสร็จ เขารู้สึกว่าตัวเองบ้าอยู่ลึกๆเหมือนกัน
ที่ทำอะไรบุ่มบ่ามอย่างนี้ ตอนนี้ทุกคนคงกำลังตามหาเขาอยู่ แต่ถ้าเขาบอกก็คงไม่มีใครเห็นด้วยเหมือนสัณหวัช
พวกนั้นคงจะรู้ว่าเขาออกตามหานาคาจากปากของสัณหวัชแล้วแน่ๆ เขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าจะเจอหรือเปล่า
แค่จะไปยังสถานที่นั้นแท่นหินขนาดใหญ่ที่มีลักษณะคล้ายพีระมิดที่ที่เป็นทั้งที่อยู่และที่เซ่นสังเวยแก่นาคา
ตามคำบอกเล่าของคนในหมู่บ้านและพรานอ่ำ แต่ไม่มีใครสักคนที่จะกล้ายืนยันว่ามันมีอยู่จริง เหลือเพียงรูปเก่าๆ
ที่เขาแทบจะมองไม่ออก มันเก่ามาก บางทีอาจจะมีคนวาดเอาไว้เล่นๆแล้วเกิดมีคนคิดเป็นจริงเป็นจังขึ้นมา 
แล้วไหนจะเรื่องของเผ่ากินคนอีก แต่อันที่จริงเรื่องเผ่ากินคนดูเหมือนจะน่าเชื่อได้มากกว่าเรื่องนาคา แต่ไม่รู้ทำไม
เขาถึงอยากตามหา จนป่านนี้เขายังนึกเหตุผลดีๆสักข้อในการตามหานาคาไม่เจอ เหตุผลที่ดูที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็น ‘อยากรู้’
แล้วถ้าเกิดว่าทั้งสองเรื่องมันมีอยู่จริงแสดงว่าเขาก็เข้าใกล้เต็มที่ ถ้านับจากจุดที่ตั้งเป้าหมายในการสำรวจเอาไว้
ต้องเดินทางจากห้างราวๆครึ่งวันละก็ กลางป่าที่ลึกที่สุดก็คงอีกสองถึงสามวันไม่เกินนั้นถ้าพรานอ่ำบอกมาไม่ผิด
พรานอ่ำบอกว่าป่าแถบนั้นไม่เคยมีใครเข้าไปแม้แต่พรานเองก็เถอะมันจึงดูรกมาก คงจะลำบากน่าดูถ้าเขาจะเข้าไป
ในป่าอย่างนั้นแต่เดินมาจนถึงตอนนี้จะหันหลังกลับก็คงไม่ทันสะแล้ว กฤตนัยเอนตัวลงนอนเขาอยากพักสักงีบ
รอสายๆค่อยออกเดินทางต่อ เขาแอบหวังไว้นิดๆว่าจะได้เจอกับนาคาตัวจริงและตัวเป็นๆ






-ตอนแรกคิดไว้ว่าตอนนี้จะให้เจอกับเผ่ากินคนก่อนแต่ถ้าเกิดว่าแต่งไปแล้วมันจะยาวมาก ก็เลยตัดแค่ตรงนี้แต่ตอนหน้าได้เจอแน่ๆครับ
-แต่งไปแต่งมารู้สึกว่าเรื่องนี้ป่วงเต็มที มีข้อผิดพลาดหรืออยากเเนะนำอะไรก็บอกเลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ
-ขอบคุณนักอ่านที่อ่านนิยายของผมนะครับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและทุก+ที่กดให้ขอบคุณมากครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๓ น.๑ อัพ (๗/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-02-2012 19:44:48

คุณWhite
คิดเหมือนคนแต่งเลย แอบไม่ชอบวัชเหมือนกัน เอ๊ะ!!!ยังไงแต่งเองไม่ชอบเอง ขอบคุณที่อ่านนะครับ


คุณHorizon
นั่นนะสิ ใครนะ ติดตามต่อนะครับ


คุณsilverspoon
เพชรพระอุมานี่เป็นนิยายของใครครับ ทำไมไม่เคยได้ยินนะ  แต่อุตส่าห์นำไปเปรียบแสดงว่าของเขาต้องดีจริงต้องขอขอบคุณมากครับ แล้วเรื่องป่าดิบลึกที่คุณพ่อได้บอก อ่าแล้วรู้สึกเรื่องของตัวเองดูไม่สมจริงยังไม่รู้แต่ยังไงจะแก้ไขให้นะครับ แต่ถ้ามืดไปเลยจะแต่งยังไงละทีนี้ ขอบคุณสำหรับข้อมูลของป่านะครับ ส่วนเนื้อเรื่องตามต่อนะครับอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด


คุณnataxiah
ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเป็นแฟนคลับนิยายของคุณnataxiahอยู่ครับ ตามทั้งบ่วงนาคราชและธำมรงค์ ส่วนตัวแล้วไม่เคยอ่านเพชรพระอุมาครับแต่อย่าเอาไปเปรียบเลยครับมันคนละชั้น ขอบคุณสำหรับคำตินะครับจะแก้ไขให้ในตอนต่อไปนะครับ   ขอบคุณที่อ่านครับ


คุณsahara_min
เรื่องแรกครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ กำลังอ่านนิยายของคุณอยู่เหมือนครับ ^^


คุณLemon_Tea
นัยไปไกลแล้วอ่า ใครจะช่วยวัชละทีนี้ TT


คุณผงฟู
ขอบคุณมากครับ มีคนชอบผมก็ดีใจครับ รูปดิสอันนี้จำไม่ได้แล้วแหะๆ เห็นน่ารักดีครับ ชอบ


คุณsilent_loner
เอาใจช่วยวัชไปด้วยกันเนอะ นาคาได้เจอแน่ๆครับ ขอบคุณที่อ่านและ+ให้นะครับ


คุณtakara
แอร๊ยยยย รู้ได้ไง แหะๆๆ ติดตามเนื้อเรื่องต่อนะครับ


คุณbulldog17
นั่นนะสิครับ จะเป็นยังไงต่อนะ^^


คุณ~ยำโซดาเผา~
อยากรู้ต้องติดตามนะครับ ^^

คุณPetitDragon
อย่าเดาเลยครับ ปวดหัว


คุณKURATA
อ่า ลุ้นเหมือนกันหรอนาคาจะเป็นทั้งสองอย่างดี ^^


คุณ G-NaF
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ^^


คุณArtemis
ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะครับ มีกำลังใจขึ้นเยอะ ^^


คุณCherry Red
รอดูต่อไปนะครับ เรื่องเผ่ากินคนกับนาคาได้เจอเเน่ๆครับ เรื่องอาจจะพลิกลอคหน่อยๆ ติดตามต่อนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 09-02-2012 19:52:08
เผ่ากินคน !!  o22

จะโดนกินก่อนเจอนาคามั๊ยเนี่ย....  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 09-02-2012 20:26:28
รอครับรอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 09-02-2012 22:03:30
ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 09-02-2012 22:17:12
อ่านทันแล้ว ชอบแนวนี้ค่ะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 09-02-2012 22:32:07
แล้วใคร? จะเจอเผ่ากินคน...ก่อนกัน :a3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: trafu ที่ 09-02-2012 22:34:39
เพชรพระอุมาหรอ
เราอ่านแล้วแต่อ่านแค่ภาคแรกอ่ะ
ภาค2ยังไม่ได้อ่าน
มันเป็นอะไรที่เจิ้ดมากๆเลยแหละ
แนะนำให้อ่านจ้า :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 09-02-2012 23:45:56
แสดงว่าคุณเป็นเด็กรุ่นใหม่และอายุยังน้อยมากๆแน่เลยค่ะเลยไม่เคยได้ยิน :laugh:

เพชรพระอุมาเป็นนิยายที่มีชื่อเสียงและขึ้นหิ้งคลาสสิคตลอดกาล
เป็น master piece ของคุณพนมเทียน ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540

เป็นบันเทิงคดีที่เราแนะนำให้คนที่รักการอ่านอย่าพลาดนิยายไทยแห่งศตวรรษเรื่องนี้

ว่าด้วยเรื่องของการตามหาคนสาปสูญ

ในเรื่องคุณจะสนุกกับการผจญภัย ความรู้เรื่องปืน การล่าสัตว์ การแกะรอย ตำนานและเรื่องลึกลับในป่า

แบบสมจริงมากๆ เพราะคุณปู่พนมเทียน ท่านใช้ชีวิตวัยหนุ่มไปกับการเข้าป่าล่าสัตว์ในป่าดิบลึกแถวๆชายแดนภาคใต้ค่ะ
(สมัยนั้นยังไม่ก่อการร้าย)

ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่แค่รักการอ่านแต่ยังชอบเขียน โดยเฉพาะเขียนเรื่องในป่า

เพชรพระอุมาจะไม่แค่มอบความสนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกแบบวางไม่ลงอย่างเต็มเปี่ยม

แต่จะเป็นบรมครูต้นแบบนิยายผจญภัยในป่าให้คุณได้ศึกษาด้วยค่ะ

แฟนหนังสือเพชรพระอุมามีเยอะอยู่ทั่วประเทศ มีโต๊ะเพชรพระอุมาในกลุ่มย่อยของห้องเฉลิมไทยเว็บพันทิป

และเคยเป็นหัวข้อการแข่งแฟนพันธ์แท้มาแล้ว

ที่สำคัญที่สุด เพชรพระอุมาคือโปรเจคใหญ่ต่อไปของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

ที่จะสร้างต่อจากพระนเรศวร โดยท่านเริ่มเตรียมการขั้นต้นไปบ้างแล้วค่ะ

ขออภัยสำหรับคอมเ้ม้นท์ยาวๆค่ะ สำหรับตอนนี้เราลุ้นแทนสหวัชมากๆ กลัวแทน กลัว he จะไม่รอด  :serius2:

เหมือนยังมีปริศนาและการผจญภัยอีกเยอะรออยู่ข้างหน้า เป็นกำลังใจให้นะคะ

ชอบนิยายวายที่ต่างจาก theme ปกติธรรมดา ชีวิตในเมือง ในรั้วสถานศึกษา แหวกๆออกมาบ้างก็เปลี่ยนบรรยากาศดี
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-02-2012 08:19:02
แสดงว่าคุณเป็นเด็กรุ่นใหม่และอายุยังน้อยมากๆแน่เลยค่ะเลยไม่เคยได้ยิน :laugh:

เพชรพระอุมาเป็นนิยายที่มีชื่อเสียงและขึ้นหิ้งคลาสสิคตลอดกาล
เป็น master piece ของคุณพนมเทียน ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ปี 2540

เป็นบันเทิงคดีที่เราแนะนำให้คนที่รักการอ่านอย่าพลาดนิยายไทยแห่งศตวรรษเรื่องนี้

ว่าด้วยเรื่องของการตามหาคนสาปสูญ

ในเรื่องคุณจะสนุกกับการผจญภัย ความรู้เรื่องปืน การล่าสัตว์ การแกะรอย ตำนานและเรื่องลึกลับในป่า

แบบสมจริงมากๆ เพราะคุณปู่พนมเทียน ท่านใช้ชีวิตวัยหนุ่มไปกับการเข้าป่าล่าสัตว์ในป่าดิบลึกแถวๆชายแดนภาคใต้ค่ะ
(สมัยนั้นยังไม่ก่อการร้าย)

ยิ่งถ้าคุณไม่ใช่แค่รักการอ่านแต่ยังชอบเขียน โดยเฉพาะเขียนเรื่องในป่า

เพชรพระอุมาจะไม่แค่มอบความสนุกตื่นเต้นลุ้นระทึกแบบวางไม่ลงอย่างเต็มเปี่ยม

แต่จะเป็นบรมครูต้นแบบนิยายผจญภัยในป่าให้คุณได้ศึกษาด้วยค่ะ

แฟนหนังสือเพชรพระอุมามีเยอะอยู่ทั่วประเทศ มีโต๊ะเพชรพระอุมาในกลุ่มย่อยของห้องเฉลิมไทยเว็บพันทิป

และเคยเป็นหัวข้อการแข่งแฟนพันธ์แท้มาแล้ว

ที่สำคัญที่สุด เพชรพระอุมาคือโปรเจคใหญ่ต่อไปของท่านมุ้ย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล

ที่จะสร้างต่อจากพระนเรศวร โดยท่านเริ่มเตรียมการขั้นต้นไปบ้างแล้วค่ะ

ขออภัยสำหรับคอมเ้ม้นท์ยาวๆค่ะ สำหรับตอนนี้เราลุ้นแทนสหวัชมากๆ กลัวแทน กลัว he จะไม่รอด  :serius2:

เหมือนยังมีปริศนาและการผจญภัยอีกเยอะรออยู่ข้างหน้า เป็นกำลังใจให้นะคะ

ชอบนิยายวายที่ต่างจาก theme ปกติธรรมดา ชีวิตในเมือง ในรั้วสถานศึกษา แหวกๆออกมาบ้างก็เปลี่ยนบรรยากาศดี

เพิ่งลองค้นหาข้อมูลดูเมื่อวานเองครับ อันที่จริงเคยได้ยินเเค่ชื่อมานานเเล้วนอกนั้นไม่รู้เรื่องเลย แหะๆ

อย่างนี้ต้องไปหามาอ่านเเล้วละครับ

ยิ่งพอมาเจอว่ามีเรื่องเเบบนี้ แถมยังเป็นหนังสือที่มีคนติดตามมาขนาดนี้ รู้สึกว่าเรื่องของตัวเองป่วงไปเลย  :seng2ped:


ส่วนที่เขียนเรื่องเเนวนี้ เพราะว่าคนเขียนเองก็เริ่มจะเอียนๆเรื่องรักๆในมหาวิทยาลัยแล้ว

แต่ไม่รู้ว่าจะไปหาอ่านจากไหน ก็เลยลองเเต่ดู

ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 10-02-2012 11:38:57
จะเจออะไรก่อนนิ อยากให้เจอนาคาก่อนอะ แต่ว่านา นาคาอาจเจอวัชก่อนก้อได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: White ที่ 10-02-2012 13:23:07
อยากให้เจอ นาคา ก่อน ถ้าเจอ เผ่ากินคนคน ต้อง รอดยากแน่ๆเลยค่ะ

อ่านแล้ว ให้อารมณ์ เพรชพระอุมา ว่าแต่จะคล้ายๆ ตอน นาคเทวี มั้ยคะ

สู้ๆนะคะ บวกให้ หนึ่ง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-02-2012 16:05:37
อย่าคิดมากค่ะ วางพล็อตไว้ยังไงก็เดินหน้าในส่วนที่ตัวเองต้องนำเสนอต่อไป ยังมีคนอ่านรออยู๋อีกนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 10-02-2012 16:38:30
หง่ะ สั้นอ่ะ เหมือนอ่านไปหน่อยเดียวเองอ่ะ
อ๊ากกกก ใครจะเจอเผ่ากินคนก่อนกัน ระหว่างวัชกับนัย
แต่เค้าเป็นห่วงวัชมากกว่านัยนะ บอบบางซะขนาดนี้
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: wasawath ที่ 10-02-2012 17:09:48
พึ่งเข้ามาอ่าน ชอบแนวนี้อ่ะหนุกดี 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 10-02-2012 23:02:41
คุณกฤตนัย ออกจะเห็นแก่ตัวนิด ๆ นะ เพราะ ต้องคำนึงว่า มาทำงานกันเป็นทีมแต่หลบไปคนเดียวแบบนี้
คนข้างหลังเดือดร้อนนะ เอาเถอะ ดูท่าพี่แกจะเอาตัวรอดได้อยู่ 
ที่น่าเป็นห่วง คือ คุณสัณหวัช เข้าใจว่าเป็นห่วงคุณกฤตนัยแต่รีบร้อนตามออกมาโดยไม่ประเมินความสามารถของตัวเอง
เลยหลงป่าดงดิบแบบสติแตกอยู่นี่ไง...   :m23:

ป.ล.เพชรพระอุมา เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมมาก ตามห้องสมุดโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่จะมีให้ยืมอยู่แล้ว
ลองไปหาที่ห้องสมุดของสถาบันการศีกษาที่เรียนอยู่ก่อนก็ดีค่ะ...  :teach:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 10-02-2012 23:47:48
เอาใจช่วยเคะน้อยน่ารัก(ใช่นายเอกรึป่าววา  ไม่แน่ใจ  ฮี่ๆๆ)

น่าเป็นห่วงเหลือเกินนน

พอคนเขียนเอ่ยถึงเผ่ากินคนนะ  เราจะกลัวขึ้นมาทันทีอ่ะ 
เพราะไปนึกถึงมนุษย์เดินดินกินเนื้อคน
  เคยดูตอนเด็ก  จนกลัวกลัวขึ้นสมองเลย  ฮือๆๆๆ

+1 ให้จ้าาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 11-02-2012 09:41:45
เนื้อเรื่องสนุกมาก มีการวางพล๊อตได้เยี่ยมครับ รออ่อน อย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 11-02-2012 10:25:04
กฤตจะตามหาอะไรก็ตามใจเถอะ
แต่จะมีตามหาวัชเจอมั้ย

โธ่ๆ วัชอุตสาเป็นห่วง ดันซวยหลงป่า T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: กาลณัฐ ที่ 11-02-2012 18:45:28
เมื่อไหร่จะเจอนาคา

 :serius2: :serius2:  ลุ้นอยู่น้ะเนี้ย 555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๔ น.๒ อัพ (๙/๒/๒๕๕๕)+(ตอบคอมเม้น^^)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 12-02-2012 17:45:14
ยังไม่เจอนาคาเลยอ่า
ใครจะเจอนาคากันละเนี่ย
ลุ้นต่อไปจ้า  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ((ยื่นใบลา ๑ อาทิตย์ครับ))
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 13-02-2012 08:23:34
เหตุผลเนื่องมาจาก อาทิตย์นี้มีสอบอนาโตมี่ครั้งที่สองซึ่งครั้งเเรกทำคะแนนได้ห่วยแตก

เลยขอพักการอัพเรื่องนี้เอาไว้อาทิตย์หนึ่ง กะจะอ่านหนังสือให้คะแนนพุ่งปรี๊ดกับเขาบ้าง

หลังจากสอบเสร็จเเล้ว น่าจะกลับมาอัพอีกทีวันจันทร์ของอาทิตย์หน้า

ตอนหน้าจะเอายาวๆมาให้นะครับ ^^

เห็นมีคนบ่นอยากให้เจอนาคาเร็ว ตอนหน้านี้น่าจะได้เจอเเล้วครับ

ขอบคุณที่อ่านเเละขอบคุณสำหรับ + ที่กดให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ((ยื่นใบลา ๑ อาทิตย์ครับ))
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 13-02-2012 11:19:13
จ้าาาาาา
ขอให้สอบได้คะแนนที่หวังนะจ๊ะ
รอ นาคา อยู่น้าา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ((ยื่นใบลา ๑ อาทิตย์ครับ))
เริ่มหัวข้อโดย: pu4755 ที่ 13-02-2012 11:19:24
อ่านแล้วน่าจะเป็นเผ่ากินคนจับตัวนัยไปสังเวยให้กับนาคา แล้วก็จะเกิดเป็นเรื่องราวระหว่างนาคากะนัย แน่ ๆ รุย ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ((ยื่นใบลา ๑ อาทิตย์ครับ))
เริ่มหัวข้อโดย: Artemis ที่ 14-02-2012 17:12:15
ตั้งใจอ่านหนังสือนะค่ะ

ขอให้ได้คะแนนตามที่ต้องการ

ปล.รออ่านอยู่นะค่ะ ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ((ยื่นใบลา ๑ อาทิตย์ครับ))
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 18-02-2012 11:05:18
ตอนที่ ๕







สัณหวัชลืมตาตื่นขึ้นในช่วงสายของวัน บรรยากาศรอบข้างดูชื้นแต่อากาศกลับรู้สึกร้อนอบอ้าว ตอนนี้ทั้งตัวของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อไคลที่ไหลอาบไปทั่วตัว เพราะความชื้นสัมพัทธ์ที่ค่อนข้างสูงทำให้เหงื่อที่ออกมาไม่สามารถระเหยออกไปได้ เสื้อแขนยาวที่ใส่เองก็ลู่ไปตามเนื้อกายของเขา สัณหวัชกลั้นใจเดินตามป่าทึบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อหาแอ่งน้ำหรือธารน้ำสักที่เพื่อดับความร้อนของเขาในเวลานี้ แต่หนทางในป่าที่รกและเต็มไปด้วยต้นไม้อย่างนี้ทำให้เขาใช้พลังงานในการเดินไปมากพอสมควร สัณหวัชรู้สึกหน้ามืดน้อยๆ เพราะยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เช้า นี้ก็เข้าวันที่สองแล้วที่เขาเดินทางตามกฤตนัย อาหารในกระเป๋าเป้ตอนนี้ก็ไม่มีเหลือแล้ว การใช้ชีวิตในป่าลำพังคนเดียวแบบนี้ยากกว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะ ถ้าตอนนี้มีพรานอ่ำอยู่เขาคงได้กินปลาสดๆจากลำธารแล้ว แต่เขาไม่มีความสามารถพอที่จะทำอย่างพรานอ่ำได้ เลยได้แต่กินน้ำลูบท้องไปพลางๆ ผลหมากรากไม้ที่เห็นได้อย่างง่ายดายในทีวี แต่ที่นี้ไม่มีให้เห็นแม้แต่ผลเดียว เขาหิวจนแทบจะเดินไม่ไหว พลันหูก็ได้ยินเสียงน้ำไหลดังแว่วมาจากด้านหน้า สองเท้ารีบสาวไปจนสุดความเร็ว เพียงไม่กี่อึดใจน้ำใสก็ถูกเขาวักมาอยู่ในอุ้งมือก่อนจะสาดใส่หน้าอย่างเร็ว พร้อมทั้งดื่มน้ำนั้นเข้าอีกใหญ่ๆ กระเพาะกลวงของเขาพอจะหนักขึ้นมาจากมวลของน้ำอยู่บ้างแต่มันก็ยังหิวอยู่ดี สัณหวัชทิ้งตัวลงข้างต้นไม้ใหญ่ข้างริมน้ำนั้น เหม่อมองท้องฟ้าสีครามด้านบน ตรงนี้เป็นอีกที่ที่ต้นไม้ขึ้นไม่มากเท่าบริเวณอื่นๆคงเพราะเป็นพื้นที่ที่น้ำไหล ต้นไม้เลยขึ้นไม่ได้



สัณหวัชดำดิ่งลงสู่ความคิดของตัวเอง หลายวันที่อยู่คนเดียวในป่านี้เขาไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำเดียว นอกจากเสียงถอนหายใจหรือเสียงหอบจากอาการเหนื่อยเท่านั้น หลังๆมานี้เขาเองก็รู้สึกชินกับการที่ไม่พูดอะไรเลย แต่บางครั้งก็นึกสนุกลองเปล่งเสียงออกมาบ้าง อย่างเช่น ‘สวัสดี’ ‘มีใครอยู่ไหม’ หรือฮัมเพลงเบาๆคลอไปด้วยระหว่างทาง เพื่อฟังเสียงของตัวเอง มันก็แปลกดีที่ได้ยินหลังจากที่ไม่ได้ยินมานาน ขาอ่อนแรงพยายามยันตัวเองให้ลุกขึ้นหลังจากที่นั่งอ้อยอิ่งมาซะนาน เขาต้องเดินต่อ



‘นี้ก็เข้าวันที่สองแล้วมันน่าจะถึงแล้วนี่’ เขาคิดในใจพลางสอดส่องสายตามองฝ่าป่าไปด้านหน้าเพื่อมองหาบางสิ่งที่อาจจะเป็นตัวชี้ให้เห็นว่าเขามาถึงที่แล้วจริงๆ แต่ก็ไม่มีอะไรมีแค่ต้นไม้ เถาวัลย์ และรากไม้ อย่างที่เห็นมาตลอดทั้งวัน เข็มทิศที่ห้อยคออยู่ถูกใช้งานขึ้นอีกครั้ง สัณหวัชมองหน้าปัดเข็มทิศเพื่อหาจุดยืนที่เขายืนอยู่และทิศทางที่จะเดินต่อไป


“เฮ้ออออ....” นี่เป็นเสียงถอนหายใจครั้งที่เท่าไรของเขาแล้วก็ไม่รู้หลังจากที่รู้ว่าตัวเองไม่ถึงที่หมายสักที สองขาของเขาก้าวตามพื้นชื้นๆต่อไป ความเหนื่อยและล้าเกาะกินร่างกายของเขาในแทบทุกส่วนในตอนนี้ แต่มีเพียงส่วนเดียวที่ยังคงเหลืออยู่คือ ใจ เขาหวังว่าจะได้เจอกฤตนัยและเขาจะรอด ไม่ต้องตายอยู่ในป่าแบบนี้


ไกลและนานพอสมควรที่สัณหวัชเดินเท้าผ่านเข้ามา เขาตัดสินใจทิ้งกระเป๋าเป้ใบใหญ่ เหลือไว้แค่เพียงเข็มทิศที่ห้อยคอและของจำเป็นเล็กๆน้อยๆในกระเป๋าใบที่เล็กกว่าเท่านั้น มันคงจะช่วยให้เขาเดินได้เร็วขึ้น ตั้งแต่ที่หลบออกมาจากห้างในครั้งนั้นเขาเองก็เห็นแค่เพียงป่าที่ขึ้นหนาเท่ากันทั่วทั้งป่า แต่ไม่รู้ว่าเขารู้สึกไปเองหรือเปล่า เพราะป่าแถบนี้ดูเหมือนจะบางกว่าบริเวณอื่น สังเกตได้จากแสงที่สามารถส่องลงมาได้มากกว่าที่เคยเห็น และทางเดินเองก็ไม่รกเท่าป่าในส่วนที่เพิ่งจะผ่านมา  ถึงจะสงสัยแต่ก็ดีมันคงทำให้เขาไม่เหนื่อยเท่าไร บางทีเขาอาจจะหาที่พักที่ดูจะปลอดภัยได้ในป่าบริเวณนี้ก็ได้ เขายังจำได้ถึงเสียงคำรามของเสือหรืออะไรสักอย่างที่ออกมาหากินตอนกลางคืน มันน่ากลัวว่ามันจะเจอเขา และถ้าเป็นอย่างนั้นศพของเขาคงดูไม่จืดแน่ๆ แต่โชคยังดีที่มันไม่ได้กลิ่นของเขาหรือกลิ่นตัวของเขาอาจจะคล้ายกับศพก็อาจจะใช่


พลบค่ำแล้วสัณหวัชพยายามมองหาที่จะขดตัวนอนพร้อมกับความหิวในวันนี้ แต่ขาของเขาก็เกิดไปสะดุดกับบางอย่างเข้า นั้นทำให้เขาล้มถลาไปด้านหน้าอย่างแรงเข่าที่ลงกระแทกพื้นอย่างหนักทำให้เขาเจ็บจนกุมหัวเข่าไว้อย่างแน่นเพื่อคลายความเจ็บ แต่ไม่ทันที่จะได้ร้องโอด โอย สายตาก็พบกับตัวการที่ทำให้เขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้


“ หัวกะโหลก ” ถึงแล้วหรือนี่เผ่ากินคน ร่างกายถดไปด้านหลังอย่างรวดเร็วมันตอบสนองตามสัญชาตญาณของความกลัวได้เร็วอย่างใจคิด ตอนนี้หัวใจของสัหวัชเต้นไม่เป็นระส่ำ สองมือเปียกชื้นและเต็มด้วยเหงื่อ นัตย์ตาเหลือบมองไปทั่วบริเวณ เขาต้องรีบออกไปจากที่นี้ให้เร็วที่สุด สัณหวัชลุกขึ้นสุดตัวด้วยความเร็ว เมื่อคิดได้ดังนั้นเขารีบวิ่งตรงไปข้างหน้า แต่ยังคงหันมามองด้านหลังเป็นระยะๆ เพราะไม่มีความรู้เรื่องอะไรของชนเผ่านี้เลยเขาจึงไม่รู้จะทำอย่างไร ครั้นจะถึงก็ถึงเอาซะดื้อๆ


สัณหวัชเหนื่อยหอบจนตัวโยนอยู่ข้างต้นไม้สูง เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาบ้างเมื่อพบว่าตัวเองไม่เป็นอะไรและไม่เจออะไรหลังจากที่วิ่งมาได้ไกลมากแล้ว แสงอาทิตย์จากท้องฟ้าตอนนี้หมดลงไปแล้วเหลือไว้เพียงแต่ความมืดที่เข้ามาปกคลุม ไฟฉายกระบอกเดิมถูกยกขึ้นมาส่องทางอีกครั้ง สัณหวัชเดินไปเรื่อยเมื่อพบว่าบริเวณนี้ไม่มีซอกหินหรือ หลืบรากไม้พอที่จะให้เขาเข้าไปซ่อนตัวได้เลยในคืนนี้


“ ซวบ ” เสียงอะไร!! สองขาหยุดทันทีที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างอยู่ด้านหลัง


“ ซวบ ”


“ ซวบ ”


“ ซวบ ”



เสียงนั้นถี่ขึ้นและดังขึ้นจนรู้สึกได้ว่าสิ่งนั้นอยู่ห่างจากเขาไม่เท่าไร มือมอมนั้นกำกระป๋องไฟฉายไว้แน่นจนรู้สึกปวด ก่อนจะหัน
หลังไปมองเหตุของเสียงที่เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างของเสือโคร่งตัวโตห่างออกไปราว 50 เมตร สติของเขาหลุดลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อเห็นเสือตัวนั้นและสัตว์ร้ายตรงหน้าก็เห็นเขาเช่นกัน ตาสบตาสักครู่ความเงียบเข้าปกคลุม สัณหวัชยืนตัวแข็งทื่อแต่ตายังจับจ้องไปยังลูกตากลมโตของเสือโคร่งที่เดินวนซ้ายทีขวาทีราวกับจะหาจังหวะที่จะตะครุบเขาเป็นเหยื่อ ระยะทางแค่นี้เขาไม่มีทางรอดได้แน่ๆแม้จะออกวิ่งก่อนมันก็ตาม อีกเป็นอีกครั้งที่เขารู้สึกเสียใจอย่างมากที่ทำอะไรโดยไม่คิดแบบนี้ เขานึกถึงพระเจ้าตอนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่เขานึกถึง ถ้าหากว่าชะตาของเขาไม่โหดร้ายจนเกินไปคงจะรอดจากกรงเล็บ และอุ้งเท้าโตๆนั้น เสือโคร่งตัวโตเดินวนหน้าเขานานมากแล้วแต่ไม่มีทีท่าว่าจะเข้ามาขย้ำเขา อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเองก็จ้องตาของเสืออยู่ทุกฝีก้าวที่มันเดิน



สัณหวัชคิดอยู่อย่างเดียวในตอนนี้คือวิ่งออกจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ของข้างขวาเริ่มก้าวไปด้านหลัง พร้อมกับเท้าซ้ายที่ก้าวตามอย่างช้าๆเพื่อไม่ให้เสือรู้สึกตัว



เสียงพ่นลมหายใจดังออกมาเป็นระยะตามหลังทุกๆก้าวที่เขาก้าวออกมา และเมื่อกะจังหวะดีแล้ว สัณหวัชหันกายเร็วราวกับสายลมเขาออกวิ่งเต็มกำลังขารู้สึกว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่วิ่งได้เร็วที่สุด อาจจะเพราะกลัวเสียงคำรามและเสียงฝ่าเท้าหนักๆที่ไล่หลังมาติดๆ หรืออาจจะเป็นร่างกายของเขาเองสั่งการให้หนีจากอันตราย เสียงหัวใจในอกดังถี่ราวกับรัวกลอง เขายังคงได้ยินเสียงของฝ่าเท้าที่ตามอยู่ ฉะนั้นเขาจะหยุดไม่ได้ การวิ่งซิกแซกไปตามต้นไม้ อาจจะช่วยยืดเวลาชีวิตของเขาได้ แต่ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เมื่อครู่หนึ่งด้านหลังที่เขาเห็น เสือโคร่งตัวนั้นกลับตัวได้ว่องไวกว่าเขาเสียอีก สัณหวัชยังคงวิ่งแต่สายตากลับหันไปจับจ้องเสือตัวนั้นราวกับนับเวลาถอยหลังชีวิตของตัวเอง


และเมื่อมันใกล้เข้ามา


ใกล้เข้ามา


ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ



ไม่มีประโยชน์ที่จะวิ่งต่อขาสองเริ่มผ่อนความเร็วลง จนสุดท้ายเสียงคำรามดังลั่นป่าพร้อมทั้งกรงเล็บที่พุ่งทะยานเข้ามาหาเขา ห่างแค่ปลายจมูกและหายไปพร้อมกับเสียงร้องของสัณหวัชเอง

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.


ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่สัณหวัชสลบไป และทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นความเจ็บปวดก็แล่นเข้าไปยังขั้วหัวใจ ที่น่องของเขามีไม้ปลายแหลมขนาดใหญ่ทิ่มอยู่ เมื่อสังเกตดีๆนี้มันเหมือนหลุมดักสัตว์ยังไงชอบกล โชคดีที่เข้าตกลงมาตรงขอบหลุมหากว่าตกลงไปที่กลางหลุมเข้าคงตายไปแล้ว ลิ่มขนาดใหญ่ถูกฝังไปทั่วทั้งหลุม แต่ใครกันที่เป็นคนทำ มีคนอยู่ในป่านี้ด้วยหรือยังไงกัน อาจจะเป็นเผ่ากินคนแต่ไม่น่าจะใช่ เผ่ากินคนชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าคงจะเป็นเผ่าที่ไม่น่าจะมีความรู้ขนาดนี้ หรือจะมีพวกอื่นอยู่อีก เขาพยายามยกขาขึ้นจากลิ่มนั้น แต่มันเจ็บเกินไป หลังจากที่พยายามอยู่หลายครั้งเขาก็กลั้นใจ ประคองต้นขาของตนเองออกมาจนได้ เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผลจนชุ่มไปทั่วทั้งกางเกง สัณหวัชคิดว่าเขาไม่ตายเพราะเสือแต่คงจะตายเพราะเสียเลือดนี้แหละ ตลกดีเหมือนกันวินาทีที่เสือกระโจนเข้าใส่เข้านั้นมันชัดเจนในทุกนาที เขาคิดว่าตัวเองคงจะตายอย่างแน่แล้วหากไม่มีหลุมนี้ช่วยเอา และเมื่อคิดถึงเสือสัณหวัชเงยหน้ามองปากหลุมเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเสืออยู่ตรงนั้น และมันก็ไม่มีจริงๆแต่ที่ปากหลุมนั้นกลับปรากฏสิ่งมีชีวิตอย่างหนึ่งที่ทำให้เขาต้องผวาด และหวาดกลัวมากกว่าเสือเป็นสิบเท่าเลยทีเดียว





“ เผ่ากินคน !!!!! ”






___________________________________________________







จนแล้วจนรอดพรานอ่ำก็ถูกพัชรพลและธนุสตื้อไปตามหาเพื่อนๆของพวกเขาจนได้ หลังจากที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาเป็นเหตุผล ความปลอดภัยของพวกเขาตอนอยู่ในป่าเมื่อพรานอ่ำไม่อยู่มั้งล่ะ เรื่องชีวิตของเพื่อนพวกเขามั้งล่ะ ไหนจะเรื่องกฎหมายบ้าบออะไรไม่รู้ที่พรานอ่ำเองก็ไม่เข้าใจ ในใจก็แอบกลัวอยู่นิดๆหลังจากที่ได้ฟัง อันที่จริงเขาจะกลับบ้านตอนนั้นเลยก็ได้แต่คำว่าพรานนำทางและพรานล่าสัตว์ที่มีอยู่ค้ำหัวทำให้พรานอ่ำตัดสินใจทิ้งไม่ลง ถึงแม้จะอยู่ในชนพื้นบ้านแต่ก็มีจรรยาบรรณพอที่จะไม่ละทิ้งอาชีพของตัวเองให้ใครเดือดร้อน


ผ่านมาอีกหนึ่งคืนแล้วที่เดินในป่าทึบแห่งนี้ เห็นร่อยรอยของกองไฟบ้าง แต่ก็ไม่สามารถจะชี้ได้เลยว่าสองคนนั้นหายไปด้วยกันหรือเปล่า พรานอ่ำยังคงนำทางไปยังที่อยู่ของนาคาด้วยความชำนาญเช่นเดิม คงเพราะพอจะรู้จักเส้นทางตามคำบอกเล่ามาและความเคยชินกับการเดินป่ามาบ้าง การเดินทางครั้งนี้เลยดูเร็วและไม่ค่อยจะมีปัญหาเท่าไรนัก แต่ยิ่งลึกเข้าไปมากเท่าไรก็ยิ่งลำบากมากขึ้นเท่านั้น ด้วยน้ำหนักของกระเป๋าเป้และเครื่องมือต่างๆที่กลุ่มสำรวจได้ขนกันมา ยิ่งเป็นภาระหนักสำหรับพัชรพลและธนุสเป็นอย่างมากแต่จะทิ้งเอาไว้ก็กลัวจะย้อนกลับมาหาไม่เจออีก


ยามค่ำคืนในในป่าดิบชื้นแห่งนี้เป็นเหมือนทุกๆคืนที่ผ่านมา คือมืดสนิทและเต็มไปด้วยเสียงหรีด เรไรที่ร้องกันระงม จะต่างก็ตรงที่พวกเขาไม่ได้นอนบนห้างกันอีกแล้ว เพราะเวลาในการสร้างห้างแต่ละห้างใช้เวลาค่อนข้างนาน พัชรพลเห็นว่าอาจจะไม่ทันการณ์เลยเสนอกับพรานอ่ำให้นอนด้านล่างแล้วเอาเวลาที่สร้างห้างเดินทางต่อ พรานอ่ำเองก็พอจะเข้าใจจุดประสงค์ของเขาจึงตอบตกลงเพราะคิดว่าหากหาทำเลดีๆที่สามารถกำบังสายตาได้บ้างและก่อกองไฟกองใหญ่สักหน่อยสัตว์ร้ายคงไม่กล้าเข้ามาใกล้มากนัก


“ พราน....อีกนานเท่าไรเราจะถึงเผ่ากินคนนั้น ” ธนุสมีสีหน้าไม่ค่อยดีนักเมื่อพูดถึงเรื่องของเผ่ากินคน อาจเป็นเพราะความทรงจำเกี่ยวกับภาพยนตร์ในวัยเด็กของเขา

“ ไม่เกินคืนนี้พวกเองได้เจอกันแน่ เตรียมหัวของพวกเองเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน ” พรานอ่ำพูดใส่อารมณ์นิดหน่อย ถึงจะทำเพราะอาชีพแต่ก็อดอารมณ์เสียกับเรื่องนี้ไม้ได้ มีอย่างที่ไหนไม่มีความรู้เรื่องป่าเลยแต่กลับเดินเข้าไปคนเดียวแบบนั้น ลำบากเขาอีกที่ต้องตามหา หากว่าเป็นเพียงป่าธรรมดาไม่มีเผ่ากินคนที่เขาล่ำลือกันนั้นก็พอทำใจได้ แต่ถ้าหากเจอขึ้นมาจริงๆถึงตอนนั้นก็คงทางใครทางมันแล้วล่ะ

“ พรานแล้วจะเอายังไง เราจะไม่โดนกินก่อนหรอ ” หน้าตาธนุสเหยเกรู้สึกเสียวที่คอเมื่อคิดถึงมีดที่ฟันลงมา กับหม้อต้มขนาดใหญ่

“ ทำตามที่ข้าบอกแล้วเอ็งก็จะรอดเอง ” ไม่แน่ใจ ทั้งๆที่พูดไปแบบนั้นแต่ลึกๆแล้วพรานอ่ำเองก็หวั่นเหมือนกัน ใช่ว่าเขาจะเคยเจอที่รู้ก็เพราะฟังกันมาว่าการเดินทางผ่านเผ่ากินคนในตอนกลางคืนน่าจะปลอดภัยกว่า และป่าแถบนี้เขาเองก็เพิ่งจะเคยมาครั้งแรก

“ แล้วเดินเลี่ยงทางนั้นไม่ได้หรอ พราน ” พัชรพลแอบสงสัยในหัวข้อนี้เลยถามพรานอ่ำ เพราะหากว่าเราสามรถทำได้ก็ไม่น่าจะมีอันตรายอะไร

“ ไอ้พวกนั้นน่ะ มันไม่ได้อยู่กันเป็นหมู่บ้านเหมือนพวกเอ็งในเมืองนะสิวะ จริงอยู่ที่เรียกว่าเผ่ากินคนก็น่าจะอยู่รวมกลุ่มกัน แต่ยิ่งคนเยอะอาหารก็น้อยลง พวกมันก็ได้อดตายกันพอดี ” อันที่จริงอาณาเขตของพวกเผ่ากินคนนั้นไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัด มันอาจจะกว้างมาก ก็อย่างที่บอกว่าพวกนี้ไม้ได้อยู่รวมกันเพียงกระจุกเดียว แต่แยกกระจายกันอยู่ ซึ่งในแต่ละจุดก็อาจจะมีกลุ่มคนเพียงสามถึงสี่กลุ่มพียงเท่านั้น

“ พรานเล่าเรื่องเผ่านั้นให้พวกผมฟังหน่อยได้ไหม ” พัชรพลคิดจะเก็บข้อมูลต่างๆเอาไว้บ้างดีกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเผ่ากินคนเลย เรื่องบ้างเรื่องอาจจะเป็นประโยชน์ในเหตุการณ์ข้างหน้าก็ได้

“ ข้าก็รู้มาเท่าที่เขาเล่าต่อกันมาละนะ ข้าเองก็ไม่เคยเห็น อีกอย่างป่าแถบนี้ไม่มีคนภายนอกเข้าออกนานแล้ว แต่เมื่อก่อนก็ยังพอมีอยู่บ้าง ”

“ พรานสมัยก่อนเขาเล่ากันมาว่ามันจะกินเนื้อคนดิบๆหรือสุกข้าไม่แน่ใจ แต่พวกมันมีพิธีกรรมของพวกมันเองด้วย อันนี้ก็นึกเอาเองข้าว่าคงจะเหมือนในหนังอย่างนั้นมัง แต่มีพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่พวกเองรู้กันมาบ้างแล้วนั้นก็คือ การมอบเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคา ที่พวกมันนับถือเป็นเทพนั้นแหละ พวกนั้นจะใช่คนเป็นๆเป็นเครื่องเซ่นสังเวยในวันจันทร์เต็มดวง แต่ไม่ได้เล่าถึงวิธีการหรืออย่างไร ”

“ ถ้าเกิดว่าเพื่อนผมเจอนาคาเข้าจริงๆจะไม่เป็นอะไรหรือพราน อีกไม่กี่วันก็ถึงวันจันทร์เต็มดวงแล้ว ” พัชรพลรู้สึกกังวลใจพิกล เขากลัวจะเกิดเหตุร้ายขึ้น

“ ข้าไม่รู้ เพื่อนเอ็งรนหานที่เองข้าช่วยไม่ได้ ”

“ แล้วนาคาละพราน พรานรู้อะไรบ้าง ”

“ เรื่องนี้ข้าจนปัญญา มันไม่มีคำบอกเล่าเรื่องนี้เลยจริงๆ มีเพียงเท่าที่พวกเอ็งรู้กันมาก็เท่านั้น”



พัชรพลไม่แน่ใจกับการเดินทางในครั้งไม่ใช่เพราะกลัวว่าจะหลงแต่ที่กลัวคือความปลอดภัย เรื่องนี้มันดูจะประหลาดไปสักนิดในสายตาของเขา เรื่องนาคานั้นมันเกินจิตนาการไปสักหน่อยที่รู้กันอยู่ก็คงจะเป็นเมดูซ่าตามเทพนิยากรีกที่พูดถึงผู้หญิงกึ่งคนกึ่งงูกับนัตย์ตาที่สาปคนให้เป็นหินได้ แต่นั้นก็เป็นเพียงเทพนิยายพิสูจน์ไม่ได้ แต่นี้เขากำลังจะเดินทางไปหาสิ่งนั้น มันจะน่ากลัวหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆอีกไม่นานเข้าก็จะต้องเดินทางผ่านเผ่ากินคนแล้ว มันดูท้าทายดีถ้าว่าเป็นภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ แต่นี้เป็นความจริงเขากำลังจะเข้าไปเจอกับของจริงๆที่ไม่มีการเตรียมฉากหรืออะไรทั้งสิ้น ชีวิตและความปลอดภัยของพวกเขาในครั้งนี้คงจะอยู่บนเส้นด้าย และเมื่อไรที่ด้ายเส้นนั้นขาดผึ่งนั้นหมายถึงชีวิตของพวกเขาเองก็จบด้วยเช่นกัน

.

.

.

.

.

.


รุ่งเช้าพรานอ่ำ พัชรพลและธนุสเดินทางต่อ และวางแผนไว้ว่าจะหยุดพักในช่วงเย็นของวันเพื่อรอเวลาให้ฟ้ามืดหลังจากนั้นค่อยเดินลอดเลาะผ่านเขตของเผ่ากินคนไป ฟังดูเหมือนง่าย แต่ถ้าพลาดเพียงนิดเดียวอาจถึงตาย พรานอ่ำบอกว่าเผ่าพวกนี้อยู่กับป่าหากินกับสัตว์และพืช ดังนั้นน่าจะมีทักษะในการรับรู้ที่ดีถึงอยู่รอดในป่าได้ การทำให้เกิดเสียงหรืออะไรที่ผิดแผกไปจากเดิมอาจจะทำให้มันรู้ถึงการมาของเขาได้

แผนที่มีอยู่มีเพียงเดินช้าๆ พรางตัว และเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยสัมภาระที่มีอยู่คงจะลำบากไม่น้อย ตอนนี้พัชรพลคง
ต้องเลือกระหว่างชีวิตกับงานแล้วล่ะว่าอย่างไหนสำคัญกว่ากัน

“ ธนุสทิ้งเครื่องมือซะ ” พัชรพลสั่งให้ธนุสทิ้งกระเป๋าเครื่องมือลงเมื่อถึงเวลาที่ไปกันจริงๆเสียที

“ แต่นี้มันเครื่องของเรานะ ราคาไม่ใช่ถูก เกิดหายขึ้นมาไม่ใช่หนี้หัวโตเลยหรือไงกัน ” ธนุสแย้งเขาไม่เข้าใจทำไมถึงต้องทิ้งใน
เมื่อเขาเองก็แบกไว้ถึงจะลำบากไปหน่อยก็เถอะ

“ เลือกเอาระหว่างชีวิตกับเครื่องมือพวกนี้ ” เสียงแน่วแน่บอกทางเลือกแก่ธนุส ที่เลิ่กลั่กมองพัชรพลที่ตอนนี้วางกระเป๋าเครื่องมือบนบ่าลงกับพื้นแล้วเหลือเพียงกระเป๋าที่ใส่ของสำคัญในการเดินทางเท่านั้น


ธนุสจำใจวางของลงเมื่อเห็นว่ามีไว้ก็เป็นภาระเปล่า ตอนนี้พรานอ่ำกำลังซุ่มมองดูลาดลาว เป็นอย่างที่พรานอ่ำพูดไว้ที่นี้มีบ้านเพียงไม่กี่หลัง จะว่าบ้านก็คงไม่เชิงคิดภาพศาลพระภูมิคงจะคล้ายกัน เพราะเสาบานที่นั้นสูงมากจนเขาไม่คิดว่าจะมีใครปีนขึ้นไปอยู่ได้ และนั้นก็ยิ่งดีเผื่อว่าพวกมันเกิดรู้ตัวขึ้นมาและกว่าจะลงมาถึงพื้นพวกเขาก็คงวิ่งหนีกันไกล ไฟฉายที่มีอยู่ถูกยัดใส่กระเป๋าเพราะกลัวพวกมันจะเห็นแสงจากไฟฉายซะก่อนที่เขาจะพ้นป่าแถบนี้


ทั้งสามเริ่มเดิมออกจาพุ่มไม้ที่ซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณนี้ไม่รกเท่าไรนัก คงเพราะมีคนเดินเหยียบย่ำบ่อย พวกเขาเลยเดินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องคอยหลบมองเป็นดูสถานการณ์เป็นระยะ ขืนเดินดุ่มๆเข้าไปมีหวังได้ตายลูกเดียว ผ่านมาสักระยะเดินผ่านกลุ่มบ้านมาสี่ห้ากลุ่มได้แล้ว พรานอ่ำคิดว่าคงจะใช้เวลาอีกสักหน่อยในการเดินทางเพราะเราต้องคอยหลบเพื่อมองดูอยู่ตลอด บ้านเสาสูงค้ำหัวแบบนี้ให้ความสึกตื่นเต้นปนหวาดกลัวดีพิลึก


เมื่อมาถึงกลุ่มบ้านอีกที่ตรงนี้ดูจะแปลกกว่าที่อื่นเพราะตรงนี้มีบ้านที่ตั้งอยู่ติดพื้น มันไม่ได้ตีไม้ไผ่ล้อมรอบตัวบ้านเหมือนหลังอื่นมี
เพียงเสาและหลังคาที่มุงด้วยเปลือกไม้ใบไม้ไว้จนทั่ว และเมื่อสังเกตดูดีๆมีบางอย่างอยู่ในนั้น กำลังเคลื่อนไหวอยู่ พรานอ่ำสั่งให้พัชรพลและธนุสหมอบลงพร้อมทั้งคลานมาจากที่ตรงนั้น แต่ไม่ทันการมีคนลงมาจากบ้านที่อยู่ติดกับกระท่อมที่อยู่บนพื้น เมื่อพัชรพลเห็นวิธีการแล้วก็ต้องอึ้ง คนพวกนี้ใช้วิธีการรูดลงมาเหมือนนักดับเพลิง เพียงแต่จะมีที่ไม้ที่ยืนออกมาเหมือนขั้นบันไดไว้บ้างจุดก็เท่านั้นเอง


ทั้งสามเงียบแม้กระทั่งลมหายใจพยายามหมอบตัวลงต่ำกับพื้นให้มากที่สุดไม่นานนักก็มีเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาจากกระท่อมหลังนั้น มันดูน่ากลัวจะธนุสเผลอหลุดเสียงออกมาก่อนที่จะใช้ฝ่ามือตบเข้าปากตัวเองจนเกินเสียงดัง จากที่นิ่งอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งนิ่งเข้าไปใหญ่ รอบข้างเงียบไปหมดจนได้ยินเสียงฝ่าเท้าที่เดินใกล้เข้ามา พวกเขาไม่แน่ใจว่าโดนเจอตัวแล้วหรือยัง จนกระทั่งความอึดอัดพรูเข้ามาในอกของแต่ละคนจนถึงขีดสุด และ



“ วิ่งงงงงงงงงงงงงงง ”



เป็นเสียงคำรามของพรานอ่ำที่สั่งให้ทุกคนออกตัววิ่ง และนั้นเองทำให้เขาเห็นว่าอาวุธที่กำอยู่ในมือของอีกฝ่ายอยู่ห่างไม่ใกล้จากเข้านัก ทันที่ออกวิ่งสียงคำรามของมันก็ดังลั่น พวกมันค่อยรูดตัวเองลงมาจากเสาไม้ยาวพร้อมทั้งอาวุธที่แนบอยู่ข้างลำตัวกันทุกคน ทั้งด้านหลัง ด้านข้าง เต็มไปด้วยเผ่ากินคน พัชรพลรู้สึกกลัวจับใจเหงื่อออกโทรมกาย ทั้งสามคนวิ่งอย่างไม่ลดละเขาพยายามไม่ละสายตาจากพรานอ่ำ เสียงกึกก้อง อืออึ้งไปทั่วทั้งแนวป่าเป็นเสียงที่ชวนให้ขนลุกเสียจริง เสียงหายใจของแต่ละคนดังจนต่างฝ่ายต่างได้ยิน อาวุธถูกโยนตรงมายังพวกเขาอันแล้วอันเล่าแต่เพราะมีต้นไม้ทำให้พลาดเป้าเป็นโชคดีของพวกเขา เสียงฝีดังเข้ามาเป็นสิบจากด้านหลังแต่ไม่มีเวลาแม้แต่หันไม่มอง ทั้งสามคงยังคงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต


เป็นธนุสที่พลาดท่าโดนอาวุธเข้าที่ขา เขาล้มลงอย่างหมดท่าลงกับพื้น อาวุธในมือนับสิบเตรียมจะเข้ามาฟาดฟันเขา


“ พรานนนนน ” พัชรพลตะโกนเรียกพรานอ่ำเมื่อเห็นว่าชีวิตของเพื่อนตัวเองกำลังริบรี่อยู่เต็มที

“ ปัง ”


กระสุนปืนถูกเล็งไปยังหัวของพวกมันคนหนึ่งอย่างแม่นยำ ร่างของมันทรุดหวบลงกับพื้นทันที พวกที่เหลือเมื่อเห็นดังนั้นก็ถอยกรูออกไปพัชรพลรีบกระชากแขนของธนุสให้วิ่งต่อ แต่ด้วยอาการเจ็บทำให้เขาวิ่งช้ากว่าเดิม เป็นหน้าที่ของพรานอ่ำที่ต้องใช้อาวุธที่มีอยู่ในมือเพียงอันเดียวยิ่งสกัดทางพวกมันเอาไว้ และชะตาชั่งเล่นตลกทางข้างหน้าเป็นเป็นหุบเหวที่เป็นแยกป่าฝั่งของเขาออกจากอีกฝั่งหนึ่ง พัชรพลปรี่ไปประคองธนุสเมื่อเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล ตอนนี้พวกมันเริ่มล้อมกันเข้ามาแล้วแต่ก็ยังห่างพอควรเพราะกลัวฤทธิ์ลูกกระสุนของพรานอ่ำ ในสถานการณ์เลวร้ายแบบนี้สมองของพวกเขาตื้อไปหมด ได้ยินเพียงเสียงกระสุนที่ดังอยู่ต่อเนื่อง หันซ้ายแลขวาและเป็นพัชรพลเองที่เหลือบไปเห็นสะพานแขวนที่พาดผ่านหุบเหวแห่งนี้

พัชรพลประคองธนุสและเดินเลี่ยงไปยังสะพานแขวนนั้นโดยที่พรานอ่ำ ยังคงยิงไม่หยุด

“ พรานทางนี้ ” พัชรพลตะเบ็งสุดเสียงเรียกพรานอ่ำ ไม่รู้ว่ากระสุนหมดหรือยัง แต่ตอนนี้เข้าไม่ได้ยินเสียงปืนแล้ว ตอนนี้ทั้งพัชรพลและธนุสก็มาอยู่หน้าสะพาน ธนุสเดินนำไปก่อน พัชรพลที่ยังคงจ้องมองพรานอ่ำที่กำลังวิ่งมาทางนี้สุดกำลังขา เมื่อเห็นว่าธนุสไปจนเกือบถึงปลายสะพานแล้วเขาจึงก้าวออกไป ข้างล่างหุบเหวนั้นมืด ซ้ำสภาพของสะพานนี้ก็ดูโทรมจนเขากลัวว่าจะพังลงมาเสียก่อน


ตึก


ตึก


ตึก


เสียงฝีเท้าของพรานอ่ำที่ก้าวลงบนสะพานทำให้เขากลัวว่าสะพานจะขาดลงซะก่อนจะถึงอีกฝั่ง

“ ไปเร็ว ” พรานอ่ำตะโกนเมื่อเห็นว่าเขาลังเลที่เดินต่อ

น่าแปลกมันไม่ตามมา ทำไมมันถึงไม่ตามพวกเขามาทั้งๆที่อยู่ห่างกันเพียงแค่สะพานกั้น พวกเขามองพวกมันที่ค่อยหันหลังกลับกันทีละคน แต่บางคนก็ขว้างอาวุธมาใส่พวกเขาแม้จะไม่ถึงก็ตามที
 
พัชรพลทิ้งความสงสัยไว้เบื้องหลังเมื่อหันมามองธนุสที่ตอนนี้เห็นท่าจะไม่ไหว เลือดออกมามากจนเกินไป พรานอ่ำหยิบผ้ามาพันขาห้ามเลือดเอาไว้ ก่อนที่จะไปหาสมุนไพรพอที่จะใช้ห้ามเลือดได้



แต่ทำไมกัน ทำไม พวกมันถึงไม่ตามพวกเขามา ??????





____________________________________________________

สอบเสร็จเเล้ว
มาต่อตอนที่ ๕ ให้เเล้วครับ
ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและสำหรับ+ที่กดให้นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 18-02-2012 12:00:56
พวกนายพรานข้ามสะพานไปแล้ว...แล้วใครจะช่วยวัช :a3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 18-02-2012 12:09:12
ตอนนี้ลุ้นระทึกมากกกกกก >< ลุ้นมากว่าแต่ละคนจะรอดมั้ย
แล้วสัณหวัชจะเป็นไงมั่งเนี่ยยย จะโดนจับไปเป็นเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคารึป่าว
กฤตนัยล่ะ หรือว่าไปถึงที่ที่นาคาอยู่เเล้ว แล้วทำไมพวกเผ่ากินคนถึงไม่ตามมาอ่า หรือว่าพอข้ามสะพานไปแล้วจะเป็นที่ของนาคา
อ๊าาาาาาาาาาาาา :z3: มีแต่คำถามชวนลุ้นเต็มไปหมด ลุ้นมากมากค่า รอติดตามตอนต่อไป ~
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 18-02-2012 12:54:19
อินเดียน่าโจนส์.. เมื่อไหร่จะเจอกัน?? :เฮ้อ: สงสารนายวัช
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 18-02-2012 12:58:58
วัชได้เป็นเครื่องสังเวยให้นาคาแน่ๆ
ตอนนี้ลุ้นระทึกมากๆ
กฤตนัยหายไปไหน แล้วทำไมเผ่ากินคนจึงไม่ตามพวกพรานมาหละ
+1 จ้ารอเจอนาคาอยู่น้าาาาา  :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 18-02-2012 13:07:14
จะรอดกันม้ายยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 18-02-2012 18:59:01
โอ๊ย ทางนั้นน่ะ เป็นทางไปหานาคาเปล่าาาาา
น่ากลัวมากกกกกกก สมจริงเกินนน แอบลุ้นอยู่ข้างๆหน้าจอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 18-02-2012 19:17:58
ตื่นเต้นๆๆๆ

จะรอดกันไหมเนี้ย

 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 18-02-2012 19:29:14
ลุ้นมากมาก แถมอยากอ่านต่อไวไวแล้วค่ะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 18-02-2012 19:53:51
ฮ๊าย มาให้ลุ้นอีกแล้วว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ มันจะดีมากถ้าพรุ้งนี้จะมาอีกสักตอน ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 18-02-2012 19:58:02
วัชจะเป็นอะไรมั้ยอ่ะ

แต่ว่า อืม เผ่ากินคนทำไมถึงหยุดตามกลุ่มนายพรานซะล่ะ
หรือว่าข้างหน้าจะต้องเจอกับนาคา!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 18-02-2012 21:17:35
จากที่มาทำงาน กลายเป็นการผจญภัย survival ชนิดที่ว่าใครเอาชีวิตรอดกลับบ้านได้ก็บุญแล้ว
คุณสัณหวัชโดนจับไป จะปลอดภัยไหมนะ? หนีเสือ ปะ เผ่ามนุษย์กินคนชัด ๆ
ว่าแต่แล้วคนต้นเรื่องอย่างคุณกฤตนัยล่ะ ? หายไปทั้งตอนเลย  :undecided:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 18-02-2012 22:03:15
อุ๊ ชอบคะ แวะมาปูเสื่อรอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 18-02-2012 22:39:32
ให้สามคำ>>>ชอบ อ่ะ ค่ะ  o13
ให้อารมณ์เพชรพระอุมา จริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 19-02-2012 01:08:29
อื้อหือ ยิ่งอ่านยิ่งลุ้น!
ว่าแต่....ทากเนี่ย ต้องใช้ธูปจี้ รมควัน หยดแอลกอฮอล์ ไม่ใช่เหรอ?
เพิ่งเคยเห็น ใช้ไฟลน นี่แหละนะ  :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 19-02-2012 03:21:50
แอร๊ยยยย พึ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ ขอชมก่อนเลย

เนื้อเรื่องน่าติดตามมากค่ะ ตื่นเต้น ลุ้นตาม ทั้งสามกลุ่ม

บรรยายได้ดีมาก อยากจะบรรยายได้เเบบนี้บ้าง

เป็นเรื่องเเรกที่เเต่ เเต่เเต่งได้ดีเลยทีเดียว

เเต่ละตอนยาวได้ใจมากเลย อันนี้ชอบมาก อิอิ

สุดท้ายนี้ หนูอยากเป็นเผ่ากินคนจังเลยค่ะ จะจับผู้ชายมากินให้อิ่มเลย แอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 19-02-2012 03:29:37
ตอนนี้หวาดเสียวอ่ะ ทั้งเสือ ทั้งเผ่ากินคน  :sad5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 19-02-2012 11:26:54
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆเลย  :m4:
รอตอนต่อไปนะครับ  :m5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-02-2012 13:38:23
อ่านแล้วลุ้น วิ่งหนีเสือ เผ่ากินคน อ๊ากกกกกกกกก
แล้วใครจะช่วยวัชละนี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: pentagon ที่ 19-02-2012 15:23:43
เข้ามาอ้านแล้วนะค้าาา วู้ ตอนล่าสุดนี่หวาดเสียวเจงๆ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 19-02-2012 17:56:16
ลุ้นอะ อย่าบอกนะว่า พวกพรานอ่ำจะเจอนาคาก่อน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 19-02-2012 22:08:59
+1  ให้จ้า

เพิ่งเข้ามาอ่าน   :really2:

นัย กับ วัช ใครจะเจอนาคาก่อน :z3:

หรือ พลกับนุส จะเจอก่อนเพราะข้ามสะพานมาแล้ว

ตื่นเต้นดี ชอบจ้า  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๕ หน้า๓ อัพ(๑๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 20-02-2012 17:14:57
มาต่อให้ตอนสั้นๆนะครับ พอดีช่วงนี้ว่างอยู่เลยไม่อยากดองไว้นานๆ

เพราะปลายสัปดาห์มีงาน บายเนีย คงไม่ว่างอยู่หลายวัน

เเต่ตอนนี้ดูจะสั้นไปหน่อย เว้นวรรคให้ด้วยเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น(หรือเปล่า)

ขอบคุณนักอ่านที่อ่านเเละขอบคุณสำหรับ+ที่กดให้ครับ

_______________________________________________________________________________________


ตอนที่ ๖





ตึก

ตึก

ฟิ่ววววว ฉึก

โอ้ยยยยยยยยย!!!!!


หลังจากที่พวกมันรู้ตัวถึงการมาของกฤตนัย กลุ่มเผ่ากินคนกลุ่มใหญ่ไล่หลังเขามาอย่างบ้าคลั่ง เสียงฝีเท้าดังผสมปนเปจน

แยกไม่ออกเลยว่าของใครเป็นของใคร ในขณะที่สายตาของกฤตนัยจับจ้องไปยังสะพานด้านหน้านั้นพร้อมกับเท้าที่วิ่งจนสุด

ความสามารถ ทันทีที่เท้าแรกเหยียบเข้ากับสะพานไม้เก่า หอกแหลมก็พุ่งทะลวงอากาศเข้ามายังกฤตนัยอย่างแม่นย่ำ แต่เขา

ยังไม่หยุดจนกระทั่งถึงอีกปลายสะพาน สมองเริ่มพร่าเลือน ภาพตรงหน้าค่อยๆหมุนเคว้งจนกระทั่งมันลับตาไป พร้อมๆกับร่าง

ของกฤตนัยที่ล้มทั้งยืน

.

.

.

.


กฤตนัยผ่านเผ่ากินคนนั้นมาได้แบบครบสามสิบสองประการ แต่เขาก็พลาดเช่นเดียวกันในเหตุการณ์ชุลมุนแบบนั้นไม่ทันได้สัก

เกตหอกแหลมที่พุ่งด้วยความเร็ว ตรงมายังตัวเขา อย่างว่าจะหลบเลยมาจากทางไหนเขาก็ยังไม่รู้ รู้ตัวอีกทีก็ปักเข้าที่แขนขวา

ของเขาเสียแล้ว


หลังจากที่กฤตนัยข้ามสะพานมาได้เขาเดินวนในป่าฝั่งนี้มาหนึ่งวันเต็มๆแล้ว แต่ก็ไม่พบสิ่งก่อสร้างใดๆเลยตามคำบอกเล่าของ

คนในหมู่บ้าน เขาพยายามเดินให้ลึกเข้าไปเรื่อยๆ ยังไม่หมดหวังไปสะทีเดียวถึงแม้ความคิดที่ว่านาคามีอยู่จริงนั้นมันจะริบรี่ลงเต็มที


กลางป่าคืนจันทร์กระจ่างแบบนี้ แสงจันทร์ส่องกระทบกับกับใบไม้แต่ไม่อาจหยั่นลงมาถึงพื้นได้ เสียงน้ำไหลจากที่สูงกระทบกับ

น้ำด้านล่างยังคงดังอย่างต่อเนื่องมาสักระยะแล้ว กฤตนัยเดินลัดเลาะไปตามแนวป่าเพื่อไปยังต้นเสียงนั้น เขาต้องการน้ำเพื่อ

ทำให้ตัวเองรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น ตอนนี้ทางยังคงปกคลุมไปด้วยแมกไม้เช่นเดิม แต่น้ำตกขนาดใหญ่ข้างหน้ากลับปรากฏ

ให้เห็นได้อย่างชัดเจน บริเวณน้ำตกที่แยกและกั้นป่าเป็นสองฝั่งนั้นแตกต่างจากภายในป่ามาก ข้างนอกนั้นสว่างเพราะแสงจาก

ดวงจันทร์ในขณะที่ด้านในป่ากลับมืดมิดเพราะใบไม้หนา เขาเร่งฝีเท้าขึ้นเรื่อยๆพยายามเดินให้ใกล้กับขอบธารน้ำมากที่สุดเพื่อ

ให้มองเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้นพร้อมทั้งแหวกพุ่มไม้ที่บดบังทางไปพลาง


ในจังหวะการเดินเร่งรีบนั้น เขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเจอกับบางอย่างในแอ่งน้ำที่ต่อเนื่องมาจากน้ำตก



“ คน ”



ร่างกายเปลือยเปล่าของคนโผล่พ้นมาจากพุ่มไม้เตี้ยให้เห็นเพียงส่วนบนเท่านั้น กฤตนัยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นคนอยู่ที่นี้

และทันทีที่มือโตแหวกพุ่มไม้สุดท้ายออก เขาก็ต้องตกตะลึง

.

.

.

.

.

.


“ นาคา ”


กฤตนัยช็อคกับภาพตรงหน้า เขาเพ่งมองหางงูที่ต่อมาจากช่วงเอวพาดผ่านไปตามสายธาร เกล็ดสีเขียวปนแดงมันวาว ส่องระยิบ

ยามเมื่อต้องแสงจันทร์ ท่าทางสง่างามและหางยาวนั้นพยายามยกตัวเองให้ขึ้นสูงจากผืนน้ำ หลับตาพริ้มปล่อยให้แสงจันทร์

กระทบผิวนวลราวกับต้องการจะอาบมัน


กฤตนัยยังคงจ้องมองภาพนั้นอย่างไม่วางตา เขารู้สึกถึงอาการสั่นของขาและรับรู้ว่าตัวเองไม่สามารถจะยื่นได้อีกต่อไป ร่างกายเซ

ไปด้านหลังสามสี่ก้าวอย่างควบคุมไม่อยู่จนกระทั่งหลังสัมผัสกับลำต้นของไม้ใหญ่นั้นเอง เขาจึงหยุดได้



แกร๊บบบบบ



ดวงตาที่หลับสนิทกับร่างกายที่นิ่งไม่ไหวติงเมื่อสักครู่นั้น ตอนนี้เบิกโพลงพร้อมทั้งมองมายังทิศทางของเสียง กฤตนัยตัวชายื่น

แข็งทื่อราวหุ่นปั้นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองพลาดเหยียบกิ่งไม้ข้างตัวจนทำให้นาคาได้ยินเสียงนั้น



ซวบ !!!!!!!



ไวราวกับลมพัดผ่านเพียงครู่เดียวร่างยาวที่เคยยืนนิ่งอยู่บนน้ำ บัดนี้ได้เลื้อยตัดผ่านกระแสน้ำเข้ามายังตัวกฤตนัยเพียงอึดใจ ก่อน

จะใช้หางสีมรกตตวัดรัดตัวกฤตนัยเข้ากับต้นไม้ใหญ่ แล้วยืดตัวเองให้สูงขึ้นจ้องมองผู้รุกราน ตาประสานตา ลิ้นสองแฉกพยายาม

ไล้เล็มไปทั่วทั้งใบหน้าของเขา เสียงขู่คล้ายเสียงของงูร้องอย่างต่อเนื่องราวกับจะแสดงอำนาจความเหนือกว่าของตน ดวงตาแดง

ฉาดนั้นส่องประกายในความมืดได้อย่างเด่นชัด ในดวงตาคู่นั้นเขาเห็นตัวเองเบิกตาโพล่งและเปลือกตาแข็งไม่สามารถพริบตาลง

ได้แม้แต่น้อยตอนนี้กฤตนัยไม่รับรู้อะไรแล้วมันเป็นความน่าสะพรึงกลัวที่เขาไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป เขาช็อคและหมดสติ

ไปในที่สุด

.

.

.

.

.

.


สัมผัสเย็นเชียบจากพื้นด้านหลังแล้วความเย็นของอากาศรอบกาย ทำให้กฤตนัยเริ่มรู้สติ ม่านตาค่อยๆขยับกลอกกลิ้งเพื่อปรับ

สภาพรับรู้ถึงภาพตรงหน้า เพดานหินเหนือศรีษะทำให้กฤตนัยงุนงงอยู่ไม่น้อย เขาพยายามเดินไปหาแสงสว่างที่ส่องสอดเข้ามา

ภายใน แต่เพราะความเข้มของแสงที่ต่างกันค่อนข้างมากทำให้เขาต้องรี่ตาลง สายตาค่อยๆปรับให้ชินและก้าวสุดท้ายของการ

เดินสายตากลับเป็นปกติ


เขารู้ตัวในทันทีว่ายืนอยู่บนแท่นหินขนาดใหญ่ที่ที่เขายืนอยู่ตรงนี้คือยอดของมัน ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว รอบๆเป็นพื้นที่โล่งกว้าง

ถัดออกไปอีกเป็นป่ารกชัด เมื่อมองไปด้านบนพบว่าแท่นหินนี้อยู่กลางระหว่างหุบเขาสองลูก มิน่าเขาถึงหามันไม่เจอ แต่เขามาที่

นี้ได้อย่างไร เขาจำได้ว่าหมดสติไปเพราะนาคา


“ นาคา ” กฤตนัยเผลออุทานเสียงดังเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองนั้นได้เจอกับนาคาแล้ว  แล้วเขามาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร


กฤตนัยเดินไปตามหินที่วางเรียงเป็นบันไดไว้อย่างลวกๆแต่โดยรวมแล้วแท่นนี้ดูจะแข็งแรงมากเลยทีเดียว ท้องเริ่มร้องกระเพาะ

อาหารปล่อยน้ำย่อยจนรู้สึกแสบเรียกร้องอาหารสำหรับสายวันนี้ แต่ไม่ทันที่จะทำอะไร พลันหูก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากด้าน

ข้าง กฤตนัยย่องเข้าไปเพื่อจับต้นเสียงอย่างช้าๆ เขาคิดว่านั้นอาจจะเป็นเสียงของนาคา แต่พลาดนั้นไม่ใช่ เป็นเพียงเด็กเท่านั้น


“ เด็กหรอ มาอยู่ที่นี้ได้ไงกัน ” กฤตนัยมองตามเด็กหนุ่มที่กำลังวิ่งไล่จับผีเสือกับตั๊กแตนดูไร้เดียงสา ผมยาวสีดำสลวยยาวถึงบ่า

บิดพลิวไปตามแรง ร่างกายเปลื่อยเปล่าอวดร่างสมส่วนพร้อมด้วยกล้ามเนื้อพองาม ทำให้ดูน่ามองเลยทีเดียว


“ หี หี ” เสียงหัวเราะในลำคอของเขา ทำให้เด็กหนุ่มที่กำลังเล่นสนุกหันพรืดมองเขาด้วยสายตาแข็งทื่อ


เมื่อทั้งสองนิ่งสบสายตากันสักครู่เป็นเด็กนั้นที่วิ่งพรืดมาหาเขาด้วยความเร็ว ฉับพลันขาสองข้างม้วนบิดเป็นเกลียวแล้วกลายเป็น

หางยาวเต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียววาววับ รัดรอบตัวเข้าไว้อีกครั้ง ด้วยความหนักของหางนั้นทำให้กฤตนัยล้มตัวลง บัดนี้เข้ารู้สึกว่าตัว

เองเหมือนหนูที่กำลังจะโดนงูกินในสารคดีชีวิตสัตว์อย่างไงอย่างงั้น


ลิ้นแฉกแลบเลียตามรูปหน้าและบริเวณหน้าอกแบบเดียวกับเมื่อคืน กฤตนัยไม่มีสิทธิ์ขยับเขยื้อนได้เลยสักนิด ทำได้เพียงตอนนี้

คือพยายามหายใจเข้าให้ได้มากที่สุด เพราะแรงบิดที่เริ่มจะบีบตัวเขาแน่นขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกได้ว่าแผลที่แขนขวาเริ่มฉีก นาคายัง

คงไม่หยุดที่จะสำรวจกฤตนัย ลิ้นร้อนนั้นยังคงเล็มเลียไปทั่วใบหน้านานเสียจนตอนนี้เขาเริ่มจะขาดอากาศหายใจ และวูบสุดท้าย

ของสติก่อนที่เขาจะเป็นลมไปอีกรอบ หางยาวนั้นก็ค่อยๆคลายออก และแปรเปลี่ยนเป็นขาเช่นเดิม


กฤตนัยนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้นหญ้า จมูกพยายามทำหน้าที่อย่างเต็มที่ เขาพยายามจะถอยหนีจากสัตว์หรือคนหรืออะไรสัก

อย่างตรงหน้า แต่ทำไม่ได้ เมื่อมือนั้นกุมมือเขาไว้ก่อนจะฉุดดึงขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มละมุน


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: wnkth ที่ 20-02-2012 18:11:16
 :z13: กำลังลุ้นเลยครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 20-02-2012 18:22:55
โอ้วว นาคาเป็นเคะหรอนิ ใจจริงอยากให้เป็นเมะมากกว่านะเนี่ย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 20-02-2012 18:24:04
กำลังสนุกเลยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 20-02-2012 18:38:29
อืม...นาคาน่าจะเมะน้าาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 20-02-2012 18:45:29
ลุ้นๆ...ชอบบบ :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 20-02-2012 18:55:44
+1  ให้จ้า

นัยได้เจอนาคาแล้วหรือ   :really2:

แล้วรัชละอยู่หน่ายยยยยยยยยยยยยยยย  :z3:

รอตอนต่อไปจ้า  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: W-Rose ที่ 20-02-2012 19:10:50
อยากให้นาคาเป็นเมะมากกว่านะ
มันคงดูโหดๆดี  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 20-02-2012 19:18:29
อยากอ่านต่อแล้วววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 20-02-2012 19:23:43
นาคาน่ากลัวอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 20-02-2012 20:18:59
เจอแล้วววววววว!!!!!!! +1 ๆค่าาาา ><
จากลักษณะน่าจะเป็นรับ มั้ยคะ? อิอิ
แล้ววัชล่ะ ถ้ากฤตนัยไปคู่กะนาคาเเล้ววัชล่ะ หรือจะสามพี >////<
คนอ่านเริ่มเพ้อ อยากอ่านต่อมากมากกกก!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: อีเรียม ที่ 20-02-2012 21:05:09
น่าติดตาม...มาไวไว..เน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: เฮีย. ที่ 20-02-2012 21:54:02
อ๊ากกกก >< ~
เพิ่งได้อ่าน
ชอบมากกก แนวนี้ (หึหึ ) !!

นาคา น่าจะเป็นเคะ . เราคิดไว้งั้น แล้วปรากฏว่า ใช่ (รึป่าว)
ส่วนรัช ล่ะ ?

จะมีซัมติ้งกับเผ่ากินคนรึป๊าววววว ว ??? >< ~
ติดตามจ้าาา .
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 20-02-2012 22:15:31
รอดไปหนึ่งแล้ว
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 21-02-2012 02:11:02
นาคา เหมือนจะเเอบโหดนะคะ

ปล ความจริงดูๆเเล้ว รายละเอียดเรื่องนี้ก็เยอะอยู่นะคะ เขียนเป็นเรื่องยาวก็ได้นะ อิอิ ชอบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 21-02-2012 07:16:14
นาคาโหดจัง  :sad5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-02-2012 10:44:29
เจอนาคาแว้ว แล้วจะเป็นงัยต่ออะเนี้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 21-02-2012 18:41:34
Wnkth
ตอนใหม่มาแล้วลุ้นกันต่อเลยนะครับ ^^

ΡΕΡΡΕЯМΙИТ
คนเขียนก็อยากเเต่เขียนไม่ได้ ยาก ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ^^

shockoBB
สนุกจริงหรอ ว้าว ขอบคุณที่อ่านนะครับ

loveview
นาคาแบบเคะๆก็ดีอีกแบบนะครับ ^^

~ยำโซดาเผา~
ขอบคุณที่ชอบนะครับ มาอีกตอนเเล้ว ลุ้นต่อเลยครับ ^^

MYSKYPINK
ขอบคุณสำหรับ + ครับ นัยอยู๋ในตอนนี้แหละครับ แหะๆ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

W-Rose
แต่นาคาเเบบใสๆก็ดูดีไปอีกแบบนะครับ ^^

bytoey
มาเเล้วครับ ต่อได้เลยครับ ^^

Nus@nT@R@
ยังมีน่ากลัวกว่านี้อีกครับ ติดตามต่อนะครับ

DasHimmel
ขอบคุณสำหรับ + ครับ อยากรู้ว่าสามพีไหมต่อติดตามนะครับ ^^

อีเรียม
มาแล้วครับ อ่านต่อได้เลยครับ

เฮีย.
นาคารเป็นเคะเข้าใจถูกแล้วครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ

Horizon
ขอขคุณสำหรับ + และขอบคุณที่อ่านนะครับ ^^

Tifa
ยังมีโหดกว่านี้นะครับ เรื่องเขียนเป็นเรื่องยาวคงไม่ได้ครับ เพราะพล็อตใกล้จบเต็มที่ แต่เรื่องหน้า(ถ้าเขียน)ก็คงคล้ายๆ
เเนวนี้อ่ะครับ ไม่รู้ว่าเเนวนี้จะมีคนสนใจหรือเปล่า

PetitDragon
นาคาเขาปกป้องตัวเองอะครับ ^^

takara
นั่นนะสิครับ ติดตามต่อนะครับ ^^

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) ///.......มนตร์นาคา......./// ตอนที่๖ หน้า๔ อัพ(๒o/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 21-02-2012 18:48:54

ตอนที่ ๗




“ ^*^&^&^$%*&^*&^&^^%^ ”

“ *&*^&^%$^*^&*^&^&(*()( ”



อะไรกัน นั้นภาษาหรือเปล่า เขากำลังคุยกันอยู่หรอ ????



สัณหวัชถูกดึงขึ้นมาจากหลุมนั้นในสภาพที่ขาใช้การไม่ได้ แต่พวกนั้นไม่ได้ถนอมเข้าเลยสักนิด ฉุดกระชากลากเขาโดยไม่

สนใจเลยว่าเขาจะเจ็บแผลแค่ไหน แต่ที่เขาต้องแปลกใจมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องหลุมนั้นที่พวกนี้เป็นคนสร้างขึ้นมา เขาสร้างได้

อย่างไรกัน เผ่านี้ฉลาดกันขนาดนี้เลยหรอ และอีกเรื่องหนึ่งก็คือภาษา เขาเดาว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น สังเกตจากทั้งเช้าที่ผ่านมา

เผ่ากินคนสื่อสารกันด้วยภาษาอะไรที่เขาฟังไม่ออก มันฟังดูทะแม่งๆและรัวลิ้นคล้ายภาษาอินเดียยังไงยังงั้น


กรงขนาดใหญ่ ภายใต้สิ่งก่อสร้างที่มีเพียงหลังคาที่มุงจากเปลือกไม้และใบไม้คลุมเอาไว้ด้านบนเป็นที่อยู่ของสัณหวัชในตอนนี้

ไม่มีความปราณี พวกคนเถื่อนนี้โยนเขาเข้าไปในกรงก่อนจะใช้เถาวัลย์หนาพันรอบทางเข้าและทางออกเดียวของเขาอย่าง   

แน่นหนา สัณหวัชรู้สึกหวาดกลัวกับสถานที่แห่งใหม่นี้มาก พวกมันเข้ามารุมล้อมทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้ใหญ่ จดจ้องเขาจากด้าน

นอก


ราวกับจะกลืนกินเข้าไปทั้งตัว สัณหวัชรู้สึกว่าตัวเองเหมือนตัวประหลาดหรือสัตว์น้อยน่าทานที่อยู่ในกรงอันเขื่องนี้ รอแค่ถึงเวลา

และเชือดเขาทิ้งซะ



“ %$^$&^%$$#@#% ”



อีกแล้วนั่นมันหมายความว่าอย่างไรกัน สัณหวัชยังคงไม่เข้าใจ แต่น่าจะเป็นคำสั่งอะไรสักอย่าง สังเกตจากท่าทางที่เห็นคือคน

พวกนั้นที่มุงดูเขาอยู่เมื่อสักครู่ทยอยเดินออกไปทีละคนๆจนสุดท้ายก็เหลือเพียงเขากับ ชายหนุ่มผิวแทนตรงหน้า คนเดียวกันที่

โยนเขาเข้ามาในกรงนี้ ตอนนี้ในมือมีอาหารที่ห่อหุ่มด้วยใบไม้ ก่อนจะโยนเข้ามาในกรง สัณหวัชจดๆจ้องๆอาหารที่หน้าตาดูไม่ได้

ตรงหน้า


‘ นี่มันเนื้อนี่น่า ‘ สัณหวัชลังเลที่จะกินเมื่อรู้ว่านี้คือเนื้อ


“ นี่เนื้ออะไร ” ชายหนุ่มร่างเข้มนั้นมีสีหน้างุนงงกับคำถามของสัณหวัช แน่นอนเขารู้ว่าคนเถื่อนพวกนี้ต้องไม่เข้าใจคำพูดของเขา

อย่างแน่นอน


“ นี่เนื้อคนหรือเปล่า ” เป็นเช่นเดิมกับเมื่อครู่ ไอ้คนเถื่อนข้างนอกนั้นยังคงทำหน้างง เหมือนหมาเดือนสิบสอง สัณหวัชรู้สึก

หงุดหงิด ที่ไม่สามารถอธิบายในสิ่งที่เขาอยากให้อีกฝ่ายรับรู้ได้


เขาหยิบชิ้นเนื้อมาชิ้นหนึ่งก่อนที่จะชี้สลับไปมาระหว่างเนื้อกับหนังของเขาเอง แต่อีกฝ่ายก็ยังคงมีสีหน้าไม่เข้าใจ แถมยังชัก

สีหน้าขึ้นเรื่อยๆจนสัณหวัชเองแอบหวั่นใจอยู่น้อยๆ แต่เขาไม่ละความพยายาม มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วขืนเขาไม่ถามเกิดกิน

เข้าไปแล้วเป็นเนื้อคนจะทำยังไงเล่า สัณหวัชบิดชั้นเนื้ออันน้อยนิดของตัวเองไปมาแล้วชี้ไปที่ชิ้นเนื้อในใบไม้นั้นพร้อมทั้ง

อธิบายในภาษาของเขาเอง


 ตอนนี้สัณหวัชเริ่มเห็นแววลางๆว่า ไอ้เถื่อนนี้จะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว มันเดินถอยห่างออกไปแล้วหายลับไปทางต้นไม้ใหญ่

ด้านหน้าก่อนจะลากหัวหมูป่าหัวเบื่อเรื่อมมากองอยู่ตรงหน้าเขา สัณหวัชรู้สึกสะอิดสะเอียนกับภาพตรงหน้าจนอยากจะอ้วก เขา

พยายามถอยหนี แต่ก็ร้องอย่างเจ็บแปลบเมื่อรับรู้ถึงความเจ็บของบาดแผลที่ต้นขาด้านซ้าย


“ อู อู อู ” เสียงไอ้เถื่อนด้านนอกดูจะตื่นเต้นจนออกนอกหน้าเมื่อเห็นแผลของเขา หรือมันเห็นเลือดแล้วเกิดอยากจะกินขึ้นมา

สัณหวัชพยายามปกปิดบาดแผลของตัวเองไว้เมื่อคิดได้อย่างนั้น


ตอนนี้มันหายไปแล้วและขณะเดียวกันคนอื่นก็เริ่มเข้ามามุงดูอย่างเดิม ตอนนี้เข้าเพิ่งสังเกตเครื่องแต่งกายของแต่ละคน ผู้หญิง

นั้นมีเพียงกระโปรงจากเปลือกไม้หรือใบไม้อะไรสักอย่างเพียงเท่านั้นปล่อยอกเปลือยเปล่าเป็นที่อุจาดตาแก่เขา ผู้ชายก็เช่น

เดียวกันเพียงแต่สิ่งปกปิดเครื่องเพศนั้นดูจะน้อยชิ้นกว่าผู้หญิงจนเขาอยากจะเบือนหน้าหนี และเด็กนั้นนุ่งลมห่มอากาศไม่มีเครื่อง

ปกปิดสักชิ้นบนร่างกายแต่อย่างน้อยก็อุจาดน้อยกว่าผู้ใหญ่แล้วกัน และที่พวกนั้นมีเหมือนๆกันเลยก็คือเครื่องประดับที่ทำจาก

กระดูกห้อยคอเอาไว้กันทุกคน เป็นเครื่องรางหรืออย่างไรกันนะ สัณหวัชคิด


ในขณะที่สัณหวัชกำลังเหม่อมองสำรวจคนพวกนี้ และบริเวณรอบ เขาต้องร้องเสียงหลงเมื่อมีบ้างอย่างตบลงมาที่บาดแผลของ

เขา เป็นมือของไอ้บ้าที่ตอนนี้กำลังบ่นงืมง่ำบ้าบอของมันอยู่คนเดียว สัณหวัชทนต่อไปไม่ไหวจึงสะบัดแขนออกสุดแรงและด่าทอ

ออกไปสุดเสียง


และสิ่งที่โป๊ะอยู่บนบาดแผลของสัณหวัชทำให้เขาเองยิ่งเกิดความสงสัยเข้าไปใหญ่


“ ใบสาบเสือ ” พวกนี้รู้ได้ไงกันว่าใบสาบเสือใช้ห้ามเลือดได้


สัณหวัชเริ่มไม่แน่ใจกับคำบอกเล่าที่กล่าวๆกันมาว่าคนพวกนี้เป็นเผ่ากินคน มันดูไม่สมเหตุสมผลเขาคิดว่าพวกนี้จะไม่อารยธรรม

หรือขนบธรรมเนียมอะไรเหมือนคนที่อยู่บนโลกภายนอก แต่นี่มีการสร้างบ้าน สร้างหลุมดักสัตว์ ไหนจะอาหารที่สุก แล้วก็ภาษา

อีก เขาว่าน่าจะมีการเข้าใจผิดกันขึ้นอย่างแน่นอน


ตอนนี้ทุกคนแยกย้ายกันไปหมดแล้วรวมทั้งไอ้เถื่อนนั้น สัณหวัชลงมือทานเนื้ออย่างกล้าๆกลัว ถึงจะเห็นหัวเจ้าขอเนื้อเต็มๆตา

แล้วแต่มันก็อดระแวงไม่ได้อยู่ดี เนื้อชิ้นน้อยจะถูกกัดลงกระเพาะเพียงไม่กี่คำเท่านั้น


วันทั้งวันมีคนเดินมาด่อมๆมองๆเขาทั้งวัน สัณหวัชแอบบ่นในใจว่าคนพวกนี้ไม่เบื่อกันบ้างหรืออย่างไร ตอนนี้สัณหวัชเริ่มแน่ใจ

แล้วว่าอาหารหลักของคนพวกนี้ต้องไม่ใช่เนื้อของคนอย่างแน่นอน คนพวกนี้มีวิธีกินต้นปาล์มสาคูที่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่ามันทำกัน

อย่างได้แต่นั่งมองอยู่ห่างๆ จนกระทั่งไอ้เถื่อนคนเดิมถืออะไรบ้างอย่างที่มาจากต้นปาล์มนั้นแล้วยื่นมาให้เข้า มันเป็นแผ่นกลมๆ

แบนๆคล้ายแพนเค้กแต่บางอันก็ปั้นเป็นก้อนกลม ลักษณะคล้ายแป้งที่ทำให้สุก รสชาติสัณหวัชไม่ค่อยชอบใจนักอาจเป็นเพราะ

นี่เป็นอาหารที่แปลกที่สุดเท่าที่เขาเคยกินมาก็ได้


“ ขอบใจ ” สัณหวัชกล่าวขอบคุณแก่คนเถื่อนนั้น


“ มีชื่อไหม ” เฮ้ออ!!! เขาไม่น่าโง่ รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่มีทางเข้าใจ


“ โอเค ผมรู้ว่าคุณไม่เข้าใจ แต่ต่อไปนี้ผมจะเรียกคุณว่า ‘ทรงรัฐ’ ก็แล้วกัน ” สัณหวัชคิดว่าหากตั้งชื่อให้ไอ้เถื่อนนี้ ถึงแม้ว่าตัวมัน

เองจะไม่รู้เรื่องก็เถอะมันก็คงดีกว่าการที่เขาใช้สรรพนามแทนตัวมันว่า ไอ้เถื่อน ที่ตั้งชื่อมันว่าทรงรัฐเพราะเขาเห็นว่าชายผู้นี้ดู

คล้ายๆจะเป็นผู้นำของเผ่านี้ถึงขั้นสามารถออกคำสั่งได้ ซึ่งก็ตรงกับชื่อที่แปลว่า ครองเมือง

.

.

.

.

.

.


ท่ามกลางความมืดสัณหวัชขดตัวเองติดข้างกรงเพื่อให้ตัวเองรู้สึกปลอดภัยขึ้น พวกนั้นทิ้งเขาให้อยู่ด้านล่างคนเดียว แล้วหนีขึ้น

บ้านทรงประหลาดของพวกมันไปหมด ตอนนี้สัณหวัชพยายามแก้เถาวัลย์ที่พันทางออกของเขาไว้แต่ไม่สำเร็จไม่รู้ว่ามันพันไว้กี่

ชั้นแถมไอ้เถาวัลย์บ้านั้นก็เหนียวเสียยิ่งกว่าอะไร


“ เฮ้อ ” สัณหวัชถอนหายใจเฮือกใหญ่ คิดๆดูแล้วเรื่องนี้ไม่น่าเกิดขึ้นกับเขาได้ จากที่แรกจะมาสำรวจป่าเพียงแค่นั้นแต่ดูตอนนี้สิ

ผจญภัยเหมือนในหนังยังไงยังนั้น


หลังจากนี้แล้วชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร เขาต้องอยู่กับคนพวกนี้หรือเปล่า หรือจะโดนกินไปสะก่อน สัณหวัชยังหาเหตุผลที่พวก

นั้นจับเขามาไม่ได้ อาจเป็นเพราะเขาบุกรุกพื้นที่ของพวกมัน มันคงไม่คิดว่าเขาเป็นคนของเผ่าอื่นหรอกมั้ง


สัณวัชเหม่อนั่งคิดถึงสภาพของตัวเองตอนนี้ก็นึกโทษตัวเองที่ทำอะไรไม่ประเมินสภาพตัวเอง ก็สมแล้วที่เป็นแบบนี้ เขาเพียง

หวังว่าพวกนั้นจะไม่ฆ่าเขาเร็วจนเกิน อันที่จริงชีวิตในนี้ก็ดีอยู่หรอกหากไม่ต้องมาติดแงกอยู่ในกรงนี้


“ โอ้ยยยยยยยย ”


ความเจ็บปวดดึงสติของสัณหวัชให้กลับมาในปัจจุบัน เอาอีกแล้วไอ้เถื่อนนี้มันคิดจะทำแผลให้เขาแต่จะทำเบาๆหน่อยไม่ได้หรือ

ไงกัน ฝ่ามือเดิมนั้นโป๊ะใบสาบเสื้อเข้ากับแผลของเขาหลายครั้งในวันนี้ สัณหวัชเองนึกขอบคุณในความเมตตาที่มันยังมีให้เข้า

อยู่บ้าง คนเผ่านนี้ออกจะรักสงบเขาไม่เห็นว่าจะมีใครกินเนื้อคนเลยแม้แต่คนเดียว


“ พรึ่บบ ”


“ มีอะไรหรือ รัฐ ” ไอ้เถื่อนลุกขึ้นอย่างเร็วแล้วหันมามองหน้าสัณหวัชก่อนจะย่องออกไปด้านนอกนั้น พร้อมทั้งอาวุธที่แนบติดตัว

ตลอดเวลา


มีอะไรกันทำไมต้องทำท่าทางยังนั้นด้วย


“ วิ่งงงงงงงงงงงงงงงง ”


เสียง!! เสียงนั้นพรานอ่ำนี่


“ พรานอ่ำ พรานอ่ำ ช่วยผมด้วยย ”


ไม่มีประโยชน์ทันทีที่สัณหวัชได้ยินเสียงตะโกนของพรานอ่ำ ไอ้เถื่อนก็แหกป่าซะลั่น กลบเสียงเรียกของเขาไปจนหมด เล่า

ชายชกรรณ์ ทั้งหลายต่างรูดตัวเองลงมาจากบ้านทั้งยังวิ่งตามกันราวฝูงผึ้ง เสียงคำรามก้องหึ่งคล้ายหนังสงครามนั้นทำให้สัณหวัช

กลัวอยู่ไม่น้อย  มือบางพยายามแกะดึงเถาวัลย์ขึ้นอีกรอบเมื่อเห็นทางรอดของตัวเองบ้างแล้ว แต่ไม่เป็นผลเหมือนเดิม สัณหวัช

ยอมรับในชะตาตัวเองว่าไม่มีทางรอดไปได้อย่างแน่นอน


“ พรานผมอยู่นี้ ”


สัณหวัชครางออกมาอย่างอ่อนใจ ร่างมอมนั้นไถลตัวเองนอนลงกับพื้นฟังเสียงอื้ออึ้งนั้นจนหลับไป



___________________________________________________________________________


เห็นหลายคนบ่นว่าอยากให้นาคาเป็นเมะ คนเขียนเองก็คิดอยู่หลายตลบเหมือนกัน จนสุดท้ายก็ออกมาเป็นเคะ เพราะคิดว่าถ้า

เป็นเมะแล้วดูเหมือนนาคาจะเป็นคนที่แข็งแกร่งและดูเหมือนมีอะไรมากมายในตัวเอง ยอมรับแบบซึ่งๆหน้าเลยว่า เพราะเป็นเรื่อง

แรกเลยไม่มีปัญญาแต่งให้มันดูอินกับอารมณ์ที่เข้าใจยากขนาดนั้น เลยเอาซอฟๆดีกว่า อาจจะไม่ถูกใจแต่ก็อย่าเพิ่งทิ้งกันแน้ออ ^^

รีบมาลงตอนนี้ให้เพราะกำลังใจจากนักอ่านทุกคน ลงได้แบบนี้ทุกวันอีกไม่กี่ตอนก็คงจบแล้วละครับ  ส่วนนักอ่านเงาทักทายกัน

ได้นะ อยากคุยอยากอ่านคอมเม้นครับ ดีไม่ดียังไง ติติงได้เต็มที  ^ยิ้ม^

ต้องขอบคุณสำหรับนักอ่านทุกคนที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้นะครับ

กอดที  :กอด1: :กอด1:

ทำไม talk นี้มันยาวจังวุ้ยยย ^^

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: W-Rose ที่ 21-02-2012 19:10:16
นี่เป็นอีกคู่รึป่าวหนอ???
 o13 :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 21-02-2012 19:17:26
ชอบทรงรัฐอ่ะ ดูเท่ห์ เถื่อนดีอ่ะ จับขังซะด้วย เมื่อไรจะได้ออกจากกรงละเนี่ย
มาต่อบ่อยๆๆน้า ชอบเรื่องนี้มากน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 21-02-2012 19:18:15
โอ้ อยากให้เผ่าแบบไม่กินคนน่ะ สงสารคนโดนจับ
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าไม่กินคนแล้วจะจับคนมาทำไมเน้ออออ :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 21-02-2012 19:52:21
วัชคู่กับเถื่อนป่ะ...
งั้น..แล้วเค้าจะใช่ภาษาไรจีบกันอะเนี่ย :m28:...หรือว่า :z1:...โอ๊ะโอ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 21-02-2012 20:11:11
ติดตามน่ะค่ะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: เฮีย. ที่ 21-02-2012 20:46:53
วัช คู่ ทรงรัฐ !!!

เชียร์ๆ แถวโหด เถื่อน
เน้นภาษากายในการสื่อสาร ><

ติดตามจ้าา 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 21-02-2012 21:34:36
+1 ให้จ้า

สงสัย สองคนนีัจะต้องอยู่ป่า ตลอดชีวิตแน่  :really2:

เพราะรักนะตะเอง  :กอด1:

รอ  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 21-02-2012 21:40:53
รุ้สึกว่าผิดไปจากที่คิด  :เฮ้อ:
ตอนแรก
อืม  นัย คุ่ วัช

กลายเป็น...
กฤตนัย คุ่กับนาคา << แต่เคยคิดแบบนี้อยู่
วัช คุ่กับเผ่ากินคน ใจดี(?) แต่มือหนัก ทรงรัฐนั่นน่ะ
ใช่มั้ยเนี่ย
^
แต่เคยคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน

ตกลงแล้วเสียงว๊ากลั่นป่า ตอนที่พรานอ่ำเข้าใจผิด เป้นเสียงวัชนี่เอง เดาไม่ผิด^^
และแล้วตัวช่วยก็วิ่งป่าราบไปแล้ว แต่ไปไหน --o
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 21-02-2012 21:51:14
แอบเสียดายนาคานิดๆหน่อยๆ >< (แอบชูป้ายนาคาเป็นเมะ 555+)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 21-02-2012 22:50:49
หรือว่านี่จะเป็นอีกคู่เนี่ย!! ลุ้นๆๆๆๆๆ
ดูท่านายรัฐนี่น่าจะใจดีน่าดู อาจจะเหมาะกะวัชก็ได้ อิอิ
แต่จับวัชมาทำอะไรนี่สิ จะเอาไปให้นาคาหรอ ? ><
คนอ่านรอลุ้นต่อไปค่าว่าแต่ละคนจะเป็นยังไง
โดยเฉพาะกฤตนัยกะนาคา >///< อยากอ่านต่อมากๆๆๆๆๆๆ เป็นกำลังใจให้คุณtonkhawค่าา ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 21-02-2012 23:11:45
น่าตื่นเต้นขึ้นเรื่อย ๆ นะ มีอะไรที่ผิดคาด และ คาดไม่ถึง
นาคา นอกจากจะไม่ทำร้าย คุณกฤตนัย ยังเหมือนจะชอบเสียด้วยสิ 
ส่วนเผ่ากินคน ก็ไม่ได้กินเนื้อคน แต่กำลังลุ้นให้ คุณทรงรัฐ รับประทาน(?) คุณสัณหวัช อยู่เนี่ย  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: TeeRuk♥ ที่ 22-02-2012 01:05:01
เพิ่งเข้ามาอ่านตอนแรกครับ สนุกมากๆ เห็นเรื่องนี้ตั้งนานแล้วล่ะ แต่ไม่เข้ามาอ่านเพราะวงเล็บว่าเรื่องสั้นกลัวอ่านแล้วติดใจแต่เรื่องดันจบเสียก่อน

ยังตามอ่านไม่ถึงตอนล่าสุดเลย แต่อย่าเพิ่งรีบจบน้า ก้าบๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 22-02-2012 01:47:27
อืม ขนาดเรื่องเเรก คุณคนเขียน เขียนได้น่าติดตาม เหมือนคนอ่านได้ลุ้นไปกับสองตัวละคร (ใจจริงเชียร์สัณหวัช) เลย
อย่างไร หากลงบ่อยๆได้ก็ดีนะครับ ขอตามอ่านเรื่องนี้ด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-02-2012 04:36:34
ตอนแรกนึกว่านาคาเป็นเมะเหมือนกัน

แต่คนเขียนว่าไงก็ว่าตามครับ  o13

ตอนนี้กังวลอยู่อย่างเดียว คือสองคู่นี้มันจะสื่อสารกันยังไง?  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 22-02-2012 07:54:46
โอ๊ะมาแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-02-2012 09:52:30
สงสัยวัชจะไม่ได้กลับบ้านแน่เลยอะ อยู่เป็นคู่กับรัฐแน่เลยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 22-02-2012 15:53:24
แอบ อยาก ให้เป็นเรื่องยาวๆจังค่ะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-02-2012 03:30:40
แอร๊ยยย หนูอยากเป็นเเฟนกับ เผ่ากินคนค่ะ

ฝึกภาษา กาย

“ ^*^&^&^$%*&^*&^&^^%^ ”
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๗ หน้า ๔ อัพ (๒๑/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 23-02-2012 09:59:19

ตอนที่๘







เสียงหัวร่อต่อกระซิกลอยแทรกไปตามสายลม กฤตนัยเพลิดเพลินอยู่กับนาคาหนุ่มราวกับห้วนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ลำธาร

น้ำใสสะอาดที่ไหลมาตามร่องหุบเขาอิงข้างกับแท่นหิน พวกเขาดำผุดดำว่ายภายใต้หางยาวที่พันม้วนไว้เพียงหลวมๆ ชีวิตที่นี้ช่าง

เป็นสุขเสียจริง ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เช้าเล่น ค่ำนอน เป็นอย่างนี้มาหลายวัน นาคายังคงมีนิสัยเหมือนเด็กน้อยแต่ในบางเวลาที่

กฤตนัยทำอะไรไม่ถูกใจก็จะก้าวร้าวขึ้นมาซะดื้อๆ


กฤตนัยออกไปด้านนอกตามนาคาที่ออกแรงดันหลังราวกับจะแสดงความต้องการให้เขาไปด้วย ความรู้สึกผูกพันกับนาคาหนุ่มตนนี้

เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กฤตนัยเองก็รู้สึกแต่ไม่รู้ว่าอีกตนจะเข้าใจความรู้สึกนี้ ความรู้สึกที่เขามีให้หรือเปล่า


“ โอ้ย ” ด้วยความซุกซนของนาคาหนุ่มทำให้ลำตัวเปลือยโดนหนามแหลมเกี่ยวเข้าให้


“ เป็นอะไรไหม ภุชงค์ ” นี้คือชื่อที่กฤตนัยตั้งให้หลังจากที่พยายามถามชื่อกับเจ้าตัวแต่ก็ไม่มีคำตอบ


“ นี่เขาเรียกว่าเจ็บ ”


“ เจ็บ ” ภุชงค์พูดพลางน้ำตาคลอด้วยความแสบของบาดแผล


“ และนี้เขาเรียกว่า ร้องไห้ ” กฤตนัยชี้ไปที่ดวงตาสีเขียวสด ที่เคลือบด้วยน้ำตาสีใส


“ ร้องไห้ ทำไม ?? ” ภุชงค์ถามขึ้นด้วยตวามสงสัย


“ ก็เพราะว่าเราเจ็บเราเลยต้องร้องไห้ เพื่อระบายความเจ็บไงละ ”


“ ระบาย ทำไม ”


“..............”


หลายวันที่อยู่ด้วยกัน กฤตนัยพยายามสอนภาษาพูดง่ายๆให้กับภุชงค์ และวันนี้ก็เช่นเดียวกันแต่พอถูกซักหนักๆเข้าเขาเองก็

หน่ายที่จะตอบเช่นกัน


แท่นหินกลางที่โล่งกว้างกับหมู่ดาวนับหมื่นนับพันบนท้องฟ้า นี้เป็นเวลาที่กฤตนัยชื่นชอบอีกเวลาหนึ่ง เขามักจะออกมานอนด้าน

นอกเพื่อจ้องมองแสงดาวนั้น ภุชงค์นอนขนาบข้างกฤตนัยด้วยในเวลานี้ บรรยากาศเงียบสลัด ภายใต้แสงสีจากธรรมชาติ หากว่า

เป็นที่สำหรับคู่รักคงจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกที่สุด กฤตนัยมองสำรวจรูปร่างสมส่วนที่นอนนิ่งอยู่กับพื้น ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจ

เหลือเกินที่หยิบกางเกงมาให้ภุชงค์ใส่ ไม่งั้นเขาคงได้เห็นอะไรมากกว่านี้ ในจิตใจของเขาตอนนี้กำลังเกิดคำถามบ้างอย่างขึ้น

เป็นความคิดที่แม้แต่เจ้าของความคิดเองยังอดเขินและยิ้มออกมาไม่ได้


‘ ทำแบบนั้นได้หรือเปล่านะ แบบที่ใครเขาก็ทำกัน’ ร่างล่ำสันขยับเข้าใกล้กับอีกคนมากยิ่งขึ้น ขณะที่ภุชงค์เองยังไม่รู้เรื่องภาษา

กายที่กฤตนัยพยายามทำในตอนนี้


“ ภุชงค์ ” เสียงทุ้มนิ่มเอยชื่อด้วยแรงปรารถนา ความไม่ประสีประสาของภุชงค์ทำให้เขากล้าที่จะทำอะไรบ้างอย่างกับร่างนั้น


“ ฮือออ ” ริมฝีปากอิ่มประกบเข้ากับริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา กฤตนัยจูบอย่านุ่มนวลและอ่อนโยนที่สุด เขาอยากให้จูบ

ครั้งแรกของภุชงค์เป็นจูบที่น่าจดจำ


กฤตนัยพอใจกับรสจูบครั้งนี้เป็นอย่างมากและเขาเองก็หวังว่าภุชงค์จะรู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่เลยสักนิดภุชงค์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า

เขาทำอะไร


“ ทำไม ” คำพูดติดปากของภุชงค์เมื่อเจ้าตัวเกิดสงสัยในเรื่องต่างๆ


“ จูบ ” กฤตนัยเขินจนรู้สึกว่าหน้ามีเลือดมาเลี้ยงมากเสียจนร้อนผ่าว ในขณะที่คนฟังกลับงงงวยกว่าเดิมหลายเท่านัก


“ ทำไม ” อีกแล้ว บางทีกฤตนัยเองก็อยากให้ภุชงค์รู้เรื่องอะไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องนี้ มันน่าจะดีหากว่าภุชงค์จะรับรู้ว่าความรู้สึก

ของเขา ความรู้สึกของคำว่า “ รัก ”


“ เป็นการแสดงความรัก ”


“ ความรัก ทำไม ”


“ รักก็คือรัก ” กฤตนัยอธิบายเหตุผลของความรักตามแบบฉบับที่หนุ่มสาวเขาใช้กัน หากว่าเป็นคนธรรมดาคำพูดเพียงแค่นี้คงจะ

ทำให้คนฟังดีใจเสียจนทำอะไรไม่ถูก แต่กับคนตรงหน้ามันป็นเรื่องที่ยุ่งยากที่จะทำความเข้าใจในความหมายของมัน


“ เฮ้อ ” เอาเถอะอีกไม่นานเขาจะทำให้ภุชงค์รู้จักกับคำว่ารักด้วยตัวของเขาเอง





________________________





“ พรานอ่ำไอ้แท่นหินที่ว่านั้นมันอยู่ที่ไหนกัน ” พัชรพลที่เดินหิ้วปีกของธนุสท้วงขึ้น


“ ข้าไม่รู้ ”


สามวันในป่า มันช่างเป็นการเดินทางที่ไม่มีจุดหมายเลยจริงๆ ตอนนี้พวกเขาพยายามตามหาแท่นหินอะไรนั้นที่เขาได้ยินมาจาก

ชาวบ้าน แต่ไม่เจอไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน


พรานอ่ำดูจะหน่ายเหนื่อยกับการเดินทางที่ไม่เห็นปลายทางเช่นนี้ ในขณะที่พัชรพลเองก็ลำบากใจที่ตนได้ตัดสินใจกระทำการใน

ครั้งนี้ลงไป ส่วนธนุสได้แต่เก็บงำความไม่พอใจเอาไว้ เวลานี้ดูคล้ายสงครามเย็นที่อารมณ์ของแต่ละคนเริ่มก่อตัวอันสืบเนื่องมา

จากความไม่เข้าใจ ไม่พอใจ และความท้อใจของแต่ละฝ่าย ที่เหลือก็คือรอเวลาที่เมื่อไรความสิ้นสติจะประทุขึ้นมาถึงตอนนั้นพวก

เขาคงแตกแยกกันไปแน่ๆ


พรานอ่ำจนปัญญาที่ตามหามันให้พบ เขาเดินไปเรื่อยๆจุดประสงค์คือ “ เดิน “ เท่านั้น ไม่มีความหมายอื่นใดแล้ว เสียงฟันเถาวัลย์

และกิ่งไม้ที่ขึ้นบดบางทางดูจะดังขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ พรานอ่ำโกรธและเบื่อกับตอนนี้ที่เป็นอยู่ มันอธิบายยาก เขาอยาก

กลับบ้านแต่ผ่านเผ่ากินคนมาแล้วกลับไปก็คงจะต้องเจออีกแล้วเขาจะทำอย่างไร  ทำอะไรไม่ได้ เลยต้องทำหน้าที่พรานนำทาง

ที่ไม่สนใจผู้ร่วมเดินทางด้วยกันอีกต่อไป


“ โถ่เว้ยย ” ธนุสเปล่งเสียงดังลั่นให้กับความจนตรอกของพวกเขาเองในขณะนี้


ทั้งพรานอ่ำและพัชรพลต่างลอบมองไปยังธนุสที่มีสีหน้าฉุนเฉียว พวกเขาทั้งสองเองก็ไม่ต่างกันเพียงแต่ไม่แสดงออกมาเท่านั้น

ไม่มีบทสนทนาใดๆระหว่างกลุ่มมาได้สักพักแล้ว อาจจะเพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าดีว่า แต่ละคนนั้นใกล้จะหมดความอดทนเต็มที


ดังสสารลอยเคว้งอยู่ในห้วงเวลาที่หยุดนิ่ง แล้วค่อยทิ้งตะกอนดิ่งลงเกาะกุมหัวใจให้ค่อยๆมัวหมอง


“ เพราะมึงคนเดียว ” ธนุสสบถคำหยาบคายออกมาขัด


“ ใคร ” พัชรพลแทรกถาม


“ ก็มึงไงละ เพราะมึงที่ออกความคิดเหี้ยๆนั้น ทำให้พวกกูต้องเป็นแบบนี้ กลับบ้านตั้งแต่ทีแรกก็สิ้นเรื่อง ” ไม่ไหวอีกต่อไป ความ

อดทนของธนุสมีน้อยเหลือเกิน


“ พูดงี้ได้ไง แล้วนัยแล้ววัช มึงไม่คิดถึงพวกมันบ้างหรือไง ” เช่นเดียวกับธนุสพัชรพลเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง คำพูดหยาบเหล่า

นั้นเป็นตัวเร่งชั้นดี


“ ก็เรื่องของมัน มันอยากโง่เอง ก็ให้มันตายในป่าคนเดียว ” ธนุสแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาอย่างร้ายกาจ


“ เลว ” เพียงสั้นๆที่พัชรพลตอบกลับ เขารู้สึกผิดหวังในตัวเพื่อนคนนี้จริงๆ


“ ก็คงน้อยกว่ามึงที่พาพวกกูมาตายที่นี้ ” เสียงตำหนิอย่างแค้นใจ ธนุสเป็นคนอารมณ์ร้อน ดังนั้นเมื่อพยายามเก็บกั้นอารมณ์แล้ว

ไม่ได้ระบาย สุดท้ายก็เลยปล่อยออกมาพร้อมคำพูดที่ร้ายกาจ


“ งั้นมึงก็ไป มึงไม่อยากตาย มึงก็ไปกลับไปสิ ” เสียงกระโชก ท้าทาย คนอวดเก่งอย่างธนุสเลยสนองทันที


“ ได้กูไม่อยู่รอตายในป่าอย่างพวกมึงหรอก กูจะกลับบ้านแล้วรอดูพวกมึงตาย ไอ้โง่ ฮ่าๆๆๆ ” ธนุสคำรามลั่นและแผดเสียงหัวเราะ

อันน่าเกลียดก่อนจะออกเดินด้วยท่าทางที่ไม่ดีนัก เพราะบาดแผลที่ยังคงสร้างความเจ็บปวดให้เขาอยู่ไม่น้อย


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในสายตาของพรานอ่ำ เขาแอบส่ายศีรษะให้กับเรื่องที่เกิด ไม่ดีอย่างแน่นอนที่ธนุสจะออกไปคนเดียว

แบบนั้น แต่เขาไม่ท้วง พรานอ่ำไม่สนใจอะไรแล้วจึงปล่อยเรื่องให้เลยตามเลย


เมื่อธนุสลับตาไป พัชรพลลอบถอนหายใจและมองไปทีพรานอ่ำเพื่อขอความเห็นใจ ก่อนจะลุกหนีไปนั่งอีกทาง

.

.

.

.

.

.

ตะวันเริ่มคล้อยจากยอดไม้ลงเต็มที ธนุสเดินออกมาจากพัชรพลไกลพอดู เขาพยายามใช้เข็มทิศเป็นตัวนำทางเพื่อเดินย้อนกลับ

ไป


ธนุสเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาบ้างที่ไปใส่อารมณ์กับพัชรพลอย่างนั้น แต่เขาก็คิดเข้าข้างตัวเองว่านั้นไม่ได้ทำให้เขาเป็นคนผิด อย่างไร

เสียงพัชรพลก็ผิดอยู่ดีเป็นหัวหน้าแต่กลับทำให้ลูกน้องลำบาก


ธนุสเดินตามแสงจากกระบอกไฟฉายเรื่อยๆ แต่ไม่ทันได้สังเกตว่ารอบตัวของเขามีอะไรบ้างอย่างที่กำลังคืบคลานตามมาอย่าง

ไม่รู้ตัว เขายังคงเดินต่อไป


“ ซวบ ”


ธนุสหันหลังมองไปตามเสียง แต่ไม่พบอะไรมันมืดเกินไป


“ ซวบ ”


อีกแล้ว คราวนี้เขาเริ่มรู้สึกถึงอันตราย ธนุสเร่งฝีเท้าของตัวเองให้ไวขึ้นและพยายามหาที่หลบซ่อนตัว บางทีอาจจะเป็นเสือหรือ

สัตว์ดุร้ายสักอย่าง


“ ซวบ ” ทางไหนกันเข้าจับทิศทางไม่ได้


“ ซวบ ” ความกลัวเริ่มก่อในหัวใจเมื่อเสียงนั้นถี่ขึ้นเรื่อย


“ ใคร ” เขาเปล่งเสียงหวังไล่ ตัวอะไรสักอย่างในความมืดนั้น


แต่ไม่เป็นผลเสียงนั้นยังคงกระชั้นชิด และใกล้เข้ามา ธนุสเบียดตัวกับต้นไม้ด้วยความกลัว กลอกตามองรอบข้างอย่างกระวนห

ระวาย เหงื่อเริ่มไหลซึมตามหน้า และยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามความถี่ของเสียง ตัวอะไรกัน


ยังคงอยู่เรื่อยๆ เรื่อยๆ และเสียงสุดท้าย


 “ อ๊าคคคคคคคคคคคคคค ”





___________________


-เขียนตอนนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองน่าจะไปเขียนเรื่องสยองขวัญแทน
-วันนี้มาลงให้อีกตอน หลังจากนี้จะไม่ค่อยวางแล้วนะครับ อาจจะมาต่อช้าหน่อย
-ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้นะครับ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 23-02-2012 10:48:13
W-Rose
อยากรู้ก็ต้องตามต่อนะครับ

atblueann
มาต่อให้เเล้วนะครับ ของคุณที่อ่านและชอบเรื่องนี้คระบ ปลื้มใจจัง

loveview
นั่นสิเน้อะ หรือจับมาให้นาคาหรือปล่าวนะ ๕๕๕

~ยำโซดาเผา~
เขาใช้ภาษาท่าทางครับ แน่ะๆคิดไรอยู่ ของคุณที่อ่านนะครับ

you13
ครับ ขอบคุณที่ยังติดตามอยู่นะครับ

เฮีย.
วัช คู่ ทรงรัฐ !!! หรอเนี๊ย ๕๕๕ ขอบตุณที่อ่านนะครับ

MYSKYPINK
ขอบคุณสำหรับบวกนะครับ จะได้อยู่ในป่าหรือเปล่าอันนี้ต้องอ่านตอนต่อไปนะครับ

Lemon_Tea
ไม่เเน่คู่อาจจะสลับ หรือไม่มีคู่เลยก็ได้นะครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ^^

ΡΕΡΡΕЯМΙИТ
เอานาคาเคะไปก่อนเนอะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

DasHimmel
ลุ้นเหมือนกันครับ เรื่องจับงัชมาทำอะไรนี้ต้องอ่านต่อนะครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

Cherry Red
อ่า ให้ทรงรัฐทานวัชเลยหรอ ไม่เคยเเต่งเเละไม่มีประสบการณ์ เอาแค่กอดๆหอมๆ พอไหมครับ แหะๆ

TeeRuk♥
ขอบคุณมากครับที่ชอบเรื่องนี้ เเต่เรื่องใกล้จบเเล้วอ่าครับ สันจริงๆ

wichaiP
จะพยายามลงให้บ่อยๆนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ ^^

PetitDragon
นั่นสิครับคนเเต่งปวดหัว ให้ใบ้ทั้งเรื่องเลยไหม ๕๕๕ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

♥lvl♀‘O’Deal2♥
ใครมาหว่า ^^

takara
แต่วัชจะอยากอยู่หรือเปล่าน้า

bytoey
อ่า คนเขียนจนปัญญาครับ ใกล้จบเเล้ว เเต่ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้นะครับ ถ้ามีเรื่องยังจะตามกันอยู่ไหมนะ ^^

Tifa
๕๕๕ แต่เผ่ากินคนโหดนะครับ ยอมได้หรอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-02-2012 11:36:20
กฤตนัยทำรัยนาคาอะนั่น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 23-02-2012 11:51:40
น่าสงสารนัย อุตสาห์ลวนลามหนูภุ...แต่หนูภุไม่เก็ท :m20:
ธนุสสสส..โชคดีเน้อ :sad11:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 23-02-2012 13:55:41
บานปลายไปใหญ่
ต้นเรื่องสบายอยู่คนเดียว..กรรม
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 23-02-2012 14:51:40
กฤตนัยหวานจังน้าาาาาาาาา !!!~  :-[
เริ่มจะสอนอะไรแผลงๆเเระ ชอบ  :impress2:
สงสัยนาคาต้องเหงามากแน่เลย คงไม่มีใครเข้าไปถึงได้ขนาดนั้น
อีกอย่างนาคานี่เป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาจริงๆ ตาสีเขียวแบบนั้นคงสวยน่าดู ~
แล้วธนุสไปจ๊ะเอ๋กะอะไรล่ะเนี่ย เสือเรอะ? จะเป็นอะไรมากมั้ยนั่น ><

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 23-02-2012 19:58:29
นี่จริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องสยองขวัญมาสักพักแล้วนะคะ ฮิฮิ
แต่เพียงมันอัพเลเวลขึ้นน่ะ

ท่าทางคนเดียวหัวจะหายยยยนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 23-02-2012 21:32:31
+1 จ้า


 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-02-2012 23:24:07
Tifa
๕๕๕ แต่เผ่ากินคนโหดนะครับ ยอมได้หรอ


ระดับนี้ บ่อมียั่น ค่า ขอให้ได้ขอให้โดนเป็นพอ คริๆ

ปล. นาคาตอนนี้เเอบน่ารัก เป็นลูกเเมว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 24-02-2012 01:07:37
เข้ามาอ่านอีกทีแอบงงไปหลายตลบ ต้องย้อนกลับไปดูตอนเก่า
อ้าวก็ถูกนิหว่า อร๊างงงงงง แอบงงเจ้าคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-02-2012 04:45:50
มันซึ้งตรงที่จะสอนนาคาให้รู้จักความรักด้วยนี่แหละ...  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๘ หน้า ๕ อัพ (๒๓/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 24-02-2012 10:34:42
ลงถี่ได้ใจจริง แหะๆๆ จะอ่านหนังสือสอบเเล้วครับ ช่วงนี้เลยทุ่มกับนิยายสุดๆ



ตอนที่๙







“ ฮือ ”


“ รัฐจะทำอะไร ”


สัณหวัชตะเบ่งเสียงถามคนที่ยืนด้านนอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย ในช่วงเย็นของวันพวกชาวบ้านพากันมามุงดูเขา ซึ่งผิดแปลกไป

จากหลายๆวันที่ผ่านมาปกติแล้วเขาจะถูกขังอยู่ในกรงคนเดียว หรือไม่ทรงรัฐก็จะเข้ามาป่วนเปี้ยนแถวๆกรง


ไม้คานขนาดพอดีถูกสอดลงด้านใต้ของกรงทั้งสองข้างก่อนจะถูกมัดอย่างแน่นหนา กรงที่ถูกยกจะโคลงไปมาทำให้เสียการ

ทรงตัว คนพวกนี้จะทำอะไรกัน ประตูกรงถูกเปิดออกพร้อมทั้งมีหญิงอ้วนเดินมาหาเขาแต้มอะไรบางอย่างลงที่หน้าผาก มันเป็นสี

แดงสัณหวัชเห็นมันจากในภาชนะในมือของหล่อน เสียงพูดงึมง่ำดังอยู่ในลำคอของแต่ละคน มันทำให้เขากลัวระคนแปลกใจ


ชายฉกรรจ์สี่คนยกไม้คานที่ถูกสอดและมัดเรียบร้อยแล้วคนละด้านก่อนที่จะยกขึ้นเหนือพื้น สัณหวัชคว้าเข้าที่ซี่กรงเพื่อประคอง

ตัว ทรงรัฐยังคงเดินตามอยู่ไม่ห่าง แต่ทำไมไม่พูดกับเขา ทำไมไม่มองหน้าเขา ทั้งที่เมื่อคืนก่อนยังพาเขาออกจากกรง พาเข้าขึ้น

ไปบนบ้าน ถึงจะเป็นช่วงเวลาเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็รู้สึกดี


“ รัฐ ” ทรงรัฐไม่มีแม้จะมองมาทางเขา ยังคงเดินดุ่มๆไปตามทาง


“ รัฐ คุณจะทำอะไรผม”


“ รัฐ ตอบผมสิ”


สัณหวัชพูดเสียงเครือเขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันชักจะแปลกขึ้นทุกที ทั้งชาวบ้านที่ทำเหมือนว่าตอนนี้เป็นงานอะไรสักอย่าง สังเกตจาก

สีสันต่างๆที่ถูกแต่งแต้มลงตามตัว และทรงรัฐเองที่ไม่แสดงท่าทางตอบรับเขาเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้นยังชอบมาคลอเคลียกับเขา

แท้ๆ


“ รัฐ ”


สัณหวัชเรียกชื่อของเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ทรงรัฐหันมามองสัณหวัชที่นั่งอยู่ในกรงด้วยแววตาที่เศร้านัก สัณหวัชรู้สึกถึงมัน

เขาพยายามยื่นมือออกไปจากกรงก่อนที่ทรงรัฐจะคว้ามันเอาไว้แล้วเดินต่อไป สัณหวัชยิ้มออกมาอย่างพอใจ เพียงแค่นี้เขาก็รู้สึก

ปลอดภัยแล้ว ทรงรัฐต้องไม่ทิ้งเขา แต่ถ้าหากรับรู้ถึงกันได้ สัณหวัชจะรู้ว่าทรงรัฐนั้นปวดใจเหลือเกินที่ต้องทำอย่างนี้ แต่เพื่อพี่

น้องที่อยู่ด้วยกัน เขาจำเป็นต้องทำ


ทรงรัฐยังคงจับมือของสัณหวัชเอาไว้จนกระทั่งข้ามสะพานไม้เก่าๆ ชาวบ้านเริ่มส่งเสียงงึมง่ำตลอดทางเว้นแค่เพียงทรงรัฐเท่านั้น

ที่ยังคงจับมือเขาไว้ไม่ยอมปล่อย สัณหวัชพยายามจ้องมองใบหน้าด้านข้างนั้นตลอดเวลาแต่ไม่มีเลยสักครั้งที่ทรงรัฐจะหันมอง

กลับมา


“ รัฐ ”


สัณหวัชเอยชื่อของเขาอีกครั้ง แน่ๆแล้วเขาต้องถูกทำอะไรสักอย่างที่มันคงไม่ดีอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาเริ่มมั่นใจ เหลียวมองซ้าย

ขวาไม่มีใครเลยที่เขาพอจะขอความช่วยเหลือมีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือคนข้างๆคนนี้ คนที่คอยดูแลเขา และจับมือเขามาตลอด

ทาง แต่วันนี้กลับมีสีหน้าอมทุกข์แต่ต่างจากคนอื่นที่มีสีหน้าอิ่มสุขกันอย่างถ้วนหน้า


“ ฮือออออ ”


เสียงแตกตื่นก่อให้เกิดความโกลาหนย่อมๆเมื่อพบร่างชายคนหนึ่งแขวนคาอยู่บนต้นไม้ เลือดสีแดงฉาดยังคงไหลริน สัณหวัชเบิก

ตาโพล่งเมื่อพบว่าคนบนนั้นเป็นเพื่อนเขาเอง “ ธนุส ” นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น


“ ธนุส ”


สัณหวัชคำรามดังคนสิ้นสติ เขารู้สึกกลัวขึ้นมาจับ ใจ เขย่ามือของอีกคนที่ยืนอยู่ข้างแต่ไม่มีแม้แต่จะหันมาแล ยังคงมองตรงไป

ด้านหน้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขบวนเร่งเดินเร็วยิ่งขึ้นเพื่อให้พบจากสภาพศพนั้น สัณหวัชยังคงหันไปมองศพของธนุสที่แขวน

อยู่บนต้นไม้ เขาเป็นอะไรทำไมสภาพถึงดูเละอย่างนั้น สัณหวัชยังคงร้องขอให้ช่วยเพื่อนเขาจากทรงรัฐแต่ไม่มีประโยชน์ ทรงรัฐ

ยังคงนิ่งแต่พอเขาพยายามจะแกะมือออก อีกฝ่ายก็กลับกุมไว้แน่นกว่าเดิม








เสียงงึมง่ำคล้ายบทสวดจากทุกคนในเผ่า ไปกระทบเข้ากับหูของพรานอ่ำพัชรพลที่นั่งนิ่งอย่างหมดอาลัยตายยาก เขาทั้งคู่ค่อยๆ

เดินไปตามเสียงนั้นมันอยู่ไม่ห่างเท่าไรนั้น ทันที่ที่เห็นว่าเป็นชนเผ่าพวกนี้ทั้งคู่จึงรีบหมอบลงและมองขบวนที่เริ่มจะเคลื่อนไป

ด้านหน้าเรื่อยๆ ตะวันที่เริ่มคล้อยลงไปแล้วทำให้แสงภายในป่าเหลือน้อยลงทุกที ลำบากถึงพรานอ่ำและพัชรพลที่ต้องเพ่งมอง

เข้าไปในฝูงเผ่านั้น เมื่อขบวนยาวเคลื่อนมาถึงกึ่งกลาง พัชรพลตะลึงเมื่อเห็นสัณหวัชภายในกรงนั้น เขาพยายามพูดอะไรบาง

อย่างกับคนในเผ่าคนหนึ่งที่เดินเลียบเคียงกับกรง


“ สัณหวัช ” พัชรพลเอยขึ้นเป็นเชิงถามพรานอ่ำที่หมอบอยู่ข้างๆ


“ ข้าเห็นแล้ว ”


“ วัชไปอยู่กับพวกนี้ได้อย่างไร เขาไม่ได้อยู่กับกฤตนัยหรอกหรือ ” พัชรพลรู้สึกแปลกใจที่เห็นสัณหวัชติดอยู่ในกรงนั้น


พัชรพลและพรานอ่ำเดินตามขบวนนั้นไปเรื่อยๆ เพื่อหาทางช่วยสัณหวัชที่ดูจะอ่อนล้าเต็มที


ทางเดินข้างหน้าปรากฏน้ำตกขนาดใหญ่ ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มนั้นจะเดินฝ่าเข้าไปในปากถ้ำและนั้นทำให้ทั้งพรานอ่ำและพัชรพล

ต้องตกตะลึงเมื่อรู้ว่ามีถ้ำอยู่หลังน้ำตกนั้น พวกมันค่อยเคลื่อนตัวกันอย่างช้าจนคนท้ายสุดเข้าไป พรานอ่ำและพัชรพลจะออกมา

จากที่ซ่อนและเดินตามเข้าไปอย่างเร่งรีบ เพราะกลัวจะคลาดกัน


ภายในถ้ำค่อนข้างอับและเสียงที่อื้ออึ้งจากน้ำตกด้านนอก พัชรพลเดินมาหยุดอยู่ที่ภาพวาดข้างผนังถ้ำ มันมีภาพวาดที่สีจางลง

ทุกทีของนาคาและผู้คนมากมายคล้ายงานรื่นเริง ผู้คนแต่งตัวสวยภายใต้แสงจันทร์เต็มดวง และใครคนหนึ่งถูดมัดไว้กับเสา ข้างๆ

กันนั้นมีอักษรโบราณเขียนเอาไว้แต่พัชรพลอ่านไม่ออก


“ ยามเมื่อต้องแสงจันทรา กายาดุดันเปลี่ยนพลัน ” ภาษาโบราณข้าพออ่านออก


“ พรานผมว่ามันชักจะแปลกจำได้ไหมที่พรานบอกว่าพวกเผ่ากินคนจะมีการมองเครื่องเซ่นสังเวยแก่นาคาและเครื่องเซ่นสังเวย

นั้นก็คือคน และในภาพนี้มันน่าจะเป็นวันจันทร์เต็มดวง ซึ่งก็ตรงกับวันนี้ผมคิดว่าพวกนั้นจับวัชมาเพื่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน ”


พัชรพลพยายามวิเคราะห์เหตุการณ์จากเรื่องราวต่างที่พบมา มันค่อนข้างจะมีเหตุมีผลแม้แต่พรานอ่ำเองก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้

อาจจะจริง


พรานอ่ำและพัชรพลเดินตามทางเดินที่ทอดตัวยาวขึ้นไปด้านบน ก่อนจะพบกับป่าที่อยู่เหนือขึ้นมาจากด้านล่าง เสียงจากเผ่านั้น

ยังคงดังอยู่ไม่ขาดสายทำให้พรานอ่ำและพัชรพลตามได้สะดวก


คบไปถูกจุดขึ้นเมื่อผ่านมาได้สักระยะโดยพวกมันในกลุ่มนั้นเมื่อความสว่างที่เคยมีหายไปจนหมด


ตอนนี้มาถึงแล้วลานกว้างขนาดใหญ่กับแท่นหินที่ตั้งเด่นสง่ากลางหุบเขาและต้นไม้ใหญ่ สัณหวัชถูกนำตัวออกมาจากกรง และถูก

อุ้มขึ้นไปยังแท่นหินด้านบนนั้นก่อนจะถูกมัดมือเข้ากับเสาที่ตั้งอยู่ด้านหน้านั้น


เสียงร่ำไห้ของสัณหวัชกับชายหนุ่มคนนั้นยังคงดังอยู่ไม่หยุด จนท้ายที่สุดแล้วเป็นชายผิวเข้มที่เดินออกมาด้วยสีหน้าที่เศร้าสลด

ยิ่งกว่าอะไร


ฉับพลันร่างของสัณหวัชต้องสั่นสะท้านเมื่อเจอเข้ากับสิ่งที่น่ากลัว เข้าพยายามดิ้นหนีให้หลุดจากเชือกที่พันธนาการ และยิ่ง

ร้อนรนมากยิ่งขึ้นเมื่อเจอกับร่างที่คุ้นเคยในสภาพที่เดินเหมือนคนเลื่อนลอย


พรานอ่ำและพัชรพลเองที่แอบสุ่มดูอยู่ด้านล่างถึงกับผงะเมื่อเจอเข้ากับ




“ นาคา!!!!! ”






==================



- มาต่ออีกตอนแล้วนะครับ เรื่องนี้ไม่มี nc แหะ ๕๕๕ อันที่จริงน่าจะจบได้ตั้งนานแล้วยอมรับว่าตอนที่แล้วแอบยืดเรื่อง เลยออกมาป่วงๆไงไม่รู้อ่ะ
- ส่วนตอนนี้นั่งเขียนทั้งวันจะเอาให้จบในอาทิตย์นี้ให้ได้ ส่วนใครที่อ่านแล้วไม่เม้นยอมรับมาซะดีๆ ใกล้จะจบแล้วช่วยวิจารณ์หน่อยนะครับ จะเอาไปปรับปรุงกับเรื่องหน้า(ถ้ามี)
- ขอบคุณนักอ่านที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้และขอบคุณสำหรับกำลังใจอันนี้สำคัญสุด ที่ทำให้คนเขียน(ชื่อต้นข้าวไม่เคยแนะนำตัวเองเลย)นั่งปั่นทุกเวลาที่ว่าง ขอบคุณครับ

-ตอนหน้าจบแล้วนะครับ ^^

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 24-02-2012 11:09:47
อ๊าาาาา!!!! ตอนหน้าจบแล้วหรอเนี่ย ลุ้นมากเลย ไม่ไหวเเล้ว!!! ><
สงสารรัฐกะวัชอ่า ร่างที่คุ้นเคยนี่ใช่กฤตนัยรึป่าวคะ แล้วทำไมถึงดูล่องลอยอ่ะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย !!?!!
ตอนนี้ทุกคนมารวมตัวกันเเล้ว จะเกิดอะไรขึ้นต่อนะ  :z3:
ส่วนธนุส R.I.P.นะคะ TT
ขอบคุณคุณต้นข้าวมากนะค๊า ขยันมากเลย คนอ่านชอบ อิอิ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 24-02-2012 11:13:33
ไม่อยากให้จบเลยอะ ชอบแนวนี้ :sad4:

ติดตามแน่นอนคร้า  o13

ชื่อน่ารักมากค่ะคุณต้นข้าว ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 24-02-2012 11:36:47
แอร๊ยยยยย

ยังไม่อยากให้จบเท่าไรเลย ตอนหน้าเปิดศึกครั้งใหญ่เลยค่ะ แอร๊ยย

รอดูลูกตบ นาคา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 24-02-2012 12:35:03
จะเกิดอะไรขึ้นล่ะนั่น ลุ้นอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 24-02-2012 15:17:26
แล้ววัชจะรอดไหมจากนาคา :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 24-02-2012 16:23:41
จะจบแล้วหรอ ยังอยากอ่านต่ออ่ะ
แล้ว ฉาก nc เป็นฉากที่เค้ารอคอยเลยน้าาาา ทำไมไม่มีอ่ะ จาเอาๆๆ
สนุกจ้าาา

แล้วก้อสวัสดีนะจ๊ะคุณต้นข้าว ชื่อน่ารักดี ชอบ อิ อิ (เหมาะแก่การเอาไปจิ้น แหะๆ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 24-02-2012 18:15:39
น่าสงสารธนุสนะคะ แต่เอาเถอะ เฮ้อ...
ที่เห็นน่าจะเป็นนาคาคนละตนกันนะ ถ้าเป็นตนเดียวกับตอนแรกจะน่ากลัวเกินไปแน่ๆ
พยายามอ่านหนังสือด้วยนะคะ จะสอบแล้ว เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน สู้ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 24-02-2012 18:22:08
รอลุ้นน่ะค่ะ

เราว่าเรื่องมักระโดดไปหน่อยน่ะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Artemis ที่ 24-02-2012 19:32:16
ชอบพล๊อตค่ะ ผูกเรื่องเก่ง มีประเด็น
ส่วนภาษาและท่วงทำนองการเขียน เราไม่ค่อยกล้าออกความคิดเห็นค่ะ

เพราะเราเป็นแค่คนเล่าเรื่องที่ยังไม่ได้เรื่อง จึงไม่ควรให้ความเห็นในเรื่องนี้ค่ะ

แต่ขอบอกว่าถ้าเรื่องแรกทำได้ดีมากขนาดนี้ นับว่าเยี่ยมที่สุด

คนเขียนเก่งมากๆค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ ขอบพระคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 24-02-2012 21:32:08
นาคาจะทำอะไรวัชอะ....ลุ้นจริงอะไรจริง :a3:

ปล..ชื่อต้นข้าว....น่าร้ากกกอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 24-02-2012 21:52:09
นาคา ภุชงค์ช่วยสงสารวัชกะทรงรัฐด้วยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 24-02-2012 22:12:58
ให้อารมณ์เหมือนอ่านนิยาย เพรชพระอุมาเลย มันสๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 25-02-2012 01:18:09
เป็นตอนลุ้นระทึกที่กำลังจะนำเข้าสู่ช่วงไคลแม็กซ์
ความจริงอันลึกลับของนาคา กับ เผ่ากินคนกำลังจะถูกเปิดเผย
อา...ตื่นเต้นจัง :oni2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 25-02-2012 10:40:37
ลุ้นระทึกตอนหน้า
นาคาอย่าทำอะไรวัชนะ!! :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 25-02-2012 10:58:48
เจอกันตัวเป็นสักที...นาคา

+1 ให้จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๙ หน้า ๕ อัพ (๒๔/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 26-02-2012 14:14:01
ตอบเม้นสดท้ายเเล้วอ่า ขอบคุณที่ตืดตามมาตลอดนะครับ :: ต้นข้าว

DasHimmel
ที่ขยันเพราะกำลังจากนักอ่านแหละครับ ขอบคุณมากนะครับที่อ่านเเละติดตามตลอด เเต่ตอนจบเเล้วอ่า แอบเสียดายเหมือนกัน ^^

bytoey
อ่า เรื่องหน้าจะลองเขียนเเนวนี้มาให้อ่านอีกนะครับ แต่ไม่รู้เมื่อไร ๕๕ ขอบคุณสำหรับทุกการติดจามครับ ^^

Tifa
นาคามาเเล้วนะครับ แต่จะตบหรือเปล่านี่สิ ขอบคุณที่อ่านเเละติดตามจนจบนะครับ

takara
เน้อะ จะเป็นยังไงนะ ตอนสุดท้ายเเล้วขอให้สนุกนะครับ ขอบคุณสับการติดตามจริงๆ ^^

โดดเดี่ยวแต่ไม่
เเล้วอยากให้รอดหรือเปล่าละครับ แหะๆๆ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

KURATA
ขอบคุณที่ชอบชื่อนะครับ แต่จะเอาไปจิ้นเลยหรอ(เป็นรุกหรือรับหว่า???) เเต่งncมาให้นะครับ ป่วงๆหน่อยเเต่พยายามเเล้วครับ ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

loveview
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับ ตอนสุดท้ายมาเเล้วลองอ่านดูนะครับว่าตรงกับที่คิดเอาไว้หรือเปล่า ขอบคุณที่ติดตามนะครั บ^^

you13
ตรงที่อยู่ๆก็เอาวัชไปให้นาคาเลยใช่ป่าว เเอบรู้สึกเหมือน ๕๕ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ

Artemis
โห คำชมขนาดนี้คนเขียนตัวลอย ขอบคุณมากครับเเละขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้จนจบนะครับ

~ยำโซดาเผา~
ไปอ่านเลยดีกว่าเนอะ ตอนสุดท้ายเเล้วขอให้สนุกนะครับ ขอบคุณที่ชอบชื่อเเละติดตามจนจบนะครับ ^^

beery25
ง่า นาคาจะฟังป่าวหว่า แหะๆ ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ

agava1313
โห เปรียบได้ยิ่งใหญ่มาก ขอบคุณที่ติดตามเรื่อนนี้นะครับ

Cherry Red
ตอนสุดท้ายเรื่องก็คงเปิดหมดเเล้วละครับ ขอให้สนุกเเละขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะครับ

silent_loner
หว่า~~~~~~ นาคาทำไปแล้ว แต่ทำอะไรนี้สิ ๕๕๕ ขอบคุณที่ติดตามเรื่องนี้นะครับ

silverphoenix
ขอบคุณสำหรับบวกและการติดตามนะครับ ^^ 

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 26-02-2012 14:22:22


ตอนที่๑o







นาคาหนุ่มเลื้อยออกมาจากถ้ำด้านใน ตามหลังมาด้วยกฤตนัยที่เลือนลอยไม่ได้สติแม้จะเห็นสัณหวัชตรงหน้าแล้วก็ตาม ภุชงค์

เลื้อยอ้อยอิ่งไปปลายสุดของหินที่ยื่นออกจากตัวแท่น ก่อนจะยืดตัวสูงขึ้นรับแสงจากดวงจันทร์ในวันเต็มดวง ทันใดนั้นผิวที่เคย

ขาวเนียนบัดนี้กลับซีดเซียว เกล็ดสีเขียวสดที่ปกคลุมหางกลับกลายเป็นสีแดงเพลิงอย่างน่าอัศจรรย์ คมเขี้ยวยาวงอกออกมาโผล่

พ้นริมฝีปากล่าง สัณหวัชจ้องมองดูสภาพกายที่เปลี่ยนแปลงนั้นอย่างช้าๆ มันฉุดกระชากสติทั้งหมดด่ำดิ่งลงสู่ความกลัวของตัว

เอง สัณหวัชดิ้นร้นให้หลุดพ้นจากเถาวัลย์หนาที่มัดมือเขาเอาไว้จนรู้สึกแสบขึ้นมาอีกครั้งและร้องเรียก กฤตนัยไปพลาง แต่กฤต

นัยยังคงยืนนิ่งราวกับโดนมนต์สะกด


นาคาคืบคลานมาหาเขาเรื่อยๆ ดวงตาสีแดงสว่างโร่ดังเลือดนก จับจ้องมายังเขาอย่างหิวกระหาย ตอนนี้สัณหวัชรู้แล้วว่าเผ่านั้น

ไม่ใช่เผ่ากินคนแต่เป็นนาคาเองต่างหากที่กินคนโดยอาศัยชนเผ่าพวกนั้น ชั่วขณะที่สัณหวัชจ้องดวงตานั้นกลับ สติของเขาก็ดับ

วูบไปเหมือนกับกฤตนัย ตอนนี้เขาไม่รู้เรื่องหรือรู้สึกอะไรแล้ว ไม่รู้สึกแม้กระทั่งเขี้ยวคมที่ฝังลึกลงมาเรื่อยๆที่ลำคอของตัวเอง

หยาดน้ำสีแดงไหลทะลักออกมาถูกรองรับไว้ด้วยริมฝีปากของนาคา บางส่วนเอ่อล้นออกมาเปรอะเปื้อนเสื้อของสัณหวัช แต่เขา

ยังคงนิ่งเฉย


พรานอ่ำและพัชรพลต่างวิ่งกรูกันขึ้นไปบนแท่นหิน เมื่อรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มเลวร้ายขึ้นทุกที ใครบางคนในเผ่าคนเห็นเข้าจึงส่ง

เสียงร้องเตือนและวิ่งตามแต่ทรงรัฐห้ามเอาไว้เสียก่อน เขามองขึ้นไปบนแท่นจ้องมองสัณหวัชที่ไม่ได้สติ เขารู้ดีว่าสัณหวัชจะ

ต้องตาย แต่ถ้าเขาไม่ทำคนในเผ่าเองที่จะต้องตาย การมอบเครื่องเซ่นสังเวยนี้มีมานานแล้วและทุกครั้งจะต้องสละชีวิตของคนใน

เผ่า


นาคายังคงดูดกินเลือดของสัณหวัชจนตัวของเขาเริ่มซีดเซียว หางยาวใหญ่ม้วนโอบรัดทั้งตัวของสัณหวัชราวกับจะรีดเลือดของ

เขาให้ได้มากที่สุด ฉับพลันกระสุนจากปืนของพรานอ่ำก็วิ่งตรงไปยังกายของนาคาแต่ไม่เป็นผล เกราะมนต์สีแดงเข้มบังเกิดขึ้น

ตรงหน้าครอบคลุมทั้งนาคา สัณหวัชและกฤตนัยเอาไว้ภายใน


“ วัช ”


ทรงรัฐคำรามชื่อของสัณหวัชอย่างกระท่อนกระแท่นเป็นครั้งแรก ก่อนจะวิ่งตรงดิ่งและพุ่งหอกแหลมจากทางด้านหลังทะลุผ่าน

เกราะนั้นเข้าไปอย่างง่ายดาย สร้างความประหลาดใจแก่พรานอ่ำและพัชรพลยิ่งนัก ทันที่ปลายแหลมฝังลึกลงไปเกิดเป็นแผล

เหวอะกลางหลังของนาคา ดวงตาโกรธเกรียวกระตุกค้างจับจ้องทรงรัฐอย่างเคียดแค้นแล้วตวัดหางเข้ากลางลำตัวจนเขากระเด็น

ตกแท่นหิน ทั้งกฤตนัยและสัณหวัชต่างฝืนสติอาจจะเป็นเพราะบาดแผลบนตัวนาคาที่เกิดจากฝีมือของทรงรัฐทำให้มนต์นั้นคลาย

ลง


กฤตนัยเห็นภุชงค์ที่ตอนนี้กลับกลายเป็นคนละคน เขาถอยกรูไปด้านหลัง ก่อนจะเดินถอยห่างไปรวมตัวกับพรานอ่ำที่ส่งเสียง

เรียกอยู่ ทั้งสามจ้องมองนาคาสลับกับสัณหวัชที่ตอนนี้แสดงอาการทุรนทุรายอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่ฝืนคืนสติ


บัดนี้มนต์ของนาคาได้คลายหมดแล้วรวมทั้งเกราะนั้นด้วย พรานอ่ำสบโอกาสจึงชักกระบอกปืนขึ้นมาเล็งตรงหัวใจ แต่ช้าเกินไป

หางสีแดงสดสะบัดเพียงครั้งเดียว ปืนที่อยู่ในมือก็หลุดร่วงไปทันที นาคาเลื้อยดิ่งเข้าหาพรานอ่ำ รวบรัดร่างเข้าสู่วงล้อมของหาง

และหัวเราะด้วยเสียงอันน่าเกลียด กฤตนัยยืนอึ้งกับภาพที่เห็น เขาไม่คิดว่านาคาที่เคยอ่อนโยนจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้


“ พล กริชในยาม ” พรานอ่ำตะโกนเรียกสติพัชรพลเมื่อตนเองเข้าตาจน


นาคายังคงโอบรัดร่างแน่นขึ้นเรื่อย ในขณะที่พัชรพลเองยังคงขวานหาอย่างลุกลี้ลุกลน ก่อนจะชักกริชออกจากฝัก ใบมีดเรียว คด

ฝังร่างลึกลงบนผิวของหางนั้นด้วยความแรง นาคาผงะถอยก่อนจะขดตัวอยู่ตรงหลืบของซอกหิน ถึงทีของพรานอ่ำที่ย่างเข้าหา

นาคากับปืนคู่ใจกระบอกเดิม ฉับพลัน หางแดงสดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวดังเดิม ใบหน้าที่มองมาหลายวันนี้ปรากฏต่อหน้ากฤตนัย

อีกครั้ง


“ นัย เจ็บ ” เสียงร้องโอดโอ้ย ทำให้กฤตนัยสงสารขึ้นมาจับใจ เขาพยายามเดินไปหาภุชงค์เพื่อปลอบอย่างที่ทำมาตลอดหากแต่

พรานอ่ำกลับรั้งเอาไว้ กฤตนัยสู้แรงของพรานอ่ำและพรานอ่ำเองก็พยายามกันกฤตนัยเอาไว้จนไม่ทันสังเกตร่างกายของนาคาที่

ค่อยๆเปลี่ยนไป คมเขี้ยวแหลมกับสายตาที่จับจ้องไปยังซอกคอของพรานอ่ำ ก่อนจะพุ่งเข้าหาด้วยความเร็วหมายจะกัดเข้าที่

ซอกคอนั้น


ฉึก !!!!


เลือดสีแดงไหลสาดกระเซนไปทั่วเมื่อพัชรพลกระชากกริชออกมาจากร่างของนาคา เขาพุ่งตัวเข้าไปแทงนาคาเข้าที่กลางอกก่อน

ที่จะถึงตัวพรานอ่ำ นาคาทรุดฮวบลงกับพื้น กายเปลี่ยนเป็นสีเขียวดังเดิมพร้อมร้องเรียกกฤตนัยอย่างโหยหา  พรานอ่ำมองอย่าง

ชั่งใจก่อนจะปล่อยตัวกฤตนัยไปเมื่อเห็นว่าภุชงค์หมดฤทธิ์แล้ว


“ นัย เจ็บ ฮึก ” ภุชงค์สะอื้นราวกับเด็กอีกครั้ง


“ อย่าร้องไห้ ” กฤตนัยรู้สึกบีบในหัวใจเหลือเกิน เขาทำได้แค่เพียงปลอบและกอดเอาไว้ในอกของเขาเท่านั้น


“ แต่นัยบอกร้องแล้วหาย ฮึก นัย ” เลือดสีแดงฉาดยังคงไหลไม่หยุด กฤตนัยพยายามใช้มือกดลงที่แผลนั้นเพื่อห้ามเลือด แต่

แผลลึกเหลือเกิน กฤตนัยใจไม่ดีเมื่อภุชงค์เงียบไป


“ ภุ.......ภุ ลืมตา ภุ ลืมตา ”


“ ทำไม ” ภุชงค์ถามคำถามอีกเหมือนเคย ทำไมกันในเมื่อเขาง่วงขนาดนี้


“ อย่าหลับนะ ” กฤตนัยสั่งเสียงแข็งน้ำสียงสั่นเครือ ภุชงค์ยิ้มเหมือนเด็ก เขาผงกศีรษะรับคำ


กฤตนัยจับจ้องไปยังดวงตาสีเขียวที่อ่อนแสงลงเต็มที ก่อนจะมอบจูบแสนหวานให้แก่ภุชงค์ที่หลับตาพริ่มรอ จูบแนบแน่นเนิ่นนาน

จูบสุดท้ายที่กฤตนัยจะมอบให้นาคาและเป็นจูบสุดท้ายที่เขาจะมอบให้แก่ตัวเองเช่นกัน


เมื่อถอนจูบแล้วพิศมองคนตรงหน้าที่นอนแน่นิ่งในอ้อมอกของเขา กฤตนัยหัวใจสลายเมื่อพบว่าคนที่เขารัก คนที่เขาสอนคำว่า รัก

ให้ หลับไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ


“ ภุ ตื่น ”


“ ภุ ได้ยินไหม ”


“ ภุ ตื่นนนนนนนนนนน ”


กฤตนัยเขย่าร่างไร้วิญญาณนั้นเหมือนคนสิ้นสติมือใหญ่กอบกุมมือน้อยนั่นไว้อย่างห่วงแหน น้ำตาหลั่งไหลรินเป็นสาย คำราม

เรียกชื่อภุชงค์อย่างบ้าคลั่ง พรานอ่ำพยายามลากตัวของกฤตนัยออกมาแต่เขาไม่ยอมยังคงตระคองกอดร่างนั้นไว้แน่น พรานอ่ำ

ยอมถอดใจและปล่อยให้กฤตนัยทำตามที่ตนต้องการจนยอมผละออกมาเอง


กายสีเขียวซีดนอนยาวเหยียดบนพื้น กฤตนัยจะเตรียมทุกอย่างเพื่อภุชงค์เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาจะทำให้ ท่อนไม้เล็กใหญ่ถูกวาง

เรียงเพื่อให้พอดีกับตัวของภุชงค์ ก่อนจะโยนคบเพลิงเข้าสู่ร่างนั้นทั้งน้ำตา ร่างกายแข็งแรงกำยำ บัดนี้กลับอ่อนปวกเปียกอยู่บน

พื้นจ้องมองเกล็ดสีเขียวที่ถอดออกมาจากหางของภุชงค์


ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างจ้องมองกองเพลิงด้วยความเศร้าสลดก่อนจะทยอยกันออกไปเรื่อย เหลือไว้เพียงกฤตนัย พรานอ่ำ  พัชร

พล และสัณหวัชที่หมดสติอยู่ภายในอ้อมกอดของทรงรัฐ


พัชรพลไปรับสัณหวัชมาอยู่กับตนและเรียกสติของสัณหวัชจนตื่นขึ้นมา


“ วัช ”


สัณหวัชหันไปตามเสียงเรียกชื่อนั้นอย่างลำบากเพราะแผลที่คอ แต่พอเห็นเจ้าของเสียงเพียงเท่านี้เขาก็ยิ้มออกมาอย่างสุขใจ


“ รัฐ ” สัณหวัชพยายามเอื้อมมือไปหา ทรงรัฐถลาเข้ามากุมเอาไว้ และพูดอะไรมากมายกับสัณหวัชเป็นภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ

แต่สัณหวัชเริ่มรู้สึกแปลกๆกับตัวเอง


“ เราต้องไปกันแล้วนะ วัช ”


พัชรพลขัดขึ้นเมื่อทรงรัฐพูดจบ เขาอุ้มสัณหวัชและยืนขึ้นพร้อมกับทรงรัฐที่ยังจับมือสัณหวัชเอาไว้ ก่อนจะออกเดินไปกับพราน

อ่ำที่ประคองกฤตนัยที่ตอนนี้เลิกร้องไห้แล้วแต่ยังคงซึมอยู่


ทรงรัฐยืนมองสัณหวัชที่ค่อยๆห่างออกไปเรื่อยๆ หางตาของเขามีน้ำไหลซึมออกมา เขาอยากจะไปกับสัณหวัชเหลือเกินแต่คง

เป็นไปไม่ได้ ชีวิตของพวกเขามันต่างกัน เขาคิดว่าหากสัณหวัชกลับไปยังบ้านของตนเอง เขาคงมีความสุขอย่างแน่นอน แต่ใคร

เลยจะรู้ว่าสัณหวัชเองก็เจ็บปวดใจอยู่ไม่ใช่น้อย


ความเจ็บปวดฉายแววออกมาทางดวงตาที่บัดนี้เปล่งแสงสีเขียววาววับ

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.


“ ฮืออ ฮา ~~~~~~~~~~~ ”


“ อะ แรงอีก ”


เสียงกระเส่าครวญครางดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย ร่างกำยำกระแทกกระทั้นเข้าหาอีกฝ่ายที่นอนอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ด้านล่าง เนื้อตัว

สั่นคลอนไปตามแรงอารมณ์ที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่มีหยุดยั้ง ก่อนที่คนด้านบนจะพลิกตัวไปนอนด้านล่างให้อีกฝ่ายได้คุมเกมส์นี้

บาง เกมส์อารมณ์ที่ดำเนินไปอย่างรุนแรงและถึงใจแต่ละฝ่าย


ร่างบางโยกตัวไปมาสนองแก่คนด้านล่างอย่างคล่องแคล้ว เสียงครางดังหวานหูกระตุ้นให้ยิ่งถาโถมช่องทางบดเบียดกับหน้าท้อง

ด้านล่างอย่างแรง เมื่อความเต็มตื่นดันตัวขึ้นมาจนแทบจะทะลักทลาย ร่างหนาดันตัวขึ้นนั่งโดยที่อีกฝ่ายยังคงนั่งอยู่ด้านบน ก่อน

จะอัดเข้าเต็มแรง แรงบีบแค้นจากช่องทางด้านใน ทำให้ความอดกลั้นเหลือน้อยลงเต็มที เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นไปทั่วตาม

ความแรงของช่วงจังหวะ


“ อ่าาาาาา ”


เสียงครางด้วยอารมณ์สุขสมดังขึ้นตามด้วยของเหลวที่ปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายของอีกฝ่ายที่ตอนนี้ทั้งร่างกระตุกเกร็งด้วยความ

เสียวซ่าน

.

.

.

.

.

.


เช้าตรู่ของวันสัณหวัชลืมตาตื่น มองหาอีกคนที่นอนด้วยกันเมื่อคืน แต่ตอนนี้ไม่อยู่ในห้องแล้ว เขาเดินออกไปด้านนอกและก็พบ

เข้ากับชายร่างเข้ม กำยำ  ที่นั่งเตรียมอาหารเช้าให้เขาอยู่


“ ทำไมไม่ปลุกผม ”


“ ก็เห็นวัชหลับสบายก็เลยไม่อยากปลุก ”


สัณหวัชส่งสายตางอนๆและนั่งลงตรงข้ามกับอีกฝ่าย อาหารเช้าง่ายๆหน้าตาธรรมดา ที่เขาเคยนึกรังเกียง แต่ตอนนี้เข้าได้กินมัน

ทุกวันพร้อมกับคนรัก


บ้านหลังใหม่ที่เขาขอร้องให้อีกฝ่ายสร้างให้อยู่บนพื้นดินเพราะกลัวกลัวจะตกลงมาหากไปอยู่สูงขนาดนั้น  กลายเป็นรังรักของเขา

ในตอนนี้ 


เขาไม่เคยนึกเสียใจเลยในเหตุการณ์วันนั้น วันที่เขาโดนนาคากัด เพราะหากว่าเขาโดนกัดแล้วจะทำให้เขาเข้าใจภาษาและรับรู้

ความรู้สึกของอีกฝ่ายได้ เขายอม  ต้องขอบคุณสิ่งนั้นที่ทำให้เขาเข้าใจไอ้คนบ้าป่าเถื่อนคนนี้เสียที


ขอบคุณที่สุดมนตร์ของนาคา


“ ผมรักคุณนะ วัช ” เสียงบอกรักหวานหูที่ได้ยินเท่าไรก็ไม่เคยเบื่อพร่ำบอกเขาทุกเช้าเย็น


รอยยิ้มละมุนตอบรับให้กับคำบอกรักนั้น


“ ผมก็รักคุณเหมือนกัน รัฐ ”







========จบ========





- ตอนสุดท้ายแล้วนะครับ เป็นอย่างไรบ้างจบอย่างที่คิดกันเอาไว้หรือเปล่า ตอนนี้แอบเขียน nc มาให้ด้วย (ยากสุดๆ) แต่ก็อยาก

ทำให้ครับจะได้กระชุ่มกระชวย กร๊ากกกกก

-เห็นหลายคนบอกว่าชื่อน่ารัก ^^ ขอบคุณนะครับที่ชอบ

- อ่านตอนนี้จบแล้วขอร้องให้ช่วยเม้นหน่อยได้ไหมครับ แหะๆ (ขอร้องนะครับไม่ได้บังคับ) ยังไงก็ตอนสุดท้ายแล้วอยากรู้จริงๆว่า

ทุกคนคิดยังไงกับเรื่องนี้

- ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและติดตามเรื่องนี้จนจบ และขอบคุณสำหรับ + และเป็ดที่กดให้นะครับ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 26-02-2012 14:32:46
ขอบคุณสำหรับความสนุก ตื่นเต้น o13
เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องต่อไป
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 26-02-2012 14:33:58
เหนือความคาดหมายกับตอนจบ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ (แบบงงเล็กน้อยกับตอนนี้)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 26-02-2012 15:18:08
ก็เคยได้คิดว่าคนเถื่อนอย่างทรงรัฐ ทำไมดูแสนดี
เหอะๆ ที่แท้ เผ่านาคา แง่มๆ คนนี่เอง

สงสารกฤตนับนะ คนที่ตนรัก ดันม่องซะแล้ว T^T

ธนุสก็เหมือนกัน โธ่ๆๆๆ

ความเจ็บปวดฉายแววออกมาทางดวงตาที่บัดนี้เปล่งแสงสีเขียววาววับ
^ นอกจากได้รู้ภาษาเพราะโดนกัด แล้วจะกลายเป็นนาคาด้วยมั้ย

แต่ๆ >///< NC
และแล้วก็พูดกันรู้เรื่อง
หลังจาดส่งสายตาบอกความนัยกันมาตลอด

ขอบคุณสำหรับเรื่องนี้นะ  :pig4:
 :กอด1: +1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 26-02-2012 15:37:53
โดนกัดแล้วสืบทอดอำนาจนาคาด้วยไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: โดดเดี่ยวแต่ไม่ ที่ 26-02-2012 15:55:00
 :oo1:นึกว่าจะไม่ฉากนี้แล้ว :laugh:
เขียนได้ดีเลยทีเดียวละ ต้องเอ่ยคำว่า
เป็นนักเขียนที่ดีได้อย่างแน่นอน
และผลงานตอนต่อไป จะต้องสนุกมากๆๆเลย
เอาใจช่วยเสมอและให้กำลังใจตลอดไปนะครับ :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 26-02-2012 16:07:10
อ่านนัยกับภูแล้วก็..ซับน้ำตาป้อยๆ :monkeysad:
พออ่านรัฐกับวัช..ก็เปลี่ยนมาซับเลือดแทน :m25:

โครงเรื่องสนุกดี..ซันซ้อนปมเยอะ ลุ้น คาดเดาไม่ถูก
แต่กลับเดินเรื่องฉับไว เหมาะกับวัยรุ่นใจร้อนเช่นเรา อิ อิ :teach:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: silent_loner ที่ 26-02-2012 17:40:11
สงสารคู่นัยกับภุอ่ะ  :sad4: :sad4:
ตอนที่อ่านนึกว่าคู่นี้จะเป็นคู่หลักซะอีก
แต่ก็ยังดีที่วัชยังได้คู่กับรัฐนะ
แอบมีแถมncซะด้วย  :z1:
แต่รู้สึกเรื่องมันดำเนินไปเร็วจัง (ก็มันเป็นเรื่องสั้นนี้เนอะ):z3:
เหมือนว่าตอนนัยกับวัชหลงป่าตอนนั้นนานมาก แต่พอหลังๆดูรีบไปหน่อย
ตัวละครมีความสัมพันธ์รวดเร็วไปนิดหนึ่งค่ะ
แต่สนุกดี เพราะไม่ค่อยมีนิยายวายแนวนี้สักเท่าไร อ่านไปตื่นเต้นไป :z2:
+1 ให้กับตอนจบบริบูรณ์ค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 26-02-2012 18:00:38
เนื้อเรื่องสนุกค่ะ ใช้ไดเลย o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 26-02-2012 18:09:44
สงสารคู่นัยกับภุจังเลย

กระซิกๆๆ

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 26-02-2012 18:38:07
+1 ให้จ้า

สงสารภุจังเลยอะ  :m15:

แต่คงรัฐกับวัช น่ารักดี  :กอด1:

เจอกันเรื่องต่อไปน่าาาาาาาาาาาาาา  :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 26-02-2012 18:52:00
ตอนจบผิดคาดมากเลยอะ แต่ก้ออย่างน้อยวัชก้อสมหวังอะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: เฮีย. ที่ 26-02-2012 20:03:22
>< ~
วัชกับรัฐ !!! แอบมีnc นิดๆนะเนี่ยย
น่ารัก จัง

แต่วัชจะต้องสือเชื้อสายนาคาป่าวหนอ ??

สงสารนัยอ่ะ TT คนรักต้องตายไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 26-02-2012 22:33:59
โอ้!!! พระเจ้า คนที่ได้เปรียบในงานนี้ท่าทางจะเป็นคู่ของทรงรัฐนะเนี่ย
แต่จบแบบนี้ก็ดีค่ะ ชอบอ่ะ บางทีก็แอบเห็นใจนาคานะ แต่พอเห็นตอนสุดท้ายแล้ว อืมมมม เลย :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 26-02-2012 22:36:51
อ๊าาาาาา !!  สงสารภุอ่า TT
ยิ่งตอนร้องไห้บอกกฤตนัยว่าเจ็บนี่แบบ  :z3:
แต่ยังไงรัฐวัชก็สมหวังละน้าาา แอบมีNCด้วย อิอิ >////<
แต่ประโยค "ดวงตาที่บัดนี้เปล่งแสงสีเขียววาววับ" นี่สิ หรือวัชจะได้พลังอะไรที่มากกว่าพูดภาษาของรัฐได้?

คิดยังไงกะเรื่องนี้ก็ขอบอกเลยว่าชอบมากกกก!!! คือนอกจากเป็นเรื่องวายเเล้วยังแบบลุ้นได้ทั้งเรื่อง เดาไม่ค่อยถูกด้วย
เอาจริงๆคือเดาแล้วผิดหมดค่ะ 5555 ชอบอ่านแนวนี้ด้วย แต่งแนวนี้ออกมาอีกนะค๊า ชอบมากๆๆๆๆๆ
ขอบคุณคุณต้นข้าวมากนะค๊าสำหรับ".......มนตร์นาคา......." +1 ค่า ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 26-02-2012 22:43:01
คือ ตอนจบไม่เวิรค์อ่ะ ดีที่วัชกับรัฐรักกัน แต่ นาคาต้องตาย มนต์เหมือนจะให้เเต่ เเลกกับชีวิตและหัวใจที่เเตกสลาย
มีพิเศษ ต่อไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 26-02-2012 23:59:14
โดนกัดแล้วสืบทอดอำนาจนาคาด้วยไหม

คริๆ สงสัยต้องรอภาคสอง Naga strike back

อะ เอาสาระบ้างเนอะ เเต่ขอออกตัวก่อนว่าปกติ ไม่ค่อยเม้นมีสาระเท่าไรเลย เเอร๊ยยย

เรื่องนี้ โครงดี ดำเนินเรื่องดีค่ะ กระชับ ไวดี ไม่ยืดเป็นละครช่อง 7

มีเเวว เป็นนักเขียนที่ดีนะคะ เรื่องเเรกยังเจ๋งขนาดนี้ เเล้วเรื่องเเนวนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลยในการเขียน

จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 27-02-2012 10:22:35
อ๊ากกกกกกกก
นาคาของช้านนนน ไหงเป็นงี้ไปได้อ่ะ  สงสารนัย แงๆ
วัช - รัฐ เหอๆๆๆ  :m25: วัชนี่จะกลายร่างรึป่าวอ่ะ น่าจะมีตอนพิเศษนะ
ถ้าไม่มีก้อขอหน่อยละกันเค้าอยากรู้

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-02-2012 12:50:02
เรื่องนี้สนุก ตื่นเต้น ผจญภัยในป่าใหญ่ (ฮ่าๆๆ)

ขนาดนี่เรื่องแรกนะ เก่งนะเนี่ยยยย o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 27-02-2012 23:42:40
ยอดเยี่ยมมากค่ะ สำหรับเรื่องแรก จินตนาการกว้างไกล เนื้อหาเร้าใจ น่าติดตาม บรรยายได้ดี  :m4:
จบแล้ว... ต้องบอกว่า มีทั้งจบแบบที่คาดไว้แล้ว และจบแบบที่คาดไม่ถึง
คุณสัณหวัช ถือว่า Happy Ending แม้ละทิ้งทุกอย่างเพื่อมาอยู่กับคุณทรงรัฐกลางป่าเขา แต่ก็พบความสุขอันแท้จริง
คุณกฤตนัย  Sad Ending อุตส่าห์เสี่ยงชีวิตเข้ามาหา นาคา จนเจอ แต่ต้องพลัดพรากในที่สุด แบบที่ตัวเองไม่อาจจะช่วยไว้ได้
นาคา ไม่ใช่ตัวร้ายแต่ทุกอย่างทำไป เพราะ สัญชาติญาณในตัว เรื่องเหยื่อบูชายันต์ ก็ต้องถือเป็น ห่วงโซ่อาหาร ล่ะ
เรื่องนี้มีหลายตัวละคร หลากหลายความเป็นไป รวมถึงจุดจบที่ต่างกัน เพราะ "สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม" สินะ  :undecided: 


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: yumsonteen ที่ 28-02-2012 00:19:14
 :-[จบซะละ ขอบคุณมากๆคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-02-2012 06:50:29
ไม่นึกว่านาคาจะต้องตาย.... o22

นัยเลยไม่มีคู่ไปเลย....
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนที่ ๑o หน้า ๖ อัพ (๒๖/๒/๒๕๕๕) (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 28-02-2012 12:36:39






ตอนพิเศษ ๑







“ ฮือ อ๊าคคคคค ”


เสียงแผ่ดร้องดังลั่นโรงพยาบาลหลังจากที่พัชรพลและกฤตนัยพาร่างของสัณหวัชมายังโรงพยายาลที่อยู่ในตัวเมือง อาการของ

สัณหวัชคล้ายคนคลุ้มคลั่ง สองมือพยายามตะกุยลำคอของตัวเอง พยาบาลจึงต้องมัดสองมือนั้นไว้กับขอบเตียงเพื่อป้องกันบาด

แผลที่อาจจะแย่ลงจากนิ้วมือนั้น และมันก็ทำให้สัณหวัชดูจะทรมานขึ้นเรื่อยๆ เขากรีดร้องเสียงดังมากยิ่งขึ้นจนเพื่อนทั้งสองที่วิ่ง

ตามหลังพยาบาลรู้สึกใจไม่ดี สัณหวัชถูกส่งตัวเข้าห้อง ICU เสียงร้องของเขาจึงเงียบลงในที่สุด บางทีคุณหมออาจจะให้ยาระงับ

ความปวดหรือยาสลบก็เป็นได้


ราวๆสักสองชั่วโมงการรักษาอาการบาดเจ็บของสัณหวัชก็เสร็จสิ้นลง แต่ยังอยู่ในห้องใน ICU เพื่อดูอาการเพราะอาการที่ค่อนข้าง

น่าเป็นห่วงเนื่องเสียเลือดมากและรอยแผลที่คอเองก็ค่อนข้างจะหนักเอาการอยู่เหมือนกัน


เพราะสัณหวัชไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน กฤตนัยและพัชรพลจึงผลัดกันเฝ้าไข้ของสัณหวัชเมื่อตนว่างจากการทำงาน ตอนนี้อาการ

ของสัณหวัชดีขึ้นอย่างรวดเร็วจนหมอเองก็ยังแปลกใจกับการฟื้นตัวที่เร็วขนาดนี้ เพราะเพียงเวลาไม่กี่วันแผลที่ลำคอของเขาก็

แทบจะหายสนิทเหลือไว้เพียงแค่รอยแผลเป็นจางๆเท่านั้น


วันที่ห้าแล้วที่สัณหวัชยังคงหลับสนิทอยู่ภายในโรงพยาบาล ตอนนี้เขาถูกนำออกมาจากห้อง ICU แล้ว อาการภายนอกดูไม่มี

ปัญหาอะไร ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่รอให้สัณหวัชฟื้นขึ้นมาก็เท่านั้น คืนนี้เป็นเวรของกฤตนัยที่ต้องนอนเฝ้าสัณหวัช เขานั่งมองร่าง

นั้นก็อดนึกถึงอีกคนไม่ได้ เกล็ดสีเขียวสดที่ถอดออกมาในตอนนั้นเขานำไปร้อยเข้ากับเชือกก่อนจะนำมาสวมไว้ที่คอ มันอาจจะ

ทำให้รู้สึกคิดถึงภุชงค์มากขึ้นแต่อย่างน้อยเขาก็รู้สึกว่าได้อยู่ใกล้กันตลอดเวลา


เที่ยงคืนของวันกฤตนัยสดุ้งตื่นเพราะแสงที่ส่องสว่างจนเขารู้สึกตัว และเขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าเกล็ดที่คอของเขานั้น

เปล่งแสงสีเขียวสดออกมาจนทั่วห้อง เผยให้เห็นอีกคนที่นั่งนิ่งอยู่บนเตียงคนไข้ ด้วยท่าทางเหม่อลอย


“ วัชคุณตื่นตั้งแต่เมื่อไร ” กฤตนัยเดินไปหาสัณหวัชโดยอาศัยแสงจากเกล็ดที่ยังคงเปล่งแสงไม่หยุด


“ นัย ” ดวงตาสีเขียวเรืองๆจับจ้องมายังกฤตนัย เรียกร้องด้วยสายตาอันเว้าวอน


“.........”


“ นัย ภุ เจ็บ ” เสียงสะอื้นไห้ดังออกมาจากสัณหวัชแต่ท่าทางในตอนนี้คล้ายกับภุชงค์เหลือเกิน


“ ภุชงค์ ” กฤตนัยโผ่เข้ากอดจิตใจของภุชงค์ที่อยู่ใต้ร่างกายของสัณหวัชไว้อย่างแนบแน่น


ฉับพลันแสงสีมรกตจากเกล็ดนั้นก็ดับลง โดยกฤตนัยเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ


“ นัย คุณทำอะไรน่ะ ” สัณหวัชร้องทักเมื่อพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมกอดของกฤตนัย


“ ภุชงค์ ” กฤตนัยประคองใบหน้าของสัณหวัช น้ำตาคลอที่หน่วยตา แสงจากด้านนอกทำให้สัณหวัชเห็นได้ค่อนข้างชัด


“ นัยคุณเป็นอะไรหรือเปล่า ” กฤตนัยรู้สึกงุนงงกับท่าทางที่เปลี่ยนไปของสัณหวัช เขาเพิ่งสังเกตว่าตอนนี้เกล็ดของภุชงค์ไม่ได้

ส่องแสงอีกแล้ว เขาจึงเดินไปเปิดไฟ รินน้ำให้สัณหวัชก่อนจะนั่งลงข้างเตียง


“ นัย คุณร้องไห้ เป็นอะไรหรือเปล่า ” สัณหวัชถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงก่อนจะแตะเขาที่ไหล่ของคนตรงหน้าไว้


“ เปล่า คุณตื่นนานแล้วหรอ ” เขาพยายามเปลี่ยนเรื่อง


“ ไม่รู้สิ รู้สึกตัวก็ตอนที่คุณกอดเอาไว้นั่นละ ” สัณหวัชพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งหากเป็นเมื่อก่อนเขาคงดีใจจนกระโดดโลดเต้นเป็น

แน่


“ บอกผมได้หรือเปล่า ว่าคุณเป็นอะไร นัย ” สัณหวัชยังคงอยากรู้เขาไม่เคยเห็นกฤตนัยร้องไห้มาก่อนเลย มันอาจจะเป็นเรื่อง

ร้ายแรงมาก ที่ทำให้กฤตนัยเสียน้ำตาได้


“ ไม่มีอะไร คุณนอนเถอะเพิ่งหายอย่าเพิ่งขยับมากเลย ” กฤตนัยดันตัวของสัณหวัชให้นอนลง ก่อนจะหันไปปิดไฟ แล้วกลับยัง

โซฟาของตนเอง


กฤตนัยครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อครู่ เป็นไปได้ไหมที่ภายในร่างของสัณหวัชจะมีดวงจิตอยู่สองดวง สัณหวัชและภุชงค์

.

.

.

.

.

.


รุ่งเช้าพัชรพลมาถึงก็พบว่าสัณหวัชนั้นฟื้นแล้ว จึงไถ่ถามถึงอาการเจ็บแต่สัณหวัชก็แข็งแรงดีและอาจจะมากกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ


พัชรพลและสัณหวัชคุยกันอย่างออกรสเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน พัชรพลก็อดแปลกใจไม่ได้ที่สัณหวัชไม่ได้มีท่าทางหวาด

กลัวเกี่ยวกับเรื่องที่ผ่านมาเลย


“ วัช ”


“ ฮืม ” สัณหวัชรับคำของพัชรพลทั้งที่ตายังจ้องมองทีวี


“ คุณจำอะไรได้มั้งหรือเปล่า ”


“ เรื่องอะไร ” สัณหวัชยังคงมีสีหน้านิ่งเฉย


“ เรื่องที่ป่านั้น ”


“............”


“ เรื่องนาคา ”


จำได้สิ ทำไมสัณหวัชจะจำไม่ได้ จำได้มากกว่าที่เห็นไม่รู้ว่าความทรงจำต่างๆเหล่านี้มาจากไหน ยิ่งนานมากขึ้นเท่าไรมันก็ยิ่งมาก

ขึ้น ทั้งๆที่ตัวเขาเองบางทีก็ไม่เคยไปสถานที่นั้นด้วยซ้ำแต่กลับมีภาพเหล่านั้นอยู่ภายในหัวราวกับว่าเขาเคยไปอยู่ที่นั้นซะเอง


“ จำได้สิ ” สัณหวัชยิ้มรับให้


“ แล้วคุณไม่กลัวบางหรอ ”


“ ไม่ ”


“ แต่คุณโดนนา.... ”


“ เอาละ พอเถอะพล ตอนนี้ผมก็ไม่เป็นไรแล้วนิ ” สัณหวัชรู้สึกรำคาญกับคำถามเซ้าซี้ของพล จึงตัดบทสนทนาลง


แต่สัณหวัชก็รู้สึกว่าตนเองได้ลืมอะไรไป บางอย่างที่สำคัญแต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก






=================


-เอาตอนพิเศษมาลงให้นะครับเพื่อไขข้อข้องใจให้หลายๆคน เป็นช่วงตอนที่สัณหวัชมารักษาตัวจนถึงตอนที่ไปอยู่กับทรงรัฐ แต่วัชจะได้อะไรที่มันมากกว่ารู้ภาษา อันนี้ไม่บอกครับรออ่านเองนะ

-มีหลายคนเสียใจที่นาคาตาย แต่ตายแล้วอ่ะวางพลอตมาอย่างนี้ ให้ฟื้นมาอีกก็ไม่ได้แล้วเน้อออ ^^

-ตอนพิเศษนี้คงมีไม่กี่ตอนนะครับ

-ขอบคุณนักอ่านที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้ครับ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นนะครับ มีทั้งชอบและไม่ชอบตอนจบแต่ก้ปลื้มครับที่มีคนอ่าน ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 28-02-2012 13:14:31
สงสารนัย นาคามาผ่านร่างวัชได้ แปลว่ายังไม่ตาย???
รอตอนต่อไป
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 28-02-2012 15:09:43
วัชลิมไรอะ :a3:
....ขนาดตอนพิเศษยังมีเงื่อนปมให้ลุ้น o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 28-02-2012 15:32:04
หรือว่าตอนรักษาวัชลืมรัฐหว่า??~
แบบนี้แสดงว่านาคายังอยู่ในร่างวัชแน่เลย >< หรือว่าวิญญานอยู่ที่เกล็ด? อ๊าาาา ลุ้นๆๆๆ !!!!
บวกเป็ดให้คุณต้อนข้าวค่าา ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 28-02-2012 15:56:06
 o13วางเรื่องได้ชวนอ่านค่ะ มันมีปมที่ต้องตามอ่าน และเดินเรื่องกระชับดีค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 28-02-2012 16:12:28
อ่านตอนพิเศษแล้วอยากให้เป็นเรื่องยาว
ตอนภุ บอกว่าเจ็บนี่มันสะเทือนใจดีแท้
รอดูอาการวัชค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: coraline ที่ 28-02-2012 19:05:53
มันยังไงกันเเน่เจ๊ งง ยังไงก็เป็นกำลังใจนะ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 28-02-2012 19:16:08
นั่นไง มันต้องมีอะไรบางอย่างอยู่แน่ๆ

ลืมอะไร นายก็ลืมทรงรัฐน่ะสิ

วัชจะได้อะไรที่มันมากกว่ารู้ภาษา
เอ๋ๆๆๆ ได้วิญาณนาคา แต่คนแต่งบอกไม่ฝื้นกลับมาแน่
แล้วมันอะไรอ่ะ หรือวัชจะกลายเป้นนาคา
หรือจะได้ความทรงจำจากภูมาด้วย

แต่ตอนที่วัชตื่น ร้องเรียกนัยนั่นนะ
สรุปว่าภู หรือ เป็นวัช (เฮ้ย นายมีเจ้าเมืองแล้วนะ)
มันจะยังไงกันน้อ

อ๋อยๆๆๆ รอตอนต่อไปให้เคลียร์ดีกว่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-02-2012 19:31:38
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 28-02-2012 19:42:11
+1 ให้จ้า

วัช มีสองจิตในร่างเดียวเหรอ  :z3:

น่าติดตามแฮะ   :z2:

รอจ้า   :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 28-02-2012 21:26:17
รอๆๆๆๆๆจ้า
สนุกมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 29-02-2012 20:55:46
สิ่งที่นาคาหลงเหลือไว้ คือ อะไรกันนะ ???
ขนาดตอนพิเศษยังมีอะไรให้ลุ้นระทึก แถมเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้อีกต่างหาก
ขยายพล็อตได้ดีจริง ๆ ค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 29-02-2012 21:05:30
รอๆๆ

มีปมอีกแล้วววววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 29-02-2012 21:14:45
ดีใจจังเลยที่มีตอนพิเศษค่ะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๑ ) หน้า ๖ อัพ (๒๘/๒/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 01-03-2012 08:26:12


ตอนพิเศษ ๒






“ ฮ่าๆๆๆ นัย ”


“ นี่แน่ๆ ฮ่าๆๆๆ ”


เสียงหัวเราะแห่งความสุขดังก้องไปทั่วทั้งห้อง บนเตียงคนไข้ปรากฏร่างของกฤตนัยที่กำลังหยอกล้อกับภุชงค์ที่จะเผยออกมาให้

เห็นในยามดึกของทุกๆวันผ่านทางร่างของสัณหวัช สายเลือดที่เชื่อมต่อกันระหว่างภุชงค์กับสัณหวัชทำให้ดวงจิตของภุชงค์

สามารถเชื่อมเข้ากับร่างของสัณหวัชได้ แต่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น คราใดที่สัณหวัชอ่อนแอเป็นเวลาที่ภุชงค์สามารถออกมาได้

และเมื่อไรที่สัณหวัชหายดีภุชงค์จะหายไปทันที กฤตนัยได้ฟังคำอธิบายจากปากของภุชงค์เขาเองก็แอบเศร้าใจไม่ได้ จนบ้าง

เคยคิดจะทำร้ายสัณหวัชให้บาดเจ็บคนรักของเขาจะได้ออกมาหาได้


“ คิดถึง ” ฟ่อด กฤตนัยหอมฟ่อดใหญ่ที่แก้มของภุชงค์ในร่างสัณหวัช


“ คิดถึง ” ฟ่อด ภุชงค์ทำตามกฤตนัย เพราะเขาบอกว่ามันเป็นการแสดงความรัก และภุชงค์เองก็รักกฤตนัยเลยทำตามไปเสียทุก

อย่าง


คนตัวโตมักจะจ้องมองอีกคนที่อยู่ในอ้อมกอดให้รู้สึกอายอยู่เรื่อย ตอนนี้ภุชงค์รู้เรื่องราวต่างๆมากมายผ่านทางความทรงจำของ

สัณหวัชที่ถูกถ่ายทอดเข้ามายังตัวเขาเอง รับรู้ทั้งความคิด อารมณ์ต่างๆ ที่สัณหวัชเคยพบเจอมา และแม้แต่เรื่องที่สัณหวัชแอบ

ชอบกฤตนัยเองก็เช่นเดียวกัน และในทางกลับกันความรู้สึกนึกคิด ความรู้ ความทรงจำต่างๆของภุชงค์ก็หลั่งไหลไปยังสัณหวัชเช่น

เดียวกัน


“ ถ้ามีคนมาชอบนัย จะลืมภุไหม ” ภุชงค์ถามอย่างออดอ้อนอยู่ภายในอ้อมกอดของกฤตนัย


“ ไม่ ไม่มีวัน ” ความรู้สึกนี้เขามอบให้ใครไม่ได้อีกแล้ว นอกจากคนตรงหน้า


“ แต่ถ้าภุไม่อยู่ นัยจะเหงา ” ภุชงค์รู้ตัวเองดีว่าเวลาของตนนั้นอยู่ได้อีกไม่นาน เมื่อสัณหวัชแข็งแรงและหายดีเมื่อไร เขาจะไม่ได้

ออกมาพบกับกฤตนัยอีกเลย


กฤตนัยไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่ยิ้มให้อย่างอ่อนโยน


ใกล้เช้าแล้ว เกล็ดสีมรกตเริ่มอ่อนแสงลงทุกทีเป็นเวลาของสัณหวัชที่จะตื่นบ้าง กฤตนัยลุกขึ้นจากเตียงเพื่อกลับไปยังที่ประจำ

ของตนเอง เพื่อไม่ให้สัณหวัชสงสัย


เหมือนกับความฝัน เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืน ไม่ใช่ว่าสัณหวัชจะไม่รู้เรื่องเพียงแต่มันไม่ปะติดปะต่อกันก็เท่านั้นเอง เขามองกฤต

นัยอย่างชั่งใจก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ

.

.

.

.

.

.

.

.


ทุกๆคืนกฤตนัยจะเข้าไปคลอเคลียกับภุชงค์อยู่เสมอ เขาพร่ำพูดคำหวานหูออกไปให้ภุชงค์ฟังอยู่เรื่อยๆ กอด หอม เพื่อคลาย

ความคิดถึง แม้จะรู้ว่ามันจะไม่จีรังแต่ก็ขอเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้บ้าง เวลาที่ได้พบกันนั้นน้อยเหลือเกิน กฤตนัยตัดพ้อในใจ

ใกล้เวลาที่สัณหวัชจะออกจากโรงพยาบาลเต็มทีแล้วและนั่นก็เป็นเวลาของภุชงค์เช่นเดียวกัน กฤตนัยสังเกตจากทุกๆครั้งที่ได้

พบกับภุชงค์ ทุกๆครั้งเวลาจะลดลงเรื่อยๆจากทั้งคืนกลายเป็นไม่กี่ชั่วโมง และภุชงค์ในร่างของสัณหวัชจะดูอ่อนแรงไม่สดใส

เหมือนเมื่อครั้งแรกที่พบกับ และคืนนี้ก็เช่นเดียวกันเพียงแค่สองชั่วโมงที่เขาได้อยู่กับภุชงค์ สัณหวัชก็จะตื่นขึ้นมาเสียก่อนและ

เกล็ดเองก็จะหมดแสงลงเช่นเดียวกัน กฤตนัยสังเกตเห็นว่าเกล็ดสีมันดูหม่นลง บางทีนี้อาจจะเป็นสิ่งที่บอกว่าเวลาของเขากับ

ภุชงค์หมดลงแล้วจริงๆ


“ นัย คิดถึง ” ภุชงค์เค้นเสียงพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า พาให้กฤตนัยรู้สึกหดหู่ไปด้วย


“ คิดถึงเหมือนกัน ” เขาลูบลงที่หัวก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นมากยิ่งขึ้น


พักหลังมานี้กฤตนัยกับภุชงค์ไม่ได้พูดคุยหรือหยอกล้อกันมากนัก พวกเขามักจะนอนกอดกันอยู่นิ่งๆ ฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่าย

ภายใต้แสงสีมรกตที่ส่องสว่างทั่วทั้งห้อง คนในอ้อมกอดดูจะอ่อนแรงเหลือเกินถ้าหากถึงวันนั้น วันที่เขาต้องเสียงภุชงค์ไปอีกครั้ง

เขาจะทนได้ไหม


“ นัยทำไมเงียบ ” ภุชงค์ไม่อยากให้เงียบอย่างนี้ เขาอยากจะคุยกับกฤตนัย อยากอยู่กับเขา


“ หืม เปล่า.........เหนื่อยไหม ” สีหน้าของภุชงค์ดูไม่ดีเลย


“ ไม่ นัยพูด ภุอยากฟัง ”


“ พูดว่าอะไรละ ” กฤตนัยยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กคนนี้ เขาดูอ่อนแอเหลือเกินแต่ในร่างเดียวกันนี้ก็ร้ายกาจเสียจนเขาคาดไม่

ถึง


“ รัก ” ภุชงค์อมยิ้มขวยเขิน ก่อนจะหันหน้าหนีไปอีกด้าน


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


เคราสากถูเข้ากับซอกคอขาว จงใจแกล้งอีกฝ่ายที่ยังคงทำนิ่งเฉยต่อคำบอกรักของเขาทั้งที่เป็นคนขอร้องเองแท้ๆ ภุชงค์ปัดป้อง

เป็นพัลวันแล้วหัวเราะร่วน ถอยหนีฝ่ามือที่จี้ไปทั่วทั้งตัว


“ ฮ่าๆๆๆๆ นัยพอแล้ว ” ภุชงค์หัวเราะน้ำตาเล็ด


กฤตนัยหยุดแกล้ง จับจ้องไปยังดวงตานั้นแล้วเอยคำหวานให้อีกฝ่ายได้เขินอีกรอบ


“ รักนะ ”


“ รักเหมือนกัน ”


ริมฝีปากเคลื่อนเข้ามาแนบชิดติดกันอย่างอ่อนโยน กฤตนัยลากลิ้นไปตามรูปปากเพื่อลิ้มรส ก่อนจะล่วงล้ำเข้าหาโพรงปากด้านใน

หยอกล้อเล่นกับลิ้นสีสด ดูดดุนจนเป็นที่หนำใจแล้วผละออก จับจ้องดวงตาคนตรงหน้า ตาของสัณหวัชเหมือนกับตาของภุชงค์

เหลือเกิน ดวงตาสีเขียวที่สะท้อนวาววับอยู่ในกระบอกตากลอกกลิ้งไปมาชวนมอง เขาหลงเพลินไปกับสายตาคู่นั้น จนไม่สังเกต

เลยว่าเกล็ดนั้นหมดแสงลงไปแล้ว เหลือเพียงดวงตาสีเขียวที่ส่องฝ่าความมืดเท่านั้น


“ นัย ”


“ นัย ”


“ หือ ” กฤตนัยสะดุ้ง เฮือก เมื่อรู้ว่าภุชงค์หายไปแล้ว และตอนนี้ตัวเองก็ดันมาอยู่บนเตียงเดียวกับสัณหวัชอีกต่างหาก


“ เป็นอะไรหรือเปล่า นัย หรือว่าหนาว ”


“ เออ....เปล่า .....ใช่ๆ ผมหนาว ” กฤตนัยแก้ตัวแบบข้างๆคูๆ


“ ถ้างั้นก็ไปหยิบผ้าห่มในตู้สิ จะขึ้นมานอนกับผมทำไม ”


“ เออ ใช่ๆ ขอโทษที ผมลืม ”


กฤตนัยผละออกไปหยิบผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอนบนโซฟาตัวเดิม ไม่ลืมที่จะหันหลังให้สัณหวัชที่ยังคงมองด้วยสายตาสงสัย

.

.

.

.

.

.

.

.

.


พยาบาลสาวเข้ามาตรวจร่างกายของสัณหวัชในตอนสายของอีกวัน เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดทั้งห้องจึงอยู่กันครบทั้งสามคน

กฤตนัยยังคงนั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่พัชรพลยืนรอดูผลการตรวจร่างกายของสัณหวัชข้างเตียง


“ เป็นยังไงบ้างครับคุณพยาบาล ” พัชรพลถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพยาบาลสาววางมือจากการตรวจแล้ว


“ ไม่เป็นไรมากแล้วค่ะ พักอีกสักคืนหนึ่งพรุ่งนี้เช้าก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วละคะ ”  รายงานเป็นที่เรียบร้อยนางพยาบาลก็

ขอตัวออกไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ


“ พรุ่งนี้ก็ได้ออกจากที่นี้แล้วนะวัช ผมว่าเราไปฉลองกันหน่อยไหม ”


“............” สัณหวัชยิ้มให้ก่อนจะพยักหน้า งึกๆ


“ ว่าไงนัย ไปด้วยกันไหม ”


“ นัย ”


“ ห...หะ ว่าไง ” กฤตนัยนั่งเหม่อจนไม่ทันได้ยินเสียงเรียกของพัชพล เขาสะดุ้งและตอบออกไปด้วยน้ำเสียงติดจะสั่นเล็กน้อย


“ ผมถามว่า คุณจะไปฉลองด้วยกันไหม วัชจะได้ออกจากโรงพยาบาลสักที ”


“ เออ....ไปสิ เอาไงก็ได้ ”


ออกจากโรงพยาบาลแล้วหรอ งั้นสัณหวัชก็แข็งแรงเป็นปกติ แล้วภุชงค์ของเขาละ จะออกมาเจอกันอีกได้ไหม กฤตนัยยังคงนั่ง

เหม่อ และสัณหวัชเองก็ดูเหมือนจะรู้ ความทรงจำตอนที่นัยเจอกับนาคามารวมอยู่ในหัวสมองเขา ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันชัดเจนทุก

อย่างแต่เขายังนึกไม่ออกว่ามันมาได้อย่างไรกัน


“ วัช เอาอะไรไหม เดียวผมลงไปซื้อให้ ” พัชรพลอาสาลงไปซื้อข้าวมื้อกลางวันให้เมื่อเห็นว่านี้ก็ใกล้เวลาอาหารของคนป่วย

เต็มที


“ อะไรก็ได้ครับ ขอที่ทานง่ายๆหน่อยก็แล้วกัน ผมเบื่ออาหารโรง’บาลเต็มที ”


“ นัย คุณละทานไรไหม ”


“ นัย ”


“ นัย ”


“ หะ ห่ะ อะไรนะ ”


“ นัยคุณเป็นอะไรหรือเปล่า พักนี้ดูเครียดๆนะ ” พัชรพลถามเพื่อนเมื่อเห็นว่าวันนี้กฤตนัยดูจะเหม่อเลย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว


“ เปล่าๆครับ ผมไม่เป็นอะไร ” กฤตนัยฝืนยิ้มเจื่อนๆให้ไป กลบเกลื้อนความกังวลของตน


“ แล้วตกลงอาหารกลางวันของคุณ ” พัชพลเลิกคิ้วป็นเชิงถาม


“ เหมือนของคุณแล้วกัน ขอบคุณครับ ” กฤตนัยตอบ พร้อมทั้งเบนสายตาหนี ดวงตาที่มองอย่างรู้ทันของสัณหวัช


คืนนี้แล้วสินะ ที่เขาจะได้อยู่กับภุชงค์ มือใหญ่กอบกุมเกล็ดแนบเอาไว้กับอกหนา เกล็ดที่เคยมีสีเขียวมรกตบัดนี้แทบจะกลาย

เป็นสีเทา เวลาของพวกเขาจะจะหมดลงแล้วจริงๆ กฤตนัย ถอดหายใจ เฮือกใหญ่อย่างคนหมดทางไป แล้ววันข้างหน้าเขาจะอยู่

อย่างไร









=================


-มาลงให้อีกตอน ตอนหน้าดราม่าของกฤตนัยนะครับ

-รู้สึกเหมือนจะอึนๆกับตอนพิเศษ มันอยู่นอกพลอตอ่ะครับ เลยต้องวางกันใหม่ แต่งช้าหน่อย แถมป่วงอีก แอบเครียดนิดๆ

-ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้นะครับ
:m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 01-03-2012 09:34:12
สงสารนัยภุ TT
พอวัชหายดีเเล้วจะทำยังไงกันละเนี่ย ไม่มีทางอื่นจริงๆหรอ ><

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณต้นข้าวนะค๊าา!!~ +1 ยาชูกำลังให้ อิอิ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 01-03-2012 10:29:36
สงสารนัย...ภุต้องตายจริงๆ หรอเนี่ย  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 01-03-2012 11:13:38
เฮ้อ...อ่านแล้วปวดใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 01-03-2012 12:04:42
 :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 01-03-2012 12:33:58
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 01-03-2012 15:35:54
เศร้าจังเลยค่ะ

เเบบนี้สู้ให้ไม่เจอกันอีกครั้งจะดีกว่าไหม สงสารทั้งคู่เลย

เอาใจช่วยนะคะ ทุกอย่างต้องลงเอยด้วยดี ฮิ้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 01-03-2012 16:15:25
สงสารนัย ทำยังไงจะได้อยู่ด้วยกันอีก :เฮ้อ:
ชอบ happy ending
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 01-03-2012 16:17:28
  :m15:นักทั้งภุ และวัช ทำยังไง พระเอกราสองคนจะสมหวัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 01-03-2012 16:32:59
คือว่า วัชแอบชอบนัย ซึ่งภูก็ไม่ได้หึง โอเค ไม่ใช่ประเด็น
แต่วัช เปลี่ยนใจมาชอบรัฐเร็วจังเนอะ
นอกจากจะรักษาบาดแผลตามร่างกาย
จะช่วยรักษาแผลในใจ (เพราะแอบรัก)ด้วยเรอะ

เฮ้อ
สงสารนัยเนอะ

ไม่เป็นไร 3P ไปเลย นับ วัช รัฐ << ไม้หันอากาศเหมือนกันหมด โอะ ลงตัว

คนแต่งบอก : จัด 2P ต่างหากเล่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: W-Rose ที่ 01-03-2012 17:50:02
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
น่าสงสาร เศร้ามากกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: wichaiP ที่ 01-03-2012 18:09:48
คือยอมรับนะครับ อยากให้นาคา กลับมารักกับนัย จะด้วยวิธีใดก็ได้ แต่ถ้าให้เป็น ครึ่งร่างกับ วัชก็ไม่ไหว คือขอให้คนเขียน (อย่าว่าเค้านะ)

เขียนเรื่องให้จบด้วยมนต์เเห่งความรัก ทั้งสี่คน (ขอได้ไหมหว่า ตรูไม่ได้เขียน) แต่แบบนี้มันเศร้า (เค้าไม่กินมาม่าอ่ะ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 01-03-2012 18:21:17
เฮ้อ น่าสงสารจังเลยอ่ะ ! แบบนี้สู้ให้รู้ว่าจากกันดีกว่าแล้วมาเจอกันทีหลังอย่างนี้มันไม่ทรมานแย่เลยหรอ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 01-03-2012 18:21:52
เศร้าจัง นัยต้องพรากจากคนรักถึงสองครั้้งเลยหรอ ฮือๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-03-2012 23:06:01
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 02-03-2012 01:06:19
“ รักภุ ”
“ รักภุ ”
......อย่างน้อยภุก็เข้าใจความรู้สึกของนัย :impress3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 02-03-2012 01:17:45
พลัดพรากจากสิ่งที่รัก...เป็นทุกข์ แต่คุณกฤตนัยที่ต้องสูญเสียสิ่งนั้นไปถึง 2 รอบ จะทำใจอย่างไงเนี่ย ?
รอบแรกว่าเจ็บปวดแล้ว รอบสองคงร้าวรานยิ่งกว่า เพราะ เป็นการนับถอยหลัง เวลาหมดลงไปเรื่อย ๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 04-03-2012 19:19:49
สงสารทั้งภุทั้งนัยเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 04-03-2012 22:52:55

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้นะครับ





ตอนพิเศษ ๓







พระอาทิตย์ดวงใหญ่คล้อยต่ำลงไปทุกที แสงสะท้อนสีส้มอ่อนสาดเข้ามาภายในห้อง กฤตนัยอดใจหายกับเวลาที่เดินอย่าง

รวดเร็วไม่ได้ เขาอึดอัดเหลือเกิน ใจหนึ่งก็อยากให้ถึงเวลาที่จะได้พบกับภุชงค์ไวๆแต่อีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้ถึงเวลาที่ต้องแยก

จากกัน ครั้งใดที่คิดถึงเวลานั้นก็อดใจหายไม่ได้ มันทรมานกับการสูญเสียของรัก แต่นี้เป็นครั้งที่สอง เขาจะทำใจอย่างไร


สัณหวัชมองกฤตนัยที่นั่งลุกลี้ลุกลนอยู่บนโชฟา จ้องมองนาฬิกาทุกๆห้านาที เวลานี้เขาจำได้หมดทุกอย่างแล้ว รับรู้ถึงความรู้สึก

ของภุชงค์ตลอดเวลาที่ได้อยู่กับกฤตนัย และสัณหวัชเองก็รู้ว่าเวลาที่เหลือนั้นใกล้หมดลงเต็มที


“ นัย ”


“ นัย ” สัณหวัชเรียกกฤตนัยต้องการจะปลอบแต่เขาไม่ได้ยิน


“ นัย ”


“ ค....ครับ ” กฤตนัยเสหน้าไปตามเสียงอย่างเร็วเมื่อรู้ตัวว่าเหม่อจนไม่ได้ยินเสียงของสัณหวัช


“ คุณไม่เป็นไรนะ ” สีหน้าที่เจื่อไปด้วยความเป็นห่วง ทำให้กฤตนัยอยากจะระบายตรงนั้น แต่เขาเลือกที่จะไม่พูด


“ ไม่ ไม่ ผมไม่เป็นไร ”


“ ผมรู้.....” สัณหวัชโพล่งขึ้น เขาไม่แน่ใจว่ากฤตนัยจะโกรธเขาหรือเปล่า ถ้าเขาจะพูดออกมา


“ เรื่องอะไร ”


“ เรื่องคุณกับภุชงค์ ”


กฤตนัยเบิกตาโพล่งเขาตกใจกับคำพูดของสัณหวัช เขารู้ได้อย่างไรกัน ในเมื่อเหตุการณ์วันนั้น สัณหวัชก็หมดสติอยู่ตลอดเวลานี่

น่า


“ คุณรู้.....ได้ ยังไง ” กฤตนัยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เขาไม่รู้ว่าสัณหวัชรู้มากแค่ไหน


“ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ผมเห็นทุกอย่างที่คุณทำกับภุชงค์ ผมรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาที่มีต่อคุณ และผมก็รู้ว่า.........” สัณหวัช

เว้นช่วงพูด เพื่อสังเกตท่าทางของกฤตนัย


“ รู้อะไร ” รู้อะไร เขารู้อะไรอีก


“ รู้ว่า...คุณสองคนจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ผ่านผม ร่างของผม อันที่จริงผมรู้สึกนานแล้วแต่มันเพิ่งจะชัดเจนก็วันนี้นี่เอง ”


เหมือนคำพูดของกฤตนัยไปสะกิดต่อมความรู้สึกของเขา กฤตนัยนั่งนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเพิ่ม จนสัณหวัชอดห่วงไม่ได้ เขาเดินลง

จากเตียงเพื่อไปดูกฤตนัยใกล้ๆ


“ นัย คุณไม่เป็นไรนะ ”


“ ไม่..... ” กฤตนัยเสียงแข็งเขาพยายามข่มอารมณ์ตัวเองไว้ ไม่ให้ร้องไห้


“ นัย.... ” สัณหวัชอ่อนใจกับท่าทางของกฤตนัยเขารู้ดีว่ากฤตนัยเจ็บปวดมากเพียงใด คงจะพอๆกับความรู้สึกของภุชงค์ในร่าง

ของเขาตอนนี้


“ เป็น........ผมเป็น ผมไม่อยากเสียเขาไป วัชคุณได้ยินไหม ผมไม่อยากเสียภุชงค์ไปอีกแล้ว ” พูดจบกฤตนัยปลอบโฮออกมา

โดยที่สัณหวัชคอยลูบหลังเขาเอาไว้


“ มันเจ็บวัช ผมทนไม่ได้ที่เห็นเขาจากผมไปเป็นครั้งที่สอง ทำไม ทำไมต้องเป็นแบบนี้ ” สัณหวัชพยายามรวบมือของกฤตนัยที่

ทึ้งหัวตัวเองอยู่ เขาร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายสัณหวัช และเริ่มทำร้ายตัวเองจนสัณหวัชคุมไม่อยู่ จนต้องดึงกฤตนัยเข้ามากอด


“ นัย คุณไม่เป็นอะไร ได้ยินไหมเสียงของภุชงค์ในตัวผม เขายังอยู่ คุณควรจะยิ้มให้เขาและใช้ช่วงเวลาที่เหลือให้มีความสุข

ไม่ใช่ร้องไห้อย่างนี้ ”


กฤตนัยสงบสติ เขาคิดได้ว่าตอนนี้ยังมีภุชงค์อยู่ ภุชงค์ของเขายังไม่ได้หายไปไหน รอยยิ้มบางๆปรากฏบนใบหน้า ทำให้สัณหวัช

รู้สึกดีขึ้นมา


“ เอาอย่างนี้ ผมจะรีบนอน คุณจะได้พบกับเขา ”


“ แต่นี้เพิ่งจะหัวค่ำ ”


“ คุณมียานอนหลับนี่ เอามาให้ผมสิ ”


“ แต่วัช.........”


“ นัย คุณก็รู้เหมือนที่ผมรู้ คืนนี้สำคัญกับคุณมาก มันควรจะเป็นคืนที่ยาวนานที่สุด ”


“ ขอบคุณนะ วัช ”


กฤตนัยสวมกอดสัณหวัช ด้วยความรู้สึกเต็มตื่น


สัณหวัชกรอกยาเข้าปากก่อนจะเอนตัวลงนอนบนเตียง และกฤตนัยเองก็ยืนรอสัณหวัชหลับอยู่ข้างๆ ตอนนี้เขารอเวลาที่จะได้เจอ

กับภุชงค์แทบไม่ไหว สายตาจับจ้องที่เกล็ดสีหม่นบนอุ้งมือของเขา เพียงไม่กี่อึดใจเวลาที่เขารอก็มาถึง แสงสีเขียวมรกตก็ส่อง

เรืองรองไปทั่วทั้งห้อง เปลือกตาหนา ค่อยๆคลี่เปิดขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คนที่ยืนอยู่เฝ้ารอด้วยใจระทึก


“ นัย ” เสียงทุ่มนุ่มเรียกชื่อเหมือนอย่างเคยพร้อมกับหัวเราะร่าเมื่อเจอหน้าเขา


กฤตนัยอมยิ้มอย่างเป็นสุขก่อนจะจูงมืออีกคนให้เดินไปด้วยกัน ปลายทางก็คือดาดฟ้าโรงพยาบาล กฤตนัยและภุชงค์เดินมาตาม

ทางเดินของโรงพยาบาลและหยุดอยู่ด้านหน้าของประตูทางเดินหนีไฟ ก่อนที่มือหนาจะผลักให้ปิดออก


“ ภุ ”


“ ฮืม..” ภุชงค์มองกฤตนัยอย่างสงสัย


“ วิ่งกัน ”


“ วิ่ง... เหว่อ~~~~ ” กฤตนัยออกแรงดึงมือของอีกฝ่ายให้ออกวิ่งตามฝีเท้าของตน เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขดังก้องไปทั่ว ทั้ง

กฤตนัยและภุชงค์วิ่งไปเรื่อย กระชับฝ่ามือของอีกฝ่ายเอาไว้แน่น สัมผัสถึงหัวใจของอีกฝ่าย


จนกระทั่งถึงจุดหมายของกฤตนัยในขณะที่ภุชงค์ยังคงงุนงงไม่หาย


“ นัย มาทำไม ”


“ มาดูดาว ”


“ ไม่เห็นมี ”ภุชงค์แหงนหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าแต่ไม่เห็นดวงดาวสักดวงในตัวเมืองแบบนี้


“ มานี่สิ ”


กฤตนัยจูงมือภุชงค์มาที่ขอบรั้วที่กั้นดาดฟ้าเอาไว้ ก่อนที่จะชี้ลงไปเบื้องล่าง ตึกรามบ้านช่องและรถราที่แข่งกับเปล่งแสงราวกับ

ตนนั้นเป็นหิ่งห้อย มองดูคล้ายดวงดาวที่อยู่บนดินยังไงยังงั้น


“ นี่ไง ”


“ โห สวยจัง ” เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นแสงสีในเมืองแบบนี้ ภุชงค์รู้ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก


“ ชอบไหม ” กฤตนัยถามอีกคนที่ยังคงจ้องมองไปยังเบื้องล่างไม่หยุด


“ อืม ” ภุชงคพยักหน้า งึกๆ ก่อนจะหันมาฉีกยิ้มกว้าง


“ เหมือนที่บ้าน ภุ เลย ”


“ ฮ่าๆๆๆๆ ” กฤตนัยหัวเราะให้กับความไร้เดียงสา พลางลอบมองใบหน้าของภุชงค์ในร่างของสัณหวัช ถึงแม้จะไม่ใช่ร่างของ

ภุชงค์เอง แต่กฤตนัยก็จำหน้านั้นได้อย่างไม่มีวันลืม ใบหน้าที่แสดงถึงความดื้อรันแบบผู้ใหญ่แต่ก็แฝงไปด้วยความไร้เดียงสา

แบบเด็กๆ


“ เหงาไหม ภุ ”


“ ฮืม ทำไม ”


“ อยู่ในป่าคนเดียวแบบนั้น เหงาไหม ”


“ หึ ไม่ ภุเล่นกับ ตั๊กแตนแล้วก็ผีเสื้อ นัยอยากเล่นไหม ภุพาไป ” ภุชงค์พูดเหมือนคนไม่รู้เรื่องราวอะไร ผิดกับกฤตนัยที่เจ็บกับ

ความพูดเมื่อครู่เหลือเกิน กลับไปอีกอย่างนั้นหรือ ชั่วชีวิตนี้เขาจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันอีกหรือเปล่า


“ นัยเป็นไร ” ภุชงค์ถามเมื่อเห็นว่ากฤตนัยเงียบไป


“ หืม เปล่า ”


“ มานี่ม่ะ ” กฤตนัยเดินนำไปตรงกลางของดาดฟ้า ก่อนจะใช้มือปัดฝุ่นบริเวณนั้นออกแล้วล้มตัวลงนอน ภุชงค์เห็นอย่างนั้นก็ดีใจ

วิ่งเข้าไปนอนข้างกายของกฤตนัยทันที


“ เหมือนครั้งแรกที่เรานั้นดูดาวด้วยกันเลยเนอะ นัย ” ภุชงค์ยังจำวันนั้นได้ วันนั้นนัยจูบเขา แต่เขาไม่รู้ว่าคืออะไรแต่ตอนนี้รู้แล้ว


“ แต่ไม่มีดาวอยู่บนฟ้า เหมือนที่บ้าน ”


“ ก็ดาวมันลงไปอยู่บนดินหมดไงละ ”


“ วันนั้น นัย จูบ ภุ ด้วย ” ภุชงค์เขินเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองนั้นพูดอะไรออกไป


“ แล้วอยากให้จูบอีกหรือเปล่าละ ”


“ นัย..... ” ภุชงค์ก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตาของกฤตนัย ตั้งแต่รู้ความหมายของความรักภุชงค์เป็นต้องเขินทุกครั้งที่กฤตนัยพูด

หรือแสดงออกมาทางการจูบหรือมองตาเขา


“ ว่าไง หืม ” กฤตนัยนึกอยากจะแกล้งคนที่หมุดหน้าลงที่แขนเขาไม่ยอมหันมามองหน้าเสียที


“ อืม..” เสียงตอบรับเบาๆในลำคอกับการพยักหน้านั้น ทำให้กฤตนัยเข้าใจความหมายเพียงแต่อยากแกล้งก็เท่านั้นเอง


“ อะไรนะ ” พูดพลางงับเข้าที่หูแดงๆของอีกฝ่ายอย่างจัง จนตัวสะดุ้งโหย่ง


“ นัย แกล้ง....”


“ ไม่อยากให้แกล้งก็บอกมาสิ ว่าอยากให้จูบหรือเปล่า ” กฤตนัยยังคงหยอกไม่เลิก


“ นัยอะ ” ภุชงค์พูดพลางมองไปที่ใบหน้าของกฤตนัย อ่ำๆอึ้งๆ ก่อนจะพูดออกมาจากปากอย่างยากเย็น


“ อยาก ”


สิ้นคำกฤตนัยกับประกบเข้ากับริมฝีปากนั้น ดูดกลืนอย่างโหยหา ในขณะที่ภุชงค์ก็ตอบรับอย่างไม่ชำนาญนัก  เป็นเหตุให้คนขี้

แกล้งอย่างกฤตนัย แสร้งดูดเข้าที่ริมฝีปากล่างแรงๆก่อนจะกัดเข้าเบาๆ


“ ฮือออออ ” เสียงครางในลำคอของภุชงค์คล้ายจะท้วงในสิ่งที่กฤตนัยทำ แต่กฤตนัยเองก็ยังเล่นลิ้นในปากของภุชงค์อย่างเมา

ในรสจูบ จนเมื่อหนำใจแล้ว จึงถอดปากออกแล้วจูบซับลงที่ริมฝีปากแดงเห่ออีกสองสามที ก่อนจะผละมองหน้าอีกคนที่เคลิ้มจน

ไม่ยอมรู้สึกตัวอยู่บนแขนของเขา


กฤตนัยกระชับกอดเพื่อให้ภุชงค์เข้าใกล้ตัวเขามากยิ่งขึ้น หัวใจสองดวงที่เต้นระรั่วอยู่ภายใต้อกที่แนบชิดติดกัน เสียงหัวใจดัง

พร้อมเพรียงส่งจังหวะให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่าหัวใจดวงนี้ก็คิดเช่นเดียวกัน ภุชงค์ยังคงหลับตาในอ้อมกอด มันช่างอบอุ่นเสียจนไม่

อยากให้หายไปไหน แต่ใครจะฝืนชะตาของตัวเองได้ เขาเคยตายจากคนที่เขารักไปครั้งหนึ่งแล้ว ครั้งนี้เขาได้กลับมาพบกันอีก

ครั้ง ก็คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดที่ฟ้าประทานให้กับอมนุษย์ อย่างเขาแล้ว


ภุชงค์พยายามขยับเข้าหาอีกคนจนไม่มีที่วางให้อากาศผ่านลอดเข้าไปได้ เขาโหยหาในความรัก โหยหาในความอบอุ่นที่เขาไม่

เคยมีจนได้มาพบกับคนๆนี้ที่สอนเขาทุกอย่างๆแม้กระทั่งคำว่ารัก เขาได้มอบหัวใจดวงนี้ให้ไปจนหมดแล้ว ชีวิตอันเปล่าเปลี่ยวไร้

ซึ่งญาติสนิทมิตรสหาย ชีวิตที่มีแต่ความว่างเปล่า มีใครคนหนึ่งมาเติมเต็มและก็มอบหัวใจให้เขาเช่นเดียวกัน แม้จะไม่ได้อยู่ด้วย

ตลอดไป แต่อย่างน้อยก็ได้รักและสัมผัสถึงความว่ารักจากคนที่รัก เพียงเท่านี้ก็มีความสุข


ภุชงค์ที่ยังคงลืมตาอยู่ตลอดเวลาจับจ้องรูปหน้าคมเข้มอยู่นั้น สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดแผกไป แสงจากเกล็ดค่อยหรี่แสงจนเจ้า

ตัวนึกใจหาย


“ นัย ”


“ นัย ตื่น ”


“ หืม มีอะไร ”


“ แสง ” ภุชงค์จับจ้องไปยังแสงนั้นไม่วางตา เวลานั้นใกล้เข้ามาทุกที มันเร็วเกินไปที่จะพรากความสุขไปจากเขาตอนนี้ ขอเวลา

อีกนิดได้ไหม แลกด้วยอะไรก็ยอม


“ นัยรู้ใช่ไหม คืนสุดท้ายแล้วที่ภุจะอยู่กับนัย ”


“ ไม่ ภุ อย่าพูดแบบนี้ ” กฤตนัย ลุกขึ้นนั่งมองเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้น พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


“ นัย ภุ รักนัย รักมาก รักมากที่สุด ” ภุชงค์พูดน้ำตาเอ่อล้นออกมาจนกฤตนัยใจไม่ดี


“ รู้แล้ว พี่รู้แล้วภุ เราจะอยู่ด้วยกันนะ อยากไปจากพี่นะ ”


“ นัย ภุไม่อยากไป ภุอยากอยู่แต่ภุอยู่ไม่ได้ นัย ฮืออออ ”


“ นี่ไง เราจะได้เจอกันอีก เห็นไหม ” กฤตนัยชูเกล็ดที่แสงเริ่มเบาบางลงเรื่อยๆให้ภุชงค์ดู เขาเองก็รู้สึกใจไม่ดีเหมือนกัน เวลา

แห่งความสุขช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน น้ำเสียงลุกลนเครืออยู่ในคอ เขาไม่อยากจะเชื่อความรักของเขาจะผ่านไปง่ายๆอย่างนี้เลย

หรอ


“ นัย ภุไม่อยากไป นัย ฮือออ ภุอยากอยู่ต่อ ”


“ ภุ อยากร้องไห้ เราจะได้อยู่ด้วยกัน พี่จะไปกับเรานะ ” ภุชงค์ใจหายกับคำพูดของกฤตนัย


“ ไม่ อย่านะ นัยต้องอยู่ต่อ อยู่ดูแลความรักของเราไว้ อยู่เพื่อจำภุไว้ อย่าลืมภุนะนัย สัญญานะ ” ภุชงค์ยื่นนิ้วก้อยขึ้นมาเหมือน

เด็กๆพร้อมกับรอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตา กฤตนัยยื่นไปเกี่ยวนิ้วนั้นไว้ พร้อมกับน้ำตาเช่นเดียวกัน


“ สัญญา นัยสัญญา ”


“ พี่สัญญาว่าจะอยู่แล้ว ที่นี้ภุสัญญากับพี่บ้างว่าจะอยู่ต่อจะไม่ทิ้งกันไปไหนอีกแล้วนะ ”


“ นัย ฮือออออ ” ภุชงค์ส่ายหัวทั้งน้ำตาที่หลั่งรินออกมาไม่ขาดสายจากดวงตา


“ โถ่ ภุ ทำไม ทำไมเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน........ภุอย่าหลับนะ ภุลืมตา อย่าไปจากพี่นะ ”  กฤตนัยเขย่าร่างของภุชงค์ที่โรยแรงลง

เต็มที


“ นัย กอด ภุไว้นะ ภุอยากรู้สึกแบบนี้นานๆ ”


“ ได้ๆ นัยจะกอดภุไว้ ” ร่างทั้งสองร่างสั้นระริกราวกับนั่งอยู่ในหิมะอันหนาวเหน็บ เสียงสะอื้นที่สะท้อนอารมณ์ของอีกฝ่ายได้ดีว่า

เสียใจเพียงใด มือสองคู่ไขว้คว้าหากันอย่างโหยหา อ้อมกอดที่แน่นกว่าครั้งไหนๆที่กฤตนัยมอบให้ราวจะยื้อชีวิตของภุชงค์ไว้


“ น...นัย พูดสิ ภุ อยากได้ยิน ” เสียงที่แหบพร่าลงกับแสงที่ค่อยๆเลือนลางช่างเป็นอะไรที่ทรมานสำหรับกฤตนัย การยอมรับ

ความจริงที่นับถอยเข้ามาหาอย่างนี้มันทรมานยิ่งกว่าครั้งแรกที่จากกัน


“ อ..อยากให้พูดอะไรละ ” อ่อนแอตอนนี้เขาอ่อนแอจนไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้อีกต่อไป ถ้าหากขาดคนตรงหน้านี้


“ รัก ” รอยยิ้มแสนเศร้าส่งมาหาเขาอย่างยากเย็น


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


“ รักภุ ”


แสงค่อยๆดับลงเรื่อยๆ กฤตนัยพยายามบอกรักไห้ได้มากที่สุดให้เท่ากับความรักที่ตนเองมี ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ว่ามันมากเหลือเกิน


มือขวาของกฤตนัยพยายามป้องแสงจากเกล็ดราวกับเปลวเทียนที่โดนลมพัดผ่านแต่ไม่มีประโยชน์ แสงสีเขียวค่อยๆจางลงเรื่อยๆ

ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด


“ ภุ อย่าทำอย่างนี้ อย่าไปนะ พี่ไม่ยอม ”


“ นัย ฟังภุ นัยต้องอยู่ต่อ อยู่กับความรักของภุที่อยู่ในตัวของนัย หากว่านัยยังไม่ลืมภุ สักวันภุจะกลับมาหานัยอีก ผ่านการนำทาง

ของเกล็ด นัยจำเอาไว้นะ สักวันภุจะกลับมาหานัย ” ภุชงค์กลั้นใจพูดออกไปทั้งที่ตัวเองเหนื่อยจนแทบเปิดเปลือกตาไม่ไหว


“ ไม่เอา ภุ อยู่ด้วยกันตอนนี้ พี่ไม่ชอบอย่างนี้ ”


น้ำตาของผู้ชายที่เขารักมากที่สุดหล่นลงบนใบหน้าของเขา ดวงตาหนักอึ้งพยายามจ้องมองคนรักเป็นครั้งสุดท้าย ไม่ไหวแล้วมัน

หนักเหลือเกิน เขายังอยากอยู่ต่อ ยังอยากอยู่ให้คนรักมีความสุข แต่มันเป็นไปไม่ได้ นับต่อจากช่วงเวลานี้เขาจะหายไปในที่ๆ

ไม่มีใครไปถึง ที่ๆต้องอยู่อย่างเดียวดายอีกครั้ง จะมีก็เพียงแต่ความรักที่จะยังฝังอยู่ในใจตลอดไป

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.

.



บัดนี้แสงสีมรกตได้จางหายไปจนหมดสิ้น ทดแทนด้วยแสงแรกแห่งวันใหม่ที่เข้ามา กฤตนัยยังคงกอดร่างของสัณหวัชเอาไว้แน่น

แม้จะรู้ว่าภายในกายนี้ไม่มีภุชงค์อีกแล้วก็ตาม เสียงสะอื้นไห้ปลุกสัณหวัชให้ตื่นจากฤทธิ์ของยา ก่อนจะป้ายคราบน้ำตาที่เกาะอยู่

บนใบหน้าของเขาเอง


“ นัย ” สัณหวัชถอดตัวออกจากกอดของกฤตนัยก่อนจะแตะเข้าเบาๆที่แขนของเขา


“ ไปแล้ว ” ใบหน้าที่พยายามหลับตานิ่งข่มความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองทำให้สัณหวัชเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง


“ ผมรู้ ”


“ วัช แล้วผมจะอยู่อย่างไร ” กฤตนัยเหมือนคนโง่ ในตอนนี้เขานึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าจะอยู่อย่างไรกับการสูญเสียในครั้งนี้


“ อยู่กับความรักของภุชงค์ อย่าลืมสิ นัย ”


“ ภุชงค์ ” เกล็ดสีเทาหม่นถูกกอบกุมอยู่ภายในอุ้งมือใหญ่ สัมผัสเดียวที่ทำให้รู้สึกถึงคนที่รักและห่วงที่สุด


“ ผมจะอยู่ต่อ อยู่กับความรัก อยู่เพื่อรอภุชงค์อีกครั้ง ” กฤตนัยจ้องมองเกล็ดอย่างมีความหวัง สักวันเกล็ดนี้จะนำทางเขาไปพบ

กับภุชงค์อีกครั้ง


“ รักภุ ” กลีบปากสีซีดประทับลงบนเกล็ดเนิ่นนาน ไออุ่นจากร่างยังไม่จางหาย เสียงแว่วว่ารักยังคงอยู่ ความรักยังคงอบอวลอยู่

ในหัวใจ เหลือเพียงร่างกาย เขาจะรอวันนั้น วันที่จะได้พบกันอีกครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะยอมเสียคนรักไป









=================




- แต่งไปร้องไห้ไปตอนนี้ เศร้าอะ เพิ่งรู้ว่าคนส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานเรื่องมาม่าต่ำ ปกติข้าวเป็นคนชอบอ่าน
เรื่องดราม่าครับ มันได้อารมณ์และก็จะจดจำเรื่องนั้นได้ตลอด แต่ไม่รู้ว่าคนอ่านจะคิดแบบเดียวหรือต่างก็ไม่รู้นะครับ

- มีหลายคนบอกอยากให้ ภุ กับ นัย รักกัน ชอบ happy ending หากว่าอ่านจบก็คงจะรู้แล้วนะครับว่าเป็นอย่างไร คือตั้งใจจะให้
เรื่องนี้เป็นของ วัช ตั้งใจจะแต่งเรื่องหน้าของกฤตนัยกับภุ แต่ภุคนเดิมหรือคนใหม่อันนี้ต้องรออ่านนะครับ

-พรุ่งนี้มีสอบแต่นั่งปั่นให้จนหัวหมุน อ่านจะมีพลาดๆบ้างเพราะรีบไปอ่านหนังสือ ผิดตรงไหนก็ท้วงได้ครับ

-ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่อ่านและขอบคุณสำหรับ+และเป็ดที่กดให้นะครับ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๒ ) หน้า ๗ อัพ (๑/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 04-03-2012 22:53:40
สงสารนัยภุ TT
พอวัชหายดีเเล้วจะทำยังไงกันละเนี่ย ไม่มีทางอื่นจริงๆหรอ ><

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณต้นข้าวนะค๊าา!!~ +1 ยาชูกำลังให้ อิอิ ^^

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและบวกที่กดให้ครับ วัชหายดีกคงเป็นไปตามนั้นละครับ เศร้าหน่อยเนอะ ^^

สงสารนัย...ภุต้องตายจริงๆ หรอเนี่ย  :sad4:

อ่า สงสารเหมือนกัน แอบร้องไห้เลย  :sad4: :sad4: :sad4:

เฮ้อ...อ่านแล้วปวดใจ

ตอนนี้ปวดใจกว่าเยอะครับ เตรียมทัมใจ TT

:sad4:

หว่า ทำคนอ่านเฮิร์ทหรือเนี๊ย ขอโทษคร้าบบบบ ( เพี้ยนเพื่อเสียง )

:เฮ้อ:

อ้าว มาอีกแล้ว ดราม่าหน่อยเเต่อย่าเพิ่งทิ้งกันนะครับ

เศร้าจังเลยค่ะ

เเบบนี้สู้ให้ไม่เจอกันอีกครั้งจะดีกว่าไหม สงสารทั้งคู่เลย

เอาใจช่วยนะคะ ทุกอย่างต้องลงเอยด้วยดี ฮิ้ว

เจอกันอีกครั้งเพื่อย้ำความรักที่ตัวเองมี ผมว่าทั้งคู่คงไม่เสียใจหรอกครับ เนอะ ^^

สงสารนัย ทำยังไงจะได้อยู่ด้วยกันอีก :เฮ้อ:
ชอบ happy ending
+1

แฮปปี้ เอนดิ้ง นี้รอเรื่องหน้าเลยครับ เรื่องนี้ทานมาม่าไปก่อนนะครับ^^

  :m15:นักทั้งภุ และวัช ทำยังไง พระเอกราสองคนจะสมหวัง

ภุเจ็บไปแล้ว รอวัชนะครับว่าจะจบยังไง ^^

คือว่า วัชแอบชอบนัย ซึ่งภูก็ไม่ได้หึง โอเค ไม่ใช่ประเด็น
แต่วัช เปลี่ยนใจมาชอบรัฐเร็วจังเนอะ
นอกจากจะรักษาบาดแผลตามร่างกาย
จะช่วยรักษาแผลในใจ (เพราะแอบรัก)ด้วยเรอะ

เฮ้อ
สงสารนัยเนอะ

ไม่เป็นไร 3P ไปเลย นับ วัช รัฐ << ไม้หันอากาศเหมือนกันหมด โอะ ลงตัว

คนแต่งบอก : จัด 2P ต่างหากเล่า

อันนี้เป็นความผิดของข้าวเองครับที่พยายามเดินเรื่องไวๆ เลยดูข้ามไปหน่อย แต่พยายามใส่คีย์เข้าไปครับ อยู่ด้วยกันมาหลายวันเเล้ว ทั้งที่เมื่อคืนก่อนยังพาเขาออกจากกรง พาเขาขึ้นไปบนบ้าน ถึงจะเป็นช่วงเวลาเพียงเล็กน้อยแต่เขาก็รู้สึกดี  แล้วมีอะไรน้าที่บอกว่าเมื่อมีคนมาช่วยเราตอนอยู่ในอันตรายเราจะรู้สึกดีกับคนนั้นอะครับ เอามาจากนิยายในบอร์ดนี้เเหละครับเเต่จำไม่ได้เเหละ แหะๆ

:sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
น่าสงสาร เศร้ามากกกกกกกกก

อ่า อีโมเยอะสุด เศร้าจริงหรอ ข้าวขอโทษครับบบบบ

คือยอมรับนะครับ อยากให้นาคา กลับมารักกับนัย จะด้วยวิธีใดก็ได้ แต่ถ้าให้เป็น ครึ่งร่างกับ วัชก็ไม่ไหว คือขอให้คนเขียน (อย่าว่าเค้านะ)

เขียนเรื่องให้จบด้วยมนต์เเห่งความรัก ทั้งสี่คน (ขอได้ไหมหว่า ตรูไม่ได้เขียน) แต่แบบนี้มันเศร้า (เค้าไม่กินมาม่าอ่ะ)

คือ จะบอกว่าในเรื่องนี้ไม่ได้อ่าครับ เเต่เรื่องหน้า happy ending ชัวร์ๆครับ กฤตนัยมีคู่เเน่นอน ^^

เฮ้อ น่าสงสารจังเลยอ่ะ ! แบบนี้สู้ให้รู้ว่าจากกันดีกว่าแล้วมาเจอกันทีหลังอย่างนี้มันไม่ทรมานแย่เลยหรอ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

อย่างน้อยก็ยังได้เจอกันนะครับ บางทีคนเรายังเคยอยากเจอกับใครที่ไม่อยู่เเล้วเลย เเค่เวลาเพียงนิดเดียวก็ยอม
ทรมานหน่อยก็ยอมครับ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ

เศร้าจัง นัยต้องพรากจากคนรักถึงสองครั้้งเลยหรอ ฮือๆๆ

หว่า ร้องไห้เลยหรอ ขอโทษครับ แหะๆ

:กอด1:

 :กอด1: :กอด1: :กอด1: คืนครับ ^^

“ รักภุ ”
“ รักภุ ”
......อย่างน้อยภุก็เข้าใจความรู้สึกของนัย :impress3:

ใช่เเล้วครับ นี่ละที่กฤตนัยฝันไว้ ขอบคุณที่อ่านนะครับ^^

พลัดพรากจากสิ่งที่รัก...เป็นทุกข์ แต่คุณกฤตนัยที่ต้องสูญเสียสิ่งนั้นไปถึง 2 รอบ จะทำใจอย่างไงเนี่ย ?
รอบแรกว่าเจ็บปวดแล้ว รอบสองคงร้าวรานยิ่งกว่า เพราะ เป็นการนับถอยหลัง เวลาหมดลงไปเรื่อย ๆ  :sad4:

น่าสงสารเเทนกฤตนัยครับ ข้าวเเต่งไปร้องไห้ไป อินจัด ๕๕๕๕ ขอบคุณที่อ่านนะครับ

สงสารทั้งภุทั้งนัยเลย

อ่า ชะตา(คนเเต่ง)สั่งมาอย่างนี้เราขัดมันไม่ได้ครับ แหะๆ ขอบคุณที่อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 04-03-2012 23:10:02
อ่านเเล้วอยากร้องไห้ตาม TT สงสารทั้งสองคนเลยย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 04-03-2012 23:34:25
มันเศร้ามากค่ะ

แต่ก็อด อิจฉา ภุ ไม่ได้ ที่มีคนที่รักมากขนาดนี้

ขอให้ทั้งสองยิดมั่นความรักที่ให้ต่อกัน

เเล้วกลับมาพบกัน อีกครั้ง ได้อยู่ด้วยกันอีกนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 04-03-2012 23:40:39
แบบว่า..แบบว่าอินจัด นึกเม้นไม่ออกอะ :o11:
ปล..ขอให้ต้นข้าวสอบได้เกรดดีๆนร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 04-03-2012 23:59:26
ปวดใจแทนนัย รอวันที่จะได้เจอกันรอบสามนะ (คราวนี้แบบว่าเจอแล้วอยู่เลย ไม่ต้องไปไหนแล้วนะ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Backroom ที่ 05-03-2012 01:31:33
โอยยยยย เศร้ายากดึก สงสารภุิ สงสารนัยอะจ้ะ ฮืออออออออ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 05-03-2012 01:42:14
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 05-03-2012 08:40:23
สงสารนัยอะ เศร้าด้วยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 05-03-2012 10:29:39
แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ต้นข้าวใจร้ายยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 05-03-2012 16:45:00
อ่านแล้วเศร้านะคะ แต่ก็รู้สึกดี เอ๊ะ..ยังไง

ไม่ทิ้งแน่นอนคร้า ตามต่อ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: chantana ที่ 05-03-2012 18:14:09
+1 จ้า

เสียน้ำตาเป็นปีบเลยอะ  :m15:

มีตอนต่อไปด้วยนะจะรอ  :z2:

รอจ้า   :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 05-03-2012 19:29:11
คุณคนแต่ง ขอผ้ามาซับน้ำตาด่วนเลย
ฮืออออ เศร้า ปวดร้าวมากมาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 05-03-2012 20:59:45
อ่านตอนนี้ ชวนให้เราน้ำตาแตกอีกแล้ว

 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 05-03-2012 21:14:14
โอ้น้ำตาท่วมมมมจอ
เศร้ามากค่ะ พึ่งจะตามเข้ามาอ่านพอดีสังเกตเห็นแว๊บๆ
อย่างนี้น่าสงสารนัยอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 05-03-2012 21:16:54
เราว่า คู่กฤตนัย-ภุชงค์ เป็นฟันเฟืองแห่งชะตากรรมของเรื่องนี้โดยแท้
เพราะ เรื่องของเรื่องเกิดจาก กฤตนัย อยากเจอ นาคา มากจนทนไม่ได้ (สิ่งเร้านั้นคงเป็นพรหมลิขิตกระมั้ง ?)
พบเจอ แม้ต้องพรากจาก แต่ถ้าพรหมลิขิตขีดไว้ให้คู่กัน สักวันจะต้องได้พบกันอีก  :m13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: DasHimmel ที่ 05-03-2012 23:24:33
อ่านแล้วจะร้องตาม โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ !!!  :z3:
ตอนนี้สิ่งที่นัยทำได้อย่างเดียวก็คือรอ สู้สู้!! พลังแห่งความรักต้องชนะทุกอย่าง ภุจะต้องกลับมาหานัยได้แน่ๆ
พอคู่นี้เรียบร้อยก็เหลือรัฐวัชสินะ แต่วัชไม่ได้พูดถึงรัฐเลย หรือว่านี่คือเรื่องสำคัญที่ลืม ?

+1 เป็นกำลังใจให้นัยภุกะคุณต้นข้าว ขอให้สอบได้คะแนนดีดีนะค๊า ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๓ ) หน้า ๘ อัพ (๔/๓/๒๕๕๕)
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 06-03-2012 17:38:31
 :m15: เรื่องเศร้าจัง ไม่อยากให้เป็นแบบนี้อ่ะ มันดูทรมาน  :z3: 

ให้ภุเกิดใหม่หรือหาร่างใหม่ได้ป่ะ  o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 06-03-2012 19:15:16
ขอบคุณนักอ่านที่อ่านเเละขอบคุณสำหรับบวกและเป็ดที่กดให้ครับ





ตอนพิเศษ ๔








บรรยากาศอึมทึมภายในห้องเช่าของสัณหวัชมีเพียงแสงจากภายนอกเท่านั้นที่ส่องลอดเข้ามาด้านใน เขาได้ยื่นใบลาออก

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วและตอนนี้กำลังตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องบางอย่างที่เริ่มจะเข้ามากวนใจของเขาจนไม่เป็นอันทำอะไร แต่เรื่อง

นี้ พัชรพล กับ กฤตนัย ยังไม่รู้ เรารอว่าเมื่อไรที่ตัดสินใจได้แล้วเขาจะไปบอกสองคนนั้นเอง


“ รัฐ ”


สัณหวัชครุ่นคิดเรื่องของทรงรัฐไม่ตก ในหลายวันมานี้ภาพในช่วงที่เขาอยู่กับทรงรัฐและภาพตอนที่ทรงรัฐมาช่วยเขาไว้

จากความทรงจำของนาคาทำให้เขายิ่งคิดถึงคนๆนั้นมากยิ่งขึ้น แต่เขายังลังเลที่จะเขาไปหาทรงรัฐถึงแม้ว่าความทรงจำ

ของนาคาจะทำให้เขาจดจำทางได้ดีเพียงใดก็ตาม เขายังไม่แน่ใจที่จะละทิ้งทุกอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ แต่เขาก็ทิ้งไปแล้ว

อย่างหนึ่งคือ งาน ของเขาเอง การเขาป่าบ่อยๆทำให้สัณหวัชเริ่มจะฟุ้งซ่าน เขาจึงตัดสินใจลาออก


ถ้าหากว่าเขาไปหาทรงรัฐแล้วจะใช้ชีวิตยังไง จะปรับตัวกับที่ๆไม่มีความเจริญเลยแม้เพียงนิดเดียว แต่ในทางกลับกัน ถ้า

หากว่าตัดสินใจไป เขาจะได้ครอบครัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเขาก็มั่นใจว่าทรงรัฐจะต้องต้อนรับเขาเป็นอย่างดี ไม่ว่า

จะเลือกทางใดเขาหวังว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อตัวเขาและจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน

.

.

.

.

.

.


วันนี้สัณหวัชนัดกับพัชรพลและกฤตนัยเอาไว้ที่ร้านอาหารไทยแห่งหนึ่ง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ไปฉลองที่สถาน

บันเทิงจนหนำใจ


“ ลาออก ” ทั้งพัชรพลและกฤตนัยอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อสัณหวัชบอกสถานะการทำงานของตนในตอนนี้


“ ใช่ ผมลาออกแล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อน ”


“ ลาออกทำไม คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า วัช ” พัชรพลถามด้วยความเป็นห่วงในขณะที่กฤตนัยนั่งจดจ่อรอฟังคำตอบ

เขายังคงทีท่าทีซึมเศร้าอยู่


“ ผมยังไม่แน่ใจ ”


“ เรื่องอะไร ” คราวนี้เป็นกฤตนัยที่ถามขึ้นบ้าง


“ เรื่องครั้งนั้น คุณเห็นใช่ไหมคนนั้นที่ช่วยช่วยผมไว้จาก เออ......เรื่องคราวก่อน ” สัณหวัชลังเลที่จะพูดถึงนาคาเมื่อเห็น

ว่ากฤตนัยยังคงมีสีหน้าไม่ดีนัก


“ ใช่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณละ วัช ผมไม่เข้าใจ ” พัชรพลไม่เข้ใจในคำตอบของสัณหวัชแค่เพียงคนที่เขามาช่วยไว้ทำไม

ถึงต้องลาออก


“ .................... ”


“ คุณชอบเขาหรอ ” กฤตนัยถามเมื่อเห็นว่าสัณหวัชนิ่งไป


“ เออ... ใช่ คุณรู้ได้อย่างไง นัย ”


“ เพราะผมก็จะลาออกเพราะ....ภุชงค์ ผมทนไม่ได้ที่จะต้องเข้าป่าบ่อยๆเพื่อเจอกับความทรงจำเดิมๆ ” กฤตนัยระบายออก

มากับสัณหวัช


“ แล้วคุณจะทำยังไงต่อ ”


“ ผมไม่รู้ นัย ผมอยากไปหาเขา แต่ผมไม่แน่ใจ ”


“ คิดให้ดีนะ วัช เข้าไปอยู่ในป่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คุณก็เห็นแล้วนี่ ” พัรพลพูดเตือนสติสัณหวัชเขาไม่เห็นด้วยสักเท่าไรกับ

การที่จะเข้าไปอยู่ในป่าแบบนั้น


“ ผมจะไม่ห้ามคุณนะวัชแต่ขอให้คุณเลือกในสิ่งที่คุณเองต้องการ ”


“ ผมไม่รู้ นัย ผมอยากไปหาเขาแต่ผมไม่แน่ใจ ผมกลัวว่ามันอาจจะไม่ใช่แบบที่ผมคิด ”


“ คุณรักเขาไหม ” กฤตนัยถามตรงประเด็น


“ อืม ” สัณหวัชพยักหน้าเป็นคำตอบ สำหรับทรงรัฐเขารักเสมอโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ


“ แล้วคุณอยากอยู่กับเขาหรือเปล่า ”


“ อยาก ”


“ แล้วคุณจะรออะไรละ ในเมื่อคุณได้คำตอบแล้ว ”


สัณหวัชคิดไม่ผิดจริงๆที่บอกเรื่องนี่กับทั้งสองคน เขาน่าจะรู้คำตอบของตัวเองดีกว่าใครแต่กลับลังเลเพราะกลัวว่ามันจะไม่

ราบรื่นอย่างที่คิดไว้ แต่ตอนนี้เขาได้คำตอบแล้ว และเขาจะทำมัน ถึงแม้ว่าหนทางข้างหน้าอาจจะไม่สวยงาม แต่อย่างน้อย

เขาก็ได้ทำและจะไม่เสียใจกับมัน


“ ขอบคุณครับ ”


กฤตนัยยิ้มให้กับคำขอบคุณและพัชรพลเองก็ต้องยอมรับกับการตัดสินใจของเพื่อนคนนี้

.

.

.

.

.

.


พัชรพลอาสานำรถส่วนตัวของตนเองมาส่งสัณหวัชหลังจากที่เก็บข้าวของที่จำเป็นเพื่อจะเข้าไปในป่าอีกครั้งชาวบ้านที่นี้ยัง

ต้อนรับเขาอย่างดีเช่นเดิม และพรานอ่ำเองก็ดูจะดีใจที่เห็นพวกเขาอีกครั้ง ทั้งสมคนทักทายพรานอ่ำนิดน้อยก่อนที่ออกเดิน

ทาง แต่ครั้งนี้ไม่มีพรานนำทางเพราะสัณหวัชมั่นใจว่าตนเองนั้นไปถูก


พัรชพลและกฤตนัยเดินมาส่งสัณหวัชจนถึงเขตที่จะเข้าในส่วนที่ค่อนข้างทึบ สัณหวัชจึงบอกให้ทั้งสองกลับไป


“ แน่ใจนะ วัช ว่าไปคนเดียวได้ ” พัชรพลกังวลใจเมื่อเห็นว่าครั้งที่แล้วสัณหวัชเกือบเอาตัวไม่รอด


“ แน่นอน พล ผมจำทางได้ไม่ต้องห่วง ”


“ จำได้ยังไง คุณเคยมาที่นี้แค่ครั้งเดียว แถมคราวที่แล้วยังหลงอีกต่างหาก ”


“ เอาน่า พล วัชเขาจำได้เชื่อผมสิ ” กฤตนัยบอกพัชรพล พร้อมทั้งหันไปยิ้มกริ่มให้สัณหวัช มีเพียงเขาสองคนเท่านั้นที่รู้

เรื่องราวต่างๆหลังจากกลับมาแล้ว


พัชรพลรู้สึกใจหายหน่อยๆที่ต้องเสียเพื่อนไป ถึงจะไม่ตลอดกาลแต่ก็เป็นการยากที่จะเข้าไปหา เขาจึงไม่อยากให้ไป เมื่อ

พัชพลท้วงติงทุกอย่างจนไม่มีเหตุที่จะรั้งเอาไว้แล้ว สัณหวัชจึงหันหลังและเดินทางต่อไป


“ โชคดีนะวัช ”


“ เดินทางปลอดภัยนะ ”


“ ขอบคุณครับ ”


เวลาแค่เพียงสองสามวันสำหรับในตอนนี้ดูจะเชื่องช้าเหลือเกิน สัณหวัชเร่งฝีเท้าให้เร็วกว่าที่เคย เดินไปตามทางแห่งความ

ทรงจำแต่คราวนี้ไม่มีความหวาดกลัว มีเพียงความตื้นเต้นที่จะได้เจอกับคนๆนั้นอีกครั้ง


ผืนป่าที่ค่อนล่างจะโล่งเตียนกว่าที่อื่นๆทำให้สัณหวัชรู้แล้วว่าตนเองได้ใกล้เข้าไปทุกที เขาเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ไปทีละต้นๆ

คาดหวังไว้ว่าจะได้พบคนนั้นในที่แห่งเดิม 


พุ่มไม้ใหญ่ที่ขึ้นบดบังสายตาถูกปัดออกอย่างร้อนร้น เมื่อสัณหวัชได้ยินเสียงคนมาจากทางด้านหน้า และทันทีที่โผล่พ้นจาก

พุ่มไม้หนา เขาก็พบกับแผ่นหลังของใครบางคนที่นั่งอยู่บนท่อนไม้ใหญ่หน้ากรงอันเดิมที่เขาเคยอยู่ มือใหญ่ลูบคลำกรงนั้น

ทำให้สัณหวัชมั่นใจว่าคนตรงหน้ายังไม่ลืมตัวเองอย่างแน่นอน


เสียงทุ้มนุ่มที่พยายามเค้นออกมาเพื่อเอยชื่อที่คิดถึงและโหยหาเหลือเกิน ใบหน้าคมที่หันมาหาเขาอย่างช้าๆกับรอยยิ้มที่

เเม้เเต่เขาเองก็ต้องยิ้มตาม อ้อมกอดที่อบอุ่นจากคนที่รักเป็นสิ่งที่เขาปราถนามาตลอดเเละตอนนี้มันก้อยู่ตรงหน้า เเละจะ

คงอยู่ตลอดไป



“ ทรงรัฐ







=========จบ==========


- ตอนจบจริงๆแล้วนะครับ กฤตนัยจบไม่สวยเท่าไรแต่สัณหวัชจบแบบมีความสุขคงพอแทนกันนะครับ ^^

- จบจากเรื่องนี้แล้วเรื่องต่อไปจะเป็นภาคต่อ มนตร์นาคา ครับ แต่ก็ไม่เชิง คือแค่จะหยิบตัวละครมาตัวเดียว คือ กฤตนัย แต่อาจ
จะมีตัวละครเก่าๆโผล่มาบ้าง คิดพลอตเอาไว้บ้างแล้วครับ เรื่องหน้าจะเป็นความรักธรรมดา(คน+คน)แล้วนะครับ แต่เรื่องอาจจะ
ไม่ได้ออกแนวใสๆ น่ารักๆ   อาจจะมีหื่นๆบ้าง (ขอไปฝึกเขียน nc ก่อน) อาจจะมาลงต่อปิดเทอม อย่าเพิ่งทิ้งกันนะครับ^^ 

-ขอบคุณนักอ่านที่อ่าน ทุกๆกำลังใจ ทุกบวกและเป็ดที่กดให้ และทุกๆคอมเม้นอ่านแล้วรู้สึกสึกดีมากครับ ขอบคุณจริงๆ


ถาม : การย้ายเรื่องที่จบแล้วผู้เขียนต้องแจ้งผู้ดูแลหรือเปล่าครับหรือว่าทางผู้ดูแลจะย้ายเอง ??? ไม่ทราบจริงๆครับ ^^



เข้ามาอัพเดตนิดหนึ่งเห็นว่ามีคนอ่านเรื่องนี้อยู่เนื่องๆ

ตอนนี้ข้าวกำลังเขียนเรื่องใหม่เป็นตอนของกฤตนัยเเละกำลังลงในตอนนี้นะครับ

ชื่อเรื่อง <a href="http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32222.0"> :: Waiting For >>> รักเเรง</a>

ยังไงก็ช่วยติดตามต่อด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ ต้นข้าว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 06-03-2012 19:16:12
ΡΕΡΡΕЯМΙИТ

เห็นเเววว่าเขียนดราม่าเเล้วจะรุ่ง ๕๕๕ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ^^

Tifa

รอเรื่องหน้านะครับ ได้กลับมาพบกันอย่างเเน่นอน แต่จะคนเดิมหรือคนใหม่ อันนี้ไม่บอกครับ ^^


~ยำโซดาเผา~

หว่าแอบดีใจ มีคนอินกับตอนนี้ด้วย นั่งฟังเพลงเศร้าตั้งนานเเน่ะ ขอบคุณครับ^^


Nus@nT@R@

ได้เจอกันอีกเเน่นอนครับ ยังไงก็อย่างทิ้งกันนะครับ ^^ ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ


Backroom

อ่า เศร้าตอนนี้เเต่สุขตอนหน้าครับ ^^


Horizon

หว่า เศร้าเลย ขอบคุณสำหรับ บวก ครับ ^^


takara

เจอกันคราวหน้า ไม่เศร้าเเล้วเเน่นอนครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ ^^


KURATA

หว่า ขอโทษครับ เจอกันอีกที happy ending ชัวร์ครับ ^^


bytoey

เอ้ หรือว่าชอบดราม่าเดี๋ยวจัดให้อีกตอนครั บ๕๕๕  ขอยคุณที่ติดจามมาตลอดนะครั บ


MYSKYPINK

ขอบคุณสำหรับ บวก ครับ โห ร้องไห้เลยหรอ เรื่องหน้า จัด nc ให้หนักๆ ๕๕๕๕ ขอบคุณที่อ่านนะครับ


Lemon_Tea

หว่า กฤตนัยเศร้าเเต่ก็ยังมีสัณหวัชอยู่นะครับ แหะๆ ขอบคุณที่อ่านมาตลอดเลยนะครับ ^^


Sorso

อ่า มันเศร้ามากเลยหรอครับ เรื่องหน้าเดี๋ยวเขียนเเบบ happy ดีกว่าเนอะ


loveview

นัยเรื่องหน้า happy เเน่นอน ไม่เอาเศร้าเเล้ว ง่า ขอบคุณที่อ่านนะครับ


Cherry Red

เพราะพรหมลิขิตที่ทำให้มาเจอกัน เเต่ก็ต้องจากกัน เเต่หากคราวหน้าเจอกันความรักจะราบรื่นหรือเปล่า?? ขอบคุณที่อ่านนะครับ


DasHimmel

ขอบคุณสำหรับบวกเเละกำลังใจครับ เรื่องนี้มีต่อนนะครับ ยังได้เจอกันอีกแน่นอน ตามเชียร์เนอะ ^^ ขอบคุณที่อ่านนะครับ


Satang_P

ยังมีเรื่องหน้าต่อครับ เป็นตอนของกฤตนัย ได้เจอกันอีกเเน่นอนครับ ยังไงรอติดตามนะครั บขอบคุณที่อ่านครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 06-03-2012 21:21:15
เขียนแบบHappyก็ดีนะฮะ!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: beery25 ที่ 06-03-2012 21:45:48
พลังแ่ห่งรัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 07-03-2012 01:02:23
เรื่องหน้าแบบหื่นเหรอคะ  โอ้ๆๆๆๆๆ มารอค่ะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 07-03-2012 01:45:24
จบแบบนี้ มันค้างคาใจสุดๆ :serius2: :m16:
ขออ่านตอนพิเศษกฤตนัยเพิ่มนิดนะ
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 07-03-2012 08:20:58
รอเรื่องต่อไปของนัยนะครับ  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 07-03-2012 08:59:27
จบซะเเล้วเผลอแปปๆจับไปอีกเรื่องเเล้ว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-03-2012 09:34:40
ดีจัง อย่างน้อยคู่วัชก้อสมหวังอะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: natalee22 ที่ 07-03-2012 09:46:07
ชอบจัง เรื่องนี้สนุก+น่ารักดี ภุชงค์น่ารักมากๆ

ถึงชาตินี้จะไม่สมหวังก็ขอให้สมหวังในชาติหน้านะ นัยก็ยังรอภุอยู่

แต่ตัวละครที่ชอบที่สุดในเรื่องนี้คือ ทรงรัฐ หนุ่มบ้านป่าซื่อๆทื่อๆแต่รักจริง อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: vi2212 ที่ 07-03-2012 11:06:10
วัชบุกป่าฝ่าดงเพื่อกลับไปอยู่กับรัฐ....โรเเมนติกอ่าา  :m1:
จะรอเรื่องต่อไปนร้า :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 07-03-2012 14:43:24
จบแบบนี้ มันค้างคาใจสุดๆ :serius2: :m16:
ขออ่านตอนพิเศษกฤตนัยเพิ่มนิดนะ
+1

รออ่านเรื่องใหม่ของกฤตนัยไปเลยเเล้วกันเนอะ ครับ

ข้าวไม่ว่างเเล้ว สอบ 3 อาทิตย์ติดกันเลย ครับ

แหะๆๆ ขอโทษด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: KURATA ที่ 07-03-2012 16:45:52
จะตามไปอ่านภาคต่อนะคะ
ไม่ใสๆ น่ารัก ไม่เป็นไร ขอแบบไม่มาม่าก้อพอ
หื่นๆ นี่ชอบเป็นพิเศษ เหอๆๆๆ (อย่างคุณต้นข้าวนี่ไม่ต้องฝึกเขียน nc แล้วม้าง อิ อิ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: YANIZAxx™ ที่ 10-03-2012 23:00:50
ไม่ไหวจริงจังค่ะเรื่องนี้ ตอนแรกว่าจะหานิยายอ่านชิวๆ ชอบเรื่องแนว อมนุษย์ด้วยเลยลองคลิ๊กเข้ามาอ่าน
โฮกกกกกกกก อ่านจบน้ำตาไหลเป็นทาง  :m15: << แบบในอีโมค่อนตัวนี้เลย ฮ่าๆ

ปกติไม่อ่านเรื่อง sad ending อ่ะ ภูมิต้านทานต่ำ แต่บังเอิญจริงๆมาเจอเรื่องนี้

ถ้าหากไม่ได้อ่านตอนพิเศษ 3 ตอนอาจจะไม่แซดเท่าไรนะ
แต่อ่านตอนพิเศษแบบ ลุ้นอยู่ทุกทีๆ ไม่อยากให้เวลามันผ่านไปเร็วเลยอ่ะ TT
สงสารภุกับพี่นัยมากกกกก กกกกก กกกก (ในใจแอบเชียร์ให้นัยโยนวัชลงดาดฟ้า ก๊ากกกก > โดนรัฐกระทืบ)

ติดตามผลงานนักแต่งนะคะ สู้ๆค่ะ เรื่องแรกก็น้ำตาไหลแล้ว นักแต่งสนใจแนวดราม่า๊ายย (ไม่ชอบแซดแต่ชอบดราม่า ฮ่าๆๆ)
ขอถามค่ะๆ จะมีเรื่องพี่นัยต่อไหมอ่ะคะ อยาดให้เฮียเขาสมหวังบ้าง คุคุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 10-03-2012 23:09:44
จบแล้ว o13 สนุกค่ะ ชอบมากเลย

มาม่าได้ค่ะ แต่ขอแบบเป็นกระษัย อย่าได้หนักหนาสาหัสมาก มันบีบคั้นหัวใจไปอะคะ

รอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณนักเขียน :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 11-03-2012 01:00:37
ไม่ไหวจริงจังค่ะเรื่องนี้ ตอนแรกว่าจะหานิยายอ่านชิวๆ ชอบเรื่องแนว อมนุษย์ด้วยเลยลองคลิ๊กเข้ามาอ่าน
โฮกกกกกกกก อ่านจบน้ำตาไหลเป็นทาง  :m15: << แบบในอีโมค่อนตัวนี้เลย ฮ่าๆ

ปกติไม่อ่านเรื่อง sad ending อ่ะ ภูมิต้านทานต่ำ แต่บังเอิญจริงๆมาเจอเรื่องนี้

ถ้าหากไม่ได้อ่านตอนพิเศษ 3 ตอนอาจจะไม่แซดเท่าไรนะ
แต่อ่านตอนพิเศษแบบ ลุ้นอยู่ทุกทีๆ ไม่อยากให้เวลามันผ่านไปเร็วเลยอ่ะ TT
สงสารภุกับพี่นัยมากกกกก กกกกก กกกก (ในใจแอบเชียร์ให้นัยโยนวัชลงดาดฟ้า ก๊ากกกก > โดนรัฐกระทืบ)

ติดตามผลงานนักแต่งนะคะ สู้ๆค่ะ เรื่องแรกก็น้ำตาไหลแล้ว นักแต่งสนใจแนวดราม่า๊ายย (ไม่ชอบแซดแต่ชอบดราม่า ฮ่าๆๆ)
ขอถามค่ะๆ จะมีเรื่องพี่นัยต่อไหมอ่ะคะ อยาดให้เฮียเขาสมหวังบ้าง คุคุ

เรื่องของนัยยังมีต่อครับ ตามที่ภุสัญญาไว้ว่าจะกลับมา

ตอนนี้กำลังวางพลอตอยู่ครับ แต่ติดอยู่ว่าช่วงนี้เป็นช่วงสอบเลยไม่มีอะไรคืบหน้า

น่าจะเปิดเรื่องใหม่ตอนปิดเทอมละครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ
ดีใจทำคนอ่านร้องไห้้้ ๕๕๕๕ <<< โรคจิต
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: kimyunjae ที่ 11-03-2012 10:14:48
สนุกมากอ่านไปลุ้นไป แล้วจะรอเรื่องต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: bloodviolin ที่ 11-03-2012 16:19:45
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้าา สนุกดี เรื่องหน้าของแฮปปี้เยอะๆๆนะ  สงสารคุณนัยอ่ะ  ฮ่าาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 12-03-2012 00:05:26
 :sad11:จะรอดักอ่านนิยายของ :L2:นักเขียนตอนปิดเทอม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 12-03-2012 10:45:14
สงสารนัยจังคะ จะร้องไห้ตามแระอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 12-03-2012 13:09:08
สงสารนัยนะ

แต่วัชจบแฮปปี้ดีจัง รอเรื่องต่อไปนะฮ้าบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 13-03-2012 20:57:48
ซับน้ำตาไปอ่านไป เศร้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Running ที่ 13-03-2012 21:55:28
 :impress: :impress: :impress:
แบบว่าเพิ่งจะมาอ่าน
ก้ออ่านทีเดียวจบเลย
เรื่องนี้จบเศร้าอ่ะ
แต่เป็นเรื่องเศร้าที่ประทับใจมากอ่ะ
ใช้ภาษาบรรยายแบบลื่นมาก
นี้ขนาดเรื่องแรกน่ะนี้
ถ้าแต่งเรื่องอื่นก้อรอติดตามอยู่นะครับ^^
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 14-03-2012 00:34:24
ไม่มีคำบรรยายใดๆ นอกจาก.. :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 14-03-2012 00:40:25
สนุกมากๆเลยค่ะ
อ่านแรกๆก็ลุ้นใครคู่ใคร ใครจะตายบ้าง
มีดราม่านิดๆอีกต่างหาก!!  :sad4:

รอเรื่องของนัยค่ะ!!
ขอบคุณนะคะ!!  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: charapin ที่ 14-03-2012 02:15:36
 :monkeysad:  ร้องไห้เลยอ่ะ  ฮือออออออออออออออออออออออออ

 o13 พล็อตแปลก น่าติดตาม แล้วก็ดำเนินเรื่องไม่ยืดเยื้อดีค่ะ

 :m15: แต่ว่าน่าสงสาร ภุกับนัยอ่ะ  ตอนอ่านฉากที่ทั้งสองคนต้องจากกันแล้ว :o12: :o12: :o12:

น้ำตาไหลพรากกกกกกกกกกกกกก

 :-[ แฮ่ แล้วก็ชอบ NC ตอนจะจบของตอนหลักด้วย

 :impress3: :impress3: :impress3:  จะรออ่านเรื่องของนัยนะคะ ^^


ป.ลิง  เค้าชอบอ่าน NC+++++ แหละตะเองงงงงง :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: k_U_K_K_I_K ที่ 14-03-2012 02:55:19
เรื่องนี้ทำให้เสียน้ำตาได้เยอะจริงๆค่า

แต่อยากให้นัยสมหวังอ่ะ ภุกลับมาเกิดใหม่ได้ป่ะอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: penda ที่ 14-03-2012 14:56:26
พอดีว่าเครียดๆ เลยมาหานิยายสั้นๆอ่านซะหน่อย แล้วก็กะหาเรื่องที่มันจบแล้วอ่านจะได้ไม่ค้าง
เห็นเรื่องนี้มี9 หน้า ไม่ยาวมากแล้วเห็นชื่อเรื่อง เลยคิดว่าเป็นแนวแฟนตาซี แบบพญานาคในเมืองบาดาล
อะไรทำนองนั้น เลยลองเข้ามาอ่านดู  ปรากฎว่า อ้าว...ไม่ใช่ซะงั้น แต่ถึงงั้นเรื่องก็ดูน่าสนใจดีเลยอ่านต่อ
พอกฤตนัยออก ก็คิว่าตัวนี้เป็นตัวเอก และเป็นเคะ คงเป็นนายเอก แต่พออ่านไปถึงบรรยายรูปร่าง
ก็อ้าว....นัยเป็นเมะ เป็นพระเอกหรอเนี่ย  แล้วพอต่อไปวัชออก ก็คิดว่า...อ่อ นี่คงเป็นเคะ นายเอกของเรื่องซิ่นะ
แล้วพออ่านถึงตอนที่นัยดูแลวัช ก็...คู่นี้พระ-นายชัวแล้วหล่ะ  นาคาคงจะทำให้ทั้งคู่รักกัน ออกแนวนาคาใจดี ให้พรสมหวัง
พออ่านถึงตอนที่นัยเดินทางไปคนเดียวแล้ววัชตามไป  ก็...ลุ้นสุดๆว่าจะเป็นไรกันไหม เมื่อไรวัชจะตามนัยทัน
หรือเมื่อไรนัยจะรู้ตัวว่าวัชตามไป แล้วหันกลับมาเดินทางไปด้วยกัน  พออ่านถึงตอนที่วัชถูกจับไป ก็...เฮ้ย! วัชจะเป็นไรไหมเนี่ย
แล้วก็คิดว่า...อ่อ เดี๋ยววัชคงถูกจับไปสังเวยนาคา  แล้วนัยก็คงเดินทางไปถึงพอดี เจอวัชกำลังจะโดนบูชายันอยู่
แล้วก็คงเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน แล้วเพื่อนที่เหลือก็ตามมาช่วยสมทบทันพอดีเหมือนกัน อะไรประมาณนี้
แต่พออ่านไปถึงตอนนัยเจอนาคาปุ๊บ ก็....อ้าว ชักยังไงเนี่ย วัชไม่ใช่นายเอกหรอกหรอเนี่ย นาคานี่เป็นเคะคู่กับนัยแหงเลย
แล้วก็แอบเซ็งเล็กๆ และผิดหวังน้อยๆ เพราะคิดมาตลอดว่านัยกับวัชคู่กัน เพราะตอนที่นัยดูแลวัชเหมือนนัยเริ่มรักวัชบ้างแล้ว
เลยไม่คิดว่าอยู่ๆนัยจะดันไปปิ๊งนาคาซะอย่างนั้น  แล้วทางด้านวัชที่ถูกจับอยู่ก็มีตัวละครคนป่าร่างกำยำโผล่มาอีกตัว
เลยคิดว่า...อ่อ อย่างน้อยวัชก็มีคู่เหมือนกันแฮะ ยังโอเคๆรับได้อยุ่ แล้วพออ่านมาเรื่อยๆ ถึงตรงที่หมู่บ้านคนป่า(เผ่ากินคน)
ทำพิธีเหมือนมีงานอะไรซักอย่าง ก็คิดว่า...งืมๆ งานไรว้า สองแง่ไม่งานแต่งวัชกับทรงรัฐ ก็งานส่งวัชให้เป็นเครื่องบูชานาคา
แล้วก็คิดว่า...ถ้าเป็นงานแต่งคนเขียนจะแต่งให้เป็นไงต่อเนี่ย หวังว่าคงไปตัดจบง่ายๆแบบว่า ให้วัชแต่งงานอยู่กับทรงรัฐ
ให้นัยอยู่อย่างมีความสุขกับนาคาไปวันๆ แล้วก็ให้เพื่อนที่มาตามหา ที่หาเท่าไรก็หาไม่เจอถอดใจเลิกหาแล้วเดินทางกลับไป
ซะเฉยๆหรอกนะ  ถ้าเป็นแบบนั้น เค้าจะเซ็งมากเลย เพราะจะรู้สึกว่าเรื่องมันไม่มีอะไรเลย แต่พออ่านต่อไปเรื่อยๆก็เริ่มรุ้ละ
ไม่ใช่งานแต่ง แต่แห่ไปบูชายันให้นาคา แล้วก็เริ่มกลัวว่า...เฮ้ย แล้ววัชจะเป็นไงอ่ะ ใครจะช่วยวัชเนี่ย แล้วก็อ่านไปลุ้นไปต่อ
พออ่านถึงตอนนาคากลายร่าง ก็คิดเข้ามาแว๊บนึงว่า...รึนัยจะได้สติเข้าไปช่วยวัช แล้วหนีออกมาจากนาคาได้
แล้วทั้งสองก็รักกัน กลายเป็นเรื่องพลิกกลับให้คู่นี้เป็นคู่พระ-นายของเรื่อง แต่พอนาคาทำท่าจะตายเท่านั้นแหละ
ก็รุ้ทันทีว่า...อ้าว ไม่ใช่ละ นาคาตายซะงั้น แล้วไงต่อหล่ะเนี่ย นัยไม่มีคู่ซะละมั้ง พอพลจะพาวัชกลับออกไปด้วย
ก็...อ้าว ยังไงหล่ะทีนี้ เอาไงแน่เนี่ย วัชไม่ได้อยุ่กับรัฐหรอ พออ่านถึงตอนที่ตาของวัชแวววาวเป็นสีเขียวก็...อ้าวเฮ้ย งานเข้าแล้วไงหล่ะ
วัชคงไม่ได้ออกจากป่าแล้วหล่ะ คงต้องอยู่ป่ากับรัฐซะแล้ว ฮ้าๆๆๆ(แอบดีใจ) แต่ก็คิดว่า...แล้ววัชจะกินคนแบบนาคาคนก่อนป่าว
งานจะเข้าชาวเผากินคนอีกไหนเนี่ย  แล้วพอมาได้อ่านตอนพิเศษก็...อ้อ  เข้าใจเคลียร์ทุกอย่างละ(อารมณ์ข้ามไป ยาวไปละ)
แถมอีกนิด...ธนัช นายตายง่ายชะมัดเลย แยกออกไปจากกลุ่มแล้วก็โดนเสืองาบซะงั้น วัชเดินหลงอยู่ตั้งนานไม่ตาย นี่หล่ะน้าา
วาสนาของตัวเอก กับวาสนาของตัวประกอบ ตัวเอกตายยาก ตัวประกอบตายง่าย ฮ้าๆๆ
เอิ่ม...นี่ก็คือความรุ้สึกทั้งหมดของเราที่อ่านเรื่องนี้ ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบอ่ะนะ

ต่อไปพูดถึงเรื่องการเขียน เอาในความรุ้สึกเรานะ(ไม่รุ้จะเรียกแทนตัวยังไง ใช้"เรา"ละกัน)
อ่านตอนเดินป่าแล้วก็รุ้สึกเหมือนใครหลายๆคน คือ นึกถึงนิยายเรื่องเพชรพระอุมาฯ ของท่านพนมเทียน
บรรยายได้เห็นภาพดี อ่านแล้วจินตนาการออกได้เลย โดยที่ไม่เคยได้เจอของจริงมาก่อน
เรื่องนี้ถ้าคนแต่งไม่ออกตัวบอกมาก่อนว่าวางพล็อตเรื่องไว้แล้ว เราคงคิดว่าคนแต่ง แต่งไปตามอารมณ์
ไม่มีพล็อตละเอียดที่แน่นอน อาจมีแค่พล็อตคร่าวๆ เพราะเรื่องดูจะพลิกล็อกไปพลิกล็อกมาในความรุ้สึกของเรา
(ดูได้จากอารมณ์ตอนอ่านที่บรรยายไว้ได้) แล้วก้อ่านเจอตอนนึงข้าว(แอบเรียกตีสนิท อิอิ)บอกว่าเรื่องนี้ให้วัชเป็นตัวเอก
แต่เราอ่านแล้วรู้สึกเหมือนนัยเป็นตัวเอก(คู่ของนัยเป็นคู่เอก) แล้ววัชเป็นตัวเอกที่รองลงมาอีกที(คู่ของวัชเป็นคู่รอง)
อ่านแล้วเหมือนเรื่องที่จงใจเขียนให้มีคู่พระ-นายสองคู่ โดยที่คู่นัยเป็นคู่เอก แล้วคู่วัชเป็นคู่รอง
แต่ข้าวบอกว่าตั้งใจจะเขียนเรื่องของวัช ไม่รุ้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพล็อตรึเปล่า เรื่องเลยออกมาแนวนี้
แล้วก็ตอนที่นัยช่วยดูแลวัช แล้วนัยมีท่าทีเหมือนจะมีใจให้วัชน่ะ เราคิดว่านัยมีท่าทีมากเกินไป ถ้าในพล็อตทั้งคู่ไม่ใช่คู่กัน
ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่กัน เราว่าคนอ่าน 99.9% จะต้องคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่กันแน่ๆเลย
ไม่รุ้ว่าตรงนี้ข้าวตั้งใจจะเขียนออกมาหลอกให้คนอ่านเข้าใจผิดกันรึเปล่า (แต่เราอ่านแล้วพอทั้งคู่ไม่ได้คู่กันเราเลยผิดหวัง
เพราะเชียร์ไปเต็มที่แล้วอ่ะนะ) ส่วนอื่นเราว่าข้าวเขียนดีแล้วนะ เก่งเลยหล่ะ ฉากNCคงไม่ต้องฝึกแล้วมั้งเนี่ย(อิอิ)
แล้วก็ตอนพิเศษตอนที่3 (รึเปล่า) ที่เป็นตอนที่นัยกับภุต้องจากกันน่ะ ฉากนั้นเกือบร้องไห้แน่ะ
แต่ที่ไม่ร้องเพราะว่าอ่านเรื่องนี้ตอนเช้าแล้วอ่ะ ซึ่งเรายังไม่ได้นอนเลย ตอนนั้นสมองเลยมึนๆอึนๆ รับรู้ช้า ตอบสนองช้า
เลยไม่ได้ร้อง ไม่งั้นคงตาบวมเพราะทั้งอดนอนทั้งร้องไห้ แต่ตอนนี้เม้นตอนบ่ายแล้วเพราะตอนอ่านจบยังเม้นไม่ได้
แบบว่ามึนๆอยุ่ แล้วก็ต้องรีบไปเรียนด้วย กลับมาก็มาเม้นให้เลยนะ ยังไม่ได้งีบเลย =v=

ส่วนนี้เราอยากจะเอ่ยขอโทษสักนิด ที่ใช้พื้นที่ในการคอมเม้นยาวมากกก (ใช้เวลานานมากด้วย)
แล้วก็อาจจะไรสาระด้วย เหอๆๆ แล้วก็อยากจะบอกด้วยว่าขอโทษนะ
ถ้าหากความเห็นของเราไปทำให้คนเขียน(ข้าว)หรือคนอ่านคนไหนไม่พอใจ หรือขัดข้องใจประการใด
เราคอมเม้นบอกออกมาจากความรุ้สึกของเราเองคนเดียว ซึ่งคงมีคนไม่พอใจบ้างต้องขอโทษจริงๆ
เราเองอาจเม้นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราเองก็ยังแต่งไม่ได้เท่าแบบนี้เลย (ยอมรับๆT^T)
เพราะเราเขียนไม่ทันใจสมองคิด คิดเรื่องไปไกลแล้วแต่ยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย
แต่พอจะเขียนจริงๆกลับเรียบเรียงเป็นประโยคสวยๆไม่ได้อีก จึงเกิดการดองเค็มไว้หลายเรื่อง
เลยไม่กล้าเอามาลงบอร์ดจนกว่าจะแต่งจบก่อน ดังนั้น อ่านเม้นนี้แล้ว ถ้าใครไม่พอใจก็ขออย่าได้ถือสากันเลย
ปล่อยๆไป ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะนะ

สุดท้ายนี้ คิดว่าเม้นยาวเกินไปแล้ว พอเถอะ =v=
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไปนะ
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 14-03-2012 15:44:55
พอดีว่าเครียดๆ เลยมาหานิยายสั้นๆอ่านซะหน่อย แล้วก็กะหาเรื่องที่มันจบแล้วอ่านจะได้ไม่ค้าง
เห็นเรื่องนี้มี9 หน้า ไม่ยาวมากแล้วเห็นชื่อเรื่อง เลยคิดว่าเป็นแนวแฟนตาซี แบบพญานาคในเมืองบาดาล
อะไรทำนองนั้น เลยลองเข้ามาอ่านดู  ปรากฎว่า อ้าว...ไม่ใช่ซะงั้น แต่ถึงงั้นเรื่องก็ดูน่าสนใจดีเลยอ่านต่อ
พอกฤตนัยออก ก็คิว่าตัวนี้เป็นตัวเอก และเป็นเคะ คงเป็นนายเอก แต่พออ่านไปถึงบรรยายรูปร่าง
ก็อ้าว....นัยเป็นเมะ เป็นพระเอกหรอเนี่ย  แล้วพอต่อไปวัชออก ก็คิดว่า...อ่อ นี่คงเป็นเคะ นายเอกของเรื่องซิ่นะ
แล้วพออ่านถึงตอนที่นัยดูแลวัช ก็...คู่นี้พระ-นายชัวแล้วหล่ะ  นาคาคงจะทำให้ทั้งคู่รักกัน ออกแนวนาคาใจดี ให้พรสมหวัง
พออ่านถึงตอนที่นัยเดินทางไปคนเดียวแล้ววัชตามไป  ก็...ลุ้นสุดๆว่าจะเป็นไรกันไหม เมื่อไรวัชจะตามนัยทัน
หรือเมื่อไรนัยจะรู้ตัวว่าวัชตามไป แล้วหันกลับมาเดินทางไปด้วยกัน  พออ่านถึงตอนที่วัชถูกจับไป ก็...เฮ้ย! วัชจะเป็นไรไหมเนี่ย
แล้วก็คิดว่า...อ่อ เดี๋ยววัชคงถูกจับไปสังเวยนาคา  แล้วนัยก็คงเดินทางไปถึงพอดี เจอวัชกำลังจะโดนบูชายันอยู่
แล้วก็คงเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน แล้วเพื่อนที่เหลือก็ตามมาช่วยสมทบทันพอดีเหมือนกัน อะไรประมาณนี้
แต่พออ่านไปถึงตอนนัยเจอนาคาปุ๊บ ก็....อ้าว ชักยังไงเนี่ย วัชไม่ใช่นายเอกหรอกหรอเนี่ย นาคานี่เป็นเคะคู่กับนัยแหงเลย
แล้วก็แอบเซ็งเล็กๆ และผิดหวังน้อยๆ เพราะคิดมาตลอดว่านัยกับวัชคู่กัน เพราะตอนที่นัยดูแลวัชเหมือนนัยเริ่มรักวัชบ้างแล้ว
เลยไม่คิดว่าอยู่ๆนัยจะดันไปปิ๊งนาคาซะอย่างนั้น  แล้วทางด้านวัชที่ถูกจับอยู่ก็มีตัวละครคนป่าร่างกำยำโผล่มาอีกตัว
เลยคิดว่า...อ่อ อย่างน้อยวัชก็มีคู่เหมือนกันแฮะ ยังโอเคๆรับได้อยุ่ แล้วพออ่านมาเรื่อยๆ ถึงตรงที่หมู่บ้านคนป่า(เผ่ากินคน)
ทำพิธีเหมือนมีงานอะไรซักอย่าง ก็คิดว่า...งืมๆ งานไรว้า สองแง่ไม่งานแต่งวัชกับทรงรัฐ ก็งานส่งวัชให้เป็นเครื่องบูชานาคา
แล้วก็คิดว่า...ถ้าเป็นงานแต่งคนเขียนจะแต่งให้เป็นไงต่อเนี่ย หวังว่าคงไปตัดจบง่ายๆแบบว่า ให้วัชแต่งงานอยู่กับทรงรัฐ
ให้นัยอยู่อย่างมีความสุขกับนาคาไปวันๆ แล้วก็ให้เพื่อนที่มาตามหา ที่หาเท่าไรก็หาไม่เจอถอดใจเลิกหาแล้วเดินทางกลับไป
ซะเฉยๆหรอกนะ  ถ้าเป็นแบบนั้น เค้าจะเซ็งมากเลย เพราะจะรู้สึกว่าเรื่องมันไม่มีอะไรเลย แต่พออ่านต่อไปเรื่อยๆก็เริ่มรุ้ละ
ไม่ใช่งานแต่ง แต่แห่ไปบูชายันให้นาคา แล้วก็เริ่มกลัวว่า...เฮ้ย แล้ววัชจะเป็นไงอ่ะ ใครจะช่วยวัชเนี่ย แล้วก็อ่านไปลุ้นไปต่อ
พออ่านถึงตอนนาคากลายร่าง ก็คิดเข้ามาแว๊บนึงว่า...รึนัยจะได้สติเข้าไปช่วยวัช แล้วหนีออกมาจากนาคาได้
แล้วทั้งสองก็รักกัน กลายเป็นเรื่องพลิกกลับให้คู่นี้เป็นคู่พระ-นายของเรื่อง แต่พอนาคาทำท่าจะตายเท่านั้นแหละ
ก็รุ้ทันทีว่า...อ้าว ไม่ใช่ละ นาคาตายซะงั้น แล้วไงต่อหล่ะเนี่ย นัยไม่มีคู่ซะละมั้ง พอพลจะพาวัชกลับออกไปด้วย
ก็...อ้าว ยังไงหล่ะทีนี้ เอาไงแน่เนี่ย วัชไม่ได้อยุ่กับรัฐหรอ พออ่านถึงตอนที่ตาของวัชแวววาวเป็นสีเขียวก็...อ้าวเฮ้ย งานเข้าแล้วไงหล่ะ
วัชคงไม่ได้ออกจากป่าแล้วหล่ะ คงต้องอยู่ป่ากับรัฐซะแล้ว ฮ้าๆๆๆ(แอบดีใจ) แต่ก็คิดว่า...แล้ววัชจะกินคนแบบนาคาคนก่อนป่าว
งานจะเข้าชาวเผากินคนอีกไหนเนี่ย  แล้วพอมาได้อ่านตอนพิเศษก็...อ้อ  เข้าใจเคลียร์ทุกอย่างละ(อารมณ์ข้ามไป ยาวไปละ)
แถมอีกนิด...ธนัช นายตายง่ายชะมัดเลย แยกออกไปจากกลุ่มแล้วก็โดนเสืองาบซะงั้น วัชเดินหลงอยู่ตั้งนานไม่ตาย นี่หล่ะน้าา
วาสนาของตัวเอก กับวาสนาของตัวประกอบ ตัวเอกตายยาก ตัวประกอบตายง่าย ฮ้าๆๆ
เอิ่ม...นี่ก็คือความรุ้สึกทั้งหมดของเราที่อ่านเรื่องนี้ ตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบอ่ะนะ

ต่อไปพูดถึงเรื่องการเขียน เอาในความรุ้สึกเรานะ(ไม่รุ้จะเรียกแทนตัวยังไง ใช้"เรา"ละกัน)
อ่านตอนเดินป่าแล้วก็รุ้สึกเหมือนใครหลายๆคน คือ นึกถึงนิยายเรื่องเพชรพระอุมาฯ ของท่านพนมเทียน
บรรยายได้เห็นภาพดี อ่านแล้วจินตนาการออกได้เลย โดยที่ไม่เคยได้เจอของจริงมาก่อน
เรื่องนี้ถ้าคนแต่งไม่ออกตัวบอกมาก่อนว่าวางพล็อตเรื่องไว้แล้ว เราคงคิดว่าคนแต่ง แต่งไปตามอารมณ์
ไม่มีพล็อตละเอียดที่แน่นอน อาจมีแค่พล็อตคร่าวๆ เพราะเรื่องดูจะพลิกล็อกไปพลิกล็อกมาในความรุ้สึกของเรา
(ดูได้จากอารมณ์ตอนอ่านที่บรรยายไว้ได้) แล้วก้อ่านเจอตอนนึงข้าว(แอบเรียกตีสนิท อิอิ)บอกว่าเรื่องนี้ให้วัชเป็นตัวเอก
แต่เราอ่านแล้วรู้สึกเหมือนนัยเป็นตัวเอก(คู่ของนัยเป็นคู่เอก) แล้ววัชเป็นตัวเอกที่รองลงมาอีกที(คู่ของวัชเป็นคู่รอง)
อ่านแล้วเหมือนเรื่องที่จงใจเขียนให้มีคู่พระ-นายสองคู่ โดยที่คู่นัยเป็นคู่เอก แล้วคู่วัชเป็นคู่รอง
แต่ข้าวบอกว่าตั้งใจจะเขียนเรื่องของวัช ไม่รุ้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขพล็อตรึเปล่า เรื่องเลยออกมาแนวนี้
แล้วก็ตอนที่นัยช่วยดูแลวัช แล้วนัยมีท่าทีเหมือนจะมีใจให้วัชน่ะ เราคิดว่านัยมีท่าทีมากเกินไป ถ้าในพล็อตทั้งคู่ไม่ใช่คู่กัน
ทำให้คนอ่านเข้าใจผิดคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่กัน เราว่าคนอ่าน 99.9% จะต้องคิดว่าทั้งคู่เป็นคู่กันแน่ๆเลย
ไม่รุ้ว่าตรงนี้ข้าวตั้งใจจะเขียนออกมาหลอกให้คนอ่านเข้าใจผิดกันรึเปล่า (แต่เราอ่านแล้วพอทั้งคู่ไม่ได้คู่กันเราเลยผิดหวัง
เพราะเชียร์ไปเต็มที่แล้วอ่ะนะ) ส่วนอื่นเราว่าข้าวเขียนดีแล้วนะ เก่งเลยหล่ะ ฉากNCคงไม่ต้องฝึกแล้วมั้งเนี่ย(อิอิ)
แล้วก็ตอนพิเศษตอนที่3 (รึเปล่า) ที่เป็นตอนที่นัยกับภุต้องจากกันน่ะ ฉากนั้นเกือบร้องไห้แน่ะ
แต่ที่ไม่ร้องเพราะว่าอ่านเรื่องนี้ตอนเช้าแล้วอ่ะ ซึ่งเรายังไม่ได้นอนเลย ตอนนั้นสมองเลยมึนๆอึนๆ รับรู้ช้า ตอบสนองช้า
เลยไม่ได้ร้อง ไม่งั้นคงตาบวมเพราะทั้งอดนอนทั้งร้องไห้ แต่ตอนนี้เม้นตอนบ่ายแล้วเพราะตอนอ่านจบยังเม้นไม่ได้
แบบว่ามึนๆอยุ่ แล้วก็ต้องรีบไปเรียนด้วย กลับมาก็มาเม้นให้เลยนะ ยังไม่ได้งีบเลย =v=

ส่วนนี้เราอยากจะเอ่ยขอโทษสักนิด ที่ใช้พื้นที่ในการคอมเม้นยาวมากกก (ใช้เวลานานมากด้วย)
แล้วก็อาจจะไรสาระด้วย เหอๆๆ แล้วก็อยากจะบอกด้วยว่าขอโทษนะ
ถ้าหากความเห็นของเราไปทำให้คนเขียน(ข้าว)หรือคนอ่านคนไหนไม่พอใจ หรือขัดข้องใจประการใด
เราคอมเม้นบอกออกมาจากความรุ้สึกของเราเองคนเดียว ซึ่งคงมีคนไม่พอใจบ้างต้องขอโทษจริงๆ
เราเองอาจเม้นว่าอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เราเองก็ยังแต่งไม่ได้เท่าแบบนี้เลย (ยอมรับๆT^T)
เพราะเราเขียนไม่ทันใจสมองคิด คิดเรื่องไปไกลแล้วแต่ยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย
แต่พอจะเขียนจริงๆกลับเรียบเรียงเป็นประโยคสวยๆไม่ได้อีก จึงเกิดการดองเค็มไว้หลายเรื่อง
เลยไม่กล้าเอามาลงบอร์ดจนกว่าจะแต่งจบก่อน ดังนั้น อ่านเม้นนี้แล้ว ถ้าใครไม่พอใจก็ขออย่าได้ถือสากันเลย
ปล่อยๆไป ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะนะ

สุดท้ายนี้ คิดว่าเม้นยาวเกินไปแล้ว พอเถอะ =v=
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คนเขียนนะ แล้วจะรออ่านเรื่องต่อไปนะ
 :L2: :pig4: :L2:

แว้ปเข้าในกระทู้ที่จบเเล้วเพื่อหานิยายอ่าน เเล้วดันเจอเรื่องของตัวเองอยู่มรคนเม้นด้วยก็เลยเข้ามาดู พอเม้นสุดท้ายเท่านั้นเเหละ โหยาววมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ย้ำว่าสุดๆๆ

คุณคนอ่าน(ชื่อไรน้า) ก่อนอื่นต้องบอกเลยครับว่านิยายเรื่องนี้ได้เเรงบันดาลใจมาจากการเข้าไปในร้านหนังสือเเล้วเจอชั้นนิยายเเล้วหน้าปกสวยดีก้เลยอยากมีนิยายเป็นของตัวเองมั้ง กลับมาถึงหอก็วางเรื่องเเล้วก้เเต่เลย คือพลอตก็ไม่มีไรมากหรอกออกจะงงเหมือนกัน ยอมรับว่า ฉุย เเอบแทรกอะไรไปเรื่อยตามที่คิดออก

อันต่อไปก็คือช่วงที่ทั้งนัยเเละวัชเดินทางด้วยกันคือตอนนั้นข้าวตั้งใจจะให้คนอ่านคิดว่าสองคนนี้เป็นคู่กันจริงๆครับ ก็เลยเข้าใจผิดกันอย่างไม่ต้องสงสัย แหะๆ

เพชรพระอุมานี้เห็นว่ามีคนทักมาตั้งเเต่เเรกเลยครับ เเต่ข้าวไม่เคยอ่าน เพิ่งจะเคยได้ยินเลยคืดไปว่าต้องเป็นนิยายYของนักอ่านคนเด่นๆดังๆเเน่ๆก็เลยลองเสิร์ชดูที่ไหนได้มันเป็น นวนิยายที่สุดยอดที่สุดของไทย ตอนนั้นเราก็อึ้งว่าจะถูกเอาเปรียบเทียบเปล่า เพราะข้าวเองก็เป็นคนเขียนกิ๊กก๊อก เริ่มเรื่องเพราะเหตุผลประหลาด เเต่สุดท้ายก็ลงจนจบ เเต่เเอบมีเร่งบ้าง บ้างส่วนก็เลยทำให้คนอ่าน งง ๆ

แล้วที่บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของวัชคือวัชเเฮปปี้เเต่นัยsad enddingครับ คือตอนที่กำลังลงเรื่องอยู่ นักอ่านส่วนใหญ่จะเชียร์นัยกันมากก จะเเก้พลอตให้กลับมารักกันใหม่ก็ไม่ได้ เลยมีตอนพิเศษที่นัย ภุ เด่นมากก เอาเป็นว่าข้าวตั้งใจปูเรื่องเอาไว้เขียนเรื่องต่อไปน่ะครับ

เรื่องคอมเม้นนี้ยาวๆนี้ชอบครับ ยิ่งยาวยิ่งชอบเเต่ตอนเห็นเเอบตกใจนิดๆ แล้วไม่คิดมากครับเรื่องคอมเม้น ดีซะอีกจะได้เอาไปแก้ไขเนอะ

ขอบคุณอ่านนิยายของข้าวนะครับ เรื่องใหม่ คงได้ฤกษ์ลงไวๆนี่ละครับ
ยังไงก็รออ่านด้วยนะครับ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Made ที่ 14-03-2012 22:56:04
พึ่งได้เข้ามาอ่าน มาหานิยายจบแล้วอ่านเหมือนกันค่ะ(ถ้าอ่านเรื่องที่ไม่จบเดี๋ยวค้างคา) สนุกมากๆเลยค่ะ ไม่ค่อยมีคนแต่งแนวนี้เท่าไหร่ หาอ่านมานาน พึ่งแต่งเป็นครั้งแรก แต่ว่าแต่งได้ดีมากๆเลย ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับเรื่องต่อไปนะคะ กินใจมากๆเลยค่ะ อ่านไปก็นั่งคิดไป หื้มมมมมม ความรักนี่มันยิ่งใหญ่จริงๆเลยน้าา  o22
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 16-03-2012 03:09:09
เขียนดีจนน่าทำเป็นเรื่องยาว

สนุกมากค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 16-03-2012 09:50:42
สารภาพว่าเปิดเรื่องนี้มาอ่านก็ไม่ได้หวังผลอะไรมากเพราะกำลังเบื่อๆเซ็งๆ

อ่านตอนต้นๆก็นึกว่านัยกับวัชคู่กัน แล้วนาคามาเกี่ยวไรหว่า?? สงสัยจะออกแนวบุกป่าฝ่าดงแล้วมารักกันล่ะมั้ง แต่ยิ่งอ่านยิ่งมึน... อ้าววว สรุปว่า2คนนี้เค้าไม่ได้คู่กันหรอกเรอะ?? นายนัยไปคู่กะนาคาเฉย....แล้ววัชล่ะ?? คู่กะใครหนอ... พอรัฐออกมาเราก็นึกว่าตัวประกอบธรรมดาที่ไหนได้เป็นพระเอกอีกคนรึนี่  :a5:

 แต่สงสารนัยที่ต้องเสียคนรัก2ครั้ง ภุน่ารักมากๆ ตอนแรกจิ้นว่าเป็นเป็นงูตัวใหญ่แล้วเมะที่แท้เคะ(เรื่องนี้โดนคนเขียนหักหลังบ่อยมาก :z3:)

ส่วนคู่ของวัชนี่เป็นอะไรที่พลิกความคาดหมายพอสมควรเพราะนึกว่่าจะโดนหม่ำทั้งแบบนั้นแล้วซะอีก ไหนจะรัฐที่มาช่วยตอนโดนกินไปครึ่งตัวแล้วยิ่งชวนให้คิดตามว่าเจ้าหมอนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ พอมาเฉลยตอนจะจบ....ที่แท้ก็คนในเผ่านาคาหรอกเรอะ (โดนหักหลังอีกรอบ :a5: )

โดยรวมแล้วเป็นเรื่องที่อ่านแล้วสนุกเรื่องนึงเลยค่ะ การดำเนินเรื่องค่อนข้างซับซ้อน วิธีวางโครงเรื่องไม่คิดว่าจะเป็นมือใหม่หัดแต่ง แต่เป็นคนที่แต่งมานานแล้วซะอีก รอเรื่องใหม่ขอนัยค่ะ อ่านแล้วสงสารนัยมากๆ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 16-03-2012 11:34:43
ตอนแรกกะอ่านเพลิน ๆ ไป ๆ มา ๆ
ดันเศร้าซะได้ แต่ก็แอบสงสารนัยนะ
 :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Way ที่ 18-03-2012 16:10:34
เคยอ่านเรื่องนี้ในเว็บอื่นด้วยหล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: buff89 ที่ 19-03-2012 13:17:02
สนุกมากเลยค่ะ เหมือนได้ผจญภัยตามตัวละครไปด้วย
แล้วจะรอติดตามผลอีกนะคะ  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: April❤ ที่ 19-03-2012 16:04:48
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ
สนุกมากๆค่ะ ชอบๆ
การดำเนินเรื่องไรงี้ก็ไม่เหมือนมือใหม่เลย
ตอนจบของวัชก็ซึ้งดีด้วย^^
แล้วจะตามไปเรื่องหน้าจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 26-03-2012 12:34:47
เป็นมหัศจรรย์รักในพงไพร สนุกดี o13
วัชน่ารัก รัฐมีบทน้อยไปหน่อยแต่ดูเป็นคนดี จบได้เซ็กซี่มาก 55 ชอบๆ  :o8:
นัยเท่ๆดีนะ เป็นคนตั้งใจจริง ภุใสซื่อ น่ารัก จบหวานปนเศร้าอ่ะ :กอด1:
+1+เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 26-03-2012 18:52:02
อ่า
อ่านจบร้องไห้เลย

 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Smirnoff ที่ 01-04-2012 22:23:01
อ้ากกกก อ่านไปน้ำตาไหลพรากๆๆ ฮือออออ 
ยังดีที่มีเรื่องวัชปิดท้ายให้พอฟินอยู่บ้าง 5555
น่ารักทั้งคู่ ติดตามอ่านเรื่องหน้าค่ะๆ
ชอบนิยายแนวนี้มากๆๆ
ภาษาที่ใช้ก็เข้าใจง่าย 
พล้อตก็น่าติดตามมาก  ไม่งง ผูกเรื่องได้เยี่ยมสุดๆ ชอบเรื่องนี้มากกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 02-04-2012 03:15:11
 :pig4: :L2: :L2: :L2:
สนุกมากมายจะรอภาคต่อคร๊าบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: kaowkong ที่ 04-04-2012 21:17:03
ชอบๆๆๆๆๆ....^_^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 17-04-2012 19:58:25
น่าจะเป็นตอนจบทีี่แท้จริงมากกว่าตอนพิเศษนะนี่ ฮุฮุ เลิลี่แอคแทค
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 18-04-2012 16:29:36
ชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ แปลกแหวก

555 ดันให้คนที่มาใหม่ได้อ่านด้วย

อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 12-08-2012 15:12:27
สนุกมากค่า
ติดตามภาคต่อไป
 :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: boran ที่ 19-03-2013 02:44:50
สนุกจังเลยครับ อยากอ่านภาคต่อ TT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 25-03-2013 14:02:22
เศร้าอ่ะ
อยากให้ภุกลับมาหานัย
มันจะไม่เศร้ามากขนาดนี้นะ ถ้าหากเจอกันอีกครั้งแล้วสุดท้ายก็ต้องจบลงด้วยการจากลา

อั๊ยๆ ชอบแนวนี้ ร้องไห้เลยอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: tamako ที่ 26-03-2013 01:02:14
+ 1
แทบไม่น่าเชื่อว่าแต่งเป็นเรื่องแรก  เพราะวางโครงเรื่องไว้ดีพอสมควร
เนื้อหาสนุก ดำเนินเรื่องกระชับแต่ตอนจบมันแปลกไปสักหน่อยเหมือนเรื่องกระโดดอ่ะค่ะ
แต่โชคดีที่มีตอนพิเศษเป็นเหมือนตัวคลี่คลายปริศนาทั้งหมด
สิ่งที่อยากให้เพิ่มคือบทบรรยายภาพในบางฉาก  ถ้าบรรยายให้เห็นภาพมากกว่านี้จะสนุกขึ้นกว่านี้มาก
ยอมรับว่าใช้ภาษาได้ค่อนข้างเก่งทีเดียว
ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านค่ะ o13
ปล.คำแนะนำข้างต้นมาจากประสบการณ์การแต่งและอ่านนิยายส่วนตัว ไม่ถูกใจอย่างไรก็ขออภัยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-04-2013 12:17:12
อ่านไปแรกๆๆเหมือนอยู่ในห้วงฝัน
ทั้งน่าตื่นเต้นเร้าใจมีให้ลุ้นตลอด
พอไปท้ายเรื่องกับเศร้าซะงั้น
หนึ่งคู่สมหวังเหลือหนึ่งคนที่ต้องรอต่อไป
ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขียนเป็นเรื่องแรก
ชอบนะปกติเป็นคนไม่ชอบอ่านแนวนี้เท่าไหร่
แต่ไหงหลวมตัวกดมาอ่านไม่รู้แต่ไม่ผิดหวังจริงๆๆ :mew1:
+1และเป็ด
เป็นกำลังใจให้กัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: yisren. ที่ 05-05-2013 20:09:38
ชอบอ่านมากๆ สงสารคู่กฤตภุ น้ำตาไหล.....
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: สตางค์ ที่ 07-05-2013 08:59:47
#ตอนที4# ให้อารมณ์อย่างกะเพชรพระอุมาจริงจังค่ะ แบบว่า  ผจญภัย ลี้ลับ ตื่นเต้น  ////แต่อ่านไปแล้วตัวละครที่ไม่ชอบที่สุดออกจะเป็นคุณสัณหวัช(อารมณ์ประมาณหมั่นไส้) ทั้งๆที่เธออาจจะเต็งนายเอก(?) เพราะเธอแลดูจะชอบคุณนัยโดยไม่รักตัวเองและไม่ประเมินกำลังตน(แต่ถ้าว่ากันตามจริงก็สงสารนิดๆที่เธอตามนายคุณนัยมาแล้วคลาดกัน)  รองลงมาคงกฤตนัย  ทั้งๆที่เต็งพระเอกเหมือนกัน เพราะค่อนข้างเอาแต่ใจและไม่สนหมู่คณะพอสมควร  แต่ตอนที่4นี่ชอบคุณพลเบาๆ เพราะเขาดูห่วงคนในคณะ ทั้งๆที่คนพวกนั้นไม่ห่วงตนเอง(หรืออาจจะเพราะตำแหน่งหัวหน้าคณะ(?))
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 07-05-2013 15:20:01
สงสารคู่นัยกับภุ นึกถึงเรื่องนาคราชเลยอ่ะ แต่ยังดีที่คู่รัฐกับวัชสมหวังกันนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: himenana ที่ 08-05-2013 14:41:19
สนุกมากๆๆ  แม้ตอนจบพระเอกจะดู โคตรเศร้าไปนิด  :mew4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) (
เริ่มหัวข้อโดย: love2you ที่ 08-05-2013 18:08:30
เนื้อเรื่องสนุกดีค่ะ เดินเรื่องได้น่าติดตาม เพียงแต่บางครั้งมักเจอคำศัพท์ประหลาดๆ เช่น ‘ไฟแฉก’ โผล่ออกมาให้ขัดตาบ้าง โดยรวมถือว่าสนุกสำหรับเรานะคะ แม้ว่าบางเหดุการณ์จะดูไร้ที่มาที่ไปอยู่บ้าง

เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องใหม่นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 02-06-2013 19:45:30
พึ่งมาอ่านเรื่องนี้ ได้มาจากห้องแนะนำคะ  :L2:

============================

เรื่องนี้มีหลายแนวให้น่าลุ้นมากๆเลยคะ
มีทั้งเรื่องที่ระทึก รอยย้ิ้ม และน้ำตา
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่่งที่เราชอบ ^^  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-06-2013 01:23:31
เศร้า T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: icetim ที่ 08-06-2013 17:56:04
อ่านแล้วสนุกค่ะ ลุ้นตาม 
เป็นกำลังใจให้คนเขียน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 23-01-2015 20:48:56
นึกว่าคู่นัยกะนาคา(ภุชงค์)จะแฮปปี้สะอีก  :hao5: :hao5: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 24-01-2015 17:47:00
รู้สึกดีที่คู่วัชสมหวัง
แต่ก็เสียใจกับคู่นัย :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-02-2015 19:29:03
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: khwanruen ที่ 05-03-2015 14:22:40
รอภาคต่อไป อยากให้นัยกับภุได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 30-04-2015 08:59:40
สนุกดีครับเนื้อเรื่องแปลกใหม่ สงสารภูกับนัย

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 12-12-2015 14:43:11
แปะะะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 16-12-2015 00:24:15
ภุกับนัยเศร้ามากอ่ะ  อ่านไปน้ำตาคลอไปเลย  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: kawoat ที่ 16-12-2015 16:42:47
ขอบใจที่แต่งมาให้อ่านจ้า สู้ต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: yin ที่ 22-04-2016 01:11:59
ผู้แต่งเขียนเก่งนะเนี่ย เรื่องแรกมาม่าเล่นเอาน้ำตาไหล เศร้าอ่ะ แต่แต่งดี รออ่านเรื่องต่อไป เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: ้Sin.7 ที่ 23-04-2016 10:10:09
 :katai1:   ncไม่มีแต่เนื้อเรื่องระทึกมากเดาไม่ถูกเลย คนเขียนเก่งอะ เขียนอีกนะ สู้ๆ  :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 24-04-2016 01:46:07
คือดราม่าอ่านได้นะคะ แต่พออ่านถึงจุดพีคแล้วมันจะจำแต่เหตุการณ์นั้นอ่ะ จนไม่ได้โฟกัสที่อื่นเลย พอเนื้อเรื่องมันติดสมองแล้วจะทำให้ซึมเป็นวันๆไปเลย เลยอยากเลี่ยง ภูมิคุ้มกันดราม่าต่ำ
อ่านตอนแรกๆก็คิดว่านัยจะเป็นพระเอก เพราะกล่าวถึงเยอะแล้วก็มีเรื่องนาคามา เลยคิดว่านัยต้องคู่กับนาคาแน่ แอบหมั่นไส้ตรงรัชสนิทกับนัยนิดนึง ไม่นึกเลยว่ารัชจะเป็นตัวเอก บรรยายได้เห็นภาพมากค่ะ จะรอติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: vilaroly ที่ 19-07-2016 15:08:28
ชอบแนวแฟนตาซีมากก แต่ตอนแรกที่อ่าน นี้จะเลิกอ่านไปรอบนะ เพราะคิดว่า นัยกับวัช จะคู่กัน คือ เพราะว่าถ้าคู่กันจริงเราคิดว่ามันไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรดูไม่มีมิติ แบบ ไม่ค่อยแฟนตาซี ประมาณนี้  แต่ก็อ่านมาแล้วก็อ่านไปให้จบๆ ผลสุดท้าย ดีใจมากที่ นัยกับวัชไม่ได้คู่กัน เลยอ่านยาวเลยจ้า สนุกมากกนะ  แต่เราว่าอารมณ์มันยังไม่สุดมันเหมือนขาดๆอะไรไปนิดหน่อย อาจเพราะเป็นเรื่องสั้นก็ได้ เพราะปกติแล้วแนวเรื่องประมาณนี้จะเป็นเรื่องยาวเพราะมันมีรายละเอียดเยอะ มาก ในเรื่อง ตำนาน ความซับซ้อน เหตุการณ์ระทึกขวัญ  ฯลฯ  อยากให้เรื่องนี้มาแต่งเป็นเรื่องยาวนะเราว่ามันน่าจะสนุกมาก ความซับซ้อน ป่ม เนื้อเรื่องมันจะได้มีละเอียดมากขึ้น  แต่ว่านี้เป็นเรื่องแรกที่แต่ง ของนักเขียนถือว่าเก่งมากกกก ขอบคุณนะที่ แต่งให้อ่าน สนุกๆๆ  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: Sohso ที่ 20-07-2016 15:18:32
อีกคู่ไม่สมหวังซะงั้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) .......มนตร์นาคา....... ตอนพิเศษ ( ๔ ) หน้า ๘ อัพ (๖/๓/๒๕๕๕) ( ตอนจบ )
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 26-07-2016 04:00:42
ร้องให้กับคู่ของภูหนักมากแต่ว่าใครเจอเรื่อต่อบ้างอ่ะอยากอ่าน :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: