พิมพ์หน้านี้ - (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: cancan ที่ 15-01-2011 22:56:19

หัวข้อ: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 15-01-2011 22:56:19
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



ขอพักจากนิยายหลักกับนิยายจีนแป๊บนึง  อันนี้เรื่องสั้น เดี๋ยวตอนหน้าจบแล้วล่ะนะ


http://www.4shared.com/embed/64613291/3f179513
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 15-01-2011 22:59:08
ู^
^
 :z13:

จิ้มรอจ้า จุ๊บๆๆๆๆๆๆๆ

บวก 1 แต้มล่วงหน้า เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องใหม่นะจ๊ะ  :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 15-01-2011 23:05:52
ว๊าววววว เรื่องสั้น มาใหม่ อยากกดบวกจัง แตายังกดไม่ได้อ่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 15-01-2011 23:44:38
Stage of Love:ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที        

          "ummm...Leo!  stop!"
          "ummm...Hey! I said stop!"


          "ผลั่ก!!"
 
          หลังจากผลักมือออกไปเต็มแรง ผมก็มองเห็นร่างหนาๆของเลโอกระเด็นไปกระแทกกับโต๊ะตัวเล็ก  ก่อนเซล้มลงไปนั่งแอ้งแม๊งบนโซฟา  ดีนะที่โต๊ะของโรงแรมไม่เป็นอะไร  ไม่งั้นผมคงโดนผู้จัดการด่ายับ.. ผมไม่ห่วงเลโอหรอกฮะ ไอ้นี่มันทั้งถึก ทั้งหนา กล้ามเป็นมัดไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก  แต่...มันก็มีข้อแม้เหมือนกัน ก็ถ้าเกิดนักร้องนำของวงได้รับบาดเจ็บ  หรือไม่สบาย ถึงขนาดขึ้นไปแหกปากแหกคอบนเวทีไม่ได้ล่ะก็  ทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้มีหวังถ้าจะจบไม่สวย

          "อเล็กซ์  นายเป็นบ้าอะไรวะ  แม่งเอ๊ย..จูบนิดจูบหน่อย อย่าเรื่องมากหน่อยเลย.."
          "ชั้นไม่ได้เรื่องมาก  แต่นายไม่เคยหยุดแค่นั้นหรอก มันเป็นแบบนั้นทุกที" ผมพูดขึงขัง
          "อเล็กซ์...หมู่นี้นายเป็นอะไร..ทำไมทำตัวแบบนี้ นายทำตัวเหมือน...เหมือนเราไม่ได้เป็น.."
          
          ครับ..เลโอหยุดพูดแค่นั้น  หลังจากที่เขาลุกขึ้นจากโซฟาแล้วพยายามเข้าใกล้ผมอีกครั้ง  แต่พอเห็นผมถอยกรูด พยายามหาทางหนีจากการจู่โจมของเขา  เลโอก็หยุดเคลื่อนไหว พร้อมกับปิดปากของตัวเองที่กำลังพร่ำเ้พ้อ  ผมเห็นเลโอเม้มปากแน่น  ดวงตาบ่งบอกถึงอารมณ์ที่โกรธมาก  คงโกรธเหมือนเด็กโดนขัดใจนั่นแหละ  เลโอส่ายหน้าไปมาทำเสียงฮึดฮัด ก่อนที่จะสบถคำหยาบคายออกมา  แล้วหันมาพูดกับผมว่า
          
          "อเล็กซ์งี่เง่า...นายมันงี่เง่า!..ทำไมต้องทำตัวให้น่าโมโหด้วย ไอ้งี่เง่า  แม่งเอ๊ยย!..ไม่ได้เรื่อง"
          
          พอด่าผมจนพอใจ เลโอก็เปิดประตูห้อง เขาก้าวออกไปพร้อมกับกระแทกประตูปิดตามหลังดังปัง
    
          เลโอออกไปแล้ว...คงโกรธมาก..ใช่..โกรธมากสินะ  ขอโทษนะที่ชั้นต้องขัดใจนาย  ทุกสิ่งที่ชั้นทำก็เพื่อนายทั้งนั้นแหละ..เลโอ

          ให้ตายเถอะ..นี่ผมกำลังนั่งห่อเหี่ยวอยู่บนโซฟาที่เลโอนั่งอยู่เมื่อกี๊  การที่ทำให้คนรักต้องเกลียดตัวเองเนี่ย..มันรู้สึกไม่ดีจริงๆ  เพราะยิ่งทำมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้ว่าผมรักเลโอมากแค่ไหน..อยากอยู่ใกล้ๆเขามากแค่ไหน..ผมนั่งคอตกเลย  และแล้วน้ำตาของลูกผู้ชายมันก็ตกแหมะลงไปบนพื้นพรมของห้องสูทชั้นดีของโรงแรมที่ผมและคณะทัวร์เข้าพัก
          สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้..มันก็มีที่มาที่ไปครับ  คือผมต้องขอบอกก่อนว่า  ผมกับเลโอเป็นนักดนตรี เราถูกฟอร์มขึ้นมาเป็นวงดนตรีโดยการคัดเลือกจากบริษัทต้นสังกัด  ผมถูกเรียกไปเพราะผมเคยเอาเดโม่ของตัวเองส่งไปที่บริษัท ทางนั้นก็ถูกใจเพลงของผม  เขาจึงอยากฟอร์มวงร็อคสไตล์ฮาร์ดคอร์ขึ้นมา แต่เสียงร้องของผมยังไม่ใช่  เขาเลยต้องการให้ผมอยู่ในตำแหน่งมือกีต้าร์ของวง สุดท้าย..ทางบริษัทก็ได้คนมาอีกสามคน คือ นักร้องนำ  มือเบส  และมือกลอง  ใช่แล้วครับ นักร้องนำก็คือเลโอนั่นเอง
          เลโอเป็นคนมีพรสวรรค์ครับ  เขาเกิดขึ้นมาเพื่อยืนอยู่บนเวที เลโอทำได้ทุกอย่างทั้งแหกปากแหกคอ  ทั้งเอนเตอร์เทนแฟนๆเพลงที่ยืนอยู่ข้างล่างเวที ขนาดตอนอัดเสียงในห้องอัดหรือตอนร้องสดๆในคอนเสิร์ต เลโอก็ร้องได้เหมือนกันเป๊ะ ทั้งน้ำเสียง  อารมณ์  เนื้อร้องถูกต้องไม่มีผิดพลาด  รวมถึง เสน่ห์  และความหล่อเหลา แบบเท่ๆ ที่ดึงดูดทุกสายตา เพียงไม่กี่เดือนที่ปล่อยซิงเกิ้ลแรกออกไป  เราก็เริ่มมีแฟนเพลงมากมาย  มีคนเข้าชมคลิปของเราในเว็บไซต์ส่วนตัวมากขึ้น จากเป็นพัน ก็เป็นหมื่น แสน ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงสองล้านแล้วครับต้องยอมรับครับ  ที่ได้กระแสตอบรับรุนแรงขนาดนี้  ส่วนใหญ่ก็มาจากเลโอนั่นแหละ
          ช่วงที่รู้จักกันแรกๆ ผมก็รู้สึกถูกชะตากับเลโอทันที เลโอชอบพูดอะไรตรงๆไม่เกรงใจใคร แต่เขามีความเอื้อเฟื้อนะครับ  รักพวกพ้อง  แต่ผมรู้สึกได้..ว่าเลโอเอ็นดูผมเป็นพิเศษ ใช่ครับ..เราต่างรู้กันว่าเราเป็นอะไร ..ผีย่อมเห็นผี คือเลโอเป็นไบครับ ได้ทั้งหญิงทั้งชาย  แต่ผมชอบแต่ผู้ชายด้วยกัน เรื่องนี้ทั้งในวงและทีมงานไม่มีใครรู้หรอกครับ  เพราะมองจากการพูดและภายนอก เราสองคนก็ดูแมนๆแรงๆอยู่แล้ว เพียงแต่ผมจะดูหน้าอ่อนกว่าเลโอ และผอมกว่า  ใครๆก็บอกว่าผมเป็นหนุ่มหน้าสวย เซ็กซี่ ลึกลับ เฮ้ย..มันก็ดีนะครับ แต่ฟังดูไม่ค่อยแมน มันขัดกับบุคลิกห้าวๆของผม
          และด้วยความสนิทชิดเชื้อ สุดท้ายผมก็ตกเป็นของเลโอ..เอ่อ..ไม่ต้องบอกนะครับว่าใครรุกใครรับ.. ก็ประมาณว่าตกลงเป็นแฟนกันลับๆ รู้กันสองคน..ช่วงนั้นก็มีความสุขดีครับ เลโอดีกับผมมาก เอ็นดูและอ่อนโยน  เอ่อ..เฉพาะเวลาอยู่กันสองคนนะครับ  ก็อย่างที่บอกแหละครับ มันคือความลับ พอมีคนอยู่ด้วยเลโอก็จะนิ่งๆเฉยๆ ผมก็เหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจทุกอย่างอยู่แล้ว..สบายมาก.. เพราะตั้งแต่คบกัน ก็เหมือนเลโอจะทำตัวดีขึ้น ไม่ค่อยหิ้วผู้หญิงกลับมานอน เล่นยาน้อยลง และจริงจังกับงานมากขึ้น ที่สำคัญ..เขาจะคอยแอบดูแลผมอยู่ตลอด
          เราเริ่มเดินสายไปตามที่ต่างๆ ออกโชว์ตัวตามคอนเสิร์ตรวมศิลปิน จนตอนนี้การเดินสายทัวร์ตอนเสิร์ตของเรากำลังจะจบแล้ว เราวางแผนปิดท้ายการทัวร์ครั้งนี้ด้วยการจัดคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ของเรา..ครับ เราขายบัตรหมดแล้ว  ทุกอย่างดูสวยงามและราบรื่น..จนเมื่อ..เอิ่ม..มันเป็นความเลิ่นเล่อของเลโอกับผมเองครับ  คือเรื่องมันมีอยูว่า วันหนึ่ง..พอเล่นคอนเสิร์ตจบแล้ว ทีมงานส่วนใหญ่เก็บของเรียบร้อยแยกย้ายกันกลับที่พัก แต่ผมกับเลโอยังอยู่แถวๆเวที  พวกเรากำลังคุยกันถึงความลงตัวของเนื้อเพลง มันเป็นเพลงที่เลโอแต่งขึ้น ผมว่า..มันก็ดูมีความหมายดีครับ ประมาณว่าอยากขอบคุณที่ให้กำลังใจกันอะไรทำนองนั้น ผมเลยถามเลโอว่าแต่งให้แฟนเพลงใช่ไหม  เลโอพยักหน้าทำเสียงอืมๆ ผมก็ว่า โอเค.. เนื้อหาดี แต่มันดูหวานแหววเกินไป เราเป็นวงร็อคเนื้อหาน่าจะดูหนักกว่านี้
         พอวิพากษ์วิจารณ์เสร็จ ผมก็ตั้งใจว่าจะเดินออกจากตรงนั้นเสียทีเพราะทุกคนไปหมดแล้ว  แต่เลโอมันดันคว้าตัวผมไปจูบเฉยเลย ไอ้ผมก็...นะ  ทำไงได้ ก็เลโอเป็นคนจูบนี่  เลยอดไม่ได้ที่จะตอบสนอง
         พอหลังจากนั้นสองสามวัน  ผู้จัดการก็เรียกผมไปคุยกันสองคน เขายื่นรูปถ่ายใบหนึ่งให้ผมดู มันเป็นรูปที่ผมกับเลโอจูบกันวันนั้น..นั่นแหละครับ  คือบทสรุป..สุดท้ายผู้จัดการก็บอกให้ผมไปจัดการซะ  คือ  เลิกกับเลโอซะ..หากเรื่องนี้รั่วออกไปมันจะกระทบกระเทือนถึงยอดการขาย ทั้งผมและเลโอจะลำบาก โดยเฉพาะผมน่ะจะต้องโดนแยกกับเลโอ  ส่วนเลโอก็จะเป็นนักร้องต่อไป แต่คงได้ออกอัลบั้มเดี่ยว ทำงานตามที่โปรดิวเซอร์สั่งเท่้านั้น แต่ก่อนหน้านั้นเขาคงต้องโดนพักยาว จนกว่าเรื่องจะซา ส่วนผมก็คงโดนเด้ง  บริษัทไม่เสียดายหรอก มือกีต้าร์เก่งๆหรือคนแต่งเพลงดีๆเจ๋งๆ หาไม่ยากอยู่แล้ว
         จริงๆผมไม่กลัวหรอก เรื่องที่ตัวเองจะถูกเด้ง แต่ผมเป็นห่วงเลโอ เพราะนี่คือทุกสิ่งของเลโอ  เขาเคยบอกผมว่า เขาอยากดังไปทั่วโลก เขาอยากร้องเพลงให้คนทั้งโลกฟัง และคนทั้งโลกร้องเพลงของเขาได้ นั่นคือคำพูดติดตลกของเลโอ แต่ผมรู้นะ ลึกๆเขาฝัน ฝันถึงความโด่งดัง ฝันถึงการร้องเพลงต่อหน้าแฟนๆเพลงเป็นแสนๆ ผมรู้ว่าเขารักเส้นทางสายนี้มาก  และผมรู้..เส้นทางนี้มันเป็นของเขา แล้วผมจะทำมันพังได้ยังไง..ผมทำไม่ได้หรอก และนั่นแหละคือเหตุผล ที่ผมตัดสินใจจะเลิกกับเลโอ  ผมจึงทำตัวห่างเหิน หมางเมิน..เพื่อที่เลโอจะได้โกรธ โกรธจนรำคาญหรือเหม็นขี้หน้าผม  ผมจะทำ..เพื่อเลโอ..เลโอของผม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: kukkukku ที่ 15-01-2011 23:53:32
เหมือนจะเศร้าอ่ะ



แล้วตกลงมันจะเศร้ามั้ยคะ


รอตอนต่อไปนะ


สู้ๆ

^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-01-2011 00:37:49
แคน แคน แคท แต่งได้หลายแนวจริงๆ ว่าแต่ตอนหน้าก็จบแล้วหรอ สั้นเกินไปน๊าเค้าว่าอ่ะ อิอิ


มารอลุ้นว่าทำไมอเล็กซ์ ถึงไม่ยอมเลโอ มันมีเหตุอันใดหนอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-01-2011 00:41:49
ที่อเล็กซ์ต้องทำแบบนี้ เพราะตัวเลโอ
หรือเพราะมีใครเข้ามารู้ความลับแล้วสั่งให้ทำกันแน่

ทำแบบนี้เพื่อเลโอ แต่เจ็บทั้งคู่เลย

ตอนหน้าจบจริงหรือจ๊ะ สั้นหนอ
 :3123:

ปล เสน่ห์ สะกดแบบนี้นะจ๊ะ ไม่ใช่ สเน่ห์

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-01-2011 00:50:43
อะ  ฮะ ฮะ ก็เป็นเรื่องสั้นง่ะ  เลยขอแต่งสั้นๆ แต่ถ้าอ่านแล้วถูกใจ อาจมีหัวข้อมาให้request 55
บทสรุปเรื่องนี้  Happy ending จ้ะ cancan ไม่ชอบจบแบบเศร้า มันบั่นทอนจิตใจ อิ อิ
ที่อเล็กซ์ต้องทำแบบนี้ เพราะตัวเลโอ
หรือเพราะมีใครเข้ามารู้ความลับแล้วสั่งให้ทำกันแน่

ทำแบบนี้เพื่อเลโอ แต่เจ็บทั้งคู่เลย

ตอนหน้าจบจริงหรือจ๊ะ สั้นหนอ
 :3123:

ปล เสน่ห์ สะกดแบบนี้นะจ๊ะ ไม่ใช่ สเน่ห์



แก้แล้วค่ัะ ผิด อีก บอก อีก
ขอบคุณทุกเม้นนะ จุ๊บ จุ๊บ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที..ครบ50% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-01-2011 01:00:03
อร๊าย มาอ่านต่อที่เหลือ ทำไมไม่คุยกันตรงๆหละจ๊ะ ตัดกันแบบนี้จะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดเปล่าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที..ครบ50% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-01-2011 01:08:16
นั่นไง มีคนเห็นเข้าแล้ว
  :seng2ped:  รักต้องห้ามอีกละ
ถ้าเลโอรู้เหตุผล เลโอจะยอมมั้ย
รักจริง ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน
ถ้าถึงปลายฝัน มีเพียงฉันแต่ขาดเธอ จะมีความสุขหรือ

รอตอนหน้านะจ๊ะ  :จุ๊บๆ:

เจออีกคำจากตอนที่มาต่อใหม่ >>วิพากษ์วิจารณ์ สะกดแบบนี้จ้า

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที..ครบ50% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-01-2011 01:22:13
นั่นไง มีคนเห็นเข้าแล้ว
  :seng2ped:  รักต้องห้ามอีกละ
ถ้าเลโอรู้เหตุผล เลโอจะยอมมั้ย
รักจริง ต้องฝ่าฟันไปด้วยกัน
ถ้าถึงปลายฝัน มีเพียงฉันแต่ขาดเธอ จะมีความสุขหรือ

รอตอนหน้านะจ๊ะ  :จุ๊บๆ:

เจออีกคำจากตอนที่มาต่อใหม่ >>วิพากษ์วิจารณ์ สะกดแบบนี้จ้า



Thanks ค่ะ แก้แระ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที..ครบ50% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-01-2011 02:43:09
ทำได้ทุกอย่างเพื่อคนที่เรารัก :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที..ครบ50% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-01-2011 19:11:34
 ต่อค่ะ............ 
          หลังจากนั้น..ผมก็พยายามหลีกเลี่ยงเลโอตลอด  ไม่ยอมอยู่กับเลโอสองต่อสองอีก บางทีก็ไปนอนกับแม็ค มือเบส หรืออ๊อตโต้ มือกลองของวง  บางคืนที่ผมนั่งกินเหล้ากับสองคนนี้จนเมา เราก็หลับไปพร้อมๆกันเลยสามคน
          พวกเพื่อนของผมรวมทั้งเลโอชอบอบายมุขครับ  เวลาเล่นคอนเสิร์ต หรือซ้อมกันจนเหนื่อย พวกเราก็จะรวมตัวกันนั่งกินเหล้า  เล่นไพ่  ดูดยา  แล้วก็เอาผู้หญิง อืมมม..ซึ่งบางครั้งก็คือแฟนเพลงนั่นแหละ  เลโอ  แม็ค  และอ๊อตโต้ ทำทุกอย่างที่ผมกล่าวมาหมดเลยครับ  ส่วนผมก็..ทำทุกอย่างเหมือนกันครับ ยกเว้นอย่างเดียว คือ..มีอะไรกับผู้หญิง  ผมรู้สึกว่าผมจะอาการเบาสุด คือ ผมไม่ค่อยเล่นยาครับ แล้วก็ไม่สูบบุหรี่เพราะผมไม่ชอบครับ  มันเหม็น แต่ถ้าดูดยาก็..มีบ้าง  ช่วงที่อยากหลุดๆหรือหาไอเดียแต่งเพลงแปลกๆ แรงๆ ก็เล็กๆน้อยๆครับพอเป็นกระษัย ผมไม่อยากติดยาหรอกครับ พวกเพื่อนที่เหลือในวงก็เหมือนกัน  จริงๆก็ไม่มีใครติดรุนแรงหรอกครับ เพียงแต่บางทีก็แค่ต้องการสนุกๆ คลายเครียด จุดประสงค์หลักของเราคือการทำเพลง มันเป็นสิ่งเดียวที่พวกเราเสพย์ติด เราต้องเล่นดนตรีกันทุกวันครับ ไม่มีวันไหนหรอกครับที่เราไม่ได้ทำมัน
          ดังนั้นตอนนี้ บางทีผมก็นอนคนเดียว นอนกับแม๊คบ้าง อ๊อตโต้บ้าง แล้วแต่โอกาส มันก็สลับๆกันไป และถ้าใครในสองคนนี้ไม่ได้อยู่กับผม ก็คงอยู่กับเลโอนั่นแหละครับ
          "เฮ้ย....อเล็กซ์  นายหลบหน้าเลโอทำไมวะ?"
          จู่ๆวันหนึ่งแม็คก็ถามขึ้น  ขณะที่กำลังนั่งซ้อมคิวเพลงกับผม
          "เปล่านี่..หลบทำไม..นายถามอะไรแปลกๆ"
          ผมแย้งออกไป ขณะที่ก้มหน้าก้มตาซ้อมกีต้าร์
          "จริง?"  แม็คขึ้นเสียงสูงถามอย่างไม่เชื่อ
          "เออ..ไม่เห็นต้องหลบเลย   จริงๆก็เจอหน้าทุกวัน ไม่บนคอนเสิร์ต ก็ตอนซ้อม หรือตอนสัมภาษณ์ ยังมีอีกนะ  ตอนกินข้าว..แล้วก็..."
          "เออๆ..พอๆ..ว่าไปนั่น.."  แม๊ครีบขัดขึ้นก่อนที่จะต้องนั่งฟังผมขุดโน่นขุดนี่ขึ้นมาพูดไปเรื่อย
          "แล้วตอนนี้เลโออยู่ไหนล่ะ?"  ผมถามขณะที่ยังก้มหน้าก้มตาซ้อมกีต้าร์
          "เล่นยาอยู่กับอ๊อตโต้น่ะ..แล้วก็ยังมีสาวๆนมสะบึ้มมาให้บีบถึงที่ ตอนแวะไปที่ห้องยังเห็นเลโอมันนั่งกกอยู่สองคน กำลังนัวเนียเลย ป่านนี้คงเสร็จเลโอไปแล้วล่ะ.."
          "อืม.."  ผมรับคำน้ำเสียงราบเรียบ  แต่ภายในน่ะหรือครับ....กำลังดิ่งลงเหว
          ใช่สิเลโอคงเบื่อผมแล้วล่ะ  หลายวันแล้วที่ผมได้ยินว่าเลโอเล่นยา  แล้วก็เอาผู้หญิงทุกคืน ..เลโอกำลังสนุก..เขากำลังทำทุกอย่างที่ผมเคยห้ามไว้  เขาคงกำลังลืมผม
          แต่แล้ว..วันหนึ่งเลโอก็โดนผู้จัดการเรียกตัว..ตายล่ะ  เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า..ตอนนี้เป็นโค้งสุดท้ายของการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ด้วย  อาทิตย์หน้าทัวร์ก็จะสิ้นสุด เราจะมีคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ของเรา บัตรก็ขายหมดไปแล้ว  คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกนะ
          พอสองสามวันถัดมา  ผมก็เห็นเลโอทำตัวดีขึ้น  ไม่เล่นยา ไม่เอาผู้หญิง เลโอหมกมุ่นกับการทำเพลง  ดูจริงจรังมาก เขาร่วมมือทำงานกับทุกคนอย่างดี ดีเหมือนตอนที่เราคบกัน เพียงแต่ตอนนี้ เวลาที่เราเจอกันหรือแม้แต่ตอนที่มีเหตุให้อยู่กันสองคนแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เลโอก็แค่ยิ้มให้ผมเฉยๆ เราไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่าเรื่องงาน  ผมก็ดีใจครับ..ที่เห็นแบบนั้น
          ตอนเจอแฟนคลับ เลโอจะพูดคุยยิ้มแย้ม  แถมบางทียังแจกจุ๊บเบาๆที่แก้มแฟนเพลงสาวๆหลายคน จนเรียกเสียงกรี๊ดๆดังสนั่น  อืม..ตอนนั้นผมเห็นเลโอดูสดชื่น มีความสุข ..แค่นั้น..ผมก็สุขใจ  แม้มันจะเจ็บลึกๆ  ก็รู้ดีน่ะ ว่าเขาคงรู้ตัวแล้วล่ะ  ว่าต้องเลือกอะไร  สิ่งที่เขารัก หรือ ผม คนที่จะทำทุกอย่างในอนาคตอันสดใสของเขาพังทลาย  สุดท้าย..เลโอคงได้ทำเพลงที่ชอบและอยู่กับงานที่รัก  ได้เจอผู้หญิงที่สมบูรณ์ดีพร้อมมากกว่าผม  เธอคนนั้นที่จะช่วยผลักดันชีวิตเขาให้รุ่งโรจน์  สุดท้ายก็มีครอบครัวอบอุ่น  นั่นสินะ..ผมควรดีใจกับเลโอ...







อีกติ๊ดเดียว...จะจบแล้วค่ะ อิ อิ แต่ขออุบไว้ก่อน (อยากให้คาใจเล่น) ขอไปต่อน้องฟูก่อนนะ เดี๋ยวเค้ากลับมา น่าจะคืนนี้แหละค่ะ 
 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-01-2011 20:05:31
หุหุุหุ
บาปกรรม ชอบทำคนอ่านคาใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 16-01-2011 20:28:23
อีก 30%%%%%%%%%%% :serius2:   o18
ขอหวานๆ ส่งท้ายนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 16-01-2011 20:34:49
เล่นยาาาาาาาา  :z3: เลวนะจ๊ะ เล่นยา(ได้ข่าวว่าพระเอกของตัวเองมันก็เล่นนิ) :o211:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-01-2011 20:42:15
เฮ่ออออออออออออออดีแล้วใช่มั้ยที่จะฝห้เป็นแบบนี้อ่ะ อเล็กซ์
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-01-2011 20:43:01
ง่ะ!

ค้างแบบร้ายกาจมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งแน่รึ  :laugh:

รอติ่มซำน้อย แล้วค่อยมาเชียร์คู่นี้ต่อ  :-[

ขอบคุณจ้า จุ๊บุๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: ferly ที่ 16-01-2011 20:46:21
เอ้ยยยย ค้างๆๆๆ - -"
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-01-2011 21:46:10
ค้างได้อีก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-01-2011 22:29:41
อันนี้อิมเมจค่ะ อิ อิ


อเล็กซ์   
(http://upic.me/i/yd/alexevansemoboy.jpg)  อิอิ น้องเค้าชื่อAlex จริงๆด้วยดิ




เลโอ
(http://upic.me/i/2b/emo-boy.jpg1.jpg)
เล่นยาาาาาาาา  :z3: เลวนะจ๊ะ เล่นยา(ได้ข่าวว่าพระเอกของตัวเองมันก็เล่นนิ) :o211:


อะ5555555พระเอกของคุณเรียกข้าว่าอิแร เหมือนกันเป๊ะกับพระเอกของcancan  เลยอ่ะ
เล่นยาแล้วก็เป็นโรคชอบ ....แทง(ว่าแต่..รอตอนใหม่อยู่อะ  เดี๋ยๆขอพิมพ์นี่ก่อนแล้วจะไปเช็คว่าupยัง)


ขอบคุณทุกเม้นค่ะ  งั้นไปต่อตอนจบกันเลย..ขอขึ้นรีใหม่นะคะ จะได้อ่านง่ายๆ











หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 16-01-2011 23:32:15
ตอนใหม่ ตอนใหม่ :impress:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: bowybowi ที่ 16-01-2011 23:42:02
โห แต่งเรื่องสั้นใหม่อีกแล้วเหรอ cancan ขยันอ่า >.<
เรื่องสั้น แอบแรง 5555
รอนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที มาต่อแล้ว 70% ล่าสุด
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-01-2011 23:47:20
บทสรุป


           และแล้ววันนี้ก็มาถึงครับ  ตอนนี้เรากำลังเล่นเพลงบนคอนเสิร์ตครั้งยิ่งใหญ่ของเรา ที่จัดขึ้นเพื่อปิดท้ายการทัวร์ครั้งนี้ เลโอยังเหมือนเดิม  ร้องเก่ง มีเสน่ห์ เท่ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนของเวที  เขาก็สามารถเรียกเสียงเฮๆหรือเสียงกรี๊ดๆของแฟนๆได้เป็นอย่างดี
           คอนเสิร์ตจึงดูยิ่งใหญ่ มันส์ และสนุกครับ แฟนๆของเราเป็นพันๆคนกำลังยืนร้องและเต้นอยู่ข้างหน้าเวที และแล้วคอนเสิร์ตก็ดำเนินเรื่อยมาตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงสามทุ่มครึ่งแล้วครับ  ฟ้ามืดแล้ว มีเพียงแสงของไฟสปอตไลท์ ที่สาดส่องไปมา ผมเดาว่าคนดูคงเป็นหมื่นแล้วมั้ง  ก็คนหลังๆไกลๆลิบๆโน่นน่ะ  ได้ดูฟรีไม่ต้องซื้อต๋ัว  พวกเรามีความสุขกันมากเลย..ก็ทำไมล่ะ..นี่พวกเรากำลังยืนอยู่หน้าคนเป็นพันเป็นหมื่นเลยนะ  กำลังเล่นเพลงของตัวเองต่อหน้าพวกเขา  แถมคนเหล่านั้นยังร้องเพลงของพวกเราได้อีกด้วย
           เสียงของคนจำนวนมากที่ร้องออกมาได้พร้อมเพรียงฟังดูมีพลังจนผมขนลุกเกลียวเลย  และแล้ว..เพลงสุดท้ายก็มาถึง  มันเป็นเพลงที่เลโอแต่งขึ้นเพื่อแฟนเพลง  ก็ไอ้เพลงที่ผมบอกว่ามันดูหวานๆนั่นแหละครับ
           แต่แล้ว..จู่ๆเลโอมันก็หันกลับมาส่งสัญญาณให้เด็กๆแบ็คสเตจ ประมาณว่าอยากจะพูดอะไรกับแฟนเพลงก่อน..
           แล้วเลโอมันก็หันกลับไป  เอาปากจ่อไมค์แล้วก็เริ่มพูด..
          

          Hey!..you guys..
          Today,It's really awesome..
          I'm really appreciate and impressive for everything that you do today.
          It's so wonderful and fabulous...
          Ummm...Now,I want to say something.
          I know...I'm not a good person.
          I always make trouble.
          I always screw up and make people worry.
          But.. I still have one person who always stand by my side and support me as much as he can.  That person is this guy...

          พอพูดถึงตรงนั้น  เลโอก็ผายมือมาทางผม ตอนนั้นเสียงเจ๊าะแจ๊ะของคนดูเบาลงจนค่อยๆกลายเป็นความเงียบ  ตายล่ะวา..นี่เขากำลังทำอะไร  ผมพยายามส่งสายตาดุๆบอกเลโอ  ประมาณว่า "นายทำบ้าอะไรวะ" แต่เลโอไม่สนใจครับ  เขาหันไปพูดต่อ..

          This is the person who save me to be here to stay with you.
          Without him, I can't stand right here anymore.
          Without him, I can't keep my power anymore.
          ............
          Hey!..everyone... I want to say that he is my lover.
          He's the one who hold my soul and keep my heart.
          He's the one whom I want to stay with.
          So..please..give me chance to stand by his side just like he dose.
          If you understand.... please..please accept us as the way we are.
          I won't ask you anymore.
          Just this one..please..let us be together..
          Thank you for your attention.
          Love you guys..

          ผมยืนอึ้งเลยครับ  ผมได้ยินแต่เสียงเฮดังลั่นกึกก้องไปหมด พร้อมกับเสียงผิวปากกับเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆ แล้วเลโอก็เดินเข้ามาใกล้ผม เขากระซิบที่ข้างหูผม ตอนนั้นภาพเบื้องหน้าผมพร่าเลือนด้วยน้ำในตา เลโอกระซิบข้างหูผมว่า
          
          Now listen baby,I will give you my word.
        
          พอพูดจบเลโอก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ แล้วเอาลิ้นเลียที่ติ่งหูของผม ผมขนลุกซู่รู้สึกอายมากๆ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเตรียมตัวเล่นเพลงสุดท้าย หลังจากได้ยินเสียงเคาะไม้ของอ๊อตโต้  ยังดีนะที่มืดๆ.. คงไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกมั้ง ไอ้เสียงผิวปาก กับเสียงกรี๊ดๆแหกปรอทแถวๆหน้าเวทีนั่น คงไม่ใช่เพราะเห็นตอนที่เลโอเลียติ่งหูของผมนะ
          และแล้ว..เสียงเพลงก็ดังขึ้น เพลงที่เลโอแต่งขึ้นเพื่อขอบคุณใครคนหนึ่ง ใครสักคนที่ยืนข้างเขาทุกครั้งบนเวที ขอบคุณนะเลโอ ขอบคุณที่นายเลือกชั้น ขอบคุณที่นายปกป้องความรักของเรา  ขอบคุณที่นายทำให้เราได้ยืนข้างกันตลอดไป





อะฮ้าา เสร็จแระ ปาดเหงื่อซิกๆ  อิอิ


บอกเล่า ใครอ่านแล้วชอบก็รอติดตามนะคะ เดี๋ยวจะเอาตอนใหม่แบบขยายความมาให้เลือกกัน ดูเสียงส่วนใหญ่ค่ะ (คืออยากเขียนอีกแค่ตอนเดียวสำหรับเรื่องนี้อ่ะค่ะ  จะได้เอาเวลาไปต่อเรื่องอื่นง่ะ cancan ไม่ชอบดอง กล้วว่านานๆแล้วมันจะขาดแรงผลักดัน พาลเอาขี้เกียจเขียน...)

love love คุณผู้อ่านผู้น่ารักกกกกกกกก  :m1:

          
          
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 16-01-2011 23:52:52
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :m3:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด

บทน้อยนิด แต่พิชิตใจ กระชากตับ ไต ไส้ พุง สาววายไปหมดแล้ว

เลโอ เท่มากกกกกกกกกกกกกกกกก
อเล็กซ์เสียน้ำตาด้วยความสุข

มีความสุขมากๆจริงๆด้วย

ขอบคุณ cancan มากๆนะจ๊ะ ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบนี้
 :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 17-01-2011 00:12:14
กิ้ว กิ้ว เขินอ่ะตัวเอง :haun5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-01-2011 00:47:23
โอ๊ซซซซซซซซซซซ
ร็อค หวาน แรง อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-01-2011 00:51:46
อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงเค้าอ่านไม่ออก 555555555555555555555555555555+
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-01-2011 07:49:50
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-01-2011 08:36:59
หวานนนนนนนนนน :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-01-2011 10:14:08
เหมือนมันยังค้างนิดๆ บอกไม่ถูกอ่ะ
ทำไมอยู่ดีๆ เลโอถึงพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม
จากตอนแรกที่มีปัญหากันแล้วเลโอกินเหล้าเมายาเคล้านารี
กลับกลายเป็นตั้งใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 17-01-2011 10:24:37
เหมือนมันยังค้างนิดๆ บอกไม่ถูกอ่ะ
ทำไมอยู่ดีๆ เลโอถึงพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิม
จากตอนแรกที่มีปัญหากันแล้วเลโอกินเหล้าเมายาเคล้านารี
กลับกลายเป็นตั้งใจ


55555555555ว่าแล้วว่าต้องมีคนรู้สึกยังไม่อิ่มตัวกับเรื่องนี้
งั้นเดี๋ยวcancan มีตอนต่อให้เลยนะ5555555









ตอนชี้แจง......รู้ความจริง


          หลังจากการแสดงจบลง  พวกเราก็มีSpecial  Meeting นิดหน่อย สำหรับกลุ่มแฟนเพลงที่คอยติดตามไปให้กำลังใจเราตลอด เรียกว่าเป็นสาวกเลยก็ได้ครับ  ก็มีทั้งหญิงและชาย ทั้งเกย์และกระเทย มีหมดครับ เรื่องส่วนใหญ่ที่เราพูดคุยกันก็มีประมาณว่าจะมีคอนเสิร์ตแบบนี้อีกเมื่อไหร่  ที่ไหน  จะจัดมินิคอนเสิร์ตบ้างหรือเปล่า  แล้วก็มีเรื่องส่วนตัวนิดหน่อย  ก็เท่าที่เราสามารถตอบได้แหละครับ อย่างเช่นมีแฟนหรือยัง สเป็คเป็นยังไง แต่คำถามประมาณนี้ ผมกับเลโอไม่โดนถามหรอกครับ...ก็นะ..ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าอะไรเป็นอะไร
          เราสองคนจะโดนถามประมาณว่า ไปคบกันตอนไหน หรือทำไมถึงชอบอีกฝ่าย บางที่ก็มีโดนแซวบ้าง  ดูเลโอจะเต็มใจตอบทุกคำถามอย่างมีความสุข แต่ผมนี่.....คำเดียวเลยครับ...อายมากกกกก....และสิ่งที่ทำให้อายมากขึ้นก็คือ ผมกับเลโอโดนขอถ่ายรูปครับ  มันคงไม่อายมากถ้าแค่ถ่ายรูปคู่ แต่พวกเราโดนขอถ่ายรูปตอนจูบกัน ตาย......ผมอึ้งไปเลย ความสุขุมเยือกเย็นที่เอาฉาบไว้บนใบหน้าที่อายแสนอายถูกกระชากออกไปทันที  และยังไม่ทันที่ผมจะปฏิเสธ  ไอ้เลโอตัวดีมันก็คว้าคอผมไปจูบซะงั้น..O_o...แล้วผมจะทำยังไงได้  นอกจากปล่อยเลยตามเลย
          และจากที่มีSpecial  Meeting มันก็ทำให้ผมได้ทราบว่า มีสาวกของเราบางกลุ่มแอบลุ้นให้ผมกับเลโอเป็นแฟนกันจริงๆ  พวกเขาดีใจมากเลยครับที่เลโอกล้าเปิดเผยบนเวที ทั้งเลโอกับผมยิ้มแก้มปริเลย  และแล้ววาระสุดท้ายของโปรเจ็คการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้ก็จบลงด้วยดี ใช่ครับ.. ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า
          หลังจากนั้นพวกเราก็แยกย้าย พากันกลับโรงแรมเพื่อพักผ่อนเนื่องจากต้องเล่นดนตรีแบบมาราธอนติดต่อกันหลายชั่งโมง ซึ่งตอนนี้กว่าอะไรๆจะเสร็จสิ้น มันก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้ว พอเดินทางถึงโรงแรม ขณะที่ผมกับเลโอจะขึ้นห้องพัก ไอเจ้าแม๊คกับอ๊อตโต้ก็มาจากไหนไม่รู้ หน้าตาประมาณว่าสดชื่นมาก ผมก็คิดว่ามันไม่เหนื่อยกันรึไง ไอ้สองคนนั้นมันมาชวนครับ มันบอกว่าทีมงานจัดปาร์ตี้ปิดท้ายที่ประสบความสำเร็จ สาวๆเพียบ เหล้าพร้อม ผมก็โอเค ไหนๆเวลามันก็ล่วงเลยมาขนาดนี้แล้วนี่หว่า งั้นไปสนุกยันเช้าเลย ถือว่าเป็นรางวัลที่อุตส่าห์ตั้งใจทำงานมาถึงขนาดนี้
          แต่.........สุดท้ายผมก็อด เพราะเลโอมันไม่ให้ผมไป  มันบอกว่าคืนนี้มันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น และผมต้องอยู่กับมัน ผมก็อ้าว..ถ้าอยากนอนก็ไปนอนเซ่ จะถ่วงผมไว้ทำไม  ผมยังอยากสนุกต่อนี่นา แล้วไอ้แม๊คกับอ๊อตโต้มันคงทนสายตาเอาแต่ใจของเลโอไม่ไหว มันเลยปล่อยผมไว้กับเลโอซะงั้น อ้าว..มาชวนแล้วก็ทิ้งกันเฉยเลย  ผมก็ได้แต่เดินตามเลโอขึ้นไปห้องพัก
         พอเราเดินถึงหน้าห้อง มันเป็นห้องของผมครับ ผมก็สงสัย ว่าเลโอมันเดินตามมาทำไมเพราะเราเดินเลยห้องของเลโอมาแล้ว ตอนแรกผมก็ไม่สนใจหรอกครับไม่ได้หันไปมองก็เซ็งๆนี่ อยากไปสนุกสุดเหวี่ยงก็ไม่ได้ไป เอาเลย  ไม่สนใจแล้ว ผมก็ได้แต่เดินดุ่มๆมาที่ห้องของตัวเอง พอรูดการ์ดเสร็จกำลังก้าวเท้าเข้าห้องก็รู้สึกว่าเลโอมันยืนอยู่ข้างหลัง ครับ..มันตามผมมาจริงๆ ไม่ทันไถ่ถาม  เลโอมันก็ดันผมเข้าไป แล้วปิดประตูให้เสร็จเรียบร้อย
         "นายตามชั้นมาทำไม..." ผมถามทำหน้างง
         "อ้าว..ก็นี่ห้องของนาย..นายอยู่ไหนชั้นก็อยู่นั่นแหละ" เลโอตอบกวนๆพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
         "เฮ้ย..ได้ไง..ห้องของนายก็มี" ผมเถียง
         "ก็ทำไม..ชั้นอยากอยู่กับเมีย..ผิดตรงไหน"
         "...." เอาเลยครับ.. ฟังแค่นั้นผมก็สะอึกพูดอะไรไม่ออกเลย  ไม่ใช่ว่าไม่ชินนะครับ..คือก็ตอนที่ความรักกำลังเบ่งบานใหม่ๆ มันก็ชอบเรียกผมแบบนั้น...เอ่อ  แต่พอมีปัญหามันก็นานแล้วครับ น่าจะเกือบเดือนได้แล้ว ที่ผมไม่ได้ยินมันพูดคำว่า"เมีย" แต่ไอ้ที่ทำให้ผมขนลุกซู่ก็คือ สายตาแบบนั้น สายตาที่มองผมตอนนี้ มันหื่นมากเลยครับ ตายล่ะวา  มันคงไม่ได้อยากเมิคเลิฟกับผมตอนนี้หรอกนะ...ผมแอบเกร็งไปหมด  ก็นะ..เราไม่ได้มีอะไรกันนานมาก..ผมเลยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดๆ
         และแล้วสุดท้าย...T_T  ผมก็หนีไม่รอด  ก็แค่โดนเลโอมันกระชากไปจูบเอาๆ ผมก็อ่อนยวบแล้ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนอยู่ในอ่างอาบน้ำกับมันนั่นแหละ ไม่รู้ว่ามันเอาเวลาที่ไหนถอดเสื้อผ้าของผมกับของตัวเอง  รู้สึกว่าจะมือโปรเกินไปแล้วนะ..  ตอนนี้ผมผมอยู่ในท่าบัดสีบัดเถลิง ก็.....หน้าหันหน้าชนกัน แล้วก็นั่งอยู่บนตัวมัน ผมรับรู้ได้เลยครับ ไอ้เลโอน้อยของมันตอนนี้กลายเป็นค้างคาวยักษ์แบทแมนไปแล้ว เอ่อ..ส่วนอเล็กซ์น้อยของผมก็กลายเป็นไอ้หนูโรบิ้น นกน้อยของแบทแมน กำลังทักทายกันอยู่ด้วยสิ...ผมสะท้านเลยครับ
        แล้วไอ้ตอนที่แบทแมนบ้ากามมันอยากเข้าไปสำรวจบ้านของโรบิ้นนั่นแหละ ทำเอาผม..ร้องโอ๊ยเลย ก็นะบ้านของโรบิ้นหลังนี้ไม่ได้เปิดต้อนรับแบทแมนตั้งนาน ประตูทางเข้ามันก็คับแคบ ผมละเมอส่งเสียงไม่เป็นภาษา ข้างๆหูก็ได้ยินแต่เสียงเซ็กซี่ทุ้มๆเอ่ยประโยคว่า "spread your legs" บ้างล่ะ ไม่ก็ "suck me in deeper" บ้างล่ะ หรือไม่ก็คำชม ประมาณว่า "I feel really good...you're so great"บางทีก็ "Baby,I love you so much"  
        เลโอบอกผมโน่นนี่ไม่หยุด ส่วนผมน่ะหรือครับ ตั้งหน้าตั้งตารอรับจังหวะจู่โจมอันหนักหน่วงจากข้างล่างของแบทแมน  จนต้องเอาแขนโอบคอหนาๆของเลโอไว้แน่น การจู่โจมมันก็หนักหน่วงจริงๆ จนสุดท้าย
        "อ๊าาาา~~"  ผมก็ต้องเชิดหน้าร้องออกมา เลโอก็เช่นกันครับ เรามีความสุขทั้งสองคน  หลังจากนั้นเลโอก็ช่วยล้างตัวให้ผมที่นอนอยู่ในอ่างอย่างหมดสภาพ พอจัดการร่างกายของตัวเองจนสะอาดเหมือนกัน เลโอก็อุ้มผมไปที่เตียง เช็ดตัวให้เรียบร้อย ตอนแรกมันจะใส่เสื้อผ้าให้ผมด้วยซ้ำ  เอ่อ..ผมเกรงใจ  เลยบอกว่าผมใส่เองได้
        และแล้วตอนนี้...เราก็นอนกอดกันอยู่ใต้ผ้าห่ม ก่อนที่ผมจะหลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย เลโอก็บอกผมว่า  เขาไม่เคยเลิกรักผมเลย พอเห็นผมทำตัวออกห่าง เขาก็หงุดหงิด ได้แต่ประชด กินเหล้าเมายา เอาผู้หญิง เผื่อว่าผมจะสนใจเขาบ้าง แต่ดูเหมือนคนที่สนใจมากจนกลายเป็นร้อนเนื้อร้อนตัว คงเป็นผู้จัดการ ที่ทนกับพฤติกรรมของเลโอไม่ไหว เลยเรียกเขาไปพบ ผู้จัดการบอกเรื่องรูปใบนั้น และนั่นคือเหตุผลที่ทำให้เลโอต้องเลิกคบกับผม  แต่เลโอยืนยันกับผู้จัดการว่าเขาจะไม่เลิก เขารักผม เลโอสัญญากับผู้จัดการว่า เขาจะทำให้แฟนๆยอมรับเราสองคนให้ได้ เขาจะเปลี่ยนตัวเอง ตั้งใจทำงานมากขึ้น หากเขาทำให้แฟนๆยอมรับไม่ได้ เขาก็พร้อมให้บริษัทจัดการตัวเขาตามสมควร แต่เขาจะไม่มีวันเลิกคบกับผมเด็ดขาด..  ครับ..พอผมได้ฟังเลโออธิบายความจริงเรื่องนี้ออกมา ผมก็รู้สึกอบอุ่นใจ ผมไม่คิดเลย  ว่าผมจะได้รับความรักมากมายจากเลโอคนนี้ เลโอที่เป็นนักร้องร๊อคสตาร์โด่งดัง เลโอที่เอาแต่ใจ เลโอที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง เขาคือเลโอของผม และเขาเองก็พร้อมที่จะเป็นของผมคนเดียวตลอดไป สุดท้ายผมก็ทนความง่วงบวกกับอาการอ่อนล้าไม่ไหว ผมเลยหลับตาลงด้วยความอบอุ่นใจ อบอุ่นเพราะวงแขนของเลโอ อบอุ่นเพราะลมหายใจของคนที่นอนซบอยู่ข้างหลัง เราสองคนหลับตาลงอย่างมีความสุข...








จบจริงๆแล้วนะ



ขอบคุณนะคะ :L2:  
        
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที เสร็จแล้วๆ บทสรุปค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 17-01-2011 20:00:20
โอ๋ๆ ตามมาอ่านจ้า ค้าง30 % จากเมื่อคืน
เลโอ กล้ามากกกกกกกอ่ะ เขินแทนอเล็กซ์ อิอิ

รอตอนต่อปายยย  :z1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 17-01-2011 20:48:42
ตามที่คุณ yeyong บอกว่ามันยังค้างๆ ตอนแรกcancanก็ว่าจะให้ผู้อ่านเลือกตอนให้cancan เขียน แต่เปลี่ยนใจแล้วค่ะ cancan ขอต่อเองเลยดีกว่า จบสนิทแล้วนะคะ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุขนะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-01-2011 21:08:11
อะไรที่มันคาใจ มลายหายสิ้นทั้งอินทรีย์
ยิ่งมี NC นิดนึง แบบนี้เรียกจบบริบูรณ์ค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-01-2011 21:17:23
เป็นเรื่องสั้นที่อ่านแล้วได้หลากหลายอารมณ์
พร้อมทั้งเลือดลมสูบฉีดได้ดีจริงๆ เยี่ยมค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-01-2011 00:20:07
 :L1:จ๊าๆๆๆๆๆๆๆจบก็จบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 18-01-2011 00:39:37
 :m1: เลโอ นายยอดมาก
รักจริง จริงใจ สู้เพื่อรัก สู้เพื่ออเล็กซ์
แถมสาวๆแฟนคลับวงนี้ คงวายกระจาย ถึงได้แอบเชียร์คู่นี้อยู่แล้ว
สักขีพยานมากมาย ไม่รักทำไม่ได้นะนี่

จบแบบมีความสุขจริงๆจ้า
ชี้แจงกระจ่างชัด สุขกาย สุขใจ เยี่ยม

บวกเพิ่มเรื่องนี้ยังไม่ได้ ส่งจุ๊บๆแทนจ้า ขอบคุณมากนะจ๊ะ
 :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 18-01-2011 00:44:09
ขอบคุณมาก :-[
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: Rinze ที่ 18-01-2011 22:03:46
ขอบคุณค่ะ
อ่านเรื่องเบาๆก่อนนอน ฝันดีเนอะ  ^__^ Z z z
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 18-01-2011 22:23:43
หึหึ นกน้อยโบบิน แหมน่ารักเชียว ว่าแต่ แบทแมนกับโรบินก็น่าจิ้นอยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: ferly ที่ 18-01-2011 22:28:32
ชอบตรงภาษาอังกฤษจัง...
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: yunjae123 ที่ 18-01-2011 23:12:57
เป็นเรื่องสั้นที่กินใจมากกกกกกกกก
แรก ๆ แอบสงสารอเล็กซ์นะ
ที่เลโอทำตัวแบบนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า
อเล็กซ์ต้องเจ็บปวดขนาดไหน

แต่พออ่านไปอ่านมา เจ็บพอกันทั้งคู่
แอบชอบตอนที่เลโอพูดบนเวทีอ่ะ ><~~~
ซึ้งแทนอเล็กซ์เลย อิอิ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: เรียกข้าว่าอิแรด ที่ 19-01-2011 04:06:27
กิ้ว กิ้ว กิ้ว :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 19-01-2011 08:20:31
อา... สั้นๆแต่หวานซะ เป็นเราก็ให้โอกาสว่ะ ขอมาก็จัดไป
อยากอ่านอีก มีอีกมั้ย จะตามอ่านนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 19-01-2011 16:31:08
อยากอ่านภาคขยาย แหะๆ แบบว่ามันค้่างคาในใจ เหตุผลที่เลโอทำตัวอย่างนั้น ทำไมกันล้าาาาาาาาาาา  :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Stage of love-ขอเก็บรักนี้ไว้บนเวที ขอเพิ่มตอนนะ เป็นตอนชี้แจง+NCนิดหน่อย^^
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 19-01-2011 19:21:14
ขอขึ้นเรื่องใหม่นะคะ...................


เนื่องจากว่าอันนี้เป็นเรื่องสั้นที่cancanได้แรงบันดาลใจจากเพลงอ่ะค่ะ ก็เลยว่าจะเอาไว้ในกระทู้เดียวกัน เรื่องที่แล้ว(Stage of Love อยู่บนๆนะคะ ใครยังไม่เคยอ่านลองเลื่อนขึ้นไปอ่านได้นะ^^)ก็ได้แรงบันดาลใจจากเพลงเหมือนกันค่ะ ก็ไอ้เพลงที่โพสไว้นั่นแหละ มันเป็นเพลงร็อคแหกปากแหกคอแบบอีโม..  ก็ถ้าฟังเพลงไหนแล้วได้ไอเดียแต่งเรื่องสั้นก็จะเอามาลงไว้ในกระทู้นี้นะคะ  เก็บเป็นcollectionไปเลย อิอิ



เรื่อง

ต่อ

ไป

...



Two is better than One:นายมีฉัน..ฉันมีนาย



http://www.4shared.com/embed/296322446/5ad7872f




เกริ่น...



          "สวัสดีครับ"
          "เอ๊ะ!..อ้าว..สวัสดีครับ"  คนตัวสูงหันไปทางต้นเสียง  เขามองเห็นคนร่างเล็กตัวเตี้ยกว่า กำลังยืนยิ้มให้
          "เพิ่งย้ายมาหรือครับ" เสียงสดใสของคนร่างเล็กเอ่ยถาม
          "ครับ...นี่ก็  ขนของเสร็จแล้วล่ะ  วันนี้มาค้างเป็นวันแรกน่ะ" เสียงของคนตัวสูงกล่าวอธิบาย เขาถามคนตัวเล็กกลับไปบ้าง..
          "น้องอยู่ห้องนี่หรือครับ?"  พลางบุ้ยหน้าไปทางห้องที่อยู่ติดกัน
          "อ๊ะ..อ๋อ..ครับ..จริงๆก็ย้ายมาได้เดือนกว่าแล้วครับ  พอดีเห็นห้องข้างๆนี่ปิดน่ะครับ  เลยนึกว่าไม่มีคนพัก"
          "อ๋อ....สงสัยช่วงนั้นพี่ขนของอยู่น่ะ  ให้คนเขาเอามาลงไว้ให้ตอนกลางวันๆ ช่วงคนไปทำงาน จะได้ไม่รบกวนคนอื่น...ว่าแต่ดีจังเลยนะ  มาวันแรกก็ได้เจอเพื่อนบ้านเลย..สวัสดีครับ  พี่ชื่อ..หนึ่ง..นะ"
          "อ๊ะ..สวัสดีครับ..ผม..สอง..ครับ"
          คนตัวเล็กยื่นมือบางขาวสะอาดให้คนตัวสูงจับเป็นการทักทาย
          "ยินดีที่ได้รู้จักนะ..สอง.."
          "ครับ..ยินดีที่ได้รู้จักครับ..พี่หนึ่ง.."
          คนตัวเล็กส่งยิ้มสดใสให้คนตัวสูง  เช่นเดียวกับคนตัวสูงที่กำลังระบายยิ้มบางๆออกมาทักทายคนตัวเล็ก....
         
 


โปรดติดตามเนื้อเรื่องต่อไปนะคะ  :L2:


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-01-2011 19:39:38
แค่ชื่อก็สื่อความหมายแล้วละ :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-01-2011 20:36:36
ว้าววววววววววว
มีเรื่องใหม่มาอีกแล้ว ขยันจัง
ให้บวกหนึ่งเป็นกำลังใจค่ะ
และรอติดตามตอนต่อไปอยู่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-01-2011 20:53:58
ชื่อทั้งสองคนแบบว่าจงใจมากมายเลย อิอิ ชะตาฟ้าลิขิต!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 20-01-2011 05:50:37
 :-[ หวานซ้าาาาาาาาาาาาาา

อิอิ ขอบคุณนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 20-01-2011 13:24:12
เรื่องใหม่  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)Two is better than One-นายมีฉัน..ฉันมีนาย update19/01/11 ตอนใหม่ค่ะ หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 20-01-2011 22:16:40
นายมีฉัน....ฉันมีนาย

          "สวัสดีครับ"
          "เอ๊ะ!..อ้าว..สวัสดีครับ"  คนตัวสูงหันไปทางต้นเสียง  เขามองเห็นคนร่างเล็กตัวเตี้ยกว่า กำลังยืนยิ้มให้
          "เพิ่งย้ายมาหรือครับ" เสียงสดใสของคนร่างเล็กเอ่ยถาม
          "ครับ...นี่ก็  ขนของเสร็จแล้วล่ะ  วันนี้มาค้างเป็นวันแรกน่ะ" เสียงของคนตัวสูงกล่าวอธิบาย เขาถามคนตัวเล็กกลับไปบ้าง..
          "น้องอยู่ห้องนี้หรือครับ?"  พลางบุ้ยหน้าไปทางห้องที่อยู่ติดกัน
          "อ๊ะ..อ๋อ..ครับ..จริงๆก็ย้ายมาได้เดือนกว่าแล้วครับ  พอดีเห็นห้องข้างๆนี่ปิดน่ะครับ  เลยนึกว่าไม่มีคนพัก"
          "อ๋อ....สงสัยช่วงนั้นพี่ขนของอยู่น่ะ  ให้คนเขาเอามาลงไว้ให้ตอนกลางวันๆ ช่วงคนไปทำงาน จะได้ไม่รบกวนคนอื่น...ว่าแต่ดีจังเลยนะ  มาวันแรกก็ได้เจอเพื่อนบ้านเลย..สวัสดีครับ  พี่ชื่อ..หนึ่ง..นะ"
          "อ๊ะ..สวัสดีครับ..ผม..สอง..ครับ"
          คนตัวเล็กยื่นมือบางขาวสะอาดให้คนตัวสูงจับเป็นการทักทาย
          "ยินดีที่ได้รู้จักนะ..สอง.."
          "ครับ..ยินดีที่ได้รู้จักครับ..พี่หนึ่ง.."
          คนตัวเล็กส่งยิ้มสดใสให้คนตัวสูง  เช่นเดียวกับคนตัวสูงที่กำลังระบายยิ้มบางๆออกมาทักทายคนตัวเล็ก....
          และนั่นคือการพบกัน มันเป็นจุดเริ่มต้นของคนสองคน.......

          หลายวันหลังจากนั้น..
          ณ  ระเบียงชมวิวของห้องพัก
          "อ้าว..สอง..เป็นไงบ้าง..เรา"
          "............................."  สองหันไปมองระเบียงของห้องข้างๆที่อยู่ติดกัน  ตอนนี้ที่ตรงนั้นสว่างขึ้นด้วยหลอดไฟนีออนที่ถูกติดไว้บนเพดาน  สองเห็นปลายจมูกของเจ้าของห้องข้างๆไหวๆ เหมือนพยายามจะยื่นหน้าออกมาคุยด้วย
          "อ้าว..พี่หนึ่ง..เพิ่งถึงหรือครับ..วันนี้กลับเร็วแฮะ"  สองพยายามยื่นหน้าออกไปทักเพื่อนบ้านที่อายุมากกว่า
          "อืม..พอดีพี่เคลียร์งานเสร็จเร็วน่ะ..วันนี้เลยถึงเร็ว..แล้วเรามายืนทำอะไรเนี่ย.."
          "ก็เรื่อยเปื่อยครับ  พอดีเหนื่อยๆเลยยืนตากลมเล่น"
ื          "เฮ้ย..เป็นเด็กเป็นเล็กทำเป็นเหนื่อย  อย่างพี่นี่สิเหนื่อยจริง55"
          "พอดีว่า..ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วครับ แล้วก็ต้องเตรียมตัวเอ็นฯด้วยครับ งานก็เยอะ เรียนก็หนัก"
          "อืม..พยายามเข้านะ.."
          "พี่หนึ่งทำงานอะไรหรือครับ ทำไมชอบกลับดึกๆ"
          "พี่เป็นวิศวกรน่ะ   บางทีต้องไปดูงานหลายที่แล้วก็อาจต้องเข้าไปเคลียร์งานที่บริษัทอีก กว่าจะทำนู่นทำนี่เสร็จก็..มืดแล้ว...ว่าแต่เราทำไมอยู่ที่นี่คนเดียวล่ะ ยังอยู่มัธยมอยู่เลย..
          "อ๋อ จริงๆผมอยู่ต่างจังหวัดครับ นี่เป็นคอนโดที่พ่อผมซื้อไว้ พอผมสอบเข้าม.ปลายในโรงเรียนที่กรุงเทพฯได้ ก็เลยย้ายมาอยู่นี่ครับ เพราะเดินทางไปโรงเรียนสะดวก  ไม่ไกลกันเท่าไหร่"
          "อืมก็ดีนะ แต่อยู่คนเดียวไม่เหงารึไง?"
          "ก็..มีบ้างแหละครับ  แต่ช่วงนี้ต้องไปเรียนพิเศษกว่าจะกลับมาถึงที่นี่ก็ปาเข้าไปสามทุ่มแล้วครับ แถมบางทีต้องอ่านหนังสืออีก พอว่างก็..เหนื่อยหมดแรง  สุดท้ายก็หลับไปเลยครับ ไม่ค่อยมีเวลามานั่งเหงาเท่าไหร่"
          "อืม..แล้วนี่มายืนทำอะไรล่ะ..ไม่ใช่ว่าเกิดเหงาขึ้นมานะ"
          "5555 ไม่หรอกครับ เพียงแต่กลุ้มนิดหน่อย"
          "หืม..มีอะไรเหรอ พอบอกกันได้รึเปล่า"
          "ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ"
          "เหรอ..จะไม่บอกกันหน่อยเหรอ เผื่อพี่จะช่วยได้นะ"
          "ก็..กลุ่มใจเรื่องเรียนน่ะครับ"
          "มีอะไรเหรอ.."
          "ก็ช่วงนี้ต้องเตรียมตัวเอ็นฯแล้วอ่ะครับ แล้วสองก็เรียนอยู่สายวิทย์ ไอ้วิชาฟิสิกส์ เคมี ชีวะ สองได้หมด แต่พอวิชาคณิตกลับมีบางเรื่องที่สองยังงงอยู่เลย แถมที่เรียนพิเศษก็สอนคนละแบบกับที่โรงเรียน คือที่นั่นเค้าเน้นใช้วิธีลัดอ่ะครับ แต่ที่โรงเรียนของสองเค้าเน้นพื้นฐาน อธิบายเป็นขั้นตอน สองเองก็ยังงงๆกับการคิดเป็นขั้นตอนอยู่เลยครับ  สองกลัวว่าจะงงไปเรื่อยๆตอนถึงช่วงเอ็นฯน่ะครับ"
          "เลขเหรอ...เอางี้สิ ให้พี่ติวให้เอาไหม.."
          "จะดีเหรอครับ พี่หนึ่ง ผมไม่อยากรบกวนพี่"
          "เฮ้ย..ไม่เป็นไรหรอก..พี่เต็มใจช่วย..แต่..เอ่อ..ถ้าเรานอนดึกได้อ่ะนะ"
          "โห..พี่หนึ่ง..ไม่เป็นไรหรอกครับ  นอนเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้ามีคนติวเลขให้น่ะ ไม่นอนทั้งคืนยังได้เลยครับ"
          "เออๆ..งั้นโอเค..ตามนั้น..เอาเป็นว่าถ้าพอพี่กลับถึงห้อง เดี๋ยวขอเวลาพี่จัดการกับตัวเองซัก10นาทีนะ แล้วจะไปเคาะเรียกที่ห้องนะ"
          "โอเค ครับ...ขอบคุณมากนะครับ.พี่หนึ่ง"
          "เออ..ชักหิวแฮะ..เดี๋ยวพี่ไปหาอะไรกินก่อนนะ"
          "อ้าว..พี่หนึ่งยังไม่ได้กินอะไรหรือครับ"
          "หึ หึ ยังเลย..ว่าจะกินที่ร้านข้างล่างนี่แหละ พี่ขี้เกียจหาที่จอดรถ ช่วงนี้ใครเค้าก็ออกไปหาอะไรกินกันทั้งนั้นแหละ กินที่นี่สะดวกดี พอหนังท้องตึง หนังตาหย่อน  เดินเข้าลิฟท์ปุ๊บ ถึงห้องปั๊บ นอนเลย"
          "โห..เป็นสูตรเลยนะเนี่ย แล้วไ่ม่ต้องอาบน้ำหรือครับ  แอบซกมกนะ..พี่หนึ่งเนี่ย"
          "อ้าวๆ..อยากมีเรื่องหรือครับน้อง เอ่อ..แต่บางทีพี่ก็ไม่ได้อาบ..ก็นะ..กว่าจะถึงบ้านน่ะ พอเห็นเตียงนุ่มๆตามันก็จะปิดแล้ว"
          "55555อย่างงี้ก็เหม็นดิพี่"
          "เออๆ..เหม็นก็เหม็น..เดี๋ยวพี่ไปหาข้าวกินก่อนนะ..เอ้อ..แล้วสองล่ะ กินข้างยัง ลงไปด้วยกันปะ"
          "อ๋อ ผมเรียบร้อยแล้วครับ  แน่ แน่..หาเพื่อนกินข้าวอะดิ"
          "เออ..แหมวันนี้ได้เจอสองทั้งที เห็นปกติปิดไฟหลับปุ๋ยเรียบร้อย ไป ไป กินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย เอ้อ..ถ้ามีอะไรสงสัยเกี่ยวกับเลขที่เรียนน่ะ ก็เอาลงไปให้พี่ดูด้วยเลยดิ"
          "โห..ยังไม่ต้องดีกว่าครับ ให้พี่หนึ่งกินข้าวให้สบายก่อน เดี๋ยววันหลังค่อยให้พี่สอนก็ได้ครับ"
          "เออๆ..งั้นพี่ไปแล้วนะ เดี๋ยวยืนรอหน้าห้อง "
          "โอเคครับ..เจอกันหน้าห้องนะครับ" 
         
 
           
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย update20/01/11 ตอนแรก50% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-01-2011 22:26:21
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย update20/01/11 ตอนแรก50% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 20-01-2011 22:49:19
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเรื่องใกม่ เริ่ดอ่ะดูน่ารักเชียว

ปล.เพื่อนเราก็มีนะ ชื่อ 1 แฟนชื่อ 2 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย update20/01/11 ตอนแรก50% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 21-01-2011 00:44:50
กริ๊วกร๊าวววว ขยันจังเลยลงกี่เรื่องแล้วคะเนี่ย +1ให้กับความขยันเลย

พี่หนึ่ง...น้องสอง....น่ารักอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย update20/01/11 ตอนแรก50% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 21-01-2011 18:21:48
หนึ่งกับสอง อิอิ

รอ่านนะค่ะ :L1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย update20/01/11 ตอนแรก50% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 21-01-2011 19:53:24
ต่ออีก50%  ของตอนแรกค่ะ
 
          "แอ๊ดดด"  เสียงประตูของห้องข้างๆเปิดออก หนึ่งเห็นคนตัวเล็กเดินออกมา  คนๆนั้นยิ้มให้เขาแล้วหันไปล็อกประตูห้องของตัวเอง
          "พร้อมยัง.."  คนตัวสูงถาม
          "ครับ..ไปครับ" คนตัวเล็กตอบ
          หนึ่งและสองเดินเคียงข้างกันไปที่ลิฟท์   เพื่อลงไปยังร้านอาหารที่อยู่ชั้นล่าง
          ที่ร้านอาหาร.....
          "รับอะไรดีครับ.."  เด็กเสิร์ฟของร้านถามแล้วมองไปที่หนึ่งกับสองที่นั่งตรงกันข้าม
          "อืม....ผัดพริกสดไข่ดาวราดข้าวครับ"  หนึ่งบอกเด็กเสิร์ฟ
          "แล้วน้องล่ะครับ เอาอะไรครับ" เด็กเสิร์ฟหันไปทางหนึ่ง แล้วถามลูกค้าที่ตัวเองแน่ใจว่าอายุน่าจะอ่อนกว่า
          "เอ่อ...ผมขอน้ำแข็งเปล่าแก้วนึงพี่"
          "เฮ่ย...ไม่กินอะไรเหรอ กินด้วยกันดิ สั่งเลย พี่เลี้ยง" หนึ่งบอกคนตัวเล็ก
          "ไม่อ่ะครับ หนึ่งทานแล้ว ไม่ค่อยหิว"
          "เอางั้นดิ งั้นเอาเป๊ปซี่2ขวดครับน้อง  น้ำแข็งสอง" หนึ่งหันไปบอกเด็กเสิร์ฟ ก่อนหันมาพูดกับคนตัวเล็กว่า
          "งั้นนั่งกินเป็ปซี่แล้วกัน  ให้เรานั่งมองพี่กิน เขิลตายเลย ..เอ้อ..โอเคนะครับน้อง"  พอพูดกับคนที่ยอมมานั่งเป็นเพื่อนด้วยเสร็จแล้ว  หนึ่งก็หันไปบอกเด็กเสิร์ฟอีกครั้ง เป็นการสำทับว่าเขาได้สั่งอาหารที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว  หลังจากนั้นเด็กเสิร์ฟจึงเดินไปจากโต๊ะของหนึ่งกับสอง ก่อนหายเข้าไปในครัวหลังร้าน..
          "แล้วเป็นไงล่ะ..วันนี้เรียนหนักมากเลยหรือ"  คนตัวสูงเริ่มบทสนทนาก่อน ระหว่างที่นั่งรออาหาร
          "อ๋อ..ก็ไม่เชิงหรอกครับ เรียนมันก็ปกติตามตารางแหละพี่ แต่งานเนี่ยดิ เยอะโคตร"
          "อืม..ก็เงี้ยแหละ..ม.ปลายแล้วใช่มั้ยล่ะ.."
          "แล้วพี่หนึ่งล่ะครับ งานเยอะปะ.."
          "ก็..พอดูนะ  ไม่รู้ดิ มันเยอะจนชินแล้วล่ะ"
          "โหห..อย่างงี้ก็รวยดิพี่ งานเยอะ เงินแยะ  แบ่งกันมั่งได้ปะ"
          "555 เออๆ เงินมันก็เยอะจริงๆแหละว่ะ แต่กว่าจะได้มาสักบาทเนี่ย โคตรเหนื่อยเลยว่ะ"
          "แล้วพี่ไม่อยู่กับครอบครัวมั่งอ่ะครับ"
          "ก็..ไม่ค่อยว่ะ อย่างที่บอก งานมันเยอะ แต่ถ้ามีเวลาว่างๆพี่ก็ไปนอนที่บ้านทีนึง ให้พ่อกับแม่ได้เห็นหน้าซะบ้าง เดี๋ยวจะลืมว่าตัวเองมีลูก55"
          "โห...พูดเข้าไปนั่น...พี่หนึ่งๆ ..ข้าวมาแล้วครับ"
          "อ้าวเหรอ เออจริงด้วย"  หนึ่งหันไปยังทิศทางที่สองพยักเพยิดบอก เขาเห็นเด็กเสิร์ฟคนเดิมถือถาดใส่อาหารเดินตรงมา 
           หลังจากอาหารที่หนึ่งสั่งไว้วางบนโต๊ะครบแล้ว ตัวเองก็ลงมือจัดการทันดี โดยมีสองนั่งมองยิ้มๆกับคนที่ทำงานอย่างบ้าคลั่งจนต้องกลับบ้านดึกเกือบทุกวัน
           และนั่นเป็นอีกขั้นของความสัมพันธ์ของคนสองคน..ที่ได้มาพบกัน
           หลังจากนั้น หนึ่งก็กลับคอนโดฯเร็วขึ้น มันก็ไม่เร็วถึงขนาดที่ทันดูละครหลังข่าวหรอก เพียงแต่ก็ทันก่อนที่ละครจะจบ หรือสถานนีโทรทัศน์ปิดสัญญาณของวัน  โดยส่วนใหญ่สองก็จะลงไปนั่งเป็นเพื่อนหนึ่งเวลากินข้าวเย็น หากว่าวันนั้นหนึ่งยังไม่ได้กินอะไรมาหลังจากเลิกงาน บางทีหนึ่งก็จะซื้อของกินแถวๆที่ทำงานมาด้วย แล้วก็มานั่งกินที่ห้องของสอง ระหว่างที่ติวเลขให้ ช่วงหลังๆมานี้หลังจากที่หนึ่งบอกสองว่า งานต่างๆเริ่มคลี่คลายลงบ้าง เลยไม่ต้องอยู่สะสางวุ่นวาย  เขาก็กลับมาเร็วมาก บางทีก็ถึงคอนโดฯตั้งแต่หนึ่งทุ่ม และทุกครั้งจะซื้อของกินมาฝากสองอย่างสม่ำเสมอ
           วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่ง ที่เขากลับมาเร็ว 
           "ก็อก..ก๊อก"
           "ใครครับ?" เสียงของคนตัวเล็กตะโกนดังออกมาจากข้างใน
           "พี่เอง.."   คนตัวสูงตะโกนบอก
           "เดี๋ยวนะพี่.."  คนตัวเล็กตอบกลับมา พร้อมกับเสียงกุกกักภายในห้อง
           "เออๆ"
           "กริ๊ก"  เสียงโซ่คล้องประตูถูกเลื่อนออก พร้อมกับเสียงของใครบางคนที่อยู่ข้างในกำลังหมุดลูกบิดเพื่อให้ประตูเปิดออก
           "แหมพี่..กลับเร็วอีกแล้วนะเนี่ย"
           "เออๆ..วันนี้พี่ซื้อขนมมาฝาก เป็นร้านเบเกอรี่เปิดใหม่แถวที่ทำงานพี่น่ะ อร่อยดีก็เลยซื้อมาฝาก"
           "โหพี่..เอาของกินมาล่ออีกและ  มาพี่ เข้ามาก่อน"  คนตัวเล็กชวนคนตัวสูง
           หลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้ว หนึ่งก็วางถุงขนมไว้บนโต๊ะ เขาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา  ก่อนพูดว่า
           "เฮ่ย..นั่นสองกำลังอาบน้ำปะ พี่มาขัดจังหวะรึเปล่า?"  หนึ่งเห็นผ้าขนหนูที่พาดไว้บนเก้าอี้หน้าห้องน้ำ พร้อมกับกล่องสบู่ที่ยังไม่ได้แกะวางคาอยู่
           "อ๋อครับพี่..แต่ไม่เป็นไรหรอก เริ่มติวกันเลยดีกว่า"
           "เฮ่ยได้ไง..ไป ไป ไปเลย จะได้สบายตัว  เดี๋ยวมันจะไม่มีสมาธิ พาลเอาขี้เกียจ"
           "ไม่อ่ะพี่..ติวเลยดีกว่า"
           "เฮ่ย..ไม่เป็นไร ไปอาบน้ำก่อน ทุกทีกว่าจะติวเสร็จก็เกือบเที่ยงคืน ไปๆ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะได้นอนเลยไง"
           "ไม่อะพี่.." คนตัวเล็กอิดออด
           "เอ้า..ไอ้นี่..ดื้อจังวะ เดี๋ยวจับตีก้นเลย" หนึ่งแกล้งทำสีหน้าจริงจัง
           "เฮ่ย..พี่..โอเคๆ..ไปก็ได้ รอแป๊ปนะพี่"
           "เออๆ..นั่งรออยู่เนี่ยแหละ"  หนึ่งรับคำ เมื่อเขาเห็นคนตัวเล็กรีบคว้าผ้าเช็ดตัวกับกล่องสบู่เดินเข้าห้องน้ำ
           "เฮ้ยยยย"  สองถอนหายใจเบาๆ ขณะยืนอยู่ในห้องน้ำ เขาจะทำยังไงดีล่ะ ดันลืมหยิบชุดนอนเข้ามาด้วยสิ อย่างนี้ไม่ต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินโทงๆออกไปรึไง แค่คิดก็อายแล้ว จะให้เปลือยท่อนบนให้คนที่แอบชอบเห็นน่ะ เขาจะทำได้ยังไง  ถึงคนๆนั้นจะไม่รู้ว่าเขาคิดยังไง แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจดี  มันก็คงได้แต่แอบชอบนั่นแหละ  ผู้ชายดีๆแบบนี้เขาจะชอบเกย์เด็กกะโปโลแบบสองได้ไง แถมคนๆนั้นยังมีอนาคตที่ดี เหมาะที่จะเป็นหัวหน้าของครอบครัว เป็นพ่อที่ดีของลูกๆ  คนๆนั้นคงไม่คิดจะมองสองหรอก ถ้าได้รู้ว่าสองคิดยังไงล่ะก็ คงวิ่งหนีสองแทบไม่ทัน เขาไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ดีๆแบบนี้เลย ถึงได้แค่แอบชอบเขาก็ยอม  นี่ก็ได้แต่หวังว่าพออาบน้ำเสร็จแล้ว คนที่นั่งรออยู่คงจะเผลอหลับไปแล้วนะ อาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้ ก็เขาเปิดแอร์ซะเย็นขนาดนี้ คนทำงานมาเหนื่อยๆ  ยังไงก็ต้องมีเผลอบ้างล่ะ
           สองคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย เขากำลังเปิดฝักบัวให้สายน้ำสาดโดนตัว
           "ตื๊ด..ตื๊ด"  หนึ่งได้ยินเสียงของมือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น เขาลืมตาแล้วเอามือล้วงมันออกมา
           หนึ่งดูชื่อของคนที่โทรหา เมื่อเห็นว่าเป็นใครเขาก็ต้องระบายยิ้มออกมา หนึ่งรีบกดปุ่มรับสายทันที
           แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเอบๆเพื่อคุยกับปลายสายที่โทรเข้ามา
           "ฮัลโหล..แจงหรือครับ..คิดถึงจังเลย ไม่โทรหาเป็นอาทิตย์เลยนะ"
           "งอนแล้ว..หึ หึ  โอ๋ โอ๋ เปล่าโกรธซะหน่อย  ผมรู้ว่าแจงเหนื่อยทำงานไม่เป็นเวลา"
           "ครับสบายดีครับ"
           "เหนื่อยดิ..หนึ่งก็ทำงานเก็บตังไว้ขอแจงไง"
           "โธ่..ขอสิครับขอ..กลัวว่าขอแล้วจะเก้อน่ะสิ"
           "ครับสบายดีครับ แจงสบายดีนะ.."
           "หนึ่งคิดถึงแจงจังเลย...อยากขึ้นไปเชียงใหม่จะแย่แล้ว"
           "อ้าวว..ต้องเข้ากะแล้วหรือครับ..เฮ้ยย อย่าให้รู้นะ ว่ามีฝรั่งมาตามจีบน่ะ  หนึ่งจะตามไปอัดให้ถึงที่เลย"
           "อ้าววว  หวงสิครับ  แฟนผมเป็นแอร์สาวทั้งขาว ทั้วหมวย  สวยแล้วก็....อุ๊บส์..ครับๆ ไม่ทะลึ่งแล้ว"
           "ครับๆ..โอเคครับ..บายครับ..คิดถึงนะครับ"
           หนึ่งรอจนปลายสายกดวางไปแล้ว เขาจึงเก็บโทรศัพท์เข้าไปในกระเป๋าเหมือนเดิม  เป็นเวลาเดียวกันกับที่คนในห้องน้ำปิดฝักบัวพอดี  สักพักหนึ่งก็เห็นคนตัวเล็กยื่นใบหน้าขาวๆออกมาจากประตูห้องน้ำ มองมายังโซฟาที่เขานั่งอยู่
           "อ้าว..อาบเสร็จแล้วก็รีบแต่งตัวดิ  เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก"  หนึ่งรีบบอกคนตัวเล็ก
           "เอ่อ..พี่หนึ่งไม่ได้หลับอยู่หรือครับ"
           "เปล่า..คุยโทรศัพท์น่ะ"
           "อ้าว..." สองทำสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย เพราะเขาคาดว่าคนตัวสูงคงจะเผลอหลับ ถ้าเป็นอย่างนี้ เขาก็ต้องออกไปทั้งๆที่นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวน่ะสิ ทำไงดี เอาวะ..ยังไงก็ผู้ชายเหมือนกัน  หลังจากนั้นสองก็เดินออกไปจากห้องน้ำ  เขารีบตรงไปยังตู้เสื้อผ้าทันที  สองก้มหน้างุดๆรีบหยิบเสื้อผ้า เขาเอาบานประตูของตู้เสื้อผ้าบังตัวไว้ ไม่ให้หนึ่งเห็นเพราะรู้สึกทะแม่งๆว่าเหมือนคนตัวสูงกำลังมองเขาอยู่
           "เฮ่ย..สอง อายไรวะ  ผู้ชายเหมือนกัน" หนึ่งพูดขำๆ ขณะมองร่างสีขาวสะอาดของคนตัวเล็กผลุบหายเข้าไปที่บานประตูของตู้เสื้อผ้า
           "อายไรพี่...บ้าเปล่า ผมไม่ได้อาย แค่อยากรีบใส่เสื้อผ้า..มันหนาว" คนตัวเล็กตะโกนแก้ตัวกลับไป
           "เออๆ  ไม่อาย ก็ไม่อาย  คนไรวะไม่อายแต่แก้มเงี้ยยแดงเป็นเทือก" หนึ่งบ่น เขาพูดไม่ดังมาก แต่ก็ดังพอที่คนตัวเล็กจะได้ยิน
           "แดงเดิงไรพี่..มันเป็นผื่นน่ะ"
           "ผื่นไรวะ"
           "ก็ผื่นไรไม่รู้ สงสัยจะแพ้สบู่มั้ง" สองพูดเรื่อยเปื่อย  ขณะกำลังนุ่งกางเกง
           "จริงดิ..ไหนๆขอดูหน่อย"
           "เฮ่ยพี่..ไม่เป็นไร หายแล้วๆ"
           "หายเร็วจังวะ มา..ขอพี่ดูหน่อย เดี๋ยวเป็นอะไรขึ้นมาดึกๆมันจะแย่นะเว่ย" หนึ่งบอกด้วยความเป็นห่วง
           "ไม่เป็นไรพี่ เสร็จแล้วๆ หายแล้วจริงๆ " สุดท้ายสองก็โผล่ออกมาจากบานประตูเสื้อผ้า
           "จริงนะ"
           "จริงดิพี่" สองยิ่มแฉ่งตอบคนตัวสูง
           "เออๆ จริงก็จริง" หนึ่งยอมจำนน แล้วก็ต้องแอบขำ กับการปรากฏตัวของคนตัวเล็ก ที่ใส่ชุกนอนเรียบร้อย แต่เนื้อตัวกับหน้าตานี่สิ มันขาววอกไปด้วยแป้งทาตัว
           "ขำไรพี่"
           "ขำ  ดารา.."
           "ดาราอะไรพี่ พูดงงๆ" สองทำหน้างงพร้อมกับเดินมาหาหนึ่งที่โซฟา
           "ก็ดาราที่เป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณาแป้งเด็กน่ะ
           "อ้าวว.."  สองหันหน้าไปเอาเรื่องคนที่พูด
           "555เออๆ ล้อเล่นน่ะ มาๆมาติวได้แล้ว นอนช้าเดี๋ยวพรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียนสายหรอก"
           "ครับๆ..คุณครู เริ่มได้เลยครับ"
           สองหันไปยิ้มแฉ่งให้กับคนที่นั่งข้างๆด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยแป้งเด็ก 
           คนตัวสูงขำคนตัวเล็ก เขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปขยี้หัวคนตัวเล็กเบาๆด้วยความเอ็นดู  ก่อนที่จะเริ่มติววิชาเลขกันอย่างจริงจัง
           
 
 
 
           
           
           
           

จบตอนแรกค่ะ :L2:
           
       
         
 
         
     
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย (7:52pm)21/01/11 ตอนแรก100% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: golove2 ที่ 21-01-2011 21:04:54
อ๊า

มีหนึ่งมีแฟนแล้วง่ะ


 :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย (7:52pm)21/01/11 ตอนแรก100% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 21-01-2011 21:26:11
อ้าวว หนึ่งมีแฟนแล้ว เหอะๆ

ชื่อคล้องจองกันซะขนาดนี้ ต้องเปนแฟนกันซี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย (7:52pm)21/01/11 ตอนแรก100% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-01-2011 23:16:16
รักแท้แพ้เกย์เด็ก
 :z2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย (7:52pm)21/01/11 ตอนแรก100% หน้า2นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 24-01-2011 19:48:47
ตอนต่อ....
           

           หลายเดือนมานี้สองรู้สึกว่าตัวเองเรียนเลขได้เข้าใจมากขึ้น  ก็แน่ล่ะ สองมีครูดีที่ช่วยติวให้  ถึงแม้จะต้องแลกกับการที่ต้องทนนั่งรอเป็นเวลานาน เพราะกว่าคุณครูคนนั้นจะกลับถึงบ้านมันก็หลังสามทุ่มเข้าไปแล้ว  และกว่าจะติวกันจนจบแต่ละเรื่องมันก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืนทุกที แต่มันก็คุ้มค่าไม่ใช่เหรอ ใช่สิ...มันต้องคุ้มค่าอยู่แล้ว  เพราะสองไม่ต้องเสียเงินค่าติววิชาสักกะบาท แค่บางทีต้องอุทิศตัวลงไปนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนครูก็เท่านั้น  แถมมันยังเป็นความสุขอีกต่างหาก ใช่แล้ว..มันเป็นความสุขในใจเบื้องลึก เพราะสองต้องเก็บงำมันเอาไว้ ความสุขที่จะได้อยู่ใกล้  ความสุขที่ได้พูดคุย ความสุขที่ได้ร่วมกันยิ้มและหัวเราะ และความสุขที่ได้รู้ว่ามีคนคอยห่วงใย ถึงแม้ว่ามันอาจเป็นเพียงแค่ความห่วงใยแบบพี่น้องก็ตาม
           และขณะที่สองกำลังมีความสุขเล็กๆกับการได้แอบชอบใครสักคน  และมีเขาคนนั้นอยู่ใกล้ๆ สองก็ได้รู้ว่าความสุขนี้ไม่จีรังยั่งยืน เพราะมันเป็นเพียงความเพ้อฝัน เป็นเพียงสิ่งที่ตนเองคิดไปเองผู้เดียว และที่เลวร้าย ความคิดแบบนี้ นับวันมันจะยิ่งหนักแน่นขึ้นภายใจจิตใจของสอง นับวันความชอบที่มีต่อหนึ่งนั้นก็เพิ่มพูน มันมาจากความสนิทชิดเชื้อ มาจากความชื่นชมในความสมบูรณ์แบบของหนึ่ง แน่นอนหนึ่งอาจไม่ได้หล่อเหลาขนาดเป็นพระเอกได้ หนึ่งอาจไม่ได้รวยล้นฟ้าเท่ากับนักการเมืองดังๆ แต่หนึ่งมีความจริงใจ และความห่วงใยให้เสมอ หนึ่งมีเสน่ห์บางอย่างที่ทำให้สองรู้สึกสบายใจเวลาคุยด้วย หนึ่งมีความคิดแบบผู้ใหญ่ที่สามารถเป็นที่ปรึกษาได้อย่างดี และหนึ่งมีบุคลิกที่เป็นผู้นำที่ดี หนึ่งเหมือนคนๆนั้น คนที่สองใฝ่ฝันตลอดว่าสักวันสองจะได้ใช้ชีวิตร่วมด้วย แน่นอนครอบครัวของสองไม่เคยปฏิเสธว่าสองเป็นอะไร พวกเขาเปิดใจรับสิ่งนี้ของสอง สองและครอบครัวรับมือกับมันร่วมกัน พ่อแม่ของสองขอแค่ต้องการลูกชายที่เป็นคนดีของสังคมก็แค่นั้น เพราะสิ่งที่เหลือหากลูกได้เลือกแล้วและเขามีความสุขนั่นก็คือสิ่งที่พ่อกับแม่ควรมีความสุขเช่นกัน
          ความสุขที่ได้แอบชอบใครเช่นหนึ่ง คนที่สมบูรณ์พร้อมในสายตาของสองเป็นเพียงความสุขชั่วคราว เป็นความสุขที่สองต้องหยุดมันทันทีเพื่อไม่ให้ถลำลึกมากไปกว่านี้  สองต้องห้ามใจตัวเองหลังจากที่สองได้เจอกับใครบางคนในตอนเย็นวันหนึ่งขณะที่สองกลับจากโรงเรียน และกำลังจะไขประตูเข้าไปในห้อง ห้องข้างๆของคนๆนั้นก็เปิดประตูออกมา เสียงหัวเราะคิกคักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งลอยออกมาจากด้านในทันที
          หญิงสาวหน้าตาสะสวยและหุ่นดีจนสามารถเป็นนางแบบได้เดินออกมาจากห้องนั้น และตามมาด้วยชายอีกคน ชายคนนั้นก็คือหนึ่งนั่นเอง
          "อ้าวสอง....เพิ่งกลับเหรอ" หนึ่งทักสองที่ยืนถือกุญแจค้างอยู่ที่ช่องไขตรงประตู
          "เอ่อ...ครับ" สองรับคำหน้าเจื่อนๆ แล้วเหลือบสายตามองพี่สาวคนสวยที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆหนึ่ง
          "เออ..เอ้านี่...แจง...แฟนพี่เอง"
          "สวัสดีครับ" สองหันไปสวัสดีแจง
          "สวัสดีจ้ะ..เอ๊ะ..ชื่อสองหรือจ๊ะ...แหมหนึ่ง..น้องเค้าชื่อคล้องจองกับหนึ่งมากเลยนะ น่าจะเป็นพี่น้องกันนะเนี่ย  เอ๊ะ  รึว่าเนื้อคู่ดี.."
          คำพูดล้อเล่นของหญิงสาวทำเอาสองแอบสะอึก
          "เฮ้ย...แจงก็..พูดไปเรื่อย มันก็มีกันได้เรื่องบังเอิญน่ะ ...เนื้อคู่ผมก็ยืนอยู่ตรงนี้ไงคร้าบบบ" หนึ่งพูดแล้วส่งสายตาหวานให้แจง
          "เอ่อ...พี่ๆจะไปข้างนอกหรือครับ" สองถามเบาๆ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อ
          "อือ..เดี๋ยวแจงเค้าต้องไปแล้วพี่จะไปส่งที่สนามบิน เฮ้ย..มีแฟนเป็นแอร์ก็เงี้ย..กว่าจะได้เจอกันที นี่ถ้าไม่ใช่แจงผมไม่ยอมลางานหรอกนะ"  หนึ่งบอกแจง
          "อื้อ..ก็มาให้หายคิดถึงแล้วไง"  แจงบอกแฟนหนุ่ม
          "เอ่อ..งั้นผมขอเข้าห้องก่อนนะพี่..ปวด..ปวดฉี่ว่ะ" สองพูดแล้วก็ก้มหน้างุดๆ ถึงแม้จะเป็นข้ออ้างที่งี่เง่าและหน้าอาย แต่มันก็ได้ผลเพราะ สองคงไม่ต้องทนเห็นภาพความสนิมสนมของคนๆนั้นกับแฟนสาวให้ปวดใจ
          "เออๆ...ตามสบาย เฮ้ย..สอง  อยากกินไรเป่า..เดี๋ยวพี่ซื้อมาฝาก..เออ..แต่วันนี้พี่อาจติวให้ไม่ได้นะ..เพราะกว่าแจงจะขึ้นเครื่องก็5ทุ่มโน่น สองนอนเลยนะ ไม่ต้องรอ" หนึ่งบอกน้องด้วยความหวังดี ใจของเขาไม่อยากใ้ห้สองต้องทนนั่งทำเลขจนตีหนึ่งตีสองหรอก มันออกจะโหดเกินไป
          "เอ่อ...ครับ.."สองรับคำ
          "เออๆ..งั้นพี่ไปก่อนนะ"
          "บายจ้ะ..น้องสอง"  แจงหันมาบอกสอง
          "บายครับพี่"สองยิ้มฝืดๆให้หญิงสาว ก่อนหันไปไขประตูห้อง และระหว่างนั้นเอง ตอนที่จะเปิดประตูแล้วก้าวเท้าเข้าไป เสียงของหนึ่งกับแจงที่ยังคุยกันขณะที่กำลังเดินไปที่ลิฟท์ก็ยังคงดังสะท้อนอยู่
          "พ่อกับแม่แจงถามยิกๆแล้วนะ..ว่าเมื่อไหร่"
          "โห...จริงดิ..เอาไงดี..หนึ่งยังเก็บไม่ถึงล้านเลยนะ "
          "บ้าเหรอ..ไม่ต้องถึงล้านหรอก "
          "โห..ไม่เอาง่ะ..ไม่เท่555"
          "บ้า..งั้น.อยากเท่ก็ขอแม่ดิ"
          "555ยิ่งไม่เท่ใหญ่ ผมแต่งกับแจนนะครับไม่ได้ให้แม่ไปแต่ง"
          "งั้นก็รีบๆซะทีสิยะ"
          "โอ๋ๆ....ได้เลยๆ...งั้นเดือนหน้าดูฤกษ์เลยมะ"
          "จริง..จริงนะหนึ่ง"
          "จริงดิ...ผมล้อเล่นน่ะ จริงๆผมพร้อมแต่งนานแล้วนะ แต่อยากให้แจงพร้อมด้วย"
          "โห..หนึ่งน่ารักจัง"
          เสียงสนทนานั้นยังดังต่อไปเรื่อยๆจนหายไปพร้อมกับเสียงประตูลิฟท์ที่เลื่อนปิด มันน่าจะเป็นข่าวดีนี่นา หนึ่งเป็นคนดี และเจอคนที่สมบูรณ์พร้อมจริงๆ
          สองค่อยๆปิดประตูลง หลังจากล็อกลูกบิดและคล้องโซ่เรียบร้อย ขณะนั้นเอง...ขณะที่กำลังจะก้าวขาออก ขาทั้งสองข้างมันก็ทรยศ สองค่อยๆย่อตัวลงเอาแผ่นหลังพิงกับบานประตูห้อง ดวงตาสวยเหม่อลอย  ดวงตาสวยกลมใส ใสเพราะน้ำที่เ่อ่อล้นที่ขอบตา มันไม่ใช่เพราะความยินดีหลังจากที่ได้ยินสองคนนั้นพูดกัน  แต่มันเป็นความเสียใจ ความเสียใจลึกๆ ที่เขาคนนั้นไม่ได้เิกิดมาเพื่อสอง เสียใจที่เขาคนนั้นไม่ได้เป็นของสอง เสียใจที่สองไม่ได้มีโอกาสได้รับสายตาแบบนั้น สายตาที่บ่งบอกถึงความรักใคร่ ความรักใคร่แบบที่คนสองคนจะจูงมือเดินเคียงข้างกันตลอดไปชั่วชีวิต สองก้มลงหน้าผากมนจรดกับหัวเข่าที่ชันขึ้น น้ำใสเพียงหยดเดียวก็เลื่อนหล่นลงจากแพขนตา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Vesi ที่ 24-01-2011 20:34:25
ชอบเรื่องแรกมากกกกก เขินเลยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ

เรื่องที่สอง แอบสงสารเด็ก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 24-01-2011 20:51:17
สงสารเด้กมันน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 24-01-2011 21:02:30
 :กอด1: โอ๋ๆ น้องสอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-01-2011 21:12:26
แอบรักแฟนเขา เจ็บจี๊ดๆนะน้องสองเดียวก็หายทำใจให้สบายๆเพื่ออนาคตของพี่เขา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-01-2011 21:27:46
มาแล้วโหมดสะเทือนขวัญ
อย่าให้มากนักนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-01-2011 21:39:53
แล้วจะเอาไงต่อแหละทีเนี้ยตาสอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 24-01-2011 21:52:56
ทำไมเรื่องนี้มันเศร้าแบบนี้ สงสารหนูสอง

แล้วจะลงเอยกันได้อย่างไร ไฉน สาวแจงคนสวยก็รักกันดีกับพี่หนึ่งเสียด้วย
 :เฮ้อ:

รอลุ้นต่อไป สงสารเด็กน้อยจริงๆ

ขอบคุณมากนะจ๊ะ  :3123: ยังบวกแต้มเพิ่มไม่ได้จ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(7:44pm)..24/01/11...ตอนสอง100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 25-01-2011 00:18:02
ตอนสาม

           หลังจากวันนั้น หนึ่งก็ยังคงทำหน้าที่เป็นครูติววิชาเลขตามปกติ หนึ่งทำหน้าที่ได้ดี เขายังตั้งใจสอนไม่เคยบ่นเลยสักครั้งแม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการทำงาน เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องทุ่มเทขนาดนี้ รู้แต่ว่าพอทำแล้วก็มีความสุข พอเห็นคนตัวเล็กตรงหน้าทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเวลาขบคิดหาวิธีแก้โจทย์เลขยากๆ มันก็อดไม่ได้ที่เขาต้องอมยิ้มด้วยความเอ็นดู เวลาที่เห็นสองยิ้มหนึ่งก็รู้สึกสดชื่นขึ้น ความเมื้อยล้าจากการทำงานมันก็ค่อยๆหายไป แม้จะดึกดื่นแค่ไหน เขาก็รู้สึกมีแรงติวเลขให้สองได้
           แล้ววันหนึ่งขณะที่หนึ่งกำลังติววิชาให้สอง...
           สองกำลังก้มลงเอาดินสอเขียนแก้โจทย์บนแผ่นกระดาษ ตอนนี้บนกระดาษแผ่นนั้นยุ่งเหยิงไปด้วยตัวเลข สองกำลังเขียนอย่างขมักเขม้น และแล้วคนตัวสูงที่นั่งสังเกตการณ์อยู่ข้างๆก็เอ่ยถามบางอย่างขึ้น
           "สอง...พี่ขอถามอะไรหน่อยสิ"
           "ครับ...มีอะไรครับ"  สองถามขณะยังก้มหน้าเขียนยุกยิก
           "เอ่อ..สองห้ามโกรธนะ..แต่พี่แค่อยากรู้..เท่านั้นแหละ" หนึ่งพูดเบาๆ
           "ครับ..ว่ามาเลยพี่"
           "สอง...สองเป็นเกย์รึเปล่า"
           คำถามนั้นทำเอาสองหยุดกึก สองเงยหน้าขึ้นหันมามองทางหนึ่ง ดวงตาฉายแววกังวล
           "พี่...พี่..รู้"
           "คือ...พี่ว่าพี่ดูออกน่ะ"
           "............." สองก้มหน้านิ่ง
           "เฮ้ย...สอง..พี่ขอโทษนะ..ตายห่า..ปากเสียจริงกู..." หนึ่งหันไปตบปากตัวเอง ก่อนหันมาละล่ำละลักพูดกับสองต่อ
           "คืองี้..พี่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ แต่พี่เห็นว่าเราสนิทกัน คือพี่ไม่อยากให้สองต้องปิดบังพี่ พี่ไม่อยากให้สองต้องลำบากใจ พี่อยากบอกว่าพี่ก็มีเพื่อนเป็นแบบสอง  พี่แจงแฟนพี่เค้าก็มีเพื่อนเป็นแบบสองนะ เพราะงี้ไง พี่ถึงดูออกว่าสองเป็นยังไง แล้วสองก็พยายามปิดมัน พี่ไม่ได้รังเกียจอะไรนะ เข้าใจนะสอง พี่ต้องพูดตรงๆ เพราะพี่อยากให้สองอยู่กับพี่แล้วทำตัวตามสบาย เข้าใจที่พี่พูดรึเปล่าสอง" หนึ่งอธิบายยืดยาว เขากังวลว่าสองจะไม่เข้าใจ
           "เอ่อ..ครับ..สองเข้าใจ " สองก้มหน้านิ่ง แพขนตากระตุกไหว
           "เอ่อ..แน่ใจนะ"
           "ครับ"  สองรับคำแค่นั้นก็ก้มลงทำเลขต่อ
           คืนนั้นทั้งคืนที่หนึ่งติวเลขกับสอง เขาก็สังเกตเห็นว่าสองไม่คุยกับเขาอีกนอกจากนั่งฟังสิ่งที่เขาสอน นั่นแหละ ...มันทำให้หนึ่งคิดว่าเขาพลาดไปแล้ว  แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจว่าสองเป็นอะไร จริงๆสองน่าจะสบายใจที่เขารับเรื่องนี้ได้ แต่มันดูเหมือนทุกอย่างยิ่งเลวร้ายลง
           "พี่กลับก่อนนะ" หนึ่งยืนอยู่หน้าประตู หลังติวเลขจบแล้วเขาก็กำลังจะกลับห้องซึ่งก็อยู่ติดกันกับสอง
           "เอ่อ..ครับ" สองรับคำแล้วปิดประตูลง
           สองเดินมาที่เตียง  คนตัวเล็กค่อยๆล้มลงบนเตียง ทำไม  ทำไมนะ  ทำไมเขาต้องเสียใจ..ก็แค่พี่หนึ่งรู้ว่าเขาเป็นเกย์ มันจะเสียหายตรงไหน เพราะยังไงๆ คนๆนั้นก็คงไม่สนใจหันมามองสองได้หรอก แต่การที่หนึ่งรู้อย่างนี้แล้ว มันทำให้สองรู้สึกว่า ช่องว่างระหว่าสองกับหนึ่งจะยิ่งไกลออกไปมากขึ้น มันคงจะไกลออกไปเรื่อยๆ ไกลจนสักวันที่สองคงเอื้อมไปไม่ถึงหนึ่ง
           แล้วมันก็ดูเหมือนว่าสองจะเข้าใจได้ถูก...เพราะตั้งแต่วันนั้น หนึ่งก็เบี้ยวนัดสองตลอด  บางทีก็บอกว่างานยุ่งมาก บางทีก็บอกว่าต้องไปดูงานต่างจังหวัด ทุกครั้งหนึ่งจะเป็นเป็นคนบอกสอง บางทีก็แปะกระดาษไว้ บางทีถ้าเจอกันก็จะบอกกับสองเลย สรุปแล้วคือหลังจากวันนั้นสองก็ไม่ค่อยได้เจอกับหนึ่งอีก
           สองเองก็ไม่เข้าใจ ทั้งๆที่บอกกันแล้วแท้ๆ ทั้งๆที่บอกว่าจะไม่รังเกียจ แต่ทำไมต้องทำแบบนี้ ทำไมต้องทำเหมือนหลีกเลี่ยงกัน มันก็คงต้องเป็นแบบนี้แหละ ใครจะอยากยุ่งกับเขาล่ะ เด็กผู้ชายที่เป็นเกย์..
           แต่แล้ววันหนึ่ง...ขณะที่กลับจากโรงเรียน สองก็เจอหนึ่งเข้าพอดี ...แต่สภาพของหนึ่งคราวนี้ทำให้สองถึงกับขมวดคิ้ว  สองเห็นหนึ่งนั่งอยู่กับพื้นหน้าห้องของตัวเอง คนๆนั้นก้มหน้า เอาหลังพิงประตูห้องไว้  สองเดินเข้าไปใกล้ๆ
           "พี่หนึ่งๆ...ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้ฮะ" สองถามพลางก้มลงเขย่าตัวหนึ่ง
           "สอง..สองเหรอ...สอง...พี่...พี่ไม่..มีใครแล้ว" หนึ่งค่อยเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำ เขาจับแขนสองเอาไว้
           "เอ่อ..พี่หนึ่ง..พี่เป็นไรฮะ"  สองตกใจ เขาไม่เคยเห็นหนึ่งในสภาพเมามายแบบนี้
           "สอง...พี่..พี่..พี่แย่แล้ว.." สองยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อเห็นหยดน้ำตาไหลลงจากดวงตาแดงก่ำ มือหนาแกร่งบีบแขนของสองแรงขึ้นอย่างลืมตัว
           "พี่..พี่หนึ่ง..สอง.เจ็บ" สองบอกหนึ่งพยายามบิดแขน
           "พี่ขอโทษ" หนึ่งรีบคลายมือออกจากแขนของสอง
           "พี่หนึ่งเข้าห้องก่อนนะ..มาอยู่ห้องสองก็ได้นะ...มาคุยกับสองนะ" สองบอกคนตัวสูง รู้สึกสงสารคนๆนั้นจับใจ คนตัวเล็กอยากช่วยให้เขาคลายความเศร้า
           หนึ่งค่อยๆลุกขึ้น เขาเดินโงนเงนตามร่างบางของสองเข้าไปในห้องข้างๆ และแล้วคืนนั้นหนึ่งก็เล่าให้สองฟังถึงสาเหตุที่ทำให้เขามีสภาพเช่นนี้ หนึ่งบอกสองว่าแจงทิ้งเขาไปแล้ว แจงเจอคนที่ดีกว่า คนที่ทำงานเหมือนกับแจง เขาเป็นกัปตัน การที่ทำงานสายเดียวกัน  ทำให้ทั้งสองได้เจอกันบ่อย และใกล้ชิดกันมากขึ้น แจงให้เหตุผลว่า ถึงอย่างไรแจงก็ไม่อยากเลิกอาชีพนี้ ถึงแม้จะแต่งงานกับหนึ่งแล้วก็ตาม แจงชอบงานนี้ แจงสนุกกับมัน แจงชอบที่จะได้บินได้ท่องเที่ยว แจงจะทำงานนี้ไปจนกว่าอายุจะแก่จนทำไม่ได้ และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้แจงทะเลาะกับหนึ่งและหันไปเลือกกัปตันคนนั้นแทน หนึ่งพยายามตามง้ออยู่หลายครั้ง ถึงขนาดตามไปถึงบ้านที่เชียงใหม่ แต่ดูเหมือนว่าแจงจะได้ตัดสินใจไปแล้ว สุดท้ายหนึ่งจึงมีสภาพบอบช้ำเพราะเหล้าที่ดื่มเข้าไป เขากลับมานั่งหมดแรงอยู่หน้าห้อง จนได้เจอกับสอง
          หลังจากวันนั้นสองก็เห็นหนึ่งกลับบ้านด้วยสภาพที่เมามายทุกวัน และแน่นอนอยู่แล้ว หนึ่งไม่ได้ติวเลขให้สองอีก ทุกครั้งที่หนึ่งเมามากจนเกือบครองตัวเองไม่อยู่สองก็จะช่วยดูแลเช็ดตัวให้จนหนึ่งรู้สึกสบายตัวขึ้น แล้วสองก็จะปล่อยให้หนึ่งนอนหลับ แล้วออกจากห้องของหนึ่งโดยล็อกให้เรียบร้อย..เป็นแบบนี้อยู่ประมาณสองอาทิตย์ สองก็เห็นหนึ่งเปลี่ยนไป คือหนึ่งไม่ดื่มเหล้าอีก..คนๆนั้นกลับมาเป็นคนบ้างานอีกครั้ง แต่การที่เป็นแบบนี้สองก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นไปในทางที่ดีขึ้นหรือเปล่า เพราะทุกวันกว่าหนึ่งจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน สองเคยเจอกหนึ่งครั้งหนึ่งก็เลยลองถามว่าทำไมกลับดึกขนาดนั้น แล้วก็ได้รับคำตอบที่ว่าหนึ่งรับงานเอาไว้มากเลยต้องรีบจัดการให้ทัน บางทีก็ต้องทำงานเลยเวลา แล้วก็ต้องหอบเอามาทำที่บ้านอีกด้วย
          และแล้ว..วันหนึ่ง..ขณะที่สองกำลังจะออกไปเรียน..โทรศัพท์ที่ห้องก็ดังขึ้น  สองเดินไปรับ
          "ฮัลโหล..สองเองครับ..ไม่ทราบพูดสายกับใครครับ"
          "เฮ้ยสอง..แค่ก..แค่ก..นี่พี่เองนะ..แค่ก..พี่อยู่ห้องน่ะ ..สองจะไปเรียนแล้วใช่ปะ..แค่ก..แค่ก..เดี๋ยวพี่ฝากซื้อยาพาราฯหน่อยนะ แค่ก แค่ก เดี๋ยวตอนเย็นค่อยเอามาให้พี่ก็ได้"
          "พี่หนึ่งหรือฮะ..พี่หนึ่งไม่สบายหรือฮะ"
          "อืม..แค่ก...แค่ก..รู้สึกว่าจะเป็นไข้น่ะ"
          "แล้วพี่หนึ่งจะไปทำงานรึเปล่าฮะ"
          "อือ..ไม่ล่ะ..พี่ลาเจ้านายแล้วล่ะ แค่ก แค่ก.."
          "งั้นพี่หนึ่งรอเดี๋ยวนะครับ..แป๊บเดียว..เดี๋ยวสองเอายาไปให้นะ"
          "อือ..อือ..พี่จะรอนะ" พูดได้แค่นั้นหนึ่งก็วางสายไป
          หลังจากนั้นสองก็รีบไปซื้อยาแล้วเอาไปให้หนึ่ง  สองอยู่ดูแลหนึ่งทั้งวัน แน่นอน..วันนั้นสองโดดเรียน ใช่แล้ว..เห็นหนึ่งเป็นแบบนี้เขาไม่มีสมาธิเรียนหรอก  สุดท้ายสองก็ดูแลหนึ่งที่ดูเหมือนว่าไข้จะสูงขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งไปหาหมอไม่ไหว สองก็ได้แต่คอยดูแลเช็ดตัวให้ แล้วก็ป้อนข้าวป้อนน้ำให้จนครบมื้อ ช่วงสองวันแรกที่หนึ่งอาการหนักสองก็โดดเรียน  สองเห็นหนึ่งกระสับกระส่ายบอกเขาว่าห้ามโดดเรียน สองก็ได้แต่บอกกลับไปว่าให้หนึ่งหายเร็วๆแล้วสองก็จะไม่ต้องโดดเรียน หลังจากนั้นหนึ่งก็อาการดีขึ้นเป็นลำดับ แต่บางครั้งก็ยังมีไข้อยู่บ้าง ตั้งแต่วันที่หนึ่งโทรมาให้สองซื้อยาให้ เขาก็ป่วยมาจะครบอาทิตย์แล้ว  เพราะไม่ได้ไปหาหมอจึงหายช้า  แต่ตอนนี้ก็ถือว่าดีขึ้นมาก เพียงแต่ต้องนอนพักผ่อนห้ามโหมงานหนัก
          และเย็นนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่สองต้องรีบกลับจากโรงเรียนเพื่อมาดูแลอาการของหนึ่ง สองจัดแจงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องตัวเอง  แล้วก็ออกไปห้องของหนึ่ง ทุกครั้งสองจะดูแลเรื่องยาและอาหารให้หนึ่งเสมอ วันนี้ก็เช่นกัน สองสั่งข้าวต้มร้อนๆจากร้านข้างล่างมาให้หนึ่ง หลังจากทานเข้าต้มแล้วสองก็ให้หนึ่งกินยา แล้วปล่อยให้หนึ่งนอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียง
ระหว่างนั้นสองจะดูแลจัดห้องของหนึ่งให้สะอาด เพราะสองคิดว่าถ้าจะให้หายเร็วๆสภาพแวดล้อมก็ต้องดีด้วย ดังนั้นสองจึงดูแลทำความสะอาดห้องให้หนึ่งเท่าที่จะทำได้ พอเสร็จจากภาระทุกอย่างสองก็กลับมาเฝ้าหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงอีกครั้ง
          สองค่อยๆเดินไปใกล้คนป่วยบนเตียง สองนั่งลงที่พื้นศรีษะของสองก็อยู่สูงกว่าคนที่นอนบนเตียงเพียงเล็กน้อย สองเห็นหนึ่งมีสีหน้าดีขึ้นแล้ว ที่แก้มสากเริ่มซับสีเลือดดูมีชีวิตชีวามากขึ้น สองเห็นคนๆนั้นหลับสนิท เขาค่อยๆเอื้อมมือออกไปสัมผัสแก้มสากๆนั้นอย่างแผ่วเบา แววตาของสองรื้นไปด้วยน้ำตา เขารักคนๆนี้เสียแล้ว เขาจะทำอย่างไรดี และแล้วสองก็ค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไป  บรรจงประทับริมฝีปากนุ่มลงบนคางสากของคนๆนั้นอย่างอ่อนโยนและแผ่วเบา  ดวงตากลมสวยรื้นไปด้วยน้ำตา
          "ขอโทษนะฮะ" สองเอ่ยเบาๆ รู้สึกละอายใจกับสิ่งที่ตัวเองกระทำ  
         สองค่อยๆลุกขึ้นหันหลัง ตอนนี้หน้าที่ของสองหมดลงแล้ว สองคงต้องกลับห้องแล้ว เขาควรปล่อยให้คนป่วยได้นอนเต็มอิ่มเสียที แต่แล้ว...ก่อนที่จะก้าวขาออกไป..ข้อมือข้างหนึ่งของสองก็ถูกคว้าเอาไว้ด้วยมือที่อบอุ่นของคนที่สองคิดว่าเขาหลับไปแล้ว สองเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ....



 
          
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(12:13am)..25/01/11...ตอน3..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 25-01-2011 00:34:16
อ้าว ฉึบๆ ฉับๆ 
555 สองสู้ๆ สองสู้ตาย

 :L2: ขยันจังมาดึกๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(12:13am)..25/01/11...ตอน3..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-01-2011 01:06:26
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ค้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(12:13am)..25/01/11...ตอน3..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-01-2011 01:23:30
อย่าทำอะไรนะน้องสองพี่เขาไม่ฉะบายอยู่นะ :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(12:13am)..25/01/11...ตอน3..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-01-2011 12:07:06
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มาต่อด่วนนะจ๊ะ
ลุ้นรักหนึ่งกับสองอยู่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(12:13am)..25/01/11...ตอน3..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 25-01-2011 13:27:43
ตอน4

          "ตื้ด....ตื้ด"
          สองเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ของห้องที่อยู่บนโต๊ะตัวเล็กตรงหัวเตียง
          "ฮัลโหล...สองพูดครับ"
          (ฮัลโหลๆ..สองเหรอ...เออนี่พี่เองนะ...สองได้ยินพี่ชัดมั้ย)
          "พี่หนึ่งหรือฮะ...ทำไมเสียงอู้อี้จัง..พี่หนึ่งอยู่ไหนฮะ"
          (พี่อยู่แถวชานเมืองน่ะ..พอดีมีงานด่วนจี๋เลย ต้องมาดู เนี่ย..หกโมงเย็นแล้วด้วยสิ ยังกลับไม่ได้เลย)
          "เหรอฮะ...แล้วพี่หนึ่งจะได้กลับเมื่อไหร่ฮะ"
          (อืม..เนี่ยพี่ว่าจะโทรบอกสองพอดี..สงสัยวันนี้พี่กลับดึกแน่เลยล่ะ...คงถึงเกือบๆเที่ยงคืน..สองรอพี่ไหวรึเปล่า..ถ้าไม่ไหวก็นอนได้เลยนะ..)
          "ไหวสิฮะ...พรุ่งนี้วันเสาร์..แต่โรงเรียนที่สองเรียนพิเศษอยู่เค้าปิดฮะ พอดีเค้าต้องซ่อมแอร์กระทันหัน"
          (เหรอ..แต่พี่ว่าสองนอนเถอะนะ...นอนดึกเดี๋ยวไม่สบาย)
          "อืม..ก็ได้ฮะ...งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะฮะ.."
          (โอเคๆได้เลยคร้าบบ..งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าๆพี่โทรเข้าห้องนะ..ดูว่าสองตื่นยัง)
          "ฮะ..งั้นแค่นี้นะ"
          (ครับๆ..ฝันดีนะครับ)
          "ฮะ..ขับรถกลับระวังด้วยนะฮะ มันมืดแล้ว"
          (โอเค..สบายมาก..เอ้อ..สองๆ)
          "มีอะไรฮะ.."
          (พี่รักสองนะ....)
          "............"
          (สองๆ..ได้ยินรึเปล่า พี่..ระ...)
          สองรีบพูดขึ้น
          "ฮะ..ได้ยินชัดแจ๋วเลย...พูดครั้งเดียวพอแล้ว..สองรู้แล้วนะ"
          (หึหึ โอเคๆ..งั้นแค่นี้นะ  พรุ่งนี้เจอกัน)
          "ฮะ..บายครับพี่หนึ่ง"
          แม้ปลายสายจะกดวางไปนานแล้ว สองยังคงกอดหูโทรศัพท์ไว้ที่อก ใบหน้าแดงระเรื่อยังคงยิ้มไม่ยอมหุบง่ายๆ สองไม่คิดเลยว่ามันจะมีวันนี้ได้  วันที่สองได้พูดแบบนี้ คำพูดหวานๆของคนๆนั้นที่คอยบอกรักสองทุกวัน สองไม่คิดเลยว่าจะมีโอกาสได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนคนพูดเองก็ไม่คิดที่จะหยุดพูด และคนฟังก็ไม่เบื่อที่จะฟัง เพราะเมื่อได้ยินคำว่า"รัก" ออกมาจากปากของคนๆนั้นทีไร สองก็รู้สึกถึงความเต็มอิ่มในหัวใจ มันสุขล้นจนไม่สามารถบรรยายให้ใครฟังได้
          นับจากวันนั้น..วันที่สองเข้าใจผิดคิดว่าหนึ่งหลับไปด้วยพิษไข้ ทำให้สองเผลอตัวทำสิ่งบ้าๆออกไป สองกล้าที่จะจูบหนึ่ง แม้มันเป็นจูบเพียงแผ่วเบา แต่มันก็ทำให้คนที่นอนหลับตาอยู่เฉยๆคิดได้ว่าสองรู้สึกกับเขาแบบไหน คนๆนั้นเอื้อมมือมาจับข้อมือของสองไว้
          "พี่หนึ่ง..." สองหันไปมองตาของหนึ่งซึ่งกำลังจ้องมองขึ้นมาที่สองเช่นกัน
          "สอง....สองคิดกับพี่แบบนี้มาตลอดเลยใช่ไหม"
          "พี่หนึ่ง..สะ..สองขอโทษ"
          "ทำไมสองไม่บอกพี่..."  หนึ่งเสียงเข้ม
          "สอง..ไม่กล้า..สองกลัวพี่หนึ่งโกรธ สองกลัวพี่หนึ่งเกลียด แล้วพี่หนึ่งก็มีแฟนแล้ว"
          "แต่..หลังจากนั้น..หลังจากที่พี่เลิกกับแจง..มันนานมากเลยนะ..ทำไมสองไม่บอกพี่"
          "สอง..สองกลัวพี่หนึ่งเกลียด  สองรู้สองเป็นเด็ก..สองไม่กล้า...แต่..แต่สองห้ามใจตัวเองไม่ได้...สองขอโทษ..พี่หนึ่งจะโกรธสองก็ได้..แต่อย่าเกลียดสองเลยนะ...นะ..สองขอโทษ..สองจะไม่ทำแบบนี้อีก..นะ..เรา..เราคบกันเป็นพี่น้องก็ได้..แต่พี่หนึ่งอย่าเกลียดสองเลยนะ..อึก " สองนั่งลงกับพื้นข้างเตียง อ้อนวอนหนึ่ง ดวงตาสวยเริ่มมีน้ำตาหลั่งริน แพขนตากระตุกไหว สองกำลังกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้
          หนึ่งมองสอง เขาเห็นเพียงหัวเล็กทุยๆของคนที่ทรุดนั่งลงบนพื้น สายตาของหนึ่งแฝงความเจ็บปวดบางอย่าง หนึ่งค่อยๆเอื้อมมือออกไปพยุงร่างคนตัวเล็กขึ้นมา  ตอนนี้หนึ่งลุกขึ้นนั่งแล้ว ขณะที่นั่งอยู่บนเตียงเขาเอาเท้าวางลงบนพื้นห้อง หนึ่งประคองสองให้ยืนบนพื้นที่อยู่ตรงกลางระหว่างขาทั้งสองข้างของเขา  เอื้อมมือไปจับแขนทั้งสองข้างของคนตัวเล็กด้วยความอ่อนโยนและแผ่วเบา
          "สอง..สองฟังพี่นะ...พี่ไม่มีวันเกลียดสอง..พี่ไม่มีวันเกลียดสองเป็นอันขาด"
          "พี่หนึ่งไม่เกลียดสองเหรอฮะ" คนตัวเล็กเคยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง คราบน้ำตายังปรากฏบนใบหน้า
          "พี่..พี่เกลียดสองไม่ได้..เพราะพี่มีแต่สอง สองคือคนเดียวที่อยู่เคียงข้างพี่  สองคือคนเดียวที่พี่คิดถึงตอนนี้ เรื่องแจง..พี่ตัดใจได้นานแล้ว...ตั้งแต่ที่พี่เลิกกินเหล้านั่นแหละ..แล้ว..เอ่อ..แล้วพี่ก็มารู้ตัวว่าพี่เกิดชอบเจ้าคนตัวเล็กๆ ที่มันนอนอยู่ห้องติดกันกับพี่...แต่..สอง..คือพี่รู้สึกว่าสองยังเด็กมาก มีอนาคตอีกไกล พี่ก็ไม่อยากรั้งสองไว้กับคนแก่อย่างพี่  และพี่เองก็คิดว่าสองก็คงไม่ชอบคนแก่ๆหรอก พี่ก็เลยไม่รู้จะทำยังไง เพราะอีกใจมันก็คอยแต่คิดถึงสอง อีกใจมันก็รู้สึกผิดชอบชั่วดี พี่ก็เลยเครียด ก็เลยเอาเวลาที่คิดฟุ้งซ่านไปลงกับเรื่องงาน สุดท้ายก็เป็นแบบนี้แหละ"
          "เดี๋ยวนะฮะ...พี่หนึ่งบอกว่าชอบสองเหรอฮะ..มันหมายความว่าไงฮะ" สองตาโต ตอนนี้น้ำตาแห้งเหือดไปแล้ว เจ้าคนตัวเล็กยืนตาปริบๆ ด้วยอยากจะเข้าใจความหมายของคนตัวสูงให้กระจ่าง
          "พี่จะบอกว่า..พี่ชอบสอง..ไม่ได้ชอบแบบพี่น้อง ไม่ได้ชอบแบบเพื่อน  ชอบมาก ชอบจนอาจจะเรียกว่ารักก็ได้ ชอบที่จะอยู่ใกล้ๆ ชอบที่จะเห็นหน้าสองทุกวัน ได้คุยกันทุกวัน ชอบที่จะได้กอดสอง แล้วก็ชอบที่จะได้..."
          ก่อนที่หนึ่งจะพูดอะไรมากไปกว่านี้ สองก็รีบขัดขึ้น
          "ฮะ..พอแล้วฮะ..เข้าใจแล้วฮะ"
          "จริงเหรอ..สองเข้าใจแล้วเหรอ"  หนึ่งถาม
          "ฮะ..เขาใจแล้ว.." สองแก้มแดงเรื่อ ก้มหน้างุดๆ ไม่กล้าสอบสายตาของคนตรงหน้าที่เริ่มหวานเยิ้ม
          "งั้นสรุปว่า...เราไม่ใช่แค่พี่น้องแล้วนะ..โอเคนะ"
          "เอ่อ..ครับ..เอ้อ..พี่หนึ่งรีบพักผ่อนนะฮะ  จะได้หายเร็วๆ  เดี๋ยวสองขอตัวกลับห้องก่อนนะ ง่วงแล้ว"
          "อืม..นี่ถ้าไม่ติดว่าพี่ไม่สบายนะ คงต้องรั้งตัวสองไว้นอนด้วยแล้วล่ะ  เอาไว้กอดแทนหมอนข้าง"
          "เอ่อ..ไม่เอาหรอก..เอ่อ..ผมไปแล้วนะ" พูดได้แค่นั้นสองก็ก้มหน้างุดๆซ่อนความเขินอาย เจ้าตัวรีบออกจากห้องของคนตัวสูงทันที หลังจากวันนั้น ทุกๆอย่างที่มืดครึ้มสับสนมานานก็เริ่มคลี่คลาย สองกับหนึ่งสนิทกันมากขึ้น และมันมากกว่าเมื่อก่อนเสียด้วย เพราะทุกวันนี้ สองกับหนึ่งตัวติดกันตลอด บางวันที่หนึ่งกลับมาถึงก่อนเที่ยงคืน เขาก็จะรีบอาบน้ำมาอยู่ที่ห้องของคนตัวเล็ก ช่วยสอนเลขแล้วก็ทำอะไรๆด้วยกัน ไม่ว่าจะเล่นเกมส์ หรือดูหนัง รับประทานข้าวด้วยกัน หรือบางครั้งหนึ่งก็ยังหอบเอางานมานั่งทำที่ห้องของสอง พอดึกๆถึงเวลานอน หนึ่งก็นอนที่ห้องของสอง นอนเตียงเดียวกัน หนึ่งให้เกียรติสอง นอกจากหอมแก้ม หรือกอดกัน  นอกนั้นหนึ่งก็ไม่เคยเกินเลย
          ........................................
          เช้าวันเสาร์....
          "ตื้ด..ตื้ด"
          สองเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์เสียงงัวเงีย
          "ฮัลโหล..อ่ะ..ฮะ..พี่หนึ่ง..ว่าไงฮะ"
          (สองเหรอ..ตื่นได้แล้ว...มารับพี่หน่อยนะ..เดี๋ยวรอหน้าประตู)
          "อ๋อ..โอเคฮะ"
          "ก๊อก..ก๊อก"  ไม่นานนักหลังจากที่สองวางสาย  เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
          "แกร็ก"  หลังจากสองเปิดประตูออกไปก็เห็นคนตัวสูงข้างห้องยืนยิ้มแฉ่ง  เขายังสวมชุดนอนแต่ว่าหน้าตาสดใส  สองเดาว่าคนๆนั้นคงล้างหน้าแปรงฟันแล้ว  สองเดินนำหนึ่งเข้ามาในห้อง ได้ยินเสียงคนๆนั้นปิดประตูและคล้องโซ่ให้เรียบร้อย
           สองล้มตัวลงบนที่นอนอย่างรวดเร็ว
          "อืมมม...ขอนอนต่ออีกหน่อยน้าา"  สองพูดงึมงำ
          "อ้าว..ตื่นได้แล้วสอง..ขี้เซาจริงนะเรา" หนึ่งนั่งลงบนเตียงใกล้ๆสอง พลางเอื้อมมือไปขยี้ผมของสองเบาๆ
          "อื้อ..ขอนอนนิดเดียวนะ นะ " สองบ่นอู้อี้
          หนึ่งเงียบสักพัก ตอนนี้เขาคิดวิธีปลุกคนขี้เซาได้แล้ว หนึ่งค่อยๆโน้มตัวลงไปใกล้ใบหูขาวๆของคนที่นอนเอาหน้าด้านข้างซบกับหมอนใบใหญ่ หนึ่งค่อยๆเป่าลมเบาๆเข้าไปที่ริมใบหูนั้น
          "คิก  คิก จั๊กจี้..อื้อ จั๊กจี้นะฮะ พี่หนึ่ง"  สองยังหลับตาเอาหน้าซบหมอน เจ้าคนตัวเล็กหัวเราะเบาๆ
          หนึ่งค่อยๆโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ เอาปลายจมูกไล้ไปตามแก้มขาวๆของคนที่นอนอยู่ ปลายคางที่เริ่มสากของเขาเองก็ลากไปกับผิวเนียนนั้นด้วย
          "คิก..คิก..พี่หนึ่งสองจั๊กจี้นะ"  พูดได้เท่านั้นสองก็ทนไม่ไหว ทำให้ต้องหันหน้าไปทางหนึ่งซึ่งตอนนี้โน้มตัวเข้ามาใกล้มากจนสุดท้าย ปากของสองก็ชนกับปากของหนึ่ง สองตกใจเบิกตาสวยขึ้น แต่ไม่ทันที่จะพูดอะไร สองก็รู้สึกถึงแรงบดของริมฝีปากด้านบน
          "อื้อ..."  สองครางประท้วง แต่ดูเหมือนว่าริมฝีปากนั้นยังไม่ยอมผละออกไปง่ายๆ และแล้วริมฝีปากของสองก็ถูกดุนดันด้วยอะไรบางอย่างที่นุ่มๆสากและชื้นแฉะ สองเบิกตาตกใจจนเผลอเผยอปากออก จึงทำให้สิ่งนั้นได้โอกาสรุกรานเข้าไปในโพลงปากของสอง เพียงเท่านั้น ร่างทั้งร่างของสองก็นอนระทดระทวยอยู่ภายใต้ร่างของใครอีกคนที่นั่งเอามือท้าวพื้นเตียงคร่อมร่างของสองเอาไว้
          ลิ้นของหนึ่งซอกซอนสำรวจไปตามไรฟันด้านในของสอง หยอกเย้าที่ผนังด้านบน แต่ก็ไม่วายที่จะต้องบดเบียดกับลิ้นเล็กๆนุ่มๆของคนที่ถูกรุกราน ลิ้นเล็กนั้นพยายามหดหนีลิ้นเรียวของหนึ่ง แต่มีหรือที่หนึ่งจะยอม เขาตามติดทาบทับลิ้นนั้นไว้ ก่อนชอนไชกระหวัดขึ้นชวนลิ้นเล็กนั้นเต้นรำด้วยกัน สองลิ้นหยอกล้อไปมา  หนึ่งค่อยๆคลายริมฝีปากขณะที่ลิ้นยังอยู่ในนั้นเพื่อให้อีกคนได้มีโอกาสหายใจ แต่เพียงแค่ช่วงที่แยกจากจนถึงปลายลิ้นแค่สัมผัสกัน หนึ่งก็เปลี่ยนมุมองศารุกรานเข้าไปใหม่ รสจูบยังคงดูดดื่มยาวนาน จนเมื่อหนึ่งรู้สึกถึงแรงดันของมือเล็กๆของคนที่นอนอยู่ดันหน้าอกเขาเอาไว้มากขึ้น หนึ่งจึงยอมถอนริมฝีปากออกมา
         สองรีบลุกขึ้นนั่งตัวตรง หอบหายใจ ตอนนี้เขาหายงัวเงียแล้ว ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาเอ่อครอด้วยน้ำนัยน์ตา  คิ้วขมวดกันยุ่ง สองค้อนให้คนตรงหน้าก่อนพูดขึ้นออกมาเบาๆ
         "ปลุกกันดีๆก็ได้นี่นา...ตื่นแล้วๆ ไม่นอนแล้ว" สองพูดสะบัดแบบงอนๆ
         "ว้า..ตื่นแล้วหรือครับ น่าจะนอนต่อนะ พี่ชักอยากนอนด้วยแล้ว"
         "บ้าไม่เอา..สองตื่นแล้ว  หลีกเลย  สองจะไปแปรงฟันล้างหน้า"
         "แปรงฟัน..แปรงทำไมครับ  พี่ทำความสะอาดให้หมดแล้ว  อืมแต่ว่าไปนะ กลิ่นปากของสองยังหอมอยู่เลย สองให้ยาสีฟันยี่ห้ออะไร บอกพี่หน่อยสิ" หนึ่งพูดแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆสอง
         สองย่นคอหนี  รีบเอามือปิดปากไว้
         "บ้า...พูดอะไรน่ะ..อื้อ..ไม่คุยด้วยแล้ว..หลีกเลย..สองจะไปเข้าห้องน้ำแล้ว"
         "555โอเคๆ หลีกให้ก็ได้" เท่านั้นแหละคนตัวเล็กก็รีบวิ่งจี๋เข้าห้องน้ำไปทันที ไม่รู้ว่าด้วยเพราะความอายที่โดนปลุกด้วยวิธีแบบนั้น หรืออายเพราะโดนจูบทั้งๆที่ยังไม่ได้แปรงฟันกันแน่





จบตอน
          
        
        
          

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(1:22pm)..25/01/11...ตอน4..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-01-2011 13:45:11
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้ารักกันแล้ว เค้ารักกันแล้ว อิจฉามว๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(1:22pm)..25/01/11...ตอน4..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 25-01-2011 13:59:31
ในที่สุดสองก็สมหวังซักที
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(1:22pm)..25/01/11...ตอน4..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-01-2011 19:45:27
ได้เวลาหนึ่งกะน้องสองฉลองกันได้แล้ว :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(1:22pm)..25/01/11...ตอน4..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 25-01-2011 21:47:26
ตอน5

          แล้ววันนั้นทั้งวันสองกับหนึ่งก็หมกตัวกันอยู่แต่ให้ห้องของสอง จะมีบ้างก็ตอนที่ลงมากินข้าวที่ร้านด้วยกันข้างล่าง ตอนบ่ายๆสองก็นั่งทำการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จ โดยมีหนึ่งเป็นคุณครูคอยช่วยแนะนำให้ โดยเฉพาะวิชาเลข หลังจากนั้นหนึ่งก็กลับมาเป็นคนที่นั่งปั่นงานของตัวเองบ้าง  ระหว่างที่สองขอพักสายตาหลังจากอ่านหนังสือเรียนติดต่อกันหลายชั่วโมง หนึ่งนั่งมองร่างเล็กที่นอนซบหมอนใบใหญ่อยู่บนเตียง เขาเห็นคนตัวเล็กหมดแรงก็ต้องส่ายหน้ายิ้มๆ หนึ่งไม่คิดเลยว่าสุดท้ายคนที่เขาคบด้วยจะกลายเป็นเด็กผู้ชายคนนี้ เด็กผู้ชายที่ชนะใจเขาด้วยความดี สองมีความดีและบริสุทธิ์อยู่ในตัวซึ่งหนึ่งไม่เคยพบเห็นจากใครมาก่อน หรือไม่เขาก็อาจจะพบเห็นที่สองเป็นคนแรกก็ได้
          ความน่ารักของสองทำให้จิตใจของหนึ่งหวั่นไหว ใช่..หนึ่งเพิ่งจะรู้ตัวไม่นานมานี้ ว่าเขาเองก็พอใจในตัวสอง พอใจตั้งแต่ก่อนที่จะเลิกกับแจงเสียอีก เพียงแต่ตอนนั้นเขายังไม่รู้ตัว และคงคิดว่าตัวเองเอ็นดูสองใบแบบพี่กับน้องมาตลอด  แต่วันนี้เขารู้แล้ว ว่าคนตัวเล็กคนนี้ทุ่มเทหัวใจให้หนึ่งมากแค่ไหน เขามองหนึ่งเพียงคนเดียว แม้จะัคบกันได้ไม่ถึงเดือน แต่หนึ่งก็รู้ว่าสองเป็นเด็กดี สองยังคงดีสม่ำเสมอไม่เปลี่ยนแปลง ตอนที่ยังไม่ได้คบกันสองเป็นแบบไหนก็ยังคงเป็นแบบนั้น คือ ว่าง่าย คุยเก่ง และไม่เคยเอาเปรียบหนึ่ง หนำซ้ำยังติดที่จะเกรงใจหนึ่งอีกต่างหาก แต่หนึ่งก็สบายใจ เพราะทุกวันนี้ สองไม่เก็บความรู้สึกเหมือนแต่ก่อนแล้ว เวลามีอะไรไม่สบายใจ สองก็จะนึกถึงเขาเป็นคนแรกเสมอ ใช่..เขาไม่รังเกียจหรอก ที่จะเป็นที่ปรึกษาให้กับคนตัวเล็กน่ะ เพราะว่าการที่สองนึกถึงเขาเป็นคนแรกเวลาที่ต้องการใครสักคนให้คำปรึกษาน่ะ มันก็หมายความว่า เขาสำคัญต่อสองมากด้วยเหมือนกัน หนึ่งมองคนตัวเล็กบนเตียงที่นอนหลับปุ๋ย แ้ล้วก็ระบายยิ้มออกมา ก่อนก้มลงทำงานของตัวเองต่อ
          หลังจากนั้นกว่าสองจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็มืดเสียแล้ว มันเป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ สองเห็นหนึ่งกำลังนั่งจ้องหน้าสองตอนที่กำลังหลับ ก็รู้สึกอายขึ้นมา ไม่แน่ใจว่าตัวเองแอบทำน้ำลายไหลหรือเปล่า เลยแก้เก้อโดยการชวนหนึ่งลงไปกินข้าวเย็นข้างล่าง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ทั้งสองก็กินเสร็จเรียบร้อย พอกลับขึ้นมาบนห้องของสองก็ไม่มีอะไรทำ หนึ่งเลยชวนสองให้เอาแผ่นหนังมาเปิดดู
         "อืม......คือ..พี่หนึ่งจะดูได้หรือฮะ" สองทำหน้าลำบากใจ
         "ทำไมล่ะ" หนึ่งทำหน้าสงสัย
         "คือ...สองมีแต่หนังเกย์น่ะ" สองพูดแล้วก็อายเสียเอง
         "เฮ้ย..ไม่เป็นไร พี่ก็เคยดูนะ แต่ว่าไม่บ่อยหรอก เอาดิ ดูเลยๆมันก็หนังเหมือนกัน พี่ดูได้อยู่แล้ว"
         "เหรอฮะ...อืม..เอางั้นก็ได้นะ"
         แล้วสองก็ตัดสินใจเดินไปที่ตู้เก็บซีดี ก่อนหยิบแผ่นหนังเรื่องหนึ่งออกมา แล้วใส่เข้าไปที่เครื่องเล่น กดปุ่มสวิทช์ออน  ระหว่างที่สองกำลังรอแผ่นหนังโหลดก็คลานต้วมเตี้ยมกลับมาที่หนึ่ง หนึ่งให้สองนั่งพิงหน้าอกของเขาเอาไว้  แล้วทั้งสองก็เริ่มดูหนังที่ค่อยๆฉายเรื่องราวออกมาทางจอทีวี
         สองและหนึ่งดูหนังเรื่องนี้ไปนานเท่าไหร่ก็ไม่มีีใครแน่ใจนัก เพราะทั้งสองกำลังจดจ่ออยู่กับเรื่องราวของหนัง แต่แล้วสิ่งที่ทำให้สองต้องกระอักกระอ่วนใจก็เกิดขึ้น  ก็หนังที่เปิดมันกำลังถึงฉากเลิฟซีนของพระเอกกับนายเอกพอดี แถมฉากนั้นยังเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ มัก็ไม่ถึงกับโป๊อะไรขนาดนั้นหรอก เพียงแต่หนังทำภาพซะสวยงามจนคนดูสามารถจินตนาการไปได้ไกลลิบ แน่ล่ะ...แล้วหนึ่งกับสองจะไม่รู้สึกอะไรได้ยังไง สองรู้ถึงความร้อนรุ่มของตัวเองแถวๆท้องน้อย  ตอนนี้น้องชายของสองกำลังตื่นขึ้นแล้ว สองนั่งตัวแข็งทื่ออยูในอ้อมกอดของคนข้างหลัง ตายล่ะ...เขาจะทำยังไงดี แต่ยังไม่ทันที่จะคิดอะไร สองก็รับรู้ถึงอะไรบางอย่างที่ดุนดันอยู่ที่บั้นท้ายด้านหลัง สองรู้แล้ว..ว่ามันคืออะไร
         น้องชายของหนึ่งเองก็กำลังขยายออก สองรู้สึกถึงขนาดที่ใหญ่ของมัน และอาการเกร็งของคนด้านหลัง แผ่นหลังของสองที่แนบอยู่สัมผัสได้ถึงความแรงของการหายใจ มันเป็นการหายใจที่เข้าออกช้าๆ แต่มันหนักหน่วง เหมือนคนข้างหลังพยายามสะกดอะไรบางอย่างไว้  สองก้มหน้าไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี  แล้วจู่ๆก็รู้สึกถึงแก้มสากๆของใครคนั้นเฉียดเข้ามาข้างๆแก้มของสอง
         "สอง...ใ้ห้พี่ช่วยนะ"
         "เอ่อ..ไม่เป็นไรฮะ..สอง..เอ่อ..สองทำเองได้"
         "สอง...อย่าอายนะ..พี่อยากทำให้"
         "มะ..มะ..ไม่เอาฮะ..เดี๋ยวสองทำเอง..ขอสองไปห้องน้ำนะ"  สองรีบลุกขึ้น กำลังจะไปจัดการกับตัวเองในห้องน้ำ แต่ก็ไม่ทันที่จะก้าวออกไป เพราะหนึ่งคว้าแขนเอาไว้เสียก่อน สองเสียหลักล้มลงบนตักของหนึ่ง หันหน้าชนกัน หนึ่งกอดสองเอาไว้
         "สอง..ให้พี่ช่วยนะ..ถ้าสองไม่ให้พี่ช่วย..แล้วสองจะมีพี่ไว้ทำไม"
         "เอ่อ........." สองมองคนตัวโตกว่ากำลังส่งสายตาอ้อนวอน
         "นะ..สอง..นะ..ให้พี่ทำให้นะครับ"
         "อื้อ..." สองแก้มแดง ตอบแบบเอียงอาย
         "ขอบคุณครับ..." หนึ่งบอกได้แค่นั้นก็ค่อยๆประคองตัวของสองให้นอนลง  เอาตัวเองทาบทับไว้ หนึ่งค่อยจุึมพิตเบาๆตามใบหน้าเล็กๆของสอง ใช้จมูกโด่งไล้เรื่อยลงมาที่คอขาวๆ ก่อนฝังรอยรักไว้ที่ซอกขาวๆแถวนั้น ทำเอาสองต้องร้องครางออกมาด้วยความวาบหวาม  หนึ่งจูบหนึกลงมาตามเสือยืดเนื้อบางของสอง ก่อนวนเวียนเอาคางสากถูเอาที่ยอดอกเล็ก  เพียงแค่ก้มลงไปขบเบาๆผ่านเนื้อผ้าที่ยอดอก  ยอดอกเม็ดเล็กนั้นก็ดุนดันเสื้อยืดออกมาจนเป็นตุ่มให้เห็น หนึ่งทำแบบนี้สลับไปมาทั้งสองข้างจนสองทนไม่ไหว
        "อื้อ..อ๊ะ...อ๊ะ"  สองแอ่นอกขึ้นอย่างลืมตัวเมื่อรู้สึกว่าหนึ่งดุนดันเข้ามาด้วยฟันและลิ้น
        หนึ่งไล้ปรายคางลงมาตามลำตัวของสองที่กำลังสั่นสะท้าน แล้วค่อยๆเลิกชายเสื้อของคนตัวเล็กขึ้น หนึ่งเอาลิ้นไล้วนแถวสะดือ ปลายลิ้นแหลมแตะเบาๆลงไปในร่องสะดือของสอง  
        "อื้อ....อ๊ะ" สองสะดุ้งตัวขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการหยอกเย้าของหนึ่ง  และช่วงที่สะดุ้งตัวขึ้นนั้น สองก็รู้สึกถึงอากาศเย็นที่สัมผัสกับน้องชายของตัวเอง สองไม่รู้ว่าหนึ่งรูดกางเกงของสองออกไปตอนไหน  สองรู้แต่เพียงว่าตอนนี้น้องชายของสองถูกครอบครองไว้ในปากของหนึ่งแล้ว
        "อือ...อาา..." สองครางออกมา เมื่อหนึ่งเริ่มดูดที่ปลายน้องชายของสอง
        หนึ่งเอามือช้อนสะโพกบางของสองไว้ ส่วนอีกมือกอบกุมส่วนล่างที่อยู่ถัดมาจากน้องชายของสอง ปลายนิ้วค่อยๆกดเบาๆ ขณะืัีีที่ปากยังครอบของน้องชายของสองไว้ ทั้งดูดและขยับขึ้นลง ทีแรกหนึ่งค่อยๆทำด้วยจังหวะที่เชื่องช้า สร้างความทรมานแก่สองที่นอนบิดไปมา ใบหน้าเชิดแหงนหลับตาพริ้มด้วยอารมณ์ที่ต้องการถึงขีดสุด
        "อา..ซี้ดด..อาาาา" เสียงครางของสองทำให้หนึ่งรู้สึกวาบหวามไปด้วย อะไรๆที่อยู่ในปากของเขามันก็ขยับตามแรงขยับสะโพกของคนตัวเล็ก แค่นั้นก็ทำเอาหนึ่งหน้ามืด เขาปวดที่กลางลำตัวแทบจะระเบิดออกมาซะแล้ว หนึ่งค่อยๆเร่งจังหวะเร็วขึ้น จนสองครวญครางออกมาอย่างทรมาน สะโพกเล็กก็บิดไปมาพร้อมกับน้องชายของสองที่ขยับตาม หนึ่งถอนปากออกมากอีกครั้ง เขาไล้ลิ้นลงไปที่ส่วนด้านล่างของสิ่งที่เขาครอบครองเมื่อครู่ แล้วเอาลิ้มแหลมเลียตามซอกหลืบของสิ่งนั้น ดุนดันให้มันขยับด้วยลิ้นของเขา จากนั้นค่อยๆอมเบาๆเอาไว้สักพัก สิ่งนั้นทำเอาสองครางรำส่ำระสาย สองบิดสะโพกไปมาทำให้ส่วนนั้นในปากของหนึ่งขยับไปด้วย หนึ่งอมมันไว้หลวมๆเพียงเพื่อให้มันเสียดสีกับฝันของเขาเบาๆ
       "อ๊ะ..พี่..หนึ่ง..อ๊ะ..ฮะ..สะ..สอง..ไม่..ไหวแล้ว.." สองหอบหายใจกัดฟันบอกออกไป หนึ่งคายส่วนนั้นออก แล้วกลับมาครอบครองน้องชายของสองอีกครั้ง ก่อนที่จะเร่งจังหวะทั้งดูดทั้งเม้ม แล้วขยับขึ้นลงด้วยความแรงและรวดเร็ว จนสองทนไม่ไหวอีกต่อไป
       "อ๊ะ...ฮะ..อ๊าาาาาา" สองเชิดหน้ากรีดร้องออกมาพรอมกับการหลั่งไหลความสุึขทั้งหมดเข้าไปในปากของหนึ่ง ซึ่งหนึ่งเองก็เต็มใจกลืนกินมันไว้จนหมด
       "อาา...." สองหอบหายใจนอนหมดแรงอยู่บนพื้น หนึ่งค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปพร้อมจุมพิตเบาๆที่หน้าผากและแก้มทั้งสองข้าง เขายิ้มให้คนตัวเล็ก พร้อมกล่าวเบาๆว่า
       "สองของพี่หนึ่ง...น่ารักจังเลย  เอ่อ...แต่พี่ขอตัวแป็บนะครับ  เดี๋ยวพี่มานะ"  หนึ่งกำลังจะลุกขึ้น เขคงต้องไปจัดการกับตัวเองในห้องน้ำ
       "เดี๋ยว...เดี๋ยวครับ พี่หนึ่งจะไปไหน"  สองหน้าแดง รีบถามหนึ่งอย่างร้อนรน
       "พี่ขอไปจัดการอะไรในห้องน้ำก่อนนะ เดี๋ยวพี่มา"
       "จัดการอะไรครับ"  สองถามด้วยความใสซื่อ  ใบหน้ายังคมเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ค้างอยู่จากความสุขสมเมื่อครู่
       "จัดการกับเจ้านี่น่ะ"  หนึ่งชี้ให้สองดูบางสิ่ง
       สองก้มดูสิ่งนั้นภายใต้กางเกงผ้าของหนึ่ง มันบวมโป่งพองขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด  สองเบิกตาโพลงมองสิ่งนั้น ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ  ตอนนี้สองนั่งประชันหน้ากับหนึ่ง ส่วนล่างมีเพียงชายเลื้อยืดที่ตัวเองเอามือดึงปิดเอาไว้  และหลังจากเห็นบางอย่างของหนึ่งที่ดูว่าจะใหญ่กว่าของสอง  คนตัวเล็กก็รู้สึกวาบหวามขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาครอหน่วยด้วยความร้อนซาบซ่านบนใบหน้า สีแดงเรื่อๆเริ่มลามเลียไปถึงใบหู
       "พี่..พี่.หนึ่งให้สองทำให้บ้างนะ"
        หลังจากได้ยินประโยคของคนที่พูดจาตะกุกตะกัก หนึ่งก็ยิ้มออกมาด้วยความยินดี แต่ยังหรอก หนึ่งไม่อยากให้สองต้องทำแบบนั้น เขาคิดว่ามันยังดร็วเกินไป หนึ่งอยากให้สองค่อยเป็นค่อยไป เขารู้ว่าเจ้าแฟนตัวเล็กของเขาคนนี้มันยังไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน แน่ล่ะ  เขาเองก็ไม่เคยทำเหมือนกัน เพิ่งทำกับสองเป็นคนแรก  ก็เขาไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน แต่หนึ่งเองก็ไม่ได้ใสซื่อขนาดไม่รู้ว่าต้องควรทำอย่างไร เขาผ่านโลกมาพอสมควร พอกับที่จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร เขาอยากให้สองอยากทำเพราะความต้องการของสองจริงๆ ไม่ใช่เพียงเพราะเกรงใจที่เขาทำให้แล้วต้องทำกลับเพื่อเป็นการตอบแทน
        "สอง...พี่อยากให้สองทำจริงๆนะ..แต่มันเร็วเกินไป..มันต้องค่อยเป็นค่อยไปนะ..สอง"
        สองค่อยๆเงยหน้ามองหนึ่ง สายตาเว้าวอน
        "งั้นพี่หนึ่งก็สอนให้สองทำสิฮะ...นะ..สองก็อยากทำกับพี่หนึ่งนะ"
        ท่าทางแบบนั้นทำให้หนึ่งเริ่มใจอ่อน หนึ่งใจอ่อนต่อท่าทางน่ารักๆเชื่องๆของสองเสียแล้ว
        "ได้..แต่เอาแบบนี้ก่อนนะ"
        หนึ่งปลดซิบกางเกงผ้าของตัวเอง ทันทีปลายซิบแยกออก น้องชายของหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาอวดโฉมให้เห็น สองมองน้องชายของหนึ่งตาโต สิ่งนั้นใหญ่กว่าของสองและกำลังชื้นที่ปลาย  หนึ่งค่อยๆอุ้มสองขึ้นเขาเอาสองซ้อนไว้บนตักหันหน้าเข้าหากัน สองตัวสั่นไปหมด และทันทีที่หนึ่งวางตัวของสองลงบนหน้าขา น้องชายของสองและของหนึ่งก็สัมผัสกัน หนึ่งจับมือสั่นเท่าของสองให้กอบกุมน้องชายของตัวเองและของสองเอาไว้เพื่อให้มันติดกัน เพียงแค่นั้นสองก็ถึงกับสะดุ้ง
        "อ๊ะ...."  เสียงร้องเบาๆตามด้วยอาการหอบหายใจด้วยความตื่นเต้นที่เริ่มรุนแรงขึ้นของคนตัวเล็ก ทำให้หนึ่งรู้สึกวูบวาบจนทนไม่ไหว
        "สองจับไว้นะ" หนึ่งเอามือกอบกุมมือของสองที่กุมของเขาและของสองเอาไว้  เขาเอื้อมมืออีกข้างออกไปเพื่อโน้มใบหน้าขาวสะอาดออกสีแดงเปล่งของสองเข้ามาใกล้ แล้วเริ่มบทจูบอันเร่าร้อน หนึ่งและสองขยับตัวเข้าหากันมากขึ้น ทุกครั้งที่ขยับเข้าหา สะโพกของทั้งสองก็เคลื่อนไหวสอดประสานกันอย่างช้าๆ  มันสร้างความวาบหวามเสียวซ่านให้กับหนึ่งและสอง เสียงหายใจแรงๆของหนึ่งและดวงตาที่ฉายแววแห่งอารมณ์รัก ทำให้สองรู้สึกขนลุกจนเสียวไปถึงส่วนนั้น ส่วนที่กำลังสำผัสของหนึ่งอยู่เช่นกัน  สองรู้สึกได้ถึงรูปร่างของหนึ่งที่ใหญ่โตและกำลังแข็งขั้น  สุดท้ายการขยับเข้าหากัน ก็กลายเป็นการบดเบียดกอดกันกลม
         สองโอบรอบแผ่นหลังหนาๆของหนึ่งไว้ หนึ่งโอบรอบเอวของสอง จงใจออกแรงดันสะโพกของสองเข้าหาเขามากขึ้น เพื่อให้ส่วนนั้นถูกหน้าท้องของทั้งสองคนบังคับไว้  หนึ่งโน้มหน้าเข้าไปจูบสองอย่างดูดดื่ม ลิ้นพันเกี่ยวกันอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ทุกครั้งที่จูบกัน ร่างของทั้งสองก็แนบชิดกัน หน้าอกสัมผัสกัน สองรับรู้ถึงมัดกล้ามที่แผงหน้าอกและหน้าท้องของหนึ่ง หนึ่งรับรู้ถึงอกบางและยอดอกชูชันที่เสียดสีกับผิวของเขา หน้าท้องแบนเรียบสีขาวที่แนบชิดกับหน้าท้องของเขาโดยมีน้องชายของเขาและของสองคั่นกลาง
         สองคนขยับเคลื่อนไหวสะโพกแรงขึ้นและเร็วขั้น สองแขนต่างโอบกันและกันแน่นขึ้น เนื้อตัวเสียดสีไปมา สองลิ้นเกี่ยวพันรุกไล่ สะโพกที่ขยับสั่นไหวเริ่มรุนแรงมากขึ้น สิ่งที่อยู่คั่นกลางระหว่างคนทั้งสองก็บดเบียดไปมา จนรุนแรงขึ้นและเร็วขึ้น สุดท้ายสองก็ต้องเชิดหน้าส่งเสียงครวญคราง โดยมีหนึ่งที่ซบใบหน้าลงที่อกของสอง เขาคำรามในคอ ก่อนปลดปล่อยออกมาพร้อมกับร่างเล็กในอ้อมแขนที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมาอีกครั้ง  น้ำแห่งความสุขก็ล้นทะลักเลอะเปรอะเปื้อนที่ท้องและหน้าอกของสองกับหนึ่ง...
         "อาาา..." สองหอบหายใจด้วยเพราะปลดปล่อยเป็นครั้งที่สองแล้ว
         "สอง..สอง...สองน่ารักจังเลย.." หนึ่งยังคงระดมจูบไปทั่ว พร่ำเพ้อบอกรักคนในอ้อมกอด
         "อื้อ...พี่หนึ่ง..สอง...สองขาสั่นไปหมดแล้ว" สองบอกกับหนึ่ง ตกใจที่ตัวเองรู้สึกถึงความสุขจนชาไปทั้งตัว
         "สอง..สองเหนื่อยแล้ว..เดี๋ยวเราไปอาบน้ำแล้วค่อยมานอนกันนะ ตกลงมั้ยครับ"
         "อื้อ..." สองรับคำสั้นๆ เอามือโอบรอบคอคนรักเอาไว้
         "งั้นเดี๋ยวพี่อาบให้นะ" เพียงแค่สิ้นเสียงทุ้มๆนั่น สองก็รู้สึกว่ากำลังถูกคนๆนั้นอุ้มขึ้น แล้วพาเดินเข้าห้องน้ำ หนึ่งกำลังอุ้มสองไปที่ห้องน้ำ เขาอุ้มร่างเล็กอย่างทะนุถนอม เขาช้อนร่างนั้นไว้ แล้วพาเดินเข้าไป  วันนี้หนึ่งจะเป็นคนอาบน้ำให้สองเอง คนตัวเล็กก็ว่าง่ายเหมือนเคย คนตัวเล็กที่ไม่เคยขัดใจเขา  คนตัวเล็กน่ารักที่ตอนนี้เขากำลังอดใจอย่างมากกลัวว่าตัวเองจะทนไม่ไหวจนต้องเข้าไปขย้ำ  หนึ่งค่อยๆวางสองลงในอ่างที่เขาได้เปิดน้ำเอาไว้ แล้วจัดการช่วยทำความสะอาดให้  และกว่าที่หนึ่งกับสองจะอาบน้ำเรียบร้อยจนแต่งตัวเสร็จกลับมานอนกกกันบนเตียงอีกครั้งมันก็ปาเข้าไปเกือบจะห้าทุ่มแล้ว สุดท้ายสองก็ค่อยๆหลับลงในอ้อมกอดอันอบอุ่นของหนึ่งด้วยความอ่อนเพลีย แต่สองก็มีความสุข เพราะตอนนี้สองไม่ได้นอนอยู่คนเดียวอีกแล้ว สองนอนอยู่กับใครอีกคน ใครอีกคนที่สองอยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย คนตัวสูงกอดคนตัวเล็กเอาไว้แล้วหลับลงพร้อมๆกัน







จบตอนแล้วนะ :L2:
        
      
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(9:42pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..85% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 25-01-2011 22:13:51
ต้องช่วยสิเนอะ
สองคงไม่ใจดำใช่ม๊า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(9:42pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..85% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-01-2011 22:20:29
 :haun4: :haun4:เอามั่งๆ :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(9:42pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..85% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-01-2011 22:40:35
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีๆนะจ๊ะพี่หนึ่งน้องสอง
ไรท์เตอร์ก็ช่างตัดฉับ
ค้างได้อีกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(9:42pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..85% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 25-01-2011 23:14:29
กริ๊ดดดดด

ยังไงต่ออ่่าาา  >//<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 26-01-2011 00:14:04
แล้วไงต่อ หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 26-01-2011 00:32:24
ชอบๆจิงงเรยยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 26-01-2011 00:36:16
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้ น่ารักจังเลยค่าาาา =//////////=
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 26-01-2011 00:36:40
กร๊๊ดดดดดดดดดดดดดดด  :z1: :pighaun: เอาอีกพี่วันเอาอีก  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-01-2011 00:49:14
ตอนที่เหลือ 15% กะว่าจะรอพรุ่งนี้
แต่อดใจไม่ไหว เข้ามาดูอีกที อัพแล้วนี่หว่า :haun4:
ขอบคุณไรท์เตอร์นะ
ชอบคู่รักคู่นี้จัง ถึงจะจั่วหัวว่าเป็นเรื่องสั้น มากกว่า 20 ตอนก็ไม่เป็นไรนะ
เราชอบบบบบบบ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 26-01-2011 00:55:11
รักกันแล้ว เข้าใจกันแล้ว พัฒนาไปอีกขั้นแล้ว

พี่หนึ่งตกหลุมรักน้องสองโดยไม่รู้ตัวตั้งนาน สมน้ำหน้ายายแจง ดีแล้วที่ทิ้งพี่หนึ่งไป
พี่หนึ่งกับน้องสองก็เลยมีความสุข สมหวัง

แต่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำไมกลัวๆยายพี่แจงจะรีเทิร์นมาทำให้ชีวิตวุ่นวายจัง มันจะไม่เป็นเช่นนั้นใช่มั้ย

ขอบคุณน้องวัน และก็บวกอีก 1 แต้มจ้า  :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-01-2011 04:34:13
เค้าทำอะไรกันอ่ะ

กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 26-01-2011 06:50:19
 :sad4:
1 2 น่ารักจัง

คนหรืออะไรเนี่ย
สุดยอด  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_Love ที่ 26-01-2011 07:29:10
เรื่องของหนึ่งกับสองน่ารักจังเลย :o8:
อยากเห็นอิมเมทบ้าง ไรเตอร์จะมีไหมน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 26-01-2011 10:52:27
อ่าวเอ๊ะ....หลงทางไปที่อื่นเสียหลายวัน กลับมาอีกที น้ำตาลขึ้น เลือดท่วมจอซะแล้วพี่หนึ่งน้องสอง

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..(11:09pm)..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 26-01-2011 11:15:11
มีคนเรียกร้องอิมเมจ ก็จัดให้ค่าาา หาซะเลือดตาแทบกระเด็น พยายามเอาให้ใกล้เคียงสุดแล้วล่ะนะ



พี่หนึ่ง(ใครเคยดูฟงอวิ๋นบ้าง คนนี้หล่อกระชากใจcancanมากกล้ามเป็นมัดเลยง่าาาา :haun4: :haun4:)
(http://upic.me/i/jq/aaron_kwok_1.jpg)

น้องสอง
(http://upic.me/i/al/photo_02.jpg)อิอิน่ารักซะ
 :L2:



หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-01-2011 13:09:35
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยพี่หนึ่ง หล่อโฮกๆกล้ามเร้าใจมากๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-01-2011 13:31:37
อิมเมจพี่หนึ่ง เรารู้จักอ่ะ
แต่น้องสองนั้นใครคะ ช่วยบอกที
เชยไปไหมตรูที่ไม่รู้จัก :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 26-01-2011 16:13:19
 :-[ สองน่ารัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 26-01-2011 17:15:24
 :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 26-01-2011 18:49:55
ตอบค่า  คุณหนึ่งก็คือ อาเฮียกัวฟู่เฉิง หรือว่า แอรอน กัว (Aaron Kwok)
    ส่วน น้องสองคือ โชโกะ ซากาโมโตะ (Shougo Sakamoto)

หวังว่าคงจิ้นกันถูกใจนะคะ อิ อิ
 :L2:
เดี๋ยวพักเรื่องนี้ซักแป๊บ..ขอหลั่นล้าไปหาน้องฟูก่อนนะ :oni1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 26-01-2011 18:55:44
ชอบเรื่องนี้มากเลยอ่ะ


 :call: รออ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 27-01-2011 00:02:19
รู้จักอิมเมจพี่หนึ่ง แต่ไม่รู้จักอิมเมจพี่สอง แม้จะทราบชื่อแล้วก็ตาม  :laugh:
เขาแสดงเรื่องอะไรเนี่ย

รอลุ้นเรื่องนี้ต่อด้วยนะจ๊ะ
 :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 27-01-2011 11:20:21
กรี๊ดดดด เลือดจะไหล T///T สองน่ารักอ่า พี่หนึ่งก็... กรี๊ดดดด (อินี่บ้าไปแล้ว) รอๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: pita ที่ 27-01-2011 17:29:34
มีคนเรียกร้องอิมเมจ ก็จัดให้ค่าาา หาซะเลือดตาแทบกระเด็น พยายามเอาให้ใกล้เคียงสุดแล้วล่ะนะ

พี่หนึ่ง(ใครเคยดูฟงอวิ๋นบ้าง คนนี้หล่อกระชากใจcancanมากกล้ามเป็นมัดเลยง่าาาา :haun4: :haun4:)
(http://upic.me/i/jq/aaron_kwok_1.jpg)

น้องสอง
(http://upic.me/i/al/photo_02.jpg)อิอิน่ารักซะ
 :L2:



น่ารักอ่ะพี่วัน  :z1: :z1: เอาแบบนี้ใส่หอกลับบ้านเลยคร่า :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..มีimageของ1กับ2ให้ดูเล่นๆค่ะ..25/01/11...ตอน5NC18++..100% หน้า3น
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 28-01-2011 13:41:11
ตอนที่6

          "ตื้ด...ตื้ด...ตื้ด"
          เสียงสั่นของโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกางเกงนักเรียนของสองดังขึ้น ตอนนี้สองกำลังอยู่ในช่วงการพัก ระหว่างนั่งรอสอบวิชาต่อไป ใช่แล้ว...สองกำลังสอบปลายภาคอยู่ อีกไม่กี่วันสองก็จะได้หยุดพักยาวเสียที
          สองเอี้ยวตัวเอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง หลังจากหยิบมือถือขึ้นมาดู พอเห็นเบอร์ของคนที่โทรเข้ามาสองก็ยิ้มออกมาทันที
          สองรีบรับสาย...
          "ฮัลโหลฮะ...ว่าไงฮะพี่หนึ่ง"
          
          (เออ..สองเหรอ..คือวันนี้พี่ดูงานเสร็จเร็วน่ะ...สองสอบเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลยใช่ปะ  เดี๋ยวพี่ไปรับนะ)
        
          "เอ๋...จะดีเหรอฮะ พี่หนึ่งดูงานอยู่ที่ไหนฮะ แถวๆโรงเรียนของสองรึเปล่า?"
        
          (อืม...แถวๆนั้นแหละ...สองรอพี่นะ อยู่ที่โรงเรียนนั่นแหละ เดี๋ยวพี่ไปรับ ..สองจำรถพี่ได้ใช่มั้ย)
        
          "อ๋อฮะ....จำได้แน่นอนอยู่แล้ว"
        
          (โอเค...งั้นถ้าพี่ถึงแล้วจะโทรไปบอกนะ...แล้วสองก็เดินออกมาหน้าโรงเรียนเลยนะครับ)
        
          "ฮะ...โอเค..งั้นเดี๋ยวสองรอพี่หนึ่งนะ"
          
          (ได้ๆ..งั้นตอนเย็นเจอกันนะครับ)
          
          "ได้ฮะ..บายนะ"
        
          (โอเค..บายครับ  รักนะครับ..)
          
          "อื้อ..พอแล้วๆ  วันนี้พูดเป็นครั้งที่สองแล้วนะ"
          
          (555ชักจะชอบพูดแล้วด้วยสิ  เลิกไม่ได้ซะด้วย)
        
          "อื้อ...กริ่งดังแล้ว..สองต้องเข้าห้องสอบแล้วล่ะ"
        
          (ว้า...โอเคครับ..บายนะครับ)
        
          "บายฮะ พี่หนึ่ง"
        
          หลังจากวางสายแล้ว  สองก็เดินเข้าห้องสอบ  เหลือวิชาที่ต้องสอบอีกไม่กี่วิชา เดี๋ยวพอสองสอบเสร็จก็ได้เจอกับพี่หนึ่งแล้ว
          หลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมงผ่านไป หนึ่งก็เสร็จจากการไปตรวจโครงสร้างของตึกแห่งหนึ่ง ที่บริษัทเป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้าง วันนี้หนึ่งไม่ต้องเข้าสำนักงานแล้ว เขาสามารถกลับบ้านได้เลย แต่จะให้กลับไปนั่งเฉยๆอยู่คนเดียวที่ห้อง ก็รู้สึกแปลกๆ นั่นสิ..เขาไม่ได้ใช้ชีวิตคนเดียวมานานเท่าไหร่แล้ว น่าจะประมาณเกือบห้าเดือนได้แล้ว ชีวิตของหนึ่งตอนนี้ถูกเติมเต็มโดยสมบูรณ์ เขามีทั้งหน้าที่การงาน และมีทรัพย์สินที่หามาได้ด้วยน้ำพักน้ำแรง พ่อแม่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเขาอีกแล้ว แถมตอนนี้ชีวิตของเขาเองก็ไม่เปล่าเปลี่ยว เขายังมีใครอีกคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข คนๆนั้นทำให้จิตใจเขาปลอดโปร่งทุกครั้งที่อยู่ด้วย อะไรบางอย่างในตัวของสอง ทำให้หนึ่งรู้สึกสบายใจเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆ ตอนนี้เขาแทบจะอยู่ที่ห้องของสองเหมือนเป็นห้องของตัวเองไปแล้ว ถ้าไม่ติดที่ว่าเขาจะกลับมาอาบน้ำที่ห้องตัวเองในบางครั้ง ทุกวันนี้เขาก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟสองห้อง ก็ทำไงได้...เขาไม่อยากเอาเปรียบสอง แล้วมันก็ไม่หนักหนาอะไรสำหรับเขา จริงๆจะให้สองมาอยู่ห้องเขาก็ได้ แต่ชวนแล้วเจ้าตัวเล็กก็ไม่ยอมมา ไม่รู้จะอายอะไร ส่วนเขาเองก็ขี้เกียจขนของไปไว้ห้องของสอง ก็ห้องอยู่ติดกันแบบนี้ เดินไปเดินมาก็ไม่ลำบากอะไรนักหรอก สองเองก็ปฏิเสธเขาอยู่ทุกครั้ง เรื่องที่จะต้องให้เขาจ่ายค่าน้ำค่าไฟ แต่เขาอยากทำด้วยใจจริง มันคือความต้องการจากใจที่อยากมีส่วนร่วมในการดูแลชีวิตของสอง เขาอยากดูแลสอง อยากปกป้องให้มากเท่าที่ทำได้
          หนึ่งขับรถตรงไปยังโรงเรียนของสอง อันที่จริงเขามาดูงานไกลออกไปคนละทางกับโรงเรียนที่สองอยู่ แต่ด้วยความที่อยากไปรับเจ้าตัวเล็กที่โรงเรียน หนึ่งก็ไม่สนหรอก ถ้าต้องขับรถขึ้นมอเตอร์เวย์อ้อมเมือง หลีกเลี่ยงจราจรติดขัด เพื่อไปรับสองที่โรงเรียน
          ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง หนึ่งก็ขับรถฝ่าฟันมาถึงจนได้ แต่ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปในซอยที่ตั้งของโรงเรียนของสอง หนึ่งก็โทรเตือนสองให้ออกมารอที่หน้าโรงเรียน เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเวลา
                                              
                                              .............................................
          
          "อ๋อ...ฮะ  พี่หนึ่งจะเลี้ยวเข้าซอยแล้วใช่มั้ยครับ..เข้ามาเลยนะ สองยืนรออยู่หน้าโรงเรียนแล้ว แค่นี้นะฮะ"
          สองวางโทรศัพท์แล้วเอาใส่กระเป๋ากางเกง ตอนนี้สองยืนอยู่หน้าโรงเรียนที่มีนักเรียนคนอื่นๆและผู้ปกครองกำลังเดินปะปนกันไปทั่ว สองกำลังรอหนึ่งซึ่งได้เลี้ยวรถเข้ามาในซอยแล้ว อีกประมาณสิบนาที หนึ่งก็คงขับถึงโรงเรียนของสอง แล้วก็คงเห็นสองยืนรออยู่ที่หน้าโรงเรียน
          "เฮ้ย สอง...ยังไม่กลับบ้านเหรอวะ"
          เสียงเด็กผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้น
          "อ้าว...เน็ท..จะกลับบ้านแล้วเหรอวะ"
          สองหันไปตามเสียง พอเห็นเน็ท ก็ร้องทักขึ้น เพื่อนร่วมห้องคนนี้กำลังเดินตรงมาบริเวณที่สองยืนอยู่ เน็ทเป็นเด็กผู้ชายรุ่นราวคราวเดียวกับสอง แต่ว่ารูปร่างนั้นดูใหญ่และสูงกว่า จึงทำให้เวลาที่ยืนคู่กัน สองจะดูตัวเล็กลงไปถนัดตา
          "เออๆ พรุ่งนี้หยุดใช่ปะ แต่เดี๋ยวมะรืนก็ต้องสอบอีก เฮ้ย..กูยังไม่ได้อ่านชีวะเลยว่ะ บางเรื่องก็ยังไม่มีให้อ่าน เพราะดันหยุดไปพอดี กูเลยจดไม่ทัน"
          "งั้นมึงเอาสมุดชีวะของกูไปก่อนดิ พอดีอ่านจบแล้ว "
          "จริงดิวะ แล้วมึงจำได้หมดเลยหรือวะ สอง"
          "เออๆ พอดีกูอ่านไว้ก่อนแล้ว พอเรียนไปด้วยมันก็เลยจำได้"
          "โห สอง มึงจะอัจฉริยะไปแล้ว"
          "เออๆ เดี๋ยวนะเมิง ขอกูหยิบก่อน.."
          สองก้มลงเปิดกระเป๋านักเรียน โชคดีที่วันนี้สองก็พกสมุดชีวะมานั่งอ่านเล่นๆ ตอนที่พักสอบ
          "อะ..เอาไปดิ รักษาให้ดีนะเฟ่ย.." สองยื่นสมุดให้คนที่สูงกว่า
          "เออๆ..ขอบใจว่ะ สอง" เน็ทรับสมุดไว้ แล้วเอาสมุดตบที่หัวคนตัวเล็กเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยว เขารู้สึกเอ็นดูเจ้าเพื่อนคนนี้ในความตัวเล็กของมัน ทุกครั้งที่ยืนคุยด้วยกันก็เป็นอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปโยกหัวทุยๆของสอง หรือตบเบาๆจนสองทำหน้ายุ่ง
          "เออ..เมิง..ชอบเล่นหัวกูจริง" สองเอามือคลำหัวตัวเองป้อยๆ
          และทันใดนั้น
          "ปี้น..ปี้น"
          เสียงแตรรถยนต์ที่สองคุ้นเคยก็ดังขึ้น รถBMWสีดำวิ่งเข้ามาจอดเทียบที่ข้างฟุตบาทช้าๆ ก่อนที่กระจกติดฟิล์มกันแดดสีดำจะลดลง แล้วใบหน้าหล่อๆของหนึ่งก็ยื่นออกมาจากฝั่งคนขับ
          "เอ้า...."
         สองอุทานออกมา แล้วหันมายิ้มให้หนึ่ง
         "รอนานยังครับ"
         หนึ่งพูดดังๆออกมาจากในรถ
         เน็ทที่ยืนอยู่กับสองเห็นหนึ่ง ก็รู้ทันทีว่าเขาคือคนที่สองกำลังยืนรออยู่ ด้วยความภูมิฐานของหนึ่ง ทำให้เน็ทคิดว่าหนึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ของสองเพราะจำได้ว่าสองเคยเล่าให้ฟังว่าสองมีอาทำธุรกิจอยู่ที่ภาคใต้ เด็กหนุ่มจึงยื่นหน้าออกไปที่หน้าต่างรถ ยกมือไหว้หนึ่ง แล้วพูดขึ้น
         "สวัสดีครับ...คุณอาของสองใช่ปะครับ"
         ประโยคนั้นทำเอาหนึ่งถึงกับผงะ เขานิ่งเป็นใบ้ไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร สองเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดขึ้น
         "เฮ่ย..ไม่ใช่เว่ย..นี่พี่หนึ่ง อยู่คอนโดเดียวกัน เค้าช่วยติวเลขให้ กูเคยเล่าให้ฟังแล้วไง"
         "อ้าว เหรอครับ แหะ แหะ ทักคนผิดซะงั้น ขอโทษนะพี่ ผมเห็นขับBMน่ะพี่ เลยคิดว่าเป็นอาที่รวยๆของไอ้สองมัน"
         หนึ่งเห็นดังนั้น จึงยิ้มเจื่อนๆตอบกลับไป
         "ไม่เป็นไรครับ น้องเป็นเพื่อนสองสินะ"
         "ครับพี่ ซี้ปึก " ไม่ว่าเปล่า เน็ทคว้าเอาคนตัวเล็กข้างๆมากอดคอไว้  คราวนี้เป็นสองที่ยิ้มเจื่อนๆบ้าง แล้วหันไปบอกเน็ท
         "เฮ่ยเน็ท..กลับก่อนนะ เดี๋ยวพี่เค้าต้องไปธุระต่อ"
         เมื่อได้ฟังข้ออ้างของสอง ยังไม่ทันที่เน็ทจะคิดอะไร ด้วยความเกรงใจหนึ่ง เด็กหนุ่มจึงรีบปล่อยคอเพื่อนซี้ พอหลุดจากการเหนี่ยวรั้งของเพื่อน สองก็รีบเปิดประตูรถขึ้นไปทันที หลังจากเน็ทและสองร่ำลากันเรียบร้อยแล้ว หนึ่งจึงค่อยๆเคลื่อนรถออกมาจากโรงเรียน
        



เดี๋ยวมาต่อที่รีใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11.ตอน..6..NC18++..50% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-01-2011 18:09:53
รอตอนจบด้วยกองผ้าขนหนูและการดาษอีกเป็นโหลๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11.ตอน..6..NC18++..50% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-01-2011 18:12:05
งานเข้าน้องสองเฉยเลย :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11.ตอน..6..NC18++..50% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 28-01-2011 20:09:04
ต่อ ตอนที่6

          หลังจากที่ขึ้นรถมาจนถึงตอนนี้ สองก็สังเกตเห็นว่าหนึ่งดูเงียบผิดปกติ จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ หรือว่าหนึ่งจะน้อยใจอะไรบางอย่าง แต่ด้วยความที่หนึ่งแก่กว่า เวลาเงียบก็ดูขรึมจนบางทีสองก็รู้สึกเกรงใจ ไม่แน่ใจว่าตัวเองทำอะไรผิดไป หรือว่าหนึ่งเครียดเพราะเรื่องงาน
          เวลาที่สองชวนคุยหนึ่งก็จะยิ้มบางๆให้ ซึ่งปกติหนึ่งจะเฮฮาดวงตาแพรวพราวตลอด แต่วันนี้มีเพียงแค่รอยยิ้มจางๆกับคำว่า "ครับ"  หรือไม่ก็ "อ๋อ..เหรอ"  สองปล่อยให้ความคลุมเคลือเป็นเช่นนี้ต่อไป ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องงาน เพราะหนึ่งมีงานกองเป็นตั้งที่ต้องสะสาง บางทีอาจมีปัญหาบางอย่างที่ยังคิดไม่ตก สองเลยไม่กล้าที่จะกวนใจนัก
          จนเมื่อหลังกลับมาจากที่ลงไปกินข้าวที่ร้านข้างล่างคอนโดนี่แหละ สองก็รู้สึกอึดอัดจนเริ่มหมดความอดทน แต่สองก็ปล่อยให้หนึ่งเข้าไปอาบน้ำจนแต่งตัวเรียบร้อย และเมื่อสองเองก็อาบน้ำแต่งตัวใส่ชุดนอนแล้วเหมือนกัน สองจึงคิดว่า นี่คงได้เวลาที่จะเปิดอกคุยกันแล้วล่ะ ว่าหนึ่งกำัลังเป็นอะไรกันแน่ เพราะหลังจากอาบน้ำทาแป้งเย็นกายสบายใจแล้ว คงทำให้คุยอะไรกันง่ายขึ้น
          สองจึงค่อยๆเริ่มบทสนทนาอันตึงเครียด...
          "เอ่อ...วันนี้พี่หนึ่งเป็นอะไรฮะ ทำไมดูเงียบจัง " สองเดินไปจับบ่าของหนึ่ง หนึ่งกำลังนั่งดูรายการสารคดีในโทรทัศน์ที่ปลายเตียง
          หนึ่งหันมาทางสอง เขาเงยหน้ามองคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ พลางส่งยิ้มเนือยๆให้สอง
          "เปล่านี่...ไม่ได้เป็นอะไรหรอก"  พูดได้แค่นั้นหนึ่งก็หันไปสนใจรายการในโทรทัศน์ต่อ  สองมองเห็นเค้ารางที่ส่อแววยุ่งยาก แต่ก็ยังไม่เลิกล้มความพยายาม
          แล้วจู่ๆสองก็นึกขึ้นได้ว่า ต้องเป็นสาเหตุบางอย่างที่ทำให้หนึ่งเปลี่ยนไป แต่สองเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจนัก เขาจึงลองพูดออกไป ดูว่าตัวเองจะเดาถูกหรือไม่
          "เอ่อ....พรุ่งนี้สองหยุดนะฮะ ได้หยุดหนึ่งวันแล้วก็ไปสอบวันมะรืน พอดีว่าเน็ทเพื่อนสอง ก็คนที่พี่หนึ่งเจอเมื่อตอนเย็นนั่นล่ะ มันไม่ค่อยเก่งชีวะ มันเลยอยากให้สองติวให้ สองเลยนัดให้เน็ทมาที่ห้อง จะได้ติวกัน สะดวกดี" สองแกล้งปั้นเรื่องพูดไปเรื่อยเปื่อย และแล้ว...สิ่งที่แกล้งพูดออกไปนั้นก็ส่งผลในทันที
          "......................" หนึ่งนิ่งไป ตายังจ้องอยู่ที่โทรทัศน์ สองสัมผัสได้ถึงอาการเกร็งที่บ่าหนาที่สองเอามือวางเอาไว้ สองยังเห็นหนึ่งกัดกรามเป็นสันนูนๆออกมาที่ข้างแก้ม และแล้วคนตัวสูงก็ยอมปริปากพูดออกมา
          "สองดูสนิทกับเน็ทจังเลยนะ"
          "ก็...สองกับเน็ทเรียนห้องเดียวกันตั้งแต่ม.ต้นแล้วนี่นา"
          "มิน่าล่ะ..ถึงดูสนิทกันจนเล่นหัวได้เลย"
          พอฟังถึงตรงนั้น คนตัวเล็กก็รู้แล้วล่ะ ว่าหนึ่งกำลังเป็นอะไร สองแกล้งทำตาโต ก่อนพูดออกไป
          "โห..ขนาดพี่หนึ่งขับรถอยู่ ยังเห็นด้วยเหรอฮะ" แล้งสองก็ยิ้มบางๆออกมา กอดวาดแขนโอบไหล่หนาๆเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ทั้งๆที่ยังยืนอยู่ แล้วพูดกับคนตัวสูง
          "พี่หนึ่ง...พี่หนึ่งหึงเหรอ  สองกับเน็ทเป็นแค่เพื่อน เน็ทมันมีแฟนแล้ว เป็นน้องผู้หญิงม.ต้น แถมยังสวยเป็นลีดเดอร์อีกด้วย มันไม่สนใจสองหรอกฮะ พี่หนึ่งเชื่อสองนะ"
          "จริงเหรอ..พี่เชื่อสองได้จริงเหรอ"
          สองสัมผัสได้ถึงอาการผ่อนคลายของคนในอ้อมกอด และความอบอุ่นบริเวณแขนของตัวเอง ฝ่ามือหนาอบอุ่นของคนตัวสูงกำลังจับแขนของสองไว้ให้กอดกระชับแน่นขึ้น
          "จริงสิฮะ เชื่อได้1000เปอร์เซนต์"
          "แต่..พรุ่งนี้..ต้องติวกันที่ห้องด้วยเหรอ" เสียงคนตัวสูงยังคงกังวล
          "เอ่อ..อืม...อ่า...สองโกหกน่ะ ไม่มีติวหรอก สองแค่ให้เน็ทมันยืมสมุดไปอ่าน" คนตัวเล็กพูดออกไปด้วยความละอายนิดๆ ที่โกหกคนตัวสูง
          "อ้าว...หลอกกันนี่ อย่างงี้จะให้พี่เชื่อสองได้ไง หลอกคนแก่ได้ไงกัน" เสียงคนตัวสูงสะบัดนิดๆ
          แล้วสองก็ได้รู้เหตุผลอีกบางประการ แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ก็โดนคนแก่ขี้งอนค่อนขอดเสียก่อน
          "ขนาดเพื่อนสอง ยังคิดว่าพี่แก่จนเป็นอาของสองได้เลย พี่แก่มากเลยใช่มั้ย" น้ำเสียงติดจะดูเศร้าๆ ปนกังวลซะแล้ว
          คนตัวเล็กโอบกอดคนตัวสูงแน่นขึ้น พร้อมทั้งโยกเบาๆ ก่อนพูดออกไปว่า
          "เฮ้ย...ขี้น้อยใจจัง พี่หนึ่งไม่แก่ซะหน่อย ไอ้เน็ทมันตาไม่ดีเองต่างหาก พี่หนึ่งของสองยังเอ๊าะอยู่เลย"
          "สองพูดอย่างกับพี่เป็นสาวน้อยซะงั้น" หนึ่งแอบบ่นเบาๆ
          "ก็มันจริงนี่ฮะ ขี้งอนเป็นตูดเป็ด แล้วยังแอบน้อยใจเก่งอีกด้วย"
          "งั้นสองต้องปลอบพี่แล้วล่ะนะ"
          พูดยังไม่ทันขาดคำ แววตาของคนตัวสูงก็กลับเป็นประกายแพรวพราวอีกครั้ง สองมองดวงตาคู่นั้นอย่างหลงใหล จนลืมไปว่าตัวเองโดนอุ้มไปนั่งบนตักคนตัวสูงเข้าซะแล้ว
          "อ๊ะ...." สองเพิ่งรู้ตัว
          "เร็วสิครับ ปลอบพี่ให้หายน้อยใจหน่อยเร็ว  ทำไงดีน้าาา..."
          สองเริ่มหน้าแดงแล้ว แต่ก็อยากเอาใจหนึ่งที่ตอนนี้อารมณ์กลับมาเป็นปกติ คนตัวเล็กจึงโน้มหน้าเข้าไปหอมฟอดใหญ่ที่แก้มของคนๆนั้น
          "เอ้า....หายน้อยใจแล้วนะ"
          "ยังครับ..ต้องอีกข้างนึง" หนึ่งหันแก้มอีกข้างให้สอง สองยอมทำทั้งๆที่ยังอายหน้าแดง แต่ก่อนที่จมูกของสองจะโดนแก้มของหนึ่ง คนตัวสูงจอมเจ้าเล่ห์ก็กลับเอาริมฝีปากมารับไว้แทน สองที่ไม่ทันตั้งตัว เพราะยังอยู่ในอ้อมกอดของคนๆนั้นก็กลับกลายเป็นว่าโดนหนึ่งจูบเข้าอย่างจัง แล้วสองจะทำไงได้ล่ะ นอกจากยอมให้หนึ่งจูบแต่โดยดี  ยังไม่ทันไร ลิ้นร้อนๆของหนึ่งก็เข้าไปทาบทับลิ้นเล็กๆของสอง แล้วตวัดล้อลิ้นของสองไปมา
          "อื้อ..." สองคลางในลำคอ เริ่มหายใจไม่ทัน โชคดีที่หนึ่งยอมผละริมฝีปากจากไป ก่อนกระซิบที่ข้างหูของสองด้วยเสียงแหบพร่า
          "สอง...พี่..พี่ชักจะทนไม่ไหวแล้ว" หนึ่งซบหน้าลงบนบ่าเล็ก พร้อมถอนหายใจแรงๆ
          "อะ............." สองแก้มแดงเรื่อ เมื่อเห็นบางอย่างกำลังดุนดันออดมาจากเป้ากางเกงชุดนอนของหนึ่ง
          "เอ่อ..หะ..ให้สองช่วยมั้ยฮะ" สองถามหนึ่งอย่างกล้าๆกลัวๆ ตั้งแต่คบกันมา มีแต่หนึ่งที่เป็นคนทำให้สอง
          "สอง..สองทำได้เหรอ" หนึ่งกระซิบเสียงแหบพร่า หายใจถี่ๆอยู่ที่หัวไหล่บางของสอง
          "เอ่อ..ก็...พี่หนึ่งก็บอกสองสิฮะ..ให้สองทำให้บ้างนะ" สองบอกหนึ่งซึ่งกำลังซบอยู่ที่ไหล่  หนึ่งเงยหน้าขึ้นมา เขามองเข้าไปในดวงตาของคนตัวเล็ก พร้อมกับกระซิบถาม"
          "สอง..สองอยากทำแน่นะ"
          "อื้อ...." สองรับคำพร้อมพยักหน้าแรงๆ
          หลังจากนั้น หนึ่งจึงจัดการช่วยสองถอดกางเกงของเขาออก  แล้วกลับมานั่งอยู่ที่ปลายเตียงอีกครั้ง กลางลำตัวของหนึ่งกำลังโดดเด่นชี้ตั้ง สองนั่งลงระหว่างขาของหนึ่ง ก่อนค่อยๆโน้มหน้าเข้าไปใกล้สิ่งนั้น หนึ่งบอกขั้นตอนต่างๆแก่สอง ตอนแรกสองไล้ลิ้นของตัวเองไปตามสิ่งนั้น ส่วนปลายของมันเปียกชื้น สองลากลิ้นลงมาที่เครื่องเคราด้านล่าง เพียงเท่านั้น สองก็ได้ยินเสียงครางต่ำในลำคอของคนที่นั่งอยู่ พอได้ยินอย่างนั้น สองก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น จนสามารถกลืนกินสิ่งนั้นเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถกลืนได้หมด เพราะขนาดที่ใหญ่มาก สองจึงเอามือจับไว้ที่ฐานของมัน
           หนึ่งสอนให้สองขยับขึ้นลงตามจังหวะที่สะโพกของเขาขยับ พร้อมทั้งให้สองขยับมือไปด้วย เมื่อสองทำตามที่หนึ่งบอก สองก็เห็นสีหน้าของหนึ่งที่แสดงถึงอารมณ์รัก สองหลงใหลในสีหน้าแบบนั้น สองจึงลองทำตามที่หนึ่งเคยทำให้ โดยไม่ฟังเสียงแหบพร่าของหนึ่งตอนนี้ที่กำลังบอกวิธีแก่สอง เพียงแค่สองออกแรงดูดสิ่งนั้นของหนึ่ง มันก็เล่นเอาหนึ่งต้องเอามือเท้าพื้นเตียง เกร็งสะโพกมากขึ้น ตอนนี้สองเร่งจังหวะให้เร็วรัว สลับกับเนือบนาบ สายตาก็เหลือบมองสีหน้าเร้าอารมณ์ของคนที่นั่งอยู่บนเตียง  แล้วสีหน้านั้นก็ทำให้สองเกิดมีอารมณ์ขึ้นมาบ้าง สองครางอื้ออึงในลำคอ ขณะที่กำลังอมเจ้าสิ่งนั้น
           คนตัวสูงเหมือนจะรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังเป็นอะไร จึงค่อยๆเอื้อมมือไปพยุงร่างเล็กนั้นมากอดเอาไว้ กระซิบเสียงกระเส่า
           "สอง...สองพร้อมรึยัง ถ้าสองอณุญาต คราวนี้พี่เอาจริงแล้วนะ"
           หนึ่งหมายถึงการร่วมรักอย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง...
           สองพยักหน้าน้อยๆ อย่างเอียงอาย
           เมื่อเห็นดังนั้น หนึ่งจึงไม่รอช้า เขาถอดเสื้อผ้าให้คนตัวเล็ก เมื่อเห็นสองนอนเอียงอายเปลือยเปล่าอยู่บนที่นอน หนึ่งก็จัดการถอดเสื้อของตัวเองอย่างรวดเร็ว ก่อนลงไปทาบทับลำตัวของสองไว้
            หนึ่งค่อยๆเล้าโลมให้สองเกิดอารมณ์คล้อยตาม เสียงครางอื้ออึงแสดงว่าคนตัวเล็กกำลังเพลิดเพลินต่อสิ่งนั้น หนึ่งวนนิ้วรอบๆน้องชายของสอง น้ำเยิ้มๆเปียกชิ้นชุ่มที่นิ้วของหนึ่ง เขากระซิบข้างคนรักแผ่วเบา
            "สอง...อย่าเกร็งนะครับ พี่จะสอดนิ้วเข้าไปก่อนนะ"
             หลังจากสินเสียง หนึ่งก็ยกสะโพกบาง ค่อยๆสอดนิ้วเข้าไป
            "อื้อ....อะ...พี่หนึ่ง..พี่หนึ่ง..สอง..เจ็บ" สองนิ่วหน้า ส่ายใบหน้าไปมา รู้สึกอึดอัด ที่ริมใบหูได้ยินคนรักกระซิบบอกให้ผ่อนคลาย จนเมื่อสองรู้สึกได้ว่าหนึ่งใส่เข้าไปแล้วสามนิ้วนั่นแหละ สองจึงค่อยๆรู้สึกว่าความเจ็บทุเลาลง หลงเหลือแต่เพียงความเสียวซ่านตรงบริเวณนั้น สองสัมผัสได้ถึงแรงขยับของนิ้วทั้งสาม ทั้งถูเข้าออก และหมุนคว้าน จนสองต้องครางออกมาดังๆเพื่อระบายความรู้สึกที่เสียวซาบซ่านอย่างบ้าคลั่ง แต่แล้วหนึ่งก็ชักนิ้วออกไป สองเองพยายามดึงนิ้วทั้งสามไว้อย่างเสียดาย แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงทุ้มๆของคนตัวสูง ที่โน้มหน้าเข้ามากระซิบว่า
             "สอง..พี่จะเข้าไปแล้วนะ" เท่านั้นแหละ สองก็ต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกว่าครั้งเก่า ร่างทั้งร่างเหมือนถูกแยกออกเป็นเสี่ยงๆ ยังดีที่คนตัวสูงพยายามเบี่ยงเบนความสนใจโดยการระดมจูบไปทั่วหน้าอกขาวๆของสอง ตามด้วยการขบเม้มแรงๆที่ยอดอกของสอง จนมันตั้งชันสู้กับลิ้นและฟันคมๆของหนึ่ง สุดท้ายสิ่งที่หนึ่งทำทั้งหมดก็ประสบผล เพราะตอนนี้ คนที่บอกให้หนึ่งขยับสะโพกแรงๆคือคนตัวเล็กที่อยู่ข้างล่าง ซึ่งกำลังกรีดร้องครวญครางและขยับสะโพกรับน้ำหนักของหนึ่งที่ถาโถมจากด้านบนจนหัวสั่นหัวคลอน
             "พี่หนึ่ง..อ๊ะ..พี่หนึ่ง...สะ..สองไม่ไหวแล้ว..จะออกแล้ว..อ๊ะ..อ๊าาาาาาาาา" นั่นคือเสียงสุดท้ายของอารมณ์รักที่สองได้รับจากหนึ่ง หนึ่งพาคนตัวเล็กของเขาลอยละล่องไปถึงสวรรค์พร้อมกับเขาที่ตามมาติดๆ
             "อาาา.." เสียงคำรามต่ำๆในลำคอของหนึ่งดังขึ้น ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออกมา ทั้งที่อยู่ข้างในตัวของสอง แต่มันไม่ได้เลอะเทอะ เพราะเขาสวมเครื่องป้องกันไว้แล้ว ตั้งแต่ตอนที่กำลังจะเอาน้องชายใส่เข้าไปในร่างของคนตัวเล็ก
             หนึ่งทรุดตัวลงนอนด้านข้าง ทั้งๆที่ยังอยู่ในร่างของสอง
             "อื้อ..เอาออกก่อน อึดอัด " สองบอกคนตัวสูงเสียงอู้อี้
             "เดี๋ยวนะ ขออีกแป๊บนะครับ พี่รู้สึกดีจัง เวลาสองกระตุกอยู่ข้างใน" หนึ่งกอดสองไว้ด้านข้าง เขาหลัีบตาเพื่อรับรู้ถึงความรู้สึกนั้น
             "อื้อ..ทะลึ่ง..ให้อีกนิดเดียวนะ..สองชักจะง่วงแล้ว"
             "ครับๆ..สองของพี่น่ารักจังเลย"
             หนึ่งกอดคนตัวเล็กแน่นขึ้น ขาอ่อนขาวๆของสองยังคงเกยอยู่บนสะโพกของหนึ่ง หนึ่งกอดคนรักเอาไว้ทั้งอย่างนั้น คางสากซุกลงที่หัวทุยๆของคนตัวเล็ก ใบหน้าของหนึ่งระบายยิ้มอย่างมีความสุข




อะ ฮะ ฮะ ฮะ เย้ เย้ เย้ จบตอนแล้ว :laugh3: :laugh3: :laugh3:(เอ่อ...คนเขียนท่าจะบ้าไปแล้ว)
        
      
          
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-01-2011 20:39:31
จบแล้วอ่ะกำลังหื่นอยู่เลย :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ultramann ที่ 28-01-2011 20:40:40
อ่าาาา สุดยอดเลยฮะ อิอิ  :oo1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-01-2011 20:52:07
ในที่สุดก็พากันข้ามบันไดสวรรค์สำเร็จ
หื่นจริงๆนะพี่หนึ่ง
 :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 28-01-2011 21:17:00
 :oo1:
 :jul1: :jul1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 28-01-2011 22:16:34
..... :m25: :-[
สุดท้ายก้อเข้าใจกัน
ลุ้นเหนื่อย กลัวมาม่า
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 28-01-2011 22:26:12
จนได้นะพี่หนึ่ง :กอด1:

นารักดีชอบบบ

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: mo-no ที่ 28-01-2011 22:36:28
  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 29-01-2011 01:04:46
ทั้งหึง ทั้งน้อยใจ พี่หนึ่งอย่าใจน้อย เดี๋ยวแก่เร็ว  :laugh:

งานนี้น้องสองเข้าที ไม่ปล่อยไว้นาน เคลียร์เลยทันที
แถมเึคลียร์ใจเสร็จ ก็เคลียร์กายต่อ

พี่หนึ่งกำไรเห็นๆ

อ่านงานของน้องวันทุกเรื่อง บวกแต้มไม่ทันเลย ตอนนี้ก็เลยยังบวกเพิ่มไม่ได้

ขอบคุณมากนะจ๊ะ รอลุ้นคู่นี้ต่อไป  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: หนอนใบตอง by RakorN ตอนที่27: เปลี่ยนใจ หน้าที่ 68 [16.12.10]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-01-2011 11:51:44
SO CUTE
^_^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 29-01-2011 16:59:12
 :m25:

 :-[

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 29-01-2011 18:20:57
เป็นตอนจบที่สู๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆยอดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 29-01-2011 18:56:49
 :jul1: :haun4: :pighaun: :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: peachlc ที่ 29-01-2011 19:37:57
อู๊อ๊าเบ๋บี๋​!
555555555555
สองน่ารักจังค่ะ  ! 
พี่หนึ่งต้องูแลสองดีๆนะ ! 55

ขอบคุณค่ะ ติดตาม ;D
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Dorumi ที่ 29-01-2011 19:52:37
เข้ามาอ่านเรื่องสั้นเรื่องนี้รวดเดียวเลย
ชอบน้องสองกับพี่หนึ่งมากเลยอ่ะ น่ารัก
ตอนสองแอบรักพี่หนึ่งน่าสงสารมากเลย แต่สุดท้ายก็
ยังได่มารักกันจนได้ จะรอติดตามต่อไปเรื่อยๆนะจ๊ะ
แล้วก็ขอแสดงความยินดีกับพี่หนึ่งด้วยในที่สุด
ก็ได้เป็นคนแก่กินเด็กอย่างเป็นทางการเสียที อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 29-01-2011 19:54:02
เหอะๆ ในที่สุดก็เรียบร้ิอยโรงเรียนพี่หนึ่งจนได้  :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...28/01/11(8:04PM).ตอน..6..NC18++.100% หน้า4นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 31-01-2011 20:30:43
ตอนที่7

          และแล้วโรงเรียนของสองก็ปิดภาคการศึกษา  หลังจากสองสอบวิชาการเสร็จ ก็ยังต้องไปโรงเรียนต่ออีกสองสามวัน เพราะมีบางวิชาที่ยังต้องสอบภาคปิฏิบัติ เช่น วิชาพละศึกษา วิชาคอมพิวเตอร์  กว่าจะได้หยุดจริงๆก็ปาเข้าไปวันพุธ ซึ่งก็คือพรุ่งนี้ สองจึงวางแผนไว้ว่าจะทำความสะอาดห้องยกใหญ่ ปกติสองไม่ค่อยจ้างแม่บ้านมาทำเท่าไหร่นัก เพราะรู้สึกสิ้นเปลือง และไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่มย่ามในห้องของตัวเอง  สองอณุญาติให้คนเดียวเท่านั้นแหละ ที่เข้ามาห้องนี้ได้ คนๆนั้นก็....นั่นไงออกมาจากห้องน้ำพอดี
          หนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังเอาผ้าขนหนูขยี้ผมที่ยังเปียกซกหลังจากเพิ่งสระผมเสร็จ เขาจัดการเช็ดตัวและทาแป้งเรียบร้อยแล้ว  หนึ่งเดินก้มหัวขยี้ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ กำลังเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของสอง ซึ่งตอนนี้มันอัดแน่นไปด้วยเสื้อผ้าสองไซต์ของคนตัวเล็กและคนตัวสูง หนึ่งเงยหน้ามองไปที่เตียงซึ่งเจ้าตัวคาดว่า คนร่างเล็กของเขาคงนั่งตัวสะอาดหมดจดเตรียมเข้านอนอยู่บนเตียงแล้ว  ซึ่งก็เปิดจริงดั่งคาด หนึ่งเห็นคนรักของตัวเองนั่งหัวฟูทาแป้งขาวอยู่บนนั้น แต่หน้าตานี่สิ ทำเอาเขาแทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ ก็สองกำลังทำตาโตอ้าปากค้าง เหมือนกำลังเห็นผีซะงั้น
          "เอ้า...ยังไม่ชินอีกรึไง"
          นั่นเป็นประโยคแรกที่สองได้ยิน หลังจากที่หนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็จะไม่ให้เขาอ้าปากตาค้างได้อย่างไร ในเมื่อหนึ่งกำลังเดินโทงๆ ไม่ได้นุ่งอะไรไว้เลย ซึ่งมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกหรอก มันเป็นอย่างนี้ก็ตั้งแต่ที่สองมีอะไรกับหนึ่งจริงๆจังๆเมื่อครั้งนั้น ตั้งแต่ตอนนั้นก็ดูเหมือนว่าหนึ่งจะชาชินกับการที่สองจะเห็นร่างเปลือยเปล่าล่ำๆของหนึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบนำเสร็จเป็นประจำ  แต่กับสองนี่สิ ทำไมเขาถึงทำใจให้ตัวเองชินไม่ได้สักที พอเห็นทีไรก็เป็นต้องอึ้งตาค้าง หลังจากนั้นก็แอบตุ้มๆต่อมๆ เพราะภาพที่เห็นมันยังติดอยู่ในหัว สลัดแรงๆก็ยังไม่หายไป
          "ไม่ชิน..ไม่มีทางชินหรอก"  สองตอบด้วยใบหน้าแดงง้ำ ก่อนเอาหมอนใบใหญ่มากอดไว้ แล้วมุดหน้าลงไป
          "จริงดิ งั้นพี่ก็ต้องทำบ่อยๆแล้ว สองจะได้ชินซะที เอางี้เป็นไง ไม่ต้องใส่มันซะเลย เวลาที่อยู่ในห้องกับสองน่ะ ดีมั้ยครับ"
          "บ้า  บ้า  บ้า  ลามก" เสียงคนตัวเล็กตะโกนอู้อี้อยู่กับหมอนใบใหญ่ เจ้าตัวยังคงซบหน้าไม่ยอมโผล่ออกมา
          "5555 บ้าแต่ก็รักนะ " หนึ่งตะโกนบอก ขณะกำลังใส่กางเกงนอนขายาว
          หลังจากนั้นสักพัก สองก็รู้สึกได้ถึงแรงยุบลงของที่นอน คนตัวสูงคงแต่งตัวเสร็จแล้วล่ะ สองค่อยๆเงยหน้าออกมาจากหมอนที่กอดเอาไว้ แล้วตากลมโตใสๆก็ต้องสบกับตาคมในระยะประชิดเพียงไม่กี่เซนติเมตร
          "อ๊ะ..." สองแก้มแดงใหญ่แล้ว
          "55555" หนึ่งหัวเราะชอบใจ  แต่แ้ล้วก็ต้องหยุดลง ก่อนที่จะ...
          "ฮัดเช่ยย!!" หนึ่งจามออกมาเสียแล้ว
          สองรีบทิ้งหมอนไว้ที่พื้นเตียง ก่อนคลานต้วมเตี้ยมไปใกล้ๆคนตัวสูง
          "โห...นี่ไง ชอบเดินแก้ผ้าโทงๆ แล้วนี่อีก ผมยังไม่แห้งเลยนะฮะ" เจ้าคนตัวเล็กบอกเจื้อยแจ้ว
          "หืม....ก็เกือบแล้วล่ะ  ช่างมันเถอะ พี่ง่วงนอนแล้วอยากนอนกอดสองใจจะขาดแล้วด้วย" หนึ่งทำสายตาออดอ้อน
          "ไม่ได้ ไม่ได้นะฮะ มานี่เลย  ไปนั่งที่เก้าอี้ นอนทั้งที่ผมเปียกแบบนี้ เดี๋ยวก็ไม่สบายขึ้นมาจริงๆหรอก มาฮะเดี๋ยวสองเอาไดร์เป่าผมให้" สองไม่พูดเปล่า เขาจูงมือคนตัวสูงไปนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง  แล้วจัดการเอาไดร์เสียบปลั๊กเปิดสวิตซ์ เป่าผมให้คนตัวสูง ซึ่งหนึ่งเองก็ยอมทำตามคนรักแต่โดยดี
          และระหว่างที่สองกำลังเป่าผมให้หนึ่ง..
          "สอง..สองปิดเทอมแล้วใช่มั้ย"
          "อ๋อ..ฮะ"
          "แล้วปิดเทอม..สองจะทำอะไรครับ" หนึ่งถาม
          "อ๋อ..เดี๋ยวอาทิตย์หน้าสองจะกลับบ้านที่หัวหินฮะ จะไปอยู่กับพ่อแม่ แล้วก็พี่สาวซักสองอาทิตย์"
          "อ้าว...ทิ้งพี่ให้อยู่คนเดียวซะงั้้น"
          "ก็...หยุดยาวๆทั้งที ก็ต้องกลับบ้านหน่อยล่ะครับ เดี๋ยวพ่อกับแม่ว่าเอา" สองบอกไปตามความจริง
          "อืม..เอ้อ..งั้นสองรอพี่อีกอาทิตย์นะ  อาทิตย์หน้าพี่ก็เคลียร์งานที่ด่วนๆเร่งๆเสร็จแล้ว  เดี๋ยวอาทิตย์ถัดไปพี่ก็จะขอลาพักร้อนซักหนึ่งอาทิตย์ แล้วก็จะได้ไปหัวหินกับสอง ดีมั้ยครับ" หนึ่งวางแผนอย่างมาดมั่น ทำเอาเจ้าตัวเล็กที่กำลังยืนไดร์ผมให้อยู่ ถึงกับร้องออกมาอย่างดีใจ
          "จริงเหรอฮะ ห้ามโกหกนะ "
          "จริงดิ เนี่ยสองจะได้กลับบ้านสบายๆ เดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง ดีปะ"
          "ครับ...เย้..ดีใจจังเลย พี่หนึ่งใจดีจังเลย" สองร้องออกมาอย่างดีใจ ก่อนเอาใจคนตัวสูงด้วยการยื่นหน้าเข้าไปหอมอีกฟอดใหญ่
          "อื้มม..รางวัลฮะ" เจ้าคนตัวเล็กหอมที่แก้มของหนึ่งแล้วพูดขึ้น ตอนนี้เขาเป่าผมให้หนึ่งเสร็จแล้ว กำลังเก็บไดร์ใส่ไว้ในลิ้นชักที่โต๊ะ
          "รางวัลเหรอ..งั้นขอเป็นนอนกอดสองไว้ทั้งคืนเลยนะ"  ไม่ทันขาดคำหนึ่งก็คว้าเอวคนร่างเล็ก ก่อนก้าวยาวๆไปที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงที่ฟูกนุ่มๆทั้งๆที่ยังเกี่ยวเอวของสองไว้ หนึ่งกับสองเล่นปลุกปล้ำฟาดหมอนกันบนเตียงสักพัก แล้วก็ทำการสงบศึกก่อนที่ทั้งสองจะตัดสินใจเข้านอนจริงๆเสียที สุดท้าย คืนนั้นสองก็หลับลงไปในอ้อมกอดของหนึ่ง



ตอนนี้ยังมีอีก ท่าจะยืดยาว ค่อยๆต่อเรื่อยๆนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Na_RimKLonG ที่ 31-01-2011 20:37:57
น้่ารักกันจ้งงง

อยากมีอย่างนี้บ้าง  55+
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 31-01-2011 20:48:28
นึกว่าจะจบแบบหื่นๆจนหยดสุดท้ายเสียอีก 5555555555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-01-2011 20:54:09
ชอบแบบหวานๆ
มีมาม่านิดๆ แต่ต้องแฮปปี้ตอนจบนะ o18
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 31-01-2011 23:22:13
น่ารักมาก..แต่อยากอ่านต่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 31-01-2011 23:32:03
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 01-02-2011 01:15:11
พี่หนึ่งปล่อยตัวตามสบาย
แต่เข้าใจม้ายยยยยยยยย น้องสองยังไม่ชิน  :-[

ตอนนี้หวานๆๆๆๆๆๆๆๆ

ลุ้นต่อไป ว่าพากันกลับบ้าน จะได้กินมาม่ามั้ย  :really2:

ขอบคุณน้องวันนะจ๊ะ  :จุ๊บๆ:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 01-02-2011 07:49:47
อ่าวอัพเมื่อคืนหรอคะ สงสัยมัวแต่ทำเค้กเลยไม่ได้เข้ามาดู

สองกลับบ้านนานขนาดนี้พี่หนึ่งจะทนไหวหรอ ก่อนกลับฝากรักแรงๆซักทีสองที หรือสามสี่ห้าหกทีนะค่ะพี่หนึ่งฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 01-02-2011 19:06:45
ถึงจะหื่น แต่ก็น่ารักโคตร พี่หนึ่ง+น้องสอง
 :haun4: :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...31/01/11(8:26PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 02-02-2011 14:59:47
ต่อตอน7.....

           แล้วหลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ หนึ่งก็ทำตามที่ได้บอกไว้กับสอง............
          
           "อ๋อ...ฮะ..เดี๋ยวพี่หนึ่งจะไปส่งฮะ...เอิ่มแล้วก็จะอยู่เที่ยวซักอาทิตย์"
           "ฮะ...คือพี่หนึ่งเค้าต้องกลับมาก่อน..ต้องทำงาน"
           "555จริงหรือฮะ...เฮ้ย..น่าเสียดายนะเนี่ย"
           "สองก็อยากใ้ห้พี่หนึ่งเห็นหน้าพี่หนึ่งเหมือนกัน555.."
           "ฮะ...เจ๊แกก็เงี้ย..ว้าอย่างงี้สองก็อดไปเล่นน้ำกับพี่หนึ่ง55"
           "อ๋อ..ฮะ...ขับรถประมาณสองชั่วโมงก็น่าจะถึงล่ะมั้ง..แล้วเจอกันนะฮะแม่.."
           "ฮะ..ฝากหอมแก้มพ่อด้วยนะ5555..นะ..นะ"
           "แค่นี้นะฮะ..เดี๋ยวสองต้องช่วยพี่หนึ่งขนกระเป๋าก่อนนะ บายครับ"


           สองกดวางสายโทรศัพท์มือถือ...พอหันกลับมาสองก็เห็นคนตัวสูงยืนมองตาปริบๆ  ในมือยังถือกระเป๋าเป้ของสอง และกระเป๋าเดินทางใบเล็กของหนึ่ง
           สองมองหน้าคนตัวสูง...แล้วพูดขึ้น
           "พี่หนึ่งเป็นไรฮะ...ทำไมทำหน้างงแบบนั้นล่ะ"
           "เอ่อ...สองคุยกับคุณแม่ใช่มั้ยครับ" หนึ่งถาม
           "ฮะ.." สองยิ้มรับ
           "เอ่อ..แล้วที่ว่าสองอยากให้พี่..เห็นหน้าพี่..นี่หมายความว่าไง?"
           "เอ๋...พี่หนึ่งพูดอะไรน่ะ..งงๆแฮะ" คราวนี้สองทำหน้างงบ้าง
           "ก็..ที่สองพูดกับคุณแม่ว่า..สองอยากให้พี่หนึ่งเห็นหน้าพี่หนึ่ง..."
           "อ๋อ...5555 คือว่าสองยังไม่เคยบอกพี่หนึ่งใช่มั้ยฮะ ว่าพี่สาวของสองก็ชื่อหนึ่ง" สองพูดยิ้มแฉ่ง
           "เฮ้ย..จริงดิ..งั้นเดี๋ยวเจอกัน เรียกกันไปเรียกกันมาไม่งงแย่เหรอสอง"  หนึ่งถามพร้อมกับใบหน้าที่ออกอาการตื่นเต้นแปลกใจ
           "555 ไม่งงหรอกฮะ..พอดีว่าพี่สาวของสองน่ะ..เค้าเรียนมหาลัยแล้ว เรียนอยู่ที่เชียงใหม่นู่น เค้าต้องทำโปรเจคอ่ะ เลยยังกลับไม่ได้" สองชี้แจง
           "ว้า..." หนึ่งแกล้งทำหน้าเสียดาย
           "ไมฮะ..อยากเจอพี่สาวของสองเหรอ" สองถาม
           "ใช่ดิ..พี่จะได้ฝากตัวเป็นน้องเขยไง" หนึ่งพูดอย่างอารมณ์ดี ก่อนยิ้มกรุ้มกริ่ม
           "อ๊ะ........" ร้องออกไปได้แค่นั้น สองก็ก้มหน้างุดๆแย่งเอาเป้ตัวเองไปใส่ไว้ท้ายรถ ก่อนเดินไปเปิดประตูข้างคนขับขึ้นไปนั่งอมยิ้มแก้มแดง
           หนึ่งเองก็เดินอมยิ้มตามคนรักขึ้นไปนั่งด้านคนขับ หลังจากเอากระเป๋าของตัวเองลงไปวางไว้ข้างๆเป้ของคนตัวเล็กและปิดท้ายรถเรียบร้อยแล้ว  สุดท้ายBMWสีดำของหนึ่งก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากคอนโด
                                            
                                               ..............................................

            "แอร์เย็นไปมั้ยสอง..เดี๋ยวพี่ลดให้นะ" หนึ่งถาม เมื่อเห็นสองเอาเข่าขึ้นมานั่งกอดไว้
            "อ๋อ..ไม่เป็นไรฮะ..จริงๆก็ไม่หนาวหรอก  แค่เมื่อยๆ"
            "เฮ่ย..เพิ่งออกมาจากกรุงเทพฯเองนะ..เมื่อยแล้วเหรอ ไมเมื่อยง่ายจัง"หนึ่งถาม
            "ก็...ไม่รู้ดิ..."
            "งั้นพี่นวดให้เอามั้ย" หนึ่งพูดขึ้นขณะที่ตายังคงมองไปที่ถนนเบื้องหน้า
            "บ้า..พี่หนึ่งขับรถอยู่นะ" สองพูดขึ้นก่อนค้อนเล็กๆในความเพ้อเจ้อของคนตัวสูง
            "ก็...หาที่เงียบๆ..จอดรถ..แล้วก็็..นวดให้ไงครับ..สองเมื่อยตรงไหน พี่นวดให้ได้ทั้งตัวเลย ทั้งข้างนอกแล้วก็ข้างใน"
            "บ้า...ใครจะไปให้นั่งนวดนอกรถได้ล่ะ..พี่หนึ่งเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว"
            "พี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่จะนวดให้นอกรถนี่ นวดในรถนี่แหละส่วนตัวดี และไอ้ที่บอกว่าข้างนอกกับข้างใน พี่ไม่ได้หมายความแบบนั้นซะหน่อย" หนึ่งอมยิ้ม..คนตัวเล็กตามเขาไม่ทันซะแล้ว
            "ก็...." สองทำท่าหยุดคิด  ก่อนที่ใบหน้าจะเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ สองรีบหันไปกระจกด้านข้าง ก่อนพูดออกไปดังๆ
            "บ้า!~"
            "55555" หนึ่งหัวเราะร่วน ถูกใจกับอาการแก้มแดงของสองหลังจากที่หันไปมองแวบๆ
            "ไม่คุยด้วยแล้ว..สองนอนล่ะ"  แล้วคนตัวเล็กก็ปรับเบาะเองลง สองนอนราบไปกับเบาะแต่ยังคู้เข่าไว้ ก่อนหันหลังให้คนตัวสูงที่ขับรถอยู่ด้วยอาการงอนๆ
            "โห..แหย่เล่นหน่อยเดียว ถึงกับทิ้งให้พี่ขับรถคนเดียวเลย โอ๋ โอ๋ อย่าเพิ่งหลับสิครับ นะ นะ คุยเป็นเพื่อนกันก่อนนะครับ" หนึ่งรีบง้อ
            "เปล่านะ แค่นอนเฉยๆ ไม่ได้หลับซะหน่อย" เสียงคนตัวเล็กดังกลับมา
            "งั้นก็หันหน้ามาทางนี้สิ จะได้มีกำลังใจขับรถไง"
            "ไม่เอาล่ะ..สองไม่อยากเห็นหน้าคนบ้ากาม"
            "เฮ้ย...ใครบ้ากาม" หนึ่งถามคนตัวเล็ก
            "ไม่รู้ดิ..แถวๆนี้แหละ"
            "ปากจัดแบบนี้...คืนนี้โดนทำโทษนะครับ" หนึ่งแกล้งทำเสียงหื่นๆ
            คนตัวเล็กหันตัวกลับมาทีนที แต่ใบหน้าแสดงถึงชัยชนะ
            "555พี่หนึ่งคิดว่า จะได้นอนกับสองเหรอ..ถึงพ่อสองจะรับได้นะ แต่พ่อก็ไม่ให้สองนอนกับพี่หนึ่งหรอกนะ55ห้องใครห้องมัน เข้าใจนะฮะ"
            "เฮ้ย..อ้าว..ไหงงั้นอ่ะ..งี้พี่ไม่ต้องอดตลอดทริปเลยหรือครับ" หนึ่งทำหน้าเซ็งทันที
            "555ก็แหงล่ะ ดีแล้วพี่หนึ่งจะได้พักผ่อนซะบ้าง..อย่าหมกมุ่น ไม่ดีๆ" เจ้าคนตัวเล็กได้ที่ ทำเป็นกอดอกปั้นหน้าเป็นผู้รู้ก่อนส่ายหน้าช้าๆ
            "หนอย..ฝากไว้ก่อนนะครับ ตัวดี" หนึ่งทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจ
            "555555"และตอนนั้นเอง.......
            "โครกก..ครากก~~..อ๊ะ"  สองลุกขึ้นเอามือลูบท้อง
            "อ้าว..โห..พี่นี่เจ๋งจริงๆ..ในที่สุดสองก็ท้องซะที" หนึ่งยังแกล้งพูดเล่นต่อไป
            "บ้า....นี่เค้าเรียกว่า เสียงเรียกร้องจากกระเพาะหรอก กระเพาะเค้าบอกว่าได้เวลาให้อาหารแล้ว "
            "555555"หนึ่งหัวเราะร่วน
            "เดี๋ยวพี่หนึ่งแวะ่Jiffyข้างหน้านะ พี่หนึ่งต้องเติมน้ำมันมั้ยฮะ" คนตัวเล็กถาม
            "อ๋อ..ไม่ต้องครับ ยังอยู่อีกเพียบ วิ่งได้อีกเป็นสิบๆโล"
            "โอเคงั้นเดี๋ยวพี่หนึ่งเข้าไปจอดตรงที่ขายของกินเลยนะ สองขอซื้อขนมนิดหน่อย"
            "ได้ครับ..พี่ก็ว่าจะเข้าห้องน้ำอยู่เหมือนกัน ขับนานๆแล้วชักจะปวดฉี่"
            หลังจากนั้นหนึ่งก็ตบไฟเลี้ยว ก่อนค่อยๆลดความเร็วลงเข้าช่องทางซ้ายสุด เพื่อเลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมันใหญ่แห่งหนึ่ง
            พอหนึ่งจอดรถที่หน้าร้านสะดวกซื้อเรียบร้อย หนึ่งกับสองก็แยกย้ายกันไป สองเข้าไปซื้อของขบเคี้ยวและเครื่องดื่มแก้หิวที่ร้านสะดวกซื้อ ส่วนหนึ่งเดินไปที่ห้องน้ำอีกทาง
            สองตั้งใจว่าจะซื้อเป๊ปซี่สักสองกระป๋อง ของตัวเองหนึ่งกระป๋องแล้วก็เผื่อหนึ่งอีกกระป๋องนึง  แล้วคนตัวเล็กก็เดินเลือกขนมดูโน่นดูนี่อยู่สักพัก สายตาก็เหลือบไปเห็นรูปเบอร์เกอร์ที่โฆษณาอยู่ เห็นแล้วก็แอบน้ำลายไหล สองจึงเดินไปสั่งเบอร์เกอร์ที่พนักงานหนึ่งชิ้น ใช้เวลารอนานพอสมควร สองเห็นหนึ่งมายืนรอที่รถแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปนั่งข้างใน และตอนนั้น ขณะที่สองได้เบอร์เกอร์ชิ้นนั้นแล้ว กำลังรอจ่ายเงินที่แคชเชียร์
            "นี่ๆ..แก..ดูนั่นดิ..หล่อโคตร" พนักงานที่กำลังจิ้มนิ้วไปที่แป้นเครื่องคิดเงิน ถูกเรียกโดยพนักงานหญิงอีกคนที่ว่างอยู่
            "ไหนอ่ะ" พนักงานคนที่ถูกเรียกคิดเงินเรียบร้อยแล้ว กำลังเอาของใส่ถุงให้สองที่ยืนรออยู่ตรงนั้นเหมือนกัน
            "ก็คนที่ยืนตรงรถBMสีดำน่ะ"
            แค่นั้นแหละ สองก็หันไปมองทันที ใช่แล้ว..ใช่พี่หนึ่งของสองจริงๆด้วย
            "เออว่ะ...หล่อจริงๆด้วย ดาราป่าววะ"
            "ไม่ใช่หรอกมั้ง ไม่เห็นคุ้นหน้า" คนที่ว่างอยู่บอก
            "หล่อๆแบบนี้ เป็นเกย์ป่าววะ" คนที่เอากำลังของใส่ถุงพูดขึ้น ตอนนี้สองกำลังส่งเงินให้หญิงสาวคนนั้น
            "บ้า..ไม่หรอก..หูยถ้าเป็นเสียดายตาย หล่อขนาดนี้ต้องเอาไปนอนกกที่บ้าน"  เพื่อนอีกคนบอกอย่างสนุกปาก
            "แกอยากรู้ก็วิ่งไปถามเค้าดิ" ตอนนี้สองได้ของแล้ว และกำลังรับเงินทอนจากหญิงสาวที่ยุให้เพื่อนไปถามหนึ่ง
            และตอนนั้นเอง...ขณะที่สองกำลังจะเดินออกจากร้าน เจ้าคนตัวเล็กก็พูดกับพนักงานสาวสองคนนั้นว่า
            "ไม่ต้องไปถามเค้าหรอกครับ..ถามผมก็ได้ ผมมากับเค้า..พี่เค้าชื่อหนึ่ง  เป็นแฟนผมเอง"
            พูดได้แค่นั้นแหละ สองก็เดินยิ้มบางๆออกมาหาหนึ่งที่ยืนรออยู่ ปล่อยให้พนักงานสาวสองคนยืนเงียบกริบ ได้แต่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก


เดี๋ยวต่อเรื่อยๆนะจ๊ะ  :L1:

อ่านแล้วกด poll ให้เค้าหน่อยนะ^^  :m13:เป็นพระคุณอย่างมาก
          

            


        
          
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 02-02-2011 15:12:13
แอร๊ยยยยยยยยยจิ้มพี่วัน

น้องสองมั่นมากลูก ว่าแต่อิพี่หนึ่งไม่ค่อยหื่นเลยนะ ข้างทางก็ยังไหว 55
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 02-02-2011 15:49:11
เเรวงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 02-02-2011 20:46:07
น้องสองภูมิใจนำเสนอ :laugh:
พี่หนึ่งเนี่ยพอได้น้องสองแล้วหื่นขึ้นจม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-02-2011 21:22:34
นู๋สองแรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

เค้ากดโพลแล้วน๊าค๊า อิอิ ช้อบชอ้บมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 02-02-2011 21:42:00
มีพี่หนึ่งแล้วจึงมีน้องสอง

แล้วพี่หนึ่ง(ชาย)มีน้องชื่อสองด้วยมั้ยนี่  :laugh:

น้องสองตรงดี ไม่แรงไป พวกปากไม่ดี วิจารณ์คนอื่นต่อหน้าลูกค้า
บอกแค่นี้ ไม่ได้ว่าอะไร ก็เขาอยากรู้มากนี่นะ

ให้มันรู้ซะบ้าง แฟนใคร แฟนสองนี่เอง  :laugh:

บวก 1 จึ๊กให้น้องวันจ้า ขอบคุณนะจ๊ะ

กดโพลอีกด้วย โหวตๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 02-02-2011 23:26:02
สองแรงค่ะ  ชอบบ

ดีแล้วๆชะนีน้อยจะได้หงายหลังกลับไปเลย

บังอาจจะมาแย่งสามีสอง ไม่มีทางยอมเด็ดขาดดด

สามีข้าใครอย่าแตะ  หึหึ :fire:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 03-02-2011 06:30:27
น้องสองแรงได้ใจ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 03-02-2011 08:36:03
ต่อนะ...

          
           หนึ่งเห็นคนตัวเล็กเดินออกมาจากร้านแล้ว  ในมือถือถุงขนม คนๆนั้นกำลังเดินยิ้มกริ่มออกมา
           "เป็นไรครับ..ดูยิ้มเข้า แปลกๆนะเนี่ย" หนึ่งเลิกคิ้วถาม
           "ไม่มีอะไรหรอกฮะ...ไปกันเถอะนะ " คนตัวเล็กบอกก่อนที่จะเปิดประตูขึ้นไปนั่ง
           หนึ่งเห็นดังนั้นก็เลยไม่ติดใจถามต่อ เขาเข้าไปในรถ นั่งลงด้านคนขับ เมื่อทั้งสองจัดการรัดเข็มขัดนิรภัยเรียบร้อย หนึ่งจึงสตาร์ทรถ แล้วออกเดินทางต่อ
           หนึ่งขับรถมาได้ประมาณ1ชั่วโมง เขาก็หันไปมองเจ้าคนตัวเล็ก ที่ไม่มีทีท่าว่าจะหลับ แต่เขาได้ยินคนๆนั้นหยิบโน่นหยิบนี่ แกะขนมเสียงดัวก๊อบแก๊บตลอดเวลา แล้วก็เสียงเคี้ยวขนมกรอบๆ และตอนนี้ก็........
           "โห...กินตุ้ยๆไม่เแบ่งเลยนะครับ" หนึ่งบอกเจ้าตัวเล็กที่นั่งๆข้างๆ กำลังเคี้ยวเบอร์เกอร์อย่างมีความสุข รู้สึกอยากกินเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นบ้าง
           "หืม................" สองหันมาทางหนึ่ง ยังคงเคี้ยวเบอร์เกอร์แก้มบวม
           "ว่าไง...ไม่แบ่งพี่เลยหรือครับ"  
           สองรีบเคี้ยวเบอร์เกอร์แล้วกลืนลงคอ คว้าน้ำเป็บซี่มาดื่ม แล้วพูดว่า
           "อ้าว...แล้วไม่พี่หนึ่งไม่บอกว่าจะกินอ่ะ สองจะได้ซื้อเผื่อ"
           "ก็ตอนนั้นพี่ยังไม่อยากกินนี่  เห็นสองกินแล้วท่าทางอร่อย"
           "อ้าว....ไม่เอาหรอก..พี่หนึ่งกินทีเดียวหมดแน่เลย"
           "เฮ้ย...พี่ไม่ได้เป็นหมูนะ ไม่กินจุขนาดนั้นหรอกนะ แค่ขอชิมนิดเดียวเอง"
           "นิดเดียวนะ..."
           "ครับ..นิดเดียว  นิดเดียวจริงๆ"
           "อ้ะ..."  แล้วสองก็ยอมยื่นเบอร์เกอร์ชิ้นนั้นให้คนที่ทำหน้าที่ขับรถอยู่
           "อื้ม...." หนึ่งกัดเบอร์เกอร์ไปหนึ่งคำ แล้วเคี้ยวช้าๆ ก่อนทำหน้ามีความสุข
           "โห  อะไรจะอร่อยปานนั้น" สองแอบแขวะ
           "5555มีความสุขน่ะ"
           "แค่กินเบอร์เกอร์เนี่ยนะ" สองเลิกคิ้วถาม
           "ครับ...กินเบอร์เกอร์ที่สองป้อนให้ สุขจะตาย"
           "อ่ะ...-///- สรุปว่าอยากให้สองป้อนใช่ปะครับ" สองถามแบบเขินๆ
           "ก็ถ้าสองป้อนขนมให้พี่ตลอดทาง พี่คงมีความสุขสุดๆเลยล่ะครับ" หนึ่งแกล้งหยอดคำหวานต่อ
           ">//<" สองหน้าแดงใหญ่แล้ว คนตัวเล็กนิ่งสักพัก ก่อนคว้าถุงขนมมาแกะออก สองหยิบขนมมาหนึ่งชิ้น แล้วยื่นไปที่ปากของหนึ่ง คนตัวสูงเอาปากงับชิ้นขนมไว้ แต่ก็ไม่วายเอาปลายลิ้นเลียผงขนมที่นิ้วของสองเบาๆ
           "อ๊ะ...>/////< ถ้าแกล้งอีกไม่ป้อนแล้วนะ " สองคาดโทษ
           "หึ หึ ไม่แกล้งแล้ว ป้อนต่อนะ" หนึ่งบอกเสียงทุ้ม
           "อื้อ.." แล้วสองก็จำใจต้องป้อนขนมให้กับสารถีสุดหล่อต่อไป  ตอนนี้หนึ่งกับสองใกล้จะถึงที่หมายแล้ว
           หลังจากนั้นอีกประมาณครึ่งชั่วโมง.......
           ตอนนี้หนึ่งกำลังขับรถเข้าตัวเมืองหัวหินแล้ว...
           "เดี๋ยวพี่หนึ่งเลี้ยวซ้ายข้างหน้านะฮะ" สองบอกคนตัวโต
           "อา..ได้เลย" หนึ่งรับคำ แล้วตบไฟเลี้ยวเพื่อไปตามทางที่สองชี้
           พอขับมาได้สักพัก หนึ่งก็รู้ว่าจุดหมายปลายทางคือร้านอาหารแ่ห่งหนึ่ง  เป็นร้านอาหารซีฟู้ดขนาดใหญ่ติดริมทะเล  หนึ่งขับรถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถ ซึ่งตอนนี้มีรถจอดอยู่เต็มไปหมด สักพักก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ทำหน้าที่โบกรถและดูแลเรื่องความเรียบร้อยภายในลานจอดรถ เดินเข้ามาเมื่อเห็นสองกำลังลงจากรถ
           "อ้าว....เฮ้ย...สอง..ไง"
           เด็กหนุ่มคนนั้นทักสอง.. หนึ่งสังเกตว่าเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีทีเดียว
           "สวัสดีครับ..พี่เนม"
           "เออๆ..บอกว่าไม่ให้เรียกพี่ไงวะ แก่ว่ะ "
           "5555ก็เกิดก่อนนี่หว่า" สองบอก
           "แก่กว่าแค่ปีเดียวเนี่ยนะ....เออๆ..ช่างเหอะ อยากเรียกไรเรื่องของมึง...ว่าแต่จะเข้าไปหาลุงอ้วนเลยใช่ปะ"
           เนมหมายถึงลุงอ้วน ที่เป็นพ่อของสองนั่นเอง
           "ฮื่อ...จะมาเอากุญแจบ้านอ่ะ" สองพูดขึ้น แล้วก็นึกได้ว่าหนึ่งรออยู่ในรถ คนตัวเล็กเลยยื่นหน้ามาที่กระจกรถ ก่อนบอกกับหนึ่งว่า
           "เดี๋ยวพี่หนึ่งรอสองแป๊บนะฮะ  สองเข้าไปเอากุญแจบ้านแป๊บเดียวเดี๋ยวมานะ"
           "โอเคครับ..." หนึ่งรับคำ  หนึ่งเห็นคนตัวเล็กเดินเข้าไปพร้อมกับเด็กหนุ่มคนนั้น  นั่งรออยู่สักพัก สองก็เดินออกมา ก่อนที่จะเข้ามานั่งยิ้มแป้นอยู่ในรถกับหนึ่งอีกครั้ง
           "ไปฮะ..."
           "หืม...ครับ" หนึ่งรับคำ แล้วก็ออกรถอีกครั้ง
           หลังจากนั้นสองก็บอกทางหนึ่ง หนึ่งขับรถเข้าซอยคดเคี้ยวต่ออีกประมาณยี่สิบนาที เขาก็เห็นบ้านไม้สีสวย ที่ถูกล้อมรอบด้วยรั้วไม้  หลังจากสองบอกให้หนึ่งจอดรถที่หน้าประตู คนตัวเล็กก็เดินลงไปไขกุญแจประตูบานใหญ่  ก่อนบอกให้หนึ่งขับรถเข้าไป  บ้านไม้สีสวยคือบ้านของสองนั่นเอง
           หนึ่งขับรถมาจอดที่หน้าบ้าน  แล้วก็จัดการขนของลง โดยที่เจ้าตัวเล็กเป็นคนเปิดบ้านให้  ตอนนี้สองกำลังพาหนึ่งขึ้นชั้นบน เพื่อไปที่ห้องพักรับรองที่พ่อกับแม่ของสองเตรียมไว้ให้หนึ่ง
           "เดี๋ยวพี่หนึ่งนอนห้องนี้นะฮะ" สองหันไปบอกคนตัวสูง
           "อ่าา...ครับ"  หนึ่งรับคำแล้วก็เดินเข้าไปในห้อง  ก่อนที่จะหันมาถามคนตัวเล็ก
           "แล้วสองล่ะ"
           "ก็ห้องนั้นไงครับ"  สองชี้ให้หนึ่งดูห้องที่อยู่ถัดไปอีกสองห้อง
           "นั่นห้องของสองเหรอครับ" หนึ่งถาม
           "ฮะ..เดี๋ยวพี่หนึ่งจัดของไปก่อนนะ เดี๋ยวสองเอากระเป๋าไปเก็บก่อน เดี๋ยวมา"
           "โห..พี่มีของแค่นี้เอง  ไม่ต้องจัดอะไรหรอก ขอไปนั่งเล่นที่ห้องสองดีกว่านะ" คนตัวสูงออดอ้อน
           สองมองคนออดอ้อนอยู่พักหนึ่ง จึงตามใจให้หนึ่งตามไปด้วย  คนตัวเล็กพาหนึ่งเข้าไปในห้องของตัวเอง หนึ่งมองสำรวจรอบห้อง ก่อนตัดสินใจนั่งลงบนเตียงเล็กๆของสอง  ห้องของสองเป็นห้องเรียบๆ ไม่ได้มีอะไรมาก ไม่มีโปสเตอร์ดาราติดเต็มฝาผนัง เหมือนเด็กวัยรุ่นที่ชื่นชอบดาราในดวงใจ  ส่วนใหญ่จะเป็นชั้นวางหนังสือ ที่มีแต่หนังสือเรียนเต็มไปหมด
           "บ้านสองดูอบอุ่นดีนะครับ...พี่อิจฉาเลยนะเนี่ย อยู่ติดทะเลด้วย"
           "555ชักติดใจแล้วสิฮะ" สองหันไปบอกหนึ่ง ขณะที่กำลังเอาเป้วางไว้ตรงที่ประจำแถวตู้เสื้อผ้า
           "ก็...ถ้าสองอยู่ไหน พี่ก็อยากอยู่ที่นั่นแหละ" หนึ่งหยอดคำหวานอีกแล้ว
           สองหันมามองหนึ่ง คนตัวเล็กค้อนให้คนตัวสูง
           "เดี๋ยวนี้หยอดมากไปเป่่าพี่..สองไม่ใช่คนที่จะหลงคารมง่ายๆนะ"
           "เฮ้ย...พูดหวาน กับเป็นขมซะงั้น"  หนึ่งถอนหายใจ  ก่อนนอนลงไปบนเตียง
           "อ๊ะ....อย่าเพิ่งนอนสิฮะ  ยังไม่ได้อาบน้ำเลย ไปเลยไปอาบน้ำ "
           "อ้าว..ไล่กันซะงั้น" หนึ่งพูดยิ้มๆ
           สองเห็นคนตัวสูงยังนอนสบายอยู่บนเตียงไม่มีทีท่าว่าจะลุกง่ายๆ คนตัวเล็กส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินเข้าไปจับมือคนที่นอนอยู่บนเตียงเพื่อดึงตัวหนักๆของคนๆนั้นให้ลุกขึ้น พร้อมกับบ่นไปด้วย
           "เร็วสิฮะ..พี่หนึ่ง เดี๋ยวเย็นๆพ่อกับแม่ก็กลับมาแล้วนะ"
           "ยังอ่ะ..อยากนอนแล้วอ่ะ" หนึ่งบอกเสียงเรียบ แกล้งหลับตา ร่างหนักไม่สะทกสะท้านกับแรงดึงของสอง
           "ไมดื้องี้อ่ะ บทจะดื้อก็ดื้อซะเฉยๆเลย" สองบ่น ยังคงออกแรงดึงคนตัวสูง
           "บอกพี่ก่อน.. ไอ้หนุ่มนั่นเป็นใคร" หนึ่งถามทั้งๆที่ยังหลับตา
           "หนุ่มไหนล่ะ ตั้งแต่ออกจากกรุงเทพฯก็ตัวติดอยู่กับไอ้หนุ่มที่นอนอืดอยู่คนเดียวนี่แหละ เอ้า..ลุกซะทีเซ่" สองเริ่มเสียงดัง
           "ก็..เด็กโบกรถที่ร้านอาหารน่ะ ดูสนิทกับสองจัง"
           "หา...นั่นน่ะ เพื่อนสองฮะ เคยรู้จักกันตั้งแต่เด็กแล้ว เค้าเรียนเทคนิค ว่างๆก็มาช่วยพ่อสอง  ไมอ่ะ..หึงเหรอ"
           "หึงสิครับ..ใครอยากให้แฟนไปสนิทกับคนอื่นล่ะ"
           "โอ๊ย..พี่หนึ่ง  สองกับเนมไม่มีอะไรกันหรอกฮะ เจอกันทีไรก็กัดกันทุกที จ้องจะเตะก้นสองตลอด พี่หนึ่งอย่่าคิดมากสิ เอ้าไปได้แล้ว เดี๋ยวเย็นๆพ่อกับแม่สองก็กลับแล้วนะ พ่อตั้งใจปิดร้านเร็วเพื่อพี่หนึ่งเลยนะ เค้าอยากโชว์ฝีมือทำอาหาร ไปเร็ว..เลิกหึงได้แล้ว" สองรีบดึงตัวหนึ่ง แต่ไม่ทันไรก็เสียหลักลงไปนอนบนอกของคนๆนั้น เพราะแรงกระชากของคนตัวสูงที่นอนอยู่
           "อ๊ะ..."สองอุทานออกมา
           "ยอมก็ได้....แต่สองช่วยพี่อาบหน่อยนะ" หนึ่งกระซิบบอก แค่นี้ก็ทำเอาสองหน้าแดงเรื่อๆแล้ว
           "อื้อ..พี่หนึ่งนี่  ไปใหญ่แล้วนะ..โตแล้วอาบเองนั่นแหละ ดีแล้ว" สองได้แต่พูดอู้อี้กับอกหนาๆของหนึ่ง
           "ไมอ่ะ ถูหลังให้พี่หน่อยดิ นะ นะครับ" หนึ่งออดอ้อน
           "ไม่เอาหรอก..เคยตัว ปล่อยเลย"
           "ไม่ปล่อย" คนตัวสูงชักจะดื้อมากเสียแล้ว
           "ไม่ปล่อยใช่มั้ย ได้..." สิ้นเสียงของคนตัวเล็ก หนึ่งก็ต้องหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับปล่อยสองออกจากอ้อมกอด คนตัวสูงดิ้นไปดิ้นบนเตียง เพราะโดนคนรักจี้เข้าให้ที่เอว
           "55555"  หนึ่งหัวเราะดิ้นไปมา
           "55เป็นไงฮะ นี่ นี่ จะไปอาบน้ำมั้ย" สองจี้เอวหนึ่งอย่างเมามัน
           "5555 โอเค555 พี่555ยอมเล้ว555ไปอาบน้ำแล้ว55" แค่นั้นแหละ หนึ่งก็รอดจากการลงโทษของสองด้วยวิธีแกล้งคนบ้าจี้
           "ดีมากฮะ  ว่าง่ายๆแบบนี้ค่อยยังชั่ว" สองนั่งกอดอกอยู่บนเตียง กำลังมองหนึ่งที่ลุกขึ้นไปยืนที่ตรงประตูห้องแล้ว
           "ฝากไว้ก่อนนะครับ ไม่บ้าจี้มั่งให้มันรู้ไป" หนึ่งคาดโทษ
           "อ๊ะ อ๊ะ รึอยากโดนอีก " สองยกสองมือขึ้นทำนิ้วขยุกขยิก แกล้งปั้นสีหน้ามาดร้าย
           "55โอเค...ไว้กลับไปเมื่อไรล่ะก็  รับร้องครับ  พี่คิดบัญชีแน่"
           สองแลบลิ้นหยีตาให้คนตัวสูง
           "แบร่  ไม่กลัวหรอกฮะ"
           "กลัวแต่ว่าจะไม่โดนใช่มั้ยครับ" หนึ่งแกล้งทำหน้าหื่นๆล้อเลียนสอง แล้วรีบชิ่งออกไปจากห้อง ก่อนที่จะโดนหมอนใบใหญ่ที่คนตัวเล็กปามายังทิศทางที่ตนเองยืนอยู่
           "พี่หนึ่ง..บ้า!" สองตะโกนออกไปได้แค่นั้น ยังคงได้ยินเสียงหัวเราะร่วนของคนตัวสูงดังอยู่ด้านนอก   
           
          


            

        
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 03-02-2011 14:47:33
มีความสุขกันจัง   อิจฉาๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-02-2011 15:12:48
 :laugh:น่ารักมากมายอ่ะตอนนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 03-02-2011 15:32:49
น่าอิจฉา
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...2/01/11(2:56PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 03-02-2011 23:02:10
ขอดันนิดนะ ต่อจบไปหนึ่งช่วงแระ ฮี่ ฮี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-02-2011 23:11:09
อิจฉาด้วยคน ทำไมเราไม่มีหลานๆแบบนี้บ้างนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 03-02-2011 23:18:39
อ่าวเอ๊ะ มาตั้งแต่บ่ายสองแระ

เพิ่งตามทันอ่าToT ว่าแต่ตอนนี้บทมันสลับกันป่าวพี่วัน
พี่หนึ่งต้องเป็นคนจี๊เอวน้องสองดิ แล้วก็...... :oo1:อรั๊งบ้าบอไปแล้วตรู
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-02-2011 23:26:42
 o13น้องสองน่ารัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 04-02-2011 04:31:01
 :really2: อยากให้พี่หนึ่งเอาคืนน้องสองเร็วๆจัง หมายถึงเรื่องจี้เอวนะจ๊ะอย่าคิดมาก :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 04-02-2011 16:52:18
น้องสองน่าร๊ากกกกกกกกก :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 04-02-2011 17:14:30
น่ารักจิงๆ   :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Rhythm ที่ 04-02-2011 17:45:56
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: LalaBam ที่ 04-02-2011 19:44:56
 :serius2:
ทำไมฉันไม่มีบ้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 04-02-2011 23:45:25
น้องสองน่ารัก พี่หนึ่งก็รักน้อง ที่หื่นก็เพราะรักเนอะ  :z1:

เดี๋ยวเจอกัน คุณลูกเขยกับคุณพ่อตาแม่ยาย จะเป็นไงกันบ้าง

รอฉากต่อไปจ้า ขอบคุณน้องวันนะจ๊ะ

บวกแต้มที่ 69 ไปละ เลขสวยๆ  :laugh:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 05-02-2011 14:04:06
อ่านรวดเดียวหมดเลย สนุกมากกกกกกกกกกกกกก  o13

รอตอนต่อไปอยูนะค้า  :-[

ป.ล. จิ้มโพลล์แล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: MrTeddy ที่ 05-02-2011 19:29:57
เรื่องราวแบบว่าน่ารักๆ ใสๆ เลย
อ่านแล้วสดใสดีเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Sabaijai ที่ 05-02-2011 20:10:37
อ่านแล้วเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงคำว่า...อิจฉาตาร้อน... :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 05-02-2011 22:55:29
มาต่อล่ะ

         ในตอนเย็นของวันนั้น หลังจากที่พ่อกับแม่ของสองกลับมาแล้ว สองจึงพาหนึ่งไปแนะนำตัว
         "สวัสดีครับ" หนึ่งยกมือไหว้ พ่อและแม่ของสอง
         "สวัสดีจ้า " แม่ของสองพูดทักทาย ใขขณะที่พ่ออ้วนพยักหน้ารับเฉยๆ  แต่ก็ส่งยิ้มให้
         มีหรือที่คนสูงวัยทั้งสองจะไม่รู้ว่า ผู้ชายที่หน้าตาท่าทางมีการศึกษาอายุแก่กว่าเจ้าคนตัวเล็กนี่ มีความสำคัญแค่ไหนสำหรับเจ้าลูกคนนี้
          ใช่แล้ว..เพราะการที่พ่อกับแม่ของสองเปิดใจรับในเรื่องนี้ ทำให้สองสามารถเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวได้อย่างเปิดเผยกับคนในครอบครัว
         "มาเหนื่อยๆ ได้พักกันบ้างรึยังล่ะ" แม่ถามสอง ขณะที่หันไปยิ้มให้กับหนึ่ง ที่ดูว่าจะตัวสูงที่สุดในวงสนทนา
         "ก็ได้พักบ้างแล้วครับ อาบน้ำแล้วก็รู้สึกเย็นสบาย" หนึ่งบอกผู้หญิงสูงวัยด้วยท่าทางนอบน้อม
         "ดีจ้ะ งั้นก็พากันไปนั่งเล่นที่ศาลาเรื่อนไม้หน้าบ้านก่อนนะ เดี๋ยวพ่อเค้าทำข้าวเย็นเสร็จแล้วแม่จะไปเรียก เอ้า ..สองไปเอาน้ำกับขนมให้พี่เค้าทานเล่นก่อนนะ" สองยิ้มรับ..ก่อนที่จะตั้งใจเอ่ยถามมารดาว่า วันนี้มีปลากริมไข่เต่าที่สองชอบรึเปล่า
         "อ่ะ..มะ....." แต่ยังไม่ทันที่จะเอ่ยเป็นเรื่องเป็นราว  ชายสูงวัยอีกคนในวงสนทนา ที่กำลังพยายามตีหน้าขรึม ก็พูดขึ้น
         "แต่พ่อ ..ยังไม่มีลูกมือเลยนะ...เฮ้ย..ใครจะช่วยได้บ้างเนี่ย ต้องการแรงช่วยทำโน่นทำนี่เยอะซะด้วย" พ่ออ้วนของสองหันไปมองทางหนึ่งด้วยแววตาเจ้าเล่ห์นิดๆ ซึ่งหนึ่งเองก็เห็นพอดี จึงยิ้มบางๆแล้วพูดขึ้น
         "เดี๋ยวผมช่วยนะครับ"
         "ทำได้เร้ออ" พ่ออ้วนแกล้งทำเสียงสูง
         "ได้ครับ..สบายมาก" หนึ่งรับคำหนักแน่น
         "เดี๋ยวผมช่วยด้วยนะ"สองรีบพูดขึ้น รู้สึกกังวลในความเจ้าเล่ห์ของพ่อตัวเองเล็กน้อย
         "โอ้ย...ไม่ต้องหรอก ถ้าหนึ่งเค้าอยากช่วย แค่นี้ก็พอแล้ว พ่อเบาแรงขึ้นเยอะ หนึ่งไหวนะ?" คนแก่หันไปถามคนหนุ่ม
         "ครับ..ไหวครับ" หนึ่งยิ้มรับ
         "เห็นมั้ย เจ้าตัวเค้ารับคำแล้ว ไปๆ สองแกไปทำหน้าที่แกซะ"
         "ทำไรอ่ะพ่อ" สองหน้าตาเลิกลั่ก ไม่เข้าใจว่าจู่ๆตัวเองก็มาหน้าที่ซะอย่างนั้น
         "ก็ล้างรถไง"
         "เฮ่ย..โหพ่อ..นี่สองเพิ่งถึงบ้านเหนื่อย ใช้สองล้างรถเลยอ่ะ" สองบ่นกระปอดกระแปด
         "เออ..นั่นล่ะ ขัดให้ขึ้นเงาเลยนะ" ลุงอ้วนพ่อของสองกำลังบอกให้ไอ้เจ้าลูกชายล้างรถวีโก้สีดำคันโปรดของตัวเองนั่นเอง
         "เอ่อ..งั้นเดี๋ยวพอทานข้าวเสร็จแล้ว ให้หนึ่งช่วยสองล้างด้วยดีกว่าครับ" หนึ่งรีบออกความเห็น เพราะนึกเป็นห่วงเจ้าคนตัวเล็ก ไม่เข้าใจว่าพ่ออ้วนทำไมปล่อยให้สองล้างรถคันใหญ่คนเดียว ขณะที่ต้องการให้คนตัวโตแบบหนึ่งช่วยงานเบาๆอย่างการทำกับข้าวแทน
         "เฮ้ย..พี่หนึ่ง..สองว่าอย่าดีกว่าครับ ถึงตอนนั้นพี่หนึ่งก็หมดแรงทำแล้วล่ะ"
         "ทำไมล่ะครับ แค่ช่วยทำกับข้าวเอง พี่ไหวนะ ไม่ลำบากหรอกครับ"
         "เอ่อ..คือ..สองว่า..ล้างรถสบายกว่านะ" สองกระซิบบอกหนึ่งเบาๆ
         "หืม!..."  ตอนนี้หนึ่งชักจะแปลกใจกับคำพูดของคนตัวเล็ก
         หลังจากนิ่งฟังมานาน พ่อของสองจึงตัดบทว่า
         "เอาล่ะ..เนี่ย..แบบนี้ดีแล้วล่ะ แกรีบๆไปทำเลยสอง อย่าอู้ เอ่อ..แล้วหนึ่งคงไม่รังเกียจที่จะเป็นลูกมือทำอาหารกับพ่อหรอกนะ"  คนแก่หันไปถามคนหนุ่ม
         เพียงแค่ได้ยินชายสูงวัยให้ความสนิทสนมเอ็นดู ถึงขนาดพูดแทนตัวเองว่าพ่อ มีหรือที่หนึ่งจะปฏิเสธได้
         "ครับ ไม่รังเกียจครับ เต็มใจมากๆด้วย"  หนึ่งยิ้มรับเสียงสดใส
         "อื้ม..ดีๆ งั้นก็ตามเข้าไปในครัวเลยนะ"
         "ครับ" หนึ่งรับคำแล้วเดินตามพ่ออ้วนเข้าไปในครัว เหลือแต่สองที่กำลังยืนทำหน้าเซ็งเพราะถูกใช้ให้ล้างรถ  แต่ว่าเจ้าคนตัวเล็กก็ยังห่วงคนตัวสูง เพราะไม่แน่ใจว่าเขาจะต้องเข้าไปเจอกับอะไรบ้าง เมื่อคิดจะเป็นลูกมือของพ่อจอมเจ้าเล่ห์ของสอง
         "ไงเรา..เป็นห่วงพี่เค้าเหรอ"  ผู้เป็นแม่ถาม
         "ฮะ..พ่อเนี่ย เวลาอยู่ในครัวอ่ะ ใช้ให้ทำแต่ละอย่าง  โหดๆทั้งนั้นเลย พี่หนึ่งจะไหวเหรอฮะ" สองถามแม่ที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความเป็นห่วงคนข้างในครัว
         "โอ๊ย..แค่นี้ไม่ตายหรอก พ่อเค้าก็แค่อยากทดสอบว่าหนึ่งเป็นคนยังไง ก็เวลาฟังจากที่ลูกตัวเองเล่าน่ะ มันฟังดูดีไปซะหมดนี่ พ่อเค้าคงแอบหมั่นไส้ ที่พี่หนึ่งของสองดูจะดีเพียบพร้อมไปซะทุกอย่าง" ผู้เป็นแม่แกล้งแหย่ลูกชายตัวเล็ก
         "โห...สองก็เล่าตามที่สองเห็นแล้วก็คิดนั่นแหละฮะ  ก็พี่หนึ่งดีกับสองจริงๆนี่นา"สองพูดเบาๆแล้วก็ทำหน้าบูดๆ
         "จ้าๆๆ..ดีจ้ะ..ไม่งั้นเค้าคงไม่ยอมตามลูกของแม่มาถึงบ้านหรอกนะ"
         "แม่ก็...."  พูดไปพูดมาสองก็ชักจะอายซะแล้ว
         "ไป..รีบไปล้างรถซะ เสร็จแล้วจะได้มากินข้าวกันนะ เดี๋ยวแม่ไปดูซิว่าหนึ่งยังอยู่ครบสามสิบสองรึเปล่า" มารดาของสองพูดแล้วก็ยิ้มน้อยๆ
         "ฮะ..สองฝากพี่หนึ่งด้วยนะ อย่าให้พ่อแกล้งมากนะฮะ เดี๋ยวเค้ากลัวแล้วหนีกลับ"
         "จ้า...เป็นห่วงกันจริงน้า" ผู้เป็นแม่ส่งสายตาค้อนให้กับลูกชาย แต่ริมฝีปากระบายยิ้ม
         "แม่ก็..."สองอายม้วนต้วน คนตัวเล็กเลยรีบเดินไปนอกบ้านเพื่อจัดการล้างรถตามคำสั่งของบิดา
         และในตอนค่ำของวันนั้น หลังจากที่หนึ่งและสองได้รับประทานอาหารมื้อเย็นและอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยเพื่อที่จะเตรียมตัวเข้านอน  ตอนนี้สองนั่งอยู่บนเตียงในห้องพักของหนึ่ง
         "อูยย..เบาหน่อยสิ  พี่จี๊ดๆเลยนะเนี่ย"
         "ก็นะ..ใครใช้ให้พี่หนึ่งเส้นตื้น..ไปเชื่อพ่อเค้าทำไม ..เค้าให้หั่นพริกเป็นกิโลๆ..ยังจะทำอีก"
         "อ้าว..ก็พ่อสองบอกว่าจะเอาไปใช้ที่ร้าน...แกหั่นไม่ทัน"
         "บ้าเหรอพี่...ที่ร้านน่ะ  เค้ามีคนทำอยู่แล้วนะ แล้วดูดิได้แผลจนจะครับห้านิ้วแล้วนะ มือซ้ายของพี่หนึ่งอ่ะ" สองบ่นทำหน้ายู่ยี่ ก่อนหรี่ตาถามคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนเตียง
         "นี่พ่อใช้ให้พี่หนึ่งทำไรบ้างเนี่ย.."
         "ก็....ไม่มากหรอกน่า"  หนึ่งหลบตาคนตัวเล็ก
         "บอกมาซะดีๆ   ไม่งั้นโดน" สองทำหน้าตาจริงจัง พร้อมกับยกมือทำนิ้วขยุกขยิก เป็นอันรู้กันว่าถ้าไม่ยอมบอก..หนึ่งก็จะโดนคนตัวเล็กจี้เอวแล้วนะ
         "อือๆ..ก็ได้  บอกก็ได้ครับ ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่..ทอดปลา หุงข้าว หั่นพริกประมาณ2กิโล อืม..พี่คิดว่าน่าจะประมาณนั้นล่ะนะ  แล้วก็หั่นหอม ปลอกหอมใหญ่ เด็ดใบกระเพา ก็ไอ้สองถุงใหญ่ๆที่วางอยู่บนโต๊ะนั่นล่ะ แล้วก็อะไรอีกนะ เดี๋ยวนะ...อ๋อ..ตำน้ำพริก แล้วก็ลับมีด 55แค่นี้ล่ะ"
         คนตัวเล็กทำตาโตก่อนพูดขึ้นว่า
         "มิน่าล่ะ...พี่หนึ่งถึงมีรอยบาดเต็มมือ แล้วก็นี่อีก..รอยไหม้ๆนี่ต้องโดนน้ำมันในกระทะกระเด็นใส่ตอนทอดปลาแน่เลย เฮ้ย..แล้วไอ้ตาแดงๆปูดๆของพี่หนึ่งนี่หายแสบยังเนี่ย" สองเอื้อมมือไปแตะเบาๆที่ตาแดงๆของหนึ่ง หลังจากรู้ว่าหนึ่งเผลอเอามือไปขยี้ตาตอนหั่นพริก
         สองแสดงสีหน้ากังวล.. แค่เห็นรอยขมวดคิ้วกับอาการห่วงใยของคนตัวเล็ก หนึ่งก็คลี่ยิ้มออกมา เขาจับมือคนตัวเล็กมาแนบไว้ที่แก้มสากของตัวเองก่อนบอกว่า
         "มีสองคอยดูแล..เดี๋ยวก็หายแล้วล่ะนะ"
         "ฮึ...ให้มันจริงเหอะนะ   หายเร็วๆนะฮะ  ถ้าไม่หายพรุ่งนี้อดเที่ยว เอาล่ะ..ปล่อยมือสองได้แล้ว สองง่วง จะไปนอนแล้วนะ"
         "ถ้าอยากให้พี่หายเร็วก็....นอนด้วยกันนะ"  หนึ่งทำเสียงออดอ้อนพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม
         "ฮึ...ปล่อยเลย ไม่งั้นโดนนะ  เดี๋ยวจี้เอวเลย"
         "อื้อ..ยอมให้จี้ทั้งคืนเลย"  หนึ่งพูดเสียงงัวเงีย พร้อมกับเอาแขนโอบรอบเอวสองไว้ ซุกใบหน้าที่ไหล่เล็กของคนในอ้อมกอด
         "อื้อ..พี่หนึ่งอ่ะ..สองง่วงแล้ว..อย่าแกล้งดิ"  สองออกแรงผลัก
         "พี่ไม่อยากนอนคนเดียวนี่" หนึ่งชักจะงอแงเสียแล้ว
         "พี่หนึ่งอ่ะ..ถ้านอนกับพี่หนึ่งพ่อด่าตาย...ให้สองไปนอนเถอะนะ อย่างอแงนะ  นะครับ"  สองใช้ไม้อ่อนเข้าหา
         "เฮ้ย..ก็ได้ครับ..เห็นแก่คุณพ่อของสองนะ  ไม่งั้นไม่ยอมหรอก"
         คนตัวเล็กยิ้มเมื่อหลุดพ้นจากพันธนาการอ้อมกอดของหนึ่ง
         "แต่..." เสียงแต่..ของคนตัวสูง  ทำให้สองขมวดคิ้วแปลกใจ ว่าหนึ่งจะมาไม้ไหน
         "อะไรอีกล่ะ?" สองถาม
         "ก่อนไป  หอมแก้มพี่ทีนึงก่อนนะ"  หนึ่งทำแก้มป่องให้สอง
         "อ่ะ..ก็ได้..อื้ม" คนตัวเล็กยื่นใบหน้าเข้าไปหอมแก้มคนตัวสูงฟอดใหญ่ๆ
         "ขอบคุณครับ"
         "งั้นสองไปนะ"  คนตัวเล็กบอกขณะเดินไปเปิดประตู
         "ครับ  ฝันดีนะ  หมายถึงฝันถึงพี่นะ"  หนึ่งบอกแล้วก็ส่งยิ้มให้
         "อื้อ..."  สองแก้มแดงเปิดประตูออกไป  หนึ่งยิ้มให้กับประตูที่ค่อยๆปิดลง
        


 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 05-02-2011 23:02:54
ลูกมือทำครัวแบบไหนกัน ถึงจะเหนื่อยกว่าล้างรถอีก
อยากรู้ว่าคุณพ่ออ้วนจะมีแผนวัดใจ ลองใจพี่หนึ่งยังไงบ้าง  o22

คำผิดนะจ๊ะ
หลังจากที่พ่อกับแม่ของสองกับมาแล้ว >> กลับ
พี่หนึ่งของสองดูจะดีเพรียบพร้อมไปซะทุกอย่าง >> เพียบพร้อม

ฝันดีจ้า  :3123:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...3/01/11(10:58PM).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 07-02-2011 12:10:12
ลูกมือทำครัวแบบไหนกัน ถึงจะเหนื่อยกว่าล้างรถอีก
อยากรู้ว่าคุณพ่ออ้วนจะมีแผนวัดใจ ลองใจพี่หนึ่งยังไงบ้าง  o22

คำผิดนะจ๊ะ
หลังจากที่พ่อกับแม่ของสองกับมาแล้ว >> กลับ
พี่หนึ่งของสองดูจะดีเพรียบพร้อมไปซะทุกอย่าง >> เพียบพร้อม

ฝันดีจ้า  :3123:




ขอบคุณพี่น้ำตาลสำหรับคำผิดค่าาา :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-02-2011 12:56:38
หวานๆ แบบนี้
น่ากลัวว่าจะมีอะไรไม่ดีจังเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 07-02-2011 13:17:09
บร๊ะเจ้า แม่ชั้นตอนเปิดร้านยังไม่เคยใช้ชั้นโหดขนาดนี้เลย55

ปล.พี่วันคะตอนหน้าขอจัดหนักได้ป่าว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 07-02-2011 13:25:35
หนึ่งผ่านบททดสอบของพ่ออ้วนหรือยัง
สู้ๆนะจ๊ะ เพื่อพ่อจะยอมใจอ่อนให้น้องสอนมานอนเป็นเพื่อนด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-02-2011 13:26:29
นั้นสิ นั้นสิ หวานๆแบบนี้ไปตลอดนะไม่อยากกินมาม่าเลยอ่ะ อ่านแล้วมันปวดใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-02-2011 15:59:28
 :L1:น่ารัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 07-02-2011 21:28:02
พี่หนึ่งโดนทดสอบแค่นี้เล็กน้อย
ถือว่าวัดใจที่มีต่อลูกของพ่ออ้วน

น้องสองดูแลพี่หนึ่งดีๆตอบแทนแล้วกันนะจ๊ะ

หวานๆแบบนี้ ไม่ควรมีมาม่า

หรือถ้าจะมีมาม่า ก็ควรมีมาแค่ครึ่งชาม เพราะตอนนี้อิ่มของหวานแล้ว  :laugh:

บวกอีก 1 แต้ม ขอบคุณน้องวันจ้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...7/02/11(ตอนเที่ยงนี่ล่ะ).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 08-02-2011 21:32:34
ต่อๆ

          หลังจากนั้นวันต่อๆมา  สองก็พาหนึ่งไปเที่ยว หนึ่งได้เปิดหูเปิดตาขึ้นบ้าง หลังจากที่ปกติแล้ว จะขลุกตัวเองอยู่กับงานจนไม่มีเวลากระดิกกระเดี้ยไปไหน พอสองปิดเทอม ต้องกลับมาอยู่บ้านกับพ่อและแม่อีกหลายอาทิตย์ หนึ่งที่มีแต่งานและอีกครึ่งหนึ่งของชีวิตตอนนี้ก็ติดแหมะอยู่กับสอง ก็เลยอดรู้สึกเคว้งคว้างไม่ได้ หากต้องอยู่ที่ห้องคนเดียวหลายๆอาทิตย์ คนตัวสูงก็เลยจัดการเครียร์งานวางแผนมาเที่ยวกับคนตัวเล็กซะเลย อย่างน้อยๆก็ยังได้มีความสุขที่ได้ทำอะไรร่วมกัน ได้กิน เที่ยว หรือจะกอดกันในที่สาธารณะก็ไม่ต้องแคร์สายตาใคร ถึงแม้ว่าหนึ่งจะมีกำหนดกลับกรุงเทพฯก่อนเจ้าคนตัวเล็ก แต่เพียงแค่นี้ก็คงพอต่อชีวิตให้หนึ่งมีแรงกลับไปทำงานได้อีกครั้ง
          ทุกๆวัน สองจะพาหนึ่งไปสถานที่ต่างๆ ซึ่งบางแห่งหนึ่งก็เคยไปมาบ้างแล้ว อย่างเช่นหาดหัวหิน แต่หนึ่งก็เต็มใจไม่ติดขัด เพราะคราวนี้เขามากับคนตัวเล็ก สองพาหนึ่งไปเที่ยวน้ำตกบ้าง เล่นน้ำทะเลบ้าง ตกกลางคืนก็พากันเดินเที่ยวตลาดโต้รุ่ง บางวันตอนบ่ายสองก็พาหนึ่งไปที่ร้าน บางครั้งหนึ่งก็มีโอกาสได้ช่วยงานที่ร้านบ้าง เป็นคนรับออร์เดอร์บ้าง เด็กเสิร์ฟบ้าง อาจจะด้วยเพราะว่า จู่ๆก็มีพนักงานหน้าตาดีดูมีความรู้มาคอยดูแล บางครั้งลูกค้าสาวๆก็ชอบเรียกหนึ่งบ่อยๆ หนึ่งก็เลยโดนแทะโลมด้วยคำพูดบ้าง เดือดร้อนเอาคนตัวเล็กต้องไปรับช่วงต่อ เพราะไม่อยากเห็นหนึ่งยืนยิ้มกริ่มอยู่กับลูกค้าสาวๆเพราะอยากแกล้งให้ใครบางคนที่จ้องอยู่ตาไม่กระพริบรู้สึกหึงหวง แต่พอเอาเข้าจริง  สองเองก็โดนลูกค้าฝรั่งตัวโตแทะโลมบ้าง แอบแต๊ะอั๋งด้วยการจับแขนบ้าง คราวนี้เลยทำเอาคนตัวสูงออกอาการหึงจนเลือดขึ้นหน้าต้องคอยตามคนตัวเล็กไปทั่วตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ จนสุดท้าย เจ้าของร้านอย่างลุงอ้วนก็ต้องส่ายหน้าระอาต่อคู่รักขี้หึง แล้วบอกให้หนึ่งกับสองไปหาที่เที่ยว หรือไม่ก็กลับบ้าน เพราะว่าถ้ายังตามกันไปตามกันมาในร้านแบบนี้ มีหวังได้รับออร์เดอร์กันผิดๆถูกๆ เดือดร้อนพนักงานคนอื่นๆอีก
          แล้วทุกวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย หนึ่งใช้เวลากับสองอย่างเต็มที่ตลอดช่วงกลางวัน โดยปกติ  ตอนอยู่กรุงเทพฯ ต่างคนต่างมีหน้าที่ หนึ่งต้องไปทำงาน ส่วนสองก็ต้องไปโรงเรียน แต่พอได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้ก็มีความสุขไปอีกแบบ แล้วมันก็มาถึงวันสุดท้าย หนึ่งตามติดสองแจ ไม่ยอมให้ห่างไปไหนเลย เรียกว่าเดินไปทางไหนของบ้าน ถ้าสองอยู่ตรงนั้น ก็ต้องเห็นหนึ่งอยู่ข้างๆนั่นแหละ พอคนตัวเล็กถามคนตัวสูงว่าเป็นอะไรรึเปล่า ก็ได้รับเพียงคำตอบที่ว่า
          "อยากอยู่ใกล้ๆน่ะ...พรุ่งนี้ก็ต้องกลับแล้ว"
          จริงๆแล้ว สองไม่เข้าใจว่าหนึ่งต้องการอะไร เนื่องจากปกติหนึ่งจะได้อยู่กับสองตอนกลางคืนซะเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่พ้นกิจกรรมอย่างว่า ใน1อาทิตย์ เขาจะขอมีอะไรกับคนตัวเล็กอย่างน้อยสี่ครั้งต่อสัปดาห์ จริงๆแล้ว หนึ่งเองก็รู้ตัวว่าต้องการสองตลอด แต่เกรงใจและเห็นใจคนตัวเล็ก อยากให้พักผ่อนมากๆเพราะต้องเรียนหนัก แต่พอปิดเทอมได้มาเที่ยวกันแบบนี้ ตอนแรกหนึ่งก็แอบดีใจว่าจะได้ทบต้นทบดอกที่อุตส่าห์ถนอมไว้ แต่ก็ผิดคาด เพราะสุดท้ายก็ต้องนอนกันคนละห้อง หนึ่งจึงต้องอดกลั้นมาหลายวันแล้ว พออยู่ที่บ้านของสองจนถึงวันสุดท้าย ซึ่งพรุ่งนี้หนึ่งก็ต้องกลับกรุงเทพฯแล้ว หนึ่งจึงรู้สึกว่าเหลือโอกาสเพียงแค่คืนนี้คืนเดียวเท่านั้น อยากจะกอดคนตัวเล็กใจจะขาด แต่ก็ดันเกิดอาการเกรงใจพ่อตาขึ้นมา เพราะตลอดหลายวันที่อยู่บ้านนี้ หนึ่งได้รับการเอ็นดูอย่างดีจากบิดาและมารดาของสอง แล้วเขาจะมีหน้าไปทำแบบนั้นกับลูกชายแสนรักในบ้านของบุคคลทั้งสองนั้นได้อย่างไร
          และคืนนั้นเอง...
          หนึ่งกำลังเตรียมปิดไฟเพื่อเข้านอน ตอนนี้เขาจัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว คนตัวสูงได้แต่ถอนหายใจแบบเซ็งๆ เพราะสุดท้ายเขาก็ไม่ได้เอ่ยปากขออะไรจากคนตัวเล็ก
          "ก๊อกๆ"
          "พี่หนึ่งนอนยังฮะ?"  เสียงคนตัวเล็กที่หนึ่งกำลังนึกถึงดังขึ้นที่หน้าห้อง
          "ยังครับ  สองเข้ามาเถอะ  พี่ไม่ได้ล็อกประตูหรอก"
          "ฮะ"  คนตัวเล็กเปิดประตูเข้ามา สองสวมชุดนอนเตรียมตัวนอนแล้วเหมือนกัน
          "มีอะไรครับ?" หนึ่งนั่งอยู่บนเตียง  ยิ้มให้คนๆนั้น
          "คือว่า..พ่อกับแม่บอกว่า  วันนี้อาจกลับดึกฮะ เพราะต้องไปกินเลี้ยง สงสัยกว่าจะกลับบ้านอาจจะเกือบเช้านั่นแหละเพราะพ่อไม่ชอบขับรถตอนเมา"คนตัวเล็กพูดเจื้อยแจ้ว
          "เหรอครับ..งั้นสองก็นอนเถอะนะ  พรุ่งนี้จะได้รีบตื่นมาส่งพี่"  หนึ่งยิ้มบางๆ
          "ฮะ...." สองรับคำ  แต่เจ้าตัวยังยืนอยู่ที่เดิม
          หนึ่งเห็นคนตัวเล็กยังไม่ไป..จึงถามขึ้น
          "หืม..มีอะไรรึเปล่าครับ?"
          "เอ่อ..มะ..ไม่มีอะไรฮะ  สองไปนอนล่ะ"  เสียงตอนท้ายของประโยคเบาจนแทบไม่ได้ยิน
          สองรีบหันหลังเดินมาที่ประตู
          และขณะที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตู เอวเล็กๆของสองก็ถูกคว้าเอาไว้ ก่อนถูกจับให้หันไปปะทะกับอกของหนึ่ง สองมองขึ้นไปที่ใบหน้าของคนตัวสูง เห็นคนๆนั้นกำลังขบกรามแน่นเหมือนกำลังสะกดกลั้นอะไรบางอย่าง
          หนึ่งมองลงมาที่คนตัวเล็ก ใบหน้าขาวๆแดงเรื่อไปจนถึงใบหู คิ้วขมวดกันยุ่ง นัยน์ตาเชื่อมฉ่ำไปด้วยน้ำที่เอ่อล้น ใบหน้าน่ารักแบบนี้หนึ่งเคยเห็นแล้ว เห็นทีไรคนตัวสูงก็อดใจไม่ได้ทุกที เขาเอานิ้วโป้งคลึงลงตรงหว่างคิ้วของคนตัวเล็ก
          "อย่าย่นคิ้วสิ..เดี๋ยวแก่เร็วนะ" เสียงทุ้มนุ่มของคนตัวสูงเอ่ยขึ้นเบาๆ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าเข้าหาคนตัวเล็ก แล้วประทับจูบลงไปบนริมฝีปากสีสวย คนตัวเล็กตอบรับหนึ่งเป็นอย่างดี แขนที่เล็กกว่าโอบแน่นรอบเอวของเขา จูบที่อ่อนหวานละมุนของคนตัวสูงค่อยๆเร่าร้อนด้วยพลังความต้องการที่กักเก็บไว้ เขารัดกายของคนตัวเล็กให้เข้าหาตัวเองมากขึ้น ก่อนเอื้อมมือไปล็อกประตูแล้วอุ้มร่างบางไปที่เตียง...
          หนึ่งค่อยๆวางร่างเล็กลงบนเตียงก่อนขึ้นไปคร่อมไว้ คนตัวสูงซุกหน้าลงตรงลำคอขาวๆ  กลิ่นแป้งเด็กที่คนตัวเล็กชอบใช้ยังยังส่งกลิ่นหอมจางๆเข้าจมูก มือของคนที่อยู่ด้านล่าง เสยแทรกเข้าไปที่เส้นผมของหนึ่ง
          "สอง...สองครับ..พี่ไม่ไหวแล้วนะ..." หนึ่งหายใจแรงๆที่ลำคอขาว
          "อื้อ..สอง..สองก็ไม่ไหวเหมือนกัน..ฮะ" เสียงคนตัวเล็กพูดขึ้นเบาแสนเบา
          หนึ่งชันตัวขึ้น จ้องเข้าไปในตากลมของคนตัวเล็ก
          "สอง..พี่ไม่ได้เตรียมอะไรไว้ป้องกัน...สองพร้อมรึเปล่าครับ?.."
          หนึ่งถามสองตรงๆ เพราะมาถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรต้องอ้อมค้อมอีกแล้ว  ด้วยเพราะตอนแรกหนึ่งไม่คิดว่าจะได้อยู่กับสองตามลำพังแบบนี้ เขาจึงไม่ได้เตรียมถุงยางไว้ เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องอดแน่แล้ว แต่เหมือนโชคเข้าข้างอยู่บ้าง ที่สุดท้ายก็ได้อยู่กันแค่สองคนภายในบ้าน แถมเจ้าคนตัวเล็กยังโหยหาสิ่งนั้นเหมือนที่เขาเองก็โหยหาจนแทบจะลงไปนอนแห้งเหี่ยว เพียงแค่ตอนนี้  เหลือเพียงแค่คำอณุญาตจากเจ้าของร่างที่เขานอนกอดอยู่นี่  เพียงแค่นี้เท่านั้น เพราะถ้าหากสองไม่พร้อม  เขาเองก็ยอมที่จะเลือกราแต่โดยดี
          "ถึงตอนนี้แล้ว..จะถามอะไรเรื่องมากอีกเล่า..จะทำรึไม่ทำ" คนตัวเล็กพูดด้วยใบหน้าบูดๆ แต่แก้มพองๆกำลังแดงเรื่อจนไปถึงใบหูแล้ว
          "หึ..หึ..ทำสิครับ..ทนไม่ไหวแล้วด้วย" เพียงแค่ตอบไปเท่านั้น คนตัวสูงก็ไม่รอช้าอีก เขาเอาจมูกฉกลงไปที่ซอกคอขาว ก่อนใช้ปลายคางเคล้าคลึงเบาๆ หนึ่งระดมจูบหนักๆไปที่สาบเสื้อที่กำลังแยกออก เพราะเขากำลังปลดกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กไปด้วย สุดท้ายร่างขาวๆของสองก็ปรากฏขึ้น หนึ่งจัดการถอดกางเกงของคนตัวเล็กออก ตอนนี้ร่างทั้งร่างเป็นสีขาว มีสีแดงบ้าง ชมพูบ้างตรงที่หนึ่งประทับจูบเมื่อครู่ สองนอนระทดระทวย ปลายตามองคนตัวสูงที่กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองเช่นกัน ไม่ช้าร่างกำยำแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อก็ลงมาทาบทับ สองรู้สึกถึงความอบอุ่นแต่ซาบซ่านเสียวเกร็ง  เพราะร่างเปลือยเปล่าที่เสียดสีกัน  ตรงนั้นของหนึ่งที่แข็งขันกำลังบดเบียดกับของสองที่แข็งขันด้วยเช่นกัน เจ้าของร่างเปลือยเปล่าทั้งสองร่างกำลังแลกจูบดูดดื่ม มือใหญ่อบอุ่น บีบเค้นเคล้าคลึงไปทั่วร่างของคนตัวเล็ก ก่อนที่จะลงไปสัมผัสตรงนั้นของสอง หนึ่งจับมันไว้ แล้วเคลื่อนมือขึ้นลงช้าๆ
         "อ๊ะ..อื้อ" สองตัวบิดเร่า ตรงนั้นของตัวเองกำลังลื่นอยู่ในมือของหนึ่ง
         เม็ดสีชมพูที่หน้าอกของสองเคลื่อนไหวตามแรงที่หายใจขึ้นลง มันกำลังเด่นตั้ง เพราะเจ้าของแอ่นร่างขึ้นสุดด้วยความเสียวซ่าน สุดท้ายหนึ่งก็ทนไม่ไหวจนต้องโน้มใบหน้าลงมาขบเม้ม และดูดดุน หยอกล้อจนมันแข็งตั้ง ทำเอาคนข้างล่างยิ่งส่ายเร่า่ๆกับความเสียวหฤหรรษ์ที่หนึ่งบรรจงมอบให้
         หนึ่งหยอกล้อไปทั่วเรือนร่างของสอง เขาจงใจให้สองเข้าถึงอารมณ์สุดๆเพื่อเตรียมให้ตรงนั้นของคนตัวเล็กพร้อมโดยเร็ว เพราะหนึ่งเองอัดอั้นจนแทบระเบิดแล้ว แต่ต้องทนไว้จนกว่าจะถูกครอบครองจากคนตัวเล็กด้วยช่องทางนั้น หนึ่งค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปหลังจากนำทางไปแล้วด้วยลิ้นเรียวของตัวเอง แต่ละครั้งที่เพิ่มจำนวนนิ้ว ก็ไม่วายที่จะสัมผัสเฉียดไปที่จุดอ่อนไหวด้านในสุด
         "อ๊าา...พะ..พี่หนึ่ง..อื้อ..อ๊าา เข้ามา..เข้ามาเถอะนะ" คนตัวเล็กเองก็แทบทนไม่ไหวแล้ว
         "สอง..อีกนิดนะ..พี่ไม่อยากให้สองเจ็บ" หนึ่งยังเป็นห่วงคนตัวเล็ก เขาต้องแน่ใจก่อนว่าเตรียมทุกอย่างดีแล้ว เพราะการที่ไม่ได้มีอะไรหลายวัน เขาเองก็ไม่รู้ว่าสองจะปรับสภาพได้มากน้อยแค่ไหน
         "อื้อ..ไม่เอาแล้ว..เข้ามาเถอะนะ..เข้ามาข้างในสองนะ..อื้อ..อ๊ะ..สองอยากกอดพี่หนึ่งแล้ว..อ๊าาา" คนตัวเล็กโอดครวญบิดสะโพกเร่าๆในมือของหนึ่งที่ช้อนเอาไว้  เพียงแค่เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยไฟรัก และได้ยินเสียงที่กระเส่าทรมานของคนตัวเล็ก หนึ่งก็อดทนไม่ได้อีกต่อไป เขาจับสะโพกบางยกสูง แล้วสอดเข้าไปในร่างนั้น ด้านนอกนั้นตอบรับดีแล้ว แต่ด้านในยังคงตีบตันอยู่บ้าง ทำเอาหนึ่งต้องออกแรงมากขึ้น
         "อึก..อ๊ะ..อึก" สองนิ่วหน้า  พยายามสะกดความเจ็บ ด้านในเหมือนกำลังฉีกแยกออก  ความเจ็บปวดทำเอาตรงนั้นของสองถึงกับอ่อนลง เมื่อหนึ่งเข้าไปจนสุดแล้วเขาจึงแช่ตัวไว้แบบนั้น แล้วเอื้อมมือไปปลุกเร้าตรงนั้นของคนตัวเล็กใหม่อีกครั้ง หนึ่งยังไม่ขยับเขยื้อนมากนัก ได้แต่ปลอบและเล้าโลมร่างเล็กด้วยจูบหนักๆและลิ้นเรียวของตัวเอง  เมื่อแน่ใจว่าคนตัวเล็กได้ทุเลาความเจ็บแล้ว เพราะเสียงครวญครางที่ดังไม่ขาดสาย หนึ่งจึงค่อยๆขยับสะโพก ตอนนี้ทุกอย่างไหลลื่นแล้ว
         หนึ่งถ่ายเทน้ำหนังลงไปที่คนตัวเล็ก เขาเคลื่อนไหวทั้งหมุนวน ช้าบ้างเร็วบาง หนักบ้างค่อยบ้าง ทุกครั้งก็เฉียดโดนเอาจุดนั้นของสอง
         "ฮึก..อ๊ะ..อ๊าาา.."  คนตัวเล็กครางออกมาอย่างสุดจะอดกลั้น อยากให้คนตัวสูงขยับให้แรงและจริงจังกว่านี้
         "พี่หนึ่ง..แรง.แรงอีกนะ" สองอ้อนวอน ใบหน้าแดงปรือตามองคนตัวสูง ที่ชันเข่าเคลื่อนไหวอยู่
         "หึ หึ..ได้ครับ..จัดให้เลย" หนึ่งโน้มหน้าลงไปกระซิบคนรัก สิ้นเสียงนั้น เขาก็ชักกายออกอย่างแรงจนเกือบสุด แล้วแทรกเข้าไปใหม่อย่างจริงจัง ทำเอาคนตัวเล็กต้องเชิดหน้าครางออกมา รีบคว้าไหล่หนาๆของคนด้านบนจิกเอาไว้
         หนึ่งเคลื่อนไหวเร็วขึ้น ทั้งแรง และลึก จนสุดท้ายความถี่ของการโดนเสียดสีตรงจุดนั้นก็ทำเอาคนตัวเล็กกรีดร้องปลดปล่อยน้ำแห่งความสุข หนึ่งกระแทกกายอีกไม่กี่ทีเขาก็ตามสองขึ้นไปสู่จุดสูงสุดแห่งอารมณ์ได้สำเร็จ ความสุขถูกปลดปล่อยเข้าไปในตัวสองจนล้นออกมา หนึ่งแช่กายไว้แบบนั้น สัมผัสถึงแรงกระตุกตอบรับด้านใน
         ครั้งแรกที่ได้ระบายความอัดอั้นของหนึ่งผ่านพ้นไปแล้ว เพียงแต่หลังจากนั้นพอนอนกอดกันอยู่อีกสักพัก ร่างเปลือยหอมๆของคนตัวเล็กที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อก็ทำเอาหนึ่งเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีก สุดท้ายสองก็ต้องยอมให้คนตัวสูงที่นอนกอดอยู่บรรเลงเพลงรักให้อีกครั้ง เพราะสองเองก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาเหมือนกัน
         ค่ำคืนนั้นคนตัวเล็กจึงนอนบิดกาย ระบายความทรมานหวานๆที่คนรักมอบให้จนล้นทะลักอยู่เป็นชั่วโมง สองเองไม่รู้ว่าได้ปลดปล่อยไปกี่ครั้ง รู้เพียงแต่ว่าหลังจากสุขจนล้นดวงใจ และรู้สึกคอแห้งที่ต้องกรีดร้องออกมาหลายรอบ สองก็อ่อนเปลี้ยเพลียจนหลับลงไปในอ้อมกอดของคนตัวสูงที่กระชับแน่น..
         สองตื่นขึ้นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องนอนของตัวเองเรียบร้อยแล้ว หนึ่งจัดการแต่งตัวให้สองเหมือนเดิม คือชุดนอนที่สองใส่เมื่อคืน สองตื่นมาอย่างสบายตัว รู้สึกว่าช่องทางด้านหลังไม่ได้เหนียวเหนอะหนะ คนตัวสูงคงจัดการเช็ดให้ก่อนที่จะใส่เสื้อผ้าให้กับสอง สองมองนาฬิกาก็รู้ว่า กว่าจะตื่นขึ้นมาก็บ่ายกว่าๆแล้ว  บนโต๊ะตัวเล็กข้างๆเตียง มีโพสอิทแปะไว้ ข้อความบอกว่า หนึ่งคงต้องกลับก่อน รอสองตื่นไม่ได้ และไม่อยากปลุก หนึ่งมีงานด่วนต้องรีบเข้าไปดู เจอกันอีกทีสองอาทิตย์ข้างหน้า แล้วก็ไม่วายเขียนลงท้ายด้วยการแสดงความรัก ด้วยประโยคที่ว่า รักสองที่สุดนะครับ สองอ่านประโยคนั้นในใจ  ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนๆ คนตัวเล็กนั่งอยู่บนเตียงสักพักแล้วล้างหน้าล้างตาก่อนเดินลงไปชั้นล่าง ที่ตู้เย็นมีโพสอิทอีกอันแปะไว้ เป็นของพ่อกับแม่ของสอง ที่บอกว่ากลับมาแล้ว และออกไปเปิดร้านแล้ว ..
        สองเดินไปเปิดตู้กับข้าว ในนั้นมีกับข้าวที่พ่ออ้วนทำไว้ให้  วันนี้สองนั่งกินข้าวคนเดียว ในใจของคนตัวเล็กก็คิดถึงคนที่ยังนั่งกินข้าวเช้าด้วยกันเมื่อวาน คิดแล้วก็รู้สึกเหงาๆ แต่ยังไงก็ต้องอยู่ที่นี่อีกสองอาทิตย์ เพราะสัญญาไว้แล้วกับพ่อและแม่ สองตั้งใจไว้ว่า เดี๋ยวเอาไว้ตอนกลางคืนก่อนนอนค่อยโทรหาคนตัวสูง อย่างน้อยๆก็ขอให้ได้พูดคุยส่งกำลังใจไปให้เสียหน่อยก็ยังดี...

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 08-02-2011 22:11:49
มดขึ้นจอ :-[
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 08-02-2011 22:29:30
คล้ายๆ ว่าตอนหน้า อาจจะมีมาม่ารออยู่ (มั้ยนะ)
ระแวงไว้ก่อน หุหุ

บวก 1 แต้ม ตอนนี้  :m25:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-02-2011 22:39:56
อร๊างๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-02-2011 22:47:40
นึกว่าพี่หนึ่งจะอดเสน่หาซะแล้ว :z1:
กลับไปคราวนี้คงไม่มีมาม่ารออยู่นะจ๊ะ
หวั่นใจเล็กน้อย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 09-02-2011 01:40:00
 :m25: :m25:

สุดท้ายหนึ่งก็ตะบะแตก  5555++
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 09-02-2011 02:08:29
เอิ่ม...นะ ^^

สำหรับตอนหน้า น่ากลัวยังไงก็ไม่รู้สิ เดี๋ยวต้มน้ำรอกินมาม่า ก่อนนะ ใจคอไม่ดีเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 09-02-2011 04:23:15
 :m25:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 09-02-2011 08:08:00
ฮ๊าซซซซซ เลือดท่วม โดนซะแล้ว หนึ่งรวมกับสอง
แต่ดีใจหาย พ่ออ้วนไฟเขียว หวานซะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-02-2011 23:50:46
รู้สึกว่าคนแต่งหายไปหลายวันแล้ว
รออยู่นะจ๊ะ :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: faNg ที่ 21-02-2011 02:10:30
ว๊าวววววววววว อ่านถึงตอนล่าสุดแระคะ มุ่งมั่นมาก อิอิ  :laugh: :laugh:

เรื่องแรกนี่แบบฮาร์ดคอร์มากกกกกกกก แบบดิบๆนะคะ เรียกเลือดได้เยอะ  :haun4:
ตอนที่บอกบนเวทียี่แบบบ อยากมีแบบนี้มั่งจัง น่าอิจฉาคะ อยากมีกับเค้ามั่ง น่ารักอ่าส์ แบบรักจิงหวังแต่งไรงี้  :กอด1:

ส่วนเรื่องที่สอง ของพี่หนึ่งกับน้องสอง จะบอกว่ามันใสๆนะ แต่ไม่ใสคะ มันแบบว่า เรียกเลือดได้ดีกว่าเรื่องแรกอีก มว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :haun4: :haun4:
หัวใจจะวายเอาตรงหน้าคอมแล้วคะ น่ารักอ่าส์ ชอบบบบบบบบบบ
แต่ตอนแรกนี่แบบสงสารน้องสองคะ เจ็บปรี๊ดดดดดดดด ทำไมถึงทำกับน้องสองได้ อ๊ายยยยยยยยยย ( :o12:  อารมณ์ ณ ตอนนั้นคะ)
แต่พอว่าได้ครองรักพี่หนึ่งนี้แบบ หวานกันได้อีก หึงกันได้โล่ บร๊ะเจ้า เค้าอิจฉาจิงจัง
อยากกอดน้องสองบ้างอ่าส์ พี่หนึ่กะแมนเวอร์ เค้าปลื้มมมมมแหละ  :impress2: :impress2:

ตอนพี่หนึ่งกับน้องสองแบบว่า  :oo1: :oo1: กันอะ เค้าเขินมากกกก และเรียกเลือดไดเยอะกันเลยทีเดียว
น้องสองมีมาแบบให้ถึงที่อะ โอ้ยยยยยยยยยยย จะบ้าแล้ว ชอบบบบบที่สุด
พี่หนึ่งอบอุ่นมากกกกก น้องสองน่าเก็บไว้ที่บ้านมากกกกกกกก

รออ่านตอนต่อไปคะ คุณพี่สองกระป๋อง อิอิ กอดๆๆๆๆๆๆ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-02-2011 19:46:50
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...8/02/11(สามทุ่มครึ่ง).ตอน..7(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า5นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 21-02-2011 21:05:46
ต่อ...นะคะ... :a2:
ตอนที่8

          หลังจากนั้น  สองก็ต้องอยู่ที่หัวหินต่ออีกสองอาทิตย์ตามที่ได้บอกพ่อกับแม่เอาไว้  ทุกวัน..นอกจากจะไปช่วยที่ร้านอาหารแล้ว สองก็จะนัดเจอกับเพื่อนที่เรียนด้วยกันสมัยประถมหรือมัธยมต้น ซึ่งยังพอเห็นหน้าค่าตากัน และยังไม่ได้หนีจากไปอยู่ที่ไหนไกลๆ  สองนัดเพื่อนๆออกมาเจอกัน  บางทีก็ฺพากันไปเล่นน้ำทะเล หรือไม่ก็ชวนกันไปค้างบ้านเพื่อนคนโน้นบ้างคนนี้บ้าง  และถึงจะได้ทำงานที่ร้านอาหารทุกวันเท่าที่สองต้องการเพื่อไม่ให้มีเวลามานั่งเซ็ง หรือได้ไปเฮฮากับเพื่อนตามประสาเด็กวัยรุ่น แต่พอมาช่วงหลังๆของอาทิตย์สุดท้าย  คนตัวเล็กก็นับวันนับคืนที่จะได้เห็นใบหน้าอันคุ้นเคย ใบหน้าที่มักจะปรากฏรอยยิ้มอันอบอุ่น มันคือใบหน้าของคนตัวสูงที่ตอนนี้คนตัวเล็กแสนจะคิดถึง แม้ว่าจะได้คุยกันทางโทรศัพท์แทบทุกคืน แต่มันก็คงไม่เท่ากับการได้เห็นหน้า และสัมผัสไออุ่นยามที่ได้พิงไหล่หนาๆเวลาที่รู้สึกเหนื่อย  พอคิดถึงเวลาที่อยู่ในอ้อมกอดของหนึ่ง สองก็อดไม่ได้ที่จะเขินอายจนหน้าแดง  แล้วก็ต้องยิ่งรู้สึกโหยหาอยากอยู่ใกล้คนตัวสูงมากขึ้น
          และแล้ว......ความอดทนของการทรมานที่ต้องแยกจากและรอคอยก็สิ้นสุดลง เพราะในที่สุดสองก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯเสียที และขณะที่สองอยู่บนรถทัวร์ คนตัวเล็กก็เห็นเบอร์โทรศัพท์แปลกๆที่โทรเข้ามาขณะที่กำลังจะกดรับสาย เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าจากมือถือของตัวเอง  สองรู้สึกไม่ค่อยคุ้นกับเบอร์โทรศัพท์ที่กำลังโชว์อยู่ที่หน้าจอ แต่ก็กดรับสาย เพราะรู้สึกว่าคนที่อยู่ปลายสายไม่ยอมเลิกราเสียที
          "ฮัลโหล..สองครับ" สองกรอกเสียงลงไปตามสาย
          
          "สอง...นี่พี่เองนะ"
          
          เพียงได้ยินเสียงทุ้มๆอันคุ้นเคยของปลายทางที่โทรเข้ามา  คนตัวเล็กก็จำได้แล้ว
          "พี่หนึ่งเหรอฮะ...อ๊ะ..ทำไมเป็นเบอร์นี้ล่ะ"
          
          "อ๋อ..คือพี่ยืมมือถือของเพื่อนโทรน่ะ...พี่ลืมมือถือไว้ที่ห้อง"
          
          "เอ๋!...."  เสียงอุทานของคนตัวเล็กยังแสดงอาการงงๆ  คนปลายสายจึงรีบอธิบายต่อ
          
          "คืองี้นะครับ..พี่ต้องไปดูงานที่ชลฯกระทันหันน่ะ...ด่วนมากเลย  แล้วก็ดันลืมมือถือซะได้"
          
          "55...พี่หนึ่งนี่...ยังไม่แก่เลยนะ..อ๊ะ!~...เดี๋ยวนะฮะ...แล้วพี่จะกลับเมื่อไหร่อ่ะ"
          ตอนปลายของประโยค..เพียงแค่ได้ฟัง  หนึ่งก็จับน้ำเสียงของคนตัวเล็กที่เริ่มจะสะบัดหน่อยๆ  แค่นั้นก็เข้าใจแล้วว่าคนตัวเล็กคงจะไม่พอใจนิดๆ ที่สุดท้ายก็ต้องอดเจอกันอีก
          
          "น่าจะอีกประมาณ..อาทิตย์หน้านะ  เดี๋ยวพี่จะพยายามให้เสร็จเร็วที่สุดเลยครับ"
          
          หนึ่งรีบอธิบายน้ำเสียงร้อนรน  เพราะกลัวว่าคนตัวเล็กอาจจะโกรธหรืองอนที่อยู่ดีๆก็มาหนีกันไปซะได้
          แต่มีหรือ.....ที่สองจะไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ก็หนึ่งน่ะไปทำงาน  ไม่ได้แอบหนีเที่ยวซะหน่อย
          "ฮะ...พี่หนึ่งไม่ต้องรีบร้อนก็ได้ฮะ  ทำให้งานออกมาดีๆเถอะนะ  ไม่ต้องห่วงสองหรอกนะ" คนตัวเล็กพูดกลับไปตามสายอย่างอารมณ์ดี
          
          "ก็พี่กลัวสองจะโกรธนี่ครับ...จู่ๆก็เหมือนพี่หนีมาซะงั้น  ทั้งๆที่สองกำลังกลับกรุงเทพฯแล้วแท้ๆ"
        
          "55...ไม่หรอกนะ  สองไม่โกรธหรอกฮะ  สองเข้าใจ.........แต่เอ..หรือว่าจะโกรธดีน้า" สองแกล้งพูด
        
          "หืม...ไม่เอาสิครับ อย่าแกล้งพี่น่า  ไม่งั้นพี่กลับไปตีก้นนะ  เด็กชอบแกล้ง"
          
          "55...พี่หนึ่งจะลงทุนขับรถกลับมาเลยเหรอฮะ" สองพูดต่อ แล้วก็หัวเราะร่วนที่สามารถแกล้งคนแก่ได้
          
          "อื้ม...ได้นะ...อย่าท้า จริงๆมันก็ไม่ได้ไกลกันนักหรอก"
          
          พอได้ยินเสียงของคนปลายสายเริ่มจริงจัง  คนตัวเล็กก็ต้องรีบพูดห้ามทัพไว้ก่อน
          "บ้าเหรอฮะ...พี่หนึ่งอย่าเพ้อเจ้อดิ  ไปทำงานได้แล้วนะ...เดี๋ยวสองถึงห้องแล้วจะโทรหานะ"
          
          "อ้าว..ไล่กันเลยเหรอครับ  เอ่อ..แล้วสองจะโทรหาพี่ยังไงล่ะ"  เสียงคนตัวสูงถามกลับมา
          
          "ก็โทรเข้าเบอร์นี้ไงฮะ ของเพื่อนพี่หนึ่งใช่ปะ  ทำงานด้วยกัน  สองขอรบกวนเค้าแป๊บเดียว แค่จะโทรบอกพี่หนึ่งว่าสองถึงแล้ว"
        
          "คือเพื่อนคนนี้ไม่ได้อยู่ที่เดียวกับพี่เนี่ยสิ  สองไม่ต้องโทรเข้าเบอร์นี้หรอกนะ  เพราะว่าเดี๋ยวพี่ก็แยกกับเค้าแล้ว เอาเป็นว่า เดี๋ยวอีกสองชั่วโมงพี่โทรกลับเองดีกว่า โอเคนะครับ"
          
          "อ๋อ...เอางั้นก็ได้ฮะ  งั้นแค่นี้นะ..บ๊ายบายฮะ"  สองบอกคนตัวสูง
          
          "ครับ...บายครับ  เอ่อ...รักนะครับ...ตัวเล็ก"
          
          "อื้อ...."  พูดได้แค่นั้นสองก็ต้องรีบกดวางสาย  ก่อนที่คนตัวสูงจะพูดอะไรที่ทำให้คนตัวเล็กต้องอายหน้าแดงไปมากกว่านี้  เพราะสองกลัวว่า  เดี๋ยวคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ เค้าจะรำคาญและรู้สึกหมั่นไส้กับคู่รักสายด่วน  แถมตอนนี้รถทัวร์ก็กำลังวิ่งออกจากหัวหินแล้วด้วย  ภายในรถจึงค่อนข้างเงียบสงบมากขึ้น ไม่มีเสียงพูดคุยเจ๊าะแจ๊ะกันอีก  ผู้โดยสารหลายๆคนกำลังนอนหลับพักผ่อนเอาแรง  ก่อนที่จะต้องเดินทางต่อไป เมื่อรถทัวร์วิ่งถึงกรุงเทพฯและส่งผู้โดยสาร ณ ปลายทาง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-02-2011 21:51:45
มาต่อลมหายใจให้คนอ่านหายคิดถึงได้นิดนึง
555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-02-2011 22:01:47
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 21-02-2011 22:21:13
รอรอรอรอรอรอ

รีบมาต่อนะ

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 22-02-2011 00:09:32
บรรยากาศแปลกๆ
+1
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 22-02-2011 13:46:03
เหอๆ อารายอ่ะ เหมือนมาคุ งัยไม่รู้ :เฮ้อ:

พี่หนึ่งอย่าทำให้น้องเสียใจน๊า


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 22-02-2011 20:26:02
โทรคุยกันทุกคืน ไมไม่บอก  มาบอกตอนที่ไปแล้ว  ยังแน่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-02-2011 21:04:42
ต่อค่ะ

          สรุปแล้ว..หลายวันที่กลับมาถึงกรุงเทพฯสองก็ต้องใช้ชีวิตเหงาๆต่อไปอีก เพราะคนตัวสูงดันต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด อีกหนึ่งอาทิตย์กว่าจะได้เจอกัน  สองเองก็แอบเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะโอกาสที่จะได้มีเวลาว่างๆก็จะหมดลงแล้ว เพราะอาทิตย์หน้าที่หนึ่งจะกลับมาจากชลบุรี สองก็ต้องไปเรียนพิเศษตอนกลางวัน ซึ่งเป็นคอร์สที่เปิดสอนตอนซัมเมอร์ ตารางเรียนก็แสนจะยืดยาว อัดแน่นตั้งแต่แปดโมงเช้าจนถึงห้าโมงเย็น คงจะว่างจริงๆก็ช่างสุดสัปดาห์ สองเองก็ได้แต่หวังลมๆแล้งๆว่าหนึ่งคงไม่ต้องมีงานด่วนออกไปต่างจังหวัดอีกเมื่อถึงตอนนั้น
          แต่แล้วสิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กเซ็งหนักมากขึ้นไปอีก ก็เมื่อตอนนี้เขาได้รับสายที่เป็นเบอร์โทรศัพท์แปลกๆอีกเบอร์ที่หนึ่งใช้โทรเข้ามาหาสองประจำ หลังจากที่สองกลับมาถึงกรุงเทพฯเมื่อสองสามวันก่อน
         
          "สอง...พี่คงต้องอยู่ต่ออีกซักสองอาทิตย์นะ...ที่ไซด์งานมีปัญหาน่ะ  พี่ยังกลับไม่ได้เลย"

          เสียงคนตัวสูงฟังดูกังวลมาก สองไม่รู้ว่าหนึ่งกังวลเรื่องงาน หรือว่ากังวลเพราะกลัวสองจะโกรธที่ยังกลับมาหากันไม่ได้  ก็ได้แต่พูดกลับไปว่า
          "พี่หนึ่งทำงานต่อนะครับ...ไม่ต้องห่วงสองนะ..เอ่อ...แล้วพี่หนึ่งสบายดีนะฮะ"
 
          "ครับ  สบายดีครับ"  เสียงคนตัวสูงฟังดูเหนื่อยๆ

          "โอเคฮะ..พี่หนึ่งโทรหาสองได้ตลอดนะ แล้วก็รักษาสุขภาพด้วยนะฮะ"

          "ครับๆ..สองๆ...แค่นี้ก่อนนะ พี่โดนเรียกตัวแล้วล่ะ  ไว้พี่โทรหาใหม่นะ"
 
          "ฮะ...โอเคฮะ...."สองเองก็พูดได้แค่นั้น
     
          "งั้นแค่นี้นะครับ พี่วางนะ"

          "ฮะ...."  พอสิ้นเสียงของคนตัวเล็ก เขาก็ได้ยินเสียงตัดสายจากปลายสายที่โทรเข้ามา
 
          สองวางโทรศัพท์ลงบนเตียงอย่างเซ็งๆ  นี่หมายความว่าเขาต้องอยู่คนเดียวอีกหลายวันเลยเหรอเนี่ย  ตอนแรกก็ว่ารู้สึกแย่แล้วที่จะไม่ได้มีช่วงเวลาว่างๆได้ออกไปเที่ยวดูหนัง หรือหาอะไรอร่อยๆกินกัน  แต่นั่นมันก็ยังพอทำเนา เพราะอย่างน้อยๆสองก็ยังได้เจอคนตัวสูงทุกคืน  ได้พูดคุยกัน ได้นอนกอดกัน สองมีความสุขที่ได้เอาอกเอาใจหนึ่ง ได้โดนหนึ่งแหย่ยั่วให้อายม้วนต้วน แต่พอเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าจะแย่หนักลงไปอีก เพราะจะไม่ได้เจอกันเลยเนี่ยสิ สองพอนึกออกว่าตั้งแต่คบกันมา ยังไม่มีครั้งไหนที่คนตัวเล็กต้องห่างจากคนตัวสูงขนาดนี้เลย
          พออาทิตย์ต่อมาสองก็ต้องออกไปเรียนพิเศษตอนกลางวันอีก กว่าจะกลับถึงห้องก็ปาเข้าไปหนึ่งทุ่มแล้ว บางวันรถติด สองก็ถึงห้องเอาเกือบสองทุ่ม แล้วก็ต้องรีบอาบน้ำทบทวนบทเรียน ก่อนที่จะรีบเข้านอนเพื่อตื่นแต่เช้าไปเรียนพิเศษในวันต่อไป และการที่ต้องยุ่งอยู่กับการเรียนพิเศษ เลยทำให้สองต้องทิ้งภาระหน้าที่การดูแลทำความสะอาดห้องของหนึ่งให้กับแม่บ้าน  ซึ่งปกติแล้ว  ก่อนที่จะคบกับสอง หนึ่งจะจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเป็นประจำ แต่พอมาใช้ห้องของสองเข้าบ่อยๆก็แทบจะไม่ได้นอนห้องตัวเอง สองเลยจัดการดูแลห้องของหนึ่งแทน
          แต่ตอนนี้...คนตัวเล็กเองก็ไม่ว่างเหมือนเดิมแล้ว เขาจึงจัดการจ้างแม่บ้านดูแลห้องของหนึ่ง สองค่อนข้างเบาใจ เพราะในห้องของหนึ่งตอนนี้มีแต่เครื่องใช้ภายในห้องซึ่งก็มีแต่ชิ้นใหญ่ๆ กับเสื้อผ้าทำงาน ชุดนอน และชุดลำลองบางส่วนที่ไม่ได้ถูกอัดไว้ในตู้เสื้อผ้าของคนตัวเล็ก ส่วนข้าวของสำคัญๆเช่นแฟ้มเอกสาร บัตรต่างๆ โน๊ตบุ๊ค กระเป๋าสตางค์ หนึ่งจะขนไปไว้ในรถBMW เอาไปไหนมาไหนด้วยตลอด เพราะหนึ่งมีเอกสารเยอะแยะเต็มไปหมด บางทีก็ต้องหยิบมาใช้ด่วนจี๋ หนึ่งเลยเก็บไว้ในรถ คงเหลือก็แต่มือถือเนี่ยแหละ ที่เจ้าตัวลืมเอาไว้บนเตียงของคนตัวเล็ก สองสงสัยว่าหนึ่งคงจะรีบจัด เพราะว่าหยิบที่ชาร์จแบตมือถือไปด้วย แต่ดันลืมเครื่องเอาไว้ คงเพราะจัดของและแต่งตัวไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วย ทำอะไรหลายๆอย่างในเวลาเดียวกัน พอจัดของเสร็จก็รีบออกไปเลย
          "พี่หนึ่งน้า...ไม่น่าลืมมือถือเลย..."  คนตัวเล็กได้แต่บนเบาๆ ขณะที่กำลังเอามือถือของหนึ่งวางไว้ที่หัวเตียงให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ก็ต้องรีบตื่นไปเรียนพิเศษอีก
          พอหลายๆวันเข้า สองก็เริ่มรู้สึกว่าการโทรเข้ามาถามไถ่ของคนตัวสูงก็เริ่มลดน้อยลง จากปกติ ที่หนึ่งจะโทรเข้ามาอย่างน้อยสามครั้ง ก็กลายเป็น วันนึงโทรหนึ่งครั้งบ้าง สองครั้งบ้าง บางทีก็สองวันโทรหาที พอช่วงหลังๆ สองสามวันหนึ่งก็จะโทรเข้ามา พอคนตัวเล็กถาม ก็ได้รับคำตอบที่ว่า  งานยุ่งมาก หรือไม่บางทีก็ ได้รับคำขอโทษเพราะว่า คนตัวสูงมัวยุ่งอยู่กับงานจนลืม แล้วคนตัวเล็กจะไปว่าอะไรได้ล่ะ  นอกจากได้แต่พูดให้กำลังใจ ขอให้งานเสร็จไวๆ จะได้กลับมาเร็วๆ แล้วก็บอกความคิดถึงส่งไปตามสาย
          แต่ก็ไม่คิดว่าหนึ่งจะมีงานหนักหนาสาหัสขนาดที่โทรมาบอกกันว่า
          "พี่คงไม่ว่างโทรหาแล้วนะครับ...ไว้เจอกันที่บ้านเลยนะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าพี่ก็กลับแล้วล่ะนะ"
          ซึ่งเอาเข้าจริงๆ อาทิตย์หน้าที่หนึ่งพูดถึง มันก็คือช่วงกลางเดือนถัดมาหลังจากต้นเดือนที่แล้วของวันที่คนตัวเล็กได้กลับมาจากหัวหินนั่นเอง  ซึ่งก็หมา่ยความว่า สองรอหนึ่งมาเดือนกว่าแล้ว  นี่ถ้านับสองสัปดาห์ที่หนึ่งเข้ากรุงเทพฯหลังจากที่ไปเที่ยวบ้านของสอง คนตัวเล็กก็แยกกับคนตัวสูงมาสองเดือนแล้ว สองก็ได้แต่คิดว่าเวลาช่างผ่านไปเร็วเสียเหลือเกิน เหลือเวลาอีกเดือนเดียวสองก็จะเปิดเทอมแล้ว
          แต่หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ผ่านไป สองก็รู้สึกเหมือนว่าหนึ่งจะหายเข้ากลีบเมฆไปซะแล้ว สองไม่ได้ข่าวคราวของหนึ่งอีก หนึ่งเป็นคนไม่ชอบเล่นเฟสบุ๊ค สองจึงได้แต่ส่งเมล์ไปหา แต่รอแล้วรอเล่าหนึ่งก็ยังไม่ตอบกลับมา  หรือว่าจะมีปัญหาหนักที่งานเข้าซะแล้ว การเงียบหายไร้วี่แววเช่นนี้ทำให้คนตัวเล็กรู้สึกกังวลใจอย่างมาก อีกไม่กี่วันสองก็จะจบคอร์สเรียนพิเศษ และตอนนั้นแหละ สองจะต้องพยายามติดต่อถามข่าวคราวหนึ่งอย่างจริงจังซะที  ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีหรอกนะ เพราะมือถือของหนึ่งซึ่งเป็นไพ่ใบสุดท้าย ยังคงเหลืออยู่ที่สองนี่นา  สองเลยรีบปิดมือถือของหนึ่งไว้เพื่อเซฟแบตไม่ให้หมดเสียก่อนที่สองจะเอาออกมาถือวิสาสะเปิดดูรายชื่อคนรู้จักเพื่อหาทางที่จะได้ติดต่อกับหนึ่ง
          แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ก่อนวันสุดท้ายของการปิดคอร์สเรียนพิเศษ สองก็ได้รับโทรศัพท์จากคนที่สองไม่คาดคิดว่าจะได้มีโอกาสคุยด้วย คนๆนั้นโทรเข้าเบอร์ของห้องคนตัวเล็ก ตอนแรกที่รับโทรศัพท์สองจึงงงมาก คิดว่าน่าจะเป็นคนโทรผิด เพราะคนที่รู้เบอร์ก็มีแต่ พ่อกับแม่ แล้วก็หนึ่ง
          "ฮัลโหล...สองครับ"

          "สวัสดีจ้ะ...สองใช่มั้ย" เสียงผู้หญิงสูงวัยดังมาตามสาย

          "เอ่อ...อ่ะ..ครับ..ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ"  สองถามกลับไป

          "ป้าเป็นแม่ของหนึ่งจ้ะ"

          "อ่ะ..คุณแม่เหรอครับ..สวัสดีครับ..."

          "จ้ะ..." คนปลายสายรับคำสั้นๆ

          "คุณป้าโทรมาหาสอง..มีอะไรรึปล่าวครับ...เอ๊ะ!...รึว่าพี่หนึ่งมีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ"  สองรีบถามด้วยความกังวล

          "อ๋อ...ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ"  มารดาของหนึ่งตอบกลับมา ก่อนพูดต่อ

          "เห็น..หนึ่งเค้าโทรเข้ามาบอกป้าว่าลืมมือถือไ้ว้ที่ห้องของสองน่ะ"

          "อ๋อ..ใช่ฮะ.." สองตอบเสียงอุบอิบ เพราะไม่แน่ใจว่าคุณแม่ของหนึ่งรู้เรื่องระหว่างตนกับคนตัวสูงมากน้อยแค่ไหน  หนึ่งเพียงแต่เคยเล่าเกี่ยวกับครอบครัวให้ฟังบ้าง เช่นมีสมาชิกกี่คน ใครกำลังทำอะไรอยู่บ้าง หนึ่งเป็นลูกคนเล็ก มีพี่ชายกับพี่สาว พี่ชายแต่งงานมีครอบครัวแล้ว  ส่วนพี่สาวก็หมั้นหมายไว้แล้ว เป็นคุณหมอคนสวยประจำอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯนี่แหละ หนึ่งและพี่ๆมีครอบครัวที่อบอุ่น เพียงแต่บิดามีภาระหน้าที่มากมายเนื่องจากทำธุรกิจหลายอย่าง เลยต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นประจำ สามพี่น้องเลยใช้ชีวิตกับมารดาซะเป็นส่วนใหญ่ ตอนนี้ก็ได้พี่คนโตช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่ไปบ้าง บิดาของหนึ่งเลยสบายขี้นได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น แต่นานๆทีหนึ่งก็กลับไปอยู่บ้านบ้าง ได้กลับไปเอาใจมารดาผู้ที่ดูว่าจะหวงแหนลูกคนนี้เป็นพิเศษ เพราะเป็นคนเล็กสุด หนึ่งจึงได้รับความเอ็นดูและการตามใจจากมารดามากกว่าคนอื่นๆนิดหน่อย เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ได้มาเป็นวิศวะกรทำงานลำบากตรากตรำเช่นนี้ แต่มันเป็นงานที่หนึ่งชอบ  ถ้าไม่ได้มารดาช่วยพูดไว้ หนึ่งก็คงโดนจับยัดเข้าเป็นผู้จัดการตามแผนกต่างๆในบริษัทของพ่อ  และโชคยังดีที่พี่ชายดันไปชอบงานด้านธุรกิจบริหาร  หนึ่งเลยรอดตัวไป

         "จ้ะ..นี่ถ้าแจงไม่โทรมาบอกป้าไว้ก่อนนะ...ป้าก็คงกลุ้มไปแล้วล่ะ เพราะโทรเข้าเครื่องหนึ่งไม่ติด แล้วก็โทรไปที่ห้องก็ไม่มีคนรับ ป้าก็เลยให้แจงเค้าโทรหาหนึ่งบอกว่าให้ติดต่อกลับมาหาป้าด่วนเลย  ป้าก็เพิ่งรู้ว่าหนึ่งเค้าไปทำงานที่ชลบุรีหลายเดือนแล้ว  ลูกคนนี้ไม่คิดโทรบอกแม่ของเค้าซักคำ  เฮ้ย.."

         "เอ่อ..พี่แจง  เหรอฮะ.." แค่ได้ยินชื่อนี้ สองก็ใจสั่น รู้สึกในหัวกำลังหมุนติ้ว

         "จ้ะ..แจงที่เค้าเคยเป็นแฟนหนึ่งน่ะ สองน่าจะรู้จักนะ เพราะสนิทกับพี่หนึ่งเค้านานแล้วนี่ ป้าก็ไม่รู้ว่าแจงเค้ามาเจอหนึ่งที่ชลบุรีได้ยังไง เฮ้ย แต่ถ้าสองคนนี้เค้ากลับมาคบกันได้ก็ดีนะ ป้าว่าพี่แจงเค้าน่ารักนะ สองว่างั้นมั้ยจ๊ะ"
 
         "อ่ะ..อ๋อ..ฮะ..เอ่อ..น่ารัก.....ฮะ"  คนตัวเล็กเสียงเบาหวิว

         "จริงๆป้าก็ว่าจะโทรมาคุยกับสองนานแล้วนะ  เห็นหนึ่งเค้าคุยให้ป้าฟัง ว่ามีน้องข้างห้องมาให้ช่วยติววิชาให้แล้วก็กลายเป็นสนิทกัน  ก็ดีนะจ๊ะอยู่ใกล้ๆกัน เพื่อนบ้านกันมีปัญหาอะไรก็ช่วยกันได้"

         "เอ่อ..ฮะ"

         "หนึ่งเค้าก็แบบนี้อยู่ไม่ค่อยเป็นที่เป็นทาง  เดี๋ยวอีกหน่อยป้าก็ว่าจะออกคำสั่งขั้นเด็ดขาดให้ย้ายกลับเข้ามาอยู่บ้านซะที"

         "ฮะ..." ตอนนี้คนตัวเล็กไม่รู้จะพูดอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว

         "อ้อ..คือป้าจะบอกว่าถ้าเกิดมีอะไรฉุกเฉินแบบนี้อีก  ยังไงป้าวานสองโทรบอกป้าด้วยนะ  ป้าจะได้รู้ว่าหนึ่งเค้าไปตะลอนๆอยู่ไหนบ้าง หัวอกคนเป็นแม่น่ะ "

         "อ่ะ..ครับ  "
   
         "สองเตรียมกระดาษจดยังจ๊ะ ป้าจะบอกเบอร์ของป้านะ เบอร์ XX-XXXXXXXX นะจ๊ะ สองจดเรียบร้อยแล้วนะ"
         มารดาของหนึ่งบอกเบอร์โทรศัพท์มือถือช้าๆ เพื่อให้สองจดได้ทัน ก่อนถามย้ำอีกที

         "อ่อ..ครับ  เรียบร้อยแล้วฮะ"  คนตัวเล็กบอกเสียงแผ่วเบา

         "จ้ะ..ดีจ้ะ  งั้นป้าไม่กวนสองแล้วนะ แค่นี้นะจ๊ะ"

         "อ่า..ฮะ..สวัสดีครับ"

         "จ้ะ..สวัสดี"

         คนตัวเล็กกดวางสาย มือที่ถือโทรศัพท์ค่อยๆตกลงอย่างหมดแรง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-02-2011 21:05:12
ต่อค่ะ

          สองนั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียง  ในมือยังถือโทรศัพท์ไว้ คนตัวเล็กนั่งเหม่อใจลอย ไหล่เล็กๆห่อลงเหมือนหัวใจที่กำลังห่อเหี่ยวเพราะความหวาดระแวง
          พี่แจง...ทำไมอยู่ดีๆพี่แจงก็เข้ามาได้ล่ะ ทำไมพี่แจงโทรหาแม่พี่หนึ่งได้ล่ะ แล้วนี่พี่แจงไปเจอกับพี่หนึ่งที่ชลบุรีหรอกเหรอ สองคิดได้แค่นั้นก็ต้องนึกอะไรออกแวบๆ สองรีบหยิบมือถือของตัวเองออกมาจำได้ว่าตอนนั้นแอบเมมเบอร์มือถือที่หนึ่งใช้โทรเข้าตอนอยู่บนรถทัวร์ แต่พอเห็นหนึ่งใช้อีกเบอร์โทรเข้ามาในครั้งต่อๆไป สองก็เลยตั้งใจว่าจะลบทิ้ง แต่เพราะยังยุ่งๆอยู่กับที่เรียนพิเศษ สองก็เลยยังไม่ได้ลบสักที อย่างน้อยๆก็ต้องนึกขอบคุณตัวเองที่ไม่ได้ลบทิ้งไป เพราะไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้พิสูจน์อะไรบางอย่าง  คนตัวเล็กกดเลือกไปที่เบอร์นั้น สองจำได้ว่าเมมไว้ว่า  N เพราะตอนนั้นก็รีบเมมไปมั่วๆ กลัวว่าจะลืมเสียก่อน พอเบอร์โชว์ พร้อมกับปรากฏชื่อ N ที่สองเมมเอาไว้ คนตัวเล็กก็รีบหยิบมือถือของหนึ่งมาเปิดเครื่อง แน่นอน สิ่งแรกที่เห็นคือข้อความแสดงว่ามีสายเข้ามาเป็นสิบๆสาย และนั่นก็คือเบอร์ของมารดาของหนึ่งนั่นเอง แต่ตอนนี้สองกำลังสนใจเบอร์อีกเบอร์มากกว่า สองเลือกเข้าที่เมนูรายชื่อในมือถือของหนึ่ง แล้วก็ต้องไปสะดุดที่รูปใบหน้าของใครคนหนึ่งที่คนตัวสูงเมมเอาไว้  สองเอาหมายเลขเบอร์ของคนๆนั้นมาเทียบกับเบอร์แปลกๆที่ตัวเองเมมชื่อไว้ว่า N ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ
          "ใช่พี่แจงจริงๆด้วย"
          แล้วคราวนี้คนตัวเล็กจะทำยังไงดีล่ะ คนที่อยากเจอมากที่สุดก็หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว จะติดต่อก็ไม่ได้ สองเองก็ไม่ใช่คนที่จะตัดสินอะไรง่ายๆ แต่การที่มาเงียบหายแบบนี้มันก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว แถมจู่ๆคนที่เป็นอดีตแฟนก็เข้ามาพัวพัน ซ้ำยังเหมือนจะถูกยืนยันด้วยคนที่น่าเชื่อถือได้อย่างผู้สูงวัยที่เป็นถึงมารดา  แล้วนี่สองจะทำยังไงดี  คนตัวเล็กคิดหนัก  ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด  สองไม่รู้จะปรึกษาใคร รู้สึกไม่อยากรบกวนพ่อแม่ เพราะมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แถมจะปรึกษาเพื่อนก็ไม่ได้ เพราะไม่อยากถูกเอาไปนินทา
          "พี่หนึ่ง..พี่หนึ่งอยู่ไหนฮะ...ทำไมพี่หนึ่งไม่โทรหาสอง" สองพูดกับตัวเองเบาๆ แต่หัวใจกลับลอยออกไปไกลแล้ว
          ไม่รู้ว่านั่งห่อเหี่ยวอยู่บนเตียงไปนานแค่ไหน สองหลับลงไปตอนไหนคนตัวเล็กก็ตอบตัวเองไม่ได้ รู้แต่ว่าตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงเช้าแล้ว  สรุปแล้ววันสุดท้ายของการปิดคอร์ส สองก็ไม่ได้ไปเรียนพิเศษอย่างที่ตั้งใจไว้  นอกจากนั่งซังกะตายอยู่ในห้อง จะมีก็แต่เดินลงไปกินข้าวข้างล่างที่ร้านอาหารที่ไปกินกับคนตัวสูงบ่อยๆ แต่วันนี้ไม่มีคนๆนั้น มีเพียงคนตัวเล็กที่นั่งห่อเหี่ยวพร้อมกับมือถือสองเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะ
          วันนั้นทั้งวันสองก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากนั่งเหม่อลอย หรือไม่ก็นั่งจ้องโทรศัพท์ของตัวเอง เผื่อว่าจะมีคนๆนั้น คนที่สองรอแล้วรอเล่าโทรเข้ามาบอกข่าวคราวให้ได้ฟังและเบาใจ  แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครโทรมา  เย็นวันนั้นสองเลยตัดสินใจที่จะลองโทรหาแจง แฟนเก่าของหนึ่งอีกครั้ง  คนตัวเล็กเลยหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมากดเบอร์ที่เมมชื่อไว้ว่า N
         
         "ฮัลโหล..ค่า  แจงพูดค่า"  ปลายสายกดรับแล้ว พร้อมกับเสียงใสๆของเจ้าของเบอร์นั้นก็พูดทักกลับมา
         
         สองได้ยินเสียงแจงเหมือนพยายามพูดให้ดังแข่งกับบรรยากาศรอบข้าง สองไม่รู้ว่าแจงอยู่ไหน รู้เพียงแต่ว่า แจงคงอยู่ในที่ๆมีคนเยอะแยะเต็มไปหมด
         
         "ฮัลโหล  พี่แจงฮะ สองเองนะ" สองตอบกลับไป
       
         "ฮัลโหลๆ  ใครนะคะ แจงไม่ค่อยได้ยินค่ะ"
         
         "เอ่อ...สองฮะ..สองเอง" เมื่อเห็นแจงไม่ค่อยได้ยิน สองเลยเพิ่มระดับความดังมากขึ้น
         
         "อ๋อ..น้องสอง  ว่าไงคะ พูดดังๆเลยนะ พี่ไม่ค่อยได้ยิน"
         
         "คือ..พี่แจงเจอพี่หนึ่งบ้างมั้ยฮะ"  สองตะโกนกลับไป เมื่อรู้ว่าคนปลายสายอณุญาตให้พูดเสียงดังได้
       
         "อ๋อ...จ้ะ หนึ่งจ้ะ เห็นว่างานยุ่งจ้ะ ยุ่งมาก"
       
         "พี่แจงเจอพี่หนึ่งบ้างมั้ยฮะ"  สองตะโกนกลับไปอีกครั้ง
       
          "เจอๆ..นี่เดี๋ยวก็เจอกันแล้วเค้าเพิ่งโทรหาพี่เมื่อกี๊ ไงเดี๋ยวพี่ให้เค้าโทรกลับนะ  ตอนนี้พี่ไม่ว่างแล้วล่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ สองรอรับโทรศัพท์พี่หนึ่งนะ แค่นี้นะสอง"
         
         "ครับ" สองรับคำได้แค่นั้น ก็ได้ยินเสียงตู๊ดๆๆแสดงว่าแจงจะตัดสายไปแล้ว
         สองฟังได้เท่านั้นก็รู้สึกว่าตัวเองจะห่อเหี่ยวหนักกว่าเดิม  สองไม่เข้าใจว่าทำไมหนึ่งโทรหาแจงได้ แต่ทำไมไม่โทรหาสอง หนึ่งหายไปนานมาก จนเป็นเดือนแล้ว ช่วงหลังก็ขาดการติดต่อ แต่ทำไมสองรู้สึกเหมือนว่าหนึ่งติดต่อหาแจงตลอด แถมยังอยู่ใกล้กันอีก และที่สำคัญแจงก็สนิทกับแม่ของหนึ่ง  แล้วนี่มันหมายความว่ายังไง สองไม่อยากคิดไปในทางไม่ดี สองไม่อยากเชื่อว่าหนึ่งจะกลับไปคบกับแจง เพราะเพียงแค่นึก มันก็เจ็บปวดแปลบในหัวใจ เพียงแค่นึก น้ำตาอุ่นๆมันก็ปริ่มๆอยู่ที่เบ้าตา เพียงแค่นึกว่าจะโดนทิ้ง.....แค่นั้นแหละ น้ำตาเม็ดแรกมันก็ไหลลงมา และไหลออกมาเรื่อยๆ คนตัวเล็กพยายามปาดเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมหยุดเสียที ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เดี๋ยวน่า อีกสักแป๊บ รออีกสักเแป๊บ คนที่ตัวเองแสนคิดถึงก็คงโทรกลับมา
         รออีกสักแป๊บ......
         แต่มันเป็นช่วงเวลาที่สั้นๆที่ไม่มีวันสิ้นสุด
         สองรอจนเช้าวันใหม่ หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอไปอีกหนึ่งวัน หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอไปอีกหนึ่งอาทิตย์ หนึ่งก็ยังไม่โทรกลับมา
         สองรอจนโรงเรียนเปิดเทอมแล้ว  แต่คนตัวสูงก็ยังไม่ติดต่อกลับมา
         สองทำอะไรไม่ได้แล้ว...ตอนนี้จะให้สองคิดว่ายังไง  มันคงเหลืออยู่หัวข้อให้เลือกอันเดียวแล้ว คือสองกำลังโดนทิ้ง สองไม่อยากจะเชื่อเลย หนึ่ง...หนึ่งคนที่เอ็นดูสองนักหนา คนที่คอยบอกรักสองทุกวัน คนที่คอยดูแลสอง ออดอ้อนยามที่กลับมาจากการทำงานที่แสนเหนื่อยล้า จะเปลี่ยนใจไป เปลี่ยนใจเพราะเจอแฟนเก่าอย่างแจง หนึ่งคงรักแจงมาก รักมาตั้งแต่แรก หนึ่งรักสอง สองรู้สึกได้ แต่มันคงไม่มากเท่ากับแจง แจง ผู้หญิงที่สมบูรณ์พร้อม  มีอนาคตสวยงาม ที่สำคัญ เป็นผู้หญิง ผู้หญิงที่แม่สามีต้องการ ผู้หญิงที่สามารถมีหลานตัวน้อยๆไว้ให้มารดาของหนึ่งอุ้มเล่น มันคงไม่แปลก หากหนึ่งจะเลือกแจงเป็นคู่ชีวิตอย่างแท้จริง
         หลังจากเปิดเทอม สองก็ไปโรงเรียนแบบเสียไม่ได้ คนตัวเล็กดูซูบผอม ใบหน้าขาวซีดจนเพื่อนๆหลายคนทักว่าไม่สบายรึเปล่า สองก็ได้แต่ยิ้มๆ สองรู้ๆว่าเพื่อนหลายคนเป็นห่วง เพราะปกติสองจะเป็นคนร่าเริงสดใส แต่พอเปิดเทอม สองก็กลับเปลี่ยนไป พูดน้อยลง ชอบนั่งคนเดียว จริงๆแล้วสองน่าจะเป็นคนที่อารมณ์ดีที่สุด  เพราะผลคะแนนสอบวิชาเลขที่ผ่านมา สองทำได้เป็นอันดับต้นๆของระดับชั้น แต่ดูเหมือนเจ้าของคะแนนจะไม่ได้สนใจเลย ใครจะไปรู้ล่ะ  ว่าตอนนี้ในจิตใจของสองมันห่อเหี่ยวแค่ไหน  คะแนนที่ได้มาก็เพราะว่าใครคอยช่วยล่ะ ใครที่กลับมาถึงดึกๆดื่นๆแต่ก็ไม่เคยที่จะลืมมาติวเลขให้ ใครคนนั้นที่สอนสูตรการคิดต่างๆจนสองเข้าใจทะลุปรุโปร่ง ใครคนนั้นที่เคยบอกว่า ถ้าสองได้คะแนนดีจะพาไปกินของอร่อยๆ แล้วจะให้รางวัล แล้วเป็นไงล่ะ ตอนนี้สองได้คะแนนดีมาก ดีถึงขนาดเป็นคะแนนสูงสุดของห้อง แล้วคนๆนั้นหายไปไหน ของกินอร่อยๆที่จะพาไปกินล่ะ รางวัลที่จะให้อีกล่ะ สองจะไปทวงเอาจากใคร นี่เรียกว่าการผิดคำพูดรึเปล่า  แล้ว...สองจะให้เขารับรู้ได้อย่างไร เพราะคนๆนั้นดูเหมือนจะหายไปแล้ว
         "พี่หนึ่ง..หายไปไหนฮะ"
        หลังจากเย็นวันแรกของการเปิดเทอม เมื่อสองกลับถึงห้อง ขณะที่กำลังจะเดินถึงห้อง สองก็เห็นใครคนหนึ่งกำลังไขประตูห้องข้างๆ ห้องๆนั้น ห้องของหนึ่ง แต่คนๆนั้นไม่ใช่หนึ่ง
         "เอ่อ..พี่ฮะ...พี่ทำไรฮะ" สองพูดขึ้น ตอนนั้นคนตัวเล็กเดินถึงหน้าห้องตัวเองแล้ว
         "อ้าว..น้องอยู่ห้องนี้เหรอ" คนๆนั้นหันมามองสอง แล้วถามก่อนที่จะพยักเพยิดไปที่ห้องของสอง
         "อ๋อ..ฮะ...."  สองตอบ
ิ         "พี่เพิ่งมาอยู่ใหม่น่ะ วันนี้มาดูห้อง เห็นเจ้าของเค้าบอกว่ากุญแจหายไปดอก พี่เลยว่าจะทำล็อคประตูใหม่"
         เพียงแค่ได้ฟังเท่านั้น..สองก็เกิดอาการหน้าชา เหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง สายตาเริ่มพร่าเรือน ก่อนที่จะกัดฟันถามออกไปเบาๆ
         "เอ่อ...แล้วคนที่อยู่ก่อนหน้านี้ล่ะฮะ"
         "เจ้าของเค้าบอกขายแล้วน่ะ....เค้าจะกลับไปอยู่บ้าน เห็นเค้าบอกว่าอยากอยู่บ้านแล้ว555แปลกดีนะคนเรา" ผู้มาอยู่ใหม่บอกอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่จะหันมามองสองอย่างสงสัย แล้วถามกลับมาว่า
         "น้องๆ..ไม่สบายรึปล่าว  ไมหน้าซีดจัง..รึว่าขาวอยู่แล้วเนี่ย แต่ท่าจะไม่สบายนะเนี่ย ปากซีดเชียว"
         "อ๋อ..ไม่มีไรฮะ ผมเดินมา แดดร้อน ขอเข้าห้องก่อนนะพี่"
         "เออๆ..."
         แล้วสองก็ถือโอกาสนั้นรีบไขประตูเข้ามาในห้อง  คนตัวเล็กรีบปิดประตู ก่อนที่จะพาร่างกายที่อ่อนแรงเต็มทีทิ้งลงบนโซฟาใกล้ๆ
         สองเอนตัวลงนอนบนโซฟา น้ำใสๆไหลอาบข้างแก้มขาวๆ...
     
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...21/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า6นะ
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-02-2011 21:05:34
ต่อค่ะ...

          หลังจากวันนั้นสองก็ไปโรงเรียนด้วยอาการที่ดูว่าจะแย่ลงกว่าเดิม คนตัวเล็กเดินใจลอยหลายครั้ง จนเพื่อนข้างๆต้องมากระตุกแขนบ่อยๆ กลัวว่าเพื่อนใจลอยจะเดินตกท่อเข้าสักวัน  พอเพื่อนๆหลายคนถาม สองก็ได้แต่ยิ้มบางๆให้ รู้หรอกว่าเพื่อนห่วงน่ะ แต่จะให้บอกว่าโดนแฟนที่เป็นผู้ชายทิ้งน่ะเหรอ สองไม่มีวันยอมบอกเด็ดขาดจะให้โทรบอกพ่อกับแม่ สองก็ยังไม่พร้อมหรอก เพราะถ้ารู้ แม่เองก็คงพลอยทุกข์ใจไปด้วย แล้วหนึ่งก็คงไม่พ้นที่จะโดนพ่ออ้วนด่าเสียๆหายๆเป็นแน่ แถมสองก็คงทำให้พ่อกับแม่ต้องเป็นกังวลอีกด้วย
          หลังจากคิดหนักวนเวียนทบทวนไปมาอยู่หลายตลบ สองก็ตัดสินใจว่าคราวนี้สองจะลองโทรไปหามารดาของหนึ่งเลยดีกว่า อย่างน้อยๆคนที่มาอยู่ใหม่ก็บอกแล้วว่า เจ้าของห้องซึ่งก็คือหนึ่งได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน ก็แสดงว่า ตอนนี้หนึ่งคงจะอยู่กับแม่แน่นอน ดังนั้นคนตัวเล็กจึงตัดสินใจโทรหามารดาของคนตัวสูง เพื่อถามไถ่ให้รู้แน่ชัดกันไปเลย
          "สวัสดีครับ"  สองพูดกลับไปตามสาย เมื่อได้ิยินเสียงคนปลายทางรับสายโทรเข้าของสอง
          
          "สวัสดีค่า  ใครพูดคะ?" สองจำเสียงนั้นได้ คุณแม่ของหนึ่งนั่นเอง
          
          "เอ่อ..คุณป้าครับ  นี่สองนะครับ" สองบอกไปอย่างกล้าๆกลัว
          
          "เอ่อ....." สองได้ยินคนปลายทางเงียบไปสักพัก ก่อนที่ผู้สูงวัยคนนั้นจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ
          "มีอะไรจ๊ะ"
          
          "เอ่อ...สอง..อยากทราบว่าพี่หนึ่งกลับไปอยู่บ้านแล้วเหรอครับ"
        
          "จ้ะ..ใช่จ้ะ  หนึ่งคงไม่กลับไปที่นั่นแล้วล่ะ"
        
          "อ้าว..เอ่อ..แล้ว มือถือที่พี่หนึ่งลืมไว้ล่ะครับ"
          
          "เค้าคงทิ้งแล้วล่ะจ้ะ คงไม่กลับไปเอาแล้ว"
          
          "เอ่อ.....เหรอครับ"
        
          "ถ้าสองไม่มีอะไรแล้ว ป้าขอตัวก่อนนะจ๊ะ" เสียงหญิงสูงวัยที่ปลายสายกล่าวเนือบๆ
          
          "อ่อ..ครับ..เอ่อแล้วพี่หนึ่งจะเปลี่ยนเบอร์มั้ยครับ ถ้าไง...."
          และก่อนที่สองจะพูดอะไรต่อไป  ผู้เป็นมารดาของหนึ่งก็กล่าวตัดบทสนทนาออกมาดื้อๆ
        
          "หนึ่งเค้าคงยังไม่ใช้เบอร์ใหม่ตอนนี้หรอกจ้ะ เพราะว่ากลับมาอยู่บ้านแล้ว คงไม่ต้องโทรหากันให้ยุ่งยาก ป้าขอตัวก่อนนะ"  
          
          และยังไม่ทันที่สองจะพูดอะไรต่อ คนปลายทางก็ตัดสายทิ้งไปเสียแล้ว..
          สองถือโทรศัพท์ค้างอยู่ที่หู  จะเอายังไงดีล่ะคราวนี้ แบบนี้แสดงว่าหนึ่งไปจากสองแล้วงั้นหรือ คนอย่างหนึ่งจะไปแบบไม่บอกกล่าวขนาดนี้เชียวหรือ หนึ่งทิ้งสองได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยหรือ แล้วโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือของสองก็ถูกปล่อยร่วงหล่นลงบนพื้นเตียง ก่อนที่คนตัวเล็กซึ่งเป็นผู้ที่ถือโทรศัพท์เครื่องนั้นอยู่เมื่อครู่ จะชันเข่าทั้งสองข้างขึ้นแล้วก้มหน้าลงกอดตัวเองเอาไว้ ร่างของคนบนเตียงค่อยๆสั่นเทิ้มทีละน้อย เสียงสะอื้นดังอู้อี้อยู่กับหัวเข่าทั้งสองข้างที่คนตัวเล็กซบใบหน้าตัวเองเอาไว้
          สองเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น  พยายามนึกว่าตัวเองทำอะไรให้หนึ่งไม่พอใจ คนตัวเล็กทบทวนเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในช่วงที่คบกับหนึ่ง ตั้งแต่ที่คบกันมาก็นับได้เกือบหนึ่งปีแล้ว สองอยากรู้ ว่าตัวเองทำอะไรผิด หนึ่งถึงโกรธจนห่างหายไปได้ขนาดนี้  คนอื่นๆนั้น สองไม่อยากจะเอามาคิดให้ปวดหัว ไม่ว่ามารดาของหนึ่งจะชอบสองหรือไม่ ไม่ว่าหนึ่งจะคบกับแจงต่อหรือไม่ แต่สองอยากให้หนึ่งเป็นคนบอกสองถึงสาเหตุด้วยตัวเอง ไม่ใช่หนีหายกันไปแบบนี้ มันเหมือนหนึ่งเห็นสองไม่มีคุณค่า นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป และสองเองก็ไม่อยากจะเชื่อ  ว่าพี่หนึ่งที่แสนดีจะกลัยกลายเป็นคนแบบนั้น
          แต่จนแล้วจนรอด สิ่งที่สองไม่อยากเชื่อ มันก็เหมือนจะคอยตอกย้ำให้สองคิดตลอด เพราะผ่านไปหลายวันเข้า การไร้วี่แววของคนตัวสูงก็ยิ่งทำให้คนตัวเล็กเจ็บช้ำใจ  สองไปโรงเรียนบ้าง ลาหยุดบ้าง เพราะมัวแต่นั่งเหม่อลอยร้องไห้ จนบางทีก็หลับไปทั้งๆที่ไม่ได้กินข้าวเย็น  บางทีก็ไม่ได้อาบน้ำ บางทีอาบน้ำเสร็จแล้วก็มานั่งร้องไห้ ทั้งๆที่มีผ้าขนหนูพันไว้แค่ผืนเดียว ยิ่งเห็นตัวเองก็ยิ่งคิดถึงหนึ่ง คิดถึงช่วงที่มีความสุขด้วยกัน คิดถึงวันที่หนึ่งกอดสองไว้แนบอก คิดถึงสายตาที่มอบให้แต่ความรักห่วงหาอาทร แต่ตอนนี้ไม่มีแบบนั้นแล้ว พอเหลือแต่ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง มันก็ยิ่งเศร้า ยิ่งเศร้าก็ยิ่งคิด ยิ่งคิดก็ยิ่งร้องไห้ จนบางครั้งสองก็หลับไปพร้อมคราบน้ำตา ข้าวปลาก็ไม่ค่อยได้กิน บางทีก็หลับคาผ้าขนหนูผืนเดียว แล้วก็ตื่นขึ้นมาเพราะตัวร้อน ก็เลยต้องนอนซมไปโรงเรียนไม่ได้
          พอรู้ว่าเริ่มไปโรงเรียนไม่ได้ สองก็รีบกินยาแก้ปวด บางทีก็กินเกินกว่าที่ฉลากยากำกับไว้ เพราะอยากให้ยาออกฤทธิ์เร็วๆ สุดท้ายก็หลับเป็นตาย พออาการดีขึ้นหน่อยก็ไปโรงเรียน แล้วก็กลับมาป่วยอีก เพราะร่างกายไม่ได้รับการดูแลจากเจ้าของอย่างดีพอที่อาการป่วยจะหายขาด  สองจึงเป็นไข้แบบเป็นๆหายๆหน้าตาซูบเซียว

                                            ................................................
(editเพิ่ม)  เหอๆๆอาจมีคำผิดนะคะ ยังไม่ได้ตรวจ>,.<        
          
          หญิงสาวนั่งมองชายหนุ่มตรงหน้า ใบหน้าคร้ามสะอาดกำลังขมวดคิ้วน้อยๆแบบที่เธอคุ้นเคย ผู้ชายคนนี้มักจะทำหน้าตาเคร่งขรึมอย่างเห็นได้ชัดในเวลาที่เขาต้องใช้ความคิดในการแก้ปัญหา  แต่ที่ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้าเธอกำลังทำท่าแบบนี้ คงเป็นเพราะเธอกำลังชวนเขาคุยเกี่ยวกับใครคนหนึ่ง ใครคนนั้นที่เขาตัดสินใจที่จะทำตัวเงียบหายจากมา  เธอพูดถึงใครคนนั้น ซึ่งมันก็เหมือนกับเอาไฟจี้เข้าไปที่หัวใจของเขาอย่างจัง  
          "หนึ่ง...หนึ่งไม่คิดจะบอกน้องเค้าเหรอ"  แจงถามผู้ชายตรงหน้าของเธอ
          "........................................"  ไร้คำตอบจากผู้ชายคนนั้น นอกจากสีหน้าที่เคร่งขรึมกว่าเดิม พร้อมกับสายตาคมที่แสร้งเบนหลบไปทางอื่น
          "หนึ่ง.......อย่าเงียบสิ....แบบนี้มันไม่ดีนะหนึ่ง..แจงสงสารสอง" หญิงสาวบอกคนตรงหน้าด้วยเสียงร้อนรน
          "แจง..หนึ่งขอเวลาหน่อยนะ...หนึ่ง..ไม่รู้สิ..หนึ่งคิดอะไรไม่ออก" ชายหนุ่มบอกหญิงสาว
          "ทำไมล่ะ......."  แจงยังคงเซ้าซี้หนึ่ง
          "ผม....ไม่พร้อม..."  นั่นคือคำตอบสั้นๆจากเจ้าของเสียงทุ้มๆ
          "ทำไมล่ะ......."  แจงยังคงไม่เข้าใจ
          "สองไม่ควรยึดติดกับผม ผมอยากให้สองเจอคนใหม่" นั่นคือคำตอบจริงๆของหนึ่ง พร้อมกับสายตาคมที่เบนกลับมาสบตาโตหวานๆของแจงอีกครั้ง
          "หนึ่ง...หนึ่งจะเอาแบบนั้นใช่ไหม..หนึ่งคิดว่าการที่หนึ่งเงียบหายไปแล้วน้องสองจะลืมหนึ่งไปได้เฉยๆงั้นเหรอ..."
          "ผมไม่รู้แจง..เพียงแค่ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม...ผมแค่ขอให้เวลามันผ่านไป  ผ่านไปเร็วๆ" หนึ่งบอกหญิงสาวตรงหน้า สีหน้าตอนนี้เดี๋ยวเคร่งเครียดเดี๋ยวกังวล
          "หนึ่ง...หนึ่งอยากให้แจงบอกน้องให้เอาไหม..แจงจะคุยกับน้องให้เอง"
          "ไม่ล่ะแจง...หนึ่งขอ..แจงอย่ายุ่งนะ..ถ้าหนึ่งพร้อม..หนึ่งจะไปหาสองเอง"  หนึ่งบอกหญิงสาว
          "ทำไมล่ะหนึ่ง..." แจงไม่เข้าใจผู้ชายตรงหน้า เสียงของเธอเริ่มสะบัดมากขึ้นเพราะเริ่มหงุดหงิดกับคนดื้อดึง หนึ่งเชื่อในการตัดสินใจของตัวเอง เชื่อมากจนแจงที่พยายามหว่านล้อมอยู่เป็นนานสองนานรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา
          "หนึ่ง...ไม่อยากให้สองเจอหนึ่ง...............ตอนนี้" ชายหนุ่มก้มหน้าลง แล้วสายตาก็ต้องพบกับความเจ็บปวด
          แจงได้ฟังเหตุผลแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา...ถ้าเป็นแบบนี้แล้วหล่อนจะทำอย่างไรดี
          และตอนนั้นเอง
          เสียงประตูกำลังถูกเปิดโดยใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา......
          "อ้้าว..หนูแจง...มาตอนไหนจ๊ะ"  ผู้หญิงสูงวัยแต่งตัวภูมิฐาน ดูดีมีฐานะที่กำลังเข้ามาในห้องร้องทักหญิงสาว
          "สวัสดีค่ะ..คุณแม่"  แจงหันไปไหว้มารดาของหนึ่ง
          "จ้ะสวัสดี ไหว้พระเถอะลูก..นี่มานานรึยังจ๊ะ"
          "ก็..ซักพักใหญ่ๆแล้วค่ะ...กำลังนั่งคุยอะไรเพลินๆกับหนึ่งอยู่พอดี" หญิงสาวยิ้มหวานตอบมารดาของหนึ่ง
          "อ่าว..คุยอะไรกันล่ะ บอกแม่มั่งได้มั้ย" หญิงสูงวัยมองหน้าแจงสลับกับหนึ่งที่ตอนนี้สีหน้าเรียบนิ่ง
          "อ๋อ...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ...เรื่องเก่าๆน่ะค่ะ รื้อฟื้นขึ้นมาคุยกันใหม่แล้วก็รู้สึกว่าน่าหัวเราะ" แจงบอกหญิงสูงวัยกว่า
          "อื้อ..นั่นสินะ  เรื่องของหนุ่มๆสาวๆ" มารดาของหนึ่งพูดอย่างอารมณ์ดี
          "งั้นเดี๋ยวแจงขอตัวกลับก่อนนะคะ"
          "อ้าว..จะกลับแล้วเหรอจ๊ะ"
          "ค่ะ...หนึ่ง...แจงกลับก่อนนะ  แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ"  หญิงสาวรับคำกับมารดาของหนึ่งแล้วก็หันมาบอกผู้ชายที่นอนอยู่บนเตียง
          "กลับก่อนนะคะคุณแม่ แจงลานะคะ"  แจงพูดแล้วก็ยกมือไหว้มารดาของหนึ่ง
          "จ้ะๆ  ไปดีมาดีนะลูก" มารดาของหนึ่งยกมือรับไหว้แล้วก็ไม่วายเอามือลูบผมหญิงสาวด้วยความเอ็นดู ก่อนจะถามต่อ
          "แล้วแจงกลับยังไงล่ะเนี่ย"
          "อ๋อ..แฟนแจงมารับค่ะ..ตอนนี้รออยู่ที่ชั้นล่างแล้วค่ะ"
          "อ๋อจ้ะๆ..กลับดีๆนะลูก"
          "ค่ะ........" แจงยิ้มให้หญิงสูงวัย และก่อนจะออกจากห้องก็ไม่วายที่จะแอบมองอดีตคนรักที่ตอนนี้กลายเป็นมิตรที่ดีต่อกัน ซึ่งกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง สีหน้าของเขายังคงเรียบนิ่งไร้ความรู้สึก สีหน้าแบบนั้นทำให้แจงรู้สึกกังวลเป็นอย่างยิ่ง
          แจงออกไปแล้ว.............มารดาของหนึ่งปิดประตูห้อง แล้วก็หันกลับมาหาลูกชายสุดรัก ก่อนที่จะเดินมาที่เตียง แล้วพูดขึ้นเบาๆ
          "หน้าเสียดายจริงๆ"
          หนึ่งถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อมองคนที่ยืนอยู่ข้างเตียง แล้วพูดขึ้น
          "แจงแต่งงานมีสามีแล้วนะครับ  คุณแม่พูดแบบนี้แจงจะเสียหายนะครับ"
          "เฮ้ยย~..แม่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าหนึ่งจะลืมแจงได้จริงๆ"
          "เราเลิกแล้วต่อกันด้วยดีครับ ตอนนี้เราเป็นเพื่อนกัน" หนึ่งบอกมารดาด้วยเสียงเรียบๆ
          "แม่ไม่อยากจะเชื่อเลย  ว่าหนึ่งจะโดนผู้หญิงทิ้ง ลูกของแม่ออกจะดีขนาดนี้ ถ้าไม่ติดที่บ้างานเกินไปนะแม่ว่าป่านนี้แจงก็ไม่ทิ้งหนึ่งไปหรอกนะ" มารดาพูดขึ้นแล้วก็ค้อนน้อยๆให้ลูกชายสุดรัก
          "คุณแม่ครับ...มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ  เรื่องนั้น...ผมเคยบอกคุณแม่แล้วไงครับ...ผมคงกลับไปชอบแจงไม่ได้อีกแล้ว รวมถึงผู้หญิงคนอื่นๆด้วย"
          แค่ได้ฟังปลายประโยค ผู้เป็นมารดาก็รู้สึกจี๊ดๆขึ้นมาที่หัวใจทันที
          "หนึ่ง...กับเด็กคนนั้น หนึ่งก็แค่หลงใหลชั่วครั้งชั่วคราว  มันเอามาวัดอะไรไม่ได้หรอกนะ แม่รู้ว่าหนึ่งโตแล้ว แต่มันก็มีบ้างที่ผู้ชายจะอยากลองอะไรแปลกใหม่ แต่ของแบบนี้หนึ่งคิดว่าพ่อกับแม่จะรับได้เหรอ  หนึ่งคิดดีๆนะ  แม่ว่าคิดในทางที่ดีนะ พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น หนึ่งจะได้มีโอกาสแยกกับเด็กคนนั้นไปเลย จริงๆแม่ก็ไม่ได้รังเกียจคนประเถทนี้หรอกนะ แต่แม่แค่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับลูกชายของแม่ เอาเถอะๆ อย่าไปพูดถึงอีกเลย  ทิ้งมันไปซะ ปล่อยให้เป็นอดีต เออนี่  หนึ่ง..หมอเค้านัดวันทำกายภาพแล้วนะ หนึ่งพร้อมรึยังจ๊ะ"
          "............................." ไร้คำตอบจากคนที่นอนอยู่บนเตียง
          "หนึ่งๆ..ตอบแม่สิ  หนึ่งอย่าเงียบสิ อย่าทำให้แม่ใจคอไม่ดีนะ"  มารดาถามหนึ่งด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน พร้อมกับเอื้อมมือเขย่าที่แขนของลูกชายเบาๆ
          "อืมมม...คุณแม่ครับ...คุณแม่คิดว่ามันจะหายหรือครับ" หนึ่งถามแม่เสียงเนือยๆ
          "หายสิ........แม่อยู่ทั้งคน......หนึ่งต้องหาย"
          หนึ่งหันไปมองมารดา สายตาคมแสดงถึงทุกคำพูดที่กำลังจะหลุดออกมาจากปากเรียวเป็นสิ่งที่ตัวเขากำลังคิดอย่างจริงจัง
          "คุณแม่คิดว่าหนึ่งจะกลับไปเดินได้อีกหรือครับ..."พูดได้แค่นั้น สายตาของคนพูดก็กลับเลื่อนลอยออกไปไกล
          "หนึ่ง..หนึ่งมองแม่สิ" มารดาเอื้อมมือไปกุมใบหน้าของหนึ่งแล้วค่อยจับให้หันมามองทางตนอย่างอ่อนโยน ก่อนที่จะกล่าวต่อไปว่า
          "หนึ่งต้องอดทนนะ..เราจะช่วยกันนะจ๊ะ ลูกของแม่ไม่เคยสร้างเวรสร้างกรรมกับใคร ลูกของแม่จะต้องไม่เป็นแบบนี้ แม่เชื่อว่า..ถ้าหนึ่งพยายามไปพร้อมกับแม่ สุดท้ายหนึ่งก็จะเดินได้อีกครั้งนะ เชื่อแม่นะจ๊ะ"
          เมื่อเห็นน้ำใสๆที่คลออยู่ที่เบ้าตาของมารดา หนึ่งก็ต้องถอนหายใจ ก่อนกล่าวตอบกลับไปเบาๆ
          "ขอเวลาหนึ่งหน่อยนะครับ..หนึ่งเหนื่อย..หนึ่งไม่อยากทำอะไร..ให้เวลาหนึ่งนะครับ"
          เพียงแค่ได้ฟังคำตอบของลูกชาย คำตอบที่ตอบแบบขอไปที คำตอบที่เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เธอไม่เคยเห็นลูกชายของเธอดูตรอมใจขนาดนี้ หนึ่งที่เคยเข้มแข็งหายไปไหน หนึ่งที่ดูสดใสร่าเริงเหมือนเมื่อสองสามเดือนก่อนหายไปไหน หนึ่งที่ช่างพูดช่างคุยกำลังจะหายไป ตอนนี้เหลือเพียงหนึ่งที่ได้แต่นอนอยู่บนเตียงนิ่งๆ ถามคำตอบคำ เอาแต่เหม่อลอยไม่สนใจวันเวลา เธอไม่อยากเห็นลูกชายเป็นแบบนี้  แค่เห็นลูกต้องมาพิการหัวใจของคนเป็นแม่ก็แทบแหลกสลาย แล้วตอนนี้ เจ้าลูกคนนี้มันยังไม่ยอมฉกฉวยไขว่คว้าเอาวันเวลาที่จะได้มีโอกาสกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง มันก็เหมือนทุกอย่างกำลังดิ่งลงเหว แล้วคนเป็นแม่อย่างเธอจะทำเช่นไร
                                             ...........................................
           และตอนนั้นเอง....แจงที่เดินออกมาขากห้องพักฟื้นของหนึ่งได้สักพัก กำลังยืนอยู่ที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล เธอกำลังรอสามีมารับ ซึ่งได้โทรนัดกันเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้แจงก็ถือมือถือของเธอไว้ในมือ บนหน้าจอปรากฏเบอร์ของใครคนหนึ่ง เธอกำลังจะเอื้อมนิ้วไปกดปุ่มโทรออก
           "ขอโทษนะหนึ่ง...แจงทนเห็นหนึ่งเป็นแบบนี้ไม่ได้" แจงพูดเบาๆกับตัวเอง ก่อนที่จะกดปุ่มโทรออก
           รอไม่นานปลายทางก็รับสาย แจงรีบพูดทันที
           "สอง....สองใช่มั้ยจ๊ะ"

           "แค่กๆๆ..เอ่อ..สองครับ..ใครพูดอยู่ครับ"  เสียงของคนที่ตอบรับฟังดูแย่มาก  

           "สอง..พี่แจงเองนะ..เอ่อ..สองไม่สบายเหรอจ๊ะ"

           "เอ่อ...นิดหน่อยฮะ..แค่กๆๆ"  แสงแหบพร่าของสองตอบกลับมา

           "แล้วนี่สองไม่มีเรียนเหรอจ๊ะ.." แจงถามเพื่อให้แน่ใจว่าสองว่างอยู่จริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันธรรมดา เป็นวันที่โรงเรียนเปิด นักเรียนอย่างสองก็ควรอยู่ที่โรงเรียน
    
           "เอ่อ..คือ..สองลาน่ะฮะ...พี่แจงมีอะไรฮะ" คนตัวเล็กถามกลับมา

           "สอง...สองอยากรู้มั้ยว่าพี่หนึ่งอยู่ไหน"  แจงค่อยๆเกริ่นเข้าเรื่อง
 
           "......................................."  ไร้เสียงของคนปลายสาย

           "สอง...สองได้ยินพี่รึปล่าวจ๊ะ?"  แจงถามขึ้นเพราะไม่แน่ใจว่าคนปลายสายได้ยินสิ่งที่ตนเองพูดหรือไม่ เนื่องจากไม่ได้รับเสียงตอบกลับ
          
           "อึก......สะ..สองอยากรู้ฮะ"  เพียงแค่ได้ยิน แจงก็รู้แล้วว่าคนปลายสายกำลังพยายามกลั้นเสียงสะอื้น

           "สอง...สองต้องสัญญากับพี่นะ..ว่าสองจะมาหาพี่หนึ่งเค้า....ต่อให่งานยุ่งแค่ไหน สองก็จะมานะ  สองสัญญากับพี่นะ"

           "อึก..ฮะ..สองจะไป..ฮะ"

           "สอง..คือเรื่องมันยาวนะจ๊ะ...ตอนนี้พี่เองก็ไม่ค่อยวาง คงจะอยู่ที่นี่ได้อีกไม่นาน เอาไว้พี่จะค่อยๆโทรเล่าให้สองฟังนะ  แต่ตอนนี้พี่จะบอกสองก่อนนะ..ว่าพี่หนึ่งอยู่ไหน สองฟังแล้วก็ใจเย็นๆนะ"

           "อึก..หะ..ฮะ"

           "ตอนนี้พี่หนึ่งอยู่โรงพยาบาลนะ....พี่หนึ่งเค้า...................
           เสียงของแจงค่อยๆเล่าให้คนตัวเล็กฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับหนึ่งเพียงคร่าวๆ  ขณะที่ยังยืนอยู่มุมหนึ่งเพื่อรอแฟนมารับที่โรงพยาบาล หลังจากที่ไปเยี่ยมหนึ่งมาแล้ว

                                             ........................................

            เพียงแค่คนตัวเล็กได้ฟังสิ่งที่แจงเล่า  เขาก็รู้สึกเหมือนถูกใครมาช่วยยกภูเขาออกจากอก อย่างน้อยๆสองก็รู้แล้วว่า หนึ่งไม่ได้เกลียดสอง หนึ่งไม่เคยลืมสองหนึ่งไปชลฯ หนึ่งทำงานหนักจริงๆ หนึ่งไม่มีเวลาโทรหาสองจริงๆ แต่สองไม่คิดว่าหนึ่งจะต้องมาเจออะไรร้ายแรงแบบนี้

            "พี่หนึ่งเค้าประสบอุบัติเหตุที่ไซด์งานน่ะจ้ะ คือเค้าโดนแท่งเหล็กทับแล้วล้มลงไป พอดีมันไปโดนเส้นประสาท มันก็เลยเหมือนกับว่าพี่เค้าเดินไม่ได้ ตอนนี้เค้านอนอยู่โรงพยาบาล"

            และนั่นคือสิ่งที่แจงบอกสอง พร้อมกับรายละเอียดสถานที่ของโรงพยาบาลและหมายเลขห้องพักฟื้นที่หนึ่งเข้าพัก  สองจดมันไว้หมดแล้ว คนตัวเล็กรีบแต่งตัวทั้งๆที่รู้สึกตัวร้อนรุมๆ แต่ตอนนี้สองไม่มีเวลามาสนใจตัวเองอีกแล้ว สองรีบหยิบมือถือและกระเป๋าสตางค์ พร้อมกับกุญแจห้อง ก่อนที่จะรีบออกจากห้องไปโดยที่ไม่ลืมที่จะล็อคประตูให้เรียบร้อย
            สองเดินลงมาข้างล่าง..วันนี้แดดแรงจริงๆ พอหน้าโดนแดดก็ยิ่งรู้สึกถึงความร้อนในตัวมากขึ้น สองไม่มีเวลาที่จะมานั่งรอรถเมล์แล้ว สองจึงยืนรอเรียกรถแท็กซี่แทน แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มีวี่แววของรถแท็กซี่ที่เปิดไฟว่าว่าง วิ่งมาให้เห็นซักคัน ทั้งๆที่ปกติแล้วจะมีวิ่งอยู่ตลอดไม่ขาดสาย แล้ววันนี้มันดันเป็นอะไรขึ้นมา พอจะใช้ดันไม่มีให้นั่ง คนตัวเล็กร้อนรน เดินวนชะเง้อมองไปตามถนน
            และตอนนั้นเอง พี่ที่เป็นยามของคอนโดก็ขับมอเตอร์ไซค์คันเก่งเพื่อจะเข้าไปที่คอนโด และตอนที่ขับผ่านสองก็ไม่วายที่จะหยุดทักสอง เพราะคุ้นเคยกันดี
            "อ้าว...สอง  จะไปไหนล่ะเนี่ย  ไม่ไปเรียนเหรอ"
            "ผมจะไปโรงพยาบาลน่ะครับ รีบด้วยสิ ทำไมไม่มีแท็กซี่ซักคันเลยพี่" สองบอกพี่ยามแล้วก็พยายามชะเง้อมองหาแท็กซี่บนถนน
            "ก็สี่แยกก่อนที่จะเลี้ยวมาทางคอนโดเราน่ะ มันมีรถชนกัน เถียงกันอยู่นั่นแหละ คนจะไปจะมาก็ไม่ได้ ดีนะที่พี่ขี่ไอ้นี่แทนน่ะ ไม่งั้นก็ติดแหง่กอยู่ตรงนั้นแหละ"
            "เหรอครับ...ตายล่ะ..ผมรีบด้วยสิ..ต้องไปหาคนที่โรงพยาบาล"
            "เหรอ...อืม..."  พี่ยามคิดอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจบอกคนตัวเล็ก
            "งั้นสองเอารถพี่ขี่ไปแล้วกัน ขี่ได้นะ"
            "เฮ่ย...พี่..จะดีหรือครับ สองเกรงใจ"  คนตัวเล็กรับบอกพี่ยาม
            "เฮ่ยๆ..คนกันเอง..ไม่เป็นไร..พี่ให้ยืม..อ่ะ..รับไปหมวดกันน็อก อย่าลืมใส่ "  พี่ยามลงจากมอเตอร์ไซค์แล้วก็ให้สองจับแฮนมอเตอร์ไซค์ไว้แทน ก่อนที่จะบอกกับคนตัวเล็กต่อไปอีกว่า
            "เอ้า..ขี่ดีๆล่ะ...เดี่ยวพี่ต้องรีบเข้าคอนโดแล้วล่ะ..สองเอาไปเถอะ เดี๋ยวพี่เดินเข้าไป"
            "อ๋อครับๆ..ขอบคุณพี่มากนะครับ..ขอคุณจริงๆเลยครับ"
            แล้วสองก็ได้พาหนะที่จะพาตัวเองไปหาคนตัวสูงแล้ว  สองขับไปด้วยความเร็วพอประมาณ คนตัวเล็กไม่ลืมที่จะใส่หมวกกันน็อก  แต่เป็นเพราะขี่มอเตอร์ไซค์เลยทำให้ต้องโดนแดดที่สาดเจิดจ้าตอนกลางวัน อยู่ๆก็รู้สึกหัวหมุนติ้ว สองค่อยๆชะลอความเร็วลงแล้วก็ขับแบบประคับประคอง  และตอนนั้นเองก็รู้สึกว่าคอแห้งขึ้นมากระทันหัน อาการไอแบบแสบๆที่คอก็เกิดขึ้นอีก
            "แค่ก..แค่ก..แค่ก"  สองยกมือข้างหนึ่งมาปิดไว้ที่ปากด้วยความเคยชิน ด้วยเพราะอาการไอที่เริ่มหนักขึ้น ทำให้เสียสมาธิในการขับรถไปมาก รถมอเตอร์ไซค์ของสองจึงเป๋เล็กน้อย
            และตอนนั้นเอง..ขณะที่สองกำลังจะขับผ่านซอยซึ่งมีรถเข้าออกตลอดเวลา สองก็รู้สึกเหมือนว่าได้ยินเสียงเร่งเครื่องยนต์จากทางด้านซ้าย
            แต่ก็ไม่ทันที่จะหันไปดู เสียงแตรรถคันนั้นก็ดังแผดขึ้นซะก่อน
            "ปิ้นๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ"
            และแล้ว..คนตัวเล็กก็เหมือนโดนอะไรมาปะทะเข้าอย่างจัง
           " โครม!!!!"
            รถมอเตอร์ไซค์ของสองล้มลง.......






จบตอนค่า   เดี๋ยวมาต่อน้า...

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 22-02-2011 21:13:42
คนอ่านจะหมดแรงตามน้องสองอยู่แล้วอ่าพี่วัน ToT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-02-2011 21:16:00
เริ่มเศร้าแล้วหรือเปล่า
จะได้เตรียมตัวไว้ :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-02-2011 21:26:38
เริ่มเศร้าแน้เลย :serius2:

อย่านะสงสารน้องสอง :sad4:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 22-02-2011 21:30:27
ถ้าเหตุผลที่ไม่ว่าง และที่ไม่โทรมาหา เป็นแจง

ก็ปล่อยเขาไปเถอะ คนโลเลกลับไปหาคนรักเก่า

เกลียดคนแบบนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 22-02-2011 21:33:58
มันต้องมีอะไรแหงเลย อย่าเศร้าน้าาาา TT
ที่จุดๆไว้นี่คือจะลงต่อเลยป่าวคะ?
เราค้างอะ พรุ่งนี้สอบด้วย โฮวววว .. ยังไงจะรออ่านต่อนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-02-2011 21:40:39
ซะนีกลับมาทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย...22/02/11(สามทุ่ม).ตอน..8(ยังไม่จบ)..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 22-02-2011 22:24:01
+1 ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-02-2011 23:10:51
ง่า! เศร้าอ่ะ
สงสารสองมากๆ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ควรจะติดต่อมาบ้างนะ ไม่มีเหตุผลเลยที่จะไม่โทรมา ถ้ายังเป็นแฟนกัน
ยกเว้นป่วยหนักใกล้ตายอยู่ไอซียู :angry2:

รีบมาต่อเร็วๆนะคะ ลุ้นใจจะขาด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 22-02-2011 23:20:47
:serius2: :m15: :o12:

พี่จะต่ออีกป่าวคะ? หนูจะรอไม่งั้นนอนไม่หลับแน่เลย ปวดใจ TT
ไม่ไหวอะค่ะ เศร้ามาก ค้างด้วย โฮกกกกกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 22-02-2011 23:46:20
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอะไรกันเนี้ย หายไปเป็นเดือนๆแบบนี้ ท่าไม่ตายแต่ไม่โทรกลับมาก้เกิ๊นไปนะคะ เลิกค่ะ เท่านั้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2011 00:08:17
เค้าไม่รู้นะ ว่าเหตุผลของหนึ่งคืออะไร หรือเพราะอะไร หรือว่าไม่มีเหตุผล

แต่ถ้า ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้บาดเจ็บสาหัส ความจำเสื่่อม หรือมีเหตุผลเกี่ยวกับบุพการี หรืออื่นใดที่สมเหตุสมผลแล้วละก็
จะไม่ขอสนับสนุนผู้ชายคนนี้ใ้ห้น้องสองอีกต่อไป

พันคำขอโทษ หมื่นคำแก้ตัว ก็ไม่ยอม  :fire:

เค้าจะเชียร์พี่ข้างห้องคนใหม่ให้น้องสองแทน เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ถ้าน้องสอง ยังกลับไปคบกับผู้ชายที่ไร้เหตุผล และไม่ห่วงใยน้องสองขนาดนี้ละก็ เค้าจะโกรธน้องสองอย่างแรง

เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆ เค้าอิน เค้ารับไม่ได้ เค้าท้องอืดเพราะมาม่า

บวก 1 แล้ว  :o12:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 23-02-2011 00:22:36
ก็แค่นี้ เห็นแก้ตัว

เลวววววววววววว รับไม่ได้

หาเหตุผลไม่เจอ คงเบื่อสอง

และไม่ได้รักสองอย่างที่เคยพูด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: momo9476 ที่ 23-02-2011 00:28:40
เหตุผลอะไรอ่ะหนึ่ง ไม่ดีพอ เราไม่ยอม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2011 00:36:12
เหตุผลอะไรอ่ะหนึ่ง ไม่ดีพอ เราไม่ยอม

ช่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

กลับมาีรีใหม่ อีกรอบ
หงุดหงิดไอ้พี่สองมากมาย เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 23-02-2011 00:52:31
ไม่ว่าจะเพราะอะไร รึเหตุผลใดๆ ก็ตาม
มันไม่น่าจะฟังขึ้น และตอนนี้เค้าเคืองพี่หนึ่งมากกกกกกกก
 :fire:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: w1234 ที่ 23-02-2011 01:17:37
 :fire:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 23-02-2011 01:50:42
น้องสอง  :m15:

ไม่ใช่ว่าเพราะคุณแม่ของหนึ่งรู้แล้วนะ TT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: 4life ที่ 23-02-2011 02:03:17
อ่าาา เศร้าอ่า ค้างด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-02-2011 02:33:33
แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆรับไม่ได้ กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 23-02-2011 02:47:51
เลว.. :m16:
 :monkeysad:
น้องสอง เข้มแข็ง ลุกขึ้นมา
อย่าทำร้ายตัวเองเพราะคนเลว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 23-02-2011 03:05:34
เป็นกำลังใจให้น้องสองง
คิดว่าพี่หนึ่งคงทีเหตุผลที่ทำแบบนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 (สี่ทุ่มห้าสิบ).รีที่2 ของวันนี้..NC18++ หน้า..7..นะ
เริ่มหัวข้อโดย: Akad3ar ที่ 23-02-2011 04:08:20
เครียดมากอ่ะ  จุดนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: l3iZal2l2e ที่ 23-02-2011 10:54:52
หรือพี่หนึ่งจะโดนคุณแม่กีดกัน??? แจงแต่งงานกับกัปตันไปแล้วไม่ใช่เหรอ??
แต่แหม พฤติกรรมพี่หนึ่งก้น่าสงสัยจริงๆ แค่โทรหาสักนิดก้ไม่ได้นะ
แถมจงใจลืมมือถืออีกต่างหาก เอาที่ชาร์ตแบตไป แต่ไม่เอาเครื่องไป?? พี่หนึ่งมีมือถือหลายเครื่องแน่เลย
ฮึ่มๆๆ ๆๆๆ

จริงๆแล้วต้องเกี่ยวกับแม่พี่หนึ่งแน่ๆเลยอะ แม่อาจจะยื่นข้อเสนอไรสักอย่าง แลกกับคบกับสองได้ต่อ
แล้วพี่หนึ่งต้องทำตามไรงี้ป่าวนะ.... ถ้าจะทำเพื่อสอง ก้ช่วยบอกสองสักนิดเหอะ คนไม่รู้อะไรเลยนี่ทรมาณนะ
กลับมาอีกที พี่หนึ่งอาจจะเจอสองนอนซีดขาดสารอาหารอยู่โรงบาลก้ได้นะเฮ้ยยยยย

เค้าขอเชื่อพี่หนึ่งอีกนิดละกัน
 :m15:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..22/02/11 ตีหนึ่งยี่สิบ .รีที่3 ครึ่งนึง ของวันนี้..NC18++ หน้า.
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 23-02-2011 11:46:12
มาเกาะกระทู้ เป็นกำลังใจให้น้องสอง :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 23-02-2011 13:18:27
อัพค่ะ  ขอดันจิ๊ก เผื่อมีคนว่างๆ หรือ หลงๆ เข้ามาอ่าน หุหุ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-02-2011 13:43:11
จิ้มๆๆ




แอร๊ยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: firrytail ที่ 23-02-2011 14:04:45
เพิ่งมาอ่านค่ะ :กอด1:

อร๊ายยยยยยย เกิดอะไรขึ้นนน :z3:
ไม่จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง :serius2:  :serius2:  :serius2:
น้องสองของเค้า :monkeysad:
พี่หนึ่งดูไม่ค่อยมีเหตุผลเลย :angry2:
หรือเพราะคุณแม่กีดกัน :fire:
ไม่รู้ล่ะ สงสารน้องสอง ไม่ให้น้องสองคู่ด้วยแล้ว :o12:

ปอลิง.มาต่อเร็วๆเถอะค่ะ พลีสสสสสส :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 23-02-2011 14:19:14
ง่ะ  :z3:
ดีเลยค่ะ คนนึงรถชน อีกคนเดินไม่ได้ ค่อยสมกันหน่่อย เย้ย! ไม่ช่ายยยยย~~~
รันทดได้อีกง่าาา TT
น้องสองอย่าเพิ่งเป็นอะไรน้าาา ยังไม่ทันเจอพี่หนึ่งเลย >.<

รออ่านต่อค่าา ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 23-02-2011 14:59:20
ไม่ไหวแล้วสงสารน้องสองจับใจจริงๆนะคะ  :dont2:
มาต่อเร็วๆนะคะพลีสสสสสสสส :m5: :m5: :m5:
น้องสองรถชน พี่หนึ่งก็เดินไม่ได้ มาม่าอย่างแร๊ง :sad11: คนเขียนเห็นใจคนอ่านหน่อยพลีสสส :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 23-02-2011 15:22:32
 :sad4:ไม่ไหวแล้วจริงๆนี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยอีกคนก็นอนอยู่โรงพยาบาลโดนแม่กีดกันแถมยังเดินไม่ได้ ส่วนอีกคนก็โดนรถชน มันชักจะรันทดเกินไปแล้ว :z3:

 :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 23-02-2011 15:30:36
สงสารทั้งคู่เลยย รันทดมากไปแล้วว

 :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 23-02-2011 15:57:50
ต่อให้ทำร้ายคนทั้งโลก ก็ไม่สามารถสร้างความเจ็บปวดได้เท่ากับการทำร้ายตัวเอง ทำร้ายคนที่เรารัก และทำร้ายคนที่รักเรา
หนึ่งพลาดไปแล้วจริงๆ

สำหรับแม่ของหนึ่ง ทุกอย่างก็ทำเพื่อลูก ใครๆก็อยากเห็นลูกมีครอบครัว มีทายาท เช่นคนทั่วไป (ยกเว้นสาววาย  :jul3: )
จะโทษแม่ของหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะหนึ่งก็ไม่ได้สู้เพื่อความรักของตัวเองเลย

แจงอาจจะแย่ในฐานะของคนรัก ที่สลัดหนึ่งทิ้ง ไปมีคนรักใหม่อย่างง่ายดาย แต่แจงก็เลือกแล้ว
และอาจแสดงว่า หนึ่งให้ความสุข ให้เวลาในแบบที่แจงต้องการได้ไม่มากพอ
แต่เมื่ออยู่ในฐานะเพื่อน แจงทำได้ดีไม่น้อย

เราชอบตอนท้ายมากนะ ที่เลือกให้สองประสบอุบัติเหตุ ไม่ได้อยากเห็นน้องสองเจ็บตัว
แต่อยากให้เห็นผลพวงของความรัก ที่ปราศจากการไตร่ตรองให้รอบคอบ
เพราะหนึ่งทำเหมือนดูถูกน้ำใจสอง คิดแต่ว่าจะผลักไสสองไปจากตัวเองซึ่งกลายเป็นคน(แทบ)พิการ
และสองที่ดีใจจนลืมอาการเจ็บไข้ของตัวเอง มีความประมาทเข้ามาแทนที่

คราวนี้ก็รอลุ้นต่อ ว่าสองจะเป็นอย่างไร หนึ่งจะเดินได้อีกครั้งไหม
และคนเป็นแม่ จะทำอะไรเพื่อลูกบ้าง

หรือว่ามันจะมาม่าต้มยำน้ำข้นผสมน้ำตก และรสลาบเพิ่มอีก ถ้าหากพ่อกับแม่ของสองมาร่วมแจมด้วย
เอ๊ะ! หรือว่าจะกลายเป็นไอติมนมสดรสวนิลา  :laugh:

ขอบคุณน้องวัน รอลุ้นต่อจ้า  :จุ๊บๆ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 23-02-2011 17:13:35
หนึ่งพลาดมากจริงๆ
ทำร้ายสองโดยไม่รู้ตัวนะนั่น
สงสารสองมาก มาม่าอิ่มพุงกาง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-02-2011 17:35:52
สงสารน้องสองรักเขามากจนลืมรักตัวเอง :เฮ้อ:ตอนนี้มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ส่วนไอ้หนึ่งมันรักแบบไหนของมันว่ะ มาตัดสินใจแทนคนอื่นได้ไง ว่าเขาจะรักหรือไม่รัก

แล้วจะให้น้องเขาไปหาคนใหม่โดยที่เงียบหายไปเฉยๆ  ขนาดเจ็บก็ยังไม่บอกกันเลย มันรักแบบไหนของมันว่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-02-2011 18:23:35
วิบากกรรมเยอะเกินไปแล้วจ้ะ
แล้วเมื่อไหร่จะผ่านพ้น
สงสารคนอ่านบ้างนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 23-02-2011 20:32:41
งอลพี่วันละใจร้ายกับน้องสองจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 23-02-2011 21:08:27
เคราะห์ซ้ำ กรรมซัดจริงๆอะ น้องสองของพี่  :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ส่วนพี่หนึ่ง

ไม่ว่ามันจะเป็นด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

แต่การหายไปเงียบๆ แล้วปล่อยให้คนที่เราบอกว่ารักคิดอะไรไปเองคนเดียวเนี่ย

มันใจร้ายมากๆ !!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-02-2011 21:22:04
ตายแล้ว ..ดิฉันพึ่งได้เข้ามาอ่านวันนี้เอง นั่งอ่านตลอดจนทันในตอนท้าย พร้อมกับ :monkeysad:
แง แง สงสารหนึ่งกับสองอ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 23-02-2011 21:26:06
น้องสอง  :m15:  เป็นรัยอีกกก
ใจร้ายยยยยยย    ไรท์เตอร์น่ะ ฮือๆๆ :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 23-02-2011 22:12:50
เป็นงั้นไปผัวเมียเจออุบัติเหตุทั้งสอง
 :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 23-02-2011 22:30:26
 หนึ่งจะทำอะไรเพื่อความรักบ้าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 24-02-2011 22:00:03
แอร๊ยยยยยพี่วันหาย
ไหนว่าจะมาต่อตอนกลางวันไงอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 25-02-2011 04:47:10
รออยู่น๊าาาาา :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 25-02-2011 22:34:29
ตอนที่9

          สองรู้สึกหน้าชา...ภายในสมองอื้ออึง   โสตประสาทเหมือนได้ยินเสียงหวีดร้องและเสียงแตรรถดังไกลๆมาจากที่ไหนสักแห่ง  อาการชาหนึบเกิดขึ้นไปตามแขนและขา  พอกระพริบตาปริบๆก็ต้องรู้สึกเจ็บที่ดวงตาด้านขวาแปลบๆและปวดหนึบๆที่ขมับด้านขวาด้วยเหมือนกัน ตอนนี้สองเริ่มเห็นแสงรางๆแล้ว  และไม่นานภาพต่างๆก็ค่อยๆชัดขึ้น สองเริ่มประติดประต่อเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้นได้ สองโดนรถคันหนึ่งชนที่ด้านข้างขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านปากทางเข้าของซอยเล็กๆที่ติดกับถนนใหญ่ ซึ่งมักจะมีรถเข้าออกตลอดเวลา  ด้วยเพราะพิษของไอแดดทำให้รู้สึกตัวร้อนวูบๆแล้วก็ดันเกิดไอขึ้นมาอย่างหนักทำให้ไม่ทันสังเกตเห็นรถที่กำลังออกจากซอย ซึ่งก็กำลังเร่งเครื่องพอดี  หลังจากนั้นสองก็ได้ยินเสียงเบรคดังๆแล้วก็รู้สึกว่าโดนชนเข้าอย่างจังจนเสียหลักล้มลงอย่างแรง  ทำให้มอเตอร์ไซค์ของพี่ยามทับตัวของสองเอาไว้ สองคิดว่าตัวเองคงจะเอาขมับฟาดพื้น จำได้ว่าใส่หมวกกันน็อคแต่ด้วยความรีบร้อนจึงลืมล็อคที่รัดใต้คาง หมวกคงหลุดไปตอนกระแทกพื้น โชคดีที่สองเอาศอกด้านข้างลงก่อนจึงทำให้ลดแรงกระแทกของศีรษะลง  แต่ถึงกระนั้นแขนข้างนั้นก็ได้แผลถลอกปอกเปิดจนเลือดไหลออกมาพอสมควร  ส่วนขาที่โดนรถทับก็คงจะเกิดแผลฟกช้ำถลอกออกเช่นกัน เพราะสองเริ่มรู้สึกปวดแปลบแล้วก็เจ็บๆแสบๆไปตามขาแล้ว
         "น้องๆ...เป็นอะไรมากรึเปล่าเนี่ย"
         สองได้ยินเสียงผู้ชายคนหนึ่งกำลังก้มลงมาถาม
         "เอ่อ...เจ็บครับ"  สองไม่รู้จะตอบอะไร เพราะว่าถ้าบอกว่าไม่เป็นอะไรเลยก็คงไม่ใช่ สิ่งที่รู้สึกตอนนี้ชัดๆคืออาการเจ็บ โดยเฉพาะตามแขนขาและที่ขมับกับดวงตา
         "น้องพอขยับแขนขาได้รึเปล่า"
         เสียงผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นดังๆ สองลองขยับแขนขา รู้สึกว่ายังควบคุมได้ แต่ที่ลุกไม่ได้เพราะโดนมอเตอร์ไซค์ทับอยู่ จึงตอบไปว่า
         "ได้ครับพี่..แต่ผมยกมอเตอร์ไซค์ไม่ได้"
         "โอเคๆ..มาพี่ช่วยนะ" ผู้ชายคนนั้นรีบช่วยยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นแล้วเข็นไปไว้ข้างๆทาง ก่อนที่จะรีบกลับมาพยุงสองที่กำลังลุกขึ้น     เขาพาสองเดินมาตรงฟุตบาท ตอนนี้ยังคงมีคนมุงดูอยู่บ้าง   สองค่อยๆนั่งลงแล้วก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าตามแขนขามีลอยถลอกไปทั่ว บางแห่งก็มีเลือดไหลออกมา
         และตอนนั้นเอง เสียงผู้ชายแก่ๆอีกคนก็ดังขึ้น
         "ว่าไง...ศักดิ์  เค้าเป็นอะไรมากรึเปล่า"  ชายสูงวัยคนนั้นกำลังถามผู้ชายคนที่มาช่วยยกมอเตอร์ไซค์ให้สอง
         "ก็แขนขายังไม่หักครับท่าน แต่ก็อย่างที่ท่านเห็นแหละครับ อ้อ...แล้วก็มอเตอร์ไซด์เครื่องดับไปแล้วครับ  คงใช้วิ่งตอนนี้ไม่ได้" คนชื่อศักดิ์รายงานชายแก่คนนั้น
         สองได้ยินบทสนทนาก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้น คนตัวเล็กเห็นบุรุษคนหนึ่งแต่งตัวภูมิฐานดูท่าทางเป็นนักธุรกิจมีอันจะกิน บุรุษคนนั้นคือคนที่ชื่อศักดิ์เรียกว่าท่าน  ตอนนี้เขากำลังยิ้มตอบมาให้กับสองที่กำลังหยีตามองอย่างลำบาก
         "ว่าไง...เจ้าหนู..จะเอายังไง"  เสียงอ่อนโยนสุภาพถามขึ้น
         "เอ่อ....เมื่อกี๊พี่ว่ามอเตอร์ไซค์วิ่งไม่ได้แล้วเหรอครับ" สองหันไปถามคนชื่อศักดิ์
         "ใช่..น้อง"  ศักดิ์หันไปบอกเด็กที่นั่งอยู่บนฟุตบาท ก่อนหันมาถามนาย
         "เอายังไงดีครับท่าน.."
         ชายสูงวัยคนนั้นหันมาทางสองก่อนบอกคนตัวเล็กด้วยท่าทางอ่อนโยน
         "ชื่ออะไรล่ะ"
         "เอ่อ..สองครับ"  สองตอบออกไป
         "อ่อ..สอง..เอาล่ะ เรื่องนี้ทางลุงเองก็ผิดเหมือนกันนะ เอาเป็นว่าต่างคนต่างไม่ระวัง  แต่ว่าเราเป็นรถมอเตอร์ไซค์  ทางลุงเองก็เป็นรถเก๋งคันใหญ่ ชนแล้วไม่ได้เสียหาย ถ้ายังไงเดี๋ยวลุงจะชดเชยให้นะ ทั้งเรื่องค่ารักษาค่าทำแผล แล้วก็ดูแลเรื่องรถให้ ส่วนเงินค่าดูแลรักษาตัวเองนอกจากนั้น  สองจะเอาเท่าไหร่ก็เรียกมา  แต่ขอให้สมเหตุสมผลนะ" ชายคนนั้นบอกแก่สองว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรบ้าง
         "เอ่อ...คือผมห่วงแต่มอเตอร์ไซค์น่ะครับ  คือว่ายืมเค้ามา" สองตอบกลับไปอย่างสุภาพ
         ชายสูงวัยได้ยินดังนั้นจึงบอกแก่สองว่า
         "เอาแบบนี้แล้วกัน มอเตอร์ไซค์เดี๋ยวส่งให้ช่างซ่อม เดี๋ยวศักดิ์จัดการโทรให้ทีนะ"
         "ครับนาย.." คนชื่อศักดิ์รับคำเจ้านาย แล้วก็รีบควักมือถือในกระเป๋า ก่อนเดินแยกไปโทรศัพท์เพื่อแจ้งช่างให้มาเอามอเตอร์ไซค์ไปซ่อม
         "เอ่อ..ขอบคุณครับ" สองเอ่ยขอบคุณ
         "แล้วจะให้ลุงชดเชยเท่าไหร่...ว่ามา  อ่อเอาค่ารักษาพยาบาลไปเลยนะ"
         "เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ  แค่ซ่อมมอเตอร์ไซด์ให้ก็พอแล้ว"
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 25-02-2011 23:15:39
โหยยย ความรักมันช่างมีอุปสรรคเยอะแยะมากมาย จะไปหาคนรักทั้งที ก็เจ็บตัวซะงั้น เฮ้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: namtaan ที่ 25-02-2011 23:19:47
คุณลุงท่านนี้เป็นคุณพ่อของพี่สองหรือเปล่านะ
ลุ้นๆๆ ถ้าใช่ มีเฮ แน่ๆเลย
แล้วถ้าไม่ใช่ ท่านคือใคร บุคคลสำคัญตอนนี้ของเรื่องมั้ย

ลุ้นได้อีกแล้ว

บวก 1 แต้ม ลุ้นๆๆๆ ขอบคุณน้องวันจ้า  :จุ๊บๆ:

---------------------

ว่าจะไม่แก้แล้ว แต่อ่านแล้วเดี๋ยวมีงง  :laugh: พี่หนึ่งเนอะ ไม่ใช่พี่สอง ตรูก็เบลอได้อีก  :m23:

ขอบคุณน้องวันมากนะจ้า จุ๊บๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 27-02-2011 10:19:02
มารอค้าบบบ

เมื่อไหร่ พี่หนึ่ง กะ น้องสอง จะมาสักทีค้าบบบ :m15:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: l3iZal2l2e ที่ 27-02-2011 12:41:30
โอยๆๆๆๆ
ทำไมพี่หนึ่งคิดแบบนี้นะ ถามน้องสองก่อนสิว่าน้องอยากมีรักใหม่มั้ย
มาต่อไวไวนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-02-2011 13:41:55
เฮ้อ...แล้วเมื่อไรสองจะได้ไปเจอพี่หนึ่งอ่ะ
ขอเอาสำนวนโบราณมาปลอบใจหนึ่งกับสองจ้ะ "รักแท้ย่อมมีอุปสรรค" (คุณโบ๊ คุณโบ เนอะ)
หนึ่งนะ ก็ช่างกระไร คิดเองเออเอง แล้ใครให้ไปคิดแทนสอง ฮึ
ฝากข้อชวนคิดมายังคุณแม่ของหนึ่ง
เป็นไปได้ไหมว่า...ที่หนึ่งอาการไม่ดีขึ้น เป็นเพราะหนึ่งขาดกำลังใจอันสำคัญรึเปล่า
พ่อ แม่ ครอบครัวก็เป็นกำลังใจสำคัญอัหนึ่ง แต่คนรักก็เป็นกำลังใจสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนะคะคุณแม่ ทำไมคุณแม่ไม่ลองเปิดใจรับน้องสอง แล้วให้น้องเค้าไปดูแลเป็นกำลังใจให้หนึ่งดูล่ะ
แคร์อะไรกันนักกับสังคมที่ไม่ได้ช่วยให้ลูกเราอาการดีขึ้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 27-02-2011 15:44:28
สอง ไม่เป็นไรมากก็ดีแล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 27-02-2011 18:55:22
อุปสรรคช่างเยอะจิงจิ๊ง พี่ๆมาม่าน้ำตกชาม  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: jen9789 ที่ 27-02-2011 20:48:20
ขอบคุณมากนะคับที่มีเรื่องดีดีมาให้อ่านกัน เป็นกำลังใจให้นะคับ

ยังงัยรีบมาต่ออีกไวไวนะคับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 27-02-2011 22:30:19
 :m15:สงสารพี่หนึ่งกะน้องสอง
รีบมาต่อไวไวน้าาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 28-02-2011 07:55:03
อ่าวแอบมาต่อตั้งกะเมื่อไหร่
แล้วตาลุงนั่นเป็นครายยยย

ปล.พี่วันทำหนูค้างอีกละนร๊า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 28-02-2011 08:16:38
เรื่องมันชักไปกันใหญ่แล้ว :dont2:
คนเขียนรีบมาต่อเร็วๆนะคะ :monkeysad:
อย่าทำลายหัวใจดวงน้อยๆของคนอ่านซิคะ :o7:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 28-02-2011 13:04:25
 :m22:แอบมารอตอนต่อไป!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: pimkung ที่ 28-02-2011 19:42:31
ตามอ่านถึงตอนนี้ สงสารทั่งหนึ่งกับสองเลย ฮืออ

เรื่องชักดราม่าแล้ว
รออ่านต่อไปค่ะ  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/02/11 อีดิทเพิ่ม .รีที่3 100%เต็ม ของวันนี้..NC18++ หน้า.7..
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 03-03-2011 18:22:58
มาต่อแล้วค่ะ


 
 
          "อืม..." ชายสูงอายุส่งเสียงในลำคอคล้ายกำลังคิดคำนึง  สายตาคมที่แฝงไว้ด้วยความรอบคอบและเพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์ชีวิตมองลงมาที่สองซึ่งกำลังจับแขนจับขาที่มีบาดแผลและเลือดไหลออกมา
          ชายสูงวัยพูดกับคนเจ็บซึ่งนั่งอยู่ตรงฟุตบาทเบื้องหน้าตนว่า
          "ลุงว่า..ยังไงก็ควรไปโรงพยายาลก่อนจะดีกว่านะ ถนนเส้นนี้..จำได้ว่าพอมีโรงพยาบาลอยู่หลายแห่ง จริงๆลุงต้องขึ้นทางด่วนข้างหน้า  แต่ตอนนี้ตั้งใจจะไปส่งสองก่อนจะดีกว่า"
          "คือ..สองรีบน่ะครับ ถ้าอยู่ทำแผลที่โรงพยาบาลแถวนี้ คงต้องรออีกนาน" สองตอบชายสูงวัยคนนั้น
          "อืม...แล้วสองจะรีบไปที่ไหนล่ะ?"
          "โรงพยาบาล..คือ..มันอยู่อีกแห่งน่ะครับ ไกลจากที่นี่"
          "โรงพยาบาลชื่ออะไร อยู่แถวไหน ลุงยังพอมีเวลา เดี๋ยวจะไปส่งให้แล้วกัน"  ชายสูงวัยตัดปัญหาที่จะโน้มน้าวให้คนเจ็บไปทำแผลที่โรงพยาบาลแถวๆนี้ เพราะเมื่อทราบที่หมายของสอง..ว่าก็เป็นโรงพยาบาลเหมือนกัน ดังนั้นเขาก็ควรพาไปส่งเสียทีเดียวจะเป็นการดีกว่า เพราะดูท่าทางแล้ว..คงจะรั้งให้เด็กที่นั่งเจ็บอยู่คนนี้ไปทำแผลก่อนเดินทางต่อไปไม่ได้เสียแล้ว ท่าทางคนที่เด็กหนุ่มกำลังไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลคงจะเป็นคนสำคัญเกินกว่าที่เจ้าตัวจะมานั่งดูแลตัวเองเสียก่อน
          "เอ่อ..จะดีหรือครับ..คือ..มันไกลน่ะครับ  สองเกรงใจ"
          สองพูดขึ้นอย่างลังเล เพราะรู้สึกเกรงอกเกรงใจต่อผู้สูงอายุใจดีคนนี้ ตามจริงแล้ว..สองเองก็พอนึกได้ว่า เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่ขับรถด้วยความประมาท การที่คู่กรณียอมลงมาถามไถ่อาการและแสดงเจตจำนงในการรับผิดชอบอย่างเต็มที่  เพียงแค่นี้สองก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว และตอนนี้ บุคคลตรงหน้ายังบอกว่าจะไปส่งให้ถึงที่หมาย สองก็อดที่จะรู้สึกเกรงใจเสียไม่ได้
          "เอาล่ะ..ไม่ต้องเกรงใจ ก็ในเมื่อไม่อยากไปเสียเวลาทำแผลที่โรงพยาบาลแถวนี้  เดี๋ยวลุงจะไปส่งให้เลย  ยังไงๆสองก็ต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้วนี่ แล้วตกลงว่าโรงพยาบาลชื่ออะไรล่ะ"
          "โรงพยาบาลxxxครับ"  สองบอกชื่อโรงพยาบาลเอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งออกไป
          เพียงแค่ได้ฟังชื่อ ชายสูงวัยก็ส่งยิ้มอ่อนโยนตอบกลับมา ก่อนที่จะพูดกับสองว่า
          "นั่นยิ่งไม่มีปัญหาใหญ่ เพราะรู้สึกว่าจะเป็นทางผ่านของลุงพอดี..  มิน่าล่ะ ถึงขับมอเตอร์ไซค์ ไปทางราบน่าจะเร็วสินะ วิธีนี้น่ะ ถ้าไปรถยนต์ก็คงลำบาก เพราะว่ารถติดมาก"
          "ครับ..พอดีผมหาแท็คซี่ไม่ได้ พี่ที่รู้จักกันเค้าเลยให้ยืมมอเตอร์ไซค์ครับ"
          "อืม...งั้นเราก็ติดรถไปกับลุงแล้วกันนะ  ว่าแต่ไหวนะ เลือดออกมากเหมือนกัน"
          "ฮะ..ไหวฮะ...ขอบคุณมากนะครับ"  สองตอบรับคำ  ก่อนที่จะส่งรอยยิ้มสดใสไปให้  เจ้าตัวไม่รู้หรอกว่ารอยยิ้มนั้นแสดงถึงความดีอกดีใจของตัวเองแค่ไหน
          "อืม..ไป..ไปขึ้นรถ  รู้สึกว่าช่างที่ศักดิ์โทรเรียกจะมาเอารถมอเตอร์ไซค์แล้วล่ะ"
          ชายสูงวัยบอกให้สองขึ้นรถเบนซ์ของตัวเองที่จอดอยู่ข้างทาง ตอนนี้ช่างซ่อมได้เอารถมารับรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ยามแล้ว  ก่อนที่จะยกรถมอเตอร์ไซค์ซึ่งถูกชนจนไม่สามารถวิ่งได้อีกขึ้นรถกระบะ โดยมีศักดิ์ควบคุมดูแลอยุ่   เพียงไม่นอนสองก็เห็นพี่ศักดิ์กลับมานั่งประจำที่คนขับถายในรถ โดยมาสองและชายสูงวัยผู้นั้นนั่งอยู่ด้านหลัง
          "เอ้า..นี่นามบัตรลุงนะ..สองมีมือถือใช่ไหม  เอาเบอร์ให้ไว้ที่ศักดิ์แล้วกัน  จะได้โทรถามเรื่องรถกันได้  ลุงจะให้ศักดิ์เป็นคนจักการ"
          สองรับนามบัตรใบนั้นมาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง  จากนั้นเขียนเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงในกระดาษที่ศักดิ์ยื่นมาให้ก่อนที่จะส่งคืนกลับไป  เมื่อแลกเบอร์กันเรียบร้อย รถเบนซ์สีดำเป็นเงามันปราบก็ค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่เกิดเหตุเพื่อเดินทางไปยงัจุดหมายตามที่เจ้าของรถได้ตกลงไว้กับผู้บาดเจ็บ
          ใช้เวลาเพียง20นาทีสองก็มาถึงโรงพยาบาล..โรงพยาบาลที่สองดั้นด้นและดื้อดึงว่าต้องมาให้ได้  สองมองเข้าไปที่โรงพยาบาลด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย  ภายในใจกำลังเต้นระรัว   มันเป็นความรู้สึกหลายๆอย่างที่ประดังประเดเข้ามา  ทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ ดีใจที่จะได้เจอ กังวลถึงอาการของคนๆนั้น ลังเลเพราะไม่รู้ว่าจะได้รับการต้อนรับแค่ไหน  แต่ความรู้สึกที่ยังคงเหมือนเดิมคือความรู้สึกที่มั่นคงในตัวของคนๆนั้น ความรัก ความผูกพันห่วงหาอาทร  อยากสัมผัส  อยากอยู่ใกล้ ความรู้สึกเหล่านั้นไม่เคยลดน้อยลงเลย
           "เอ้า..ถึงซะทีนะ...เอาล่ะ...เดี่ยวลุงจะรออยู่ที่รถ ศักด์จัดการพาน้องไปทำแผลก่อนนะ  แล้วดูแลเรื่องค่ารักษาด้วย"
           "ครับ" ศักดิ์รับคำนายเหนือหัว  หลังจากที่ทำการจอดรถเรียบร้อย
           "เอ่อ...ไม่ต้องก็ได้ครับ เดี๋ยวสองไปเองได้ เอ่อเรื่องค่ารักษา..."  ขณที่สองยังไม่ทันที่จะพูดจบ ชายสูงวัยก็พูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงดุๆว่า
           "ไม่มีบ่ายเบี่ยงแล้วนะ นึกหรือว่า คนที่เราจะไปหา เค้าจะอยากเจอสองในสถาพแบบนี้น่ะ เค้าเป็นคนสำคัญก็จริง แต่สองคงไม่รีบร้อนขนาดลืมเลือนที่จะดูแลตัวเองให้ดีก่อนใช่ไหม  ไปทำแผลซะให้เรียบร้อย ไป..ศักดิ์  พาน้องไป"
           เพียงได้ฟังเสียงราบเรียบแต่แฝงไปด้วยอำนาจแบบนั้น  สองเองก็จำใจที่จะขัดแย้ง เพราะอย่างน้อยคนผู้นี้ก็มีอายุมากกว่าสอง  จะดื้อดึงไปก็ไม่มีประโยชน์ เพียงแค่นี้ก็เห็นผลแล้ว ว่าการที่รีบร้อนจนไม่คิดหน้าคิดหลังก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรเลย  
           สุดท้ายสองก็จำใจตามศักดิ์ไปเพื่อจะจัดการทำแผลให้เรียบร้อย ขั้นตอนนั้นก็แสนจะยุ่งยาก ต้องเดินไปเดินมาเพื่อทำบัตรอีก  แต่โชคดีที่มีศักดิ์คอยดูแลให้ สองจึงไม่ต้องใช้เวลานานมากเกินไป ในที่สุดสองก็ออกมาจากห้องดูแลคนไข้เบื้องต้น ด้วยสถาพที่เต็มไปด้วยผ้าก๊อซที่ปิดแผลไว้ตามแขนและขา   บนหน้าผากยังมีรอยของยาทาแผลที่ถูกนางพยาบาลทาไว้ให้  หลังจากศักดิ์รับยาและจ่ายค่าทำแผลให้สองแล้ว ศักดิ์ก็ขอตัวกลับไปหาผู้เป็นนายที่รออยู่ที่รถ คงเหลือเพียงแต่สองที่ต้องเดินต่อไปอีกตึก  สองเดินไปที่ลิฟท์ กดหมายเลขชั้นตามที่แจงให้รายละเอียดไว้  ในมืออีกข้างที่ไม่ได้ถือถุงยา  ยังกำแผ่นกระดาษที่จดรายละเอียดห้องพักเอาไว้แน่น เมื่อลิฟท์ขึ้นไปถึงชั้นนั้น สองสูดหายใจลึกๆก่อนก้าวออกไป  
           คนตัวเล็กเดินไปตามทางที่มีหมายเลขของห้องที่แจงบอก  พอเลี้ยวหัวมุม..สองก็ค่อยๆไล่หมายเลขห้องไปเรื่อยๆ  และแล้ว..
           ตรงหน้าของห้องๆหนึ่ง สองก็เห็นสุภาพสตรีสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้องๆนั้น มันเป็นห้องที่มีหมายเลขตรงกันกับที่สองจดไว้ในกระดาษ
           สองเดินไปหยุดอยู่ที่ตรงนั้น สุภาพสตรีสองคนเหมือนรู้สึกได้ถึงผู้มาใหม่ จึงหันมามองทางสองซึ่งยืนห่างกันจากพวกเธอเพียงไม่กี่ก้าว
                        
                                             .....................................................          
 
           "แม่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วนะ  ทำไมหนึ่งถึงไม่ยอมเข้ารับกายภาพบำบัดซะที ปล่อยไว้แบบนี้แม่ยิ่งร้อนใจ"
           มารดาของหนึ่งพูดกัยลูกสาวด้วยท่าทีที่ร้อนรน
           "ใจเย็นๆนะคะคุณแม่ น้องคงยังต้องการเวลาทำใจ เราต้องช่วยกันเป็นกำลังใจนะคะ"
           "เฮ้ย...แม่ล่ะกลุ้มจริงๆ"  มารดาบ่นกับลูกสาว  ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์บางๆยังแฝงไว้ด้วยความร้อนรุ่มในหัวใจ
           "เอาอย่างนี้นะคะ  เดี๋ยวหนูจะขอให้พี่หมอช่วยพูดให้นะคะ  เผื่อหนึ่งจะอยากเข้ารับการบำบัดเร็วขึ้น"
           หลังจากเห็นใบหน้าของผู้เป็นแม่มีสีหน้าที่ดีขึ้นบ้าง เพราะรับอาสาจะให้รุ่นพี่ที่เป็นหมอเจ้าของไข้ของน้องชายช่วยพูดให้ เธอก็รู้สึกเบาใจขึ้นบ้าง  แต่ก่อนที่จะพูดอะไรต่อจากนั้น หญิงสาวก็ได้ยืนเสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งหยุดลงใกล้ๆเธอและมารดา  
           สองแม่ลูกหันไปมองผู้มาเยือนรายใหม่
           เมื่อสายตาหันไปพินิจพิจารณาผู้มาใหม่ชัดๆ  เธอจึงเห็นว่า ที่อยู่ตรงหน้าคือเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง  ผิวขาวๆตอนนี้ถูกบดบังด้วยผ้าก๊อซที่มองเห็นได้จากแขนและขาที่โผล่ออกมาจากเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นที่เจ้าตัวใส่  ใบหน้าขาวซีดตอนนี้ปรากฏรอยถลอกบ้างแต่ตรงที่หนักสุดคือดวงตาขวาที่บวมช้ำและนัยน์ตาเป็นสีแดงๆของเส้นเลือดที่แตกออกเหมือนได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง เหนือขึ้นไปตรงหน้าผากมีรอยช้ำเขียวๆให้เห็นซึ่งตอนนี้ถูกทายาไว้เรียบร้อยแล้ว หล่อนเห็นเด็กหนุ่มตรงหน้าก็รู้ว่าเป็นเด็กที่หน้าตาดีไม่น้อย ติดอยู่แต่ตรงที่ว่ารูปร่างอาจจะผอมบางไปหน่อย ยิ่งตอนนี้อาจเรียกได้ว่าทรุดโทรม  แต่ก่อนที่จะถามอะไรออกไป  เสียงแหบๆของเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ถามขึ้นเสียก่อน
           "เอ่อ...นี่ห้องพี่หนึ่งรึเปล่าครับ"
           "จ้ะ..."  หญิงสาวตอบกลับ แปลกใจที่จุดหมายของเด็กคนนี้คือห้องพักฟื้นของน้องชายของเธอ
           "หนูเป็นใครหรือจ๊ะ"  คราวนี้มารดาของหญิงสาวถามขึ้นบ้าง
           "เอ่อ...ผมชื่อ  สองครับ  มาเยี่ยมพี่หนึ่ง"
           เพียงแค่ได้ฟังคำตอบ  สองก็เห็นหญิงสูงวัยตรงหน้าถึงกับหน้าถอดสี เพียงเท่านี้สองก็พอเดาๆได้แล้วว่าผู้หญิงสูงวัยคนนี้เป็นใคร
           "เอ่อ..คุณป้าเป็นคุณแม่ของพี่หนึ่งใช่มั้ยครับ"
           หลังจากถามออกไปแบบนั้น  สองก็เห็นหญิงสูงอายุตรงหน้าพยักหน้าให้เฉยๆเป็นการตอบรับ
           "สวัสดีครับ"  สองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม
           "อ๋อ...น้องคือ..สอง  สองที่อยู่ข้างห้องหนึ่งใช่รึเปล่า"  หญิงสาวรีบถามเด็กหนุ่มตรงหน้า
           "ครับ"
           "พี่เป็นพี่สาวของหนึ่งนะ  เรียกพี่นุชก็ได้จ้ะ"  หญิงสาวยิ้มให้สอง
           "สวัสดีครับพี่นุช"  สองยกมือไหว้พี่สาวของหนึ่ง
           "พี่หนึ่งอยู่ข้างในใช่มั้ยครับ  เอ่อ...สองขอเข้าไปเยี่ยมพี่หนึ่งได้มั้ยครับ"
           "เดี๋ยวนะ..หนึ่งเค้ากำลังนอน..."  เสียงของมารดาของหนึ่งหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อพี่นุชรีบพูดแทรกขึ้นก่อนที่จะแอบเอื้อมมือไปจับแขนมารดาไว้เป็นเชิงส่งสัญญาณ
           "เข้าไปเถอะจ้ะ...พี่หนึ่งเค้ากำลังอ่านหนังสืออยู่น่ะ เห็นช่วงนี้ดูเหงาๆ  สองเข้าไปคุยเป็นเพื่อนพี่หนึ่งนะ"
           "เอ่อ...สอง..เข้าไปได้นะครับ"  สองถามหญิงสาวขณะที่แอบมองหญิงสูงวัยด้วยสีหน้าหวาดๆ
           "จ้ะ..เข้าไปเถอะ"
           "ครับ" สองรับคำกับพี่นุชที่ยิ้มแย้มให้ แต่มารดาของหนึ่งยังคงมีใบหน้าเรียบเฉย  สองหันกลับไปที่ประตูก่อนที่จะค่อยๆเปิดเข้าไป  คนตัวเล็กเดินเข้าไปในห้องแล้วปิดประตูลง
                                           .........................................................................

            หนึ่งปิดหนังสือที่กำลังอ่าน ก่อนเอาวางลงบนตัก  หนังสือเล่มนี้ พี่สาวเป็นคนเอามาให้หนึ่งอ่าน  ภายในเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำกายภาพบำบัด เบื้องต้น  หนึ่งก็พอจะเข้าใจอยู่หรอก  ใครๆหลายคนพยายามบอกเขาว่าโอกาสที่จะกลับมาเดินได้นั้นยังมีอยู่  ถึงจะไม่หนึ่ง100เปอร์เซนต์ แต่มันก็ไม่ได้น้อยขนาดไร้ซึ่งความหวัง  ขอเพียงแค่หนึ่งยอมเข้ารับการบำบัด แน่ล่ะ ...หนึ่งเองก็อยากกลับไปเดินได้อีกครั้ง แต่ใครจะรับประกันได้ล่ะว่ามันจะสำเร็จ การที่เป็นแบบนี้มันก็แสนจะทรมาน  ทรมานที่ไปไหนมาไหนดั่งใจปรารถนาไม่ได้ ทรมานที่ต้องมาเป็นภาระให้กับครอบครัว ทรมานที่ต้องกลายเป็นคนไร้สภาพ แต่สิ่งที่ทรมานที่สุด  คือการที่ไม่สามารถปกป้องใครบางคนได้  ไม่สามารถที่จะเดินเคียงข้างคอยอยู่ใกล้ๆได้เหมือนเดิม  กลายเป็นเพียงคนแก่ๆคนนึงที่ทำอะไรไม่ได้ จะพาไปเที่ยวก็ไม่ได้ จะคอยช่วยงานเช่นซักผ้า ทำความสะอาดห้องเหมือนเดิม ก็ทำไม่ได้  รังแต่จะเป็นภาระให้  ไม่อยากให้คนๆนั้นต้องมาเสียเวลากับผู้ชายไร้น้ำยาอย่างเขา  ไม่อยากให้คนๆนั้นต้องมาทุ่มเทจนต้องไปแย่งเอาเวลาเรียนอันมีค่ามาทิ้งไว้กับคนป่วยแบบเขา  ไม่อยากให้คนตัวเล็กคนนั้นต้องเหนื่อย  ใช่แล้ว..ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่หนึ่งคิด  มันเป็นความคิดของเขา แต่ในทางกลับกัน ในจิตใจลึกๆมันก็กลับมีความคิดบางอย่าง ความคิดที่เขาพยายามฝังมันเอาไว้ ความคิดในแง่ร้าย ความคิดที่จะทำให้คนที่เขารักต้องแปดเปื้อน เขาไม่อยากให้ความรักที่คนตัวเล็กมีให้ ต้องมาแปดเปื้อนกับความหวาดระแวงของเขา ความหวาดระแวงที่กลัวว่า คนๆนั้นจะรับไม่ได้ คนๆนั้นคงอยากผลักไสเขาออกไป รังเกียจคนพิการเช่นเขา เพียงแค่ความคิดนี้แวบๆเข้ามาเพียงเล็กน้อย หนึ่งก็ต้องรีบสลัดมันทิ้ง ความเจ็บปวดมากมายก็ถาโถม เจ็บปวดทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจริงๆแล้วมันจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่  เจ็บปวดเพราะเกลียดใจตัวเองที่บังอาจไปคิดร้ายๆกับคนๆนั้น คนที่เขาไว้ใจ  คนที่เขาเองก็รู้ดีว่า คนๆนั้นพร้อมจะมอบความรักให้เขาได้มากแค่ไหน  พอคิดถึงตรงนี้ก็เกิดสับสน ว่านี่เขาจะไปถ่วงคนที่มีอนาคตทำไม ถ้าเป็นแบบนี้ก็แยกตัวออกมาไม่ดีกว่าหรือ  ถึงแม้มันจะเจ็บปวดทั้งสองฝ่าย  หนึ่งเฝ้าแต่คิดไปคิดมาอยู่แบบนั้น  เขาเองก็รู้ว่ากำลังสับสน  แต่ตัวเองก็ยังไม่เจอทางออก  
              หนึ่งค่อยๆหลับตาลง  ตอนนี้เขากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง  ร่างกายส่วนล่างไม่อาจขยับได้ตามปรารถนาอีกแล้ว  บนตักคือหนังสือเล่มนั้น  สองมือยังประคองหนังสือเอาไว้ หนึ่งหลับตานิ่ง  รู้สึกตัวเองอ่อนล้าเหลือเกิน
             และตอนนั้นเอง....
            เขาก็รู้สึกว่าหนังสือที่อยู่ในมือถูกใครคนหนึ่งหยิบไป
            “แม่ครับ....ช่วยรินน้ำให้หนึ่งหน่อยครับ”  หนึ่งพูดทั้งๆที่ยังหลับตา
            เสียงน้ำกำลังถูกเทลงในแก้ว  สักพักหนึ่งก็รู้สึกถึงมือที่เข้ามาประคองช่วงไหล่ของเขาไว้   ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงลำแขนที่บอบบาง  นี่แม่ของคงเครียดมาก  ใช่แล้ว...ทำไมเขาจะไม่รู้ล่ะ  ว่าทำให้มารดาร้อนใจแค่ไหน  แต่เขาเองก็อยากจะขอเวลาปรับจิตใจของตัวเอง และการยืดเยื้อดื้อดึงไม่เข้ารับการบำบัด คงทำให้มารดาของเขาคิดมากจนรับประทานอาหารน้อยลง
              หนึ่งค่อยๆดื่มน้ำ  ก่อนปล่อยให้ไหลลงลำคอที่แห้งผากช้า  ฉับพลับที่ปลายจมูกก็ได้กลิ่นน้ำยาล้างแผลฉุนๆ  เขาไม่เคยได้กลิ่นน้ำยาล้างแผลแบบนี้นานแล้ว   เพราะบาดแผลสดของหนึ่งหายดีแล้ว แล้วนี่กลิ่นมันมาจากไหน  แล้วหนึ่งก็ต้องรู้ว่ากลิ่นน้ำยาล้างแผลมาจากคนที่กำลังป้อนน้ำให้หนึ่ง  นี่แม่ของเขาไปโดนอะไรบาดมาหรือเปล่า  ทำไมถึงต้องใส่ยาล้างแผลรุนแรงขนาดนี้  เมื่อตอนที่ยังอยู่ด้วยกันก่อนที่มารดาจะออกนอกห้องไปพร้อมกับพี่นุช  ซึ่งเป็นพี่สาวของเขาที่เป็นหมอของที่นี่  เขาเองก็ยังเห็นมารดามีท่าทางปกติ  ไม่ได้รับบาดเจ็บที่ไหน  แล้วนี่กลิ่นน้ำยาล้างแผลฉุนๆนี่มันมาได้ยังไง  
              ด้วยความสงสัย  หนึ่งจึงค่อยๆลืมตาขึ้น และภาพแรกที่เห็นคือลำคอขาวๆของคนที่กำลังโน้มเข้ามาเพื่อป้อนน้ำให้เขาดื่ม  คอเล็กๆขาวๆนั่น  ไหปลาร้าที่โผล่ออกมาจากขอบคอเสื้อยืด  เสื้อยืดที่เขาจำได้ดี  ลำคอและสีผิวที่คุ้นเคย  ลำคอๆขาวๆที่แสนคิดถึง  เขานึกถึงมันอยู่ทุกคืนทุกวัน  อยากใกล้ชิดอยากเอาจมูกของตัวเองฝังลงที่ผิวเย็นๆนุ่มๆ  คิดถึงแทบขาดใจ ....  แล้วหนึ่งก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ  เมื่อค่อยๆไล่สายตาขึ้นไปจนเห็นใบหน้าที่แสนคิดถึง  ใบหน้าที่คุ้นเคย  ใบหน้าที่เขาหลงรักหนักหนา  ใบหน้านั้นอยู่ใกล้ๆเขาตรงนี้แล้ว  ดวงตาที่ฉายแววอบอุ่นอันน่าปรารถนากำลังจ้องตอบกับดวงตาที่กำลังเบิกขึ้นของเขา  ดวงตานั้นเอ่อล้นด้วยน้ำใสๆ  ก่อนที่น้ำนั้นจะค่อยๆไหลออกมาอาบแก้มขาวๆ  ที่ตอนนี้มันดูซูบเซียว  อ่อนล้า  แถมบางส่วนยังถูกปิดไว้ด้วยผ้าก๊อซ......
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Killua ที่ 03-03-2011 18:34:59
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-03-2011 18:44:02
 :เฮ้อ:สงสารน้องสองมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 03-03-2011 18:58:06
ค้างๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พี่หนึ่งกลับมาหาสองเหอะน่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: BEN*_*MOS ที่ 03-03-2011 19:12:51
ค้างงงงมากๆค่ะ สงสารพี่หนึ่งอ่า คุณแม่ใจร้ายไปแล้วนะ พี่หนึ่งอย่าทรมานสองอีกเลย!!!
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-03-2011 21:16:47
น้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Little Devil ที่ 03-03-2011 21:55:45
มาให้กำลังใจสอง :กอด1: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 03-03-2011 22:04:26
คุณแม่ใจร้ายอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-03-2011 22:44:38
ก็เข้าใจคุณแม่นะ แต่คุณแม่ก็ควรเข้าใจความรักของหนึ่งกับสองบ้าง
เอาใจช่วยหนึ่งกับสองนะ หนึ่งเมื่อได้กำลังใจจากสอง ก็ควรตั้งใจทำกายภาพบำบัดนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 04-03-2011 00:14:47
ค้างที่สุด :sad4:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: lovevva ที่ 04-03-2011 01:08:51
 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 04-03-2011 07:31:08
ค้างมากมายย

ไรท์เตอร์รีบบบมาต่อน๊าา

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 04-03-2011 07:31:38
ค้างมากมายย

ไรท์เตอร์รีบบบมาต่อน๊าา

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: booboos ที่ 04-03-2011 10:36:11
 :m15: เศร้าจังอ่ะ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: mickeynut ที่ 04-03-2011 14:15:29
ค้างคะพี่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: jen9789 ที่ 04-03-2011 22:43:59

ขอบคุณคับที่มีเรื่องดีดีแบบนี้ให้อ่านคับ

ผมก็ติดตามเรื่องของพี่หนึ่งกับน้องสองมาตลอด ยิ่งอ่านยิ่งสนุกน่าติดตาม

แต่มีเรื่องหนึ่งขอร้องคับเพราะว่า กำลังเกิดอาการค้างที่อยากอ่านต่อคับ

ขอขอบคุณล่วงหน้าคับ เป็นกำลังใจให้คับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: pimkung ที่ 05-03-2011 00:56:02
ค้างอ่ะค่าาา
รอต่อไปฮัฟ  :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 05-03-2011 08:35:54
มาแล้วๆ  อ้อมาแล้ว  อุอิ  :z13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 05-03-2011 09:12:40
มารอค้าบบ

มาต่อยังหว่าาา   :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-03-2011 10:05:33
เรียกน้ำลาย เอ้ย! น้ำตาได้เป็นกุรุสเลย
จะเศร้าไปอีกนานไหมหนอ
อย่างเห็นทั้งคู่มีความสุขเร็วๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 06-03-2011 00:43:08
^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 06-03-2011 10:00:51
 :monkeysad: เศร้าและค้างมากมาย รออยู่เมื่อไหรจะหวานซักทีละ :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: jojobuffy ที่ 06-03-2011 11:11:23
ค้างสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :m31:




มาไวๆนะคะ รออยู่ :เฮ้อ:



 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-03-2011 12:12:47
รออยู่ค้าบบบบบบบ :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 07-03-2011 00:00:23
พี่หนึ่ง น้องสอง   :monkeysad:  สู้ไปด้วยกันนะ
หวังว่าคุณแม่คงไม่ใจร้ายนะ เพราะที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าลูกตัวเองไม่มีแรง ไม่มีกำลังใจจะลุกขึ้น
ลูกก็ทรมาณ แม่ก็ทรมาณ นะคะคุณแม่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-03-2011 05:17:43
ค้างมาก ถึงมากที่สุดเลยครับ
ความรัก หนึ่ง-สอง ช่างมีอุปสรรคมากมายอะไรแบบนี้นะ แต่ก็ภาวนาให้ทั้งคู่ช่วยกันประคองให้ผ่านไปได้ด้วยดี

ป.ล.มาต่อเร็วๆ นะครับ เศร้าได้อีก T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 09-03-2011 20:57:32
รอคะ    :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 09-03-2011 21:37:40
 :call:รอด้วยคนนะ :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 09-03-2011 21:44:17
อยากอ่านต่อแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 10-03-2011 10:48:35
ไรท์เตอร์ รอพี่หนึ่ง กับ น้องสอง นานแล้วน๊าาา

 :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 10-03-2011 12:10:09
เจอกันแล้ววววววววววววววว :sad4:

ค้างมากค่ะ :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 10-03-2011 21:54:46
 :monkeysad: น้ำตาไหลเป็นทาง สงสารสองมาก สงสารพี่หนึ่งเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 16-03-2011 20:30:12
 :เฮ้อ: มันจะเป็นยังไงต่อเนี้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 19-03-2011 17:39:09
นานจังเลยครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 19-03-2011 17:42:54
หายไปนานแล้วนะเมื่อไรมาอะ

 :sad11:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-03-2011 18:14:02
รอด้วยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-03-2011 19:34:19
หายไปนานแล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cookiee ที่ 20-03-2011 11:57:50
โอ๊ยยยค้างพึ่งเข้ามาอ่านอ่ะ
หนุกหนานดีจิง
ชอบเรื่องแรกมากกกกกกกกกกก
>///<

แต่ค้างเรื่องสองกับหนึ่งนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: TheWanFah ที่ 23-03-2011 21:27:19
รอชั้นรอเธออยู่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 26-03-2011 18:44:38
มาต่อได้แล้วนะครับ อยากอ่านอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-03-2011 19:54:16
อีหนูหายไปนานแล้วเน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: BENIE ที่ 27-03-2011 15:26:31
รออ่านอยู่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: nariza6 ที่ 27-03-2011 19:18:25
มารอด้วยคน ไรเตอร์จ๋า.....มาไวๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 01-04-2011 10:23:00
มารอพี่หนึ่งน้องสอง อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 02-04-2011 15:01:07
ชอบอเล็ก กับเลโอมากๆ ยิ่งตินที่ใช่ภาษาอังกฤษรู้สึกมันหวานมากๆ

ตามอ่านอยู่ค่ะหนึ้งกับสอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 03-04-2011 01:54:32
มารออ่านพี่น้องท้องชนกันค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: นาวา ที่ 03-04-2011 16:11:56
มารอพี่หนึ่งกับน้อง สองครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 03-04-2011 19:00:06
รอออออออออออออออออออออ

 :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 03-04-2011 19:53:49
แง้ๆๆๆๆๆๆ  เมื่อไหร่ จะมา  คนอ่าน  จาลงแดง ตาย แล้ว นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 05-04-2011 17:39:29
หายไปไหนนานเลยครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 09-04-2011 16:47:33
หายเข้ากลีบเมฆไปเลยครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 19-04-2011 08:53:30
มารอพี่หนึ่ง น้องสอง
พี่หนึ่งลืมตา มาเจอหน้าน้อง จะเป็นงัยต่อนะ 

กอดแคนแคน  :กอด1:   บวกไม่ได้ให้ดอกไม้น๊า  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 19-04-2011 20:20:45
ชอบเรื่องแรกมากเลยค่ะ มีเสน่ห์บอกไม่ถูก อยากให้เขียนตอนพิเศษเพิ่มต่อจัง แบบว่าขยายความเพิ่มอีกไรก็ได้งี้อ่ะ :impress2:


มาเรื่องที่สองนี้ก็ยังชอบอีกนั่นแหละ เป็นคู่ที่น่ารักมากเลย  :-[

แต่ตอนนี้.. มาต่อด่วนๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!! อยากอ่านต่อจะตายอยู่แล้ววววววววววววววววววว :serius2:


 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 24-04-2011 23:42:44
ไปไหนนนนนนนนนนนนน

กลับมาน๊า ไรท์เตอร์


 :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 25-04-2011 23:32:29
cancan หายไปไหนอะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: heaven13 ที่ 26-04-2011 11:39:41
ชอบทั้ง 2 เลยคะ
ปล. ขอกรี๊ดรูปพี่หนึ่ง อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 03-05-2011 22:30:30
2 month later....... Where're you writer??? :z12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 16-05-2011 17:32:34
รอนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  แง้ๆๆๆ

รอรอรอรอรอ :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..3/03/11 ตอนล่าสุด(6:17PM) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 23-05-2011 01:01:54
ต่อค่ะ


                   ภายในที่กำลังว้าวุ่นสับสน เรื่องราวที่คอยคิดหมกมุ่นอยู่หลายวันก็หายไปในพริบตา ความสนใจทั้งมวลของหนึ่ง ถูกคนที่ยืนอยู่ข้างๆดึงดูดไปหมดเสียแล้ว  อยากจะถามเหลือเกิน  ว่าทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ได้ อยากถามเหลือเกินว่าตลอดเวลาที่ผ่านมายังคิดถึงกันอยู่ไหม  อยากถามเหลือเกิน...ว่าวันเวลาที่ไม่มีเขาอยู่ข้างกายคอยดูแลห่วงใย คอยปกป้องมากเท่าที่สามารถทำได้นั้น คนที่ยืนอยู่ข้างๆเป็นอย่างไรบ้าง อยากถามคนๆนี้ว่าไปโดนอะไรมา ใบหน้าและเนื้อตัวที่เขาแสนจะหวงหนักหนาถึงมีสภาพเป็นแบบนี้ คำถามมากมายผุดขึ้นในจิตใจของหนึ่ง  อยากถามว่าจะยกโทษให้เขาได้ไหม ยกโทษที่หายหน้าไป ยกโทษต่อการที่ทรยศความรักที่คนน่ารักคนนี้มีให้เสมอ ยกโทษที่เขาเลือกที่จะทำให้คนๆนี้เจ็บปวด  คนที่เขาให้ความสำคัญ  คนที่มีความหมายต่อตัวเขามากที่สุดตอนนี้  รู้ทั้งรู้ว่าคนๆนี้รักเขามากเพียงใด  แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยคนน่ารักคนนี้ไป  เขาเลือกทางนั้น  ทางที่แสดงถึงว่าอ่อนแอของเขา  ความอ่อนแอที่ไม่น่าให้อภัย
                  ต่อให้อยากพูดอยากถามมากแค่ไหน แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่ตนเองหลงใหล ใบหน้าที่เคยสดใสสะอาดตา ตอนนี้กลับซีดเซียว ซ้ำยังเต็มไปด้วยลอยถลอก  เจ็บปวดที่เห็นสภาพแบบนั้น  เจ็บปวดที่เห็นคนที่ตนเองรักมีบาดแผลถลอกปอกเปิกเต็มเนื้อเต็มตัว  เจ็บปวดที่เห็นดวงตาคู่สวยมีรอยช้ำจนถึงนัยน์ตา  เจ็บปวดที่เห็นหน้าผากขาวๆสะอาดที่เขาชอบสัมผัสตอนนี้กลับบวมปูดนูนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  เพียงแค่เห็นร่องรอยบาดแผลตามที่ต่างๆของร่างเล็ก  หนึ่งก็ยิ่งรู้สึกอึดอัด  เขารู้สึกเหมือนใครบางคนกำลังใช้มือที่แข็งแกร่งดั่งคีมเหล็กบีบหัวใจของเขาอย่างแรง  เขารู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย 
                        หนึ่งขมวดคิ้วยุ่ง  ใบหน้าเกร็งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาขบกรามแน่นจนขึ้นเป็นสันนูน  น้ำร้อนๆนัยน์ตากำลังเอ่อขึ้น  เขารู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างจุกอัดอยู่ในอก  ตัวเขาเองเจ็บปวดเหลือแสน  เจ็บทรมานเพราะเดินไม่ได้  เจ็บเพราะไม่อยากให้คนที่รักต้องมาเห็นสภาพแบบนี้  เขาเลือกที่จะหลบหนี  แต่คนๆนี้  ตอนนี้ก็มีสภาพไม่ต่างจากเขา  บาดแผลหลายแห่ง ใบหน้าซูบเซียว ริมฝีปากสีสวยที่เคยเห็น  ไม่ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มชวนสัมผัสเหมือนเมื่อครั้งที่เคยชิดใกล้  เมื่อเห็นสภาพแบบนี้ของคนตัวเล็ก  หนึ่งก็ยิ่งแน่ใจว่าเขากำลังทำให้คนที่รักเจ็บปวดไม่แพ้กัน  เจ็บทั้งใจเจ็บทั้งกาย   แต่...คนๆนี้ก็ยังเลือกที่จะมาหา เลือกที่จะเข้มแข็ง คนๆนี้ไม่ยอมละทิ้งเขา
                       และคำถามแรกก็ถูกเอ่ยขึ้นจากริมฝีกปากเรียวที่กำลังเม้มสนิทของคนตัวสูง  ก่อนที่เจ้าตัวจะยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปไล้เบาๆตรงเปลือกตาของคนที่ตนเองรักสุดดวงใจ
                     
                       “เจ็บมากมั้ยครับ?”
                       
                       น้ำร้อนๆซึ่งเอ่อคลออยู่ที่ดวงตาคมของหนึ่งค่อยๆไหลออกมา
                     
                       คนตัวเล็กกระพริบตาข้างนั้น  แล้วก็ต้องผงะหนีเล็กน้อย  เพียงแค่เห็นอาการแบบนั้น  หนึ่งก็พอรู้ได้ทันทีว่า ความเจ็บปวดยังไม่ได้ทุเลาลงเลยสักนิด   เขารีบชักมือกลับมาวางที่เดิม  ด้วยรู้สึกว่าเขาไม่น่าทำแบบนั้นเลย  เพราะแค่เห็นก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่าคนตัวเล็กคงเจ็บอยู่ไม่น้อย  หนึ่งก้มหน้าขมวดคิ้วแน่น
                       และตอนนั้นเอง  เขาก็รู้สึกถึงฝ่ามือเย็นๆของคนข้างๆที่ทาบลงบนใบหน้าของเคร่งเครียดของเขา  ฝ่ามือคู่นั้นค่อยๆประคองใบหน้าของหนึ่งให้หันไปเผชิญกับใบหน้ามนที่มีน้ำตาคลอหน่วย  หนึ่งรู้สึกถึงนิ้วโป้งเล็กๆที่คลึงเบาๆลงบนระหว่างคิ้วของเขา
                   
                      “อย่าย่นคิ้วแบบนี้สิฮะ...เดี๋ยวแก่เร็วนะ...อึก..ฮึก”
                 
                      คนตัวเล็กพยายามกลั้นเสียงสะอื้นอย่างสุดความสามารถ ก่อนที่จะเอ่ยถามคนตัวโตด้วยความห่วงใยที่ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อย
                 
                      “แล้วพี่หนึ่งล่ะฮะ...เจ็บมากมั้ย...ฮึก..อึก”
             
                      ตอนนี้สองหมดความอดกลั้นเสียแล้ว...ความตั้งใจที่จะเข้มแข็งไม่ให้หนึ่งเห็นท่าทางอ่อนแอของตนเองได้สิ้นสุดลง  ทั้งที่ตอนนี้คนตัวสูงเป็นแบบนี้แท้ๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าคนป่วยต้องการกำลังใจแค่ไหน  สองอยากเป็นหลักให้คนที่กำลังอ่อนแอคนนี้ได้พึ่งพิง  อยากแสดงความเข้มแข็งให้คนตัวสูงได้เห็นเพื่อที่จะได้มีกำลังใจสู้ต่อโดนมีสองคอยช่วยเหลือ  สองไม่อยากเป็นเด็กขี้แยเอาแต่ร้องไห้เหมือนคนที่อ่อนแอ  แต่พอได้เห็นใบหน้าคมสันของคนที่แก่กว่า  คนที่คอยให้ความอบอุ่นและดูแลกันมาตลอด  ความโหยหาและความว้าเหว่ที่ได้สัมผัสเมื่อตอนไม่มีคนๆนี้อยู่ใกล้   มันก็ประดังประเดเข้ามาราวกับพายุที่หมุนวนอยู่ในจิตใจของคนตัวเล็ก  ไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้ว  ไม่อยากเจ็บปวดแบบนั้น  มันทรมานเหลือเกิน  การที่ต้องเจ็บปวดแบบนั้นมันเหนื่อยหัวใจเหลือเกิน  และตอนนี้คนๆนั้นก็อยู่ใกล้แค่ปลายจมูก  สองจะไม่ยอมให้เขาหนีไปอีกแล้ว  เพราะสองรู้ว่าตัวเองรักคนๆนี้มากแค่ไหน  รักมากเหลือเกิน
               
                      “สอง...คิดถึงพี่..อึก..อย่า..อย่าทิ้งสอง....ฮึกก...ไปอีกนะ..อึก”
               
                      เพียงแค่ได้ยินประโยคนั้น หนึ่งก็แทบอยากจะคว้าเอวผอมๆของคนตัวเล็กขี้แยมากอดไว้  หนึ่งเห็นสองเอามือเช็ดน้ำมูกน้ำตาที่ไหลเปรอะเปื้อน  แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเช็ดก็ยิ่งไหล   เขาเองก็มองคนตัวเล็กด้วยน้ำตาเอ่อคลอ  ทั้งรักทั้งเวทนา  ทั้งห่วงทั้งคิดถึง  และตอนนี้เอง  ภายในใจของเขาก็กระจ่างขึ้น  ถึงแม้มันจะมีความขมุกขมัวดำมืดอยู่บ้าง  แต่ตอนนี้เขาก็เริ่มเข้าใจอะไรบ้างแล้ว  มันไม่ได้มีแค่เขาคนเดียว  เขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง  เขามีคนที่พร้อมจะเจ็บด้วยกัน  คนที่เห็นเขาเจ็บก็เจ็บยิ่งกว่า  คนที่เห็นเขามีความสุข คนๆนั้นก็จะยิ้มพร้อมกับเขา   สุขที่ได้เห็นหนึ่งมีความสุข  เจ็บเพราะเห็นหนึ่งเจ็บปวด  เหมือนกับตอนนี้  หนึ่งกำลังทรมานเพราะเห็นสองเจ็บปวด  ซึ่งสองเองก็คงเจ็บปวดและทรมานเหมือนกัน  ต่างเจ็บต่างทรมาน ยิ่งห่างก็ยิ่งทรมาน  แล้วแบบนี้คงไม่มีใครลืมใครได้  ยิ่งจะให้ละทิ้งหนีหายจากกันไปก็คงจะเป็นไปไม่ได้
                 “พี่.....ขอโทษ...สองยกโทษให้พี่นะครับ”
                 หนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆ ดวงตาคมของเขากำลังจับจ้องคนที่กำลังปาดน้ำหูน้ำตาของตัวเอง  หนึ่งค่อยๆเอื้อมมือไปจับมือผอมบางนั้นไว้  ก่อนที่จะเอามืออีกข้างช่วยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าซีดขาวให้อย่างระมัดระวัง
                 “ได้ยินมั้ยครับ...พี่ขอโทษนะ...พี่จะไม่ทิ้งสองอีกแล้ว..”
                 “สะ...สัญญานะฮะ  อึก....สัญญานะ..ว่าจะไม่ทิ้งสองอีก  ฮึก..”
                 “ครับ...สัญญาด้วยชีวิตเลย”
                 ตอนนี้ดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อคลอของหนึ่ง มองคนน่ารักด้วยสายตาที่มั่นคง  มันแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของเขา  หนึ่งอยากให้คนตัวเล็กรู้ว่า  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เขาจะไม่มีวันทิ้งสองอีกเป็นอันขาด  เขาจะไม่อ่อนแออีกแล้ว จะไม่หนีไปไหน  ตราบใดที่ยังมีคนๆนี้อยู่เคียงข้าง  ตราบใดที่ยังมีสอง...หนึ่งจะอยู่ตรงนั้น...  ไม่ว่าอะไรจะเกิด  หนึ่งจะเผชิญมันไปพร้อมกับสอง  เขาจะเป็นคนฝ่าฟัน โดยมีคนตัวเล็กอยู่ข้างหลังคอยเป็นกำลังใจให้  เป็นแรงผลักดันส่งเสริม  และเขาจะคอยปกป้อง  เพียงแต่นั้นก็พอแล้ว   เมื่อคิดได้แบบนี้..หนึ่งก็สูดหายใจเข้าลึกๆ   ก่อนที่จะถอนลมหายใจออกมาอีกครั้งอย่างโล่งอก ตอนนี้เขาหาทางออกได้แล้ว  ทางออกนั้นคือ..  การต่อสู้นั่นเอง  สู้เพื่อตัวเขาและคนที่เขารัก  พอคิดถึงตรงนี้  หนึ่งก็นึกขึ้นได้ว่า แม่และพี่สาวที่คอยดูแลตัวเขาอยู่ตลอดก็คงทุกข์และไม่สบายใจมากเช่นกัน  ที่เห็นเขาท้อแท้  แต่ตอนนั้นเขาสิ้นหวังจริงๆ เพราะโอกาสที่จะกลับมาเดินได้อีกครั้งนั้นมันน้อยจนแทบไม่มีเหลือให้หวัง   ทั้งยังทุกข์ใจสาหัส  กลัวเหลือเกิน  กลัวว่าคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตอนนี้จะรับไม่ได้ และรังเกียจเขา  หนึ่งจึงเลือกที่จะหายไป   เพราะถ้ามันเจ็บปวดที่ต้องรับรู้เรื่องแบบนั้นสู้ไม่รู้เสียเลยดีกว่า  แต่สุดท้ายก็กลายเป็นว่า  คนตัวเล็กที่เขาหวาดระแวงกลับเป็นคนเดินมาหาเขาเสียเอง ซ้ำยังงอแงร้องไห้เพราะเขาหนีหาย  และไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจเขาแม้แต่น้อย  คนตัวเล็กขาดเขาไม่ได้  หนึ่งเองก็เช่นกัน  หนึ่งขาดสองไม่ได้  และตอนนี้หนึ่งจะสู้  หนึ่งไม่อยากเห็นสองเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว
                 “สัญญาแล้วนะ...ไม่คืนคำนะ..อึก”  สองมองคนตัวสูงที่นอนอยู่บนเตียง ถามด้วยสายตาที่หวาดระแรง
                 “ครับ...สัญญา...พี่รักสองมากนะ..พี่จะไม่ทิ้งสองอีกแล้ว  พี่ไม่อยากเห็นสองร้องไห้เสียใจ  ต่อจากนี้ไปเราจะอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมนะ”
                 “อึก...ฮะ...สองก็รักพี่หนึ่งฮะ...สองจะอยู่กับพี่...สองจะช่วยพี่หนึ่ง...สองอยากเห็นพี่หนึ่งเดินได้เหมือนเดิม   พี่หนึ่งให้สองช่วยนะ”
                 “ครับ....  สองเชื่อพี่นะ  พี่จะพยายาม  พี่ต้องเดินได้...”
                 “ฮะ..อึก..พี่หนึ่งต้องเดินได้แน่ฮะ  เราจะเดินไปด้วยกันนะ”
                 “ครับ..คนดี..เลิกร้องไห้นะ”
                 “ฮะ..อึก..ฮึก..”  คนตัวเล็กรีบเอาหลังมือปาดน้ำตาที่ไหลไม่หยุด
                 หนึ่งเอื้อมมือไปดึงกระดาษทิชชู่ในกล่อง  ก่อนที่จะเอามาซับลงบนแก้มซูบผอมที่เปรอะเปื้อนหยาดน้ำตา  คนตัวเล็กเลยรับกระดาษทิชชู่ผืนนั้นมาเช็ดเสียเอง    แล้วหยิบขึ้นมาอีกหลายแผ่นเพื่อสั่งน้ำมูก
             
                  “ฟืดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!”
               
                 หนึ่งมองคนตัวเล็กด้วยความเอ็นดูพร้อมกับยิ้มน้อยๆ  ตอนนี้ในหัวใจของเขาเหมือนถูกเติมเต็มด้วยน้ำที่ใสสะอาดและเย็นชุ่มฉ่ำ  เขารู้สึกสดชื่นอย่างประหลาด...
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 23-05-2011 01:13:14
ดีใจจังเลย

ไรท์เตอร์มาต่อแล้วววววววววววววววววววววววววว

 :z1: :z1: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-05-2011 01:17:36
+1ตอนรับการกลับมาจร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 23-05-2011 16:40:24
NC18++ อยู่ตรงไหนนร้า :a5:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 23-05-2011 21:33:06
นึกว่าไรด์เตอร์ลืมเสียแล้ว :pig4:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 23-05-2011 21:45:47
กลับมาดีกันซะที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..23/05/11 ตอนล่าสุด(ตีหนึ่ง) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 24-05-2011 15:25:36
ตอนที่10

                   "ไม่ได้นะนุช....นี่คิดแบบนี้ได้ยังไง...แม่ไม่ยอมเด็ดขาด!!"
                  
                   เสียงของหญิงสูงวัยดังเกรี้ยวกราดขึ้นทันที เมื่อเธอได้รับรู้ถึงความคิดเห็นของลูกสาวคนกลาง
                  
                   "คุณแม่คะ...คุณแม่ใจเย็นๆนะคะ  คุณแม่ก็เห็นนี่คะว่าหนึ่งพักฟื้นมาตั้งหลายสัปดาห์แล้วนะคะ นี่ก็น่าจะเกือบเดือนแล้วด้วย  คุณหมอเจ้าของไข้ตาหนึ่งก็เรียนคุณแม่แล้วนี่คะ ว่าน้องควรเข้ารับการบำบัดได้แล้ว  ทั้งหนูทั้งคุณแม่หว่านล้อมยังไง หนึ่งก็เอาแต่ผลัดไปเรื่อย จนมันเลยเถิดมาตั้งนานแล้วนะคะ  คุณแม่ไม่อยากให้น้องกลับมาเป็นปกติเหรอคะ"
                  
                   คำอธิบายยืดยาวคราวนี้ยิ่งตอกย้ำ สร้างความลำบากใจให้กับหญิงสูงวัยมากขึ้น จนต้องทำหน้านิ่วถอนหายใจด้วยความไม่สบอารมรณ์อยู่เป็นนานสองนาน  
            
                   หญิงสาวปล่อยให้มารดาคิดสักพัก  เธอรู้ว่าตอนนี้มารดาไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว  เพียงแค่ต้องเห็นลูกชายคนเล็กที่เลี้ยงมากับมือล้มหมอนนอนเสื่อ และอาจจะไม่สามารถกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง  แค่นี้ก็ทำให้หญิงสูงวัยทุกข์ใจมากแล้ว  ถึงแม้สิ่งที่เธอขอร้องแก่มารดาจะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ แต่หญิงสาวก็มั่นใจว่า จะอย่างไรเสีย คนเป็นแม่ก็คงไม่อยากเห็นลูกชายต้องพิการไปตลอดชีวิต  หากยังพอมีโอกาสและหนทางที่จะช่วยลูกได้  มีหรือที่มารดาของเธอจะไม่ยินยอม
                   หลังจากนั่งรอฟังคำตอบของมารดาที่เบือนหน้าหนีไปอีกทางอยู่นาน  เธอก็เห็นหญิงสูงวัยค่อยๆหันกลับมาสบตาอีกครั้ง
                   "นุชว่าเด็กคนนั้นจะทำให้ตาหนึ่งเข้ารับการบำบัดได้จริงๆเหรอ.."
                
                   หญิงสูงวัยพูดเชิงถามด้วยความไม่แน่ใจ
    
                   "นุชก็ไม่แน่ใจค่ะ..แต่เด็กคนนั้นเข้ามาตอนที่นุชคิดอะไรไม่ออก  คุณหมอบอกว่า การที่จะช่วยคนไข้ให้ดีขึ้น  เราต้องทำให้เค้ามีกำลังใจสู้ และมีสภาพจิตใจที่พร้อม  นุชเห็นน้องทุกวัน ชวนคุยก็แล้ว พยายามพูดให้น้องเข้าใจว่ามันยังมีโอกาส แต่..มันเหมือนนุชคุยกับสิ่งของ  ถามหนึ่งคำนึง  หนึ่งก็ตอบกลับมาคำนึง  หนึ่งเงียบมาก  เงียบจนนุชไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะคะ  นุชไม่รู้ว่าหนึ่งคิดอะไร  เพราะหนึ่งไม่ยอมพูดอะไรเลย  แล้วเด็กคนนี้ก็เดินเข้ามา ตอนที่นุชมืดแปดด้าน  นุชอยากช่วยน้องนะคะ  โอเค..นุชเข้าใจ  ว่าเรื่องแบบนี้สังคมยังไม่ค่อยเปิดรับ  นุชก็เพิ่งมารู้เรื่องตอนที่คุณแม่เล่าให้ฟังนี่เองนะคะ ว่าหนึ่งเค้ากำลังคบใคร  นุชยังแปลกใจอยู่เลย แต่คุณแม่คะ  ใจคนมันห้ามไม่ได้นะคะ  ถ้าเค้ารักกันจริง เราคงห้ามเค้าไม่ได้  คุณแม่ต้องให้โอกาสหนึ่งกับเด็กคนนั้นนะคะ  บางทีมันอาจจะมีอะไรดีๆเกิดขึ้นก็ได้"  หญิงสาวบอกมารดาด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
              
                   "เฮ้ย....อกแม่จะแตกตาย  มีลูกทั้งคนก็ว่าเลี้ยงมาเหมือนคนอื่นๆเค้า  ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้  แล้วหนูคิดเหรอ  ว่าถ้าแม่ยอมแล้วพ่อเค้าจะยอม  อย่าลืมนะ ว่ารายนั้นน่ะ เค้าไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนี้  ถ้ารู้เข้าคราวนี้ตาหนึ่งแย่แน่ๆ"  มารดากล่าวด้วยความกลุ้มใจ
                   "หนูว่าเรื่องคุณพ่อเอาไว้ก่อนนะคะ  ยังไงตอนนี้  เรามาช่วยตาหนึ่งให้หายเป็นปกติก่อนนะคะ.. เอ๊ะ!.. นี่ตกลงว่า..คุณแม่ยอมรับเด็กคนนั้นแล้วเหรอคะ"  หญิงสาวถามมารดาด้วยความตื่นเต้น
                   "หนูคิดเหรอ..ว่าแม่อยากเห็นน้องเป็นแบบนี้  แม่ก็ไม่รู้หรอกว่าเด็กคนนั้นจะช่วยทำให้สภาพจิตใจน้องดีขึ้นได้มากแค่ไหน  แต่แม่รู้สึกได้ว่า  ช่วงหลังๆก่อนที่ตาหนึ่งจะประสบอุบัติเหตุ น้องของหนูน่ะ  เค้าดูมีความสุข มีอารมณ์ขันมากขึ้น..เหมือนสมัยที่เค้ายังวัยรุ่นน่ะ  ช่วงนั้นตาหนึ่งดูมีความสุขมากนะ พอเรียนจบทำงาน  เค้าก็ดูเหมือนกลายเป็นคนบ้างาน ยิ่งตอนที่เิลิกกับแจง  แม่ก็ไม่รู้เรื่องเค้าเลย มารู้เอาตอนหลังที่เลิกกันไปนานแล้ว แม่ยังงงอยู่เลยว่าตาหนึ่งมันรักหนูแจงจริงรึเปล่า ทำไมเค้าเล่าให้แม่ฟังดูมันเป็นเรื่องธรรมดามาก  พอมารู้เรื่องเด็กผู้ชายคนนี้ ที่..เอ่อ..ตาหนึ่งบอกว่าคบกัน  แม่..แม่ก็งง นุช  หนูเข้าใจแม่มั้ย  คือ..ทั้งพี่ชายทั้งหนู แม่เลี้ยงมาก็ไม่เคยมีใครเป็นแบบนี้  แม่ไม่คิดว่าลูกชายแม่อีกคนจะมีรสนิยมเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว  แม่ยังนึกว่าตาหนึ่งมันคงผิดหวังจากหนูแจงมาก.. มากจน.. เปลี่ยนไป  พอตาหนึ่งต้องมานอนโรงพยาบาล  แม่เลยคิดว่ายังไงซะก็คงจะมีส่วนดีอยู่บ้าง เพราะอย่างน้อยๆตาหนึ่งจะได้ห่างๆไปจากเด็กคนนั้น ...เฮ้ย..แต่สุดท้ายเด็กคนนั้นก็ตามมาเจอตาหนึ่งจนได้"
                   "นุชเชื่ออยู่ลึกๆนะคะ เด็กคนนั้นมีอะไรบางอย่าง ที่ทำให้นุชรู้สึกดีด้วย เห็นครั้งแรก นุชก็รู้สึกว่าเด็กคนนั้นเป็นเด็กดี นุชรู้สึกถูกชะตากับน้องเค้า เพราะฉะนั้นตาหนึ่งจะรักผู้หญิงหรือผู้ชาย  นุชไม่สนหรอกค่ะ  นุชขอแค่คนที่น้องรักเป็นคนที่ดีและรักน้องของนุช  แค่นั้นนุชก็สบายใจแล้วค่ะ  คุณแม่เชื่อนุชนะคะ ว่าเ้ด็กคนนั้นจะช่วยให้อะไรๆดีขึ้น  ขอแค่คุณแม่เปิดโอกาสให้น้องเค้าและยอมรับในสิ่งที่ตาหนึ่งเป็น  ตกลงนะคะคุณแม่"
                   "อืมม"  มารดาได้แต่พยักหน้าและตอบรับเบาๆ ตอนนี้เธอคงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ  อยากช่วยลูกตัวเองใจจะขาด เมื่อวิธีไหนหรือใครที่สามารถพอจะพูดให้ลูกชายจอมดื้อเข้ารับการบำบัดได้ เธอก็คงต้องยอมรับ
                   "คุณแม่น่ารักรักจังเลย.. ขอบคุณแทนตาหนึ่งนะคะ"  เมื่อเห็นดังนั้น ลูกสาวคนกลางก็รีบเข้าไปกอดเอวมารดาประจบเอาใจ  ด้วยไม่นึกว่าสุดท้ายมารดาก็ยอมรับในสิ่งที่เธอขอร้อง คือ  ยอมรับว่าที่สมาชิกใหม่ภายในบ้าน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเรียกลูกเขยหรือลูกสะใภ้ดี ถึงแม่ตัวปัญหาใหญ่จะยังไม่ได้ถูกแก้  เพราะบิดาของเธอยังไม่ทราบเรื่องนี้ แต่อย่างน้อยๆตอนนี้มารดาของเธอก็ได้เปิดใจแล้ว
                   "ถ้าจะให้ถูก..ต้องบอกว่า ตาหนึ่งมีพี่สาวที่น่ารักจริงๆนะ เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย"  มารดายิ้มบางๆโอบมือรอบข้อมือกลมกลึงของลูกสาวที่กอดเอวเธอไว้หลวมๆอีกที
                   "แหม..คุณแม่อ่ะ ก็หนูอยากเห็นน้องมีความสุขนี่คะ"
                   "แล้วหนูไม่กลัวคนเค้านินทาเหรอคะ ว่ามีน้องเป็นตุ๊ดเป็นแต๋ว"
                   "ชิ..หนูไม่สนใจลมปากของคนอื่นหรอกค่ะ  แค่คนที่หนูรักมีความสุขก็พอแล้ว  โดยเฉพาะคุณแม่ค่ะ อื้มมม"   ว่าแล้วลูกสาวคนกลางก็รีบหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่
                   "ทีนี้ล่ะ..ปากหวานเชียวนะ..แล้วเรื่องของหนูล่ะ  หมั้นหมายกันไว้เมื่อไหร่จะได้เข้าหอซะที"
                   "อุ๊ย..คุณแม่คะ ทำไมเปลี่ยนคนเร็วอย่างนี้ล่ะคะ  แหม...ขอเวลาหนูอีกเดือนสองเดือนนะคะ  หนูยังอยากอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่อยู่นะคะ ชิ  จะไล่หนูไปอยู่กับคนอื่นแล้วเหรอคะ คุณแม่อ่ะ "  ลูกสาวแกล้งทำหน้าบูด
                   "แม่เห็นพี่เค้าบ่นๆว่าหนูยังไม่ยอมแต่งซะที  แม่กลัวผู้ใหญ่ฝ่ายนู้นเค้าจะไม่พอใจ"  ผู้เป็นแม่ได้แต่ยิ้มบางๆตอบลูกสาว
                   "ตายแล้ว..นี่พี่ยศแอบมาบ่นกับคุณแม่เหรอคะ เดี๋ยวเจอกันเย็นนี้สวยแน่  ตาคนนี้..ไม่นึกว่าแก่แล้วจะขี้บ่น"
                   "นี่..ไม่เอานะ  อย่าไปว่าพี่เค้าสิ  หนูก็น่าให้เค้าบ่นอยู่นะ แม่ว่า"
                   "ไม่เอาแล้วค่ะ...ไม่พูดเรื่องหนูแล้ว   นุชว่าเรากลับไปหาตาหนึ่งกับเด็กคนนั้นที่ห้องเถอะค่ะ  หนูว่าเราไปดูผลกันดีกว่า  ไม่แน่นะคะ พรุ่งนี้คุณแม่คงได้ไปเป็นกำลังใจให้ตาหนึ่งที่แผนกบำบัดก็ได้นะคะ"
                   "เฮ้ย...แม่ก็ขอให้มันเป็นแบบนั้นนะ"
                   "ค่าา.คุณแม่เชื่อหนูสิคะ  ไปค่ะ.."
                   ลูกสาวคนสวยรีบประคองมารดากลับไปยังทิศทางของห้องพักฟื้นผู้ป่วยที่เป็นของน้องชายเธอ
                   ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที  นุชอนงก็พามารดามาถึงห้องของพักผู้ป่วยของน้องชาย  แต่ก่อนที่จะเคาะประตูห้องเพื่อแจ้งคนที่อยู่ด้านใน  หญิงสาวก็รีบเดินไปที่บานกระจกเล็กๆด้านบนของประตูเพื่อแอบสังเกตบรรยากาศภายในห้อง
                   "ทำอะไรน่ะ นุช"  มารดาถามลูกสาวด้วยความสงสัย
                   "ชู่!!  เบาๆค่ะ คุณแม่  คุณแม่มาดูตรงนี้สิคะ" หณิงสาวรีบเอานิ้วชี้จ่อที่ริมฝีปากของตนเอง เพื่อส่งสัญญาณบอกให้มารดาเงียบๆไว้  ก่อนที่จะชี้ชวญให้มารดาของเธอแอบดูบ้าง  
                   พอเห็นสีหน้าที่ทะเล้น สดใส ของลูกสาว หญิงสูงวัยก็ต้องรีบเดินไปตรงที่ลูกสาวยืนอยู่  เพื่อแอบมองเข้าไปในห้องด้วยความอยากรู้
                   พอได้เห็นภาพเบื้องหน้า หญิงสูงวัยก็ต้องคลี่ยิ้มบางๆออกมา  เธอรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาด  นานเท่าไหร่แล้ว  ที่เธอไม่ได้เห็นลูกชายคนนี้ยิ้มได้อยากสุขใจแบบนั้น..
                   "หนูว่า..เราเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ" ลูกสาวคนสวยรีบกระซิบบอกมารดา
                   "จ้ะ"  หญิงสูงวัยหันมารับคำของลูกสาว ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข  ก่อนที่จะยกมือขึ้นเคาะประตูห้องเบาๆ ..
            
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-05-2011 15:59:06
ผ่านไป1 ด่าน เหลือคุณพ่อจะเป็นไงบ้างหนอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 24-05-2011 16:07:51
ถ้าทางด่านที่หินที่ีสุดจะเป็นคุณพ่อ งานนี้ต้องเสียน้ำตากันอีกป่าวเนี่ย  :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 24-05-2011 16:56:04
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: autumm_99 ที่ 24-05-2011 18:45:14
คุณพ่อพี่หนึ่ง ต้องเป็นคุณลุงที่ขับรถมาส่งน้องสองที่โรงพยาบาลแน่เลย

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 24-05-2011 18:57:31
ทุกคนต้องเข้าใจ

รักสมหวัง :กอด1:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 24-05-2011 20:13:30
เหลือด่านคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 24-05-2011 22:31:22
คุณพ่อน้องหนึ่งต้องเอ็นดูน้องสองแน่เลย น้องสองน่ารัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 24-05-2011 22:52:07
เดาว่า ด่านคุณพ่อคงจะไม่ยากนัก

ถ้าเป็นคุณลุงคนนั้นจิงๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 25-05-2011 22:53:04
เห็นด้วยกับรีบน

ซึ้งมากเรื่องนี้อะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 26-05-2011 07:20:43
เย้ๆๆ มาแล้ว พี่หนึ่งน้องสอง  :กอด1:

คุณแม่ยอมรับแล้วดีใจจัง
พี่นุชนี่สาววายตัวจริงเลยนะเนี่ย 555
เหลือแต่น้องสองพี่หนึ่ง ช่วยกันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..24/05/11 ตอนล่าสุด(บ่ายสาม) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 26-05-2011 15:53:09
ต่อค่ะ

                   "ทานอีกหน่อยสิฮะ"  เสียงคนตัวเล็กพูดขึ้นเบาๆด้วยสีหน้ารบเร้า

                   "อิ่มแล้วจริงๆครับ" คนที่นอนอยู่บนเตียงส่ายหน้าช้าๆพร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า
 
                   "................." คนตัวเล็กค้อนคนตัวสูงก่อนที่จะหันกลับไปเพื่อเอาชามข้าวต้มวางลงบนโต๊ะข้างเตียง แล้วหยิบแก้วน้ำพร้อมกับถ้วยยาส่งให้แทน คนบนเตียงรับมาแล้วจัดการทานยาและน้ำเรียบร้อยก่อนที่จะส่งคืนให้คนตัวเล็ก 
               
                   "ทานข้าวก็ไม่หมด  แล้วจะเอาแรงที่ไหนไปฝึกเดินล่ะ" คนตัวเล็กบ่นเบาๆด้วยอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อย ไม่ได้ดั่งใจที่คนป่วยยังดูไม่ค่อยเจริญอาหาร

                   "มันไม่ได้อยู่ที่ของกินครับ  มันอยู่ที่คนไปคอยให้กำลังใจต่างหาก" คนป่วยแย้งเบาๆ

                   "ก็สองต้องไปโรงเรียนนี่นา....อ๊ะ!"  พอนึกขึ้นได้เจ้าของเสียงอ่อยๆก็รีบหยิบนาฬิกาขึ้นมาดู เวลาบอกว่าตอนนี้เจ็ดโมงครึ่งแล้ว  เหลือเวลาอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพื่อเดินทางไปโรงเรียน  และแน่นอน คงไม่พ้นการโดยสารรถแท็กซี่

                   "จะไปแล้วเหรอครับ" คนป่วยรีบทักขึ้น รู้สึกเสียดายนิดๆที่ต้องแยกกับเด็กหนุ่มในชุดนักเีีรียนตรงหน้า

                   "ชู่!!!...เบาสิฮะ  คุณแม่หลับอยู่นะฮะ"  สองกลัวว่าเสียงคนป่วยจะไปรบกวนการพักผ่อนของหญิงสูงวัยที่นอนหลับอยู่บนโซฟา เธอคงเหนื่อยมากเพราะต้องนอนเฝ้าลูกชายสุดที่รักทั้งคืน  แต่ตั้งแต่ลูกชายยอมเข้ารับการบำบัด เธอก็ดูมีความสุขมากขึ้น  เรียกว่ามีแรงใจดีขึ้น ถึงแม้จะเหนื่อยกาย

                   "ขอโทษครับ"คนป่วยยิ้มบางๆให้เด็กหนุ่มที่ทำหน้าดุตาโตอยู่ตรงหน้า  ใบหน้าแบบนั้นช่างน่ารักเหลือเกิน

                   "เอาไว้ตอนเย็นๆสองมาหาพี่หนึ่งใหม่นะฮะ.." คนตัวเล็กยิ้มให้  ในมือถือกระเป๋านักเรียนเรียบร้อย

                   "ก่อนไปขอกำลังใจหน่อยครับ" หนึ่งกระซิบเบาๆพร้อมกับสายตากรุ้มกริ่ม

                   สองยื่นมือข้างหนึ่งเข้าไปเกาะกุมมือใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าจริงใจ

                   "พี่หนึ่งสู้ๆนะฮะ พี่หนึ่งทำได้อยู่แล้ว  คุณพยาบาลบอกว่าพี่หนึ่งพัฒนาเร็วมาก  สองว่าพี่หนึ่งเดินได้แน่นอนฮะ " คนตัวเล็กยิ้มกว้าง

                   "ไม่ใช่แบบนั้นซะหน่อย.." คนป่วยบ่นอุบ

                   "อ้าวว..ไม่ใช่แล้วจะให้ทำไงล่ะ" คนตัวเล็กงงกับความเอาแต่ใจของคนป่วยบนเตียง

                   "ตรงนี้ครับ.." หนึ่งทำแก้มป่องแล้วเอียงขึ้น  เขาชี้ลงตรงแก้มให้คนตัวเล็กรู้ว่าต้องทำยังไง

                   "บ้าเหรอ พี่หนึ่ง..คุณแม่อยู่นะ"  สองรีบดุ

                   "ท่านหลับแล้วครับ  เพิ่งหลับไปก่อนที่สองจะมานี่เอง  ท่านรู้อยู่แล้วว่าพี่มีคนป้อนข้าวให้ทุกเช้า" หนึ่งพูดอมยิ้ม

                   "พี่หนึ่งเล่าอะไรให้คุณแม่ฟังบ้างเนี่ย"  สองแก้มแดง แต่ยังพยายามทำสายตาดุ

                   "ทุกอย่างครับ...เอ้า  เร็วเข้า  เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ มาเร็วครับ  ขอกำลังใจหน่อย"

                   เด็กหนุ่มค่อยๆก้มลองเอาริมฝีกปากจรดลงที่แก้มสากของคนป่วย  นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้กลิ่นผิวเนื้อสากๆแบบนี้  คิดถึง  คิดถึงกลิ่นแบบนี้เหลือเกิน  เด็กหนุ่มสูดหายใจลึกๆก่อนจะผละออกจากแก้มสากของคนป่วยด้วยใบหน้าแดงก่ำ

                   "พอใจยัง"

                   "กำลังใจเต็มเปี่ยมครับ...วันนี้กลับมาตอนเย็นเดี๋ยวเดินให้ดูเลย หึหึ" หนึ่งพูดด้วยสายตาขี้เล่น

                   "อย่าขี้โม้...พี่หนึ่งอย่าหักโหมนะ เค้าบอกว่ามันต้องค่อยเป็นค่อยไป" เด็กหนุ่มรีบบอกด้วยความเป็นห่วง

                   "ครับ.."

                   "งั้นสองไปนะ เจอกันตอนเย็นนะฮะ"

                   "ครับ..พี่รักสองนะ รักมากด้วย"

                   "พอแล้ว..รู้แล้วล่ะ  ไปล่ะ"  เด็กหนุ่มรีบเดินไปที่ประตูด้วยความเขินอาย  ก่อนที่จะค่อยๆเปิดประตูออกไปแล้วปิดลงอย่างเบามือ

                   หนึ่งยิ้มให้กลับร่างของคนตัวเล็กที่หายออกไปหลังจากบานประตูที่ปิดลง  ทั้งมีกำลังใจ และความสุข  เขาเอื้อมมือไปหยิบหนังสือพิมม์ขึ้นมาอ่าน  แต่ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงของใครคนหนึ่ง ที่เข้าใจว่าหลับไปแล้ว

                   "ลูกแม่ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว.."  ตอนนี้คนที่เคยนอนอยู่ลุกขึ้นมานั่งตอนไหน  หนึ่งเองก็ไม่แน่ใจ

                   "อ้าวว คุณแม่ไม่ได้หลับอยู่เหรอครับ"

                   "หลับจ้ะ...แต่เพิ่งตื่นตอนน้องออกไปเมื่อกี๊  แล้วก็ทันได้ยินลูกแม่กำลังแกล้งน้องเค้า"

                   "อ้าวววว"  หนึ่งลากเสียงแหบยาววว  ก่อนที่จะกล่าวกับมารดาต่อไปว่า
 
                   "ผมแกล้งน้องเค้าตอนไหนครับ  ผมว่าผมสุภาพสุดๆแล้วนะเนี่ย"

                   "อย่าคิดว่าแม่ไม่ทันนะ  ตาหนึ่งจอมเจ้าเล่ห์ มีการขอกำลังใจซะด้วยนะ" ผู้เป็นมารดารีบทำตาดุ
                 
                   "ก็....นิดหน่อยครับ" หนึ่งยิ้มแห้งๆเพราะความรู้ทันของมารดา

                   "เกรงว่าถ้าแม่ไม่ได้อยู่ด้วยคงจะไม่นิดหน่อย" เธอแกล้งส่งสายตาดุๆให้แก่ลูกชายตัวดี 
                   หนึ่งยิ้มแห้งๆอีกครั้งก่อนจะเอาหนังสือพิมม์ขึ้นมาอ่านบังหน้าแก้เก้อคนสูงวัย  ผู้เป็นมารดาก็ได้แต่ยิ้มด้วยความเอ็นดู ใช่แล้ว..ลูกชายตัวดีของเธอคนนี้กลับมาเป็นตาหนึ่งอย่างที่เคยเป็นเสียที  จริงๆแล้วเธอหมายถึงตาหนึ่งที่พูดเก่ง ตาหนึ่งที่อารมณ์ดี  ตาที่น่ารักช่างประจบแสนเจ้าเล่ห์  ไม่ใช่คุณหนึ่งที่จมปลักอยู่แต่กับงาน นานๆถึงจะกลับบ้านที หรือไม่ก็โทรหาทีนึง คุณหนึ่งที่เคร่งเครียดและคิดมากในทุกๆเรื่อง  คุณหนึ่งที่ไม่ค่อยเปิดใจกับใครง่ายๆ ตอนนี้ลูกชายของเธอดูดีขึ้นมาก  ไม่ใช่ที่ร่างกาย ไม่ใช่ที่ใบหน้าซูบซีดเหมือนคนป่วย  แต่เป็นที่ดวงตา ดวงตาซึ่งสะท้อนความสดใส และความมุ่งมั่นเข้มแข็ง  ดวงตาที่เป็นประกาย  ใช่แล้วเธอพอใจหนึ่งคนนี้  เธอมีความสุขที่ได้เห็นหนึ่งคนนี้อีกครั้ง

                   "วันนี้พยายาลจะมารับลูกไปฝึกกายภาพตอนไหนเหรอตาหนึ่ง"  เธอเอ่ยถามลูกชายของเธอ

                   "ตอนบ่ายครับ.."  หนึ่งยิ้มให้ก่อนตอบมารดา

                   "อ้อ จ้ะ...  แล้วเป็นยังไงบ้าง  หนึ่งรู้สึกอย่างไรบ้าง"

                   "ก็...บอกไม่ถูกครับ  ตอนนี้มันเริ่มเจ็บ  คือฝืนมากๆแล้วจะเจ็บ  พยาบาลบอกว่าต้องทนครับ แต่ค่อยเป็นค่อยไป  ตอนนี้ยังใช่แรงที่แขนช่วยอยู่ครับ" 

                   "อืม..ถ้ารู้สึกได้ก็แสดงว่า น่าจะดีขึ้นใช่ไหมลูก"

                   "ครับ...ผมก็คิดว่าอย่างนั้น"

                   "อย่าท้อนะลูกเดี๋ยวเย็นๆพี่เค้าก็มาเยี่ยม  ถ้าเค้าว่างจากดูคนไข้น่ะ"

                   "ครับ  เมื่อวานพี่นุชก็มาครับ  ตอนคุณแม่ลงไปทานข้าว"  หนึ่งบอกข่าวคราวพี่สาวแก่มารดา

                   "อ้อจ้่ะ  แม่เจอเค้าแล้วล่ะ  เดี๋ยวสิ้นเดือนพ่อเค้าก็ว่างมาเยี่ยมลูกได้  รวมทั้งพี่ชายของลูกด้วย"

                   "พี่นนท์จะว่างแล้วเหรอครับ  ได้ข่าวว่าคนนี้เค้าเป็นผู้บริหารแล้ว งานรัดตัวมาก" หนึ่งกล่าวด้วยความตื่นเต้น จริงๆแล้วพี่ชายคนนี้สนิทกันมาก  แต่พอต่างคนต่างทำงานก็ห่างๆกันไป

                   "จ้ะ" เธอตอบบุตรชายพร้อมรอยยิ้มพิมม์ใจ

                   "แม่ครับ...คือ..จริงๆหนึ่งอยู่คนเดียวได้นะครับ  ไม่มีปัญหาหรอกครับ  ตอนกลางคืนคุณแม่กลับไปพักผ่อนที่บ้านจะดีกว่า หนึ่งกลัวคุณแม่เหนื่อย"  คนป่วยพูดด้วยความเป็นห่วง

                   "ได้ยังไงล่ะหนึ่ง..แม่ไม่เหนื่อยหรอกลูก  แล้วหนึ่งคิดเหรอ ว่าหนึ่งจะได้อยู่คนเดียวตอนกลางคืนน่ะ หนึ่งคิดว่าสองจะยอมเหรอ เดี๋ยวน้องก็ต้องมานอนอยู่ด้วยหรอก  น้องยังเรียนอยู่นะ  เค้าไม่ต้องทำการบ้านเหรอหนึ่ง  แค่เค้ามาหาหนึ่งทุกเช้าเย็นแม่ก็เกรงใจมากแล้วนะหนึ่ง ยิ่งกลับบ้านดึกแม่ก็เป็นห่วง"

                   "คุณแม่ก็อย่าบอกสองสิครับ  สองไม่รู้หรอกครับ  แต่..เอ๊ะ  นี่คุณแม่ห่วงน้องสองเหรอครับ"  หนึ่งถามมารดาด้วยสีหน้าตื่นเต้น  ไม่นึกว่าเพียงช่วงเวลาไม่นานที่มีสองเข้ามาช่วยดูแลเขา  มารดาของเขาจะเปลี่ยนใจหันมารักใคร่ใยดีเจ้าตัวเล็กมากขึ้น

                   "ห่วงสิ  ถึงน้องจะเป็นผู้ชายนะหนึ่ง แต่สมัยนี้กลับบ้านมืดๆก็อันตรายนะ โจรผู้ร้ายก็ไม่ใช่จะน้อยๆ นี่แม่เห็นหนึ่งไม่ได้คัดค้านนะ แม่เลยปล่อยให้เค้าอยู่ดึกๆ  คิดถึงว่าถ้าเป็นลูกเรา ก็ไม่อยากให้ลูกตัวเองต้องมาเสี่ยงภัยรู้มั้ยล่ะ"

                   "ก็ใช่ว่าผมจะชอบนะครับ  แต่รายนั้นห้ามยากครับ  ไม่งั้นเดี๋ยวก็ได้ขนของมานอนเฝ้าหนึ่งทุกคืน  หนึ่งกลัวน้องเหนื่อยเกิน  ช่วงหลังมานี่น้องดูผอมไปมาก ดีที่แผลตอนรถชนหายหมดแล้ว"  พอพูดถึงตรงนี้เสียงของคนป่วยก็เริ่มสั่นเครือ
 
                   "ถือว่าฟาดเคราะห์ไปนะลูก  ทั้งหนึ่งและน้องนั่นล่ะ  เรื่องมันผ่านไปแล้ว ลืมๆมันไปเถอะนะ" หญิงสูงวัยบอกลูกชายด้วยความหวังดีและเป็นห่วงอย่างสุดแสน

                   "ครับ  ยังไงก็ขอบคุณคุณแม่แทนน้องด้วยนะครับ  ที่คุณแม่เป็นห่วงน้องขนาดนั้น  ขอบคุณนะครับที่คุณแม่ยอมเปิดใจให้เราสองคน ขอบคุณมากๆครับ" หนึ่งบอกมารดาอย่างจริงใจ  ก่อนจะวางหนังสือพิมม์ลงแล้วยกมือขึ้นพนมไว้  พอผู้เป็นแม่เห็นดังนั้นก็ต้องรีบลุกขึ้นไปรับไหว้ของลูกชาย  เธอรัีบไว้ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ  ไม่นึกว่าเพียงแค่การที่เธอยอมปรับเปลี่ยนความคิดของเธอเสียใหม่  จะทำให้เธอได้ลูกชายที่แสนดีคนนี้กลับมา  ซ้ำยังได้รู้จักเด็กชายที่น่ารักอีกคน  คนที่รักลูกชายของเธอเหมือนที่เธอรัก  คนที่รักคนป่วยในอ้อมกอดของเธอตอนนี้อย่างจริงใจ


                   

                 

 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 26-05-2011 17:14:45
ลุ้นให้ happy ending ซะทีเน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 26-05-2011 17:44:29
 :3123:เอากำลังใจมาฝาก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 26-05-2011 18:35:51
คุณแม่โอเคแล้วก็ดีใจด้วยเลย น้องจะได้มีความสุขซะที  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 26-05-2011 19:51:32
 :กอด1:คุณแม่คนดีที่หนึ่งเลยยย...
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 26-05-2011 20:09:29
น่ารักกกกกกกกกกที่สุด :impress2:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 26-05-2011 21:09:32
น่ารักค่ะ แต่...

NC อยู่ไหนอ่ะ อยู่หนายยยยยยยยยยย  :fire: :fire:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 26-05-2011 21:32:46
อ่านแล้วค่อยยิ้มออกได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(3:47น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 26-05-2011 23:02:28
ต่อค่ะ 

                  ผ่านไปหลายสัปดาห์แล้ว  ที่สองต้องเดินทางไปๆมาๆระหว่างสถานที่3แห่ง  สองไปโรงเรียนตอนกลางวัน ส่วนตอนเช้าและตอนเย็นอยู่ที่โรงพยาบาล พอตกค่ำก็กลับมานอนที่คอนโด  คนตัวเล็กเดินทางแบบนี้จนเริ่มจะรู้สึกชินแล้ว  ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เหนื่อยกายแต่สองไม่รู้สึกเหนื่อยใจเลยสักนิด  เด็กหนุ่มมีความสุขกับสิ่งที่ตนเองทำ  ได้เรียนหนังสือ ได้ดูแลคนที่ตนเองรัก  ได้รู้จักกับครอบครัวของคนรัก ตอนนี้เขาเริ่มสนิทกับพี่สาวและมารดาของหนึ่งแล้ว จะเหลือก็แต่พี่ชายกับบิดาของคนตัวสูง  ที่ยังไม่ได้มีโอกาสเจอกับสอง  เพราะสองคนนั้นมีภาระหน้าที่การงานล้นมือ เนื่องจากทางบ้านของหนึ่งมีธุรกิจของครอบครัวที่ต้องดูแล 
                  แต่สิ่งที่ทำให้คนตัวเล็กมีกำลังใจดี ก็คงเป็นการพัฒนาการของคนตัวสูง  ตอนนี้หนึ่งมีสภาพดีขึ้นเป็นลำดับ ร่างกายที่ดูทรุดโทรมก็ดูดีกลับมาสมส่วน เพราะคนป่วยเจริญอาหาร  เนื่องจากมีคนตัวเล็กคอยป้อนข้าวป้อนน้ำอยู่ตลอดเวลา ยกเว้นช่วงที่สองต้องไปโรงเรียน แต่ถึงกระนั้น  ถ้าหนึ่งทานไม่หมด ก็ยังคงมีคุณแม่ของหนึ่งซึ่งจะคอยฟ้องคนตัวเล็กว่า ลูกชายจอมดื้อของเธอทานข้าวไม่หมด และหน้าที่ของเด็กหนุ่มก็คือขู่คนป่วยว่าถ้าไม่ทานให้หมด ครั้งหลังจะให้ป้อนเอง 
                  ตอนนี้คนตัวสูงสามารถลงน้ำหนักที่เท้าได้มากขึ้น หนึ่งยังคงต้องใช้วีลแชร์ และไม้ค้ำยัน แต่เขาสามารถยืนสองขาได้เมื่ออยู่ในขั้นตอนการบำบัด  และสามารถก้าวออกในระยะสั้นๆ  แม้มันจะเป็นเพียงแค่ไม่กี่ก้าว แต่แค่นั้นก็ทำให้หัวใจดวงเล็กๆของสองพองโตขึ้น
                  "สองเอาของมาครบแล้วนะครับ" คนป่วยถามคนตัวเล็ก ขณะที่กำลังมองคู่สนทนาค่อยๆรื้อของในกระเป๋าเป้

                  "ฮะ  ครบฮะ สองเอารายงานมาทำด้วย" ว่าแล้วก็ยิ้มหวานให้คนป่วยหนึ่งที

                  "โชคดีจังที่พี่ได้สองนะ  อย่างน้อยๆช่วงวันเสาร์อาทิตย์ คุณแม่ก็ยังได้กลับไปนอนที่บ้านบ้าง  เห็นท่านบ่นปวดหลัง คงต้องนอนโซฟานานๆ บางทีมันก็ไม่ดี"  หนึ่งพูดด้วยความกังวล

                  "เอางี้สิฮะ เดี๋ยววันธรรมดา บางวันก็ให้สองค้างที่นี่ก็ได้  คุณแม่จะได้กลับไปนอนที่บ้านได้มากขึ้น"

                  "หึหึ  ท่านไม่ยอมหรอกครับ  ท่านอยากให้สองได้พักผ่อน อ่านหนังสือ ท่านรู้ว่าถ้าอยู่ที่นี่สองก็จะเอาแต่นั่งเฝ้าพี่จนไม่ทำอย่างอื่น"

                  "แหม..รู้ได้ไงฮะ  เดี๋ยวพอพี่หนึ่งหลับ สองก็ทำรายงานไงฮะ"

                  "ครับ..พี่แค่..กลัวสองเหนื่อยน่ะ"

                  "ไม่เป็นไรฮะ  สองเต็มใจ"

                  "ขอบคุณครับ"  หนึ่งยิ้มให้คนตัวเล็ก
                 
                  "ฮะ...เอ้อ...ได้ข่าวว่าสองสามวันก่อน คุณพ่อกับพี่ชายพี่หนึ่งมาเหรอฮะ  เป็นไงบ้างฮะ" สองถามขึ้น

                  "ครับ คุณพ่อท่านมาได้สักพักก็ต้องออกไปแล้วครัับ ส่วนพี่ชายพี่ก็ตามไปที่หลัง  ก็คุยกันเรื่องเก่าๆน่ะ  ราบรื่นดีครับ"  หนึ่งตอบคนตัวเล็ก

                  "เหรอฮะ  ดีจังเลยนะ  แล้วพรุ่งนี้พี่หนึ่งต้องทำกายภาพรึเปล่า  แล้วคุณแม่จะมากี่โมงฮะ"

                  "ทำครับ..ตอนบ่ายๆน่ะ  เดี๋ยวคุณแม่มาหาตอนเช้าๆ แล้วตอนเย็นก็กลับ  คืนนี้สองก็นอนกับพี่ แล้วก็คืนพรุ่งนี้ด้วย" หนึ่งพูดยิ้มๆ

                  "ฮะ..."  คนตัวเล็กรับคำ  สองอาบน้ำมาจากที่คอนโดเรียบร้อยแล้ว  เหลือแต่จัดข้าวของบางส่วน และกว่าจะทำอะไรเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบสองทุ่ม  คนตัวเล็กจึงหยิบรายงานออกมากางบนโต๊ะใกล้โซฟาเพื่อเตรียมเขียนต่อ  แต่ก็ไม่วายเหลือบมองคนป่วยที่ยังอ่านหนังสืออยู่บนเตียง

                  "........." เด็กหนุ่มมองคนป่วยตาแป๋ว

                  "สองมีอะไรครับ  มองพี่ทำไมครับ"  หนึ่งซึ่งรู้สึกว่ากำลังถูกคนตัวเล็กมอง ได้ถามขึ้นด้วยความสงสัย

                  "สองทุ่มแล้วนะฮะ  นอนได้แล้วล่ะ  พี่หนึ่งอย่านอนดึกสิฮะ ร่างกายต้องการการพักผ่อนนะ"

                  "เอ่อ...ครับๆ  นอนแล้วครับ " คนตัวสูงสุดที่จะต่อความด้วยจึงยอมปิดหนังสือ แล้ววางลงบนโต๊ะข้างๆแต่โดยดี
                  "ดีมากครับ  ว่าง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย" คนตัวเล็กอมยิ้มแก้มพอง

                  "ยังครับ  ก่อนนอนขอจุ๊บทีนึง  พี่ไม่อยากฝันร้าย" คนป่วยทำเสียงออดอ้อน

                  "............................."  คราวนี้กลายเป็นคนตัวเล็กที่ไม่อยากจะต่อความด้วย เด็กหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหาเด็กตัวโข่งที่กลัวฝันร้าย

                  "ตรงนี้ครับ.."  หนึ่งแกล้งเอียงแก้มข้างขวาให้คนตัวเล็ก  ก่อนที่จะพองแก้มให้ป่อง
 
                  สองก้มลงตั้งใจว่าจะหอมฟอดใหญ่ๆ  เพราะอยากให้รางวัลที่คนป่วยพยายามทนความเจ็บปวดจนสามารถยืนได้แล้ว  แต่ก่อนที่ริมฝีปากบางๆจะจรดลงบนแก้มสากเพียงชั่ววินาที  คนป่วยก็หันใบหน้ากลับมาพอที่จะทำให้ริมฝีปากบรรจบกัน  เด็กหนุ่มตาโตตั้งใจจะออกเสียงดุคนตัวโตจอมเจ้าเล่ห์  ก็กลับกลายเป็นว่าเปิดโอกาสให้ใครบางคนสนิทแนบแน่นริมฝีปากมากขึ้น สองรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองถูกประคองด้วยฝ่ามือใหญ่อบอุ่น ลิ้นร้อนๆของเจ้าของฝ่ามือนั้นกำลังชอนไชเข้ามาสำรวจลิ้นชุ่มฉ่ำที่ถอยหนี เด็กหนุ่มครางอื้ออึงอยู่ในลำคอ คนตัวเล็กรีบผละออกจากริมฝีปากร้อนอันตรายด้วยรู้สึกว่าถ้าปล่อยไว้นานกว่านี้  แขนทั้งสองข้างที่ยันขอบเตียงของคนป่วยเอาไว้คงหมดแรงเป็นแน่  เด็กหนุ่มรีบยืดตัวขึ้น เอามือทั้งสองข้างปิดปากไว้ ตอนนี้สองรู้สึกร้อนๆบนใบหน้า มันเป็นความร้อนเพราะเลือดกำลังสูบฉีด  คนตัวเล็กหอบหายใจฮักๆ ดวงตาโตค้อนให้กับดวงตาคมขี้เล่น  คนๆนั้นนอนสบายอารมณ์อยู่บนเตียง  สองพูดขึ้นทั้งๆที่มือยังปิดปากของตัวเองไว้

                 "พี่หนึ่งอ่ะ  อย่างนี้เค้าเรียกว่าได้คืบเอาศอกนะ  สองไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นซะหน่อย"

                 "หึหึ  ก็พี่นอนคนเดียวนี่นา  พี่กลัวฝันร้าย พี่ต้องการสิ่งที่ช่วยทำให้หลับได้สนิท"

                 "เจ้าเล่ห์น่ะสิไม่ว่า  เดี๋ยวนี้เอาใหญ่แล้วนะฮะ  ลูกเล่นเยอะนะ"

                 "55+ลูกเล่นอะไรล่ะครับ  พี่ก็แค่...อยากจูบคนรักก่อนนอน ไม่ได้เหรอครับ"

                 "ก็พี่หนึ่งอ่ะ..ชอบทำให้สองตกใจ" คนตัวเล็กแก้มแดง แต่ยังบ่นอุบ

                 "55+ โอ๋ๆ  พี่ขอโทษครับ  อย่าโกรธนะคนดี  วันหลังถ้าอยากได้จะบอกตรงๆนะครับ"

                 "ฮื่อๆ  นอนๆ นอนได้แล้วฮะ ไม่คุยแล้ว"

                 "ครับๆ นอนครับ  งั้น..พี่ขออีกทีนะ"

                 "จะขออะไรอีกล่ะ  เมื่อกี้ก็ได้ไปแล้วนะ "

                 "แค่จุ๊บๆก็พอครับ  นะ  คนดี จุ๊บพี่ก่อนนอนหน่อยนะครับ"

                 "ฮื่อ~  เอ้า  หลับตาก่อนสิฮะ"  เด็กหนุ่มสั่งคนป่วย

                 หนึ่งค่อยๆหลับตาลง  ในความมืดมิด  เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นที่รดอยู่บนใบหน้า  จมูกได้กลิ่นแป้งเด็กที่คุ้นเคย ก่อนที่เขาจะรับรู้ได้ถึงริมฝีปากบางเบาบนแก้มทั้งสองข้าง  ก่อนที่จะไล่ลงแตะที่ปลายคางของเขา แล้วมาสิ้นสุดที่เปลือกตาทั้งด้านซ้ายและขวา สัมผัสนั้นช่างบางเบา แต่มันอ่อนหวานและหอมหวลราวกลีบกุหลาบที่ทาบทับลงมา  มันน่าหลงใหลและชวนฝัน  ลมหายใจของหนึ่งค่อยๆสม่ำเสมอ  ก่อนที่เขาจะเข้าสู่ห้วงนิทรา  หนึ่งก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยของใครบางคนกระซิบที่ข้างหูเบาๆว่า

                 "ฝันดีฮะ  พี่หนึ่งของผม"   






เหอๆ มีคนหาNC  ว่าจะเขียนซะหน่อย แต่สงสัยจะไม่ถึงอ่ะ ง่วงแล้วแล่ะ ไว้มาต่อนะ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม จุ๊บๆ  :L2:
               
                 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(10:56น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 26-05-2011 23:05:09
หวานจัง
ขอให้พี่หนึ่งหายเร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(10:56น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 27-05-2011 00:26:33
หวานซะ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(10:56น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 27-05-2011 00:37:16
รอ NC มา 3 รอบแล้ว

ตอนต่อไปมีปะ :o8:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(10:56น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 28-05-2011 23:03:52
อยากให้ทั้งสองคนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..26/05/11 ตอนล่าสุด(10:56น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 30-05-2011 20:39:41
ต่อค่ะ

                    เพียงชั่วเวลาแค่วันสองวัน  หนึ่งก็พัฒนาไปมาก  เขาสามารถก้าวเดินได้ในระยะทางที่ไกลขึ้น  ถึงแม้จะยังต้องใช้รถเข็นในตอนที่ต้องการเดินทางไปมาระหว่างตึกเพื่อเข้ารับการบำบัด แต่พออยู่ในห้องพักฟื้น เขาจะพยายามฝึกเดินโดยใช้ไม้ค้ำยันช่วย  และแน่นอนทุกย่างก้าวสั้นๆแต่มั่นคงนั้นจะมีคนตัวเล็กคอยประคับประคองและดูแลความปลอดภัยอยู่เสมอ

                    การฟื้นตัวที่ดีขึ้นตามลำดับแบบนี้  ทำให้คุณหมอเจ้าของไข้ของหนึ่งพอใจเป็นอย่างมาก ถึงกับออกปากว่าอีกไม่กี่สัปดาห์  หนึ่งก็คงกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว

                      เรื่องนี้สร้างความยินดีกันถ้วนหน้า  โดยเฉพาะมารดาของหนึ่ง  เธอจึงวางใจกับอาการของลูกชายมากขึ้น  ความหวังที่จะได้เห็นลูกคนนี้กลับมาเดินได้แบบปกติอีกครั้งจึงเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวอีกต่อไปแล้ว  ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเด็กชายตัวเล็กที่คอยเทียวไปเทียวมาดูแลลูกชายตัวโต จึงดีขึ้นเป็นลำดับเช่นกัน  มารดาของหนึ่งสนทนากับคนตัวเล็กมากขึ้น อีกทั้งยังรักใคร่เอ็นดูราวกับเป็นลูกชายอีกหนึ่งคน

                      “พรุ่งนี้คุณแม่จะมากี่โมงฮะ?”  คนตัวเล็กที่นั่งจัดกระเป๋าเป้ไปด้วยคอยดูคนที่ฝึกเดินไปด้วยเอ่ยถามขึ้น
 
                      “คุณแม่มาตอนสายๆครับ   อึ๊บ!!”คนฝึกเดินหันมาตอบ  ตอนนี้เริ่มรู้สึกเจ็บจนจะทนไม่ไหว เพราะเดินวนกลับไปกลับมาอยู่หลายนาที  ร่างสูงเริ่มลงน้ำหนักที่ไม้ค้ำยันมากขึ้น

                      “พักก่อนเถอะฮะ”  แค่นี้สองก็รู้แล้วว่าหนึ่งควรจะหยุด
                  
                    คนตัวสูงพยักหน้ารับรู้ ก่อนเดินกะโผลกกะเผลกด้วยไม้ค้ำยันไปหาเด็กตัวเล็กที่นั่งอยู่ตรงโซฟา  เขาเอาไม้ค้ำพิงไว้กับผนัง  ก่อนหย่อนกายลงนั่งข้างๆกับคนน่ารัก  แน่นอนสองลุกขึ้นพยุงร่างที่ใหญ่กว่าให้ได้นั่งลงอย่างปลอดภัย

                     “สองเตรียมของมาครบใช่ไหม?”  คนตัวสูงว่าพลางส่ายตามองเครื่องเขียนเครื่องเรียนที่กองอยู่บนโต๊ะ  คนตัวเล็กกำลังจัดกระเป๋าเป้  หนึ่งรู้ว่าพรุ่งนี้เช้าสองต้องรีบออกจากโรงพยาบาลเพื่อเดินทางไปโรงเรียนทันที

 
                     “ฮะ..ดีที่พรุ่งนี้สองแต่งพละ  เลยไม่ต้องห่วง  เสื้อผ้ายับนิดหน่อยสองใส่ได้”  คนตัวเล็กบอกยิ้มๆ

                     หนึ่งค่อยๆยกมือข้างหนึ่ง  เขาใช้หลังมือไล้ที่แก้มใสคนข้างๆเบาๆ   ผิวขาวเห็นเส้นเลือดฝาด  แต่ใบหน้าซูบไปอย่างเห็นได้ชัด  

                     “เหนื่อยมั้ยครับ  ที่ต้องดูแลพี่”  เสียงทุ้มๆถามด้วยความห่วงใย

                     “ไม่ฮะ...ดีใจมากกว่า  พี่หนึ่งเดินได้แล้ว”  คนตัวเล็กตอบแล้วยิ้มหวานๆให้
 
                     “ก็เพราะสองอยู่ช่วยเป็นกำลังใจให้พี่...ไม่มีสอง..พี่ก็ไม่รู้จะรักษาตัวเองไปทำไม”  คนตัวโตบอก

                     “อย่าพูดแบบนั้นดิ  พี่หนึ่งยังมีครอบครัวนะ  พี่นุชกับคุณแม่เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆนะฮะ  โดยเฉพาะคุณแม่  ท่านห่วงพี่หนึ่งมากนะ  พี่หนึ่งห้ามทำคุณแม่เสียใจนะฮะ”  คนตัวเล็กพูดก่อนค้อนให้คนข้างๆ

                     “พี่รู้ครับ   แต่..พอคิดว่าสองอาจรับพี่ไม่ได้  พี่ก็...หมดกำลังใจ”  คนพูดทำเสียงอ่อยๆ

                     “แต่สองก็ไม่ได้รังเกียจอะไรใช่ไหมครับ  สองรักพี่หนึ่งนะ  รักมากด้วย”  คนตัวเล็กรีบบอกสีหน้าจริงจังขึงขัง

                     “พี่ก็รักสองนะ  รักทุกอย่างที่เป็นของสอง  รักทั้งตัวรักทั้งหัวใจ”  สายตากรุ้มกริ่มส่งมาให้คนตัวเล็ก

                     “อื้อ..พอและ  ชักจะเลี่ยนอ่ะ”  คนตัวเล็กแก้เก้อ ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดจางๆ  พูดจบก็ก้มหน้างุดๆซ่อนความเขินอาย

                     “หึหึ”  อีกคนกลับหัวเราะ  ยังเอานิ้วไล้แก้มใสอย่างเอ็นดู

                     “พี่หนึ่ง..ดึกแล้วล่ะ  ไปฮะ  ไปนอนที่เตียง”  พอแอบเห็นนาฬิกาข้อมือที่ถอดวางไว้บนโต๊ะบอกเวลาว่าเกือบจะสี่ทุ่มแล้ว  เด็กตัวเล็กจึงรีบบอก

                     “อื้ม..ครับ”  คนตัวโตรับคำ แต่ยังไม่ยอมขยับ  สายตาคมมองที่ต้นคอขาวๆ  ก่อนไล่ไปถึงไหปลาร้าที่ตรงคอเสื้อยืด  ทั้งคิดถึง  ทั้งหลงใหล  อยากอยู่ใกล้  อยากแนบชิด..
 
                     “เอ้า..ลุกสิฮะ”  คนที่นั่งรอตั้งท่าจะช่วยพยุงรีบพูดเตือนเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังไม่ยอมขยับ

                     “ขอจูบทีนึงนะ” เสียงทุ้มต่ำขอกันซึ่งๆหน้า  นั่นกลับทำให้อีกคนต้องหน้าแดงไปถึงใบหูอย่างเห็นได้ชัด
 
                     “โห...ไม่ค่อยจะอ้อมค้อมเลยอ่ะ”  เด็กตัวเล็กพูดแก้เก้อ

                     “แล้วให้รึเปล่าล่ะ”  อีกคนถามเสียงนุ่ม  ดวงตาเชื่อม

                     “อื้อ..”  คนน่ารักยอมแต่โดยดี  ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้  แล้วปิดเปลือกตาลงเพราะไม่กล้ามองใบหน้าคมคายในระยะประชิด  ก็มันอายเหลือเกิน   ไม่ได้ใกล้ชิดแบบนี้มานานแล้ว

                     อีกคนยิ้มพอใจ  ก่อนจะประคองใบหน้านวลเอาไว้ในอุ้งมือ  ตั้งใจว่าจะประทับรีฝีปากเพื่อเก็บเกี่ยวความหวานตามที่เอ่ยปากขอ  แต่พอเห็นคอขาวๆ  ผิวเนื้อใสสะอาดตรงไหปลาร้าก็อดไม่ไหวที่จะเข้าไปแวะเวียนดอมดม  ลิ้นเรียวลอบแตะเบาๆ  สัมผัสแค่ผิวเผือนก็ทำให้คนถูกกระทำครางอือๆอยู่ในลำคอ  มือที่เล็กกว่าเกาะเกี่ยวบ่าหนาเอาไว้เพื่อยึดเป็นหลักไม่ให้ระทดระทวยไปกับสัมผัสนั้น   ริมฝีกปากบางของใบหน้าคมสันไล่เลี่ยอยู่ตรงซอกคอขาว  ก่อนจุมพิตเบาๆด้วยความคิดถึง  ไม่นึกว่าเพียงแค่ได้กลิ่นจางๆหอมๆของแป้งเด็กที่เคยชิน  กลับยิ่งทำให้ภายในพลุ่งพล่านขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะอดใจไม่ไหว ต้องทาบริมฝีปากลงไปตรงเนื้อขาวๆแล้วดูดเบาๆ  สุดท้ายกลับกลายเป็นว่า  เสียเวลาท่องเที่ยววนเวียนอยู่ตรงนั้นได้สักพักก็ต้องหักใจ  กลีบปากสีชมพูยังอ้าออกเล็กน้อยเพื่อผ่อนลมออกมาระบายความรู้สึกวาบหวามที่ถูกหยิบยื่นให้  ริมฝีปากที่ได้สัมผัสรสหวานของผิวเนื้อสะอาดเมื่อครู่ก็รีบทาบทับริมฝีปากชมพูนั้น  ลิ้นเรียวแตะเบาๆเป็นเชิงขอเข้าไปทักทาย  ก่อนได้รับอนุญาตให้เข้าไปสัมผัสแนบแน่น  รสหวานซาบซ่านชุ่มฉ่ำ  เหมือนได้ดื่มดำบรั่นดีชั้นเลิศ  ความชื้นแฉะทำให้เกิดเสียงบางอย่างขึ้น  นั่นไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญเลยแม้แต่น้อย  แต่มันเป็นเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่ช่วยเติมให้ไฟเสน่หาลุกลามโหมกระหน่ำ...






ค่อยเป็นค่อยไปนะ  แล้วเค้าจะมาต่อ

ขอบคุณทุกคอมเม้นมากๆ  ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-05-2011 20:43:19
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 30-05-2011 20:50:40
 :sad4:สั้นอะ

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 30-05-2011 21:24:42
 :serius2: :z1: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 31-05-2011 08:36:48
น้องสอง ดูแลพี่หนึ่งดีจัง จะได้หายไวไวเนอะ
ตอนนี้หวานกันซ๊า มาม่าไม่เอาแล้วเด้อ แคนแคน 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 31-05-2011 09:41:43
 :a5: :a5:

มาต่อเร็วๆๆ น๊า คนอ่านรออยู่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..30/05/11 ตอนล่าสุด(8:33น.) ของวันนี้..NC18++
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 31-05-2011 11:40:39
ต่อค่ะ  เอิ้กๆๆๆ :haun4:(อันตรายไปมั้ย...ที่เขียนNCฉากเป็งโรงพยาบาลอ่ะ)

                
                  "พะ..พอก่อน"  คนตัวเล็กขืนตัวไว้  ก่อนผลักอกหนาออกเบาๆ

                  อีกคนกลับขบกรามอย่างห้ามใจไว้  แล้วถอนหายใจแรงๆอย่างเสียดายสุดแสน  กล้ามเนื้อหน้าท้องหดเกร็งเพราะอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงไปแล้ว  สายตาคมแต่หวานเชื่อมยังจับจ้องหน้าผากมนแล้วสบกับสายตาหวานที่อ่อนเชื่อมไม่แพ้กัน  ดวงหน้าใสแดงก่ำ คนตัวเล็กหอบหายใจฮักๆเอาอากาศเข้าปอด  ดางตาหวานคลอด้วยน้ำใส

                  จมูกโด่งยังคลอเคลียใบหน้าชวนหลงใหล  จะให้หักใจถอยห่างออกก็สายเสียแล้ว  ร่างกายช่วงล่างกำลังประกาศก้องถึงความต้องการบางอย่าง  อีกคนก็เช่นกัน...ความใกล้ชิดแบบนี้อันตรายเหลือเกิน  

                  "พี่หนึ่งอ่ะ....ตัวเองไม่สบายนะ"  ตัวเล็กทุบอกหนาเบาๆพอเป็นพิธี  แอบไม่พอใจที่คนตัวโตเก็บอารมณ์พิสวาทไม่ได้

                  "ไม่ไหว"  คนตัวโตจนแต้ม  ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง  ห่างหายไปนาน  เหมือนบางสิ่งที่เก็บอั้นไว้จวนเจียนใกล้ระเบิดออกมาเต็มที    อะไรบางอย่างที่ได้รับไม่เคยขาดนั้น  ร่างกายกำลังเรียกร้อง  หัวใจถวิลหา  นานเท่าไหร่แล้วที่ต้องทนเอาไว้  เพราะสภาพที่ไม่เอื้ออำนวย  ตอนนี้ได้มีโอกาสอีกครั้ง  ตั้งใจว่าจะรออีกหน่อย  ไม่นึกว่าแค่ได้สัมผัสเพียงแผ่วเบา กลับยิ่งทำให้ยากที่จะหยุดยั้ง

                  "แล้วจะทำไงล่ะทีเนี้ย.." เด็กตัวเล็กแอบฮึดฮัดไม่พอใจ  ทั้งๆที่ดวงหน้ายังแดงก่ำ หอบหายใจฮั่กๆ  ขนลุกตั้งชัน วาบหวามกับดวงหน้าคมคายที่ยังคลอเคลียเหมือนขอความร่วมมือ

                  เด็กหนุ่มก้มลง  แล้วสายตาก็ทำให้ประจักษ์  บางสิ่งกำลังขยับขยายอยู่ภายใต้เนื้อผ้าฝ้ายของกางเกงคนป่วย   เพียงแค่มองเห็นก็ต้องแอบห่อไหล่  จะทำยังล่ะทีนี้ คนตัวโตหาเรื่องให้ซะแล้ว  แต่จะให้ปล่อยไว้แบบนั้นก็ไม่ได้ซะด้วย  ตัดใจรีบทำให้มันจบๆไปเลยดีกว่า  คนป่วยจอมซนจะได้พักผ่อนเสียที

                  "ช่วยพี่หน่อยนะ..คนดี"  เสียงทุ้มแหบพล่ากระซิบข้างหู  ก่อนจะไล้ลิ้นเบาๆที่ใบหูขาวๆอมชมพู  คนตัวเล็กรีบย่นคอ  ก่อนตัดสินใจลุกขึ้นแล้วลงไปนั่งอยู่ตรงระหว่างขาของคนป่วย  แล้วช่วยปลดเปลื้องกางเกงเนื้อผ้าฝ้ายของโรงพยาบาล  บางสิ่งที่ขยายตัวเต็มที่ก็ถูกปลดปล่อยออกมาให้ได้สัมผัสอากาศเย็นภายในห้อง  

                  คนตัวเล็กนั่งนิ่งอยู่สักพัก  แอบทำใจเพราะไม่ได้ทำอะไรแบบนี้เสียนาน ไม่รู้ว่าตัวเองจะยังสามารถทำให้คนตัวโตพอใจได้หรือไม่ แล้วก็ต้องตัดใจ รีบลบความประหม่าออกไป เอื้อมมือจับส่วนนั้นไว้ ก่อนยื่นใบหน้าเข้าใกล้แล้วไล้ลิ้นแผ่วเบา  รอยแยกเริ่มซึมไปด้วยน้ำใสๆ  มันทำให้ลื่นมือมากขึ้น  ฝ่ามือใหญ่นวดขมับให้เบาๆก่อนไล้นิ้วที่ต้นคอขาวๆ  กลีบปากสีชมพูเปล่งเสียงครางเล็กน้อย แล้วอ้าออกเพื่อครอบครองความแข็งแกร่งไว้  มือเล็กก็ช่วยกันทำงาน  ทั้งปากทั้งลิ้น ต่างช่วยกันทำหน้าที่  ซักพักเสียงครางหนักๆของคนด้านบนก็ดังออกมาให้ได้ยิน  วินาทีนี้เหมือนได้รับความมั่นใจ  คนตัวเล็กจึงกล้าออกแรงมากขึ้น  เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า  ฝ่ามืออบอุ่นยังวางอยู่บนศรีษะทุย เดี๋ยวก็เลื่อนลงมาช่วยนวดขมับให้เบาๆ  เสียงครางแหบทุ้มทำให้อารมณ์วาบหวามมากขึ้น  มากพอที่ทำให้ใครบางคนลุกไหม้  รู้สึกเกร็งหน้าท้อง ตรงนั้นของตัวเองก็เริ่มชื้นแฉะเช่นกัน  เสียงครางแผ่วๆดังอยู่ในลำคอขาวๆ ทั้งๆที่ยังกลืนกินสิ่งนั้นไว้เต็มช่องปาก

                 "หมับ!!"

                 คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนมือแกร่งจับร่างตัวเองให้ลุกขึ้น  ก่อนที่จะถูกพาขึ้นไปนั่งบนตัก ความแข็งแร่งกำลังเสียดสีกับของตังเองที่กำลังคับอยู่ในเป้ากางเกง

                 "อื้อ"  คนตัวเล็กครางเบาๆ ใบหน้าแดงก่ำ  รีบเอามือขืนหน้าอกหนาไว้

                 "แบบนี้ดีกว่า"  สิ้นเสียงลิ้นเรียวอุ่นๆก็ไล้เบาๆแถวใบหูและซอกคอขาว  

                 คนตัวเล็กกำลังนั่งคร่อมร่างสูง  เข่าทั้งสองข้างถูกอ้าออกกางไว้บนโซฟาหนานุ่ม  ฝ่ามือเล็กของสองจับที่บ่าหนาเพื่อเอาเป็นหลักยึด   เชือกที่กางเกงผ้ายืดถูกคลายออก  ก่อนถูกฝ่ามือหนาจับถอดออกไปทั้งกางเกงชั้นนอกและชั้นในอย่างยากลำบาก  เพียงไม่กี่นาทีขาอ่อนขาวๆก็ปรากฏแก่สายตาคม  เสียงครางต่ำๆในลำคอแข็งแรงบ่งบอกความพอใจ  ฝ่ามืออบอุ่นช่วยคนตัวเล็กที่เกาะบ่าหนาไว้  ฝ่ามือใหญ่จับส่วนนั้นรูดขึ้นลงช้าๆ  ก่อนใช่้นิ้วโป้งกดลงเบาๆที่ส่วนยอด  มือบางจิกเล็บลงตรงบ่าหนาเพื่อผ่อนคลายความวาบหวาม  เพียงไม่นานตรงบริเวณนั้นก็ชื้นแฉะไปด้วยน้ำใสๆมากมายที่เอ่อล้นออกมา  มากพอที่จะทำใ้ห้ช่องทางที่เลยลงไปด้ายหลังลื่นมือ  นิ้วแข็งแรงค่อยๆไล้วนนวดเบาๆ  ความลื่นทำให้ง่ายมากขึ้น  นิ้วแข็งแรงค่อยๆดันเข้าไปในรอยแยก  ความลื่นทำให้สามารถดันเข้าไปได้จนสุดในครั้งเดียว

                 "อย่าเกร็งนะ"  เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ก่อนใช้ลิ้นเรียวลากไล้แผ่วเบาเพื่อดึงดูดความสนใจ  

                 คนที่นั่งชั่นเข่าคร่อมคนตัวโตพยักหน้าน้อยๆ สูดหายใจเข้าออกช้าๆ  มือเล็กๆยังจิกบ่าหนา  หน้าท้องขาวเดี๋ยวผ่อนคลายเดี๋ยวหดเกร็ง  เพียงไม่นานนิ้วที่สองและสามก็ตามเข้าไปร่วมวงกับนิ้วที่หนึ่ง  มือใหญ่หยุดเคลื่อนไหวสักพัก  เสียงหอบหายใจของคนตัวเล็กดังถี่ๆ  สันกรามปรากฏบนใบหน้าใส พอระดับการหายใจเริ่มสม่ำเสมอ  ทั้งสามนิ้วก็พร้อมใจกันไล้วนเบาๆอยู่ในช่องปริศนา นุ่มนวลแต่หนักเน้น  ไม่ต้องคลำหาให้เสียเวลา  นิ้วทั้งสามรู้จักช่องทางนั้นดี  จุดไหนคือส่วนที่ควรเข้าใกล้มากที่สุด  แต่อยากยืดเยื้อไว้  จงใจหยอกล้อ  หลอกล่อ  เดี๋ยวก็ถอยหนีเดี๋ยวก็เข้าใกล้  ช่องทางนั้นก็ตอดรัด  พอเข้าใกล้ก็ไม่อยากให้ออกไป แต่ก็สุดที่จะขืนไว้

                 "อ๊าาา"  เสียงครางเบาๆกับแรงของเล็บที่จิกลงมา  เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความอดทนของคนตัวเล็ก  ช่วงเวลาแห่งการหยอกล้อสิ้นสุดลงแล้ว  นิ้วทั้งสามรีบถอดถอนออก  แม้จะมีแรงตอดรัดรั้งไว้  ฝ่ามือใหญ่เลื่อนมากอบกุมเบื้องหน้า  เพื่อช่วยทำให้น้ำใสไหลออกมากขึ้น

                 "อาาา"  เสียงกระเส่าเบาๆดังออกจากลำคอขาวๆ ริมฝีปากสีชมพูถูกเผยอออกเผยให้เห็นลิ้นเล็กสีชมพูอ่อนหวาน  

                 คนตัวสูงใบหน้าแสดงอารมณ์อย่างเด่นชัด  ลิ้นเรียวแลบออกมาเพื่อเลียริมฝีปากของตัวเองอย่างกระหาย  ก่อนกลืนน้ำลายลงลำคอแกร่ง  ฝ่ามือใหญ่เลื่อนจากการเกาะกุมขึ้นมาที่ริมฝีปากสีชมพู  ก่อนใช้นิ้วโป้งไล้เบาๆเพื่อทักทาย ริมฝีปากสีสวยอ้าออกให้นิ้วใหญ่เข้าไปสัมผัสกับลิ้นนุ่มๆ  วนเวียนหยอกล้อกันอยู่สักพัก ใบหน้าคมคายก็เลื่อนเข้าใกล้  เอาลิ้นเรียวของตัวเองสำรวจลิ้นเล็กนุ่มแทน  หอมหวานลึกล้ำ  ลมหายใจสัมผัสกันและกัน

                 เบื้องล่าง...ช่องทางนั้นกำลังถูกเติมเต็มด้วยความแข็งแกร่ง  มือขาวจิกเล็บลงบนบ่าหนา  ตอนแรกเจ็บปวดเกินทนทาน  แต่พอได้รับสัมผัสวาบหวามก็พอทุเลาลง  สุดท้ายความเจ็บทั้งมวลก็ค่อยมลายหายกลับกลายเป็นความเสียวซ่าน  สะโพกขาวขยับขึ้นลงช้าๆ  ความแข็งแกร่งคับเต็มที่เสียดสีอยู่ภายในช่องทางปริศนา  จังหวะรับสอดประสาน  เหมือนถูกร่ายมนต์ให้อยู่ในห้วงแห่งความฝัน  ร่างบางร่ายรำอยู่บนร่างแกร่ง เดี๋ยวเนิบนาบเดี๋ยวกระแทกกระทั้น  ภายในเริ่มกระตุกตอบรับบางสิ่งที่คุ้นเคย ด้ายล่างก็ออกแรงช่วยหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน  เพียงไม่นานพายุแห่งอารมณ์ก็เริ่มพัดโหมแรงขึ้น เสียงหายใจหอบกระเส่า  เสียงครางด้วยความรักขับขานใกล้กันไม่มีใครยอมใคร  สุดท้ายพายุร้ายก็พัดพาทุกสิ่งทุกอย่างจนถึงที่สุด บางสิ่งบางอย่างถูกปลดปล่อยออกมาบนหน้าท้องแข็งแรงที่เกร็งจนกล้ามขึ้นเป็นลอน  เช่นเดียวกับช่องทางสีหวานที่คับแน่นด้วยสิ่งนั้นซึ่งเปรอะเปื้อนจนล้นไหลออกมาตามเรียวน่องขาวนวล

                 "อาา...อาา"  คนตัวเล็กเกาะบ่าหนาไว้มั่น สองเข่าที่ถูกกางออกวางลงบนโซฟาหนานุ่มเกร็งจนสั่น  ลมหายใจหอบกระชั้น

                 "อาาาา"  อีกคนก็หอบหายใจไม่แพ้กัน  กล้ามท้องเกร็งจนเห็นได้ชัด  กรามขบกันจนขึ้นเป็นสันนูนบนใบหน้า ฝ่ามือยังไล้วนอยู่ตรงสะโพกขาว  ทั้งนวดให้เบาๆทั้งลูบไปมาเพื่อให้หายเกร็ง

                 คนตัวเล็กหมดแรง เข่าอ่อนที้งบั้นท้ายลงบนพื้นโซฟาระหว่างน่้องขาแกร่ง  แขนของตัวเองยังคล้องคอคนตัวสูงที่นั่งพิงพนักโซฟาหอบหายใจไม่แพ้กัน  ใบหน้าแดงก่ำซุกลงตรงอกอุ่นๆ ที่สะท้อนขึ้นลง

                 "เลอะหมดเลย"  สายตาปรือหวานมองคราบบนหน้าท้องอีกคน ซึ่งโผล่พ้นเสื้อที่ถูกเลิกขึ้น

                 "คุ้มที่จะเลอะน่ะ"  เสียงทุ้มตอบกลับแล้วหัวเราะเบาๆ

                 "บ้า..เดี๋ยวเช็ดตัวให้ใหม่นะ  แล้วไปนอนเลย  ห้ามเรื่องมาก"  คนในอ้อมอกอุ่นๆออกเสียงสั่งอู้อี้

                 "รับทราบครับผม  พร้อมปฏิบัติ" คนตัวสูงแกล้งทำเสียงหยอกล้อ  ฝ่ามือหนายังนวดขมับให้เบาๆเพื่อเอาใจ

                 "อื้อ...แต่ตอนนี้ขอกอดแบบนี้แป๊บนึงนะ  พักเหนื่อย"เสียงยังอู้อี้

                 คนตัวใหญ่หัวเราะเบาๆไม่พูดอะไรต่อ  ฝ่ามืออบอุ่นกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น  อกหนาสะท้อนขึ้นลงสม่ำเสมอ  ใบหน้าเล็กยังซุกอยู่ตรงนั้น  หายใจเข้าออกราบเรียบเป็นปกติ แก้มใสแนบลงตรงกล้ามอกข้างซ้าย  เสียงหัวใจของอีกคนดังคงที่เป็นจังหวะ อบอุ่นใจกับกลิ่นกายที่คุ้นเคย....








ขอบคุณทุกเม้นค่ะ ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ :L2:


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 31-05-2011 12:11:39
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 31-05-2011 13:00:08
อร๊ายยยยยย  :-[  คุณหมอ คุณพยาบาล หลับเวรไปก่อน อย่าเพิ่งเข้ามานะ
ปล่อยเค๊าอยู่ด้วยกันแบบนี้นานๆ  FC รอมานานแล้วววว   เหอๆๆ
พี่หนึ่งกะน้องสอง นานๆมาที จัดเต็มเลย ชอบๆๆๆ 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 31-05-2011 13:04:44
 :haun4: :haun4: โอยเสียเลือด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-05-2011 18:00:22
หลังจากรักษากันแบบนี้
พรุ่งนี้คนเจ็บวิ่งปร๋อออ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: ao16 ที่ 31-05-2011 21:10:07
 :z1: :o8: :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 02-06-2011 23:10:35
 :haun4: กลางโรงพยาบาลเลยนะนั่น
สองจะน่ารักไปไหน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 03-06-2011 00:03:57
 :haun4:คุณพี่ช่างหื่นได้ทุกสถาณการณ์..
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 10-06-2011 06:30:53
ช่วงนี้ยุ่งๆ เวลาพิมม์ไม่ค่อยจะมี (ทั้งๆที่อยากต่อแล้วนะเนี่ย ไม่ได้โม้..55+)  แต่เค้าจะพยายามต่อให้ได้นะ  ไม่น่าเกินพรุ่งนี้วันนี้  รักคนอ่านนะ ขอบคุณมากๆ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) คนเขียนขอบอกนิด..
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 10-06-2011 06:44:29
รอให้หายยุ่งก่อนก็ได้ รอได้ๆๆๆๆ 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) คนเขียนขอบอกนิด..
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 10-06-2011 07:11:34
ช่วยด้วย มดขึ้นเตียงคนไข้
หมอ-พยาบาลหายไปไหน อย่างเพิ่งเข้ามานะ
ขอก่อน ขอก่อน ไม่งั้น ค้างงงงงง :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย..31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) จัดให้..สำหรับการรอคอย เอิ้กๆๆ-,.-
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 11-06-2011 08:46:15
ช่วงนี้ยุ่งๆ เวลาพิมม์ไม่ค่อยจะมี (ทั้งๆที่อยากต่อแล้วนะเนี่ย ไม่ได้โม้..55+)  แต่เค้าจะพยายามต่อให้ได้นะ  ไม่น่าเกินพรุ่งนี้วันนี้  รักคนอ่านนะ ขอบคุณมากๆ :L2:

ไม่เกินพรุ่งนี้  ก็ วันนี้แล้วอ่ะจิ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) คนเขียนขอบอกนิด..
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 12-06-2011 23:47:54
ดัน ดัน ดัน
รออ่านตอนต่อไปอยู่เน้อ...
 :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+31/05/11 ตอนล่าสุด(11:34น.) คนเขียนขอบอกนิด..
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 13-06-2011 06:34:26
ต่อค่ะ


ตอนที่11

                  "เดินระวังนะฮะ.."  

                  เสียงใครบางคนกำลังบอก"หนึ่ง"  เขาหันไปยิ้มให้  ใบหน้านั้นยังน่ารักสำหรับเขาไม่เคยเปลี่ยน  มือขาวสะอาดกำลังช่วยประคองคนตัวโตอย่างเขาเดินเข้าบ้าน...  บ้านที่เคยวิ่งเล่นตั้งแต่เด็กๆ  บ้านของบิดาและมารดา  ตั้งแต่เรียนจบมีงานทำ  หนึ่งก็ออกจากบ้านหลังนี้  เพียงเพราะเขาอยากยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง  อาจจะเป็นผลสืบเนื่องมาจากแนวคิดแบบเด็กฝรั่ง เรียนจบก็อยากแยกตัวออกจากพ่อแม่  พยายามอยู่ให้ได้ด้วยตัวตนเอง  หนึ่งเรียนอยู่เมืองนอกหลายปี  ก็ได้รับอิทธิพลในส่วนนั้นมาด้วยเหมือนกัน  เขาเองก็ไม่ได้คิดจะทอดทิ้งผู้บังเกิดเกล้า  เพียงแต่รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องท้าทาย  เขาอยากแสดงให้ใครๆเห็นว่า ตัวเขาเองไม่ใช่ลูกแหง่ ต้องอาศัยเงินพ่อแม่  ถึงแม้ว่าฐานะทางบ้านของหนึ่งจะไม่ได้ขัดสน  ซ้ำยังมีมากพอให้หนึ่งใช้ได้ตลอดชั่วชีวิตนี้  แต่หนึ่งไม่ต้องการแบบนั้น แม้จะโดนบิดาเคี่ยวเข็ญให้ทำงานที่บริษัท  แต่สุดท้าย เขาก็ดื้อแพ่งเอาจนได้ โดยมีมารดาเป็นแรงสนับสนุน  หนึ่งย้ายออกไปทำงานในสิ่งที่ตัวเองรัก  เขาประสบความสำเร็จ มีรายรับสามารถตั้งตัวได้สบายๆ  แต่มันกลับต้องแลกกับ อิสระเสรีที่จะได้ไปเที่ยวกับครอบครัว  เพื่อนฝูง  หรืออยู่กับคนรัก  หนึ่งมีงานยุ่งหนักหนาสาหัสตลอดเวลา  ..จนสุดท้าย  เพราะความบ้างาน เขาถึงกับต้องเสียคนรักไป

                 ใช่...เขาเสียคนรักไปเพราะเธอไม่สามารถอยู่กับคนที่ไม่มีเวลาให้กับเธอได้  เขาไม่คิดว่าตัวเองจะรู้สึกเสียศูนย์ขนาดนั้น  เขาจมปลักอยู่กับตัวเอง เฝ้าโทษความไม่ดีของตัวเอง เขาปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรม ช่วงเวลานั้นหนึ่งคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ย่ำแย่เอามากๆ  แต่ไม่คิดเลย..ในภาวะแบบนั้น มันกลับนำเขาไปรู้จักกับใครบางคน  ใครบางคนที่คอยมองเขา ใครบางคนที่เฝ้าคิดถึงเป็นห่วงเขา  ใครบางคนที่พยุงเขาขึ้นมาจากการเสียศูนย์ในครั้งนั้น  ใครบางคนที่ทำให้หนึ่งไม่คิดจะมองหาความรักจากที่ไหนอีกแล้ว  เพราะคนๆนี้มีให้หนึ่งอยู่เต็มเปี่ยม  และไม่เคยลดน้อยลงเลยสักนิดเดียว

                 คนๆนี้ทำให้หนึ่งรู้จักที่จะต่อสู้  ช่วงเลวร้ายในชีวิตของเขาได้ผ่านมาแล้ว  หนึ่งไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย  ว่าตนเองจะต้องมาประสบเคราะห์กรรมถึงขนาดล้มหมอนนอนเสื่อ  ช่วงเวลาที่ไม่สามารถใช้สองขาที่มีมาตั้งแต่เกิดคู่นี้เดินไปไหนมาไหนได้อย่างที่ใจนึก  มันช่างทรมานเหลือเกิน  เขาว้าวุ่นในใจและวิตกกังวลในหลายๆเรื่อง แต่แล้วเด็กตัวเล็กคนนี้ก็ทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่าจะยังไง  หนึ่งก็ไม่ได้ต่อสู้อยู่คนเดียว หนึ่งยังมีคนรอบข้างที่รักและคอยให้กำลังใจอยู่เสมอ  โดยเฉพาะเด็กหนุ่มตัวเล็กๆในสายตาของเขาขณะนี้  คนที่กำลังช่วยพยุงเขาให้เดินก้าวต่อ  คนที่ทำให้เขามีมานะที่จะทำให้ตัวเองกลับมาเดินได้เป็นปกติอีกครั้ง  และตอนนี้  หนึ่งก็สามารถเดินได้แล้ว  ถึงแม้ว่ายังใช้ไม้ค้ำยันช่วยอยู่บ้าง  แต่เขารู้สึกถึงการมีอยู่ของมัน  รู้สึกถึงเลือดเนื้อ  และกระดูกที่รองรับน้ำหนักใต้ฝ่าเท้า  รู้สึกเจ็บบ้างในยามทีฝืนเดินออกกำลังขาเป็นเวลานานๆ  ตั้งแต่มีเด็กหนุ่มตัวเล็กเข้ามาช่วยดูแล  หนึ่งก็มีกำลังใจขึ้นมาก เขาพยายามต่อสู้กับตนเองทุกวัน  จนสุดท้ายคุณหมอเจ้าของไข้ก็อนุญาตให้หนึ่งกลับมาพักฟื้นที่บ้านได้  เรื่องนี้สร้างความดีใจให้กับพีชายและพี่สาวของหนึ่ง และแน่นอนย่อมไม่พ้นมารดาของเขา คนที่ดูจะทุกข์ระทมสุดๆไม่แพ้หนึ่ง พอทราบข่าวว่าหนึ่งสามารถกลับบ้านได้  หนึ่งก็เห็นเธอยิ้มทั้งน้ำตา  วินาทีนั้นเองหนึ่งก็แอบรู้สึกเสียใจอยู่เล็กๆ ที่ตอนแรกทำตัวดื้อดึงไม่ยอมเข้ารับการบำบัด  เขาเสียใจที่ทำให้มารดาต้องทุกข์ใจ  แต่เรื่องร้ายๆผ่านไปแล้ว  ตอนนี้เขาต้องการเริ่มต้นใหม่  ที่น่าประทับใจก็คือ ความจริงใจที่คนตัวเล็กมีให้เขา ทำให้พี่สาวของหนึ่งและมารดาเปิดใจยอมรับความรักระหว่างหนึ่งกับเด็กน่ารัก  การที่เทียวไปเทียวมาดูแลเขาทั้งเช้าเย็นช่วยทำให้คนตัวเล็กของเขาสนิทกับมารดามากขึ้น จนตอนนี้ เด็กน่ารักก็กลายเป็นลูกชายคนโปรดของมารดาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                  พอหนึ่งได้กลับบ้าน  สองก็ได้รับคำเชื้อเชิญจากคุณแม่ของหนึ่ง  ให้ไปช่วยดูแลหนึ่งที่บ้าน  โดยให้ย้ายไปอยู่ด้วยกันซะเลย  เรื่องนี้ทำเอาหนึ่งแอบทึ่งอยู่ในใจ  เขาไม่คิดว่ามารดาของตัวเองจะรับได้มากขนาดนี้ เพราะมันมากพอที่จะสร้างความบาดหมางให้กับใครอีกคนได้  ใครคนนั้นก็คือบิดาของหนึ่งเอง  แน่นอน..หนึ่งไม่อยากเห็นบิดามารดาทะเลาะกันเพราะเรื่องของเขากับสอง  แต่สุดท้ายเขาก็ได้รับคำยืนยันจากมารดาว่า ไม่ว่ายังไงก็จะช่วยให้ถึงที่สุด ท่านจะทำให้บิดาของหนึ่งยอมรับคนตัวเล็กของเขาให้ได้  เรื่องนี้ทำเอาหนึ่งซึ้งใจอย่างมาก

                  และสุดท้ายสองก็ยอมย้ายเข้ามาอยู่ด้วยที่บ้านของหนึ่ง  ตามคำเชื้อเชิญของมารดาบวกกับแรงเชียร์ของพี่สาวของหนึ่งด้วยอีกทาง  คนตัวเล็กได้นอนห้องติดกับห้องของเขา  มารดาจัดการเตรียมทุกย่างไว้พร้อมแล้ว  หนึ่งรู้สึกได้ว่าคนตัวเล็กเกรงใจมารดาอย่างมาก  จากที่ตัวเล็กอยู่แล้ว  พอเดินตัวลีบแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ดูตัวเล็กนิดเดียว สุดท้ายหนึ่งก็ได้ยินมารดาพูดขึ้นในทำนองที่ว่า เธอดีใจที่ลูกชายได้กลับบ้านจะได้อยู่กันพร้อมหน้า  แถมตอนนี้เธอได้ยังลูกชายเพิ่มขึ้นอีกคน บ้านหลังนี้ถ้ามีเด็กๆกลับมาอยู่เหมือนเดิมก็จะดูมีชีวิตชีวาขึ้น  เธอคงไม่รู้สึกเงียบเหงา คำพูดทำนองนั้นพอจะช่วยคลายอาการเกร็งและประหม่าของเจ้าคนหัวทุยข้างๆเขาได้ หนึ่งได้แต่ยิ้มบางๆแล้วก็กล่าวขอบคุณมารดาที่เธอเป็นแม่ที่ดีและดูแลเขาเสมอมา

                 "จะไปไหนครับ?"

                 มือแข็งแรงคว้าข้อมือเล็กเอาไว้  พอเดินเข้าห้องแล้วนั่งลงบนเตียงของตนเอง  คนตัวเล็กก็จะทอดทิ้งเขาเสียแล้ว

                 "สองจะไปจัดของที่ห้องฮะ"

                 "จริงๆ...พี่ว่าเราน่าจะอยู่ห้องเดียวกันนะ" ชายหนุ่มบอกใบหน้ายิ้มละไม

                 "บ้าเหรอ ..พี่หนึ่งอ่ะ  แค่นี้สองก็เกรงใจคุณแม่จะแย่แล้ว"  คนพูดทำหน้าบูด แต่แก้มใสแดงระเรื่อ

                 "เฮ้ย..สองเกรงใจคุณแม่เองหรอกเหรอ  พี่นึกว่าสองไม่อยากนอนกับพี่ซะอีก"  หนึ่งแกล้งพูดน้อยใจ  มือแข็งแรงยังเกาะกุมข้อมือเล็กไว้แน่น

                 "บ้า..สองไม่เคยบอกซะหน่อยว่าไม่อยากนอนกับพี่  แต่สองเกรงใจคุณแม่ ท่านดีกับสองมากๆ สองไม่อยากเป็นภาระ"

                 "สองไม่ได้เป็นภาระนะ  พี่ต่างหากที่เป็นภาระของสอง  คุณแม่ท่านเห็นความจริงใจของเราสองคน  ท่านเห็นความดีของสอง ท่านก็อยากรู้จักสองให้มากขึ้น  พอพี่กลับบ้านได้  ท่านก็คิดว่าสมควรให้สองมาช่วยพี่ที่บ้าน แต่จะให้สองเทียวไปเทียวมาเหมือนตอนอยู่โรงพยาบาลก็คงไม่ได้  ท่านเลยเห็นว่าสองควรมาอยู่ซะเลย  เพราะจริงๆแล้วบ้านนี้ไม่ค่อยครึกครื้นเหมือนสมัยก่อนๆน่ะ ตอนนี้ทุกคนต่างทำงาน  พี่ชายของพี่มีครอบครัวแล้ว ก็ย้ายออกไปอยู่อีกบ้าน  ส่วนพี่นุชก็มีเคสต้องไปโรงพยาบาลตลอด คุณพ่อพี่ก็ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ  คุณแม่ท่านเลยอยู่บ้านคนเดียวซะส่วนใหญ่  ท่านดีใจมากนะที่สองยอมมาอยู่ด้วยน่ะ" หนึ่งพูดยิ้มๆ สายตาคมกรุ้มกริ่ม

                 "อื้อ..แล้วยิ้มแบบนั้นทำไมฮะ?"  พอเห็นรอยยิ้มกับสายตาแปลกๆก็อดไม่ได้ที่จะถาม

                 "ไม่รู้สิ..พี่รู้สึกเหมือน.."  เสียงทุ้มกล่าวทีเล่นทีจริง

                 "เหมือนอะไรฮะ?"

                 และตอนนั้นเอง  สองก็ถูกมือแข็งแรงข้างนั้นกระตุกจนเสียหลัก  สุดท้ายก็ล้มลงในอ้อมกอดอบอุ่นของคนที่นั่งอยู่บนเตียง สองย่นคอเพราะรับรู้ได้ถึงคางสากๆที่คลอเคลียอยู่ริมใบหูด้านหลัง

                 "เหมือน..พี่พาเมียเข้าบ้านน่ะ" เสียงทุ้มกระซิบข้างหู

                 "บ้า..พี่หนึ่งพูดอะไรน่ะ  สองไม่เป็นเมียพี่หนึ่งหรอก"  คนตัวเล็กพูดแก้เก้อ

                 "อย่าบอกนะว่าสองอยากเป็นสามีพี่น่ะ"  เสียงทุ้มยังเย้าแหย่  

                 "อื้อ..ใช่สิ  ระดับสองน่ะ ต้องเป็นสามีนะ มีพี่หนึ่งเป็นภรรยาคอยดูแลบ้าน" คนบนตักพูดเสียงอู้อี้

                 "จะดีเหรอครับ  พี่ทำงานบ้านไม่เก่งนะ" เสียงทุ้มนุ่มกระซิบอยู่ด้านหลัง

                 "ฮื่อ ไม่เป็นไร  ฝึกได้"

                 "หึๆ..จริงด้วยสินะ  แต่บางอย่างคงไม่ต้องฝึก พี่มั่นใจพอตัว"

                 "ก็นอกจากช่วยหยิบของตอนทำกับข้าว แล้วก็ทำข้่าวผัดกับต้มไข่ได้  ทำความสะอาดบ้าน แล้วพี่หนึ่งทำไรได้อีกล่ะฮะ"  คนตัวเล็กแหวกลับมาเบาๆ ซ่อนรอยยิ้มในใบหน้า

                 "หึๆ..สองไม่รู้จริงๆเหรอครับ"

                 "ฮื่อ..นึกไม่ออก  คุณสมบัติพี่หนึ่งท่าจะหมดแล้วล่ะ"

                 "จริงเหรอ  ว้า..พี่ด้อยค่าขนาดนั้นเชียว" แกล้งตัดพ้อ

                 "55+..ใช่เลยฮะ  ก็ถ้าพี่หนึ่งมั่นใจไหนลองบอกมาซิ ว่ายังมีข้อดีตรงไหนอีก"

                 "อยากรู้จริงเหรอครับ..ตอนนี้คิดได้หลายข้อด้วยสิ"

                 "55+..ไหนลองพรีเซ้นต์มาหน่อยซิ  เผื่อสองจะเอากลับไปคิด ต้องดูก่อนนะว่าผ่อนได้รึเปล่า ดอกเบี้ยเยอะมั้ย รับประกันกี่ปี"

                 "หึๆ สินค้าชิ้นนี้ซื้อแล้วไม่ผิดหวังแ่น่นนอนครับ เพราะไม่ต้องผ่อน ให้เลยฟรีๆ แถมใจให้ด้วย รับประกันตลอดชีพไม่มีหมดอายุ"

                 "55+แล้วคุณสมบัติล่ะ  ไหนบอกมีหลายข้อไง"

                 "คุณสมบัติก็...สามารถกอดคุณได้  เวลาคุณเหนื่อยก็สามารถใช้เป็นพนักพิงได้  ช่วยกล่อมให้คุณนอนหลับได้ ปกป้องคุณได้  ซื่อสัตย์กับคุณคนเดียว และจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต"

                 "ฮื่อ..เหรอฮะ..ของฟรีนี่ทำได้หลายอย่างจัง" คนตัวเล็กก้มหน้างุด แก้มใสแดงระเรื่อ
      
                 "ยังมีอีกนะ...คุณสมบัติพิเศษ"

                 "อะไรอีกล่ะ..ยังไม่หมดอีกเหรอ"

                 "ยังครับ..คุณสมบัติในหมวดนี้ขาดไม่ได้ สำคัญมาก"

                 "ฮื่อ.เหรอฮะ  อะไรเหรอ?"

                 "ก็..ขนาดถึงใจ ใช้ได้ไม่จำกัด  แรงกำลังดี  ที่สำคัญ ..ทำให้คุณมีความสุขสุดๆในครั้งเดียว..หรือมากกว่านั้นก็ได้.." เสียงทุ้มๆที่ริมใบหูแหบพร่า

                 "พี่หนึ่ง!.. ทะลึ่งแล้วนะ!"

                 "สองอยากรู้ระบบการทำงานของมันมั้ยครับ เดี๋ยวพี่พรีเซ้นต์ให้ฟังนะ"

                 "บ้า..ไม่เอาแล้ว  พอแล้วล่ะ"  ก้มหน้างุดซ่อนความอาย

                 "ว้า..ไม่ฟังแล้วเหรอครับ..งั้นคราวนี้ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ต้องการข้อมูลบ้าง...เอาเป็นว่าหลังจากการทดลองใช้แล้วเป็นยังไงครับ"

                 "บ้า..ไปลองตอนไหน..นี่เพิ่งสอบถามข้อมูลนะ"

                 "55+จริงเหรอครับ  ถ้าไม่เคยลองแล้วหน้าแดงทำไมครับ  เอ้า..เร็วครับ ตอบมาดีๆ  ไม่งั้นคุณลูกค้าต้องโดนลงโทษนะ"

                 "ฮื่อ..ตอบอะไรอีกล่ะฮะ"

                 "ก็ตอบว่าหลังจากทดลองใช้แล้ว..ดีมั้ยครับ  หึๆ"

                 "อื้อ.."  อายจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว  ถ้าไม่ติดว่าถูกพันธนาการไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแรง  คนตัวเล็กคงวิ่งหนีออกจากห้องไปแล้ว

                 "อื้อ..อะไรครับ  เร็ว  ตอบพี่มาเร็วๆ"

                 "ฮื่อ..พี่หนึ่งชอบแกล้ง"  คนตัวเล็กเง้างอด

                 "ถ้าไม่ตอบก็ไม่ปล่อยนะ  แล้วจะให้ลองใช้อีกด้วย"  ปลายลิ้นเรียวลอบสัมผัสที่หลังหูนิ่มๆเบาๆ

                 "ก็..ก็ดี"  เสียงเล็กแห้งตอบแทบไม่ได้ยิน
                
                 "หืม..ว่าไงนะครับ"

                 "ฮื่อ..ก็บอกว่าดีไงล่ะ ดีฮะ ดี  ดีมากด้วย พอใจยัง" คราวนี้ทำเสียงแข็งข่มความอาย

                 "หึๆ  พอใจแล้วครับ แต่...ไม่ปล่อยแล้วล่ะ"

                 "อ้าว..พี่หนึ่งขี้โกง  คุณแม่รอทานข้าวเย็นอยู่ข้างล่างนะฮะ"

                 "55+  สองไม่รู้อะไรซะแล้ว...คณแม่ทานข้าวเย็นตอนหกโมงครับ  นี่เพิ่งจะสี่โมง  ยังมีเวลาเหลือเฟือ สองว่าเราจะทำอะไรกันดีครับ"

                 ดวงตาโตหันไปสบสายตากรุ้มกริ่มในระยะประชิด  แล้วก็ทนกับความซุกซนของประกายแพรวพราวในดวงตาคมคู่นั้นไม่ได้  สุดท้ายก็ต้องรีบหันกับมา  อ้อมแขนแกร่งยังไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

                 "จะ..จัดของฮะ...พี่หนึ่งให้สองไปจัดของนะ" คนตัวเล็กเสียงอ่อยๆ  

                 "55+  ครับ..ไปครับ  สองพาพี่ไปที่ห้องด้วยนะ  พี่อยากช่วย  ไปครับ  พี่ไม่แกล้งแล้ว  เดี๋ยวคนขี้แยร้องไห้"  คนตัวโตกล่าวอย่างอารมณ์ดี  อ้อมแขนแข็งแกร่งยอมปล่อยร่างเล็กเป็นอิสระแล้ว  เด็กน้อยหัวทุยรีบลุกขึ้น  ก่อนช่วยพยุงคนชอบแกล้งไปที่ห้องของตน











ขอบคุณค่ะ จะพยายามต่อเรื่อยๆนะ
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 13-06-2011 10:25:57
คนมีความรักอะไรก็มีความสุขจริงๆๆ :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 13-06-2011 11:39:42
 อ่านแล้วได้ลุ้นทุกตอนเลย อ่านถึงตอนนี้แล้วพลอยมีความสุขไปกับหนึ่ง+สองด้วย
ขอให้ฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี เอาใจช่วยค่ะ +1 แทนคำขอบคุณ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 13-06-2011 14:29:37
ตามมาอ่านจนทันแล้วจ้า อ่านไปร้องไห้ไป
สงสารทั้งสองคนเลย แต่ท้ายสุดฟ้าเริ่มสดใสและ
พี่หนึ่งขนาดแกรเดี้ยง ยังหื่นได้อีกนะเนี่ย สุดยอดมาก
รอเพื่ออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 13-06-2011 15:14:33
พาสะใภ้เข้าบ้านซะแล้วพี่หนึ่ง น่าร๊ากกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 13-06-2011 20:43:15
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: BAKA ที่ 13-06-2011 22:11:54
ขี้แกล้งจริงๆ พี่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 14-06-2011 07:52:09
เห็นอัพต่อเพิ่มให้ก็ดีใจ  cancan กำลังใจดีนะนี่
อ้อ เผื่ออยากดูเรื่องโดนๆ ในเล้า 'กูทำดีทำไมได้ผัว'
เรื่องนี้เขียนง่ายๆ อัพสั้นขนาดพอดีอ่าน ชื่อโดน ที่สำคัญกระแสแรงมาก
ยิ่งกว่าดาวหางดวงใหญ่พาดผ่านบอร์ดเล้า
ราว 5-6 หน้าต่อบท (คิด 30 reply/หน้าก็ 100 กว่าชื่อที่เข้าโพสต์)
เผื่อ cancan จะได้ get idea มั่ง
เป็นกำลังใจเสมอ
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 14-06-2011 08:06:43
พี่หนึ่งแกล้งน้องทำไม
ทำไมไม่ลงมือทำจริงเลย:angry2:
55555+
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 15-06-2011 08:15:28
พี่หนึ่งอ่า มาแกล้งเค๊า เอ๊ย แกล้งน้องทำมัยย   :-[

พาเมียเข้าบ้าน 5555  ชอบๆๆๆ  แล้วทำไมให้เมียไปอยู่อีกห้องล่ะค๊า




ปล.บวกไม่ได้ให้ดอกไม้นะน้องรัก  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-06-2011 19:14:39
ยังเหลือด่านคุณพ่อ
ตอนนี้ก็ตักตวงความสุขกันซะนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+13/06/11 ตอนล่าสุด(6:28น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-06-2011 05:56:09
ต่อค่ะ  (ช่วง1 ของวันที่ 16/06/11)


                        หลังจากที่หนึ่งกลับมารักษาตัวที่บ้าน  หลายสัปดาห์ต่อมา  เขาก็สามารถกลับมาเดินได้อย่างปกติ โดยมีสองเป็นคนคอยช่วยในช่วงที่ไม่ต้องไปโรงเรียน  คนตัวเล็กต้องไปเรียนพิเศษวันเสาร์ ส่วนวันอาทิตย์เด็กหนุ่มตั้งใจจะเก็บไว้เพื่อที่จะช่วยคนตัวโตฝึกเดิน  และสุดท้ายความพยายามก็ประสบผล  เมื่อในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่สองไม่ได้ไปเรียนพิเศษ  หนึ่งก็สามารถเดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้ค้ำยันอีกต่อไป

                       เรื่องนี้สร้างความดีใจแก่มารดาของหนึ่ง  เธอตั้งใจว่าจะทำบุญสะเดาะเคราะห์ให้กับลูกชายในวันรุ่งขึ้น  ในตอนเย็นของวันนั้น ขณะนั่งรับประทานอาหาร  มารดาของหนึ่งจึงชวนลูกชายและว่าที่ลูกชายคนใหม่ตื่นตอนเช้าเพื่อที่จะทำบุญด้วยกัน  

                       "คุณพ่อยังไม่กลับจากฮ่องกงอีกหรือครับ?"  หนึ่งถามมารดา

                       "เอ่อ..แม่ก็ไม่แน่ใจนะ  สงสัยพ่อเค้าคงมีคุยเรื่องธุรกิจอีกนิดหน่อยน่ะ"  มารดาตอบลูกชาย คนพูดใบหน้าเรียบเฉยเมื่อบทสนทนาวกเข้ามาที่หัวหลักของบ้าน
  
                       "ครับ..ผมแค่..เป็นห่วง  คราวนี้คุณพ่อไปนานนะครับ  น่าจะเดือนได้แล้วสินะ"  หนึ่งพูดขึ้นลอยๆ ขณะเอื้อมมือไปตักไข่ลูกเขยมาใส่ไว้ในจานข้าวของคนที่นั่งตรงกันข้าม

                       "..............." อีกคนยังคงเคี้ยวตุ้ยๆ  วันนี้เด็กตัวเล็กไม่ต้องออกแรงเอื้อมมือไปตักกับข้าวเลยด้วยซ้ำ เพราะเดี๋ยวก็มีคุณผู้หญิงใจดีตักผัดผักให้ เดี๋ยวคนตรงข้ามก็ตักหมูทอดมาให้  ตอนนี้ก็ไข่ลูกเขยอีก หัวทุยๆก้มลงมองจานของตัวเอง รู้สึกอายเล็กน้อย ก็มันเป็นจานข้าวที่ไม่มีระเบียบเอาซะเลย มีกับข้าวกองอยู่เต็มไปหมด  ได้แต่จำใจตักเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอาเป็นเอาตาย  เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครตักอะไรให้อีกตอนไหน

                      "พอแล้วล่ะลูก น้องเคี้ยวไม่ทันแล้ว" หญิงสูงวัยบอกลูกชาย สายตาเอ็นดูหันไปมองคนแก้มพองเคี้ยวข้าวอย่างเอาเป็นเอาตาย และพอรู้ตัวว่ากลายเป็นจุดเด่นไปซะแล้ว แก้มบางๆก็เริ่มออกสีแดงอ่อนๆ

                      "หึๆ  ดีแล้วล่ะครับเยอะๆแบบนี้น่ะ  ผอมแห้งแล้วยังตัวเล็กอีกจะเอาแรงที่ไหนไปอ่านหนังสือ  ทานเยอะๆนะ จะได้โตทันพี่ซะที"  คนหนุ่มพูดติดตลก  มารดาได้แต่ส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มบางๆก่อนก้มลงจัดการกับอาหารในจานของเธอ

                      สองลอบมองมารดาของหนึ่ง  คนตัวเล็กสังเกตเห็นรอยยิ้มที่มีความสุข  คงเป็นเพราะว่าเธอดีใจที่ลูกชายหายเป็นปกติเสียที ก่อนหน้านั้นสองแอบได้ยินมารดาของหนึ่งโทรหาพี่นุช  พี่สาวของคนตัวโต  คิดว่าอีกฝั่งของปลายสายก็คงดีใจไม่แพ้กันกับคนทางนี้  เพียงแค่เห็นรอยยิ้มแบบนั้น สองก็มีความสุขไปด้วย  มันคงเหมือนยกภูเขาออกจากอก  ก็แน่ล่ะ ลูกชายทั้งคน ถ้าคนเป็นแม่ไม่รักไม่ห่วงก็คงเป็นไปไม่ได้  สองได้ยินเธอบอกกับหนึ่งว่า พี่นุชติดเคสด่วนที่โรงพยาบาล ไม่งั้นคงซื้ออะไรอร่อยๆมาฉลองที่บ้าน  โดยปกติบางวันพี่นุชก็จะมานั่งทานข้าวด้วยกันพร้อมหน้า  บางทีก็มื้อเช้า  บางทีก็มื้อเย็นแล้วแต่โอกาส  แต่สองได้ข่าวว่าอีกไม่ถึงสองเดือน เธอก็จะยอมสละโสดเสียที หลังจากหมั้นหมายกับคุณหมอที่เป็นรุ่นพี่ที่โรงพยาบาลมาหนึ่งปีแล้ว  พอถึงตอนนั้น บ้านนี้ก็คงเงียบลงไปอีก สองคิดว่าบางทีมารดาของหนึ่งก็อาจจะรู้สึกเหงาๆ เพราะบิดาของคนตัวสูงก็แทบจะไม่ได้อยู่ติดบ้านเลย  สองไม่เข้าใจเลยว่า  ทั้งๆที่เป็นผู้บริหารแล้วแท้ๆแต่แค่หาเวลากลับมานอนที่บ้านนี่มันช่างยากเสียเหลือเกิน  สองเลยตั้งใจว่า ถ้าเป็นไปได้  สองก็อยากให้คนตัวสูงอยู่ติดบ้านเสียทีไม่ต้องแยกไปอยู่ที่อื่นอีก

                      ขณะที่สองกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย  และตอนนั้นเอง..

                      "คุณแม่ครับ..หนึ่งว่า  อีกสักสองอาทิตย์หนึ่งจะกลับไปทำงาน"
 
                      "ที่เก่ารึเปล่าลูก  เค้ายังรับหนึ่งใช่มั้ย"

                      "ครับ...ผมลองโทรคุยกับเค้าแล้ว  ทางโน้นเค้าบอกว่ายินดีเสมอ สัญญาว่าจ้างยังเหมือนเดิมครับ"

                      "เอ่อ..แล้วหนึ่งจะไปอยู่คอนโดอีกเหรอจ๊ะ" หญิงสูงวัยมีสีหน้ากังวล

                      "อืม...หนึ่งยังคิดอยู่ครับ"

                      คนตัวเล็กรีบเคี้ยวข้าวในปาก ก่อนกลืนมันลงคออย่างรวดเร็ว

                      "พี่หนึ่ง..อยู่บ้านนี่ล่ะ  ดีแล้ว.."

                     "หืม.. " สายตาคมจับจ้องที่ดวงตาโต

                     "ก็...คุณแม่..ไม่มีใคร...พี่นุชก็งานยุ่ง"  คนตัวเล็กตอบเสียงอ่อยๆ  เพียงแค่ฟังเหตุผลสั้นๆ  มีเหรอที่คนอายุมากกว่าอย่างผู้หญิงสูงวัยที่นั่งหัวโต๊ะและคนหนุ่มอย่างลูกชายของเธอจะไม่รู้  ว่าเด็กตัวเล็กกำลังจะบอกอะไร

                     "ขอบใจนะลูก..แม่อยู่ได้  อยู่มาแบบนี้จนชินแล้วล่ะ  เลี้ยงจนพวกนี้เค้าโตเอาตัวรอดได้ แม่ก็ไม่ต้องการอะไรมากกว่านั้น  อีกอย่าง  ถ้าอยู่คอนโดหนึ่งเค้าจะสะดวกกว่า  แล้วสองก็ไปอยู่กับพี่เค้า  เพราะว่าจะได้หาตรงที่มันใกล้โรงเรียนขึ้นหน่อย"

                     "ไม่ได้หรอกฮะ  คุณแม่อยู่บ้านคนเดียวเกือบตลอด ถึงจะมีพวกพี่ๆที่เป็นแม่บ้าน  แต่ยังไงพี่หนึ่งก็น่าจะอยู่ที่นี่ด้วย  จะได้ดูแลคุณแม่ด้วยไงฮะ...พี่หนึ่งว่าดีมั้ยฮะ.."  คนตัวเล็กรีบหาแนวร่วม

                     "อืม..คือพี่น่ะไม่ได้อะไรนะ..ว่าตามจริงพี่ก็อยากจะกลับมาอยู่บ้านจริงๆจังๆซะที  สำหรับพี่น่ะพอทำงานแล้วก็ขับรถไป ไกลหน่อยก็ไม่เป็นไร  เพราะว่าบางวันพี่ก็ไม่ได้เข้าออฟฟิศ แต่อาจออกไปตามโครงการ  แต่ว่าสองน่ะ ต้องไปโรงเรียน  บางทีพี่อาจไปส่งไม่ได้ สองก็ต้องนั่งรถไป พี่กลัวสองเหนื่อยนะ แค่สองดูแลพี่เต็มที่ แถมต้องทำงานเรียนอะไรอีกเยอะแยะ  พอเห็นเราผอมลงๆพี่ก็กังวล"

                     "นั่นน่ะสิ..แม่ว่าสองต้องใช้เวลาเดินทางนะ ทุกวันนี้ที่หนูไปโรงเรียนก็ต้องออกก่อนหกโมงอีก  บอกให้คนขับรถไปส่งให้ก็ไม่ยอม  แล้วนี่อีกไม่กี่อาทิตย์ก็จะสอบอีกแล้วไม่ใช่เหรอ"

                     "เอ่อ........."  สองล่ะงงเลย  สรุปว่าทุกคนกำลังเป็นห่วงตัวเขาเอง

                     "ว่าไง  ตกลงว่าจะยังอยู่ที่นี่ใช่มั้ยครับ.."  คนตัวสูงถาม

                     "อยู่ฮะ..ถ้าคุณแม่ให้อยู่  สองอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ตลอดไปก็ได้  พี่หนึ่งไม่อยู่ก็ไม่สนหรอกฮะ"

                     "555+  เจ้าคนขี้ประจบ  คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง  สองอยู่ไหนพี่ก็อยู่ที่นั่นแหละครับ" หนึ่งบอกคนตรงข้ามใบหน้าระบายยิ้ม

                     "แม่ขอบใจนะสอง  แม่รู้ว่าสองอยากให้ตาหนึ่งอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนแม่  แม่ยอมรับนะ ว่าคิดถึงลูกๆน่ะ แต่เค้าโตแล้วก็ต้องมีชีวิตของเค้า  แม่ไปกะเกณฑ์อะไรไม่ได้  อีกอย่างบางทีก็ต้องนึกถึงความสะดวกถ้าอยู่ที่บ้านตาหนึ่งกลับบ้านดึกดื่น  เค้าก็ต้องเรียกให้คนเปิดประตูให้  แม่รู้ว่าเค้าไม่อยากรบกวนคนในบ้าน  ส่วนสองน่ะ  ต้องไปโรงเรียน  ก็ต้องเดินทาง  ดูว่ามันจะไกลกว่าตอนอยู่คอนโดใช่มั้ย  ถ้าตาหนึ่งไปรับส่งได้ก็ไม่เป็นไร  เอาอย่างงี้นะ ถ้าวันไหนตาหนึ่งขับไปให้สองไม่ได้ แม่จะให้คนขับรถไปส่งนะ  หรือไม่ก็ไปรับ แม่จะได้สบายใจ  ตกลงตามนี้นะจ๊ะ"

                     "ฮะ..."คนตัวเล็กยิ้มรับคำของผู้สูงวัย
 
                     "ส่วนหนึ่ง...แม่ก็ขอบใจนะ ที่ลูกตั้งใจจะอยู่ที่นี่  บอกตามตรงนะ  เมื่อก่อนน่ะ หนึ่งงานยุ่ง พออยู่คนละที่ก็ไม่ได้เจอกัน  จะโทรถามก็ยากลำบาก  แม่เป็นห่วงมาก ยิ่งหนึ่งเป็นวิศวะกร แม่ยิ่งเป็นห่วง  หนึ่งเข้าใจมั้ยลูก  พอเราเงียบหายไปหลายๆวัน แม่ก็ใจไม่ดี"

                     "ผมขอโทษนะครับคุณแม่...ที่ผ่านมาผมละเลย  ผมไม่ได้ทำหน้าที่ลูกทีดี  ต่อนี้ไปผมจะอยู่ที่บ้านนี้ล่ะครับ  ถ้ามีดูงานหลายวันติดกัน  ผมจะเรียนคุณแม่ให้ทราบนะครับ  คุณแม่จะได้สบายใจ"
 
                     "จ้ะ..ขอบใจมากลูก  รับทานข้าวพักผ่อนกันซะ  เดี๋ยวพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆ  แล้วสองคนลงมาตักบาตรกับแม่ที่หน้าบ้านนะ"

                     "ฮะ"

                     "ครับ"

                     คนตัวเล็กและคนตัวสูงรับคำพร้อมกัน  ทุกคนต่างยิ้มแย้มมีความสุข  

                                  
                                                        ............................................................................

                      ชายภูมิฐานวางแก้วบรั่นดีชั้นดีลงบนจานรองแก้ว  นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้แตะต้องของมึนเมา  แสงไฟที่สะท้อนอยู่ในน้ำสีอำพันดูเย้ายวนน่าหลงใหล   หากใครได้ลิ้มลองความนุ่มลุ่มลึกในรสชาติ  ก็คงติดอกติดใจ  แต่ถ้าเมื่อได้ชิมแล้วก็ต้องรู้จักพอ  เพราะบางทีสิ่งเหล่านี้ก็นำพาความไม่ดีมาให้  โดยเฉพาะสุขภาพร่างกายสำหรับคนแก่อายุมากอย่างเขา  ก็ถ้าไม่มีเรื่องให้ยุ่งยากใจ  เขาเองก็ไม่อยากจะแตะมันนักหรอก  ตอนหนุ่มๆเคยติดมันอยู่ช่วงหนึ่ง พอแต่งงานก็เลิกเด็ดขาดตั้งใจทำงานดูแลครอบครัว  จนตอนนี้ลูกๆต่างก็ทำงานเอาตัวรอดได้หมด  

                         แต่แล้วเจ้าลูกชายตัวดี  มันก็นำพาเรื่องที่รบกวนจิตใจมาให้  อุตส่าห์ส่งเสียเล่าเรียนจบมามีการศึกษาดี  คิดว่ามันจะกลับมาช่วยดูแลกิจการที่มีอยู่จนล้นมือ  มันดันไปทำงานตามใจตัวเอง  เรื่องนั้นเขาก็ยอมให้ไปแล้ว  เพราะไม่อยากขัดใจกับศรีภรรยาสุดที่รัก ที่เข้าข้างกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย  มันคงถือว่ามีแม่คอยหนุนหลังเลยไม่เห็นหัวคนเป็นพ่อแบบเขา   ถึงเขาจะอายุมากขึ้น  แต่เรื่องบางเรื่องก็ไม่สามารถจะปล่อยให้ผ่านเลยไปได้  ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ชื่อเสียงวงศ์ตระกูลต้องพลอยเสื่อมเสีย เป็นขี้ปากของชาวบ้าน  เขายิ่งยอมไม่ได้

                         “ไง เดช...”  
                         เสียงชายมีอำนาจดังขึ้นอยู่ด้านข้างโซฟาที่เขานั่ง  เขาเงยหน้าขึ้นมอง  แล้วก็ต้องยิ้มออกมา เมื่อเห็นผู้มาเยือนคือรุ่นพี่ที่เคยเรียนมหาลัยเดียวกัน  นับถือเป็นเหมือนญาติผู้พี่คนสนิท  ตั้งแต่จบออกมาทำงาน  คนๆนี้ก็คอยให้คำปรึกษาเขาได้ทุกเรื่อง

                         “อ้าว  สวัสดีครับ พี่สิทธิ์  เชิญครับ  เชิญ”  เขาลุกขึ้นผายมือให้กับชายสูงวัยที่แก่กว่า

                         “ไหนบอกไปฮ่องกงไง”  ผู้มาใหม่ถามขึ้น

                         “ครับ...กลับมาได้ซักพักแล้วครับ”

                         “อ้อ...”  ชายผู้มาใหม่พยักหน้ารับรู้  สายตาคมปราบลอบมองแก้วบรั่นดีที่วางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้า

                         “พี่สิทธิ์  มาคุยงานเหรอครับ  ดีนะครับ  ที่นี่สะดวกดี บริการเยี่ยม  เลานจ์ของโรงแรมก็ตกแต่งดีนะ  ส่วนตัวดีด้วยครับ  สมกับที่เพื่อนผมมันแนะนำมา”  เขาพูดแล้วก็มองไปรอบๆอย่างชื่นชม

                         “ก็..ทำนองนั้นล่ะ  พอดีเจ้าของที่นี่รู้จักกับชั้นน่ะ   มาเยี่ยมเยียนเค้าแล้วก็คุยเรื่องงานด้วย”  อีกคนกล่าวอย่างอารมณ์ดี

                         “อ้อ  ครับ...พี่สิทธิ์สบายดีนะครับ  แล้วศักดิ์มันไปไหนล่ะเนี่ย”  เขาถามถึงคนขับรถส่วนตัวของอีกฝ่าย  ซึ่งปกติจะเห็นตลอดเหมือนเป็นเงาตามตัว

                         “ให้ศักดิ์รออยู่ที่รถน่ะ”

                         “อ้อ..ครับ”  เขารับคำแล้วยกแก้วสะท้อนสีอำพันขึ้นมาจิบ

                        “กลับมานานแล้วทำไมไม่กลับบ้านล่ะ  ทำตัวเป็นเด็กรุ่นหนุ่มไปได้  นี่ท่าจะมาเปิดโรงแรมนอนล่ะสิ  แปลกนะ..”  คนที่นั่งไขว่ห้างตรงข้ามยิงคำถามเป็นชุด  แต่ท่วงท่ายังดูผ่อนคลาย

                  “เฮ้ย...”  เดชคิดชื่นชมคนๆนี้ในใจ   ผู้ชายคนนี้รอบคอบและฉลาดไม่เคยเปลี่ยน  เพียงแค่เห็นเขามานั่งกินเหล้า  ก็เดาเรื่องราวได้เป็นฉากๆ  

                        “มีปัญหาที่บ้านรึไง  ท่าทางจะหนักนะ”

                        “ครับพี่...ก็ไอ้เจ้าลูกคนเล็กผมน่ะ  มันก่อเรื่องให้ปวดหัว”

                        “หืม...หนึ่งน่ะเหรอ  ไอ้เจ้าหนึ่งเนี่ยนะ  ก็มันเพิ่งจะหายป่วยไม่ใช่รึ   ได้ข่าวว่ากลับมาบ้านแล้วนี่ ชั้นงานยุ่งๆ  ไม่ได้เป็นดูหลานมันเลย”

                        “ครับกลับมาบ้านแล้ว  แต่มันดันพาคนอื่นมาอยู่ด้วย”

                        “เฮ่ย!!...อย่าบอกนะว่ามันพาเมียเข้าบ้าน  บ๊ะ...ไอ้เจ้าคนนี้เห็นเงียบๆแต่ไม่ธรรมดา”

                        “เอ่อ..”  เดชสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที   เขายกแก้วบรั่นดีขึ้นซดอีกอึกใหญ่

                       “เฮ่ย! นี่ชั้นพูดเล่นนะ  ตกลงว่ามันเรื่องจริงรึเนี่ย”  คราวนี้อีกคน ทำสีหน้าเหลือเชื่อ

                       “ครับ...นี่ล่ะ  ที่ผมกลุ้มเลย.. แต่ก็คงเอ่อ...ไม่ถึงเป็นเมียหรอกครับ  คงแค่คบๆกัน  เพียงแต่เด็กนั่นเข้ามาดูแลลูกผมที่บ้านตอนป่วยน่ะ”

                        “แล้วยังไงล่ะ  ลูกมันมีคนรักแล้วก็ดี  จับมันแต่งงานกันซะเลย  จะได้มีเจ้าตัวเล็กๆไว้ทันเราเห็นมันวิ่งเล่น”

                        “ไม่ได้หรอกครับ...แต่งไม่ได้แน่นอน”  เดชกล่าวหนักแน่น  ก็จะให้มันแต่งกันได้ยังไง    ในเมื่อมันเป็นผู้ชายทั้งคู่  เรื่องมีลูกมีหลานไม่ต้องพูดถึง  แต่จะให้เขาเอาเรื่องที่ลูกบ้ามันมีรสนิยมแบบนี้ไปบอกคนอื่น
คงเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด  แม้ว่าจะเป็นรุ่นพี่ที่นับถือกันมาอย่างคุณสิทธิ์ประสงค์ที่นั่งอยู่ตรงข้ามนี่ก็เถิด  เรื่องอย่างนี้มันน่าอายเกินกว่าจะพูดออกมาเสียด้วยซ้ำ

                        “ทำไมล่ะ  รึพ่อสามีอย่างแกไม่ถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้”

                       “เด็กคนนั้น..เด็กมากครับ  อยู่แค่ม.ห้าเอง”

                       “อ้อ..ก็รอไปก่อนสิ  เดี๋ยวก็จบแล้ว”

                       “ไม่ได้หรอกครับ...คือ  ผมกำลังคิดว่า  เด็กนั่นอาจไม่ได้จริงใจกับลูกของผม  เท่าไหร่นัก”

                       “ขนาดนั้น...อะไรทำให้คิดแบบนั้นล่ะ”
            
                       “พี่สิทธิ์  คิดดูสิครับ  ลูกผมแก่กว่าเด็กนั่นมาก  เด็กนั่นอนาคตอีกไกล แต่ทำไมต้องมาติดใจอะไรลูกของผม  ไอ้เจ้าหนึ่งมันก็คนบ้างาน  นิสัยของมันใครๆก็รู้  มีที่ไว้แค่ซุกหัวนอน  ถ้าเด็กนั่นไม่หวังเงินทอง  แล้วจะยอมอยู่กับมันทำไม  ถึงขนาดมาดูแลกันที่โรงพยาบาล  แล้วตอนนี้ก็ย้ายเข้ามาบ้านผมเรียบร้อยแล้ว  ดูมันจะรวบรัดดีนะครับ   ผมว่าเด็กนั่นแผนสูงมากว่า  พี่ก็รู้นะ  สังคมเราทุกวันนี้  ความคิดคนมันพัฒนากันไปขนาดไหน  ไอ้เรื่องไม่ดีน่ะ  พี่กับผมอยู่วงการค้าขายเห็นคนมาก็มาก  ยิ่งไอ้พวกหน้าอ่อนๆนี่น่ะ  ร้ายนะครับ  ไอ้ลูกผม ถึงมันจะทันคน  แต่มันก็โง่ได้นะครับ  อ้อ  สงสัยเด็กนั่นคงปั่นหัวคุณณีอีกคนจนยอมให้เข้าบ้าน  เฮ้ย...ผมล่ะกลุ้มเลย  เค้ามาอยู่แล้วจะไล่ออกก็ไม่ได้”   เดชพูดออกไปตามที่คิด  สีหน้ากลุ้มใจจนปิดไม่มิด

                       “อืม...ถ้ามันจริงอย่างที่แกคิด  ก็แย่หน่อยนะ  เพราะคนของเรารับเค้ามาเอง  จะให้ไปไล่เค้าออกก็ไม่ได้”

                       “อีกอย่างนะครับ   ผมว่านะ  เจ้าหนึ่งมันคงแค่หลงใหลไปชั่วคราวเท่านั้นล่ะครับ   แต่กว่ามันจะรู้ตัว  ผมเกรงว่ามันจะถอนตัวไม่ทัน”

                 “แย่นะ  ชั้นก็ว่าอย่างแกเห็นคนมามาก  คงดูคนไม่ผิด”

                      “ครับ  พี่ก็รู้  ผมไม่เคยดูคนผิด  อย่างเราๆกว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ก็ผ่านอะไรมาเยอะ  เดี๋ยวนี้มองหน้าก็เห็นไปถึงไส้ถึงพุง”

                      “แล้วจะทำยังไงล่ะ”

                      “เฮ้ย...ยังคิดไม่ออกครับ  ตอนนี้หลบมาตั้งหลัก”

                      “ไม่ยอมกลับบ้านเนี่ยนะ  เป็นวิธีของแก”  สิทธิ์ถามรุ่นน้อง
          
                      “กลับครับ....ก็ว่าจะกลับพรุ่งนี้ล่ะครับ  ยังไงๆก็คงต้องเจอ”

                      “ดีแล้ว  อย่าหนีปัญหา  ยังไงหนึ่งมันก็เป็นลูก  ถึงบางทีมันจะโดนตามใจบ้าง  แต่สำหรับชั้นมันก็ไม่ใช่เด็กไม่ดี”

                     และตอนนั้นเอง....

                      “อ้าว...คุณลุงยังไม่กลับอีกเหรอคะ”  หญิงสาวหน้าตาอิ่มเอิบ  สะอาดผุดผ่อง  ก้าวเข้ามากล่าวทักทาย

                   สิทธิ์ประสงค์หันไปมองตามเสียงหวานไพเราะ  หญิงสาวที่เข้ามาทักทายคือลูกเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ที่เขาเพิ่งจะพบปะมาเมื่อครู่

                      “อ้าว..หนูรดา...”
                  
                      เดชหันไปมองตาม  หญิงสาวยิ้มให้ก่อนพนมมือไว้  เขารับไหว้หญิงสาวที่หน้าตาอ่อนคราวลูก

                        “อ้อ...นี่คุณกรเดชนะ  น้องลุงเอง   เรียกอาเดชก็ได้นะ รดา  ส่วนนี่รดา ลูกคุณหญิงเพียบพร้อม  เจ้าของโรงแรมนี้ล่ะ  เดช”  สิทธิ์ทำการแนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน

                        “สวัสดีนะหนูรดา  เมื่อกี้ลุงก็เพิ่งจะพูดชมโรงแรมให้พี่สิทธิ์ฟังอยู่เลย  คุณแม่หนูบริหารดีมากๆนะ”  เดชกล่าวอย่างจริงใจ

                       “ค่ะ  ขอบคุณคุณอามากนะคะ  ที่มาใช้บริการของเรา  เอ๊ะ!....คุณอานี่หน้าคุ้นๆนะคะ...ตายแล้ว!  คุณอาคือคุณอาเดช คุณพ่อของพี่หนึ่งรึเปล่าคะ”

                  “หืม...หนูหมายถึง  ณฤเดช  ตาหนึ่ง ลูกลุงน่ะนะ”   เดชหันไปถามรดาที่นั่งลงข้างๆกัน

                       “ค่ะ  ใช่ค่ะ  หนูจำคุณอาได้ตอนงานรับปริญญา  ก็หนูเรียนที่มหาวิทยาลัยITUที่เดียวกับพี่หนึ่งนี่คะ  ที่นั่นคนไทยน้อยจะตาย  พี่หนึ่งเป็นรุ่นพี่หนูค่ะ”

                       “อ้อ...โลกกลมจริงๆนะ...55+”  เดชพูดด้วยใบหน้าระบายยิ้ม

                       “ค่ะ..พี่หนึ่งสบายดีนะคะ”

                       “ก็...ไม่เชิงน่ะ  หนึ่งเค้าเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล  เพิ่งหายป่วย”

                      “ตายแล้ว..พี่หนึ่งเป็นอะไรคะ  คุณอา”

                      “โดนเหล็กทับขาที่งานก่อสร้างน่ะ  เกือบเดินไม่ได้   แต่ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ  ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้ว”

                      “ดีจังเลยนะคะ”

                      “อืม..ว่างๆหนูก็ไปเยี่ยมสิ  ลุงยินดีต้อนรับนะ “

                      “จริงเหรอคะ  หนูไปเยี่ยมคุณลุงกับพี่หนึ่งได้เหรอคะ”  คนพูดแอบอมยิ้มหวาน  ดวงตาคู่สวยหลุบลงเล็กน้อย

                      “หึๆ  ได้สิ...คนกันเองทั้งนั้น” เดชตาเป็นประกาย   และแล้วสวรรค์ก็เข้าข้างเขา   เด็กสาวน่ารักคนนี้ล่ะ  เธอเปรียบเสมือนนางฟ้าที่ลงมาเพื่อช่วยลูกชายของเขาให้พ้นจากบ่วงมาร

                      “ขอบคุณค่ะ”  รดายิ้มรับอย่างปลาบปลื้ม  เธอดีใจเหลือเกิน  ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้เจอคนที่เธอเคยชื่นชมในอดีตอีกครั้ง  คนที่เธออยากสานสัมพันธ์ด้วยในตอนนั้น   เพียงแต่เพราะอายุที่ห่างกัน  ทำให้เวลาไม่เพียงพอที่จะพัฒนาความใกล้ชิด  เนื่องจากเขาตั้งใจจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทยเสียก่อน

                       เดชยิ้มอย่างพอใจ...เขาลอบสบสายตาคมแฝงรอบรู้ของสิทธ์ที่นั่งตรงกันข้าม  สิทธิ์ส่ายหน้าน้อยๆแล้วยิ้มบางๆ  อ่อนใจกับเจ้าคนชอบวางแผน   เพียงได้แต่หวังว่าจะไม่มีปัญหาอะไรให้ยุ่งวุ่นวายไปมากกว่านี้
                    

                    

                        






+1  ให้คนอ่านทุกคนเลย ขอบคุณมากๆ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: in_blu ที่ 16-06-2011 09:03:13
โอ้วว มาม่าชามใหญ่กะลังรอเสิร์ฟช่ายมะเนี่ย

คุณสิทธิ์นี่ คือ คู่กรณีของน้องสองช่ายมะคะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 16-06-2011 10:06:35
เอาหละซิ เริ่มมาม่าแล้ว เอาใจช่วยน้องสองนะจ๊ะ
ขอให้ความน่ารักจริงใจ ทำให้คุณพ่อ (สามี)
ใจอ่อนยอมรับนะจ๊ะ ส่วนชะนีนางนั้น ไม่รู้ไม่ชี้ 5555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 16-06-2011 11:05:41
คุณพ่อชักพาตัวปัญหาเข้าบ้านซะแล้ว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 16-06-2011 11:25:55
อย่าได้กังวล...ในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง :a2:
เชียร์น้องสองต่อปายยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 16-06-2011 13:13:40
อืม คุณพ่อคิดว่าลูกเป็นตุ๊กตาเหรอไงกัน จะได้หาแต่สิ่งดี ๆ ให้โดยไม่สนใจจิตใจลูกกัน ว่าต้องการมั้ย ชริ

น้องสองน่ารักจะตาย น้องสองสู้ ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11 ตอนล่าสุด(5:49น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-06-2011 16:09:48
ต่อค่ะ(ช่วง2 ของวันที่ 16/06/11)

                  หลังจากวันนั้น..เดชก็กลับมาอยู่บ้านตามที่ได้บอกไว้กับรุ่นพี่คนสนิท  การกลับมาครั้งนี้ของเขาทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูอึมครึมคล้ายกับวันที่มีเมฆหมอกตั้งเค้าจางๆ   ไม่ใช่เพียงแต่เขาเองเท่านั้นที่รับรู้ได้  คนอื่นๆก็เช่นกัน ทุกคนภายในบ้านไม่ค่อยพูดคุยกันเหมือนเคย  เรื่องราวที่สนทนาล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องผิวเผิน  ช่วงที่ดูจะอึดอัดน่ารำคาญใจที่สุดก็คือเวลารับประทานอาหารกันพร้อมหน้า  วันไหนถ้ามีลูกสาวช่างพูดร่วมวงด้วยบรรยากาศก็จะดูครื้นเครงอยู่บ้าง  ซึ่งเขาเองจะใช้ช่วงนั้นพูดคุยไถ่ถามกับลูกสาวเป็นส่วนใหญ่  ส่วนเจ้าลูกตัวดีที่นั่งหน้าเคร่งนั่นถ้าจะไม่พูดด้วยเลยก็ไม่ได้  เพราะมันก็ยังมีบางเรื่องที่เขาเองอยากรู้ เช่นอาการเจ็บป่วย หรือเรื่องที่จะทำงานต่อ  พอได้คุยกับเจ้าลูกคนโปรด  ก็มักจะมีคนพูดให้ท้ายคอยสนับสนุนอยู่เสมอ ซึ่งนั่นก็คือ  ภรรยาสุดที่รักของเขาเอง  ในความเป็นจริงคนที่เขาควรคำนึงถึงเวลารับประทานอาหารควรจะมีเพียงแค่นี้  ถ้าไม่นับ  เด็กคนนั้น  ไอ้เด็กที่มันนั่งนิ่งห่างออกไปจากลูกชายของเขา  เพียงแค่รู้สึกว่ามีเจ้าเด็กนั่นนั่งร่วมโต๊กอยู่ด้วย เขาเองก็แทบจะทานข้าวไม่ลง  เพราะฉะนั้นเขาถึงเลือกที่จะไม่เอ่ยถึงเรื่องที่จะไปพาดพิงถึงเด็กคนนั้น  สู้ไม่พูดถึงและลืมไปเลยเสียดีกว่า  จะได้ทานข้าวได้อย่างสบายอารมณ์ขึ้น

                  วันนี้ไม่มี "นุช" ลูกสาวคนเก่งของเขาต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้า  อาหารมือเช้าบนโต็ะรับประทานอาหารจึงดูจืดชืดไร้รสชาติสำหรับเขา

                  "อ้อ...คุณณี  คุณยังจำคุณหญิงเพรียบพร้อมได้มั้ย.."  เดชหันไปพูดกับภรรยาที่นั่งอยู่ข้างกัน

                  "ค่ะ..ได้ข่าวว่าโรงแรมเปิดใหม่ที่คุณหญิงลงทุนนี่กิจการกำลังไปได้ดีนะคะ  ยิ่งได้ลูกสาวมาช่วยยิ่งดีใหญ่เลย"

                  "ใช่...นี่..คุณรู้มั้ย ลูกสาวคุณหญิงน่ะ รู้จักกับไอ้เจ้าหนึ่งนะ  เห็นบอกว่าเป็นรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัย"
              
                  "เอ๋..เหรอคะคุณ   จริงเหรอจ๊ะหนึ่ง"  มารดาหันไปทางลูกชาย ที่กำลังเงยหน้าขึ้นหลังจากได้ยินชื่อของตนอยู่ในบทสนทนา

                  "เอ่อ..ใครนะครับ.." หนึ่งถามสีหน้ายังจับต้นชนปลายไม่ถูก

                  "ก็หนูรดา ลูกคุณหญิงเพรียบพร้อม  วันนั้นพ่อเจอเธอ  แล้วก็ได้คุยกัน รดาบอกว่าเป็นรุ่นน้องหนึ่งอีกที"

                  หนึ่งทำหน้านึกอยู่สักพัก  แล้วก็จดจำหญิงสาวใบหน้าสวยที่เคยเจอกันตอนเรียนมหาวิทยาลัย

                  "อ้อ..ครับ  น้องดา  ใช่ครับ..นี่คุณพ่อได้เจอน้องดาอีกหรือครับ เธอสบายดีนะครับ"

                  "ใช่  พ่อเลยเล่าเรื่องที่หนึ่งประสบอุบัติเหตุ  เห็นรดาตกใจไม่น้อย  พ่อเลยชวนเธอมาเยี่ยมหนึ่งบ้าง คนเคยคุ้นเคยกัน"

                  "อ่อ..เอ่อ.ครับ จริงๆผมก็หายแล้วนะครับ  เกรงใจดาเปล่าๆ" หนึ่งพูดแก้เก้อ ก่อนก้มลงตักข้าวต้มในชามต่อ

                  "เฮ่ย..ได้ไง  ก็ถ้าเค้าอยากมา พ่อจะปฏิเสธเค้าได้ยังไง  เอาน่า  น้องเค้าหวังดี  อย่าให้เสียมิตรภาพ ตอนอยู่นู่นเค้าก็คงช่วยอะไรๆแกไว้บ้างใช่มั้ย"

                  "เอ่อ..ก็พอมีบ้างน่ะครับ  ตอนจบเธอช่วยผมเรื่องโปรเจคนิดหน่อย"

                  "ก็นั่นไงล่ะ  พ่อถึงบอกว่าอย่าให้เสียมิตรภาพ คนดีๆสมัยนี้หายาก  รู้หน้าไม่รู้ใจ"

                  ท้ายประโยคเสียงทุ้มกังวาลแดกดันเล็กน้อย  เพียงแค่นั้นก็ถึงกับทำให้คนที่นั่งก้มหน้าเขี่ยข้าวเปล่าในจานต้องแอบสะดุ้ง  ทั้งๆที่ไม่ได้เอ่ยชื่อใครแท้ๆ  แต่ทำไมรู้สึกเหมือนโดนพูดกระทบกระเทียบ

                  "อ้าว..สอง  ทำไมไม่ทานกับข้าวบ้างล่ะ  พี่บอกให้ทานเยอะๆไง   ตอนนี้สองผอมไปแล้วนะ " หนึ่งพูดเบาๆ  แต่ก็ดังพอจะทำให้ได้ยินกันทั่วถึง

                  "เอ่อ.."  คนตัวเล็กอึกอัก  ก็บรรยากาศแสนจะกดดันแบบนี้  แค่ความกล้าที่จะยกมือขึ้นเอื้อมไปตักกับข้าวตรงหน้ายังไม่มีเลยด้วยซ้ำ

                  "ครืดดดดดดด...."

                  เสียงขาเก้าอี้ครูดไปกับพื้น เรียกความสนใจให้ทุกคนหันไปมอง

                  "ผมอิ่มแล้วล่ะคุณ  เดี๋ยวผมขอตัวไปเช็คหุ้นก่อนนะ"  เดชหันไปบอกภรรยา  ก่อนเดินหายเข้าไปทางห้องทำงาน
                  หญิงสูงวัยได้แต่ส่ายหน้าเอือมระอา  ทำไมเธอจะไม่รู้ล่ะ  ว่าที่สามีของเธอพูดน้อยเช่นนี้เพราะว่าอะไร ดวงตาแฝงความอาทรหันกลับมามองคนหัวทุยๆที่ยังก้มหน้าเขี่ยข้าวอยู่ในจาน  พอสบตากับลูกชายของเธอที่นั่งอยู่ข้างเด็กคนนั้น  เธอก็เห็นแววตาหนักใจของลูกตนเอง  นี่เธอจะช่วยลูกชายกับเด็กน้อยคนนี้ได้ยังไง  แม้แต่เธอเองก็กลุ้มใจ

                  พอวันถัดมา  หญิงสาว ร่างกลมกล่อมใบหน้าน่ารักสะสวย ก็มาเยี่ยมเยียนหนึ่งถึงบ้าน ตามคำเชิญของบิดาของหนึ่ง  สองแอบลอบสังเกตรดา  เธอเป็นผู้หญิงที่ดีพร้อมทุกอย่าง  ทั้งสวย มีเสน่ห์ รู้จักพูดคุยกับผู้ใหญ่  รดาเป็นผู้หญิงที่ดี รู้จักการวางตัว  แม้แต่มารดาของหนึ่ง  สองก็แอบเห็นเธอมีสีหน้าชื่นชมอยู่ไ่ม่น้อย  แน่ล่ะ  ผู้หญิงที่ดูมีความรู้แบบนี้ จะไม่นึกสงสัยเลยหรือว่าสองเป็นใคร  แต่ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับคำตอบจากบิดาของหนึ่งแล้ว  ว่าสองเป็นญาติห่างๆ  ญาติห่างๆอย่างนั้นเหรอ  ดูเหมือนว่าสองจะเจอคนที่ยิ่งกว่ามารดาของหนึ่งเสียแล้ว  เพียงแค่ตอนนั้น  ตอนที่มารดาของหนึ่งยังไม่ได้เปิดใจรับสอง  แค่นั้นสองก็จะแย่  แล้วนี่ยังจะมีบิดาของหนึ่ง  คนที่แสดงอาการไม่ยอมรับสองอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้  สองจะชนะใจคนๆนี้ได้อย่างไร  การมาของรดาสาวสวยคนนี้ สองมั่นใจว่าเป็นการจัดการโดยบิดาของหนึ่ง  เพราะท่าทางและอาการที่ต้อนรับอย่างเปิดเผยของชายสูงวัยผู้มีอำนาจสิทธิ์ขาดในบ้านหลังนี้  ทำให้รดาดูเป็นคนสำคัญที่สนิทสนมกันอย่างมาก  

                  และด้วยความที่หนึ่งกับรดาเคยรู้จักกัน  สองเองก็ไม่แน่ใจว่าตอนที่ยังเรียนอยู่นั้น หนึ่งสนิทกับรดามากน้อยแค่ไหน  แต่พอจะเดาได้จากความมีอัธยาศัยดีของทั้งสองฝ่าย  สองจึงคิดว่าสองคนนี้คงเข้ากันได้ดีทีเดียว  แม้แต่ตอนนี้  หลังจากที่ขาดการติดต่อกันไป  แต่ดูเหมือนว่าระยะเวลาช่วงที่ไม่ได้เจอกันไม่ได้ทำให้หนึ่งกับรดามีทีท่าห่างเหินกันเลยสักนิด  สองคนนั้นยังคุยกันได้ออกรสชาติเหมือนเดิม  ส่วนมารดาของหนึ่งก็คงรู้สึกเพลิดเพลิน  เพราะรดาเป็นคนคุยเก่งและมีเรื่องสวยๆงามๆมาเล่าให้หญิงสูงวัยได้ฟังตลอด  สำหรับสองนั้น  ก็ไม่ใช่ว่าจะถูกผู้หญิงแสนสวยคนนี้ละเลย  เธอยังชวนเด็กอย่างเขาคุยบ้าง  เพียงแต่บางเรื่องที่รดาพูดถึงกลับเป็นสิ่งที่อยู่ไกลตัวจากสองตอนนี้  เพราะว่าสองเด็กที่สุด  ยังเรียนชั้นมัธยม  ไม่ได้จบจากเมืองนอก  ดังนั้น เรื่องราวในชีวิตตอนนี้ก็มีแต่เรื่องของหนึ่งและเรื่องที่โรงเรียน

                  พอหลายวันต่อมา  รดาคนสวยก็มาเยี่ยมคนตัวสูงบ่อยขึ้น  เธอยังคงมานั่งพูดคุยกับมารดาบ้าง หรือหนึ่งบ้างส่วนบิดาของหนึ่ง  ถ้าไม่ติดธุระก็จะออกมาต้อนรับเสมอ   สองเองก็เคยไปนั่งฟังอยู่บ้าง  แต่หลังจากรู้สึกว่าตนเองไม่รู้จะคุยเรื่องอะไร  ได้แต่นั่งนิ่งเป็นแจกันประดับห้อง  สองจึงคิดว่าเขาควรเลี่ยงออกมาเสียดีกว่า  ช่วงหลังๆมานี้  สองเลยไม่ได้สนใจอีกว่ารดาจะมาเยี่ยมใครบ้าง เธอจะตั้งใจมาหาหนึ่ง  หรือว่ามารดากับบิดาของหนึ่ง  สองก็ไม่ได้อยากรับรู้  ได้แต่หลบอยู่ในห้อง  นั่งทำการบ้านบ้าง หรือว่าท่องหนังสือ  เพราะถึงยังไง ก็คงไม่มีใครสนใจหรือสังเกตอยู่แล้ว  บางครั้งสองคิดว่ามันก็ดีเหมือนกัน  เพราะรดาเหมือนวันที่ฟ้าสว่างสดใส  เมื่อไหร่ที่รดามาที่บ้านหลังนี้  บรรยากาศอึมครึมก็ดูจะมลายหายไป

                  "ดึกแล้วล่ะฮะ  พี่หนึ่งกลับไปนอนได้แล้วล่ะ"  ดวงตาใสมองคนตัวสูงที่ยืดตัวบิดขี้เกียจ  ช่วงนี้สองใกล้จะสอบแล้ว  หนึ่งเลยรับอาสาติวเลขให้ตอนดึกๆของทุกคืน

                  "สองเข้าใจหมดแล้วนะ อ้อ  แต่เมื่อกี๊ทำได้ทุกข้อแล้วล่ะ  คราวนี้เตรียมตัวติดท็อปเท็นได้เลยครับ"  หนึ่งพูดยิ้ม  เอาฝ่ามือยีหัวทุยเบาๆ  

                  "ฮะ...ขอให้ได้อย่างที่พี่หนึ่งว่านะ"  คนตัวเล็กยิ้มบางๆ  ย่นคอรับน้ำหนักของฝ่ามือนั้น

                  และตอนนนั้นเอง ฝ่ามือหนาก็เลื่อนลงมาประกบลงบนแก้มใส

                  "สอง.."  หนึ่งขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้  สายตาคมแสดงว่าอยากจะพูดอะไรบางอย่าง

                  "ฮะ..."  คิ้วเล็กเลิกขึ้น  ดวงตาหวานช้อนขึ้นมอง

                  "เรื่องรดา...พี่ไม่ได้คิดอะไรนะ"  หนึ่งพูดหนักแน่น

                  "ฮะ"  คนตอบรับยิ้มพราย  ฝ่ามือเล็กทาบลงบนฝ่ามือหนา

                  "สองห้ามคิดอะไรทั้งนั้น  นอกจากว่าพี่รักสองคนเดียว  พี่มีสองคนเดียว  เข้าใจนะครับ"

                  "ฮะ..เข้าใจฮะ  พี่หนึ่งกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ  ดึกแล้วฮะ"

                  "ครับ  กู๊ดไนท์ครับ"  คนตัวสูงยื่นใบหน้าเข้าไป  ริมฝีปากจรดลงตรงหน้าผากมน  ก่อนเลื่อนลงมาจุมพิตที่ปลายจมูกเล็ก
 
                  "ฮะ.."  ดวงตาหวานลืมขึ้นหลังจากรับจุมพิตนั้น  ใบหน้ามนยื่นเข้าไปหอมแก้มคนตัวสูงฟอดใหญ่ๆเป็นการตอบแทน  ร่างสูงลุกขึ้น  เดินไปที่ประตู  แต่ก่อนที่จะเปิดออกไป  เขาก็หันกลับมาอีกครั้ง

                  "สอง  เรื่องคุณพ่อ.."

                  "ฮะ...สองไม่เป็นไรฮะ.."

                  "พี่ขอโทษแทนคุณพ่อนะ  บางทีท่านก็ทำอะไรเกินเลย สองอย่าโกรธท่านเลยนะครับ"

                  "ไม่ฮะ  สองเข้าใจดีฮะ  สองไม่โกรธหรอกฮะ"

                  "ครับ  ขอบคุณครับ พี่ไปนอนก่อนนะ  เจอกันพรุ่งนี้นะครับ"

                  "ฮะ"

                  ประตูห้องปิดลง  คนๆนั้นเดินไปนานแล้ว  แต่คนตัวเล็กยังนั่งอยู่บนเตียงเหมือนเดิม  เสียงถอนหายใจเล็กๆดังขึ้นเป็นระยะๆ  สองไม่คิดมาก่อนเลยว่าความรักของตนเองจะมีอุปสรรคมากมายขนาดนี้  สองขอแค่ผ่านพ้นมันไปได้  อย่างน้อยๆเรื่องราวที่ผ่านมาก็ทำให้เขารู้ว่า หัวใจของเขาและของหนึ่งยังคงมั่นคงเสมอ  สองมั่นใจว่าอย่างนั้น

                   หลังจากที่บิดาของหนึ่งกลับมาอยู่บ้าน  เวลาไปไหนมาไหน  ก็ต้องใช้คนขับรถให้  เพราะสะดวกกว่าการขับรถเอง  ดังนั้นหนึ่งจึงเป็นคนขับรถไปส่งและรับสองแทน  แต่พอหนึ่งต้องเริ่มทำงาน  บางครั้งคนตัวเล็กก็ต้องเดินทางไปเอง  หรือกลับเอง  เพราะสำหรับหนึ่งแล้ว  พอได้เริ่มงาน เขาก็มีหลายโปรเจคระดมเข้ามา  เนื่องจากหนึ่งเป็นคนไฟแรงและมีฝีมือ  จึงได้รับความไว้วางใจจากเจ้านาย  หนึ่งมีงานเข้ามามากขึ้น  สองเคยเห็นโต๊ะทำงานในห้องของหนึ่งเต็มไปด้วยแบบแปลน  วางไว้ก่ายกันไม่เป็นระเบียบ  อาศัยที่เคยจดจำเรื่องราวได้บ้าง ก็เลยจัดให้  แต่สุดท้ายพอมีอันใหม่มาก็เละเทะอยู่ดี  เดือดร้อนคนตัวเล็กต้องคอยจัดให้เป็นระเบียบตลอด  ไม่เช่นนั้นเวลาเร่งด่วนหนึ่งคงต้องใช้เวลาในการควานหาแบบที่ตัวเองวางไว้ระเกะระกะ  พอมาช่วงหลังๆ  ช่วงที่สองต้องสอบ  คนตัวเล็กก็ไม่ค่อยได้เจอหนึ่ง  เพราะต้องออกจากบ้านแต่เช้า แล้วก็รีบกลับมาท่องหนังสือต่อ  กว่าหนึ่งจะกลับถึงบ้านก็ปาเข้าไปตีหนึ่งตีสอง  คนตัวเล็กก็หลับไปแล้ว  ส่วนตอนเช้าบางทีที่สองเตรียมตัวไปโรงเรียน หนึ่งก็ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ  ช่วงสอบเป็นเวลาที่สองต้องเหนื่อยมาก  เพราะต้องใช้เวลาเดินทาง  แต่เขาก็ยังได้รับความห่วงใยจากมารดาของหนึ่ง  เธอจะคอยกำชับสาวใช้ให้อุ่นนมไว้ให้สองเสมอ   ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์สองก็จะปิดห้องนั่งท่องหนังสือ  แต่บางครั้งก็ยังได้ยินพี่ๆที่เป็นแม่บ้านคุยกันว่ามีแขกมาหา  ก็คงไม่ใช่ใคร สองเดาได้ว่าคือรดานั่นเอง  เพราะความสวยของเธอมักเป็นที่พูดถึงของผู้หญิงด้วยกันเสมอ

                  หลังจากสอบเสร็จแล้ว  สองจึงได้พักหายใจบ้าง  พอจัดการเรื่องรายงานที่ต้องส่งได้หมด  สองก็ไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียนอีก เพราะตอนนี้ก็ปิดเทอมพอดี  เหลือเพียงแต่นั่งรอลุ้นคะแนนวิชาเลขว่าจะได้เต็มตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่  เพราะว่าสองตั้งใจแน่วแน่ว่า คะแนนเต็มครั้งนี้ต้องคว้ามาเป็นของขวัญให้กับคุณครูจำเป็นที่มีงานยุ่งจนล้นมือให้ได้  

                  วันหนึ่งขณะที่สองอยู่บ้าน  มารดาและบิดาของหนึ่งออกไปงานจัดเลี้ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่ง  ส่วนคนตัวสูงก็คงจะกลับดึกๆดื่นๆอีกตามเคย  สองเลยใช้เวลาว่างๆเข้าไปจัดข้าวของที่ไม่เป็นระเบียบให้กับหนึ่ง  ซึ่งส่วนนั้นจะเป็นเอกสารทำงาน ที่หนึ่งไม่อนุญาตให้ใครยุ่ง นอกจากคนตัวเล็กเพียงคนเดียว  

                  สองเดินไปที่โต๊ะทำงาน  แบบแปลนต่างๆยังวางระเกะระกะเหมือนเดิม  สองใช้เทคนิคในการจดจำรายละเอียด บางทีหนึ่งก็เล่าเกี่ยวกับปัญหาของงานที่ทำให้ฟังบ้าง  จึงทำให้สองจำได้ว่างานไหนเป็นงานสำคัญหลักและรองๆลงมา  แบบแปลนมีเยอะแยะเต็มไปหมด  สองตาลาย  ไม่เข้าใจว่าหนึ่งเพิ่งเข้าทำงานเพียงเดือนเดียว แต่ทำไมถึงมีงานกองสุมเป็นภูเขาแบบนี้  สองเลื่อนลิ้นชักออกมาเอามือควานหาที่ทับกระดาษ  แต่แล้วมือเล็กก็เปะปะไปเจอบางสิ่งที่ไม่คุ้นเคย

                  กล่องอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น  สองหยิบมันออกมา  ดวงตาโตใสเบิกกว้าง  เพียงแค่เห็นแวบแรก  สองก็มั่นใจว่ามันคือกล่องที่มีค่า  เนื่องจากมันบุด้วยผ้ากำมะหยี่สีดำสนิท  คนตัวเล็กกลั้นใจลองเปิดดู  บางทีอาจเป็นกล่องเปล่า ก็ได้  ถ้ามีของมีค่าข้างใน  หนึ่งน่าจะหาที่เก็บที่ดีกว่านี้

                  ฝาของกล่องถูกมือบางค่อยๆเปิดออก ดวงตาโตหวานสะท้อนภาพของแหวนทองคำขาวเป็นประกายสองวงอยู่เคียงคู่กัน  ความมันวาวกระทบกับไฟนีออนบนเพดาน  ที่ตัวเรือนของแหวนวงเล็กมีเพชรเม็ดเล็กๆประดับอยู่ด้วย  เพียงสายตากระทบถูกเพชรเม็ดจิ๋ว  มันก็สะท้อนแสงออกมาเจ็ดสี  แม้จะถูกเจียรไว้เล็กแค่ไหน  แต่ของล้ำค่าก็ยังอวดโฉมของมันให้เห็นอยู่ดี

                  สองอึ้งกับสิ่งที่เห็น  คนตัวเล็กรีบปิดมันแล้วเก็บไว้ตามเดิม  รู้สึกงุนงงสับสน  ทำไมคนตัวสูงถึงมีของแบบนี้  สองยอมรับว่าอีกใจหนึ่งก็แอบตื่นเต้น  หรือว่ามันจะเป็นสิ่งที่หนึ่งเตรียมไว้เพื่อเขาสองคน แต่พอคิดว่ามันยังไกลตัวเกินไป  สองเพิ่งเรียนชั้นมัธยมเอง และหนึ่งก็ไม่เคยเกริ่นหรือบอกเรื่องราวเลยสักนิด  มันจะเป็นไปได้ยังไง  เท่าที่ดูนี่มันเป็นแหวนแต่งงานชัดๆ  บางทีอาจจะเป็นแหวนที่หนึ่งเตรียมไว้กับพี่แจงก็ได้  แต่พอเลิกกันก็เลยถูกทิ้งไว้แบบนี้  สุดท้ายสองก็เก็บกล่องแหวนไว้ที่เดิม  พยายามสอดมันเข้าไปให้ลึกๆ สองคิดว่าอย่างน้อยๆ  มันก็ยังเป็นของมีค่าอยู่ดี เอาไว้วันหลังสองค่อยๆเลียบๆเคียงๆถามดู  เผื่อว่าหนึ่งอาจจะลืมไปแล้ว  สองจะได้หาที่เก็บให้มันมิดชิดกว่านี้

                 แต่จนแล้วจนรอด สองก็ไม่ได้คุยกับคนตัวสูงจริงๆจังๆ  เพราะหนึ่งต้องออกพื้นที่ วันนี้ก็เช่นกัน  หนึ่งออกไปแต่เช้า  บอกไว้แต่ว่าจะกลับมาดึกๆ  ส่วนมารดาของหนึ่งมีนัดพบปะกับเพื่อนฝูง  ก็คงเป็นที่ร้านทำผมร้านประจำ  สองจึงอยู่บ้านเงียบเหงา  แต่ที่น่าหวาดหวั่นอยู่บ้างก็คือ  วันนี้บิดาของหนึ่งไม่ได้มีธุระไปไหน  และตอนบ่ายๆของวันนั้นเอง  สองก็ถูกเรียกให้เข้าไปพบที่ห้องทำงาน

                 "เอ่อ..."

                 "นั่งสิ"  เสียงมีอำนาจดังขึ้น  คนพูดพยักเพยิดให้นั่งลงตรงโซฟา

                 "ถามตรงๆล่ะนะ  ไม่อ้อมค้อม  เธอตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนานมั้ย"

                 "เอ่อ...ฮะ.."  คำถามครั้งนี้ทำเอาสองหน้าชาขึ้นทันที
              
                 "เอาล่ะ...ถ้าอึกอักก็จะถามอีกข้อ  เธอเป็นอะไรกับหนึ่ง  ไหนตอบมาให้ชัดๆ"

                 "เอ่อ..ผม..ผมเป็น..."  คราวนี้คนตัวเล็กก้มหน้า  รู้สึกถึงภาวะกดดันจากคนด้านบน

                 "เฮ้ย...ตอบไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ  แม้แต่ตัวเธอเองยังตอบไม่ได้เลย  แล้วจะให้ชั้นยอมรับได้ยังไง เธอคิดจะอยู่กับเจ้าหนึ่งมันไปแบบนี้ตลอดน่ะเหรอ"

                 "พ่อแม่เธอรู้มั้ย"

                 "เอ่อ...ฮะ"

                 "ฮึ..โดนตามใจสินะ  เจ้าหนึ่งมันก็โดนตามใจแบบนี้ล่ะ  อยากได้อะไรก็ต้องได้"

                 "เอาล่ะชั้นจะพูดให้จบๆไปเลย  ชั้นมีลูก  ชั้นย่อมคาดหวังให้มันเป็นคนสืบทอดตระกูล  อยากเห็นหลาน  อยากให้มันดูแลกิจการ  ชั้นต้องการคนที่เหมาะสมกับลูกของชั้นจริงๆ  เธอคงเข้าใจนะ  หนึ่งบอกเธอเรื่องข้อตกลงรึยัง"

                 "ข้อตกลง...ข้อตกลงอะไรฮะ?...."  สองเลยหน้าถามสายตาคมที่ปลายตามองลงมา

                 "อ้อ...คงจะยุ่งจนไม่ได้บอกเธอ  ชั้นจะบอกให้เลยแล้วกัน    ชั้นจะให้มันแต่งงานกับหนูรดา ถ้ามันยอม ชั้นจะอณุญาติให้มันติดต่อกับเธอได้  แต่เธอต้องออกไปจากบ้านหลังนี้   แต่ถ้ามันไม่แต่ง  ชั้นก็คงต้องตัดพ่อตัดลูกกับมัน  เธอคงเข้าใจนะ  ชั้นรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้  ยิ่งเห็นมันมีเด็กมาเกาะแกะยิ่งรู้สึกรำคาญ  เอาเป็นว่าอย่างนี้แล้วกัน  ชั้นจะให้ค่าที่เธอเสียเวลามายุ่งกับลูกของชั้น  นั่นในถุงกระดาษบนโต๊ะ  ชั้นว่ามันคงมากพอที่จะทำให้เธอใช้จ่ายได้อย่างสบายไปหลายเดือน"

                 คนตัวเล็กก้มหน้านิ่ง  รู้สึกกระบอกตาร้อนผ่าว หัวใจเหมือนถูกบีบอัด  สองกำมือทั้งสองข้างอย่างเจ็บใจ  ความรักของสองที่มอบให้หนึ่ง  ไม่สิ สองพยายามมอบความจริงใจให้ทุกคน  โดยเฉพาะคนๆนี้  แต่มันกลับมีค่าแค่เงินในถุงกระดาษเท่านี้น่ะเหรอ  นี่ถึงขนาดจ้างกันให้เลิกกับลูกชายของตัวเองเชียวเหรอ  แล้วคนตัวเล็กก็นึกอะไรขึ้นมาได้  กล่องสีดำกล่องนั้น...คงไม่ได้หมายความว่าหนึ่งเตรียมแหวนไว้เพื่องานนี้หรอกนะ  หรือว่านั่นคือทางออกของคนตัวสูง  เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องทะเลาะกับพ่อ และก็ยังได้คบกับสอง  เขาจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น ...

                  "ว่าไง...ตกลงว่าไง  จะไม่ยอมเปิดดูก่อนเหรอ ไม่ใช่น้อยๆนะ ชั้นว่ามันมากกว่าที่เจ้าหนึ่งมันให้เธอซะอีก"

                  "........................"  คนตัวเล็กกัดริมฝีปากจนห้อเลือด

                  "เอ้า..เร็วตอบมา ชักช้าน่ารำคาญ"
  
                  "คุณลุงเก็บเงินไว้เถอะฮะ...สองรักพี่หนึ่ง  คบพี่หนึ่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ  พี่หนึ่งไม่เคยให้เงินสอง  และสองก็ไม่เคยขอพี่หนึ่ง  ถ้าคุณลุงอยากให้สองออกไปจากบ้าน  สองก็ยอมฮะ  ส่วนเรื่องที่พี่หนึ่งจะแต่งงานหรือไม่  คุนลุงคงต้องไปถามพี่หนึ่งเองนะฮะ..."  คนตัวเล็กค่อยลุกขึ้น  ก่อนยกมือขึ้นพนม  แล้วกล่าวต่อ

                  "สองขอโทษนะฮะ...ที่ทำให้คุณลุงรำคาญใจ  สองเองก็ไม่คิดว่าพี่หนึ่งจะยอมรับสองได้ด้วยซ้ำ  แต่สุดท้ายพี่หนึ่งก็ทำให้สองรู้ว่าพี่หนึ่งรักสอง  แต่ถ้าความรักครั้งนี้ มันถึงกับต้องทำให้พี่หนึ่งตัดขาดความเป็นพ่อเป็นลูกกับคุณลุง  สองก็พร้อมจะเป็นคนไปจากพี่หนึ่งเองฮะ  สองขอโทษนะฮะ ที่นำความเดือดร้อนมาให้"  

                  สองเดินจากมาทันทีที่พูดจบ  เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว  ไม่อยากหันไปมอง  ภายในใจตอนนี้สับสนปนเปไปหมด  ทั้งร้อนรุ่ม ทั้งเสียใจ  อยากเจอคนตัวสูง...แต่พอคิดว่าเมื่อพูดออกไปแล้วก็ต้องทำตามที่พูด  คนตัวเล็กเดินขึ้นชั้นบน  หยิบเป้ใบเก่าออกมา  ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้มันอีกครั้ง  ข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าที่ใส่อยู่เป็นประจำถูกยัดลงกระเป๋าอย่างลวกๆ  ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่สองไม่ได้ซื้ออะไรเพิ่มเติม  นอกจากสบู่ยาสีฟัน  ของใช้จำเป็น  ส่วนเสื้อผ้าก้มีแต่ชุดนักเรียนและชุดลำลอง  สองเลือกชุดเ่ก่าๆที่ใส่เป็นประจำยัดลงเป้  มือเล็กรูดซิปปิดก่อนเหวี่ยงมันขึ้นบ่าสะพายเข้าที่ก็ออกเดินดุ่มๆ  คนตัวเล็กเดินออกไปนอกบ้าน ไม่สนใจสายตาของพี่ๆแม่บ้านที่เคยพูดคุยสนิทสนมกัน  ไม่สนใจพี่ยามที่เคยทักทายกันประจำซึ่งตอนนี้กำลังเปิดประตูให้  พี่ยามกล่าวอะไรบางอย่าง  แต่สองไม่ได้สนใจ  ในใจของสองว่างเปล่า  เขาจะไปที่ไหนดี  เขาจะไปหาความอบอุ่นที่ไหนดี  ตอนนี้คงไม่มีที่ไหนที่ดีกว่านี้อีกแล้ว  ถ้าไม่ใช่ ที่บ้านของเขาเอง...




+1สำหรับผู้อ่านทุกท่าน ขอบคุณมากๆ :L2:

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  คืนนี้น่าจะปิดเรื่องนี้ได้... (เหอะๆจะพยายามนะ>.<)


  
                

                  

                  
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: nabua ที่ 16-06-2011 16:23:09
รออย่างใจจดจ่อค่ะ
สงสารสอง เหมือนถูกใช้ประโยชน์เสร็จแล้วก็เขี่ยทิ้ง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 16-06-2011 16:31:08
สงสารสองง่ะ อ่านแล้วน้ำตาคลอเบ้า
ทำไมพ่อทำอย่างนี้ อินไปใช่มะ
เดี๋ยวมารอตอนท้ายของเรื่องคืนนี้นะคะ
อย่าให้รอเก้อน๊า เอาใจช่วงน้องสองจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 16-06-2011 17:31:36
 :serius2: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: KARNKATREE ที่ 16-06-2011 17:46:19
รอนะค้าบบบ 
รอดูบทสรุปของพี่หนึ่งแล้วก็น้องสอง ครับบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-06-2011 18:06:52
ร้องไห้กระซิกๆๆๆ
เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 16-06-2011 18:20:00
แง๊ ทำไมอ่า คุณพ่อใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย พี่หนึ่งก็ใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ไม่ดูแลน้องเลยเป็นผู้ใหญ่ซะปล่าว อย่างงี้ต้องทิ้งซะให้เข็ด
ดูดิ๊ตอนป่วยจะเป็นจะตายน้องดูแลอย่างดี พอหายดีก็ทิ้งๆขว้างๆ ปล่อยให้อยู่คนเดียวกับงานซะให้เข็ดเลย  :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 16-06-2011 18:23:31
ทำเราร้องไห้อะ :m15:

สงสารน้องสองอะ

พ่อใจร้าย

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 16-06-2011 18:53:38
น้องสองงงงงงงงงงงงงงง :sad11: :sad11:

คุณพ่อน่าตีจริงๆๆ เลย..เดียวปั๊ด

พี่หนึ่งรีบกลับมาเคลียร์ด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

คุณแม่ช่วยพี่หนึ่งน้องสองด้วยยยยยยยยยยยยยยยยย

 :pig4: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: natty _lovelove ที่ 16-06-2011 19:19:35
ใจร้ายกับน้องสองมาก

พอพี่หนึ่งหาย ก็ถีบหัวส่ง 

เชอะ

ถ้าพี่หนึ่งเดินไม่ได้ น้องดายังจะอยากได้อยู่ป่าว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 16-06-2011 20:14:20
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 16-06-2011 20:20:18
 :dont2:  มันคือมา่ม่าชามโต..  ฮือ..
รีบมาต่อเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง2(4:03น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 16-06-2011 21:41:29
ต่อค่ะ(ช่วง3 ของวันที่ 16/06/11)


                  "Rrrrrrrr......."  

                  เสียงโทรศัพท์สั่นที่ใส่ไว้ในกระเป๋า  ทำให้สิทธิ์ที่นั่งหลับตาอยู่ในรถต้องสะดุ้งตื่นขึ้น   เขาเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋า หยิบเจ้ามือถือจอมปัญหาขึ้นมา  เพียงเห็นชื่อคนโทรเข้าก็ต้องระบายยิ้มอย่างเหนื่อยหน่ายแกมเอ็นดู

                  "ว่าไง...ชั้นกำลังไปหาแกพอดีเลยเดช"  

                  "55+ครับพี่...พี่ใกล้ถึงยังครับ"

                  "เออ...เดี๋ยวชั้นก็เลี้ยวเข้าซอยบ้านแกแล้ว  ใช่มั้ยศักดิ์"  สิทธิ์ถามคนสนิทที่กำลังขับรถให้   ศักดิ์เพียงแต่พยักหน้าตอบกลับมาทางกระจกมองหลัง

                  "ได้เลยครับพี่  เดี๋ยวเจอกันครับ  ตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดีสุดๆ"

                  "พูดแบบนี้แสดงว่าแกจัดการเรื่องที่บ้านเรียบร้อยแล้วงั้นสิ"

                  "ครับพี่  เด็กนั่นไปแล้วล่ะ  เห็นผมให้เงิน  ตอนแรกนึกว่าจะตาโต  ที่ไหนได้เกิดหน้าบาง  คงละอายน่ะครับเลยยอมรามือแต่โดยดี"

                  "เออ..ง่ายๆแบบนี้ก็ไม่ต้องหนักใจแล้วสินะ  คราวนี้ก็เดินหน้าเรื่องหนูรดากับเจ้าหนึ่งได้แล้วสิ  ว่าแต่แน่ใจนะ  ว่าหนึ่งมันไม่ได้รักเด็กคนนั้นน่ะ"

                  "โธ่พี่  ผมก็ว่ามันก็คงหลงใหลชั่วครั้งชั่วคราว  เหมือนเราสมัยตอนหนุ่มๆไงครับ  อยากรู้อยากลอง  แต่พอรู้ว่ามันไม่ดีก็ต้องรีบเลิก  ผมเห็นมาแล้ว  ผมไม่ยอมให้ลูกพลาดหรอกครับ"

                  "เออๆ  ชั้นเข้าใจแก  งั้นแค่นี้นะเว่ย  เดี๋ยวก็ถึงบ้านแกแล้วล่ะ"

                  "อาๆๆ ครับพี่ โอเคครับ"

                  ปลายสายกดวางไปเรียบร้อยแล้ว  สิทธิ์กำลังเก็บโทรศัพท์เข้าที่   แต่แล้วศักดิ์ที่กำลังขับรถอยู่ก็เรียกเสียงดัง

                  "นายครับนาย  นั่นมันเด็กคนนั้นรึเปล่าครับ"

                  "หืม...ใครกัน..ศักดิ์"

                  "เด็กที่ชื่อสองไงครับ  ที่ผมขับไปชนแกล้มเมื่อตอนนั้น"

                  "จริงเหรอ  ไหนล่ะ"  สิทธิ์ชะโงกหน้ามองออกไปที่กระจก

                  "นั่นครับ  กำลังเดินอยู่ข้างทาง"

                  "อ้อ  ใช่จริงด้วย  ชั้นจำได้  เด็กที่ดูเงียบๆคนนั้นน่ะนะ  ศักดิ์เรียกซิ"

                   ศักดิ์เคลื่อนรถเข้าไปช้าๆ  ตรงที่คนตัวเล็กกำลังเดินดุ่มๆไม่สนใจผู้คน  ศักดิ์จึงบีบแตรสองครั้ง เพื่อเรียกความสนใจ  เขาเห็นเด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้น คิ้วขมวดกัน คงสงสัยว่าใครมาบีบแตรใส่แถวนี้  เขาจึงลดกระจกลง ยื่นหน้าไปทักทาย

                   "ว่าไง  ไอ้หนู  มอเตอไซด์ใช้ดีมั้ย"  ศักดิ์กล่าวอารมณ์ดี

                   "อ้าวพี่ศักดิ์  สวัสดีฮะ ไม่ได้เจอกันนานเลย  พี่สบายดีนะฮะ"

                   "เออ  สบายดี  เอ้านี่่  วันนี้นายพี่มาด้วยนะ"

                   สองเดินมาที่กระจกตรงส่วนของเบาะผู้โดยสารซึ่งศักดิ์กดปุ่มเพื่อให้กระจกลดลง  ใบหน้าชายสูงอายุใจดีก็ปรากฏให้เห็น  เขายิ้มให้สอง

                   "สวัสดีครับคุณลุง"

                   "ไหว้พระเถอะ สอง  ไปไงมาไงล่ะนี่  บ้านอยู่แถวนี้เหรอเรา"

                   "เอ่อ...สองกำลังจะกลับบ้านฮะ  สองมาค้างบ้านเพื่อนแถวนี้ล่ะฮะ"

                   "55บังเอิญจริงๆ  วันนั้นลุงยังพูดถึงสองกับศักดิ์อยู่เลย  ว่าป่านนี้ไม่รู้ไปขับรถใจลอยที่ไหนอีกรึเปล่า"

                   "เอ่อ..จริงๆสองก็ไม่ค่อยได้ขับหรอกครับ  นั่งรถเมล์มากกว่า"  สองพูดแก้เก้อ
 
                   "อ้อ...แล้วคนที่จะไปหาตอนนั้นก็คงสบายดีแล้วสินะ"

                   "เอ่อ..ฮะ  พี่เค้าสบายดีแล้วฮะ  ตอนนี้เดินได้ปกติแล้ว"  เด็กหนุ่มสีหน้าหม่นลง

                   "หืม..เค้าประสบอุบัติเหตุงั้นสิ"  ชายสูงวัยถามอย่างสนใจ

                   "เอ่อฮะ "  แล้วคนตัวเล็กก็นึกขึ้นได้ว่าไม่เคยเล่าเรื่องหนึ่งให้ศักดิ์กับชายสูงวัยใจดีคนนี้ฟังเสียที  จึงกล่าวเสริมไปอีกบางส่วนเพื่อไม่ให้เสียมารยาท
  
                   "คือพี่คนนั้นเค้าเป็นวิศวกรฮะ  เค้าเจออุบัติเหตุที่ไซด์งานฮะ  ผมกับพี่เค้าสนิทกัน  พอทราบข่าวก็ต้องรีบไปฮะ  แต่ตอนนี้เค้าหายแล้ว"

                   "อ้อ  งั้นก็ดีแล้วล่ะสิ  เอ้อ  งั้นเดี๋ยวลุงขอตัวไปก่อนนะ  พอดีนัดคนไว้"

                   "ฮะ...สวัสดีฮะ"

                   สิทธิ์รับไว้เด็กหนุ่ม  ก่อนที่ศักดิ์จะกดปุ่มให้กระจกเลื่อนขึ้นมาตามเดิม  ตัวรถเคลื่อนคล้อยมาจากเด็กหนุ่มร่างเล็กคนนั้นมาไกลแล้ว  แต่ทำไมสิทธิ์ถึงรู้สึกทะแม่งๆในเรื่องราวของสองเสียเหลือเกิน  เด็กคนนี้มีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ  ถึงแม่จะดูเป็นเด็กเงียบๆธรรมดาคนหนึ่ง  แต่เขาจำได้ดี ประกายตาแบบนั้น  ประกายตาที่ไม่ยอมแพ้ มันสร้างความประทับใจให้เขา อีกทั้งท่าทางสุภาพอ่อนน้อมไม่เรียกร้องสิ่งใด  นั่นทำให้เขาพอใจในตัวเด็กหนุ่มคนนี้เพิ่มขึ้น  เพียงแต่วันนี้  แม้เวลาจะผ่านไปหลานเดือนแต่เขาก็สามารถแยกแยะความแตกต่างได้ดี  ตอนนี้เด็กน้อยดูซูบผอม  แถมยังปรากฏสีหน้าท้อแท้อย่างเห็นได้ชัด  ถ้าทุกอย่างราบรื่นอย่างที่เจ้าตัวเล่ามา  ทำไมเขาถึงรู้สึกว่า คู่สนทนาของเขาไม่มีความสุขเอาซะเลย..

                   แต่ตอนนี้เรื่องที่สำคัญก็คงเป็นเรื่องลูกชายของเจ้ารุ่นน้องคนสนิท  เดชได้ทาบทามให้เขาเป็นพ่อสื่อให้อีกแรง  เขาเองก็เห็นว่ารดาเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักมีคุณสมบัติพร้อม  คิดว่าคงจะทำให้คนหนุ่มอย่างหนึ่งเปลี่ยนใจได้  โดยส่วนตัวแล้วถ้าเป็นเรื่องในครอบครัว เขาเองก็ไม่อยากเข้าไปยุ่ง  แต่นี่เดชเป็นคนขอร้องอ้อนวอน  คนเคยคบหาสนิทกันมาเขาเองก็ไม่อาจละเลยได้  ยังดีที่เด็กผู้หญิงที่เจ้าหนึ่งมันติดพันยอมเลิกราแต่โดยดีไม่อย่างนั้นเขาคงต้องช่วยเดชคิดหาวิธีแยกหนึ่งออกมาจากตัวผู้หญิงจนปวดหัว  และด้วยความเชื่อใจ  เพราะเขาเชื่อว่าเดชคงดูคนไม่ผิด  เพราะโดยปกติเดชจะอ่านคนเก่ง
ด้วยเพราะสมัยหนุ่มๆเดชก็มีประสบการณ์ชีวิตโชคโชน  ผ่านผู้หญิงมาหลายแบบ  ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเดชสามารถจัดการกับผู้หญิงที่หวังรวยทางลัดได้  ซึ่งสุดท้ายก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

                                                      ..............................................


                  หนึ่งมองนาฬิกาข้อมือ  ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มครึ่ง  เขาจอดรถ  กำลังจะลงไปเปิดประตูเพื่อเอารถเข้าบ้าน  ก็พอดีกับพี่ยามประจำบ้านเลื่อนประตูให้ก่อน

                  หนึ่งขับรถเคลื่อนเข้ามาในบ้าน  พี่ยามรีบปิดประตูแล้วก็วิ่งตามมา  หนึ่งจอดรถเสร็จแล้ว เขาหอบข้าวของกำลังเดินเข้าบ้าน

                  "คุณหนึ่ง  คุณหนึ่ง เดี๋ยวครับ"

                  "หืม..มีอะไรครับพี่"  หนึ่งหันไปหาพี่ยามที่ยังหอบหายใจเพราะต้องวิ่งตามมาจากหน้าบ้าน

                  "คือ..เอ่อ..คือ"

                  "มีอะไรครับ..?"  หนึ่งสงสัยมากขึ้น  เมื่อเห็นสีหน้ายุ่งยากปรากฏบนใบหน้าของพี่ยาม

                  "เ่อ่อ..วันนี้คุณสองออกไปข้างนอก  ยังไม่กลับเลยครับ  ผมถามว่าไปไหน  ก็ไม่ยอมตอบสะพายเป้เดินดุ่ยๆออกไปเลยครับ"

                  "หืม...ว่าไงนะครับ  ไม่เห็นน้องบอกอะไรผมเลย  ขอบคุณครับพี่  ผมขอตัวก่อนนะครับ"  เพียงแค่ได้ฟังเท่านั้น หัวใจของหนึ่งก็เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ  นี่มันห้าทุ่มจวนนะเที่ยงคืนแล้วนะ  คนตัวเล็กของเขาไปไหนกัน  หนึ่งเดินขึ้นไปที่ห้องของสอง  เขากองของในมือลงบนเตียงของคนตัวเล็กที่จัดไว้อย่างเรียบร้อย  ภายในห้องไร้ร่องรอยของคนตัวเล็ก  หนึ่งรู้สึกใจหาย  เขาค่อยๆเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า  ภายในนั้นยังมีเสื้อผ้าชุดใหม่ๆอยู่บ้าง  แต่กระเป๋าเป้สุดรักของคนตัวเล็กหายไปพร้อมทั้งเสื้อผ้าที่สองชอบใส่เป็นประจำด้วยเหมือนกัน  หนึ่งเอามือกุมขมับ  นี่คนตัวเล็กของเขาไปไหน เขารีบคว้ามือถือขึ้นมากดหมายเลขของเด็กหัวทุย  แต่สิ่งที่ได้รับคือข้อความตอบรับอัตโนมัติ

                  หนึ่งยืนเคว้งอยู่ภายในห้อง  เขาทำสมาธิอยู่สักพัก  ก่อนหันหลังเดินกลับออกไปข้างนอก  หนึ่งตรงไปยังห้องทำงานของบิดา  เขาทราบว่าวันนี้บิดาของเขาไม่ได้ไปทำงาน  พอเดินถึงหน้าประตูหนึ่งก็เคาะเบาๆ  ได้ยินเสียงตอบรับเป็นเชิงอณุญาติว่าให้เข้าไป  พอประตูเปิดออกเขาก็เห็นว่า  ภายในห้องมีทั้งบิดาและมารดาที่มีสีหน้ายุ่งยากใจไม่แพ้กัน  โดยเฉพาะมารดาของเขา

                  "คุณแม่ครับ..น้องไปไหนครับ"  แต่แล้วหนึ่งก็เลือกถามมารดาก่อนเป็นอันดับแรก

                  "คือ..น้อง...เอ่อ"  มารดาของเขาอึกอัก

                  "เด็กนั่นไปแล้วล่ะ" บิดาของหนึ่งกลับตอบได้หน้าตาเฉย

                  หนึ่งสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยายามกลั้นโทสะที่กำลังเกิดขึ้นภายใน  เขาขบกรามแน่น  พยายามวางท่าทีให้สุภาพที่สุด

                  "หนึ่งใจเย็นนะลูก  เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยไป.."  ก่อนที่มารดาจะพูดต่อก็ถูกขัดขึ้น

                  "หยุดเลยนะคุณ เข้าข้างมันตลอด  เห็นผิดเป็นชอบ"

                  "ชั้นไม่เข้าใจเลย  ทำไมคุณถึงได้ใจแคบแล้วก็ร้ายกาจแบบนี้นะ  คุณทำแบบนั้นได้ยังไง"

                  เพียงได้ยินมารดาต่อว่าบิดาแบบนั้น  มันก็เหมือนอะไรบางอย่างสะกิดต่อมอยากรู้ของเขา  หนึ่งจึงถามบิดาโดยตรง
                  "อะไรครับ..คุณพ่อทำอะไร?"

                  "ชั้นก็แค่บอกเงื่อนไขที่ชั้นเคยบอกแกให้เด็กคนนั้นฟัง  ชั้นรู้ว่าแกต้องเงียบเฉย  อ้อ  ชั้นอุตส่าห์ใจดีหยิบยื่นค่าขนมให้ เด็กนั่นกลับหยิ่งผยอง  ทำเป็นหน้าบาง  ป่านนี้ก็คงกลับบ้านไปซุกอกพ่อแม่แล้วล่ะ"

                  "คุณพ่อดูถูกสองเกินไปแล้วนะครับ สองเป็นเด็กดีคบกับหนึ่งก็ไม่เคยแบมือขอเงินหนึ่งเลยสักครั้ง"

                  "ฮึ  แกก็พูดได้  เอาอะไรกับคนหลงหัวปักหัวปำ"  

                  "นี่คุณ  คุณก็ว่าชั้นด้วยใช่มั้ย  คนที่ไม่มองอะไรเลยคือคุณต่างหาก" คราวนี้ผู้หญิงคนเดียวในห้องกลับมีอารมณ์ขึ้นบ้าง

                  "คุณแม่ครับ...หนึ่งขอความกรุณา คุณแม่ขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะครับ  เดี๋ยวทางนี้ หนึ่งขอคุยกับคุณพ่อ  หนึ่งมีเรื่องอยากพูดกับคุณพ่อ  หนึ่งต้องการพูดครั้งนี้ครั้งเดียว  คุณแม่เข้าใจนะครับ"  หนึ่งพูดกับมารดาอย่างนอบน้อม

                  "เอางั้นเหรอจ๊ะ"

                  "ครับ"

                   "จ้ะ  ก็ได้จ้ะ"  เพียงได้ยินลูกชายสุดที่รักพูดแบบนั้น  เธอก็ยอมออกมาจากห้องแต่โดยดี  เธอเองก็ทราบดีว่า  นี่คือวิธีที่หนึ่งเลือกแล้ว  และเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะคุยกับคนดื้อดึงแบบเดช  เพราะถึงเธออยู่ด้วย  เดชก็จะอ้างว่าเธอเข้าข้างลูกชายคนนี้ตลอด  การที่ปล่อยให้พ่อลูกเค้าคุยกันแบบลูกผู้ชาย น่าจะดีซะกว่ามีเธอเกะกะอยู่ด้วย  คราวนี้เธอคงได้แต่ภาวนาขอให้ทุกอย่างราบรื่น..






เดี๋ยวมาต่อนะ  (โดนใช้งานT^T) รีบๆ ยังไม่ได้ตรวจคำผิด  ถ้าอ่านเจอขออภัยด้วยนะ

                                          


  

                  
  
                
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: KARNKATREE ที่ 16-06-2011 22:39:29
รออยู่นะคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: nuum ที่ 16-06-2011 22:42:27
รีบมาต่อ น้าคับ
นอนรอคอยอ่านอยู่ คับ
หนุกมาก :t3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-06-2011 22:48:50
จะรอจ้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 16-06-2011 22:56:46
มาเอกเขนกรอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 16-06-2011 22:59:21
ค้าง อย่าง รุน แรง อ่ะ  พ่อ นะ พ่อ  

คิดเอง เออ เอง อีก แล้ว

ไม่เคยได้ ยินรึไงว่าลูก หน่ะ เลี้ยง ได้ แค่ ตัว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 16-06-2011 23:00:40
มีคนมาช่วยแล้วน้องสอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 16-06-2011 23:09:10
แง๊ ค้างคาใจ บีบหัวใจเหลือเกิน คุณพ่อใจร๊ายยยยยยยยย :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 17-06-2011 05:00:27
ต่อๆ  เอิ๊กๆ สงสัยหลับกันไปหมดแล้ว55

ช่วงที่1 วันที่17/06/11

                  "สอง...ทำไมไม่ลงไปทานข้าวลูก"  เสียงบุพการีดังขึ้นด้านหลัง  สองรับรู้ได้ว่ามารดากำลังนั่งลงบนเตียง สองนอนหันหลังให้  ตั้งแต่กลับมาถึงบ้าน  เขาก็ยังไม่ได้ทานอะไรเลย

                  "สองแค่เหนื่อยฮะ" ดวงตาคนตัวเล็กล่องลอยออกไปไกล

                  "งั้นก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะนะลูก  แล้วลงไปทานข้าวค่อยขึ้นมานอนต่อนะ"  ฝ่ามืออบอุ่นลูบลงบนศีรษะทุยเบาๆ

                  "สองขอนอนอีกแป๊บนะฮะ"

                  "จ้ะ..เอ..นี่ตัวรุมๆนะ  สองไม่สบายรึเปล่า"

                  "เปล่านี่ฮะ  แค่ปวดหัวนิดหน่อยฮะ"  สองหันกลับไปหาบุพการรี  เอาใบหน้าซุกไว้ที่ตักอบอุ่น

                  "งั้นรีบไปอาบน้ำ ทานข้าวและทานยาซะนะลูก"

                  "ฮะ"

                  "เดี๋ยวแม่กับพ่อไปที่ร้านก่อนนะ"

                  "ฮะ"

                  มารดาของสองลุกขึ้น  เธอเดินออกมาจากห้องของลูกชายตัวน้อย  เมื่อคืนนี้หนึ่งโทรมาที่บ้าน  สามีของเธอเป็นคนรับสาย ก็พอจะเดากันได้อยู่แล้ว  ว่าต้องมีปัญหาอะไรแน่นอน  ทางนั้นก็ยอมรับโดยดี  เพียงแต่บอกแค่ว่าจะขอจัดการเรื่องราวฝั่งนู้นให้เรียบร้อย เธอและสามีไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่  ลูกชายของเธอถึงกลับมาบ้านราวกับนกปีกหัก  มีหรือที่คนเป็นแม่จะไม่อาจใส่ใจ  มีหรือที่คนหวงลูกอย่างสามีของเธอจะไม่รู้สึกขุ่นเคือง  เพียงแต่การที่หนึ่งโทรมาบอกด้วยน้ำเสียงที่ยุ่งยาก  ก็พอจะทราบว่าปัญหาหนักมิใช่น้อย  แต่การยืนยันหนักแน่นว่ายังรักในตัวลูกชายของเธอ ทำให้เธอและสามีพอเบาใจลงได้....

                  สองเห็นมารดาเดินออกไปจากห้อง  คนตัวเล็กค่อยๆหลับตาลงอีกครั้ง  แปลกใจที่ตอนนี้เขารู้สึกเศร้าอย่างมาก แต่มันกลับไม่มีน้ำตาไหลลงมาเลยสักหยด รึว่าไอ้สอง  ไอ้เด็กขี้แยคนนี้มันจะเข้มแข็งขึ้น สองนอนนิ่งๆ  ไม่ได้คิดถึงสิ่งใดทั้งนั้น นอนเลื่อนลอยไปสักพักก็หลับไปอีก  กว่าจะตื่นอีกที่ก็ปาเข้าไปบ่ายโมง  สองรู้สึกมึนหัว  จึงลุกขึ้นอาบน้ำ  แล้วลงไปหาอะไรกินในครัว  ก่อนที่จะขึ้นมากินยาพารา แล้วหลับไปอีกครั้ง

                  "ตื้ดๆๆๆๆๆ   ตื้ดๆๆๆๆ.."  เสียงโทรศัพท์ของบ้านดังขึ้น  เสียงนั้นดังอยู่ด้านนอก  แล้วก็ปลุกให้คนตัวเล็กตื่น

                  สองเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์อีกเครื่องที่พ่วงสายกันตรงหัวเตียง  

                  "สวัสดีครับ  บ้านลุงอ้วนครับ"

                  "เฮ่ย..สองกูเอง"

                  "อ้าว  เนม  ว่าไง"

                  "เห็นลุงอ้วนบอกมึงกลับมา  กูเลยว่าจะชวนไปเฮฮา"

                  "เหรอ..ที่ไหนล่ะ"
 
                  "ก็ที่เดิมล่ะว่ะ  ไปนั่งกินเบียร์รับลมทะเล  ร้องเพลงตีคอร์ด  พอดีไอ้พีกับไอ้เต้มันกลับบ้านเหมือนกัน พวกมันบอกอยากเจอมึงฉิบหาย"

                  "เหรอ  กี่โมงวะ"

                  "ซักหกโมงครึ่งก็ได้มึง  กูขอลุงอ้วนให้มึงและ  เค้าอณุญาติ"

                  "เออ  ดีมากมึง  รู้หน้าที่ดี  งั้นหกโมงครึ่งเจอกันที่เดิมนะ"

                  "ได้ๆ  เอาเบียร์มาด้วยนะมึง555จิ๊กลุงมานะเว่ย"

                  "ไอ้ห่าน  มึงก็อยู่ที่ร้าน  ก็จิ๊กเองดิ"

                  "ไม่เอาเว่ย  กูต้องรักษาเครดิต"

                  "โหมึง  ไม่ค่อยเลยเนอะ  เออๆ  เดี๋ยวกูหิ้วไปให้สองแพ็ค  ที่เหรอ ลงขันซื้อกันเองนะเว่ย"

                  "เออ  ได้ๆ  แค่นี้นะมึง"

                  "โอเค  เจอกันเว่ย"  สิ้นเสียง  คนตัวเล็กก็วางสาย  จริงๆก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนจะไม่สบาย  แต่ตอนนี้สองก็ไม่อยากอยู่คนเดียว รู้สึกว่าภายในหัวยังนึกถึงแต่เหตุการณ์เดิมๆ  คำพูดแบบนั้น  สายตาแบบนั้น  ถุงสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะ  คำพูดเรียบๆและการกระทำง่ายๆที่เหมือนเอาไม้หน้าสามฟาดที่ใบหน้าของสองอย่างแรง มีหรือที่คนอย่างสองจะไม่เจ็บปวด  ยิ่งนึกก็ยิ่งเจ็บ  กระบอกตาร้อนผ่าว  แต่แล้วก็รีบลบความทรงจำ  สลัดมันออกไปแรงๆ  พอเลิกคิดถึง  สมองก็ว่างเปล่าเลื่อนลอย  สองไม่ชอบอาการแบบนี้ของตัวเองเลย  มันเหมือนคนไม่มีสติ  เพราะฉะนั้น  การที่ได้ออกไปสังสรรค์กับเพื่อน  อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง

                  สองมาถึงตามที่นัดกันไว้กับเนม  ที่สิงสถิตของพวกสองและเพื่อนคือชายหาดเงียบสงบ  ซึ่งห่างออกมาจากบ้านของสองเพียงไม่กี่ร้อยเมตร  สถานที่แห่งนี้บิดามารดาของสองจึงรู้จักดี  และวางใจให้สองออกมานั่งกินดื่มกับเพื่อนๆจนมืดค่ำเสมอ

                  "เฮ่ยสองๆ ทางนี้เว่ย"  เนมเรียกสอง  ในมือมีกีร์ต้า  ข้างๆมีเด็กหนุ่มอีกสองคนนั่งอยู่  สองเดินเข้าไปพร้อมกับกระป๋องเบียร์ อีกสองแพ็ค

                  "เฮ่ยสอง  เป็นไงบ้างวะ"  เด็กหนุ่มคนหนึ่งทักขึ้น  เขานั่งอยู่ติดกับเนม

                  "สบายดีว่ะเต้  โห  กูว่ามึงตัวใหญ่ขึ้นนะ  ถ้าจะสูงกว่าไอ้เนมอีกนะเนี่ย  มึงกินไรวะ  ตอนอยู่ม.สามก็ตัวเท่าเนมมันนี่หว่า" สองวิจารณ์พร้อมทั้งมองเนมกับเต้สลับไปมา

                  "โห มึง น้อยๆ  กูก็สูงพอๆกับมันล่ะ แต่กูไม่ใช่นักเรียนโรงเรียนกีฬานี่หว่า  จะให้บึกเหมือนมันได้ไง"  เนมรีบแก้ตัว

                  "55+ เออแล้วมึงอ่ะพี  มึงก็อยู่ที่เดียวกะเต้ใช่ป่าววะ"  สองหันไปคุยกับพี  พีนั่งเงียบอยู่นานแล้ว  พอรู้สึกว่าสายตาของพีกำลังมองมาที่ตัวเอง  สองเลยหันไปทัก

                  "เราสบายดี  ก็อยู่กับเต้มันนั่นล่ะ"

                  "โหมึง  ยังพูดจาเรียบร้อยเหมือนเดิม"  เนมหันไปพูดกับพี  พีที่ดูว่าจะสูงกว่าใครเพื่อน  เพราะเป็นนักบาสเกตบอลของโรงเรียน  หันไปยิ้มให้เนม  ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซด กว่าสองจะมาถึง เพื่อนสามคนก็ดวดเบียร์กันก่อนหน้านั้นแล้ว

                  "เออ  ดีนะมึง  วันนี้ลมดี  ฟ้าก็สว่าง อากาศแจ่มจริงๆ"

                  "55+ เออๆ กูก็ว่างั้น"  สองลดตัวนั่งลงตรงข้ามกับพี  คนตัวเล็กรู้สึกถึงสายตาแปลกๆของพีที่ส่งมาให้

                  เด็กหนุ่มสี่คนนั่งคุยเฮฮาตามประสาวัยรุ่น จริงๆแล้วพีกับเต้ เป็นเพื่อนอีกกลุ่มของ สอง  ซึ่งไม่ใช่กลุ่มเพื่อนที่สนิทกันนัก แต่สามารถคุยกันได้  สมัยก่อน  สองคนนี้ชอบไปนั่งที่ร้านของลุงอ้วน  เพราะติดใจในรสชาติอาหาร  บางทีก็พาครอบครัวมาทานด้วย  พอเห็นสองเข้า ก็เลยจำได้ว่าเป็นเพื่อนอยู่โรงเรียนเดียวกัน  ทำให้เริ่มสนิทกัน  ซึ่งต่อมาพีกับเต้ก็สนิทกับเนมด้วย  เพราะว่าทำงานอยู่ที่ร้าน  และเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน

                  "เฮ่ย  เนมๆ กูกลับก่อนนะ รู้สึกปวดหัวอยากนอนแล้วว่ะ "

                  "หราาา  เออๆ  กลับก็กลับวะ"  เนมที่ตอนนี้นั่งโงนเงนไปมาพูดกับสอง  ดวงตาปรือเหมือนคนจะหลับเต็มที

                  "เฮ่ย  สภาพแบบนี้จะกลับยังไงวะ"  สองเขย่าไหล่เนม

                  "เดี๋ยวเราไปส่งเองก็ได้"  พีบอกขึ้น หน้าแปลก  สองจำได้ว่าพีดื่มไปมากกว่าเนมซะอีก  แต่เพื่อนคนนี้คงจะคอแข็งไม่เบา  เพราะนอกจากดวงตาแดงก่ำฉ่ำเยิ้ม  พีก็ไม่มีสภาพเมามายให้เห็น  ส่วนเต้ก็คอพับไปแล้วไม่ต่างอะไรกับเนมที่หมดสภาพเรียบร้อย

                  "เหรอ  พีเอารถมาเหรอ"

                  "อื้มม"

                  "เดี๋ยวพีจะไปส่งพวกนี้ใช่มั้ย"

                  "ใช่  เดี๋ยวพีไปส่งพวกมันเอง"

                  "งั้นเอาไงดี  งั้นพีช่วยเราพาพวกนี้ขึ้นรถเถอะ"

                  "เดี๋ยวสิ สอง"  

                  แล้วทันใดนั้นเอง  ข้อมือของสองก็ถูกคว้าไว้  มือของพีบีบแน่นจนสองนิ่วหน้า  คนตัวเล็กถูกเพื่อนที่ตัวสูงกว่าและมีกำลังมากกว่า ลากออกมาอีกทางไม่ไกลกันนัก  สองได้แต่เดินตามด้วยความงุนงง

                   "อะไรเหรอพี  นายจับเราทำไม"  สองพยายามบิดให้ข้อมือหลุดจากการเกาะกุมของพี

                   "สอง   พีรักสองนะ  พีชอบสอง"

                   นั่นทำให้สองถึงกับอึ้งอยู่หลายนาที  ก่อนพยายามพูดด้วยดีๆ

                    "พี  เราว่านายเมาแล้วล่ะ  กลับเหอะ"  ไม่พูดเปล่า  สองพยายามบิดข้อมือ  แต่ไม่เป็นผล

                    "ทำไมล่ะสอง  นายมีแฟนแล้วเหรอ เรารู้นะ  สองก็ชอบผู้ชายเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ  เราชอบสองนะ ชอบมากๆ ชอบมานานแล้วด้วย"

                    "แต่เราคิดกับพีแค่เพื่อนนะ   เป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้วนะ พีเมาแล้ว ปล่อยเราเหอะ"

                    "ไม่  พีไม่ปล่อย  สองรับรักพีสิ  พีรอสองมานานแล้วนะ สองหนีไปเรียนกรุงเทพฯ  พีอยากตามไปใจจะขาดรู้มั้ย  สองอย่าให้พี่รออีกเลยนะ"  พีคว้าตัวสองไปกอดไว้แน่น  สองเริ่มอึดอัดพยายามขืนตัวไว้

                    "เฮ่ย..พี  นายบ้าไปแล้ว  นายสงบสติอารมณ์เถอะ  นายอย่าพูดแบบนี้อีกเลยนะ"

                    "ไม่สอง  เรารักสอง"

                    "พีหยุดพูด  ถ้านายไม่หยุดเราจะโกรธแล้วนะ"

                    "ทำไมล่ะสอง  ทำไมต้องปฏิเสธเราด้วย  หรือว่าสองมีแฟนแล้ว  มันเป็นใคร  ใครมาแย่งสองไปจากเรา  เราไม่ยอม"

                    "เฮ่ย..."  และแล้วสองก็รู้สึกถึงแรงผลักของพี  คนตัวเล็กล้มลงก้นกระแทกพื้น  แรงกระแทกทำให้ปวดร้าวขึ้นมาถึงศีรษะที่ปวดตึ้บอยู่ก่อนแล้ว

                    "นะ  นายจะทำอะไรน่ะ"  สองตกใจเบิกตาสวย  เมื่อร่างกายถูกกดทับด้วยร่างใหญ่โตกว่าของพี

                    "พีรักสอง  พีจะเอาสอง  สองต้องเป็นของพี พีไม่ยอมปล่อยสองให้ใครอีกแล้ว"  คราวนี้พีจัดการเอาตัวทับขาของสองไว้  ใช้มือแค่ข้างเดียวก็ยึดข้อมือเล็กของสองไว้ที่พื้นทรายได้แน่นหนา

                    "ไม่  ปล่อยนะพี  พีบ้าไปแล้ว  ปล่อย.. ชะ  ช่วยด้วย  เนมช่วยด้วย อ๊ะ  อุ๊บ.."
        
                    สองพยายามตะโกนเรียก แต่แล้วริมฝีปากก็ถูกปิดทับด้วยริมฝีปากของพีอย่างรุนแรงและจาบจ้วง สองรู้สึกถึงริมฝีปากที่ถูกกระแทกกับฟัน  รสเค็มบางอย่างสัมผัสลิ้น  พร้อมทั้งกลิ่นคาวตามมา  สองรู้สึกระบมที่ปาก และอึดอัด เพราะหายใจไม่สะดวก  แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวมื่อรับรู้ได้ถึงลิ้นของพีที่แทรกเข้ามาในโพลงปาก

                    สองดิ้นสุดแรงเกิด ขาข้างหนึ่งหลุดจากพันธนาการ สองจึงเตะมันไปที่สีข้างของพีโดยแรง  ได้ผล..พีที่ไม่ทันตั้งตัวทิ้งตัวลงด้านข้าง

                    "อุ๊ก"  แรงเตะของคนตัวเล็กทำให้พีรู้สึกจุก  และมันก็เหมือนน้ำมันเชื้อเพลิงชั้นดีที่กำลังทำให้เลือดของใครบางคนพลุ่งพล่านได้อีกด้วย

                   สองรีบตะกายลุกขึ้น  แต่ก็ช้ากว่าพีที่คว้าข้อเท้าไว้ได้  สองถูกกระตุกจนล้มลงตัวกระแทกพื้น  ตอนนี้คนตัวเล็กระบมเนื้อตัวไปหมด  แต่สัญชาตญาณสั่งให้รีบเอาตัวรอด  มากกว่ามานั่งห่วงความเจ็บ  สองจิกเล็บลงไปบนพื้นทราย  ก่อนหันไปเอาทรายปาใส่หน้าพี  

                   "โอ้ย!" พีร้องเสียงดังเมื่อถูกปาทรายใส่เข้าหน้า

                   สองได้โอกาสวิ่งหนี  แต่วิ่งเปะปะไปได้สองสามก้าวก็ถูกผลักล้มลง  ตอนนี้มึนหัวไปหมด  ดวงตาพล่าเลือนเต็มที
                  
                   พีฉวยโอกาสรีบโถมตัวเข้าทับ ตรึงข้อมือของคนตัวเล็กได้อีกครั้ง  เขาระดมจูบไปทั่วซอกคอขาว อย่างหน้ามืดตามัว  สองดิ้นไปมาอย่างรุนแรง

                   "อึก  ฮือ..พี  พีปล่อยสองไปเหอะฮือๆ"  คนตัวเล็กหมดสภาพอย่างสิ้นเชิง  ดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการครั้งนี้ได้อีกแล้ว
                  
                   "อยู่นิ่งๆนะสอง..เดี๋ยวก็สบาย" พียังไม่สนใจเสียงร้องอ้อนวอนของคนตัวเล็ก  แรงดิ้นที่ค่อยๆเหือดหายกลายเป็นเหลือแค่กระสับกระส่ายไปมา  ใบหน้าขาวสะอาดที่เปรอะเปื้อนคราบน้ำตา  ยิ่งปลุกสัญชาตญาณดิบของพีจากภายใน  พีฉกริมฝีปากไปที่ไหปาร้า  ก่อนกัดมันจนห้อเลือด  ทราวงอกเล็กๆของคนข้างใต้ สะท้อนขึ้นลงด้วยแรงสะอื้น  มันกลับยิ่งทำให้พีมัวเมา  ปากของเขาเลื่อนลงไปประกบยอดอกจนมันนูนขึ้นจากภายใต้เสื้อยืดตัวบาง  พีใช้สันคางนวดแรงๆก่อนกัดที่ยอดจนมันตั้งชัน  เจ้าของทรวงอกหอบฮักๆพร้อมทั้งสะอื้นจนตัวโยน  แรงที่ข้อมือยังมีบิดไปมาอยู่บ้าง

                   พีใช้มือข้างหนึ่งยึดข้อมือคนข้างใต้เอาไว้กับพื้นทราย  เสียงสะอื้นและอ้อนวอนขอร้องความเมตตาดังไม่หยุดจากปากคู่สวย  ใบหน้าขาวนวลเปรอะเปื้อนน้ำตาส่ายไปมา  พีมองสิ่งนั้นเหมือนลูกนกในกำมือ  เขามาไกลเกินกว่าจะคิดถอยหลังอีกแล้ว

                   พีล้วงเข้าไปในกางเกงของคนข้างล่าง  เขายอมให้ขาเรียวเล็กเป็นอิสระ แล้วยกมันขึ้นพาดบ่า  ก่อนใช้น้ำหนักตัวทั้งหมดกดไว้อีกที  คนด้านล่างหัวเข่าถูกยึดติดกับหน้าอกของตนเอง  หนั่นเนื้อขาวนวลถูกเผยออกกระทบแสงจันทร์ยามค่ำคืน  เด็กหนุ่มลากนิ้วสัมผัสตรงนั้น  ลากลงมาถึงรอยจีบปริศนาแล้วก็วนเวียนอยู่แถวนั้น  เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก  เบื้องล่างของตัวเองกำลังบ่งบอกว่าต้องการปลดปล่อย  พีไม่สนใจเสียงร่ำไห้ของลูกนกในกำมืออีกต่อไป  เขาเอานิ้วสอดเข้าไปในรอยแยกของรอยจีบนั้นอย่างแรง  เพียงแค่นั้นก็ทำให้ลูกนกถึงกับร้องเสียงดังอย่างทรมาน  เขารีบประกบปาก  เอาลิ้นเกี่ยวกระหวัด  แต่ความไม่ร่วมมือทำให้ ฟันคมกระทบถูกลิ้น  พีไม่รู้ว่ากลิ่นเลือดที่คาวอยู่ในปากคือของใครกันแน่  แต่กลิ่นนั้นมันช่างปลุกอารมณ์ของเขาตอนนี้ได้ดีเสียเหลือเกิน

                   พีใช้นิ้วที่สองแหย่ตามเข้าไปอย่างรวดเร็ว  ตอนนี้เขารอไม่ได้อีกแล้ว  นิ้วที่สามจึงแหวกตามเข้าไปติดๆ  โดยไม่สนใจของสภาพร่างกายที่ต้องการความยืดหยุ่น  เสียงคนด้านล่างร้องเจ็บปวดทรมานสุดแสน  ก่อนที่จะเงียบไปในที่สุด  ลูกไก่สลบไปแล้ว...

                   และตอนนั้นเอง....

                   "ผลั่ก!!!!"

                   พีรู้สึกได้ถึงแรงกระชากจากด้านหลัง  ตัวเขาปลิวไปอีกทางด้วยแรงของหมัดเน้นๆของใครซักคน  ตอนนี้สายตาของเขาพล่าเลือนเพราะฤทธิ์ของเบียร์ที่ดื่มเข้าไป  พีรู้สึกถึงแรงอัดกระแทกอีกหลายครั้ง  เขาพยายามปัดป้อง  แต่ก็ทำไม่สำเร็จ  สุดท้ายเขาก็นอนหมดสภาพอยู่บนพื้นทราย  สติค่อยๆดับลง...





ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน   :L2:
                
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-06-2011 05:56:20
ใจร้ายอะ :sad4:

มาตัดอย่างนี้ก็ตายซิ

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+16/06/11ช่วง 3 (9:35น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 17-06-2011 06:56:59
ต่อค่ะ

ช่วงที่2 วันที่17/06/11


                  "ตายแล้ว!!!.....อะไรนะตาหนึ่ง" เธอยกมือขึ้นปิดปาก  เมื่อทราบข่าวจากลูกชาย  หลังจากที่หนึ่งจัดการเรื่องทางนี้เรียบร้อย  เขาก็ตามเจ้าตัวเล็กไปทันที

                  "ตอนนี้น้องอยู่โรงพยาบาล  หมอว่าคงช็อกจนสลบไปน่ะครับ  ก็ตรวจสภาพ.....ร่างกาย"  เสียงของหนึ่งกัดฟันพูด  หัวใจถูกบีบอัดจนทรมาน

                  "ให้แม่ลงไปดูน้องมั้ยลูก"

                  "ไม่ต้องหรอกครับ  เดี๋ยวผมอยู่เฝ้าเอง  ผมโทรลางานเรียบร้อยแล้วครับ" เสียงเครียดตอบกลับมาตามสาย

                  "จ้ะ  ถ้ามีอะไรให้ช่วยหนึ่งรีบบอกแม่นะ"

                  "ครับ..แค่นี้ก่อนนะครับ  คุณหมอเรียกผมแล้ว"

                  "จ้ะ"  เธอวางสายลง  ก่อนหันมาสบสายตาของคู่ชีวิต ที่ยืนกอดอกฟังเรื่องราว

                  "........................"  คนๆนั้นเพียงแต่ยืนรอ  ไม่ได้กล่าวถามอะไร

                  "คราวนี้สมใจคุณแล้วสินะ"  เธอส่งสายตาค่อนขอดให้สามี  ดวงตางามแดงก่ำ

                  "อะไรของคุณ  ผมว่าก่อนที่คุณจะต่อว่า ช่วยเล่าอะไรให้มันกระจ่างก่อนได้มั้ย"

                  "ฮือ....ตาสอง....ตาสองโดน....ฮือๆ โดนข่มขืน  คุณรู้ไม่ถ้าตาหนึ่งไม่ไปช่วย  เด็กคนนั้นจะบอบช้ำขนาดไหน"

                  ".........................."  เรื่องนี้ถึงกับทำให้คนรอฟังคำตอบต้องเงียบลงทันที

                  "คราวนี้ล่ะ  ถ้าตาหนึ่งไม่เสียผู้เสียคน  ชั้นก็ว่าแกเข้มแข็งจนที่สุดแล้ว  ตาหนึ่งพยายามทำให้ชั้นยอมรับในสิ่งที่แกเป็น  แล้วเด็กคนนั้นก็เหมือนกัน  คุณรู้มั้ย  สองไม่เคยเรียกร้องอะไร  สองเป็นเด็กดี  คุณเอาแต่ทำงาน เคยรับรู้อะไรบ้างมั้ย  เด็กคนนั้นพยายามแค่ไหน  เสียสละแค่ไหน  กว่าตาหนึ่งจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง  เด็กคนนั้นต้องลำบากแค่ไหน  ลูกของชั้นทั้งคน  ถึงชั้นจะตามใจ  แต่ถ้าชั้นเห็นว่าสิ่งนั้นดีกับลูกจริงๆ  มีหรือที่คนเป็นแม่อย่างชั้นจะไม่สนับสนุน  ลูกมีสิทธิ์เลือกนะคะ  แล้วตาหนึ่งก็ทำตรงนั้นได้ดีที่สุดแล้ว  คนเราไม่ได้สมบูรณ์แบบไปหมด  อะไรที่ทำให้ลูกมีความสุขได้  คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ใกล้ลงโลงอย่างเราก็ควรจะพอใจสิคะ  หึ..แต่คราวนี้ชั้นว่าคุณคงจะพอใจแล้วล่ะสิ "  

                  เธอพูดอย่างอัดอั้นตันใจ  ก่อนเดินหลบออกไป  ตอนนี้เธอยังไม่อยากเห็นใบหน้าของสามี  คนที่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันมา  เธอไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะใจร้ายได้ถึงขนาดนี้  


                  ภรรยาของเขาเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นนานแล้ว....

                  เดชไม่รู้ว่าเขายืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน   เขากำลังคิดหนัก  เรื่องที่คุยกับเจ้าลูกชายเมื่อคืน  สุดท้ายหนึ่งก็ไม่ยอมทำตามข้อเสนอของเขา  หนึ่งให้เหตุผลว่า  ไม่ว่ายังไง เขาก็รักใครไม่ได้อีก  ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคนไหน  หนึ่งไม่ได้แสดงอาการปีกกล้าขาแข็ง  บอกตัดลูกตัดพ่อ  แต่ลูกของเขาขอความกรุณาแก่เขา  หนึ่งก้มลงกราบขอขมาแก่เขา  ขอโทษเขาที่ไม่สามารถเป็นลูกได้อย่างที่เขาอยากให้เป็น  เขาไม่คิดเลยว่าเจ้าลูกคนที่มันถือดีกับเขามาตลอดจะยอมอ่อนลงให้กับเขาแบบนี้  ซ้ำยังจะยอมกลับมาทำงานให้เขา  หนึ่งจะยอมลาออกจากงานที่รัก  มารับช่วงธุรกิจในส่วนที่เขาเตรียมไว้ให้  เพียงแค่ขอความกรุณาจากเขา  เพียงแค่เขาให้โอกาส  เขาโทรไปปรึกษา สิทธิ์ประสงค์ คนที่เขาให้ความนับถือ  เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ เดชจึงยอมเล่าเรื่องราวรายละเอียดทั้งหมดให้สิทธิ์ฟัง

                 ซึ่งนั่นทำให้เขารู้จักเด็กคนนี้มากขึ้น  เขาไม่คิดว่าสิทธิ์เองก็รู้จักสอง  ไม่คิดว่าโชคชะตามันช่างวกวน  

                "แกจะคิดยังไงชั้นไม่รู้นะเดช  แต่ชั้นพูดได้คำเดียว  เด็กคนนั้นมีแต่ตาหนึ่งเท่านั้นล่ะ  เค้าไม่ได้ต้องการอะไรหรอก  เด็กคนนั้นเป็นเด็กดี ไม่ได้เรียกร้องอะไรจากชั้นเลยด้วยซ้ำ  การที่ชั้นได้เจอเด็กคนนั้นโดยบังเอิญ  กลับทำให้ชั้นรู้สึกเป็นบุญคุณ  ที่เจ้าตัวเล็กนั่นทำให้จิตใจของชั้นเปิดกว้าง  เด็กที่ดีน่ะนะ  ให้ทำยังไงมันก็ยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์ใสสะอาดอยู่วันยังค่ำนั่นล่ะไอ้เดชน้องรัก  ชั้นพูดถึงขนาดนี้แกน่าจะเข้าใจนะ  คราวนี้ก็เหลือแต่แกนี่ล่ะ ว่าเปิดใจได้แค่ไหน  หลังจากนั้นก็ต้องคิดซะทีว่าควรจะแก้ไขยังไง"



                 เขาควรจะแก้ไขยังไงน่ะเหรอ.....มันคงไม่สายใช่มั้ย...หากเขาจะลองเปิดใจ

                 เดชเดินไปหยิบโทรศัพท์  ก่อนกดหมายเลยภายใน  เพื่อเรียกคนขับรถประจำตัว

                 "วิทย์...เตรียมรถนะ  พรุ่งนี้ชั้นจะเอารถออก"


                                              ...........................................


                 "น้องเป็นไงบ้างลูก"  มารดาของสองที่เดินมาพร้อมกับลุงอ้วนผู้เป็นบิดา รีบโถมเข้าหาหนึ่ง  ที่นั่งกุมขมับอยู่หน้าห้องไอซียู

                 "หมอตรวจอยู่ครับ  น้องตัวร้อนมาก  หมอบอกว่าคงช็อก"

                 "แล้วนี่เข้าไปนานยังล่ะ"  ลุงอ้วนถามบ้าง สีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด

                 "สักพักแล้วครับ"

                 "หนึ่งแจ้งตำรวจรึยัง.."

                 "ครับ...ตอนนี้ยังสอบสวนอยู่ครับ   เด็กนั่นยังเมา เลยพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง" หนึ่งพยายามระงับโทสะ

                 "ไอ้เนม....คราวนี้มันโดนผมด่าเช็ดแน่"  ลุงอ้วนพูดอย่างเจ็บแค้น  เสียแรงที่อุตส่าห์ไว้ใจให้ดูแล  แต่ที่ไหนได้กลับเมามายไม่เอาความ หมดสภาพแบบนั้นก็ช่วยเพื่อนไม่ได้

                 "เนมมันก็ไม่ได้ผิดหรอกพี่  ลูกเราดวงไม่ดีเองต่างหาก"

                 และตอนนั้นเองคุณหมอก็เดินออกมา

                 ข่าวที่ได้รับจากคุณหมอที่ทำการตวรจก็คือ  นอกจากรอยฟกช้ำหลายแห่งตามตัว ก็ไม่มีบาดแผลอย่างอื่นอีก  จะมีที่หนักก็คือร่องรอยบอบช้ำและการฉีกขาดของช่องทางด้านหลัง และรอยกัดบางแห่ง แถวๆลำคอและไหปลาร้าซึ่งมีรอยฟันและเลือดยังซึมอยู่บ้าง แต่ที่คุณหมอเป็นห่วงหนักสุดคือสภาพจิตใจของคนไข้  จึงกำชับว่าให้ญาติๆดูแลอย่างใกล้ชิด

                  หลังจากย้ายมาห้องพักฟื้นพิเศษ  ในคืนนั้นหนึ่งก็อยู่เฝ้าคนตัวเล็ก  ตำรวจมาสอบปากคำที่โรงพยาบาล  แล้วก็บอกเรื่องราว ข้อกล่าวหาที่พีจะต้องโดน  แต่พีไม่เคยมีประวัติไม่ดี ซ้ำยังเป็นเยาวชน ทางตำรวจจึงให้ยอมสารภาพเพราะหลักฐานแน่นหนา กระบวนการสุดท้ายชั้นศาลก็อาจโดนคุมความประพฤติเพื่อให้หลาบจำ เนื่องจากลุงอ้วนค่อนข้างกว้างขวาง  จึงสามารถขอตำรวจให้ปิดเรื่องนี้ให้เงียบที่สุด  เพราะเชื่อว่าทางฝั่งของพีเองก็ต้องการประนีประนอม และไม่อยากให้ลูกตนเองเป็นข่าวไม่ดีเช่นกัน

                  หนึ่งนั่งฟังอย่างขืนข่ม  เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง  เพียงชั่วเวลาที่เขาปล่อยให้คนตัวเล็กห่างกาย  กลับเปิดโอกาสให้สิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับคนของเขา  เขาไม่เคยเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน  ความเจ็บครั้งนี้มันยิ่งตอกย้ำให้เขาต้องเข้มแข็ง  ถ้าเขาไม่เข้มแข็ง เขาก็จะไม่สามารถปกป้องคนๆนี้ได้อีก

                  พอวันรุ่งขึ้น  สิ่งที่หนึ่งไม่คาดฝันก็คือ บิดาและมารดาของหนึ่งมาเยี่ยมสองที่โรงพยาบาล  เพียงแค่เห็นสภาพบอบช้ำของคนตัวเล็กที่ยังนอนไม่ได้สติบนเตียง  มารดาของเขาถึงกับหน้าถอดสี  ส่วนบิดาของหนึ่งกลับเดินไปทักทายลุงอ้วน  หนึ่งเห็นสองคนนั้นเดินออกไปนอกห้อง  คิดว่าคงมีเรื่องต้องคุยกัน  แต่ตอนนี้หนึ่งไม่สนใจอะไรทั้งนั้น  จิตใจของหนึ่งกำลังจดจ่อไปที่คนป่วยบนเตียง  เขากุมมือบางไว้หลวมๆ  ภาวนาให้เจ้าของร่างเล็กฟื้นขึ้นเร็วๆ

                  ขอให้หายเร็วๆ....

                  








เดี๋ยวมาต่อนะ  ใกล้แล้วค่ะ ขอบคุณมากๆ
                  
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 17-06-2011 08:53:30
ต่อเร็วๆนะค่ะ สงสารน้องจัง :m15:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-06-2011 09:00:28
สงสารนอ้งสองงงงง :m15:

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 17-06-2011 09:07:19
น้องสองงง สงสารจัง  :monkeysad:
โกรธพ่อพี่หนึ่ง ใจร้ายยยยๆๆๆๆ 
หลังจากนี้ดูแลน้องให้ดีๆเลยด้วย

จะจบแล้วเหรอ คิดถึงงงงอ่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 17-06-2011 09:08:16
ชีวิตสองทำไมละครหลังข่าวแบบนี้ Y__Y

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 17-06-2011 10:31:56
แง๊ๆๆๆๆ สงสารน้องงงงงงงงงง  :sad4: เพื่อนกันทำกันได้ลงคอ ไอ้เลววว :z6:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 17-06-2011 11:30:50
 o7อย่าได้เสียใจกับสิ่งเลวร้าย...จงดีใจที่สองยังมีชีวิตได้เจอกับหนึ่งอีกครั้ง..เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคน :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 17-06-2011 13:40:12
อะไรก๊านนนนนนนนนนนนน ทิ้งช่วงหน่อยเดียว
น้องสองเราโดนทำร้ายซะงั้น
มาเอาใจช่วยน้องสองค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 17-06-2011 17:58:47
 :m15: สงสารสองจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-06-2011 20:04:30
เคราะห์ซ้ำ
ยังโชคดีที่ยังไม่ถึงขั้นนั้น
น้องสองตื่นขึ้นมาคงผวาไม่น้อย
พี่หนึ่งต้องช่วยปลอบมากๆนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-06-2011 20:34:43
ใกล้แล้ว ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **2** (6:57น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 17-06-2011 21:29:08
ต่อค่ะ
ช่วงที่3 วันที่17/06/11

                 หลายวันต่อมา....

                 "ไม่พี...อย่านะ....พีปล่อยสองนะ ฮือๆๆ.."

                 "เป็นของพีนะ  พีรักสอง  พีไม่ยกสองให้ใคร"

                 "พีปล่อยนะ...พี่หนึ่ง...พี่หนึ่งข่วยสองด้วย   พี่หนึ่ง!!!"


                 "พี่หนึ่ง!!!"

                 "สองครับ  สอง..."  

                 สองได้ยืนเสียงใครคนหนึ่งเรียก  เสียงทุ้มอบอุ่น  เสียงที่คุ้นเคย  ก่อนที่จะรู้สึกถึงฝ่ามือใหญ่ตบลงบนแก้มเบาๆ  สองส่ายหน้าไปมา  รู้สึกเหงื่อท่วมกาย  พอลืมตาขึ้นก็พบดวงหน้าคมสันที่ฉายแววตระหนกไม่แพ้กัน

                 "เฮ้...สอง..สองครับ"  เสียงทุ้มยังพยายามเรียกอย่างนุ่มนวล  สองกระพริบตาปริบๆ  รู้สึกว่าคนที่ยันตัวขึ้นมา เพื่อเรียกสอง  กำลังเอามือเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้

                 ดวงตาโตเบิกโพลงเล็กน้อย  พอเห็นว่าตนเองแค่ฝันไป  หยาดน้ำใสก็ไหลลงมาโดยไม่รู้ตัว  ฝันร้าย  ฝันร้ายที่ไม่ยอมหายไปโดยง่าย  หลายวันแล้วที่ฝันแบบนี้

                 "ชู่...ไม่เป็นไรแล้วนะครับ"  ใครบางคนที่นอนข้างกันเอานิ้วเกลี่ยน้ำตาบนแก้มใส แล้วจัดการรวบร่างของสองเข้าไปนอนซบอกอุ่น

                 สองหลับตา  รับรู้ถึงความแข็งแรงของอกหนาที่สะท้อนขึ้นลงมั่นคง  กลิ่นกายที่คุ้นเคย  ไม่ใช่คนแปลกหน้าที่ไหน

                 "สองไม่เป็นไรฮะ  แค่ฝันร้าย  ทำไมยังฝันอยู่ก็ไม่รู้"

                 "ไม่เป็นไรแล้ว  เรื่องมันผ่านไปแล้ว  สองต้องลืมมันนะ"  คนพูดเอามือโอบร่างเล็กแล้วลูบหลังแรงๆ

                 "ฮะ...พี่หนึ่ง...พีจะติดคุกมั้ยฮะ"

                 "ไม่หรอกครับ  พียังเป็นเยาวชน ยอมรับผิด ศาลก็จะลดหย่อนให้  ยิ่งไม่เคยมีคดี  ก็ไม่ติดคุกง่ายๆ"  หนึ่งตอบคนตัวเล็ก  แอบเหนื่อยใจเล็กน้อย  เข้าใจว่าพีเป็นเพื่อนกัน  ถึงเมามายแค่ไหนก็ไม่ควรทำแบบนี้  มันเป็นการกระทำที่สามารถตัดเพื่อนกันได้เลยด้วยซ้ำ  แต่หนึ่งไม่คิดเลยว่าคนในอ้อมกอดของเขาตอนนี้จะสามารถให้อภัยได้  แถมยังเอาใจไปห่วงเค้าได้อีก

                 "พีเป็นเพื่อนสอง  สองรู้ว่าพีคงทำเพราะเมา"

                 "อืม..พี่ก็ไม่รู้นะครับ  พีอาจชอบสองมากก็ได้นะ"

                 "เหรอฮะ...สองไม่สน  สองมีพี่หนึ่งคนเดียว"

                 "ครับ  พี่ทราบครับ"  หนึ่งเอามือลูบที่หลังของคนตัวเล็กเบาๆ  ก่อนจุมพิตหัวทุยๆที่คลอเคลียอยู่ตรงปลายคาง

                 "พี่หนึ่ง...สองไม่กล้าหลับตา  สองกลัวฝันอีก"

                 "ไม่เป็นไรนะ  พี่จะกอดสองไว้แบบนี้นะ  จนกว่าคนดีของพี่จะหลับ"

                 "พี่หนึ่งไม่เมื่อยเหรอฮะ"

                 "หึ..สบายมากครับ  พี่ว่าสองต้องรีบหลับ  พรุ่งนี้เป็นวันดีนะครับ  พี่ไม่อยากให้คนสำคัญของพี่ตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า"

                 พอฟังถึงตรงนี้คนตัวเล็กก็ต้องแก้มแดง  เอาหน้าซุกกับอกหนามากขึ้น

                 "คุณพ่อกับคุณแม่พี่หนึ่งไม่น่าลำบาก"

                 "ท่านอยากทำให้ถูกต้องน่ะ"

                 "ไม่อยากเชื่อว่าคุณพ่อพี่หนึ่งจะเปลี่ยนใจได้เลยนะฮะ"

                 "ก็สองของพี่เป็นคนดีไงครับ" คนพูดแถมด้วยจุมพิตที่หัวทุยอีกหนึ่งที

                 "จริงๆสองต้องนอนที่บ้านใช่มั้ยฮะ"

                 "ก็ถ้ายังฝันร้ายแบบนี้  เวลาสองนอนที่บ้าน  พี่คงไม่กล้ากอดสองแบบนี้  ไม่งั้นได้โดนไข้โป้งคุณพ่อของสองแน่เลย"  หนึ่งหัวเราะเบาๆ คนตัวเล็กเงียบไปแล้ว

                 เรื่องราวคราวนี้ทำให้หนึ่งรู้ซึ้งขึ้นอีกข้อว่า ลุงอ้วนเป็นคนมีอิทธิพลไม่น้อย  และเป็นคนจริง  ลุงอ้วนกำชับให้ตำรวจที่รู้จักกันช่วยปิดเรื่อง  แต่ยังให้ทำตามแผนสอบสวนทุกขั้นตอน  หลังจากนั้นลุงอ้วนยังบุกถึงบ้านของคู่กรณี หนึ่งจำได้ว่ามารดาของสองได้เล่าให้ฟัง  บิดาของสองเป็นคนกว้างขวางเพราะชอบช่วยเหลือเงินทองเพื่อนฝูง  หรือเรื่องอะไรที่พอช่วยได้ก็จะช่วยๆกันไป  จึงทำให้หลายๆคนที่บิดาของสองเคยช่วยไว้ต่างก็นับถือ  บวกด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมา  ฆ่าได้หยามไม่ได้  ทำให้เป็นที่รักในหมู่เพื่อนนักเลง  พ่อแม่่ของพีเองก็สนิทกัน  พอทราบการกระทำของลูกก็ถึงกับเดือดร้อนลากตัวพีมาขอขมาบิดาของสองทันที  ซ้ำยังจะให้พีมาขอขมาสองอีกด้วย  แต่ตอนนั้นบิดาของสองบอกให้พีรอให้สองหายก่อน เพราะเห็นว่าสองเองก็ไม่ได้โกรธเกลียดพีถึงขนาดไม่อยากมองหน้า  สุดท้ายหลายวันหลังจากคนตัวเล็กของเขากลับบ้านได้  พีก็พาพ่อแม่มากราบขอขมาอย่างถูกต้อง  
              
                 ผลสรุปคือ พีกับสองยังเป็นเพื่อนเหมือนเดิม  แต่สำหรับหนึ่งแล้ว เขายังรู้สึกโกรธแค้นในการกระทำของเด็กหนุ่มอยู่  ก็ถ้าใครได้เห็นสภาพของสองตอนนั้น  ก็แทบอยากจะฆ่าไอ้เด็กนั่นให้ตายคามือ  ภาพของคนรักกำลังถูกกระทำชำเรา  เขายังจำได้เต็มตา  หนึ่งเดินเข้าไปกระชากร่างเด็กหนุ่ม  ตอนนั้นเขาเหมือนปิศาจร้ายที่อยากจะฉีกร่างเหยื่อตรงหน้าให้เป็นชิ้นๆไม่เหลือดี  เขาต่อยพีไปหลายหมัดจนล้มลง  จำได้ว่ายังเอามือตบหัวพีด้วยโทสะ  ใจหนึ่งอยากจะยกเท้ากระทืบให้จมพื้นทรายตรงนั้นด้วยซ้ำ  หนึ่งรู้สึกเหมือนเห็นพีเป็นสัตว์ร้ายที่แฝงเข้ามาในคราบเด็กหนุ่ม  พอคิดได้ว่าพีเองก็เมาจนขาดสติ  ตอนนั้นไม่มีเรี่ยวแรงจะต่อสู้เขาได้อีกแล้ว  หนึ่งจึงหยุดทำร้ายพี เด็กนอนเลือดกลบปาก ถ้าเขาทำร้ายพีต่อด้วยโทสะ พีก็อาจจะตายเพราะบอบช้ำก็ได้  สุดท้ายเขาเองนั่นแหละที่เป็นสัตว์ร้าย  หนึ่งเช็ดเลือดที่มุมปากหลังจากที่โดนพีสวนไปหนึ่งหมัด  แล้วก็หันไปอุ้มร่างที่นอนสิ้นสติขึ้นมาแนบอก จัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ก็รู้สึกได้ว่าร่างเล็กกำลังร้อนเหมือนไฟ  หนึ่งจึงรีบพาส่งโรงพยาบาลแล้วก็แจ้งตำรวจ

                ช่วงที่สองนอนโรงพยาบาลไม่ได้สติ  เขาก็คอยเฝ้าไม่ให้คลาดสายตา  ถึงขนาดอ้อนวอนเจ้านายขอลาพักร้อนทั้งๆที่เพิ่งเข้าทำงานต่อได้เพียงหนึ่งเดือน โชคดีที่เขาเป็นคนเอางาน เวลาทำงานก็ทำจนไม่คิดชีวิต  เจ้านายจึงยอมหยวนๆให้  แต่เขาก็ยังตุ้มๆต่อมๆ ว่าจะลาได้ถึงแค่ไหน  เพราะตอนนั้นเรื่องผ่านไปได้สองวัน  แต่สองก็ยังไม่ฟื้น จนวันที่สามนั่นล่ะ  ที่คนตัวเล็กของเขาฟื้นขึ้นมาตอนกลางคืน  ขณะที่เขากำลังหลับเอาหน้าซบอยู่ข้างคนป่วยสุดที่รัก  ก็ได้ยินเสียงคนละเมอร้องให้เขาช่วย  เขาลุกพรวดหัวใจหล่นไปอยู่ที่ปลายเท้า รีบเรียกร่างเล็ก พยายามตบแก้มเบาๆให้ฟื้นขึ้นมา  พอเจ้าตัวเล็กลืมตาก็ร้องไห้จ้า  กอดเขาแน่นเป็นลูกลิง  ผ่านไปอีกวันสองก็ขอคุณหมอกลับบ้านซะเอง  ด้วยเหตุผลว่าอยากกลับมานอนบ้าน  หมอเห็นไม่เป็นอะไรก็ยอมให้กลับบ้าน  เพราะบาดแผลหายดีแล้ว  เหลือแต่รอยฟกช้ำ  พอกลับไปนอนที่บ้าน  หนึ่งซึ่งอยู่โรงแรมก็ถูกโทรตาม  เจ้าตัวเล็กแอบบอกว่านอนไม่หลับเพราะฝันร้าย  นอนน้ำตาไหลทั้งคืน  แล้วเขาจะทำไงได้ล่ะ  สุดท้ายก็ขออณุญาตบิดากับมารดาของสองพาเจ้าตัวมานอนด้วยกันซะเลย  โชคดีที่ท่านทั้งสองเข้าใจ จึงยอมปล่อยตัวสองมาให้เขา  จริงๆเขาจะนอนที่บ้านน้องเลยก็ได้  แต่ยังรู้สึกเกรงใจ และเห็นว่าไม่สะดวกจะทำอะไรก็ต้องระวังไม่ให้เกินงาม
สู้พามานอนแบบนี้จะดีซะกว่า ต่อให้คนตัวเล็กหวาดกลัวแค่ไหน เขาก็ปลอบได้จนถึงเช้า

                 แล้วก็เหมือนฟ้าจะสดใสมากขึ้น  เมื่อวันต่อมามารดาของหนึ่งก็โทรมาบอกว่าบิดาของเขายอมรับข้อเสนอแล้ว  คือให้หนึ่งคบกับสองได้  แต่หนึ่งต้องเข้ารับช่วงกิจการต่อในส่วนของหนึ่ง  แต่สิ่งที่ทำให้เขายินดีขึ้นไปอีก  คือบิดาและมารดาของเขากำลังจะลงมาที่บ้านของสอง  เพื่ออะไรน่ะเหรอ  ก็เพื่อทำทุกอย่างให้ถูกต้อง  เพื่อทำให้คนน่ารักเป็นของเขาอย่างแท้จริง  คุณแม่ของเขาเตรียมแหวนหมั้นไว้แล้ว  เขาไม่อยากจะเชื่อหูเลยด้วยซ้ำ  ว่าสองและเขาจะได้รับความกรุณาขนาดนี้ มารดาของหนึ่งแอบกระซิบบอกหนึ่งว่า เรื่องนี้บิดาของเขาเป็นคนจัดการเองเลย  ท่านเป็นคนคุยเรื่องนี้กับบิดาของสอง คงจะเป็นตอนนั้น  ตอนที่เกิดเรื่อง สองยังอยู่ที่โรงพยาบาล  มารดาของหนึ่งบอกว่า  ผู้ใหญ่ตกลงกันว่า ให้หนึ่งหมั้นน้องไว้ รอจนน้องเรียนจบแล้วก็แต่งให้เรียบร้อย  คนที่เชิญมาในงานก็จะเป็นคนที่สนิทกันจริงๆ   หนึ่งดีใจมาก  นานแค่ไหนเขาก็รอได้  แค่นี้เขาก็มีความสุขมากแล้ว  หนึ่งจัดการเดินเรื่องลาออกจากงานอย่างถาวร  เจ้านายของเขาแอบบ่นอยู่บ้าง  แต่พอได้ยินว่า  หนึ่งจะจัดการสะสางโครงการระยะยาวที่รับไว้อีกสองโครงการให้เสร็จด้วยตัวเอง  โดยคิดค่าแรงตามเนื้องาน ในฐานะพนักงานว่าจ้างพิเศษ ซึ่งก็พอจะคุยกันได้  เพราะว่าเจ้าของบริษัทรู้จักกับพ่อของหนึ่ง  เรื่องนี้จึงไม่มีปัญหาอีก  ตอนนี้ก็เท่ากับว่า  หนึ่งกำลังว่าง  และรอเข้าเป็นผู้บริหารในบริษัทของครอบครัว  ทุกอย่างลงตัวแล้ว  ตอนนี้เขากำลังคิดถึงเรื่องพรุ่งนี้  หนึ่งคิดไปเรื่อยเปื่อย  สุดท้ายกลายเป็นเขาเสียเองที่ไม่ได้หลับ  แถมยังเผลอเอามือไปลูบหลังเจ้าตัวเล็กเข้าให้อีก

                 "พี่หนึ่งยังไม่หลับเหรอฮะ"  เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับเอามือยันอกเขาขึ้นมามองทำตาปริบๆอยู่ในความมืด

                 "เอ่อ..พี่กำลังดีใจน่ะ  เรื่องพรุ่งนี้  สองตื่นเต้นมั้ย"

                 "อืม...ก็...ฮะ  ไม่รู้สิ  ต้องรอถึงพรุ่งนี้ก่อนล่ะ สองยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้"

                 "ถ้าเปิดไฟ  พี่ต้องเห็นใครบางคนแก้มแดงอยู่แน่ๆ" หนึ่งแอบล้อเบาๆ ก่อนเอื้อมมือไปบีบจมูกเล็ก
              
                 "อื้อ..เจ็บ  ไม่พูดด้วยแล้ว  นอนฮะนอน"
 
                  คนตัวเล็กลงไปนอนซบอกอีกครั้ง  หนึ่งหลับตาลงพร้อมรอยยิ้ม...

                                                       ...............................................

                  พอรุ่งเช้า  หนึ่งก็ต้องรีบตื่นแต่ไก่โห่ ผมเผ้ายุ่งเหยิง  เขารีบปลุกคนตัวเล็กที่ยังงัวเงียตั้งแต่ตีห้า  หนึ่งไม่รู้ว่าเมื่อคืนจริงๆแล้วสองหลับไปตอนกี่โมง  แต่ที่แน่ๆมันคงล่วงเลยไปนานพอดู  ไม่งั้นทำไมคนตัวเล็กถึงทำตัวปวกเปียกอย่างนี้

                  "ยังไม่เช้าเลยฮะ  ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ"

                  "ตื่นได้แล้วครับ  เดี๋ยวไม่ทันนะ  พี่ยังไม่อยากโดนด่า อืม..ถ้าใครบางคนไม่ยอมตื่นพี่จะปลุกด้วยวิธีของพี่แล้วนะ"  หนึ่งสีหน้าเจ้าเล่ห์

                  "อื้อ.."ใครอีกคนยังงัวเงีย ซุกหน้าลงหมอนนุ่มใบใหญ่ เอาขาก่ายกอดไว้

                  หนึ่งค่อยๆก้มลง ริมฝีปากฉกตรงเข้าไปที่ปากคู่สวยซึ่งซุกอยู่ตรงหมอน  ใช้เวลาไม่นานปลายลิ้นก็สามารถชอนไชเข้าไปได้อย่างง่ายได้  และตอนนั้นเอง  ขนตายาวๆก็กระพือพรึ่บๆ  ฝ่ามือขาวๆรีบผลักอกของเขาออก

                  "ฮื่อ..ตื่นแล้วๆ  ไปแล้วฮะ ไปแล้ว" สองลุกขึ้นนั่ง เอามือขยี้ตางัวเงีย

                  "ครับ  มาเร็ว เดี๋ยวพี่ไปส่งก่อนนะ"

                  หนึ่งรีบพาคนตัวเล็กลุกขึ้น  ไม่ต้องเก็บข้าวของ  วันนี้ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่า ร่างกายกับหัวใจ  เขาพาคนงัวเงียลงไปข้างล่างโรงแรม  พอดีก็เจอกับพี่นุช  หนึ่งแปลกใจมาก  ไม่คิดว่าพี่สาวจะมาด้วย  แถมยังทราบจากพี่นุชว่า พี่ชายคนโตก็มาด้วย รวมทั้งบิดามารดาของเขา ตอนนี้มารดาของเขาอยู่ที่บ้านเจ้าตัวเล็กแล้ว  กำลังช่วยมารดาของสองเตรียมของสำหรับทำบุญตอนเช้า  พอรู้อย่างนี้หนึ่งก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีก เขารีบลากคนตัวเล็กจับยัดใส่รถแล้วก็พาไปส่งบ้านเจ้าตัว ไปถึงก็เห็นมารดาของเขายืนทำตาเขียวปัดๆ บอกว่าไม่รู้จักเวลา เขาเองได้แต่ยิ้มแห้งๆ  ก่อนดันคนงัวเงียให้เดินเข้าบ้าน  แล้วก็รีบเผ่นกลับมาเตรียมตัวที่โรงแรม

                  พอกลับมาถึงพี่นุชก็เอาชุดสูทมาเตรียมไว้ให้ หนึ่งยังมีโอกาสได้คุยกับพี่ๆตามประสาพี่น้องท้องเดียวกัน เคยเล่นด้วยกัน  รู้สึกเหมือนวันคืนเก่าๆหวนกลับมาอีกครั้ง

                  "หนึ่ง...แกเก็บไว้ให้ดีๆนะ  แม่เค้าตั้งใจเลือกมาก"

                  สุดท้ายก่อนออกจากโรงแรม  บิดาของเขาก็ยื่นกล่องกำมะหยี่สีแดงให้  มันเป็นของสำคัญมากๆ  สิ่งที่บ่งบอกถึงความรักของบิดามารดา ความเมตตาทั้งหมดที่มีให้เขา  แม้แต่ตอนนี้กล่องใบนี้ก็ถูกหยิบยื่นมาให้จากบิดาของเขา  คนที่เคยต่อว่า ว่าเขาเป็นคนเอาแต่ใจ  คนที่ตราหน้าว่าเขาถูกตามใจจนเคยตัว  แต่สุดท้าย คนๆนี้ก็เมตตาเขา  ให้โอกาสในสิ่งที่เขาขอ  หนึ่งรับมาทั้งรอยยิ้ม  บิดาเอามือข้างหนึ่งตบที่ไหล่ของเขาเบาๆเป็นกำลังใจ

                 หนึ่งเปิดมันออกมา แหวนทองคำขาวประดับเพชรน้ำงาม  ขนาดใหญ่พอกับตัวเรือนสะท้อนแสงแวววาว ท้าทายสายตาของผู้ที่จับต้อง  การออกแบบที่เรียบง่ายแต่แสดงถึงคุณค่าของผู้สวมใส่  หนึ่งมองมันด้วยความตื้นตันใจ  เขาจัดการปิดฝากล่องแล้วใส่มันไว้ในกระเป๋าเสื้อ

                 ในตอนเช้าทุกคนเข้าร่วมกันในพิธีทำบุญ  ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดี พิธีจัดขึ้นไม่ได้เอิกเกริกยิ่งใหญ่  แต่อบอุ่นและเป็นกันเอง ทุกคนเต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม  หนึ่งได้ทำบุญร่วมกับคนตัวเล็ก  หนึ่งใส่สูทสีเทาสวมเชิ้ตสีชมพูหม่นไว้ด้านใน  เขาผูกเนคไทสีขาวมันทอจากไหมอย่างดี ดูภูมิฐานและสง่าผ่าเผย กางเกงสีเดียวกับเสื้อสูท ส่วนคนตัวเล็กของเขาใส่สูทสีครีมเสื้อสีขาว  กางเกงสีครีมเข้าชุด ดูแปลกตาไม่น้อย  เจ้าตัวเล็กได้แต่ทำแก้มแดงเพราะไม่ชินที่ต้องแต่งตัวแบบนี้  พอหลบจากผู้คนได้สักพักก็เอาแต่บ่นว่าอายๆ ได้แต่เอามือปิดหน้า  ถามแต่ว่าจะทำยังไงดีไม่ให้อาย  เขาเองก็หัวเราะขำๆจะคว้าตัวมากอดไว้ก็กลัวเสื้อผ้าของร่างเล็กจะยับซะก่อน  พอหลบมาอยู่ด้วยกันไปไม่ถึงสามนาทีก็โดนจับแยกอีก  คราวนี้น้องสองของเขาหายไปเลย  มารดาของเขาบอกว่าต้องไปเตรียมตัวทำพิธีหมั้นแล้ว  เขาเองก็เช่นกัน  เขาก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกันนี่
หนึ่งนั่งรอฤกษ์ยามเข้าห้องพิธี  และตอนนั้นเอง  เขาก็ทราบว่า ลุงสิทธิ์เป็นเถ้าแก่ให้เขาครั้งนี้  ลุงสิทธิ์คือคนที่บิดาของเขาเคารพอย่างมาก  หนึ่งรีบเข้าไปไหว้ขอบคุณ  เขาเองเพิ่งทราบว่าสองก็รู้จักลุงสิทธิ์ด้วย  นี่เจ้าตัวเล็กของเขาโ่ด่งดังขนาดนั้นเชียว

                พอถึงพิธีเขาก็เดินเข้าห้องที่ถูกจัดขึ้น  ของหมั้นที่มารดาของเขาเตรียมไว้ถูกจัดวางใส่พานอย่างสวยงาม  มันมีมูลค่าไม่น้อยเลยในสายตาของหนึ่ง มีทั้งสร้อยทองและเครื่องเพชร  รวมถึงเงินสด หนึ่งไม่อยากจะคาดเดาว่ามันเท่าไหร่  มารดาของเขาให้หนึ่งเอากล่องแหวนวางลงบนพานที่ถูกจัดเป็นรูปกลีบดอกไม้บานออก มันทำจากกลีบกุหลาบหลายๆอันเย็บติดกับใบเขียวๆ  หนึ่งไม่แน่ใจว่าคือใบอะไร  แต่เท่าที่คาดเดาจากสายตา คงต้องใช้ความพยายามมากๆในการทำ
 
                นั่งรอเพียงอึดใจ  มารดาของสองก็พาคนสำคัญของเขาลงมา  คราวนี้คนน่ารักถึงกับทำให้เขาตะลึง  เจ้าตัวเล็กเปลี่ยนชุดอีกแล้ว  แก้มใสๆแดงเรื่อไปถึงใบหู  ดวงตาโตหลุบต่ำ  สองใส่ชุดสีขาวสะอาด  สูทขาวสะอาดเข้ากับกางเกงขายาว ด้านในคือเชิ้ตผ้ามันสีเท่าหม่น แบะคอเสื้อเผยอกขาวๆชวนล่อสายตา  เจ้าตัวเล็กคลานต้วมๆลงมานั่งพับเพียบเรียบร้อยข้างๆเขา  ก้มหน้างุดไม่ยอมมองใครเลย
        
                พิธีเริ่มขึ้น  ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายจัดการเอาสินสอดมาตั้งไว้ตรงกลางเพื่อแสดงให้เห็นว่ามีอะไรบ้างที่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวเอามาหมั้นในครั้งนี้ เถ้าแก่ทั้งสองฝ่ายเป็นคนจัดการเรื่องนี้โดยมีบิดามารดาของเขาและสองนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย  หลังจากนั้น พวกผู้ใหญ่ที่มาร่วมงานก็เอาดอกไม้มงคลที่เตรียมไว้โรยลงบนพานของหมั้น  ขั้นตอนสุดท้ายลุงสิทธิ์ก็ยกพานแหวนยื่นให้หนึ่ง  หนึ่งยิ้มแล้วรับแหวนมา  เขาเอื้อมมือไปเกาะกุมมือบางข้างซ้ายของคนตรงหน้า  เจ้าตัวลอบสบตาเขาครั้งหนึ่ง  ใบหน้าใสแดงระเรื่อก่อนก้มลงข่มความเขินอาย เขาค่อยบรรจงสวมแหวนเพชรน้ำงามลงบนนิ้วนางเรียวสวย  ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวต่างๆที่เขาและคนๆนี้ร่วมเผชิญกันมา จะทำให้เขามีวันนี้ได้  วันที่เขามีความสุขที่สุด  หนึ่งรื้นไปด้วยน้ำตา  อบอุ่นใจ  คนที่เขารักไม่เคยทอดทิ้งเขาสักคน  คนในครอบครัว แม้จะผ่านไปแค่ไหน ต่างคนต่างแยกย้าย  แต่สุดท้ายทุกคนก็ยังคิดถึงกัน  ที่สำคัญไม่มีใครรังเกียจที่เขาเป็นแบบนี้  ทุกคนรักในสิ่งที่เขาเป็นและรักในคนที่เขารัก  สำหรับสอง  เด็กน้อยของเขา  สองเป็นเหมือนน้ำใสสะอาดที่หล่อเลี้ยงหัวใจของหนึ่ง  น้ำบ่อนี้ไม่เคยเหือดหาย และยังเต็มเปี่ยมพร้อมสำหรับหนึ่งเสมอ  สองทำให้เขาเข้มแข็ง  เขาได้รู้ว่าการมีชีวิตอยู่เพื่อใครอีกคนมันสำคัญแค่ไหน  หนึ่งเอื้อมมือไปที่ใบหน้าขาวสะอาดแต่ซับสีเลือดแดงไปทั่ว  เขาโน้มกายเข้าไปก่อนจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมน  เพียงแค่นั้นก็เรียกเสียงเฮฮาให้กับคนในงานได้อย่างดี บรรยากาศหวานชื่นมื่น  ตอนท้ายของงานก็มีการจัดเลี้ยงเล็กๆ  วันนี้บิดาของสองปิดร้านเลี้ยงฉลอง ลุงอ้วนเชิญทุกคนไปที่ร้านตอนค่ำๆ  ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้าย  ทั้งบิดามารดาของเขาและของคนตัวเล็กจะเข้ากันได้ดี ลุงอ้วนและบิดาของหนึ่งถึงกับกอดคอกันเลยทีเดียว...

                 "เหนื่อยมั้ยครับ"

                 "ฮื่อ..นิดหน่อยฮะ"  

                 "พี่ซับเหงื่อให้นะ"  หนึ่งเอื้อมไปหยิบกระดาษทิชชู่ที่หัวเตียง  ตอนนี้เขากับเจ้าตัวเล็กหลบออกมาได้อีกครั้ง เพราะแค่อ้างว่าน้องเหนื่อย มารดาของเขาก็รีบบอกให้พาสองมานั่งพัก

                 "ขอบคุณฮะ" สองเอาหัวทุยพิงไหล่แข็งแรง

                 "วันนี้สองน่ารักจัง" หนึ่งอมยิ้ม

                 "บ้า  พอแล้ว  แค่นี้ก็อายจะแย่แล้วนะ" คนตัวเล็กนั่งตัวตรง  เพียงแค่เห็นสายตาระยิบระยับของคนที่นั่งใกล้ๆก็เริ่มอายขึ้นมาอีก

                 "อายอะไรกันนักหนา  วันนี้วันของเรานะ" หนึ่งหยิกจมูกคนขี้อาย

                 "ก็..ไม่รู้อ่ะ  พี่หนึ่งไม่อายเหรอ...พี่หนึ่งทำได้ไงอ่ะ"

                 "55+ ไม่รู้สิ  พี่แค่มีความสุข  สองมีความสุขมั้ยครับ"

                 "สุขสิฮะ  สองมีความสุขมาก สองไม่คิดว่ามันจะดีขนาดนี้  สองไม่คิดว่าทุกคนจะทำเพื่อเราขนาดนี้"

                 "ครับ  ต้องขอบคุณพวกคุณพ่อคุณแม่นะ  ท่านใจดีกับเราจริงๆ"

                 "เอ่อ...พี่หนึ่งฮะ  แต่...คืนนี้ขอสองนอนกับพี่หนึ่งนะ"

                 "หึๆ  ได้สิ..นอนตลอดไปเลยนะ  ห้ามหนีไปนอนที่อื่น  ไม่งั้นจะตามไปตีก้น"

                 "บ้า.." คนตัวเล็กก้มลง  แกล้งทำเป็นมองแหวน

                 "สวยมั้ยครับ"  หนึ่งกอดร่างบางไว้หลวมๆโยกตัวเบาๆ

                 "สวยฮะ  สวยมากๆเลยฮะ"
              
                 คนตัวเล็กบอกคนตัวสูงที่นั่งซ้อนหลัง  ร่างเล็กพิงที่หน้าอกแกร่ง มือบางทาบลงบนลำแขนของอีกคนที่พาดมาบนตัวหลวมๆ  สองโยกตัวตาม หลับตาลงซึมซับความสุข  เสียงของคนด้านหลังยังหัวเราะเบาๆ  เสียงนุ่มทุ้มลึก อบอุ่นถึงหัวใจ... :n1:
              



                                                                  



                                http://www.4shared.com/embed/549120883/61ffa4b9

Darling.....Avril Lavigne :L2:


Darlin, you're hiding in the closet once again.
Start smiling...
I know you're trying, real hard not to turn your head away
Pretty darlin...
Face tomorrow, tomorrow's not yesterday
Yesterday, oh oh

Chorus:
Pretty please, I know it's a drag
Wipe your eyes and put up your head
I wish you could be happy instead
There's nothing else I can do
Then love you the best I can
yeah yeah yeah yeah

Darlin, I was there once a while I go...
I know, that it's hard to be stuck with people that you love, when nobody trusts

Chorus:
Pretty please, I know it's a drag
Wipe your eyes and put up your head
I wish you could be happy instead
There's nothing else I can do
Then love you the best I can

Yeah-i-yeah, yeah yeah
That I can
Oh oh oh

Bridge:
You're not the only one who's been through
I've been there alone and now so are you
I just want you to know why you know it's not your fault
It's not your fault...

Oh, oh, you're fault, you're fault
It's not your fault
You're fault, You're fault, You're fault...

Chorus:

Pretty please, I know it's a drag
Wipe your eyes and put up your head
I wish you could be happy instead
There's nothing else I can do
Then love you the best I can

That I can... Oh oh oh

Darlin, you're hiding in the closet once again. Start smiling...


                                                                             อวสาน









แต่..................
















เดี๋ยวแถมตอนพิเศษให้  หึๆ :m25: :oo1: :haun4:



ยังมะได้ตรวจคำผิดเลยอ่ะ  ถ้ามีขออภัยด้วย

              
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 17-06-2011 21:51:09
เย้เย้ HAPPY ENDING
แน่นอนอยู่แล้ว น้องสองน่ารักจะตาย
พี่หนึ่งสมควรได้ครอบครอง 55555555

เดี๋ยวมารอของแถม สงสัย NC ใช่มะ ใช่มะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-06-2011 21:53:14
แอบอิจฉา หวานจริงๆ
จบแบบนี้คนอ่านมีความสุขจัง
เหลือแต่ตอนเข้าหอ นอกจากความสุขแล้ว
ทั้งสองและหนึ่งจะได้ความเสียวววว :haun4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 17-06-2011 22:03:39
ขอพิเศษ 2 ตอนได้ปะ

เอาแบบจุใจเลยอะ :z1:

รอเรื่องใหม่อยู่นะ o13

 :call:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 17-06-2011 22:34:43
จบลงด้วยดี รอตอนพิเศษ หึหึ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: SPSJ ที่ 17-06-2011 22:44:01
 :haun4: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: lasom ที่ 17-06-2011 23:18:51
ปลื้มใจมากมาย :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: rule ที่ 17-06-2011 23:54:44
ซึ้งมากๆคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.NC18+17/06/11ช่วง **3** (9:22น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 18-06-2011 06:01:06
ตอนพิเศษ  แหวนทองคล้องใจ....


                (http://upic.me/i/or/wedding-rings-1copy.jpg)







                   "พี่หนึ่งจะเริ่มทำงานเมื่อไหร่ฮะ"  สองหันไปถามคนตัวสูง  ฝ่ามือของตัวเองถูกคนข้างๆเกาะกุมขณะที่เดินเคียงข้างกัน  ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังเคลื่อนคล้อย  ลมทะเลพัดเย็นสบาย  ขอบฟ้าเริ่มมืดลง  ในมือใหญ่ที่เกาะกุมมือเล็กยังมีแหวนเพชรน้ำงามอยู่บนนิ้วนางเรียวสวยบ่งบอกว่าถูกตีตราจองเรียบร้อยแล้ว

                   "คุณพ่อบอกว่าให้พี่พักได้อีกสองอาทิตย์ครับ  หลังจากนี้พี่ก็ต้องเริ่มเรียนรู้งาน  พี่กะว่าจะใช้เวลาช่วงนี้อยู่กับสองแล้วก็ร่างแปลนที่ค้างไว้ให้เสร็จ แล้วค่อยกลับกรุงเทพฯ  ก็...คงตรงกับช่วงที่สองเปิดเทอมพอดี"

                   "ฮะ...เอ่อ  ก่อนกลับ  สองขอกลับไปนอนบ้านซักสองวันนะฮะ  พี่หนึ่งไปนอนกับสองนะ"

                   "หึๆ  ได้สิ  ไม่ขัดอยู่แล้ว  แต่คุณพ่อจะไม่ว่าเหรอสอง"

                   "ไม่หรอกฮะ  พ่อไม่ว่าหรอก  ดีซะอีก  เดี๋ยวก็ได้โอกาสใช้พี่หนึ่งทำโน่นนี่อีก  เฮ้ย.."

                   "ไม่เป็นไรครับ  ถ้าพี่สามารถทำได้  พี่ก็เต็มใจ  สบายมาก"

                   "เริ่มมืดแล้วล่ะ  สองว่าเรากลับโรงแรมเถอะฮะ"

                   "ครับ"
 
                   หลังจากเดินเรียบหาดย่อยอาหารเย็นกันเรียบร้อย  หนึ่งกับสองก็เดินกลับที่พัก  พอถึงห้อง  สองก็ให้หนึ่งเข้าไปอาบน้ำก่อน  หลังจากหนึ่งทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้ว  เขาก็ให้คนตัวเล็กใช้ห้องน้ำต่อ  ส่วนหนึ่งออกมานั่งดูแปลนงานที่ต้องสะสางให้เสร็จตามที่สัญญาไว้  หนึ่งสวมเสื้อกล้ามตัวเก่งสีขาว  กับกางเกงนอนผ้ายืดขายาว  ชุดนี้เป็นชุดโปรดของหนึ่ง  เขาเป็นคนขี้ร้อน  แต่ถ้าเปิดแอร์ก็จะใส่เพียงเสื้อกล้าม  ถ้าไปพักที่ที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ  เขาก็มักจะนอนไม่ใส่เสื้อ  เพราะไม่ชอบให้เหงื่อออกจนซึมเสื้อนอนด้านหลัง  มันทำให้หนึ่งหลับไม่สบาย

                    หนึ่งนั่งลงทำงานได้สักพักใหญ่  ก็รู้สึกว่าคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำนานไปแล้ว...

                    สองเปิดก๊อกน้ำล้างหน้าเป็นครั้งสุดท้าย  พอเงยหน้าขึ้นมามองเงาสะท้อนของตัวเอง  สายตาก็พบกับร่องรอยแถวซอกคอและไหปลาร้า  สองเอามือเช็ดไอน้ำที่อยู่บนกระจกให้หมดไป  ร่องรอยชัดขึ้น  สีเขียวช้ำๆยังเผยให้เห็นอยู่บ้าง  สองลองเอามือกดดู  ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว  นี่ก็ผ่านมาเกือบสองอาทิตย์ ทำไมมันยังไม่หายซะที  ทุกครั้งที่สองอาบน้ำ  เขาก็ต้องเห็นมัน  มันทำให้คนตัวเล็กนึกถึงเรื่องราวเลวร้าย  ทั้งๆที่เรื่องก็จบไปแล้ว  และก็จบด้วยดี  แต่ดูเหมือนส่วนลึกของสองจะยังไม่ยอมลืมมันง่ายๆ  สองยังคงฝันถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น  ทุกครั้งที่ฝันก็จะโผเข้ากอดคนตัวสูง เหมือนหาที่หลบภัย  พอได้ซบอกอุ่นๆ  ความฝันเลวร้ายก็จะหายไป  แต่มันจะเป็นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน  พอกลับไปถึงกรุงเทพฯแล้ว  คนตัวสูงก็ต้องทำงานหนัก  กว่าจะกลับถึงบ้านก็อาจจะดึกดื่น  แล้วสองจะมามัวเอาแต่พึ่งเขาอยู่ได้ยังไง  หนึ่งเองก็คงจะเหนื่อย  จะมาคอยดูแลปลอบประโลมลูกแหง่อย่างสองได้อีกเหรอ  สองจะทำยังไงดีล่ะ  ถึงจะลืมมันได้ซะที...

                    มือบางยังคงลูบคลำร่องรอยนั้นอย่างเลื่อนลอย...

                    "กริ๊ก!!"

                    เสียงลูกบิดประตูห้องน้ำถูกเปิดออก  แต่ดูเหมือนคนที่กำลังเหมื่อไม่ได้ใส่ใจ  ใครบางคนก้าวเข้ามา  ก่อนสอดมือเข้าไปที่เอาบางเปลือยเปล่าจากด้านหลัง

                    ดวงตากลมโตกลับมามีสติอีกครั้ง

                    "อ๊ะ!!...พี่หนึ่ง  สองเปียกอยู่..."  ร่างเล็กเปลือยเปล่าถูกกระชับแนบชิดกับร่างใหญ่ด้านหลัง

                    "ทำไมนานจังครับ หืมม" หนึ่งกระซิบถาม

                    "เอ่อ...พี่หนึ่งฮะ  ปล่อยก่อนนะ  เดี๋ยวเสื้อพี่หนึ่งเปียก "  สองก้มลงมองกางเกงผ้ายืดขายาวของหนึ่งที่ละกับพื้นห้องน้ำที่ยังเปียก  มันเริ่มซึมน้ำบ้างแล้ว

                    "พะ พี่หนึ่งฮะ  กางเกงเปียกน้ำแล้วนะ  ปล่อยก่อน"
      
                    "สอง..สองยังลืมมันไม่ได้ใช่มั้ย  รอยพวกนั้นใช่มั้ยครับ  ที่ทำให้สองยังลืมไม่ได้  สอง  สองบอกพี่สิ"  หนึ่งก้มลง เอาจมูกคลอเคลียสูดกลิ่นหอมของสบู่ที่ลำคอขาวๆ

                    "พี่หนึ่ง"  คนตัวเล็กไม่รู้จะพูดยังไง  ก็เพราะไอ้รอยนี่เนี่ยแหละ  ที่มันเป็นตัวปัญหาก่อกวนจิตใจของสอง สองฝันร้ายเพราะมัน  และที่สำคัญมันเป็นสาเหตุที่ทำให้สองไม่กล้ามีอะไรลึกซึ้งกับหนึ่ง   มันเหมือนสิ่งที่ฝังใจ  ความรุนแรงที่สองได้รับครั้งนั้นมันเจ็บปวดจนสองขยาดการร่วมเพศ  นับตั้งแต่ที่สองหายป่วยออกจากโรงพยาบาล  สองก็นอนกับหนึ่งตลอด  แต่หนึ่งไม่ได้เกินเลยกับสองเลย สองรู้ดีว่าหนึ่งคงต้องการให้เขาพร้อม   แต่สองยังไม่พร้อม  และไม่รู้จะทำยังไงให้กลับมาเหมือนเดิมได้อีก  เหมือนเมื่อครั้งที่ได้สนิทแนบแน่นกับหนึ่ง  รสสัมผัสนั้น  ทั้งวาบหวามและอบอุ่น  แต่ตอนนี้สองกลับกลัวมันซะได้
                  
                    "ให้พี่ช่วยนะครับ" หนึ่งกระซิบเบาๆ  ฝ่ามืออุ่นเลื่อนไปลูบไล้ที่หน้าท้องขาวสะอาด ก่อนไล่ลงมาตามสะโพกและหน้าขาอ่อน

                    "พี่หนึ่ง.." คนตัวเล็กหายใจกระชั้น  สัมผัสนั้นก็ทำให้ล่องลอย  ทั้งเย้ายวนทั้งหลอกล่อ  สองยืนพิงอกแกร่ง

                    "นะ  ให้พี่ช่วยนะครับ  พี่จะทำให้สองลืมมันเอง อย่ากลัวเลยนะ"  หนึ่งพูดเหมือนคนละเมอ  ใช่  เขากำลังละเมอ  เพียงแค่ได้สัมผัสผิวนุ่มๆเย็นๆ  กลิ่นสบู่อ่อนๆเพียงแค่นี้  หัวใจของเขาก็กระเจิดกระเจิง  

                    "พี่หนึ่ง.."  สองถูกจับหันไปเผชิญหน้ากับหนึ่ง สายตาเร่าร้อนปะทะกับสายตาหวานฉ่ำของสอง  หนึ่งดันร่างบางเข้าหา  แขนเล็กโอบรอบบ่าของเขา

                    "อื้อ...อ๊ะ.."  เสียงใครบางคนอุทาน ก่อนผวากอดหนึ่งแน่นขึ้น  เพียงเพราะหนึ่งกำลังจูบหนักๆลงไปที่ซอกคอและไหปลาร้า  เขาจงใจทำรอยรักไว้ตามรอยช้ำเหล่านั้น ร่างเล็กสะดุ้งน้อยๆอยู่ในอ้อมกอดของหนึ่ง  หัวแม่มือของหนึ่งจงใจเฉียดปลายยอดอกเล็กไปมาเพียงแค่สะกิดแผ่วเบามันกลับตั้งชันขึ้นเหมือนรู้งาน  หนึ่งเคล้าคลึงไปทั่วร่างของคนตัวเล็ก

                    "อื้อ...พี่หนึ่งงง"  สองครางเสียงหวาน แขนเล็กโอบกอดลำคอแกร่งเอาไว้แน่น  ตอนนี้ไม่กลัวว่าเสื้อของคนตัวโตจะเปียกอีกแล้ว  เสื้อกล้ามของหนึ่งเริ่มซึมหยาดน้ำแพรวพราวที่ยังเกาะอยู่บนร่างของคนรัก  

                     หนึ่งก้มลงเอาจมูกคลอเคลียแพขนตาหนาๆที่กระพือสั่นไหว  ก่อนจะเปลี่ยนใจลงไปงับปลายจมูกเล็กเบาๆเสียงอุทานหลุดลอดออกมาจากริมฝีปากคู่สวยเหมือนเป็นเชิงโต้แย้ง  เขาไม่ปล่อยให้มันคัดค้านได้อีก  เมื่อรีบประกบลงไปอย่างดูดดื่ม  ปลายลิ้นสอดเข้าหาสัมผัสลิ้นสีสวยหยอกล้อพลิกไปมา  หยาดน้ำชุ่มฉ่ำอยู่ภายใน  เพียงแค่ชั่ววินาทีที่แยกจาก  ก็ทำให้น้ำใสๆยืดออกมาจากระหว่างริมฝีปากของเขาและริมฝีปากสีหวานเย้ายวนที่กำลังหอบหายใจ ปล่อยให้เป็นอิสระได้ไม่นานก็เข้าประกบใหม่ ปรับเปลี่ยนมุมองศา  ปลายลิ้นร้อนๆยังชอนไชสำรวจช่องทางภายใน  ยิ่งได้สัมผัสก็ยิ่งกระหาย  แต่ต้องอดออมถนอมไว้  จงใจหยอกเย้าหลอกล่อให้หัวใจดวงน้อยหลอมละลายไปในห้วงเสน่หาพร้อมกับเขา

                     ฝ่ามือหนาลูบไล้สัมผัสเรือนกายไปทั่ว  ผิวเนียนนุ่มเนื้อชุ่มฉ่ำ  เมื่อรู้สึกว่าไม่ถนัดนักก็รีบหาตัวช่วย  หนึ่งสอดมือเข่าที่เอวบางของอีกคน  จัดการยกร่างเล็กให้นั่งที่ขอบซิงค์ล้างหน้า โดยมีร่างกายกำยำของเขาช่วยผ่อนน้ำหนักอีกที  เพียงแค่นี้ร่างเล็กก็แนบสนิทชิดทุกส่วน  สัมผัสได้ทุกหนั่นเนื้อที่เสียดสี  ลำตัวของหนึ่งอยู่ระหว่างขาอ่อนคู่งามที่ก่ายกอดเกี่ยวร่างของเขาไว้เป็นที่พึ่ง  ด้านบนยังนัวเนียไม่ยอมห่าง  ริมฝีปากยังประกบดูดดื่ม  ปลายลิ้นยังเกี่ยวกระหวัดกันและกัน  ความชุ่มฉ่ำภายในก่อให้เกิดเสียงน่าอายดังสะท้อนอยู่ในห้องน้ำ  แต่นั่นกลับยิ่งทำให้หนึ่งลุกไหม้  ภายในเริ่มคับแน่น  ส่วนกลางลำตัวเริ่มคับเบียดกับของคนตัวเล็ก  เขาขบกรามขนาดที่ปล่อยให้ใครอีกคนพักหายใจ  แต่เพียงแค่นั้นก็กลับทำให้หนึ่งทรมานเหลือเกิน  ไม่อยากแยกจากริมฝีปากที่กำลังบวมเจ่อนั่นเลยสักนิด  สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวเข้าไปลิ้มลองรสหวานชุ่มฉ่ำ สลับกับลากไต่ซุกไซ้ที่ลำคอขาว  และไหปลาร้า  บริเวณนั้นเริ่มปรากฏร่องรอยหลักฐานในความเป็นเจ้าของที่หนึ่งประทับไว้  ใช่แล้ว  คนๆนี้เป็นของเขาเพียงผู้เดียว  และหนึ่งก็เช่นกัน  เขาและใครอีกคนเป็นของกันและกัน...

















ยังไม่จบนะ..เดี๋ยวมาต่อ  วันนี้ไม่ว่างอ่ะ  ถ้าดึกๆเค้ากลับมาไม่ง่วงนอนสาหัสจะต่อให้จบเลยนะ  ขอบคุณมากๆ :L2:

เดี๋ยวกลับมาบวกให้คนอ่านผู้น่ารักทั้งหลาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 18-06-2011 08:00:31
 :sad4: ค้างอย่างแรงงงงงงงง

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 18-06-2011 08:48:48
ใจร้ายยยยยยยยยยยยยย
ทำไมค้างไม้อย่างนี้     
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 18-06-2011 09:13:40
ลงเอยด้วยดีแล้ว  เย้เย้เย้
มาต่อพิเศษอีกนะค้าาา  กะลังค้าง   :m13:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 18-06-2011 11:52:09
ค่อยๆ อ่านทีละนิด จนตามทัน

พี่หนึ่งน้องสอง น่ารักมาก ถึงมีมาม่าหน่อยๆ ตอนที่ต่างคนต่างหายไปจากชีวิตของกัน
และกัน ดีใจที่กลับมาดีกันได้ เพียงแต่พี่ชายคนโตของหนึ่งไม่ค่อยมีบทบาทเลย เอ๋ หรือว่า
เป็นคู่ถัดไปที่จะแต่ง หรือจะให้คู่กับน้องดาที่คุณพ่ออยากให้แต่งกับหนึ่ง จะรอตอนพิเศษครับ
(แต่จะให้ดี ขอน้องแมวช็อคโกบอลด้วยนะครับ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 18-06-2011 12:33:43
จบแล้วววว   รอตอนพิเศษที่ยังค้างอยู่ 


ปล.ขอให้แคนแคนกลับมาแล้วไม่ง่วงนะจะได้มาต่อ 555555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: orionstar ที่ 18-06-2011 16:51:17
 o13 ตามมาเจออีกเรื่องแล้ว เย้ เย้ แต่มาเจอกันใกล้จบทุกที
เรื่องนี้ทำน้ำตาร่วงไปหลายตอนมาก ยังไม่รู้เลย ว่าระหว่างคนอ่านกัน นายเอกใครจะตาปูด ตาบวม มากว่ากัน o22
ซึืงในความรักน่ะ ยอมรับและอดทนต่อกันได้ ติด ตามค่ะ ติดตาม

แอบหลบ :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: LiTTlE [A] ที่ 18-06-2011 18:13:20
............จบแล้ววววววววววววว :a5:
ลุ้นแทบแย่ คุณพ่อนะคุณพ่อ ต้องให้น้องมันเลือดตกยางออกถึงยอมช่ายมั้ย มันน่าจริง...
แต่ให้อภัย..เย้ๆๆ หมั้นกันแล้ววววววววววววว ไม่ต้องรอน้องจบหรอก แต่งเลยยยยยยยยยยยยย

แต่ตอนพิเศษ้างอ่ะ...
ต่อด่วนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
 :pig4: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 18-06-2011 23:58:47
จบแล้วววววววววววว

ในที่สุดก้ออ่านจบ

เป็นเรื่องราวที่น่ารักถึงแม้จะมีม่าม่าชามโตๆปนอยู่ด้วย

แอบเศร้าตอนที่พี่หนึ่งหายไปจากน้องสอง โอยย เศร้าตามน้องสอง บีบครั้นหัวใจสุดๆๆ

และแอบชื่นชมน้องสองที่น้องมั่นคงในความรัก ไม่ว่ายังไงก้อยังรักหนึ่งไม่วันเปลี่ยนแปลง

ทำทุกอย่างเพื่อหนึ่งแต่เพียงผู้เดียว  เสียสละเพื่อหนึ่งทุกอย่าง โธ่น้องสอง น้องช่างเกิดมาเพื่อเป็นนายเอกแต้ๆ

ชอบเรื่องนี้มากๆๆครับ เป็นเรื่องราวที่น่ารัก ใสๆๆ แต่ปนม่าม่าชามเบ่อเริ้ม เขียนได้สมูทมากๆ อ่านแล้วรู้สึกไม่ติดขัด



สุดท้ายนี้ ขอบคุณมากๆๆครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 19-06-2011 00:46:18
โอ๊ย เรื่องนี้ทำให้เราน้ำตาไหลไม่หยุด  :m15:
ไม่รู้ตื่นเช้ามาจะตาบวมหรอเปล่าเนี่ย

ชอบพี่หนึ่งที่เป็นคนมั่นคงมากๆ ไม่รู้ชาตินี้จะได้เจอผู้ชายดีอย่างนี้หรอเปล่า :เฮ้อ:
สองก็เหมือนกัน รู้สึกว่าสองคนเขาช่างเหมาะสมกันจริง ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 19-06-2011 06:37:43
กรรมเหอๆ  มึนจริงๆด้วย  เมื่อกี๊โพสผิดเรื่อง  ลบทิ้งไปแล้วอ่ะ  เค้าจะว่าป่าว   เอาใหม่ๆ  จะบอกว่าต้องขอโทษด้วยผู้อ่านทุกท่าน o1  เมื่อคืนนี้เข้ามาต่อแล้วอ่ะ แต่ไม่รอด  หัวจะเขกกะแป้นพิมม์  จริงๆวันนี้ก็กลับดึก  แต่จะพยายามนะ  ไม่งั้นก็เช้าๆวันจันทร์นะฮับ  อิอิ ขอบคุณมากๆ +1ทุกคนเลย :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: TENSHINEKO ที่ 19-06-2011 20:23:38
เหอๆ  พักก่อนก็ได้  แต่คนอ่านรออยู่  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 19-06-2011 23:19:12
น้องวัน ทำให้พี่เสียน้ำตาอ่ะ หลายหยดด้วย เสียแต้มให้น้องอีก 1 แต้มอีกอะฮึกอะฮึก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 20-06-2011 00:23:23
นี่เป็นเรื่องสั้นขนาดยาวสินะ555

เรื่องเรื่อยๆแต่สนุกมากเลยค่ะ

มีขัดๆนิดนึง คือช่วงที่บรรยายติดกันเป็นพรืดดดดดดมากๆ อ่านแล้วลายตา แอบแนะว่าสักสามถึงห้าบรรทัดก็เคาะที ขึ้นย่อหน้าใหม่ก็ดีนะคะ ไม่งั้นจะอ่านยาก

จะรอตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (5:55น.)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 20-06-2011 02:04:34
ต่อเน้อ....  ง่วงนะ  แต่อยากต่อ  ขอให้รอดๆ  เหอๆ


ทำไงดี  เป็นลมพิษอ่ะ  อาทิตย์นึงและ ยังไม่หายเลยอ่ะ   กินยาก็ไม่หาย  (แต่เค้ากินไม่ครบอ่ะ  :beat: ก็กินแล้วมันง่วงมากๆนี่นา ทำอะไรไม่ได้เลย)  แม่บอกให้เอาเหล้าทากะใบพลูถูที่ตัวก็ยังไม่หาย  ตอนนั่งพิมม์ยังคันเลยอ่ะ  ผิวก็เป็นตุ่มเต็มเลย  เซ็งจิต T^T  ช่างมันเหอะ  เดี๋ยวก็หายมั้ง  :serius2:




เปลี่ยนโหมดก่อน......รักคนอ่านทุกคนเลย :m1: อิอิ   มาๆ  ต่อๆ 


                  "Rrrrrrrrrrrrrr...ตู๊ดๆๆๆๆๆ Rrrrrrrrrrrrrr....ตู๊ดๆๆๆๆๆๆRrrrrrrrrr...."

                  ระหว่างที่กำลังโรมรันพันตูกันอยู่ในห้องน้ำ คนตัวเล็กก็กลับมีสติ  แขนบางรีบยันอกหนาออกห่าง 

                  "พี่หนึ่ง..พี่หนึ่งฮะ  มือถือฮะ มือถือพี่หนึ่ง"

                  "หืม...ช่างมันเถอะครับ"  เจ้าของกลับไม่สนใจ  ตอนนี้สมาธิของเขากำลังจดจ่ออยู่ตรงยอดอกสีชมพูที่ตั้งชันอยู่แค่ปลายจมูก
                 
                  "Rrrrrrrrrrrrrr...ตู๊ดๆๆๆๆๆ Rrrrrrrrrrrrrr....ตู๊ดๆๆๆๆๆๆRrrrrrrrrr...."

                  "อื้อ...ไม่อาววว  เดี๋ยวก่อนนะพี่หนึ่ง   สองไม่หนีไปไหนซะหน่อย  ถ้าเป็นเรื่องงานเดี๋ยวพี่หนึ่งจะแย่นะ  ไม่ก็อาจเป็นคุณพ่อคุณแม่พี่หนึ่งก็ได้"

                  ยังไม่ทันที่จะออกแรงดูดดุนเจ้ายอดอกสีสวย  ศีรษะของหนึ่งก็ถูกใครบางคนจับถอยออก  เขาจึงได้แค่เอาลิ้นลองลิ้มชิมความหอมหวาน  เสียดายแทบขาดใจ  พอเงยหน้าขึ้นเห็นดวงตาหวานฉ่ำด้วยรสรักจากเขากำลังจ้องเขม็ง  คิ้วของคนน่ารักกำลังขมวดผูกโบว์  หนึ่งก็ได้แต่หักห้ามใจ  แต่จะให้แยกจากกับร่างเล็กตอนนี้ก็คงไม่ได้ซะแล้ว  ถ้าไอ้เจ้ามือถือจอมกวนมันต้องการเขาขนาดนั้นก็คงช่วยไม่ได้

                  "อ๊ะ..พี่หนึ่ง"  ไม่ทันที่ตั้งตัว  ร่างของสองก็ถูกคนตัวสูงอุ้มขึ้น  สองเอาขากอดหนึ่งไว้แน่น  ไม่คิดว่าหนึ่งจะเล่นอะไรแผลงๆแบบนี้
 
                   หนึ่งอุ้มเจ้าลูกลิงแสนสวยของเขาตรงไปยังมือถือเจ้าปัญหาที่ยังคงทั้งสั่นทั้งแผดเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ  เขาหยิบมือถือขึ้นมาจากชั้นใส่หนังสืออ่านเล่น  มันถูกออกแบบให้ด้านล่างเป็นชั้นใส่หนังสือ  ส่วนบนทำเป็นพื้นเรียบไว้วางของ  ความสูงของมันจึงไม่มากนัก  ซึ่งก็เหมาะพอดีที่จะให้เจ้าลูกลิงของเขานั่งพักชั่วคราว

                   "อ๊ะ.."  เสียงอุทานเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากเล็ก  หลังจากที่ถูกหนึ่งปล่อยตัวลงบนนั้น แล้วก็จัดการล็อกไว้ไม่ให้ขยับไปไหน  หนึ่งได้โอกาสกลับมาอยู่ระหว่างขาอ่อนขาวๆอีกครั้ง  เจ้าของขาสวยคู่นี้กำลังแก้มแดงระเรื่อ หนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพอเห็นชื่อก็ยื่นให้คนตัวเล็กทันที  สองพาซื่อรับมือถือจากคนตัวสูงมาอย่างว่าง่าย  กดรับเสร็จเรียบร้อยก็เพิ่งเห็นว่าคนที่โทรมาคือคนที่บ้านของหนึ่งนั่นเอง  สองจำได้ดีนั่นคือเสียงของบิดาของคนตัวสูง

                   "อื้อ..นี่มันคุณพ่อนี่  เอามาให้สองทำไม"ลิงแสนสวยบ่นอู้อี้ รีบเอามือปิดลำโพงไว้แน่น

                   "คุยให้พี่ทีนะ  คุณพ่อคงโทรมาเรื่องงาน  ตอนนี้พี่ไม่มีสมาธิ สองก็รู้"  สายตาระยิบระยับแถมบ่งบอกถึงอาการบางอย่าง ทำเอาคนตัวเล็กขนลุกซู่  ให้ตายเถอะ..อยู่ดีๆสองก็ต้องมาเป็นโอเปอเรเตอร์จำเป็น

                   "ฮัลโหล...สวัสดีฮะ"

                   "อ้าว  สองเหรอ  ขอลุงพูดกับหนึ่งหน่อยสิ"

                   "ฮะ  อ๋อ พี่หนึ่งเหรอฮะ อื้อ..อะ...เอ่อ..พี่หนึ่ง  พี่หนึ่งทำงานอยู่ฮะ"  คนตัวเล็กไม่ค่อยมีสมาธิกับคู่สนทนาเท่าไหร่  ก็จะอะไรซะอีกล่ะ  ตอนนี้สองโดนก่อกวนไปทั่ว ริมฝีปากของใครบางคน เดี๋ยวก็แอบเข้ามาไซ้ที่ซอกคอ  เดี่ยวก็ขบเม้มลงบนเนื้อนวล  บางทียังทำเสียงหน้าอายอีกด้วย  สองกลัวว่ามันจะดังเข้ามือถือ แถมคนที่โทรมายังเป็นถึงผู้ใหญ่คนสำคัญ ไม่ว่าท่านจะพูดอะไร  สองก็ต้องตั้งใจฟัง  พยายามเอามือถือแนบหูให้มากที่สุด  แต่ก็รู้สึกว่าจะไม่มีกระจิตกระใจกับการสนทนาโต้ตอบเลย

                   "อ้าวว  มันทำงานอยู่เหรอ  ขอลุงพูดกับมันหน่อย"

                   "เอ่อ  ตะ  ตอนนี้ยังไม่ได้ฮะ"

                   "อ้าว  ทำไมล่ะ"  คนปลายสายยังไม่ลดละ

                   "คือ  เอ่อ  คือ พี่หนึ่งอยู่ในห้องน้ำฮะ อื้อ..อะ"  เอาอีกแล้ว คนตัวใหญ่จอมซุกซนก่อกวนสองอีกแล้ว  ปลายลิ้นร้อนของใครบางคนกำลังสัมผัสที่ยอดอกของสอง  มืออีกข้างของสองกำลังขยี้ผมของหนึ่งอย่างรัญจวน

                   "นี่มันยังไงกันล่ะลูก  ตกลงว่าหนึ่งมันจะทำงานหรือว่าเข้าห้องน้ำ  แล้วนี้อยู่ไหนกันแน่ ทำไมสายมันดังกึกๆกักๆตลอดเลย"
           
                   "ฮื่อ...อ๊ะ  คือ  พี่หนึ่งทำงานฮะ  แล้วก็เพิ่งลุกไปเข้า..อื้อ..ห้องน้ำ  คือ  สองจะบอกว่าพี่หนึ่งเพิ่งเดินเข้าห้องน้ำเมื่อกี้นี้เองฮะ  สองเรียกไม่ทัน"  เจ้าลิงพูดลิ้นพันกันยุ่ง  พยายามเรียบเรียงประโยคอย่างยากลำบาก  ใครบางคนยังหยอกล้อกับยอดอกของลิงแสนสวย

                   "มันเข้าไปทำอะไรล่ะ  นานมั้ย  ลุงรอได้"  ตายล่ะ  ท่าทางฝ่ายนั้นจะจริงจังซะด้วย  คราวนี้คนตัวเล็กจะทำยังไง

                   "เอ่อ..พะ พี่หนึ่งอาบน้ำฮะ  ไว้เดี๋ยวคุณลุงกรุณาโทรมาใหม่นะฮะ  เดี๋ยวสองบอกพี่หนึ่งให้"  ปากก็พูดอยู่กับปลายสาย  ส่วนมือที่ว่างก็จัดการปิดปากซุกซนของคนที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ของตัวเอง  แต่แล้วลูกลิงก็ต้องแอบทำตาโต  เมื่อมือข้างนั้นโดนตรวจสอบเข้าให้แล้ว  ลิ้นร้อนๆกำลังไล้ไปตามร่องนิ้วเรียว    ลิ้นช่างสำรวจลากไปจนถึงนิ้วนางที่มีแหวนทองคำขาวประดับเพชรน้ำงาม

                   "อึ๊........."  คนตัวล็กเม้มปากแน่น  พยายามไม่ให้เสียงครางเล็ดลอดออกมา

                   "เอางั้นเหรอ ได้ๆ  งั้นเดี๋ยวลุงโทรใหม่พรุ่งนี้เลยแล้วกัน  บอกมันด้วยเดี๋ยวเ้ช้าๆลุงโทรไปหา ลุงจะให้มันติดต่อกับเลขาลุงที่ทำงาน  จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง  เอ้อ...เดี๋ยวนะ  แม่เค้าจะคุยด้วย"

                   (อ๋า......แย่แล้วๆ)  คนตัวเล็กคิดในใจ  อุตส่าห์แอบโล่งอกนึกว่าจะได้วางสายซะที  ก็ตอนนี้มันไม่เหมาะที่จะคุยโทรศัพท์เลยจริงๆ  สองกำลังโดนหนึ่งแกล้งอีกแล้ว

                   "สอง...สองลูก"  นั่นไง  เสียงคุณแม่ดังออกมาแล้ว  สองรีีบเอามือถือแนบหู

                   "ฮะ...สองพูดฮะ  คุณแม่"

                   "คือแม่จะถามว่า  เดี๋ยวกลับมาสองไปนอนกับพี่หนึ่งชั่วคราวได้มั้ยลูก  พอดีพวกเจ้าต้อมกับตูนเค้าจะมานอนที่บ้าน"  มารดาของหนึ่งหมายถึง ลูกชายของพี่ใหญ่สุดในครอบครัวนี้  พี่ชายของหนึ่งนั่นเอง  โดยปกติ  ถ้าช่วงปิดเทอม บางสัปดาห์ หลานๆก็จะได้มาค้างที่บ้านของปู่กับย่า  วิ่งเล่นเสียงดังกันจนบ้านแทบแตกทุกที  เดิมทีห้องที่สองใช้จัดไว้เพื่อรับรองแขก  ส่วนห้องพี่ชายของหนึ่งจะถูกเก็บไว้เผื่อวันที่เจ้าตัวจะพาครอบครัวมาค้าง  ซึ่งปกติแล้วต้อมกับตูนจะได้นอนห้องรับรองแขกที่สองใช้อยู่ตอนนี้  ส่วนพี่ชายของหนึ่งก็จะได้นอนห้องที่เคยอยู่ แต่เพิ่มภรรยาของตนเองเข้าไปด้วยอีกคน

                   "อ๋อ  เอ่อ  ได้ฮะ  เดี๋ยวอีกสองอาทิตย์สองกับพี่หนึ่งก็กลับแล้วฮะ  ไว้เดี๋ยวสองไปย้ายของเองก็ได้ฮะ  จริงๆตอนนี้ไม่ค่อยเหลืออะไรแล้วล่ะฮะ"  ในห้องของสองมีแต่เสื้อผ้าบางชุดกับพวกตำราหนังสือเรียน

                   "อ๋อ  ไม่เป็นไรจ้ะ  เดี๋ยวแม่ให้แม่บ้านเค้าทำเลยนะ  ว่าแต่สองนอนกับพี่เค้าได้นะ"

                   "55+ได้ฮะ  ได้  ทำไมเหรอฮะ" คนตัวเล็กสงสัย

                   "ก็แม่กลัวตาหนึ่งจะแกล้งหนูน่ะ"

                   "55+ใช่ๆ  พี่หนึ่งชอบแกล้งสองประจำเลยฮะ"  คราวนี้ได้โอกาสฟ้องซะเลย  ขนาดตอนนี้สองยังโดนแกล้งเลย

                   "ตายแล้ว  จริงเหรอจ๊ะ  เดี๋ยวกลับมาจะหยิกให้พุงเขียวเลย"  เสียงคุณแม่หมั่นไส้คนที่ถูกกล่าวถึงเต็มที

                   "ฮะ  ดีเลยฮะ55+คุณแม่อย่าออมแรงนะฮะ  คนนิสัยไม่ดี ต้องหยิกให้ร้องจ๊ากเลย" คนตัวเล็กชอบใจที่มารดาของหนึ่งเข้าข้าง

                   "ฮึ  เดี๋ยวหนูคอยดูนะลูก"  เสียงหญิงสูงวัยพูดอย่างมาดมั่น

                   "ฮะ..อ๊ะ..อึ๊"  คราวนี้สองถึงกับต้องเอามือปิดปาก  ก็ใครบางคนน่ะสิ  คงรู้ตัวแล้วว่าโดนพาดพิงเข้าอย่างแรง  เลยจัดการเอาคืนซะก่อน  ตอนนี้เรียวขาเล็กถูกจับแยกออก  สะโพกบางถูกช้อนให้เบียดเข้าหาร่างกำยำ  คนชอบแกล้งขยับสะโพกของตัวเองบดเบียดกับคนที่นั่งอยู่บนชั้นหนังสือหมิ่นเหม่  ตรงนั้นของคนตัวสูงยังมีกางเกงผ้ายืดกางกั้นอยู่  สองสัมผัสได้ถึงความโอฬารที่ซุกซ่อนอยู่ภายใน  เนื้อผ้ายืดบางเบาเริ่มซึมซับของเหลวบางอย่างที่ซึมยืดออกมา  ของเหลวนั้นยังซึมติดมากับน้องชายของสอง  ในช่วงที่โดนกะทบบดเบียดกันอยู่นั่นเอง...

                   หูตาของสองกำลังอื้ออึง  ในมือยังมีมือถือของหนึ่งแนบหู  แต่คนตัวเล็กไม่รู้หรอก  ว่ามารดาของหนึ่งพูดอะไรกลับมาบ้าง  ตอนนี้สติสตังล่องลอยไปแล้ว  รับรู้ได้แต่เพียงตรงส่วนด้านล่างที่ยังกระทบเนิบนาบด้วยฝีมือโยกย้ายของคนที่เป็นหลักให้สองยึด  มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ได้ยินปลายสายเรียกเสียงดัง

                   "สอง   สองลูก...เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ

                   "ปะ..เปล่าฮะ"

                   "งั้นแม่ไม่กวนแล้วนะ..แค่นี้นะลูก"

                   "ฮะ..สวัสดีฮะ"  พอจบการสนทนาได้สองก็แทบจะทำมือถือร่วงลงพื้นทีนที  ก็คนตัวสูงน่ะกำลังทำอะไรบ้างก็ไม่รู้  มันเยอะแยะไปหมด  สองได้แต่รู้สึกเสียวซ่านแอ่นสะโพกเข้าหา  มันวาบหวิวเร่าร้อนแทบขาดใจเลยทีเดียว

                   มือถือในมือของสองถูกใครบางคนคว้าเอาไป  ก่อนที่จะลอยละลิ่วไปตกลงบนโซฟาใกล้ๆอย่างหมิ่นเหม่
 
                   "อื้อ...พี่หนึ่งอ่ะ  คราวหลังไม่เอาแล้วนะ  สองไม่คุยให้แล้วถ้าแกล้งแบบนี้อ่ะ"  ใบหน้าเล็กบูดบึ้ง  แต่ดวงตายังหวานฉ่ำด้วยรสรัก  แขนขาวๆกำลังยันแผงอกหนา  ไม่ยอมให้เข้าใกล้

                   "ก็พี่คุยไม่ไหว...แต่ให้รอเฉยๆก็ไม่ไหว  สองไม่เข้าใจพี่เหรอครับ"  คนตรงหน้าบอกด้วยดวงตาหยาดเยิ้มพอกัน  เสียงทุ้มแหบพร่าเว้าวอน

                   "ไม่รู้อ่ะ...ไม่รู้เรื่องด้วยหรอก"  คนตัวเล็กไม่สนใจ

                    แต่ไม่ทันที่จะต่อว่าอะไรได้อีก ร่างเล็กก็ถูกอุ้มขึ้น  สองจำต้องกอดคอหนึ่งเป็นลูกลิงอีกครั้ง  ตอนนั้นเองก็รู้สึกว่าด้านล่างเผชิญเข้ากับบางสิ่ง  สองเพิ่งสัมผัสถึงมันได้อย่างถนัด  ถึงแม้ว่ามันยังถูกเก็บไว้ในกางเกงผ้ายืด  แต่ตอนนี้มันก็คับใหญ่อย่างเต็มที่ทั้งยังชุ่มฉ่ำยาดเยิ้ม และกำลังกระทบถูกแถวๆร่องหนั่นเนื้อขาวๆของสอง

                   "อ๊ะ..อื้อ..พี่หนึ่ง"

                   "เห็นมั้ยล่ะ  ก็บอกแล้วไง  ตอนนี้พี่คุยกับใครไม่รู้เรื่อง  นอกจากสองคนเดียว เชื่อพี่รึยัง  คราวนี้จูบพี่หน่อยนะครับ คนดี"  เสียงแหบพร่าและสายตาเว้าวอนทำเอาสองใจอ่อน

                   คนตัวเล็กมอบจูบให้คนตัวสูงทั้งๆที่ยังถูกอุ้มเป็นลูกลิง  หนึ่งรีบรับรสจูบแสนหวาน ปลายลิ้นเข้าดูดดื่มน้ำหวานจากริมฝีปากสีสวย  เสียงแห่งเสน่หายังดังให้ได้ยินคล้ายเสียงเพลงที่ช่วยพัดพาระบำแห่งรักให้พริ้วไหว  เสียงเพลงเริ่มเร่าร้อน  ระบำรักก็เริ่มดุเดือด  ลูกลิงแสนสวยถูกพาไปยังห้องนอน  ก่อนที่จะถูกหย่อนลงบนเตียงกว้างใหญ่นุ่มสบาย  ร่างขาวเปลือยเปล่ากำลังพันเกี่ยวกับผ้านวมสีขาวสะอาดผืนโต  ทั้งน่ารัก  ทั้งเย้ายวน












เอาไปแค่นี้ก่อนนะ  ไม่ไหว  คันมากเลยอ่ะ  เดี๋ยวมาต่อนะ  ขอบคุณผู้อ่านทั้งกลาย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (1:58น.)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 20-06-2011 12:06:26
มา  :z13: น้องวัน โดยเฉพาะ ชิ ชิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (1:58น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Piaanie ที่ 20-06-2011 12:57:07
สงสารคนแต่ง พิมพ์ไปเกาไปหรือป่าวนี่ ถ้ามันเป็นนานแล้วไปหาหมอดีกว่าไม๊คะ ปล่อยไว้ตัวจะลายเป็นตุ๊กแกเอานะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.18/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 1 (1:58น.)
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 20-06-2011 13:22:14
เหอะๆ คนแต่งพยายามมากเลยอะ หุๆ สู้ๆน้า รออ่าน อิๆ

ว่าแต่ไปหาหมอน่าจะดีกว่าน้า  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 20-06-2011 19:07:08
อ่านไปคันไปด้วยเลย  :try2: 
พักผ่อนแล้วหายไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 20-06-2011 20:19:40
จบอีกแล้ว


ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: minmin96 ที่ 20-06-2011 21:11:09
 o2 คนเขียนคันตัว...แต่คนอ่านคันหัวใจมากกว่า(เล่นตัดฉับเลย)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-06-2011 06:20:14
รอนั่งรอนอนรอ

หลังจากได้บ้านสวยกลับมา

 :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-06-2011 10:25:38
จัดรูปให้ก่อนนะ  อิอิ

http://www.4shared.com/embed/38155684/13c155b5





Artist : Chris Brown
Album :
Title : With you


I need you boo
I gotta see you boo
And there's hearts all over the world tonight
Said there's hearts all over the world tonight
I need you boo
I gotta see you boo
And there's hearts all over the world tonight
Said there's hearts all over the world tonight

Hey lil mama, ooh you're a stunner
Hot little figure, yes you a winner, and
I'm so glad to be yours
You're a class of your own and
Ooh little cutie, when you talk to me
I swear the whole world stops
You're my sweetheart and
I'm so glad that you're mine
You are one of a kind, and
You mean to me what I mean to you
And together baby there is nothing we won't do

* 'Cause if I got you
I don't need money
I don't need cars
Girl you're my heart

And oh, I'm into you and
Girl no one else would do
With every kiss and every hug
You make me fall in love
And now I know I can't be the only one
I bet there's hearts all over the world tonight
With the love of their life who feel
What I feel when I'm with you, with you, with you, with you, with you... girl
With you, with you, with you, with you, with you... Oh girl

I don't want nobody else
Without you there's noone left, and
You're like Jordans on Saturday
I gotta have you and I cannot wait now
Hey lil shorty, say you care for me
You know I care for you
You know that I will be true
You know that I won't lie
You know that I will try
Be your everything

[Repeat *]

Oh, I'm into you and
Girl no one else would do
With every kiss and every hug
You make me fall in love
And now I know I can't be the only one
I bet there's hearts all over the world tonight
With the love of their life who feel
What I feel when I'm with you, with you, with you, with you, with you... ohhh
With you, with you, with you, with you, with you... Yeah

And I will never try
To deny that you are my whole life
'Cause if you ever let me go
I would die so I won't run
I don't need another woman
I just need you or nothing
'Cause if I got that
Then I'll be straight
Baby you're the best part of my day

I need you boo
I gotta see you boo
And there's hearts all over the world tonight
Said there's hearts all over the world tonight
They need their boo
They gotta see their boo
Said there's hearts all over the world tonight
Hearts all over the world tonight

And oh, I'm into you and
Girl no one else would do
With every kiss and every hug
You make me fall in love
And now I know I can't be the only one
I bet there's hearts all over the world tonight
With the love of their life who feel
What I feel when I'm with you, with you, with you, with you, with you... ohhh(girl)
With you, with you, with you, with you, with you... ohhh
With you, with you, with you, with you, with you...
With you, with you, with you, with you, with you...
Baby yeah



                                                                                 



หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.20/06/11ตอนพิเศษส่งท้าย 18++หนึ่งXสอง -,.- ช่วงที่ 2ของตอน (1:58A
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-06-2011 10:27:31
สุดท้าย..  ร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกคนอ่านมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  อิอิ เยอะไปป่าว  ขอบคุณที่ติดตามเน้อๆๆๆๆๆ    จบเรื่องนี้เดี๋ยวจะให้ท่านโมฯย้ายไปห้องจบนะ  ใครสนใจยังมีเรื่องที่ยังวิ่งเล่นอยู่ในบอร์ดนี้  ชื่อ  เจ้าหางฟูกับนายจอมโหด (มาร์คXเตย(ติ่มซำ))  เอ่อ  เหอๆ แล้วก็อีกเรื่อง  ที่เริ่มต้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่  กำลังหาทางปรับปรุง ยังไม่บอกชื่อละกัน  เพราะตั้งใจจะเปลี่ยนชื่อใหม่อ่ะ  เปลี่ยนชื่อแล้วคงเห็นมันขึ้นมาวิ่งเล่นอยู่หน้าต้นๆ  คนเขียนคือ cancan  ยังไงก็ฝากเรื่องที่เหลือด้วยน้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  ขอบคุณมากๆเลย  จุ๊บๆ  จ๊วบๆ  ม๊วฟๆ  เดี๋ยวอ่านกันแล้วกลับมาบวกหนึ่งให้ทุกคน  ขอให้แฟนสวยแฟนหล่อนะ  อิอิ





ช่างสุดท้าย....ตอนพิเศษ แหวนทองคล้องใจ


                 

                  หนึ่งมองร่างบางตรงหน้า  คนตัวเล็กนอนตะแคงหายใจสะท้อนจนร่างสั่นไหว  ดวงหน้าใสหยาดเยิ้มไปด้วยไอรัก  แต่สิ่งที่ทำให้เขาแทบบ้าก็คือ  บั้นท้ายงามงอมที่กำลังเผยช่องทางสีหวานระหว่างหนั่นเนื้อ  ช่องทางนั้นกำลังขยับ  ขาอ่อนขาวๆบิดส่ายเล็กๆ  ตรงโคนขาอ่อนยังมีน้ำใสหยาดเยิ้มสะท้อนมันวาวให้เห็น 

                  หนึ่งแอบกลืนน้ำลาย  เผลอเอาลิ้นเลียริมฝีปากที่แห้งผาก  มันก็หลายวันแล้วสินะ  ที่เขาต้องสะกดกลั้นอารมณ์ภายใน  ยิ่งคนตัวเล็กเจอเรื่องร้ายแบบนั้น  เขายังจะกล้าล่วงเกินอีกเหรอ  เพียงเท่านั้นหนึ่งเองก็ยังไม่แน่ใจว่า ตอนนี้จิตใจของคนรักยังพร้อมสำหรับกิจกรรมแบบนี้แค่ไหน  คนตัวเล็กจะทนได้นานแค่ไหน  ไม่ใช่พอเข้าด้ายเข้าเข็มก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา  คราวนี้คงกลายเป็นเรื่องแน่ๆ  เพราะมันอาจจะทำให้เด็กน้อยของเขากลัวไปตลอดชีวิตเลยก็ได้ 

                 ไม่มีทาง....

                 เขาไม่ยอมให้มันเป็นแบบนั้นเด็ดขาด ยังไงๆก็มาถึงขั้นนี้แล้ว  เขาจะทำให้ร่างบางลืมสัมผัสเลวร้ายนั้น  คนตัวเล็กจะต้องจดจำสัมผัสของเขาคนเดียว  ทั้งร่างกายนั้นและหัวใจดวงนั้นจะไม่เหลือพื้นที่ไว้ให้ใครได้อีก  นอกจากเขาแต่เพียงผู้เดียว

                 สองรู้สึกปั่นป่วน  ตอนนี้ร่างกายกำลังต้องการบางสิ่ง  สัมผัสอบอุ่นที่แสนวาบหวาม  สัมผัสของคนๆนั้น  สองอยากให้ร่างสูงโน้มลงมาเสียที  อยากให้กอด  อยากได้รับบทจูบที่แสนเร่าร้อนและอ่อนหวานในคราวเดียวกัน  มีเพียงแค่นี้เท่านั้น  สิ่งนี้เท่านั้นที่จะช่วยให้สองลืมเรื่องไม่ดีได้  อยากจำได้อีกครั้ง  ความรู้สึกเต็มอิ่มที่มีคนตัวสูงอยู่ข้างใน  แม้ลึกๆยังหวาดหวั่นว่าตนเองจะทนได้มากแค่  แต่ก็อยากหาย  อยากลืมฝันร้ายที่คอยก่อกวน

                 สองมองคนที่ยืนอยู่ปลายเตียง  ดวงตาหวานปรือปรอยเห็นคนตัวสูงค่อยๆเลิกเสื้อกล้ามของตัวเอง  ก่อนยกขึ้นเพื่อถอดออก  ร่างกายกำยำปรากฏแก่สายตา  กล้ามอกหนาๆกำลังกระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ  สองเห็นหน้าท้องของหนึ่งเกร็งจนเห็นกล้าม  คงเพราะกำลังสะกดอารมณ์บางอย่าง  อารมณ์ที่เก็บกักไว้  เพียงเพราะรอให้คนตัวเล็กอนุญาต

                 คนตัวใหญ่ค่อยๆโน้มกายลงบนพื้นเตียงที่ยวบลงตามน้ำหนัก  ร่างสูงค่อมร่างเล็กที่ยังคงนอนตะแคง

                 "ช่วยพี่หน่อยครับ.."

                 หนึ่งให้คนตัวเล็กนอนคว่ำ  ก่อนจะช้อนบั้นท้ายเย้ายวนขึ้นมาหา

                 "อ๊ะ...อื้อ  พี่หนึ่ง  อย่า  มันสกปรก"

                 "หึๆ..."  คนตัวสูงหัวเราะเบาๆ  ไม่ฟังเสียงหวานๆที่ทัดทาน  ใบหน้าคมคายฝังลงบนหนั่นเนื้อ  ปลายลิ้นร้อนควานหาช่องทางสีหวาน  ไล้วนอยู่ตรงรอยแยกเพื่อให้ชุ่มฉ่ำมากขึ้นก็แทรกดันเข้าไป  บั้นท้ายงามงอนสะดุ้งอยู่ในอุ้งมือแข็งแรง

                 "อื้อ..อ๊ะ" เสียงครางหวานๆดังออกมาอีกแล้ว

                 ลิ้นร้อนเข้าสำรวจภายใน ผนังนุ่มด้านในชุ่มฉ่ำ  ควานหาจุดอ่อนไหวแถวนั้น ลิ้นเรียวแหลมฉกเบาๆที่เนื้อนุ่ม

                 "อึ๊..อื้อ.."  เจ้าของบั้นท้ายส่งเสียงครางเล็กๆ  ร่างน้อยสั่นไหว  สองเข่าแยกออกจมลงไปบนพื้นเตียงหนานุ่ม  ใบหน้าเล็กแนบชิดอยู่บนหมอนใบใหญ่ส่ายไปมาไม่ยอมหยุด  ฝ่ามือบางยังกำหมอนไว้แน่น  ตอนนี้อาการเสียวซ่านแล่นไปทั่วสรรพางค์  โดยเฉพาะส่วนท้ายที่โด่งขึ้นตอบรับสัมผัสเย้ายวนที่อีกคนมอบให้

                 หนึ่งไล้ลิ้นหนักหน่วงมากขึ้น  เสียงครางหวานๆทำให้เขาเร่าร้อน  ตอนนี้ด้านในกำลังกระตุกตอบรับลิ้นของเขา  ฝ่ามือใหญ่เลื่อนไปเกาะกุมน้องชายของคนตัวเล็ก เลื่อนมือลงมานวดเบาๆที่ด้านล่างของมัน ก่อนจะรูดขึ้นอย่างช้าๆแล้วก็รูดลงอีกครั้ง  ในมือของเขาทั้งชุ่มฉ่ำทั้งลื่นไหล  รับรู้ถึงห้วงหายใจที่ถี่กระชั้น  เสียงครางหวานๆเริ่มดังขึ้น  หนึ่งกำลังช่วยคนตัวเล็กทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สะโพกบางขยับบ้างแล้ว 

                 "อย่างเกร็งนะ  พี่จะใช้นิ้วก่อนนะ"

                 "อื้อ..."  คนตัวเล็กรับคำเสียงอู้อี้  รู้สึกว่าช่องทางด้านหลังลื่นขนาดนั้นก็คิดว่าคงไม่เจ็บเท่าไหร่

                 หนึ่งค่อยๆดันนิ้วชี้เข้าไป  ปากทางยังคงตึงอยู่บ้าง

                 "อ๊ะ..อื้อ..."  สองจิกมือลงบนหมอนแน่น  รู้สึกเจ็บที่ด้านหลังแต่ยังพอทนได้  เพราะสัมผัสนั้นค่อยเป็นค่อยไป  ไม่จาบจ้วง

                 "เก่งครับ"  คนตัวสูงกล่าวชม  สองรู้สึกว่ากำลังโดนคางสากๆไล้ที่แผ่นหลัง  ริมฝีปากของคนๆนั้นกำลังไล่จูบไปตามแผ่นหลัง  รู้สึกดีจนลืมเจ็บ

                 "อื้อ...พี่หนึ่ง" คราวนี้ริมฝีปากสีสวยครางชื่อของคนตัวสูง

                 "ข้างในนุ่มจัง"  หนึ่งกำลังพูดเรื่องหน้าอาย  นิ้วแข็งแรงขยับเข้าออกช้าๆ  ควานหาจุดอ่อนไหวที่อยู่ลึกลงไปอีก  ด้านหน้าก็เกาะกุมน้องชายของสองที่ชุ่มฉ่ำ แถมยังขยับมือจนเกิดเสียง

                 "อื้อ...พี่หนึ่ง"  คนตัวเล็กขยับสะโพกเคลื่อนไหวตาม  รู้สึกเสียวจนทรมาน  ด้านหน้าที่คับพองถูกโอบอุ้มด้วยคนด้านหลัง   ภายในกำลังปั่นป่วน อารมณ์พิศวาสที่ถูกก่อกวนกำลังไต่เดี่ยๆขึ้นยอดผา

                 "บอกพี่หน่อย  เท่าไหร่แล้ว"

                 "ฮื่อ...สะ..สองงงง อ๊าาา อื้ออ"    เสียงคนตัวเล็กตอบกลับมา

                 "ผิด..  สามต่างหากล่ะ"  คนตัวสูงเฉลย  สองไม่รู้ว่าหนึ่งใส่อีกสองนิ้วเข้ามาตอนไหน  แต่รู้สึกอยู่ตรงด้านใน  นิ้วของหนึ่งกำลังเคลื่อนเข้าออกช้าๆแต่หนักหน่วง  พอรู้สึกมันเสียดสีโดนจุดที่ไวต่อสัมผัส  ก็ต้องรีบแอ่นกายเชิดบั้นท้ายเพื่อให้ได้รับรู้ความเสียวซ่านมากขึ้น  แต่ดูเหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่ยอมเข้าใกล้อย่างจริงจังเสียที  สะโพกบางเลยขยับเข้าหาซะเอง  แต่แล้วจู่ๆ  นิ้วของหนึ่งก็ถูกดึงกลับออกไป คราวนี้คนตัวเล็กถูกจับให้นอนหงาย    สองรู้สึกเสียดายสัมผัสเมื่อครู่ทั้งที่ขาพับขาอ่อนไปหมดแล้ว

                 "แยกขาให้พี่หน่อยครับ"  เสียงนุ่มทุ้มกระซิบที่ข้างหู  คนตัวเล็กว่าง่ายจัดการแยกขาออกให้คนตัวสูงเข้าใกล้ร่างกายกำลังจะแนบชิดกันมากขึ้น  คราวนี้หนึ่งยอมอวดโฉมเจ้าสิ่งนั้น  คนตัวเล็กเห็นแล้วก็ต้องทำตาโต ก็ตอนนี้น่ะมันขยายออกเต็มที่  ตรงปลายยอดยังชุ่มฉ่ำหยาดเยิ้ม  บ่งบอกอารมณ์ของคนตัวสูงที่กำลังกระเจิดกระเจิงไม่แพ้สองเลยทีเดียว

                 หนึ่งจัดการแยกขาอ่อนคู่งาม  แล้วดันมันจนหัวเข่าชิดอกน้อยๆของสอง   คนตัวเล็กร่วมมือโดยการจับขาทั้งสองข้างของตัวเองไว้  ตอนนี้สองอยู่ในท่าที่หน้าอายเหลือเกิน

                 "พะ..พี่หนึ่ง  เบาๆนะ"  ดวงตาหวานฉ่ำยังคนหวาดระแวง

                 "ไม่ต้องกลัวนะ  อย่าเกร็งนะครับ"  สิ้นเสียงทุ้มๆนั่นไม่นานนัก  สองก็รู้สึกถึงอะไรแปลกปลอมบางอย่าง  กำลังดันเข้ามาที่ช่องทางด้านหลัง 

                 เจ็บ...เจ็บเหลือเกิน

                 คนตัวเล็กนิ่วหน้า  มือสองข้างที่จับขาของตัวเองไว้จิกเล็บลงไปบนเนื้อ

                 "พี่หนึ่ง  พี่หนึ่ง  พอก่อน"  เสียงเล็กๆเริ่มโวยวาย ส่ายหน้าไปมาบนหมอน  น้ำใสๆไหลรินลงมาตามแก้มแดง

                 "ชู่ว์...ไม่เป็นไรนะ  สองอย่าเกร็งนะครับ  ไม่เจ็บหรอก  จำไม่ได้เหรอ ครั้งก่อนๆสองไม่เจ็บเลยซักนิด" หนึ่งพยายามปลอบ  ก้มลงเอาลิ้นไล้เลียหยาดน้ำบนแก้มใส

                 "ไม่รู้  สองไม่รู้  เมื่อก่อนไม่เห็นเจ็บขนาดนี้เลย  พะ พอก่อน  พี่หนึ่ง"  คนตัวเล็กโวยวาย  สองมือหันกลับมายันอกหนาออกห่าง

                 หนึ่งโน้มกายเข้าชิด  เขายังคงพยายามสอดประสาน  หนึ่งขบกราม นิ่วหน้า  เพราะคนข้างล่างกำลังตกใจ  เลยเกร็งตรงส่วนนั้น  ตอนนี้เขาอยู่ข้างในแล้ว  เพียงแต่สอดใส่ได้ไม่เต็มที่  มันคับเหลือเกิน  แถมยังบีบของหนึ่งแทบแหลกสลายอยู่ภายใน  หนึ่งรีบก้มลงเอาปลายคางสากไล้ซอกคอขาวๆ  งับเบาๆเรื่อยขึ้นไปถึงติ่งหู  ก่อนแลบเลียใบหูสวย  หนึ่งวนเวียนเข้ามาลิ้มลองความหอมหวานจากริมฝีปากคู่เล็กที่เผยอออก  ลิ้นเรียวสอดเข้าไปควานหาความชุ่มฉ่ำภายใน  รสจูบที่ร้อนแรงทำให้คนตัวเล็กถึงกับครางอื้ออึงในลำคอ  คนตัวเล็กผวาเข้ากอดบ่าแข็งแรงของคนด้านบนไว้แน่น
         
                และตอนนั้น  คนตัวสูงก็ได้โอกาสแทรกเรือนกายเข้าไปได้จนสุด  ความเจ็บปวดแบบกะทันหันทำให้คนตัวเล็กเชิดหน้า  สองมือที่เกาะบ่าหนาจิกเล็บลงบนเนื้อ  จนเกิดรอยเล็บสิบนิ้วเป็นทางยาวที่แผ่นหลังของคนตัวสูง 

                หนึ่งไม่สนใจอาหารเจ็บปวดแสบร้อนที่ไหล่ด้านหลัง  เขายังคงพยายามปลอบประโลมร่างบาง  พอเห็นจังหวะหายใจเริ่มเป็นปกติ  เสียงครางหวานๆก็กำลังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยินอีกครั้ง  ส่วนที่สอดประสานกันเริ่มผ่อนคลาย  หนึ่งค่อยๆโยกสะโพกช้า  น้องชายของเขากำลังสำรวจช่องทางสีหวานที่ภายใน  ที่ๆคุ้นเคย  รับรู้ถึงทุกส่วนที่อ่อนไหว  เขาจดจำได้เป็นอย่างดี  ว่าต้องลงแรงตรงส่วนไหน  ถึงจะสร้างอารมณ์รักของคนตัวเล็กให้เร่าร้อนลุกไหม้ไปด้วยกัน

                "อ๊ะ...อ๊าาา "สองครางออกมา  เล็บยังจิกอยู่ที่บ่าหนา  ไม่ได้รู้สึกเจ็บแล้ว  เพียงแต่ตอนนี้กลับเสียวซ่านจนแทบทนไม่ไหว  ใครบางคนกำลังซอยสะโพกลุกล้ำถึงด้านใน  สองรับรู้ได้ถึงรูปร่างของมัน  การเคลื่อนไหวที่คุ้นเคย  จริงๆแล้วคนตัวเล็กโหยหามันเหลือเกิน  ตอนนี้ไม่กลัวอีกแล้ว  กลับรู้สึกดีที่มีคนตัวสูงอยู่ข้างในนั้น  เหมือนต้นไม้แห้งเหี่ยวที่ได้น้ำชุ่มฉ่ำ  การเคลื่อนไหวของคนตัวสูงทำเอาสองแทบบ้าคลั่ง  เสียงครางกระเส่าสร้างอารมณ์รักให้ร้อนแรง

                สะโพกแข็งแรงกำลังโยกย้ายสอดประสานที่ภายใน  ความหยาดเยิ้มชุ่มฉ่ำก่อให้เกิดเสียงบางอย่างที่หน้าอาย  สะโพกเล็กยังคงท้าทายผู้ที่ลุกล้ำ  ยอมให้กระทบกระแทก  แล้วก็ตอดรับจากข้างใน  คล้ายจะดึงดูดสิ่งนั้นเอาไว้ไม่ให้เคลื่อนเข้าออกโดยง่าย 

                "อึก..." หนึ่งคำรามเบาๆในลำคอ  รู้สึกว่าประสาทการรับรู้กำลังพุ่งตรงไปที่ส่วนล่าง  เขาออกแรงกระทบแทงมากขึ้น  ทั้งรวดเร็วและถี่กระชั้น  เสียงน่าอายยังดังให้ได้ยินไม่ขาดสายปะปนไปกับเสียงครางหวานๆไพเราะรื่นหู

                "พะพี่หนึ่ง  สองไม่ไหว  จะออกแล้ว" คนตัวเล็กกระสับกระส่ายบอกเขา

                "พร้อมกันนะครับ"  หนึ่งกระซิบบอกเสียงแหบพร่า  ก่อนสอดมือเข้าไปเกาะกุมน้องชายของคนตัวเล็ก  จัดการรูดมันอย่างรวดเร็ว  เป็นจังหวะเดียวกันกับส่วนนั้นที่กำลังเร่งเร้า 

                 สองเกาะบ่าหนาเอาไว้แน่น  เหงื่อเม็ดเล็กๆผุดขึ้นที่หน้าผากขาวมน  ความเสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง  โดยเฉพาะ ตรงกลางลำตัวทั้งด้านและด้านหลัง  หน้าท้องบางกำลังเกร็ง  ขาอ่อนทั้งสองข้างหนีบร่างสูงไว้แน่น

                 และตอนนั้นเอง...คนตัวสูงก็พาร่างบางในอ้อมกอดถึงฝั่งฝันพร้อมกัน

                 "อะ...อ๊าาาาาาาาาาาา" เสียงหวานๆกรีดร้อง  ใบหน้าใสเชิดขึ้น  สองมือจิกลงไปที่ไหล่ของหนึ่งเพื่อช่วยระบายอารมณ์ที่พุ่งทะลัก  น้ำสีขาวขุ่นเลอะไปทั่วทั้งหน้าท้องของร่างบาง

                 "อึก   อา...."เสียงของคนด้านบนคำรามต่ำๆอยู่ในลำคอ  น้ำร้อนๆถูกฉีดเข้าภายใน  มันมากพอจนไหลล้นออกมาที่ขาอ่อนเรียวสวยซึ่งกำลังสั่นระริก
                 
                 หนึ่งทรุดตัวลงบนร่างเล็ก  สองร่างหอบหายใจสะท้าน  พอรู้ว่าน้ำหนักของตัวเองอาจทำให้ใครบางคนอึดอัด  จึงพลิกกายลงมานอนด้านข้าง  จัดการคว้าเอวบางให้เข้าชิดใกล้    ยอมให้คนๆนั้นหนุนหน้าอกอุ่นๆของเขาแทนหมอน

                 "ขอบคุณครับ  สองของพี่น่ารักจัง"

                 "ฮื่อ...อะไรกันเล่า  หน้าอายจะตาย"  คนตัวเล็กบ่นอู้อี้  ดวงหน้าใสซุกแน่นลงบนอกอุ่น

                 "หึๆ  ไม่เห็นน่าอายเลย  น่ารักจะตาย  พี่ชอบฟังเสียงครางแบบนั้น  ได้ยินทีไรทนไม่ไหวทุกที  อยากกอดสองใจแทบขาด"

                 "บ้าๆ ไม่เอา  ไม่พูดแล้ว"  คนตัวเล็กเขินใหญ่แล้ว

                 นอนกอดก่ายกันอยู่สักพัก   ร่างบางชุ่มฉ่ำกลับทำให้ใครบางคนรู้สึกเกร็งขึ้นมาอีก
 
                 “พี่หนึ่ง!!!”  คนตัวเล็กอุทานขึ้นทันที  เมื่อน่องของตัวเองไปโดนเอาบางสิ่งของหนึ่งเข้า  มันขยายออกอีกแล้ว

                 “อื้อ..สองทำพี่”  หนึ่งพูดเสียงอู้อี้  ดวงตาฉ่ำเยิ้มสบตาโตหวานที่เบิกขึ้น

                 “ใครไปทำพี่หนึ่งกันล่ะ”

                 “ก็สองไง  สองทำให้พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้” เสียงทุ้มออดอ้อน

                 “ฮื่อ...ทำไงล่ะที่เนี้ย!” คนตัวเล็กนิ่วหน้า  แก้มใสแดงก่ำ

                 “ทำให้พี่หน่อยนะ  นะครับ คนน่ารัก”

                 “อื้อ..ไม่ต้องปากหวานเลย”

                 “นะครับ  เดี๋ยวพี่ช่วยล้างตัวให้นะ” สายตาหวานฉ่ำออดอ้อน

                 “ฮื่อ  ก็ได้  หลับตาก่อน”  เสียงเล็กสั่ง
               
                 “โอเค ครับ “  หนึ่งยอมปิดตาลง  เขารับรู้ได้ถึงการเคลื่อนไหวของร่างเล็ก  ฝ่ามือของสองกำลังทาบอยู่บนหน้าท้องเป็นลอนของหนึ่ง  หนึ่งหายใจหนักหน่วง  ตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหวจริงๆซะแล้ว  ถ้าคนตัวเล็กยังชักช้าอยู่ล่ะก็  คงเป็นเขาเองนั่นแหละ  ที่ต้องคว้าร่างเบื้องบนลงมาฟัดให้หายอยากซะก่อน

                 หนึ่งสัมผัสได้ถึงน่องเรียวทั้งสองข้างที่ขนาบสีข้างของเขา  บั้นท้ายงามงอนกำลังแนบชิดเขาจากด้านบน

                 “อ๊ะ...พี่หนึ่ง  บอกให้หลับตาไง”  คนตัวเล็กรีบเอามือข้างหนึ่งปิดสายตาซุกซนของร่างสูง
                     
                 หนึ่งจับข้อมือบางข้างนั้น  ก่อนเอามันมาแนบที่ริมฝีปาก 

                 “ให้พี่เห็นเถอะนะ   สองทำให้พี่ทั้งที จะไม่ให้พี่เห็นเลยเหรอ ใจร้ายจัง  เร็วครับ  ห้ามทำหน้าบูด  พี่จะไม่ไหวแล้ว”  หนึ่งเสียงแหบพร่า  ปลายลิ้นเรียวเริ่มไล้เลียนิ้วเรียวสวยของสอง

                 “ฮื่อ..” พอเห็นหนึ่งทำแบบนั้นก็กลับกระตุ้นให้คนตัวเล็กกล้ามากขึ้น    สองไม่คิดเลยว่าพฤติกรรมที่หยาบโลนจะทำให้หัวใจของสองเต้นไม่เป็นจังหวะ  คนตัวเล็กหอบหายใจ  ตอนนี้ความอายกลับค่อยๆลดลง  สองอยากคอบครองเจ้านั่นแล้ว  มือบางจับมันไว้จ่อที่ช่องทางของตัวเอง  ช่องทางยังลื่นไหลหยาดเยิ้ม  ร่างบางค่อยๆทรุดกายลง  ปล่อยให้ส่วนนั้นของหนึ่งทิ่มแทงขึ้นมาจากด้านล่าง

                 “อ๊ะ...อ๊า...อึก...อ๊า” คนตัวเล็กครางหวานเพื่อระบายอารมณ์ที่ถูกเติมเต็มจากภายในอีกครั้ง

                 “สอง  สองของพี่น่ารักจัง”  หนึ่งพร่ำเพ้อไม่ยอมหยุด  ก็ดวงหน้าใสที่แดงก่ำหยาดเยิ้ม กำลังลอยเด่นอยู่ด้านบนตัวเขา  ผิวขาวๆกำลังสะท้อนตามแรงหายใจกระชั้น  เม็ดสีชมพูสดสองเม็ดตรงหน้าอก บางเริ่มเด่นตั้งแข็งกันอย่างไม่ยอมแพ้   ส่วนนั้นของคนน่ารักก็แข็งขันหยาดเยิ้ม   มือบางกำลังเลื่อนมาเกาะกุมตรงนั้น  ก่อนเริ่มขยับสะโพกเนิบนาบ

                 พอเริ่มขยับเสียงเพลงแห่งรักก็ดังขึ้นอีก   สะโพกบางโยกย้ายเริงระบำ   สะโพกแกร่งด้านล่างก็พลิ้วไหวไม่แพ้กัน  จังหวะรับสอดประสาน  เดี๋ยวถี่กระชั้นเดี๋ยวเชื่องช้า  พอรู้สึกว่าอารมณ์เริ่มพุ่งสูง  จังหวะแห่งรักก็กลับชะลอลง  ราวกับว่าต้องการยืดเยื้อช่วงเวลาหฤหรรษ์เอาให้นานที่สุด  แต่สุดท้ายก็ไม่อาจจะทัดทานอารมณ์ที่กระเจิดกระเจิงนั้นได้อีก  สะโพกเล็กโยกคลอนสั่นไหวรุนแรงขึ้น  เบื้องล่างก็พุ่งสวนรุนแรงไม่แพ้กัน  เสียงเพลงแห่งรักยังดังขับขาน  มือบางเลื่อนมาเกาะกุมส่วนหน้าของตนเอง 
   
                 สองจัดการเบื้องหน้าด้วยตนเอง  มือเล็กกำลังรูดส่วนนั้นอย่างรวดเร็ว  สะโพกก็ยังคงกระแทกกระทั้นสอดประสาน
         
                 “อ๊ะ...อึ๊....อ๊ะ..” เสียงหวานครางกระเส่า

                 “อา...ซี๊ด..อาส์  ดีจังเลยครับ  สองของพี่..อาส์...สุดยอดเลย”  หนึ่งพร่ำเพ้อเหมือนดังต้องมนต์  สะโพกของตนเองยังโยกพลิ้วไหวรับกับของคนตัวเล็ก

                 “พะ..พี่หนึ่ง  สอง  สองไม่ไหวแล้ว”

                 “พี่ก็ไม่ไหวเหมือนกันครับ... เต็มที่เลยครับคนดี  อาส์”

                 เสียงเพลงแห่งรักรวดเร็ว  เสียงถี่กระชั้น  การเคลื่อนไหวถึงกับทำให้เตียงสั่นคลอนไปตามจังหวะโยกย้าย    ทุกอย่างเริ่มอื้ออึง  ระบำเสน่หากำลังโหมลุกไหม้    กลิ่นอายแห่งรักลอยฟุ้ง  ไออุ่นจากการเริงระบำแผ่ขยายต่อต้านกับไอเย็นของเครื่องปรับอากาศ    สุดท้ายระบำรักอันเร่าร้อนก็พาสองร่างล่องลอยจนถึงที่สุด   ช่างหอมหวานและเย้ายวน  ความวาบหวิวซาบซ่านแผ่กระจาย  สุขสบายเหมือนดั่งอยู่บนสวรรค์วิมาน

                “สองของพี่น่ารักจังเลย”  หนึ่งพูดเหมือนคนละเมอ  ฝ่ามือใหญ่เปะปะลูบไล้ไปตามร่างบางนุ่มนิ่ม
                 
                “อื้อ..”  คนตัวเล็กไม่มีแรงเหลืออีกแล้ว  ใบหน้าใสซบลงบนอกหนาชุ่มเหงื่อ  สองร่างหอบหายใจกระชั้น  สองขาอ่อนยังคงแนบร่างกำยำที่นอนอยู่

                “นอนพักซักแป็บนะ  เดี๋ยวพี่ล้างตัวให้นะครับ”
               
                “ฮื่อ...ขอบคุณฮะ” คนตัวเล็กหลับตาพริ้ม

                หลังพักเหนื่อยกันชั่วครู่ หนึ่งก็จัดการอุ้มร่างเปลือยเปล่าเข้าไปในห้องน้ำ  ก่อนวางลงในอ่างอาบน้ำ  หนึ่งเปิดน้ำอุ่นให้  สองรู้สึกสบายตัวมากขึ้น  แต่...คนตัวสูงหายไปไหนน่ะ !
 
                และแล้วร่างกำยำก็กลับเข้ามาอีกครั้ง   หนึ่งก้าวลงอ่าง  ก่อนนั่งซ้อนหลังคนตัวเล็ก  โน้มร่างบางให้มาพิงอกของเขาไว้   มือใหญ่ทาบทับลงบนแก้มใส

                 “สบายขึ้นยังครับ”

                 “ฮื่อ...สองอมยิ้ม  เอียงใบหน้าเข้าหาซอกคอของหนึ่ง  ก่อนหลับตาลง  ปลายจมูกได้กลิ่นกายที่คุ้นเคย

                 “สองครับ...”  เสียงทุ้มเรียก

                 คนตัวเล็กลืมตาขึ้น  แล้วก็ต้องขมวดคิ้วสงสัย  ก็อะไรบางอย่างในมือใหญ่นั่นน่ะสิ  มันดูคุ้นๆยังไงไม่รู้    และแล้วดวงตาโตหวานก็ต้องเบิกขึ้น   

                            กล่องแหวน....มันคือกล่องแหวนที่สองเคยเจอในห้องของหนึ่งตอนนั้น

                 “จริงๆพี่เก็บไว้นานแล้ว  กะเอาไว้ว่าจะขอเด็กขี้แยแถวๆนี้แต่งงานตอนที่เค้าพร้อม  แต่ไม่คิดมันดันเกิดเรื่องซะก่อน”  หนึ่งพูดเสียงเรียบๆ รู้สึกเสียดายนิดๆว่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำกลับไม่ได้ทำ

                 คนตัวเล็กรีบยันตัวขึ้น  ก่อนหันหน้าไปเผชิญกับร่างสูง  เสียงน้ำในอ่างดังจ๋อมแจ๋ม  เพราะความรีบร้อนของร่างบาง  หนึ่งเลิกคิ้วขึ้น  แปลกใจในอาการกระตือรือร้นของอีกคน

                 “พี่หนึ่ง...นี่พี่หนึ่งเตรียมแหวนไว้ขอสองเหรอ”

                 “ใช่ครับ....พี่จะขอน้องพี่แต่งงาน  แต่เห็นว่ายังเด็ก  พี่กลัวสองอิดออด  ว่าจู่ๆก็โดนพี่มัดมือชก  พี่กลัวว่าสองยังไม่อยากแต่งเพราะเรายังต้องเรียนอีกหลายปี  พี่เลยคิดว่ารอสองพร้อมก่อนดีกว่า”

                 “อยากสิ...สองอยากแต่งงานกับพี่หนึ่ง  สองอยากอยู่กับพี่หนึ่ง”

                 “จริงเหรอครับ  ดีใจจัง  แต่ตอนนี้สองมีแหวนแล้ว  แหวนในกล่องนี่ก็ไม่จำเป็นอีก”

                 “จำเป็นสิฮะ  จำเป็น  พี่หนึ่งทำให้สอง  สองอยากใส่  พี่หนึ่งใส่ให้สองนะ”

                 “ครับ...แล้วสองก็ใส่ให้พี่ด้วยนะ”  หนึ่งอมยิ้มมีความสุข  ก่อนเปิดฝากล่อง

                 นั่นไง  ใช่จริงๆด้วย  แหวนทองคำขาวสองวงวางเคียงคู่กัน  ที่วงเล็กมีเพชรเม็ดจิ๋วประดับที่ตัวเรือน 
             
                 หนึ่งหยิบแหวนวงเล็กออกมา...

                 “สองดูนี่สิ..” หนึ่งให้สองดูอะไรบางอย่างที่ตัวเรือนของแหวน  ด้านใต้ของมันสลักชื่อเอาไว้ด้วย  มันคือชื่อของหนึ่งนั่นเอง

                 “แหวนวงนี้เปรียบเสมือนหัวใจของพี่  สองใส่มันไว้ก็เหมือนกับแสดงว่าสองเป็นคนของพี่  ชื่อพี่ที่สลักไว้ก็หมายความว่าหัวใจของพี่อยู่กับสอง “  หนึ่งพูดยิ้มๆ  ก่อนเกาะกุมมือบางเอาไว้  คนตัวเล็กแก้มแดง  แหวนที่วงเล็กกว่ามีเพชรเล็กกว่าค่อยๆถูกสวมเข้าไปแนบชิดกับแหวนทองที่ประดับเพชรน้ำงาม  ถึงขนาดจะต่างกันแต่คุณค่าทางจิตใจของมันไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลยสักนิดเดียว
                       
                 “ส่วนวงนี้น้องสองต้องใส่ให้พี่ครับ”  หนึ่งชูกล่องให้สองหยิบแหวนวงที่ใหญ่กว่า  มันเป็นเพียงแหวนทองคำขาวที่ไม่มีเพชรประดับ  คนตัวเล็กหยิบมันขึ้นมา  ก็เห็นว่าด้านใต้ก็สลักชื่อไว้เช่นกัน  มันเป็นชื่อของสองนั่นเอง  รอยยิ้มสวยปรากฏบนใบหน้าของเด็กหนุ่ม

                 “ขอนิ้วนางข้างซ้ายด้วยฮะ”  เสียงเล็กๆพูดอย่างมีความสุข

                 หนึ่งยื่นมือซ้ายให้  มือบางจับมือของเขาไว้   ก่อนที่จะค่อยๆสวมแหวนลงบนนิ้วนางแข็งแรงข้างนั้น

                 “แหวนวงนี้เปรียบเสมือนพี่เป็นของสองคนเดียว  และหัวใจของสองก็อยู่กับพี่”  หนึ่งพูดขึ้น  พอสองใส่แหวนให้เรียบร้อย  ใบหน้าคมคายก็เลื่อนเข้าไปจุมพิตที่แก้มใสแดงเรื่อ

                 “พี่ขอสัญญาว่าจะดูแลหัวใจของสองไว้ตลอดชีวิต  ทุกลมหายใจของพี่จะมีเพียงสองคนเดียว  พี่จะอยู่กับสองจะไม่มีวันแยกจาก  เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เถ้า”

                 “สอง..ก็เช่นกันฮะ  พี่หนึ่งคือคนที่สองจะอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต  สองจะดูแลหัวใจของพี่หนึ่ง   เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เถ้า  สองรักพี่หนึ่งนะฮะ” 

                 “พี่ก็รักสองครับ  รักสองคนเดียว..”

                 คนตัวเล็กซบลงบนอกอุ่น  ผืนน้ำกระเพื่อมสั่นไหวเพราะแรงหายใจ  ไอน้ำอุ่นยังคงลอยอบอวล  หัวใจชุ่มฉ่ำ  ต่อไปนี้คนสองคนจะอยู่เคียงข้างกัน  ไม่ว่าปัญหาจะร้ายแรงแค่ไหน  พวกเขาก็จะฝ่าฟันไปด้วยกัน  สองมือสอดประสานใต้ผืนน้ำ  วงแหวนทองคำขาวเล็กใหญ่แข่งกันสะท้อนแสงเคียงคู่  ราวกับว่าจะไม่มีวันแยกจากกัน...





                                                                                      อวสาน..






หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: Motor-tricycle ที่ 22-06-2011 11:25:44
แอร๊ยยยยยซ์ หวานส่งท้ายแบบได้เลือด  :impress2:
จบแล้ว นานๆมีตอนพิเศษมาให้หายคิดถึงมั่งนะ


อ่ะ ให้คนแต่ง  :L2: สำหรับเรื่องน่ารักๆของพี่หนึ่งน้องสอง
ปล.รออ่านเจ้าหางฟูอยู่นะ  คิดถึงติ่มซำแว๊วววว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 22-06-2011 12:05:18
+1ให้เจ๊  อิอิ  มาคนแรกเลย  จ๊วบๆ  เดี๋ยวจะไปต่อเรื่องนู้น  และ  ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: walaija ที่ 22-06-2011 17:18:26
 :pighaun:

 :-[ :-[ :-[ น่ารักง่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ  o13  o13  o13

จบแล้วเสียดายยยยยยยยยย เป็นกำลังใจให้นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-06-2011 18:49:48
ในที่สุดหนึ่งกับสองก็สมหวังกับความรัก
คนอ่านลุ้นไปเศร้าไป ซึ้งไปกับความรักของทั้งสอง :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: ขนมหวาน ที่ 22-06-2011 19:16:15
จบแล้วอย่างสมบูรณ์
หวานเจี๊ยบเลย พี่หนึ่ง :n1: กับน้องสอง

ขอบคุณคนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 22-06-2011 19:33:49
จบแล้วเหรอ สนุกมากๆเลยคะ
+1 คะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 22-06-2011 19:40:37
คริ คริ มีแหวนคู่ด้วย ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องน่ารัก ๆ จุ๊บ จุ๊บ

ยัดเยียดให้อีกแต้มค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 22-06-2011 19:59:35
ขอบคุณมากกกกกกกกกก ค่ะ



 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: tawan ที่ 22-06-2011 20:27:40
หวานส่งท้ายเลยอะ

มดเต็มอ่างงงงง   :impress2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: nn~~NN ที่ 22-06-2011 22:53:04
บทส่งท้ายจัดเต็มกันเลยทีเดียว  :m10:
สนุก แล้วก็ขอบคุณมากๆนะคะ
จะติดตามผลงานต่อๆไปค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 22-06-2011 23:40:00
อ่านเรื่องนี้จบให้ความรู้สึกถึงฤดูฝนต่อจนถึงช่วงหน้าหนาว
ฟ้าก่อนฝนตก รุ่มร้อน อุดอู้ อบอ้าว เหมือนเริ่มเรื่อง
พอฝนตกเหล่าต้นไม้ใบหญ้า ก็สดชื่น เริงร่า เหมือนรักเริ่ม
พอฝนกระหน่ำกลายเป็นมรสุม ก็เหมือนรักเริ่มส่อแววแห่งปัญหา
เมื่อฝนหยุดตก ฟ้าใส ลมหนาว โชยมา กลายเป็นช่วงหวานแห่งคู่รัก

อาจไม่มีเนื้อหาอะไรมากมาย แต่สื่อถึงใจให้ผู้อ่าน
ทำให้คนอ่านมีความสุขได้ ก็นับว่าจบลงได้อย่างงดงาม

ส่วนนิยายอีกเรื่องหนึ่งทึ่มีปัญหาอยู่ข้างใน ค่อยๆ แก้ไปนะคะ ใจเย็นๆ
อะไรที่เราไม่ถนัด คือ สิ่งที่เราต้องพยายามเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายสิบเท่า เหนื่อยได้แต่อย่าเพิ่งท้อ รออ่านและเป็นกำลังใจให้คะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 22-06-2011 23:54:42
มาหวานๆ พร้อมความหื่นของพี่หนึ่ง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.22/06/11..10:21น. จบตอนพิเศษ ส่งท้าย 18++(เหมือนเดิม อิอิ)
เริ่มหัวข้อโดย: cancan ที่ 23-06-2011 05:57:11
walaija : น่ารักง่ะ ชอบบบบบบบบบบบบบบ       

จบแล้วเสียดายยยยยยยยยย เป็นกำลังใจให้นะคะ              อิอิ  ชอบหราาา  ขอบคุณนะ  คงต้องจบแล้วล่ะ  เพราะว่าเป็นเรื่องสั้นที่ยาวเกินไปและ55+   

yeyong :  ในที่สุดหนึ่งกับสองก็สมหวังกับความรัก
คนอ่านลุ้นไปเศร้าไป ซึ้งไปกับความรักของทั้งสอง              เสียน้ำตาไปเยอะมั้ย  มาๆเค้าเช็ดให้  จุ๊บๆ โอ๋ๆ

ขนมหวาน:   จบแล้วอย่างสมบูรณ์
หวานเจี๊ยบเลย พี่หนึ่ง  กับน้องสอง

ขอบคุณคนแต่งนะคะ        อิอิ  มาม่ามาเยอะ  ขอจบแบบหวานๆเลย  ไม่งั้นคนอ่านมีเฮแน่  ท่าทาง  ขอบคุณมากๆเช่นกัน  ม๊วฟ


yunjae55: จบแล้วเหรอ สนุกมากๆเลยคะ
+1 คะ           ขอบคุณมากๆ  คำชมสั้นๆแต่ให้พละกำลังเต็มหัวใจ   (เสี่ยววเอง  ....)

โน๊อา :  คริ คริ มีแหวนคู่ด้วย ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องน่ารัก ๆ จุ๊บ จุ๊บ

ยัดเยียดให้อีกแต้มค่ะ          ขอบคุณเช่นกัน  แต้มไม่ต้องยัดเหียด  แค่เห็นแวบๆcancanก็รีบคว้ามาเลย555+  อิอิ  ขอ :z13: :z13: :z13:  3ที เบาๆ  หึๆ

 debubly :  ขอบคุณมากกกกกกกกกก ค่ะ           ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ค่ะ  อิอิ   เยอะกว่า  (เพื่อ!!)   ใช้อีโมบ๊ะบาย   ม่ายยยยยยยยย   อย่าเพิ่งปายยยยยยยยยยยยยย  มาให้จุ๊บก่อน 

tawan :  หวานส่งท้ายเลยอะ

มดเต็มอ่างงงงง     ขอบคุณมากๆเลย   ขอบคุณที่รอ   พอบ้านเสร็จก็เห็นtawan คนแรกเลย  อยากบวกหนึ่งให้แบบ  triple time  แต่ทำมะด้าย T^T    งั้นขอกอดละกัน.... เอิ๊กๆ

 nn~~NN :  บทส่งท้ายจัดเต็มกันเลยทีเดียว 
สนุก แล้วก็ขอบคุณมากๆนะคะ
จะติดตามผลงานต่อๆไปค่า    อิอิ   ชอบมั้ยๆ  จัดให้เต็มที่ ไม่ต้องมีอั้น    ขอบคุณมากๆเช่นกัน  ฝากงานที่เหลือด้วย  จุ๊บๆ ม๊วฟ  อ้อนๆ

 wan_sugi  :  อ่านเรื่องนี้จบให้ความรู้สึกถึงฤดูฝนต่อจนถึงช่วงหน้าหนาว
ฟ้าก่อนฝนตก รุ่มร้อน อุดอู้ อบอ้าว เหมือนเริ่มเรื่อง
พอฝนตกเหล่าต้นไม้ใบหญ้า ก็สดชื่น เริงร่า เหมือนรักเริ่ม
พอฝนกระหน่ำกลายเป็นมรสุม ก็เหมือนรักเริ่มส่อแววแห่งปัญหา
เมื่อฝนหยุดตก ฟ้าใส ลมหนาว โชยมา กลายเป็นช่วงหวานแห่งคู่รัก

อาจไม่มีเนื้อหาอะไรมากมาย แต่สื่อถึงใจให้ผู้อ่าน
ทำให้คนอ่านมีความสุขได้ ก็นับว่าจบลงได้อย่างงดงาม

ส่วนนิยายอีกเรื่องหนึ่งทึ่มีปัญหาอยู่ข้างใน ค่อยๆ แก้ไปนะคะ ใจเย็นๆ
อะไรที่เราไม่ถนัด คือ สิ่งที่เราต้องพยายามเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นหลายสิบเท่า เหนื่อยได้แต่อย่าเพิ่งท้อ รออ่านและเป็นกำลังใจให้คะ                ก่อนอื่น  ขอบคุณมากๆๆๆๆๆ   กำลังใจมาเพียบเลย   เป็นเม้นที่สวยงามมาก  เห็นภาพเลย  ขอบคุณจากใจจริง   

litlittledragon  :   มาหวานๆ พร้อมความหื่นของพี่หนึ่ง             อิอิ    ขอบคุณนะ   เห็น litlittledragon   แล้วเสียวสันหลังไงมะรู้  สงสัยต้องรีบต่อน้องฟูและ  เอิ๊กๆ   ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดวันนี้น่าจะได้เห็นน้องฟูที่หน้าหนึ่ง  (กรรม  พูดเหมือนเป็นข่าวใหญ่อยู่หน้าหนังสือพิมม์เลย)   แต่คงดึกๆหน่อย  เหอๆ  จุ๊บๆ  วิ่งหนี  ชิ้ง~




สุดท้าย  +1  ให้ทุกท่านเรียบร้อย  อิอิ :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.23/06/11..5:52น. ส่งท้าย 18++คนเขียนขอตอบเม้นส่งท้ายบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: โน๊อา ที่ 23-06-2011 06:59:16
เกินไปมั๊ย จิ้มมา 3 ที เจี๋ยวนะเฟ้ย  :oo1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.23/06/11..5:52น. ส่งท้าย 18++คนเขียนขอตอบเม้นส่งท้ายบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-06-2011 12:18:15
ขอแต่งงานในอ่าง  :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ แอร๊ยยยยยยยยยยยอยากได้แบบนี้บ้าง ฮิฮิ


ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีดีให้ได้ติดตามนะนะแล้วจะติดเป็นกำลังใจให้ในเรื่องต่อๆไปค่ะ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย.23/06/11..5:52น. ส่งท้าย 18++คนเขียนขอตอบเม้นส่งท้ายบ้าง
เริ่มหัวข้อโดย: EunSung87 ที่ 23-06-2011 20:22:12
จบน่ารักมากๆคะ
ม่ายมีตอนพิเศษ
แบบว่าฮันนิมูนกันบ้างอ่าค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: CHADMM ที่ 09-08-2011 03:30:07
อ่านจบแล้วววว   เรื่องนี้ทำเอาน้ำตาไหลเป็นทางเลย T^T(อินจัด) ตั้งแต่ตอนพ่อหนึ่งให้สองออกจากบ้านนะ โอ้ยยบีบคั้นจิตใจที่สุด   แต่ก็สุดท้ายจบแฮปปี้เอ็นดิ้งเนอะ  สนุกดีค่ะ  //เอ้ออ ลืมบอก ชอบเรื่องแรกด้วยอ่ะ น่ารักมากกๆค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่า  ><
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 16-08-2011 23:40:08
ขอบคุณมากๆ จ๊ะ
อ่านจนจบแล้ว ได้ทุกรสชาติเลย
ยิ้ม สนุก เศร้า น้ำตาซึม ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดี สนุกสนุกแบบนี้
แถมมีโรแมนติคตอนท้ายด้วย เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะจ๊ะ สู้สู้ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: andaseen ที่ 17-08-2011 14:46:01
เพิ่งได้มาอ่าน อ่านรวดเดียวจบ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านแล้วมีทั้งรอยยิ้ม หัวเราะ น้ำตาคลอ  มีทุกอารมณ์ในเรื่องนี้
คนเขียนเขียนได้ดีมากเลยล่ะ สุดยอดดดด o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 17-08-2011 21:28:58
สนุกดีคับ ลุ้นตั้งนานว่าจะจบยังไง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 20-08-2011 23:01:21
จบแล้วอย่างสมบูรณ์ มีครบทุกรสจริงๆ ครับ แต่สุดท้ายเนี้ย หวานเจี๊ยบซ้า

ขอบคุณเรื่องราวดีดี น่ารักแบบนี้ครับผม

ขอบคุณมากมายครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: so close ที่ 21-08-2011 23:34:18
จบได้หวานซะ  เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: kisz ที่ 14-06-2012 00:45:16
น้ำตาตกหลายรอบเลยเรื่องนี้อ่ะ เหอๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 14-06-2012 10:23:55
เรื่องของเลโอกับอเล็กซ์ น่ารักมาก
เลโอเท่มาก บอกออกไปเลยอ่ะ
>.,< เป็นปลื้มแทนแฟนๆมากๆ วิ้วววว ว

ส่วนน้องสองงงง
เป็นเด็กดีเสมอต้นเสมอปลายมาก ชอบๆ ทำดีมากลูก
หนูไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องร้ายๆนะ
มันผ่านไปแล้ว ทำตอนนี้ ให้มีความสุขที่สุดพออออ

^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 28-10-2012 13:40:17
สนุกดีค่ะ
สองน่ารักแสนดี หนึ่งก็ดูแลสองดี
ชอบตอนที่หนึ่งเดินไม่ได้แล้วสองไปดูแลจนแม่หนึ่งยอมรับ

บวกๆ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 28-10-2012 19:48:45
น่ารักมากๆๆเลย ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: omeye ที่ 29-10-2012 14:49:02
เลโอน่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 29-10-2012 22:13:25
 o13 สนุกมากๆ

จะติดตามผลงานต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 19-05-2016 09:46:46
เรื่องแรก(ขอเก็บรักไว้บนเวที) น่ารักมากกก เลโอเท่สุดๆ อเล็กซ์ตอนแรกๆน่าสงสาร สุดท้ายก็ได้รักกัน :กอด1:
ส่วนเรื่องพี่หนึ่งน้องสองก็น่ารัก ฟินนนน :mew1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-05-2016 21:03:45
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น)นายมีฉัน..ฉันมีนาย จบบริบูรณ์.(P.2)รบกวนย้ายไปห้องจบได้เลย
เริ่มหัวข้อโดย: arij-iris ที่ 02-07-2016 16:05:29
แอร๊ะะะะะ หวานอ่ะ หวานมากถึงจะมีขมบ้าง แต่ก็หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :impress2: :impress2: