พิมพ์หน้านี้ - เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Kirimanjaro ที่ 10-02-2011 00:03:24

หัวข้อ: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 10-02-2011 00:03:24
อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





คือไม่รู้จะเล่าไงดี  แม้แต่ตอนที่พิมพ์อยู่นี่ผมก็กำลังรู้สึกสับสนในหลาย ๆ เรื่อง  
ผมติดเกมมาก  แล้วก็ชีวิตไร้ระเบียบแบบสุด ๆ  แบบที่คุณคงจะเรียกว่าเส็งเคร็งเลยล่ะ  
ผมจำแทบไม่ได้ว่าเก็บกวาดห้องครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

ผมคิดว่าผมคงป่วยเป็นโรคที่หลาย ๆ คนก็น่าจะเคยเป็นกัน...โรคขาดกำลังใจ

ทำไม ๆๆๆๆ  ผมตั้งคำถามกับตัวเองทุกวัน  ว่าทำไมถึงปล่อยตัวแบบนี้  
ทำไมถึงไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง  ทำไมไม่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคน

โอ๊ย  งง   ผมว่าจะเล่าเรื่องราวตามลำดับขั้นตอน  แต่ตอนนี้กลายเป็นว่านึกอะไรได้ก็เขียนลงไป  
งั้นก็เอาอย่างนี้  ก็รั่ว ๆ สลับไปสลับมาตามแต่ผมจะคิดออกก็แล้วกัน  
จริง ๆ ผมจะเล่าเรื่องราวของผมกับน้องคนหนึ่ง  ผมว่าคุณหลายคนคงเดาชื่อน้องคนนั้นออก  
แต่ผมอยากจะขอร้องว่าให้คิดถึงเขาในอีกมิติหนึ่ง  ในอีกมุมมอง  ที่เป็นมนุษย์และมีเลือดเนื้อ  
ไม่ได้ดีเพอเฟคท์หรือหล่อขั้นเทพ  หรืออะไร ๆ ที่ชวนจิ้นนั่นแหละ  
ส่วนผมน่ะเหรอ  ก็ไอ้หน้าปลวกที่ไปรักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งดี ๆ นี่เอง

โอเค  บอกตามตรงว่าผมก็อยากจะเลิกฝังใจกะน้องคนนี้เต็มทีแล้วล่ะ  
รักบ้าอะไรวะ  ทำไมต้องยาวนานตั้งสี่ปีด้วย  แล้วทำไมกูต้องทรมานทุกครั้งที่คิด  
ทำไมต้องแอบร้องไห้คนเดียว  ไอ้บ้าเอ๊ย  ทำไมไม่ไปรักคนอื่น  
จริง ๆ ผมก็อยากอ่านพล็อตอื่น ๆ ที่ตัวเองเขียนบ้างนะ  ก็บอกตัวเองทุกครั้งแหละว่าพอกันที  
เลิกๆๆๆ  เลิกเขียนพล็อตทำนองแอบรักเพื่อนได้แล้ว  แต่คุณรู้มั้ย  มันทำไม่ได้หรอก  
ก็ในเมื่อทุกวินาที  ทุกลมหายใจ  ผมสลัดเรื่องนี้ออกไปจากหัวไม่ได้เสียที (อ้วก)

เออช่างเหอะ  เอาเป็นว่า  ผมเล่าจากตรงนี้เลยก็ได้  วันนี้อีกแปบนึงผมก็ต้องไปรับน้องที่ชลบุรี  
ก็คงไม่แปบหรอกพวกเพื่อนแม่งคงสายกันสะบั้นหั่นแหลกเหมือนทุกปี  
ไอ้สี่น้องรักนัดผมไปที่ลานจอดรถตอนหนึ่งทุ่ม  แต่ผมไม่เชื่อน้ำยาพวกเห้นี่หรอก  
ผมว่ารถได้ออกอย่างเร็วห้าทุ่ม  พนันกันมั้ยล่ะ

แต่ว่าเรื่องรับน้องนี่เกี่ยวไงกะชีวิตผม  เอ่อ..มันก็เกี่ยวนะ  คือปีนี้ผมอยู่ปีสี่แล้ว  
ปีสุดท้ายน่ะเข้าใจป่ะ  ใครไม่ต้องมาแช่งให้มีปีเพิ่มเลย (ดักคอ)
ก็เลยรู้สึกเสียดายถ้าจะไม่ได้ไปรับน้องปีนี้  เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้ไปอ่ะ  
ขี้เกียจเดินทาง  ขี้เกียจอะไร  หรือบางทีก็มีเหตุผลแอบแฝงอยู่  
อย่างปีที่แล้วผมไม่อยากไปก็เพราะไม่อยากอยู่ใกล้กับน้องคนที่ว่ามาก  
กลัวจะอดใจไม่ไหวทำอะไรบางอย่างที่เคยทำไป  แล้วก็ผมก็รู้นานแล้วว่า  
เวลาที่อยู่ใกล้คนที่เราเครซี่สุด ๆ  แต่เป็นแค่เพื่อนเนี่ย  มันทรมานชิบหาย  
ผมเคยตกนรกทั้งเป็นมาแล้วตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศพร้อมกับน้องคนนั้นตั้งสิบวัน  
จะบอกว่ามีความสุขมั้ย  ก็มี  แต่มันเฟล  เฟลเหี้ย ๆ  แบบว่าหลอกตัวเองไม่ได้หรอก  
ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้  แล้วเสือกไปอยู่ใกล้อีกจะไม่เจ็บได้ไง  
ช่างเหอะๆๆ   ที่ผมจะไปปีนี้ก็เพราะผมจะไปเคลียร์เสียที  จะไปบอกรักเสียให้หายคาใจ  
ประกาศกะเพื่อนในเกมไปแล้ว  พวกมันก็วี้ดวิ้วเชียร์กันสุดฤทธิ์สุดเดช  หารู้ไม่ว่าคู่กรณีของกรูเป็นผู้ชาย  กั่กๆๆ

เอาเป็นว่า  ตอนแรกจบแค่นี้ก่อนดีกว่า  เพราะไอ้กระผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป  
นึกเสียว่าเป็นรายงานข่าวสดสถานการณ์ที่เกิดขึ้นวันต่อวันก็แล้วกัน  
ส่วนชื่อเรื่องเนี่ย  ที่ตั้งแบบเนี้ยเพราะมันนึกไม่ออกจริง ๆ  
ก็เออว่ะ  คล้าย ๆ กับ  เออว่ะ  แพล่มว่ะ  หรือมั่วว่ะ  เมาว่ะ  เอ้า..เอาเข้าไป

สลายตัวได้แล้วไทยมุง






ปล. รักนะจุ๊บ เพื่อน ๆ หลายคนที่ไม่ได้เจอกันนาน
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 10-02-2011 00:07:34
เวลาที่อยู่ใกล้คนที่เราเครซี่สุด ๆ  แต่เป็นแค่เพื่อนเนี่ย  มันทรมานชิบหาย 
เวลาที่อยู่ใกล้คนที่เราเครซี่สุด ๆ  แต่เป็นแค่เพื่อนเนี่ย  มันทรมานชิบหาย 


รู้อยู่เหมือนกันไอ้อารมณ์ทรมานชิบหายแบบนี้เนี่ย......(น่ะค่ะ)
เลยมาไฮไลท์ซะ

หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 10-02-2011 00:28:09

วุ้ย เออก็เออค่ะ  :z12:
ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
 
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 10-02-2011 00:33:05
เออว่ะ!! เป็นกำลังใจให้แล้วกัน เคลียร์ๆไปซะ
ยังงัยก็จะจบอยู่แล้ว เดี๋ยวมันก็ผ่านไป :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 10-02-2011 02:34:54
อารมณ์เดียวกันค่ะคุณ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 10-02-2011 22:23:46


anajulia: นึกถึงเครื่องโรเนียวเลยครับ  มันตอกย้ำผมเหมือนกันนะเนี่ย  ฮ่ะๆๆ

kit: คิดถึงเจ๊อย่างแรง  แอบเห็นที่ห้องอีวิล

ChCh13: ก็ว่าจะเคลียร์คืนนี้แหละครับ  รอน้องมันกินเหล้าเสร็จก่อน  เผื่อตื่นมาจะได้ลืม ๆ ว่าผมพูดไรไป

Wordslinger: จะรู้สึกดีหรือไม่ดีดีอ่ะครับ  ที่มีคนเป็นแบบนี้เยอะ

allaboutmyfav:  ขอบคุณมากครับ  เรื่องรักอย่างเดียวนี่  ไว้ค่อยอธิบายล่ะกัน




===============================

จริงอย่างที่ผมคิดแหละ  ไอ้พวกเพื่อนเวรกว่าจะยุรยาตรยาตรามาถึงจุดนัดพบก็ล่อไปสามทุ่มสี่ทุ่ม  กว่าพ่อเจ้าประคุณแม่เจ้าประคุณจะเข้าห้องน้ำห้องท่าซื้อหาผลไม้ของฝากก็เกินชั่วโมง  พ่อยอดชายนายกาย  คนที่ผมพูดถึงนั่นแหละ  มาเจอหน้าผมก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง  โยนกล่องเหลี่ยม ๆ ยาว ๆ หนัก ๆ ให้ผมถือ  เออ..ไม่ใช่กล่องดิลโด้หรอก  มันคือฉลากแดงดี ๆ นี่เอง

“พี่  ฝากถือ”

ผมก็พลิกกล่องดู  ขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่พองามเหมือนพระเอกช่องเจ็ดเวลาท้องผูก  “ไปเอามาจากไหนวะ”

 “โลตัสแถวนี้แหละพี่”    โอมายก๊อด  ยังมีเวลาไปเอ้อระเหยซื้อเครื่องดื่มบำรุงตับอีก

“พี่แทนนน”  เสียงวอนตีนแบบนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก

“ไอ้ทีม!  มากะเค้าด้วยเรอะ  โคตรคิดถึงมึงเลยว่ะ”

“ตอแหลเนียน ๆ หน่อยก็ได้พี่  ปากบอกคิดถึงทีม  แต่ตาพี่แม่งมองแต่ไอ้กาย”

ไอ้เจ้ากายหัวเราะ  แล้วหลบฉาก  ทิ้งเรดเลเบิลกับไอ้ทีมปากมอมไว้ใกล้ ๆ

“เออเหอะ”

ไอ้ทีมมองผมแล้วก็ยืนเท้าสะเอว   “เมื่อไหร่พี่จะเลิกคลั่งมันสักทีเนี่ย”

“ก็...ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา”

“เป็นเอามาก”

ผมยักคิ้วแผล็บ  “ก็แค่ขำ ๆ อย่าคิดมาก”

ไอ้ทีมเพยิดหน้าทีนึง  “ไอ้กายมันมีดีตรงไหนวะ  หล่อก็ไม่หล่อ  หัวก็โต  ตัวลีบเหมือนกุ้งแห้ง  แถมกระเจี๊ยวยังเล็กอีก”

“ไอ้...ไอ้...”  มือผมควานหาข้าวของจากกองกระเป๋าเขวี้ยงตัวปากหมา  “เอ๊ะ  แต่ว่ามึงรู้ได้ไงว่าไอ้นั่นของไอ้กายมัน...เอ่อ..เล็กน่ะ”

“ดูจากโหงวเฮ้งสิพี่  ตี๋ ๆ สูง ๆ ใหญ่ ๆ แบบเนี้ย  เล็กทุกรายแหละทีมลองมาหมดแล้ว”

“ลองอะไรวะ  พูดมาได้ไม่อายปาก”

“อย่าพี่  อย่าแอ๊บโลกสวยขอร้องเถอะ  ยังกะว่าพี่สะสมแต้มไว้น้อยนักนี่”

ผมได้แต่หัวเราะในคอ  “เออ  กูมันร่าน  เอาว่ามึงมีไรก็พูดมา  ไม่ต้องชักแม่น้ำทั้งห้าอ้อมเขาคิชกูฎ  สันดานมึงเนี่ย  ลงแกว่งปากหาส้นทีไรต้องมีอะไรแอบแฝงทุกทีให้ตายเถอะโรบิน”

“แหมๆๆๆ  ยังเฉียบแหลมสมเป็นพี่แทนคนเดิม  ก็ไม่มีไรมากหรอก  แค่เห็นพี่แทนนั่งหงอยเฝ้ากระเป๋าอยู่นี่  ก็เลยอยากให้ยิ้มสักหน่อย”

“กูยิ้มแล้ว”  ผมแสยะยิ้มพิมพ์ใจไปให้

“อย่าเศร้าได้ป่ะ  น้อง ๆ เขาอยากให้สนุก  เนี่ยหลานรหัสเขารีเควสท์มานะว่าพี่ต้องไปให้ได้”

“เรอะ  ว่าแต่  หลานรหัสกูเป็นใคร”

“โอ้โห  ไอ้พี่แทน  นี่ไอ้คุณมึงไปมุดหัวอยู่ไหนมา  จะจบเทอมสองอยู่แล้ว  ยังไม่รู้อีกเรอะว่าหลานรหัสเป็นใคร!”

“หรี่โวลุ่มหน่อยก็ได้  กูอายเป็นเหมือนกันนะว้อย”

“ขอบคุณสวรรค์ที่พี่แทนยังพอมียางอายกับเขาบ้าง”

“ถ้ามึงไม่กัดกูประโยคเว้นประโยคเนี่ยจะลงแดงตายมั้ยวะ”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ไม่ต้องเปลี่ยนเรื่อง  หลานรหัสกูเป็นใครเนี่ย  ผู้หญิงหรือผู้ชาย  แล้วหล่อป่ะ  งานนี้ก็มาด้วยใช่มะ”

“ทีมบอกพี่แล้วทีมจะได้อะไร”

“โอ้โห  ยังอุตส่าห์ตั้งเงื่อนไข  มึงจะเอากูเป็นเมียมั้ยล่ะ  กูให้ฟรีคืนนึง”

ไอ้ทีมทำหน้าสยดสยอง  “อย่าเลยพี่  พี่น้องกันเขาไม่ทำอะไรกันหรอก”

“แหมไอ้คนดี  แต่กูมันชั่ว  เอาได้ทุกอย่างที่ไม่มีหาง  ออเคโน๊ะ”

“พี่แทนโหมดแรดน่ากลัวจังแฮะ”

“เออ  คุยกะมึงเนี่ยเหมือนคุยกะทนาย  จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน  กูอยากรู้เรื่องนี้มึงก็เบี่ยงไปเรื่องนั้น  มึงบิดตูดหลบให้ได้ตลอดล่ะกัน  อย่าเผลอเชียวกูจะส่งคนไปทิ่ม”

“คนไปทิ่มเนี่ย  จากสต๊อกพี่ป่ะล่ะ   ถ้างั้นก็เอา  คัดหล่อ ๆ ล่ำ ๆ ถึก ๆ มานะพี่”

ถึงจะฉิวแต่ก็อดขำไม่ได้ที่ไอ้ห่ะนี่ต่อปากต่อคำกับผมได้นานสองนาน  “มึงจะไสเศียรไปไหนก็ไปเหอะ”

ไอ้ทีมยักคิ้วแผล่บแล้วก็หลบฉากถอยไปอีกคน  ผมนั่งคิดอะไรได้สักพัก  รุ่นน้องปีสองที่เป็นเจ้าภาพจัดงานก็มาตรวจตรากระเป๋าเพื่อปิดสติ๊กเกอร์สีแยกชั้นปี

“จะขนไปล่ะเหรอ”

“ครับพี่”

“ให้ช่วยป่ะ”

“ไม่เป็นไรพี่  แรงงานเยอะ”   ก็จริง  ปีสองเนี่ยหนุ่ม ๆ เนื้อแน่นกรุบกริบเยอะจริง ๆ เลยพับเผื่อยสิ  ส่วนใหญ่จะแมน ๆ เฮ้ว ๆ  ไม่ค่อยมีพวกจิตตกอาร์ตตัวพ่อตัวแม่อย่างรุ่นผมเท่าไหร่  ผมนั่งมองรุ่นน้องเพลิน ๆ ก็นึกอยู่ว่า  ถ้าหลานรหัสผมเป็นหนึ่งในพวกนี้ก็ดี  จะได้ดูแลอย่างใกล้ชิดหน่อย  นี่ผมไม่ได้คิดอะไรไม่ดีนะ  ไม่ได้คิดจริง ๆ  ก็แค่... ฮ่าๆๆๆ  ไม่พูดล่ะ  เดี๋ยวเข้าตัว





...
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 10-02-2011 22:32:35
• คิดถึงเจ๊อย่างแรง  แอบเห็นที่ห้องอีวิล
วุ้ย คิดถึงเช่นกันค่ะ....
ทั้งคุณคีรี, นายดล, นายช้าง(ที่ไม่ฉุแล้ว) และคนอื่นๆ อิอิ

•  “เอ๊ะ  แต่ว่ามึงรู้ได้ไงว่าไอ้นั่นของไอ้กายมัน...เอ่อ..เล็กน่ะ”
ต๊าย ทำเป็นลืม ทีมก็ได้อ่าน ‘ตามล่าหาหมากรุก’ ด้วยนะคะ
ได้บรรยายอะไรเอาไว้บ้างเล่า 5555

• ฮ่าๆๆๆ  ไม่พูดล่ะ  เดี๋ยวเข้าตัว
วั้ย วางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง....คริคริ
ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
  
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: timeless ที่ 10-02-2011 22:49:50
เออว่ะ ด้วยคนนะครับ  :o12:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 10-02-2011 23:08:23

อ่านตอนนี้แล้ว ต้องเอนหลังกับเก้าอี้พร้อมเอามือกอดอก ขมวดคิ้วแล้วทำสีหน้าครุ่นคิด พึมพัมกับตัวเองเบาๆ

"แทนกับผู้ชายทั้งโขยง!"

 :laugh: :laugh:

จูจุ๊บเป็นการขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tawada_j ที่ 11-02-2011 00:07:52
น้องกาย!!!!น่ารักกกกกกกกกก  อิอิ
แล้วเรื่องนี้จะจบไหม???? พี่รอลุ้น 555+
สู้ ๆ   :L2:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: babyfaibossy ที่ 11-02-2011 00:37:31
 :z13:

จิ้มๆ

ติดตามต่อนะค่ะ ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะลงเอยเช่นไร แต่ก็ สู้ๆ นะคะ

เอาเหงาเหมือนกัน ใกล้วาเลนไทน์แล้ว ให้  :L2: เขินจัง อิอิ :-[

:bye2:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 11-02-2011 00:43:31
มาเกาะติดสถานการณ์ด้วยคน :-[
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: [N]€ẃÿ{k}uñĢ ที่ 11-02-2011 00:59:55
แวะเข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณพี่ อิอิ
อ่านแล้วแบบมีแต่เด็กๆชวนให้คิดนะ  :z1:
แล้วจะรออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 11-02-2011 05:39:35
เออว่ะ
อะไรของมันวะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 11-02-2011 06:20:59
:m32:

เรื่องนี้ จะจบมั้ย? จริงด้วย โฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่ยังไงก็ตามอ่านค่ะเออว่ะ
เพราะบางเรื่องยังไงๆมันก็ไม่จบ ขนาดรักอยู่ข้างเดียวมาสี่ปีได้ จนป่านนี้ยังไงจบเลย(ไอ้ความรู้สึกว่ารักนั่นน่ะ)
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 11-02-2011 10:10:46
เ อ อ ว่ ะ

น้ อ ง แ ท น

 :mc4:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-02-2011 12:49:33
ทักทาย  5555
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 11-02-2011 13:11:01
มาอ่านด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nonae ที่ 11-02-2011 13:24:57
 :m9: ตามมาดูด้วยคน
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 11-02-2011 13:55:28
อะไรหลงรักอยู่ตั้งสี่ปีเชียวนานจริง
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 12-02-2011 01:22:14
คืนนี้โพสต์ไม่ไหวนะครับ  ง่วงเหนื่อยมาก  กว่าจะหาเน็ตใช้ได้อีก  ต้องยืมไอโฟนเพื่อนต่อกะโน๊ตบุ๊ค  ไม่นึกว่าแถวนี้จะกันดารขนาดนี้ = =

หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-02-2011 15:20:02
มาตามอ่านความรักที่แอ๊บไว้ตั้ง 4 ปี
พักผ่อนเยอะๆนะคะ เดี๋ยวไม่สบาย :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 12-02-2011 15:41:38
เกาะขอบสนาม ลุ้นต่อ
+1
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 12-02-2011 22:26:36
ของดีมาแล้วแหะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 12-02-2011 23:20:48
5555+   หลับฝันดี

รออ่านต่อนะ ^__^  สู้ๆ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: บีบีจัง ที่ 12-02-2011 23:53:46
เวลาที่อยู่ใกล้คนที่เราเครซี่สุด ๆ  แต่เป็นแค่เพื่อนเนี่ย  มันทรมานชิบหาย 

ฮือออออ เข้าใจมากค่ะ
ชอบจนจะเป็นบ้าอยู่แล้วแต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะเขาไม่มีท่าทีเลยยยย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 15-02-2011 01:33:09
มาช่วยดันครับ ตกไปเยอะเชียวเด๋วจะหาไม่เจอ อิอิ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 15-02-2011 02:39:48
วาเลนไทน์นี้มีเพื่อนคนหนึ่งอุตส่าห์มาเยี่ยมและให้เค้กชอคโกแลตครับ  T^T  ซาบซึ้งมาก
รู้สึกดีครับที่อย่างน้อยก็มีคนรักผมในฐานะเพื่อน  ผมไม่ได้ให้อะไรเขาเลยและไม่เคยตอบแทนความใจดีของเขา
เฮ้อ....รู้สึกผิด






==============================




ผมขึ้นรถคนละคันกับไอ้กายและไอ้ทีม  ผมไม่ชอบความวุ่นวายของพวกพี่บัณฑิตที่หอบเบียร์ขึ้นไปยังกะจะไปเปิดลานเบียร์บนรถ  ดันที่ผมนั่งมีน้องปีหนึ่งแล้วก็พวกปีสองที่ต้องดูแลน้อง  กับปีสามบางส่วนที่เบื่อ ๆ เหมือนกัน  คนที่นั่งข้างผมเป็นน้องปีสามชื่อนิก พูดเก่ง  สนิทกับผมดีเพราะว่าเล่นเกมด้วยกันบ่อย  หมอนี่มันก็หล่อดีน่ะนะ  เจ้าชู้อีกต่างหาก  เอาแฟนไปค้างที่หอตลอด  นึกแล้วก็ขำ  เมื่อปีที่แล้วผมยังหน้าแดงและทำตัวไม่ถูกทุกครั้งที่เจอหน้าไอ้เจ้านิกอยู่เลย  ก็น้องมันหล่อ  ที่ขำกว่านั้นคือ  ผมไปขอเบอร์น้องนิกจากเพื่อนอีกคน  แต่ไอ้เพื่อนตัวดีดันเข้าใจผิดว่าผมชอบน้องกร  ก็เลยให้เบอร์น้องกรมา  แล้วผมก็ไปทักน้องนิกว่าน้องกร  งงกันให้ตายไปเลย  หลังจากหน้าแตกครั้งนั้น  ผมก็ล้มเลิกการจีบน้องเขา  แบบว่าเป๋อขนาดนี้  ใครจะไปสู้หน้าได้  อีกอย่างเพื่อนคนหนึ่งก็เตือนว่า  น้องคนเนี้ยตอนปีหนึ่งมีกะเทยเลี้ยง  ซื้ออะไรให้  พาไปกินข้าว  แต่น้องเขาก็ไม่เล่นด้วย  ผมก็เฮ้อ...ชอบชายแท้อีกแล้วกรู

แต่สุดท้ายไอ้นิกก็มาติดผมจนได้  หลังจากที่ได้เล่นดอทเอด้วยกันมาเป็นร้อยเกม  และยกย่องชาบูผมว่าเป็นเทพดอทเอ  มันก็มักจะมาบ่นเสมอ ๆ  เช่นว่า  พี่วันนี้ทีมเราเล่นกรากจัง  โดยเฉพาะไอ้...  พี่ทำไงพวกเราถึงจะสู้ทีมโหมดได้  พี่ฮีโร่เนี่ยออกของไงดี  ..บลาๆๆ    หลัง ๆ เราไปเปลี่ยนไปเล่นแรคนารอคกันทั้งภาค  หัวข้อสนทนาก็เปลี่ยนเป็นทำนองว่า  มัฟเลือดบวกแปดขายไม่ดีเลยพี่  สงสัยคนไม่ค่อยเล่น  พี่มีวิธีหาตังในเกมยังไงมั่ง  ก็วนเวียนไปมาแบบนี้แหละ

แต่จะว่ามันวนเวียน  ผมก็บ้าไม่แพ้กัน  ถ้าชวนคุยเรื่องเกมนี่ก็พล่ามน้ำลายแตกฟองได้ยันฟ้าเหลือง  ก็ผมชอบมองหน้าหล่อ ๆ ตาแป๋ว ๆ ของมันนี่เนาะ  สายตาบูชาของไอ้นิกแบบว่าอ่านออกเลยว่า  พี่คนนี้โคตรเทพเลยว่ะ  แต่ก็นะก็เป็นได้แค่พี่  ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกหล่อ ๆ หน้าตาดี ๆ เนี่ย  มันนึกไงชอบวนเวียนเข้ามาในชีวิตผมนัก  แล้วคนก็มีตั้งเป็นร้อย  จะต้องมาอะไร ๆ กะตูคนเดียว  ทำงี้คิดนะว้อย

ผมคงยังไม่ได้บอกว่าผมกับไอ้นิกนั่งเก้าอี้กันคนละฝั่ง  ผมนั่งกะเพื่อนอีกคน  ส่วนไอ้นิกนั่งกะใครก็ไม่รู้  รถมันมืด ๆ  ผมชำเลืองมองเห็นแค่ผมดำ ๆ  แล้วก็หูฟังไอโฟนสีขาวที่ดูเหมือนเจ้าของจะใช้ฟังเพลงอยู่  ตอนที่ผมชำเลืองไป   ตาคมของเขาก็ปรายกลับมาเหมือนรู้ทันว่าผมแอบมองอยู่  ผมเสกลับไปมองหน้าไอ้นิก  ทำเหมือนกับว่าไม่ได้ตั้งใจสังเกตเขาอยู่  ผมไม่กล้าถามไอ้นิกว่าคนนี้เป็นใครอยู่ปีไหน

ผมแอบมองอีก  เขาทำหน้านิ่ง  แต่มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย  ผมนึกข้องใจว่าขำอะไร  เคยหรือเปล่าล่ะครับ  ที่บางทีคนไม่เคยรู้จักกันแต่อะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ทำให้รู้สึกไม่ชอบหน้าได้  ผมก็ไม่ถึงกับไม่ชอบหน้าหรอก  แต่มันยังไงก็ไม่รู้  บอกไม่ถูก  ผมว่าผมไม่ค่อยชอบคนลึกลับอ่านอารมณ์ไม่ออก  แต่ว่าน้องกายก็เป็นคนลึกลับคนหนึ่ง  เอ๊ะ  ยังไง  ปวดหัวๆๆๆ  เลิกคิดดีกว่า

“แวะปั๊มอีกแระ”  ไอ้นิกบ่นเมื่อรถทัวร์คันที่เรานั่งเลี้ยวตามจ่อตูดคันของพวกปีสี่กะพี่บัณฑิต  แล้วไปจอดที่ห้องน้ำปั๊ม  ประธานรุ่นปีสองโผล่ขึ้นมาจากส่วนหน้ารถที่เขาไปนั่งเป็นเพื่อนคนขับ  แล้วประกาศเสียงดัง

“น้องครับ  เราจะแวะให้เข้าห้องน้ำกับซื้อของนะครับ  พี่ให้เวลายี่สิบนาที  ตอนนี้ห้าทุ่มสี่สิบ  เที่ยงคืนต้องมาขึ้นรถนะครับ”

พวกปีหนึ่งก็ส่งเสียงงึมงำทำนองว่ารับรู้  เออพวกนี้มันชิลล์จังวะ  ผมนึกถึงตอนที่เรียนที่อื่น  รุ่นพี่แม่มต้องว๊ากแล้วว่า  ทำไมไม่ตอบดี ๆ  แต่ก็ดีล่ะผมเบื่อๆๆๆ  โคตรเบื่อระบบโซตุ๊ด  ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมจะอยู่ในจุดยอดสุดของห่วงโซ่อาหารของระบบนี้แล้วก็ตาม  (ปีสี่แล้วนี่)

“พี่  ไปเข้าห้องน้ำป่ะ”

เออ  ไอ้เชี่ยนิก  ทำไมต้องถามด้วยวะ  ค-ยมึงไม่ได้ผูกติดกะค-ยกูนะ  แต่ก็อยากลองผูกติดกันดูเหมือนกัน  กรั่กๆๆ

ผมพยักหน้าแล้วก็ตามลงไป   ไอ้กายเดินลงมาจากรถอีกคัน  ใบหน้าขาวมีสีแดงเรื่อ ๆ  เหมือนกับสีหยก  คงซัดเบียร์ไปหลายกระป๋องแล้ว  พอเห็นหน้าผมก็รี่เข้าหา  ยกมือข้างหนึ่งมาเหมือนจะจับมือผม  แต่ผมอ้าแขนสองข้าง  หมอก็เข้ามากอดหมับ

ผมยืนงง

เกิดอะไรขึ้นวะ

ไอ้กายปล่อยผมแล้วก็เดินไปห้องน้ำ  

คนที่สวมหูฟังสีขาวและนั่งข้างไอ้นิกเมื่อกี้  เดินลงมาจากรถ  แสงไฟตกลงมาบนใบหน้าของเขาพอดี  ใบหน้าที่นิ่งเฉย  ทว่าดูเร้นลับอย่างประหลาด  จะว่าเขาหล่อมั้ย  ผมก็บอกไม่ถูก  แต่รูปหน้าของเขามันดึงดูดให้คนจ้องมอง  ยากจะถอนสายตาออกมาได้  ทั้งเจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะไม่ยี่หระกับสายตาของคนอื่น

เขาปรายตามองผมอีกครั้ง  ยิ้ม...ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว

ยิ้มแบบที่ทำให้ผมนึกถึงใครคนหนึ่ง  ผมสูดลมหายใจลึก  แล้วก็สาวเท้าเดินออกไปจากลานจอดรถ






หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-02-2011 03:08:04
^
^
จิ้มให้ไส้แตก :laugh:
------------------------
มาซะดึกเลยนะ ไม่หลับไม่นอนรึงัย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 15-02-2011 03:56:45
ตามๆๆๆๆๆๆ  ค่ะ

เหมือนกายจะไม่ใช่พระเอก เอ จะเชียร์ใครดีเนี่ย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 15-02-2011 04:17:51
kit: แหม  พูดซะผมรู้สึกผิด  เสียดายเหมือนกันครับ  หลายเรื่องไม่ได้เซฟไว้  ตอนนี้ก็หายไปแล้ว  บรรยายอะไร  ไม่มี๊ไม่มี  ฮ่าๆๆๆ  ผ่านมาสามปีมันก็ต้องมี"เติบโต"กันบ้างล่ะครับ

EveN~FaLL: ฮ่าๆๆ  มาย้ำชื่อเรื่องเหรอคับ

Wordslinger:  โอ๊ย  เกลียดคนรู้ทัน  เขียนทีไรกลายเป็นฮาเร็มทุกที  ฮ่าๆๆๆ

tawada_j: จบสิฮะ  ถ้าไม่จบคงจบชีวิตนักเขียนหนุ่ม

babyfaibossy: ขอบคุณคร้าบ  วาเลนไทน์เรียบร้อยแล้ววว  แฮปปิ้หลังวาเลนไทน์ครับ

ChCh13:  จองที่นั่งริงไซด์ให้ครับ  ^ ^

[N]€ẃÿ{k}uñĢ:  แหมน้องนิวค้าบ  พอคนเราแก่ตัวลงก็ต้องโหยหาวัยเยาว์...และผู้เยาว์  ฮ่าๆๆๆ

padigree: อาร่อยยยย  กรุบกรอบ  กรุบกริบ

anajulia: เห้อ  นั่นสิครับ  ส่วนใหญ่ไม่มีเรื่องไหนในชีวิตจริงที่จบสักเรื่อง  

Ryze:  อ่ ะ นั่ น สิ ค รั บ

oaw_eang: ทักทายเฉย ๆ เหรอเจ๊

ordkrub: คร้าบ  ยินดีต้อนรับ

nonae: เชิญเบิ่ง *O*

fannan: เห้อ สี่ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก

คีรี~มัญจาโร: ง่วงก็ไปนอนครับ  ชิ่ว ๆ

BeeRY: คร้าบน้องเบียร์  ขอบคุณที่เป็นห่วง  T^T

Little Devil: ลุ้นให้ผมได้กะน้อง ๆ ทุกคนในเรื่องชิมิครับ

❆PIOGGIA☁: โอ้วว  ขอบคุณครับที่ชม

ZakeiHarha: Fight ครับ

บีบีจัง: เป็นปัญหาที่หนักหน่วงจริง ๆ และมีร่วมกันอยู่จำนวนมาก  ผมขอเสนอให้ปัญหาเรื่องแอบรักเพื่อนนี้เป็นวาระแห่งชาติ  และจะเสนอเข้าขอมติครม.อีกที  

❆PIOGGIA☁:  ขอบคุณครับ  มาดันตอนผมมีเวลาเขียนพอดีเลย  เดี๋ยวจะลงอีกตอนสั้น ๆ ให้ได้ในคืนนี้  ไม่รู้จะไหวป่ะ   ตอนใหม่นี้ก็สั๊นสั้นเนาะ  แต่ผมไม่สั้นนะ  ฮ่าๆๆๆ

ChCh13: ไม่ได้นอนเลยอ่ะครับ  ธุระเยอะมาก T^T

DraCo_SLa13:  น่าสงสารน้องกายจริง ๆ ได้แต่บทพระรอง
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-02-2011 04:36:59
^ :z13:
^
ได้จิ้มตลอดอ่ะ สงสัยเราจะเป็นเนื้อขี้ :laugh:
ยังงัยก็พักผ่อนด้วยนะคะ เป็นห่วง :จุ๊บๆ:
ปล. จะมาอีกตอนจริงหรอ จะรอ
v
v
v
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 15-02-2011 05:39:11




ตีห้าครึ่ง  รถจอดแวะข้างทาง  ผมกับพวกปีสองและสามถูกต้อนลงจากรถ  นายไอโฟนคนนั้นก็ลงมาด้วย  ผมถึงรู้ว่าเขาอยู่ปีสอง  เพราะว่าปีหนึ่งอยู่บนรถและผมก็รู้จักเด็กผู้ชายปีสามทุกคน  เขาปลีกตัวไปยืนที่เสาไฟห่าง ๆ  สอดมือในกระเป๋า  สายตามองออกไปทางถนนอันมืดมิด  และยังคงฟังเพลงจากไอโฟนด้วยท่าทางไม่แคร์ใครต่อ

เพื่อน ๆ ของผม  พวกไอ้กาย  ไอ้ทีม  เดินลงมาจากรถอีกคัน  พี่บัณทิตเดินผ่านผม  ได้กลิ่นเบียร์โชยหึ่ง   ไอ้กายเดินเข้ามาใกล้  เกาะบ่าผมไว้  ใบหน้าใส ๆ คลอเคลียอยู่ห่างไปแค่คืบ  ผมยืนนิ่งไม่ไหวติง  ไม่กล้าชำเลืองมองเขาด้วยซ้ำ  ไม่รู้ทำไม  ผมถึงรู้สึกเศร้าและสุขพร้อม ๆ กัน

พวกพี่บัฒฑิตขึ้นรถคันของปีหนึ่ง  ผมก็ขยับเท้าก้าวขึ้นไปด้วยเพราะไม่อยากเปลี่ยนรถ  จากข้างหน้า  ผมก็ย้ายมานั่งข้างหลัง  น้องกายแยกไปนั่งกับเพื่อนอีกคน  แต่ไม่ถึงนาทีก็ลุกขึ้นมาที่เบาะผม  ผมต้องขยับเข้าไปอีกเบาะหนึ่ง  มันมีกระเป๋าของพวกปีสองวางทิ้งไว้ขวางทาง  ผมต้องนั่งเฉียง ๆ  เพื่อให้พื้นที่พอสำหรับเราสองคน

“ไอ้ต็อบมันธุระเยอะ”  กายบุ้ยไปทางเพื่อนที่เขานั่งด้วยเมื่อกี้ซึ่งผุดลุกผุดนั่งเหมือนอยากจะไปช่วยพี่บัณฑิตเสียเหลือเกิน

ทางพวกรุ่นพี่  พอไปข้างหน้า  บรรยากาศก็เริ่มเงียบ  ไม่มีใครส่งเสียง  แต่แล้วไอ้พี่เรืองแกนนำก็แหกปากร้องเพลงขึ้นมา

“เสร็จล่ะมึง  เสร็จล่ะมึง  เสร็จล่ะมึง   อยู่บ้านดี ๆ ไม่ชอบ  เสือกมารับน้อง  เสร็จล่ะมึง  เสร็จล่ะมึง”

พวกทีมงานก็พากันร้อง  ผมรู้ได้เลยว่า  ปีหนึ่งกำลังเริ่มหวั่นไหวล่ะ  ว่าจะเจออะไร  แล้วก็อย่างที่คิดแหละ  ก็เริ่มมีการว้าก  ผมคงไม่เล่าเรื่องตอนว้ากอะไรมาก  เพราะไม่มีอะไรน่าจดจำ  ผมจำได้แต่เสียงของไอ้กายที่กระซิบข้าง ๆ หู  วิพากษ์วิจารณ์การกระทำของรุ่นพี่  ประเพณีการว้าก  และอื่น ๆ  ผมจำได้คร่าว ๆ ว่า  กายมันพูดถึงเรื่องการลดทอนความเป็นมนุษย์  ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปรัชญาของใครสักคน

แต่หัวใจผมสิ  มันเหมือนอ่อนแรง  มันแปลบ ๆ  รู้สึกเหนื่อย  ทำไมผมต้องคอยนับด้วย  ว่าเหลืออีกกี่วันที่ผมจะได้อยู่ใกล้ชิดเขาแบบนี้  ผมเกลียดตัวเองมาก ๆ ที่ต้องคอยคิดเรื่องนี้อยู่เรื่อย  ทำไมผมไม่คิดเรื่องอื่น  ทำไมมันถึงร้าวเข้าไปลึก ๆ  เมื่อเสื้อตัวของเราแนบชิดกันจนผมได้กลิ่นหอมของเสื้อผ้าของเขา  กลิ่นแบบที่ผมจำได้แม่นยำ  เขายังคงมีกลิ่นเดิมกับเมื่อสามปีที่แล้ว  และกลิ่นนี้มีผลต่อผมมากขึ้นทุกที

ผมอยากจะจับคอเสื้อของเขากระชาก  ล้วงมือเข้าไปข้างใน  บีบเค้นเนื้อหนังของเขาให้ช้ำ  ทำอะไรก็ได้ที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของเขา  ผมอยากจะฉีกทึ้งและกลืนกินเขาเข้าไปเหมือนหมาป่า  ผมจะไม่เหลือกระดูกและเศษซากแม้แต่ชิ้นเดียว  อะไรที่ทำให้ผมรู้สึกกับเขาในชิงเพศรุนแรงขนาดนี้  มันทำให้ผมอัศจรรย์ใจและพรั่นพรึงแรงดำตฤษณาของตนไปพร้อม ๆ กัน

ผมกลืนน้ำลายลงคอไปด้วยความยากลำบาก  แม้แต่จะห้ามใจไม่ให้จูบเขาทุกครั้งที่เห็นหน้า  มันก็ยังยาก  แต่นี่มาแนบชิดกันในรถมืด ๆ  ในเวลาที่ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาปะทะแก้มของผม  มันสุดจะทานทน  แต่ผมทำอะไรไม่ได้เลย  ผมรู้สึกเหมือนเป็นง่อย  เป็นอัมพาต  เป็น LSE   เป็นพากินสัน  มือของผมไม่กล้าแตะเขา  ผมได้แต่กระทำชำเราเขาในความคิด  ผมมันวิปริตใช่มั้ย  ก็คงงั้นแหละ




ช่วงเวลาแห่งความทรมานจบลงเมื่อรถจอดสนิทดีที่รีสอร์ต  ผมต้องเอาเสื้อคลุมบังกางเกงตรงช่วงเอวไว้ตอนที่ลงจากรถ  ผมเข้าไปพิงต้นสนที่อยู่ในความมืดริมถนน  น้องกายเดินแยกไปอีกทาง  ที่รถอีกคัน  ผมเห็นนายไอโฟนยืนล้วงกระเป๋ามองดูเพื่อน ๆ ของเขาขนของลงจากรถอยู่  ถ้าให้คะแนนน่าตื๊บนี่  ผมให้เขาเต็มสิบเลย  และกดไลค์ให้คนที่คิดจะรุมตื๊บเขาด้วย  ก็คิดดูดิเพื่อนทำงานกันงก ๆ  พ่อคุณเล่นยืนฟังเพลงสบายใจเฉิบ  ไม่สนใจใคร

“เอ่อะ  พี่แทนครับ   เดี๋ยวพี่ไปพักที่ไหนเนี่ย”  นายเก่งประธานชั้นปีสองเข้ามาถามผมอย่างเอาใจใส่  ที่เขาถามอย่างนี้เพราะว่าผมสนิทกับคนสำคัญบางคนที่มาด้วย  เผื่อว่าผมอยากไปอยู่เรือนรับรองพิเศษที่จัดไว้ให้คนนั้น

“ก็คงกะพวกปีสี่มั้ง”  ผมตอบไปสายตามองตามหลังน้องกายที่ไปช่วยปีสองขนกระเป๋า  เขาคงจำกระเป๋าผมได้  เพราะข้างหนึ่งเขาหิ้วกระเป๋าตนเอง  อีกข้างหิ้วกระเป๋าของผม  เขามีน้ำใจอย่างนี้เสมอ  แต่ผมก็ไม่เคยปฏิเสธ  เพราะผมค่อนข้างรักสบายจนเคยตัว  และเห็นแก่ตัวนิดหน่อย  จริง ๆ แล้วผมก็รู้สึก  จะใช้คำว่าซาบซึ้ง  คำว่ารู้สึกดี  คำว่าประทับใจ  มันก็เหมือนไม่ครอบคลุมความรู้สึกของผมที่เกิดขึ้นได้เมื่อกายมาใส่ใจกับเรื่องเล็กน้อยที่เขาไม่จำเป็นต้องทำให้ผมก็ได้  บางทีมันอาจจะเป็นความรู้สึกที่ว่าเราเป็นคนพิเศษ  ผมเพิ่งนึกได้ว่า  สิ่งนี้ละมั้ง  ไอ้ความใจดีแบบนี้แหละ  ที่ทำให้ผมเจ็บ  ผมไม่รู้ว่าอะไรมันจะดีกว่ากัน  ถ้าหากเขาจะไม่ใส่ใจผมเลย  และเห็นผมเป็นมนุษย์ธรรมดาสามัญนับหมื่นนับล้านที่ไม่จำเป็นต้องแคร์อะไร

“พี่แทนเป็นผู้อาวุโสของภาค  กายก็ต้องดูแลหน่อยสิ”  เขาเคยบอกแกมหยอกผมไว้อย่างนี้  แต่ผมส่องกระจกดู  หน้าตาผมก็ระบุอายุยากนะ  แต่ว่าคงเป็นเพราะบุคลิกที่ทำให้ผมดูเป็นผู้ใหญ่ไปหน่อย

ก็รู้ทั้งรู้  ว่ามันเป็นธรรมชาติของเขาเองที่จะทำแบบนี้  แต่จะถอนใจไม่ให้คิดน่ะเหรอ  ยากสสสส์





======

ไปนอนแล้วครับ  มีเรียนบ่าย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-02-2011 05:55:59
^
^
^  แซนวิช 55+
"ผมอยากจะจับคอเสื้อของเขากระชาก  ล้วงมือเข้าไปข้างใน  บีบเค้นเนื้อหนังของเขาให้ช้ำ  ทำอะไรก็ได้ที่ลดทอนความเป็นมนุษย์ของเขา  ผมอยากจะฉีกทึ้งและกลืนกินเขาเข้าไปเหมือนหมาป่า  ผมจะไม่เหลือกระดูกและเศษซากแม้แต่ชิ้นเดียว  อะไรที่ทำให้ผมรู้สึกกับเขาในชิงเพศรุนแรงขนาดนี้  มันทำให้ผมอัศจรรย์ใจและพรั่นพรึงแรงดำตฤษณาของตนไปพร้อม ๆ กัน"
ชอบจัง อ่านแล้วใจเต้นตึกๆ เลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 15-02-2011 08:44:33
วุ้ย...เหมือนอ่านงานเขียนทางปรัชญาโดยแท้

อย่างที่มีคนบอก น้องกายไม่น่าจะใช่พระเอก หรือจะมีพระเอกหลายคน?

โฟกัสดิฉันจึงอยู่ที่ว่า นายไอโฟน (เรียกได้น่ารักกระจุ๋มกระจิ๋มดีเหลือเกินค่ะ)จะเป็นตัวสำคัญ? (วาน บอก)

กอดคุณแทนค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 15-02-2011 16:46:02
จับตามองนายไอโฟน *0*

รออ่านต่อ ^_____^
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 20-02-2011 17:28:05


ไม่ใช่แต่คุณหรอกที่เบื่อที่ต้องฟังผมพร่ำเพ้อเรื่องเดิม ๆ อยู่เรื่อย ๆ  ผมเองก็เบื่อเหมือนกัน  เคยฟังเพลงข้าวขาหมูไหมล่ะ  ถึงปากบอกเบื่อ  ผมก็ยังเขียนถึงอยู่เรื่อย ๆ  ถึงคุณจะเบื่อ  คุณก็ยังอ่านอยู่เรื่อย ๆ  นี่แปลว่ามนุษย์มีแนวโน้มวิ่งเข้าหาสิ่งที่ไม่ชอบใจหรือเปล่า  หรือไอ้ความไม่ชอบใจนี้  มันมีอะไรตราตรึงสักอย่าง  หัวใจเราถึงได้เรียกร้องถึงมันอยู่ร่ำไป

เคยมีคนหนึ่งบอกว่า  ความรักที่จบแบบไม่สมหวังนั่นแหละคือความรักที่น่าจดจำ  มีอีกคนเหมือนกันที่บอกว่าความรักที่มีตอนจบก็มีแต่ในนิยาย  ในชีวิตจริง  มันไม่จบจนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะไปนอนอยู่ที่เชิงตะกอน  แต่ก็อีกนั่นแหละ  ภายใต้วัฒนธรรมที่เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด  คนสองคนและอีกหลายคนก็ต้องผูกพันกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า  โดยที่บทบาทอาจจะเหมือนเดิมหรือแตกต่างกันเป็นหน้ามือหลังมือ  จากรักเป็นเกลียด  จากเกลียดเป็นรัก  ว่าแต่ผมกำลังคิดอะไรอยู่นี่

ผมเคยทักไอ้กายว่า  มันเป็นคนช่างคิด

“พี่ต่างหากที่เป็นคนช่างคิด”  กายบอกกับผมอย่างนั้น  “เพราะถ้าไม่ใช่คนช่างคิดก็คงไม่สังเกตเห็นว่ากายเป็นคนช่างคิด”   

เราสองคนก็เลยดูเหมือนคนคิดมากกันทั้งคู่  แต่ไม่ค่อยพูดอะไรออกมา  ผมมักจะคิดเองว่ามองตาก็เข้าใจ  แล้วบางทีก็คิดเองเออเองว่าถ้าเขามองตาผม  เขาก็คงเข้าใจผมเหมือนกัน  ผมก็เลยไม่ได้พูดอะไรกับเขามากมายในเรื่องของความรู้สึก  ก็จะคุยกันเรื่องสัพเพหระ  ปัญหาการบ้านการเมืองกันมากกว่า  แต่ก็มีหลายครั้งนะที่เขาก็ระบายความคิดความรู้สึกบางอย่างที่มันคับอกคับใจอยู่   เขา “เปิด” ประตูให้กับผม  แต่ว่าผมกลับปิดกั้นมันจากเขา  ผมเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้คุณฟัง  มากกว่าที่เล่าให้เขาฟังตั้งไม่รู้กี่เท่า




ระหว่างที่พวกปีสองจัดกิจกรรมต้อนรับน้องกันตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น  ผมก็ขึ้นไปที่บ้านพักซึ่งพวกปีสองจัดไว้ให้  ของปีสี่มีสองหลัง  ผมเดินเข้าไปที่หลังแรกแบบเดา ๆ และโชคดีที่เดาถูก  กระเป๋าผมอยู่ที่นั่ง  กองอยู่ตรงห้องนั่งเล่น  ไอ้น้องกายเดินลงมาจากบันไดชั้นบนพอดี

“อ้าวพี่แทน  เอากระเป๋าขึ้นไปเลยมั้ยครับ  กายพักอยู่ห้องขวาน่ะ”

ผมพยักหน้าแล้วก็เดินตามขึ้นไป  เขาเปิดประตูห้องให้  เพื่อนอีกสองคนที่พักห้องนี้ด้วยกำลังนั่งเล่นนอนเล่นอยู่ที่เตียง  เสียงแอร์เก่า ๆ เหนือหัวคำรามฮึ่มฮั่ม  แต่ไม่ค่อยจะเย็นสักเท่าไหร่  ไอ้กายเปิดไฟห้องน้ำแล้วชะโงกเข้าไปดูข้างใน

“ห้องน้ำก็โอเคอยู่”

“โอ้โห  รุ่นนี้มันไปเอาเงินมาจากไหนวะ  จองห้องโคตรกว้างเลย”

“โธ่พี่  มันก็ไถพ่อแม่มันมาน่ะสิ”  ไอ้ตั๋งเพื่อนตัวแสบตั้งแต่สมัยปีหนึ่งตอบดัง ๆ แล้วกลอกตาใส่

“ไอ้...  กูรู้แล้วเว้ยว่ามันไถพ่อแม่มา  มันคงไม่ได้หาเอาตามสุมทุมพุ่มไม้หรอก”

“ใครจะเหมือนพี่ล่ะ  ขายตัวให้เกย์เฒ่าตุ๋ยตูด”

“แร๊งงง  ฮ่าๆๆๆ”  ไอ้บ๊อบเพื่อนอีกคนว่าแล้วก็หัวเราะดัง ๆ อย่างไม่เกรงใจ

ส่วนไอ้น้องกายมันก็ยิ้มตาหยี  กลั้นหัวเราะเต็มที่  แก้มเป็นสีชมพูนิด ๆ  ผมก็แอบมองจนลืมด่าไอ้ตั๋งเลย

คือจริง ๆ แล้ว  ช่วงที่ผมรู้จักกับพี่ไฮด์น่ะ  พวกเพื่อน ๆ มันก็เมาท์กันว่าผมมีเสี่ยเลี้ยง  ขับรถโก้แต่งตัวดี (หล่ออีกตะหาก  ฮี่ๆๆ)  พอลือกันมาก ๆ เข้าก็เลยทำให้ใครบางคนปรี๊ดแตกในตอนนั้น  ไอ้ตั๋งปากปีจอก็เอามาล้อไม่เลิก  ปากมันแรงจนน่าเอาส้นตีนเหยียบยอดหน้าสักที  แต่ใจจริงมันไม่ได้คิดร้ายอะไรกับผม  ก็ได้เห็นน้ำใจกันมาหลายทีแล้ว  ไม่เหมือนกับอีกคน  ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อมันเท่าไหร่  ไอ้หมอนั่นมันเกลียดเกย์เข้าไส้  แต่มันเกรงใจผมมาก  แล้วก็ต้องพึ่งพาผมหลายเรื่อง  มันก็เลยต้องเก็บกด  แล้วบางทีก็หลุดมาเป็นการจิกกัดแบบอ้อม ๆ  ที่รู้สึกได้ถึงเจตนาร้าย  ไอ้ผมก็ทน  ทนไม่ได้ก็ด่าให้มันรู้ไปว่า  อย่าเสือกพูดแบบนี้  กูไม่ชอบ  แต่ก็ไม่ได้ตัดขาดอะไร  เพราะมันก็น่าสงสาร  ทัศนคติเป็นลบมากจนไม่มีใครคบ

“แล้วพี่แทนจะไปดูเขารับน้องกันป่ะ”

“ไม่ว่ะกาย  เหนื่อยชิบหาย  เดินทางเหี้ยไร  จากกรุงเทพมาถึงระยอง  นั่งรอตั้งแต่หนึ่งทุ่ม  เพิ่งได้ลงจากรถตีห้าครึ่ง”

“วีนว่ะพี่  เมนส์ไม่มาเหรอ”  ไอ้ตั๋งปากหมาอีกแล้วครับ

“เมนส์เชี่ยไรของมึง  กูท้องอยู่  ไม่มีเมนส์จนกว่าจะคลอด”  ผมก็ดันรับมุกมันอีก = =

“ลูกผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะพี่  ถึงพ่อมันจะหน้าตาดี”  ไอ้ตั๋งกลอกตาไปทางไอ้กาย  “แต่แม่มันหน้าเหี้ย”  แน่นอน  มันกลอกตามาทางผม  “ไม่อยากจะนึกเลยว่าลูกจะออกมาครึ่งผีครึ่งคนแบบไหน”

ไอ้กายกะไอ้บ๊อบกลั้นหัวเราะ  ส่วนผมก็ประเคนตีนถีบตูดไอ้ตั๋งที่นอนคว่ำอยู่กะเตียงไปทีนึงงาม ๆ

ที่ไอ้ตั๋งแซวแบบนี้  เพราะเพื่อน ๆ คนอื่นก็รู้กันหมดแหละว่าผมชอบไอ้กาย  แต่ว่าปีก่อนผมก็คลั่งไอ้นิก  ปีก่อนหน้าโน้นก็ปิ๊งไอ้เชน  จนเพื่อน ๆ เอือมแล้วว่าจะใจง่ายไปไหน  ก็เลยไม่มีใครรู้ว่า  จริง ๆ แล้ว   ผมจริงจังกับความรู้สึกที่มีต่อไอ้กายมากแค่ไหน  น้อยคนที่รู้  ไอ้ตั๋งก็เป็นคนหนึ่งที่รู้  และเก็บเรื่องนี้เป็นความลับให้กับผม

พอ ๆ เลิกดราม่า  กลับมาที่สถานการณ์ในห้อง  ไอ้กายก็ทำหน้าเสียดายเล็กน้อยที่ผมไม่ไป  ส่วนไอ้ตั๋งยังนอนเฉยอยู่กะเตียง

“แล้วมึงไม่ไปเหรอตั๋ง”  ไอ้บ๊อบถาม

“กูไม่ไปว่ะ  อยู่เป็นเพื่อนพี่แทน”

“สาด  กูรู้มึงจะอยู่เล่นเฟซบุ๊ค”

“รู้ได้ไงวะ”

“ก็มึงเล่นอยู่”  ไอ้บ๊อบชี้ไปที่ไอแพดที่ไอ้ตั๋งเขี่ยเล่นอยู่  “ติดหญิงคนใหม่อีกอ่ะดิ”

“เออ  มึงจะไปดูรับน้องก็ไปเหอะน่า”  ไอ้ตั๋งโบกมือไล่

พอไอ้บ๊อบกับไอ้กายออกไปจากห้อง  ผมก็กระเถิบเข้าไปชะโงกดูของเล่นของไอ้ตั๋ง

“ตั๋ง  ไอ้นี่ไอแพดเหรอ  แล้วไอโฟนมันเป็นยังไง”

“มันก็เป็นโทรศัพท์เหมือนบีบีอ่ะพี่  เอาไว้แชตเหมือนกัน”

“งั้น  บีบีมันจะเป็นสีดำใช่ป่ะ  แล้วก็ไอโฟนจะเป็นสีขาว  กูเข้าใจถูกป่ะ”

“โหพี่  ดูจากสีอย่างเดียวได้ไงล่ะ  สีแม่งมีให้เลือกเป็นร้อย  พี่จะเอาสีไรตั้งแต่สีเหียวยันสีแหบมีให้เลือกหมด”

“ง่ะ  สีเหียวมันสีอะไรวะ”

“ตัวพ่ออย่างพี่อย่ามาทำอินโนเซนส์  ไม่คือว่ะพี่”

“กร๊ากๆๆ  สรุปว่า  ไอโฟนไม่จำเป็นต้องเป็นสีขาวใช่มะ”

“อ่ะดิ”

อ้าว...อย่างงั้น  ไอ้ที่นายไอโฟนฟังก็อาจจะไม่ใช่ไอโฟน  หรือจะต้องเรียกว่านายบีบี  หรือจะเรียกว่านายแอนดรอยตามชื่อระบบปฏิบัติการดีวะ  เริ่มรู้สึกว่า  ผมจะเป็นคนคิดมากขึ้นทุกที  เอิ้กๆๆ



 :fire:




หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 20-02-2011 17:36:02
ChCh13:  เคยได้ยินสำนวนมั้ยครับว่า  กำขี้ดีกว่ากำตด  ดังนั้น  เป็นเนื้อขี้ก็ดีกว่าเนื้อตด...ปู๊ดดดด

Wordslinger:  ฮาเร็มผมจะมีแค่คนเดียวได้ไงครับ    กร๊ากๆๆๆ  เล็งนายไอโฟนอยู่เหรอครับ  แต่ผมเนี่ย  เชียร์น้องกายสุด ๆ แล้วครับ  
น้องกายสู้ ๆ น้องกายสู้ตาย~ น้องกายไว้ลาย  สู้ตายสู้ ๆ~   วิ่งไปหาปอม ๆ สีรุ้งมาโบกสะบัด

ZakeiHarha: ขอบคุณคร้าบ  ว่าแต่ทำไมไปจับตาน้องเขาเยอะจัง  ผมหวงนะคร้าบ  อิอิ  


หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 20-02-2011 20:47:34
 :serius2:

คุณแทน...สั้น!!!!

ทำเป็นคุยเรื่องบีบีกับไอโฟนนะคนเรา อยากอ่านต่อยาวๆกว่านี้อ่า ทำไมคุณแทนต้อง...สั้น!!!  :laugh:

อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอึดอัดมากค่ะเธอ การต้องทำเป็นว่าเรารู้สึกอีก เมื่อจริงๆแล้วเรารู้สึกอีกอย่าง เง้อ คุณแทนค้าาา
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 20-02-2011 21:18:29
555555   หายหน้าหายตาไปนานเลยนะคับ


มารอดูว่าไอ้ไอโฟนจะเสร็จคนแทนอีกเปล่า  คิคิ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 20-02-2011 23:53:42
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-02-2011 00:51:22
สีเหียวกับสีแหบนี่เป็นยังงัยหรอ :m28:
เราไม่เข้าใจอ่ะ ใสๆ แบ๊วๆ :impress:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 21-02-2011 05:33:09


ไอ้ตั๋งเล่นเกมยิงลูกโป่งสีไรของมันไม่รู้สักพัก  มันก็เลิก  ส่วนผมนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงซึ่งถูกลากมาชิดติดกันหมด  เพราะรู้สึกแปลกที่  แล้วอีกอย่างผมก็เป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว  โลกหลังผ้าม่านหน้าต่างเริ่มเป็นสีชมพูและเหลืองเรื่อ ๆ จากการมาเยือนของยามเช้า

แอร์เย็นขึ้นจนเหมือนจะหนาวเกิน  ผมค่อนข้างไวต่ออุณหภูมิ  แล้วก็ชอบอยู่ในที่ที่อากาศอบอุ่นมากกว่าเย็น  โชคดีที่เขาแจกผ้าห่มให้สี่ผืนพอดี  ผมก็เลยยึดไว้ผืนหนึ่ง  มันไม่หนามากนัก  แต่ก็พอทน  ผมพยายามข่มตาหลับ  แต่ก็หลับไม่ได้  แปลกจัง  ทั้ง ๆ ที่ไอ้กายเพิ่งลงไปได้ชั่วโมงกว่า ๆ  แต่ทำไมผมอยากเจอหน้าอีกทีเหลือเกิน

แล้วในที่สุดไอ้กายก็ขึ้นมาพร้อมกะไอ้บ๊อบ  ไอ้ต๊อบก็ตามมาด้วย  ไอ้ต๊อบนี่เป็นหนุ่มเชียงฮาย  ลูกชายพ่อเลี้ยงใหญ่แถวนั้น  หล่อก็หล่ออยู่  ขาวใสแบบละอ่อนเหนือ  แต่ผมไม่เคยพิศวาสมันเลยตั้งแต่ที่รู้ว่ามันหน้าหม้อ  คือเป็นนิสัยส่วนตัวผมที่จะไม่ชอบผู้ชายเจ้าชู้  เจ้าชู้ในที่นี้หมายถึง  สนใจแต่จะเอาใจผู้หญิงโดยที่หวังเรื่องเซ็กส์เป็นอันดับหนึ่ง  ไอ้ต๊อบก็เลยดูเหมือนไม่แคร์เพื่อนในหลาย ๆ สถานการณ์  ชอบทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเกินงามอีกต่างหาก  แต่ว่าคิด ๆ ไปก็เป็นนิสัยเสียของผมเองหรือเปล่า  ที่มีอารมณ์หึงหวงเพื่อนทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆ  ถ้าใครไม่ให้ความสำคัญกับผม  ผมก็จะพาลโกรธ  ในทางตรงกันข้าม  ถ้าใครให้ความสำคัญเป็นพิเศษ  ผมก็คงนึกรัก  ดังนั้นผมก็เลยตกหลุมรักคนที่ทำตัวเฟรนด์ลี่กับผมได้ง่ายมาก ๆ  เหมือนกับเถาไม้เลื้อย  แอบอิงแนบชิดกับใครก็เกาะเกี่ยวกับคนคนนั้น  

พอพวกไอ้กายเข้ามา  ผมก็แกล้งหลับ  ส่วนไอ้ตั๋งน่ะเหรอ  กรนครอก ๆ อยู่ข้าง ๆ  พวกนี้จัดการธุระสักพักก็ปีนขึ้นเตียงมา  ไอ้ต๊อบมานอนระหว่างผมกะไอ้ตั๋ง  ส่วนไอ้กายนอนระหว่างผมกะไอ้บ๊อบ  ผมใจเต้นตึก ๆ ที่มีหนุ่มหล่อสองคนนอนขนาบข้าง  หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ผมมีความรู้สึกลึกซึ้งด้วย  ผมเริ่มกลัวตัวเอง  รู้สึกเหมือนจะห้ามใจไว้ไม่ได้  เพราะนี่คือคนที่ผมโคตรชอบ  คนที่แค่มองหรือได้กลิ่น  ผมก็สามารถแข็งตัวได้  แล้วนี่มานอนข้าง ๆ  ทำไมเขาไม่นอนริม ๆ  ทำไมไม่สลับที่กะไอ้บ๊อบ   เขาไม่รู้หรือไงว่าผมอันตราย  เขาน่าจะรู้แล้วนี่นา

ผ่านไปสักพัก  ผมก็นอนไม่หลับอยู่ดี  สายขึ้นทุกที  ข้างนอกสว่างขึ้นทุกที  คนรอบๆ ตัวผมคงเหนื่อย  ต่างพากันหลับใหล  ไม่ได้สติ  ผมพลิกตัวอีกเจ็ดแปดครั้ง  รู้สึกอ่อนล้า  หัวใจผมเต้นแบบระโหย  ร่างกายเตือนให้ผมพักผ่อน  แต่ผมนอนไม่หลับ  ผมรู้สึกอยากร้องไห้  ทำไมผมต้องมาทรมานแบบนี้  ผมอยากกลับไปที่เตียงของผมที่หอ  และหลับลงไปโดยไม่ต้องคิดอะไร

ผมพลิกตัวตะแคงหันไปทางไอ้กาย  มองเจ้าตัวหลับตาพริ้ม  ลำคอเขาขยับ  ลูกตาก็เคลื่อนไหวไปมาภายใต้เปลือกตา  บางครั้งเขาก็เผยอปากเล็กน้อย  ผมรู้ว่าเป็นอาการของคนที่กำลังฝันอยู่  ถ้าผมแตะต้องเขาตอนนี้  เขาก็คงไม่รู้สึกตัว

มันทรมานนะครับ  การหักห้ามใจ  ผมไม่ได้เป็นคนดีอะไรนักหรอก  ที่จะมาคอยเตือนตัวเองให้นึกถึงคุณธรรม  แต่ว่า  ผมรักเขามาก  เงี่ยนก็เงี่ยน  แต่รักก็รัก  ส่วนหนึ่งเป็นความใคร่พิศวาส  อยากครอบครอง  อยากเป็นเจ้าของ  แต่อีกส่วนหนึ่ง  ก็เป็นความรักแบบปรารถนาดี  แบบที่อยากให้เขามีความสุข  ไม่อยากให้มีความทุกข์  เพราะผมน่ะนะ  ผมรู้ดีว่าการที่ถูกแตะต้องโดยไม่ได้รู้สึกดีด้วย  มันน่าขยะแขยง  มันจะรู้สึกแย่มาก ๆ  หรืออาจจะเป็นที่ผมคนเดียว  ผมไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อตัว  ยิ่งแตะต้องด้วยอารมณ์เพศ  โดยที่ผมไม่มีอารมณ์ร่วมด้วย  ผมเคยไปค้างที่ห้องเพื่อนคนหนึ่ง  ก็รู้ว่าเขาเป็นเกย์  แต่ผมไม่ได้ชอบเขา  พอดึก ๆ  เหมือนเขาก็ป่ายแขนขามาถูกตัว  ผมนอนไม่หลับทั้งคืนเลย  และรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก  เพราะผมก็ชอบเขามากในฐานะเพื่อน  

มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเพศอย่างเดียวที่ผมกลัว  ผมมีปม ๆ หนึ่ง  ที่ผมไม่เคยเล่าให้ใครในชีวิตจริงฟัง  ผมเคยถูกทำร้ายร่างกายหลายครั้ง  จากคนกลุ่มเดิม ๆ  ในช่วงนั้นเวลาที่มีคนแตะตัวผม  ผมจะสะดุ้ง  แล้วก็รู้สึกแย่มาก ๆ  ผมกลัวว่าคนที่แตะตัวผม  จะทำอะไรสักอย่างที่มันเจ็บปวด  ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่า  คนที่มาแตะเป็นเพื่อนหรือเป็นใครที่ไม่ได้มีเจตนาร้าย  มันยากและนานมาก  กว่าที่ผมจะจับมือและรับกอดจากแม่ได้โดยไม่รู้สึกไม่สบายใจ  ส่วนกับคนอื่น ๆ  ผมก็รักษาระยะตลอด

แปลกนะที่ผมเล่าเรื่องพวกนี้ให้คุณฟัง  จริง ๆ ผมอยากคุยเรื่องนี้กับใครสักคนที่มีตัวตน  มีเลือดเนื้อ  แต่ว่าไม่ว่าใครที่ผมรู้สึกดีด้วยแค่ไหน  ผมก็ไม่สามารถพูดถึงมันได้  เหมือนติดอะไรสักอย่าง

แต่สุดท้าย  ไอ้ส่วนเหตุผลของผมก็พังทลาย  ผมมองหน้าเขา  แล้วผมก็ตัดสินใจว่าทนไม่ไหวแล้ว  จริง ๆ ผมน่าจะลุกไปชักว่าวในห้องน้ำ  แต่ใจผมมันเต้นระรัว  มันเป็นความใคร่ผสมกับความอยากรู้  ผมคิดในใจว่า  แค่ให้ได้รู้แล้วก็เลิก  ไม่ทำอะไรมากกว่านั้น  ผมขยับเข้าไปใกล้ไอ้กายอีกนิด  ใบหน้าของผมอยู่ใกล้เขามาก  ผมค่อย ๆ หอมลงตรงหัวไหล่ของเขา  ผมหลับตา  สูดกลิ่นเสื้อที่หอมสะอาดอยู่ตลอดเวลาของเขา  กลิ่นที่ทำให้ผมใจเต้นตึก ๆ

ส่วนหนึ่งในใจผมบอกว่า  แค่สัมผัสแค่นั้น  ผมก็มีความสุขมากแล้ว  แต่อีกส่วนก็ดึงดัน  มันเป็นส่วนแฟนตาซีที่จินตนาการจากการอ่านเซ็กสตอรี่  ผมแอบหวังว่าไอ้กายจะตื่นขึ้นมา  พบว่าผมกำลังทำอะไรอยู่  และยินยอมพร้อมใจให้มันเลยต่อไปจากจุดนั้น  และอีกส่วนหนึ่ง  ผมคิดว่าผมอยากให้เขาตื่นขึ้นมา  ด่าผม  ต่อยผม  หรือทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ผมไม่กล้าทำอย่างนี้อีก  ผมเกลียดตัวเองและผมรู้สึกผิด  แต่ผมก็ห้ามตัวเองไม่ได้  ผมไม่ใช่คนมีวินัยนัก

มือผมค่อย ๆ คืบคลานแตะต้องข้างเอวเขาผ่านเสื้อสีฟ้าที่ผมชอบ  เนื้ออุ่น ๆ ส่งอุณหภูมิแผ่ซ่านมาสัมผัสกับมือผม  บอกผมว่าผมกำลังจับสิ่งมีชีวิตอยู่  ผมลูบไล้ผ่านหน้าท้องของเขา  หน้าท้องนั้นเรียบลื่น  ยกเว้นขนอุยที่ลามขึ้นมาจากกางเกงเป็นแนวถึงสะดือ  ผมหลับตานึกภาพก็ออก  เพราะเคยเห็นเขาถอดเสื้อบ่อย  ผมอยากลูบขนตรงนั้นของเขาเล่นมานานแล้ว  แล้วก็ได้สมใจเสียที

ผมจูบบ่าและไหล่แน่น ๆ ของเขา  แต่ผมไม่กล้าทำให้ใบหน้าใสหม่นหมอง  ถึงแม้ว่าผมจะมองว่าใบหน้าไร้เดียงสาและสูงส่งแบบเทวดานั้นมันจะเกินเอื้อมที่ผมจะไปแตะต้อง  แต่มือผมก็กระทำการอันหยาบช้าต่อเทวาหนุ่มในห้วงนิทราผู้นี้  ไอ้กายส่งเสียงอืมเบา ๆ ในลำคอ  เขาคงกำลังฝันว่ากำลังมีอะไรกับคนที่เขาชอบ  ผมเลื่อนมือลงไปอีก  และพบว่าจริงอย่างที่คาดเดา  ส่วนนั้นของเขาชี้ชันแข็งปั๋งดันกางเกงขึ้นมาเป็นรูปเป็นรอยอย่างเห็นได้ชัด

ผมลูบไล้กะประมาณขนาดคร่าว ๆ  แล้วก็ต้องตกใจ  เมื่อพบว่ามันมีขนาดใหญ่ขึ้นมาจากเมื่อหลายปีก่อนมาก  ไม่เหมือนที่ผมและไอ้ทีมคิดไว้ว่าหุ่นแบบนี้หน้าตาแบบนี้  มันต้องเล็กนะ  แต่นี่  เต็มไม้เต็มมือขนาดนี้  ผมชักสงสัยแล้วว่า  ถ้ามีใครได้ลอง  ก็คงติดเขาจั๋งหนับแน่นอน

ในตอนนั้น  ผมไม่รู้จะบรรยายอารมณ์ยังไง  ตอนนี้ผมก็เขียนแบบไร้อารมณ์  เหมือนเล่าเรื่องสารคดี  แต่คุณครับ  ผมเหมือนโดนไฟเผาเข้าไปอีกกองหนึ่ง  มันเป็นไฟกิเลส  อยากได้  อยากลอง  อยากเอากะไอ้กายแบบเต็มรูปแบบ  แค่ไฟรักก็ทำผมแทบตาย  เจอเพลิงกามเข้าไปอีก  ผมเหมือนใบ้แดก  เจ็บใจตัวเองอยู่ลึก ๆ ด้วยว่าสู้อะไรคน ๆ นี้ไม่ได้เลย  ไม่เท่าเทียมกันสักอย่าง  ทั้งฐานะ  หน้าตา  นิสัยใจคอ  แล้วยังขนาดอีก  ผมอยากได้มาเป็นของผม  แต่ขณะเดียวกันก็คิดว่า  อะไรวะ  ถ้ากูได้สักอย่างเหมือนมึง  กูจะล่อหนุ่ม ๆ มาฟันให้เกลี้ยงทั้งมหาลัย

ผมเจ็บใจ  เจ็บใจมาก ๆ  ขณะเดียวกัน  มันก็ท้อ  ผมอยากดี  อยากหล่อ  อยากที่จะไปจีบใครได้ไม่อายเขา  อยากที่จะเท่าเทียมกับคนที่ผมชอบ  ผมอยากมีความรัก  อย่างมีเรื่องราวหวานซึ้ง  อยากมีแฟนเหมือนคนทั่วไป  แต่ดูสิตอนนี้ผมกำลังทำอะไร  ทำตัวเป็นเกย์เฮงซวย  เที่ยวลักหลับคนอื่น  สถุล  ต่ำช้าที่สุด

ผมรู้สึกเศร้าขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน  ผมปล่อยมือจากส่วนนั้นของไอ้กาย  แล้วพลิกตัวนอนหงายมองเพดาน  หัวใจที่อ่อนล้าของผม  ยังเต้นตึกตักไม่หยุด  แต่ผมไม่ได้แข็งตัวแล้ว  ผมเอาแขนก่ายใบหน้าปิดดวงตาไว้  และหวังอย่างสุดชีวิตจิตใจว่าจะหลับลงไปพร้อมกับลืมเรื่องนี้ได้  ผมได้ยินเสียงพลิกตัว  และถอนหายใจจากร่างข้าง ๆ  ผมมองผ่านช่องแคบ ๆ ระหว่างแขนกับแก้มของตน  ผมเห็นไอ้กายลุกขึ้นมานั่งกับเตียง  รวบผ้าห่มมาไว้ที่ตัก  และเอี้ยวตัวมองมาทางผม  เขามองผมนิ่งอยู่สักพัก  ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ  แล้วก็กลับมานอนใหม่  คราวนี้เขานอนตะแคงหันหลังให้กับผม

หลังจากนั้นผมก็ผล็อยหลับไปจนถึงเที่ยง



หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 21-02-2011 05:44:23

• ผมรู้สึกเหมือนเป็นง่อย  เป็นอัมพาต  เป็น LSE   เป็นพากินสัน
SLE?
SLE Systemic Lupus Erythrematosus?
• มือของผมไม่กล้าแตะเขา  ผมได้แต่กระทำชำเราเขาในความคิด  ผมมันวิปริตใช่มั้ย  ก็คงงั้นแหละ
อิอิ
๕๖๘ + ๑ = ๕๖๙
ขอบคุณนะคะ คุณ Kirimanjaro
  
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 21-02-2011 11:15:04
ผมได้ยินเสียงพลิกตัว  และถอนหายใจจากร่างข้าง ๆ  ผมมองผ่านช่องแคบ ๆ ระหว่างแขนกับแก้มของตน  ผมเห็นไอ้กายลุกขึ้นมานั่งกับเตียง  รวบผ้าห่มมาไว้ที่ตัก  และเอี้ยวตัวมองมาทางผม  เขามองผมนิ่งอยู่สักพัก  ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ  แล้วก็กลับมานอนใหม่  คราวนี้เขานอนตะแคงหันหลังให้กับผม

เหมือนน้องกายจะสงสัยและ/หรือรู้ตัวว่ามีใครแอบทำอะไรเขาตอนหลับ และคนๆนั้นน่าจะเป็นน้องแทน อืม...แอบลุ้นตอนคุณแทนจับ 'น้องชาย' ของน้อยกาย วุ้ย...แรงส์มากค่ะ!

เฮ้อ...มันเป็นความรู้สึกอึดอัดเกินกว่าจะกล่าวออกมาได้กับการจะรักใครมากๆแทบว่าอกจะปิ่มเลือดและจำเป็นต้องปกปิดความรู้สึกนั้นไว้ข้างใน สักวันหากมันระเบิดออกมาคงแย่

แต่อ่านตอนนี้แล้วก็ต้องบอกกับตัวเองว่า คุณแทนและผู้ชายทั้งหลาย! แอร๊ย อยากไปนอนด้วยบ้างจังค่ะ นอนท่ามกลางผู้ชายอะ  :serius2:

กอดคุณแทน :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-02-2011 11:54:38
ชอบภาษาจัง บรรยายความดิบเถื่อนออกมาได้สวยงามมากค่ะ อย่างที่เคยบอก อ่านแล้วใจเต้นแรงอีกแล้ว
อินไปด้วย รู้สึก..โอ๊ยไม่พูดแระ เอาเป็นว่าชมอ่ะ ชอบๆ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: meduza ที่ 21-02-2011 14:52:37
อยากบอกว่าคิดถึงพี่แทนมากๆเลยค่ะตั้งแต่เรื่องสะดิ้งแล้วรอแล้วรอเล่าพี่แทนก็ไม่มาสะทีแอบเป็นห่วงน๊า
จะว่าไปกายเค้าเหมือนให้ความหวังพี่แทนนะเวลาเพื่อนแซวเค้าก็ยิ้มอ่ะหรือเค้ารอให้พี่แทนรุกกัลเนี้ยอิอิ
+1เป็นกำลังใจให้พี่แทนค่าสู้ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 21-02-2011 17:14:41


เออว่ะ...ไอ้กาย
ทำไมกูต้องใจเสียด้วยวะ  เวลาที่เห็นมึงทำหน้าบึ้ง  ไม่พูดไม่จา
พอลุกจากเตียงได้ก็เดินไปอาบน้ำ  ไม่คุยหรือไม่ทักใคร
ทั้ง ๆ ที่กูก็เตรียมใจแล้ว  ว่ามึงต้องโกรธกู
โกรธกูมาก ๆ
เพื่อนมึงบอกว่า  มึงไม่ชอบให้คนอื่นทำกับมึงแบบนี้
มึงเองก็ยอมรับว่าเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น
มึงอ่ะ  เคยแสดงให้กูเห็นว่าถ้ามึงโกรธใครสักคนมึงจะเป็นยังไง
มึงไม่คุยไม่พูดกับคนคนนั้นเลย  ทำเหมือนกับว่าหมอนั่นไม่มีตัวตนอยู่บนโลก
เวลามึงโกรธใครสักคน  มึงน่ากลัวนะ  มึงรู้ตัวหรือเปล่า
มึงเคยออกปากว่าอยากฆ่าใครสักคน 
ถึงมึงไม่ได้ฆ่าจริง  แต่ไอ้คนที่ถูกมึงโกรธน่ะ  ถ้ามันชอบมึงมาก  มันก็คงเหมือนตายทั้งเป็น

มึงจำได้มั้ย  เมื่อปีที่แล้ว  มึงตัวติดกะกู
กูไปไหนมึงก็ไปด้วย  มึงนั่งเรียนข้างกูตลอด
มึงทำให้หัวใจกูไม่อยู่กะเนื้อกะตัว  กูเกรดตก  ได้ C เป็นครั้งแรกก็เพราะมึง
เพราะกูไม่มีสมาธิที่จะเรียน
มึงรู้หรือเปล่า  ตอนที่กูฟุบลงกะโต๊ะน่ะ
กูบอกว่ากูเล่นเกมดึก  อดนอน
แต่จริง ๆ  กูฟุบลงไปเพื่อแอบมองมึง
กูไม่กล้ามองมึงตรง ๆ
มึงก็รู้  สายตาของกูมันฟ้อง  ว่ากูคิดกับมึงเกินเลยไปแค่ไหน
กูไม่อยากเป็นคนโง่งั่ง  ที่วันใช้สายตาเลื่อนลอยจับจ้องมองมึง
กูไม่อยากให้มึงอึดอัด  จากความรู้สึกของกู
กูอยากให้มึงสบายใจ  แล้วอยู่กะกู
ถึงแม้กูจะรู้ว่า
มันทำร้ายกู
กูจะต้องเจ็บ
เจ็บ
เจ็บเพราะอยู่ใกล้มึง
จนวันหนึ่ง  มึงก็ไปสนิทกับผู้หญิงที่น่ารักอีกคน
มึงย้ายไปนั่งกะเขา
ปากกูบอกว่าไม่เป็นไร  กูยังนั่งอยู่ที่นี่ที่เดิม
จะว่ากูทิฐิก็ได้  แต่กูไม่อยากเดินตามมึงต้อย ๆ
กูก็มีศักดิ์ศรีของกู  กูไม่อยากทำตัวน่าสมเพช
กูอยู่ของกูได้
ถึงปากกูจะบอกอย่างนี้  แต่หัวใจกู
แม่งเอ๊ย...มันโกรธมึง  ขุ่นเคือง  อิจฉา  สารพัด

กูออกปากกะตัวกูเอง
กูจะต้องตัดมึงให้ได้
กูจะออกห่าง  จะไม่สนใจมึง  จะไม่ทัก  จะไม่พุดคุย
เพราะตัวมึงอ่ะ  ยิ่งใกล้ก็ยิ่งเจ็บ
กูอยากอยู่ไกล ๆ  ไปนั่งซึมไกล ๆ  ไปร้องไห้ไกล ๆ  แล้วกูก็คงจะลืมมึงได้ในสักวัน
กูทำได้อยู่สองสามวัน
แล้วมึงก็ทักกูก่อน  มึงเข้าหากู  ยิ้มร่า  เสียงอ่อน ๆ เหมือนเด็กขี้อ้อน
มึงไม่รู้สึกว่าห้าสิบเมตรมันไกลเกินกว่าที่มึงจะทักกูเลยหรือไง
ทำไมมึงต้องเดินฝ่าแดดเปรี้ยงข้ามสนามมาเพื่อพูดคุยกะกูแค่สองสามคำ
มึงปล่อยให้กูอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้เหรอวะ
มึงไม่รู้เหรอว่าหัวใจของกูน่ะถึงจะแข็งและชืดชาเหมือนขี้ผึ้งที่อัดเป็นก้อน
แต่เวลาที่เข้าใกล้ความอบอุ่นสว่างไสวของมึง
มันก็ละลาย
กูถึงรู้ตัว  กูตัดใจจากมึงไม่ได้
ไม่มีวัน  ตราบใดที่มึงไม่ยอมตัดกูไปเอง

มึงรู้มั้ย  เช้านี้
กูแอบหวังเล็ก ๆ
เล็กมาก ๆ  อาจจะแค่ 0.01%
แต่กูก็รู้ตัวว่ากูแอบหวังอยู่
กูอยากให้มึงโกรธกู
อยากให้ตัวกูตายไปจากสายตาของมึง
เพราะมันคงง่ายที่กูจะตัดใจ
แน่ล่ะ  กูคงเสียใจ  กูอาจจะร้องไห้  หลังจากที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้กับความรัก
มาตั้งแต่รักครั้งแรกโน้น
แต่สุดท้าย  กูก็คงจะทำใจได้  เพราะว่ามึงไม่ได้ชอบกูอีกต่อไปแล้ว
มึงไม่ได้รู้สึกดีกับกู  มึงก็คงไม่เทคแคร์กู  ไม่คอยห่วงไยถามไถ่
คอยทำอะไรให้  อย่างที่มึงทำอยู่ตลอด

ดังนั้น  พอกูรู้สึกว่ามึงโกรธ
กูก็ได้แต่นั่งอยู่ที่เตียง  ก้มหน้า
เพราะกูสู้หน้ามึงไม่ได้
มึงดีกะกู  อย่างที่ไม่เคยมีใครดีแบบนี้มาก่อน
กูอาจจะพูดเกินจริงไป  มีเพื่อนหลายคนที่ดีกับกูแบบนี้
แต่พวกมันก็อยู่คนละห้วงเวลากับมึง
แต่กูก็เสือกทำแบบนี้กับมึง

แต่แล้ว
มึงก็เดินเข้ามาหากู
แล้วหยอกกู
กูไม่เข้าใจมึงเลย
มึงคงเห็นสายตามึนงงของกู
แต่มึงก็จับบ่ากู  นั่งลงข้าง ๆ แล้วพูดคุยกะกูเป็นปกติ
กูไม่เข้าใจ  ทำไมมึงต้องลำเอียงให้กับกู
ทีกะเพื่อนอีกคน  ที่ทำเรื่องที่เหี้ยน้อยกว่ากูหลายเท่า
ทำไมมึงเกลียดมันยังกะขี้กะไส้
กูจะต้องทำยังไง
มึงถึงจะถีบกูออกไปไกล ๆ
ไปให้พ้นจากชีวิตมึง
กูรู้  ว่าสุดท้ายความสัมพันธ์ของเราก็ต้องยุติลง
ในเวลาอันสั้น
สองเดือน  หรือหนึ่งเดือน
ที่เราจะยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกัน
จากนั้น  กูกะมึงคงต้องไปกันคนละทาง
มีบางคน  บอกกูว่า  ก็ให้กูคบกะมึงต่อไปเรื่อย ๆ  ไม่เห็นจะต้องตัดขาดจากกันเมื่อเรียนจบ
แต่กูรู้ว่ามึง  เป็นคนเก็บตัว
ส่วนกู  ยิ่งกว่าเก็บตัว
กูรู้สึกเหมือนเข้ากับคนอื่นไม่ได้  กูรู้สึกเหมือนกับว่า  โลกนี้ไม่เหมาะกะกู
เวลาที่มึงไปงานวันเกิดเพื่อน  ไปกินข้าว  ไปดูหนังเดินห้างกับกลุ่มเพื่อน
เพื่อนคนอื่นก็ชวนกู  แต่กูไม่เคยไป
กูรู้ว่ามึงไปเมาที่ตักสุรา  กูก็แค่อวยพรให้มึงโชคดี
อย่าเมาเหมือนหมา  อย่าโดนตำรวจดัก
กูคิดว่า  ถ้ากูกะมึงยังคงจากกันด้วยดี
กูจะต้องคิดถึงมึงมาก
กูอาจจะเฟลไปอีกสองปีหรือสามปี
อย่างที่กูเป็นอยู่ตอนนี้
มันทรมานว่ะ

เออว่ะ
มันวนกลับมาที่วัฏจักรเดิม ๆ
กูก็ยังวนเวียนอยู่กับความคิดเดิม ๆ
กูว่ามันเป็นทางตัน  ที่กูมองไม่เห็นทางออก
กูรักตัวกูนะ  กูไม่อยากให้ใจกูต้องเจ็บ
กูไม่อยากตาย  เพื่อหนีความเจ็บปวด  จากการหลงรักมึง
กูอยากดูวันพรุ่งนี้  ว่าจะมีใครที่กูจะรักเขาได้
และเขาก็รักกู
ไม่รู้จะมีไหม
หรือกูจะได้แต่ฝันไปวัน ๆ



หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 21-02-2011 17:22:28
Wordslinger: ทำไมต้องเน้นคำว่าสั้นด้วยฮ๊าฟฟฟฟฟฟ

HaPpY-IcE: กร๊ากๆๆ  มือชั้นนี้จะปล่อยให้รอดหรือครับคุณไอซ์

w1234: ยินดีต้อนรับครับ

ChCh13: ก็คนเขียนใส ๆ แบ๊ว ๆ  คนอ่านก็ใส ๆ แบ๊ว ๆ เหมือนกันแหละครับ  ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ  อิอิอิ

kit:  ต๊าย...พลาดไปแล้วจริง ๆ ด้วยค่ะคุณกิตขา

Wordslinger: กอดตอบครับ  เฮ้อ...  นอนด้วยแล้วทำอะไรไม่ได้มันทรมานนะครับ  ถ้าอย่างนั้นผมอยากนอนคนเดียวมากกว่า

ChCh13: บรรยายแบบสารคดีน่ะนะครับ  ผมว่าผมเขียนไร้อารมณ์มากเลยเมื่อเทียบกะฉากทำนองนี้ในเรื่องอื่น

meduza: สะดิ้งโดนลบไปแล้วครับ  ไม่มาต่อนานเกิน  แหะแหะ  ต้องขออภัยครับ

หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 21-02-2011 18:40:50
จิ้มๆคุณแทน

สู้ๆนะคะ  เป็นกำัลังใจให้
เหลือเวลาก็เหลืออีกไม่นาน  ใช้เวลาให้คุ้ม ตักตวงความสุขไว้เยอะๆ  บางทีการที่กายไม่โกรธหรือไม่แสดงอาการนิ่งเฉย & มองเมินอาจจะดีกว่า  อ๊ากก คุณแทนสู้ๆ >[]<!
PS. ขอให้คุณแทนกับกายได้มีการพูดคุยกัน  จะได้ไม่อึดอัดทั้งสองฝ่าย :)  เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 21-02-2011 18:53:04
มันไม่ได้ให้อารมณ์เหมือนฉากแบบนี้ในเรื่องอื่นอ่ะค่ะ มันดูอัดอั้นอึดอัด เพราะให้ความรู้สึกต่างออกไปเลยชอบ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 21-02-2011 19:39:45
เข้ามาขอบคุณน่ะครับ
มีคนเข้ามารับฟังผมบ่นไปเรื่อยทุก ๆ วัน 
ผมก็มีกำลังใจขึ้นเยอะ

ผมกำลังต้องการความเข้มแข็ง  ที่จะใช้จัดการชีวิตตัวเองให้ดี
การที่ผมได้พูดคุยกับทุกคนผ่านเรื่องเล่า  ผมก็รู้สึกว่าผมจะเข้มแข็งขึ้นมาได้เยอะเลยทีเดียว

Fight! ครับ  สู้ต่อ  ไม่ยอมแพ้
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: anajulia ที่ 21-02-2011 19:40:53
เวรกรรม
ไม่ได้กดเข้ามาดูไม่นาน
มาอีกหลายตอนแล้วนี่นา

เง้อออออออ

หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 22-02-2011 00:28:33
หากคุณแทนไม่เบื่อที่จะบ่น  เราก็ไม่เบื่อที่จะฟัง
ยินดีที่จะรับฟัง และพร้อมมอบกำลังใจให้เสมอยามที่ต้องการ (เน่ามั้ย  555+)

สู้ๆค่ะ ^__^V  เย่
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 22-02-2011 01:49:58
อ่านแล้วปวดใจหนึบๆ ดีที่ตอนนี้ผมไม่ได้ชอบเขาขนาดนั้น จะว่าเพราะยังไม่มีปฎิสัมพันธ์ด้วยมากขนาดนี้ ก็จริงทุกอย่างที่เขียนมา พอมีรักมันก็ต้องมีหวัง
ถึงเราจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าได้คุุยได้ทำอะไรร่วมกันมันก็มีความสุข แต่ผลลัพธ์สุดท้ายทำให้เสียใจยิ่งกว่าเดิม

เป็นกำลังใจให้นะครับ ขอให้พบกับความรักดีๆซักครั้ง ชอบสำนวนการเขียนของพี่มากๆๆ โดนสุดๆเรื่องที่ผ่านมาที่เกี่ยวกับเด็กเนิดเก็บกดคนนึง ไอ้ผมก็จำชื่อเรื่องชื่อตัวละครไม่ได้ละ ความจำสั้น เบลอมากๆ ถ้าพี่แต่งขายเมื่อไหร่อย่าลืมมาบอกกันนะครับ อุดหนุนแน่นอน ฮิฮิ

ปล. เหมือนเพื่อนผมจะเคยเดาไว้ว่าตัวจริงพี่เรียนอยู่ที่ไหน แต่ดูเหมือนจะผิดแหะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 24-02-2011 03:02:58





“นี่คุณเธอ  นั่งเหม่อหาสวรรค์วิมานอะไรอยู่ห๊ะ”  

ผมสะดุ้งโหยงเมื่อ  เสียงดังหกหลอดครึ่งทะลวงเข้ามาในโสตประสาท  ไอ้แจ้เพื่อนตัวดีมายืนเท้าสะเอวอยู่ตรงหน้า

“เปล่า”

“เปล่าๆๆๆๆ  ก็บอกเปล่าทุกที  แล้วก็มีเรื่องทุกที  ไปทำใครเค้าท้องมาล่ะ”

“เปล่าน่ะ  ไม่มีอะไร”

“ไม่มีอะไรแล้วจะเหม่อทำไม”

“ก็ไม่มีอะไร”

“ก็เห็นอยู่ชัด  ๆ ว่าเหม่อ  แจ้เรียกตั้งนานก็ไม่เห็นตอบ  หรือว่าเมื่อคืนกะไอ้กายหนักไปหน่อย”

“หนักอะไร?”

“แซวเล่น  นี่  พี่แทน  ถามจริงเหอะ  เป็นอะไรป่ะ”

“เปล่า  แล้ว...มีธุระอะไร”

“จะพาน้องเค้ามาแนะนำให้รู้จัก  แล้วก็ฝากฝัง  แต่อย่าฝังจริงล่ะ  มีคนรอฆ่าพี่แทนเยอะ  ถ้าทำน้องเขาบุบสลายแม้แต่นิดเดียว”

สายตาผมที่โฟกัสที่ใบหน้าของไอ้แจ้  เบี่ยงไปด้านข้าง  และเห็นคนที่ยืนหน้านิ่งเยื้องไปทางซ้ายของไอ้แจ้

“นี่น้อง..”

“ชื่อเจย์ครับ”  เขาชิงพูดอย่างรวดเร็ว  มองผมด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก  หูฟังสีขาวยังติดอยู่ที่หูเขา  ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาได้ยินที่ไอ้แจ้พูด  ผมรู้สึกหมั่นไส้เขาเล็กน้อย  ที่จนป่านนี้ยังจะเก๊ก  ทำเป็นเท่ห์


“พี่ชื่อแทน”

“พี่แทน”  เขาทวนคำพูดของผม  และขยับริมฝีปากทวนอีกครั้งโดยไม่มีเสียง

“ฝากดูแลน้องเจย์ด้วย  แจ้ไปช่วยฐานปีสี่ก่อน”  ไอ้แจ้ขยับมาใกล้ ๆ  จับปกเสื้อผมกรีดเล่นเบาพอสยิว  และพูดด้วยเสียงเบาลง  “คนเนี้ยแจ้หวงนะ  อย่าไปทำอะไรน้องเขาล่ะ”

“เออ”  ผมรับคำ  ใครจะไปทำอะไร  แค่เมื่อคืน  ผมก็เหนื่อยใจพอแล้ว  นายไอโฟน..เอ๊ย  น้องเจย์  ดู ๆ ไปก็ไม่เป๊คผมนักหรอก  เขาดูนิ่ง  หยิ่ง  แล้วก็เก๊กไป  คนอะไรนั่งฟังเพลงทั้งวันทั้งคืน  ดูไม่สังคมกะใคร  เอ๊ะ...คุ้น ๆ นะ  เหมือนนิสัยผมเลยอ่ะ

“ขออนุญาตนั่งนะครับ”

“นั่งดิ”

เขาหาที่นั่งในหมู่เก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับรับประทานอาหารและนั่งคุย  ซึ่งก็เยื้องไปจากผมไม่มาก  ผมว่าเขาดูนิสัยดี  แต่ว่าออกจะเงียบไปหน่อย

ผมนั่งมองกิจกรรมแต่ละฐานริมทะเลซึ่งให้น้องปีหนึ่งและพวกปีสองที่ยังไม่เคยมาได้เวียนเข้าไปทีละฐาน  ผมพยายามไม่มองหาไอ้กาย  แต่สายตาผมก็ดูเหมือนจะหนีเขาไปไม่พ้น  เขากำลังเต้นเพลงตลก ๆ เพลงหนึ่งที่พวกเพื่อน ๆ ตีกลองให้เต้นเป็นตัวอย่างน้อง  เขาดูร่าเริงแล้วก็เป็นที่ชื่นชมของคนรอบ ๆ  จู่ ๆ ผมก็รู้สึกอิจฉา  แต่ในขณะเดียวกัน  ผมก็รู้สึกผ่อนคลาย  เขาดูงดงาม  สว่างไสว  และร่าเริงเหมือนเคย  ผมชอบเห็นรอยยิ้มและได้ยินเสียงหัวเราะของเขา  ผมรักท่าทีเขินอายหลังจากที่เขาทำตัวบ้า ๆ  กายมันเป็นคนที่ไม่กั๊กของจริง ๆ  มีแรงเท่าไหร่ก็ใส่หมด  เรียกเสียงวี๊ดวิ้วจากสาว ๆ ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง

ผมเหม่อมองภาพนั้นอยู่นาน  จนกระทั่งผมนึกขึ้นได้ว่าไอ้น้องเจย์ก็นั่งอยู่ข้าง ๆ  มันก็นั่งเงียบกริบจนผมลืมไปเลย

“เออ  เจย์  ชอบฟังเพลงเหรอวะ”

“เปล่าครับ”

ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย   “ก็เห็นฟังตลอดนี่”

สายตาของอีกฝ่ายมีแววขุ่นเคืองวูบหนึ่ง  แต่ก็หายวับไปเหมือนกับพยับแดดตอนที่เราวิ่งเข้าไปใกล้  เขาไม่ตอบคำถามของผม  สายตาเขามองไปที่ทะเล  ผมมองตามไป  ทะเลอาบแดดส่องประกายระยิบระยับ

“ผมชอบฟังเพลง...ที่แม่ผม...ร้องให้ฟัง”

เขาพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงลอย ๆ  ผมแอบมองเสี้ยวหน้าของเขา  ใบหน้าของเขายังคงไร้อารมณ์  แต่ดึงดูดอย่างประหลาด

“แล้วพี่แทนชอบฟังเพลงอะไรล่ะครับ”

พร้อมกับคำถาม  ดวงตาสีนิลซึ่งดูลึกล้ำเบนกลับมาสบกับผม  ดวงตาของเขาก็ดึงดูด  ดูน่าค้นหา  เขาเป็นคนที่เก็บความลับเก่ง  เก็บอารมณ์ความรู้สึกได้เป็นอย่างดี  ผมประเมินจากการสบตาในวูบนั้น

“เพลงอะไรก็ได้  แบบที่ฟังสบาย ๆ  ไม่เร็วเกินไป  แต่ก็ไม่ช้าจนดนตรีไทยสามชั้นเรียกแม่”

“ก็เหมาะดี”

“อืม”

เราทั้งคู่เงียบกันไปอีกสักพัก

“พี่..แทน”  เขาพูดช้า ๆ เว้นประโยค  เหมือนจะเป็นสไตล์ของเขา  “พี่ไม่ถามผมเหรอว่า...ทำไมผมถึงต้องมานั่งกับพี่”

“ถามทำไมล่ะ”

“ก็..เผื่อพี่..อยากรู้”

“ตรงนี้นั่งสบายดี”  ผมบอก  “อยู่ในร่ม  ลมทะเลพัดมาเย็น ๆ  แถมไม่ต้องไปเดินลุยทรายให้เท้าเปื้อน  หรือเจย์อยากไปนั่งที่อื่น”

“เปล่าครับ”  เขาตอบเสียงเบา

แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกจนกระทั่งมื้อค่ำ




อาหารค่ำเป็นข้าวผัดปลาหมึกอย่างเดียว  ดูเหมือนว่างบประมาณที่เอาไปจ่ายค่าห้องพักจะถูกดึงไปจากค่าอาหาร  อาหารถึงได้ดู..เอ่อ..น่าเวทนาขนาดนั้น  มาถึงระยองทั้งที  ไม่มีกุ้งหอยปูปลาให้ทำมาหารับประแดก  ไอ้แทนหงุดเงี้ยวในหัวจิต

ผมตักข้าวผัดอย่างปลง ๆ คว้าต้นหอมมาสามต้น  มะนาวหนึ่งซีก  แล้วเดินร่อนหาโต๊ะนั่ง  ผมพยายามไม่มองหาไอ้กาย  หรือเฉียดกรายไปใกล้  ตั้งแต่ปีก่อนที่เราเคยตัวติดกัน  ผมก็เริ่มเว้นระยะห่างกับเขา  ไม่ใช่ว่าผมงอนยาวหรือว่าอะไร  แต่ว่าปราชญ์คนหนึ่งเคยบอกไว้ว่าจงอย่าดื่มน้ำจากจอกเดียวกัน  หรือกัดขนมปังจากก้อนเดียวกัน  เพราะแม้เสาวิหารก็ยังอยู่ห่างกัน  ต้นโพธิ์ต้นไทรก็มิอาจเติบโตภายใต้ร่มเงาซึ่งกันและกันได้  อะไรทำนองนี้

ผมรู้ว่าเขาไม่ได้โกรธผม  ถึงแม้ว่าผมแน่ใจว่าเขาจะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน  ผมก็ไม่ได้คิดอะไร  ก็ปล่อยมันผ่านไป  แต่ผมก็หวังเล็ก ๆ ว่าจะมีโอกาสได้พูดคุยกับเขา  แต่คงยากเหลือเกิน  ต้องฝ่าด่านเมืองแม่ม่ายสิบแปดชั้น  ซึ่งประกอบด้วยรุ่นพี่สาวทึนทึกจำนวนมาก  รุมกันน้องกายอย่างงั้น  น้องกายอย่างงี้  แหมไม่ไปนั่งตักแล้วป้อนข้าวให้ถึงปากเลยล่ะ  อุ๊บ...ผมนี่คิดอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว

ผมเดินเลยโต๊ะไอ้กายไป  จนเห็นใบหน้าที่ดึงดูดสายตาของผม  ไอ้เจย์  เก๊กอีกแล้ว  คราวนี้นั่งเก๊กมองข้าวผัดในจาน  มันคงจะเหาะเข้าปากเองอยู่หรอกพ่อคุณ  เพ่งเข้าไป

ไอ้แจ้กวักมือเรียกอย่างรู้งาน  “พี่แทนมานี่  นั่งเป็นเพื่อนน้องเจย์หน่อยซี่”

“อ้าว  แล้วมึงจะไปไหน”

“หัวใจมันเรียกร้องให้ไปทำธุระ  ฮุๆๆ”

“ตลอดอ่ะมึงอ่ะ”

ไอ้แจ้ลุกไป  ผมนั่งสวมแทน  ไอ้เจย์มองผม  แล้วก็พูดด้วยเสียงเย็นชา

“ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนผมก็ได้”

ผมทำเป็นไม่ได้ยิน  โกวเล้งกล่าวไว้ว่า  บางสถานการณ์บุรุษต้องหัดหนวกบอดใบ้ไว้จะประเสริฐ

ผมโซ้ยข้าวผัดได้สักพักก็เริ่มรู้สึกฝืดคอ  ก็เลยจะลุกไปเอาน้ำ  อดแว่บมองข้าวในจานของไอ้น้องเจย์ที่พร่องไปนิดเดียวไม่ได้  มันแดกแค่นี้จะอิ่มเหรอวะ  มันไปเอาพลังงานในการเก๊กหน้านิ่งทั้งวันทั้งคืนมาจากไหนเนี่ย

“เอาน้ำมั้ย”

มันมีสีหน้าไม่พอใจ  แต่ก็แค่แว่บเดียวล่ะ  น้ำเสียงของมันราบเรียบ  ไม่ได้เย็นชา  แต่ก็ไม่ได้สนิทสนม

“ขอบคุณครับ  ผมลุกไปเอาเองได้”

ผมนึกในใจ  อะไรของมันวะ  ทำไมต้องตั้งการ์ดขนาดนี้  แต่ผมก็ไม่ใช่คนที่จะเก็บเรื่องพรรค์นี้มาคิดไม่พอใจ  ผมก็ลุกไปแล้วก็ตักน้ำมาเผื่อมันอีกแก้ว  ตอนถือกลับมา  ผมก็ลังเลนะ  ว่าจะถูกโกรธหรือเปล่า  เพราะมีเพื่อนผู้หญิงบางคน  จะไม่พอใจถ้าได้รับการเทคแคร์จากคนอื่น  รายยัยคนนั้นก็เป็นปมเรื่องเพศ  ที่รู้สึกว่าการที่คนอื่นเทคแคร์โดยไม่จำเป็นการแสดงความอ่อนแอของเพศหญิง  และการกดขี่อย่างลับ ๆ ของเพศชาย  พอผมรู้ผมก็ไม่ทำอะไรให้  ให้เธอทำเอง  ถ้าไม่ไหวค่อยเข้าไปช่วย  ก็โอเค

ผมวางแก้วน้ำให้ไอ้เจย์  แล้วก็นั่งที่เดิมโดยไม่พูดอะไร  ไอ้เจย์นั่งท่ามากอีกแปบ  ก็หยิบแก้วน้ำมาดื่ม  ผมยิ้มขำเล็ก ๆ ที่มุมปาก  แต่ดูเหมือนพ่อคนหน้านิ่งจะแอบเห็น  ก็เลยขมวดคิ้วใส่นิดหน่อย



สักพัก  ไอ้แจ้ก็ร่อนกลับมาที่โต๊ะ  สีหน้ามีแววกระหยิ่มยิ้มย่อง  

“เป็นไง  น้องกรเสร็จมึงยัง”

จำน้องกรได้ไหมครับ  คนที่ผมจำสับสนกะไอ้นิคอ่ะ  ไอ้แจ้ชอบน้องคนนี้  มันเลยหัวฟัดหัวเหวี่ยงตอนที่เข้าใจว่าผมจะจีบน้องกร  แต่ผมก็บีบเอาเบอร์โทรน้องกรจากไอ้แจ้มาจนได้ (โดยที่เข้าใจว่าเป็นเบอร์ไอ้นิก) จริง ๆ ผมก็มีพาวเวอร์เยอะนะเนี่ย  ฮ่าๆๆๆ

“แหม  พี่แทน  พูดงี้แจ้เขิน”

“เออ  ก็เห็นมึงจีบมาได้ครึ่งปีแล้ว  ถ้าเป็นคู่ผัวตัวเมียกูว่าป่านนี้ลูกเป็นโขยงล่ะ”

“แหมๆๆๆ  ทำมาเป็นประชดแจ้นะ  ทีพี่แทนล่ะ  ตามเทียวไล้เทียวขื่อใครอยู่ตั้งหลายปี  ก็ไม่เห็นจะได้อะไร”

ฉึก...แทงใจดำครับท่าน  แต่ผมก็ยังปากแข็ง

“ใครกันวะ  ไม่เห็นจะรู้เลย”

“จะมีใคร๊  ก็พ่อยอดเทวดาดีเลิศประเสริฐศรีของพี่แทนไงล่ะ  หรือต้องให้เรียกเจ้าตัวมารับฟังด้วย”

“ทำเสียงแบบนี้  หึงรึ”

“หึงพี่แทนน่ะเรอะ  เฮอะ”

“ไม่ใช่  หึงไอ้กายไง  เป็นเพื่อนกะมันมาตั้งแปดเก้าปี  ไม่คิดไรมั่งหรือไง”

“โธ่เอ๊ย  แจ้อ่ะเห็นมันมาตั้งแต่หำยังไม่ตั้ง  ก็ไม่เคยจะเห็นมันหน้าตาดี  เพ้อเจ้อก็เท่านั้น”

“อ๋อ  ไม่เปคสินะ”

“สเปคพี่แทนนี่แปลก ๆ  ต้องไปเช็คมั่งอะไรมั่งแล้วนะ”

“ถ้าไอ้กายมันไม่หล่อจริง  คงไม่มีใครเลือกมันเป็นเดือนคณะหรอก”

“นี่พี่แทนจะมาเถียงกะแจ้อีแค่เรื่องว่าไอ้กายมันหน้าตาดีหรือไม่ดีแค่นั้นเนี่ยนะ”

“เปล่า...ชอบยั่วมึง  สนุกดี”

“เฮ้อ  แก่ก็แก่  ยังทำตัวเกรียนอีก”  เสียงลอยลมจากปากไอ้ตั๋งที่เดินถือจานข้าวผัดผ่านหลังผมไป

“แปลกนะ”  ผมหันมาคุยกับไอ้แจ้อีกทีหลังจากที่แจกนิ้วกลางให้ไอ้ตั๋ง  “ทำไมกูกะมึงต้องทะเลาะกันทุกทีที่เจอหน้าด้วย”

“ก็พี่แทนอ่ะกวนตีน”

“กูอ่ะเหรอ”

“ไม่ใช่รึไง  ยั่วโมโหเก่งก็เท่านั้น  แถมยังทำหน้าตาพาซื่อไม่รู้ประสีประสา  ชะหนอยแน่  เห็นว่าแจ้ไม่กล้าทำอะไรพี่แทนก็ได้ทีใหญ่เลยนะ”

“หุหุ”

“แล้วนี่  ไม่ชวนน้องเขาคุย  ไม่กลัวน้องเขาเหงาหรือไง”  ไอ้แจ้บุ้ยไปทางไอ้น้องเจย์ที่ทำท่าเหมือนไม่สนใจ

“ไม่รู้จะชวนคุยอะไรนิ  ก็เห็นนั่งฟังเพลงตลอดเลยไม่อยากรบกวน”

“อ้าว  พี่แทนยังไม่รู้เหรอ...”

“พี่แจ้”  ไอ้เจย์ขัดจังหวะ  “ผมอิ่มแล้ว  ผมกลับเข้าห้องได้ไหม”

“เดี๊ยว  เดี๋ยวๆๆๆ  ไม่คิดจะอยู่ดูการแสดงตอนค่ำหรือจ๊ะน้องเจย์”

“แต่ผมเหนื่อย”

“จ้ะๆๆ  รู้แล้วว่าเหนื่อย  แต่พี่ให้นั่งนิ่ง ๆ นะจ๊ะ  ไม่ใช่ให้ไปขุดดินถางหญ้าที่ไหน  อีกอย่างจะให้น้องเจย์ช่วยดูแลพี่แทนเค้าด้วย  ในฐานะที่พี่เค้าเป็นประธานฝ่ายอำนวยการผลิตแห่งสหภาพปรัชญา”

“เห้ย  ตำแหน่งนี้กูได้แต่ใดมา”

“เจ้าพิภพโลกา  จัดให้”  ไอ้แจ้ต่อโคลง  “แหม  แจ้ก็เรียกให้เวอร์ไปอย่างนั้นเอง  แต่แจ้รู้นะว่าพอพี่แทนแดก  เอ๊ยรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว  ก็คงขึ้นไปหมกตัวอยู่บนห้องแน่ ๆ ดังนั้น  แจ้จึงต้องบังคับ  มิใช่สิ  น้อมเชิญให้คุณพี่อยู่เป็นขวัญกำลังใจแก่น้อง ๆ  เข้าใจมั้ย”

“พี่แทนครับ”  เสียงนุ่ม ๆ ข้างหลัง  ผมไม่ต้องหันไป  ผมก็รู้ว่าใคร  หัวใจผมเต้นตึก ๆ อย่างประหลาดอีกแล้ว

“ช่วยดูผมแสดงด้วยนะครับ”  เขาพูดต่อ

“อ่ะ...อืม”

จนไอ้กายเดินกลับโต๊ะไป  ไอ้แจ้ถึงสะกิด

“ทำหน้าเหมือนปลาสำลักอากาศอีกแล้ว”

“อะไร”

“ก็พี่ไง  แค่คนนั้นเค้าเดินมาหา  สีหน้ามันก็ฟ้องขนาดนี้  หรือคิดว่าใครอ่ะ”

“ไปหาน้องกรของมึงเหอะน่ะ”

“แหม  ไล่เชียวนะ”

“ไม่ได้ไล่  เขาเรียกเชื้อเชิญอย่างสุภาพ”  ผมยักคิ้วให้มันข้างนึง  ไอ้แจ้เขม่นเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหมั่นไส้  ก่อนจะยอมลุกไปจากโต๊ะของผมกะไอ้เจย์

“อิ่มแล้วเหรอ”  ผมถามไอ้เจย์   มันพยักหน้านิดหนึ่ง  “งั้นฝากเก็บจานให้พี่ด้วยนะ”

สีหน้าของเขาดูประหลาดใจไปแวบหนึ่ง  แต่แล้วมันก็ยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปาก  แล้วลุกขึ้นเก็บจานให้กับผม  ผมมองตามเขาไปด้วยสายตาครุ่นคิด  ผมคิดว่ามีหลายอย่างที่ประหลาด  เหมือนจิ๊กซอว์ที่ไม่เข้ารูปเข้ารอย  ผมรู้สึกเหมือนผมกำลังจะเข้าใจนายไอโฟนคนนี้  แต่ก็ยังติดอยู่ที่ริมฝีปาก  ยังเอ่ยออกมาไม่ได้

ผมนั่งกอดอกที่เก้าอี้  ค่ำคืนนี้เป็นคำคืนที่ประหลาด  เหมือนกับช่วงเวลาก่อนการเปิดม่านของละครโรงใหญ่  ตัวละครออกเดินในชุดเสื้อผ้าหรูหรากรุยกราย  ผมรู้สึกเหมือนเป็นผู้ชม  แต่เป็นผู้ชมที่มีแสงไฟส่อง  อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป  ผมไม่สามารถเดาได้  เพราะดูเหมือนว่าผู้กำกับบทละคร  จะไม่ยอมให้ใครรู้เรื่องในบทล่วงหน้า




หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 24-02-2011 03:19:04

• แต่ว่าปราชญ์คนหนึ่งเคยบอกไว้ว่าจนอย่าดื่มน้ำจากจอกเดียวกัน.......จง?
• “แปลกนะ”  ผมหันมาคุยกับไอ้แจ้อีกทีหลังจากที่แจกนิ้วกลางให้ไอ้ตั๋ง
“ทำไมกูกะมึงต้องทะเลาะกันทุกทีที่เจอหน้าด้วย”

วุ้ย จิ้มค่ะ อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
  
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 24-02-2011 03:21:29
ZakeiHarha:  ครับ  เนื้อเรื่องที่ผมเขียน  จะค่อนข้างล่าช้าน่ะครับ  เพราะแต่ละตอนก็ไม่จบวันเสียที  แล้วก็มีสองสามวันที่ผมทำธุระจนไม่มีเวลาเขียนด้วย  มันก็เลยเลื่อนไปเรื่อย ๆ  ตามไทม์ไลน์ในนั้น  ก็ยังไม่ถึง 14 กุมภาเลยด้วยซ้ำครับ  ไม่อยากสปอยล์ง่ะ  แต่หลาย ๆ เรื่องมันก็คลี่คลาย  เอ๊ะหรือยุ่งเหยิงกว่าเดิมไปแล้ว  ฮ่าๆๆๆ
ปล.  ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคับ  ^ ^

ChCh13:  อย่างงั้นเหรอครับเนี่ย  ชอบของแปลกนะครับ ฮ่าๆๆๆ

anajulia:  ผมไม่ได้อัพเดทชื่อตอนน่ะครับ  ไม่รู้จะตั้งชื่อตอนยังไง  แล้วก็เขียนอะไรที่หัวเรื่องเยอะไป  มันจะหายากอีก  ผมแก่แล้วตาลายกว่าจะหากระทู้ตัวเองเจอ  เบลอน่าดู  อิอิ

❆PIOGGIA☁:  มีประสบการณ์คล้ายคลึงกันเหรอครับ  มาแชร์กันหน่อยดิ  ว่าของนายเป็นไงบ้าง  แล้วบทสรุปสุดท้าย  มันเป็นยังไง  เรื่องเด็กเนิร์ดเก็บกดที่ว่า  คงเป็น  เรื่องทางเพศ   ชิตพัณ  กับ บรรณศร  แล้วก็  ธีรเดช  ใช่หรือเปล่าครับ

ส่วนเรื่องพิมพ์  คงยังไม่ได้พิมพ์น่ะครับ  ไม่มีทุน  แต่จริง ๆ อยากพิมพ์เก็บไว้อ่านเองเหมือนกัน  โดยเฉพาะคอมเม้นท์ของเพื่อนนักอ่านทุกคน  ซึ่งกลับไปอ่านกี่ครั้ง  มันก็หลากอารมณ์  มีความสุข  ภูมิใจ  ตื้นตัน  และบางทีก็เศร้า  ผมยังจำเพลง Take me to your heart ได้อยู่เลย  และจำได้ว่ามีเพื่อนนักอ่านคนหนึ่ง  ก็เล่าให้ผมฟังว่าเคยมีคนพิเศษร้องเพลงนั้นให้ฟัง  มันก็เหมือนกับว่าผมมีประสบการณ์บางอย่างร่วมกับคนเป็นร้อย ๆ  ซึ่งหวนนึกกี่ทีก็มีความสุข

kit:  นักอ่านกิตกิมศักดิ์ก็นี่เลย คุณกิตติยาวดี  ไปที่ไหนก็เจอ  อิอิ



โชคดีและมีความสุขครับ  เจอกันครั้งต่อไป  ไม่รู้วันไหน  อาจจะพรุ่งนี้หรือมะรืน


หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 24-02-2011 04:26:54
น้องเจย์ก็ลึกลับน่าสนใจ น้องกายก็น่ารักซะ เอาน้องแจ้ละกันใกล้มือดี หึๆๆ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 24-02-2011 12:29:59
เอ่อ........ ค้าง =[__]=!  อยากรู้ตอนต่อไปแล้ว  เอ่อ......
เอ่อ........... คุณแทน  มาทำให้อยากรู้แล้วจากไปอีก T[__]T!!!   14 กุมภา เกิดอะไรขึ้น?  มาโปรยๆไว้อย่างนี้ทำให้อยากรู้นะ T[__]T!!!
เอ่อ..... ค้างงง  ค้างงงงงงงงงงงงงง

นุ้งเจย์ เกี่ยวพันอะไรกับหูฟัง *0*~~   555+

รออ่านต่อ  สู้ๆ ^______^V
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 27-02-2011 01:41:08
เวทีแสดงคือผืนทรายสีส้มหม่น ๆ ใต้แสงไฟที่ถูกกวาดจนเรียบ
ขบเขตทางด้านซ้ายคือทะเลกับผืนฟ้าที่มืดมน  มีแสงไฟไกล ๆ ของเรือหาปลาหมึก
คำคืนนี้ไม่มีดวงดาวและดวงจันทร์  แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครรู้สึกเศร้า
ทุกคนสนุกสนานและตื่นเต้นรอคอยการแสดงที่กำลังจะมาถึง
ไอ้น้องเจย์ยืนอยู่ข้างหลังของผม  ผมแอบเห็นดวงตาวับวามในความมืดของเขา
ผมทำเป็นว่าไม่รู้ว่าเขาหลบอยู่ตรงนี้  อาศัยมุมอับแสงไฟเพื่อเฝ้ามองคนรอบข้าง
ผมสงสัยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่  เขาเป็นคนประเภทไหน
ผมสงสัยว่าอะไรที่ดึงดูดเขามาใกล้ผม
ผมไม่อยากจะคิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคชะตา  ผมไม่อยากเชื่อเรื่องของโชคชะตา
ผมเชื่อเรื่องเหตุผล  กฎเกณฑ์ที่แน่นอนตายตัว  ถ้ามีเหตุ  มันต้องมีผล
แต่ว่าผมมีเพื่อนคนหนึ่ง
เขาเชื่อเรื่องโชคชะตามาก ๆ
เขาใช้เหตุผลได้เก่งกว่าผม  และรู้อะไรต่อมิอะไรมากกว่า
ทว่าเขาก็ยังเชื่อเรื่องโชคชะตา  เขาเชื่อเรื่องพระเจ้า
เขาบอกผมว่า  มันรู้สึกดีกว่าไม่ใช่หรือ  ที่จะเชื่อว่ามีอะไรบางอย่างที่คอยช่วยเราอยู่ลับ ๆ
ผมคิดว่าการที่เขาเชื่อเรื่องโชคชะตา  มันทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต
เป็นความพิเศษ  เป็นโอกาสที่มหัศจรรย์  และทำให้เขาชื่นชมชีวิต
น่าแปลกที่ถึงแม้ผมไม่เชื่อ
แต่ผมก็แอบหวังว่า
มีสิ่งที่เรียกว่าโชคชะตา  และพระเจ้าผู้ทรงกรุณาอยู่ในจักรวาลแห่งนี้

สัมผัสเบา ๆ ทว่าอบอุ่น  ค่อย ๆ วางบนบ่าของผม  ผมรู้ทันทีว่าเป็นใคร
เขาเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ไม่ทำให้ผมตกใจเวลาที่แตะต้องผม
อาจจะเป็นเพราะกลิ่น  แต่จมูกผมก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
หรือว่าน้ำหนัก  และอุณหภูมิ  ทั้งขนาดความกว้างยาวของมือ  ที่ทำให้ผมระบุตัวเจ้าของได้
แต่ผมก็คงไม่ใช่ไมโครสโคปที่จะวัดได้ขนาดนั้น
งั้นก็อาจจะเป็นเรื่องของโชคชะตา  ที่ทำให้ผมรู้
ว่าน้องกายกำลังจับบ่าผมด้วยมือใหญ่และอุ่นของเขา
ผมไม่กล้าหันหน้าไป  เพราะกลัวว่าจะไปชนกับจมูกของเขา
ไม่ใช่อะไร  แค่นี้ผมก็ใจเต้นอยู่แล้ว
ผมได้กลิ่นยาอมยี่ห้อโปรดของเขา  ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมลมหายใจบาง ๆ
ผมรู้ว่าใบหน้าของเขาอยู่ห่างไปนิดเดียว
ข้างหลังผม
นิดเดียว  ที่เหมือนจะห่างกันเหลือเกิน

“พี่แทนครับ”

ผมทำใจให้สงบ  และค่อย ๆ เบือนใบหน้ากลับไปหาช้า ๆ ให้เขาหลบทัน  แต่ว่าเจ้าตัวก็ไม่หลบ  จมูกของเขาเฉียดแก้มผมไปนิดเดียว  และถ้าผมขยับอีกนิด  ผมก็จูบเขาได้  ผมอยากทำอย่างนั้นแทบบ้า  แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย  สุดท้ายผมก็ต้องเจ็บปวดเพราะฝังหนามรักเข้าไปในหัวใจลึกขึ้นอีก  ซ้ำจะมีแต่ทำให้เขาอับอายก็เท่านั้น

“ครับ”

“ทำไมถึงมานั่งมืด ๆ ตรงนี้ล่ะครับ”

“ก็  อยากนั่งตรงนี้น่ะครับ”

“กายตามหาพี่แทนตั้งนาน”

“ตามหาทำไมล่ะ”

“เห็นเย็นนี้พี่แทนดูเหมือนไม่ค่อยสบาย  กายนึกว่าพี่แทนขึ้นไปนอนแล้วเสียอีก  แต่ขึ้นไปดูที่ห้องก็ไม่เจอ”

“พี่ไม่ได้เป็นอะไร”

“ครับ  ถ้ารู้สึกไม่สบาย  บอกน้องไอซ์ได้นะครับ  เขามีกระเป๋าพยาบาล  แล้วก็อย่างนั่งมืด ๆ เลยครับ  ยุงจะกัดเอา”

“อืม”

ผมอยากบอกเขา  ว่าผมรู้สึกขอบคุณและรักเขามากแค่ไหน  แต่ว่า  ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปมากกว่านั้น  ผมไม่ชอบแสดงความรู้สึก  ผมไม่ชอบฟูมฟาย  ผมว่ามันทำให้คนเราอ่อนแอ  และดูเรียกร้องความสนใจเกินเหตุ  ผมแค่อยากอยู่ใกล้เขา  ไม่ได้อยากให้เขาเห็นใจ  หรือสงสารอะไรทั้งนั้น

บางทีมันก็คงจะดีกว่าถ้าผมเก็บทุกอย่างเงียบไว้กับตนเอง  ให้มันหายเอง  เจ็บแล้วก็หาย  หนึบ ๆ แล้วก็คลาย ผมไม่ได้ต้องการคนอื่น  ผมบอกตัวเองซ้ำ ๆ ว่าผมไม่ได้ต้องการให้ใครมารับรู้

แต่ว่า
ใจจริง  ผมโคตรอยากให้เขารู้เลยว่ะว่าผมรู้สึกยังไง  คิดอะไร  ย่ำแย่แค่ไหน  มืดมนจนปัญญาแค่ไหน
ผมอยากให้เขาเข้ามากอด  โอ๋ ๆ  ลูบหัว  หรือทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล
แต่นั่นก็คือสิ่งที่เขาทำประจำอยู่แล้ว  ทุกครั้งที่เขารู้สึกว่าผมหดหู่  หรือท้อแท้เศร้าใจ
แล้วผมยังต้องการอะไร

แต่ทำไม  ทั้ง ๆ ที่รู้
ทั้ง ๆ ที่เข้าใจเรื่องราว
ทั้ง ๆ ได้ในสิ่งที่ต้องการ
ทำไมหัวใจยังปวดหนึบ ๆ  มันเหมือนจะหลุด  เหมือนจะขาดออกไป
เพราะหัวใจมันไม่รู้จักพอ  อย่างงั้นหรือเปล่า

กายปล่อยมือจากผม  ค่อย ๆ หันกายจากไป
ผมหันกลับไปมอง  ผมมองเขาเดินเข้าไปสู่แสงสว่าง
เสื้อบอลแขนยาวสีเหลืองของเขา  อาบแสงไฟจนเรืองรอง
ผมถึงเพิ่งรู้สึกตัว  ไอ้น้องเจย์ก็มองผมอยู่
เขาเบือนหน้าหนี   เมื่อรู้ว่าผมรู้ว่าเขากำลังมองผม
เขาสนใจผม  ตั้งแต่บนรถแล้ว
แต่ว่า  สนใจด้วยสาเหตุอะไร
ผมไม่รู้
ผมก็อยากรู้เหมือนกัน



หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 27-02-2011 02:32:43
ดูเหมือนว่าเจย์จะแอบชอบพี่แทนรึเปล่าครับ เพราะดูจะปูทางมากไปหน่อย แต่ก็ยังไม่ใช่ปมของเรื่องในตอนนี้

ถ้าผมเป็นพี่แทนผมคงปวดใจน่าดู ถ้าจริงๆแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่จะรักกันสู้ไม่ต้องมาสนิทกันจะดีกว่า ผมว่ามันก็แค่ความสุขชั่วคราว พอพ้นตรงนั้นมาก็จะทุกข์ยิ่งกว่าเดิมอีก

แต่ก็ความเห็นส่วนตัวนะครับ  :3123:

ส่วนเรื่องของผมไร้สาระมากๆเลย ก็แค่แอบชอบน้องคนนึงเหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีโอกาสที่จะไปสนิทสนมด้วย ยังไงเค้าก็เป็นผู้ชายแท้

ก็อย่างที่ผมคิดนั่นแหละ ยิ่งเข้าไปยุ่งมากเราก็ยิ่งเจ็บมาก ก็มองผ่านไปวันๆแบบนี้ดีกว่า จริงๆผมก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองหรอก บางทีก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเวลาเค้าไปจีบใคร

แต่บางทีก็กลับฟุ้งซ่านเสียใจทั้งๆที่เค้าไม่ได้มารับรู้เลย จะบอกว่าชอบก็บอกได้ไม่เต็มปากนัก อย่างมากก็แค่ปลื้มในตัวน้องเค้าเท่านั้นเอง อย่างที่บอกแหละครับไม่อยากไปมีปฎิสัมพันธ์อะไรกับน้องมันมาก กลัวตัวเองเสียใจ

พี่แทนคิดว่าไงครับ คิดว่ามันดูขี้ขลาดรึเปล่าที่ไม่ทำตามใจตัวเอง ? ตอนนี้ผมก็ได้แต่รออะครับคิดว่าซักวันความรักก็คงจะวิ่งมาหาเราเอง

หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 27-02-2011 05:26:00
อิน้องกายแ่ม่มอ่อยตลอด เบื่อมัน  :เฮ้อ:
ตกลงน้องมันรู้มั้ยว่าแทนชอบหรือว่ารู้แล้วพยายามทำตัวเหมือนเดิมให้แทนสบายใจหรอ
หรือว่ามีใจให้เหมือนกัน อะไรของมันเนี่ย :เฮ้อ:
ปล. เป็นกำลังใจให้คุณPIOGGIA คุณไม่ได้ขี้ขลาดหรอกนะคะ รักและเป็นหวงตัวเองน่ะดีแล้ว :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 27-02-2011 06:24:51

• อาจจะเป็นเพราะกลิ่น  แต่จมูกผมก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น
• หรือว่าน้ำหนัก 
• และอุณหภูมิ 
• ทั้งขนาดความกว้างยาวของมือ  ที่ทำให้ผมระบุตัวเจ้าของได้
• แต่ผมก็คงไม่ใช่ไมโครสโคปที่จะวัดได้ขนาดนั้น
ว้าย วัดได้ขนาดนั้น ต้องเป็น odoropondocalorosizometer แล้วละค่ะ
microscope - is an instrument used to see objects too small for the naked eye.
not an instrument used to see too small naked object belongs to Guy. นะคะ
และไม่สามารถดี่เทคํ(detect)อื่นๆที่แทนย่าบรรยายมาได้ค่ะ อิอิ

๕๗๒ + ๑ = ๕๗๓
ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
 
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 28-02-2011 08:40:27
โว๊ะ!!  กาย -_-;
อยากรู้ว่าเจย์นั้นคิดยังไงงงง~  5555+
ณ นาว รอลุ้นทั้งคู่ (ฮาาาา)

สู้ๆ ^____^V
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nonae ที่ 02-03-2011 15:06:57
อยากรู้เรื่องของเจย์ ว่ามีลับลมคมในอะไรกับแทนหรือป่าว
เหมือนแจ้ อยากจะให้อยู่ใกล้ ๆแทนนะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: กุหลาบเดียวดาย ที่ 02-03-2011 19:21:33
โธ่เอ๋ย พี่แทน น้องเจย์เค้าใส่เครื่องช่วยฟังต่างหาก ช่างไม่รู้อะไรเลย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ZakeiHarha ที่ 04-03-2011 20:28:26
ดันๆๆๆๆๆ

Fighting!!!
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: bigeye ที่ 05-03-2011 02:50:28
ขออ่านด้วยคนนะคะ...พี่แทน
เรื่องนี้มีความลับเยอะจริงๆเน้อ
ทั้งน้องเจย์ น้องกาย ทั้งสองคนคิดอารายอยู่เนี่ยยยยย
หลายคน หลายความคิด แต่แบบนี้มัน :serius2: ไม่เคลียร์ๆๆ
เค้าจะอ่านต่อ :call:
ปล.น้องเจย์ใส่เครื่องช่วยฟังอ่ะเปล่าหว่า
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 10-03-2011 18:47:15
ดัน+ทวงค่ะ  :o11:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: กิมตี๋หัดขับ ที่ 11-03-2011 01:53:47
ไม่ได้เข้าทู้เป็นเดือนๆ  มาแล้วเพิ่งเจอ ทู้นิยาย คุณคิริฯ 555 ดีใจมวกกกกๆ :mc4: 



ปีลี. เรื่องนี้จบมั้ยจ้ะ จะได้เตรียมจวยยยยย
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ๛゙★βra_11!☆゙ ที่ 19-03-2011 12:36:03
อ่านเรื่องคุณคีรีฯ ทีไร
ความรู้สึก หรืออะไร อินทุกทีเลย  :m13:
น้องเจย์นี่ไม่ได้ใส่เครื่องช่วยฟังใช่มั้ย อ่านคหบนๆแล้วตกใจ :a5:

นุ้งกายอ่อยจริงๆ อยากเชียร์ กาย แทน เหมือนกันนะ
ดูนิสัยทั้งคู่มันวาบหวาม??ดี

รอมาต่อจ้า ชอบเรื่องนี้  o13
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 07-04-2011 20:09:51

เรื่องนี้แปลกอย่างหนึ่ง   ไม่มีตอนกลาง  แ่ต่จะมีตอนจบ
ใครที่เดาว่าน้องเจย์ใส่เครื่องช่วยฟัง  ถูกต้องแล้วครับ
แต่ผมไม่อยากเล่าอีกแล้ว

ตอนจบของเรื่องนี้

ผมและน้องกายแยกย้ายกันไปครับ
ผมตั้งใจหายตัวไปจากชีวิตเขาเงียบ ๆ
ลบเฟซบุ๊คตัวเอง  แล้วก็ไม่โทรไปอีก

ถ้าเขาโทรมาก็คงคุยในฐานะเพื่อนเก่า

คืออย่าเข้าใจผิด
ผมไม่ได้งอน  หรือมีเรื่องอะไรทั้งสิ้นน่ะครับ
แค่มันถึงจุดหนึ่งที่ผมคิดว่า  ไม่อยากเศร้ากับเรื่องนี้อีกแล้ว
พระพุทธเจ้าท่านว่า  มีทุกข์ก็ต้องแก้ที่ตัวทุกข์
ต้นเหตุอยู่ที่ใจ  ไม่ได้อยู่ข้างนอก
ผมจึงคิดว่า  การตัดใจน่าจะแก้ได้ดีที่สุด

ตอนนี้ผมเข้มแข็งมาก  ไม่อยากร้องไห้เลยสักนิด
แต่ว่า  ก็ขอให้ตัวเองผมเข้มแข็งตลอดไป
อย่าได้เสียใจกับเรื่องที่ตัดสินใจทำในวันนี้เลย


 :pig4:




ปล.  ขอโทษนะครับที่เขียนเรื่องแบบเต็มเรื่องสมบูรณ์ไม่เคยได้สักที

 :n1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 07-04-2011 20:18:30
วุ้ย ไม่เป็นไรค่ะคุณแทน เราเคารพการตัดสินของคุณแทนค่ะ

บางทีการอยู่กับเรื่องที่ทำเราปวดใจมากเกินไปมันก็อาจจะทำให้จิตตกได้มากมาย ลองออกมาจากตรงนั้นแล้วมองโลกใหม่อาจจะช่วยได้

คิดเสียว่า น้องกายเป็นใครคนหนึ่งที่เข้ามาในชีวิตและทำให้ช่วงเวลาหนึ่งเราได้รักใครสักคนมากๆ ได้รัก ยังดีกว่าที่ใจเราเย็นชานะคะ

กอดกันค่าาา :กอด1:

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า เป็นชีวิตจริง (หรือความรู้สึกจริงๆ) ของคุณแทน มันอาจจะยากมากกับการต้องถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ งั้นลองเขียนนิยายมาให้อ่านสิคะ คุณแทนเขียนนิยายสนุก อย่างเรื่องสาระคดีทางเพศนั่นก็สนุกมากมายเหลือเกินค่ะ ตอนนี้ก็ยังอยู่ในใจดิฉันอยู่เลย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 07-04-2011 22:55:15
เออว่ะ~ พี่แกจบแบบเออว่ะจริงๆ555
ไม่โกรธไม่ว่าหรอกค่ะ(จะด่าเลย อ่ะล้อเล่น)
ดีแล้วแหละที่ตัดสินใจได้ซักทีว่าจะเอาไงกะชีวิต
แอบเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งที่จะตัดใจ เลิกคร่ำครวญปวดหัวปวดใจกับมันซะที
การที่เราไม่ต้องเห็น ไม่ต้องเจอหรือรับรู้ข่าวคราวกันเลยนี่แหละดีที่สุด
ที่เราตัดใจไม่ได้ซักทีก็เพราะต้องเจอ ต้องได้ยินชื่อกันนี่แหละ
แล้วก็อย่าไปอยากรู้เืรื่องของเค้าด้วยนะคะ เดี๋ยวไม่ได้ผล
มันไม่หายในเวลาสั้นๆ หรอก คงอีกนานเลยแหละกว่าจะหายสนิท
แต่วันนึงเราจะหายดีและสามารถพูดคุย ยิ้มให้เค้าได้อย่างสนิทใจจริงๆ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ปล. โปรเจ็คนิยายเล้าคงไม่จบแบบนี้อีกใช่ป่าวอ่า~~~
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 08-04-2011 14:56:21
เวลาจะช่วยให้เราดีขึ้นค่ะน้องแทน

ถึงช่วงเวลาหนึ่ง น้องแทนจะสามารถมองน้องกายได้เต็มตา อย่างมีความสุข
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: YunNie ที่ 08-04-2011 15:24:11
เป็นกำลังใจให้คุณแทนอีกคนค่ะ  :กอด1:

ขอให้เวลาช่วยเราทำให้เรากลับมายิ้มได้อย่างเต็มที่อีกครั้ง  :a2:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 08-04-2011 18:07:47

วุ้ย กิต.หวังว่า คงจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นในอีกสักสองสามวันข้างหน้านะคะ
ประมาณวันจันทร์นะคะ

ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
 
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 08-04-2011 19:30:31
 :L1:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 09-04-2011 05:26:57
วันจันทร์ผมไปไม่ได้หรอกคุณกิต  ผมต้องไปเกณฑ์ทหาร
ดังนั้นก็คงไม่มีข่าวดีอะไร

ว่าแต่  ข้อความในรูป  แปลว่าอะไรครับ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 09-04-2011 11:46:19
^
^
^
^
คุณแทนอายุอ่อนกว่าดิฉัน??? ดิฉันเพิ่งไปจับใบดำใบแดงเมื่อปีที่แล้ว (อุ๊ปส์ เป็นผู้หญิงแต่ต้องเกณฑ์ทหาร หุหุ) :laugh:
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 09-04-2011 15:13:19
ผ่อนผันมาหลายปีครับ   เรียนจบแล้วก็เลยต้องไปจับน่ะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 09-04-2011 16:45:26

• ข้อความในรูป  แปลว่าอะไรครับ
ว้าย ‘ฝนซา ฟ้าใส รุ้งกินน้ำจะปรากฏ เพื่อคุณ’ ค่ะ
ขอบคุณนะคะ คุณ คีรี~มัญจาโร
 
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: aaax ที่ 22-02-2013 16:12:02
ไม่ได้อ่านเรื่องที่น้องเขียนมาเป็นปี ๆ นึกครึ้มเข้ามาเปิดเจอเรื่องนี้

คิดถึงนะ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: AB^Ton^ ที่ 22-02-2013 17:00:34
เอ่อ ว่ะ เรื่องนี้ จบได้ใจจริง ๆ
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: ttar ที่ 22-02-2013 17:28:05
เออว่ะ เออว่ะ เออว่ะ ฮวากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: เ อ อ ว่ ะ (จบแบบ...เออว่ะ)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 20-03-2024 20:04:29
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw (https://www.youtube.com/watch?v=HMk_TW7icaw)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)