พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 24-03-2011 21:32:51

หัวข้อ: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 24-03-2011 21:32:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




คุยกันก่อนอ่าน...

เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก เรื่องที่น้องชายคนหนึ่งเล่าให้ฟังนะครับ
เลยมีความจริงอยู่หลายเปอร์เซนต์ ประกอบจินตนาการของคนแต่งด้วย จนเกิดเป็นเรื่องสั้นนี้ขึ้น


ขอบคุณ น้องชาย สำหรับเรื่องราวที่เล่าให้ฟัง
ขอบคุณ เพลง "ลอง" ของ "Singular" ที่่ทำให้เิกิดเป็นเรื่องสั้นนี้ขึ้น
ขอบคุณ พี่ริว สำหรับคำแนะนำ :)
และ...ขอบคุณ ไฟฝันที่ยังไ่ม่มอดดับ



ปล. กดฟังเพลงด้วยนะครับ จะได้เข้ากับเรื่องราวมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณครับ


http://www.youtube.com/v/5EJLMQvpCdQ?fs=1&hl=en_US

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 24-03-2011 21:35:19
Try  - ลอง


“...อยู่กับคำถาม ไม่รู้ว่าเมื่อไร
และจะอีกนานไหม ไม่เคยมีคำตอบ
อยู่กับความฝัน จะแต่งเติมเท่าไร
ให้ดีสักแค่ไหน ก็ไม่เคยจะเป็นจริง...”

เสียงเพลงที่เปิดให้ฟังในระหว่างที่ผมกำลังช่วยพี่ๆ ในคณะฯ วาดรูปลงบนกระดานไม้แผ่นใหญ่ใต้อาคารเรียน ทำให้อดจะหยุดฟังไม่ได้ มือซึ่งถือดินสอที่กำลังจะเขียนเป็นตัวอักษร ‘A’ ไว้คร่าวๆ พลอยหยุดชะงักไปพร้อมกับการรอท่อนต่อไปของเนื้อเพลง

ดนตรีเบาๆ กับเสียงคนร้องหวานๆ เรียกความสนใจให้ผมมากขึ้น

“...รออย่างนั้น รอให้ฝันเป็นจริงสักครั้ง
รออย่างนั้น ก็ไม่รู้สักที

ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจ
จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไร
แค่เท่านั้น แค่เธอได้ลองก้าวไป...”

“เหม่ออยู่นั่นแหละ จะเสร็จไหมน่ะเรา”

เสียงที่โพล่งดังออกมาใกล้ๆ ตัว ดังกว่าเสียงเพลงที่กำลังได้ยิน ทำให้ผมหลุดจากภวังค์ความคิดพลางเงยหน้าขึ้นไปมองคนพูดด้วยใบหน้างงๆ  ก็นะ...คนกำลังตั้งใจฟังเพลงอยู่นี่หว่า อยู่ๆ มีคนมาถามอะไร ก็ย่อมงงเป็นธรรมดา

“เอ้า...ทำหน้างงอีกนะ ไอ้นี่หนิ...ถามว่าเหม่อแบบนี้จะทำเสร็จไหม”

“อ๋อ” ผมได้แต่เกาหัวแก้เก้อ อายที่ถูกจับได้ว่าเหม่อลอย “ก็... เสร็จสิครับ พี่ปั้นก็ว่าไปนั่น”

“อ่ะฮะ...แล้วตกลงเหม่ออะไรละ”

เมื่อคำถามยังไม่ได้รับคำตอบอีกคนก็ไม่ยุติข้อสงสัยเสียที พร้อมกับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ นั่งลง เพื่อจะได้ไม่ต้องให้คนตอบต้องเงยหน้าขึ้นไปมองให้เมื่อยคออีก

คราวนี้สายตาสบกัน แม้ระยะที่นั่งจะไม่ได้ใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ แต่ก็ทำให้คนถูกถามหายใจติดขัดได้ไม่ยาก

“ไม่มีอะไรครับ ก็เหม่อไปเรื่อย”

“จริงเหร้อ ไม่ใช่เหม่อถึงสาวไหนนะ”

“เปล่าครับ...”

ผมรีบตอบอย่างรวดเร็ว ก็เป็นความจริงนี่หว่า ผมไม่ได้คิดถึงสาวไหนซะหน่อย แต่ว่าคิดถึง...

“แหน่ะ ไม่ต้องมาเขินหรอก บอกพี่มาเถ๊อะ”

อีกคนกระแซะเข้ามาใกล้เพื่อจะคาดคั้นเอาความจริง แต่พอมองแล้วก็ดูเหมือนว่าจะถามเล่นๆ มากกว่า แต่ถึงยังไงผมก็ไม่รู้จะบอกอะไรอยู่ดี

“ไม่ได้คิดถึงใครจริงๆ ค้าบบบบบ”

“เอ้า... ไม่คิดถึงใครก็ได้ ฮ่าๆ ไปดีกว่า”

แล้วคนที่ได้รับคำตอบก็เดินกลับไปทำงานในส่วนของตัวเองต่อ ปล่อยให้ผมมองตาม รอยยิ้มของเขาทำให้ผมยิ้มตามได้เสมอ

เขามีลักยิ้มสองข้าง และมักจะยิ้มแย้มให้กับคนรอบข้างอยู่ตลอดเวลา ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์ดีมาก เข้ากับใครได้ง่ายๆ ผมมักจะเห็นว่าเขาหัวเราะเสียงดังอยู่ท่ามกลางหมู่เพื่อนเสมอๆ


แรกเริ่มเดิมทีผมกับเขาก็ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัวหรอกครับ แต่สภาวการณ์ทำให้ผมได้รู้จัก ฮ่าๆ คือพูดเวอร์ไปงั้นแหละ จริงๆ ผมก็เป็นเพียงเด็กปีหนึ่งที่เพิ่งพ้นจากรั้วมัธยมมาหมาดๆ  การเข้ามาเรียนในสถานที่ที่ใหญ่กว่าโรงเรียน ย่อมทำให้ผมได้พบใครต่อใครที่แปลกตาไปจากที่เคยเจอ รวมไปถึงการได้เจอเพื่อนใหม่

และที่สำคัญ รุ่นพี่...

พี่ปั้นเป็นพี่เชียร์ครับ พี่เชียร์ซึ่งมีหน้าที่ทำให้รุ่นน้องได้หัดและฝึกร้องเพลงเชียร์ของคณะตนเอง ซึ่งมีความสำคัญทั้งในการสร้างความพร้อมเพรียงในการร้องเพลงเพื่อไม่ให้ขายหน้าคณะอื่นในวันงานกีฬาเฟรชชี่ของมหาวิทยาลัย หรืออีกนัยหนึ่งคือทำให้เราได้รู้จักเพื่อนมากขึ้นและทำให้น้องๆ ได้รู้จักรุ่นพี่มากขึ้นด้วย

ผมรู้จักพี่ปั้นเพราะหลังจากเข้าเชียร์ได้สักระยะหนึ่ง ผมถูกรุ่นพี่คนอื่นๆ ทาบทามให้ลงสมัครประธานชั้นปี ซึ่งผมเองก็มีทั้งความมั่นใจและไม่มั่นใจเกิดขึ้น ความมั่นใจคือคิดว่าตนเองสามารถทำหน้าที่นี้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีใครเห็นว่าผมมีความสามารถเช่นนั้นหรือเปล่า

ผมจึงต้องการจะปรึกษาใครสักคน ซึ่งคนๆ นั้นก็คือพี่ปั้นครับ ผมเลือกที่จะโทรศัพท์หาพี่เขาเพื่อปรึกษา เราเลยได้คุยกันมากขึ้น

“ไอ้เกมเป็นอะไรของมึง นั่งยิ้มกับเมสเซจอยู่นั่นแหละ”
“เรื่องของกู”

จะไม่ให้ผมยิ้มได้ยังไง ในเมื่อผมได้รับข้อความจากพี่ปั้นว่าให้ตั้งใจทำข้อสอบ ถ้าผมทำได้คะแนนดีจะเลี้ยงฉลองด้วย  

ก็คนมันปลื้มน่ะครับ คนที่เรา ‘แอบชอบ’ ส่งเมสเซจมาให้ ฟังไม่ผิดครับ คนที่ผมชอบ ก็คือพี่ปั้น ตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่แน่ใจ แต่ผมก็รู้ครับว่า ตัวเองชอบพี่ปั้นเข้าให้แล้ว แต่ในความรู้ตัวนั้นก็ย่อมมีความไม่แน่ใจเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม หรือแม้กระทั่งว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น สถานะของเราสองคนจะกลับมาเป็นเช่นเดิมได้อีกหรือไม่

เมื่อได้รับข้อความ ผมก็ส่งกลับไปบ้าง

จริงๆ เรื่องการส่งข้อความของผมกับพี่ปั้นที่โต้ตอบไปมากันนี่ เป็นได้สักระยะหนึ่งแล้วครับ เพราะผมเป็นคนชอบส่ง sms เพราะรู้สึกว่าสามารถ ‘บอก’ อะไรอีกฝ่ายได้มากกว่า ‘คำพูด’ ที่ผมรู้สึกว่าตนเองปากหนักด้วยความเขิน การส่งข้อความจึงทำให้ผมบอกอะไรอย่างที่ใจคิดได้มากขึ้น

“เป็นไงบ้างคะแนนสอบ”

เสียงที่มาก่อนตัว พร้อมทั้งรอยยิ้มที่มักจะติดใบหน้าเจ้าตัวอยู่เสมอๆ พอหันไปก็พบทำให้ผมยิ้มกลับไปบ้าง พี่ปั้นเดินมากับเพื่อนสองคน ตรงมายังโต๊ะที่ผมกำลังนั่งกับเพื่อนใต้ตึกคณะ เพราะเมื่อสักครู่ผมกับเพื่อนๆ เพิ่งสอบวิชาพื้นฐานของคณะเสร็จ คนที่ทำข้อสอบเสร็จก่อนจึงเดินลงมารอคนอื่นใต้ตึกเรียนและนั่งคุยกันเพื่อฆ่าเวลา

“ก๊อ...”  ผมทำท่าคิดนึงหน่อย “ก็โอเคนะครับ พอได้ๆ”

“จริงเหร้อออ” คำถามพร้อมกับใบหน้ายิ้มๆ  แล้วก็เอามือมาโยกหัวผมเบาๆ “ให้มันจริงเถอะเรา รอดูคะแนนแล้วกัน”

“ถ้าได้คะแนนเยอะ พี่ปั้นจะเลี้ยงป่ะล่ะ”

ผมว่ายิ้มๆ อีกคนก็ยักคิ้วกวนๆ เป็นสัญญาให้ว่าแน่นอนอยู่แล้ว ผมไม่ยอมก็ยักคิ้วกลับไปบ้าง แล้วพี่ปั้นก็เดินไปกับเพื่อน คงไปหารุ่นพี่คนอื่นๆ ที่รออยู่ไม่ไกลนัก ผมจึงหันกลับมาคุยกับเพื่อนตัวเองถึงวิชาที่เพิ่งสอบผ่านพ้นไปต่อบ้าง  

จนวันที่คะแนนออก ปรากฏว่าคะแนนของผมถึงจะไม่เยอะมากมายเข้าขั้นระดับท็อปของชั้นปี แต่ก็ไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน

“เป็นไงบ้างคะแนนวิชา...”

เสียงถามอย่างอารมณ์ดีมาตามสายโทรศัพท์ ทำให้ผมพลอยยกรอยยิ้มบนใบหน้าตามไปด้วย

“ก็ได้.....คะแนนครับ”

“เฮ้ย...จริงดิ เก่งนะเรา”

“แน่น้อนนนน”

“งี้พี่ต้องเลี้ยงแล้วดิ”

พี่ปั้นทำเสียงเศร้าๆ แต่ผมรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้หรอก เสียงก็ทำเป็นเศร้าไปอย่างนั้นเองน่ะแหละ

“ใช่ดิ๊ สัญญาไว้แล้วก็ต้องทำตาม หุหุ”

“ก็ได้ๆ” เสียงปลายสายทำเป็นอ่อนอกอ่อนใจ จนผมหัวเราะขำ “จะให้เลี้ยงอะไรดีล่ะ”

“ไอติมดีกว่า ร้อนๆ แบบนี้ ต้องกินไอติมเท่านั้น!”

“ได้ๆ ร้านไหนดี”

“ร้าน....ละกัน”

ผมเอ่ยชื่อร้านไอศกรีมแบรนด์ดัง ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัย เสียงอีกฝ่ายตอบพร้อมทั้งบอกว่าให้ไปเจอกันหน้าร้านเลยแล้วกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเดินไปเดินมาหากันอีก และเมื่อผมไปถึงก็เจอพี่ปั้นยืนอยู่ก่อนแล้ว

“พี่ปั้น หวัดดีครับ”

ผมยกมือไหว้ อีกฝ่ายก็พยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มสวยๆ เช่นเดิม

“เอ้า...อยากกินอะไรสั่งเลย”

“งั้น...” ผมกวาดตาดูเมนูที่พนักงานเสิร์ฟส่งมาให้ “เอิร์ทเควก ละกันครับ...” ผมหันไปยิ้มบอกพนักงานที่รอรับออเดอร์อยู่ข้างๆ โต๊ะ กลัวพี่เขารอเหมือนกัน แล้วไอ้นี่มันก็กินได้เยอะดี แปดลูกแปดรส โอเค สองคน กำลังดีเลยเชียว

“รับไอศกรีมรสอะไรดีคะ”

“รัมลูกเกด มะนาว...เออ...ม็อกค่าช็อกชิพ ร็อกแอนด์ฮาร์ด แล้วก็...พี่ปั้นเลือกอีกสี่รสหน่อย”

“เกมเลือกดิ อยากกินไรก็เลือก”

“เกมคิดไม่ออกแล้ว เยอะจัด ฮ่าๆ พี่ปั้นเลือกๆ”

ผมคะยั้นคะยอจนอีกฝ่ายอีกสี่รสชาติจนครบ พร้อมสั่งบราวน์นี่เป็นของกินเพิ่มอีกอย่าง ผมกับพี่ปั้นนั่งคุยโน่นนี่กันไปเรื่อยๆ จนได้ยินอินโทรฯ ของเพลงขึ้นมาจากความบันเทิงที่เปิดให้กับลูกค้าในร้าน

ตอนแรกก็ว่าคุ้นๆ น่ะแหละ แต่พอท่อนแรกของเพลงขึ้นมาผมจึงมั่นใจว่าเป็นเพลงที่ผมได้ฟังเมื่อหลายวันก่อนในขณะที่กำลังเขียนข้อความบนกระดานใต้คณะนั่นเอง


“...ถ้าเธอต้องการคำอธิบาย
แต่ไม่เคยลองไปค้นให้พบ แล้วมันจะดีไหม
ก็ไม่รู้ความจริงอยู่ตรงไหน

อยู่กับความหลัง ต้องทนและเสียใจ
อีกสักแค่ไหน ก็ไม่มีทางออก

รออย่างนั้น รอให้ฝันเป็นจริงสักครั้ง
รออย่างนั้น ก็ไม่รู้สักที...”
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 24-03-2011 21:43:31
“เกมๆ”

“คะ ครับ...”

“เหม่ออีกแล้วนะเรา”

“โทษฮะ แหะๆ”

“เพลงนี้เพราะดีเนอะ นักร้องเสียงหวานมาก”

“ชื่อเพลงอะไรอะพี่ปั้น เกมไม่ค่อยได้ฟังเพลงเท่าไหร่”

“อ๋อ...” คนถูกถามทำท่านึกนิดนึง คงเพราะไม่แน่ใจเหมือนกันละมั้ง  “เพลง ลอง ของ ซิงกูลาร์”

“ซิงกูลาร์ ที่มีสองคน ใช่ป่ะครับ เหมือนเกมเคยเห็นในทีวีบ้างเหมือนกัน”

ไม่ทันได้คุยกันต่อ ไอศกรีมที่ผมกับพี่ปั้นสั่งเอาไว้ก็ถูกยกมาวางตามรายการ แล้วเราสองคนก็หยิบช้อนเตรียมอาวุธก่อนจะจัดการไอศกรีมตรงหน้า ในขณะที่กินไปผมก็อดจะมองหน้าอีกฝ่ายไปด้วยไม่ได้

ผมไม่รู้ว่ารอยยิ้มของคนตรงหน้าตรึงสายตาของผมเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ขณะที่อีกฝ่ายหัวเราะ อีกฝ่ายเล่าเรื่องตลกให้ผมฟัง อย่างเรื่องที่เขาเป็นคนซุ่มซ่ามเดินชนนั่นชนนี่บ่อยๆ หรือโก๊ะเป๋อถึงขนาดหยิบบัตรนิสิตสแกนเพื่อเข้าจุดสแกนรถไฟลอยฟ้าแทนบัตรของจริง

ในขณะที่ปากกำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ สายตาของเขาก็ระยิบระยับ น่ามองจนผมต้องหยุดสายตา แล้วก็ต้องยิ้มตามคนเล่า
 

“...ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจ
จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไร
แค่เท่านั้น แค่เธอได้ลองก้าวไป

ถ้าเธอต้องการคำอธิบาย
แต่ไม่เคยลองไปค้นให้พบ แล้วมันจะดีไหม
ก็ไม่รู้ความจริงอยู่ตรงไหน...”


เนื้อเพลงที่ผ่านหูไปในขณะที่อยู่ในร้านไอศกรีมทำให้ผมต้องกลับมาทบทวนความรู้สึกของตัวเองอีกครั้ง ว่าจริงๆ แล้วผมชอบพี่เขาจริงๆ หรือเปล่า หรือเป็นแค่ความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราว เพราะแค่คำว่า “ชอบ” อาจจะหมายถึงเพียงแค่คำว่า “ปลื้ม” เหมือนที่เราชื่นชมดารานักร้องในโทรทัศน์ก็เป็นได้

อีกอย่างหนึ่งระยะหลังมานี้ผมได้มีโอกาสรู้จักกับคุณแม่ ซึ่งเป็นแม่ของพี่ปั้น คุณแม่ใจดีมาก ถึงขนาดว่าฝากเสื้อกันหนาวมาให้ ครั้งผมบ่นกับพี่ปั้นว่าเสื้อกันหนาวหายเพราะลืมไว้ที่ไหนสักแห่งแต่ตัวเองก็จำไม่ได้ แล้วพี่ปั้นก็ไปบ่นเล่นๆ กับคุณแม่อีกที หรือแม้กระทั่งพี่ปั้นเล่าว่า คุณแม่ซื้อวีตาร์มาเสียเยอะแยะ พร้อมทั้งบอกว่าแม่จะให้ลูกชายคนเล็กอีกคน ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าท่านนับผมเข้าเป็นลูกชายอีกคนแล้วนั้น  ถ้าคุณแม่รู้ว่าผมคิดอะไรแบบนี้กับลูกชายเขา จะว่ายังไงนะ

“พี่เกิ้ล เกมมีเรื่องปรึกษาหน่อย”

ไวเท่าความคิด มือก็คว้าโทรศัพท์หาที่ปรึกษาทันที

พี่เกิ้ลเป็นคนที่ผมพอจะพูดคุยและปรึกษาได้เวลาที่มีเรื่องกังวล  และนี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมน่าจะได้คำปรึกษาที่ดีจากพี่เขา ผมคิดอย่างนั้นนะ...

“ว่า ว่า”

“คือ...เกมชอบคนๆ หนึ่งอยู่”

“แล้ว...”

“แต่เกมคิดว่า เราคงไม่สามารถรักกันได้...มั้ง”

“เพราะว่า”

“...ไม่รู้ดิ เกมรู้สึกอะ คืออย่างแรกเลยไม่รู้พี่เขาคิดยังไง”

“แล้วยังไงต่อ...”

“เพราะเกมกับพี่เขา  ‘เป็นแบบเดียวกัน’  น่ะ...

เออ...แล้วเกมก็กลัวว่าถ้าเลิกกัน แล้วต้องทำงานด้วยกันก็อาจจะมีปัญหาด้วย...”

“แต่ก็บอกพี่ไม่ใช่เหรอว่าชอบเขา”

“ก็ชอบไง...เกมชอบฟังเขาบ่น เขาระบาย มันทำให้รู้สึกว่าตัวเองแบ่งเบาความรู้สึกของเขาได้ เราสามารถเป็นที่ปรึกษาให้เขาได้ แต่ก็นั่นแหละ...เกมก็ไม่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง อาจจะรู้สึกว่าเกมเป็นแค่น้องชายคนนึง”

ผมบ่นไปยืดยาว แต่พี่เขาก็ทนฟังจนจบประโยค ไม่รู้หลับไปก่อนรึเปล่า

“แล้วเกมก็แคร์พี่เขามาก...มากจนกลัวว่า...ไม่อยากเสียเขาไป ถ้าเราต้องเลิกกัน”

“อืม...”

“แน่ใจไหมว่าชอบเขา...”

“ก็แน่ใจนะเกมบอกแล้ว คิดแล้วด้วย แต่เกมกลัว กลัวเพราะอะไรหลายๆ อย่าง กลัวมันจะไม่เป็นอย่างคิด แล้วจะเสียไปทั้งหมด”

ผมได้ยินเสียงตอบรับในคออย่างเข้าใจของอีกฝ่ายจากปลายสายโทรศัพท์

“คือในความรู้สึกพี่นะ เกมคิดเกินปัจจุบันไปหน่อย คือตอนนี้ยังไม่เกิดขึ้น แต่เกมคิดว่า ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ ไปคิดถึงอนาคต ทั้งๆ ที่ยังไม่เกิด...”

“ครับ...”

“ถ้าถามความเห็นพี่นะ ก็อยากให้น้องมีความสุข...

ถ้าความสุขของเราคือการเห็นเขามีความสุข แล้วเราก็พร้อมที่จะทำให้เขามีความสุข

พี่อยากให้เราลอง...ลองทำให้เขามีความสุข

ลองทำตามหัวใจตัวเองสักครั้ง...”


คำแนะนำของพี่ชายคนสนิททำให้ผมต้องนำความรู้สึกของตนเองมาคิดทบทวนอีกครั้ง พี่เกิ้ลบอกว่าผมคิดมากเกินไป คิดไปในสิ่งที่ตนเองยังไม่จำเป็นต้องกลัว...

สายลมอ่อนๆ พัดพาเข้ามาจากสระน้ำที่อยู่ตรงหน้า ระลอกคลื่นซัดเป็นวงเล็กใหญ่ก่อนแตกกระจายเข้าหาฝั่ง แสงอาทิตย์ยามเย็นอาบไล้ท้องน้ำจนกลายเป็นสีส้มเกือบทั้งสระ

ผมกำลังนั่งอยู่บนม้าหินตัวเดี่ยวไม่ไกลจากขอบฝั่งนั้นนัก สองแขนพาดเอาไว้บนพนักพิงทั้งสองด้าน พลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่กำลังมืดลงเรื่อยๆ และแสงไฟจากหลอดนีออนถูกเปิดขึ้นให้ความสว่างแทนที่

ขณะนี้พระอาทิตย์ดวงโตกำลังลับขอบฟ้า...เวลาดำเนินเคลื่อนไปเรื่อยๆ

ใช่...เวลาผ่านไปทุกเมื่อ...

หรือผมจะปล่อยให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แบบนี้... โดยไม่ได้ทำอะไรเลย

ความรู้สึก ‘ชอบ’ หรือ ‘รัก’ อาจไม่ได้หมายถึง การได้ครอบครองเป็นเจ้าของ

แต่การได้รับความรู้สึกแบบเดียวกันตอบกลับมา กลับเป็นความหวังที่อยู่ในใจตัวเองอยู่ลึกๆ มิใช่หรือ...

ผมไม่รู้ว่าสิ่งที่กำลังตัดสินใจทำลงไปจะได้รับผลอย่างไรตอบกลับมา มันอาจทำให้ผมมีความสุขที่สุดในโลก หรืออาจทำให้หลายสิ่งหลายอย่างที่ผมแสนเสียดายมันอันตรธานหายไปอย่างที่ใจกลัวหรือเปล่า

ผมไม่อาจรู้ได้  แต่...ถึงอย่างไรผมก็พร้อมจะยอมรับผลของมัน

ผมตัดสินใจแล้ว... อยากลอง

ลองทำตามหัวใจตัวเอง...สักครั้ง



“เรียกมามีอะไรรึเปล่าเนี่ย ค่ำแล้วนะเรา ไม่กลับบ้านอีก”

พี่ปั้นบ่นอะไรยืดยาวอย่างไม่จริงนัก แต่เขาก็ยอมมาตามที่ผมโทรศัพท์ไปชวนให้มาหาที่สวนสาธารณะใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยแห่งนี้

เขายังอยู่ในชุดนิสิต เสื้อสีขาวถูกพับแขนยาวรั้งไว้แค่ศอก  ชายของมันถูกดึงออกมานอกกางเกงสแลค  เป้ใบเก่งที่เจ้าตัวสะพายติดหายเสมอๆ รั้งอยู่บนไหล่ข้างขวา พร้อมมือของขาวๆ ที่จับเอาไว้อีกที  คาดว่าเจ้าตัวเพิ่งเลิกเรียนหรือไม่ก็กำลังนั่งคุยเรื่องงานกับเพื่อนอยู่ที่คณะฯ

“นั่งสิครับพี่ปั้น”

“ครับ...”

ผมว่าแล้วก็มองออกไปยังสระน้ำที่กว้างขวาง ขยับที่ให้อีกฝ่ายได้นั่งลงข้างๆ กัน เสียงพี่ปั้นดึงเป้ออกมาไหล่ ก่อนจะตามลงมานั่ง เก้าอี้ไม่ได้ตัวใหญ่มากนัก ขาของเราสองคนจึงเกือบๆ จะติดกันจนผมรู้สึกถึงความร้อนของอีกคน

เงียบไปหลายนาที เพราะผมเองกำลังรวบรวมกำลังใจอยู่

ไม่แน่ใจว่าพี่ปั้นมองตนเองด้วยสายตาแบบไหน แต่ผมก็เห็นด้วยหางตาว่าเขามองไปข้างหน้าบ้าง แล้วก็หันมาทำหน้าแปลกใจกับปฏิกิริยาที่แปลกไปของผมบ้างทว่า...ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาอีกหลังจากนั้น

“พี่ปั้นครับ...”

“ครับ?”

คราวนี้ผมหันกลับมามองคนข้างๆ บ้าง คนที่ตอบรับเองก็หันมาหาผม ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถามเช่นกัน ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด มองตอบสายตาของคนตรงหน้าที่นิ่งฟังอย่างตั้งใจ

“พี่ปั้นจำเพลง 'ลอง' ได้ไหมครับ”

อีกฝ่ายทำหน้างงๆ ก่อนจะพยักหน้าเป็นสัญญาณว่าจำได้

“ลอง” เพลงที่ได้ยินบ่อยๆ เพลงนั้น กำลังบรรเลงคลออยู่ในหู

ก่อนผมจะเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างที่ใจต้องการ...


“...รออย่างนั้น รอให้ฝันเป็นจริงสักครั้ง
รออย่างนั้น ก็ไม่รู้สักที

ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจ
จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไร
แค่เท่านั้น แค่เธอได้ลองก้าวไป...”


ผมผ่อนลมหายใจเล็กน้อยเมื่อเนื้อเพลงท่อนที่ต้องการสื่อให้ฝ่ายตรงข้ามรู้สึกจบลง ทว่าใบหน้าของพี่ปั้นก็ไม่ได้คลายความสงสัย เขาไม่ได้พูดขัดตอนผมเปล่งเสียงร้องออกมา หนำซ้ำยังดูตั้งใจฟัง  แต่ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเข้าใจหรืออย่างไร คงจะงงมากว่าผมร้องเพลงนี้ให้เขาฟังทำไมตอนนี้

“เกมอยากบอกพี่ปั้นว่า...

เกมชอบพี่ปั้น  เกมอยาก ‘ลอง’ ทำตามหัวใจดูสักครั้ง...

ถ้าพี่ปั้นไม่พอใจเกมก็ต้องขอโทษด้วย เกมจะไม่มาให้พี่ปั้นเจออีก

เกม..เกม.. ขอโทษครับ เกมไปแล้วดีกว่าครับ”

ปฏิกิริยาที่นิ่งอึ้งของคนฟังทำให้ผมตกใจจนลิ้นพันกันจนไม่รู้จะเอ่ยคำไหนก่อน รู้สึกเสียใจที่ไม่น่าปล่อยให้คำพูดที่ควรจะเก็บกักไว้กับตัวเองหลุดออกไป พาลทำให้อีกคนมีอาการและความรู้สึกแบบนี้ พี่ปั้นอาจจะไม่พอใจหรือไม่ชอบก็ได้

พูดอย่างที่อยากต้องการจบก็รีบลุกขึ้นยืน ทว่าขณะที่กำลังจะก้าวขาเดินออกไป ผมก็รู้สึกว่าข้อมือถูกใครบางคนที่อยู่ข้างหลังจับไว้จนต้องหันกลับไปมองพี่ปั้นที่ยืนขึ้นจนเต็มความสูงแล้วมองผม

ใบหน้าของเขาคลายความตกใจ ตอนนี้ปรากฏเป็นรอยยิ้มกว้างขวางที่เจ้าตัวมีให้ผมอยู่เสมอแทนที่

“ พี่เองก็อยากจะ ‘ลอง’ ทำตามหัวใจตัวเองดูบ้าง...

แต่เราไม่จำเป็นต้อง ‘ลอง’ ฝ่ายเดียวหรอก

เพราะพี่ก็ชอบเกมเหมือนกันครับ...”



“...ถ้าไม่เคยลองทำตามหัวใจ
จะรู้ได้ไหมว่าเราจะไปได้ไกลสักเท่าไร
แค่เท่านั้น แค่เธอได้ลองก้าวไป

ถ้าเธอต้องการคำอธิบาย
แต่ไม่เคยลองไปค้นให้พบ แล้วมันจะดีไหม
ก็ไม่รู้ความจริงอยู่ตรงไหน
สักที...”



---


Never Ending




ขอบคุณนะครับที่อ่านกันจนถึงบรรทัดสุดท้าย
เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "เพลง"

จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็เคยแต่งเรื่องสั้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง
ลองอ่านดูได้ครับจากลิงก์ข้างล่าง



เรื่อง ใกล้กัน...ยิ่งหวั่้นไหว

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5667.0

เรื่อง หวง - บอกให้รู้ว่ารัก - โทรมาว่ารัก - ดื่ม และ กฎของแฟนเก่า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=1470.0


แนะนำเพิ่มเติมครับ


เรื่อง La  situation de l'amour http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=517.0

แต่ละเรื่องก็จะมีตัวละครและเหตุการณ์เืชื่อมต่อกันครับ

เรื่อง เรื่องบังเอิญของความรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2806.0





ขอบคุณอีกครั้งครับผม ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-03-2011 21:54:28
 o13ได้ลองแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างละครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 24-03-2011 21:57:24
ชอบเพลงนี้ๆๆๆๆมากมาย
พออ่านแล้วฟังเพลงไปด้วยนี้เข้าfeelจริงๆๆ
เบาๆๆหวานๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-03-2011 22:00:15
อ๊ายยยยยย อยากลองบ้างงง  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: tonight ที่ 24-03-2011 22:02:43
อ๊ากกกกก ชอบเรื่องนี้มากคับ ได้บรรยากาศอุ่นๆหวานๆกำลังพอดี
อ่านแล้วทำให้คิดถึงมหาวิยาลัยขึ้นมาบ้าง เพลงนี้เพราะมากคับ ความหมายก็ดีมากๆด้วย
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆนะคับ พอดีเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆแบบนี้นะคับ

ปล อยากให้มีตอนพิเศษแถมอีกนิด จะดีมากคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 24-03-2011 22:05:49
ชอบอ่ะครับ  น่ารักดี

เราเองก็คงต้องลองมั่งแล้วเนอะ :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 25-03-2011 11:16:22
 o13

น่ารัก~
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 25-03-2011 22:17:32
ท่าทางจะกล้าลองแต่ในนิยายนะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 25-03-2011 22:28:11
ว่าแต่... ที่ว่า "เป็นแบบเดียวกัน" เนี่ย   หมายความว่าไงน้าาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 25-03-2011 23:15:59
ถ้าลองแล้วสมหวังก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่สมหวังก็ต้องยอมรับแล้วถือซะว่าได้ลองแล้ว
ขอบคุณผู้เขียน แล้วเป็นกำลังใจให้คนที่ลองแล้วไม่สำเร็จ ลองดูใหม่อีกครั้งนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 26-03-2011 00:10:41
o13ได้ลองแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างละครับ

รู้สึกดีนะครับ ฮ่าๆ ว่าแต่ลองอะไรอะ?

ชอบเพลงนี้ๆๆๆๆมากมาย
พออ่านแล้วฟังเพลงไปด้วยนี้เข้าfeelจริงๆๆ
เบาๆๆหวานๆๆๆ

ช่ายครับ เข้าเนอะ อิอิ

อ๊ายยยยยย อยากลองบ้างงง  :-[

เอาเลยครับ สนับสนุนให้ลอง ฮ่าๆๆๆ


อ๊ากกกกก ชอบเรื่องนี้มากคับ ได้บรรยากาศอุ่นๆหวานๆกำลังพอดี
อ่านแล้วทำให้คิดถึงมหาวิยาลัยขึ้นมาบ้าง เพลงนี้เพราะมากคับ ความหมายก็ดีมากๆด้วย
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆนะคับ พอดีเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆแบบนี้นะคับ

ปล อยากให้มีตอนพิเศษแถมอีกนิด จะดีมากคับ

ขอบคุณที่ชอบครับ เพลงนี้ความหมายดีมากๆ ครับ เป็นกำัลังใจให้คนฟัง
ตอนพิเศษน่าจะดีครับ ลองดูนะครับ อิอิ

ชอบอ่ะครับ  น่ารักดี

เราเองก็คงต้องลองมั่งแล้วเนอะ :laugh:

ลองครับลอง :)

o13

น่ารัก~

เน้ออ พี่ริว

ท่าทางจะกล้าลองแต่ในนิยายนะ ฮ่าๆๆ

ของจริงก็ลองซะดิ  ฮ่าาา แล้วมารายงานผลด้วยนะ

ว่าแต่... ที่ว่า "เป็นแบบเดียวกัน" เนี่ย   หมายความว่าไงน้าาา

แหม...แบบไหนล๊าาาา

ถ้าลองแล้วสมหวังก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่สมหวังก็ต้องยอมรับแล้วถือซะว่าได้ลองแล้ว
ขอบคุณผู้เขียน แล้วเป็นกำลังใจให้คนที่ลองแล้วไม่สำเร็จ ลองดูใหม่อีกครั้งนะคะ

เห็นด้วยรีนี้ครับ...

ถ้าลองแล้วไม่สำเร็จ... เราจะได้ไม่ต้องพูดไงครับ

ถ้าอย่างนั้นนะ...ถ้าอย่างนี้นะ


ขอบคุณที่เข้ามา่อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 26-03-2011 01:04:52
โอย~น่ารักเกิน

แล้วไม่มีตอนพิเศษอะไรบ้างเหรอ
อยากอ่านอีกมากมาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 26-03-2011 01:22:14
+1 จัดไปอยากว่าอ่านแล้วอินไปกับเพลงมากๆ ชอบๆเดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นต่อ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ตะวันฉาย ที่ 26-03-2011 10:57:55
o13ได้ลองแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างละครับ

รู้สึกดีนะครับ ฮ่าๆ ว่าแต่ลองอะไรอะ?

ชอบเพลงนี้ๆๆๆๆมากมาย
พออ่านแล้วฟังเพลงไปด้วยนี้เข้าfeelจริงๆๆ
เบาๆๆหวานๆๆๆ

ช่ายครับ เข้าเนอะ อิอิ

อ๊ายยยยยย อยากลองบ้างงง  :-[

เอาเลยครับ สนับสนุนให้ลอง ฮ่าๆๆๆ


อ๊ากกกกก ชอบเรื่องนี้มากคับ ได้บรรยากาศอุ่นๆหวานๆกำลังพอดี
อ่านแล้วทำให้คิดถึงมหาวิยาลัยขึ้นมาบ้าง เพลงนี้เพราะมากคับ ความหมายก็ดีมากๆด้วย
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆนะคับ พอดีเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆแบบนี้นะคับ

ปล อยากให้มีตอนพิเศษแถมอีกนิด จะดีมากคับ

ขอบคุณที่ชอบครับ เพลงนี้ความหมายดีมากๆ ครับ เป็นกำัลังใจให้คนฟัง
ตอนพิเศษน่าจะดีครับ ลองดูนะครับ อิอิ

ชอบอ่ะครับ  น่ารักดี

เราเองก็คงต้องลองมั่งแล้วเนอะ :laugh:

ลองครับลอง :)

o13

น่ารัก~

เน้ออ พี่ริว

ท่าทางจะกล้าลองแต่ในนิยายนะ ฮ่าๆๆ

ของจริงก็ลองซะดิ  ฮ่าาา แล้วมารายงานผลด้วยนะ

ว่าแต่... ที่ว่า "เป็นแบบเดียวกัน" เนี่ย   หมายความว่าไงน้าาา

แหม...แบบไหนล๊าาาา

ถ้าลองแล้วสมหวังก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่สมหวังก็ต้องยอมรับแล้วถือซะว่าได้ลองแล้ว
ขอบคุณผู้เขียน แล้วเป็นกำลังใจให้คนที่ลองแล้วไม่สำเร็จ ลองดูใหม่อีกครั้งนะคะ

เห็นด้วยรีนี้ครับ...

ถ้าลองแล้วไม่สำเร็จ... เราจะได้ไม่ต้องพูดไงครับ

ถ้าอย่างนั้นนะ...ถ้าอย่างนี้นะ


ขอบคุณที่เข้ามา่อ่านนะครับ
ขอดูใจกันอีกสักปีฮะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 26-03-2011 12:00:41
อยากลองมั่งจังเลย เมื่อไหร่จะมีคนมาให้ลองมังนะ อยากลอง อยากลอง จริงๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 26-03-2011 23:44:41
อยากลองมั่งจังเลย เมื่อไหร่จะมีคนมาให้ลองมังนะ อยากลอง อยากลอง จริงๆ

รอๆ ครับ ผมก็รอเหมือนกัน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 27-03-2011 02:22:09
อร๊ายยยยย น่ารัก :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 27-03-2011 03:03:34
อร๊ายยยยย น่ารัก :-[

อ้าว พี่รักษ์มาแอบอ่านไม่บอกเลย ฮ่าๆ

ขอบคุณครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 27-03-2011 04:22:33
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง มันอุ่นๆอะค่ะ  :L2:

ดีใจกับน้องเกมที่กล้าลอง ไม่งั้นก็ไม่มีทางรู้คำตอบของพี่ปั้นเนอะ
โชคดีของน้องที่ผลมันเป็นไปอย่างใจต้องการ
แต่บังเอิญชีวิตจริงบางคนกล้าลองแล้วแต่มันผิดหวังมันก็เลยกลายเป็นประสบการณ์ให้เราเห็นแล้วก็เอาแต่กลัวไม่กล้าลองอยู่นั่น แทนที่จะลองให้มันรู้กันไปเลย :]

เราเม้นงงมั้ยคะเนี่ย คือง่วงนอนอยู่แต่ก็ยังพยายามจะเม้น 5555
เอาเป็นว่าดีใจที่สุดท้ายเกมก็กล้าลอง ไม่เอาแต่กลัวก็แล้วกัน
แล้วแต่งมาอีกบ่อยๆนะคะ ชอบนิยายบรรยากาศแบบนี้มากๆเลย อ่านเรื่อยๆ แต่ว่ามันอุ่นๆดี ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 27-03-2011 14:39:25
อ่านแล้วรู้สึกดีจัง มันอุ่นๆอะค่ะ  :L2:

ดีใจกับน้องเกมที่กล้าลอง ไม่งั้นก็ไม่มีทางรู้คำตอบของพี่ปั้นเนอะ
โชคดีของน้องที่ผลมันเป็นไปอย่างใจต้องการ
แต่บังเอิญชีวิตจริงบางคนกล้าลองแล้วแต่มันผิดหวังมันก็เลยกลายเป็นประสบการณ์ให้เราเห็นแล้วก็เอาแต่กลัวไม่กล้าลองอยู่นั่น แทนที่จะลองให้มันรู้กันไปเลย :]

เราเม้นงงมั้ยคะเนี่ย คือง่วงนอนอยู่แต่ก็ยังพยายามจะเม้น 5555
เอาเป็นว่าดีใจที่สุดท้ายเกมก็กล้าลอง ไม่เอาแต่กลัวก็แล้วกัน
แล้วแต่งมาอีกบ่อยๆนะคะ ชอบนิยายบรรยากาศแบบนี้มากๆเลย อ่านเรื่อยๆ แต่ว่ามันอุ่นๆดี ^^



ขอบคุณมากๆ ครับ

ปล. ถ้าอยากอ่านประมาณนี้ ลองอ่านที่ลิงก์ข้างบนก็ได้ีครับที่ผมเคยแต่งครับ
อารมณ์ๆ ประมาณนี้แหละครับ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 27-03-2011 14:42:56
แนะนำเพิ่มเติมครับ


เรื่อง La  situation de l'amour http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=517.0
เรื่อง เรื่องบังเอิญของความรัก http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2806.0

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 27-03-2011 15:46:30
น่ารักมากๆ :-[ :impress2:
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 27-03-2011 20:11:29
น่ารักมากๆ :-[ :impress2:
+1 นะคะ


ขอบคุณค้าบผม ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 29-03-2011 15:40:19
มาต่อได้แล้วนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 29-03-2011 20:29:45
มาต่อได้แล้วนะ


เอ้า มันเป็นเรื่องสั้นน้าพี่รักษ์...

แต่ถ้าอยากอ่านต่อ เด๋วน้องจะ(พยายาม)จัดให้
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 08-05-2011 19:17:51
o13ได้ลองแล้วรู้สึกอย่างไรบ้างละครับ

รู้สึกดีนะครับ ฮ่าๆ ว่าแต่ลองอะไรอะ?

ชอบเพลงนี้ๆๆๆๆมากมาย
พออ่านแล้วฟังเพลงไปด้วยนี้เข้าfeelจริงๆๆ
เบาๆๆหวานๆๆๆ

ช่ายครับ เข้าเนอะ อิอิ

อ๊ายยยยยย อยากลองบ้างงง  :-[

เอาเลยครับ สนับสนุนให้ลอง ฮ่าๆๆๆ


อ๊ากกกกก ชอบเรื่องนี้มากคับ ได้บรรยากาศอุ่นๆหวานๆกำลังพอดี
อ่านแล้วทำให้คิดถึงมหาวิยาลัยขึ้นมาบ้าง เพลงนี้เพราะมากคับ ความหมายก็ดีมากๆด้วย
เดี๋ยวจะตามไปอ่านเรื่องอื่นๆนะคับ พอดีเพิ่งได้มาอ่านเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆแบบนี้นะคับ

ปล อยากให้มีตอนพิเศษแถมอีกนิด จะดีมากคับ

ขอบคุณที่ชอบครับ เพลงนี้ความหมายดีมากๆ ครับ เป็นกำัลังใจให้คนฟัง
ตอนพิเศษน่าจะดีครับ ลองดูนะครับ อิอิ

ชอบอ่ะครับ  น่ารักดี

เราเองก็คงต้องลองมั่งแล้วเนอะ :laugh:

ลองครับลอง :)

o13

น่ารัก~

เน้ออ พี่ริว

ท่าทางจะกล้าลองแต่ในนิยายนะ ฮ่าๆๆ

ของจริงก็ลองซะดิ  ฮ่าาา แล้วมารายงานผลด้วยนะ

ว่าแต่... ที่ว่า "เป็นแบบเดียวกัน" เนี่ย   หมายความว่าไงน้าาา

แหม...แบบไหนล๊าาาา

ถ้าลองแล้วสมหวังก็ถือว่าโชคดี แต่ถ้าไม่สมหวังก็ต้องยอมรับแล้วถือซะว่าได้ลองแล้ว
ขอบคุณผู้เขียน แล้วเป็นกำลังใจให้คนที่ลองแล้วไม่สำเร็จ ลองดูใหม่อีกครั้งนะคะ

เห็นด้วยรีนี้ครับ...

ถ้าลองแล้วไม่สำเร็จ... เราจะได้ไม่ต้องพูดไงครับ

ถ้าอย่างนั้นนะ...ถ้าอย่างนี้นะ


ขอบคุณที่เข้ามา่อ่านนะครับ
ขอดูใจกันอีกสักปีฮะ ฮ่าๆๆ


เฮ้ย มาตอบมะไหร่วะ ทำไมพี่ไม่เห็น
ตอนนี้คงไม่ต้องรอปีนึงแล้วมั้ง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: afternoon ที่ 08-05-2011 19:41:33
ชอบๆๆ
ความจริงชอบเพลงนี้อยู่เเล้วด้วย
มาเจอเรื่องอะไรอย่างนี้ ยิ่งชอบเข้าไปใหญ่
 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: JJHJJH ที่ 08-05-2011 21:04:09
บวกให้ค่ะ ชอบๆ อยากอ่านอีก(สักนิด^^)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: MimicClub ที่ 09-05-2011 17:26:44
 :-[  สนุกดีค่ะรอๆ  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: zombi ที่ 09-05-2011 19:01:04
ได้แรงบรรดาลใจจากเพลงนี้เหมือนกัน

เร็วๆนี้จะลอง...บ้าง
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 11-05-2011 21:05:03
ขอบคุณนะครับ

อิอิ


ปล. ตอนนี้กำลังรอเรื่องจากเจ้าตัวด้วย แล้วจะนำมาเขียนครับ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: penda ที่ 12-05-2011 00:27:44
เนื้อหาน่ารักดีค่ะ
ชอบเรื่องนี้
ขอให้รักกันนานๆ
ดูแลกันดีๆนะคะ
ยินดีด้วยที่ได้ลองแล้วใจตรงกัน

ขอบคุณเรื่องเล่าดีๆที่ทำให้รู้สึกว่าโลกสดใสขึ้น
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 13-05-2011 01:12:16
อยากจะลองกับเค้าบ้างแต่ยังไม่มีใีครมาให้ลองด้วยเลยอิอิ


ดีจังที่ลองแล้วใจมันตรงกันอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 18-05-2011 22:44:34
ตอนพิเศษ  รุก รับ


อย่างที่บอกไปเมื่อตอนที่แล้วว่าผมกับพี่ปั้น เราสองคน ‘เป็นแบบเดียวกัน’  ไม่รู้จะมีใครจำได้หรือเปล่า แล้วก็ไม่แน่ใจว่ามีใครเอะใจไหมกับประโยคนี้ของผม แต่ถ้าใครเก็ตแล้วผมก็ขออนุญาตอายนิดนึง ฮ่าๆ

คือจริงๆ เรื่องนี้ผมปรึกษาพี่ชายคนสนิทแล้ว ซึ่งเขาก็บอกว่าของแบบนี้ไม่สำคัญ อยู่ที่คนสองคนมากกว่า อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ แต่สำหรับผม ถ้าถามว่าสำคัญไหม ผมเรียกว่า เป็นส่วนประกอบหนึ่งของคู่รักดีกว่า

ส่วนใครที่ยังไม่เก็ตผมจะบอกให้ว่า ‘แบบเดียวกัน’ ของผมกับพี่ปั้น นั่นคือ เราเป็น ‘ฝ่ายรับ’ เหมือนกัน ทีนี้หลายๆ คนที่เพิ่งทราบก็ต้องตกใจใช่ไหมครับ ว่าพอผมกับพี่ปั้นเป็นแฟนกัน แล้วแบบนี้ใครจะเป็น ‘ทำ’ ฮ่าๆ คำพูดดูจะติดเรตนิดนึงไม่ว่าจะกันครับ เรื่องนี้แหละที่ทำให้ผมกำลังเครียดอยู่ครับ คือไอ้ว่ามีความสุขพอเป็นแฟนกันแล้วมันก็โอเคครับ

ตอนเช้าผมกับพี่ปั้นก็เจอกันหน้าคณะฯ ส่วนหนึ่งเพราะผมอยู่หอครับ แต่พี่ปั้นเขาอยู่บ้าน เราเลยคิดว่านัดมาเจอกันตอนเช้าที่มหา’ลัย แล้วกินข้าวเช้าด้วยกันดีกว่า แล้วค่อยแยกย้ายไปเรียนตัวใครตัวมัน  ตอนเที่ยงเราก็นัดกันที่ซุ้มหน้าคณะฯ อีกครั้งเพื่อไปทานอาหารกลางวัน จะเป็นโรงอาหารคณะบ้าง หรือไม่ก็ห้างแถวนี้บ้างแล้วแต่อารมณ์ครับ ส่วนตอนเย็นถ้าใครไม่มีธุระจำเป็นที่ไหน เราก็จะไปดูหนัง กินข้าวเย็นด้วยกันบ้างตามประสาเป็นบางครั้ง บางทีก็ชวนกันไปนั่งที่สวนสาธารณะที่่ผมชวนพี่ปั้นไปครั้งที่สารภาพรักนั่นแหละครับ เป็นสถานที่ๆ เราสองคนชื่นชอบพอๆ กันครับ

ผมกับพี่ปั้น เราคบกันมาสักระยะหนึ่งแล้วครับ อืม...ถ้าเอาเป็นถ้าจะระบุเวลาชัดๆ ก็ประมาณสามเดือนครับ สามเดือนนี้ผมมีความสุขมากครับ ก็แหม...เราได้เป็นแฟนกับคนที่เราชอบเลยนะครับ ใจตรงกันแบบนี้ใครบ้างละจะไม่มีความสุข ใช่ไหมล่ะครับ

แต่อย่างที่บอกไว้ข้างบนว่า เรื่องเซ็กซ์นั่นทำให้ผมเครียดอยู่เหมือนกันว่าพี่ปั้นเขาจะคิดยังไง ...พี่ปั้นเขาเองก็น่าจะพอรู้บ้างนะครับ เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมขบคิดอยู่พอดู

ผมว่าเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นองค์ประกอบหลักในการหาคู่ของใครหลายๆ คนเลย  อย่างที่ผมเจอในอินทอร์เน็ตคุยกันครั้งแรกก็ต้องมีคำถามก่อนแล้วว่าคุณเป็นแบบไหน  ถ้าขั้วต่างกันก็อาจจะคุยกันต่อ หรือคุณว่าไม่จริง ไม่งั้นก็อาจจะเปลี่ยนมาคุยแบบเพื่อนกันต่อไป

“เกมเป็นอะไรฮึเรา”

อยู่ๆ พี่ปั้นก็ถาม ทำเอาผมสะดุ้งเล็กน้อย เรื่องที่ครุ่นคิดแตกกระเจิงทันที

ตอนนี้เรามานั่งที่ม้าหินริมน้ำในสวนสาธารณะ สายลมอ่อนๆ ยามเย็นพัดมาให้รู้สึกไม่ร้อนนัก พระอาทิตย์ดวงโตใกล้จะตกดินเต็มทนแล้วครับ

ผมสะบัดหน้าไปมาก่อนจะยิ้มให้คนรัก

“ไม่มีอะไรครับ แหะๆ เกมก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย”

“เหรอ... แต่เหมือนมีเรื่องเครียดๆ มีอะไรปรึกษาพี่ได้ เราเป็นแฟนกันนะ”

ประโยคสุดท้ายทำเอาผมเขินนิดๆ แล้วก็ฉีกยิ้มแบบที่พี่ปั้นบอกว่าสดใสให้ไปอีกที ให้พี่เขาสบายใจ

“ไม่มีอะไรค้าบ เกมคิดเรื่องรายงานนิดหน่อยเอง”

“เอ้า...รายงานเหรอ แล้วไม่ถามพี่ล่ะ พี่ก็เรียนคณะเดียวกันนะได้ข่าว”

“ค้าบ ไว้เดี๋ยวจะโทรไปถามแล้วกัน ต้องไปดูก่อน อิอิ”

ผมว่าแล้วก็หัวเราะแก้เก้อ ปากหัวเราะก็จริง แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่ปั้นจะเชื่อผมแค่ไหน ยิ่งเขาชอบมองตาผมอยู่ด้วยเวลาคุยกัน อย่างที่เขาว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของความคิด บางทีพี่ปั้นอาจจะไม่เชื่อที่ผมบอกก็ได้ แต่ก็ภาวนาขอไม่ให้เขาคิดไปในทางที่แย่มากนักก็แล้วกัน

เรื่องที่ว่าไปข้างบนทำเอาผมเครียดอยู่ตลอด จนถึงขนาดในคาบเรียนวิชาภาษาไทยที่ผมชอบ แทนที่จะตั้งใจฟังเป็นอย่างดีเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันทนไม่ไหวจริงๆ เลยต้องสะกิดๆ ไอ้เพื่อนสนิทที่นั่งข้างๆ กัน  ไม่ไหวละ ผมต้องการที่ปรึกษาอย่างด่วน

“ไอ้โวลต์ๆ”

“ไรมึง”

คนถูกสะกิดหันมามองผมนิดๆ แล้วก็ขานรับ มือของมันก็จดยิกๆ ตามที่อาจารย์ผู้สอนกำลังกดสไลด์เพาเวอร์พอยต์อยู่  ว่าก็ว่าเถอะ ไม่รู้ว่าแกจะกดเร็วไปไหน วันนี้ผมจดไม่ทันแล้ว ผมก็เลยไม่จดมันซะเลย ฮ่าๆ รอถ่ายเอกสารเลคเชอร์ไอ้โวลต์เอา

พอมันไม่สนใจ ผมก็สะกิดอีก มันทำหน้ายุ่งยากใจนิดหน่อย แต่ก็ยอมหันมามอง

“อะไรของมึงไอ้เกม กูจดไม่ทัน แล้วมึงก็จะไม่มีไปด้วยนะเว้ย”

“เออน่า กูมีเรื่องปรึกษา”

“ปรึกษาไรตอนนี้ กูจะจดเลคเชอร์ ไว้เลิกคาบค่อยคุยกัน”

แล้วคนพูดก็หันไปจดยิกๆ ต่อ ไม่สนใจอีกเลย ผมก็เลยนั่งหน้ามุ่ยตลอดคาบ เพราะไอ้เพื่อนเลวไม่ยอมสนใจ จริงๆ ผมว่าผมเลวมากกว่ามันนะเนี่ย จดก็ไม่จด รอลอก แถมยังไม่ช่วยเพื่อนอีก ฮ่าๆ แต่ไม่รู้แหละ ตอนนี้กูเครียดเว้ย แม่ง...

พอเลิกคาบ ไม่ทันไอ้โวลต์จะได้เก็บของยัดใส่กระเป๋าได้หมดดี ผมก็ลากมันหลุนๆ ออกจากห้องเรียน ไม่ฟังเสียงที่มันบอกให้ผมเบามือ

“เฮ้ย ไอ้เกม ลากอยู่ได้ ไรของมึ๊งงงงงง”

ไอ้เพื่อนคนแรกในมหา’ลัย ว่าผมเสียงสูง พลางสะบัดแขนตัวเองออกมาจากมือผม เมื่อเรามาอยู่ที่ม้าหินหน้าคณะกันเรียบร้อยแล้ว คราวนี้คนที่หน้ามุ่ยไม่ใช่ผมแล้วแต่เป็นไอ้โวลต์แทน

“กูมีเรื่องจะปรึกษา”

“เรื่องอะไรของมึง ถ้าไม่สำคัญ มึงเตรียมโดนกูด่าได้”

“สำคัญเว้ย สำคัญกับกู”

“เหรอ? กูว่าแบบนี้คงไม่สำคัญสำหรับกูแน่”

“เหี้ยเหอะ ปากนะมึง ไม่คิดจะช่วยเพื่อนเลย”

“เออ มีอะไรว่ามา”

ว่าแล้วมันก็นั่งโป๊ะลงบนม้านั่ง ตรงข้ามที่ผมยืนอยู่ ผมเลยนั่งลงตามมันบ้าง

“คือ กูแบบ...คือ...กู....”

“เอ้า...อะไรของมึง พอกูฟังเสือกไม่พูดสักที เอออืออยู่นั่นแหละ”

“ก็กูอาย นี่หว่า...”

“อาย? ห่า มันมีในสารบบมึงด้วยเหรอไอ้เกม”

“ไอ้โวลต์ไอ้ปากเสีย! แม่ง...”

“เฮ้ย ด่ากูอยู่นั่นแหละ จะได้รู้เรื่องอะไรกันไหมเนี่ยวันนี้”

“เออๆ กูขอโทษๆ” ผมแต่ได้ยกมือไหว้มันปะหลกๆ  “คือกูจะปรึกษาเรื่องพี่ปั้น”

“อ่าฮะ... “

มันว่าอย่างสนใจฟัง แล้วก็เปิดเลคเชอร์ดูไปด้วย ไอ้นี่หนิ แยกประสาทสัมผัสได้หลายทางจริงเว้ย

“คือกูกับพี่ปั้นยังไม่เคยมีอะไรกันเลย”

“เออ....แล้ว” ไอ้โวลต์มันตอบอือออไป แต่แล้วก็ชะงักแล้วก็เงยหน้าขึ้นมองผมอย่างรวดเร็ว “มึงว่าไงนะ”

“เออ นั่นแหละ แล้วกูแบบ...อยากถามมึงว่ากูจะทำยังไงดี”

“ยังไง? คือมึงอยากมีอะไรกับเขาเหรอ”

“อือ เอ้ย...ไม่ใช่”

“ยังไงละ”

ไอ้คนฟังปิดสมุดเลคเชอร์ แล้วก็หันหน้ามาจ้องผม จนใบหน้าผมที่แดงอยู่แล้ว เริ่มแดงมากขึ้นไปอีก กูอายนะ ไอ้เพื่อนเลว

“ก็กูเคยบอกมึงแล้วนี่ ว่ากูกับพี่ปั้นเป็นเหมือนกัน”

“เป็นเหมือนกัน เออ...แล้วมึงจะบอกกูว่า ไม่มีใครเริ่มว่างั้น...”

“ไม่ใช่เว้ย...คือมันก็ใช่ แต่แบบ...ปัญหามันอยู่ที่ว่าใครจะทำมากกว่า”

ผมพยายามกลืนน้ำลาย พร้อมทั้งความอายลงคอไปพร้อมๆ กันแล้วพูดออกมา แม้จะยากเย็น แต่มันก็จบลงไปจนได้ ไอ้โวลต์มองหน้าผม ก่อนจะทำท่าทางครุ่นคิดแล้วก็ยื่นมือมาจับหน้าผมหันไปหันมา จนผมงงว่ามันจะจับทำไม

“หน้าอย่างมึง...” มันยังคงจับหน้าผมอยู่ “กูว่าคงจับพี่เขากดไม่ได้แหง...”

มันว่าต่อ

“แล้วอย่างพี่ปั้น...กูก็ว่า...ท่าจะทำไม่เป็นมั้ง โดนกดมาตลอดมั้งน่ะ...”

ผมฟังมันสันนิษฐานแล้วก็ยิ่งเครียด มันปล่อยมือออกจากคางผม

“งั้นเอาไงดีอะ...กูจะทำยังไงดี”

ผมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แบบว่ามันเครียดจริงๆ นะ ก็แบบพี่ปั้นจะคิดยังไงอะ พี่ปั้นจะรู้สึกอะไรไหมเวลาอยู่ใกล้ผม พี่ปั้นจะอึดอัดไหมเวลาเราอยู่ด้วยกัน พี่ปั้นจะอยากทำแบบนั้นกับผมรึเปล่า คำถามต่างๆ ตีรวนไปหมดในหัวผม

“...นี่มึงอยากมีอะไรกับเขาขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ก็ไม่เชิงแบบนั้นหรอก...แต่กูก็แบบ คนเป็นแฟนกันอะ กูก็ไม่รู้พี่ปั้นรู้สึกยังไงอะดิ มึงเข้าใจกูไหม กูอธิบายไม่เก่ง”

“แล้วกูจะตรัสรู้ความคิดมึงไหม เออ กูเข้าใจมึง กูล้อเล่น มึงกำลังเครียดว่า ถ้าพี่ปั้นอยาก เออ กูขอใช้คำนี้นะ ฮ่าๆ แล้วแบบ มึงก็ทำให้ไม่ได้ พี่ปั้นจะรู้สึกแบบไหนใช่ไหมละ”

ไอ้โวลต์ถามผมยืดยาว ผมก็พยักหน้าตอบ จริงๆ ผมอยากจะพูดไปแบบนั้น แต่แบบเข้าใจไหมว่าพอมันเป็นเรื่องของเราเอง จะให้พูดไปเป็นช่องเป็นฉากแบบนั้นมันก็อดจะอายไม่ได้ ถึงแม้ว่าจริงๆ กับไอ้เพื่อนคนนี้ผมก็ไม่ค่อยได้มีความลับกับมันสักเท่าไหร่ ถึงแม้เราจะเพิ่งรู้จักกันไม่นานก็ตาม

“เอางี้...กูว่ามึงคุยกับพี่ปั้นเลยดีกว่า”

“เฮ้ย ถ้ากูจะคุยกับพี่ปั้นได้ แล้วกูจะมาปรึกษามึงเหรอ”

“อ้าว แล้วยังไง มึงจะบอกว่าถ้าพี่ปั้นต้องการ มึงจะพยายามกดพี่เขาเองงี้เหรอ”

“ไม่รู้ มึงว่ายังไงดี”

“ไอ้นี่ กูจะรู้กับมึงไหมเนี่ย เอางี้...เดี๋ยวกูหาหนังโป๊มาให้มึงดีกว่า ลองดูละกัน เผื่อจะมีแรงฮึดไปกดพี่ปั้น ฮ่าๆ”

“ไอ้บ้า...แม่ง แต่เออ ก็ได้วะ หามาให้หน่อยนะเว้ย กูไม่ค่อยได้ดูเท่าไหร่”

และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมต้องมานั่งดูหนังอย่างว่าอยู่ตอนนี้

ไอ้โวลต์ แม่ง ไม่รู้หามาจากไหนหลายแผ่น ผมเปิดผ่านๆ อยู่สองสามแผ่น ไม่รู้จะเริ่มดูยังไง คือไม่ได้ไม่รู้ว่าดูยังไง แต่แบบพยายามจะจดจำฝ่ายที่ ‘รุก’ ว่าเขาทำกันยังไง แม้จะดูๆ ไปแล้ว ตัวเองจะไม่สงบเท่าไหร่ก็ตาม สู้โว้ย!


(ต่อ)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 18-05-2011 22:47:43
ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องนอนของพี่ปั้นครับ ตื่นเต้นครับ ไม่รู้จะตื่นเต้นทำไม จริงๆ ไอ้เรื่องจะก่งจะกดพี่ปั้นไรนั่นผมก็พยายามเลิกคิดไปแล้ว เพราะคิดได้ว่า ยังไงผมก็ทำไม่ได้อยู่ดี คนมันไม่เคยนี่ครับจะไปทำอะไรได้ แต่พอตอนนี้มานั่งในห้องพี่ปั้นผมก็อดจะคิดไม่ได้อีก เอาไงดีๆ

“เอ้า...นี่โค้ก”

“ครับ”

“เป็นอะไรเรา คิ้วขมวดมุ่น”

“ป่าวครับ...พี่ปั้นสอนการบ้านเกมดีกว่า”

ผมเปลี่ยนเรื่อง เปิดกระเป๋าสะพายหยิบชีทวิชาภาษาอังกฤษออกมา วิชานี้เป็นวิชาที่ผมไม่ถนัดที่สุดครับ ก็เลยต้องรบกวนพี่ปั้นต้องมาสอนให้ อาทิตย์หน้าจะสอบปลายภาคแล้ว ผมยังไม่เข้าใจในวิชาเรียนเท่าไหร่ ด้วยเพราะส่วนหนึ่งเพราะพื้นฐานของผมไม่ค่อยแน่นอยู่แล้ว มาเจอการสอนที่เร็วของมหา’ลัยอีก ผมเลยไม่รอด

“อ๋อ เรื่องนี้ เอางี้ เดี๋ยวพี่สอนง่ายๆ”

ว่าแล้วก็ฟังพี่ปั้นอธิบาย ผมก็พยักหน้าหงึกหงักตาม พยายามทำความเข้าใจ มองหน้าพี่เขาไปด้วย แต่ก็ เอ่อ...เคลิ้มครับ ผมว่าวันหลังผมไม่ให้พี่ปั้นสอนการบ้านแล้วดีกว่า

บางทีผมก็เหม่อเอาแต่มองหน้าพี่เขา พี่ปั้นหล่อมากครับ พอมองหน้าก็เลยมองลงมาที่คอครับ...คอก็ขาวว่ะ  

ผมตาลอยไปแล้วครับผม

“เกม เกม...เกม ไอ้เกม”

“เอ้อ...คะ ครับ”

“เป็นอะไรเนี่ย เรียกตั้งนาน มองหน้าพี่แล้วก็ยิ้ม”

“เปล่าๆ แหะๆ ไม่มีอะไร”

“แน่นะ...เอ๊ะ...หรือคิดลามกอะไรกับพี่อยู่”

“เฮ้ย ป่าวนะพี่ปั้น”

“แหน่ะ มีพิรุธนะเรา...”

แล้วพี่ปั้นก็หัวเราะหน้าผมที่เหวอเต็มที่ ก็แหงละ ผมไม่ได้คิดอะไรลามกนะเว้ย แต่มองหน้าพี่ปั้นแล้วก็เคลิ้มเท่านั้นเอง ก็แหม...คนที่เราแอบปลื้มนะ ถึงแม้จะเป็นแฟนกันแล้วก็เหอะ มันก็ต้องมีกันบ้างที่รู้สึกแบบนี้  ฟังไปฟังมาเอาอีกแล้วผม แล้วเฮ้ย...มือผมไปแล้วครับ คว้าหมับเข้าที่บ่าพี่ปั้น ก่อนจะรู้ตัวผมก็หอมแก้มพี่ปั้นไปแล้วครับ เป็นเอามากจริงๆ กู

พี่ปั้นหันมายิ้ม  

“ไหนบอกไม่คิดอะไรไง นี่ลวนลามพี่แล้วนะ”

“เอ้า เปล่านา ฮ่าๆ”

“งี้ต้องโดนทำโทษ”

ว่าแล้วพี่ปั้นก็คว้าตัวผมเข้าไปกอดทั้งตัว ก่อนจะระดมหอมแก้มผมใหญ่ซ้ายทีขวาที ผมก็ดิ้นไปดิ้นมา เหมือนเล่น  เอ่อ...เล่นไปเล่นมา ผมว่ามันชักจะไม่เล่นแล้วนะเพราะตอนนี้ผมกองอยู่บนตัวพี่ปั้นแล้วครับ

เราสองคนชะงักมองหน้ากัน แต่ก่อนผมจะทันคิดอะไร พี่ปั้นก็คว้าท้ายทอยผมไว้ พลางกดใบหน้าผมลงไปหา ริมฝีปากของเขาก็กดเข้าหาปากของผมอย่างรวดเร็วเช่นกัน

“อื้อ...”

ผมครางอือ...รับสัมผัสอุ่นจากอีกฝ่าย

ริมฝีปากของเราสองคนบดเบียดเข้ามากันครั้งแล้วครั้งเล่า ลิ้นอุ่นชื้นกระหวัดเกี่ยวเข้าหาอย่างไม่รู้สึกตัว มือไม้กอดก่ายไปมาบนตัวของกันและกันอย่างเคลิ้มไหว รู้สึกตัวอีกที จากบนพื้นกลับกลายเป็นบนเตียง จากที่ผมอยู่บนตัวของพี่ปั้น ตอนนี้พี่ปั้นก็คล่อมอยู่บนตัวผมเรียบร้อย ทั้งๆ ที่ริมฝีปากของเราสองคนแทบไม่ได้ผละออกจากกันเสียด้วยซ้ำ

“อื้อ...พี่...ปั้น”

“หือม์...ว่าไง...”

“คือ...อื้อ...ปล่อยก่อนดิ...”

ผมร้องประท้วงเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

แม้สถานการณ์ตรงหน้ายากที่จะฉุดรั้งได้ เพราะอารมณ์ของเราสองคนตอนนี้คงเตลิดไปไกลเกินแล้ว ทว่าก่อนอะไรจะเลยเถิดสิ่งที่ผมกังวลก่อนหน้านี้ก็โผล่พรวดเข้ามาในความคิดทันที

ผมยกมือขึ้นดันอกพี่ปั้นให้ถอยออกไป แม้จะยากลำบากไปเสียหน่อย เพราะตัวพี่ปั้นใหญ่กว่าผม แม้ไม่มากแต่ผมที่อยู่ข้างล่างเขาก็ทำได้ไม่ง่ายนัก

“ว่า...”

พอพี่ปั้นหยุดแล้วมองหน้าผม ผมก็เกิดพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น ผมรู้ว่าอาจจะทำให้อีกฝ่ายเสียอารมณ์ไปแล้ว เพราะมาขัดจังหวะในเรื่องแบบนี้ ผมนึกว่าตัวเองจะโดนโกรธเสียด้วยซ้ำ แต่พอมองหน้าพี่ปั้นตรงๆ กลับพบเพียงแต่รอยยิ้มกับสายตาล้อเลียนที่มองผมอยู่ จากที่หน้าแดงอยู่แล้ว คราวนี้เลือดในกายผมพากันไปไหลรวมอยู่บนใบหน้ามากขึ้นไปอีก

“หึหึ...ว่าไง”

“พี่ปั้น...ยิ้มไร...”

“เปล่า...แล้วเราละ ตกลงมีอะไร”

“ก็...แบบ...”

“อะไร อ้ำอึ้งนะเรา...”

ปากก็พูดไป มือก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เลย เดี๋ยวเหอะ ลูบแขน ลูบมือผมไม่หยุด สต่งสติหดหายหมดผม

“พี่รู้แล้ว”

อยู่ๆ พี่ปั้นก็บอก ทำเอาผมงงเป็นไก่ตาแตก


เฮ้ย...กูยังไม่พูดอะไรเลยนะ รู้ได้ไง ไวเท่าความคิด ผมก็รีบถามออกไปทันที

“รู้อะไร”

“รู้ว่าเกมคิดอะไรอยู่”

“จริงอะ”

ผมถามย้ำ ทำหน้าไม่แน่ใจกับความคิดของคนที่คร่อมตัวผมอยู่

“เดี๋ยวพี่จัดการเอง”

“จัดการอะไรอะ”

ผมงงเป็นไก่ตาแตก ที่ไม่รู้จะแตกยังไงแล้ว ยังไม่เก็ตประโยคนี้ของพี่ปั้น

“ก็ ‘ทำ’ ให้เกมเองไง หึหึ”

พี่ปั้นเน้นคำว่า “ทำ” จนผมเข้าใจความหมาย ผมทำหน้าเหวอ

ว่าแต่...ไหนว่า เร็วเท่าความคิด

เฮ้ย ปากกูไปอีกแล้ว ไวชิบ!

“พี่ปั้นทำเป็นเหรอ”

อีกฝ่ายหัวเราะออกมา ไม่ได้ถือว่าประโยคคำถามของผมดูถูกเขาแต่อย่างใด ดวงตาของเขาก็หัวเราะจนผมหน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังไงแล้ว แม่ง...มาคุยกันเรื่องอะไรวะเนี่ย แถมในสถานการณ์แบบนี้อีก โอ้ย...ตายๆ

“แล้วใครบอกเกมว่าพี่ ‘ทำ’ ไม่เป็น”

“ก็...” ผมเงียบ พยายามคิดหาคำตอบที่เข้าท่า “...ดูจาก...จากพี่ปั้นอะ ไม่น่าอะ...คือ...”

“จริงอะ...คิดไปเองป่ะ”

อีกฝ่ายยิ้มพราย เอ่อ...อันตรายๆ จุดนี้อันตรายแน่นอน ถอยทัพด่วน!

“มั้ง...เกมว่า...เราไปทำการบ้านกันต่อดีกว่า”

ผมรีบพูดชิ่งเอาตัวรอด พยายามจะลุกขึ้น แต่เฮ้ย...ไหงมาทับกันงี้วะเนี่ย จะลุกไงละ

“นี่ไง...พี่ก็จะสอนเกมทำการบ้าน...”

“ทำอะไรบนนี้ โน่นการบ้านเกมอยู่โน่น”

ผมบุ้ยใบ้ไปทางกองชีทที่วางอยู่บนพื้นห่างไปจากเตียงที่ผมกำลังอยู่กับพี่ปั้นประมาณสามถึงสี่ฟุต ทั้งๆ ที่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘การบ้าน’ ของอีกฝ่าย แต่ทำไมอะ...ไม่เอาแล้วๆ  แอ่ดดดดด...เมย์เดย์ๆ

“แต่การบ้านพี่อยู่นี่นะ”

“การบ้านอะไรของพี่...ไม่มีเว้ย ปล่อยเกมได้ละ”

“ถ้าพี่ไม่ปล่อยละ”

“เกมจะฟ้องแม่”

“จะฟ้องว่าอะไร”

อีกฝ่ายหัวเราะ เออ...ผมจะบอกว่าไรเนี่ย อยู่ๆ เดินไปบอกว่า “แม่ครับ...ลูกชายแม่ปล้ำเกม” ม๊ายยยยย ตายห่า ไม่นะ

“ฟ้องว่าพี่ปั้นแกล้งเกม”

“หึหึ...”

“หัวเราะน่าเกลียดว่ะ”

“ไม่ต้องร้องโยเย มา ‘ทำการบ้าน’ ต่อได้แล้ว”

ผมที่กำลังจะอ้าปากก็ได้แต่ส่งเสียงอู้อื้อแทน...ก็ผมน่ะ...ถูกปิดปากไปแล้วน่ะสิ


สุดท้าย...


ใครบอกกูวะเนี่ย ว่าพี่ปั้น ‘ทำ’ ไม่เป็น... โอ้ย...สะโพกกู๊!!!!



---
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 18-05-2011 22:48:44
จบแล้วนะครับสำหรับตอนพิเศษ...

ไม่รู้จะสนุกรึเปล่า แหะๆ พอดีอยากแต่งก็แต่งเลยครับ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค้าบ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-05-2011 23:03:16
นั่นสิ น้องเกมไปเอามูลมาจากไหนว่าพี่ปั้นทำไม่เป็น
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 19-05-2011 00:24:20
ฮ่าฮ่า โดนซ้า จะได้ไม่เข้าใจผิด
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 19-05-2011 19:52:32
ดันกันนิดๆ เพื่อให้คนที่ยังไม่ได้อ่านได้อ่าน


เรื่องต่อไป น่าจะเป็นเรื่องของน้องโวลต์ครับ!
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 19-05-2011 20:35:48
ง่ะ แล้วไม่มีบรรยายอะไรอีกนิดเหรอ :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 19-05-2011 23:45:12
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 20-05-2011 10:05:39
น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-05-2011 10:20:00
ตัดจบแบบนี้เลยเหรอฮะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเ$
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 20-05-2011 11:06:11
อ๊ายยยยยยยยย พลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกันเนี่ย
พี่ปั้นละมุนอ่ะ >_<



เดี๋ยวจะตามอ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่นๆนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: MoPPeT ที่ 20-05-2011 11:27:03
อยากรู้ว่าภายนอกพี่ปั้นเป็นยังไง เกมถึงคิดว่าทำไม่เป็น 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: Mercy ที่ 20-05-2011 11:40:59
พี่ปั้น... อ่านไปแล้วคิดถึง พี่ท. หึหึหึหึ...

แต่เท่าที่อ่านมา ก็รู้สึกได้ว่า พี่ปั้นมันทำได้แน่ๆ หุหุ
จะมีให้น้องเกมทำพี่ปั้นบ้างไหมอะ?

แต่อยากให้น้องเกมมันโดนฝ่ายเดียว อิอิ...


ปล. คิดถึงพี่ท. เนอะ หุหุ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: afternoon ที่ 21-05-2011 12:26:37
เกม นายพลาดเเล้วล่ะ 5555 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: tender ที่ 11-10-2011 23:20:39
น่ารักมาก!!~
  อ๊าย เขิลแทนนนนน  นน  นน
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54]
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 28-03-2012 00:22:47
ดันไว้ัก่อนๆ

จริงๆ เรื่องนี้มันจบแล้วนะ แงแง มันมาอยู่ห้องนี้ได้ไง T^T
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 29-03-2012 06:25:49
แอร๊ยยยยย น่ารักมากมาย ^^"
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 29-03-2012 20:14:35
น่ารักไม่ไหวแล้ว เกมส์ไม่น่าเครียดไปเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 29-03-2012 21:36:07
แอร๊ยยยยย น่ารักมากมาย ^^"


ขอบคุณฮะ

น่ารักไม่ไหวแล้ว เกมส์ไม่น่าเครียดไปเลย

ฮ่าๆ ค้าบ เนอะๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bambooiihallo ที่ 03-04-2012 22:01:00
น่ารักมากกกกกก T^T แบมมาอ่านแล้วนะ ช้อบชอบ !
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ๛ナーリバス๛ ที่ 04-04-2012 22:12:10
ปั้นดู กรุ้มกริ่ม เจ้าเล่ห์ออก ทำไมโดนคิดว่าทำไม่เป็นหว่า ไม่เข้าใจเลยยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 05-04-2012 14:38:16
บริหารสะโพกซะแล้ว :z1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: miwmiwjung ที่ 05-04-2012 21:56:13
น่ารักดีนะ  เสียดายไม่มี nc (หื่นไปป่าวว่ะข้าพเจ้า)
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-04-2012 15:20:44
ชอบอ่ะ
น่ารักดี :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 08-04-2012 00:38:43
น่ารักมากกกกกก T^T แบมมาอ่านแล้วนะ ช้อบชอบ !

ขอบคุณน้าแบ่มแบ๊มมมมม จุ๊บบบบบบบบบ!!

ปั้นดู กรุ้มกริ่ม เจ้าเล่ห์ออก ทำไมโดนคิดว่าทำไม่เป็นหว่า ไม่เข้าใจเลยยยยย

ฮ่าๆ ครับ เสียงลือเสียงเ่ล่าอ้างไงครับ ฮ่าๆ

บริหารสะโพกซะแล้ว :z1:

โดนเลยๆ อิอิ

น่ารักดีนะ  เสียดายไม่มี nc (หื่นไปป่าวว่ะข้าพเจ้า)

ฮ่าาาา ขอบคุณนะครับ


ชอบอ่ะ
น่ารักดี :L1:

บวกเป็ด

ขอบคุณครับบบ บวกเช่นกัน!
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: lukemooh ที่ 29-04-2012 10:11:19
น่ารักๆๆๆๆ :3123: :3123:

พี่ปั้นท่าจะทำเป็นมากอ่ะ  :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 29-04-2012 21:52:46
เพิ่งเข้ามาอ่านนะคะ
พี่ปั้นน้องเกมน่ารักมากค่า รักเลย  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 07-05-2012 00:03:16
น่ารักๆๆๆๆ :3123: :3123:

พี่ปั้นท่าจะทำเป็นมากอ่ะ  :haun4: :haun4:

55555555555 ผมขำเลยอะ

เพิ่งเข้ามาอ่านนะคะ
พี่ปั้นน้องเกมน่ารักมากค่า รักเลย  :-[

ขอบคุณครับ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 17-05-2012 09:39:07
55 ใครว่าพี่ปั้นทำไม่เป็นเนี่ย
เกมคิดไปเองจริงๆ เลยได้พิสูจน์
น่ารักมาก : )
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 19-05-2012 22:28:14
55 ใครว่าพี่ปั้นทำไม่เป็นเนี่ย
เกมคิดไปเองจริงๆ เลยได้พิสูจน์
น่ารักมาก : )

ขอบคุณค้าบบบบ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 21-05-2012 00:45:51
 :really2:จบแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 09-06-2012 00:25:02
:really2:จบแล้วเหรอ

ครับผม : )))
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Oilsaoo ที่ 12-06-2012 19:22:08
น่ารักอ่ะ
ใครบอกว่าพี่ปั้น"ทำ"ไม่เป็น 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 28-06-2012 23:32:22
น่ารักอ่ะ
ใครบอกว่าพี่ปั้น"ทำ"ไม่เป็น 555

เนอะๆ อิอิ ขอบคุณนะครับ

หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chiji ที่ 09-01-2013 22:15:37
น่ารักดี o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 09-01-2013 23:11:28
จบแล้วหรอ กำลังน่ารักเลย
ปั้นรุกอีกเยอะไๆเลย พี่ชอบ  :m10: :m11:
หัวข้อ: Re: [เรื่องเล่าในเรื่องสั้น] Try - ลอง ---> ตอนพิเศษ รุก รับ [18 05 54] "Try" จบแล้วนะครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 06-05-2013 12:45:24
น่ารักดี o13

จบแล้วหรอ กำลังน่ารักเลย
ปั้นรุกอีกเยอะไๆเลย พี่ชอบ  :m10: :m11:


ขอบคุณครับบบบบ