พิมพ์หน้านี้ - Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: akazu ที่ 10-11-2011 11:07:21

หัวข้อ: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 10-11-2011 11:07:21
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับเล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบกรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
                                             
พีเอสซึ.ได้รับการอนุญาติจาก คุณหยดน้ำผึ้งเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ

แม่ตั้งชื่อให้ผมว่าปรีย์..
ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าทำไมต้องเป็นชื่อนี้ และมันมีความหมายว่าอย่างไร
... แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว...
ว่าผมคือความอัปรีย์....
เป็นเด็กผู้ชายที่ไม่น่าเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้เลย....

คำเดือน หากคุณรับไ่ม่ได้กับความกดดันของเนื้อเรื่อง และตัวละคร อาจเครียด มาม่า โปรดข้ามไปอ่านเรื่องใส ๆ เพราะที่นี่หม่นหมองกันอย่างเดียว แล้วพบกัน..
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 10-11-2011 13:27:24
 :mc4:
จุดประทัดเปรี้ยงปร้างรับเรื่องใหม่
:o
มันเครียดขนาดนั้นเลยเหรอ(แค่อัปรีย์ก็เครียดแล้วเนี่ย)
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 10-11-2011 14:00:18
ชอบเรื่องนี้ๆๆๆๆ
อ่านเรื่องนี้ก่อนจะอ่าน look at me อีกอ่ะ
นานมากเลย
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 10-11-2011 14:00:46
 :mc4: :mc4:  เจิมเรื่องใหม่คร้า.....

 :sad4: ปล.แนวมาม่ากลิ่งหมูสับฟุ้งมาแต่ไกล..... o22

 :กอด1:  รอมาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: prettypearl ที่ 10-11-2011 14:41:23
มาม่า T T

แอบหวานให้ (เยอะๆๆ) หน่อยนะค้า ^^

ปูเสื่อ..ความขนมมากินรอ ^^
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 10-11-2011 15:00:39
ป๊าดดดดดดดดดดดดดดดด ตั้งเตาต้มน้ำรอแล้วเนี่ย
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 10-11-2011 20:54:35
เรื่องนี้ๆ นึกว่าจะหาอ่านอีกรอบไม่ได้แล้ว ลบออกจากเด็กดี :sad4:ขอบคุณที่เอามาลงนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: YenOh ที่ 10-11-2011 22:11:31
แอบย่องมากระซิบคุณ akazu

ชื่อภาษาอังกฤษเต็ม ๆ คือ Lost Butterfly นะคะ



เจิมเรื่องใหม่ในเล้าค่ะ :D
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 10-11-2011 22:14:08
มาม่า  แต่ก็ชอบ ชื่อผู้แต่งรับประกัน
รักคนโพสฮับ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ลงน้ำจิ้ม [10.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 10-11-2011 22:27:46
 :z3: :z3: :z3:กดดัน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทนำ [11.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 11-11-2011 11:25:17
บทนำ

    “ยังไม่เคยแน่ใช่มั้ย ?” หญิงร่างท้วมที่ดูร่วงโรยจากวัยสาวมานานจุดบุหรี่ราคาแพงขึ้นสูบ หรี่ตามองเด็กหนุ่มหน้าใหม่ที่นั่งอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเหยี่ยวย่นนั้นแลดูเจ้าเล่ห์ชอบกลจนเด็กหนุ่มไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้นสบตาด้วย

    “ค.. ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้าอายๆ เหงื่อไหลซึมในมือจนเขารู้สึกเปียกชื้น แอบใช้เช็ดถูกับกางเกงนักเรียนเบาๆ

    “ไม่ต้องย้ำหรอกเจ๊ ไอ้ปรีย์มันเพื่อนผม ผมรู้หรอกน่าว่าเคยหรือไม่เคย” เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันอีกคนย้ำบอก ทั้งๆ ที่ตนแทบจะไม่รู้จักเด็กหนุ่มที่ชื่อปรีย์เลยด้วยซ้ำ

    “เออ.. มีคนโทรมาจองตัวแล้ว เอ็งเอาเบอร์นี่ไป” หญิงร่างท้วม หรือเจ๊ใหญ่หยิบยื่นกระดาษแผ่นเล็กที่มีเบอร์ติดต่อเขียนด้วยลายมือหวัดๆ ให้กับเด็กหนุ่มที่ชื่อปรีย์

    “แล้วเรียกค่าตัวให้ได้มากกว่าหมื่นนะ ไม่ถึงไม่ต้องยอมมัน” หล่อนสำทับ เพราะส่วนหนึ่งที่ได้นั้นเป็นของหล่อนด้วย.. ปรีย์พยักหน้าอย่างแข็งขัน.. จำนวนเงินที่ได้ยินนั้นเขาต้องทำงานตามปกติมากกว่า ๓ เดือนเสียด้วยซ้ำ...

    “ลูกค้าชื่อคุณก้องภพ เอ็งติดต่อเอาเองนะ อายุไม่ถึง เดี๋ยวสาวมาถึงข้าล่ะเรื่องใหญ่...” เธอบอกชื่อลูกค้าและโยนความรับผิดชอบให้เด็กหนุ่มด้วยกลัวกฎหมายเอาผิดได้..

    ปรีย์รับกระดาษและไหว้สาวใหญ่ ก่อนขอตัวออกจากสถานที่ซึ่งดูเหมือนออฟฟิศทั่วๆ ไป... แต่หากมีกิจการอื่นๆ อยู่เบื้องหลัง

    เด็กหนุ่มมองดูกระดาษในมือ ถอนหายใจเบา ๆ.. เขาไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว...

    ยายที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็กก็เจ็บป่วย จนต้องเข้าโรงพยาบาล เงินที่ใช้ไม่ค่อยพอจึงเริ่มที่จะฝืดเคืองเข้าไปใหญ่... โชคดีที่เขาพอจะรู้จัก ‘เอิง’ เพื่อนต่างห้องหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก และมีเงินใช้สอยไม่ขาดมือ.. เพราะมีผู้ใหญ่เลี้ยงดูอย่างเปิดเผย..

    ดูเหมือนว่าเอิงจะรู้ว่าเขายากจน.. และแนะนำว่าเมื่อไหร่ที่ต้องการจะทำงานสบาย ๆ ได้เงินเยอะให้มาปรึกษา และตอนนี้เขาก็ต้องการเงินจริงๆ..
 
    ปรีย์ตรงไปโรงพยาบาล มองดูร่างเหี่ยวย่นซูบซีดแทบจะกลืนหายไปกับเตียง

    “ยายจ๋า หนูมาแล้ว” เด็กหนุ่มส่งเสียงร้อง วิ่งไปหาหญิงชราที่นอนอยู่บนเตียง

    “..เอ็งไม่ไปทำงานเหรอ ?” เสียงแหบแห้งถามอย่างสงสัย ...ดวงตาสุกใสเหมือนสาวแรกแย้มขัดกับร่างกายที่ร่วงโรยเหลือบมองหลานชายอย่างรักใคร่ เอื้อมมือไปลูบศีรษะทุยเบาๆ

    “เอ่อ.. วันนี้หนูขอลามาเยี่ยมยายก่อนน่ะจ้า” เด็กหนุ่มยิ้มบอกแต่ถูกมือเหี่ยวย่นตบจนหน้าทิ่ม

    “หัดโกหกนะเอ็ง..” หล่อนพึมพำเบาๆ เบือนหน้าหนีอย่างแง่งอน

    “แหะ” ปรีย์หัวเราะแก้เก้อ... ยายรู้จักนิสัยเขาดี.. เพราะเลี้ยงเขามาตั้งแต่เกิด.. พ่อทิ้งแม่ไปตั้งแต่เขายังอยู่ในท้องแม่... ส่วนแม่ก็เสียไปตอนที่เขายังเด็ก.. ยายร้องไห้เสมอเวลาพูดถึงแม่.. ยายบอกว่าแม่น่าสงสาร...

    แต่ตอนนี้แม่ไปสบายแล้ว เขากับยายจึงต้องใช้ชีวิตแบบปากกัดตีนถีบต่อไป...

    ...เมื่อรู้ว่าหลานชายไม่ยอมบอกความจริงแน่ เธอจึงเอ่ยต่อ “เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะออกจากโรงพยาบาล”

    “ทำไมล่ะจ๊ะยาย ?” ปรีย์ถามเสียงหลง มองหน้าหญิงชราอย่างไม่เข้าใจ

    “วะ! แพงจักตายห่า! เอ็งจะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย”

    “ก็เอาเงินค่าเทอมมาใช้ก่อนก็ได้นี่”

    “แล้วเอ็งจะเอาที่ไหนจ่ายค่าเทอมฮะ ?”

    “หนูทำงานอีกไม่กี่เดือนก็ได้พอแล้วล่ะจ๊ะยาย.. ยายอย่าฝืนร่างกายเลยนะ พักอยู่ที่นี่ให้แข็งแรงก่อน” หญิงชรามองหลานชายสวมชุดนักเรียนเก่าๆ อย่างเวทนา.. นึกน้อยใจสังขารตนเองที่กลายเป็นภาระให้กับเด็กหนุ่ม

    “หนูกลับก่อนนะจ๊ะยาย” เด็กหนุ่มยิ้มบอก ก้มลงหอมแก้มหญิงชราอย่างแสนรัก

    “เออ.. ทีหลังเอ็งไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ เปลืองค่ารถ” หล่อนสำทับทั้ง ๆ ที่อยากเจอหน้าหลานชายทุกวัน แต่หากเงินตราไม่เอื้ออำนวย ..จะให้ไปกลับทุกวันก็นึกเสียดายเงินค่ารถซึ่งแลกค่าอาหารได้เป็นมื้อ...
 
    เด็กหนุ่มเหลียวมองตู้โทรศัพท์ใต้อาคารอย่างลังเลใจ ก่อนตัดสินใจล้วงเศษเหรียญในกระเป๋าขึ้นหยอดลงตู้ กดเบอร์ในกระดาษที่เพิ่งได้รับมา..

    ติ๊ด.... เสียงสัญญาณดังขึ้นครั้งแรก ปรีย์รู้สึกหวาดหวั่น อยากจะวางสาย แต่ต้องแข็งใจถือรอต่อ

    ติ๊ด.....ครั้งที่สอง.. เด็กหนุ่มรู้สึกกลัว ถ้าปลายสายรับขึ้นมาแล้วจะเริ่มต้นบทสนทนายังไงดี...

    ติ๊ด......ก่อนจะมีครั้งที่สี่ เด็กหนุ่มนึกในใจว่าควรจะวางเสีย แต่กลับมีเสียงแทรกดังขึ้น...

    “ครับ..” เสียงปลายสายทุ้มนุ่ม ฟังดูน่าจะเป็นคนอ่อนโยนไม่น้อย ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกใจชื้นขึ้น ปรีย์อ้ำอึ้ง ก่อนจะเอ่ยถาม
เบาๆ
       
       “เอ่อ.. คุณก้องภพใช่มั้ยครับ ?”

    “ใช่ครับ..”

    “ผมชื่อปรีย์นะครับ”

    “อ๋อ..” ปลายสายส่งเสียงนึกออกเบาๆ ..

    “คุณก้องภพต้องการเจอที่ไหนเมื่อไหร่ครับ ?”

    “งั้นเลิกเรียนพรุ่งนี้เจอกันที่xxx แล้วกัน.. ไปถึงแล้วโทรหาพี่นะ”

    “อะ..ครับ...”

    “เรียกว่าพี่ก้องก็ได้” เขาบอกเสียงละมุนจนเด็กหนุ่มอมยิ้ม... หารู้ไม่ว่าแท้จริงแล้วทุกอย่างมันเริ่มที่จะ ‘ผิดพลาด’

................................................ทูบีคอนตินิว
กีซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ ใส ใส ช่ะมะ  :laugh:แค่บทนำเองเนอะ เหมือนเดิม แจกเป็ด แจกบวกสำหรับแฟนคลับน่ารัก ๆ ทุกคนที่มาช่วยเจิมบ้านใหม่น่ะค่ะ แอบบขอโทษคุณหยดดดด้วยน้า  เก๊าไม่ได้ดู เลยลงชื่อตกเลยง่ะ ลงไป อ่านไป ตรวจคำผิดไป ก็ใจตุ้มต๊อม โดนเพื่อนหลอกมาช่ายม้ายยยยย  :เฮ้อ: ชีวิตน้องคงรันทดอีกเยอะแน่เลย
พีเอสซึ.เค้าว่า ใครมาโพสคนแรกของตอนใหม่ทุกตอน มีของรางวัลเป็นอะไรกันดีน้อ พวกเรา :laugh3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทนำ [11.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: tokyodeef ที่ 11-11-2011 11:37:52
 :z1: ต่อให้อีกนิดนะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทนำ [11.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 11-11-2011 13:47:56
มาต่ออีกเหอะค่า  มันค้าง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทนำ [11.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 11-11-2011 13:54:09
ง่ะ สั้นจังเลยครับ

อยากอ่านยาวๆๆอ่ะ

อัพอีกซักนิดเถอะครับ

 :impress2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 1 [12.11.54]ยาวมร๊ากก
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 12-11-2011 11:35:16
บทที่ ๑

   ซ่า....สายน้ำจากก๊อกถูกสาดใส่เด็กหนุ่มที่เดินผ่าน.. และคนทำไม่มีทีท่าจะสงสารเห็นใจฝ่ายที่เนื้อตัวเปียกโชกแม้แต่น้อย...

    “ฮ่าๆๆ สมน้ำหน้า เหม็นสาบคนจนชะมัด!! ไอ้อัปรีย์!!” เสียงด่าทอดังมาจากร่างสูงใหญ่ท่าทางกวนโอ๊ย ยืนยักคิ้วยิ้มเผล่ให้อีกฝ่ายอย่างสะใจ

    “หยุดเดี๋ยวนี้นะไอ้อาร์ต ไอ้เปรต!” เด็กหนุ่มร่างเล็กเท้าสะเอวชี้หน้าด่าทอ ทั้ง ๆ ที่ตนไม่ได้ถูกกลั่นแกล้งแม้แต่น้อย

    “โว๊ย! อีฟักแฟง อีตุ๊ด!!” อาร์ตป้องปากตะโกนด่าตอบ โดยเปลี่ยนชื่อจากแฟรงค์เป็นฟักแฟง ...ทำให้เด็กหนุ่มร่างเล็กเจ้าของชื่อฮึดฮัดก่อนตะโกนด่าหยาบคาย

    “ไอ้@#%^&*”

    “ไอ้แฟรงค์! พอเถอะ” ปรีย์ทนไม่ไหว เป็นฝ่ายยกมือห้ามทัพน้ำลายที่ตะโกนด่ากันผ่านเขา

    “แต่...ปรีย์!”

    “เดี๋ยวก็แห้ง.. ไม่เป็นไร” ปรีย์บอกเดินนำเพื่อนแยกออกจากตัวต้นเหตุ

    “นิสัยแย่ว่ะ” แฟรงค์พึมพำและบ่นบุ่ยๆ ไปตลอดทางเดิน

    “กูเกลียดมันไม่รู้จะเกลียดยังไงแล้ว!” สุดท้ายร่างเล็กก็ตะโกนออกมาเสียงดังจนคนที่เดินผ่านหันมามอง

    “เกลียดมันทำไม ฮึ๊ ?” ปรีย์ถามด้วยความฉงน..

    “ไอ้ปรีย์! มึงจะเป็นคนดีไปไหน ?” แฟรงค์ถามเสียงฮึดฮัด ...เขาไม่พอใจไอ้อาร์ตมาตั้งแต่เปิดเทอมใหม่ๆ แล้ว ชอบทำตัวเป็นหัวโจก ..ยุ่งจุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง แล้วยิ่งมาแกล้งเพื่อนเขาด้วยนี่สิ...

    “มันนิสัยเหมือนเด็กนี่หว่า..เกลียดไม่ลง..” เด็กหนุ่มบอกเบาๆ ความจริงเขาเคยชินเสียแล้ว กับการถูกกลั่นแกล้ง เพราะเสื้อผ้าซอมซ่อบ่งบอกฐานะอันยากจนมันเป็นจุดเด่นให้ถูกกลั่นแกล้งมาตั้งแต่เด็ก...

    แฟรงค์เด็กหนุ่มชื่อฝรั่งแต่ร่างเล็กอย่างกับเด็กม.๑ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา เขาชอบแกล้งแฟรงค์ด้วยการยกให้ตัวลอยแล้วเหวี่ยงไปมาอยู่เสมอ ซึ่งมักจะถูกแฟรงค์ต่อว่าด้วยเสียงแหลมปรี๊ด เป็นที่เฮฮาของเพื่อนในห้อง…

    ปรีย์คิดว่าตนเองเข้ากับเพื่อนในห้องได้ดี... ยกเว้นก็เสียแต่พวกเด็กรวยๆ ที่มองเขาอย่างขยะแขยง... ราวกับไม่ใช่คน.. รวมถึงอาร์ต.. แต่เขารู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนั้นไม่ได้รังเกียจเขาแบบทั่วๆ ไป..

    “ปรีย์ไปทำความสะอาดลานวัดได้ป่าว ?” เด็กหนุ่มรูปหล่อถามถึงงาน ‘ทำความดี’ ซึ่งตกลงกันว่าจะไปกวาดลานวัดกันทั้งห้องในวันพุธหน้า.. หากแต่ทับเวลางานของเขา...

    “ได้สิ...” ปรีย์บอกยิ้มๆ...หากแต่แท้จริงแล้วเขาอยากเข้าใกล้เชน.... อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้อีกซักนิด...

    เชนเป็นเด็กหนุ่มที่ปรีย์รู้สึกสนใจ... สนใจมากกว่าใครๆ ในห้อง รวมถึงผู้หญิงด้วย... ครั้งแรกที่ปรีย์รู้ตัว เขาเองก็ตกใจ.. หากแต่จะมีใครรู้ ถ้าเขาเก็บไว้เงียบๆ... ไม่บอกใคร...

    “โอเค ไปนะ” เชนทวนคำตอบพลางติ๊กเครื่องหมายถูกในใบรายชื่อ.. หลังชื่อของเขา.... ก่อนผละไปถามคนอื่นต่อ
....................................................

    ปรีย์ยืนรออยู่ตรงตู้โทรศัพท์ตามสถานที่นัดหมายได้ ๕ นาทีแล้ว เด็กหนุ่มแอบตรวจสอบว่าตนเองดูเรียบร้อยดีไหม เขาตัวไม่เล็กไม่ใหญ่ หน้าตาก็ธรรมดา... ไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ไม่รู้ว่าคุณก้องภพลูกค้ารายแรกจะพอใจไหม... ในใจก็ตื่นเต้นกับการรับงานเสี่ยงๆ แบบนี้.. บีบมือหยาบกร้านจากการทำงานหนักตั้งแต่เด็กแน่น.. พลางนึกวาดภาพในใจว่าคุณก้องภพจะมีหน้าตาอย่างไร...

    .. คงต้องเป็นหนุ่มเจ้าสำอางที่ออกจะนุ่มนิ่มเล็กน้อยแน่ๆ เลย ฟังจากการพูดการจาแล้ว... อายุคงราวๆ ยี่สิบปีปลายๆ

    “ปรีย์ใช่ไหมครับ ?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่แน่ใจ เด็กหนุ่มพยักหน้า.. ก่อนหันกลับไปมองชายหนุ่มเจ้าของเสียงร่างสูงใหญ่ด้วยความตกตะลึง..ร่างสูงใหญ่นั้นทำให้เขาตัวเล็กลงถนัดตา..

    คุณก้องภพเป็นชายหนุ่มภูมิฐาน อายุราวๆ สามสิบ ..ดูเหมือนจะเป็นนักธุรกิจ และไม่มีทีท่าให้เห็นว่าเป็นพวกที่มีรสนิยมเช่นนี้ ...แรกสบตาเด็กหนุ่มรู้สึกสะเทิ้นอาย ด้วยใบหน้าสุดแสนธรรมดาและชุดนักเรียนเก่าโทรมไร้ความดึงดูด ..แต่เขาก็ไม่มีทีท่ารังเกียจ

    “กลับได้กี่โมงครับ ?” ชายหนุ่มยิ้ม ชวนคุย มองเด็กหนุ่มที่ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอย่างขบขัน

    “เอ่อ.. ไม่เกินสี่ทุ่มนะครับ” เด็กหนุ่มบอกเสียงตะกุกตะกักด้วยความตื่นเต้น.. เหงื่อเริ่มซึมออกตามฝ่ามือจนต้องแอบเช็ดกับแขน

    “งั้นไปหาอะไรทานกันก่อน” ก้องภพชวนและเดินนำไปร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด

    “ปรีย์อยู่ ม. ไหนแล้วครับ ?” ชายหนุ่มชวนคุยระหว่างรออาหาร

    “ม.๔ ครับ” ปรีย์ตอบเบาๆ นั่งตัวเกร็ง ..เด็กหนุ่มไม่เคยคิดจะเหยียบเข้ามาในร้านแบบนี้เลย... ส่วนก้องภพเหยียดยิ้ม.. ท่าทางเด็กคนนี้จะไม่ได้ย้อมแมวขายอย่างที่เขาเจอบ่อยๆ...

    “อยากดูหนังมั้ย ?” ปรีย์ส่ายหัวพลันวัน.. ตั้งแต่เกิดมาเขาเคยเหยียบเข้าโรงหนังเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยแอบขโมยเงินในกระปุกเพื่อจะไปดูกับเพื่อน พอยายรู้ก็ถูกจับตีเสียก้นลายด้วยเสียดายค่าเงินที่สูญเสียไปมากโขในความรู้สึกของครอบครัวเขา ...และเขาไม่คิดจะเข้าไปอีกเลย...

    “ทำไมล่ะ ?” ก้องภพถามอย่างสงสัย

    “มัน...แพง” ปรีย์ตอบเบาๆ เม้มริมฝีปากแน่น.. นึกว่างานแบบนี้จะมีแค่ทำให้เสร็จๆ แล้วเลิกรากันไปคนละทางเสียอีก... ไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะต้องเที่ยวกับลูกค้าด้วย...

    “พี่จ่ายให้”

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ” เด็กหนุ่มปฏิเสธด้วยความเกรงใจ..

    “ไม่เป็นไรได้ยังไงกัน”

    “เอ่อ.. แล้ว.. ผมจะได้เท่าไหร่ ?”

    “ปรีย์ให้เท่าไหร่ล่ะ ?” เด็กหนุ่มลังเลก่อนตอบตามที่เจ๊ใหญ่กำชับไว้..

    “...หมื่นนึง”

    “ว้า.. พี่มีติดตัวแค่ไม่กี่พันเอง” ชายหนุ่มพูดเชิงหยอกเย้า แต่หากคนที่นั่งร่วมโต๊ะทำหน้าเครียด

    “งั้น.. ผมคงต้องหาลูกค้าใหม่” ปรีย์บอกเบาๆ เม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรง

    “ฮึๆ พี่ล้อเล่น เจ๊ใหญ่สอนมาดีเหมือนกันนะเนี่ย” ก้องภพหยอก.. ทานอาหารเสร็จชายหนุ่มจึงเอ่ยชวนอีกครั้ง

       “ไปดูหนังกันนะ” และไม่รอให้เด็กหนุ่มมีโอกาสขัด จูงมือเดินนำหน้า แต่เมื่อรู้สึกว่าตนถูกยื้อเอาไว้จึงกล่าวย้ำอีกครั้งหนึ่ง

    “พี่จ่ายให้จริงๆ” ….ปรีย์รู้สึกว่าโลกของเขากับชายหนุ่มตรงหน้าช่างต่างกันนักก้องภพจับมือปรีย์ไว้แน่น เด็กหนุ่มรู้สึกอายเมื่อนิ้วมือของตนช่างหยาบกร้าน ต่างจากชายหนุ่มที่มีนิ้วมือเรียวสวยและเนียนนุ่มน่าสัมผัส..

    หลังจากดูหนังรักโรแมนติกสองชั่วโมงเต็ม เด็กหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายและอารมณ์ดียิ่งขึ้น รู้ตัวอีกทีเขาก็มายืนอยู่ในโรงแรมเสียแล้ว

    “อาบน้ำก่อนนะครับ” เด็กหนุ่มบอกเบาๆ อย่างเก้อเขิน

    ปรีย์ลงมือแกะกระดุมออก และนึกได้ว่าเขาควรจะเอาผ้าขนหนูเข้าไปด้วย แต่ถูกมือหนาคว้าตัวเข้าไปกอด ก้องภพสูดดมกลิ่นเหงื่อของเด็กหนุ่มอย่างหื่นกระหาย.. กลิ่นของวัยรุ่นช่างสดชื่นและมีชีวิตชีวาเสียจริง... เขาปรารถนาเป็นผู้พรากความบริสุทธิ์ของเด็กหนุ่มทุกคน และปรีย์คือหนึ่งในเหยื่อของเขา

    ปรีย์หลับตาปี๋เมื่อก้องภพเลื่อนริมฝีปากนุ่มมาสัมผัสริมฝีปากแห้งผากของเขา ..ทั้งๆ ที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่เด็กหนุ่มก็ยังรู้สึกกลัวอยู่ดี...

    ลิ้นเปียกนุ่มของก้องภพบดเบียดเล็มเลียจนริมฝีปากของเด็กหนุ่มเผยออ้าออกแล้วสอดแทรกควานหาความหวานฉ่ำในโพรงปากเล็กอย่างตะกรุมตะกราม ...ปรีย์ถูกรุกเร้าหนักจนเด็กหนุ่มรู้สึกหวาดกลัว.. ชายหนุ่มมีทีท่าต่างจากตอนแรกพบเหลือเกิน...ชายหนุ่มผู้แสนอ่อนโยนคนนั้นหายไป...

    “กลัวเหรอ ?” ก้องภพกระซิบถามร่างที่สั่นเทาในอ้อมแขนของตน สองมือยังคงปะป่ายรุกเร้าร่างเล็กในชุดนักเรียน เด็กหนุ่มพยักหน้าแรงๆ หลบสายตาหวานเยิ้มที่มองอย่างกับจะกลืนกินเขาไปทั้งตัว

    “ไม่ต้องกลัวนะ.. เดี๋ยวก็ดีเอง..”ก้องภพปลอบ ผลักเด็กหนุ่มให้นอนลงบนเตียงสีขาว.. ลงมือถอดชุดของตนออกอย่างรวดเร็ว

    ชายหนุ่มมองร่างที่นอนทอดอยู่บนเตียงอย่างตื่นเต้น ก่อนจะโน้มกายลงทาบทับและยึดครองพื้นผิวทุกตารางนิ้วของเด็กหนุ่ม
 
    ก้องภพมองเด็กหนุ่มสะอื้นด้วยความสงสารและหมดอารมณ์.. ทั้งๆ ที่เขาคิดว่าจะพยายามทำอย่างอ่อนโยน แต่ยังไงเสียร่างกายของเด็กหนุ่มที่ยังไม่โตเต็มที่ก็คงรับเขาไม่ไหว.. เขาคงต้องอดทนรออีกซักนิด…ให้เด็กคนนี้ยอมรับเขาด้วยใจเสียก่อน

    “โอเคๆ ไม่ต้องร้องแล้ว ฉันไม่ทำแล้ว..” ก้องภพถอนหายใจหนัก หยิบทิชชู่ซับเลือดที่เลอะร่างตัวเอง.. ไม่ใช่แต่เด็กหนุ่มฝ่ายเดียวที่เจ็บ ..เขาเองก็เจ็บไม่น้อย

    “แต่.. แต่....”

    “ฉันไม่มีอารมณ์แล้ว บ้านเธออยู่ที่ไหน ฉันจะไปส่ง”

    “แต่ว่าผม!”

    “ค่อยว่ากันวันหลังเถอะ” ชายหนุ่มตัดบท ลุกเข้าห้องน้ำ ....ปรีย์รู้สึกผิดที่ความเจ็บปวดแค่นี้เขายังเก็บมันเอาไว้ไม่ได้... ทำให้คุณก้องภพอารมณ์เสีย.. และดูเหมือนว่างานนี้คงไม่เหมาะกับเขาซักเท่าไหร่...
 
    “อยู่คนเดียวเหรอ ?” ก้องภพถาม มองบ้านไม้ที่เก่าซอมซ่อ.. ไฟปิดมืดสนิท

    “อยู่กับยายสองคนครับ” ปรีย์ตอบ.. รู้สึกเสียใจที่ทำงานผิดพลาด..  คิดโทษความกลัวและความเจ็บหนึบที่ยังคงติดค้างอยู่บริเวณที่ก้องภพพยายามจะล่วงล้ำเข้ามา แต่จู่ๆ ชายหนุ่มก็ยื่นเงินให้ปึกหนึ่ง

    “เอ่อ.. คุณก้องภพครับ ผมรับไว้ไม่ได้..” ปรีย์รีบดันมือหนากลับ..

    “เอาไปเถอะ ยังไงซะฉันก็ทำให้เธอเจ็บ” ก้องภพบอก พยายามยัดธนบัตรสีเทาหลายใบใส่มือหยาบกร้านเกินเด็ก

    “แต่.. คุณยังไม่...” ปรีย์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ.. เขาจะรับเงินนี้ได้อย่างไรในเมื่อยังไม่ทันจะเริ่มอะไรเขาก็ร้องไห้โฮออกมาแล้ว

    พอชายหนุ่มเห็นเขาทำหน้าสำนึกผิดขนาดนั้นจึงเปลี่ยนเรื่อง “เรียกฉันว่าพี่ก้องสิ เธอนี่น้า..”

    ปรีย์ตัดสินใจวางเงินนั้นไว้บนเบาะ แล้วรีบหนีลงจากรถ.. ก้องภพมองร่างเล็กด้วยความฉงน... เขาไม่เคยเจอเด็กแบบนี้เลยจริงๆ... นึกเสียดายหากปล่อยให้ความสัมพันธ์ขาดหาย

    “เดี๋ยว! ...มีเบอร์ติดต่อนอกเวลารึเปล่า ?” ชายหนุ่มเลื่อนกระจกลงตะโกนถาม.. เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกพึงใจเด็กหนุ่มที่ตนเสียเงินซื้อมาและต้องการจะมีครั้งต่อๆ ไป... ปรีย์เป็นเด็กหนุ่มที่ซื่อ และบริสุทธิ์อย่างที่เขาไม่เคยเจอ.. จนรู้สึกอยากได้ทั้งร่างกายและจิตใจ

    “เอ่อ... ผม... ไม่มีโทรศัพท์” เด็กหนุ่มตอบอายๆ

    ก้องภพได้ยินดังนั้นจึงเอื้อมมือหยิบมือถือเครื่องเก่าของเขา.. แต่ยังดูใหม่และมีราคา พร้อมที่ชาร์ตลงไปยื่นให้ปรีย์

    “งั้นเอานี่ไป”

    “ผม.. ผมรับไม่ได้หรอกครับ” เด็กหนุ่มปฏิเสธอีกครั้ง มองมือถือในมือของชายหนุ่มหน้าแหย.. ถ้าเขาพกไว้ต้องถูกหาว่าขโมยมาแน่ๆ...

    “เอาไปเถอะหน่า จะได้ติดต่อกันได้ไง”

    “ตะ.. แต่.. ผมค่อยโทรหาคุณก็ได้”

    “ดื้อจัง! เก็บเอาไว้ ฉันจะใช้โทรหา เข้าใจรึเปล่า”

    “แต่..”

    “ไม่มีแต่.. เชื่อพี่นะครับ” ก้องภพเปลี่ยนไปใช้สรรพนามใกล้ชิดอีกครั้ง ...ทำให้เด็กหนุ่มลังเลใจ ...ก่อนยื่นมือรับ

    “....ขอบคุณครับ พี่ก้อง....” และเอ่ยขอบคุณเบาๆ....


................................................ ทูบีคอนตินิว
 :laugh: ยาวพอไหมค่ะ ฝากน้องปรีย์ ผู้ใสซื่อ ไว้ด้วยน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 1 [12.11.54]ยาวมร๊ากก
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 12-11-2011 13:03:30
กรี๊ดดดด   ได้โปรดมาต่ออีกเหอะนาาาาาา
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 1 [12.11.54]ยาวมร๊ากก
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 12-11-2011 14:04:32
สงสารสังเวช หดหู่ใจ
ทำไมชีวิตมันรันทดแบบนี้
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 13-11-2011 17:06:34
บทที่ ๒

 เด็กหนุ่มมองเงินในกล่องเหล็กขึ้นสนิมที่ร่อยหลอ.. ยายของเขาไม่มีทีท่าดีขึ้นเลย.. อีกไม่กี่วันเงินต้องหมดแน่ๆ... งานประจำก็ยังไม่ถึงสิ้นเดือน ...เขาไม่มีหน้าไปรับงานอื่นจากเจ๊ใหญ่แล้ว... เมื่อวานเขาบากหน้าไปบอกเธอเรื่องที่ทำงานผิดพลาด โดนโวยวายเสียยกใหญ่... ยังดีที่เธอไม่รู้ว่าเขาทำให้คุณก้องภพไม่พอใจ... ไม่เช่นนั้นอาจโดนเยอะกว่านี้..

    เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งด้วยความไม่คุ้นชิน.. ปรีย์เอื้อมมือรับสายอย่างเก้ๆ กังๆ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่มือถือเครื่องนี้มาอยู่กับเขา แล้วมีสายโทรเข้ามา...

    “ครับ...” ปรีย์กรอกเสียงลงในมือถือเครื่องเล็กกะทัดรัด พอดีกับมือของเขา

    “ปรีย์เหรอ.. พี่โทรมาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับ” ปลายสายโวยวาย เขาโทรหาเด็กหนุ่มตั้งแต่เมื่อวาน.. ก้องภพคิดในแง่ร้ายว่าปรีย์แลกมือถือของเขาเป็นเงินไปเสียแล้ว...

    “ผมทำงานน่ะครับ มือถืออยู่ที่บ้าน”

    “อ้าว! แล้วไม่เอาติดตัวไว้ล่ะ ?” ก้องภพถามอย่างฉงน..   โทรศัพท์มือถือเขามีเอาไว้ให้พกติดตัวไม่ใช่หรือไง ?

    “ผมกลัวทำหายน่ะครับ...” เด็กหนุ่มตอบเขินๆ

    “เธอนี่น้า... พรุ่งนี้ว่างรึเปล่า ?”

    “ทำไมเหรอครับ ?”

    “พี่อยากเจอเราน่ะ” ปลายสายหยุดคิดถึงตารางงานของตน ก่อนเอ่ยตอบ

    “เอ่อ..ก็ได้ครับ” เสียงของปรีย์มีท่าทีลังเลจนก้องภพจับน้ำเสียงได้..

    “ไม่ว่างเหรอ ?”

    “ไม่หรอกครับ...” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มปิดความกังวลไว้ไม่มิด.. เขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่บาร์แห่งหนึ่งโดยโกหกอายุ ...ถ้าลางานอีกครั้งต้องถูกหักเงินเดือนแน่ๆ... แต่หากจะปฏิเสธก็เกรงใจชายหนุ่มเช่นกัน...

    “งั้นเจอกันพรุ่งนี้ ที่เดิมนะ” ก้องภพเอ่ยตัดบท ไม่ปล่อยโอกาสให้ปลายสายปฏิเสธได้อีก

    “ครับ...”

    “พี่ก้อง...” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะวางสาย..

    “ขอบคุณนะครับ..”

    “ขอบคุณเรื่องอะไร ?” ก้องภพถามอย่างฉงน

    “ที่พี่ไม่บอกเจ๊ใหญ่เรื่อง...”

    “อ้อ.. พี่ไม่คิดมากหรอก” ชายหนุ่มแทรกบอก กลั้วหัวเราะ.. ในใจกระหวัดคิดว่าเขาจะต้องครอบครองเด็กคนนี้ให้ได้..

    “ขอบคุณมากๆ นะครับ” ปรีย์กล่าวของคุณอีกครั้งด้วยความเต็มตื้น.. ก้องภพเป็นผู้ใหญ่ที่ใจดีกับเขาเหลือเกิน..

    “ไม่เป็นไร ...ฝันดีนะ”

    “ครับ.. ฝันดีนะครับ...” เด็กหนุ่มยิ้มบอกเบาๆ ก่อนจะมองแสงไฟจากหน้าจอดับไป... แล้วหุบยิ้มลง....
 
     “ปรีย์เป็น’ไรวะ หน้าตาดูไม่ดี” แฟรงค์อดถามเพื่อนไม่ได้ มือเล็กๆ ตบไหล่เขา

    “นอนไม่ค่อยหลับน่ะ ช่วงนี้” ปรีย์ตอบ.. เขากังวลกับเรื่องเงินจนไม่เป็นอันทำอะไร..

    “มีปัญหาอะไรป่าว ?” เด็กหนุ่มถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง

    “นิดหน่อยน่ะ ไม่เป็นไรหรอก..”

    “มีอะไรก็บอกได้นะเพื่อน..” เขาย้ำอีกครั้งมองใบหน้าหมองๆ ของเพื่อนรักเศร้าๆ.. บางครั้งปรีย์ก็ดูปิดกั้นตัวเองจนเขานึกน้อยใจไม่ได้ว่าเขาเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ หรือเปล่า.....

    ภายในห้องเรียนมีเสียงเอะอะโวยวาย.. เป็นอาร์ตเจ้าเก่าที่หัวเราะเริงร่าและสมุดของปรีย์ที่เปียกและขาดยุ่ย

    เด็กหนุ่มมองสมุดเปียกชื้น ในใจก็นึกเสียดาย... นี่ต้องเสียเงินซื้อใหม่อีกเหรอเนี่ย... โชคยังดีที่ขาดไปแค่เล่มเดียว ส่วนเล่มอื่นนั้นเพียงแค่เปียก.. ทิ้งไว้ให้แห้งมันก็จะพองแต่ก็ยังใช้ได้อยู่...

    “ไอ้อาร์ต!!” แฟรงค์ตะโกนเรียกชื่อด้วยความโมโห เข้าไปตะลุมบอนกับเด็กผู้ชายตัวใหญ่ที่ชอบแกล้งเพื่อนเขา พอรู้ด้วยอีกทีแฟรงค์กับอาร์ตก็ถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองเรียกตัวไปแล้วทั้งคู่...

    “อะ... ปรีย์” เชนยื่นสมุดเล่มบางให้เขา ปรีย์มองและรับมันมาอย่างงงงัน

    “ข..ขอบคุณ...” เด็กหนุ่มกล่าวขอบคุณเบาๆ ...แบบนี้เขาก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่แล้วน่ะสิ... พอคิดได้เช่นนั้นก็ยิ้มออก...

    “ไม่เป็นไรหรอก ของเราเหลือเยอะน่ะ”

    “ขอบคุณมากนะ...เชน” ปรีย์บอกด้วยรอยยิ้มกว้าง ในใจของเด็กหนุ่มรู้สึกพองโต.. เชนใจดีกับเขาจังเลย...
 
    “มาช้านะ..” ก้องภพเปรยยิ้มๆ มองเด็กหนุ่มที่ยืนหอบแฮ่ก หน้าแดง..

    “ขอโทษครับ..” ปรีย์บอกอย่างสำนึกผิด.. เขาต้องทำเวรแล้วก็ถูกแฟรงค์ยื้อเอาไว้ กว่าจะปลีกตัวมาได้..

    “ไปกันเถอะ..” ชายหนุ่มเอ่ยชวน แต่จู่ๆ สายสิญจน์ที่ยายผูกให้เขาตั้งแต่เด็กก็ขาด... เด็กหนุ่มพยายามคิดว่ามันคงจะเก่าแล้ว เชือกคงจะเปื่อยจนขาดหลุดออกมา.. แต่ว่าอดคิดถึงยายไม่ได้.. บางทีมันอาจจะเป็นลางร้าย...

    “เดี๋ยว.. เดี๋ยวครับพี่ก้อง...” ก้องภพหันมาเลิกคิ้วให้เขาเป็นเชิงถาม

    “พี่เรียกผมมามีอะไรเหรอครับ ?”

    “พี่อยากเดินซื้อของเล่นๆ น่ะ” คำตอบของเขาทำให้เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น.. เขาลางานเพื่อมาเดินซื้อของเหรอเนี่ย...

    “ขอไปโรงพยาบาลก่อนได้ไหมครับ”

    “ทำไมล่ะ ?”

    “คือ.. ยายของผมอยู่โรงพยาบาลน่ะครับ”

    “ซื้อของกับพี่ก่อนซิ ค่อยไปก็ได้...”

    “...ครับ” ..ปรีย์ปฏิเสธไม่ได้.. เด็กหนุ่มได้แต่เก็บความกังวลไว้ในใจ...

    ก้องภพซื้อเสื้อและกางเกงวัยรุ่นขนาดพอๆ กับเขา ยิ้มให้บางๆ.. ตอนแรกปรีย์อดคิดไม่ได้ว่าก้องภพซื้อให้เขา.. แต่.. เขาไม่มีค่าอะไรที่ก้องภพจะต้องซื้อของให้ซักหน่อย.. เด็กหนุ่มรีบสลัดความคิดงี่เง่าทิ้ง...ดูเหมือนเขาเข้าข้างตัวเองไปหน่อย...

    “ชอบตัวนี้ไหม ?” ชายหนุ่มถาม หยิบเสื้อยืดทาบกับตัวเขา.. ปรีย์ผงกหัวหงึกหงัก ...พอได้เห็นความแตกต่างระหว่างเสื้อใหม่สีสันสดใสกับเสื้อนักเรียนเก่าโทรมของเขาแล้ว เด็กหนุ่มก็คิดว่าตัวไหนก็ดูดีทั้งนั้น....

    ก้องภพพาเขาเดินวนเกือบ ๒ ชั่วโมง เด็กหนุ่มรู้สึกเมื่อยล้าและกระวนกระวาย... หากแต่ต้องปกปิดไว้ให้มิดชิด จนเมื่อชายหนุ่มรู้สึกว่าของที่เลือกซื้อนั้นมีจำนวนมากจนน่าพอใจ เขาจึงเอ่ยชวนกลับ

    ก้องภพแอบยิ้ม เขาสังเกตตลอดขณะเลือกซื้อของว่าเด็กหนุ่มชอบตัวไหน... อยากได้ตัวไหน รีบชี้สั่ง ไม่สนใจราคาค่างวดของมัน.. ยิ่งเห็นร่างเล็กมองตาละห้อย แอบกลืนน้ำลายเอื้อก เมื่อเห็นป้ายราคาแล้ว เขายิ่งรู้สึกกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ภายในใจ

    “ปรีย์ชอบเสื้อผ้าที่พี่เลือกวันนี้มั้ย ?” ชายหนุ่มเอ่ยถาม ..ปรีย์สบตากับเขา พยักหน้าหงึกหงัก

    “พี่ยกให้เราทั้งหมดเลย” คำพูดของก้องภพทำเอาปรีย์อ้าปากเหวอ รีบปฏิเสธ

    “ม.. ไม่ได้หรอกครับ! พี่ก้อง...”

    “ไม่อยากได้เหรอ ?” ก้องภพถามยิ้มๆ.. เขารู้ว่าเด็กหนุ่มอยากได้....

    “เอ่อ...ก็อยากครับ แต่....”

    “เอาแบบนี้ดีกว่า.. มาแลกเปลี่ยนกัน.....” ก้องภพเสนอข้อแลกเปลี่ยนที่ทำเอาเด็กหนุ่มกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่... จะปฏิเสธก็ไม่ได้ เพราะก้องภพยัดเยียดของพวกนี้ให้เขาเหลือเกิน ...ไม่ใช่สิ... เขาอยากได้ของพวกนี้ต่างหาก....
 
    ภายในห้องสี่เหลี่ยมคับแคบ ...ก้องภพนั่งนิ่งมองดูริมฝีปากบางด้วยความตื่นเต้น.. เขาจะกัดกิน แทะเล็มเด็กคนนี้ทีละช้าๆ...

    ...ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มของเด็กหนุ่มมองอย่างชั่งใจก่อนกลืนน้ำลายอึกใหญ่ และเผยอริมฝีปากออกกลืนกินร่างของชายหนุ่ม

    ก้องภพครางด้วยความพึงพอใจ ถึงแม้โพรงปากเล็กๆ ของเด็กหนุ่มจะไม่สามารถรับเขาได้หมด แต่ก็อุ่นนุ่มและบีบรัดเขา

    “อย่าให้โดนฟันนะ” ชายหนุ่มย้ำเตือนด้วยน้ำเสียงแหบพร่า.. ปรีย์เรียนรู้ได้เร็วกว่าที่เขาคิด.. ถ้าได้สอนอีกซักหน่อยต้องเก่งแน่ๆ.. มือเรียวเอื้อมไปลูบผมเส้นผมนุ่มอย่างกระสัน

    ปรีย์รู้สึกผะอืดผะอม มันคาวขม และมีกลิ่นอับเล็กน้อย.. แต่พอเห็นสีหน้าพึงพอใจของก้องภพแล้วเขาจำต้องทำต่อไป...

    ก้องภพครางลั่นไม่สนใจว่าตนอยู่ในห้องน้ำชาย จับศีรษะทุยแล้วกระแทกกายใส่จนปรีย์แทบสำลัก เด็กหนุ่มพยายามเอื้อมมือดันหน้าท้องของชายหนุ่มออก แต่ไม่สามารถต้านทานได้

    จวบจนเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ก้องภพหายใจหนักมองดูเด็กหนุ่มไอโขลก หน้าแดงก่ำ มือเล็กแต่หยาบกร้านเกินวัยยกขึ้นเช็ดริมฝีปากที่มีน้ำสีขุ่นเลอะ

    ปรีย์ผะอืดผะอม อยากล้วงคออ้วกเอาสิ่งที่ถูก ‘ยัดเยียด’ ให้กลืนเข้าไปออกมาให้หมด เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำไม่ต่างอะไรเลยกับการขายตัว.. หากแต่ไม่รู้จะปฏิเสธเช่นไร..

    “ขอโทษที..” ก้องภพบอกเบาๆ เอื้อมมือแตะริมฝีปากบางนั้น แต่ปรีย์เบือนหน้าหลบ ..เขารู้สึกดีจนลืมตัวไปหน่อย.. และดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่ชอบใจนัก

    “พี่จะไม่ทำแบบนี้อีก..” ก้องภพให้คำสัญญา ..เด็กหนุ่มไม่ตอบอะไร รีบออกจากห้องน้ำไปยังอ่างล้างหน้าและบ้วนปาก.. แต่ล้างยังไงรสชาติของมันก็ยังคงอยู่ในคอ 

    “เดี๋ยวพี่ไปส่ง..” ชายหนุ่มพยายามเอาใจ.. ปรีย์พยักหน้าเบาๆ และพากันออกไปจากห้องน้ำ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาหนึ่งจับจ้องเขาทั้งคู่อยู่ตลอด....
 
    เด็กหนุ่มมองดูร่างซูบซีดของหญิงชราที่มีผ้าขาวปิดคลุมใบหน้า.. ยายของเขา

    “ยาย... ยายจ๋า... หนูมาแล้วนะ...” เด็กหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงแหบเครือ ..กอดร่างเล็กๆ ผอมแห้งไว้แน่น ….ผิวหนังเหี่ยวย่นที่เคยอบอุ่นบัดนี้เย็นชืด....

    “หนูขอโทษจ๊ะยาย..” ปรีย์สะอื้น น้ำตาไหลออกจากดวงตาคู่สวย เขาได้แต่นึกเสียใจที่เอาเวลาไปเที่ยวเล่น จนทำให้เสียสิ่งที่สำคัญที่สุดไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว

    เด็กหนุ่มไม่มีแม้แต่เงินจะจัดงานศพให้หญิงชรา....

    คืนนั้นเขาได้แต่ร้องห่มร้องไห้ นึกอยากทิ้งเสื้อผ้าสวยๆ ที่ได้ แลกกับการได้หนึ่งชีวิตคืนมา...
......................................ทูบีคอนตินิว
 :m31:ไม่อยากลงต่อแ้ล้วววว มันรันทดง่ะ ต้องมีน้ำตาทุกตอนเลยหรือ แล้วคนอ่านน่ะ ไปไหนกันหมดดด ยังติดตามกันอยู่ไหมมม :o12: เครียดโว้ยยยย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 13-11-2011 17:48:13
 o22  ง่า.....แล้วใครแอบมาเห็นเนี่ย......

 :sad4: รัดทดโครตๆ.....ดูแล้วตาพี่ก้องนี่จะแอบจิตเปล่าเนี่ย..แบบว่าชอบฟันเด็ก....

  :L1: น้องปรีย์สู้นะคะ....

 :กอด1: คนแต่ง  :pig4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: POPEA ที่ 13-11-2011 17:59:51
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ~ :a5: ตกใจกับที่คิดเรื่องความหมายของชื่ออ่ะ
อ่านแล้วเครียด ชีวิตดราม่า หม่ำมาม่าจนอิ่มเลย :m15:
อย่าเครียดนะีคนเขียน ติดตามๆ จ้า
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 13-11-2011 18:35:20

:m16:     อีก้องภพชาติชั่วระยำหมามาก ๆ       


ตาอาร์ตที่แกล้งเค้านี่ชอบเค้าชิป่ะ


พ่อเชนนี่คงเป็นได้แค่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ รึเปล่าหนอ

น้องปรีย์รอฟ้าหลังฝนนะลูกนะ  คงจะมีซักวัน     (http://www.yenta4.com/msn/emoticon/yoyo/yenta4-emoticon-0171.gif)
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-11-2011 19:27:58
เรื่องนี้ คุ้นๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ycrazy ที่ 13-11-2011 21:07:17
 :m15:อ่านกี่รอบก็สงสารปรีย์
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 13-11-2011 22:58:25
แค่สองตอนแรกก็ไม่ไหวแล้ว สงสารปรีย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-11-2011 23:55:53
มาต่ออีก พลีสสสส
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 13-11-2011 23:58:54
นิยายเรื่องนี้ทำเค้าร้องไห้ ชอบที่สุดในสามโลก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: vascular ที่ 14-11-2011 02:06:36
"สายตาที่จับจ้องอย่างไม่รู้ตัว" จะเป็นนิยายรันทด ปนสยองขวัญรึป่าวครับนี่
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-11-2011 13:25:36
ชีวิตรันทดเหลือเกิน :z3:
เ้ข้มแข็งไว้ลูก :fire:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 2 [13.11.54] มาอ่านกันน่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 14-11-2011 13:55:11
ตกลงอีตาก้องภพนนี่เปนคนดีป่ะเนี่ยะ?
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 14-11-2011 16:28:10
บทที่ ๓

    “พี่กล้า พี่ก้องมาบอกกับเมย์ว่าเขาจะเลี้ยงเด็ก” เสียงหวานของหญิงสาวปลายสายสั่นเครืออย่างควบคุมไม่อยู่

    “...ก็ดีนี่” กล้าหาญตอบเรียบๆ.. พี่ก้องกับเมย์แต่งงานกัน 2 ปีแล้ว และไม่มีวี่แววว่าจะมีลูกเสียที...

    “ไม่ใช่เด็กแบบนั้น หมายถึงเมียเก็บ” เมย์อธิบายเสียงแหลม เม้มปากแน่น.. ก้องภพไม่เคยมีท่าทีอยากเลี้ยงดูใครแบบนี้มาก่อน แล้วจู่ๆ ก็มาบอกเธอว่าจะพาเด็กที่ไหนไม่รู้เข้าบ้าน.. มีเหรอที่ภรรยาอย่างเธอจะยอม!

    “...งั้นเหรอ..” ชายหนุ่มตอบรับ แม้จะแปลกใจแต่ยังคงน้ำเสียงระดับเดิม..

    “พี่กล้าต้องช่วยเมย์นะ พี่ก้องบอกว่าจะฝากเด็กคนนั้นไว้ที่บ้านพี่กล้า”

    “ทำยังไงก็ได้ให้เด็กคนนั้นออกไปจากชีวิตพี่ก้องซะ” ได้ยินเช่นนั้นกล้าหาญก็เลิกคิ้ว.. เมย์ร้ายกว่าที่เขาคิดเสียอีก...

    “แต่พี่ก้องกับเมย์ตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอ ?” ชายหนุ่มเอ่ยถึงสัญญาการอยู่ร่วมกันของทั้งคู่ที่เคยร่างไว้ด้วยกันก่อนแต่ง...

    “ใช่! เราตกลงกันว่ามีอะไรกับผู้ชายก็ได้ แต่ห้ามรัก!” เสียงแหลมหวีดร้องจากปลายสายทำให้ชายหนุ่มต้องยกมือถือออกห่างเล็กน้อย ก่อนเอ่ยตอบเสียงเรียบ

    “พี่ก้องก็ไม่ได้บอกว่ารักนี่..”

    “แต่พี่ก้องจะเอาเด็กคนนั้นมาเลี้ยงดู! พี่กล้าเข้าใจไหม ?!”

    “...ไม่เข้าใจ.. เลี้ยงดูไม่ได้แปลว่าพี่ก้องจะรักนี่” ชายหนุ่มยังคงคำตอบเช่นเดิม... เขาไม่รู้ว่าก้องภพรักเด็กคนนั้นหรือไม่ แต่ ณ เวลานี้เขาต้องการเพียงแค่ตัดบทการสนทนานี้ ...เมย์อารมณ์ร้อนจนเขาไม่สามารถพูดคุยให้เข้าใจกันได้...

    “พี่กล้า!!” เธอหวีดเสียงร้องอย่างขัดใจ ..เมื่อกล้าหาญไม่เข้าข้างเธอ

    “เอาเป็นว่าเมย์อย่ากังวลดีกว่า.. พี่จะคอยดูให้ว่าพี่ก้องเขาอะไรยังไง” ชายหนุ่มเอ่ยแกนๆ ทั้งให้ความหวัง และไม่ให้ความหวังก่อนตัดสาย

    ...เขาถอนหายใจหนัก.. ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองต้องเป็นคนรับผิดชอบชีวิตคู่ของพี่ชาย ด้วยเหตุที่เมย์เคยเป็นมือที่สาม จนทำให้เขากับแฟนเกือบเลิกรากัน.. แต่จู่ๆ ก้องภพก็เสนอตัวขอแต่งงานกับเมย์เพื่อกันให้เธอออกห่างจากเขา และเธอก็ยอมแต่งงานด้วยทั้งๆ ที่รู้ว่าก้องภพเป็นเกย์.. เขารู้ว่าเมย์แม้ไม่ได้เป็นคนรักก็ยังคงอยากอยู่ใกล้เขา.. แต่หากความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ก้องก็เป็นไปด้วยดี...จนวันนี้ก้องภพกลับมาคบกับผู้ชายอีก.. เขาเลยรู้สึกว่าตนเองต้องมีส่วนช่วยให้เธอกับก้องภพกลับมามีความสัมพันธ์กันอย่างเดิม...
 
    แล้ววันนั้นก็มาถึง.. ก้องภพพาเด็กผู้ชายคนหนึ่งมาฝากไว้กับเขา.. ใบหน้าของเด็กหนุ่มดูเศร้าหมองและอิดโรย ดวงตาแดงช้ำ จมูกแดงเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้มา ..สะพายเป้เก่าๆ ในมือถืออัฐิไว้ไม่ยอมปล่อย..

    “นี่น้องชายพี่ กล้าหาญ.. เรียกพี่กล้าก็ได้..” ก้องภพเอ่ยแนะนำเขาด้วยเสียงนุ่ม... เด็กหนุ่มคนนั้นเหลือบมองเขา และยกมือที่ถืออัฐินั้นไหว้

    “กล้านี่ปรีย์นะ” ก้องภพแนะนำเขาให้รู้จักเด็กหนุ่ม.. กล้าหาญมองสำรวจเด็กที่เมย์เรียกว่า ‘เมียเก็บ’ ของก้องภพ.. ไม่มีอะไรโดดเด่น น่าสนใจ... นอกเสียจากดวงตาสวยหม่นสีน้ำตาลเข้มคู่นั้น.. เขาแปลกใจที่ก้องภพเลือกเด็กคนนี้...

    “ให้ปรีย์อยู่ที่นี่ไปก่อนได้มั้ย ?” ก้องภพเอ่ยหลังจากปล่อยให้ปรีย์นั่งอยู่ในห้องรับแขก ส่วนเขาพาน้องชายออกมาพูดคุยหน้าบ้าน..

    “ทำไมไม่ไปอยู่บ้านพี่ล่ะ ?” กล้าหาญเอ่ยถาม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเมย์ไม่ยินยอม

      “เมย์โวยวาย ไม่ยอมท่าเดียว.. กว่าจะลากเด็กคนนี้มาได้ก็แย่เหมือนกัน” ก้องภพถอนหายใจเบาๆ ..

    “เด็กอายุเท่าไหร่ ?”

    “สิบหก” คำตอบของก้องภพทำเอากล้าหาญแทบหยุดหายใจ...

    “พี่ก้อง! เด็กมันยังไม่โตเลยนะ นี่พี่...”

    “ยังเว้ย! ยังไม่ได้ทำอะไร..” ก้องภพรีบปฏิเสธ ก่อนที่น้องชายของเขาจะเข้าใจอะไรผิด.. ถึงแม้ชายหนุ่มจะล่วงเกินไปแล้วนิดหน่อย แต่ก็ไม่ถือว่าเต็มสูตร... ล่ะมั้งนะ...

    “ถ้าทำ พี่ได้เข้าไปนอนคุกแน่ๆ” กล้าหาญเปรย สังเกตสีหน้าที่ไม่ค่อยดีของพี่ชายตน... แล้วจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

    “แล้วคิดยังไงพาเด็กนี่มา..”

    “ไม่รู้สิ.. ถูกชะตา” ก้องภพตอบเปื้อนยิ้ม.. ชายหนุ่มเลิกคิ้ว... หากพี่ชายของเขามีความสุขเมื่ออยู่กับเด็กคนนี้แล้ว เขายอมช่วยก็ได้....

    “ผมให้อยู่บ้านนี้ก็ได้..” ก้องภพคลี่ยิ้มทันทีเมื่อได้ยินคำตอบ

    “แต่พี่ต้องสัญญาก่อน ว่าจะทำตัวเหมือนเดิมกับเมย์” แต่ประโยคถัดมาทำให้เขาขมวดคิ้วมุ่น และรีบแก้ตัว...

    “พี่ก็ทำตัวเหมือนเดิม แต่เมย์น่ะระแวงพี่ตลอด”

    “ก็พี่ทำตัวไม่น่าไว้ใจ.. ผมจะคุมเด็กคนนี้ให้เข้มเลย”

    “ฮึๆ.. เออ ฝากด้วยแล้วกัน ขอพี่คุยกับปรีย์ก่อน” ก้องภพหัวเราะในลำคอ ตบไหล่น้องชายเบาๆ และเดินเข้าไปในบ้าน เด็กหนุ่มคนนั้นยังคงนั่งเงียบ กอดเข่ามองอัฐิที่ตั้งอยู่ ราวกับหากเพ่งสมาธิจ้องมากๆ จะทำให้มันลอยขึ้นได้..

    “ปรีย์...” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม ..

    “จะให้ผม.. อยู่ที่นี่จริงๆ เหรอ ?” ปรีย์ถามเสียงเครือ.. เขาไม่อยากจากบ้านหลังนั้น แต่พี่ก้องไม่ยอม.. เขาบอกว่าอยู่คนเดียวในบ้านไม้โทรมๆ แบบนั้นไม่ปลอดภัย พยายามหว่านล้อมให้เขามาพักอยู่ที่นี่ และกลับไปบ้านนั้นเวลาไหนก็ได้...พอเขาขัดขืนมากๆ เข้า ก้องภพจึงบุกเข้าไปในบ้าน และเก็บข้าวของใส่เป้ ลากเขาออกจากบ้าน.. พามายังที่นี่...

    “ใช่.. น้องชายพี่ไว้ใจได้..” ชายหนุ่มเอ่ย โอบประคองร่างเล็กๆ ไว้ในอ้อมแขน..

    “พี่ก้อง.. อยากได้อะไรจากผม ?” ปรีย์เอ่ยถามเสียงเบา มองชายหนุ่มอย่างเคลือบแคลง...

    …ก้องภพนิ่งอึ้ง... ก่อนยิ้มละมุนเอ่ยตอบ..

    “ไม่มีอะไรที่พี่อยากได้.. แต่พี่อยากให้เธอได้พบกับสิ่งดีๆ บ้าง..” …ใครจะบอกความจริงว่าเขาต้องการเป็นผู้ครอบครองเด็กหนุ่มคนนี้เล่า.. สู้หาคำพูดที่สวยหรูเอาชนะจิตใจของเด็กหนุ่มเสียดีกว่า...

    ปรีย์ได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าตนเองช่างโชคดีเสียจริง ที่ได้รู้จักกับก้องภพ.. บางทีเขาอาจดูคนผิดไปก็ได้....

    “แล้วพี่ก้อง.. จะมาหาผมอีกมั้ย ?” คำถามทำให้ก้องภพคลี่ยิ้ม...

    “มาสิ.. พี่จะมาหาปรีย์บ่อยๆ นะ..” ก้องภพตอบ โน้มใบหน้าลงสัมผัสกลีบปากบาง.. นึกดีใจที่เด็กหนุ่มเริ่มโอนอ่อนให้เขาแล้ว...
 
    หลังจากก้องภพจากไป เด็กหนุ่มยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตากลมเหลือบมองชายหนุ่มที่เพิ่งรู้จักอย่างกล้าๆ กลัวๆ ...กล้าหาญต่างจากพี่ชายของเขามาก.. ใบหน้าหล่อเหลาเรียบตึงอยู่ตลอด.. ดูเงียบขรึม จนไม่กล้าที่จะเข้าใกล้...

    “พ..พี่กล้า..” ปรีย์ตัดสันใจเรียกชื่อเขาเบาๆ... กล้าหาญไม่ตอบ เพียงแต่หันมามองหน้าเขา..

    “ทานอะไรมั้ยครับ ?” คำถามออกจากริมฝีปากบางตะกุกตะกัก.. แต่ชายหนุ่มไม่ตอบ.. ถามคำถามกลับ

    “เธอกับพี่ก้องรู้จักกันได้ยังไง ?” เด็กหนุ่มนิ่ง.. เขาไม่กล้าบอกว่าตนเองขายตัว..

    “เอ่อ.. ผม..เจอกันที่xxx น่ะครับ” กล้าหาญเลิกคิ้ว.. หรี่ตามองเด็กหนุ่ม...

    “งั้นเหรอ ?”

    “ได้ข่าวว่าพี่ก้องชอบออฟเด็กบ่อยๆ ฉันก็นึกว่าเธอ....” คำพูดของเขาเหมือนจะเป็นการบอกกลายๆ ว่าเขารู้อยู่แล้วว่าปรีย์รู้จักก้องภพได้อย่างไร..  เด็กหนุ่มรู้สึกเสียใจที่ตนเองพูดปด...

    “...” กลายเป็นฝ่ายนิ่งเงียบ...

    “กินอะไรรึยังล่ะ ?” กล้าหาญจึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม.. ปรีย์ส่ายศีรษะ.. เขาไม่ได้กินอะไรมาสองวันแล้ว.. และกำลังเริ่มรู้สึกหิว...

    “มีกับข้าวอยู่ในตู้ เอาไปอุ่นแล้วกัน..” เด็กหนุ่มพยักหน้าเบาๆ กำลังจะหมุนตัวไปห้องครัว ชายหนุ่มก็เรียกไว้...

    “เดี๋ยว.. ตามฉันมา..” ปรีย์มองเขางงๆ แต่ก็เดินตามไปชั้นบนโดยดี กล้าหาญเปิดห้องที่แฟนเก่าของเขาเคยใช้.. ก่อนที่เมย์จะเข้ามาและทำให้เธอเก็บข้าวของหนีออกไป... และไม่กลับมาอีก...

    “ใช้ห้องนี้ไปก่อนแล้วกัน..”

    “ผม.. ผมนอนข้างล่างก็ได้ครับ” ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกเบาๆ ..เป็นเด็กขี้เกรงใจเสียด้วย...

    “เธอจะมาอยู่บ้านนี้นี่... นอนในห้องแบบนี้แหละ” กล้าหาญบอกและเดินลงจากบันได ปรีย์รีบเดินตาม และเอ่ยขอบคุณ

    “เอ่อ.. ขอบคุณมากนะครับ..” ชายหนุ่มหันมายิ้มมุมปากให้เขา.. ปรีย์คิดไปเองหรือเปล่าว่าใจตนเองกำลังเต้นแรง.. กล้าหาญใจดีกว่าที่เขาคิด....
.........................................ทูบีคอนตินิว
 o22ต๊กใจมากมาย เห็นเจ๊สองมาเยือน นึกว่าทำไรผิดไปวะ่กู แฮ่ะแฮ่ะ ระแวงสุดฤทธิ์ ขอบคุณแฟนคลับคุณหยดทุกคน ที่ยังติดตามเรื่องนี้ และจำเรื่องนี้ได้ ตามกันต่อไปน่ะค่ะ มันก็ต้องมีช่วงแห่งความสุขให้น้องปรีย์บ้างละวะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-11-2011 16:33:15
จิ้มก่อน :z13:
แล้วแปะ
*****************
ขอให้มีความสุขบ้างเหอะ อยากเห็นตอนมีความสุขเยอะๆ
ถ้าอยู่ใกล้ๆจะกอดให้ความอบอุ่นเสียหน่อย :กอด1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 14-11-2011 17:48:24
โอ๊ย เมื่อวานอ่านก็เม้นไม่ได้ 
มาเม้นวันนี้ซะเรย  คุณกล้าหาญนี่ท่าทางจะเป็นพระเอกป่าวครับ

โอม~ไม่ม่า  ไม่ม่า  ไม่ม่า  สาธุ ขอให้ไม่มาม่ามาก (รึเปล่าว่ะ)

รักคนแต่ง แอนด์ คนโพส มาก ๆ ครับผม
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 14-11-2011 19:44:14
 
ขอพ่อกล้าเป็นคนดีซักคนเถ๊อะ     :m5:


หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 14-11-2011 20:54:28
แจกสามพยางค์......

ดรา ม่า ชัวร์    :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 15-11-2011 10:03:24
 o22. ม่าม่ารสหมูสับ o22
มาต่อบ่อยๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 15-11-2011 15:48:57
บทที่ ๔

    ก้องภพเซ็นเอกสาร ฮัมเพลงอารมณ์ดี.. เย็นนี้เขาตั้งใจจะไปหาปรีย์ที่บ้านของกล้าหาญ ชายหนุ่มเหลือบมองนาฬิกา.. จวนจะห้าโมงแล้ว.. ป่านนี้เด็กหนุ่มคงจะถึงบ้านแล้วละมั้ง..

    ก้องภพรวบแฟ้มเอกสารเก็บไว้ข้างโต๊ะ และเดินออกจากห้องทำงาน ..เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเล่นเกมส์ ..ที่ตื่นเต้นและท้าทาย

    ชายหนุ่มเคยรู้สึกแบบนี้ตอนที่เขาอายุสิบสี่ และมีรักครั้งแรกกับสาวรุ่นพี่.. ตอนนั้นเขายังสับสน ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการอย่างแท้จริง จนเมื่อได้สัมผัสนั่นแหละ จึงรู้ตัวว่าเขาชอบผู้ชายมากกว่า...

    แต่ใบหน้าที่เบิกบานก็ต้องเปลี่ยนเป็นบูดบึ้ง เมื่อรู้ว่าปรีย์ยังไม่กลับบ้าน.. เขานั่งรอ จวนจะทุ่มแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววเด็กหนุ่ม.. มือถือเขาก็ไม่พก..หรือว่าจะกลับไปบ้านนั้นอีก..

    เมื่อชายหนุ่มนึกได้ดังนั้นก็รีบออกจากบ้าน แต่หากต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อไร้วี่แววของคนที่ตามหา..ก้องภพรู้สึกกระวนกระวาย ขับรถวนไปวนมา.. แต่ก็ไม่เจอเลย.. จึงตัดสินใจกลับไปรอที่บ้านน้องชาย..
 
    ปรีย์เพิ่งเลิกงาน และกลับมาบ้านอย่างที่ทำเป็นปกติ.. แต่พอเจอกับความว่างเปล่าก็นึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว... เด็กหนุ่มเดินสำรวจรอบบ้าน.. ทุกๆ แห่งเต็มไปด้วยความทรงจำของเขากับยายตั้งแต่เด็ก..

    ในวัยเด็ก เพื่อนๆ ที่มีอะไรใหม่ๆ มักจะนำมาเล่าโอ้อวด.. ถึงเขาจะอยากมีเหมือนเพื่อนๆ บ้าง แต่ก็ต้องเก็บไว้เงียบๆ.. จนสุดท้ายก็ทนไม่ไหว เอ่ยปากขอ.. ‘ยายจ๋า.. หนูอยากเลี้ยงหมา’

    ‘วะ! เงินจะกินข้าวยังไม่มีเลย เลี้ยงหมูเลี้ยงหมาอะไร ?!’ ถึงยายจะพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายก็เก็บลูกแมวมาให้เขาเลี้ยง บอกว่าแมวเลี้ยงง่ายกว่าหมา.. เลี้ยงได้ไม่ถึงปีมันก็ถูกรถชนตาย.. เขาก็เลยไม่อยากเลี้ยงอะไรอีก...

    ปรีย์เปิดตู้เก็บที่นอน.. นวมที่ใช้เป็นเบาะรองนอนบางจนแทบจะขาด บ่งบอกถึงอายุใช้งาน.. เขาหยิบหมอนของยายขึ้นมากอด กลิ่นของยายที่กำลังจะจางหาย ทำให้เขาคิดถึงจนน้ำตาไหล..

    “ปรีย์!” ก้องภพตรงรี่เข้ามาหาเด็กหนุ่ม ..ชายหนุ่มนึกดีใจที่ตนวกกลับมาอีกครั้งและเห็นไฟในบ้านเปิดอยู่..

    “ทำไมไม่กลับบ้าน ?!” ชายหนุ่มถามอย่างหงุดหงิด คว้าแขนเด็กหนุ่มให้หันมาหาเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคราบน้ำตาบนใบหน้านวล

    “เป็นอะไร ?.. คิดถึงยายเหรอ ?” ก้องภพปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง เอ่ยถามอย่างห่วงใย เอื้อมมือเช็ดคราบน้ำตาให้เด็กหนุ่ม แต่ยิ่งเช็ดน้ำตากลับยิ่งไหล ปรีย์สะอื้นจนตัวโยน.. ความอ่อนโยนของก้องภพทำให้เขายิ่งอ่อนแอ

    ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน.. ฉวยโอกาสซุกไซร้ซอกคอของเด็กหนุ่ม.. ช่วงเวลาแบบนี้แหละ ที่เด็กคนนี้จะไม่ขัดขืนเขา..

    ก้องภพพรมจูบไปทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อของเด็กหนุ่ม สูดดมกลิ่นกายหอมละมุนที่เขาเริ่มคุ้นชินจนเต็มปอด นิ้วเรียวปาดคราบน้ำตาออกจากแก้มนิ่มแผ่วเบา

    “ไม่เป็นไรนะ... พี่จะอยู่ข้างปรีย์เอง...” เสียงทุ้มกระซิบข้างใบหูของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน ดวงใจดวงน้อยของเด็กหนุ่มอ่อนยวบยาบ ยอมให้ก้องภพสัมผัสตนตามแต่ใจต้องการ...
 
    “ว้าว! ปรีย์! เสื้อใหม่เหรอ ?” แฟรงค์ทักทายเพื่อนซี้อย่างตื่นเต้น มองสำรวจเครื่องแต่งกายขาวสะอาดทำให้เด็กหนุ่มที่สวมใส่ดูสะอาดสะอ้านขึ้นเยอะ

    “อะ..อืม...” ปรีย์พยักหน้าเบาๆ.. ทั้งๆ ที่เขาพยายามปฏิเสธ แต่ก้องภพก็ไม่ยอม ซื้อนู่นซื้อนี่ให้เขาเต็มไปหมด.. และมาหาบ่อยจนกล้าหาญเอ่ยปากให้มาได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์..   เด็กหนุ่มรู้สึกไม่สบายใจ.. เขารู้สึกราวกับตัวเองเป็นหนี้บุญคุณก้องภพจนท่วมหัว..

    “ผู้ปกครองของปรีย์นี่ใจดีจัง” แฟรงค์ยิ้มบอก.. ผู้ปกครองที่เด็กหนุ่มพูดถึงก็คือก้องภพ.. ทั้งคู่ได้พบและรู้จักกันในวันเผาของยายเขา...

    “เขาใจดีเกินไปน่ะสิ..” ปรีย์พึมพำเบาๆ... ความใจดีของก้องภพเหมือนพันธนาการ ตีตรวนแน่นหนาจนเขาดิ้นไม่หลุด ..เขารู้สึกราวกับเป็นผีเสื้อที่กำลังติดกับใยแมงมุม.. แม้จะพยายามดิ้นรนซักเท่าไร เส้นใยที่เหนียวและหนากลับดึงรั้งปีกของเขาไว้ ได้แต่รอเวลาที่เจ้าของรังรับรู้ถึงการเคลื่อนไหว และคืบคลานเข้ามากัดกินเขาอย่างช้าๆ....
 
    งานพิเศษที่เขาเคยทำก็ลาออกหมดแล้ว เพราะก้องภพบอกให้ทุ่มเวลากับการเรียน และกล้าหาญก็เห็นด้วย ..แต่จะให้เขาสมัครเรียนพิเศษวันเสาร์อาทิตย์เขาก็ไม่กล้าเอ่ยขอ เพราะมันต้องใช้เงิน..

    ปรีย์ถอนหายใจเบื่อๆ.. ตอนนี้เขาว่างเสียยิ่งกว่าว่าง ตกเย็นก็ขึ้นมาทำเวรในห้องทุกวันเพราะไม่ต้องรีบไปทำงานพิเศษ และวันนี้เขาก็ขึ้นมาทำเวรเป็นปกติ..

    “เอ้ย!” ปรีย์ร้องอย่างตกใจเมื่อมีแขนมาล็อกคอเขาจากด้านหลังและลากเข้าไปหลบในห้องเรียนที่ไม่มีใครอยู่...

    “ชี่ส์…” ปรีย์หันไปมองเด็กหนุ่มที่ลากเขามาอย่างตกใจระคนสงสัย

    “อ...อาร์ต...” ..อาร์ตไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาหลายวันแล้ว.. เขาคิดว่าเด็กหนุ่มคงจะเบื่อและตีห่างออกไปเอง ...แต่พอเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของอาร์ตแล้วก็ทำให้ต้องเอ่ยถาม

    “มีอะไรเหรอ ?” ปรีย์ถามเบาๆ มองดูเพื่อนของเขากระวนกระวาย ก่อนจะสบตาแล้วเอ่ยคำพูดที่เขาไม่เข้าใจ..

    “กูนึกว่ามึงจะมีศักดิ์ศรีมากกว่านี้”

    “หา ?” ปรีย์ส่งเสียงงงๆ ยกมือขึ้นเกาศีรษะ.. บางทีที่อาร์ตชอบแกล้งเขา คงเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง...

    อาร์ตอ้ำอึ้ง อ้าปากแล้วก็หุบลงอยู่หลายรอบ จนสุดท้ายก็มีเสียงออกมา ..

        “วันนั้นในห้องน้ำ.. กู...” คำพูดของเด็กหนุ่มขาดหาย.. ปรีย์เบิกตาโพลง... เขาไม่ชอบเข้าห้องน้ำโรงเรียนเพราะมันมีกลิ่นฉุน.. แต่พูดถึงห้องน้ำที่เขาเข้าครั้งล่าสุดแล้วล่ะก็...

    “ยะ.. อย่าบอกใครนะ..” เด็กหนุ่มเอ่ยเสียงสั่น.. เขาไม่นึกว่าจะมีคนรู้... อาร์ตเม้มริมฝีปาก.. ความจริงเขาเพียงแค่อยากรู้อยากเห็น.. ก็เลยแอบรอดูหน้าคนที่กล้าเข้ามาทำเรื่องแบบนั้นในห้องน้ำสาธารณะ.. แต่ไม่นึกว่าจะเป็นเพื่อนคนหนึ่งของเขา...

    “อาร์ต.. ขอร้องล่ะ..”

    “นายจะแกล้งฉันยังไงก็ได้.. แต่เรื่องนั้น...” อาร์ตเบือนหน้าหนี เหยียดยิ้มมุมปาก.. เขาคิดและวิเคราะห์มาหลายวันแล้วว่าเรื่องนี้จะทำให้เขาสามารถออกคำสั่งกับปรีย์ได้...

    “กูไม่บอกใครหรอก...สัญญา...” คำพูดของเด็กหนุ่มทำให้ปรีย์รู้สึกโล่งอก.. แต่ประโยคถัดมาทำให้เขาหน้าซีดเผือด...

    “แต่.. มึงต้องช่วยกู..” ช่วย ?.... ช่วยอะไร ???
 
    “พี่กล้า..” ปรีย์เรียกชายหนุ่มอย่างกล้าๆ กลัวๆ ขณะรับประทานอาหารเย็น... กล้าหาญหันมามองเขานิ่ง รอฟังคำพูดต่อไป..

    “คือ.. ผมอยากไปเข้าค่าย..”

    “ค่าย ?”

    “ของโรงเรียนน่ะฮะ....” เด็กหนุ่มรีบละล่ำละลักบอก..

    “งั้นเหรอ ? ที่ไหนล่ะ ?” ปรีย์เอ่ยชื่อศูนย์วิทยาศาสตร์ในต่างจังหวัดแห่งหนึ่งออกไป..

    “ ๓ วัน ๒ คืน... ได้รึเปล่าครับ..... ?” เด็กหนุ่มรอฟังคำตอบ.. ฝ่ามือที่กำแน่นของเขารู้สึกเปียกชื้นอีกแล้ว...

    “ได้สิ... อยากทำอะไรก็บอกนะ..” กล้าหาญตอบ ยิ้มบางๆ ให้เขา.. ปรีย์เผยยิ้มกว้าง... เขาช่วยอาร์ตได้ลุล่วงไปขั้นนึงแล้ว...พอเขาบอกเรื่องที่จะไปค่ายกับแฟรงค์ แน่นอนว่าเพื่อนซี้ของเขาก็ยินดีจะตามไปด้วย...

    แต่วันเข้าค่ายจริง อาร์ตกลับขอแลกห้องกับเขา.. ตอนนั้นแหละปรีย์ถึงได้เข้าใจว่าเป้าหมายของอาร์ตก็คือเพื่อนของเขา...   แล้วเขาก็เป็นคนจับเพื่อนใส่พานถวายให้อาร์ตเสียด้วย...
...............................................ทูบีคอนตินิว
 o7รอบตัวน้อง จะมีคนดีบ้างไหมเนี่ย คิดหาผลประโยชน์จากน้องตลอด โดยเฉพาะไอ้ก้อง ชริ รันทดมันเ้ข้าไป ชีวิตเนี้ย..
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-11-2011 15:52:52
ทำไมรอบข้างถึงมีแต่คนแบบนี้ล่ะ o7
จ้องแต่จะหาผลประโยชน์
รันทดแท้ชีวิตหนู :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 15-11-2011 18:30:18
ตอนอ่านจบ หลุดปากออกมาเลยว่า เหี้-ย ตกใจอ่ะ o22
แบบว่ามันพลิก คิดว่าอารต์มันชอบปรีย์ซะอีก
สงสารทั้งปรีย์และแฟรง์ ล่วงหน้าเลยครับ :sad4:
รักคนโพส หลงคนแต่ง :L2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: suck_love ที่ 15-11-2011 19:00:25
อะไรชีวิตปรีย์จะรันทดขนาดนี้น่าสงสารจัง  :sad4:
พอบอกว่ามันมาม่าเราก็ไม่อยากจะอ่านเพราะช่วงนี้อิ่มมาม่าเหลือเกิน แต่เพราะเนื้อเรื่องน่าสนใจทำให้เรารู้สึกไม่อยากจะปล่อยนิยายเรื่องดี ๆ นี้ไป เพราะถ้าเราไม่อ่านต้องรู้สึกเสียดายแน่ ๆ แต่แอบทำใจไม่ได้  :o12:

ปล  ขอบคุณจากใจค่ะ ทั้งคนอ่านและคนโพส  o13
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-11-2011 19:03:16
คือ  อยากอ่านนะ   แต่ใจไม่แข็งแรงพอ  แอบอ่านเมนท์แล้วก็กลัวค้างด้วย  แง่ม ๆ ๆ
จะกลับมาอ่านหลังจากจบแล้วนะ  อย่าว่ากัน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 15-11-2011 20:09:08
มากินมาม่า จนอิ่มอืด และอวบอ้วน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 15-11-2011 20:29:46
สามคำให้ตอนนี้

ท่า ไม่ ดี  :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 15-11-2011 21:25:14
แล้วแฟรงค์จะรอดจากอาร์ตไหมเนี่ย น่าสงสารปรีย์
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 15-11-2011 21:45:39
อ้างถึง
ชายหนุ่มโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน.. ฉวยโอกาสซุกไซร้ซอกคอของเด็กหนุ่ม.. ช่วงเวลาแบบนี้แหละ ที่เด็กคนนี้จะไม่ขัดขืนเขา..

ฮึ่ย... อีก้อง อีจัญไร เด็กเค้าคิดถึงยาย ยังทำเชี่ย ๆ กับเค้าอีก!
อยากจะประจานความเลวมันให้ก้องไปทั้งสามภพนัก  อ่านแล้ว 'รมณ์เสีย!        (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/evil-bear-003.gif)


ส่วนเชี่ยอาร์ต ไอ้เราก็นึกว่ามันจะแอบชอบน้องปรีย์ ที่ไหนได้ ดันคิดจะทำอัปรีย์กับหนูแฟรงค์

นี่ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ ไม่ใช่ว่าตาแฟรงค์จะโกรธน้องปรีย์ จนถึงกับเลิกคบกันเลยรึเปล่า

เวรและกรรมจริง ๆ เลยหนูปรีย์เอ้ย     (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/cute-bear-2-021.gif)
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 16-11-2011 11:21:18
เอาล่ะ  ภูมิคุ้มกันพอใช้ได้แล้วจะกลับมาอ่านต่อละ
คือมีความรู้สึกว่าคนแต่งคนนี้จะแต่งนิยายที่ให้อารมณ์ร่วมเหมือนกับว่า  นี่คือเรื่องจริงน่ะ
เวลาอ่านแล้ว  มันบีบ ๆ หน่วง ๆ หัวใจยังงัยก็ไม่รู้
อยากให้เรื่องนี้จบแบบมีความสุข  ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าเป็นไปได้ยาก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 4 [15.11.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 16-11-2011 12:14:38
ทำเวรทำกรรมอะไรไว้น้อ ชีวิตนี้จะเจอคนดีๆ บ้างมั้ย
ทุกคนไม่มีใครหวังดีกับปรีย์อย่างจริงใจบ้างเลยเหรอไง
ตอนแรกคิดว่าอาร์ตจะเป็นคนดีแค่ขี้แกล้ง ถึงมันจะไม่ได้เลวร้ายแต่ก็ไม่ได้ดีเลยนะเนี่ย
ถ้าปรีย์ยอมอาร์ตเท่ากับขายเพื่อนเลยนะ แฟรงค์ไม่ได้มีท่าทีจะชอบอาร์ตเลย จะเสียเพื่อนคนเดียวไปก็งานนี้แหละ
ครอบครัวพี่ก้องพี่กล้าก็ประหลาด ดูผิดบิดเบี้ยวกันไปหมด
อ่านแล้วไม่ได้เศร้าจนร้องห่มร้องไห้แต่มันบีบๆ เครียดดดดดดดดดดด
ปล. บวกๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 16-11-2011 23:21:32
บทที่ ๕

    “ทำไมปรีย์ถึงยอมแลกห้องกับมัน!” แฟรงค์เอ่ยถามเพื่อนอย่างหงุดหงิด.. แทนที่เขาจะได้มาเที่ยวเล่นให้สนุกกลับมาพบไอ้ตัวกวนนั่นนอนรออยู่ในห้อง.. เขาก็เอะใจแล้วว่าทำไมปรีย์ถึงเดินนำแล้วก็หายไปคนละทาง

    “ไม่เป็นไรหรอก ห่างกันแค่ตอนนอนเอง...” ปรีย์เลี่ยงไม่ตอบคำถาม เหลือบมองเพื่อนสนิทอย่างกระอักกระอ่วน.. เขาคิดอยู่แล้วว่าแฟรงค์จะไม่พอใจ.. แล้วเจ้าตัวก็ไม่พอใจจริงๆ

    “แต่กูไม่ชอบหน้ามันโว๊ย!” ร่างเล็กตะโกนอย่างอัดอั้น..

    “มึงอย่าทำอะไรไม่บอกกูอีกนะ ไม่งั้นกูเคืองจริงๆ ด้วย!!” โวยวายกับเขาแล้วก็บ่นบุ่ยๆ ไปตลอดกิจกรรมที่ค่ายจัดไว้ให้... แฟรงค์เป็นเด็กผู้ชายที่บริสุทธิ์และมองโลกในแง่ดีจนมองเป้าหมายของอาร์ตไม่ออก.. หากแต่นั่นก็เป็นข้อดีของเพื่อนเขา...
 
    ตกเย็นเด็กหนุ่มก็ยิ้มร่า เมื่อเขาขอแลกห้องกับคนอื่นได้สำเร็จ.. หันไปแลบลิ้นปลิ้นตาให้อาร์ต..ส่วนอาร์ตก็แผ่รังสีอำมหิตมาให้เขา..

    "ได้อยู่ห้องเดียวกับไอ้เชนเว้ย! โชคดีชะมัดที่ไอ้เอกใจดี" เด็กหนุ่มยิ้มบอกโยนกุญแจอวด

    "ดีจัง.." ปรีย์บอกยิ้มบาง.. ดีที่เพื่อนเขาเอาตัวรอดเก่ง และดีที่ได้อยู่ห้องเดียวกับเชน..

    "มาดีจงดีจังอะไร! กูก็อุตส่าห์นึกว่าจะได้เที่ยวสนุกๆ มึงอ่ะทำเสียฤกษ์หมด" แฟรงค์บ่น.. เด็กหนุ่มเผยอยิ้ม.. ตบไหล่เพื่อนเชิงขอโทษ แล้วก็กอดแน่นๆ อย่างที่ทำประจำ.. แล้วเพื่อนของเขาก็กลับมายิ้มและหัวเราะให้เขา ไม่บ่นเป็นหมีกินผึ้งอีก...ตกดึกก็มีกิจกรรมดูดาว อาร์ตแอบลากเขาไปคุยกันในที่ลับตา

    "ทำไมมึงไม่ช่วยกูหน่อยวะ !?" เด็กหนุ่มส่งเสียงกระซิบกระซาบไม่พอใจ

    "เราช่วยเต็มความสามารถแล้วนะ.." ปรีย์เผยอยิ้ม เวลาอาร์ตเป็นแบบนี้ก็ตลกดี.. เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

    "โว๊ย!" เด็กหนุ่มยกมือทั้งสองข้างกุมศีรษะอย่างจนปัญญา..

    "นายแอบชอบไอ้แฟรงค์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?" คำถามของปรีย์ทำให้คนที่ถูกถามค้างนิ่ง..

    "ที่แกล้งเรามาตลอดนี่ เพราะหึงงั้นเหรอ ?" เด็กหนุ่มหัวเราะในลำคอ ถามอย่างเป็นต่อ.. หากแต่เพื่อนของเขาไม่ตอบ ส่งน้ำเสียงไม่พอใจกลับ

    "เกี่ยวอะไรกับมึงวะ ?.. คราวนี้ได้อยู่ห้องเดียวกับไอ้เชน แย่แน่ๆ" ท้ายประโยคเด็กหนุ่มพึมพำ

    "แย่ยังไง ?" ปรีย์ถามอย่างฉงน

    "มึงดูไม่ออกรึไง ไอเชนก็จ้องไอ้แฟรงค์อยู่"

    "อะไรนะ ?"

    "กูบอกว่าไอ้เชนมันก็จ้องจะงาบไอ้แฟรงค์อยู่ กูสังเกตมานานแล้ว" อาร์ตขบเขี้ยว.. เขาจำได้ดีถึงสายตาไร้มิตรที่มักจะส่งมาให้

    "เชนน่ะนะ ?" เขาถามซ้ำอย่างไม่แน่ใจ.. เพื่อนของเขาเสน่ห์แรงใช่ย่อย...

    "เออ! มึงจงไปแลกห้องกับแฟรงค์เดี๋ยวนี้เลย"

    "แลกไปแลกมา เดี๋ยวมันก็สงสัยน่ะสิ" ปรีย์หัวเราะในลำคอ ....ถ้าให้เขาเลือกระหว่างเชนกับอาร์ต... เขาขอสนับสนุนเชนดีกว่า... น่าแปลกที่เขาไม่รู้สึกเจ็บแปล๊บๆ เหมือนคนอกหัก หากแต่รู้สึกสนุกที่ได้ทำให้อาร์ตร้องโวยวายแบบนี้...

    "โอ๊ย! กลุ้มโว้ย!!" เด็กหนุ่มกลุ้มจนลืมไปว่าเขากำลังกุมความลับของปรีย์อยู่.. และหากเอ่ยปากแค่คำเดียว เพื่อนของเขาก็พร้อมที่จะทำให้...
 
    วันถัดมาเขาจึงเริ่มสังเกต ...แล้วก็จริงอย่างที่อาร์ตบอก.. เขาเพิ่งจะรู้สึกว่าเชนมักจะมองแฟรงค์บ่อยๆ หากแต่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย...

    "หวาวววว ตัวอะไรอ่ะ พิลึกชะมัด" แฟรงค์เอ่ยมองสัตว์น้ำจืดขนาดเล็กที่จับขึ้นมาได้.. ตอนนี้เขาอยู่ข้างลำธารใสแจ๋ว.. กิจกรรมที่ต้องช้อนกระชอนลงไปในน้ำเพื่อดูว่ามีตัวอะไรอยู่บ้าง และบันทึกข้อมูล

    "เจอแล้ว.." เชนบอก ยื่นหนังสือที่มีรายละเอียดของสัตว์น้ำจืดให้แฟรงค์.. ร่างเล็กยิ้มร่าใช้ช้อนตักดูอย่างสนอกสนใจ

    "ไอ้ปรีย์มึงโยนหินดิวะ!" เพื่อนคนหนึ่งของเขาตะโกนบอก

    ปรีย์หัวเราะและโยนหินลงไปบนผิวน้ำ.. มันกระแทกและลอยขึ้นมา ๒ - ๓ ครั้ง ก่อนจะจมหายไป...

    "ทำไมกูทำไม่ได้วะเนี่ย!" เสียงเพื่อนบางคนบ่นและพยายามให้เขาสอนวิธีโยนให้หินกระโดดขึ้นมาบ้าง..ดูท่าทางคนที่สนใจจะศึกษากิจกรรมนี้คงมีเพียงไม่กี่คน และนอกนั้นเล่นกันหมด....เด็กหนุ่มนึกสนุก วิ่งไปยกร่างเล็กๆ นั้นและโยนลงน้ำ

    "อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!" แฟรงค์หวีดเสียงร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ เขาก็ตัวลอยหวือตกลงไปในแม่น้ำ

    "ไอ้ปรีย์~~~~~~~~~~~~~~~!!!!" เด็กหนุ่มโวยวายสาดน้ำใส่เพื่อน ปรีย์หัวเราะเริงร่า ..ยิ้มกวนๆ ให้เพื่อน ..

    ร่างเล็กวิ่งขึ้นฝั่งกอดรัดเพื่อนหวังให้เปียกเท่าๆ กัน แต่ปรีย์รู้สึกว่ามีรังสีอำมหิตแผ่ให้เขา จึงแกล้งกอดคืน ...เสื้อสีขาวของเพื่อนเขาบางเปียกแนบเนื้อยังดีที่ใส่กางเกมวอร์ม... เขาเริ่มรู้สึกสนุกและอยากรู้ว่าใครจะได้ใจเพื่อนเขาไปกัน...
 
    วันถัดมาแฟรงค์ก็เหม่อ แถมหน้าแดงบ่อยๆ

    "เป็นไข้รึเปล่า ?" ปรีย์เอ่ยถาม เอื้อมมือแตะหน้าผากเพื่อนเบาๆ

    "เปล่า...." แฟรงค์ปฏิเสธ ปัดมือของเพื่อนออก ดูดนมช็อคโกแลตในกล่องจนหมด ..ได้ยินเสียงแต่ดูดอากาศและกัดหลอดเล่น

    "นั่งด้วยคนสิ" เชนยิ้มทักทาย นั่งลงข้างๆ เพื่อนเขา ...ส่งสายตามองอย่างไม่เป็นมิตรนัก.. ส่วนเพื่อนเขาก็ก้มหน้างุดๆ ปรีย์จึงได้ข้อสรุปในใจว่าเชนรุกเร็วกว่าที่เขาคาดไว้เสียอีก... แบบนี้อาร์ตจะไล่ตามทันมั้ยเนี่ย..?

    แล้วจู่ๆ ไอ้คนที่เขานึกถึงก็มานั่งข้างๆ ..แฟรงค์ตาขวางใส่อาร์ตแทบจะทันที...เด็กหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ ...การมาเข้าค่ายแบบนี้เป็นอะไรที่ไม่เลวเหมือนกัน...
 
    ผ่านไปหลายอาทิตย์เข้าสู่ช่วงปิดเทอมหน้าที่เร่งปฏิกิริยา หาคู่ให้เพื่อนมีอันต้องหยุดพักไว้ก่อน..   ปรีย์เริ่มคุ้นกับการอยู่บ้านเดียวกับกล้าหาญแล้ว.. ปกติชายหนุ่มมักจะนั่งเงียบๆ อยู่บนชั้นลอย ..กล้าหาญทำงานเกี่ยวกับหนังสือ มีทั้งแปลและเขียนคอลัมน์ลงในนิตยสารฉบับหนึ่ง.. หนังสือในบ้านเขาจึงมีเยอะพอที่จะเปิดเป็นห้องสมุดขนาดย่อมๆ ได้ และเขามักจะต้องไปดูสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อศึกษาข้อมูลมาเขียนลงในนิตยสารบ่อยๆ..

    "พี่กล้าจะไปอีกแล้วเหรอ ?" ปรีย์ถามเสียงหงอย.. มองกระเป๋าเดินทางใบใหญ่กับกล้องราคาหลายหมื่นที่มักจะต้องติดไปกับชายหนุ่มเสมอ ...เขาคิดอยากจะแปลงร่างเป็นสิ่งของเหล่านั้นติดตามเจ้าของไป ...ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียวซักเท่าไหร่..

    "อืม.." กล้าหาญตอบในลำคอ ไม่หันกลับมามอง..

    "ไปกี่วันเหรอครับ ?"

    "๒ - ๓ วันมั้ง.. ไม่แน่ใจ" ...ชายหนุ่มเหลือบมองดวงตาใสแจ๋วที่มองตามหลังเขา.. จึงเอ่ยถาม..

    "เหงาเหรอ ?"

    "ปะ.. เปล่าหรอกครับ" ปรีย์น้ำท่วมปาก.. ทุกครั้งที่กล้าหาญไม่อยู่ ก้องภพก็มักจะมาหาเขา.. ปรีย์รู้สึกอึดอัดเมื่อก้องภพจ้องจะหาเศษหาเลยกับเขา และระยะหลังชายหนุ่มรุกเร้าเขาหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ..

    "งั้นพี่ไปนะ.." ชายหนุ่มเอ่ยลา

    "...." เด็กหนุ่มนั่งมองร่างสูงที่เดินออกไป ไม่เหลียวกลับมามอง...

    "อยากไปด้วยกันมั้ย ?" ...คำเอ่ยชวนของกล้าหาญราวกับรู้ใจเขา.. เด็กหนุ่มพยักหน้ายิ้มกว้างแทบจะทันที.. แต่ก็ต้องขมวดคิ้วแล้วเปลี่ยนเป็นส่ายหน้า

    "ไม่ต้องเกรงใจ อยากไปก็ไปสิ...ฉันไม่ห้ามเธอหรอก"

    "แต่..." กล้าหาญพ่นลมหายใจออกอย่างเหนื่อยหน่าย

    "อย่ากังวล เรื่องค่าใช้จ่ายได้มั้ย ? เธอเรียนจบแล้วค่อยคืนก็ได้ เร็วเข้า"

    "..ฮุๆ" ปรีย์หัวเราะเบาๆ อย่างลิงโลด เขารู้สึกมีความสุข เมื่อได้อยู่ใกล้ๆ กับกล้าหาญ.. เพราะกล้าหาญรู้ว่าเขาต้องการอะไร...
 
    ชายหนุ่มพาเขามาตั้งแค้มป์ดูดาว บนภูเขา มีคนมาที่นี่ไม่เยอะ อากาศค่อนข้างเย็น...ตกดึกเด็กหนุ่มได้ยินเสียง.. เหมือนคนร้องไห้... แว่บแรกเขาคิดว่านึกไปเอง...

    "พี่กล้า..." เด็กหนุ่มส่งเสียงเรียก แต่ไม่มีเสียงตอบรับ เหลือบมองคราบน้ำตาบนใบหน้าหล่อเหลานั้น...

    "....ร้องไห้เหรอ ?" ไม่มีเสียงตอบกลับ.. ปรีย์ลังเลใจ.. เขาหลับแล้วละเมอ หรือว่าแกล้งหลับกัน ?....

    "...." นิ้วมือของเด็กหนุ่ม เอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของกล้าหาญแผ่วเบา ..ถึงแม้นิ้วมือของเขาจะหยาบกร้านแต่กลับนิ่มนวลราวกับปุยขนนก

    ..เด็กหนุ่มมีท่าทีลังเล ก่อนตัดสินใจกอดเอวกล้าหาญเต็มวงแขน.. ยายมักจะทำแบบนี้เวลาที่เขาร้องไห้.. เขาไม่อยากให้ชายหนุ่มเสียใจ...   กล้าหาญอบอุ่นเหมือนพี่.. เหมือนพ่อ.. เหมือนเพื่อน...เขารู้สึกมีความสุข เมื่อได้อยู่ใกล้ๆ กับกล้าหาญ.. จึงอยากให้กล้าหาญมีความสุข เมื่ออยู่ใกล้ๆ เขาด้วย....

    เด็กหนุ่มปิดเปลือกตาลงและจมเข้าสู่ห้วงนิทรา... ก่อนที่ชายหนุ่มผู้ถูกสวมกอดจะลืมตาขึ้นมองเด็กผู้ชายตรงหน้า... นึกขอบคุณที่อ้อมแขนเล็กๆ นี้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

    ความทรงจำที่เขามีร่วมกับอดีตคนรักค่อยๆ ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา.. เขาหวังว่าซักวันเขาคงได้พบความรักครั้งใหม่.. และคราวนี้เขาจะเก็บรักษามันไว้อย่างดี ..ไม่ให้ถูกทำลายได้อีก.. เหมือนอย่างครั้งที่ผ่านมา...
 
    ก้องภพอารมณ์เสียเมื่อรู้ว่ากล้าหาญพาปรีย์ไปเที่ยวด้วย จึงสั่งห้ามไม่ให้น้องชายพาไปอีก ...และวันนี้เขาเข้ามาในบ้านด้วยความแปลกใจ.. เมื่อไม่มีคนออกมาเปิดประตูบ้านให้อย่างปกติ.. แต่ก็ยิ้มเมื่อพบเด็กหนุ่มนอนหลับอยู่บนโซฟาห้องรับแขก มีหนังสือเล่มหนาเปิดวางอยู่บนอกที่ขยับไหวเบาๆ

    ชายหนุ่มไล้ปลายนิ้วบนใบหน้านั้น.. เขาแปลกใจตัวเองทั้งๆ ที่ตอนพบหน้ากันครั้งแรกก็ไม่ได้คิดอะไรกับเด็กคนนี้หากแต่ยิ่งรู้จักเขากลับยิ่งชอบและอยากได้มาอยู่ในอ้อมแขน

    ก้องภพมองเสื้อยืดใหญ่โคร่งที่เก่าและเปื่อย เปิดร่นจนเผยให้เห็นผิวเนื้อนวลเนียนที่โผล่พ้นเนื้อผ้าออกมา เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนเอื้อมมือสัมผัสผิวกายของเด็กหนุ่มใต้เสื้อนั้น หยอกเย้าและกระตุ้นจุดที่ไวต่อสัมผัส ..ยิ่งได้ยินเสียงครางในลำคอ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าร่างตัวเองร้อนดั่งถูกแผดเผา..

    โน้มกายลงบดจูบริมฝีปากบางนั้น กอบกุมมือเล็กเอาไว้ เด็กหนุ่มครางแผ่วและตอบรับเขาด้วยความเคลิบเคลิ้ม จนก้องภพรู้สึกว่าเขาเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่อยู่..

    ปรีย์ครางเครือ พยายามขยับหนี ..เมื่อสัมผัสอ่อนโยนที่เขารู้สึกในฝัน รุกเร้าหนักจนลืมตาตื่น หากเมื่อปฏิเสธ ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว...
......................................................ทูบีคอนตินิว
 :monkeysad:วันนี้มาเกือบเข้าวันใหม่เลยง่ะ เหนื่อยมากมาย ประชุมยาว หกชม.ครึ่ง ถึงบ้านปุ๊บ รีบมาลงปั๊บ กลัวแฟนคลับน้องปรีย์รอ รึเปล่า กร๊ากกกกกก ไม่ขำ ตอนนี้ ไอ้ก้องมันก็ยังเลวได้เหมือนเดิม และคงเลวได้อีก อัพเลเวลไปเรื่อย ๆ เป็นกำลังใจให้น้องปรีย์กันด้วยน่ะค่ะ
พีเอสซึ.ขอบคุณสำหรับ +ค่ะ เช่นเคย ทุกครั้งในการอัพ ก็จะขยันแจกเป็ด แจกบวก ทุกคนที่ผ่านมาทักทายน้องปรีย์เช่นกัน แล้วพบกันน่ะค่ะ มาช่วยกันลุ้นไปกับน้องปรีย์ด้วย (พี่กล้าหาญดีเนอะ)
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-11-2011 23:27:07
ไอ้ก้อง ไอ้เลว!! :fire:
กล้าทำน้องปรีย์ได้ยังไง  :angry2:
น้อยปรีย์น่าสงสาร ชีวิตรันทดจริงๆ
มีใครจริงใจกับปรีย์บ้างมั้ย :monkeysad:
จัดมาสักคนก็ยังดี :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 16-11-2011 23:53:38
สามคำ ณ จุด นี้

ปรีย์ เสร็จ แน่   :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 17-11-2011 00:05:19
อ่านเรื่องนี้ทีไร จุกอก มือเกร็ง แค้น
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 17-11-2011 00:48:48
พี่กล้าไปไหน อย่าเปิดดอกาศให้น้องกับพี่ก้องซิ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 17-11-2011 03:28:13
เหี้-ยก้องเอ๊ย เลวสุดๆ
พี่กล้ารีบกลับบ้านได้ไหม
สงสารปรีย์
อิอารต์อกหักแน่
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเล
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 17-11-2011 05:37:31
จิ้มเอาไว้ก่อนแล้วจะมาอ่าน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 17-11-2011 06:50:59
 :เฮ้อ:     น้องแฟรงค์รอดตัวไป

เจ้าอาร์ตดีกว่าที่คิด (รึเปล่า?) แล้วพ่อเชนเนี่ยจะแอ๊บร้ายมั๊ย...  ชั้นระแวงอ่ะ!


ส่วนอีก้อง  ก็...     :beat:


หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-11-2011 08:16:05
ต้อนรับเรื่องใหม่
เพิ่งเข้ามาอ่าน เศร้าสุดๆ สงสารปรีย์มากๆ
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 17-11-2011 09:12:08
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากเลย  o13 o13

ดราม่าและน่าติดตาม   รอตอนต่อไปนะคับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-11-2011 10:11:13
ไม่มีอะไรจะกล่าว  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 17-11-2011 12:08:43
เมย์เด เมย์เด
พี่กล้าอยู่ไหน กลับบ้านด่วน
สงสารปรีย์ ไอ้พี่ก้องบ้า อย่าทำนะยะ
ส่วนเรื่องแฟร้งค์ ดีใจที่แฟร้งค์เป็นคนดี ดูบริสุทธิ์สวยงามเนาะ
จริงๆ ปรีย์ก็บริสุทธิ์ไม่ต่างกันนะ แต่ซวยที่เกิดมาจน :เฮ้อ:
ดีใจที่ปรีย์ไม่เสียใจเรื่องเชน แล้วก็ดีใจที่อาร์ตดูเป็นเด็กดีกว่าที่เราคิด
ปล. บวกหนึ่งแถมเป็ดพะโล้ตัวนึง อิอิ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 17-11-2011 22:30:55
เอ๊าาา เรื่องนี้ใครจะเป็นพระเอกเนี่ยะ แอบเชียร์พี่กล้าหาญนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 5 [16.11.54] ไม่เคยหยุดเลว
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 18-11-2011 02:53:12
พี่กล้ากลับมาเร็วๆ เถอะนะ
น้องจะเสร็จพี่ก้องอยู่แล้ว TTTT
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 6 [18.11.54] ไม่เหลือแล้ว T_T
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 18-11-2011 12:42:20
บทที่ ๖

ร่างกำยำมีหยดน้ำเกาะพราวนุ่งผ้าขนหนู ขมวดคิ้วเดินออกจากห้องน้ำ แขนของเขามีสีคล้ำกว่าปกติจากการโดนแดด ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงร้อง มองดูสายที่โทรเข้ามาขัดเวลาอาบน้ำของเขาแล้วคลี่ยิ้ม

    "สวัสดีครับแม่" เขาเอ่ยทักทายปลายสายอารมณ์ดี พลางเช็ดเส้นผมที่เปียกชุ่ม.. กล้าหาญไม่ได้ไปพบแม่หลายสัปดาห์แล้ว..

    "สวัสดี.. เป็นยังไงบ้างเรา ?" เสียงอ่อนโยนของดารัตน์ถามไถ่ลูกชาย

    "ก็ดีครับ เรื่อยๆ" กล้าหาญเอ่ยตอบ ชวนคุยจนกระทั่งเธอลากกลับมาเข้าเรื่อง

    "...ตาก้องรับเด็กมาเลี้ยงใช่มั้ยพ่อกล้า ?"

    "เมย์โทรมาบ่นกับแม่ทุกวันเลยว่าช่วงนี้พ่อก้องไม่ค่อยกลับบ้าน" เสียงปลายสายฟังดูไม่สบายใจ..

    "พี่ก้องแค่ทำงานน่ะครับ เมย์ก็กังวลเกินไป" กล้าหาญตอบ.. นานๆ ครั้งพี่ชายของเขาถึงจะมาค้างบ้านนี้.. แต่ถ้าจะให้เดา ก้องภพน่าจะไปที่อื่นมากกว่า... เพราะที่นี่มีเขาคอยขัดคอ..

    "เขาเป็นเด็กน่ารักนะครับ ถ้าคุณแม่เจอ คุณแม่ต้องชอบแน่ๆ" ชายหนุ่มเอ่ยถึงเด็กที่ก้องภพนำมาฝากไว้กับตน.. คลี่ยิ้มเมื่อนึกถึงอ้อมแขนเล็กที่โอบกอดราวกับจะเป็นฝ่ายปกป้องเขา..

    "ได้ยินพ่อกล้าพูดแบบนี้แม่ก็เบาใจ ..แล้วทำไมไม่รับเป็นลูกบุญธรรมเสียให้เรียบร้อย.."

    "น้องเขาอายุห่างไม่ถึง ๑๕ ปีน่ะครับ" ชายหนุ่มเอ่ยถึงกฎหมายการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่เด็กจะต้องมีอายุห่างจากผู้รับเลี้ยงเกิน ๑๕ ปี..

    "งั้นก็ให้แม่รับเอง แล้วเด็กคนนั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ ?"

    "เอ.. ผมไม่เคยถามนะครับรู้สึกจะนามสกุลวิริยะสิทธิ์ละมั้ง ไม่แน่ใจนะครับ" ชายหนุ่มบอก พยายามนึกถึงนามสกุลที่เห็นในใบเกรดที่เด็กหนุ่มนำมาอวด..

    "...งั้นเหรอ ? แล้วไปคุยกันเสียให้เรียบร้อยนะ แม่จะได้รับน้องเป็นลูกบุญธรรม ถ้าจะให้ดีก็ให้น้องย้ายมาอยู่กับแม่เลยดีกว่า ยัยเมย์จะได้ไม่ต้องระแวงไปเสียหมด..." ดารัตน์รู้สึกสะดุดใจ หากแต่ไม่เอ่ยอะไร.. เป็นฝ่ายอาสารับเด็กคนนั้นมาเลี้ยง..

    "ไม่เป็นไรหรอกครับแม่.. ผมดูแลให้ได้ พี่ก้องเขาไม่กล้าทำอะไรมากหรอกครับ" กล้าหาญบอก.. หากแต่ชายหนุ่มคิดผิด...

    "เอาปลาย่างไว้ใกล้แมว ระวังเถอะจะหาว่าแม่ไม่เตือน" เธอกล่าวเตือนลูกชาย และพูดคุยกันเรื่องอื่นต่อ..

    กล้าหาญวางสายด้วยอารมณ์แจ่มใส และแต่งกายเดินลงมาตามทางเดิน.. เขาได้ยินเสียงแปลกๆ..เสียงครางแผ่วดังลอดออกมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มรู้สึกฉงน เดินไปยังชั้นลอย.. เสียงครางอืออานั้นยิ่งชัดเจนยิ่งขึ้น

    เมื่อมองไปยังห้องรับแขกก็พบกับสาเหตุ.. ร่างของก้องภพดูใหญ่โตเมื่อเทียบกับวัยรุ่นอย่างปรีย์ ร่างเล็กของเด็กหนุ่มสั่นคลอนตามแรงกระแทก ริมฝีปากบางเผยอหอบหายใจหนัก ราวกับหายใจไม่ทัน ใบหน้าเปื้อนน้ำตา เรียวขาเปลือยของเด็กหนุ่มโอบรัดสะโพกสอบของก้องภพเข้าหาตัว

    ชายหนุ่มรู้สึกมึนงง.. แทบไม่เชื่อสายตา.. พี่ชายของเขาทำแบบนี้กับเด็กอายุสิบหก.. ทั้งๆ ที่อยากจะเดินหนีแต่ขาของเขากลับก้าวไม่ออก มองดูทุกการกระทำที่ก้องภพทำกับเด็กหนุ่ม ..กล้าหาญรู้สึกถึงเหงื่อเย็นไหลซึมบนใบหน้า เมื่อเห็นแววตาของปรีย์จับจ้องมาที่เขา ..เขาไม่รู้ว่าปรีย์มองเห็นเขาหรือไม่.. แต่ดวงตาสีเข้มนั้นพร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา ราวกับจะขอร้องให้เขาช่วยหยุดสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่

    "ปรีย์ ...โอว..." ก้องภพครางสุขสม.. ไม่เพียงแค่ทางร่างกาย แต่จิตใจของเขาก็สุขจนล้นปรี่.. ชายหนุ่มรู้สึกว่าปรีย์ต่างกับเด็กคนอื่นๆ ที่เขาเปิดบริสุทธิ์ เด็กคนนี้ราวกับผลไม้ต้องห้ามที่มีกลิ่นหอมรัญจวน และน่าลิ้มลอง.. จนไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ..วันที่เขาได้ครอบครองปรีย์

    หนั่นเนื้อของเขาผลุบหายเข้าสู่ร่างกายของเด็กหนุ่ม กลุ่มไหมหนานุ่มเบียดเสียดกับช่องทางร้อนและบวมแดง ปรีย์หอบหายใจถี่ รู้สึกอึดอัดคับแน่น.. ร่างกายตึงเหมือนจะฉีกออก ทั้งเจ็บปวดและสุขสม ใจหนึ่งก็ปฏิเสธหากอีกใจหนึ่งกลับอยากให้ดำเนินต่อ ร่างกายของเขาขยับสอดประสานกับชายหนุ่มเป็นจังหวะตามสัญชาตญาณ

    "ดีรึเปล่า ?.. ดีมั้ยปรีย์ ?" ปรีย์พยักหน้าเร็วๆ จิกเล็บลงบนแขนของก้องภพ..

    "อ๊ะ.. อ๊า!" ร่างเล็กๆ นั้นแอ่นสะท้านกรีดเสียงร้อง เมื่อก้องภพดันเข่าทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มแนบอกและโถมกายเข้าหา มือเล็กพยายามดันหน้าท้องของชายหนุ่มหวังช่วยลดแรงกระแทกและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้น

    เสียงกระทบเนื้อดังถี่กระชั้น... เร็วขึ้น... แรงขึ้น.. และสิ้นสุดลง... ร่างของทั้งคู่เกร็งกระตุก ในหัวของเด็กหนุ่มขาวโพลน ว่างเปล่า.. คิดอะไรไม่ออก.. ลืมแม้กระทั่งกล้าหาญที่ยังอยู่ในบ้าน.. ความรู้สึกอุ่นในช่องท้องทำให้เด็กหนุ่มลืมตาโพลง

    "พ..พี่ก้อง!.." เด็กหนุ่มร้องเสียงหลงดิ้นขลุกขลัก เมื่อก้องภพล็อกตัวเขาไว้แน่นหนา รีดเร้นทุกหยาดหยดเข้าสู่ร่างกายเขา

    "ไม่เป็นไรน่า.. ครั้งแรกไม่ใช่เหรอ ?" ก้องภพกระซิบเสียงแหบพร่า จูบซับเหงื่อบนใบหน้าแดงของเด็กหนุ่ม

    "อย่าให้ใครทำแบบนี้กับเรานะ.." ก้องภพกระซิบบอก บดเบียดร่างกายเข้าหาจนปรีย์เผลอร้อง ..ชายหนุ่มมองรอยจูบบนลำคอเล็ก และเหยียดยิ้ม.. รอยสีกุหลาบเหล่านี้ราวกับจะประกาศต่อคนอื่นๆ ว่าเขาได้เป็นเจ้าของร่างเล็กนี้แล้ว

    ทุกสิ่งเกิดขึ้นรวดเร็วจนเด็กหนุ่มตั้งรับไม่ทัน... เขาจำไม่ได้ว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่... เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตนเองอยู่ในสภาพเกือบเปลือย ..พยายามขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งตัณหาของชายหนุ่มตรงหน้าได้ จนท้ายที่สุดเขาก็ถูกดึงเข้าสู่บ่วงราคะไปด้วย...

    ปรีย์รู้สึกเงอะงะ ครางแผ่วเมื่อก้องภพถอนกายออก.. เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งๆ เอื้อมมือหยิบทิชชู่เช็ดคราบของเหลวขุ่นผสมเลือดที่ไหลย้อนออกมาตามระหว่างขาของตน..

    แล้วเขาก็รู้สึกอยากร้องไห้ เมื่อคราบไคลจากกิจกรรมนั้นเลอะเต็มโซฟาไปหมด.. มันมีกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วบริเวณ เขากลัวกล้าหาญรู้...

    เด็กหนุ่มรีบสวมกางเกงและใช้เสื้อของเขาเช็ดช้าๆ...น้ำตาเอ่อล้นจนหยดลงบนเบาะ ...รู้สึกผิด เสียใจที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้.. เหลือบมองชั้นลอยว่ามีใครอยู่หรือไม่ แต่ก็ไม่เห็นใครอีกคน ....

        หากแต่ก้องภพไม่ได้สนใจ..เขาเริ่มติดใจในรสสวาท เอื้อมมือแตะไหล่เปลือยเปล่าของเด็กหนุ่ม ปรีย์ชะงักและขยับหนี.. ก้องภพมองเขาด้วยความไม่พอใจ..
 
    เด็กหนุ่มรู้สึกผิด.. ก้องภพเป็นผู้มีพระคุณของเขา ..จึงเอื้อมมือแตะฝ่ามือของก้องภพเบาๆ หวังจะขอโทษ ..ทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม... เอื้อมมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้านวลแผ่วเบา...ก้องภพตระกองกอดร่างเล็กอย่างรักใคร่ เมื่อเด็กหนุ่มไม่ปฏิเสธเขา ...

        "สัญญานะว่าจะเป็นของพี่คนเดียว.." ปรีย์สบตาคมของชายหนุ่มผู้ครอบครองร่างกายของตนนิ่ง ก่อนพยักหน้าเบาๆ ก้องภพเหยียดยิ้มอย่างผู้ชนะ... ในที่สุดเด็กคนนี้ก็ตกเป็นของเขา... แต่เพียงผู้เดียว.......ความใจดีของก้องภพเหมือนพันธนาการ ตีตรวนแน่นหนาจนเขาดิ้นไม่หลุด
 
    กล้าหาญเม้มริมฝีปาก.. ภาพของปรีย์ตอนตกเป็นของพี่ชายเขายังติดอยู่ในหัว.. ใบหน้าแดงชื้นเหงื่อ ริมฝีปากบางสีแดงช้ำเผยอหอบหายใจ ดวงตาสีเข้มเอ่อน้ำใส.. เขาไม่นึกมาก่อนว่าเด็กผู้ชายจะทำหน้ายั่วยวนได้ถึงขนาดนั้น..ก้องภพอาจมองเห็นอะไรในตัวของเด็กหนุ่ม ที่คนอื่นๆ มองไม่เห็น..

    ชายหนุ่มพยายามข่มความคิดนี้ออกจากหัว เขานั่งแปลงานมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่รู้เรื่องเลย... ก้องภพพาปรีย์ออกไปข้างนอก.. เขาสบตาพี่ชายก็รู้แล้วว่าพี่เขาต้องการอะไร

    จนค่ำๆ ก้องภพก็พาปรีย์มาส่ง.. เด็กหนุ่มเพียงไหว้เขาแล้วเดินขึ้นบนบ้าน แทบจะไม่มองหน้า.. เขากังวลว่าปรีย์มองเห็นเขายืนดูทุกการกระทำที่ก้องภพทำกับเด็กหนุ่ม และเสียใจที่เขาไม่ช่วยห้ามพี่ชายในห้องรับแขก... หากแต่มันเป็นอดีตไปแล้ว.... แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว...

    "พี่ก้อง.. แม่บอกว่าแม่จะรับปรีย์เป็นลูกบุญธรรม" กล้าหาญบอก ..ก้องภพยิ้มระรื่น และพยักหน้า หากแต่ประโยคถัดมาทำให้เขาเลิกคิ้ว

    ".....วันนี้ผมรู้นะ ว่าพี่ทำอะไรในบ้าน"

    "แล้วจะทำไม จะห้ามพี่รึไง ?" ก้องภพถามกลั้วหัวเราะ.. แต่กล้าหาญไม่หัวเราะด้วย

    "ถ้าพี่ทำแบบนั้นอีก ผมจะส่งปรีย์ไปให้แม่เลี้ยง" คำตอบของน้องชายทำให้เขาคิ้วขมวด..

    "ผมจะไม่ทิ้งปรีย์ไว้ที่บ้านอีกแล้ว.. ขนาดผมอยู่ในบ้านพี่ยังทำได้ถึงขนาดนี้เลย" กล้าหาญเปรยเหมือนจะบ่น.. แต่ก้องภพรู้ว่าน้องชายเขากำลังห้ามไม่ให้เขาทำอะไรแบบนั้นอีก.. คงเป็นเพราะยิ่งห้ามนี่แหละ เขาถึงได้รู้สึกว่าเด็กคนนั้นยิ่งน่าลิ้มลอง.. และรสชาติดีเสียด้วย...

    "ก็เด็กมันยั่วก่อน..." ก้องภพปัดความผิดไปให้เด็กหนุ่ม..

    "พี่ก็เลยสนองมันหรือไง ? ..พี่เป็นผู้ใหญ่นะ" คำพูดของกล้าหาญทำให้ชายหนุ่มรู้สึกไม่พอใจ และเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด

    "กล้า พี่ทำอะไรลงไป พี่รู้.. ไม่ต้องมาสอน" ก้องภพเอ่ยจบจึงหมุนตัวออกจากบ้าน.. ทิ้งให้กล้าหาญมองตามหลังด้วยความรู้สึกหลากหลาย...
 
    ปรีย์นอนกอดหมอนของยายแน่น... เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ความปวดหนึบบริเวณที่ถูกล่วงเกิน และภายในช่องท้องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าวันนี้เขาตกเป็นของก้องภพหลายต่อหลายครั้ง เด็กหนุ่มรู้สึกไม่คุ้นเคย กับรสชาติแปลกใหม่ที่ได้รับ ร้อนไปหมดไม่ว่าจะถูกสัมผัสตรงไหน..

    "ยายจ๋าทำยังไงดี..?" เด็กหนุ่มเอ่ยถามกับความว่างเปล่า ซุกจมูกลงสูดกลิ่นของยายที่ติดอยู่บนใบหมอนเก่านั้น..ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงซ่านเมื่อนึกถึงคำที่ถูกสอนให้เอื้อนเอ่ย...

    "ผม...รัก....พี่ก้อง..." เด็กหนุ่มปิดเปลือกตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราด้วยความสับสน...

    มีคนเคยบอกไว้ว่า เมื่อเราทำอะไรผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็มักจะมีครั้งต่อๆ ไปตามมา...ถึงแม้ในครั้งแรกที่ทำจะรู้สึกผิดมากมายเพียงใด หากเมื่อมีครั้งต่อไปตามมา ความรู้สึกเหล่านั้นก็จะเบาบางลง.. และหมดไปในที่สุด...
...............................................ทูบีคอนตินิว
 :z3:ขอโทษในความล่าช้า เมื่อคืนพยายามแล้ว แต่ไม่รู้เป็นไรลงไม่ได้เลยง่ะ อ่านตอนนี้แล้ว ขอ :z6:ไอ้ก้องหน่อยเหอะ มึงเลวเข้าเส้นเลือดจริง ๆ ความอยากตัณหามีเต็มสมอง ยิ่งอ่านยิ่งเกลียด ยิ่งแค้น น้องปรีย์ โดนล่อลวงด้วยคำพูด สงสารพี่กล้าง่ะ ทำไงดี อยากให้พี่กล้าช่วยปกป้องน้องปรีย์มากกว่านี้อ่ะเนอะ แล้วมาดูกันว่า พี่กล้าจะทำอะไรได้บ้าง
พีเอสซึ.ขอบคุณทุกกำลังใจของแฟนคลับน้องปรีย์อีกครั้งน่ะค่ะ ภูมิใจแทนคุณหยดจริง ๆ เป็น nc ที่อ่านแล้วเครียด เสียใจ ไร้ซึ่งความรื่นรมย์เลย o7
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 6 [18.11.54] ไม่เหลือแล้ว T_T
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 18-11-2011 12:48:34
เห็นชื่อตอนแล้วเข้ามากรีดร้องก่อน
อะไรไม่เหลือแล้ว :sad3:
************************
ตอนอ่านที่เกริ่นไว้ว่าเรื่องมันรันทดก็ทำใจไว้แล้วนะว่าปรีย์ไม่รอด
แต่มันก็ยังแอบหวังลึกๆ ว่าจะรอดอ่ะ
ไอ้เชี่ยก้อง พ่อมึงตาย(ขออภัยที่หยาบคาย ทนไม่ไหวอ่ะ)
มันยังมีหน้าบอกว่าเด็กมันยั่วก่อนอีก ไอ้ๆๆๆ ไม่รู้จะด่าอะไร
อ่านตอนที่ปรีย์ พูดว่ารักพี่ก้อง แล้วเจ็บอ่ะ
ไอ้บ้านั่นก็คิดได้สอนเด็กให้พูดว่ารักตัวเอง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 6 [18.11.54] ไม่เหลือแล้ว T_T
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 18-11-2011 13:12:35
เด็กหนุ่มตัวคนเดียวไม่มีที่พึ่งที่ไหนอีกแล้วอย่างปรีย์  ไม่มีอะไรไปต่อกรกับคนมากเล่ห์อย่างก้องภพได้หรอก
ชั่วโมงบินมันต่างกันมาก  ความไร้เดียงสา  มุมมองการใช้ชีวิตแบบแบน ๆ ตื้น ๆ ตามวัยของปรีย์
จะล่อหลอกให้ปรีย์ต้องตกเป็นเหยื่อของก้องภพไปอีกนานแสนนานทีเดียว
ก้องภพเลวมากที่อาศัยความได้เปรียบหลาย ๆ อย่างมาบีบบังคับปรีย์แบบนี้
ทำกับปรีย์เพราะเรื่องกาม ๆ อย่างเดียว  ไม่ได้รู้สึกดี ๆ อะไรด้วยเลย
สงสารปรีย์มาก ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 6 [18.11.54] ไม่เหลือแล้ว T_T
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-11-2011 13:30:19
ไอ้กอ้ง ไอ้คนฉวยโอกาส :beat:
กับเด็กก็ไม่เว้น :z6:
สงสารหนูปรีย์จับใจ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 6 [18.11.54] ไม่เหลือแล้ว T_T
เริ่มหัวข้อโดย: milkshake✰ ที่ 18-11-2011 13:39:06
ก้อง ฉวยโอกาสตอนน้องหมดที่พึ่งเรอะ
เดี๋ยวแม่โบก T T'
สงสารน้องปรีย์อ่ะ
พี่กล้าช่วยน้องด้วยยย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 19-11-2011 22:35:14
บทที่ ๗

    หลังจากวันนั้นปรีย์ก็จับไข้ นอนซมอยู่หลายวัน ...ส่วนก้องภพก็มาหาเขาแทบจะทุกวัน.. คอยดูแลประคบประหงมเอาใจจนเด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัด ...อีกทั้งยังแสดงตนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอย่างเปิดเผย ไม่เกรงใจสายตาน้องชายที่มองเขม็ง... ปรีย์ได้แต่อึกอักจะปฏิเสธก็ไม่ได้จะตอบรับก็ใช่ที..

    “ปรีย์อยากไปทะเลมั้ย ?” กล้าหาญเอ่ยชวนจากชั้นลอย หลังจากเพื่อนของเขาโทรมานัดให้ไปรวมตัว กลุ่มเพื่อนเก่ากันที่แหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง.. ใจจริงแล้ว เขาก็ไม่คิดจะปล่อยเด็กคนนี้ให้อยู่บ้านคนเดียว....

    “พี่กล้าจะไปอีกแล้วเหรอครับ ?” ปรีย์ถามเสียงไม่สู้ดี.. มองกล้าหาญตาละห้อย...

    “อืม.. เพื่อนพี่ชวนไปเลี้ยงน่ะ”

    “กี่วันเหรอครับ ?”

    “อาทิตย์นึงมั้ง ไปรึเปล่า ?”

    “...เอ่อ...” คำเอ่ยชวนทำให้เด็กหนุ่มลังเลใจ.. ก้องภพห้ามไม่ให้เขาไปเที่ยวกับกล้าหาญ จะได้มีเวลาอยู่ร่วมกัน.. แต่เวลาอยู่ด้วยกันทีไร.. ขาไม่เคยก้าวพ้นลงจากเตียงเลยซักที...

    “ไม่ต้องสนพี่ก้องหรอก ถามตัวเองดูว่าอยากไปรึเปล่า ?”

    “แต่ว่าเพื่อนพี่กล้า...” ปรีย์ยังคงลังเลใจ... เขาไม่รู้จักใครเลยซักคน ถ้าติดสอยห้อยตามไปด้วยแล้ว ดูจะเป็นส่วนเกินเสียเปล่าๆ

    “เพื่อนพี่ไม่ดุหรอก ว่าไง ?” กล้าหาญเอ่ยถามอีกครับ..

    “...ครับ..” เด็กหนุ่มสูดหายใจเต็มปอดก่อน พยักหน้า เผยยิ้มกว้าง... เขากำลังจะได้ไปเที่ยวทะเล....
 
    กล้าหาญพาเขามาบ้านพักริมทะเลหลังใหญ่ ใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมง มาถึงก็ตกเย็นพอดี ...เสียงหัวเราะเฮฮาดังอยู่ในบ้าน     ปรีย์มองสำรวจเพื่อนของกล้าหาญ.. มีราวๆ เกือบสิบคน ..ผู้หญิงมีเพียง ๒ – ๓ คน

    “น้องมึงเหรอวะ ?” เสียงทุ้มของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยถามกล้าหาญ ..ใบหน้าคมเข้มนั้นจับจ้องมาที่ปรีย์จนเด็กหนุ่มรู้สึกกลัว ขยับตัวยืนหลบหลังร่างสูง

    “เออ..” เขาพยักหน้าตอบ มองกริยาของเด็กหนุ่มแล้วแอบยิ้ม..

    “กูนึกว่าลูก หน้าคล้ายซะ” ผู้ชายท่าทางกวนๆ บอกแล้วหัวเราะเฮฮา.. กล้าหาญกับปรีย์มองหน้ากัน พวกเขาไม่เคยสังเกตมาก่อน ..เด็กหนุ่มหัวเราะแหะเบา ๆ ให้เขา.. ชายหนุ่มจึงอมยิ้มนิด ๆ ตอบ

    “เฮ้ย.. เคยได้ยินว่าเนื้อคู่มักจะหน้าตาคล้ายๆ กันว่ะ” ..แวบหนึ่งความคิดที่ว่าถ้าเป็นจริงเช่นนั้นก็ดี ผุดขึ้นมาในหัวของเด็กหนุ่ม หากแต่เพียงชั่วเสี้ยววินาทีจริง ๆ เมื่อเจอประโยคถัดไป...

    “แล้วมึงกับไอ้หยก...”

    “กูเอาของไปเก็บก่อน...” กล้าหาญเอ่ยน้ำเสียงเย็นชาตัดบท หิ้วกระเป๋าเดินนำร่างเล็กๆ ขึ้นไปยังชั้นบน.. ปรีย์มองวงสนทนาที่ตกอยู่ในความเงียบ... และมองแผ่นหลังกว้างที่เดินนำโดยไม่หันกลับมามองเขา...

    หยก ?... แฟนของพี่กล้า ?? ทั้งๆ ที่ไม่ได้เคยรู้จัก หรือเกี่ยวข้องอะไรกัน หากแต่ทำไมเด็กหนุ่มจึงรู้สึกไม่ชอบ และไม่อยากได้ยินชื่อนี้อีกก็ไม่รู้...
 
   “ง่วงรึยัง ?” ปรีย์ส่ายศีรษะ.. มองดูกระเป๋าของคนอื่นที่วางอยู่ก่อนหน้าแล้ว.. ห้องนี้คงนอนกันซักสี่คน...

    “อาบน้ำแล้วลงไปหาอะไรกินข้างล่างนะ พี่ลงไปรอ” กล้าหาญบอก จัดสัมภาระเข้าที่

    “ครับ..” เด็กหนุ่มรับคำ หยิบของใช้กับผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำ... นึกอยากรู้ว่าทำไมเขาถึงไม่เคยได้ยินกล้าหาญพูดถึงเธอเลย และไม่เคยเห็นเธอมาที่บ้านด้วย....

    ปรีย์ออกมาจากห้องน้ำอีกทีชายหนุ่มก็หายไปแล้ว.. แต่กลับมีผู้ชายอีกคนหนึ่งกำลังรื้อกระเป๋าอยู่ ...ชายหนุ่มตาดุๆ ที่มองจนเขากลัวนั่นเอง.. ปรีย์สะดุ้งเมื่อเขาหันมาสบตากับเด็กหนุ่ม.. ได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ไปให้...

    “ชื่ออะไรน่ะเรา ?” ชายหนุ่มฉีกยิ้มเห็นฟันขาวเรียงสวย

    “ป...ปรีย์ครับ..” เด็กหนุ่มตอบเบาๆ ด้วยความประหม่า.. เวลาผู้ชายคนนี้ยิ้มดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ...

    “อายุเท่าไหร่เนี่ย ?”

    “...จะ ๑๗ แล้วครับ” เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำตอบก็เงียบไปพักหนึ่ง ปรีย์จึงเป็นฝ่ายเอ่ยถาม...

    “พี่ชื่ออะไรเหรอครับ ?” ชายหนุ่มละสายตาจากรอยคิสมาร์คบนลำคอเล็กนั้น ก่อนเอ่ยตอบเบาๆ

    “วินด์….” ...เด็กหนุ่มคลี่ยิ้ม.. เพื่อนของกล้าหาญไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เขาคิด....

    ปรีย์ลงไปทำความรู้จักกับพวกรุ่นพี่อย่างกล้าๆ กลัวๆ ก่อนออกจากบ้านพักเดินเลียบชายฝั่งยามค่ำคืน..    ลมเย็นพัดผ่านร่างโปร่ง ..นึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสมาสถานที่เช่นนี้กับคนในครอบครัว... เขานึกถึงคำพูดของยาย ที่เคยบอกไว้ว่าแม่ชอบทะเล แต่ไม่เคยมีโอกาสได้มาเหยียบบนผืนทรายขาวสะอาด ไม่มีโอกาสได้มาฟังเสียงคลื่นลมแรง.. เขาเลยตั้งใจจะเก็บเม็ดทรายและน้ำทะเลไปฝาก.. พลันนึกถึงที่เก็บกระดูกของแม่ ที่หล่อขึ้นจากปูน และเขียนชื่อไว้ลวก ๆ ว่า ปัญชิกา วิริยะสิทธิ์ ถ้าหากเขาโตขึ้นและมีเงินล่ะก็ สิ่งแรกที่จะทำคือย้ายกระดูกของแม่ไปอยู่ในสถูปที่วิจิตรงดงามไม่แพ้คนอื่นๆ... นี่คงเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขาสามารถทำเพื่อตอบแทนท่านได้...

    เด็กหนุ่มทิ้งตัวนั่งบนผืนทรายละเอียดนุ่ม มองดูทะเลที่ดำมืดไกลสุดลูกหูลูกตา... ถ้าหากว่าในตอนนี้มีคนกำลังลอยคออยู่กลางทะเล จะหาทางกลับขึ้นฝั่งเจอมั้ยนะ ?...คนๆ นั้นจะมีความรู้สึกเหมือนกับเขาในเวลานี้หรือเปล่า ?...

    “ออกมาทำอะไรตรงนี้ ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งสุดตัว

    “พ.. พี่กล้า ตกใจหมดเลย!” ปรีย์ทำหน้าตาตื่น.. กวาดตามองหาเจ้าของเสียง ....อยู่คนเดียวในที่มืดๆ แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงทักทายมันน่ากลัวน้อยเสียเมื่อไหร่

    ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ .. ปรีย์อมลมแก้มป่อง แก้มทั้งสองข้างร้อนผะผ่าว ...รู้สึกอายผสมกับเสียหน้านิดๆ

    “ออกมาทำอะไร ?.. นี่มันก็ดึกแล้วนะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ

    “พี่กล้านั่นแหละ ออกมาทำอะไร ?”

    “เดี๋ยวนี้กล้าย้อนแล้วเหรอเรา ?” กล้าหาญเลิกคิ้ว มองคนนั่งข้าง

    ปรีย์จึงรีบเอ่ยแก้ตัว “ผมเปล่าย้อนซักหน่อย...”

    “ก็แบบนี้นั่นแหละที่เรียกว่าย้อน” พอถูกย้ำเข้าอีกครั้งเด็กหนุ่มจึงหุบปากฉับ นั่งกอดเข่าตัวเองเงียบๆ

    “คิดอะไรอยู่ ?” กล้าหาญเอ่ยขึ้นมาเบาๆ ทำลายความเงียบที่กินเวลานานจนเกินไป

    “พี่ก็ลองทายสิ” ปรีย์เอ่ยตอบโดยไม่มองหน้าคู่สนทนา เขี่ยทรายละเอียดจนมันเป็นหลุมเล็กๆ

    “..เรื่องพี่ก้องรึเปล่า ?” อาการนิ่งเงียบของเด็กหนุ่มทำให้เขารู้ว่าตนทายถูกเผง... ทั้งคู่จึงตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง...

    “พี่คิดว่าผมกำลังทำถูกไหม ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเขาเบาๆ แต่สายตายังคงจับจ้องทะเลอันเวิ้งว้าง...

    “...ไม่ถูก...” คำตอบของกล้าหาญทำให้เด็กหนุ่มเกร็งตัว

    “แต่ก็ไม่ได้ผิด” จบประโยค ปรีย์ก็หันมาสบตาเขา และเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ...

    “มีด้วยเหรอฮะ อะไรแบบนั้น ?..”

    “มีสิ.. ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้นั่นแหละ... มันไม่ได้มีผิดหรือถูกมาตั้งแต่แรก... แต่คนเราใส่ความคิดเข้าไปกำหนดมันเองต่างหาก ว่าสิ่งนี้มันไม่ดี มันผิดนะ...”

    ปรีย์หน้าเบ้.. ก่อนแอบพึมพำเบาๆ “เหมือนคุยกับคนแก่เลย..”

    “..ปากคอเราะร้ายนะเราน่ะ” เด็กหนุ่มสะดุ้ง ไม่คิดว่าคนข้างๆ จะได้ยิน จึงยิ้มประจบ

    “ผมไม่ได้ตั้งใจ... พี่กล้าไม่โกรธผมนะ” ทำท่าทางออดอ้อนจนชายหนุ่มเผลอหัวเราะ ยกมือขึ้นขยี้ศีรษะทุยเบาๆ

    ปรีย์ขยับเข้าใกล้หวังมองรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าหล่อเหลาได้อย่างชัดเจนขึ้น.. มันช่างดูเหมาะกับชายหนุ่มเสียยิ่งกว่าใบหน้าเรียบตึงที่เขามักจะทำเป็นประจำเสียอีก....

    กล้าหาญหยุดหัวเราะ.. ในใจไหววูบเมื่อเห็นดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลเข้มจ้องเป๋งมาหาเขาในระยะใกล้..

    “กลับไปนอนกันเถอะ” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้น ..รีบเอ่ยตัดบทก่อนที่เขาจะรู้สึกถูกดึงดูดด้วยดวงตาแสนสวยคู่นั้น....

    ปรีย์มองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความงงงัน ...ความรู้สึกแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นภายในใจเด็กหนุ่มค่อยๆ ตกตะกอน และก่อตัวเป็นรูปร่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ..โดยที่เด็กหนุ่มไม่ทันได้รู้ตัว....
 
    วันถัดมาปรีย์ก็ตื่นไปเล่นน้ำทะเลแต่เช้า พร้อมกับพี่ๆ ผู้หญิง    กล้าหาญเหลือบมองสายโทรเข้าของก้องภพ.. พี่ชายของเขาโทรมาโวยวายตั้งแต่เมื่อคืน และบอกว่าจะมารับปรีย์กลับ แต่เขาไม่บอกหรอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน...

    เกือบจะเที่ยงแล้ว ..เด็กหนุ่มยังเล่นไม่รู้จักเหนื่อยจนพวกรุ่นพี่ขึ้นทะเลยอมแพ้กันเป็นแถบๆ

    “น้องปรีย์ มากินข้าว!!” เวิลป้องปากตะโกนเรียกน้องของเพื่อนเธอจากริมหาด

    เด็กหนุ่มหัวเราะและลากห่วงยางเช่าที่ดูเหมือนจะเป็นยางรถยนต์ขนาดใหญ่มากกว่าขึ้นมาพร้อมกัน

    “โอ๊ย!” ปรีย์ร้องออกมาเบา ๆ ความเจ็บแปลบแล่นวาบขึ้นมาจากฝ่าเท้า ..เมื่อก้มมองผืนทรายที่เดินผ่าน ก็พบว่าเต็มไปด้วยรอยเลือด...

    “พ..พี่กล้า!!” เด็กหนุ่มตะโกนเรียกกล้าหาญดังลั่น ...ชายหนุ่มกุลีกุจอวิ่งมาหาปรีย์ด้วยความตกใจ

    “โดนอะไร ?” กล้าหาญถามอย่างตกใจ ประคองเด็กหนุ่มนั่งลงบนห่วงยางอันใหญ่..ฝ่าเท้าเล็กๆ ของปรีย์มีเศษแก้วฝังลึก เมื่อเขาหยิบมันออกเด็กหนุ่มก็ร้องลั่น

    “อ๊ะ.. โอ๊ย!” แวบหนึ่งเขานึกถึงตอนที่ปรีย์ร้องและทำสีหน้าเช่นนี้.. วันนั้น.. ในห้องรับแขก..กับพี่ชายเขา...

    “ล้างแผลก่อนดีกว่า.. เจ็บมากรึเปล่า ?” กล้าหาญปัดความคิดฟุ้งซ่าน พยุงร่างเล็กยืนขึ้น

    “แสบ..” ปรีย์ตอบเสียงสั่น.. เขารู้สึกว่าเลือดตัวเองออกเยอะจนน่ากลัว

    “เลือดออกเยอะเลย เดินไหวมั้ย ?” กล้าหาญถามด้วยความเป็นห่วง โอบประคองร่างเล็กๆ ไว้ ...ผิวกายอุ่นของเด็กหนุ่มเบียดแนบชิดกับผิวเนื้อของเขาบ้าเอ๊ย! มาคิดฟุ้งซ่านอะไรตอนนี้...

    กล้าหาญภาวนาให้ถึงบ้านพักไวๆ ...ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ...โชคดีที่มีเพื่อนๆ มาช่วยกันพยุงเด็กหนุ่มไปเสียก่อน...
ปัดความคิดแปลกๆ ออกจากสมอง.. คงเป็นเพราะเขาเห็นภาพก้องภพคลอเคลียกับเด็กคนนี้บ่อยเกินไป..
 
    “ซ่าส์นัก เป็นไงล่ะไอ้หนู!” เสียงเพื่อนของเขาตะโกนแซวเด็กหนุ่มที่นั่งซึมเป็นหมาหงอยเมื่อได้แผลใหม่มา..   ปรีย์เบ้ปาก ส่งค้อนให้อาคม เพื่อนของเขาที่มักจะใช้ปากแกว่งหาเสี้ยน...

    กล้าหาญหัวเราะเบาๆ.. เด็กหนุ่มเข้ากับคนอื่นๆ ได้เร็วจนเขาแปลกใจ.. เขาไม่รู้ว่าปรีย์เป็นเด็กเฮฮา คุยเก่ง.. คงเพราะอยู่กับผู้ชายเงียบๆ อย่างเขา เด็กหนุ่มเลยต้องเงียบตามละมั้ง...?

    “กุ้งตัวนี้ผมให้พี่เวิลสุดสวยนะคร้าบ~ อ้าม~~!” ปรีย์ยักคิ้วให้อาคม ป้อนกุ้งที่เขาแกะให้แฟนสาวของชายหนุ่มรุ่นพี่..   เวิลหัวเราะ และอ้าปากงับกุ้งแอบดูดนิ้วมือเล็กนั้นเบาๆ อาคมชี้หน้าเด็กหนุ่มทำท่าฮึดฮัด.. เพื่อนๆ พากันโห่ สมน้ำหน้าใส่..

    “เอ็งเคยกินเหล้าป่าววะ ไอ้ปรีย์”

    “ไม่ล่ะครับ...” เด็กหนุ่มบอกยิ้มๆ แอบเหลือบตามามองกล้าหาญเกรงๆ...

    “อย่างงี้ต้องลองๆ”

    “เฮ้ย! มันยังเด็กอยู่” ชายหนุ่มรีบเอ่ยขัดเพื่อน

    “เด็กเดิกอะไร ตอนมึงอยู่ม.3 ก็กินเหล้าแทนน้ำเปล่าแล้ว!” กล้าหาญนิ่งเมื่อเพื่อนของเขาสวนกลับ..

    “เอ้าชน!” ....

    กล้าหาญโอบร่างอ่อนปวกเปียกของเด็กหนุ่มกลับเข้าบ้านพัก..ชายหนุ่มยิ้มมองใบหน้าแดงก่ำสะลึมสะลืออย่างหมั่นเขี้ยว

    “คออ่อนแล้วยังกินอีก..” กล้าหาญพึมพำเบาๆ ทิ้งร่างเล็กนั้นนอนแผ่ลงบนเตียงนุ่ม

    คิดจะลงไปนั่งดื่มกับเพื่อนต่อ แต่ก็อดหันกลับมามองเด็กผู้ชายที่นอนอยู่ไม่ได้... ฝ่ามืออุ่นของชายหนุ่มสัมผัสแก้มร้อนอย่างเบามือ.. ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรือขึ้นมองเขาหวานเยิ้มด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ และส่งยิ้มหวานให้ กล้าหาญหัวเราะเบาๆ ..สบสายตาฉ่ำหวานนั้น... ราวกับมีแรงดึงดูดให้เขาเข้าไปค้นหา...

    ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลง ท้าวแขนข้างศีรษะทุย ...ประกบริมฝีปากสีชมพูบางนั้นแผ่วเบา.. เนิบนาบ.. ก่อนจะสอดลิ้นเข้าสำรวจโพรงปากเล็กกรุ่นกลิ่นแอลกอฮอล์ ปรีย์ครางในลำคอ โอบแขนรอบลำคอหนา.. จูบตอบเขาอย่างเร่าร้อน

    ชายหนุ่มหอบหายใจหนัก มือหนาควานสัมผัสผิวเนื้ออุ่นใต้สาบเสื้อ

    “พ..พี่ก้อง...” กล้าหาญชะงัก มองใบหน้าแดงก่ำของเด็กหนุ่ม ...ก่อนทิ้งตัวลงนั่งข้างเตียง.. ฝ่ามือหนายกขึ้นกุมหน้าผาก    ....นี่เขาเป็นอะไร ??

    เขากำลังมีอารมณ์กับเด็กผู้ชาย.. และเด็กคนนั้นเป็นของพี่ชายเขา...
.................................................................ทูีบีคอนตินิว
ไม่มีอะไรจะกล่าว นอกจากขอบคุณแฟนคลับที่ยังติดตามความเคลื่อนไหวของน้องปรีย์เสมอมา เกือบจะมีความสุขละตอนนี้ เกลียดไอ้ก้อง :m31:ขนาดมันไม่ออก ยังอยากกระตืบมันเลย พี่กล้าคนดี น่าสงสารตอนน้องละเมอเป็นชื่อไอ้ก้องเนี่ยล่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-11-2011 22:58:30
ปรีย์ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้แแล้วว่าให้พูด "รักพี่ก้อง"  เรียกว่าพูดเพราะความเคยชิน
ตอนนี้กล้าหาญหวั่นไหวซะแล้ว  เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 19-11-2011 23:23:07
โอ้ย อ่านแล้วเกิดอาการปวดตับ กระทันหัน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-11-2011 23:30:52
หนูปรีย์คงกำลังสับสน :เฮ้อ:
ไอ้ก้องนั่นอย่าไปรักมันเลย
 :m31:รักพ่อกล้าดีกว่า  o13
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 19-11-2011 23:38:17
รอวันอีก้องหมดบุญ...    กรรมจะได้ตามทันมันไว ๆ      o12


พี่กล้าต้องช่วยน้องให้ได้นะ  พิสูจน์รักจากสวรรค์ไปเลย ยังไงฟ้าก็ส่งน้องมาให้คู่เราอยู่แล้ว (เพราะหน้าคล้ายกัน)

ยังไง 'คน' อย่างกล้า ก็ประเสิรฐกว่า 'ไอ้ตัวที่ชิงหมามาเกิดเป็นวรนุช' อย่างอีก้องนรก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 20-11-2011 00:16:18
เห็นด้วยกะคุณiforgiveเหมือนปรีย์โดนกรอกหูด้วยอ่ะ
พี่กล้าสู้ ๆ เชียร์ขาดใจครับ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 20-11-2011 09:03:46
นี่ถ้าปรีย์ตคกเป็นของกล้าอีกคนนี่ชีวิตจะ....    ดรา  ม่า  แน่   :m15:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 20-11-2011 11:00:13
 o22  เพิ่งตามมาอ่านหลังจากว่างเว้นไปหลายวัน....ง่า..อีตาพี่ก้องนี่เหมือนจะดีนะ...รึเปล่า... o18

 :กอด1: มาต่อบ่อยๆนะคะ....
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 20-11-2011 11:47:29
โอ้วววววว :z3: เริ่มดราม่านิดๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 20-11-2011 15:03:49
รู้สึกเหมือนว่าเราจะเชียร์พี่ก้องอยู่คนเดียวนะเนี่ย อิอิ(เราชอบคนเลว เอิ๊กๆ)
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 20-11-2011 23:22:38
สงสารน้องปรีย์มากมาย T^T
พี่กล้าเขาดีกว่าพี่ก้องเยอะนะหนู
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-11-2011 12:27:03
อ่านตอนนี้แล้วมีความสุข (ถ้าตัดไอ้ชื่อเสนียดๆ ย่อหน้าท้ายๆ ออกไปอ่ะนะคะ)
รู้สึกว่าปรีย์ได้ใช้ชีวิตสมวัย เห็นปรีย์ร่าเริงแล้วเราก็ยิ้มตามไปด้วย
ขนาดเจ็บตัวเลือดออกก็ยังยิ้มได้^^
แหม่ เรื่องนี้น่าจะมีตัวละครแค่ที่มีอยู่ในตอนนี้ก็พอเนาะ
บวกๆ เป็นกำลังใจ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 7 [19.11.54]เหตุเสียเลือด
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 21-11-2011 15:12:00
มีแววจะได้กินมาม่าชามโต  555

อย่าโหดร้ายกับน้องปรีย์มากนักเล้ยยย

+1 ให้อย่างเต็มใจจ้ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 21-11-2011 15:31:22
บทที่ ๘

        เสียงสาดซัดของคลื่นทะเลกระทบฝั่งดังขึ้นเป็นระยะ ลมร้อนพัดตีใบหน้าจนเส้นผมยาวๆ ของบางคนยุ่งไม่เป็นทรง ปรีย์ตื่นขึ้นมาด้วยความเวียนศีรษะ.. และพบว่าการออกมานั่งสูดอากาศข้างนอกสามารถทำให้รู้สึกดีขึ้นได้...แต่เมื่อเห็นคนกำลังวิ่งเล่นริมชายหาดอย่างสนุกสนาน ก็ทำได้เพียงนั่งมองคนเหล่านั้นอย่างเหงาหงอย เมื่อไม่สามารถเล่นน้ำทะเลสนุกสนานอย่างคนอื่นๆ ได้...

    เมื่อคืนเขาฝัน.. ฝันว่าได้รับจูบแสนอ่อนโยนจากพี่ก้อง... เด็กหนุ่มยิ้มให้กับตัวเอง เลื่อนมือหยาบมาสัมผัสริมฝีปากอย่างแผ่วเบา..

    "นั่งทำอะไร ?" เสียงทุ้มเอ่ยถามเด็กหนุ่ม ปรีย์หันไปมองคนที่เอ่ยทัก วินด์หาววอดใหญ่ เส้นผมยุ่งไม่เป็นทรง ล้วงมือเกาหน้าท้องแกรกๆ.. ดูเหมือนว่าเขาคงจะเพิ่งตื่น...

    "เพิ่งตื่นเหรอครับ ?" ปรีย์ยิ้มถาม มองเพื่อนของกล้าหาญขยี้ตามองกลับมาหาเขา

    "...ไปซื้อของกับพี่มั้ย ?" วินด์เอ่ยถาม เหลือบมองเข้าไปในบ้าน.. ไม่มีใครตื่นเลยซักคน เมื่อคืนดูเหมือนพวกเขาจะดื่มหนักไปหน่อย...

    "ไปครับ" เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ รีบวิ่งกะโผลกกะเผลกเข้าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ในบ้าน
 
    ร้านขายของเรียงรายเต็มสองข้างทาง นักเดินทางเดินกันขวักไขว่ บางคนทำผมทรงแปลกๆ หรือแต่งตัวแหวกแนวจนปรีย์มองตามจนเหลียวหลัง วินด์หยุดยืนที่ร้านขายของที่ระลึกแห่งหนึ่ง.. ปรีย์มองโปสการ์ดอย่างสนใจ.. เขาน่าจะซื้ออะไรกลับไปฝากพี่ก้องบ้าง...

    แต่เสียงร้องเล็กๆ แหลมๆ ทำให้เด็กหนุ่มหยุดนิ่ง มองหาแหล่งกำเนิดเสียงเหล่านั้น...   เดินวนไปวนมาหลายรอบ ก็เจอเข้ากับกองไม้เล็กๆ กองหนึ่ง.. และเสียงมันดังออกมาจากในนี้...

    เด็กหนุ่มมองรังนกอย่างสงสัย ในนั้นมีลูกนกตัวเล็กยิ่งกว่านิ้วของเขาเสียอีก... ขนยังไม่ขึ้น ตาก็ยังไม่เปิดเลยด้วยซ้ำ.. มันพากันส่งเสียงร้องจิ๊บๆ ราวกับจะร้องเรียกความสนใจให้เขาเข้าไปดู..

    "แม่มันคงทิ้งรังไปน่ะ" วินด์บอกลอยๆ ยิ้มมองเด็กหนุ่มที่ดูสนอกสนใจสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านั้นเสียมากมาย

    "ปล่อยไว้ไม่กี่วันก็คงตาย.." ชายหนุ่มพูดเตือนกลายๆ .. แต่ก็ไม่สามารถห้ามความคิดของปรีย์ได้...

    "เอาไปเลี้ยงได้มั้ยครับ ?" นั่นปะไร.. ว่าแล้วไหมล่ะ...

    "ทำไมล่ะ ? เดี๋ยวมันก็ตายนะ" เขายิ้มถาม.. เด็กหนุ่มมองอย่างลังเล ก่อนตัดสินใจถือรังไม้เล็กๆ นั้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม

    "...แต่ก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอครับ ?" คำบอกของเด็กหนุ่มทำให้เขานิ่ง...

    "ตามใจสิ.." วินด์บอกลูบศีรษะทุยเบาๆ.. ถ้าเขาเจอเด็กคนนี้เร็วกว่านี้.. อะไรๆ ในชีวิตของเขามันคงไม่เป็นแบบนี้..

    วินด์รับโทรศัพท์และซื้ออาหารตามที่เพื่อนสั่งแถวๆ นั้น เดินดูของกับเด็กหนุ่มอีกซักพัก เมื่อย้อนกลับมาบ้านพักอีกครั้ง เด็กหนุ่มก็ชะงักนิ่ง เมื่อเห็นรถสี บรอนด์เงินคุ้นตา...

    "ปรีย์!" เด็กหนุ่มมองก้องภพงงๆ เขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะมาหาเขาถึงที่นี่

    "หายไปไหนมา พี่อุตส่าห์มารับ" ชายหนุ่มเอ่ยถาม ยิ้มแก้มปริเมื่อกล้าหาญโทรบอกให้เขามารับเด็กหนุ่มตั้งแต่เมื่อกลางดึก

    "ผม.. ผมไปซื้อข้าวกับพี่วินด์ครับ" ปรีย์บอกเสียงเบา ทำไมก้องภพถึงอยู่ที่นี่ ? ..เด็กหนุ่มเหลือบตามองกล้าหาญ... และชายหนุ่มหลบสายตาเขา....

    "อะไรน่ะ ?" ก้องภพถามอย่างสงสัย ..มองรังนกในเมื่อของเด็กหนุ่ม

    "ลูกนกน่ะฮะ.."

    "..กลับบ้านกันเถอะ"

    "...ครับ" ปรีย์รับคำเบาๆ เดินกะโผลกกะเผลกกลับเข้าไปเก็บของในบ้านพักโดยไม่หันมามองกล้าหาญอีก...

    ใครกันที่บอกให้เขาทำตามสิ่งที่อยากจะทำ ?......แล้วจู่ๆ ก็ทิ้งเขาเสียกลางทาง....
 
    เด็กหนุ่มฮัมเพลงเบาๆ มองลูกนกตัวเล็กๆ ด้วยความเพลินเพลิน.. ถึงมันจะดูขี้เหร่แต่ก็น่ารักจนเขาอมยิ้ม พลางคิดในหัวว่ามันจะกินอะไรได้บ้างนะ ?...

    "อารมณ์ดีนักหรือไง อยู่กับไอ้กล้าน่ะ.." ก้องภพเอ่ยออกมาอย่างเสียมิได้.. เขากำลังหงุดหงิดกับเสียงร้องจิ๊บๆ ไม่หยุดของลูกนกตัวเล็กๆ เหล่านั้น และไม่ค่อยเห็นปรีย์อารมณ์ดีแบบนี้ซักเท่าไหร่.. เด็กหนุ่มตกใจและรีบแก้ตัวผลันวัน

    "ม..ไม่ใช่นะครับ! ทำไมพี่ก้องพูดอย่างนั้นล่ะ ?" ก้องภพไม่ตอบ มองตรงไปยังถนนข้างหน้า.. อาการมึนตึงของก้องภพทำให้เด็กหนุ่มกระอักกระอ่วน... จึงรีบกล่าวเอาใจ

    "ผม..ขอโทษครับพี่ก้อง... ถ้าผมไปไหน ผมจะขออนุญาตจากพี่ก่อน.."

    "พี่ไม่โกรธผมนะครับ.." ก้องภพเริ่มยิ้มออก ยกมือซ้ายโอบเด็กหนุ่มเข้ามากอด และสูดดมกลิ่นทะเลบนเส้นผมนุ่ม
 
    "เอารังนกนั่นไว้ข้างล่าง!" ก้องภพออกคำสั่งเมื่อเห็นปรีย์ไม่ยอมละมือจากรังไม้เล็กๆ และมีท่าทีว่าจะเอาไปไว้บนห้องเสียด้วย

    เด็กหนุ่มยิ้มแหยๆ วางรังนกไว้บนโต๊ะห้องรับแขก ทอดสายตามองอย่างอาลัยอาวรณ์ และหิ้วกระเป๋าเดินกระโผลกกระเผลกขึ้นไปบนห้องของตนโดยไม่รู้ว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้สัมผัสกับพวกมัน ก้องภพเดินตามเด็กหนุ่มไปติดๆ และโอบร่างเล็กๆ นั้นจากด้านหลัง

    "พี่ก้องครับ ลูกนก..." เด็กหนุ่มพยายามขัดขืน.. เขาอยากให้อาหารเจ้านกน้อยพวกนั้นมากกว่า.. มันดูตัวเล็กแคระแกร็นจนน่าใจหาย

    "ไม่เป็นไรหรอกน่า พี่คิดถึงปรีย์จะแย่อยู่แล้ว" ก้องภพกระซิบบอก เล็มเลียลำคอเล็กอย่างหิวกระหาย.. เขาคิดถึงกลิ่นกายและเนื้อหนังของเด็กคนนี้ใจจะขาด..

    ชายหนุ่มไม่เคยหลงใครขนาดนี้มาก่อน มือหนาของเขาสัมผัสและบีบเค้นร่างเล็กในอ้อมแขน ถอดเสื้อผ้าที่ปิดบังผิวเนื้อนวลออก.. ชายหนุ่มมองสีผิวที่คล้ำขึ้นของเด็กหนุ่มอย่างหลงใหล ..และหึงหวง

    "คราวหน้า.. พี่จะพาเธอไปอาบแดดเอง.." ก้องภพบอกเสียงแหบพร่า เริ่มบรรเลงบทเพลงแห่งรักที่จะเติมเต็มความสุขให้กับร่างบาง
 
   เด็กหนุ่มสะดุ้งตื่นอีกครั้งในตอนเช้า.. แย่ล่ะสิ! เขาเผลอหลับไปเหรอเนี่ย!!...ก้องภพกลับไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วหลังจากเต็มอิ่มกับร่างกายเขา เด็กหนุ่มกระวีกระวาดหยิบบ็อกเซอร์ขึ้นมาใส่แล้วเดินตุปัดตุเป๋ลงไปยังห้องรับแขก...

    มีเพียงความเงียบเชียบ... เด็กหนุ่มค่อยๆ เคลื่อนไปหารังนกที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ....ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองลูกนกที่สิ้นลมหายใจเงียบๆ ...ตัวมันแข็งเย็นและนิ่ง ไม่พากันส่งเสียงร้องระงมอีกแล้ว...

    ทำไมเขาถึงโง่อย่างนี้นะ... ทั้งๆ ที่ไม่คิดจะเลี้ยงอะไรแล้วเชียว... เขาอุตส่าห์ทำใจไว้แล้วว่ามันต้องตาย.. แต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วขนาดนี้....

    เด็กหนุ่มค่อยๆ ถือรังของมันออกมาหน้าบ้าน ขุดดินด้วยมือเปล่าจนเลอะเทอะสกปรกไปหมด เขาไม่ได้สนใจว่ามือหยาบๆ ของตนเองจะเป็นเช่นไร ..ก่อนฝังกลบทั้งรังเอาไว้..

    ปรีย์นั่งมองดินส่วนที่ตนเองฝังรังนกเอาไว้เงียบๆ จนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไหร่... ถึงแม้แดดจะร้อน แต่เขากลับไม่รู้สึกร้อนเลยซักนิดเดียว...

    ก้องภพตกใจเมื่อเห็นสภาพของเด็กหนุ่มในวันถัดมา...

    "ทำไมสกปรกแบบนี้ ?" ชายหนุ่มถามอย่างหงุดหงิด ทั้งๆ ที่วันนี้เขาคิดจะพาปรีย์ไปเที่ยว แต่กลับมาเจอเด็กหนุ่มนั่งเหม่อลอยอยู่หน้าบ้าน

    "ไปอาบน้ำเลยปรีย์"

    "...........ครับ..." เด็กหนุ่มตอบรับคำเบาๆ.. ดวงตาแดงก่ำ.. และเดินกลับเข้าไปในบ้าน...สายโทรศัพท์ที่ไม่ได้รับเป็นเบอร์แปลกที่เด็กหนุ่มไม่เคยรู้จัก... เขาตัดสินใจโทรกลับไปหาเบอร์นั้น...

    "ว่าไง ลูกนกเป็นยังไงบ้าง ?" ..เสียงทุ้มปลายสายถามอย่างอารมณ์ดี... มีเสียงอากาศปะทะปนมาเบาๆ.. บ่งบอกว่าที่นั่นอากาศดีเพียงไหน...

    ปรีย์นิ่ง.. รู้สึกว่าขอบตาตัวเองร้อนผ่าว จนท้ายที่สุดน้ำตาก็เอ่อไหล...

    "...ฮึก...มัน..มันตายหมด...แล้วล่ะครับ..." เด็กหนุ่มสะอึกสะอื้นตอบปลายสายเบาๆ....

    สุดท้ายก็เหลือเขาเพียงคนเดียว.....
.......................................................................ทูบีคอนตินิว
อ๊ากกกกกกกกกกกกก :m31:มึงจะให้กูเกลียดมึงไปถึงไหนไอ้ก้อง ใจน้องปรีย์สลายอีกแล้ว พี่กล้า ทำไมไม่ออกโรงปกป้องบ้างล่ะ เงียบทำไม o7 จิตตก น้ำตาไหล สุขใจตอนเดียว รันทดอีกแล้ววว สงสารตอนน้องฝังศพนกด้วยมือเปล่า แล้วนั่งอยู่ที่นั่น จนไม่รู้ว่ามันผ่านไปกี่ ชม. แอ่ะ เศร้าว่ะ  :beat:เกลียดมัน สุดท้าย ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้น้องปรีย์เสมอมา ช่วยกันลุ้นไปกับชีวิตน้องปรีย์กันน่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 21-11-2011 15:33:17
จิ้มก่อน :กอด1:

********
ก้องก็ยังคงคอนเซปเหี้ยเห็นแก่ตัวได้ใจเหมือนเดิม
ปรีย์เอ๊ย เลิกคิดว่ารักไอ้ก้องได้แล้ว หงุดหงิดจริงๆ
พี่กล้าก็ช่วยทำอะไรหน่อยเถอะคร๊าาาบ

หวังว่าตอนจบน้องปรีย์จะไม่ตายนะ

รักคนแต่ง  หลงคนโพส
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-11-2011 17:18:04
ไม่ชอบหน้าไอ้ก้องเลยจริงๆ :beat:
หนูปรีย์ร้องไห้อีกแล้ว :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 21-11-2011 19:47:37
ก่อนอื่นต้องลงโทษอีตาก้องและไอ้พี่กล้าด้วยการ  :z6: จัดหนักเต็มๆ

สงสารปรีย์อ่ะ  :กอด1:

เชียร์อีพี่วินดีกว่าท่าทางจะเป็นคนดีนะ  :z2:

สุดท้ายมาต่อบ่อยๆนะคะ.....ค้างอ่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 21-11-2011 20:01:37
มาม่าเบาๆ  T^T

ชาติที่แล้วไปทำอะไรมาหรอหนูปรีย์  ชาตินี้ถึงต้องช้ำใจอย่างเน้!!!
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 21-11-2011 20:21:05
โอ้ย เศร้า อ่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-11-2011 20:30:06
ก้องภพ = เควี่ยมาก ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 21-11-2011 20:32:32
ปวดใจ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: pronpailin ที่ 21-11-2011 20:46:22
 o13 กรี๊ดดด อ่ะค่ะ
+1 เรื่องนี้
+1 คนแต่ง
แต่ว่า อีพี่ก้องนี้มัน :z6:เมื่อไหร่จะปล่อยน้องปรีย์ อ่ะ แล้วเมื่อไหร่ พี่กล้าจะยอมรับว่า ชอบน้องปรีย์ รู้บ้างม่าย
ว่ามีอีก 1 บุรุษ กำลังจะเดินเข้ามา เดี๋ยว ก็ มคปด อ้ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 21-11-2011 20:47:05
ไม่ชอบก้องเลย
อยากให้ปรีย์เจอคนดีๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 21-11-2011 23:39:05
สามคำให้ก้อง ณ จุดนี้>>> ต้อง การ ไร  :m31:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: timvasabi ที่ 22-11-2011 00:49:38
อ่านแล้วปวดตับ บีบใจ ลุ้นจนคิ้วจะผูกกันแล้ว
สงสารนายเอกที่สุดของที่สุด นิสัยดีนะ ทำไมๆไปเจอนายก้องด้วย
น่าจะไปเจอคุณกล้ามากกว่าเนาะ เฮ้อ~ คนดีมักเป็นแบบนี้เปล่าเนี่ย
ขอพรให้นายเอกเราเจอคนที่รักจริง อยู่อย่ามีความสุด้วยเหอะ น้าๆๆๆคนเขียนที่น่ารักที่สุด ฮิฮิ^^
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 22-11-2011 09:54:42
โห ชื่อตอน "ใจสลาย!" ใครจะไปกล้าอ่านนน
ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวรอตอนหน้าค่อยอ่านทีเดียว
ตอนหน้าอย่าลืมตั้งชื่อตอนหลอกเราด้วยนะ
เอาให้มันดูกระชุ่มกระชวยหัวใจนิดนึง
(ช่วงนี้หัวใจไม่แข็งแรง คือเราอยากอ่านแต่ทำใจไม่ด๊ายยยย)
//วิ่งร้องไห้ออกจากกระทู้ นี่อ่านแค่ชื่อตอนนะเนี่ย//
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: CherryCello ที่ 22-11-2011 11:35:02
สงสารปรีย์จัง T_T
ไอ้พี่ก้องเท่าที่อ่านมาตั้งแรกเป็นพวกเห็นแก่ตัวสุดๆ
ถ้าน้องปรีย์ไม่ไปเที่ยวกับแก ป่านนี้คงได้อยู่กับยายจนวินาทีสุดท้ายแล้ว
ชอบอาศัยตอนปรีย์เผลอฉวยโอกาสสสส ทำไมมันเลวแบบนี้
พี่กล้าน่ารักกว่าเยอะเลย ถึงจะไม่ค่อยพูดแต่ก็รู้จักอะไรควรอะไรไม่ควร
ไอ้พี่ก้องแม่งเลว  :z6: :beat:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 22-11-2011 14:13:34
เห็นด้วยกับคุณ boworange ว่า:
อ้างถึง
เชียร์อีพี่วินดีกว่าท่าทางจะเป็นคนดีนะ

คุณพี่กล้าเริ่มจะ งุงิ งี่เง่า น่า'รมณ์เสียอ่ะ      (http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/yoyo-emoticon-1-020.gif)


(http://i269.photobucket.com/albums/jj72/myem0/01/yoyo-emoticon-1-071.gif)      เผาพริกเผาเกลือแช่งอีก้อง

หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 8 [21.11.54]ใจสลาย..
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 22-11-2011 22:44:06
พี่ก้องจะมากเกินไปแล้ว - -++++++
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 23-11-2011 17:02:57
บทที่ ๙

    ปรีย์นั่งมองวัยรุ่นเดินผ่านไปมาขวักไขว่ เสื้อหลากสไตล์สีสันฉูดฉาดจนเขารู้สึกลายตาไปหมด

    "เฮ้ย! มานานยัง ?" หนุ่มร่างเล็กทักทายเพื่อนของเขา แฟรงค์ชวนปรีย์ออกมาเที่ยวก่อนเปิดเทอม ทั้งคู่แทบไม่ได้เจอกันเลยตลอดหนึ่งเดือน เพราะปรีย์ไม่ได้เรียนพิเศษช่วงซัมเมอร์

    "มาช้าจัง" เด็กหนุ่มบ่นเพื่อนเบาๆ เอื้อมมือหาหนุ่มร่างเล็กให้ช่วยฉุดเขาลุกขึ้นยืน เท้าของเขาแผลปิดเกือบสนิทแล้ว แต่ยังคงรู้สึกเสียวแปลบเวลาทิ้งน้ำหนักตัวลงไปมากๆ

    "โหย! มึงอ่ะมาเช้าเกิน กูบอกให้มาซัก ๑๑ โมง แม่งมาตั้งแต่ ๙ โมง แล้วยังโทรมาเร่งกูอีก มึงบ้าป่าววะ ? ...นานๆ ทีกูก็ขอตื่นสายกับชาวบ้านบ้างไม่ได้เหรอ?" ปรีย์เบ้ปากหลังจากถูกเพื่อนบ่นชุดใหญ่.. ก็เขาไม่อยากอยู่บ้าน ..หลังจากกลับจากทะเล เขากับพี่กล้าพูดกันแทบจะนับคำได้ ทั้งๆ ที่เขาพยายามทำตัวปกติ แต่กล้าหาญมึนตึงใส่จนเขาปรับตัวแทบไม่ทัน..

    เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าตนทำอะไรผู้ชายคนนั้นโกรธ.. ความจริงเขาเป็นฝ่ายที่สมควรโกรธกล้าหาญมากกว่าสิ...

    "ไม่เคยเห็นมึงแต่งตัวแบบนี้เลยว่ะ" แฟรงค์เหลือบตามองชุดเรียบๆ แต่ดูค่อนข้างมีราคาของเพื่อน

    "ทำไม ?"

    "หมุนดิ๊" ปรีย์เกาหัวงงๆ แต่ก็หมุนให้เพื่อนดู

    "เออ.. น่ารักดี" เด็กหนุ่มร่างเล็กยิ้มบอก แต่ปรีย์ขมวดคิ้วมุ่น.. คำพูดที่ออกมาจากปากเพื่อนเขาดูทะแม่งๆ ยังไงชอบกล...

    "แกล้งกูป่าวเนี่ย" แฟรงค์ไม่ตอบแต่หัวเราะฮุๆ ในลำคอ

    "แล้วมึงกับเชนเป็นไงบ้าง ?" ปรีย์กระซิบกระซาบถามความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนของเขากับคนที่เขาตั้งใจเป็นพ่อสื่อให้ ..แต่หนุ่มร่างเล็กกลับมีสีหน้าไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

    "พูดถึงมันทำไม ?"

    "อ้าว! ไหงงั้น" ปรีย์ถามงงๆ ...ไม่เจอกันแค่ไม่กี่อาทิตย์ นี่เขาตกข่าวไปซะแล้วเหรอเนี่ย...

    "..." แฟรงค์เงียบ ไม่กล่าวอะไรอีก ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

    "มีเรื่องอะไรป่าว ?"

    "..เฮ้อ! ช่างมันเถอะ" แฟรงค์ถอนหายใจเบาๆ แล้วกล่าวปัด

    ทั้งคู่พากันไปนั่งทานอาหารในฟู้ดเซ็นเตอร์ ..ระหว่างรับประทานอาหาร ร่างเล็กรับสายโทรศัพท์ แอบหลบเขาเหมือนไม่อยากให้รู้ว่าคุยกับใคร หรือเรื่องอะไร จนเด็กหนุ่มรู้สึกสงสัยตงิดๆ

    "ใครโทรมาน่ะ ?" ปรีย์อดเอ่ยถามไม่ได้ หลังจากเพื่อนวางสายโทรศัพท์ ..แฟรงค์มีท่าทีลังเล แต่สุดท้ายก็เอ่ยตอบ

    "....อาร์ต" คำตอบของเพื่อนทำให้ปรีย์ตาโต..

    "แล้วเชนล่ะ ?"

    "ก็เหมือนเดิม"

    "อย่าบอกนะว่า..."

    "..." เด็กหนุ่มร่างเล็กไม่ตอบอะไรอีก คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก หน้าแดง

    "นี่มึงควบสองเลยเหรอวะ ?" ปรีย์กระซิบกระซาบถาม.. เขาไม่นึกเลยจริง ๆ ว่าเพื่อนจะสามารถขนาดนี้.. แฟรงค์เจอคำถามก็ได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ ก่อนตอบเสียงแผ่ว

    "...กูเลือกไม่ได้นี่หว่า" ปรีย์ทำตาโต.. แทบไม่เชื่อหู ..สาบานมาซิว่าไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้านี่คือไอ้แฟรงค์ที่เขารู้จัก

    "รักใครมากกว่า ?"

    "...ตอบไม่ได้ มันเท่าๆ กัน"

    "...แล้วมึง.. เสร็จมันยัง ?"

    "เสร็จเหี้ยอะไร!" แฟรงค์สวนแทบจะทันที ใบหน้าเล็กๆ แดงก่ำ.. ปรีย์ยิ้มกวน ยักคิ้วมองเพื่อน.. แฟรงค์แทบจะแปลความหมายของสายตาเพื่อนที่มองเขาได้ทันที ก่อนกระซิบกระซาบแก้ตัว

    "ไอ้เชี่ย! กูเป็นผู้ชายนะเว้ย!"

    "มันสิต้องเสร็จกู" ปรีย์กลืนน้ำลายอึกใหญ่มองเพื่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า.. เพื่อนเขา..คิดจะเป็นฝ่ายรุกสองคนนั่น ...แต่หุ่นแบบนี้จะไปสู้แรงไหวได้ยังไง

    "ทำไมมองแบบนั้น! ไอ้อาร์ตเสร็จกูแล้....ว......" แฟรงค์อ้าปากค้าง...  เขาเผลอพูดอะไรออกไป.... ทั้งคู่นั่งเงียบ.. หน้าแดงแจ๋ทั้งสองฝ่าย... สมองเด็กหนุ่มกระหวัดนึกถึงเพื่อนที่ชื่ออาร์ต ตัวใหญ่กว่าไอ้แฟรงค์แน่ๆ หน้าตากวนอวัยวะเบื้องล่างเป็นที่สุด นิสัยก็ออกจะเถื่อนๆ ...ไอ้อาร์ตน่ะนะ...

    "....." แล้วปรีย์ก็ไม่ถามถึงเรื่องนี้อีก...

    เปิดเทอมเขาแทบไม่กล้ามองหน้าอาร์ต พอเห็นหน้ากวนๆ ของมันทีไรก็นึกถึงคำพูดของเพื่อนซี้..

    ไอ้อาร์ตเสร็จกูแล้ว
    ไอ้อาร์ตเสร็จกูแล้........ว
    ไอ้อาร์ตเสร็จกูแล้................ว

    มองไอ้สองคนนี้ยังไงมันก็ขัดกัน.. มากถึงมากที่สุด

    แต่ที่เขาสังเกตได้อย่างหนึ่งคือเชนมันจะมาวนๆ เวียนๆ ใกล้ๆ ตัวเพื่อนเขาบ่อยๆ เพื่อนเขาก็นิ่งซะจนไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ และอาร์ตก็จะมีท่าทีฮึดฮัดไม่พอใจ..

    เด็กหนุ่มได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆ ...ความสัมพันธ์ของสามคนนี้มันยุ่งเหยิงจนไม่รู้เขาจะช่วยแก้ยังไง รู้สึกผิดนิดๆ ที่ตัวเองเคยทำหน้าที่เร่งปฏิกิริยา อยากนึกย้อนเวลากลับไปแก้ไข เพื่อนของเขาจะได้ไม่เหนื่อยใจอย่างตอนนี้

    เขากับกล้าหาญไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย เหมือนอยู่กันคนละโลก กล้าหาญชอบมองเขาราวกับคนแปลกหน้าทำให้ช่วงหลังเด็กหนุ่มอึดอัดใจ... เขาไม่กล้าถามว่าชายหนุ่มโกรธเขาเรื่องอะไร

    เขากลัวคำตอบของกล้าหาญ.. กลัวว่าชายหนุ่มจะเริ่มรังเกียจเขา.. และรับไม่ได้กับความสัมพันธ์ระหว่างเขาและก้องภพ..    จวบจนวันเกิดของปรีย์.. ทั้งๆ ที่เด็กหนุ่มคิดว่าจะไม่มีใครรู้ แต่จู่ๆ เพื่อนเขาก็บุกมาถึงบ้าน

    แฟรงค์ให้กล่องของขวัญอันเล็กที่บรรจุพวงกุญแจตามสมัยนิยม และกอดเขาเสียแน่น.. เด็กหนุ่มรู้สึกดีที่เพื่อนรักจำวันเกิดเขาได้

    แต่น่าเสียดายที่วันนี้ก้องภพไม่ได้มาหาเขา ..ความรักและเอาใจใส่ของก้องภพราวกับน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจของเด็กหนุ่ม.. ยิ่งในขณะที่กล้าหาญไม่เหลียวแลเขาด้วยแล้ว ความใจดีของก้องภพราวกับสิ่งยึดเหนี่ยวเพียงสิ่งเดียวของเขา...

    ...ปรีย์ถอนหายใจ หยิบหมอนของยายออกจากตู้.. และล้มตัวลงนอนกอดแน่น...กระหวัดนึกถึงสายตาของกล้าหาญที่มองเขาเมื่อเย็นที่ผ่านมา.. ราวกับเขาเป็นตัวอะไรซักอย่าง

    ก่อนจะออกไปจากบ้านโดยไม่บอกกล่าวอะไรเขาเลย.. ปล่อยให้เด็กหนุ่มทานอาหารเย็นคนเดียวอย่างเหงาหงอย ปรีย์รู้สึกเจ็บในอก... เขาไม่ชอบที่กล้าหาญเป็นแบบนี้เลย..เด็กหนุ่มนอนหลับตา วนเวียนคิดถึงเรื่องนี้จนนอนไม่หลับ

    เขาไม่แน่ใจนักว่าตนเองมีสติดีอยู่หรือไม่ แต่ก็ได้ยินเสียงประตูห้องตนเองเปิด แม้จะเป็นเสียงแผ่วเบา แต่ในความเงียบงันเช่นนี้แล้วมันกลับดังสำหรับเขา...

    ใคร ??

    ในเวลาเช่นนี้น่าจะมีเพียงคนเดียวที่อยู่ในบ้านนี้ได้.. กล้าหาญ พื้นเตียงอ่อนยวบลงตามน้ำหนักที่กดทับลง เด็กหนุ่มได้กลิ่นแอลกอฮอล์แตะจมูกเล็กน้อย...

    ...เขาไม่กล้าขยับเขยื้อน ไม่กล้าแม้แต่จะลืมตามองผู้บุกรุกเข้าห้อง...หรือว่าพี่กล้าเมา ??

    ทั้งๆ ที่ปรีย์คิดว่าควรจะเอ่ยคำพูดอะไรออกมาให้รู้ว่าเขายังไม่ได้หลับ แต่ทำได้เพียงปิดตาแน่นตัวสั่นเทาเมื่อ ริมฝีปากของผู้บุกรุกสัมผัสแผ่วเบา บนแก้ม กลีบปากบาง เปลือกตา ลำคอ ไล้ริมฝีปากชิมผิวเนื้อของเขา ขบเม้มยอดถันและเคลื่อนลงสู่ท้องน้อย..

    เมื่อความกลัวและสับสนมาถึงขีดสุด เด็กหนุ่มคิดว่าควรจะหยุดก่อนที่ทุกอย่างจะไปไกลเกินกว่านี้ ปรีย์ลืมตาขึ้นมองร่างใหญ่ที่คร่อมทับตัวเขา คว้าจับมือหนาที่กำลังเคลื่อนต่ำลงสู่ส่วนล่างและกำลังจะล่วงเกิน    

        ดวงตาคมเข้มตวัดสบมองเขานิ่ง ก่อนใช้มือหนานั้นกอบกุมมือหยาบกร้านของเขาไว้....และประสานกายเป็นหนึ่งเดียว...
....................................................ทูบีคอนตินิว
 :a5:ใครว่ะ เรื่อย ๆ ง่ะตอนนี้ ไม่เครียดบ้าง แต่สงสัยนิดหน่อย อ่ะ แฟรงค์ หึหึ ไม่น่าเชื่อว่ารุกด้วย แถม ไม่รู้จะเลือกใครอีกตะหาก ได้ใจพี่จริง ๆ ชีวิตมีสีสัน ต่างกันสุดเหวกะเพื่อนรักเช่นน้องปรีย์เลย มาทายกันสิว่า ใครกันที่เข้ามาหาน้องปรีย์ :o8:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 23-11-2011 17:06:59
สามคำให้ปรีย์ >>> ตาย ล่ะ เธอ  :a5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-11-2011 17:24:16
โหแฟรงค์ ควบสองเลยรึ :m29:
ปรีย์โดนใครทำอะไรอ่ะ :dont2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 24-11-2011 00:13:50
ใครอ่ะ !!!!!!!
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: blanchard ที่ 24-11-2011 03:32:24
อ้างถึง
"...ไอ้อาร์ตเสร็จกูแล้....ว......"

Oh! What happened to the World?      o21 

หนูแฟรงค์... ทำไมหนูก๋ากั่นขนาดนี้อ่ะ!?!


ว่าแต่ใครอ่ะที่เล่นผีผ้าห่มกะหนูปรีย์?

ขออย่าให้เป็นอีตัวเสนียดนั่นเล๊ย!       :m5:      อะไรมันจะตามหลอกตามหลอนกันทุกตอน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 24-11-2011 20:11:34
 o22. ค้างได้อีก...งี้ฆ่ากันให้ตายดีกว่า....... :z3:

เราว่าน่าจะเป็นกล้านะ  :call: สาธุขอให้เป็นจริง  :laugh:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 24-11-2011 20:18:42
ปรีย์ผู้โดดเดี่ยวโดนเข้าหาซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 9 [23.11.54]ใคร...
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 25-11-2011 16:01:00
อิก้องงงงงง แกจะทำให้ชั้นเกลียดไปถึงไหน
แกเห็นปรีย์เป็นแค่ที่บำบัดความใคร่แค่นั้นเอง ไอ้ชั่วเอ๊ย
ปรีย์ก็ยังอ่อนต่อโลก จิตใจอ่อนแอด้วย เลยมีแค่ก้องภพเป็นที่ยึดเหนี่ยวทำไมชีวิตบัดซบขนาดนี้
อิพี่กล้าก็สับสนเข้าไป แต่เราก็เข้าใจพี่กล้านิดหน่อยอ่ะนะ รู้สึกตัวว่าชอบเด็กผู้ชายที่เป็นเมียน้อยของพี่ชาย
ตลกร้ายชะมัด แต่เราก็ไม่ค่อยแน่ใจด้วยซ้ำว่าพี่กล้าชอบปรีย์จริงหรือแค่อยากได้ปรีย์เหมือนที่ก้องทำ
พี่วินด์อีกคน มายังไงไม่รู้แต่ดูเป็นคนอบอุ่นดี มีอดีตอะไรเหรอ ทำไมถึงพูดว่าจะดีกว่าถ้าเจอปรีย์ก่อน
ทำไมทุกคนถึงดูชีวิตรันทดกันนักนะ
ปล. เรื่องอาร์ต แฟรงค์นี่มันยังไง อาร์ตโดนเสียบจริงเรอะ :o
ปลล. ถ้าคนเข้าห้องคือพี่ก้องก็แล้วไป แต่ถ้าเป็นพี่กล้านี่ชีวิตยุ่งเหยิงเข้าไปอีกนะปรีย์
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 26-11-2011 10:04:27
บทที่ ๑๐

    ปรีย์สะลึมสะลือตื่นขึ้นในตอนเช้า.. เด็กหนุ่มลุกเข้าห้องน้ำ รู้สึกจุกเสียดในช่องท้องหน่อยๆ ตามปกติ ความรู้สึกโล่งสบายทำให้เขาเอะใจ... เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ?

    เขารู้สึกว่าแก้มทั้งสองข้างของตนร้อนผะผ่าว... เมื่อคืนเขาฝันหรือว่าเกิดขึ้นจริงๆ กัน ?? มองสำรวจเสื้อผ้าตนเองก็ยังคงเรียบร้อยดี ไม่เห็นมีอะไร.. เด็กหนุ่มถอดชุดออกก็เจอสาเหตุ.. บางทีเขาอาจจะฝันเปียก.. แต่ทำไมฝันถึงกล้าหาญกัน ?... คงเพราะเขาคิดมากเรื่องกล้าหาญ...

    เด็กหนุ่มเปิดน้ำฝักบัว ปล่อยให้สายน้ำเย็นฉ่ำรินไหลกระทบเนื้อ ตบแก้มทั้งสองข้างของตนเบาๆ.. นี่เขาท่าจะเป็นเอามาก... รู้สึกละอายอย่างบอกไม่ถูกที่คิดเกินเลยกับใครอีกคนซึ่งไม่ใช่ก้องภพ หากแต่เขาเหลือบไปเห็นรอยจูบบนลำคอที่สะท้อนในกระจกเสียก่อน.. สงสัยของพี่ก้อง..

    เขาพยายามคิดเข้าข้างตัวเอง แต่ก็ยังสงสัยไม่หาย.. จึงเดินกลับเข้าไปในห้อง... หยิบขวดวาสลีนที่ตั้งอยู่ขึ้นมาดู...ก็ไม่เห็นร่อยหลอ.. เด็กหนุ่มเกาศีรษะงงๆ... เขาอาจคิดมากไปเอง... เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ส่ายศีรษะให้กับความงี่เง่าของตนเองและกลับไปอาบน้ำชำระกายต่อ....

    ปรีย์แต่งกายเสร็จจึงเดินมาเก็บที่นอน แต่หากสิ่งที่เห็นทำให้เขาชะงักนิ่ง ....บนเตียงของเขามีคราบการร่วมรัก...อาจจะเป็นของก้องภพ... แต่ไม่ใช่... ไม่ใช่แน่ๆ.... เขาเป็นคนเปลี่ยนเองกับมือ หลังจากนั้นก้องภพก็ไม่ได้เข้ามาในห้องอีก ...แล้วทำไมถึงมี....

    ปรีย์รู้สึกว่าฝ่ามือตนเองชื้นเหงื่อ.. เมื่อคืน.. เขาไม่ได้ฝัน...เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง...ทำไมกล้าหาญถึงทำแบบนั้น ? เขาไม่ใช่เกย์นี่นา... หรือว่าเมา ?

    แต่ถึงจะเมาก็คงไม่อดอยากปากแห้งขนาดลุกมาปล้ำเด็กผู้ชายอย่างเขา ..หน้าตาหล่อคมคายแบบนั้นนั่งแป๊บเดียวก็คงมีผู้หญิงมาให้เกี่ยว .. ปรีย์คิดไม่ตก พิงศีรษะกับขอบเตียง

    ถ้าพี่ก้องรู้.... เด็กหนุ่มใจหายวาบ เขาลืมนึกถึงก้องภพไปเสียสนิท ...ปรีย์แทบจะร้องไห้เมื่อนึกถึงคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้ ว่าจะเป็นของก้องภพเพียงคนเดียว
 
    และก้องภพก็มาหาเขาเพื่ออวยพรวันเกิดย้อนหลังให้จริงๆ ...เขาแทบไม่กล้ามองหน้าก้องภพ.... ส่วนกล้าหาญก็ไม่เห็นออกมาจากห้องเลยทั้งวัน... บางที ..ชายหนุ่มอาจมีจุดประสงค์เพื่อทำให้เขาเข้าหน้ากับก้องภพไม่ติด และถอยห่างออกไปในที่สุดก็ได้...

    “พี่ก้องครับ.. ผมสงสัยมานานแล้ว..” ปรีย์เอ่ยขึ้นมองใบหน้าคมคายของชายหนุ่มที่โอบเขาไว้ในอ้อมแขน... ก้องภพมองเขายิ้ม ๆ ก่อนก้มลงหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่

    “เรื่องพี่หยก..”

    “อ๋อ.. หยกน่ะเหรอ ? ทำไมล่ะ ?”

    “พี่เขาเป็นแฟนพี่กล้าไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไม...” เด็กหนุ่มถามอย่างข้องใจ กระชับมือหนาที่กอดเขาเอาไว้ไม่อยากให้ปล่อย

    “พี่ก็ไม่รู้อะไรมากหรอก เห็นไอ้กล้าบอกว่าเลิกกันไปพักนึงแล้วนี่..” ชายหนุ่มนึกถึงหญิงสาวร่างบางที่น้องชายรักนักรักหนา.. เขารู้ว่าน้องชายของเขายังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่ เพราะแบบนั้นเขาจึงกล้าฝากปรีย์ไว้ให้อยู่ใกล้ๆ ..แต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่าตอนนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว...

    “งั้นเหรอฮะ..” เด็กหนุ่มตอบรับเสียงแผ่ว...

    “แต่ไอ้กล้ามันตัดไม่ขาด รักหยกจะเป็นจะตาย ฮะๆ ...อยากให้ปรีย์เห็นไอ้กล้าตอนเพิ่งถูกบอกเลิกใหม่ๆ จัง” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดต่อ

    “เมื่อก่อนหยกก็อยู่ที่นี่นะ.. เออ... อยู่ห้องที่เรากำลังใช้อยู่นั่นแหละ..” ปรีย์สะดุ้ง.. รับคำเสียงแผ่ว...

    “ร..เหรอครับ...”

    “แล้ววันนี้ไอ้กล้าไม่อยู่เหรอ ?” ก้องภพเหลียวซ้ายแลขวา มองขึ้นไปชั้นลอยก็ไม่เห็นหน้าน้องชายของตน..

    “ม..ไม่รู้สิครับ... ผมไม่เห็นพี่กล้าเลย..” ปรีย์ตอบเบาๆ ...ก้องภพเชยคางเล็กขึ้นรับจุมพิต มือหนาลูบไล้ผิวเนื้อใต้เสื้อยืดตัวใหญ่ของเด็กหนุ่มอย่างเล้าโลม

    “พี่จะให้ของขวัญปรีย์นะ..” ชายหนุ่มกระซิบบอก เบียดกลางลำตัวแข็งขึงเข้ากับแผ่นหลังร่างเล็ก

    ปรีย์กลัวว่าก้องภพจะรู้ว่าเขาทำผิดสัญญา... หากแต่ตอนนี้เขาอยากจะลบเลือนสัมผัสของกล้าหาญให้หมดจากความทรงจำมากกว่า..เด็กหนุ่มจูบแนวกรามของชายหนุ่มแผ่วเบา เป็นคำตอบรับคำเชื้อเชิญ…

    เขากำลังใช้ห้องของแฟนเก่ากล้าหาญ....เหตุผลที่เข้าท่าที่สุดที่คิดได้ในตอนนี้คือ.. กล้าหาญต้องการให้เขาถอยห่างออกมาจากก้องภพ ...

    หรืออาจเข้ามาในห้องอย่างเคยชินแล้วคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ชื่อหยก...แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร... เขาไม่มีทางทิ้งก้องภพเป็นอันขาด....จนกว่าก้องภพจะไม่ต้องการเขา...

    ความใจดีของก้องภพไม่ได้พันธนาการเขา... แต่ความเหงาของเขาต่างหาก ที่เป็นโซ่คอยผูกติดใครก็ตามที่ใจดีกับเขา....
.................................................ทูบีคอนตินิว
 :m8:เจ็บปวดทุกครั้งที่อ่านจริง ๆ สับสนกับความคิดมนุษย์อย่างพี่กล้า แต่ไม่เคยเลิกเกลียดไอ้ก้อง หึหึ แม้แต่การเรียกยังต่างชนชั้น เหอะ สุดท้ายคนที่เข้าหาน้องปรีย์ ก็คงเป็นพี่กล้าสิน่ะ ขี้ขลาดจริงๆ
พีเอสซึ.ขอบคุณทุกกำลังใจที่ยังติดตามและคอยดูแลน้องปรีย์อย่างใกล้ชิดค่ะ อย่าเครียด อย่าเครียด มีให้เครียดอีกเยอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 26-11-2011 10:42:23
ให้ของขวัญวันเกิดแบบกาม ๆ ตามประสาคนกาม ๆ นิสัยกาม ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-11-2011 10:58:42
พี่กล้าจะทำอะไรก็รีบทำ :m16:
หนูปรีย์เข้าเริ่มไขว้เขวแล้ว
ไม่อยากให้อยู่กับไอ้ก้องเลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 26-11-2011 20:28:12
 o22. ยิ่งอ่านยิ่งมาม่า  :z3:

เรื่องออกแนวหนักมากๆ  :เฮ้อ:  เตรียมเครียดไว้ล่วงหน้าเลยใช่ไหมเนี่ย  :serius2:

ปล.ทำไมมันสั้นจัง  :a5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 26-11-2011 20:37:12
ไอ้กล้า โว้ย  ไม่มุดอยู่ไหนเนี่ย จะทำอะไร ก็ รีบๆดิโว้ย จะเอาน้องปรีย์ ไปไว้กับแม่ก็ด่วนเลย ไอ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เหนื่อยใจหว่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 26-11-2011 22:32:36
เรื่องนี้ ตกลงจะให้ใคร เป็นพระเอกเนี่ย



อุ๋ย ขัดใจ ขัดใจ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoonny ที่ 26-11-2011 23:29:17
พี่กล้าออกมาเดี๋ยวนี้นะ!
ไม่ชอบพี่ก้องเลย!!! ;^;!!!!
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 27-11-2011 14:39:46
เกลียดมันยกแพ็คอ่ะ ทั้งพี่ทั้งน้อง
ได้แต่รอให้ปรีย์เข้มแข็งพอที่จะยืนให้ได้ด้วยตัวเอง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 27-11-2011 15:04:20
ตายล่ะ ตาพี่กล้าลักหลับปรีย์สำเร็จแล้ว  :z10:
ตาก้องรู้คงบ้านแตกสาแหรกขาดกันไปข้าง
สามคำให้ปรีย์>>> ระ วัง ตัว
ให้ก้อง>>> มรึง อย่า เลว
ให้กล้า>>> แอบ เชียร์ อ่ะ o18
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 30-11-2011 00:32:47
เป็นกำลังใจให้ปรีย์นะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-11-2011 16:12:59
หนูปรีย์อยู่แห่งหนใด  :sad2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 30-11-2011 18:57:15
อ่ะฮ้าาา  พี่กล้าเอ๋ยยย 

น้องปรีย์น่าสงสารยิ่งนัก  เหมือนตัวเองไม่มีทางเลือกให้เดินในชีวิตเลย

เฮ้ออออ  +1
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่10 [26.11.54] ไม่เข้าใจ?
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 02-12-2011 16:02:49
 :m7:     ย่องมาดู.......แอบอู้งานไปไหนนะ    :m21:



รีบมาต่อด่วนคร้า......... :m5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 02-12-2011 22:33:54
บทที่ ๑๑

    มีคนเคยบอกไว้ว่า เมื่อเราทำอะไรผิดไปแล้วครั้งหนึ่ง ก็มักจะมีครั้งต่อๆ ไปตามมา...ถึงแม้ในครั้งแรกที่ทำจะรู้สึกผิดมากมายเพียงใด หากเมื่อมีครั้งต่อไปตามมา ความรู้สึกเหล่านั้นก็จะเบาบางลง.. และหมดไปในที่สุด......ในตอนนี้เขาก็คงจะทำผิดจนชาชิน..

    ร่างเปล่าเปลือยทั้งสองกำลังขยับกายสอดประสานกัน..

    "อือ.....อึก..ฮะ.." เด็กหนุ่มครางในลำคอ หอบหายใจถี่รัว เกร็งกายโอบกอดร่างใหญ่ไว้แน่น จิกนิ้วลงบนแผ่นหลังกว้างชื้นเหงื่อ เมื่อรู้สึกถึงอาการเกร็งกระตุกและฉีดพ่นของเหลวเข้าสู่ร่างกายเขา ....ความสุขแผ่กำซ่านสู่ทุกอณูของทั้งคู่

    ปรีย์ขยับสะโพกเบาๆ ก่อนเกยศีรษะไว้กับไหล่กว้างของชายหนุ่มหอบหายใจแรง ..ลมหายใจอุ่นของเด็กหนุ่มกระทบลำคอแกร่งจนขนลุกตั้ง.. ก้องภพโอบร่างบนตักไว้หลวมๆ ซุกไซร้ซอกคอขาว ละเลียดชิมผิวเนื้อผสมเหงื่อเค็มปร่า ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่คลอเคลียกันไม่ห่าง..

    ก้องภพไม่รู้ว่าทำไมวันนี้เด็กหนุ่มถึงได้เร่าร้อนนัก ยังไม่ทันจะขึ้นบันได ก็ถูกเด็กหนุ่มรุกเร้า.. จนควบคุมตัวเองไม่อยู่โอบอุ้มร่างเล็กกลับมายังห้องรับแขก... ถ้าหากกล้าหาญรู้เข้า เด็กคนนี้ไม่ถูกจับส่งไปให้แม่เขาเลี้ยงเพื่อกันให้ห่างหรือนี่... แต่เรื่องนั้นเอาไว้คิดทีหลัง เขายังมีทางออกอีกเยอะ...

    ชายหนุ่มเอื้อมมือหยิบทิชชู่ซับคราบกิจกรรมที่เลอะฝ่ามือของเขา.. และตามเรียวขาของเด็กหนุ่มในอ้อมแขน..

    "..อือ.." ปรีย์ครางในลำคอเบาๆ เมื่อริมฝีปากนุ่มขบเม้มยอดอกของเขาอย่างหยอกเย้า... จึงขยับขาให้ชายหนุ่มทำความสะอาดสะดวกขึ้น...

    ...ผ้าปูที่นอนในห้องยังไม่ได้เปลี่ยน.. เขากลัวแทบตายตอนที่ก้องภพจะพาเขาขึ้นไปบนห้อง... เขากลัวก้องภพรู้... กลัวก้องภพโกรธ...

    แต่ดูเหมือนชายหนุ่มจะไม่เอะใจอะไรเลย.. ซึ่งนับว่าโชคดีสำหรับเขา...

    ดวงตาคู่สวยเหลือบมองสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก สีสันสวยงาม ล่องลอยอยู่บนอากาศ... เขาจับจ้องมันตั้งแต่หลายนาทีก่อน.. และดูเหมือนมันจะหาทางออกไม่เจอ... เหมือนกับเขา...

    "พี่ก้อง มีผีเสื้อบินเข้าบ้านล่ะ" ปรีย์บอกเบาๆ ก่อนลุกขึ้นสวมกางเกง.. และเดินกระหย่องกระแหย่งตามผีเสื้อตัวน้อยในบ้าน แต่มันกลับบินหนีไปอีกทาง..

    ก้องภพหัวเราะเบาๆ หยิบเครื่องแต่งกายขึ้นสวม.. รู้สึกถึงอาการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อขา.. คงเพราะต้องรองรับน้ำหนักตัวของเด็กหนุ่มนานหลายนาที...

    "จะไปไล่จับมันทำไม หืม ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงนุ่ม สวมเสื้อเชิ้ตสีอ่อนมือติดกระดุม แต่ดวงตาคมเข้มจับจ้องที่ร่างบางที่เดินวนไปวนมาภายในบ้าน

    "ก็มันสวยดีนี่" คำตอบของเด็กหนุ่มทำให้เขาส่ายหน้า และหัวเราะในลำคอ.. ปล่อยให้ร่างเล็กนั้นเดินวนอยู่ในบ้าน.. แต่ผ่านไปหลายนาทีเด็กหนุ่มก็ยังจับไม่ได้เสียที...

    "ปรีย์ มาใส่เสื้อก่อน" ก้องภพเอ่ยเรียก แต่เด็กหนุ่มก็ไม่มีท่าทีจะสนใจ..

    "ปรีย์" ชายหนุ่มเรียกซ้ำอีกครั้ง ปรีย์จึงรีบกุลีกุจอหยิบเสื้อขึ้นมาสวม...

    แล้วจู่ๆ เด็กหนุ่มก็เบ้ปาก.. ก้องภพมองตามสายตาก็พบสาเหตุบนไหล่ของเขา...

    "ทำไมมันบินไปเกาะพี่ก้องล่ะ ?" เด็กหนุ่มหน้ามุ่ย ..ทั้งๆ ที่เขาวิ่งตามมันตั้งนาน แต่มันกลับบินมาเกาะคนที่นั่งนิ่งอยู่ซะนี่..

    "อยู่นิ่งๆ เดี๋ยวมันก็บินมาเกาะ" ก้องภพบอกกลั้นยิ้ม เป่าลมไล่เจ้าผีเสื้อตัวน้อยที่เกาะอยู่บนไหล่ของเขาเบาๆ..

    "..มีคนที่พี่รู้จัก เปรียบความรักเหมือนกับผีเสื้อล่ะ.." ชายหนุ่มบอก กวักมือเรียกร่างเล็กให้เข้ามาใกล้เขา..

    "เห ?..." ปรีย์ขมวดคิ้ว.. ทิ้งตัวลงในอ้อมแขนของชายหนุ่ม..

    "เขาบอกพี่ว่าถ้าวิ่งไล่ตามหาความรัก.. ความรักมันก็จะบินหนี.. แต่ถ้าหากอยู่นิ่งๆ ความรักมันก็จะมาหาเอง..." เสียงทุ้มอบอุ่นกระซิบบอกริมหูเขา.. ปรีย์เผยอยิ้ม.. เขาจำได้แล้วว่าเคยได้ยินที่ไหน.... ยายของเขาไง.... ยายของเขาเคยพูดให้เขาฟังนี่เอง.... ก้องภพทำให้เขารู้สึกถูกห่อหุ้มไว้ด้วยความรักอันอบอุ่นอีกครั้ง...

    "ความรักของมัน.. โรแมนติกดีนะ.." ก้องภพกล่าวขึ้นลอยๆ... ยิ้มมองคนในอ้อมแขนที่ช้อนตามองเขางงๆ...

    "รู้รึเปล่าว่าผีเสื้อจะตายหลังจากได้ผสมพันธุ์" ก้องภพเอ่ยเบา ๆ ...นึกถึงคนที่เคยพูดประโยคนี้กับเขา... ตอนที่ได้ฟังครั้งแรก เขาไม่เคยคิดว่ามันโรแมนติกอย่างที่คนๆ นั้นบอกเลย..

    "เห ?... โรแมนติกจริงๆ ด้วย.. ตายทั้งคู่เลยเหรอฮะ ?" ชายหนุ่มยิ้มบาง.. เกลี่ยนิ้วบนแก้มนวล.. มุมมองของเด็กคนนี้เหมือนกับคนๆ นั้นไม่มีผิด... แต่บริสุทธิ์ยิ่งกว่า...

    "อืม.. ตัวเมียจะวางไข่ก่อน.. แล้วก็ตายตามไป..." ...และเธอก็ตายตามเขาไป....

    "แล้วมันไม่เหงาเหรอฮะ ? ที่ต้องอยู่ตัวเดียว" ชายหนุ่มชะงักนิ่ง... เค้นเสียงตอบ...

    "...ไม่รู้สิ" ...ปรีย์รู้สึกเสียใจที่ทำให้ชายหนุ่มไม่พอใจ และเบือนหน้าหนีไม่สบตากับเขาอีก...วงแขนแกร่งโอบกระชับเอวบางเข้าหาตัว และเอ่ยถามเสียงนุ่ม เมื่อรู้สึกว่าเด็กหนุ่มเริ่มจะเงียบเกินไป..

    "อยากได้อะไรเป็นพิเศษมั้ย ?"

    "พี่ขอโทษด้วยที่มาไม่ได้จริงๆ เมื่อคืน.."

    "ไม่เป็นไรหรอกครับ.." ปรีย์ยิ้ม.. แค่ก้องภพไม่โกรธเขา.. ไม่เกลียดเขาก็พอแล้ว.. ในโลกนี้มีเพียงแค่ก้องภพคนเดียวที่ต้องการเขา... เขาก็พอใจ

    "ไหน ? วันนี้ยังไม่บอกพี่เลย" ชายหนุ่มเอ่ยทวงคำพูดที่เคยสอน..  ช่วงแรกเด็กหนุ่มมักจะอายหน้าแดงและพูดตะกุกตะกักจนเขาอดขำไม่ได้..

    "...ผมรักพี่ก้อง ..รักมากๆ"

    "รักเท่าไหนหืม ?" ก้องภพหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่

    "รักเท่าฟ้าเลยล่ะฮะ" เด็กหนุ่มหัวเราะจนตาหยี.. ตอนแรกเขาอาจจะรู้สึกแปลกๆ.. แต่ตอนนี้เขาชอบที่จะพูด.. เขารักก้องภพและอยากให้ก้องภพรักเขา...

    ปรีย์หัวเราะ เมื่อชายหนุ่มถูเคราสากเข้ากับลำคอของเขาจนเป็นรอยแดง ..แล้วเสียงหัวเราะใสของเด็กหนุ่มก็ชะงักเมื่อเผลอสบตาเข้ากับดวงตาคมดุที่จ้องมาหาเขา.. กล้าหาญ... กำลังมองเขาอย่างเย็นชา... และเดินหายไปจากชั้นลอย....

    เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่...แต่ไม่อยากให้กล้าหาญมองเขาแบบนั้นเลย... มันรู้สึกเจ็บ...

    "พี่ก้อง...." ชายหนุ่มมองคนในอ้อมแขนเป็นคำถาม
    "ไปไหว้แม่กัน.." ปรีย์เอ่ยปากชวน... เขาไม่ได้ไปที่นั่นเกือบปีแล้ว... และไม่เคยพาใครไปที่นั่นเลย.. แต่รู้สึกอยากให้ก้องภพไปพบกับแม่เขา..

    "ปรีย์ โทษทีนะ.. พี่ไม่ว่าง.." ก้องภพปฏิเสธเสียงเรียบ ชักสีหน้าหงุดหงิด.. คนตายแล้วจะไปยุ่งอีกทำไม...

    "งั้นเหรอฮะ.." แต่เมื่อเห็นแววตาผิดหวังของเด็กหนุ่มแล้วจึงอดเอ่ยปลอบไม่ได้

    "ไว้วันหลังนะ"

    "..ครับ..." ปรีย์เผยยิ้มกว้าง ..โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นการให้ความหวังเขาลอยๆ..
 
    หลังจากวันนั้นเขาแทบไม่ได้เห็นหน้ากล้าหาญ.. เพราะรีบไปโรงเรียนตั้งแต่เช้า.. กลับบ้านมาก็ขึ้นห้อง ไม่โผล่ลงไปข้างล่างอีก.. แม้แต่ข้าวเย็นก็ไม่แตะ...

    เด็กหนุ่มทำแบบนี้มาได้ ๒ - ๓ วันแล้ว.. เขาไม่รู้ว่าสมควรจะทำหน้ายังไง... ไม่รู้ว่ากล้าหาญมีจุดประสงค์อะไร และคิดกับเขาเช่นไร...

    แต่สิ่งหนึ่งที่เด็กหนุ่มสรุปได้ในใจ คือเขาไม่ชอบให้มันเป็นแบบนี้เลย...

    ปรีย์เหลือบมองนาฬิกา... ๕ ทุ่มแล้วเขาก็ยังนอนไม่หลับ แถมเจ้าท้องบ้าก็ส่งเสียงประท้วงดังโครกคราก... ก็เขายังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนี่นา...ด้วยความหิวจัดเด็กหนุ่มจึงแอบย่องลงมาในห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน โดยไม่เปิดไฟเลยซักดวงเพื่ออำพราง...

    เขาเปิดตู้เย็นมองหาของว่าง เหลือบไปเห็นบิสกิตของกล้าหาญ.. เขากินไอ้นี่เป็นอาหารยามดึกมาหลายวันแล้ว ...หวังว่าชายหนุ่มคงไม่สังเกตเห็นหรอกนะว่ามันร่อยหลอลงไปนิดหน่อย....

    แล้วเขาก็สะดุ้งวาบเมื่อจู่ๆ ไฟในห้องครัวก็สว่างพรึ่บ..

    "ปรีย์.." ร่างเล็กสะดุ้งโหยง...

    "พ...พี่กล้า.." ปรีย์ยิ้มแหยๆ ...หันไปมองร่างสูงที่ยืนทำหน้าดุอยู่...

    "ลงมาทำอะไร ?"

    "..ผมหิ..ว..." เด็กหนุ่มบอกเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนใจ เก็บขนมที่ถืออยู่ในมือกลับเข้าตู้เย็น และเดินออกไป แต่กลับถูกร่างสูงขวางไว้..

    "จะไปไหนหิวไม่ใช่เหรอ ?"

    "ผม.. ผมอิ่มแล้ว" ปรีย์อ้ำอึ้ง... ตอนนี้เขาก็ยังหิวอยู่นะ แต่ว่าที่เขากินน่ะ ของกล้าหาญนี่นา.... และดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ว่าเขากำลังเกรงใจ..

    "นั่งรออยู่ตรงนี้ เดี๋ยวพี่อุ่นข้าวให้กิน.." ปรีย์ชะงัก รีบปฏิเสธ

    "ม..ไม่เป็นไรหรอกครับ"

    กล้าหาญไม่พูดอะไรอีก ถอนหายใจเบาๆ ..และดันตัวให้เขานั่งลง... ก่อนจะหยิบแกงในตู้ออกมาอุ่นด้วยไมโครเวฟ... เขาเก็บอาหารเย็นไว้เผื่อปรีย์จะหิวในตอนกลางคืนตั้งแต่วันที่เด็กหนุ่มประพฤติตัวเช่นนี้แล้ว หากแต่มันไม่พร่องลงเลยซักนิด.. มีแต่ขนมในตู้เย็นของเขานั่นแหละที่ร่อยหลอลง...

    กล้าหาญกอดอกมองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าทำหน้าปุเลี่ยน แต่ก็ตักอาหารกินเต็มปาก..

    "กำลังหลบหน้าพี่งั้นเหรอ ?" กล้าหาญถามตรงจนเด็กหนุ่มสำลักข้าว... เขารีบส่งน้ำให้ร่างเล็ก... ปรีย์ดื่มน้ำ ทุบหน้าอกตัวเองเบาๆ ฝ่ามือหยาบเช็ดคราบน้ำดื่มที่ไหลล้นออกจากริมฝีปาก... กล้าหาญมองกริยานั้นกลั้นยิ้ม

    "...ผมเปล่า" ตอบว่าเปล่า แต่หลบสายตาเขา..ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้า ก่อนตัดสินใจเอ่ยถามเรื่องที่ยังคงติดค้างอยู่ภายในใจ....

    “ทำไม.. พี่ถึงทำแบบนั้น ?” กล้าหาญชะงักนิ่ง... เขาควรจะตอบว่าอย่างไร ?...

    “...ไม่รู้” คำตอบของชายหนุ่มทำให้ปรีย์นิ่งอึ้ง... ก่อนพยายามคัดกรองความคิดหลากหลายที่ตีกันอยู่ภายในหัวออกมาเป็นคำพูด....

    “...ไม่รู้ได้ยังไง...”

    “พี่เกลียดผม ..อยากให้ผมออกไปจากที่นี่เหรอ ?” ชายหนุ่มไม่มีคำตอบ.. เลี่ยงสายตาหนี.. เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปากแน่น จมูกแดงระเรื่อ.. เขากำลังจะร้องไห้

    “ไม่เห็นจะต้องทำถึงขนาดนั้นเลยนี่นา ..แค่พี่บอก ผมก็ยอมออกไปอยู่แล้..ว” ร่างบางพยายามเค้นเสียงให้จบประโยค.. เขาพยายามบอกตัวเองให้อดทน อดทนเอาไว้... แต่สุดท้ายเจ้าหยาดน้ำที่เอ่อคลอจนเต็มหน่วยตานั่นก็กลิ้งหยดลงมาจนได้

    ปรีย์รู้สึกเกลียดตัวเองจริงๆ แค่ห้ามไม่ให้น้ำตาไหลยังทำไม่ได้เลย ...ยิ่งเช็ดมันกลับยิ่งไหลลงมาไม่หยุด อายผู้ชายตรงหน้าที่เผลอแสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น...

    ร่างเล็กลุกหนีจากเก้าอี้เมื่อชายหนุ่มเคลื่อนเข้ามาใกล้.. เขาเดาจุดมุ่งหมายของร่างสูงไม่ออก.. รู้เพียงแค่เขาต้องหนี.. นึกโมโหที่ห้องทานอาหารแสนคับแคบ เดินไม่กี่ก้าวก็ติดเคาน์เตอร์ ไปข้างๆ ก็ติดเก้าอี้ จนสุดท้ายก็ถูกคว้าข้อมือเอาไว้ได้ทัน

    “พี่ไม่ได้เกลียดปรีย์...” ชายหนุ่มบอก ..อยากโอบร่างเล็กมาไว้ในอ้อมแขน แต่ทำได้แค่เพียงเอื้อมมือเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มนิ่มแผ่วเบา...

    ดวงตากลมช้อนมองเขา ชายหนุ่มรีบผละตัวหนี.. นึกกลัวแววตาที่เด็กหนุ่มใช้มองเขา..

    “จริงเหรอฮะ ?” ปรีย์เอ่ยถามย้ำ.. เริ่มรู้สึกอายที่ตนเองเข้าใจไปเองฝ่ายเดียว... น้ำตาที่รินไหลเริ่มเหือดแห้ง

    เมื่อชายหนุ่มพยักหน้าตอบ รอยยิ้มที่หายไปหลายวันก็ระบายขึ้นบนกลีบปากบาง ..เด็กหนุ่มไม่ต้องการทราบเหตุผลที่ชายหนุ่มทำเช่นนั้นอีกแล้ว... ขอเพียงแค่กล้าหาญไม่เกลียดเขาก็เพียงพอ....

    กล้าหาญลังเลใจ แต่หากเก็บเอาไว้เขาต้องไม่สบายใจมากกว่านี้แน่ ..สุดท้ายจึงเอ่ยถามออกมาในที่สุด "เธอรักพี่ก้องใช่ไหมปรีย์ ?"

    "เธอรักพี่ก้องจริง ๆ รึเปล่า ?" คำถามแรกยังพอจะเข้าใจ แต่คำถามที่สองนี่สิ.. ทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น..

    "ทำไมพี่กล้าถามแบบนี้ ?" เด็กหนุ่มถามกลับอย่างไม่ชอบใจ... ความรักมันมีจริง ๆ กับหลอกๆ ได้ยังไงกัน ?...

    "ไม่รู้สิ.. แววตาของเธอ.." ชายหนุ่มเอ่ยอย่างไม่แน่ใจ.. นึกถึงเหตุการณ์ที่เขาเห็นในวันนี้อีกครั้ง...

    "ผมรักพี่ก้อง" ปรีย์ตอบเต็มเสียง... สบตามองดวงตาคมกล้านิ่ง... ชายหนุ่มยังคงคลางแคลงใจ.. เอ่ยคำถามต่อ...

    "เธอรักพี่ก้องเพราะอะไร ?"

    "หรือเพราะเห็นเป็นตัวแทน..."

    "พี่กล้า!" เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกเขาอย่างไม่พอใจ ก่อนกล่าวต่อ..

    "ผมไม่เคยเห็นใครเป็นตัวแทน! ไม่มีใครแทนที่ใครได้!" จบคำ กล้าหาญได้แต่นิ่ง... ก่อนเอ่ยเบาๆ ราวกับบอกตัวเอง..

    "นั่นสินะ.." ..เมื่อได้เห็นท่าทีอ่อนลงอย่างรวดเร็วของชายหนุ่ม ก็ทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกว่าตนไม่ควรจะพูดเช่นนั้น.... พยายามคิดหาคำพูดที่จะทำให้ชายหนุ่มมีสีหน้าดีขึ้น....

    "แต่..." เด็กหนุ่มลังเลใจก่อนเอ่ยต่อ...

    "แต่ผม..ผมก็...รักพี่กล้านะ.." ใบหน้านวลสีแดงก่ำ... น่าอายจริงๆ... แต่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดี ถ้าได้เอ่ยคำว่ารักกับคนที่เรารัก... ถึงแม้จะไม่ใช่ความรักอย่างคนรักก็ตาม...

    "รักยังไง ?...." กล้าหาญเลิกคิ้ว... ยิ้มมองใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีมะเขือเทศสุกของเด็กหนุ่ม...

    "รัก... แต่ไม่เหมือนกัน.." เด็กหนุ่มหลุบตาลงต่ำด้วยความสับสน.. ความรู้สึกของเขาที่มีให้พี่ก้อง กับพี่กล้าต่างกันลิบลับ.. แต่เขาคิดว่ามันก็คือความรักเช่นกัน...

    "มันไม่เหมือนกันเลย.." กล้าหาญไม่เคยรู้มาก่อนว่าปรีย์หวั่นไหวกับเขาถึงเพียงนี้.. . แววตาที่ปรีย์มักจะใช้มองเขานั้นเป็นความจริง ...เขาไม่ได้คิดไปเอง.... ชายหนุ่มนิ่งก่อนตัดสินใจเอ่ยถามให้ชัดเจน

    "แล้วปรีย์ชอบให้พี่ทำแบบนี้มั้ย ?" ชายหนุ่มเอ่ย เอื้อมฝ่ามืออุ่นสัมผัสแผ่นหลังเล็กแผ่วเบา และลากผ่านลงหยุดที่บั้นท้ายกลมกลึง..

    "..อ๊ะ!.." ปรีย์สะดุ้งขยับหนี รีบปฏิเสธ..

    "ทำแบบนี้ไม่ได้..."

    "ทำไมล่ะ ?" เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง.. เหลือบตามองเขาอย่างระแวง...

    "ผม.. ผมสัญญาไว้กับพี่ก้อง...ว่าผมจะไม่มีอะไรกับใครอีก.."

    "แต่ว่า... ผมผิดสัญญาไปแล้ว..." ปรีย์เอ่ยเสียงสั่น เม้มริมฝีปากแน่น... หลบสายตาคมที่จับจ้องเขา...

    "พี่ก้อง...ต้องเกลียดผมแน่ๆ..." กล้าหาญเงียบ.. ก่อนเชยคางให้ดวงตาคู่สวยสบตากับเขา..

    "...ไม่ได้แล้วชอบรึเปล่า ?" คำถามของกล้าหาญทำให้เด็กหนุ่มชะงัก...

    "เอ๊ะ... ผม....ผมไม่รู้.." เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง... ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง... นั่นทำให้ชายหนุ่มคลี่ยิ้ม..

    "พี่สัญญา ว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีก..." ...ครั้งต่อไปเขาจะไม่เมา... แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มคงจะเข้าใจเป็นอีกอย่างหนึ่ง...

    "ปรีย์ห้ามอดข้าวเย็นอีกนะ เข้าใจมั้ย ?" มือหนาลูบศีรษะทุยเบาๆ ส่งยิ้มบางให้ ...เด็กหนุ่มยิ้มตอบ พยักหน้าอย่างแข็งขัน

    ...นี่แหละที่เขาต้องการ... รอยยิ้มของเด็กคนนี้ที่เขาอยากรักษาเอาไว้.. รอยยิ้มที่มอบให้เขา...กล้าหาญมองริมฝีปากบางนั้นอย่างเผลอไผล และเอื้อมมือสัมผัสอย่างไม่รู้ตัว..

    "...พี่ขอจูบหน่อยได้มั้ย ?" คำขอดื้อๆ ของชายหนุ่มทำให้ปรีย์ขมวดคิ้ว ปฏิเสธ..

    "..ไม่ได้"

    "แล้วถ้าพี่เสียใจ.. ปรีย์จะยอมให้พี่จูบได้มั้ย ?"

    "ถ้าพี่กล้าจูบแล้วจะหายเสียใจเหรอ ?" ร่างเล็กขมวดคิ้วถามอย่างไม่เข้าใจ..

    "ถ้าปรีย์ยอม พี่จะไม่มีวันเสียใจ"

    "แค่จูบอย่างเดียวใช่มั้ย ?..." เด็กหนุ่มถามย้ำ...

    "อืม..." ชายหนุ่มครางตอบในลำคอ ....ปรีย์ลังเลใจ ก่อนพยักหน้าให้เขาเบา ๆ ...ร่างสูงยิ้ม โอบอุ้มร่างบอบบางนั่งลงบนเคาท์เตอร์ก่อนโน้มศีรษะเข้าหา.. และหยุดลงเมื่อริมฝีปากห่างกันเพียงแค่คืบ...

    "ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ?" ...เขาถามย้ำอีกครั้ง ขณะที่ลมหายใจของทั้งคู่ผสมปนเปกัน....

    "ฮะ.." ปรีย์ตอบเบาๆ ก่อนปิดเปลือกตาลงเมื่อริมฝีปากนุ่มของกล้าหาญสัมผัสกับกลีบปากบางของเขาอย่างแผ่วเบา... ปรีย์สะดุ้งโหยงรีบผลักแผ่นอกกว้างออก.. กล้าหาญขมวดคิ้วด้วยความงงงัน

    “เดี๋ยว! เดี๋ยวฮะพี่กล้า! ผมขอแปรงฟันก่อ..น....”เด็กหนุ่มปิดริมฝีปากตน เอ่ยบอกเสียงตื่น ..แล้วก็ต้องอายหน้าแดงเมื่อชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ดันมือเขาออก พร้อมทั้งโน้มตัวลงปิดริมฝีปากเขาด้วยรอยยิ้ม

    มือหนาโอบไหล่เล็กๆ ของเขาไว้ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นเมื่อครู่อีก... ก่อนสอดลิ้นนุ่มเข้าควานหาความหวานในโพรงปากของเขา... เกี่ยวกระหวัดหยอกเย้าลิ้นของเขา และรุกเร้าให้เขาตอบโต้...

    ปรีย์เอื้อมมือสัมผัสแผ่นอกกว้างเบาๆ ด้วยความอยากรู้.. ว่าหัวใจของชายหนุ่มกำลังเต้นแรงเหมือนเขาไหม ?... แต่ไม่ทันจะได้รู้ กล้าหาญก็กอบกุมมือของเขาให้โอบรอบตัวของชายหนุ่มแทน.. และเบียดกายเข้าแนบชิด

    รสจูบอันอ่อนหวานค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ริมฝีปากของชายหนุ่มบดเบียดริมฝีปากของเขาจนรู้สึกเจ็บ.. ปรีย์รู้สึกว่าตนเองหายใจไม่ทัน... แต่กลับไม่อยากหยุด... เป็นฝ่ายรุกเร้าให้ชายหนุ่มดำเนินต่อ... จวบจนรู้สึกว่าขาดอากาศและใกล้จะตายแล้วจริงๆ นั่นแหละจึงยอมละริมฝีปากออก...

    ทั้งคู่หอบหายใจถี่รัว.. ปรีย์ไม่เคยรู้มาก่อน ว่าเพียงแค่จูบก็สามารถทำให้เขาหัวใจเต้นแรงแทบจะหลุดออกมาได้...

    "..เก็บไว้..เป็นความลับของเรานะ.." กล้าหาญกระซิบบอก จูบขมับร่างเล็กเบาๆ... และเลื่อนลงประกบริมฝีปากอีกครั้ง... และอีกครั้ง.. ราวกับกลัวว่ารสชาติของจูบที่แสนหวานนี้จะเลือนหาย....

    ...ปรีย์ไม่เคยมีความรักแบบหนุ่มสาวมาก่อน ...สุดท้ายแล้วเขาก็ยังไม่รู้อยู่ดี.. ว่าที่กล้าหาญทำไปนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร   ...... และเพราะเหตุใดเขาจึงมีอาการเหมือนคนเป็นโรคหัวใจเช่นนี้.....
..................................................ทูบีคอนตินิว
 :เฮ้อ:ก่อนอื่นต้องขอโทษมิตรรักแฟนคลับน้องปรีย์ด้วยน่ะค่ะ แฮ่ะ ๆ หายไปหลายวัน งานเค้ายุ่งง่ะ หยุดคราวนี้ สบาย เคลียร์งานเรียบร้อย กลับมานึกว่าไอ้ก้องจะดีขึ้น มันก็ยังเห็นแก่ตัว หื่นกามเหมือนเดิม แค่พาไปไหว้แม่ มันยังไม่ทำ เลวจริง ๆ น้องปรีย์เปรียบเหมือนผ้าขาวจริง ๆ ทาสีอะไรไปก็กลืนกับเนื้อผ้าหมด ชริ ไอ้พี่กล้า จะีดีบ้างได้ไหม เพื่อน้องเนี่ย วันนี้มากันยาว ๆ ไม่เครียดเท่าไหร่เนอะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 02-12-2011 22:59:36
ชอบจัง  ตอนที่เปรียบความรักกับผีเสื้อ  แต่มันได้อารมณ์เศร้าลึก ๆ มากกว่า
ก้องภพเห็นแก่ตัวมากจริง ๆ รักกับใคร่ของมันคงอันเดียวกัน
สงสารก็แต่ปรีย์  ไร้เดียงสามาก ๆ เลยต้องตกเป็นเหยื่ออยู่ตลอด
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-12-2011 23:53:19
 :เฮ้อ:
อ่านแล้วสงสารหนูปรีย์ ช่วงนี้คงกำลังสับสน
พี่กล้าช่วยมาทำให้หนูปรีย์มีความสุขที
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 03-12-2011 00:03:17
ลึกๆยังแอบหวังว่าก้องจะไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะ......
อารมณ์ว่าต้องมีเหตุการณ์พิสูจน์ว่ารักจริงเปล่า - -;
นางฟ้าว่ากล้าก็ดีมากนะ ดีแบบทำให้ไขว่เขว้ง่าย 555
สามคำ>>> รอ อ่าน ต่อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 03-12-2011 00:24:27
สารภาพว่าอ่านเรื่องนี้แล้วสงสารเวทนาปรีย์มาก ยิ่งอ่านยิ่งเวทนา
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 03-12-2011 03:16:06
อ่าน น น แล้ว  คิด อะไร หลาย ทางมาก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่11 [2.12.54] ความรักของผีเสื้อ
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 03-12-2011 21:21:52
ปรีย์อ่อนต่อโลก  :o12: :o12: :o12:

ก้องโหดร้ายเกินไป  :m16:  เชียร์กล้า  :ped149:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 03-12-2011 21:55:55
บทที่ ๑๒

    "เฮ้ย! ปรีย์.." แฟรงค์ตบไหล่ทักเพื่อนที่นั่งเหม่ออยู่ริมหน้าต่าง นี่เป็นคาบภาษาอังกฤษที่ต้องออกไปสอบอ่านรีดดิ้งในหนังสือรายคน เด็กผู้ชายที่สอบเสร็จแล้วคุยกันเฮฮา.. เหลือเพียงเด็กผู้หญิงไม่กี่คนที่นั่งคร่ำเครียดอยู่ในห้อง...

    "หือ ?" เด็กหนุ่มตอบ มองร่างเล็กเคี้ยวหมากฝรั่งเป่าจนมันแตกและเคี้ยวต่อ...

    "ไปเที่ยวกันป่ะเสาร์นี้ ไอ้จุ้ยมันชวน" แฟรงค์บอกชี้ไปยังเด็กผู้ชายกลุ่มใหญ่ที่คุยกันเสียงดัง

    "ก็อยากไปอยู่นะ แต่ว่า...ไม่ได้มั้ง" ปรีย์บอกอย่างเสียดาย.. วันเสาร์.. เขาต้องอยู่บ้านรอก้องภพ...

    ".....มึง.. มีแฟนแล้วเหรอวะ ?" เพื่อนของเขาอดถามไม่ได้

    "หา ?"

    "กูเห็นช่วงนี้มึงแปลกๆ"

    "ไม่มีนี่.." ปรีย์ขมวดคิ้ว.. ช่วงนี้เขาทำตัวแปลกไปงั้นเหรอ ?..

    "มึงนั่นแหละที่มี.."

    "งั้นกลัวอะไรวะ โหย.. ไม่คิดจะไปเที่ยวบ้างรึไง ? หมดกันชีวิตวัยรุ่น" ร่างเล็กถอนหายใจ เลื่อนเก้าอี้นั่งตรงข้ามกับเขา

    "เออๆ เดี๋ยวกูลองไปขอพี่ก้องก่อน"

    "ขอพี่เค้าค้างบ้านกูเลยก็ได้"

    "อืม.." ปรีย์รับคำ

    "ไอ้ปรีย์เอาป่าว ?" เสียงเด็กหนุ่มตะโกนถามชูจูบาจุ๊บในมือ

    "เอา" ปรีย์ตอบชูมือรับ

    "แบ่งกันอมกับไอ้แฟรงค์นะเว้ย! หมดพอดี" เพื่อนเขาบอกอย่างงั้นพร้อมโยนลูกกวาดให้

    "ไอ้งก!" แฟรงค์หันไปด่าเพื่อน

    "ขอบใจเว้ย" ปรีย์หัวเราะ เกาะเปลือกลูกกวาดในมือ...

    "ช่วงนี้ไอ้อาร์ตไม่ค่อยกวนมึงแล้วนะ" หนุ่มร่างเล็กบอก ปรายตาไปยังไอ้ตัวกวนที่หันมาสบตากับเด็กหนุ่มราวกับรู้ว่าถูกนินทา..

    "เพราะมึงไง" ปรีย์ตอบ ยิ้มกวนแก้มนวลป่องนูนเพราะลูกกวาดกลมๆ ที่อยู่ในปาก

    "ไอ้เหี้ยนี่.." เพื่อนเขาสบถ

    "แล้วหายโกรธไอ้เชนยังวะ ?" ปรีย์ก้มลงกระซิบกระซาบ

    "แล้วมึงจะวกกลับเข้ามาเรื่องนี้ทำไมเนี่ย ?" แล้วเพื่อนเขาก็ทำหน้าซังกะตายใส่

    "มันไปทำอะไรให้มึงอ่ะ ถามจริง ..ง้อตั้งนานมึงก็ไม่หายโกรธ" เด็กหนุ่มอดถามไม่ได้ จับไม้พลาสติกหมุนเบาๆ

    "สู่รู้นะมึงอ่ะ"

    "ถ้าไม่ใช่เรื่องของมึง กูไม่สู่รู้หรอก" เขาตอบยิ้มๆ หยิบไม้พลาสติกออกจากปากและยื่นให้เพื่อน

    "อ่ะ" แฟรงค์ทำหน้าขยะแขยง และส่ายศีรษะ ...ปรีย์หัวเราะเบาๆ และเอ่ยต่อรอง

    "ไม่บอกกูจับยัดปากจริงๆ ด้วย" ถึงจะพูดแบบนั้นแต่เขาก็เอาลูกกวาดกลับเข้าปากเหมือนเดิม...แฟรงค์เหลียวซ้าย มองขวา ก่อนจะดึงเขาเข้าไปฟังใกล้ๆ

    "..ไอ้เชนมันไปคั่วกับหญิงโรงเรียนอื่น" ยิ่งพูดเด็กหนุ่มยิ่งรู้สึกเจ็บใจ.. ไอ้หล่อนั่นจีบผู้หญิงโรงเรียนอื่น ในขณะที่ทำทีท่าเหมือนกับรักเขา..

    "โฮ๊ะ! หล่อเลือกได้จริง ๆ เลยเว้ย"

    "แม่งไม่คั่วเปล่าน่ะสิ ไอ้แว่นบอกว่าเรียบร้อยแล้วด้วย" เด็กหนุ่มเบ้หน้า.. ถ้าเขาไม่เล่นเกมส์บ้า ๆ ของไอ้พวกนั้นก็คงไม่รู้หรอก ว่าเชนฝึกปรือฝีมือมาเพื่อใช้จัดการกับเขา...

    "ฮ้า~! มึงก็เลยน้อยใจ ?"

    "กูบอกไม่ถูก.."

    "แล้วมึงก็เลยได้ไอ้อาร์ตมาปลอบใจ.." ปรีย์พยักหน้าราวกับเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดแล้ว...

    "มึงอย่าพูดแบบนั้นดิ"

    "แล้วถ้ามึงต้องเลือก มึงจะเลือกใครวะ ?" เด็กหนุ่มนั่งนิ่งเมื่อเจอเพื่อนยิงคำถามทำนองนี้อีกครั้ง..

    "...กูไม่รู้" และตอบเบาๆ เหมือนครั้งก่อนๆ

    "โลเลว่ะ" ปรีย์เลิกคิ้วมองเพื่อนอย่างผิดหวัง หมุนไม้พลาสติกเบาๆ

    "มึงไม่มาเป็นกูล่ะ" เด็กหนุ่มร่างเล็กบ่นเบาๆ เป่าหมากฝรั่งในปากจนมันแตกอีกครั้ง...

    ปรีย์มองเพื่อนนิ่ง..... ไม่ต้องให้เขาเป็นแฟรงค์หรอก... ระหว่างก้องภพกับกล้าหาญ.... ถ้าให้เขาเลือกล่ะก็... เขาก็คงตอบไม่ได้เช่นกัน...
 
    "ปรีย์ขึ้นมานี่หน่อย" เสียงทุ้มจากชั้นลอยเอ่ยเรียกเขา เด็กหนุ่มวิ่งขึ้นบันได โผล่ศีรษะยิ้มเผล่ให้กับเจ้าของสถานที่...

    "มีอะไรเหรอฮะ ?" ปรีย์เอ่ยถามมองสำรวจกองหนังสือที่ตั้งอยู่เรียงราย.. เขาไม่กล้า และไม่เคยขึ้นมาชั้นลอยเลย... เพราะคิดว่ามันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของกล้าหาญ...

    "อาทิตย์หน้า พี่คิดว่าจะพาปรีย์ไปเยี่ยมแม่" ชายหนุ่มเอ่ยบอก ละสายตาออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์

    "แม่ของพี่กล้ากับพี่ก้องเหรอฮะ ?"

    "อืม..." กล้าหาญตอบรับในลำคอ มองเห็นความกังวลในแววตาสีเข้มของเด็กหนุ่ม จึงเอ่ยปลอบ...

    "แม่พี่ไม่ดุหรอก.." และหล่อนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเพียงไม่กี่เดือนเด็กคนนี้ก็ตกเป็นของเขาและก้องภพแล้ว... เรื่องที่ตกเป็นของก้องภพอาจจะอยู่ในความคาดหมาย แต่ที่ตกเป็นของเขานี่สิ....

    "แล้วพ่อของพี่กล้าล่ะฮะ ?"

    "ไม่ดุเหมือนกัน ..แต่แม่บ่นว่าอยากเจอปรีย์มาหลายครั้งแล้ว" กล้าหาญตอบ... เขาสนิทกับมารดามากกว่าจึงได้รับข่าวสารจากฝั่งมารดามากกว่า    

        "ไปกับพี่นะ.." ชายหนุ่มเอ่ยชวน ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กหนุ่มปฏิเสธไม่ได้....ปรีย์พยักหน้าเบาๆ ก่อนหมุนตัวกลับ

    "เดี๋ยว ..ปรีย์" กล้าหาญลุกขึ้นเดินตาม

    "..." ร่างเล็กหยุดชะงัก เมื่อตกอยู่ในวงแขนแกร่ง..

    "หนีพี่ทำไม ?.." ..เด็กหนุ่มไม่รู้ว่าหมายถึงขณะนี้ หรือเมื่อคืน... เขารู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกจากใบหน้า... โชคดีที่ถูกกอดจากด้านหลัง.. ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องรู้สึกอับอายกับอาการหน้าแดงพร่ำเพรื่อของตนเอง

    เมื่อคืนไม่รู้เกิดบ้าอะไรขึ้นมาจู่ ๆ เขาก็เกิดอารมณ์กับกล้าหาญ.. เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มรู้หรือเปล่า ว่านั่นเป็นสาเหตุที่เขารีบผละหนีและวิ่งขึ้นไปบนห้อง...

    เวลาที่อยู่ใกล้กับกล้าหาญ ...ทำไมเขาถึงต้องรู้สึกสะเทิ้นอายราวกับตนเองเป็นผู้หญิง ...แต่เวลาอยู่กับก้องภพเขากลับรู้สึกว่าตนเองเป็นสิ่งที่เปราะบางที่ต้องการความรัก ความดูแลและการเอาใจใส่จากชายหนุ่ม...

    "ผมไม่ได้หนี" ปรีย์ตอบเสียงขุ่น..

    กลิ่นเหงื่ออ่อนๆ ทำให้กล้าหาญโน้มตัวลงสูดดมกลิ่นกายบนแผ่นหลังเล็ก.. จมูกโด่งไล้ไปตามผิวผ้าแผ่วเบา... มันไม่หวานอบอวลเหมือนอย่างกลิ่นน้ำหอมที่ผู้หญิงชอบใช้.. เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ากลิ่นกายของเด็กหนุ่มในอ้อมแขนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาพึงใจเป็นอย่างมาก.. ความคิดเมื่อครู่ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น.. เขากำลังจะเป็นไอ้แก่โรคจิตเหรอเนี่ย ?

    “...อย่า..พี่กล้า...” ปรีย์ปฏิเสธเสียงสั่น.. เกาะวงแขนที่โอบเอวตนไว้แน่น ..เขารู้สึกแปลกๆ ผสมปนเปไปกับความอาย.. ไปโรงเรียนอากาศร้อนเหงื่อออกมาทั้งวันแบบนี้กลิ่นตัวเขาต้องแย่แน่ๆ ..นึกเสียใจที่ไม่อาบน้ำเมื่อกลับมาบ้าน มัวแต่นั่งเล่น นอนดูทีวีจนละเลยเรื่องความสะอาด

    ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยแท้ๆ แต่ร่างเล็กกลับสะดุ้งเฮือก เกร็งตัวเป็นระยะ.. และอ่อนเป็นขี้ผึ้งลนไฟในอ้อมแขนของเขา.. ชายหนุ่มนึกสรุปในใจว่าที่พี่ชายเขาสามารถปราบร่างบางได้อยู่หมัดเพราะแผ่นหลังที่ไวต่อความรู้สึกนี่เอง

    ปรีย์พยายามขืนตัวหนีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่หยุดระรานเขาแน่ ..เมื่อคนในอ้อมแขนไม่ยอมอยู่นิ่งๆ กล้าหาญจึงหมุนร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้ากับเขา แต่เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีหลบสายตาคมที่จับจ้อง.. ชายหนุ่มไม่ยอมให้เขาหนี เคลื่อนใบหน้าตามไปสบตา... ปรีย์รู้สึกอายอย่างบอกไม่ถูก.. นี่พวกเขากำลังเล่นอะไรกัน ?

    "ไม่ได้หนีแล้วนี่อะไร ?" ชายหนุ่มกระซิบถามยิ้มๆ ฝ่ามือหนาแตะสัมผัสใบหน้านวลให้หันมาหาเขา

    กล้าหาญอาศัยจังหวะที่เขาเผลอประกบริมฝีปากเบาๆ.. ปรีย์หลับตาปี๋ ปล่อยให้ลิ้นนุ่มแทรกผ่านกลีบปากและสัมผัสผ่านแนวฟันเรียงเป็นระเบียบที่ขบแน่น..

    จูบของกล้าหาญ... เรียกร้อง เว้าวอนจนเขายอมเผยอริมฝีปากออก ..ปล่อยให้ชายหนุ่มตักตวงความหวานจากเขา

    เด็กหนุ่มรู้สึกได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่รัวเร็วไม่ต่างจากเขาภายในอกของร่างสูงที่เบียดชิด ..มือเล็กหยาบโอบไหล่กว้างไว้แน่น

    "อือ.." เด็กหนุ่มครางเบาๆ ...กล้าหาญบดเม้มริมฝีปากบางจนแดงช้ำ ร่างเล็กหายใจติดขัด.. ปรีย์ความรู้สึกไวเหลือเกิน เพียงแค่เขาสัมผัสแผ่วเบาเด็กคนนี้ก็ตอบโต้ได้อย่างเย้ายวน.. หรือนี่เป็นผลจากการสั่งสอนของพี่ชายเขา.. มือหนาเคลื่อนสัมผัสเอวบางใต้เสื้อนักเรียนแผ่วเบา... กอดรัดเบียดเสียดกลางลำตัวร้อน และลูบตะโบมไปตามแผ่นหลังร่างในอ้อมแขน

    "พ..พี่กล้า... พอ..." ปรีย์หายใจติดขัด พยายามเอ่ยห้ามเมื่อรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่..

    กล้าหาญกดริมฝีปากลงอีกครั้งอย่างแผ่วเบา... มองดูใบหน้าแดงก่ำอย่างพึงพอใจ ..ซุกจมูกลงแก้มนิ่มสูดกลิ่นกายเด็กหนุ่มอย่างแสนรัก..

    "กล้า.. ปรีย์ล่ะ" เสียงเรียกทุ้มทำให้ทั้งคู่หยุดชะงัก

    ...ก้องภพ!!

    "...ทำไมพี่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ?" กล้าหาญส่งเสียงตอบ ปล่อยร่างเล็กในอ้อมแขน.. ดูเหมือนพี่ชายของเขาจะไม่รู้ว่าปรีย์อยู่บนชั้นลอย..

    "กดออดนิ้วจะหักอยู่แล้วเว้ย! เปิดทีวีซะดัง" ก้องภพบ่น.. หยิบรีโมทกดปิดโทรทัศน์

    "ผม.. ผมอยู่บนนี้" เด็กหนุ่มส่งเสียงบอก

    "รอแป๊บนึงนะ พี่ก้อง" รีบวิ่งลงไปข้างล่าง... กล้าหาญตบหน้าผากเบาๆ.. ทำไมเขาไม่โกหกว่าปรีย์อยู่ในห้องซะก่อนนะ.. หวังว่าพี่ชายเขาคงไม่สงสัย...

    "ขึ้นไปทำอะไรบนนั้น หืม ?" ก้องภพโอบกอดร่างเล็ก มองริมฝีปากแดงช้ำอย่างผิดสังเกต..

    "พี่กล้าเรียกไปคุยนิดหน่อยน่ะฮะ" ปรีย์ตอบ แก้มสีระเรื่อ..

    "คุยเรื่องอะไรกัน ?" ก้องภพหันไปมองน้องชายอย่างจับผิด ..นิ้วมือเรียวลูบกลีบปากบางชุ่มชื้นเบาๆ... เหมือนกับเพิ่งถูกจูบมาไม่มีผิด... หรือบางทีอาจจะไม่ใช่...

    "เรื่องที่แม่จะรับปรีย์เป็นลูกบุญธรรมน่ะ" กล้าหาญตอบทิ้งตัวนั่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

    "งั้นเหรอ ?" ชายหนุ่มละความสนใจจากกลีบปากบาง... บางทีเขาอาจจะคิดมากจนเกินไป ..กล้าหาญไม่มีทางหักหลังเขา...

    "ครับ..." ปรีย์ตอบรับเออออเบาๆ.. ทั้งๆ ที่เขาเพิ่งจะรู้ว่าดารัตน์จะรับตนเป็นบุตรบุญธรรม..
 
   "เมย์ให้พี่ชวนปรีย์ไปเที่ยวทะเล" ก้องภพบอก เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นขณะนั่งพื้นตรงระหว่างขาของชายหนุ่มบนโซฟา

    "..ภรรยาพี่ก้องน่ะเหรอฮะ" ปรีย์เงยศีรษะถาม

    "อืม..." ก้องภพหัวเราะและตอบรับในลำคอ จุมพิตหน้าผากเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

    "ผมไม่ไปได้มั้ย ?" ปรีย์เอ่ยถามอย่างกังวล.. เขาไม่รู้จะทำหน้ายังไงต่อหน้าภรรยาของก้องภพ...

    "กล้าไปด้วยนะ.." ชายหนุ่มไม่สนใจคำถาม เอ่ยชวนน้องชายที่นั่งอยู่บนชั้นลอย

    "ครับ.."

    "แต่ผม.." เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปาก เมื่อก้องภพไม่สนใจคำปฏิเสธของเขา...

    "เมย์ไม่น่ากลัวหรอก" ชายหนุ่มเอ่ยปลอบ... ช่วงหลังๆ ภรรยาเขาก็ดูอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย..

    "พี่ก้อง แม่ให้ไปหาด้วย" กล้าหาญเอ่ยบอกพี่ชายตน

    "ดีเลย ก็ไปหาแม่แล้วก็พาไปเที่ยวกันต่อ" ได้ยินเรื่องเที่ยว เด็กหนุ่มจึงนึกได้ว่าเขามีนัดกับแฟรงค์ในวันเสาร์ เอ่ยขออย่างกล้าๆ กลัวๆ..

    "พี่ก้อง คือผม..จะขอไปค้างบ้านเพื่อน"

    "ขอพี่ทำไมล่ะ ขอไอ้กล้านู่น" ชายหนุ่มพยักพเยิดไปหาน้องชายตน..

    "ได้มั้ยฮะพี่กล้า ?"

    "อืม.." กล้าหาญตอบรับ และเดินออกไปจากชั้นลอย...

    "สงสัยแปลงานไม่ออก ..อารมณ์ไม่ค่อยดี" ก้องภพว่า ยักไหล่ กอดร่างเล็กแนบกับแผ่นอกกว้าง..

    "พี่ก้อง.." ชายหนุ่มเลิกคิ้วเชิงคำถาม..

    "ขอจูบหน่อย" ปรีย์เอ่ยขอ.. ก้องภพหัวเราะเบาๆ ก่อนตอบตกลง..

    "เอาสิ" ..ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงสัมผัสกลีบปากบางแผ่วเบา ก่อนดูดดุนริมฝีปากบน... และขบเม้มริมฝีปากล่าง..

    ปรีย์เกาะไหล่กว้างไว้แน่น...เมื่อจูบของก้องภพเร่าร้อนและแสดงความต้องการ... แต่กลับอ่อนโยนได้อย่างไม่น่าเชื่อ...เด็กหนุ่มครางอย่างพึงพอใจ โอบกอดร่างสูงโน้มลงสัมผัสตนอีกครั้ง... ปรีย์แปลกใจที่เขาไม่มีอาการใจเต้นตึกตัก.. แต่เขากลับชอบให้ก้องภพแสดงความรักกับเขา...

    "พอแล้ว.. เดี๋ยวก็หยุดไม่ได้หรอก" ชายหนุ่มหยอกทีเล่นทีจริง ..ปรีย์ปรือตามองเขา ก่อนเคลื่อนตัวสัมผัสริมฝีปากแผ่วเบา... แล้วผละออก..

    เด็กหนุ่มยิ้มเขินๆ ..และซุกหน้าลงกับไหล่เขา... ก้องภพมองกริยานั้นอย่างเอ็นดู... รู้สึกอัดอัดเมื่อเข่าของเด็กหนุ่มเบียดระหว่างขาเขา... ชายหนุ่มรู้สึกว่าเลือดลมฉีดพล่าน... โอบร่างบางในชุดนักเรียนแนบชิด

    "... ไปข้างนอกกับพี่นะ..." ก้องภพกระซิบบอกเสียงแหบพร่า ขบเม้มใบหู และเคลื่อนหอมแก้มนุ่ม...

    กล้าหาญมองพี่ชายตระกองกอดร่างเล็กออกไปจากบ้านด้วยความรู้สึกหลากหลาย.. ทั้งๆ ที่รู้ว่าเด็กคนนั้นเป็นของก้องภพ แต่เขาก็ดึงดัน และดูเหมือนชักจะถลำลึกมากเกินไปแล้ว...

    "ปรีย์! เป็นอะไรวะ ?" หนุ่มร่างเล็กเอ่ยถามเพื่อนขณะคีบลูกชิ้นเข้าปาก... โรงอาหารเต็มไปด้วยเสียงจอแจ เพื่อนเขานั่งเหม่ออยู่นานสองนาน ไม่แตะอาหารเลยซักนิด... ขนาดเขาแอบคีบเนื้อของมันมา มันยังไม่รู้เลย!!

    "แฟรงค์.. เวลามึงจูบกับอาร์ต มึงรู้สึกยังไง ?" จู่ๆ เด็กหนุ่มก็เอ่ยถามเพื่อนทะลุกลางปล้อง... ทำเอาเพื่อนของเขาสำลักอาหาร ไอโขลก

         “อะไรวะ ??!!” แฟรงค์เอ่ยงงๆ ผสมความอาย

         “ตอบมาดิ” ปรีย์เร่งเร้าเอาคำตอบจากเพื่อน

    "ก..ก็ดี...." แฟรงค์อ้ำอึ้ง ก่อนเอ่ยตอบแบบอายๆ.. แก้มนวลเริ่มเปลี่ยนสี.. รวบตะเกียบในมือทิ่มชามดังกึกๆ

    "แล้วเชนล่ะ ?"

    "มึงจะถามทำไมเนี่ย ?!" อาการของเพื่อนเขาเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่ากับเชนก็เคยผ่านมาแล้ว...

    "ว่าไง ?" ปรีย์ถามย้ำ เอียงคอมองอย่างคาดคั้น

    "...ก็ดี..เหมือนกัน" เด็กหนุ่มร่างเล็กอ้อมแอ้มตอบ จนเขาอดกลั้นยิ้มไม่ได้..

    "แล้วชอบของใครมากกว่า ?"

    "ไอ้เหี้ย" เพื่อนเขาสบถ คีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากต่อ ...ปรีย์อมลมแก้มป่อง เมื่อดูท่าทางแล้วเพื่อนของเขาคงตอบคำถามให้ไม่ได้...

    "..ขอจูบหน่อยได้มั้ย ?" ปรีย์เอ่ยขอขณะทั้งคู่นั่งอยู่ใต้อาคารเรียน..... ใต้อาคารเรียน!!!

    "ไอ้สัตว์! กูเพื่อนมึงนะ" แฟรงค์ตะโกนด่า ขยับตัวหนีเมื่อปรีย์ตะบบแขนเล็ก ๆ ของเขาเอาไว้

    "นะๆ" เด็กหนุ่มส่งเสียงอ้อน ทำตาปริบๆ

    "ไม่มีทาง!" เพื่อนของเขาปฏิเสธอีกครั้ง ดันหน้าเพื่อนซี้ตนออกห่าง

    "นิดเดียว..." ปรีย์บอกพร้อมทำปากจู๋ ...แต่แฟรงค์เห็นแล้วคิดว่ามันน่าสะอิดสะเอียน...

    "ไอ้ปรีย์!!!"

    "มึงคิดไม่ซื่อกับเพื่อน!!" เด็กหนุ่มร่างเล็กชี้หน้าว่า หันมองซ้าย ขวา โชคดีที่เพื่อนห้องเดียวกันลงสนามไปเล่นบอลกันหมด..

    "กูไม่เคยคิดแบบนั้น" เพื่อนของเขาบอกเบ้ปาก ..มองเด็กหนุ่มร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่งสายตาที่มีความหมายว่า 'อย่างมึงน่ะนะ ที่กูควรคิดไม่ซื่อด้วย ?'

    "แล้วมาขอจูบกูเพื่อ ?!!" แฟรงค์ถามอย่างเหลืออด

    "อยากรู้ว่าเวลาจูบมึง ใจเต้นตึกตักป่าว" คำตอบของเพื่อนซี้ทำให้เด็กหนุ่มร่างเล็กเริ่มเห็นเค้าลาง.. ว่าทำไมถึงถามเรื่องจูบๆ ถี่นัก...

    "หรือว่า... มึงไปจูบกับใครมา ?"

    "ก็อย่างงั้น"

    "แล้วเป็นไงวะ ?"

    "ก็ดี"

    "แล้วไงอีก ?"

    "ก็..ชอบ..ไม่รู้ดิ" ปรีย์เกาคิ้ว..ไหงเขากลับกลายเป็นฝ่ายถูกถามไปซะได้..

    "กับใครวะ ?"

    "ผู้ชาย ผู้หญิง ?"

    "...ผู้ชาย"

    "พี่ก้องใช่มั้ย ?" ปรีย์เม้มริมฝีปาก ก่อนพยักหน้าเบาๆ โชคดีที่เพื่อนเขาไม่รู้จักกล้าหาญ...

    "นั่นไง กูว่าแล้ว!" เด็กหนุ่มตบเข่าฉาด! สายตาของเขามองคนไม่พลาดจริงๆ.. แต่เรื่องของตนเด็กหนุ่มกลับมองพลาดไปเสียทุกครั้ง..

    "เฮียเค้ามองมึงตาเป็นมัน กูก็สงสัยตั้งแต่แรก หวังเคลมมึงนี่เอง" แฟรงค์ลูบคางเบาๆ นึกถึงสายตาที่มักจะมองเพื่อนเขาอย่างโลมเลีย..

    "เสียดายอายุห่างกันเยอะไปหน่อยว่ะ"

    "แล้วไปถึงขั้นไหนแล้ว ?" เด็กหนุ่มเกาศีรษะ.. ทำไมเพื่อนของเขาถามเยอะจัง.. เวลาเขาถาม ..มันก็คงรู้สึกแบบเดียวกันสินะ...

    "หมายถึงอะไร ? ขั้นไหน ?" ปรีย์ถามกลับ..

    "อย่าแกล้งโง่น่า เพื่อน" แฟรงค์ตบไหล่เพื่อนเขาเบาๆ

    "...ก็..มีอะไรกัน..หลายครั้งแล้ว" เด็กหนุ่มอึ้งไปหลายวินาที... ก่อนสถบ

    ".....พรากผู้เยาว์ชัดๆ"

    "ตอนแรกกูก็ไม่ค่อยอยากทำ แต่หลัง ๆ มันรู้สึกดี แปลกๆ"

    "อยากให้กอดไว้นานๆ..." ปรีย์เอ่ยเบาๆ ซุกหน้าลงกับแขน ...เขาอยากให้ก้องภพกอดกระชับเขาไว้ให้แน่น.. และสัญญาว่าจะไม่ทิ้งเขาไปไหน...ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจดี ว่าชายหนุ่มต้องการเพียงแค่ร่างกาย....
...............................................ทูบีคอนตินิว
 :sad4:ชีวิตน้องวนเวียนอยู่ในวังวนกามจริง ๆ จะกลายเป็นเด็กเสพติดเซ็กส์หรือเปล่าน่ะ แล้่วจะแยกออกไหมว่าอันไหนคือรัก อันไหนคือใคร่ โว่ะ กลุ้ม
พีเอสซึ.ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้น้องปรีย์เช่นเดิมค่ะ รักน่ะม๊วฟๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-12-2011 22:19:06
สำหรับปรีย์สิ่งที่ก้องภพทำคงเป็นการชดเชยสิ่งที่ปรีย์ขาด  น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-12-2011 23:21:37
กลัวหนูปรีย์แยกความรักกับเซ็กส์ไม่ออกจริงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 03-12-2011 23:38:09
อ่านเรื่องนี้นี้ที่ไร ไอ้ผมล่ะอยากจะกรี๊ด
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 03-12-2011 23:50:43
 :serius2:  เครียดกดดันในชีวิต.......

อ่านเรื่องนี้ทีไรใจสั่นทุกที.  :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: JipPy ที่ 04-12-2011 23:49:51
โอ้ย ย ย ย ย


อ่านแล้วสบสันชีวิต จิงๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-12-2011 18:46:40
ใครเป็นคนเล่าเรื่องความรักของผีเสื้อให้ไอ้ก้องฟังกันนะ
ดูจะมีความสำคัญกับก้องมาก ตายเหรอ? หรือเค้าเห็นความเลวของแกเลยชิงทิ้งแกไปก่อน?
รอลุ้นไปเจอแม่ แอบอยากเห็นว่าคนแบบไหนเลี้ยงอิสองตัวนี้มา เหอะ!
รอลุ้นยัยเมย์อะไรนั่นเจอกับปรีย์ด้วย ชีวิตมีรสชาติน่าดู เฮอะๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกกุญแจ ที่ 28-12-2011 05:50:04
รีบมาต่อเน้อ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: pronpailin ที่ 19-01-2012 23:36:58
รีบกลับ มานร้า เห้อ 3Pไปเล้ย จะได้หมดเรื่อง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่12 [3.12.54] สงสัย?
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 20-01-2012 00:24:28
สามคำให้คนเขียน>>หาย ไป ไหน?  :z3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่13 [29.01.55]ลืมกันหรือยัง
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 29-01-2012 08:54:20
บทที่ ๑๓

    ร่างกายอบอุ่นที่เขากอดกระชับได้พอดีมือราวกับสร้างมาเพื่อเขา ริมฝีปากบางที่ตอบรับรสจูบแสนหวานที่เขามอบให้ ความร้อนรุ่มที่ก่อเกิดขึ้นภายในทุกครั้งที่ได้กลิ่นกายหอมละมุน และทุกครั้งที่ได้สัมผัสผิวเนียนละเอียดหรือแม้แต่เส้นผมนิ่มเหมือนขนแมว ...ความรู้สึกเปี่ยมล้นเมื่อได้สบมองดวงตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยที่มักจะมองเขาอย่างขอความรัก.. ความรู้สึกสุขเมื่อได้ครอบครองร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน ทุกสิ่งทุกอย่าง มลายหายไปในพริบตา... เหลือเพียงความว่างเปล่า...
    
         ...เมื่อเผชิญหน้ากับความจริง....
    
         กล้าหาญรวบงานในมือใส่ซอง มองนาฬิกาข้อมือ... ก่อนมองลงไปยังตัวบ้านที่มักจะมีเด็กหนุ่มนั่งอยู่... ภายในใจรู้สึกไหววูบ เมื่อไม่เห็นร่างเล็กที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาตามปกติ... เพียงแค่เด็กคนนั้นไม่อยู่แค่วันเดียว เขายังเป็นได้ถึงขนาดนี้เลย...
    
        ชายหนุ่มชักจะเข้าใจความรู้สึกของเมย์ตอนที่ตกหลุมรักเขา... และพยายามทุกหนทางที่จะได้อยู่ใกล้ๆ... ถึงแม้ต้องแต่งงานกับก้องภพทั้งๆ ที่รู้ว่าพี่ชายของเขาเป็นเกย์ก็ยอม...

    กล้าหาญพ่นลมหายใจออกเบาๆ เมื่อส่งต้นฉบับทันกำหนด.. เขาเหลือบมองออฟฟิศที่ยังคงวุ่นวายเหมือนทุกครั้งที่ใกล้จะตีพิมพ์..

   ชายหนุ่มเดินไปยังโต๊ะทำงานตัวเก่าของตนพบว่ามันกลายเป็นที่เก็บเอกสารเสียแล้ว.. ดวงตาคมอดเหลือบมองที่นั่งตรงข้ามที่มีหญิงสาวไม่คุ้นหน้านั่งอยู่ไม่ได้... ที่ตรงนั้นมันเคยเป็นที่นั่งของ 'หยก' มาก่อน...

   เขายังจำเสียงหัวเราะของเธอได้... ในตอนนั้นเขาเข้าบริษัทแทบจะทุกวันเพื่อมาเจอหน้าเธอ....แล้วสุดท้าย.. ทุกอย่างก็กลายเป็นอดีต....

    "ว่าไงรูปหล่อ ช่วงนี้ไม่โผล่หน้ามาเลยนะ" เสียงใสทักทายจากสาวใหญ่ร่างท้วม เดินอุ้ยอ้ายถือกาแฟกลิ่นหอมกรุ่นเข้ามาทักทายเขาอย่างเป็นมิตร

    "ผมไม่ค่อยว่างน่ะครับ" ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ..สบมองดวงตาหยีภายใต้กรอบแว่นหนาจนเธอหน้าแดงอายม้วน..

    "ไม่ว่างหรือไปหลีสาวที่ไหนวะไอ้กล้า!" เสียงเพื่อนร่วมงานส่งเสียงแซว เขาหัวเราะขำ.. เดินไปทักทายเพื่อนเก่า

    "เป็นไงบ้าง ?" ชายหนุ่มทักหยิบดินสอกดสายการ์ตูนสีหวานของเพื่อนขึ้นมาควงเล่น.. ไอ้บ้านี่ก็ยังชอบการ์ตูนอะไรหวานแหววไม่เปลี่ยน..

    "ชิลๆ ..มึงอ่ะไม่โผล่หัวมาเลย นึกว่าตกเขาตายในหน้าที่ที่ไหนแล้วซะอีก" เพื่อนของเขาบอก คว้าดินสอกดสุดหวงเก็บไว้ที่เดิม เพราะกลัวเขาควงพลาดตกลงไปโหม่งกับพื้นโลก...

    "เหมือนจะห่วง..." แต่ไม่ได้ห่วง...

    "แล้วเมย์เป็นไงบ้าง ?" เมย์เป็นรุ่นน้องที่เคยทำงานในบริษัทนี้เช่นเดียวกัน... เรื่องของพวกเขาคงถูกพวกผู้หญิงนำไปเล่าเสียสนุกปากจนเมย์ทนอยู่ไม่ไหว เป็นคนลาออกไปเอง... และนั่นเป็นชนวนให้สิ่งที่เขาสร้างไว้พังครืนลงมา...

    "ก็สบายดี..." กล้าหาญตอบเบาๆ ...เขาหวังว่าเธอคงจะสบายดี...

    "เออ! ไอ้หยกกลับมาแล้วนะเว้ย"

    "..งั้นเหรอ ?" เสียงทุ้มตอบราวกับเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งๆ ที่คำบอกของเพื่อนทำให้ภายในใจของเขารู้สึกวูบไหว... เธอกลับมาแล้วแต่ไม่ติดต่อมาหาเขาเลย... ไหนบอกว่าจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเก่าไง....

    "คืนนี้มีงานเลี้ยงต้อนรับมัน มึงไปด้วยมั้ย ?" ชายหนุ่มเอ่ยชวนอดีตคนรักเก่าของเพื่อนหวั่นๆ...

    "....ไปสิ" แต่คำตอบรับกลับทำให้เขาอดแปลกใจไม่ได้ ว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่
 
    ปรีย์ย่ำเท้าเดินอยู่กับเพื่อนกลุ่มใหญ่ด้วยความขุ่นข้อง.. จะอะไรเสียอีกล่ะ!!    เพื่อนสุดที่รักของเขาน่ะสิ!!    เด็กหนุ่มแทบจะล้มตัวลงกุมขมับ.. ใครให้นัดไอ้อาร์ตกับไอ้เชนมาพร้อมกันวะเนี่ย!!? ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ที่เกมส์เซ็นเตอร์ เล่นกันเป็นกลุ่มใหญ่... หน้าจอแค่นิดเดียว แย่งกันเล่นเป็นสิบๆ คน....

    "...เฮ้ย! ไอ้ปรีย์! มึงช่วยกันไอ้เชนออกไปห่างๆ เพื่อนมึงหน่อยได้ป่าววะ ?" อาร์ตเดินเลียบมาใกล้เขากระซิบบอกเขาเสียงเว้าวอน

    "หืม ?" ปรีย์เลิกคิ้วให้เพื่อนเขากวนๆ

    "กูจะแอบไปเดินกับไอ้แฟรงค์ มึงอ่ะไปกันไอ้เชนเอาไว้เลย"

    "อื้มมม~" เด็กหนุ่มกอดอก ยกมือขึ้นเกลี่ยริมฝีปากบางของตนยิ้มๆ..

    "ข้าวเที่ยงอาทิตย์นึง.." ปรีย์คลี่ยิ้ม.. ความจริงขออีกซักนิด เขาก็ยินดีจะเปิดทางให้อยู่แล้ว...

    "โอเค.." เด็กหนุ่มตอบตกลง ..เขารู้ว่าอาร์ตทำเป็นแกล้งลืมความลับของเขาและใช้เรื่องอื่นมาต่อรองแทน อาร์ตเก่งเรื่องการสังเกตพฤติกรรมคนอื่น และคงไม่อยากให้เขารู้สึกกดดัน ....ความจริงแล้วไอ้หมอนี่ก็น่ารัก และเหมาะกับเพื่อนเขาเหมือนกันนะ...    เด็กหนุ่มเดินไปหาเพื่อนซี้ เอ่ยบอกเบาๆ

    "แป๊บนึง เดี๋ยวมา.." แฟรงค์ผงกศีรษะ เชิงตอบรับ พุ่งความสนใจกับตู้เกมส์ตรงหน้าต่อ ปรีย์มองหาเป้าหมาย ก่อนเดินไปประกบ

    "เชนเราอยากเข้าห้องน้ำ" ปรีย์พยายามพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูบริสุทธิ์ใจ..

    "เอ๋ ?" เด็กหนุ่มมองเพื่อนเขางงๆ ...พวกเขาสองคนไม่ได้สนิทกันถึงขั้นไปไหนมาไหนด้วยกัน.. แต่ทำไมจู่ๆ....

    "ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ"

    "เอ่อ.. อืม.." เชนพยักหน้าอย่าเสียมิได้ เดินนำเพื่อนเขาไป

    "ถ้ากลับมาไม่เจอ ..พวกกูไปร้องเพลงนะ" เสียงเพื่อนคนหนึ่งตะโกนบอกดังกลบเสียงเกมส์ที่กระหึ่มอยู่ในโซนนั้น..

    "เออ" ปรีย์ตอบรับ ยักคิ้วให้อาร์ต...

    เด็กหนุ่มเดินอย่างเชื่องช้า ทำภารกิจหลายนาที และออกมาล้างมืออย่างอ้อยอิง...นานขนาดนี้แล้วพวกมันสองคนยังไม่หนีไปเที่ยวกันก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้ว...

    "ปรีย์กำลังคิดจะทำอะไร ?" เชนเอ่ยถามเสียงขุ่น กอดอกพิงผนังมองเขาล้างมือซ้ำแล้วซ้ำอีก...

    "ทำไมเหรอ ?" เด็กหนุ่มหันกลับไปถามอย่างไม่เข้าเจ้า สลัดมือเบาๆ ก่อนยื่นไปหาเครื่องเป่า...

    "กำลังกันเราออกจากแฟรงค์เหรอ ?" เพื่อนของเขาถามตรงประเด็น...

    "ไม่นี่.." ทั้ง ๆ ที่ปากเขาบอกอย่างนั้นแต่รอยยิ้มกวนราวกับจะเป็นเครื่องยืนยันว่า 'ตรงเผง'

    "หรือว่านายได้ยินเรื่องนั้นจากแฟรงค์ ?"

    "เรื่องอะไรกัน ?" ปรีย์เลิกคิ้วถามกลับ

    "..." เชนนิ่งเงียบ เหมือนว่าเขาจะเริ่มอารมณ์เสีย... ปรีย์ไม่เคยเห็นเด็กผู้ชายที่แสนสุภาพเรียบร้อยอารมณ์ขุ่นขนาดนี้มาก่อน...

    "ไม่เอาหน่า อย่าซีเรียสดิ.. ไปกันเถอะ" เด็กหนุ่มเอ่ยชวนยิ้มหวานหวังให้เพื่อนเขาใจเย็นลง... แต่ดูเหมือนเชนคงจะไม่อยากญาติดีกับเขาเสียแล้วล่ะ...

    เพื่อนของเขานำลิ่วไปยังตู้เพลงขนาดใหญ่ที่เรียงราย.. หยุดยืนยังห้องที่อัดกันจนล้นออกมาข้างนอก โดยมีเขาเดินตามไปเรื่อยๆ ผิวปากสบายใจ...

    "แล้วอาร์ตกับแฟรงค์ล่ะ ?" เชนส่งเสียงถามอย่างหัวเสีย ตวัดสายตาคมกลับมามองเขา..

    "ไม่รู้ดิ เดี๋ยวพวกมันก็มามั้ง" เพื่อนคนหนึ่งตะโกนตอบท่ามกลางเสียงเพลงกระหึ่ม และพากันร้องเพลงตาม โยกตัวอย่างเมามัน... ปรีย์ฮัมเพลงตามเบาๆ... เพื่อนของเขาจะไปเดินเที่ยวอยู่ที่ไหนกันน้า~...
 
    เสียงเพลงชวนโยกตัวดังกระหึ่ม ชายหนุ่มมองน้ำสีอำพันในแก้วกระทบแสงไฟหลากหลายสี...กล้าหาญยิ้มทักทายเพื่อนเก่าที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี จนมาหยุดยืนต่อหน้าหญิงสาวเจ้าของงานเลี้ยง..เธอเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมั่นใจในตนเอง ทรงผมซอยสั้นทันสมัยรับกับรูปหน้าเรียวสวย จมูกโด่งที่ผ่านการศัลยกรรมทำให้เครื่องหน้ายิ่งดูเหมาะเจาะจนหญิงสาวหลายๆ คนพากันอิจฉา...

    "ไม่เจอกันนานนะ" หยกเผยอยิ้มกว้าง.. เป็นฝ่ายทักทายเขาก่อน...

    "..อืม" ชายหนุ่มตอบรับในลำคอ ไม่แน่ใจว่าเธอจะได้ยินหรือไม่...

    เธอดูอวบอิ่มขึ้นกว่าเมื่อหลายปีก่อน ยังคงยิ้มสวยทั้งปากและดวงตาเช่นเดิม อีกทั้งยังเป็นฝ่ายพูดคุยซักถามมากขึ้น...

    "เป็นยังไงบ้าง มีคนใหม่รึยัง ?" คำถามแรกทำให้ชายหนุ่มคิ้วขมวดแทบจะทันที

    "คุณควรจะถามตัวเองมากกว่า.." ชายหนุ่มสบตาตอบอย่างไม่ลดละ.. ทำให้คู่สนทนาเบือนสายตาหนีเอ่ยขมุบขมิบ

    "..นายนิสัยแย่เหมือนเดิมเลยนะ" หญิงสาวเบ้ปาก หยิบแก้วเหล้ากรอกปากอิ่มอย่างคุ้ยเคย..

    "ผมก็เป็นของผมแบบนี้... คุณตกลงคบกับผมเพราะคิดว่าผมเป็นคนยังไง ?" ชายหนุ่มกระซิบถามเสียงต่ำ เธอเหลือบมองเขาเล็กน้อย ก่อนกระซิบตอบ

    "..ฉันก็คิดว่าคุณจะเป็นคนรักเดียวใจเดียวเสียอีก"

    "หยก.. ผมคิดว่าพูดเรื่องนี้มาหลายรอบแล้วนะ" คำพูดของเธอทำให้เขาแสดงสีหน้าไม่พอใจ... เธอยังคิดว่าเขามีอะไรกับเมย์อยู่...

    "เอาน่าๆ เรื่องมันผ่านไปแล้ว ลืมๆ มันไปบ้างเถอะ.. ชนๆๆ" ชายหนุ่มรีบห้ามทัพเมื่อเพื่อนของเขาชักจะอารมณ์ไม่ดีกันทั้งคู่..

    ทั้งสองคนเป็นคนชอบเอาชนะ... พวกเขากัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ...แต่ไม่รู้ทำไมถึงกลายเป็นคนรักกันได้....กล้าหาญถอนหายใจ เบนสายตาหนีไปยังกลุ่มคนที่อยู่ชั้นล่าง ....ชายหนุ่มชะงัก.. กวาดตามองกลุ่มเด็กวัยรุ่นอีกครั้ง ....นั่นมันปรีย์นี่... อายุไม่ถึงแล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไง ?...

    ชายหนุ่มเพ่งสายตามองอย่างกรุ่นโกรธ... เด็กหนุ่มบอกว่าจะไปค้างบ้านเพื่อน.. แล้วทำไมถึงมาโผล่ที่สถานบันเทิงในเวลากลางดึกเช่นนี้..?
 
    เด็กหนุ่มจิบแอลกอฮอล์ในแก้วทีละนิด.. ประสบการณ์จากการดื่มกับเพื่อน ๆ ของกล้าหาญครั้งที่แล้วทำให้เขาไม่กล้ายกซดอีก...

    เพื่อนของเขาลากกันออกไปยืนเบียดเนื้อ บางคนก็มีผู้หญิงเต้นคู่ เด็กหนุ่มหัวเราะและลุกขึ้นโยกกายตามจังหวะเบาๆ.. ถ้าเขาไม่ได้แอลกอฮอล์ช่วยก็คงไม่กล้าลุกขึ้นออกลีลากับเพื่อนๆ เหมือนกัน

    เวลาไม่นานเด็กหนุ่มก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้า เมื่อกลับมาที่โต๊ะก็ไม่เจอไอ้ตัวเล็ก... เขาไม่รู้ว่าเพื่อนซี้ของเขาหายไปไหน... กวาดสายตาหารูปร่างที่คิดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเขาบนฟลอร์....แต่ก็ไม่เจอ.... สงสัยแฟรงค์คงจะตัวเล็กเกินจนมองหายาก...

    พลันดวงตาสีน้ำตาลเข้มสบกับดวงตาคมคู่นั้น ...ราวกับจะฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆกล้าหาญ!! ...ทำไมเขาถึงซวยแบบนี้!!

    "พี่กล้า!" เด็กหนุ่มพยายามตะโกนเรียกท่ามกลางเสียงอึกทึก ...เห็นแผ่นหลังของชายหนุ่มไวๆ.. เขามั่นใจว่ากล้าหาญมองเห็นเขา... ปรีย์เดินเบียดเสียดกับผู้คน พยายามมองหาร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่ม

    ปรีย์หาไม่พบ... หรือว่าเขาจะเมาจนตาฝาด....

    เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ เขารู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ... แต่เมื่อมาถึงเสียงทะเลาะกันหน้าห้องน้ำทำให้เขาชะงัก... หนึ่งในนั้นคือเสียงทุ้มที่เขาได้ยินแทบจะทุกวัน...

    กล้าหาญกำลังทะเลาะกับผู้หญิงคนหนึ่ง... และดูเหมือนเธอจะร้องไห้... ปรีย์หูอื้อตาลายไปหมด เมื่อเห็นชายหนุ่มโอบกอดผู้หญิงคนนั้นไว้ในอ้อมแขน.... หากแต่มันยังไม่จบเพียงเท่านั้น...

    ... เมื่อชายหนุ่มประกบจูบหญิงสาวบอบบางในอ้อมแขนอย่างดูดดื่ม... ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนเขาตั้งตัวไม่ทัน ....เด็กหนุ่มยืนตัวแข็งทื่อ...

    ....ใคร ??... อะไร ??....

    ในใจของเขารู้สึกปวดร้าวไปหมด อยากละสายตาหนี แต่ก็ทำไม่ได้.... จวบจนทั้งคู่ผละออกจากกัน... ผู้หญิงคนนั้นก็เดินจากไป ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

    กล้าหาญถอนหายใจ และเดินเข้าไปในห้องน้ำ.. ปรีย์มองไม่เห็นสีหน้าของชายหนุ่ม... เขาไม่รู้เลยว่ากล้าหาญรู้สึกอย่างไร...

    ร่างสูงใหญ่รองสายน้ำเย็นจากก๊อกลูบล้างใบหน้าเบาๆ... เธอไม่น่ามาหาเรื่องตอนที่เขากำลังอารมณ์ไม่ดี...ชายหนุ่มทุบกำปั้นลงบนอ่างเบาๆ... มองเงาสะท้อนในกระจกก็เห็นเด็กหนุ่มที่เป็นสาเหตุทำให้เขาอารมณ์แปรปรวนเช่นนี้...

    "พี่กล้า... พี่กล้า...." เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกอย่างหวาดหวั่น รีบสาวเท้าเดินตามเมื่อเห็นเขาจะเดินหนี...

    "พี่โกรธผมเหรอ ?" ร่างเล็กเอ่ยถาม แต่เขาทำเป็นมองไม่เห็น... ไม่อยากได้ยินเสียง

    "พี่..." นิ้วมือหยาบคว้าแขนเขาเอาไว้.. ชายหนุ่มสะบัดหนีแทบจะทันที... เขาไม่ชอบใจเลยที่ปรีย์ยอมให้ใครแตะเนื้อต้องตัวง่ายๆ... โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่รู้จักหน้าค่าตาที่ยืนเบียดเสียดและสัมผัสลูบไล้ตามร่างเด็กคนนี้....

    "ทำไมฉันต้องโกรธเธอ ?" กล้าหาญเอ่ยถามเสียงเรียบ สรรพนามที่ใช้ห่างเหินจนปรีย์รู้สึกเสียใจ... เขาไม่น่าแตะต้องชายหนุ่มโดยไม่ขออนุญาตก่อน...

    "ผม.. ผมขอโทษ..." เด็กหนุ่มละล่ำละลักบอก ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนชายหนุ่มเริ่มรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย...

    "...พี่ไม่ได้โกรธ" เขาเอ่ยบอกเบาๆ

    "แต่.. แต่พี่กล้า..." กล้าหาญมีท่าทีราวกับรังเกียจเขา...

    "เราอายุไม่ถึง เข้ามาได้ยังไง ?" ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง.. ความขุ่นข้องทำให้เขาลืมสังเกตว่าเด็กหนุ่มกังวลคนละเรื่องกับที่เขาคิด...

    "เพื่อนผมพาเข้ามา.." ปรีย์ตอบเบาๆ...

    "ผมไม่เคยเที่ยวมาก่อน.. ก็เลย..." ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ เขาไม่มีทางได้ออกมาเถลไถลแบบนี้แน่...

    "ถ้าอยากมาก็รอให้โตกว่านี้ก่อน.. ถ้าตำรวจตรวจขึ้นมาจะทำยังไง ?" ชายหนุ่มเอื้อมมือลูบศีรษะทุยเบาๆ

    "ขอโทษ... ขอโทษครับ..." ปรีย์รีบเอ่ยขอโทษ ..เด็กหนุ่มรู้สึกผิดได้แต่ก้มหน้ามองพื้น.. เมื่อกล้าหาญเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจ...

    "เอาล่ะ.. แล้วคืนนี้ห้ามดื่มเหมือนคราวก่อนนะอีกเข้าใจมั้ย ?" ...เขาคงจะห้ามอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้...

    "ครับ.." เด็กหนุ่มรีบรับคำ

    "พี่ไปแล้ว.."

    "เดี๋ยว! ..เดี๋ยวครับพี่กล้า..." ปรีย์รีบเอ่ยเรียก... ชายหนุ่มเลิกคิ้วหันมามองเขาเชิงคำถาม...

    "คือ.... ไม่มีอะไรหรอกครับ..." กล้าหาญถอนหายใจเบาๆ อีกครั้งและเดินออกห่างไป... ในใจของเด็กหนุ่มรู้สึกหนักอึ้ง... เขาอยากถามชายหนุ่มว่าผู้หญิงคนนั้นคือใคร... แต่ก็รู้ว่ามันไม่ควรถาม.... เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เด็กอย่างเขาไม่ควรก้าวก่าย....

    แต่เขาก็ไม่อยากให้กล้าหาญอยู่ใกล้และทำตัวสนิทสนมเกินกว่าเพื่อนกับคนอื่น... นี่เขาเป็นอะไร ? ปรีย์คิดไม่ตก.. บางทีเขาอาจกำลังเริ่มเมา...

        ความรัก มักจะเลือกคนที่พยายามปฏิเสธมัน...

...................................................... ทูบีคอนตินิว

 :m15:น้องปรีย์ กลับมาแล้ว ขออภัยที่หายหัวหายหางกันไปนาน จนน้องหยดผู้แต่งไปแงะ ๆ สนิมให้กลับมาลงต่อเสียที คิคิ เค้าผิดไปแย้ววว :z3: ท้อแท้กะชีวิตน้องปรีย์จริง ๆ อดทนกันต่อไป เพราะน้องกำลังจะเริ่มรู้หัวใจตัวเอง ที่มันมาจากหัวใจ มิใช่จากรสเสน่หาแล้วน่ะเออ อย่าเครียด ๆ ท่องไว้น่ะจ๊ะ มิตรรักแฟนคลับน้องปรีย์ อย่าลืมน้องปรีย์น่ะค่ะ แล้วพบกันค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่13 [29.01.55] ลืมกันหรือยัง!
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 29-01-2012 09:38:36
สามคำ>>>มา แล้ว เย้!   :mc4:   ( แทบจะเต้นระบำ)
ปรีย์รักกล้า....... :impress2: 
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่13 [29.01.55] ลืมกันหรือยัง!
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 29-01-2012 14:36:00
มาเถอะ  เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้รอละ  จัดมาอย่าให้เสีย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่13 [29.01.55] ลืมกันหรือยัง!
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 29-01-2012 15:24:04
 :o12:  ในที่สุดก็มาสะที....หลอกให้เราค้างแบบนานข้ามปีกันไปเลยทีเดียว  :sad4:

อย่าหายไปนานอีกนะคะ  :m15:

 :call:
 :call: :call:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่13 [29.01.55] ลืมกันหรือยัง!
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 29-01-2012 15:54:38
 :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่14 [30.01.55]ความรู้สึกนี้คือ?
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 30-01-2012 12:23:09
บทที่ ๑๔

    "เป็นไรป่าวแฟรงค์ ?" เด็กหนุ่มเอ่ยถามเพื่อน.. หลังจากกลับมาที่บ้าน เพื่อนเขาก็ดูเงียบลงเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.. ไม่เปิดปากบอกอะไรเขาซักคำ

    "ป่าว.." เด็กหนุ่มร่างเล็กตอบเบาๆ.. โยนผ้าขนหนูผืนใหม่ให้เพื่อน ก่อนชะงักเท้าที่เหยียบพื้นห้องน้ำ หันกลับมาเรียกคนที่นั่งอยู่ในห้อง

    "ไอ้ปรีย์"

    "อะไร ?" เด็กหนุ่มตอบรับ

    "คนที่มึงรัก กับคนที่รักมึง.. มึงจะเลือกใคร ?" แฟรงค์เอ่ยถามเพื่อน... คนถูกถามนิ่งคิดก่อนตอบแบบไม่ลังเล
 
   "...คนที่รักกู"

    "งั้นเหรอ..." เด็กหนุ่มตอบรับเสียงแผ่ว ก่อนเอ่ยถามคำถามใหม่...
 
   "แล้วถ้าเขารักมึงทั้งคู่เลยล่ะ ?"
 
   "...ก็รักทั้งคู่สิ"
 
   "...แล้วถ้ามึงต้องเลือกคนใดคนหนึ่งล่ะ ?"
 
   "ไม่เลือกไม่ได้เหรอ ?"
 
   "ไม่ได้..."
 
   "..." ปรีย์นิ่งเงียบ ...ถ้าหากต้องเลือกคนใดคนหนึ่งล่ะก็....
 
   “กูคงจะต้องปล่อยทั้งสองคนไป....”
 
    แล้วก็ถึงวันที่ปรีย์กลัว... พวกเขาตกลงกันว่าจะไปเที่ยวทะเลก่อน แล้วจึงไปเยี่ยมดารัตน์...

    เช้าวันนั้นก้องภพมารับเขากับกล้าหาญ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มพยายามเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งเคียงข้างมากับชายหนุ่มภายในรถ... แต่เห็นเพียงแค่เงาเลือนราง..

    "แต่งตัวหล่อเชียว" ก้องภพทัก หอมแก้มเขาเบาๆ เด็กหนุ่มผงะ พยายามส่งยิ้มฝืดเฝื่อน... แอบเหลือบมองผู้หญิงที่นั่งอยู่หน้ารถ.. กลัวว่าเธอจะไม่พอใจ..
 
   ก้องภพลงมาช่วยขนกระเป๋าไปไว้ท้ายรถ.. เหลือเพียงกระเป๋าเป้เก็บหนังสือของกล้าหาญที่เขานำติดตัวมา..

    กล้าหาญชะงักเมื่อเปิดประตูรถเจอคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้า... เขาไม่คิดว่าเมย์กับก้องภพจะชวนเธอมาด้วย...ชายหนุ่มดันร่างเล็กเข้าไปนั่งก่อน แล้วเขาจึงเข้าไปนั่งตาม...

        บรรยากาศภายในรถแสนจะน่าอึดอัด ..เด็กหนุ่มนั่งตัวเกร็งปิดปากเงียบ ...เมื่อต้องเจอกับผู้หญิงแปลกหน้าถึงสองคน... คนแรกคือผู้หญิงผมยาวเป็นลอนสวยที่นั่งอยู่ด้านหน้า...ภรรยาของก้องภพ... แต่อีกคน ผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ เขา เด็กหนุ่มจำได้ทันทีว่าเธอคือผู้หญิงที่ประกบปากกับกล้าหาญเมื่อหลายวันก่อน...

    ปรีย์รู้สึกราวกับตนเองเป็นส่วนเกินของการมาเที่ยวในทริปนี้.... ริมฝีปากบางเม้มแน่นอย่างอึดอัด เมื่อเขาต้องมานั่งคั่นระหว่างกลางกล้าหาญกับคนรักเก่า...

    "น้องชายเหรอ ?" หญิงสาวผมซอยสั้นเป็นฝ่ายเอ่ยถามชายหนุ่มที่นั่งอีกฟากฝั่ง
 
   "อืม.." ชายหนุ่มตอบในลำคอ..
 
   "ไม่ยักรู้ว่านายมีน้องชายน่ารัก" หยกยิ้มเอ็นดู ...หล่อนแสร้งทำเป็นไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มและก้องภพ... ทั้งๆ ที่เมย์เป็นคนเอ่ยปากบอกเอง ว่าสามีของเธอกำลังคบกับเด็กคนนี้อยู่
...แต่ก็นั่นแหละ มันไม่เกี่ยวกับเธอเสียหน่อย...
 
   "พี่ชื่อหยกนะ"
 
   "ผมชื่อ..ปรีย์ครับ.." เด็กหนุ่มแนะนำตัวตะกุกตะกัก.. ผู้หญิงคนนี้สะสวยแถมยังอัธยาศัยดี.. แต่เขากลับไม่อยากรู้จักเธอมากนัก...
 
   "พี่ชื่อเมย์นะจ๊ะ" หญิงสาวด้านหน้าหันกลับมาคุยกับเขา เธอเป็นผู้หญิงสวยหวาน ดวงตาโตเป็นประกาย ยิ้มโชว์เขี้ยวซี่เล็กส่งให้...
 
   "หิวรึเปล่า ? พี่ทำแซนด์วิชมาด้วย" เมย์บอก ยกกล่องอาหารขึ้นโชว์เล็กน้อย
 
   "ไม่หิวครับ.. ขอบคุณครับ.." ปรีย์ปฏิเสธอย่างสุภาพ.. เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย...
 
   "พี่หยกกับพี่กล้าหิวรึเปล่า ?" หญิงสาวหันไปถามคนอื่นต่อ เมื่อเห็นทั้งคู่ปฏิเสธจึงเอ่ยถามสามี
 
   "พี่ก้องละคะ ?"
 
   "เพิ่งออกมาก็จะให้พี่กินอีกแล้วเหรอ ?" ชายหนุ่มบอกกลั้วหัวเราะ เอื้อมมือลูบเส้นผมเป็นลอนสวยนั้นแผ่วเบาอย่างรักใคร่.. ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดูราบรื่นดี... แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงอึดอัดในใจนัก...
 
   เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง ปรีย์เกร็งจนเลิกเกร็ง ดวงตาสีเข้มเริ่มปรือ.. เขาเผลอผงกศีรษะหลายครั้ง.. จนในที่สุดเสียงหนึ่งก็เอ่ยบอกอย่างเอื้ออาทร..
 
   "ปรีย์พิงไหล่พี่ก็ได้" เธอเอื้อมมือแตะศีรษะเขาไปพิงไหล่บาง หากแต่กล้าหาญยื้อเด็กหนุ่มเอาไว้เสียก่อน
 
   "อะไรกัน.. กล้า" หยกเอ่ยถามคิ้วขมวด
 
   "น้องเขาเป็นผู้ชาย พิงผมดีกว่า"
 
   "นายกำลังคิดอะไร น้องเขาเป็นแค่เด็ก" ปรีย์เห็นท่าไม่ดีจึงเป็นฝ่ายเอ่ยห้ามทัพ...
 
   "ผม.. ผมไม่ง่วงแล้วล่ะครับ..." เสียงหัวเราะขบขันดังมาจากหญิงสาวด้านหน้า
 
   "พวกพี่นี่ แค่นี้ก็ทะเลาะกัน"

    "แต่เมย์ว่าให้น้องเขาพิงพี่หยกดีกว่า ..เดี๋ยวพี่ก้องหึงขึ้นมาล่ะแย่เลย" เมย์บอกกลั้วหัวเราะ.. แต่สำหรับปรีย์ มันไม่ตลกเลยซักนิด.. เธอบอกเป็นนัยๆ ว่ารู้เรื่องระหว่างเขากับก้องภพ ....เด็กหนุ่มกำมือแน่น...
 
   ความเครียดขมึงก่อเกลียวขึ้นภายในใจของเด็กหนุ่ม จนชายหนุ่มที่นั่งข้างสังเกตได้... มือหนาแอบขยับแตะสัมผัสแผ่นหลังฝ่ามือเล็กแผ่วเบา.. เมื่อมือหยาบกร้านเกินวัยไม่ขยับหนี เขาจึงค่อยๆ เคลื่อนกอบกุม.. เด็กหนุ่มก้มหน้านิ่ง แก้มเริ่มเปลี่ยนสี หมัดเล็กๆ พยายามกำไว้ไม่อยากให้ชายหนุ่มสัมผัสกับความชื้น อันแสนน่าอาย
 
   กล้าหาญเบือนหน้ามองออกไปภายนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย พยายามแกะนิ้วมือเล็กออกและสอดประสานไว้กับมือของเขา.. บีบกระชับฝ่ามือหยาบกร้านเบาๆ หวังให้ผ่อนคลาย..
 
   ปรีย์พยายามทำตัวไม่ให้ผิดสังเกต... เขารู้สึกแปลกๆ... ตั้งแต่จูบกันครั้งนั้นกล้าหาญก็พยายามไม่เข้าใกล้เขาอีก.. แต่ตอนนี้... เพียงแค่ถูกประสานมือไว้เท่านั้น ...เพียงแค่ได้รับความอบอุ่นจากฝ่ามือหนา... ใจของเขาก็แทบเต้นไม่เป็นจังหวะ...
 
   ...กล้าหาญหายใจสะดุด เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบตอบจากฝ่ามือเล็กนั้น... ชายหนุ่มนั่งเงียบ ปล่อยให้ฝ่ามือของเขาแนบสนิทกับฝ่ามือหยาบของเด็กหนุ่มจนมันเปียกชื้นไปตลอดการเดินทาง....
 
    เมื่อมาถึงโรงแรมที่จองไว้ หยกจัดแจงแบ่งห้องให้กับพวกเขา
 
   "หยกไม่นอนกับเมย์เหรอ ?" ก้องภพขมวดคิ้ว มองเธอลากกระเป๋าไปอีกทาง.. ความจริงแล้วเขากะจะให้เมย์กับหยกนอนด้วยกัน ส่วนกล้าหาญแยกเดี่ยวไปนอนอีกห้อง... และแน่นอนว่าเขานอนกับปรีย์...
 
   "หยกนอนคนเดียวสะดวกกว่า" หญิงสาวว่า.. ความจริงแล้วเธอไม่ค่อยอยากร่วมห้องกับเมย์นัก.. แต่ให้พูดตรงๆ ก็เสียน้ำใจเปล่าๆ... โดยหารู้ไม่ว่า นั่นแหละคือสิ่งที่หญิงสาวอีกคนหนึ่งต้องการ...
 
   "เมย์กับพี่ก้องเป็นสามีภรรยากัน ก็นอนห้องเดียวกันไปสิคะ" เธอเอ่ยบอก โยนพวงกุญแจในมือเล่น..
 
   ปรีย์ใจตุ้มๆ ต่อมๆ เมื่อรู้ว่าตนต้องใช้ห้องร่วมกับกล้าหาญ เด็กหนุ่มเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ตีหน้านิ่ง.. แอบลอบถอนหายใจเบาๆ     ทั้งๆ ที่เคยนอนด้วยกันหลายครั้ง แต่หากครั้งนี้เขารู้สึกแปลกไปจากเดิม...

    เมื่อจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทางพวกเขาก็พากันไปทานอาหารเย็น และตกลงเดินดูร้านขายของตามชายทะเล...    ปรีย์รู้สึกอึดอัดแปลกๆ.. ก้องภพเหลือบมองมาทางเขาหลายครั้ง.. แต่จนแล้วจนรอดก็คงสลัดภรรยาไม่หลุด กล้าหาญก็นิ่งเงียบตลอด ...ยังดีที่มีหยกคอยชวนเขาพูดคุยบ้าง

    "อันนี้ก็น่ารักเนอะ ปรีย์" หญิงสาวบอกหยิบเส้นเชือกที่ถักอย่างประณีตร้อยกับเปลือกหอยขึ้นมาดู... เด็กหนุ่มยิ้มบาง พยักหน้า

    "เราไม่น่าจะสนับสนุนสินค้าที่ทำมาจากเปลือกหอยนะคะ พี่หยก" เสียงหญิงสาวอีกคนดังขึ้นขัด
 
   "ไม่เห็นเป็นไรเลยแค่อันเดียวเอง" หยกบอกเรียบๆ วางของในมือลงที่เดิม.. หมดอารมณ์ซื้อ...
 
   "ถ้าทุกคนคิดแบบพี่กันหมดปูเสฉวนก็ไม่มีที่อยู่สิคะ น่าสงสาร" หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่น ก่อนเอ่ยโต้ตอบ

        "แต่นี่มันฝาหอย ปูเสฉวนจะเข้าไปอยู่ได้ยังไง"

    "แต่มันก็เป็นเปลือกหอยจากธรรมชาติเหมือนกันนี่คะ" เมย์เอ่ยอย่างไม่ยอมแพ้ จนท้ายที่สุดก้องภพต้องเป็นฝ่ายเอ่ยห้ามปราม..
 
   "เอาล่ะๆ ไปร้านอื่นกันต่อเถอะ" ชายหนุ่มดึงแขนภรรยาให้เดินออกมา.. นี่เขาคิดถูกคิดผิดที่ชวนแฟนเก่าของน้องชายมาเนี่ย ?...
 
   "ยัยแม่พระ.." หญิงสาวเข่นเขี้ยวแอบสบถเบาๆ เธอรู้จักเมย์ดียิ่งกว่าใคร...

    ...ตอแหลสิ้นดี...

    กลุ่มนักท่องเที่ยวเดินกันขวักไขว่ไม่เกรงกลัวลมแดดร้อน ถนนหนทางที่เต็มไปด้วยร้านขายของริมฝั่ง มีพื้นยกระดับให้เดินเท้าเล็กน้อยทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเบียดเสียดกันบ้างก็เดินริมถนน..

   กลุ่มของพวกเขาเดินเลียบทางเท้าไปเรื่อย ๆ ปรีย์มองบรรยากาศริมทะเลด้วยความผ่อนคลาย... เด็กหนุ่มมองดูผู้ใหญ่ทั้งสี่คนที่เดินนำเขาอยู่ข้างหน้าเงียบๆ
    แล้วจู่ๆ จักรยานขี่พุ่งด้วยความเร็วสูงผ่านมาจากด้านหลังของเขาขับเฉี่ยวร่างบอบบางของหญิงสาวที่เดินเตร็ดเตร่อยู่ข้างหน้า กล้าหาญโอบกระชับเอวบางเข้ามาใกล้ตามสัญชาติญาณ..
 
   ทั้งคู่ชะงักนิ่ง.. เด็กหนุ่มที่เดินตามหลังและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดชะงักนิ่งเช่นกัน... โดยไม่ทันรู้ตัวว่ามีนักท่องเที่ยวเดินตามมา
 
   แรงกระแทกจากด้านหลังทำให้เด็กหนุ่มกลิ้งไปหลายตลบ คนที่ชนไม่มีแม้แต่คำขอโทษ.. เพียงแค่สบถเบาๆ แล้วเดินผ่านเขาไป... ราวกับเขามันช่างไร้ค่า...
 
   ปรีย์ลุกขึ้นอย่างงงงัน... เด็กหนุ่มปัดกางเกงเบาๆ

   เกิดอะไรขึ้น ?
 
   "เจ็บมากมั้ย ?" ก้องภพเอ่ยถามอย่างตกใจ รีบเข้าประคองเด็กหนุ่ม
 
   "เป็นอะไรรึเปล่า ?" หยกเอ่ยถามอย่างห่วงใย.. แต่ความรู้สึกไม่ชอบหญิงสาวกลับเพิ่มขึ้นทวีคูณอย่างไม่ทราบสาเหตุ
 
   "ผมไม่เป็นไรครับ..." เขาฝืนยิ้มบอกเบาๆ.. ก้มหน้าลงซ่อนหยาดน้ำตาพร่ามัว... เมย์เบ้ปาก มองสามีโอบประคองร่างบางของเด็กหนุ่มอย่างริษยา... ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นภรรยาแท้ๆ....
 
   ทำไม ?... เกิดอะไรขึ้นกับเขา ?... ปรีย์ได้แต่แปลกใจ... ความรู้สึกเจ็บแปล๊บที่วาบเข้ามาในใจนี่คืออะไร ?..
 
   รักที่เขามีให้ก้องภพนั้น มีแต่ความสุข..
 
   ถึงแม้จะอึดอัดใจบ้างแต่เขาก็ยินดีที่จะได้รัก....
 
   แต่รักที่เขามีให้กล้าหาญนั้น... ทำไมถึงมีแต่ความเจ็บปวด....เจ็บจนเขาไม่อยากจะมีให้อีกต่อไป...
 
    "เป็นอะไรรึเปล่า ?" กล้าหาญเอ่ยถาม.. ในขณะที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่บนเตียงเดี่ยวเปิดช่องสารคดีดูในห้อง... และเขาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก..
       
        "ผมสบายดี" ปรีย์ตอบเบาๆ ตกใจเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ และวางถุงเล็กๆ ไว้ข้างตัวเขา
 
   "ฉันเห็นเธอเดินแปลกๆ" ชายหนุ่มบอก ทรุดตัวลงนั่งบนพื้นจับข้อเท้าเล็กบีบนวดเบาๆ
 
   "ผมไม่เป็นไร" เด็กหนุ่มบอกย้ำ ขมวดคิ้วมุ่น
 
   "อ๊ะ!!" ร้องอย่างตกใจเมื่อกล้าหาญสัมผัสถูกแผลบนหัวเข่า พยายามขยับหนีแต่มือหนาจับข้อเท้าเขาเอาไว้แน่น และถลกกางเกงขาสามส่วนของเขาขึ้นดูแผล..
    "ล้างแผลแล้วใช่มั้ย ?" ปรีย์ไม่ตอบ แต่เบือนหน้าหนี... ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ คิดเอาเองว่าเด็กหนุ่มน่าจะล้างแผลแล้ว ..ก่อนหยิบขวดยาที่เขาเพิ่งไปซื้อมาจากร้านของชำแถวๆ นี้เทใส่สำลี
 
   "ยื่นมือมา" ชายหนุ่มเอ่ยออกคำสั่ง หากแต่เด็กหนุ่มไม่ทำตาม แถมยังเชิดหน้าหนีเขาอีก..
 
   "ปรีย์! ทำไมดื้อแบบนี้" กล้าหาญขึ้นเสียง กระชากข้อมือเล็ก มองดูแผลถลอกบนฝ่ามือ... ค่อยๆ แตะซับสำลีลงอย่างแผ่วเบา...
    ปรีย์มองกล้าหาญด้วยความรู้สึกหลากหลาย... กล้าหาญห่วงเขาด้วยหรือ ?... ความจริงแล้วชายหนุ่มก็ห่วงทุกคนนั่นแหละ... เขามันเป็นได้เพียงแค่  'น้องชาย' ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเสียหน่อย....
 
   ผู้หญิงคนนั้นเสียอีก...
 
   เด็กหนุ่มกระหวัดนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น... ทำไมกล้าหาญช่วยหยก แต่กลับไม่ช่วยเขา.. ?
 
   นี่อาจเป็นความคิดที่เอาแต่ใจที่สุดตั้งแต่เขามีมา... หากแต่เด็กหนุ่มอยากให้กล้าหาญดูแล และปกป้องเขาแต่เพียงผู้เดียว... เขาไม่สนใจว่าก้องภพจะมีใครอีกซักกี่ร้อยคน แต่กับกล้าหาญแล้วเขาอยากให้มีเพียงเขา.. มีเขาเพียงแค่คนเดียว...
    เสียงสะอึกสะอื้นทำให้ชายหนุ่มเงยหน้ามองถามอย่างตกใจ "ร้องไห้ทำไม ?"
 
   "ผม.. ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ซักหน่อย.." เด็กหนุ่มสะอื้น.. เขาไม่เข้าใจตัวเองเช่นกัน...
 
   "เจ็บมากเลยเหรอ ?" กล้าหาญเอ่ยถามอย่างห่วงใย... แตะสัมผัสหยดน้ำตาที่กลิ้งไหลออกจากดวงตาคู่สวยแผ่วเบา...
 
   "เจ็บ.. ผมเจ็บในนี้มากเลยพี่กล้า.." ปรีย์บอกเสียงแผ่ว ชี้มาที่อกด้านซ้ายของตน
 
   ชายหนุ่มชะงัก... สบตามองเด็กหนุ่มนิ่งเพื่อหาคำตอบ... "...เธอเจ็บเพราะอะไร ปรีย์ ?"
 
   "เพราะฉันเหรอ ?" ชายหนุ่มกระซิบถามเสียงแผ่ว...
 
   "ผม ไม่รู้... ฮึก ไม่รู้..." เด็กหนุ่มสะอื้นฮัก.. เขาไม่เคยเจอความรู้สึกแบบนี้มาก่อน.. มันเจ็บข้างในเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ รู้สึกอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก...
 
   "อย่าร้อง... อย่าร้องไห้... ฉันจะไม่ทำให้เธอเจ็บอีก.." กล้าหาญบอกเบาๆ พยุงตัวขึ้นโอบร่างเล็กเอาไว้แน่น.. เสียงร้องไห้ของปรีย์ดังขึ้นกว่าเดิมจนเขาใจเสีย.. ชายหนุ่มพยายามปลอบจนเด็กหนุ่มสงบลง ..ลอบมองจมูก ตาแดงๆ กับฟันซี่เล็กที่กัดริมฝีปากกลั้นเสียงสะอื้น...
 
   เมื่อรู้สึกดีขึ้น เด็กหนุ่มก็มองเขาอายๆ ก่อนจับฝ่ามือหนาของเขาประทับจูบลงเบาๆ ราวกับจะตอบแทนที่คอยปลอบ.. หัวใจของชายหนุ่มกระหน่ำเต้นแทบระเบิดเมื่อสบดวงตาสีน้ำตาลเข้มเปียกชื้นคราบน้ำตาที่ช้อนมอง..
    ไม่ว่าจะด้วยตั้งใจหรือไม่ ...ปรีย์ชอบมองเขาแบบนี้.. ชอบมองเขาเหงาๆ ..ราวกับจะออดอ้อนขออะไรซักอย่าง... ราวกับอยากจะได้รับความรักจากเขา ...อารมณ์ที่พยายามกักเก็บไว้มานานก็ปะทุขึ้น
 
   ชายหนุ่มโอบรัดร่างบอบบางไว้แน่น..ปรีย์อยู่ในอ้อมแขนเขา.. ชายหนุ่มซุกจมูกสูดดมกลิ่นกายที่เขาโหยหา เคลื่อนใบหน้าจูบซับน้ำตา... ก่อนบดขยี้กลีบปากบาง..
 
   เด็กหนุ่มอึกๆ อักๆ ก่อนตอบรับจูบเร่าร้อนของเขา... แผ่นหลังเล็กสัมผัสกับพื้นเตียงนุ่ม ครางแผ่วในลำคอ
 
   กล้าหาญอุตส่าห์ตั้งมั่นในใจว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก... สัญญากับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะไม่แตะต้อง... แต่เพียงแค่สัมผัสแผ่วเบาราวกับสายลมที่เกิดจากการขยับของปีกผีเสื้อ ทำให้สติของเขาขาดหาย ตักตวงความสุขให้มากขึ้น ... มากขึ้น...
..........................................ทูบีคอนติินิว
 :pig4:ขอบคุณมิตรรักแฟนคลับน้องปรีย์ ที่อยู่ด้วยกันมาอย่างเหนียวแน่น และไม่ทิ้งกันน่ะค่ะ พวกเรามาเป็นกำลังใจช่วยน้องกันเถอะค่ะ ว่าน้องจะผ่านมรสุมด่านแรก ที่เรียกว่า ความเข้าใจของหัวใจ กันได้หรือไหม อ่าาา อายกับศัพท์จัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่14 [30.01.55]ความรู้สึกนี้คือ?
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 30-01-2012 14:36:16
 :-[ กรี๊ด...มาต่อได้ทันใจเหมือนประกันภัยวิริยะ  :laugh:

  สงสารน้องปีย์อ่ะ... :sad4: มรสุมชีวิตนี่มันหนักหนาจริงๆนะ  :o12:

   :กอด1: คนเขียน  :pig4: มากๆนะคะที่ไม่ทิ้งหนีไปไหน  บอกตรงๆ เราชอบเรื่องนี้แบบมากโครตๆอ่ะ เพราะฉะนั้นอย่าหายไปนานนะคะ เดียวจะเศร้าอีก  :L1:

 o13
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่14 [30.01.55]ความรู้สึกนี้คือ?
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-01-2012 17:35:47
ในที่สุด...หนูปรีย์ก็เสร็จนายกล้าจนได้ :z1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่14 [30.01.55]ความรู้สึกนี้คือ?
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-01-2012 21:10:47
โอ๊ย....แต่งได้ปวดใจเหลือเกิน...
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่14 [30.01.55]ความรู้สึกนี้คือ?
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-01-2012 21:22:05
ชอบที่เปรียบความรักกับผีเสื้อ  มันให้ความรู้สึกว่าบอบบาง  เบาหวิว  เหมือนจะแตกสลายได้ง่าย  และอายุขัยสั้น
ความรักที่แท้จริงคืออะไรบางทีมันก็นิยามกันยาก  บทจะมาก็มา  บทจะไปก็ไป  แต่ก็สวยงามเสมอ
อ่านแล้วก็หน่วง ๆ ในใจ  แต่ละคนก็ต่างมีความรักที่แตกต่างกัน  แต่สำหรับก้องภพแล้วคงเป็นแค่ความใคร่ล้วน ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 31-01-2012 16:15:08
บทที่ ๑๕

   ก๊อกๆๆ

    "ปรีย์.." ก้องภพเอ่ยเรียกชื่อซ้ำอีกครั้ง.. เขาอยู่หน้าห้องนี้เกือบ 5 นาทีแล้ว โทรเข้ามือถือของเด็กหนุ่มก็ไม่มีใครรับสาย...

    ชายหนุ่มคิดว่าจะพากันไปเดินริมทะเลยามค่ำคืน นั่งมองหมู่ดวงดาว และลงท้ายด้วยการเปลี่ยนบรรยากาศรักกันท่ามกลางผืนทรายละเอียดนุ่ม..

    แต่เขาก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจเมย์นัก จึงอดทนรอให้เธอหลับก่อน.. แต่ดูเหมือนว่าคนที่เขาอยากเจอก็หลับแล้วเช่นกัน...ชายหนุ่มยืนพิงประตู กดหมายเลขอีกครั้ง... เขาจะกดมันอยู่นี่แหละ จนกว่าจะมีคนตื่นมารับสาย...
 
    ภายในห้อง แสงสีนวลของโคมไฟส่องกระทบหยาดเหงื่อของชายหนุ่มจนเป็นประกายมันปลาบ แอร์เย็นฉ่ำภายในห้องกระทบผิวกายชื้นเหงื่อจนรู้สึกเย็นวาบ แต่ไม่สามารถดับความร้อนภายในร่างกายของคนทั้งคู่ได้...

    เด็กหนุ่มเผลอแอ่นกายตอบรับริมฝีปากที่ดูดดุนและครูดไปตามผิวเนื้อบริเวณยอดอกที่เพิ่งแตกพาน มันทั้งเจ็บทั้งเสียวซ่านจนเขาต้องเปล่งเสียงร้อง..

    จมูกโด่งซุกลำคอเล็กและสูดดมกลิ่นกายหอมหวาน จูบและดูดผิวเนื้อเนียนจนมันเป็นรอยแดง ..ไม่สนใจร่องรอยแสดงความเป็นเจ้าของที่ปรากฏอยู่บนผิวกายเรียบเนียน.. เขาขบเม้มและดูดดุนจนมันเป็นรอยแดงช้ำเสียยิ่งกว่าเดิม ราวกับต้องการให้ตนเป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ทำสัญลักษณ์ไว้บนผิวกายนี้...

    กล้าหาญหอบหายใจแรง เสียงร้องของเด็กหนุ่มเร้าอารมณ์เขาเหลือเกิน ร่างอุ่นนุ่มที่ตอดรัดนิ้วมือของเขาจนแทบขยับไม่ได้ทำให้สติอันน้อยนิดของชายหนุ่มเริ่มขาดหาย เขารีบถอนนิ้วมืออกจากช่องทางคับแคบ ช้อนสะโพกมนขึ้นวางบนหมอน ถ่ายเทน้ำหนักลงบนร่างบอบบาง

    ปรีย์หายใจสะท้าน ปรือตามองชายหนุ่มที่ทาบทับอยู่บนร่างเขา ความเจ็บปวดที่ก่อตัวขึ้นทำให้เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น กัดฟันกรอด.. เผลอจิกเล็บลงบนท่อนแขนแข็งแรง

    “เจ็บเหรอ ?” กล้าหาญกระซิบถามเสียงแผ่ว กดจูบบนขมับชื้นเหงื่อ ก่อนเอื้อมมือควานหาครีมบำรุงผิวและเทชโลมกายตนพร้อมกับช่องทางที่ต้องเปิดรับเขา ..ก่อนเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง

    เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก ..เสียงทุ้มครางเบาๆ กอดเอวบางไว้ไม่ให้ดิ้นหนี ร่างกายของเขาค่อยๆ สอดแทรกเข้าสู่กายของเด็กหนุ่ม

    ปรีย์กัดฟันแน่น ..ด้วยขนาดตัวที่ต่างกันทำให้เด็กหนุ่มจุกจนร้องไม่ออก ร่างกายสั่นเทิ้มอย่างควบคุมไม่อยู่ จวบจนทั้งสองร่างแนบสนิท ทั้งคู่เหงื่อออกท่วมตัว ..ชายหนุ่มครางเบา ๆ ถอนหายใจหนักเมื่อปรีย์บีบรัดร่างกายของเขาราวกับไม่เคยถูกล่วงล้ำมาก่อน จนเขาแทบจะทนไม่ไหว.. เพราะแบบนี้สินะ พี่ชายของเขาถึงได้หลงนักหลงหนา...

    เมื่อคิดได้ว่าร่างบางที่เขากำลังกอดเป็นของพี่ชาย ทำให้ชายหนุ่มชะงัก... สบตามองดวงตาสีเข้มคลอน้ำตาใต้ร่าง.. .. กล้าหาญนิ่งอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกปวดท้องน้อยไปหมด จึงเริ่มขยับกายเบาๆ.. เขารู้สึกสับสน หากแต่ไม่ต้องการปล่อยเด็กคนนี้ให้หลุดลอยไป..

    จมูกโด่งซุกไซร้ลำคอเล็ก และเคลื่อนมือปลุกเร้าจนเด็กหนุ่มเริ่มกลับมามีอารมณ์ร่วม..

    ปรีย์ครางแผ่ว ขยับกายโต้ตอบอย่างเคยชิน.. นั่นยิ่งทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มคุโชน..อยากแผดเผาร่างเล็กให้ละเอียดเป็นจุล...อยากกักขังเด็กหนุ่มไว้ครอบครองเพียงแค่คนเดียว..

    มือหยาบกร้านเอื้อมเปิดช่องทางให้ชายหนุ่มบุกรุกเข้าสู่ร่างกายของเขาได้อย่างสะดวกขึ้น มืออีกหนึ่งข้างจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่เพื่อบรรเทาความเจ็บปวดที่แล่นริ้ว

    โทรศัพท์มือถือที่อยู่ภายในกางเกงของเด็กหนุ่มส่งเสียงกรีดร้อง เรียกความสนใจจากเจ้าของเครื่อง

    “พี่.. กล้า.. โทรศัพท์” ปรีย์บอกเสียงสั่น พยายามเอี้ยวตัวควานหากางเกงของเขาที่ถูกถอดกองอยู่ปลายเตียง ..ชายหนุ่มข่มความต้องการปล่อยให้ร่างเล็กค้นหาโทรศัพท์มือถือใต้กองเสื้อผ้า แต่กลับต้องเปลี่ยนใจดึงชิ้นส่วนผ้าเหล่านั้นโยนลงบนพื้นพรม.. ร่างเล็กมองเขาอย่างไม่เข้าใจ

    “...พี่กล้า...” กล้าหาญโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน เล็มเลียรสเหงื่อเค็มปร่าบนผิวเนื้อนวลเนียน..

    “ไม่เป็นไรหรอก..” ชายหนุ่มกระซิบปลอบ.. เขาไม่รู้ว่าใครโทรมา ...หากแต่เป็นก้องภพล่ะก็....

    กล้าหาญยังไม่อยากยกร่างเล็กนี้ให้ใคร.. ขอเวลาเพียงชั่วคืนเท่านั้น ที่เด็กคนนี้จะคิดถึงเพียงแค่เขา.. ร้องเรียกหาแต่เพียงเขา...
 
    ..เวลาผ่านไปเนิ่นนานในความคิดของเด็กหนุ่ม เสียงเคาะประตูและโทรศัพท์เรียกเข้าที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่สามารถดึงความสนใจของเขาไปจากชายหนุ่มตรงหน้าได้

    ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่เบียดชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบตะโบมไปตามผิวเนื้อเนียนลื่น เร่งจังหวะเสียงกระทบกายดังขึ้นถี่กระชั้นจนเตียงส่งเสียงประท้วงดังเอี๊ยดอ๊าด ..ร่างเล็กสั่นไหวตามแรงกระแทกหนักหน่วง

    ..ปรีย์หายใจติดขัด ครางไม่ได้ศัพท์ ข่วนเล็บบนแขนแกร่งจนเป็นรอยแดง.. อารมณ์ของเด็กหนุ่มพุ่งสูงจนต้องกรีดร้องออกมาอย่างสุขสม.. กล้าหาญกัดฟันแน่นเมื่อร่างเล็กตอดรัดเขาอย่างหนัก เมื่อการเดินทางมาถึงจุดหมาย.. เขาโอบรั้งเอวบางไว้แน่น...ขยับสะโพกเบียดชิดให้ลึกล้ำมากที่สุด

    "อ๊...า...." กล้าหาญโน้มกายประกบริมฝีปากบาง ส่งลิ้นเกี่ยวกระหวัดภายในโพรงปากเล็กอย่างช่ำชอง... เด็กหนุ่มเปล่งเสียงในลำคออู้อี้ เกร็งกายสะท้าน

    เมื่อทุกอย่างสิ้นสุด ...ร่างหนาจึงถ่ายเทน้ำหนักทาบทับลงบนร่างเล็กกว่า ...ทั้งคู่ต่างหอบหายใจเหนื่อยอ่อน

    ปรีย์ยกมือก่ายหน้าผาก เขารู้สึกหมดแรงจนอยากนอนหลับเสียตอนนั้น ...เขาไม่เคยรู้ว่ากล้าหาญบ้าพลังขนาดนี้.. ไม่รู้ไปตายอดตายอยากจากที่ไหนมาแล้วมาลงกับเขา..

    มือหนาคว้าข้อมือเล็กๆ ที่ปิดหน้าเด็กหนุ่มออก.. โน้มกายลงบดจูบ ขยี้กลีบปากบางนั้นอย่างเร่าร้อน ..ก่อนเคลื่อนจูบซับคราบน้ำตาบนแก้มแดงชื้นเหงื่อเบาๆ

    ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนข้างๆ บรรจงรูดถุงยางอนามัยกองทิ้งไว้ข้างกาย.. ท้าวแขนมองเด็กหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ข้างๆ ก่อนกดจูบลงบนหัวไหล่กลมกลึงเบาๆ..

    เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าดวงตาสีน้ำตาลเข้มจ้องมองมาที่เขาอยู่ก่อนแล้ว.. เมื่อเขาสบตากลับแก้มนวลก็ค่อยๆ ขึ้นสีระเรื่อ และแดงขึ้นเรื่อยๆ..  ปรีย์รีบพลิกตัวนอนตะแคงหนีสายตาของเขา..

    ชายหนุ่มแอบหัวเราะเบาๆ ก่อนคว้าร่างบางเข้ามาโอบกอด... ลากลิ้นชิมรสเหงื่อเค็มปร่าจากแนวสันหลังขึ้นไปถึงต้นคอ ก่อนจะขบกัดใบหูเล็กที่แดงไม่แพ้ใบหน้า...

    “เจ็บมากมั้ย ?” กล้าหาญกระซิบถามแผ่วเบา.. เด็กหนุ่มส่ายศีรษะไปมาเป็นคำตอบ แต่ไม่ยอมหันกลับมามองหน้าเขา... นิ้วมือหนาจึงแกล้งบีบขยี้ยอดอกที่เพิ่งแตกพานเต็มแรงจนร่างเล็กสะดุ้งร้อง

    ชายหนุ่มหัวเราะเมื่อปรีย์หันมาแยกเขี้ยวใส่เขา

    เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาในโสตประสาททั้งคู่อีกครั้ง.. รอยยิ้มที่มีเริ่มจางหายเมื่อกลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง ...ดวงตาคู่สวยช้อนมองชายหนุ่มอย่างขอความช่วยเหลือ... ปรีย์ไม่รู้ว่าควรจะรับ หรือปล่อยให้มันดังแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ..

    ..กล้าหาญสูดดมกลิ่นเหงื่อจากร่างในอ้อมแขนก่อนลุกขึ้นควานหาโทรศัพท์เจ้าปัญหาในกางเกงบนพื้นพรม...

    "ครับ ?" ชายหนุ่มปรับเสียงให้นิ่งเรียบ กรอกลงในโทรศัพท์

    "ปรีย์นอนแล้วเหรอกล้า พี่ไปเคาะประตูห้องตั้งนาน ไม่มีใครเปิด" ปลายสายเอ่ยอย่างหงุดหงิด.. เขาได้ยินเสียงคนเมคเลิฟกันแผ่วๆ รู้สึกอิจฉาในใจลึกๆ... ความจริงตอนนี้เขาต้องได้ทำกิจกรรมนั้นกับเด็กที่ตนพามาซิ....

    "นอนแล้วครับ..." ชายหนุ่มเอ่ยน้ำเสียงเรียบ นั่งบนเตียงนุ่มมองร่างเล็กที่กุลีกุจอหยิบเครื่องแต่งกายขึ้นมาใส่ยิ้มๆ..

    “ทำไมโทรไปตั้งนานแล้วไม่มีใครรับซักที” เสียงปลายสายเอ่ยถามอย่างไม่พอใจ..

    “..ปรีย์ปิดเสียงน่ะครับ พอดีผมตื่นมาเข้าห้องน้ำเลยเห็น” กล้าหาญเอ่ยแก้ตัว..ลุกขึ้นโอบเอวบางมานั่งบนตัก

    "ปลุกให้ออกมาหาพี่หน่อย"

    "พรุ่งนี้ก็ได้นี่ครับพี่ก้อง เพิ่งเดินทางมาถึงน้องเขาคงจะเหนื่อย" กล้าหาญจงใจแอบซ่อนความหมายอื่นไว้ในประโยค เน้นเสียงว่า 'เหนื่อย' ข้างใบหูแดงๆ... ซุกจมูกลงต้นคอเล็ก สูดดมกลิ่นกายของเด็กหนุ่ม

    "พี่อุตส่าห์หลบเมย์ออกมา.."

    "เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจัดการให้ก็ได้" เมื่อก้องภพได้ยินแบบนั้น เขาก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่...

    "....เออ.. พรุ่งนี้ ก็พรุ่งนี้" กล้าหาญถอนหายใจเบาๆ ก่อนวางสายโทรศัพท์ และโยนมันลงบนหัวเตียง

    ปรีย์พิงศีรษะกับแผ่นอกกว้าง... เขาใจหายวาบตอนที่ชายหนุ่มรับโทรศัพท์... เด็กหนุ่มไม่รู้จะปั้นหน้าอย่างไรออกไปหาก้องภพ ทั้ง ที่เพิ่งผ่านสมรภูมิไปกับน้องชายของเขา...

    "...ขอต่ออีกได้มั้ย ?" กล้าหาญกระซิบถาม โอบร่างเล็กที่พยายามขยับหนี ดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขา

    ปรีย์ทำตาปะหลักปะเหลือกใส่เขา เอ่ยถามเสียงยียวน “... อยากให้ผมตายคาอกพี่เหรอ ?”

    “อยากตายคาอกพี่รึเปล่าล่ะ ?” กล้าหาญย้อนคำถามกลับยิ้มๆ

    เด็กหนุ่มเม้มริมฝีปาก.. พยายามหาทางออกให้ตนเอง

    “..ถุงยางหมดแล้ว” แต่เมื่อได้ยินคำตอบต้องทำให้เขาหน้าเหวอ...

    “เดี๋ยวพี่หลั่งข้างนอกก็ได้”

    "พี่จะให้ผมตายจริงๆ รึไง! ไม่เอาแล้ว!!.. พอแล้ว... !!!" ปรีย์ตวาดแหว หน้าแดงระเรื่อ..

    "พอแล้วก็พอแล้ว.." กล้าหาญกล่าวกลั้วหัวเราะ ..เขาไม่แน่ใจว่าเด็กหนุ่มกำลังโกรธหรืออายกันแน่... ปล่อยให้ร่างเล็กลุกขึ้น หันกลับมามองเขาหน้าบึ้งตึง..

    "พี่กล้าผิดสัญญา" ปรีย์กอดอกบอก ...ชายหนุ่มเอียงศีรษะ เลิกคิ้วมองอย่างงงัน...

    "พี่บอกว่าจะไม่มีอะไรกับผม.." เด็กหนุ่มขยายความ

    "พี่สัญญาแบบนั้นเมื่อไหร่ ?" กล้าหาญเลิกคิ้ว ถามกลับ

    "พี่บอกว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก"

    "แล้วพี่ทำแบบนั้นเหรอ ? ...วันนี้พี่ไม่ได้เมาเสียหน่อย..." ชายหนุ่มบอกอย่างซื่อๆ ทำให้ปรีย์อ้าปากค้าง

    “คนเจ้าเล่ห์...” หายใจฮึดฮัดยกมือสองข้างบีบใบหน้าชายหนุ่มจนปากจู๋.. แล้วก้มลงจุ๊บเบาๆ

    "ลงโทษ" เด็กหนุ่มยิ้มบอก หัวเราะเบาๆ ..เป็นอันหายโกรธ.. เมื่อเห็นชายหนุ่มทำหน้าเหวอ...

    "แบบนี้ต้องทำผิดสัญญาบ่อยๆ แล้วล่ะสิ" เขาพึมพำเบาๆ โอบเด็กหนุ่มเข้าสู่อ้อมแขน

    “...ยิ่งรู้จักพี่ว่าเรายิ่งเป็นเด็กกวนประสาทนะ”

    “ยิ่งรู้จักผมก็ยิ่งคิดว่าพี่กล้าเป็นตาแก่เจ้าเล่ห์เพทุบายนะฮะ” ร่างในอ้อมแขนย้อนเขาด้วยประโยคเดิม ทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น...

    "..แบบนี้ต้องลงโทษซักหน่อยแล้ว" ชายหนุ่มกระซิบบอกร่างเล็กในอ้อมแขน... ปรีย์ดิ้นหนีขลุกขลัก แก้มนวลแดงระเรื่อ.. เด็กหนุ่มหัวเราะและวิ่งหนีร่างสูงใหญ่เข้าไปในห้องน้ำคับแคบ

    เสียงประท้วงโวยวายพร้อมกับเสียงหัวเราะใสดังขึ้นในห้องน้ำ.. ก่อนจะเงียบหาย และตามมาด้วยท่วงทำนองแห่งความสุข...

    ....กล้าหาญผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเขา... แต่เขากลับรู้สึกดี... ดีจนฝืนลืมความรู้สึกผิดที่กำลังเกาะกินจิตใจของเขา.... ความรู้สึกผิดที่ละเมิดสัญญาที่ให้ไว้กับก้องภพ...
 
    ปรีย์ออกมาชวนหยกไปเล่นน้ำตั้งแต่ตอนเช้าด้วยความแจ่มใส..

    "แล้วกล้าล่ะปรีย์" หญิงสาวถาม

    "ยังไม่ตื่นเลยฮะ" ปรีย์ยิ้มบอก นั่งแกว่งเท้ารอเธอแต่งกาย.. ตอนแรกเด็กหนุ่มไม่กล้าเข้าไปในห้องส่วนตัวของเธอ จนหญิงสาวต้องออกมาลากเขาเข้าไปนั่งคอยนี่แหละ...

    "ตื่นเช้านะเนี่ย" หยกยิ้มบอก เหลือบมองนาฬิกา.. ปิดตลับแป้ง จูงมือเด็กหนุ่มออกจากห้อง

    "แล้วเราไปเรียกพี่ก้องกับเมย์รึยัง ?" เธอเอ่ยถาม สังเกตผิวเนียนเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวลของเด็กหนุ่มอย่างนึกอิจฉา...

    "เรียกแล้วครับ" ปรีย์ตอบผงกศีรษะ

    "ว่าไง ตื่นเช้าเชียวนะ" ก้องภพยิ้มแย้มเอ่ยทักทายหญิงสาว ไม่ทันได้สังเกตเห็นแววตาหม่นหมองของเด็กหนุ่มที่มองมาเพียงชั่ววินาที...

    "ปรีย์มาปลุกน่ะค่ะ เมย์ละคะพี่ก้อง"

    "ยังแต่งตัวอยู่เลย" ก้องภพบอก หันมองเด็กหนุ่มข้างกายเธอ..

    "ผมไปเล่นน้ำกับพี่หยกนะฮะ" เด็กหนุ่มส่งยิ้มหวานให้เขา.. ก้องภพโน้มกายลงหอมแก้มนิ่ม ชายหนุ่มรู้สึกดีเมื่อเห็นคนรักของเขาร่าเริง...

    "ยังไม่กินข้าวเช้าไม่ใช่เหรอ ?" ก้องภพถาม

    "อ่า.." ปรีย์อึกอัก มองหน้าหยก

    "กินข้าวเช้าก่อนค่อยไปเล่นน้ำ"

    "ครับ.." เด็กหนุ่มรับคำหงอยๆ เดินไปยังส่วนที่จัดเตรียมไว้สำหรับอาหารเช้าแบบบุพเฟ่ต์

    "ปรีย์ตื่นแล้วทำไมไม่ปลุก" กล้าหาญเอ่ยถามเสียงเขียว ทรุดกายลงนั่งฝั่งตรงข้าม... ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมาอีกทีก็ไม่มีร่างเล็กนอนเบียดข้างกายเขาแล้ว... รีบแต่งกายตามลงมาเมื่อรู้ว่าคนอื่นๆ กำลังรับประทานอาหาร...

    "..ฮุๆ" เด็กหนุ่มกำลังรับประทานอาหารที่ตักจนพูนจาน หัวเราะในลำคอเบา ๆ แก้มนวลแดงระเรื่อ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน...

    “ปรีย์ เดี๋ยวกินเสร็จแล้วตามพี่มาที่ห้องนะ” ก้องภพแอบกระซิบบอกข้างใบหูเขาเบา ๆ ขณะรับประทานอาหาร...

    เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบเบาๆ.. ชั่วขณะหนึ่งเขารู้สึกเหมือนถูกสายตาหลายคู่จับจ้อง... ปรีย์ทำได้เพียงหลบสายตาคมๆ ของกล้าหาญ.. เขาไม่กล้าสู้หน้าใครซักคนที่ร่วมโต๊ะ...
 
    กล้าหาญอดจ้องมองพี่ชายที่เดินมาเคียงคู่มากับเด็กหนุ่มหลังจากหายไปเกือบชั่วโมงไม่ได้.. วงแขนกำยำนั้นกอดเอวบางไว้อย่างถือสิทธิ์ พูดคุยหยอกล้อราวกับคู่รัก อีกทั้งยังกดจูบลงบนพวงแก้มใสได้อย่างไม่อายใคร..

    ก้องภพทิ้งตัวลงนอนอาบแดดข้างน้องชาย ยิ้มสบายใจ มองเด็กหนุ่มลงเล่นน้ำ... นึกเสียดายที่ปรีย์ไม่ยอมใส่กางเกงว่ายน้ำที่เขาซื้อให้..

    เหลือบมองน้องชายที่ใส่แว่นดำอำพรางสายตา... เขาก็อยากรู้เหมือนกัน ว่ากล้าหาญยังชอบหยกอยู่จริงหรือไม่... พลันเหลือบไปเห็นรอยขีดแดงๆ

    "รอยอะไรน่ะกล้า ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามน้องชาย มองรอยข่วนบนท่อนแขนกำยำ

    "เอ่อ.." กล้าหาญไม่ทันตั้งตัว... เขาจะตอบว่าโดนลูกแมวข่วนดีไหมนะ...

    "ดีกับหยกแล้วเหรอ ?" ก้องภพเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม

    "..." แต่น้องชายของเขาเงียบ.. ไม่ตอบอะไร

    "เฮ้ย.. หรือว่าแกขืนใจเธอ"

    "ไม่ดีนะกล้า" ชายหนุ่มบอก หลังจากสรุปเอาเองเสร็จสรรพ...

    "ไม่ใช่หรอกครับ พี่ก้อง..." กล้าหาญเสียงแผ่ว

    "อะไรนะกล้า ?" ก้องภพเอ่ยถาม เขาได้ยินที่น้องชายพูดไม่ชัดนัก

    "อากาศดีนะครับ.."

    "นั่นสิ.." ...

    ปรีย์เล่น บานาน่าโบ้ท จนสาวๆ รุ่นพี่ยอมแพ้ กลับขึ้นฝั่งไปนอนอาบแดด พอตกเย็นเขาก็ปวดกล้ามเนื้อจี๊ดๆ แถมยังตึงๆ ผิวหนังเหมือนว่ามันจะเกรียมแดด ตัวแดงเป็นกุ้ง..

    ปรีย์ยิ้มเริงร่า.. เมื่อเขาได้เล่นน้ำทะเลจนหนำใจแล้ว เด็กหนุ่มวิ่งขึ้นชายฝั่งตั้งใจจะไปหาหยก.. หญิงสาวกำลังยกถังบรรจุเครื่องดื่มเพื่อเดินทางกลับไปยังที่พัก ...แต่ก็ต้องชะงักเมื่อกล้าหาญเข้าถึงตัวหญิงสาวก่อนและช่วยเธอถือของอย่างสุภาพบุรุษ...

    “ปรีย์ มาอยู่นี่เอง.. พี่นึกว่าเราหายไปไหนซะอีก” ก้องภพโอบเอวเด็กหนุ่ม บอกเสียงนุ่มข้างใบหู

    “ฮะ ?.. มีอะไรเหรอฮะ ?”

    “เป็นอะไร หน้าตาดูไม่ค่อยสบายเลย” ก้องภพบอก แตะสัมผัสลำคอเล็กแผ่วเบา

    "อืม.. ตัวรุมๆ นะปรีย์"

    "แหะ" เด็กหนุ่มยิ้มแหยส่งให้... เข้ารู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นไข้จริงๆ

    "เฮ้อ.. น่าเสียดายชะมัด" ชายหนุ่มถอนหายใจ กล่าวลอย ๆ... ความจริงแล้วคืนนี้เขาคิดว่าจะชวนเด็กหนุ่มมาเดินชายทะเลเสียหน่อย... แต่ดูเหมือนคงจะต้องเลื่อนไปคราวหน้าอีก... ซึ่งก้องภพไม่รู้เลยว่าไม่มีโอกาสในคราวหน้าสำหรับเขาแล้ว....

    "ทำไมเหรอฮะ ?" ปรีย์ถามอย่างฉงน

    "เปล่าหรอก พักผ่อนให้มากๆ นะครับ เด็กดี" ก้องภพบอก หอมแก้มนุ่ม

    "ครับ" ปรีย์รับคำยิ้มแฉ่ง.. ก้องภพจูงมือเด็กหนุ่มกลับเข้าที่พัก... ดวงตาคู่สวยหลุบตาลงต่ำ... เขาควรจะรู้สึกสนุกกับการมาเที่ยวครั้งนี้....
 
    “วันนี้ไปทำอะไรกับพี่ก้อง ?” เสียงทุ้มเอ่ยประโยคแรกเมื่อเขาก้าวเข้ามาในห้องราวกับจะจับผิด...

    “ไม่มีอะไรนี่ฮะ” ปรีย์ตอบเสียงแผ่ว เม้มริมฝีปากแน่น... ทีเขายังไม่ถามซอกแซกเรื่องของกล้าหาญกับหยกเลย...

    “บอกมาก่อนว่าทำไมถึงหายไปตั้งนาน” เมื่อเห็นว่าปรีย์กำลังจะเลี่ยงหนี เขาจึงเดินเข้าประกบและโอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน

    “เร็ว...” ฝ่ามือเล็กพยายามดันแก้มที่เริ่มมีเคราขึ้นสากมือออกห่าง.. สุดท้ายเขาก็ต้องยอมเป็นฝ่ายพูดออกมา

    “พี่ก้องให้ทาซันแทน..”

    “แค่นั้นเหรอ ?.. แล้วทำไมต้องเป็นในห้อง ?” เด็กหนุ่มพ่นลมหายใจออกเอ่ยขยายความต่อ...

    “พี่ก้องอยากให้ผมใส่กางเกงว่ายน้ำที่พี่เขาซื้อให้...”

    “แต่ผมไม่กล้าใส่ ...ก็เลยยื้อกันอยู่นาน”

    ชายหนุ่มเผยอยิ้ม.. เก็บความยินดีไว้แทบไม่มิดภายในดวงตาคมที่พราวระยับ.. หอมแก้มนิ่มทั้งสองข้างหลายต่อหลายครั้ง..   เมื่อปรีย์เดินออกมาจากห้องน้ำหลังชำระกายเสร็จก็ต้องพบว่าอีกคนในห้องกำลังยืนชูกางเกงว่ายน้ำตัวกระจิ๋ว แถมยังส่งยิ้มกริ่มมาให้...

    “พี่กล้า! อย่ารื้อกระเป๋าผมได้มั้ย!!” เด็กหนุ่มเข่นเขี้ยวพยายามดึงกางเกงว่ายน้ำที่ก้องภพซื้อให้เก็บเข้ากระเป๋า... กล้าหาญรู้แล้วว่าทำไมปรีย์จึงไม่กล้าใส่... เพราะมันตัวกระจิ๋วจนแทบจะปกปิดอะไรไม่ได้นี่เอง

    “จีสตริง..”

    “เฮ้ยยยยยย!!” เด็กหนุ่มพยายามกระโดดคว้าสายจีสตริงเส้นเล็กออกจากมือของชายหนุ่ม

    “พี่อยากเห็นปรีย์ใส่จีสตริง” กล้าหาญทำสีหน้าจริงจังจนเด็กหนุ่มนึกกลัว..

    “พี่กล้า!!!”

    “อายอะไร ไม่ใส่อะไรเลยพี่ก็เห็นมาแล้วนะ”

    “ไม่!” ปรีย์ปฏิเสธเสียงแข็ง.. กระชับชุดคลุมให้แน่นหนาขึ้น ...เขาคิดไปเองรึเปล่าว่ากล้าหาญน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

    “ใส่เร็ว!” ชายหนุ่มกระโดดคล่อมทับร่างบางบนเตียง พยายามยื้อบ็อกเซอร์เนื้อผ้าดีรูดลงจากเรียวขาของเด็กหนุ่ม

    “พี่กล้า!” เด็กหนุ่มพยายามดิ้น ทุบกำปั้นลงบนไหล่กว้างอย่างโกรธเคือง กล้าหาญยิ้มหวานเมื่อเขาเป็นฝ่ายชนะสามารถดึงรั้งจนผืนผ้าที่ปกปิดเรียวขาเล็กนั้นกองแทบเท้า เหลือเพียงแค่สวมใส่ปราการด่านใหม่เท่านั้น

    แต่เสียงเคาะประตูขัดจังหวะดึงความสนใจจากทั้งคู่ ชายหนุ่มจำใจลุกขึ้นอย่างอ้อยอิง ปล่อยให้ปรีย์ลุกขึ้นสวมใส่บ็อกเซอร์อย่างเร่งรีบ

    “มาหาปรีย์เหรอครับ ?” กล้าหาญยิ้มแย้มเอ่ยถามพี่ชายที่มาขัดเวลาได้ประจวบเหมาะ

    “เปล่า มาหาแกนั่นแหละกล้า” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นอย่างงงงัน... ก้องภพน่ะหรือ จะมาหาเขา

    “คืนนี้ไม่ต้องแล้วนะ ปรีย์เหมือนจะมีไข้น่ะ”

    “ครับ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้... เรื่องนี้นี่เอง...

    “แล้วนี่แกแกล้งอะไรปรีย์น่ะ โวยวายเสียงดัง”

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ” กล้าหาญปฏิเสธ ยิ้มพราย...

    “ขอเข้าไปหน่อยนะ” ก้องภพเอ่ยเคลื่อนกายเข้าไปในห้องโดยไม่รอคำตอบ เขาอยากรู้นักว่าทำไมกล้าหาญถึงได้ดูอารมณ์ดีถึงขนาดนั้น..

    “พี่ก้อง” ปรีย์เรียกชื่อชายหนุ่มด้วยความดีใจ รีบวิ่งเข้าหาและกล่าวฟ้องทันที

    “พี่กล้าแกล้งผม” เด็กหนุ่มอมลมแก้มป่อง ชี้หาร่างสูงใหญ่

    “แกล้งอะไรเรา หืม ?”....

 
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 31-01-2012 16:17:34
   “พี่กล้า..” เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง.. พยายามนึกหาอะไรมาต่อประโยคที่ไม่ใช่พยายามให้เขาใส่จีสตริง...

    “จั๊กจี้ปรีย์น่ะครับ” กล้าหาญรีบเอ่ยแทรก เหลือบตามองร่างเล็กยิ้ม ๆ

    “ใช่ฮะ!” ปรีย์รีบพยักพเยิดเห็นด้วย.. ก้องภพหัวเราะและพูดคุยหยอกล้อกับเด็กหนุ่มอีกซักพัก จึงจุมพิตอำลา...

    กล้าหาญมองนาฬิกา ก่อนมองเด็กหนุ่มที่กลิ้งไปมาบนเตียง ดูสารคดีเรื่องมดแล้วก็บิดตัวไปมา...ทำไมก้องภพไม่รีบบอกเขานะ ว่ายกเลิกนัดคืนนี้.. เขาจะได้ไม่ต้องพะว้าพะวงมองนาฬิกาที มองเด็กคนนี้ที...

    "พี่กล้า ปวดตัวอ่ะ นวดหน่อยดิ" เสียงแหบห้าวเอ่ยอ้อน นอนเอื้อมมือมาหาเขา

    "ครับๆๆ" กล้าหาญรับคำ ขึ้นไปนั่งบนเตียงนุ่ม

    “พี่อยากเห็นปรีย์ใส่จริงๆ นะ” ชายหนุ่มไม่เอ่ยเปล่า แง้มกางเกงขึ้นมองปราการภายใต้การปกปิด

    “พี่กล้า!!” ปรีย์เรียกชายหนุ่มอย่างเหลืออด มาหาว่าเขากวนประสาท กล้าหาญนั่นแหละที่กวนประสาทที่สุด!! หัวเราะ ยิ้มกริ่มจนแทบจะแยกไม่ออกว่าเป็นคนดีหรือคนบ้า...

    "โอ๊ยๆๆ! เบาหน่อยดิพี่กล้า!!" ปรีย์ร้องบอก ทุบกำปั้นลงบนหน้าขาเขา ..ชายหนุ่มหัวเราะ ลดแรงให้เบาลง.. จนเด็กหนุ่มครางอย่างพึงพอใจ..

    "...ร้องแบบนี้อยากให้พี่ผิดสัญญาอีกรึไง ?" กล้าหาญกระซิบถาม โน้มกายลงจูบแก้มนิ่มแผ่วเบา

    "ตาแก่ลามก" ปรีย์ว่าหัวเราะคิก

    "เดี๋ยวก็ลามกจริง ๆ หรอก เด็กบ้านี่.." กล้าหาญบ่น.. แอบยิ้มขำ... ปรีย์เลื่อนขั้นเขาเป็นตาแก่ลามกไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้..

    "กินยารึยัง ?" เด็กหนุ่มส่ายหัว ..มือหนาสัมผัสหน้าผากเล็กแผ่วเบา...

    "ไข้ขึ้นแล้วเห็นมั้ย.. นอนลงไปเลย" ชายหนุ่มว่า ค้นถุงเล็ก ๆ ที่เขาซื้อของติดมาเมื่อวาน แกะยาเม็ดให้เด็กหนุ่มกิน...

    "พี่นอนด้วยนะ.." ชายหนุ่มเอ่ยขอ ทรุดกายนอนลงข้าง ๆ โดยไม่รอคำตอบ เตียงที่ดูพอเหมาะสำหรับเด็กหนุ่มดูแคบเล็กลงแทบจะทันที ...ปรีย์พยักหน้ายิ้ม ๆ ซุกหน้าลงกับอกของชายหนุ่ม

    ภาพที่เขากำลังจะวิ่งไปหาหยกแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าเข้าถึงตัวหญิงสาวก่อนและช่วยเธอถือของอย่างที่สุภาพบุรุษทั่วไปทำกัน แวบเข้ามาในหัว... ทั้งคู่ช่างเหมาะสมกันเหลือเกิน...

    “พี่กล้า”

    “หืม ?”

    “พี่ชอบพี่หยกรึเปล่า ?”

    ชายหนุ่มเว้นระยะเล็กน้อยก่อนตอบไปตามความเป็นจริง “...ชอบ”

    “รักพี่หยกมั้ย ?”

    “ก็... เคยรัก”

    “แล้ว.. ตอนนี้ล่ะ ?”

    “พี่มีปรีย์คนเดียวก็พอแล้ว” กล้าหาญตอบเบาๆ โอบกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน

    “อยากให้พี่ยืนยันมั้ย ?”

    “....” ปรีย์ส่งยิ้มแหยเป็นคำตอบ..

    “พี่คิดว่าตอนนี้เราทำผิดรึเปล่า ?”

    คำถามทำให้กล้าหาญชะงักสบตามองร่างในอ้อมแขนนิ่ง... “ปรีย์.. อย่าคิดมากสิ”

    “ผมกลัว” เด็กหนุ่มหลุบตาต่ำ... เขากลัวกล้าหาญไม่รัก... กลัวก้องภพทิ้งเขาไป... กลัวก้องภพเกลียดเขา... กลัวไปหมดทุกอย่าง... เขาไม่มีครอบครัว... เขาเป็นเพียงแค่เด็กตัวคนเดียว... ถ้าหากว่าทั้งคู่ทิ้งเขาไป เขาก็คงไร้ซึ่งทางออก...

    “ไม่ต้องกลัว.. พี่ไม่ทิ้งปรีย์ไปไหนหรอก..” ชายหนุ่มเอ่ยปลอบเบาๆ ก่อนเอ่ยย้ำเสียงแผ่ว

    “พี่จะอยู่ข้างปรีย์” คำกล่าวของกล้าหาญทำให้เด็กหนุ่มเผยอยิ้ม... โอบกอดร่างใหญ่ไว้แน่น......ด้วยความเหนื่อยจากกิจกรรมที่ทำมาทั้งวันทำให้เด็กหนุ่มปิดตาลง... และเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว...

    กล้าหาญพยายามปิดตาข่มความรู้สึกไว้.. แต่มันก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน... กลิ่นหอมหวานที่แตะอยู่ปลายจมูกทำให้เขาต้องซุกหน้าลงบนศีรษะทุย...

    “ปรีย์..” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกแผ่วเบา สะกิดหลายครั้งแต่ร่างเล็กก็ไม่มีทีท่าจะตื่น... เขาเลยได้แต่ลอบถอนหายใจนอนมองดูคนที่หลับตาพริ้มไม่เป็นเดือดเป็นร้อนไปกับเขา...

    ชายหนุ่มสัมผัสแก้มนวลแผ่วเบา... เขาจะทำยังไงดีนะ....?

    เขาควรจะทำเช่นไร.. จะได้ไม่ต้องปกปิดความรักนี้... ความรักที่เขามีให้เด็กหนุ่มคนนี้....

    ชายหนุ่มนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น จนเกือบถึงจะเวลานัด.. เขาแน่ใจว่าคนในอ้อมแขนหลับแล้ว ...ค่อยๆ เคลื่อนกายเบา ๆ กลัวร่างเล็กจะตื่น...

    เสียงประตูปิดลงอย่างแผ่วเบา.. แต่เด็กหนุ่มบนเตียงกลับลืมตาโพลง

    กล้าหาญไปไหน ?...

    หรือว่าไปหาหยก ??....

    เด็กหนุ่มซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่... ทั้งๆ ที่เธอเป็นผู้หญิงใจดี... แต่ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบเธอเลย... ไม่ชอบเธอเลยซักนิด....

    รู้อยู่แก่ใจว่าทั้งคู่มีความผูกพันกันมากเพียงใด... แต่เขาก็ยังอยากให้กล้าหาญมีเพียงแค่ตน...

    ปรีย์ยกมือก่ายหน้าผาก ขมวดคิ้วมุ่น... เขาควรจะตามไปดีไหม ? หรือปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ ?... บางทีกล้าหาญอาจไม่ได้ไปหาหยก... แล้วจะไปหาใครกันล่ะ? ....ไม่รู้.... กล้าหาญอาจจะไปทำธุระอย่างอื่น ... ธุระอะไรกับกลางดึกแบบนี้?....

    เขาไม่สามารถเก็บงำความอยากรู้ของตนเองไว้ได้... จึงตัดสินใจลุกขึ้นและเดินตามไปเงียบๆ...
 
    กล้าหาญเดินเข้าหาหญิงสาวที่หยุดยืนรออยู่ก่อนแล้วอย่างเร่งรีบ

    "พี่กล้าเรียกเมย์มาทำไมเหรอ ?" เสียงหวานเอ่ยถามชายหนุ่มอย่างสงสัย

    "เอ่อ.. พี่มีเรื่องจะคุยด้วยนิดหน่อยน่ะ" กล้าหาญบอก ..พยายามนึกเรื่องที่เขาเตรียมจะนำมาพูดคุยกับเมย์

    "เรื่องที่จะช่วยกำจัดเด็กนั่นใช่มั้ย ?" หญิงสาวเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น

    "ดีจังเลยพี่กล้า ขอบคุณพี่มากนะ ..แบบนี้เด็กคนนั้นก็จะได้ออกไปจากชีวิตของพวกเราเร็วๆ" เธอเอ่ยอย่างยินดี ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข... กล้าหาญทำให้เธอเจ็บช้ำมาแล้ว... ก้องภพยังมาทำแบบนี้กับเธออีก... คราวนี้เธอจะได้มีความสุขจริงๆ เสียที....

    "เมย์.." ชายหนุ่มครางเสียงแผ่วอย่างนึกไม่ถึง... เขาลืมนึกไปเสียสนิทว่าตนต้องรับผิดชอบชีวิตคู่ของพี่ชาย... เขาเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงสาวตรงหน้าทิ้งอนาคตอันสดใส ทิ้งความสาวของเธอให้กับผู้ชายที่ไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อยอย่างพี่ชายเขา....

    ปรีย์ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ... เด็กหนุ่มรีบเดินกลับมาในห้อง ไม่กล้าฟังบทสนทนานี้ต่อ... ฝ่ามือหยาบกร้านปาดน้ำตาบนแก้มของตนอย่างนึกสมเพช....

    ทุกสิ่งมันกลับกันหมด... ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดคิดเอาไว้...

    ไหนบอกจะอยู่ข้างๆ เขาไง ?.... คนโกหก...

    เมื่อถึงห้อง เด็กหนุ่มกระโดดซุกหน้าลงกับหมอนใบใหญ่สะอื้นไห้... เขาตกหลุมพรางกล้าหาญเสียแล้ว... เขาปล่อยตัวปล่อยใจไปกับชายหนุ่มทั้งๆ ที่มีก้องภพ.... แท้จริงแล้วกล้าหาญเกลียดเขา... กล้าหาญเกลียดเขามาตลอด ... ร่วมมือกับเมย์พยายามแยกเขาให้ออกห่างก้องภพ....

    .... ไม่มีใครต้องการเขา...

    จริงสิ... ก้องภพ... ยังเหลืออีกคนที่รักเขา....

    ก้องภพรักเขา.... เขาจะทำให้ก้องภพรักเขามากๆ... รักจนไม่อาจทอดทิ้งเขาให้อยู่เดียวดายได้.....
 
    เรื่องเมื่อคืนทำให้ปรีย์คิดมากจนแทบไม่ได้นอน.. ความเครียดรุมเร้าจนเด็กหนุ่มรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ....ถึงแม้กล้าหาญจะกกกอดเขาไว้ในอ้อมกอดแต่ความไม่ไว้ใจทำให้เขารู้สึกไม่สนิทใจกับชายหนุ่มเหมือนเก่า...

    จวบจนรุ่งสาง ..กล้าหาญตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ.. ร่างในอ้อมแขนของเขาร้อนเป็นไฟ.. เหงื่อกาฬไหลจนชุดนอนเปียกแนบเนื้อ..

    พวกเขาตกลงพักต่ออีกวัน เพื่อดูอาการของเด็กหนุ่ม.. โดยก้องภพเป็นคนอาสาดูแลเด็กของเขาเอง

    "เย็น.." ปรีย์พึมพำ ขยับสัมผัสผิวเย็นๆ นั้นให้มากขึ้น..

    ชายหนุ่มยิ้ม ลอบมองผิวที่เปลี่ยนเป็นสีแทนของเด็กหนุ่ม..ดวงตาสีน้ำตาลเข้มปรือมองเขา.. แล้วปิดลงตามเดิม...

    "พี่ก้อง..." เสียงแหบแห้งเอ่ยเรียกเขา

    "ครับ.. หิวน้ำเหรอ ?" ชายหนุ่มเอ่ยถาม รีบลุกขึ้นไปหยิบน้ำ..

    ปรีย์ฝืนร่างกายลุกลงจากเตียง พุ่งตัวเข้ากอดรัดร่างใหญ่ไว้แน่น

    "พี่ก้อง.. รักผมนะ" ร่างอุ่นร้อนของปรีย์แนบชิดกับชายหนุ่ม ดวงตาหรี่ปรือเพ้อด้วยพิษไข้... ก้องภพมองใบหน้าแดงระเรื่อ เกลี่ยนิ้วข้างแก้มนิ่ม สัมผัสถึงลมหายใจร้อน.. ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไข้ขึ้นสูงมาก.. จนแทบไม่ได้สติ..

    "ผมยอมยกร่างกายนี้ให้พี่.. แต่พี่ต้องรักผมนะ" ชายหนุ่มกอดรัดร่างอุ่นร้อนที่ทรุดตัวลงไว้แน่น... เขารู้สึกว่าร่างกายของตนเองร้อนผ่าวไปหมด..

    "ทำไมปรีย์พูดแบบนั้น.." ชายหนุ่มเอ็ดเบาๆ.. โอบประคองร่างเล็กนอนลงที่เดิม

    "ถึงปรีย์ไม่ยกร่างกายให้ ..พี่ก็รัก.." ..ก้องภพชะงัก.. เขากำลังพูดอะไร ...เป้าหมายของเขาเปลี่ยนไปเมื่อได้รู้จักเด็กคนนี้มากขึ้น... เปลี่ยนไปตอนไหนเขาเองก็ไม่รู้ตัว...

    "รักผมนะ ฮึก.. รักผมนะพี่ก้อง.." ปรีย์สะอึกสะอื้น กำเสื้อเชิ้ตของเขาไว้ไม่ยอมปล่อย... เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรนอกจากกล่าวขอออกไปตรง ๆ

    เด็กหนุ่มกลัวเหลือเกิน... กลัวว่าวันหนึ่งกล้าหาญจะเปิดเผยเรื่องที่เขาทำผิดสัญญาที่ให้ไว้กับก้องภพ... กลัวว่าก้องภพจะโกรธ.. จะเกลียด และทอดทิ้งเขาไปอีกคน....

    ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจหนึ่ง เหลือบมองดูเรือนร่างเปลือยท่อนบน สีผิวที่คล้ำขึ้นทำให้รอยจูบที่เขาเคยประทับไว้จางจนมองแทบไม่เห็น... ก้องภพถอนหายใจเบา ๆ... เขาแพ้ต่อความต้องการของตัวเองจริง ๆ....

    ชายหนุ่มตัดสินใจล็อคประตูห้อง ..ถ้ามีใครเข้ามาเจอล่ะก็แย่แน่...

    ชายหนุ่มประทับจูบบนกลีบปากบางแผ่วเบา พรมจูบตามผิวเนื้อร้อน

    "อือ..ผม.. ผมรัก..พี่ก้อง.." ปรีย์กระซิบบอกโอบร่างสูงให้สัมผัสตนมากขึ้น... ทั้งคู่จมดิ่งสู่ห้วงหฤหรรษ์...
 
    ปรีย์กรีดเสียงร้อง แอ่นกายสะท้าน ...ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ภายในตัวของเด็กหนุ่มอุ่นร้อนจนเขาแทบมอดไหม้ ..ร่างเล็กพร่ำบอกรักเสียงขาดห้วงตามจังหวะที่เคลื่อนไหว เรียวขาเล็กเกี่ยวกระหวัดสะโพกสอบรั้งเข้าหา

    ก้องภพเร่งขยับกายโอบรั้งเอวบางเข้ารับความรักจากเขา... วงแขนแกร่งกอดเบียดสัมผัสผิวเนื้อร้อนเอาไว้แนบแน่นจนแทบจะกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน..

    ชายหนุ่มพรมจูบใบหน้าชื้นเหงื่อเบาๆ ...ความรู้สึกเวลามีอะไรกับเด็กหนุ่มที่มีไข้ ทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว... แต่เสียงหนึ่งก็ปลุกให้เขาหยุดการกระทำทั้งหมด...

    "...พี่ทำอะไร ?" กล้าหาญถามอย่างกรุ่นโกรธ มองร่างเล็กเปลือยเปล่านอนหอบหายใจหนักราวกับจะขาดใจอยู่ในอ้อมแขนพี่ชายเขา..

    ก้องภพลืมไปเสียสนิทว่าน้องชายเขามีกุญแจห้องนี้....

    ดวงตาสีน้ำตาลเข้มใสมีน้ำตาคลอหน่วยเหลือบมองเขาชั่ววินาทีหนึ่งก่อนปิดเปลือกตาลง ..กล้าหาญรู้สึกเสียวแปลบในอก

    เขาได้เป็นเจ้าของร่างเล็กนั้นเพียงแค่ชั่วคืน... นึกอยากเดินเข้าไปกระชากร่างบอบบางกลับสู่อ้อมกอดของเขา.. ป่าวประกาศให้คนอื่นทราบว่าปรีย์เป็นของเขา..

    "ปรีย์ป่วยอยู่นะ!" ชายหนุ่มตวาดกำหมัดแน่น.. ความจริงเขาแทบจะวิ่งเข้าไปกราดชกพี่ชาย.. ถ้าไม่ติดที่ว่า... ถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นคนมาทีหลัง... เขาเป็นคนแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของทั้งคู่....

    "พี่รู้.. แต่เด็กมันอยากให้พี่รักนี่..." ก้องภพบอกยักไหล่ ..ดึงผ้าห่มขึ้นปกคลุมร่างของพวกเขา ก่อนตวัดสายตาไล่น้องชายของตนกลายๆ

    กล้าหาญย่ำเท้าออกไปสงบสติอารมณ์นอกห้อง... ชายหนุ่มกัดฟันแน่น... พยายามหายใจเข้าลึกๆ... ถ้าก้องภพรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับปรีย์จะเป็นยังไงนะ ?.... แล้วปรีย์จะรู้สึกยังไงล่ะ ?....

    ชายหนุ่มรู้มาตลอดว่าปรีย์ต้องถูกพี่ชายเขากระทำย่ำยีถึงแม้จะเป็นของเขาก็ตาม... เขารู้... และพยายามอย่างยิ่งที่จะยอมรับมัน ...เพราะเขามันโง่เอง...แต่กล้าหาญไม่นึกว่าเมื่อเขาได้เห็นมันด้วยสองตาอีกครั้งจะทำให้เขาแทบบ้าได้ถึงขนาดนี้...

    ชายหนุ่มยกฝ่ามือขึ้นปิดใบหน้า... เขาควรจะทำยังไงดี..? เขาควรจะทำยังไงต่อไป ?...

    "กล้าเป็นอะไร ? เข้าห้องไม่ได้เหรอ ?" เสียงหญิงสาวเอ่ยถามเขาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นสีหน้าชายหนุ่มดูแย่เต็มทีและไม่ยอมเข้าไปในห้องพัก

    "เปล่าหรอก.." กล้าหาญตอบเบาๆ เหลือบตามองหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเขาเคยรัก ....ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกกับเธอเหมือนเดิมนะ... ทำไมเขาต้องรู้สึกแบบนี้กับคนรักของพี่ชายด้วย...

    "เป็นอะไร ? สีหน้าดูไม่ดีเลย..." เธอเอ่ยถาม แตะสัมผัสใบหน้าหล่อเหลาแผ่วเบา.. ชายหนุ่มชะงัก ปัดมือเล็กออก

    "อย่ามายุ่งกับผม!"

    "ข.. ขอโทษ..." หญิงสาวเอ่ยอย่างตกใจ เดินย้อนกลับไปยังห้องของตนโดยไม่หันกลับมามองอีก... กล้าหาญมองตามแผ่นหลังเล็กด้วยความรู้สึกเสียใจ... เขาไม่น่าจะตะคอกเธอแบบนั้น....

    ชายหนุ่มนวดขมับ ถอนหายใจหนัก เหลือบมองประตูห้องที่ปิดสนิท ...เมื่อคิดว่าเขาให้เวลานานมากพอแล้ว...จึงก้าวเดินเข้าไปในห้อง เหลือบมองร่างเล็กนอนหลับสนิทในสภาพเรียบร้อย...

    "พี่รู้รึเปล่า ..คำว่ารักของปรีย์มันหมายถึงอะไร ?" กล้าหาญกล่าวลอยๆ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ..พี่ชายของเขาขมวดคิ้วมุ่นเอ่ยคำถามกลับ

    "กล้าหมายความว่ายังไง ?"

    "พี่แน่ใจเหรอ ว่าปรีย์รักพี่แบบคนรัก ?" ชายหนุ่มเลิกคิ้ว มองพี่ชายของตนอย่างท้าทาย...

    "ไอ้กล้า!" ก้องภพขึ้นเสียง

    "ถ้าไม่ใช่แบบคนรัก แล้วเด็กมันจะยอมยกขาให้หรือไง ?"

    "...ฮึ พี่ก็คิดได้แต่เรื่องแบบนั้น"

    "อย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยกล้าหาญ..." ชายหนุ่มกล่าวเสียงต่ำ ก่อนเดินออกไปจากห้อง...

    กล้าหาญเหลือบมองเด็กหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้ม ใบหน้าแดงระเรื่อด้วยพิษไข้ ...เขาไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะตกหลุมรักเด็กคนนี้.. มากขนาดที่คิดจะตัดสัมพันธ์กับพี่ชายเพื่อแย่งมาเป็นของตัวเอง...

    ...ปรีย์รักเขาต่างหาก... และชายหนุ่มรู้ด้วยว่า ความรักที่ปรีย์มีให้กับก้องภพนั้น แสนบริสุทธิ์เพียงใด....

    หากแต่ชายหนุ่มไม่รู้ว่า ....พวกเขากำลังเดินมาในเส้นทางที่ผิดมหันต์....
.................................................ทูบีคอนตินิว

ยาววววววสะจายยยกันไปเลยตอนนี้อ่ะ :serius2:สับสน ปวดหัว กำลังจะดี ก็กลับมาผลิกโผอีก เบื่อไอ้ก้อง เอะอ่ะ ก็จะเอาเค้าอย่างเดียวเลย เบื่อมันแท้ ๆ ในที่สุด กล้าก็ตัดสินใจได้แล้วชิมิ สงสารปรีย์เหมือนเคย เด็กขาดความรัก :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 31-01-2012 16:22:54
ปากคอก้องภพน่าจะตบด้วยเกือกจริง ๆ
เด็กมันอ้าขาเพราะมันไร้เดียงสา  ไม่ทันเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างแกนั่นแหละ
สงสารปรีย์ชะมัด  เป็นเด็กตัวคนเดียวที่ต้องอาศัยคนอื่นอยู่ด้วยความหวั่นใจโดยแท้
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 31-01-2012 19:01:57
โฮ  :monkeysad: สงสารปรีย์จริงๆอ่ะ
เกิดมาโชคร้ายไม่พอ  ยังจะมาเจออะไรแบบนี้อีก  :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 31-01-2012 21:42:00
รักน้อรัก.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่15 [31.01.55]มรสุมในหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 31-01-2012 22:08:24
 :sad4: เอาแล้วไงล่ะ พี่น้องคู่นี้   :เฮ้อ:

สงสารปรีย์อ่ะ  :impress3:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 01-02-2012 15:48:40
บทที่ ๑๖

    นายเคยจับผีเสื้อตัวเป็นๆ ได้โดยที่ปีกของมันไม่บอบช้ำ ได้หรือเปล่าล่ะ?
    มีคนเคยบอกไว้
    ความรัก..........ก็เหมือนผีเสื้อนั่นแหละ
    ถ้าเราวิ่งไล่จับ .... มันจะยิ่งบินหนี
    แต่ถ้าเราอยู่นิ่งๆ..มันจะบินมาเกาะเราเอง
    และถ้านายอาจหาญวิ่งไล่จับมัน รับรองว่า ถ้าจับได้
    มันก็ไม่มีแรงพอที่จะบินได้ต่อไปหรอก
    อยู่นิ่งๆนั่นแหละ แล้วมันก็จะบินมาเกาะเราเอง
     ถึงแม้นายอาจจะเศร้า ถ้ามันบินหนีไป
    แต่ก็อย่าเสียใจ เพราะอย่างน้อย
    เราก็รู้ว่า มันยังมีชีวิตอยู่

    ภาพแผ่นหลังเล็กปกคลุมด้วยเส้นผมดำสลวยกับชุดเดรสสีขาวที่เขาเก็บเงินซื้อให้ ปลิวไหวตามกระแสลมแรง... ดวงตาคมสวยที่สะดุดใจเขาตั้งแต่แรกพบชำเลืองมองมาอย่างเย็นชา..

    รู้รึเปล่า...ว่าผีเสื้อจะตายหลังจากได้ผสมพันธุ์...?

    เธอเผยยิ้มเย็นชาให้เขาก่อนกางแขนราวกับจะโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้า...

    "อย่า!!!" ชายหนุ่มเปล่งเสียงร้อง ลืมตาโพลงขึ้นในความมืด เอื้อมมือคว้าอากาศอันว่างเปล่า... หันมองหน้าหญิงสาวหวานละมุนที่นอนหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างๆ ....เขาฝันแบบนี้อีกแล้ว....

    ...มือหนาเช็ดเม็ดเหงื่อที่ไหลซึมบนใบหน้า หอบหายใจแรง... เขาแทบจะลืมเลือนคำพูดของผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว... เธอเคยพูดกับเขา... ก่อนที่จะร่วมรักกัน

    และเขาก็บอกเลิกเธอด้วยประโยคเดียวกัน...

    ชายหนุ่มลูบใบหน้าตนเองเบาๆ ...เขาไม่ได้นึกถึงผู้หญิงคนนั้น ..นานจนแทบจะลืมไปแล้ว... ทำไมจู่ๆ ถึงฝันเห็นแววตาคู่นั้นอีกนะ...
 
    กล้าหาญเหลือบมองเด็กหนุ่มที่นั่งข้างกายหลายครั้ง ...พวกเขากำลังเดินทางไปบ้านของดารัตน์

    ...ปรีย์ไข้ลดลงแล้ว แต่ดูซึมๆ ไป ไม่ค่อยพูดค่อยจา เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างตลอดเวลา... เขาชวนคุยด้วยก็เหมือนกับไม่อยากคุยกับเขามากนัก สงบปากสงบคำจนน่าแปลกใจ...

    เด็กหนุ่มเหม่อมองออกไปยังถนนข้างหน้า... ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่ดีเลย... เขาอยากคุยกับกล้าหาญเหมือนปกติ... แต่หากเรื่องของเมย์ก็วกกลับเข้ามาในสมอง...

    บรรยากาศในรถอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ดูเหมือนว่าจะอึมครึมเสียยิ่งกว่าเดิม... หยกที่เขาคิดว่าน่าจะชวนคุยได้ด้วยมากที่สุดก็พลอยเงียบไปด้วย..

    ปรีย์ถอนหายใจเบาๆ ทิ้งตัวพิงเบาะ ปิดเปลือกตาลง... ปล่อยให้เวลาไหลไปเรื่อยๆ....

    ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงที่หมาย.. บ้านเรือนไทยใต้ถุนสูงเรือนใหญ่ กับสวนผลไม้กว้างขวาง ...อากาศของธรรมชาติ เย็นสดชื่นทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย....

    "มากันแล้วหรือ" เสียงหญิงชราเอ่ยทักทาย ร่างเล็กของหล่อนถูกลูกชายทั้งสองโอบกอดอย่างรักใคร่

    "สวัสดีค่ะคุณแม่/คุณป้า" เมย์และหยกยิ้มยกมือไหว้หญิงสูงวัย

    "ไหว้พระเถอะจ๊ะ หนูเมย์ หนูหยก" ดารัตน์ว่าลูบศีรษะหญิงสาวทั้งสองอย่าสนิทสนมคุ้นเคย อมยิ้มมองเด็กหนุ่มที่ยกมือไหว้เก้ๆ กังๆ

    "อายุขึ้นเลขหกแล้วยังดูสาวอยู่เลยนะคะ คุณป้าเนี่ย" หยกเย้า กอดร่างอวบของหญิงชราไว้อย่างรักใคร่ ...ปรีย์มองมารดาของชายหนุ่มทั้งสองอย่างชื่นชม ....ทั้งๆ ที่อายุใกล้เคียงกับยายของเขา แต่ดารัตน์กลับมีใบหน้าอวบอิ่ม อมยิ้มอ่อนโยน แลดูมีความสุขตลอดเวลา และเผื่อแผ่มายังคนรอบข้างจนเด็กหนุ่มรู้สึกอุ่นในหัวใจ... ครั้งแรกที่เห็นหล่อนเด็กหนุ่มก็นึกถึงยายของเขาขึ้นมาแทบจะทันที....

    "แล้วพ่อล่ะ ..แม่" ก้องภพเอ่ยถาม มองหาอีกคนหนึ่ง

    "ออกไปเก็บผลไม้ในสวนนู่น เดี๋ยวก็กลับมา"

    "ขึ้นมาทานน้ำทานท่ากันก่อน" เธอเอ่ยเชื้อเชิญ เดินนำกลุ่มพวกเขาขึ้นไปบนเรือน...

    ปรีย์มองเรือนไม้อย่างตื่นตาตื่นใจ... ถึงแม้บ้านของเขาจะเป็นบ้านไม้ แต่มันเก่าและโทรม... เป็นไม้ผุๆ... ไม่ได้ดูใหญ่โตและมั่นคงแบบนี้.. ลมโกรกเย็นสบาย แทบจะไม่ต้องเปิดพัดลม...

    เมย์อาสาเข้าไปดูในโรงครัว ส่วนที่เหลือก็คุยกันออกรส.. ปล่อยให้เด็กหนุ่มมองตามอย่างงงงัน.. ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสอดส่องไปทั่วตัวเรือน.. เขาชอบบรรยากาศที่นี่... ชอบสีเขียวๆ ของใบไม้ ชอบกลิ่นของบรรยากาศ กลิ่นของดิน ..กลิ่นของพืช....

    "ชื่ออะไรล่ะเรา .." เสียงเอ่ยถามพุ่งเป้ามาที่เขา.. ทุกคนหยุดมองมาที่เด็กหนุ่มเป็นจุดเดียว...

    "ป..ปรีย์..ครับ.." ปรีย์นั่งตัวเกร็ง ..เอ่ยตอบตะกุกตะกัก...

    "เข้ามาใกล้ๆ ย่าซิ" เด็กหนุ่มคลานเข่าเข้าไปใกล้หญิงชราอย่างว่าง่าย.. เขาได้กลิ่นหอมของดอกไม้.. หอมเหมือนดอกแก้ว...

    "ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว ?"

    "...๑๗ ปี ครับ" ปรีย์ก้มหน้าตอบ มือกำกางเกงไว้แน่น..

    "แล้วเราไม่มีญาติเลยหรือ ?"

    "ไม่มีครับ.. ผมอยู่กับยายแค่ ๒ คน"

    "งั้นหรือ... ลำบากมากสินะ..." เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทร.. เอื้อมมือแตะลงบนศีรษะทุยแผ่วเบา ...ท่าทางผ่อนคลายนั้นทำให้เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกดีขึ้น...

    "แล้วเราเจอกับพ่อก้องได้ยังไงล่ะ ?" คำถามนี้ทำให้เขาชะงัก...

    "เอ่อ.." ปรีย์เหลือบตามองก้องภพ.. เด็กหนุ่มคิดไม่ออกว่าควรจะบอกว่าเช่นไร

    "แม่ครับ ได้กลิ่นแกงเขียวหวาน" กล้าหาญรีบเอ่ยตัด เข้าไปตระกองกอดมารดาอย่างรักใคร่...

    "แม่เตรียมให้เรานั่นแหละพ่อกล้า ..ของโปรดไม่ใช่หรือ" หญิงชรายิ้มบอก

    "แม่รู้ใจกล้าที่สุดในโลกเลย" ชายหนุ่มยิ้ม อวยมารดาก่อนหอมแก้มฟอดใหญ่

    ปรีย์ไม่แน่ใจว่ากล้าหาญขัดจังหวะเขาเพราะอะไร.. แต่เด็กหนุ่มรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องตอบคำถามนั้น... เพราะเขาก็ไม่อยากโกหกซักเท่าไหร่...

    "นั่งคุยกันไปก่อนนะเด็ก ๆ ป้าขอเข้าไปดูหนูเมย์ในครัวหน่อย"

    "ผมไปด้วย แม่" ก้องภพรีบลุกขึ้นตามมารดาไปกระซิบถาม

    "น่ารักมั้ยแม่ ?"

    "แม่ว่าหนูปรีย์คล้ายพ่อก้องตอนเด็กๆ นะ" ดารัตน์ยิ้มบอกลูกชายของเธอ... ก้องภพเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตอบรับเบาๆ

    "งั้นเหรอครับ.."

    "แล้วคิดยังไงถึงพามาเลี้ยงล่ะ ?"

    "ก็.. ไม่รู้สิครับ..." ชายหนุ่มเกาศีรษะเบาๆ...

    "...ตาแกเหมือนแม่นะ"

    "คุณแม่หมายความว่าไงครับ ?" ก้องภพขมวดคิ้วถามงงๆ

    "แม่บอกว่าตาหนูปรีย์สวยเหมือนแม่เขา" ดารัตน์เอ่ยขยายความให้อีกครั้ง

    "แม่รู้จักแม่ของปรีย์ด้วยเหรอครับ ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างงงัน...

    "อ้าว... อะไรกัน พ่อก้อง" หญิงชราหวีดเสียงอย่างงงงันไม่แพ้กัน

    "เด็กคนนั้นเป็นลูกของหนูปุยไม่ใช่หรือไง ?" ก้องภพแทบหยุดหายใจ... เอ่ยถามซ้ำ

    "แม่ว่าอะไรนะครับ ?"

    "อ้าว! ..ก้องไม่รู้หรอกหรือว่าหนูปรีย์เป็นลูกของหนูปุย" พลันชายหนุ่มนึกถึงรสชาติหอมหวานราวกับผลไม้ต้องห้ามที่ตนได้ลิ้มลอง... ราวกับเป็นสิ่งที่ไม่ควรแตะต้อง....

    "ผมไม่เห็นรู้เรื่องเลย แม่" เสียงทุ้มครางแผ่วอย่างไม่เชื่อหู...

    "แม่ก็นึกว่าพ่อก้องรู้แล้ว ก็เลยรับมาเลี้ยง"

    "แม่รู้เรื่องนี้มาจากไหน ?"

    "พ่อกล้าบอกกับแม่ว่าเด็กคนนี้นามสกุล วิริยะสิทธิ์" ชายหนุ่มแทบจะล้มทั้งยืน... ทำไมเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลย... เขาไม่เคยสังเกต... ไม่เคยถามว่าเด็กหนุ่มเป็นลูกเต้าเหล่าใคร... รู้เพียงแค่มีฐานะอันยากจนและอยู่กับยายเพียงสองคนเท่านั้น....

    ร่างสูงรีบเดินกลับไปทางเดิม กระชากแขนเล็กขึ้นอย่ารีบร้อน

    "ปรีย์!!"

    "ค..ครับ ?"

    "แม่ของปรีย์.. ชื่ออะไร ?" เด็กหนุ่มเอียงศีรษะอย่างงงงัน.. ก่อนเอ่ยตอบคำที่ยายของเขาให้ท่องเมื่อสมัยเด็ก...

    "..แม่ชื่อปัญชิกา แปลว่าปุยฝ้าย ...ส่วนผมชื่อปรีย์..." ปรีย์ขมวดคิ้วมุ่นก่อนเอ่ยต่อ...

    "แต่ยายไม่เคยบอกว่ามันแปลว่าอะไร..." ก้องภพทรุดตัวลงอย่างหมดแรง... เด็กคนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรแตะต้อง....

    "พี่ก้อง..!" ปรีย์รีบโอบประคองชายหนุ่มอย่างตกใจ...

    กล้าหาญชะงักเมื่อได้ยินชื่อนั้น.. มองเด็กหนุ่ม.. ปรีย์มีท่าทีงงงัน.. มองเขาที มองคนในอ้อมแขนที...

    ชายหนุ่มกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ ....ทำไมเขาไม่เคยนึกเอะใจมาก่อน... วิริยะสิทธิ์... ผู้หญิงคนนั้นนามสกุลวิริยะสิทธิ์... ผู้หญิงที่ตายไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน... และปรีย์เป็นลูกของเธอ...

    "ฮะๆ.." กล้าหาญแค่นหัวเราะเบาๆ ...พวกเขา.. ร่วมสังวาสกับสายเลือดตัวเอง

    แต่ที่แย่ยิ่งกว่าเขาก็คือก้องภพ... ชายหนุ่มร่วมสังวาสกับสายเลือดตัวเอง.... มีเพศสัมพันธ์กับลูกชายตัวเอง....

    "รู้รึเปล่าว่าผีเสื้อจะตายหลังจากได้ผสมพันธุ์..." ราวกับได้ยินเสียงของเธอดังก้องขึ้นในหัวอีกครั้ง...

    "คนที่ฉันรัก ...ตายจากฉันไปนานแล้ว..." เสียงหัวเราะเย้ยหยัน... ใช่.. เขาคนเก่ามันตายไปแล้ว... คนที่เคยชอบพอกับเธอน่ะ มันตายไปตั้งนานแล้ว    ผู้หญิงคนนั้นคงจะสะใจมากที่สามารถทำให้เขาเจ็บได้... คงจะดีใจมากซินะที่สามารถแก้แค้นเขาได้....
 
    "หนูปรีย์เป็นลูกของพ่อก้อง.."

    เสียงนั้นสะท้อนไปมาในหัว ความจริงดารัตน์พยายามพูดต่ออีกยาวเหยียด.. แต่มันไม่เข้าหัวของเขาเลย... เด็กหนุ่มนิ่งเงียบ ..มองดูสายน้ำไหลเอื่อยๆ... เวลามันไม่ไหลย้อนกลับเหมือนกับสายน้ำนั่นแหละ... เขาไม่นึกเสียใจเลยซักนิดกับเรื่องที่ผ่านมา.... และคิดว่าดีเสียอีกที่ตนเองจะได้มีพ่อ.. ไม่ต้องถูกล้อว่าเป็นไอ้ลูกกำพร้าอย่างเมื่อเด็กๆ อีก...

    เมย์ก็จะได้ไม่ต้องระแวงเขา... กล้าหาญก็เป็นคุณอาของเขา.... เป็นได้แค่คุณอา..... เป็นญาติคนหนึ่ง

    นิ้วมือหยาบหยิบหินก้อนเล็กๆ โยนลงไปกระทบบนผิวน้ำ.. แต่มันไม่ยอมกระโดดขึ้นมาเหมือนอย่างที่เขาทำได้เป็นปกติ...

    "นั่งคิดอะไรอยู่ ?"

    "พี่กล้า.." ปรีย์เอ่ยเรียกชายหนุ่มเบาๆ ...เขาควรจะเรียกว่าพี่กล้า หรืออากล้า ?

    "ผม...ผม.." แววตาเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความสับสน...

    "เธออาจไม่ใช่ลูกของพี่ก้องก็ได้ปรีย์.." กล้าหาญบอก ...แม้ในใจเขาจะเชื่อว่าเด็กคนนี้เป็นหลานของเขาจริงๆ ...

    "ลองไปตรวจเลือดก่อนดีกว่า"

    "ฮะ.." ปรีย์ตอบรับเบาๆ กล้าหาญทำให้เขาสบายใจได้เสมอ... เด็กหนุ่มซุกศีรษะทุยลงบนไหล่กว้าง ปิดเปลือกตาลง... ถ้าหากก้องภพเป็นพ่อแท้ๆ ของเขาขึ้นมา เขาจะทำยังไง ?... คุณย่าจะโกรธไหมถ้ารู้ว่าเขาเคยมีอะไรกับก้องภพ... มีอะไรกับพ่อตัวเอง....

    ปรีย์ไม่กล้าเอ่ยถามเรื่องที่เขาได้ยินเมื่อคืนและเป็นทุกข์มาจนถึงเวลานี้....

    กล้าหาญเกลียดเขารึเปล่า ?... ตั้งใจจะแยกเขาออกจากก้องภพหรือไม่ ?....

    ...แม้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะหลอกลวงเขาหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้มันไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้นกับความสัมพันธ์ของพวกเขา.. และเด็กหนุ่มก็รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ...

    ....เขายอมไม่รู้ดีกว่าที่จะได้รู้สาเหตุจริงๆ จากปากกล้าหาญ... เพราะถ้าหากเป็นอย่างที่เขาคิดจริงๆ ล่ะก็ ....เขาก็ไม่รู้จะทำตัวเช่นไร ทำสีหน้าอย่างไรเวลาเผชิญหน้ากับชายหนุ่ม.....
 
    "ปรีย์อยู่ไหน ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงแผ่วหลังจากได้สติ กวาดตามองหาร่างบางของเด็กหนุ่ม...

    "ปรีย์อยู่ริมน้ำ.. พี่ก้องพักก่อนดีกว่า" ภรรยาของเขาบอกเสียงเรียบ.. มองดูผู้หญิงที่นั่งชันเข่าดูทีวีอยู่อีกคน

    "พี่จะไปหาปรีย์" ก้องภพเอ่ย รีบลุกขึ้น แต่กลับถูกมือเล็กยื้อเอาไว้

    "พี่ก้อง! พี่เลิกบ้าเสียที"

    "เมย์! พี่ไม่ได้บ้า! อย่ามายุ่งกับพี่นักได้มั้ย ?" ชายหนุ่มกล่าวอย่างเหลืออด...

    "พี่น่ะมันบ้า! ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองถูกสวมเขา!" เมย์ตวาดเสียงแหลม น้ำตาคลอ.. กล้าหาญปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเธอ... แค่เธอมองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้ว ว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไรอยู่...

    "...หมายความว่าไง ?" ก้องภพถามเสียงแผ่ว...

    "พี่ดูไม่ออกหรือไงว่าพี่กล้ากับเด็กนั่นมันรักกัน พี่โง่หรือแกล้งโง่กันแน่!" คำพูดของเมย์ทำให้หยกสะดุ้ง หันกลับมามอง...

    "เมย์!!" ชายหนุ่มตวาดเกรี้ยวกราด... เธอใส่ความน้องชายเขา...

    "แล้วตอนนี้พี่ก็เป็นอะไรกับเด็กนั่นมากกว่าพ่อลูกไม่ได้แล้ว!"

    "ทำไมจะไม่ได้ ?"

    "พี่จะบ้าหรือไง!? พ่อกับลูกนะ! มันผิดจารีต" ก้องภพไม่อยากฟังอะไรอีก สลัดแขนและเดินออกมาจากเรือน

    เขาได้ยินเสียงมารดาพยายามปลอบประโลมหญิงสาวแว่วๆ ...เดินลัดเลาะมายังริมน้ำ แต่ก็ต้องชะงัก... เมื่อเห็นกล้าหาญก้มลงจุมพิตหน้าผากเล็กของเด็กหนุ่มที่นอนหนุนตัก...

    ชายหนุ่มมองภาพนั้นอย่างแค้นเคือง...กำหมัดจิกเนื้อของตนเองจนเจ็บ ...ทำไมเขาถึงไม่เคยสังเกตมาก่อน ...เพียงแค่มองแวบเดียวก็ดูออก  สายตาของน้องชายเขาที่มองเด็กหนุ่มในปกครองของเขา ...แทบจะไม่ต้องเดาเลยว่าน้องชายของเขา รู้สึกเช่นไรกับปรีย์... เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่ากล้าหาญจะคิดไม่ซื่อกับคนของเขา ...และดูเหมือนตอนนี้เขาจะหมดสิทธิ์ครอบครองตัวเด็กหนุ่มในเชิงชู้สาว...

    ถึงแม้นายอาจจะเศร้า ถ้ามันบินหนีไป
    แต่ก็อย่าเสียใจ เพราะอย่างน้อย
    เราก็รู้ว่า มันยังมีชีวิตอยู่

    เขาจะไม่รอให้ผีเสื้อตัวนั้นบินหนีไป.. จะเป็นคนจับมันขังเอาไว้ภายในโถแก้ว มองดูความสวยงามของมันแต่เพียงผู้เดียว....

    "ปรีย์..." เด็กหนุ่มค่อยๆ ลืมตาขึ้น... มืดตั้งแต่เมื่อไหร่ ?... นี่เขาหลับไปนานแค่ไหน ?

    "พี่ก้องมาตามแน่ะ" มือหยาบยกขึ้นขยี้ตาเบาๆ ดันตัวลุกขึ้นนั่ง...

    ดวงตาคู่สวยมองก้องภพ ระคนประหลาดใจ.. ทำไมเขารู้สึกว่าก้องภพไม่เหมือนเดิม ?....   เด็กหนุ่มลุกขึ้นและเดินไปหาเขาเงียบๆ

    "ไปข้างนอกกับพี่..." ชายหนุ่มกระซิบบอกข้างใบหู ดวงตาคมตวัดมองน้องชายตน และจูงมือของเด็กหนุ่มเดินลับไป...

    "ดึกแล้วนะพี่ก้องจะไปไหนเหรอ ?" ปรีย์ถามอย่างสงสัย แต่ก้องภพไม่ตอบอะไร... เขาจึงไม่ถามอีก...เด็กหนุ่มมองใบหน้าด้านข้างของคนขับรถ... ก้องภพเป็นอะไร ?

    "พี่ก้องติดหวัดผมรึเปล่า ?" ปรีย์ถาม เอื้อมมือสัมผัสใบหน้าของชายหนุ่มแผ่วเบาๆ แต่จู่ๆ ก้องภพก็เบรกรถจนเด็กหนุ่มหน้าทิ่ม

    "เป็นห่วงพี่ด้วยเหรอ ?" ชายหนุ่มเอ่ยถามเสียงเย้ยหยัน...

    "ทำไมพี่ก้องพูดงั้นอ่ะ ?" ปรีย์ขมวดคิ้วอย่างงงงัน ...ไม่ทันที่เขาจะได้ตั้งตัวก้องภพก็กระโจนมาหา

    ปรีย์ร้องอย่าตกใจเมื่อเขาเริ่มจะเข้าใจเป้าหมายของก้องภพ ...เด็กหนุ่มพยายามขัดขืนสุดกำลัง ...ถ้าหากเขาไม่รู้เรื่องในวันนี้เขาอาจจะไม่ขัดขืนเลยแม้แต่น้อย...

    "พี่กล้า! พี่กล้า!!" เด็กหนุ่มร้องเรียกชายผู้มีศักดิ์เป็นอา หากแต่นั่นเป็นสิ่งโหมกระพืออารมณ์ของชายหนุ่มให้คุโชนมากยิ่งขึ้น

    ใครเป็นคนกำหนดขึ้นมากัน ว่ามันผิดจารีต...

    ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเด็กคนนี้ต่างหาก คือความจริง มันเป็นสิ่งที่สัมผัสได้

    "ผมเป็นลูกของพี่นะ! พี่ก้อง!!" ก้องภพสัมผัสผิวเนื้อร่างเล็กอย่างจาบจ้วง เขารู้ดีที่สุดว่าส่วนไหนของเด็กหนุ่มไวต่อสัมผัส รู้ว่าปรีย์ชอบให้เขาสัมผัสตรงไหน...

    จนท้ายที่สุดร่างเล็กก็หมดแรงขัดขืน นอนครางเบาๆ ใต้ร่างเขา..

    "พี่ก้อง! พี่ก้อ..ง... ฮึก...พ่อ..." ปรีย์สะอื้น.. ที่ผ่านมาพวกเขาก็ทำผิดมามากพออยู่แล้ว...

    "พ่อฮะ.." เด็กหนุ่มเรียกบิดาเสียงสั่นเครือ.. หวังให้ชายหนุ่มกลับใจทัน...

    "เรียกฉันอย่างที่เธออยากเรียก.. แต่รู้ไว้ปรีย์.. เธอเป็นของฉัน.." ก้องภพกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ.. จับใบหน้านวลให้สบตาเขา ก่อนดันแทรกกายเข้าหาความอบอุ่นโอบรัดร่างกายของเขา....

    "..ปรีย์...รักพี่ก้องนะ" เสียงสะอื้นกระซิบบอกเขาแผ่วเบา...

    "....พี่ก็รักปรีย์..."

    ....ก้องภพก็รักเขา... แต่ไม่ใช่อย่างที่เขารัก....
 
    ... ปรีย์ร้องไห้จะไม่มีน้ำตาจะไหล.... เขาอยากเจอหน้ากล้าหาญ.. อยากคุยกับปู่ กับย่า... แต่ก้องภพไม่ยอมพาเขากลับไปที่นั่น...

    ไม่ว่าจะพยายามร้องขอเช่นไรก้องภพก็ไม่ใส่ใจจะฟังเสียงจากเขา... ก้องภพคงโกรธเกลียดเขามาก ชายหนุ่มไม่เคยทำเช่นนี้กับเขามาก่อน... ความเจ็บปวดจากร่างกายมันกร่อนเข้าไปในอก

    ปรีย์มองคนที่นอนหลับหายใจสม่ำเสมออยู่ข้างกายน้ำตาเอ่อคลอขึ้นอีกครั้ง... มันก็สาสมแล้วที่เขาได้รับการกระทำเช่นนี้จากชายหนุ่มตรงหน้า..

        เขารู้สึกผิดจนแทบรับไว้ไม่ไหว... ความรู้สึกเกลียดตัวเองถาโถมเข้าใส่กองทับจนท่วมศีรษะจนหายใจไม่ออก เด็กหนุ่มไร้เรี่ยวแรงทรงตัว พยายามกล้ำกลืนความเจ็บพยุงร่างกายเดินมาถึงห้องน้ำ...

    ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองใบหน้าหมองเศร้าของตนเองมีรอยเลือดเกรอะกรังในกระจก..... ร่องรอยการขบกัดและบอบช้ำปรากฏขึ้นหลายแห่งบนร่างกายของเขา...

    มือหยาบกร้านสัมผัสผิวแก้มที่บวมแดงของตนแผ่วเบา ...เสียงผ่ามือฟาดกระทบใบหน้าของเขาเต็มแรงจนเลือดกบจมูก ยังคงติดอยู่ในหู..

    นิ้วมือสั่นเทาลากสัมผัสรอยนิ้วมือรอบคอตนเองแผ่วเบา.. แววตาของก้องภพในตอนนั้นมีแต่ความรังเกียจเมื่อเขายอมสารภาพว่าเคยร่วมหลับนอนกับกล้าหาญ.. มันก็สาสมแล้วกับที่เขาทำกับชายหนุ่ม...

    ปรีย์สะอื้น.. ก้องภพไม่หลงเหลือความรัก หรือแม้แต่เวทนาเขาเลยแม้แต่น้อย.. จนถึงขนาดคิดฆ่าเขาให้ตายคามือ

    ปรีย์พยายามเปิดก๊อกน้ำด้วยมืออันสั่นเทา...ให้ไหลผ่าน.. ชำระล้างสิ่งสกปรกออกไปเรื่อยๆ ....   ...แต่ไม่รู้ทำไมเขาก็ยังคงรู้สึกว่ามันไม่สะอาดเสียที....

    ถ้าเจ็บแค่เพียงร่างกาย เขาก็คงจะสามารถผ่านพ้นไปได้อย่างไม่ยากเย็นซักเท่าไร... แต่ที่ก้องภพทำนั้นทำให้เขาเจ็บช้ำถึงภายในใจ

    ไม่ว่าเขาจะเจอเรื่องลำบากขนาดไหน.. เขาก็ไม่เคยจะเจ็บช้ำขนาดนี้มาก่อน...

    ก้องภพคือคนรักของแม่เขา.. คือผู้ชายที่ให้กำเนิดเขา... เด็กหนุ่มรู้สึกราวกับเป็นสัตว์เดียรัจฉาน.. สัตว์ที่ไม่ใช่มนุษย์...สมสู่กับพ่อแท้ๆ ของตนเอง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกรังเกียจตัวเองที่สุด.. ขยะแขยงเหลือทน

    ทั้งๆ ที่รู้ว่าอดีตแก้ไขไม่ได้... และปัจจุบันต้องทำให้ดีที่สุด... แต่ท้ายที่สุดแล้ว ปัจจุบันของเขาก็ซ้ำทับกับรอยอดีต... ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย...

    ...แล้วอนาคตล่ะ ?...

    ถ้าหากว่าเขาเดินหน้าต่อไปมันจะดีขึ้นหรือเปล่า ?... หรือว่ามันจะเลวร้ายลง?....

    ....อยากหนีหายไปจากตรงนี้... อยากให้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เขา... ไม่อยากจะรับรู้เรื่องราวอะไรอีกต่อไปแล้ว...

    ปรีย์คิดถึงยาย..คิดถึงแม่... เขาไม่เคยคิดอยากตายมาก่อน จนมาถึงวินาทีนี้...

    ถ้าไม่มีเขาซักคน เมย์ก็จะได้มีความสุขกับชีวิตแต่งงาน...

    ถ้าไม่มีเขาซักคน กล้าหาญก็จะมีความสุขกับหยก..

    ...ทุกอย่างมันยุ่งเหยิงไปหมดเพราะเขา...

    ...เพราะเขาคนเดียว....

    ...เขาไม่น่าเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้เลย...

    .. ณ วินาทีนั้น เด็กหนุ่มเลือกจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไป....

    เพล้ง!...ง

    เสียงแตกของแก้วทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่น มองหาร่างในอ้อมแขน... ปรีย์อยู่ในห้องน้ำ...

    "ปรีย์!!" ก้องภพทุบประตูห้องน้ำเรียกอย่างร้อนรน... เสียงกระจกนั่นทำให้เขาใจไม่ดีเอาเสียเลย ....แต่ไม่มีเสียงตอบรับ... เรียกเท่าไหร่ก็มีเพียงเสียงไหลของสายน้ำตอบกลับมา

    ชายหนุ่มออกแรงกระแทกประตูจนกลอนหลุดเปิดออก ได้กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง พื้นห้องน้ำเป็นสีแดงฉาน...

    ปรีย์ยืนอยู่ใต้ฝักบัว มองเขาด้วยดวงตาสีน้ำตาลเข้มว่างเปล่า ....เขารู้ว่าตนเองทำเรื่องที่ผิดพลาดลงไปเพราะความเจ็บแค้น... แต่นึกไม่ถึงว่าปรีย์จะทำร้ายตนเองถึงขนาดนี้...

    ก้องภพตรงรี่เข้าไปบีบแผลเหวอะหวะบนข้อมือทั้งสองข้างของเด็กหนุ่มแน่น หวังจะให้เลือดหยุดไหล...

    ปรีย์ไม่ตอบโต้... ไม่พูดอะไรกับเขาเลย...

    ....เพราะความเห็นแก่ตัวของเขา... เพราะความอยากครอบครองของเขา ทำให้เด็กหนุ่มพยายามหนีไป...

    ...ปรีย์ไม่ใช่ผีเสื้อ... เขาจะต้องไม่ตาย....

    ....แต่ชายหนุ่มลืมคิดไปว่าลูกของผีเสื้อ ก็ยังคงเป็นผีเสื้ออยู่วันยังค่ำ

    ...และถ้านายอาจหาญวิ่งไล่จับมัน รับรองว่า ถ้าจับได้

    มันก็ไม่มีแรงพอที่จะบินได้ต่อไปหรอก...
...........................................................................ทูบีคอนตินิว
 :m15:งดบรรยายค่ะ ปวดหัวใจ ปวดหัว ปวดกระบอกตา ร้าวร้านมาก พบกันพรุ่งนี้ มาดูกันว่า น้องจะรอดไหม
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: aofaof ที่ 01-02-2012 16:09:18
เป็นพ่อกะอาซะงั้น 
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-02-2012 16:11:27
หนูปรีย์ :sad4:
ทำไมทำแบบนี้เนี่ยก้อง ทำไมทำร้ายหนูปรีย์ได้ :z6:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 01-02-2012 19:12:33
 :a5: o22 :z3:
สามคำ>>>O M G !
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 01-02-2012 20:36:26
โอ๊ย...เนื้อเรื่องเข้มข้น...สุดยอด...โอ๊ย อ๊าก ว๊าก....เจ๋งๆๆๆ...
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: Ai_Rong_Kun ที่ 01-02-2012 20:51:22
ฉันอยากจะบ้าตาย จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวเศร้าเคล้าน้ำตานะ แต่มันบีบคั้นอ่ะ บีบมาก บีบจนปวดไปหมดทั้งตับไตไส้พุง

เฮ้อ ชีวิตน้องปรีย์ พ่อผีเสื้อน้อยของฉัน  :a5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 01-02-2012 22:41:11
 :impress3:  เรื่องมันเศร้าเคล้าน้ำตา.  :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่16 [01.02.55].......
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-02-2012 22:43:11
เรื่องแบบนี้อาจมีเพียงหนึ่งในแสนที่จะเกิดขึ้น  แต่มันก็เกิดขึ้นได้
บางครั้งชีวิตจริงของบางคนอาจยิ่งกว่านี้
ต่อมสามัญสำนึกของก้องภพจริง ๆ แล้วคงตายไปพร้อมกับแม่ของปรีย์นั่นแหละ
ตัวตนของก้องภพที่เป็นอยู่ก็แค่สัตว์เดรัจฉานในร่างของคนเท่านั้น  ชั่วที่สุด
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 03-02-2012 12:34:28
บทที่ ๑๗

    ผมยอมยกร่างกายนี้ให้พี่... แต่พี่ต้องรักผมนะ....

    ชายหนุ่มกุมมือเล็กอย่างใจจดใจจ่อ... ไหนหมอบอกว่าพ้นขีดอันตรายแล้วไง.. เขานั่งเฝ้าอยู่อย่างงี้ตั้งหลายวันแล้ว เด็กคนนี้ก็ไม่ยอมตื่น...ตอนที่เขาบอกเรื่องนี้ให้คนในบ้านรู้.. กล้าหาญแทบจะฆ่าเขาให้ตายคามือ... แต่ยังโชคดีที่มีดารัตน์คอยห้ามปรามไว้เสียก่อน....
 
    มารดาของเขารับฟังด้วยสีหน้าเรียบเฉยเช่นทุกครั้งที่เขาทำผิด... แต่ครั้งนี้กลับมีหยดน้ำตา... นั่นทำให้เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตนทำลงไปมากกว่าครั้งใด...

    "ปรีย์.." ก้องภพเอ่ยเรียกอย่างยินดี.. เมื่อเห็นร่างเล็กเปิดเปลือกตาขึ้น..

    "อยู่กับพ่อนะ.." เสียงทุ้มสั่นเครือ ...ใช้สรรพนามแทนตนเปลี่ยนไป... และมันมีความหมายอย่างที่เขาพูดจริงๆ...

    "..พ่อขอโทษ.." ความอบอุ่นของอ้อมแขนทำให้เด็กหนุ่มซุกตัวลงและกอดตอบเบาๆ...

    "ปรีย์.." เสียงทุ้มครางอย่างยินดีเมื่อร่างเล็กกอดเขาตอบ...

    "ปรีย์ยกโทษให้พ่อแล้วใช่มั้ย ?"

    "ปรีย์ ?" ก้องภพเรียกอย่างไม่แน่ใจ รอยยิ้มเริ่มหุบหาย...

    "อย่าแกล้งแบบนี้ พูดกับพ่อหน่อย" แต่เด็กหนุ่มนอนนิ่งราวกับไร้ชีวิต... ไม่ตอบสนองอะไรเลย...

    "ปรีย์อย่าแกล้งแบบนี้!!" ชายหนุ่มตวาด กำมือแน่น ...เขาคิดว่าปรีย์ทำแบบนี้เพื่อลงโทษเขา... คิดว่าอีกไม่นานปรีย์ก็จะหายโกรธ... แล้วเด็กหนุ่มจะกลับมายิ้มให้เขาเหมือนเดิม... แต่เขาก็คิดผิด.....

    ...ปรีย์มองไม่เห็นเขา... ไม่ได้ยินเสียงของเขา... ไม่คิดจะรอฟังแม้แต่คำขอโทษ .....เด็กหนุ่มปิดกั้นตัวเองจากโลกภายนอก... ขังตัวเองอยู่ในโลกแห่งจินตนาการอันกว้างใหญ่ไพศาล.... โลกที่ไม่มีใครเข้าถึง...

    ....เขายังมีความหวัง.. เมื่อแพทย์บอกว่าส่วนใหญ่ที่มีอาการของโรคนี้มักจะเป็นเพียงไม่นาน.... แต่ชายหนุ่มลืมนึกถึงส่วนน้อยที่เหลือ....
 
    "ปรีย์เป็นยังไงบ้างครับพี่ก้อง ?" กล้าหาญเอ่ยถาม ยิ้มมองดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มองผ่านเขาไป ราวกับเขาไม่มีตัวตน.. แต่ชายหนุ่มชินเสียแล้วกับสายตาเย็นชานี้... มันผ่านไปเกือบสี่ปีแล้ว ตั้งแต่ปรีย์เป็นแบบนี้.. เขามาเยี่ยมก้องภพเกือบทุกอาทิตย์... แต่ก็เหมือนเดิมทุกอาทิตย์..

    "ก็สบายดีล่ะ ดูสิวันนี้อารมณ์ดีเชียว" พี่ชายของเขาตอบ พยักพเยิดให้มองดูคนข้างกายที่นั่งแทะเมล็ดเงาะหงุบหงับ

    "พ่อให้กินอีกลูกเดียวนะ เข้าใจมั้ย ?" ก้องภพว่า แกะลูกใหม่ส่งให้...

    "ปรีย์ดื้อบ้างรึเปล่า ?" กล้าหาญถามถึงอาการแปลกๆ ของปรีย์

    "ไม่ดื้อเลย... แล้วแกเป็นไงบ้างล่ะกล้า ?" พี่ชายของเขาตอบ นิ้วเรียวเกลี่ยเช็ดคราบผลไม้บนแก้มนวล

    "ก็ดีครับ.."

    "แล้วข้าวปุ้นเป็นไงมั่งล่ะ ?" ก้องภพเอ่ยถามถึงหลานสาวที่เพิ่งเกิดไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมา

    "ฮึๆ ..ก็น่ารักครับ ผมอยากมีลูกอีกคนแต่หยกไม่ยอม" กล้าหาญเอ่ยกลั้วหัวเราะ เมื่อถึงหน้ายักษ์ขมูขีของภรรยาตน.. บ่นว่าตอนคลอดลูกนั้นเจ็บปวดทรมานขนาดไหน...

    "เมย์ยังรอพี่อยู่นะ..." กล้าหาญบอกเบาๆ ...ก้องภพชะงัก.. เขาเลิกกับเมย์ตั้งแต่ตัดสินใจออกจากงานมาดูแลปรีย์แล้ว... ตั้งแต่ปรีย์เป็นแบบนี้เขาก็ไม่อยากจะร่วมรักกับใครอีก.... จึงเป็นฝ่ายตัดสินใจปล่อยเธอไป..

    "บอกให้เมย์หาคนที่ดีกว่าพี่เถอะ ..พี่มีความสุขแล้วล่ะ..." ก้องภพเอ่ยบอกน้ำตาคลอ ประคองกอดร่างเล็กแววตาเลื่อนลอยในอ้อมแขน...

    เขากำลังรอคอยเด็กหนุ่มอย่างมีความหวัง... รอว่าซักวันเด็กผู้ชายคนนั้นจะกลับมา... และอยู่เคียงข้างเขาในฐานะ 'ลูกชาย'

    "เดี๋ยวพี่ไปเอาเงาะบนเรือนใหญ่มาเพิ่มดีกว่า จะหมดแล้ว" พี่ชายเขาว่า ลุกเดินออกจากเรือนไม้หลังเล็ก...

    ชายหนุ่มขยับนั่งบนที่ๆ ก้องภพเพิ่งลุกออก มองดูคนที่โตเป็นหนุ่มแล้ว แต่กลับแทะผลไม้เลอะเทอะเต็มหน้าอย่างกับเด็ก ...ดวงตาคู่สวยที่เขาชอบมองไร้แววราวกับไม่มีชีวิตจิตใจ

    "อ๊ะ.." เสียงที่เขาอยากได้ยินร้องเบาๆ เมื่อเนื้อผลไม้ในมือกระเด็นตกไปบนพื้น

    กล้าหาญมองร่างเล็กคลำหาวัตถุที่กลิ้งหล่น... ทั้งๆ ที่ลืมตาอยู่แท้ๆ แต่กลับมองไม่เห็น... ชายหนุ่มตัดสินใจลุกขึ้นแกะเงาะลูกใหม่ หย่อนวางใส่ในมือเล็ก ...แต่กลับถูกมือหยาบกร้านนั้นจับนิ้วไว้เสียแน่น ...ชายหนุ่มพยายามดึงออก ..ก่อนเปลี่ยนใจสอดประสานมือของเขาไว้กับนิ้วมือเล็ก อย่างที่ครั้งหนึ่งเคยทำ

    ...เอื้อมมือสัมผัสแก้มนิ่มเหนอะหนะ ก่อนเชยคางขึ้น และโน้มศีรษะตนเองลงประทับจูบแผ่วเบา...

    "...." กล้าหาญไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มผงะเล็กน้อย.. เขายังคงจำสัมผัสนี้ได้...

    "พี่รักปรีย์นะ.." ชายหนุ่มกลั้นสะอื้นกระซิบบอกคนในอ้อมแขนรอบที่เท่าไหร่แล้วเขาก็จำไม่ได้.. แม้จะรู้ว่าร่างเล็กไม่ได้ยินเสียงของเขา... เขาก็ยังจะพูดออกไป ....ดวงตากลมปิดลงเผยยิ้มบางซบหน้าลงกับแผ่นอกกว้าง...

    ความสุขของคนมีหลายรูปแบบ...

    คนภายนอกอาจมองว่าเขาน่าจะทุกข์

    ...แต่ความจริงแล้วเขาอาจกำลังมีความสุขอยู่ก็ได้...

                           
- จบ -
...............................................................
 :เฮ้อ: เพียงพอไหมค่ะ กับบทสรุปของน้องปรีย์ หรืออยากได้มากกว่านี้กัน รีเควสกันมาค่ะ ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน ที่อยู่ร่วมกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น iforgive , นางฟ้า , kyoya11 , boworange , kny และแฟนคลับทุกท่านไม่อาจกล่าวได้หมด ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่อยู่ด้วยกันมาจนตอนสุดท้าย จริง ๆ :3123:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Still_14OC ที่ 03-02-2012 13:42:50
ไม่เอาแล้ว แค่นี้ หนูปรีย์ ก็ทรมานพอแล้ว จะตายก็ไม่ได้ตาย จำให้อยู่แบบปกติก็รับสภาพไม่ไหว

ปล่อยให้หนูปรีย์ มีความสุขอยู่ในโลกของตัวเองแบบนี้ต่อไปเถอะ อย่าเอาน้องออกมาเผชิญกับความจริงเลย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 03-02-2012 13:45:56
 ความสุขของคนมีหลายรูปแบบ...

    คนภายนอกอาจมองว่าเขาน่าจะทุกข์

    ...แต่ความจริงแล้วเขาอาจกำลังมีความสุขอยู่ก็ได้...


สะเทือนใจกับประโยคนี้จริง ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: aofaof ที่ 03-02-2012 13:55:17
น้ำตาเล็ดค่ะ 
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 03-02-2012 16:10:16
ชอบเรื่องนี้มาก
อ่านตั้งแต่ในเด็กดีแล้ว
แอบอยากให้ปรีย์กลับมาเป็นเหมือนเดิม  :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-02-2012 17:11:00
 ความสุขของคนมีหลายรูปแบบ...
    คนภายนอกอาจมองว่าเขาน่าจะทุกข์
    ...แต่ความจริงแล้วเขาอาจกำลังมีความสุขอยู่ก็ได้...
ใครอ่านประโยคนี้แล้วร้องไห้บ้างอ่ะ :monkeysad:
หนูปรีย์อาจจะมีความสุขจริงๆก้ได้ แต่คนอ่านนั้นทุกข์เหลือเกิน อยากเอาหนูปรีย์คนเดิมกลับมา :m15:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: neronel ที่ 03-02-2012 17:58:21
เราเรียกร้อง เราโง่เง่า เราผิดพลาด เราหัวเราะ เราร้องไห้...ไม่มีใครที่ไม่น่าเห็นใจ 
เรื่องนี้ก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะน้อง ก้องภพ กล้าหาญ และคนอื่นๆ ล้วนน่าเห็นใจด้วยกันทั้งนั้น

ตอนนี้สิ่งที่น้องอยากได้มาตลอด ความรัก..การเอาใจใส่...น้องได้มันแล้ว
แต่หัวใจกลับไม่ซึมซาบถึงสิ่งนั้น มันจะมีความหมายอะไรกัน

อยากให้น้องออดมาเผชิญกับเรื่องราวอีกครั้ง ซาดิสซ์ไปปะ? 55+
จริงๆก็คืออยากเห็นน้องก้าวข้ามผ่านจุดนั้น ไม่อยากให้น้องร้องให้ตลอดไป
มันอาจสาหัสเกินกว่าใครคนนึงจะรับไหว แต่เชื่อเถอะ เมื่อน้องก้าวข้ามผ่ามันมาแล้ว
น้องจะพบกับทัศนียภาพของชีวิตแบบใหม่

ปล. คอมเมนต์ดราม่าไม่แพ้เรื่อง 55+
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: GUNPLAPLASTIC ที่ 03-02-2012 19:15:43
เรื่องนี้ No comment จริงๆ มันจุกจนอธิบายไม่ถูก
ความสุขมีหลายรูปเเบบ...
ก็นะ เเล้วเเต่ใครเเต่มัน ความสุขมันก้มีได้ทุกคนนั้นเเหละ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 03-02-2012 21:53:31
นางฟ้าคิดว่าจะจบแบบนี้เลยก็นะ  สะเทือนใจดี (?)
แต่ถ้ามีโอกาส....อยากให้ปรีย์มีชีวิตใหม่...ได้เจอผู้คนหลากหลายกว่านี้  อยากให้ปรีย์มีความสุขค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 03-02-2012 22:18:01
เนื้อเรื่องว่าสุดยอดแล้ว...ตอนจบนี่สุดยอดกว่า
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 03-02-2012 22:57:14
 :m15:  แถมตอนพิเศษให้หน่อยนะคะ  :monkeysad:  จบแบบนี้เราหัวใจสลายเลยอ่ะ    :call:
 
ขอบอกว่าเรื่องนี้ทั้งหักมุมทั้งเศร้าเคล้าน้ำตา  :sad4: 

 


สุดท้ายนี้อยาก. :กอด1: คนเขียน ขอบคุณนะคะสำหรับผลงานดีๆอย่างนี้  :pig4:   :L1:

 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 05-02-2012 04:27:00
น้องปรีย์ได้ทุกอย่างอย่างที่ต้องการแล้ว

ได้ความรักที่ไม่มีทางจะทิ้งไปไหน จากก้อง

ได้ความรักที่ไม่จางหายไป จากกล้า น้องได้ครบมาหมดแล้ว บางทีนี่แหละคือความสุขของน้องที่ต้องการ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 05-02-2012 06:15:08
คือ..มันแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง  :m15:
จบแบบเศร้า แต่เยี่ยมครับ
คือในใจก็แบบสงสารน้องปรีย์นะครับ
แต่ก็อาจเป็นแบบที่คุณ pooinfinity บอก บางทีนี่แหละคือความสุขของน้องที่ต้องการ

 :L2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 05-02-2012 07:58:29
เรื่องนี้หนักหนา และหนักหน่วง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-02-2012 08:30:28
 :เฮ้อ:สงสารเหลือ ทรมานแทน

สิ้นยายเหมือนทุกอย่างมันมืดมนไปหมด ไม่เหลือแม้แต่อนาคตที่ดี

มีร่างกายแต่ไร้ความรู้สึก แม้แต่ลมหายใจยังเป็นของคนอื่น จนนาทีสุดท้ายก็ไร้ความสุขอยู่ดี
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 05-02-2012 09:02:37
สะเทือนใจสุดๆ  :a5: :a5: :a5:

ช็อคมากๆ สงสารปรีย์  :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทอวสาน [03.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 05-02-2012 14:52:31
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 09-02-2012 10:07:48
ตอนพิเศษ ๑

    เด็กสาวร่างสะโอดสะอง สวมเสื้อยืดคอกลมกับกระโปรงลูกไม้เดินฮัมเพลงอย่างสบายใจ.. สายลมแผ่วเบาพัดผ่านใบหน้าสวยคม ริมฝีปากเป็นกระจับได้รูปเผยยิ้มเล็กๆ เมื่อมองเห็นจุดมุ่งหมาย.. .บ้านเช่าหลังเล็กของครอบครัวเธอ... ซึ่งกำลังจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้น...

    “กลับมาแล้วเรอะ” เสียงตะโกนถามดังขึ้นเมื่อบุคคลในบ้านได้ยินเสียงประตูเหล็กสนิมเขรอะ กร่อนจนผุพังไปแล้วบางส่วนเปิดออก

    “ค่า~” ปัญชิกาเอ่ยตอบ ยิ้มร่าเริง วางกระเป๋าสะพายไว้บนโต๊ะอาหารที่วางอยู่กลางตัวบ้าน ก่อนเดินไปหามารดาในครัว แล้วยิ้มประจบ..

    “ไปไหนมาวะ ? แต่งตัวเสียสวยเทียว” ปานรวีเหลือบตามอง เอ่ยถามลูกสาว แอบซ่อนรอยยิ้มเมื่อคิดว่าสวยอย่างกับตัวหล่อนเมื่อสมัยสาวๆ

    “ไปโรงพยาบาลมาค่ะ” เธอเอ่ยตอบ ช่วยแม่จัดเตรียมสำรับอาหารเย็นพลาง

    “ไปทำไมวะ ? ไม่สบายเหรอ ?” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามอย่างฉงน.. ร้อยวันพันปี เธอกับลูกสาวไม่เคยเยื้องกรายเข้าโรงพยาบาลเลยซักหน.. มีไข้ก็ซื้อยาในร้านขายของชำทานไปเดี๋ยวเดียวก็หาย...

    “เปล่า.. คือความจริงแล้วก็..เกือบใช่น่ะ” เด็กสาวเอ่ยตอบมารดาอย่างไม่แน่ใจ เกาศีรษะเขินๆ

    “อะไรของเอ็งวะ ? ..ข้าล่ะงง” มารดาของหล่อนขมวดคิ้วมึนงง ก่อนถอนหายใจและสาวเท้าออกไปจากห้องครัว ระหว่างรับประทานอาหารเด็กสาวมีท่าทีลุกลี้ลุกลนจน ปารวีตัดสินใจเอ่ยถามในที่สุด

    “เอ็งเป็นอะไรของเอ็งวะ ? ไอ้หมูมันเบี้ยวไม่จ่ายเงินเดือนให้รึไง ?” คำถามของมารดาทำให้หล่อนนั่งเกร็งตัว

    “เปล่า แม่” ตอบคำถามเสียงค่อย

    “แล้วเอ็งเป็นอะไรของเอ็ง ?” หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วถาม.. อาการราวกับมีเรื่องปกปิดของลูกสาวทำให้หล่อนหงุดหงิด

    “คือ..” ปัญชิกาอึกอัก.. เธอควรจะพูดความจริงออกไปเลยดีไหม ?... แต่รู้ตอนไหน ผลลัพธ์ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม... สู้ให้เธอบอกไปเสียแต่เนิ่นๆ...

    เด็กสาวสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนตัดสินใจเอ่ยออกมาให้จบประโยค “แม่.. คือ....หนูท้อง”    จบคำ ปารวีได้แต่นั่งอ้าปากค้าง เผลอปล่อยช้อนข้าวหลุดจากมือส่งเสียงกระทบชามเบาๆ...

    หลังจากตกอยู่ในความเงียบมานานกว่าสี่นาที ในที่สุดหญิงชราก็เป็นฝ่ายเอ่ยถาม “เอ็ง.. เอ็งรู้มั้ยว่าพูดอะไรออกมา ?”

    “รู้สิ! ไม่รู้หนูจะพูดเหรอ ?” เด็กสาวแหวตอบพลันวัน.. เรื่องแบบนี้เธอจะพูดให้ตนเองเสียเกียรติไปเพื่ออะไร ?..

    “อีนังปุย! นี่เอ็งไปท้องกับใครห๊ะ!? ไอ้เจ๊กตาเม็ดกวยจี๊บ้านหลังนั้นใช่มั้ย ?!”

    “บ้าเหรอแม่!” ปัญชิกาปฏิเสธพลันวัน.. ก่อนตอบอย่างเอียงอาย

    “....ไอ้เด็กตัวเล็กคนนั้นต่างหาก” ปารวีนึกถึง ไอ้เด็กตัวเล็ก ที่ลูกสาวหล่อนเอ่ยถึง.. ก่อนกรีดเสียงร้องอย่างเหลืออด

    “.... อีปุยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”

    “มึงจงไปทำแท้งซะ!” ปารวีชี้หน้าลูกสาวเอ่ยเสียงเรียบ แต่เด็กสาวกลับเบ้ปากพลางเชิดหน้าตอบ

    “...หนูจะคลอดเด็กคนนี้” คำตอบของหล่อนทำให้มารดาโกรธจนหูอื้อตาลายไปหมด

    “เอ็งจะบ้าเหรอวะ! สองคนแม่ลูกก็แทบจักอดข้าวกินอยู่แล้ว ถ้าเพิ่มมาอีกคน มีหวังเอ็งกับข้าต้องตายแน่ๆ อีกอย่างเอ็งก็ยังเรียนไม่จบ” มารดาของหล่อนตวาดเสียงลั่น

    “แล้วไงล่ะแม่ ..หนูอยากเลี้ยงเด็กคนนี้.. เค้าเกิดขึ้นมาด้วยความรัก” ปัญชิกาเชิดหน้าขึ้น กล่าวอย่างภาคภูมิ

    “อีปุย! เอ็งรู้มั้ยว่าเอ็งอายุเท่าไหร่! แล้วผัวเอ็งมันอายุเท่าไหร่!”

    “แหม.. เรื่องแบบนี้อายุไม่เกี่ยวหรอก!”

    ปารวีถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย.. บางทีอาจเป็นความผิดของหล่อนเองที่เลี้ยงลูกให้ออกมานิสัยมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ จึงได้แต่เอ่ยเสียงอ่อนอย่างยอมจำนน 

       “แล้วผัวเอ็งมันรู้รึยัง ?”

    “ยังเลยจ๊ะ หนูว่าจะรอหาโอกาสเหมาะๆ ก่อน” เด็กสาวตอบยิ้มหวาน.. เธอรู้อยู่แล้วว่าท้ายที่สุดเธอก็ต้องชนะ...

    “โอ๊ย! ข้าล่ะปวดกบาล! ให้ฝ่ายนู้นออกค่าทำแท้งแล้วก็ชดเชยค่าเสียหาย เท่านี้ก็หมดเรื่อง!”

    “บ้าสิแม่! ชีวิตหนึ่งชีวิตนะ เงินแค่นั้นมันจะทดแทนกันได้ยังไง” ปัญชิกาแหว ลูบท้องแบนราบที่มีอีกหนึ่งชีวิตอาศัยอยู่ภายในของเธอเบาๆ อย่างรักใคร่...

    ก่อนลุกขึ้นเปิดตู้เสื้อผ้าควานหาเดรสสีขาวบริสุทธิ์ในกองผ้าที่ถูกพับเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบขึ้นอวดมารดา

    “แม่! ชุดที่เขาเก็บเงินซื้อมาให้! สวยมั้ย ?” เด็กสาวเอ่ยยิ้มหวานให้มารดาที่ทำตาปะหลักปะเหลือกใส่

    “เออ!” หล่อนไม่เคยคิดว่าอนาคตอันใกล้นี้จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถตั้งรับได้ทัน...
 
     เด็กสาวในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์คล้องแขนเรียวของตนกับแขนเล็กๆ ของเด็กหนุ่มไว้แนบแน่น... นี่เป็นวันหยุดที่เธอรอคอย.. เพราะในวันธรรมดานั้นเมื่ออยู่คนละระดับชั้นทำให้มีเวลาพบปะกันน้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย... เว้นเสียแต่ตอนเย็นในวันที่เธอไม่มีงานพิเศษ.. ซึ่งมันหาได้น้อยเหลือเกิน...

    ก้องภพลอบถอนหายใจ.. เม้มริมฝีปากเมื่อกระหวัดนึกถึงคำขาดของเจ้าวุธเพื่อนตั้งแต่ประถมว่าให้เลือกระหว่างมันหรือสาวรุ่นพี่คนนี้.. เขาไม่รู้ว่าทำไมมันถึงโมโหโกรธานักเมื่อเขาบอกมันว่าเขากำลังคบอยู่กับปัญชิกา มันพยายามหาเรื่องในอดีตของเธอมาบอกเล่า ซึ่งก็ทำให้เขาไขว้เขวไปไม่น้อย...

    ปัญชิกาเป็นผู้หญิงสวย รูปร่างดี... มีผู้ชายหมายปองเธอหลายคน แต่เธอก็ไม่เคยตอบรับใครเลย จนมาพบเขา... ช่วงแรกเขาก็หลงเธออยู่หรอก แต่เรื่องที่ว่าบ้านของเธอยากจนมากจนต้องมาเกาะเขากินนั้นก็ทำให้เขากลัวเป็นอย่างที่เพื่อนว่า เมื่อได้เห็นสถานภาพของครอบครัวเธอ.. แม้เธอจะไม่เคยขอเงินจากเขาซักบาทซักสตางค์เลยก็ตาม...

    “พี่ปุย..”

    “... ?” เด็กสาวอมยิ้มเอียงคอมองเขา..

    “พี่จำคำพูดของพี่ได้มั้ย ?”

    “ที่พี่บอกผมว่า ความรัก...ก็เหมือนผีเสื้อ”

    “ทำไมเหรอ ?” ปัญชิกาถามงงๆ

    “แล้วผีเสื้อตัวผู้ก็จะตายหลังจากได้ผสมพันธ์ ....ผมแค่อยากบอกว่าผีเสื้อตัวนั้น....มันคงตายไปแล้วล่ะ” จบประโยค.. ราวกับสายฟ้าฟาดเข้าสู่กลางใจเธอ... ปัญชิกาแกล้งเอ่ยถามแม้เธอจะเข้าใจความหมายของมันอย่างแจ่มชัด 

    “ก้องหมายความว่าไง ?”

    “ผมไม่ได้รักพี่แล้ว”

     “...ก้อง” คำตอบตรงไปตรงมาของเด็กหนุ่มทำให้เธอครางอย่างไม่เชื่อหู ทั้ง ๆ ที่วันนี้เธอตั้งใจจะบอกข่าวดีให้เขาทราบแท้ๆ ...แต่ทำไมความรักของเขามันช่างจบลงได้อย่างรวดเร็วถึงเพียงนี้ ?...

    “เราเลิกกันนะ” น้ำเสียงและใบหน้าที่นิ่งเรียบของก้องภพทำให้เธอต้องละล่ำละลักถามอย่างไม่เข้าใจ

    “...บอกพี่มา ว่าเพราะอะไร ? ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ?.. พี่ทำอะไรให้ก้องไม่พอใจเหรอ ?”

    “เปล่า..” เด็กหนุ่มเบือนหน้าหนีท่าทีของเด็กสาวตรงหน้า.. เขาไม่อยากใจอ่อน.. ความจริงเขาก็ไม่ได้ชอบพอกับเธอเท่าไรอยู่แล้ว เพียงแค่เขาอกหักจากเพื่อนของเธอ... แล้วเธอก็มาดามใจให้เขาเท่านั้น...

    “งั้นก็บอกพี่มาสิ! พี่จะทำทุกอย่าง!”

    “ผมแค่ไม่ได้ชอบพี่แล้ว...”

    “แล้วพี่ต้องทำยังไง..? ก้องถึงจะชอบพี่”

    “ไม่รู้...”

    “หรือว่าก้องมีคนอื่น ?”

    “ผมไม่ได้มีคนอื่นหรอก.. แต่ผม.. ผมขอโทษจริงๆ” เด็กหนุ่มเอ่ยคำขอโทษก่อนตัดสินใจเดินจากเธอไป แต่หากปัญชิกาพยายามยื้อยุดแขนเล็กๆ ของเขาเอาไว้

    ก้องภพพ่นลมหายใจออกเบาๆ... ทำไมเธอถึงช่างตื้อแบบนี้นะ ?... หรือว่าเธอตั้งใจจะเกาะเขากินจริงๆ ?... 

    “เดี๋ยวก้อง!.. แล้วลูกของเราล่ะ ?”

    “พี่หมายความว่ายังไง ?”

    “พี่ท้อง”

    “พี่ปุยว่าอะไรนะ ?!” คำตอบของปัญชิกาทำให้เด็กหนุ่มหันกลับมามองเธอตาค้าง...

    “พี่บอกว่าพี่ท้อง ก้องจะไม่รับผิดชอบพี่เหรอ ?”

    “จริงรึเปล่า ? ผมอายุแค่ ๑๓ เองนะ จะไปมีลูกได้ยังไง ?” แม้พวกเขาจะเคยร่วมรักกันหลายครั้งตามประสาเด็กอยากรู้อยากลอง แต่เด็กหนุ่มไม่เคยคิดว่าน้ำรักของเขาจะสามารถทำให้ผู้หญิงท้องได้จริงๆ

    “พี่ท้องจริงๆ” ก้องภพเม้มริมฝีปากแน่น... หรือว่าที่ไอ้วุธบอกจะจริง ว่าเธอต้องการเกาะเขากิน ?? เด็กหนุ่มพยายามตอบเลี่ยงๆ เพื่อหนีจากสถานการณ์อันน่ากระอักกระอ่วนนี้...

    “ผมอยากปรึกษาแม่.. ขอเวลาผมหน่อย”

    “หมายความว่าก้องจะไม่คืนดีกับพี่ ?”

    “ผมไม่ได้ชอบพี่แล้ว.. !” ก้องภพกล่าวอย่างเหลืออด.. ก่อนยกประโยคที่เขาจำได้ติดหู...

    “ถึงแม้นายอาจจะเศร้า ถ้ามันบินหนีไป แต่ก็อย่าเสียใจ เพราะอย่างน้อย เราก็รู้ว่า มันยังมีชีวิตอยู่” คำกล่าวของเขาทำให้เธอตะลึงค้าง... ปล่อยมือให้เขาเดินจากไปอย่างง่ายดาย ...ปัญชิกาไม่นึกว่าคำพูดปลอบโยนของตนจะเป็นการขุดหลุมฝังตัวเองให้ตายทั้งเป็น...

    เธอไม่น่าโง่ชอบเด็กผู้ชายคนนี้... ยกความบริสุทธิ์ให้คนที่ไม่เคยมีความรักให้เธอเลยแม้แต่น้อย.. หญิงสาวปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้ม... แล้วตัวเมียก็จะฟักไข่...ก่อนจะตายตามตัวผู้ไป....เธอจะไม่ยอมให้มันเป็นเช่นนั้นเด็ดขาด...
 
    เวลาผ่านไปเกือบเดือนก็ไม่มีวี่แววของเด็กผู้ชายคนนั้น ท้องของเธอก็โตขึ้น โตขึ้นทุกวัน... อีกไม่นานมันคงไม่อาจพรางสายตาจากคนรอบข้างได้...เวลาเธอไปหาที่ห้องก็ไม่เคยเจอ.. เหมือนเขาพยายามจะหลบหน้า... แต่ในที่สุดก็เหมือนโชคชะตาเป็นใจให้ ..ที่แคบๆ ของโรงเรียนทำให้เธอสามารถเจอตัวเขาในโรงอาหารจนได้...

    “นี่ก้องหมายความว่ายังไง ? แล้วทำไมถึงไม่ติดต่อมาหาพี่บ้างเลย ?” เธอทักเขาอย่างไม่สบอารมณ์นัก

    “ผมไม่กล้าบอกแม่”

    “งั้นพี่จะไปบอกให้เอง” ก้องภพชักสีหน้าก่อนเดินหนีเธอไปอย่างไม่ไยดี...

    สุดท้ายเธอก็ต้องเป็นฝ่ายที่ไปหาเขาถึงบ้านเรือนไทยใต้ถุนสูงเรือนใหญ่.. เด็กผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นน้องของก้องภพออกมาต้อนรับและเดินนำเธอไปยังห้องของพี่ชาย...

    เด็กหนุ่มดูสีหน้าไม่ดีนักเมื่อเสียงหยอกเย้า หัวเราะคิกดังออกมาจากห้อง.. ปัญชิการีบจ้ำเท้าเดินนำถือวิสาสะเปิดประตูไม้ออกอย่างรวดเร็วเผยให้เธอได้เห็นภาพคนรักเก่ากำลังประกบปากกับคนอื่นบนเตียงอย่างเต็มตา..  แต่คนที่ก้องภพอยู่ด้วยนั้นกลับเป็น........เด็กผู้ชาย....??

    และที่เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่านั้นก็คือเด็กผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของก้องภพที่เธอเคยฝากความไว้เนื้อเชื่อใจให้ดูแลเขา....

    ก้องภพสะดุ้งสุดตัว.. มองผู้มาเยือนด้วยความงงงันก่อนส่งสายตาตำหนิให้น้องชาย... หลังจากเลิกกับปัญชิกาความสัมพันธ์ของเขากับวุธก็ดีขึ้นจนมันเริ่มจะล้ำเส้น ยิ่งรู้ว่าเพื่อนชอบเขาด้วยแล้วความสัมพันธ์ก็ยิ่งก้าวหน้าตามประสาอยากรู้อยากลองของเขา..

    “พวกแก...พวกแกมันวิปริต!” เด็กสาวหวีดเสียงร้องเกรี้ยวกราด มองชายหนุ่มด้วยความผิดหวังและเสียใจ... นี่เธอแพ้เด็กผู้ชายหรือเนี่ย ??...

    “ฉันจะฟ้องคุณน้า! ฉันจะบอกให้หมดว่าพวกทำอะไรกัน!!” ปัญชิกาตวาดเสียงสั่น จ้ำเท้าเดินหนีไปจากภาพบาดตานั้น 

    “พี่ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ” กล้าหาญรีบวิ่งตามสาวรุ่นพี่ไปติด ๆ.. พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้พี่ชาย ...แต่เธอตวาดกลับน้ำตาคลอ

    “จะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง ? แกดูที่มันทำกับฉันสิ!”

    “เอะอะอะไรกัน ?” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามเสียงเรียบ... มองผู้มาเยือนด้วยสายตาตำหนิ..

    “แม่..”

    “คุณน้า.. หนูมีเรื่องจะเรียนคุณน้าค่ะ” ปัญชิกาบอก ปรายตามองกล้าหาญที่ทำหน้าไม่สู้ดีนัก..

    “ตามฉันไปที่เรือนรับรองสิ” ดารัตน์เอ่ยเชื้อเชิญก่อนเดินนำหล่อนไป..ก้องภพที่รีบวิ่งกระหืดกระหอบออกมาหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นปัญชิกาเดินตามมารดาของตนไป.. เด็กหนุ่มรีบเดินตามไปติดๆ

    “พี่ปุยอย่าบอกแม่ได้มั้ย ?”

    “ผมขอร้องล่ะ” เด็กสาวเชิดหน้าหนีอย่างมีทิฐิ.. ไม่มีทางเสียหรอกที่เธอจะยอมเพื่อคนแบบนี้..

    เมื่อมาถึงเรือนรับรองปัญชิกานั่งพับเพียบเรียบร้อย พยายามทำตัวสงบเสงี่ยมที่สุด

    “เอ้า มีเรื่องอะไรหรือ หนูปุย ?” หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเอื้ออาทร.. เด็กสาวแอบเหลือบมองก้องภพที่มีท่าทีลุกลี้ลุกลน ก่อนตัดสินใจบอก...

    “คุณน้าคะ....คือ...”

    “คืออะไร ?” ปัญชิกาเหลือบมองก้องภพที่มองเธอด้วยสายตาเว้าวอน... ก่อนตัดสินใจหลับหูหลับตาพูดออกไป

    “...หนูท้องค่ะ”

    “ว่าอย่างไรนะ ?” ดารัตน์เอ่ยถามอย่างใจเย็น ดวงตาดุมองลูกชายคนโตเขม็ง...

    “หนูท้องกับก้องค่ะ”

    “ฉันจะเชื่อเธอได้อย่างไร ?” ปัญชิการู้อยู่แล้วว่าต้องถูกถามเช่นนี้ จึงหยิบเอกสารของโรงพยาบาลขึ้นมาให้ดารัตน์อ่าน...หญิงวัยกลางคนกวาดตามองเอกสาร.. ก่อนพ่นลมหายใจออกเฮือกใหญ่ และส่งคืนมันกลับ...

    “กล้า” เธอเอ่ยเรียกลูกชายคนเล็กก่อนพยักพเยิดให้หยิบกระเป๋าสตางค์มาให้.. ดารัตน์หยิบเงินสดจำนวนหนึ่งซึ่งถือว่ามากสำหรับเธอออกมาวางไว้ตรงหน้า....

    “รับเงินจำนวนนี้ไปเอาเด็กออกเสีย” ปัญชิกาเม้มริมฝีปากแน่น...

    “ถ้าหนูปฏิเสธล่ะคะ ?”

    “หล่อนก็จะไม่ได้อะไรเลย หล่อนก็เห็นอยู่ว่าพ่อก้องอายุแค่เท่าไร.. แล้วหล่อนก็อายุแค่เท่าไร ยังต้องแบมือขอเงินแม่ จะมีความรับผิดชอบดูแลคนอีกคนหนึ่งได้อย่างไร ? แล้วยิ่งกว่านั้นมันจะเสียการเรียน เสียอนาคต... อีกอย่างฉันก็รู้จักหล่อนไม่ดีพอ..”

    “กลัวว่าลูกในท้องนี้จะไม่ใช่หลานคุณเหรอคะ ?”

    “...” สีหน้าเรียบเฉยของดารัตน์ทำให้เธอน้ำตารื้อ.. เธอไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนไหนมาก่อน.. แต่ก็ยากที่จะทำให้ใครเชื่อเพราะเยื่อพรหมจรรย์ของเธอมันฉีกขาดไปก่อนแล้วด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ นั่นทำให้ไม่มีเลือดพรหมจารีไหลออกมาซักหยดช่วยยืนยันความบริสุทธ์ของเธอ...

    “ก็ได้ค่ะ...” เด็กสาวจำใจรับเงินจำนวนนั้นมา.. ก้องภพมองภาพนั้นด้วยความชิงชัง... เมื่อประจักษ์แก่สายตาว่าเธอต้องการเพียงแค่เงินจริงๆ...

    ดวงตาคู่สวยมองเหม่อไปยังท้องฟ้าสีแดง... พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน... ทุกอย่างกำลังจะอยู่ในความมืด.... ท้องฟ้าสีแดง... เหมือนเลือดสีแดงสดที่ไหลรินของเธอ...

    เงินที่เธอคิดว่าจะนำไปเอาเด็กออกนั้นถูกคัดค้านหัวชนฝาจากมารดา.. แต่ไม่เป็นไร... เธอยังมีทางเลือกอื่นอีกเยอะแยะ ...ปัญชิกาพยายามทำทุกอย่าง... ทุกวิธีทาง... กินยาขับเลือดก็แล้ว .. ทำให้เกิดอุบัติเหตุก็แล้ว.. ทำไมมันถึงไม่ตายไปซักทีนะ...

    เด็กคนนี้เป็นเสนียดจัญไรที่คอยเกาะกินเลือดเนื้อของเธอ.. เป็นสัญลักษณ์แห่งความอัปยศในชีวิตเธอ... ไอ้เด็กอัปรีย์ที่เกิดจากผู้ชายลักเพศนั่น...เป็นสิ่งที่เธอรังเกียจที่สุด... เธอจะทำลายมัน... หยุดเกาะกินเลือดเนื้อจากฉันซักที...

    “ฉันเกลียด! เกลียดมัน! เกลียดดดด..ด.....ด…” ปัญชิกากระหน่ำทุบครรภ์ของตนแรงๆ ..จนมารดาต้องวิ่งเข้ามาห้ามปราม

    “อีปุย!”

    “เอ็งจักบ้ารึไง! นี่ลูกเอ็งนะ!” เด็กสาวสั่นศีรษะกรีดเสียงร้องน้ำตาไหลด้วยความเคียดแค้น จนปารวีทนไม่ไหวโวยเสียงเข้ม

    “ใครเป็นคนบอกข้าวะ! ว่าเด็กคนนี้เกิดขึ้นมาด้วยความรัก! ความรักของเอ็งมันมีแค่นี้เองหรือ ?”

    เด็กสาวชะงัก มองแววตามั่นคงของมารดาตน...ก่อนร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ น้ำตาไหลพรากจนดวงตาแดงช้ำ.. เธอร้องไห้จนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว... อ้อมแขนเพรียวบางโอบกอดท้องที่โป่งนูนของตนเอง...

    ในที่สุดก็ถึงวันที่เธอรอคอย... หลังจากต้องทนทุกข์ทรมานอุ้มเด็กอยู่ในท้องมานานหลายเดือน ...ต้องหยุดเรียน หยุดทำงาน ปล่อยให้มารดาเป็นฝ่ายหาเงินแต่เพียงผู้เดียว...

    “ไม่ออกมาปัญญาอ่อนก็บุญเท่าไหร่แล้ว.. เข้มแข็งจริงๆ เลยนะหลานข้าเนี่ย”

    “เอ็งตั้งชื่อให้ลูกหรือยังวะ ?” ปารวียิ้มถาม นิ้วมือเรียวเขี่ยแก้มยุ้ยของเด็กทารกบนเตียงอย่างรักใคร่

    “ตั้งแล้วแม่.. มันชื่อปรีย์”

    “ชื่อแปลกว่ะ ทำข้านึกถึงพวกหัวปลีอะไรแบบนั้น”

     “มันชื่อนี้เหละแม่.. เหมาะกับมันแล้ว”

    “แล้วมันแปลว่าอะไรวะ มีที่มามั้ย ?”

    “มันเกิดจากความอัปรีย์ไงแม่” คำตอบของลูกสาวทำให้หล่อนขมวดคิ้วมุ่นก่อนตวาดแหว

    “อีปุย! นี่มึงทำไมตั้งชื่อลูกไม่เป็นสิริมงคลแบบนี้วะ!” เสียงตวาดดังของปารวีทำให้เด็กน้อยเริ่มส่งเสียงกระจองอแง.. หล่อนจึงอุ้มเด็กทารกไกวไปมาเบาๆ

    “ไม่เป็นไรนะลูก โอ่ โอ๋ เดี๋ยวยายตั้งชื่อใหม่ให้แล้วกัน”

    “ชื่อปุ้นดีมั้ย ? ข้าวปุ้นไง ข้าอุตส่าห์คิดมาทั้งคืน” หญิงวัยกลางคนบอกกับลูกสาว ก่อนมองทารกในอ้อมแขนที่เริ่มหยุดร้อง...

    “แน๊ะ! หัวเราะชอบใจ น่าเกลียดน่าชังเสียจริง ..ให้มันชื่อข้าวปุ้นแล้วกันนะ”

    “..หนูฝากมันด้วยแล้วกัน” ปัญชิกายิ้มมองภาพมารดาเล่นกับลูกของตน... ก่อนหุบยิ้มมองออกไปนอกหน้าต่าง..

    หลายวันหลังจากนั้นเมื่อเธอฟื้นตัวและสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ...เด็กสาวมองเงินในมือ ก่อนกรีดดูจำนวนคร่าวๆ... ประมาณเกือบสามแสนที่ได้จากการขายอวัยวะภายใน.. เมื่อรวมกับค่าทำแท้งที่เธอได้และหักค่าใช้จ่ายในการทำคลอดแล้วมันน่าจะพอให้แม่ของเธอเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างสบายๆ...เธอไม่สามารถตอบแทนพระคุณมารดาไปได้มากกว่านี้อีกแล้ว....

    ปัญชิกาฝากเงินทั้งหมดที่หามาได้อย่างผิดกฎหมายให้มารดา... เธอกดเบอร์โทรที่ท่องจำจนขึ้นใจในตู้สาธารณะแห่งหนึ่ง....

    “สวัสดีค่ะ ขอสายก้องหน่อยค่ะ”

    “พ่อก้องไม่อยู่ลูก.. ให้แม่บอกว่าใครโทรมาจ๊ะ ?”

    “งั้นไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากค่ะ..” ปัญชิกาวางสายลง.. เก็บเหรียญที่ร่วงหล่นภายในตู้ ....เธอรออย่างใจเย็น...เด็กสาวหมั่นโทรจนในที่สุดก้องภพก็รับโทรศัพท์....

    “สวัสดีครับ”

    “ก้อง.. นี่พี่เองนะ...”

       “พี่ปุย.. โทรมาทำไมอีก ?”
 
      “พี่แค่อยากเจอหน้าก้องเป็นครั้งสุดท้าย...”

      “พี่จะรอที่ดาดฟ้าโรงเรียนตอนเช้าพรุ่งนี้ ถ้าก้องไม่มาพี่จะบอกคุณน้าเรื่องนั้น...” สายโทรศัพท์ตัดทันทีเมื่อปัญชิกากล่าวจบประโยค ...ก้องภพหน้าซีดเผือด วางสายโทรศัพท์ด้วยมือสั่นเทา....
 
    ปัญชิกาแต่งกายด้วยชุดเก่ง... เดรสสีขาวที่ก้องภพซื้อให้... เธอแอบเข้ามาในโรงเรียนเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดาดฟ้าและรอเวลา.. เด็กสาวพยายามคิด... หาวิธีทำลายก้องภพทุกวิธีทาง... มันมีอยู่เต็มสมองเธอไปหมด... แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ประจักษ์ว่า...เธอทำไม่ได้...

    “พี่ปุย” เสียงคุ้นหูเอ่ยเรียกชื่อเด็กสาวแผ่วเบา... ปัญชิกาหันไปเผยยิ้มให้แก่ต้นเสียง...

    “นึกว่าเธอจะไม่มาซะแล้ว”

    “ออกมาจากตรงนั้นเถอะ” ก้องภพบอกเมื่อเห็นว่าเธอยืนอยู่ในพื้นที่เสี่ยง.... แต่เด็กสาวไม่ใส่ใจคำพูดของเขา...

    “ฉันไม่รู้นะ ว่าตลอดมาเธอคิดกับฉันยังไง ...แต่ตอนนี้ฉันเกลียดเธอ...” สรรพนามแทนตัวที่ฟังดูห่างเหิน ทำให้ปัญชิกาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ดูราวกับไม่ใช่ผู้หญิงที่เขารู้จัก... เธอดูน่ากลัว...

    “ฉันขอสาปแช่งไม่ให้เธอได้มีวันได้พบความรัก.. ถึงมีคนมารักมาชอบแต่ก็ไม่สามารถเห็นถึงความจริงใจของเขา ...แม้จะมีความรักแต่สุดท้ายความเห็นแก่ตัวของเธอก็จะทำให้ทุกอย่างพังทลาย...ฉันขอสาปแช่งเธอด้วยชีวิตของฉัน” เด็กสาวกล่าวคำสาปแช่งเขาราวกับมันเป็นคำพูดที่แสนจะธรรมดาพร้อมกับเหยียดยิ้มหยัน

    “ทำไมพี่ปุยพูดแบบนี้ ? อย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งเราก็เคยมีความรู้สึกดีๆ ให้กันไม่ใช่เหรอ ?” คำพูดที่ถูกจัดสรรให้ดูดีทำให้ปัญชิกาหัวเราะเย้ยหยัน... โชคดีเหลือเกินที่ผู้ชายที่เธอรัก ตายไปแล้ว...

    “คนที่ฉันรัก... ตายจากฉันไปนานแล้ว”

    หญิงสาวเผยอยิ้มเย็นชา ชำเลืองมองเด็กหนุ่มที่เธอแสนชิงชังเป็นครั้งสุดท้าย ...ก่อนค่อยๆ ก้าวขาออกไปยังพื้นที่ว่างเปล่า... ปล่อยให้ก้องภพมองตาค้างด้วยความตกตะลึง...

    .....ถึงฉันจะไม่สามารถทำให้แกหันกลับมารักฉันได้อีก... แต่ฉันสามารถทำให้แกจดจำฉันไปจนวันตายได้....   ร่างบอบบางร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วงด้วยระดับความสูงของชั้นเรียน กระแทกพื้นเสียชีวิตทันที......แล้วตัวเมียก็จะฟักไข่...ก่อนตายตามตัวผู้ไป....
 
    ก้องภพพ่นลมหายใจออกเบาๆ.. เขาไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้... เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เธอตาย ความจริงเขาไม่คิดจะมางานศพของเธอด้วยซ้ำ.. ถ้าหากไม่ติดว่าแม่ของเขาสั่งและโมโหโกรธาเมื่อเห็นว่าเขาไม่ดูแลรับผิดชอบเรื่องของตัวเอง... นี่ถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูพ่อเขาต้องโดนเฆี่ยนจนหลังลายแน่ๆ

    เขาต้องวุ่นวายหลายต่อหลายเรื่อง มีข่าวลือหนาหูภายในโรงเรียนจนเขาไม่สามารถทนอยู่ได้ ต้องขอให้แม่ช่วยทำเรื่องย้ายโรงเรียนเข้าไปเรียนในต่างเมืองแทน

    งานศพของปัญชิกาถูกจัดขึ้นหน้าบ้านของเธอ.. มีแขกมาร่วมงานมากกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ...เมื่อปารวีเห็นหน้าเขาเท่านั้นแหละ หล่อนก็ตวาดเสียงดังจนเพื่อนๆ ต้องเข้ามาช่วยกันห้ามปราม...ก้องภพเดินตัวลีบตามติดหลังมารดาเมื่อตนกลายเป็นจุดสนใจ...

    “พวกมึงจงไสหัวไปซะ! อย่าให้เราได้เจอะเจอกันอีก!!”

    “อย่างน้อยก็ขอให้ลูกชายฉันได้เห็นหน้าเด็ก.. ให้ฉันได้เจอหน้าหลาน...” ดารัตน์เอ่ยเกลี้ยกล่อมด้วยความใจเย็น... แต่ปารวีแค้นเคืองจนไม่อยากจะเห็นหน้าของพวกเขาแม้ซักวินาที...

    “อย่าหวังไปเลยว่าพวกเอ็งจะได้เห็นหน้าหลานข้า!!”

    ดารัตน์พยายามเกลี้ยกล่อมอยู่หลายนาทีจนในที่สุด เธอจึงยื่นซองให้ปารวี... “นี่เป็นค่าทำขวัญ รับไว้เถิดจ๊ะ”

    หญิงวัยกลางคนเดือดดาล ไอ้คนตระกูลนี้เห็นพวกหล่อนเป็นอะไร ?.. มีอะไรไม่ลงรอยก็ให้เงิน    ปารวีตัดสินใจรับซองนั้น.. ก่อนฉีกออกเป็นชิ้นๆ.. และกล่าวคำที่ครั้งหนึ่งลูกสาวของเธอเคยกล่าวเพื่อรักษาเด็กในท้อง...

    “....ชีวิตหนึ่งชีวิตเงินแค่นั้น.. มันจะทดแทนกันได้ยังไง ?....” หล่อนพยายามสูดหายใจเข้าหลายครั้งเพื่อสงบสติอารมณ์... ก่อนตัดสินใจเอ่ยบอก...

    “ข้าให้พวกเอ็งเห็นหน้าหลานข้าแค่ครั้งเดียวนะโว้ย แล้วอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก” ปารวีเดินนำเข้าไปในตัวบ้าน...ดารัตน์รู้สึกเสียหน้าไม่น้อย... แต่ก็เดินตามไปโดยดี....

    “หลานฉันมีชื่อหรือยัง ?”

    “มันชื่อข้าวปุ้น” ปารวีตอบเสียงห้วน...

    “แปลว่าขนมจีนน่ะหรือ ? ...ผิวขาวจังเลย ตาโต๊โต... เข้ามาสิพ่อก้อง” ดารัตน์อุ้มหลานตนอย่างรักใคร่.. มองสำรวจผิวพรรณของทารกน้อยอย่างพึงใจ..

    ก้องภพมองดูลูกชายของตัวเองเต็มตา... เด็กหนุ่มจ้องมองทารกน้อยนิ่งราวกับจะจดจำทุกสิ่งไว้... ทั้งใบหน้า ดวงตา จมูก ปาก.. เด็กหนุ่มเบ้หน้า.. ยังกะลูกลิงชะมัด.. สาบานมาสิว่านี่คือลูกของเขาจริงๆ......และนั่นเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เจอกัน...
 

    
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 09-02-2012 10:10:37
ดารัตน์เว้นระยะเวลาให้ปารวีทำใจ.. เธอไม่อยากเทียวไปเทียวมาให้หญิงอีกคนรำคาญใจนัก... นับจากวันนั้นปารวีไม่เคยให้เธอได้พบหน้าหลาน... แม้จะมาเยี่ยมไม่บ่อยนักก็ตาม...

    ปารวีเมื่อมีเงินมากก็ใช้มาก เก็บเงินแทบไม่อยู่มือ ...นิสัยเก่าๆ ทั้งกินเหล้า เล่นพนัน กำเริบจนเงินที่ลูกสาวเหลือไว้ให้แทบจะไม่มีเหลือเผื่อให้หลานเข้าเรียน

    ก้องภพนั่งอยู่ในรถ กดเกมส์ในมืออย่างเมามัน.. เด็กหนุ่มเข้าสู่ช่วงเจริญเติบโตเต็มวัยทำให้มีร่างสูงชะลูด แขนขาดูเก้งก้างไปหมด... ถ้าหากแม่เขาไม่บังคับเขาก็คงไม่ต้องมานั่งหง่าวอยู่ในรถแบบนี้หรอก.. ยังดีที่มีเกมส์บอยแก้เหงา.. เพราะไอ้น้องชายตัวดีที่พามาด้วยก็ไม่ค่อยพูดค่อยจาเอาแต่นั่งอ่านหนังสือทั้งวัน...

    “เฮ้ย! อะไรวะ ?” ก้องภพกล่าวอย่างตกใจเมื่อมีเสียงดังเหมือนมีคนเคาะรถ

    “เด็กแถวนี้มั้ง” กล้าหาญบอกก่อนเหลือบมองกระจกข้าง ...เด็กหนุ่มเผยอยิ้มเมื่อเห็นตัวการกำลังเล่นกับรถของเขาอยู่... เด็กหนุ่มเปิดกระจกรถเอ่ยถาม

    “เล่นอะไรอยู่ฮะ เราน่ะ ?” ดวงตาใสแจ๋วเงยขึ้นมองเขางงๆ.. ก่อนก่อนทำปากจู๋แล้วเป่านิ้วชี้ให้เขาเงียบๆ..

    ปรีย์ถูกยายสั่งให้หลบออกมาข้างนอกก่อน.. เด็กน้อยสงสัยนักว่าทำไมทุกครั้งที่มีรถคันใหญ่ๆ สวยๆ มาจอดหน้าบ้านยายต้องสั่งให้เขาหลบออกไปไกลๆ บ้าน... และวันนี้เขาจะต้องรู้ให้ได้ว่ามีตัวอะไรอยู่ข้างใน ยายถึงได้กลัวนักกลัวหนา....

    ก้องภพขมวดคิ้ว บอกน้องชายเสียงเรียบ “ไอ้กล้าจะคุยกับเด็กก็ออกไปข้างนอก แอร์ออกหมด”

    “นิดหน่อยเองพี่ก้อง ขี้บ่นยิ่งกว่าแม่อีก” กล้าหาญบ่นอุบก่อนดับเครื่องและลงจากรถ...

    “นี่แก!” ก้องภพชี้หน้าน้องชายก่อนเอื้อมตัวไปเปิดเครื่องยนต์ใหม่...

    กล้าหาญอุ้มเด็กน้อยพลางมองหาคนที่เป็นผู้ปกครองของเด็ก... เด็กหนุ่มคะเนอายุน่าจะยังไม่เข้าชั้นเรียน.. ทำไมถึงออกมาเดินเตร่ข้างนอกคนเดียวแบบนี้ ?

    “แล้วพ่อ แม่ หนูไปไหน ?” ศีรษะกลมป้อมส่ายไปมาเป็นคำตอบ.. ทำให้กล้าหาญขมวดคิ้วมุ่น

    “ไม่รู้เหรอ ? แล้วมีเพื่อนแถวนี้มั้ย ?” ปรีย์ไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย ดวงตากลมโตนั้นสองส่องเข้าไปในตัวรถที่มีพี่ชายเขานั่งเล่นเกมส์กดอยู่...

    “นั่นเค้าเรียกว่าเกมส์บอย” เด็กหนุ่มพยักพเยิดไปทางพี่ชายแล้วบอกคนในอ้อมแขน

    “เห ?” เด็กน้องขมวดคิ้วเอียงคอมองเขางงๆ

    กล้าหาญเปิดประตูรถบอกพี่ชายตน..  “พี่ก้องก็ให้น้องเค้าดูหน่อยสิ ในมือพี่น่ะ”

    “ฮึ!” แต่ก้องภพส่งเสียงในลำคอก่อนปิดประตูรถและล็อคไม่ให้น้องชายเข้าไปก้าวก่าย...

    “อย่ายุ่งกับพี่เขาเลย สงสัยช่วงนี้เมนส์มา” กล้าหาญบอกคนในอ้อมแขน ปล่อยให้เด็กน้อยไม่เข้าใจว่าเมนส์แปลว่าอะไร...

    “หมั่นเขี้ยวจังเลย แก้มยุ้ยเชียว” กล้าหาญว่าก่อนใช้ริมฝีปากงับแก้มนิ่มเบาๆ

    ผ่านไปไม่กี่นาทีกระจกรถก็เลื่อนลง ก้องภพบอกน้อยชายเสียงหงุดหงิด

    “กล้าไปดูแม่ให้ทีสิ ทำไมนานจัง” กล้าหาญเลิกคิ้ว ก่อนวางเด็กในอ้อมแขนลง ...เมื่อเห็นน้องชายตนเดินไปอย่างว่าง่ายแล้วก้องภพเหลือบมองเด็กที่ถูกทิ้งไว้กับเขา..

    “มานี่สิ ไอ้ตัวเล็ก”

    “อยากลองเล่นใช่มั้ยล่ะ ?” เด็กหนุ่มแกว่งเครื่องสี่เหลี่ยมขนาดพอดีมือไปมา.. หลอกล่อให้ปรีย์ปีนขึ้นไปในรถ แล้วเขาก็ปิดประตู...

    “เฮ้ย! เดี๋ยวก็พังหรอก! ตั้งหลายพันเลยนะ!” ก้องภพร้องเสียงหลง รีบดึงตัวเครื่องออกจากปากของไอ้ตัวเล็ก

    ปรีย์หัวเราะชอบใจ ยิ้มกว้างจนเห็นฟันหลอ  เด็กหนุ่มขยี้หัวไอ้ตัวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว.. เขาไม่ชอบเด็กตัวเล็กๆ เลย... แต่ไม่รู้ทำไมเวลาเห็นเด็กคนนี้หัวเราะจนเห็นฟันหลอแล้ว เขาถึงชอบใจนัก...

    “พี่ก้อง! เข้าไปข้างในกับกล้าหน่อยสิ” กล้าหาญเดินย้อนกลับมาอีกครั้ง แอบยิ้มเมื่อเห็นพี่ชายตนกำลังเล่นเกมส์ให้เด็กตัวเล็กในตักดู...

    “ทำไม ?” ก้องภพซ่อนความอายหันไปถามด้วยความสงสัย

    “แม่น่ะสิ ไล่กล้าออกมา มีป้าคนนึงยืนด่าแม่ฉอด ๆ เลย”เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นจึงรีบลงจากรถและตามน้องชายเข้าไปในบ้านที่เขาไม่เคยเยื้องกรายเข้าไปเลยตั้งแต่งานศพในวันนั้น...

    ปรีย์เดินตามเด็กหนุ่มทั้งคู่ไปด้วยความสงสัย... ยายของเขากลัวอะไรนักหนากับคนพวกนี้.. ไม่เห็นน่ากลัวเสียหน่อย ?..

    “เออ! มากันทั้งโขยงเลยทีเดียว ข้าจะได้ประกาศให้รู้ว่าพวกเอ็งไม่ต้องมาที่นี่อีก ทำดีเท่าไหร่ข้าก็ไม่เห็นใจพวกเอ็งหรอก...” ปารวีกอดอกว่าฉอดๆ ถลึงตามองเด็กตัวเล็กที่หล่อนเลี้ยงข้าวให้นมทุกวี่ทุกวัน ทำไมมันไปอยู่กับไอ้พวกนี้ได้!

    “ปรีย์! เอ็งมานี่!” ปารวีเอ่ยเรียกเสียงดัง.. ปรีย์สะดุ้งโหยงก่อนเดินไปหายายอย่างว่าง่าย.. แต่ตัวเล็กๆ ของเขาถูกดารัตน์คว้าไว้ทัน

    “หลานฉันเหรอ ?.. หลานชั้นใช่มั้ย ?”

    “ข้าวปุ้นใช่ไหมลูก ? มาให้ย่าดูหน้าดูตาหน่อย”

    “เอ็งปล่อยเดี๋ยวนี้นะ” ปารวีรีบเข้าไปยื้อแขนเล็กป้อมให้กลับมาหาหล่อน

     “โอ๊ย! หนูเจ็บ!” ปรีย์ร้องเสียงหลงเมื่อยายของเขาออกแรงดึงแขน.. จนดารัตน์ต้องเป็นฝ่ายปล่อยมือให้เด็กกลับไปหายายของเขา...

    “ขอร้องเถอะนะ.. ฉันยินดีรับเลี้ยงเด็กคนนี้”

    “ฝันไปเถอะ! พวกเอ็งทำชีวิตข้าฉิบหาย! เอาลูกข้าไปแล้ว ยังคิดจะมาเอาหลานข้าไปอีก!” ปารวีตวาดลั่นน้ำตาคลอ กอดร่างเล็กไว้แนบอกอย่างหวงแหน

    “ไสหัวไปเดี๋ยวนี้นะ! ...แล้วอย่ามาให้ข้าเห็นหน้าอีก ออกไป๊! ...ออกไปให้หมดทั้งฝูงเลย!” ดารัตน์หันมองลูกชายทั้งสองคน สูดลมหายใจเบาๆ ...ก่อนตัดสินใจเอ่ยลา..

    “แล้วฉันจะมาใหม่นะ”

    “ไม่ต้องมาให้ข้าเห็นหน้าอีก! ออกไป๊!” ปารวีออกปากไล่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนทรุดตัวลงซบอกเล็กๆ อย่างหมดแรง... เมื่อไหร่ไอ้พวกนี้จะเลิกจองเวรกับหล่อนและหลานชายเสียที...

    ดวงตาสุกใสขัดกับร่างกายที่เริ่มร่วงโรยมองเด็กน้อยตรงหน้านิ่ง... เธอควรจะปล่อยให้หลานมีชีวิตที่ดี.. หรือว่าปล่อยให้หลานตกระกำลำบากอยู่กับเธอดีหนอ ?....

    “ป้าเค้าแกล้งยายเหรอ ? ...ไม่ร้องนะจ๊ะยาย” เสียงใสว่าเบาๆ ซับน้ำตาจากดวงตาของปารวีก่อนกอดยายของเขาแน่น...

    “หนูจะอยู่กับยายเอง” หญิงวัยกลางคนสะอื้นฮัก... แล้วแบบนี้หล่อนจะยกเด็กคนนี้ให้ดารัตน์ได้อย่างไร ?... หล่อนยอมรับว่าเห็นแก่ตัว แต่ปรีย์เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ชีวิตของหล่อนสามารถดำเนินต่อไปได้....

    “ข้ากับเอ็ง จะไปจากที่นี่... จะไปในที่ๆ พวกมันตามหาไม่เจอ... พวกเราจะได้อยู่อย่างสงบสุขเสียที” ดวงตากลมโตแอบเหลียวกลับไปมองเด็กหนุ่มทั้งสอง...

    กล้าหาญหันกลับมาสบตากับเด็กน้อยพอดิบพอดี เด็กหนุ่มเผยยิ้มและโบกมือลา..
 
       “แม่ของเอ็งชื่อปัญชิกาแปลว่าปุยฝ้าย ส่วนเอ็งชื่อปรีย์...”

      “แปลว่าอะไรจ๊ะยาย ?”

     “ไม่รู้แม่เอ็งสิ คงต้องไปถามมันเองแล้วล่ะ”
.....................................................................
 :sad4:ไม่อยากจะมาต่อ แ่ต่คนแต่ง ท่านมีตอนพิเศษไว้ให้เชยชม ถึงที่มาของน้องปรีย์ และชื่อของน้อง อ่านแล้วมันก็ยังจี๊ดเหมือนเดิมอยู่ดี เป็นครอบครัวที่น่าสงสารจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: boworange ที่ 09-02-2012 15:29:57
 :o12:  ตอนพิเศษจริงๆอ่านไปน้ำตาตกไป....... :impress3:

 :o8:ไหนๆก็กรุณามาต่อแล้ว  ยังไงก็มาต่อเรื่อยๆนะคะ   :กอด1:

 :a5: อ่านแล้วโครตๆๆๆๆจะสงสารปรีย์เลยอ่ะ..... :m15:  เมื่อไหร่น้องจะมีความสุขกับเค้าสักทีนะ  :เฮ้อ:

 :pig4: คนเขียนที่กรุณาสละเวลามาเขียนตอนพิเศษให้ได้อ่าน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 09-02-2012 16:52:44
เป็นตอนพิเศษที่ทำให้ยิ่งสงสารปรีย์มากขึ้นไปอีก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-02-2012 20:01:31
ชีวิตรันทดแท้หนูปรีย์ของพี่ :m15:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Way ที่ 09-02-2012 20:22:46
 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 09-02-2012 22:19:54
พ่อลูกเจอกันแต่จำกันไม่ได้เลยกลายเป็นโศกนาตกรรม
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Mio ที่ 09-02-2012 23:03:52
 :sad4: :o12: สงสารปรีย์ตลอดศกจริงๆ!
สามคำ>>>ขอ ให้ ดี (สุขกายสบายใจนะจ๊ะลูกปรีย์T^T)
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Karn12 ที่ 09-02-2012 23:44:11
น้องปรีย์น่าสงสาร
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: abcee ที่ 10-02-2012 00:43:06
มีชีวิตแบบไม่รับรู้อะไร คงดีที่สุดสำหรับปรีย์
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 10-02-2012 00:44:50
อ่านจบแทบกระอักแหนะ!
สุดๆๆๆๆๆๆๆแล้วอ่ะะะ

ขอบคุณมากคร้าบบบ ;))
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 10-02-2012 00:55:08
ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึก โลกนี้มันวนเวียนไปด้วยกฎแห่งกรรม ก้องภพจะไม่มีวันหลุดพ้นได้เลยนะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 1 [09.02.55]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 10-02-2012 23:41:33
เป็นเรื่องที่ทำให้เราร้องไห้ ร้องไห้จริงๆนะ

สงสารปรีย์ ทุกอย่างก็เหมือนผลกรรม

ได้อ่านเรื่องนี้แล้วชอบมากค่ะ อยากให้มีตอนพิเศษหน้าที่น้องปรีย์มีความสุขค่ะ

ชีวิตของน้องเค้ามันเศร้าเกินไปแล้ววววววว T^T
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 21-08-2012 18:12:01
พึ่งอ่านจบ..พออ่านจบแล้วแบบ...ลองย้อนคิดไปตอนแรกๆแล้วโอ๊ยย

พ่อลูก..ม่ายยยยย .แง้ๆ เราไม่ถึงขนาดร้องไห้นะ แค่หน่วงๆในหัวใจ ที่ชีวิตทำไมมันเศร้าอย่างงี้

ถึงสุดท้ายปรีย์จะมีคนที่รักปรีย์แต่ปรีย์รู้สึกรึเปล่า.แต่คงสื่อไปถึงแหละ !!!


เป็นเรื่องสนุกมากอีกเรื่องหนึ่งเลยแหละ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: NY_JK ที่ 21-08-2012 20:42:40
 :เฮ้อ: เคยอ่านแนวนี้มาเรื่องหนึ่ง ตอนอ่านจบแทบไม่เป็นอันทำอะไรเลย
อ่านเรื่องนี้จบก็แทบจะไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร
คิดอยู่แล้วว่าต้องเกี่ยวข้องกัน แต่ตอนจบไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
เม้นท์ไม่ออกแล้วอ่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: nansy123 ที่ 02-10-2012 22:26:34
ชอบเรื่องนี้จัง ชอบมากๆเลย
อ่านจบแล้วจุกอย่างบอกไม่ถูก
ประทับใจมากๆเลยย
ขอบคุณที่เขียนนิยายดีๆแบบนี้นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 07-01-2013 14:27:25
คึคึ ตอนพิเศษ ตอนสุดท้่าย  :laugh:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 07-01-2013 14:50:53
มารอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: midnightblue ที่ 07-01-2013 20:08:52
ตอนพิเศษ2 หายไปไหนอ่ะ ทำไมเราไม่เห็น  :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-04-2013 17:18:39
ไหนหว่า..
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 14-04-2013 11:30:20
มันบรรบายออกมาเป็นคำพูดลำบากจริงๆ ปรีย์ ฮื่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: benzdekba ที่ 14-04-2013 12:22:12
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 14-04-2013 16:35:34
อ่านแล้วอึ้ง เศร้ามากมาย
สงสารทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 14-04-2013 21:38:12
ตอนพิเศษตอนสองมีไหนอ่ะค่ะ

สงสารน้องปรีย์ :hao5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: imagine_NB ที่ 14-04-2013 21:47:22
เศร้าเกินไปแล้ว
สงสารทุกคนเลยอ่า
ว่าแต่ ตอนสองอยู่หนใดหว่า
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 15-04-2013 02:52:58
อ่านจบแล้วไม่รู้จะสงสารใครดี จุดเร่ิมต้นเพราะราคะ จุดจบก็เพราะราคะอีก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Ayla ที่ 15-04-2013 07:08:20
เศร้า
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 15-04-2013 10:07:29
เศร้ามากเลย
สงสารปรีย์อะ อ่านแล้วหน่วงสุด ๆ เลย
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันนะฮ๊าฟฟฟ T_T
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 15-04-2013 17:39:21
เศร้ามาก
ยิ่งอ่านตอนพิเศษตอนแรกกับตอนที่สอง (ในเด็กดี) ก็ยิ่งเศร้า
ก้องเป็นอย่างที่ปุยเคยสาปแช่งเอาไว้จริงๆ ด้วยและคนๆ นั้นก็น่าจะเป็นเมย์
ส่วนตอนที่สองก็น่าสงสารกล้า ตอนแรกที่ดูแลปรีย์รู้สึกว่าปรีย์จะให้ความไว้ใจกับกล้าที่สุ ถ้าหากกล้าไม่ทำเรื่องอย่างนั้นป่านนี้คนที่ได้อยู่กับปรีย์ก็คงจะเป็นกล้า
ชื่อลูกข้าวปุ้นก็เอามาจากชื่อของปรีย์ในวัยเด็ก เพื่อเป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนสินะ
สรุปเรื่องนี้คนที่น่าสงสารที่สุดก็น่าจะเป็นปรีย์ เพราะไม่ว่าจะอยู่กับใครก็ถูกตักตวงเอาผลประโยชน์มาซะเกือบหมดทุกคน
ใจหนึ่งก็อยากเห็นปรีย์เป็นอย่างนี้จะได้มีความสุข
แต่อีกใจหนึ่งกลับเห็นใจคนข้างหลังที่เฝ้าดูแลอย่างมีความหวัง
บ่องตง!
หน่วงสุดๆ เลยค้าาาาา
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 15-04-2013 21:19:01
^
^^
^^^


ขอบคุณ คุณความเห็นข้างบนมาก ๆ เลยค่ะ
ที่บอกว่ามีตอนพิเศษตอนที่ 2 ในเด็กดี .. เลยไป search google หาอ่านจนได้

ส่วนตัวแล้วชอบเรื่องดราม่ามาก ๆ ค่ะ
แต่เซอร์ไพร์สมาก ๆ อีกที่ผลออกมาเป็น incest << แนวนี้ยิ่งชอบหนัก >.<

ขอบคุณคนแต่งมาก ๆ ค่ะ นิยายสนุกมาก ๆ
เปรียบเทียบกับผีเสื้อได้ดีทีเดียว
เป็นเรื่องดราม่าอีกเรื่องที่เราชอบค่ะ ^_________^
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 15-04-2013 23:17:57
 :hao5: :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-04-2013 13:24:02
เศร้ามาก เศร้าสุดๆ

สงสารทั้งปรีย์และก็ทุกคนเลย นี่คงเป็นกรรมสินะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: zelesz ที่ 17-04-2013 22:15:44
โอย เศร้าอ่ะ เศร้ามากๆ จบแบบนี้ ถึงกับช็อกกันเลยทีเดียว สงสารปรีย์จัง แถมสุดท้าย พี่กล้าก็เลือกที่จะแต่งงานกับหยกอีกต่างหาก ถึงจะัยังรักปรีย์อยู่ก็เถอะ ทำร้ายหัวใจกันมากๆเลย

รอตอนพิเศษตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-08-2013 20:10:24
ขุดขึ้นมาอ่านอีกรอบ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [14.03.55]
เริ่มหัวข้อโดย: jing_sng ที่ 18-08-2013 21:20:48
น้องปรีย์น่าสงสารที่สุด
น้องไม่ได้ทำอะไรผิดเลยซักนิด
แต่ต้องมีชีวิตที่ทุกข์ทรมาน จนไม่ยอมออกมาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง
แล้วกล้า รักคนอื่นแต่ไปแต่งงานกับอีกคน เด็กที่ออกมาน่าสงสารไหมเนี้ย
ส่วนก้อง ผลกรรมที่ทำมาตกแก่ตัวเองและลูก เจ็บไปถึงวิญญาณกันทีเดียว
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-08-2013 17:10:03
ตอนพิเศษ 2 ::ผีเสื้อในโถแก้ว ::

ตอนพิเศษนี้เป็นช่วง 4 ปีที่หายไปในตอนสุดท้ายค่ะ...


ชายหนุ่มหวังให้เรื่องเลวร้ายต่าง  ที่เข้ามาในชีวิต เป็นเพียงแค่ความฝัน...

กลิ่นกายหอมกรุ่นที่เขาคุ้นเคยซุกศีรษะทุยอยู่กับอกของเขา.. เสียงลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าเจ้าตัวหลับสนิท...

ชายหนุ่มอมยิ้มลอบมองร่างบอบบางหลับตาพริ้ม อดไม่ได้ที่จะยื่นจมูกโด่งของตนคลอเคลียไปกับพวงแก้มนิ่ม... ฝ่ามือหนาม้วนปลายผมที่นุ่มเหมือนขนแมวเล่น...

ผมยาวแล้วนี่นา.. เดี๋ยววันนี้เขาจะเป็นช่างตัดผมให้ด้วยแล้วกัน...

“ฮื่อ...” เหมือนเจ้าแมวน้อยจะรำคาญที่เขาไปยุ่งกับมันมากนัก ส่งเสียงครางในลำคออย่างไม่พอใจ.. มือเล็ก  นั้นพยายามดันใบหน้าเขาออกห่าง...

“เช้าแล้วปรีย์...” กล้าหาญกระซิบบอกคนในอ้อมกอด.. กดจมูกโด่งลงบนขมับ

ดวงตากลมสีน้ำตาลสวยค่อย  ปรือขึ้น มือเรียวเล็กที่หยาบกร้านอย่างไม่น่าเชื่อนั้นยกขึ้นขยี้ขนตาแพหนาของตนอย่างงัวเงีย ทำให้กล้าหาญอดกลั้นยิ้มไม่ได้..

ชายหนุ่มประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากบางเพียงแผ่วเบา  ก่อนเอ่ยคำที่เขาพยายามสื่อสารกับเด็กหนุ่มด้วยทุกวัน... ทุกเวลา..

“พี่รักปรีย์” แม้ว่าเขาอยากให้มันเป็นเพียงแค่ฝันร้าย.. แต่ความจริงก็คือความจริง ชายหนุ่มสบดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยนิ่ง เมื่อเห็นว่าร่างบางไม่มีทีท่าหวั่นไหว หรือเปลี่ยนแปลงภายในดวงตาเลย จึงกดจูบลงบนเปลือกตาทั้งสองข้างของร่างเล็กแล้วลุกขึ้นทำภารกิจส่วนตัว เพื่อจะได้จัดการให้กับร่างที่นอนคุดคู้อยู่บนเตียงต่อ...

ปรีย์อยู่ในความดูแลของเขามาระยะหนึ่งแล้ว... ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น.. เขาเข้าหน้ากับพี่ชายแทบไม่ติด... ในคืนนั้นเขาตามหาตัวทั้งคู่แทบทั้งคืน... เมื่อตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าคนที่เขาเพิ่งยอมรับว่าเป็นหลานไร้ซึ่งการตอบสนองเสียแล้ว...

เขาทะเลาะกับก้องภพเรื่องการรับเลี้ยงดูเด็กคนนี้ จนท้ายที่สุดดารัตน์ก็ตัดสินที่จะดูแลเอง แต่อนุญาตให้ปรีย์มาอาศัยอยู่กับเขาสามถึงสี่วันต่อสัปดาห์เพราะกลัวว่าเขาจะเสียงาน แม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลาแต่เขาก็พอใจที่จะใช้ชีวิตเช่นนี้ และมั่นใจได้ว่าก้องภพจะไม่สามารถทำร้ายปรีย์ได้ในระดับหนึ่ง...ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ กล้าหาญมีความเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถทำให้เด็ก
หนุ่มกลับมาเป็นอย่างเดิมได้...

เริ่มจากการที่เขาสามารถทำให้ร่างเล็กนี้พยายามปฏิเสธสัมผัสจากเขาในยามเช้าได้...

“พี่กล้าหวัดดีฮะ” แฟรงค์ยกมือไหว้ชายหนุ่ม ..เขามาเยี่ยมเพื่อนในวันหยุด... แม้จะไม่ได้มาเป็นประจำทุกอาทิตย์ แต่ไม่เคยเว้นระยะขาดหายไปนาน

ตอนแรกที่ได้ทราบข่าว เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง... เพื่อนที่แสนร่าเริงของเขาทำมจู่ ๆ ถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้ แต่เมื่อได้ฟังเรื่องคร่าว ๆ จากกล้าหาญก็ทำให้พอจะปะติดปะต่อเรื่องได้

แฟรงค์นั่งมองเพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาให้อีกคนตัดผม... ช่วงแรก ๆ เขารู้สึกอึดอัด และพยายามพูดคุยกับเพื่อนซี้อยู่หลายครั้ง  แต่ก็เหมือนเดิมทุกครั้งจนเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้ และเลิกล้มไปเอง...

แฟรงค์ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าการมาหาปรีย์และนั่งมองอยู่อย่างนี้จะมีอะไรดีขึ้น.. หากแต่เขารู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้ปรีย์ใช้ชีวิตในหนทางของตนโดยไม่หันมาสนใจได้... เขาละเลยเพื่อนตัวเองไปไม่ได้จริง ๆ

เสียงอึกทึกครึกโครมของดนตรีดังขึ้นภายในบ้านเช่าหลังเล็ก... เพื่อนในแผนกพยายามลากเขามาร่วมงานด้วยจนได้ แต่ชายหนุ่มตกลงว่าจะมาร่วมงานเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น สายตาลอบมองนาฬิกาข้อมือตนด้วยความลุกลี้ลุกลน ใจเอาแต่ห่วงคนที่อยู่บ้าน แม้จะฝากฝังไว้กับเพื่อนรุ่นน้องแล้วแต่ก็ยังไม่อาจวางใจได้อยู่ดี

ผ่านไปไม่เกินสิบห้านาที ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นพรวดพลาด รีบก้าวเท้าไปหาเจ้าของบ้านเช่า

“ต้องรีบกลับแล้วล่ะ โทษทีนะ” กล้าหาญบอกเสียงเรียบ ในใจเต็มไปด้วยความกังวล...

“อ้าว!ทำไมมึงรีบจังวะ นาน ๆ มาเจอเพื่อนที หรือว่าเมียดุ” เพื่อนเขาเอ่ยแซวกลั้วหัวเราะ..กล้าหาญชะงักก่อนเอ่ยกับตัวเองเสียงแผ่ว...

“... ถ้าเขาดุก็ดีน่ะสิ”ดวงตาของชายหนุ่มเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง... คนที่เคยเป็นคนรักเก่าอย่างหล่อนน่ะหรือจะไม่สามารถจับสังเกตได้...

ช่วงขายาวรีบก้าวตามชายหนุ่มไปหน้าบ้าน มือเรียวรีบตะปบคว้าแขนของอดีตคนรัก

กล้าหาญหันกลับมามองคนที่ยื้อยุดเขาด้วยความฉงน

“บางทีนายก็ควรจะคิดได้ซักทีนะ” หญิงสาวเอ่ยถ้อยคำเสียดสี... หล่อนรู้ดีว่าไม่ควรพูด หากแต่ปริมาณแอลกอฮอล์ทำให้หล่อนกล้าทำอะไรมากกว่าที่ใจคิด

“หมายความว่าไง ?”

“ปรีย์เป็นหลานของนายไม่ใช่รึไง ? ไม่คิดว่าเรื่องพรรณนี้มัน... อุบาทว์” หยกเว้นคำสุดท้าย เอ่ยพร้อมสายตาเวทนา

“หยก!”...ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ตวาดชื่อเธออย่างเหลืออด

“ทำไม!หรือจะเถียง!?” หญิงสาวขึ้นเสียงตะโกนดังไม่น้อยหน้าอดีตคนรัก ...กล้าหาญสูดลมหายใจลึก พยายามระงับอารมณ์

 “เราอย่าเพิ่งคุยกันดีกว่า” เขาตัดบทเดินหนี ปล่อยให้อีกฝ่ายแผดเสียงร้องฝ่ายเดียวโดยไม่คิดจะสนใจอีก

กลับมาถึงบ้านเขาก็ตรงดิ่งไปหาคนที่นอนขดตัวนิ่งอยู่บนเตียง ชายหนุ่มทิ้งน้ำหนังลงบนที่นอนนุ่ม ลูบไล้ผมเส้นเล็กเบามือ..
ใจกระหวัดนึกถึงคำพูดของหยก

“ปรีย์.. เมื่อไหร่จะเป็นเหมือนเดิม ?” เขาส่งเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูเล็ก

“รู้ไหมพี่ทุกข์ใจกันแค่ไหน ?” จบคำถาม ทุกอย่างยังคงเป็นเช่นเดิม ปรีย์นอนนิ่งไม่สนใจเขา...ไม่รับฟังคำพูดที่เขาต้องการสื่อสารด้วยซักนิด....

ทำไมกัน ? แล้วเขาจะต้องรออีกนานเท่าไร ?... ต้องอดทนราวกับอยู่คนเดียวไปนานแค่ไหน ?

เขาไม่สามารถบอกใครได้... แม้แต่คนที่เขาต้องการจะพูดด้วยก็ไม่เคยรับฟังเสียงของเขา

“ปรีย์!ตอบพี่มาสิ!” กล้าหาญตวาดเสียงลั่น กระชากเด็กหนุ่มที่ทำตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวลากลงจากเตียง...

ปรีย์ล้มตัวกระแทกพื้นเสียงดัง... ก่อนพยายามลุกขึ้นยืนอย่างเงอะงะ เด็กหนุ่มปรือตาขึ้นอย่างงัวเงีย... มือกวาดหาที่ยึดเหนี่ยวราวกับว่ามองไม่เห็น ท่าทางเหล่านั้นทำให้กล้าหาญยิ่งรู้สึกโกรธ

“พี่ยืนอยู่ตรงนี้ไง!? ทำไมถึงมองไม่เห็น!?” ชายหนุ่มตะโกนอย่างหัวเสีย หวังให้คนตรงหน้าได้ยินเสียงของเขาและรู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนี้ ...อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ...

จนท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว เป็นฝ่ายเดินเข้าไปใกล้และกระชากมือเล็ก ๆ นั่นสัมผัสตัวเขา... มือหยาบค่อย ๆ ไล่สัมผัสตามเนื้อตัวของชายหนุ่ม ก่อนเคลื่อนไปสัมผัสใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของเขาแผ่วเบา.. ริมฝีปากบางเผยอราวกับจะเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมาซักประโยค.. ก่อนจะหุบลง

ร่างเล็กลังเลเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจโอบตัวชายหนุ่มไว้ในอ้อมแขน... อย่างที่ครั้งหนึ่งเคยทำ...นั่นทำให้หัวใจของกล้าหาญพองโต...

เขามั่นใจว่าปรีย์รับรู้ถึงความรู้สึกของเขา... ชายหนุ่มมั่นใจว่าปรีย์รับรู้เรื่องราวจากเขาได้...ชายหนุ่มตัดสินใจบดจูบริมฝีปากบางนั้นอย่างไม่ลังเล...

เด็กหนุ่มพยายามขัดขืน.. เบือนหน้าหนี แต่ไม่ว่าจะหนีอย่างไร ชายหนุ่มก็ตามติดเขาไปทุกที่...เพียงเพื่อได้ลิ้มรสความหอมหวานจากริมฝีปากแห้งผากของเขา...

ลิ้นร้อนรุกไล่เข้าสู่โพรงปากเล็ก เกี่ยวกระหวัดลิ้นที่พยายามหลบเลี่ยงอย่างโหยหา.. มือหนาลูบคลำไปตามร่างบอบบางนุ่มนิ่มเนื่องจากไม่ได้ออกกำลังมานาน ออกแรงดันเด็กหนุ่มให้ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง

“ปรีย์..” กล้าหาญเอ่ยชื่อร่างบางเสียงสั่นพร่า... เขาคิดถึงเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้ว คิดถึงดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มองเขาอย่างออดอ้อน คิดถึงรอยยิ้มจากริมฝีปากบาง คิดถึงความหวั่นไหวเมื่อได้เข้าใกล้กับร่างบาง คิดถึงทุกสิ่ง.. เขาคิดถึงปรีย์เหลือเกิน... ถึงแม้จะมีเด็กหนุ่มอยู่ข้างกาย ได้สัมผัสได้ใกล้ชิด แต่ราวกับว่าพวกเขาอยู่ห่างกันไกลเหลือคณา...

“ได้ยินรึเปล่า ?” มืออุ่นร้อนสัมผัสผิวเนื้อใต้ร่มผ้าอย่างแผ่วเบา เล็มเลียใบหน้าชื้นเหงื่อและลำคอระหงส์ พรมจูบพื้นผิวทุกตารางนิ้ว.. . เสียงหอบหายใจหนักของร่างในอ้อมแขนเป็นเครื่องยืนยันว่าเด็กหนุ่มก็รู้สึกได้ไม่ต่างจากเขา.. ปรีย์ยังคงหลงเหลือความรู้สึกอยู่

“พี่รักปรีย์นะ...” กล้าหาญบอกเสียงแผ่ว  โอบกอดร่างสั่นระริกไว้ในอ้อมแขน... เขารู้ดีว่าปรีย์ยังไม่พร้อม และเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร

มือหนาลูบเบา ๆ ไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า ...ไล้ริมฝีปากไปตามแก้มนุ่ม

เสียงลมหายใจถี่ค่อย ๆ ปรับมาสู่สภาวะปกติ... เขารู้สึกว่าเปลือกตาของตนค่อย ๆ หนักขึ้น...

ชายหนุ่มคิดว่าเขากำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น เขาไม่แน่ใจในตัวเองนัก...

‘... ผมก็รักพี่....’ราวกับความฝัน... เขาได้ยินเสียงเอื้อนเอ่ยตอบกลับ... เสียงห้าวแหบพร่าที่เขาไม่ได้ยินมานานแสนนาน... เขาพยายามลืมตา แต่มันทำได้ยากยิ่ง... นี่คงจะเป็นความฝัน...

นิทรานี้ เป็นความฝันที่ดีที่สุดตั้งแต่เขาหลับตาลง....

ชายหนุ่มตื่นขึ้นตอนเช้า มองใบหน้าคนในอ้อมแขนด้วยความสุข.... เขาบรรจงจูบลงบนปลายจมูกเล็ก สูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอขาว...

ปรีย์ครางอืออา พยายามผลักใบหน้าเขาออกห่าง... เขาหัวเราะชอบใจ คว้าแขนเล็ก ๆ ไว้และถูเคราสากบนซอกคอขาว

เด็กหนุ่มพยายามดิ้นหนี... ตามปกติแล้วเขาคงปล่อยไป หากแต่วันนี้เขากลับอยากแกล้งเจ้าแมวจอมขี้เกียจเยอะ ๆ ...เขารู้สึกมีความสุขเหลือเกิน

ชายหนุ่มทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ อาบน้ำแต่งตัวให้หลานชาย เตรียมจะพาไปส่งที่บ้านให้ดารัตน์รับช่วงดูแลต่อ เสียงออดประตูบ้านทำให้เขาแปลกใจ... หยกมาถึงบ้านของเขาด้วยดวงตาที่แดงช้ำ

“เมื่อวานฉันขอโทษ”

“... มีอะไรอีกไหม ?” กล้าหาญเอ่ยถามเสียงเรียบ

“ฉันอยากเจอเขา.. น้องปรีย์น่ะ”

“กลับไปก่อนเถอะ วันนี้ไม่ค่อยเหมาะ” ชายหนุ่มปฏิเสธ จะปิดประตูเหล็ก แต่ร่างบางรีบขับเข้ามาขวางไว้

“ขอร้องล่ะ แค่แป๊บเดียว...” หยกบอกเสียงอ้อน ก่อนจะหยอดคำท้ายที่เธอรู้ว่าใช้ได้ผลทุกครั้ง...

“นะ”

“...เข้ามาสิ” กล้าหาญชะงัก ก่อนตัดสินใจเปิดทางให้หญิงสาวร่างบอบบางเข้ามาในตัวบ้าน.. ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นของเธอ ...ร่วมกับเขา

หญิงสาวเท้าคางมองเด็กหนุ่มที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนโซฟา... เด็กคนนี้แทบไม่เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่เจอกันครั้งสุดท้าย.. เธออิจฉาเขานักที่ได้เป็นคนในความดูแลของชายหนุ่ม

กล้าหาญค่อย ๆ หย่อนกายลงบนโซฟาและประคองศีรษะทุยขึ้นซบตัก หญิงสาวมองกิริยาแสนทะนุถนอมเหล่านั้นพร้อมกับอาการเจ็บแปล๊บในอก

“กำลังจะออกจากบ้านเหรอ ?” หญิงสาวถามอย่างอึดอัด

“อืม” กล้าหาญตอบรับในลำคอเบา ๆ

ทั้งคู่ไม่ได้สนทนาอะไรกันอีก มีเพียงความเงียบที่แสนจะน่าอึดอัด... หยกได้แต่มองดูมือหนาที่ครั้งหนึ่งมันเคยโอบกอดเธอกำลังลูบไล้ผมเส้นเล็กอย่างอ่อนโยน

“ฉันยอมรับตามตรงว่าฉันกำลังอิจฉาเด็กคนนี้...”

“นายไม่เคยละสายตาจากเขาเลย”

“ผมขอโทษ...”

“กล้า.. เราไม่มีโอกาสกลับมาเป็นอย่างเดิมเลยใช่มั้ย ?” ดวงตาคมไหวระริก รีบเอ่ยตัดบท

“หยกกลับไปก่อนเถอะ..”

“...อืม” หญิงสาวตอบรับในลำคอเสียงเบา เดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่หันกลับมาอีก...

ก้องภพมองใบหน้าลูกชายตนที่ไม่เจอเกือบปีด้วยใจเต้นระส่ำ เด็กหนุ่มแทบไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย เส้นผมเส้นเล็กนั้นยาวกว่าที่เขาเจอครั้งสุดท้าย ดวงตากลมสีน้ำตาลเข้มดูนิ่งจนคาดเดาไม่ออก แทบไม่น่าเชื่อว่าเด็กคนนี้จะเคยส่งแววตาออดอ้อนให้เขานับครั้งไม่ถ้วน

เขายอมรับว่าอยากเขาไปกอด อยากจูบ อยากสูดดมกลิ่นกายหอมหวานของเด็กหนุ่ม อยากสัมผัสผิวเนื้อให้หายคิดถึง หากแต่มารดานั่งตีหน้าขึงอยู่ข้าง ๆ ทำให้เขาทำได้เพียงมองอยู่อย่างงั้น

.. ไม่ว่าเขาจะพยายามกลับไปใช้บริการเจ๊ใหญ่อีกกี่ครั้งก็ไม่เป็นผล.. ไปโรงพยาบาลก็ไม่สามารถรักษาได้ ..ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายเขา ในหัวมีแต่เรื่องของเด็กคนนี้เต็มไปหมด... เขาต้องทนทรมานราวกับถูกสาป

ถ้าหากเขาได้สัมผัสเด็กคนนี้อีกซักครั้ง ไม่แน่ว่าร่างกายของเขาจะกลับมาเป็นอย่างเดิม...

“ก้องกำลังทำเรื่องหย่ากับเมย์อยู่” ชายหนุ่มเอ่ยบอกมารดานิ่ง ๆ... เขาแทบไม่มีโอกาสได้เจอหน้าลูกชายนอกจากจะขออนุญาตจากมารดา และเพื่อหาหนทางเข้าใกล้ ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องเสนอตัวดูแลเด็กคนนี้เอง เมื่อทุกอย่างกลับมาสู่สภาวะปกติแล้วเขาจะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม... ไม่มายุ่งเกี่ยวกันอีก

นึกถึงเวลานั้นแล้วเขาก็รู้สึกแปลก ๆ... เขาจำได้ว่าเมื่อปีก่อนที่ต้องแยกจากคนตรงหน้านั้นเขาแทบจะเป็นบ้า ไม่ได้กิน ไม่ได้นอน โวยวายร้องเรียกชื่อของลูกชาย เมย์ก็เอาแต่ร้องไห้เพราะเขา...

“งั้นก็คุยกับพ่อกล้าเสียให้เรียบร้อย... แม่ไม่อยากเห็นพวกเราฆ่ากันตายต่อหน้าแม่” และน้องชายของเขาก็ถือเป็นก้างชิ้นใหญ่ทีเดียว...

กล้าหาญเดินทางมารับปรีย์จากบ้านไม้หลังใหญ่ตามปกติ... เขาชะงัก เมื่อเห็นพี่ชายตนนั่งอยู่ข้างกายมารดา... ใจของเขาราวกับหล่นหาย... ไม่อยากให้มันเป็นอย่างที่เขาคิด ชายหนุ่มยกมือไหว้มารดาและเข้าไปสวมกอด ทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามเงียบ ๆ

“เมื่อไหร่เราจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา.. แม่อยากอุ้มหลานจะแย่อยู่แล้ว” มารดาเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนากับเขา

“จะให้กล้าแต่งกับใครละครับแม่ ?”

“เมื่อวันก่อนหนูหยกก็มาหาแม่...” ดารัตน์เปรยขึ้นเบา ๆ

“...กล้ากับหยกเลิกกันตั้งนานแล้ว แม่ก็รู้” ชายหนุ่มบอกเสียงหงุดหงิด ก่อนตวัดสายตาไปหาคนที่เขาไม่เจอหน้านานหลายเดือน...

“พี่ก้องมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า ?” น้ำเสียงของเขาห้วนสั้น ไม่เป็นมิตรจนมารดาต้องส่งสายตาดุ...

“ฉันอยากคุยกับแกเรื่องปรีย์”

“ทำไม ?” กล้าหาญเอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น

“ฉันอยากเป็นคนดูแลลูกของฉันเอง”

“ไม่!” กล้าหาญตวาดเสียงลั่น กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ... เขาไม่มีทางยอมให้ก้องภพเข้าใกล้ปรีย์อีกแน่... ไม่มีวัน!

“แม่ก็เห็นด้วยนะ เรายังหนุ่มยังแน่น ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองหน่อยเล่าพ่อกล้า”

“แม่จะบอกกล้าว่าการที่กล้าดูแลปรีย์มันปิดกั้นตัวเองงั้นเหรอ ?” ดารัตน์ชะงักไปชั่วหนึ่ง ก่อนลุกขึ้นนำลูกชาย

“...กล้ามาคุยกับแม่หน่อยสิ” ชายหนุ่มลุกตามมารดาไปอย่างว่าง่าย แต่ถูกเรียกไว้เสียก่อน

“กล้า”

“ตั้งแต่เกิด.. ตั้งแต่เป็นพี่น้องกันมา พี่ไม่เคยขอร้องอะไรกล้า แต่วันนี้พี่ขอได้มั๊ย ? เพียงแค่อย่างเดียวในชีวิตพี่... พี่ขอเป็นคนดูแลปรีย์เอง...” ดวงตาคมรีบตวัดหนี... เขาไม่มีทางใจอ่อนให้กับผู้ชายคนนี้.... ไม่เด็ดขาด!!

“ในเมื่อพ่อก้องเขาอยากเลี้ยงดูลูกของเขา ก็ให้เขาทำเถอะ...” หญิงชราเอ่ยประโยคแรกก็ทำให้บุตรชายของหล่อนหน้าตาบึ้งตึง

“แต่.. แต่กล้าอยากดูแลปรีย์เอง แม่ก็รู้นี่ว่าพี่ก้องเคยทำอะไรกับปรีย์ไว้”

“พ่อก้องเพิ่งเอานี่มาให้แม่ดู” หล่อนยื่นกระดาษแผ่นบางให้กล้าหาญ

“อะ...” ผลการตรวจของแพทย์ทำให้เขาชะงัก...

“ทีนี้ก็หมดห่วงแล้วใช่ไหม ...จะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที”

“กล้าไม่แต่ง ..แม่ก็น่าจะรู้ ว่ากล้าคิดยังไงกับปรีย์” ดารัตน์นิ่งไปชั่ววินาที

“หนูปรีย์ก็เป็นลูกพ่อก้อง เป็นหลานเรา แถมยังเป็นผู้ชายจะให้แม่ยอมรับได้ยังไง แล้วถ้าพ่อรู้เรื่องจะเกิดอะไรขึ้น..”

 “แต่...กล้ารักปรีย์จริง ๆ..” หญิงชราตัดสินใจเอ่ยประโยคถัดไปด้วยเสียงสั่นเครือ

“แค่ตาก้องเป็นเกย์ แม่ก็ทุกข์ทรมานใจพออยู่แล้วลูก อย่าทำให้แม่ผิดหวังอีกคนเลยตากล้า...”กล้าหาญได้แต่นิ่งเงียบ...

“แม่ให้เวลากล้าหน่อยนะ ตอนนี้กล้ายังคิดอะไรไม่ออก” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงแผ่ว... เดินหนีออกมาอย่างเหม่อลอย

เขาตรงไปยังห้องเก่าของตนเองก็พบคนรับใช้กำลังพยายามป้อนอาหารให้เด็กหนุ่มอยู่ ...ชายหนุ่มเดินเข้าไปใกล้และซุกตัวลงบนตักเล็ก โอบแขนรอบเอวบางกอดไว้แน่น...

หยาดน้ำใสเอ่อคลอตาของเขา.. แล้วความต้องการของเขาล่ะ ?... ความต้องการในชีวิตเพียงแค่อย่างเดียวของเขาคือดูแลเด็กคนนี้ให้ดีที่สุด... กล้าหาญสะอึกสะอื้น...

เวลาที่จะได้ใช้ร่วมกันของพวกเขาเหลือน้อยลงเต็มที.... ดารัตน์อยู่ฝั่งก้องภพอย่างเห็นได้ชัดเจน... เขาได้แต่ภาวนาให้เรื่องงี่เง่าพวกนี้ไม่ใช่ความจริง...

ทั้ง ๆ ที่เขากับปรีย์รักกันแท้ ๆ... ทั้ง ๆ ที่พวกเขารักกัน....

ทำไมปรีย์ถึงทิ้งเขาไว้คนเดียว ?......

“เมื่อไหร่ปรีย์จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม..?” กล้าหาญจับมือหยาบกร้านขึ้นจุมพิต เอ่ยคำถามเสียงสั่น

“ปรีย์ได้ยินพี่รึเปล่า ?”

“เข้าใจพี่บ้างมั้ย ?”เหมือนเดิม... คำตอบที่เขาได้รับคือความเงียบงัน... ราวกับเขาพูดกับสิ่งซึ่งไร้ชีวิต... เหมือนคนที่ตายไปแล้ว....

ปรีย์ตายไปแล้วจริงเหรอ ?... ทั้ง ๆ ที่ยังคงมีความรู้สึกกับเขาน่ะหรือ ?...

กล้าหาญหายใจติดขัด... นี่เขามีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่นะ ?... 8 เดือน 9 เดือน...หรือเป็นปี... ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอดทนใช้ชีวิตอย่างอาหลานกับคนตรงหน้ามาได้ตั้งนานสองนาน...ทั้ง ๆ ที่แค่ได้กลิ่น ได้สัมผัสยังรู้สึกถึงเพียงนี้...

มือหนาบีบเค้นไปตามเนื้อตัวนุ่มนิ่มในอ้อมแขน ขบเม้มยอดอกที่ดันเนื้อผ้านูนขึ้นมาเล็กน้อย กางเกงขาสั้นถูกดึงร่นลงเผยให้เห็นผิวเนื้อขาวนวลอย่างง่ายดาย..

กล้าหาญลอบสังเกตใบหน้าของเด็กหนุ่ม... กิริยาท่าทางต่าง ๆ ทำให้เขาพอจะเดาออกว่าร่างเล็กกำลังเขินอาย ..ปรีย์ยังคงน่ารักเหมือนตอนที่เขาขออีกฝ่ายจูบครั้งแรก เปลือกตาบางหลุบต่ำ แก้มนวลแดงระเรื่อ

ชายหนุ่มบดริมฝีปากเข้ากับกลีบปากบาง... กล้าหาญชะงัก ไม่แน่ใจในตนเองก่อนจรดริมฝีปากลงใหม่... เขาเริ่มแน่ใจว่าปรีย์จูบตอบเขา...

ใช่... เขาต้องทำให้ปรีย์รู้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้... ทำให้เด็กน้อยคนเดิมกลับมา... ก้องภพก็จะไม่สามารถบีบบังคับเขาได้อีก...

เข่าเล็กถูกดันออกกว้าง สะโพกมนถูกยกขึ้นสูง... มือหยาบพยายามปัดป่าย ส่งเสียงในลำคออึกอัก...

เด็กหนุ่มส่งเสียงร้องและดิ้นหนักขึ้น ราวกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ชายหนุ่มถ่ายน้ำหนักตัวลงทาบทับร่างเล็กไม่ให้ดิ้นหนี มือหนากระชับต้นขาเล็กไว้แน่น

ความเจ็บปวดที่แล่นริ้วทำให้ร่างบางส่งเสียงกรีดร้องลั่นพยายามกระถดตัวหนี ชายหนุ่มกัดฟันกรอดทิ้งน้ำหนักตัวลงไปอีก

“อย่าเกร็ง... ปรีย์” เขาพยายามกระซิบปลอบ แต่มือเล็ก ๆ นั่นพยายามทุบไหล่เขาให้หยุดความเจ็บปวดที่กำลังเกิดขึ้น

มือหนารวบข้อมือเล็กไว้แน่นและเบียดตัวเข้าแนบสนิท เด็กหนุ่มพยายามส่งเสียงแต่กลับไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา ปลายเท้าจิกลงบนพื้นเตียงราวกับมันจะสามารถช่วยบรรเทาความเจ็บปวดได้

“นั่นแหละ เด็กดี...” ริมฝีปากจูบซับน้ำตาที่กลิ้งไหลจากดวงตาคู่สวย ก่อนพรมจูบไปทั่วทั้งใบหน้า เสียงเตียงลั่นพร้อมกับเรียวขาขาวที่สั่นระริกข้างลำตัวเขาทั้งสองข้าง

“ปรีย์รู้ใช่มั้ยว่าพี่กำลังอยู่ในตัวปรีย์”

“รู้สึกใช่มั้ย ?”

“รู้ใช่รึเปล่า ?” ไม่มีเสียงตอบกลับคำถามเหล่านั้น นอกเสียจากเสียงสะอื้นไห้ปนหอบหายใจหนัก

ชายหนุ่มกัดฟันแน่น กระชับเอวบางไว้ในอ้อมแขนเมื่อถึงฝากฝั่งแห่งอารมณ์... เขาหอบหายใจหนัก ตาพร่าไปหมด... ร่างอ่อนปวกเปียกในมือทำให้เขาชะงัก...

“ปรีย์” กล้าหาญเอ่ยเสียงตื่น ฝ่ามือหนาตบใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตาของเด็กหนุ่มเบา ๆ ...เขาพยายามร้องเรียกอีกหลายครั้งแต่อีกฝ่ายสิ้นสติไปแล้ว

“บ้าเอ้ย!!!” ชายหนุ่มคำรามลั่น

นี่เขาทำอะไรลงไป ?... เขาเพียงแค่อยากให้ปรีย์กลับมาเป็นอย่างเดิม.. ทำไมเด็กคนนั้นต้องหนีปัญหาแบบนี้ด้วย ?...มือหนาควานหาไออุ่นข้างกายอย่างคุ้นชิน แต่กลับพบเพียงแค่ความว่างเปล่า...

“ปรีย์!”กล้าหาญสะดุ้งตื่นกวาดตามองหาคนที่ต้องอยู่ในอ้อมแขนของเขาเสมอเมื่อตื่นนอน

หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: akazu ที่ 20-08-2013 17:11:42
ร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนสั่นเทาซุกตัวอยู่ในมุมอับพยายามทำตัวลีบเล็กที่สุด ชายหนุ่มรีบลุก เดินเข้าไปหา แต่เมื่อจับแขนเล็กไว้เท่านั้นปรีย์ก็พยายามสะบัดออก อีกทั้งยังกำหมัดทุบมือเขา

เด็กหนุ่มสำลักลมหายใจ พยายามส่งเสียงร้องปรีย์ไม่ยอมให้เขาแตะต้องตัว ไม่ให้เขาเข้าใกล้ ไม่ยอมกินอาหาร เด็กหนุ่มส่งเสียงกรีดร้องและพยายามดิ้นหนีจากอ้อมแขนเขา

กล้าหาญลองให้แฟรงค์มาดูแลเพื่อน ปรีย์อาจจะกลัวบ้างแต่ก็ไม่ปฏิเสธเท่าที่เกิดขึ้นกับเขา ปรีย์แยกออกว่าใครที่กำลังดูแลตัวเอง... เพียงเท่านี้ชายหนุ่มก็พอเข้าใจแล้วว่าปรีย์กำลังกลัวเขา...

ชายหนุ่มต้องพยายามบังคับให้ปรีย์ทานอาหาร บางครั้งปรีย์ก็สำลัก อ้วกออกมา อมอาหารไม่ยอมกลืน จนบางทีเขาต้องบังคับมาก ๆ ถึงขั้นเลือดท่วมปากเด็กหนุ่มเลยก็มี

กล้าหาญคิดว่าอีกไม่นานปรีย์ก็คงจะเลิกกลัวไปเอง แต่นานวันปรีย์ก็ยิ่งหนักข้อกับเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงขนาดทำร้ายตัวเอง นั่นทำให้ชายหนุ่มแทบขาดใจ

ช่วงแรกเขาคิดว่ามันบังเอิญที่ปรีย์จะวิ่งหนีเขาจนชนกำแพง แต่เด็กหนุ่มกลับลุกขึ้นมาแล้ววิ่งชนมันอีกครั้ง และอีกครั้ง.. เขาจึงเริ่มรู้ว่าปรีย์ต้องการจะทำร้ายตัวเอง ..อีกทั้งยังจิกเล็บลงบนร่างกายจนเกิดแผลหลายต่อหลายแห่ง

เขาต้องอาศัยจังหวะที่เด็กหนุ่มเผลอหลับเพื่อทำแผลให้... ดวงตาคมมองดูใบหน้าที่หลับตาพริ้ม มือหนาสัมผัสเส้นผมอ่อนนุ่ม... แต่เมื่อเห็นแผลที่เกิดขึ้นบนร่างกายบอบบางแล้วพลันรู้สึกเจ็บไปหมด...

เขายอมแพ้แล้ว... ยอมแพ้จริง ๆ... ได้โปรดอย่าทำแบบนี้อีก...

ชายหนุ่มหยิบมือถือกดหมายเลขโทรศัพท์หาคนคุ้นเคย...

เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้น... เขาลังเล แต่ก็กลั้นใจรอต่อ....

“ฮัลโหล...” เสียงทุ้มปลายสายเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น...

“พี่ก้องเหรอครับ...” กล้าหาญกลั้นหายใจ... เผลอเงียบไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง...

“เรื่องนั้น....ผมตกลงนะ...”ประโยคสุดท้ายออกจากริมฝีปากยากเย็น พร้อม ๆ กับน้ำตาที่ไหลล้นออกจากดวงตาคม..

“แล้วจะตั้งชื่อลูกว่ากระไรล่ะ ตากล้า ?” ดารัตน์เอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม... ดวงตาเต็มไปด้วยประกายแห่งความสุขเมื่อบุตรชายมาแจ้งข่าวดีให้หล่อนทราบ...

“...ข้าวปุ้นครับ”กล้าหาญสบตามารดาเพียงชั่วเสี้ยววินาที ก่อนหลบตาวูบ

“...ก็ดีนะจ๊ะ”ดารัตน์กลั้นหายใจ ก่อนปั้นหน้ายิ้มเอ่ยตอบลูกสะใภ้....

ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าลูกชายคนเล็กแฝงความหมายไว้ว่าอย่างไร... ในเมื่อข้าวปุ้นนั้นเป็นชื่อที่หล่อนเข้าใจว่าเป็นชื่อของปรีย์เมื่อสมัยเด็กคนนั้นยังแบเบาะ...ทั้งคู่คุยกันอย่างออกรสถึงประสบการณ์อาการแพ้ท้อง...

“งั้นหนูกับกล้าขอลาไปก่อนนะคะคุณแม่”หยกแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ยกมือไหว้แม่สามี

หญิงชรายกมือรับไหว้ พยัดเพยิดให้เด็กรับใช้เดินออกไปส่ง...

ดารัตน์มองตามแผ่นหลังลูกสะใภ้ด้วยแววตาเห็นใจ หวังว่าเมื่อเด็กคลอดแล้วจะสามารถช่วยกล้าหาญลบเลือนความคิดคำนึงถึงเด็กหนุ่มที่อยู่ในความดูแลของพี่ชายได้....

แสงจันทร์สาดส่องเข้าสู่เรือนไทยหลังเล็กที่ถูกปลูกแยกออกมาจากตัวเรือนใหญ่... เสียงหอบหายใจหนักปนเสียงสะอื้นดังขึ้นในความเงียบ ผิวเนื้อขาวนวลที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนบางกระทบแสงจันทร์ ร่างบอบบางเกร็งตัวพยายามขืนตัวหนีจากอ้อมกอดที่โอบรัดร่างกายเขาไว้แน่น...

มือเล็กหยาบกร้านจิกผ้าปูเตียงจนมันยับยู่ยี่ไปหมด ก่อนจะถูกมือหนากอบกุมและประสานเอาไว้แนบสนิท...

“ชู่ว์ ปรีย์... พ่ออยู่นี่”ก้องภพไล้ริมฝีปากบนหลังคอชื้นเหงื่อของในคนในอ้อมแขนแผ่วเบา...

“ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไร....” เสียงทุ้มกระซิบปลอบประโลม พร้อมลมหายใจที่เป่ารดข้างหู...

...ปรีย์มักจะร้องไห้ตอนกลางคืน เหมือนฝันร้าย...  ช่วงแรกปรีย์มักจะส่งเสียงกรีดร้องฟังไม่ได้ ศัพท์และมีการทำร้ายตัวเองบ่อยครั้ง... เขาไม่เคยเอ่ยบอกเรื่องนี้กับใคร... เขาไม่อยากพาปรีย์ไปพบจิตแพทย์ เขาไม่ต้องการรายงานความคืบหน้าอาการของเด็กหนุ่มให้ใครฟัง... เขาเพียงแค่อยากอยู่เงียบ ๆ กับเด็กคนนี้เพียงแค่สองคน... ไม่มีใครมาเกี่ยวข้อง...

ก้องภพรู้ดีว่า หากปรีย์รักษาหายเป็นปกติ กลายเป็นปรีย์คนเดิมแล้ว เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนี้อย่างเต็มที่อีกต่อไป... ปรีย์อาจออกห่างจากสายตาเขา อาจมีใครคนอื่น...

ใครจะว่าเขาเห็นแก่ตัวก็ยอม...

ปรีย์จะเป็นผีเสื้อในโถแก้ว... ที่อยู่ในความครอบครองของเขาแต่เพียงผู้เดียว...

Regrets, I’ve had a few
But then again, too few to mention.
I did what I had to do
And saw it through without exemption.
I planned each charted course ;
Each careful step along the by way,
But more, much more than this,
I did it my way.

My Way - Frank Sinatra
หยดน้ำผึ้ง

๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๔

๑๒.๕๖

ขออภัยที่ลงช้าไปล้านปีแสง ไม่ได้กลับมาดูเลยว่า ที่ลงตอนพิเศษ 2 ไว้ นั้นไม่มี ลำบากเพื่อน ๆ ที่ต้องไปหาอ่านจากเวปอื่น เพราะมันค้างงงงงงง ขอบคุณน้องหยดสำหรับนิยายดี ๆ ที่เรียกน้ำตาได้แม้แต่ตอนพิเศษ อ่านกี่ครั้งก็ร้องไห้ได้ทุกครั้งจริง ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 22-08-2013 09:13:04
อ่านกี่ครั้งก็เศร้าเหมือนเดิมทุกครั้ง
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Minnie~Moo ที่ 22-08-2013 14:22:24
สงสารน้องปรีย์ :sad4: ไม่มีใครทำเพื่อน้องและรักน้องจริงๆเลยซักคน

ถ้าทุกคนตายจากไปแล้วน้องจะอยู่ยังไง มีใครคิดบ้างไหม ไหนว่ารักน้องไง :ling1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: icetim ที่ 23-08-2013 12:59:43
จบได้สะใจมากกกก 
ตอนพิเศษก็ไขให้ทุกอย่างเคลียร์
สนุกมากกกก
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 27-10-2013 08:50:03
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: KARMI ที่ 29-10-2013 00:14:30
 :mew2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 29-10-2013 19:43:12
แซดสุดๆๆๆๆ อ่าครับ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: nichytaec ที่ 01-11-2013 20:57:00
ร้องไห้เลยค่ะ อึดอัดแทนน้องปรีย์ ชีวิตเหมือนถูกสาปต้องมาพบกับเรื่องราวน่ารันทดแบบนี้ เศร้ามากค่ะ ถึงใจจริงไม่อยากให้จบแบบนี้เพราะอย่างนี้เลย อยากให้น้องปรีย์เจอสิ่งดีๆ มากกว่าที่ต้องประสบทั้งชีวิต อ่านไปเริ่มเดาออกว่าก้องกับปรีย์ต้องเป็นพ่อลูกกันแน่ๆ แต่ก็ยังภาวนาขอให้คิดผิด อย่างน้อยให้กล้าเป็นน้องที่แม่ก้องเก็บมาเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่มันเป็นไปไม่ได้เลย มันอึดอดจนน้ำตาไหลออกมาเลยค่ะ แต่งดีมากๆ แม้จะไม่ตรงใจเราที่เป็นคนชอบให้มีแต่ความสุขในตอนจบ แต่นี่อาจจะถือดีแล้วสำหรับปรีย์ก็ได้ที่ไม่ต้องรับรู้อะไรอีกเลย

ขอบคุณนะคะถึงจะเศร้าแต่เราก็ชอบเรื่องนี้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: wargroup ที่ 12-02-2014 18:20:35
เรื่องนี้สุดยอดมาก ถึงแก่นความดราม่า เส้นเรื่องพุ่งกระฉูดชัดเจน โครงเด็ดจริงๆ
ไต่ระดับตาม Dramatic Arc ได้เมามันมาก ทำให้คนอ่านเต็มอารมณ์สุดๆ
ความรักเหมือนผีเสื้อ อุปมานี้เหมือนเป็นหลักใหญ่ เกาะเกี่ยวไปทั้งเรื่อง งดงาม
ถ้าไล่ตามจะบินหนี ถ้าอยู่นิ่งจะเข้ามาหาเอง และจะตายลงหลังผสมพันธุ์! เป๊ะทั้งแม่ผีเสื้อและลูก
และอีกคีย์เวิร์ดสำคัญที่ชอบมากคือเรื่อง "ความเห็นแก่ตัว" โดนชำแหละละเอียดเกือบทุกตัวละคร
ก้องภพ/กล้าหาญชัดๆในทุกครั้งที่อยากครอบครอง ครอบครัวของทั้ง 2 ฝ่ายก็ไม่เบา ตนพอใจเป็นเอก
กระทั่งตัวประกอบก็มีประเด็นความเห็นแก่ได้วางปูไว้ไม่มากก็น้อย แฟรงค์ เมย์ หยก เหล่าเพื่อนๆ
ช่วงย้อนอดีต เป็นตอนพิเศษที่เพอร์เฟ็ค ตอบโจทย์และคลี่ขยายปีกผีเสื้อ ยอดเยี่ยม
ตอนพิเศษ 2 แสดงพื้นแท้ขั้นดิบของความเห็นแก่ตัว (โดยก้องและกล้า) ได้อย่างเห็นแจ้งแท้จริงที่สุด
ถ้าเค้ามีให้กดดาว เอาไปเลย 5 ดาวสำหรับเรื่องนี้ ประทับใจมากๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณๆหยดน้ำผึ้งที่แต่งเรื่องชั้นดีมาให้อ่าน และคุณ akuza ผู้โพสท์ talk เล็กๆใต้ตอนมันสะใจดี ชอบเลย
ปล. เรื่องนี้นี่ใครซั่มแบบเผลอๆไม่คิดห่านอะไร ยั้งอารมณ์ไม่อยู่ปุ๊บ ชีวิตเน่าเละทุกคน 555
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 18-01-2015 17:51:08
อ่านไปกระชากอารมณ์ไปรู้สึกเคว้งไปซักพัก
สงสารทุกๆคน เฮ้อ!! ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็มาจากปมในอดีตกันทั้งนั้น

แต่ทำไมคนที่ต้องรับผลกรรมหนักสุดจะต้องเป็นเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแบบนี้ด้วยนะ  :เฮ้อ:
ขอบคุณเรื่องราวที่นำมาให้อ่านครับ น้ำตาซึมไปเลย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Tennyo_Y ที่ 19-03-2015 01:32:13
อ่านจบ อุทานคำแรก พระเจ้า นี่มันบ้าอะไรกันเลยทีเดียว มันเป็นบ้าอะไรกันหมดแล้ว กอบโกยทุกอย่าง จากปีย์ แม้แต่แม่ และยาย กอบโกยเอาจากปีย์ กล้าที่เหมือนจะดี สุดท้ายก็ระยำ ไม่ต่างกัน ก้องเอง ที่สุดก็ยังคงคิดไม่ได้ ยึดติดปีย์ ตักต้วงเอาความสุขจากร่างกายปีย์สงสารปีย์ สงสารที่สุด คือ อารมณ์แบบ เฮ้ย เล่นงี้เลยหรอ เหอ ๆ

ถึงจะเจอช้าไปหน่อย แต่รู้สึกดีที่ได้อ่าน ขอบคุณที่แต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: MimoreQ ที่ 20-09-2016 16:44:19
อ่านจบแล้ว อืมมม สงสารน้องปรีย์ เรื่องราวซับซ้อนกว่าที่คิดมาก ไม่รู้จะคอมเมนท์อะไร แต่ชอบค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: mass ที่ 01-10-2016 23:52:09
ความรักทุ่ีเห็นแก่ตัวนี่เรียกว่ารักได้อีกหรอ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: naya-devil ที่ 19-10-2016 01:09:15
หนักหน่วงเกินไปแล้วววววว    :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

เห็นแก่ตัวหมดล่ะ  สงสารปรีย์ที่ต้องมาถูกเอาเปรียบ ทั้งตอนก่อนและหลัง โอ้ยยยยยย  เศร้าาาาาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 23-10-2016 14:35:29
 :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Mize ที่ 20-01-2017 23:33:24
เคยอ่านเรื่องนี้เมื่อนานมาแล้ว จำได้ว่าเคยอ่านในเว็บเด็กดีมาก่อน เพิ่งมาค้นพบตอนพิเศษก็ตอนที่อยู่ในเว็บ Thaiboyslove นี้ ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้ง ก็ยังคงทำให้ปวดใจไม่เคยเปลี่ยน สงสารปรีย์จับใจ ถึงกับอ่านไปร้องให้ไปเลยทีเดียว ขอบคุณสำหรับนิยายที่กินใจเกินบรรยาย
"Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรักนี้" เป็นหนึ่งในนิยายที่ประทับใจมากเรื่องหนึ่งเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เวลาฟังเพลง Lost Butterfly - Rurutia ทีไรก็จะนึกถึงเรื่องนี้ทุกที (จำได้ว่าตอนอยู่ในเว็บเด็กดี ผู้แต่งได้เคยเอาเพลงนี้ไว้ในนิยายด้วย) ความรักที่สร้างความเจ็บปวด มักทำให้คนเห็นแก่ตัวเสมอ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: SOMCHAREE ที่ 22-01-2017 05:57:12
เศร้า สงสารน้อง ชีวิตหนอชีวิต........
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: hunhan ที่ 21-04-2017 02:43:10
วนกลับมาอ่านประมาณ 4-5 รอบนิยายเรื่องนี้คือคอมพลีททุกอย่าง
อ่านแล้วได้ใจจริงๆ มันตราตรึง ไม่รู้สิ รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วไม่เคยลืมเลย o13 :mew1: :hao6: :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 21-04-2017 18:56:50
สงสารปรีย์ที่สุด :mew6:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: sawapalm ที่ 22-04-2017 01:39:19
สุดท้ายก็มีแต่คนเห็นแก่ตัว....
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 21-05-2017 17:23:52
น้องปรีย์นี่เหมือนมีชีวิตต้องสาปเลยนะคะ ทำไมเด็กคนนึงถึงได้มีชีวิตขัดซบได้ขนาดนี้ เพราะความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่แท้ๆ
ชอบการดำเนินเรื่องค่ะ +เป็ด
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: kungverrycool ที่ 22-05-2017 17:46:04
เป็นนิยายที่เศร้าและหน่วงมาก ชีวิตปรีย์หน้าสงสาร
เด็กบริสุทธิ์คนนึงทำไมต้องมามีชีวิตที่รันทดขนาดนี้
สะท้อนอารมณ์และสังคมในยุคนี้ได้ดีมากค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่แบ่งบันนะคะ :m15:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 16-10-2018 08:26:09
 :a5: สารภาพว่าอ่านแค่ตอนก่อนจบและตอนจบ

พร้อมกับตอนพิเศษอีก 2 อ่านแค่ตอนจบคือคิดว่าดีแล้ว

แต่พออ่านตอนพิเศษนี่มัน..  :z6: :hao5: ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย

ดีแล้วที่ตัดสินใจอ่านแค่นั้น เพราะเรารับม่าไม่ไหวละ

กลั้นน้ำตาแทบไม่ไหว ดีใจที่ปรีย์เป็นแบบนี้ อย่างน้อยๆ

ก็ไม่ต้องรับรู้เรื่องราวห...เหวอะไรเหล่านั้นอีกแล้ว

ทุกคนดูใจร้าย เห็นแก่ตัวกันหมด พ่อกับอาที่คิดว่าจะดี

กลับเห็นแก่ตัวกว่าเดิม  :katai1: โอ่ย จิตใจเรา ฮือ

ขอบคุณนะคะ แต่งดีมากๆๆ เราอ่านแค่นี้ก็เจ็บไปหมด

มันโหดร้ายมาก  :z3:  :o12:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 19-02-2020 21:15:53
เราแอบอ่านสปอยก่อนละเลยทำใจมาก่อน อ่านจบแล้วคิดว่าปรีย์เนี่ย ยันตอนจบของเรื่องน้องเหมือนโดนฉีกทึ้งอะ55555 ตั้งแต่เกิดจนโตเหมือนไม่เคยได้เลือกสิ่งที่อยากจะทำ เพราะเป็นเด็กมั้งเลยต้องไหลตามกระแสความคิดของผู้ใหญ่ มีความคิดเป็นของตัวเองแต่มันก็ไม่หนักแน่นเลย ไม่มีคนที่รักน้องแบบไม่หวังอะไรตอบแทน มันแย่นะเอาจริงๆ...

อยากให้น้องได้เจอสิ่งดีๆ ถึงจะเป็นแค่นิยายแต่ก็หวังแบบนั้น
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: Jessiebier ที่ 20-02-2020 16:03:09
 :sad4: สงสารปรีย์จังเลย
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: sugarcane_aoi ที่ 21-02-2020 19:57:27
เศร้าสงสารน้องปรีย์จัง เฮ้อ นึกว่าบทสรุปจะแฮปปี้ๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 25-08-2020 19:09:36
"........" อาการหลังได้รู้ความปรารถนาในห้วงลึกดำมืดของก้องภพ พูดแทบไม่ออก แต่บอกเลยว่ามันเศร้า แม้ก้องจะเห็นแก่ตัวไม่อยากให้ปรีย์หาย เพราะจะไม่มีวันได้ครอบครองอีกต่อไป แต่เราก็เข้าใจนะ ก็คนมันไม่รู้ว่าจะมีโชคชะตาออกมาบิดเบี้ยวแบบนี้ที่ซึ่งดันมารักด้วยความปรารถดีหมดไปทั้งใจแล้ว เราแอบเศร้าไปกับก้อง ดั่งคำสาปแช่งจริง สาสมแล้วที่เคยทำไรไปเมื่อครั้งก่อน เป็นผู้สร้างมาแล้วทำลายมันลงด้วยน้ำมือของตัวเอง เศร้าไปกับความรักของกล้าหาญด้วยเช่นกัน พอจะมีคนรักจริงๆก็ต้องมาพบเจออย่างที่เป็น มันคือโทษของคนหักหลังพี่ชายหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่สงสารที่สุดคงเป็นใครอีกไม่ได้นอกจากปรีย์ เด็กหนุ่ม ผู้ใสซื่อบริสุทธิ์ ต้องกลายมามีโลกอีกใบไม่รู้เมื่อไหร่จะกลับมา ช่วงที่ปรีย์ได้พี่เช้านอนกับน้องตอนกลางคืน รักพี่เสียดายน้องนี่เราเข้าใจปรีย์เลยนะ ไม่ได้มองว่าสำส่อนหรือร่านอะไรเลย เพราะเราเข้าใจความสับสนที่ปรีย์มี ก็รักทั้งสองคน แต่มันรักคนละแบบ ไม่แปลกที่จะสับสนแบบนั้นเพราะคนมันชั่วโมงบินในชีวิตน้อย และครอบครัวไม่เหลือใคร ผู้แต่งเก่งมากสงสารและเห็นใจ เข้าใจไปหมดทุกคนเลย แม้มันผิดแต่ก็ไม่ได้อยากจะต่อว่า ซ้ำเติมเลย แต่งดีมาก สนุก ไม่ถึงกับน้ำตาไหล แต่หน่วง ดราม่าดี ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ดีใจที่ได้อ่านนิยายหน่วงๆแบบนี้ ปรารถนาใจจริงอยากให้ปรีย์มีความสุขจริงๆกับเขาสักทีนะ  :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 26-08-2020 22:54:22
อ่านแล้วสงสารหนูปรีย์
เกลียดอีก้องภพมากๆ
ไม่รู้จะบรรยายความเกลียดนี้ยังไงดี
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง บทที่ 3 [14.11.54] มารันทดกันต่อ
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 17-02-2022 07:45:29
  เมย์ร้ายกว่าที่เขาคิดเสียอีก...
 
คิดตื้นๆง่ายๆสินะ เป็นใครๆจะยอมให้ผัวเอาเมียเก็บเข้าบ้าน
หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 21-03-2024 19:43:27
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)

หัวข้อ: Re: Lost Butterfly ผีเสื้อเริงรัก โดย หยดน้ำผึ้ง ตอนพิเศษ 2 [20.08.56]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-03-2024 20:57:46
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)