ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
**ชี้แจงกันก่อนจ้า >> เรื่องสั้นนี้เป็นส่วนขยายมาจากเรื่อง Promissing for Love สัญญารัก...นายเอาแต่ใจ นะคะ ตอนแรกตั้งใจจะให้เป็นตอนพิเศษสั้นๆ แต่งแต่งไปแต่งมามันหยุดไม่ได้ 555+ แต่อ่านแค่เรื่องสั้นก็เข้าใจค่ะ^^
“มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ ห้ามแอบไปมีกิ๊กที่ไหนล่ะ ถ้ากูรู้มึงตายแน่”
“บอกตัวเองก่อนเถอะน่า”
“เออๆ กูสัญญาว่าจะมีมึงแค่คนเดียว....ไอ้ไนท์....”
คำสัญญาจะมีความหมายอะไร...ถ้าคนที่ให้....ไม่ใส่ใจกับมัน....
“หัวใจของกู...กูขอคืนนะ...ปล่อยกูไป....ให้ชีวิตกูรู้จักกับความสุขที่แท้จริงเสียที....”
The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
[Night & Palm]
Part I
“มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ ห้ามแอบไปมีกิ๊กที่ไหนล่ะ ถ้ากูรู้มึงตายแน่”
“บอกตัวเองก่อนเถอะน่า”
“เออๆ กูสัญญาว่าจะมีมึงแค่คนเดียว....ไอ้ไนท์....”
ผมนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง เมื่อนึกไปถึงคำสัญญาที่ผู้ชายคนหนึ่งเคยให้กับผมไว้เมื่อนานมาแล้ว...คำสัญญาที่ผมยึดมั่นมันมาตลอด...และเขาล่ะ....เคยคิดจะใส่ใจบ้างหรือเปล่า.... การเริ่มต้นรู้จักกันของผมกับมันไม่ค่อยสวยงามนักหรอกครับ...มันมาจากความอาฆาตแค้นของเด็กสายช่างคนหนึ่งเสียมากกว่า...เรื่องมันเกิดมาจากวันนั้น...วันสอบกลางภาคเรียนที่ 1 เมื่อครั้งที่ผมยังอยู่ชั้นม.4....
พลั่ก!!!
“เชี้ย! ตาแม่งบอดเหรอ!!”
“ขอโทษครับ ผมขอโทษ!!” ผมก้มหัวเอ่ยขอโทษ เมื่อรู้ว่าตัวเองรีบเสียจนวิ่งมาชนผู้ชายคนนี้เข้า และพริบตาแรกที่ผมได้เห็นน่าตาของคนที่ผมชนก็ต้องสะดุ้งตกใจสุดขีด...คนๆนั้น....หัวโจ๊กเด็กช่างข้างๆโรงเรียนผมนี่หว่า!!! โอ้ย!ซวยที่สุดในชีวิต!!
“ขอโทษแล้วมันหายมั้ยไอ้เวรนี่ แม่ง! เอาซักทีดีมั้ย” นายคนนั้นว่าแล้วตรงรี่เข้ามาทำท่าจะต่อยผม ผมหลับตาปี๋พลางร้องอย่างตื่นตระหนก...
“ว๊ากกกก ผมขอโทษพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าทำอะไรผมเลย!!!”
“หุบปาก!!! จะเสียงดังเรียกพ่อมึงมาเหรอ เงียบ! กูบอกให้เงียบ!!”
“อึ่ก.......” ผมรีบเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็วโดยที่สมองยังไม่ทันได้สั่งการ
ไอ้นี่โคตรน่ากลัวเลยครับ!!
“จะ...ให้ผมทำยังไงล่ะ....ผมไม่ได้ตั้งใจจริงนะพี่....สาบานเลยก็ได้.....” ผมว่ะพลางยกมือไหว้ ใครว่าผมไม่มีศักดิ์ศรีผมก็ไม่ว่าหรอกครับ ไม่ปฎิเสธหรอก...ไม่รู้ว่าวันนี้ถึงคราวชะตาขาดหรืออย่างไรถึงได้มีแต่เรื่องทั้งวัน กระเป๋าตังค์หาย โดนแม่ด่า วิ่งหนีหมาบ้าแล้วยังมาเจอไอ้ยักษ์นี่อีก......
“ทำยังไงงั้นเหรอ มึงมากราบตีนกูนี่มา แล้วก็จะปล่อยมึงไป” ว่าเสร็จก็ยื่นเท้าที่ใส่ผ้าใบสีหม่นมาข้างหน้า ผมกัดปากเงยหน้ามองไอ้คนอันธพาลอย่างเจ็บใจ
กูแค่ชนมึงเองนะ...คนที่เจ็บก็กูนะ......
T^T
“จะทำไม่ทำ!!!” ผมสะดุ้ง ห่าหนิ พูดกับกูดีๆได้มั้ยวะ T[]T!!
“พะ.....พี่.....พี่.....” ผมเกิดอาการละล้าละลัง....พูดตามจริงผมก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะครับ...แต่ด้วยความที่ต่อยตีกับใครไม่เป็น...จะให้ผมทำยังไง
“โว้ย! เหี้ย! ชักช้า! งั้นมึงมานี่!!!” พอมันพูดจบผมก็รู้สึกว่าตัวเองลอยหวืดขึ้นจากพื้น ก่อนจะเซถลาไปตามแรงฉุดกระชากโดยที่ผมก็ยังตั้งสติไม่ได้....
นั่นละครับการพบกันระหว่างเราสองคน...เด็กม.ปลายธรรมดาๆกับหัวโจ๊กเด็กช่างโรงเรียนข้างๆ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่ามันลากผมไปทำอะไร....หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตผมก็เข้าสู่ช่วงวิกฤต...จากคนที่คิดอยากจะแก้แค้นในตอนแรก...กลายเป็นคนที่อยากจะคบในเวลาต่อมา...
ผมรู้ว่าปาล์มไม่ใช่คนที่จะหยุดอยู่กับใครนานๆ แม้แต่กับผมเอง...สามสัปดาห์หลังจากที่เราเริ่มคบกัน...ไอ้ปาล์มมันก็มีคนอื่น...ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย...ผู้ชายคนนั้นกลับไปใช้ชีวิตเสเพล กินเหล้าเมายา มั่วผู้หญิง ยุ่งกับผู้ชาย...ในตอนนั้น...ตอนที่ผมยังไม่ได้รู้สึกนึกรักอะไรในตัวมัน...ผมเลิกกับมันได้อย่างที่ไม่ได้รู้สึกอะไร...มันกับผมหันหลังให้กันแล้วก้าวเดินไปคนละทาง...แต่ชีวิตผมก็สงบสุขได้ไม่ถึง 10 วันดี...มันก็กลับมาฉุดผมไปเดินในเส้นทางของมันอีกครั้ง....เมื่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัดขาดมันออกจากบ้าน....
วันนั้น...มันร้องไห้ซบซานมาหาผมอย่างที่ผมเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อน และคอนโดที่ผมอาศัย...ก็มีมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งนับแต่นั้น...จากถูกบังคับ...ไม่เต็มใจ....กลายเป็นความเคยชิน...และความเต็มใจในสุด...
คำสัญญานั่นก็เกิดขึ้น...
ใช่ครับ...สุดท้ายผมก็รักผู้ชายที่ชื่อปณิธาน...
“ไอ้ไนท์ ไปดริ๊งค์กัน ไอ้ป๊อกมันจะเลี้ยง” ผมหันไปหาคนถาม ไอ้นี่เป็นเพื่อนสนิทที่คณะผมครับ ชื่อสาม วันนี้ผมเพิ่งแข่งวอลเล่ย์กับคณะวิจิตรฯเสร็จ เข้ารอบ 6 ทีมสุดท้ายเสียทีครับ ลุ้นกันจนเหนื่อย...
“ที่ไหนวะ”
“ร้านต้นไผ่ ที่เดิมโต๊ะเดิม งานนี้เมาไม่อั้นโว้ย” ไอ้สามว่า ไอ้นี่มันตัวกินเหล้าครับ เมาก็เหมือนไม่เมา เพราะมันจะนั่งเงียบ ฮ่าๆ
“เออๆ เดี๋ยวไปเอาของที่ล็อคเกอร์ก่อนแล้วจะตามไป” ผมบอกเพื่อนไป มันก็ไม่รอช้าล่ะครับขึ้นคร่อมรถเครื่องบิดพริ้วไปโน้นแล้ว ผมส่ายหัวเอือมๆให้เพื่อนแล้วเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์ของคณะ ระหว่างนั้นก็กดโทรศัพท์โทรหาอีกคนที่คิดว่าคงจะรออยู่ที่ห้อง...
‘โหล!!’ ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงห้วนๆที่คุ้นเคยมานานหลายปี
“พี่ปาล์ม วันนี้ไนท์นอนห้องเพื่อนนะ ไอ้ป๊อกมันชวนไปกินเหล้า” ผมบอกปลายสายไป
“เหรอครับ งั้นพี่ก็นอนคนเดียวน่ะสิ เหงาตายเลย” ผมยิ้มให้กับคำพูดของคนเคยเถื่อนเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะวัยวุฒิที่เพิ่มขึ้นมังครับ ปาล์มเลยพูดเพราะขึ้นกว่าเดิมมากเลย ฟังแล้วรื่นหูกว่าตอนที่มันเถื่อนใส่ผมเยอะเลยแหละ
“กลัวเหงาก็มากินเป็นเพื่อนไนท์ไหม”
“ไม่ๆๆ ไม่เป็นไร ไนท์กินตามสบายเลย พี่อยู่ที่ห้องนี่แหละ ปั่นโปรเจ็ค...” ผมขมวดคิ้วให้กับคำพูดของนายปาล์ม ปกติไม่เห็นเคยจะสนใจโปรเจ็ค เข็นก็แล้วอะไรก็แล้วก็ยังไม่ยอมทำเลย....นึกยังไงของเขาน้อ....
“ฝนตกแหง่มๆที่พี่ปาล์มจะทำโปรเจ็ค”
“โอ้ย! พี่ก็มีช่วงขยันเหมือนกันนา ไนท์ไปเถอะ อย่ากินให้มันเยอะนักล่ะ” ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะครับ...เหมือนเสียงอีกฟากหนึ่งนี่ดูดีใจชอบกล.....
คิดมากไปล่ะมั้งเรา...
“โอเค งั้นแค่นี้นะครับ ครับ บาย” ผมกดวางสายแล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่นัดกันไว้ทันที...
ร้านต้นไผ่เป็นร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะครับ ไม่ไกลจากมอมาก ช่วงหัวค่ำแบบนี้คนกำลังเยอะเลย ผมเข้าไปในร้านแล้วเดินเลียบไปทางข้างๆร้าน ไปถึงก็เจอพวกขี้เมานั่งหัวโด่ชนเหล้ากันตั้งแต่หัววันเลย
“กลัวไม่ได้กินกันหรือไงวะ” ผมทักพวกเพื่อนๆที่โต๊ะ เป็นเพื่อนสนิทให้เอกของผมทั้งหมดครับ รวมผมด้วยก็ 6 คน
“นานๆทีเว้ย ฉลองก่อนงานสปอตเดย์เสียหน่อย” ไอ้ป๊อกผู้เป็นเจ้ามือพูดครับ
“ใช่!! กินซะก่อนจะหัวหมุนไปกับการใช้แรงงาน ไอ้ขิมก็โคตรเหี้ยมเลยว่ะ...” ไอ้ปองเพื่อนอีกคนบ่น ผมก็พูดเออออไปอย่างเห็นด้วย ขิมที่ว่านี่ประธานปี1ของคณะผมครับ เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์ของคณะเหมือนกับผมด้วย ตบลูกทีผมแอบหวาดเสียว ไอ้คนนี้ถึงเป็นผู้ชายมันก็ยังดูสวยครับ มาดนางพญาด้วย แถมโหดไม่เข้ากับหน้าตาอีกต่างหาก สั่งงานพวกเพื่อนๆในคณะทีนี่แทบกระอั่ก วางแผนเป๊ะๆๆ ฟาดงานลงมาเปรี้ยง! และเราๆก็ก้มหน้าทำตาม อ้อ! แต่อย่าคิดแอ้มนะครับ คนนี้เขามีเจ้าของแล้ว...กำลังตามตื้อตามจีบกันอยู่แถมเจ้าตัวก็ดูจะเล่นด้วยนะครับ อย่าหวังเลย ฮ่าๆๆ
“เออน่า เพราะมันไม่ใช่เหรอที่ทำให้เราทำงานกันเป็นระบบอ่ะ ก้มหน้าทำไป บ่นทำไม...” ผมว่า หลังจากนั้นเราก็คุยกันสับเพเหระครับ คุยไปชนแก้วไปจนตอนนี้สี่ทุ่มกว่า...เมาเหมือนหมาไปแล้ว 3 คน.....
“เดี๋ยวมานะพวก ไปห้องน้ำแป๊บบบบบ”ไอ้ป๊อกพูดเสียงยานคางแล้วลุกขึ้นยืนโงนเงนๆ ไปทางห้องน้ำ คนที่เหลือก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายครับ นั่งกินกันต่อ จนกระทั่ง....
โครม!
เพล้ง!!!
“เหี้ย! เหยียบตีนแล้วเดินหนีเหรอสาดดดดด” พวกผมสามคน(ที่ยังมีสติ)สะดุ้งตกใจกับเสียงแก้วแตกที่ดังไปทั่วบริเวณ หันมามองที่มาก็ต้องกุมหัวกันอย่างกลุ้มๆครับ ไอ้ป๊อกทำเรื่องอีกแล้ว......
"เฮ้ย!! พี่ๆๆ นั่นเพื่อนผมพี่!!” ไอ้ปองที่ได้สติก่อนเพื่อนรีบวิ่งเข้าไปขวางทางลำแข้งที่กำลังจะประเคนใส่ไอ้ป๊อกขี้เมา ผมเลยรีบลุกตามไปด้วยความตกใจ
“เพื่อนมึงแม่งกวนตีนกูนะ เดินมาชนกูเองแล้วยังมากัดกูอีก” ไอ้คนตัวใหญ่ว่า หน้าตามันเหมือนกุ๊ยท้ายซอยแถวบ้านผมเลยครับ เหอๆ
“ขอโทษแทนมันด้วยพี่ ไอ้นี่มันเมาแล้วงี่เง่า” ไอ้ปองว่า ตอนแรกไอ้ยักษ์นั่นก็ทำท่าจะไม่ยอมนะครับ แต่เพื่อนของมันช่วยเคลียร์ให้ไอ้ป๊อกก็เลยรอดตีนมาได้อย่างปลอดภัย
“ห่าเอ้ย! เมาไม่ว่าหาเรื่องให้กูอีกนะไอ้ป๊อก” ไอ้ปองบ่น จากนั้นไม่นานเราก็เรียกเช็คบิลครับ เพราะหากอยู่นานกว่านี้มีหวังจะได้เสี่ยงอันตรายจากลำแข้งแน่ๆ ผมเลยช่วยพยุงร่างไอ้สามที่หลับไปแล้วไปที่รถและขอตัวกลับห้อง ไหนๆมันก็ยังไม่ดึกแถมไม่อยากจะได้ภาระรับเก็บศพใครสักคน รีบชิ่งหนีดีกว่า.....
ผมเข้ามาในล็อบบี้ของคอนโดพลางเดินไปที่ลิฟท์ ห้องที่นี่แม่ผมเป็นซื้อให้ครับ...ความจริงแล้วบ้านผมอยู่ที่พิษณุโลกแต่เพราะผมสอบเข้าม.ปลายที่โรงเรียนในกรุงเทพฯ แม่ก็เลยลงทุนซื้อคอนโดที่นี่ให้เป็นของขวัญที่ผมพยายามจนประสบความสำเร็จ เรื่องที่ไอ้ปาล์มมาอยู่ที่นี้แม่ผมก็รู้แล้วครับ ท่านอนุญาติเรียบร้อย แต่ที่ท่านไม่รู้ก็คือไอ้ปาล์มมันมาอาศัยอยู่ฟรีๆ...ใช่ครับ ไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย...อยู่เหมือนราชา...นี่แหละมั้งสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยจะชอบใจเลย...
ผมล้วงกุญแจออกมาเพื่อที่จะไขประตูห้อง แต่กุญแจมันก็หลุดมือจนร่วงไปอยูที่พื้นทางเดิน ไม่รู้ทำไมใจผมมันหวิวๆตอนที่ก้มลงไปเก็บกุญแจขึ้นมา....แต่ช่างเถอะ...ผมคงจะคิดมากไป...ผมจัดการไขกุญแจเข้าไปก็พบกับความมืดที่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ไหนว่าทำโปรเจ็คไงวะ.....ผมส่ายหัวอย่างปลงๆและกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดสวิชต์ไฟ...แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำแบบนั้น....
“อ่า...........อืม...........อ๊ะ............”
หูของผมพลันได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากทางห้องนอน ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่านายปาล์มจะนึกอุตริช่วยตัวเองขึ้นมา เพราะมันทำแบบนั้นบ่อยๆ แต่ฟังไม่ฟังมาผมว่ามันไม่ใช่ ด้วยความสงสัยผมจึงค่อยๆก้าวเท้าไปยังห้องนอนที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง แต่ยิ่งเข้าใกล้...ผมก็ยิ่งไม่อยากได้ยิน....
“อ๊า......แรงอีกครับ........อู้ว...........อื๊อ.....”
“เก่งมากที่รัก.....อ่า......ร่อนแรงๆอีก......อ๊า.......”
“ซี๊ด.....เร็วอีกพี่ปาล์ม.....อ๊า........”
“โอ้ว.......แน่นดีจริงๆที่รัก.....ไม่เสียแรงที่คบมานาน.....อ่า......เยส........”
“ดีกว่าเมียพี่ไหม.....นี่แน่ะ.....อ๋า.......นี่ๆๆ......สะใจไหม....”
“ซี๊ด......ดีกว่าอยู่แล้วที่รัก.......อ่า.......”
ผมยืนนิ่งอยู่หน้าประตูคล้ายถูกค้อนขนาดยักษ์ทุบลงมา ขาเกิดก้าวไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ หัวใจเหมือนจะแตกสลายเมื่อรู้ว่าคนที่รักกำลังทำอะไรอยู่....เด็กสามขวบมันยังรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง....ในเวลานั้นผมรู้สึกอยากจะร้องไห้...อยากจะกรีดร้องออกมาให้มันสมกับความเจ็บที่อยู่ในใจตอนนี้...แต่ผมก็ร้องไม่ออก...มันจุกไปหมดจนรู้สึกได้ว่าตัวผมกำลังสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
ไม่จริงใช่ไหม......
นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม.......
ผมส่ายหัวแรงๆอย่างไม่อยากจะยอมรับในสิ่งที่ได้ยิน ถึงแม้ความคิดผมอยากจะเดินหนีออกไปจากที่นี่ ออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่ตอนเช้า....ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....แล้วก็รักกันต่อไป....แต่ร่างกายมันคงไม่อยากให้ผมหลอกตัวเองอีก เพราะมือของผมเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไป เปิดเข้าไปยอมรับความจริงเสียที.....
ภายในห้องที่มืดสนิทมีร่างของคนสองคนกำลังจมอยู่ในห้วงอารมณ์จนไม่ได้สนใจร่างของผมที่ยื่นมองภาพบาดใจด้วยหัวใจที่แหลกละเอียด...เตียงที่ผมเคยนอนกอดกับใครบางคนอยู่ทุกคืนมีสภาพยับยู่ยี่จนดูไม่ได้ สองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่เตียง....แต่อยู่ที่โต๊ะคอมสุดรักที่ผมใช้มันเป็นที่นั่งทำงานตลอดเวลาต่างหาก เขาทั้งคู่หันหลังให้ผม...ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้....แผ่นหลังกว้างที่แสนคุ้นตากับเรียวขาบางของใครอีกคน แม้ผมจะไม่เห็นภาพเต็มๆ แต่ฟังจากเสียงที่แข่งกันครางไม่ได้ศัพท์นั่นก็รู้ว่าเขามีความสุขกันมากแค่ไหน
ในตอนนั้นเองที่น้ำตาผมไหลออกมา.....
พรึ่บ!!!!
“เฮ้ย!/อุ้ย!!”
โดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรอง...มือผมเอื้อมไปเปิดสวิตช์ไฟ พริบตาเดียวแสงสว่างก็สาดไปทั่วห้อง รวมไปถึงสองร่างนั้นที่หลุดออกมาจากวังวลของกามอารมณ์ด้วยความตกใจ ผมยืนนิ่งมองภาพร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อของคนทั้งสอง ไอ้ปาล์มมองผมอย่างตกตะลึงในขณะที่...ผู้ชายอีกคน....แสยะยิ้มอย่างสะใจ....ไม่เข้ากับหน้าตาน่ารักของเขาเลย.....ผมยืนเงียบอยู่อย่างนั้น....มองภาพบาดตาบาดใจให้มันซึมลึกเข้าไป.....กรีดรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า....
“นะ...ไนท์....มะ....มาตั้งแต่เมื่อไหร่........” มันถามผมอย่างตะกุกตะกักในขณะที่พากันลนลานใส่เสื้อผ้า หน้าของมันซีดขาวจนไม่เหลือสีเลือด...ผมรู้ว่ามันตกใจ...คาดไม่ถึงว่าผมจะปรากฎตัวที่นี่....ผมก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่ามันจะทำกับผมแบบนี้!!!
“นานพอจะรู้ว่าพี่กำลังมีความสุขสุดฤทธิ์เลยไง” ผมตอบเสียงเรียบ ถึงแม้ใจจะเจ็บ...แต่ก็ดีที่มันยังสงบ...
“นะ...ไนท์.....”
“นี่ใช่ไหมโปรเจ็คที่พี่ว่า โปรเจ็คพากะหรี่มามั่วสินะถึงได้ดีใจนักที่ผมโทรมาบอกว่าจะไม่กลับห้อง!!” ผมขึ้นเสียงถามมัน
“นี่! แกว่าใครกะหรี่ห๊ะ!!” ไอ้คนตัวเล็กตะคอกเสียงถามผมอย่างไม่พอใจ ผมยิ้มเรียบๆไปให้ก่อนจะตอบออกไป
“ว่ามึงนั้นแหละ หยุด! ถ้ามึงพูดตอนนี้กูเอาตีนฟาดปากมึงแน่!!” ผมยกมือชี้หน้า มันชะงักก่อนจะเงียบไปด้วยความกลัว
“ส่วนพี่....ผมให้เวลาสิบห้านาที เก็บข้าวของให้หมดแล้วออกไปจากห้องนี้!!”
“นะ....ไนท์...พี่.....”
“ผมบอกให้เก็บของแล้วไสหัวไป!!” ผมตะคอกใส่หน้าไอ้คนสารเลว เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาทุ่มใส่คนไม่มียางอายทั้งสองคนเต็มแรง
โครม!!
“ออกไป!!!!” ผมตวาดไล่
“ละ...แล้วพี่จะไปอยู่ที่ไหนล่ะนะ.....”
“จะไปมุดหัวอยู่ที่ไหนก็เรื่องของมึง ในเมื่อมึงผิดสัญญากับกูมึงก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องอะไรทั้งนั้น! กูบอกให้ออกไป!!!” ผมตวาดไล่มันทั้งน้ำตา แม้น้ำตาจะไหลออกมาไม่ขาดสายแต่ผมก็ยังไม่สะอื้น..
“ไปกันเถอะที่รัก เขาไล่แล้ว เราจะอยู่ไปทำไมล่ะ ไปเถอะครับ...”
“มึงน่ะหุบปากแล้วช่วยมันเก็บของไป!! เอาเวลาตอแหลไปช่วยผัวมึงขนของนู้น!! ไป๊!!!” คราวนี้มันรีบลนลานดึงมือไอ้อาร์มออกไปจากห้อง ผมช่วยเขวี้ยงทุกอย่างที่นึกได้ไปหาคนเป็นเจ้าของ ไม่เว้นแม้แต่โน๊ตบุ๊คที่ลอยไปกระแทกฝาผนัง!!
ปัง!!!!
ผมกระแทกประตูปิดแล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เสียงสะอื้นที่กลั้นเอาไว้เริ่มหลุดออกมาก่อนผมจะกรีดร้องแทบจะขาดใจอยู่ตรงนั้น....ร้องไห้ตัวโยนอย่างคนเสียสติ...ในหัวเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น...นึกด่าตัวเองที่โง่จนไม่รู้ว่าคนที่หลงไว้ใจพาใครต่อใครเข้าห้องของตัวเอง นานแค่ไหนแล้วที่เขาโง่เง่าอยู่แบบนี้ นานแค่ไหนแล้วที่ไอ้สารเลวนั้นเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นลับหลัง นานแค่ไหนแล้วที่มันมีคนอื่นนอกจากเขา...
สัญญานั่น.....แหลกละเอียดไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน....
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To be Con. >> Part II
Cooming Soon...
#5.23 PM. [24/10/54] แก้คำผิด