พิมพ์หน้านี้ - *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: *Ecks* ที่ 12-07-2007 11:58:59

หัวข้อ: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 12-07-2007 11:58:59
 ***** เรื่องแรกจากประสบการณ์จริง จบไปแล้ว การเดินทางครั้งใหม่ของเอก ในสถานที่ใหม่ก็เริ่มขึ้นครับ ***********


*** *****งานเขียนเรื่องนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์ และจินตการของผู้เขียน มิได้แอบอ้างหรือพาดพิงถึงผู้ใด ... หากสถานที่หรือชื่อไปเกี่ยวข้องกับผู้ใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ************


บทนำ

เสียงประกาศหวานๆ ของเจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่อง แจ้งให้ผู้โดยสารรัดเข็มขัดนิรภัย และปรับที่นั่งในระดับปกติ เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเครื่องที่จะลงจอด ณ สนามบินนานาชาติ เกาะสมุย   เอกทำตามคำแนะนำ และเตรียมพร้อมสำหรับเครื่องลง เขามาองออกไปนอกหน้าต่างเครื่อง เบื้องล่าง เห็นเป็นเวิ้งทะเลสีเขียวมรกต และเกาะแก่งเล็กๆ โผล่พ้นผืนท้องทะเล อยู่รอบๆ  ประสบการณืแรกบินในชีวิตของเขาผ่านไปด้วยดี ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่สถานที่เบื้องล่างที่รอเอกอยู่มากกว่าที่เอก ตื่นเต้น เขาจะต้องเจอกับเพื่อนร่วมงานใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมการทำงานใหม่ๆ และทีอยู่ใหม่ๆ และที่สำคัญเป็นที่ใหม่ๆ ที่ไม่มีความทรงจำของเขาคนนั้นอยู่เลย

 

“เอกแน่ใจนะ ว่าจะขอไปอยู่ที่สมุย” ผู้จัดการเรียกเอกมาพบ เมื่อได้รับหนังสือขอย้ายจากสำนักงานใหญ่ไปประจำที่ เกาะสมุย

“ครับผม ผมอยากไปเปลี่ยนประสบการณ์ และไปทำงานภาคสนามบ้างจะได้ รู้อะไรมากขึ้น และอีกอย่างที่สมุยคนก็ไม่พออยู่ใช่ไหมครับ...ผมก็เลยอาสาเสนอตัวไปช่วย” เอกยืนยันความต้องการพร้อมกับเหตุผล (ซึ่งลึกๆในใจของเขา มันมีมากกว่านั้น)

“ก็ดีเหมือนกัน พี่ก็กำลงัคิดอยู่ว่าจะส่งใครไปดี ในเมื่อเราเสนอตัวพี่ก็ยินดี ... เอาเป็นว่า เตรียมตัวได้เลยนะ เดือนหน้าก็บินไปได้เลย เดี่ยวเรื่องที่พัก เรื่องไฟลท์ พี่จะจัดการให้”

 

เอกตั้งใจจะทิ้งความทรงจำทุกอย่างของเขาที่กรุงเทพ แล้วไปเริ่มชีวิตใหม่ที่เกาะสมุย เอกเลือกที่อยู่ที่ไกลๆ และอีกอย่าง ทะเล คือที่ๆเอกชอบตั้งแต่เด็ก เขารู้สึกผูกพันกับทะเล เวลาเขามองมันมันทำให้เอกรู้สึกสบายใจไร้พันธนาการ

 

เครื่องกำลังลดระดับลงเรื่อยๆ เพื่อเตรียมลงจอดที่รันเวย์ของสนามบิน เอกมองเห็นเกาะขนาดใหญ่อยู่เบื่องหน้า บ้านเรือนตึกรามบ้านช่องดุหนาแน่น ในบริเวณที่เป็นชายหาด เอกมองเห็นผู้คนเดินขวักไขว่อยู่บนชายหาด บ้างก็ว่ายน้ำอยู่ในทะเล ไกลออกจากชายฝั่งมีเจ็ทสกี 2-3 ลำแล่นอยู่กลางทะเล  “ถึงแล้วสินะ เกาะสมุย...สู้ๆ นะเจ้าเอก” เอกรำพึงกับตัวเอง

เครื่องเริ่มแตะรันเวย์ และเคลื่อนตัวเข้าสู่ลานจอดแล้ว เจ้าหน้าที่ต้อนรับบนเครื่องประกาศแจ้งผู้สารต้อนรับสู่สนามบินเกาะสมุย และแจ้งเตือนให้ผู้โดยสารตรวจสอบสัมภาระก่อนลงจากเครื่องและกล่าวขอบคุณที่ใช้บริการสายการบิน ผู้โดยสารบนเครื่องต่างก็เตรียมตัวที่จะออกจากเครื่องเพราะต้องการไปสัมผัสบรรยากาศภายนอก หลังจากเดินทางข้ามฟ้ามาเพื่อจะสัมผัสกลิ่นอาย สายลม แสงแดด ต่างคนต่างความรู้สึก บ้างก็ดูตื่นเต้น ที่จะได้มาเจอสิ่งใหม่ๆ บ้างก็ดูเหนื่อยล้าจากการเดินทางเพราะคงต่อไฟลท์มาหลายเที่ยวกว่าจะมาถึงปลายทาง บ้างกเดูเฉยๆ เพราะคงเป็นคนพื้นที่ที่เดินทางกลับบ้าน ส่วนเอกออกจะตื่นเต้น เพราะเขาไม่รู้ว่าเขาจะเจออะไรข้างหน้า ได้แต่หวังว่าเขาคงจะพบเจอสิ่งดีกับที่ทำงานที่นี่พร้อมทั้ง สิ่งดีๆ อื่นที่เขาจะพบเจอ .......

“สวสัดีจ้า เกาะสมุย ... ต่อไปนี้เราก็จะมาอาศัยเจ้าอยู่แล้วนะ” .... เอกรำพึงกับตัวเองอยู่ในใจก่อนลุกออกจากที่นั่ง เพื่อเดินออกจากเครื่อง ......

แล้วชีวิตของเอก ก็เริ่มต้นใหม่ที่นี่ ที่ ... เกาะสมุย ....


*******************************************************************************



หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: stayingpower ที่ 12-07-2007 12:02:54
เข้ามาให้กำลังใจคับ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 12-07-2007 12:12:22
 :m4: เย้ๆเรื่องใหม่ :m4: รีบเข้ามาต้อนรับ :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-07-2007 12:50:45
เป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-07-2007 13:13:55

.............รออ่านต่อนะคับ........... :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 12-07-2007 14:26:51
รออ่านต่อจ้า  :m4:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 12-07-2007 15:22:31
เย้ๆๆๆ
 :m11: :m11: :m11: :m11:
จะมีอะไรหนุกไหมนี่
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-07-2007 15:52:23
เริ้ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

มีคนเขียนเรื่อง  ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่อีกแล้วคร้า

แล้วจะตามจิกตามกัดนะเคอะนู๋  :m12:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: tonsai_2520 ที่ 12-07-2007 15:55:58




(http://img174.imageshack.us/img174/2475/hspgqve7.jpg)

เจ้าเสียมเรียบขณะร่อนลงจอดที่สนามบินสมุย . . . โบอิ้ง 717




สมุย . . . .  ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกกก

. . . เคยไปเสียตัวครั้งแรกที่นั่น . . . .

อันนี้พูดจริง ๆ  หนา  ไม่ได้โกหกเลยแม้แต่น้อยนิด   ทะเลสีคราม  ท่ามกลางดงมพะร้าว   พูดแล้วคิดถึงงงงงงงงงงงงงงง . .  .
 



(http://img517.imageshack.us/img517/1312/hspgguu7.jpg)
 ลำนี้  ATR-72  ชื่อ  "ช้าง"


ปล.  อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ  เวลาเครื่องจะขึ้นจะลง  คนที่ประกาศให้ผู้โดยสารรัดเข้มขัดนี่หน้าที่ของกัปตัน  อาจมีบางครั้งที่ให้  "เพอร์เชอร์"  ทำหน้าที่นี้แทน  ไฟลท์นี้  หัวหน้าลูกเรืออาจทำหน้าที่แทนเพราะเสียงหวาน

ปล ๒. กัปตันหญิงคนแรกของประเทศไทย  ที่บินให้บางกอกแอร์เวย์สน่ะ  ไปประจำฝูงแอร์บัส A 320 วะแร่ะ    แล้วสนามบิน  USM  ก็มีแค่โบอิ้ง   717    กับ  เจ้าเครื่องใบพัดเท่านั้นที่บินลงได้

ปล ๓.  ไอ้รอบ ๆ  สนามบินห้ามมีตึกรามครับ  แต่บ้านช่องนะพอไหว    แล้วบ้านริมหาดที่สมุยนะเยอะมากจริง ๆ  แต่ยังน้อยกว่าดงมะพร้ามที่ไหวลู่ตามลมนะครับ    แต่ถ้าสังเกตุ  ก่อนเครื่องแตะรันเวย์    ทางซ้ายมือจะมีประพุทธรูปองค์ใหญ่  เด่นสง่าอย่างเดียวเลยครับ  "วัดปลายแหลม"



  ผมไม่ได้จับผิดหนา  แต่เพราะชอบเลยมาบอกเอาไว้    บางทีการที่เราจะเขียนให้คนอื่นเชื่อกับภาพจริงมันยากนะครับ   แล้วผมบินลงสมุยบ่อยอ่ะครับ  เลยเห็นภาพที่มันขัดแย้งกันนิดนึง  โทษนะครับ  ไม่ได้ตั้งใจป่วน

ปล. สุดท้าย  ผมรออ่านอยู่นะครับ  ขอให้เขียนให้สนุกแล้วกันครับ


   


หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: Back in Black ที่ 12-07-2007 16:02:16
ก้อชอบสนามบินที่เกาะสมุยที่สุดเลย
open air - out door
โปร่ง เก๋ สวย

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-07-2007 16:08:59
มาต้อนรับเรื่องใหม่ค่ะ  :m4:  :m4: ใช้เกาะสมุยเป็นสถานที่ถ่ายทำนี่ ท่าทางจะถูกใจหลายคน  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 12-07-2007 18:48:56
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 12-07-2007 19:33:14
เจิมด้วยคน  :haun5: :haun5:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 12-07-2007 19:56:17
ตกใจ วันแรก เพื่อนๆ มา รี ตั้ง 10 รี ดีใจมากๆ ครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับทุกกำลังใจ แล้ว ตอนต่อไปจะมาในเร็วๆ นี้ครับผม ...
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 12-07-2007 20:08:07
     


ปล.  อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะครับ  เวลาเครื่องจะขึ้นจะลง  คนที่ประกาศให้ผู้โดยสารรัดเข้มขัดนี่หน้าที่ของกัปตัน  อาจมีบางครั้งที่ให้  "เพอร์เชอร์"  ทำหน้าที่นี้แทน  ไฟลท์นี้  หัวหน้าลูกเรืออาจทำหน้าที่แทนเพราะเสียงหวาน

ปล ๒. กัปตันหญิงคนแรกของประเทศไทย  ที่บินให้บางกอกแอร์เวย์สน่ะ  ไปประจำฝูงแอร์บัส A 320 วะแร่ะ    แล้วสนามบิน  USM  ก็มีแค่โบอิ้ง   717    กับ  เจ้าเครื่องใบพัดเท่านั้นที่บินลงได้

ปล ๓.  ไอ้รอบ ๆ  สนามบินห้ามมีตึกรามครับ  แต่บ้านช่องนะพอไหว    แล้วบ้านริมหาดที่สมุยนะเยอะมากจริง ๆ  แต่ยังน้อยกว่าดงมะพร้ามที่ไหวลู่ตามลมนะครับ    แต่ถ้าสังเกตุ  ก่อนเครื่องแตะรันเวย์    ทางซ้ายมือจะมีประพุทธรูปองค์ใหญ่  เด่นสง่าอย่างเดียวเลยครับ  "วัดปลายแหลม"



  ผมไม่ได้จับผิดหนา  แต่เพราะชอบเลยมาบอกเอาไว้    บางทีการที่เราจะเขียนให้คนอื่นเชื่อกับภาพจริงมันยากนะครับ   แล้วผมบินลงสมุยบ่อยอ่ะครับ  เลยเห็นภาพที่มันขัดแย้งกันนิดนึง  โทษนะครับ  ไม่ได้ตั้งใจป่วน

ปล. สุดท้าย  ผมรออ่านอยู่นะครับ  ขอให้เขียนให้สนุกแล้วกันครับ


 [/color]  




.... ตอนทำงาน ได้ยินเสียงเจ้าพวกนี้ขึ้นลงทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า จน ไฟลท์สุดท้าย ตอน 22.00 .... มาเห็นภาพที่คุณต้นสายโพสท์ แล้ว ยิ่งคิดถึง .....

ขอบคุณสำหรับ ปล. ครับ คุณต้นสาย
.... ตอนนี้ ไม่ต้องถึงกัปตันแล้วครับ ลูกเรือจะเป็นคนประกาศ สำหรับ โบอิ้ง อาจจะเป็น pursor หรือไม่ก็คนที่ Assign อยู่หน้าเครื่องเป็นคน Annouce และ ATR จะเป็นคนที่ Assign ท้ายเครื่อง .... ส่วนกัปตัน  greeting ผู้โดยสารขณะ เครื่องอยู่ ระหว่างทางครับ กัปตันจะเป็นคนแนะนำตัว กล่าวต้อนรับ บอกสภาพอากศ บอกสถานะระดับการบิน ... แล้วที่เหลือก็ เป็นหน้าที่ของลูกเรือบริการผู้โดยสารไป ....

ใช่ครับ ตอนนี้ กัปตันหญิง เขาไปขับ  Airbus กันแล้ว แต่ก็มีมาบ้างนะ ที่มาช่วยขับไปสมุย.... ส่วน เครื่องที่ลงได้ ก็มีเจ้า โบอิ้ง กับ ATR นี่แหละครับ ลูกเป็ด ชอบ  ATR ครับ นั่งแล้วรู้สึกว่า มัน Classic ดี ....

ส่วนเรื่องตึกรามบ้านช่อง ผมอาจจะเขียน เวอร์ไปครับ มันเป็นสำนวนน่ะ แล้วจะปรับปรุง ถูกต้องครับ ที่นั่นเขาห้ามสร้างตึกสูง เกิน 5-6 ชั้น โดยเฉพาะ บริเวณที่เป็น ทางขึ้นลงของเครื่องบิน

คุณต้นสายไม่ได้จับผิดผมหรอกครับ ดีซะอีก ผมจะได้ ปรับปรุง สำนวนการเขียน ให้ดีขึ้น เพราะ อ่านผลงานของคุณต้นสายแล้ว ผมก็ชอบ และอีกอย่างโลเกชั่นเกาะสมุยต้องมีอยู่ในเรื่องของคุณต้นสาย เพราะมีความหลังตราตรึงอู่ในหัวใจนี่เอง .... หุหุ .... แล้วก็ขอบคุณนะครับ ที่ จะเป็นกำลงัใจ และรออ่านต่อไป แล้วเข้ามาแนะนำบ่อยๆนะครับ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 12-07-2007 20:14:48
ขอบคุณ คุณ  Staying Power นะครับที่ให้เกียรตมาอ่าน และเป็นกำลังใจให้เป็นคนแรก  ... บ้านพักอลเวงของคุณ ทำผมไม่เป็นอันทำงานมาแล้ว ... (ตื่นเต้น คนเขียน เรื่องอ่านในดวงใจมาให้กำลงัใจ)

ขอบคุณพี่เรย์, พี่แสบ, พี่สอง, คุณ  Gobgab, คุณ Poes ที่ยังเข้ามาให้กำลังใจเหมือนเคย ....

และขอบคุณ เพื่อนใหม่ๆ คุณ Back in Black (ขอบอกว่า Termianl ที่เปิดใหม่ที่สนามบินสมยุตอนนี้ สวยมากๆ) ...

คุณ  THIP, คุณต้นสาย, คุณ Ken_Krab และคุณ krabpom ด้วยที่มาตามเกาะตั้งแต่บทนำ ....

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 12-07-2007 20:21:24
มาช้าไปหน่อย แงแง :o7:
เป็นเป็นกำลังใจให้เหมือนกันน้า

ปล  ชอบชื่อเรื่องเพราะดี   :impress2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 13-07-2007 00:05:21
ตามพิมพ์มาติดๆ เกาะเครื่องบินมาให้กำลังใจคุณเอ็กซ์เหมือนเดิมคับ
 :m11:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 13-07-2007 00:35:23
เรื่องแรกมันชื้อเรื่องอารายหรอคับจะได้ตามไปอ่านก่อน  :m9:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 13-07-2007 16:35:08
1

เสียงเครื่องเจ็ททะยานขึ้นฟ้าตั้งแต่ 6 โมงเช้าซึ่งเป็นเที่ยวบินแรกที่บินออกจากสนามบินสมุยปลุกเอกให้ตื่น  เขาลุกจากเตียง แล้วไปเปิดม่านหน้าต่างรับแสงอรุณยามเช้าวันแรกของเขา ฟ้ายังไม่สว่างมาก แสงแดดยังไม่โผล่จากฟ้า เพราะมีกลุ่มเมฆก้อนใหญ่มาบดบัง แม้แสงแดดยามเช้าจะไม่มีให้เอกได้เห็น แต่เขาก็เห็นภาพอื่นที่ทำให้เขาตื่นได้เต็มตา ชายหาดหน้าบ้านพัก กับทะเลยามเช้า เสียงคลื่นกระทบชายหาดเบาๆ ลอยตามลมเข้ามาในห้อง เอกเปิดหน้าต่างออก เพื่อสัมผัสบรรยากาศและสูดกลิ่นอายของทะเลยามเช้าให้เต็มปอด เขาบิดกายเล็กน้อย เพื่อสลัดความง่วงออกไป เปิดประตูออกไปรับลมทะเลให้เต็มที่ สายลมเย็นปะทะร่างพอให้รู้หนาวเล็กน้อย เอกเดินไปหน้าบ้านทั้งชุดนอน เดินเลียบรั้วกำแพงที่กั้นระหว่างเขตบ้านพัก กับชายหาดด้านนอก บ้านพักของเอก เป็นแบบ บีชฟร้อนท์ อยู่ติดหาด เขาโชคดีมากที่ห้องพักในบ้านหลังนี้ว่างอยู่พอดี บ้านพักพนักงานที่นี่ เคยเป็นรีสอร์ทมาก่อน ลักษณะห้องเลยดูกะทัดรัดเหมาะสำหรับพัก 2 คน บ้านพักแต่หลังจะแบ่งออกเป็น 2 ห้อง แต่ละห้องจะจัดเป็นแบบ ทวินเบดรูม จริงๆ แล้วบริษัทจะจัดให้พนักงานพัก 2 คนต่อ 1 ห้อง แต่เอกโชคดีได้พักคนเดียว เพราะห้องว่างและเขาเป็นผู้ชายคนที่ สามของแผนกที่สมุย ซึ่ง อีก 2คน ก็อยู่ห้องถัดจากเขาไปนั่นเอง เอกเดินเรื่อยๆ จนมาถึงประตูทางออกที่จะเดินลงไปสู่ชายหาด เขาถอดรองเท้า แล้วเดินเท้าเปล่า เพราะเขาอยากสัมผัสกับพื้นทรายชายหาดได้อย่างเต็มที่  เอกรู้สึกเย็นที่ฝ่าเท้ากับสัมผัสแรกบนพื้นทรายขาวละเอียด คงเพราะยังเช้าอยู่ พื้นทรายเลยยังไม่ความร้อนจากไอแดด เอกเดินลงไปที่หาด เสียงคลื่นทะเลเริ่มชัดเจนขึ้น ลมทะเลพัดเข้าหา เท้าเอกเริ่มสัมผัสกับความเย็นของน้ำทะเล เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้น มองไปข้างหน้ามองเห็นเกาะอีกเกาะหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลังม่านหมอกของเมฆยามเช้า “คงจะเป็นเกาะพงันแน่ๆ” เอกนึกในใจ มองไปอีกด้าน เอกมองเห็น พระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ ประดิษฐานอยู่บนยอดเนิน ของเกาะเล็กๆ ที่คนสมุยเรียกกันว่า เกาะฟาน เอกพนมมือขึ้นไหว้ พระพทุธรูป แม้จะอยู่ไกล แต่ก็มองเห็นองค์พระอย่างเด่นชัด เขาอธิษฐานในใจขอให้ชีวิตที่เกาะนี้ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายและมีความสุข และขอให้ลืมเรื่องต่างๆที่ผ่านมาให้ได้ คำอธิฐานข้อหลังแม้เขาจะรู้ว่า พระท่านช่วยอะไรไม่ได้ มันอยู่ที่ตัวเขาเองต่างหากว่าจะจัดการกับหัวใจที่บอบช้ำของเขายังไง

แสงแดดเริ่มโผล่พ้นออกจากกลุ่มเมฆที่ลอยเคลื่อนออกไป แสงสีทองตกทระทบผืนทะเลเบื้องหน้า ช่างเป็นภาพที่งดงามนัก เอกยืนชื่นชมความงามของแสงอาทิตย์กับท้องทะเลยามเช้าอยู่พักใหญ่ เขาก็เดินกลับมาที่ห้องพัก วันนี้ยังไม่ต้องทำงาน เขาจะเริ่มงานวันแรกในอีก 2 วันถัดไป ช่วงเวลาที่ว่างนี้ เขาก็ต้องเตรียมตัว และทำความคุ้นเคยกับสถานที่ กระเป๋าเดินทางยังคงวางนิ่งอยู่ข้างๆ เตียง เอกยังไม่ได้ รื้ออะไรออกมาเลย เพราะเขาเหนื่อยกับการจัดเก็บของ แม้ว่าของจะไม่มีอะไรมากมายนัก แต่เอกก็ยังขี้เกียจอยู่ดี เขาเดินกลับไปที่เตียง ล้มตัวลงนอน นอนมองกระเป๋าเดินทาง อยู่นาน ก็ตัดสินลุกไปเปิดกระเป๋าเพื่อจะได้เก็บของให้เรียบร้อย เอกค่อยๆ หยิบของออกมาทีละชิ้น ส่วนใหญ่ของในกระเป๋าจะเป็นหนังสือที่เขาชอบอ่าน หนังที่ชอบดู ของรักของหวงที่ติดตัวมา โดยเฉพาะ ตุ๊กตาหมีที่ เลสลี่ให้ตอนวันเกิดของเอก ... เอกยังเก็บมันไว้เป็นความทรงจำสุดท้ายที่อย่างน้อยเลสลี่ก็ยังมอบอะไรให้เขาบ้าง เอกหยิบตุ๊กตาหมีตัวนั้นขึ้นมากอด นึกถึงวันเก่าๆ ที่ เขาได้ตุ๊กตาตัวนี้มา นึกถึงหน้าคนที่ให้มันมา แล้วใจก็เตลิดไปนึกถึงวันที่เขามอบตัวตาหมีอีกตัวใให้กับเลสลี่ในวันวาเลนไทน์ ก่อนที่เขาจะบินมาสมุย ...น้ำตาก็ไหลออกมาอีกแล้ว ... เอกพยายามฝืนไม่ให้มันไหล แต่มันก้ไหลออกมาอีกจนได้ เขาวางตุ๊กตาหมีตัวนั้นไว้ในตู้ เก็บของอื่นๆ ออกจากกระเป๋าและเก็บเข้าตู้ให้เรียบร้อย เขาวางตุ๊กตาไว้ลึกสุดของตู้ แล้วก็เอาของชิ้นอื่นๆ บังไว้ จะได้ไม่เห็นให้มันปวดใจอีก หลังจากเก็บทุกอย่างในตู้เรียบร้อย เอกก็หยิบกระเป๋าจะเก็บไว้ชั้นบนสุดของตู้ ระหว่างที่เขายกกระเป๋าขึ้นไป กระดาษเล็กๆ แผ่นหนึ่งหล่นออกมาจากกระเป๋า เอกวางกระเป๋าให้เรียบร้อย แล้วหันกลับมาหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษนามบัตร เอกพลิกอีกด้านเพื่ออ่านว่าเป็นของใคร “Aranishi Kenji .... ของใครหว่า .... อ้อ!  เคนซัง ที่เราเคยเจอที่ The Mix นี่นา เรายังเก็บนามบัตรเขาไว้อยู่เหรอเนี่ย” เอกนึกขึ้นได้หลังจากที่อ่านชื่อในนามบัตร พลางนึกถึงหน้าตาของเจ้าของนามบัตรแล้วก็อมยิ้มอยู่ในใจ แม้ว่าเอกจะไม่ค่อยได้คุยกับเคนซักเท่าไหร่ แต่เขาก็ยังจำได้ว่า เคนเป็นคนเดียวที่ดูเหมือนจะเป็นห่วงเป็นใยเขาในครั้งแรกที่เขาไป The Mix “… แต่ตั้งแต่วันนั้นเราไม่ได้เจอเขาเลย ป่านนี้เป็นไงบ้างก็ไม่รู้ ..”

เสียงเคาะประตูที่หน้าบ้านดังขึ้น เอกเก็บนามบัตรไว้ในลิ้นชักโต๊ะข้างๆ ตู้เก็บของ แล้วเดินออกมาเปิดประตู

“น้องเอ๊กซ์ ใช่ป่ะ” หนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ผิวเข้ม หน้าตาคมเข้ม ยืนอยู่หน้าบ้าน มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟ อีก้างคีบบุหรี่มวนเล็กๆ ไว้

“ใช่ครับ” เอกตอบ เพิ่งมาถึงเมื่อเย็นวานนี้ครับกำลงัเก็บของอยู่

“อ้อ! แล้วเป็นไง คืนแรก มีอะไรให้ตื่นเต้นหรือเปล่า” ชายหนุ่มถาม เย้า

“ไม่มีนี่ครับ ... เอ่อพี่ ...” เอกตอบไปพร้อมกับจะถามชื่อ

“พี่บราวน์ไง” ชายหนุ่มคนนั้นให้คำตอบก่อนที่เอกจะเอ่ยคำถาม

“พี่อยู่ห้องข้างๆ นี่แหละ เมื่อวานเลิกงานดึกกว่าจะกลับมาห้อง มาพอดีเราปิดไฟนอนแล้ว...เลยไม่ได้มาเทคแคร์”

“ไม่เป็นไรครับพี่ เกรงใจ ตื่นแต่เช้าเลย แล้ววันนี้ทำงานหรือเปล่าครับ”

“หึ ... ไม่อ่ะ วันนี้หยุด จะไปซื้อของหรือเปล่าล่ะ เดี๋ยวพาไปซื้อของที่โลตัส ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีห้างให้ช็อปเหมือน กรุงเทพ ...”

พูดจบพี่บราวน์ก็จิบกาแฟไปจิบหนึ่งพร้อมกับยกมืออีกข้างขึ้นเพื่อสูบบุหรี่

“เคยมาสมุยป่ะละ”

“ครั้งนี้ครังที่ 3 ครับ 2 ครัง้แรกเคยมาเมื่อ 2ปีที่แล้ว มาครั้งนี้สมุยเปลี่ยนไปเยอะนะครับ ตอนก่อนเครื่องลงมองลงมา โรงแรมใหม่ๆ เกิดเยอะมากๆ แถมยังมีห้างโลตัสอีกด้วย ผมมาแต่ก่อนยังไม่มีเลย”

“มันก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ แหละ คนมันเข้ามาเยอะ ไม่รู้จะมาไรนักหนา คนมาเยอะ ไฟลท์ เยอะ งานเยอะ ยุ่งไปหมด มาก็ดีแล้วจะได้ช่วยกันทำงาน” พี่บราวน์ คุยกับเอก อย่างสนิทสนม เหมือนกับรู้จักกันมานาน จริงๆ แล้วเอกก็พอจะรู้จักพี่เขาอยู่บ้างตั้งแต่ช่วงที่เข้าไปทำงานใหม่ๆ ที่กรุงเทพ พี่เขาจะขึ้นไปเฮดออฟฟิสบ้าง พี่บราวน์ เป็นคนหน้าตาดี และเป็นที่กล่าวขวัญในบรรดาสาวๆ ว่าหล่อ และน่ารัก เพื่อนๆที่เข้ามาทำงารุ่นเดียวกันกับเอก ยังแอบชอบพี่เขาเลย ... แต่ก็ต้องแห้ว เพราะพี่บราวน์เขา ....

“แล้วเก็บของเสร็จยังล่ะ สายๆ เดี๋ยวออกไปกินข้าวกัน เมทพี่มันห็หยุดวันนี้ จะได้คุยกันด้วย”

“ก็ดีครับ แล้วเดี๋ยวไง ผมขอตัวไปเก็บของต่อ แล้วก็สายๆ ผมจะออกมารอหน้าบ้านน่ะครับ”

“เค ... เจอกัน”

จบบทสนทนา เอกก็กลับเข้ามาที่ห้อง เปิดเพลงฟัง เก็บของเล็กน้อย จัดห้องให้น่าอยู่ขึ้น อาบน้ำ แต่งตัวเพื่อรอออกไปข้างนอกับ พี่บราวน์ และเมดของพี่บราวน์อีกคน ..............

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 13-07-2007 16:45:06

...........เอากายหนีไป........แต่ก็หนีใจตัวเอไม่ได้อยู่ดี... :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 13-07-2007 16:53:32
 :m1: เอาเหอะเปลี่ยนดูบ้างจะเป็นไรน๊อ........ปีหน้าไปสมุยดีกว่า..ปีนี้วันลาเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน... :m7:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 13-07-2007 17:48:55
เรื่องแรกมันชื้อเรื่องอารายหรอคับจะได้ตามไปอ่านก่อน  :m9:

 ชื่อเรื่อง ผมยังไม่ลืมเขา .... (คำพรรณนาที่พูดไปเขาก็ไม่ได้ยิน) ครับ


ขอบคุณมากค้าบที่มาตามอ่านกัน  :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: ronger ที่ 13-07-2007 18:12:57
มาเป็นกำลังใจด้วยคน   :m4: 
เด๋วจะตามอ่านเภาคแรกก่อนจ้ะ    :m3:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 13-07-2007 19:12:54

ขอมาอ่านด้วยคนน้า......

เอากำลังใจมาฝากคร้าบบบบ..............
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-07-2007 19:18:56
รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 13-07-2007 19:22:18
ถึงว่าสิ อ่านไปแล้วทำไมรู้สึกแปลกๆ
ก็ยังไม่ได้อ่านภาคแรกนี่หว่า

เด๋วขอกลับไปอ่านภาคแรกก่อนแล้วจะตามมาอ่านภาคนี้อีกทีน้า :m13:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ ***
เริ่มหัวข้อโดย: Back in Black ที่ 13-07-2007 19:27:59
อ่า


อันใหม่ยังไม่เคยไปเลยครับ

ก้อไปสมุยครั้งล่าตอนอายุ 17
เมื่อสามปีที่แล้ว
ตอนนั้นก้ออยากให้เครื่องบินดีเลย์นานๆ
ก้อจะได้นั่นกินเค๊กอ่านหนังสือที่สนามบินนานๆ

5555

รออ่านต่อไปอยู่ครับ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 14-07-2007 17:42:23
******
พี่บราวน์ พาเอก ออกไปทานข้าวกับรูมเมท พี่บราวน์อีกคน หลังจากทานข้าวเสร็จ รูมเมทของพี่บราวน์ ก็ขอตัวกลับห้อง เพราะไม่อยากไป โลตัส เอกเลยไปกับพี่บราวน์ 2 คน พี่บราวน์ แนะนำเรื่องการทำงานว่า ลักษณะงานของออฟฟิศที่สมุยเป็นยังไง มีใครบ้าง และทำงานกันยังไง บ้านพักของเอก อยู่ไม่ไกลจากโลตัสมากนัก ขับรถไปไม่ถึง 20 นาทีก็ถึงแล้ว พี่บราวน์ บอกว่า สมุยน่ะ ขีมอเตร์ไซค์ จะสะดวกกว่า เพราะถนนเล็ก และแคบ แต่ก็ต้องระวัง เพราะฝุ่นค่อนข้างเยอะ เพราะตอนนี้ ก่อสร้างเยอะ จะมีทรายอยู่ทั่วเลย ระว่างทางเอก ลองสังเกตุดูก็เป็นจริงอย่างที่พี่บราวน์ บอก ถนนที่นี่ค่อนข้างเล็ก ทางขึ้นลงเป็นเนินเยอะ เพราะ บางส่วนเป็นภูเขา และแคบ และรถเยอะมาก ๆ ทั้งรถยนต์ รถบรรทุก เพราะการก่อสร้างค่อนข้างเยอะ
"เกาะสมุย เจริญขึ้นเยอะจริงๆ ไม่น่าเชื่อเลย"  เอกพูดขึ้นขณะขับรถผ่านสถานที่ก่อสร้างที่ปักป้ายไว้ว่าเป็นโครงการสร้างโรงแรมบริเวณ บ่อผุด
"ใช่ พี่มาอยู่นี่ได้ 2 ปี อะไรๆ เปลี่ยนไปเยอะมาก ก็ เพราะผู้โดยมันมาเยอะ น่ะ มาเที่ยวกันเยอะ เศรษฐกิจมันกำลังบูม คนสมุย รวยกันไปเป็นแถบๆ แล้ว ขายที่ให้ฝรั่งเอามาทำโรงแรมหมด" พี่บราวน์ตอบ
ที่โลตัสมีลูกค้าเยอะมาก เพราะเป็นแหล่งขายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเกาะแล้ว ผู้คนเลยมาจับจ่ายใช้สอยกันเยอะ และเป็นวันเสาร์ด้วย ผู้คนเลยขวักไขว่กันน่าดู เอก เลือกของใช้ที่จำเป็นสักพัก จ่ายเงินเสร็จ ก็ชวนพี่บราวน์ กลับบ้าน มีเวลาเหลืออีกเยอะ เอกเลย คิดที่จะขี่มอเตอร์ไซค์รอบเกาะซะหน่อย
...เก็บของที่ห้องเสร็จแล้ว เอก เดินไปร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ใกล้ๆ บ้านพัก เช่ามอเตอร์ไซค์ที่นี่ ใช้บัตรประชาชน และกรอกแบบฟอร์มเช่ารถ ค่าเช่าวันละ 150 บาท ส่วนใหญ่ที่นี่จะนิยม รถสกูตเตอร์ กันเพราะคันเล็ก และเกียร์ออโต้ ขี่ง่าย ฝรั่งชอบเช่าไปขี่รอบเกาะ เห็นแล้วก็เป็นภาพที่น่าขันอยู่ เพราะรถมอเตอร์ไซค์ คันเล็กนิดเดียว แต่ฝรั่งตัวเบ้อเร้อ นั่งซ้อนกัน 2 คน แล้วขี่รอบเกาะ ที่เกาะนี่ แทบจะเป็นเกาะฝรั่งไปแล้ว เพราะไปไหนมาไหนก็เจอแต่ชาวต่างชาติเต็มไปหมด เอกเริ่มขับรถออกไปทาง บ้านปลายแหลม เส้นทางนั้นจะผ่านวัดปลายแหลม คือที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพระใหญ่ที่ชาวสมยุนับถือกัน เอก กะจะไปกราบนมัสการให้ถึงที่ เลยขี่ไปด้านนั้นก่อน ..หลังจากเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อพระใหญ่ แล้ว เอกก็ขับย้อนกลับมา แล้วเข้าทางไปสนามบินเพราะทางนั้นจะเป็นทางลัดไปสู่ หาดเฉวง หาดสาธารณะที่ อยู่ใจกลางเกาะสมุยและเป็นแหล่งรวม นักท่องเที่ยว โรงแรม สถานบันเทิง เอกขี่รถผ่านสนามบินที่เขาต้องมาทำงานต่อไป ที่นั่นก็ยังคงวุ่นวายและเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ทั้งเพิ่งเดินทางมาถึง และกำลงัจรอเช็คอินเพื่อเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพ .. เอกขับเรื่อยๆ ไปตามเส้นทางผ่านสวนมะพร้าวที่ยังลู่ไปตามลมที่พัดอยู่เอื่อยๆ อากาศเย็นสบายเวลาบ่ายแก่ เอกขับรถไปเรื่อยจนถึงทางเลี่ยวเข้าหาดเฉวง ผ่านโรงแรมสวยๆ อยู้หลายโรงแรม เขาอยากจะแวะเข้าไปดู แต่ก็อดใจไว้ก่อนเพราะเขายังอยู่ที่นี่อีกนาน และมีเวลาได้ดูอีกเยอะ เขาขับรถเรื่อยๆ จนมาถึงที่หาดสาธารณะ เฉวง เวลาบ่ายๆ อย่างนี้ เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ รถมอเตอร์ไซค์ จอดเรียงรายอยู่หน้าทางเข้าหาด เอกจอดรถ ล็อครถเรียบร้อยก็เดินเข้าไปสู่บริเวณหาด วันนี้ผู้คนเยอะหนาตามากๆ ตามหาดทราย เต็มไปด้วยผู้คน ทั้งนั่งกันอยู่เป็นกลุ่ม เลยออกไปตามหาดหน้าโรงแนรมก็จะมีแขกนั่งกันอยู่บนเก้าอี้ ชายหาด บ้างก็นอนอาบแดด บางคนก็วิ่งจ๊อกกิ้งบนชายหาด บางกลุ่มก็เล่นกันอยู่ริมหาด อีกฝั่งเอกมองไปก็เห็นกลุ่มเด็กหนุม่ทั้งคนไทย และต่างชาติ เล่นฟุตบอลกันอยู่ริมทะเล
เอก เดินเล่นริมหาดไปเรื่อย พร้อมกับมองหาจุดเหมาะๆ เขาจะได้นั่งเล่น กินบรรยากาศรับลม อากาศที่ริมหาดเฉวงดีมากๆ ไม่ร้อน และแดดไม่แรง ..... เอกได้ที่เหมาะแล้ว แถวๆ หน้าโรงแรมหรู บริเวณนั้นไม่ค่อยมีคนมาก เอกเลยตัดสินใจนั่งเล่นอยู่ตรงนั้น หันมองไปทะเล ดูผู้คน เล่นน้ำกันสนุกสนาน ปลดปล่อยอารมณ์ ไปกับบรรยากาศสบายๆ ที่อยู่ตรงหน้า หูสองข้างก็ฟังเพลงจาก Mp3  ที่ถือติดมาด้วย ... เขานั่งคิดเรื่อยเปื่อย บรรยากาศดีๆ รอบข้างทำให้เขารู้สึกสบายใจ และลืมเรื่องที่รบกวนใจเขาไปได้ชั่วขณะ เอกไม่ได้คิดถึงเลสลี่เลยในตอนนั้น .... เขาขอมีความสุขกับตัวเอง และเตรียมพร้อมที่จะเจออะไรใหม่ๆ ในชีวิต ในวันต่อไปดีกว่า .... เราควรทิ้งเรื่องไม่ดีไว้เบื้องหลัง อดีตที่ปวดร้าวหาดลืมไม่ได้ ก็ฝังมันไว้ให้ลึกที่สุดในก้นบึ้งของหัวใจ .. และเตรียมพร้อมเริ่มใหม่กับสิ่งใหม่ๆ จะดีกว่า ....

.."แกต้องทำได้สิ เอก .... ต้องอยู่ให้ได้ ..... ชีวิตเป็นของแกนะ ไม่ใช่ของเขา เพราะฉะนั้น .. สู้ๆ "


*******************************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 14-07-2007 17:45:23
 :serius2: สั้นๆเอง :m12: o9 :serius2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 14-07-2007 17:47:20
:serius2: สั้นๆเอง :m12: o9 :serius2:
ใจเย็นๆ ค้าบพี่แสบ กำลังปั่นอยู่ หุหุ :o11:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 14-07-2007 18:22:54
..... o19..... ง่วงจัง พักแป๊บ แล้วเดี๋ยวดึกๆ จามาต่อให้นะค้าบ ขอกลับไปนอนเอาแรงก่อน หุหุ ... ลูกเป็ดแอบอู้  :laugh3:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: Back in Black ที่ 14-07-2007 20:21:35
อ่า
โอเค

ห้ามอู้นาน


หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-07-2007 22:49:43
หุหุ มาดูคนแอบอู้  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (Added ตอนที่1)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 15-07-2007 09:33:07
.... แอบอู้ไปทั้งคืน ...กลับมาต่อให้แล้วนะค้าบ ....  :impress:

2.
แม้บางครั้งจะรู้สึกว้าเหว่บ้าง แต่เอกก็ค่อนข้างพอใจกับชีวิตที่เกาะสมุย ธรรมชาติกับชีวิตที่ราบบเรียบ ไม่รีบร้อนวุ่นวาย แข่งขันกันอยางในกรุงเทพ ทำให้จิตใจของเขาเริ่มสงบขึ้น การทำงานที่สนามบิน สลับกับออฟฟิศในตัวเมืองสมุย ก็ทำให้เอกไม่รู้สึกเบื่อกับการทำงาน เพื่อนร่วมงานทุกคนก็น่ารัก และมีน้ำใจ เอกเริ่มสนิทกับพี่บราวน์มากขึ้น และเพื่อนๆ ในแผนกอีก 2-3 คน หลังเลิกงานเขาก็ออกไปโน่นมานี่กับเพื่อนๆ หรือไม่ก้ไรวมตัวกันที่บ้านพี่บราวน์ นั่งดูทีวี ทานข้าว พูดคุยกันสนุกสนาน บ้างก็พูดถึงเรื่องงาน บ้างก็เล่าถึงพฤติกรรมแปลกๆ เรื่องตลกๆ ของผู้โดยสาร พี่บราวน์จะชอบเล่าประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาให้ฟัง สมัยแกเรียน สมัยที่อยู่ในกองทหารเกณฑ์ว่าทำอะไรมาบ้าง แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องสนุก และเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่เอกไม่เคยรู้ไม่ก่อน ในความเป็นตัวตนอีกด้านของพี่บราวน์  ซึ่งก็เป็นสิ่งทีทำให้เอกสบายใจ และเริ่มวางใจที่จะวางตัว และแสดงตัวตนความเป็นตัวของเขาเองให้เพื่อนๆในกลุ่มได้รู้ ว่าเขาเป็นอย่างไร เอกเริ่มเปิดใจ และเล่าเรื่องของตัวเองให้เพื่อนๆ ฟัง รวมทั้งเรื่องเลสลี่ด้วย
“โห .. อย่างเอกเนี่ยนะเป็นเกย์ มีแฟนเป็นผู้ชายด้วย ไม่น่าเชื่อ” ผึ้ง เพื่อนในกลุ่มอีกคนออกความเห็นหลังจากฟังเรื่องของเอก
“นี่ ยัยผึ้ง แกดูไม่ออกเลยเหรอว่าใครเป็นไม่เป็น ฉันน่ะดูออกตั้งแต่เห็นมันแล้ว ... อย่างว่า แหละ ผีเห็นผี ฮะฮะ ...แต่ผู้หญิงก็เป็นซะอย่างนี้แหละ ชอบหลงคิดว่าตัวเองสวย จะคึงผู้ชายให้มาสนใจได้ แต่ขอโทษเหอะๆ กว่าค่อนโลกมันก็แบบเดียวกันกับพวกฉันนี่แหละ “ .... พี่บราวน์ ออกความเห็นแกมหยอก ทำให้ได้หัวเราะหายเครียดกันไป
“เอก .. อย่าไปคิดอะไรมาก ดูอย่างฉันสิ ออกจะพราวด์ เราต้องมั่นใจในความเป็นเรา เราต้องเป็นผู้เลือกไม่ใช่ผู้ถูกเลือก” พี่บราวน์อกกความเห็นบอกเอกอีกรอบ
“ไม่ใช่ว่าผมไม่พยายามนะพี่ แต่มันก็นะ ...พูดยาก ก็คนมันผูกพันนี่...” เอกตอบ
“ชิ ... ผูกพัน ... ผูกพัน อะไร มันก็ผูก (ผสม)พันกับแกนั่นแหละ .. . คำว่าผูกพันมันก้เป็นแค่ข้ออ้าง ที่แกเอาไว้ปลอยใจตัวเองว่า สักวันเขาจะเห็นแก่ความดี ที่แกทำให้เขา แล้วกลับมาหาแก อย่างนั้นสิ ... นั่นแหละ ผูกพัน ... คนหนึ่งรัก อีก คนไม่รัก มันจะผูกพันยังไงละเนี่ย ....”
“นั่นสินะ ...ผูกพันเหรอ ...ผูกพันตรงไหน ทุกอย่างที่เราคิดมันก็มาจากเราฝ่ายเดียวเองนี่นา ....” เอกฉุกคิดกับคำพูดของพี่บราวน์

“ถ้างั้นเหตุผลที่เอกขอมายอู่สมุยเนี่ย ก็เพราะอยากจะหนีให้พ้นจากที่ที่แก เคยมีความรัก ว่าอย่างนั้นเถอะ .... โอย ... เอกเอ๊ย ไม่ว่าแกจะหนีไปไหน หนีไปไกลถึงอีกฟากโลก แกก็หนีไม่พ้นหรอก เพราะมันอยู่ที่ใจแก ถ้าแกไม่ตัดใจ ต่อให้ไปอยู่ไกลจากที่เดิมๆ แค่ไหน มันก้เจ็บปวดอยู่ดีแหละ” พี่บราวน์พูดปลอบแกมสอนไปในเชิง
 .... นั่นสินะ ถ้าไม่ตัดมันออกไป ...ไม่ว่าจะหนีไปไหนก็ไม่อาจหนีพ้น ความรู้สึกที่อยู่ในใจได้หรอก เขาจะต้องพยายามตัดใจ เหตุของความเจ็บปวดหลังจากที่คนสองคนเลิกกัน ไม่ใช่เพราะความรักมันจบลง แต่มันเป็นเพราะอีกคนยังคงรักต่อไปต่างหาก ในเมื่อเขาเป็นคนตัดสินใจเดินจากมันมาแล้ว เขาไม่ควรคิดจะเสียใจหรือเสียดายอะไร เพราะตัวเองก็เป็นฝ่ายรักเพียงฝ่ายเดียว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไร ที่จะยื้อความสัมพันธ์หรือความผูกพันอะไรนี้อีกต่อไป ... เขาต้องเริ่มใหม่ ..เริ่มให้ได้ด้วยหัวใจที่ไม่มีคนนั้นมาเป้นอิธิพลต่อจิตใจ ....

*******************************************************************************

“เอก ...รับผู้โดยสารคนนี้แทนพี่ที พี่ยังติดเคสอยู่”พี่ป๋อง รุ่นพี่ที่ทำงาน วานให้เอกช่วยรับผู้โดยสารแทนเพราะยังทำงานค้างอยู่
“ครับพี่ …” เอกหันกลับไปมองผู้โดยสารและเชิญให้มาที่เคาน์เตอร์ของเขา ผู้โดยสารคนนั้น ดูท่าทางเป็นชาวต่างชาติ หน้าตาออกไปทางคนญี่ปุ่น แต่ถ้าดูอีกทีก็คล้ายๆ คนไทย แต่เพื่อความไม่ประมาท เอกจึงทักทายเขาเป็นภาษาอังกฤษไป
“Good Morning Sir, Can I help you?”
ผู้โดยสาร คนนั้นมองหน้าเอก แล้วยิ้ม “ ผมพูดไทยได้ครับ” สำเนียงไทยที่ค่อนข้างชัดเจนของเขา แต่ก็ยังดูออกว่าไม่ใช่คนไทยที่พูดไทยได้เป็นภาษาหลัก เอกเริ่มคุ้นกับผู้โดยสารคนนี้ แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเป็นใคร อาจเคยเป็นผู้โดยสารที่เดินทางบ่อยๆ เพราะที่นี่ก็มีผู้โดยสารที่เดินทางประจำอยู่หลายคน เขาอาจเคยเห็นผ่านๆ ที่สนามบิน เมื่อผู้โดยสารบอกแล้วว่าพูดไทยได้ เขาก็เลยคุยกับผู้โดยสารคนนั้น สอบถามความต้องการ .. น่าแปลกที่ผู้โดยสารมองเอก และยิ้มอยู่ตลอดเวลา เขาก็แปลกใจว่ามอและยิ้มอะไร เขามีอะไรผิดปกติ หรือทำไรเปิ่นๆ หรือเปล่า ...
“ผมอยากจะขอเลื่อนไฟลท์กลับ กรุงเทพไปอีกสัก 4 วันครับขอเป็นเที่ยวบินตอนเย็นได้ไหมครับ นี่ครับตั๋ว” ผู้โดยสารคนนั้นบอกความต้องการพร้อมทั้งยื่นตั๋วให้เอก ขณะพูดเขาก็ยังนิ้มและมองเอกไม่ละสายตา
เอกเริ่มเขินกับการมองของเขา แต่เขาก็รู้สึกว่า เขาคุนนหน้าผู้โดยสารคนนี้จริงๆ เขารับตั๋วนั้นมาเพื่อดูรายละเอียดและจะเปลี่ยนการเดินทางให้ ... เมื่อเอกอ่านชื่อ ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่า เขาคุ้นกับชื่อนี้
“MR. Aranishi Kenji ….” “ชื่อคุ้นจัง” ..เอกคิดในใจ แต่เขาก็ไม่ได้นึกไปไกลกว่านั้น เพราะใจยังจดจ่อกับการทำงาน
“อีก 4วันถัดไปก็เป็นวันที่ 10 กันยายนนะครับ เที่ยวบินที่ว่าง เวลา 19.00 น. ครับ ต้องการเปลี่ยนเป็นไฟลท์นี้ไหมครับ”
“ได้ครับเปลี่ยนได้เลย”ผู้โดยสารคนนั้นตอบ และก็ยังยิ้มและมองเอกอยู่อย่างเคย
“รอสักครู่นะครับ” เอกเริ่มขวยเขินกับการมองของเขา สายตาแบบนี้ เขาเคยเจอที่ไหนนะ เอกยังนึกไม่ออก ชื่อก็ด้วย เขานึกไปขณะที่กำลังเปลี่ยนไฟลท์ให้ผู้โดยสาร “Aranishi ..Kenji ...ทำไมชื่อนี้มันคุ้นๆ จังนะ” เอกนึกในใจ
“เรียบร้อยครับ เปลี่ยนเป็นเที่ยวบินเวลา 19.00 น. วันที่ 10 กันยายน ครับ วันเดินทางติดต่อ check in 1 ชั่วโมงก่อนไฟลท์ออกนะครับ”  เอกจัดการเปลี่ยนไฟลท์และยื่นตั๋วกลับให้ผู้โยสารพร้อมทั้งทวนรายละเอียด
“ขอบคุณครับ คุณเอก ... เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอครับ” ผู้โดยสารรับตั๋วคืนจากเอก และชวนเอกคุยต่อ
“ครับ .. ก็มาประจำที่นี่ได้เกือบ 4 เดือนแล้วครับ”
“มิน่าละ ไม่เห็นไปที่ เดอะมิกซ์เลย ตั้งแต่วันนั้น มาอยู่ที่นี่เอง” ผู้โดยสารคนั้นตอบ พร้อมปล่อยมุขเด็ดออกมา จนทำให้เอกนึกนึกขึ้นมาได้ว่า ...
“เคน .. เคนซัง” เอกเรียกชื่อเขาเบาๆ
“ใช่ครับผมเอง .. บังเอิญมากเลยนะ .. ไม่คิดว่าจะมาเจอคุณที่นี่นะครับ” เคนตอบเอกและพูดคุยอย่างสนิทสนม ดูเขาดีใจที่ได้เจอเอก
เอกทำหน้า เจื่อนๆ งุนงง และตกใจในความบังเอิญ แบบนี้ “ใช่ ..ใช่ครับบังเอิญจังเลย .. สบายดีนะครับ แล้วนี่มาเที่ยวเหรอครับ”
“ใช่ครับ ... มาพักผ่อนนะ ยังไม่อยากกลับเลยมาขอเลื่อนไฟลท์กลับอยู่ต่ออีก 3-4วัน เลยมาเปลี่ยนไฟลท์ ไม่คิดว่าจะได้มาเจอคุณที่นี่เลย เซอร์ไพรซืมากๆ ...นามบัตรที่ให้ไปยังเก็บไว้ใช่ไหม ไม่งั้นคงจำผมไม่ได้ ...” เคนยังพูดคุยเหมือนเคยเหมือนกับเขาสนิทกับเอกมานานนม ทั้งที่ก็เป็นแค่ครัง้ที่สอง และก็เป็นฝ่ายเขาอีกนั่นแหละที่คุยเป็นชุดเหมือนเคย ...
ไอ้อ ..ครับยังเก็บไว้ ...แต่ก็ไม่ได้โทรหาเลย .. แฮะๆ ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ยังไงตอนนี้ก็เจอกัน แล้ว ...”เขาตอบยิ้มๆ และมองเอกอยู่อย่างเคย ...
“เอกยังอึ้งอยู่ ..ทั้งสองมองกันอยู่สักพัก เอกก้เหลือบไปมองเห็นผู้โดยสารชาวต่องชาติอีกเดินมายืนรออยู่ด้านหลังเคน เอกเลยจำเป็นต้องตัดบท
“ทุกอย่างเรียบร้อยนะครับ ..” เอกพูดพร้อมส่งสายตาให้เคนเหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่ามีคนอยู่ข้างหลัง
“อ้อครับ ..ขอบคุณนะ ...วันนี้เลิกงานกี่โมง ... โทรหาผมนะ จะได้นัดเจอกันกินข้าว ผมอยู่โรรงแรมใกล้ๆ นี่เอง” เคนตอบพร้อมกับขอนัดเอกไปในที
“...เอ่อครับ ...เลิกงานแล้วเดี๋ยวผมโทรหาครับ..ขอบคุณครับ” เอกยกมือไหว้ขอบคุรตามหน้าที่หลังจากให้บริการผู้โดยสารเรียบร้อย
เคนเดินหลีกทางให้กับผู้โดยสารอีกคน “แล้วผมจะรอนะ” เขาพูดย้ำก่อนเดินออกไปจากเคาน์เตอร์ ... เอกไม่ตอบแต่หันไปยิ้มให้เขา และหันกลับมาทักทายผู้โดยสารที่อยู่ตรงหน้า และทำหน้าที่ต่อไปตามเดิม ทุกอย่างดูเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจของเขากลับเต้นระส่ำ ระคนแปลกใจว่าเขามาเจอกับคนที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจออีกครั้ง ...โลกออกกว้างใหญ่ แต่ทำไมยังมาเจอกันได้ กรุงเทพ กับ เกาะสมุยออกจะอยู่กันไกลแสนไกล แล้วอะไรทำให้เคนมาเจอกับเขาได้ ......


*---------------------------------------------------------------------*

“การปรากฎตัว ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่า คือ จุดสำคัญของการได้พบกัน
มีผู้คนมากมาย ที่เดินสวนกันไปมาบนโลกใบนี้
แต่ถ้าไม่ใช่เพราะโชคชะตา ..ผมกับคุณคงไม่สามารถพบกันได้...”

(ข้อความบางส่วน จากหนังสือ เรื่อง Sweet Heart  ความทรงจำแห่งรัก
เขียนโดย  Park Shin-yang แปลโดย ณัฐกุล)

*---------------------------------------------------------------------*



หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 15-07-2007 09:46:19

สนุกครับ........จะเป็นบุพเพสันนิวาสหรือป่าวอ่ะคร้าบ...แฮะแฮะ....ขอเดาเอาก่อนอ่ะ.....อิอิ

เป็นกำลังใจให้นะคร้าบ........

เฮ้อ.........แล้วก็รออ่านต่อไปอ่ะ......
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-07-2007 11:44:03
บุพเพอาละวาด มาถึงเกาะสมุยเลยวุ้ย
 :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 15-07-2007 13:16:52
 :o10:  ชอบยี่ปุ่น  ชอบอาหารยึ่ปุ่นมากๆ  :oน้องเป็ดหาให้พี่แสบคนหนึ่งดิ   :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 15-07-2007 17:39:37
:o10:  ชอบยี่ปุ่น  ชอบอาหารยึ่ปุ่นมากๆ  :oน้องเป็ดหาให้พี่แสบคนหนึ่งดิ   :m1:
เอาวาซาบิ ไปแทนก่อนละกันพี่ น้องลูกเป็ดก็ยังหา อยู่ แลย เหอๆๆๆๆ  :sad3:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-07-2007 17:44:17
อ้าว คุณลูกเป็ดมาสปอยซะงั้น อดลุ้นตาเคนเลย  :freeze:  :freeze:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 15-07-2007 17:47:03
 :m11:  ไม่เอามันเผ็ด ไม่กินเผ็ด  คับไม่กินเผ็ด.....จาเอาญี่ปุ่งเท่านั้น :m10: :m10: :m10:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 15-07-2007 17:48:49
อ้าว คุณลูกเป็ดมาสปอยซะงั้น อดลุ้นตาเคนเลย  :freeze:  :freeze:

เหอๆๆๆ เขียนเอง สปอยเอง ... แต่ก็ไม่บั่นทอนเรื่องนะครับผมรับรอง (อุอุ มั่นใจ ขนาด) ....  :o11:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 15-07-2007 18:05:45
นึกว่าจะได้ลุ้นหนุ่มญี่ปุ่น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่1/2) 15/07/07
เริ่มหัวข้อโดย: Back in Black ที่ 15-07-2007 19:32:47
เคนจัง

คิคิ

ก้อคลั่งหนุ่มญี่ปุ่น
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 16-07-2007 18:34:30
3.
เอกยังไม่ละสายตาไปจากนามบัตรที่เขาได้มาจากเคน ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันที่เดอะมิกซ์ ภาพวันนั้นเริ่มปรากฎแจ่มชัดในความคิดของเขา หนุ่มแปลกหน้าคนหนึ่งที่พยามทำความรู้จักกับเขา พยายามพูดคุยเพราะเห็นเขานั่งอยู่คนเดียว แต่เขาเขาก็ไม่ด้สนใจ นามบัตรที่ได้มาก็ไม่ได้ใส่ใจจะดูหรือโทรหาเข้าของนามบัตรเลย ... แต่ตอนนี้นามบัตรใบนี้กลับตามเขามาถึงสมุย ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าของนามบัตรตัวจริงยังมาพบเขาที่นี่อีก ...ความบังเอิญ โชคชะตา บุพเพฯ ... หรือเป็นช่วงเวลาเหมาะเจาะพอดี ของคนสองคนที่จะมาเจอกัน
“เอสเปรสโซ่ เฟรปเป้ที่สั่งได้แล้วค่ะ” เสียงพนักงานบริการที่มาเสริฟกาแฟ ดึงเอกกลับมาจากมโนภาพในอดีต
“ขอบคุณครับ” เอกกล่าวขอบคุณพนักงาน
เอกนัดกับเคนที่  Coffee World ที่หาดเฉวง เอกเลือกร้านนี้ เพราะเห็นว่า อยู่ใกล้กับโรงแรมที่เคนพัก และเหมาะสำหรับการนั่งคุย ผู้คนไม่ค่อยเยอะมาก และ บรรยากาศภายในร้านก็สบายๆ
“ขอโทษครับ ผมมาสาย” เคนนั่นเอง เพราะเขานั่งหันลังให้กับหน้าร้านเลยไม่เห็นว่าเคนเข้ามาแล้ว
“อ้อ .. สวัสดีครับ ...ไม่สายหรอกครับ ผมมาก่อนเวลาเองแหละ นี่ก็เวลานัดพอดี “  เอกหันกลับมาทัก
“ดีใจจังที่เอกโทรมา ...ขอบคุณนะครับ” เคนกล่าวขอบคุณ ที่โทรหาเขาและนัดเจอกับเขา
“ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ ผมเองต่างหาก ที่รู้สึกเกรงใจ เคนอุตส่าห์ให้นามบัตรให้ติดต่อแต่ผม ก็เงียบหายไปเลย นี่ถ้าไม่ได้เจอกันผมก็คงลืมไปแล้ว” เอกบอกเคนไปตามตรง
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ... วันนี้ผมก็ได้เจอเอกแล้วได้คุยกับเอกด้วย ผมดีใจจริงๆ ครับ” เคนยังย้ำความดีใจที่เขาได้เจอกับเอก
“ครับผม” เอกได้แต่ยิ้มรับอย่างเขินๆ
“แล้วเป็นไงบ้างครับ ทำงานที่เกาะ”
“ก็ดีครับ สนุกดี เจอผู้คนมากมาย ทำงานที่สนามบินก็มีความสุขดีครับ มันไม่จำเจ เจอผู้โดยสารได้พุดคุย ได้แก้ปัญหา ไม่น่าเบื่อดีครับ”
“ดีจัง ... ได้รู้ว่าเอกมีความสุขผมก็ดีใจครับ .... ตั้งวันที่เจอกันที่เดอะมิกซ์ ผมก็หวังว่าจะได้เจอ เอกที่นั่นอีกบ้าง แต่ก็ไม่เจอเอกอีกเลย ...  จนกระทั่งผมมาเจอเอกที่นี่ ....” เคนพูดไปยิ้มไป มองหน้าเอกไป จนทำให้คนที่ฟังอยู่เขินไปใหญ่
“..แล้วมาสมุยเป็นครั้งแรกหรือเปล่าครับ” เอกถามแก้เขิน เพราะถ้าปล่อยให้อีกผ่ายคุยและมองเขาอยู่คนเดียวเขาคงเขินแย่
“ครั้งแรกครับ ผมได้หยุดลาพักร้อน อยากมาเที่ยวทะเล ไม่รู้คิดยังไง ถึงมาสมุย ... แล้วอีกอย่างก็คิดว่าจะอยู่แค่ 2 วัน แต่พอมาถึงที่นี่ แล้ว ผมกลับรู้สึกชอบ และอยากอยู่ต่ออีก 2-3 วัน ผมถึงได้ไปขอเปลี่ยนไฟลท์ ที่สนามบินไงล่ะ และผมก็ได้เจอเอก” สุดท้ายเคนก็วกกลับมาเรื่องเดิมที่ได้เจอเอกที่สนามบินอีกครั้ง
“ครับ ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้างแล้วล่ะ ....”เอกถามต่อ
“ยังเลยครับ อยู่แค่ที่โรงแรม กับ เดินเล่นแถวๆ นี้ กับชายหาดหน้าโรงแรม แค่นั้นเอง มาคนเดียวก็ไม่รู้จะไปไหน แค่อยากมาพักผ่อน นั่งมองทะเล ผมชอบทะเลน่ะครับ เวลานั่งมองทะเล แลความรู้สึกมันปลอดโปร่งดี”
.... เอกก็ชอบทะเลเหมือนกัน เหตุผลหนึ่งที่เขาเลือกมาทำงานที่ก็เพราะทะเลคือที่ที่เขาอยู่แล้วสบายใจ .... อะไรจะช่างบังเอิญเหลือเกินที่เอกกับเคนชอบทพเลเหมือนกันและรู้สึกเหมือนกันเวลาที่นั่งมองทะเล .....
“มาเที่ยวแบบนี้ อยู่แค่ 2 วัน ก็คงไม่พอจริงๆ แหละครับ ดีแล้วล่ะ จะได้เที่ยวให้คุ้ม ยังมีที่น่าเที่ยวอีกหลายที่ เกาะใกล้ๆ อย่าง เกาะ พะงัน เกาะ เต่า ก็น่าไปเที่ยวนะ ครับ” เอกแนะนำเคน
“ผมก็อยากไปครับ แต่ ไม่อยากไปคนเดียวแล้วตอนนี้ เอกไปเป้นเพื่อนผมได้ไหมครับ รบกวนมากเกินไปไหม” เคนบอกเอกแกมขอร้อง
“เอ่อ .... อีก 2 วันผมถึงจะหยุดน่ะครับ ถ้าเคนซังรอ ผม จะเสียเวลาเที่ยวเปล่าๆ นะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมรอได้ 2 วันแรก ผมก็พักผ่อน เก็บแรงไว้ไปเที่ยวกับเอกไงครับ...ผมอยากให้เอกพาผมไปเที่ยวเกาะพงันกับเกาะเต่าน่ะครับ” เคนตอบด้วยความดีใจหลังจากที่รับคำตอบจากเอก
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ ....” เอกตอบรับ เพราะว่ายังไงเขาก็ว่างอยู่ อีกอย่างก็จะได้ไปเที่ยวเปิดหุเปิดตานอกเกาะด้วย เพราะตั้งแต่มาเขาก็ยังไม่ได้ไปเที่ยวไหน อย่างน้อยมีเพื่อนเที่ยวด้วยอีกคนก็คงจะไม่เหงา
“ขอบคุณนะครับเอก ดีจังได้มาเจอเอกที่นี่ แล้วก็ยังได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก ...” เคนพูดด้วยท่าทางดีใจที่เอกตอบตกลง
“ไม่เป็นไรครับ ... “ เอกตอบพร้อมกับยิ้มให้กับเคน
ทั้งสองนั่งคุยกันอยู่ในร้านจนกระทั่งดึก เคนเป็นคนน่ารัก และคุยเก่งมาก เขาชอบมีมุขตลกๆ พูดให้เอกได้หัวเราะเสมอ เขาเริ่มคุ้นเคยกับเคนมากขึ้น แต่ก็ยังเขินกับทุกรอยยิ้มที่เคนมองเขาและยิ้มให้เขาตลอด
“ร้านจะปิดแล้ว คงต้องขอตัวกลับแล้วล่ะครับ พรุ่งนี้เอกทำงานเช้า”
“แล้วเลิกงานกี่โมงครับ ผมจะไปรับมากินข้าวด้วยกัน ผมเป็นเจ้ามือนะ...ผมขอไปส่งเอกนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขี่มอเตอร์ไซค์เพื่อนมา ... เคนซังพักผ่อนเถอะครับ ..แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ”
“ครับผม...ผมไปส่งที่หน้าร้านนะครับ”
“บายครับ เคนซัง ... oyasumi”
“บายครับเอก ฝันดีนะครับ” 
หลังจากถึงบ้านไม่กี่นาที เอกก็ได้รับข้อความ  good night จากเคนอีกครั้ง เอกยืนอมยิ้มหันหลังกลับไปมองทะเลหน้าบ้าน ทะเลยามกลางคืนดูสงบนิ่ง เสียงคลื่นเอือยๆ ที่ซัดน้ำกระทบชายหาด แสงระยิบบนผืนน้ำจากแสงจันทร์ที่ส่องลงมาทำให้ผืนทะเลดูน่ามองยิ่งขึ้น
“ทะเลสวยจัง ....” เอกรำพึงกับตัวเอง เบาๆ ก้มลงกดมือถือ อ่านข้อความของเคนอีกครั้ง เอกยิ้ม และหัวเราะให้กับตัวเอง ก่อนจะเปิดประตู กลับเข้าไปในห้อง
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 16-07-2007 19:01:49
อุ๊ย...เอกเริ่ม happy มีความสุขแย้ว  ดีใจด้วยนะจ๊ะ..... :m4:

ลืมมันไปซะเถอะ ไอ้เจ้าเลสลี่นั่นน่ะ  ฝังมันให้จมลงทะเลที่เกาะสมุยนั่นแหละ :m14:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-07-2007 22:23:41
ลืมมันไปซะเถอะ ไอ้เจ้าเลสลี่นั่นน่ะ  ฝังมันให้จมลงทะเลที่เกาะสมุยนั่นแหละ :m14:

:laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ด่าได้ซะจาย
 o13 o13

มาลุ้นดีกว่า ว่ารักแท้จะแพ้ระยะทางอ่ะปล่าว
 :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 16-07-2007 22:33:17
ลืมมันไปซะเถอะ ไอ้เจ้าเลสลี่นั่นน่ะ  ฝังมันให้จมลงทะเลที่เกาะสมุยนั่นแหละ :m14:

:laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
ด่าได้ซะจาย
 o13 o13

มาลุ้นดีกว่า ว่ารักแท้จะแพ้ระยะทางอ่ะปล่าว
 :m13: :m13: :m13:

นั่นจิ
เปลี่ยนสัญชาติควงหนุ่มยุ่นมั่งท่าจะดี  :m12:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 16-07-2007 22:51:39

ลืมมันไปซะเถอะ ไอ้เจ้าเลสลี่นั่นน่ะ  ฝังมันให้จมลงทะเลที่เกาะสมุยนั่นแหละ :m14:


ผมอ่านรีนี้ แล้ว ขำน้ำตาเล็ดเลย  :laugh:
...ขอบคุณที่แนะนำนะครับ ทำไมตอนไปถึงที่โน่นผมไม่คิดได้อย่างที่ คุณน้ำค้างบอกบ้างนะ  o13
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 17-07-2007 03:00:02
มาวแระ..กะบ้านม้ายถูก..
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 17-07-2007 16:35:48

..........หวังว่าความรักครั้งใหม่จะไปได้ด้วยดี...... :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-07-2007 22:35:49
รักครั้งใหม่  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 18-07-2007 20:17:16
 :m4:
********************************
“ไง ได้ข่าวว่า ...มีหนุ่มบอกให้โทรหาหลังเลิกงานเหรอ .... เสน่ห์แรงไม่เบา” เสียงพี่บราวน์ เย้าเอก ขณะที่พักทานข้าวในห้องพักผ่อนของพนักงานที่สนามบิน
“เฮ้ย ... พี่บราวน์ รู้ได้ไง ... ใครบอกเนี่ย ...อ้อ พี่ป๋อง แน่ๆ เลย แอบเอาน้องไปเมาท์ อีกแล้ว ....”
“แล้วมันจริงใช่ไหมล่ะ เมิง” พี่บราวน์ ยังเย้าเอกต่อ
“คนรู้จักกันนะพี่ ไม่ได้เจอกันนานมากๆ จู่ๆ ก็โผล่มาสมุยได้ไงก็ไม่รู้ โลกมันก็กลม จริงๆนะ ที่เที่ยวออกเยอะ ไม่ไป มาเกาะสมุย แล้วยังมาเจอผมอีก ...”
“แล้ว เมิงไปรู้จักกับเขาได้ยังไง เล่ามาเดี่ยวนี้” พี่บรวน์ รบเร้าให้เขาเล่าเรื่องความเป็นมา
“ผมเจอเขาแค่ครั้งเดียวเองพี่ ... ที่เดอะมิกซ์ เจอกันตอนวันเกิดตาเลสลี่น่ะพี่ เขาเห็นผมนั่งอยู่คนเดียว เลยเข้ามาคุยเป็นเพื่อน แต่ผมก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเขานะ ก่อนกลับเขาก็ฝากนามบัตรไว้ให้ แต่ผมก้ไม่เคยโทรหาเขาเลย”
“ไม่ได้สนใจ แล้ว เมิงเก้บนามบัตรเขาไว้ทำไมละเนี่ย” พี่บราวน์สงสัย
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ ... ตอนเขาให้มา ผมเก็บใส่ ในกระเป๋าตังค์น่ะ แล้ว กลับมาที่บ้าน ก็คงเก็บไว้ในลิ้นชัก ตอนเก็บของย้ายมาที่นี่ คงรวบของลงกระเป๋าเลย มันก็คงติดมาด้วย...” เอกตั้งข้อสันนิษฐาน ....
“เออๆ ไม่ต้องอธิบายให้มันมากความ ... สรุปว่า เขาคงสนใจเมิงนั่นแหละ ไม่งั้นเขาไม่ให้นามบัตรหรอก ... แหมๆ ไม่สนใจแต่ก็เก็บนามบัตรไว้ ... ร้ายมากนะน้อง....” พี่บราวน์ยังคงไม่รามือกับการล้อเอก
“...โหย พี่บราวน์ อย่าล้อผมดิ ..” เอกเริ่มเขิน
“ไม่สนใจเขานะ แต่ก็ยังตกลงจะไปเที่ยวกะเขา .... นี่ แอบคิดวางแผนอะไรอยู่หรือเปล่าเนี่ย” พี่บราวน์ ถามอย่างมีเลสนัย
“ไม่มีอะไรพี่ .... เขาขออยู่ต่อ ผม ก็หยุดพอดี กะจะไปเที่ยวอยู่เหมือนกัน ... จริงๆ ก็จะชวนพี่บราวน์ กะ พวกผึ้งไปด้วย แต่เราก็ไม่ได้หยุดตรงกัน เกิดหยุดหมดทุก พี่ๆ ซุปเขาเอาตายเลย กะจะไปคนเดียวแล้วด้วย ... พอดีเขาอยากเที่ยวต่อ ผมก็เลยเออ มีเพื่อน ก็แค่นั้น ไม่ได้คิดไรเลยนะ ...” เอกแก้ตัวยกใหญ่ เพราะเขากลัวพี่บราวน์ คิดว่า เขาจะชอบเคนเข้าแล้ว ... หรือว่าจริงๆ แล้วเขาก็เริ่มชอบเคนซังซะแล้ว เพราะทุกครั้งที่นึกถึงเขา และพูดเรื่องของเขา  เอกก็เริ่มมีความสุข
“ไปกันเถอะ ... ไม่อยากเป็น กขค. ชิ้นโตๆ ของน้อง ปล่อยให้น้องไปมีความสุข กับ “เพื่อน” ดีกว่า ......หมั่นไส้ เจงๆ” พี่บราวน์ พูดเน้น คำว่า เพื่อน ดังๆ ล้อเอกอีกรอบ
“พี่บราวน์ อ่ะ ... บอกแล้วว่า เพื่อน อย่ามาล้อกันดิ เขิน”
“อ้าว แล้วตรงไหนที่กรุ พูดว่า แฟน มั่งละเนี่ย เออ .... อ่ะๆ กินปูนร้อนท้องอีกแระ ..แล้วบอกไม่คิดไร ใครคิดกันแน่ เนี่ย .... หา” พี่ บราวน์ ได้ที ล้อเอกใหญ่ ...
“.... พี่บราวน์ อ่ะ ...” เอก เขิน หน้า แดง แต่ก็ยังยิ้มสู้
“ แล้วจะไปไหนบ้างละเนี่ย ...”
“วันแรกว่าจะไปเกาะเต่า ...เสร็จแล้วนั่งเรือกลับจากเกาะเต่า แวะที่ เกาะพงัน แล้วพักที่เกาะพงัน คืนหนึ่งแล้วก็กลับมา ตอนเช้า บ่ายๆ ก็ส่งขึ้นเครื่องกลับ”
“แน่ะ .. ไม่คิดอะไร แต่ วางแผนเที่ยวไว้เสร็จสรรพ ผู้ร้ายปากแข็งเจงๆ เจ้าเอก ....” พี่บราวน์ ก็ยังแหย่เอก พร้อมกับหัวเราะ อย่างสนุกสนาน
**************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-07-2007 21:09:54
บอกว่าไม่มีไรก็ไม่มีจิ
 :o10: :o10: :o10: :o10:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: Lucifer ที่ 18-07-2007 21:55:01
ม่ายช่าย ม่ายช่าย ไม่มีอะไรจริงๆ นะ   :-[ :-[
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 20-07-2007 10:20:48
 :o9:  :o9: แอบมาดู....แอบมาลุ้น..... :impress:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 20-07-2007 16:47:46

.............ขอหั้ยมีความสุขบนเกาะสวาทหาดสวรรค์........... :m2: :m2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-07-2007 22:13:39
หุหุ ปากแข็งรึเปล่าเอ่ย  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 21-07-2007 15:21:22
ตามมาแว้วววววว

เหอเหอ


เป็นกำลังใจให้ครับ

 :yeb:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update นิดหน่อย :P )
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 23-07-2007 08:34:02
:o9:  :o9: แอบมาดู....แอบมาลุ้น..... :impress:
พี่แสบ ลุ้นสุดตัว กะนิยายสั้นของผม .... ผมก็ช่วยลุ้นสุดตัวกะเรื่องจริงของพี่แสบกะยูยะซัง ด้วยเน้อ ...... :m12:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 23-07-2007 08:39:03
สายลมเอื่อยๆ ของทะเลยามค่ำคืนที่ริมหาดละไม แสงไฟสลัวจากคบเพลิงที่ร้านอาหารจุดวางไว้ตามจุดต่างๆ บริณเวณชายหาดหน้าร้าน เพื่อให้แขกในร้านมองเห็นน้ำทะเลกับคลื่นเล็ก ๆที่ซัดเข้าหาฝั่งอยู่เนือยๆ ...เสียงคลื่นกระทบฝั่ง เสียงลมทะเลที่พัดลู่ผ่านทางมะพร้าว เงารางของยอดมะพร้าวที่ลู่ไปตามลม กับแสงคบเพลิงที่สั่นระยิบตามแรงลม ส่งให้บรรยากาศภายในร้านดูสงบ สบายๆ และโรแมนติกสำหรับลูกค้าที่มาทานอาหารริมระเบียงของร้าน
เอกกับเคนเพิ่งมาถึงในร้าน พนักงานในร้าน เข้ามาต้อนรับ พาทั้งสองคนมานั่งที่ริมระเบียงในจุดที่มองเห็นชายหาดได้ชัด เอกรับเมนูจากพนักงานในร้านและส่งให้เคน เขารับอีกชุด พนักงานแจ้งสักครู่จะมารับออเดอร์ แล้วเดินจากไป
“...ร้านนี้บรรยากาศดีจังครับ เอก ...”
“ใช่ครับ ร้านนี้ผมกับเพื่อนๆ มาทานกันบ่อยๆ อาหารก็อร่อย ไม่ค่อยแพงมาก และของทะเลก็สด ร้านอยู่ติดทะเลด้วย เคนซังชอบไหมครับ”
เคนเงยหน้าขึ้นมามองเอก ยิ้มแล้วตอบ “ ....ชอบครับ ... ชอบมากด้วย” ปากบอกชอบร้าน แต่ตานั้นไม่ได้มองร้านเลย สายตาเขากลับจ้องมาที่เอก จนเอก รู้สึกเขิน ได้ แต่ หลบสายตา ก้มลงไปอ่านเมนู
อาหารพร้อมเสริฟ เอกสั่งอาหาร มา 2-3 อย่าง ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล ทั้งสองคนนั่งทานด้วยกัน คุยกันเรื่องต่างๆที่ผ่านมา เอก เล่าเรื่องชีวิตที่สมุยให้เคนฟัง ดูเขาจะสนใจเรื่องต่างๆ ท ี่เกิดขึ้น ส่วนเคนก็เล่าเรื่องที่เขาอยู่ที่กรุงเทพ ส่วนใหญ่ ชีวิตเขาก็มีแต่ทำงานกลับบ้าน และไปสังสรรค์ กับเพื่อนๆ ที่ เดอะมิกซ์ บ้าง แล้วก็ไม่ได้ ไปไหน เขาบอกเอกว่า ทุกครั้งที่ไป เดอะมิกซ์ เขาจะรอจเอเอกตลอด แต่ก็ไม่เคยเจอเลย .... ทุกเรื่องที่คุย เคนไม่เคยเอ่ยถามถึงเลสลี่ เลย เอกก็เช่นกัน เขาไม่อยากรี้อความหลัง มาพูด ... เหมือนกับเคนจะรู้ เขาจึงไม่เคยถามเลย
“เอกจะพาผมไปเที่ยวที่ไหนบ้างครับ”
“เคนซังชอบดำน้ำใช่ไหมครับ  แต่เป็นแค่ สน็อคเกิลนะครับ ผมไม่ได้จองสคูบ้าไว้  ...”
“ใช่ครับ .... เอกจำได้ ดีใจจัง แล้วไปที่ไหนครับ” เขาทำหน้าดีใจทำตากรุ้มกริ่มมองเอก เพราะเอกจดจำสิ่งที่เขาบอกได้
“เกาะเต่าครับ ... เราไปกันตอนเช้า เสร็จแล้วตอนบ่ายขากลับ แวะลงที่เกาะพงัน แล้วนั่งเรือหางยาวไปที่หาดท้องนายปาน แล้วพักที่นั่น แล้วเช้าอีกวันก็กลับ” เอกอธิบายแผนการเดินทาง
“ดีจัง .... วันเดียวได้เที่ยว 2 เกาะเลย....แถมได้ไปเที่ยวกับเอกด้วย ขอบคุณนะครับ”
สองคนนั่งทานอาหารด้วย ต่างคนต่าง เทคแคร์ กันและกัน เอก หมั่นเติมน้ำที่พร่องแก้วให้ ตักกับข้าวให้เคน เคนก็ทำเช่นเดียวกันกับเอก เหมือนกับช่วงเวลานี้มีเพียงแค่เขา 2 คน เสียงเพลงคลาสิคในร้าน เปิดคลอเบาๆ แสงไฟสลัวๆ เงารางๆ ที่สั่นไหวไปตามลมของคบไฟที่ริมหาด ก็ยังเต้นระยิบเป็นเงาเหมือนวิ่งเล่นอยู่บนหาดทราย เสียงคลื่นกระทบฝั่งเริ่มดังขึ้น ลมทะเลก็เริ่มจะแรงขึ้น แต่ก็ไม่ได้ทำลายบรรยากาศส่วนตัวของทั้งสองได้เลย
ระหว่างทางกลับบ้านเคนจอดรถแวะที่เนินลาดเกาะจุดชมวิวจุดหนึ่งที่มองเห็นหาดเฉวงตลอดแนว จุดชมวิวยามกลางคืน ดูสวยงามไม่น้อย ไฟระยิบหลากสีประดับประดาเรียงไปตามชายหาด โรงแรมริมหาดแต่ละโรงแรมก็จะจัดโต๊ะดินเนอร์ให้แขกในโรงแรมและลูกค้าได้ดินเนอร์ ริมหาดกันอย่างใกล้ชิดที่สุด ผืนทะเลเบื้องหน้า แม้จะมองไม่เห็นแต่ดูเหมือนผืนผ้าใบสีดำผืนใหญ่ ที่ประดับไปด้วยมุกสวยหลากสีระยิบรับที่ริมขอบผ้าไล่ไปตั้งแต่ต้นหาดเฉวงน้อยไปจนสุดหาดเฉวงใหญ่ เสียงเพลงหลาหหลายแนวลอยมาตามลมให้ได้ยินเบาๆ เอกกับเคนยืนอยู่ที่ศาลาตรงจุดชมวิว เสียงรถวิ่งผ่านไปมาตรงถนน ไม่ได้ทำลายความสวยงามที่อยู่ตรงหน้าได้เลย
“สวยจัง .... ทะเลเนี่ยดูเวลาไหนก็สวยนะครับ”  เอกพูดขึ้นหลังจากยืนเงียบอยู่นาน
“ครับ ... ผมถึงได้ชอบทะเลไงครับเอก”
... เอกกำลังปล่อยใจไปกับความสวยงามของทะเลเบื้องหน้า ..จู่ๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงลมหายใจของใครบางคนที่ข้างแก้ม พร้อมๆ กับสัมผัสของปลายจมูกและริมฝีปากบนแก้มของเขา ... เอกสะดุ้ง หันไปมองเจ้าของสัมผัสนั้น ...
“เคนซัง” เขาก้าวถอยออกมาจากเคน ใบหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นระรัว เพราะโกรธ หรือ เพราะอาย หรือ เพราะอะไร เอกแยกแยะไม่ได้ในตอนนั้น
“ Sukida เอกซัง” .. คำพูดของเคน จะไม่มีความหมายเลย หาก เอกไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น เอกเคยเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นมาบ้างเขาจึงรู้ดีว่า ที่เคนซังพูดนั้น หมายถึงอะไร
“เคนซัง .... ผม ....” เอกยังคงพูดอะไรไม่ออก เขายังตกใจ สับสน และตื่นเต้นระคนกันไปกับสิงที่เกิดขึ้น มือข้างขวายังจับอยู่ที่แก้มที่โดนโขมยจุมพิตไป
“ Sukida ....เอกรู้ความหมายคำนี้ ใช่ไหมครับ ผมพูดออกมาจากใจจริง มันไม่เร็วไปหรอกสำหรับผม เพราะผมรอที่จะบอกเอกมานานแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอเอกที่ เดอะมิกซ์แล้วครับ แต่ตอนนั้นผมบอกไม่ได้ เพราะอะไร ผมกับเอกรู้ดีอยู่แล้ว ... แต่ตอนนี้ ผมอยู่กับเอกตรงนี้ ผมมีโอกาสได้บอกแล้ว ...”
“เคนซัง ....” เอกยังคงได้แต่เรียกชื่อของคนที่เพิ่งจะบอกว่าชอบเขา เพราะเขาไม่รู้จะบอกความรู้สึกอย่างไรดี
..........แสงไฟจากรถที่วิ่งผ่านจุดที่ทั้งสองยืนอยู่สาดเข้ามาทำให้เห็นใบหน้าและแววตาที่มุ่งมั่นของเคนส่งมาที่เอก ส่วนเอกนั้น ดูเขาสับสน หน้าแดงเพราะยังคงเขินอายกับสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น ความรักเข้าจู่โจมเขารวดเร็วเหลือเกิน เขาพร้อมที่อ้าแขนรับมัน หรือว่า เขาจะปฏิเสธมันดี

*----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------*
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 23-07-2007 11:32:00
เมื่อถึงคราวที่เราจะได้ทำตามที่หัวใจปรารถนา
เปิดรับมันอย่างกล้าหาญ แต่รับรู้และอยู่กับมันอย่างมีสติ
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 23-07-2007 11:44:11

..........ของบางอย่างมาเร็วจนเราอาจจะตั้งตัวไม่ทัน.........

..........ฉะนั้นจงอยู่กับมันอย่างมีสติและเข้าใจ........ o7 o7
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 23-07-2007 11:52:42
 :o7: คุณน้องจับกดเรยคับบบบบบบบบบบ    :sad4:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-07-2007 14:12:38
บางครั้งความผิดหวังครั้งก่อนจะทำให้ปฏิเสธรักครั้งใหม่ได้ มันต้องใช้เวลา  :m1:

-------------------------------------------------------------------------------

ปี้แสบเปงราย ทำไมต้องฟูมฟายขนาดนั้น รึเพ่ก็จับยูยะกดมะได้  :m14:


ไปแระเดี๋ยวโดนตืบ  :m7:  :m7:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 23-07-2007 14:53:20
 o9 เบื่อคนรู้ทัน...... o9
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/23Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: aumzaa ที่ 23-07-2007 15:50:39
เปิดใจตัวเอง....
..แล้วก็ลองถามใจตัวเองดูสิครับ.....
 :interest: :interest: :interest:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/24Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 24-07-2007 07:55:37
.... “ว่าไงน้องเอก ... เก็บกระเป๋า เตรียมไป Honey Moon หรือยัง”  เสียงพี่บราวน์ แหย่เอกตั้งแต่ยังไม่เดินเข้ามาในห้อง
“น่าอิจฉา จริงๆ  มาไม่ทันไร  Go inter  ไปซะละ กรูอยู่มาตั้งนาน ยังไม่ทันมีอะไรให้ชื่นใจได้เหมือนน้องมันเล้ย” ...
พี่บราวน์ มานั่งข้างๆ ขณะที่เอกกำลังง่วนเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า
“พี่บราวน์ น่ะ ... ยังไม่เลิกแหย่ผมอีก ... ชวนไปด้วยก็ไม่ไป .. เดี๋ยวพี่ๆ เขาก็ล้อเอกกันหมด สนามบินหรอก” เอกพูดแก้เขินพลางลุกเดินไป หยิบของเพิ่มจาก ตู้เสื้อผ้า
“จะมาอายทำไม ดีซะอีก จะได้รู้ว่า เมิงขายออกแล้ว .... 55555”
“พี่บราวน์ นะ พี่บราวน์ ...จำไว้ อย่าให้ถึงทีน้องบ้างละกัน จะล้อให้เข็ดเลย ....”
“แล้วพี่จะรอวันนั้นนะน้อง ... นอนเอาแรงเถอะ พรุ่งนี้ ต้องไปรับศึกหนัก แต่เช้าไม่ใช่เรอะ .. ไปละ เข้ามาแซว แล้วเราก็จากไป .... 5555” แล้วพี่บราวนื ก็เดินออกจากห้องปล่อยให้เอก นั่งอมยิ้มกับคำพูดล้อเลียนของพี่บราวน์ อยู่ในห้องเพียงลำพัง
“ ... คงไม่มีอะไรหรอกน่าเอก ... แกแค่ไปเที่ยวกับเขานะ .... แล้วจะมาคิดมากอะไรละเนี่ย” ... เอกรำพึงอยู่กับตัวเอง พลันใจก็นึกไปถึงคืนที่ลาดเกาะ เขายกมือขึ้นจับแก้มข้างที่โดนเคนซังโขมยจุมพิต เอกขำอยู่อยู่ในลำคอ .... “ไอ้บ้า เอก .. แกคิดไรของแกอยู่เนี่ย” ... เขาจัดของเรียบร้อย ก่อนจะล้มตัวลงนอน ก็ได้ยินเสียง โทรศัพท์ดัง เป็นเสียงเมสเซจเข้า .... เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วอมยิ้ม เพราะเจ้าของ SMS ไม่ใช่ใคร เป็นเคนซังนั่นเอง ... “oysumi krab” ....
“oyasumi ja”  เขาส่งตอบกลับไป เปิดข้อความอ่านอีกครั้ง ความรู้สึกมันแปลกๆ มันมีทั้งสุข ทั้งกังวล แขาพยายามจะไม่คิดถึงว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไป เพราะเขาไม่อยากคาดหวังอะไรแล้วทั้งนั้น
“.. ไปเที่ยว เอก ไปเที่ยว อย่าคิดถึงเรื่องอื่น ...นอนได้แล้ว” ...แสงไฟดับลงทุกอย่างรอบตัวมืดสนิท แต่ภายนอกยังคงมีเสียงคลื่นทะเลอยู่เนือยๆ เสียงต้นไม้หน้าบ้านที่ลู่ไปตาามลม เป็นเหมืองเสียงเพลงกล่อมให้เอกหลับไปอย่างมีความสุข

........

“เคนจิซัง .... ตื่นหรือยังครับ” เอกถามคนที่อยู่ปลายสาย เขาโทรหาเคนหลังจากตื่นนอน และเก็บของเตรียมออกจากห้อง เขาต้องไปที่โรงแรมที่เคนพัอยู่ เพราะรถของทัวร์ที่จองไว้จะไปรับที่นั่น
“ตื่นแล้วครับ เอกมาได้เลยครับ ผมรออยู่นะ”
“ครับ mata na”
“ ครับ เจอกันครับ” เคนตอบกลับเป็นภาษาไทย เอกนึกในใจ เออ ตลกดี เราคนไทยแท้ๆ แต่คุยกับเขาก็ไทยคำญี่ปุ่นคำทั้งๆ ที่ภาษาญี่ปุ่นก็ใช่ว่าจะเก่งนักหนา แต่เขา คนญี่ปุ่น (ครึ่งหนึ่ง) แต่เขากลับพูดไทย ... ตกลงจะคุยกันภาษาอะไรดีเนี่ย ....

เอกมาถึงโรงแรมแล้ว เขาเดินตรงไปที่ห้องอาหารริมทะเล เพราะ เคนรอเขาอยู่ที่นั่น ห้องอาหารริมทะเลแบบเปิดโล่ง ที่จัดเตรียมอาหารเช้าไว้สำหรับแขกในโรงแรม จัดดูกะทัดรัดน่ารัก เป็นบุฟฟเต์ นานาชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ แขกทุกชาติก็ทานได้ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ แขกยังมาทานอาหารเช้าไม่มากนัก เอก เห็น เคนนั่งอยู่ โต๊ะ ริมสระ เช้านี้ดูเคนสดชื่นเป็นพิเศษ เขานั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือพิมพ์ กรอบเช้า ที่ทางโรงแรมจัดไว้ เอกเดินไปใกล้ๆ ได้ยินเสียงเขา ฮัมเพลงเบาๆ  ... 
“อรุณสวัสดิ์ครับเคนซัง.... หลับสบายดีใช่ไหมครับ” เอก นั่งลงตรงข้ามเขาพร้อมกับทักทายเคนอีกครั้ง
เคนละสายตาจากหนังสือพิมพ์ พับเก็บไว้ที่เก้าอี้ข้าง “สบายมากเลยครับ เตียงนุ่มมากๆ ครับ แต่เสียดาย นอนคนเดียว ....” พูดเสร็จก็ทำตากรุ้มกริมใส่เอก
เอกรู้สึกเขินขึ้นมาทันที ... โดนรุกแต่เช้าเลย แต่เขาก็ยังยิ้มสู้  “ ... แหม แหย่ผมแต่เช้าเลยนะครับ เคนซัง ...”เอกทำท่าค้อน
“อะไรเหรอครับ “ เคนทำหน้าเหลอหรา แกล้งทำเป็นไม่รู้ว่า เอกหมายถึงอะไร
.... “ทานอะไรหรือยังครับ ผมไปเอากาแฟมาให้ไหม”
“ขอบคุณมากครับ เคนซัง  ผมไม่ทานกาแฟ  ... อีกอย่างผมดื่มนมมาแล้ว ครับ” เอกบอกปัด เพราะไม่อยากให้เคนวุ่นวาย
“ครับผม ... แล้วรถมากี่โมง”
“นัดไว้ตอน 7โมงเช้า เดี๋ยวก็คงมาครับ เขาคงรับแขกจากโรงแรมอื่นด้วย สักพักคงมาถึง”
...เอกหันไปมองทะเลที่อยู่ตรงหน้า มีคนเดินเล่นอยู่บนหาดบ้าง บางคนก็ลงไปเล่นทะเลตั้งแต่เช้า บ้างก็วิ่งอกกำลงักายอยู่บนหาดทราย บางคนก็ มานอนอาบแสงแดดยามเช้า อ่านหนังสือ อยู่บนเก้าอีชายหาดหน้าโรงแรม .... ทะเล ช่างเป็นที่สร้างความสุขให้กับคนที่มาเยียมชมพบเห็นจริงๆ  ... เห็นจะจริงที่เขาว่ากันว่า สมุยนั้นเป็นเกาะในฝันที่หลายคนอยากมาเที่ยวมาพัก บางคนต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล มาที่นี่ทุกปี เมื่อมีวันหยุดพักผ่อน หลายโรงแรมจะมี รีเทิร์นเกสต์ เยอะมาก จึงไม่แปลกที่ใครต่อใครก็อยากมาที่นี่  ....
“คิดถึงใครอยุ่เหรอครับ” เสียงของเคนดึงเอกกลับมาจากโลกส่วนตัวของเขา
“ ... เอ่อ ..เปล่าครับ คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ... ไม่รู้ทำให้เคนซังเบื่อหรือ เปล่า ผมไม่ค่อยได้คุยกับเคนเลย ชอบนั่งเงียบเป็นประจำ ....”
“ไม่เบื่อหรอก ครับ ... อยู่กับเอกน่ะ ผมไม่มีวันเบื่ออยู่แล้ว..” เคนก็ยังไม่วายที่จะหยอดคำหวานใส่เอกเช่นเคย ..
“ .. ขอบคุณนะครับ ... รอนี่แป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมเดินไปดูที่หน้าโรงแรมก่อนว่า รถมาหรือยัง”
“ผมไปด้วย ...จะไปหยิบกระเป๋าที่ห้อง”
“โอเคครับ งั้นไปกัน”
เคนลุกขึ้นเดินเข้าหาเอก เคนตัวสูงกว่า เอกเล็กน้อย จึงไม่ยากที่เขาจะดึงเอกเข้ามาใกล้ และเดินโอบใหล่เอกเอาไว้ สองคนเดินกันไป เหมือนพี่น้องเดินกอดคอกัน เคนก้มหน้ามองเอก แล้วแอบยิ้ม ....

------------
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/24Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-07-2007 08:40:41
มาแรงและเร็ว
 :impress2: :impress2: :impress2:
แต่ขัดกับโบราณท่านว่า
ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
 :o :o :o :o
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/24Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 24-07-2007 11:37:29
เข้าหื่นตามปี้แสบ

 :m10:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่3 update/24Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 24-07-2007 11:55:44

...........เจออย่างนี้ก็คงใจอ่อนเหมือนกัน.......... :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 25-07-2007 18:33:10
4.

 

เด็กหนุ่มสองคนยืนกอดคอกันอยู่หน้าทางเข้าวัด อะซะคุสะ โดยไม่ได้สนใจคนรอบข้างว่าจะมองพวกเขาอย่างไร วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุด ผู้คนเลยหนาตากว่าทุกวัน และที่นี่ก็ยังเป็นย่านช็อปปิ้งแหล่งของฝากอีกด้วย หน้าทางเข้าวัดจะมีประตูขนาดใหญ่ แขวนด้วยโคมแดงขนาดยักษ์ คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า ประตู คามินาริมอน ย่านนี้เป็นย่านท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของโตเกียว โบรชัวร์ท่องเที่ยวญี่ปุ่นและโปรแกรมทัวร์ โตเกียวจะต้องมีวัดแห่งนี้อยู่ในโปรแกรมด้วยเสมอ จึงไม่แปลกที่จะมีผู้มาเยี่ยมเยียนอยู่ไม่ขาด

“คนเยอะจังเลย เคนจิคุง”

“วันหยุดก็อย่างนี้แหละ เราอยากให้ทาคุได้ออกมาเปิดหูเปิดตาด้วย ชอบถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ เปลี่ยนสถานที่ถ่ายรูปบ้างไง จะได้ไม่เบื่อ”

“อึ้ม ...ก็จริงนะ ...งั้น รอตรงนี้ เดี๋ยวเดียวนะ เราขอไปถ่ายรูปตรงนั้นก่อน” เด็กหนุ่มพูดพลางเอามือของอีกคนออกจากไหล่ ดึงเป้จากข้างหลังเพื่อหยิบกล้องโพลารอยด์ที่เขาพกมา

เด็กหนุ่มอีกคนยืนมองไม่ละสายตา คงเพราะกลัวว่าจะพลัดหลงกัน

“เคนจิคุง ...มาถ่ายรูปกัน” เด็กหนุ่มเข้าไปดึงตัวเคนจิให้เข้ามาถ่ายรูปด้วยกัน

“คุณน้าครับ รบกวนด้วยครับ” เด็กหนุ่มเข้าไปขอหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งที่เดินผ่านมาเพื่อให้เขาถ่ายรูปให้ เขาอธิบายวิธีการใช้ บอกที่กดชัตเตอร์ แล้วโค้งขอบคุณ วิ่งกลับมาที่ เคนจิ ยืนอยู่

“เคนจิคุง มองกล้องสิ ... คุณน้าเขาจะถ่ายรูปแล้ว” เด็กหนุ่มเอามือจับหน้าเคนจิเพื่อให้หันหน้ามาทางกล้อง

“แชะ...” แล้วคุณน้าคนนั้นก็กดชัตเตอร์ ได้ตอนที่เคนจิหันมาพอดี

 

******

 

หยดน้ำที่กระเซ็นเข้ามาในเรือจากแรงกระแทกของลำเรือกับคลื่นทะเลที่ชัดเข้ามา ดึงเคนจากภาพในอดีต เขาหันไปมองคนที่นั่งข้างๆ เขา

“ทาคุคุง”เขารำพึงเบาๆ

“..หือ...เมื่อกี้เคนจังพูดอะไรนะครับ ...”เอกหันไปถามเพราะเขาได้ยินเคนพึมพำพำอะไรบางอย่าง

“นานิโมไน่ ... ไม่มีอะไรครับ” เขายิ้มให้เอก แล้วหลบตามองไปข้างหน้า

เรือ สปีดโบ๊ทยังคงวิ่งไปข้างหน้า โต้กับคลื่นทะเลที่ซัดเข้ามา ลูกทัวร์ที่นั่งอยู่หน้าเรือต่างก็เปียกปอน เพราะละอองน้ำที่กระเด็นเข้ามาในเรือ วันนี้ คลื่นค่อนข้างแรง แต่ก็ไม่น่ากลัวนัก ลูกทัวร์ แต่ละคนกลับดูสนุกสนานไปกับมันด้วยซ้ำ

“ท่าทางพวกเขาสนุกกันดีนะครับ”

“นั่นนะสิ ... เอกไม่ลองไปนั่งข้างหน้ากับพวกเขาดูล่ะครับ”

“ไม่ละครับ นั่งตรงนี้ดีแล้ว เดี๋ยวเปียกหมด ...”

“กลัวเปียกทำไม เดี๋ยวก็ต้องลงน้ำไปดำน้ำอยู่แล้ว”

เคนหันมามองที่เอก ใบหน้ายิ้ม ทุกครั้งที่เคนยิ้มให้เขา เอกจะหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มนั้นทุกที เสน่ห์ของเคนอยู่ที่รอยยิ้มนี่เองที่ทำให้กหัวใจของเอก เริ่มเอนเอียงมาที่เขา

เสียง ลำเรือกระแทกกับคลื่นที่ซัดเข้ามาอีกครั้ง น้ำทะเลกระเด็นเข้ามาในตัวเรือ  เคนรู้สึกได้ถึงความเย็นของน้ำที่กระเด้นเข้ามา ทั้งผมและหน้าของเขา เปียกปอน เพราะน้ำระลอกใหญ่กระเด็นเข้ามา

“เฮ้ย! เปียกจนได้”

“ฮะ ฮะๆ เคนซังเปียกหมดเลย “ เอกหัวเราะพลางหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าให้เคน

“อาริงาโตะ...”  เคนยิ้มและจับมือเอกไว้ขณะที่เขาเช็ดหน้าให้

สองคนนั่งมองหน้ากัน แล้วหัวเราะ..... ... เสียงหัวเราะของพวกเขา ที่คนอื่นจะได้ยินนั้น พวกเขาก็คงไม่รู้ว่า ความสุขที่ทั้งสองได้หัวเราะออกมานั้นมันมีมากมายเพียงใด .....

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 25-07-2007 18:35:03
...ฝากไว้ถึงตอน 4 ต้นๆ ก่อนนะครับ ลูกเป็ดลาพักร้อน 5 วัน กลับมาอีกทีวันที่ 30 ค้าบ แล้วจะมาต่อเรื่องให้เน้อ ....  :m13:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 25-07-2007 18:47:08
อย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย
 :m5: :m5: :m5:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-07-2007 20:26:16
ลูกเป็ดหนีไปเที่ยว อย่าลืมของฝากหนา

 :m7: :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 26-07-2007 15:37:14

.........เก็บเกี่ยวความสุขต่อไป........... :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-07-2007 20:40:16
รับทราบจ้า จะรอน้า  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 27-07-2007 16:35:49
 :a4:  เข้ามาทำเนียนรอของฝาก....... :a11: :a10: :a3: :a2: :a6:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/25Jul07)
เริ่มหัวข้อโดย: aumzaa ที่ 30-07-2007 15:51:02
 :a11: :a11: :a11:



มามั่งรอด้วยคนครับ





[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 9aug)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 09-08-2007 23:18:13
มาต่อให้แล้วนะค้าบ ขอโทษจริงๆ ช่วงนี้งานค่อนข้างยุ่ง แต่ก็จะพยายามมาต่อให้รื่อยๆ นะค้าบ คิดถึงทุกคนจังเยย โดยฌฉพาะ พี่แสบ หุหุ ......
 :m29:


******
“เคนจิคุง .... ทำอะไรอยู่น่ะ” ทาคุยะ แอบเข้ามา ในห้องของ เคนจิ ตั้งใจจะทำให้ เขาตกใจเล่น แต่ เคนจิ กลับไม่ตกใจเลยสักนิด เคนจิ กลับดึงตัวทาคุยะเข้ามาแล้วทุ่ม ทาคุยะลงบนที่นอน แล้วทิ้งตัวลงล็อคทาคุยะไว้แบบมวยปล้ำ
“ปล่อย....เคนจิคุงชอบแกล้งเรา ....”
“อ้าว ก็อยากมาแกล้ง เราก่อนทำไมล่ะ” เคนจิ ยังคงนอนล็อคทาคุยะอยู่อย่างนั้น
“โอเคๆ ยอมแพ้ ปล่อยเถอะ หนักจะแย่ นอนทับอยู่ได้”
“ไม่ปล่อย ... จะล็อคทาคุไว้อย่างนี้ไม่ปล่อยไปไหนเลย” ว่าแล้ว เคนจิยิ่งล็อคทาคุยะแน่นมากขึ้นกว่าเดิม   
“ทาคุคุง....ปล่อยเราเถอะ ...นะ เหนื่อยแล้ว...”ทาคุยะทำเสียงอ้อน
“อ่ะ ...ก็ได้ ..ไม่หนุกเลยอ่ะ ทาคุ ไม่ยอมสู้เราเลย ...” เคนจิ บ่นเสียงอุอิบพร้อมกับคลายมือออกจากทาคุ แต่ยังคงกอดเขาไว้หลวมๆ
“อ้าว ... แล้วไม่ปล่อยเราละ กอดไว้ทำไม ...” ทาคุยะถาม แต่ก็ไม่ได้ ขัดขืนหรือ จะทำตัวให้หลุดจากอ้อมกอดนั้น
“ก็เรายังไม่อยากปล่อย ....ขอนอนอยู่แบบนี้แป๊บนะ” เคนจิ นอนกอดทาคุไว้อย่างนั้นใบหน้าของเขาแนบอยู่กับหลังของทาคุยะ
“เมื่อกี้ เคนจิคุง นั่งดูอะไรอยู่เหรอ”
“ดูรูปเราสมัยเด็กๆ น่ะ...ดูแล้วคิดถึงตอนสมัยเด็กๆ นะ ทำไมเราต้องโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยก็ไม่รู้”
“พูดอะไรแปลกๆ นะเคนจิคุงเนี่ย ... ปล่อยเราได้แล้ว ไม่เมื่อยหรือไง” ทาคุยะเบี่ยงตัวเพื่อให้หลุดออกจากอ้อมกอดของ เคนจิ
“...ก็เราไม่อยากโต เราอยากเป็นเด็ก จะได้วิ่งเล่น สนุกๆ กับทาคุไปเรื่อยๆ ไม่ต้องโต ไม่ต้องทำงาน สนุกจะตาย...”
“ขี้เกียจนี่เอง คนเราก็ต้องโต กันทั้งนั้นแหละเคนจิคุงเดี๋ยวพอโตนะ เคนจิคุงไปเจอสาวๆ ขี้เกียจจะจีบสาวๆ แล้วลืมเรื่องสมัยเด็กๆ ไปเลย”
“เราไม่มีวันลืมหรอก เราจะลืมทาคุได้ยังไง”
“แล้วเราจะคอยดู....ว่าเคนจิคุงจะลืมเราหรือเปล่า...ไหน เอารูปมาดูสิ” ทาคุยะพูดพลางเอื้อมมือไปหยิบอัลบั้มรูปบนโต๊ะมาดู เคนจิคุง ลุกขึ้นนั่งบนเตียง เขานั่งอยู่ด้านหลังของทาคุยะ ยื่นหน้ามาเกยไหล่ของทาคุยะไว้ ....
“เคนจิคุงเนี่ย ทำตัวเหมือนเด็กเลย ...ไม่ต้องมาทำตัวอ้อนเลย ..มานั่งดีๆ หนักนะเนี่ย” ทาคุยะทำเสียงค้อน แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีปัดป้องแต่อย่างใด
“เราชอบนั่งแบบนี้ สบายดี อย่าบ่นน่า.. 555 ดูรูปนี้สิ  ทาคุยะตัวเปี๊ยกเดียว ใส่กางเกงว่ายน้ำสีเขียวปี๋ เลย รูปนี้ตอนเราไปเที่ยวทะเลกันใช่ไหม ... “
“อืม ใช่ๆ อยากไปอีกจังเลย”
“งั้น ..ไปกัน วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ดีไหม” เคนจิเสนอ
“ไปกับใครล่ะ เคนจิคุง”
“ก็ไปกับเราไง ไปกัน 2 คน ..ไปนะๆ”
“พ่อจะให้ไปรึเปล่าน้า”
“ให้ไปสิ คุณน้า เขาอนุญาตอยู่แล้ว ...เดี๋ยวเราขอให้”
“ตามใจ เคนจิคุงละกัน....” ทาคุยะพูด แล้วหันมายิ้มให้กับเคนจิ
“เย้...ไปทะเลๆ ....” เคนจิร้องดีใจ ลุกขึ้นกระโดดไปมาบนเตียง ส่วนทาคุยะก็นั่งยิ้มกับอาการดีใจที่เหมือนเด็กๆ ของเคนจิคุง ... เวลาที่เคนจิอยู่กับเขา เคนจิมักจะทำตัวเหมือนเด็กเล็กๆ อ้อนเขาอยู่เสมอ แต่ถ้าอยู่ข้างนอก เคนจิจะคอยปกป้องและเป็นเหมือนพี่ชายของเขา
“มองอะไรเล่า ทาคุ ...ไม่ต้องมามองเลย นี่มากระโดดด้วยกันเร็ว” เคนจิพูด แล้วก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่ทาคุยะเหมือนเด็กๆ

**************

“เคนซัง.... นั่งทำอะไรอยู่ ลงมาทางนี้เร็วๆ ตรงนี้ปะการังสวยมากๆ เลย” เอกเรียกเคนขณะที่เขากำลังนั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่บนโขดหินของ อ่าวม่วงที่เรือท่องเที่ยวไปจอดให้ลูกทัวร์ ได้ดำน้ำดูปะการังกัน
“ครับ เดี๋ยวผมตามลงไปครับ ว่ายน้ำระวังด้วยนะ” เคนบอกเอก พร้อมกับค่อยๆหย่อนตัวเองลงน้ำ เขาค่อยๆ ว่ายน้ำเข้ามาใกล้ๆ เอก และ ดำน้ำลงไปดุปะการังพร้อมๆ กับเอก
“เคนซังมาดูทางนี้ครับ ปลาเต็มเลย อ่ะนี่ ขนมปัง ปลามันจะได้เข้ามาใกล้ๆ” เอกดูร่าเริง และสนุกสนานเหมือนเด็กๆ ยิ่งเคนเห็นท่าทางของเอกที่ร่าเริง สนุกสนาน ยิ่งทำให้เขานึกถึงภาพอดีตวัยเด็กของเขากับทาคุยะ เอกช่างเหมือนกับทาคุยะเหลือเกิน เขายังตกใจกับความบังเอิญนี้ ตั้งแต่วันแรกที่เขาเจอกับเอก แล้วเขายังมาได้เจอกับเอกในที่ที่เขาไม่คาดติดอีกด้วย โชคชะตาช่างล้อเล่นกับเขาเหลือเกิน
“เคนซัง ...ทางนี้ครับ”
เคนค่อยๆว่ายน้ำเข้าไปหาเอกจากทางด้านหลัง  เอกไม่ได้ตั้งตัวเพราะเขามัวแต่เพลิดเพลินและสนใจกับฝูงปลาที่อยู่ตรงหน้า เคนค่อยๆ ลอยตัวไปใกล้เอก และกอดเอกจากทางด้านหลัง เอกสะดุ้งตกใจ กำลังจะผละออกจากอ้อมกอดนั้น แต่ก็ไม่ทันความเร็วของเคนที่ โอบรัดเขาไว้แน่นมากขึ้น สองกายแนบชิดเอกใจเต้นรัว เคนก็เช่นกัน
“เคนซัง ... เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เอกกลัวคนอื่จะมาเห็น แต่เขาก็ไม่ได้ขัดขืนอ้อมกอดนั้นเลย
เคนปลี่ยนมากอดเอกจากทางด้านหน้า เขาค่อยเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของเอก ทำท่าเหมือนจะจูบ แต่เพียงใค่ใช้ปลายขมูกแตะกับปลายจมูกของคนที่อยู่ตรงหน้า
“เอกซัง ... suki yo ..”
“wakaru”  เอกตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นกลับไป คำตอบนั้นทำให้ เคนยิ้ม  เอกแก้เขินด้วยการ ปัดน้ำใส่เคน แล้วผละจากอ้อมกอดของเขา ว่ายน้ำออกไปอีกด้าน เคนจิว่ายตามไป สองคนเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยไม่ได้สนใจ คนรอบข้างว่าจะมาองพวกเขาอย่างไร เพราะนี่คือเวลาแห่งความสุขของพวกเขา
หลังจากดำน้ำดูปะการังที่อ่าวม่วงแล้ว เรือก็พาลูกทัวร์ ไปที่เกาะเต่า เพื่อทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารริมหาด เสร็จแล้วก็พาลูกทัวร์ขึ้นเรือเพื่อมุ่งหน้าสู่ เกาะนางยวน  เมื่อเรือเทียบท่าของเกาะ ผู้ดูแลประกาศบอกว่าทุกคนมีเวลพักผ่อนบนเกาะนางยวนจนถึง บ่ายสามโมง เพราะที่เกาะนางยวนเป็นจุดสุดท้ายของทัวร์แล้ว ทุกคนสามรถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ วันนี้ที่เกาะยังมีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก อาจจะเพราะยังไม่มีเรือลำอื่นมาจอดเทียบท่า ที่เกาะนางยวน จะไม่มีมีบ้านเรือนของชาวเกาะ เพราะ เป็นเกาะสัมปทานห้ามสร้างที่อยู่อาศัย มี เพียง รีสอร์ทอยู่ รีสอร์ทเดียวที่ซื้อสมัปทานได้ และเป็นโรงแรมที่พักที่ผูกขาดเพียงแห่งเดียวของเกาะนี้ ทางเดินเชื่อมต่อจากท่าเรือไปสู่ด้านในของเกาะ ทำด้วยไม้ เป็นสะพานไม้ยาวไปจนถึงหาดในเกาะ  เอกกับเคนเดินไปด้วยกัน เอกหยุดถ่ายรูปตามที่ต่างๆ ที่เขาชอบ เคนมองเอกไม่วางตาในใจคิดถึง ทาคุยะเวลาที่เขายกกล้องขึ้นถ่ายรูป เหมือนกับคนๆ เดียวกันที่อยุ่ต่างที่ต่างเวลาเท่านั้นเอง เวลาเขามองเอก ก็เหมือนมองทาคุยะ อดีตของเขาหวนกลับมาให้เขาคิดถึงได้อีกครั้ง

**********************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 9aug)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 10-08-2007 16:36:57
 :m12: ลุ้นฉากเรท....เมือไหร่จะจูบกับแบบมี  tongue action โคตรดูดดื่มซะที...

น้องลูกเป็ดครับ....อย่าอายสิครับ....ใส่ลงไปเลย....เอาให้พี่แสบเกร็งไปทั้งตัวเลย... :m10: 

ปล. บอกแต่คนอื่น เรื่องพี่ ไอ้เรื่องซาวน่าอะไรนั่นนะ  พี่ก้ไม่กล้าลงเหมือนกัน

มันเขิลๆยังไงชอบกล.... :m26: +1 ให้นะ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 9aug)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-08-2007 16:06:21

..........คนของอดีต.........คนของปัจจุบัน.........ทดแทนกันได้ไหม...... o7 o7
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 9aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 13-08-2007 21:41:10
อย่าให้เป็นตัวแทนใครเลย
เพราะถ้าเขาคนนั้นกลับมา เราจะต้องเจ็บอีกครั้งหรือ
 :a6: :a6: :a6:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 17aug)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 17-08-2007 18:30:14
... ..เรือสปีดโบ๊ทกำลังแล่นออกจากฝั่ง เคนจินั่งอยู่ในนั้น เขากอดบางอย่างไว้แน่น ประหนึ่งว่ากลัวสิ่งนั้นจะหล่นหายไปจากเขา ดวงตาของเขายังแดงช้ำ และเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาที่ไหลอกมาเป็นสายปลิวไปแรงลมที่พัดปะทะใบหน้าของเขา  ตอนนี้ ถ้าทำได้เขาต้องการจะปลิวไปกับสายลมแล้วหายไปจากโลกนี้ เพราะคนที่เขารักที่สุดได้จากเขาไปแล้ว เคนจิยังคงกอดโถเถ้ากระดูกของทาคุยะไว้แน่น เขาทำตามสัญญาของทาคุยะว่าหลังจากปิดเทอมฤดูร้อน แล้วจะพาทาคุยะกลับมาที่ทะเลที่พวกเขาเคยมาเมื่อตอนยังเด็ก แต่เคนจิไม่คิดว่า เขาจะต้องพาทาคุยะมาในสภาพแบบนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนทั้งเขาและครอบครัวของทาคุยะตั้งตัวไม่ทัน อุบัติเหตุได้พรากชีวิตของทาคุยะไปจากเคนจิ และคนที่รักเขาอีกหลายคน ทั้งหมู่บ้านต่างก็พากันเสียใจ เพราะทาคุยะเป็นเด็กน่ารัก และมีอัธยาศัยดีกับทุกๆคน คนที่ขับรถชนเขาช่างใจร้ายนัก ที่ทำให้เขาต้องจากโลกนี้ไปอย่างไม่ใยดี แม้ตำรวจจะรับปากอย่างแข็งขันว่าจะจับตัวคนที่พรากชีวิตของทาคุยะมาลงโทษให้ได้ แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อทาคุยะได้จากไปโดยไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว แม้เคนจิจะเจ็บแค้นมากแค่ไหน เขาก็คงหาตัวคนใจร้ายคนนั้นไม่ได้ เคนจิไม่เคยห่างจากทาคุยะเลยแม้ในตอนก่อนที่จะเขาจากไป ทาคุยะยังคงบอกกับเคนจิว่าอยากไปทะเลอีกครั้ง เคนจิทำตามสัญญาแล้ว แต่มันช่างเป็นการกลับมาอย่างปวดร้าวเหลือเกิน

“จอดตรงนี้ก็ได้ครับ” เคนจิบอกคนขับเรือให้จอดเรือหลังจากที่เรือแล่นออกจากฝั่งได้ไกลพอสมควร วันนี้ ทะเลสงบนิ่ง เหมือนกับ ความรู้สึกของเคนจิที่หยุดนิ่งไปตั้งแต่ ทาคุยะจากไป  เรือยังคงลอยคว้างอยู่กลางทะเล เคนจิเดินออกไปที่หัวเรือ เขาปีนขึ้นไปบนนั้น มือข้างหนึ่งยังคงโอบกอดโถเถ้ากระดูกของทาคุยะไว้แน่น เคนจิมองไปข้างหน้า มองเห็นชายหาดที่เขาพึ่งนั่งเรือออกมาอยูลิบๆ เขาเห็นเงารางๆ ของเด็กสองคนกำลังวิ่งเล่นกันอยู่บนหาดนั้น พลันให้คิดถึง เมื่อตอนเขายังเด็กที่เขาและทาคุยะมาวิ่งเล่นกันบนหาดนี้ ทาคุยจะขอขี่หลังเขาเสมอ

.... “เคนจิคุง แข็งแรงมากเลยนะ แบกเราได้ไม่เคยบ่นเลย”

“เรายอมให้นายขี่หลังได้คนเดียว แหละ นายตัวเบาแค่นี้เอง เราแบกไหวอยู่แล้ว”  เคนจิแบกทาคุยะไว้บนหลังอย่างนั้น แล้ววิ่งลงทะเล

“เคนจิคุงทำอะไร ไม่ลงทะเล ว๊ากๆๆๆๆ”  ทั้งสองคนถูกคลื่นทะเลขนาดย่อมซัดจนเปียกปอน ทั้งสองต่างนอนกลิ้งเกลือกอยู่บนหาดทราย หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

แสงอาทิตย์ ยามเย็นส่องประกายเป็นสีทองอร่าม ทั้งสองยังคงนอนแหงนมองฟ้า อยู่บนหาดนั้น

“สวยจังเลย นะเคนจิคุง” ทาคุยะพูดขึ้น

“อะไรสวยเหรอ ทาคุ”

“ท้องฟ้าไง ดูสิเป็นสีทองสวยจัง .... เราอยากเห็นท้องฟ้าแบบนี้ไปตลอดจังเลย...นอนมองดูท้องฟ้าแบบนี้ เหมือนเราเป็นหาดทรายที่รับได้แสงอันอบอุ่นจากดวงอาทิตย์เลยนะ”

“ทาคุคุงพูดอะไร เราไม่เห็นจะรู้เรื่อง”  เคนจิ พูดไปคงเพราะเขายังเด็ก เลยไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดนั้น

“ถ้าอยากเห็นนานๆ ทาคุก็ถ่ายรูปสิ ถ่ายรูปเก็บไว้ดูไง ....” เคนจิเสนอความเห็น

“นั่นสิ งั้นไปเอากล้องคุณพ่อมาถ่ายรูปกันเถอะ” ทาคุยะพูดพลางลุกขึ้นปัดทรายออกจากตัวแล้วก้มลงมอง เคนจิที่ยังคงนอนมองทาคุยะอยู่ ทาคุยะยื่นมือออกไป เหมือนกับรู้ว่า เคนจิต้องการอะไร เคนจิยื่นมามาจับมือทาคุยะแล้วลุกขึ้น เขามองทาคุยะแล้วยิ้ม ... “ไปเร็ว เดี่ยวพระอาทิตย์ตกก่อน ใครถึงที่ห้องก่อน คนนั้นจะได้ถ่ายรูปท้องฟ้านะ”

“อย่างนี้เราก็แพ้สิ ... เคนจิคุงวิ่งเร็วกว่าเรา”

“พูดมากน่า ลองดูเร็ว เอ้า เริ่มนะ 1 2 3 วิ่ง” เงาของทั้งสองเริ่มวิ่งห่างออกไปจากชายหาดจนลับตา

เคนจิยกโถนั้นขี้นมา เขาประทับริมฝีปากกับโถนั้น แล้วกอดไว้แนบอกอีกครั้ง น้ำตายังคงไม่หยุดไหล ที่เขากอดไว้นั้นควรจะเป็นทาคุยะ ไม่ใช่แค่เถ้ากระดูกแบบนี้  เคนจิค่อยๆ เปิดฝาโถออก สายลมพัดแรงขึ้น เขาค่อยๆ บรรจงเทเถ้ากระดูกของทาคุยะ ออกจากโถ สายลมที่พัดผ่านมา พัดพาเอาเถ้าของทาคุยะปลิวหายไปกับท้องทะเลเบื้องหน้า

“ซาโยนาระ .. ทาคุคุง.... เราสัญญา ว่าจะมีชีวิตที่มีความสุขเพื่อนาย เราจะใช้เวลาที่มีอยู่เพื่อนาย  เราจะคิดถึงนายทุกวัน”

เคนจิยืนเงียบอยู่อย่างนั้น ตามองเหม่อกับทะเลข้างหน้า เหมือนว่าเขารอให้ใครสักคนปรากฎกายมาให้เจอ แต่ก็ไม่มีใคร เขาร้องไห้อีกแล้ว ความเงียบรอบกาย กับสิ่งที่เพิ่งปลิวหายจากไปไม่มีวันหวนกลับ ทำให้เขาต้องเจ็บปวด เคนจิ กอดโถไว้แน่นประหนึ่งว่ามันคือสิ่งเดียวที่เขายึดเหนี่ยวไว้ได้  เรือค่อยๆ เคลื่อนตัวกลับเข้าสู่ชายฝั่ง เคนจิยังคงนั่งกอดโถใบนั้น ร้องไห้คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว

*****************************

“เคนซัง ... มาถ่ายรูปด้วยกันครับ” เอกยืนโบกมือเรียกให้เคนมาถ่ายรูป เขามัวแต่เดินถ่ายรูปเพลินจนลืมสังเกตไปว่าเคนไม่ได้เดินตามเขามาด้วย  เอกจัดแจงดึงขาตั้งกล้องออกมา เขาต่อเข้ากับตัวกล้อง แล้ววางลงที่พื้น ก้มลงดูที่กล้องเพื่อปรับโฟกัสของรูป

“เคนซัง ยืนอยู่ตรงนั้นนะครับ เดี๋ยวผมวิ่งไปถ่ายรูปด้วย ...เอาละนะ” เขากดปุ่มชัตเตอร์ แล้วรีบวิ่งไปที่เคน

เอกวิ่งไปยืนข้างๆ เคน เขาหันไปยิ้มให้เคน มองไปที่กล้องเขายังยิ้มอยู่อย่างนั้น เคนเอื้อมมือมาโอบไหล่เขาไว้จนกระทั่งไฟกระพริบเวลาของกล้องดับลง เอกวิ่งมาที่กล้อง ดูรูปแล้วอมยิ้ม รูปของเขากับเคนซัง ที่ยืนเคียงข้างกัน รอยยิ้มแบบเขินๆ ของเคนดูแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ คงเพราะเขินที่ต้องถ่ายรูป แล้วยังแอบโอบไหล่เขาอีกด้วย

“คาวาอิจัง” เอกบอกกับเคน

เอกเดินถ่ายรูปบริเวณรอบๆ เคนก็เดินตามเป็นเงาไม่ห่าง ทั้งสองเดินเรื่อนมาจนถึงทางเชื่อมระหว่างเกาะ เป็นสันทรายสีขาวโพลน และมีเศษปะการังที่ถูกน้ำทะเลพัดเข้ามาเกยหาดปะปนอยู่ เกาะเล็กๆ อีกเกาะข้างหน้า เป็น ที่ตั้งของโรงแรมและวิวพอยน์ ที่สวยที่สุดที่หนึ่งจองเกาะนางยวน เอกชวนเคนเดินขึ้นไปที่วิวพอยน์ ทั้งสองเดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่โรงแรมได้ทำไว้ให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์รอบเกาะ เอกหยุดถ่ายรูปเป็นระยะ ๆบางครั้งเขาก็ขอให้เคนถ่ายรูปให้ บางครั้งก็ถ่ายด้วยกัน บางครั้งก็แอบถ่ายรูปเคนยามเขาเผลอ ทางเดินที่ลาดชันไม่ได้ทำให้ทั้งสองรู้สึกเหนื่อยล้าเลย เพราะความสุขที่ได้เดินข้างๆ กัน เดินจับมือกันขึ้นไปบนยอดเกาะ ทั้งสองค่อยๆ ปีนขึ้นมาจนถึงยอดเกาะ ภาพที่อยู่ตรงหน้ายิ่งทำให้พวกเขาหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ท้องทะเลสีฟ้าคราม ล้อมรอบเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่มีสันทรายสีขาวเชื่อมต่อติดกันเป็นทางเดินตรงกลางระหว่างเกาะ  ตรงกลางมีอ่าวเล็กๆ เหมือนสระว่ายน้ำสีเขียวมรกตตัดกับสีฟ้าครามของทะเลรอบนอก ทั้งสองยืนดึ่มด่ำกับความงามของทิวทัศน์เบื้องหน้า เคนยังคงจับมือเอกไม่ยอมปล่อย เขาค่อยๆ ดึงตัวเอกเข้ามาใกล้ๆ เขาโอบเอกไว้จากทางด้านหลัง ค่อยเลื่อนใบหน้าเข้าชิดกับใบหน้าของเอก เขายืนกอดเอกอยู่นาน ทั้งสองยืนอยู่อย่างนั้นปราศจากคำพูดใดๆ แต่ทั้งสองต่างก็สัมผัสได้ถึงไออุ่นของกันและกัน เสียงพูดคุยกันเข้ามาใกล้ที่ที่ทั้งสองยืนอยู่ เคนคลายการกอดจากเอกแล้วเปลี่ยนมาจับมือแทน ทั้งสองค่อยๆ ปีนลงจากจุดวิวพอยน์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ได้ขึ้นไปดูบ้าง 

“ที่นี่สวยมากเลยนะครับ ขอบคุณเอกมาก ที่พาผมมาเห็นสิ่งสวยงามแบบนี้” เคนพูดขึ้นหลังจากที่เงียบมานาน เขายังคงจับมือเอกไว้ไม่ยอมปล่อย เอกไม่ตอบแต่หันมายิ้มให้เขา และยังคงจับมือกับเคนอยู่เช่นกัน สองคนจับมือคู่กันไป เดินไปยังชายหาด     *************************

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 17aug)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 17-08-2007 18:31:37
....ขอบคุณสำหรับ โหวตของทุกๆ คน ขอบคุณค้าบ ... แล้วจารีบมาต่ออีกค้าบ ...
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 17aug)
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 19-08-2007 14:03:39
 :a4: :a4: :a4:  ลุ้นๆๆๆๆๆ อิอิอิ :m9: :m9:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่4/Update 17aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-08-2007 02:20:59
หาดทรายใต้แสงอาทิตย์
 :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่5..../Update 27aug)
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 24-08-2007 07:56:29
5 .

เรือหางยาวลำเล็ก แล่นฝ่าคลื่นทะเลเป็นระลอกดูน่าหวาดเสียว แต่คนขับเรือก็เชี่ยวทะเล และชำนาญเส้นทาง ทำให้เอกกับเคนไม่ค่อยรู้สึกตื่นกลัวมากนัก เรือกำลังมุ่งหน้าไปยังอ่าวท้องนายปานเกาะพงัน พวกเขาลงจากเรือสปีดโบ๊ทที่ท่าท้องศาลาแล้วเหมาเรือหางยาว เพื่อไปยังอีกด้านของเกาะพงัน เพราะหากขับรถเองกว่าจะถึงคงค่ำ เพราะยังไม่ชำนาญเส้นทาง แดดยามบ่ายยังคงร้อนแรง แต่ก็ทำให้ผืนทะเลดูสวยงาม เป็นประกายเหมือนเรือแล่นอยู่บนผืนอัญมณีสีฟ้าครามทั้งสองยังคงนั่งจับมือกันไม่ยอมปล่อย หัวใจทั้งสองเริ่มเบิ่งบานด้วยความสุข เอกเริ่มเปิดใจที่จะรับเคน เข้ามาไว้ในความรู้สึกของเขา ก็ไม่แปลกที่เขาจะยอมรับเคน ความบังเอิญ ความใกล้ชิด และควน่ารักของเคน หากใครได้อยู่ใกล้ ก็ต้องชอบเขาแน่นอน ในใจลึกของเอก ก็ยังคงกังวลใจกับความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้น แต่นั่นมันก็ไม่สำคัญแล้ว เพราะตอนนี้เขามีความสุขกับคนที่อยู่ข้างๆ เขา อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นไม่มีใครรู้ได้ อยู่ที่ว่าเขาจะเก็บเกี่ยวความสุขไว้ได้มากน้อย และนานแค่ไหน  ถึงมันจะผิดหวัง หรือไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ แต่อย่างน้อย เขาก็ได้มีโอกาสพบกับความสุขกับความรัก เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่กลัวที่จะเปิดใจรับเคนเข้ามาไว้ในใจ เมื่อความรักวิ่งเข้าหา แล้วเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องปฏิเสธมัน เอกคงจับมือเคนไม่ปล่อย เขากำมือของเคนแน่นขึ้น เคนรู้สึกได้ จึงค่อยๆ ขยับตัวมาใกล้ เขาโอบเอกจากด้านหลัง เอกค่อยๆ เอนตัวลงมาพิงที่ตัวของ เคน ตอนนี้เขาอยู่ในอ้อมกอดของเคน

เรือแล่นอ้อมไปอีกด้านของเกาะ จนกระทั่งเริ่มมองเห็นชายหาดอยู่ตรงหน้า ผ่านอ่าวท้องนายปานใหญ่ แล่นผ่านแหลมหินขนาดเล็ก แล้วเรือก็เริ่มชะลอความเร็วลง เพื่อเตรียมเข้าเทียบฝั่งอ่าวท้องนายปานน้อย ที่หาดจะไม่มีท่าเรือ เอกจ่ายค่าเรือให้กับคนขับเรือกล่าวขอบคุณ เสร็จแล้วเก็บกระเป๋าเตรียมลงจากเรือ พวกเขาจะต้องลุยทะเลเดินขึ้นชายหาด เพราะเรือจอดใกล้หาดมากไม่ได้ ที่ชายหาดมีนักท่องเที่ยวพักผ่อนอยู่มากโข เพราะอากาศดีแดดแรง บ้างก็นอนอาบแดด บ้างก้ เล่นฟุตลอลชายหาด บ้างก็พายเรือคายัค อีกด้าน ก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน นักท่องเที่ยวที่หาดนี้ส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ หาดท้องนายปานน้อยเป็นหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบ มี โรงแรม บังกะโลอยู่ไม่กี่เจ้าที่เปิดให้บริการที่นี่ ที่หาดจึงคล้ายๆ เป็นหาดส่วนตัว พวกเขาเดินลุยทะเลขึ้นมาที่ชายหาด มุ่งหน้าสู่รีสอร์ท ท้องนายปานรีสอร์ท เอกเข้าไปติดต่อขอกุญแจห้องพัก หลังจาก  Check-in แล้ว เจ้าหน้าโรงแรมก็พาที่ห้องพัก ห้องพักของรีสอร์ทที่นี่ จะแบ่งเป็นหลังๆ เป็นบ้านแยกเดี่ยวแต่ละหลัง หลังละ 1 ห้อง ด้านหน้ามีระเบียงและ ชุดโต๊ะสำหรับนั่งเล่นหน้าบ้าน ห้องนอนเป็นเตียงเดี่ยว เอกคิดไม่ถึงว่าห้องพักจะเป็นแบบเตียงเดี่ยว เขาลืมเรื่องนี้ไปเลย เพราะ เขาคิดว่าจะมีห้องเตียงคู่ แต่รีสอร์ที่เขาพักไม่มี เลยจำใจต้องใช้ห้องเตียงเดี่ยว นี่เขาต้องนอนเตียงเดียวกันกับเคนซัง

“เอก แกมาเที่ยวนะ อย่าคิดมาก”  เอกคิดในใจ เขาแอบเห็น เคนยิ้มไม่ยอมหุบ ดูท่าทางเคนจะไม่ได้ ตื่นตกใจกับการต้องนองเตียงเดียวกันกับเอกเลย

“ดีจัง ห้องเป็นเตียงเดี่ยว วันนี้ผมได้นอนกอดเอกแล้ว” เคนพูดล้อเอก 

เอกเแก้เขินด้วยการชกที่แขนเคนเบาๆ เขา หลบไปที่ตู้ ด้านในสุดของห้องเพื่อเก็บกระเป๋า เขาค่อยหยิบของออกมาทีละชิ้น จนกระทั่งเขาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ก้นกระเป๋า เป็นห่อกระดาษเล็กๆเขียนชื่อเขาไว้ เอกแกะมันออกมาดู พอเขาเห็นสิ่งที่อยู่ในห่อนั้น เขาต้องรีบทิ้งมันลงกระเป๋าทันที ที่กระดาษเขียนเป็นลายมือบอกเอกว่า

“ถึงน้องเอก พี่มีของขวัญวันออกไปเที่ยวให้น้องนะ  I know you can make it สุ้ๆ พิชิต หนุ่มแดนปลาดิบให้ได้นะ :p จาก พี่บราวน์”  เอกพับเก็บกระดาษนั้น พยายามนึกว่าพี่เขาเอามาใส่ไว้ตอนไหน พอนึกได้ เขา ส่ายหัว อมยิ้ม กับความขี้เล่นของพี่บราวน์ ที่แอบแกล้งเขาไม่ให้รู้ตัว

“คิดได้ไงเนี่ย พี่บราวน์ ทำน้องแสบนัก กลับไปนะ .... ต้องเคลียร์ ซะหน่อยแล้ว” เอกบ่นอุบอิบ อยู่คนเดียว เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เคนแอบยืนมองเขาอยู่ด้านหลัง เขาค่อยโน้มตัวลงมาใกล้เอก แล้วกระซิบที่ข้างหู

“เขาก็ทำดีแล้วนี่ครับ ฮิฮิ” พูดจบ เคนก็ โขมยหอมแก้มเอกอีกครั้ง เอกนั่งหน้าแดงด้วยความอาย อายทั้งเคนที่แอบเห็น ถุงยางที่พี่บราวน์แอบใส่มา อายทั้งโดนโขมยหอมแก้ม เขาไม่รู้จะทำไง นึกบ่นว่าพี่บราวน์อยู่ในใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนเคน ก็นั่งยิ้มอย่างผู้มีชัยอยู่ข้างๆ มือก็ ยีหัวเอกเล่นเบา ๆ พร้อมกับหัวเราะ

*************************

พลบค่ำทั้งสองออกไปเดินที่ริมชายหาด ไม่มีแดดแล้ว แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยว อยู่ เต็มริมหาด บางส่วนก็ยังเล่นน้ำกันอยู่ บ้างก็นั่งเล่น จับกลุ่มกันอยู่ที่ริมหาด บางคนนั่งเล่นกีตาร์อยู่ที่บังกะโลริมหาด เสียงกีตาร์ แว่วเป็นเพลงมาตามลม ฟ้ายามเย็นดูสวยงาม กลุ่มเมฆบางๆ บดบังแสงอาทิตย์ที่กำลังจะคล้อยลับขอบฟ้า เหมือนผืนผ้าใบสีขาวขนาดใหญ่ที่ถูกแสงไฟสาดส่องผ่านมา เหมือนจอหนังจอใหญ่ที่ มีตัวหนังเป็นเมฆกลุ่มก้อนรูปร่างต่างๆ อยู่ผืนผ้าใบนั้น เอกยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเก็บ ไว้ เคนเดินนำหน้าไปก่อน หลังจากเอกถ่ายรูปเสร็จ เขามองไปที่เคน แล้วอมยิ้ม เหมือนคิดอะไรได้ เขายกกล้องขึ้นถ่ายรูปเคนจากด้านหลัง เขาก้มลงมองที่ภาพในกล้องแล้วอมยิ้ม เก็บกล้องแล้วเดินตามเคนไป เขาค่อยๆ ย่องไปทางด้านหลังกระโดดขึ้นขี่หลังเคน เคนรับเขาไว้ได้ เขายืนทรงตัวอยู่สักพัก จัดแจงท่าทางที่ถนัด แล้วเขาก็เริ่มวิ่ง เอกร้องเสียงหลง เพราะเคนวิ่งไปทำท่าจะทุ่มเขาลงพื้นไป ทั้งสองหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน

วิ่งเล่นกันจนเหนื่อยแล้ว ทั้งสองก็มานั่งที่โขดหินที่อยู่ปลายสุดของหาด ดูพระอาทิตย์ ลับขอบฟ้า เอกนั่งอยู่ด้านหน้าของเคน ส่วนเคนก็โอบเอกไว้จากทางด้านหลัง เอกซบลงที่ไหล่ของเคน หน้าผากของเอกอยู่ในระดับที่เคนสามารถประทับจูบได้ มือทั้งสองเกาะกุมกันไว้ เอกรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจของเคนที่เต้นอยู่จากด้านหลัง ลมหายใจอุ่นๆ ที่รดรินหน้าผากของเขาทำให้เขารู้สึกอบอุ่นใจ ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของเคน ทำให้เขารู้สึกอยู่ภายใต้การปกป้องจากใครสักคน

“ทะเลยามเย็นนี่ ดูที่ไหนก็สวยนะครับ”  เอกพูดขึ้น เขายังคงซบไหล่ เคนอยู่อย่างนั้น มือก็ลูบแขนของเคนไปมา ช้าๆ อย่างอ่อนโยน เคนจูบเอกที่หน้าผากเป็นการตอบรับ เขายังคงเงียบไม่พูดอะไร เหมือนกับคิดถึงใครบางคนอยู่

“เคยมีคนๆ หนึ่งเขาก็ชอบทะเลยามเย็นแบบเอก เหมือนกันครับ” เคนบอกกับเอกหลังจากที่ทั้งสองอยู่ในความเงียบมานาน ฟ้าเริ่มมืดขึ้น พระอาทิตย์ ลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่พวกเขายังนั่นอยู่ตรงนั้น

“ทาคุ ใช่ไหมครับ” เอกพูดขึ้นมาลอย เหมือนกับเขารอโอกาสที่จะถามถึงตัวตนของคนๆ นี้ เพราะ เขารู้ดีว่า สาเหตุที่ทำให้ เคนเหม่อลอย ตอนที่เที่ยวกับเขาอยู่บ่อยๆนั้นเพราะเขาต้องนึกถึงใครสักคนอยู่ เคนเงียบไปชั่วขณะ เขาไม่คิดว่าเอกจะรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาได้ ที่เขานึกถึงทาคุทุกครั้ง

“เอกรู้ได้ยังไงครับ” 

“ผมจำได้ตอนที่ เคนซังพูดตอนที่อยู่ในเรือ จำได้ไหมครับ ที่ผมถามว่า เคนซังพูดอะไรกับผม จริงๆ แล้วผมได้ยิน แต่ผมไม่อยากเซ้าซี้ เคนซังครับ เพราะมันคือเรื่องส่วนตัวของเคนซัง เคนซังจะคิดถึงใครผมก็ไม่ว่าอะไรครับ”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับเอก  ... .. ผมไม่ได้ตั้งใจจะเป็นแบบนี้ แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นเอก ผมก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเขา เพราะเอกเหมือนกับเขามาก เหมือนกันแทบจะทุกอย่างเลย”

“แต่ผมก็ไม่ใช่ทาคุนะครับ  เอกก็ยังเป็นเอก ไม่ใช่ทาคุ”  เอกพูดน้ำเสียงราบเรียบ เคนเดาไม่ได้เลยว่า อารมณ์ ของเอกตอนนี้ เป็นอย่างไร จะโกรธเขาหรือเปล่าที่จู่ๆ เขาก็มาคิดถึงอดีตที่ผ่านมาแล้ว

“ผมขอโทษครับเอก” เคนกอดเอก แน่นมากขึ้นเหมือนเขากลัวว่า เอกจะหลุดจากอ้อมกอดของเขาไป ความกลัวการสูญเสียเข้ามาคุกคามจิตสำนึกเขาทันทีที่เอกพูดชื่อทาคุขึ้นมา

“ขอโทษอะไร ผมหรือครับ เคนซังไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อย”

“ก็ผม ...คิดถึงคนอื่น ทั้งๆ ที่อยู่กับเอก” เคนพูดเสียงสั่นเครือ

“โถ ... คิดมากไปได้ครับ เคนซังคิดถึงใครผมห้ามไม่ได้หรอกครับ คนๆนั้นเขาอาจมีความสำคัญกับ เคนซัง ผมจะไปโกรธทำไม ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดถึงใครก็ได้ที่สำคัญต่อเรา ผมไม่รู้หรอกนะ ว่า ทาคุเขาคือใคร แต่ผม เชื่อว่า เขาต้องเป็นคนที่สำคัญกับ เคนซัง เคนซังเป็นคนดี เคนซังคิดถึงเขา เขาก็น่าจะเป็นคนดี แล้วเคนซังก็ยังบอกว่า ผมเหมือนกับเขา นั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดี เพราะนั่นหมายถึงว่า ผมก็เหมือนคนๆ หนึ่งที่สำคัญต่อเคนซัง ....” พูดจบ เอกก็เงยหน้าขึ้นไปมองเคน สองคนตาประสานกัน เคนก้มลงจูบที่หน้าผากเขาอีกครั้ง

“...Arigato … เอกคุง .... คือเรื่อง ของทาคุ....” ไม่ทันที่จะพูดต่อ เคนก็ยังไม่สามารถเอ่ยคำพูดใดได้ เพราะ เอามือมาจับที่ปากเขาไว้ เป็นการบอกว่า เขาไม่จำเป็นต้องอธิบาย เคน จับมือของเอกแน่น เลื่อนมือออกจากปากของเขา

“ผมอยากบอก เอกครับ ...ผมยินดีที่จะเล่าเรื่องของเขาให้เอกฟัง เอกจะได้เข้าใจ..”

“ได้ครับ...อ่ะ เล่ามาสิ” เอกทำตาแป๋ว เตรียมตัวตั้งใจฟัง เคนมองเอกอย่างเอ็นดู เขาก้มลงไปจูบหน้าผากของเอกอีกครั้ง

“ทาคุยะ คือเพื่อนสนิทที่ผมรักมาก เราโตมาด้วย บ้านเราอยู่ติดกัน พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนกัน เราเรียนที่เดียวกัน ห้องเดียวกัน ผมกับเขาเป็นเหมือนพี่น้องกัน ทาคุยะ ชอบถ่ายรูป เขาชอบทะเล เราไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ  ตอนนั้นผมยังเด็กผมยังไม่รู้หรอกว่า ผมรักเขา จนกระทั่งเรียน มปลาย ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกตัวเองว่า ผมไม่อยากให้เขาไปไหน ไม่อยากให้เขาใกล้ใคร เวลาที่เขาไปไหนมาไหนกับสาวๆ ผมจะรู้สึกหวง และห่วง แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก ผมอยากให้เขารู้ว่าผม รู้สึกอย่างไร ....แต่....”

เคนเงียบไป เอกรู้สึกได้ว่าเคนกำลังเสียใจ เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเคน เอกครัง เคนหันกลับมาที่เขาเช่นเดียวกัน ทั้งสองรู้สึกได้ถึงลมหายใจของกันและกัน เคนค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าใกล้เอกมากขึ้น เอกยังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งริมฝีปากของทั้งสองบรรจบกัน สัมผัสริมฝีปากทั้งสองยังบรรจบกันอยู่อย่างนั้น เอกค่อยๆ เลื่อนใบหน้าออกจากเคน แต่เคนรั้งไว้ เขา โน้มเอกมากอดรัดไว้ เอกโอบกอดเขาเป็นการตอบรับความรู้สึก

“ถ้าเคนซังลำบากใจที่จะพูด หรือพูดแล้วมันทำให้เคนซังเสียใจ ไม่ต้องแล้วก็ได้ครับ ผมไม่อยากเห็นเคนซังเศร้า” ทั้งสองยังคงกอดกันอยู่อย่างนั้น

“ทาคุยะ เขาไม่อยู่แล้วครับ ... ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้บอกรักเขา เขาจากผมไป ตั้งแต่ผมเรียนอยู่ม.ปลายแล้วครับ ... สาเหตุที่ผมชอบทะเลก็เพราะ ทาคุยะเขาอยู่ที่นี่ เขาจะอยู่ในทะเลทุกๆที่ เพราะ ผมได้เทเถ้ากระดูกของเขาลงในทะเลไปแล้ว ทุครั้งที่ผมมองทะเล ผมก็จะเห็นเขา ผมีความสุขที่เขายังไม่จากผมไปไหนในความทรงจำ ผมจึงมีความสุขที่ผมได้อยู่กับเอกตอนนี้ไงครับ”

เอกคลายการกอดจากเคน เปลี่ยนมาเป็น จับที่มือทั้งสองข้างของ เคน เขามองหน้า เคน สายตาที่มองนั้น เอกก็ไม่รู้ได้ว่า เขารู้สึกอย่างไร ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียใจไปกับการสูญเสียของเคน แต่ใจหนึ่ง เขาก็รู้สึกน้อยใจกับการที่เคนมาชอบเขานั้นเพราะเขาเป็นเหมือนตัวแทนของใครคนหนึ่งที่เคนเคยรัก แต่ทำไมเขาต้องมาน้อยใจด้วยล่ะ ถึงแม้จะเป็นตัวแทนของใคร แต่คนที่เขามาแทนที่ก็ไม่อาจจะกลับมาได้แล้ว ตอนนี้ เขาทำให้เคนซังมีความสุขได้ เพราะเคนซังได้อยู่กับเขา มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว ... ความสุขของเอกตอนนี้ ก็คือการได้อยู่ กับ เคน แล้ว ทำไมเขาจะต้องมาทำลายความสุขของเขาด้วย เอกเลื่อนตัวเข้าไปใกล้เคน เขาค่อยๆ เลื่อนหน้าไปหอมแก้มของเคน

“เคนซัง .... ผมดีใจ ที่อย่างน้อยผมก็ทำให้เคนซังมีความสุขได้ แม้ผมจะเป็นเมหือนตัวแทนของใครคนหนึ่งที่เคนซังยังรักและคิดถึง ...แต่ผมก็ยังเป็นเอก ที่ ไม่ใช่ ทาคุยะ ...ผมเป็นตัวแทนใครไม่ได้หรอกครับ ที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้ ผมก็เป็นตัวของผมเองไม่ได้อยากจะมาเป็นตัวแทนของใคร .... ผมอยากจะทำให้เคนซังมีความสุขเพราะผมเป็นผม .... แต่ผมก้ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า ผมรู้ดีว่า เราลืมใครสักคนที่เรารักไม่ได้หรอก แต่ผมก็อยากเป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้เคนซังมีความสุขได้ ด้วยความที่ผมเป็นผมเอง ..... ...” เอกมองหน้าเคน แล้วยิ้ม เขาก้มหน้ามองพิ้น

“ผมพูดอะไรไปก็ไม่รู้ ไม่เห็นจะเข้าใจเลย ....” เคน ดึงตัวเอกเข้ามาใกล้ เขาจุบที่หน้าผาก เขากอดไว้อีกครั้ง

“ผม ชอบเอก  ก็เพราะ เอกเป็นตัวของเอกนั่นแหละครับ ... ผมยอมรับว่า ตั้งแต่เห็นเอกครั้งแรก เอกทำให้ผมนึกถึงทาคุยะ แต่นั่น ก็ไม่ได้หมายความว่า ผมอยากให้เอกมาแทนเขา เพราะ ผมก็ยังอยากเจอเอก อยากเห็นเอก เพียงแต่บางครั้ง สิ่งที่เอกเป็น เอกทำให้ผมนึกถึงเขาบางช่วงเวลาเท่านั้นเอง การที่ผมได้อยู่กับเอก ก็ทำให้มีความสุขเหมือนกันครับ ...ทาคุยะเขาคงดีใจ ที่ผมมีความสุขตอนนี้ และเขาคงดีใจมากขึ้น ที่คนที่ให้ผมมีความสุขก้เป็นคนที่มีอะไรคล้ายๆกันกับเขา”

เอกไม่ตอบอะไร และเคนก็ไม่พูดอะไรหลังจากนั้น แต่เขาทั้งสองก็ยังคงนั่งมองฟ้า เหนือผืนทะเล ที่ค่อยๆ ดับแสงสว่างลงเรื่อยๆ รอบตัวเริ่มปกคลุมด้วยความมีด .... .....

****************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่5..../Update 27aug)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 24-08-2007 11:38:40

..........เคนจัง....ทำไมน่ารักอย่างนี้........ :m3: :m3:

ป.ล....พี่บราวน์ทำได้ดีมาก........ :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** (ตอนที่5..../Update 27aug)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 27-08-2007 00:09:10
รักที่เราเป็นเรา จะได้ไม่ต้องมาบอกเสียใจภายหลัง
 :a2: :a2: :a2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** * จบ Season 1 ครับ ************
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 11-09-2007 16:33:21
หายไปนานมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ งานค่อนข้างยุ่งครับผม พอโผล่มาก็มาจบเรื่องซะต้งๆ คาๆ อย่างนั้น เอาเป็นว่า ขึ้น  Season 2 กลับมาแบบรวดเดียวเลยครับ  .....
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** * จบ Season 1 ครับ ************
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 11-09-2007 16:34:55
หลังจากเดินชมทะเลยามเย็นกันจนเหนื่อย และทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารของรีสอร์ทแล้ว ทั้งสองก็กลับเข้าห้องพัก เอกนั่งดูรูปถ่ายที่ถ่ายไว้ เคนแอบยืนอยู่ด้านหลัง แล้วก้มลงไปหอมแก้มเขา เอกหันไปยิ้มให้ แล้วก็หันกลับมาสนใจกับรูปในกล้องเป็นการแก้เขิน

“ผมไปอาบน้ำนะครับ”

“ตามสบายครับเคนซัง” เอกตอบกลับ แต่เขาก็ยังไม่ละสายตาไปจากการดูภาพถ่ายในกล้อง

“แหม ... อุตสาห์ บอกว่าจะไปอาบน้ำ นึกว่าจะไปอาบด้วยกัน ...” พูดเสร็จเคนก็หอมแก้ม เอกอีกครั้งก่อนรีบเดินจ้ำอ้าว เข้าไปในห้องน้ำ ปล่อยให้เอกนั่งเขินอยู่กับคำพูดที่เขาพูดล้อไว้

“...คนบ้า ...พูดอะไรก็ไม่รู้” เอกนึกในใจ แต่ก็แอบยิ้ม

.......

“oyasumi ครับเคนซัง” 

“ครับผม เหนื่อยแย่เลย พาผมเที่ยวทั้งวันเลยนะวันนี้ พักผ่อนเยอะๆ นะครับ ... Oyasumi ..”

เคนปิดไฟที่หัวเตียง แล้วค่อยเอนตัวลงนอน เขานอนตะแคงหันหน้ามาที่เอก สายตามองเอกอย่างอ่อนโยน เขาค่อยๆ เอื้อมมือจะไปจับที่แก้มของเอก แต่เขาก็ชะงักไว้ คงเพราะไม่อยากทำให้เอกตื่น เคนหลับตาลง โยที่เขาไม่รู้เลยว่า เอกนั้นก็แอบมองเขาอยู่อีกด้านเช่นกัน ......

 

...เอกรู้สึกเหมือนมีใครมากอดเขาไว้จากด้านหลังขณะที่นอนหลับอยู่ เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าเป็นเคน เคนค่อยๆ ดึงตัวเอกมากอดให้แน่นขึ้น ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เตียงเดียวกัน เคนจูบเขาที่ท้ายทอย อ้อมกอดของเคนเริ่มแน่นขึ้น เขากอดเอกอยู่นาน จนกระทั่งเอกเริ่มขยับตัว และหันหน้ามาหาเคน สองคนประสานสายตาในความมืด เคนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เอกรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของของเคน และเคนก็เช่นกัน เคนเริ่มก่อนด้วยการจุมพิตริมฝีปากของเอก และเอกก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เคน เริ่มพรมจูบไปทั่วใบหน้าของเอก อย่างช้าๆ และ ก็ยังคงกอดเอกอยู่อย่างนั้น เอก เริ่มกอดเคนตอบ เขาเริ่มปล่อยใจไปตามอารมณ์ แรงแห่งปรารถนา เคนเลื่อนจูบลงมาจนกระทั่งกลับมาจุมพิตเอกที่ริมฝีปากเขาอีกครั้ง จูบเริ่มนานขึ้น ปากทั้งสองแนบชิด เคนรุกหนักขึ้นด้วยการสอดลิ้นเข้าไป เอกตอบรับโดยอัตโนมัติ เขาปล่อยให้ลิ้นของเคนเข้าไปสัมผัสลิ้นของเขาอย่างง่ายดาย ทั้งสองจูบกันอย่างดูดดื่ม สัมผัสกอด แน่นแฟ้น ทั้งสองกอดก่าย และจูบกันอยู่อย่างนั้นอยู่เนิ่นนาน  นานพอที่จะปลดปล่อยความปรารถนาต่อกันที่เก็บกักไว้มานาน ภายใต้ผ้าห่มผืนนั้น ทั้งสองยังคงดำเนินบทรักต่อไป ท่ามกลางเสียงคลื่นลมทะเลภายนอกที่ยังคงซัดสาดทะเลเข้าหาหาดทรายอยู่เนีอยๆ ....

ความมืด เริ่มจางหาย แสงสว่างจากแสงอาทิตย์ เริ่มเข้ามาแทนที่ ลมทะเลยังคงพัดเอื่อยๆ  ยามเช้าของอีกวันเข้ามาแทนที่ ค่ำคืนที่แสนหวานของเอกและเคน เอกยังคงภายใต้อ้อมกอดของเคน เขารู้สึกตัวตื่นอยู่นานแล้ว เพียง แต่ยังไม่ลุกไปไหน เพราะ เขายังคงมีความสุขกับการอยู่ภายใต้อ้อมกอดของเคน เคนก็ตื่นแล้วเช่นกัน เขาทักทายเอก ด้วยจุมพิตที่ข้างแก้ม

“ Ohayo …” เอกทักทาย หลังจากได้รับจุมพิตจากเคน

“ Ohayo …” เคนตอบกลับ พร้อมกับก้มลงไปหอมแก้มเอกอีกครั้ง เขายังคงมองหน้าเอกด้วยแววตาที่อ่อนโยน เคนเอื้อมมือ ค่อยๆ สัมผัสที่ริมฝีปากของเอก เขาใช้นิ้วจิ้มจมูกเอกเล่นเบา ๆ ใบหน้ายังคงยิ้ม เปี่ยมไปด้วยความสุข ที่เขามีเอกอยู่ในอ้อมกอด สองคนยังคงหยอกล้อกันอยู่บนเตียง ประหนึ่ง เวลานี้มีเพียงเขาสองคน ........

เสียงโทรศัพท์มือถือของเคนดังขึ้น เคนไม่อยากลุกไปรับเพราะยังคงสนุกและมีความสุขกับการหยอกล้อเอกอยู่บนที่นอน แต่ เมื่อคนโทรยังคงไม่ลดละเอกจึงบอกเคนให้รับเพราะอาจจะมีเรื่องด่วนจาก กรุงเทพ เคนจึงเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มาพูดสาย

“สวัสดีครับ เคนจิครับ ..... Ah … Hai Kenji Desu”  เคนซังหันมาบอกเอกว่า เป็นสายจากคุณพ่อ เอกจึงบอกเขาตามสบาย เคนลุกจากที่นอน เดินไปคุยโทรศัพท์ ที่ระเบียงหน้าบ้านพัก เอกลุกจากเตียงเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ ในใจนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียว ... หลังจากทำธุระเสร็จเอกก็ออกมาเก็บของ เพื่อเตรียม เช็คเอาท์ และกลับสมุย วันนี้ เคนต้องกลับกรุงเทพแล้ว สองวันที่ผ่านมา เอกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เคน และเขามีความสุขกับสิ่งที่เขาตัดสินใจทำลงไป จากวันนี้จะเป็นยังไงเขาก็ไม่รู้ได้ เพราะหลังจาก เคนกลับไปแล้ว เขาก็ไม่รู้ เขาและเคนจะยังคงติดต่อกันอยู่หรือเปล่า แล้ว เคนจะรู้สึกอย่างไรกับเขา มันก็แล้วแต่โชคชะตาแล้ว

เคนเปิดประตูเข้ามา สีหน้าเขาดูเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่ร่าเริง กลับเปลี่ยนเป็นครุ่นคิด เอกสังเกตุเห็นได้ แต่เขาก็ยังไม่กล้าเอ่ยถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา

“เอกครับ ... ผมต้องกลับญี่ปุ่นวันพรุ่งนี้”

“มีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ ผมเห็นสีหน้าเคนซังดูไม่ดีเลย”

“คุณแม่ ผมป่วยครับ ผมต้องกลับไปดูใจท่าน”

“ถ้างั้น รีบไป check out เถอะครับ ผมจะได้ไปจองไฟลท์ที่เร็วที่สุดให้เคนซังได้กลับกรุงเทพ”

“...ขอโทษนะ ผมเลยทำให้ต้องรีบกลับเลย”

“อย่าห่วงเรื่องนั้นเลยครับ คุณแม่ของเคนซัง สำคัญกว่านะ”

เคน เดินมาใกล้ๆ เอก เขาดึงตัวเอกมากอดแน่น

“ขอบคุณนะครับ เอก .... คุณดีกับผมจริงๆ ผมอยากเจอคุณเร็วกว่านี้จริงๆ”

“เคนซัง ... จะเร็วจะช้าตอนนี้ เราก็ได้เจอกันแล้วนี่ครับ” เอกเงยหน้าขึ้นมามองเคน แล้วปลอบเขาไป

“แต่ได้เจอกันแล้ว ผมก็ต้องไปญี่ปุ่นแล้ว คิดว่าอย่างน้อยกลับกรุงเทพ ก็ยังได้คุยกับเอกบ่อยๆ หรือมาหาบ้าง แต่นี่ ผมต้องไปอยู่ไกลถึงญี่ปุ่น ...”

“จะไกลแค่ไหน ก็คุยกันได้ครับ .. เรายังมีโทรศัพท์ มี อีเมลล์ มี MSN คุยกันได้ อยู่แล้วครับ ...” เอกบอกเคนไป ทั้งๆ ที่เขาเองก็ใจหายที่จู่ๆ คนที่เพิ่งได้ใกล้ชิดกัน กลับจะต้องมาจากไปอยู่ไกล ไกลจนที่เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสจะได้เจอกันเมื่อไหร่

ตลอดทางที่นั่งเรือหางยาวกลับท่าเรือ  และ นั่งเรือกลับมาจากเกาะพงัน เคนไม่ยอม ห่างจากเอก เลย เขา จับมือ เอกไม่ยอมปล่อย สายตาที่มองเอกอย่างอาวรณ์ไม่อยากไป แต่เขาก็ต้องไป หลังจากถึงฝั่งที่เกาะสมุยแล้ว เอกพาเคนไปเก็บของและเช็คเอาท์ ที่โรงแรม ตลอดทางจากโรงแรมจนถึงสนามบิน เคนเงียบ และสีหน้าครุ่นคิดมาก เอกไม่รู้ว่า อาการป่วยของแม่เคนนั้นจะหนักแค่ไหน เขาอยากจะถามไถ่ แต่ก็ไม่กฃ้า เพราะ เขาไม่อยากไปตอกย้ำความกังวลให้มากกับเคนมากขึ้นไปกว่าเดิม เขาพยายามนั่งยิ้ม จับมือเคนไว้ เพื่อให้เคนได้รู้ว่า อย่างน้อยเคนก็ยังมีเขาอยู่ข้างๆ  จนกว่าเขาจะออกจากเกาะนี้ ... เอกจัดการเรื่องเปลี่ยนเที่ยวบินให้เคนเรียบร้อย และ ถือบอร์ดดิ้งพาสมาให้เขา  เคนรับไว้ด้วยใบหน้าที่เศร้าสร้อย ดูเขายังไม่อยากกลับไปเลย แต่เขาก็ต้องจากคนที่เขาอยากอยู่ใกล้ๆ ไปไกลเหลือเกิน

เสียงประกาศเรียกผู้โดยสารเที่ยวบินของเคน ประกาศเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องแล้ว เคนต้องเข้าไปในบอร์ดิ้งเกท ซึ่ง เอก เข้าไปด้วยไม่ได้แล้ว เอกกับเคนต้องยืนลากันตรงนั้น

“ผมไปก่อนนะ...ถึงกรุงเทพแล้วจะโทรหา”

“Take care นะครับ เคนซัง ... แล้วผมจะรอโทรศัพท์ เคนซังนะครับ”

... เครื่องเจ็ททะยานขึ้นฟ้าไปแล้ว ... หัวใจของเอกรู้สึกเคว้งคว้าง เหมือนกับมันทะยานไปกับไฟลท์ เจ็ทนั้นไปแล้ว ... เคนซัง กับ เขา ต่อไปจะเป็นยังไนะ ความรักครั้งใหม่ของเขา เพิ่งจะเรอ่มต้น แต่ทางเดินของมันกลับมาสะดุดเพราะระยะทางแบบนี้ ต่อไปจะเป็นอย่างไร

 

***************************************  End of  Season 1 **************************************

 

Synopis Season 2

 

เวลาผ่านไป 1 ปี ความสัมพันธ์ของเอกกับเคนยังเป็นเพียง อีเมล์ โทรศัพท์ และ MSN กิจการของเคนที่ญี่ปุ่นกำลังไปได้ดี และ เขางานค่อนข้างยุ่งขึ้นทุกวัน การติดต่อเริ่มขาดหาย แต่ เอกกับเคนก็ยังคงติดต่อกันอยู่ เอกวางแผนจะไปเยี่ยมเคนที่ญี่ปุ่น แต่เคนขอเลื่อนแผนการไปเยี่ยมของเอกไปก่อน เพราะกลัวไม่มีเวลาดูแล เอกทำเป้นยอมรับ แต่เขาไม่เปลี่ยนแผน และคิดจะไปเซอร์ไพรซ์ แล้วเอกก็ไปพบกับความจริงที่เคนไม่เคยบอกเขาเลยตลอด 1ปี ที่คบกัน เอกจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เขาไปเจอในต่างแดน

 

 

******************************************************************************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** * จบ Season 1 ครับ ************
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-09-2007 16:57:35


...........จบ season1 ซะและ........

...........หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องเศร้าใน season 2......... :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** * จบ Season 1 ครับ ************
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 11-09-2007 18:39:51
อ้างถึง
“ขอบคุณนะครับ เอก .... คุณดีกับผมจริงๆ ผมอยากเจอคุณเร็วกว่านี้จริงๆ”


เหมือนมีความหมายมากมายในประโยคดังกล่าว
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** * จบ Season 1 ครับ ************
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 14-09-2007 20:57:57
สนุกมากๆเลยคับ

โรแมนติกจังเลย





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคับพี่
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 มาแล้วครับ /// ตอนที่ 1 "สิ่งที่ปิดบัง" ....
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 03-11-2007 00:47:52
 :m9: ลูกเป็ดขี้เหร่กลับมาแล้วค้าบ บบบบบบบบบบบบบ หายไปนาน เป็น เดือนๆ ...แบบว่า มุ่งทำงานอย่างเดียวจนไม่ได้ เป็นอันกลับมาเยี่ยมเยียนบอร์ด เห็น นิยายของลูกเป็นด มาอยู่หน้า 3 ก็ตกใจ เลย เร่งมี เขียน Season 2 ซะเลย มาต่อกันเลยนะครับ กับตอนแรก "สิ่งที่ปิดบัง" เป็นยังบ้างเพื่อนๆ ก็ เมนท์ ก็ได้นะค้าบ แล้วจะพยายาม อ่านเรื่องของเพื่อนๆ และ เม้นท์ เหมือนกันค้าบ
ปล. คิดถึง ทุกคนเลยน โดยฉาเพาะ ปี้ แสบ ค้าบ อุอุอุอุอุอุ  :a9:


***************************************************************************************************************

หาดทรายใต้แสงอาทิตย์  Season 2
Previously on Season 1
เอกย้ายไปทำงานที่สมุย  เริ่มต้นการทำงานและชีวิตใหม่ที่นั่น  วันหนึ่ง เขาได้พบกับเคนโดยบังเอิญ เคนคือคนที่เขา เจอในผับที่เอกเคยไปเที่ยวกับแฟนเก่าเมื่อครั้งที่อยู่กรุงเทพ เคนขอให้เอกพาเที่ยวเกาะ เอกรับปาก และพาเคนไปเที่ยว ทั้งสองเริ่มสนิทและรู้จักกันใกล้ชิด ตอนไปเที่ยว หลังจากที่เอกเปิดใจรับเคนเข้ามาอยู่ในใจ แต่วันสุดท้ายที่เคนต้องกลับกรุงเทพ เคนต้องกลับญี่ปุ่นกะทันหัน เพราะ แม่ไม่สบาย เคนกับเอกต้อง อยู่ห่างกันทั้งๆ ที่เพิ่งจะเริ่ม เปิดใจยอมรับกันและกัน
*********************************************

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 มาแล้วครับ /// ตอนที่ 1 "สิ่งที่ปิดบัง" ....
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 03-11-2007 00:48:53
1. สิ่งที่ปิดบัง

“ตัดสินใจดีแล้ว เหรอเอก” พี่บราวน์ ถามเอก ขณะเอกเก็บกระเป๋า เตรียมตัวเดินทางไปญี่ปุ่น
“อ้าว พี่บราวน์ ตอนแรกมายุผมให้ไป จนผมพร้อมจะไป ได้วีซ่า ได้ตั๋วมาแล้วเนี่ย มาถามผมว่าแน่ใจแล้ว เหรอ เนี่ย หมายความว่าไม่อยากให้ผมไปแล้วเหรอ ...” เอกถามพี่บราวน์ อย่าง งงๆ เพราะ ว่า เขาได้ แรงยุจากพี่บราวน์ให้บินไปเซอร์ไพรซ์เคน ที่ญี่ปุ่น แต่พอจะไปจริงๆ กลับมาถามว่าเขาแน่ใจจริงๆ หรือเปล่า 
“มันก็ใช่ แต่ว่าตอนนั้นกะตอนนี้ มันไม่เหมือนกันนี่หว่า” พี่บราวน์ตอบ
“ยังไงอ่ะพี่”  เอกถามต่อ
“ไม่รู้อ่ะ ตอนนี้ รู้สึกแปลกๆ ไม่อยากให้น้องไป” พี่บราวน์ ตอบแบบน้ำขุ่นๆ
“อ้าว ไหงงั้นน่ะ มีแบบนี้ด้วย ... ผมไม่เป็นไรหรอกพี่บราวน์ นั่นแน่ กลัวเหงาใช่ม้า ..ผมไม่ได้ ไปอยู่โน่นซะหน่อย ไปแค่ 5 วันเดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
“เฮ้ยไม่ใช่เรื่องนั้น แต่กรูรู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้” พี่บราวน์ ยังคงยืนยันความรู้สึกเดิม
“ไม่เอาน่า พี่บราวน์ คิดมากไปได้ ...” เอกพูดแกมขำ ในความรู้สึกแปลกๆ ของพี่บราวน์
 “เดี๋ยวหาหนุ่มญี่ปุ่นน่ารักๆ มาฝากนะพี่” เอกแหย่พี่บราวน์ต่อ
“เออ.....ให้มันได้จริงเถอะ ดีแต่พูด ไม่รั้งแล้วเว้ย ไปเที่ยวให้สนุกละกัน” พี่บราวน์ คงเหนื่อยที่จะชักแม่น้ำทั้งห้าให้เอกเปลี่ยนใจ อีกอย่างใครจะมาเชื่อความรู้สึกแปลกๆ ที่ไม่รู้ว่าคืออะไร พูดจบพี่บราวน์ ก็เดินออกจากห้องไป
เอกตัดสินใจจะไปญี่ปุ่น หลังจากที่เคนกับเขา ไม่ได้เจอกันมาปีกว่าแล้ว ตั้งแต่วันที่ เคนออกจากเกาะสมุยไป และกลับไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เอกกับเคนติดต่อกันทางอีเมล โทรศัพท์ และคุยออนไลน์กันทุกวัน แต่ช่วงหลังๆ เคนค่อนข้างจะห่างไป เพราะงานยุ่ง และต้องเดินทางไปพบลูกค้าที่ต่างเมืองในญี่ปุ่น แต่เอกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะเคนก็ยังติดต่อกับเขาไม่ได้ขาด จริงๆ แล้ว เคนยังไม่พร้อมที่จะให้เอกไปพบที่ญี่ปุ่น เคนพยายามบ่ายเบี่ยงบอกว่ายังงานยุ่ง ยังไม่อยากให้เอกมา เพราะกลัวจะดูแลเอกได้ไม่ดี ซึ่งเอกก็ไม่ได้รีบร้อนจะไปในครั้งแรก แต่เป็นเพราะแรงยุจากพี่บราวน์ และคงเป็นเพราะความคิดถึงเคน เขาจึงยอมตัดสินใจที่จะไป โตเกียวโดยไม่บอกเคน เพื่อที่จะไปเซอร์ไพรซ์ คนที่เขารัก เอกได้ที่อยู่ของเคนมาตั้งแต่เคนย้ายไปอยู่ที่นั่น เขาจึงพยายามหาโรงแรมที่อยู่ใกล้ๆ กับบ้านของเคน เพื่อที่จะได้ไปพบเขาได้ไม่ลำบากมาก เอกไม่ได้วางแผนจะไปเที่ยวไหน เพราะ เขาคิดว่า เดี๋ยวไปถึงที่นั่นเคนคงพาเขาเที่ยวเอง เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องเที่ยยวสักเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ที่เขานึกถึงนั้นคือ เคนจิ ....  เอกหยิบตั๋วเครื่องบินขึ้นมาดูอีกครั้ง นั่งอมยิ้มนึกถึงคนที่อยู่ปลายทางที่จะไปถึงแล้วทำให้เขามีความสุขยิ่งนัก ไม่รู้ว่าเคนจิ จะหน้ายังไง เมื่อได้เจอเขาที่นั่น
“Mata ne Kenji san” เอกพูดกับตั๋วเครื่องบินที่นั่งมองอยู่ พร้อมกับนึกถึงคนที่พูดถึง
วันพรุ่งนี้ เอกต้องนั่งไฟลท์ เช้าจากสมุย และไปต่อเครื่องที่กรุงเทพ เพื่อบินตรงไปญี่ปุ่น เอกรู้สึกตื่นเต้นกับการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกของเขา และเป็นการเดินทางไปหาคนที่เขารักด้วย เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เอกหยิบขึ้นมาดู เห็นชื่อคนโทรเข้า ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เพราะคนที่โทรมาไม่ใช่ใครที่ไหน เคนจิซังนั่นเอง
“สวัสดีครับ เคนซัง .... กำลังคิดถึงอยู่พอดีก็โทรมาเลยนะครับ”  เอกทักเคนหลังจากรับสายโดยไม่ปล่อยให้คนที่โทรหาพูดก่อน 
“ ......... ......” ปลายสายเงียบไม่มีเสียงตอบรับการทักทาย
“ฮัลโหล ...ฮัลโหล ...เคนซัง ...เคนซัง ได้ยินไหมครับ .ฮัลโหล .........” เอกพยายาม เรียกคนที่อยู่ปลายสาย แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ
“...กึก...............ตื๊ดดดดดดดดดดดดด” เสียงวางสายไปโดยปราศจากคำพูดใดๆ เอกไม่ได้ตกใจอะไร เพราะคิดว่าคงเป็นเพราะช่องสัญญาณไม่ว่าง เลยอาจจะไม่ได้ยิน หรือ สัญญาณตัดไป เอกวางโทรศัพท์ ไว้ แล้วเก็บของต่อ ในใจคิดว่า เดี๋ยวเคนซังคงจะโทรกลับ ....

**********************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 มาแล้วครับ /// ตอนที่ 1 "สิ่งที่ปิดบัง" ....
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 03-11-2007 00:49:57
*********
 “ทาคุจัง ..... อย่าเล่นโทรศัพท์ของ เคนจิซัง สิลูก” เสียงหญิงสาวชาวญี่ปุ่น บอกกับเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่กำลังเล่นโทรศัพท์ มือถืออยู่ เธอเดินมาหยิบโทรศัพท์มือถือมาเก็บไว้บนโต๊ะแล้วอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา เธอเล่นกับหนูน้อยทาคุ อยู่ได้สักพัก  เสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้น เธออุ้มหนูน้อยทาคุไปที่ห้องโถงด้านหน้า เพื่อรอรับคนที่กลับมาจากทำงาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามาด้านในบ้าน ถอดรองเท้าเก็บไว้ที่ตู้เก็บรองเท้า เปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะ ถอดสูทและเสื้อโค๊ท แขวนไว้ด้านข้างตู้ วางรองเท้า
“tadai ma” ชายหนุ่มทักหญิงสาว และหนูน้อยที่ยืนรอรับอยู่แล้ว
“Okaeri … Kenji san…” หญิงสาวตอบรับการกลับมาของชายหนุ่ม พร้อม ยกมือน้อยๆ ของทาคุจัง โบกไปมาทักทาย
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะ เดี๋ยวลงมาทานข้าวด้วยกัน” ชายหนุ่มบอก พร้อมทั้งเดินเข้ามาทักทายหนูน้อยก่อนเดินขึ้นบ้านไป  หญิงสาว เดินกลับมาที่ครัว ปล่อยทาคุน้อยไว้ที่เปลแล้วเดินไปทำกับข้าวต่อปล่อยให้หนูน้อย เล่นของเล่นในเปลอยู่คนเดียว  เคนจิเดินเข้าห้องไป วางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะข้างๆ เตียง เปิดคอมพิวเตอร์ ต่ออินเตอร์เน็ต เปิดดูอีเมล์ และอ่านเมล์ที่เข้ามาใหม่อยู่ฉบับหนึ่ง
“ สวัสดีครับ เคนซัง
   เคนซัง สบายดีไหมครับ  วันนี้อากาศที่สมุยไม่ร้อนมากครับ อากาศดี ท้องฟ้าสวยมาก สวยเหมือนตอนที่เราไปเห็นที่เกาะเต่าเลยครับ วันนี้ผมหยิบรูปที่เราไปเที่ยวกัน มาดูอีกครั้ง ผ่านมาปีกว่าๆ แล้ว ความทรงจำดีๆ ตอนนั้นก็ยังไม่หายไปไหนเลย ผมยังจำได้ดีเลยครับ ตั้งแต่เราเจอกันที่ แอร์พอร์ต ช่วงเวลาดีๆ ที่ เกาะเต่า และ เกาะพะงัน ...ทุกรูปที่มีเคนซังอยู่ ยังมีรอยยิ้มให้เห็นอยู่เสมอ เวลาผมมองรูปพวกนี้ ยิ่งทำให้ผมคิดถึงเคนซังมากขึ้น คิดถึงมาก จนอยากไปเจอ ไปเห็นหน้า ได้อยู่ใกล้ ได้สัมผัส ผมคิดถึงเคนซังจริงๆ นะครับ แม้ว่าเราจะได้คุยกันทุกวัน แต่มันก็เป็นแค่เสียงผ่านโทรศัพท์ และข้อความที่เขียนไว้เท่านั้น มันก็ไม่เหมือนกับ ตอนที่ผมได้อยู่ใกล้ ได้ยินเสียง ได้เห็นหน้าที่มีรอยยิ้มให้กับผม ของเคนซัง ... ผมหวังว่าสักวันผมคงได้ ไปพบเคนซังที่ญี่ปุ่นนะครับ ผมรอเวลาที่จะได้อยู่ใกล้กับเคนซังอีกครั้งนะครับ
... Omotte iru …
p.s. เคนซังวันพรุ่งนี้อยู่บ้านหรือเปล่าครับ ผมมีเรื่องจะเซอร์ไพรซ์..แล้วพรุ่งนี้ผมจะโทรหานะครับ”
เคนนั่งมองหน้าจอ  อ่านเมลของเอกซ้ำไปซ้ำมา เอกไม่เคยขาดการติดต่อจากเขาเลย ยังคงส่ง sms และ คุยกับเขาทุกวัน กลับเป็นเขาเสียอีกที่ดูเหมือนห่างๆ จากเอกไป ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่ญี่ปุ่น และแม่ของเขาเสียชีวิตไปเคนต้องจัดการธุรกิจหลายอย่างที่แม่ของเขาดูแลอยู่ แทนหมด อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบ ชีวิตสองแม่ลูก เอริกะ และ ทาคุยะ ด้วย เขาเป็นกังวลเรื่อง เอริกะ และ ทาคุยะ มาก เพราะเรื่องนี้ เขายังไม่ได้บอกกับ เอก เลยและนี่ก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่เคนยังไม่อยากให้เอกมาที่ญี่ปุ่น เพราะหากเอกมาเห็นชีวิตของเขาที่นี่ แล้วเอกจะรู้สึกยังไงกับเรื่องที่เขาปิดบังมาตลอด เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญกับความรู้สึกกดดันแบบนั้น และเขาก็ยังไม่อยากให้เอกต้องมารับรู้ และ เจ็บปวดกับสิ่งที่เขาปิดบังอยู่
“เคนจิซัง.... อาหารเย็นพร้อมแล้วนะคะ”  เอริกะ เปิดประตูมาเรียกให้เคนจิลงไปทานข้าวเย็น
“เดี๋ยวลงไปนะครับ”  ชายหนุ่มปิดคอมพิวเตอร์ เปลี่ยนชุด แล้วเดินลงมาที่ห้องครัว ทักทายหนูน้อยทาคุยะ ที่นั่งรอทานอาหาร อยู่ที่เก้าอี้เด็ก หนูน้อย ยิ้มทักทาย เคน แล้วหันไปสนใจกับชามอาหารที่ เอริกะหยิบมาวางข้างหน้า
“วันนี้ เคนจิซัง ลืม มือถือไว้ที่บ้าน แน่ะ” เอริกะ บอกเคนขณะที่วางอาหารไว้ที่โต๊ะ
“อื้ม .. แต่ไม่เป็นไร เพราะมีของบริษัทติดอยู่ในกระเป๋า อันที่ลืมไว้ ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้วล่ะ”
“วันนี้ เห็นทาคุจังเล่น โทรศัพท์ของเคนจิซังด้วย เอริกะยังไม่ได้ดูเลย เจ้าหนู ทำอะไรเสียหายไปหรือเปล่า”
“คงไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวกินข้าวเสร็จผมไปดูเอง .... กินข้าวได้แล้ว ทาคุน้อย คงจะหิวแล้ว นั่งมองชามข้าวใหญ่เลย ...” เคน พูดพลาง ทำหน้าตาหยอกล้อ กับหนูน้อย
เอริกะ จัดการวางอาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ทั้งสามก็เริ่มทานอาหารเย็นพร้อมกัน

************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 มาแล้วครับ /// ตอนที่ 1 "สิ่งที่ปิดบัง" ....
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 03-11-2007 00:51:09
************
 “คุณครับ .... คุณครับ...” เอกได้ยินเสียงใครสักคน พร้อมกับรู้สึกเหมือนมีใครมาสะกิดที่แขนเขาเบาๆ ขณะที่เขาหลับอยู่บนเครื่อง เอกลืมตาขึ้นเพื่อมาองหาต้นเสียงทีเรียกเขา เป็นผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาฝั่งที่ติดหน้าต่างนั่นเอง
“มีอะไรหรือเปล่าครับ ..” เอกลืมตา เสียงสลึมสลือถาม ผู้โดยสารคนนั้น
“ขอโทษที่ปลุกนะครับ... คือผม จะขอลุกไปเข้าห้องน้ำ กลัวลุกไปแล้วจะทำให้คุณตื่นโดยไม่ตั้งใจ ... เลยขอตั้งใจปลุกเลยดีกว่า ...” ผู้โดยสารที่นั่งข้างเขา บอกเอก ด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“ไม่เป็นไรครับ ...ผมคงนอนขวางทางคุณน่าดู ..เชิญครับ”  เอกขยับตัวเพื่อหลีกทางให้ชายหนุ่มเดินผ่านไปได้สะดวก หลังจากเขาเดินออกมาแล้ว ก็ยังไม่ลืมที่จะหันมายิ้มขอบคุณ เอกก็ยิ้มตอบกลับไป  เอกจัดการกับผ้าห่มที่คลุมตัวเขาพับเก็บไว้ที่ด้านข้างที่นั่ง เขาบิดกายเพื่อให้คลายจากอาการเมื่อยล้า มองออกไปนอกหน้าต่างเครื่อง เห็นก้อนเมฆสีขาวโพลน เขาพยายามชะเง้อ มองไปนอกหน้าต่าง เพราะอยากเห็นภาพด้านนอกให้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่เบื้องล่างก็ยังคงเป็นเพียงผืนน้ำสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งเขาก็แยกไม่ออกว่ามันเป็นฟ้าหรือทะเล เขามองดูนาฬิกา อีก ชั่วโมงกว่าๆ เครื่องจะแลนดิ้งที่สนามบินนาริตะโตเกียวแล้ว เอกไม่อยากหลับต่อแล้ว เขาจึงเปิดกระเป๋าหยิบแมกกาซีนหนังที่เขาชอบอ่านออกมาจากกระเป๋า มาอ่านเพื่อฆ่าเวลา
“ผมคงทำให้คุณตื่นเลยใช่ไหมครับเนี่ย” เสียงใครบางคนพูดกับเอกขณะที่เขานั่งอ่านแมกกาซีนอยู่ เอกเงยหน้าขึ้นไปมาองเจ้าของเสียง เป็นชายหนุ่มผู้โดยสารที่นั่งอยู่ข้างๆ เขานั่นเอง
“ ไม่หรอกครับ ...” เอกบอกปัดพร้อม ขยับตัวให้ชายหนุ่ม เข้ามานั่งที่นั่ง
“ขอบคุณนะครับ ...” ชายหนุ่ม กล่าวขอบคุณเอกหลังจากที่นั่งเรียร้อย และคาดเข็มขัดนิรภัย
“ไม่เป็นไรครับ” .เอกตอบกลับพร้อมกับหันหน้าไปยิ้มให้กับเขาเล็กน้อย  แล้วกลับมาสนใจอ่านแมกกาซีนของเขาต่อ ส่วนคนที่นั่งข้างๆ เขาก็กำลังง่วนกับการหาอะไรบางอย่างที่ช่องเก็บของด้านหน้าที่นั่งของเขา ชายหนุ่มหยิบหนังสือ จากช่องเก็บของด้านหน้ามาพลิกอ่านอยู่ 2 -3 หน้า แล้วก็เก็บกลับไว้ที่เดิม เขานั่งนิ่งได้สักพัก แล้วก็ เริ่มเปิดจอสกรีนทีวีที่อยู่ด้านหน้า เพื่อ เปิดทีวีสกรีนดูรายการบันเทิงที่บนเครื่องมีบริการให้กับผู้โดยสาร เขานั่งกดเลือกไปเลือกมาอยู่สักพัก ก็ปิดจอสกรีนนั้นไปอีกครั้ง ทำสีหน้าเบื่อๆ เหมือนไม่มีอะไรให้เขาทำเลยนอกจากที่ต้องนั่งนิ่งๆ เขาเริ่มเปลี่ยนจากการจับโน่น หยิบนี่จากช่องเก็บขอวและเล่นจอสกรีนมาเป็นนั่งนิ่ง มาเป็นการหันมามองเอก และหนังสือที่เอกอ่านอยู่  ส่วนเอกยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านแมกกาซีนของเขาต่อไปโดยไม่สนใจว่าคนที่นั่งข้างๆ นั่นกำลังมองเขาอยู่ เป้นอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเอกรู้สึกว่าเขาถูกนั่งมอง เขาจึงหันไปที่สายตาที่นั่งมองเขาอยู่ ซึ่งก็ไม่ใช่ใคร เป็นคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เขานั่นเอง เอกเห็นเขาหลบสายตา แต่ก็แอบอมยิ้มเหมือนกับเขารู้ตัวว่า เอกรู้ว่า เขามองเอกอยู่  ด้วยความที่เป็นไม่ชอบหาเรื่องใคร เอกก็เลยยิ้มให้ แล้วกลับมาอ่านแมกกาซีนของเขาต่อ
“คุณครับ ...” เสียงคนที่นั่งข้างๆ เรียกใครสักคนซึ่งเอกพยายามไม่สนใจเพราะคิดว่า คงไม่ได้เรียกครับ
“คุณครับ ...” ครั้งนี้ เอกได้ยินเสียงข้างๆ หู เพราะคนที่เรียกนั้น ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ และเรียกให้เขารู้ว่า เขาเรียกเอกอยู่  เอกยังยิ้มให้ เพื่อรักษามารยาท พร้อมกับหันไปถาม
“มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ” เอกถามพร้อมกับยิ้ม ให้กับเขา
“ขอโทษนะครับ .. คือ ผม ไม่รู้จะทำอะไรให้หายเบื่อดี หนังสือ บนเครื่องก็มีแต่ขายของกับอะไรก็ไม่รู้เป็นภาษาญี่ปุ่นเต็มไปหมด ส่วน รายการในลิสต์ ที่โชว์บนสกรีน ก็มีแต่อะไรก็ไม่รู้ ไม่น่าดู คุณพอจะมีหนังสือให้ผมยืมอ่านไหมครับ แบบที่คุณอ่านอยู่ก็ได้”  ชายหนุ่มคนนั้น รีบเอ่ยปากขอโทษก่อนที่จะทำให้เอกโกรธ เพราะเขาคงรู้ตัวว่า เขาเสียมารยาทกับเอกมามากพอ แต่ก็ยังไม่วายที่จะชวนเขาคุย และขอยืมหนังสือกับเอกอีก พูดจบเขาก็ยิ้มให้เอก หน้าตาท่าทางๆ กวนๆ ของเขาทำให้เอก คลายความขุ่นข้องใจกลายเป็นตลกกับท่าทีของเขาเสียมากกว่า เอกยิ้มให้เขาอีกครัง แล้วยื่นหนังสือให้เขา
“เอาไปอ่านก็ได้ครับ ...ผมอ่านหลายรอบแล้ว”
“ผมรบกวนคุณเกินไปหรือเปล่าครับเนี่ย” เขาถามแต่ก็ยังรับหนังสือจากเอกมาถือไว้
“ไม่หรอกครับ เพราะจริงๆ แล้วคุณก็กวนผมตั้งแต่ปลุกให้ผมตื่นแล้วล่ะ” เอกพูดล้อเขาเล่น แล้วหันมายิ้มให้เขา ขณะที่ถอดขัดขัดนิรภัยออก
“อ้าว ... เป็นงั้นไป ผมเนี่ย ไม่น่าเลย” เขาทำหน้าจ๋อยๆ เหมือนรู้สึกผิด เอกรู้สึกขำในท่าทีของเขา แกมดีใจที่  ล้อเขาคืนได้
“ผมล้อเล่นครับคุณ ยังไงผมฝากหนังสือไว้ก่อนก็แล้วกันนะครับ ผมขอตัวเข้าห้องน้ำก่อน” เอกพูดพลางลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้คนที่นั่งข้างๆ อ่านหนังสือแมกาซีนที่เขายื่นให้  หลังจากกลับมา เอกนังเห็นคนที่นั่งข้างๆ ก้มหน้าก้มตาอ่านแมกกาซีนที่เขาให้ยืม
“กลับมาแล้วเหรอครับ...เร็วจัง ผมยังอ่านไปไม่ถึงไหนเลย” เขาทักเอกขณะที่เอกกำลังนั่งลงและคาดเข็มขัดนิรภัย 
“ไปเข้าห้องน้ำนะครับ ไม่ได้ไปทำอย่างอื่น ....”  เอกลองตอบเขาแบบกวน ๆ เพราะเขาคิดว่าอย่างน้อยก็มีเพื่อนคุยเล่นก่อนเครื่องลงจอดที่โตเกียวคงจะดีไม่น้อย
“ค้าบผม ....” ชายหนุ่มหันมามองเอกยิ้มๆ และพูดได้แค่นั้น เพราะไม่คิดว่าเอกจะพูดล้อเล่นกับเขาอีกครั้ง ชายหนุ่มเปิดหนังกลับไปกลับมาอยู่สักพัก แล้วก็เขายื่นหนังสือกลับมาให้เอก
“คืนทำไมเหรอครับ หรือว่ามันไม่น่าอ่าน”  เอกถามพร้อมทำสีหน้าแปลกใจ
“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ ... ผมมีอะไรอย่างอื่นทำที่ดีกว่าอ่านนังสือแล้วครับ” เขามองเอกแล้วยิ้มแบบกวนๆ 
“อะไร อ่ะครับ” เอกทำหน้างงๆ 
“ก็คุยกับคุณไง ...” ชายหนุ่ม ตอบพร้อมทำหน้ากวนๆ กับเอกอีกครั้ง
เอกมองหน้าคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นึกขำอยู่ในใจ  คนเรานี่ก็แปลก นั่งอยู่ข้างๆ กันตั้งแต่เครื่องเทคออฟ แต่ก็ไม่ได้คุย แล้วจู่ๆ นึกจะคุยกันขึ้นมาก็คุยกันซะอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่คิดอะไรมาก มีเพื่อนคุยไว้ก็ดีกว่าไม่มี
“แล้วจะคุยอะไรดีล่ะครับ” เอกถามขึ้นเพื่อหยั่งเชิง คู่สนทนาหน้าใหม่ ที่บอกว่าอยากจะคุยกับเขา
“ก่อนอื่น เริ่มจาก แนะนำตัวให้รู้จักก่อนนะครับ ผมชื่อ บอล ครับ”
“ครับหวัดดีครับ บอล” เอกตอบ พร้อมกับยิ้มให้ บอลยิ้มตอบแล้วนั่งมองหน้าเอกอยู่สักพัก เหมือนกำลังรอให้เอกบอกอะไรเขาต่อ แต่เอกก็ยังไม่ได้พูดอะไร จนกระทั่งบอลต้องพูดออกมา
“อ้าว แล้ว ไม่คิดจะบอกชื่อให้ผมรู้จักเลยเหรอครับ”
เอกอมยิ้ม รู้สึกสนุกที่แกล้ง บอลได้ เขายิ้มและตอบกลับไป
“ก็ไม่เห็นจะถามผมนี่นา  ...ก็เลยคิดว่าคงไม่อยากจะรู้จักชื่อผม  ....ผม ชื่อ เอก ครับ...” เอกตอบแบบอารมณ์ดี 
“ขี้เล่นไม่เบา เลยนะครับคุณเอก....”  บอลตอบกลับแบบอารมณ์ดีเหมือนกัน  ทั้งสองมองหน้ากัน แล้ว หัวเราะออกมาเบาๆ พร้อมกัน คงเพราะขำในท่าทีของกันและกัน
“มาเที่ยวเหรอครับ” บอลถามเอกต่อ
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ .. พอดี .. เพื่อน... อยู่ที่โตเกียว ..จริงๆ แล้วก็เป็นคนโตเกียวนี่แหละครับ มาเยี่ยม เพื่อนมากกว่า ส่วนจะได้เที่ยวหรือเปล่าก็คงแล้วแต่เพื่อน นะครับ” เอกตอบ
“โห มาซะไกล แค่มาเยี่ยมเพื่อนก็คงน่าเสียดายแย่ ญี่ปุ่นมีมีให้เที่ยวเยอะนะครับ แล้ว คุณเอกชอบเที่ยว แบบไหนล่ะครับ” 
“อย่าเรียกผมว่าคุณเลยครับ ผมฟังแล้ว จั๊กกะเดียมยังไงก็ไม่รู้  เรียกผม เอก เฉยๆ ดีกว่าครับ” 
“อ้อ ครับ ... ได้ครับ เอก”  บอลยิ้มให้เอก และเรียกเอก ตามี่เอกขอร้อง
“ค่อยังชั่วหน่อย ..” เอกยิ้มตอบกลับเขาไป
“แล้วคิดว่าอยากไปเที่ยวไหนในญี่ปุ่นบ้างล่ะครับ” บอลถามต่อ
“ผมได้ ไกด์บุ๊คมาเล่มหนึ่งครับ เป็นหนังสือแนะนำแบบว่า เที่ยวเอง แบกเป้เที่ยว อะไรประมาณนั้น อ่านแล้วก็สนุกดี เลยคิดว่าจะลองเที่ยวตามที่หนังสือแนะนำดูครับ”
“เหรอครับ ...มีที่ไหนบ้างล่ะครับ”  บอลถามด้วยน้ำเสียงแสดงความสนใจ
“ก็หลายที่ครับ ในหนังสือ แนะนำ ที่โตเกียว เมืองใกล้ๆ โตเกียว แล้วก็ เมืองที่ไปดูบ่อน้ำพุร้อน ล่องเรือดูวิวภูเขาไปฟูจิ ไปดูเมืองเก่าๆ อย่างเกียวโต เมืองนารา เยอะแยะไปหมดเลยครับ ก็ยังเลือกไม่ถูกเลยว่าจะไปไหนดีเพราะเยอะเหลือเกิน แต่ใจจริงๆ แล้วผมชอบเมืองเก่าน่ะครับ ตั้งใจว่า อยากไปเกียวโต เพราะในหนังสือบอกว่า จะมีพวก สิ่งก่อสร้าง หรือวัด เก่าๆ ที่น่าชม อยู่เยอะ” 
“อืม เตรียมข้อมูลมาเยอะดีนี่ครับ .. แล้ง ไหงบอกว่ามาเยี่ยมเพื่อนเฉยๆ ...”  บอลได้ที เลยแหย่ เอกเล่นบ้าง
“ก็นิดหน่อยล่ะครับ .. เพราะว่าผมเพิ่งเคยมาญี่ปุ่นครั้งแรก ก็อยากเที่ยวด้วย ก็คิดอยู่เหมืนกันว่า ถ้าเกิดเพื่อนไม่ว่าง ผมคงต้องเที่ยวคนเดียว”
“ฟังแล้วแล้วเศร้าๆ จัง เที่ยวคนเดียวคงเหงาแย่เลย ก็หวังว่า เพื่อน เอก จะว่างก็แล้วกันน่ะครับ ..... เอ๊ะ แล้วมาที่ญี่ปุ่นเนี่ยไม่ได้บอกเพื่อนเหรอครับว่าจะมา ...เขาก็ต้องว่างสิ ถ้าเขารู้ว่า เอกจะมา จริงไหม” บอลถามด้วยความสงสัย
“ไม่ได้บอกครับ .. ผมตั้งใจจะทำให้เขาแปลกใจเล่นๆ” 
“อ้าว เป็นไงั้นไป งั้นแบบนี้ ก็ไม่รู้ว่า เพื่อนจะว่างหรือเปล่าสินะ ลุ้นดีจัง”
“แล้ว บอลล่ะครับ มาเที่ยวเหรอครับ” เอกถามบอลบ้าง
“เปล่าครับ ผมมาเรียน ผมเรียนปริญญาโท ที่ มหาวิทยาลัยเกียวโตครับ”
“เหรอครับ ดีจัง ได้เรียนต่างประเทศด้วย ปีไหนแล้วล่ะครับ”
“ปีสุดท้ายแล้วครับ ช่วงนี้ ทำโปรเจ็ค กับ วิทยานิพนธ์อยู่ พอดีต้องกลับไปหาข้อมูลบางอย่าง ที่กรุงเทพน่ะครับ ก็เลยถือโอกาสกลับบ้านด้วย เสร็จธุระก็ต้องรีบกลับมา เพราะต้องเสนองานเดือนหน้าแล้ว เนี่ยยังตื่นเต้นอยู่เลยไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า”
“น่าอิจฉาจังเลยนะครับ ได้เรียนต่อ ผมน่ะอยากเรียน ตั้งแต่เรียนจบแล้ว แต่ พอได้ทำงานก็ทำแต่งาน จนลืมเรื่องเรียนไปเลย ตอนนี้ เลยไม่คิดจะเรียนละ”
“เอก ทำงานแล้วเหรอครับ ผมยังนึกว่า เอกยังเรียนอยู่นะเนี่ย ไม่ นักศึกษามหาลัยก็คง เป็น นักศึกษา ป.โท เหมือนผม” บอลพูดแหย่ เอกเล่น พร้อมทำหน้าตายียวน
“แหม เข้า ใจแซวนะครับ” เอกทำหน้าเขิน
“จะรังเกียจไหม ถ้าผมถามว่า เอกทำงานอะไรอ่ะครับ”
“รังเกียจ ครับ ..” เอกทำน้ำเสียง เข้ม เหมือนไม่พอใจ 
“ไม่เป็นไรครับ ขอโทษถ้าผมละลาบละล้วงมากเกินไป” คนถามทำหน้าจ๋อย
“...โธ่ คุณ ผม ล้อเล่น ....ขอโทษเหมือนกันครับ ผมคงหน้าตา จริงจังมากใช่ไหมเนี่ย เชื่อผมซะสนิทเลย ผมทำงาน สายการบินครับ แต่ไม่ใช่ สายนี้ที่บินอยู่นี่หรอกนะครับ เป็นสายการบิน เล็กๆ ที่อยู่เมืองไทยครับ”
“ให้ผมเดา การบินไทย” บอลตอบขึ้นทันควัน
“เอ่อ บอลครับ การบินไทยนี่สายการบินไม่เล็กเลยนะครับ”
“อ้าว ก็ผมรู้จักอยู่สายเดียว นี่นา .. แหะๆ” บอลทำหน้าเขินๆ
“ผมทำงานที่ สมุยครับ พอจะเดาออกหรือยังว่าสายการบินไหน”
“อ้อ ...ครับ ... อยู่เกาะสมุย แบบนี้ ก็อยู่ใกล้ทะเลสิครับ ผมไม่ได้ไปเที่ยวทะเลนานมากแล้วตั้งแต่ มาเรียนที่ญี่ปุ่นก็ไม่ได้ไปเลย มีแต่เรียนกับเรียน น่าอิจฉานะครับได้ทำงานใกล้ทะเล อยู่กับทะเล ผมชอบทะเลครับ”
“ใครๆ ก็ชอบทะเลทั้งนั้นแหละครับ ... ไม่งั้นผมก็คงตกงาน” 
“เอกทำงานสายการบินแบบนี้ ก็บินฟรี หรือไม่ก็ซื้อตั๋วราคาถูกได้สิเนี่ย น่าอิจฉาจัง”
“ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ ...ก็ซื้อได้บ้างไม่ได้บ้าง จะไปไหนก็ต้องดูไฟลท์ให้ดี เพราะตั๋วถูกก็จริง แต่ก็ไม่ชัวร์ว่าเราจะได้ไป ถ้าเกิดไฟลท์เต็ม ผมก็อดเหมือนกัน เสี่ยงพอดูครับ”
“เหรอครับ ความรู้ใหม่นะเนี่ย ... ก็ลำบากเหมือนกันนะครับ ...อย่างว่า แหละ ซื้อถูกกว่าคนอื่น ก็ต้องเสี่ยงกันบ้าง”
ระหว่างที่ทั้งสองนั่งคุยกันอย่างออกรสอยู่นั้น ก็มีเสียงประกาสจากกัปตัน และ พนักงานต้อนรับบนเคร่องให้ผู้โดยสารเตรียมตัวพร้อมแลนดิ้งเพราะอีกไม่กี่นาทีเครื่องจะลงจอดที่สนามบินนาริตะแล้ว
“จะถึงแผ่นดินญี่ปุ่นแล้วนะครับ เอก ... ตื่นเต้นไหมครับ”
“ก็นิดหน่อยครับ ครั้งแรกนี่นา ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง” เอกตอบด้วยสีหน้าตื่นเต้น เพราะ เป็นครั้งแรกกับการมาญี่ปุ่น และ เขาก็จะได้พบกับคนที่เขารักอีกไม่นานนี้แล้ว
หลังจากเครื่องแลนดิ้ง ทั้งเอกและบอลลงจากเครื่องพร้อมกัน เพราะบอลเดินทางเข้าญี่ปุ่นค่อนข้างบ่อยก็เลยคุ้นทางทำให้เอกผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้งาย และเร็ว เอกรู้สึกดีใจและคิดว่าโชคดีที่ได้เจอกับบอล เพราะทำให้เขาไม่เป็นกังวลกับการผ่านด่านรวมทั้งเส้นทางในสนามบินด้วย และบอลยังอาสาเป็นไกด์พาเอกไปส่งถึงตัวเมืงโตเกียว เพราะบอลจะต้องไปต่อรถไฟที่สถานีโตเกียวเหมือนกัน
“ผมจะไปหาเพื่อนที่โตเกียวก่อนน่ะครับ แล้วก็จะนั่งชินคันเซนไปเกียวโตพรุ่งนี้ ...”
“ขอบคุณนะครับ บอล โชคดีจังที่เจอบอลวันนี้ ไม่งั้นป่านนี้ผมคงยังหลงอยู่ในสนามบินอยู่แน่ๆ”  เอกขอบคุณบอลหลังจากที่อยู่บนรถไฟ และรถไฟกำลังมุ่งหน้าไปสถานีโตเกียว
“ไม่ต้องเกรงใจครับ คนไทยด้วยกัน” บอลยิ้มกว้างให้เอก อย่างภูมิใจ
“ผมมีไอเดียดีๆ เสนอ ไม่รู้ว่า เอกจะรังเกียจหรือเปล่า”  บอลพูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
“อะไรเหรอครับ”
“ถ้าเพื่อนเอกเขาไม่ว่าง ผมยินดีอาสา เป็นไกด์พาเอกเที่ยวนะครับ โดยเฉพาะเกียวโต ผมไปมาแทบทุกที่แล้ว ... ช่วงอาทิตย์นี้ผมยังว่างอยู่ ไม่ยุ่งมาก”
“ผมรู้สึกเกรงใจจัง จะรบกวนบอลมากเกินไปหรือเปล่าครับ”  เอกรู้สึกเกรงใจเลยยังไม่รับปาก
“อย่าเกรงใจเลยครับเอก ตอนนี้ เราก็รู้จักกัน ถือว่าเพื่อนคนหนึ่งเสนอตัวช่วยเพื่อนละกันนะครับ แล้วถ้าอยากพักที่เกียวโต เนี่ย ถ้าไม่รังเกียจ ผมให้เอกแชร์ห้องได้นะครับ  จะได้ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย” 
“ขอบคุณมากครับ บอล เอาเป็นว่าถ้าไปเกียวโต เราคงได้เจอกันและทานข้าวกันซักมื้อ” เอกกล่าวขอบคุณอีกครั้ง
“ยินดีครับ ถือว่าเป็นการต้อนรับเพื่อนใหม่ก็แล้วกัน”  บอลยิ้มกว้างๆ แสดงความจริงใจอีกครั้ง
เสียงประกาศบนรถไฟ แจ้งสถานีต่อไปคือ โตเกียว เอก และ บอล ลุกขึ้นพร้อมกัน เพื่อ จะเหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนชั้นวางกระเป๋าบนที่นั่ง ทำให้ทั้งสองยืนประจันหน้ากันในระยะใกล้ๆ  บอลจ้องหน้าเอก และ ยิ้มให้ เอกรู้สึกเขิน จึงถอยออกจากบอลเล็กน้อย และเงยหน้าขึ้นมองหากระเป๋าและเอื้อมมือจะหยิบกระเป๋า  บอลก็ยื่นมือออกมาเพื่อจะหยิบกระเป๋าเหมือนกัน เอกมองหน้าบอลอีกครั้ง บอลยิ้มให้เอก แล้วพูดขึ้น
“ผมช่วยนะ” พูดพลาง บอลก็หยิบกระเป๋าลงมาจากชั้นวางยื่นให้เอก เอกรับกระเป๋า กล่าวบขอบคุณ พร้อมก้มหน้าหลบตา บอล คงเพราะ เขิน แต่เขาก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะเขินบอลไปทำไม ทุกครั้งที่บอลมองเขา จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าของบอลอยู่เสมอ และคงเป็นเพราะรอยยิ้มนั้น ที่ทำให้เขารู้สึกเขิน และอาย  แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาต้องเขิน เพื่อนใหม่คนนี้ด้วย
ลงจากรถไฟแล้ว บอล เดินมาส่งเอก ที่ชานชลา อธิบายว่าเขาต้องไปต่อรถไป และลงที่สถานีไหน เดินไปทางไหน เมื่อเข้าใจเส้นทางดีแล้ว ยืนรอรถไฟได้ ไม่ถึง 5 นาที รถไฟก็วิ่งเข้าเทียบชานชลา ก่อนขึ้นรถไฟ บอลยื่น บางอย่างให้กับเอก
“เป็นเบอร์มือถือ กับที่อยู่ผม ที่เกียวโตนะครับ ... ถึงเกียวโตแล้วโทรหาผมนะ ผมจะรอ .. .เพื่อนใหม่ของผม” บอลยิ้มกว้างให้เอกอีกครั้งหลังจากยื่นเบอร์โทรและที่อยู่ให้
“ขอบคุณนะครับ ถ้าไม่เจอบอลวันนี้ ป่านนี้ ผมคงยังหลงอยู่ที่ไหนสักแห่ง” เอกกล่าวขอบคุณ แล้วรีบวิ่งขึ้นรถเพราะเสียงเตือนปิดประตูดังแล้ว ประตูรถไฟปิด บอลยังยืนส่งเอกอยู่ที่เดิม เขาโบกมือให้เอก ขณะที่รถเลทื่อนออกไป ใบหน้ายังมีรอยยิ้มให้เอก อยู่เหมือนเคย เอกยิ้มให้เขาเช่นกัน รถไฟออกจากชานชลาไปแล้ว หลังจากเปลี่ยนรถไฟ ไปต่อรถไฟใต้ดิน อีกไม่ช้า เขาก็จะได้เจอกับ เคนซังของเขาแล้ว เอกมองนาฬิกา ยังบอกเวลาเป็นเวลาที่เมืองไทยอยู่ เขาจึงปรับนาฬิกาให้เร็วขึ้นอีก 2 ชั่วโมงตามเวลาที่โตเกียว จะสองทุ่มแล้ว ป่านนี้ เคนซังคงอยู่บ้านแล้วล่ะ เอกหยิบที่อยู่ที่เคนซังเคยบอกเขาไว้ แล้วดูแผนที่ในมืออีกครั้ง เพื่อย้ำความแน่ใจของตัวเองว่า เขามาถูกเส้นทาง ใบหน้าของเอก ยังเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม  คิดถึงหน้า คนที่จะได้เจอในไม่กี่นาทีข้างหน้า ในใจก็ตื่นเต้นระคน หวั่นๆ ว่า เคนซังจะพูดกับเขายังไงที่จู่ๆ ก็โผล่มาแบบนี้
รถไฟใต้ดินจอดที่สถานีมิโนวะเรียบร้อย เอกเดินออกมาจากสถานีตามทางออกที่ บอลบอกไว้ เขาก็เจอ ถนนที่เป็นที่อยู่ของ เคนซังโดยไม่ต้องลำบากมองหาเลย เขาเดินไปไม่กี่บล็อคก็จะถึงบ้านของเคนซังแล้ว เอกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดข้อความแล้วส่งไปที่เบอร์ของ เคนซัง
“เคนซังครับ ทำอะไรอยู่ คิดถึงจัง วันนี้ผมอยากเห็นหน้าเคนซังจังเลยครับ  ”
อากาศที่ญี่ปุ่นเริ่มเย็นแล้ว ช่วงเวลาที่เอกไปเป็นช่วงเดือนมิถุนายน เป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ และ ต้นฤดูฝน อากาศเย็นสบาย ร่มรื่น เพราะต้นไม้ เพิ่งจะแตกใบเขียวขจี ไปทั่ว เอกเดินช้าๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศ รอบตัว ใจยังคงตื่นเต้นกับการที่จะได้เจอคนที่เขารัก เอกได้ยินเสียงข้อความเข้าของโทรศัพท์ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เปิดอ่านข้อความ
“คิดถึงเหมือนกันครับ อยากเจอเหมือนกันวันนี้ ออนไลน์คุยกันไหม ผมอยู่บ้าน”  เอกอ่านข้อความจบยิ้มอย่างดีใจ เขารีบเดินไปยังจุดหมาย บ้านของเคนซัง อยู่ในซอยที่ตัดมาจากถนนสายหลักเข้ามาไม่กี่ 100 เมตร ไม่กี่อึดใจเขาก็มาถึงหน้าบ้านของเคนซัง บ้านของเคนซังเป็นตึกเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดไม่ใหญ่มากนัก พื้นที่รอบบ้านไม่กว้างมากนัก เพราะที่ญี่ปุ่นทุกตารางนิ้วถือว่าใช้งานได้ทั้งหมด และที่ดินราคาแพง เอกยืนอยู่ที่หน้าประตูบ้าน เขาปลดกระเป๋าลงจากบ่า สูดหายใจเข้าลึกๆ เขาพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
“ไม่ต้องออนไลน์ แล้วครับ ตอนนี้ ผมอยู่หน้าบ้าน เคนซังแล้ว ถ้าไม่เชื่อ ลองออกมาเปิดประตู ดูหน้าบ้านสิครับ” 
ไม่กี่อึดใจก็มีข้อความตอบกลับ
“เอก ชอบล้อผมเล่นจริงๆ เลยนะ ครับ  … ผมออนไลน์อยู่นะ  แล้วเจอกันครับ” เคนซังคงยังไม่เชื่อ และคิดว่า เอกล้อเล่น เอกอ่านข้อความจบ เขายิ้มขำในความซื่อของเคนซัง และ ก็คิดว่า ใครเขาจะไปเชื่อ ละ เอก ว่า แกจะมายืนอยู่หน้าบ้านเขาจริงๆ
เอกสูดหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง ค่อยๆ ยื่นมือ เพื่อที่จะกดกริ่งหน้าบ้าน ตัดสินใจกดกริ่งไปหนึ่งครั้ง ยืนรอสักพัก แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับจากในบ้าน เขาตัดสินใจกดครั้งที่ 2 เอกได้ยินเสียงคนเดินมาที่ประตูหน้าบ้าน เสียงประตูเปิดออก เขาหวังว่าคนที่จะได้เจอคือ เคนซัง แต่ คนที่เปิดประตูออกมานั้น เป็นหญิงสาว วัยเบญจเพศ หน้าตา หมดจด ผิวขาว แก้มแดงระเรื่อ ตามแบบสาวญี่ปุ่น หญิงสาวเห็นเอก แล้วทำหน้างงเล็กน้อย  เอกก็งงเช่นกัน เพราะ เท่าที่เขารู้ คือ เคนซังอยู่คนเดียว หรือว่า เขามาผิดบ้าน แต่ ที่ดูเลขที่และชื่อที่ติดอยู่ที่หน้าบ้านก็เป็นชื่อของเคนซังนี่นา
“มาหาใครหรือค่ะ” หญิงสาวชาวญี่ปุ่นเอ่ยถามเป็นภาษษญี่ปุ่น
“ที่นี่คือบ้านของ Aranishi Kenji san ใช่ไหมครับ” เอกถามกลับไปเป็นภาษาญี่ปุ่นเช่นกัน
หญิงสาวยังคงทำหน้างง แต่เธอก็ตอบกลับไป “ใช่ค่ะ มาหา เคนจิซัง หรือค่ะ”
“ครับ”  เอกตอบและยิ้มให้กับเธอ
หญิงสาวยังคงทำหน้าแปลกใจแต่ก็บอกให้รอสักครู่ แล้ว เดินกลับเข้าไปในบ้าน ตะโกนเรียกบอก เคนซังว่ามีคนมาหา ไม่กี่วินาที เอกก็ได้ยินเสียงวิ่งลงบันไดมา ตามด้วยเสียงพูดคุยกันในบ้านของหญิงสาวคนนั้นกับอีคนหนึ่งซึ่งเอกคิดว่าคงเป็นเคนซัง แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เคน เดินออกมา ใบหน้าแปลกใจ ระคน ตกใจ เขาคงไม่คิดว่า เอกจะมาเซอร์ไพรซ์ เขาแบบนี้  สีหน้าของเขาที่เอกเห็น ทำให้เอก เปลี่ยนจากความรู้สึกตื่นเต้นเป็น ตกใจ และ ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เบื้องหน้า  เคนเดินมาเปิดประตูหน้าบ้านให้เอกเข้ามา เขายังมองเอกไม่ละสายตา ด้วยสีหน้าตกใจ และไม่เข้าใจเช่นกัน
“หวัดดีครับ เคนซัง” เอก เป้นคนทักก่อน เพื่อทำลายความเงียบ และอการตกใจของเขา
“คุณไม่ได้ล้อผมเล่น...” เคนไม่ทักตอบ แต่ เริ่มด้วยการถามคำถาม ที่เขายังไม่เชื่อว่า เอกจะมาจริงๆ 
“ผมมาเซอร์ไพรซ์...ก็เลยไม่ได้บอกล่วงหน้า” เอกยังคงพยายามตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และข่มอารมณ์ความสงสัย และตกใจไว้ เพราะเขายังไม่รู้แน่ว่า สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตอนนี้ มันคืออะไร
“เข้าไปคุยกันในบ้านก่อนดีกว่า ข้างนอกอากาศเย็น”  เคนไม่แสดงอาการดีใจกับสิ่งที่เอกบอกเลย เขาบอกเอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ  เอกเดินตามเคนเข้าไปในบ้าน เคนเดินนำเอกไปที่ห้องรับแขกด้านใน หญิงสาวที่ออกมาเจอเอกครั้งแรกคนนั้น เดินหายเข้าไปในครัวและออกมาพร้อมกับน้ำ 1 แก้ว เอกนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขก หญิงสาววางแก้วน้ำให้เอก เอกกล่าวขอบคุณ เธอยิ้มให้ แล้วก็เดินเข้าไปอีกห้องที่อยู่ถัดจากห้องรับแขก เอกได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ อยู่ในห้องนั้น ทำให้เขายิ่งแปลกใจมากยิ่งขึ้น ว่าเขามาถูกบ้านหรือเปล่า แต่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ก็คือ เคนซัง ผู้ชายคนที่รักมาตลอดเวลาร่วมปี แต่สิ่งที่เขาเห็นวันนี้ มันคืออะไรกัน เอกไม่คิดจะโวยวาย หรือ คาดคั้นอะไรจาก เคน แต่สีหน้าเขาเต็มไปด้วยคำถาม เอกมองหน้าเคน แต่เคนก็ยังไม่พูดอะไร ซึ่งเคนก็ ดูสับสน ตกใจ และ ไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นกับเอกยังไง  เอกเห็นเป็นแบบนี้ แล้ว เขาก็เริ่มไม่สบายว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้น มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เขาเริ่มเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป
“เคนซัง ผมขอโทษที่ ทำแบบนี้ ผมควรจะบอกเคนซังก่อน” เอกบอกเคนด้วยเสียงสั่นเครือ เขาเกือบจะร้องไห้ แต่ก็ต้องกลั้นไว้ เพราะ เขายังไม่รู้อะไรเป็นอะไรในบ้านหลังนี้ และเขาไม่ได้อยู่กับเคนเพียงลำพัง 
“ ........ ผม .....”  เคน ยังคงพูดอะไรไม่ออก คงเพราะไม่รู้จะเริ่มยังไงดี
เสียงเปิดประตู จากห้อง ข้างๆ เปิดออก เอกได้ยิน เสียงเด็กชาย หัวเราะร่าเริง ออกมา เอกมองไปที่หญิงสาวคนนั้น เธออุ้มเด็กออกมาจากห้อง เดินตรงไปที่ครัว แต่ เคนซังเรียกเธอก่อน
“เอริกะ”   เธอเดินกลับมาที่ ห้องรับแขก เด็กน้อย ยังคงร้องอ้อแอ้ อยู่ข้างๆ
“เอริกะ .. นี่ เอกซัง เพื่อนผม จาก เมืองไทย”
“ .. สวัสดีค่ะ เอ๊ะ ซัง ..” เธอกล่าวสวัสดีพร้อมกับยิ้มให้เอก
“สวสัดีครับ เอริกะซัง” เอกยิ้มให้เธอเช่นกัน พร้อมทั้งยกมือไหว้ เอริกะ ทำสีหน้าแปลกใจกับการทักทายของเอก แต่เธอก็ยังยิ้มให้ เด็กน้อยที่เธออุ้มอยู่ ก็ยิ้มให้กับเอกเช่นกัน
“เอกครับ นี่เอริกะ และ หนูน้อยนั่น คือ ทาคุจัง ภรรยา และ ลูกชายของผมเอง” เคนบอกเอกด้วยเสียงสั่นเครือ
เอกนิ่งเงียบกับวสิ่งที่เคนบอกเขา ปราศจากคำพูดเอื้อนเอ่ยใด ๆ  สิ่งที่เขาได้ยินเมื่อครู่มันคือ เรื่องอะไรกัน แล้วเรื่องของเขากับ เคนซังล่ะ  เขาไม่เคยรู้เรื่องของเอริกะ กับ ทาคุจัง ตอลดเวลาที่เขาคุยและคบกับ เคน เคนซังกำลังเล่นตลกอะไรกับเขาอย่างนั้นหรือ 

********************************************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 1 "สิ่งที่ปิดบัง" หน้า 4
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 06-11-2007 21:36:49
อยาก  :เตะ1:  นายเคนจังเลย

เอกต้องเศร้าอีกแระ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง"
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 18-01-2008 23:11:05
2.      หลงทาง
เอก นั่งเงียบ มองหน้า เคนด้วยสีหน้าที่อธิบายไม่ได้ ว่า สิ่งที่เคนบอกเขานั้น คือความจริง หรือ แค่ เรื่องล้อเล่น แต่มันจะเป็นเรื่องล้อเล่นได้อย่างไร ในเมื่อ สิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็บ่งบอกอยู่แล้ว ว่าเคนซังมีครอบครัวแล้ว เขาไม่อยากให้เรื่องมันเลยเถิดมากไปกว่านี้ เอกพยายาม ข่มอารมณ์ไว้ ทั้งๆที่อยากจะปล่อยน้ำตาออกมา สิ่งที่เขาอยากทำก็ยังไม่ได้ทำ แต่กลับต้องมาเจอกับเรื่องไม่คาดฝันแบบนี้
“เคนซัง มีครอบครัวที่น่ารักแบบนี้ ผมก็ดีใจด้วย .... ไม่บอกผมเลยนะว่ามี ภรรยา และ ลูกที่น่ารักแบบนี้” เอกฝืนยิ้มพูดกับ เคน เพื่อไม่ให้ เอริกะผิดสังเกต
“ .... “ ไม่มีคำตอบใดๆ จาก เคนจิซัง เขายังคงนั่งเงียบมองหน้า เอก เป็นนัยว่า เขาอยาก อธิบาย แต่ เขาพูดตอนนี้ ไม่ได้
“ผมแค่ แวะมาเยี่ยมน่ะ ...เห็น เคนซังอยู่ดี มีความสุขผมก็ดีใจแล้ว” เอกพูดต่อ แต่เขาฝืนความรู้สึกของเขาต่อไปไม่ได้ แล้ว น้ำตามันเริ่มไหลออกมา เอกจึงขอตัวเข้าห้องน้ำ หลังจากปิดประตูห้องน้ำแล้ว เอก กลั้นเสียงสะอื้นไว้ ปล่อยแค่เพียงน้ำตาให้ไหลออกมา เอกรีบเช็ดน้ำตาล้างหน้า แล้ว ออกมาจากห้องน้ำ ฝืนทำหน้ายิ้มแล้วเดินออกมา นั่งที่เดิม เคนยังนั่งรอเอกอยู่ที่เดิม
“เอก เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”  เคนถามขึ้น
“เป็นอะไร หรือเปล่า ...ถามมาได้ เป็นมากเลยล่ะ ....” เอกคิดในใจ มองหน้าคนที่ถาม สายเชิงต่อว่าว่า ถามมาได้นะว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
“...ไม่เป็นอะไรครับ ผมคงเพลียจากไฟลท์น่ะ ... ผมมากะทันหัน ขอโทษด้วยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า เลยมารบกวนเวลาของเคนซังกับครอบครัว...ต้องขอโทษอีกครั้งหนึ่งนะครับ”   เอกพูดพลางโน้มตัวลงต่ำ เพื่อแสดงการขอโทษ
“เอกไม่ต้องขอโทษ ผมหรอกครับ ไม่ได้รบกวนอะไรผมเลย เพียงแต่ .... ผม ... ผม ตั้งตัวไม่ทันน่ะครับ เพราะเอกไม่ได้บอกล่วงหน้า เลยไม่รู้จะทำอะไรก่อน” 
“ผมแวะมาเยี่ยม ก่อนจะแวะเข้าโรงแรมน่ะครับ เห็นเคนซังสบายดีแบบนี้ ก็โอเคละ งั้นผมไม่รบกววนดีกว่า”
เอกโกหกไปทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้จองโรงแรมเลย เพราะเขาคิดมาตลอดว่าเคนอยู่คนเดียว มาถึงแล้ว ก็อยู่กับเคน แต่สถานการณ์ เปลี่ยนไปแบบนี้ เขาคงต้องออกไปอยู่ข้างนอกจะดีกว่า
“ไม่ค้างที่บ้านผมละครับจะได้ไม่สิ้นเปลือง.... อีกอย่างผมจะได้ดูแลเอกด้วย” เคนเสนอห้องพักให้เอก ด้วยความห่วงใย
“ไม่เป็นไรครับ ผมดูแลตัวเองได้...ผมไม่อยู่รบกวนดีกว่า” เอกพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ .เคนยังคงมองเอกด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล เอกจึงตัดบท
“..เอาเป็นว่าผมเช็คอินห้องพักแล้วยังไงเดี๋ยวผมโทรหานะคับ เผื่อจะไปทานข้าวกัน”  เอกจัดแจงหยิบกระเป๋า ลุกจากที่นั่ง มองหน้าเคนอีกครั้ง
“ไม่พักที่นี่ จริงๆ เหรอครับ” เคนลุกขึ้นยืนพร้องเอก และ ถามเอกอีกครั้ง ตอนนี้ เอก ไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว เขาอยากรีบหลบออกไปไกลๆ เคนจะได้ไม่เห็นน้ำตาที่มันจะไหลเอ่อออกมาจากตา เขารีบเดินออกไปที่ประตูหน้าบ้าน เคนยังคงเดินตามออกมาส่งที่หน้าบ้าน
“ให้ผมไส่งดีกว่าไหม ผมมีเรื่องจะอธิบาย” เคนยังคงยืนยันที่จะไปส่ง และบอกเอกเป็นนัยๆ ว่า เขามีเรื่องอยากคุยกับเอก
“เคนซังไม่ต้องมาอธิบายอะไรหรอกครับ แล้วก็ไม่ต้องไปส่งผมด้วย ผมไปเองได้” เอกยังยืนกรานคำเดิม
“แล้วยังไง โทรหาผมนะ ถ้าถึงโรงแรมแล้ว” ... เคนยังคงเป็นห่วงเอก เพราะ เอกมาคนเดียว ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนี้ เกิดอะไรขึ้นแล้วเอกจะเป็นยังไง
“ครับ แล้วจะโทรหาละกัน ... ผมไปนะ” เอก เดินออกจากบ้านเคนซังไป เพียงแค่ พ้นจากบ้านไปเอกก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว น้ำตาที่กลั้นไว้ ตอนนี้ ไหลออกมาเป็นสาย เขาเดินไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า เขาเดินมุ่งหน้าไปไหน
 
*****************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง"
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 19-01-2008 16:30:23
 :a4:เป็นกำลังใจให้นักเขียนครับ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" Up เพิ่ม ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 07-02-2008 18:11:24
ลูกเป็ดมาต่อเรื่องให้แล้วนะค้าบ  :mc4:

*************************
บราวน์ นั่งทำหน้ามุ่ยอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค คงเพราะ เบื่อ กับการเล่นอินเอตร์เน็ต หรือไม่ก็เบื่อเพราะไม่มีอะไรทำ หลังจากเลิกงานแล้ว บราวน์ก็นั่งเล่นอินเตอรเน็ตอยู่อย่างนี้ทั้งวัน ไม่ได้ไปไหน เขาจะคอยเปิด หน้า MSN ดูอยู่ตลอดเวลา เหมือนกำลังรอใครสักคนออนไลน์ แต่ดูจากสีหน้าแล้ว คนที่รอคงยังไม่ออนไลน์ ก็เลยยังคงนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่   เสียงโทรศัพท์ ดังขึ้น แต่ไม่โชว์ เบอร์ คนที่โทรมาว่าเป็นใคร อาจจะเป็นสายจากต่างประเทศ บราวน์ หยิบมารับ หน้าตาดูดีใจที่เห็น unknown call
“ฮัลโหล รออยู่ตั้งนานไม่โทรมาบอกเลยนะว่าถึงหรือยัง” บราวน์ รับสาย พร้อมทั้งพูดเหฯ้บคนที่โทรหา
“ .. อ้าว รอให้ผมโทรบอกเหรอ พี่บราวน์”  เอกตอบกลับ
บราวน์ นิ่งเงียบไปสักพัก สีหน้าดูตกใจ ที่เป็นเสียง เอก 
“อ้าว เมิงเองหรอก เหรอ ไม่มีอะไร แค่รอโทรศัพท์ เพื่อนอยู่น่ะ นึกว่า เพื่อน...แล้วนี่ไปถึงสวรรค์ ชั้นไหน แล้วเหรอ คงมีความสุขกับคนที่อยากจะเจอนักเจอหนาแล้วล่ะสิ...แล้วนี่ อยู่ไหนเนี่ย เสียงดังเชียว” บราวน์ รีบเปลี่ยนเรื่อง
“ผมอยู่สถานีรถไฟมิโนวะครับ พี่บราวน์ ไม่ได้อยู่บ้านเคนหรอก เรื่องมันยาวอ่ะ คุยทางนี้ไม่สะดวก แล้วเดี๋ยวจะเขียนอีเมล์ ไปเล่าให้ฟังนะ แต่ลางสังหรณ์ พี่บราวน์ แม่นจริงๆ”  เอกพูดเสียงเศร้า
“อ้าว เป็นไรอีกละเนี่ย เออๆ ถึงโน่นปลอดภัยก็ดีแล้ว รักษาตัวด้วยละกัน อย่าคิดมาก มีไรก็โทรมาเน้อ”
“ค้าบ...แค่นี้ก่อนนะ...”
บราวน์ วางสายจากเอก ได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์มาดู เป็น unknown call อีกครั้ง ชายหนุ่มคิดว่า คงเป็นเอกอีกครั้ง เลยรับสายแล้วแกล้งแหย่ไป
“เป็นไรอีกล่ะ ทนไม่ไหวต้องเล่าเดี๋ยวนี้ เลยเหรอจ๊ะ น้องเอก”
“.... ใคร เหรอครับ บราวน์ ... นี่บอลนะ” เสียงตอบกลับมา ไม่ใช่น้องเอก อย่างที่ บราวน์ กลับ เป็นอีกคนที่เขารออยู่
“อ้าว บอล เอง เหรอ ไม่มีไรหรอก พอดี คุยกะน้องมันอยู่ ก็คิดว่ามันโทรกลับมา เลย แกล้ง แหย่ มันเล่น ... นี่ถึงแล้วเหรอ” 
“ถึงแล้ว นี่ กำลังจะไป หาเพื่อนที่ชิบุย่า นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรบอก เมื่อมาถึง เลยโทรมานี่ละ บราวน์ ทำไรอยู่ครับ”
“ก็ไม่มีไร นั่งเล่นเน็ต อยู่ครับ ...ถึงที่โน่นปลอดภัยก็ดีแล้วล่ะ ... ถ้าออน เมื่อไหร่ ก็ค่อยคุยกันนะ Take care ครับ”
“ได้ครับ  บายครับ”
บราวน์ ยิ้มอย่างมีความสุข หลังจากวางสาย คนที่เขารอมาตั้งแต่เช้า จากที่นั่งหน้ามุ่ยมานาน ตอนนี้ เปลียนเป็นเบิกบาน นั่งยิ้มหน้าจอคอมพิวเตอร์
****************************************************
เอกยืนชั่งใจอยู่นานหน้า ตู้โทรศัพท์ ข้างๆ เขามีกระเป๋าเดินทางใบเขื่องวางอยู่ ในมือ มี นามบัตรของ เคนจิ และ อีกใบ เป็น กระดาษ เบอร์โทรของบอล เพื่อนใหม่ที่เขาเพิ่งได้มา เขายืนมองกระดาษทั้งสองใบอยู่นาน ในใจกำลังตัดสินใจว่าเขาควรจะเลือกโทรหาใครดี จะโทรหา เคน ก็ไม่อยากไปรบกวน และ เขาคงไม่กล้าที่ บากหน้ากลับไป เพราะ เขายืนยันอย่างแน่นหนักแล้ว ว่า จะไม่ไกลับไป และเขาก็ตั้งใจว่าจะไม่กลับไปเจอหน้าเคนอีก ส่วนจะโทรหาบอลเขาก็ยังกล้าๆ กลัวๆ เพราะ เพิ่งจะรู้จักกันไม่ทันไรก็หาเรื่องเดือดร้อนให้แล้ว ระหว่างศักดิ์ศรีกับความเกรงใจ เอกขอเลือกศักดิ์ศรี เขาจึงตัดสินใจโทรหา บอล
“....โมชิ โมชิ ธนกริช  เดส” 
เอก เงียบไปสักพัก เพราะคิดว่าโทรผิด หลังจากได้ยินเสียงปลายสายพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น แต่ด้วบชื่อไทยที่เขาได้ยิน เขาจึงคิดว่าน่าจะเป็นชื่อของบอล จึงลอง ถามกลับเป็นภาษาไทย
“ .. บอล หรือเปล่าครับ”
“..เอ่อ ใช่ครับ..ไม่ทราบว่าใครพูดสายครับ”
“ผม เอก ครับ บอล”
“อ้าวเอก .... โทษที ผมจำเสียงไม่ได้ แหม เสียงในโทรศัพท์ เสียงเข้มเชียว ..มีอะไรให้ผมช่วยครับ หลงทางเหรอ” บอลพูดแหย่ เอก อย่างอารมณ์ ดี
“ไม่ได้หลงครับ เอ่อ ... แต่จริงๆ ก็เหมือนจะหลง บอกไม่ถูกครับ บอลยุ่งอยู่หรือเปล่าครับ มีเรื่องอยากจะถามนิดหน่อย”
“ไม่ยุ่งครับ ผมว่างสำหรบเอก อยู่ แล้ว ฮ่าฮ่า .. มีอะไรให้ผมช่วยครับ” เขาก็ยังไม่วายแหย่เอก
“คือ บอลพอจะรู้จักโรงแรมถูกๆ ที่โตเกียวไหมครับ ผมจะหาที่พักสักคืน”
“อ้าว เพื่อน ไม่อยู่ บ้านเหรอครับ”
“..เอ่อ ใช่ครับ ... แย่จังมาเซอไหรซ์ กับ เจอซะเอง” เอก พูดเสียงสั่นเครือ เพราะนึกถึงเคนอีกครั้งกับเซอไพรซ์ ที่เขาเจอ พาลจะทำให้เขาร้องไห้ แต่เขาไม่อยากให้บอลรู้เรื่องที่เขาเพิ่งได้เจอมาจึงโกหกไป
“นั่นน่ะสิครับ แย่จัง แต่ก้ไม่เป็นไร เห็นไหม ว่าอย่างน้อย เอก ก็ยังมีผม นะ”  เอกรู้สึกแปลกๆ กับคำพูดนั้น ถึงเขาจะรู้ว่า บอล ก็พูดทีเล่นทีจริงหยอกเขาเล่นไป แต่เขากลับรู้สึก สบายใจขึ้นอย่างประหลาดที่ได้คุยดับ เพื่อนใหม่คนนี้
“แล้วบอลพอจะแนะนำผมได้ไหมครับ ว่าผมควรพักที่ไหน”
“อืม เอางี้ ยังไงซะวันนี้ผมก็ว่างอยู่แล้ว เอาเป็นว่า เรามาเจอกันก่อน แล้วค่อยคุยกันว่า เอกควรจะพักที่ไหนดี ดีกว่าไหมครับ” บอลเสนอทางออก
“จะรบกวนบอลมากไปเกินหรือเปล่าครับ ผมขอแค่คำแนะนำก็พอ ดีกว่ามั้ง เห็นบอลบอกว่าต้องไปหาเพื่อนไม่ใช่เหรอครับ” เอกยังเกรงใจบอล และคิดที่จะปฏิเสธน้ำใจ
“ไม่รบกวน เลยครับ เพื่อนผมน่ะ มันรอได้ แต่ เอก น่ะรอไม่ได้นะครับ นี่ก็จะเย็นแล้ว เอกควรหาที่พักให้ได้ก่อนนะ ... ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ คนไทยด้วยกัน อีกอย่าง เราเป็นเพื่อนกันนี่นา” บอลยังคงยืนยันความต้องการที่จะช่วยเหลือ
“เอ่อ ....”
“ไม่เอาละ ไม่ต้องเอ่อ อ่า อะไรทั้งนั้นครับ เอาเป็นว่า ตอนนี้เอกอยู่ไหนครับ”
“สถานีรถไฟใต้ดินมิโนวะ ครับ”
“มาสถานีอุเอโนะได้ไหมครับ มีแผนที่ใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นกางแผนที่นะ เดี๋ยวผมจะบอกว่านั่งรถไฟสายอะไรมา ....”
บอลอธิบายเส้นทางให้เอกอยู่สักพัก จนเอกมั่นใจแล้ว ว่าไปได้แน่นอน
“โอเค ... หลังจากออกจากสถานีแล้วให้เอก ออกมาเจอผมที่ ฝั่งประตู giant panda นะครับ สังเกตง่ายๆ จะมีป้ายบอกทางออกอยู่ ถ้าหาไม่เจอก็ถามพนักงานนะครับ เอกพูดญี่ปุ่นได้ใช่ไหม  ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ ยังไง ผมรอที่ สถานีอุเอโนะนะครับ แล้วเจอกัน”
“ครับผม ...ขอบคุณนะครับ...แล้วเจอกันครับ”
เอกวางสาย ใบหน้าที่เศร้าสร้อยนั้น เปลี่ยนเป็นสดชื่นขึ้นบ้าง อย่างน้อย เขาก็ยังโชคดีที่ ยังมีคนคอยช่วยเหลือในยามคับขัน เขาหยิบกระเป๋าขึ้นแบกบนบ่า อล้วก้มลงดูแผนที่อีกครั้ง เพื่อความมั่นใจ ก่อนจะเดินลงไปที่ชานชลาเพื่อไปขึ้นรถไปมุ่งหน้าไปยังที่หมายที่นัดกับบอลไว้
*****************************************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" Up เพิ่ม ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 07-02-2008 19:17:41
ค่อยยังชั่วหน่อยมีบอลช่วยเหลือ ไม่งั้นเอกแย่เลยเนอะ

แต่เคนแปลกจังเลย ปล่อยให้เอกกลับคนเดียวคนเพิ่งมาญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่เป็นห่วงมั่งเลยเหรอ
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" Up เพิ่ม อีกนิดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 11-02-2008 23:00:04
*******************************
ไม่ถึงชั่วโมง เอกก็มาถึงสถานีอุเอโนะ มองดูนาฬิกา เกือบ ห้าโมงเย็นแล้ว เขารีบเดินออกจากชานชลา แล้วมองหาทางออก giant panda มุ่งหน้าไปทางนั้น พอออกจากสถานี เขาก็เห็นบอลนั่งรอเขาอยู่ หน้า ตู้กระจกข้างในมีตุ๊กตาหมีแพนด้าตัวใหญ่ อยู่ข้างใน เขารีบเดินตรงไปหาบอล
“รอนานไหมครับ ขอโทษด้วยนะ”
“ไม่นานหรอกครับ ผมบอกแล้ว ผมน่ะรอเอกได้เสมอ” พูดเสร็จ บอลก็ทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่เอก หร้อมทั้งยิ้มให้กับเขา
“ขอบคุณค้าบบบบบบ” เอกลากเสียงยาวล้อกลับเช่นกัน
“งั้นเดี๋ยวเราไปคุยกันที่ร้านข้างหน้านั้นดีกว่า นั่งจิบกาแฟคุยกันไป”
“ได้ครับ”
ทั้งสองเดินตรงยังไปยังร้านกาแฟ ย่านอุเอโนะ เป็นย่านที่ผู้คนพลุกพล่านย่านหนึ่งของโตเดียว ผู้คนเดินขวักไขว่ ส่วนใหญ่คงกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน บ้างก็เดินตรงไปยังสถานีรถไฟ บ้างก็เดินออกมาจากสถานี ด้านหลังสถานีจะมีสวนสาธารณะ ขนาดใหญ่เป็นปอดสำหรับคนในย่านนี้ เลยไปอีกนิดก็จะมีสวนสัตว์ด้วย
บริเวณที่ เอก กับบอล เดินออกมาจากสถานีนั้น เป็นศูนย์ แสดงศิลปะกลางแจ้ง และเป็นทางเชื่อมระหว่าง ทางเดินไปยังในตัวเมือง ผู้คนเลยเดินกันหนาตา เมื่อมาถึงในร้าน ภายในร้านคนไม่เยอะนัก อาจเป็นเพราะไม่ใช่เวลาที่จะมีลูกค้าเยอะ เพราะ เย็นมากแล้ว บอลก็เดินตรงหาที่นั่ง โดยมีเอกเดินตามมาติดๆ  หลังจากจัดแจงหาที่นั่ง วางกระเป๋าเสร็จสรรพ พนักงานในร้านก็เดินมารับออเดอร์ เอกสั่ง ชาเขียวร้อน ส่วน บอล สั่ง กาแฟคาปุชิโน่ไป บอลพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องมาก หากดูเผินๆ เขาก็ดูกลมกลืนไปกับชาวญี่ปุ่น เพราะหน้าตาตี๋ๆ ผิวขาวของเขา ก็ดูเหมือนกับคนญี่ปุ่นอยู่แล้ว
“เอาละ ว่าแต่เอกจะพักกี่คืนละครับ”
“อืม คงคืนเดียวก่อนนะครับ ให้ผ่านคืนนนี้ไปก่อนแล้ว เดี๋ยวได้ห้องพักแล้ว ผมค่อยแพลนว่าจะไปไหนดี เพราะยังไม่อยากอยู่ โตเกียวให้นานมาก” เอกเริ่มจะนึกถึงเคนอีกแล้ว
“ทำไมละครับ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย โตเกียวก็มรที่น่าสนใจเอยะนะครับ”  บอลถามอย่างสงสัย
“เอ่อ มันเมืองใหญ่ครับ วุ่นวาย ผมไม่ค่อยชอบ ขอออกไปนอกเมืองก่อนละกัน” เอกเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเคน โดยหาข้ออ้างไปก่อน
“อ่ะงั้นก็ตามใจครับ จริงๆ แถบนี้ โรงแรมถูกๆ ก็พอมี แต่มันก็ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนโรงแรมที่กรุงเทพนะครับเอก เพราะถ้าถูก สิ่งอำนวยความสะดวกมันก็น้อย เอกจะไหวไหมละครับ”
“ผมไม่เรื่องมากขนาดนั้นหรอกครับ ยังไงก็ได้ ขอแค่ที่ซุกหัวนอนไปก่อน พรุ่งนี้จะได้ตั้งต้นใหม่”
“งั้นเดี๋ยวผมโทรถามเพื่อนให้ เพื่อนผมมันคนแถวนี้ มันพอจะรู้ว่าที่ไหนถูก”  บอลหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ โทรหาเพื่อน คุยกับเพื่อนได้ไม่ถึง 5 นาที เขาก็วางสาย พร้อมๆ กับ กาแฟ และชาเขียวที่สั่งไว้
“เพื่อนผมบอก โรงแรมอยู่ใกล้ๆ สถานีอุเอโนะ นี่เอง ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเดินไกล เอกจะได้ไม่เหนื่อย”
บอลพูดไปก็จิบกาแฟไป
“เหรอครับ อืม ราคาแพงไหมอ่ะ ผมไม่อยากได้แพงมากน่ะครับ”
“ไม่ครับ เพื่อนผมมันรู้จักกับเจ้าของโรงแรม รับรองถูกครับ คืนละ 4000 เยน เอง”
“อืม ครับ ก็ไม่แพงมาก ขอบคุณนะครับ รบกวนบอลมากเลย ตั้งแต่ลงจากเครื่องแล้วทั้งมาส่ง ทั้ง ช่วยหาที่พัก นี่ถ้าไม่ได้บอลช่วย ป่านนี้ผมคงยังงมหาที่พักอยู่ที่ไหนสักแห่งในโตเกียวแน่ๆ” 
“ไม่ต้องเกรงใจครับ ผมยินดีอยู่แล้ว สำหรับเอก” 
“แล้ว บอลต้องรีบไปไหนหรือเปล่าครับ คือ ผมเกรงใจอ่ะครับ ต้องมาติดแหงกอยุ่กับผม”
“ไม่เลยครับ เดี๋ยวส่งเอกแล้ว ผมค่อยไปหาเพื่อนก็ได้ เพื่อนผมมันก็อยุ่แถวๆนี้ แหละ นั่งรถไฟไปไม่กี่สถานีเอง.... ชาหมดแล้วใช่ไหมครับงั้น ไปกันเลยดีกว่าครับ เอกจะได้เอาของไปเก็บ”
“ได้ครับ มื้อนี้ ผมขอเลี้ยงบอลนะครับ ถือเป็นการขอบคุณที่ช่วยผมวันนี้นะครับ” เอกรีบบอกบอลก่อนที่บอลจะหยิบกระเป๋าเงินออกมาเพื่อเตรียมจ่ายเงิน
“อ่ะ งั้นก็ได้ครับ ผมตามใจเอกละกัน” บอลตอบรับ พร้อมกับยิ้มให้เอก
หลังจาก จ่ายเงินเรียบร้อย ทั้งสองก็ออกมาจากร้าน ระหว่างทางไปโรงแรม บอลก็ชี้โน่นชี้นี่ให้เอกดู พร้อมทั้งเล่าว่า อันนี้คืออะไร เป็นอะไร เอกก็ฟังอย่างสนใจ ทั้งสองเดินคุยกันมาเรื่อยจนถึง หน้าโรงแรม โรงแรมที่บอลพาเอกมาพักนั้นเป็นโรงแรมเล็ก ซึ่งเจ้าของก็ อายุไล่เลี่ยกับบอล และเอก เขาเป็นเจ้าของบ้านและบริหารกิจการเอง บอลพาเอกเดินเข้าไปและทักทายเจ้าของร้าน เอกจับใจความได้ว่า บอลบอกเจ้าของโรงแรมว่า เพื่อนของเขา เป็นคนแนะนำมา เจ้าของโรงแรมก็เลย ต้อนรับเป็นอย่างดี และลดค่าห้องพักให้เหลือ 3000 เยน เอกรู้สึกประทับใจในการช่วยเหลือของบอลมาก ถ้าหากไม่ได้บอลช่วย ป่านนี้ เขาคงหลงอยู่ที่ไหนสักแห่งแล้ว เขาเริ่มรู้สึกดีกับเพื่อนใหม่คนนี้ และคิดว่า อย่างน้อย เรื่องดีๆ ยังเกิดขึ้นกับเขา
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เจ้าของโรงแรมก็พาเอก และบอลไปที่ห้องพัก เปิดห้องให้เรียบร้อย เจ้าของโรงแรมก็คุยกับบอลอยู่พักหนึ่งแล้วก้ขอตัวกลับลงไปที่เคาน์เตอร์ ส่วนเอกก็จัดแจงวางกระเป๋า แล้วมองไปรอบๆ ห้องพัก ห้องพักที่เอกอยู่ไม่กว้างมาก เตียงขนาดที่นอนได้ 2 คนไม่เบียดกัน เหลือพื้นที่ไว้สำหรับวางทีวี ตู้เย็น และ โซฟา 1 ตัว และพื้นที่ว่างระหว่างเตียงกับโต๊ะวางทีวี และโชฟา เพียง 2 เมตร แต่เอกก็พอใจ เพราะ ราคาไม่แพงและห้องพักก็สะอาด แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาสงสัยคือ ห้องน้ำ อยู่ที่ไหน
“บอลครับ แล้วห้องน้ำอยู่ไหนเหรอครับ” เอกถามหน้าซื่อๆ
บอลมองหน้าเอก แล้วก็หัวเราะกับหน้าตาซื่อๆ ที่เอกถาม
“อ้าว ... นี่เอกไม่รู้เหรอว่าโรงแรมแบบนี้เขาไม่มีห้องน้ำส่วนตัวในห้องหรอกครับ มันจะเป็นห้องน้ำรวม อยู่ชั้นล่าง และถ้าอยากอาบน้ำ ต้องใช้บริการโรงอาบน้ำข้างๆ โรงแรมอ่ะครับ เคยดูในการ์ตูน หรือ หนังญี่ปุ่นใช่ไหมครับ”
“เอ่อ ผมก็ไม่คิดว่า มันจะเป็นอย่างนั้นหมดน่ะครับ ... เรื่องห้องส้วมโอเค ไม่เป็นไร แต่เรื่องอาบน้ำ ที่ว่าโรงอาบน้ำเนี่ย ถ้าในแบบการ์ตูนที่ผมเคยเห็น ก็ต้องอาบรวมกัน มีสระน้ำอันใหญ่ นั่งแช่กันอย่างนั้นเหรอครับ”
“ใช่แล้วครับ ... ต้องเป็นอย่างในการ์ตูนที่เอกเห็นนั่นแหละครับ”
“แล้วผมจะกล้าอาบไหมเนี่ย ...” เอกพูดเขินๆ
“ไม่ต้องอายหรอกครับ ที่นี่ เขาไม่มีใครสนใจใครอยู่แล้ว ก็อาบๆ ไป แรกๆ ผมก็คิดเหมือนเอกนั่นแหละ แต่เดี๋ยวนี้ผมชินแล้ว”
“เหรอครับ ไม่กล้าอ่ะ ....” เอกยังคงเขินที่จะต้องไปเปลื้องผ้าอาบน้ำต่อหน้าผู้คน
“ถ้าไม่กล้าก็ไม่ต้องไปก็ได้ครับ ก็ตัวเหม็นต่อไปละกิน ฮิฮิ ...” บอลยังไม่วายแหย่เอกเล่น
ระหว่างที่คุยกันอย่างสนุกสนานอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของบอลก้ดังขึ้น
“เพื่อนโทรมาตามแน่ๆ เลยครับ บอล”
“คงงั้นแหละครับ ขอตัวแป๊บนะ” บอลเดินเลี่ยงออกไปที่ระเบียงห้อง ปล่อยให้เอก นั่ง เก็บของ ที่เอาออกมาจากกระเป๋าอยู่ข้างใน  เขาปิดบานประตูไว้ แล้วมายืนข้างนอก ก่อนปิดประตูกระจกเขาหันมามองที่เอก  เห็นเอกกำลังง่วนเก็บของอยู่ไม่ได้สนใจที่ตัวเขา บอลแอบยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มองที่หน้าจอโทรศัพท์ แต่ไม่มีสัญญาณโทรเข้า หรือ โชว์หมายเลขที่โทรเข้า กลับเป็นสัญลักษณ์ เหมือนนาฬิกาปลุก บอลปิดเสียง ทำทีเป็นกดรับสาย และพูดโทรศัพท์ ระหว่างนั้นเอกมองไปที่บอลก็เห็นเขาเหมือนกับคุยโทรศัพท์อยู่ บอลหันมาพอดี เขาจึงโบกมือให้ เอกยิ้มตอบ แล้วก้มหน้าก้มตาเก็บของต่อไป บอลเห็นว่าไม่มีพิรุธอะไรแล้ว เขาจึงเดินกลับเข้ามา ทำหน้า หงอยๆ  เอก เห็นทำหน้าหงอย ก็ใจเสีย กลัวว่า บอลจะทะเลาะกับเพื่อนเพราะมัวแต่มาดูแลเขา
“เพื่อนว่าอะไรหรือเปล่าครับ หน้าจ๋อยเลย” เอกถามน้ำเสียงกังวล
“เปล่าครับ มันไม่ได้ว่าอะไรผมหรอก เพียงแต่ วันนี้ ผมไม่ต้องไปหามันแล้ว เพราะมันจะซื้อของที่ อาคิฮาบาระน่ะครับ เห็นบอกมีเกมใหม่มา จะไปดูซะหน่อย แล้วคงกลับดึก มันบอกว่า ไหนๆ ผมก็อยู่ที่โรงแรมนี้แล้ว ก็รอที่โรงแรมไปก่อนละกัน เพราะมันไม่อยากให้ผมไปรอที่ใต้อพาร์ทเมนท์มัน”
“อ้าวเหรอครับ  งั้นก็รออยู่ที่ห้องนี้ด้วยกันก่อนก็ได้ ไม่เป็นไรนี่ครับ ค่าห้องก็จ่ายไปแล้ว เขาคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง” เอก เสนอทางออก โดยไม่ได้เฉลียวใจอะไร
“เกรงใจ เอกน่ะครับ”
“จะเกรงใจทำไมกันเล่า ถ้าไม่ได้บอลผมก็ไม่รู้ว่า ตอนนี้จะอยู่ส่วนไหนของโตเกียวแล้ว บอกผมอย่าคิดมาก บอลก็ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ”
“งั้นผมไม่เกรงใจนะ” พูดเสร็จ บอลก็กระโจนลงไปที่เตียงนอน
“ของีบเลยละกัน เหนื่อยมาทั้งวัน ยังไม่ได้นอนเลย หลับเอแรงสักพักดีกว่า”
“ตามสบายครับ ผมขอเก็บของสักพัก”
“ค้าบบบบ” 
หลังจากเอก หันกลับไปเก็บของนั้น เขาไม่ได้สังเกตเลย แววตา และรอยยิ้ม อย่างมีเลศนัยของบอลนั้น สื่อถึงอะไร
****************************************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" Up เพิ่ม ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 11-02-2008 23:04:22
ค่อยยังชั่วหน่อยมีบอลช่วยเหลือ ไม่งั้นเอกแย่เลยเนอะ

แต่เคนแปลกจังเลย ปล่อยให้เอกกลับคนเดียวคนเพิ่งมาญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่เป็นห่วงมั่งเลยเหรอ

นั่นนะสิครับ คุณน้ำค้าง เคนจิ หายไปไหนนะ ไม่เป็นห่วงเอก เลย ตอนนี้ อะไรจะเกิดกับเอกต่อไปละเนี่ย ท่าทาง บอล มีเลศนัย นะ  ooops  :m29:
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" Up เพิ่ม อีกนิดครับ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 13-02-2008 13:27:19
เคนไม่น่ารักแล้ว  :m14:

เอกเปลี่ยนใจมากิ๊กกะบอลดีกว่า

หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2 /// ตอนที่ 2 "หลงทาง" จบตอน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: *Ecks* ที่ 07-07-2008 22:44:23
หายไปนานมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แบบว่า ยอมรับผิดไม่ได้เข้ามาที่เล้า ยังไงจะปรับปรุงตัวครับ ตอนที่ สามจะตามมาในไช้นะครับ......................... :oni2:


***************************************************

เคนนั่งเงียบอยู่ที่โต๊ะ ทำงาน เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเย็นที่ผ่านมา เอกมาเจอเขา มาเจอเรื่องที่เขาปิดบังไว้ ถึง 2 ปี แน่นอนเอกต้องโกรธ และ เสียใจ เขารู้สึกได้ เพราะ เขาเองก็เสียใจไม่แพ้กัน แต่จะให้เขาทำยังไง ในเมื่อ เอริกะ และ ทาคุยะน้อย คือ สิ่งที่แม่เขาสั่งเสียไว้ก่อนตาย ว่าจะต้องดูแลทั้งสองคนนี้ให้ดี
เคนจิ เปิด ไฟล์ รูปที่เขากับเอก ถ่ายด้วยกันที่ เกาะสมุย ทุกรูปทั้งสองต่างมีความสุข เพราะช่วงเวลานั้น คือเวลาแห่งความสุขของ เขาทั้งสองคน
เคนจินั่งมองคอมพิวเตอร์ หน้าจอเป็นอีเมล์ ล่าสุดที่เอกเขียนมาหาเขา เคนจินึกโทษตัวเองที่เขาปิดบังเรื่องนี้กับเอก แต่เขาก็ไม่อยากเอกต้องมารับรู้ ถึงภาระของเขา สุดท้ายสิ่งที่เขาปิดบังก็ต้องกลับมาทำร้ายตัวของเขาเอง
“เคนจิซัง .... เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ....ชั้นเอาน้ำชามาให้” เสียง เอริกะ เคาะประตูเรียกอยู่หน้าห้อง
เคนจิเดินมาเปิดประตู รับน้ำชาจากเอริกะ พร้อมกับถามถึง ทาคุน้อยว่าหลับหรือยัง
“หลับไปแล้วค่ะ ... เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ สีหน้าดู เหนื่อยๆ” เอริกะ ยังคงถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่มีอะไรหรอก ... ไปพักผ่อนเถอะ เหนื่อยมาทั้งวัน กับทาคุน้อยแล้ว ไม่ต้องห่วงผม”
เอริกะ มองหน้า เคนจิ  แล้ว ถอนหายใจ
“เอกซัง ... คือ คนคนนั้น ใช่ไหมค่ะ คนที่ เคนจิซังเคยบอก” 
“....” ไม่มีเสียงตอบจาก เคนจิ แต่เอริกะก็ได้ยินเสียงถอนหายใจของเขา
“ ...ทำไมไม่อธิบายให้ เค้าฟังล่ะค่ะ เคนจิซังไม่น่าบอกเขาไปอย่างนั้นเลย”
“ สายไปแล้วล่ะ เอริกะ เขาไม่ฟังผมแล้ว ผมผิดเองแหละ ที่ ไม่ยอมบอกเค้าตั้งแต่ต้น ... ...”
“ชั้นไม่รู้หรอกนะ ว่า เคนจิซังกับเอกซังคนนั้น รู้จักกันดีแค่ไหน แต่ถ้า เคนจิซังบอกความจริงและอธิบายเหตุผลไป เอกซังต้องรับฟัง และเข้าใจ แน่นอน ... เคนจิซังเป็นคนดี ชั้นเชื่อว่า เค้าต้องเข้าใจ”
“ผมไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะเป็นยังไง ... แต่ก็ขอบคุณนะ เอริกะ... ไปฟักผ่อนเถอะ เดี๋ยว ทาคุน้อยตื่นขึ้นมาไม่เห็นแล้วจะงอแง”
“ค่ะ...ไปนะคะ”
เคนจิถือถาดน้ำชา เดินกลับเข้ามาที่ห้อง เขากลับมานั่งอ่านเมลล์ ของเอก อีกครั้ง อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วถอนหายใจ
“เอก ผมขอโทษ” ...............................

****************************************************************
เสียงโทรศัพท์ปลุกให้บอลตื่นจากการงีบหลับ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นเพื่อนเขานั่นเอง บอลดูนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบ 2 ทุ่มแล้ว เขามองไปรอบห้อง ไม่เห็นเอกอยู่ในห้อง บอลเลยเดินออกมาที่ระเบียง เห็นเอกยืนเหม่ออยู่  บอลกะจะแหย่เอกเล่นด้วยการทำให้ตกใจ เขาค่อยๆ ยื่นหน้าไปใกล้ข้างหูของเอก แต่ก่อนที่บอลจะได้แกล้งเอกนั้น เขาเห็น เอกสะอื้นยืนร้องไห้อยู่ 
“เอก....เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”  เอกยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา
“ไม่มีอะไรครับ .. ผมแค่...”
“แค่ อะไรครับ ไม่มีอะไรแล้วร้องไห้ทำไม”
เอกมองหน้าบอล สีหน้ากังวล ในใจครุ่นคิดว่า ควรจะบอกบอลเรื่องที่เกิดขึ้นไหม แล้วถ้าเกิดบอลรับไม่ได้กับเรื่องที่เขาเล่า หรือ สิ่งที่เขาเป็น บอลจะมองเขายังไง 
“คือ ... ผมไม่รู้ว่ามันเหมาะที่จะเล่าหรือเปล่าครับ”
“โอเค ... ไม่เป็นไรถ้ายังไม่พร้อมจะเล่า ก็ ไม่บังคับกันครับ อากาศมันเย็น เอกเข้าในห้องเถอะครับ เดี๋ยวไม่สบาย ผม ขอคุยกับเพื่อนแป๊บเดียว รับรองไม่ทิ้งให้เอกเหงาอยู่คนเดียวหรอกนะ” เค้าทำหน้าตาทะเล้นใส่เอก จนทำให้เอก ยิ้มได้
“ขอบคุณนะครับ บอลช่วยผมไว้อีกแล้ว”
“ยินดีครับ สำหรับเอก ผมทำได้เสมอ”  บอลยังไม่เลิกแหย่
เอกเดินกลับเข้าไปในห้อง ปล่อยให้บอลคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ในใจยังนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับเคนจิ ทำไมนะ เคนถึงได้ปิดบังเขา เพราะอะไร
“เอกครับ ... วันนี้ ออกไปเดินเที่ยวโตเกียวยามค่ำคืนกัน เพื่อนผม มันชิ่ง ไปเที่ยวกะสวาๆของมันละ เซ็งชะมัด”
“อ้าว เหรอครับ ... อืมก็ดีเหมือนกันนะ” เอกคิดว่า การออกไปเดินเล่นข้างนอกก็อาจจะทำให้เขาลืมเรื่องแย่ๆ ปสักพักก็ได้
“งั้นไปกันเลยครับ”
สีสันโตเกียวยามค่ำคืน ทำให้เอกลืมเรื่องของ เคนไปได้ชั่วขณะ เพราะความตระการตา ของตึกน้อยใหญ่ ที่เด่นตะหง่านอยู่ รายล้อม ผู้คนที่เดินขวักไขว่ยามค่ำคืน บอลพาเอกไปเดินที่ย่านชิบุย่า ที่ที่ ไม่เคยหลับไหล ผู้คนคับคั่ง แล้วพาเอกนั่งรถไฟไปดู โตเกียวทาวเวอร์ ไปดูโคมไฟใหญ่ ที่วัดอาซาคุสะ ทั้งสองเดินเที่ยวเล่นจนลืมเวลา รู้ตัวอีกที ก็ เกือบ ห้าทุ่มแล้ว เอกเห็นว่าดึกแล้วจึงชวน บอลกลับ
“ผมว่ากลับกันเถอครับ วันนี้ ผมสนุกมาก ขอบคุณนะครับ บอล”
“ไม่เป็นไรหรอกครับเอก ผมก็สนุกเหมือนกัน นานๆ จะได้มีเพื่อนคนไทย เดินเล่นด้วยกันแบบนี้” บอลตอบพร้อมกับยิ้มให้เอก
“ลืมไปเลย แล้วที่บอลบอกว่านัดเพื่อนไว้ไม่ใช่เหรอครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ป่านนี้มันคงกลับอพาร์ทเมนท์ ไปนอนละ เดี๋ยวผมลองโทรหามันก่อนละกัน เดี๋ยวผมไปส่งเอกก่อน แล้วค่อยเลยกลับไปที่อพาร์ทเมนท์”  บอลหยิบโทรศัพท์ ออกมา กดหาเพื่อน ผ่านไป หลายนาทีดูท่าว่า เพื่อนของบอลจะไม่รับสาย
“ไอ้บ้า ... ไปไหนวะ ไมไม่ยอมรับสาย” บอลบ่นอุบ เพราะเพื่อนไม่ยอมรับสาย
“บอลครับ ผมว่า มันดึกแล้ว ยังไง ถ้าเกิดว่า บอลไม่รังเกียจ จะนอนที่ห้องผมด้วยก็ได้นะครับ”
“จริงเหรอครับ งั้นผม ไม่เกรงใจนะ” บอลตอบรับอย่างไม่ลังเล และท่าทางลิงโลดที่ เอก ชวนเขาให้อยู่ด้วย
“งั้น กลับกันเถอะครับ”  เอกเดินนำหน้า บอลไป บอลเดินตามมาติด พร้อมกับรอยยิ้มอย่างมีชัยของเขา
***************************
“เอกครับ”  บอลทำลายความเงียบด้วยการเรียกชื่อเอกขึ้น ท่ามกลางไฟสลัวของห้อง นอนในโรงแรม
“ครับ”
“ทำไมถึงได้ร้องไห้ล่ะครับ เอกมีเรื่องไม่สบายใจใช่ไหม”
“เรื่องไร้สาระน่ะครับ บอล” เอกพยามยามเลี่ยง เพราะเขายังไม่อยากบอกบอลตอนนี้
“โอเค เอกคงยังไม่พร้อม...แล้วตกลงคิดได้หรือยังว่าพรุ่งนี้ จะไปไหน”
“ขอบคุณนะครับ บอลที่เป็นห่วงผม.... ส่วนพรุ่งนี้ ผมตั้งใจว่า จะไป เมืองใกล้ๆ นี่แหละครับ ว่าจะไป คามาคุระ เสร็จแล้ว ก้คิดว่าจะขอพักที่นี่ตออีกคืน แล้วไป ฮาโกเน่ วันถัดไป นอนที่ ฮาโกเน่ คืนหนึ่งน่ะครับ แล้ว วันถัดไปผมจะไป เกียวโต แล้วก้นอนที่นั่น คืนหนึ่ง แล้ว วันถัดมาก็ค่อยกลับ เมืองไทย
“อ้าวแล้ว เพื่อนของเอกล่ะครับ”
“........” ไม่มีเสียงตอบจากเอก
“เอกครับ”
“ถ้าเค้าไม่ว่าง ผมก็ไม่อยกาจะรบกวนเขาหรอกครับ ผมเที่ยวคนเดียวดีกว่า”  เอกพูดตัดบท เพราะ เขายังไม่อยากนึกถึงคนใจร้าย
“ฟังดูเศร้าจัง ... ถ้าเอกไม่รังเกียจ ผมเที่ยวเป็นได้ไหม เพราะยังไงซะ ช่วงที่เอกอยู่ ผมก็ยังว่าง ถิอโอกาสเที่ยวก่อนทพโปรเจคต์ จะได้สมองโล่งๆ อีกอย่าง เราจะได้รู้จักกันมากขึ้น ดีไหมครับ”
“จะดีเหรอครับ บอล ผม เกรงใจครับ”
“ถ้าเอก ปฎิเสธน่ะไม่ดีแน่ นะครับ ไม่ต้องคิดมาก ไปเที่ยวกัน”
“อืม .... ได้ครับ เพราะยังไงซะ บอลก็ช่วยผมมาตั้งต้นแล้วนี่ มีเพื่อนดีๆ อย่างบอลเที่ยวด้วย ก็คงจะดีไม่น้อยนะครับ”
“ดีมากเลยละครับ ดีใจจัง ได้เที่ยวซะทีหลังจาก เครียดกับการเรียนมานาน อิอิ แถมได้เที่ยวกับ เอกด้วย”  บอลพูดด้วยอการดีใจ หันหน้ามามองเอก ที่นอนเหม่อ มองเพดานสีหน้า เศร้าสร้อย
“ไม่ว่าเอก จะเจอเรื่องอะไรมา แต่ ผมสัญญาว่า พรุ่งนี้ ผมจะช่วยให้เอกลืมเรื่องพวกนั้น....กู๊ดไนท์ครับ”
เอกหันมายิ้มให้บอล
“ขอบคุณครับ บอล ... กู๊ดไนท์ครับ” เอกสบายใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูด เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไม เขาถึงได้รู้สึกสบายใจทั้งๆ ที่ เรื่องที่เขามาเจอนั้นยังทำร้ายเขาอย่างมาก

***************************************
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2
เริ่มหัวข้อโดย: obab ที่ 12-09-2012 19:57:08
อ่าา มีตอนต่ออีกไหมคะเนี่ย T,.T
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 12-09-2012 23:42:25
ยังไม่จบนี่คะ ทำไมมาอยู่ในนิยายที่โพสต์จบแล้วล่ะนี่

สนุกดีค่ะ เคนก็แปลก ไม่ยอมอธิบายเหตุผล อกหักไปซะเถอะ555555555
หัวข้อ: Re: *** หาดทรายใต้แสงอาทิตย์ *** *Season 2
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 11-03-2024 13:00:59
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)