พิมพ์หน้านี้ - รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 4 ฟ้าดับดาว ตอนที่ 1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ร ช กาย ที่ 29-09-2011 15:48:19

หัวข้อ: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 4 ฟ้าดับดาว ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 29-09-2011 15:48:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



                                                            รัก หลุดๆ                     





                                                                                                                                                                   
 


l    อาซูจิน                    คอมเม้นท์ 1

ll  เจอแล้ว                    คอมเม้นท์  13

lll นายแบบ                   คอมเม้นท์  19













                                                                 หลุดที่ 1     อาซูจิน







ผมวิ่งเต็มสุดฝีเท้าท่ามกลางฝูงคนที่วิ่งเหมือนกันกับผม

กลุ่มฝูงคนในชุดยูนิฟอร์มสีขาวเหมือนกันหมด ทั้งหญิงและชาย

ท้องฟ้ามืดดำครึ้ม ลมพัดกรรโชก มองไปเจอแต่พื้นที่ว่างสุดลูกหูลูกตา

พวกเรามีเป้าหมายในสิ่งเดียวกัน  Egg Palanamy  ในใจยังคงมีเป้าหมายแค่ไปถึงที่นั่น 

เพราะมันคือหน้าที่

ผมหยิบเคียวที่ตรงอกออกมาจากเสื้อโค้ทขาว  ง้างมือสุดแขน








ฟันไปที่กลางหลังของผู้ชายข้างหน้า น้ำหนักมือที่สัมผัสกับเนื้อคงจะเฉือนถึงกระดูกสันหลัง

เลือดสีขาว พวยพุ่งออกมาจากชุดกลางหลัง

เสียงร้องคำรามของชายผู้นั้นก้องไปทั่ว พลางกลิ้งกระตุกลงไปกับพื้น

ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกจาก การก้าวข้ามร่างที่หายใจรวยรินกับพื้นของผม และคำพูดของผมที่หันหน้ากลับไปทางเขา

" อา ซู จิน  "

 คนหลายหมื่นหลายแสนคน ที่ตามหลังผมมาติดๆ

ผมจะเสียเวลากับการกำจัดคนที่นำหน้าผมไม่ได้แล้ว

ผมต้องรีบ







[  เพราะจะต้องมีผู้รอดเพียงแค่ หนึ่งเดียวเท่านั้น  ]







ปัง !  เกิดเสียงดังขึ้นจากด้านหลังของผม

ผมล้มลง กัดฟันกับแผลของกระสุนที่ขาขวา พยายามพยุงตัวขึ้น แต่เพียงเงยหน้าก็เจอกับปืน Ak สีขาวที่ปลายจ่อมาทางผม

พร้อมนิ้วที่กำลังจะเหนี่ยวไกเหยื่อซ้ำครั้งที่สอง

 " อา ซู จิน " ชายที่เล็งปืนมาทางผมพูด ...ผมแพ้แล้วหรือ

เปรี้ยง เศษอวัยวะ สีชมพูสีเนื้อ กระจุยออกจากกะโหลกกระจายไปทั่ว

ชายที่ยืนหน้าผม ล้มลงคุกเข่าแบบที่หัว ไม่มีอวัยวะ ตั้งแต่จมูกขึ้นไป

" เป็นอะไรไหม Egg - 741 a4655x " ชายอีกคนที่อยู่ด้านหลังชายคนแรก ลดปืนที่พึ่งระเบิดหัวคนที่กำลังจะกำจัดผมลง

พร้อมวิ่งมาทางผม พร้อมพยุงผมขึ้น

" ขอบคุณ  Egg - 741 a4622d "   ผมวิ่งขากะเผก ในใจคงคิดว่า ถ้าเขาทิ้งผมแล้วไปคนเดียว เขาใช้เวลาไม่นานแน่

" ทิ้งเราไว้  และนายรีบไปเถอะ  "  ผมไม่อยากเป็นตัวถ่วง  เมื่อเห็นคนข้างหลัง วิ่งแซงไปทีละคน

" ไม่ได้ " เขาตอบ

" สภาวะเราตอนนี้ เราอาจจะถูกกำจัดได้ง่าย นายมีเราที่เสียสถานะในการปะทะ "

และผมเอ่ยคำที่เจ็บปวด แต่เป็นความจริง

" ที่ Egg Palanamy มีเพียง Egg ที่แข็งแกร่งเพียง [ หนึ่งเดียว ] เท่านั้นที่จะทำการ ซิงโครและรอด ไปจากที่นี่ "

นั่นหมายความว่า จะมีคนที่ได้ไปจากที่นี่แบบมีชีวิต  เพี่ยงแค่คนเดียว

แผ่นดินไหว สั่นไปทั่วผมล้มลงไปอีกครั้งเพราะ แผลจากหัวกระสุน

" ไม่เป็นไร เราเคยได้ยินว่า  Egg Palanamy  สามารถ ซิงโครได้ถึง 2 หรือมากกว่านั้น เรายังมีโอกาส "  เขาบอก

" แต่มันก็มีโอกาสเสี่ยง   ...เราอาจจะตายไปทั้งคู่ "  ผมพูดเพื่อเตือนสติ

เขาไม่พูดอะไรพลางนั่งคุกเข่าขาเดียวหันหลังมาทางผม

" ขึ้นมา "  เขาหันหลังมาพูดทางผม

" เราจะพานายไปเอง " 

" ทำไมนายต้องทำอะไรเพื่อเราขนาดนี้ "  ผมถามขณะอยู่บนหลังของเขา เขาเป็นคนที่แข็งแรงล่ำกว่าผม

และ มีอาวุธติดตัวที่ร้ายกาจมาตั้งแต่เกิด ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ผู้ที่เหมาะสมกับ Egg Palanamy

" เราเกิดมาพร้อมกัน เล่นด้วยกัน เป็นเพื่อนด้วยกันมานานนี่นา  " 








" อีกอย่าง เรามีอะไรจะบอกกับนาย มันอาจจะแปลกๆ  แต่เรารู้สึกกับนายแปลก .. มันมากกว่าเพื่อน "

ผมไม่ได้พูดอะไรนอกจาก รอฟังสิ่งที่จะได้ยินออกมา







" เราว่า  รอบชอบนาย   ชอบมานานแล้วด้วย "   ผมแอบยิ้มผมไม่ตอบอะไรนอกจากการที่บอกว่า

" เราก็เหมือนกัน " ความในใจที่ผมอึดอัดมานานแสนนาน ได้หมดลง

ผมเห็นหลังแก้มเขามีรอยยิ้ม

 ถึงวันนี้ผมคงรอด หรือ ตายผมก็มีความสุขแล้ว

แต่ผมคิดว่าผมคงไม่รอด เพราะผู้คนข้างหน้าหนาตาหรือเกิน

ผมอยากจะขอบคุณเขา และ ขอโทษ...

" จริงๆก็ไม่อยากเปลืองแรง ขนาดนี้นะ " เขาพูด ในขณะที่หยิบสิ่งเล็กๆสีขาว คล้ายรีโมท แล้วกรดกริ๊ก

เสียงเครื่อง Stealth  5 - 6ลำ สีขาวโฉบมาบนน่านฟ้าด้วยความไว มีวัตถุร่วงมาจากตัวเครื่อง

" จับแน่นๆ นะ " เขาหยุดวิ่งและบอกผม เสาเหล็กหนาจาก กระเป๋าเขาปักลงบนพื้นปลดข้อต่อ ตั้งขึ้นยิงสูงขึ้นไปบนฟ้า

ตรงยอด มีเหล็กกลางออกและกรีดออกมาเป็นโครงวงกลม กลายเป็นดาวเทียม

ระเบิดเกิดสนั่นหวันไหวไปทั่ว  ดั่งที่นี่เป็นรกเพลิง ไฟวิ่งลามมาทางผมแต่ก็เหมือนมาไม่ถึง

ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเหมือนกับมีกระจกใสๆกั้นผมกับภายนอก

ระเบิดหยุดลง พื้นภายนอกเป็นหลุมเพลิงตามผิวระเบิด

ซากมนุษย์ กระจายไปทั่ว แขนบ้าง ขาบ้าง

เขากดที่ด้านข้างของเสาดาวเทียม มันกลับมาเป็นเสาเหล็กวิทยุเล็กๆ อีกครั้ง 

บาเรียร์หยุดการทำงานลง

" ไปกันต่อเถอะ   " เขายิ้มมาทางผม

ผมรู้สึกได้ว่าข้างหน้าเป็นปลายทาง ของ Egg palanamy เพราะเดินทางมานานพอควร

เขาเองก็คงรู้สึกเช่นกันตามสัญชาตญาน

" ปล่อยเราลงเถอะใกล้ถึงแล้ว " เขาปล่อยผมลงอย่างแผ่วเบา

" พร้อมนะ ไม่ว่ายังเราก็ได้เลือกแล้ว "  เขาพูดมาพร้อมจับมือผม

" ขอบคุนนาย และ ต้องขอโทษ "  ผมขมวดคิ้ว

" ไม่เป็นไร เพื่อคนที่เรารักนี่  "   เขายิ้มตอบกลับมา

แต่ตาก็ต้องเบิกโพลง พร้อมของเหลวสีขาวที่ไหลออกมาทางปาก

เคียวสีขาวด้ามยาวทะลุลำไส้และอวัยวะภายในของเขา เลือดสีขาวไหลย้อยมาตามด้ามเคียว และหยดลงตรงที่ข้อมือผม

จากหน้าของเขา คงอยากจะถามผมว่า ' ทำแบบนี้ทำไม '

" เราบอกแล้วไงว่าเรา อยากขอบคุณนาย  .... และขอโทษ








... เราไม่อยากเสี่ยง "   





ผมปล่อยเคียว อาวุธของคนที่อ่อนแอของผมที่กำจัดคนที่แข็งแกร่งเรียกว่าจะเป็น Egg ที่แข็งแกร่งที่สุด

ไว้กับร่างที่ไร้ลมหายใจ

" อา ซู จิน " ผมเอ่ยเบาๆและไม่มองกลับ

ผมเร่งขาเดินไปตามทางในอุโมงค์ที่เริ่มแคบกับความทรมานที่ขาขวา

อีกไม่นานผมก็ใกล้จะถึงแล้ว

หน้าที่ของ Egg จะได้บรรลุ

แต่ทำไมเดินมาตั้งนาน... ผมยังไม่ถึงเสียที

ผมนั่งลงหายใจพักเหนื่อยที่เดินมานานหลายชั่วโมง ขณะที่กำลังพยุงจะเดินต่อ

ผนังอุโมง สั่น  อะไรกันหรือแผ่นดินจะไหวในที่นี่

จู่ๆร่างกายผมก็ลอย

รู้สึกว่าผมถูกดูดให้กลับไปทางเดิม

ผมพยายามเกาะ อุโมงค์ข้างทางไว้ แต่มันช่างลื่นหรือเกิน

ผมถูดดูดปลิวออกมาที่ เก่า

ผ่านสมรภูมิเพลิง ที่เดิมแต่ไม่มีสิ่งใด ดั่งที่นี่ถูกชำระด้วยอะไรซักอย่าง

ผมไม่เข้าใจ

อะไรกัน

อีกนิดเดียวเท่านั้น ..

ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากกัดฟัน กรอด...

ผมรู้สึกโกรธแค้น อะไรก็ตามที่มาทำแบบนี้

" EGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGGG  !!!!!!!!!!  "

เสียงผมคำรามร้อง

ผมรู้สึกว่าผมถูกดีดออกมาสู่สถานที่หนึ่ง

มันหนาวมากหนาวเหลือเกิน อุณภูมิเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ปากผมสั่น หายใจแผ่ว

ผมรู้สึกว่าตัวผมไหลไปตามน้ำและกำลังตกลงสู่ด้านล่าง

ผมหนาวและเพลียเหลือเกิน รู้สึกว่าตาหนัก ยากที่จะลืมขึ้นมา

ผมรู้ตัวดีว่า    ผมกำลังจะตาย











" ....อา ซู จิน "















"  เบียร์ เปิดตูห้องน้ำให้เค้าหน่อยดิ่  "

" เปิดหน่อยน้าาา "

" เย่ เปิดแล้วใจดีจัง "








" โกรธ เค้าหรอ "

"  คิม... ก็เราบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้  "

" โอ๋ ๆๆ  เค้าขอโทษมาๆ เดี๋ยวเค้าถูหลังให้ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ  ก็เค้าเสียวอ้ะ หน้าเบียร์ ก็ได้อารมณ์ด้วย  "

"  อย่ามาทำพูดดี .....ก็เลยเอาออกไม่ทันสินะ  ต้องมานั่งเสียเวลาล้างแบบนี้ พึ่งหมดมะเกี้ยเนี่ย  "





                                      1234567890-=qwertyuiop[]asdfghjkl;'zxcvbnm,./


หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 29-09-2011 18:04:41
เอ่อ เราไม่ค่อยเข้าใจอ่า  อธิบายนี๊ดส์นึงนะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 29-09-2011 18:41:38
เห็นด้วยกะรีบน
ผมงงโคดอ่ะครับ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 29-09-2011 18:44:21
 :a5: o22

โห...... สุดๆ จริงๆ พลิกมากๆค่ะ ฮาๆๆๆ  :z1:


(เลวมากกกที่ไปหักหลังเขาทั้งๆ ที่เขาอุตส่าห์รักตัวเองแล้วช่วยพามาด้วยกันน่ะ :z6: :beat:)

จะสมน้ำหน้าดีไหมคิดว่าจะได้ ฝังตัวลงในไข่...  :m20: :laugh:

แต่กลายเป็นว่า เป็นการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายๆ  :oo1:

จึงเดินทางมาไม่ถึงไข่สักที หนำซ้ำ ยังโดนล้างออกอีกต่างหาก  o18

เป็นการเดินทาง ของอสุจิ (น) ที่ดุเดือดมากจริงๆ o13

ขอบคุณมากค่ะ แหวกแนวดีมากกกก

กดบวกและกดเป็ดเป็นกำลังใจนะคะ หวังว่าจะได้อ่านอะไรแบบนี้อีกบ่อยๆ

ขอบคุณมากค่ะ  :pig4:
ปล. เพราะเจ้าของอสุจิชอบผู้ชายหรือเปล่า? ตัวอสุจิถึงได้ชอบเพศเดียวกันตามไปด้ย ฮาๆๆ
ถ้า ตัวที่โดนหักหลังนั้นได้มีโอกาสไปสู่ไข่โดยสมบูรณ์ อาจจะ ชอบผู้ชายเหมือนพ่อก็ได้นะคะ อิอิ
โฮก จิ้นไกลจังเลยฉัน  :o8: :-[ :impress2: หรือถ้ามีอะไรผิดพลาดได้ไปเกิดพร้อมกันสองคนนี้... อาจจะมีเหตุการณ์ brother complex เกิดขึ้นก็ได้เนอะ  :pigha2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 29-09-2011 18:51:09
อา ซู จิน = อสุจิ หรือเปล่าคะ 
 :serius2: มั่วๆเอา
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: na_near ที่ 29-09-2011 19:01:44
อ๊าย อา ซู จิน  ตัวนั้นร้ายมาก
ถ้าได้เกิดมาทั้งคู่อาจจะเกิดsomething ระหว่างพี่น้องก็เป้นได้ใครจะรุ้ อิๆ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: kazhiki ที่ 29-09-2011 19:12:17
การแก่งแย่งของอสุจิ ==
ขอบคุณมากจ้า  :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 29-09-2011 20:09:25
ตอนแรกผมก็กะทำเป็นเรื่องสั้นๆแบบไม่มีอะไรมาก แต่หักมุมตอนท้าย

เพราะเวลา ที่จะอัพเรื่องหลักของผมมันไม่น่าจะพอเพราะตอนนี้กำลังปั่นงาน ก่อนปิดเทอมอยู่

เลยพิมผลงานเล็กๆมาให้อ่านกัน

พอพิมเสร็จก็ ยังนึกว่าเพื่อนๆ จะงงกันหรือเปล่า ( ใจนึงก็อยากจะมาแก้ )

มันอาจจะ ไซไฟ เวิ่นเว้อไปนิด  แต่แค่อยากจะแหกแนวหลุดๆบ้าง 
 
ผมเขียน นิยายอินดี้ครับไม่เน้นขาย 555 ( พูดเล่น )

ขอบคุณ คุณ๛NaaribuS๛   มากๆครับที่เข้าใจ

คุณ Yeyong  ถูกต้องนะครับ

และขอโทษเพื่อนๆที่่ไม่ค่อยเข้าใจ ผมจะนำไปปรับปรุงเพิ่มเติมครับ

ขอบคุณครับทุกท่านครับ  :man1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 29-09-2011 20:13:38
ต่ายเข้าใจนะคะ เก็ทตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ละ 55+

แนวดีค่ะ ชอบนะเป็นการแก้เผ็ดตัวละครให้นักอ่านดีเยี่ยมเลยค่ะ สุดท้ายก็ไม่มีใครรอด -_-'
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 29-09-2011 20:31:23
อ่านๆไป.....ตะงิดๆ
อ่านๆไป.....อสุจิป่ะว่ะ
อ่านๆไป.....นี่เราจิ้นตั้งแต่
มันยังเป็นอสุจิเลยหรือว่ะฮ่ะ!!!
แอบคิดว่าจะได้เกิดพร้อมกัน
เป็นพี่น้องกันแล้วก็...... :o8:

ปล.มันมีชื่อกันตั้งแต่ยังเป็นอสุจิเลยเรอะ o22 :laugh:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*อาซูิจิน
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 29-09-2011 22:25:25
อ่านแล้วเข้าใจคะ นิยายเชิงเปรียบเทียบ ชอบ อ่านแล้วสนุก
อาซูจินย่อมมีนิสัยแบบเจ้าของละสิเนอะ  :z1:
(บวกให้แล้วละคะ)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 01-10-2011 16:42:46
                                                           








                                                                 หลุดที่  2     เจอแล้ว














กรุงเทพยามดึก ท้องฟ้ามืดครึ้ม

มีเพียงแค่แสงสว่างของไฟริมทางของถนนสายนี้

มีแต่เพียง ทิว ชายหนุ่มในสูทชุดพนักงานบริษัทสูง ราว 180 ผมตั้ง ผิวขาว เป็นที่นิยมของผู้หญิงในบริษัท

เขาเดินหน้าตาตื่นตระหนก  มองซ้าย มองขวา  ราวกับหาอะไรบางอยู่

ทิวหยุดเดิน   ก้มหัว  รู้สึกปวดหัวอีกครั้งตั้งแต่เช้า อาจเป็นเพราะข้าวที่ไม่ได้กิน และ การอดหลับอดนอนหลายคืนมานี้

ทิวเงยหน้า ตกใจกับสิ่งที่เห็น พลางขยับตัวไปด้านหลังของเสาไฟฟ้า เงาของเสาไฟฟ้าบังร่างที่เข้ามาแอบดำสนิท

สายตาเขาจ้องไปยัง เด็กหนุ่มในชุดนักเรียน เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ชายหลุดลุ่ยปักชื่อด้วยตัวอักษรสีแดง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงินสด

ผิวขาว ผมรองทรงสั้นๆ มือหนึ่งถือกระเป๋าจาค็อบสีดำ ที่กำลังเดินมาทางเขา

" ..ฟาร์ พี่เจอฟาร์แล้ว " ทิวพูดเบาๆ สีหน้าดีใจ 

เด็กนักเรียนเดินคนเดิม เดินผ่านเสาต้นนั้นโดยไม่สนใจอะไร และไม่ทันสังเกตุว่ามีใครแอบอยู่

ทิวเดินออกมาจากเงาของเสาต้นนั้น

ง้างมือขึ้นฟ้า

ท่อนไม้หน้าสามถูกฟาดไปที่ท้ายถอยของนักเรียนหนุ่ม

เพียงแค่ทีเดียวก็พอที่จะทำให้เขาหมดสติ และนอนลงไปกับพื้นถนน














" ฟาร์ไม่น่าทำแบบนี้กับพี่เลย "  ทิวพูด นั่งบนเก้าอี้

เด็กหนุ่มไม่ได้พูดอะไร อาจจะเพราะเน็คไทด์สีม่วงสดของทิว มัดรั้งปากแบบฟันกัดแน่น  วนรอบแก้มขาวอมชมพูของเขาอยู่่

เขาตาสลึมสลือเพราะอาการเพิ่งรู้สึกตัว

เขานั่งอยู่บนเกาอี้เช่นเดียวกับทิว แต่จะแตกต่างตรงที่มือ 2 ข้าง ที่ถูกไพล่ไปข้างหลังถูกรัดด้วยเชือก

และขาที่แบะอ้าออก เพราะข้อเท้าที่ใส่ถุงเท้าสั้นๆ ถูกผูกมัดกับขาของเกาอี้ทั้งซ้าย และขวา

เด็กหนุ่มไม่พูดอะไร นอกจากทำหน้าตื่นตระหนก เหงื่อแตกเป็นเม็ดใหญ่ หายใจถี่ด้วยความหวาดกลัว

รู้สึกเจ็บแปล๊บๆที่ท้ายทอย 

เด็กหนุ่มมองไปรอบๆ  เป็นห้องเก่าๆ ที่ยังคงพอมีฟอร์นิเจอร์  ที่ไม่ถูกเอาออกไปคงจะเป็นบ้านร้าง

มีแค่เขา กับคนที่พาเขามาเพียงสองคน มีเพียงแสงจันทร์ที่สาดมาทางฝ้าของบ้านที่หลังพุพัง

" ฟาร์ "

เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก เลิกมองไปทางอื่นหันกลับมา และมองไปทางทิวที่สายตาจ้องมองมาที่เขา

ทิวลุกขึ้นเดินมาทางเก้าอี้ที่มีคนนั่งตรงหน้า

เด็กหนุ่มหายใจสั่นระรัว ตัวสั่น

มือของทิวจับไปที่ท้ายทอยของเขาอย่างทะนุถนอม

" มันคงจะเจ็บมาก พี่ขอโทษนะฟา " ทิวพูด พลางเลื่อนมือไปที่ปากเด็กหนุ่ม

เน็คไทด์พี่มันอาจสกปรกไปหน่อย แต่พี่ไม่อยากใช้เชือกพี่กลัวมันจะบาดปากเรา  "

ทิวเอ่ย ทำหน้าตารู้สึกไม่ดี

" แต่ถ้าพี่ไม่ทำแบบนี้ ..... ฟาร์ก็จะไม่ยอมเจอพี่ และหนีพี่แบบครั้งก่อนๆที่ผ่านมา "   ทิวละมืออกจากเด็กหนุ่ม

มีน้ำใสๆ เล็ดออกมาที่ตาขวาของทิว

" ทำไม ...  พี่ไม่หล่อไม่พอหรอ หุ่นพี่ดีไม่พอหรอ  หรือหน้าที่การงานพี่ไม่ดี "  ทิวเอามือลูบหน้าปาดน้ำตา

เม้มปากมองไปบนฟ้าเื่พื่อไม่เห็นน้ำตามันไหล ซักพักหนึ่งเขาหันหน้ากลับลงมามองไปทางเด็กหนุ่มด้ยตาที่แดงก่ำ

" พี่ไม่เข้าใจ ...  อะไรที่พี่สู้ไอเคย์ไม่ได้  อะไรที่ ทำให้ฟา.. ไม่รักพี่

 ฟา คือ ชีวิตของพี่นะ ......ไม่มีฟาพี่อยู่ไม่ได้ "   ทิวพูดด้วยเสียงที่สั่นครือ

ทิวล้วงของเข้าไปในกระเป๋าขนาดเล็กกว่ากำมือ กด แกร็ก

มีดพกด้ามยาวที่มีลวดลายจีระไนลายคลาสสิค ถูกตวัดเปิดออกจากตลับพก แสงจันทร์สาดสะท้อนไปที่ด้านมีดแสงสะท้อนจ้า

เด็กหนุ่มเบิกตาตกใจ ร้องอู้อี้ สะอึกสะอื้นพูดอะไรซักอย่างแต่ไม่อาจแปลเป็นภาษา น้ำตาไหลเล็ด

พยายามสะบัดตัวให้อะไรก็ตามที่ทำให้เขา ถูกผูกติดอยู่ในสภาพแบบนี้แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทิวก้มลงจับที่ข้อเท้าเด็กหนุ่ม

เฉือนเชือกทีู่ผูกไว้กับเก้าอี้

" พี่พึ่งรู้นะเนี่ยว่าฟา ชอบวง Swage garden ถึงขนาดเอามาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้า

แม่ฟาร์โทรมาหา พี่คุยแล้วบอกว่าอยู่กับพี่แล้วนะ แต่แม่ฟาร์คุยไม่รู้เรื่อง พี่โมโหเลยเผลอเขวี้ยงมือถือเรา

พี่ขอโทษนะเรื่องอารมณ์หุนหันของพี่ที่เราเองก็เตือนๆพี่บ่อย...พี่นี่นิสัยไม่ได้เลย...ไว้จะพาไปซื้อใหม่นะ  "

ทิวพูดในขณะที่กำลังตัดเชือก ข้างหลังมีเศษไอโพนแตกกระจายอยู่

" มันคงเจ็บ พี่ขอโทษพี่รัดแน่นไปหน่อย "  ทิวเอ่ยในขณะที่กำลังจะตัดเชือกเส้นที่ขาซ้าย

" แต่ฟาร์ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้กับพี่ " ทิวพูดน้ำเสียงที่แผ่วเบา

" ....ไม่น่าทำแบบนั่นกับพี่..พี่กินไม่ได้นอนไม่หลับเลยรู้ไหม .. "  ทิวสาวเชือกที่ขาที่โดนตัดออกทั้งขาสองข้าง โยนทิ้งออกไป

" พี่รักฟาร์นะ พี่ไม่ยอมให้ฟาร์เป็นของใคร "

" พี่คงยอมไม่ได้ ถ้าฟาร์ไปมีอะไรกับคนอื่น... "  ทิวพูด

และชะงัก หน้านิ่ง ตาเบิกโพลง

ซักพักค่อยๆหันหน้าขึ้นไปมองทางเด็กหนุ่มที่มีคราบน้ำตาอาบแก้ม สีหน้าของทิวเปลี่ยนไป








"  .... มึงได้กันแล้วใช่ไหม "  ทิวมองหน้าเด็กหนุ่ม พูดหน้านิ่ง

" มึงได้กันแล้วสินะ  มันคงอดใจไม่ไหว และมึงก็คงยอมมันเหมือนกู "  ทิวเปลี่ยนสีหน้า ทำตาโต กัดฟันกรอด

" เพราะ กูไม่เด็ดเท่ามันใช่ไหมล่ะ  !! " ทิว ตะคอกเสียงดัง

ทิวหงายหลังล้มตึง ด้วยเท้าของเด็กหนุ่มที่ถูกปลดจากเชือก เด็กหนุ่มพยายามยืนแอ่นหลังเพื่อยกเก้าอี้ขึ้น

และกำลังจะออกตัววิ่ง เกิดเสียงโครมครั้งที่สอง เด็กหนุ่มล้มลงไป เสื้อขาวเปรอะคราบฝุ่นที่อยู่บนพื้นจากแรงเหวี่ยงของทิว

ทิวกระชาก ตั้งเก้าอี้ที่ล๊อคเด็กหนุ่มไว้ดันไปจนติดกำแพงดังตึง จนเด็กหนุ่มกระเด้งตัวโยน

เสียงเด็กหนุ่มสะอึกสะอื้น ระงมไปทั่วห้อง

" มึงจะหนีกูไปหามัน อีกใช่ไหม



...เลว.. มึงมันเลว มึงมันเลวทั้งคู่ " ทิวมองที่เด็กหนุ่มอย่าง เหยียดๆ

" ..  กูจะเตือนมึงอีกครั้งนะ ฟาร์  เผื่อมึงจะได้เอาไปเทียบว่า

....  กูกับมัน ใครจะเด็ดกว่ากัน "






จู่ๆทิวเอาหน้าซุกไปที่ข้างคอขอขาวของเด็กหนุ่มในชุดนักเรียน

สูดดม กับสิ่งที่เขาโหยหามานาน โดยไม่สนใจกับเสียงร้องและน้ำตาของเด็กหนุ่ม

เท้าของเด็กหนุ่ม พยายามผลักร่างของชายหนุ่มในชุดบริษัทออกไปไกล

แต่ก็ทำได้ยาก เพราะตัวของทิวและน้ำหนักดันมาทางเขา

เขี้ยวของทิวขบไปที่ซอกคอ เด็กหนุ่มกระตุก พร้อมเสียง  ' อื๊อ ' ออกมาจากเน็คไทด์ทีรั้งปาก

จมูกโด่งขาว ปากสีชมพู และเคราที่ขึ้นมาอ่อนๆ ถูกใช้และละเลงไปทั่วซอกคอ เสียงสะอื้นของเด็กหนุ่มหายไป

เหลือคงไว้แต่เสียงหอบกระเส่า  และคิ้วเข้มๆที่ขมวดบนตาที่หลับปี๋ การดิ้นรนแผ่วลง

มือของทิว ล้วงไปใต้ชายเสื้อนักเรียกผ่านเสื้อกล้าม

ฝ่ามือขยำไปที่หน้าอกของเด็กหนุ่มอย่างเพลินอารมณ์ แต่เหมือนจะไม่ถนัด

กระดุมของเสื้อนักเรียน 5 - 6 เม็ดกระเด็นออกตามแรงกระชากของทิว

ทิวถลกเสื้อกล้ามของเด็กหนุ่มขึ้นอ้อมไปเกี่ยวที่หลังคอ ทิวหยุดชะงักกับภาพตรงหน้า

เด็กหนุ่มผมรองทรง เสื้อนักเรียนที่ไม่ได้ติดกระดุม และเสื้อมกล้ามที่ถูกเลิกขึ้น

อกขาวๆมีกล้ามวัยเด็กมอ ปลาย และ หน้าท้องที่มีกล้ามนิดๆและ ขนสีดำไรไรที่เป็นเส้นลงไปจากสะดือ

ร่องตัว V  ที่ต่อด้วยในกางเกงน้ำเงิน และถุงเท้าที่ไม่ได้ใส่รองเท้า

เด็กหนุ่มมองหน้ามาทางทิวคิ้วขมวด หายใจหอบ หน้าแดงจางๆ

ราวกับเชื้อเชิญโดยที่ไม่ต้อง ออกเสียงใด

อารมณ์ ของหนุ่มบริษัทพุ่งพรวด หน้าร้อนผ่าว

ทิวถอดเสื้อสูทออกและโยนมันออกไปเพื่อไม่ให้มันเกกะ  จับหัวไหล่ของเด็กหนุ่มแน่นเพื่อไม่ให้ เบ้ตัวขืน

ทิวไม่รอรี ใช้ปากสัมผัสไปที่ ยอดอก สีหน้าตาลออกชมพูด้านขวา ออกแรงเม้มและดูดอย่างหิวโหย

" อึ๊.. อือ.. อืออ ...อ.. "  เสียง ครางในลำคอเบาๆของเด็กหนุ่ม แต่ก็ต้องสะดุ้งเพราะ ฟันที่ขบไปที่ยอดอก

มันเจ็บ แ่ต่ก็รู้สึกดี

" ชอบไม่ใช่หรอ ให้ใช้ฟันน่ะ " ทิวพูดพร้อมเงยหน้ามองเด็กหนุ่มแสยะยิ้มที่มุมปาก ก้มหน้ากลับมาบรรจง ลากลิ้นอุ่นๆ

ไปที่หน้าอกด้านซ้ายบ้างเพื่อไม่ให้มันน้อยใจ  ร่างของเด็กหนุ่มแอ่นกระตุกไม่เป็นจังหวะ ตามน้ำหนักที่ตวัดลิ้นของทิว

ทิวลากเคราให้เสียดเบาๆ ไล่ลงมาที่หน้าท้องขาวที่มีกล้ามอ่อนๆ ที่พองเข้าพองออกเพราะลมหายใจถี่ๆของเด็กหนุ่ม

ทิวใช้หน้าซุกไซร้ ใช้จมูก ริมฝีปาก และ เครา  ระดมจู่โจม เด็กหนุ่ม กระตุกสั่น เสียงเก้าอี้กระทบกับผนังดัง เเกร่ก ๆๆ

กางเกงนักเรียนสีน้ำเงินบริวณซิปเริ่มตึงเพราะสิ่งที่ขยายออกมาจากข้างใน

ไม่แพ้กับของทิวในกางเกงแสล็ค

 ทิวใช้มือจับที่เป้าของเด็กหนุ่ม

" แค่นี้ก็ขึ้นแล้วหรือไง ? "  ทิวมองขึ้นไปทางเด็กหนุ่ม ที่เงยหน้าขึ้นฟ้าขึ้นฟ้าหายใจแรง ยอดอกชูตั้ง

มือของทิว จับไปที่ส่วนที่ขยายออกมาจากเป้ากางเกงของเด็กหนุ่มจากภายนอก

และออกแรงบีบ มีเสียงครางเบาๆดัง  " อื้อออ ออ... "  เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว

ทิวปลดเข็มขัดนักเรียนออก แกะและรูดซิปกางเกงน้ำเงิน

รูดลงไปไว้ที่ข้อเท้าของเด็กหนุ่มเผยให้เห็นท่อนเนื้อที่นูนขึ้นมาจากกางเกงในบางสีขาว

ทิวก้มหน้าจุมพิตเบาๆลง ตรงกลางของท่อนเนื้อนั้น สิ่งนั้นสั่นผงก ราวตอบรับการมาของทิว

ทิวใช้ปากกัดที่ขอบกางเกงในและค่อยๆรูดมันลงมาที่หัวเข่าของเด็กหนุ่ม

ท่อนเอ็น ผงกขึ้นตั้งราวได้ถูกปลดปล่อยมาภายนอก   ชี้ไปทางหน้าของทิว

ทิวยิ้มมุมปาก ไม่พูดอะไร ได้แต่เอียงหัวอ้าปาก และจัดการอย่างชำนาญ

เสียงของเด็กหนุ่มหายใจดังระรัว หน้าเหยเก ครางเบาๆราวจะขาดใจ

ทิวเร่งจังหวะ ปาก และลิ้น เด็กหนุ่มขาเหยียดตั้งขากับพื้นแต่ไม่ใช่เตรียมผละ ทิวให้ออกไป

แต่เป็นการตั้งขา เพื่อที่จะโยกเอวขึ้นลง ป้อนสิ่งสิ่งนั้นรับกับจังหวะโยกหัวขึ้นลงของทิวตามสัญชาตญาณ

" อือ.. อื๊ออ.อื๊ออ " ปลายขาของเด็กหนุ่มเหยียดกระตุก 2 -3 ครั้ง ผงะหน้าขึ้นหายใจเหนื่อยหอบ หลับตาพริ้มอย่างสบายตัว

ทิวถอนปากออก

แล้วกลืนของที่อยู่ต็มปากลงไป

" ตาพี่บ้างนะ " ทิวพูด แต่ดูเหมือนอารมณ์โกรธจะหายไป เหลือแต่อารมณ์ความใคร่ที่เห็นเด็กหนุ่ม กึ่งเปลือยอยู่ตรงหน้า

ทิวรูด กางเกงในที่หัวเข่าและกางเกงขาสั้นที่อยู่ปลายเท้าออกไป  เด็กหนุ่มตกใจ พลางส่ายหัวผงึก

เขาถอดกางเกงแสล็กที่ดำและช่วงล่างของตัวเองออก เหลือไว้เีพียงแต่เสื้อเชิ๊ตสีขาวลายทางสีฟ้า

แสงจันทร์ที่ส่องมาทางด้านหลังของทิว บังสิ่งที่อยู่ด้านหน้าของร่างกายเขา

เห็นได้เพียง สิ่งที่ถูกปลดออกมาเป็นแท่งเงารางๆ    ทิวใช้ตัวแทรกไประหว่างขาสองข้างของเด็กหนุ่มบนเก้าอี้

ปากดูดนิ้วชี้ขอตัวเองให้พอชุ่มน้ำลาย แตะไปที่ท่อนเอ็นของเขา

ใช้มืออีกข้างยกขาข้างหนึ่งของเด็กหนึ่งขึ้นเพื่อให้สะดวกในการสอดใส่

อีกมือบรรจงดันของของเขาให้ไปในร่างกายของเด็กหนุ่ม

เด็กหนุ่มดิ้นแต่ไร้หนทางใดที่จะขัดขืน

" พี่รักฟาร์ นะ..  รักมากด้วย "










เด็กหนุ่มดิ้นพราด บนเก้าอี้พร้อมเสียงร้องกร้าวในลำคอดังก้องไปทั่วห้องกับสิ่งอุ่นๆที่ถูกสอดเข้ามาในร่างกาย

ทิวหยุดเพื่อให้ทางเข้าของเขาค่อยๆปรับสภาพและขยายตัว

" มันก็เหมือนทุกครั้งทีมันจะเจ็บ เดี๋ยวก็สบายไปเอง "  ทิวโยกเอวเบาๆ ช้าๆ เพราะรอให้ร่างกายของเด็กหนุ่มปรับสภาพไม่ไหว

และอีกใจก็กลัวเด็กหนุ่มจะเจ็บ  เด็กหนุ่มหลับตาคิ้วขมวด พลางสะอื้น ทิวมองหน้าเด็กหนุ่มอย่างสงสัย

" ฟาร์.. ร้องทำไม "

" เจ็บหรอ .. "   

" หรือว่าไม่ชอบ ..  "  ทิวพูด จากหน้าที่เป็นห่วงก็เปลี่ยนสีหน้า













" มึง...ไม่ชอบสินะ ไม่ชอบเพราะที่มันอยู่ในตัวมึงไม่ใช่ของไอเคย์ "  หน้าทิวเปลี่ยนเป็นหน้าโกรธจัด









ทิวไม่สนอะไรอีก หมดซึ่งความเมตตา ทิวดันท่อนเอ็นเขาไปสุดด้ามด้วยอารมโกรธและเสียใจ

 จนได้ยินเสียง ' ปึด ' เหมือนอะไรฉีกขาด

เด็กหนุ่มดิ้น ตัวสะบัดตัวตามความเจ็บ ทิวใช้มือยกขาของเด็กหนุ่มขึ้นพาดทีบ่าทั้งสองข้าง

กระหน่ำสวนเข้า - ออก ไปในร่างของเด็กหนุ่มมอปลายอย่างเกรี้ยวกราด 

เกิดเสียงเนื้อกระทบกัน เหมือนเสียงเม้มปากแล้วสะบัดออกมาเร็วๆ    ดังไปทั่วห้อง

เขาโมโหและไม่สบอารมณ์จนขาดสติ เขารุนแรง ... รุนแรงกว่าครั้งใดที่ผ่านมา

เด็กหนุ่มหลับตา จากเสียงสะอื้น กลายเป็นเสียงครางกระเส่าจะขาดใจด้วยความรู้สึกดีทุกครั้งที่เอวของทิวขยับ

ทิวเร่งจังหวะ กัดฟันแน่น ครางเบาๆกับร่ากายของเด็กหนุ่มที่ตอดรัด ทิวจับใบหน้าของอดีตแฟนให้หันมาทางเขา

ทิวดันตัวไปติดกับเด็กหนุ่ม เพื่อดันเข้าไปให้ลึกสำหรับรอบสุดท้ายที่กำลังจะมา

" ฟาร์..พี่รัก ฟาร์นะ  ..ให้อภัยพี่นะเรากลับไปคบกันเหมือนเดิมเถอะ " ทิวพูดวอน ด้วยเสียงเหนื่อ่ยหอบ

เด็กหนุ่มไม่ตอบอะไร นอกจากซบไปที่ไหล่ขวาของทิว

ร่างของพนักงานหนุ่ม สั่นเกร็งเขาสูดหายใจลึก

' อื๊อ.. อะ  อาา. .. "  ของเหลวอุ่นๆพุ่งกระจายเข้าไปในร่างของเด็กหนุ่ม ทิวหายใจหอบโล่งอย่างผ่อนคลาย

เด็กหนุ่มตัวสั่นเทิ้ม หมดน้ำ่ตาที่จะร้องไห้ คงเหลือแต่แก้มที่มีรอยคราบน้ำตาและหน้าตาที่เหม่อลอย

" พี่ขอโทษนะ .....

แต่พี่อยากให้รู้ว่าที่พี่ทำไปก็เพราะพี่รักเรา ฟาร์จะให้พี่ทำอะำไรพี่ก็ยอม" ทิวคุกเข่าต่อหน้าคนที่เขารัก และรักมาโดยตลอด

สีหน้าอ่อนโยน เปลี่ยนเป็นคนละคน

" เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านนะครับ " ไร้คำตอบใดใดจากเด็กหนุ่ม

" พี่รู้ว่าฟาร์โกรธ  อย่าทำหน้าแบบนั้นใส่พี่เลยนะ...   " ทิวมีสีหน้าหดหู่

" เดี๋ยวพี่ไปส่งแต่เอ..กระเป๋าฟาอยู่ไหน พี่ว่าวางไว้แถวนี้นะ " ทิวมองซ้ายมองมองขวา แล้วลุกไปที่มุมหนึ่งของห้อง

" เจอแล้ว " ทิวยิ้ม ก้มหยิบกระเป๋าถือหนังสีดำ

" อุ๊บ "  เขาครางเสียงซืดในปาก เอาการปวดหัวกลับมาอีกแล้ว เขายืนนิ่งซักพักอาการก็หายไปแบบครั้งก่อนๆ

เขาหยิบกระเป๋าเดินมาหาฟากะว่าจะพาไปเลี้ยง แม็ค แบบที่ฟาร์ชอบเผื่อฟาร์จะใจอ่อนบ้าง









" ตุ้บ " กระเป๋าถือสีดำร่วงจากมือทิว ทิวยืนหน้าตรงเด็กหนุ่มก่อนจะอ้าปากพูดว่า





   







" น้องเป็นใครครับ "  ทิวขมวดคิ้วทำหน้างง









" ฟาร์ล่ะ     ฟาร์ไปไหน น้องเห็นฟาร์ไหม "  ทิวกระสับกระส่ายเดินมาทางเด็กหนุ่ม

" ..น้อง..เห็นฟาร์ไหม เมื้อกี้เขายังอุ๊บ... "  ทิวก้มหน้ามือจับที่ขมับ อาการปวดหัวกลับมาอีกครั้ง

เขานิ่งไปซักพักเงยหน้าขึ้นมาใหม่

ทิวจ้องมองไปที่เด็กหนุ่ม









" มึง... ..ไอ้เคย์ "   ทิวพูดด้วยหน้าตา และน้ำเสียงที่โกรธเกลียด ทำให้เด็กหนุ่มถึงกับผงะและหันมามองเขา








" มึงยังมีหน้ามามองกูอีกนะ " ทิวรู้สึกโมโหที่ถูกท้าทายด้วยสายตา เขาวิ่งเข้าไปง้างมือและชกเด็กหนุ่ม

จนหน้าเบ้ไปตามทิศของหมัด  ทิวก้มลงหลับตาอีกครั้งเพราะอาการปวดหัว คราวนี้มันไม่ยอมหายไป

ทิวเงยหน้าขึ้นมากับอาการปวดหัวที่ระดมตีอย่างกลองแต๊ก ไม่หยุด เขากำผมรองทรงของเด็กหนุ่มหันหน้ามาทางเขา

ทิวมองหน้าเด็กหนุ่ม ที่เริ่มสะอื้นอีกครั้ง

" อ้อมึงก็มาอีกคนนะ ไอโน้ตเสือกดีนัก เป็นเพื่อนกันก็เลยพาฟาร์ไปหาไอเคย์สินะ "  ทิวกำผมของเด็กหนุ่มแน่น

 เด็กหนุ่มตัวสั่นผวาบนเก้าอี้ มีเสียงสะอื้นเบา

" เพื่อนเลวๆอย่างมึงน่ะ  อย่าอยู่ให้มันรกโลกเลย.. "  ทิวหยิบมีดพกในกระเป๋า เปิดมันอีกครั้ง เด็กหนุ่มตาเบิกโพลงไปที่มีด

พยายามดิ้นกระเสือกกระสนครั้งสุดท้ายแบบไร้เรี่ยวแรง  ยิ่งดิ้นผมที่ถูกกำไว้ก็เจ็บ น้ำตาบอาบแก้ม

" เคร้ง "  เสียงมีดพบกระทบกับพื้นห้อง

" ...ฟาร์ ร้องไห้ทำไม " ทิวพูดอย่าง งงๆ 

" เฮ้ย !!  ใครมาทำกับฟาแบบนี้  ! " ทิวตกใจ กับสภาพของเด็กหนุ่ม

" เดี๋ยวพี่จะช่วยเราเดี๋ยวนี้แล่ะ ! " ทิวหน้าตาร้อนลนมองซ้ายมองขวา เพื่อจะมาตัดเชือกให้เด็กหนุ่ม หันไปเจอ

มีดพกด้ามเดิมที่ตกอยู่  เขาเก็บขึ้นมา โน้มตัวอ้อมไปด้านหลังเพื่อตัดเชือก

เชือกทั้งสองด้านขาด ทิวกำลังจะอ้อมตัวกลับ

เด็กหนุ่มรวบรวมแรง เฮือกสุดท้าย

โยกตัวไปที่ข้างหลัง   หวังใช้หัวไปกระแทกกับคนที่อยู่ด้านหลังเพื่อหาช่องจังหวะหนี

การทำของเขาประสบผล มีเสียงโอ๊ยด้านหลัง   หัวทิวกระแทกกับผนัง

เด็กหนุ่มลุกไปอย่างรวดเร็ว หันหลังกลับมามองเห็นทิวที่นั่งคุกเข่าจับขมับหัว

เด็กหนุ่มออกตัววิ่งด้วยเรี่ยวแรงที่มี เท้าของเขาเหยียบเศษไอโฟนที่แตกกระจาย 

เศษมือถือบาดทะลุเข้าไปในเท้าที่ไม่ได้ใส่ร้องเท้าป้องกัน

เด็กหนุ่มล้มคว่ำลงด้วยความเจ็บและอ่อนล้า  เลือดสีแดงฉานไหลซึมไปทั่วถุงเท้าขาว

เด็กหนุ่มพลิกหงายหวังจะดึงเศษพลาสติก  แต่ได้เพียงสะดุ้งเฮือกและเงยหน้ามองขึ้นตามเสียงจากคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

ที่พูดว่า

















                                                                     "  ไอ เคย์  "















ข่าวพาดหัวเรื่อง นักเรียนชายถูกฆ่าข่มขืนรายที่เจ็ด และยังหาฆาตกรไม่ได้ถูกตีพิมพ์ไปทั่ว

ซอยเปลี่ยวในค่ำคืนที่เงียบสงัด ทิวหยุดเดินหลังจากที่เดินมาตั้งแต่หัวค่ำทั่วกรุงเทพทุกค่ำคืน

เขายิ้มและจ้อมองอะไรซักอย่างที่อยู่ตรงหน้าอย่างมีความสุข

แล้วพูดเบาๆว่า














                                                           






                                                            " ฟาร์...           พี่เจอฟาร์แล้ว "



                                         
                                                1234567890-=qwertyuiop[]asdfghjkl;'zxcvbnm,./
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 01-10-2011 17:09:54
โอ๊ย~ อ่านแล้วขนลุก  น่ากลัวมาก 
หักมุมจากอาซูจินหนักเลย

สุดยอด
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-10-2011 17:36:04
หึ่ยยยย


ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 01-10-2011 17:40:34
คนละแนวกันเลย เรื่องสองน่ากลัวอ่ะ
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: Zurruz ที่ 01-10-2011 17:45:14
จะบ้าตาย อ๊ากก

ทำไม เเต่ล่ะเรื่อง ฮืออ

เรื่องเเรกยังพอเข้าใจ ว่ามันคืออะไร แต่เรื่องที่ สอง

อ๊ากกก ไอ้ชั่วช้า สารเลว! ฮืออ
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-10-2011 17:47:35
อ่านแล้วเห็นภาพฆาตกรต่อเนื่อง
น่ากลัวมากๆ o22

อารมณ์คนแต่งคงเครียดจากปั่นงานส่งก่อนปิดเทอม
อยากให้เหยื่อเป็นอาจารย์ที่สั่งงานหรือเปล่า
แซวเล่นนะ :z2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ll เจอแล้ว ( คอมเม้นที่ 13 )
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 01-10-2011 18:12:36
ครับ ผมอยากจะรู้ว่าเรื่องนี้ จะเขียนชื่อตอนว่า NC  ได้หรือป่าว

ผมไม่ค่อยเข้าใจ NC  อย่างละเอียด เรื่องที่สองนี้เพราะอยากให้มันหวือหวาหวือหวา หน่อยครับ

พยายาม ใช้คำที่มันไม่หยาบโลนมาก แต่ก็อยากให้ได้ฟีล  :o12:

กลายเป็นคิดว่าน่าจะเขียนเสร็จ แค่ 2-3 ชั่วโมง ยาวมาถึงเย็นเลยครับ งานการไม่ได้ทำ 555  :laugh:

พรุ่งนี้ถ้าผมมีโอกาสจะมาอัพนิยายหลักนะครับ เพราะงานของวันนี้ได้ยกยอดไปพรุ่งนี้เรียบร้อย

ขอบคุณครับทุกท่านที่เข้ามาอ่าน  อย่าลืมเรื่อง NC ที่ผมถามด้วย  รบกวนหน่อยครับ

ขอบคุณครับ  :man1:

ปล.  คุณ yeyong   ...ไม่เอาครับอาจารย์แก่ 555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 02-10-2011 14:17:47
 
                                                                    หลุดที่ 3   นายแบบ





" ผมขอออกไปเดินเล่นนะครับ "

" กลับมาก่อนกินข้าวเย็นนะ ซัน "  เสียงผู้หญิงผู้เป็นแม่กล่าวไล่หลังลูกชายวัย 18 หลังจากที่เขาเก็บสัมภาระไว้ที่ห้องนอน

หลังจากย้ายบ้านมาอยู่ที่เชียงราย ในย่านอากาศที่บริสุทธิ์ ตามที่หมอสั่ง

" เอ้อ ซันอย่าลืมยาพ่นละลูก "

" ครับผมเอามาแล้วครับ " ซันตะโกนบอกแม่ก่อนปิดประตูบ้าน

ซันเดินเรื่อยเปื่อยบนฟุตบาธในเมืองใหม่ แสงแดดยามเย็นสาดลงมาอ่อนๆในภาคเหนือ

เขามองไปรอบๆที่ไม่คุ้นตา  เขาสะดุดตากับสิ่งๆหนึ่งบนเนินหญ้าในสวนสาธารณะฝั่งตรงข้าม

มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนเนินหญ้า มือถือกระดานสีน้ำตาลแผ่นใหญ่ รายล้อมด้วยเด็กๆที่วิ่งเล่นรอบตัวเขา

' เสียงเด็กหนวกหูขนาดนั้น จะมีสมาธิวาดได้ยังไงกัน '  ซันคิดในใจ

ซันข้ามถนนเพื่อจะเข้าไปดูใกล้ๆ  อย่างน้อยมันคงมีอะไรช่วยทำให้เขาแก้เบื่อกับสิ่งที่หมอสั่งบ้าง

ซันเดินเข้ามาในสวนสาธารณะตรงไปที่เนินหญ้า ตอนนี้เด็กๆหายไป คงเหลือแต่ชายหนุ่มคนนั้นวาดรูปแกรกๆ

แต่สิ่งทำให้ซัน ประหลาดใจจนต้องเดินมาใกล้ๆให้เห็นภาพได้ชัดๆเพื่อความมั่นใจนั่นก็คือ

สายตาของหนุ่มคนนั้นที่วาดอยู่  มองตรงไปข้างหน้า

ไม่ได้ก้มมองไปที่กระดาษบนกระดานผืนนั้นเลย

ซันประหลาดใจ เขาเดินที่ข้างๆของชายหนุ่มเพื่อจะมองภาพแบบไม่กลับหัว

ซันมองไปที่ภาพ และเงยหน้ามองไปข้างหน้า ทำแบบนี้อยู่ 2 -  3 ครั้ง

ภาพวิวทิวทัศน์ของสวนสาธาณะถูกสเกตซ์อย่างสวยงามถึงจะมีบางอย่างผิดแผลกไปบ้าง

แต่ก็ยังคงสวย ในภาพมีเด็ก กำลังวิ่งเล่นกันอยู่

" นั่งลงสิครับ "  ซันสะดุ้งโหยง หันก้มมองลงมาที่ชายหนุ่ม เขาค่อยๆก้มลงนั่งกับหญ้าเตียนบนพื้นข้างๆคนที่เอ่ยชวนเขา

" ผมขอโทษครับที่เสียมรรยาท.." ซันเอ่ยขอโทษ

" ไม่เป็นไรครับ " ชายหนุ่มพูด สายตายังคงมองไปข้างหน้า

" ภาพสวยดีนะครับ " ซันเอ่ยชม

" ขอบคุณครับ " ชายหนุ่มยังคงมองไปที่เดิม ซันขมวดคิ้วพลางคิดว่า คนอะไรพูดด้วยแล้วไม่มองกลับมาหาเขาเลย

..เสียมรรยาทชะมัด

" มา จ๊อกกิ้งหรอครับ " ชายหนุ่มถามซัน แต่ก็ยังไม่คงมองหน้า ทั้งๆที่เขาวาดรูปเสร็จแล้ว

" ขอโทษนะครับหน้าตาผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรอ  "  ซันพูด  ชายหนุ่มหน้าตกใจเล็กน้อย

เขาหันหน้ามาทางซันแต่ไม่ตรงหน้าเลยซะทีเดียว   นัยส์ตายังคงมองตรง

" ขอโืทษครับ.. ผมมองไม่เห็นคุณ ..... ตาผมมองไม่เห็นครับ " ชายหนุ่มพูดหน้ายังคงนิ่งและมองตรง

ต่างจากหน้าของซัน ที่มีสีหน้าตกใจ เขาไม่คิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะตาบอด

" เอ่อ.. โทษนะครับ แล้ว....  ทำไมคุณถึงวาดรูปได้ล่ะ ? "  ชายหนุ่มหันหน้ากลับมาที่เดิมสายตาจ้องมองไปข้างหน้า

" ก่อนหน้านี้ผมชอบวาดรูปมากครับ แต่หลังจากนั้นก็เกิดอุบัติเหตุ... " สิ่งที่เขาวาดคงมาจากความทรงจำเมื่อสมัยก่อน

ซันไม่ถามต่อพลางพูดเบาๆว่า " ..เสียใจด้วยนะครับ " เกิดบรรยากาศนิ่งเงียบ ซันรู้สึกว่าถามในสิ่งที่ไม่ควร

" แล้วคุณชอบวาดรูปอะไรหรอครับ "  ซันชวนคุยพยายามทำลายความหดหู่

" ก็ทิวทัศน์ครับ ผมรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อย "

" วาดที่นี่คงเสียสมาธิแย่เลยนะครับ  มีแต่เด็กวิ่งเล่น..รู้อยู่ว่าคุณวาดรูป ยังมาวิ่งเล่นรอบคุณอยู่ได้ "  ซันพูด หัวเราะเบาๆ

" ไม่ครับผมเองนี่แล่ะที่ขอให้พวกเขาทำแบบนั้น "

" เอ๋ ? " ซันทำหน้างง

" ผมอยากได้บรรยากาศ เพื่อเอามาใส่ลงในงานครับ เสียงของน้องๆพวกนั้นช่วยผมได้เยอะเลย "

ซันยิ้ม เขารู้สึกทึ่งกับบางสิ่งบางอย่างในตัวของชายคนนี้

" มีอะไร ถ้าไม่ลำบากใจก็เล่าให้ผมฟังได้นะครับ "  ชายหนุ่มพูด นัยส์ตานิ่ง  ซันทำหน้างง

" เรื่องอะไรครับ .... คุณรู้ได้ยังไงว่าผมมีอะไร "  ซันถามอย่างสงสัย เขานึกย้อนกลับไปถึงที่ว่า ชายคนนี้รู้ได้ยังไงว่าเขายืนข้างๆ

และบอกให้เขานั่งลง

" ไม่รู้สิครับ ผมสัมผัสได้ละมั้ง  จากน้ำเสียงของคุณ "  ซันเลิกคิ้วกับคำตอบ

" คุณ ทำผมทึ่ง 2 ครั้งแล้วนะ เอิ่ม.. คุณชื่ออะไรครับ " ซันหันไปถามชายข้างๆ

" วิน ครับ แล้วคุณล่ะ "

" ผมซันครับ  ยินดีที่ได้รู้จัก " ซันยิ้มตอบ

"  หมอสมัยนี้เขามีข้อห้ามให้คนไข้เยอะแยะเลยเนอะ  "  ซันเกริ่น ไม่รู้เป็นอะไรเขารู้สึกสบายใจกับการที่เล่าให้วินฟัง

" ผมว่า ก็ดีออกนะครับ หมอเค้าคงเป็่นห่วงเรา  มีแต่คนไข้หัวรั้นเท่านั้นแล่ะครับที่คิดแบบนั้น " 

ซันหันขวับไปทางต้นเสียง เหมือนถูกหลอกด่า

" มันก็ไม่ดีขนาดนั้นหรอก ห้ามนู่น ห้ามนี่ นั่นก็กินไม่ได้ หัวค่ำก็ต้องรีบนอน "  ซันพูดตามองขึ้นไปบนฟ้า

" ถ้าไม่อยากทำแบบนั้นแล้วทำ  ทำไมล่ะ " 

" ก็... แม่น่ะสิ "  ซันพูดพลางถอนหายใจ เขานึกถึงหน้าแม่ตอนเขาชักตัวเกร็ง นอนหายใจไม่ออกบนเตียงคนไข้

" ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับผม  "   ซันพูดอยู่ๆก็มีน้ำตาเล็ดออกมา เขารีบเช็ดขอบน้ำตาด้วยความอาย

แต่คิดได้ทีหลังว่าจะอายทำไม  ในเมื่อวินมองไม่เห็นเขา 

เขาหันไปทางวินก็ตกใจเล็กน้อย   ชายข้างๆเขานอนราบไปกับหญ้าแล้ว

" ลองนอนลงสิครับ "  วินเอ่ยให้ซันที่ งงอยู่ว่าเขานอนหงายลงไปทำไม แต่ก็ค่อยๆนอนลงตาม

" หลับตาสิครับ "  ซันไม่รู้ว่าทำไม แต่ก็เชื่อคำพูดของวิน

สายลมยามเย็นพัดเย็น ความชื้นที่ลอยขึ้นมาจากหญ้า ทำให้ผมรู้สึกดีอย่างประหลาด

" สบายขึ้นไหมครับ  ค่อยยังชั่วหรือยัง "  วินเอ่ย

" เก่งจัง รู้กระทั่งอารมณ์ของผม  "  ซันพูดหลับตา และยิ้ม 

" แต่ก็อย่าไปซีเรียสเลยครับ คนเราเปลี่ยนโชคชะตาไม่ได้....   ถ้า้เปลี่ยนได้ ผมก็คงไม่อยากเป็นคนตาบอด "

วินพูดทำหน้ายิ้ม ราวกับยอมรับในสิ่งที่ตนเองเป็น  ซันหันหัวมองไปทางวินด้วยสายตาที่ปลื้มใจกับความเข้มแข็งของเขา

"  วันวันก็วาดแต่รูปทิวทัศน์หรอ ? " ซันถาม เค้ามีความรู้สึกอยากรู้จักคนคนนี้มากขึ้น

"  ก็ไม่เชิงครับ จริงๆแล้วผมชอบวาดรูปเหมือนมากกว่า "

" รูปเหมือน ? " ซันย้ำเขาคิดในใจ ตามองไม่เห็นแล้วมันจะเหมือนหรอวะ  วาดจากความทรงจำงั้นหรอ งั้นมันก็ไม่แตกต่างอะไร

กับการนั่งวาดภาพบนโต๊ะเฉยๆน่ะสิ  ซันสงสัย

" รูปเหมือนหรอ  แล้วปกติวินชอบวาดอะไรล่ะ "  ซันถาม

" ใบหน้าคนครับ "

" แล้วปกติวาดใครล่ะ "  ซันคิดว่าวินคงวาดภาพจากความทรงจำของเขา

" ก็วาดคนที่อยู่ตรงหน้าแล่ะครับ "

" เอ๋ ?? "

" ยังไง " ซันถามด้วยน้ำเสียงที่ งงงัน วินไม่พูดอะไรได้แต่ดันตัวขึ้นนั่งขัดสมาธิ หยิบกระดานวางไว้ที่ตัก

" รบกวนซัน ลุกขึ้นมานั่งหน่อยครับ "  ซันรู้สึกตื่นเต้น และยังคงคิดไม่ออกกับวิธีของวิน หรือว่ามันคือพลังจิต ?

" เขยิบเข้ามาทางหน้าผมหน่อยครับ  เอาให้หัวเข่าชนกันนะครับ "  ซันเขยิบเข้ามาหัวเข่าทั้งสองข้างชนกับวิน

" ขอโทษนะครับ "  วินกล่าวขออนุญาต









วินยื่นฝ่ามือ ออกไปข้างหน้า สัมผัสกับแก้มสีขาวชมพูของซัน มือของวินลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปทั่วแก้มซ้ายของซัน

ซันตัวนิ่ง หน้าแดงจางๆและร้อนผ่าว ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

นิ้วซ้ายของวินลูบไปตามโครงคิ้วลากผ่านขนคิ้วเข้มๆของซันอย่างปราณีต  มือขวายังคงร่างโครงหน้าของนายแบบด้วยดินสอ EE

นิ้วของวิน รูดลงตรวจสอบตามสันจมูกของซัน และมาหยุดที่ปากอมชมพู

วินไล่นิ้วไปที่รอบขอบปากของซัน และเลื่อนไปที่ริมฝีปากที่อุ่น  ซันรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวอีกครั้ง

ไม่มีใครเคยมาสัมผัสหน้าเขาตรงๆแบบนี้มาก่อน

ซันกลืนน้ำลายดัง เอื๊อก     จากนั้นวินก็ใช้มือตรวจสอบไปทั่วหน้าของซัน  ใบหู  รอบคาง ทรงผม

ใบหน้าวินมองตรงมองที่ซัน  โดยที่ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าจ้องมองเขาอยู่









" เสร็จแล้วครับ "  วินพลิกกระดาษบนกระดานให้ซันดู

ซันรู้สึกประหลาดใจกับความสามารถของวิน

" เหมือน.....  เหมือนเด๊ะเลย "  ซันพูดจากใจ หันไปมองหน้าวินแล้วยิ้มอย่างทึ่งๆ

" ขอบคุณครับ " วินยิ้มตอบ

มีเสียงมือถือดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกงของซัน

" อยู่ในแล้วลูก "

" อยู่สวนสาธารณะหน้าปากซอยนี่แล่ะครับ "

" รีบกลับได้แล้วนะลูกแม่เป็นห่วง "

" ครับ "

" ผมไปก่อนนะวิน "  ซันพูดลา

" อื้มผมก็จะกลับเหมือนกัน "

" อ้าว แล้วนี่จะกลับยังไงล่ะ บ้านอยู่ไหน "  ซันสงสัยว่าคนตามองไม่เห็น จะเดินทางยังไง 

วินหยิบท่อนเหล็กในกระเป๋าใบใหญ่ของเขาออกมา ดึงปลายออกมาท่อนเล็กต่อกันกลายเป็นไม้เท้ายาว

" บ้านผมอยู่ขวามือ เลี้ยวออกไปทางหัวซอย รีบกลับบ้านเถอะคนที่บ้านคุณจะเป็นห่วงเอา "

" เดี๋ยวผมไปส่ง  "  ซันพูด

" ไม่ต้องหรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้น่า "  วินพูดด้วยรอยยิ้มพลางสะพายกระเป๋า

" งั้นเราไปแล้วนะ " ซันพูด

" บาย "  วินตอบรับ







" ผมไปแล้วนะแม่ "

" ไปไหนน่ะลูก "

" ที่เดิมแล่ะครับ "

" แหม ไปทุกวันเลยนะ ไปหาเจ้าวิน หรือ ติดสาวที่นั่นหรือยังไง "  ถึงแม่ของซันพูดไม่ถูก  แต่ก็ทำให้เขาหน้าแดง

" แล้วอย่ากลับบ้านดึกล่ะ เดี๋ยวนี้กลับมากินมื้อเย็นไม่ทันเลยนะ  พ่อก็ถามหาอยู่ "

" ครับ " ซันตอบส่งๆก่อนออกมาจากประตูบ้านไปที่สวนสาธารณะที่เขามาทุกวัน

วินกำลังวาดรูปอยู่ที่เดิม ดึงกระดาษออกและยื่นไปให้เด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้า  เด็กคนนั้นเห็นภาพก็ดีใจกระโดดไปอวดให้แม่ดู

" วันนี้มาสายจัง  " วินพูด

" อ่อแม่ใช้ไปซื้อของในตลาดอ่ะ " ซันโกหก

" ไม่ใช่ อ้วกตั้งแต่เช้าหรอ "  ซันผงะ

" แหม ..  ล้อเล่นนะ "   ซันยิ้มและถอนหายใจเบา

ซันมาที่ี่นี่และใช้เวลาอยู่กับ วินทุกวัน เว้นแต่บางวันที่เขามาไม่ไหวเพราะอาการของโรคกำเริบ

เขารู้สึกมีความสุขเมื่ออยู่กับผู้ชายคนนี้ มีวินเป็นคนรับฟังเรื่องต่างๆของซัน อยากทำอะไรก็ทำ เป็นสิ่งที่หาไม่ได้จากในบ้าน

" เย็นแล้ว วินกลับกันเถอะ "  ซันพูด วันนี้ท้องฟ้ามืดครึ้มกว่าปกติ พลางช่วยเก็บของลงในกระเป๋าวิน

หยดน้ำ หยดหนึ่ง  หยดลงที่หลังแขนซัน  และมีอีกหลายหยดตามมานั่นเป็น สัญญาณของฝนตก ซันมองไปที่วิน

" วิน ฝนตก  ......  ไปหลบที่บ้านเราก่อนไหม "  ซันไม่รอวินพูดอะไร คว้าข้อมือวินปรี่ไปที่บ้านเขา

" อ้าวตัวเปียก กันมาเชียว "  แม่ของซันพูดพร้อมเดินหายไป  และกลับมาพร้อมผ้าขนหนู 2  ผืน

" เอิ่ม  แม่ครับนี่วินที่ผมเล่าให้ฟังไง " ซันพูดพลางขยี้หัว

" แหม   หล่อกว่าที่คิดอีกนะ  "  แม่ยิ้มหวาน

" เช็ดให้แห้งก่อนนะ  วินเดี๋ยวแม่ขอให้เจ้าซันมันไปอาบน้ำก่อนนะลูก เดี๋ยวมันจะชักอีก " แม่ซันพูด ยิ้มมาทางซัน  วินยิ้มเบาๆ

" โธ่ ..แม่มาทำพูด " ซันพูดแก้เสียหน้ากำลังเดินไปอาบน้ำ

" เอ้อ ซัน "  แม่ตะโกนเรียกซัน

"  ครับบ "  ซัน ขาน

" จริงๆ อาบพร้อมกันก้ได้นะลูก วินเค้ามองไม่เห็นนี่นา "

" จะบ้าหรอแม่ " ชายหนุ่มตอบหน้าแดง ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำ

" มันเป็นอะไรของมัน   .... เดี๋ยววินก็ไปอาบน้ำนะลูก เสื้อผ้า เดี๋ยวแม่จะเอาของเจ้าซันมาให้นะ "

" ครับ  ขอบคุณมากครับ " วินกล่าว   เสียงฝนภายนอกยังคงตกหนักดังฟ้ารั่ว








" แม่โทรบอกที่บ้านเราให้แล้วนะวิน  มันมืดมากแล้วฝนก็ยังไม่หยุดตกซะที " แม่ของซันหันหลังคุยกับเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนโซฟา

" วันนี้ก็นอนนี่แล้วกัน  นอนห้องเจ้าซันได้ไหมลูก "

" ครับ ได้ครับ " วินตอบ  ซันยื่นบางสิ่งให้กับวิน มีหลอดปักอยู่ที่กล่อง

" กินดิ่ " วินทำหน้างง ก่อนที่จะก้มดูดหลอด

" นายรู้ได้ไง ว่าเราชอบงาดำ " วินพูดหลังจากปาก ผละจากหลอด

" จริงดิ่ ... เราไม่รู้หรอกคิดว่าคนขรึมๆแบบนายน่าจะชอบ " ซันหัวเราะ

" ป่ะซัน ขึ้นไปนอนกัน "  วินพูดหน้านิ่ง  ซันหันขวับ

" นายต้องนอนเร็วนะ  เพื่อสุขภาพของนาย " ซันไม่ได้พูดอะไร นอกจากจูงแขนวิน พร้อมกระเป๋าขึ้นไปบนห้องนอน

" นอนไม่หลับหรอซัน "  วินพูดขึ้นในห้องนอนที่มืดสนิท ซันที่นอนกอดหมอนข้างนอนหันหลังให้วิน สะดุ้งโหยง

" นายทำเราตกใจอีกแล้วนะ คุณวิณนุกูล " 

" พรุ่งนี้วันเกิดเรา " ซันพูด

" จริงหรอ ทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ จะได้เตรียมให้ทัน " วินท้วง

" ..แล้ววินล่ะ เกิดวันไหน "

" วันนี้แล่ะ แต่เดือนหน้า "

" ว้าว วันเดียวกันเลยเนอะ "  ซันพูด เขาหันตัวมานอนหงาย เขามีเรื่องอยากจะถามวินมานานแล้ว

" วิน "

" หืม ? "

" นายไม่ไปผ่าตัดตาล่ะ  "

" บ้านของเราไม่ได้รวยอะไรมากขนาดนั้นหรอกนะ  เราเคยยื่นขอเรื่องกับ โรงพยาบาลรัฐบาลแล้ว แต่ก็ต้องรอคิวน่ะรอคนบริจาค "

" นาน หรือยัง "

"  4 ปีมาแล้ว " วินพูด  ซันรู้สึกหดหู่ใจ










"  ซันเรามีอะไรอยากบอกนาย  อยากบอกมานานแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน "  เสียงของวินดังขึ้น ในห้องมืด ซันหันขวับไปทางวิน







" มีอะไรหรอ  บอกมาสิ "  ซันพูดแผ่วๆ แต่นัยส์ตายังคงมองหน้าวินอยู่

" เราอยากวาดรูปเปลือยน่ะ "  ซัน นิ่งซักพัก กำลังคิดประเมินผลกับคำว่า ภาพเปลือย

" มันเป็นเรื่องน่าอาย เรากะจะขอให้ซันเป็น นายแบบให้เรามานานแล้ว แต่ผู้ชายเหมือนกันคงไม่เป็นไร "

ซัน รู้สึกว่าเค้าไม่ได้คิดเหมือนวิน

" แล้ว จะวาดยังไงล่ะ " ซันลุกไปเปิดไฟ

หยิบกระเป๋าใบใหญ่ที่มีอุปกรณ์วาดภาพ มาให้เจ้าของที่กำลังลุกขึ้นนั่งริมเตียง








" ถอด เสื้อผ้าให้หมดสิ "  วินพูด  ซันผงะ

" ขอบคุณ นายจริงๆที่ช่วยเรา "  วินเอ่ยขอบคุณ ทั้งๆที่ซันยังไม่ได้ถอดอะไร 

ถึงวินจะมองไม่เห็น  แต่ซันก็รู้สึกอายชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เขาเดินไปล๊อคประตูและปิดไฟ 

วินวาดรูปคงไม่ใช้ไฟและลดความอายของเขาลงไปบ้าง

ซันในร่างกายที่เปลือยเปล่านั่งบนเก้าอี้ข้างๆเตียง  มือของวินลูบไปที่โครงหน้าของซัน  อีกมือลากโครงหน้าลงกระดาษ

" อุ่นจัง นายไม่สบายหรือเปล่า "  วินพูดอย่างเป็นห่วง นายแบบที่ใบหน้าร้อนผ่าว

" .....  เปล่านี่ "  ซันตอบ

" ซัน นายเขยิบเข้ามาใกล้หน่อยสิ " ซันเลื่อนเก้าอี้เข้ามาทางเตียง สงสัยเล็กน้อยว่าทำไม

ฝ่ามือเย็นเฉียบของวิน ลากลงไปที่ลำคอของซัน ยาวไปตามราวหัวไหล่ กล้ามหน้าอกจากซ้ายไปขวา

ไล้ลงมาเรื่อยๆ ถึงกล้ามหน้าท้องอ่อนๆ ซันหน้าแดงก่ำ

" ซันเป็นคนสัดส่วนดีนะ "  วินเอ่ยชม เขากำลังไล้มือลงไปถึงข้างล่าง ซันผงะ

" จะต้องวาด .. ไอนั่นด้วยไหม " ซันถามอย่างเขินๆ

" แล้ว ซันนั่งอ้าขา หรือ หุบขาล่ะ เราก็วาดตามนั้น "   วินหัวเราะเบาๆ  หลังจากรู้สึกว่านายแบบของเขาแอบเปลี่ยนท่า

ซันลุกขึ้นรีบใส่เสื้อผ้า และไปเปิดไฟ หลังจากนักศิลปะหนุ่มบอกเขาว่า   ' เสร็จแล้ว '  เขาเดินมานั่งข้างๆวินดูผลงาน

วินทำเขาทึ่งอีกครั้ง  รูปภาพเขานั่งอยู่บนเก้าอี้  ทั้งหุ่นและสัดส่วนชัดเจน ราว กับนั่งอยู่หน้ากระจกเงาใบใหญ่

" เก่งจัง  เขามองที่ภาพ  และมองที่วิน "  ซันอยากจะทำอะไรบางอย่าง เขายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ










" อุ๊บ.. " ซันหน้าคว่ำ่่ล้มลงไปกับพื้นข้างล่าง   เขาหายใจไม่ออก

เสียงของระบบหายใจที่ติดขัดเฉียบพลัน ทำให้เสียงหายใจของเขา เหมือนเสียงบีบตุ๊กตายาง 

ซันกระตุกสายตามองไปที่วิน ที่กำลังเรียกหาเค้าอยู่

ซันได้แต่คิดซ้ำๆว่าทำไมนะ .... เรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเขาด้วย














 

















 













หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 02-10-2011 14:20:55
 
ซันลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงในชุดของโรงพยาบาลเห็นแม่และวินยืนอยู่่ข้างๆ

" เดี๋ยวแม่ออกไปรับพ่อเข้ามาก่อนนะ เดี๋ยวพ่อมาแม่จะขับรถไปส่งวินที่บ้านนะลูก " 

แม่พูดด้วยเสียงสลด ซันแอบเห็นหยดน้ำตาของแม่ แต่ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไร แม่ก็เดินออกไปแล้ว

" แม่นายร้องไห้ " วินพูดหน้านิ่ง

" แม่เขาเป็นแบบนี้แ่ล่ะ ไม่มีอะไรหรอกเราเป็นแบบนี้ทีไรแม่เขาก็เป็นแบบนี้ทุกที เรื่องธรรมดาน่ะ " ซันพูดกลบเกลื่อน

" อื้ม มันก็คงเป็นเรื่องธรรมดา  ที่รู้ว่าลูกตัวเองอยู่ได้ไม่ถึงเดือนสินะ "  วินพูดหน้านิ่ง

ซันรู้สึกไม่แปลกใจกับเรื่องที่ได้ยิน   เขาทำใจกับมันมาได้นานมากแล้ว เขาหลบสายตาวิน

" .....นายไม่คิดจะบอกอะไรเราเลยใช่ไหม " วินถาม ซันเงียบ    เขาแค่ไม่อยากให้มีคนเป็นห่วงเขาเพิ่มขึ้น

" นาย ยังเห็นเราเป็นเพื่อนกันอยู่ไหม " วินพูดอีกครั้ง  ซันได้แต่มองไปที่ปลายเตียง

"  หรือว่าไม่ต้องแคร์  .....เรามันก็แค่คนตาบอดคนนึงที่ที่วันๆเอาแต่วาดรูป บ้าบอ " 

น้ำเสียงของวินนิ่ง และบาดเข้าไปในใจของซัน ดั่งมีดที่ครมกริบ

" ทำไมต้องพูดแบบนี้ .... เราไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนั้นเลยนะ  ! " ซันพูดเสียงกร้าว

มีเสียงเปิดประตู  พ่อกับแม่ของซันเดินเข้ามา  ไม่มีการสนทนาใดใดต่อ นอกจากการจากไปของวิน

เสียงสะอื้นเบาบนรถของครอบครัวซันจากผู้เป็นแม่ โดยมีวินนั่งอยู่ข้างๆเบาะคนขับ

" แม่ไม่คิดว่าอาการมันจะกลับมาทรุดหนักเลย ตอนหลังๆเห็นเค้าดีขึ้นมามากแท้ๆ " 

แม่ของซันพูด หลังจากที่เธอปาดน้ำตาและพยายามทำใจได้  วินไม่ได้พูดอะไร

" หมอเองก็บอกรื่องแบบนี้มันอยู่ที่กำลังใจ  แม่ก็เห็นเขามีความสุขดีนะ เขาเองก็มาเล่าเรื่องวินให้แม่ฟังบ่อยๆ "

แม่ของซันปาดน้ำที่ซึมออกมาจากจมูก และพูดต่อ

" แม่ก็แปลกใจนะว่าเราไปทำอะไรกันถึงเขามีความสุขขนาดนั้น  แต่แม่ก็ว่ามันบ่อยๆนะเพราะมันกลับบ้านดึกทุกวัน "

วินรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมซันกลับบ้านดึก ทั้งที่เวลาจากกันก็แค่ตอนเย็น

" จอดตรงหน้าร้านขายของนี่ใช่ไหมวิน " 

" ครับแม่ " วินลงจากรถ และกล่าวสวัสดีเขาต้องเดินเข้าไปในซอยบ้านของเขา

วินดึงท่อนเหล็กและทำมันเป็นไม้เท้า แตะๆไปตามพื้นที่เขาเดิน

"  เอานมงาดำกล่องนึงครับป้า "  วินพูด ซักพักก็มีป้าเดินออกมาจากในร้านถือกล่องนมมาให้

วินรับของและจ่ายเงิน และก่อนที่เขากำลังจะเดินไป

" อ้าววิน...  "  ป้าคนเดิมทำเสียงสงสัย  หรือว่าเขาจะให้เงินไม่ครบ

" วันนี้เพื่อนเราไม่มาด้วยหรอ "   วิน      นิ่งและ ขมวดคิ้ว










" ก็เพื่อนที่มารอรับ มาส่งเราทุกวันไง  น่ารักดีนะมีเพื่อนดีดีแบบนี้ "













วินลงจากรถสองแถวกลับมาที่หน้าโรงพยาบาลเค้ารู้สึกไม่ดีเลย  ที่เขาได้พูดออกไปแบบนั้น

" ช่วยพาผมไปส่งที่ห้อง คุณ อัสพฤษ์หน่อยได้ไหมครับ "  เขาพูดกับ พยาบาลหน้าเค้าท์เตอร์ผมจำเลขห้องไม่ได้

" แปปนะคะ เดี๋ยวขอเวลาเช็คก่อน "  วินรออยู่หน้าเค้าเตอร์

" เ่อ่อคุณอัสพฤกษ์ไม่ได้อยู่ในห้องผู้ป่วยแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ในห้องผ่าตัดฉุกเฉินค่ะ "

วินใจสั่น เขารีบให้พยาบาลพาเขาไปที่ห้องนั้นอย่างกระวนกระวาย

" ถึงแล้วค่ะ " พยาบาลพูด

" ตอนนี้แพทย์ให้ ญาติคนไข้เข้าเยี่ยมแล้วค่ะ "  วินใช้มือไล่ไปที่ประตู แต่พบว่ามันเปิดไม่ออก

" ซันเค้าขอคุยกับแม่น่ะ 2 คนน่ะ รอให้เขาคุยกันเสร็จก่อนนะลูก " เสียงผู้ชายวัยกลางคนพูด       พ่อของซัน

มีเสียงประตูเปิดออก แม่ของซันเดินออกมามือปิดปากตาแดงก่ำ แต่เมื่อเห็นวินก็เบือนหน้าไม่ให้เขาเห็น

แม่ของซันเข้าไปซบที่กลางตัวพ่อ พ่อโอบกอดและลูบหัวแม่ของซันที่กำลังร้องไห้สะอื้น

" พ่อจะพาแม่เขาไปหาที่เงียบๆก่อนนะลูก พ่อฝากเราไปดูเจ้าซันหน่อยนะ " พ่อไม่พูดอะไรต่อพาแม่เดินออกไป

วินเข้าไปในห้องที่รู้สึกเงียบ และวังเวง มีเพียงเสียงปั๊มลมของถังออ๊กซิเจน และเสียง ปิ๊ป เป็นจังหวะของเครื่องตรวจชีพจร

" อ่าววิน "  ซันพูดผ่านเครื่องช่วยหายใจเสียงแผ่วเบา ยิ้มรอยยิ้มจางๆ วินใช้ไม้เท้านำทาง จนไปถึงเตียงที่มีลมหายใจรวยรินอยู่

" เป็นยังไงบ้าง "  วินเอ่ย

" โธ สบายๆ เรารู้ว่านายมาก็มีกำลังใจแล้ว  "  ซันยิ้ม

" เราขอโทษนะที่ พูดแบบนั้นกับนาย "  วินพูดตาจ้องมองไปข้างหน้า

" ไม่เป็นไร เราก็ผิดเองที่คิดว่าเรื่องแบบนี้ไม่สำคัญ "

" ... และเราก็ขอบคุณนายนะ   ที่ไปรับไปส่งเราทุกวัน " ซันไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มแล้วพูดว่า

" มันก็คงเป็นสิ่งเดียวที่เราจะทำให้วินได้  ก็ร่างกายเราเป็นแบบนี้นี่นา ทำอะไรหรือปกป้องใครไม่ได้หรอก

แต่ถ้าขอให้ไปส่งคงถูกปฎิเสธ  ก็วินเป็นคนขี้เกรงใจละนะ " ซันพูดและยิ้ม

ไม่มีเสียงใดใดเกิดขึ้นจากปากของเขาทั้งสองคน

" วิน " ซันพูด ด้วยลมหายใจแผ่ว

" ว่าไง "

" ของขวัญวันเกิดเราล่ะ "

" ขะ ขอโทษเราไม่มีอะไรเลย "  ซันยิ้ม มีความสุขที่ได้แหย่วิน

" งั้น เอาเป็นรูปเราได้ไหม "   วินทำหน้างง แต่ก็ตอบไปว่า

" ได้สิ " วินตอบ   เดินหยิบกระดานวาดรูปออกมา วางลงข้างๆเตียง ซันเขยิบมาทางเขาด้วยเรียวแรงที่มี

วินเริ่มสัมผัสใบหน้าของชายหนุ่มแบบครั้งก่อนๆ  ใบหน้าของซันเย็นเฉียบ ราวกับสิ่งที่ไม่มีชีวิต

มีน้ำใสๆไหลออกมาจากนัยส์ตาที่ไม่สามารถมองเห็นได้  ไร้การปาดน้ำตา มือของเขากำลังการวาดรูปอยู่

 และปล่อยให้มันอาบแก้มอยู่อย่างนั้น

" อย่าร้องสิ รู้ไหมเวลานายร้องน่ะ ไม่หล่อเลยนะ "  ซันพูด  พยายามยกมือขึ้น แล้วปาดที่ที่ขอบตาของชายหนุ่ม

" วินรู้ไหม เวลาที่เรามองเห็นนายวาดรูป เรามองแล้วมันมีความสุขมากเลย เราแปลกใจว่าทำไมคนที่มองไม่เห็นถึงวาดรูปได้มี

ความสุขแบบนั้นนะ  ....มันทำให้เราไม่ยอมแพ้และสู้ต่อไป  "

" วาดช้านะเนี่ยวันนี้ " ซันแหย่

" ถ้ารู้แล้ว....  นายก็เลิกยิ้มกว้างๆแบบนั้นซักทีสิ  มันวาดยากนะ "

" เสร็จแล้ว "  วินถอนมือออกจากใบหน้าซัน กำลังจะพลิกกระดานให้นายแบบของเขาบนเตียงดู









ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป ปิ๊ป  !!!

เสียงเครื่องตรวจชีพจร ร้องดังจังหวะถี่

" ซัน   ซัน  ซัน !! "  เสียงชายหนุ่ม  พูดเรียกเพื่อนของเขาแต่ไร้การตอบกลับใดๆ

" ซัน ซัน ...  ซานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  "  วินร้องเสียงหลง พลางแตะมือ ไล่ไปหาซันเพื่อจะเขย่าตัวเรียกเขา

เสียงแพทยวิ่งออกมาจากด้านหลังของวิน เปิดประตูมา

" เชิญญาติออกไปก่อนนะคะ " มีพยาบาลพาวินเดินออกไป ปากของเขาพูดแต่คำว่า " ซัน ซัน ซัน "

วินออกมาหน้าห้อง เสียงของประตูห้องปิด 

" ซันเค้าต้องไม่เป็อะไรนะลูก " แม่ของซันพูดเสียงสะอื้น เมื่อเห็น วินที่ยืนหน้านิ่ง แต่คงมีน้ำตาไหลอาบแก้ม

ซักพักประตูเปิดออกมา  วินหันไปทางทิศของเสียง  มีแพทย์คนนึงเดินมาทางแม่ของซันพร้อมพูดว่า















" เสียใจด้วยนะครับ  คนไข้เสียชีวิตแล้ว "

















แม่ของซันเดินเข้ามาในห้องผ่าตัดฉุกเฉิน หลังจากที่ไปส่งเพื่อนของลูกชายที่บ้านอีกครั้ง

ไร้คำพูดใดใดออกจากปากของเขาที่พึ่งรู้ว่าเพื่อนของเขาตายระหว่างนั่งรถ

" รูปที่วินวาดสวยดีนะซัน " เธอหยิบภาพขึ้นมาดู

" ซันทำแบบนั้นจะดีหรอลูก "  แม่ของซันพูดกับคนที่นอนอยู่บนเตียง

" ครับ ผมตัดสินใจแล้ว "

" แม่ก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าเป็นสิ่งที่ลูกขอแม่เมื่อตอนกลางวัน " ซันไม่พูดอะไร ในใจรู้สึกขอบคุณแม่

" แต่แม่ไม่สนับสนุนเลย  ที่ซันดึงสายเครื่องตรวจชีพจรออกแบบนั้น  แม่สงสารเจ้าวินจริงๆ " แม่ของเขามีสีหน้าที่สลดใจ

" ช่วยไม่ได้นี่ครับ มันต้องทำตอนที่ผมมีชีวิตอยู่นี่ และคงบอกเค้าไม่ได้ " ซันยิ้ม และจากไปในเวลาต่อมาในอ้อมกอดของแม่










งานศพของซันถูกจัดที่เชียงราย มีแขกไม่ค่อยหนาตาเท่าไหร่

รูปงานศพ เป็นรูปสุดท้ายของเขาที่วาดโดยวิน วินนั่งนิ่งบนเก้าอี้ที่งานศพโดยไม่ปริปากพูดคำใดๆที่งานตลอด 7 วัน










" วิน ลูกไปหยิบจดหมายหน้าบ้านมาให้หน่อยสิ แม่ทำกับข้าวอยู่ "  วินไม่ตอบอะไรเดินไปหยิบจดหมาย

เขาเป็นแบบนี้ตลอดหนึ่งเดือน  วันนี้เป็นวันที่ซันจากไป


" อ่าว ของวิน      ...นี่ของลูก  "  วินตกใจ ใครกันที่ส่งมาให้เขา

" ..โรงบาลประชาชิต "  แม่ของเขาอ่านเบาๆและแกะอ่าน เสียงสะอื้นเบาๆด้วยความปิติ

" วิน ... โรงพยาบาลเรียกเรา ...... . ให้ไปผ่าตัดตานะลูก  " แม่ของวินพูดใช้มือปิดปาก แม่เขายังคงอ่านต่อไป

" ทางโรงพยาบาล ขอเชิญ คุณ วิณนุกูล เมศธรรมรงศ์ เข้ารับการทดสอบในการผ่าตัดเปลี่ยนในตา... " แม่ของเขาอ่านให้วินฟัง

จนไปถึงบรรทัดสุดท้าย










"  มอบโดย นายอัสพฤกษ์  รุขฎามาศ  ขอมอบ นัยส์ตาทั้งสองข้างให้แก่  นาย วิณนุกูล เมศธรรมรงศ์ "  แม่ของวินหยุดพูด

วินสายตาเหม่อนิ่ง

แต่มีน้ำตาไหลที่อาบแก้ม

" ... มีกระดาษในนี้อีกแผ่นนึงลูก "   แม่ของวินหยิบมันขึ้นมามีข้อความสั้นๆ ที่เขียนด้วยลายมือหยาบๆว่า









                                                           




                                                         Happy birthday  นะวิน จาก นายแบบ














ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส บนเนินหญ้าสีเขียวในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในเชียงราย

วินยังคงวาดรูปอยู่ เขาจ้องมองลงไปที่ภาพและยิ้มอย่างมีความสุข

มีเด็กผู้หญิงเดินมามองดูภาพ

" พี่ พี่ ... พี่วาดใครหรอคะ  "

วินเงยหน้ามองเด็กผู้หญิงยิ้ม ด้วยนัยส์ตาที่สดใส และตอบว่า












                                                               


                                                               "  แฟนพี่เองครับ  "
 






                                         1234567890-=qwertyuiop[]asdfghjkl;'zxcvbnm,./
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 02-10-2011 14:45:06
 :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ผู้ถูกวาด
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-10-2011 14:50:00
เรื่องนี้เล่นเอาน้ำตาซึม :sad4:

ว่าแต่ว่า
....







ขยันต่อเรื่องสั้นจริงนะ
ไปต่อเรื่องหลักได้แล้ววว :angry2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 02-10-2011 15:19:17
ซึ้งมากเลยค่ะ    :m15: :monkeysad: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: thisispom ที่ 02-10-2011 15:50:04
T_T
+1 ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 02-10-2011 15:54:41
อ่านรวบทีเดียวสองเรื่องเลยค่ะ

เรื่อง เจอแล้ว เราอ่านแล้วตื่นเต้นมาก ลุ้นสุดๆ แฟนโทรมาขัดจังหวะยังแอบโมโห เพราะกำลังตื่นเต้น

แล้วก็จบได้สยองมาก  o13 o13

ส่วนเรื่องนายแบบ ตอนที่วินวาดรูป เราก็อบอุ่นน่ะค่ะ ยิ่งรู้ว่าซันตามไปส่งวินทุกวันก็ซึ้งมาก...

พอซันตายแล้ว... เราไม่แค่น้ำตาซึมนะคะ เรานั่งน้ำตาร่วงเลยค่ะ ร้องไห้เลย เศร้ามากจริงๆ

เสียใจที่วินไม่ได้เห็นหน้าซันสักครั้ง แต่เชื่อว่า ซันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของวินตลอดไป 

ขอเซพเก็บไว้อ่านซ้ำเลยแล้วกัน ประทับใจมากจริงๆ ....


 กดเป็ดกดบวกนะคะ ชอบคุณมากสำหรับเรือ่งดีๆ รออ่านเรื่องต่อไป ว่างๆ จะลองแวะไปดูเรื่องหลัก ว่าแต่งดีขนาดนี้เปล่า อิอิ

 :กอด1: :L2: o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: lidelia ที่ 02-10-2011 16:49:03
สะเทือนอารมณ์  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 02-10-2011 17:24:31
แอบเห็นด้วยกะคุณ yeyong
 รอน้องหยก อยู่นะฮับ

เศร้าอ่ะT^T
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* ผู้ถูกวาด
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-10-2011 17:35:52
เศร้าๆแบบมีความสุข
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 02-10-2011 18:00:48
จะร้องไห้แล้วด้วย T_T

ทำเค้าน้ำตาซึมแบบนี้ต้องรับผิดชอบแต่งเรื่องต่อไปแบบแฮบปี้มาด้วยยยยยยยยย ฮือ~

นึกถึงเรื่องหัวใจนี้มอบให้เธอ (หรืออะไรประมาณนี้) ของบ้านวรรณกรรมที่เคยอ่านเลยค่ะ

/หลบมุมไปแต่งนิยายตัวเองแบบเศร้าเงียบ ๆ ต่อ/

ปล.ส่วนเรื่อง NC ต่ายคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องจั่วที่หัวเรื่องเสมอไปหรอกค่ะ แล้วแต่คนแต่งเถอะ
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 02-10-2011 18:09:08
กริ๊ด เรื่องมันเศร้า!  :o12:
ชอบอ่านแนวนี้ แต่แอบไม่เข้าใจในบางส่วน ไม่มีการอธิบายขยายความ
แต่ถ้าพยายามเข้าใจก็จะเข้าใจเอง (คือผูกเรื่องได้เอง กร๊ากๆ)
ชีวิตประเทศไทย(ไม่เกี่ยว) 5555
หัวข้อ: Re: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 02-10-2011 18:17:01
ซึ้งเศร้ากินในมากมายเสียสละตัวเองสุดๆๆขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 02-10-2011 19:08:37
ก่อนอื่นต้องกล่าวขอโทษในเรื่องตัวอักษร และเนื้อหาที่พิมผิดและอ่านแล้วงงนะครับ

คือเพราะค่อนข้างรีบเลยไม่ทันได้ตรวจอักษรอย่างละเอียด ตอนนี้ผมได้กลับไปแก้บางส่วนที่ผมกลับมาอ่านแล้วต้องร้อง แว้กก เขียนลงไปได้ยังไง รบกวนพี่ที่จะเซฟของผมไปมาเอาไปใหม่ด้วยนะครับ  ขอตัวไปปั่นโปรเจคก่อนนะครับ  ขอบคุณทุกสายตาที่อ่าน และกำลังใจจากคอมเม้นท์ครับ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]* นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-10-2011 20:52:52
ซึ้งเกินไปแล้วอ่ะ :monkeysad:

เป็นรักที่อบอุ่นจัง

+1
หัวข้อ: Re: [รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*lll นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 02-10-2011 21:42:24
 :sad4:สุดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*เรื่องที่ 3 lll นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 03-10-2011 01:12:52
เรื่องแรกฮาโครตๆๆ เรื่องที่สอง มันน่ากลัว  เรื่องสามอบอุ่นที่สุด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: [รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*เรื่องที่ 3 lll นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 03-10-2011 01:51:24
น้ำตาไหลแล้ว
เรื่องสุดท้ายอ่ะ
เศร้า ซึ้ง มากมาย

เรื่องแรกผิดคาดสุดๆๆ
เรื่องที่สองก้อเดาออก สยองมากก
หัวข้อ: Re: [รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ ]*เรื่องที่ 3 lll นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: shockoBB ที่ 03-10-2011 12:06:23
 :monkeysad: ซึ้งมากเลย
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 18-11-2011 21:18:39
สามเรื่อง สามสไตล์ แต่ละเรื่องสื่อออกมาได้ความรู้สึกมากครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีนะครับ
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: BBnuna ที่ 18-11-2011 22:17:26
อ่านเรื่องนายแบบแล้วแบบ น้ำตาไหล
ซึ้งมาก
รู้สึกว่าสัมผัสได้ถึงความรักอ่ะ
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-11-2011 22:57:31
เศร้าไปไหนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-11-2011 18:48:23
3 เรื่อง 3รส

เรื่องแรก  งงหน่อยๆ  แต่อ่านคำอธิบายเสร็จก็อ่อทันที  เป็นเรื่องที่แปลกดี

เรื่องสอง  โรคจิตมากกกกกกกกกกกกกกก  อึ๊ยยย  น่ากลัว

เรื่องที่สาม  เศร้าอ่ะ  ไม่ชอบแนวเศร้าๆเลย  ขนาเดาตอนจบไว้แล้วนะ


หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: MM ที่ 21-11-2011 00:34:23
มันส์ สนุก  แล้วตามมาด้วย น่ากลัว โรคจิต จากนั้นก็ ซึ้ง กินใจ ... อ่านที 3 เรื่องเลย เล่นเอาแทบปรับอารมย์ไม่ทัน

เดี๋ยวจะเข้ามาส่องบ่อยๆนะ เมื่อไหร่จะมีเรื่องต่อไปมาให้อ่านอีก ลุ้นๆๆๆ จะออกมาอารมย์ไหนหว่า
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: mutyamania ที่ 21-11-2011 11:39:57
เหมือนกำลังดูหนังสั้นเลยค่ะ.....เรื่องแรกตลกร้าย เรื่องที่สองหลอน เรื่องสุดท้ายทำเอาน้ำตาซึม.....สุดยอด! !!!!!
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: praseat ที่ 21-11-2011 19:24:12
 :impress3:คงไม่มีคำใดๆให้....นอกจากคำว่าขอบคุณครับ :impress3:
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 21-11-2011 19:34:28
ขอบคุณจ้า
อ่านจนจบแล้ว
มันพลิกได้เสมอเลย
น้ำตาคลอตลอด T-T
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: fayala ที่ 21-11-2011 20:17:12
โอยย.. สามเรื่อง สามอารมณ์

เรื่องแรก งงไปแป๊บนึง ถึงเข้าใจ
เรื่องสอง อึ้ง!!
เรื่องสุดท้าย นั่งร้องไห้เป็นเผาเต่า

พออ่านจบหมดแล้วก็ยังรู้สึกสับสนในตัวเองไปอีกพักใหญ่ๆ เลยนะเนี่ย >.<
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-11-2011 21:55:37
เรื่องสุดท้ายเศร้าจริง T^T
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-11-2011 20:00:03
คนแต่งแจ้งว่าจะทำการต่อเรื่องสั้นในกระทู้เดิม จึงได้ทำการย้ายออกมาไว้ที่หน้าบอร์ดตามเดิมค่ะ

ทิพย์ โมฯบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 3 นายแบบ
เริ่มหัวข้อโดย: NONSENSE ที่ 23-11-2011 12:19:44
อ่านเรื่องสุดท้ายแล้วน้ำตาร่วงเลย
ซึ้งมากๆ เลยย
หัวข้อ: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 4 ฟ้าดับดาว I. พระจันทร์ขี้เหงา
เริ่มหัวข้อโดย: ร ช กาย ที่ 23-06-2012 08:16:20
                                                             









                                                                หลุดที่ 4  ฟ้าดับดาว
                                                               
                                                                I. พระจันทร์ขี้เหงา













ค่ำคืนที่ท้องฟ้ามืดดำสนิท

แต่ยิ่งมืดเท่าไหร่ดวงดาวนับแสนนับหมื่นก็ยิ่งเปล่งประกายสะท้อนลงผืนทะเลสาปดั่งกระจกเงา

ริมทะเลสาปอันเงียบสงบ ที่ที่จะเห็นดวงจันทร์กลมโตกว่าที่ใด

มีแต่เพียงเสียงจิ้งหรีด จั๊กจั่น มีแสงไฟจากกองฟืนเล็กๆ ข้างเต็นท์นอน รวมทั้งอุปกรณ์แคมปิ้ง และกล้องดูดาว



" พ่อฮะ นั่นดาวลูกไก่ใช่มั๊ยฮะ " เด็กน้อยผละตาจากกล้องดูดาวยิ้มร่า มองไปยังพ่อของตนพลางชี้ไปบนดาวกลุ่มหนึ่งบนท้องฟ้า

ผู้เป็นพ่อละจากกล้องดูดาวของตัวเอง มองไปยังตำแหน่งชี้นิ้วของลูกชาย

" ใช่แล้วครับเซียร์ เก่งมากลูก " เด็กชายยิ้มเขินๆน่ารักตามประสาเด็ก 6 ขวบด้วยคำชมของพ่อ

พลางหยิบสมุดโน้ตที่ห้อยคล้องคอไว้ที่กระเป๋า ขึ้นมาด้วยดิยสอแกร่ก ๆ

" หวัดดี เจ้ากระต่าย " เด็กชายเอ่ยยิ้มทักทายเพื่อนของเขาบนท้องฟ้านัยน์ตาใสแป๋ว

ดวงจันทร์เต็มดวงนั่นเอง

" อ้าว เจ้ากระต่าย มาหาเซียร์หรอ " พ่อมองหน้าเเหงนขึ้นไปทักทายเพื่อนของลูกชายที่เดือนนึงจะเจอกันแค่ 2 ครั้ง

" พ่อ คิดว่าเจ้ากระต่ายมันจะเหงามั๊ยฮะ " เด็กชายพูดแต่ตายังคงจ้องเจ้ากระต่ายบนฟ้า จนทำให้พ่อของเขาอดอมยิ้มไม่ได้

" ไม่หรอกลูก เค้าก็มี เจ้าดาวลูกไก่ เจ้าดาวไถคุยด้วยและดาวอีก แสนๆ ล้านๆ และคุณแม่ เป็นเพื่อนไงครับ "

ผู้เป็นพ่อกล่าว พลางมองและยิ้มกับหมู่ดาว

" พ่อบ้าไปแล้ว ดาวมันคุยกันได้ที่ไหนกัน " เด็กชายพูดพลางก้มมองกล้องดูดาว ผู้เป็นพ่อถูกลูกทำลายความฝันเมื่อครั้งเด็ก

" ทำไมเซียร์ถึงอยากเป็นเพื่อนกับเจ้ากระต่ายล่ะครับ " พ่อถามลูกชาย

" เจ้ากระต่าย มันดูเหงาๆฮะ "

" เค้าจะได้มีเพื่อน และเซียร์ก็ได้มีเพื่อนเหมือนกันเซียร์กับเจ้ากระต่ายจะได้ไม่เหงา "  เด็กชายตอบ

คำพูดของเด็ก 6 ขวบจริงใจ และเปรียบดั่งมีดบริสุทธิ์ที่กรีดเข้าไปในใจของผู้เป็นพ่อ

" พ่อฮะ "

" ที่พ่อพูดจริงหรือเปล่า ? " เด็กชายหันมาทางพ่อทำหน้าจริงจัง

" เรื่องอะไรหรอครับ ? " พ่อของเขาพูด

" ดวงดาวสามารถคุยกันได้ฮะ เซียร์อยากเป็นดวงดาวจัง "

" เซียร์อยากคุยกับเจ้ากระต่าย " เด็กชายเอ่ยด้วย

พ่อของเขาผละจากกล้องดูดาว เดินตรงมาหน้าเขาเเละย่อคุกเข่าจับไหล่ทั้งสองข้างของเขา ตามองที่หน้าเด็กชาย

" เจ้ากระต่ายอยู่ไกลแสนไกลนับหลายปีแสง " ผู้เป็นพ่อหันไปมองทางท้องฟ้า เด็กชายมองตาม

" แต่ซักวันลูกจะได้คุยกับเค้าแน่นอน พ่อสัญญา " ผู้เป็นพ่อกลับหันมายิ้มพลางลูบหัวเด็กชาย

" ว้าวววว !! จริงหรอฮะ !! " เด็กชายตาลุกวาว

" ไม่ได้แค่คุยนะ ได้เจอด้วย !! " พ่อของเขาพูดต่อ

เซียร์กะโดดวิ่งรอบกองไฟ ปากก็ตะโกนว่า จะได้คุยกับเจ้ากระต่ายแล้ว จะไปวิ่งกับเจ้ากระต่าย เย่ เย่

" เซียร์รักพ่อจังฮะ พ่อไม่หลอกเซียร์นะฮะ เซียร์จะรอฮะ " เด็กชายกระโดดกอดผู้เป็นพ่อ

คงเป็นวิธีที่จะให้เด็กคนนี้ไม่เหงา

เค้าได้มีเพื่อน เพื่อนที่อาจที่จริงแล้วก็คือหลุมร่องบนดวงจันทร์










" ,,, พ่อฮะ ,,,, เซียร์ง่วง "

" ลุก  เซียร์ครับต้องตื่นเเล้วนะ "








" เราจะไปไหนฮะ พ่อ "









" ทำไมพ่อไม่ให้เซียร์วิ่งเองฮะ อุ้มเซียร์ทำไม "

" พ่อรีบไปไหนฮะ "








" พ่อ ! นั่นออโรร่า !!  ทำไมมันมีทีนี่ฮะ ! มันอยู่ขั้วโลกเหนือไม่ใช่หรอ "










" พ่อฮะ เซียร์ร้อนจัง "

" อดทนหน่อยนะครับ เซียร์ "

" พ่อ ฮะ,,, เราเข้าป่ามาทำไม เซียร์อยากไปนอนบนเตียง "








เกิดแสงสว่างวาบจ้าไปทั่ว ทุกประสาทตารับได้เพียงภาพสีขาว

เกิดเสียงระเบิดสนั่นลั่นกร้าวไปทั่วจากด้านหลังของสองพ่อลูก พื้นดินสั่นสะเทือนลามขึ้นถึงต้นไม้ นกน้อยนกใหญ่ต่างบินร้องออกจากรัง

เด็ก 6 ขวบสะดุ้งตกใจจนกรีดร้องซุกหน้าร้องไห้ตัวสั่นไปที่หน้าอกของพ่อที่อุ้มเขาอยู่

" แค่เสียงฟ้าร้องนะครับเซียร์ เราเป็นนักดาราศาสตร์กลัวอะไรแค่ฟ้าร้องบนเมฆก้อนนิดเดียว "

ซักพักเด็กชายก็หายสะอื้นและมองกลับไปด้านหลัง พร้อมตะโกนกรีดร้องขึ้นมา

" พ่อ  พ่อ !! กลับบ้าน!!!  ,, ไปดับไฟเร็ว ! "

" ,,, ฮึก ฮึก บ้านไฟไหม้ ,, บ้านเซียร์ไฟไหม้หมดเเล้ว กล้อง,, กล้องดูดาวเซียร์ "









" พั่บ พั่บ พั่บ พั่บ "  เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสีดำที่จอดอยู่กว่า 20 ลำ ดังไปทั่วบริเวณ

ทหารชุดดำติดอาวุธเดินออกมากจากเฮลิคอปเตอร์ พร้อมถอดหมวกกันกระสุนออก

" เหมือนจะมาทันพอดีนะครับ หัวหน้า "











เสียงเด็กชายกรีดร้องเรียกหาเเต่พ่อของเขาภายในเฮลิคอปเตอร์ ดิ้นรนปลดตัวเองสุดแรงจากการโอบล๊อคของทหาร

" เจน พี่ฝากลูกพี่ด้วยนะ "

" ,,, จะไม่ใจร้ายกับเค้า ,,, ไปหน่อยหรอครับ "  นายทหารเจนพูดพลางมองกลับไปภายในเฮลิคอปเตอร์มองเด็กชายด้วยความเวทนา

" ผม,, ฮึก ,, สงสารแกครับ ,, แกยังเด็ก ,, ฮึก " นายทหารเริ่มสะอื้น

"  บอกแล้วไงอย่าดูหนังเกาหลีมาก พ่อคนเซ๊นซิทีฟ พี่ไปดูลูกพี่หน่อยนะ "  พ่อของเซียร์พูดพลางตบไหล่พลทหาร

เหมือนคำพูดของพ่อเซียร์จะไปกระตุ้นต่อมน้ำตานายทหารให้แตกทะลักมามากมายกว่าเก่า

ตอนนี้มีเสียงร้องไห้สะอื้นของพลทหารหัวใจเปราะบาง กับเด็ก 6 ขวบที่ร้องหาพ่อ

พ่อของเซียร์เดินเข้าไปด้านใน

" ปล่อยเขาก่อน ยังพอมีเวลา "  พ่อของเซียร์กล่าว  วินาทีที่ร่างกายเป็นอิสระ เซียร์วิ่งโผกระโดดกอดพ่อของเขา








" พ่ออย่าทิ้งเซียร์ ,,, พ่อจะทิ้งเซียร์ไปเหมือนแม่  "



" เซียร์รักพ่อ  ,, รักพ่อมากฮะ " เด็กชายพูดเสียงสั่น หน้าอุดอู้อยู่กับตัวของพ่อ  พ่อของเขาก้มลงไปคุกเข่ามองหน้าลูกชาย








" พ่อรักเซียร์นะครับ รักมากกว่าจำนวนดาวทุกกาแล็คซีรวมกัน "

" ถ้าพ่อไม่อยู่ เซียร์ต้องอยู่กับพี่เจนรู้ไหม พี่เจนจะรักเซียร์เหมือนพ่อ  ต้องเป็นเด็กดีเหมือนตอนที่อยู่กับพ่อนะครับ "

พ่อของเขาชี้ไปยังพลทหารหนุ่มที่ตอนนี้น้ำตาเปรอะเปื้อนใบหน้าฟูมฟายอยู่หน้าประตูเฮลิคอปเตอร์

พ่อดึงลูกชายเข้ามาสวมกอด

กอดครั้งนี้แน่นกว่าครั้งใดๆตั้งแต่เด็กคนนี้เกิดมา

" พ่อรักเซียร์นะครับ "














" พ่ออออออออออออออออออออออออออออออออออ "  เสียงเด็กชายกรีดร้องคำรามกร้าว บนเฮลิคอปเตอร์ที่กำลังขึ้นฟ้า

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นจากข้างล่าง แสงสว่างวาบเป็นระยะ เสียงปืน เสียงทหาร เฮลิคอปเตอร์สั่นไหวเล็กน้อย

เด็กชายยังคงตะโกนเรียกพ่อ ผู้ชายที่เขารู้จักและรักมากที่สุดในชีวิต

จนหลับไปโดยที่ไม่รู้ว่า















                                                         พ่อจะไม่กลับมาอีกเลย












" ขอบคุณมากฮะพี่เจน "  เซียร์สำรวจกล้องดูดาวรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้มาจากของขวัญวันเกิดครบ 10 ปีของเขา

" พี่ขอโทษนะ พี่มีตังค์ซื้อให้อันแค่นี้เอง "  เจนพูดในชุดลำลองและผ้ากันเปื้อน ยิ้มเจื่อนๆ

" โห,,,  แค่นี้เซียร์ก็มีความสุขมากแล้วฮะ " เซียร์ทำตาลุกวาวกับของขวัญ

" งั้นเดี๋ยว  พี่ไปล้างจานก่อนนะ " เจนพูดพร้อมเดินไปทางห้องครัว

เซียร์ยกกล้องดูดาวอันใหม่ พร้อมกับจานที่มีเค้กชิ้นวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองห้องนอนตัวเอง เปิดประตูออกไปด้านนอกระเบียงบ้านหลังใหม่

ฟ้ามืดสงบ ราวร้อมไปด้วยดาวเล็กดาวน้อย และจันทร์เต็มดวงเหลืองสุกสกาว

" เจ้ากระต่ายเซียร์มาแล้ว วันนี้วันเกิดเซียร์  เอาเค้กมาด้วย น่ากินใช่มั๊ยพี่เจนทำให้เซียร์เลยนะ "

เซียร์พูดจบก็เอานิ้มจิ้มหน้าเค้กขึ้นมาดูดอวดเจ้ากระต่าย เเละเอานิ้วเช็ดเสื้อกลัวจะเปรอะกล้องดูดาวอันใหม่

" พี่เจนก็เหมือนพี่ชายเซียร์เลยนะ แต่เจ้ากระต่ายไม่ต้องน้อยใจเดี๋ยวจะขอให้พี่เจนเป็นพี่ชายเจ้ากระต่ายนะ "

" ไหนๆ เจ้ากระต่าย   สบายดีมั๊ย "  เซียร์พูดพลางส่องกล้อง หมุนปรับโฟกัส แล้วก็ต้องผละหน้าออกมา มองซ้ายมองขวาหาสิ่งผิดปกติ

เขาทำแบบนี้อยู่ 4 - 5  รอบจนลองส่องไปที่ดาวดวงอื่นแล้วส่องกลับมาที่ดวงจันทร์ก็ตาม

" ไม่มี,,,  "

" ไม่มี เจ้ากระต่าย "

" เจ้ากระต่ายออกมานะ อย่าแอบเซียร์นะ "

" ,, เจ้ากระต่าย ,, ฮึก ,, ฮึก ออกมานะ ,, อย่าแกล้งเซียร์แบบนี้,, ฮึก,,ฮือ "

" เซียร์เป็นอะไร ! " เจนหน้าตาลุกลี้ลุกล้นถามเด็กชายหลังจากที่รีบวิ่งขึ้นมา










" กระต่าย ,, เจ้ากระต่ายบนดวงจันทร์ ,, ฮึก ,, หายไปแล้ว "











 รุ่งเช้าทาง NASA ได้ทำการแถลงข่าวด่วนไปทั่วโลกให้มนุษยชาติและสะเทือนวงการของนักดูดาวมืออาชีพและสมัครเล่น

" จากเมื่อคืนเวลา 17.48 น. ยานสำรวจ Lunar x-11 ค้นพบว่า ร่องรอยหลุมบนดวงจันทร์นั้น  ปัจจุบันได้หายไปหมดโดยไม่ทราบสาเหตุ   

ยืนยันภาพจากดาวเทียม AlustarII และ ภาพจากสถาณีอวกาศสหรัฐบนดวงจันทร์โดย ยานสำรวจ Lunar x-11 "













" นี่ตั๋วมึงไอ้เซียะ กูไปขอซื้อต่อมาหายากชิบหาย วันเสาร์นี้เจอกันนะสาด "

" เออไอเซียะ เจอกันพรุ่งนี้เว้ย มาไวไวนะมึงจะลอกญี่ปุ่น "

" เออ ไอห่ากูจะคิดข้อละยี่สิบ "  เซียะ หรือ เซียร์ที่เป็นชื่อเรียกของเพื่อนๆวัยมัธยม

เด็กหนุ่มวัย 18 ปีในชุดนักเรียนกางเกงขาสั้นน้ำเงิน ร่ำลาแก๊งค์เพื่อนก่อนจะเลื่อนประตูรั้วบ้าน

เสียงมือถือดังขึ้น

" ว่าไงแพร "

" พี่ไม่ว่างเลยอ่ะ เล่นบอลอยู่เดี๋ยวโทรกลับนะ "  ก่อนที่อีกฝ่ายจะได้ตอบอะไร ก็ไม่ทันการตัดสายวางของเซียะแล้ว

เซียะไม่แคร์ความรู้สึกของผู้หญิงที่เค้าคบด้วยนานๆ  เบื่อก็พอ อยากได้ก็จีบใหม่ เป็นผู้ชายที่ ' เลือกได้ ' มากคนหนึ่ง

ด้วยส่วนสูง 185 และหุ่นที่ถูกขัดเกลาด้วยตำแหน่งนักบอลตัวจริงของโรงเรียน

คิ้วตั้งเข้ม ตากลมโต  จมูกโด่ง ผิวขาวนวลและรอยยิ้มพิมพ์ใจที่มี่มาตั้งแต่เด็ก ถึงปัจจุบันจะมีไว้ใช้ผิดทางที่ได้มาจากพ่อของเขา




" กลับมาเลทไป 15 นาทีนะ "  เซียะผงะกับคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ' พี่เจน ' เซียะไม่พูดอะไร ไม่หลบหน้า เดินเฉียดเจนเข้าบ้านไป

เจนตวัดคว้าแขนเซียะเอามาล๊อคไพล่ไว้ด้านหลัง เสียงเซียะร้องเบาๆว่า ' โอ๊ย' กระเป๋าจาค็อบสีดำร่วงตุ้บ

" ไปไหนมา พี่บอกกี่ที่เเล้วไง ว่าห้ามกลับเกินหนึ่งทุ่มมันอั "  พี่ไม่ใช่พ่อเซียะ !  อย่ามาทำเกินหน้าที่หน่อยเลย ! "

เซียะตะโกนสวนใส่เจน แล้วสะบัดเเขนออก ลูบแขนที่เป็นรอยบีบแดงพร้อมองหน้าเขาอย่างขุ่นเคือง ก้มหยิบกระเป๋า ก่อนที่จะหันหลังเข้าบ้านไป

ปล่อยให้ชายที่รอเขากลับบ้านยืนอยู่ที่เดิมอยู่อย่างนั้น







" เสร็จซะที " เซียะพูดพลางหักนิ้ว กร็อบแกร็บเอนบิดขี้เกียจไปกับเก้าอี้หลังจากที่ทำการบ้านข้อสุดท้ายเสร็จ

เขากำลังจะเอนหลับ พลางมองไปออกหน้าต่าง วันนี้คงเป็นวันเเรมเพราะดวงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวงบนท้องฟ้า

เซียะมองไปที่ดวงจันทร์ แล้วหันไปมองกล่องบนตู้

กล่องกล้องดูดาวที่ถูกเก็บใส่กล่องมานานกว่า 8 ปี

ซึ่งคงเป็นผลเล็กน้อยที่ทำให้เขามาเรียน ศิลป์-ภาษา ไม่ใช่ วิทย์-คณิต

" ก๊อก ก๊อก ก๊อก "  เสียงเคาะประตูจากด้านนอก เซียะไม่ดูก็รู้ว่าใคร ทั้งบ้านอยู่กันสองคน

" กินข้าวมาหรือยังเซียะ "  เจนถูกตอบโดยความเงียบ

" เจ็บไหมแขน  ,, พี่ขอโทษนะ " เจนทิ้งคำพูดสุดท้ายหน้าห้อง








" พี่เจน เห็นเสื้อนักเรียนเซียะไหม "

" อ่อ พี่เอาไปปั่นให้เราเเล้ว "






" พี่  ,,,,  พี่ขอโทษ ,,นะเซียะ "

" ทำไมต้องมายุ่งกับของคนอื่นด้วย แล้วเนี่ยตั๋วมันเปื่อยเละไปเเล้วจะทำไง ! "






" เซียะว่าพี่ไม่ทำอะไรเลยงั้นสิ วันๆพี่ก็ต้องมาดูแลเซียะ 18 แล้วนะโตได้แล้ว "

" พี่ไม่ต้องมาพูดเลย เซียะเคยบอกว่าต่างคนต่างอยู่ไง !! "




" ชื่อที่พ่อตั้งให้ว่าเซียร์ ยังมาเปลี่ยนเป็นเซียะ !  เพื่อนมันสำคัญกว่าพ่อตัวเองหรือไง !!! "







" เออ ขอบใจมึงว่ะ ,,, ไม่เป็นไรกูก็เกรงใจบ้านมึงมาส่งกูก็ดีเเล้ว ,, เออกูอยู่ได้ ถ้าเจอหมีเดี๋ยวกูเเกล้งตายเลย "

เซียะคุยโทรศัพท์กับเพื่อนหลังจากที่มาส่งที่ริมทะเลสาปหลังโรงเรียน

เซียะเอามืออังกองไฟและกระชับเสื้อกันหนาวให้ตัวอุ่น

ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทะเลาะกับเจนรุนแรง เซียะไม่ชอบให้ใครพูดถึงพ่อ 

สิ่งที่เซียะคว้ามาได้จากบ้านก็มีเพียงอุปกรณ์เต็นท์ที่ได้มาจากงานวันเกิดครบ 9 ขวบ และเสื้อผ้ากันหนาว

เซียะฉีกถุงขนมที่นั่งไปซื้อที่เซเว่นกับเพื่อนก่อนมาที่นี่

อาจจะเป็นเหตุผลเล็กน้อยที่เซียะปฎิเสธการนอนบ้านเพื่อนด้วยคำว่า เกรงใจ

แต่เหตุผลหลักที่เซียะรู้อยู่เต็มอกในการมาที่นี่

ที่นี่คือที่เขากับพ่อจะมาตั้้งเต๊นท์ดูดาว

ที่นี่คือที่เขาจะเห็นดวงจันทร์กลมโตกว่าที่ใด








" เซียะคิดถึงพ่อนะ " เซียะพูดพลางมองดาวบนท้องฟ้า เห็นและจำกลุ่มดาวนี้ได้ดี

" ไอ้กลุ่มดาวลูกไก่  กี่ปีๆก็ยังเป็นลูกไก่ ถ้าเป็นลูกไก่บนโลกนี่มันเวียน ว่าย ตาย เกิด เป็นนักเก็ตให้กูกิน 10 รอบเเล้ว "

และไม่พ้นดวงจันทร์ที่ตั้งตระหง่านเฉิดฉายที่สุดบนท้องฟ้าคืนนี้

" ,,,,, ,, ไอ้กระต่ายบ้า " เซี๊ยะเม้มปากขมวดคิ้วเข้มๆทำหน้าโกรธ แต่ก็หลุดหัวเราะถึงความไร้เดียงสาของตัวเองเมื่อยังเด็ก

" เหงาเหมือนกันนะ นึกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนกัน ดันมาทิ้งกันแบบพ่อซะนี้ไอ้กระต่าย " เซียะมองพระจันทร์แล้วยิ้ม

ใบหน้าอ่อนโยนสมัยเด็กที่หายไปนานกลับมาอีกครั้ง

" รู้ไหมทุกว่านี้ เซียะเหงา แต่หาใครมา มันก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย "

 เซียะพูดกับพระจันทร์ด้วยขนมปังที่เต็มปากเพราะความหิวของมื้อเย็น

" โหย  หยิ่งนะคุยด้วยตั้งนานไม่ยอมพูดอะไรบ้างเลย  ยุงก็กัดเนี่ยไม่สงสารเซียะบ้างไง ? "  เซียะเคี้ยวขนมปัง พลางปัดยุง

" เออ ลืมไปไอ้กระต่ายมันไม่อยู่เเล้วนี่หว่า อุส่าต์รอจะคุยมาตั้งหลายปี รู้ไหมเซียะเชื่อพ่อจริงๆนะว่าจะคุยด้วยกันได้"



" ก็อยากจะถามว่า เหงาเหมือนกันไหม  " เซียะมองจ้องดวงจันทร์ และก็รู้ตั้งเเต่แรกเเล้วว่าจะไม่มีใครตอบกลับมา

แต่อย่างน้อยก็ให้เขาได้ระบาย ได้หายคิดถึงพ่อบ้าง

วันนี้ลมแรงฝนคงตก แต่กลับไม่มีเมฆฝน เพราะฟ้าเปิดเห็นดาวชัด

เซียะเตรียมดับไฟจะเข้านอน

จู่ๆก็มีลมพัดกรรโชกเข้ามาทางหน้าเต๊นท์จนไฟมอด เซียะเเปลกใจหันขึ้นไปมองดาวเหนือ

' ทำไมตอนกลางคืนลมพัดมาทิศนี้ '  ถุงพลาสติกห่อขนมปังถูกลมพัดปลิวลอย เซียะพยายามเก็บคว้าเอาไว้

แต่ไม่ทันถุงปลิวลงไปในทะเลสาป  เซียะก้มลงพยายามเอามือคว้าถุง แต่ถุงค่อยๆลอยออก ลอยออกไปทางทะเลสาป

ลอยออกไปทั้งๆที่ไม่มีลมอะไร

เซียะตกใจรีบดันตัวลุกขึ้นมา

ถุงลอยไปอยู่กลางทะเลสาปใช้เวลาเพียงไม่นาน

น้ำในทะเลสาปเคลื่อนเป็นริ้วระรอก เกิดเสียงครืนนน,,  ตลิ่งที่เซียะยืนตอนนี้ ไม่มีน้ำเหลืออยู่เห็นเเต่ดินโคลน

น้ำในทะเลสาปค่อยๆเเห้งหายไป เปิดให้เห็นดินโคลน และปลาที่ตามน้ำไม่ทันดิ้นอยู่ประปราย

เซี๊ยะรีบวิ่งเข้าไปในเต๊นท์หยิบของที่มีค่าออกมา เค้าอาจจะกำลังเจอกับสึนามิหรือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่ไดีแน่ๆ

' น้ำขึ้น น้ำลง แบบนี้ทั้งทะเลสาปน่ะเหรอ บ้าไปเเล้ว  แรงดึงดูดขนาดนี้ต้องยกพระจันทร์ลงมาทั้งดวงแล้วละ "

มีแสงวาบข้างนอกเต๊นท์

มันเหมือนแสงเมื่อ 12 ปีก่อน คืนที่พ่อเขาหายไป

จู่ๆเขาก็รู้สึกปวดหัวที่ขมับ พุ่งพล่านหายใจไม่ค่อยออก
 
เซี๊ยะรีบผละออกมาข้างนอกเต๊นท์

มีบางสิ่งส่องแสงนิ่งอยู่กลางทะเลสาป   แต่เหมือนมันเห็นเขา

มันลอยพุ่งเข้ามาหาเขาด้วยความไวสูง เซี๊ยะพยายามหยีตามอง ยิ่งใกล้ยิ่งชัด

นั่นมันคน  แต่คนที่ไหนเรืองแสงตัวเองได้ แสงยิ่งใกล้ก็ยิ่งสาดใส่ตาเซียะจนต้องเบี่ยงหน้าหลบ

เซียะเอามือป้องคิดว่าหลบไม่พ้นแน่ๆ






ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เซียะค่อยๆเอามือลงและค่อยๆลืมตา










ชายหนุ่มผมสีดำขลับเป็นดำขนาดที่เซียะไม่เคยเจอมาก่อน ยืนอยู่หน้าเขา

ใบหน้าเรียว ขนตายาว นัยน์ตาดำสนิท ที่เมื่อสบแล้วยากที่จะเลี่ยงสายตา

ตัดกับผิวที่ขาวผ่องที่มองเผินๆแล้วเหมือนเรืองแสง

ใส่เพียงแค่กางเกง กางเกงที่เซียะไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนของชนเผ่าอะไรซักอย่าง

และก่อนที่เซียะจะอ้าปากพูดอะไร นิ้วเรียวของคนตรงหน้าถูกชี้สัมผัสมาที่ริมฝีปากเขา

นิ้วที่เย็นเฉียบราวกับจะแช่งแข็งเซี๊ยะไว้ตรงนั้น








                                                             " นามข้าคือ มาเร
                                                   

                                                                ข้า คือ ดวงจันทร์


                                             หากเรียกข้ามาเพราะความเหงา ข้าจะกินเจ้าซะ "









                                        1234567890-=qwertyuiop[]asdfghjkl;'zxcvbnm,./

หัวข้อ: Re: รวมเรื่องสั้นตอนเดียวจบ [ รัก หลุดๆ ] หลุดที่ 4 ฟ้าดับดาว ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Jaajaa ที่ 03-11-2012 08:24:27
อยากอ่านต่อออ :z3: