พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 21-10-2011 23:24:08

หัวข้อ: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 21-10-2011 23:24:08
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 


++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


**ชี้แจงกันก่อนจ้า >> เรื่องสั้นนี้เป็นส่วนขยายมาจากเรื่อง Promissing for Love สัญญารัก...นายเอาแต่ใจ นะคะ ตอนแรกตั้งใจจะให้เป็นตอนพิเศษสั้นๆ แต่งแต่งไปแต่งมามันหยุดไม่ได้ 555+ แต่อ่านแค่เรื่องสั้นก็เข้าใจค่ะ^^



“มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ ห้ามแอบไปมีกิ๊กที่ไหนล่ะ ถ้ากูรู้มึงตายแน่”



“บอกตัวเองก่อนเถอะน่า”



“เออๆ กูสัญญาว่าจะมีมึงแค่คนเดียว....ไอ้ไนท์....”



คำสัญญาจะมีความหมายอะไร...ถ้าคนที่ให้....ไม่ใส่ใจกับมัน....




“หัวใจของกู...กูขอคืนนะ...ปล่อยกูไป....ให้ชีวิตกูรู้จักกับความสุขที่แท้จริงเสียที....”



หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 24-10-2011 09:20:55
The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...

[Night & Palm]

Part I





“มึงเป็นแฟนกูแล้วนะ ห้ามแอบไปมีกิ๊กที่ไหนล่ะ ถ้ากูรู้มึงตายแน่”


“บอกตัวเองก่อนเถอะน่า”


“เออๆ กูสัญญาว่าจะมีมึงแค่คนเดียว....ไอ้ไนท์....”




   ผมนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่บนเตียงในห้องนอนของตัวเอง เมื่อนึกไปถึงคำสัญญาที่ผู้ชายคนหนึ่งเคยให้กับผมไว้เมื่อนานมาแล้ว...คำสัญญาที่ผมยึดมั่นมันมาตลอด...และเขาล่ะ....เคยคิดจะใส่ใจบ้างหรือเปล่า.... การเริ่มต้นรู้จักกันของผมกับมันไม่ค่อยสวยงามนักหรอกครับ...มันมาจากความอาฆาตแค้นของเด็กสายช่างคนหนึ่งเสียมากกว่า...เรื่องมันเกิดมาจากวันนั้น...วันสอบกลางภาคเรียนที่ 1 เมื่อครั้งที่ผมยังอยู่ชั้นม.4....


พลั่ก!!!




“เชี้ย! ตาแม่งบอดเหรอ!!”



“ขอโทษครับ ผมขอโทษ!!” ผมก้มหัวเอ่ยขอโทษ เมื่อรู้ว่าตัวเองรีบเสียจนวิ่งมาชนผู้ชายคนนี้เข้า และพริบตาแรกที่ผมได้เห็นน่าตาของคนที่ผมชนก็ต้องสะดุ้งตกใจสุดขีด...คนๆนั้น....หัวโจ๊กเด็กช่างข้างๆโรงเรียนผมนี่หว่า!!! โอ้ย!ซวยที่สุดในชีวิต!!



“ขอโทษแล้วมันหายมั้ยไอ้เวรนี่ แม่ง! เอาซักทีดีมั้ย” นายคนนั้นว่าแล้วตรงรี่เข้ามาทำท่าจะต่อยผม ผมหลับตาปี๋พลางร้องอย่างตื่นตระหนก...



“ว๊ากกกก ผมขอโทษพี่ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ อย่าทำอะไรผมเลย!!!”



“หุบปาก!!! จะเสียงดังเรียกพ่อมึงมาเหรอ เงียบ! กูบอกให้เงียบ!!”



“อึ่ก.......” ผมรีบเอามือขึ้นมาปิดปากตัวเองอย่างรวดเร็วโดยที่สมองยังไม่ทันได้สั่งการ




ไอ้นี่โคตรน่ากลัวเลยครับ!!




“จะ...ให้ผมทำยังไงล่ะ....ผมไม่ได้ตั้งใจจริงนะพี่....สาบานเลยก็ได้.....” ผมว่ะพลางยกมือไหว้ ใครว่าผมไม่มีศักดิ์ศรีผมก็ไม่ว่าหรอกครับ ไม่ปฎิเสธหรอก...ไม่รู้ว่าวันนี้ถึงคราวชะตาขาดหรืออย่างไรถึงได้มีแต่เรื่องทั้งวัน กระเป๋าตังค์หาย โดนแม่ด่า วิ่งหนีหมาบ้าแล้วยังมาเจอไอ้ยักษ์นี่อีก......



“ทำยังไงงั้นเหรอ มึงมากราบตีนกูนี่มา แล้วก็จะปล่อยมึงไป” ว่าเสร็จก็ยื่นเท้าที่ใส่ผ้าใบสีหม่นมาข้างหน้า ผมกัดปากเงยหน้ามองไอ้คนอันธพาลอย่างเจ็บใจ




กูแค่ชนมึงเองนะ...คนที่เจ็บก็กูนะ......




T^T




“จะทำไม่ทำ!!!” ผมสะดุ้ง ห่าหนิ พูดกับกูดีๆได้มั้ยวะ T[]T!!   



“พะ.....พี่.....พี่.....” ผมเกิดอาการละล้าละลัง....พูดตามจริงผมก็ไม่ได้อยากจะทำหรอกนะครับ...แต่ด้วยความที่ต่อยตีกับใครไม่เป็น...จะให้ผมทำยังไง



“โว้ย! เหี้ย! ชักช้า! งั้นมึงมานี่!!!” พอมันพูดจบผมก็รู้สึกว่าตัวเองลอยหวืดขึ้นจากพื้น ก่อนจะเซถลาไปตามแรงฉุดกระชากโดยที่ผมก็ยังตั้งสติไม่ได้....





   นั่นละครับการพบกันระหว่างเราสองคน...เด็กม.ปลายธรรมดาๆกับหัวโจ๊กเด็กช่างโรงเรียนข้างๆ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่ามันลากผมไปทำอะไร....หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาชีวิตผมก็เข้าสู่ช่วงวิกฤต...จากคนที่คิดอยากจะแก้แค้นในตอนแรก...กลายเป็นคนที่อยากจะคบในเวลาต่อมา...



   ผมรู้ว่าปาล์มไม่ใช่คนที่จะหยุดอยู่กับใครนานๆ แม้แต่กับผมเอง...สามสัปดาห์หลังจากที่เราเริ่มคบกัน...ไอ้ปาล์มมันก็มีคนอื่น...ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย...ผู้ชายคนนั้นกลับไปใช้ชีวิตเสเพล กินเหล้าเมายา มั่วผู้หญิง ยุ่งกับผู้ชาย...ในตอนนั้น...ตอนที่ผมยังไม่ได้รู้สึกนึกรักอะไรในตัวมัน...ผมเลิกกับมันได้อย่างที่ไม่ได้รู้สึกอะไร...มันกับผมหันหลังให้กันแล้วก้าวเดินไปคนละทาง...แต่ชีวิตผมก็สงบสุขได้ไม่ถึง 10 วันดี...มันก็กลับมาฉุดผมไปเดินในเส้นทางของมันอีกครั้ง....เมื่อพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดตัดขาดมันออกจากบ้าน....



   วันนั้น...มันร้องไห้ซบซานมาหาผมอย่างที่ผมเองก็ไม่เคยนึกฝันมาก่อน และคอนโดที่ผมอาศัย...ก็มีมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งนับแต่นั้น...จากถูกบังคับ...ไม่เต็มใจ....กลายเป็นความเคยชิน...และความเต็มใจในสุด...





คำสัญญานั่นก็เกิดขึ้น...





ใช่ครับ...สุดท้ายผมก็รักผู้ชายที่ชื่อปณิธาน...






“ไอ้ไนท์ ไปดริ๊งค์กัน ไอ้ป๊อกมันจะเลี้ยง” ผมหันไปหาคนถาม ไอ้นี่เป็นเพื่อนสนิทที่คณะผมครับ ชื่อสาม วันนี้ผมเพิ่งแข่งวอลเล่ย์กับคณะวิจิตรฯเสร็จ เข้ารอบ 6 ทีมสุดท้ายเสียทีครับ ลุ้นกันจนเหนื่อย...


“ที่ไหนวะ”


“ร้านต้นไผ่ ที่เดิมโต๊ะเดิม งานนี้เมาไม่อั้นโว้ย” ไอ้สามว่า ไอ้นี่มันตัวกินเหล้าครับ เมาก็เหมือนไม่เมา เพราะมันจะนั่งเงียบ ฮ่าๆ


“เออๆ เดี๋ยวไปเอาของที่ล็อคเกอร์ก่อนแล้วจะตามไป” ผมบอกเพื่อนไป มันก็ไม่รอช้าล่ะครับขึ้นคร่อมรถเครื่องบิดพริ้วไปโน้นแล้ว ผมส่ายหัวเอือมๆให้เพื่อนแล้วเดินไปที่ห้องล็อคเกอร์ของคณะ ระหว่างนั้นก็กดโทรศัพท์โทรหาอีกคนที่คิดว่าคงจะรออยู่ที่ห้อง...




‘โหล!!’ ไม่นานผมก็ได้ยินเสียงห้วนๆที่คุ้นเคยมานานหลายปี   


“พี่ปาล์ม วันนี้ไนท์นอนห้องเพื่อนนะ ไอ้ป๊อกมันชวนไปกินเหล้า” ผมบอกปลายสายไป


“เหรอครับ งั้นพี่ก็นอนคนเดียวน่ะสิ เหงาตายเลย” ผมยิ้มให้กับคำพูดของคนเคยเถื่อนเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะวัยวุฒิที่เพิ่มขึ้นมังครับ ปาล์มเลยพูดเพราะขึ้นกว่าเดิมมากเลย ฟังแล้วรื่นหูกว่าตอนที่มันเถื่อนใส่ผมเยอะเลยแหละ


“กลัวเหงาก็มากินเป็นเพื่อนไนท์ไหม”


“ไม่ๆๆ ไม่เป็นไร ไนท์กินตามสบายเลย พี่อยู่ที่ห้องนี่แหละ ปั่นโปรเจ็ค...” ผมขมวดคิ้วให้กับคำพูดของนายปาล์ม ปกติไม่เห็นเคยจะสนใจโปรเจ็ค เข็นก็แล้วอะไรก็แล้วก็ยังไม่ยอมทำเลย....นึกยังไงของเขาน้อ....


“ฝนตกแหง่มๆที่พี่ปาล์มจะทำโปรเจ็ค”


“โอ้ย! พี่ก็มีช่วงขยันเหมือนกันนา ไนท์ไปเถอะ อย่ากินให้มันเยอะนักล่ะ” ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่านะครับ...เหมือนเสียงอีกฟากหนึ่งนี่ดูดีใจชอบกล.....




คิดมากไปล่ะมั้งเรา...




“โอเค งั้นแค่นี้นะครับ ครับ บาย” ผมกดวางสายแล้วมุ่งหน้าสู่จุดหมายที่นัดกันไว้ทันที...





ร้านต้นไผ่เป็นร้านอาหารกึ่งคาราโอเกะครับ ไม่ไกลจากมอมาก ช่วงหัวค่ำแบบนี้คนกำลังเยอะเลย ผมเข้าไปในร้านแล้วเดินเลียบไปทางข้างๆร้าน ไปถึงก็เจอพวกขี้เมานั่งหัวโด่ชนเหล้ากันตั้งแต่หัววันเลย




“กลัวไม่ได้กินกันหรือไงวะ” ผมทักพวกเพื่อนๆที่โต๊ะ เป็นเพื่อนสนิทให้เอกของผมทั้งหมดครับ รวมผมด้วยก็ 6 คน


“นานๆทีเว้ย ฉลองก่อนงานสปอตเดย์เสียหน่อย” ไอ้ป๊อกผู้เป็นเจ้ามือพูดครับ


“ใช่!! กินซะก่อนจะหัวหมุนไปกับการใช้แรงงาน ไอ้ขิมก็โคตรเหี้ยมเลยว่ะ...” ไอ้ปองเพื่อนอีกคนบ่น ผมก็พูดเออออไปอย่างเห็นด้วย ขิมที่ว่านี่ประธานปี1ของคณะผมครับ เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์ของคณะเหมือนกับผมด้วย ตบลูกทีผมแอบหวาดเสียว ไอ้คนนี้ถึงเป็นผู้ชายมันก็ยังดูสวยครับ มาดนางพญาด้วย แถมโหดไม่เข้ากับหน้าตาอีกต่างหาก สั่งงานพวกเพื่อนๆในคณะทีนี่แทบกระอั่ก วางแผนเป๊ะๆๆ ฟาดงานลงมาเปรี้ยง! และเราๆก็ก้มหน้าทำตาม อ้อ! แต่อย่าคิดแอ้มนะครับ คนนี้เขามีเจ้าของแล้ว...กำลังตามตื้อตามจีบกันอยู่แถมเจ้าตัวก็ดูจะเล่นด้วยนะครับ อย่าหวังเลย ฮ่าๆๆ


“เออน่า เพราะมันไม่ใช่เหรอที่ทำให้เราทำงานกันเป็นระบบอ่ะ ก้มหน้าทำไป บ่นทำไม...” ผมว่า หลังจากนั้นเราก็คุยกันสับเพเหระครับ คุยไปชนแก้วไปจนตอนนี้สี่ทุ่มกว่า...เมาเหมือนหมาไปแล้ว 3 คน.....


“เดี๋ยวมานะพวก ไปห้องน้ำแป๊บบบบบ”ไอ้ป๊อกพูดเสียงยานคางแล้วลุกขึ้นยืนโงนเงนๆ ไปทางห้องน้ำ คนที่เหลือก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายครับ นั่งกินกันต่อ จนกระทั่ง....




โครม!





เพล้ง!!!





“เหี้ย! เหยียบตีนแล้วเดินหนีเหรอสาดดดดด” พวกผมสามคน(ที่ยังมีสติ)สะดุ้งตกใจกับเสียงแก้วแตกที่ดังไปทั่วบริเวณ หันมามองที่มาก็ต้องกุมหัวกันอย่างกลุ้มๆครับ ไอ้ป๊อกทำเรื่องอีกแล้ว......


"เฮ้ย!! พี่ๆๆ นั่นเพื่อนผมพี่!!” ไอ้ปองที่ได้สติก่อนเพื่อนรีบวิ่งเข้าไปขวางทางลำแข้งที่กำลังจะประเคนใส่ไอ้ป๊อกขี้เมา ผมเลยรีบลุกตามไปด้วยความตกใจ


“เพื่อนมึงแม่งกวนตีนกูนะ เดินมาชนกูเองแล้วยังมากัดกูอีก” ไอ้คนตัวใหญ่ว่า หน้าตามันเหมือนกุ๊ยท้ายซอยแถวบ้านผมเลยครับ เหอๆ


“ขอโทษแทนมันด้วยพี่ ไอ้นี่มันเมาแล้วงี่เง่า” ไอ้ปองว่า ตอนแรกไอ้ยักษ์นั่นก็ทำท่าจะไม่ยอมนะครับ แต่เพื่อนของมันช่วยเคลียร์ให้ไอ้ป๊อกก็เลยรอดตีนมาได้อย่างปลอดภัย


“ห่าเอ้ย! เมาไม่ว่าหาเรื่องให้กูอีกนะไอ้ป๊อก” ไอ้ปองบ่น จากนั้นไม่นานเราก็เรียกเช็คบิลครับ เพราะหากอยู่นานกว่านี้มีหวังจะได้เสี่ยงอันตรายจากลำแข้งแน่ๆ ผมเลยช่วยพยุงร่างไอ้สามที่หลับไปแล้วไปที่รถและขอตัวกลับห้อง ไหนๆมันก็ยังไม่ดึกแถมไม่อยากจะได้ภาระรับเก็บศพใครสักคน รีบชิ่งหนีดีกว่า.....



          ผมเข้ามาในล็อบบี้ของคอนโดพลางเดินไปที่ลิฟท์ ห้องที่นี่แม่ผมเป็นซื้อให้ครับ...ความจริงแล้วบ้านผมอยู่ที่พิษณุโลกแต่เพราะผมสอบเข้าม.ปลายที่โรงเรียนในกรุงเทพฯ แม่ก็เลยลงทุนซื้อคอนโดที่นี่ให้เป็นของขวัญที่ผมพยายามจนประสบความสำเร็จ เรื่องที่ไอ้ปาล์มมาอยู่ที่นี้แม่ผมก็รู้แล้วครับ ท่านอนุญาติเรียบร้อย แต่ที่ท่านไม่รู้ก็คือไอ้ปาล์มมันมาอาศัยอยู่ฟรีๆ...ใช่ครับ ไม่ได้ช่วยทำอะไรเลย...อยู่เหมือนราชา...นี่แหละมั้งสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยจะชอบใจเลย...


          ผมล้วงกุญแจออกมาเพื่อที่จะไขประตูห้อง แต่กุญแจมันก็หลุดมือจนร่วงไปอยูที่พื้นทางเดิน ไม่รู้ทำไมใจผมมันหวิวๆตอนที่ก้มลงไปเก็บกุญแจขึ้นมา....แต่ช่างเถอะ...ผมคงจะคิดมากไป...ผมจัดการไขกุญแจเข้าไปก็พบกับความมืดที่ปกคลุมไปทั่วทั้งห้อง ไหนว่าทำโปรเจ็คไงวะ.....ผมส่ายหัวอย่างปลงๆและกำลังจะเอื้อมมือไปเปิดสวิชต์ไฟ...แต่ก่อนที่ผมจะได้ทำแบบนั้น....





“อ่า...........อืม...........อ๊ะ............”
 




   หูของผมพลันได้ยินเสียงแปลกๆดังมาจากทางห้องนอน ในตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไร นึกว่านายปาล์มจะนึกอุตริช่วยตัวเองขึ้นมา เพราะมันทำแบบนั้นบ่อยๆ แต่ฟังไม่ฟังมาผมว่ามันไม่ใช่ ด้วยความสงสัยผมจึงค่อยๆก้าวเท้าไปยังห้องนอนที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง แต่ยิ่งเข้าใกล้...ผมก็ยิ่งไม่อยากได้ยิน....




“อ๊า......แรงอีกครับ........อู้ว...........อื๊อ.....”



“เก่งมากที่รัก.....อ่า......ร่อนแรงๆอีก......อ๊า.......”



“ซี๊ด.....เร็วอีกพี่ปาล์ม.....อ๊า........”



“โอ้ว.......แน่นดีจริงๆที่รัก.....ไม่เสียแรงที่คบมานาน.....อ่า......เยส........”



“ดีกว่าเมียพี่ไหม.....นี่แน่ะ.....อ๋า.......นี่ๆๆ......สะใจไหม....”



“ซี๊ด......ดีกว่าอยู่แล้วที่รัก.......อ่า.......”







   ผมยืนนิ่งอยู่หน้าประตูคล้ายถูกค้อนขนาดยักษ์ทุบลงมา ขาเกิดก้าวไม่ออกขึ้นมาเสียดื้อๆ หัวใจเหมือนจะแตกสลายเมื่อรู้ว่าคนที่รักกำลังทำอะไรอยู่....เด็กสามขวบมันยังรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในห้อง....ในเวลานั้นผมรู้สึกอยากจะร้องไห้...อยากจะกรีดร้องออกมาให้มันสมกับความเจ็บที่อยู่ในใจตอนนี้...แต่ผมก็ร้องไม่ออก...มันจุกไปหมดจนรู้สึกได้ว่าตัวผมกำลังสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่





ไม่จริงใช่ไหม......





นี่มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม.......





   ผมส่ายหัวแรงๆอย่างไม่อยากจะยอมรับในสิ่งที่ได้ยิน ถึงแม้ความคิดผมอยากจะเดินหนีออกไปจากที่นี่ ออกไปแล้วกลับเข้ามาใหม่ตอนเช้า....ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....แล้วก็รักกันต่อไป....แต่ร่างกายมันคงไม่อยากให้ผมหลอกตัวเองอีก เพราะมือของผมเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไป เปิดเข้าไปยอมรับความจริงเสียที.....



   ภายในห้องที่มืดสนิทมีร่างของคนสองคนกำลังจมอยู่ในห้วงอารมณ์จนไม่ได้สนใจร่างของผมที่ยื่นมองภาพบาดใจด้วยหัวใจที่แหลกละเอียด...เตียงที่ผมเคยนอนกอดกับใครบางคนอยู่ทุกคืนมีสภาพยับยู่ยี่จนดูไม่ได้ สองคนนั้นไม่ได้อยู่ที่เตียง....แต่อยู่ที่โต๊ะคอมสุดรักที่ผมใช้มันเป็นที่นั่งทำงานตลอดเวลาต่างหาก เขาทั้งคู่หันหลังให้ผม...ไม่แปลกที่เขาจะไม่รู้....แผ่นหลังกว้างที่แสนคุ้นตากับเรียวขาบางของใครอีกคน แม้ผมจะไม่เห็นภาพเต็มๆ แต่ฟังจากเสียงที่แข่งกันครางไม่ได้ศัพท์นั่นก็รู้ว่าเขามีความสุขกันมากแค่ไหน







ในตอนนั้นเองที่น้ำตาผมไหลออกมา.....








พรึ่บ!!!!





“เฮ้ย!/อุ้ย!!”



   
   โดยที่ไม่ได้คิดไตร่ตรอง...มือผมเอื้อมไปเปิดสวิตช์ไฟ พริบตาเดียวแสงสว่างก็สาดไปทั่วห้อง รวมไปถึงสองร่างนั้นที่หลุดออกมาจากวังวลของกามอารมณ์ด้วยความตกใจ ผมยืนนิ่งมองภาพร่างกายเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อของคนทั้งสอง ไอ้ปาล์มมองผมอย่างตกตะลึงในขณะที่...ผู้ชายอีกคน....แสยะยิ้มอย่างสะใจ....ไม่เข้ากับหน้าตาน่ารักของเขาเลย.....ผมยืนเงียบอยู่อย่างนั้น....มองภาพบาดตาบาดใจให้มันซึมลึกเข้าไป.....กรีดรอยแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า....



“นะ...ไนท์....มะ....มาตั้งแต่เมื่อไหร่........” มันถามผมอย่างตะกุกตะกักในขณะที่พากันลนลานใส่เสื้อผ้า หน้าของมันซีดขาวจนไม่เหลือสีเลือด...ผมรู้ว่ามันตกใจ...คาดไม่ถึงว่าผมจะปรากฎตัวที่นี่....ผมก็คาดไม่ถึงเหมือนกันว่ามันจะทำกับผมแบบนี้!!!



“นานพอจะรู้ว่าพี่กำลังมีความสุขสุดฤทธิ์เลยไง” ผมตอบเสียงเรียบ ถึงแม้ใจจะเจ็บ...แต่ก็ดีที่มันยังสงบ...



“นะ...ไนท์.....”



“นี่ใช่ไหมโปรเจ็คที่พี่ว่า โปรเจ็คพากะหรี่มามั่วสินะถึงได้ดีใจนักที่ผมโทรมาบอกว่าจะไม่กลับห้อง!!” ผมขึ้นเสียงถามมัน



“นี่! แกว่าใครกะหรี่ห๊ะ!!” ไอ้คนตัวเล็กตะคอกเสียงถามผมอย่างไม่พอใจ ผมยิ้มเรียบๆไปให้ก่อนจะตอบออกไป



“ว่ามึงนั้นแหละ หยุด! ถ้ามึงพูดตอนนี้กูเอาตีนฟาดปากมึงแน่!!” ผมยกมือชี้หน้า มันชะงักก่อนจะเงียบไปด้วยความกลัว



“ส่วนพี่....ผมให้เวลาสิบห้านาที เก็บข้าวของให้หมดแล้วออกไปจากห้องนี้!!”



“นะ....ไนท์...พี่.....”



“ผมบอกให้เก็บของแล้วไสหัวไป!!” ผมตะคอกใส่หน้าไอ้คนสารเลว เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาทุ่มใส่คนไม่มียางอายทั้งสองคนเต็มแรง






โครม!!





“ออกไป!!!!” ผมตวาดไล่


“ละ...แล้วพี่จะไปอยู่ที่ไหนล่ะนะ.....”


“จะไปมุดหัวอยู่ที่ไหนก็เรื่องของมึง ในเมื่อมึงผิดสัญญากับกูมึงก็ไม่มีสิทธิ์จะมาเรียกร้องอะไรทั้งนั้น! กูบอกให้ออกไป!!!” ผมตวาดไล่มันทั้งน้ำตา แม้น้ำตาจะไหลออกมาไม่ขาดสายแต่ผมก็ยังไม่สะอื้น..


“ไปกันเถอะที่รัก เขาไล่แล้ว เราจะอยู่ไปทำไมล่ะ ไปเถอะครับ...”


“มึงน่ะหุบปากแล้วช่วยมันเก็บของไป!! เอาเวลาตอแหลไปช่วยผัวมึงขนของนู้น!! ไป๊!!!” คราวนี้มันรีบลนลานดึงมือไอ้อาร์มออกไปจากห้อง ผมช่วยเขวี้ยงทุกอย่างที่นึกได้ไปหาคนเป็นเจ้าของ ไม่เว้นแม้แต่โน๊ตบุ๊คที่ลอยไปกระแทกฝาผนัง!!





ปัง!!!!





   ผมกระแทกประตูปิดแล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เสียงสะอื้นที่กลั้นเอาไว้เริ่มหลุดออกมาก่อนผมจะกรีดร้องแทบจะขาดใจอยู่ตรงนั้น....ร้องไห้ตัวโยนอย่างคนเสียสติ...ในหัวเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น...นึกด่าตัวเองที่โง่จนไม่รู้ว่าคนที่หลงไว้ใจพาใครต่อใครเข้าห้องของตัวเอง นานแค่ไหนแล้วที่เขาโง่เง่าอยู่แบบนี้ นานแค่ไหนแล้วที่ไอ้สารเลวนั้นเอาเขาไปเปรียบเทียบกับคนอื่นลับหลัง นานแค่ไหนแล้วที่มันมีคนอื่นนอกจากเขา...







สัญญานั่น.....แหลกละเอียดไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน....





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




To be Con. >> Part II


Cooming Soon...

#5.23 PM. [24/10/54] แก้คำผิด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 24-10-2011 09:33:25
เห้ยยยย เลวอ่ะ  :fire:
สงสารไนท์โคตรรรรรรรร
อยากรู้เป็นไงต่อ ขอให้อาร์มเจอเจ็บๆ ฮึ่ยยยยย   :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-10-2011 13:56:06
ถ้าโดนถึงขนาดนี้
ก็อย่าให้มันรักเรามันเป็นไปได้เลย
ทำตัวเป็นแมงดาแล้ว
ยังกลายพันธุ์เป็นเห้ได้อีก
นิสัยดีอย่างงี้อยากให้เป็นเอดส์ตายดีจริงๆ

:z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-10-2011 14:01:26
 :angry2:เลวๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-10-2011 14:38:10
เรื่องแบบนี้มันบีบหัวใจจริงๆ เกลียดมากๆคนไม่ซื่อสัตย์  :fire:
ขอร้องเลยนะไนท์ ถ้าไอ้เลวปาล์มกลับมาอ้อนวอนขอคืนดี ได้โปรดถีบหัวส่งมันไปให้ไกลกว่าเดิมที
คนแบบนี้ตัดมันออกไปจากชีวิตได้ อะไรๆคงดีขึ้นเยอะ แมงดาจริงๆ ไอ้เลวปาล์ม
กรี๊ดดด ฉันอินอีกแล้วววว  :monkeysad:
กดบวกพร้อมรอตอนต่อไปค่า :sad11:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part I [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 24-10-2011 15:25:03
อ๊าก ก ก  ไอ้ชั่วทำยังงี้ได้ไงฟะ  :angry2:

บ้าเอ๊ย มีแฟนแล้วยังนอกใจอีก สันดาน (อิน ครับอิน)

เลิกกับมันน่ะถูกแล้วครับ  ไปหาคนที่ดีกว่านี้เห๊อะ ปล่อยไอ้ทราม

จิตนี่ไป

อ้อ อีกนิดชื่อตัวละครตอนท้ายๆๆ เด๋วปาล์ม เด๋วอาร์มสรุปไอ้เลว

นั่นชื่ออะไรแน่ครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 24-10-2011 17:22:43


Part II





   ไม่รู้ว่าผมนั่งร้องไห้อยู่หน้าประตูมานานเท่าไหร่แล้ว แต่สิ่งแรกที่ผมคิดได้เมื่อหยุดร้องไห้คือผมต้องออกไปจากที่นี่!! มันอาจจะดูว่าผมบ้า...แต่ผมก็น้อมรับ....เมื่อฟ้าสว่างผมก็ออกไปจากคอนโด...ใช่...ผมหาที่อยู่ใหม่....มันเป็นอพาร์ทเมนต์ขนาดกลางที่อยู่ใกล้ๆกับมหาลัย ผมใช้เงินส่วนตัวที่เก็บไว้มัดจำห้องก่อนจะจ้างให้คนไปขนของทุกอย่างของผมออกมาให้หมด...แล้วผมก็ปิดตายห้องที่นั้นไปอย่างที่ไม่คิดจะกลับไปอีกแม้แต่ครั้งเดียว.....



   เพื่อนๆของผมต่างก็ต้องตั้งข้อสงสัยเมื่อผมเล่นเปลี่ยนทุกอย่าง ที่อยู่ เบอร์โทรผมรู้ว่าพวกมันรู้ว่าผมกำลังมีปัญหา...แต่เมื่อผมไม่คิดจะเปิดปากเล่า....พวกมันก็จะไม่เอ่ยปากถาม....นี่ล่ะข้อดีของพวกมัน ผมพยายามแข็งใจทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด...ทั้งๆที่รู้ว่าผมรู้สึกเหมือนอยากจะตายได้ทุกเวลา...ไปเรียน...ไปซ้อมวอลเล่ย์.....ลงแข่ง....ไปช่วยเพื่อนๆที่หอประชุม.....ผมทำทุกอย่างไปพร้อมๆกับหลบหน้าคนบางคนไป....ผมรู้ว่ามันมาหาผม...มาทุกวัน....แต่ผมก็เลี่ยงที่จะไม่เจอได้...ผมไม่อยากฟังคำอธิบายอะไรทั้งนั้น....






จนกระทั่งถึงวันสปอตเดย์.....วันที่คนนอกสามารถเข้ามาได้ง่ายที่สุด..วันที่ผมลดระดับการระมัดระวังตัวเอง..ผมถูกฉุดไปยังมุมลับตาคนตอนที่กำลังเร่งฝีเท้าไปที่โรงยิม เนื่องจากใกล้เวลาที่นัดกันไว้แล้ว...
   






“มึงหลบหน้ากูทำไม” ผมหัวเราะขื่นให้กับคำพูดของมัน...หึ...ถูกจับได้เลยไม่ต้องพยายามปิดบังสันดานอีกแล้วใช่ไหม...มันกลับมาพูดมึงๆกูๆกับผมอย่างที่เคยได้ยินมานานแล้ว


“หลบอะไร กูไม่ได้หลบใครทั้งนั้น” ผมเงยหน้าสบตาอย่างไม่ยอมแพ้ เอาสิ! มึงกูมาผมก็มึงกูกลับ!!


“แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่เรียกว่าอะไร!!” มันตะคอกแล้วบีบแขนจนผมต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ


“กูไม่ได้หลบ แต่กูไม่อยากเห็นหน้าคนอย่างมึง!!!” ผมตวาดพลางสะบัดตัวอย่างแรงจนหลุดออกมา ผมยืนประชันหน้ากับไอ้คนที่ทรยศผมอย่างไม่กลัวเกรง




ผมจะไม่ยอมกลับไปเจ็บอีกแล้ว!!!





“มึงฟังกูก่อนสิวะ! กูไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้นนะ!!” หึ! ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจงั้นหรือ....ตลกสิ้นดี!!


“มึงคิดว่ากูโง่มากหรือ!!! คิดว่ากูจะดูไม่ออกใช่ไหมว่ามึงตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด!! มึงคิดว่ากูไม่รู้เหรอว่ามึงมีคนอื่นน่ะ! มึงรู้ไหม!! กูรู้! กูรู้มาตลอด!! เพียงแต่ที่กูไม่รู้ก็คือมันเกิดขึ้นมานานแค่ไหนแล้ว!! มึงหักหลังกู...เอากูไปเปรียบเทียบกับคนอื่นมานานแค่ไหนแล้วต่างหาก!!! ”



          ใช่...ผมรู้....ผมต้องยอมรับกับตัวเองเสียทีว่าผมรู้มาตลอด.....คนที่ไม่เคยคิดจะดูแลความสะอาดให้ตัวมันเองอย่างมัน....กลับมาก็โยนเสื้อผ้าใส่ตะกร้าให้ผมซัก....กลิ่นน้ำหอมบ้างล่ะ....รอยลิปสติกบ้างล่ะ....และผม....ไม่เคยคิดที่จะสร้างรอยความเป็นเจ้าของไว้บนตัวของมัน.....ผมไม่ชอบทำพอๆกับที่ไม่ชอบให้มันทำรอยบนตัวผม....นานมาแล้วที่ผมเห็นรอยแดงๆทั่วทั้งตัวมัน...บางครั้งก็มีแถวซอกคอ.....ผมรู้....แต่ผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้....แกล้งทำเป็นไม่เห็น...แกล้งทำเป็นไม่ได้ยินเมื่อได้ยินกับหูว่ามันกำลังป้อนคำหวานใส่ใครสักคนเมื่อผมเผลอ......




ผมยอมหลอกตัวเอง....เพราะผมยังไม่เจอจังๆ.....



แต่ในเมื่อผมเห็นผมตาได้ยินกับหูแล้ว.....




ผมก็ต้องยอมรับความจริงเสียที!!!



“มะ...มึง.....” มันมองหน้าผมอย่างตกตะลึง... หึ! คงไม่คิดว่ากูจะรู้สินะ!!!    



“ในเมื่อเรื่องมันมาถึงขนาดนี้แล้วไอ้ปาล์ม....มึงกับกูควรจะรับความจริงได้แล้ว....ว่าเรา....ไม่มีทางรักกันได้หรอก....”



“ไม่....ไม่.....มึงฟังกูก่อนนะ....กู...”


“กูไม่อยากฟังอะไรอีกแล้ว สิ่งที่กูเห็น สิ่งที่กูรับรู้มันก็มากจนกูจะรับไม่ไหวแล้ว....” ผมสูดลมหายใจลึกๆแล้วเอ่ยคำพูดที่ต้องการมากที่สุดออกไป....



“หัวใจของกู...กูขอคืนนะปาล์ม...ปล่อยกูไป....ให้ชีวิตกูรู้จักกับความสุขที่แท้จริงเสียที....เรา....จบกันแค่นี้เถอะนะ.....” ผมยืนนิ่ง มองอาการสั่นศรีษะอย่างคนที่ไม่ยอมรับของคนตรงหน้า



“ไม่......ไม่......กูไม่ยอม....กูไม่ยอม.....”



“มึงไม่ยอมแต่กูไม่ไหวแล้วปาล์ม....ไม่ไหวแล้วจริงๆ” ผมพูดพลางหันหลังเดินจากมา....ผมข่มความเสียใจแล้วรีบก้าวเท้าไปที่โรงยิม ผมไม่อยากเจอหน้ามัน....ไม่อยากเจออีกแล้ว.....





หมับ!!





“มึงยังคุยกับกูไม่จบนะไนท์!!!” ร่างของผมถูกกระชากจากคนเดิมๆอีกครั้ง


“กูคุยกับมึงชัดเจนดีแล้วไอ้ปาล์ม เราคุยกันจบแล้ว...” ผมบอกเสียงเรียบ


“ไม่...มึงไม่ยอมฟังกู....มึง......”


“เลิกตามกูซักทีจะได้ไหม!! บอกว่ามันจบก็คือจบไงวะ!!!” ผมตวาดใส่มันสุดเสียง เริ่มจะแบกรับความรู้สึกในตอนนี้ไม่ไหวอีกแล้ว...ผมกำลัง...จะร้องไห้อีกแล้ว.....


“มึงจบแต่กูไม่จบ!!” มันว่าแล้วก็กระชากผมเข้าไปใกล้อีก


“กูบอกว่าจบก็จบสิเหี้ยนี่!! ปล่อยกู!!!” ผมด่าแล้วพยายามดิ้น แต่ดูเหมือนมันจะไม่มีผลอะไรเกิดขึ้น ไอ้ปาล์มมันไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียว


“กูไม่ปล่อย! มึงหยุดแล้วฟังกูก่อนสอวะ กูไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะเว้ย!!”


“ไม่!! กูฟังมึงมากี่หนแล้ว กูทนให้มึงหลอกกูมานานมาไปเกินไป นานเกินไปจนถ้าให้มึงกราบตีนขอให้กูเชื่อตอนนี้กูก็ไม่เชื่อมึงอีกแล้ว!!!” ในที่สุดผมก็ดึงตัวเองออกมาได้ครับ พอหลุดมาได้ก็เงื้อมมือขึ้นต่อยผลั่วะไปที่กรามของมันอย่างเต็มแรง คราวนี้มันเสียหลักล้มลงไปจนได้ และก่อนที่ผมจะรู้ตัวก็มีใครสักคนดึงผมเข้ามาในโรงยิมพร้อมปิดประตูหลังอย่างแรง...


“มีเรื่องอะไรกันวะ!” ไอ้ขิมนั่นเองที่ถามผม เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นคนอื่นๆในทีมมองผมอยู่เหมือนกัน ผมนั่งลงสงบอารมณ์ความเสียใจของตัวเอง ข่มมันไว้ให้ลึกที่สุด...ผมเงยหน้ามองทุกคน.....แล้วตัดสินใจเล่า...


“มัน.....เป็นแฟนผมมาตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย จนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน....” ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดต่อ “จำนัดที่เราแข่งกับวิจิตรได้ไหมพี่ วันนั้นพอแข่งเสร็จเพื่อนผมมันก็ชวนผมไปกินเหล้าผมเลยโทรบอกมันว่าคืนนี้จะนอนห้องเพื่อนเพราะคงจะเลิกดึกเกิน ถ้าพอเอาเข้าจริงๆไม่ถึงห้าทุ่มก็ต้องเลิกวงพี่ ไอ้ป๊อกเพื่อนผมมันทำท่าจะมีเรื่องก็เลยพากันกลับ ผมคงไม่ต้องบอกนะพี่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นตอนที่ผมกลับห้องไป....” พูดจบผมก็กำหมัดแน่น ความโกรธแค้นแล่นริ้วเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น....



“ใจเย็นเว้ยไอ้ไนท์” พี่วุฒิเดินเข้ามาบีบไหล่ผมเบาๆ ผมหันไปมองหน้าแล้วยิ้มน้อยๆเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร....



“ไม่เป็นไรพี่ ผมตัดสินใจแล้วแหละ คนอย่างมันไม่ใช่คนที่ผมต้องไปนั่งเสียใจอะไรกับมันอีก....” ผมหัวเราะ “พี่วุฒิรู้ป่ะ ห้องที่มันใช้ซุกหัวนอนทุกวันนี้น่ะห้องผม ค่าห้องค่าน้ำค่าไฟผมก็เป็นคนจ่าย มันมีเรื่องกับที่บ้านจนเขาตัดขาดกับมันผมก็เป็นคนพามันไปอยู่ที่นั่น...กินอยู่สบาย....ค่าใช้จ่ายก็ไม่ต้องออก...แต่มัน.....มันกลับพาใครต่อใครขึ้นมาบนห้อง มานอนบนเตียงเดียวกับที่ผมนอน...มันคิดว่าผมโง่หรือไงที่ไม่รู้ว่ามันโกหกตอแหลอะไรผมอยู่ มันคิดว่าผมจะยอมมันตลอดเหรอ”


“พอแล้วไอ้ไนท์ พอแล้ว...” ไอ้ขิมทรุดตัวลงนั่งข้างหน้าแล้วโผเข้ามากอดผมไว้ ผมเพิ่งจะรู้ว่าตัวเองสั่นมาก เมื่อได้อ้อมแขนอุ่นๆของเพื่อนคนนี้มากอดปลอบ


“ทำไมวะขิม...ทำไมมันทำกับกูแบบนี้วะ....” ผมถามมันอย่างไม่เข้าใจ...ไม่เข้าใจจริงๆ....ทำไมมันถึงทำกับผมแบบนี้....


“ใจเย็นๆไนท์ ตัดมันออกไปได้ก็ดีแล้ว อย่าคิดมากเลยนะ”


“ใช่! ตัดมันไปได้ก็ดีแล้วมึง คนแบบนั้นอ่ะ ถ้าสบายใจแล้วก็ไปเตรียมตัวได้แล้วไป จะได้เวลารายงานตัวแล้ว” พี่วุฒิเข้ามาลูบหัวผมอีกครั้ง


“อืม...ขอบคุณมากนะพี่....” ผมเงยหน้าขึ้นมายิ้มบางๆ แล้วลุกขึ้นตามแรงฉุดของหัวหน้าทีม....


“ว่าแต่แกพร้อมจะแข่งแน่นะไนท์ ไม่ใช่เอาแต่ใจลอยนะเว้ย” ไอ้ขิมมันแซวผมครับ ผมเลยหันไปค้อนมันเต็มๆครั้งหนึ่ง...ดูถูกกันนะไอ้นี่...


“ไหวสิไอ้ขิม มือชั้นนี้แล้ว กีฬาไม่เกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเว้ย” ผมกอดอกพูดอย่างมั่นใจ แม้จะไม่มั่นใจนักว่าจะแยกแยะได้อย่างที่ปากพูด...


“จริงเหรอ” พี่วุฒิถามครับ


“จริงสิพี่ งานนี้นะเตรียมเฮได้เลย ถือซะว่าเหล่าคุณหมอถึงคราวเคราะห์ก็แล้วกัน ดันมาเจอตอนผมเครียดๆ จะเล่นให้เต็มแมกซ์เลย ฮ่าๆๆๆ” ผมพูดติดตลก เรียกเสียงหัวเราะให้คนในทีมได้เป็นอย่างดีครับ





แต่ก็เอาเถอะ....ถือว่าบรรดาหมอๆมีเคราะห์ก็แล้วกัน.....






   ผมอัดความเครียดลงไปกับวอลเล่ย์อย่างเต็มเปี่ยมครับ แม้จะรู้ว่ามันไม่ถูกนักที่ไปลงกับลูกบอลและผู้เล่นคนอื่น แต่มันก็เป็นหนทางที่ทำให้ผมบรรเทาความเสียใจไปได้เยอะ จบแม็ตช์คณะผมชนะไป 3 เซ็ตรวดครับ ในที่สุดก็ได้ถ้วยชนะเลิศมาครองจนได้....ผมยืนคุยเฮฮากับพี่ๆในทีมอยู่ครูหนึ่งก็แยกตัวออกไปอาบน้ำครับ เล่นซะเต็มคราบ...เหงื่อไหลไคลย้อยไม่น้อยเลยทีเดียว....ผมยืนพิงผนังห้องอาบน้ำนิ่งๆ ปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านร่างกายไปเรื่อยๆ...มันเป็นแบบนี้เสมอ....เมื่อผมได้อยู่เงียบๆคนเดียว...ผมก็ยังร้องไห้....ถึงจะบอกว่าตัวเองเข้มแข็งดีแล้ว....แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่....หัวใจของผม....มันยังคงอ่อนแอ.....



          ผมปล่อยให้ตัวเองอยู่ในภวังค์นานพอสมควร....กว่าจะเอื้อมมือไปปิดน้ำตัวผมก็เริ่มเปื่อย ผมหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ดตัวเองให้แห้งแล้วใส่เสื้อผ้า...เปลี่ยนเป็นชุดประจำวันสปอตเดย์.....โชคดีที่เมื่อออกมาจากห้องน้ำผมก็พบว่าไม่มีคนอื่นเลย ก็ดีแล้วล่ะ...ผมยังไม่พร้อมที่จะปั้นหน้ายิ้มหลอกใคร.....ผมเดินอย่างซึมๆไปที่ล็อคเกอร์...ก้มลงค้นกุญแจตู้จากในกางเกงวอร์มแล้วนำมาไข....หยิบโทรศัพท์และกระเป๋าสะพายใบเก่งออกมา....




หมับ!!!




“มึงต้องไปกับกู เดี๋ยวนี้!!” ทันทีที่ผมปิดล็อคเกอร์ ผมก็ถูกมือหนาๆจับเข้าที่แขนซ้ายอย่างรวดเร็ว แขนผมถูกบีบไว้แน่นจนเริ่มเจ็บ



“ปล่อย...”




“ไม่! มึงต้องมากับกู!”



“ปล่อยกู!!!!” ผมตวาดใส่มันพลางดึงแขนตัวเองออกมา แต่มันก็ไม่ได้สนใจ ลากผมออกมาจากห้องล็อคเกอร์ทันที


“ไอ้สัด! ปล่อยสิโว้ยยยย” ผมร้องดิ้น มันลากผมออกมาจากโรงยิมท่ามกลางสายตาตกตะลึงของคนในห้อง โดยที่ไม่สนใจทั้งสายตาของคนที่มองมาและเสียงร้องโวยวายของผมเลยแม้แต่นิดเดียว....






.................................






 “จะพูดอะไรก็พูดมันตรงนี้แหละ!! กูจะไม่ไปไหนกับมึงทั้งนั้น!!!” ผมตะคอกบอกไอ้คนที่ลากผมมา มันลากผมมาจากโรงยิมจนมาถึงแถวๆลานเกียร์ของคณะวิศวะ แม่ง....มาซะไกลลิบเลย.....


“ทำไม!!!” มันตะคอกถาม หึ!


“เหตุผลง่ายๆ... กู-ไม่-อยาก-ไป ชัดพอไหม!!” 






“............”





“...................” ผมยืนกอดอกจ้องหน้ามันนิ่งๆโดยไม่ได้พูดอะไร มันก็จ้องผมตาถลนด้วยความโกรธจัด แต่ขอโทษเถอะ...มันทำอะไรผมไม่ได้อีกต่อไปแล้ว!!!




“ฮึ่ย! โธ่โว้ย!!! มึงจะเอายังไง!!” เหอะ! ในที่สุดก็ทนไม่ไหว...



“หึ! คำถามนั้นมันควรจะเป็นของกูนะไอ้ปาล์ม” ผมบอกมันนิ่งๆ



“มึง.....มึง!!” มันชี้หน้าผม



“อะไร...กูทำไม...”



“ได้!! มึงจะเล่นกับกูแบบนี้ใช่ไหม!!”



“หึ! กูไม่ได้เล่น...มึงกับกู...ไปกันไม่ได้หรอกไอ้ปาล์ม”



“ทำไม! ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้!!”



“เพราะมึงกำลังจะแต่งงานไง!!!” ผมตวาดมันทั้งน้ำตา ทั้งๆที่ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ร้องไห้อีกแต่ผมก็ยังร้อง เพราะความจริงแล้วเรื่องของผมกับมัน...เป็นไปไม่ได้มาตั้งแต่ต้น...ไม่มีวันจะเป็นไปได้เลย....






....................................................












“เพราะมึงกำลังจะแต่งงานไง!!”






“มะ......มึง.........รู้.........” หน้ามันดูจะช็อคมากเลยครับ....หึ! ตอนที่ผมรู้ผมช็อคกว่ามันเยอะ!!




“ฮึก....กูบอกแล้ว...ว่ากูไม่ได้โง่.....ฮือ.......กูไม่ได้โง่ไอ้ปาล์ม...” ผมปัดมือที่เอื้อมมาหาผมออก....ก้มหน้าร้องไห้ ผมรู้....เพราะแม่ของมันบอกกับผมเอง.......





และนี่ก็อีกเรื่อง...ที่มันหลอกผม...





มันไม่ได้ถูกไล่ออกจากบ้าน....





ผมรู้.....เพราะแม่ของมัน....เพราะผมได้คุยกับท่าน....





          เพราะผมรู้ดี...ผมถึงอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ปีเศษๆให้มันดีที่สุด...ผมรู้ว่าเมื่อมันเรียนจบ...มันก็ต้องมีทางที่ต้องเดินต่อไป...ผมหวังว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง...ผมจะมีความทรงจำที่สวยงาม....แต่ว่า....ผลของการที่ผมยอมโง่เง่าทำเป็นไม่รู้เรื่อง...สิ่งที่ผมพยายามจะทำ.....ผลของมัน....ย้อนกลับมาทำร้ายผม....







มึงเห็นกูเป็นตัวอะไรกัน......







“นะ....ไนท์....ฟังพี่ก่อน....ได้ไหม...” ผมส่ายหน้า ขยับตัวหนีคนที่คิดจะเข้ามากอด “ไนท์...ไนท์ครับ....ฟังกันก่อนสิ.......”



“ไม่...ฮึก....ตอนแรก.....กูตั้งใจ....ฮือ....กู......อึก....เวลาที่เหลือกูอยากใช้มันให้คุ้มค่า.....แต่มึง......ฮือ....แต่มึงทำมันพัง มึงเป็นคนทำมันพัง!!!” ผมถูกมันรวบเขาไปกอด มือหนาๆที่ผมเคยคิดว่าอบอุ่นเสมอลูบหัวผมเบาๆ แต่ว่าตอนนี้....มันไม่มีความหมายอะไรอีกแล้ว....



“ปล่อยกูไป....กูขอร้องล่ะ....ปล่อยกูไป......กูรับเรื่องโกหกของมึงไม่ได้อีกแล้ว....”



“ไม่.....ไม่ให้ไปนะ.....พี่ไม่ให้ไนท์ไปนะ...”




ผลั่ก!!!





“กูจะไป! แล้วมึงก็ห้ามกูไม่ได้!! กูถามจริงๆนะไอ้ปาล์ม! มึงเห็นกูเป็นตัวอะไร ตัวตลกหรือ! หรือมึงยังแค้นที่กูชนมึงตอนนั้นไม่หาย มึงถึงได้ทำแบบนี้! หรือมึงแค่ห่วงของ ห๊ะ!! กูเป็นอะไรสำหรับมึง!” ผมออกแรงผลักจนหลุดออกมาจากมันได้



“เคยไหมไอ้ปาล์ม...มึงเคยรักกูสักนิดบ้างไหม ตลอดเวลาที่ผ่านมา....มีเรื่องไหมบ้างที่มันเป็นเรื่องจริง....กูเจ็บนะปาล์ม และกูก็จะไม่ทนอีก...ในเมื่อมึงไม่รัก...กูก็จะไป...มึงห้ามกูไม่ได้อีก...เวลาของมึงมันหมดไปแล้ว! หมดไปตั้งแต่ที่มึงทรยศกูนั่นแหละ!”



“ไนท์..........” ผมมองมัน.....มองให้เต็มตาเป็นครั้งสุดท้าย...



“กูจะพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เรื่องของเรามันจบไปแล้ว เพราะคนอย่างกูน่ะมันเจ็บแล้วจำ... มึงไม่มีสิทธิ์มาบังคับหรือเสียดายกูอีก สิทธิ์ในตัวของกู...มันก็ยังเป็นของกู...ไม่ใช่ของมึง ต่อจากนี้ไป...มึงกับกูเป็นแค่อดีต อดีตที่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ส่วนอนาคต...กูจะขอกำหนดอนาคตของกูเอง! และก็จำไว้....เพราะมึง....เพราะมึง!! มึงทำให้กูกลายเป็นคนที่เกลียดความรัก! มึงทำให้กูไม่อยากเจอมันอีก!! จำใส่หัวมึงไว้!!!” ผมหันหลังและเดินจากมา...ไม่สนใจคนข้างหลังที่ทรุดลงไปนั่งกับพื้น..








จากนี้ไป...ผมจะไม่มีมันอีก.....






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



To be Con Part III.


ชอบจังได้แต่งพระเอกเลวๆ เก็บกด 55+

ไอ้ตัวเห้นี่ชื่อปาล์มนะคะ ขอบคุณ Pigstar มากนะคะที่ท้วง พอดีเรื่องหลักมีคนที่ชื่ออาร์มนะค่ะ แต่งตอนดึกๆด้วย มึนตึ๊บ :laugh:

ขออภัยในความสับเพร่ามานะที่นี้

แต่ว่า...อยากถามค่ะ...อยากให้มันจบยังไงเอ่ย.....^_^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 24-10-2011 18:37:09
ขอแบบมดขึ้นไม่เน้นมาม่าค่ะ

กร๊ากกกก


T  T สงสารหนูไนท์ โอ๋ๆ มาซบอกพี่มะลูก


/me โดนตบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-10-2011 18:58:09
เฮ้ออ อ่านตอนนี้แล้วเศร้าเลยอ่ะ :impress3:
ถ้าเป็นเรื่องจริง หลายคนคงหักดิบ ไม่กลับไปคืนดีกัน ไม่แม้แต่จะรักใครด้วยซ้ำ :z3:
แต่นี่เป็นนิยาย เราก็อยากให้มันจบแบบมีความสุขนิดนึงอ่า ตอนนี้ชีวิตก็เศร้าโศกาอาดูรจากน้ำท่วมพออยู่แล้ว (เกี่ยวกันมาก?)
แสดงว่าฉันอยากให้ไนท์ให้อภัยไอ้ปาล์มงั้นเรอะ? :serius2:
สรุปว่ายังไงก็ได้ แต่อยากให้ไนท์มีความสุข หงิงๆ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 24-10-2011 19:16:30
เด็ดขาดมาดครับไนท์  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 24-10-2011 19:31:18
อัดอารมณ์กระจาย :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 24-10-2011 19:41:36
เดาๆเอาว่า ที่ปาล์มทำอาจจะเกี่ยวกับเรื่องทางบ้านไรงี้ป่าวอ่ะ?
555555555ไม่รู้ เดาเอามั่วๆ 

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: mommey ที่ 24-10-2011 20:01:38
 :L3:ทำไมมันเศร้าจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 24-10-2011 20:11:19
เกลียดพระเอกอย่างแรงว่ะค่ะ

= =''

+1 จ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 24-10-2011 22:43:25
จบแบบห่างกันนานๆหน่อย
ให้อิพี่ปาล์มมันปรับปรุงตัวเองซะ
แล้วค่อยกลับมาเจอนกันใหม่
หรือไม่ก็...เปลี่ยนพระเอกไปเลยค่ะ(ยิ้ม)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kenghan ที่ 24-10-2011 22:56:44
ก้าวต่อไปไนท์ ไม่รู้ว่าทำไมปาล์มต้องโกหก
อาจจะเพราะเหตุผลบางอย่าง ยังพอฟังกันได้
แต่เรื่องนอกใจนี่ รับฟังกันไม่ได้อย่างแรงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 24-10-2011 23:14:30
มีคนเดาตอนจบถูกด้วยแฮะ แต่หลายๆคนรวมกันนะคะ 5555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 24-10-2011 23:22:31
ชักอยากอ่านเรื่องรัก ไปตามอ่านดีกว่า 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 25-10-2011 07:22:29
ความจำเป็นทางบ้านมันอีกเรื่อง
ส่วนที่นอกใจ ไปตายซะปาล์ม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part II [24/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-10-2011 08:32:22
พาคนอื่นมาเชี้ยถึงห้องนี่ก็เชี้ยเเล้ว อ่านๆมานี่คือมึงโกหกทุกอย่างเลยนี่ไอ่ปาล์มไม่เหลือความเป็นคนเลยนะ เปลี่ยนไปเลยพระเอกอ่ะ คนเลวๆแบบนี้ไร้ค่าเกินไปสำหรับไนท์

กระชากอารมณ์สุดๆ เรื่องไนท์ดราม่าหนักขนาดเพราะฉะนั้นนู๋ขิมห้ามดราม่านะ 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 25-10-2011 11:39:28


Part III





   เกือบสองเดือนแล้วที่ผมกลับมาใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาๆอีกครั้ง เรียน เล่น พักผ่อน วนเวียนอยู่แบบนี้... แต่ผมว่ามันก็ดีนะครับ มันทำให้ผมทำใจได้...กลับมาเข้มแข็งและยิ้มออกมาจากใจได้อีกครั้ง ถึงมันจะยังไม่เต็มร้อย....ส่วนมัน....ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร...เพราะเมื่อผมบอกว่าจะตัด...ก็คือตัด...ตัดมันออกไปให้หมด!!!




ต่อให้มันมาอ้อนวอนหรือกราบเท้า....





ผมจะไม่มีวันหันกลับไปให้มันหลอกอีก!!











ผลั๊วะ!!




“โอ้ย! เชี่ย!” ผมร้องออกมาด้วยความเจ็บ เมื่อถูกมือดีที่ไหนตบเข้าที่หัว เรียกสติที่หลุดลอยของผมกลับเข้าร่างทันที หันไปหมายจะด่าก็ต้องชะงัก... เมื่อเห็นไอ้ป๊อกยืนทำหน้าโหดอยู่


“อะไรของมึง ตบกูทำไมเนี่ย”


“ตบให้รู้สึกไง เรียกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน เหม่ออยู่นั้นล่ะ” ไอ้ป๊อกว่า


“แล้วมึงมีอะไร”




ผลั่วะ!!




โอ้ย! เน้นๆกลางกะบาลผมอีกแล้ว!!!






“อะไรของมึงเนี่ย สองครั้งแล้วนะ เห็นหัวกูเป็นอะไร!!”


“ไม่ต้องมาสำออย เลิกเรียนนานแล้วเมื่อไหร่จะเก็บของ จะไปดูไหมงานดนตรีน่ะ” ได้ยินแบบนั้นผมก็ต้องยิ้มแหยๆครับ ลืมไปเลยนะนั่น




   วันนี้ที่มหาลัยผมจัดการเทศกาลดนตรีครับ เป็นงานที่มีวัตถุประสงค์ให้นักศึกษาได้ผ่อนคลายจากการคร่ำเครงในการเรียน แม้ว่าผมจะไม่ค่อยเข้าข่ายนั่นก็ตามล่ะนะ... งานนี้เริ่มตั้งแต่เที่ยงตรงครับ กว่าจะเลิกก็สามสี่ทุ่ม โดยจะมีวงดนตรีที่เป็นตัวแทนมาจากทั้ง 10 คณะ ทั้งหมด 12 วง ขึ้นมาเล่น ผมจะพลาดได้เยี่ยงไรจริงไหม อิอิ
 




“ไปดิๆ” ว่าแล้วผมก็รีบกวาดของทุกอย่างบนโต๊ะเลคเชอร์ใส่ลงในเป้ และรีบวิ่งออกจากห้องเรียน Man&Arts ทันที จนผมได้ยินเสียงไอ้ป๊อกด่าตามหลังเลยล่ะ ฮ่าๆๆๆ







....................................







   เมื่อผมกับเพื่อนๆมาถึงก็เห็นวงดนตรีวงหนึ่งกำลังเล่นอยู่ครับ ไม่รู้ว่าคณะไหน แต่ก็สนุกใช้ได้ คนกำลังโยกกันมันส์เลยล่ะ พวกผมเข้าไปสมทบกับเพื่อนในเอกที่นั่งกันอยู่แถวๆโต๊ะหินข้างๆลานที่จัดงาน มุมดีมากครับ เห็นชัดเจนและไม่โดนบัง 55+





"วงไอ้ขิมเล่นตอนไหนวะ” ไอ้ปองถามกลุ่มคนที่นั่งอยู่ครับ จำไอ้ขิมกันได้มั้ยเอ่ย ประธานชั้นปีพวกผมไง วันนี้มันก็ขึ้นเล่นด้วย สมาชิกในวงก็ไม่ใช่ใครหรอก...กลุ่มเพื่อนของมัน...บรรดาดาวเด่นของคณะ....



“ราวๆบ่ายสองครึ่ง” ผมก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ...บ่ายสองสิบห้า....ก็ต่อจากวงนี้น่ะสิ



“ต่อจากวงนี้เหรอ...” ผมถาม



“ใช่ ต่อจากวงนี้แหละ” ผมพยักหน้าและหันไปสนใจกับคอนเสิร์ตต่อ โยกกันไปได้สักพักก็ถึงเวลาที่วงของไอ้ขิมจะขึ้นมาเล่นครับ พวกผมรีบอพยพตัวเองไปแถวๆเวทีทันทีที่พิธีกรขึ้นมาพูด...



“ขอเสียงปรบมือให้กับให้กับวงสตางค์จากคณะเกษตรศาสตร์ค่า!!”






แปะๆๆๆ




กรี๊ดๆๆๆๆๆ





“แล้วทราบกันหรือเปล่าคะว่าวงต่อไป...เป็นวงอะไร......” พิธีกรสาวเว้นวรรคก่อนจะผายมือไปทางฝั่งว้ายของเวที...ศิลปินวงต่อไปขึ้นมาแล้ว.....




กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด



Dreamer!!!!!




“ดูเหมือนจะทราบกันแล้วเนอะ แต่ตอนนี้เรายังสนุกกันไม่ได้นะคะ ต้องรอเขาลองเครื่องก่อนนะ” สิ้นประโยคของพิธีกร เสียงโห่ร้องอย่างขัดใจจากคนดูเบื้องล่างก็ดังขึ้นมาทันที




โห่!!!!!



อยากดูแล้ววววว





“ฮ่าๆๆ ใจเย็นๆนะคะทุกคน อดใจรอกันอีกนิดเดียวเท่านั้นนะคะ งั้นเดี๋ยวพิธีกรขอคุยคั้นเวลาก่อน วงนี้นะคะเป็นตัวแทนจากคณะมนุษยศาสตร์ มีอยู่ด้วยกัน 6 คน แต่ละคนนั้นก็เป็นระดับดาวเด่นของคณะเลยทีเดียว อย่างที่รู้ๆกัน...พวกเขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา...ความสามารถก็ยังยอดเยี่ยมอีกด้วย ใช่ไหมเอ่ย” ว่าแล้วก็ยื่นไมค์ไปหาคนดู




ใช่!!!!





“โดยเฉพาะนักร้องนำของวงนี้...ไม่อยากจะบอกเลยว่าตัวพิธีกรเองก็แอบเป็นแฟนคลับเขาอยู่เหมือนกัน แหม! ก็คนมันน่ารักนี่เนอะ ไม่ให้รักอย่างไรไหว จริงหรือเปล่าค้า!!!”




จริง!!!!




“อืม.....ดูเหมือนเขาจะพร้อมแล้วนะคะ...” พิธีกรสาวหันหลังกลับไปมองสมาชิกในวงที่เข้าประจำที่เรียบร้อย “แล้วคนดูล่ะพร้อมกันหรือยัง”



พร้อม!!!!



“งั้น...ถ้าทุกคนพร้อมแล้วก็ขอเสียงกรี๊ดให้กับวง ‘Dreamer’ จากคณะมนุษยศาสตร์ค่า”




กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด




ไอ้ออมสินมือกีต้าร์โซโล่อินโทรเพลงแรกครับ เสียงเพลงที่คุ้นหูผมมากที่สุดเพลงหนึ่งดังขึ้น และปรากฎร่างนักร้องนำในชุดเสื้อยืดสีน้ำตาลเข้ม สกรีนลายเป็นชื่อวงกับกางเกงยีนส์สีซีดๆแลดูดีขึ้นมาบนเวที...ไอ้ขิมนั้นเองครับ





นี่คือทำนองแห่งความหลังระหว่างเรา
ได้ยินเมื่อไร ยิ่งนึกถึงวันเก่า
เนิ่นนานแค่ไหน แต่เพลงนี้ของเรา
ยังทุ้มอยู่ในใจ

เพลงแห่งความรัก ที่เธอร้องเป็นอย่างไร
วันที่เงียบเหงา เธอจะคิดถึงเพลงของใคร
ตั้งแต่จากกันวันนี้เธอเป็นไง ฉันอยากจะรู้

เมื่อนาฬิกามันไม่เคยขี้เกียจเดิน
และวันเวลาทำให้ทุกๆ สิ่งเปลี่ยนไป
แต่ความทรงจำดีๆ ทุกอย่างยังคงเก็บไว้




ไอ้ขิมชูมือขึ้นสูง ก่อนจะลดระดับลงมาที่คนดู ผมเห็นมันขยิบตาให้คนข้างล่างก่อนจะร้องท่อนฮุค



ยังคงมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
มีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา

ยังคงมีบทเพลง ของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไร หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ




ยอมรับครับว่าไอ้ขิมมันเอ็นเตอร์เทนคนดูเก่งมาก ก็ดูแต่ละคนสิครับมันบอกให้ยกมือก็ยก บอกให้กรี๊ดก็กรี๊ด บอกให้ร้องตามก็ร้องกันกระหึ่ม ผมล่ะคอิจฉาคนสเน่ห์แรงอย่างมันจริงๆ ไปที่ไหนคนก็สนใจ ไปที่ไหนคนก็รักก็ชอบ...




วันที่ความฝันมันไม่เห็นเป็นอย่างใจ
กระเจิดกระเจิงผิดๆ เพี้ยนๆ กันไปใหญ่
เพียงแต่อย่างน้อย ฉันก็ยังชื่นใจที่เคยมีเธอ

ก็นาฬิกามันไม่เคยขี้เกียจเดิน
และวันเวลาทำให้ทุกๆ สิ่งเปลี่ยนไป
แต่ความทรงจำดีๆ ทุกอย่างยังคงเก็บไว้

ยังคงมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ยังมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา

ยังคงมีบทเพลง ของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไร หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ





“เอ้า! ช่วยผมร้องหน่อยค้าบบบ สุดท้ายแล้ว!!” อ้ขิมว่าและยื่นไมค์ไปให้คนดูช่วยร้อง




ยังคงมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
ยังมีแต่เธอ เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไป
ยิ่งเวลาอ้างว้างทีไร ในใจก็ยิ่งโหยหา

ยังคงมีบทเพลง ของเราเมื่อวันวาน
ได้ยินเมื่อไร หัวใจยังเป็นอย่างนี้
ให้เวลามันหมุนไปนานเป็นปี
แต่เพลงนี้ยังทุ้มในใจ

ต่อให้เราไม่พบไม่เจอเป็นปี
เพลงนี้ยังทุ้มในใจ

(ทุ้มอยู่ในใจ – อ๊อฟ Big Ass)





“สวัสดีคร้าบบบบบบบบ” พอเพลงจบ คนเป็นนักร้องนำก็ทักทายคนดูพร้อมกับแจกยิ้มกระชากใจไปทั่ว คนดูก็กรี๊ดกันแหลกลานเลย




กรี๊ดดดดดดดดดดด




“สวัสดีคุณผู้ชมที่น่าร๊าก น่ารักทุกท่านนะครับ ก่อนอื่นผมคงต้องแนะนำตัวก่อน รู้ไหมครับว่าผมชื่ออะไร”




ขิมมมม



น้องขิม!!!!!





“แหมรักจัง ใช่แล้วครับ ผมชื่อขิม อยู่เอกเยอรมันนะครับ เอาล่ะๆๆ แล้วรู้ไหมว่าวงผมชื่อว่าอะไร”



“Dreamer!!!”


“โห! เก่งจังเลย ใช่แล้วครับพวกเราคือวง Dreamer วงที่มีแต่คนน่าตาดี....มีทั้งสาวสวยและคนหล่อ....ที่เรียกได้ว่า.....สุดหล่อ....” แล้วอินโทรเพลงที่สองก็เริ่มขึ้นครับ พอรู้ว่าเป็นเพลงอะไรคนก็กรี๊ดกันใหญ่เลยล่ะ แน่ล่ะครับ เพลงนี้คือเพลง...สุดหล่อ...




หล่อๆ หล่อๆ อย่างผม แล้วใครจะทนไหวเล่า
หน้าตาดูดีอย่างนี้ ใครๆก็เรียกไอ้หล่อเหลา
สาวใดสบตาต้องกรี๊ดอ่ะ ใครเจอก็อยากใกล้ชิดอ่ะนะ
แล้วให้ผมทำยังไงเล่า

หล่อๆ หล่อๆ อย่างนี้ มีสาวทั้งปีไม่พลาด
แต่ไม่มีเวลาไปสน ทุกคนก็เลยต้องเศร้า
แต่น้องคนนี้ดูดีอ่ะ คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้




“ไปกินข้าวกันมั๊ยจ้ะ” ไอ้ขิมเดินไปเกี้ยวสาวสวย(??)นางหนึ่งที่เดินขึ้นมาบนเวทีครับ เจ้าหล่อนก็ทำท่าเชิดหน้าตั้งเลย


“ขอโทษนะคะ อุบาทว์!!” ให้ทายครับว่าท่อนนี้ได้ใครร้อง....ไม่ใช่พายที่เล่นเบสอยู่ หรือว่าทับทิมที่เป็นนักร้องนำคนที่สอง แต่เป็น...คุณนายแมนนี่.....ชีเดินขึ้นมาจากข้างเวที ลีลานี่สะดีดสะดิ้งสุดกู่เลยที่เดียว คนฮากันตรึมอ่ะครับ


“หา! หา! หา! หา!” ไอ้ขิมทำท่าแคะหูครับ แบบ...ไม่เชื่อสุดฤทธิ์อ่ะ


ไม่เชื่อๆๆ ไม่เชื่อรูหูตัวเอง
ไม่จริงๆๆ หน้าตาเราดีที่สุด
ไม่เชื่อๆๆ เมื่อกี้พูดเล่นใช่มะ
ไม่จริงๆๆ พูดอีกทีได้เปล่า



“อุบาทว์ๆๆ ยังไม่ได้ยินอีกเหรอ” แมนนี่เท้าเอวและชี้หน้าไอ้ขิมมันครับ ไอ้ขิมก็ทำท่าแบบ...ตกใจ...รับไม่ได้อะไรประมาณนี้ อย่างฮาอ่ะ กร๊ากกกกกกกกกกก


พอเถอะ พอเถอะ คนสวย น้องคิดว่าน้องเป็นใคร
หน้าตาอย่างเงี้ยพี่หาแถวๆข้างทางก็ได้
ยังไง ตัวพี่ก็หล่อ แล้วอย่ามาง้อแล้วกัน


น้องพูดยังงี้ได้ไงอ่ะ กว่าคนจะหล่ออะน้อง
มานี่จะเล่าให้ฟังว่าต้องทำไงบ้าง
กว่าคนมันจะหล่อยากเหลือทน
ต้องกินเนื้อกินนมอยู่ทุกที่
เล่นแอ๊บโดมีไนซ์?เกือบทั้งปี
เพราะอยากมีหุ่นดีน่ารักจัง
ตื่นนอนมาแต่เช้าหน้าขาวผ่อง
แต่มาเจอตัวน้องพูดอย่างนี้ โง่ งี่เง่า อดของดี

จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้
จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้ จ๋อยเด้

ไม่เคยเจอใครอย่างนี้ ของดีๆไม่คว้าเอาไว้
ชมพู่ แพนเค้ก อั้ม โทรมาทุกวันพี่ไม่ใส่ใจ
เธอพลาดซะแล้วคุณน้อง ลองกลับไปคิดดูใหม่นะ



“ขอโทษนะคะ หล่อตายล่ะ ไอ้ควาย อุบาทว์!!” แมนนี่เปลี่ยนการด่าจากไอ้....เป็นควายแทนครับ


“หา! หา! หา! หา!” คราวนี้ไอ้ขิมแกล้งทำเป็นล้ม แล้วชี้มือมาทางแมนนี่ที่ยืนสะบัดบ๊อบไม่แคร์สื่ออยู่บนเวที คงไม่ต้องบอกนะครับว่าคนดูจะฮากันขนาดไหนอ่ะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกก



ไม่เชื่อๆๆ ไม่เชื่อรูหูตัวเอง
ไม่จริงๆๆ หน้าตาเราดีที่สุด
ไม่เชื่อๆๆ เมื่อกี้พูดเล่นใช่มะ
ไม่จริงๆๆ พูดอีกทีได้เปล่า


“อุบาทว์ๆๆ ยังไม่ได้ยินอีกเหรอ”

พอเถอะ พอเถอะ คนสวย น้องคิดว่าน้องเป็นใคร
หน้าตาอย่างเงี้ยพี่หาแถวๆข้างทางก็ได้
ยังไง ตัวพี่ก็หล่อ แล้วอย่ามาง้อแล้วกัน


ไม่เชื่อๆ ๆ ๆ รูหูตัวเอง
ไม่จริงๆ ๆ หน้าตาเราดีที่สุด
ไม่เชื่อๆ ๆ ๆ รูหูตัวเอง




“ไม่จริงๆ ๆ หน้าตาเราดีที่ซู้ด!!!!” ท่อนสุดท้ายไอ้ขิมยกมือกุมหัวและสะบัดๆ ประมาณว่าช็อคแหลกอ่ะครับ ลงไปนอนกองกับพิ้นเวทีคนดูนี่กรี๊ดกันกระจายเลย พอลุกขึ้นมาได้ก็พากันโค้งให้คนดู


“ขอเสียงปรบมือให้กับนักร้องพิเศษ แมนนี่ค้าบบบบ” คุณนายแมนนี่ก็ย่อตัวทำเคารพสวยงามมาก จะลงไปไหว้กับพื้นอยู่แล้วครับ ฮาแหลก ฮ่าๆๆ



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด



น่าร้ากกกกกกกกกกกก




“ตอนแรกผมจะให้นักร้องอีกคนของเราร้องนะครับ แต่นางเป็นหวัด เลยได้คนนี้มาแทน”



ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


"เหนื่อยกันหรือยังเอ่ย"


ยัง!!!!!


“แต่ผมเหนื่อยแล้วนา.....”


กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด


“งั้นเอางี้...ผมขอพักหน่อยดีกว่า...เปลี่ยนเป็นเพลงสบายๆบ้างเนอะ” ไอ้ขิมยิ้มแก้มปริ ก่อนที่หน้าของมันจะแดงๆแล้วพูดต่อ “แต่ว่า....เพลงที่ผมจะร้องต่อไป....เป็นเพลงที่ผมใช้แทนคำตอบที่จะให้กับคนๆหนึ่ง.....ในวันนี้.....วันสำคัญของเรา” พอมันพูดแบบนี้ผมก็รู้เลยแหละว่าไอ้ขิมมันจะร้องเพลงให้ใคร...และดูเหมือนเจ้าตัวเขาจะรู้อยู่แล้วครับ...ก็เล่นลุกขึ้นยืนพลางยิ้มหวานให้นักร้องนำเต็มที่เลยน่ะสิ



กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด




“ฟังดีๆนะ” ไอ้ขิมว่าพลางส่งสายตาไปให้คนๆนั้นโดยเฉพาะเลย



“เริ่มกังวล เริ่มสับสนเต็มที...” ไอ้ขิมยกไมค์ขึ้นร้อง ไม่อยากจะบอกว่าสายตามันหวานเยิ้มเลยล่ะ


 
เรื่องที่มีเกิดคำถามข้างใน
ก็ไม่รู้ที่เป็นมันคืออะไร ไม่เข้าใจตัวเองขึ้นทุกๆที

บอกตัวเองว่าอย่าไปคิดเกินเลย ระหว่างเราไม่ควรจะเป็นเช่นนี้
แต่ยิ่งนานก็ยิ่งไม่ค่อยจะดี ใจฉันนี้มันเริ่มไม่เหมือน...เดิม

มันเกิดอะไรกับหัวใจ..ควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
จะห้ามยังไงก็ไม่มีทาง ให้มันหยุดคิดถึงเธอ
จะบอกยังไงก็ไม่ฟัง..เมื่อใจมันยังเรียกร้องหาเธอ




“คนเดียวในใจชัดเจนคือเธอ ท่าทางมันคงจะเผลอรักเธอหมดใจ..” พอจบท่อนนี้คนสำคัญของไอ้ขิมที่ฟังอยู่ก็เดินออกมาจากหน้าเวทีครับ คนกรี๊ดกันลั่นตอนที่เจ้าตัวเดินขึ้นมาบนเวที ขึ้นมายืนเคียงข้างเพื่อนข้างผม มือหนึ่งก็โอบเอวคนร้องเอาไว้ สายตาของทั้งสองคนที่สบตากันมันทำให้ผมรู้สึกได้ถึงความรักของคนทั้งคู่ได้ชัดเจนมากเลยแหละ จนผมรู้สึกอิจฉาทั้งสองคนนั้นเล็กๆ....



เกินกว่าคนๆหนึ่งที่คุ้นเคย เกินกว่าคนที่คุยกันไปงั้นๆ
มันยิ่งนานเท่าไรก็ยิ่งหวั่นๆ ใจฉันมันคิดเกินกว่าที่...เคย

มันเกิดอะไรกับหัวใจ..ควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
จะห้ามยังไงก็ไม่มีทาง ให้มันหยุดคิดถึงเธอ
จะบอกยังไงก็ไม่ฟัง..เมื่อใจมันยังเรียกร้องหาเธอ
คนเดียวในใจชัดเจนคือเธอ ท่าทางมันคงจะเผลอรักเธอหมดใจ..


มันเกิดอะไรกับหัวใจ..ควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
จะห้ามยังไงก็ไม่มีทาง ให้มันหยุดคิดถึงเธอ
จะบอกยังไงก็ไม่ฟัง..เมื่อใจมันยังเรียกร้องหาเธอ
คนเดียวในใจชัดเจนคือเธอ

(เผลอรักหมดใจ – บี้ The Star)



“ท่าทางมันคงจะเผลอรักเธอหมดใจ...” ท่อนสุดท้ายนี้ไอ้ขิมยืดตัวขึ้นไปร้องข้างๆหูคนๆนั้นครับ พอไอ้ขิมผละออกมาก็ถูกเขารวบเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มดังฟอด...ผมรู้ได้ไงอะเหรอครับ...ก็เสียงมันดังผ่านไมค์ออกมาไง...





กล้ากันจริงๆเลยคู่นี้......





   หลังจากที่สวีทหวานกันกลางเวทีแล้วไอ้ขิมก็เล่นคอนเสิร์ตต่อครับ...คราวนี้ได้หวานใจไอ้ขิมร่วมร้องด้วย คนดูเลยยิ่งสนุกกันเข้าไปใหญ่ เล่นต่อไปได้อีก 6-7 เพลงก็หมดเวลาครับ แต่ก่อนจะลงจากเวที หวานใจไอ้ขิมก็โชว์ความเลี่ยนเรียกเสียงกรี๊ดและเสียงกรีดร้องด้วยความอิจฉาจากคนดูได้มหาศาล....มันจับไอ้ขิมเข้าไปจูบ!!! แถมคนถูกดึงเข้าไปดันเฉยสนิท ยินยอมเสียอย่างนั้น......





“พี่ตะวันโครตกล้าเลยว่ะ” ไอ้ป๊อกพูดแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ที่ได้เป็นหนึ่งในสักขีพยานความเลี่ยนของคนทั้งคู่ ความจริงแล้วไอ้ฉากเมื่อกี้นี้ก็พบได้ในคณะผมเป็นปกติครับ จนมันแทบจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้วแหละ ไอ้เรื่องที่พี่ตะวันกับไอ้ขิมกอดๆหอมๆจูบๆกันแบบนี้เนี่ย เห็นกันจนชินตาแล้วครับ





เฮ้อ!






"ยังไม่ชินอีกเหรอมึง คู่นี้เขาไม่แคร์สื่อกันมานานแล้วนะ”



“ไอ้ชินน่ะก็ใช่ แต่กูอิจฉา....”



“อิจฉาอะไรของมึง...” ผมถาม



“ก็กูอยากกอดไอ้ขิมบ้างนี่หว่า คนอะไรโคตรน่ารักเลย” ไอ้ป๊อกว่าแล้วทำท่าเพ้อๆครับ ผมเลยต้องตบหัวเรียกสติและเอาคืนที่มันทำกับผมไปหนึ่งที






เดี๋ยวเฮียตะวันได้ตามมาฆ่ามันหรอก!!







กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด






เสียงกรี๊ดถล่มทลายของคนดูทำเอาผมที่นั่งเล่นเกมส์ในมือถือสะดุ้ง แทบจะทำมือถือหล่น หันไปมองต้นเหตุ และผมก็รู้สึกตัวแข็งขึ้นมาทันทีที่เห็นนักร้องนำของวงถัดไปขึ้นมาบนเวที...คนที่คุ้นตาผมมากที่สุดในชีวิต...คนที่ผม....เคยรัก.....






ไอ้ปาล์ม!!




   ผมยอมรับว่าตลอดการแสดงของมันนั้น...ผมดูไม่รู้เรื่อง...ฟังก็ไม่รู้เรื่อง.....เพราะเอาแต่จมอยู่กับความคิดของตัวเอง...ผมไม่ได้โกหกตัวเองเรื่องที่ทำใจได้แล้ว...ผมทำได้จริงๆ.....แต่ว่า...มันก็ยังทำได้ไม่สมบูรณ์นักหรอกครับ...ใจผมมันยังเจ็บจี๊ดๆอยู่เลยล่ะ...




รู้สึกคิดถึง.....ความหวั่นไหว.....



ผมรู้สึกเหมือนตัวเองว่างเปล่าอย่างไรก็ไม่รู้.....









“ช่วงนี้เป็นช่วงสุดท้ายแล้วนะครับ” เสียงพูดของมันทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์ เงยหน้าขึ้นมามองทางเวทีที่ไม่ได้มองอีกเลยตอนที่รู้ว่าใครขึ้นมาร้อง...ไม่รู้ว่าผมตาฝาดหรือเปล่า....ผมเห็นว่ามันกำลังเศร้า...



“ก่อนที่เราจะลงจากเวที...ผมมีเพลงสองเพลงที่อยากจะร้องให้ทุกคนได้ฟัง....” สิ้นเสียงของมัน อินโทรเพลงแรกก็ดังขึ้น ผมรู้นะครับว่าเพลงนี้มันตั้งใจจะมอบให้ใคร...และผม...ก็ตั้งใจฟังมัน....อย่างที่สุด...



รู้แล้วว่ารักคราวนี้ถึงทีที่จะร่ำลา
ฉันสร้างปัญหามากมายเหลือเกินให้เธอเสียใจ
จนมาวันนี้ที่เธอระบายว่าทนไม่ไหว
เธอจากไปและทิ้งฉันไว้ลำพัง

มันคงจะสายเกินไปใช่ไหมที่จะรับฟัง
ขอโทษกี่ครั้งก็คงไม่พอให้เธอเห็นใจ
ไม่เป็นอย่างฝันผ่านมาฉันทำเรื่องราวได้เลวร้าย
ฉันพอเข้าใจวันนี้เธอคงต้องไปเสียที

รู้ว่าสายเกินไปจะดึงรั้งใจของเธอกลับมา
รู้ว่าเสียเวลาน้ำตาไม่รั้งใจเธอเอาไว้
รู้ว่าหนทางเดินนับจากวันนี้ไม่มีเธอข้างกาย
คำว่าเสียใจมันสายไปใช่ไหมเธอ



คนดูก็โบกมือไปตามจังเพลงครับ มีบางคนช่วยร้องด้วยเหมือนกัน...ส่วนผม....นั่งเจ็บเสียดๆในอกอยู่ที่เดิม....กระบอกตามันร้อนๆเหมือนกำลังจะร้องไห้....



รู้ว่าสายเกินไปจะดึงรั้งใจของเธอกลับมา
รู้ว่าเสียเวลาน้ำตาไม่รั้งใจเธอเอาไว้
รู้ว่าหนทางเดินนับจากวันนี้ไม่มีเธอข้างกาย
ก็คำว่าเสียใจมันสายไปใช่ไหมเธอ

มันคงจะสายเกินไปใช่ไหมที่จะรับฟัง
ขอโทษกี่ครั้งก็คงไม่พอให้เธอเห็นใจ
ไม่เป็นอย่างฝันผ่านมาฉันทำเรื่องราวได้เลวร้าย
ฉันพอเข้าใจวันนี้เธอคงต้องไปเสียที

รู้ว่าสายเกินไปจะดึงรั้งใจของเธอกลับมา
รู้ว่าเสียเวลาน้ำตาไม่รั้งใจเธอเอาไว้
รู้ว่าหนทางเดินนับจากวันนี้ไม่มีเธอข้างกาย
ก็คำว่าเสียใจมันสายไปใช่ไหมเธอ

(สายเกินไป - OTTO)




“ก็คำว่าเสียใจมันสายไปใช่ไหมเธอ...” พอมันร้องจบมันก็ยกมือขึ้นเช็ดหน้า...ผมว่าผมมองไม่ผิดนะ...ตอนที่มันร้อง...สายตามันกำลังมองหาใครสักคน....


ผมเห็นหลายๆคนน้ำตาคลอ...รวมถึงผมด้วย...แต่ผมที่น้ำตาคลอ...ไม่ใช่เพราะเสียใจ.....แต่ผมดีใจ...ที่ในที่สุดมันก็ยอมรับความจริงเสียที...ความจริงที่ว่าเรา....ไม่มีทางเป็นไปได้....และมัน...ก็สายเกินไปที่จะกลับไปเริ่มต้นใหม่...เรื่องของเรา...มันสายไปแล้วจริงๆ....



“อย่าร้องไห้กันสิครับ อินกันขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย ฮ่าๆ” มันพูดหลังจากที่ร้องจบ “เพลงนี้ผมตั้งใจที่จะบอกกับทุกคนที่มีคนสำคัญคอยอยู่ข้างๆว่า....ดูแลเขาดีๆนะครับ....อย่าปล่อยให้เขาเสียใจ....จนมันมากเกินกว่าที่เขาทนไหว.....และสุดท้ายเขาก็เลือกที่จะจากคุณไป....เหมือนอย่างที่ผมโดน....”


“ผมอยากบอกกับเขาว่าผมขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา...หลังจากที่เขาจากไป...ผมเพิ่งจะรู้ว่าเขาสำคัญกับผมแค่ไหน....ผมเสียดาย...ที่ผมปล่อยโอกาสในการแก้ตัวของผมให้หลุดลอยไป...ถ้าผมรู้ตัวเร็วกว่านี้....ผมคงจะไม่เสียเขาไป......เพลงสุดท้ายนี้...ผมจะร้อง...แทนความรูสึกของผมที่เป็นอยู่ตอนนี้นะครับ....ถ้าผมสะดุดร้องไห้ตรงไหนก็อย่าว่ากันนะครับ คนมันอิน ฮ่าๆๆ” มันพูดแล้วก็หัวเราะ.... เสียงเพลง ‘ชีวิตที่ขาดเธอ’ ก็ดังขึ้นครับ





http://www.4shared.com/embed/53836865/8e49335c



เมื่อก่อนไม่เคยได้คิด ผิดอะไรไม่เคยจะรู้
ไม่ได้ดูว่าในสิ่งที่กระทำ ทำให้ใครบางคนเสียใจ
จนเมื่อจบตรงการแยกทาง ทุกๆอย่างที่เคยทำไว้
ก็ได้กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน

อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม




“ไอ้ไนท์! มึงอินขนาดต้องไห้ตามเลยเหรอ” คำพูดของไอ้ปองทำให้ผมต้องใช้มือแตะบนใบหน้าตัวเอง ความเปียกชื้นบนฝ่ามือเป็นเครื่องยืนยันได้ดี....ผมร้องไห้....ไอ้คนที่ร้องก็ร้องไห้......ผมได้แต่สั่นหัวให้เพื่อนและกลั้นใจฟังต่อไป...



ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า

แต่ก่อนไม่เป็นอย่างนี้ อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหล
อยากให้เธอได้ฟังว่าฉันละอาย ที่ทำให้เธอเสียใจ
ทำให้จบตรงการแยกทาง ทุกๆ อย่างที่เคยทำไว้
คงไม่กลับมาเตือนย้ำใจให้คิด ว่าฉันนั้นโง่แค่ไหน

อยากจะหมุนเวลาให้กลับยังไง ก็ไม่ย้อนมันคืนได้แล้ว
ได้แต่ขอให้เธอได้โปรดอภัยให้กัน สักครั้งจะยอมได้ไหม

ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจแทบทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า


รู้ว่าแผลที่ฉันนั้นได้ฝากยากจะลบมันไปจากใจ
แต่ว่าขอได้ไหม ให้เป็นฉันได้ไหม ให้ฉันรักษาเธอเอง



          รักษาอย่างนั้นหรือ....รักษาหรือจะทำร้ายกันอีก.....คนอย่างเขา...ยังเชื่อถือได้อยู่อีกหรือ...ผมสั่นหน้าอยู่กับฝ่ามือของตัวเอง และตัดสินใจลุกขึ้นยืน....หันหน้าไปทางเวที....และผมรู้....ว่าตอนนี้มันเห็นผมแล้ว.....ผมจ้องตามันเงียบๆ.....ก่อนจะหันหลัง...และเดินจากมา....พร้อมกับเสียงร้องที่เหมือนคนจะขาดใจดังตามมาด้วย...ในตอนนั้นเองที่ผมเริ่มออกวิ่ง.....เร็วขึ้น.....เร็วขึ้น.....


ช่วงชีวิตฉันที่ขาดเธอเหมือนจะตาย หัวใจมันทนไม่ไหว
มันเคยแต่มองร้องหาว่าเธอ อยู่ไหนและเป็นอย่างไร
กลับมาหาฉัน ได้โปรดเถอะนะคนดี ต่อจากนี้ที่เคยร้องไห้
จะไม่ทำให้เธอต้องช้ำและเสียน้ำตา
กลับมาเป็นอย่างเดิมได้ไหม รักกันอย่างเก่า

อยากจะพูดให้รู้ว่า...รักเพียงเธอ...คนเดียว










ใจผมกำลังร้องไห้.........








แต่ว่า..................






ผมจะไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว....






ทุกอย่างมันสาย.......






สายเกินไปแล้ว.............






++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


อีก 2 ตอนก็จะจบแล้วนะคะ ตอนจบก็แต่งเสร็จแล้ว อิอิ

บอกแล้วว่าอิคนเขียนเองก็ไม่นิยมดราม่า เพราะฉะนั้นเขากลับมารักกันแน่นอนค่ะ

แต่มันจะออกมาในรูปแบบไหนก็รอติดตามกันน้า^^

งานนี้เชื่อนิดๆว่ามันต้องมีบางคนคาดไม่ถึงแหละว่าเรื่องมันจะมาอีหรอบนี้ กร๊ากกกกกกกกกก

ป.ล.ตอนนี้มีคู่จากเรื่องหลักมาแย่งซีนเล็กน้อย คลายเครียดๆ อิอิ จิ้มไปอ่านกันได้นะคะ ยังทำลิ้งค์ไม่เป็น แหะๆ


http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29290.0


Cynthia_Moonlight
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: oilzaza001 ที่ 25-10-2011 12:00:34
ไม่อยากได้ปาล์มเลยง่า

ขอเปลี่ยนพระเอกได้มั้ยคะ ห้าห้า



>...< คู่ของขิมน่ารักอ่ะ เอร้ยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: lonelyboy ที่ 25-10-2011 12:08:16
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด บีบคั่นหัวใจ แต่ยังไงซะปาล์มก็ทำตัวเองเองแท้ๆแหละ เหอะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 25-10-2011 21:27:10
"สายเกินไป" เกลียดมากจริงๆความรู้สึกนี้

อ่านของคู่นี้แล้วอินพอควรเลยค่ะ 555+ ตามลุ้นและเป็นกำลังใจให้ทั้งสองเรื่อง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 25-10-2011 23:25:40
 :L2: :L2: :man1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: zhai ที่ 25-10-2011 23:51:14
อือม์ อดทนให้คนรักหลอก ก็ยากอยู่แล้วน่ะ
แต่ตัดใจนี้ยากยิ่งกว่า (ถึงคนที่เรารักจะแย่แค่ไหนก็เหอะ)

ไนท์ต้องอาศัยความเข้มแข็งระดับสูงเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part III [25/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 26-10-2011 00:49:47
ไนท์ไม่ควรอภัยให้ง่ายๆ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอ เจ็บแล้วเจ็บเล่า หัวใจคนไม่ใช่ก้อนหินหรือเหล็กไหลจะได้ทนทานได้นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 26-10-2011 16:46:11

Part IV






“พ่อค้าบบ เนมอยากกินลูกอม” เสียงลูกชายวัย 8 ขวบเรียกร้องหาของกิน ผมหันไปมองไอ้ตัวแสบก่อนจะเขกไปที่กระหม่อมน้อยๆนั่นเบาๆ


“จะกินอีกแล้วเหรอไอ้หมูอ้วน บนเครื่องก็เพิ่งกินไปเองนะ” ผมว่า พวกเราเพิ่งกลับมาจากการไปท่องเที่ยวที่แดนจิงโจ้ครับ ผมใช้สิทธิ์ลาพักร้อนที่ไม่เคยจะได้ใช้เสียคุ้มเลยล่ะ เป็นทริปที่สนุกและปวดหัวกับไอ้ตัวซนมากๆเลยล่ะครับ


“เนมไม่ได้อ้วนนะ!!” หมูน้อยเถียงผมด้วยหน้างอๆ รายนี้บ้ายอครับยิ่งชมว่าหล่อยิ่งว่าง่าย ผิดกับตอนว่า


“อย่าเสียงดังสิ น้องหลับอยู่เห็นหรือเปล่าไอ้ตัวยุ่ง” ผมเอ็ดลูกเบาๆ เพราะบนร่างผมมีเด็กชายวัย 2 ขวบอีกคนหนึ่งนอนนิ่งอยู่กับอก แขนเล็กๆนั่นกอดคอผมไว้ หน้าก็ซุกลงที่ซอกคอ ได้มุมอุ่นพอดิบพอดีเลยล่ะครับ คนนี้ชื่อเนทครับ



          ใช่ครับ...ตอนนี้ผมเป็นคุณพ่อลูกสอง ส่วนแม่ของลูกเธอไปสบายแล้วครับหลังจากน้องเนท ลูกคนเล็กเกิดได้ไม่นานนัก... หลังจากที่ผมใช้เวลาทำใจกับเรื่องของคนๆนั้นอยู่พักใหญ่ แนน...นักศึกษามหาลัยข้างเคียงเป็นคนที่เข้ามาทำให้ผมเรียนรู้ที่จะรักอีกครั้ง แนนเป็นผู้หญิงที่แก่นเซี้ยวและรักสนุกอยู่พอตัวครับ เรียกว่าไม่กลัวอะไรเลยก็ได้มั้ง แต่เขาก็น่ารักแบบห้าวๆของเขาน่ะนะ ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะรักเธอได้หรอกครับ...ตอนนั้นน่ะผมกลัวความรักเสียยิ่งกว่าอะไร....ก็อดีตมันแย่ขนาดนั้นนี่นะ....สุดท้ายก็เข้าตำราแพ้ความดี...ผมรักเธอเข้าจนได้ครับ...แต่อาจจะผิดที่พวกเราใจเร็วกันไปหน่อย พวกเราพลาดครับ...แนนท้อง....ซึ่งผมกับแนนเองก็ไม่แน่ใจว่ามันพลาดไปตอนไหน....สงสัยเพราะความเมาและหน้ามืดล่ะมั้ง.....แม่เกือบจะเอามีดมาเฉาะหัวผมแน่ะ ด่าไปสามวันเจ็ดวันยังไม่เลิกเลย

          ดีที่ช่วงนั้นเราสองคนกำลังจะจบกันแล้วครับ อยู่ในช่วงปั่นโปรเจ็ค ส่งวิทยานิพนธ์ ที่บ้านผมกับแนนเลยไม่ค่อยเครียดกันเท่าไหร่ น้องเนม ลูกชายคนแรกในชีวิตของผมลืมตาดูโลกก่อนวันที่เราสองคนจะรับปริญญาประมาณ 2 เดือน อีกอย่าง...ถึงเราจะพลาด...แต่เด็กเกิดมาจากความรักแน่นอนครับ...เพราะอย่างนั้นถึงผมจะต้องแต่งงานสายฟ้าแลบ เพื่อนๆผมแซวครับว่ามีพันธะก่อนชาวบ้านชาวช่อง ผมก็ไม่สนหรอกครับ ตอนนั้นผมเห่อเมียเห่อลูกอยู่นะครับ ไม่ใช่ผมคนเดียวนะ...ทั้งบ้านนั้นล่ะ... ฮ่าๆๆ ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าครั้งหนึ่งในชีวิต...ผู้ชายที่มีอดีตแย่ๆกับผู้ชายอย่างผมจะสามารถแต่งงานมีเมียมีลูก มีความสุขได้



          ส่วนนายปาล์ม...หลังจากที่มันจบออกไปผมก็ไม่เคยเจอมันอีกเลยครับ ดีแล้วล่ะ...ถึงผมจะทำใจ เลิกเสียใจได้นานแล้ว แต่ถ้าให้เจอกันอีกครั้งก็คงจะมองหน้ากันไม่ติดเท่าไหร่หรอก...ผมว่านะ...ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอดีตไปดีกว่า อันที่จริงผมก็ไม่ได้โกรธเกลียดอะไรมันแล้วล่ะครับ โกรธไปก็เท่านั้น เกลียดไปก็ป่วยการ ป่านนี้มันก็คงมีครอบครัว มีลูกให้เลี้ยงเหมือนผมแล้วล่ะ เฮ้อ!! อีกอย่างนะครับ...ก่อนแนนจะเสียเธอขอร้องผมไว้น่ะ



“ฉันเข้าใจนะว่าคุณไม่อยากเจอผู้ชายคนนั้นอีก แต่สัญญากับฉันได้ไหมว่าหากพบเขาอีกครั้งคุณต้องเปิดใจให้เขา...อย่างที่คุณเคยเปิดใจให้ฉัน...ให้อภัยเขา...ยอมรับเขา...ฉันเชื่อว่าคุณกับเขาต้องเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้แน่ๆ ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณกลับไปรักกับเขาอีกนะ...เพราะฉันก็คิดว่าเขาคงมีครอบครัวของเขาแล้ว ฉันไม่อยากให้คุณปีนต้นงิ้วน่ะ ฮ่าๆ เรื่องของอดีตก็เป็นเรื่องของอดีต อย่าเอามันมาปนกับปัจจุบันจนทำให้ไม่มีความสุขนะจ๊ะ จะหาแม่ใหม่ให้ลูกก็ได้นะ เอ๊ะ! หรือว่าพ่อดีล่ะ อิอิ แล้วก็ดูแลลูกๆแทนฉันด้วย ฉันเชื่อว่าคุณต้องทำได้ดีแน่ๆ บอกพวกเขาว่าแม่จะคอยเฝ้าดูพวกเขาอยู่ใกล้ๆเสมอ...สัญญากับแนนนะไนท์...” ผมยิ้มให้กับหญิงสาวหน้าตาซีดเซียวบนเตียงคนไข้ เธอเป็นแบบนี้เสมอ...สดใส...ร่าเริ่ง....ยิ้มแย้มตลอดเวลา...แม้กระทั่งตอนนี้...เธอก็ยังยิ้ม...


“สัญญาสิ...สัญญาชั่วชีวิตเลย...ไนท์รักแนนนะ...ผมรักคุณมากนะ...ขอบคุณ...ที่ทำให้ผมเรียนรู้ที่จะรักใครได้อีกครั้ง...ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง...ขอบคุณ...” ผมบีบมือบางที่กุมไว้เบาๆ ก่อนจะยืดตัวขึ้นไปจุมพิตบนหน้าผากมนของคนที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่บนเตียง ผมรู้สึกหน่วงๆในอก น้ำตาก็พาลจะไหล...แต่ผมสัญญากับเธอไว้แล้วว่าผมจะส่งเธอด้วยรอยยิ้ม...ผมจะร้องไห้ไม่ได้.....


“เรื่องเล็กน้อยน่า ขอบคุณนะที่คอยดูแลฉันมาตลอด ฉันก็รักคุณมากเหมือนกัน มากที่สุดในชีวิตเลย...” แนนยิ้ม....ยิ้มที่สวยงามที่สุด...ก่อนที่เธอจะหลับตาลงช้า....ลมหายใจของเธอแผ่วเบาลงไปเรื่อยๆ






ในที่สุดเธอก็จากไป...ท่ามกลางความเสียใจของคนในครอบครัว.....





   ร่างของแนนถูกตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่วัดใกล้บ้าน...จนกระทั่งวันสุดท้าย....ผมยิ้มน้ำตาคลอเมื่อวางดอกไม้จันทน์ลงบนร่างของเธอ...ผมได้ร่ำลาเธอเป็นคนสุดท้าย...จดจำใบหน้าที่สวยงามอยู่เสมอ...แนนนอนแน่นิ่งด้วยใบหน้าเปี่ยมสุข...เหมือนว่าเธอแค่หลับไปเท่านั้นเอง...เสียแต่ว่าเธอจะไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกแล้ว.... ผมลูบใบหน้าที่เย็นเยียบอย่างอ่อนโยน...ยิ้มอย่างเต็มใจที่สุดให้เธอ...ยิ้มลา...ก่อนที่ที่ร่างของเธอถูกเลื่อนเข้าไปในตัวเผา....แนนไปอย่างสบายและสุขใจแล้ว.......เมื่อประตูเตาเผาปิดลงผมก็ทรุดนั่งย่างคนหมดเรี่ยวแรง....น้ำตาที่กลั้นไวยาวนานเริ่มไหลออกมาไม่ขาดสาย.....ในตอนนั้นผมรู้สึกเหมือนใจจะขาด...การสูญเสียคนรัก....มันทรมานเหลือเกิน.....







“พ่อค้าบบบ เมื่อไหร่อาเดย์จะมา เนมหิวแล้ว” ผมก้มลงมองเจ้าเด็กซนที่บ่นง่องแง่งๆ เดย์เป็นน้องชายของผมเองครับ มันลงมาทำงานในกรุงเทพก็เลยมาอยู่กับผม แต่เห็นว่ากำลังจะลาออกเร็วๆนี้ บ่นว่าอยากกลับบ้านไปอยู่กับพ่อกับแม่


“เมื่อกี้ก็เพิ่งบ่นไปนะลูก อดทนสิครับอดทน งอแงเดี๋ยวไม่หล่อนะ”


“ได้ๆๆ เนมไม่บ่นแล้ว เดี๋ยวเนมไม่หล่อ” ผมส่ายหัวปลงๆให้กับความบ้ายอของลูกชาย แก้ไม่เคยจะหายเสียที...นับวันยิ่งเปนเอามาก คนนี้เขามั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองมากตรับ เมื่อเดือนก่อนก็มาคุยโวกับผมว่ามีแฟนแล้ว แต่หลังจากนั้น 2 วันก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งบอกว่าแฟนมีกิ๊ก เด็กจริงๆเล้ย...




ผลั่ก!!!!




แง๊!!!!





“โอ๋ๆๆ ไม่เอาลูก ไม่ร้องนะคนเก่ง โอ๋ๆๆๆ” ผมพูดปลอบลูกชายคนเล็กที่ร้องไห้จ้า เพราะในระหว่างที่ผมกำลังยืนรอน้องชายอยู่ดันมีผู้ชายตัวใหญ่ๆคนหนึ่งเดินมาชนจนผมแทบจะกระเด็น เพราะผมขยับตัวแรงมากน้องเนทเลยตกใจตื่น ผมลูบหัวปลอบลูกชายและหันไปมองผู้ชายคนนั้นอย่างนึหกตำหนิ


"เอ้าคุณ! ทำลูกผมร้องไห้นี่ไม่คิดจะขอโทษหน่อยเหรอ ยืนมองอยู่นั้นล่ะ!” ผมออกปากว่าผู้ชายที่เอาแต่ยืนนิ่ง ผมไม่รู้ว่าหน้าตาเค้าเป็นอย่างไรนะครับ เพราะดันสวมแว่นดำใหญ่ๆไว้ บังไปครึ่งหน้าแล้ว แต่ดูจากลักษณะท่าทางหน้าตาก็ดี ทำไมนิสัยถึงได้แย่นักนะ!!


“อะ....เอ่อ.......” อ้ำๆอึ้งๆอยู่นั่นแหละ


“อะไรคุณ ตกลงว่าไง”


“ผะ....ผม.......”







ปรี๊น!!!!




   ผมละความสนใจจากคนไม่มีมารยาทมามองที่มาของเสียง ไอ้เดย์มาแล้วครับ ผมเลยเลิกสนใจผู้ชายคนนั้นและจูงมือลูกชายคนโตไปที่รถที่จอดรออยู่ โดยมีลูกชายคนเล็กสะอื้นฮักๆไปตลอดทาง พอขึ้นไปนั่งบนรถได้ผมก็จัดการลูบหัวลูบหลังน้องเนทที่ยังตกใจไม่หายจนไม่ได้สนใจภายนอกรถอีก...









ผมจึงไม่เห็นสายตาตื่นตกใจและใบหน้าแสนคุ้นในความทรงจำที่มองมายังพวกผม.....





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




“ไอ้ไนท์ แกมาช่วยฉันดูแผนงานนี้หน่อยสิ” ผมเงยหน้าไปมองพี่โส หัวหน้าแผนกที่ผมทำงานอยู่ แกมาพร้อมกับกระดาษเอสี่ปึ่กย่อยๆ


“งานอะไรเหรอพี่...”


“งานจัดเลี้ยงของบริษัทกษิณธรน่ะ”


“มันมีอะไรเหรอครับ” ผมถามแล้วก้มลงอ่านเอกสารที่ได้รับมา


“แกว่ามันควรจะเพิ่มอะไรอีกไหม”


“ถ้าถามผมนะ...ผมว่าไม่ต้องแล้วแหละ มันเสร็จสมบูรณ์หมดแล้วนี่” ผมออกความเห็น งานของบริษัทที่ว่านี่เป็นงานเลี้ยงต้อนรับเจ้าหน้าที่คนใหญ่คนโตน่ะครับ จัดที่พัทยา อ้อ!นี่ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมว่าผมทำงานที่บริษัทรับจัดงานเลี้ยง งานอีเว้น อะไรประมาณนั้นน่ะ...


“อืมๆ ไม่เพิ่มก็ไม่เพิ่ม ว่าแต่แกจะไปด้วยไหม” พี่โสว่า


“ดูก่อนแล้วกันพี่ ถ้าว่างผมจะไปช่วยแล้วกัน”


“เออๆ งั้นฉันไปล่ะ ขอบใจมาก” ผมยิ้มให้พี่โสก่อนที่จะกลับมาสนใจกับงานตรงหน้าต่อ พอทำไปสักพักก็เงยหน้ามองนาฬิกา....สองโมงกว่าแล้วแฮะ....ใกล้เวลาที่นัดลูกค้าไว้แล้ว...คิดได้ดังนั้นผมจึงเก็บข้าวของและออกมาจากสำนักงาน ที่นี่เขาทำงานกันสบายๆครับ เน้นความสบายใจ ไม่เน้นระเบียบ แต่พอถึงเวลาต้องมีงานมาเสนอแค่นั้นล่ะ





สองอาทิตย์ต่อมา...






“เย้! ทะเล พ่อดูทะเลสิ!!!” เจ้าเนมวิ่งไปตะโกนร้องไป เท้าเล็กๆนั่นพาตัวเองไปหยุดอยู่ที่ริมหาดพลางก้มลงวักน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน


"เห็นแล้วไอ้ตัวแสบ มานี่ก่อนเร็ว มาทาครีมกันแดดก่อน” ผมร้องเรียกลูก วันนี้เป็นวันที่ผมมาช่วยบริษัทจัดงานเลี้ยงครับ สถานที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอเวลา ผมเลยถือโอกาสพาเด็กน้อยทั้งสองคนมาเที่ยวทะเลด้วยซะเลย


“พ่อฮะ เร็วๆหน่อยสิ เนมอยากเล่นน้ำแล้ว”


“ก็นั่งนิ่งๆสิ จะได้เสร็จเร็วๆ ดูน้องเป็นตัวอย่างสิน่ะ” ผมพยักเพยิดไปทางลูกคนเล็กที่นั่งตักทรายใส่บล็อคพลาสติกอย่างสงบเสงี่ยม


"ก็น้องยังเด็กนี่นา จะมาเล่นอย่างเนมได้ไง” เจ้าตัวว่าพลางยืดอกทำท่า ผมเคาะลงไปเบาๆบนกระหม่อมของเจ้าตัว


“พูดอย่างกับตัวเองโตแล้วน่ะ ตัวกระเปี๊ยกเดียวยังอวดเก่งอีก เอ้า!เสร็จแล้ว” ผมวางมือจากแขนขาลูกชาย ก่อนจะปล่อยให้แกลงไปเล่นน้ำทะเลอย่างที่ใจอยาก แต่ผมก็คอยดูอยู่ห่างๆล่ะครับ



   เล่นไปได้สักพักไอ้ตัวแสบก็วิ่งทั่กๆมาเขย่าแขนผมว่าอยากลงไปเล่นลึกๆ ดุอย่างไรก็ไม่ยอมจนผมต้องยกมือยอมแพ้พาไอ้ตัวแสบไปเช่าเสื้อชูชีพและห่วงยางจนได้ ผมฝากน้องเนทไว้กับพี่โสกับเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะอุ้มเด็กดื้อเดินลุยน้ำไป...




“พ่อค้าบ เนมอยากไปลึกๆกว่านี้อีก”


“แค่นี้ก็พาแล้วไอ้ตัวแสบ ยืนก็ไม่ถึงยังจะทำซ่าอีกนะ” ผมเอ็ดลูกชาย เพราะตอนนี้ผมพาแกมาลึกพอสมควรแล้วครับ น้ำอยู่ประมาณอกผมแล้ว แถมขาผมเริ่มช้าอย่างไรก็ไม่รู้


“อยากไปลึกอีกอ่า นะๆๆๆ พ่อจ๋า...” ไอ้ตัวดีหันมาอ้อน


“ไม่เอาแล้วครับเนม แค่นี้พอแล้ว ขาพ่อก็เริ่มช้าแล้วเนี่ย” ผมบอกลูก


“พ่ออ่ะ แค่นี้ชา แก่แล้วๆๆ” ผมเคาะกระโหลกลูกเบาๆ ผมเพิ่งจะ 30 เองนะ ยังหนุ่มแน่นและแข็งแรง เพียงแต่ว่าผม...ไม่ค่อยถูกกับน้ำทะเลเท่านั้นเอง 55+ พอลงแล้วขามันจะชาน่ะครับ




แต่ว่า........






พรืด!!!!



   ระหว่างที่ผมกำลังออกแรงดันลูกชายไปข้างหน้า ขาผมดันไปเหยียบอะไรลื่นๆใต้น้ำเข้า ผมเลยลื่นล้มมันใต้น้ำนั้นแหละ เล่นเอาแสบตา พอตั้งตัวได้ผมก็จะถีบตัวเองขึ้นสู่ผิวน้ำ ในจังหวะนั้นขาผมก็ไปพันอยู่กับเชือกอะไรซักอย่าง อะไรไม่ว่าขาผมดันเกิดเป็นตะคริวขึ้นมาดิ้อๆเนี่ยสิ อะไรวะเนี่ย!!!





งานเข้า!!!




ผมพยายามแกะเชือกที่พันเท้าอยู่ออก มันใช้เวลานานพอสมควร ผมเริ่มตะเกียกตะกายแล้วครับเพราะอากาศเริ่มหมด น้ำตรงที่ผมอยู่นี่ก็ลึกประมาณเมตรกว่า ดิ้นมากๆเข้าผมก็เริ่มหมดแรง สำลักเอาน้ำทะเลเข้าไปหลายอึก ตอนนี้ขาทั้งสองข้างของผมไร้ความรู้สึกไปเสียแล้วครับ....มันเริ่มชาไปทั้งตัว แสบจมูกแสบตาไปหมดแล้ว เมื่อขาดอากาศ....สติผมก็เริ่มเลือนลางมากขึ้นเรื่อยๆ.......






ผมยังไม่อยากเป็นอะไรไปนะครับ.....




แล้วลูกผมล่ะ........พวกแกจะอยู่กันอย่างไร....







น้องเนม.........






น้องเนท..........


















..............................................




















“......น....ต...........ไนท์......ตื่นสิไนท์............” ผมได้ยินเสียงใครสักคนกำลังเรียกผมอยู่ รู้สึกเหมือนตัวเองถูกเขย่า....แต่ผม.....ไม่มีแรงจะลืมตาขึ้นเลย........มันหนักไปทั้งตัว...ผม....กำลังจะตายสินะ....


“ไนท์! ฟื้นสิไนท์! อย่าเล่นแบบนี้นะ! อย่าทิ้งพี่ไปนะ! ไนท์! ไนท์!!”



เสียงใครกันน่ะ.....ใครกำลังเรียกผม......



“พ่อ! พ่อจ๋า! เนมขอโทษ! พ่อตื่นสิ! ตื่นมาเล่นกับเนม พ่อ!”



.......น้องเนม............




“พ่อจ๋า.....พ่อจ๋า.......ตื่น.......”



..............น้องเนท..............








   เมื่อผมได้ยินเสียงลูก....ผมก็พยายามจะลืมตา.....นานมาก......กว่าลืมตาขึ้นมาได้....ผมอ่อนแรงเต็มที่.....มันเหมือนจะขาดใจชอบกล......ท่ามกลางสายตาที่พร่ามัว....ผมเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังมองผมอยู่........ที่รู้ว่าเป็นผู้ชายเพราะหน้าของผมกับเขาอยู่ใกล้กันมาก......มากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเขาที่ปะทะหน้าผมด้วยซ้ำ....และถึงแม้ภาพจะเลือนลางมากๆ....แต่ผมว่าผมเห็นจริงๆ...ผมเห็นเขาจริงๆ.....





........ปาล์ม.....




.....เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน.....





....หรือผมกำลังฝันอยู่.....





.....ฝันถึงเขาเนี่ยนะ....อยากจะหัวเราะจัง......





"ไนท์! ไนท์มองหน้าพี่! คนดี...มองหน้าพี่.......” เขาคนนั้น....ผมเห็นประกายความดีใจในดวงตาของเขา


“พ.....พะ......พี่ปาล์ม..........” ผมพยายามเรียกชื่อเขา พยายามจะยิ้ม.....แต่มันก็ทำได้ยากเหลือเกิน...สายตาผมพร่าเลือนมากขึ้นเรื่อยๆ....ลมหายใจเริ่มขาดห่วง.......ผมมองใบหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่สติผมจะดับไปในที่สุด.....





พ่อรักลูกนะ.....



แต่พ่อคงต้องกลับไปหาแม่แล้วล่ะมั้ง....





“ไนท์! ไนท์!!!!!!!”


“ไนท์! ตื่นสิไนท์ พี่มาหาไนท์แล้วนะ ตื่นสิคนดี ตื่น!!!”




......เขามาหาผมจริงหรือเปล่า.....ถ้าจริง.....ผมก็ดีใจ....




.....ไม่รู้ว่าเพราะผมจะใกล้ตายหรืออย่างไร.....ผมให้อภัยเขาได้ง่ายๆเมื่อเห็นเขาอีกครั้ง......หลังจากที่ไม่ได้พบกันมานานเหลือเกิน......นี่ผมไม่เคยลืมเขาเลยเหรอเนี่ย.....




ตลกจัง.....สุดท้ายผมก็ยังรักเขาอยู่....




แต่ว่า....




.....ขอร้องล่ะครับ....อย่าเพิ่งให้ผมตายเลยนะ....ผมยังอยากอยู่กับลูก....ยังอยากอยู่กับเขา......แม้ว่ามันจะเป็นความฝันลมๆแล้งๆก็เถอะ...




.....ได้โปรด.....ผมยังอยากอยู่กับเขา......




ผมยังไม่อยากตาย....







++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ตอนหน้าก็จบแล้วนะคะ อยากเขียนตอนพิเศษซักตอนสองตอนเหมือนกันนะคะ แต่ขอดูความเห็นคนอ่านก่อนว่าจะแต่งดีมั้ย อิอิ


สำหรับตอนจบ...อาจจะขัดใจคนอ่านนิดหน่อยละมั้งคะ แต่ไอ้คนเขียนก็คิดล่ะ...ว่าจบแบบนี้น่ะดีแล้ว ^^


แล้วพบกันนะคะ


Cynthia_Moonlight


หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: Warlock ที่ 26-10-2011 17:38:03
หวังว่าจะสมหวังนะไม่เอาแบบเศร้าๆเน้ออออ งืดๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 26-10-2011 19:21:05
เราว่าจบแบบเพื่อนกันก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-10-2011 20:17:02
อุ้ย! มีลูกซะแล้วสิไนท์ :z3:
ในวินาทีชีวิตก็ยังรักไอ้พี่ปาล์มอยู่งั้นสิ :เฮ้อ:
แต่ว่าตอนจบขัดจิตคนอ่านนี่มันยังไงกันน้า จะไม่แฮปปี้เหรอคะ แอร๊ยย :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 26-10-2011 21:38:54
ดีที่ทอดเวลาออกไป มีชีวิตใหม่แล้วมาเจอกันแบบนี้ ก็อาจมีโอกาสรีเทิร์นนะ

แต่ถ้าตอนยังแผลสดแล้วมาทำท่าจะรีเทิร์นเดี้ยนรับไม่ได้ค่ะ รอลุ้นต่อนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้นเฉพาะกิจ]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part IV [26/10/54]
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 26-10-2011 22:56:20
เวลารักษา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 27-10-2011 17:34:56
Part V



“พ่อใหญ่ฮะ พ่อล่ะ” เสียงของเด็กชายวัยแปดขวบหน้าตาน่านักน่าเอ็นดูถามกับผู้ชายร่างสูงใหญ่


“อยูในครัวครับ บอกว่าจะไปทำข้าวเที่ยง แต่เนทดูนาฬิกาสิ เพิ่งจะแปดโมงเองน่ะ” ปาล์ม หนุ่มใหญ่วัย 39 ปี ตอบเด็กชายพลางชี้ไปทางนาฬิกาบนฝาผนังที่บอกเวลา 08.26 น. อย่างชัดเจน


“เอาอีกแล้วเหรอ คุณพ่อนี่ขี้ลืมจังแฮะ” เจ้าตัวว่าพลางหัวเราะเบาๆอย่างอดขำผู้เป็นพ่อไม่ได้ คุณพ่อคนดีของตนกลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืมไปเสียแล้วสิ บางครั้งก็ลืมอะไรง่ายจนน่าขำเชียวล่ะ


“พ่อก็ว่างั้น เหมือนเด็กเข้าไปทุกทีเลยล่ะรายนั้นน่ะ” ร่างสูงว่า


“ฮ้าวว! สวัสดีครับพ่อใหญ่” เนมหนุ่มน้อยวัย 14 ปี เดินหาวหวอดลงมาจากชั้นสองของบ้าน คนนี้หน้าตามาคนละแนวกับน้อง แม้จะอยู่ในวัยเพียง 14 ปี แต่ก็มีร่างกายที่สูงใหญ่กว่าเด็กในวัยเดียวกัน แววความหล่อและเจ้าเล่ห์ฉายชัดบนใบหน้า


“พ่อใหญ่ฮะ เมื่อคืนพี่เนมไม่ยอมนอนนั่งเล่นเกมส์จนดึกเลยฮะ” เนทรีบฟ้องพ่อใหญ่ของตน คนเปนพี่จึงรีบส่งสายตาคาดโทษมาให้ทันที




‘หาเรื่องให้อีกแล้วไอ้เด็กแสบ คอยดูเถอะ!’   



“จริงอย่างที่น้องว่าหรือเปล่าเนม พ่อบอกว่าอย่างไรเมื่อคืนน่ะ” ปาล์มถามเสียงดุๆ จนคนโดนดุต้องตอบอย่างหงอยๆ


“บอกว่าห้ามนอนดึกครับ เพราะวันนี้ต้องไปเรียนพิเศษ”


“แล้วทำไมถึงไม่ทำตามครับ...”


“ง่า....ก็....เอ่อ.....ขอโทษค้าบบบ ผมผิดไปแล้ว” คนโดนดุกล่าวอ่อยๆ ตาก็จ้องไปที่น้องชาย แต่คนเป็นน้องก็หาได้กลัวไม่ แลบลิ้นล้อเลียนอยู่ข้างหลังผู้ปกครอง





“อ้าว! นี่ยังไม่ไปเรียนกันอีกเหรอ” ระหว่างที่ทั้งสามคนกำลังเคลียร์โทษก็มีเสียงทุ้มหวานจากใครอีกคนดังขึ้นมา ก่อนจะปรากฎร่างสูงเพรียวตามกลังเสียง คนๆนี้คือไนท์ ชายหนุ่มหน้าตาอ่อนโยนในวัย 36 ปี เจ้าตัวอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงเลดูสบายๆคาดทับด้วยผ้ากันเปื้อนสุดน้ำเงินเข้ม

       
“จะไปไหนล่ะพ่อค้าบบ ดูนาฬิกาสิ เพิ่งจะแปดโมงเอง เฮ้อ! มีพ่อขี้ลืมนี่เหนื่อยแฮะ” เนมว่าพลางสายตาให้บิดาแท้ๆอย่างปลงๆ เมื่อก่อนก็ปกติดีหรอกนะ แต่หลังจากที่เกิดเรื่องนั้นนี่พ่อของเขาดูเบ๊อะบ๊ะขึ้นจมเลย


“อ้าวเหรอ! โทษทีๆ แย่จังลืมอีกแล้ว” ไนท์ว่า มีแววกังวลเล็กๆสายตา


“ไม่เป็นไรหรอกน่า มานั่งนี่มา” ปาล์มเอ่ยขัดก่อนจะเรียกคนร่างเพรียวให้เข้ามานั่งที่โซฟา มีก็ตบปุๆที่ที่ว่างข้างตัว




   ปาล์มมองร่างสูงโปร่งของไนท์ด้วยแววตาเป็นประกาย....คนดีของเขา....หลังจากที่เจ้าตัวจมน้ำเมื่อหกปีก่อน...เพราะขาดออกซิเจนนานเกินไป...ไนท์เกือบกลายเป็นเจ้าชายนิทรา...เขาเฝ้าภาวนาอยู่นานหลายวัน...ในที่สุดไนท์ก็ฟื้น...แต่ก็แลกมาด้วยความทรงจำบางส่วนที่หายไป...ตัวตนของเขา...เป็นหนึ่งในนั้น...และเมื่อรู้อย่างนั้น...เขาจึงใช้โอกาสนี้แทรกตัวเข้ามาในชีวิตอีกคนๆนี้อีกครั้ง.........คราวนี้....เขาใช้หัวใจทั้งดวง.......เมื่อไนท์เริ่มรับรู้ถึงตัวตนของเขา...เขาก็รู้สึกดีใจมาก...ในอกเปี่ยมไปด้วยความปิติยินดี.....


          แต่ทว่าหลังจากนั้น 1 ปี ตัวตนของเขาก็ถูกพรากไปจากความทรงจำของไนท์อีกครั้ง....จากอุบัติเหตุทางรถยนต์...ศรีษะถูกกระแทกอย่างรุนแรง...บาดเจ็บสาหัส....ไนท์หัวใจหยุดเต้นไป 3 ครั้งติดกันในเวลาเพียง 4 ชั่วโมง ในตอนนั้นเขารู้สึกเหมือนใจจะขาดรอนๆ เขาสาบาน....สาบานกับทุกๆสิ่งที่อยู่ ณ ที่นั่น...หากคนที่นอนอยูในห้องฉุกเฉินกลับมีชีวิตได้อีกครั้ง...เขาจะดูแลคนๆนี้...ด้วยชีวิตและหัวใจทั้งหมดของเขา...จะไม่ทำให้ทุกๆอย่างเป็นเหมือนในอดีต....ครานี้...สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำเอาความทรงจำทุกสิ่งทุกอย่างของไนท์ไปเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน......ไนท์กลายเป็นคนความจำเสื่อมอย่างถาวร......ไม่มีทางนำสิ่งใดๆกลับมาได้อีก....แม้แต่เรื่องพื้นฐานในชีวิตอย่างการอ่านการเขียน การหยิบจับและใช้อุปกรณ์...ก็ยังไม่มีเหลือ.....เหมือนไนท์เป็นเพียงภาชนะที่ว่างเปล่าที่ต้องการการเติมเต็ม.....และที่สำคัญผลกระทบการอุบัติเหตุครั้งนั้น






.....ไนท์กลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืม......







“ข้าวเช้าเสร็จหรือยังฮะพ่อ” เนทถามเสียงใส


“เรียบร้อย มีต้มยำกับผัดผัก” ไนท์บอกพลางยิ้มให้ลูกคนเล็กและนั่งลงข้างๆร่างสูงใหญ่


“งั้นเนทไปกินข้าวดีกว่า ไปกันพี่เนม” เจ้าตัวยุ่งลุกขึ้นยืนพลางออกแรงน้อยๆของตนดึงแขนพี่ชายไปทางห้องครัว ซึ่งเนมก็ตามไปแต่โดยดี ปล่อยให้ผู้ปกครองและคุณพ่อของตนอยู่กันตามลำพัง


“ทำไมผมขี้ลืมแบบนี้นะ ก่อนความจำเสื่อมผมขี้ลืมแบบนี้หรือเปล่าคุณปาล์ม” ไนท์ถามอย่างรำคาญตัวเอง เขารู้ว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำทั้งหมดไป แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาหงุดหงิดไปมากกว่าการหลงลืมแบบสุดกู่ของตัวเองอีกแล้ว บางทีเขาก็ลืมอะไรไปง่ายๆ เขาต้องใช้เวลานานพอดูถ้าจะจดจำอะไรสักอย่างหนึ่ง มันต้องอาศัยการท่องจำซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าสิ่งนั้นจะซึมเขาไปในสมอง


“ไม่หรอก เมื่อก่อนปาล์มจำแม่นจะตาย” ปาล์มว่าพลางโอบไหล่คนตัวเล็กว่าเขามาให้ศรีษะหนุนไหล่เขา


“อย่างนี้ก็แย่สิ ผมมันไม่ได้เรื่องเล้ย” เจ้าตัวว่า


“เอาเถอะน่า ถึงไนท์จะขี้ลืมแต่พี่ก็รักนะ” ปาล์มอดหยอดไม่ได้ ส่งผลให้คนเริ่มแก้มแดงเรื่อด้วยความเขินอาย ตั้งแต่เขารู้ว่าตัวเองความจำเสื่อมก็ได้ผู้ชายตัวใหญ่นี่แหละเข้ามาดูแล คอยเล่าเรื่องในอดีตให้เขาฟังรวมถึงเรื่องที่เจ้าตัวเคยทำร้ายเขามามากแค่ไหนด้วย ซึ่งเขาก็ได้แต่รับฟังเงียบๆ เพราะว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้แม้แต่นิดเดียว จริงๆก็ไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำว่าผู้ชายที่อ่อนโยนมากๆคนนี้เคยเป็นคนทำร้ายเขามาก่อน แต่เจ้าตัวก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง เขาจึงไม่ขัดอะไรอีก


“หยอดผมทุกวันแบบนี้คิดว่าผมจะใจอ่อนเหรอ” ไนท์ถาม ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าผู้ชายนี้คนอย่างไรกับเขา คนมันแสดงออกซะโจ้งแจ้งขนาดนั้น ถึงความจำเสื่อมแต่ก็ไม่ได้โง่จนมองไม่ออกนะ...


“น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนเลย นับประสาอะไรกับใจคนล่ะ” ปาล์มว่ายิ้มๆ หลายคนคงแอบกร่นด่าเขาอยู่...ที่เขาทำร้ายไนท์....ใช่....ปาล์มยอมรับมันอย่างไม่คิดที่จะแก้ตัว...คนที่ไม่เคยเห็นค่าคนสำคัญอย่างเขา...เมื่อต้องเสียคนสำคัญไปถึงได้รู้ตัว.....ที่ไนท์ว่าเขาในตอนนั้นมันไม่ผิดไปจากความจริงเลย...





เขาจงใจโกหกและปิดบังทุกอย่าง....





   เขาโกหก....หลอกลวง....ใช่.....เขาไม่เคยรักไนท์....ที่ทำไปทั้งหมดก็แค่....หมั้นไส้.....อยากสั่งสอน....แต่นั่นมันก่อนหน้าที่เขาจะรักอีกฝ่าย....รักโดยที่ไม่เคยจะรู้ตัว....เรื่องแต่งงาน...มันก็เป็นเรื่องจริง ตระกูลเขาเป็นคนมีเงิน มีชื่อเสียง การคลุมถุงชนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว เขาไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เรียนจบ มีงาน มีเงิน มีลูกมีเมีย สืบทอดตระกูล...ทุกอย่างถูกกำหนดไว้หมด...แต่ปาล์ม...ก็ฝืนเลือกทางเดินของตัวเองเป็นครั้งแรก....หลังจากที่เขาเสียคนที่เปรียบเสมือนหัวใจของตัวเองไป....แม่แทบจะฆ่าเขาด้วยซ้ำตอนที่รู้ว่าลูกชายตัวเองรักผู้ชาย...แถมคนๆนั้นยังเป็น....ไนท์...คนที่แม่รู้จักดีเสียอีก.....กว่าแม่จะยอมรับตัวตนของเขาก็กินเวลาไปหลายปี...วันนี้....วันที่แม่ของเขายอมรับคนร่างโปร่งมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งของบ้านอย่างเต็มใจ...



   เมื่อเรียนจบเขาก็ไม่ได้เจอไนท์อีกเลย...หลายปีเขาอยู่กับความทุกข์....ความทรมาน...พยายามจะตัดใจก็ทำไม่ได้ พยายามจะเริ่มต้นใหม่...ก็ต้องล้มเหลว...ปาล์มรู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองถูกผูกติดไว้กับผู้ชายที่ชื่อนิธิกรไปเสียแล้ว เขาคิด...หากนี่คือผลกรรมที่เขาต้องแบกรับเมื่อลงมือทำร้ายคนสำคัญอย่างไม่น่าให้อภัย...เขาก็เต็มใจจะรับ....แต่เขาขอ....หากมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง....ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนก็ตาม...เขาจะไม่ปล่อยหัวใจของเขาไปอีกแล้ว เขาจะทำ....จะทำให้ไนท์รักเขาด้วยหัวใจอีกครั้ง....ครั้งนี้....เขาขอเอาหัวใจของตัวเองเป็นเดิมพัน....






11 ปีต่อมาเขาก็ได้พบกับไนท์อีกครั้ง....ที่สนามบิน....






           เมื่อได้พบกันแล้ว...เขาก็ค่อยติดตามร่างโปร่งไปทุกที่....ตามไปเฝ้ามองอยู่ห่างๆ...ไนท์ในวัยทำงานนั้นดูสุขุมขึ้นมาก อาจจะเป็นเพราะหน้าที่การงาน...และลูกๆ...ในขณะที่เขาเลือกที่จะหยุดอยู่กับอดีต...อีกคนหนึ่งกลับเลือกที่จะเดินต่อไป....ยอมรับว่าตอนที่รู้เขาเจ็บ....เจ็บที่รู้ว่าอีกคนสามารถกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปได้...โดยที่ไม่มีเขา....เขารู้สึกเสียหน้า.....แต่มันก็เท่านั้น....ไนท์จะต้องใช้เวลาเยียวยาหัวใจนานแค่ไหนกว่าจะกลับมามีความสุขได้อีก.....เขาควรจะเคารพการตัดสินใจของไนท์สิถึงจะถูก....ดังนั้นเขาจึงเลิกคิดเรื่องนี้ไป....เพราะอย่างเสียเขาก็ทำตัวเอง....





ตอนที่ลูกชายคนโตของเจ้าตัวร้องเรียกหาบิดาด้วยความตกใจ เขาหัวใจแทบจะหยุดเต้น รีบกระโจนลงน้ำตามหาอย่างบ้าคลั่ง ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะเจอร่างที่ตามหา ไนท์ในตอนนั้นแทบจะไม่หายใจแล้วด้วยซ้ำ เขากอดร่างนั้นไว้แน่นพลางเรียกสติ...โล่งใจที่เจ้าตัวฟื้น แต่ก็หมดสติไปอีก....ปาล์มรีบพาร่างของไนท์ไปโรงพยาบาล ก่อนที่จะช็อคกับคำวินิจฉัยของแพทย์ในเวลาต่อมา...




“คนไข้สูญเสียความทรงจำบางส่วน”






“มั่นใจจริงนะคุณ ไม่เบื่อหรือที่ต้องมาคอยดูแลคนความจำเสื่อมแถมขี้หลงขี้ลืมแบบผมน่ะ” ไนท์ผละออกจากไหล่พลางถาม ทำให้ปาล์มที่ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้งรู้สึกตัว...


“ไม่หรอก ให้ดูแลทั้งชีวิตก็ยังไหว” ปาล์มตอบพลางกระชับอ้อมกอดแน่น...คนในอ้อมแขนของเขาคนนี้....คนที่เขาสามารถตอบได้อย่างไม่ลังเลว่า ‘รัก’ มากเหลือเกิน




รักมากกว่าสิ่งใดในโลก...





“แต่ผมมีลูกมีเมียไม่ใช่หรือ ถึงเธอจะเสียไปแล้วก็เถอะนะ คุณรับได้...”


“พี่รับได้ทุกอย่างแหละ...ขอให้คนๆนั้นเป็นไนท์ก็พอ” ยกมือขึ้นลูบศรีษะที่ปกคลุมไปด้วยผมดำยาวประบ่า จากอุบัติเหตุสองครั้งซ้อนทำให้ร่างกายของไนท์ดูจากซูบผอมลงมากกว่าเดิม อันที่จริงไนท์ก็มีร่างกายสมส่วนและแข็งแรงเหมือนผู้ชายทั่วไป แต่หลังจากวันที่ประสบอุบัติเหตุมาจนถึงวันนี้...น้ำหนักของไนท์ลดลงไปเป็นหลักสิบกิโล กลายเป็นผู้ชายตัวสูงที่ติดมีหุ่นบางๆแทนเสียอย่างนั้น ผมที่เคยตัดสั้นถูกปล่อยให้ยาวจนประบ่า...




ไนท์ในตอนนี้ดูน่ามองกว่าเมื่อสมัยมหาวิทยาลัยหลายเท่านัก




“เลี่ยน! ลองให้ผมจำได้สิ ไม่มีทางมานั่งหวั่นไหวกับคุณแบบนะ....” ร่างเพรียวรีบเอามือปิดปากตัวเองเมื่อรู้ว่าหลุดพูดอะไรออกไป ใบหน้าเริ่มกลับมาแดงก่ำอีกครั้งด้วยความอับอาย





บ้าจริง! หลุดไปจนได้สิ!!





“หือ...ว่าไงนะครับ เมื่อกี้ไนท์ว่าอะไรนะ พี่ได้ยินไม่ค่อยชัด” ปาล์มถามพลางยิ้มน้อยๆอย่างล้อเล่น ที่จริงแล้วเขาได้ยินชัดเลยแหละว่าอีกฝ่ายพูดอะไร


“อะไร ไม่ได้พูดอะไรซะหน่อย หูฝาดแล้ว” เจ้าตัวว่า ก้มหน้างุดอย่างไม่ยอมสบตา ทำให้คนมองนึกอย่างแกล้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น


“จริงเหรอ ว้า...จังเนอะ...เมื่อกี้พี่ได้ยินใครบอกว่าหวั่นไหวอะไรเนี่ยแหละ”


“ผมไม่ได้พูดซะหน่อย! เฮ้ย! เวรล่ะ!” ไนท์เผลอออกปากเถียงอย่างลิมตัว ก่อนจะตกใจที่พลั้งปากออกไปอีกแล้ว


“แสดงว่าพี่ได้ยินจริงๆสิเนี่ย หืม...หวั่นไหวแล้วเหรอครับคนดี.....” ว่าพลางก้มลงกระซิบข้างหูบ้างเบาๆ ประทับจมูกโด่งๆของตัวเองสูดดมความหอมข้างแก้มคนหน้าแดง


“อะไรเล่า เอาหน้าออกไปนะไอ้คนหื่นกาม” คนแก้มแดงว่าพลางใช้มือผลักหน้าที่เข้ามาคลอเคลียออกไป


“พี่ไม่ได้หื่นเสียหน่อย ปรักปรำกันชัดๆเลย” รวบตัวคนที่อายเข้ามากอดอย่างเต็มไม้เต็มมือ ปาล์มยิ้มแก้มปริให้กับตัวเอง ในอกเต้นรัวด้วยความตื่นเต้นดีใจ


“แล้วไอ้ที่ทำอยู่นี่มันเรียกว่าอะไร ปล่อยสิโว้ยยย” คนตัวบางเริ่มดิ้นรนหาทางออกให้ตัวเองแต่ก็ไปไหนไม่ได้เพราะติดออมกอดแข็งที่รัดตัวเองอยู่ หน้าแดงซ่านด้วยความเขินอายต่อการกระทำของอีกคน



“ปล่อยก็โง่สิครับ กว่าจะจับอยู่นี่ใช้เวลานานมากเลยนะ”


“จับหย่งจับอยู่อะไร ผมไปอยู่เฉยๆให้คุณจับตอนไหนกัน”


“ก็ไอ้ที่นั่งนิ่งๆให้พี่กอดอยู่นี่ไง”


“นั่นเพราะคุณไม่ยอมปล่อยต่างหากเล่า!!”


“ฮ่าๆๆๆ นี่....พี่ถามจริงๆนะไนท์....ตอนนี้รู้สึกยังไงกับพี่....” ปาล์มใช้มือจับใบหน้าของคนที่หันหน้าหนีให้กลับมาสบตากันเหมือนเดิม จ้องมองลงไปในดวงตาสีน้ำตาลเข้มจนเห็นตัวเองอยู่ในสายตาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน




   หลายครั้งที่เขาเห็นไนท์เผลอแสดงท่าทีที่เจ้าตัวพยายามปิดไว้ให้เขาเห็น ทั้งสายตาขวางๆยามที่มีผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้ๆเขา ทั้งความเขินอายที่แสดงออกมาเมื่อถูกเขาป้อนคำหวานใส่ นัยน์ตาสั่นไหวเมื่อเขาดึงเจ้าตัวเข้ามากอดมาหอม เขารู้ว่าไนท์เริ่มหวั่นไหวกับเขา แต่เขาก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกของคนที่รัก...เขาไม่กล้าคิดเขาข้างตัวเองขนาดนั้น....ไม่กล้าคิดเลยจริงๆ....



“หืม...รู้สึกยังไงน่ะเหรอ” คนนถูกถามหยุดดิ้นแล้วเงยหน้าขึ้นมามองคนถาม คิ้วเรียวขมวดมุ่นน้อยๆก่อนจะเอ่ยตอบ “ก็...อยู่ด้วยแล้วสบายใจ...มีความสุขดี....”



“แล้ว... ‘รัก’ พี่หรือยัง”



“ถามอะไรแบบนั้น!!” ไนท์หน้าแดงวาบ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าถามตนตรงๆแบบนี้


“อ้าว! ก็พี่อุตส่าห์หว่านเมล็ดมาตั้งนาน พี่ก็ต้องหวังผลของมันสิ อย่าบอกว่าไม่รู้นะว่าพี่รู้สึกยังไงกับไนท์น่ะ แสดงออกขนาดนี้แล้วนา” ปาล์มตอบออกมาอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน ส่งผลให้คนถามมองตาเขียวปั๊ด


“โรคจิต!!”


“โรคจิตแต่พี่ก็รักนะ เมื่อไหร่จะรักพี่เสียทีล่ะ พี่รอนานม๊ากแล้วนะ” คนร่างหนาว่าเสียงสูง





“ชิ.....นิดหน่อย......” ไนท์พูดออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ประโยคที่จับใจความไม่ได้ทำให้คนฟังต้องขมวดคิ้วอย่างงุนงง





“นิดหน่อย....นิดหน่อยอะไร....”




“โว้ยยยย โง่เหรอ! รักนิดหน่อย เข้าใจยัง!!” ว่าจบก็หันหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่รู้ไม่ชี้ ทิ้งให้คนร่างหนาชะงักประมวลผล






รักนิดหน่อย..........




   
รักเหรอ......   






“จริงเหรอ! ไนท์พูดจริงๆนะ ไนท์รักพี่จริงๆนะ” คนที่เพิ่งได้สติจับตัวอีกฝ่ายให้หันมาสบตา ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างยินดี หัวใจเต้นรัวแรงราวกับเด็กชายที่มีรักแรกพบ...



“หยุดโวยวายเสียทีเถอะน่าคุณปาล์ม เดี๋ยวผมก็ลดให้เหลือแค่ถูกชะตาหรอก”


“ไม่! พี่ไม่ยอมหรอกนะ เพราะพี่รอมานาน....นานมากแล้ว....” ปาล์มว่าเสียงสั่นพร้อมกระชับร่างคนในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น


“แล้วร้องไห้ทำไมเนี่ย” ไนท์เอื้อมมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มร่างสูงออก ยิ้มมองอย่างอ่อนใจที่เห็นคนตัวโตร่างไห้เป็นเด็กๆ


“ก็...พี่...ดีใจนี่นา.....ดีใจมากๆเลย.....”


“รู้แล้วว่าดีใจ...หยุดร้องไห้ได้แล้ว” ปาล์มปล่อยคนในอ้อมกอดให้เป็นอิสระก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเรียวของอีกฝ่ายขึ้นมาแนบอก





“ไนท์รู้มั้ยว่าพี่รอวันนี้มานานมาก....นาน...เมื่อก่อนพี่คิดว่าชาตินี้พี่คงไม่มีโอกาสได้พบกับไนท์อีกแล้ว....พี่คิดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พี่ต้องรับไว้...พอพี่ได้เจอไนท์อีก...พี่ดีใจมากเลยนะ...และพี่ก็คิดไม่ถึงด้วยว่าจะได้มีโอกาสกลับมาดูแลไนท์แบบนี้....พี่สัญญา....พี่จะดูแลไนท์ให้ดีที่สุด...พี่จะไม่มีวันกลับไปทุกข์เหมือนในอดีตอีก....พี่จะทำให้ไนท์มีความสุข....พี่สัญญา” พูดจบก็ก้มลงไปจรดริมฝีปากบนมือบางเบาๆ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับรอยยิ้มที่อีกฝ่ายมอบให้ ปาล์มรอวบคนยิ้มเข้ามากอดไว้แน่นอีกครั้ง





กอดให้แน่น.....เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้กำลังฝันอยู่.....






เขาได้หัวใจของเขากลับมาแล้ว.....






“ที่คุณบอกผมว่าผมเคยบอกว่ารักเรามันเป็นไปไม่ได้น่ะผมเห็นด้วยนะ” ไนท์ยิ้มให้กับคนที่ชะงักไปก่อนจะกล่าวต่อ “แต่ผมเชื่อว่าตัวผมก่อนที่ความจำจะเสื่อมน่ะเขาคงจะให้อภัยคุณแล้ว ผมเชื่อแบบนั้น....เพราะงั้น...รักที่มันเป็นไปไม่ได้น่ะ....มันผ่านไปแล้วล่ะ...ต่อจากนี้...ถ้าคุณทำตามที่คุณสัญญา...ไม่ทำให้กลับไปทุกข์อีก.....ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้หรอกนะ...”



“ขอบคุณนะไนท์....ขอบคุณที่ให้โอกาสพี่อีกครั้ง....ขอบคุณ....ขอบคุณมากจริงๆ” ไนท์ยิ้มบางๆอีกครั้งก่อนที่จะเอื้อมมือไปโอบหลังของคนที่กอดตนไว้ ยื่นหน้าไปกระซิบเบาๆข้างหูอย่างหยอกล้อ....






“ได้หัวใจผมไปแล้วก็ดูแลดีๆนะ ถ้าทำให้เจ็บอีกจะอาฆาตไปจนวันตายเลย....”




   

.....ใช่....อดีตก็คืออดีต...มันย้อนกลับไปไม่ได้....



....แต่เขาเชื่อว่าคนเรามันเปลี่ยนกันได้....ถ้าคนที่เคยทำร้ายเขาเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้...ดีกับเขาขนาดนี้....ถ้าให้โอกาสคนๆนี้อีกครั้ง....มันคงไม่เกินไปหรอกนะ......



....มีโอกาสแล้วก็ใช้มันให้คุ้มเสียล่ะ.....คุณปาล์ม......











หัวใจ กลายเป็นกล่องใส่ความเหงา
กลับมาเป็นฉันคนเก่า
คนที่ไม่มีใครข้างกาย

ยิ่งหายใจยิ่งเหงา
เป็นความเหงาที่ไม่คุ้นเคย
บนโลกที่ไม่มีเธอ
ฉันรู้สึกเหมือนมันจะทนไม่ได้

อยากมีชีวิตที่มีชีวิต
เหมือนตอนเธออยู่
ก็เพิ่งรู้ว่าเธอสำคัญกับฉัน...แค่ไหน

เธอคือส่วนหนึ่งของหัวใจ
ที่ตอนนี้ได้ขาดหายไป เธออยู่ไหน....
จะมีสักเช้าหนึ่งไหม
จะลืมตา แล้วเห็นหน้าเธอ

อยากมีชีวิตที่มีชีวิต
เหมือนตอนเธออยู่
ก็เพิ่งรู้ว่าเธอสำคัญกับฉัน...แค่ไหน

เธอคือส่วนหนึ่งของหัวใจ
ที่ตอนนี้ได้ขาดหายไป เธออยู่ไหน
จะมีสักเช้าหนึ่งไหม


จะลืมตา แล้วเห็นหน้าเธอ

(ขาด – Playground)
   





ในที่สุดก็มีวันนี้...วันที่ได้นอนกอดกันและตื่นขึ้นมาในตอนเช้า...วันที่ได้ส่วนที่ขาดหายกลับมา....วันที่สามารถยิ้มออกมาจากใจได้อีกครั้ง....17 ปีที่รอคอย.....ผลของการรอมันคุ้มค่าเหลือเกิน....






หากมีความรักแล้วมีแต่ความทุกข์.....รักนั้น...ก็อาจจะเป็นไปไม่ได้...




แต่หากความรักนั้นมันสามารถทำให้เราสุขออกมาจากหัวใจได้....











.....รักนั้นมันก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือ....







-END-











จบแล้วนะคะสำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้ เห็นมั้ยคะ บอกแล้วว่าเขารักกันจนได้ล่ะ ไอ้เรื่องที่คนเขียนคิดว่าคนอ่านจะขัดใจก็อิตรงไนท์ความจำเสื่อมเนี่ยล่ะค่ะ

อยากจะบอกว่าเปลี่ยนมา 3 หนแล้วนะคะตอนจบน่ะ 55+

มาลงตัวอันนี้เนี่ยแหละ ^_^


มาถึงตรงนี้ก็ขอบคุณทุกๆความเห็น ทุกๆกำลังใจมากเลยนะคะ ผลตอบรับดีเกินกว่าที่คาดไว้มาก ตอนแรกคิดไว้ว่าลงเรื่องจบไม่พ้นหน้าแรก แต่หลุดมาหน้าที่ 2 ได้.... ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

ใครที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องหลัก....ตามไปอ่านกันได้นะคะ (แอบเรียกเรทติ้ง) เรื่องของน้องขิมและพี่ตะวันจะเป็นแนวสบายๆคลายเครียดอย่างแท้จริงค่ะ สัญญาว่าจะไม่ให้เศร้ามากเท่าเรื่องนี้ (หลบทรีนนน)




ก่อนจากกันก้อยมีแถมท้ายนิดหน่อยๆ พอเป็นกระษัย





















แถมท้าย








“นี่ๆๆ พี่เนม เมื่อไหร่พ่อใหญ่กับคุณพ่อจะจูบกันซักทีล่ะ เห็นจ้องกันมานานแล้วนะ” เด็กชายเนทเงยหน้าขึ้นมาถามพี่ชาย



โป๊ก!!



“นี่แน่ะ! เป็นเด็กเป็นเล็กนะเนท ทะลึ่งใหญ่แล้ว” เนมว่า รู้สึกระอากับน้องชายเล็กน้อยที่ชวนตนมาแอบดูผู้เป็นพ่อและผู้ปกครองแบบนี้ แต่ตัวเองก็ดันยอมมาแอบดูง่ายๆด้วยนี่สิ...



“โอ้ย! ไรอ่า ก็เนทเห็นมีแต่กอดแต่หอม เนทลุ้นจนเหนื่อยแล้วนะ” เจ้าตัวว่าพลางลูบหัวปอยๆ



“แก่แดด!”



“คนที่สอนให้เนทแก่แดดน่ะมันพี่เนมไม่ใช่เหรอ FHM ยังอยู่บนที่นอนเนทอยู่เลยนะ” คำพูดของน้องชายทำเอาพี่ชายตาโตก่อนจะว่า



“เฮ้ย! ถ้าพ่อเจอขึ้นมาจะทำยังไงล่ะ ขึ้นไปเก็บเดี๋ยวนี้เลยนะ”



“ไม่สน ไม่รู้ไม่ชี้ ใครนำพามันมาก็เก็บเองเซ่ แบร่!!!” ว่าแล้วก็แลบลิ้นหลอกก่อนจะรีบวิ่งหนีไปหาตัวช่วยทั้งสอง ทิ้งให้คนเป็นพี่รีบวิ่งหน้าตั้งขึ้นไปบนห้องนอนน้องชายเพื่อเอานิตยสารอันตรายมาเก็บไว้ในที่ปลอดภัย





หนอย! ไอ้ตัวแสบ! ซักวันเถอะน่า! ซักวันพี่จะหาผัวให้แก! คอยดูนะไอ้เด็กบ้า!!!!






   ลับหลังที่เจ้าเนมออกไปจากห้องนอนของตัวเองก็ปรากฎร่างโปร่งแสงของหญิงสาวผมยาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ข้างเตียงนอน ร่างนั้นยิ้มให้กับกองหนังสือสอดใส่ที่ชั้นหนังสือข้างหัวเตียงแล้วส่ายระอา พร้อมกับยิ้มแป้นอย่างถูกใจ



‘ได้เลยลูกจ๋า เดี๋ยวคุณแม่จัดให้นะคะ จับคู่ให้เจ้าไนท์กับพี่ปาล์มแม่ก็ทำมาแล้ว แม่น่ะอุตส่าห์ลงทุนไปติดสินบนท่านยมให้ลบความทรงจำของเจ้าไนท์ออกให้เชียวนะ ดีที่แกเห็นด้วยขนหน้าแข้งแม่เลยไม่ร่วง เดี๋ยวแม่จัดแบบหล่อๆรวยๆกล้ามบึ้กๆมาให้เจ้าเนทเลยล่ะลูก ไม่ต้องห่วงหรอก เกิดเป็นสาววายทั้งทีมันต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม ฮ่าๆๆๆ’


และร่างของเจ้าตัวก็หายไป ทิ้งไว้แค่ความเงียบสงบภายในห้องดังเดิม





เอวังด้วยประการฉะนี้ ^^



-จบจริงๆจ้า-











ขอได้รับความขอบคุณ


Cynthia_Moonlight


 :bye2: :bye2: :bye2:

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 27-10-2011 17:50:01
55555555+ ตอนจบเหมือนจะซึ้งแต่ก็แอบฮา ดีใจที่ลงเอยกันได้จ๊ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Warlock ที่ 27-10-2011 18:10:29
แอ๊ก!!!!!......กำลังซึ้งๆเจอแถมท้ายเข้าไปเปลี่ยนอารมณ์ไม่ทันเลย....ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 27-10-2011 18:58:43
ซึ้ง แล้วอึ้ง 555 ขอบคุณที่จบแฮปปี้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: G-NaF ที่ 27-10-2011 19:08:39
กำลังซึ้งๆตอนจบอยู่ดีๆ เจอน้องแนนส่งท้าย เล่นเอาฮาดั้นเลยครับ  :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 27-10-2011 19:32:04
โฮ้ว ว ว รักครั้งนี้ฝีมือคุณแม่

หรอกเร๊อะ ใช้ได้นินา ชอบครับ  :z1:

ว่าแต่คนเขียนครับคู่น้องเนทเนี่ย

มาลงไวๆๆนะครับ ผมอยากอ่าน

ได้คู่เนมด้วยก็จะดีมาก(แอบโลภ หุหุ)

รออ่านอยู่นะครับ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 27-10-2011 20:03:52
มะม๊าน่ากลัวแฮะ

มุกความจำเสื่อมเราว่าเวิร์คนะ
คนที่เจอแบบนั้นถ้าไม่ลืมหมดคงทำใจไม่ไหวหรอก

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 27-10-2011 20:35:35
กะ จะซึ้ง พออ่านถึงตอนจบ... :a5:
ฮาหงายเงิบ ตกเก้าอี้คอมไปเลย  :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 27-10-2011 21:21:10
ฮาแตกตรงแม่แนนนี่แหล่ะ  55555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-10-2011 21:35:57
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องหลักค่ะ

สำหรับเรื่องนี้สนุกดี เศร้าปนสุข
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 27-10-2011 21:47:38
อ๊าก คุณแม่เป็น Y
มีการติดสินบนท่านยมด้วยเนี่ย !!!!
อยากอ่านของน้องเนทบ้าง คงมัน & ฮาไม่หยอกหรอกคะ พี่เนมคงหวงน้องพิลึกแน่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: zhai ที่ 27-10-2011 22:44:40
คนหนึ่งเลือกที่หยุดอยู่กับอดีต  แต่อีกคนเลือกที่เดินหน้าต่อไป
ไนท์เข้มแข็งมากน่ะถึงจะเดินหน้าต่อไปได้
สำหรับ 17 ปีที่ต้องรอคอยสำหรับปาล์ม
จะว่าไปมันก็นานน่าดูนะเนี่ย
สรุปว่า Happy ending ก็เป็นความแฮปปี้ของคนอ่าน o18
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: DarknLight ที่ 27-10-2011 23:01:38
ครบรสครับ
สุข เศร้า เคล้าน้ำตา แถมฮา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 27-10-2011 23:05:44
Part V


   ลับหลังที่เจ้าเนมออกไปจากห้องนอนของตัวเองก็ปรากฎร่างโปร่งแสงของหญิงสาวผมยาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งที่ข้างเตียงนอน ร่างนั้นยิ้มให้กับกองหนังสือสอดใส่ที่ชั้นหนังสือข้างหัวเตียงแล้วส่ายระอา พร้อมกับยิ้มแป้นอย่างถูกใจ



‘ได้เลยลูกจ๋า เดี๋ยวคุณแม่จัดให้นะคะ จับคู่ให้เจ้าไนท์กับพี่ปาล์มแม่ก็ทำมาแล้ว แม่น่ะอุตส่าห์ลงทุนไปติดสินบนท่านยมให้ลบความทรงจำของเจ้าไนท์ออกให้เชียวนะ ดีที่แกเห็นด้วยขนหน้าแข้งแม่เลยไม่ร่วง เดี๋ยวแม่จัดแบบหล่อๆรวยๆกล้ามบึ้กๆมาให้เจ้าเนทเลยล่ะลูก ไม่ต้องห่วงหรอก เกิดเป็นสาววายทั้งทีมันต้องใช้ชีวิตให้คุ้ม ฮ่าๆๆๆ’


และร่างของเจ้าตัวก็หายไป ทิ้งไว้แค่ความเงียบสงบภายในห้องดังเดิม


ตอนสุดท้ายนี่นะ  :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: didi ที่ 27-10-2011 23:06:12
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 27-10-2011 23:09:05
คณแม่สาว Y นี่ช่างถูกใจจริงๆ  :laugh:
น่าจะมีคู่น้องเนทมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 27-10-2011 23:52:44
อยากได้ตอนพิเศษๆๆ

รอนะคะ

๕๕๕ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: loveboys ที่ 28-10-2011 01:25:40
ขอบคุณครับ สั้น ๆ แต่ทำให้น้ำใส ๆ ไหลออกมาได้อย่างง่ายดาย

คงไม่มีคำพูดใด จะดีไปกว่า ขอบคุณจิง ๆ ครับ

อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง ทำให้รู้จักความรักมากขึ้น ทำให้รู้จักคำว่า อภัยมากขึ้น.....
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 28-10-2011 06:52:23
แนนเจ๋งมาก :laugh:
กลับมารักกันก็ดีแล้ว
อย่างน้อยพระเอกก็ได้บทเรียน o13
 :pig4: :pig4: :pig4:
 
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... Part V [27/10/54] จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-10-2011 07:21:22
กว่าจะรู้สึกตัว ก็เกือบจะสายไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 28-10-2011 16:55:26
สวัสดีค่ะ

เนื่องจากการปรากฎร่างของคุณแม่แนนนั้น...ทำให้ทุกคนฮาแตกมาก....และเอิ่ม....มีการรีเควสท์ขอให้แต่งเรื่องน้องเนทต่ออีกต่างหาก...ยอมรับว่าแอบอึ้งนิดๆ 55+

เอาเป็นว่า....เมื่อคุณกล้าขอ...เราก็กล้าแต่งค่ะ อิอิ

สัญญาว่าจะแต่งเรื่องของน้องเนทให้ แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้นะคะ ตอนนี้ปั่นอยู่ 2 เรื่องแหล่ว (อีกเรื่องยังไม่ได้ลงเว็บ)

ส่วนใครที่ของคุ๋ของหนูเนม....ปล่อยแกมีลูกมีเมียเป็นเกียรติแก่ตระกูลซักคนเถอะค่ะ...(มั้งนะ...)

จากพล็อตง่าวๆที่อยู่ในหัวตอนนี้คาดว่าจะมีไม่เกิน 20 ตอน มันจะยาวแค่ไหนก็ต้องลองดูเนอะ 55+

ใครที่ขอเอาไว้ก็ปูเสื่อนอนรอไปก่อนก็ได้นะคะ ถ้ามาแล้วเดี๋ยวอิก้อยผู้นี้จะปลุกเอง กร๊ากกกกกก

ขอบคุณทุกคนมากค่า!!

Cynthia_Moonlight


ป.ล. ดีใจเป็นอย่างมากที่นิยายของเราให้ข้อคิดเล็กๆน้อยๆแก่ทุกท่านได้ ขอบคุณจากใจค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-10-2011 17:29:26
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 28-10-2011 18:24:45
เศร้าได้ที่....ครอบครัวเฮฮาดีนะคะ 555
คุณแม่น่ารักมาก!! กรี๊ดๆ ><"
พี่ไนท์ก็...น่าสงสารแฮะ เหอะๆ
ตอนพิเศษมีมั้ยค้าาา ><?
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: dawnthesky ที่ 28-10-2011 20:47:16
ชอบค่ะ บอกได้คำเดียวว่า ชอบ!!!

จบค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: name ที่ 28-10-2011 23:13:26
คุณแนน เจ๋งมากกกก 5555555555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: nongbear ที่ 29-10-2011 07:54:15
ตอนจบน่ารักมากๆเรยค่ะ
หักมุมสุดๆ คุนแม่เปนสาววาย 555

 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: tomodaging ที่ 29-10-2011 14:35:22
เรื่องนี้ขอได้รับความขอบคุณจากคุณแม่วายนะคร้าบบบบบ55555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: YongaMO ที่ 30-10-2011 00:07:11
ส่วนตัวชอบพระเอกเลวมาก!!! o18 เรื่องนี้ได้ใจสุดๆ ถึงจะเจ็บจี๊ดๆไม่นาน แต่ก็ชอบบ ขอบคุณค่ะ^^

รอติดตามเรื่องอื่นๆต่อไปค่ะ o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 30-10-2011 11:24:33
กำลังซึ้ง เจอตอนจบกว่าเข้าไป  :m20:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... [จบแล้วจ้า] แจ้งข่าวเล็กน้อย
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 31-10-2011 00:32:08
สนุกๆ ครับผม

ตอนท้ายฮามากกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 01-11-2011 09:15:07
คุณแม่เป็นสาววาย ฮาได้อีก

แรกเศร้ามากเลย อ่านไปปวดตับไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: KanomPhing ที่ 01-11-2011 16:44:16
ถึงความทรงจำจะหายไป
แต่ก็ยังเป็นหัวใจดวงเดิมใช่มะ

แอบเศร้าตั้งนาน  ตอนแรกๆอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 02-11-2011 16:50:18
ขอบคุณครับ สั้น ๆ แต่ได้ใจความ

อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คิดอะไรได้หลายอย่าง ทำให้รู้จักความรักมากขึ้น ทำให้รู้จักคำว่า อภัยมากขึ้น

แหม แต่ตอนท้ายเรื่องเนี้ย สุดยอดดดดดดดดดดด ฮาซะ แต่ก็ดีครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: loveooo ที่ 04-11-2011 19:33:34
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะ  คุณแม่ได้ใจมากๆเลยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: aimie_jj ที่ 04-11-2011 21:27:45
โอยยย ลุ้นมากๆๆๆเลยค่ะว่าจะจบยังไง
ตอนสุดท้ายแอบฮา คุณแม่แนนแผนสูงนะคะเนี่ย
สนุกมากๆเลย
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่า  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 04-11-2011 22:04:26
ว่าแหละ ออร่าโผล่ตั้งแต่ก่อนตายแล้วนะคุณแม่

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: howru ที่ 04-11-2011 23:41:24
สรุปส่งท้าย สาววายเขาแรงจริงอะไรจริง 555
อยากให้มีภาคลูกจัง แต่ขอเป็นเรื่องยาวนะ

 :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: woodoo ที่ 05-11-2011 02:38:33
ห้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  คุณแม่แอบร้ายยยยยยยยยยยยย





ขอยคุณครับบบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 05-11-2011 06:33:18
>"< ชอบค่ะ น่าจะยาวกว่านี้อีกนิดดดด
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: อาคิรา ที่ 05-11-2011 08:56:55
 :pig4: :pig4: :pig4:(http://)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... -รอติดตามภาคต่อเรื่องยาว^_^-
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 09-12-2011 05:36:48
:monkeysad: เป็นเรื่องที่ซึ้งกินใจมากๆ นี้ซินะเขาถึงบอกว่า จะรู้ค่าก็เมื่อสายไป
แต่ในที่สุดก็จบแบบแฮปปี้  :เฮ้อ: ลุ้นอยู่ตั้งนานว่าคู่นี้จะจบยังไง
:m5: ขอให้คู่นี้รักกันตลอดไปด้วยเถอะ สาธุๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... -รอติดตามภาคต่อเรื่องยาว^_^-
เริ่มหัวข้อโดย: karn49 ที่ 11-12-2011 23:26:20
ผิดไหมที่อยากจะบอกว่า รักคุณแม่ที่สุดแล้วในเรื่องนี้ ! 5555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... -รอติดตามภาคต่อเรื่องยาว
เริ่มหัวข้อโดย: minimonmon ที่ 13-12-2011 19:48:17
คุณแม่เอาใจไปเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้... -รอติดตามภาคต่อเรื่องยาว^_^-
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 13-12-2011 21:42:58
อ่านตอนแรกๆ  ไนท์เด็ดขาดมากๆเลย  ... ชอบ
อ่านตอนจบ  คุณแม่แนนเจ๋งมากๆเลย มีหาสามีให้ลูกด้วย ... ชอบมากกกกกๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 30-01-2012 19:13:53
ถูกใจคุณแม่ม้ากมาก

อยากอ่านเรื่องของคุณลูกด้วยอะ แต่งเป็นอีกเรื่องมั้ยคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 30-01-2012 20:27:03
 :เฮ้อ:   ดีใจนะที่จบแฮปี้

แต่เป็นนิยายเรื่องแรกที่อ่านแล้วไม่อยากให้กลับมารักกันอ่า

ไนท์นี่ชีวิตโครตรันทดอ่ะ  แต่ก็ดีที่ลืมความทรงจำร้ายๆไป

ปาล์ม  ขอสาปส่งผู้ชาบแบบนี้  ต่อให้กลับมาง้อก็ไม่เอาแล้วล่ะ

เนม เนท น่ารักๆๆๆ  :o8:

สุดท้าย  แม่แนนเอาใจไปเลย   o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 30-01-2012 22:49:21
เย่ จบแบบแฮปปี้ๆ
Everything is possible if u just believe!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: yang ที่ 31-01-2012 13:41:43
 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

คุณแม่เป็นสาววาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Huasia ที่ 01-02-2012 11:07:27
มันแบบว่าสุดๆอ่ะค่ะ  พระเอกเลวได้ใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 01-02-2012 16:09:11
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 03-02-2012 19:36:41
 o13 เรื่องนี้คุณแม่ชนะเลิศ
ขอบคุณนะฮ๊าฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: fongbeer37 ที่ 03-02-2012 22:00:28
ชอบมากกเรื่องนี้้้  ขอบคุนคับบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 03-02-2012 23:08:25


ซึ้งอ่ะ อิอิ ชอบมากกก + 1 ให้นะค่ะ อิอิ  o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 05-02-2012 13:03:34
ผีคุณแม่แร๊งส์มั๊ก ๆ :laugh5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 05-02-2012 16:38:31
สงสารไนท์อะ ไม่อยากให้ความจำเสื่อมเลยอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 30-04-2012 15:35:22
 :L2:อ่านสนุกทุกเรื่องเลย o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 30-04-2012 18:08:50
กำลังอินๆ ถูกกระชากอารมณ์อย่างแรงเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaelover ที่ 04-05-2012 12:33:37
ระยะทางพิสูจน์รักแท้ได้อย่างดี คนเราทำผิดพลาด รู้ว่าผิด แต่ก็อยากได้รับการให้อภัย ปาล์มโชคดีนะที่ได้ไนท์กลับมา เป็นเรื่องสั้นที่น่ารักดี ค่ะ แอบฮา ตรงที่คุณแม่เป็นสาววายเนี่ยแหละ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Jthida ที่ 04-05-2012 18:35:06
โอ้พระเจ้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 06-05-2012 15:16:16
ชอบแม่แนนอ่ะ
เรามีความหวังเดียวกันเลยน่ะค่ะ ฮ่าๆ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: wews ที่ 09-07-2012 20:30:01
ฮาคุณแม่ที่สุด :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: Silver-Ray ที่ 13-03-2014 09:38:49
น่ารักมากกกก ยาวนานจริงๆ กับการรอถึง17ปี
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 13-03-2014 12:22:25
นี่เองเรอะ ที่มาของความจำเสื่อมของไนท์น่ะ :a5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 06-03-2018 21:36:02
กำลังจะซึ้งอยู่แล้วววววว พอเจอตอนแถมนี่อย่างฮา 5555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 05-11-2019 12:45:13
จบ ได้อย่างฮาและน่ารัก ส่วนคู่พ่อๆจบด้วยความซึ้ง อิ่มเอม แอบน้ำตาซึม (เกือบจะ) เป็นไปไม่ได้ เส้นทางความรักกว่าจะเจอจุดแฮปปี้ ช่างยาวนานจริง แต่ก็ดีใจด้วยสุดๆ รักษาดูแลกันให้ดีนะ สนุกกกมากเลยอ่ะ หน่วงๆ ดราม่า แต่ว่าดีมากกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 09-08-2021 22:50:04
 :mew1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น]The Impossible ...รักเราเป็นไปไม่ได้...
เริ่มหัวข้อโดย: BlueWizard ที่ 02-11-2021 20:15:57
ขอบคุณมากนะค้าบ

กำลังคิดเลย ว่าจะต้องใช้มุกไหนนะ เค้าถึงจะกลับมาคืนดีกันได้  :a5:

ที่แท้ก็คุมแม่นี่เองงงง 5555

รอผลงานชิ้นต่อไปนะครับ  :impress2: