พิมพ์หน้านี้ - แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Bboyseries ที่ 09-11-2010 00:13:18

หัวข้อ: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-11-2010 00:13:18
ก่อนอ่านนิยาย ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ

ขณะนี้นิยายเรื่องนี้ได้ทำการรวมเล่มเปิดจำหน่ายแล้ว

พร้อมผลงานอื่นๆ ของผมก็มีขายด้วยเช่นกันครับ

สนใจก็สอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28512.gif)  


(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++



ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
 
 
« Last Edit: 13 November, 2009, 01:59:22 AM
 



๑.
พุทธศักราช 2540 เชียงใหม่

“เร็วสิวะไอ้อิท มืดแล้วนะมึง”
“ทั้งปีแหละมึงไอ้อาที ชวนกูมาเองแท้ๆ แล้วดันเสือกกลัวขึ้นมา”
“เหอะน่า แม่กูไม่ได้ใจดี เหมือนแม่นางของมึงนี่”
“เออมึงก็รู้นี่ว่าแม่มึงอ่ะร้าย แล้วมึงยังจะมายุ่งกะกูทำไมวะ”
“อ้าว ช่วยไม่ได้มึงเสือกโตมาพร้อมกูทำไมล่ะ”
“โตมาพร้อมมึงแล้วไง แม่มึงกะพี่มึงเกลียดกูกะแม่นางเข้าไส้ ใครๆ ก็รู้ทั้งนั้น มึงอยากเป็นลูกนอกคอกหรือไง”
“อ้าวนั่นมันแม่กะพี่อาทิตย์ ไม่เกี่ยวกะกู กูจะคบกับมึงแบบนี้ มีไรมั้ย”
“ทำปากดี เดี๋ยวกลับไปถึงบ้าน แล้วมึงจะรู้สึก ถ้าแม่มึงรู้ว่ามึงกลับบ้านผิดเวลาเพราะมัวแต่เล่นน้ำคลองอยู่กะกู”
“มึงก็อย่าพูดมากสิ ปั่นเร็วๆ เข้าจักรยานน่ะ”
“เร่งๆๆ อยากเร็วทันใจ มึงก็มาปั่นเองดิ”
“ไม่ไหวล่ะ ว่ายน้ำตะกี้ เหนื่อยชิบหาย”
“โธ่เอ้ย แล้วอยากจะเป็นนัก ไอ้นักว่ายน้ำน่ะ กูขำว่ะ”
“ขำเข้าไป กูได้เป็นขึ้นมาจริงๆ เมื่อไหร่ มึงจะขำไม่ออกไอ้เพื่อนยาก”
“เออ กูจะคอยดู จับดีๆ นะ กูจะพามึงบินแล้ว” สิ้นเสียงสุดท้ายของการสนทนา จักรยานคันเล็กก็ค่อยๆ หายไปกับความมืดที่เริ่มโรยปกคลุมไปทั้งเส้นถนน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เหตุการณ์เป็นแบบนี้ อิทธิรับอาสาเป็นคนปั่นจักรยานให้อาทีซ้อนท้ายแบบนี้อยู่เกือบจะทุกเย็นหลังเลิกเรียน ด้วยคนซ้อนท้าย ชอบชวนไปว่ายน้ำที่คลองหลังไร่ส้มอยู่เป็นประจำ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่กลับมืดกว่าทุกวัน เด็กหนุ่มเคยที่คิดจะขัดใจ ไม่ไปตามคำชวนด้วยเหตุผลที่แม่ของตนสั่งห้ามว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับหลานชายเจ้าของไร่อย่างอาทีให้มากนัก จงเจียมตัวเอาไว้ว่าตนเป็นแค่ลูกคนงานจะไปตีตัวเสมอกับเจ้านายมันไม่ดีเท่าไหร่ แต่จากความผูกพันที่สานกันมาตั้งแต่วัยเด็กจนเกิดเป็นเส้นใยแห่งมิตรภาพที่แน่นหนึบ ทำให้เด็กหนุ่มขัดใจคนชวนไม่ได้ไปเสียทุกที
 
**************************************************
 
มืดแล้ว หญิงวัยกลางคนยืนมองถนนเส้นเล็กที่ทอดจากบ้านพักของนางไปสู่ตัวไร่ที่นางเพิ่งจะกลับมาหลังจากทำภาระหน้าที่คนงานเสร็จสิ้นไปอีกหนึ่งวัน
   “เหลวไหลใหญ่แล้ว ลูกคนนี้” เสียงบ่นเบาๆ ดังออกมาหลังเสียงถอนหายใจ ป่านนี้ ทำไมอิทธิยังไม่ถึงบ้านอีกนะ อดที่จะสงสัยไม่ได้เมื่อรู้สึกว่าวันนี้ลูกชายคนเดียวของตนกลับบ้านผิดเวลากว่าทุกๆ วัน
 
**************************************************
 
ที่บ้านอีกหนึ่งหลัง
   “ทำไมต้องด่าถึงแม่ผมด้วย ที่ลูกชายคุณจิตรกลับบ้านผิดเวลาวันนี้ก็เพราะผม ไม่เกี่ยวกับแม่ผม จะด่าก็ด่าผมสิ” อิทธิขึ้นเสียงเมื่ออดทนฟังคำก่นด่า เสียดแทง ถากถาง จากหญิงสูงวัยตรงหน้าต่อไปไม่ไหว
   หญิงผู้นี้เป็นแม่ของหนุ่มน้อยที่ยืนข้างๆ ตนตอนนี้ หล่อนชื่อจิตราแต่คนงานในไร่นี้ล้วนเรียกหล่อนคุณจิตรตามที่หล่อนประกาศสั่งเอาไว้ เพราะไม่ต้องการให้ใครมาเรียกชื่อเต็ม จิตราเป็นนามสำหรับพี่สาวและสามีใช้เรียกหล่อนเท่านั้น ได้ยินสิ่งที่หล่อนกล่าวว่าเมื่อครู่แล้วระอานัก สิ่งที่คาดไว้ มันผิดซะที่ไหน ทันทีที่พาลูกชายหล่อนเดินผ่านเข้าเขตเรือน สารพัดคำก่นด่าถากถางจากปากนางก็ดังลอยมาตามลมให้ได้ยินทันที เด็กหนุ่มทำท่าจะไม่สนใจตั้งแต่แรก เพราะคิดว่านี่เป็นเรื่องปกติ แต่แล้วก็ต้องทนทำเฉยได้ไม่นาน เมื่อคนก่นด่าได้ดึงผู้ให้กำเนิดเขามาร่วมสาดน้ำลายใส่ด้วยอีกคน
   “ใจเย็นๆ ไอ้อิท นั่นแม่กูนะ มึงกลับบ้านไปก่อนไป” อาทีเข้าประชิดตัวคนหมดความอดทน เมื่อเห็นเจ้าตัวสู้สายตาแม่ของตนไม่ถอย
   “ถอยออกไปจากลูกคนชั้นไพร่อย่างเด็กนั่นตาอาที” จิตราออกคำสั่งทันควันเมื่อเห็นลูกชายคนเล็กของหล่อนเข้าประชิดตัวเด็กหนุ่มที่หล่อนตราหน้าว่าเป็นลูกของหญิงหน้าด้านชั้นไพร่นางหนึ่ง
“พูดแรงไปแล้วนะแม่ ยังไงเราก็คนเหมือนกัน ทำไมแม่ต้องแบ่งด้วยว่าใครชั้นไพร่ ใครชั้นนาย” ลูกชายเอ่ยค้านแม่ ให้ตายเถอะ นึกไม่ชอบที่แม่ตัวเองดูถูกใครต่อใครแบบนี้เลยจริงๆ นี่ถ้าไม่กลัวว่าขี้กลากจะขึ้นหัวเอาจะเอ่ยค้านเลยล่ะว่าคนที่ควรจะเป็นคนแบ่งเจ้าแบ่งนายน่ะคือจันทร์จวงหรือป้าจันทร์ของตนต่างหาก นางผู้นั้นเป็นเจ้าของไร่ส้มทั้งหมดที่หลายชีวิตได้อาศัยใบบุญอยู่ รวมทั้งตนและแม่ ซึ่งเป็นน้องสาวแท้ๆ  ของนางด้วย  หากนับตามศักดิ์แล้วตนก็ถือหลานชายคนเล็กรองจากหลานชายคนโตอย่างอาทิตย์  แต่ก็ไม่คิดที่จะแยกชั้นไพร่ชั้นนายอย่างที่แม่ชอบเป็นเลยสักนิด
“นี่แกจะไปปกป้องมันทำไมตาอาที เดี๋ยวเถอะสักวันมันจะจองหองพองขนกะแก ที่โรงเรียนแกมีลูกผู้รากมากดีตั้งหลายคน ทำไมแกไม่คบ แกมาคบทำไมกะอีแค่ลูกคนงานในไร่ที่สะเออะเกิดมาพร้อมแก หา!”  จิตราเอ่ยว่าลูกชายอย่างเคืองในใจ ทำไมล่ะ ทำไมลูกชายคนนี้ของหล่อนต้องทำอะไรๆ ที่ขัดใจหล่อนด้วย
   อิทธิ มันลูกขี้ข้าหน้าด้านชัดๆ หล่อนเกลียดเด็กคนนี้ พอๆ กับที่หล่อนเกลียดแม่ของมัน หึ ยัยแม่นาง  นึกถึงชื่อนี้ขึ้นมาทีไรหล่อนล่ะอยากจะกรี๊ดให้ส้มในไร่หล่นมันซะทุกลูกนัก ผู้หญิงคนนี้หอบท้องหอบไส้เข้ามาขอทำงานในไร่ของพี่สาวหล่อน โดยหวังใช้แรงกายทดแทนบุญคุณ ตอนนั้นหล่อนค้านพี่สาวสุดใจขาด ด้วยเหตุผลว่าคนงานในไร่มีเหลือเฟือแล้ว จนหล่อนอยากที่จะปลดออกเสียด้วยซ้ำ แต่อีนังนี่ พอมันได้ยินคำที่หล่อนค้านพี่สาวเท่านั้นแหละ น้ำหูน้ำตานี่ไหลลงมาอาบสองแก้ม แล้วยกข้อต่อรองว่าตนกำลังท้องกำลังไส้ ไม่มีที่ไหนจะไปพักพิงได้แล้ว โธ่ อีไพร่ เชียงใหม่ ก็ไม่ใช่จังหวัดเล็กๆ บอกไม่มีที่จะไป หล่อนล่ะเกลียดนักอีพวกทำตัวให้น่าสงสาร แล้วสิ่งที่หล่อนขัดใจยิ่งกว่าสิ่งใดคือ พี่สาวหล่อนหลงเชื่อมารยามัน และตกลงรับมันเป็นคนงานใหม่ในที่สุด ภาพที่มันปรี่เข้ากราบแทบเท้าพี่สาวหล่อน หล่อนยังจำได้ดี นึกแล้วมันน่าโมโหนัก ก็วันนั้น มันมองเห็นหล่อนเหมือนหัวหลักหัวตอ กราบพี่สาวหล่อนเสร็จ แทนที่มันจะกราบหล่อนบ้าง ไม่เลย วันนั้นมันชูคอเอ่ยกับหล่อนแค่คำว่า ขอบคุณค่ะ ดูเอาเถอะ ว่าหล่อนสมควรจะเกลียดมันเท่าใด อีไพร่หน้าด้าน สมญานามนี้ หล่อนเป็นคนตั้งให้มันเองแหละ หลังจากที่มันดัดจริตคลานเข่าออกไปยังเรือนพักคนงานที่พี่สาวหล่อนเป็นคนออกคำสั่งให้คนงานเก่าช่วยจัดแจงให้ ยัง ยังไม่หมด สิ่งที่หล่อนนึกเกลียดมันเข้าไส้มาจนทุกวันนี้ก็คือ ความประจบประแจง และช่างฉอเลาะของมันนั่นเอง  น้ำลายของมันส่งให้มันเป็นที่ชื่นชอบพี่สาวหล่อนได้ในที่สุด พิษร้ายของมันยังไม่หมดแค่นั้น มันเข้ามาทำงานได้ไม่นานก็บังอาจจองหองพองขน กล่าวอ้างว่า นายศรคนสนิทของหล่อนที่เป็นหัวหน้าคนงานโกงกินรายได้ของไร่  พี่สาวหล่อนเชื่อมันถึงขั้นสั่งสอบสวน แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์ตอนนั้นช่างสะใจหล่อนนัก ที่เห็นมันหน้าตาซีดเซียว คงกลัวว่าพี่สาวหล่อนจะเล่นงาน ฐานพูดปดมดเท็จล่ะสิ แต่แล้วสิ่งที่หล่อนสะใจกลับกลายเป็นขัดใจขึ้นมาจนแทบคลั่ง เมื่อพี่สาวหล่อนไว้เนื้อเชื่อใจมันถึงขั้นเลื่อนให้มันเข้าไปดูงานกับนายศรในเรื่องรายรับรายจ่ายของไร่  มันเคยค้านว่าจะไม่รับ แต่จนแล้วจนรอด หน้าที่คนคุมบัญชีก็ตกไปอยู่ในมือมันจนได้ แล้วยิ่งร้ายไปกว่านั้นคือ ตอนมันจะคลอดพี่สาวหล่อนได้ส่งมันไปคลอดที่โรงพยาบาลเดียวกับที่หล่อนคลอดลูกชายคนเล็ก แน่ล่ะ มันลูกที่มันคลอดออกมาพร้อมๆ กับที่หล่อนให้กำเนิดอาทีคือไอ้เด็กเปรตที่ยืนจ้องหน้าหล่อนอยู่ตอนนี้นั่นเอง









เข้ามาแก้หัวข้อเรื่องโดนการตัดคำว่านิยายทิ้งคะ  อิเจ้
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 09-11-2010 00:20:29
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด หนังพีเรียตเรื่องใหม่ของคุณบอย ^ ^~
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-11-2010 00:22:57
“ถอยออกมาจากมันตาอาที แล้วขึ้นไปรอแม่บนเรือน” จิตราบอกลูกชายใหม่ เมื่อยังเห็นหนุ่มน้อยยืนอยู่ชิดเด็กที่หล่อนนึกเกลียดตั้งแต่แรกเกิด คนถูกออกคำสั่งหันมองหน้าคนข้างกาย ฝ่ายนั้นพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ทำตามคำสั่ง หนุ่มน้อยอดละอายใจแทนแม่ตัวเองไม่ได้จึงเอ่ย
“ขอโทษแทนแม่กูด้วยแล้วกันว่ะ มึงก็รีบกลับบ้านเถอะ ป่านนี้แม่นางคงรอมึงอยู่เหมือนกัน”
   “อืม งั้นกูกลับล่ะ เจอกันที่โรงเรียนละกัน” อิทธิบอกคนขอโทษพลางเผลอยกมือขึ้นตบไหล่เจ้าตัว ทำเอาคนที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่แผดเสียงลั่น
   “แกถือดียังไงถึงมาแตะต้องตัวลูกฉัน ไอ้ลูกขี้ข้า”
   “พอเถอะแม่ คำก็ขี้ข้าสองคำก็ขี้ข้า มันอะไรกันนักกันหนา” อาทีหันมาโวยใส่คนแผดเสียง อิทธิมองสองแม่ลูกสู้สายตากันก็นึกระอา เด็กหนุ่มไม่รู้หรอกว่าเหตุการณ์ในอดีตก่อนจะโตมาจนเรียนใกล้จบมัธยมปลายในอีกไม่กี่เดือนมันเป็นมายังไง สิ่งที่รับรู้จากปากแม่ของก็แค่เพียงคำว่าบุญคุณที่ต้องทดแทนให้จันทร์จวง หรือคุณจันทร์ของคนที่นี่ ข้อนี้ถึงแม้แม่ไม่บอก หนุ่มน้อยก็คิดได้เองอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่ได้รับจากคุณจันทร์ทุกวันนี้ ใช่ว่าทุกคนจะได้รับเหมือนตน ซึ่งเป็นแค่ลูกคนงานหนึ่งคน แต่กลับได้เข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับหลานชายเจ้านาย คุณจันทร์เป็นคนส่งเสียเด็กหนุ่มในด้านนี้ หนุ่มน้อยไม่รู้เหตุผล แต่ก็ไม่คิดจะถามอะไร เพราะคิดว่ายังเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ที่เคารพยิ่งเป็นคนขีดทางให้เดินก็ควรจะเดินไปตามทางนั่นมันถึงจะถูกต้อง
   “กูมันแค่ลูกขี้ข้า แม่มึงพูดถูกแล้วล่ะอาที” อิทธิเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นคนข้างกายสู้สายตาแม่ตัวเองไม่ถอยคล้ายๆ โกรธเคืองแทน ทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงจะต้องออกหน้ารับแทนตนทุกครั้งด้วยนะเวลาที่โดนผู้หญิงตรงหน้าถากถาง ไม่รู้สึกดีใจนักหรอกที่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ เพราะทุกๆ ครั้งที่โดนเข้าข้างจากคนข้างกาย ตนกับแม่ก็ยิ่งตกที่นั่งลำบากมากขึ้นในการที่จะใช้ชีวิตอยู่ในไร่นี้ เชื่อสิว่าหลังจากวันนี้ ชีวิตความเป็นอยู่จะต้องโดนกลั่นแกล้งจากผู้หญิงตรงหน้าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเหมือนๆ กับที่โดนมาแล้วในหลายๆ ครั้ง ไม่มีใครรู้ใครเห็นในข้อนี้ เพราะแม่ของตนทนก้มหน้ารับการพิพากษาจากผู้หญิงวาจาร้ายคนนี้อย่างไม่ปริปากเถียงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เด็กหนุ่มเคยทนไม่ไหวคิดที่จะออกมาเปิดโปงความร้ายกาจที่เห็น แต่ก็ทำไม่ได้เสียทุกครั้ง เพราะผู้ให้กำเนิดขอไว้ ด้วยการยกข้ออ้างที่ว่าผู้หญิงร้ายกาจอย่างจิตราเป็นน้องสาวของคุณจันทร์ ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณล้นหัว อะไรที่ทนได้ก็ทนไป อย่าให้เรื่องมันปลายปลายให้ได้ตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณ
   “เห็นมั้ย มันยอมรับเองแล้วว่ามันน่ะเป็นลูกขี้ข้า แกถอยออกมาจากตัวมันเดี๋ยวนี้อาที อย่าให้ฉันต้องเตือนแกซ้ำ ฉันไม่เข้าใจแกเลยจริงๆ ว่าทำไมแกถึงไม่ได้ดั่งใจฉันเหมือนที่พี่ชายแกได้บ้าง” จิตราเอ่ยอย่างนึกหงุดหงิดขึ้นมา พูดแล้วหล่อนก็นึกถึงลูกชายคนโตนักที่ตอนนี้กำลังเร่งจะเอาปริญญาใบแรกมาให้หล่อนได้เชยชม
   “แม่จะให้ผมมีนิสัยชอบออกคำสั่ง เอาแต่ใจตัวเอง และดูถูกคนอื่นอย่างพี่อาทิตย์อย่างนั้นใช่มั้ยแม่ถึงจะภูมิใจในตัวผม” อาทีเอ่ยค้านแม่ตัวเองอีก บางทีก็นึกน้อยใจเหมือนกันที่แม่ของตนทำทีเหมือนจะรักและภูมิใจในตัวอาทิตย์พี่ชายคนเดียวของตนจนออกหน้าออกตา ทำไมล่ะ เขาต้องมีนิสัยอย่างที่ได้เอ่ยว่าฝ่ายนั้นเมื่อครู่งั้นเหรอ ผู้เป็นแม่แม่ถึงจะมีท่าทีว่ารักและภูมิใจในตัวเขาบ้าง
   “แกไม่ต้องมาประชดฉัน แล้วก็อย่าพาลถึงพี่ชายแก พี่ชายแกน่ะฉลาดและมีความคิดที่จะเป็นเจ้าคนนายคนมากกว่าแก่หลายเท่านัก เขาไม่เคยที่จะคบหากับคนชั้นต่ำชั้นไพร่ให้ฉันต้องระอาใจเหมือนอย่างแกจำไว้ และฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกยังไม่ถอยตัวของแกออกห่างไอ้ลูกขี้ข้านั่น แกเป็นหลังลายแน่ หนึ่ง!” จิตราตวาดนับตามคำบอก เมื่อเหลืออดจนเกินจะทนกับถ้อยคำที่ลูกชายเอ่ยคล้ายๆ ประชดหล่อนเมื่อครู่  อิทธิเห็นเรื่องจะไปกันใหญ่จึงหันไปพยักหน้าให้กับคนที่โดนคำสั่งชี้ขาด
   “สอง!” เสียงตวาดนับดังขึ้นอีก อิทธินึกแปลกใจที่หนุ่มน้อยข้างกายยังยืนนิ่งไม่ไหวติงเสมือนทำตัวท้าทายผู้ให้กำเนิด
   “ไม่เอาน่าอาที ขึ้นเรือนไป” เด็กหนุ่มรีบเอ่ยขึ้น เพราะนึกห่วงว่าคนท้าทายจะโดนอย่างที่คาดโทษไว้จริงๆ
   “ไอ้อาที นี่แกท้าทายฉันเรอะ!” จิตราตวาดขึ้นแทนคำนับครั้งที่สาม หล่อนเดือดดาลจนสุดจะทนเมื่อมองสบตาลูกชายที่มองจ้องหล่อนนิ่ง
   “อาทีมึงเป็นอะไรวะ” อิทธิเอ่ยถามขึ้นบ้าง เมื่อเห็นท่าทีของคนถูกตวาดยังนิ่งเฉยคล้ายๆ ไม่รู้สึกรู้สมกับสิ่งที่เขาคาดว่ามันจะเกิดขึ้น
   “กูไม่ได้เป็นอะไรไอ้อิท มึงอยู่เฉยๆ เหอะ” อาทีเอ่ยขึ้น เขาไม่ได้ท้าทายผู้ให้กำเนิดอย่างที่ฝ่ายนั้นเข้าใจ แต่ที่ไม่ขยับไปไหนก็เพราะยังสะอึกและรู้สึกมึนชากับคำที่โดนเอ่ยว่าเขาเมื่อครู่ การที่เขาทำตัวไม่แบ่งเจ้าแบ่งนายแบบนี้ มันทำให้แม่ถึงกับเอือมระอาเลยเชียวเหรอ
   “ไอ้อาทีไอ้ลูกไม่รักดี แกท้าทายฉันนักฉันใช่มั้ย แกนึกว่าฉันจะไม่กล้าทำโทษแกงั้นเหรอ วันนี้ฉันเอาแกหลังลายแน่ มานี่” จิตราตรงเข้ากระชากแขนลูกชายคนเล็กลากไปยังมุมหนึ่งที่มีกองไม้วางอยู่ หล่อนเลือกเอาไม้เรียวขนาดเหมาะมือมาถือไว้แน่นเตรียมหวดเต็มที่
   “คุณจิตรอาทีก็ลูกชายคุณจิตรไม่ต่างจากคุณอาทิตย์นะ” อิทธิเอ่ยค้านขึ้นทันควันก่อนที่จะเห็นไม้เรียวหวดลงบนแผ่นหลังเพื่อนที่คลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก
   “แกไม่ต้องสะเออะไอ้ลูกไม่มีพ่อ แกจะไปไหนแกก็ไปนี่มันเรื่องในครอบครัวฉัน” จิตราเอ่ยไล่ คนถูกไล่เซไปนิดเมื่อถูกคนไล่ยกเอาเรื่องที่ตนเป็นลูกกำพร้าพ่อขึ้นมาประณาม
“กลับบ้านไปเหอะไอ้อิท มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก” อาทีเอ่ยขึ้นอีกคนก่อนจะนิ่วหน้าข่มเสียงร้องเพราะความเจ็บ เมื่อถูกไม้เรียวหวดลงบนหลังทันทีที่เอ่ยจบ
“ท้าทายฉันอีกสิ ไอ้ลูกไม่รักดี ท้าทายฉันอีกสิ!” จิตราตวาดอย่างคนมีโทสะก่อนจะหวดไม้เรียวลงบนตัวลูกชายอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้คนโดนหวดจำต้องร้องโอ้ยออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บและแสบจนทนเงียบไม่ได้
“เลิกทำตัวเป็นแม่ลำเอียงซะทีคุณจิตร หัดรักลูกให้เท่ากันบ้าง” อิทธิสุดทนกับภาพที่เห็นจึงตวาดขึ้น สาบานได้ว่าผู้หญิงที่กำลังทำโทษลูกชายคนเล็กของตัวเองลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่เขาจำความได้และรู้จักครอบครัวนี้มา เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินใครๆ เอ่ยแม้สักครั้งว่าผู้หญิงคนนี้จะดุด่าว่ากล่าวหรือทำโทษถึงขั้นลงไม้ลงมือกับลูกชายคนโตอย่างอาทิตย์เลย
   “หุบปาก แกมีสิทธิอะไรมาสั่งสอนฉันไอ้ลูกขี้ครอก” คนถูกตวาดหันมาสนใจคนตวาด ก่อนจะหันกลับไปจัดการหวดหลังลูกชายด้วยไม้เรียวดังเดิม แต่สุดท้ายก็ชะงักมือค้างไว้เมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากบนเรือน
   “นั่นเธอกำลังทำอะไรน่ะจิตรา” จันทร์จวงเองเป็นคนเอ่ย หญิงเจ้าของไร่รีบรุดลงมาดูเหตุการณ์เมื่อเห็นน้องสาวตัวเองมัวแต่ยืนอึ้งไม่ตอบคำถาม
   “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ลงไม้ลงมือกับตาอาที” นางเอ่ยถาม เมื่อเห็นรอยไม้เรียวชัดเจนอยู่บนเสื้อนักเรียนสีขาวที่หลานชายคนเล็กสวมอยู่
   “ก็มันกลับบ้านผิดเวลานี่คะพี่จันทร์ จิตรก็ต้องอบรมสั่งสอนมัน” จิตราเอ่ยตอบเมื่อตั้งสติได้ ไหนพี่สาวหล่อนบอกจะนอนตั้งแต่หัววันเพราะบอกเพลียและเหนื่อยไง แล้วไมถึงได้ตื่นมาเห็นหล่อนลงโทษลูกชายแบบนี้นะ
   “ลูกเธอมันเด็กผู้ชายนะ กลับบ้านผิดเวลานิดเวลาหน่อย ก็ไม่เห็นเธอจะต้องลงไม้ลงมือขนาดนี้เลยนี่” จันทร์จวงต่อว่าน้องสาว
   “ก็ถ้ามันจะไปไหนมาไหนกับคนอื่นที่ไม่ใช่ลูกคนงานในไร่ จิตรก็จะไม่ว่าสักคำหรอกค่ะพี่จันทร์” จิตราเอ่ยค้านพลางปรายสายตามองไปทางหนุ่มน้อยอีกคนที่ไม่ใช่ลูกชายตนขณะกำลังยืนดูสถานการณ์อยู่
   “คำก็ลูกคนงานสองคำก็ลูกคนงาน แม่มีปัญหาอะไรกับเพื่อนผมนักเหรอครับ” อาทีเอ่ยผ่ากลางปล้องขึ้นมา เมื่อเห็นสายตาแม่ตัวเองเริ่มมองเพื่อนในวัยเด็กเหยียดๆ เจ้าของสายตามองเหยียดหันควับมาทางคนเอ่ยกลางปล้องทำทีว่าจะเงื้อมือฟาดไม้เรียวลงไปบนแผ่นหลังเจ้าตัวอีกครั้ง แต่แล้วก็ต้องชะงักมือค้างไว้เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยห้ามจากพี่สาวตน
   “พอได้แล้วจิตรา นั่นมันลูกเธอนะ”
   “ก็เพราะลูกไงคะ จิตรถึงจะสั่งสอนมัน หนอยบังอาจเห็นคนอื่นดีกว่าแม่ของมัน” คนถูกห้ามเอ่ยค้านอย่างขัดใจ และทำทีจะฟาดไม้เรียวลงจริงๆ  แต่ก็ต้องชะงักไว้อีกจนได้เมื่อได้ยินเสียงขัดการกระทำดังขึ้นมาใหม่คราวนี้มันออกมาจากปากของหนุ่มน้อยที่หล่อนมองด้วยสายตาเหยียดๆ เมื่อครู่
   “จะสวมบทแม่ลำเอียงไปถึงไหนคุณจิตร หรือถ้าจะระบายอารมณ์บ้าที่มันกำลังจุกอกอยู่ตอนนี้ ก็มาลงที่ผมนี่ ผมเป็นคนพาไอ้อาทีกลับบ้านผิดเวลาเอง จริงๆ มันอยากกลับมาตั้งนานแล้ว”
   อาทีมองหน้าเพื่อนสนิท ส่ายหน้าเชิงปฏิเสธการออกรับแทนของฝ่ายนั้น
   “มึงกลับบ้านไปเลยไอ้อิท เรื่องนี้มึงไม่เกี่ยว กูมันลูกไม่ดี ลูกนอกคอก กูก็ควรถูกทำโทษแบบนี้แหละ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก
   “นี่แกประชดฉันอีกแล้วใช่มั้ยไอ้อาที” จิตราเอ่ยว่าลูกชายอีกเมื่อโดนเอ่ยกระทบ หล่อนหวดไม้เรียวในมือลงกลางหลังลูกชายทันทีจนเด็กหนุ่มร้องโอ้ย
   “พอได้แล้วจิตรา ทิ้งไม้เรียวนั่นซะแล้วขึ้นไปสงบสติอารมณ์บนเรือน ส่วนสองคนนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง” จันทร์จวงเอ่ยออกคำสั่งฉายแววตาดุดันให้น้องสาวเมื่อรู้สึกรับไม่ได้กับภาพแม่ทำร้ายลูก
   “ให้ท้ายกันเข้าไปเถอะค่ะ สักวันมันสองคนจะทำงามหน้าพี่จันทร์” จิตราเอ่ยว่าอย่างอารมณ์เสีย โยนไม้ในมือทิ้งลงที่พื้นแล้วก้าวฉับๆ พาร่างหายไป
   “นายอิท เธอกลับเรือนไปก่อนไป ป่านนี้แม่นางคงรอเธอแย่แล้ว” จันทร์จวงหันไปเอ่ยกับเด็กหนุ่มที่ยืนมองหลานชายตนด้วยแววตาเห็นอกเห็นใจ
   “ผมขอไปค้างที่เรือนไอ้อิทนะป้าจันทร์ ผมไม่อยากนอนที่นี่แล้ว” อาทีเอ่ยขึ้นเสียงสั่นเพราะพยายามข่มความเจ็บปวดทั้งกายและใจเอาไว้ แต่กระนั้นมันก็ยังแสดงออกมาให้เห็นผ่านดวงตาที่เริ่มล้นเอ่อด้วยหยดน้ำ
   “ถ้ามันสบายใจก็ไปป้าไม่ว่าอะไรหรอก” จันทร์จวงเอ่ยบอก นางเห็นและรับรู้ความสัมพันธ์ของเด็กหนุ่มคู่นี้มาตั้งแต่เป็นเด็กชายกันอยู่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่นางจะต้องขัดใจ
   “จะดีเหรออาที” อิทธิเอ่ยขึ้น คราวนี้ไม่ได้นึกเกรงว่าจิตราจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแต่เพราะไม่รู้จะหาคำตอบใดไปอธิบายให้แม่นางของตนฟังถึงสาเหตุที่พาหลานชายเจ้าของไร่ไปค้างที่เรือนพักคนงาน
   “ถ้ามึงไม่ให้กูไปค้าง กูไปขอค้างที่เรือนคนงานคนอื่นก็ได้” อาทีเอ่ยบอกพลางทำท่าจะเดินไปจริงๆ เพราะรู้สึกน้อยใจที่เพื่อนสนิทไม่อ้าแขนรับอย่างที่คาดหวัง
   “กูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น มึงนี่นะประชดกูซะงั้น ไปก็ไป” อิทธิรีบเอ่ยค้านตอนที่ก้าวเดินไปขวางทางคนเดินหนี
   “จะไปก็รีบไปกันมืดค่ำมากแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าตื่นไปโรงเรียนสายกันจะยุ่ง” จันทร์จวงเอ่ยบอก สองหนุ่มน้อยหันมองยกมือไหว้ลาแล้วเดินคู่กันไปยังจักรยานคันเดิม
   อิทธิทำหน้าที่เป็นคนปั่นให้หลานชายเจ้าของไร่ซ้อนท้ายเช่นเดิม ขณะปั่นฝ่าความมืดไป เด็กหนุ่มก็ต้องสะดุ้งเมื่อรู้สึกว่าวงแขนจากคนข้างหลังได้สวมกอดเอวตนไว้หลวมๆ กำลังจะเอ่ยปากทักท้วงแต่แล้วต้องนิ่งไว้เมื่อฝ่ายนั้นซบหน้าลงกับแผ่นหลังสะอื้นไห้ออกมาให้ได้ยิน
   “หยุดร้องเหอะอาที แม่มึงเขาหวังดีกะมึงแหละเขาถึงได้เฆี่ยนตี อย่าแปลเจตนาท่านเป็นอย่างอื่นเลยว่ะ” อิทธิเอ่ยปลอบเมื่อเห็นคนซบหลังร้องไห้ไม่หยุด
   “ให้กูร้องเถอะไอ้อิท กูจะเสียน้ำตาให้มึงเห็นคนเดียวเท่านั้นแหละ คนอื่นไม่มีใครได้เห็นน้ำตากูหรอก” อาทีเอ่ยบอกปนสะอื้น
   “งั้นก็ร้องซะให้พอ แต่พอถึงบ้านกูมึงต้องหยุดนะ เดี๋ยวแม่นางสงสัยถามซักไซ้เรื่องราวเรื่องมันจะไม่จบ” อิทธิบอกแล้วปั่นจักรยานต่อไปเงียบๆ มีบ้างบางจังหวะที่ปล่อยมือข้างหนึ่งมาเอาตบหลังมือคนสวมกอดตัวเองเป็นเชิงปลอบโยนให้เจ้าตัวคลายจากอาการเศร้า กระทั่งต้องเบรกรถตัวโก่งเมื่อตอนเลี้ยวโค้งแล้วจะชนเข้ากับร่างที่เดินสวนมา
   “แม่นาง!” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกเจ้าของร่างนั้นอย่างตกใจเมื่อแสงสว่างรางๆ จากพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวสาดส่องลงมาพอให้แลเห็นใบหน้า
   “ไปไหนมาหรือกลับมาซะมืดจนแม่ต้องออกมาตาม” แม่นางเอ่ยถามลูกชาย ก่อนจะตกใจเมื่อมองเลยไปเห็นหลานชายเจ้าของไร่กำลังนั่งซ้อนท้ายจักรยานลูกชายตนอยู่
   “คุณอาที” นางเอ่ยเรียกชื่อฝ่ายนั้นแล้วตวัดสายตาหันกลับมามองลูกชายคล้ายค้นหาคำตอบว่าป่านนี้แล้วทำไมคนๆ นั้นถึงมาตะเวนอยู่นอกเรือนได้ อิทธิก้มต่ำลงหลบสายคาผู้เป็นแม่ตอนโดนจ้อง อาทีเห็นอาการจึงลุกออกจากเบาะท้ายจักรยานเอ่ยขึ้น
   “คืออย่างนี้ครับแม่นาง”
 
โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอบคุณครับ
Boy


หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-11-2010 00:38:11
ไม่ค่อยได้โพสนิยายที่บ้านหลังนี้เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำถูกกฏมากน้อยแค่ไหน
ฝากด้วยนะครับสำหรับนิยายรักเรื่องนี้ ส่วนอีกเรื่องที่กระเด็นไปอยู่ห้องหมักดอง(นิยายที่โพสไม่จบ)
เดี๋ยวจะตามไปต่อให้จนจบครับ ติดตามกันต่อไป
ขอบคุณครับ
Boy
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 09-11-2010 01:37:43
อนาคตสองคนนี้ต้องมี Something กันแน่เลย  o18
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-11-2010 01:54:37

+1สำหรับเรื่องใหม่

ว้าวววววววนิยายเรื่องใหม่ของคุณบอย เคยอ่านผลงานเก่าๆอยู่ค่ะ ร้องไห้บ่อน้ำตาแตกมาก็หลายเรื่องเชียวหละ  

ว่าแต่คงไม่มีการสลับลูกกันหน้อ  มิเช่นนั้นมันจะเป็นอะไรที่มาม่ามากกกกกกกกกก อยากรู้จังทำไมต้อง" แรงแค้นใต้เงารัก "

หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-11-2010 02:30:25
 :เฮ้อ:เศร้าอีกเรื่องแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: เกริด้า(๐-*-๐)v ที่ 09-11-2010 02:43:57
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด เรื่องใหม่ของคุณบอย คุณบอยมาลงเองด้วย อิอิ~ ดีใจๆๆๆ happyๆๆๆ :mc4:

อีกเรื่องไอก็ตามอ่านอยู่่นะคะ มาต่อให้ด้วยนะค๊าาาา :กอด1:

เป็นกำลังใจให้ค๊าาาา :L2:

ปฃ.เรื่องนี้จะดราม่าแค่ไหนะ :serius2:
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 09-11-2010 09:02:31
มันจะเป็นแนวดราม่าเคล้าน้ำตา หรือ มาม่าเคล้าน้ำเน่า ล่ะ ช่วงนี้มีแบบแนวหลังเยอะหวังว่าคงมิใช่   ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: taem2love ที่ 09-11-2010 09:41:54
มาแล้วค่ะมาม่าชามโต เจ้มาจิ้มให้กำลังใจก่อนแล้วกัน ช่วงนี้มาม่าเต็มเล้าไปหมดแล้ว
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: kny ที่ 09-11-2010 11:15:54
 เริ่มเศร้าเคล้าน้ำตา
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 09-11-2010 12:58:48
กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ซาหลบ

ด้วยความดีใจ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-11-2010 13:26:50
โอ้..เจอเรื่องสนุกอีกแล้ว มีหวังติดหนึบอีกเรื่องแน่ค่ะคุณบอย
สงสัยว่า คุณจิตราจะมีความหลังความแค้นอะไรฝังใจกับแม่นางรึเปล่าคะ
ถึงได้จงเกลียดจงชังนัก ก็ดู๊ดู..ดูตั้งกะตอนแม่นางมาของานที่ไร่ทำ
กิริยาอาการของแม่นางก็ดูนอบน้อมอ่อนโยน เจียมเนื้อเจียมตัวออก
ก็ยังไม่ถูกตาถูกใจคุณจิตรา หรืองว่าหล่อนเกิดมาเพื่อเป็นนางร้ายโดยเฉพาะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 09-11-2010 13:43:40
 :mc4:นิยายคุณบอย ...เย้

 :L2:หอบดอกไม้มาให้เป็นกำลังใจคุณบอย ขอติดตามนิยายดีๆของคุณบอยครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-11-2010 21:32:55
อ่านแล้วจะ มีไรที่แจงว่าเรื่องนี้เกิดจากสองคนนี้ แล้วอะไรกลายเป็นที่มาชื่อเรื่อง
ไงก็ต้องบอกว่า รออ่านคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 09-11-2010 21:49:22
ว้าววววววววว ดร่าม่าดีจัง ชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-11-2010 00:04:01
(http://file.siam2web.com/bboyseries/webboard/2010119_77175.jpg)
แสงจากจันทร์ครึ่งเสี้ยวส่องลงมาพอให้มองเห็นร่างสองร่างที่กำลังนั่งคู่กันอยู่ชานเรือน ร่างหนึ่งคืออิทธิส่วนอีกร่างคืออาที สองหนุ่มนั่งอยู่ที่ตรงนี้ตั้งแต่เสร็จสำรับมื้อค่ำที่แม่นางเตรียมไว้ให้ ซึ่งตอนนี้นางได้เข้านอนแล้ว
“มึงคิดว่าแม่นางจะเชื่อเรื่องที่กูบอกหรือเปล่าวะอิท” อาทีเอ่ยถามหลังจากคุยกันได้สักระยะแล้วนึกถึงตอนที่ตัวเองเอ่ยปดแม่นางว่าสาเหตุที่ตนมาที่นี่เพราะต้องการมาให้อิทธิติวหนังสือให้สำหรับสอบพรุ่งนี้ เหตุที่อ้างแบบนี้เพราะใครๆ ก็รู้ว่าอิทธิเรียนดีกว่าตน
“เชื่อไม่เชื่อเขาก็เข้านอนไปแล้วนี่” อิทธิตอบพลางเอนกายลงนอนบนพื้นเรือนยกมือประสานกันหนุนศีรษะมองแสงดาวที่พราวอยู่บนฟ้าในบริเวณที่แสงของดวงจันทร์ส่องไปไม่ถึง เด็กหนุ่มละสายตาจากสิ่งนั้นหันมองข้างตัวเมื่อเห็นอาทีเอนตัวลงนอนเคียงข้าง เป็นจังหวะเดียวกับที่อาทีหันมองตนเช่นกัน สองหนุ่มเลยได้จ้องหน้ากันระยะชิดใกล้แล้วเริ่มสนทนากันใหม่
“จบม.6 แล้วมึงจะเรียนต่อที่ไหนวะ” อาทีเริ่มก่อน
“กูคงช่วยงานแม่ที่ไร่นี้แหละ คงไม่ได้เรียนต่อหรอก” อิทธิตอบ
“ทำไมวะ”
“เรียนมหา’ ลัยมันน่าจะใช้เงินเยอะ แม่นางคงส่งเสียกูไม่ไหวหรอก”
“ก็ป้าจันทร์ไง เขาต้องส่งเสียแกต่ออยู่แล้วล่ะ”
“โอ้ย แค่นี่บุญคุณท่านก็ท่วมหัวกูแล้ว หลังจากนี้คงถึงเวลาที่กูจะต้องตอบแทนคืนโดยการช่วยงานที่ไร่ซะที”
“ไอ้ห่าจบแค่ม.6 มึงจะช่วยอะไรได้”
“ทำยังกะไร่มึงจ้างคนงานจบมาสูงนักนะไอ้เบื้อก”
“แล้วมึงจะเป็นคนงานให้มันเหนื่อยทำไมวะ จะช่วยทั้งทีก็ต้องอยู่ตำแหน่งที่มันไม่ต้องเหนื่อยนักสิวะ”
“กูเลือกได้เหรอ”
“ได้ดิถ้ากูขอให้”
“อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง แค่แม่นางคนเดียวที่ได้เลื่อนมาดูแลงานในไร่แม่มึงก็ตามฉีกอกอยู่เช้าเย็นแล้ว ถ้าหากกูได้ตำแหน่งที่มันสูงกว่าคนงานอีกคนสงสัยกูคงอยู่ไม่สุขว่ะ”
“ไอ้นี่ว่าแม่กูเป็นยักษ์เป็นมาร”
“ถ้าไม่ใช่ก็กลับไปนอนที่เรือนโน้นสิคร้าบท่านอาทีจะมานอนเรือนผมทำไม”
“มึงอย่ามาล้อกูนะ ก็เพราะมึงแหละพากูกลับดึกเลยโดนเลย”
“อ้าวพูดแบบนี้เดี๋ยวกูถีบตกเรือนซะนี่”
“กูล้อเล่น ทำเป็นดุนะมึง”
“หัดไว้ก่อนโว้ย กูนี่แหละจะเป็นหัวหน้าคนงานคนต่อไป”
“เบ่งๆๆ แล้วทีแรกบอกอยากจะเป็นแค่คนงานไอ้ห่า”
“กูก็พูดไปงั้นแหละเป็นแค่คนงานแหละดีแล้วขี้เกียจไปมีบารมีแข่งกับไอ้สินมัน”
สินที่เอ่ยถึงคือลูกชายของนายศรที่เรียนจบแค่มัธยมปลายแล้วออกมาช่วยเป็นลูกมือพ่อในการคุมคนงานในไร่ เป็นหน้าที่ที่รับมาอย่างไม่ถูกต้องนักเพราะสถาปนาตัวเองเป็นแท้ๆ แต่ก็เที่ยวกร่างอวดเบ่งบารมีไปทั่ว เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้กันดีแต่ไม่มีใครอยากจะใส่ใจ เพราะคนที่ให้ท้ายนายนี่ยามทำผิดคือนายศรเอง ซึ่งมีจิตราคอยถือหางให้อีกที สองคนพ่อลูกไม่ถูกชะตากับแม่นางตั้งแต่โดนสั่งสอบสวนเรื่องทุจริตนั่นแล้ว พอได้รู้ว่าจิตราเองก็เกลียดนังนี่เข้าไส้จึงเข้าประจบสอพลอคอยใส่ร้ายป้ายความผิดให้ทุกครั้งที่มีโอกาส โดยมีส้มสาวน้อยจริตสูงร่วมวงสาดน้ำลายอีกคน
ส้มเป็นลูกสาวของนายศรมีศักดิ์เป็นน้องนายสิน ซึ่งเป็นสาวน้อยรุ่นน้องอาทีและอิทธิ เธอเป็นคนหัวสูงมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ร่ำร้องให้พ่อวิ่งเต้นพาตนเข้าเรียนในโรงเรียนเดียวกับอาทีและอิทธิจนสำเร็จตอนต่อชั้นมัธยมปลาย รู้สึกไม่ยุติธรรมเลยที่อิทธิได้รับการส่งเสียจากจันทร์จวงแต่ตนไม่ได้รับจึงไม่แปลกที่เธอจะนึกเกลียดนึกชังสองแม่ลูกอย่างแม่นางกับอิทธิเข้าไส้อีกคน แต่สำหรับอาทีและอาทิตย์เธอวาดหวังเอาไว้ตั้งแต่โตเป็นสาวรุ่นว่าจะต้องได้ใครคนหนึ่งมาครอบครองให้ได้ ซึ่งทุกวันนี้อาทิตย์ไม่ได้อยู่ในไร่นี้จึงเหลืออาทีเพียงผู้เดียวที่เธอตามลูบตามไล้อยู่ทุกเมื่อที่ได้เจอ
“พูดถึงนายสินก็อดจะพูดถึงยัยส้มไม่ได้ว่ะ วันนี้นะโว้ยตะแง้วๆ ชวนกูเข้าไปเดินเล่นในเมืองต่อตอนเลิกเรียน พอกูไม่ไปก็มาทำหน้าเง้าหน้างองอนกูซะงั้น ทำยังกะกูเป็นแฟนแล้วก็ไม่ปาน” อาทีเอ่ยขึ้นเมื่อนึกถึงใบหน้าน่ารำคาญของส้มหลังจากที่อิทธิได้เอ่ยถึงพี่ชายเจ้าตัว
“ก็แล้วเมื่อไหร่มึงจะตกลงเป็นแฟนเขาล่ะ เห็นตามจีบแกเป็นปีๆ แล้วนะ”
“ไม่เอาอ่ะ เป็นผู้หญิงมาจีบผู้ชายก่อนใช้ได้ที่ไหน สำหรับกูนะโว้ย จะคบใครเป็นแฟนกูต้องเป็นฝ่ายจีบเอง ไม่งั้นอย่าหวัง”
“ใจร้ายนะมึงเนี่ย”
“มึงใจดีมึงก็เอาไปเองดิ”
“เอามาชวนทะเลาะหรือไง เกลียดกูกับแม่นางเข้าไส้ขนาดนั้น”
“เออ กูไม่เข้าใจว่ะ มึงกับแม่นางก็เป็นคนดีทั้งคู่นะโว้ย แต่ทำไมถึงมีคนจ้องแต่จะรังแกวะทั้งแม่กู นายศร นายสิน ยัยส้ม หรือแม้กระทั้งพี่อาทิตย์”
เอ่ยถึงชื่ออาทิตย์ อิทธิเงียบคิดไปพักใหญ่ เพราะจากรายชื่อคนที่ตามระรานตนกับแม่นางที่คนข้างกายไล่เรียงให้ฟังดูเหมือนว่าชื่อๆ นี้จะมีอิทธิพลมากกว่าใครๆ ที่ทำให้ตนรู้สึกโกรธได้ทุกครั้งที่โดนต่อว่าดูถูก
อาทิตย์เป็นลูกชายที่จิตราภูมิใจนักหนา เพราะบุคลิกรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการนั่นมันสามารถส่งรัศมีความเป็นเจ้าคนนายคนออกมาอย่างที่หล่อนต้องการได้มากว่าอาที ซึ่งแม้จะหล่อเหลาเทียมเท่าพี่ชายแต่นิสัยการเป็นคนง่ายๆ ไม่ถือเนื้อถือตัว มีบุคลิกลุยๆ แบบเด็กชายทั่วไป ทำให้หล่อนไม่นึกภูมิใจเท่าไหร่นัก การฟาดหัวฟาดหางยามนึกโกรธการกระทำของเจ้าตัวจึงเกิดขึ้นได้ง่ายกว่าเกิดกับอาทิตย์ ปัจจุบันอาทิตย์กำลังศึกษาอยู่ระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดังในเมืองหลวงที่เจ้าตัวสอบเข้าเรียนได้ โดยพักอาศัยอยู่กับผู้เป็นพ่อที่มีหน้าที่การงานเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัย
“เฮ้ย! ทำไมเงียบไปวะ” อาทีใช้ข้อศอกกระทุ้งสีข้างคนข้างกายที่แหงนดูท้องฟ้าเหม่อๆ ตอนที่ตนเอ่ยจบ
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร ไปนอนเหอะ กูง่วงแล้ว” อิทธิบอกปัดแล้วลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในเรือน อาทีลุกนั่งมองตามหลังเอ่ยออกมาเบาๆ
“เป็นอะไรของมันวะ”
 
*********************************************************
 
การจราจรที่ติดขัดบนท้องถนนในยามค่ำคืนทำใครบางคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเอนกายพิงเบาะนั่งอย่านึกเบื่อ
“ติดกันได้ทุกวัน กลางคืนก็ไม่เว้น เมื่อไหร่จะปิดเทอมวะจะกลับไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ไร่ให้ชุ่มปอดเชียว” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาขณะสายตาจ้องมองสัญญาณไฟ เห็นว่าท่าทางจะนานเพราะรถราอีกฝั่งถนนเพิ่งจะโดนปล่อยจึงหวนถึงบรรยากาศของไร่ส้มผืนกว้างที่ตนเคยใช้ชีวิตอยู่ในวัยเด็ก ที่นั่นเขามีความสุขดีที่ได้พูดคุยกับแม่ผู้ให้กำเนิด อบอุ่นทุกครั้งที่ซบตักฟังคำสอนดีๆ จากจันทร์จวงหรือป้าจันทร์ของตน และปวดหัวทุกทีที่ได้ทะเลาะกับน้องชายอย่างอาทีที่ตั้งป้อมเกลียดชังทุกคราที่ตนมีปากเสียงกับอิทธิลูกชายของแม่นางด้วยสาเหตุที่เกิดความหมั่นไส้ทุกครั้งที่เห็นท่าทียโสของนายนั่นยามเจอกัน จนอดไม่ได้ที่จะหาเรื่องสั่งสอนให้รู้สำนึกว่าเจ้าตัวเป็นแค่ลูกคนงาน การมาถือดีจองหองกับหลานชายคนโตเจ้าของไร่มันดูไม่สมควรนัก
“สำนึกไว้ซะบ้างนะว่าเงินทุกบาทที่ส่งเสียนายให้เข้าเรียนที่นี่มันมาจากป้าจันทร์ ฉะนั้นนายอย่ามาถือดีกับฉันซึ่งเป็นหลานของผู้มีพระคุณของนาย”
“ผมไปถือดีกับคุณตรงไหน ผมก็อยู่ของผมแบบนี้ดีๆ คุณต่างหากที่เดินเข้ามาหาเรื่องผมก่อน”
“แล้วที่นายมองฉันหัวจรดเท้าแบบเหยียดๆ มันหมายความว่าไง”
“ก็คุณมันไม่ยุติธรรม คุณก็รู้ก็เห็นว่าแม่นางโดนใส่ร้ายจากนายศร ทำไมคุณถึงไม่บอกคุณจันทร์ตอนที่ท่านเรียกสอบสวน”
“แล้วทำไมฉันจะต้องเข้าข้างแม่นางของนายด้วย ถ้าฉันทำแบบนั้นคนที่โดนตำหนิจากป้าจันทร์ก็คือแม่ของฉันน่ะสิ”
“ก็แม่ของคุณรวมหัวกับนายศร นายสิน และก็ยัยส้มแกล้งแม่ของผมจริงๆ ทำไมล่ะ เมื่อไหร่จะเลิกรังควานกันซะที ปล่อยเราสองแม่ลูกอยู่ตามลำพังจะลงแดงตายกันให้ได้ใช่มั้ย”
“อยากอยู่กันตามลำพังก็พากันไปอยู่ที่อื่นสิ อยู่ที่นี่ก็เป็นกาฝากชัดๆ”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณอาทิตย์”
“มากไปยังไง ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ ก็แม่นางหอบท้องนายมาขออาศัยใบบุญป้าจันทร์อยู่ที่นี่จริงๆ นี่ ถูกมั้ยไอ้ลูกไม่มีพ่อ”
“ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้นะคุณอาทิตย์ ไม่งั้นผมต่อยปากคุณจริงๆ ด้วย”
“ก็เอาซี้ถ้าคิดว่าฉันไม่มีมือมีเท้า”
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือเกิดการชกต่อยกันขึ้นจริงๆ อาทิตย์เผลอยกมือขึ้นลูบมุมปากเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่ได้ปะทะคารมและปะเคนหมัดชกต่อยกับอิทธิเมื่อครั้งยังเด็กกันอยู่ทั้งสองคน นึกถึงแล้วก็ใช่ว่าจะไม่ละอายที่ทำตัวน่าเกลียดแบบนั้น ทุกอย่างมันจริงอย่างที่อิทธิว่า เหตุการณ์ต้นเหตุของการทะเลาะกันเกิดขึ้นจากที่มีคนงานหนึ่งคนในไร่เป็นลมสลบไปเพราะเหนื่อยจากการโดนใช้งานไม่พักจากนายศร ตอนนั้นตนอยู่ในเหตุการณ์ด้วยเพราะติดตามผู้เป็นแม่ที่ออกเดินตรวจงานในไร่ แม่ของตนกับนายศร นายสิน และก็ส้ม ต่างรวมหัวใส่ความแม่นางทันทีตอนที่มีคนนำเรื่องไปแจ้งจันทร์จวงซึ่งไม่ชอบการกดขี่คนงานเยี่ยงทาสเป็นที่สุด
หญิงเจ้าของไร่เรียกสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นหาความกระจ่าง แม้คำตอบสุดท้ายที่ได้คือคนที่ใช้งานคนงานเยี่ยงทาสเป็นแม่นาง แต่นางไม่ปักใจเชื่อจึงสอบถามความเพิ่มเติมจากหลานชายอย่างตนที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย ด้วยความเป็นเด็กที่รักแม่ในวันนั้นจึงต้องร่วมใส่ความแม่นางอีกคน เหตุการณ์วันนั้นแม่นางจึงโดนตำหนิติเตียนชุดใหญ่ ซึ่งนางเองก็ก้มหน้ารับไปอย่างไม่โต้เถียง แต่พออิทธิและอาทีรู้เรื่องเท่านั้น สองคนก็ฟาดหัวฟาดหางว่าแม่นางโดนใส่ความอย่างแน่นอน การอาละวาดครั้งนั้นเกือบจะมีการวางมวยระหว่างอิทธิกับนายสินดีที่ว่าจันทร์จวงลดตัวลงมาห้ามทัพซะก่อน หลังจากนั้นอาทีโดนตราหน้าจากแม่ว่าเป็นลูกนอกคอกที่เห็นคนอื่นดีกว่าผู้ให้กำเนิดทันที อาทีจึงเริ่มมีอคติกับตนหนักขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเช่นกัน ส่วนอิทธิยิ่งไปกันใหญ่นายนี่แสดงท่าทียโสกับเขาทุกครั้งที่ได้เจอกัน จนหมั่นไส้อย่างอดไม่ได้จึงตามหาเรื่องจนได้ชกต่อยกันในที่สุด
“ไม่รู้นายจะยังยโสอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่านะอิทธิ” อาทิตย์เอ่ยขึ้นในตอนสุดท้ายก่อนจะออกรถเคลื่อนตัวไปตามท้องถนนเมื่อสัญญาณไฟเขียวสว่างขึ้น
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 10-11-2010 08:09:18
 :z13: จิ้มคุณบอย ... :impress2:

 :กอด1:มาต่อแล้ว แอบมาเม้นไว้ก่อน

เด้วพักกลางวันจะมาอ่านครับ :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 10-11-2010 11:35:09
ใครพระ ใครนาย ละทีนี้


 o13

เป็นกำลังใจให้นะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 10-11-2010 16:49:02
อิทธิ กับ อาทิตย์ซินะ = แรงแค้นใต้เงารัก ที่ว่าเนี่ย
ดีใจที่ได้อ่านนิยายของคุณบอยอีก

และดีใจยิ่งขึ้นที่คุฯบอยจะต่อเรื่องโน้นให้จบ

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดด  !!!!!!!   5555

ปล.จิตราร้ายกาจแบบไร้เหตุผลสิ้นดี 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 10-11-2010 21:33:17
งานนี้คนที่เป็นต้นเหตุที่มาของชื่อเรื่องน่าจะเป็น นายอาทิตย์แน่นอน
แต่ไม่รู้ว่าใครจะสลับเป็นนายเอกระหว่างอิทธิ และอาทิตย์
ไงก็มารอลุ้น แต่ไงก็บอกว่าอยากให้อาทีเป็นโจทย์มากกว่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 11-11-2010 13:03:12
อยากให้ปิดภาคเรียนเร็วๆจัง เมื่ออาทิตย์กลับมาคงมีอะไรให้ผู้อ่านได้สนุกแน่ ระหว่างอิทธิและอาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-11-2010 14:40:01

ใครมันจะรักใครกันละเนี่ย?
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 11-11-2010 20:12:50
คนทีไม่ทำอะไรผิดนี่ถือว่ายะโสเหรอคุณ :m16:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 11-11-2010 22:43:22
แวะมาอ่านขอรับ :a3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 12-11-2010 10:26:43
น่าติดตามค่ะ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-11-2010 15:14:42
วันนี้ยังไม่มา?
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 12-11-2010 16:38:37

• อาทีจึงเริ่มมีอคติกับตนหนักขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเช่นกัน ส่วนอาทิตย์ยิ่งไปกันใหญ่นายนี่แสดงท่าทียโสกับเขาทุกครั้งที่ได้เจอกัน
ต๊าย ตอนนี้กล่าวถึงความคิดของใครกันคะ
๑๕ + ๑ = ๑๖
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 12-11-2010 19:29:22
ได้อ่านนิยายของคุณบอยอีกครั้งดีใจมากเลยค่ะ

เนื้อเรื่องน่าติดตาม ว่าแต่ ใครพระเอก นายเอกหว่า

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 12-11-2010 22:53:17
เห็นชื่อก้อกดเข้ามาทันทีเลยคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-11-2010 11:27:36
กรี๊ดด
จิ้มก่อนอ่าน นิยายคุณบอย
จะดราม่าบีบหัวใจอีกรึเปล่าเนี่ย
เดี๋ยวไปตามอ่านก่อนนะคะ อิอิ

---------------------------------------
คุณบอยมาต่อด่วนนนเลยค่ะ
อิอิ ชักอยากจะให้เจอกันแล้วสิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-11-2010 17:22:39
แหะๆ แค่หมั่นไส้ไม่ได้เกลียดกัน อย่างนี้น่าจะมีลุ้นเนอะ :z1:
ขอบคุณค่า รออ่านตอนต่อไปเน้อ :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-2]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-11-2010 18:04:54
พระเอกอาทิตย์แหงเลย  นายเอกก็ต้องอิทธิสิ  รึเปล่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1, 2, 3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-11-2010 20:16:15
เช้าตรู่แสงแดดเพิ่งโผล่พ้นริมขอบฟ้า อาทีเดินเข้าไปในเขตเรือนในตอนสถานที่ยังเงียบอยู่ เช้าๆ แบบนี้ยังไม่มีใครมาพลุกพล่านนัก แม่ของตนก็คงจะยังไม่ออกมาจากห้องนอนหรอก เด็กหนุ่มก้าวขาขึ้นบันไดเรือนเพียงแค่ขั้นแรกก็ต้องสะดุ้งกับเสียงเรียกที่ดังแผดกล้ามาให้ได้ยิน
“กลับมาแล้วเหรอไอ้ตัวดี!”
“แม่!” อาทีเอ่ยเรียกเจ้าของเสียง ตกใจหน่อยๆ ที่เห็นเจ้าตัวยืนมองตนด้วยสายตาดุๆ
“ใช่ฉันเอง นึกไม่ถึงล่ะสิว่าแอบกลับเรือนตอนเช้าตรู่แบบนี้แล้วจะเจอฉัน เมื่อคืนแกไปค้างที่ไหนมา” จิตราเดินลงบันใดมายืนจังก้าหน้าลูกชาย
“เรือนไอ้อิท” อาทีตอบตามตรงเพราะไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเสียหายอะไร เด็กหนุ่มหน้าหงายจนตกบันใดขั้นแรกตามแรงนิ้วมือของผู้เป็นแม่ที่จิ้มลงหน้าผากแล้วออกแรงผลักสุดกำลัง
“ฉันสั่งอะไรแกไม่เคยฟังเลยใช่มั้ย บอกกี่ครั้งว่าอย่าไปเข้าใกล้กับไอ้เด็กเวรนั่นทำไมแกไม่ฟังฉัน เรือนหลังนี้มันเล็กนักหรือไร แกถึงต้องดั้นด้นไปค้างอ้างแรมที่เรือนคนงาน แกเป็นถึงหลานเจ้าของไร่ จะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงฐานะตนบ้าง” จิตราเปิดปากสั่งสอนลูกชายทันทีที่ได้รับคำตอบ อันที่จริงหล่อนรู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วจากปากจันทร์จวง คิดจะออกไปอาละวาดซะตั้งแต่ตอนนั้นแต่ติดที่พี่สาวรั้งไว้เลยได้แต่ทนรอให้ฟ้าสาง
“เอะอะก็ยกเรื่องฐานะมาพูด ทำไมล่ะแม่ ทำไมแม่ไม่มองคนเราทุกคนให้มีค่าเท่ากัน ทำไมแม่จะต้องนึกเหยียดคนที่ต่ำกว่า โดยเฉพาะไอ้อิทกับแม่นาง สองคนนั้นเขาทำอะไรให้แม่เจ็บช้ำน้ำใจอะไร ทำไมแม่ถึงจะต้องกีดกันผมไม่ให้เข้าใกล้พวกเขาด้วย” อาทีเอ่ยระบาย น้ำตาคลอกับการการกระทำของแม่แต่ไม่ยอมให้มันไหลด้วยการข่มใจเอาไว้จนกายสั่นสะท้าน
“แกไม่ต้องมาเถียงฉัน ฉันเป็นแม่แกฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ เอาอย่างพี่ชายแกหน่อยสิ เขาไม่เคยขัดใจอะไรฉันแล้วผลที่เขาได้รับมันเป็นยังไง ตอนนี้กำลังจะได้ดิบได้ดี เรียนจบชั้นสูงเหมาะที่จะเป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งต่างกับแกนัก ตะลอนๆ ใช้ชีวิตอยู่กับอีพวกเด็กไร้อนาคตให้มันได้อะไร” จิตราว่าอีก ไม่สนใจแววตาที่ลูกชายมองมาอย่างคนน้อยใจ หนำซ้ำยังถลึงตาเข้าใส่หวังข่มให้เจ้าตัวเกรงกลัว
เมื่อรู้สึกน้ำในตาจะไหลออกมาเพราะเก็บกลั้นความน้อยใจไม่ได้อาทีจึงตัดสินใจวิ่งผ่านร่างแม่ของตนขึ้นไปบนเรือน พอเข้าห้องได้จึงค่อยปล่อยให้น้ำตาไหลอาบสองแก้มนั่งขุดคู้พิงประตู นึกเคืองไปถึงพี่ชายตนเองที่เป็นตัวเปรียบเทียบให้แม่ไม่ชอบนิสัยตน
ด้านจิตราจัดการลูกชายเสร็จก็ไม่คิดจะให้เรื่องจบแค่ตรงนี้ ยังมีอีกที่หนึ่งที่หล่อนต้องตามไปกำราบให้สำนึกว่าเป็นแค่ลูกคนงานอย่าสะเออะมาตีตนเสมอนาย
“พิศ พิศ! มานี่ซิ!” หล่อนเอ่ยเรียกสาวใช้คนสนิทเพื่อนำทางไปยังเรือนแม่นาง
“ขาคุณนายจิตร” เพลินพิศส่งเสียงมาก่อนตัว สักครู่จึงพาร่างท้วมอย่างหญิงอายุสามสิบปลายๆ นั่งคุกเข่าแทบเท้าเจ้านาย
“ไปกับฉันหน่อย” จิตราบอกเสียงนิ่ง เชิดหน้าเพียงนิด เมื่อนึกถึงสถานที่ที่ตนจะไป เช้าๆ แบบนี้คนงานคงยังไม่ตื่นกันมากนัก เพราะไร่นี้มีเวลาทำงานในตอนสายๆ ตามที่จันทร์จวงเจ้าของไร่ที่ใจดีที่สุดในสามโลกเป็นคนร่างกฎไว้
การที่คนงานบางตา หล่อนจะจับไอ้เด็กเวรนั่นฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ ยังไงก็คงจะสะดวกอยู่หรอก เรือนของมันแยกตัวอยู่ไกลเรือนคนงานอื่นๆ ซะด้วย สมใจยิ่งนักจิตราเอ้ย
“ไปไหนหรือคะ” เพลินพิศเอ่ยถาม
“เรือนยัยแม่นาง” เจ้านายบอก สาวใช้เกิดอาการเนื้อเต้นทันที รู้ว่าต้องมีเรื่องให้เลือดสูบฉีดอีกเป็นแน่ ได้ออกกำลังกายแต่เช้าตรู่อีกแล้ววุ้ยอีพิศ

******************************************************************

“อิทเอ้ย เสร็จหรือยังลูก เดี๋ยวไปโรงเรียนสายเอานะ” แม่นางร้องถามลูกชายขณะมือง่วนกับการจัดสำรับเช้าให้เจ้าตัว กิจวัตรของนางเป็นมาแบบนี้ตั้งแต่อิทธิโตจนเข้าโรงเรียน
“เสร็จแล้วแม่ ไม่สายหรอกวันนี้จะเช้ากว่าทุกวันล่ะไม่ว่า” อิทธิส่งเสียงบอกในตอนที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย ซึ่งวันนี้เร็วกว่าทุกวัน เพราะตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อปั่นจักรยานไปส่งอาทีที่เรือน
“เสร็จก็ดีแล้ว มากินข้าวมา แม่จะได้เตรียมตัวไปไร่” แม่นางบอกอีก พลางยกสำรับออกไปวางที่ชานเรือน ซึ่งยกสูงจากพื้นระดับเพียงอก เสียงฝีเท้าของลูกชายเดินออกมาจากในเรือนทำให้นางหันไปมองจนไม่ทันได้เห็นว่ามีร่างสองร่างกำลังเดินลิ่วๆ มาหยุดอยู่หน้าสำรับกับข้าว
“กับข้าวมันน่ากินนะคะ จะเอาจริงเหรอ” เพลินพิศกระซิบใส่ใบหูเจ้านายตอนมองเห็นสำรับกับข้าวสองสามอย่างที่ล้วนแต่เป็นแกงป่า ซึ่งตนจะต้องยกทิ้งตามแผนที่เจ้านายสั่งตั้งแต่มองเห็นว่ายัยแม่นางกำลังนั่งจัดสำรับอยู่
“ฉันสั่งแกก็ต้องทำ” จิตราบอกเสียงดุ เสียงนั่นดังพอให้เจ้าของเรือนได้ยินจนหันมามอง
“คุณจิตร” แม่นางเอ่ยเรียกแขกผู้มาเยือน ใจหายหน่อยๆ ที่เห็นรอยยิ้มเหยียดเป็นการทักทาย จังหวะนั้นอิทธิเดินมาเห็นเข้าพอดี เด็กหนุ่มชะงักมองน้องสาวเจ้าของไร่
“นังพิศ! จัดการ” จิตราเหลือบตามองสาวใช้เอ่ยออกคำสั่ง
“ได้ค่ะ” เพลินพิศรับคำยิ้มร้ายใส่สำรับกับข้าว พุ่งร่างคว้าหยิบ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรแม่นางก็โดดปัดป้องไว้ จึงเกิดการยื้อแย่งสำรับกับข้าวกัน
“หล่อนจะทำอะไรเพลินพิศ” แม่นางเอ่ยถามสาวใช้เจ้านายที่อายุน้อยกว่าตน
“กับข้าวป่าๆ แบบนี้หล่อนกับลูกอย่ากินมันเลย” เพลินพิศตอบกลับอย่างไม่คำนึงถึงเรื่องวัย ถลึงตาเข้าใส่ศัตรูเจ้านายออกแรงแย่งมากขึ้นจนน้ำแกงในถ้วยเริ่มกระฉอก
“ปล่อยสำรับเดี๋ยวนี้นะน้าพิศ” อิทธิส่งเสียงสั่งคนที่ยื้อยุดสำรับอยู่กับแม่ของตน เด็กหนุ่มสนใจสถานการณ์ตรงหน้ามากกว่าที่จะมองเห็นการยืนมองเหตุการณ์อย่างแสยะยิ้มของจิตรา หนุ่มน้อยรีบวิ่งเข้ามาช่วยผู้ให้กำเนิด จิตราที่ยืนมองดูอยู่จึงรีบฉวยหยิบแกงถ้วยหนึ่งยกสาดใส่ร่างนั้นทันที
“โอ้ย!” อิทธิร้องออกมาด้วยความแสบร้อนเมื่อน้ำแกงอุ่นๆ สาดเข้าเต็มร่างมีบางส่วนที่กระเด็นเข้าใบหน้าเลยไปถึงดวงตาจนต้องลุกวิ่งไปที่ตุ่มน้ำจัดการล้างหน้าล้างตาทันที
“อิทธิเป็นไรมั้ยลูก” แม่นางร้องถามลูกชายอย่างตกใจ น้ำตาแทบไหลเมื่อเห็นลูกชายกำลังตักน้ำในตุ่มล้างหน้าล้างตาอย่างร้อนรน นาทีนั้นเรี่ยวแรงที่ยื้อแย่งสำรับจากมือเพลินพิศจึงถดถอย เป็นเหตุให้สาวใช้แย่งถาดสำรับมาได้สำเร็จ
เพลินพิศจัดการเหวี่ยงสำรับกับข้าวทิ้งทันทีที่แย่งมาได้สำเร็จ หล่อนฉลาดพอที่จะเหวี่ยงไปให้พ้นการกระเด็นมาโดนตัวเจ้านาย  ด้านแม่นางพอได้ยินเสียงถ้วยชามพร้อมสำรับกับข้าวตกกระทบพื้นจึงหันมาสนใจเหตุการณ์
“เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือหนักๆ ตบสวนเข้าที่ใบหน้าจนหันสะบัดตอนหันมา แม่นางร้องโอ้ย ร่างล้มแนบไปกับชานเรือน อิทธิได้ยินเสียงหันมามอง เห็นวงแขนจิตรายังไม่วางลงจึงแน่ใจว่าเจ้าตัวทำร้ายแม่ตน เด็กหนุ่มจัดการตักน้ำขันใหญ่สาดไปที่ร่างนั้นทันที
“ว้าย!” สองเสียงร้องประสานกันระหว่างเจ้านายกับสาวใช้ พลางถอยร่นร่างกายออกไปหน่อยๆ ให้พ้นการซ่านกระเซ็นของน้ำ
“ไปให้พ้นเลยนะก่อนที่ผมจะหมดความอดทน” เมื่อความแสบร้อนที่ร่างกายและดวงตาทุเลาลง อิทธิจึงรีบวิ่งมาพยุงแม่ลุกนั่ง สายตาจ้องมองสองคนที่มาหาเรื่องอย่างโกรธแค้น
“ฉันไปแน่ ฉันไม่อยู่ให้คราบไคลคนงานอย่างแกและก็แม่ของแกไหลมาติดตัวฉันหรอกไอ้เด็กขี้ครอก” จิตราเอ่ยขึ้น มองสองแม่ลูกที่นั่งเกาะร่างกันบนชานเรือนแล้วนึกสะใจปนสมเพช ก็ดูสิ อีนังคนเป็นแม่ก็ใบหน้าแดงไปแถบหนึ่ง น้ำหูน้ำตาไหลพรากตัวสั่นงันงก ส่วนไอ้ลูกชายตัวดีสภาพก็ดูไม่ได้ เสื้อนักเรียนขาวๆ บัดนี้กลายเป็นรอยคราบจากน้ำแกง ผมเผ้าที่ดูเป็นระเบียบแต่ต้นตอนนี้ก็ชุ่มไปด้วยน้ำที่เจ้าตัวตักวิดใส่เอง ไหนจะใบหน้าที่แดงรื้นจางๆ จากการโดนไอร้อนจากแกงถ้วยนั้นอีก สะใจกูจริ๊งๆ อีพวกชั้นไพร่ นี่ยังไงล่ะโทษฐานที่พวกแกไม่เจียมฐานะพาลูกชายฉันมาค้างอ้างแรมด้วยที่เรือนเน่าๆ ผุๆ นี่
“จะไปก็รีบไปไม่ต้องมาพูดมาก” อิทธิเอ่ยตะคอกถลึงตาเข้าใส่คล้ายจะคุมอารมณ์ไม่อยู่ รู้ถึงสาเหตุที่จิตราพาสาวใช้คนสนิทมาหาเรื่องถึงที่เรือนตน จึงไม่คิดจะถามไถ่หาความให้เสียเวลา
“จองหองมากเกินไปแล้วนะไอ้อิท แกเป็นใครถึงมามองจ้องหน้าคนเป็นเจ้าเป็นนาย ไอ้ลูกไม่มีพ่อ” เพลินพิศเอ่ยปากตำหนิเด็กหนุ่มหวังเอาใจเจ้านาย
“อย่ามาว่าลูกฉันนะเพลินพิศ หล่อนเองก็แค่สาวใช้” แม่นางเอ่ยว่าเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจในคำพูดของคนที่มีสถานภาพไม่ต่างจากตนเท่าไหร่นัก จะว่าไปก็ด้อยกว่าตนที่เป็นผู้คุมบัญชีของไร่เสียอีก
“บริวารของฉันจะพูดจะจาอะไรก็ได้ แกนั่นแหละควรสำนึกยัยแม่นาง หัดสั่งสอนลูกชายของแกให้เจียมกะลาหัวไว้บ้างว่าอย่ามาตีตัวเทียบเสมอลูกชายฉัน ถือดียังไงถึงชวนตาอาทีมาค้างที่นี่ด้วย” จิตราชี้หน้าสั่งสอน แม่นางหันหน้ามองลูกชาย ก็ไหนอาทีบอกขอมาค้างที่นี่เพื่อให้อิทธิช่วยสอนหนังสือให้ไง เรื่องนี้มันยังไง ตกลงคนที่ชวนอาทีมาคือลูกชายตนงั้นเหรอ
“บอกแม่มานะอิทว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง” นางเอ่ยถามลูกชาย แต่คนที่ชิงตอบคือจิตรา
“เรื่องจริงน่ะเหรอ ลูกชายของแกไม่ฟังคำสั่งฉันยังไงล่ะนังไพร่ ชอบนักที่จะชวนลูกชายฉันไปเถลไถลตอนเลิกเรียนจนต้องกลับเรือนดึกๆ ดื่นๆ หนำซ้ำมันยังชวยอาทีมาค้างอ้างแรมกับมันอีก ทำแบบนี้มันหยามคำสั่งฉันเกินไปหน่อยแล้ว หนอยฉันรู้นะว่าที่ต้องตีสนิทกับลูกชายฉันขนาดนี้เพราะหวังเกาะที่จะเข้าเรียนชั้นที่สูงขึ้นอีกน่ะสิ ฝันไปเถอะ ฉันทนให้แกข้องแวะกับอาทีแค่นี้พอแล้ว พอจบม.6 ลูกชายฉันจะต้องไปอยู่กับพ่อมันที่กรุงเทพฯ โน่น ส่วนแกจะต้องทดแทนข้าวแดงแกงร้อนของฉันด้วยการเป็นคนงานในไร่นี้เท่านั้นจำเอาไว้ ไปนังพิศ กลับ!”
จิตราพาสาวใช้เดินกลับไปแล้ว แม่นางหันมาผลักลูกชายออกจากตัวทันที เค้นถามถึงสิ่งที่จิตราเอ่ยทิ้งไว้
“เมื่อคืนนี้โกหกแม่กันเหรออิท อิทชวนคุณอาทีมาค้างที่นี่อย่างที่คุณจิตรบอกเหรอ”
“คืออย่างนี้แม่” อิทธิอ้ำๆ อึ้งๆ ที่จะเล่าความจริง เพราะแม้จะไม่ใช่คนชวนอาทีมาที่นี่แต่การที่ตนยังข้องแวะอยู่กับฝ่ายนั้นอยู่หากแม่นางทราบเรื่องนางคงจะไม่พอใจอยู่ดี เพราะนางเองก็พร่ำบอกมาตลอดว่าให้เลิกข้องเกี่ยวกับอาทีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เมื่อเห็นลูกชายอ้ำอึ้งก็พอจะเดาเรื่องราวได้ แม่นางรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งเสียใจที่ลูกชายไม่ฟังคำ จึงลุกขึ้นฟาดฝ่ามือทุบตีสั่งสอนลูกชายบ้างพลางร้องไห้และพูดจาเชิงตัดพ้อ
“ที่แม่บอกแม่ห้ามไม่ฟังใช่มั้ย เห็นหรือยังว่าผลสุดท้ายมันเป็นยังไง ลูกเขาเป็นถึงเจ้าคนนายคนอิทฟังคำแม่แค่นี้ไม่ได้ใช่มั้ย ไม่ได้ใช่มั้ย ไม่ได้ใช่มั้ย ฮือๆ”
เมื่อหมดแรงจึงนั่งลุกปาดน้ำตาที่ไหลเป็นทางไม่หยุด อิทธิเห็นดังนั้นจึงรีบคลานเข่าก้มกราบแทบเท้าเอ่ยขอโทษทั้งน้ำตา
“อิทขอโทษแม่ อิทขอโทษ”
ร่างที่สั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นของลูกชายที่กัมกราบตรงหน้าทำให้ผู้เป็นแม่สะเทือนใจจึงรีบยกร่างนั้นขึ้นมากอดปลอบ รู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อยที่ทุบตีเจ้าตัวก่อนหน้า
“แม่ก็ขอโทษอิท แม่ก็ขอโทษ ลูกเจ็บมากมั้ย แม่ขอโทษ”
หญิงวัยกลางคน
กอดปลอบลูกชายทั้งน้ำตา ไม่ต่างจากลูกชายที่สะอื้นไห้ภายใต้อ้อมกอดผู้ให้กำเนิด สัญญากับตัวเองว่าจากนี้จะพยายามตีตัวออกห่างลูกชายของเจ้านายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เผื่อว่าแม่ของตนจะได้ไม่โดนราวีครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้
สองแม่ลูกกอดกันกลมจมกับหยาดน้ำตาที่ต่างฝ่ายต่างหลั่งออกมาด้วยความเสียใจ ผู้เป็นแม่นึกน้อยใจในชะตาชีวิตที่ต้องพาลูกชายคนเดียวมาตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากแบบนี้ อิทธิแม่ขอโทษ ชีวิตลูกคงจะดีกว่านี้หากแม่ไม่พาลูกหนีมาจากพ่อของลูก นางได้แต่พร่ำรำพันอยู่ในอกเมื่อนึกถึงอดีตขึ้นมา

โปรดติดตามตอนต่อไป


ฝากอีกหนึ่งผลงานด้วยครับ
DREAM II ขีดเส้นฝันในวันที่มีรัก ภาค 2
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=19623.0
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-11-2010 20:44:32
มา 3 ตอน  ก็มาม่า 3 ชาม  อิ่มแปล้เลยเรา
นี่ถ้าคุณอาทิตย์กลับมาคงจะเป็นมาม่าต้มยำชามพิเศษแหงเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-11-2010 20:50:16
 :เฮ้อ:ดาวพระศุกร์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 13-11-2010 20:57:11
 :เฮ้อ:

ฉากแม่กับลูกอ่ะซึ้ง แต่อึดอัดอ่ะ..

ไม่เห็นเข้าใจเลยว่าทำไมต้องยอม ถ้ายอมแล้วไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นมา
บุญคุณหมดเมื่อทวงนั่นแหละ

แม่แอบรังแกอาทีนิดๆนะแบบนี้

(โพสยากจัง)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-11-2010 21:04:07
:เฮ้อ:ดาวพระศุกร์

ดาวพระศุกร์x100


อีนางจิตรานี่ทำตัวต่ำมากไม่สมกับเป็นน้องสาวเจ้าของไร่เลย ไม่สำเหนียกตัวแล้วยังไม่ว่าคนอื่นอีก อีนี่มีปมแน่ๆ น่าตบจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: nuewanda ที่ 13-11-2010 21:41:32
เย้ๆๆๆๆๆ
มีนิยายหนุกๆ อีกเรื่องแล้ว
จิตราดูไร้เหตุผลมากอ่ะ มองไม่เห็นเหตุผลที่ต้องเกลียดชังกันขนาดนั้นเลย
เมื่อไหร่จะปิดเทอม พระเอกจะได้แแกโรงซักที อิอิ

แอบชอบอาที......เป็นไรไม่รู้ ชอบตัวรองตล๊อดดดด ฮ่าๆๆๆ

รอตอนต่อไป............
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 13-11-2010 21:49:23
เกินไปมั้ยนั่น
ถ้าเค้าตาบอดจะทำไง
จิตราเป็นผู้ใหญ่ที่แย่มาก
หวังว่าชีวิตจริงคงไม่มีคนแบบนี้นะ
ถ้ามีล่ะก็พ่อจะเล่นตีลังกาแปดตลบแล้วตบด้วยฝาโอ่งเลย
555++  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-11-2010 21:56:00
มาม่าจริงๆด้วย
แหงะ มาต่อเร็วๆนะคะ
เกลียดคนแบบจิตราจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-11-2010 22:06:34
สวัสดีอย่างเป็นทางการครับสำหรับเพื่อนๆ นักเขียน นักอ่าน ผู้ดูแลบอร์ด และทีมงานเว็บไซต์แห่งนี้ทั้งหมด
ลงนิยายให้อ่าน 3 ตอนแล้ว ชื่นใจที่เห็นหลายคนแสดงความคิดเห็นต่อผลงานชิ้นนี้กันอยู่พอสมควร สำหรับนักอ่านที่คุ้นเคยกันมาบ้างแล้ว ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวเองมากนัก เพราะผลงานนิยายในที่แห่งนี้มีมากเหลือเกิน แต่สำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านผลงานนี้เรื่องแรก ก็ขอยืมพื้นที่ตรงนี้แนะนำตัวกันสักนิดนะครับ ผม Boy ครับ
จาก Bboyseries นามปากกาที่ลงนิยายในนี้แหละครับ นิยายที่เพื่อนนักอ่านหยิบมาโพสในนี้ มีหลากหลายมาก ขอไล่เรียงให้ทราบไว้ เผื่อจะได้ตามไปชื่นชมผลงานกัน เริ่มตั้งแต่

Real Love Story 1, 2
จนกว่าฟ้าจะมีเวลา
รู้ไหม? หัวในฉันตามหา 1, 2
DREAM ขีดเส้นฝันในวันที่มีรัก (เรื่องนี้กำลังโพสภาค 2 ลงที่นี้ด้วยครับ)
Lonely Love หัวใจขอมีรักแค่สักครั้ง
Loving Course ติวรักสุดใจนายเกเร
สองคนบนทางรัก
ไฟรัก (นิยายรางวัลตัวร้ายสุดฮอตเซ็งเป็ดอวอร์ด ครั้งที่ 1 สำหรับแฟนๆ วิศรุต ปรมินทร์ และศัตรูนายอธิศร เร็วๆ นี้ เตรียมพบผลงานนี้ในรูปแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค ซึ่งจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง วางแผงเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบและอย่าลืมตามเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ)

ทั้งหมดนั่นคือผลงานที่โพสจนจบลงในที่แห่งนี้แล้ว สนใจผลงานไหนตามไปอ่านได้ที่บอร์ดนิยายที่โพสจบแล้วได้ครับ ส่วนอีกหนึ่งผลงานที่ยังค้างคาอยู่ที่ห้องนิยายยังโพสไม่จบคือ Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม ขออนุญาตถามผู้ดูแลบอร์ดตรงนี้เลยละกันครับว่าหากผมจะนำผลงานนั้นมาโพสที่ห้องนี้จะได้หรือเปล่า เพราะงานโพสที่ห้องนิยายยังไม่จบเป็นผลงานโพสของนักโพสท่านหนึ่ง ซึ่งผมไม่สามารถแก้ไขกระทู้ได้หากเกิดการผิดพลาดจากการโพส (ความผิดพลาดในการโพสทั้งหมดที่ทำให้นิยายค้างคา เกิดจากผมเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับนักโพส ยังไงผมก็ขอกล่าวคำว่าขอโทษต่อนักโพสท่านนั้นด้วยที่ทำให้การโพสนิยายสะดุดลง รวมถึงขอโทษเพื่อนๆ นักอ่านที่กำลังติดตามผลงานนั้นแล้วเกิดอาการสะดุดและรู้สึกแย่ในการติดตาม) ผมก็เลยอยากจะนำมาเริ่มกระทู้ใหม่ที่ห้องนี้ (คราวนี้จบแน่นอนครับ) ฝากพิจารณาด้วยครับว่าเหมาะสมหรือไม่ หากไม่ได้ก็ยินดีที่จะไปโพสต่อที่ห้องนั้นครับ หากเป็นแบบนั้น เพื่อนๆ ในห้องนี้ช่วยตามไปให้กำลังใจที่โน้นด้วยนะครับ

เอาล่ะ ขอวกกลับมาที่นิยายแรงแค้นใต้เงารักกัน กำลังเกิดสับสนอยู่ใช่มั้ยว่าใครพระ ใครนาง ไม่รู้ว่าตามธรรมเนียมจะต้องเฉลยต้องเริ่มเรื่องมั้ย แต่ผมไม่อยากเฉลยอ่ะ เอาไว้อ่านๆ ลุ้นๆ ไปดีกว่าเนอะ แต่ผมว่าหลายคนคงพอจะรู้แล้วล่ะ อ้อ แล้วนิยามคำว่ามาม่า นี่มันใช้แทนคำว่าน้ำเน่าใช่หรือเปล่าอ่ะ คือผมห่างวงการนี้ไปนานแล้ว เลยขอความรู้หน่อย คิดว่าน่าจะใช่นะ เพราะเห็นหลายคนใช้เรียกผลงานชิ้นนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็น้อมรับด้วยความยินดีครับ แต่ภายในมาม่าชามนี้มีหลายปมที่ซ่อนอยู่ไว้ให้ผมคอยแก้ คอยแกะ ออกมาทีละนิดๆ สารภาพว่าเครียดอยู่ไม่น้อยเหมือนกันถึงปมที่วางเอาไว้ว่าผมจะสามารถคลายมันออกมาสร้างความกระจ่างให้ผู้อ่านได้มากน้อยแค่ไหน นิยายเรื่องนี้เดิมทีผมวางพล็อตไว้เป็นนิยายธรรมดาเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว เหตุที่ปมมันเยอะมาก ผมเลยคิดถอดใจในตอนที่เขียนได้สักระยะหนึ่ง แต่พอมาจับงานเขียนนิยายวายแล้วรู้สึกสมองมันลื่นไหลกว่าการเขียนแนวชายหญิง จึงขอจับมันขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง หากมีข้อผิดพลาด หรือความไม่ลงตัวใดๆ ผมต้องอภัยและขอกำลังใจจากทุกคนเอาไว้ตรงนี้ด้วยนะครับ ส่งมาให้กันเยอะๆ หน่อยก็ดีนะ เพื่อเป็นแผงผลักให้นิยายเรื่องนี้ก้าวเดินไปอย่างตลอดรอดฝั่ง ลงทุกตอนก็ลุ้นทุกตอนว่าหลายคนจะชอบมั้ยกับนิยายสำนวนไทยๆ แบบนี้ ตอนล่าสุดนี้ก็เพิ่งจะตอนที่ 3 การดำเนินเรื่องยังวนๆ เวียนๆ อยู่กับอาทีและอิทธิ รออีกสักนิดนะ อีกไม่กี่ตอน อาทิตย์ ก็พร้อมจะมาเพิ่มสีสันและรสชาติที่แซ่บระดับมาม่าน้ำข้นให้ทุกๆ คนได้ชิมแน่นอน ถึงตอนนั้นเมื่อไหร่ อย่าลืมซี้ดส์..ส์ปากกันนะครับสำหรับสาวกคนชอบทานมาม่า เอาให้ดังกันอย่างพร้อมเพียงเลยนะ เพราะมันแซ่บ! แน่นอน

ขอบคุณครับ
Boy


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-11-2010 22:11:12
สำหรับเราแล้ว  มาม่า (Drama)  คือ เศร้า สลด รันทดใจ เป็นทุกข์
มิได้หมายถึงน้ำเน่าแต่อย่างใด  และส่วนตัวแล้วชอบพระเอกเลว ๆ อ่ะ
อ่านแล้วมันบีบหัวใจดีชะมัด  ซาดิสต์ว่ะตรู '^^"
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 14-11-2010 00:59:42
ตกลงใคร คู่ ใคร อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 14-11-2010 02:15:24

ต๊าย หรือพ่อของอิทธิ จะ
๑. เคยเป็นชิ้นเก่าของยัยจิตรา
๒. แล้วมาเป็นพ่ออิท
๓. แล้วมีคนใหม่
๔. แม่อิทเลยสะบัดบ๊อบใส่
๕. จิตราเลยยังพาลแม่ลูกคู่นี้
๖. อิทธิ อาจเป็นพี่น้องกับอาร์ตี้ และอาที
๗. อาร์ตี้ กับอาที อาจจะมีพ่อไม่ซ้ำกัน
รึเปล่าคะ 5555

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-11-2010 10:49:36
แอบเดาว่าพ่อของอิทธิน่าจะรวย...
อ่านมาได้ สาม ตอนก็มาม่าซะ
แล้วถ้าอาทิตย์กลับมามันจะ มาม่า กว่านี้อีกหรือเนี่ยขอรับ :a6:
ออกจะเดาได้ลางๆ ว่าใครเป็นพระเอก นายเอกของเรื่อง ...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 14-11-2010 11:13:14
มาม่ามากเลย

จิตราทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ

เมื่อไหร่คุณอาทิตย์จะมาน้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-11-2010 14:28:23
สำหรับเราแล้ว  มาม่า (Drama)  คือ เศร้า สลด รันทดใจ เป็นทุกข์
มิได้หมายถึงน้ำเน่าแต่อย่างใด  และส่วนตัวแล้วชอบพระเอกเลว ๆ อ่ะ
อ่านแล้วมันบีบหัวใจดีชะมัด  ซาดิสต์ว่ะตรู '^^"
ค่า มาม่าที่ว่าก็เป็นคล้ายๆนี่แหละค่ะ พี่บอยขา
ตามมาให้กำลังใจค่ะ สู้ๆนะคะ เอาใจช่วย
รักพี่บอย จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 17-11-2010 13:02:55
บวกให้ทั้ง กิต และ บอย  อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 17-11-2010 16:26:40

ว้าย ได้เลขตองค่ะ  :z7:
๘๘๗ + ๑ = ๘๘๘
ขอบคุณนะคะ คุณ สอง

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 19-11-2010 21:17:36
พ่อของอิทธิเป็นใครนาาาา อยากรู้อ่ะ สนุกจังเลย o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 1-3 อัพเดต 13.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-11-2010 08:38:36
“เธอฟังฉันก่อนสิสุรางค์ ที่ฉันทำลงไปเพราะฉันเมา แค่นี้เธอให้อภัยฉันไม่ได้เหรอ”
“ให้อภัยหรือคะ กี่ครั้งแล้วคะที่คุณยุทธแก้ตัวกับดิฉันแบบนี้ กับคนอื่นนอกบ้านดิฉันยังจะพอรับได้ แต่นี่กับเด็กในบ้าน คุณยุทธหยามน้ำใจดิฉันเกินที่ดิฉันจะทนได้นะคะ”
“ก็เรื่องมันแล้วไปแล้ว ยังไงสุรางค์ก็เป็นเมียของฉัน เป็นคนที่ฉันรักอยู่วันยังค่ำ จะมามัวคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องแบบนี้ทำไมกัน”
“เรื่องเล็กน้อยเหรอคะ การที่คุณยุทธหลับนอนกับสาวใช้ในบ้านในขณะที่ดิฉันกำลังอุ้มท้อง คุณยุทธคิดว่าเรื่องแค่นี้มันเล็กน้อยอย่างงั้นหรือคะ”
“แล้วเธอจะเอายังไง จะให้ฉันทำอะไรเธอถึงจะหายโกรธหายงอนฉันล่ะ”
“คุณยุทธไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแหละคะ เพราะต่อจากนี้ดิฉันคงไม่ทนอยู่กับพฤติกรรมมักมากของคุณยุทธอีก”
“เธอหมายความว่ายังไง”
“ดิฉันจะไปจากที่นี่ค่ะ”
“เธอจะไปไหนได้ยังไง เธอกำลังท้องกำลังไส้”
“ท้องก็ช่างปะไร นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณยุทธหยามน้ำใจดิฉัน ดิฉันไม่อยากให้ลูกลืมตามาเห็นพฤติกรรมเหลวไหลของคุณยุทธ ซึ่งเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเขา”
“ฉันยอมให้เธอไปไหนไม่ได้หรอกสุรางค์ อย่าลืมนะว่าตอนนี้เธอเปรียบเสมือนคนไร้ญาติขาดมิตร การที่เธอก้าวออกจากเรือนไพศาลสกุลของฉันก็เท่ากับว่าเธอต้องพาลูกฉันไประหกระเหินอย่างไม่รู้โชคชะตา”
“ดิฉันกล้าทิ้งยศศักดิ์บุตรสาวคนเล็กในตระกูลที่มั่งคั่งของเมืองเพชรเพื่อหนีตามนักเลงปักษ์ใต้อย่างคุณยุทธก็นับว่าเป็นความระหกระเหินของโชคชะตามากพอแล้วล่ะค่ะ การที่ดิฉันจะพาชีวิตออกระหกระเหินอีกกครั้งมันก็คงจะไม่มีอะไรน่ากลัวนัก”
“แล้วทำไมเธอจะต้องทำเช่นนั้นด้วยล่ะ อยู่กับฉันที่นี่มันจะเป็นไรไป ฉันสัญญาก็ได้ว่าทันทีที่เธอคลอดฉันจะเลิกเหลวไหลนอกลู่นอกทาง ฉันจะเป็นพ่อที่ดีดูแลลูกของเราอย่างดีที่สุด”
“พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่าคะคุณยุทธ หากดิฉันไม่คลอด คุณยุทธก็จะยังไม่เลิกพฤติกรรมมักมากอย่างนั้นเหรอคะ ดิฉันเสียใจจริงๆ ที่ดิฉันไม่ฟังคำทัดทานจากญาติมิตรว่าให้ระวังนิสัยมักมากของพวกนักเลงปักษ์ใต้ เชิญเลยค่ะ ต่อแต่นี้เชิญคุณยุทธทำตัวเหลวไหลได้ตามสะดวก ดิฉันคงทนอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้จริงๆ”
จากวันนั้นสุรางค์พาลูกในท้องก้าวเดินออกจากเรือนไพศาลสกุลจริงๆ หล่อนไม่ฟังคำทัดทานของสามี แม้ว่าจะโดนขู่ว่าหล่อนจะไม่ได้ทรัพย์สินติดตัวไปแม้แต่ชิ้นเดียวหากยังจะดันทุรัง ด้วยทิฐิและความน้อยใจทำให้สุรางค์ไม่หยิบเศษเงินแม้สตางค์แดงเดียวที่เป็นของเรือนไพศาลสกุลติดตัวมา หล่อนมีเพียงทรัพย์สินเก่าๆ ที่เป็นของหล่อนเองตอนที่มีติดตัวเมื่อครั้งหนีออกจากเรือนบวรภิรมย์เพื่อมาใช้ชีวิตคู่กับสามีที่หล่อนคิดจะฝากฝีฝากไข้ด้วยได้
ยุทธ ไพศาลสกุล บุตรชายข้าราชการชาวใต้ ซึ่งมีนิสัยอันพาลเกเรไปวันๆ สุรางค์เจอกับนักเลงปักษ์ใต้ผู้นี้ตอนงานสมโภชประจำปีของจังหวัด หล่อนต้องมนต์เสน่ห์ชายหนุ่มผู้นี้เมื่อโดนหยอดคำหวานให้ระหว่างเดินชมงาน ด้วยวาจาหวานหู และรูปร่างหน้าตาที่ดูหล่อคมขำสมชายปักษ์ใต้ทำให้สาวเมืองเพชรอย่างหล่อนมองข้ามนิสัยเกเรอันธพาลที่ลือกันนักในหมู่ชาวบ้าน
“ไอ้ยุทธมันเป็นนักเลงปักษ์ใต้ นิสัยมันเจ้าเล่ห์นัก มันเที่ยวจีบสาวไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เวลามีงานใหญ่ๆ ที่ไหนมันไม่เคยพลาดที่จะไปเหล่สาวหรอก แม่สุรางค์อย่าไปหลงเสน่ห์มันเชียวล่ะ” แม้ค้าขายของในงานที่คุ้นเคยกันดีเอ่ยกระซิบเตือนหล่อน ตอนหล่อนเดินไปอุดหนุนร้านพร้อมกับนักเลงปักษ์ใต้ผู้นี้
“แม่สุรางค์อย่าไปเชื่อคำใครๆ เขาลือเลยนะ ฉันน่ะมันคนต่างถิ่น ชาวบ้านเขาเลยพาลไม่ชอบกระมัง จริงอยู่ที่ฉันชอบเที่ยวทั่วไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ แต่ฉันไม่ได้ไปเหล่สาวที่ไหน ฉันไปเที่ยวตามประสาหนุ่มๆ เท่านั้น เพิ่งจะมีครั้งนี้แหละที่ความงามของแม่สุรางค์ทำให้ฉันนึกอยากจะจีบขึ้นมา” หนุ่มใต้ผู้นี้บอกกับหล่อนว่าอย่างนั้นตอนหล่อนเผลอตัวเผลอใจไปแอบพลอดรักไกลสายตาผู้คน ตอนนั้นหล่อนก็เพิ่งจะแตกเนื้อสาว พอโดนคำหวานชาย จิตใจก็เลยหลอมละลายเชื่อตามน้ำคำอย่างเสียมิได้ ความสัมพันธ์ของหล่อนกับนายยุทธจึงเลยเถิดถึงขั้นลึกซึ้ง
“แม่สุรางค์ไม่ต้องเสียใจนะ ฉันจะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณี” นักเลงปักษ์ใต้ที่ใครๆ กล่าวหาว่าเกเรบอกกับหล่อนในตอนที่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งได้จบลง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามคำบอกจริงๆ แต่ทว่ารื่องราวการสู่ขอมันไม่ได้ง่ายนัก
วันที่ขบวนผู้ใหญ่จากฝั่งโน้นมาเจรจาเพื่อขอตัวหล่อนให้กับนายยุทธหล่อนจำมันได้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งพ่อ แม่ และบรรดาญาติมิตรต่างคัดค้านการเจรจาสู่ขอครั้งนี้ เพราะไม่รู้ไม่เห็นมาก่อนว่าหล่อนชอบพอและคบหากับนายยุทธตั้งแต่เมื่อใด อีกอย่างคำร่ำลือถึงความกะล่อนของนายยุทธก็กระฉ่อนเมืองเพชรบุรีอยู่ไม่น้อย  เหตุการณ์บานปลายใหญ่โตเมื่อนายยุทธบอกกับทุกคนว่าหล่อนตกเป็นของตนแล้ว ถึงตอนนี้อย่าได้มีใครปฏิเสธขัดขวาง เพราะไม่แน่หากหล่อนท้องขึ้นมาจะงามหน้าที่หาสามีให้หล่อนไม่ได้
พอทราบเรื่องราวเหล่าบรรดาญาติมิตรต่างไล่ตะเพิดนายยุทธให้ออกจากเมืองเพชรบุรีและอย่าได้กลับมาอีกเพราะการกระทำที่หยามศักดิ์ศรีสาวเมืองเพชรนั้นเป็นเรื่องเสียหายเกินที่วงศ์ตระกูลที่มั่งมีเช่นบวรภิรมย์จะรับได้ นายยุทธยอมล่าถอยกลับในวันนั้น แต่ยังตั้งมั่นว่าถึงอย่างไรเสียก็จะกลับมาเอาตัวหล่อนไปเป็นภรรยาและพาไปอยู่ที่ปักษ์ใต้ให้ได้
หลังนายยุทธกลับไปแล้ว คนที่โดนพิพากษาต่อก็คือหล่อนเอง สารพัดถ้อยคำถากถาง และวาจาดุด่าหลุดออกมาจากปากพ่อ แม่ และบรรดาญาติของหล่อน จนหล่อนเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจว่าเหตุใดทุกคนจึงต้องมาขัดขวางความรักหล่อนได้ขนาดนี้ ญาติพี่น้องต่างตราหน้าว่าหล่อนเป็นลูกสาวที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงศ์ตระกูลจนอาจมีการตัดสิทธิ์ออกจากกองมรดก คำขู่ข้อนี้หล่อนไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เพราะเชื่อว่าหากหล่อนได้ครองรักกับนายยุทธ นายยุทธก็คงจะพอดูแลหล่อนไม่ให้ตกระกำลำบากได้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นในวันที่นายยุทธติดต่อกลับมาว่าในเมื่อสู่ขอกันดีๆ แล้วไม่ได้ ก็หนีไปตามเขาไปที่ปักษ์ใต้ซะให้สิ้นเรื่อง หล่อนจึงตัดสินใจหนีออกจากเรือนบวรภิรมย์ทันที พอมาใช้ชีวิตครอบครัวที่ปักษ์ใต้ได้สักพัก ก็ได้ทราบข่าวจากคนรู้จักว่าพ่อแม่หล่อนโกรธเคืองการกระทำครั้งนี้ของหล่อนจนประกาศตัดขาดการเป็นคนตระกูลนั้นของหล่อนไปทั้งเมืองเพชร
การมาใช้ชีวิตครอบครัวที่ปักษ์ใต้ระยะแรกทุกอย่างดูราบรื่น หล่อนกับนายยุทธรักใคร่กันดี หล่อนเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าตระกูลไพศาลสกุลก็มีหน้ามีตา และมีฐานะมั่งคั่งไม้น้อยในปักษ์ใต้ นายยุทธเองก็ได้สวนยางพารามาเป็นทรัพย์สินหาเลี้ยงตัวและหล่อนจนสร้างฐานะและอาณาจักรเรือนไพศาลสกุลขึ้นมาได้อย่างน่าพอใจ การเป็นคนมีฐานะ มีตามีตาพอประมาณทำให้หล่อนส่งเสริมบารมีสามีด้วยการเรียกเจ้าตัวว่าคุณยุทธแทนนายยุทธนับตั้งแต่บัดนั้น
พอเปลี่ยนสรรพนามเรียกสามีได้ไม่นาน สิ่งที่หล่อนได้ยินผ่านหูถึงความกะล่อนเจ้าเล่ห์ของชายผู้นี้ก็เริ่มส่อแววมาให้เห็น นายยุทธหรือคุณยุทธเริ่มมีสาวเล็กสาวน้อยมาติดพัน หล่อนทนนิ่งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เพราะไม่อยากให้ชีวิตครอบครัวมีปัญหา แต่พอหล่อนนิ่งแทนที่สามีจะเกรงใจกลับทำตัวเหลวไหลหนักขึ้น บางวันหล่อนทนไม่ได้เพราะเห็นจะจะตาจึงเปิดอกพูดคุย ก็มักได้คำตอบกลับมาว่ายังไงตนก็เป็นเมีย คนอื่นก็แค่สนุกชั่วครั้งชั่วคราว ในเมื่อแก้ไขอะไรไม่ได้หล่อนจึงยอมอยู่อย่างสงบเรื่อยมาจนตั้งครรภ์ หล่อนบอกเรื่องนี้กับสามีและขอให้เจ้าตัวหยุดพฤติกรรมมักมากเสีย ถือซะว่าเห็นแก่ลูกที่กำลังจะเกิดมา แรกๆ สามียอมฟังเพราะรู้สึกดีใจล้นเหลือที่จะมีทายาท หล่อนรู้สึกดีที่ได้ชีวิตครอบครัวกลับมาอีกครั้ง แต่ที่สุดสามีก็เริ่มเหลวไหลอีกครา อ้างว่าตัวเองยังหนุ่มยังแน่น ยังเป็นผู้ชายที่มีตัณหาราคะอยู่ การที่ไม่ได้ระบายออกเสียบ้างจะพาลทำให้หงุดหงิดเสียเปล่าๆ หล่อนทำทีเข้าใจเพราะตนก็ท้องอยู่คงปรนนิบัติหน้าที่ภรรยาในเรื่องนี้ไม่สะดวก แต่ที่สุดความอดทนก็ขาดสะบั้นในวันที่สามีไปแอบหลับนอนกับสาวใช้ในบ้าน การกระทำเช่นนี้มันช่างหยามน้ำใจหล่อนจนเกินจะรับได้นัก และนี่ก็เป็นต้นเหตุให้หล่อนเลือกที่จะหนีออกจากเรือนสกุลไพศาลพร้อมลูกน้อยในท้อง

***************************************************************
แม่นางเช็ดหยาดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มทิ้งเสียหลังจากปล่อยให้มันไหลเป็นทางไม่หยุดตอนที่นึกถึงชีวิตความเป็นมาของตน สุรางค์ บวรภิรมย์ หรือสุรางค์ ไพศาลสกุลในอดีตก็คือตัวนางนั่นเอง ชื่อแม่นางเป็นชื่อที่นางบอกให้ใครๆ เอ่ยเรียกเองหลังจากนั้น เพราะสภาพหญิงท้องที่เร่ร่อนไร้ที่อยู่ คงไม่เหมาะกับชื่อเดิมอย่างสุรางค์ บวรภิรมย์ หรือสกุลไพศาลเท่าไหร่นัก คิดถึงเรื่องราวต่อแล้วก็อดเศร้าไม่ได้ หลังจากที่นางหนีออกมาจากเรือนไพศาลสกุล แรกๆ นางก็ยังไม่รู้จะไปไหน จะกลับไปที่เพชรบุรีน่ะเหรอก็ละอายต่อบรรดาญาติมิตรในตระกูลที่คงจะรอสมน้ำหน้านางอยู่เป็นแน่หากเห็นนางหอบท้องหอบไส้กลับไป แต่หากจะให้กลับหลังหันมายังเรือนไพศาลสกุลดังเดิมก็เกินที่จะทำใจได้ อย่างไรเสียหล่อนขอไปตายเอาดาบหน้ายังดีกว่าที่จะต้องให้ลูกที่กำลังมาพบเจอพฤติกรรมเหลวไหลของผู้เป็นพ่อ เชื่อได้แค่ไหนกันกับคำสัญญาที่เจ้าตัวบอกจะเลิกเหลวไหลหากนางคลอดลูกมา
ไร่ส้มแห่งนี้คือที่ๆ ที่นางหอบท้องหอบไส้เข้ามาขอพึ่งใบบุญ หลังจากระหกระเหินไปยังที่ต่างๆ แต่ไม่มีใครอ้าแขนต้อนรับหญิงท้องเข้าทำงาน สมบัติที่ติดตัวมาก็นำไปขายกินประทังชีวิตจนหมดจนสิ้น ท้องหรือก็โตขึ้นทุกเมื่อ วันแรกที่นางเข้ามาที่นี่ก็ไม่คิดว่าเจ้าของไร่จะเมตตา แต่ก็ลองเสี่ยงอ้อนวอนเพราะหมดหนทางที่จะไปแล้วจริงๆ ที่สุดโชคชะตาก็เหมือนเข้าข้าง เมื่อเจ้าของไร่อย่างจันทร์จวงหรือคุณจันทร์ตกลงรับนางเข้าเป็นคนงาน แม้ว่าจะโดนคัดค้านจากจิตราผู้เป็นน้องสาวก็ตาม
“ชีวิตเธอมันช่างเหมือนฉันตรงที่หนีตามผู้ชาย โดยไม่คิดถึงศักดิ์ศรีหรือชื่อเสียงวงศ์ตระกูลนี่แหละแม่นางเอ้ย” หญิงเจ้าของไร่อย่างคุณจันทร์เคยบอกกับนางว่าอย่างนั้นในตอนที่ได้พูดคุยกันหลังจากที่นางได้เข้ามาเป็นคนงานในไร่นี้ได้ระยะหนึ่ง
“คุณจันทร์เคยหนีตามใครด้วยหรือคะ” นางหลุดปากเอ่ยถามผู้เป็นนาย
“เคยสิ คนที่ฉันหนีตามก็คือผู้เริ่มต้นถางพงหญ้าที่แห่งนี้ให้กลายเป็นไร่ส้มไงล่ะ”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“นายชัดสามีฉันที่ฉันหนีตามมาเป็นคนเริ่มต้นถางพงหญ้าไร่แห่งนี้เอง” ในตอนนั้นจันทร์จวงเอ่ยไปน้ำตารื้นไป ทำให้นางต้องเอ่ยขอโทษที่เอ่ยถามในเรื่องที่ไม่น่ารู้ แต่ที่สุดหญิงผู้นั้นก็เปิดปากบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้นางฟังเอง
“ฉันน่ะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลที่มีหน้ามีตาพอประมาณในเมืองพิจิตรซึ่งพบรักกับนายชัดซึ่งเป็นคนขับรถที่พ่อของฉันเพิ่งรับเข้ามาทำงานแทนคนเก่าที่ลาออกไป นายชัดเป็นคนขยัน มีมานะ พื้นเพเป็นคนทางถิ่นอีสาน ทำให้ฉันอดเอ็นดูไม่ได้ ซึ่งความเอ็นดูของฉันนี่แหละที่เป็นต้นเหตุของความรักของเราทั้งสอง แต่พูดไปมันก็ช่างเหมือนนิยายพาฝันนั่นแหละ ความรักของเราทั้งสองถูกขัดขวางจากญาติฝ่ายของฉันเองที่มองเห็นนายชัดเป็นเพียงคนรับใช้ในเรือน นายชัดเองก็เจียมเนื้อเจียมตัวยอมให้พ่อ แม่ และบรรดาญาติๆ ของฉันโขกสับเพื่อแสดงถึงความจริงใจที่มีต่อฉัน จิตราเองครานั้นก็ใช่ย่อย สารพัดเล่ห์ร้ายที่หล่อนพยายามแยกนายชัดออกจากชีวิตฉัน แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จ หล่อนเลยยอมแปรพักตร์มาอยู่ข้างฉันเพราะยอมจำนนต่อความจริงใจของนายชัดที่มีต่อฉัน นานวันเข้าความรักของฉันกับนายชัดก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จนนายชัดยอมเสี่ยงเอ่ยขอเป็นคนดูแลชีวิตฉันจากพ่อและแม่ของฉัน สารภาพว่ารักฉันมากเหลือเกินจนไม่อาจยอมเห็นฉันตกไปเป็นของใคร ผลจากความกล้าครั้งนั้นทำให้พ่อของฉันไล่ตะเพิดนายชัดออกจากเรือน ในวันที่นายชัดจะไปเขาได้ชวนฉันหนีตามออกไปด้วย เพราะคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีฉันอยู่เคียงข้าง ตอนนั้นฉันเองก็รักนายชัดมาก ทั้งรักและสงสาร เห็นใจในความจริงใจที่เขามีต่อฉัน ฉันจึงตัดสินใจหนีตามออกมา ในวันเดินทางจิตราได้มาเห็นเราสองคนพอดี ตอนแรกฉันก็กลัวว่าหล่อนจะไปบอกพ่อแม่ฉัน แต่หล่อนกลับทำในสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึง คือขออาสาตามมาดูแลฉัน เพราะเป็นห่วงฉันเหลือเกิน พูดไปแล้วฉันก็ซึ้งในน้ำใจน้องสาวของฉันนะ แม้หล่อนจะดูร้ายกาจใส่คนรอบข้างฉันอยู่ก็ตาม แต่สิ่งที่หล่อนทำไปก็ทำเพื่อปกป้องฉันทั้งนั้น วันที่หล่อนฟาดหัวฟาดหางใส่เธอตอนเข้ามาขอทำงานที่นี่ ก็เพราะหล่อนกลัวว่าเธอจะมีพิษมีสง และเข้าประจบสอพลอฉันอย่างผู้หญิงหลายๆ คนที่หล่อนเคยเผชิญตอนตามฉันหนีตามนายชัดออกจากเรือนน่ะแหละ พูดแล้วก็อดสูนัก ผู้หญิงพวกนั้นแท้จริงแล้วคือบรรดาญาติๆ นายชัดที่อยู่ทางภาคอีสานน่ะแหละ นายชัดพาฉันกลับไปตั้งหลักที่นั่น โดยไม่ยอมเปิดเผยฐานะของฉันเพราะกลัวจะมีอันตรายจากโจรผู้ร้ายซึ่งชุมนักในท้องถิ่นแถบนั้น หากพวกมันรู้ว่าฉันกับจิตรามาจากตระกูลมั่งมีพวกมันอาจจะจี้ปล้นก็เป็นได้ การปิดบังฐานะของฉันครานั้นทำให้ทางญาติๆ ของนายชัดไม่ชอบใจฉันนัก หาว่านายชัดพาฉันมาเป็นภาระ แม้นายชัดจะบอกว่ามาขอตั้งหลักเพียงเท่านั้น พอหาที่ทางขยับขยายหาเพื่อทำกินได้ก็จะไป ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น นายชัดไม่ยอมให้ฉันนำทรัพย์สินที่ฉันมีติดตัวมาออกมาใช้ เพราะว่าละอายใจ เขายอมออกไปหางานทำเพื่อหาเลี้ยงฉันอย่างอดทนอยู่หลายวัน ในขณะที่ฉันกับจิตราโดนโขกสับให้ทำงานบ้านงานเรือน ฉันน่ะทนได้เพราะไม่อยากให้นายชัดไม่สบายใจ แต่จิตรานี่สิ หล่อนเป็นคนอารมณ์ร้ายอยู่แล้ว พอโดนใช้มากๆ ก็มีบ้างที่หล่อนมีปากเสียงกับญาติของนายชัด หนักถึงขั้นตบตีกันเลยก็มี ทิฐิความที่เคยเป็นเจ้าคนนายคนทำให้หล่อนนึกเกลียดชังบรรดาญาติของนายชัดเข้าไส้ หาว่าพวกเขาไม่เจียมตัวบ้าง อยู่ท้องถิ่นกันดารยังจองหองพองขนทำตัวเยี่ยงผู้ดีอยากมีข้ารับใช้ ลับหลังหล่อนมักจะด่าว่าเสมอว่าคนพวกนั้นมีสันดานไพร่ สันดานขี้ข้าที่ไม่รู้จักสำนึกตัว จนที่สุดหล่อนจึงเผลอเปิดเผยฐานะออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อโดนโขกสับเข้ามากๆ พอพวกนั้นรู้ความเป็นมาของเราสองพี่น้องก็รีบเข้าประจบสอพลอหวังสมบัติทรัพย์สินที่ฉันมีติดตัวไป การเป็นกิ้งก่าเปลี่ยนสีแบบนั้นยิ่งเพิ่มความชิงชังให้จิตราอย่างมากมายกว่าเดิม หล่อนจึงเริ่มมีอคติกับคนพวกขี้ประจบสอพลอมาตั้งแต่บัดนั้น นายชัดเองก็กลัวว่าฉันจะไม่ปลอดภัยเมื่อฉันและจิตราแสดงฐานะตัวเองออกมาแล้วจึงพาฉันกับจิตราหนีขึ้นมาทางเมืองเชียงใหม่ ทำมาหากินกันอยู่พักหนึ่งก็เริ่มเก็บหอมรอมริบพอที่จะหาที่ทางเป็นของตนเอง สุดท้ายก็ได้ไร่นี้แหละที่เป็นพื้นที่ทำกินมาจนทุกวันนี้ ชีวิตในตอนนั้นฉันมีความสุขมากจนคิดจะมีทายาทไว้ให้นายชัดสักคน แต่แล้วก็ได้แค่คิด เมื่อนายชัดมาด่วนเสียเพราะไข้ป่าขึ้นมาซะก่อน ตอนนั้นชีวิตฉันเหมือนเคว้งอยู่พักหนึ่งเชียวล่ะ งานการในไร่นี้แทบจะไม่ได้ดูแล ดีหน่อยที่จิตราคอยเป็นคนจัดการให้ กระทั่งหล่อนได้พบรักกับพ่อเกริกตอนเดินทางมาเที่ยวงานเชียงใหม่แล้วแวะมาที่ไร่นี้ ฉันจึงคิดว่าควรจะให้เวลาน้องสาวมีความสุขเสียบ้างหลังจากที่เหนื่อยดูแลฉันมานาน จิตราแต่งงานกับพ่อเกริกอยู่กินกันแบบเทียวไปมาหาสู่กันอยู่แบบนั้นระหว่างเมืองกรุงกับที่นี่ เพราะต่างคนต่างก็ไม่มีใครยอมทิ้งหน้าที่การงาน ฉันล่ะกลัวใจว่าสองคนจะอยู่กันไม่รอด แต่สุดท้ายก็ได้หลานชายเป็นตาอาทิตย์มาให้ฉันพอมีกำลังใจบ้าง ที่ได้เห็นทายาทสำหรับสืบทอดไร่ส้มแห่งนี้ไม่ให้ตกไปเป็นของนายทุนคนไหน ฉันกับนายชัดสร้างมันมากับมือ รวมถึงจิตราด้วย ตอนนี้นายชัดไม่อยู่ จะเหลือก็เพียงฉันกับจิตราที่เป็นแค่ผู้หญิงทั้งสองคน จะมีปัญญาดูแลไร่นี้ได้นานแค่ไหนกัน”
“ฟังดูแล้วคุณจันทน์ก็โชคดีกว่าดิฉันมากมายนักที่คุณชัดท่านรักและดูแลคุณจันทน์อย่างน่าชื่นชม” นางอดเอ่ยเปรียบเปรยขึ้นมาไม่ได้เมื่อฟังเรื่องราวจบ
“เธอก็อย่าคิดอะไรมากเลย มาอยู่กับฉันแล้ว ฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำกับเธอหรอก ฉันเข้าใจเธอในฐานะหัวอกลูกผู้หญิงที่หนีออกจากบ้านเหมือนกัน”
“เป็นพระคุณอย่างสูงค่ะคุณจันทร์ บุญคุณครั้งนี้ดิฉันจะไม่มีวันลืมเลย มีลูกดิฉันก็จะบอกลูก มีหลานดิฉันก็จะบอกหลานให้รู้สำนึกบุญคุณของคุณจันทร์ค่ะ”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ ว่าแต่ลูกในท้องเธอล่ะจะคลอดเมื่อไหร่กัน”
“จวนแล้วล่ะค่ะ อีกไม่กี่เดือนนักหรอก”
“คงพร้อมกับจิตราสินะ ระหว่างนี้เธอก็ทำงานเบาๆ ไปก่อนก็ได้ หากไม่ไหวก็หยุดพักก่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ดิฉันคงไม่กล้ากินแรงคนงานอื่นๆ”
“กินรงกินแรงอะไรกัน คนท้องคนไส้ก็ต้องรักษาตัวสิถึงจะถูก ใครมันจะมาว่าอะไรถ้าเป็นคำสั่งของฉัน”
“เดี๋ยวคุณจันทร์จะโดนติฉินเอานะคะ อย่าใส่ใจดิฉันเลยคะ ดิฉันไม่อยากให้ใครมองคุณจันทร์ในแง่ไม่ดี”
“คำนินทามันเป็นสิ่งที่อยู่คู่ปากมนุษย์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฉันไม่ได้ถือมันมาเป็นเรื่องหนักใจอะไรหรอก เธออย่าห่วงเลย”
คำพูดครั้งนั้นมันช่างแสดงออกถึงความมีเมตตาของจันทร์จวงนัก หญิงผู้นั้นสานต่อความมีพระคุณล้นหัวต่อนางด้วยการส่งความเมตตามาถึงลูกชายนางที่คลอดออกมาอีกด้วย ชื่ออิทธิ เป็นชื่อที่จันทร์จวงตั้งให้ลูกชายนางเองเมื่อคราวลืมตาออกมาดูโลก พอโตมาก็รับภาระส่งเสียในเรื่องการเรียนอีกต่างหาก นางเคยถามหาเหตุผล เพราะไม่สบายใจ หญิงผู้นั้นให้คำตอบเพียงว่ารู้สึกถูกชะตากับลูกชายตนเหลือเกิน ดูลักษณะความมุมานะของเด็กชายคนนี้แล้วทำให้นึกเอ็นดูอย่างเสียไม่ได้ ซึ่งนี่คือเหตุผลที่นางอบรมสั่งสอนอิทธิให้รู้จักกตัญญูรู้คุณ เพราะได้รับความเมตตาที่ยากจะหาได้ แม้ในภาคหนึ่งจะต้องเผชิญกับความร้ายกาจของจิตราหน่อยก็ตาม แต่สิ่งที่หญิงผู้นั้นกระทำกับตนมันมีที่มาที่ไปอย่างที่ได้ทราบเรื่องราวจากปากจันทร์จวง  หากหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ หรือเรื่องราวมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทน นางก็จะทนให้ถึงที่สุด เพื่อเอาชนะใจหญิงผู้นั้นอย่างที่คุณชัดเคยเอาชนะมาได้แล้วนั่นเอง
แม่นางสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งเมื่อเห็นตะวันสายโด่งจวนจะถึงเวลาเข้าทำงานในไร่ ป่านนี้อิทธิคงถึงโรงเรียนแล้วมั้ง นางคิดถึงลูกชายขึ้นมา ซึ่งได้แยกตัวเดินทางไปโรงเรียนก่อนหน้าที่นางจะมานั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตเช่นนี้

*****************************************************************************************

ที่โรงเรียนในตอนพักเที่ยง อาทีพยายามเดินตามร่างอิทธิที่เดินดุ่มๆ ไปยังโรงอาหารอย่างไม่สนใจตน อาการเฉยชาของฝ่ายนั้นเป็นมาตั้งแต่เช้าตอนเจอกันที่โรงเรียนแล้ว โดยปกติคนรถที่บ้านจะขับรถมาส่งตน แต่อิทธิจะปั่นจักรยานมาเอง
“เฮ้ย! ไอ้อิท มึงเป็นห่าอะไรของมึงวะ ตั้งแต่เจอกันมึงยังไม่ทักกูสักคำเลยนะโว้ย” หนุ่มน้อยวิ่งเข้าไปขวางทางเมื่อเห็นอิทธิกำลังจะเดินไปถึงโรงอาหาร ซึ่งเมื่อเข้าไปในที่จอแจแบบนั้นคงไม่มีโอกาสได้รับรู้ถึงสาเหตุที่อิทธิเมินใส่ตนได้
อิทธิมองหน้าคนยืนขวางร่าง อันที่จริงไม่ได้โกรธเคืองอะไรเจ้าตัว แต่เพื่อความเป็นอยู่ที่รอดพ้นจากการโดนกลั่นแกล้งจากจิตรา จึงไม่อาจข้องแวะกับลูกชายของหล่อนได้ต่อไปอีก
“ถอยไปอาทีกูจะไปกินข้าว” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่อีกคนยังดื้อด้านที่จะยืนขวางทาง พร้อมเอ่ย
“มึงบอกูมาก่อนว่ามึงเป็นอะไรถึงไม่ยอมคุยกับกู”
“มึงจะมาใส่ใจอะไรกะกู อยู่ห่างกูสักพักมึงจะตายให้ได้เลยใช่มั้ยตามกูทุกวันกูรำคาญนะโว้ย” อิทธิฝืนใจบอกด้วยถ้อยคำแรงๆ เสียใจหน่อยๆ ที่เห็นคนฟังหน้าเสียขึ้นมา
“ทำไมมึงพูดกับกูแบบนี้วะอิท” อาทียกมือขึ้นผลักอกเพื่อนสนิทที่คิดไม่ถึงว่าเจ้าตัวจะมีความรู้สึกรำคาญตน อิทธิร่างเซหน่อยๆ พอตั้งหลักได้จึงผลักสวนกลับบ้าง แต่น้ำหนักที่ผลักออกไปมากมายกว่าที่ตนโดนผลักนัก ผลคือร่างของอาทีล้มลงกับพื้นทันที
อิทธิตกใจที่เห็นร่างเพื่อนล้มลงไม่เป็นท่าแบบนั้น ตอนแรกคิดจะนั่งลงไปดูอาการเจ้าตัว แต่ภาพเหตุการณ์เมื่อเช้ากลับแวบเข้ามาในสมอง จึงแข็งใจเดินหนีไปด้วยท่าทีเฉยชา
อาทีเอี้ยวตัวมองตามหลัง เกิดความน้อยใจจนไม่มีเรี่ยวแรงจะยืนขึ้น จึงนั่งจมอยู่กับพื้นแบบนั้นอย่างไม่สนใจสายตาใคร เด็กหนุ่มหันกลับมานั่งชันเข่าคิดสับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ อิทธิถึงเมินเฉยใส่ตนได้ขนาดนี้ ส่วนอิทธิที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มนักเรียนที่กำลังจอแจวุ่นวายอยู่ในโรงอาหาร เด็กหนุ่มแอบบมองมายังร่างที่ยังไม่ลุกไปจากที่เดิม รู้สึกผิดที่ทำกับเจ้าตัวแบบนั้นจึงคิดจะกลับไปฉุดให้ลุกมาทานข้าวด้วยกัน สองขาก้าวเดินออกไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมองไปที่จุดเดิมแล้วเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังยื่นมือเพื่อฉุดร่างของคนที่นั่งอยู่ให้ลุกขึ้น จู่ๆ ก็เกิดใจหวิวอย่างประหลาดเมื่อเห็นคนที่นั่งยอมยื่นมือให้เด็กสาวผู้นั้นจับ แล้วยอมลุกขึ้นตามแรงฉุด คนเดินมาฉุดร่างอาทีให้ลุกขึ้นคือยัยส้มนั่นเอง

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-11-2010 12:22:52
 :เฮ้อ:รันทดเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 21-11-2010 12:51:28

ว้าย แม่นางสะบัดบ๊อบใส่ป๋ายุทธจริงๆด้วย
/กิต. มอบช่อดอกไม้ให้แม่นาง,
ฟิโน่(มีดั้ง)ให้อิทขี่ไปโรงเรียน,
และคะแนนโหวทให้คุณพี่ บีบอยซิหรี่ส์ ค่ะ
 :z7:
๑๗ + ๑ = ๑๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-11-2010 14:17:51
ง่า ลำบากใจกันจริงๆแบบนี้
จะไปไงต่อไปล่ะเนี่ย
มาเร็วๆนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-11-2010 14:28:44
อาทิตย์ยังไม่มา  ชีวิตยังทุกข์ได้ขนาดนี้
ถ้าอาทิตย์มารวมหัวกันได้  จะทุกข์ขนาดไหนกันนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 21-11-2010 15:37:31
มาม่าแล้วสะใจ :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-11-2010 16:20:31
ยัยส้มคือใครหละเนี้ยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: NaTTo ที่ 26-11-2010 14:23:20
ยังไม่มาอีกรึ  รออยู่นะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: maew189870 ที่ 26-11-2010 18:12:27
น่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 4 อัพเดต 21.11.53]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 26-11-2010 23:34:33
มาต่อโดยไว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 01-12-2010 14:30:41
5

อาทีเอี้ยวตัวหันมองไปยังโรงอาหารเมื่อส้มฉุดร่างให้ลุกขึ้นแล้ว ท่ามกลางความจอแจของเพื่อนนักเรียนในนั้นทำให้ไม่สามารถมองเห็นร่างของคนที่ตนมองหา
“ไปกินข้าวกับส้มนะพี่อาที” เสียงเด็กสาวข้างตัวเอ่ยชวน จึงต้องหันกลับมาสนใจเจ้าตัว
“ไปเหอะพี่ยังไม่หิว” เด็กหนุ่มปฏิเสธ เพราะเริ่มมีทิฐิขึ้นมาบ้าง นึกเอาเองว่าอิทธิคงจะนั่งอยู่ในโรงอาหารนั่นแล้ว ในเมื่อฝ่ายนั้นเฉยชากับตนนัก ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเอาตัวเข้าไปใกล้ให้รำคาญสายตา
“ขอตัวก่อนนะ” อาทีแกะมือส้มออกจากมือแล้วเดินหลบไปอย่างไม่สนใจว่าอาการสาวน้อยจะแสดงออกยังไงตอนอยู่ลับหลัง
ส้มเกิดอาการกระฟัดกระเฟียด หน้าง้ำหน้างอตอนมองตามร่างอาทีที่เดินย้อนกลับไปทางอาคารเรียน เป็นผู้ชายอะไรไม่หวั่นไหวกับความสวยของเธอบ้างเลยหรือไงถึงได้เมินใส่ทุกเช้าเย็น ทีกับนายอิทธิล่ะเกาะแจราวกับตุ๊กแกก็มิปาน ว่าแต่ตอนนี้นายนั่นไปไหนแล้วล่ะ ทำไมพี่อาทีถึงได้มานั่งสิ้นท่าอยู่บนพื้นคนเดียวตอนที่เธอมาเจอ
“สงสัยทะเลาะกันมาแน่ๆ ดูสินั่นข้าวเที่ยงก็ไม่ยอมกิน” สาวน้อยเอ่ยขึ้นก่อนจะเดินไปยังโรงอาหาร ซึ่งเพื่อนทั้งกลุ่มได้รออยู่แล้ว พอไปถึงสายตาเหลือบเห็นอิทธินั่งอยู่เพียงลำพังตอนนักเรียนบางตา จึงแวะเข้าไปหาหวังจิกกัดตามประสาคนไม่ชอบหน้า
“ใจคอจะไม่คบใครเลยหรือไงนะนายอิทธิ พอพี่อาทีไม่มาอยู่ด้วยก็นั่งคอตกกินข้าวเพียงลำพัง เอ๊ะ! หรือว่าไม่มีใครคบลูกขี้ข้าขี้ประจบประแจงอย่างนาย”
อิทธิเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของประโยคเมื่อครู่ พอเห็นว่าเป็นใครจึงไม่คิดใส่ใจ เด็กหนุ่มก้มหน้าก้มตาจัดการกับจานข้าวตรงหน้าต่อไปเงียบๆ ฝ่ายส้มพอเห็นว่าประโยคแรกของตนไม่ระคายหูคนที่ตนไม่เคยนับถือว่าเป็นรุ่นพี่ จึงแกล้งใช้มือปัดแก้วน้ำที่วางข้างๆ เจ้าตัวจนล้มลงส่งผลให้น้ำในแก้วหกเรี่ยราด
“เฮ้ย! อะไรวะ” อิทธิรีบลุกขึ้นอุทานถามออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นว่าน้ำเย็นๆ กระเด็นมาสัมผัสผิว
“ว้าย! ผู้ชายจะต่อยผู้หญิงค่ะ ช่วยด้วย ช่วยด้วย” ส้มถือโอกาสที่เห็นท่าทางขึงขังหนีน้ำของอิทธิร้องตะโกนขึ้นพลางทำท่าหวาดกลัวเพื่อแสดงให้เห็นว่าตนกำลังจะโดนทำร้าย ซึ่งมันก็สำเร็จ เมื่อหลายคนที่มองมายังเหตุการณ์ต่างวิ่งกรูเข้ามาทำทีห้าม
“เฮ้ย นายจะต่อยผู้หญิงจริงๆ เหรอวะ” หนึ่งในคนที่กรูเข้ามาเอ่ยถาม อิทธิกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดี จึงตัดสินใจเดินหนีออกจากโรงอาหารไปซะ ส้มมองตามแอบแสยะยิ้มอย่างสาแก่ใจที่กลั่นแกล้งคนที่ตนนึกไม่ชอบหน้าสำเร็จ
“ขอบคุณนะคะที่เข้ามาช่วย” เด็กสาวหันกลับมาเอ่ยกับกลุ่มคนที่หลงโง่เชื่อการแสดงละครของตน ก่อนจะเดินสะบัดก้นกลับไปหากลุ่มเพื่อนๆ อย่างอารมณ์ดี
 ฝ่ายอิทธิหลังจากเดินหนีออกจากโรงอาหารก็คิดจะเดินไปหามุมสงบนั่งทำสติอยู่เพียงลำพัง เหตุการณ์เมื่อครู่ใช่ว่าจะไม่โกรธยัยส้ม เพียงแต่คิดว่ามันคงดูไม่ดีเท่าไหร่หากจะแสดงอาการออกไป เด็กหนุ่มเลือกที่จะเดินไปยังลานกว้างหลังโรงยิม ซึ่งดูแล้วปราศจากการรบกวนจากเพื่อนนักเรียน ม้านั่งใต้ต้นหูกวางคือที่ที่เลือกนั่งพัก
ไม้กิ่งหนึ่งหล่นลงตรงหน้าตอนนั่งได้สักพัก เด็กหนุ่มไม่ใส่ใจว่ามันหล่นลงมาจากไหน เพราะอารมณ์ยังไม่เย็นลงเท่าไหร่นัก เวลาผ่านไปยังไม่ถึงนาที กิ่งที่สองก็หล่นตามลงมา คราวนี้แค่รู้สึกแปลกใจ แต่ยังไม่คิดหาที่มา อีกไม่กี่อึดใจกิ่งที่สามก็ตามลงมาใหม่ คราวนี้มันไม่แค่หล่นลงตรงหน้า แต่ศีรษะตนนั่นแหละเป็นที่รองรับจึงต้องแหงนหน้าขึ้นข้างบน รู้สึกตกใจปนโกรธนิดๆ เมื่อเห็นร่างอาทีกำลังกลั้นหัวเราะอยู่บนต้นหูกวางที่ตนแหงนมอง
“ไอ้อาที ลงมาเลยนะมึ่ง เชี่ยแกล้งกู” เด็กหนุ่มชี้หน้าตะโกนสั่ง ด้านอาทีพอเห็นเพื่อนรู้ตัวแล้วจึงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างไม่เก็บกลั้น สายตาแลเห็นตั้งแต่ต้นแล้วว่าอิทธิได้เดินหน้าบึ้งมายังต้นหูกวางที่ตนปีนขึ้นมานั่งข่มอารมณ์น้อยใจ ตอนนั้นก็แค่สังเกตการณ์อยู่เงียบๆ พอเห็นเจ้าตัวนั่งลงตรงม้านั่งเบื้องล่างจึงหักกิ่งหูกวางกิ่งเล็กๆ โยนลงไปเพื่อหวังแกล้งเล่นตามนิสัยเดิม เพราะอารมณ์ทิฐิมันจางหายไปจากใจตอนที่ได้อยู่ตามลำพังนั่นแล้ว
“ไม่ลงโว้ย มึงเป็นใครมาออกคำสั่งกู” อาทีส่งเสียงตอบ แกล้งพูดให้คนฟังได้คิดว่าก่อนหน้าได้ทำอะไรกับตนไว้ หนุ่มน้อยทำทีจะปีนขึ้นไปให้สูงกว่าเดิม อิทธิเข้าใจว่ากำลังโดนประชด เห็นภาพการปีนป่ายของคนข้างบนแล้วนึกเป็นห่วงขึ้นมาจึงร้องบอกใหม่
“มึงหยุดตรงนั้นเลยนะอาที มึงจะปีนขึ้นไปอีกทำไมเล่นเป็นลิงเป็นค่างไปได้ ตกลงมาไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตเลยนะมึง”
“จะตกไม่ตกก็เรื่องของกู” อาทียังรั้น นึกสนุกอยากลองใจอิทธิขึ้นมาว่าห่วงตนมากแค่ไหน จึงแกล้งจับกิ่งไม้พาดทำทีจะหล่น
“อาทีระวัง!” อิทธิร้องเสียงหลงเมื่อเห็นภาพนั้น สัญชาตญาณสั่งให้รีบวิ่งเข้ารองตรงจุดที่คิดว่าเพื่อจะหล่นลงมา อาทีเห็นภาพนั้นแอบยิ้มที่มุมปากหน่อยๆ ที่เห็นตนยังได้รับการเป็นห่วงอยู่
“ทีงี้ทำมารอง ทีผลักกูจนล้มเสือกมาคิดจะฉุดกูขึ้นนะมึง” เด็กหนุ่มได้ทีจึงว่ากลับ อิทธิเข้าใจทันทีว่าโดนลองใจเข้าให้แล้ว จึงยืนเท้าเอวส่ายหน้าเอ่ยขึ้น
“นิสัยนะมึง แกล้งจะหล่นใช่มั้ยเมื่อกี้น่ะ”
“ฉลาดนี่ สมแล้วที่เป็นเพื่อนกู” อาทีตอบกลับ
“ลงมาคุยกันข้างล่างเถอะมา กูเมื่อยคอจะแย่แล้วที่ต้องแหงนหน้าคุยกับมึงเนี่ย” อิทธิออกคำสั่ง อาทียอมทำตามอย่างว่าง่าย ร่างหนุ่มน้อยค่อยๆ ปีนลงมาจนเท้าแตะพื้น จังหวะนั้นต้องร้องโอ้ยขึ้นสุดเสียงเมื่อรู้สึกเจ็บที่บั้นท้ายขึ้นมา สาเหตุคือการโดนเตะเข้าหนึ่งป๊าบจากปลายเท้าอิทธิ
“เชี่ย มึงเตะกูทำไมเนี่ยไอ้อิท” เด็กหนุ่มโวยลั่น
“หมั่นไส้มีอะไรมั้ย” อิทธิลอยหน้าตอบ
“หมั่นไส้ใช่มั้ย มานี่” อาทีใช้ความไวคว้าคอคนลอยหน้ามาใกล้ตัวแล้วจัดการยกเข่าขึ้นกระแทกที่หน้าท้องเจ้าตัวเบาๆ เชิงแกล้งเล่น
“กูก็สู้คนนะโว้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก พลางตามแทงเข่าไปเรื่อยๆ เมื่อคนที่ตนแกล้งพยามถอยร่นหนี
“ปล่อยกูไอ้อาที เชี่ย กูเจ็บนะมึง” อิทธิร้องบอกในจังหวะที่หน้าท้องโดนกระแทกจากเข่าจริงๆ ซึ่งดูเหมือนเจ้าของเข่าจะรู้ตัวจึงยอมปล่อยแล้วถามอาการหน้าตื่น
“จุกหรือเปล่าวะ กูขอโทษ”
“จุกดิ ลองโดนบ้างมั้ยล่ะ” อิทธิเอ่ยตอบ ก่อนจะนั่งลงบนม้านั่งพักอาการเหนื่อยหอบ และจุกแน่นที่หน้าท้องหน่อยๆ
“ดีนะที่ไม่ได้กินข้าวมาจนอิ่ม ไม่งั้นได้จุกหนักกว่านี้แน่” เด็กหนุ่มบ่นต่อ อาทีได้ยินจึงตามลงไปนั่งข้างๆ เอ่ยถาม
“หมายความว่าไง มึงยังไม่กินข้าวหรอกเหรอ”
“กินอะไรล่ะ ก็แฟนมึงตามไปกวนกูซะขนาดนั้น”
“แฟนกู ใครวะ”
“ก็ยัยส้มไง”
“เฮ้ย! มาโบ้ยยัยนั่นให้กูทำไมเนี่ย”
“อ้าว ก็เห็นตามมาฉุดกันขึ้นนี่”
“แค่นี้เนี่ยนะมาเหมาว่ายัยนั่นเป็นแฟนกู”
“หรือมึงกับเขามีอะไรมากกว่านั้นล่ะ”
“ปากเสียนะมึง กูจะมีอะไรกะใครได้ไง ในเมื่อมีมึงค้ำคออยู่”
“มึงอย่ามาทะลึ่งนะไอ้อาที ทุกวันนี้คนอื่นเขาก็มองเราแปลกๆ อยู่แล้ว มึงยังจะมาปากดีอีกนะ”
“โธ่ กูล้อเล่นแค่นี้ทำเป็นเสียงเขียว”
“เรื่องแบบนี้ไม่ควรเอามาล้อโว้ย เกิดมีคนได้ยินแล้วเข้าใจผิดไปกันใหญ่มันจะยุ่ง”
“ทำไม ยุ่งตรงไหน ไม่ดีใจเหรอที่มึงมีแฟนเป็นถึงหลานเจ้าของไร่ส้ม”
“ยังจะพูดอีก เดี๋ยวต่อยปากแหกเลยไอ้นี่”
“โหย ทำเป็นดุ ไม่พูดก็ได้วะ แต่มึงต้องตอบกูมาก่อนว่าเมื่อเช้ามึงเป็นห่าอะไรไม่พูดไม่จากับกูจนถึงเที่ยงน่ะ”
สองคนมองหน้ากันนิ่งเมื่ออาทีเอ่ยเข้าเรื่องที่ได้หมางเมินใส่กันตอนเช้าที่ผ่านมา อิทธิผ่อนลมหายใจ ที่สุดท้ายตนก็ยอมใจอ่อนให้กับคนที่นั่งข้างๆ จนได้ ให้ตายเถอะน่า หัวใจไม่เคยเข้มแข็งพอที่จะเฉยชาใส่คนๆ นี้จนข้ามวันได้เลยจริงๆ
“ว่าไง ตอบกูมาหมดทุกอย่าง ไม่งั้นกูจะป่าวประกาศว่ากูกับมึงเป็นคู่เกย์กันให้แม่งมันรู้ทั้งโรงเรียนนี่แหละ” อาทีเอ่ยขู่ขึ้น เพื่อหวังให้เรื่องราวเมื่อเช้ากระจ่างต่อใจตน
“มึงอย่าห่ามให้มันมากนักไอ้อาที” อิทธิเอ่ยปราม ก่อนจะเปิดปากเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้เพื่อนฟัง ซึ่งพอเล่าจบก็ถึงกับไม่สบายใจเมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนเกิดขรึมเครียดขึ้นมา
“แม่กูทำเกินไปหน่อยแล้ว เดี๋ยวกูจะบอกป้าจันทร์ให้ปรามท่านให้” อาทีเอ่ยออกมา นึกเห็นใจเพื่อน พลางรู้สึกเสียใจที่ทำให้เจ้าตัวโดนกลั่นแกล้งเพราะตนอีกครั้งแล้ว
“ให้เรื่องมันจบตรงนี้เถอะอาที อย่าให้มันลามปามไปกันใหญ่เลยว่ะ” อิทธิเอ่ยบอก เพราะเชื่อว่าหากจิตราโดนติเตียนจากจันทร์จวง ตนและแม่คงตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากกว่าเดิมอีกแน่
“แต่แม่กูทำไม่ถูกนี่หว่า” อาทีแย้ง
“ไม่ถูกยังไง เขาเป็นห่วงมึงกลัวมึงจะมาแปดเปื้อนลูกขี้ข้าอย่างกูก็ถูกแล้วไง” อิทธิให้เหตุผลเชิงประชด ซึ่งคนฟังรู้ดีจึงบอก
“มึงอย่าพูดประชดแบบนี้อีกนะไอ้อิท กูไม่เคยมองมึงเป็นลูกขี้ข้า ลูกคนงานเลยนะโว้ย มึงเป็นเพื่อนที่ที่สุดของกูนะ”
“แต่มึงกับกูอยู่ต่างฐานะกันมึงก็รู้”
“ฐานะบ้าบอคอแตกน่ะสิ มึงก็คน กูก็คน มีตรงไหนที่เราไม่เหมือนกัน เลิกคุยเรื่องนี้กับกูเลยนะ แล้วต่อแต่นี้ไปห้ามมึงเอาเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการหลบหน้าหลบตากูอีกเด็ดขาด เพราะยังไงกูก็ไม่เลิกคบมึงแน่”
“แล้วมึงไม่สงสารกูกับแม่นางเหรอที่ต้องทนต่อคำก่นด่าและโดนกลั่นแกล้งจากแม่มึง”
“เราก็มาตกลงกันใหม่ไง ว่าจะทำยังไงให้แม่กูไม่รู้ว่าเรายังคบกันอยู่”
“เหอะ! ทำยังกะจะลักลอบได้เสียกันเลยนะมึง ถ้ามันลำบากขนาดนั้นก็ต่างคนต่างอยู่ไปเหอะว่ะ เพราะอีกหน่อยจบม.6 ไป มึงก็ต้องตามไปอยู่กับพ่อกับพี่มึงที่กรุงเทพฯ อยู่ดี”
“เรื่องอะไรกูจะไปคนเดียว กูไป มึงก็ต้องไปด้วยดิ เรียนด้วยกัน จบด้วยกัน อนาคตดีด้วยกันทั้งสองคน โอเคป่าว”
“มึงอย่ามาวาดวิมานในอากาศหน่อยเลย”
“เรื่องจริง เนี่ยกูเตรียมขอป้าจันทร์ให้มึงแล้ว มึงอ่ะเรียนดี ป้าจันทร์เขาส่งเสียต่ออยู่แล้ว เชื่อกู”
“เลิกๆๆ หยุดคุยเรื่องนี้กัน ยังไงกูก็ไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกูเป็นห่วงแม่กู อีกอย่างมึงจะให้กูเอาชีวิตเข้าไปพัวพันอยู่ใกล้พี่ชายมึงให้ได้วางมวยกันหรือไง แม่งเกลียดกูเข้าไส้พอๆ กับแม่มึง เจอกันไม่ถึงสามวิเป็นได้ต่อยกันหน้าแหกแน่”
“มึงนี่ก็เว่อร์ พี่อาทิตย์เขาโตจนจะเรียนจบแล้ว คงไม่มีนิสัยหาเรื่องมึง เหมือนเดิมมั้ง”
“น้อยไปสิ คนมันเคยมีประวัติไม่ดีต่อกัน จะให้หันมาจูบปากกันยากว่ะ”
“มันก็ไม่แน่หรอก ระวังนะโว้ย ทะเลาะกันมากๆ ผลสุดท้ายจะได้กันเอง” พูดจบอาทีก็ปล่อยหัวเราะออกมา เมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆ ของคนที่นั่งข้างๆ
“จะว่าไป ได้มึงมาเป็นพี่สะไภ้ก็ไม่เลวนะ” เด็กหนุ่มแซวต่ออย่างคะนองปาก ก่อนจะลุกวิ่งหนีเมื่อคนฟังขึงขังทำท่าจะทำร้ายร่างกายตนสักที่
“หยุดให้กูต่อยปากเลยนะไอ้อาที เชี่ยกล้าล้อกูนะมึง”
“แน่จริงตามจับให้ได้สิครับพี่สะไภ้ ฮ่าๆๆ” อาทีเอ่ยล้อต่อพลางวิ่งหนีอย่างไม่มองทางกระทั่งชนเข้ากับร่างร่างหนึ่งที่เดินสวนมาจนเจ้าตัวร้องว้ายล้มคะมำจึงหยุดมอง
“อ้าว ยัยส้มเป็นอะไรมากมั้ย พี่ขอโทษ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกพลางยื่นมือไปช่วยฉุดส้มให้ลุกขึ้น นาทีนั้นอิทธิวิ่งตามมาเห็นพอดี เด็กหนุ่มหยุดมองจนส้มถูกฉุดให้ลุกได้
“ขาส้มเจ็บหมดเลย เย็นนี้ส้มคงต้องขอติดรถพี่อาทีกลับไร่แล้วล่ะคะ” ส้มรีบออเซาะ กระหยิ่มใจที่แผนการณ์วิ่งมาชนร่างชายที่ตนนึกชอบนั้นสำเร็จตรงที่ตนกำลังได้คะแนนสงสาร
“พี่ยังไม่รู้เลยว่าลุงไกรจะมารับหรือเปล่า” อาทีหมายถึงคนขับรถ
“ต้องมาสิคะถ้าพี่อาทีสั่ง” ส้มแย้ง อาทีหันกลับไปมองทางเดิมที่วิ่งมา เห็นอิทธิยืนมองเหตุการณ์อยู่จึงเอ่ย
“พี่คงไม่สั่งหรอก เพราะพี่จะกลับพร้อมไอ้อิท”
“ปั่นจักรยานนั่นน่ะเหรอคะ ยี้ พี่อาทีเป็นถึงหลานเจ้าของไร่นะคะ” ส้มออกจริตอย่างน่าหมั่นไส้
“ไม่เห็นแปลก ปกติพี่ก็กลับแบบนี้อยู่แล้ว” อาทีไม่สนใจท่าทีที่เห็น เด็กหนุ่มเดินย้อนกลับไปโอบไหล่คนยืนมองเหตุการณ์แล้วชวนเดินหนีไปทางอาคารเรียน
“แอร๊ยยส์ เรื่องนี้ต้องถึงหูคุณจิตร ฉันต้องฟ้อง ฉันต้องฟ้อง ฮึ่ย!” ส้มยืนเข่นเคี้ยวมองตามหลัง จินตนาการไปถึงตอนเย็นว่าหากสิ่งที่ตนเห็นต่อหน้าต่อตาตอนนี้ถึงหูจิตรา เหตุการณ์ต่อไปต้องสนุก!!

โปรดติดตามตอนต่อไป
ต้องขอโทษด้วยครับที่หายไปหลายวัน เร่งปิดเล่ม Loving Course ฯ อยู่ครับ ใกล้เปิดจองแล้ว ให้กำลังใจกันด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ

Boy
 
   

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 01-12-2010 14:36:05
แค่ป้าจริตตราจิตตกอะไรนั้นคนเดียวก้เครียดแล้วนี้ +ยัยส้มเน่ามาอีกแอร๊ยยยย แล้วไหนจะคุณพี่อาทิต อิชั่นว่า ชีวิตยิ่งกว่าดาวพระศุกร์ บนซินเดอเรล่าอีกนะคะเนี้ยยยยยยยยย


แต่ก็ยังคงติดตามต่อไปนิยายคุณบอยมันส์ๆถึงอารมณ์ทุกเรื่องอ่านแล้วอินมากกกกกกกกกกกกกก ร้องไห้มาก แค้นแทนมาก และดีใจเวลามันแฮปปี้้้้้................................. :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-12-2010 16:03:24
เรื่องนี้อ่านแล้วเครียดเลย 55+
คู่พระ-นายนี่ใช่อาทิตย์กับอิทธิหรือเปล่าหว่า คิดว่าน่าจะได้ มีนายอาทีคนเชียร์ด้วย ^^
แต่ลงทีเยอะมาก อ่านทีก็มึน8ตลบ นี่นายเอกช่างแสนดีเหลือเกิน แม่นายเอกก็ยิ่งดีไปใหญ่
ตัวร้ายก็ร้ายซะ สุดๆทุกอย่างจริงๆ
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-12-2010 17:21:10
น่าลงแขกเน๊อะชะนีตัวนี้เอาให้หายอยาก :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-12-2010 19:13:39
นังร้ายปรากฏตัวอีกคนแหละ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 01-12-2010 20:12:51

เอ่อ...

สั้นจริงอะไรจริง

อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 01-12-2010 20:25:35
มารอตอนยาว ๆ ชอบยาว ๆ ๆ ๆ ๆ   อิ อิ
เกลียดคนอย่างนังส้(ว)มที่สุด
ถ้าเจอคนแบบนี้จะจับตบให้หนำใจทีเดียว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 02-12-2010 00:55:23

ว้าย เป็นห่วงอิทจังค่ะ  o21
(http://image.ohozaa.com/i/299/aitty.jpg)
๑๘ + ๑ = ๑๙
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-12-2010 09:19:56
^
^
ชอบรูปนี้จัง
รอจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 03-12-2010 12:15:40

ขอสนับสนุนให้แต่งเรื่องนี้ต่อนะครับ

จะติดตามต่อไปนะครับ

ป.ล. อย่าลืมมาต่อเรื่อง Ten&Champ ในนี้ด้วยนะครับ เพราะในเว็บของคุณไปถึงตอนที่ 16 แล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 03-12-2010 17:41:26
เอ่อ ตอนหน้าขอยาวๆนะคะ ชอบเรื่องนี้มากมาย อิอิ o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-12-2010 18:06:09
เข้ามารอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 03-12-2010 18:07:51
นั่งรอ นอนรอ ตอนต่อไปโลด :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-12-2010 19:05:52
อิอิ
มาต่อให้ด่วนให้ไว
ไม่งั้นคนอ่านจะลงแดงตายยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-12-2010 22:16:42
มาม่ามากมาย ขอบคุณคุณบอยครับ

ส่วนเรื่อง Love Story Ten & Champ รักในสองนิยาม คุณบอยตั้งกระทู้ใหม่ได้เลยครับ

ส่วนในห้องนิยายไม่จบ เด่วผมย้ายไปเก็บไว้ที่อื่นเองครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยือนเล้าเป็ดอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-12-2010 10:41:28
อยากอ่านเรื่องนี้อีกอ่ะ
มาต่อเร็วๆน้า T^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 5 อัพเดต 1.12.53...ส่งมาให้อ่านสั้นๆ เป็นสัญญาณบอกว่ายังไม่หายไปครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 05-12-2010 16:30:40
6
ดวงตะวันคล้อยต่ำลง เป็นสัญญาณบอกว่าภาระหน้าที่ในไร่กำลังจะหมดสิ้นไปอีกหนึ่งวัน แม่นางจัดเก็บเอกสารทางด้านบัญชีของไร่ไว้ในลิ้นชัก จัดการล็อคกุญแจและตรวจสอบความเรียบร้อยพื้นที่ทำงานของตนภายในเรือนสำนักงานของไร่ นางไม่เคยคิดว่าเรือนแห่งนี้เป็นที่ทำงานประจำของตัวเอง เพราะหากไม่มีการเข้าทำบัญชีใดๆ นางก็มักจะออกไปช่วยคนงานในไร่เสียมากกว่าที่จะนั่งรวมอยู่กับคนงานเก่าแก่คนอื่นๆ ซึ่งนั่นหมายถึงหัวหน้าคนงานอย่างนายศรด้วยเช่นกัน เวลาขณะนี้จวนจะเป็นเวลาเลิกงานเต็มทีจึงไม่น่าแปลกที่จะเหลือนางเพียงคนเดียวที่อยู่เคลียร์เอกสาร ส่วนคนอื่นๆ ต่างก็แยกย้ายกันไปเตรียมตัวกลับที่พักกันหมด
สองขาก้าวออกมาจากเรือนสำนักงานจัดการปิดล็อคประตูตามหน้าที่คนออกทีหลัง แล้วจึงเดินลัดเลาะไปตามทางที่จะกลับเรือนพัก คล้อยหลังไปไม่นานก็มีมือปริศนาเอื้อมมาไขกุญแจตรงบานประตูจนเปิดอ้าออก เจ้าของมือเดินผ่านเข้าไปข้างในอย่างง่ายดาย
 ในตอนนี้แสงสุดท้ายของวันได้ลาลับไปแล้ว ผืนไร่เบื้องหน้าดูเงียบไร้ซึ่งร่างคนงานคนใด แม่นางรีบสาวเท้าเพื่อกลับเรือนให้ทันก่อนจะมืดลงกว่านี้
“อย่าซีพี่สิน น้ำอ้อยขนลุกหมดแล้ว” เสียงเอ่ยเบาๆ ดังมาให้ยินขณะเดินไปครึ่งทาง เสียงนั่นดังมาจากพุ่มไม้ใกล้ๆ ชื่อสองชื่อที่ได้ยินทำให้ต้องหยุดสังเกตการณ์ น้ำอ้อยคือสวาคนงานในไร่ ส่วนสินนางคิดว่าน่าจะเป็นลูกชายนายศร
“น้ำอ้อย สิน แอบมาทำอะไรกัน” แม่นางเอ่ยขึ้นอย่างนึกสงสัย ครู่หนึ่งก็ได้ยินประโยคพูดคุยดังมาจากพุ่มไม้นั่นอีก
“น้ำอ้อยแค่ขนลุกแต่พี่สินอย่างอื่นลุกแล้วนะจ๊ะ ขอพี่สินนะ พี่สินชอบน้ำอ้อย”
“ไม่เอาจ๊ะ เดี๋ยวมีใครมาเห็น”
“โธ่ คนงานกลับเรือนพักกันหมดแล้ว ที่ตรงนี้มีเพียงเราสองคนเท่านั้น”
“แต่นี่มันกลางท้องไร่ท้องนานะจ๊ะ อายผีสางเทวดา”
“ผีสางเทวดามีที่ไหนกันล่ะจ๊ะ ถ้ามีพี่คิดว่าพวกเขาคงอยากดูเราเล่นบทรักกันจวนใจจะขาดล่ะไม่ว่า”
เสียงสนทนาสิ้นสุดลงแค่นั้นก่อนจะตามาด้วยเสียงครวญครงเบาๆ จากฝ่ายหญิง ดั่งเป็นสัญญาณบอกว่าฝ่ายชายได้เริ่มถึงเนื้อถึงตัวหล่อนแล้ว
แม่นางส่ายหน้าอย่างนึกเอือมระอา ใจหนึ่งนางก็อยากจะเข้าไปห้ามการกระทำที่บัดสีของสองหนุ่มสาวที่ตนรู้จักนั่น แต่อีกใจหนึ่งนางก็คิดที่จะหลับหูหลับตาเดินผ่านไปซะ เพราะไม่อยากให้ชีวิตเข้าไปวุ่นวายกับนิสัยอันธพาลของนายสินลูกชายนายศรซึ่งไม่ค่อยถูกชะตากับตนเท่าไหร่นัก เหตุจากการลังเลทำให้นางต้องยืนนิ่งอยู่นั่นเป็นนาน กระทั่งได้สติตอนมีเสียงร้องว้ายจากผู้หญิงดังขึ้น เสียงนั่นดังมาทางพุ่มไม้นั่นเอง
“อีแก่แม่นาง เอ็งมาแอบดูข้าเหรอวะ” สินโพล่งขึ้นตอนที่มองเห็นร่างแม่นางยืนมองมาทางตน ชายหนุ่มพาน้ำอ้อยลุกขึ้นเพราะตั้งใจพาหล่อนหลบไปสานต่อบทรักกันที่อื่นตามที่เจ้าตัวเอ่ยขอตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของคนที่ตนไม่เคยให้ความเคารพยืนอยู่ ดีที่เขาเป็นชายจึงไม่ได้ร้องวี้ดว้ายออกมาอย่างสาวน้ำอ้อย
“ฉันไม่ได้แอบดูใครทั้งนั้น ฉันแค่เดินผ่านมากำลังจะกลับเรือน” แม่นางเอ่ยตอบกลับไป ทำทีจะเดินหนี แต่ก็ช้ากว่าร่างของสินที่กระโดดข้ามพุ่มไม้มายืนขวางหน้าแล้วผลักร่างนางจนล้มลง ชี้หน้าเอ่ยข่มขู่
“เอ็งห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกันแน่”
จังหวะนั้นน้ำอ้อยวิ่งเข้ามาสมทบพอดี หล่อนล่ะกลัวนักว่าแม่นางจะไม่ฟังคำสิน จึงเอ่ยออกมา
“จะเชื่อได้เหรอพี่สินว่าแม่นางจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใคร”
“ทำไมตอนนี้ถึงมานึกอายกันล่ะ ตอนที่จะทำเรื่องบัดสีทำไมถึงไม่คิด” แม่นางเอ่ยออกมาทั้งๆ ที่ร่างยังนั่งราบอยู่ที่พื้น เหตุเพราะอายุเริ่มมากจะให้ล้มแล้วลุกเลยก็ทำไม่ได้อย่างแต่ก่อน นางล่ะเอือมระอานักกับนิสัยอันธพาลของลูกชายหัวหน้าคนงาน นิสัยมันช่างได้เชื้อพ่อมาไม่มีผิด
“เอ็งพูดแบบนี้หมายถึงเอ็งจะไม่ฟังคำสั่งข้าใช่มั้ย” สินวิ่งเข้าใส่ร่างหญิงสูงวัยที่นั่งราบอยู่กับพื้นใหม่ พลางเงื้อมือทำท่าจะตบ ดีที่น้ำอ้อยวิ่งเข้ามารั้งมือเอาไว้ทัน ในขณะที่แม่นางถลึงตาสู้ไม่ยอมถอย นางเองก็เคยเป็นภรรยานักเลงเก่ามาก่อน กลัวทำไมล่ะกับกิริยาถ่อยๆ ของเด็กรุ่นลูก
“บาปกรรมเปล่าๆ น่ะพี่สิน ปล่อยให้แกแก่ตายน่ะดีแล้ว เราไปที่อื่นกันเถอะนะ พี่ทำขนาดนี้แกคงไม่กล้าปริปากบอกใครแล้วล่ะ” น้ำอ้อยเอ่ยบอก สินหันมามองหน้า นึกคล้อยตามลดมือลง แต่พลันต้องสะดุ้งตกใจกับเสียงที่ตวาดมาให้ได้ยิน
“แม่กูไม่บอก แต่กูจะบอก พวกมึงมีปัญหามั้ย”
“อิท!” แม่นางเอี้ยวตัวไปมองทางต้นเสียง เห็นร่างลูกชายกำลังวิ่งเข้ามาหาตนจึงเอ่ยเรียกชื่ออย่างตกใจ นางไม่อยากให้ลูกชายเห็นสภาพนางโดนรังแกแบบนี้ เพราะเชื่อว่าเจ้าตัวเองมีมีเชื้อนักเลงมาจากพ่อบังเกิดเกล้าอยู่ไม่น้อย ฟังจากสรรพนามร้องทักนายสินกับสาวน้ำอ้อยเมื่อครู่นางก็รู้สึกถึงแรงโกรธแค้นของลูกชายแล้ว
“ลุกขึ้นเถอะแม่ บอกอิทมาว่าไอ้อีสองตัวนี่มันทำอะไรแม่” อิทธิเข้าพยุงแม่ลุกขึ้น เลือดในกายสูบฉีดตั้งแต่แรกเห็นว่าแม่ของตนนั่งราบอยู่ที่พื้นแล้วมีนายสินและน้ำอ้อยยืนจังก้าทำท่าจะทำร้ายอยู่เบื้องหน้า พร้อมคำพูดเชิงปริศนาที่ได้ยิน เด็กหนุ่มยังมารู้หรอกว่าสองคนห้ามแม่ของตนบอกเรื่องอะไรกับใคร แต่ที่ส่งเสียงทักมาแบบนั้นเพราะต้องการแสดงตัวว่าตนเห็นเหตุการณ์แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้สองคนรุมทำร้ายแม่ของตนก่อนที่ตนจะวิ่งมาถึง
ณ เส้นทางเดิมที่อิทธิวิ่งมา อาทีกำลังปั่นจักรยานของอิทธิเข้ามาสมทบเหตุการณ์ หลังจากที่เจ้าตัวกระโดดลงวิ่งเข้ามาพยุงร่างแม่ของตน
“มีอะไรกันหรือครับแม่นาง” เด็กหนุ่มเอ่ยถามมารดาเพื่อนชาย เห็นเจ้าตัวหันไปมองหน้าลูกชายก็เข้าใจว่านางคงไม่พอใจที่ตนมาเห็นเหตุการณ์นี้พร้อมๆ กับลูกชายนางจึงเอ่ย
“เรื่องผมกับไอ้อิทแม่นางอย่าเพิ่งคิดเลยครับ ตอบผมมาก่อนดีกว่าว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น”
“มันจะมีอะไรล่ะคุณอาที ก็แม่ของไอ้อิทเดินเสร่อล้มลงไปที่พื้น ผมกับน้ำอ้อยก็เลยตรงจะมาช่วยฉุด” สินบอกออกไปหน้าด้านๆ นึกขัดใจที่หลานชายเจ้าของไร่มาเห็นเหตุการณ์นี้ด้วย ไม่อย่างนั้นวันนี้สงสัยจะได้อัดแม่ลูกขี้ประจบให้อ่วมกันทั้งคู่
“มึงอย่ามาโกหกไอ้สิน มึงทำอะไรแม่กูมึงบอกมาซะดีๆ ไอ้อันธพาล” อิทธิโต้กลับ เห็นเต็มตาว่ามันตรงเข้าจะทำร้ายแม่ตน มันยังจะกล้ามาพูดว่าจะช่วย แถได้ไม่อายจริงๆ ให้ตายเหอะ
“มาขึ้นกูมึงกับพี่สินได้ไงนายอิท เป็นเด็กเป็นเล็กหัดพูดจาเพราะๆ หน่อยสิ” น้ำอ้อยสอดขึ้นเพราะไม่พอใจเด็กรุ่นน้อง
“พูดเพราะๆ กับพวกอันธพาลให้มันได้อะไรขึ้นมา เธอก็เหมือนกันรวมหัวกับไอ้สินคิดจะแกล้งแม่ฉันใช่มั้ย” อิทธิตวาดเสียงใส่ นาทีนี้ไม่คิดเกรงกลัวใครหน้าไหนแล้วทั้งนั้น
“ไม่มีอะไรแล้วอิท กลับเรือนกับแม่ไป” แม่นางชิงเอ่ยปราม มองเห็นถึงอนาคตว่าหากลูกชายตนมีเรื่องกับอันธพาลกับนายสินแล้วเหตุการณ์ร้ายๆ ต่างๆ คงตามมาถึงเจ้าตัวแน่ ซึ่งนางไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“ไม่มีอะไรได้ไงแม่ ก็เห็นอยู่ว่าไอ้สินมันจะทำร้ายแม่” อิทธิติงมารดา นึกขัดใจที่นางยอมอ่อนข้อให้ใครต่อใครแบบนี้
“เถอะน่า กลับเรือนกับแม่เถอะ เรื่องมันจะได้จบๆ” แม่นางเดินแยกไปก่อนเมื่อเอ่ยจบ อิทธิหันมามองสินด้วยแววตาวาวโรจน์ ต่างกับฝ่ายนั้นที่ยักไหล่เบ้ปากล้อเลียน
“ไอ้ชั่วเอ้ย” อิทธิตรงเข้าจะชกหน้าเพราะเจ็บแค้นกับท่าทีที่เห็น เด็กหนุ่มทำไม่สำเร็จเมื่ออาทีเข้ารั้งไว้
“อย่าไอ้อิท มันไม่ดีแน่” อาทีเอ่ยบอกเพื่อน เพราะพอจะรู้นิสัยของสินดีว่าหากโดนทำร้ายจากฝีมือเพื่อนตน เจ้าตัวคงนำเรื่องไปรายงานแม่ของตนเป็นแน่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็เดาได้เลยว่าเพื่อนตนคงโดนราวีอีกแน่ๆ ยิ่งถ้าแม่ของตนเป็นคนเดินทัพซะเอง ความวอดวายคงเข้ามาในชีวิตเพื่อรักในไม่ช้า โดยเฉพาะกับเรื่องอนาคตเจ้าตัวที่ตนเตรียมเสนอจันทร์จวงให้ช่วยส่งเสียให้เรียนจบชั้นที่สูงขึ้นอีก ช่วงนี้จึงไม่อยากให้มีอะไรมาทำให้คำขอตนสะดุด
“มึงจะห้ามกูทำไมอาที แม่กูเกือบโดนมันทำร้ายนะมึง”
“แต่แม่มึงก็ไม่โดนนี่ เถอะน่า ใจเย็นๆ เรื่องแก้แค้นสิบปีก็ไม่สายหรอกว่ะ ตอนนี้กลับไปที่เรือนก่อนเถอะไป” อาทีเอ่ยปราม พลางลากเพื่อนให้กลับไปที่จักรยานที่ตนจอดไว้ เอ่ยออกคำสั่งให้เจ้าตัวขึ้นซ้อนท้าย ส่วนตนจะเป็นคนปั่นเอง
คล้อยหลังสองหนุ่มน้อย สินเหมือนคิดอะไรได้จึงหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนข้างๆ ตน
“มองหน้าน้ำอ้อยเจ้าเล่ห์นัก มีอะไรเหรอจ๊ะพี่สิน” น้ำอ้อยเอ่ยถาม
“น้ำอ้อยช่วยตบหน้าพี่ที เอาแรงๆ นะ ให้เป็นรอยเลย จากนั้นก็ต่อยซ้ำเลยนะ” สินเอ่ยบอก น้ำอ้อยทำสีหน้างง สินจึงบอกแผนการทั้งหมดว่าต้องการให้เกิดริ้วรอยการโดนทำร้าย เพื่อจะให้มันเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งสองแม่ลูกให้โดนราวีจากจิตรา
“เจ็บมั้ยอ่ะพี่สิน” น้ำอ้อยเอ่ยถามหลังจากลงมือทำตามที่สินสั่งเสร็จ
“แค่นี้จิ๊บๆ เพื่อแลกกับการที่ไอ้อีสองแม่ลูกนั่นโดนคุณจิตรพิพากษา พี่ว่ามันคุ้ม” สินตอบ พลางใช้มือลูบที่แผลเห็นอย่างสมใจ
“แต่คุณอาทีก็เห็นนะว่าสองแม่ลูกนั่นไม่ได้ทำร้ายพี่” น้ำอ้อยแย้ง สินยิ้มเยาะ
“คุณจิตรน่ะเห่อและหลงนายอาทิตย์มากกว่าคุณอาทีเป็นร้อยเท่าพันเท่า การที่คุณอาทีจะเอ่ยจะพูดอะไรหล่อนเคยฟังซะทีไหน อีกอย่างหล่อนเกลียดนังแม่นางกับลูกชายเข้ากระดูกดำ การที่คุณอาทีแก้ต่างให้ด้วยน้ำลายแค่ไม่กี่หยดคิดว่าหล่อนจะฟังเหรอ”
“อย่างนั้นก็เอาเลยพี่สิน แหมเจ็บใจนักที่ยัยแม่นางมาขัดความสุขเรา” น้ำอ้อยเริ่มเห็นด้วย สินมองมายังหญิงสาว อารมณ์ดิบในกายเกิดทำงานขึ้นมาอีกครั้ง จึงรั้งตัวเจ้าหล่อนเข้ามากอดซุกไซ้ใหม่ พลางเอ่ย
“แต่ก่อนจะลงมือ พี่สินขอชื่นใจกับน้องน้ำอ้อยให้สุดเหวี่ยงก่อนดีกว่า”
“ได้สิจ๊ะพี่สิน” น้ำอ้อยรับคำ ที่สุดพุ่มไม้พุ่มเดิมก็กลายเป็นพื้นที่คลุกวงในระหว่างสินกับน้ำอ้อย เพราะสองคนทนต่อความรู้สึกกระสันไม่ได้แล้วนั่นเอง
ทางด้านอิทธิที่ตามแม่นางมาจนถึงเรือนพร้อมอาที ก่อนที่เด็กหนุ่มจะขึ้นเรือนได้หันมาสั่งหลานชายเจ้าของไร่ให้กลับเรือนซะ เพราะเริ่มมืดแล้ว
“กูไม่ได้ปั่นจักรยานไปส่งนะ กูอยากคุยกับแม่นางน่ะถึงเรื่องเมื่อกี้ มึงไปได้ใช่มั้ย” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกตบท้ายหลังสั่งเจ้าตัวแล้ว
“เออไม่เป็นไรหรอก กูกลับเองได้ ว่าแต่มึงเหอะ หากแม่นางเขาไม่ใส่ใจเรื่องนี้แล้วก็อย่ารบเร้าท่านล่ะ” อาทีกำชับ เพราะรู้จักนิสัยเพื่อนว่าคงไม่ยอมให้เรื่องนี้จบง่ายๆ กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนจะตามราวีนายสิน แล้วเหตุการณ์จะบานปลาย สุดท้ายกลัวว่าอนาคตเจ้าตัวจะดับวูบเพราะแม่ของตนมีเหตุผลการเป็นคนอันธพาลคัดค้านการขอป้าของตนส่งเสียให้เจ้าตัวเรียนต่อ
“เถอะน่า กูรู้ว่ากูจะพูดอะไร มึงกลับไปเถอะ” อิทธิบอกแล้วยืนมองร่างเพื่อนที่เดินลับสายตาไป
“นึกว่าจะเอาลูกเขามาค้างด้วยอีกคืนซะอีกนะอิท” เสียงแม่นางดังมาให้ได้ยิน ทำเด็กหนุ่มสะดุ้งหน่อยๆ พอตั้งสติได้จึงหันไปมองคนพูดที่กำลังนั่งก่อไฟหุงหาอาหารอยู่ฝั่งครัวของเรือน
“ผมกับได้อาทีเคลียร์กันเรื่องนี้แล้วแม่ เราสองคนคงไม่ทำอะไรแบบนั้นแล้วล่ะ ไม่เห็นเหรอว่าวันนี้เรากลับกันแต่วัน” อิทธิถอดรองเท้าเดินขึ้นเรือนเข้าประจบมารดาทางด้านหลัง เด็กหนุ่มตกลงกับอาทีจริงๆ ว่าหากจะคบกันได้นานต้องถอยกันคนละก้าว ไม่ทำตัวติดกันแจเหมือนเมื่อก่อนให้เป็นที่น่าหมั่นไส้จากจิตราอีก สองหนุ่มน้อยเลิกที่จะไปว่ายน้ำที่ท้ายไร่กันแล้ว
“แต่ก็ยังกลับด้วยกันนี่” แม่นางเอ่ยอีก ก็เข้าใจในความผูกพันของเด็กหนุ่มทั้งสอง แต่ก็ไม่อยากให้ลูกชายโดนพูดจาถากถางบ่อยๆ หากเมื่อจิตราโกรธ โดยเฉพาะคำว่าลูกไม่มีพ่อ ทุกครั้งที่ได้ยินนางล่ะรู้สึกผิดและสงสารลูกชายเหลือเกิน
“ให้เวลาเราสองคนหน่อยสิแม่ เราโตมาด้วยกัน สนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ จะให้ตัดขาดกันเลยมันก็ลำบากนะครับ” อิทธิให้เหตุผล
“ก็หัดไว้ซะตอนนี้ไง มันจะได้ชิน เพราะอีกหน่อยคุณอาทีก็ต้องจากที่นี่ไปอยู่ที่เมืองกรุงแล้วนี่” แม่นางบอกใหม่ คราวนี้ลูกชายเงียบ รู้สึกใจหายเหมือนกันเมื่อนึกถึงเวลานั้น ซึ่งกำลังใกล้เข้ามาทุกขณะ ในความใจหายนั้นก็นึกอดสูในอนาคตตัวเองอยู่เหมือนกัน ทุกครั้งที่ได้ยินเพื่อนนักเรียนพูดถึงการเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยเด็กหนุ่มก็มักจะตีฉากเดินหนีอยู่บ่อยๆ เพราะไม่ยากให้ใครมาขอความเห็น หรือชวนตนพุดคุยเรื่องนี้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่ตนจะพูดถึงเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ การได้เรียนชั้นมัธยมในโรงเรียนดังประจำเมืองแบบนี้ก็ดีถมไปแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่ทำได้ตอนนี้ก็เพียงแค่ช่วยติวช่วยสอนให้อาทีเท่านั้น เพื่อส่งเจ้าตัวให้สอบติดที่เดียวกับอาทิตย์ หรือไม่ก็ที่ไหนสักแห่งในเมืองหลวง เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการใช้ชีวิตเพราะมีที่พักอยู่แล้ว
“เป็นอะไรเงียบไป” แม่นางวางมือจากการก่อไฟที่ติดแล้วหันมามองหน้าลูกชาย
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” อิทธิปฏิเสธ ปรับความรู้สึกให้เป็นปกติเอ่ยถามแม่ถึงเหตุการณ์ที่ตนข้องใจอยู่เมื่อครู่
“เรื่องมันแล้วไปแล้ว อย่าไปใส่ใจเลยน่า” แม่นางบอก หันไปง่วนกับการหุงหาอาหารต่อไป มือก็ทำ ส่วนปากก็เอ่ยบอกลูกชาย
“ไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัวซะ จะได้มากินข้าวกัน”
“ครับ” อิทธิรับคำอย่างง่ายๆ เชื่อคำพูดของอาทีที่บอกไม่ให้ตนรบเร้ามารดา ไม่รู้ทำไม?

********************************************************************

ที่เรือนนายศร ซึ่งขณะนี้กำลังกระหยิ่มยิ้มกับการแอบเข้าไปแก้ไขตัวเลขการทำบัญชีรายรับรายจ่ายของไร่ของแม่นางสำเร็จ แน่นอนว่าผลประโยชน์ที่หายไปมันต้องกระเด็นกระดอนมาเข้ากระเป๋าตนอย่างที่ตนเคยทำก่อนหน้า เหอะ อีนังแม่นางมันเป็นใคร ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาก็เพราะความพอใจส่วนตัวของจันทร์จวง ดูมันซื่อๆ บื้อๆ อย่างนั้น จะไปทันกลโกงอะไรของเขาได้ ที่มันจับพฤติกรรมเขาได้ตอนนั้นก็แค่เป็นเหตุบังเอิญเท่านั้นแลหะ ต่อแต่นี้มันไม่มีทางรับรู้ได้อีกหรอกว่าเขาจะโกงกินรายได้มามากน้อยเท่าไหร่ หึ หึ
“มีความสุขจริงโว้ยเฮ้ย!” ชายวัยแก่ ร้องออกมาอย่างสุขใจ หลังคิดกระหยิ่มใจเสร็จ พลันก็ต้องหน้าฉงน เมื่อเห็นลูกสาวเดินหน้าง้ำเข้ามาในเขตเรือน จึงเอ่ยถาม
“เอ็งเป็นอะไรมานังส้ม”
“ขัดใจพี่อาทีน่ะพ่อ” ส้มตอบเหวี่ยงกระเป๋านักเรียนทิ้งไปยังมุมหนึ่งของเรือน นั่งลงข้างๆ บิดา เจ็บใจเหตุการณ์วันนี้นัก อุตส่าห์ยอมเจ็บตัววิ่งเข้าชนเด็กหนุ่มนั่นหวังจะได้นั่งชูคอเชิดๆ บนรถรับส่งเจ้าตัว แต่สุดท้ายก็ต้องนั่งคอตกอยู่บนรถรับส่งนักเรียนประจำทางอย่างที่ผ่านๆ มาเหมือนเดิม
“ไปขัดใจอะไรคุณเขามาล่ะ” นายศรเอ่ยถามลูกสาว
“ก็คุณอาทีน่ะไม่ยอมสนใจส้มสักทีนี่คะ ทำยังไงๆ ก็เห็นนายอิทธิลูกยัยแม่นางนั่นดีกว่าส้ม”
“เฮ้อ อีสองแม่ลูกนี่มันช่างเกิดมาขัดคอเราเสียทุกเรื่องจริงๆ ให้ตายสิ” นายศรคล้อยตามลูกสาวเอ่ยขึ้น นึกฉุนที่ชีวิตตนและลูกๆ ทั้งสองต่างแพ้ทางสองคนนั่นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่รู้ผีห่าซาตานตนใดดลใจให้พวกมันเข้ามาอยู่ในไร่แห่งนี้
“จริงจ๊ะพ่อ พ่อพอจะมีวิธีเฉดหัวอีสองแม่ลูกนี้ออกไปจากไร่เราได้มั้ยจ๊ะ ส้มล่ะเกลียดพวกมันจนไม่อยากเจอหน้าเจอตาแล้ว” ส้มเข้าประจบบิดา หลุดปากเอ่ยคำว่าไร่ของเรามาอย่างชัดถ้อยชัดคำ จุดประกายให้นายศรนึกครึ้มอยากให้คำพูดนั่นเป็นจริงขึ้นมา ถึงตอนนั้นนึกอยากจะเฉดหัวใครก็คงจะง่ายดายนัก
“ถ้าไร่นี่เป็นของพ่อเมื่อไร่ พ่อจะจัดการให้ทันทีเลยลูกรัก” นายศรยกมือขึ้นลูบผมลูกสาว สายตาทอดมองออกไปตามทางที่ทอดไปยังไร่แม้ความมืดจะโรยปกคลุมไปทั้งเส้นถนน แต่ในใจนั้นกลับสว่างไสวไปด้วยความอยากมีอยากได้ไร่นี้ขึ้นมา
“แม้ตอนนี้มันจะยังไม่เป็นของเรา แต่เราก็พอมีหนทางที่จะเฉดหัวสองคนนั่นได้นะพ่อ” หนึ่งเสียงดังเข้ามาร่วมด้วย ส้มผละร่างออกจากบิดาหันมอง เช่นเดียวกับนายศร
“ว้าย! หน้าตาไปโดนอะไรมาน่ะ” ส้มร้องทักก่อนเมื่อเห็นใบหน้าพี่ชายมีริ้วรอยโดนทำร้าย
“โดนยัยแม่นางตบ และก็ไอ้อิทลูกชายมันต่อยซ้ำ” สินตอบหน้านิ่ง นายศรได้ยินถึงกับลุกพรวดร้องถาม
“เอ็งว่าไงนะไอ้สิน ใครทำเอ็งนะ”
“ยัยแม่นางกับไอ้อิทจ๊ะพ่อ” สินตอบใหม่ คราวนี้ผู้เป็นพ่อหุนหันเข้าไปในเรือน วกกลับออกมาใหม่พร้อมปีนยาวหนึ่งกระบอก
“พ่อ พ่อจะทำอะไรจ๊ะ” ส้มร้องถาม
“พ่อจะไปฆ่าอีแม่ลูกคู่นั้น มันบังอาจทำร้ายพี่ชายเอ็ง” นายศรตอบอย่างมีโทสะ
“ใจเย็นๆ นะพ่อ พ่อคิดว่าพี่สินจะยอมให้สองคนนั้นรุมทำร้ายง่ายๆ เหรอจ๊ะ” ส้มเตือนสติ หล่อนคิดว่าเรื่องนี้มันมีที่มาที่ไปแน่ เป็นไปได้เหรอที่พี่ชายของหล่อนจะโดนรังแกได้ขนาดนี้
“ที่มาที่ไปยังไง ข้าไม่เข้าใจ” นายศรเริ่มงง
“ว่าไงพี่สิน อธิบายมาซิ” ส้มหันไปสั่งพี่ชาย
“แกนี่มันฉลาดสมกับเป็นน้องข้าจริงๆ ยัยส้ม” สินเอ่ยชมน้องสาวแล้วเล่าแผนการทั้งหมดให้ฟัง
“เริ่ด! สมแล้วที่เกิดมาก่อนส้มพี่สิน ส้มก็กำลังจะไปฟ้องคุณจิตรเรื่องที่ไอ้อิทมันตามพี่อาทีแจเหมือนกัน” ส้มฟังจบก็ชมเปราะ พร้อมเสนอแผนการตนบ้าง สองพี่น้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เพราะรู้สึกสะใจล่วงหน้าที่มองเห็นชะตาชีวิตที่วุ่นวายของแม่ลูกคู่นั้น
“เอ็งสองคนนี้สมกับที่เกิดมาแป็นลูกข้าจริงๆ นี่ถ้าแม่เอ็งยังอยู่คงจะภูมิใจในความเฉลียวฉลาดของพวกเอ็งเป็นแน่” นายศรเอ่ยชมลูกชายลูกสาวบ้าง นึกถึงภรรยาที่เสียไปจากไข้ป่าขึ้นมา
“งั้นเรารีบไปเถอะพี่สิน เดี๋ยวจะค่ำมืดกว่านี้ คุณจิตรเธอจะเข้านอนก่อน” ส้มรบเร้า สินเห็นด้วยจึงรีบจูงมือน้องสาวไปยังเรือนหลังใหญ่ ไปถึงก็เป็นเวลาที่ทั้งหมดกำลังนั่งทานมื้อค่ำกันอยู่
“มาทำไมกันมืดค่ำ” จันทร์จวงเป็นฝ่ายทักก่อนในฐานะเจ้าของเรือน
“แล้วนั่นหน้าตานายสินไปโดนอะไรมา” จิตราเอ่ยถามบ้าง อาทีมองตามนึกแปลกใจอยากรู้เหมือนกัน
“ก็นี่แหละครับที่ผมให้น้องสาวพามาหาคุณจิตรและคุณจันทร์ตอนมืดอย่างนี้” สินเริ่มเรื่องก่อน ส้มคอยส่งเสริม
“คือพี่สินกลัวว่าถ้าหากข้ามวันไปแล้วกลัวว่าริ้วรอยมันจะหายไปแล้วคุณจิตรกับคุณจันทร์จะหาว่าเขาโกหกน่ะค่ะ”
“แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ ฉันยังไม่เข้าใจเลยนะ” จันทร์จวงถามอย่างนึกรำคาญขึ้นมา สองพี่น้องจึงอธิบายเรื่องราวว่าต้นเหตุริ้วรอยบนใบหน้าสินเกิดจากฝีมืออิทธิกับแม่นาง
“เหตุการณ์มันเริ่มจากที่ส้มเห็นพี่อิทตามพี่อาทีไม่ยอมห่างน่ะค่ะ คะยั้นคะยอให้พี่อาทีปั่นจักรยานมาส่งตนที่ไร่ แทนที่จะให้พี่ออาทีนั่งรถกลับสบายๆ ตอนเข้าเขตไร่ หลังจากพี่อาทีกลับเรือนแล้ว ส้มเลยตามบอกพี่อิทด้วยความหวังดีว่าระวังจะโดนดุเอานะ พี่อิทบอกว่าถ้าส้มไม่พูดแล้วใครจะรู้ ส้มก็บอกว่าคนในไร่มีมากมายทำไมพูดไม่รู้จักคิด เท่านั้นแหละค่ะ พี่อิทจึงผลักส้มจนล้มคะมำขาเจ็บ” ถึงตอนนี้ส้มยกแผลช้ำนิดๆ ที่เกิดจากวิ่งชนอาทีเมื่อตอนเที่ยงให้ผู้ใหญ่ทั้งสองดู อาทีกำลังอ้าปากค้าน สินมองเห็นจึงชิงเอ่ยตัดหน้าว่า
“ผมมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงรีบเข้าช่วยน้องส้มตอนนายอิทเงื้อมือจะตบตี ตอนนั้นแม่นางมาจากทางไหนไม่รู้เดินเข้ามาทุบท้ายท้อยผมจนล้ม แล้วถือจังหวะที่ผมไม่ทันตั้งตัวเข้าตบตีผม นายอิทเองก็เข้ามาสมทบจนผมได้แผลอย่างที่เห็นนี่แหละครับ จากนั้นสองคนที่รีบหนีหายกลับเรือนทันที” สินหยุดพูด ส้มเสริมต่อ
“ตอนแรกเราก็ไม่คิดจะมาบอกให้คุณจิตรคุณจันทร์ทราบเรื่องหรอกนะคะ แต่สองแม่ลูกนั้นชักจะทำกับเราสองคนซึ่งเป็นลูกคนงานเก่าแก่เกินไป จริงๆ มันเหมือนหยามหน้าพ่อศรเลยนะคะ ว่าหากลูกโดนรังแกแบบนี้ แล้วคนงานมี่ไหนจะเกรงกลัวบารมีการเป็นหัวหน้าคนงาน”
“จิตรว่าแล้วว่าพี่จันทร์เลี้ยงงูเห่า เป็นไงล่ะคะ คนดีของพี่จันทร์ แสบมั้ยล่ะคะ อันธพาลทั้งแม่ทั้งลูก” จิตราเอ่ยขึ้นทันควันหลังฟังเรื่องราวจบ หล่อนลุกขึ้นจากสำรับเดินไปหาสองพี่น้องเอ่ยบอก
“ฉันทวงความเป็นธรรมให้เธอสองคนแน่ไม่ต้องห่วง”
สินและส้มมองหน้ากันลอบยิ้มอย่างสาแก่ใจ แต่แล้วรอยยิ้มนั้นกลับหุบลงเมื่อได้ยินเสียงอาทีเอ่ยขึ้น
“แม่จะไม่หูเบาไปหน่อยเหรอครับ ฟังความแค่นี้เชื่อง่ายๆ ได้ยังไง”
   “นั่นยังไงล่ะ ฉันคิดแล้วว่าจะต้องมีคนค้านเรื่องนี้ และมันก็เป็นแกจริงๆ ด้วย ไอ้อาที แตะไม่ได้เลยใช่มั้ยสองแม่ลูกนั่นน่ะห๊ะ” จิตราหันมาตวาดลูกชาย จันทร์จวงเกิดอาการเวียนศีรษะขึ้นมากะทันหัน เอ่ยปรามน้องสาวให้สงบสติอารมณ์เพราะตอนนี้คนรับใช้รอรับใช้อยู่จนเต็มเรือน
“ใจเย็นๆ แม่จิตรา ค่อยๆ พูด เรื่องราวมันเป็นยังไง เรียกสองคนนั้นมาสอบสวนก็ได้นี่นา ไม่เห็นจะต้องฉุนเฉียวให้อายเด็กๆ มัน”
“สอบสวนคุณพี่ก็เข้าข้างพวกมันอีกน่ะสิคะ เรื่องนี้จิตรขอจัดการเองนะคะ คุณพี่ทานสำรับต่อเถอะค่ะ หากไม่ได้กำราบสองแม่ลุกนั่นคืนนี้จิตรคงนอนไม่หลับ นังพิศ! ไปกับฉัน” จิตราหันบอกพี่สาว หันหันไปสั่งสาวใช้คนสนิท เพลินพิศรีบเสนอหน้ามาให้เห็น สินกับส้มแอบบยิ้มสมใจกันอีกครั้ง ในขณะที่อาทีรีบกระโดดคว้าแขนมารดาไว้ เอ่ยบอก
“เรื่องทั้งหมดมันเป็นเรื่องโกหกนะแม่ แม่อย่าเชื่อคำนายสินกับยัยส้มง่ายๆ สิ”
“หลักฐานมันโท่อยู่บนหน้านายสินและขานังส้มขนาดนี้ แกไม่เห็นหรือยังไงหา” จิตราตวาดลูกชายพลางผลักเจ้าตัวล้มคะมำ
“โอ้ย!” อาทีร้องแสดงความเจ็บเมื่อตัวกระแทกพื้นเรือนซึ่งเป็นไม้ จิตรารู้สึกตกใจหน่อยๆ แต่พอนึกถึงหน้าสองแม่ลูกที่ตนนึกเกลียด อารมณ์โมโหก็คืบคลานเข้ามาแทนที่
“ถ้าแกไม่ห้ามฉันแกคงไม่เจ็บตัวหรอก ไปนังพิศ ไปกับฉัน” หล่อนเอ่ยสั่งสาวใช้ใหม่ แล้วเดินฉับๆ ลงจากเรือน อาทีทำท่าจะลุกตามแต่ก็ล้มลงไปใหม่เพราะรู้สึกเจ็บที่ขา
“อาที เป็นอะไรลูก” จันทร์จวงเห็นภาพนั้นรีบลุกเพื่อไปดูหลานชาย แต่แล้วกลับล้มพับไปอีกคนจากอาการวิงเวียนที่ก่อนหน้าส่ออาการมาบ้างแล้ว
“ว้าย! คุณจันทร์เป็นลม พวกเราช่วยกันเร็ว” สาวใช้ส่วนที่เหลืออยู่กรูเข้าไปพยุงร่างนางเจ้าของไร่ อาทีเห็นภาพนั้นลืมความเจ็บทั้งหมดสิ้นแล้วรีบเข้าพยุงอีกคน ส่วนสองพี่น้องสินและส้มได้แต่มองหน้ากันยิ้มให้สะใจให้กับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนหน้าได้เวลาประจันหน้ากันระหว่างอิทธิกับอาทิตย์แล้วนะครับ อย่าพลาดกันนะครับ
ขอบคุณครับ
Boy





     




 






หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-12-2010 16:43:59
 :L1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 05-12-2010 16:52:35
สนุกมากๆเลยอ่ะ
มาต่อไวๆเน้อ จะรอจ้ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-12-2010 16:56:03
โอ๊ยยยย  โดนรุม เจ็บใจว่ะ  ป้าจันทร์จวงถ้าไม่แข็งกว่านี้ท่าทางจะเอาไม่อยู่แน่
 ตอนหน้าตัวร้ายกลับมาแล้วด้วย   โอ๊ยยยย  ทำไงดี   :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-12-2010 17:10:36
ตอนหน้าพลาดไม่ได้แล้ว
แต่ตัวร้ายนี่มันร้ายสมชื่อจริงๆเนอะ 55+
ตัวดีก็แสนจะดี แบ่งกันชัดเจนดี แต่ถ้าตัวดีไม่ร้ายบ้างมันก็เครียดแฮะ - -
ติดตามตอนต่อไปจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 05-12-2010 20:42:06
ตอนหน้าพลาดไม่ได้แล้วซิ พ่ออาทิตย์กับตาหนูอิทจะเจอกันแล้ว  เหอๆ เสือกับสิงห์มาเจอกันมันส์น่าดูล่ะคราวนี้  :z13:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 05-12-2010 21:44:31
ตอนหน้า นายอาทิตย์จะได้เจอกับ อิท แล้ว หึหึ
คราวนี้ละ ปะทะ ฝีปากกันแหงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 6 อัพเดต 5.12.53...จัดให้ยาวๆ ตามคำขอครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 05-12-2010 22:11:17
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยกว่าจะดีกันคงท้ายๆเรื่องเลยมั้งเนี้ยเรื่องนี้อ่ะ เครียดดดดดดดดมีแต่นางร้ายทั้งเรื่อง หุหุ นิยายคุณบอยนี้แซ่บไม่เปลี่ยนจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 11:27:55
ที่เรือนแม่นาง ขณะอิทธิกำลังนอนหนุนตักมารดาอยู่ชานเรือน แม่นางลูบศีรษะบุตรชายอย่างเอ็นดูในตอนตอบคำถามเรื่องต่างๆ ที่เจ้าตัวนึกอยากรู้
“พ่อผมเป็นใครเหรอแม่” จู่ๆ บุตรชายก็หลุดคำถามนี้ออกมาทำให้มือที่กำลังลูบเส้นผมสะดุดลง
“อิทอย่าเพิ่งถามแม่เรื่องนี้เลยนะ เอาไว้ให้แม่พร้อมจะเล่าแม่จะบอกลูกเอง” นางเอ่ยบอกออกไป จังหวะนั้นบุตรชายลุกนั่งจับมือพร้อมเอ่ย
“อิทขอโทษนะแม่ อิทไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่ไม่สบายใจ” เอ่ยจบร่างเด็กหนุ่มก็โผซบลงบนอกมารดา ซึ่งได้รับการสวมกอดกลับมาอย่างอบอุ่น แต่แล้ววินาทีแห่งการแสดงความรักก็พลันสะดุดลงเมื่อมีหนึ่งเสียงดังแหวกอากาศมาให้ได้ยิน
“หนอย มานั่งสวมกอดกันสุขใจจริงนะอีพวกขี้ข้าจอมอวดดี”
“คุณจิตร” สองแม่ลูกที่ผละร่างออกจากกันมองไปทางต้นเสียง เอ่ยเรียกคนชื่อพูดแทบจะพร้อมกันเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“ใช่ฉันเอง ตกใจล่ะสิ นึกไม่ถึงใช่มั้ยว่าทำไมฉันถึงตามมาพิพากษาแกสองคนเร็วขนาดนี้” จิตราเหวเสียงใส่ สองขาก้าวขึ้นเรือนอย่างคนมีโทสะโดยมีเพลินพิศตามสนับสนุน
“พิพากษาอะไรกันหรือคะ” แม่นางเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย ก่อนจะหน้าหงายเสียหลักล้มลงไปตามแรงนิ้วมือที่จิ้มลงหน้าผากสุดแรง
“แม่!” อิทธิร้องเรียกมารดาด้วยความตกใจ กำลังจะโผเข้าไปพยุงให้ลุกขึ้น ร่างหนุ่มน้อยก็ต้องกระเด็นไปอีกทางจากการจับเหวี่ยงของจิตรา
“โอ้ย!” อิทธิร้องแสดงความเจ็บเมื่อร่างเสียหลังล้มชนฝาเรือน
“อิท!เจ็บมั้ยลูก” แม่นางตั้งสติคลานเข่าเข้าไปหาบุตรชาย แต่ไปยังมาถึงก็ต้องถอยร่นกลับทางเดิมตามแรงดึงข้อเท้า ซึ่งคราวนี้คนที่ดึงคือเพลินพิศ
“โอ้ย! ปล่อย ฉันเจ็บ” แม่นางร้องสุดเสียงเมื่อหัวเข้าครูดไถลตามพื้นเรือน
“เหวี่ยงมันลงข้างล่างเลยนังพิศ” จิตราออกคำสั่งสาวใช้ ซึ่งเตรียมจะจัดการตามคำบอก อิทธิหันควับมองทันควันเช่นกันหลังได้ยินประโยคนั่นจากปากจิตรา เด็กหนุ่มถลาเข้าชนร่างคนออกคำสั่งจนล้มคะมำลงบนพื้นเรือนร้องกรี๊ดสุดเสียง จากนั้นหนุ่มน้อยจึงตามไปจัดการแกะมือสาวใช้เจ้าตัวออกจากข้อเท้ามารดาตน พอทำสำเร็จจึงออกแรงผลักฝ่ายนั้นจนเกือบจะตกเรือนไปซะเอง
“กรี๊ด! คุณจิตรช่วยด้วย” เพลินพิศร้องเสียงหลงเมื่อร่างกำลังจะหล่นลงพื้นเบื้องล่าง ดีที่หล่อนรั้งตัวไว้ทัน จิตราเห็นภาพนั้นนึกเคืองแค้นแทนบริวาร เอ่ยออกมา
“จองหองทำคนของฉันเหรอไอ้เด็กเปรต” เอ่ยเสร็จก็รีบลุกขึ้น ถือโอกาสที่สองแม่ลูกกำลังดูอาการกันและกันเดินมาจับร่างให้แยกออกจากกันแล้วใช้ฝ่ามือฟาดลงบนใบหน้าคนทั้งคู่คนละฉาดจนหันสะบัดทั้งสองคน
“พิศขอด้วยค่ะคุณจิตร อีเด็กนี่มันทำพิศเกือบตายโหง” เพลินพิศที่ลุกขึ้นได้แล้วถลาเข้าจะตบอิทธิซ้ำ แต่แม่นางไวกว่าพุ่งเข้าขวางไว้ ใบหน้าของนางจึงโดนตบเข้าอีกหนึ่งฉาด ร่างฟุบใส่ตัวบุตรชาย
“แม่!” อิทธิร้องเรียกแม่ น้ำตาแทบไหลเมื่อเห็นหยดเลือดเริ่มซึมที่มุมปากมารดา
“สะใจข้าจริงโว้ยนังพิศ เลือดมันกลบปากแล้ว” จิตราเอ่ยขึ้นอย่างสาแก่ใจตามด้วยเสียงหัวเราะที่เสียดแทงใจอิทธิยิ่งนัก เด็กหนุ่มสิ้นสุดความอดทนเมื่อมารดาโดนทำร้ายจนเลือดตกยางออกแบบนี้ ภาพของจิตราที่ยืนจังก้าหัวเราะอยู่มันช่างยั่วปลายเท้าดีแท้ เร็วเท่าความคิด อิทธิยกเท้าขึ้นเตรียมที่จะถีบไปยังร่างคนร้ายกาจอย่างจิตรา แต่ก็ทำไม่สำเร็จเมื่อมือผู้เป็นมารดาได้คว้าเท้าตนเอาไว้ พลางร้องห้าม
“อย่าอิท! ทำผู้ใหญ่มันบาปลูก”
“อ๋อ นี่คิดจะสู้ฉันเรอะ!” จิตราได้ยินถ้อยคำนั้นก็มีโทสะขึ้นมาอีก หล่อนลงมือผลักร่างของแม่นางออกจากร่างอิทธิจนกระเด็นไปอีกทาง อิทธิมัวแต่ตกใจมองตามร่างมารดาจึงไม่ทันระวัง มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่โดนฝ่ามือฟาดเข้าที่ใบหน้าอีกฉาดจากฝีมือจิตรา หนุ่มน้อยหน้าหันสะบัดคะมำซบพื้นเรือน
“นังพิศจัดการมันต่อซิ ส่วนนังแม่นางฉันจัดการเอง” จิตราออกคำสั่งเสร็จก็หันมองไปยังร่างแม่นางที่ร่นถอยหนี ส่วนเพลินพิศกระหยิ่มยิ้มย่างกายเข้าหาอิทธิ กำลังจะถึงตัวอยู่แล้ว แต่กลับต้องกระเด็นถอยหลังเพราะแรงถีบจากปลายเท้าฝ่ายนั้นที่ถีบสวนกลับมา
“โอ้ย! คุณจิตร มันถีบพิศ” สาวใช้ร้องออกมาด้วยความจุกเสียด แต่ก็ไม่ลืมที่จะฟ้องเจ้านาย
“ไม่ได้เรื่องเลยอีพิศ” จิตราว่าสาวใช้ด้วยสรรพนามหยาบคาย เมือเห็นเจ้าตัวปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ดังใจ หล่อนเปลี่ยนเป้าหมายเดินย่างกรายเข้าหาบุตรชายแทนมารดา ซึ่งขณะนั้นอิทธิก็ตั้งรับอยู่แล้ว
“มาซิวะ ตอนนี้กูไม่ไว้หน้าใครแล้วทั้งนั้น” หนุ่มน้อยโพล่งขึ้นหน้าตาขึงขัง จิตราเกิดอาการหวาดหวั่นเล็กน้อย จึงส่งเสียงด่าแทนการเดินเข้าหา
“แกกล้าทำอะไรฉันเหรอไอ้เด็กเนรคุณ”
“คุณมีบุญคุณอะไรกับผม คนที่นี่ที่มีบุญคุณกับผมคือคุณจันทร์คนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่น ผมไม่เคยนับว่ามีพระคุณ” อิทธิเอ่ยโต้
“จองหอง พี่จันทร์เป็นพี่สาวฉัน เขามีพระคุณกับแกเท่าไหร่ มันก็เท่ากับที่ฉันมีกับแกเท่านั้น” จิตราไม่ยอมแพ้
“ช่างกล้าพูดนะคุณจิตร การมีพระคุณของคุณมันคือการเที่ยวทุบตีคนอื่นแบบนี้น่ะเหรอ” อิทธิไม่ลดวาจาให้เช่นกัน มองไปยังร่างมารดาแล้วเจ็บใจจนสุดจะทน จึงออกปากไล่น้องสาวเจ้าของไร่ให้ออกไปให้พ้นจากเรือนตน
“คุณพาขี้ข้าของคุณออกไปจากเรือนผมเลยนะ ก่อนที่ผมจะไม่เกรงใจคุณอีก”
“เรือนของผม พูดได้ไม่อายปากนะไอ้ลูกไม่มีพ่อ นี่มันเรือนของฉันที่สร้างไว้คุ้มหัวพวกแกต่างหาก” จิตราเอ่ยว่าให้สำนึก แม่นางที่ฟังอยู่ทนไม่ได้เรื่องบุตรชายโดนกล่าวว่าว่าไร้บิดา จึงลุกขึ้นเอ่ยบอกคนพูด
“จะด่าจะว่าอะไรเราสองคนก็ได้นะคุณจิตร แต่ขอร้องเลิกว่าลูกดิฉันไม่มีพ่อเสียที”
“ก็มันเรื่องจริงมั้ยล่ะนังขี้ข้าขี้ประจบ” จิตราหันมาว่าพลางยกนิ้วมือจิ้มหน้าผากอีกครั้งจนแม่นางหน้าหงายอีกรอบ แต่คราวนี้ทรงตัวยืนอยู่ได้ไม่ล้มลงเช่นเคย อิทธิสุดจะทนกับภาพที่เห็นจึงโผเข้าผลักร่างคนใจร้ายจนล้มลงก้นกระแทกพื้นเรือน
“โอ้ย!” จิตราร้องออกมาด้วยความเจ็บ เงยหน้าขึ้นมองอิทธิที่ยืนจังก้าชี้หน้าคาดโทษตน
“ลองคุณจิตรแตะต้องตัวแม่นางแม้แต่นิ้วก้อยเดียวอีกครั้ง เราเป็นได้เห็นดีกันแน่”
“ไอ้เด็กเปรต ถึงฉันทำไม่ได้ บริวารฉันก็มี นังพิศ จัดการ” จิตราเอ่ยออกคำสั่งสาวใช้ให้จัดการแม่นางแทนตน เพลินพิศรับคำอย่างเร็วพุ่งร่างเงื้อมือเตรียมฟาดลงบนใบหน้าเหยื่อ แต่คราวนี้มันไม่ง่ายเช่นเคยเมื่อแม่นางยกมือขึ้นจับข้อมือหล่อนไว้ก่อนฝ่ามือจะกระทบใบหน้า ไม่เพียงแค่นั้น มืออีกข้างของฝ่ายนั้นยังฟาดสวนกลับมากระทบที่ใบหน้าตนเต็มๆ จนหันสะบัด เป็นจังหวะเดียวกับที่มือที่ถูกจับไว้โดนปล่อยให้เป็นอิสระ ร่างท้วมๆ จึงล้มลงทับร่างของจิตราที่นั่งอยู่ที่พื้นเรือนก่อนหน้า
“ว้าย โอ้ย อีพิศ กูเจ็บ” จิตราร้องออกมาเมื่อรู้สึกจุกแน่นบริเวณหน้าท้องที่โดนทับ
“พิศก็เจ็บเจ้าค่ะคุณจิตร นังแม่นางมันตบหน้าพิศ” เพลินพิศรีบลุกออกจากร่างเจ้านาย รายงานสถานการณ์พลางลูบแก้มตนที่เจ็บแสบอยู่ ฝ่ามือยังแม่นางนี้หนักไม่เบา หล่อนนึกคิด
“กูเห็นแล้วอีโง่ อูย กูลุกไม่ขึ้น ฉุดกูที” จิตราร้องโอดโอยเมื่อรู้สึกเจ็บแน่นจนลุกไม่ไหว อิทธิเห็นภาพนั้นถอยร่างมายืนชิดมารดา เอ่ยถาม
“แม่เจ็บมั้ย”
“เดี๋ยวมันก็หายลูก ไปฉุดคุณจิตรลุกทีนะ” แม่นางตอบแล้วสั่งลูกชาย
“ผมไม่ถีบตกเรือนก็ดีเท่าไหร่แล้วแม่ ลุกไม่ได้ก็นอนอืดตายอยู่ตรงนั้นแหละ อยากมาราวีเราก่อนทำไม สาเหตุเกิดจากเรื่องใดก็ยังไม่รู้” อิทธิตอบมารดา จิตราได้ยินทุกประโยค ร้องกรี้ดออกมาอยากคับแค้นใจ เมื่อลุกอาละวาดไม่ได้อีก จึงระบายออกมาเป็นคำพูดแทน
“ก็เพราะพวกแกสองคนมันอวดดีไปรังแกลูกนายศรหัวหน้าคนงานไง ฉันถึงต้องตามมากำราบไม่ให้พวกแกจองหองไปมากกว่านี้ วันนี้พวกแกเล่นงานลูกหัวหน้าคนงาน วันหน้าคงเป็นคิวฉันกับพี่ฉันที่จะเป็นผีเฝ้าไร่นี้เพราะน้ำมือพวกขี้ข้าอันธพาลอย่างแกสองคน”
“พวกเราเปล่านะคะคุณจิตร คุณจิตรไปฟังความมาจากไหนกัน” แม่นางปฏิเสธหน้าตื่น
“ยังจะมาแก้ตัว หนอยตบฉันซะหน้าหัน มือหนักใช้ได้นะแก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหน้าไอ้สินถึงได้แหกขนาดนั้น” เพลินพิศเอ่ยบ้าง สองแม่ลูกมองหน้ากันอย่างนึกสงสัยว่าที่สาวใช้จิตราเอ่ยเมื่อครู่มันหมายถึงอะไร กำลังจะหันกลับมาถามหาความกระจ่างก็ไม่ทันการณ์เมื่อมีเสียงร้องเรียกปนเสียงฝีเท้าวิ่งดังเข้ามาขัดจังหวะ
“คุณจิตรคะคุณจิตร คุณจันทร์อาการแย่แล้วค่ะ เป็นลมยังไม่ฟื้นเลย”
“พี่จันทร์” จิตราครางชื่อพี่สาวออกมาอย่างตกใจ คำว่าเป็นลมยังไม่ฟื้นทำหล่อนหน้าเสีย
“นังพิศ พยุงข้าขึ้นเร็ว ข้าจะไปดูพี่จันทร์” หล่อนหันมาสั่งสาวใช้ที่นั่งดูอาการอยู่ข้างๆ
“ว้าย! คุณจิตรเป็นอะไรไปนังพิศ” สาวใช้ที่วิ่งมาแจ้งข่าวร้องถามเพลินพิศเมื่อเห็นจิตรานั่งสิ้นท่าอยู่ที่พื้นเรือน
“สองแม่ลูกนี่สิมันรุมทำร้ายคุณจิตรกับฉัน พวกหล่อนเป็นพยานไว้นะ หากคุณจันทร์ฟื้นฉันจะฟ้องคุณจันทร์” เพลินพิศสร้างเรื่องให้สาวใช้คนอื่นๆ คล้อยตาม
“คอยดูฉันจะให้พี่จันทร์เฉดหัวแกสองคนออกจากไร่ให้ได้” จิตราเอ่ยคาดโทษสองแม่ลูกที่ยืนระอาใจกับการโดนใส่ความ เสียน้ำลายแก้ต่างตอนนี้ก็ท่าจะไร้ประโยชน์ สองคนจึงนิ่งซะ อีกอย่างจิตใจตอนนี้ก็เป็นห่วงนางผู้เป็นเจ้าของไร่เหลือเกิน
“แม่จะไปดูคุณจันทร์ อิทอยู่เรือนนะลูก” แม่นางเอ่ยบอกบุตรชาย
“แกจะสะเออะไปทำไมให้เรือนฉันแปดเปื้อน พี่สาวฉันฉันดูแลเองได้ แหม คิดจะไปประจบประแจงตอนที่พี่สาวฉันไม่สบายล่ะสิ ขี้ข้าขี้ประจบอย่างแกอ้าปากฉันก็เห็นลิ้นไก่แล้ว” จิตราว่าตอนที่สาวใช่พยุงร่างให้ลุกได้แล้ว แต่ก็ยังต้องพยุงกันอยู่
“มันไม่ใช่อย่างนั้นนะคุณจิตร ดิฉันเป็นห่วงคุณจันทร์จริงๆ” แม่นางเอ่ยแย้ง
“ฉันไม่เชื่อคำแกหรอกนังขี้ข้า” จิตราตวาดกลับ แม่นางขยับปากจะพูดแต่บุตรชายชิงเอ่ยก่อน
“เขาไม่ให้ไปก็ไม่ต้องไปแม่ คนมันร้าย ในสมองก็มักคิดแต่เรื่องร้ายๆ แบบนี้แหละ”
“แอร๊ย! ไอ้อิทธิ นี่แกว่าฉันเรอะ!” จิตราลืมอาการเจ็บเต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธ แต่ก็ได้เพียงชั่วครู่ก็ต้องหยุด เมื่อรู้สึกจุกแน่นขึ้นมาอีก
“พูดแค่นี้ทำเป็นรับไม่ได้ ความจริงทั้งนั้น” อิทธิเอ่ยอีก จิตราได้แต่ถลึงตาเข้าใส่เพราะหมดเรี่ยวแรงที่จะราวี หล่อนสั่งให้บริวารพยุงร่างกลับเรือนเมื่อนึกเป็นห่วงพี่สาวขึ้นมา
ลับหลังจิตราอิทธิยกมือขึ้นเช็ดหยดเลือดที่มุมปากมารดา หนุ่มน้อยน้ำตาใหลออกมาด้วยความสะเทือนใจเมื่อเห็นมารดาสะดุ้งกายคล้ายเจ็บ
“แม่นางเจ็บเหรอครับ” เด็กหนุ่มเอ่ยถามพลางสะอื้นไห้ออกมาเมื่อเก็บกลั้นอารมณ์สะเทือนใจไม่อยู่
“ไม่เอาอิท ไม่ร้องลูก เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็งนะ” แม่นางปลอบบุตรชาย แต่ตนก็ไม่วายน้ำตาไหลออกมาให้เห็น
“อิทปกป้องแม่ไม่ได้ อิทขอโทษ” อิทธิโผเข้ากอดมารดา ซึ่งได้รับการกอดตอบอย่างแนบแน่น สองแม่ลูกจึงกอดกันกกลมจมกับหยาดน้ำตาอีกครั้ง
ที่เรือนหลังใหญ่ จันทร์จวงยังคงนอนแน่นิ่งอยู่เตียงนอนภายในห้อง  จิตราไปถึงสั่งคนรับใช้เปิดหน้าต่างและประตูทุกบานเพื่อให้ลมโกรกเข้ามา อากาศจะได้ปลอดโปร่ง
“มีใครสั่งนายไกรไปเรียกหมอมาหรือยัง” หล่อนเอ่ยถามผู้คนรอบข้าง
“ผมบอกลุงไกรแล้วครับ” อาทีตอบ จิตราหันมองบุตรชาย รู้สึกคล้ายใบหน้าอิทธิตามมาหลอกหลอนตนจนไม่อยากจะเสวนาด้วย จึงสะบัดหน้าหนีหันไปสนใจร่าพี่สาวที่ยังนอนไม่ได้สติ
อาทีเห็นอาการมารดาก็เกิดความน้อยใจขึ้นมาอีก ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าถึงได้ชอบเมินสะบัดใส่ตนนัก ทั้งๆ ที่ตนก็เป็นลูกชายคนหนึ่งไม่ต่างจากอาทิตย์
“ให้ผมช่วยอะไรมั้ยครับ” เด็กหนุ่มทำใจดีเสนอตัวเข้าช่วยเหลือเมื่อเห็นมารดาเยื้องกรายเข้าไปใกล้ร่างป้าจันทร์ของตน
“เป็นเด็กเป็นเล็กแกจะมาช่วยอะไรได้ ไปหลับไปนอนโน่นไป อย่ามาอยู่ขวางหูขวางตาฉัน” มารดาหันมาว่า หนุ่มน้อยยืนซึมสักพัก แล้วจึงค่อยเดินออกมานอกห้อง นั่งรอฟังอาการป้าของตนอยู่ที่ชานเรือน ระหว่างนั้นก็คิดถึงความเป็นไปของเพื่อนสนิทอย่างอิทธิ ใจก็อยากจะตามไปให้เห็นกับตาว่าเจ้าตัวโดนมารดาของตนพิพากษายังไงบ้าง แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะภายในห้องที่ตนเดินออกมาผู้มีพระคุณล้นเหลือก็กำลังนอนไม่ได้สติอยู่
“หมอมาแล้วครับ” เสียงลุงไกรดังมาจากข้างล่าง สักพักร่างผอมสูงของเจ้าตัวก็โผล่ขึ้นมาบนเรือนพร้อมหมอชายสูงวัย
“เชิญเลยครับลุงหมอ ป้าจันทร์อยู่ในห้องครับ” อาทีรีบลุกเชิญเจ้าตัวเข้าไปดูอาการป้าของตน
จันทร์จวงรู้สึกตัวอีกครั้วจากการปฐมพยาบาลของหมอ ซึ่งรายงานผลตรวจว่าเป็นเพียงความอ่อนเพลียของคนในวัยชรา จากนี้บุตรหลานหรือบริวารควรเอาใจใส่ดูแลให้มากๆ ก่อนหมอจะกลับ จิตราวานให้เจ้าตัวช่วยตรวจดูอาการฟกช้ำของตนบ้าง อาทีและจันทร์จวงเห็นดังนั้นจึงเอ่ยถามพร้อมกันว่าหล่อนไปทำอะไรมาถึงจะต้องฟกช้ำ
“สองแม่ลูกอันธพาลนั่นมันรุมทำร้ายคุณจิตรค่ะคุณจันทร์” เพลินพิศที่นั่งรวมอยู่ด้วยได้ทีรายงานเจ้าของไร่
“จริงหรือแม่จิตร” จันทร์จวงหันมาถามน้องสาว
“จริงค่ะพี่จันทร์ สองแม่ลูกนั่นมันร้ายนัก จิตรแค่ไปปรามมันดีๆ มันกลับจองหองผลักจิตรจนล้ม นี่ถ้านังพิศไม่ไปกับจิตร สงสัยมันสองคนต้องรุมตบตีจิตรเป็นแน่” จิตราตอบ ก่อนหันมาบอกหมอให้ตรวจร่างกายตนอย่างละเอียด เพราะรู้สึกเสียดแน่นภายในช่องท้อง เหตุจากโดนร่างท้วมของเพลินพิศล้มทับ
“ถ้าแม่เป็นขนาดนี้ ผมว่าไอ้อิทกับแม่นางคงเจ็บไม่ต่างกันหรอก” อาทีเอ่ยคาดเดา ไม่อยากจะจับผิดมารดา แต่ความจริงเป็นเช่นไรก็อยากจะให้มันกระจ่างต่อหูป้าของตน
“แกหุบปากเลยนะอาที ฉันเป็นแม่แกนะ เมื่อไหร่แกจะเลิกเห็นไอ้พวกขี้ข้าดีกว่าผู้ให้กำเนิดแกห๊ะ!” จิตราตวาดบุตรชายลั่น ร้อนถึงจันทร์จวงที่ต้องเอ่ยปราม
“สองคนนี่ยังไงทำยังกะไม่ใช่แม่ลูกกัน ทะเลาะกันอยู่ได้ตั้งแต่เด็กยันโต”
“พี่จันทร์ก็ดูมันพูดสิคะ พูดแบบนี้มันหาว่าจิตรเป็นฝ่ายไปราวีสองแม่ลูกนั่นชัดๆ” จิตราหน้าเง้าเอ่ยบอกพี่สาว
“ก็แล้วมันจริงมั้ยล่ะ” จันทร์จวงถามใหม่ คราวนี้น้องสาวอึกอักนิดๆ อาทีเห็นอาการอดไม่ได้ที่จะเอ่ยว่า
“แม่ไม่น่าหูเบาไปเชื่อคำนายสินกับยัยส้มเลยนะครับ สองคนนั่นไม่ชอบแม่นางกับไอ้อิทมาแต่ไหนแต่ไร พวกเขาสร้างเรื่องให้แม่ไปราวีแม่นางกับอิทแม่ก็ไม่น่าทำตามเลย”
“แกอย่ามาสู่รู้ไอ้อาที กลับเข้าห้องแกเลยไป ผู้ใหญ่เขาจะคุยกัน” จิตราเอ่ยไล่บุตรชาย เมื่อเห็นเจ้าตัวชักจะขัดคอตนไม่เลิก
“ผมยังไม่นอนหรอก ผมจะไปดูไอ้อิทกับแม่นาง” อาทีเอ่ยออกมาตรงๆ เพราะเชื่อว่าสองคนนั่นคงกำลังขวัญหายกันอยู่จากการกระทำของมารดาตน
“มืดค่ำป่านนี้แกจะกระเสือกกระสนไปดูพวกมันทำไม ฉันนี่ที่แกต้องดู เห็นมั้ยว่าหมอกำลังตรวจร่างกายฉัน” จิตราว่าเข้าให้
“ผมไม่ใช่พี่อาทิตย์ ให้ดูแลแม่ยังไง แม่ก็ไม่ดีขึ้นเท่าไหร่หรอกครับ” อาทีได้ทีเอ่ยประชด ก่อนจะลุกเดินก้าวฉับๆ ออกจากห้องไป จิตราอยากถลันไปจัดการบุตรชายเจียนใจจะขาด ติดที่หมอสูงวัยกำลังตรวร่างกายอยู่จึงได้แต่เก็บความโมโหเอาไว้ในอก
“เฮ้อ ฉันล่ะเวียนหัวกับแม่ลูกคู่นี้เหลือเกิน เมื่อไหร่ตาอาทิตย์จะกลับมานะ ฉันล่ะคิดถึงเสียจริง” จันทร์จวงบ่นออกมาตามความรู้สึก นางเอนอายลงนอนพักต่อ จิตราเห็นภาพนั้นจึงไล่บ่าวไพร่ออกไปจากห้องให้หมด รวมถึงหมอที่กำลังตรวจร่างกายตน
“พอเถอะค่ะหมอ ขอบคุณนะคะที่มา เดี๋ยวจะให้นายไกรขับรถไปส่งที่อนามัยนะคะ” หล่อนเอ่ยบอก แล้วหันไปสั่งคนรถให้ขับรถไปส่งเจ้าตัว ลับหลังคนทั้งหมดแล้วจึงได้ยืนคิดถึงบุตรชายคนโต วางแผนว่าน่าจะโทรศัพท์ไปแจ้งเจ้าตัวให้กลับมาเยี่ยมตนและพี่สาวที่ร่างกายกำลังผิดปกติกันทั้งสองคน

****************************************************************
แสงแดดจ้าในตอนสายลอดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างของห้องที่ถูกเปิดค้างเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืน ผ้าห่มผืนหนาถูกยกขึ้นคลุมโปงเพื่อบดบังรัศมีของแสงที่ส่งมาถึงร่าง แต่ก็คลุมได้เพียงครู่เดียวก็ต้องสะบัดเปิดออกเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังอยู่ภายนอกห้อง
“อาทิตย์ตื่นหรือยังลูก โทรศัพท์แน่ะ แม่โทรมา” เสียงที่ดังตามมาเป็นเสียงของบิดา อาทิตย์ลุกนั่งยกมือปิดหน้าเมื่อสายตาปรับรับกับแสงสว่างไม่ทัน ผ้าห่มผืนหนาใหลร่นออกจากลงปกปิดแค่ร่างกายส่วนร่าง ส่วนท่อนบนขณะนี้เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์สวมใส่ แสงแดดภายนอกส่องให้เห็นผิวขาวละเอียดของชายวัยหนุ่มที่ห่อหุ้มรูปร่างกำยำสมส่วนของเจ้าตัว ชายหนุ่มค่อยๆ เลื่อนมือลงจากใบหน้า เผยโฉมให้เห็นความหล่อเหลาตั้งแต่หน้าผากกว้างไร้รอยย่น ตามมาด้วยคิ้วหนาที่อยู่บนดวงตาคู่คมทั้งสองข้าง ต่ำลงมาอีกนิดเป็นจมูกได้รูป ต่อเนื่องมาถึงริมฝีปากโค้งสวยที่อวดสายตาด้วยสีชมพูอ่อนๆ ส่งท้ายด้วยคางที่ทิ้งปลายได้สัดได้ส่วน 
“ตื่นแล้วครับพ่อ รอแป็บนึงครับ” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาส่งเสียงบอกบิดาเมื่อได้ยินเสียงเคาะที่ประตูซ้ำ ผ้าห่มที่ปกปิดช่วงล่างถูกจับสะบัดออกจากกาย เผยให้เห็นท่อนขาแข็งแรงที่โผล่พ้นออกมาจากกางนอนขาสั้นตัวบาง ร่างสูงลุกยืนบิดขี้เกียจอวดกล้ามเนื้องามตามร่างกายตั้งแต่หน้าอก หน้าท้อง แขน และขา ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้อง
“คุยกับแม่เขาหน่อย เห็นบอกว่าไม่สบาย” เกริกเกรียงยื่นโทรศัพท์ให้บุตรช่ายเมื่อเจ้าตัวแย้มใบหน้าหล่อเหลาออกมาให้เห็น
“ครับ” อาทิตย์รับโทรศัพท์จากมือบิดามาแนบหู เอ่ยทักทายปลายสายซึ่งเป็นมารดาด้วยรอยยิ้ม พูดคุยกันต่อได้สักพักฝ่ายนั้นก็วางสายไป ชายหนุ่มหันมายื่นโทรศัพท์คืนบิดา เอ่ยบอก
“แม่อยากให้ผมกลับไร่น่ะพ่อ ท่านกับป้าจันทร์ไม่สบาย”
“แล้วเราว่างพอกลับได้หรือเปล่าล่ะ” บิดาเอ่ยถาม
“ช่วงนี้ก็พอได้ครับ น่าจะอยู่ที่ไร่ได้สักอาทิตย์” บุตรชายเอ่ยตอบ เป็นการเปิดประเด็นสนทนา
“กลับได้ก็กลับ พ่อเองก็อยากไปด้วยเหมือนกันติดที่งานมันยุ่งเหลือเกิน”
“ผมกลับก็เหมือนพ่อกลับแหละครับ เดี๋ยวผมจะหอบความคิดถึงไปฝากแม่ให้”
“ตะกี้ต่อว่าพ่อซะหูชาแล้ว หาว่าพ่อลืม เฮ้อ”
“แม่เขาก็พูดไปเรื่อยแหละพ่อ อย่าคิดมากเลยนะ”
“อืม แล้วเราจะกลับเมื่อไหร่ล่ะ”
“ว่าจะกลับเย็นนี้เลย พ่อว่าไง”
“แล้วเรื่องเรียนล่ะ”
“ช่วงนี้ยังพอเคลียร์ได้ครับ”
“ก็ดี จะกลับยังไงล่ะ”
“นั่งเครื่องไปดีกว่า เร็วดี”
“จัดการเองได้นะ”
“ได้สิครับพ่อ ผมโตแล้วนะครับ”
“ก็ดี ฝากความคิดถึงแม่กับน้องด้วยละกัน”
“แม่น่ะพอจะคุยได้ครับ แต่ไอ้อาทีไม่รู้มันจะคุยกับผมหรือเปล่า”
“เป็นพี่น้องกันทำไมจะไม่คุยกัน”
“พ่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดพ่อไม่รู้หรอกว่าไอ้อาทีมันติดนายอิทธิมากกว่าผมอีก”
“ก็เด็กมันโตมาพร้อมกัน เราอย่าน้อยใจไปเลยน่า”
“ผมเปล่าน้อยใจนะพ่อ แค่หมั่นไส้มันสองคนนิดหน่อย เวลาเห็นผมทำยังกะเห็นผีเห็นปิศาจซะทุกที”
“กลับไปคราวนี้ก็หาเวลาเคลียร์กันซะ โตๆ กันแล้ว อีกหน่อยน้องก็จะตามมาอยู่นี่แล้วด้วย”
“ไอ้อาทีผมไม่มีปัญหาหรอกครับ ยังไงมันก็น้องผม กลัวแต่มันจะหนีบเพื่อนซี้มันมาด้วยน่ะสิ”
“มาได้ก็มาถ้าแม่เขาไม่หวง เราก็อยู่กันแค่สองคน จะหวงบ้านไปทำไม”
“ผมไม่ได้หวงบ้านครับ ผมกลัวว่าพ่อจะปวดหัวตายน่ะสิ เชื่อเหอะว่านายอิทธินั่นไม่ยอมญาติดีกับผมง่ายๆ หรอก เด็กๆ ยโสยังไง โตขึ้นก็คงไม่ต่างกันมั้ง คิดดูละกันว่าถ้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับผมอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง คงทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน”
“มันก็ไม่แน่หรอก ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เผื่ออะไรๆ มันจะเปลี่ยนไปแล้วก็ได้”
“อืม ผมก็หวังอย่างนั้นแหละ”
“งั้นก็เตรียมตัวซะ พ่อไปล่ะ มีประชุมต่อ”
“ครับ”
ร่างบิดาเดินจากไปแล้ว อาทิตย์ปิดประตูห้องตามหลัง นึกถึงภาพเก่าๆ ตอนที่ตนยังอยู่ที่ไร่ อมยิ้มส่ายหน้าในตอนที่นึกถึงกิริยาท่าทางเถียงคำไม่ตกฟากของอิทธิ ในตอนนั้นยอมรับว่ารู้สึกหมั่นไส้ในท่าทีแบบนั้นของเจ้าตัว แต่พอมาตอนนี้ทำไมถึงนึกตลกก็ไม่รู้ หรือเพราะเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ
ชายหนุ่มหันมองรูปร่างเปลือยท่อนบนของตัวเองในกระจกเงา ภาพที่เห็นไม่ใช่เพียงรูปร่างสูงสมส่วนและผิวกายที่ขาวสะอาดสะอ้านเท่านั้น แต่สิ่งที่สะท้อนกลับมายังรวมไปถึงรูปหน้าที่คมคายหล่อเหลาขึ้นจากเมื่อตอนเด็ก จู่ๆ ก็นึกอยากรู้ว่าหน้าตาอิทธิจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง เอ นี่เขาจะนึกถึงนายนั่นทำไมนักหนานะ แปลกๆ แฮะเรา
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 13-12-2010 11:35:37
ขอให้แปลกในทางที่ดีแล้วกันนะ  เฮ้ออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-12-2010 11:56:49
อาทิตย์คงรู้สึกบางสิ่งบางอย่างกับอิทธิแล้วมั้ง 55+
แต่คุณจิตรเนี่ย.......หูเบาสุดๆ ประมาณว่า เป็นเครื่องมือของพวกตัวโกงได้ง่าย 55+ (ไม่อยากใช้คำแรงๆ -*-)
ติดตามจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 13-12-2010 11:57:42
อ่านแล้วแปลกๆๆๆๆๆ  ไม่เอานะ  
อิทธิต้องเป็นเคะนะ  :o8: :-[ เค้าไม่ยอม  เอิ๊กๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-12-2010 14:28:55
ขอให้มันแปลกไปในทางที่ดีด้วยเหอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 13-12-2010 15:00:25
ขอให้แปลกในทางที่ดีแล้วกันนะ  เฮ้ออ

ขอให้มันแปลกไปในทางที่ดีด้วยเหอะ

อะไรจะใจตรงกันขนาดนั้นครับ แม่นางกับอิทธิ คงไม่รันทดขนาดเจอตัวร้ายอีกคนมั้ง เอ๊ะ ! หรือเปล่า
ติดตามกันต่อไปครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆ คอมเมนต์นะครับ ไม่ค่อยได้เข้ามาทักทายเท่าไหร่ อย่าเพิ่งหายกันไปจากกระทู้นะครับ

Boy
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 13-12-2010 16:28:18
เห็นด้วยกับข้างบนอ่ะ ให้อิทเป็นเคะด้วย55
มาต่อไวๆนะ เนี่ยเข้ามารอทุกวันเลยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-12-2010 19:31:10
รอวันนี้เลยละกัน55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-12-2010 20:33:43
มาเร็วๆน้าคุณบอย
ลุ้นระทึกใจจะขาดด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 13-12-2010 20:46:59
เดาไม่ถูกเลยใครคู่ใคร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 13-12-2010 20:55:58
สนุกมากๆเลย
อยากอ่านต่อแล้ว ~
 :call:

ปล.ตกลงใครพระเอก นายเอก -*- (เริ่มงง)  :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 13-12-2010 21:09:53
อ่านเรื่องนี้ปวดตับจังอะ
ในฐะนะที่มีแม่อยู่คนเดียวเหมือนกัน
ถ้าเป็นแม่ผม  ไอ้พวกนั้นได้พังกันไปข้างแล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 13-12-2010 23:29:01
รอๆต่อไปโลดขอรับ :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 13-12-2010 23:50:07


• ชายหนุ่มหันมองรูปร่างเปลือยท่อนบนของตัวเองในกระจกเงา อดใจไม่ได้ที่จะ
.
.
เอียงหน้าไปทางขวา อมยิ้มน้อยๆ
พลางยกมือซ้ายขึ้นมา
กางนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้เป็นอักษร V อยู่ใต้คาง
๒๒ + ๑ = ๒๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Dangerous_patz ที่ 14-12-2010 03:34:47
 :call: :call: :call:




มาต่อ ไว น้า ค้าบบบ


อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-12-2010 07:38:29
ความรู้สึกผูกพันธ์ทางจิตใจมั้ง :L1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-12-2010 10:26:38
แวะเข้ามารอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 14-12-2010 10:44:06
อ๊ายยยย สนุกมากๆ เลยค่ะ
สงสารสองแม่ลูกโดนแกล้งอยู่ตลอดเลยอ่ะ
โชคดีที่ได้เพื่อนและเจ้านายที่ดี
ไม่งั้นแย่แน่ๆ
แอบตื่นเต้น เดี๋ยวอาทิตย์ก็ได้ไปเจออิทธิและ โฮฮฮฮ
จะยังทะเลาะกันอยู่ไหมนะ ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-12-2010 17:01:16
มารอคุณบอยยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 14-12-2010 19:39:49
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 15-12-2010 14:17:17
ดันรอคนแต่งค่า อยากอ่านแล้ว คึคึ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 7 อัพเดต 13.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-12-2010 15:57:06
อาทิตย์เดินทางถึงเมืองเชียงใหม่ในตอนเกือบหกโมงเย็น ชายหนุ่มไม่ได้ติดต่อให้คนที่ไร่ส่งรถมารับเพราะตั้งใจจะกลับไปสร้างความประหลาดใจให้กับมารดาและป้าของตน เวลานี้ยังพอมีรถรับจ้างวิ่งเข้าไร่อยู่บ้าง จึงจัดการเดินไปยังสถานีออกรถ
ที่ไร้ส้ม เรื่องราวคราที่จิตราตามไปพิพากษาสองแม่ลูกอย่างแม่นางกับอิทธิยังไม่จบสิ้นลงง่ายๆ เมื่อคืนก่อนโน้นที่อาทีลงจากเรือนหลังใหญ่แล้วได้ไปพบกับสภาพของสองคน นึกเห็นใจปนโกรธแค้นสองพี่น้องที่สร้างเรื่องโกหกให้มารดาตนกระทำสิ่งที่แย่ๆ แบบนี้ได้
เด็กหนุ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพื่อนฟัง พอทุกอย่างหลุดออกจากปากอิทธิก็รีบผลีผลามออกไปยังเรือนนายศร ลงมือชกต่อยกับสินอย่างไม่ฟังคำทัดทานของใคร นายศรเองพอเห็นลูกชายเพลี่ยงพล้ำ จึงคว้าปืนยาวขึ้นมาขู่ หยุดสถานการณ์ไว้ได้ ส้มถือโอกาสนั้น วิ่งกลับไปรายงานเรื่องราวให้กับจิตราและจันทร์จวงได้ทราบ จิตราจึงตามมาดูเหตุการณ์ให้เห็นกับตา โดยที่จันทร์จวงตามมาด้วยไม่ได้ พอถึงเรือนนายศร ก็ต้องตกใจที่เห็นสภาพของสินโชกเลือดในขณะที่อิทธิเพียงแค่ฟกช้ำนิดหน่อย นาทีนั้นแม่นางกับอาทีตามมาสมทบด้วยพอดี ซึ่งก็ตกใจในภาพที่เห็นไม่ต่างกัน สองคนยืนเคียงข้างอิทธิ ในขณะที่จิตราเดินไปเข้าข้างนายสิน ชี้หน้าด่าอิทธิอยากหยาบคายพร้อมไล่ให้ออกจากไร่ภายใน 24 ชั่วโมง อาทีช่วยโต้แทนเพื่อนเพื่อเรียกความยุติธรรมทั้งหมด เด็กหนุ่มโดนมารดาตราหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณ เห็นผิดเป็นชอบ จึงหลุดปากโต้กลับมารดาว่าเป็นคนหูเบา เชื่อคนง่าย สองแม่ลูกโต้เถียงกัน จิตราตบหน้าบุตรชาย เมื่อเห็นเจ้าตัวเถียงคำไม่ตกฟาก สถานการณ์เลวร้ายหนักขึ้นเมื่ออาทีหลุดปากว่าในเมื่อมารดาไม่เคยรักตน ตนก็พร้อมจะหนีออกจากไร่นี้พร้อมแม่นางและอิทธิ จิตราได้แต่ยืนอึ้งที่บุตรชายผูกพันกับอิทธิและให้ความเคารพแม่นางมากกว่าตน หล่อนยืนมองคนสามคนเดินหนีหายไปในความมืดด้วยความรู้สึกชิงชัง เช้ามาจึงตัดสินโทรศัพท์ตามตัวบุตรชายคนโตอย่างอาทิตย์ให้กลับมาที่ไร่จริงๆ โดยอ้างว่าตนและพี่สาวไม่สบายหนัก แต่จริงๆ แล้วหล่อนต้องการมีผู้ช่วยมาเพื่อกำราบคนที่หล่อนเกลียดนักเกลียดหนาอย่างยัยแม่นางและไอ้อิทธินั่นเอง ก็ตอนที่หล่อนกลับมารายงานเรื่องราวทุกอย่างให้พี่สาวฟัง แทนที่พี่สาวจะเข้าข้างหล่อน นางกลับเชื่อว่าอิทธิมีเหตุผลพอที่จะอาละวาดหนักอย่างนั้น โดยนางบอกว่านางเห็นนิสัยเด็กคนนั้นมาตั้งแต่เด็ก จึงพอจะดูออกว่าเจ้าตัวไม่ใช่อันธพาลโดยนิสัย 
ตอนสายหน่อยหลังจากโทรศัพท์ให้บุตรชายคนโตรีบกลับมาแล้วหล่อนจึงออกไปยังเรือนสำนักงานเพื่อจัดการกับแม่นางต่อ คราวนี้ไอ้เด็กบ้าอย่างอิทธินั่นไม่อยู่หล่อนจึงทำอะไรได้สะดวกนัก ซึ่งหลังจากด่าทอฝ่ายนั้นให้ได้อายสมใจก่อนจากไปจึงไม่ลืมลงไม้ลงมือตบสั่งสอนอีกฉาดสองฉาด โดยมีนายศรคอยสนับสนุนยุแหย่อยู่ตลอดเวลา
เรื่องราวทั้งหมดถึงหูอิทธิในตอนบ่ายที่เจ้าตัวเลิกเรียนแล้วก็ตรงกลับไร่โดยไม่แวะที่ไหน เพราะรู้สึกเป็นห่วงมารดา เด็กหนุ่มตรงมาที่เรือนสำนักงานหามารดาก่อนกลับเรือน พอเห็นสภาพมารดานั่งทำงานทั้งน้ำตาจึงถามไถ่หาสาเหตุ ในตอนนั้นนายศรออกไปตรวจไร่พอดี พนักงานคนอื่นๆ จึงรายงานสถานการณ์ เด็กหนุ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงตามมาทวงความยุติธรรมให้มารดาที่เรือนหลังใหญ่ ซึ่งเหตุการณ์ได้ล่วงเลยมาจนถึงช่วงเวลาในช่วงปัจจุบัน
“เมื่อไหร่คุณจิตรจะเลิกรังแกแม่นางซะที อยู่ดีๆ ทำตัวให้น่าเคารพอย่างผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ เขาทำกันจะเป็นมั้ย” อิทธิเปิดปากสั่งสอนอย่างไม่กลัวบาปกรรมเมื่อสุดจะทนกับพฤติกรรมใจยักษ์ใจมารของน้องสาวเจ้าของไร่
“แกไม่ต้องมาสั่งสอนฉันไอ้เด็กไม่มีพ่อ เห็นก็เห็น รู้ก็รู้ว่าฉันใจร้ายแล้วทำไมแกสองคนยังหน้าด้านหน้าทนอยู่อีก”
“ก็ได้ ในเมื่ออยากให้ผมกับแม่ไปจากที่นี่นัก ผมสองคนก็จะไป”
“เออ ให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะ”
“มึงจะไปไหนได้ยังไงไอ้อิท มึงยังเรียนไม่จบนะ” อาทีที่ยืนอยู่ในสถานการณ์ด้วยเอ่ยแย้ง
“นั่นน่ะสิตาอิท ใจเย็นๆ นะ กลับเรือนไปก่อนไป ทางนี้เดี๋ยวฉันจัดการปรามน้องสาวฉันเอง” จันทร์จวงที่ได้ยินเสียงเอ็ดตะโรมาตั้งแต่ต้น สั่งให้สาวใช้พยุงตัวมาดูสถานการณ์ทันพอได้ยินถ้อยคำเมื่อครู่จึงบอกออกไป
“พี่จันทร์ออกมาทำไมคะ กลับเข้าไปนอนพักเถอะค่ะ เรื่องทางนี้จิตรจัดการเอง” จิตราหันไปบอกพี่สาว
“จัดการให้เรื่องมันใหญ่โตน่ะ เธอนี่นะจิตรา ทำตัวให้เด็กมันมาถอนหงอกเอาได้” จันทร์จวงว่าน้องสาว บ่าวไพร่ที่ไม่ชอบนิสัยต่างหัวเราะคิกคัก คนโดนว่าจึงตวาดลั่น
“ไอ้อีคนไหนมันหัวเราะ ฉันจะเฉดหัวออกไปให้หมด”
เสียงหัวเราะเงียบลง พร้อมคนออกคำสั่งก้าวฉับๆ เดินเข้าห้องของตนไป จันทร์จวงถอนหายใจ มองภาพที่หลานชายคนเล็กของตนตบไหล่เพื่อนเชิงปลอบโยน
“พาเพื่อนกลับเรือนก่อนไปอาที” นางเอ่ยออกคำสั่ง แล้วเดินกลับเข้าไปเพื่อพูดคุยกับน้องสาวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น
อาทีพาอิทธิกลับถึงเรือน เด็กหนุ่มอยู่พูดคุยกับเพื่อนอย่างไม่อยากกลับเรือนหลังใหญ่เพราะรู้สึกเห็นใจในเรื่องที่เจ้าตัวเผชิญ
“มึงจะไปจากที่นี่จริงๆ เหรอไอ้อิท” เด็กหนุ่มเอ่ยถามถึงคำพูดที่ตนได้ยิน
“อยู่ไปก็โดนแต่จะมีเรื่อง” อิทธิบอกเป็นเชิงว่าอาจจะจริง แม่นางที่ฟังอยู่ได้ยินจึงเข้าร่วมวงสนทนาด้วยการต่อว่าบุตรชาย
“เหลวไหลน่าอิท เรียนก็ยังเรียนไม่จบ จะไปไหนได้ยังไงกัน”
“แล้วเราจะอยู่ให้คุณจิตรรังแกแบบนี้เหรอแม่” อิทธิถามมารดา
“ทนมาได้ตั้งนาน ทนอีกนิดจะเป็นไรไป” มารดาว่ากลับซึ่งอาทีก็เห็นด้วย
“จริงของแม่นาง รอให้มึงเรียนจบก่อนเถอะ เรื่องอื่นค่อยคิด”
“แต่กูทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย แม่มึงชักจะร้ายขึ้นทุกวัน ไหนจะนายศร นายสิน และก็ยัยส้มอีก” อิทธิก้มหน้านิ่งไม่อยากนึกคิดต่อว่าตนกับแม่จะต้องเผชิญอะไรอีกบ้างหากต้องทนอยู่ในไร่นี้ต่อไป
“นายลืมนับฉันไปอีกคนหรือเปล่า” หนึ่งเสียงดังขึ้นมา สามคนที่นั่งกันอยู่หันไปมองพร้อมกัน ต่างคนต่างอ้าปากค้าง เมื่อเห็นร่างสูงที่จากไร่นี้ไปนานยืนอยู่ต่อหน้า
“พี่อาทิตย์” ในที่สุดคนที่เรียกชื่อฝ่ายนั้นออกมาก็เป็นอาที เด็กหนุ่มยืนขึ้นถามพี่ชายเมื่อผ่านอาการตะลึงไปได้
“มาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่” คำนั้นนั้นห้วนนัก อาทิตย์พอจะเดาออกว่าน้องชายไม่รู้สึกยินดียินร้ายกับการมาเยือนของตนนัก แต่ช่างเถอะ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเปิดใจคุยกับน้องชาย ที่เขาตรงมาที่นี่หลังจากเจอหน้ามารดาและป้าได้ไม่นานเพราะต้องการมาสะสางเรื่องราวที่มารดาบอกว่าลูกคนงานในไร่อย่างนายอิทธิยโสหนักกว่าแต่ก่อนเป็นสิบเท่าด้วยการยืนถอนหงอกหล่อนต่อหน้าคนงานในไร่นับสิบ นายนี่เป็นใครถึงได้ไปยืนด่าว่ามารดาของตนฉอดๆ อุตส่าห์คิดว่านิสัยจะดีขึ้นจากเมื่อก่อน ที่ไหนได้ พอก้าวเข้าเขตไร่ได้ไม่เท่าไหร่ ก็ต้องมารับรู้ว่านิสัยยโสอันธพาลยังคงไม่หลุดออกจากตัว เสียความรู้สึกจริงๆ ให้ตายสิเอา
“มาถึงเมื่อไหร่ไม่สำคัญหรอก สำคัญที่ว่ามืดป่านนี้แล้วทำไมนายยังมาอยู่ที่นี่” อาทิตย์ต่อว่าน้องชาย แล้วหันไปมองยังร่างสองแม่ลูกที่กำลังยืนชิดกันอยู่ ชายหนุ่มมีมารยาทพอที่จะยกมือไหว้แม่นางซึ่งดูชราขึ้นบ้างแล้วจากครั้งที่สุดท้ายที่เขาได้เจอ การให้ความเคารพหญิงผู้นั้นไม่ใช่เกิดจากการแกล้งทำ แต่เขาโดนปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กจากป้าจันทร์ว่าให้ถือว่าแม่นางเป็นญาติผู้ใหญ่อีกคนหนึ่ง ซึ่งชายหนุ่มก็ปฏิบัติตามคำสั่งมาด้วยดี จะมีก็แค่ครั้งนั้นที่รวมหัวกับมารดาให้ร้ายเจ้าตัวว่าใช้งานคนงานเกินกำลัง ซึ่งมันก็ผ่านมานานหลายปี เป็นไปได้หากมีเวลาก็อยากแสดงความขอโทษ แต่ตอนนี้ขอจัดการลูกชายนางซะก่อนเถอะ ได้ฟังเรื่องราวที่มารดาบอกแล้ว เลือดในกายมันสูบฉีดจนนึกอยากกำราบให้สำนึก
ร่างของอิทธิตอนนี้โตเป็นหนุ่มซึ่งฉายแววหล่อเหลาออกมาไม่น้อย ร่างนั้นบางกว่าเขาแต่ความสูงนั้นเกือบจะเท่ากัน สงสัยเจ้าตัวน่าจะรับเชื้อมาจากบิดา เพราะดูแม่นางก็ตัวไม่สูงเท่าไหร่นัก ผิวของเจ้าตัวที่อยู่ภายใต้หลอดไฟนีออนนั้นสว่างตาให้เห็น บ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนผิวขาว ถือเป็นพัฒนาการส่วนดีของคนกำลังโตเป็นหนุ่ม
“ไหว้คุณเขาหรือยังตาอิท” เสียงแม่นางเอ่ยขึ้น อาทิตย์ได้สติเลิกมองสำรวจร่างที่อยู่ตรงหน้า กลับมาให้ความสนใจว่าเด็กนั่นจะทำความเคารพตนตามคำสั่งมารดาหรือไม่
“พ่อก็ไม่ใช่ ญาติก็ไม่เกี่ยว ทำไมต้องไหว้” จากอารมณ์แค้นเคืองที่ติดอยู่ในใจเรื่องจิตรา คำพูดที่หลุดออกมาจึงไร้ซึ่งการเคารพ อาทิตย์ที่ฟังอยู่อดหมั่นไส้ไม่ได้จึงแขวะ
“เด็กๆ เป็นยังไง โตขึ้นก็ยังไม่เปลี่ยนนะนายอิทธิ”
“แล้วคุณล่ะครับ เปลี่ยนไปแค่ไหน ที่วิ่งมานี่คงจะตามมาราวีผมกับแม่ตามคำสั่งแม่จอมฟ้องของคุณใช่มั้ย” อิทธิเอ่ยว่าอย่างรู้ทัน อาทิตย์หน้าชาหน่อยๆ ที่โดนจับทางถูก ด้วยทิฐิที่ไม่อยากยอมรับจึงเฉไปเรื่องอื่น
“ฉันมาตามน้องชายฉันกลับเรือน ไม่ได้มาตามราวีใคร”
“ผมยังไม่กลับหรอก มีเรื่องคุยกับไอ้อิทอีกเยอะ” อาทีชิงปฏิเสธ พี่ชายจึงหันมาหมั่นไส้น้องชายแทน
“ทำยังกะไม่เจอกันเป็นปี ฉันนี่ที่นายควรจะให้เวลาด้วยไอ้อาที ไปกลับเรือน” ชายหนุ่มฉุดมือน้องชายลากเดินหนี แต่โดนสะบัดออกจนหลุด
“บอกแล้วไงผมไม่กลับ อย่ามาทำนิสัยเหมือนแม่กับผมนะ” อาทีตวาดพี่ชาย อาทิตย์นึกฉุนที่น้องชายไร้ความเคารพ จึงโต้กลับ
“นิสัยอันธพาลแบบนี้นายไปเอามาจากไหนอาที”
“อย่ามาว่ากระทบจะด่าก็ด่ากันตรงๆ คุณอาทิตย์” อิทธิชิงว่าขึ้นเมื่อคิดว่าคนมาใหม่ต้องการด่าน้องชายกระทบตน
“อย่าทำแสนรู้ให้มากนักอิทธิ” อาทิตย์หันมายั่วโมโห ซึ่งทำสำเร็จ เมื่ออิทธิโต้กลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมไม่ใช่หมา”
“ไม่ใช่ก็เลิกเห่า ฉันจะคุยกับน้องฉัน” อาทิตย์มองจ้องหน้า เป็นครั้งแรกที่สองคนมองสบตากันตรงๆ
แม่นางกับอาทีมองสบตากันเมื่อเห็นคนสองคนตรงหน้าจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายหนึ่งในนั้นจึงเอ่ยขึ้น เพื่อหย่าสายตาคนทั้งคู่ให้เลิกจ้องกัน ซึ่งก็คืออาที
“ผมกลับก็ได้” พูดจบเด็กหนุ่มก็เดินหายไปก่อน เมื่อเห็นพี่ชายละสายตาจากเพื่อนของตนแล้ว
“ฝากไว้ก่อน นายกับฉันเจอกันอีกยาวแน่” อาทิตย์หันมาเอ่ยคาดโทษกับอิทธิ
“คิดว่าผมกลัวนักหรือไง” อิทธิเอ่ยท้าทาย
“ปากดี รอให้ฉันจัดการน้องชายฉันก่อนเถอะ คิวต่อไปเป็นนายแน่” อาทิตย์ชี้หน้าส่งสายตาดุๆ เอ่ยกำชับก่อนเดินหายไปอีกคน
“ทำตัวไม่น่ารักเลยนะอิท” แม่นางติงบุตรชาย เมื่อหลานชายเจ้าของไร่เดินหายไปแล้วทั้งสองคน
“จะให้อิททำตัวน่ารักใส่คนร้ายกาจน่ะเหรอแม่ อิททำไม่ลงหรอก” อิทธิหันมาตอบ แม่นางลอบถอนหายใจ ก็เห็นล่ะนะว่าคนที่เดินจากไปเมื่อครู่เอ่ยคาดโทษบุตรชายตนยังไง แต่ในสายตาของคนเป็นผู้ใหญ่ พอจะดูออกว่าคนๆ นั้นมีเหตุมีผลพอที่จะไม่ทำตัวร้ายๆ อย่างใครคนอื่นที่กระทำกับตน ดูอย่างเมื่อครู่ที่เจ้าตัวยกมือไหว้ตน เล่นเอาทำตัวแทบไม่ถูก อิทธิเอ้ย จะดูออกมั้ยล่ะนั่นว่าคุณอาทิตย์ไม่ได้จงใจร้ายกาจใส่เราอย่างที่ลูกคิดหรอก   
 
โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 15-12-2010 16:11:54


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-12-2010 16:46:06
ขอบคุณค่า
คุณบอยน่ารักที่ซู้ดดด
แล้วก็อย่าลืมมาต่อไวๆนะคะ
คิดถึงงง อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-12-2010 17:24:47
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยพระเอกมาแล้ว จะออกแนวแก่นแก้ว ตบจูบไหมหละเนี้ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 15-12-2010 17:52:21
แอบเบื่อแม่นาง คนดีเกิ๊นนนนนนน
ตัวเองทนได้แล้วไม่สงสารลูกบ้างหรือไง
ไอ้พี่อาทิตย์โตขึ้นมาก บอกว่าตัวเองมีความคิดอย่างโน้นอย่างนี้
แต่ดันไม่รู้ว่าแม่ตัวเองนิสัยเป็นยังไง เฮ้อออออ
รอแก้แค้นนนนนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: IZE ที่ 15-12-2010 19:01:38
ว๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย


ตบจูบๆๆๆแน่ๆๆงานนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-12-2010 19:30:57
แอบเบื่อแม่นาง คนดีเกิ๊นนนนนนน
ตัวเองทนได้แล้วไม่สงสารลูกบ้างหรือไง
ไอ้พี่อาทิตย์โตขึ้นมาก บอกว่าตัวเองมีความคิดอย่างโน้นอย่างนี้
แต่ดันไม่รู้ว่าแม่ตัวเองนิสัยเป็นยังไง เฮ้อออออ
รอแก้แค้นนนนนน

เห็นด้วยอย่างยิ่ง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-12-2010 19:40:02
 :เฮ้อ:แม่ลูกนิสัยไม่ต่างกันหรอก คนเป็นแม่ก็เชรียเหลือรับแดก หูเบาน่าจะหาหินมาถ่วงซะหน่อยนะหรือว่าเอาที่หนักกว่าหินก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 15-12-2010 20:32:46
เรื่องราวชักจะเข้าเค้า อย่ามาแบบพี่น้องรักคนคนเดียวกันนะ แสลับที่น้องอาทีจะเป็นนายเอก
แต่น้องอิททจะเป็นพระเอก แต่หากกับอาทิตย์ พระเอก นายอิทเป็นนายเอก งานนี้ก็ต้องลุ้นไปของอนาคต
แม่นางก็ดีเกินไป สงสารนะ คุณจิตรก็ร้ายกาจ เขาไม่ได้แย่งผัวตัวหน่อย ทำตัวร้ายนัก ชะรีนูนางนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: HussKii ที่ 15-12-2010 21:03:56
คาดว่า ถ้าพี่อาทิตย์เป็นพระเอก   อิทธ เป็นนายเอก แล้วอาที เป็นพระเอกอีกคน จะชอบมากพล็อตเรื่องโดน แต่คาดว่า คนไม่แย่งกันแบบธรรมดาแน่นอน ลุ้นๆๆๆ แต่ขอนะ อาทีเป็นรุกกกก  :call:

สุดท้าย เป็นกำลังใจและดันๆๆ  :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-12-2010 21:55:09
แม่ของอาทีร้ายแบบน้ำเน่ามาก ๆ ไม่มีเหตุผลเลย  ร้ายเพราะริษยาล้วน ๆ
ส่วนอาทิตย์เก่งเรียนครับ  แต่ไม่เก่งเรื่องคน  แม่ตัวเองเป็นยังงัยไม่รู้จริงเหรอ
ถ้าอาทีไม่ชอบอิท  ก็หาคนที่พอจะดูแล  ปกป้องอิทได้ซักคนเหอะ
ตอนนี้เหมือนอิทกับแม่นางโดนหมาหมู่รุมกัดยังงัยก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-12-2010 23:04:38
สนุกมากครับ มาม่าได้ใจ

ขอฝากตัวเป็นแฟนคลับคนหนึ่งนะครับ

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 15-12-2010 23:19:50
ชอบม๊ากกกก....
รอพี่อาทิตย์สะสางปัญหากับอิทสองต่อสอง :-[



 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 16-12-2010 10:47:24
รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 16-12-2010 10:51:18
อ้าว เรานึกว่าอิทธิเป็นพระเอกเฉย 555
ไม่ไร ยังไงก็ได้ดูตบจูบอยู่ดี โฮะๆ
นี่ขนาดวันแรกยังต่อปากต่อคำซะขนาดนี้
โหยยย วันต่อไปไม่อยากจะนึกเลยเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 16-12-2010 12:16:47
รอดูพี่อาทิตย์เอาคืนอิทธินะ
อยากอ่านต่อมากๆ มาต่อไวๆเน้อ
จามารอทู้กวันเลยจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-12-2010 23:35:24
เข้ามารอต่อจ้า ^^
มารอทุกวันน่ะแหละ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 18-12-2010 20:44:25
กำลังมันส์เลยอ่ะ
มาต่อไวๆนะคร้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-12-2010 23:22:31
อยากเจอคู่นี้ฉะกันอีกจัง^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 18-12-2010 23:27:52
มาม่าอืดได้อีก แต่ก็ไม่ละความพยายามที่จะอ่าน  :laugh:

ว่าแต่อิทธิกับอาทีนี่ตรงเกินไป  :serius2: ถ้าจะต่อกรกับผู้ร้ายต้องมีเหลี่ยมนิดนึง  o18

ส่วนแม่นางซื่อได้อีก และแม่จิตรก็น่ะ กินหญ้าได้อีก  :เฮ้อ:

ดีน่ะที่มีแม่จันทร์  :กอด1:

ส่วนคุณอาทิตย์นี่จะเป็นไงน่ะ  :z3:

แต่ก็น่ะ ไม่งั้นจะสนุกเหรอ?  :fire: ใช่ไหม? ก็ตัวร้ายเยอะมาก

นางทาสมากๆ  :monkeysad:

  :pig4: คุณบอย ที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านกัน  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-12-2010 09:31:43
มารอคุณบอย
เอ้าดันๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-12-2010 10:11:13
รอวันที่อิทธิจะได้เอาคืนบ้าง :interest:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 19-12-2010 10:42:44
ดราม่า เข้มข้นสุดๆ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-12-2010 09:56:24
เข้ามารอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 20-12-2010 12:43:18
รอตอนต่อปายยยยยยยยยย อยากจะรู้จริงๆพี่อาทิตจะเป็นยังไงน๊า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-12-2010 18:15:54
รอคุณบอยยย
นานจังงงง
มาเร็วๆหน่อยน้าค้า อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-12-2010 21:54:22
เข้ามารออีกวัน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-12-2010 15:06:28
ดันๆๆ
คิดถึงอิทธิแล้วนะคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 22-12-2010 18:42:54
ชอบๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 23-12-2010 10:56:30
มาปูเสื่อรออ่านนะค้า
คนแต่งสู้ๆ ค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-12-2010 20:51:28
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 8 อัพเดต 15.12.53 ดันมาก็จัดไปอีกหนึ่งตอนครับ]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 23-12-2010 23:22:01
รอ
รอ
แล้วก็รอคร้าบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 24-12-2010 22:21:58
ขณะเดินตามหลังน้องชายกลับเรือน อาทิตย์พยายามเรียกเจ้าตัวให้หยุดรอตัวเองก่อน เพราะต้องการคุยกับเจ้าตัวหลายเรื่องที่คิดว่าหากอยู่ต่อหน้ามารดาและป้าอาจจะไม่สะดวกใจที่จะคุยนัก
“ไม่มีหูหรือไงวะอาที แกจะรีบไปไหน รอฉันก่อนสิโว้ย” ชายหนุ่มตัดสินใจตวาดออกไป ได้ผล คนที่เดินนำหน้าได้หยุดหันมามอง พร้อมเอ่ย
“จะเอายังไงกันแน่พี่อาทิตย์ มาตามผมกลับเรือนแต่ให้ผมเดินช้าๆ แล้วเมื่อไหร่มันจะถึงเรือน”
อาทิตย์อึกอักเมื่อโดนย้อน ชายหนุ่มยังไม่ตอบคำถามน้องชายในทันที แต่เดินไปโอบไหล่เป็นเชิงบอกให้เดินไปคู่กัน แต่เท้ายังไม่ทันก้าวเดิน ผู้เป็นน้องชายก็สะบัดวงแขนออก
“เฮ้ย! แกเป็นอะไรวะ ฉันเป็นพี่แกนะโว้ย โอบไหล่แค่นี้ทำสะบัด” อาทิตย์เอ่ยดุออกมา การกระทำของน้องชายมันเป็นสัญญาณบอกอย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวยังรู้สึกไม่ดีกับตนอยู่
“ผมไม่ชอบให้ใครมาเดินโอบ” อาทีบอก จ้องหน้าพี่ชายอย่างไม่นึกเกรง คำพูดต่างๆ ของมารดาที่เอ่ยชื่นชมคนๆ นี้วนเข้ามาในหัวสมอง ทำให้รู้สึกไม่อยากจะญาติดีด้วยเท่าไหร่นัก ยิ่งคราวนี้ที่เจ้าตัวพาบุคลิกที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้วกลับมายังไร่แบบนี้ แทบจะไม่ต้องเดาเลยว่ามารดาคงจะโยนตำแหน่งหมาหัวเน่ามาให้ตนอย่างหนักกว่าเดิม
“แกมีอะไรกับฉันนักหนาห๊ะ! ฉันเป็นพี่ชายแกนะโว้ย ไม่เจอกันก็นาน ฉันก็อยากจะพูดจะคุยกับแกมันผิดตรงไหน” อาทิตย์บอกออกไปใหม่ ด้วยเพราะไม่ได้รับรู้ความเป็นไปที่เกิดในไร่นี้เท่าไหร่นัก ชายหนุ่มไม่ค่อยได้กลับมาที่นี่ตั้งแต่จากไป ครั้งล่าสุดที่มาก็น่าจะสองปีที่แล้ว ด้วยเหตุผลตั้งหน้าตั้งตาเรียนและทำกิจกรรมร่วมกับทางมหาวิทยาลัยจนไม่ปล่อยให้ตัวเองได้ว่างเว้น ก็เพิ่งจะมีปีนี้ที่คิดว่าจะกลับมาที่นี่ตอนปิดเทอม แต่กำหนดการก็เลื่อนกระชับเข้ามาจากที่มารดาโทรศัพท์ตามตัว ที่ผ่านมาการติดต่อกับมารดาก็แค่พูดคุยทางโทรศัพท์เท่านั้น ซึ่งไม่ได้บ่อยมากมายจนถึงขนาดจะต้องรับรู้ความเป็นไปของไร่ในทุกเรื่อง
“ผมจะกล้ามีอะไรกับลูกรักของแม่ล่ะครับ” อาทีตอบเน้นเสียง เอ่ยเสร็จกำลังจะเดินหนี แต่ติดที่พี่ชายคว้าแขนไว้ก่อน
“พูดแบบนี้แกหมายความว่าไง” อาทิตย์เค้นถาม นึกไม่พอใจที่น้องชายแสดงน้ำเสียงกึ่งประชดให้ได้ยิน
“ปล่อยผมพี่อาทิตย์ ผมจะกลับเรือน” อาทีไม่ตอบคำถามแต่สั่งให้พี่ชายปล่อยแขน ไม่อยากอธิบายถ้อยคำใดๆ ออกมา เพราะไม่อยากรู้สึกไม่ดีกับคนที่มีเลือดเนื้อเชื้อไขกับตนมากไปกว่านี้
“ไม่ปล่อยจนกว่าแกจะอธิบายในสิ่งที่แกพูดเมื่อกี้” อาทิตย์จ้องหน้าน้องชายเขม็ง แต่ใช่ว่าฝ่ายนั้นจะนึกเกรง เมื่อเจ้าตัวออกแรงสะบัดแขนจนหลุดแล้วเดินหนีไปอย่างไม่สนใจ
อาทิตย์มองตามหลังน้องชาย ส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ ไม่คิดว่ากลับมาแผ่นดินเกิดคราวนี้จะเจออาการอคติจากเจ้าตัวได้อย่างกับคนไม่ใช่พี่น้องกัน

************************************************************************
   
อาทีเดินขึ้นเรือนชะงักเท้าขณะกำลังจะเดินตรงไปห้องของตน เมื่อเห็นมารดากับป้าจันทร์นั่งคุยกันอยู่ตรงทางผ่าน
“อ้าว อาที อิทกับแม่นางเป็นไงบ้างลูก” จันทร์จวงเอ่ยทักหลานชาย แต่ถามถึงอาการสองแม่ลูกที่ตนให้ความเอ็นดู
“ถามถึงพวกมันทำไมคะพี่จันทร์” จิตราค้อนพี่สาว ชายตามองบุตรชายคนเล็กหมิ่นๆ ถามขึ้น
“เจอพี่ชายแกหรือยังล่ะ”
“ทำไมจะไม่เจอล่ะครับ ก็แม่ใช้เขาตามไปราวีไอ้อิทกับแม่นางมานี่” อาทีตอบยียวน จันทร์จวงได้ยินหันมองหน้าน้องสาว
“จิตรเปล่านะคะพี่จันทร์ ไอ้อาทีมันก็ปากพล่อยแต่ไหนแต่ไร ใส่ร้ายแม่ตัวเองเพื่อปกป้องสองแม่ลูกนั้นตลอด พี่จันทร์น่าจะชินนะคะ” จิตรารีบแก้ตัวเมื่อโดนมอง
“ฉันก็ยังไม่ทันได้ว่าอะไรเธอนี่” จันทร์จวงบอกเสียงนิ่ง แล้วหันกลับมาสนใจหลานชายคนเล็กต่อ
“ไปอาบน้ำอาบท่าไปตาอาที จะได้มาทานข้าวกัน เดี๋ยวป้าจะสั่งเด็กตั้งสำรับรอ”
“วันนี้ผมไม่ค่อยหิวครับป้าจันทร์ คิดว่าจะอาบน้ำนอนเลย” อาทีปฏิเสธ เพราะคิดว่าพี่ชายตนจะต้องร่วมวงสำรับแน่ๆ ซึ่งก็คงจะพูดคุยกับมารดาของตนอย่างคนที่คิดถึงกันเป็นที่สุด จึงไม่อยากจะนั่งฟังให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ
“ไม่หิวได้ยังไงกัน ตั้งแต่กลับมาจากโรงเรียนยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรือ” จันทร์จวงถามหลานชายต่อ อาทีกำลังจะตอบ แต่มารดาชิงเอ่ยตัดหน้า
“ปล่อยมันเถอะค่ะพี่จันทร์ สำรับกับข้าวของเราคงอร่อยไม่ถูกปากมันเท่าสำรับกับข้าวป่าๆ ที่แม่บุญธรรมอย่างยัยแม่นางทำให้มันกินหรอก” จิตราเอ่ยกระทบบุตรชาย ยังจำภาพที่เจ้าตัวเดินเคียงร่างยัยแม่นางกับไอ้อิทธิเมื่อตอนค่ำวานนี้ได้ดี หนอยบังอาจเห็นคนอื่นดีกว่าหล่อนซึ่งเป็นมารดา มันน่าจับเฆี่ยนนัก
“ก็เหมือนกันแหละครับ ขืนผมนั่งร่วมสำรับก็พลอยจะพาลให้แม่กับพี่อาทิตย์กลืนข้าวไม่ลงกันพอดี” อาทีเอ่ยประชดกลับ จิตราได้ยินถึงกับตาขวาง ลุกขึ้นพุ่งร่างตรงไปหา
“ฉันเป็นแม่แกนะ มายืนเถียงฉันฉอดๆ แบบนี้ไม่กลัวบาปกรรมหรือไรไอ้อาที” หล่อนตวาดใส่หน้าบุตรชายทันทีที่ไปถึง ซึ่งฝ่ายนั้นก็โต้เถียงกลับเช่นกัน
“ยังจำได้เหรอว่าผมเป็นลูก ผมนึกว่าผมเป็นเด็กที่แม่เก็บมาเลี้ยงซะอีก”
“ไอ้อาที”
“เพี๊ยะ!” หลังเอ่ยชื่อบุตรชายเสร็จ ฝ่ามือก็ฟาดเปรี้ยงลงบนใบหน้าเจ้าตัว โทษฐานที่บังอาจมาพูดจายอกย้อน
“ฉันอุตส่าห์เบ่งแกออกมาใจแทบขาด แกมาพูดกับฉันแบบนี้เหรอไอ้ลูกไม่รักดี” จิตราจะทุบตีต่อ แต่ทำได้ไม่สะดวกนัก เมื่อจันทร์จวงลุกมาห้ามไว้ซะก่อน
“พอได้แล้วจิตรา เธอนี่มันยังไง ที่ฉันปรามที่ฉันสอน ไม่เคยฟังฉันเลยใช่มั้ย จะร้ายกาจไปถึงไหน นั่นมันลูกเธอนะ” 
คำพูดที่หลุดออกมาจากปากพี่สาว ช่วยสงบสติอารมณ์จิตราลงได้ จากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในวันสองวันที่ผ่านมา หล่อนเพิ่งโดนพี่สาวเอ่ยปรามไปเมื่อตอนก่อนหน้า ซึ่งหล่อนก็แค่รับปากว่าจะเชื่อฟังส่งๆ ไปอย่างนั้น เมื่อสักครู่จึงลืมตัวทำกิริยาร้ายกาจออกไป
“พี่จันทร์ไม่ได้ยินที่มันพูดกับจิตรเหรอคะ จิตรเบ่งมันออกมาสุดแรง แต่มันหาว่าจิตรเก็บมันมาเลี้ยง มันน่าน้อยใจมั้ยคะ” จิตราหันไปอธิบายเหตุผล จันทร์จวงถอนหายใจเอ่ยบอก
“เธอก็ลองทำตัวเสียใหม่ ให้ความรัก ความเอ็นดู ความเข้าใจกับลูกเธอให้มากกว่านี้สิ ถึงวันนั้นค่อยมาตีโพยตีพายแสดงความน้อยอกน้อยใจให้ฉันเห็น”
“พี่จันทร์” จิตราครางชื่อพี่สาวเมื่อโดนวาจาเฉือนใจจากเจ้าตัว หล่อนหันกลับมามองบุตรชายที่กำลังยืนน้ำตาคลอ แต่ก็ไม่วายต่อว่าเจ้าตัวอีก
“ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะ แกมันทำให้ฉันโดนว่าตลอด”
อาทีได้ยินถ้อยคำนั้นจึงไม่คิดยืนอยู่ให้ขวางหูขวางตาอีกต่อไป เด็กหนุ่มหมุนตัวจะเดินหนีเข้าห้อง นาทีนั้นหางตาเหลือบเห็นร่างพี่ชายกำลังเดินขึ้นเรือนมาพอดี จึงหันไปมองเจ้าตัวชัดๆ  ส่งสายตาชิงชังให้อย่างชัดเจน ก่อนจะรีบเดินหายไป
อาทิตย์ถอนหายใจเมื่อเห็นแววตาสุดท้ายที่น้องชายจ้องมองตน เกิดอะไรขึ้นอีกแล้วเนี่ย ชายหนุ่มแอบคิด
“อ้าวลูกอาทิตย์ มาแล้วเหรอ ไปอาบน้ำอาบท่านะ เดี๋ยวแม่จะให้เด็กตั้งสำรับรอ เนี่ยแม่สั่งให้พวกมันทำของโปรดของลูกไว้ตั้งหลายอย่างทั้งคาวทั้งหวาน มาทานให้อร่อยๆ นะ แล้วเราจะได้คุยกัน แม่ล่ะคิดถึงเรามากเลยรู้มั้ย” จิตราตีสีหน้ายิ้มแย้มเดินมาหาบุตรชายคนโต อาทิตย์ยิ้มให้เพียงนิด ก่อนหันไปมองทางที่น้องชายเพิ่งเดินหายไป รู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดในท่าทีสุดท้ายของฝ่ายนั้นที่ตนมองเห็น
“แล้วอาทีมันจะร่วมสำรับมั้ยแม่” ชายหนุ่มอดหันมาถามมารดาไม่ได้
“ไม่รู้” จิตราตอบสั้นๆ แล้วคะยั้นคะยอให้คนถามรีบไปชำระร่างกาย
อาทิตย์รับคำมารดาเดินเลี่ยงไป จันทร์จวงมองตามหลัง แล้วหันมามองน้องสาวตัวเองที่มองตามร่างงามของหลานชายตนเช่นกัน สีหน้าและแววตาเป็นประกายเหลือเกิน
“อย่างนี้ไงตาอาทีถึงได้น้อยใจ” นางเอ่ยออกมาส่ายหน้านิดๆ ในกิริยาลำเอียงของน้องสาวที่มีต่อบุตรชายทั้งสอง

**************************************************************
   
ในวงสำรับ อาทิตย์ไม่รู้สึกเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้ามากนัก เมื่อจิตใจคอยแต่จะคิดถึงน้องชายที่ไม่มานั่งรวมอยู่ด้วย ชายหนุ่มหันไปมองทางห้องพักเจ้าตัวเป็นระยะๆ จันทร์จวงสังเกตเห็นแต่ไม่อยากพูดอะไร ส่วนจิตรานั้นมัวแต่คอยตักโน่นตักนี่ให้บุตรชายสุดที่รัก จึงไม่ได้สนใจท่าทีเจ้าตัวมากนัก หล่อนเอ่ยปากคุยจ้อไม่หยุดถึงความในใจที่มีต่อบุตรชายในแง่ของความภูมิใจ
“อีกไม่กี่เดือนแล้วสินะที่แม่จะได้เห็นปริญญาใบแรกของลูก เห็นบอกแม่ว่ารอลุ้นเกียรตินิยมอยู่ใช่มั้ย แม่ล่ะภูมิใจในตัวลูกมากรู้มั้ยอาทิตย์ อย่างนี้มันค่อยสมเป็นลูกชายเจ้าคนนายคนหน่อย ดูสิ ไม่ใช่การเรียนจะดีเด่นอย่างเดียว กลับมาคราวนี้ดูรูปงามขึ้นเป็นกอง แต่อย่าเพิ่งคิดหาสะไภ้มาให้แม่นะ เรียนให้จบดอกเตอร์ไปเลย แม่สนับสนุนเต็มที่ คนเขาจะได้พูดกันทั้งจังหวัดว่าแม่น่ะเลี้ยงลูกดี มีลูกชายที่พร้อมสรรพทั้งฐานะ หน้าตา และก็การศึกษา”
“แล้วงานที่ไร่นี้ล่ะแม่ ใครจะมาช่วยดู ผมกะว่าหลังจากเรียนจบแล้วจะมาช่วยแม่และก็ป้าจันทร์สักระยะก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะเอายังไงต่อไป” อาทิตย์เสนอความคิด แต่กลับโดนปฏิเสธ
“ทางนี้แม่ยังดูไหวน่า มีนายศรคอยช่วยทุกอย่างก็ดูเบาไปเยอะลูกไม่ต้องห่วงหรอก ตั้งหน้าตั้งตาเรียนให้สูงๆ ไปเถอะ ไม่ต้องมาพะวงเรื่องนี้ หากแม่และป้าไม่ไหวกันจริงๆ แล้ว ก็ยังมีไอ้อาทีอีกคน เพราะดูท่าแล้วแม่คิดว่ามันคงเอาตัวรอดได้แค่ปริญญาตรีน่ะแหละ ไปคบหากับลูกขี้ข้าขนาดนั้น”
จันทร์จวงกระแอมเสียงขัดคอน้องสาวเมื่อเห็นเจ้าตัวเริ่มพูดเพ้อเจ้อ ใครกันจะให้หลานชายคนเล็กเรียนจบแค่ปริญญาตรี พี่ชายเจ้าตัวจบชั้นไหน น้องชายก็ต้องจบชั้นนั้นแหละ อิทธิอีกคน ขี้หมูขี้หมานางต้องส่งเสียเด็กคนนี้ให้จบชั้นสูงกว่ามัธยมปลายเป็นแน่ แต่จะส่งเสียถึงชั้นไหนนั้น อนาคตค่อยว่ากันต่อไป เด็กเรียนดีมุมานะแบบนี้นางยินดีสนับสนุนเสมอ นิสัยแบบนี้นี่แหละที่ทำให้นางนึกถึงสามีของนางที่หมดลมหายใจเมื่อนานมาแล้ว
“ข้าวติดคอก็ดื่มน้ำสิคะพี่จันทร์” แม้จะรู้ว่าโดนขัดคอแต่จิตราก็ใช่ว่าจะอยากรับรู้ หล่อนจึงบอกออกไปอย่างพาซื่อ จันทร์จวงเพียงแต่ส่ายหน้า ไม่อยากต่อปากต่อคำกับน้องสาว นางหันไปสนใจหลานชายถามไถ่ถึงบิดาเจ้าตัวบ้าง
“พ่อเราเป็นไงบ้างล่ะตาอาทิตย์”
“ท่านก็สบายดีครับป้าจันทร์ บ่นอยากกลับมาที่ไร่นี้จะตายแต่ติดที่งานรัดตัวเหลือเกินจึงไม่ค่อยมีเวลา ท่านฝากกราบป้าจันทร์ และก็ฝากบอกคิดถึงแม่ด้วยครับ” ประโยคท้ายชายหนุ่มหันมาบอกมารดา หลังจากที่เห็นป้าของตนพยักหน้ารับรู้แล้ว
“ข้ออ้างล่ะไม่ว่า” จิตราบอกหน้าตึง นานเท่าไหร่แล้วที่สามีไม่มีเวลาให้หล่อน แต่ช่างเถอะ ที่ไร่นี้ก็มีเรื่องให้คิดไม่เว้นแต่ละวัน หล่อนไม่ค่อยที่จะใส่ใจเรื่องรักใคร่ๆ เท่าเรื่องการหาทางกำจัดสองแม่ลูกที่หล่อนไม่ชอบหน้าให้พ้นจากเขตไร่นี้ก่อนที่พวกมันจะจองหองกับหล่อนมากนี้หรอก
“ท่านฝากบอกคิดถึงแม่จริงๆ ครับ รวมทั้งไอ้อาทีด้วย” เอ่ยถึงน้องชายขึ้นมาอาทิตย์ก็อดที่จะถามเรื่องปากท้องเจ้าตัวไม่ได้
“ปกติไอ้อาทีมันไม่กินข้าวเย็นแบบนี้ทุกวันเหรอครับแม่”
“มันก็เพิ่งจะเป็นวันนี้แหละ ไม่รู้มันเป็นอะไรของมัน โกรธที่ฉันไปตบไปตีสองแม่ลูกนั้นมั้ง” พูดถึงบุตรชายจิตราก็อดมีอารมณ์ฉุนไม่ได้ คำว่าเลือดข้นกว่าน้ำมันใช้ไม่ได้ทุกกรณีสินะแบบนี้ เพราะนานวันเข้าบุตรชายคนเล็กก็ยิ่งมีท่าทีเอนเอียงไปหาคนที่หล่อนไม่ชอบขี้หน้ามากขึ้นเรื่อยๆ วุ้ย นึกถึงเรื่องนี้แล้วพาลจะกลืนข้าวไม่ลง   
“เธอเองก็ทำเกินไปจริงๆ แหละจิตรา จะไปโทษว่าลูกโกรธลูกเกลียดฉันก็ว่ามันจะค่อยถูกนัก โดยพื้นเพแล้วอาทีมันก็เป็นเด็กที่ดี หลานที่ดีของฉันมาโดยตลอด เธอลองมองการกระทำของเธอก่อนเถอะว่าสมควรมั้ยที่ลูกชายจะรู้สึกอย่างนั้นกับเธอ จริงๆ อาทีก็ไม่ได้โกรธหรือเกลียดเธอหรอก แต่เพราะความน้อยใจต่างหากที่ทำให้ต้องแสดงกิริยาต่อต้านเธอแบบนี้” จันทร์จวงต่อว่าน้องสาวให้คิด
“มันจะมาน้อยใจจิตรทำไมกันคะพี่จันทร์ จิตรเคยปล่อยให้มันอดอยากปากแห้งเหรอคะ” จิตราเอ่ยค้านพี่สาว
“มันไม่ใช่เรื่องปากท้องหรอก มันเป็นเพราะเรื่องนิสัยร้ายกาจของเธอต่างหาก” พี่สาวต่อว่าตรงๆ ถึงเวลาที่นางจะต้องผสานรอยร้าวระหว่างน้องสาวกับหลานชายคนเล็กให้แนบสนิทกันเสียที
“ต๊าย! พี่จันทร์ว่าจิตรร้ายกาจหรือคะ” จิตราออกอาการรับไม่ได้
“ฉันพูดเรื่องจริง ฉันปล่อยให้เรื่องราวมันคาราคาซังมานานแล้ว ถึงเวลาที่ฉันควรจะพูดให้เธอคิดได้เสียที” จันทร์จวงว่าต่อ อาทิตย์นั่งฟังนิ่งๆ
“คิดได้เรื่องอะไรคะ ทุกวันนี้สิ่งที่จิตรทำมันถูกมันควรอย่างน่ายกย่องล่ะไม่ว่า คอยปกป้องคนที่จะมาฉอเลาะสูบเลือดสูบเนื้อพี่จันทร์อย่างสองแม่ลูกนั่น คอยหาหัวหน้าคนงานที่ดีและซื่อสัตย์มาดูแลไร่นี้อย่างนายศร จนเราสองคนเบาแรงไปเยอะ คอยอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นเจ้าคนนายคน มีเกียรติมีศักดิ์ ไม่ให้น้อยหน้าใคร คนที่ฟังก็ย่อมเจริญอย่างลูกอาทิตย์นี่แหละค่ะ ส่วนที่ไม่ฟัง คงไม่ต้องให้จิตรสาธยายถึงมันนะคะ พี่จันทร์ดูเองเถอะค่ะ” จิตราค้านพี่สาวอีก เอ่ยจบก็เชิดหน้านิดๆ ประหนึ่งว่าสิ่งที่ตนพูดล้วนแต่เป็นความจริงเสียทั้งนั้น จันทร์จวงได้ฟังก็ละเหี่ยใจจะต่อความ นางรู้นางเห็นของนางเองอยู่แล้วว่าแม่นางกับบุตรชายไม่ได้เข้ามาอยู่ในไร่แห่งนี้เพื่อคิดการร้ายอันใด สองคนนั่นอยู่ที่อย่างคนเจียมตัวมาโดยตลอด มีแต่น้องสาวเธอแหละที่เป็นบ้าไล่ขวิดอยู่ได้ทุกค่ำเช้า ถ้าสองแม่ลูกนั้นมีนิสัยร้ายกาจอย่างญาติสามีเก่านางที่อยู่ทางแถบภาคอีสานสงสัยไร่นี้คงจะกลายเป็นสมรภูมิรบจนไม่เป็นอันอยู่อันกินซะล่ะมั้ง โชคดีที่แม่นางไม่ได้มีนิสัยอย่างนั้น หนำซ้ำความอ่อนน้อมถ่อมตนที่เจ้าตัวมียังส่งมาถึงบุตรชายคนเดียวอย่างอิทธิจนนางอดที่จะชื่นชมไม่ได้ ก็เพิ่งจะมีพักหลังนี่เองที่เด็กนั่นเริ่มมีปากเสียงขึ้นมาหน่อย ซึ่งนางก็ไม่ได้คิดถือสาหาความให้วุ่นวาย เพราะเชื่อในความคิดตัวตัวเองว่าหากสิ่งที่น้องสาวทำไม่หนักหนาสาหัสเกินไป แม่นางคงไม่ยอมให้ฝ่ายนั้นมาเรียกร้องความยุติธรรมขนาดนี้แน่ มีแต่สองศรีพี่น้องบุตรนายศรนั่นต่างหากที่นางจะต้องตามสืบหาความว่าสิ่งที่ได้เอ่ยฟ้องตนและน้องสาวเป็นเรื่องจริงได้สักกี่คำ เป็นไปได้เหรอคนมีนิสัยเกเรแต่กำเนิดอย่างนายสินจะยอมให้คนอื่นทำร้ายได้ง่ายๆ และสาวน้อยก๋ากั่นมากจริตอย่างยัยส้มจะมีความหวังดีกับใครเป็น
“ผมอิ่มแล้ว เดี๋ยวผมขอตัวไปหาอาทีนะครับ” อาทิตย์เอ่ยออกมาเมื่อเห็นมารดาและป้าของตนเฉยชาใส่กันตอนโต้คารมกันเสร็จ
“อืม บอกตาอาทีด้วยว่าเดี๋ยวป้าจะให้เด็กยกสำรับไปให้ในห้อง” จันทร์จวงเอ่ยกับหลานชาย จิตรามองค้อนตามนิสัย เอ่ยขัดขึ้น
“อยากอดก็ให้มันอดไปสิ ทำไมจะต้องเอาของไปประเคนกันถึงห้องด้วยคะ”
“ก็นั่นมันหลานฉัน” จันทร์จวงพูดเสียดสี แล้วหันไปสั่งเด็กรับใช้ให้จัดสำรับเผื่อหลานตัวเองให้ชุดหนึ่ง
“จัดเสร็จเอามาให้ผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้น้องเอง” อาทิตย์เอ่ยตามหลัง จันทร์จวงยิ้มที่เห็นพี่ชายหวังดีกับน้องชาย แต่พอหันไปเห็นหน้าน้องสาวก็ต้องหุบยิ้มแล้วส่ายหน้าแทน ก็ฝ่ายนั้นนั่งคอตั้งหน้าเชิดอย่างคนทิฐิสูงอยู่มาไหวติง

*************************************************************************************
  อาทิตย์วางถาดสำรับไว้บนโต๊ะหน้าห้องน้องชาย แล้วเดินไปเคาะประตูเรียกให้เจ้าตัวเปิดประตู เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาจากข้างใน ชายหนุ่มยืนเท้าเอวถอนหายใจ จับใจความการโต้ตอบกันระหว่างมารดากับป้าก็พอจะเข้าใจว่าน้องชายกำลังตกอยู่ในอาการน้อยเนื้อต่ำใจ จึงอยากจะเข้าไปอธิบายให้อาการเจ้าตัวดีขึ้น
“อาทีเปิดประตูที อาหารเย็นหมดแล้ว” ชายหนุ่มส่งเสียงเรียก พลางเคาะประตูอีกรอบ ยืนรอสักพัก เห็นภายในห้องยังเงียบเช่นเดิม จึงเตรียมจะยกสำรับเดินหนี แต่แล้วประตูห้องก็ถูกเปิดออกในนาทีถัดมา
“เออ เปิดซะที ให้ยืนเคาะอยู่ได้นานสองนาน” ชายหนุ่มต่อว่าน้องชายนิดๆ แล้วหันไปยกสำรับอาหารเดินผ่านเจ้าตัวเข้าไปวางไว้บนโต๊ะในห้อง
“กินข้าวซะ จะได้คุยกัน มีหลายอย่างที่ฉันอย่างเคลียร์กับแกให้เข้าใจ” บอกออกไปเมื่อวางสำรับเสร็จ
อาทีปิดประตูหันมาเผชิญหน้าพี่ชาย เอ่ยบอก
“ผมไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกินป้าจันทร์อุตส่าห์ให้ฉันเอามาให้” อาทิตย์บอก
“ถ้าป้าจันทร์ไม่บอกก็คงไม่มีใครสนใจผมสินะ” อาทีเอ่ยคล้ายประชด
“ใครที่แกเอ่ยถึงคือฉันกับแม่ใช่มั้ย” อาทิตย์ถาม สองพี่น้องจึงเริ่มตอบโต้กัน
“คงไม่ใช่หรอก คนงานในไร่มั้ง”
“แกจะประชดใส่ฉันมันก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่แกอย่าทำกิริยาแบบนี้กับแม่อีกเด็ดขาด เขาเบ่งแกมา ถึงเขาจะดุจะร้ายยังไงเขาก็คือแม่”
“แล้วเขาเคยว่าผมเป็นลูกบ้างมั้ยล่ะ”
“แล้วอะไรล่ะที่ทำให้แกคิดว่าเขามองแกไม่ใช่ลูก”
“ทุบตีด่าทอไม่เว้นแต่ละวัน แม่ที่ไหนเขาทำกับลูกแบบนี้ ผมถามหน่อยเหอะ”
“แล้วเรื่องที่ท่านว่าท่านตีมันตรงกับพฤติกรรมของแกหรือเปล่าล่ะ ฉันพอจะรู้นะว่าที่แม่เขาต้องร้ายใส่แกแบบนี้เพราะแกมันไปข้องแวะกับนายอิทธินั่นเกินไป”
“แล้วยังไง ไอ้อิทมันเพื่อนผม ทำไมแม่จะต้องห้ามไม่ให้ผมไปข้องแวะกับมันด้วย”
“แกก็รู้ว่าแม่ไม่ค่อยชอบหน้าแม่นายนั่น มันก็ไม่แปลกที่ท่านจะพาลมาถึงลูก”
“ไร้เหตุผลสิ้นดี เกลียดแม่แต่มาลงที่ลูก แต่พูดก็พูดเถอะ แม่นางไปทำอะไรให้แม่ต้องจงเกลียดจงชังขนาดนั้นด้วย เขาก็อยู่ของเขาดีๆ ทำงานให้ไร่ ดูแลบัญชีให้ไร่ ไม่ให้นายศรมาโกงกิน แม่น่าจะขอบคุณแม่นางด้วยซ้ำถึงจะถูก”
“ไอ้เรื่องจงเกลียดจงชังอะไรนั่นมันเรื่องของผู้ใหญ่แกอยากจะรู้ไปทำไม ขนาดฉันเป็นพี่แกฉันยังไม่เคยคิดจะถามแม่หรือป้าจันทร์ แม่ยังไงก็คือแม่ ท่านสั่งอะไรแกก็ฟังๆ ไปซะก็หมดเรื่อง จะต้องทำตัวคัดค้านทำไม”
“แต่ที่แม่ทำมันเกินเหตุจริงๆ พี่อาทิตย์จากที่นี่ไปนานพี่จะรู้จะเห็นอะไร หนำซ้ำยังหูเบาให้คนอื่นเขาหลอกเอาง่ายๆ อีก ผมไม่อยากให้แม่ตกเป็นเครื่องมือของใครในการกลั่นแกล้งแม่นางกับอิทธินะ”
“แกหมายถึงครอบครัวนายศรเหรอ”
“ก็จะใครซะอีกล่ะ ก็มีอยู่ครอบครัวเดียวนี้แหละที่คอยยุแหย่แม่ตลอด”
“เรื่องนี้ฉันไม่รู้โว้ย ฉันยังไม่เห็นกะตา เอาเป็นว่าตอนนี้แกเลิกทำตัวประชดประชันและก็ต่อล้อต่อเถียงกับแม่เขาเสียที โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วยังทำตัวเป็นลูกมีปัญหาอีก”
“พี่คิดว่าผมอยากทำตัวมีปัญหาหรือไง แต่ผมทำดีให้ตายยังแม่ก็ไม่เคยภูมิใจในตัวผมเท่าพี่หรอก”
“นี่ใช่ไหมคือสาเหตุที่แกไม่อยากคุยกับฉัน ไอ้ลูกหมาเอ้ย เราสองคนเป็นพี่น้องกันนะ และก็เป็นลูกแม่ทั้งคู่ จะมาอิจฉาริษยากันเพราะเรื่องแค่นี้ทำไม ถึงแม่ถือหางฉันยังไง ฉันก็ยังรักแก เป็นห่วงแกในฐานะที่แกเป็นน้องฉันอยู่ดี แค่แกทำตัวให้ดี ตั้งใจเรียน อยู่ในโอวาทแม่ แค่นี้แม่เขาก็ภูมิใจในตัวแกได้แล้ว เชื่อฉันสิ”
“พี่ดูต่างจากเมื่อก่อนมากเลยนะพี่อาทิตย์”
“ฉันจะเรียนจบปริญญาตรีอีกไม่กี่เดือนแล้วนะ ฉันก็ต้องเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้างสิวะ”
“แล้วอคติที่พี่มีต่อไอ้อิทมันลดลงด้วยหรือเปล่า”
เจอคำถามตรงๆ แบบนี้อาทิตย์ถึงกับเงียบไปครู่ใหญ่ นึกคิดถึงใบหน้ายโสและแววตาท้าทายของอิทธิขึ้นมาพลัน ตอนนี้ความรู้สึกมันก้ำกึ่งกันระหว่างจะยอมญาติดีกับนายนั่นง่ายๆ โดยการเข้าไปขอโทษขอโพยในสิ่งที่ตัวเองทำตัวแย่ๆ ในวัยเด็กไว้กับมารดาของเจ้าตัว กับต้องการกำราบให้เจ้าตัวสำนึกตัวเขาเองก็เป็นถึงหลานเจ้าของไร่ซึ่งให้พึ่งใบบุญอยู่ อย่างน้อยๆ ก็ควรจะให้ความเคารพตนบ้าง ไม่ใช่คอยแต่จะแยกเขี้ยวใส่เมื่อได้เจอ ไม่รู้จะแค้นฝังหุ่นอะไรกับตนนักหนา กลับมาคราวนี้ก็คิดมาตลอดทางว่าอยากจะเจอบรรยากาศใหม่ๆ ภายในไร่บ้าง ที่ไหนได้ เท้าแตะพื้นดินเกิดได้ไม่เท่าไหร่ มารดาก็เปิดปากฟ้องถึงนิสัยยโสฝ่ายนั้นให้ได้ยินจนต้องตามไปเพื่อให้เห็นกับตา จะได้กำราบได้ถูก แล้วมันก็เป็นจริง ยังจำได้ถึงแววตาท้าทายและวาจาร้ายๆ ของนายนั่นตอนที่ได้พบเจอเมื่อช่วงหัวค่ำ คิดถึงแล้วมันน่านัก เจออีกเมื่อไหร่นะ ฮึ่ม!
สุดท้ายอารมณ์หมั่นไส้ก็ทำให้ความต้องการกำราบมีมากกว่าการอยากขอญาติดี

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 24-12-2010 22:44:12
เหอๆ
ถ้าเราเป็นอาทีเราทำยิ่งกว่านี้อีก - -
เมื่อไหร่จะฉะกันใหม่น้อ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 24-12-2010 23:19:23
เหอๆ
ถ้าเราเป็นอาทีเราทำยิ่งกว่านี้อีก - -
เมื่อไหร่จะฉะกันใหม่น้อ^^

ก็ว่าอยู่ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-12-2010 00:43:11
รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 25-12-2010 00:44:10
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-12-2010 01:05:25
อ่านแล้วอยากตบ นางจิตราจริงๆ หึ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 25-12-2010 01:19:36

• กลับมาคราวนี้ดูรูปงามขึ้นเป็นกอง แต่อย่าเพิ่งคิดหาสะไภ้มาให้แม่นะ.......
“เขยล่ะครับ?” :z7:
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-12-2010 10:19:12
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
อยากดูตอนปะทะกันอีก อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 25-12-2010 10:32:01
อยากเห็นหน้ายัยจิตราตอนที่รู้ว่าอาทิตย์ปิ๊งปั๊งอิท  เหอ เหอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-12-2010 11:35:38
อืม! เหมือนอยากจะให้ อาทิตย์ ข่มขืน อิท
จากสาเหตุอะไรสักอย่าง...
แล้วอิท ก็หนีไปที่อื่น จนทำให้ อาทิตย์ คลั่ง
แล้วก็ให้นายศรออกลาย...
จิตราก็จะได้หน้ายับ

ถ้าเนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ได้ ก็คงดีนะขอรับ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: sahapatjung ที่ 25-12-2010 14:22:52
โอย มาต่อเร็วๆน้า

อยากให้อาทิตกำราบเร็วๆ

555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 25-12-2010 16:49:03
เอ่นายอาทิตย์ หูเบาอย่างอาทีว่าจริงๆๆๆ เชื่อแม่ตลอด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-12-2010 23:12:25
สุขสันต์วันคริสต์มาสจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 26-12-2010 11:44:02
เมื่อไหร่พี่น้องจะดีกันนะ
แต่อาทีน่าสงสารจริงๆ น่ะแหละ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-12-2010 13:41:37
พี่น้องจะรักใคร่ผูกพันกัน ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูของพ่อแม่
ถ้าพ่อแม่มีจิตเป็นธรรมไม่เอนเอียง ลูกๆจะไม่มีจิตอิจฉาริษยากัน
อาทีนี่ถ้าไม่มีป้าเป็นหลักยึด และให้ความเมตตาแล้วล่ะก้อ
จะต้องเป็นเด็กเก็บกดมีปัญหาแน่ๆ เพราะมีแม่นิสัยแย่ๆแบบจิตรา
นายอาทิตย์นี่สมเป็นลูกยัยจิตรา เพียงแต่ตอนโต ได้มีโอกาสออกไปเห็นโลกกว้าง
ไม่ได้จำเจอยู่กับแม่ตลอดเวลา โลกทัศน์จึงกว้างขึ้น มุมมองบางมุมก็เปลี่ยนบ้าง
แต่ลูกไม้เนอะ ก็ต้องหล่นไม่ไกลต้น อาทีน่าจะเป็นลูกป้าเนอะนิสัยไม่เหมือนแม่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 26-12-2010 18:10:40
เห็นด้วยกะยาหยีคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-12-2010 20:15:48
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 26-12-2010 21:03:17
ดีใจมากเลยครับที่เรื่องใหม่ของคุณบอย

ผมไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดเท่าไหร่

แต่ดีใจมากครับที่เจอ

รอมานานแล้ว

เป็นกำลังใจให้ครับคุณบอย

ขอบคุณคุณบอยและนิยายของคุณบอย

ที่ทำให้ผมมีกำลังใจเมื่อยามที่ท้อ

ผมไม่เคยลืมครับ

จะเป็นแฟนคลับคุณบอยต่อไปครับ

เป็นกำลังใจให้ครับ :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 26-12-2010 23:23:08
อืม! เหมือนอยากจะให้ อาทิตย์ ข่มขืน อิท
จากสาเหตุอะไรสักอย่าง...
แล้วอิท ก็หนีไปที่อื่น จนทำให้ อาทิตย์ คลั่ง
แล้วก็ให้นายศรออกลาย...
จิตราก็จะได้หน้ายับ

ถ้าเนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ได้ ก็คงดีนะขอรับ  :man1:



กด like พันครัง ฮ่าๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะครับบบ

+1
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 27-12-2010 12:13:02
รอวันที่ยายจิตราได้อิทธิเป็นสะใภ้(คนโต)555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 27-12-2010 12:45:04
 :เฮ้อ: เซ็งป้าจิตร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-12-2010 23:07:20
จะมาตอนปิใหม่หรือเปล่าน้อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 02-01-2011 21:37:06
สุขสันต์ปีใหม่ครับคุณบอย :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 02-01-2011 23:32:02
อาทิตย์มาช่วยน้องอิทธิหน่อยเร้ว
อย่าทะเลาะกันเลยน่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 03-01-2011 16:10:52
สงสารแม่นางกับอิทธิจัง  ป้าจิตรแกจะจองเวรจองกรรมอะไรหนักหนาเนี่ย :m16:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-01-2011 18:27:27
มารอคุณบอยยย
สวัสดีปีใหม่ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 03-01-2011 22:07:59
สวัสดีปีใหม่คะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-01-2011 22:44:59
อืม! เหมือนอยากจะให้ อาทิตย์ ข่มขืน อิท
จากสาเหตุอะไรสักอย่าง...
แล้วอิท ก็หนีไปที่อื่น จนทำให้ อาทิตย์ คลั่ง
แล้วก็ให้นายศรออกลาย...
จิตราก็จะได้หน้ายับ

ถ้าเนื้อเรื่องเป็นแบบนี้ได้ ก็คงดีนะขอรับ  :man1:



กด like พันครัง ฮ่าๆๆๆ

เป็นกำลังใจให้นะครับบบ

+1

แบบนี้ก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-01-2011 00:23:47
เข้ามาบอกว่าวันนี้ประมาณเที่ยงๆ จะมาอัพตอนใหม่นะครับ พอดีเพิ่งกลับมาจากต่างจังหวัด รออ่านกันนะครับ
ขอบคุณครับ
Boy
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: HussKii ที่ 04-01-2011 03:07:13
^
^
เข้ามาจิ้มคุณ บอยยยย ><

จะรอนะคะ  ผักผ่อนให้เยอะๆแล้วรีบมาต่อนะคะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-01-2011 03:11:28

วุ้ย อาทิตย์ตื่นแล้ว กำลังอาบน้ำแต่งตัว
เตรียมมาต่อปากต่อคำกับอิฐ อิอิ
 :z7:
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-01-2011 10:14:47
มารอ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-01-2011 11:46:31
ตอนที่ ๑๐
เช้าวันใหม่อาทิตย์แสดงความต้องการที่จะขับรถไปส่งอาทีที่โรงเรียนเอง โดยให้เหตุผลว่าอยากที่จะไปสูดเอาบรรยากาศตอนที่ตนยังใช้ชีวิตเป็นนักเรียนอยู่ที่นั่น หากโชคดีเจออาจารย์ที่เคยอบรมสั่งสอนก็อยากที่จะเข้าไปกราบทำความเคารพบ้าง
“ถนนเส้นนี้มันเปลี่ยนไปมากตอนที่พี่ไม่อยู่ ให้ลุงไกรขับไปส่งผมน่ะดีแล้วครับ” อาทีหาข้อแย้งเพราะยังรู้สึกญาติดีกับพี่ชายได้ไม่สนิทใจนัก
“พี่เขาอุตส่าห์หวังดีอยากขับรถให้นั่งยังจะมาตั้งแง่อีกนะไอ้อาที เดี๊ยะ ให้เดินไปเองซะนี่” จิตราที่ยืนอยู่ด้วยเอ่ยว่ากระทบ เช้าๆ แบบนี้จันทร์จวงยังไม่ทันได้ออกมาถือหางลูกชายคนเล็กของหล่อน หล่อนจึงเสียงดังได้เต็มปาก
“ให้ผมไปเองก็ดีสิครับ ผมจะได้ไปกับไอ้อิทมัน แม่กล้าหรือเปล่าล่ะ” อาทีหันไปเอ่ยกับมารดา ซึ่งตอนนี้พอได้ยินชื่ออิทธิ ใบหน้าเจ้าตัวถึงกับตึงให้เห็น
“เป็นลูกไปเอ่ยท้าทายแม่ได้ไงอาที ไม่ไหวนะนาย” อาทิตย์ตำหนิน้องชาย ไม่เข้าใจว่าทำไมน้องชายตนถึงได้ติดหนึบนายอิทธินั่นนักหนา
“มันเคยเคารพแม่ที่ไหนล่ะอาทิตย์ แม่ว่าลูกอย่าไปยุ่งกับมันเลยนะ มันไม่อยากให้ไปส่งก็ไม่ต้องไป อยากจะไปในเมืองไปกับแม่ก็ได้ แม่จะพาไปกราบคนโน้น ไหว้คนนี้เอง จะอวดซะหน่อยว่าลูกแม่งามทั้งรูป สูงทั้งการศึกษา ไม่ได้เป็นลูกชาวป่าชาวดอยธรรมดา แม่ว่านะหากคนเมืองนี้ได้เห็นลูกตอนนี้จะต้องชื่นชม ชื่นชอบกันแน่ๆ ทีนี้ล่ะแม่จะเดินยืดอกเชิดหน้าซะให้พอ หลังจากที่ไม่ได้ดั่งใจจากลูกนอกคอกแถวนี้มานาน” ถึงตอนนี้จิตราชายตามองบุตรชายคนเล็กหมิ่นๆ อาทิตย์มองตามผ่อนลมหายใจอย่างหนักใจในกิริยาน้องชายที่ส่ายหน้าคล้ายเอือมระอาในคำพูดและการกระทำของมารดา ก็เข้าใจว่ามารดาตนน่ะพูดเกินไปหน่อย แต่อย่างน้อยท่านก็เป็นผู้ให้กำเนิด น้องชายตนนี่มันเหลือเกินจริงๆ
“ถ้าแม่จะทำขนาดนั้นผมแนะนำให้แม่จัดขบวนรถแห่พี่อาทิตย์รอบเมืองเลยดีกว่าคนทั้งจังหวัดจะได้ชื่นชมทั้งลูกทั้งแม่สมใจ” อาทีเอ่ยขึ้นในขณะอาทิตย์กำลังหนักใจ ชายหนุ่มหันมองน้องชายอย่างเต็มตาเมื่อได้ฟังเจ้าตัวเอ่ยจบ กำลังจะเอ่ยปากต่อว่าที่กล้าล้อตนกับมารดา แต่แล้วก็ไม่ทัน เมื่อเจ้าตัววิ่งลงจากเรือนไปพร้อมคำพูดทิ้งท้ายกับคนขับรถ
“ลุงไกรไม่ต้องไปส่งผมนะครับ ผมจะซ้อนท้ายจักรยานไอ้อิทไปเอง”
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะขับรถไปส่งแกอาที” อาทิตย์วิ่งไปส่งเสียงบอกน้องชายที่ชานเรือน คิดว่าเจ้าตัวคงไม่ได้ยิน เมื่อสายตามองเห็นแค่หลังไวไว
“ปากคอมันร้ายขึ้นทุกวัน กระแนะกระแหนแม่ล่ะเก่งนัก สงสัยยัยแม่นางมันสอนมา ฮึ! อยากอวดดีกับฉันก็เอา” จิตราเอ่ยคาดโทษตามหลัง อาทิตย์หันหน้ากลับมามอง เห็นสีหน้ามารดาแสดงถึงความโกรธเคืองก็รู้สึกไม่สบายใจ กลัวเหลือเกินว่าเรื่องราววุ่นวายจะเกิดขึ้นในไร่นี้อีก
“เดี๋ยวผมขับรถไปรับมันตรงปากทางไร่ก็ได้ครับแม่” ชายหนุ่มเอ่ยบอกมารดาและไม่รอฟังคำทัดทานใดๆ ร่างสูงวิ่งลงจากเรือนขอกุญแจรถจากลุงไกรแล้วตรงขึ้นรถขับออกจากเขตเรือนทันที
ทางฝั่งอาทีที่คะยั้นคะยอขอซ้อนท้ายรถจักรยานอิทธิได้สำเร็จหลังจากที่โดนเจ้าตัวไล่ให้กลับมาขึ้นรถของคนขับรถแต่เด็กหนุ่มไม่ยอมท่าเดียว
“มึงนี่นะ หาเรื่องให้กูอีกสิเนี่ย” อิทธิต่อว่าขณะทำหน้าที่ปั่นจักรยานให้อาทีซ้อนท้ายไปตามถนนที่จะออกไปทางปากทางของไร่ที่เชื่อมต่อไปยังโรงเรียน
“กูหมั่นไส้แม่กับพี่อาทิตย์นี่หว่า ไม่รู้จะเห่ออะไรกันนักหนา” อาทีบอก อิทธิไม่รู้จะปลอบยังไงเพราะตนก็เป็นคนนอก พูดอะไรมากไปก็ดูจะไม่ดี เด็กหนุ่มจึงปั่นจักรยานต่อไปเงียบๆ กระทั่งเกือบจะถึงปากทางจึงชะลอความเร็วลงเมื่อสายตาแลเห็นรถยนต์คันคุ้นตาจอดอยู่ริมถนน
“รถลุงไกรนี่หว่าอาที สงสัยมาดักรอมึงมั้ง” เด็กหนุ่มบอกเพื่อนในขณะที่เท้ายังปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ อาทีเยี่ยมหน้าออกไปมองบ้าง
“กูว่าไม่ใช่ลุงไกรว่ะ” หนุ่มน้อยบอกออกมา คนได้ฟังนึกงงจึงถาม
“ไม่ใช่ลุงไกรแล้วจะใคร ก็นั่นมันรถที่แกขับรับส่งมึงประจำ”
“พี่อาทิตย์” อาทีตอบออกมาเสียงนิ่ง แล้วก็ต้องร้องโอ้ยออกมาเมื่อใบหน้าทิ่มชนหลังคนข้างหน้าเต็มแรง สาเหตุเกิดจากที่ฝ่ายนั้นหยุดรถอย่างกะทันหันหลังฟังคำตนจบ
“จะหยุดรถก็บอกกูบ้างสิวะ” หนุ่มน้อยโวยใส่เพื่อน พลางลงจากจักรยานยืนลูบหน้าตัวเองบรรเทาอาการเจ็บ
“เฮ้ย! กูขอโทษ” อิทธิรีบเอ่ยขอโทษ เผลอเอื้อมมือไปลูบหน้าเพื่อน จังหวะนั้นอาทิตย์ได้ออกมาจากรถมองเห็นเข้าพอดี
“เฮ้ย! ทำอะไรกันวะ” ชายหนุ่มตะโกนถามลั่นเมื่อรู้สึกแปลกๆ กับภาพที่เห็น งามหน้ามั้ยล่ะ เด็กผู้ชายมายืนลูบหน้ากันริมถนน เกิดคนรู้จักขับขี่รถผ่านไปมาเห็นจะคิดกันยังไง
สองหนุ่มที่ยืนคู่กันหันไปมองทางต้นเสียงที่ตะโกนมา ต่างคนต่างผ่อนลมหายใจเมื่อเห็นอาทิตย์เดินแกมวิ่งเข้ามาหา
“เสียงดังเหมือนแม่ไม่มีผิด” อาทีบ่นแค่เบาๆ อิทธิหันมองหน้าเอ่ยบอก
“มึงไปโรงเรียนกับเขาเถอะ กูไปก่อนล่ะ” เด็กหนุ่มคิดจะเลี่ยงหนีเพราะไม่อยากอยู่เผชิญหน้ากับคนที่ตนยังไม่อยากญาติดีด้วยเท่าไหร่นัก
“เฮ้ย ทิ้งกูได้ไงวะ” อาทีรีบแย้งพลางเอื้อมมือไปคว้าแขนเพื่อนไว้ พร้อมๆ กับที่อาทิตย์พาร่างสูงมายืนอยู่ด้วยพอดี
“ไปกับฉันอาที ฉันจะขับรถไปส่ง” ชายหนุ่มเอ่ยบอกน้องชายพลางส่งสายตาว่าไม่พอใจที่เห็นน้องชายถึงเนื้อถึงตัวเพื่อนชายท่ามกลางที่โล่งแจ้งแบบนี้
“ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมอยากนั่งจักรยาน” อาทีตอบพร้อมกับปล่อยมือออกจากแขนอิทธิ
“เศษเหล็กพังๆ แบบนี้จะพานายถึงโรงเรียนกี่โมงกัน” อาทิตย์ได้ทีแขวะ ทุกทีสิน่าเวลาอยู่ใกล้กันทีไรทำไมถึงรู้สึกได้ถึงรังสียโสและโอหังของนายอิทธิได้ทุกครั้ง ดูมันมองมาสิ ถ้าสายตามันเป็นมีด คอเขาคงขาดกระเด็นแล้วมั้งป่านนี้
“มองทำไม จะไปก็ไปสิ เดี๋ยวน้องฉันฉันไปส่งเอง” ชายหนุ่มเอ่ยบอกในตอนที่เห็นสายตาคมดุของอิทธิมองตนไม่กระพริบ
“เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ” อิทธิอดไม่ได้ที่จะแขวะกลับก่อนจะรีบปั่นจักรยานหนีไป
“ปากดีนักนะ” อาทิตย์เอ่ยลอดไรฟันตามหลังพลางมองตามร่างอิทธิที่กำลังห่างสายตาไปเรื่อยๆ 
“เฮ้ย! ไอ้อิทรอกูด้วย” อาทีทำท่าจะวิ่งตาม อาทิตย์รีบฉุดแขนไว้พลางลากไปทางรถที่ตนจอดอยู่
“ไม่อยากสายก็ตามมา” ชายหนุ่มเอ่ยสั่งน้องชายออกแรงบีบข้อมือเจ้าตัวไม่ยอมปล่อยกระทั่งจับร่างโยนใส่เบาะหลังรถได้สำเร็จ ส่วนตัวเองก็รีบทำหน้าที่เป็นคนขับ สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ก็ออกรถตามหลังอิทธิขับจี้เจ้าตัวอย่างจงใจพลางบีบแตรไล่อย่างนึกสนุก
“ไปแกล้งไอ้อิทมันทำไมพี่อาที” อาทีเอ่ยต่อว่าพี่ชายเมื่อเห็นเจ้าตัวหัวเราะชอบใจที่เห็นอาการตกใจของอิทธิตอนตัวเองกระหน่ำบีบแตรรถไล่หลัง
“ไม่เห็นเหรอว่ามันปากดีใส่ฉัน” อาทิตย์ตอบน้องชายพลางขับรถไล่จี้ให้อิทธิปั่นจักรยานตกลงไปตามไหล่ทางจนเสียหลักล้มลงจึงได้ขับแซงไปอย่างไม่แยแส อยากปากกล้ากับเขาก่อนทำไมล่ะ จักรยานปั่นด้วยความเร็วแค่นั้นล้มลงไปแค่นี้อย่างดีก็คงแค่แผลถลอก มันคงไม่คอหักตายง่ายๆ หรอกมั้งถ้าไม่สำออย ชายหนุ่มยิ้มเยาะออกมาหน่อยๆ เมื่อมองกระจกมองหลังเห็นอิทธิยันกายลุกขึ้นปัดไม้ปัดมือ
“พี่อาทิตย์ ทำไมพี่ทำได้ขนาดนี้ จอดรถเลยนะผมจะไปดูไอ้อิท” อาทีโพล่งปากว่าพี่ชายพร้อมออกคำสั่ง รู้สึกเหลือทนกับการกระทำอันธพาลของพี่ชาย
“มันไม่เป็นไรหรอก เห็นมั้ยว่ามันลุกขึ้นได้แล้ว แกอยู่เฉยๆ เหอะ นี่มันสายแล้วนะ” อาทิตย์ตอบกลับน้องชายดุๆ อาทีไม่รู้จะโต้กลับยังไงเพราะรู้สึกจุกกับการกระทำของพี่ชายจนพูดไม่ออก เด็กหนุ่มจึงนั่งนิ่งข่มความรู้สึกโกรธเอาไว้ คิดว่าเมื่อถึงโรงเรียนค่อยถามไถ่อาการเพื่อนเอา
รถจอดเทียบหน้าโรงเรียน อาทีเปิดประตูรถได้ก็พาร่างวิ่งกลับไปยังทางเดิมที่คิดว่าอิทธิกำลังปั่นจักรยานตามมา อาทิตย์ส่ายหน้าให้กับอาการร้อนรนของน้องชาย มองนาฬิกาเห็นว่ายังไม่ถึงเวลาเข้าเรียนจึงหาที่จอดรถแล้วลงเดินไปสมทบ
“ส่งผมแล้วก็กลับไร่ไปสิ หรือจะไปไหนพี่ก็ไปจะมายืนขวางหูขวางตาไอ้อิททำไม” อาทีต่อว่าพี่ชายที่ยืนขนาบร่าง
“ฉันก็เป็นห่วงเพื่อนแกเหมือนกันนะ” อาทิตย์ตอบยียวน อาทีส่ายหน้าระอา ไม่อยากจะต่อปากต่อคำจึงยืนรออิทธินิ่งๆ สักพักก็เห็นเจ้าตัวปั่นจักรยานเข้ามาด้วยมือเพียงข้างเดียว
“เฮ้ย! ไอ้อิท แขนแกได้แผลนี่” อาทีทักเพื่อนอย่างตกใจพลางตรงเข้าไปดูอาการเมื่อเจ้าตัวจอดจักรยานตรงหน้า อาทิตย์ใจกระตุกหน่อยๆ ที่เห็นเลือดสีแดงสดไหลโชกตามแขนด้านซ้ายของคนที่ตนกลั่นแกล้ง บาดแผลจริงๆ เกิดขึ้นที่บริเวณข้อศอกของเจ้าตัวที่ทิ้งรอยเหวอะให้เห็น
“โดนกิ่งไม้ทิ่มน่ะ กูไปห้องพยาบาลก่อนนะ” อิทธิตอบเพื่อนก่อนจะหันมองคนต้นเหตุที่ทำให้ตนได้แผลด้วยสายตาชิงชัง
“ฉันไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้” อาทิตย์ตอบเสียงเบา รู้สึกผิดอยู่ไม่น้อยที่ความคะนองของตนทำให้อีกคนได้แผลขนาดนี้
“คำแก้ตัวของอันธพาลไงไอ้อิท มึงไม่ต้องไปฟังนะ” อาทีไม่ได้เข้าข้างพี่ชาย เพราะรู้สึกรังเกียจการกระทำของเจ้าตัวมาตั้งแต่ต้นแล้ว หนุ่มน้อยมองใบหน้าพี่ชายอีกคน
“เฮ้ย! ฉันขอโทษก็ได้” อาทิตย์เอ่ยออกไปเมื่อถูกสองสายตาจ้องมองราวกับรวมหัวกันเพื่อที่จะเฉือนคอหอยตนให้ขาดสะบั้น
“เก็บเอาคำๆ นี้ไปบอกกับป้าจันทร์เถอะครับ” อาทีเป็นฝ่ายบอกออกมาก่อนจะอาสาเป็นคนปั่นจักรยานให้เพื่อนซ้อนท้ายบ้างเพื่อตรงไปยังห้องพยาบาล อาทิตย์พอเห็นน้องชายเดินไปจับจักรยานและอิทธิยืนเพื่อจะรอซ้อนท้าย จึงใช้ความไวคว้าแขนเจ้าตัวตรงไปยังรถที่ตนจอดอยู่
“แกเอารถเพื่อนแกไปเก็บนะอาที ส่วนเพื่อนแกฉันขับพาเข้าไปห้องพยาบาลเองท่าจะเร็วกว่า” ชายหนุ่มเอ่ยออกคำสั่งในขณะที่สองหนุ่มกำลังตกอยู่ในภาวะมึนงงทั้งสองคน คิดไม่ถึงว่าอาทิตย์จะจบเรื่องลงแบบนี้
บนรถในขณะที่นั่งอยู่ด้วยกันสองคน อิทธิเอาแต่นั่งนิ่งห้ามเลือดตัวเอง ใบหน้าเริ่มแสดงความเจ็บปวดให้เห็น อาทิตย์เหลือบมองเป็นระยะๆ เอ่ยปลอบพลางถาม
“อีกนิดจะถึงแล้ว ห้องพยาบาลยังอยู่ตึกเดิมใช่มั้ย”
“ตึกเดิม” อิทธิตอบห้วนๆ ซี้ดส์ปากข่มความเจ็บปวดที่เริ่มรู้สึกอีกในจังหวะที่อาทิตย์เลี้ยวรถเข้าจอดหน้าตึกห้องพยาบาลพอดี
“ถึงแล้ว ปะ” อาทิตย์ดับเครื่องยนต์เอ่ยชวนคนข้างกายอย่างร้อนรนเช่นกัน ชายหนุ่มลงรถไปก่อนแล้ววิ่งอ้อมไปช่วยพยุงคนเจ็บแผลเดินไปท่ามกลางสายตานักเรียนรุ่นน้องหนึ่งในนั้นคือส้มที่เดินผ่านเข้ามาเห็นพอดี
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดส์....พี่อาทิตย์ ทำไมมาโผล่ที่นี่ได้คะพี่ นี่พี่อาทิตย์จริงๆ ใช่มั้ยคะ กรี๊ดดด...” สาวรุ่นออกอาการจริตแตกวิ่งเข้าเกาะแขนชายหนุ่มที่ตนเคยแอบหลงรักโดยไม่แคร์สายตาใคร อาทิตย์จึงรีบปรามไว้
“ใจเย็นส้ม ใจเย็น นี่พี่เอง ส้มตาไม่ฝาดหรอก ตอนนี้พี่ขอพาอิทไปทำแผลก่อนนะ”
“ต๊าย! ซุ่มซ่ามไปโดนอะไรมายะไอ้ลูกคนงาน ทะเร่อทะร่าสมเป็นลูกยัยแม่นางจริงๆ นะแก” ส้มเอ่ยใส่หน้าอิทธิทันควันเมื่อมองเห็นเจ้าตัวเลือดโชกที่แขน
“คุยกันไปนะทั้งสองคน ขอตัวล่ะ” อิทธิไม่อยากให้เรื่องบานปลายจึงรีบปลีกตัวหนีไป อาทิตย์ทำท่าจะตามไปแต่โดนส้มคว้าแขนไว้ สาวน้อยตะโกนลั่นบริเวณเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดี
“ทุกๆ คนค้า นี่พี่อาทิตย์ค่ะ รุ่นพี่ของเราที่นี่คะ เท่มั้ยคะ หล่อมั้ยคะ พี่เขากลับมาหาส้มค่ะ เมื่อก่อนเราสองคนสนิทกันม๊ากมากค่ะ สมกันใช่มั้ยคะ พี่ก็หล่อน้องก็สวย ส้มขอตัวพาพี่เขาไปหาอาจารย์ที่เราสองคนสนิทก่อนนะคะ แล้วจะควงกลับมาให้ชมความหล่อค่ะ รอนะคะ”
เพราะเป็นสาวน้อยจริตสูงเพื่อนๆ ทั้งโรงเรียนจึงค่อนข้างรู้จักส้มในแง่สาวน้อยมากมายา บางคนชื่นชอบ หลายคนเอือมระอา การกระทำของเธอครั้งนี้จึงมีทั้งเสียงโห่เสียงวิ้ดวิ้ว ทุกคนไม่ได้สนใจหรอกว่าเรื่องที่เธอเอ่ยจะจริงหรือเท็จ  แต่คนที่ใบหน้าเหลือไม่ถึงคืบก็คืออาทิตย์นั้นเอง ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับหลายสายตาที่จ้องมอง
“มาถึงไร่ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ไม่เห็นแวะไปหาส้มที่เรือนเลย” ส้มกระเง้าขณะลากแขนอาทิตย์เดินไปตามทาง ที่ต้องลากเพราะอาทิตย์พยายามดึงดันไม่เดินตาม
“พี่จอดรถไว้ที่ห้ามจอด พี่ต้องไปเอาก่อนนะส้ม พี่ขอตัวนะ” ชายหนุ่มแกะมือสาวน้อยมากมายาออกจากแขนแล้วรีบตรงไปยังรถจัดการขึ้นขับตรงดิ่งออกจากรั้วโรงเรียนในทันที เพราะรู้สึกอายเกินจะทนอยู่ไหว
“เจอฤทธิ์ยัยส้มเข้าไปเปิดไม่เป็นท่าเลยนะไอ้พี่อันธพาล” อาทีเอ่ยว่าตามหลังเพราะเป็นอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ก่อนหน้า เด็กหนุ่มไม่มีเวลาสนใจอะไรเกินกว่านั้นเมื่อรู้สึกเป็นห่วงอิทธิขึ้นมา สองขาจึงรีบเดินตรงเข้าไปยังห้องพยาบาล ไปถึงคนในนั้นก็พันแผลแล้วเรียบร้อย จึงเดินคู่กันออกมา เผชิญหน้ากับส้มอีกครั้ง
“ตอนมาคนเป็นพี่มาส่งตอนออกคนเป็นน้องมารับ ร้ายนะยะ เชื้อประจบสอพลอติดมาจากแม่ล่ะสิ” ส้มเปิดปากราวีทันที เพราะยังรู้สึกขุ่นใจกับการชิ่งหนีอย่างไม่ไว้หน้าตนของอาทิตย์เมื่อครู่อยู่
“ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นผู้หญิงฉันต่อยหน้าแหกไปแล้วนะส้ม” อิทธิชี้หน้าเอ่ยว่า แต่ส้มไม่ได้นึกกลัวเลยแม้แต่น้อย ยังคงเอ่ยยั่วโทสะได้อีก
“กล้าทำอะไรฉันก็เอาซี้ ถ้าไม่กลัวกระเด็นออกจากไร่ใน 24 ชั่วโมง”
“อย่าอวดตัวเกินไปหน่อยเลยส้ม ถึงแม่เขาจะโปรดพ่อเธอแค่ไหน ยังไงครอบครัวเธอก็เป็นคนอื่น ต่างกับฉันที่เป็นลูก การที่ใครสักคนจะออกจากไร่ น้ำลายของฉันกับเธอ เธอคิดว่าหยดไหนมันจะได้ผลกว่ากัน” อาทีเอ่ยแย้งออกมาเมื่อรู้สึกไม่ชอบใจในกิริยาโอ้อวดของสาวน้อยตรงหน้า เด็กหนุ่มพาอิทธิเดินจากไปทางอื่นทันทีเมื่อเอ่ยจบ ปล่อยให้ส้มยืนร้องยืนกรี๊ดอยู่อย่างคนแค้นเคือง
ทางด้านอาทิตย์พอพาตัวเองออกจากรั้วโรงเรียนได้ก็ขับรถวนดูรอบๆ ตัวเมืองอย่างเลื่อนลอย เมื่อภาพของอิทธิที่ได้บาดแผลจากการกระทำของตนลอยเข้ามาให้เห็นทุกๆ ขณะ
“จะไปคิดถึงมันทำไมนักหนาวะ แผลแค่นั้นมันคงไม่ตายหรอกน่า” ชายหนุ่มบอกตัวเองอย่างหงุดหงิด เจอสายตาใครมาก็เยอะ โต้ตอบคารมกับใครมาก็มีบ้าง แต่ทำไมไม่มีครั้งไหนที่ทำให้เลือดในกายสูบฉีดได้เท่ากับตอนอยู่ต่อหน้าอิทธิได้เลยก็ไม่รู้ จะว่าโกรธก็ใช่ แต่ก็สนุกทีทุกทีที่ได้ต่อปากต่อคำหรือกลั่นแกล้งพร้อมยั่วโมโหเจ้าตัวให้แสดงอาการออกมาให้เห็น
“เป็นเอามากน่าเรา เฮ้อ” ชายหนุ่มสรุปความคิดให้กับตัวเอง ก่อนจะขับรถลัดเลาะไปตามตรอกซอยที่อยากจะไปดูความเปลี่ยนแปลง พลันสายตาก็ไปสะดุดอยู่ยังร่างๆ หนึ่งที่กำลังยืนจับกลุ่มอยู่กับกลุ่มคนมากมาย
“นั่นมันนายสินนี่หว่า มาทำไมที่ตลาด เวลานี้น่าจะช่วยนายศรทำงานที่ไร่นี่นา” ชายหนุ่มถามตัวเอง แต่ก็ไม่คิดจะหยุดรถไปถามไถ่ ภาพนั้นจึงเป็นภาพสุดท้ายที่ได้มองก่อนจะขับรถกลับไร่เมื่อรู้สึกหิว ตอนนี้ยังไม่อยากจะทานอะไรนอกไร่เท่าไหร่ เพราะคิดถึงสำรับของแผ่นดินเกิดมากกว่าที่ใด
เวลาเกือบจะเที่ยงที่ได้กลับถึงไร่ จอดรถเข้าที่ถามไถ่คนรับใช้ประจำเรือนถึงมารดาและป้า พอได้คำตอบว่าทั้งสองกำลังงีบหลับพร้อมให้คนมานวดกายให้จึงไม่อยากกวน คิดว่าจะลองเข้าไปหาอะไรทานที่โรงอาหารคนงานภายในไร่ดู ที่นั่นน่าจะมีอาหารพื้นเมืองที่ตนห่างลิ้นไปนานได้ลิ้มลองบ้าง
“ว้าย! คุณอาทิตย์มา” เหล่าคนงานที่เพิ่งเจอชายหนุ่มต่างแตกตื่นวิ่งจัดโน่นจัดนี่กันวุ่นวาย อาทิตย์เพียงแต่ยิ้มน้อยๆ ทักทาย ก่อนเดินตรงไปร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งตอนเด็กจำได้ว่าตนชอบมาพูดคุยกับเจ้าของร้านชื่อป้าอ้วน ไม่รู้ว่าตอนนี้แกจะยังอยู่หรือไม่
“คุณอาทิตย์ ต๊าย! รูปงามขนาดนะพ่อ มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ” คนที่ในใจถามหาวิ่งมาต้อนรับ ชายหนุ่มทักทายถามไถ่กันพอประมาณปิดท้ายด้วยการฝากท้องด้วยอาหารจานโปรด อยู่พูดคุยกับคนงานต่อนิดหน่อย คล้อยบ่ายจึงได้ย้ายไปเรือนสำนักงานบ้าง ที่นั่นพนักงานอยู่กันพร้อมหน้า รวมทั้งนายศรและแม่นาง
“โตเป็นหนุ่มหล่อเชียวนะคุณอาทิตย์” นายศรทักทาย รู้สึกขัดใจที่เห็นลูกชายคนโตของจิตราทำความเคารพแต่เพียงยัยแม่นางคนเดียว ส่วนคนอื่นๆ เจ้าตัวเพียงแค่ยิ้มทักทายรวมถึงตนด้วย อีนังแม่นางมันเป็นใครมีอภิสิทธิ์อะไรหลานเจ้าของไร่คนนี้ถึงต้องให้ความเคารพตั้งแต่เด็กจนโต ฮึ่ย!
  “นายศรก็ยังดูหนุ่มอยู่เลยนี่นา” อาทิตย์ทักกลับก่อนจะหันไปพูดคุยกับคนอื่นๆ บ้าง ปิดท้ายที่แม่นางเอ่ยปากชวนออกไปคุยตามลำพัง เพราะต้องการขอโทษกับเหตุการณ์ในอดีตที่เคยให้ร้ายเจ้าตัวเรื่องใช้งานคนงานเกินกำลัง
“ดิฉันไม่ถือโทษคุณอาทิตย์หรอกคะ คุณอาทิตย์เป็นหลานของผู้มีพระคุณดิฉัน จะดุจะว่าดิฉันยังไงก็สุดแล้วแต่เถอะค่ะ” แม่นางเอ่ยออกรับก่อนจะเอ่ยถึงบุตรชายตนขึ้นมา
“ส่วนอิทธิหากว่าที่ผ่านมาเจ้าตัวจะทำกิริยาไม่ดีกับคุณอาทิตย์และคุณจิตรบ้างก็อย่าถือโทษเลยนะคะ เขารักแม่ของเขาอะไรที่เขาคิดว่าแม่ของเขาโดนรังแกก็มักจะไม่ยอมแบบนี้แหละค่ะ”
“อืม เรื่องนี้ผมขอเคลียร์กับลูกชายแม่นางเองนะครับ เอาเป็นว่าวันนี้ผมขอขมาแม่นางในเรื่องที่ผมทำตัวไม่ดีไว้ในอดีตละกัน ส่วนอิทธิ ผมคิดว่าหากเราสองคนจะญาติดีกันจริงๆ มันอาจจะต้องใช้เวลาหน่อย คือพูดตรงๆ เขารักแม่นางยังไง ผมก็รักแม่ผมอย่างนั้นเหมือนกัน ขอเวลาให้ผมกับเขาเคลียร์กันเองน่าจะดีกว่า” อาทิตย์เอ่ยตอบ แม่นางไม่มีอะไรคัดค้านจึงขอตัวเข้าไปทำงานต่อ อะไรมันจะเกิดจากนี้ก็สุดแล้วแต่โชคชะตาจะบันดล เข้าใจว่าอาทิตย์พูดถูก ลูกชายนางรักและเคารพนางยังไง อาทิตย์ก็คงจะรักและเคารพจิตราแบบนั้นเช่นกัน จะผิดหน่อยก็ตรงที่นางไม่เคยคิดร้ายกับจิตราเลยสักแม้วินาที แต่จิตรานี่สิ หายใจเข้าออกดูจะร้ายใส่นางได้ทุกยาม นี่แหละคือปัญหาหลักที่อาจจะทำให้ลูกชายนางกับลูกชายคนโตฝ่ายนั้นไม่ลงรอยกันได้สักที กลัวเหลือเกินว่ามันจะเป็นรอยแค้นที่ฝังรากลึกลงในใจคนทั้งสองจนยากที่จะเหลียวมองส่วนดีของกันและกัน หากว่าจิตราไม่ยอมรามือจากการร้ายใส่ตน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 9 อัพเดต 24.12.53]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-01-2011 11:47:08
ตะวันบ่ายจนค่อนจะเย็นแล้ว อาทิตย์มัวแต่เดินสำรวจไร่จากที่หนึ่งไปที่หนึ่งเสียจนเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็พาร่างมาหยุดอยู่หน้าเรือนพักคนงานซะแล้ว เรือนหลังนี้ชายหนุ่มจำได้ดีว่าเป็นเรือนของแม่นางกับอิทธิ ไม่รู้เพราะอะไรที่ทำให้สองขาก้าวเข้าไปเดินสำรวจดูบริเวณรอบๆ เรือนที่เงียบเพราะเจ้าของไม่อยู่ทั้งสองคน คนหนึ่งก็ยังไม่เลิกงาน ส่วนอีกคนหนึ่งน่าจะเลิกเรียนแล้วแต่คงกลับไม่ถึงเรือน ขณะเดินสำรวจพลางคิดเพลินๆ ก็ต้องสะดุ้งกับเสียงทักที่ดังมาจากทางด้านหลัง
“มาด้อมๆ มองๆ แบบนี้ จะมาจ้องขโมยออะไรเหรอครับ”
อาทิตย์หันไปมองทางต้นเสียง เห็นว่าเป็นอิทธิยืนจ้องอยู่จึงตอบยียวนกลับ
“เรือนพักคนงานโทรมๆ แบบนี้ มีอะไรให้ฉันขโมยงั้นเหรอ”
“ถ้าอย่างนั้นคุณมาที่นี่ทำไม” อิทธิขึ้นเสียงถามกลับทันควัน นึกไม่พอใจในถ้อยคำดูถูกฝ่ายนั้น อาทิตย์เองพอโดนอีกฝ่ายขึ้นเสียงใส่ก็นึกไม่พอใจเช่นกันจึงว่า
“ฉันเป็นหลานเจ้าของไร่ การที่ฉันจะไปไหนมาไหนในพื้นที่นี้ฉันจำเป็นต้องรายงานนายซึ่งเป็นเพียงลูกคนงานด้วยมั้ย”
“ใช่สินะ ผมลืมไปว่าคุณอาทิตย์เป็นหลานชายคนเดียวที่จะได้ครอบครองไร่นี้ต่อจากคุณจันทร์” อิทธิว่ากระทบ เรื่องอะไรจะยอมให้คนอย่างอาทิตย์ยั่วโมโหอยู่ฝ่ายเดียว
“พูดแบบนี้นายหมายความว่ายังไง” อาทิตย์ตวาดถามพลางเดินเข้าใกล้ ไม่ชอบใจในถ้อยคำเยาะหยันอิทธิ
“แล้วคุณอาทิตย์เข้าใจแบบไหนล่ะครับ” อิทธิมองตาท้าทาย ไม่ได้ร่นถอยหนีแม้แต่น้อยแม้ว่าอาทิตย์จะก้าวเข้ามายืนชิดกายแล้วก็ตาม
“นายกำลังประชดฉันใช่มั้ย” อาทิตย์บอกนิ่งๆ ส่งสายตาดุๆ ข่มสายตาท้าทายคนตรงหน้า
“นั่นแล้วแต่คุณจะเข้าใจ ผมขอตัวขึ้นเรือนก่อนนะครับทายาทเจ้าของไร่” เมื่อรู้สึกว่าถูกจ้องเกินไป พร้อมร่างกายกำลังจะแนบชิดกันเกินกว่าปกติจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจกันและกัน อิทธิจึงคิดจะถอยร่นหนี แต่ช้ากว่าที่อาทิตย์คว้าแขนข้างที่ไม่เจ็บไว้
“เก่งให้ตลอดสิพ่อคุณ ชอบนักไม่ใช่เหรอท้าทายฉันเนี่ย” อาทิตย์ออกแรงบีบที่แขนคนอวดเก่งตั้งแต่ต้นแต่คิดจะร่นถอยเมื่อตนเอาจริง
“ปล่อยผมคุณอาทิตย์ ผมจะขึ้นเรือน” อิทธิพยายามเบี่ยงตัวเองเพื่อให้หลุดจากการถูกจับไว้ แต่ก็ทำลำบากนักเมื่อแขนอีกข้างใช้งานได้ไม่เต็มที่เหตุจากยังรู้สึกเจ็บอยู่
“ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อนายถอนคำพูดเมื่อกี้” อาทิตย์บอกอย่างดุดัน ไม่ต่างจากสายตาคมวาวที่จ้องมองคนตรงหน้าเขม็ง
“ผมพูดอะไรผิดไปล่ะ ทำไมผมจะต้องถอนด้วย” อิทธิฮึดขึ้นเสียงตอบโต้ นึกขัดใจที่แขนข้างหนึ่งของตนใช้งานไม่ได้ ไม่อย่างนั้นคงไม่ปล่อยให้อาทิตย์ข่มอยู่ฝ่ายเดียวแบบนี้
“ก็ที่นายหาว่าฉันจะฮุบไร่นี้ไว้คนเดียวน่ะสิ” อาทิตย์ตวาดกลับ
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ” อิทธิเองก็ไม่ยอม
“มันจะจริงได้ยังไงในเมื่อน้องชายฉันก็มี”
“ยังสำนึกได้เลยว่าตัวเองมีน้อง ก่อนจะพูดคำนี้ปรึกษาคุณจิตรมาหรือยังครับคุณอาทิตย์”
“ปากดีเกินไปแล้วนะอิทธิ”
“จะทำไมล่ะ บอกให้ปล่อยไม่ยอมปล่อยทำไม”
“ก็ถ้านายถอนคำพูดดีๆ ฉันจะจับนายไว้อย่างนี้มั้ย”
“ผมยังยืนยันว่าผมไม่ถอน มีปัญญาทำอะไรผมมากไปกว่านี้มั้ยล่ะ ทายาทคนเดียวของไร่นี้”
“ท้าทายฉันอย่างนั้นเหรออิทธิ นายเป็นใครถึงคิดว่าฉันไม่กล้าทำอะไรนาย”
“ผมรู้ว่าอันธพาลอย่างคุณทำอะไรผมได้อยู่แล้ว เอาซี้ แขนอีกข้างผมใช้งานไม่ได้อยู่แล้วนี่ จะต่อยผมก็เอา ผมคงสู้อะไรคุณไม่ได้หรอกตอนนี้ แต่อย่าให้มีโอกาสเอาคืนแล้วกัน ผมไม่ไว้หน้าแน่”
“อย่างนายน่ะหรือจะมีปัญญาทำอะไรฉันนอกจากปากดีไปวันๆ”
“จะไม่ดูถูกกันมากไปหน่อยเหรอครับคุณอาทิตย์”
“ก็ถ้าคิดว่ามีฤทธิ์แผลงมันออกมาตอนนี้เลยสิ จะมัวรอโอกาสทำไมล่ะ หรือต้องการใช้เวลาขบคิดว่าจะทำยังไงถึงจะกำราบฉันได้”
พูดจบอาทิตย์ก็ส่งสายตายั่วล้ออย่างคนที่ต้องการปั่นโทสะในกายอิทธิให้กระเจิง ซึ่งมันก็ได้ผล เมื่อฝ่ายนั้นขบกรามแน่นก่อนออกแรงดิ้นเฮือกสุดท้ายจนร่างหลุดจากการเกาะกุม นาทีนั้นชายหนุ่มเห็นคนตรงหน้ายกมือข้างที่ไม่เจ็บเตรียมตะบันใส่หน้าตนเต็มที่ อาทิตย์ไม่รู้สะท้านสักนิดกับท่าทีที่เห็นเพราะได้ตั้งสติตั้งรับไว้อยู่แล้ว เปล่าหรอกชายหนุ่มไม่ได้คิดที่จะตอบโต้กลับด้วยวิธีการรุนแรงอย่างที่โดนกล่าวหาหรอก มันมีวิธีอื่นที่น่าจะสนุกกว่าการชกต่อยกับคนปากกล้าอย่างอิทธิ นายได้จำวิธีตอบโต้แบบนี้ของฉันไปจนตายนายอิทธิ ปากกล้าแบบนี้ขอชิมดูหน่อยเหอะว่าลิ้นข้างในมันจะเผ็ดร้อนขนาดไหน
เร็วเท่าความคิดทันทีที่กำปั้นจากอิทธิจะตะบันมาที่หน้า อาทิตย์ใช้ความไวยกมือแข็งแรงขึ้นจับไว้พลางจับล็อคไพล่หลังเจ้าตัวเอาไว้ อิทธิเผลอตัวเผยอปากร้องด้วยความเจ็บ นาทีนั้นอาทิตย์ไม่รอช้าที่จะโน้มใบหน้าลงไปชิดใบหน้าเจ้าตัวถือจังหวะที่ริมฝีปากเจ้าตัวเผยอร้องบดแนบริมฝีปากตัวเองลงไปทันที
อิทธิตาเบิกโพลงด้วยความตกใจและไม่คุ้นเคยกับการโดนรุกรานแบบนี้ เด็กหนุ่มขนลุกไปทั้งร่างในขณะที่รับรู้ได้ว่าปลายลิ้นของอีกคนกำลังพยายามดุนดันเกี่ยวพันกับลิ้นตน หนุ่มน้อยออกแรงดิ้นขัดขืนจนลืมหลบปลายลิ้น จังหวะนั้นรู้สึกสะท้านจนร่างอ่อนระทวยเมื่อคนที่รุกรานใช้ลิ้นอุ่นๆ แตะสัมผัสและตวัดลิ้นตนดุนดันเกี่ยวพันกันได้สำเร็จ
อาทิตย์เมื่อเห็นคนในวงแขนเริ่มอ่อนระทวยจึงบดขยี้ริมฝีปากหนักหน่วงขึ้นอีกดั่งต้องการสั่งสอนให้เจ้าตัวรู้ว่าอย่ามาปากกล้ากับตน ชายหนุ่มวาดปลายลิ้นดุนดันลิ้นอีกฝ่ายจนหนำใจโดยไม่ปล่อยให้เจ้าตัวได้มีจังหวะขัดขืน เมื่อคิดคิดว่าพอใจแล้วจึงถอนปากออกมา ยิ้มเยาะที่มุมปากส่งให้
“คนอย่างฉันไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรงโต้ตอบคนอย่างนายหรอกอิทธิ จำไว้อย่าปากกล้ากับฉันแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้น เจอหนักกว่านี้แน่” ชายหนุ่มยอมปล่อยร่างอ่อนระทวยในอ้อมกอด แล้วรีบเดินหนีไป แต่ใช่ว่าอิทธิจะอ่อนระทวยคนเดียวซะเมื่อไหร่ อาทิตย์เองเมื่อเดินจากไปได้สักพักก็ต้องหยุดเดินผ่อนลมหายใจควบคุมอารมณ์ของตนที่กำลังกระเจิดกระเจิงไปไม่น้อย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงกล้าทำอะไรบ้าบิ่นขนาดนั้น เกิดมาโตจนป่านนี้ไม่เคยได้ใช้ปลายลิ้นลิ้มลองกับปลายลิ้นใครมาก่อน ไม่คิดด้วยว่าตนจะทำได้ แต่ไม่รู้สินะ เห็นอาการอวดดีของอิทธิดูมันเป็นดั่งแรงขับให้กล้าทำสิ่งนั้นลงไปยังไงไม่รู้ ยังจำได้ถึงสัมผัสหวานปลายลิ้นตอนที่ได้ดุนดันกับลิ้นฝ่ายนั้น พระเจ้า นี่เขาเป็นอะไรไปแล้ว นายอิทธินั่นมันผู้ชายนะ ทำไมนายนั่นถึงมีรสจูบที่ซาบซ่านตรึงใจได้ขนาดนี้
“บ้าไปแล้วเอ็งไอ้อาทิตย์ โว้ย!” ชายหนุ่มโวยระบายความรู้สึก หันกลับไปมองทางเดิมที่เดินจากมา เห็นชัดว่าอิทธิกำลังยืนลูบริมฝีปากตัวเองค้างอยู่ นายนั่นจะรู้สึกยังไงบ้างนะ รสจูบเขาจะหวานละมุนติดตรึงใจเจ้าตัวอย่างที่เขากำลังรู้สึกหรือเปล่า จังหวะที่ยืนคิด อิทธิได้หันมามองเข้าพอดีชายหนุ่มจึงรีบหลบตาเดินหายไป ฝ่ายอิทธิพอร่างของคนที่ฝากสัมผัสอันซ่านใจให้ตนเดินลับไปก็รุ้สึกเข่าอ่อนจนยืนไม่ติด ไม่สิ เขาต้องไม่ติดใจในรสสัมผัสอันหวานละมุนปนความดุดันจากปลายลิ้นและริมฝีปากอาทิตย์ มันเป็นไปไม่ได้ เขาต้องรู้สึกแบบนั้นไม่ได้ อาทิตย์ นายมันบ้า นายทำแบบนี้ทำไม ทำไมนายไม่ต่อยฉัน ไม่ชกฉันอย่างที่นายเคยทำ ทำแบบนี้นายกลับมาฆ่าฉัน เพื่อไม่ให้ฉันรับรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เลยดีกว่า
“โธ่โว้ย!” ที่สุดเด็กหนุ่มก็ร้องระบายอารมณ์สับสนภายในใจอีกคน

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 04-01-2011 12:25:40
ว้ายยยยย

เขาจูบกันแล้ววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 04-01-2011 12:26:01
HNY 2011 ด้วยครับพี่บอย

ไงมาต่อไว ๆ อีกน๊า....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-01-2011 13:00:06

ว้าย ‘ต่อปาก’ จริงๆด้วย กิต.พิมพ์เล่นๆแท้ๆเทียว
ตาคุณพี่อาทิตย์ “ทำจริง” อิอิ
 o15
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 04-01-2011 13:09:48
ยิ่งกว่า ตบ >>> จูบ ในละครหลังข่าวน่ะเนี่ย

 :z1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 04-01-2011 13:11:17
ชอบมากอ่ะ ขอกรี๊ดดดดดดดยาวเลย
มาต่อไวๆน้า จารอจ้า :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-01-2011 13:54:28
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

จูบแล้ว ครั้งต่อไปก็ ...  :haun4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-01-2011 15:28:48
ป๊าดดดด
จูบกันแล้ว^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-01-2011 15:54:31
กรี๊ดดด
คุณบอยต่อด่วน
อยากอ่านมากมายยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 04-01-2011 19:42:20
ป๊าดดด จูบกันแล้ว!!  :mc4:จูบกันแล้ว!! :mc4:

ขออย่าให้อาีทีรักอิทเล้ยยย ไม่อยากให้เป็นรักสามเศร้า :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 04-01-2011 21:55:00
ว้าวววววๆๆๆๆ
จูบกันแล้ว :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 04-01-2011 22:06:02
 :m3: นายอาทิตย์ นี่หรอวิธีปราบพยศ
จูบกันแล้ว ฮิ้วว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 04-01-2011 22:24:39
555
ชักจะเห็นพระเอกหน่อยๆแว้ววววววววว  555
ตบจูบตบจูบ  ชอบๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-01-2011 22:44:21
เขาจูบกันแน่แล้วววววววววว

สวัสดีปีใหม่ครับคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-01-2011 23:28:34
ฮึ..นายอาทิตย์ อย่ามาหลงปากหวานๆของอิทธิล่ะกัน
อิทธิเองตอนนี้ใจแข็งไว้น้า อย่าพึ่งแสดงอาการระทวยออกมา
ให้มันระทวยอยู่ข้างใน เดี๋ยวนายอาทิตย์มันรู้จุดอ่อน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 04-01-2011 23:54:40
กรี๊ด เขาจูบกันแล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 05-01-2011 00:29:26
วิธีปราบพยศโดนใจที่สุด o13
จูบกันแล้ว  :m3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 05-01-2011 02:45:55
คุณจันจวง พระเดชน้อยนิด  พระคุณมากหลาย

คุณจิตตก นี่ก็ กระบือ เอาสิ่งเก่าๆที่เจอมา มาวัดกับสิ่งปัจจุบัน

แม่นาง ก็ดีแสนดีๆๆๆๆ

น้องอาที นี่น่ารัก ชอบๆๆๆ  ชอบเป็นการส่วนตัว

น้องอิทธิ นี่ก็รันทดน่าสงสาร

ไอ้พี่อาทิตย์ นี่ก็ร้ายติดแม่ แถมยังแกมโกง นิสัยไม่ดี มาเอา1stKiss'It ได้ไง

ไอ้สิน ไอ้ศร E ส้ม เอ็งสามตัวไม่ได้ตายดีหรอก

เพิ่งเข้ามาอ่านคร้าบบ สนุกมากกกกชอบบบบบ (แอบชอบอาทีเป็นการส่วนตัว ด้วยนิสัยคล้ายกัน)

+1ให้อาทีคร้าบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 05-01-2011 05:25:49
เพิ่งตามมาอ่าน สนุกดีค่ะ  :mc4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 05-01-2011 09:42:32
จูบแล้ววว  แอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-01-2011 10:08:43
เข้ามารอ เผื่อมีจูบอีกรอบ....หรืออาจจะมากกว่านั้น^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-01-2011 15:02:26
^
^
จิ้มรีบน
เห็นด้วยอย่างแรง
อย่าปล่อยให้รอนานนะคะคุณบอย
อยากอ่านมากมายอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 09-01-2011 10:24:13
รอ ร๊อ รอ
เข้ามาปูเสื่อรอคุณบอยค่ะ
อยากอ่านต่อแล้วค่า มาเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 09-01-2011 11:12:01
ยังไม่มาตบจูบต่อเหรอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 09-01-2011 11:54:22
กรี๊ดดดดดดดด~

เค้าจูบกันแล้ว หุหุ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 09-01-2011 15:45:44
ตบจูบ ตบจูบ  กรี๊ดๆ :-[
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-01-2011 21:51:31
รอจ้า^^
รอคู่นี้จูบ เอ๊ย! ฉะกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 10-01-2011 00:55:06
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 10 อัพเดต 4.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-01-2011 23:43:28
ตอนที่ ๑๑
อาทิตย์เดินกลับถึงเรือนเผชิญหน้ากับน้องชายอีกครั้ง ซึ่งกำลังนั่งคุยอยู่กับผู้เป็นป้า จันทร์จวงพอเห็นหลานชายคนโตก็เอ่ยเรียกเพื่อร่วมวงสนทนาด้วย อาทิตย์มองสบตาน้องชายคิดว่าเจ้าตัวคงนำเรื่องที่ตนกลั่นแกล้งอิทธิบอกผู้เป็นป้าแล้วแน่ๆ ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจทำใจรับคำตำหนิก่อนเดินเข้าไปนั่งข้างๆ น้องชาย
“ไปไหนมาทั้งวันน่ะเรา ป้าไม่เห็นหน้าเห็นตาตั้งแต่เช้าแล้ว” จันทร์จวงเอ่ยทักหลานชายด้วยรอยยิ้ม แอบภูมิใจในรูปลักษณ์ที่ดูดีเหลือเกินของหลานชายทั้งสองยามนั่งคู่กัน นี่ถ้าตอนนี้มีอิทธิมานั่งร่วมวงด้วยอีกคนคงเป็นภาพที่น่าชมมากเชียวล่ะ รูปลักษณ์ฝ่ายนั้นก็ด้อยกว่าหลานชายทั้งสองของนางซะเมื่อไหร่
“พอดีเมื่อเช้าขับรถไปส่งอาทีที่โรงเรียนมาน่ะครับป้า กลับมาเลยเดินชมโน่นชมนี่ในไร่เพลินไปหน่อย” อาทิตย์เอ่ยตอบ เห็นท่าทางยิ้มแย้มของผู้เป็นป้าแล้วก็อดนึกไม่ได้ว่าอาทีคงจะยังไม่บอกเรื่องที่ตนทำอิทธิได้แผลกับเจ้าตัวเป็นแน่
“มองอะไรผมนักหนาพี่อาทิตย์ ผมไม่ใช่คนขี้ฟ้องขนาดนั้นหรอก” อาทีเอ่ยว่าพี่ชายตอนถูกจ้องมองระยะประชิดตัว เด็กหนุ่มยังไม่ได้ปริปากบอกผู้เป็นป้าเรื่องพี่ชายกลั่นแกล้งเพื่อนของตนตามที่เคยขู่ไว้หรอก เพราะตามนิสัยเดิมก็ไม่ได้เป็นคนขี้ฟ้องมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งโดนคนเจ็บตัวอย่างอิทธิเอ่ยปรามไว้อีกว่าเรื่องนี้ห้ามถึงหูใคร เพราะกลัวเรื่องราวมันจะวุ่นวายเป็นไฟไหม้ฟางเสียเปล่าๆ ก็เลยเลือกที่จะนิ่งซะ แต่ที่มานั่งคุยกับป้าตอนนี้ก็เป็นเรื่องอนาคตการเรียนในระดับต่อไปของทั้งตนและอิทธิต่างหาก
“ฟ้องเฟิ้งอะไรหรือตาอาที” จันทร์หันหน้ามาถามหลานชายคนเล็ก
“เปล่าครับป้า ไม่มีอะไรครับ” อาทีปฏิเสธ ลอบยิ้มเยาะให้พี่ชายหน่อยๆ แล้วขอตัวลุกเดินจากไป
“อ้าว คุยกันไม่เท่าไหร่ไปซะแล้ว” จันทร์จวงว่าตามหลังหลานชาย อาทิตย์มองตามเช่นกันแต่ก็เพียงครู่เดียวแล้วกลับหันมาคุยกับผู้เป็นป้า
“ป้าจันทร์เรียกผมมีอะไรหรือเปล่าครับ”
“อ๋อ ป้าว่าจะปรึกษาเรื่องเรียนของตาอาทีกับอิทธิหน่อยน่ะ” จันทร์จวงหันมาตอบ อาทิตย์ทำหน้าฉงนที่ได้ยินชื่ออิทธิมาเอี่ยวกับอาทีเรื่องการศึกษา
“เรื่องอาทีผมพอจะเข้าใจนะป้า แต่นายอิทธินี่มันยังไงครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม
“ก็เมื่อตะกี้อาทีบอกป้าว่าอีกไม่กี่เดือนเขาก็จะสอบเทอมสุดท้ายของม.6 แล้ว ที่เหลือก็เตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยกัน เขาบอกว่าอิทธิน่ะเรียนดีแต่เพราะคิดว่าไม่มีโอกาสได้เรียนในชั้นสูงขึ้นจึงไม่ได้สนใจเตรียมตัวสอบเท่าไหร่ เขาเลยมาขอป้าให้ช่วยอุปการะเด็กคนนั้นต่ออาทิตย์คิดว่าไง” จันทร์จวงตอบหลานชายพร้อมตั้งคำถาม
“ป้าจันทร์เห็นว่ายังไงก็แบบนั้นแหละครับ ผมคงไม่คัดค้านอะไร” อาทิตย์เอ่ยตอบ เพราะคิดว่าตนไม่มีอำนาจพอจะไปชี้นิ้วสั่งอะไรได้ เพียงแต่ติดใจอยู่ตรงที่ว่าน้องชายตนจะผูกพันกับอิทธิมากเกินไปหรือเปล่าถึงขนาดกล้ามาเอ่ยปากขอให้ผู้เป็นป้าอุปการะส่งเสียเจ้าตัวต่อไปหลังจากจบชั้นมัธยมปลาย เรื่องนี้หากว่ากันตามจริงแม่นางต่างหากที่น่าจะเป็นฝ่ายมาเอ่ยปากกับป้าของตนเองในฐานะคนเป็นแม่ที่อยากให้อนาคตลูกสดใส น้องชายตนนี่มันกล้าจริงๆ
“ป้าก็คิดว่าจะส่งเสียต่อนะ เพราะเห็นแววแล้วเด็กอย่างอิทธิน่าจะเรียนจบได้ไวอยู่เพราะดูเป็นเด็กดี ขยัน และก็เชื่อฟังผู้ใหญ่ดี” จันทร์จวงเอ่ยออกมาอีก อาทิตย์แอบค้านในใจ นายอิทธินั่นนะเชื่อฟังผู้ใหญ่ เชื่อฟังแต่คนอื่นน่ะสิ กับเขามีแต่จะคอยแยกเขี้ยวใส่ นึกถึงตอนนี้แล้วก็อดจะเคลิ้มถึงรสหวานจากปลายลิ้นเจ้าตัวเมื่อตอนได้สัมผัสไม่ได้ นึกสงสัยว่าคนปากร้ายปลายลิ้นจะหวานละมุนแบบนี้ทุกๆ คนหรือเปล่า ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมาหน่อยๆ พลางยกมือขึ้นลูบริมฝีปาก ผู้เป็นป้ามองเห็นคิ้วขมวดสงสัยในท่าทีหลานชายเอ่ยเรียก
“อาทิตย์”
เงียบ ผู้เป็นหลายชายยังคงเคลิ้มยิ้มเล็กๆ ใช้มือลูบริมฝีปากอยู่แบบเดิม
“ตาอาทิตย์!” จันทร์จวงเรียกเสียงดังขึ้น ได้ผล หลานชายสะดุ้งหน่อยๆ รีบหันมาสบตาเอ่ยรับอย่างตะกุกตะกัก
“ขะ ครับป้าจันทร์”
“เป็นอะไรนั่งเหม่อแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่นั่น” ผู้เป็นป้าเอ่ยตำหนิ ชายหนุ่มจึงได้แต่ปฏิเสธอายๆ
“เปล่าครับป้า ไม่มีอะไรครับ ตอนนี้ผมเหนียวตัวมากเลย ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับ”
อาทิตย์รีบลุกเดินจากไปหลังเอ่ยจบ จันทร์จวงมองตามหลัง ยิ้มน้อยๆ เพราะนึกตลกในท่าทีหลานชายเมื่อครู่ สงสัยไปติดใจอะไรมาแน่ๆ เฮ้อ หลานฉัน
ระหว่างยิ้มน้อยยื้มใหญ่ในท่าทีของหลานชายได้ไม่นาน ใบหน้าหญิงสูงวัยก็ต้องหุบลงเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยกลั้วเสียงหัวเราะระหว่างน้องสาวกับสาวรับใช้ที่ชื่อเพลินพิศอยู่ที่หน้าเรือนชั้นล่าง
“อีพิศเอ้ย มึงเห็นสีหน้าตอนที่นังแม่นางมันกลัวฉันมั้ยวะ ซีดเป็นไก่ต้มเชียว แค่ฉันเงื้อมือเองนะ ยังไม่ได้ตบมันจริงๆ หน้ามันก็ซีดแล้วซีดอีก”
“เห็นสิคะคุณจิตร ตล๊กตลกนะคะตอนมันยกมือไหว้คุณจิตรขอร้องว่าอย่ารังแกมันอีกเลย”
“ต่อจากนั้นฉันทำอะไรนะ ฉันจำไม่ได้ ไหนแกช่วยฟื้นความจำให้ฉันหน่อยซิ”
“คุณจิตรก็ตบมันไปสองฉาดไงคะ โทษฐานยกมือไหว้ไม่สวยเพราะมัวแต่ตัวสั่น ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ว้าย! จริงด้วย ฉันจำได้แล้ว แต่มันสำออยเนาะ ตบแค่สองทีทำเป็นล้มคลุกดินคลุกหญ้าข้างทาง โอ้ย นึกถึงตอนนั้นก็ขำ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พิศก็ขำมากค่ะ วันหลังเราตามไปกลั่นแกล้งมันอีกนะคะ พิศชอบ”
“แน่นอนสิ ฉันจะตามรังควานมันอยู่แบบนี้แหละจนกว่ามันจะใสหัวไปให้พ้นจากไร่นี้ หึหึ”
“เอาเลยค่ะคุณจิตร อีพิศสนับสนุนเต็มที่ค่ะ”
“แต่แกต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับนะ อย่าให้ถึงหูพี่จันทร์เด็ดขาดว่าฉันแอบไปกลั่นแกล้งนังแม่นางมันมาอีก”
“มิดค่ะมิด คุณจิตรมิต้องห่วงเรื่องนี้ค่ะ”
“ดีมาก แบบนี้สิ ถึงจะเรียกว่าแกเป็นบ่าวที่ดี”
“พิศพลีกายถวายหัวเลยค่ะสำหรับคุณจิตร ว่าแต่ตอนนี้คุณจิตรพอจะมีค่าเหนื่อยให้พิศสักนิดมั้ยคะ แหะๆ”
“อีนี้นี่ ชมนิดหน่อยมาแบมือขอเชียว เอ้า ฉันมีติดตัวอยู่แค่ร้อยเดียวนี้แหละ”
“ว้าย เป็นพระคุณล้นหัวค่ะ ตั้งร้อยนึงแนะ หุหุ”
“เออ ได้แล้วก็ใสหัวไปไหนก็ไปก่อน ฉันจะขึ้นเรือนแล้ว อย่ามาเดินคู่กันให้พี่จันทร์เห็น เดี๋ยวเรื่องจะแตก”
“ค่ะ”
เพลิศพิศกำลังจะเดินเลี่ยงไปในตอนที่รับเงินเสร็จ แต่ขาเจ้าหล่อนกลับชะงักงันเมื่อมีเสียงเรียกไว้
“หยุดก่อนนังพิศ”
“ว้าย! พี่จันทร์” จิตราเอ่ยทักเจ้าของเสียงก่อน สาวใช้ที่ได้ยินถึงกลับเข่าทรุดนั่งลงกับพื้นยกมือไหว้ แกล้งเนียน เพราะคิดว่าเจ้านายใหญ่คงไม่ได้ยินถ้อยคำสนทนาของตนกับจิตราเมื่อครู่
“คุณจันทร์มีอะไรใช้พิศเหรอคะ”
“ฉันไม่มีอะไรใช้หล่อนหรอก เพียงแต่จะสอบถามหล่อนกับจิตราเท่านั้นว่าไปไหนกันมา” จันทร์จวงถามเสียงนิ่ง จิตราทำใจดีสู้วิ่งขึ้นบันใดเรือนไปประจบ
“จิตรไปเดินตรวจไร่มาค่ะ เลยเอานังพิศไปเป็นเพื่อน”
“แค่ตรวจไร่เองเรอะ” จันทร์จวงถามเสียงเยาะ
“ค่ะ แค่ตรวจไร่” จิตราตอบ
“ไม่ได้ไปตบตีใครเขาแน่นะ”
“ค้า ไม่ได้ไปตบยัยแม่นางเลยค้า” ด้วยความซื่อและเกรงพาให้เพลินพิศหลุดปากไปแบบนั้น จิตราหันควับมองสาวใช้ ให้มันได้อย่างนี้สิ อีไพร่เอ้ย หล่อนนึกก่นด่าในใจ แต่ก็หันไปประจบพี่สาวต่อ
“พี่จันทร์ทานข้าวหรือยังคะ มีใครจัดสำรับมื้อค่ำมาให้หรือยัง”
“ฉันก็รอเธอกลับมาทานด้วยกันนี่แหละ แต่ฉันคิดว่าหล่อนคงไม่หิวแล้วมั้ง” จันทร์จวงหันมาสนใจน้องสาว นาทีนั้นเพลินพิศรีบลุกเดินหนีโดยเร็ว
“ทำไมพี่จันทร์ถึงพูดแบบนั้นล่ะคะ เนี่ยจิตรหิวแล้ว เดี๋ยวจิตสั่งให้เด็กยกสำรับมาให้นะคะ” จิตรากำลังจะหันไปสั่งสาวใช้ จันทร์จวงเอ่ยปราม
“ยังไม่ต้องหรอก เธอมาคุยกับฉันก่อน” เอ่ยจบก็เดินไปนั่งยังที่ประจำ จิตราเดินตามไปนั่งด้วยอย่างช้าๆ เปิดปากถาม
“พี่จันทร์มีอะไรจะคุยกับจิตรเหรอคะ”
“ฉันได้ยินเธอคุยกับนังพิศว่าไปรังแกแม่นางมาอีก” จันทร์จวงเปิดประเด็นทันที จิตราหน้าเสีย แต่ก็แย้ง
“อะไรกันพี่จันทร์ จิตรกับนังพิศแค่เดินกันมาเฉยๆ นะคะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย”
“เธออย่ามาเฉไฉหน่อยเลยจิตรา เมื่อไหร่น๊าเธอถึงจะเลิกจองล้างจองผลาญแม่นางกับอิทธิ”
“ก็เมื่อใดที่มันสองคนพ้นจากเขตไร่เราแหละค่ะ” เมื่อคิดว่าพี่สาวทราบเรื่องแล้ว จิตราจึงไม่เก็บอาการอีกต่อไป น้ำเสียงหล่อนเขียวขึ้นทันทีเมื่อเอ่ยถึงสองแม่ลูกนั่นขึ้นมา
“เขาสองคนจะไปไหนกันได้ยังไง ในเมื่อเขาทำงานให้เราอยู่” จันทร์จวงแย้งน้องสาว
“พี่จันทร์ก็ไล่มันออกสิคะ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” จิตราบอกอย่างไม่สบอารมณ์
“ในโทษฐานอะไรล่ะ แม่นางทำงานดีมาตลอด เธอจะให้ฉันไล่เขาออกในเรื่องใด ในเรื่องที่เธอชังน้ำหน้าเขาดีมั้ย”
“พี่จันทร์ไม่ต้องมาประชดจิตรนะคะ ที่จิตรทำทุกวันนี้ใช่ว่าจิตรจะสนองความชิงชังของจิตรอย่างเดียวนะคะ ที่จิตรมีพระเดชกับยัยแม่นางและลูกนั่นก็เพื่อปรามมันสองคนไม่ให้นึกกำเริบมากขึ้นจนคิดจะหยามเราสองคนเท่านั้นเอง”
“เหลวไหลน่ะสิ แม่นางกับอิทธิน่ะเหรอจะมีนิสัยแบบนั้น เธอมันอคติเกินไป”
“ไม่รู้ล่ะค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้”
“ระวังเถอะเธอจะกันผิดคน”
“พี่จันทร์หมายความว่าไงคะ”
“ฉันก็หมายถึงคนสนิทของเธออย่างนายศรน่ะสิ เคยโดนแม่นางจับผิดได้มาหนนึงเรื่องโกงกินรายได้ลืมไปแล้วรึ”
“ตอนนั้นพี่จันทร์ก็เรียกสอบแล้วไม่ใช่เหรอคะ ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่ นังแม่นางมันต้องการสร้างผลงานเพื่อเลื่อนตำแหน่งตัวเองต่างหากล่ะ”
“เธอนี่มันเหลือเกินนะจิตรา เอาล่ะ วันนี้ฉันจะแค่ปรามเธอ คราวหน้าอย่าให้มีเรื่องแบบนี้ถึงหูฉันอีก ไม่อยากนั้นฉันจะย้ายที่ทำงานของแม่นางมาไว้ที่เรือนนี้ซะ จะได้ใกล้หูใกล้ตาฉัน เธอจะได้ไม่ต้องแอบไปแผลงฤทธ์ได้อีก”
“แอร๊ยยส์! นี่พี่จันทร์หลงมันขนาดนี้เลยเหรอคะ    “
“ฉันดูคนที่ผลงานและการกระทำที่เสมอต้นเสมอปลาย วันก่อนแม่นางเขาอ่อนน้อมต่อฉันยังไง วันนี้เขาก็ยังเป็นอยู่ รวมทั้งอิทธิด้วย แล้วมีเหตุผลอันใดที่ฉันจะไม่มอบสิ่งดีๆ ให้กับสองแม่ลูกนั่น”
“คิดจะเอางูเห่าเข้าบ้าน ระวังเถอะค่ะ มันจะฉกเอาสักวัน”
“เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ งูของเธอมันงูเก่างูแก่ซะด้วยสิ ระวังมันจะพ่นพิษออกมาสักวันก็แล้วกัน”
“นี่...นี่ พี่จันทร์หมายถึงนายศรอย่างนั้นเหรอคะ”
“ก็ทั้งครอบครัวน่ะแหละ นี่ฉันยังไม่เรียกมาสอบเลยนะเรื่องที่กุเรื่องโกหกว่าแม่นางทุบตีน่ะ”
“โอ้ย! อะไรที่มันแล้วก็ให้มันแล้วไปสิคะ จะมาสอบมาเสิบอะไรให้มากความคะ”
“เห็นมั้ยคนของเธอ เธอยังคิดปกป้อง หัดเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้างเถอะจิตรา”
“คุยกับพี่จันทร์แล้วปวดเศียรเวียนเกล้าที่สุด จิตรขอตัวก่อนนะ แล้วจะออกมาทานสำรับด้วยค่ะ” จิตราลุกเดินหนีไปทันทีเมื่อเอ่ยจบ จันทร์จวงมองตามหลังได้แต่ส่ายหน้าในนิสัยร้ายกาจของน้องสาวที่ไม่เคยเปลี่ยน
**********************************************************************************
แม่นางกลับถึงเรือนในตอนมืดมากแล้ว ไปถึงก็เห็นบุตรชายนั่งรออยู่ตรงชานเรือนจึงได้เดินก้มหน้าปิดบังรอยช้ำที่ใบหน้าหลังโดนจิตราและเพลินพิศลอบทำร้ายตอนเดินกลับเรือนจนลืมสังเกตว่าบุตรชายตนก็ได้รับบาดแผลจนต้องพันแขนไว้
“ก้มหน้าก้มตา เป็นอะไรมาน่ะแม่” อิทธิเอ่ยถามมารดา พลางลุกเดินเข้าไปหาตอนฝ่ายนั้นขึ้นเรือนไปนั่งตรงที่ทำครัว
“เปล่า อิทไปนั่งรอแม่ต่อเถอะไป เดี๋ยวทำสำรับให้” แม่นางตอบพลางทำทีง่วนกับการเตรียมโน่นเตรียมนี่
“แม่ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถอะ เดี๋ยววันนี้อิททำให้เอง” บุตรชายเสนอตัว จึงรีบพยักหน้ารับแล้วลุกเดินจากไปโดยเร็ว
“เป็นอะไรของเขา” อิทธิเอ่ยตามหลังก่อนลงมือหุงหาอาหารแทนมารดา ทำเสร็จจึงยกสำรับไปตั้งตรงชานเรือนเอ่ยเรียกมารดา
“แม่ทานข้าวครับ อิทเตรียมสำรับเสร็จแล้ว”
“ทานก่อนเลยอิท แม่ไม่หิว วันนี้แม่เหนื่อย แม่ของีบสักหน่อยนะ” เพราะยังไม่อยากออกมาเผชิญหน้าลูกชายตอนที่ใบหน้ามีแผลช้ำอยู่ แม่นางจึงหลบตัวอยู่ภายในห้องนอน
อิทธิรู้สึกแปลกใจเพราะแต่ก่อนมารดาตนไม่เคยเป็นแบบนี้ เด็กหนุ่มค่อยๆ ลุกเดินไปที่ห้องของมารดา เห็นเจ้าตัวกำลังนั่งคลึงใบหน้าคล้ายๆ ทาอะไรสักอย่าง มันคงไม่ใช่เครื่องประทินผิวหน้า เพราะมารดาตนไม่ใช่คนรักสวยรักงามขนาดนั้น แล้วมันคืออะไรล่ะ เด็กหนุ่มสงสัย
“ทำอะไรน่ะแม่” ที่สุดจึงตัดสินใจเอายถาม เห็นฝ่ายนั้นสะดุ้งหันหน้ามามองถึงกับตกใจวิ่งเข้าไปหาเมื่อเห็นรอยช้ำแต้มชัดที่มุมปากและใบหน้าเจ้าตัว
“แม่ทายา แม่ไปโดนใครทำอะไรมาอีก ทำไมรอยมันช้ำกว่าเดิม” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทันควัน แม่นางอึกอักที่จะตอบ เพียงเท่านั้นบุตรชายก็ทำคล้ายจะเข้าใจเพราะเจ้าตัวผลุนผลันออกจากห้อง และกระโจนลงจากเรือนทันที
“อิทจะไปไหนลูก แม่ไม่เป็นอะไร กลับมานะ แม่บอกให้กลับมา”
แม่นางลุกตามมาเรียกบุตรชายที่ชานเรือน เห็นแค่หลังไวๆ ของเจ้าตัวตอนขึ้นจักรยานปั่นไปทางเรือนหลังใหญ่
“โธ่อิท จะให้เรื่องมันบานปลายอีกทำไมนะ” นางได้แต่เอ่ย แล้วทรุดนั่งเพราะหมดแรงที่จะวิ่งตามบุตรชายไป
ที่เรือนหลังใหญ่ขณะนั่งทานสำรับกันพร้อมหน้า วันนี้อาทียอมร่วมวงด้วยเพราะจันทร์จวงเป็นฝ่ายมาเรียกเอง เด็กหนุ่มเกิดความเกรงใจเกินจะขัด จึงยอมตามลงมานั่งข้างๆ พี่ชาย
“คิดไว้หรือยังว่าจะเรียนอะไรต่ออาที” อาทิตย์ชวนน้องชายสนทนา
“ไม่รู้” อาทีตอบห้วนๆ เพราะยังไม่อยากจะเสวนาด้วย
“อย่างมันจะคิดอะไรเป็น” เสียงจิตราว่าขึ้น จันทร็จวงกระแอมเสียงปราม หล่อนจึงนั่งหน้าเชิ่ดตามเดิม ก่อนจะหันไปตักโน่นตักนี่ให้บุตรชายคนโต
“ทานเยอะๆ นะอาทิตย์ กลับไปกรุงเทพฯ หาทานยากนะอาหารแบบนี้”
“ตักให้เยอะขนาดนั้นติดคอตายไม่รู้ด้วยนะ” อาทีเอ่ยแขวะบ้างเพราะหมั่นไส้อาการของมารดาเหลือทน
“ขัดคอฉันตลอดเลยนะไอ้ลูกคนนี้ เอ้า อยากได้ฉันจะตักให้” จิตราตักอาหารแบบส่งๆ ลงในจานบุตรชายคนเล็กบ้าง แทบกรี๊ดออกมาเมื่อเห็นฝ่ายนั้นเขี่ยไว้ตรงขอบจาน   พร้อมเอ่ย
“มีแต่ก้างทั้งนั้น ผมคงกินมาลงหรอก”
“เกินไปแล้วนะอาที” อาทิตย์เอ่ยปราม หนุ่มน้อยทำไม่สนใจก้มหน้าก้มตาจัดการสำรับตรงหน้าเงียบๆ จิตราได้แต่แยกเขี้ยวใส่เงียบๆ เพราะไม่กล้าเอ็ดตะโรเนื่องจากมีจันทร์จวงนั่งคุมสติอยู่
“ว้าย! คุณจิตรขาคุณจิตร ไอ้อิทธิมันมาค่ะ ท่าทางเอาเรื่องด้วยค่ะคุณ”
เสียงวิ่งตึงตังตามด้วยประโยคบอกกล่าวของเพลินพิศดังมาให้ได้ยิน คนทั้งหมดในวงสำรับมองหน้ากันงงๆ ที่สุดอาทีเป็นฝ่ายลุกขึ้นก่อนใครและตรงไปยังทางที่เพลินพิศวิ่งมา กำลังจะก้าวลงบันไดลงไปเมื่อเห็นร่างของเพื่อนยืนอยู่หน้าเรือน
“ไม่ต้องอาที ฉันไปเอง” อาทิตย์เอ่ยห้มน้องชาย ลุกเดินไปมองยังร่างอิทธิบ้าง
“เฮ้อ มันอะไรกันอีกเนี่ย” จันทร์จวงเอ่ยบ้าง ส่ายหน้านึกปลง จิตราได้ทียุส่ง
“ไหนบอกว่าไอ้เด็กนั่นเป็นเด็กดีไงคะ แล้วยังไงคะ ตามมากวนเวลาสำรับเจ้านายน่าเกลียดนัก”
“ก็เพราะเธอน่ะแหละไปทำร้ายแม่นาง ไม่อย่างนั้นอิทธิมันคงไม่อยากจะมาที่เรือนนี้เท่าไหร่หรอก” จันทร์จวงว่าแล้วลุกเดินหนีเข้าห้องเพราะไม่อยากรับรู้อะไรอีก ปล่อยให้น้องสาวโดนเด็กมันถอนหงอกเอาซะบ้างก็สมควรดี
“ต๊าย! หนีเข้าห้องแบบนี้ก็เสร็จอีจิตรน่ะสิ” จิตราเอ่ยตามอย่างสมใจ เรียกเพลินพิศมากระซิบ
“นังพิศแกลงเรือนไปทางด้านนี้นะ ไปเรียกนายศรกับนายสินมา จะเอาไอ้เด็กบ้านี้ให้อยู่ต้องให้สองคนนั้นจัดการ”
“ได้ค่ะคุณจิตร วุ้ย ท่าทางเรื่องคืนนี้จะสนุกนะคะ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ไปแกรีบไปเร็ว ก่อนไอ้เด็กนั่นมันจะอาละวาด”
เพลินพิศรีบไปตามคำสั่ง จิตรายิ้มสมใจ ก่อนหันมาสนใจบุตรชายทั้งสองที่ยืนคุยกันอยู่
“นั่นเพื่อนผม พี่ไม่ต้องมายุ่ง มันจะมาทำไรยังไง ผมคุยกับมันเอง” เสียงบุตรชายคนเล็กว่าก่อน
“แน่ใจเหรอว่าจะคุย แกจะคอยยุส่งให้นายนั่นให้ทำเรื่องวุ่นวายที่นี่น่ะสิ” บุตรชายคนโตว่ากลับ
“ยุส่งอะไร ไอ้อิทมันอาจจะแค่มาหาผมก็ได้”
“จริงเหรอ ฉันดูท่ามันแล้วดูท่ามันจะมาหาเรื่องซะมากกว่ามั้ง”
“พูดผิดแล้วล่ะพี่อาทิตย์ ผมว่ามันจะมาทวงความยุติธรรมให้แม่นางมากว่า ถ้าให้เดา คนที่นี่คงไปหาเรื่องแม่นางอีกแล้วแน่ๆ”
ถึงตอนนี้อาทีปรายตามองมารดาซึ่งลุกขึ้นตอบโต้ว่า
“แกกำลังจะว่าฉันน่ะสิไอ้อาที”
“ก็มันจริงมั้ยล่ะ แม่ไปทำร้ายแม่นางอีกแล้วใช่มั้ย” อาทีถาม
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” จิตราตอบรับอย่างไม่สนใจความรู้สึกบุตรชาย
“แม่ทำแบบนี้ทำไม” อาทีหันมาตอบโต้อย่างจริงๆ จังๆ สองคนจึงเถียงกันไปมา อาทิตย์ถือจังหวะนั้นเดินลงไปเผชิญหน้าอิทธิที่เบื้องล่าง
“มาทำไม” ชายหนุ่มเท้าเอวถาม
“ไม่เกี่ยวกับคุณ” อิทธิตอบ แล้วคิดจะเลี่ยงหนีเดินขึ้นเรือน อาทิตย์รีบฉุดเอาไว้เอ่ยถาม
“จะไปไหน”
 
โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 11-01-2011 00:04:43
อร๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงตัดฉับเสียอย่างนั้น

ค้างคามากๆค่ะคุณบอย


+1สำหรับตอนที่ ๑๑
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 11-01-2011 01:28:41

วุ้ย พี่อาทิตย์ เก๊ท เอ๊าท์(เลียนเสียง หนุ่ม กรรชัย)
อาทิตย์สมควรถูกแบนแล้วค่ะ ได้เป็นแค่ extra ก็พอ
อย่าเป็นมันเลย พระเอกนางเอก...ไม่ได้เลว แต่ก็ดี(และฉลาด)ไม่พอค่ะ ชิส์

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 11-01-2011 08:50:03
ค้างงงงง  มาต่อเร็ว ๆ น๊าาา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-01-2011 10:02:06
เฮ้อ! นังจิตร สงสัยวิธีที่จะทำให้มันฉลาดขึ้นคงมีแต่จะต้องให้ใครตายก่อนมั้งน่ะ ถึงจะรู้ว่าตัวเองโง่!
ส่วนคุณจันทร์จวงก็.....ดีนะ แต่ก็อ่อนไป ยังข่มน้องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
อิทธิพลก็เอาแรงๆๆๆๆๆเลย
เชียร์อยู่^^

ปล.รอฉากมากกว่าจูบอยู่เน้อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 11-01-2011 10:36:13
อร๊ายยยย อิทธิปรี๊ดแตกแล้ว
อาทิตย์จะช่วยใครละเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 11-01-2011 10:52:48
ทนอยู่เพราะไม่มีที่ไปเหรอ T^T

ทนอยู่เพราะบุญคุณเหรอ?


..(เป็นกรูไม่อยู่แล้ววว)

กำลังเดาเรื่อง.. มันจะมีฉากแม่นางถึงตายมั้ยน้อ?
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-01-2011 16:41:32
เอาล่ะสิงานนี้ จะได้ตบจูบกันอีกหรือเปล่า
+1 ให้ค่ะ แล้วรีบมาต่อไวๆนะคะ ค้างคาเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 11-01-2011 17:17:35
อ๊ากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจบตอนๆด้ทรมาณแฟนคลับสุดๆเลยนะครับ 
มาหมดตอนเอาตอนกำลังมันเลย 
อยากอ่านตอนต่อสุดๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 11-01-2011 17:23:15
จะชิงชังอะไรนักหนานะ นังจิตรนี่
ไม่ไหวๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 11-01-2011 18:29:11
อ๊ากกก ทำลังลุ้นนายอาทิตย์จะทำอะไร ค้างมากๆเลยคะ คุณบอย
เริ่มเบื่อนังจิตรแล้ว อะไรนักหนาเนี่ย ตามราวีไม่จบไม่สิ้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 11-01-2011 18:53:44
เอาอิป้าจิตรนี่ไปเก็บที :z6:
ไม่ไหวจะทน!!!!! :m16:

แล้วใครจะเป็นพระเอก
ไม่เอารักสามเศร้านะ มันเศร้า :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-01-2011 20:10:51
^
^
คงไม่สามเศร้าหรอกมั้ง
ดูอาทีก็ไม่เห็นจะมีทีท่าอะไรกับอิทธิเลย เอ๊ะ! หรือว่าคิดเงียบๆ -*-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 11-01-2011 22:29:47
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!
กำลังมันส์เลยอ่ะ :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 11-01-2011 23:56:50
อ่านไปลุ้นไป อิทธิจะเลือกใครกันแน่
ตอนนี้แอบเชียร์พี่อาทิตย์อยู่แหะ
แต่เจอหน้ากันแต่ละทีเนี่ย พูดกันดีๆ ไม่เคยได้ ชวนทะเลาะตลอด แรงทั้งคู่
น่าจะจับไปอยู่ด้วยกันสักพัก

ปล.อิทธิแอบหวั่นไหวกับจูบนี้ใช่ไหม
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 12-01-2011 00:26:02
อาทิตย์ อย่าทำไรโง่ๆ กวนตรีน อิทธิละ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 12-01-2011 00:49:09
ค้าง อย่างแรง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 12-01-2011 14:29:22
นั่งรอ นอนรอ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-01-2011 15:04:00
มานั่งรอนอนรอด้วยคนค่า
อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-01-2011 15:23:10
เฮ้อ..เมื่อไหร่แม่นางกับอิทธิจะพ้นวิบากรรมซะที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 12-01-2011 21:26:15
ค้างคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-01-2011 21:52:10
มารอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 13-01-2011 01:04:58
มันค้างยิ่งนัก  :z3:

ขออย่างเดียว ตอนสุดท้ายอย่าให้แม่จิตรแค่สำนึกผิด แล้วแม่นางให้อภัยน่ะ
มันไม่เหมาะสมกับพฤติกรรมของแม่จิตรมากๆ เป็นคนที่ไม่มีมโนสำนึกที่สุด  :fire:
แกล้งคนอื่นเพื่อความสนุกไปวันๆ สมควรโดน :z6:

ไม่อยากให้ทั้งอาทีกับอาทิตย์เป็นพระเอกเลยอ่ะ  :เฮ้อ:

มีแม่เลวเกินบรรยาย  :a5:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-01-2011 17:58:44
แวะมาดัน อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-01-2011 18:58:19
รอจ้า
อยากอ่านจริงๆนะเนี่ย^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-01-2011 19:48:42
จิ้มรีบน
มารอเหมือนกันอะจิ อิอิ
เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นกันเลยทีเดียว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 13-01-2011 19:49:10
 :z1: ลุ้นนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-01-2011 09:56:10
มารออีกวัน
ใจจะขาดวุ้ย เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นเลยทีเดียว ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-01-2011 11:26:34
เดี๋ยวจัดให้คืนนี้นะครับ..รอน๊า...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 14-01-2011 16:48:20
อ่านไปลุ้นไป

ค้างเยี่ยงนักแลเนี้ย

มาไวๆนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-01-2011 17:49:31
มารออีกวัน
ใจจะขาดวุ้ย เฝ้าเช้าเฝ้าเย็นเลยทีเดียว ^^
มารออีกวันค่ะ อิอิ คอเดียวกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-01-2011 17:52:02
วันนี้สินะ
หุหุ วันนี้แหละ 55+
อยากอ่านเร็วๆจัง
มีคอเดียวกับเราด้วยวุ้ย 55+
อยากบอกว่า ชอบเรื่องนี้ที่สุดดดดดดด^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 11 อัพเดต 10.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-01-2011 23:04:49
ตอนที่ ๑๒
“ไม่เกี่ยวกับคุณ” อิทธิตอบ แล้วคิดจะเลี่ยงหนีเดินขึ้นเรือน อาทิตย์รีบฉุดเอาไว้เอ่ยถาม
“จะไปไหน”
“ปล่อยผมคุณอาทิตย์ ผมอยากคุยกับคุณจิตร” อิทธิหันมาสะบัดแขน ดีทีอาทิตย์ไม่จับโดนที่แผลจึงมีแรงพอที่จะขยับ แต่ถึงกระนั้นเรี่ยวแรงที่ส่งออกไปก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการจับยึดจากแรงฉุดของอาทิตย์ได้
“คิดจะขึ้นเรือนฉัน มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกอิทธิ มานี่!” อาทิตย์ออกแรงฉุดให้อิทธิเดินตามตนไปในมุมมืดหลังเอ่ยจบ ส่วนอาทีพอรามือจากการโต้แย้งกับมารดาก็หันมามองทางเดิมที่อิทธิเคยยืนอยู่ เด็กหนุ่มแปลกใจเมื่อที่ตรงนั้นว่างเปล่าไร้ซึ่งเงาเพื่อตน ร้ายไปกว่านั้นพี่ชายตนก็หายไปด้วยเช่นกัน
“หายไปไหนกันสองคน” หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นเบาๆ จิตราเดินมาชะโงกมองข้างๆ เอ่ยถามเสียงเขียว
“มันหายไปไหนแล้วล่ะ พี่ชายแกด้วย”
“ผมจะรู้มั้ยล่ะครับ” อาทีหันมาตอบยียวน ก่อนจะรีบเดินจากเรือนเพื่อตามหาเพื่อน
“ดู๊ ดูมันพูดกับแม่มัน ฮึ่ย!” จิตรายืนฉุนอยู่กับที่ได้แต่มองตามหลังบุตรที่ชายหายไปในความมืด
ทางด้านอาทิตย์ที่ลากแขนอิทธิมาในที่ลับตาผู้คนพอสมควร บริเวณที่ยืนอยู่มีเพียงต้นส้มล้อมกาย ซึ่งแสงไฟส่องเข้าไม่ถึง สองคนมองเห็นใบหน้ากันและกันก็เพียงแค่แสงจากพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวและหมู่ดาวเพียงเท่านั้น
“คุณพาผมมาไกลขนาดนี้ทำไม” อิทธิโวยขึ้นเมื่อโดนปล่อยร่างให้เป็นอิสระ
“คิดว่าฉันจะลากมาข่มขืนหรือไง ไม่ได้หน้ามืดขนาดนั้นโว้ย” อาทิตย์โต้กลับ อิทธิไม่อยากสนทนาต่อเพราะเป้าหมายที่ตนอยากจะสะสางคดีให้มารดาคือจิตรา เด็กหนุ่มหมุนตัวจะเดินหนีแต่แล้วร่างก็ต้องกระเด็นกลับเมื่อคนข้างหลังดึงไว้ตามเดิม
“ยุ่งจริงโว้ย!” ด้วยความโมโหจึงยกกำปั้นขึ้นชกในขณะที่ฝ่ายนั้นยังไม่ทันตั้งตัว
อาทิตย์หน้าหันสะบัดไปตามแรงเหวี่ยงกำปั้น ชายหนุ่มรู้สึกชาที่มุมปากก่อนอาการเจ็บหนึบจะตามมา
“ช่วยไม่ได้อยากวอนเอง” อิทธิว่าเมื่อสาแก่ใจในผลงาน เด็กหนุ่มคิดจะเดินหนีตอนคนเจ็บตัวหันมามองหน้า
“จะไปไหน คิดว่าฉันจะยอมให้นายทำฝ่ายเดียวหรือไง” อาทิตย์ใช้ความไวคว้าแขนอิทธิไว้ทัน ชายหนุ่มออกแรงดึงร่างนั้นมาแนบกับอกตนทันที พร้อมกับโน้มใบหน้าลงไปใกล้
“นี่คุณจะทำอะไร” อิทธิเอ่ยถามใจสั่นระรัว พยายามเบี่ยงกายออกจากอกแข็งแรงแต่ช่างยากนัก เมื่อเจ้าของอกใช้วงแขนกระชับแผ่นหลังตนเอาไว้ไม่ยอมปล่อย
“เคยโดนแล้วยังจะถามอีกเหรอคนเก่ง” อาทิตย์เอ่ยยั่ว เลือดในกายสูบฉีดขึ้นอีกครั้งเพราะความโกรธที่อิทธิกล้าลงมือชกต่อยตน หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงจะตอบโต้กลับด้วยการชกต่อยไปแล้ว แต่ตอนนี้ใบหน้าและแววตารั้นด้วยทิฐิของอิทธิมันชวนให้อยากสั่งสอนเจ้าตัวด้วยวิธีที่เคยทำอย่างตอนเย็นเสียมากกว่า ชายหนุ่มโน้มหน้าลงไปอีกในตอนที่คนในอ้อมแขนพยายามเบี่ยงตัวหลบ
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคุณอาทิตย์ คราวที่แล้วผมแค่เผลอ คราวนี้หากคุณทำกับผมเหมือนตอนเย็นอีก ผมกัดลิ้นคุณขาดแน่” อิทธิเอ่ยขู่ ในใจสั่นหนักกว่าเดิม กลัวเหลือเกินว่าคำพูดเมื่อครู่ว่าจะเป็นแค่การขู่จริงๆ เพราะยังจำสัมผัสอันดุดันบวกอ่อนละมุนของริมฝีปากและปลายลิ้นของคนตรงหน้าได้ไม่ลืม ยอมรับว่ากลัวว่าความรู้สึกในกายจะวาบหวามและสั่นสะท้านได้อีกครั้งจนเผลอตอบสนองหากโดนจู่โจมอย่างที่เคยโดน
“กล้ากัดก็เอาเลย” อาทิตย์เอ่ยท้า พลางกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นอีก
“โอ้ย!” อิทธิเผลอร้องออกมาเพราะรู้สึกเจ็บและแน่นช่วงตัวจนแทบหายใจออก อาทิตย์เห็นอาการจึงยิ้มเยาะออกมาที่มุมปาก คิดยั่วอารมณ์เล่นๆ โดยการปล่อยร่างคนร้องให้เป็นอิสระโดยง่าย เอ่ยขึ้นเยาะๆ
“แกล้งเปิดปากร้องเพื่อให้ฉันจูบได้ง่ายขึ้นอย่างงั้นเหรอ ติดใจปลายลิ้นฉันแล้วล่ะสินายอิทธิ ฝันไปเถอะ ฉันไม่จูบนายง่ายๆ หรอก”
อิทธิหน้าชาวูบเมื่อได้ยินเช่นนั้น พูดแบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ เขาไม่ยอมเป็นรองหรอก คิดได้แบบนั้นจึงเอ่ยตอบโต้
“ขี้ขลาดก็ยอมรับมาตรงๆ เถอะคุณอาทิตย์ กลัวว่าผมจะกัดลิ้นเอาจริงๆ ก็ไม่น่าหาข้ออ้างเลยนี่”
“ใครบอกฉันกลัว” อาทิตย์รีบแย้งเพราะรู้สึกเสียหน้ากับคำว่าขี้ขลาด นึกไม่ถึงว่าอิทธิจะมาไม้นี้กับตน
“การกระทำมันฟ้องชัดๆ ทำไมต้องมีใครบอก” อิทธิโต้กลับ กลับมาเป็นฝ่ายยิ้มเยาะบ้าง เมื่อพอจะเห็นใบหน้าเครียดตึงของคนตรงหน้ารางๆ
“ร้ายให้ได้ครึ่งแม่คุณซะก่อนเถอะ ค่อยคิดจะมากำราบผม จำเอาไว้” เด็กหนุ่มทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้อย่างผู้ชนะในเกมตอบโต้นี้ ก่อนจะพาร่างเดินจากไป
“เดี๋ยวก็รู้ว่านายจะยอมศิโรราบต่อฉันมั้ย” อาทิตย์เอ่ยขึ้นตามหลัง แล้วรีบเดินตามร่างคนปากกล้าไป
อิทธิพอได้ยินเสียงฝีเท้าตามมาก็รีบเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้พ้นจากเขตอับแสงนี้ แสงรำไรจากหลอดไฟด้านหน้าคือเป้าหมาย หนุ่มน้อยเร่งฝีเท้าเป็นเดินแกมวิ่ง เพราะคิดว่าหากอาทิตย์จับตัวตนได้อีกครั้ง คืนนี้ตนคงไม่มีโอกาสเจอตัวจิตราเป็นแน่
“โอ้ย!” เด็กหนุ่มร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อร่างทั้งร่างชนเข้ากับใครบางคนที่เดินเข้ามาขวางหน้า โชคดีที่ฝ่ายนั้นฉุดตัวเอาไว้จึงไม่ได้ล้มลง
“กูเองไอ้อิท เดินเหมือนหนีใครมางั้นแหละมึง” อาทีเอ่ยกับเพื่อนเมื่อฉุดร่างเจ้าตัวเอาไว้ได้แล้ว
“หนีพี่มึงอ่ะดิ แม่งลากกูไปซะไกล” อิทธิบอก ยืนหอบหายใจคลายเหนื่อยและบรรเทาอาการตกใจจากการชนร่างคนตรงหน้าเมื่อครู่
“แล้วเขาทำอะไรมึงหรือเปล่า” อาทีรีบถามไถ่อาการเพื่อนเมื่อรับรู้ว่าเจ้าตัวหายไปกับใคร
“ไม่อ่ะ กูหนีออกมาก่อน” อิทธิเอ่ยตอบ นาทีนั้นอาทิตย์ได้เดินมาถึงร่างพอดี
“พาเพื่อนผมไปไหนมาพี่อาทิตย์” อาทีเบนเป้าหมายมาสนใจพี่ชาย
“มันฟ้องแกว่าไงล่ะ” อาทิตย์ถามกลับ
“กูขอตัวก่อนนะอาที” อิทธิเห็นพี่น้องยืนจ้องตากันจึงคิดจะเบี่ยงตัวหนี แต่แล้วต้องชะงักเมื่อโดนประโยคคำสั่งและคำขู่จากปากอาทิตย์
“ห้ามไปราวีแม่ฉันเด็ดขาด ไม่งั้นนายเจอดีแน่นายอิทธิ”
“ผมไม่เคยราวีใคร ถ้าใครไม่มาราวีผมกับแม่ผมก่อน” อิทธิหันมาตอบ คงนึกเสียใจอีกหลายวันหากวันนี้ตนไม่ได้เรียกร้องอะไรให้มารดาของตนที่ถูกรังแก
“นายกำลังจะบอกว่าแม่ฉันไปราวีนายงั้นเหรอ” อาทิตย์เอ่ยถาม
“ไม่ใช่ผม แต่เป็นแม่ผม”
“ตอนไหน ที่ไหน”
“ผมกำลังจะไปถามแม่คุณอยู่นี่ไง”
“แล้วมีหลักฐานอะไรที่นายคิดจะไปเค้นถามเอากับแม่ฉัน”
“แม่นางนั่งทายาอยู่ที่เรือนผมหน้าตาบวมช้ำคุณตามไปดูสิ!” ถึงตอนนี้อิทธิเสียงสั่นกายสะท้านเพราะรู้สึกสะเทือนใจตอนนึกถึงภาพที่มารดาของตนนั่งทายาแก้ช้ำบนใบหน้า เจ้าตัวคงจะเจ็บและช้ำใจพอดูที่โดนรังแกอยู่ไม่เว้นแต่ละวันอย่างนี้
“ใจเย็นๆ อิท ปะ เดี๋ยวกูพาไปหาแม่กูเอง” อาทีเข้าปลอบเมื่อเห็นอาการเพื่อนคล้ายคนจะร้องไห้
“แกเป็นลูกใครกันแน่วะอาที แกจะพานายนั่นไปอาละวาดแม่แกหรือไง” อาทิตย์ตำหนิน้องชาย รู้สึกสะท้านอยู่บ้างกับอาการของอิทธิที่แสดงออกมา แต่จะให้เขาเชื้อเชิญให้เจ้าตัวไปพบมารดาของตนตอนสภาวะอารมณ์เป็นแบบนี้น่ะเหรอ มันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ล่ะมั้ง
“ก็แม่เราไปทำแม่เขานี่” อาทีแย้งพี่ชาย
“แล้วไงล่ะ พรุ่งนี้ค่อยเคลียร์ได้มั้ยล่ะ วันนี้มันมืดค่ำแล้ว แยกย้ายกันไปพักผ่อนไม่ดีกว่าเหรอ” อาทิตย์หาทางออก
“คุณก็พูดได้สิคุณอาทิตย์ ลองแม่คุณโดนใครรังแกเอาคุณจะใจเย็นแบบนี้มั้ย ผมถามหน่อยเถอะ!” อิทธิถามขึ้น ปาดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม
“ฉันเข้าใจอารมณ์นายนะอิทธิ แต่ฉันขอให้นายมาพบแม่ฉันพรุ่งนี้ได้มั้ย ตอนนี้มันค่ำแล้ว เกรงใจท่านเกรงใจป้าจันทร์บ้างเถอะ” อาทิตย์ตอบด้วยท่าทีนิ่งๆ ด้วยเพราะเห็นอาการอ่อนแอของอิทธิแล้วไม่อาจจะโวยวายหรือขึ้นเสียงได้อีก
“ผมจะพบวันนี้ เพราะไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ผมกับแม่อาจไม่ทนอยู่ที่นี่แล้วก็ได้” อิทธิฮึดใจให้เข้มแข็งขึ้นเอ่ยบอก ประโยคนั่นทำอาทิตย์และอาทีนิ่งงันไปพลัน  สองพี่น้องมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนจะใจหายเมื่อคนนอกสายเลือดได้พาร่างวิ่งไปทางเรือนของพวกตน
“รั้นได้ใจจริงๆ ให้ตายเถอะ” อาทิตย์เอ่ยออกมาก่อนน้องชายแล้วรีบวิ่งตามร่างคนรั้นไปโดยเร็ว
“ตัวเองก็ไม่ต่างกันหรอก” อาทีค่อนขอดพี่ชายแล้วรีบวิ่งตามไปอีกคน
ด้านอิทธิที่วิ่งมาถึงเรือน เด็กหนุ่มฮึดเรียกกำลังใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบเดินก้าวจะขึ้นเรือน แต่พอเท้าแตะบันไดขั้นแรกก็ต้องชะงักแหงนมองเมื่อมีหนึ่งเสียงดังมาจากด้านบน
“เป็นลูกขี้ข้าจะขึ้นเรือนเจ้านายง่ายๆ อย่างงั้นเหรอไอ้อิทธิ”
“นายสิน” อิทธิเอ่ยเรียกเจ้าของเสียงเมื่อเห็นว่าเป็นใคร ไอ้อันธพาลนี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง อย่าบอกนะว่าจิตราเรียกตัวมันมา หนุ่มน้อยยืนคิดขณะหนึ่ง ก่อนจะยอมถอยร่างลงมาตอนที่นายสินเดินลงมาหา หยุดอยู่ตรงหน้า
“นายมาอยู่นี่ได้ไงนายสิน” อิทธิเอ่ยถามเมื่อได้เผชิญหน้ากันแล้ว
“คุณจิตรเรียกฉันกับพ่อมา บอกว่าจะมีคนมาก่อกวน ไม่คิดเลยว่าจะเป็นเอ็ง” สินเอ่ยตอบ ยกมือผลักที่อกอิทธิเบาๆ ยิ้มยั่วโมโห
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย ฉันขอพบคุณจิตรเท่านั้น” อิทธิปัดมือนั่นออก จ้องเขม็งสั่งให้เจ้าของมือหลีกทางให้ตน
“คุณจิตรกำลังคุยเรื่องงานกับพ่อข้าอยู่ เอ็งกลับเรือนไปถ้าไม่อยากมีเรื่องกับข้า” สินบอกอีก ก่อนจะหันไปยังทิศทางของเสียงพูดที่ดังมาแทรก
“นายนั่นแหละกลับเรือนไปนายสิน เรือนนี้ไม่ต้อนรับอันธพาลอย่างนาย”
อาทีนั่นเองเป็นเจ้าของคำพูด เด็กหนุ่มเดินคู่กันมาพร้อมพี่ชาย
“คุณอาที คุณอาทิตย์” สินเรียกชื่อสองพี่น้องที่ตนกำลังจ้องมอง ร่างทั้งคู่เดินมายืนขนาบร่างอิทธิ
“คุณอาทิตย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ชายหนุ่มเฉไปเอ่ยทักอาทิตย์
“นานแล้ว” อาทิตย์ตอบส่งๆ ไป เพราะไม่ยินดีที่จะพูดคุยด้วยตอนนี้
“แล้วนี่ไปไหนกันมาครับ” สินถามต่อ
“จะรู้ไปทำไม ถอยไปฉันจะขึ้นเรือน” อาทีเอ่ยสั่ง สินยอมถอย ในใจเกิดคิดแค้นที่โดนเด็กรุ่นน้องออกคำสั่ง ถือว่าเป็นลูกเจ้านายงั้นสิ สักวันเถอะ กูจะสั่งสอนให้ ชายหนุ่มแอบคิด
“ผมยอมให้คุณอาทีกับคุณอาทิตย์ขึ้นไปสองคนนะครับ ส่วนไอ้อิท คุณจิตรสั่งไว้ว่าห้ามมันขึ้นไปบนเรือนเด็ดขาด” สินเอ่ยออกมาในตอนที่ถอยร่างเสร็จ
“ฉันต้องเชื่อนายเหรอ” อาทีเอ่ยใส่หน้าอย่างไม่นึกสน เด็กหนุ่มหันไปเอ่ยชวนอิทธิให้ขึ้นไปพร้อมกัน
“ไปกับกูอิท นี่เรือนกู อย่าไปฟังคำใคร”
“แต่แม่คุณอาทีห้ามไว้จริงๆ นะครับ” สินรีบแย้ง เพราะหากตนทำงานนี้ไมสำเร็จก็สิ้นลายลูกชายหัวหน้าคนงานกันพอดี
“ถ้าเป็นคำสั่งป้าจันทร์ฉันจะฟัง แต่ถ้าไม่ใช่ใครก็อย่ามาสั่ง” อาทีเอ่ยเสียงแข็ง จ้องเขม็งที่ลูกชายหัวหน้าคนงานดั่งใช้สายตากำราบว่าให้เจ้าตัวหยุดพูดหยุดสั่ง
“แล้วถ้าฉันสั่งนายจะฟังมั้ย” อาทิตย์เอ่ยขึ้น ไม่ได้คิดเข้าข้างสินแต่เพราะยังไม่อยากให้อิทธิเผชิญกับมารดาตนตอนนี้ ดูภาวะอารมณ์ที่พร้อมอาละวาดของเจ้าตัวแล้วเกิดกลัวว่าเรื่องจะบานปลาย
“ป้าจันทร์กับอาทิตย์ตัวสะกดเหมือนกันมั้ยล่ะครับ ถ้าไม่เหมือนคำตอบคืออะไรพี่อาทิตย์คงรู้ดี” อาทีตอบแล้วคว้ามืออิทธิเดินขึ้นไปบนเรือนอย่างไม่สนใจคำทัดทานใครอีก
“ลากศัตรูมาฆ่าแม่ตัวเองเลยเหรอไอ้ตัวดี” เสียงแรกที่ดังทักทายตอนเยี่ยมหน้าขึ้นไปบนชานเรือนคือประโยคที่ดังออกมาจากปากจิตราที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่กับนายศรและเพลินพิศ
“ผมไม่ได้มาฆ่าใคร ผมแค่มาขอคำอธิบายจากคุณจิตรว่าทำร้ายแม่ผมทำไม” อิทธิเอ่ยตอบโต้ จ้องเขม็งไปยังร่างที่นั่งเชิดหน้าของจิตราอย่างนึกชิงชัง
“หลักฐานล่ะมีมั้ย” จิตราตอบเสียงเยาะ
ทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ ทำไมจะต้องถามหาหลักฐาน” อิทธิตอบแกะมืออาทีออกจากแขนแล้วเดินตรงไปหาจิตรา
“หยุดอยู่แค่นั้นแหละอิทธิ” เสียงที่เอ่ยห้ามคือเสียงอาทิตย์ที่เดินขึ้นมาสมทบพอดีพร้อมกับนายสิน
“เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างไอ้อิทกับแม่เท่านั้น คนอื่นอย่าเกี่ยวได้มั้ยครับ”
อาทีเอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกเพื่อนตนโดนกดดันล้อมหน้าล้อมหลัง
“แกแหละเลิกพูดอาที นั่นแม่แกนะโว้ย แกจะให้ใครที่ไหนตามมาถอนหงอกเอาง่ายๆ แบบนี้งั้นเหรอ” อาทิตย์ดุน้องชาย สินแอบยิ้มสะใจ ไม่ต่างจากนายศรผู้เป็นบิดา
“แล้วทีแม่เราไปราวีคนอื่นเขาล่ะ” อาทีหันมาเถียง
“ก็บอกแล้วไงพรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากัน”
“ผมต้องการคุยวันนี้ ตอนนี้ ว่าทำไมแม่คุณถึงไปทำร้ายแม่ผม” อิทธิเอ่ยขึ้น สุดทนเมื่อเห็นอาทิตย์เอาแต่ปกป้องมารดาของตัวเองท่าเดียวโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของตน ใช่สินะ เขามันแค่ลูกขี้ข้านี่ นายคนนี้จะมายีระอะไรด้วยล่ะ
“อย่ากำเริบให้มากนักอิทธิ นายเป็นใคร แม่ฉันเป็นใครสำนึกเอาไว้บ้าง จะอวดเก่งยังไงหัดดูเงาหัวตัวเองหน่อยก็ดีนะว่านายก็แค่ลูกคนงานหนึ่งคนในไร่เท่านั้น” อาทิตย์เอ่ยว่าด้วยถ้อยคำเชิงเหยียดศักดิ์ ที่ต้องเอ่ยเพราะนึกไม่ชอบใจท่าทีอวดเก่งของคนที่ว่ากันตามจริงน่าจะนอบน้อมมากกว่านี้
“ขอโทษเพื่อนผมเลยนะพี่อาทิตย์ ไอ้อิทมันก็คนเหมือนกัน ทำไมพี่จะต้องจ้องดูถูกมันด้วย” อาทีเอ่ยโต้แทนเพื่อนในขณะที่จิตราแอบยิ้มสมใจในคำพูดของบุตรชายคนโต ให้มันได้อย่างนี้ซี้! ลูกฉัน หล่อนแอบคิด
“ฉันพูดอะไรผิดไปทำไมฉันจะต้องขอโทษ” อาทิตย์หันมาตอบโต้น้องชาย สองคนจึงเริ่มมีปากเสียงกัน
“ก็ที่พี่พูดเมื่อกี้ คนมีการศึกษาที่ไหนเขาพูดกัน”
“แกจะลามปามฉันเกินไปหน่อยแล้วนะอาที”
“แค่นี้ยังน้อยไปถ้าไม่ขอโทษเพื่อนผม”
“แกนี่มันเห็นคนอื่นดีกว่าสายเลือดตัวเองจริงๆ”
“ผมไม่ชอบความอยุติธรรม ที่ผมต่อต้านการกระทำแย่ๆ ของทั้งพี่และแม่ก็เพียงเพราะให้นึกถึงจิตใจคนอื่นบ้างก็เท่านั้น”
“ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมริจะมาสั่งสอนฉันงั้นเหรอ น่าขันนักไอ้อาทีเอ้ย!” จิตราเอ่ยแทรกขึ้นมาเมื่อรู้สึกสมเพชในคำพูดบุตรชาย หล่อนลุกเดินขึ้นมาหาหลังเอ่ยจบ พร้อมนายศรที่ลุกเดินตามหลังมา
“แม่เข้าห้องไปก่อนดีกว่าครับ เดี๋ยวทางนี้ผมเคลียร์เอง” อาทิตย์เอ่ยบอกมารดาเมื่อเห็นอิทธิจ้องเขม็งที่ร่างเจ้าตัวทุกฝีก้าว กระทั่งหยุดเผชิญหน้ากัน
“ได้ยินชัดแล้วใช่มั้ยไอ้เด็กเหลือขอว่าการจะเข้าถึงตัวฉันมันไม่ง่ายอย่างที่แกคิดหรอก” จิตราเอ่ยว่าใส่หน้าเครียดๆ ของอิทธิอย่างสาแก่ใจ หล่อนยกมือจิ้มหน้าผากเจ้าตัวสุดแรงพร้อมเอ่ยขึ้นตอนร่างนั้นหน้าหงาย
“เห็นหน้าแล้วหมั่นไส้ไอ้ลูกไร้พ่อ!”
“เกินไปแล้วนะแม่ ทำไอ้อิทธิทันทำไมอ่ะ!” อาทีเอ่ยว่ามารดาเสียงดัง ก่อนจะหน้าหันไปอีกคนจากแรงฟาดของฝ่ามือคนที่ตนว่า
 “แล้วแกคิดว่าแกจะไม่โดนเหรอไอ้ลูกนอกคอก หนอยพาไอ้ลูกขี้ข้านี้มาถอนหงอกฉันถึงบนเรือน มันน่านัก” จิตราเงื้อมือจะทำร้ายบุตรชายคนเล็กอีกตอนเจ้าตัวหันมาจ้องหน้า หล่อนชะงักมือค้างไว้เพราะมีเสียงเอ่ยห้ามจากบุตรชายคนโต
“พอแล้วแม่ ผมขอเคลียร์กับสองคนนี้เองครับ แม่เข้าห้องไปก่อนนะครับ” อาทิตย์รู้สึกตกใจไม่น้อยที่เห็นการกระทำร้ายๆ ของมารดา ชายหนุ่มเดินไปดึงร่างน้องชายและอิทธิออกจากรัศมีวงแขนของฝ่ายนั้น
“ไม่ต้องมาถูกตัวผม ถอยไป” อิทธิสะบัดแขนออกพร้อมออกแรงผลักอาทิตย์จนล้มไปบนพื้นเรือน
“ว้าย! ลูกอาทิตย์” จิตราร้องเสียงหลงในภาพที่เห็น นึกแค้นเคืองอิทธิเหลือจะทน จึงเงื้อมือขึ้นจะตบสั่งสอน แต่สายตาอิทธิว่องไวกว่า เด็กหนุ่มมองเห็นภาพนั้นจึงชิงลงมือผลักร่างจิตราให้ล้มลงไปบนพื้นเรือนอีกคน จิตราร้องกรี้ดลั่น นายศรกับนายสินเห็นภาพนั้นต้องการทำดีเอาหน้าจึงวิ่งโร่เข้าจะทำร้ายอิทธิ แต่อาทีตวาดสั่งห้ามไว้ก่อน
“อย่าแตะต้องไอ้อิทแม้แต่ปลายก้อย ไม่อย่างนั้นพวกนายได้ยกครัวออกจากไร่นี้แน่”
“ว้าย! แบบนี้อีพิศไม่ยุ่งแล้ว” เพลินพิศเห็นท่าทีขึงขังอาทีแล้วนึกหวั่นจึงไม่อยากมีเอี่ยว สาวใช้คิดจะคลานเข่านี้จากเหตุการณ์ แต่โดนจิตราตะโกนด่าไว้พร้อมออกคำสั่ง
“อีพิศอีไพร่! มึงจะไปไหน มาฉุดกูขึ้นเดี๋ยวนี้”
เพลินพิศหน้าเสียรีบคิดประจบเจ้านายแต่ช้ากว่าอาทิตย์ที่วิ่งไปประคองร่างมารดาให้ลุกขึ้นยืนก่อน
“เห็นฤทธิ์มันหรือยังอาทิตย์ มันร้ายอย่างที่แม่บอกไว้ไม่มีผิดใช่มั้ย จัดการมันเลยลูก เอามันให้สาสมกับที่มันทำกับแม่” จิตรารีบฟ้องบุตรชายใส่จริตอย่างน่าหมั่นไส้ในสายตาอิทธิ
“ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่ครับแม่ ว่าแต่แม่เข้าห้องไปก่อนนะครับ” อาทิตย์บอกมารดา จิตราจึงยอมถอยร่างไปโดยให้เพลินพิศพยุง ลับหลังสายตาบุตรชายหล่อนยิ้มเยาะเหยียดหยันใส่อิทธิประหนึ่งสะใจที่จะเห็นเจ้าตัวโดนจัดการจากบุตรชายคนโตของหล่อน
“มึงไม่ต้องกลัวอิท เดี๋ยวกูไปตามป้าจันทร์มา” อาทีเอ่ยบอกเพื่อนก่อนจะวิ่งหายไปทางห้องพักของผู้เป็นป้า ที่เหลืออยู่จึงกลายเป็นอาทิตย์กับอิทธิกำลังยืนเผชิญหน้ากัน โดยมีนายศรกับนายสินยืนคุมเชิงดูสถานการณ์อยู่ใกล้ๆ
“นายศรกับนายสินกลับเรือนไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกนาย” อาทิตย์หันไปสั่งสองพ่อลูก ซึ่งทั้งคู่ยอมทำตามถอยกลับโดยง่าย บนเรือนตอนนี้จึงเหลือเพียงชายหนุ่มกับหนุ่มน้อยที่หันมาจ้องหน้ากันอีกครั้ง
“นายมันร้ายกว่าที่ฉันคิดนะอิทธิ ก่อนกลับกรุงเทพฯ ฉันขอปราบพยศนายก่อนเถอะ มานี่!” เอ่ยจบอาทิตย์ก็ฉุดแขนคนตรงหน้าลากไปทางลงเรือนอีกด้าน
“ปล่อยผมนะ คุณจะพาผมไปไหนคุณอาทิตย์” อิทธิร้องสั่งพร้อมตั้งคำถาม แต่สุดทายก็ไม่ได้คำตอบเพราะร่างโดนลากกระชากไปตามเส้นทางที่เริ่มมืดและเงียบหลังถูกดึงลงจากเรือนสำเร็จ
อาทิตย์จะพาอิทธิไปไหนยังไม่มีใครรู้คำตอบ เพราะผมจะจบตอนไว้แค่นี้ อิอิ

โปรดติดตามตอนต่อไปครับ







หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 14-01-2011 23:17:47
เจิมก่อน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: •ผั๑`|nกุ้va’ด• ที่ 14-01-2011 23:24:10
ค้าง........................เป็นที่สุด ฮึกๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 14-01-2011 23:30:28
ค้างอีกแล้วว เริ่มหมั้นไส้พระเอก  :z6:
จะลากอิทธิไปทำอะไร???
รอคุณบอยมาเฉลยย อยากอ่านต่อสุดๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 14-01-2011 23:33:49
 :a5:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 14-01-2011 23:35:23
ฆ่ากันเลยไหมนี่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-01-2011 00:04:33
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

จะปราบก็ปราบให้อยู่นะคะอาทิต ถ้าปราบไม่อยู่หมัดระวังจะถูกปราบเสียเอง

ปล.เกลียดนางจิตนี่จริงๆ แหมถ้ามีตัวจริงจะบุกไปตบให้ถึงบ้านเชียว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 15-01-2011 00:16:00
ติดเรื่องนี้น่ะเนี่ย รู้ว่าน้ำเน่า แต่เราชอบ  :z2:

ขอเถอะ ทำไมโลกนี้มันไร้ความยุติธรรมแบบนี้  :o12:

นางทาส 2011 รึอย่างไร ทำไมพระเอกมันจั๊ดง่าวอย่างนี้น่ะ  :z6:

อิทธิพาแม่ไปอยู่ที่อื่นเถอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 15-01-2011 01:18:21
อ่านทั้งเรื่องแล้วไม่ชอบใจนิสัยใครซักคนยกเว้นอาทีกับอิทธิ
พระเอกก็แม่งงงงงงงงง
ทำตัวมีเหตุผลสนับสนุนทุกการกระทำของตัวเอง แต่แบบเหตุผลเข้าข้างตัวเองทั้งน้านนนน
ป้าจันทร์ กับแม่นาง ก็ยอมคนจนไม่สนถึงความเดือดร้อนของคนอื่น
โดยเฉพาะแม่นาง คนดีจนน่าหมั่นไส้ ยอมเข้าไป ไม่สงสารลูกเต้าตัวเองบ้าง หนังสงหนังสือก็ไม่คิดส่งเสียลูกให้เรียน
คิดแต่จะตอบแทนบุญคุณคนโน้นคนนี้อยู่นั้นแระ
สมัยสาวๆพลาดยังไง ปัจจุบันก็ยังพลาดอยู่อย่างนั้น อ่านแล้วหงุดหงิดสุด
อ่านแล้วติดจริงจัง ถึงจะเกลียดตัวละครถึงเน่าแต่ก็อ่าน 5555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 15-01-2011 08:14:56
แอร๊ยยยย เอะอะลากเข้าที่มืดซะงั้น
ฮี่ๆ พี่อาทิตย์ติดใจอะไรรึเปล่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-01-2011 09:32:33
ค้างอย่างจริงจัง
คุณบอยยอ่า มาต่อให้เร็วๆเลยนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 15-01-2011 10:09:43
อาทิตย์จะปราบพยศอิทเหรอ  ตาย ๆ ๆ ๆ อาทีจะมาช่วยมั๊ยเนี่ยะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-01-2011 11:37:23
อาทิตย์เถื่อนมาก แสรด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 15-01-2011 11:58:34
ค้างอีกแล้ว  :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 15-01-2011 13:28:40
อาทิตย์นี่ก็พระเอกหนังไทยจริง ฉลาดแต่เรื่องโง่ๆ

ห้าๆๆๆ

ไปๆมาๆ ชอบอาทีจัง ชอบนะ

อาทีน่ารักชอบๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 15-01-2011 13:45:59
ลากกันไปในที่ลับตาคน  อย่างนี้หมายความว่าไง
อยากอ่านต่อมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 15-01-2011 14:12:50
กลัวสุดท้าย อิทธิ ก็ยอมอาทิตย์นั่นแหละ
ประมาณแบบ เค้าขู่ก็ยอม

ไม่เห็นจะสู้ได้เลย
แหม อยากได้ออกจากไร่ไปจริงๆจัง

แต่คงต้องรอให้แม่นางตายก่อนมั้ง?
สมชื่อเรื่องเลยทีนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 15-01-2011 18:31:21
ถึงตอนนี้ที่หมั่นไส้ที่สุด เห็นจะป้าจันทร์  เหมือนจะรักแม่นางกะอิทธิ
รู้ทุกอย่างที่น้องตัวทำร้ายๆไว้ พอเกิดปัญหาอะไรขึ้น คน 2 คนต้องมาเผชิญหน้ากัน แทนที่จะอยู่ตัดสินให้ความยุติธรรม แต่เปล่าเลย เอะอะ เป็นลม เอะอะหนีเข้าห้อง แย่ๆ

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 15-01-2011 19:16:43
ลากเข้าป่าไปปล้ำชัวร์

อยากจะตบอีป้าจิตรจริงๆ เฮอะ  :m31: 

ถ้าอาทิตย์ปล้ำอิทธิจริงๆ

อิทธิต้องแค้นมากแน่ๆ หรือไม่ก็อาจหนีออกจากไร่แล้วก็ค่อยมาแก้แค้นทีหลัง อิอิ(คิดเป็นตุเป็นตะเชียวฉัน)

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeynut ที่ 15-01-2011 21:36:49
อ่านทีเดียวจบ

ต่อไวๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-01-2011 23:20:02
มันช่างค้างอย่างรุนแรง
อ๊ายยยยยย จะลากไปทำอะไรเนี่ยยยยยย
ตั้งตารอตอนต่อไป หุหุ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: tombaza ที่ 15-01-2011 23:41:18
ค้างอ่ะ
อยากอ่านต่อๆ :)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 16-01-2011 00:45:55
อยากรู้อยากเห็นว่าเขาจะลากไปไหนกัน

ลุ้นค่ะลุ้น

มาต่อทีเถอะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: HussKii ที่ 16-01-2011 02:21:54
เอาแล่วๆๆๆๆๆๆ  ลากอีกทีนี่คงไม่รอดแน่ๆ อิท หึหึหึหึ หัวเราะอย่าหื่นๆ o18
เป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ สู้ๆค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 16-01-2011 09:11:39

ว้าย เหมือนดูละครช่องสีรุ้งเลยค่ะ อิอิ
๖๐ + ๑ = ๖๑
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-01-2011 11:24:45
เข้ามารอค่ะ อิอิ
อยากรู้อาทิตย์จะไปไปหนายยยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-01-2011 10:42:19
^
^
คงไม่ใช่ว่าจะพาไปเรือนหอในอนาคตนะ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 17-01-2011 12:32:34
ค้างตลอด อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 17-01-2011 13:44:31
ติดเช่นกันนนน ชอบว่ะพระเอกโง่ๆ
มันมักจะมีได้เสีย555
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-01-2011 17:15:15
^
^
คงไม่ใช่ว่าจะพาไปเรือนหอในอนาคตนะ 55+
โอ้ อย่างงั้นเลยเรอะ อิอิ
เข้ามารออีกวันค่า ด้วยความอยากรุ้ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 17-01-2011 18:02:46
โอ้ย  ค้างคาใจ

จะพาอิทธิไปไหนอ่ะอาทิตย์

อยากรู้ๆๆๆ

คุณบอยทำไมทำกันได้เนี้ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 17-01-2011 18:33:22
ค้างงงงงงงงงงงงงงงอ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-01-2011 19:24:31
คุณบอย แกล้งกันชัดๆเลย แง 
แล้วคราวนี้อิทธิคงได้แค้นสุด จริงๆ ใช่ไหมคะ
อาทิตย์คงทำอะไรแบบจาบจ้วงกับอิทธิแน่ๆเลย
แรงแค้นเห็นชัดแล้วค่ะ แต่เงารักตอนนี้ยังมองไม่ออก
 มาต่อเร็วๆนะคะ  อยาเห็นเงารักค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 17-01-2011 22:36:21
โอ้ยยยยย
 :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-01-2011 14:53:19
มารอด้วยคน
ค้างนานไม่ดีนะ เดี๋ยวต่อมจิ้นจะทำงานหนัก ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-01-2011 15:49:49
คุณบอยยยขา
อยากอ่านแล้วน้า
รอนานมันทรมานหัวจายยย~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 18-01-2011 22:24:11
เชียร์ๆ อาทิตย์
ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมชอบพระเอกไม่ดีๆ ^^
แต่ก็สงสารอิทธิด้วย...
เป็นกำลังใจให้น่ะ สู้ ๆ ค่ะ ไรเตอร์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-01-2011 14:58:46
รออีกหนึ่งวัน..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 19-01-2011 15:01:28
รออีกหนึ่งวัน..


ตามเอาตอนใหม่มาจิ้มครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 12 อัพเดต 14.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 19-01-2011 15:02:37
ตอนที่ ๑๓
ในขณะที่อาทิตย์ฉุดดึงอิทธิไปตามทางมืดสลัว บนเรือนอาทีวิ่งไปเคาะประตูห้องจันทร์จวงเพื่อรายงานสถานการณ์ หญิงเจ้าของไร่ออกมาพบหลานชายรู้สึกตกใจที่เรื่องราวมันบานปลายไปกว่าที่คิด
“ทำไมเรื่องมันถึงวุ่นวายได้ขนาดนี้เนี่ย เฮ้อ ไปๆ อาที พาป้าไปหาอิทธิก่อนที่พี่ชายเราจะทำให้เรื่องมันแย่ลงกว่าเดิม” นางเอ่ยบอกหลานชายคนเล็ก ก่อนเดินตามเจ้าตัวไปยังชานเรือน พร้อมสาวใช้อีกสองคนที่ก่อนหน้าคอยปรนนิบัติในห้องพัก
“อ้าว หายไปไหนกันหมดแล้ว” อาทีเอ่ยขึ้นเมื่อเดินกลับมาตรงที่เดิมแต่ไร้ซึ่งเงาของใคร
“หรือจะแยกย้ายกันไปแล้ว” จันทร์จวงเอ่ยคาดเดา
“ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นนะครับป้าจันทร์ เพราะดูท่าพี่อาทิตย์โกรธไอ้อิทมาก เขาคงไม่ปล่อยเพื่อนผมกลับเรือนไปง่ายๆ หรอกครับ” อาทีแย้ง
“ไม่ปล่อยไปง่ายๆ แล้วจะพากันไปไหน” จันทร์จวงเอ่ยถาม คราวนี้หลานหนุ่มเงียบเพราะไม่รู้จะตอบผู้เป็นป้าว่ายังไง แต่สุดท้ายก็เอ่ยขึ้น
“ลองไปถามแม่ดีกว่าครับ เผื่อแม่จะรู้”
“ไปก็ไป ป้าก็อยากจะคุยกับแม่เราถึงเรื่องนี้เหมือนกัน”
ป้าและหลานชายเดินคู่กันไปยังห้องพักของจิตรา โดยสั่งให้หญิงรับใช้รออยู่ทางด้านนอก
“ฉันเข้าห้องมาก่อนจะไปรู้ไปเห็นได้ไงว่าพี่ชายแกจะพาไอ้เด็กเปรตนั่นไปไหน” จิตราตวาดใส่บุตรชายทันทีหลังโดนเจ้าตัวถามถึงอาทิตย์และอิทธิ ตอนร่างนั้นเดินเข้าห้องพักของตนมาพร้อมผู้เป็นป้า
“ไม่รู้ก็ตอบลูกมันดีๆ สิทำไมเธอจะต้องตวาดด้วยจิตรา” จันทร์จวงตำหนิน้องสาวก่อนออกคำสั่งให้เพลินพิศที่เสนอหน้าฟังเรื่องราวอยู่ให้ออกไปรอด้านนอก เพลินพิศหน้าง้ำถอยฉากออกไป ภายในห้องตอนนี้จึงเหลือเพียงบุคคลสามวัยสายเลือดเดียวกันซึ่งได้โต้แย้งกันไปมาถึงเรื่องราวที่กำลังวุ่นวายอยู่ในตอนนี้
“พี่จันทร์อย่าถือหางมันให้มากหน่อยเลยค่ะ รู้มั้ยคะว่าวันนี้มันพาไอ้เด็กอิทธินั่นขึ้นมาถอนหงอกจิตรถึงบนเรือน” จิตราเอ่ยว่าพี่สาวในตอนที่เจ้าตัวเอ่ยปกป้องบุตรชายคนเล็กของตนตลอดในทุกถ้อยคำที่หล่อนสั่งสอน
“ฉันเคยบอกเธอแล้วไงว่าอาทีมันหลานฉัน ฉันเลี้ยงดูมาตั้งแต่แต่อ้อนแต่ออก ทำไมฉันจะไม่รู้จักนิสัยใจคอ การที่ฉันคอยปกป้องหลานฉันไม่ให้แม่ที่ลำเอียงอย่างเธอหลับหูหลับตาตำหนิเสียทุกเรื่องมันจะผิดอะไร” จันทร์จวงเอ่ยโต้ตอบ จิตราได้ฟังถึงกับยืนไม่ติด ฟาดหัวฟาดหางอีกครั้งว่าเป็นเพราะนิสัยรั้นๆ ของบุตรชายน่ะแหละที่ทำให้ตนต้องเป็นแบบนี้
“ก็ถ้าไอ้อาทีมันเชื่อฟังจิตร จิตรจะไปตำหนิอะไรมันหรือคะ ถ้ามันอยู่ในโอวาทจิตรได้สักครึ่งพี่ชายมัน จิตรก็คงจะไม่ถูกพี่จันทร์ตราหน้าว่าเป็นแม่ลำเอียงหรอกค่ะ เพราะจิตรคงไม่มีอะไรที่จะดุด่ามัน แต่นี่ เช้ามันก็คลุกคลีอยู่กับไอ้อิทธิ เย็นมันก็ดอดไปพบกับยัยแม่นาง มันไม่เห็นหัวจิตร จิตรก็ต้องกำราบให้มันสำนึกสิคะว่าอีจิตรเนี่ยคือแม่มัน”
 “เธอไม่ต้องมาตีโพยตีพาย การที่ลูกชายเธอจะไปไหนมาไหนกับอิทธิซึ่งสนิทกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไรมันจะผิดอะไร จะว่าไปอิทธิก็เป็นเด็กในการอุปการะฉันคนหนึ่ง” จันทร์จวงให้ข้อคิด แต่จิตราใช่จะฟัง
“พี่จันทร์น่ะหูเบา เชื่อลมปากอีนังแม่นางซะจนเห็นผิดเป็นชอบรู้ตัวมั้ยคะ ปกป้องไอ้อาทีจิตรยังพอรับได้ แต่การที่พี่จันทร์กางปีกกันท่าจิตรไม่ให้กำราบไอ้อีขี้ข้าอย่างสองแม่ลูกนั่น จิตรก็เกินจะทนกับพฤติกรรมพี่จันทร์แล้วนะคะ”
“ขนาดเธอมองว่าฉันกางปีก เธอก็ยังตามราวีสองคนนั่นได้ไม่เว้นแต่ละวัน ฉันก็เริ่มระอาในพฤติกรรมเธอไม่ต่างกันหรอกจิตรา”
“พี่จันทร์!”
“ไม่ต้องมาเรียกฉัน บอกลูกเธอไปว่าอาทิตย์พาเพื่อนเขาไปไหน”
“จิตรก็บอกแล้วไงคะว่าจิตรไม่รู้ อาทิตย์ไม่ใช่คนป่าเถื่อน คงไม่พาไอ้เด็กนั่นไปฆ่าผูกคอใต้ต้นส้มหรอกค่ะ อย่างมากก็แค่จะสั่งสอนนิดหน่อยให้มันหลาบจำว่าอย่าคิดมาโอหังกับจิตรซึ่งเป็นแม่บังเกิดเกล้าของเขา”
“ในหัวจิตหัวใจแม่คงคิดถึงแต่เรื่องยศเรื่องศักดิ์จนลืมนึกถึงความเป็นคนที่เกิดมาเท่ากันแล้วมั้ง ถึงแม่ไม่รู้ก็ไม่เป็นไร ผมไปตามหาเพื่อนผมเองก็ได้ ตราบใดที่ผมยังใช้ชีวิตอยู่ในไร่นี้แม่ก็อย่าคิดว่าจะใช้พี่อาทิตย์ทำอะไรไอ้อิทได้”
อาทีเอ่ยขึ้นในตอนที่ฟังถ้อยคำมารดาเสร็จสิ้น เด็กหนุ่มหมุนตัววิ่งออกจากห้องทันทีหลังเอ่ยจบ จิตราคิดจะเดินตามเพราะรู้สึกเจ็บใจที่โดนบุตรชายตำหนิต่อว่า
“ไม่ต้องตามไป เธออยู่คุยกับฉันนี้แหละ ฉันคงต้องชำระความเธอเสียบ้างถึงเรื่องราวที่มันวุ่นวายขนาดนี้” จันทร์จวงเอ่ยสั่งเสียงดุ นานๆ ครั้งจิตราถึงจะพบอาการนี้ หล่อนจึงหยุดชะงักอย่างเสียไม่ได้
อาทีออกตามหาอิทธิท่ามกลางแสงสลัวของเสี้ยวพระจันทร์บนฟ้าเหนือท้องไร่ ไม่ต่างจากแม่นางที่ตัดสินใจถือไฟฉายเดินมายังเรือนหลังใหญ่เพราะเข้าใจว่าอิทธิคงจะยังอยู่ที่นี่ ในใจนางนึกห่วงบุตรชายยิ่งกว่าสิ่งใดเพราะเจ้าตัวหายร่างมานานแล้วแต่ไม่มีวี่แววที่จะกลับเรือนสักที
ฝั่งนายศรและลูกชายอย่างนายสินแม้จะลงจากเรือนเจ้านายมาพักหนึ่งแล้ว แต่สองพ่อลูกก็ด้อมๆ มองๆ สถานการณ์การวิวาทอยู่ไม่ไกลจากเรือนเท่าไหร่นัก สองคนทั้งสะใจปนสมเพชที่เรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นในครั้งนี้ เพราะลึกๆ แล้วทั้งสองไม่ได้คิดจงรักภักดิ์ดีต่อจิตราหรือจันทร์จวงอย่างจริงจังเลยสักนิด อะไรในไร่ที่พอจะกอบโกยหรือโกงมาเป็นของพวกตนได้ก็ต่างหาโอกาสทำแทบทั้งนั้น รายได้หลักจากการค้าส้มนั่นยิ่งสำคัญ แม้ตอนนี้แม่นางจะคุมอยู่แต่นายศรซึ่งเป็นคนงานเก่าแก่ที่รู้หลักการเข้าออกของรายจ่ายรายรับของไร่นี้อยู่พอสมควรก็ยังหาวิธีหมกเม็ดมาเก็บใส่กระเป๋าตนเองอยู่เรื่อยๆ
ตอนลงจากเรือนสองพ่อลูกลงจากทางด้านหน้าในเวลาใกล้เคียงกับที่อาทิตย์ลากพาอิทธิลงไปอีกด้าน ทั้งสองจึงไม่ได้เห็นว่าอาทิตย์ลากอิทธิไปทางใด แต่ในขณะที่ซุ่มดูสถานการณ์อยู่ สี่หูก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่ออิทธิมาจากปากของบุตรชายคนเล็กของจิตรา
“นั่นมันเสียงไอ้อาทีนี่พ่อ มันเรียกไอ้อิทธิ นี่มันกำลังตามหาเพื่อนมันเหรอ” สินเอ่ยกับบิดาพลางหันไปมองทางต้นเสียงที่มีเพียงแสงสลัวรางๆ ส่องนำไปยังร่างของอาทีที่เดินแกมวิ่งหันซ้ายแลขวาพลางตะโกนเรียกชื่อเพื่อนสนิท
“แล้วไอ้อิทธิมันหายไปไหนล่ะ” นายศรเอ่ยขึ้นบ้าง สินหันมามองหน้าบิดายิ้มร้ายออกมาก่อนเอ่ยขึ้น
 “ตอนนี้พ่ออย่าเพิ่งสนใจไอ้อิทธินั่นเลย มาช่วยผมสั่งสอนไอ้เด็กปากดีนี่ก่อนดีกว่า”
“เอ็งหมายความว่าไง” นายศรเอ่ยถามบุตรชาย
“ก็ไอ้เด็กนี่มันสามหาวใส่ผมตอนที่ผมลงมาห้ามไอ้อิทธิขึ้นเรือนน่ะพ่อ ท่าทางมันอวดตนข่มผมซะผมอยากจะต่อยหน้ามันซะตรงนั้น ดีล่ะ มันมาตะเวนในที่มืดแบบนี้ ใครทำร้ายมัน มันคงจะจับตัวไม่ได้หรอก” สินรายงานบิดาพร้อมคิดแผนร้าย
“เอางั้นเลยเหรอวะ” นายศรถามลังเลก่อนจะตกลงปลงใจช่วยบุตรชายในการลอบทำร้ายอาทีเพียงเพื่อระบายอารมณ์โกรธของเจ้าตัว
อาทีเดินวกไปวนมาจนล้า เสียงที่ร้องเรียกเพื่อนไปก็ไร้วี่แววการตอบรับ เด็กหนุ่มยืนหอบเหนื่อยพักหายใจ ก่อนเปรยกับตัวเองเบาๆ
“หรือว่ามันจะกลับเรือนไปแล้วจริงๆ”
หลังเปรยจบสองขาก็คิดจะออกก้าวเดินไปยังเรือนของคนที่ตนตามหา แต่ยังไม่ทันได้ออกเดินร่างก็เซถลาไปข้างหน้าเพราะรู้สึกว่าแผ่นหลังโดนกระแทกสุดแรง
หนุ่มน้อยร้องโอ้ยด้วยความเจ็บ ร่างทั้งร่างล้มคะมำลงกับพื้นเพราะทรงตัวไม่อยู่ กำลังจะพลิกกายหันมามองต้นเหตุที่ทำตนล้มเสียท่า แต่ก็ทำไม่ทันเพราะรู้สึกว่ามีร่างหนาหนักขึ้นนั่งทับกลางหลังจนรู้สึกจุกแน่นหายใจติดขัด
“มาเดินมืดๆ แบบนี้มึงไม่กลัวตายใช่มั้ยไอ้เด็กน้อย” สินดัดเสียงเอ่ยสำนวนแปร่งๆ ออกไปเมื่อกระโดดทับตรงกลางหลังอาทีได้สำเร็จหลังจากที่เจ้าตัวโดนแรงถีบจากปลายเท้าบิดาของตนจนล้มลงไม่เป็นท่า
“ปล่อยกูนะโว้ย มึงเป็นใครวะ” อาทีเอ่ยถามออกมาอย่างตะกุกตะกัก พยายามดิ้นให้หลุดจากการกดทับ อยากจะหันหน้ามามองเหลือเกินว่าใครกันที่ทำตน แต่ก็ช่างลำบากนักเมื่อท้ายท้ายถูกจับกดแนบพื้นหญ้าด้วยมือหนาหยาบจนไม่สามารถขยับต้นคอหรือใบหน้าได้
“อ็อค!..อ็อค.อ็อค!” หนุ่มน้อยเปล่งเสียงออกมาได้เพียงแค่นั้นเมื่อมือหนาหยาบนั้นเลื่อนจากท้ายทอยขึ้นมากดจิกหนังศีรษะให้ใบหน้าจมลงไปกับพื้นหญ้า ประหนึ่งว่าคนทำไม่ต้องการให้ตนหันมามองใบหน้าได้
“มึงโอหังนัก มึงต้องโดนแบบนี้แหละไอ้ลูกหมา” สินออกแรงกดใบหน้าอาทีให้จมลงบนพื้นหนักขึ้น รู้สึกสาแก่ใจจนต้องแสยะยิ้มออกมาเมื่อเห็นปลายขาของฝ่ายนั้นสะบัดดิ้นเร่าๆ ดั่งคนกำลังจะขาดใจตาย เสียงร้องอ็อคๆ ยังคงดังมาให้ได้ยิน เข้าใจว่านี่เป็นเพียงปลายเสียงที่ได้ยิน เพราะเจ้าตัวคงตั้งใจร้องเต็มเสียงน่ะแหละแต่ทั้งปากทั้งจมูกคงจะสำลักเศษดินและฟางหญ้าจนไม่สามารถร้องออกมาเต็มเสียงได้
สินแสยะยิ้มสาแก่ใจในผลงานได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องยอมคลายมือออกเมื่อเห็นสัญญาณจากผู้เป็นบิดาแจ้งว่าเห็นแสงไฟส่องมา ฝ่ายนั้นโบกมือไล่คล้ายออกคำสั่งให้รีบหนีจากตรงหนีก่อนจึงจำใจลุกขึ้นแล้วทิ้งร่างที่กำลังจะขาดใจตายของอาทีไว้เพียงเท่านั้น
“แสงไฟมาจากไหนน่ะพ่อ” ชายหนุ่มเอ่ยถามบิดาขณะรีบวิ่งกลับเรือน
“ข้าก็ไม่รู้โว้ย สงสัยเป็นพวกออกตามหามันนี้แหละมั้ง อย่าถามเลย รีบวิ่งกลับเรือนเร็วๆ เข้าก่อนมีคนมาเห็น” สองพ่อลูกเผ่นแนบไปทางเรือนของตนโดยไว โดยทางเบื้องหลังอาทีพยายามยันกายที่บอบช้ำจากการโดนทับลุกขึ้นอย่างอยากลำบาก เด็กหนุ่มปัดเศษดินและฟางหญ้าออกจากใบหน้าแล้วเปิดปากสูดเอาลมเข้าปอดเพื่อยื้อลมหายใจที่กำลังจะปลิดปลิว สักพักหนึ่งพอเห็นแสงไฟส่องมาใกล้ๆ จึงฮึดตะโกน
“ช่วยด้วยครับ”
“เสียงคุณอาทีนี่” แม่นางหยุดชะงักนิดนึงเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้น สัญชาตญาณสั่งให้สองขาวิ่งไปยังที่มาของเสียง พลางส่องไฟมองหาเจ้าของเสียง
“คุณอาทีเหรอคะ อยู่ไหนคะ”
อาทีพอได้ยินเสียงของหญิงที่ตนเคารพก็น้ำตาปิ่มด้วยความดีใจ อาการขวัญกระเจิงเมื่อครู่ค่อยๆ ทุเลาลง เด็กหนุ่มยันกายลุกวิ่งไปหาแสงไฟ
“แม่นางช่วยด้วย มีคนจะฆ่าผม มีคนจะฆ่าผม” หนุ่มน้อยโผเข้ากอดที่พึ่งเมื่อเจอร่างแม่นางแล้ว พอๆ กับแม่นางที่กอดปลอบเช่นกัน
“ขวัญเอ๋ยขวัญมา ไม่เป็นไรแล้วนะคะคุณอาที เกิดอะไรขึ้นหรือคะหยุดร้องนะคะ ค่อยๆ เล่า” แม่นางเห็นอาการสะอื้นของคนในอ้อมกอดก็รีบปลอบพลางถามไถ่เรื่องราว แต่ดูท่าฝ่ายนั้นจะยังเล่าไม่ได้เพราะเอาแต่กายสั่นสะท้าน หนำซ้ำเนื้อผิวที่สัมผัสถึงยังเย็นเยียบจนน่าตกใจ
“ตายแล้ว คุณอาทีตัวเย็นมากเลย ไปค่ะ เดี๋ยวดิฉันพากลับเรือน” ช่วงเวลานี้แม่นางนึกห่วงคนตัวสั่นจนลืมคิดถึงการเผชิญหน้าจิตรา นางรีบพาร่างของอาทีกลับไปยังเรือนหลังใหญ่ทันที
ในขณะที่แม่นางกำลังพาอาทีกลับเรือน จันทร์จวงและจิตรากำลังถกเถียงกันภายในห้อง ส่วนนายศรก็พาบุตรชายกลับถึงที่พักได้ปลอดสายตาผู้คน แต่ ณ ริมฝั่งลำคลองท้ายไร่ อาทิตย์ได้ตัดสินใจเหวี่ยงร่างของอิทธิลงไปในสายน้ำนิ่งที่เย็นเยียบหลังจากที่ลากฉุดเจ้าตัวมาได้สำเร็จ ค่ำมืดแบบนี้น้ำในลำคลองนี้เย็นยะยือกแค่ไหนเขายังจำมันได้ดี คืนนี้คนอวดดีอย่างอิทธิสมควรที่จะโดนจับแช่ให้อยู่ในนั้นจนจะสำนึกว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไรในไร่แห่งนี้และยอมเอ่ยขอโทษตนกับมารดาพร้อมสัญญาว่าต่อจากนี้จะเลิกโอหัง ปากดี และรั้นด้วยทิฐิ นั่นแหละเขาถึงจะยอมให้ขึ้นมา แต่ตราบใดที่ฝ่ายนั้นยังคงรั้นที่จะไม่ทำตามเขาก็จะยืนคุมเชิงอยู่แบบนี้ไปทั้งคืน ให้มันรู้กันไปว่าจะทนหนาวเย็นได้สักกี่นาที
“คิดว่าทำแบบนี้แล้วผมจะไม่มีปัญญาขึ้นฝั่งอย่างนั้นเหรอคุณอาทิตย์” อิทธิตะโกนใส่หน้าคนที่ตนนึกชิงชังในการกระทำ การโดนจับเหวี่ยงลงในสายน้ำที่เย็นเข้ากระดูกแบบนี้เข้าใจได้เลยว่าอาทิตย์ต้องการใช้ความทรมานกดดันให้ตนยอมศิโรราบตามคำสั่งก่อนหน้าที่ตนจะโดนเหวี่ยงลงมานั่นเอง
“ก็เอาซี้ จะขึ้นฝังไหนก็เลือกเอา ถึงฉันจะจากไร่นี้ไปนาน แต่ฉันก็ไม่ลืมหรอกว่าที่นี่มันมีตรงไหนที่สามารถขึ้นฝั่งได้บ้าง ต่อให้นายจะตะเกียกตะกายขึ้นตรงไหนก็อย่าหวังว่าจะสำเร็จตราบใดที่นายยังรั้นอยู่แบบนี้” อาทิตย์ตะโกนกลับไป อิทธิได้แต่ขบกราม เด็กหนุ่มรู้ที่ทางฝั่งขึ้นจากน้ำที่นี่พอๆ กับอาทิตย์ จึงนิ่งเงียบคิดหาแผนการที่จะขึ้นจากสายน้ำที่เริ่มใช้ความเย็นบีบรัดร่างจนปวดหนึบเกือบถึงกระดูก
“ไง ทีนี้ขอโทษฉันกับแม่ได้หรือยัง แล้วก็เอ่ยให้ฉันได้ยินด้วยว่าต่อจากนี้จะเลิกตามราวีแม่ฉัน” อาทิตย์ตะโกนลงมาใหม่พลางชี้หน้าสั่ง อิทธิเคืองใจในท่าทีที่เห็นจนเกินจะทน จึงกลั้นใจมุดลงในน้ำคว้าเอาโคลนตมข้างใต้ขึ้นขว้างใส่ร่าง
“เฮ้ย! อะไรวะ” อาทิตย์เบี่ยงตัวหลบโคลนตมที่ถูกขว้างมา จังหวะนั้นอิทธิรีบว่ายน้ำไปยังฝั่งที่จะขึ้น เด็กหนุ่มอาศัยความที่เคยแอบมาว่ายเล่นที่ลำคลองนี้กับอาทีบ่อยๆ ดำผุดดำว่ายพาร่างกายที่หนาวถึงข้างในไปยังฝั่งได้โดยง่าย แต่พอเงยหน้าขึ้นจากผิวน้ำก็ต้องตกใจเมื่อใบหน้าอยู่แทบปลายเท้าของอาทิตย์ ซึ่งได้ตามมายืนจังก้าคุมเชิงอยู่
“ยังไม่สิ้นฤทธิ์ใช่มั้ย” อาทิตย์เอ่ยลอดไรฟันเมื่อได้สบตากับอิทธิภายใต้แสงสลัวของดวงจันทร์ จังหวะที่มองเห็นอีกฝ่ายกำลังจะดำผุดหนีไปอีกฝั่งจึงรีบนั่งลงริมฝั่งใช้มือคว้าคอเสื้อเจ้าตัวเอาไว้ลากมาใกล้ตัวแล้วเปลี่ยนเป็นจับศีรษะนั่นกดลงใต้ผิวน้ำ อึดใจต่อมาจึงเปลี่ยนเป็นดึงคอเสื้อขึ้นเพื่อให้ร่างนั้นอ้าปากหายใจ สักพักจึงจับกดลงไปใหม่ ปากก็ว่า
“ยังไงล่ะ ต้องการให้ฉันร้ายแบบนี้ใช่มั้ยถึงจะยอมศิโรราบนายอิทธิ”
เอ่ยเสร็จก็ทำแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาจนพอใจจึงยอมปล่อยร่างในอุ้งมือเป็นอิสระ
อิทธิอ้าปากหายใจให้ทั่วปอด เด็กหนุ่มแทบขาดใจตายในตอนที่โดนจับกดน้ำอยู่หลายรอบ อาการนั้นทำหนุ่มน้อยไม่มีเรี่ยวแรงตอบโต้คนกระทำตนเลยแม้แต่นิด ลมหายใจตอนนี้เริ่มจะคล่องขึ้น แต่ร่างกายนั้นโดนบีบรัดด้วยสายน้ำเย็นจนไม่สามารถไหวขยับได้ ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความเหน็บหนาว พร้อมๆ ขากรรไกรเกิดอาการสั่นกระทบกันอย่างอัตโนมัติ หนำซ้ำผ้าที่พันแผลตรงส่วนแขนก็หลุดรุ่ยหล่นหายไปในผืนน้ำ ยังผลให้รู้สึกเจ็บแสบที่แผลเกินจะทานทน
“ขอโทษฉันเดี่ยวนี้ และเอ่ยสัญญากับฉันว่านายจะเลิกอวดดี อวดเก่ง และโอหังอย่างวันนี้อีก” อาทิตย์เอ่ยตะคอกในตอนที่เห็นอาการคนเคยเก่งยืนสิ้นฤทธิ์อยู่ในน้ำ จะว่าสงสารก็ใช่แต่ด้วยความอยากเอาชนะจึงไม่ยอมใจอ่อนฉุดเจ้าตัวขึ้นมาจากน้ำง่ายๆ
อิทธิอยากจะพูดอยากจะตอบโต้ แต่เป็นเพราะตอนนี้ไม่สามารถขยับปากได้ถนัดจึงได้แต่ใช้สายตาจ้องมองคนข่มขู่ด้วยความเคียดแค้นชิงชังในการกระทำ นึกสารภาพกับใจว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่ขอญาติดีกับคนๆ นี้เลยเด็ดขาด หากว่าสามารถเอาชีวิตรอดให้พ้นจากการหนาวตายในคืนนี้ได้
“จ้องหน้าทำไม อยากโดนอีกใช่มั้ย” อาทิตย์ตะคอกอีก นึกไม่ชอบใจในสายตาชิงชังที่ได้รับ อิทธิไม่ตอบโต้ เด็กหนุ่มยืนนิ่งไม่สะท้าน คิดไปว่าหากคืนนี้จะโดนความหนาวเย็นพรากลมหายใจไปก็ขอจากไปอย่างคนมีทิฐิ และแรงชิงชัง จิตใจตอนนี้ไม่สามารถอโหสิกรรมให้กับการกระทำอันป่าเถื่อนของคนตรงหน้าได้เลยจริงๆ
“โธ่โว้ย!” ที่สุดอาทิตย์ก็เอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด เมื่อไม่สามารถทำให้อิทธิเอ่ยขอโทษตนได้สำเร็จ เพราะเกิดอาการใจอ่อนกลัวว่าฝ่ายนั้นจะเกิดอาการหนาวตายไปต่อหน้าต่อตาซะก่อน ชายหนุ่มออกแรงลากร่างอิทธิขึ้นมาจากบึงน้ำ ปล่อยร่างเจ้าตัวให้เป็นอิสระเมื่อโดนขัดขืนตอนอยู่บนฝั่งด้วยกันแล้ว
อิทธิให้เวลาร่างกายปรับอุณหภูมิไม่นาน ซึ่งพอมีเรี่ยวแรงขยับเด็กหนุ่มจึงจัดการตะบันหมัดใส่ใบหน้าอาทิตย์ทันที
อาทิตย์ร้องโอ้ยร่างเซหน่อยๆ ตอนโดนแรงเหวี่ยงจากปลายหมัดคนที่ตนฉุดขึ้นจากน้ำ
“ช่วยไม่ให้หนาวตายยังจะแว้งกัดฉันได้นะนายอิทธิ ถ้าคืนนี้นายไม่ยอมศิโรราบแก่ฉันก็อย่ามาเรียกฉันว่านายอาทิตย์!” ชายหนุ่มหันมาเอ่ยกับคนแผลงฤทธิ์หลังมีเรี่ยวแรง เร็วเท่าความคิดวงแขนแข็งแรงตวัดโอบกอดคนตรงหน้ามาปะทะอกแข็งแรงทันควัน ก่อนจะโน้มใบหน้าลงไปหวังใช่ปลายลิ้นสั่งสอนให้เจ้าตัวอ่อนระทวยอย่างที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว
อิทธิพอรู้ว่าตนจะโดนกระทำเช่นไรก็เริ่มออกแรงดิ้นสุดใจขาดเช่นกัน พลางร้องขู่
“ไม่อยากลิ้นขาดพิการไปทั้งชาติก็อย่าคิดรังแกผมด้วยวิธีนี้คุณอาทิตย์”
“ก็ได้ ทำข้างหน้าแล้วนายมีทางสู้ใช่มั้ย งั้นฉันปราบพยศนายข้างหลังก็ได้ จะดูสิว่านายจะขัดขืนฉันยังไง” อาทิตย์เอ่ยบอกเสียงเยาะหยัน อิทธิใจสั่นสะท้านในสิ่งที่ได้ยิน แต่ยังไม่ทันได้ขัดขืนอะไรร่างทั้งร่างก็โดนจับพลิกหันหลังก่อนคนจับพลิกจะจับกดให้นอนราบไปบนพื้นหญ้า
“คุณอาทิตย์คุณจะทำอะไรปล่อยผมนะ!” เด็กหนุ่มร้องสั่งสุดเสียง นึกอยากจะร้องไห้เมื่อร่างกายโดนกดทับลงมาจากร่างที่หนากว่าตน หนำซ้ำมืออีกข้างของคนกดทับยังกระชากกางเอวยืดตัวบางตอนเปียกน้ำที่ตนสวมใส่เตรียมเข้านอนให้ร่นลงจนเหลือเพียงกางเกงชั้นในจนรู้สึกได้ นาทีต่อมาก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้สึกถึงกางเกงชั้นในถูกกระชากหลุดตามลงมาด้วย พร้อมถ้อยคำที่ชวนขนลุกจากคนกระชาก
“ปากดีแบบนี้อย่าเป็นเลยผู้ชายพลีกายมาเป็นเมียฉันซะเถอะนายอิทธิ!”

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-01-2011 15:08:00
จิ้มคุณบอยก่อนอ่าน
+ 1 ให้ที่มาต่อนะคะ อิอิ
----------------------------
กรี๊ดด เอาแล้วไง งานเข้า
จะเป็นไงต่อ ลุ้นค่ะลุ้น   :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-01-2011 16:04:18
จะได้กันแล้วววววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Isuru ที่ 19-01-2011 16:11:33
อ๊ากกกกกกกกกกกกก
ค้างถึงค้างที่สุด
กัดกันไปมาเดี๋ยวก็รักกัน
อิอิ  รอตอนต่อไปด้วยใจระทึกค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-01-2011 16:22:59
แบบนี้เรียกว่าเลวในสายเดือนหรือว่าเลยจากสันดานดีคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 19-01-2011 16:36:25
โอ๊ยยยยยยยยยยยย  ค้างๆๆๆๆ

ค้างได้อีก  โกรธเกลียดกันแบบนี้เมื่อไหร่จะรักกันได้หละนี่ ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 19-01-2011 16:38:43
เอาหละสิตอนหน้ามีลุ้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-01-2011 16:39:52
เฮ้อ...สงสัยตั้งแต่ตอนต้นมาจนตอนปัจจุบัน
เป็นช่วงที่ผีป่ากำลังสิงเมือง ส่วนผีเมือง(จันทร์จวง)นั้นก็มัวแต่สิงห้อง
จึงทำให้คนดีๆอย่างอิทธิและอาทีต่างก็เป็นผู้ถูกกระทำ
เมื่อไรจะมีหมอผีจอมขมังเวทย์มาปราบผีป่าพวกนี้ซะที
อย่าบอกนะว่า อาทิตย์กดอิทธิสำเร็จน่ะ กระทำเยี่ยงนี้ จะรักกันได้อย่างไร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 19-01-2011 16:45:30
อาทิตย์  แกรรักแม่แกรเป็นคนเดียวหรืองัย
ตอนนี้เรื่องทำกอย่างเริ่มประดังประเด
แม่นางกับอิทธิ  ย้ายไปอยู่ที่อื่นเถอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 19-01-2011 16:51:49
ข่มขืนเสร็จให้แม่นางกับอาทีมาเจอสภาพอิทธิ...คงดราม่าน่าดู
แล้วให้อาทิตย์ตามง้อ..กระชากใจสุดๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 19-01-2011 17:42:15
มันเลวมาก ไอ้อาทิตย์  :fire: อย่าอยู่เลย  :z6: :z6: :z6:

ทำไมทำแบบนี้  :z3:


อยากให้อิทธิกับแม่นางหนีไปสุดหล้าฟ้าเขียว

อย่าได้ยอมให้อภัยกับคนแบบนี้  :m31:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-01-2011 18:25:44
ป๊าดดดดด
เอาแล้วไง
อิทธิจะได้เลื่อนยศแล้วนะ
จากลูกคนใช้กลายเป็นเมียเจ้านายเชียวนะ หุหุ
แต่อ่านแล้วสงสารอิทธิจับใจ
อนาคตคงต้องมีการแก้แค้นแน่ๆเลย
จะรอตอนนั้นละกัน ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: tombaza ที่ 19-01-2011 19:30:23
มันค้างง !
รอมาต่อน่ะค่าๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 19-01-2011 19:51:00
 :angry2:เลวว่ะไอ้อาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 19-01-2011 19:51:34
รอฉากนี้อยู่นานมาก   ไม่ค่อยหื่น  เอิ๊กๆๆๆ
มาต่อไวๆๆนะคะ   :mc4: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 19-01-2011 20:07:34
ค้างงสุดๆๆๆๆเลวอะนายอาทิตย์ ทำไมทำแบบนี้ฟร่ะ ไอ่เราก็นึกว่าดีแค่แกล้งเล่น
หนีไปดีกว่าอิทธิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 19-01-2011 20:30:17
อ๊าก.............อารมณ์นี้เหมือนกับติดอยู่บนปลายไม้ที่โผล่มาจากหน้าผาเลย  อ๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 19-01-2011 21:11:33
อ่าวเฮ้ย......

จบเฉยเลย -*- ค้างโคตรรรค่ะ
สงสารอิท โดยจับกดน้ำ T_T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 19-01-2011 22:09:21

เอาละสิ :a5:
จะปราบพยศทางข้างหลังกันแล้ว!!! :haun4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-01-2011 22:22:16
ตอนหน้ามีลุ้นอย่างแรง นายอิทจะพลีกาย เหรอถูกข่มขืนจากอาทิตย์มาเป็นเมีย
งานนี้มีลุ้นอย่างแรง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 19-01-2011 22:49:23
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 20-01-2011 00:06:07
ก็ยังยืนยันว่ายอมให้่เค้าลากมาเองนี่ตัวเอง~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-01-2011 00:31:53
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 20-01-2011 00:40:23
เอาแล้วๆๆๆๆ

จะมีคนมาขวางไหมเนี้ย

สงสารอิทธิจัง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 20-01-2011 03:07:32
หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้แม่นางคงลุกขึ้นมาปกป้องลูกบ้างอะไรบ้างนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 20-01-2011 03:46:41
เชี้ยทิต

สั้นๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: iamjojo ที่ 20-01-2011 04:19:02
ตัดฉึบอย่างนี้เลยหรอค๊าาาาาาา  :a5:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 20-01-2011 06:05:38

ต๊าย เชื้อไม่ทิ้งแถวนะยะ นายอาทิตย์
ป.ล. รู้นะ ว่าอยากทำอย่างนี้มานานแล้ว(แต่ไม่กล้าบอก อิอิ)

๖๗ + ๑ = ๖๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Jeeo ที่ 20-01-2011 06:42:37
ไอ้เลว ไม่อยากจะว่าแล้วเชียวน้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 20-01-2011 12:20:58
รอตอนต่อไป อย่างจดจ่อ
สาธุ ขอให้ได้กันที่เถอะ
ไม่ค่อยหื่นเลยตรู55
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 20-01-2011 14:37:13
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปล้ำเลยเรอะ
ฮากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 20-01-2011 15:56:58
โฮกอย่างแรง
แต่ตัดฉับอย่างนี้ คงปล้ำไม่สำเร็จหรอกมั้ง  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-01-2011 16:10:39
มารอด้วยใจระทึก หึหึ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 20-01-2011 16:17:45
พระเอกเลว เกลียดมานนนนนนนนนนน
อยากให้อาทีเป็นพระเอกแทนว่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-01-2011 17:23:44
หวังว่าหลังจากเหตุการณ์นี้แม่นางคงลุกขึ้นมาปกป้องลูกบ้างอะไรบ้างนะ

หวังเช่นกัน
เพราะรู้สึกว่าแม่นางจะกลายเป็นนางเอกแทนอิทธิซะแล้ว.....ช่างประเสริฐอะไรเยี่ยงดี......เป็นคนดีเหลือเกิน 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-01-2011 18:57:46
แวะมาดัน อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-01-2011 19:08:00
รอออออออออออ
ลุ้นมากกับฉากต่อไปที่จะเกิดขึ้น
อิทธิจะมีสามีก่อนวัยอันควรหรือเปล่านะ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 21-01-2011 20:33:12
โฮกกกกกกกกกกกกกกก :z1:

รอตอนต่อไปอย่างใจจดจ่อ

จะได้กันแล้ววววววววววว :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 22-01-2011 08:31:18
ตัดตอนได้แบบสุดๆ อ่ะ
ลุ้นฉากต่อไป จะเป็นอย่างที่คิดไว้รึเปล่าเนี่ยยย
เชียร์ อาทิตย์ 555 ^^ ทำให้สำเร็จน่ะจ๊ะ 5555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-01-2011 08:53:13
รออีกวันนน
55+ ลุ้นจริงอะไรจริง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-01-2011 10:39:34
รอๆๆๆๆๆๆๆ
จะมีฉากแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย
ถ้ามีนะ.........ปลื้มมากกกกก^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 22-01-2011 11:16:06
ถึงขั้นนั่งเฝ้ากันเลยทีเดียวกับเรื่องนี้  :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: azaki ที่ 22-01-2011 12:33:22
ชอบมากๆๆครับ  รออยุ่นะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 22-01-2011 14:27:33
เลวล่ะ นายอาทิตย์

แม่นางก็อะไร ไม่รู้ ทนอยู่ให้คนอื่นเขารังแกอยู่ได้ ไม่สงสารลูกตัวเองมั่งหรือไง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-01-2011 18:09:04
ถึงขั้นนั่งเฝ้ากันเลยทีเดียวกับเรื่องนี้  :laugh:
ถูกกกที่ซู๊ดดด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-01-2011 19:27:58
รอๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: whipcream ที่ 22-01-2011 19:40:55
 :serius2:
อ่ะ...จ๊ากกกกกกกกกกก งี้เลยเรอะคุณพี่
โอเค.....รอปลอบใจอิทธิละกัน อิ อิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 22-01-2011 23:56:38
เมื่อไหร่จะมาหนอ.....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-01-2011 10:23:37
มารออีกวัน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 23-01-2011 10:30:47
ถึงขั้นนั่งเฝ้ากันเลยทีเดียวกับเรื่องนี้  :laugh:
ถูกกกที่ซู๊ดดด

กด like >..<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-01-2011 10:36:10
55+ มาเฝ้าอีกวันนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 23-01-2011 16:18:51
รอต่อไป...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-01-2011 16:39:13
รอด้วยยยยยย><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sunshadow ที่ 24-01-2011 03:28:37


 อ้ากกกกกกกก ค้างง่า T T
 มาต่อไวๆนะคะ




หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 24-01-2011 13:37:23
วันนี้ก็รอ^^
รอทุกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 24-01-2011 16:35:23
^
^
จิ้มรีบน 55+
มารอเหมือนกันจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 24-01-2011 17:59:27
^
^
จิ้มคืน
รอเช่นกัน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 24-01-2011 19:33:33
วันนี้จะมาต่อรึเปล่า
รออยู่ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 24-01-2011 20:29:46
โว้ววว

อาทิตย์ช่างเลวได้ใจ

มาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 24-01-2011 23:10:08
รอร๊อรอ

มาต่อเร็วๆน๊า

อ่านแล้วอ่านอีกๆ ช๊อบชอบ >o<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 25-01-2011 01:54:27
ตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วยคน
เฮ้อ!! อะไรมันจะร้ายกันทั้งแม่ทั้งลูกขนาดนี้
ถึงจะสงสารอิทแต่ตอนหน้าก็อยากให้อาทิตย์ทำสำเร็จ
ไม่ค่อยหื่นเลยชั้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 25-01-2011 07:34:57
เมื่อไหร่จะมาหนออออ

รอทุกวันเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-01-2011 10:01:05
ตั้งใจรอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: CaroL ที่ 25-01-2011 12:37:48
 :z1: ลุ้นจนเครื่องในตีกัน :z1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-01-2011 13:44:29
:z1: ลุ้นจนเครื่องในตีกัน :z1:

ถ้าจะลุ้นมากนะนั่น 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-01-2011 15:42:36
อยากมาต่อให้ใจจะขาดดดด...แต่ติดที่ต้องตรวจปรุ้ฟติวรักฯ
รอหน่อยนะครับ อีกนิดนึงเนาะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 25-01-2011 15:52:40
รอได้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 25-01-2011 17:05:29
นั่งรออย่างใจจด ใจจ่อ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-01-2011 18:02:44
รอค่ะรออออออ
นานแค่ไหนก็จะรออออออ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 26-01-2011 13:25:11
มารออออออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 26-01-2011 13:53:05
มารอด้วยคน
รอทุกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 26-01-2011 14:18:47
รอแล้ว รอเล่า :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-01-2011 15:14:33
รอแล้วรออีกกกก
รอแล้วก็รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 27-01-2011 17:06:39
แวะมาดันน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 27-01-2011 19:35:14
 :m16: :m31: ทนไม่ไหวแล้ว ทำไมเป็นคนอย่างนี้เนี่ย......นายอาทิตย์
กับแค่อิทธิไม่ยอมลงให้ตัวเอง ต้องทำกันขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าแม่ของตัวเองก็มีส่วนผิดอยู่เหมือนกัน
ช่างกล้าพูดนะว่าให้อิทธิเลิกตามราวีตัวเองกับแม่  ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะมีแต่จิตรากับอาทิตย์นะที่ตามไปราวีแม่นางกับอิทธิก่อน

เรื่องนี้มีแต่สายเลือดของความแตกต่าง
ป้าจันทร์ กับ จิตรา เป็นพี่น้องที่ต่างกันสุดขั้ว
อาทิตย์ กับ อาที พี่น้องที่ไม่ค่อยจะมีความเหมือนกัน
แม่นาง กับ อิทธิ แตกต่างกันที่นิสัย
แต่มีอยู่ครอบครัวหนึ่งนะ ที่เหมือนกัน นายศร กับ นายสิน เรียกได้ว่าเลวทั้งพ่อทั้งลูก เลี้ยงไม่เชื่องทั้งคู่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 27-01-2011 20:00:42
รอ ร๊อ รอ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 27-01-2011 20:07:07
เมื่อไหร่จะมาต่ออ่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: shinobi ที่ 27-01-2011 23:42:01
ชอบมากกกกกกกกกกก
 

รออยู่จ๋าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 28-01-2011 10:33:30
เข้ามารออีกวัน  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yr_meteor ที่ 28-01-2011 12:59:09
 :call: จงมา ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 28-01-2011 17:18:20
ตามอ่านทันแย้วววววววววววววววว
ตัดอย่างโหดร้ายยยยยยยยยยยยย
สงสารอิทธิหัลงจากโดนกดน้ำแล้วก้ยอจะโดนกดต่อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 28-01-2011 19:04:14
วันนี้ก็ยังไม่มาหรอคุณบอยยย
รออออต่อปายย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 29-01-2011 00:39:55
อ่านรวดเดียว
สนุกมากเลยคะ
เเต่ตอนนี้ค้างอย่างเเรง!! ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 29-01-2011 13:44:07
และก็อีกวัน :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 29-01-2011 17:29:52
เฝ้ารอต่อไป...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 29-01-2011 18:02:47
รอออออออออออออออออ เข้ามารออออออออออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 29-01-2011 22:10:14
เมื่อไหร่จะมาน้า
รอนานแล้วนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 29-01-2011 23:30:29
รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 30-01-2011 09:43:30
มารออีกวันนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 30-01-2011 09:48:41
รอ ร้อ รอ ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 30-01-2011 11:31:31
เข้ามารอต่อไป เอิ๊ก :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 30-01-2011 16:03:28
รอ รอ รอ :z10:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: mickeynut ที่ 30-01-2011 18:15:14
ต่อไว้นะค่ะ

 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 30-01-2011 22:22:38
อ่านมาตั้งแต่ต้น ชอบมากครับ นายเอกนิสัยแบบนี้ ดีใจที่พี่อาทิตย์คล้ายจะเป็นพระเอก ๕๕๕๕ แต่ทำไมมันค้างจังเลยครับเนี่ย มาต่อไวๆ นะครับ รออยู่

หมั่นไส้จิตมากๆ ครับ จิตสมชื่อ ไปเล่นลูกเล่นแม่เขาแบบนีก็สมควรแล้วที่จะโดนเอาคืนบ้าง คิดว่าแบบนี้มันน้อยไปด้วยซ้ำที่โดนกระทำ ส่วนอาทิตย์นี่น่าหมั่นไส้สุดๆ ไปเลย ไม่เข้าใจว่าจะเข้าข้างแม่อะไรกันนักกันหนา ไม่ชอบเลยครับ -*- ส่วนอาที อยากเชียร์ให้เป็นพระเอกจัง ปกป้องตลอดเลย น่ารักมากกกกกกก :P

รอดูว่าพี่อาทิตย์ จะทำไงต่อไป แล้วน้องอิทธิจะได้เป็นเมียพี่อาิทิตย์หรือเปล่า รอต่อไปไม่ไหวแล้วนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 31-01-2011 15:49:32
อ่า วันนี้ก็ยังไม่มา
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-02-2011 10:11:59
รอทุกวัน
แต่คอมช็อตเลยไม่ได้มาT^T
ตอนนี้ปกติแล้ว ก็เข้ามาต่อคิวรอต่อไป^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-02-2011 16:32:51
รอคุณบอยยย
อย่าปล่อยให้รอนานน้า
มันทรมานนนน อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-02-2011 18:36:22
รอคุณบอยยย
อย่าปล่อยให้รอนานน้า
มันทรมานนนน อิอิ

ทรมานเหมือนกัน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 01-02-2011 19:47:21
รอบนี้นานจังเลยยย รอ ต่อไป Y-Y
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 01-02-2011 20:30:44
รอ แล้ว รอ เล่า  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 02-02-2011 12:34:28
อานะ ผลัดกันมารอ
แล้วก็มารออีกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-02-2011 00:26:03
อานะ ผลัดกันมารอ
แล้วก็มารออีกวัน

ตาเรารอบ้างล่ะ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-02-2011 08:55:21
อานะ ผลัดกันมารอ
แล้วก็มารออีกวัน

ตาเรารอบ้างล่ะ ^^

แล้วเราก็ตามมาติดๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 03-02-2011 13:30:51
น่ารักกันจังเลย อุตส่าห์ดูแลกระทู้ให้ แต่ยังไม่ว่างมาต่อให้เลย :z3: :z3:
ช่วงนี้กำลังยุ่งหัวขวิด ยังไงรอกันหน่อยนะครับ ไม่หายไปไหนแน่นอน
 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-02-2011 16:04:55
^
^
จิ้มคุณบอยยย
รอค่ะรอ ยังไงก็จะรอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]**อัพเดตปก ติวรักสุดใจนายเกเร P.1
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-02-2011 16:17:56
^
^
จิ้มคุณบอยยย
รอค่ะรอ ยังไงก็จะรอ

ใช่ๆ ยังไงก็รอ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-02-2011 19:13:32
อ่าๆ เรื่องนั้นมาแล้ว รอเรื่องนี้ค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 04-02-2011 20:29:31
รอ ด้วยอีกคน คะ   :mc4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 05-02-2011 11:32:34
รากงอกแล้วคุณบอย เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-02-2011 15:48:25
รอ ร๊อ รอ เฝ้าแต่รออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 05-02-2011 16:33:51
รอ ร้ออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 05-02-2011 17:19:18
ใกล้อัพเรื่องนี้ยังคะคุณบอย อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 05-02-2011 17:24:35
รอ แล้ว รอ เล่า  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 05-02-2011 17:51:28
รอๆ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-02-2011 23:44:40
รอต่อไป^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 06-02-2011 10:37:24
รออีกหนึ่งวัน ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 06-02-2011 17:55:33
น่ารักกันจังเลย อุตส่าห์ดูแลกระทู้ให้ แต่ยังไม่ว่างมาต่อให้เลย :z3: :z3:
ช่วงนี้กำลังยุ่งหัวขวิด ยังไงรอกันหน่อยนะครับ ไม่หายไปไหนแน่นอน
 

เป็นกำลังใจให้คุณบอย

สู้ๆค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 06-02-2011 18:17:03
รอคับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 06-02-2011 19:46:50
เเวะเข้ามารอ    ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 06-02-2011 21:57:14
วันนี้ก็รอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 06-02-2011 22:34:20
รอด้วยครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 06-02-2011 22:49:20
คุณบอย อัพอีกเรื่องแล้วอย่าลืมมาอัพเรื่องนี้นะคะ
รออีกวัน  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 06-02-2011 23:30:38
อยากอ่านๆ..
ถ้าว่างก็รีบมาต่อนะค้าบบ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 07-02-2011 00:36:29
จามาดันให้ทุกวันนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 07-02-2011 08:34:06
มารอทุกวันอ่ะ
รอรอรอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-02-2011 10:02:29
รอเสมอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-02-2011 16:39:41
หน้า 14แล้วนะคุณบอย
มาต่อได้แล้วจ้า อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: azaki ที่ 07-02-2011 17:58:25
รอๆๆ ครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-02-2011 19:56:44
รอตอนค่ำๆ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 07-02-2011 22:32:57
รอต่อปายยย T T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 08-02-2011 07:22:29
รอต่อครับบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-02-2011 15:45:06
รออีกวันค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 08-02-2011 17:48:12
รอตอนเลิกเรียน 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 08-02-2011 20:25:27
ดัีน  ๆๆต่อ  ครับ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 08-02-2011 21:09:18
รอต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 08-02-2011 21:16:05
รอๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 08-02-2011 23:00:02
รออ่าT^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 08-02-2011 23:54:07
กลิ้งรอแล้วครับ ;P
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 09-02-2011 07:46:25
รอตอนเช้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-02-2011 10:06:57
กลิ้งรอแล้วครับ ;P

คนนี้กลิ้งรอ งั้นเรา.....นั่งส้วมรอดีมะ 555+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 09-02-2011 15:00:57
555 นั่งรอนอนรอจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 09-02-2011 20:54:39
  เอา เสื่อหมอน  มานอนรอ  ครับ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 09-02-2011 23:33:41
เมื่อไรจะมาอ่ะจ้ะ T T
รอๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-02-2011 09:57:29
วันนี้ก็รอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 10-02-2011 10:05:13
เช้านี้ก้อรอ..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 10-02-2011 11:43:45
เทีี่ยงนี้ก็รอ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-02-2011 13:10:04
บ่ายนี้ก็รอ..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 10-02-2011 17:06:59
เย็นวันนี้ยังรอ..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-02-2011 18:11:07
รอด้วยคนจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-02-2011 18:43:37
ค่ำนี้ก็รอ..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 10-02-2011 19:31:26
มึดนี้ก็รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-02-2011 20:22:31
หมดมุก -*-
รีบนต่อมืด....เราต่ออะไรดีเนี่ย
ก่อนดึกก็รอ.. -*-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 10-02-2011 22:51:35
จานอนแล้ว  เราก็..............รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 10-02-2011 23:34:33
งั้นเราคงต้องนอน รอเลยแล้วกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 10-02-2011 23:46:29
ฮ่าๆ
เราอ่านหนังสือรอ (ตอนดึก) ^^
ปล. มาต่อเร็วๆนะคับๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-02-2011 14:23:45
บ่ายนี้ก็รอ...(กลับมาจุดเดิม - -)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 11-02-2011 14:26:01
รอต่อปายยย T T
(เค้าลืมเราแล้วมั้งงงงง)..
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-02-2011 14:32:26
รอต่อปายยย T T
(เค้าลืมเราแล้วมั้งงงงง)..

ไม่หรอกๆเขาไม่ลืมเราหรอก เขาอาจจะแค่ยุ่งมากกกกกกก
แต่คนอ่านก็คอยรอเสมอเนอะ เป็นกำลังใจให้ผู้แต่งเสมอเหมือนกัน อิอิ
แต่เหมือนคนอ่านจะว่าง เลยต่อขบวนรอเป็นแถว 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-02-2011 19:43:54
รออีกคนน
รอคอยยมานานแสนนาน~ 55
หัวข้อ: Re: [นิยาย]แรงแค้นใต้เงารัก
เริ่มหัวข้อโดย: keekeekub ที่ 11-02-2011 20:09:16
รอ ร้อ รอ :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 11-02-2011 20:38:15
 :z3: :z3: :z3:

อือๆๆ รออยู่เน้อค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 11-02-2011 20:42:06
วันนนี้  เราก็มา นอนนนนนนนนรอเบาๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 11-02-2011 21:25:37
รอ แล้ว รอ เล่า  :call:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 11-02-2011 22:47:52
รอ ร่อ ร้อ ร๊อ ร๋อ รอๆๆๆ

มาเร็วๆน๊า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-02-2011 09:53:14
รอกันทะลุไปหลายหน้า อิอิ
คุณบอยจะช่วยเห็นใจคนรอหน่อยมั้ยคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 12-02-2011 13:23:20
กำลังสุดในนิยาย โดนตัดฉับตอน 13

และฮาคอมเม้นต์ไปพลาง ๆ ๆ

อิอิ...คุณบอยมีคนรอเยอะแยะเชียว

(( เราก็ 1 ในนั้น ))
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 12-02-2011 16:56:58
 เง้อมันค้าง  มั่กๆๆ อ่า่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 12-02-2011 21:07:32
ค้างอย่างแรง    :call:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-02-2011 21:30:04
กำลังปั่นต้นฉบับอยู่ครับ ไม่เกินเที่ยงคืนเดี๋ยวอัพให้ครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 12-02-2011 22:07:27
จิ้มก้นคนเขียน  เขียนได้หนุกมากมายเลยครับกด like 1  ที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 12-02-2011 22:08:37
เม้นรอเบาเบาจ้า
ความหวังเรามาแล้ว
เที่ยงคืนใช่มั้ย
ถ่างตารอเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 12-02-2011 22:33:11
เม้นรอเบาเบาจ้า
ความหวังเรามาแล้ว
เที่ยงคืนใช่มั้ย
ถ่างตารอเลย
ถึงกับถ่างตารอกันเลยทีเดียวว อิอิ
ว่าแต่ฝากจิ้มไว้ก่อนนะคะ พรุ่งนี้เช้าจะมาอ่านค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 12-02-2011 23:01:41
เที่ยงคืน!!!!!!
เรารอได้ 55+
กำลังสุดในนิยาย โดนตัดฉับตอน 13
และฮาคอมเม้นต์ไปพลาง ๆ ๆ
อิอิ...คุณบอยมีคนรอเยอะแยะเชียว
(( เราก็ 1 ในนั้น ))

มาร่วมด้วยช่วยกันรอเถอะนะ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-02-2011 23:56:25
ภายใต้แสงจันทร์สลัว เนื้อกายส่วนล่างของอิทธิที่โผล่พ้นออกมาอวดสายตาทำอาทิตย์เผลอมองพินิจ นึกแปลกใจที่อารมณ์ดิบในกายเกิดปั่นป่วนจนเผลอใช้มือสัมผัสลูบไล้
“เชี่ย! ทำอะไรวะ” อิทธิสะดุ้งตัวเย็นเมื่อรู้สึกได้ว่ามือนุ่มๆ ของอาทิตย์จับคลึงที่บั้นท้ายของตน เด็กหนุ่มพยายามหงายร่างเพื่อหลีกหนีการโดนลวนลามอันน่าขนลุกนี้ แต่ทำยังไงก็ไม่เป็นผลเมื่อร่างทั้งร่างโดนโถมทับเอาไว้จากร่างหนาของเจ้าของเจ้าของมือ
“จะดีดดิ้นทำไมนายอิทธิ นึกกลัวขึ้นมาแล้วหรือไง อวดเก่งกับฉันต่อสิ “
อาทิตย์เอ่ยว่าพลางใช้ร่างแข็งแรงของตนโถมทับลงบนร่างของอิทธิ ซึ่งบัดนี้กำลังนอนซบหน้าพื้นหญ้า แต่ก็ยังไม่วายสิ้นฤทธิ์ด้วยการพยามดิ้นดั่งต้องการเป็นอิสระ
“จะทำอะไรผมปล่อยผมนะคุณอาทิตย์” เสียงร้องบอกที่ได้ยินจากฝ่ายนั้นทำชายหนุ่มนึกอยากที่จะเอาชนะอาการต่อต้านยิ่งขึ้น
“จะทำให้นายหลาบจำไงว่าอย่ามาอวดดีกับฉัน”
อาทิตย์เอ่ยบอกพลางเตรียมที่จะถอดกางเกงของตัวเองบ้าง คืนนี้เป็นไงเป็นกัน ความยโสของอิทธิช่างยั่วอารมณ์ร้อนในกายให้ทำงานได้ดียิ่งนัก น่าแปลกที่กับคนๆ นี้ชายหนุ่มอยากจะปราบพยศเจ้าตัวด้วยการยัดเยียดความเป็นชายให้แทนการใช้กำลังข่มเหงในด้านอื่น จะว่าไปหากคืนนี้เขาทำสำเร็จอิทธิก็ถือได้ว่าเป็นคนแรกที่ได้รับสัมผัสนี้จากเขา
อิทธิรับรู้ได้ถึงแรงกดทับร่างกายได้ผ่อนคลายลงไปจนสามารถขยับร่างได้ถนัดจึงออกแรงดิ้นเฮือกสุดท้ายจนเกือบจะพลิกกายได้สำเร็จติดที่ว่าอาทิตย์รับรู้ซะก่อนร่างทั้งร่างจึงโดนกดทับในลักษณะนอนหันหลังดังเดิม เด็กหนุ่มขนลุกขันอีกครั้งเมื่อรับรู้ได้ว่ามีเนื้อกายแข็งแรงของคนกดทับร่างกำลังป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณร่างกายส่วนท้ายของตนเอง
“ไอ้อาทิตย์ ปล่อยกูนะโว้ย มึงจะทำอะไรกู”
เพราะความกลัวและตกใจที่สถานการณ์กลายเป็นเช่นนี้ทำเด็กหนุ่มหลุดคำพูดหยาบคายออกมา อาทิตย์ยิ้มเยาะให้กับคำพูดที่ได้ยิน ยิ่งอิทธิกลัวชายหนุ่มก็ยิ่งได้ใจ สองมือจับล็อคแขนฝ่ายนั้นกดแนบพื้นหญ้าเอาไว้เมื่อเห็นเจ้าตัวพยามรั้งเส้นหญ้าเพื่อตะกายร่างกายหนี
“คืนนี้นายหนีฉันไม่พ้นหรอกอิทธิ เป็นเมียฉันสักคืนนายคงไม่สึกหรอหรอกอย่าดิ้นให้มันเหนื่อยเลย” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเยาะๆ ใช้หน้าขาเปล่าเปลือยของตัวเองกดทับหน้าขาของคนนอนแนบพื้นดั่งต้องกาตรึงไม่ให้เจ้าตัวขยับหนี ก่อนใช้เนื้อกายแข็งแรงสมชายชาตรีถูไถบริเวณร่องกลีบของบั้นท้าย
“ไอ้อาทิตย์ไอ้นรกปล่อยกูนะโว้ย” อิทธิหลุดหยาบคายหนักขึ้นเพราะรู้สึกว่ามีหยดน้ำลื่นเหนียวที่ซึมออกมาจากปลายเนื้อกายของคนถูไถร่าง
 อิทธิดิ้นหนักปากก็ร้องบอกให้อาทิตย์หยุดการกระทำ แต่ใช่ว่าจะเป็นผล เพราะยิ่งดิ้น อาทิตย์ก็ดูคล้ายจะไม่ใส่ใจ
“อย่าขัดขืนฉันเลยอิทธิ มันไม่สำเร็จหรอก” อาทิตย์เอ่ยบอกเสียงสั่นเมื่อรู้สึกทั้งเสียวซ่านและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กันในสิ่งที่ตนกำลังจะทำ จากอารมณ์นั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับเก็บกั้นหยดน้ำแห่งความสยิวไม่ได้ จึงปล่อยให้มันซึมไหลออกจากส่วนปลายของท่อนเนื้อชายซึ่งบัดนี้กำลังพยายามชำแรกมันให้ผ่านเข้าไปในร่างกายของคนที่นอนดิ้นอยู่เบื้องล่าง
อิทธิดิ้นหนักเข้าก็เกิดอาการเหนื่อยสิ้นฤทธิ์ นอนราบหายใจหอบ น้ำตาเด็กหนุ่มซึมขอบตาเมื่อรู้สึกท่อนเนื้อแข็งแรงของอาทิตย์กำลังแทรกผ่านเข้ามาในร่างกายตน
“โอ้ยย!” หนุ่มน้อยร้องลั่นเมื่อรู้สึกว่าท่อนเนื้อนั่นถูกเจ้าของออกแรงดันเพิ่มขึ้นจนเชื่อว่าผลุบหายเข้ามาได้แล้วเกือบครึ่ง
“ผะ ผมเจ็บ ปล่อยผมคุณอาทิตย์” หยดน้ำตาไหลพรากออกมาเมื่อรู้สึกเจ็บปวดร่างกายส่วนนั้นจนเกินจะทานทน เด็กหนุ่มเอ่ยเอ่ยอ้อนวอนให้คนข่มเหงหยุดการกระทำที่คล้ายจะใช้ความเป็นชายฉีกบั้นท้ายเขาให้แยกออกจากกัน
“อาว์ อิทธิ เป็นของฉันเถอะนะ ฉันหยุดไม่ได้แล้ว” อาทิตย์ไม่ฟังคำอ้อนของหนุ่มน้อยที่กำลังสะอื้นเจ็บ ด้วยเพราะความสุขสยิวตอนแทรกเนื้อกายของตนลงไปในร่างกายฝ่ายนั้นจนเกือบครึ่งท่อน ช่องทางนั่นบีบรัดเนื้อกายชายหนุ่มซะจนอยากจะร้องระบายความซ่านเสียว ชายหนุ่มค่อยขยับเนื้อกายให้ลึกลงไปอีกในตอนที่คนนอนข้างร่างหมดฤทธิ์ดิ้น
“อะ โอ้ย ผะผมเจ็บ” อิทธิหลุดปากร้องอีกในตอนที่โดนชำแรกร่างกายจนสุดท่อนลำของคนกระทำ เด็กหนุ่มผวาเฮือกคิดจะขยับหนีใหม่เมื่อตอนฝ่ายนั้นเริ่มขยับร่างกายเป็นจังหวะเข้าออก
“เดี๋ยวนายก็สุขอิทธิ นายอย่าดิ้นเลยนะ อยู่เฉยๆ ฉันจะทำให้นายสุขไปกับฉันนะ” อาทิตย์บอกใหม่เสียงกระเส่าพลางโยกกายเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ยิ้มออกมาหน่อยๆ เมื่อเห็นคนที่รองรับเนื้อกายตนค่อยคลายอาการต่อต้าน จึงค่อยๆ ปล่อยแขนทั้งสองข้างเจ้าตัวออก แล้วเลื่อนมาจัดการถอดเสื้อทั้งของตนและของฝ่ายนั้นออกจากร่างกายเพราะต้องกายให้เนื้อกายแนบชิดเนื้อกายอย่างไม่มีอะไรมาคั่นกลาง
อิทธิยอมสิ้นฤทธิ์ในตอนที่ถูกอาทิตย์โน้มกายลงมาใช้ปลายลิ้นโลมเลียแผ่นหลัง ในขณะเจ้าตัวยังคงโยกกายอยู่ เด็กหนุ่มไม่อาจปฏิเสธอารมณ์สยิวที่อาทิตย์ปรนเปรอให้ แต่จะให้แสดงออกมาก็ดูจะไร้ทิฐิจึงได้แต่หลับตาจิกปลายนิ้วไว้กับพื้นหญ้าพร้อมเม้มริมฝีปากข่มเสียงครางไม่ให้เล็ดลอดออกมาได้
อาทิตย์ใช้ปลายลิ้นโลมเลียแผ่นหลังของหนุ่มน้อยที่กำลังตกเป็นของตนจนพอใจ นึกถึงรสหวานจากปลายลิ้นเจ้าตัวขึ้นมาจึงยอมถอนเนื้อกายของตัวเองออกมาจากร่างนั้นก่อนแล้วจับให้ร่างทั้งร่างพลิกกายมาเผชิญหน้า ระวังตัวอยู่แล้วว่าจะโดนขัดขืนจึงรีบรวบแขนอิทธิเอาไว้เช่นเคยตอนได้หันหน้าเผชิญกันแล้ว เร็วเท่าใจต้องการ ชายหนุ่มโน้มใบหน้าลงไปใช้ปากประกบปิดกับริมฝีปากหนุ่มน้อยเอาไว้แล้วจัดการบดขยี้จูบอย่างดูดดื่มจนคนโดนจูบอ่อนระทวยจึงยอมปล่อยมือเพื่อใช้มันมาช่วยจัดการชำแรกเนื้อกายตนเข้าไปในร่างคนอ่อนระทวยอีกหน ซึ่งคราวนี้ได้ผ่านเข้าไปง่ายดายกว่าคราวแรก
“อาว์ อิทธิ ฉันมีความสุขจัง” ชายหนุ่มถอนปากออกมาร้องเพื่อระบายอาการเสียวซ่านตอนที่ท่อนลำตนผ่านเข้าไปในร่างกายที่รัดแน่นของอิทธิได้สำเร็จอีกครั้ง ชายหนุ่มโยกร่างกายตามอารมณ์เสียวสยิวที่ไม่อาจหยุดได้เลยตอนนี้ พอๆ กับอิทธิที่ไม่อาจต่อต้านความรู้สึกสุขล้นที่ทั้งชีวิตไม่เคยได้รับ แต่กระนั้นเด็กหนุ่มก็ยังคงไว้ซึ่งทิฐิด้วยการไม่เล็ดลอดเสียงครางออกมา
อาทิตย์พอจะรู้ว่าอิทธิเองคงกำลังสุขเสียวไม่ต่างจากตนจึงไม่มีอาการต่อต้านทางร่างกายออกมาอีก แต่ดูเอาเถอะ อารมณ์กะเจิดกระเจิงขนาดนี้อิทธิก็ยังคงยโสได้อยู่เช่นเดิม โดยไม่แสดงอาการตอบสนองความสยิวให้ได้เห็น จะทนนิ่งเฉยได้สักกี่น้ำนายอิทธิ ชายหนุ่มแอบคิดในใจเมื่อคิดจะทำให้คนแบบอิทธิส่งเสียงครางกระเส่าให้ตนได้ยิน
“อะโอ้ย!” อิทธิเผลอร้องออกมาตอนที่รับรู้ได้ว่าอาทิตย์ดันเนื้อกายเข้ามากดนิ่งในร่างกายจนสุดลำแล้วเร่งจังหวะการโยกร่างกายเข้าออกแรงขึ้นดั่งต้องการยั่วยุให้ตนเสียวซ่านให้ได้ เด็กหนุ่มลืมตามองใบหน้าเจ้าตัวที่อยู่ภายใต้แสงสลัวของดวงจันทร์ ใบหน้าหล่อนั่นยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้ ก่อนจะกระทำเช่นเดิมอีก
“อย่ากะแกล้งผมคุณอาทิตย์ อะโอ้ยย” เด็กหนุ่มเผลอหลุดปากร้องออกไปในที่สุดเมื่อรู้สึกเกินจะทนกับสิ่งที่อาทิตย์กำลังกระทำ ยอมรับโดยดีว่าตอนนี้อาการเจ็บปวดเนื้อกายได้หายไปแล้วเป็นปลิดทิ้ง ที่เป็นอยู่ตอนนี้คือสุขสยิวจนท่อนกายความเป็นชายตื่นตัวขึ้น
อาทิตย์มองภาพอิทธิขณะกำลังหลับตาพร้อมรับความเป็นชายจากตนก็รู้สึกพอใจยิ่ง ชายหนุ่มนึกหลงในใบหน้าคมคายของหนุ่มน้อยนั่นตอนโดนแสงจันทร์ที่ไม่จ้านักสาดส่อง จากอารมณ์นั้นจึงโน้มกายลงไปจัดการบดขยี้ริมฝีปากเพื่อแลกปลายลิ้นกับเจ้าตัวอีกครั้ง รู้สึกสุขในใจเมื่อโดนตอบรับกลับมา
“นายก็กำลังมีความสุขใช่มั้ยอิทธิ ปล่อยมันเต็มที่เลยนะ อย่าต่อต้านฉันเลย ฉันชอบนาย” ชายหนุ่มถอนปากออกมาเผลอเอ่ยออกไปอย่างลืมตัว ตอนนั้นอิทธิตกใจกับสิ่งที่ได้ยินนิดๆ แต่ไม่มีเวลาทักท้วงเมื่อคนพูดกระหน่ำเร่งจังหวะการโยกกายลงจนต้องเผลอครางออกมาแทนการท้วงติง
“อิทธิ ฉันไม่ไหวแล้ว เป็นของฉันนะ อะโอ้ย” อาทิตย์เอ่ยเสียงสั่นพร่าพลางร้องครางลั่นในนาทีที่ได้ปล่อยเขื่อนรักลงไปในร่างกายของหนุ่มน้อยในอ้อมกอด
“อะ โอ้ย!” ในไม่กี่วินาทีต่อมาชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงร้องครางของคนที่นอนอยู่เบื้อล่าง ก่อนจะสะดุ้งหน่อยๆ เมื่อรู้สึกมีน้ำอุ่นๆ พุ่งใส่หน้าท้องของตน ยิ้มออกมานิดๆ เมื่อเห็นว่าเป็นน้ำที่ระบายออกมาจากท่อนกายของอิทธิ ชายหนุ่มรู้สึกภูมิใจที่ลีลารักของตนสามารถทำให้อีกฝ่ายถึงจุดสุดเสียวได้โดยไม่ได้แตะต้องเนื้อกายส่วนนั้นเลย
“เสร็จฉันจนได้นะนายอิทธิ” เมื่ออารมณ์สุขได้จบลง สองคนจึงกลับมาจ้องหน้ากันอีกครั้ง อิทธิรู้สึกทั้งโกรธทั้งอายที่ยอมเผลอตัวเผลอใจไปกับอาทิตย์ เด็กหนุ่มพยายามจะผลักร่างเปลือยเปล่าฝ่ายนั้นออกจากกายตน
“นายเป็นเมียฉันแล้วนะ อย่ามาทำรังเกียจกันหน่อยเลย” อาทิตย์บอกออกมาดุๆ เมื่อนึกไม่พอใจอาการขัดขืนของอิทธิ
“อย่ามาปากเสียนะ ไอ้…” อิทธิหลุดว่าออกไปเมื่อรู้สึกรักศักดิ์ศรีขึ้นมาตอนอารมณ์ไม่ได้กระเจิดกระเจิง เด็กหนุ่มกำลังจะด่าว่าคนเรียกตนว่าเมีย แต่เสียงนั่นกลับหายเข้าไปในลำคอเมื่อโดนคนเรียกก้มลงปิดปากเอาไว้ด้วยริมฝีปาก
“โอ้ย!” อาทิตย์ถอนปากออกมาจากปากอิทธิร้องลั่นเมื่อรู้สึกว่าปลายลิ้นตัวเองโดนขบกัด ดีที่ถอนปากออกมาทัน ไม่อยากนั้นไม่อยากจะคิดเลยว่าตนจะกลายเป็นคนพิการลิ้น
“เก่งไม่เลิกใช่มั้ย!” ด้วยอารมณ์โกรธจึงผละร่างออกมาจากร่างคนเก่ง ก่อนจะเผลอตัวยกมือขึ้นฟาดใบหน้าฝ่ายนั้นจนหน้าหัน
อิทธิข่มเสียงร้องเอาไว้ทั้งๆ รู้สึกเจ็บแสบใบหน้า
“นายบังคับฉันเองนะ” อาทิตย์แม้จะรู้สึกสะเทือนใจกับภาพใบหน้าหันสะบัดของเหยื่อฝ่ามือตนอยู่บ้าง แต่เพราะยังเคืองที่ตนหวิดลิ้นขาดจึงไม่ยอมแสดงท่าทีสำนึกผิดออกมา
อิทธิหันหน้ามามองคนที่เพิ่งบอกชอบตนแต่ทำร้ายตนช้าๆ ความรู้สึกทั้งโกรธ ทั้งเกลียด ทั้งน้อยใจ วิ่งพล่านในจิตใจจนต้องรีบลงขึ้นผลักร่างคนๆ นั้นให้ห่างออกจากตัวแล้วรีบคว้าเอาเสื้อผ้าของตนมาสวมใส่ลวกๆ วิ่งหายไป
“อิทธิ” อาทิตย์ร้องตามคนวิ่งหนีอย่างตกใจ จัดการฉวยหยิบเสื้อผ้าตัวเองมาสวมใส่เช่นกันแล้ววิ่งตามไป
อิทธิวิ่งปาดน้ำตาไปอย่างไม่หันหลังกลับทั้งๆ ที่ได้ยินเสียงร้องเรียกตามจากอาทิตย์ไม่หยุด พอกันทีกับการใช้ชีวิตอยู่ในไร่แห่งนี้ ศักดิ์ศรีของวัยหนุ่มถูกย่ำยีเสียจนป่นปี้เช่นนี้ ขอไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ใหม่เสียยังดีกว่า
หนุ่มน้อยวิ่งลัดเลาะมาจนถึงหน้าเรือน จึงหยุดชะงักเท้าเอาไว้มองสำรวจร่างกายตน คิดว่าหากเข้าไปแบบนี้มารดาเห็นคงต้องตกใจเป็นแน่ แต่เสียงร้องเรียกและเสียงฝีเท้าที่ตามหลังมาก็ทำให้ผวาได้เช่นกัน นาทีนี้ ตอนนี้ อาทิตย์เป็นดั่งผีห่าซาตานที่ไม่อยากจะเข้าใกล้นัก
หนุ่มน้อยลังเลว่าจะเอายังไงดี นาทีนั้นอาทิตย์ก็ตามมาถึงร่างพอดี
“หยุดทำไมล่ะ เข้าไปหาแม่นางสิ บอกท่านด้วยนะว่านายมีสามีเป็นตัวเป็นตนแล้ว” อาทิตย์เอ่ยว่าเยาะๆ อีก เด็กหนุ่มยกมือขึ้นเตรียมจะชก เพราะนึกเกลียดเหลือเกินกับท่าทีเป็นต่อของอาทิตย์
“ต่อยฉันแม้แต่ครั้งเดียวฉันจะจับปล้ำซะหน้าเรือนนี่แหละ ถ้าคิดว่าฉันไม่กล้าก็เอาเลย” อาทิตย์เอ่ยว่าขัดจังหวะ
“คุณมันก็ดีแต่ข่มเหงคนอื่นน่ะแหละคุณอาทิตย์ ผมเชื่อแล้วล่ะว่าเลือดแม่คุณมันช่างข้นนัก” อิทธิเอ่ยว่าตอนลดมือลง
“บอกแล้วไงว่าอย่าลามปามถึงแม่ฉัน” อาทิตย์บอกเสียงดุ
“ไม่ต้องห่วงหรอก นี่เป็นคืนสุดท้ายที่คุณจะได้ยินผมเอ่ยถึงแม่ของคุณ” อิทธิมองตาท้าทาย
“หมายความว่ายัง”
“ผมจะพาแม่นางออกไปจากที่นี่ ออกไปจากความร้ายกาจของคุณกับแม่ของคุณไง ฝากคาบข่าวเรื่องนี้ไปบอกแม่ของคุณด้วยนะว่าในที่สุดเขาก็จะได้ไม่มีร่างของผมกับแม่นางต้องอยู่ให้รกตาอีก” อิทธิเอ่ยบอก ถึงตอนนี้อดน้ำตารื้นไม่ได้ เมื่อคิดว่าจะต้องจากไร่ที่ตนอยู่มาตั้งแต่เด็กไปจริงๆ
“ไม่ได้นะ ฉันไม่ยอมให้นายไปไหนทั้งนั้น” อาทิตย์เอ่ยว่าอย่างรู้สึกใจหาย อิทธิจะหายหน้าหายตาไปจากเขาไม่ได้ เด็กนี่ทำให้เขาหลงใหลในรสรักเข้าเสียขนาดนี้ ไม่มีทางซะล่ะที่จะยอมปล่อยให้เจ้าตัวหายหน้าไป พูดกับฉันดีๆ สิอิทธิ นายจะร้ายใส่ฉันไปเพื่ออะไร หากนายเอ่ยกับฉันดีๆ มีเหรอฉันจะตวาดตะคอกนาย ชายหนุ่มเอ่ยคิดในใจเมื่ออยากแสดงความรู้สึกแท้ๆ ออกมาแต่ติดที่อีกฝั่งมักแสดงท่าทีต่อต้านจนไม่กล้าเผยความรู้สึก
“ถ้าผมจะไปใครหน้าไหนก็อย่ามาห้าม” อิทธิเอ่ยขึ้นดั่งต้องการเอาจริง ตัดสินเดินหายเข้าไปในเรือนโดยไม่สนใจว่ามารดาตนจะตกใจหรือไม่ อาทิตย์ชะงักเท้าเมื่อไม่อาจตามเข้าไปได้เพราะรู้สึกละอายใจต่อแม่นางกับสิ่งที่ตนทำกับลูกชายคนเดียวของเจ้าตัว ไว้พรุ่งนี้เถอะนะ หากเรื่องมันกระจ่างขึ้นมาแล้วเขาค่อยมาอธิบายเหตุและผลให้ฟัง และพร้อมจะรับผิดชอบทุกสิ่งอย่างหากว่าสองแม่ลูกนี้จะเรียกร้อง เว้นเสียจากการขอไปจากไร่นี้ คำร้องขอนี้เป็นไงก็เป็นกัน ถ้าเข้าจะยืนยันว่าไม่ให้ไป แต่หากจะไป บ้านหลังโตของบิดาที่กรุงเทพฯ ก็พร้อมที่จะเปิดประตูต้อนรับ!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 13 อัพเดต 19.01.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 12-02-2011 23:56:54
อิทธิแปลกใจที่ไม่เห็นมารดาตนอยู่ที่เรือน ฝ่ายนั้นคงออกไปตามตัวเขาแน่ๆ ใจหนึ่งก็นึกเป็นห่วง แต่ใจหนึ่งคิดว่าก็ดีเหมือนกันที่ตนจะได้ชำระร่างกายที่เปื้อนเปรอะคราบรักที่อาทิตย์ฝากฝั่งไว้ให้สิ้นราคี
อาการปวดหนึบบั้นท้ายเริ่มสำแดงออกมาในตอนที่พาตัวเองมาถึงที่อาบน้ำ เด็กหนุ่มหลับตาสลัดภาพที่ตนกับอาทิตย์กระทำสิ่งน่าอายภายใต้แสงจันทร์ริมคลองท้ายไร้ทิ้ง คิดว่าเมื่อแม่นางกลับมาจะขอร้องให้เจ้าตัวออกจากไร่นี้ไปพร้อมกับตนในระยะเวลาที่เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งจะดี เรื่องที่ผ่านมาเมื่อครู่ แม้ไม่มีใครรู้ใครเห็นแต่เขาเองก็หลอกตัวเองไม่ได้ว่ามันเกิดแล้ว จากนี้ต่อไปจะมองหน้าใครๆ ในไร่นี้ได้อย่างไร เมื่อศักดิ์ศรีของร่างกายได้สูญเสียไปให้กับหลานชายเจ้าของไร่
น้ำในขันถูกราดลงบนร่างกาย ขันแล้วขันเล่าอย่างเลื่อนลอย ก่อนที่คนตักราดจะตกใจสุดขีดเมื่อมองที่พื้นแล้วเห็นสายน้ำที่ไหลนองอยู่เต็มไปด้วยสีแดงจางๆ อิทธิรีบสำรวจร่างกายตนเอง มองดูแผลจากรอยถลอกตอนจักรยานล้ม ก็ไม่เห็นเลือดซึมเท่าไหร่ แล้วสีแดงคล้ายเลือดนี้มันมาจากไหน หรือว่า?
 หนุ่มน้อยทรุดนั่งลงอย่างตกใจเมื่อรับรู้แล้วว่าสีแดงจางๆ ที่เจืออยู่กับสายน้ำนั่นคือบางส่วนจากเลือดในกายในส่วนที่โดนชำแรกจนฉีกขาด
“แม่นาง อิทขอโทษ อิทขอโทษ” เด็กหนุ่มร้องไห้ออกมาเพราะนึกละอายใจต่อผู้เป็นมารดาที่ตนไม่อาจรักษาศักดิ์ศรีความเป็นหนุ่มเอาไว้ได้ หากเรื่องนี้ถึงหูใครๆ แล้วมารดาของเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนที่บุตรชายคนเดียวโดนข่มเหงเช่นนี้

******************************************************************

   ที่เรือนหลังใหญ่ อาทิตย์ปัดเนื้อปัดตัวให้แลดูเป็นปกติที่สุดก่อนจะก้าวขึ้นเรือนไป เพียงแค่เยี่ยมหน้าโผล่เข้าไปก็ต้องตกใจที่เห็นป้าของตนกำลังกอดปลอบน้องชาย และข้างๆ มีแม่นางนั่งรวมอยู่ด้วย รวมถึงสาวใช้คนอื่นๆ แต่ไร้ซึ่งร่างมารดาของตน
   “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไป เรียกสายทุกๆ คนได้เป็นอย่างดี
“ตาอาทีโดนลอบทำร้าย แล้วนี่เราไปไหนมา” จันทร์จวงเอ่ยตอบหลานชายแล้วเอ่ยถาม อาทิตย์อดไม่ได้ที่จะหันมองสบตาของแม่นางเมื่อนึกถึงเรื่องที่ตนเพิ่งกระทำผ่านมาเมื่อครู่กับอิทธิ
   “แล้วอิทธิล่ะคะคุณอาทิตย์” แม่นางเอ่ยถามขึ้น อาทีได้บอกนางแล้วว่าอาทิตย์เป็นคนพาบุตรชายตนไป ตอนแรกก็อดห่วงอยู่ แต่ตอนหลังก็เบาใจเพราะคิดว่าคนๆ นี้คงไม่ร้ายใส่บุตรชายตนอย่างไร้เหตุผลนัก
“กะ กลับไปที่เรือนแล้วครับ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกัก จันทร์จวงสังเกตเห็นจึงถามใหม่
“แล้วทำไมต้องตะกุกตะกักล่ะตาอาทิตย์ พาอิทธิไปทำอะไรมาหรือ”
“ปะเปล่านี่ครับ ไม่ได้ทำอะไร” ชายหนุ่มตะกุกตะกักอีกก่อนจะเฉถามเรื่องที่น้องชายตนโดนลอบทำร้าย
“แกไปโดนใครทำอะไรมาเหรออาที”
“ผมไม่รู้ รู้แต่ว่ามันทำอย่างกะจะฆ่าผม” อาทีตอบ นึกถึงนาทีเฉียดตายแล้วขวัญเสีย หนุ่มน้อยมองสำรวจร่างกายพี่ชาย แปลกใจที่เห็นเจ้าตัวมอซอจึงถาม
“พี่กะไอ้อิทต่อยกันมาเหรอ ทำไมสภาพถึงได้เป็นแบบนี้”
“ตายจริง อิท” แม่นางเผลอหลุดปากครางออกมาเมื่อคิดตามคำพูดอาที
“ดิฉันขอไปดูเจ้าอิทก่อนนะคะ” นางเอ่ยปากบอกเจ้าของไร่แล้วรีบรุดลงเรือนไป อาทิตย์รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา แต่ก็พยายามตีสีหน้าเรียบนิ่งตอบน้องชาย
“เปล่า”
“เปล่าแล้วพาเพื่อนผมไปไหนมา” อาทีถามใหม่สองพี่น้องจึงโต้ตอบกัน
“ไม่เกี่ยวกับนาย”
“ทำไมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อไอ้อิทเป็นเพื่อนผม”
“ก็แค่เพื่อน”
“หมายความว่าไงก็แค่เพื่อน”
“เปล๊า!”
“พอๆ อย่ามาต่อปากต่อคำต่อหน้าป้า อาทิตย์ไปอาบน้ำอาบท่าไป อาทีก็เหมือนกัน เตรียมเข้านอนกันได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากันอีกทีเรื่องที่เราโดนลอบทำร้าย ป้าจะให้คนในไร่ลองสืบดู ส่วนเรื่องแม่นางกับอิทธิป้าจะเจรจากับแม่เราให้ว่าอย่าไปราวีอะไรพวกเขาสองคนอีก ถ้ามันจำเป็นแม่จะให้แม่นางย้ายมาอยู่ในเรือนเพื่อดูแลป้าแทน รวมทั้งอิทธิด้วย พวกเขาสองคนอยู่ใกล้ๆ ป้า แม่เราคงไม่กล้าราวีอะไรนักหรอก” จันทร์เอ่ยขัดจังหวะการโต้เถียงของสองพี่น้อง ก่อนจะให้สาวใช้พาพยุงไปยังห้องพัก
“ตะกี้ป้าจันทร์บอกนายโดนลอบทำร้ายมา นายไปมีศัตรูที่ไหนอาที” อาทิตย์เอ่ยถามน้องชายตอนอยู่สองต่อสอง
“ก็คงเป็นคนในไร่นี้แหละ เพราะคนนอกคงเข้ามาที่ไร่นี้ไม่ได้ตอนค่ำมืดขนาดนี้” อาทีเอ่ยตอบ
“แล้วแม่รู้เรื่องนี้หรือยัง”
“คิดว่าเขาจะสนใจผมเหรอ”
“บอกท่านหรือยังล่ะ”
“ไม่จำเป็น”
“ก็ชอบคิดแบบนี้ไง แล้วก็มานั่งน้อยอกน้อยใจเองว่าแม่ไม่รัก”
“ช่างมันเถอะ นั่นมันปัญหาของผม พี่อาทิตย์ตอบผมมาดีกว่าว่าพี่พาไอ้อิทไปไหน และไปทำอะไรมัน”
“ปัญหาของแกแกยังไม่อยากให้ฉันยุ่ง แล้วเรื่องที่ฉันจะพาอิทธิไปทำอะไรที่ไหนฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องบอกแก”
อาทิตย์ตอบน้องชายเสร็จก็ผละไปยังห้องพักตัวเองเพื่อชำระร่างกาย เตรียมเข้านอน

******************************************************************

ตอนกลับถึงเรือน แม่นางรุดเข้าไปยังห้องของบุตรชายเพื่อดูอาการเพราะหลงคิดไปว่าเจ้าตัวคงมีเรื่องชกต่อยกับอาทิตย์จริงๆ ภาพแรกที่เห็นแสงไฟในห้องสว่างทำนางตกใจ ภาพนั่นคือร่างบุตรชายกำลังนอนขดตัวภายใต้ผ้าห่มใบหน้าซีดเซียว
“อิทเป็นอะไรลูก” คนเป็นแม่ผวาไปจับร่างบุตรชายตกใจเมื่อเห็นเนื้อกายนั่นร้อนมือ
“แม่อิทหนาว อิทหนาว” อิทธิส่งเสียงครางบอกมารดา ขดตัวแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมา เด็กหนุ่มเกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัวตั้งแต่ตอนชำระร่างกายเสร็จกระทั่งเปลี่ยนเสื้อผ้าคิดจะนั่งรอมารดากลับมา แต่แล้วก็รู้สึกเมื่อยเนื้อกาย พร้อมกับอาการหนาวสะท้านจากภายในจนต้องรีบพาตัวเองไปนอนขดตัวในผ้าห่มเพื่อบรรเทาอาการ แต่กลับไม่ได้ผลเพราะดูท่าพิษไข้จะเล่นงานจะลุกไม่ไหว
“โธ่อิท แม่อยู่นี่ลูกแม่อยู่นี่ เดี๋ยวแม่เอาผ้ามาห่มเพิ่มให้นะ”
แม่นางรุดออกไปหาผ้ามาห่มให้กับบุตรชายเพิ่ม นึกหวั่นว่าเจ้าตัวจะโดนไข้ป่าเล่นงานเข้าโดยไม่คิดแม้สักนิดว่าอาการที่เห็นนั่นเกิดจากการที่ร่างกายโดนจับแช่สายน้ำที่เย็นเยียบก่อนจะโดนลากขึ้นมาข่มเหงต่อบนบกจนเนื้อกายส่วนที่โดนชำแรกฉีกขาด
คืนทั้งคืนแม่นางต้องคอยดูอาการของบุตรชายจนรุ่งเช้าจึงตัดสินใจลางานเพื่ออยู่ดูแลเจ้าตัวที่ยังนอนซมจนไม่สามารถไปเรียนหนังสือได้

ที่เรือนหลังใหญ่ อาทีไม่เป็นอันอยากจะไปโรงเรียนเมื่อรับรู้จากปากผู้เป็นป้าอิทธิป่วยหนักนอนซมอยู่ที่บ้านจึงขอลางานเพื่อดูแล เด็กหนุ่มแสดงอาการร้อนอยากไปดูอาการตอนที่มารดาและพี่ชายก็อยู่ด้วย
“อย่าคิดทำอะไรไม่เข้าท่านะไอ้อาที มีหน้าที่เรียนก็ไปเรียน อย่างไอ้เด็กเหลือขอนั่นมันคงไม่ตายง่ายๆ หรอก” จิตราเอ่ยว่าบุตรชายคนเล็กจนลืมสังเกตว่าคนที่ร้อนรนอยากไปดูอาการอิทธิอีกคนก็คือบุตรชายคนโตของหล่อนเอง
“อาทีไปโรงเรียนก่อนเถอะ อิทธิแค่ล้มเจ็บ ไม่ได้เลือดตกยางออกอะไรเดี๋ยวคงหายแหละ” จันทร์จวงเอ่ยหลานชายอีกแรง เจ้าตัวจึงยอมไปโรงเรียนด้วยอาการว้าวุ่นเล็กๆ เมื่อลับหลังบุตรชายคนเล็กไปแล้วจิตราจึงหันมาเอ่ยกับบุตรชายคนโต
“เมื่อคืนลูกอาทิตย์ปราบพยศมันยังไงเหรอมันถึงขนาดต้องล้มเจ็บ วุ้ย สาแก่ใจแม่จริงๆ” จิตราเผลอออกอาการสาแก่ใจจนลืมไปว่าตอนนี้พี่สาวตนก็ยืนรวมอยู่ด้วย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนโดนตำหนิ
“จะไม่ออกนอกหน้าไปหน่อยเหรอจิตรา มัวแต่คิดดีใจเรื่องนี้เคยสนใจหรือเปล่าว่าเมื่อคืนตาอาทีไปโดนอะไรมา”
“โดนอะไรหรือคะ”
“โดนคนลอบทำร้ายมาน่ะสิ”
“ต๊าย นี่พี่จันทร์โดนหลานชายกุเรื่องหลอกแล้วหลงเชื่อหรือคะ ใครกันจะแอบเข้าในไร่ในยามค่ำคืนได้” จิตรานึกขันเพราะไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
“คนนอกเข้ามาไม่ได้แต่ก็ใช่ว่าคนในจะไว้ใจได้นี่” จันทร์จวงเอ่ยว่า นึกเอือมระอาที่จิตราเป็นถึงแม่แต่ไม่นึกสนใจความเป็นไปของบุตรชายเลย
“โอ้ย เหลวไหลนะคะพี่จันทร์ จะไปเชื่ออะไรกับไอ้อาทีมัน เห็นจิตรไม่สนใจหน่อยมันก็เรียกร้องความสนใจน่ะสิ”
“เธอน่ะสิเหลวไหล แล้ววันนี้ไม่ต้องไปไหนเลยนะ อยู่สะสางคดีกับฉันที่เรือนนี่แหละ เมื่อคืนฉันเห็นสภาพแม่นางตอนเขามาตามหาอิทธิแล้วฉันไม่แปลกใจเลยที่อิทธิมาตามราวีเธอถึงบนเรือน”
“นี่เมื่อคืนนังแม่นางมันมาที่นี่หรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าเขาไม่มาป่านนี้ลูกชายเธอคงกลายเป็นศพหมกไร่นี้แล้วมั้ง”
“โอ้ย พูดกับพี่จันทร์ทีไรจิตรล่ะปวดหัว จะสะสางคดีอะไรกับจิตรรอก่อนนะคะ จิตรขอตัวก่อนค่ะ อยากคุยกับลูกอาทิตย์สักหน่อย”
เอ่ยเสร็จจิตราก็หันมาทางที่คิดว่าบุตรชายคนโตจะยืนอยู่ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อที่ตรงนั้นว่างเปล่า
“อ้าวลูกอาทิตย์ไปไหนซะล่ะ” หล่อนเอ่ยขึ้นหันมองหน้าพี่สาวที่ทำทีไม่รู้อยู่เช่นกัน
อาทิตย์ลอบลงจากเรือนมาตอนที่มารดาและป้าของตนกำลังยืนโต้เถียงกันอยู่ แน่นอนที่สุดว่าจุดหมายที่ต้องการไปคือเรือนของอิทธินั่นเอง
ร่างสูงสูงหยุดอยู่หน้าเรือนตอนไปถึง มองเห็นแล้วว่าแม่นางกำลังหุงหาอาหารอยู่อย่างวุ่นวาย คงกำลังเตรียมสำรับไว้ให้กับอิทธินั่นมั้ง นายนั่นจะเป็นไงบ้างนะ จิตใจนึกห่วงขึ้นมาจนฮึดเดินเข้าไปยังเรือนนั่น
“อ้าว คุณอาทิตย์” แม่นางเอ่ยทักชายหนุ่มตอนมองเห็นร่าง อาทิตย์ส่งยิ้มทักทายเพียงนิดแล้วเอ่ยถาม
“แม่นางทำอะไรเหรอครับ”
“กำลังทำข้าวต้มให้อิทธิน่ะค่ะ ตอนนี้ยังลุกไม่ขึ้นเลย” แม่นางรายงาน อาทิตย์ใจกระตุกนึกห่วงจนอยากจะรุดเข้าไปดูซะให้เห็นกับตาว่าอาการเป็นถึงขนาดไหน ชายหนุ่มรู้สึกเสียใจเมื่อมองเห็นใบหน้าของแม่นางชัดๆ ในตอนรุ่งสางแบบนี้ ใบหน้าฝ่ายนั้นมีรอยฟกช้ำอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่อิทธิตามไปเรียกร้องความยุติธรรมให้เจ้าตัวคงจะเป็นจริง โธ่ อิทธิ นี่ฉันทำรุนแรงกับนายไปหรือเปล่า ชายหนุ่มนึกคร่ำครวญ ก่อนถามออกมา
“อิทธิเขาบอกอะไรแม่นางหรือเปล่าครับ”
 “บอกอะไรหรือคะ” แม่นางถามอย่างนึกสงสัย เข้าใจว่าอิทธิคงจะมีเรื่องชกต่อยกับคนตรงหน้าจริงๆ เพราะสังเกตเห็นรอยฟกช้ำหลายจุด แต่จะให้นางมานั่งโกรธเคืองฝ่ายนี้ก็ทำไม่ค่อยจะลง เพราะเข้าใจว่าบุตรชายนางก็คงทำร้ายร่างกายคนๆ นี้อยู่ไม่น้อย ดูได้จากสภาพที่เจ้าตัวเดินขึ้นเรือนเมื่อคืน
“ปะเปล่าครับ แล้ววันนี้แม่นางต้มข้ามเสร็จยังครับ เดี๋ยวผมเอาเข้าไปให้อิทธิเอง” อาทิตย์เอ่ยบอก เพราะอยากจะเข้าไปดูแลอิทธิ แต่เพราะเขินไม่กล้าเอ่ย จึงขออาสาเอาสำรับไปให้
“จะดีหรือคะ” แม่นางลังเล
“ทำไมเหรอครับ”
“ก็เมื่อคืน..”
“เมื่อคืนทำไมเหรอครับ”
“ก็เมื่อคืนคุณอาทิตย์กับเจ้าอิทไม่ได้ชกต่อยกันหรือคะ”
“อะ อ๋อ ก็นิดหน่อยครับ จริงๆ ผมก็เป็นฝ่ายผิด ผมจึงอยากมาปรับความเข้าใจกับอิทธิไงครับ”
“อย่างนั้นเหรอคะ”
“ครับ”
“แต่ยังไงดิฉันก็ดูว่ามันไม่เหมาะ คุณอาทิตย์กลับเรือนไปเถอะค่ะ อย่าให้คุณจิตรทราบเลยว่าคุณมาที่นี่”
“ตอนนี้แม้แม่จะรู้ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอธิบายเรื่องราวได้ ไว้ใจผมเถอะว่าแม่ไม่ทำอะไรแม่นางกับอิทธิไม่ได้หรอกถ้าผมบอกว่าผมเต็มใจมาที่นี่เอง”
อาทิตย์เอ่ยบอก เริ่มเอนเอียงและเห็นใจอิทธิกับแม่นางขึ้นมา พร้อมรู้สึกละอายใจที่แม้แม่นางจะเข้าใจว่าตนไปชกต่อยลูกชายนางจริงๆ แต่นางก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไร
แม่นางพยายามบ่ายเบี่ยงอีก อาทิตย์จึงจำต้องเดินไปฉุดหยิบสำรับข้าวต้มซะเอง แล้วดินหายไปยังห้องพักของอิทธิ แม่นางทำท่าจะตามไปแต่แล้วต้องชะงักเมื่อโดนหลานชายเจ้านายหันมาบอก
“ผมขอปรับความเข้าใจกับอิทธิสองต่อสองนะครับแม่นาง”
ประตูห้องบุตรชายถูกปิดตอนหลานชายเจ้าของไร่หายร่างเข้าไป ประตูนั่นแม้ไม่แน่นหนานัก แต่แม่นางก็คิดว่าไม่ควรเลยที่จะเข้าไปแอบฟังหรือดูสถานการณ์ความเป็นไป จึงหันกลับมาสะสางถ้วยชามที่วางระเกะระกะขณะทำครัว
ภายในห้อง ร่างของอิทธิยังคงนอนขุดคู้อยู่ภายใต้ผ้าห่ม ใบหน้าและริมฝีปากหนุ่มน้อยซีดขาวอย่างไร้สีเลือด อาทิตย์รู้สึกสงสารเจ้าตัวจับใจจึงรีบวางสำหรับข้าวต้มแล้วรุดไปใช้มือไปจับหน้าผากวัดอาการไข้
“ตัวร้อนจี๋เลย” ชายหนุ่มกำลังจะชักมือกลับแต่ก็ช้าไปเมื่อคนนอนซมได้ใช้มือคว้าเอาไว้ทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ พลางเพ้อ
“แม่อิทหนาว”
“โธ่อิทธิ ฉันขอโทษนะ” อาทิตย์เอ่ยนออกมา ก่อนจะจำใจปลุกคนเพ้อให้ลุกขึ้นเพื่อทานข้ามต้มที่ตนถือเข้ามาให้
“อิทธิลุกนะ กินข้าวก่อนจะได้กินยา”
อิทธิได้ยินเสียงแว่วๆ ของคนรังแกค่อยปรือตาขึ้นมอง จากภาพเลือนรางตอนแรกค่อยๆ ชัดเจนให้เห็น
เด็กหนุ่มสะบัดแขนที่ตนจับอยู่ออกไปโดยเร็ว แล้วดีดตัวลุกนั่งคล้ายๆ ตกใจจนลืมอาการครั่นเนื้อตัว
“คุณมาได้ไงออกไปนะ” เสียงแหบพร่าเอ่ยไล่ผีห่าซาตานในความคิด พลางกระเถิบร่างถอยหนี เมื่อคนนั้นพยายามเข้าสัมผัสตัว
“ไม่สบายแล้วยังฤทธิ์มากอีกนะ” อาทิตย์เอ่ยว่า ส่ายหน้านิดๆ ก่อนจะตัดสินใจหันไปหยิบชามข้าวต้มมาถือไว้ในมือ
“อยู่เฉยๆ นะอย่าแผลงฤทธิ์อะไรอีก เดี๋ยวฉันป้อนให้” ชายหนุ่มเอ่ยบอก อิทธิมองชามข้าวต้มในมือของคนที่ตนเกลียดชัง สักพักจึงโผเข้าไปแย่งมาถือไว้ในมือแล้วจัดการสาดใส่ร่างคนถือตอนแรก
“เฮ้ย อะไรวะ” อาทิตย์กระโจนหลบทันก่อนที่ร่างกายจะพองเพราะไอร้อน ชายหนุ่มหันมองหน้าคนกระทำจะว่าโกรธก็โกรธ แต่เห็นนัยน์ตาที่สั่นระริกของเจ้าตัวแล้วทำอะไรไม่ลงจริงๆ จึงได้แต่ว่า
“จะร้ายใส่ฉันไปถึงไหนอิทธิ ฉันมาดีนะ มาดูอาการนาย”
“ไม่ต้องมาดู ถึงผมตายคุณก็อย่าคิดแม้แต่จะไปเผาผี” อิทธิบอกอย่างหนักแน่น เห็นใบหน้าอาทิตย์แล้วอดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ น้ำใสๆ ที่เอ่อล้นขอบตาตั้งแต่ต้นจึงค่อยๆไหลลงมาอาบสองแก้ม
“อย่าร้องสิอิทธิ ฉันรู้สึกไม่ดีนะ” อาทิตย์เอ่ยบอกเมื่อรู้สึกสะท้านใจกับภาพที่เห็น
“คนอย่างคุณรู้สึกกับคนที่อยู่ในฐานะต่ำกว่าได้ด้วยหรือครับ” อิทธิเอ่ยประชด อาทิตย์จึงโต้กลับ
“อย่าประชดฉันอิทธิ ไม่น่ารักเลยนะ”
 “ผมไม่ได้ขอให้คุณมารักนี่”
“มันก็แบบเนี่ย พูดดีๆ กับฉันสักคำจะได้มั้ย”
“เพื่ออะไรล่ะครับ บอกแล้วไง ผมไม่ต้องการให้คุณมามองผมว่าเป็นคนดีในสายตา”
“เออ ปากกล้ามันเข้าไป นี่ถ้าท้องได้นะปล่องขึ้นมาจะทิ้งให้ลูกมันไร้พ่อเลยเชียว”
“คนมันเลวก็ย่อมคิดอะไรเลวๆ แบบนี้แหละ”
“ปากนายนี้มันสุดๆ จริงๆ อิทธิ แบบนี้ท่าทางจะหายไข้แล้วมั้ง จัดการอีกสักรอบเลยซะดีมั้ยแบบนี้”
“อย่าคิดทำอะไรทุเรศที่เรือนผมนะ”
“ไปที่เรือนฉันมั้ยล่ะ ที่นอนนุ่มๆ ของฉันพร้อมรอให้นายไปนอนด้วยได้ทุกเมื่อนะ”
“ถึงอดตายไร้ที่นอนยังไง คุณก็เป็นคนสุดท้ายที่ผมจะนึกถึงคุณอาทิตย์”
“เออ เก่งให้ตลอดนะ หงุดหงิดโว้ย ว่าจะมาดูอาการก็ดันมาให้โดนด่าโดนว่า กลับก็ได้วะ” อาทิตย์ออกอาการฉุนเฉียวเมื่อโดนประชดหนักๆ เข้า ชายหนุ่มตัดสินใจเดินออกจากห้องนั้นทันที สวนทางกับแม่นางก็ไม่คิดจะทักเพราะจิตใจกำลังครุกรุ่น
อิทธิค่อยๆ ทรุดร่างลงนอนเช่นเดิมเมื่อคิดว่าร่างของอาทิตย์คงพ้นชายคาเรือนไปแล้ว ใจแข็งไว้ไอ้อิท นายอย่าหวั่นไหวอะไรเด็ดขาด นายต้องพาแม่นางไปจากที่นี่ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ นายต้องเข้มแข็ง นายต้องเข้มแข็ง
น้ำในตาไหลอาบแก้มอีกครั้งเมื่อนึกถึงชะตาชีวิตที่ไม่รู้จะระหกระเหินไปทางใดหากว่าได้ตัดสินใจไปจากแผ่นดินเกิดนี้

โปรดติดตามตอนต่อไป

Boy

ขอโทษที่หายไปนานนะครับ วันนี้มาต่อแล้ว อัพให้ก่อนที่บอร์ดตัวเองเสียอีก เพราะเห็นรอกันทุกวันเลย น่ารักกันจริงๆ

ขอบคุณมากครับ

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 13-02-2011 00:11:41
ว้าว  ในที่สุดก็ได้อ่าน  ย้ากก อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 13-02-2011 00:18:52
มาแล้ววว >< อ่านจบแล้วอยากตะบันหน้า นายอาทิตย์ :z6:
ซักที เหมือนจะรู้สึกสำนึกที่ทำกับอิท แบบนี้ แต่ก็ ไม่ - -
อิทเข้มแข็งไว้แล้วออกไปเลย ไม่ต้องอยู่มันแล้ว
ขอบคุณค่ะคุณบอย มาโพสให้ก่อนบอร์ดตัวเองอีก :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-02-2011 00:33:24
^^ น่ารักกันทุกคนแหละ 55+
ในที่สุดหนูอิทก็เสร็จ เอ่อ ก็ตกเป็นของนายอาทิตย์เรียบร้อย วะฮะฮ่า สะใจ^^
ยังไงก็แล้วแต่ อยากเห็นตอนแม่นางผู้แสนดีแสดงอารมณ์(โกรธ)ทางฝ่ายนางจิตราบ้าง แล้วพากันออกไปจากเรือนเลย เผื่อจะมีคนที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าจะมาง้อ ^^อิอิ
ชอบจังตอนนี้ รักผู้แต่งมากมายเลยจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: askmes ที่ 13-02-2011 00:40:58
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ.. มาแว้ว

หลังจากรอมานานแสนนาน

ชื่นใจได้อ่านซักกะที

อาทิตย์ใจร้ายอ่านแล้วอยากกระทืบ -0-"

สงสารนู๋อิทธิจังเรย *0*
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 13-02-2011 01:07:49
 :mc4:

ในที่สุดก็ได้อ่านต่อ 

 :pig4: 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-02-2011 01:17:35
ยาวสะใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆแอร๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

และแล้วเค้าก็ได้เป็นเมียผัวกันแล้ว อิอิ ว่าแต่เรื่องมันจะเป็นไงต่อไปหละเนี้ย อยากจะตบนางจิตราจริงๆเกลี้ยดเกลียดอ่ะ ดีหน่อยที่ตอนนี้นางไม่ค่อยออกมมารับบทเท่าไหร่

สงสารแม่นางเนอะ สงสารอิทด้วยอ่ะ เฮ่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆซีวิตหนอซีวิต
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 13-02-2011 01:19:35
ได้อ่านสมใจอยาก :mc4:
แต่จะให้ดีกว่านี้ตอนหน้า
ขอให้ตามมาติดๆนะ
 :call: :call:

เฮ้อ สงสารอิทจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 13-02-2011 01:23:32
+1 สมกับการรอคอย ยาวสะใจมากๆค่ะ
ในที่สุดก็  :pighaun:
แต่อยากกระทืบนายอาทิตย์มาก
สงสารอิทกับแม่นาง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 13-02-2011 02:01:28
:z6:อาทิตย์

โหดร้ายไปมั้ย? บอกว่าอิทธิร้ายใส่ตนตลอด :angry2: แต่ทีตัวเองละ ไม่เคยพูดดีๆกับอิทธิเลยนะ
ไอ้ที่คิดดีๆก็ได้แต่คิด ทำไมไม่พูดมันออกมา แล้วมาข่มเหงเค้าอีก :m31:
เชียร์ให้อิทธิหนีไปเลย ชริส์ๆๆๆ :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 13-02-2011 02:36:43

/กิต. พูด(พิมพ์)ไม่ออก  :serius2:
แต่

.

.

.

.

อยากให้อาทิตย์โดนข่มขืนบ้างจังเลยค่ะ

๗๘ + ๑ = ๗๙
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 13-02-2011 03:09:37
อาทิตนี่ อีคิวต่ำนะเนี่ย

นังคุณแม่จิตราก็ ใช้ความเคยชินมากไป

เห้อออออออ

สงสารอิทธิ กะ อาทีอ่าาาาา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 13-02-2011 07:35:03
สงสารอิทจัง เฮ้ออาทิตย์ก็ไม่ย่อมใจอ่อนกับคนป่วยเลย

แอบสงสัยนิด ไอ้ข้าวต้มที่สาดใส่อาทิตย์ทิ้งไว้งั้นเหรอ ไม่มีใครสนใจเลย รอแม่นางมาเก็บกวาด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 13-02-2011 08:28:26
อยากให้อิทธิกับแม่นางออกไปเร็วๆจัง หมั้นไส้อิแม่จิตรากับไอ้อาทิตย์จิมๆ o18
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 13-02-2011 10:43:14
ขอบคุณที่มาต่อให้นะคะ คุณบอย อิอิ
+1 ให้ค่ะ
แอบสงสารอิทธิ คุณอ่ทิตย์รีบเคลียร์ด่วน!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 13-02-2011 11:23:50
 o7มาต่อแล้ว
ยาวสมกับที่รอคอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 13-02-2011 11:26:47
ไม่รู้จะคอมเม้นว่าอย่างไร

เฮ้อ... อิทธิของหนู  :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 13-02-2011 11:53:29
เย้ มาแว้วววววว

สงสารอิทธิ แอบสงสารอาทิตย์อีกคน

อยากให้อาทิตย์พาไปอยุ กรุงเทพจังเลย

ฝันๆๆๆ  แต่อย่าหนีกันไปนะ

คุณบอยน่ารักที่สุด :กอด1:  รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 13-02-2011 12:18:47
 :sad4: :sad4: อ๊ายยยย~ อยากอ่านต่ออ้ะ -*-
ฮือ อาิทิตย์ใจร้ายจังเลยวุ๊ย มันแอบโง่และมันก็แอบฉลาด
หมั่นไส้ตอนแรกๆ ที่เข้าข้างยัยจิตรตลอดอ่ะ

อิทธิ~ ไม่อยากให้ดีกับอาทิตย์เลยแฮะ
อ่านๆ ไปอาทิตย์ไม่ตรงสเป็กเท่าไหร่เลย!
มาต่อยาวดี อ่านสะใจแต่ทำไมหนูถึงไม่อยากให้มันจบ!

ขอบคุณมากนะครับ :P
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-02-2011 12:55:25
อยากให้มีวันเวลาที่นายอาทิตย์ มันเจ็บเจียนตายจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥lvl♀‘O’Deal2♥ ที่ 13-02-2011 12:59:15
พ่ออาทิตย์ทำใจง้อเมียหน่อยนะ

แรก ๆ ก็งี้ แหละแกไปข่มขื่นเขานะ

จะงอนบ้างก็มี อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: mickeynut ที่ 13-02-2011 15:48:40
จุใจจุใจ ต่อไวๆนะค่ะ

จ๊วบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 13-02-2011 16:57:19
อิท ..เสียตัวแล้ว เย้ๆ
ฮ่าๆๆ คนละอารมณ์กะคนอื่นเลย  - -
ปล.เสียตัวอย่าเสียใจ  แป่ววววว!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 13-02-2011 16:58:19
ไม่เป็นไรค่า คนอ่านรอได้

สงสารอิทธิอ่ะ ดดนปล้ำแล้วยังโดนตบอีก
อาทิตย์เหมือนจะเริ่มหลงรักและ แต่ยังดูใจร้อนอยู่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 13-02-2011 18:48:29
มาแนวตบจูบวุ้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 13-02-2011 20:17:14
อ๊าย อาทิตย์อย่าโหดกับศรีภรรยาอย่างนี้สิ

 :fire:เดี๋ยวคนอ่านไปช่วยอิทธิจัดการอาทิตย์เลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 13-02-2011 20:30:07
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ วู้ๆๆๆๆ ทั้งมาม่า ทั้งซาดิสต์ ครบเครื่องไปหมด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 13-02-2011 20:30:52
เย้ มาแว้วววววววววววววววววว
รอนานมากเลย
และแล้วก้เรียบร้อย...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 13-02-2011 20:41:33
ครั้งหน้าอย่่าลืม  ขนของย้ายหนีน้า ครับ  อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 13-02-2011 21:02:11
โอววววววววว สมกับที่รอคอย ตอนนี้เริ่สสสสสที่สุด อิอิ

 :-[
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 13-02-2011 22:21:05
:z6:อาทิตย์

โหดร้ายไปมั้ย? บอกว่าอิทธิร้ายใส่ตนตลอด :angry2: แต่ทีตัวเองละ ไม่เคยพูดดีๆกับอิทธิเลยนะ
ไอ้ที่คิดดีๆก็ได้แต่คิด ทำไมไม่พูดมันออกมา แล้วมาข่มเหงเค้าอีก :m31:
เชียร์ให้อิทธิหนีไปเลย ชริส์ๆๆๆ :fire:

เนอะๆ
หนูอิทหนีไปเถอะ(โดนตรีนผู้อ่านคนอื่น - -)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 13-02-2011 22:44:39
เค้าสนับสนุนให้หนีไปโลด  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 13-02-2011 23:56:15
มานั่งรอกลางดึกก่อนสอบ :)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 14-02-2011 00:04:43
ในที่สุดก็มาต่อเเล้ว
อิทธิในที่สุดก็ตกเป็นของอาทิตย์
เเต่อาทิตย์เข้าข้างตัวเองมากไปหน่อยมั้ยฮะ ว่าอิทธิผิดตลอด -3-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: liptudzii_chi ที่ 14-02-2011 00:20:13
หลายครั้งที่เห็น เพื่อนๆๆมาเฝ้ารอ นิยายเรื่องในที่สุดความฝานขอทุกคนก้อเปงจิง
พอกลับมาครั้งนี้นิยายเรื่องนี้ก้อทำให้ไม่ผิดหวังสนุกเหมือนเคย +1ให้นะค่ะ :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-02-2011 00:33:30
อิทธิ หายป่วยไวๆนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iamjojo ที่ 14-02-2011 00:51:35
 :mc4: :mc4: :mc4:

ฉลองกันค่าาาา ได้อ่านแล้ววววววววววว

มาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ อย่าไปยอมง่ายๆ ค่ะอิทธิ ท้องไม่มีพ่อไม่เห็นต้องแคร์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 14-02-2011 02:32:35
รีบๆ มาต่อนะครับ รอยู่ สนุกมากเลยครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-02-2011 09:54:26
:mc4: :mc4: :mc4:
ฉลองกันค่าาาา ได้อ่านแล้ววววววววววว
มาไม่ผิดหวังเลยจริงๆ อย่าไปยอมง่ายๆ ค่ะอิทธิ ท้องไม่มีพ่อไม่เห็นต้องแคร์

55+ ใช่ๆไม่ต้องแคร์ใคร ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 14-02-2011 15:57:57
ดีใจมากเลยมาต่อซักที
มารอคุณบอยทู้กวันเลยจิงๆอ่ะ
ชอบมากกับเรื่องแนวนี้(โรคจิตป่ะ55)
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-02-2011 19:14:48
เข้ามานั่งรอค่า หุหุ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-02-2011 21:03:15
รอด้วยคน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 14-02-2011 21:28:54
อ๊ากกกกกกกก
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไอ้อาทิตย์ใจร้ายยยย
จะไป...ที่ไหนก็ไป
ไม่ต้องกลับมาให้เห้นหน้าอีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 14-02-2011 22:13:16
เฮ้อ ตาอิทธิ สงสารจัง!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 15-02-2011 01:06:33
มาแล้วว วววว

ยาวคุ้ม กะที่รอนานจริง ๆ ชื่นใจ   หุหุ

เฮ้อ  สงสารน้องอิทกะแม่
อาทีนี่ก็น่าสงสาร  แล้วยัยแม่ถ้ารู้ว่าลูกสุดที่รักได้น้องอิทเปน็เมียนี่จะเป็นยังไงน้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 15-02-2011 02:44:10
สงสารอิทอะ อาทิตย์ทำร้ายอิทได้ไงนี่อะ แก็ดีรักสร้างคนเกลียดใก้รักัน
เชียร์อาทิตย์ให้ทำใหอิทรักไวๆๆๆๆๆๆๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-02-2011 10:10:32
แม่นางคงจะเหมือนเดิม เราคงไม่ได้เห็นแม่นาง(ผู้แสนดี)ร้ายเพื่อลูกกับเขาหรอกเนอะ - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 15-02-2011 13:54:24
ฮิฮิ เรียบร้อยเสร็จสรรพ

รอวันคือดี..... -3-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-02-2011 14:57:49
เลวได้ใจแม่จริงๆไอ้อาทิตย์
เป็นแม่ประเภทในว่ะสอนให้ลูกทำเลวกับคนอื่นมีแม่แบบนี้น่าจะให้กินยาเบื่อซะตอนนี้ เพราะถ้าเกิดลูกๆมีหลานขึ้นมาแล้วมาสอนหลานๆคงเลวเหมือนๆกันไอ้อาทิตย์ก็เลวโคตรน่าจะเป็นเพราะสันดานด้วย  อืมๆลืมไปเพราะแม่มันเลวนี้เอง  สุดบรรยายความเลยแม่ลูกคู่นี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-02-2011 15:16:01
จิ้มรีบน อิอิ
แรงได้ใจ เข้ามารอค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 15-02-2011 15:54:39
 :กอด1: ปูเสื่อรอๆ :)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 15-02-2011 17:46:57
แอรยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

ไม่นะ คุงบอยใจร้ายมากกกกกกกก

ฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-02-2011 18:57:50
รอๆๆๆๆ
กระหายเรื่องนี้มากกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 15-02-2011 20:20:44
ไปที่ใหม่แล้วจะดีกว่านี้ไหมอ่ะ น่าเป็นห่วงนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 15-02-2011 23:21:58
คนใจร้าย  :z3: สงสารอิทธิเป็นที่สุด  :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 16-02-2011 02:48:58
รอๆๆๆ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-02-2011 11:41:37
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-02-2011 14:47:03
รอด้วยคน หุหุ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-02-2011 09:38:06
แวะมาดันนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: seaweed ที่ 17-02-2011 15:53:27
สนุกมากๆๆๆๆๆคะ

อ่านรวดเดียวจบ มาตามอ่านตอนต่อไปนะคะ  o13 o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-02-2011 16:48:03
เลวได้ใจจริง ๆ นังจิตรา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 17-02-2011 19:20:02
เห้อ สงสารอิทธิจังเลยงับ เจอข่มขืน   หนีไปแล้วคร้าบ  เลว  แกล้ง  แม่นางได้ทุกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-02-2011 22:23:02
รอเสมอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-02-2011 10:05:51
รออีกวันค่ะ คุณบอย
มันน่าลุ้นจริง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 18-02-2011 10:07:36
รอๆๆ :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 18-02-2011 12:01:12
รอๆเจ้าคะ  :-[
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-02-2011 12:37:58
รอชะเอิงเอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 18-02-2011 19:05:35
รอๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-02-2011 21:35:45
เข้ามารอคุณบอยตอนค่ำๆ
อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: baroona59 ที่ 18-02-2011 23:44:19
สนุกมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ลุ้น ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 18-02-2011 23:52:37
มารอคุณบอยด้วยอีกคนคะ >.<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-02-2011 10:06:57
อิอิ ใกล้มาแล้ววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-02-2011 11:25:25
เข้ามารอตอนสายๆ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-02-2011 12:22:40
รอตอนเที่ยง^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-02-2011 16:08:36
เข้ามารอคุณบอยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-02-2011 22:17:18
รอตอนดึกๆ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 21-02-2011 02:09:23
หุหุหุ  ในที่สุดก็อ่านทัน

สงสารอิทธิจังเลยยยยยยยยยยยยยยย โหดร้ายอ่ะ... แล้วเมื่อไหร่อาทิตย์จะทำดี พูดดีๆ กับอิทธิบ้างล่ะ สงสารเว๊ยยยยย!!~ >.<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-02-2011 10:18:10
สายนี้ก็รอ ชะเอิงเอย~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 21-02-2011 15:00:17
แม่นางเห็นอาทิตย์ผลุนผลันออกไปประกอบกับก่อนหน้าได้ยินเสียงดังคล้ายมีวัตถุกระทบพื้นภายในห้องบุตรชาย นางมองตามหลังฝ่ายนั้นสักพักค่อยรีบปรี่เข้าไปในห้องต้นเสียง
“ตายแล้วอิท เกิดอะไรขึ้น” นางรุดไปเก็บชามข้าวต้มที่วางอยู่ที่พื้นห้องแล้วตรงเข้าไปดูตัวบุตรชายเอ่ยถามอีก
 “เกิดอะไรขึ้นหรืออิท”
“ไม่มีอะไรครับแม่ อุบัติเหตุน่ะครับ” อิทธิโกหก เพราะไม่ยากให้มารดาไม่สบายใจ
“อุบัติเหตุแล้วทำไมคุณอาทิตย์ถึงได้เดินหน้าตึงไปอย่างนั้นล่ะ” แม่นางยังไม่ปักใจเชื่อจึงบอกปัด
“จะอะไรก็ช่างเขาเถอะครับแม่ ตอนนี้อิทค่อยยังชั่วแล้ว แม่นางไปทำงานเถอะนะครับ เดี๋ยวอิทเก็บกวาดบ้านให้เอง”
“ไม่เป็นไรหรอกวันนี้แม่ลางานคุณจันทร์แล้ว”
“แม่ไม่น่ามาเสียงานเพราะอิทเลย”
“อิทต่างหากล่ะที่ไม่น่ามาเจ็บตัวเจ็บไข้เพราะแม่ เรื่องราวเมื่อคืนมันเป็นยังไงบ้าง เล่าให้แม่ฟังได้มั้ย คุณอาทิตย์พาอิทไปถึงไหนเหรอ กลับมาถึงได้เจ็บไข้แบบนี้”
ถึงคราวนี้อิทธิอึกอักหลบสายตามารดา คำพูดเมื่อครู่ตอกย้ำให้หวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนถูกข่มเหงทางเพศ เด็กหนุ่มเกิดความรู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาเมื่อนึกถึงทุกๆ ภาพที่อาทิตย์กระทำกับตนเยี่ยงคนป่าเถื่อน
“แม่ถามทำไมไม่ตอบล่ะอิท” แม่นางเอ่ยถามใหม่เมื่อเห็นบุตรชายเงียบไป
“ไม่มีอะไรหรอกครับแม่ เป็นไปได้แม่อย่าถามผมถึงคนอย่างคุณอาทิตย์เลยนะครับ ผมไม่อยากเอ่ยถึงเขา” อิทธิบอกปัด แม่นางคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของคนสองคนที่ไม่ลงรอยกันจึงไม่อยากคาดคั้นอะไร นางเลี่ยงออกไปหาผ้ามาเช็ดถูเก็บกวาดคราบข้าวต้ม อิทธิพยายามฝืนแรงช่วยจนเสร็จเด็กหนุ่มจึงเอ่ยปากเปรยขึ้น
“แม่ครับ แม่ผูกพันกับไร่นี้แค่ไหน”
“ถามทำไมหรืออิท” แม่นางถามอย่างข้องใจ ก่อนจะตกใจที่บุตรชายบอกไม่อยากที่จะอยู่ในไร่นี้แล้ว
“ทำไมล่ะอิท ไม่อยู่ที่นี่แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกัน” นางเอ่ยถามบุตรชาย สองคนจึงให้เหตุผลซึ่งกันและกัน
“ที่ไหนก็ได้แม่ที่ไม่มีคนคอยจ้องรังแกเราอย่างคุณจิตรแล้วก็คุณอาทิตย์”
“แม่ก็เข้าใจนะว่าอิทคงจะทนมานานแล้ว แต่อิทยังเรียนไม่จบเลยนะ หากเราย้ายไปตอนนี้แม่กลัวอิทจะลำบาก”
“อิทไม่ได้ลาออกจากโรงเรียนนี่แม่ แค่เราหาที่อยู่กันใหม่เอง”
“ทำอย่างนั้นมันจะดูไม่ดีเท่าไหร่นะ อิทต้องคิดถึงคุณจันทร์ด้วยนะที่เขามีพระคุณต่ออิท การที่เราจะปีกกล้าขาแข็งออกไปจากไร่นี้แม่ว่าท่านคงไม่พอใจเท่าไหร่หรอก”
“แล้วยังไงอ่ะแม่ แม่จะทนให้ตัวเองโดนโขกสับอยู่แบบนี้น่ะเหรออิท ทนไม่ได้หรอกนะที่จะให้ใครๆ มารุมรังแกแม่ในขณะที่อิทยังมีลมหายใจอยู่”
“ต่อไปแม่จะระวังนะ แม่จะพยามเลี่ยงการเผชิญหน้ากับคุณจิตร อิททนเอาหน่อยนะ อิทเรียนจบเมื่อไหร่หากจะไปไหนค่อยว่ากันอีกที ถึงตอนนั้นแม่จะตามใจอิท”
“กว่าจะถึงวันนั้นเราจะต้องเจออะไรอีกครับแม่นาง”
“อันนั้นแม่ก็สุดคาดเดา แต่แม่สัญญาว่าแม่จะอยู่ห่างๆ คุณจิตรเอาไว้”
“คนมันจะหาเรื่องอยู่ห่างยังไงมันก็จ้องจะหาเรื่องวันยังค่ำแหละครับ”
“อีกไม่กี่เดือนอิทก็จะเรียนจบแล้ว ทนเอาหน่อยเถอะนะ แม่พาอิทระหกระเหินมาตั้งแต่อุ้มท้องแล้ว ก่อนที่แม่จะพาอิทไปไหนอีกแม่อยากให้อิทมีความรู้ติดตัวบ้าง”
“แต่อิทไม่อยากอยู่แล้วนะแม่ นะครับ เราย้ายไปอยู่ที่อื่นกันดีกว่า อย่างที่อิทบอกว่าเราย้ายแค่ที่อยู่ อิทไม่ได้ย้ายโรงเรียนไปไหนเลยนะครับ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะอิท การย้ายที่อยู่ใหม่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นะ เราจะไปอยู่ที่ไหนกันในเมื่อเรายังไม่มีที่ทางสำรองเอาไว้เลย แม่ว่าอิทตั้งใจเรียนให้จบเถอะนะ ระหว่างนี้แม่จะพยายามหาที่ทางเอาไว้ ถึงตอนที่อิทเรียนจบเมื่อไหร่เราจะได้ไม่ต้องระหกระเหินกันไง”
เหตุผลของมารดาทำหนุ่มน้อยคิดตาม ใช่สินะการย้ายที่อยู่ใหม่มันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ แต่แล้วยังไงล่ะ นี่เขาจะต้องทนอยู่สู้หน้าสู้ตากับอาทิตย์และจิตราต่อไปอย่างนั้นเหรอ ทำไมนะ ทำไมชะตาชีวิตของเขาจะต้องมาเป็นแบบนี้ด้วย
“ทนอีกหน่อยนะอิทเมื่อมีที่ทางแล้วแม่จะพาอิทไปจากที่นี่ทันที ตอนนี้อิทนอนพักก่อนเถอะนะ เดี๋ยวแม่จะทำข้าวต้มมาให้ใหม่”
แม่นางผละออกไปแล้ว อิทธิได้แต่ถอนหายใจกับการที่ต้องทนอยู่ในไร่นี้อีกต่อไปอีกหลายเดือน หากอาทิตย์รู้เรื่องนี้นายนั่นคงจะสาใจและสมเพชตนไม่น้อยสินะที่ตนไม่อาจไปจากที่นี่ได้อย่างที่เอ่ยไว้
อาทิตย์กลับเข้าไปที่เรือนก็พบกับมารดาและป้าของตนกำลังโต้เถียงกันอยู่ถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ชายหนุ่มเข้าไปร่วมฟังการโต้แย้งทันตอนที่ผู้เป็นป้าประกาศว่าจะย้ายที่ทำงานของแม่นางมาอยู่ที่เรือนนี้ เพื่อให้อยู่ใกล้หูใกล้ตาของนาง ป้องกันการาวีจากมารดาของตน
“มันจะไม่เกินไปหน่อยเหรอคะพี่จันทร์ อีนังนั่นมันเป็นใคร มันสำคัญกับชีวิตพี่จันทร์ขนาดไหนกันพี่จันทร์ถึงต้องคอยปกป้องมันขนาดนี้” มารดาเอ่ยโต้ขึ้นทันควันหลังฟังคำประกาศนั่นจบ ชายหนุ่มจึงตรงเข้าไปจับแขนดั่งต้องการให้เจ้าตัวสงบสติอารมณ์ก่อน
“เห็นมั้ยอาทิตย์ ลูกเห็นมั้ยว่าป้าจันทร์ของลูกโดนไอ้อีสองแม่ลูกนั่นล้างสมองมาขนาดไหน” จิตรารีบฟ้องบุตรชาย จันทร์จวงรู้สึกไม่ชอบใจในสิ่งที่ได้ยินจึงแย้ง
“มันจะมากเกินไปแล้วนะจิตรา แม่นางกับอิทธิไม่ได้มาล้างสมองอะไรฉัน แต่สิ่งที่ฉันทำวันนี้ก็เพราะหล่อนนั่นแหละที่ร้ายกาจใส่พวกเขาเกินกว่าที่ฉันจะทนมองเฉยๆ ได้”
“แล้วการที่พี่จันทร์จะเอานังนั่นมาไว้ที่เรือน พี่จันทร์คิดว่าจิตรจะราวีมันไม่ได้เหรอคะ ขนาดอยู่ไกลถึงในไร่จิตรยังตามไปราวีมันได้ เอามันมาอยู่ใกล้มือใกล้ขาแบบนี้ คิดเหรอคะว่ามันจะรอด”
“ก็เอาสิ ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าน้องสาวแท้ๆ ของฉันมีนิสัยร้ายกาจผิดมนุษย์มนาขนาดไหน”
“พี่จันทร์ไม่ต้องมาท้าทายจิตรหรอกค่ะ วันไหนที่นังแม่นางนั่นมันก้าวเข้ามาที่เรือนนี้วันนั้นแหละจิตรจะจัดการมันให้พี่จันทร์เห็น คิดว่าจิตรจะกลัวเหรอคะกับการที่มีพี่จันทร์คุ้มกะลาหัว”
“นี่แสดงว่าที่ผ่านมาหล่อนไม่เคยคิดยำเกรงฉันเลยน่ะสิหล่อนถึงได้กล้าเอ่ยกับฉันแบบนี้”
“เรื่องอื่นจิตรยำเกรงค่ะ แต่เรื่องที่แม่นางคอยปกป้องนังแม่นาง จิตรยำเกรงไม่ไหว วันแรกที่จิตรค้านพี่จันทร์ยังไง วันนี้แม่จะผ่านมาหลายสิบปีจิตรก็ยังจะค้านอยู่แบบนี้ พี่จันทร์จะมองว่าจิตรร้ายกาจยังไงก็ตามเถอะค่ะ แต่จิตรก็ยังจะยืนยันว่าสิ่งที่จิตรทำ จิตรทำไปเพราะจิตรต้องการปกป้องพี่จันทร์ พี่จันทร์น่ะใจดีเกินไป ใครเข้าหายังไงพี่จันทร์ตามไม่ทันหรอกค่ะ”
“นี่เธอมองพี่สาวเธอโง่ขนาดนี้เลยเหรอจิตรา”
“ก็ถ้าไม่โง่พี่จันทร์คงไม่หนีตามผู้ชายไปยังถิ่นทุรกันดานจนโดนญาติโกโหติกาถิ่นนั้นโขกสับหรอกค่ะ หากตอนนั้นจิตรไม่ตามไปด้วย พี่จันทร์จะมีลมหายใจอยู่มาจนถึงวันนี้หรือเปล่าใครจะทราบได้คะ”
“จิตรา!!”   
สิ้นเสียงพี่สาวใบหน้าจิตราก็หันสะบัดไปตามแรงฝ่ามือ น้ำตาหญิงร้ายเอ่อล้นขอบตาเพราะนึกเสียใจที่โดนพี่สาวลงไม้ลงมือแบบนี้ อยู่ด้วยกันมาตั้งเท่าไหร่ ก็มีวันนี้เองที่ฝ่ายนั้นลงมือทำร้ายตน เพราะใครล่ะ เพราะไอ้อีแม่ลูกคู่นั้นนั่นยังไง
“พี่กล้าตบหน้าจิตรเพียงเพราะปกป้องไอ้อีขี้ข้าหรือคะ” หล่อนหันมาถามพี่สาวในตอนที่บุตรชายตรงเข้าพยุงร่าง
“ที่ฉันทำลงไปเมื่อครู่สองแม่ลูกนั่นไม่เกี่ยวเลยสักนิดจิตรา แต่เพราะหล่อนมันปากกล้าเกินไปฉันถึงต้องสั่งสอนบ้าง วันนั้นฉันขอให้หล่อนตามฉันไปหรือหล่อนถึงมาทวงบุญคุณกับฉันแบบนี้” จันทร์จวงเองก็ใช่จะเข้มแข็งนัก นัยน์ตานางก็กำลังไหวระริกด้วยหยดน้ำตาเช่นกันเมื่อตอนได้ยินน้องสาวเอ่ยว่า
“พอเถอะครับแม่ อย่าถกเถียงกันต่อเลยนะครับ เดี๋ยวมีใครมาเห็นมาได้ยินเข้าพวกเขาจะเอาไปนินทา” อาทิตย์เอ่ยห้ามมารดาที่กำลังจะอ้าปากโต้ป้าของตน สองคนนี้คงไล่คนรับใช้ไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้วก่อนจะมาถกเถียงกันแบบนี้ บนเรือนถึงไม่มีเงาของใครร่วมอยู่ด้วย แต่ก็นั่นล่ะเสียงของทั้งคู่เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้น่ากลัวนักว่าจะเรียกความสนใจให้คนเหล่านั้นให้กลับมาแอบมาดูสถานการณ์
“จิตรเสียใจนะคะที่พี่จันทร์ทำกับจิตรวันนี้ แล้วจิตรก็จะไม่ยอมเลิกราวีนังแม่นางนั้นเด็ดขาด ยิ่งพี่จันทร์ทำกับจิตรแบบนี้จิตรยิ่งไม่ต้องนึกยำเกรงพี่จันทร์ต่อไป ให้มันรู้กันไปสิว่าหากมีเรื่องแตกหักระหว่างจิตรกับยัยแม่นางการที่พี่จันทร์จะขับไล่ใครสักคนออกจากไร่ ใครมันจะเป็นคนโดน”
เอ่ยจบจิตราก็สะบัดหน้าพรืดเดินหนีไปยังห้องพักของตน จันทร์จวงถึงกับทรุดนั่งอย่างหมดแรงเมื่อคิดว่าการกระทำของตนกำลังจะกลายเป็นเชื้อเพลิงสำหรับให้น้องสาวใช้จุดไฟราวีสองแม่ลูกอย่างแม่นางและอิทธิเพิ่มขึ้น
“ป้าจันทร์” อาทิตย์ร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นผู้เป็นป้าร่างทรุด ชายหนุ่มตรงเข้าไปพยุงพาไปนั่งพักตรงจุดลมโปร่ง ก่อนจะหันไปมองยังทางที่มารดาของตนพาร่างหายไป เพิ่งรู้เดี๋ยวเองว่าเจ้าตัวโกรธเกลียดแม่นางกับอิทธิขนาดไหน สิ่งที่อิทธิคอยตามความยุติธรรมให้กับผู้ให้กำเนิดคงมีเหตุและผลมาจากตรงจุดนี้สินะ คิดได้แบบนี้ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกเห็นใจและเข้าใจหนุ่มน้อยมากขึ้น
“ป้าไม่เป็นไรแล้วล่ะอาทิตย์ ตามไปดูแม่ของเราเถอะไป” จันทร์จวงเอ่ยบอกหลานชายเพราะอดห่วงความรู้สึกของน้องสาวไม่ได้ เข้าใจว่าสิ่งที่ตนทำไปเมื่อครู่มันรุนแรงเกินไป ยังไงซะสิ่งที่น้องสาวว่าก็มีส่วนถูก หากในอดีตหล่อนไม่ตามไปปกป้องนาง นางอาจจะโดนข่มเหงจนไม่มีชีวิตรอดมาจนวันนี้ก็เป็นได้
“แม่เป็นคนเข้มแข็ง เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้นครับป้าจันทร์” อาทิตย์บอกก่อนจะอยู่ปรนนิบัติผู้เป็นป้าต่อ นึกไม่อยากอยู่ใกล้มารดาตอนนี้ เพราะยังตั้งรับไม่ทันกับสิ่งที่ได้ยินและได้เห็นถึงความคิดร้ายๆ ของฝ่ายนั้นเมื่อครู่
เย็นย่ำอาทีเลิกเรียนกลับถึงไร่ก็รุดไปดูอาการเพื่อนรักอย่างอิทธิก่อนเป็นสิ่งแรก ตกใจที่เห็นสภาพเจ้าตัวมีรอยแผลฟกช้ำตามร่างกายหลายจุด
“บอกกูมาไอ้อิทว่าพี่อาทิตย์ทำอะไรมึง” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเมื่อรู้สึกชิงชังพี่ชายขึ้นมา เชื่อเหลือเกินว่าฝ่ายนั้นคงข่มเหงเพื่อนตนด้วยวิธีการป่าเถื่อนแน่ๆ เจ้าตัวถึงได้บอบช้ำจนเจ็บไข้ขนาดนี้
“ไม่มีอะไรหรอกอาที มึงอย่าพูดถึงพี่ชายมึงอีกเลยนะ” อิทธิบอกปัด เพราะไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์ที่ตนโดนกระทำจากอาทิตย์
“ทำไมวะ กูแค่อยากรู้ว่าเขาทำอะไรมึงจนมึงจับไข้แบบนี้” อาทีเอ่ยถาม
“จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ก็ก็ดีขึ้นแล้วว่าแต่มึงเหอะ กูไม่ได้ไปเรียนด้วย เกเรบ้างหรือเปล่า”
“มึงจะให้กูไปเกเกะใครล่ะก็มึงไม่อยู่ แต่พูดก็พูดเถอะเวลามึงไม่อยู่แม่งดูโรงเรียนมันเงียบพิกล”
สองหนุ่มน้อยมองตากันตอนประโยคนั้นจบไป แม่นางเองนั่งล้างถ้วยชามอยู่ใกล้ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะมองภาพนั้น นี่หลานชายเจ้าของไร่จะผูกพันกับบุตรชายตนมากไปหรือเปล่านะ
“มึงก็พูดเกินไป เชี่ย” อิทธิยกมือขึ้นตบหัวเพื่อนเบาๆ เมื่อเห็นเจ้าตัวจ้องตาตนไม่ถอย อาทีแสร้งเจ็บแล้วตบคืนบ้าง สองคนจึงหยอกล้อกันไปมาตามประสาคนสนิท แม่นางลอบยิ้มกับภาพที่เห็น สักพักก็หนักใจเมื่อคิดว่าหากตนพาอิทธิไปอยู่ที่อื่นแล้วอาทีจะอยู่ยังไงกัน ขนาดห่างกันแค่วันเดียวเจ้าตัวยังบอกว่าโรงเรียนช่างเงียบนัก
“แม่นางครับวันนี้ทำอะไรกินอ่ะ เดี๋ยวผมมากินข้าวเย็นด้วย จะให้ไอ้อิทสอนการบ้านให้หน่อย วันนี้ได้มาเพียบ”
เสียงอาทีดังมาให้ได้ยินปลุกให้นางได้สติ
“เอ่อ จะดีเหรอคะคุณอาที มาทานข้าวที่เรือนดิฉันแบบนี้คุณจิตรทราบจะไม่ดีเอานะคะ” นางเอ่ยให้เหตุผล
“แม่กำลังหลงพี่อาทิตย์อยู่น่าแม่นาง เขาไม่สนใจผมหรอก” อาทีแย้ง แม่นางหันสบตาบุตรชายคล้ายๆ ขอความคิดเห็น
อิทธิมองสบตามารดาเสร็จก็หันกลับมามองหน้าอาทีบ้าง ภาพอาทีตอนนี้ดูช่างไร้เดียงสาต่างจากคนร้ายกาจอย่างอาทิตย์และจิตราเหลือเกิน
“ตามใจอาทีมันเถอะแม่” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อไม่อยากขัดใจเจ้าตัว เพราะอีกไม่กี่เดือนตนและมารดาก็ตัดสินใจที่จะไปอยู่ที่อื่นกัน เวลาที่เหลืออยู่ก็อยากอยู่ใกล้ๆ กับคนๆ นี้ไว้เช่นกัน รู้สึกใจหายไม่น้อยเลยเมื่อนึกถึงเวลาที่ต้องห่างเจ้าตัวไป
“งั้นเดี๋ยวกูไปบอกป้าจันทร์ก่อนนะ เดี๋ยวกูจะรีบมา”
อาทีกำลังจะลุกไป แม่นางฉุกนึกถึงเรื่องราวเมื่อคืนจึงเสนอตัว
“เดี๋ยวดิฉันเดินไปส่งที่เรือนนะคะคุณอาที นี่ก็จะมืดแล้ว”
อาทีมองสบตาคนเสนอตัว ฉุกคิดได้เช่นกันว่าเมื่อคืนตนเองโดนลอบทำร้ายมา
“ทำไมต้องไปส่งอ่ะแม่ ไอ้อาทีมันก็เทียวไปเทียวมาของมันคนเดียวแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร” อิทธิเอ่ยถามขึ้นอย่างนึกสงสัย
“คือเมื่อคืนคุณอาทีโดนลอบทำร้ายน่ะ แม่ลืมเล่าให้อิทฟัง” แม่นางเอ่ยบอก อิทธิได้ฟังถึงกับตกใจหันถามไถ่เรื่องราวจากเพื่อน
“ใครเหรออาทีที่ลอบทำร้ายมึง แล้วมึงเป็นอะไรมากมั้ย”
“ไม่รู้ว่ะ แต่เมื่อคืนหากแม่นางไม่ไปเห็นกู เอ่อ อาจจะตายไปแล้วก็ได้ว่ะ มันกดหน้ากูใส่กับพื้นจนกูหายใจไม่ได้เลย”  อาทีรายงาน อิทธิคิดตาม คนอย่างอาทีไม่เคยมีศัตรูที่ไหน แล้วยามค่ำคืนคนนอกที่ไหนกันจะเข้ามาทำอะไรอุกอาจในไร่ได้ถึงเพียงนี้
“งั้นเดี๋ยวก็ไปส่งมึงเอง” เด็กหนุ่มตัดสินใจเอ่ยบอก เพราะนึกเป็นห่วงเพื่อนจับใจ
“มึงไม่สบายอยู่นะ” อาทีแย้ง
“กูค่อยยังชั่วแล้ว ไปเหอะไป” อิทธิลุกพาเพื่อนไปยังจักรยานที่จอดอยู่ แม่นางไม่อยากแย้งเพราะเข้าใจว่าบุตรชายพูดคำไหนมักเป็นคำนั้น
 
***********************************

ที่เรือนหลังใหญ่ขณะอิทธิพาอาทีมาถึงหน้าเรือน เด็กหนุ่มบอกเจ้าตัวให้รีบไปบอกจันทร์จวงซะส่วนตัวเองจะรออยู่พื่อกลับไปที่เรือนตนพร้อมกัน อาทีทำตามอย่างว่าง่าย
ลับหลังอาทีไปแล้ว อิทธิยืนคิดถึงเรื่องราวที่เจ้าตัวโดนลอบทำร้าย นึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวันนั้น อาทีไปมีเรื่องกับใครถ้าไม่ใช่นายสิน ตอนที่ฝ่ายนั้นมากันตนไม่ให้ขึ้นไปหาจิตราบนเรือน หรือว่าคนที่ทำร้ายเพื่อตนจะเป็นไอ้อันธพาลนี้จริงๆ
“ไอ้สิน หากเป็นมึงจริงๆ กูไม่ทวงคืนให้เพื่อนกูก็อย่าเรียกกูไอ้อิท” เด็กหนุ่มเอ่ยลอดไรฟันออกมาเมื่อนึกแค้นเคืองแทนเพื่อนไปแล้วกับสิ่งที่เจ้าตัวโดน ระหว่างนั้นก็ต้องสะดุ้งกับเสียงที่ทักมาให้ขนลุก
“มารอสามีถึงหน้าเรือนเลยเหรอเมียรัก”
 
โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 14 อัพเดต 12.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-02-2011 15:15:46
หุหุ เสียงสุดท้ายนี่ทำให้ตื่นเต้นได้ตลอดสินะ 55+
คิดไว้แล้วว่าอย่างแม่นางน่ะคงไม่ร้ายกับเขาหรอก -*- คุณจันทร์ก็เหมือนกัน คุมน้องไม่อยู่ซะแล้ว -*-
สงสัยอย่างนึงนะ ทำไมอิทเรียกแม่ว่าแม่นางล่ะ ทำไมไม่เรียกแม่เหมือนลูกทั่วไป เอ๊ะ! หรือมีคนเรียกแบบนี้เยอะ - - ถามเอง งงเอง 55+
อยากให้ออกจากบ้านนี้จัง ทีนี้ล่ะฝ่ายอาทิตย์ต้องคอยตามบ้างแล้ว 55+
ไปจากบ้านนรกนี่น่ะน่าจะดีกว่าเนอะ คิดว่างั้น เฮ้อ!
รอตอนต่อไปจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 21-02-2011 15:58:01
อิแก่!!จิตรา :z6:
ยังไงดีล่ะ แบบว่าตอนนี้อาทิตย์มันยังไม่ได้อารมณ์พระเอกอ่ะ
เราไม่ชอบ มันโง่!!! :angry2: ยังมีอะไรต้องปรับอีกเยอะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-02-2011 16:14:08
ไอ้อาทิตย์ปากเสีย!!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 21-02-2011 16:14:59
ยัยจิตรานี่ จิต!! จริงๆอ่ะ อะไรจะจิตขนาดน๊านนนนนน อยู่ใกล้แล้วกลัวคนแบบนี้อ่ะ

แต่ชอบเสียงทักตอนสุดท้ายจริงๆ >.<  จะปะทะคารมกันยังไงน๊อออออออ อิอิ อิ   :oo1:

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 21-02-2011 16:18:18
“มารอสามีถึงหน้าเรือนเลยเหรอเมียรัก”

แอร๊ยยยยยยยยย อ่านแล้วขนลุกซู่วววววววว

 :m25:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 21-02-2011 16:35:58
เฮ้ออออออ
เบื่อคนดีอ่ะ
สงสารอิททททททททททท
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-02-2011 16:50:09
หุหุ ในที่สุดก็มาลง
คุณบอยยังคงทำให้ค้างได้เหมือนเดิม 55
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 21-02-2011 17:48:13
อยากให้เรื่องนี้แบบว่าเป็นพ่อแง่แม่งอนกันต่อไปเรื่อยๆ
ประมาณว่า อิทธิ ขัดขืนตลอด แต่อาทิตย์แกก็จับกดได้ตลอด

ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ก็คงจะดีสินะขอรับ  :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 21-02-2011 17:55:27
^^ ต่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-02-2011 18:30:40
ยัยจิตรานี่ จิต!! จริงๆอ่ะ อะไรจะจิตขนาดน๊านนนนนน อยู่ใกล้แล้วกลัวคนแบบนี้อ่ะ
แต่ชอบเสียงทักตอนสุดท้ายจริงๆ >.<  จะปะทะคารมกันยังไงน๊อออออออ อิอิ อิ   :oo1:

เนอะ ฟังเสียงสุดท้ายแล้ว......เก็บเอาไปคิดต่อ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-02-2011 18:55:56
ไอ้พี่อาทิตย์ก็ชอบไปยั่วเค้า พอเค้าตอกกลับมาไม่พอใจเค้าอีก
เป็นหนุ่มซึนฯเรอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-02-2011 19:08:54
เบื่ออีจิต เมื่อไหร่จะเส้นเลือดในสมองแตกๆตายไปเสียที รกห รกตา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 21-02-2011 19:12:33
อยากอ่านต่ออะ  
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 21-02-2011 19:27:49
อยากให้เรื่องนี้แบบว่าเป็นพ่อแง่แม่งอนกันต่อไปเรื่อยๆ
ประมาณว่า อิทธิ ขัดขืนตลอด แต่อาทิตย์แกก็จับกดได้ตลอด

ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ก็คงจะดีสินะขอรับ  :laugh:
หุหุ อยากกดไลค์จริง   :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 21-02-2011 19:49:35
แล้วงานนี้ เมียรักจะตอบว่าเยี่ยงไร อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 21-02-2011 19:59:59
อยากให้เรื่องนี้แบบว่าเป็นพ่อแง่แม่งอนกันต่อไปเรื่อยๆ
ประมาณว่า อิทธิ ขัดขืนตลอด แต่อาทิตย์แกก็จับกดได้ตลอด

ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ก็คงจะดีสินะขอรับ  :laugh:
หุหุ อยากกดไลค์จริง   :impress2:


กดไลค์อาจจะไม่พอ ขอแบบทุบไลค์แรงๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-02-2011 20:00:37
อยากให้เรื่องนี้แบบว่าเป็นพ่อแง่แม่งอนกันต่อไปเรื่อยๆ
ประมาณว่า อิทธิ ขัดขืนตลอด แต่อาทิตย์แกก็จับกดได้ตลอด

ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ก็คงจะดีสินะขอรับ  :laugh:
หุหุ อยากกดไลค์จริง   :impress2:

กดไลค์อาจจะไม่พอ ขอแบบทุบไลค์แรงๆๆ อิอิ

ชอบตรงจับกดเนี่ยแหละ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 21-02-2011 20:00:48
สงสารอาที อ่าาาา

อย่าให้อาที ต้องปวดใจเลยน้าาา

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 21-02-2011 20:01:55
เบื่ออีจิต เมื่อไหร่จะเส้นเลือดในสมองแตกๆตายไปเสียที รกห รกตา

อันนี้ขอทุบไลค์ร้อยที  :haun5:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Irendell ที่ 21-02-2011 21:45:49
เซ็งอาทิตย์กับยัยแก่ปากร้ายนั่นสุดๆ
ไม่ชอบเลย พระเอกปะเนี่ย ทำไมโง่แบบนี้ว้าาาา เฮ้อ~
ปากเสีย ดูแบบไงไม่รู้ วู้ววววว

ชอบอิทธิที่สุดล้ะ
แม่นางดีเกินไป ปล่อยให้ยัยแ่ก่บ้าอำนาจนั่นทำร้าย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 21-02-2011 22:23:52
ปรับเปลี่ยนพระเอกก่อนเต๊อะ เราไม่ชอบพระเอกโง่ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 21-02-2011 22:43:47
อ่าเสียสุดท้าย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 21-02-2011 22:55:21
ชอบอาทิตย์อะ แรงได้ฟิว แต่อิทธิ และอาที ความรู้สึกแค่ผูกพันธ์ หรือมากว่านั้น
หากวินที่อิทจากไร่ไป อาทีจะอยู่อย่างไง เรื่องกำลังเข้มข้นขึ้นอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 21-02-2011 23:10:29
อิทหนีเร๊วววววววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 21-02-2011 23:24:48
ตอนที่ 15 มาแล้ว  :laugh:  :laugh:  :laugh:
คุณจิตราแกมีความคิด ความเชื่อ และก็ตรรกะในการตัดสินใจแปลกๆ นะ ออกแนวหลงงมงาย คิดเอาแต่ความต้องการของตัวเองเป็นใหญ่
คุณนายแกออกโรงทีไร ได้อารมณ์เสียทุกที อยากจะรำถวายมือ เท้า หมัด เข่า ศอก ให้กินซะบ้าง เพื่อสมองจะกลับมาปกติเหมือนคนอื่นเขา

สารรภาพว่ายังเดาทางของอาทีไม่ถูกว่าคิดยังไงกับอิทธิกันแน่ มันเป็นเพื่อนรัก หรือ รักเพื่อน
แต่ถ้าเป็นรักเพื่อน งานนี้ท่าจะเกิดศึกสายเลือดระหว่างพี่น้อง

ดีใจ.....ที่อาทิตย์เริ่มจะมองเห็นนิสัยร้ายๆ ของแม่ตัวเองเสียที ไม่ใช่สักแต่ว่าเป็นแม่ตัวเองแล้วจะดันทุรังเข้าข้างได้ตลอด ทั้งๆ ที่เป็นฝ่ายผิดเห็นๆ

เป็นกำลังใจให้ และรอติดตามตอนต่อไปค่ะ
 o13  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 22-02-2011 05:18:11
5555+  มาทักซะน่ากลัวเลย

โอ๋ ๆ น้องอิท ขวัญเอ๋ย ขวัญมา  55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 22-02-2011 09:51:33
เข้ามารอร๊อรออออออ ฮี่ๆๆๆ

สงสารอาทีอ่ะ ..แต่ก็อยากให้อาทิตย์จับกดๆๆๆอิทธิเหมือนกัน ปากดีด้วยกันทั้งคู่ 5555+ ต้องโดนนนน!!!~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 22-02-2011 11:19:16
อยากตบคุณจิตร จังเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 22-02-2011 12:15:16
จบค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
อาทิตย์นี่ก็เห็นอยู็ว่าแม่ตัวเองร้ายขนาดไหน ทำไมไม่พูดดีๆกับอิทธิหล่ะ
เดี๋ยวจะเชียร์อาทีแทนเลย(ถ้าเชียร์ขึ้นอ่ะนะ)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-02-2011 14:40:34
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 22-02-2011 16:39:56
รอ รอ รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-02-2011 17:44:04
จิตรกับอาทิตย์แม่ลูกเหี้ยของแท้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 22-02-2011 22:11:35
จบค้างอีกเเล้วว ><
เสียงสุดท้าย ทำเอาตื้นเต้นตลอด 55
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 22-02-2011 22:30:23
ส่งอีคุณจิตรไปอยู่กทม.กับสามีแกเถอะ
ไร่นี้จะได้มีความสุขซะที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-02-2011 22:35:32
ดึกก็แวะมารอหน่อย^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 22-02-2011 22:39:48
อีกไม่กี่เดือนเท่านั้น ทนไว้ อิท  :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 22-02-2011 23:19:09
แวะเวียนเข้ามาดูอิทธิเมียอาทิตย์  555555+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-02-2011 23:21:53
แวะเวียนเข้ามาดูอิทธิเมียอาทิตย์  555555+

55+ ขอดูด้วยคนดิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 22-02-2011 23:31:29
รวดดดดดด เดียวจบเลยค่ะ ซึ้งมาก  เป็นไงล่ะ อิทธิ สู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: boyza_Casanova ที่ 23-02-2011 00:30:37
มารอด้วยคนนะครับ     ผมติดเรื่องนี้มากๆๆ5555 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 23-02-2011 01:17:01
รอเหมือนกาน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 23-02-2011 04:42:50

ต๊าย เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆนะคะ นายอาทิตย์คนนี้
เป็นโชคดีของอาที ที่แม่ไม่ค่อยรัก เลยไม่ได้ครอบให้มีนิสัยแบบเดียวกันไปด้วย
/กิต. ภาวนาให้อิทได้แก้แค้นอย่างสาสมที่สุด ทำให้อาทิตย์รักสุด แล้ว โดนเหวี่ยง
ให้อิทมาลงเอยกับอาที ปล่อยให้สองแม่ลูกจิตทรามอยู่กันไปสองคน
ป.ล. จิตรานี่ เดิมมีชื่อว่า จิตทราม รึเปล่าคะ อิอิ

๘๔ + ๑ = ๘๕
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 23-02-2011 07:43:58
โห จบได้ลุ้นมาก
ว่าไปจิตรานี่ร้ายจริงๆ อาเมน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-02-2011 09:50:03
มารอคร๊าบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 23-02-2011 12:25:02
รอต่อไป   :call:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-02-2011 15:08:32
มารออีกวันค่ะคุณบอย อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-02-2011 16:52:55
รอตอนเย็น^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 23-02-2011 20:41:00
คำทักตอนสุดท้ายนี่โดนจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 23-02-2011 21:29:43
เซ็งป้าจิตร ความคิดไม่เหมือนใครจริงๆ
บุคคลสุดท้ายของตอนนี้
มาอย่างชวนจิ้นเลยทีเดียว
อิทจะตอบว่าไงน้อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 23-02-2011 23:46:24
ดึกก็รอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 24-02-2011 12:36:43
คิดถึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง >////<

เข้ามาตะโกนก่อนไปทานข้าว...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 24-02-2011 22:34:47
รอคร๊าบบบบบ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 24-02-2011 23:16:40
..เข้ามาด้อมๆ มองๆ #หันซ้าย หันขวา!!

คิดถึงงงงงงตาอิทอ่ะ  ((เมื่อไหร่จะโดนรังแก!!!! 55555+)) >//<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 25-02-2011 20:03:25
เง้อ....เมื่อไหร่จะมาาาา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-02-2011 20:05:30
แวบมารอค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-02-2011 14:06:29
รอเสมอ อยากอ่านๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 26-02-2011 15:39:16
รอค่า ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 27-02-2011 01:31:10
รอแล้วรออีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 27-02-2011 09:15:24
รอทุกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-02-2011 10:54:37
รอกันต่อไป หุหุ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 27-02-2011 11:33:16
แล้วก้รอค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 27-02-2011 18:15:46
มาอัพให้หายคิดถึงหน่อยเร๊วววววว!!!  >///<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-02-2011 20:14:53
รออยู่น้า~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 15 อัพเดต 21.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 28-02-2011 00:18:08

อิทธิหันไปมองทางต้นเสียง เจอร่างของอาทิตย์กำลังตรงมาหา เด็กหนุ่มถอนหายใจเมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะของฝ่ายนั้น เพราะเป็นห่วงเพื่อนแท้ๆ จึงลืมไปว่าการเข้ามาในเขตเรือนนี้อาจจะต้องเผชิญหน้ากับคนที่ข่มเหงตนอย่างอาทิตย์
“ติดใจเรื่องเมื่อวานเหรอถึงได้มารอฉันตั้งแต่หัววัน” อาทิตย์เอ่ยยั่วต่อตอนเดินมาจนถึงร่างของคนที่ตนมองเห็นตั้งแต่ต้นว่าปั่นจักรยานมาส่งอาที ท่าทีของสองหนุ่มน้อยที่ตนมองเห็นคงแสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่สนิทกันเช่นเคย ชายหนุ่มรู้สึกขุ่นเคืองอย่างประหลาดทันที่เห็น ไม่รู้สินะ สารภาพว่าการกระทำของอิทธิมีอิทธิพลต่อจิตใจตัวเองได้ตอนนี้ อิทธิยิ้มแย้มให้อาทีในขณะที่กับเขาเฝ้าแต่จะคอยแยกเขี้ยวใส่ จะให้มองอยู่เฉยๆ โดยไม่เข้ามายั่วยวนอารมณ์เล่นก็ทนไม่ได้
“อย่ามาพูดแบบนี้กับผมนะคุณอาทิตย์ สิ่งที่เกิดขึ้นเพราะคุณข่มเหงรังแก ไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความสมยอมแล้วทำไมผมจะต้องไปติดใจอะไร” อิทธิเอ่ยว่า หากว่าไม่ต้องรออาทีจะพาร่างหนีไปให้ไกลจากชายหนุ่มตรงหน้าเลยทีเดียวเชียว เกลียดนักกับแววตาและสีหน้ายั่วโทสะ
“จริงเหรอที่ว่าไม่สมยอม ฉันก็เห็นเสร็จสมไปพร้อมกับฉันนี่” อาทิตย์เอ่ยอีก อิทธิหน้าชาด้วยความอับอาย สายตาวาวจ้องเขม็งที่คนพูดด้วยเพราะไม่รู้จะตอบโต้อะไร นึกแค้นใจอย่างที่สุดเมื่อเห็นอีกฝ่ายยิ้มเยาะที่มุมปากส่งกลับให้พร้อมคำพูดน่าขยะแขยง
“ติดใจก็บอกมาเถอะน่า ฉันพร้อมที่จะสนองอารมณ์ให้ได้ทุกเมื่อนะเมียรัก”
“คุณอาทิตย์! ถ้าไม่อยากให้ผมเกลียดคุณไปมากกว่านี้ก็หยุดพูดแบบนี้กับผม ผมยังยืนยันว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะคุณรังแกผม ผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่เป็นอย่างที่คุณเรียกจำเอาไว้” อิทธิยกมือขึ้นชี้หน้ากำชับเมื่อรู้สึกเหลืออดกับสิ่งที่โดนกล่าวล้อ ด้านอาทิตย์เมื่อเห็นกิริยากระด้างของคนตรงหน้าอารมณ์นึกอยากเอาชนะก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีก ชายหนุ่มยกมือขึ้นปัดแขนฝ่ายนั้นออกไปจากใบหน้าเสียงดังเพี๊ยะ พร้อมกับเป็นฝ่ายยกมือชี้กำชับแทน
“อย่ามาทำกิริยากับฉันแบบนี้อิทธิ ฉันไม่ใช่คนที่นายจะมาชี้นิ้วว่าได้ง่ายๆ”
อิทธิข่มอารมณ์เจ็บเอาไว้เมื่อแขนที่โดนปัดทิ้งคือแขนที่มีแผลเดิมจากตอนจักรยานล้ม เด็กหนุ่มจุกในอกกับการกระทำของอาทิตย์จนเกินจะพูดอะไรออกมาได้ จึงใช้เพียงสายตาที่สื่อออกมาถึงความชิงชังจ้องมองเจ้าตัวแทนการโต้ตอบ
อาทิตย์เกิดสะท้านใจเล็กๆ เมื่อพอจะอ่านสายตาของคนจ้องหน้าได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวกำลังรู้สึกเช่นไรกับตน นึกเสียใจเมื่อเห็นว่าแขนที่ตนเพิ่งใช้มือปัดไปมีรอยแผลเดิมแสดงให้เห็นอยู่ คงจะเป็นแผลจากตอนที่เจ้าตัวล้มลงข้างทางพร้อมจักรยานวันที่เขากลั่นแกล้งสินะ แต่วันนั้นเจ้าตัวก็พันแผลเอาไว้แล้วนี่ แล้วนี่ยังไงถึงปล่อยให้มันออกมาอวดรอยช้ำแบบนี้ หรือว่าผ้าพันแผลเมื่อคืนมันหลุดรุ่ยไปเพราะน้ำมือตน จริงสินะ มันต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ
“ทำไมแผลถึงเปิดแบบนั้น” แม้จะพอเดาเรื่องได้แต่ด้วยเพราะกลัวเสียศักดิ์ศรีชายหนุ่มหนุ่มจึงแกล้งเอ่ยถามแบบนั้นออกไป อิทธิชำเลืองมองแผลตัวเองเพียงนิดแล้วเงยหน้าขึ้นเอ่ยว่ากระทบ
“ผ้าพันแผลโดนหมาบ้ามันกระโดดงับจนหลุดไงมันถึงเป็นนี้”
“อิทธิ!” อาทิตย์เผลอตวาดเรียกชื่อคนว่ากระทบ วาจานายนี่ยังร้ายได้ยามที่ตนเผลอเอ่ยดีด้วย แบบนี้สิน่าถึงต้องเอาความร้ายเข้าข่มตลอด หากจะยอมอ่อนข้อให้เขาสักวินาทีคงใจขาดตายสินะถึงต้องแสดงท่าทีโอหังอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
“เรียกทำไมเหรอครับ เอ๊ะ! หรือว่าโดนน้ำร้อนลวกระวังขนหลุดจนด่างนะครับ” อิทธิเดินหน้ายั่วล้อต่อ เป็นฝ่ายยิ้มเยาะได้บ้างตอนเห็นคู่กรณีขบกรามแน่นคล้ายข่มอารมณ์โกรธ
“ขอตัวนะครับท่าทางไอ้ด่างแถวนี้กำลังจะบ้าขึ้นมา ผมกลัวติดเชื้อหากโดนขบกัด” อิทธิเอ่ยต่ออย่างสาแก่ใจ เข้าใจหรือยังล่ะว่าอาการโกรธจนพูดไม่ออกเป็นยังไงนายอาทิตย์
หนุ่มน้อยหันไปจับจักรยานกำลังจะจูงหนี แต่แล้วต้องตกใจเมื่อโดนกระชากร่างไว้จนจักรยานล้มลง
“คิดว่าฉันจะปล่อยไปง่ายๆ งั้นเหรอคนปากดี” อาทิตย์เอ่ยลอดไรฟันออกมา ปล่อยให้อิทธิลอยหน้าลอยตาหนีไปในขณะที่เอ่ยว่าตนอย่างเจ็บแสบแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด
“กล้าทำอะไรผมตรงนี้ก็เอาสิครับ คนงานที่นี่ แม่คุณ ป้าคุณ จะได้รู้ได้เห็นว่าชายหนุ่มบุคลิกดีๆ ก็อันธพาลเป็นเหมือนกัน” อิทธิเอ่ยท้าท้าย ทิฐิในใจมันก่อตัวมากมายจนไล่อารมณ์กลัวไปเสียจนสิ้น ไม่นึกดิ้น ไม่นึกหืออะไรทั้งนั้นในตอนนี้ จะดูหน่อยเหอะว่าคนอย่างอาทิตย์จะรังแกเขาด้วยวิธีใดในที่โล่งแจ้งแบบนี้
“คิดดีแล้วเหรอที่ท้าทายฉันแบบนี้อิทธิ” อาทิตย์เอ่ยว่า หรี่ตามองคนท้าทาย คิดจะอวดเก่งกับเขาแบบนี้มันก็ช่วยไม่ได้ถ้าเขาจะแก้เผ็ดคืนด้วยวิธีที่เชื่อแน่ว่าเจ้าตัวคงอยู่ไม่สุขหากแผนการสำเร็จ
“แล้วมีปัญญาทำอะไรผมมั้ยล่ะ กล้ามั้ยล่ะ ถ้าไม่กล้าก็เลิกเห่า” อิทธิเอ่ยตอบโต้ ยิ้มเหยียดอย่างสะใจเมือคิดว่าตนเป็นต่อในเกม แต่แล้วก็ต้องตกใจในสิ่งที่อีกฝ่ายกระทำ
ฝ่ายนั้นใช้มือข้างที่ว่างตบใบหน้าตัวเองฉาดใหญ่ก่อนจะฉุดร่างของตนให้โน้มเข้าหาตัวสุดแรงส่งผลให้ร่างตนล้มค่อมเจ้าตัวที่พื้น
“คุณคิดจะทำอะไรคุณอาทิตย์” หนุ่มน้อยเอ่ยถามอย่างตกใจ ก่อนจะตัวเย็นด้วยคำตอบที่ได้
“ฉันรังแกนายตรงนี้ไม่ได้แต่นายรังแกฉันได้อิทธิ”
อาทิตย์ว่าเสร็จก็ทำตามแผนนั่นคือเอ่ยร้องตะโกนเรียกให้ใครก็ได้มาช่วยตนโดยอ้างว่ากำลังโดนคนที่นอนค่อมร่างอยู่ชกต่อย เสียงร้องของชายหนุ่มเรียกความสนใจได้เป็นอย่างดีเมื่อเริ่มมีคนงานวิ่งมาดูเหตุการณ์ อิทธิหน้าเสียเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูร้องวิ้ดว้าย
“ว้าย! แย่แล้วคุณจิตร ไอ้อิทธิมันทำร้ายคุณอาทิตย์ค่ะ คุณจิตร มาเร็วค่าคุณจิตร”
เสียงนั่นเป็นเสียงเพลินพิศ นรกชัดๆ หากว่าจิตราได้ยินแล้วตามมาดูเหตุการณ์
“เลวมาก” หนุ่มน้อยหันมาเอ่ยสบถด่าคนที่ลอบยิ้มอยู่กับพื้นโดนใช้หน้าขาเกี่ยวร่างตนไว้ไม่ให้ลุกหนีไปไหนโดยง่าย”
“บอกแล้วไง นายไม่มีทางเอาชนะฉันได้หรอก” อาทิตย์เอ่ยโต้กลับ พร้อมกับสายตาแลเห็นร่างมารดาวิ่งมาแล้ว
“แม่ฉันมาแล้ว คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาอีกเยาะๆ ใส่คนที่เริ่มมีสีหน้าวิตก
“ปล่อยผมเดี๋ยวนะคุณอาทิตย์ คุณทำแบบนี้เพื่ออะไร” อิทธิเอ่ยต่อว่า เริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นริ้วแดงจากการตบหน้าตัวเองของอาทิตย์กำลังฉายให้เห็นบนแก้มใส
“ท้าทายสามีไม่ใช่เหรอเมียรัก สามีจัดให้แล้วไง แต่แค่นี้มันยังเนียนไม่พอ มันต้องนี่”
อาทิตย์เห็นร่างมารดาวิ่งมาจนคิดว่าทันเห็นเหตุการณ์แล้วจึงจัดการใช้มือคว้าหมับเข้าที่เป้ากางเกงของคนที่ตนใช้หน้าขาเกี่ยวร่างไว้ ผู้ชายร้อยทั้งร้อยโดนจับกล่องดวงใจกะทันหันแบบนี้ย่อมมีปฏิกิริยาตอบโต้ ชายหนุ่มคิดว่าอย่างนั้น และมันก็เป็นจริงเมื่อเจ้าของกล่องดวงใจที่ตนกุมอยู่ยกมือขึ้นชกที่ใบหน้าตนทันควันเช่นกันตอนที่ตนออกแรงขยำ
“กรี๊ดด! ไอ้อิทธิ ไอ้ลูกขี้ข้า แกกล้าดียังไงถึงชกหน้าลูกชายฉัน” จิตราแผดเสียงลั่นเมื่อมาทันเห็นเหตุการณ์พอดี หล่อนตรงไปคว้าร่างของลูกขี้ข้าที่หล่อนตราหน้าออกจากร่างบุตรชายสุดที่รัก จัดการฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าเจ้าตัวสลับซ้ายขวาเพื่อระบายแค้นแทนบุตรชาย ก่อนจะจัดการผลักร่างนั้นลงให้ไถลไปกับพื้น หันไปพยุงบุตรชายให้ลุกขึ้น
อาทิตย์มัวแต่พะวงกับแผลที่มุมปากจากการโดนชกจนใบหน้าซบพื้น และเหตุการณ์ที่จิตราทำร้ายอิทธิ เกิดขึ้นเร็วเกินกว่าที่สายตาจะสังเกตเห็นชายหนุ่มจึงไม่ได้รับรู้ว่ามารดาตนลงทัณฑ์คนที่ตนกลั่นแกล้งยังไงบ้าง มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่โดนมารดาเขย่าร่างถาม
“อาทิตย์เป็นไงบ้างลูกเจ็บมั้ย”
“นิดหน่อยครับแม่” อาทิตย์เอ่ยตอบ ด้วยเพราะคิดว่ามารดาตนคงกระชากร่างของอิทธิเท่านั้นชายหนุ่มจึงหันมาเล่นละครแกล้งเจ้าตัวต่อหวังให้หลาบจำว่าอย่ามาต่อกรกับตนซึ่งมีหลายวิธีที่จะแก้เกม
“หายกันแล้วใช่มั้ยนายอิทธิกับสิ่งที่ฉันทำกับนายเมื่อคืน” ชายหนุ่มเอ่ยว่า
“ลูกอาทิตย์รีบไปหายาทาก่อนเถอะไป เดี๋ยวทางนี้แม่จัดการเอง” จิตราเอ่ยกับบุตรชายแล้วหันมามองร่างของหนุ่มน้อยที่ตนจัดการฟาดหน้าสองฉาดเมื่อสักครู่
“เรื่องนี้ฉันเห็นตำตาว่าแกทำร้ายลูกฉัน อย่าหวังว่าจะเอาบารมีพี่สาวฉันมาคุ้มกะลาหัวแกอีกไอ้เด็กเปรต” สองขาเดินตรงเข้าใส่ฝ่ายนั้นในตอนที่เจ้าตัวกำลังพยุงตัวลุกขึ้น มือของหล่อนเงื้อขึ้นเตรียามฟาดลงไปที่ร่างนั้นอีก แต่คราวนี้ต้องชะงักค้างเมื่อมีเสียงร้องห้าม
“อย่านะแม่ แม่จะทำอะไรเพื่อนผม”
อาทีนั่นเองเป็นเจ้าของเสียง ซึ่งได้วิ่งเข้ามายืนเคียงข้างอิทธิแล้วเอ่ยต่อว่ามารดา
“เกิดอะไรขึ้น ไม่อายคนงานหรือไงที่มาทำร้ายเด็กแบบนี้”
จิตราลดมือลงมองรอบกาย เห็นคนงานมาดูสถานการณ์จริงตามที่บุตรชายคนเล็กว่าจึงเอ่ยไล่
“ไอ้อีหน้าไหนไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้กลับไปทำงานทำการต่อซะ ไม่งั้นฉันจะเฉดหัวออกจากไร่ให้หมด”
“ใจเย็นๆ ครับแม่ เรื่องนี้ให้ผมจัดการกับนายอิทธิเองครับ แม่กลับขึ้นเรือนไปเถอะครับ ผมมีวิธีจัดการของผม” อาทิตย์เมื่อเห็นมารดาเริ่มอารมณ์ร้ายจึงชิงเอ่ยบอก พลางสั่งให้เพลินพิศพาเจ้าตัวไปจากเหตุการณ์ตรงนี้จนได้ พร้อมๆ กับเหล่าคนงานที่สลายตัวไป ชายหนุ่มหันมามองหน้าสองหนุ่มน้อยตรงหน้าเมื่อเหลือกันอยู่เพียงสามคน เอ่ยสั่งบอกน้องชาย
“นายก็ด้วยอาทีกลับขึ้นเรือนไป ฉันมีเรื่องจะคุยกับอิทธิ”
“ผมจะไปค้างกับอิทธิ คงขึ้นเรือนไปไม่ได้หรอกครับ ขอตัวนะครับพี่ชาย” อาทีเอ่ยเน้นประโยคแล้วก้มลงจับจักรยานขึ้น
“ปะอิทธิ คราวนี้เดี๋ยวกูปั่นให้นั่งบ้าง” เด็กหนุ่มเอ่ยบอก อิทธิยอมทำตามเงียบๆ เพราะกำลังไร้เรี่ยวแรงเอ่ยหรือแสดงท่าทีใดๆ ออกมา การแก้เกมอันแสนร้ายกาจของอาทิตย์ทำหนุ่มน้อยจุกในอกไปชั่วขณะ นึกไม่ถึงว่าผู้ชายที่มีการศึกษาจะทำสิ่งที่น่าระอาได้ขนาดนี้ นี่หากอาทีไม่มาห้ามทัพตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องราวจะบานปลายไปยังไงบ้าง ทนหน่อยอิทธิ อีกไม่กี่เดือนนายก็จะหลุดจากขุมนรกนี้แล้ว
อาทิตย์มองตามหลังจักรยานคันเล็กที่โดยสารร่างสองร่างจากไปไกลตาเรื่อยๆ นี่มันอะไรกันใครอนุญาตให้อาทีไปค้างอ้างแรมเรือนคนงาน มารดาตนรับรู้เรื่องนี้ด้วยมั้ย คงจะไม่แน่ๆ ในเรื่องนี้น้องชายตนน่าจะเข้าทางผู้เป็นป้ามากกว่า
“นี่มันสองคนนอนด้วยกันบ่อยหรือเปล่าวะ” ชายหนุ่มหลุดเปรยประโยคออกมาเบาๆ นึกหวงและนึกคิดไปไกลอย่างประหลาดถึงความสัมพันธ์ของน้องชายตนกับคนยโส

**************************************************************

“อะไรนะ ไอ้อาทีไปค้างกับไอ้อิทธิอย่างนั้นเหรอ พี่จันทร์อนุญาตได้ยังไงคะ โอ้ยจิตรล่ะขัดใจกับการกระทำของพี่จันทร์เหลือจะรับได้” จิตราออกอาการโวยวายเมื่อทราบเรื่องจากพี่สาวตัวเองว่าบุตรชายคนเล็กลอบไปค้างอ้างแรมกับคนโอหังอย่างอิทธิอีกครั้ง อาทิตย์เพิ่งจะขึ้นมาเรือน ทันเหตุสองคนสนทนากันพอดี
“อาทีบอกจะให้อิทธิช่วยสอนการบ้านให้ วันนี้ได้มาเยอะ ฉันก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องขัดนี่” จันทร์จวงเอ่ยแจงเหตุผล
“พี่จันทร์เชื่อมันเหรอคะ นี่จิตรไม่อยากจะใช้คำแรงๆ กับพี่จันทร์เลยแต่พี่จันทร์ก็ทำให้จิตรอยากจะเอ่ยเหลือเกิน”
“ก่อนหน้านี้หล่อนเอ่ยมันให้ฉันได้ยินแล้วนี่แล้วหล่อนยังจะเกรงอะไรอีกจิตรา และอย่าคิดตามไปราวีแม่นางกับอิทธิอีกเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้ฉันรู้สึกระอาหล่อนมากกว่านี้”
“ปกป้องมันเข้าไปเถอะคะกับไอ้อีขี้ประจบนั่น รู้อะไรมั้ยคะว่าเมื่อกี้ไอ้อิทธิมันบุกเข้ามาชกต่อยอาทิตย์ถึงที่นี่ อย่างนี้พี่จันทร์ยังจะมองว่าไอ้เด็กนั่นเป็นเด็กดีอยู่อีกหรือเปล่าคะ”
จันทร์จวงนิ่งไปชั่วครู่ มองดูใบหน้าหลานชายที่ยืนเงียบๆ อยู่ เห็นแล้วล่ะว่ารอยช้ำชัดอยู่บนแก้มนั้น แต่เพราะด้วยต้องการกำราบน้องสาวบ้างจึงเอ่ยขึ้น
“ฉันต้องเชื่อหล่อนมั้ยในเมื่อฉันไม่เห็นเหตุการณ์”
“พี่จันทร์ นี่พี่จันทร์หาว่าจิตโกหกหรือคะ” จิตราออกอาการไม่พอใจ
“มันก็เหมือนกับที่ฉันบอกหล่อนว่าตาอาทีโดนลอบทำร้ายแล้วหล่อนไม่เชื่อน่ะแหละ” จันทร์จวงตอกกลับ จิตราอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าพี่สาวจะยอกย้อนตนได้เจ็บทรวงขนาดนี้ หล่อนจึงโบ้ยไปทางบุตรชาย
“พี่จันทร์ดูหน้าตาอาทิตย์สิคะ รอยช้ำยังมีให้เห็นขนาดนี้ หรือถามตาอาทิตย์ก็ได้ค่ะว่ามันจริงมั้ย ลูกอาทิตย์บอกป้าเราไปลูกว่าที่แม่พูดมันคือเรื่องจริง”
อาทิตย์อึกอักที่จะพูดเพราะรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเป็นแผนการของตัวเองที่ต้องการแก้เผ็ดอิทธิเล่นๆ สุดท้ายชายหนุ่มจึงไม่ปริปากพูดอะไร นอกเสียจากเดินจากไปเงียบๆ จิตรามองตามร่างอ้าปากค้างที่บุตรชายทำคล้ายจะฉีกหน้าตน
“ลูกชายหล่อนไม่พูด แสดงว่าไม่ใช่เรื่องจริง เป็นอันว่าเรื่องนี้ฉันถือว่าหล่อนโกหกนะจิตรา” จันทร์จวงเอ่ยขึ้นเยาะๆ แล้วเดินหายไปอีกคน จิตราอกแทบแตกกับสถานการณ์ที่ดูเหมือนว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะในสายตาพี่สาว
จันทร์จวงเดินจากไปแต่ใช่ว่าจะกลับเข้าห้องตัวเอง นางเดินตรงไปยังห้องหลานชายคนโตถามไถ่ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะลึกๆ ยังติดใจในรอยแผลที่เห็น
อาทิตย์สารภาพว่าตัวเองเป็นฝ่ายสร้างเรื่องขึ้นเองเพราะไม่อาจที่จะโยนความผิดให้อิทธิได้ลงคอ
“เรานี่นะไปแกล้งน้องเขาได้ อิทธิกับแม่นางโดนแม่เราเล่นงานคนเดียวพวกเขาก็วุ่นวายพอดูแล้ว นี่อะไรเรายังจะไปแกล้งพวกเขาอีก ไม่สงสารหรือเห็นใจพวกเขาบ้างหรือ” จันทร์จวงอบรม อาทิตย์เงียบคิด รู้สึกผิดหนักขึ้นจนอยากจะตามไปขอโทษอิทธิซะตอนนี้ แต่พอนึกได้ว่าป่านนี้เจ้าตัวน่าจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วเพราะคงกำลังพูดคุยหยอกล้ออยู่กับน้องชายตนอย่างสนุกสนานอยู่เป็นแน่

**************************************************************

สิ่งที่อาทิตย์คิดไว้ไม่ได้เป็นจริงแม้สักนิด เพราะขณะนี้อิทธิกำลังนั่งขรึมกลางวงสำรับ เพราะยังรู้สึกแค้นเคืองและชิงชังในเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
“เฮ้ย ไอ้อิท กูเห็นมึงนิ่งไม่พูดไม่จาตั้งแต่มาแล้วนะ เกิดอะไรขึ้นวะถามก็ไม่บอก แล้วเอาแต่มานั่งขรึมอยู่แบบนี้ กูเห็นแล้วกินข้าวไม่ลงนะโว้ย” อาทีเอ่ยถามเมื่อนึกข้องใจในท่าทีเพื่อนรัก
“นั่นสิอิท เป็นอะไรมาหรือบอกแม่ได้มั้ย” แม่นางเอ่ยถามอีกคน อิทธิมองหน้าคนทั้งสอง ไม่อยากให้ทั้งเพื่อนและมารดาร่วมไม่สบายใจกับตนจึงปฎิเสธที่จะบอกความจริงเช่นเคย คิดว่าใบหน้าตนคงไม่มีรอยฝ่ามือจิตราฉายชัดให้สองคนได้เห็น ไม่อยากนั้นคงจะโดนซักถามมากกว่านี้
สำรับแยกวงไปแล้ว แม่นางแยกไปพักผ่อนหลังเก็บกวาดเรือนเสร็จ ปล่อยให้บุตรชายและหลานชายเจ้าของไร่อยู่กันตามลำพัง แม้ลึกๆ หวั่นอยู่ว่าจิตราจะตามมาราวีดังเช่นเคยหรือไม่แต่ก็ไม่อยากที่จะขัดขวางความชิดใกล้ของสองเพื่อนสนิทเพราะเหลือเวลาเพียงอีกไม่นานที่ทั้งสองจะต้องแยกทางกันเดินแล้วนับจากที่บุตรชายตนเรียนจบชั้นมัธยมปลาย
ความมืดเริ่มโรยปกคลุมไปทั้งท้องไร่ ดาวบนฟ้ายังทำหน้าที่ฉายแสงแทนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวเช่นเดิม ณ ลานกว้างหน้าเรือน สองคนนั่งพิงหลังกันต่างแหงนมองท้องฟ้ากันคนละทิศ
“อีกไม่กี่เดือนเราก็จะเรียนจบกันแล้ว กูเปรยๆ กับป้าจันทร์แล้วนะอิทเรื่องที่จะให้ท่านส่งมันเรียนต่อชั้นมหา’ลัย” อาทีเอ่ยขึ้นส่งผลให้อารมณ์ชมความงามของผืนฟ้ากว้างของอิทธิสะดุดลง เด็กหนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ ตอบกลับ
“อย่าพยายามทำอะไรเพื่อกูอีกเลยว่ะอาที แค่นี้กูก็ไม่รู้จะขอบคุณมึงกับป้ามึงยังไงแล้ว”
“เฮ้ย อย่ามาทำซึ้งไอ้เสือ เรื่องเล็กน่า ว่าแต่หากเราสองคนสอบติดกันคนละที่มึงได้เพื่อนใหม่ในที่เรียนใหม่ๆ ห้ามทิ้งกูนะโว้ย” อาทีแย้ง อิทธิบอกอย่างหนักใจ
“มึงอ่ะอย่ามาอะไรกะกูนักเลยอาที หัดคบหัดสนิทกับใครๆ ไว้บ้างก็ดีนะโว้ย”
“ทำไมวะ มึงพูดอย่างกะมึงจะทิ้งกูไปงั้นแหละ” อาทีเอ่ยถามอย่างนึกสงสัย อิทธิยังไม่อยากจะพูดอะไรมากในตอนนี้จึงปัดไปถามถึงเรื่องที่เจ้าตัวโดนลอบทำร้ายบ้าง
“เลิกพูดเรื่องนี้กันก่อนเถอะ ว่าแต่มึงเถอะ คุณจันทร์ท่านทราบมั้ยว่ามึงอ่ะโดนลอบทำร้าย”
“กูบอกไปแล้วแหละ”
“แล้วท่านว่าไงบ้าง”
“ก็บอกจะเรียกสืบให้นะ แต่กูว่านะโว้ยมันต้องเป็นคนในไร่นี้แน่ๆ”
“มึงสงสัยใคร”
“นายศรกับนายสิน”
“คิดเหมือนกูเลยว่ะ”
“มึงคิดว่ากูควรจะบอกป้าจันทร์มั้ย”
“ไม่บอกกูก็คิดว่าท่านน่าจะทราบว่ะ แต่คงยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลามเพราะ..”
“เพราะสองคนนั้นมีแม่กูคุ้มกะลาหัวอยู่ใช่มั้ย”
“อืม”
“แม่กูนี่ก็นะ จะรู้ตัวบ้างหรือเปล่าว่ามีหอกข้างแคร่ วันๆ เอาแต่ไล่ราวีมึงกับแม่นางกูล่ะเชื่อเลย”
“เรื่องราวีช่างเถอะ อีกไม่นานกูกับแม่นางก็ไม่อยู่ให้รกหูรกตาแล้ว”
“มึงว่าอะไรนะ”
“เฮ้ย ปะ เปล่า ไม่มีอะไร ปะขึ้นเรือนก่อนเถอะ อากาศเริ่มเย็นแล้วว่ะ”
เอ่ยจบอิทธิก็ผละลุกเดินนำไปก่อน อาทีมองตามหลังคิดตามในสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ อิทธิพลั้งปากออกมาแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน หนุ่มน้อยลุกเดินตามหลังเพื่อนเก็บความสงสัยเอาไว้เงียบๆ เอาไว้เดี๋ยวค่อยถามหาความกระจ่าง เพราะเชื่อว่าตอนนี้ถามไปก็ไม่ได้คำตอบอะไร
ด้านจิตราเรียกหาเพลินพิศเพื่อตามไปจัดการสองแม่ลูกที่หล่อนนึกชิงชังทุกลมหายใจ พอสาวใช้เสนอหน้ามาให้เห็นก็เอ่ยชวนลงลงจากเรือน แต่ยังก้าวขาได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักหยุดเมื่อร่างบุตรชายคนโตมายืนกันเอาไว้พร้อมเอ่ยถาม
“แม่จะไปไหนค่ำมืดครับ”
“ปะ ไปเดินเล่นจ๊ะ” จิตราอึกอักตอบ นึกขัดใจที่เห็นบุตรชายตอนนี้ จริงอยู่ที่ผ่านมาบุตรชายมักจะเข้าข้างตนในทุกเรื่องๆ แต่เมื่อตอนที่เจ้าตัวไม่ยอมปริปากบอกกับผู้เป็นป้าถึงเรื่องโดนอิทธิชกต่อย หล่อนจึงไม่สนิทใจนักที่จะบอกว่าตัวเองกำลังจะไปทำอะไรที่ไหน
“เดินเล่นตอนนี้เนี่ยนะครับ” อาทิตย์ถามย้ำ จริงๆ รู้อยู่แล้วว่ามารดาจะไปไหนจึงรีบเดินเข้ามากันท่าไว้แบบนี้ แม้จะขัดใจอยู่บ้างที่รับรู้ว่าน้องชายไปค้างอ้างแรมกับอิทธิ แต่ก็ไม่ต้องการให้มารดาไปราวีเด็กหนุ่มนั่นรวมถึงมารดาของเจ้าตัว เพราะเริ่มรู้สึกเห็นใจมากขึ้นหลังจากที่ได้ฟังผู้เป็นป้าอบรมสั่งสอนว่าให้รู้จักมีน้ำจิตน้ำใจให้กับผู้ที่อยู่ในฐานันดรด้อยกว่า และควรคำนึงถึงว่าคนเราเกิดมาย่อมมีค่าเท่าๆ กันความต่างมันอยู่แค่โชคชะตาจะนำพาบุคคลนั้นๆไปอยู่ ณ จุดใดของสังคมเท่านั้น
“ก็ใช่น่ะสิจ๊ะ อากาศตอนค่ำๆ แบบนี้ดีนักล่ะในไร่นี้ แม่มักจะชอบเดินตอนนี้ล่ะจริงมั้ยนังพิศ” จิตราหันไปจิกสายตามใส่สาวใช้ให้เจ้าตัวเออออห่อหมกด้วย
“จริงค่ะคุณอาทิตย์ อากาศตอนนี้มันดี๊ดีค่ะ น่าเดินเล่นนักเชียว” เพลินพิศออกจริต อาทิตย์เห็นอาการแล้วก็ถอนหายใจให้กับทั้งมารดาและสาวใช้ ชายหนุ่มแกล้งเอ่ยขึ้น
“งั้นให้ผมไปด้วยนะครับแม่ ผมอยากจะรู้เหมือนกันว่าอากาศจะดีสักแค่ไหน”
“โอ้ย ไม่ดีไม่ดีลูก ลูกอาทิตย์คงจะยังไม่ชินอากาศเดี๋ยวเจ็บไข้เอา ลูกกลับไปพักผ่อนในห้องเถอะนะจ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปกับนังพิศเอง” จิตราเอ่ยค้าน อาทิตย์เมื่อเห็นวิธีนี้ไม่ได้ผลจึงเลี่ยงใช้วิธีอ้างว่าตนมีเรื่องจะพูดคุยปรึกษาด้วย จิตราเบี่ยงต่อไปอีกว่าไว้วันหลัง ชายหนุ่มจึงแย้งว่าตนใกล้จะกลับกรุงเทพฯแล้วอยากที่จะคุยตอนนี้วันนี้ จิตราไม่อาจขัดใจได้จึงยอมกลับเข้าห้อง ภายในใจนึกจดบัญชีดำสองแม่ลูกนั่นเอาไว้ เอาไว้บุตรชายตนกลับกรุงเทพฯ ไปเมื่อไหร่วันนั้นค่อยชำระความก็ไม่สายไปนัก
วันใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดเรียนแต่ภายในไร่ไม่ได้หยุดงาน แม่นางออกไปทำงานที่ไร่แล้ว ในขณะที่อิทธิและอาทียังคงไม่ตื่นกันเพราะเมื่อคืนกว่าจะหลับกันได้ก็ดึกดื่น ที่เป็นเช่นนั้นเพราะทำการบ้านที่อาทีหอบมาจากโรงเรียนกันนั่นเอง
อาทิตย์เกิดอาการว้าวุ่นเล็กๆ เมื่อยังไม่เห็นร่างของน้องชายกลับเข้าเรือนมา
“นอนกกกันอยู่หรือไง สายป่านนี้แล้วยังไม่กลับเรือนอีกนายอาที” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น นึกอยากจะตามไปที่เรือนนั้นนัก แต่ติดที่ต้องคอยคุมเชิงมารดาเอาไว้ เพราะยังหวั่นใจว่าเจ้าตัวจะตามไปราวีแม่นางที่เรือนสำนักงานอีก
“พี่อาทิตย์อยู่หรือเปล่าคะ” เสียงเรียกแว่วๆ ดังมาให้ได้ยิน ชายหนุ่มลุกเดินไปมองที่ระเบียง เห็นร่างของส้มกำลังปั่นจักรยานเข้ามาถอนหายใจหน่อยๆ เพราะยังไม่อยากจะพูดคุยด้วยเท่าไหร่นัก จึงเดินกลับเข้าไปในห้องสวนทางกับมารดา
“แม่ได้ยินเสียงผู้หญิงเรียกลูกแน่ะ ใครมาเหรอ” จิตราเอ่ยถามบุตรชาย อาทิตย์รายงานว่าส้มมา จิตรานิ่วหน้านึกข้องใจว่าฝ่ายนั้นมาทำไม ร้อยวันพันปีไม่เห็นจะแวะเวียนมาที่เรือนนี้ได้เท่ากับนายศรกับนายสินเลยนี่นา
“มาทำไมกัน” หล่อนเอ่ยขึ้นเบาๆ ตอนบุตรชายเลี่ยงเข้าห้องไปแล้ว สักพักจึงเดินออกไปรับหน้าแทนตอนที่ส้มจอดจักรยานไว้ลานหน้าเรือน
“พี่อาทิตย์อยู่มั้ยคะคุณจิตร” ส้มเอ่ยถามจิตราโดยไร้ซึ่งการทำความเคารพตอนเจอหน้า จิตราหมิ่นตามองถามกลับเสียงห้วน
“ถามทำไม”
“วันนี้เป็นวันหยุด ส้มก็อยากมาทักทายพี่เขาน่ะค่ะ เพราะตั้งแต่พี่เขามาเรายังไม่ได้คุยกันนานๆ เลย” ส้มบอกตามจริง อดทนรอวันหยุดนี้มานานเพื่อที่จะได้เสนอหน้ามาทักทายชายหนุ่มที่ตนหลงปลื้มได้เต็มที่เต็มวัน
“วันหยุดก็เข้าไปช่วยพ่อหล่อนทำงานที่ไร่สิ จะสะเออะมาทักทายลูกชายฉันทำไม” จิตราว่าให้ทันทีเมื่อได้ยินจุดประสงค์ที่สาวรุ่นตรงหน้ามาที่เรือนตน แม้หล่อนจะโปรดนายศรอยู่บ้างในฐานะการเป็นคนงานที่สนิทแต่ก็ใช่ว่าหล่อนจะยินดีให้บุตรสาวเจ้าตัวมาทำทีสนิทบุตรชายหล่อนได้ง่ายๆ
“ส้มไม่ใช่คนงานในไร่นี่คะ ส้มจะไปทำทำไม ว่าแต่พี่อาทิตย์อยู่มั้ยล่ะคะ ส้มอยากเจอพี่เขาไม่ได้อยากคุยกับคุณจิตร” ส้มเอ่ยท้าทาย กลัวที่ไหนล่ะกับฤทธิ์เดชของแม่นี่ เธอมีบิดาเป็นถึงหัวหน้าคนงานที่ทำงานในไร่นี้มานานจนเกือบจะเป็นเสาหลักให้ไร่ ยัยจิตรานี่จะกล้าร้ายใส่ตนขนาดไหนเชียว
“หนอยกล้ามายอกย้อนกับฉัน คิดว่าเป็นลูกสาวนายศรแล้วฉันจะให้เจอหน้าลูกชายฉันง่ายๆ น่ะเหรอ หล่อนคิดผิดนะยัยส้ม อีกอย่างแม้ฉันจะยอมให้หล่อนเจอหน้าอาทิตย์ง่ายๆ แต่ก็ใช่ว่าอาทิตย์จะอยากเจอหน้าหล่อนหรอกนะ โน่น พอได้ยินเสียงหล่อนลูกชายฉันก็เดินกลับเข้าห้องไปแล้ว” จิตราบอกอย่างเหยียดๆ แล้วรีบเดินหนีไป ปล่อยให้ส้มยืนบิดหน้าบิดตาด้วยความคับแค้น อุตส่าห์ถ่อมาที่เรือนนี้แต่เช้าแต่กลับเข้าไม่ถึงตัวชายหนุ่มหล่ออย่างอาทิตย์ กรี๊ดด! อีแก่จิตร หวงลูกชายนักนะ เดี๋ยวฉันจะกลับไปฟ้องพ่อฉันให้ทำงานในไร่นี้ไม่เต็มร้อย ฮึ่ย
สาวน้อยหันไปคว้าจักรยานเพื่อปั่นกลับไปที่เรือนดังเดิม ด้วยความฉุนเฉียวจึงไม่ได้สนใจดูทางเท่าไหร่นัก ปั่นไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องร้องว้ายตกใจเมื่อโดนจักรยานอีกคันที่ปั่นสวนมาชนเข้าจนล้มลงข้างทาง
“ขอโทษว่ะยัยส้ม ทางมันแคบ 555” เสียงอาทีดังมาให้ได้ยินจึงรู้ว่าจักรยานคันนั้นเป็นของใคร
“กรี๊ดดดด ไอ้พี่อาทีบ้ามาชนส้มทำไม กรี๊ดดดดๆๆๆ” สาวน้อยมากมายากรี๊ดลั่นไร่เมื่อมองตามไปเห็นอาทีปั่นจักรยานไปไกลตาเรื่อยๆ โดยมีอิทธิซ้อนท้าย
“ห่ามนักนะมึงไอ้อาที แกล้งได้แม้กระทั่งผู้หญิง” อิทธิว่าเพื่อนยิ้มๆ ตอนเจ้าตัวปั่นจักรยานไปไกลร่างคนร้องกรี๊ดทางด้านหลังแล้ว
“ก็พี่ชายกับพ่อยัยนั่นทำร้ายกูก่อนนี่” อาทีตอบกลับเพราะปักใจเชื่อแล้วว่าคนที่ลอบทำร้ายตนคงไม่ใช่ใครนอกจากสองพ่อลูกคนโปรดมารดา
จักรยานคันเล็กเลี้ยวเข้าเขตเรือน อาทีลงจากรถไปแล้ว อิทธิรีบทำหน้าที่เป็นคนปั่นแทน เด็กหนุ่มรีบเลี้ยวพาหะนะคู่ใจออกจากเรือนใหญ่หลังนี้เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับคู่หูแม่ลูกอย่างอาทิตย์กับจิตรา
อาทีมองตามหลังเพื่อนส่ายหน้าในความเร่งรีบที่เห็น ระอาเหลือเกินที่พี่ชายกับมารดาตนนั่นร้ายกาจจนฝ่ายนั้นไม่อยากเข้าใกล้
“ทำไมกลับมาเอาป่านนี้ไอ้อาที” หนึ่งเสียงทักมาทำเอาหนุ่มน้อยสะดุ้งหันไปมอง เจอร่างพี่ชายที่กำลังจ้องมองมาด้วยแววตาดุๆ

โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 28-02-2011 07:33:14
มาแว้ววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: นัตสึกิ ที่ 28-02-2011 07:48:14
ขอบคุณค่า

อ่านตอนนี้แล้วหมันไส้อาทิตย์ตะหงิดๆ
ข่มเหงเขาแล้วยังจะมแกล้งิกมันน่านัก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-02-2011 08:05:36
 :L1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 28-02-2011 08:09:04
อาทิตย์สุดยอดของความเลว  คิดได้งัย  สร้างเรื่องให้อิทธิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 28-02-2011 10:22:56
เข้ามารอnc อ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 28-02-2011 10:25:05
วุ่นวายอิรุงตุงนังยิ่งนัก
แล้วเมื่อไหร่จะเขาใจกันดีๆซักทีล่ะเนี่ย
อาทิตย์โหดร้ายยยย    :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 28-02-2011 10:33:03
อยากให้อทธิออกไปจากที่นี่เร็วๆจัง พาอาทีออกไปด้วยนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 28-02-2011 10:43:44
อยากให้อาทีกับอิทธิรักกันมากกว่าอะ อาทิตย์นี่เกินทำใจรับได้ว่าเป็นพระเอก  :z6: :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-02-2011 10:59:35
อาทิตย์ นายเรียนจบอะไรมาน่ะ สมองยังกับเด็กป.4 คิดได้ไงแก้แค้นแบบนี้ เอาความซวยมาโยนให้อิทเฉยเลย ตัวเองเป็นคนเริ่มแท้ๆ เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 28-02-2011 11:03:32
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 28-02-2011 11:03:51
รีบขนข้าวขนของออกจากไร่โดยไวเถอะขอรับ อยากจะให้อิทธิหนีไวๆ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 28-02-2011 12:23:02
หมั่นไส้อาทิตย์ฟร่ะ
ระวังเถอะทำอย่างนี้บ่อยๆเข้า
วันหลังจะไปตามง้อขอความรักจากเขา จะโดนเอาคืน ชิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-02-2011 12:34:11
รีบขนข้าวขนของออกจากไร่โดยไวเถอะขอรับ อยากจะให้อิทธิหนีไวๆ  :man1:

เนอะ^^ ไปจากไร่น่าจะดีกว่า ไปตายเอาดาบหน้าเถอะอิท
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 28-02-2011 12:37:51
 :serius2:  รีบย้ายออกไปเถอะอิทเอ๋ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kingphai ที่ 28-02-2011 13:05:20
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก
ทำไมมมมมมม
ทำไมพี่บอยถึงได้บีบหัวใจกันทุกตอนเช่นนี้..........
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 28-02-2011 13:33:43
อัพทุกวันเลยได้ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 28-02-2011 13:52:30
อัพทุกวันเลยได้ไหมอ่ะ

ถ้าเป็นจริงคนอ่านรักคุณบอยตายเลย 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 28-02-2011 14:08:54
ยัยจิตตกกับลกซายนี้ท่าจะจิตตกหน่อยๆนะคะควรจะพบแพทย์ได้แล้วนะคะเนี้ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-02-2011 14:59:22
รีบขนข้าวขนของออกจากไร่โดยไวเถอะขอรับ อยากจะให้อิทธิหนีไวๆ  :man1:

เนอะ^^ ไปจากไร่น่าจะดีกว่า ไปตายเอาดาบหน้าเถอะอิท
ใช่ๆ เห็นด้วยๆจ้า
ไม่มีที่ไปเหรอ  มาอยู่ที่บ้านดิฉันก็ได้ ให้แม่นางมาเป็นแม่บ้านให้ดิฉันก็ได้
ยิ่งกำลังอยากมีเพื่อนอยู่ด้วยเชียว เพราะอยู่คนเดียวอ่ะ (หุ หุ จะอินมากไปแระ)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 28-02-2011 16:06:54
อาทิตย์นี่ร้ายกว่าที่คิดนะเนี่ย
ยิ่งกว่านางร้ายในละครซะอีก
เชียร์ให้อิทเอาืคืนให้ได้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 28-02-2011 16:17:18
เสียใจ
ทำไมจิตใจถึงได้ต่ำขนาดนี้นะคนเรา

อย่ามาทำเป็นหึงนะ นายอาทิตย์ :m16:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 28-02-2011 20:34:13
อาทิตย์ร้ายกว่าที่คิด -0-
อิทธิรีบย้ายหนีไปไวๆเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 28-02-2011 21:11:57
อุแม่เจ้า!! อาทิตย์นะอาทิตย์ อย่าบอกนะว่าได้เลือดแม่มาอ่ะ กล้ามากกกกกกกกกกอ่ะ..

ชิชะ!! เดี๊ยะไม่เชียร์(ให้ได้กัน)เลยหนิ >///<''
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 28-02-2011 22:10:39
มันช่างค้างยิ่งนัก  :z3:

นับวันยิ่งหมั่นไส้ ยิ่งเกลียด อาทิตย์ว่ะ  :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-02-2011 22:47:28
มาต่อบ่อย ๆ นะ พี่บอยยยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 28-02-2011 22:59:37
 :angry2: :serius2: :m16: :m31:
อาทิตย์ชักจะเลวร้ายขึ้นทุกวัน  ใจก็บอกว่าสงสาร สำนึกผิด
แต่การกระทำก็ยังแย่เหมือนเดิม ชอบทำก่อนแล้วค่อยมาเสียใจทีหลัง
ระวังเถอะ สักวันหนึ่งต่อให้เสียใจแค่ไหนก็ไม่พอและไม่ช่วยอะไร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 28-02-2011 23:42:31
อ่านแล้ว อาทิตย์เล่นแรงไปไหม หมั่นไส้มากคะ ทำไมทำน้องอิทอะ
ตอนแรกวามีแผน ไม่คิดว่าแผนร้ายๆแบบนี้อะ สงสารอิท แต่พอถึงวันอิทไป
นายจะรู้สึกอาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-03-2011 09:45:49
รอต่อเลย อยากอ่านตอนที่อาทิตย์เจอดีบ้างจัง เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 01-03-2011 13:21:35
โรคจิตว่ะไอ้พี่อาทิตย์

ให้แม่งหึงให้อกแตกตายไปเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 01-03-2011 14:11:30
อาทิตย์แมร่งชั่ว


เดี๋ยวเอาหมามุ้ย โรยเตียงเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 01-03-2011 14:20:23
เฮ้อออ.....กรรม!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KIMKUNG ที่ 02-03-2011 00:33:06
อยากให้อิทธิหนีไปไกลๆๆ  เลย  ยิ่งอิทธิอ่อนแอยังแกล้งได้ 


โดนแม่จิตราตบซ้าย ขวา ไอ้อาทิตย์ไอ้เฮงซวย


หนีไปเลย  งับ  อิทธิ ผมเชียร์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 02-03-2011 01:13:11

• “ทำไมกลับมาเอาป่านนี้ไอ้อาที” หนึ่งเสียงทักมาทำเอาหนุ่มน้อยสะดุ้งหันไปมอง
เจอร่างพี่ชายที่กำลังจ้องมองมาด้วยแววตาดุๆ
“ไปปลอบใจแฟน เค้าโดนพวกจิตทรามรุมทำร้าย”
อาทีตอบกลับ ด้วยแววตาดุไม่แพ้กัน(แต่สวยกว่า)
อิอิ

๙๐ + ๑ = ๙๑
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 02-03-2011 01:25:07
ตอนนี้อยาก :z6:ไอ้คุณอาทิตย์มาก ไม่น่า่เชื่อว่าคนมีการศึกษาเค้าจะทำกันแบบนี้ สะตอมากเหอะ :angry2:
ถึงจะมาสำนึก(นิดหน่อย)ในตอนหลังแต่มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก เพราะได้ทำร้ายทั้งร่างกายและความรู้สึกของอิทธิไปแล้ว ยังจะมีหน้ามาหึงมาหวงเค้าทั้งที่ตัวเองไม่เคยทำดีอะไรกับเค้าเลย  :m31:
อยากให้อิทธิรีบๆออกไปจากไร่เร็วๆ เอาให้อาทิตย์คลั่งตายไปเลย  :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 02-03-2011 10:09:26
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 02-03-2011 10:54:39
รอด้วยคนจ้า    :o8:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 02-03-2011 18:03:23
อยากอ่านต่อออออออออออออ >///<  มันค้างงงงงอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 02-03-2011 20:09:41

ฮิวววว มาต่อแล้ว
อาทิตย์ -_-" บนนี้เคยเห็นแต่นางร้ายทำนะเว้วยเฮ้ย
 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-03-2011 11:02:59
เข้ามารอจ้า ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 03-03-2011 13:07:10
มารออีกคน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: oattie ที่ 03-03-2011 21:46:05
อาทิตย์ร้ายกาจ !   :z6:





 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-03-2011 10:07:32
จอดรอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-03-2011 11:09:23
รอค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 04-03-2011 11:30:00
รีบขนข้าวขนของออกจากไร่โดยไวเถอะขอรับ อยากจะให้อิทธิหนีไวๆ  :man1:


เนอะ^^ ไปจากไร่น่าจะดีกว่า ไปตายเอาดาบหน้าเถอะอิท
ใช่ๆ เห็นด้วยๆจ้า
ไม่มีที่ไปเหรอ  มาอยู่ที่บ้านดิฉันก็ได้ ให้แม่นางมาเป็นแม่บ้านให้ดิฉันก็ได้
ยิ่งกำลังอยากมีเพื่อนอยู่ด้วยเชียว เพราะอยู่คนเดียวอ่ะ (หุ หุ จะอินมากไปแระ)

เค้าเดาว่าคงต้องมีตายก่อนล่ะมั้งงถึงจะได้ออก
หรือไม่ก็.. ถ้าได้ออกก็ต้องไปโดนกักขังหน่วงเหนี่ยว ให้อาทิตย์เล่น SM ที่คอนโดในกรุงเทพฯล่ะม้างง

จิ้นไปนู่นน อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-03-2011 14:07:00
จิ้มรีบน 555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 05-03-2011 05:10:37
เลิกทนเลย ทั้งแม่นาง ทั้งอิท

อยู่ไปก็โดนรังแกตลอด

พี่อาทิตย์นี่ก็นะ ร้ายคงเส้นคงวาจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 05-03-2011 11:07:45
รอ ร๊อ รอ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 05-03-2011 11:41:22
รอด้วยอีกวันน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-03-2011 19:03:58
รออยู่เน้อ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-03-2011 11:33:12
เข้ามาดัน  และรอต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 11-03-2011 13:12:41
รอ ร๊อ รอ มาต่อไวๆนะคับบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-03-2011 15:30:20
รอ....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 12-03-2011 14:58:42
เข้ามารอออออออออออออ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 12-03-2011 21:38:24
รอตอนต่อไปด้วยคน

อยากรู้ว่าอาทิตย์จะทำยังไงต่อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 13-03-2011 16:23:28
รอจนรากงอก....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ในสายลม ที่ 13-03-2011 16:55:27
รอด้วยคน....... 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ชอร์ปสติ๊ก ที่ 13-03-2011 18:43:36
ชิส์! อาทิตย์งี่เง่า
เดี๋ยวปั๊ดเชียร์ให้อิทจับอาธีกดเลยหนิ  :angry2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 14-03-2011 00:18:27
เเวะมารอ ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 16 อัพเดต 28.02.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-03-2011 03:17:15
ตอนที่ ๑๗

“จะกลับตอนไหนมันก็เรื่องของผม” เด็กหนุ่มเอ่ยตอบพี่ชายก่อนจะเบี่ยงตัวเดินหลบเพื่อขึ้นเรือน แต่ก็ไม่วายต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อโผล่หน้าขึ้นไปแล้วเจอมารดานั่งใบหน้าเรียบตึงจ้องอยู่
“มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี” จิตราเอ่ยทักบุตรชาย ในใจอยากถลาเข้าไปจัดการนักที่ไม่รู้จักรักศักดิ์ศรีที่มีติดตัว ชอบเหลือเกินกับการลดตัวลงไปเกลือกกลั้วกับไอ้เด็กขี้ข้า การที่หล่อนไม่ทำอย่างใจนึกก็เพราะเมื่อคืนบุตรชายคนโตอย่างอาทิตย์ได้เอ่ยให้หล่อนใจเย็นลงสักหน่อย และเพลาๆ การด่าว่าทุบตีบุตรชายคนเล็กอย่างอาทีนี้ลงบ้าง เพื่อให้เจ้าตัวเลิกมีอคติและคิดว่าหล่อนลำเอียงเสียที
“ยิ่งแม่ดุด่าอาทีมันเท่าไหร่ผมว่ามันก็จะยิ่งแข็งกับแม่มากเท่านั้นนะครับ น้องมันยังเด็กมันก็อาจจะติดเพื่อนอยู่บ้าง ปล่อยๆ มันสักพักเถอะนะครับ ค่อยๆ บอก ค่อยๆ สอนมันดีๆ อย่างที่ป้าจันทร์ทำ ผมว่ามันคงไม่มาดื้อด้านกับแม่เท่าไหร่หรอก เพราะจริงๆ แล้วอาทีมันก็ไม่ใช่คนรั้นอะไรนัก”
หล่อนนึกถุงเหตุผลข้อนี้ของบุตรชายคนโต เมื่อเห็นแววตาบุตรชายคนเล็กมองกลับมาคล้ายๆ หน่ายระอากับคำพูดของหล่อน
“อย่ามามองฉันแบบนี้นะ ฉันป็นแม่แกนะ” หล่อนเอ่ยขึ้นอีกเมื่อนึกไม่ชอบในแววตาที่เห็น เข้าใจและรับฟังในสิ่งที่บุตรชายคนโตบอกเมื่อคืนอยู่หรอก แต่ยังไงก็ทำใจรับไม่ได้เมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเพื่อนที่บุตรชายคนเล็กไปติดพันนั้นเป็นใคร ไม่รู้เป็นอะไร หล่อนไม่ชอบและก็เกลียดอีสองแม่ลูกคู่นั้นซะเกินจะปั้นหน้ายิ้มแย้มทักทายบุตรชายที่เพิ่งจะกลับมาจากเรือนพวกมัน
อาทีไม่โต้ตอบอะไรมารดาเพราะนึกเบื่อและระอา รู้อยู่แก่ใจว่าหากพูดอะไรมากไปก็ไม่วายที่จะโดนด่าว่าให้เจ็บใจหรือทุบตีให้เจ็บตัว หนุ่มน้อยจึงเดินเลี่ยงหนีไปยังห้องพักของตัวเอง
“เออ ฉันมันหัวหลักหัวตอ ไม่กระโดดข้ามไปซะเลยล่ะพ่อคู๊ณ” จิตราเอ่ยว่ากระทบตามหลังเมื่อเห็นการกระทำนั่น หล่อนหันกลับมานั่งหน้าตึงบอกบุญไม่รับดังเดิมเมื่อเห็นร่างพี่สาวเดินตรงเข้ามาหา
“โวยวายอะไรอีกแม่จิตร” จันทร์จวงเอ่ยทักน้องสาว ก่อนจะนั่งลงชวนสนทนา เมื่อเห็นเจ้าตัวไม่ตอบ
“ไม่น่าเชื่อนะว่าฉันจะเห็นหล่อนอยู่ติดเรือน”
“หมายความว่ายังไงกันคะ” จิตราหันมาถามหน้าฉงน
“อ้าวก็ลองหล่อนได้รู้ว่าอาทีไปค้างอ้างแรมกับลูกชายแม่นาง ทุกทีหล่อนก็แจ้นไปอาละวาดตั้งแต่ไก่โห่ไม่ใช่หรอกเหรอ”
“โอ้ย พอจิตรไปก็ต่อว่า พอนิ่งหน่อยก็เอ่ยกระทบ เลอะเลือนใหญ่แล้วนะคะพี่จันทร์ ตกลงจะเอายังไงกะจิตรคะ”
“ฉันก็พูดไปตามประสาที่เห็น การที่เห็นหล่อนอยู่นิ่งๆ แบบนี้มีเหรอฉันจะไม่ชอบ แต่มันจะสักกี่วันกันเชียว”
“ก็ไม่รู้ล่ะค่ะ เมื่อยแขนเมื่อยขาเมื่อไหร่ก็ออกรอบเมื่อนั้นแหละค่ะ”
“เพลาๆ ลงบ้างเถอะจิตราเอ้ย อยู่กันมาเป็นสิบปีแล้วจะราวีกันไปถึงไหน”
“ก็จนกว่ามันสองตัวจะออกไปจากที่นี่แหละค่ะ”
“เฮ้อ ตกลงว่าไม่มีทางไหนที่หล่อนจะญาติดีกับสองแม่ลูกนั่นเลยใช่มั้ย”
“ญาติดีให้มันได้ใจเหรอคะ เมินซะเถอะค่ะ ขืนจิตรเป็นอย่างนั้น พวกมันจะจองหองจ้องฮุบไร่นี้กันพอดี”
“หล่อนนี่มันคิดมากจนจะเพี้ยนนะจิตรา สองคนนั่นมีพิษมีสงอะไรให้หล่อนเห็นนักเหรอถึงคิดว่าพวกเขาจะฮุบไร่ แม่นางเองก็ตัวเล็กๆ อิทธิเองก็อายุยังไม่ถึงยี่สิบ พูดกันตรงๆ ต่อให้ฉันนอนพะงาบๆ อยู่ สองคนนั้นจะมีปัญญาโค่นต้นส้มทิ้งสักหนึ่งต้นได้มั้ยฉันก็ยังว่ามันยาก เออถ้าเป็นชายฉกรรจ์อย่างนายศรและลูกชายวัยหนุ่มอย่างนายสินก็ว่าไปอย่าง สองคนนั้นน่ะน่ากลัวกว่าแม่นางกับเด็กอิทธิเป็นไหนๆ”
“ต๊าย นายศรเขาช่วยดูแลไร่และเป็นหูเป็นตาให้ไร่เรารุ่งเรืองมาจนทุกวันนี้พี่จันทร์ยังจะคิดระแวงได้อีกหรือคะ”
“ฉันไม่ได้ระแวงฉันแค่เปรียบเทียบให้หล่อนเห็นภาพ”
“เป็นภาพในฝันของพี่จันทร์เองน่ะสิคะ นายศรไม่มีทางทรยศจิตรได้หรอกค่ะ จิตรรับเข้ามาทำงานเองกับมือ กว่าที่จิตรจะไว้ใจใครได้มันไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะพี่จันทร์น่าจะทราบดี การที่จิตรไว้ใจนายศรก็เท่ากับว่าจิตรเลือกคนที่ดีที่สุดให้แผ่นดินในไร่เราแล้วล่ะค่ะ”
“เหรอ ระวังเถอะมันจะเป็นหอกข้างแคร่เข้าสักวัน”
“นี่เป็นคำแช่งหรือคำเตือนคะ”
“นั่นก็สุดแล้วแต่หล่อนจะมอง เดี๋ยววันนี้ฉันจะออกตรวจไร่บ้าง หลานชายฉันโดนลอบทำร้ายแบบนี้ จะลองไปสืบความดูซิว่าใครมันเอาญาติหรือคนนอกมาอยู่ในไร่นี้แล้วไม่แจ้งเราบ้าง”
“พี่จันทร์ไม่ต้องลำบากหรอกค่ะ อยู่พักผ่อนเถอะ เดินมากเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาจะยุ่ง เดี๋ยวจิตรตามสืบเรื่องให้เองค่ะ”
“ตกลงหล่อนเชื่อแล้วเหรอว่าตาอาทีโดนลอบทำร้าย”
“เชื่อไปอย่างนั้นแหละค่ะ ทำอะไรเพื่อมันบ้างเผื่อมันจะเห็นเงาหัวของจิตร จิตรขอตัวล่ะค่ะ” เอ่ยจบจิตราก็ลุกผละไป จันทร์จวงมองตามหลังลอบยิ้มที่มุมปากนิดๆ เข้าใจว่าน้องสาวคงจะกลัวเสียหน้าและเสียฟอร์มหากจะบอกว่าจริงๆ ก็เชื่อในสิ่งที่นางบอกแล้ว เอาเหอะน่า แม้ตอนนี้เจ้าตัวจะมีทิฐิเล็กๆ อยู่บ้างในการทำเรื่องดีๆ เพื่อบุตรชายคนเล็ก แต่อย่างน้อยหล่อนก็เริ่มทำบ้างแล้ว มันคงเป็นสัญญาณที่ดีที่สองแม่ลูกจะได้พูดคุยกันดีๆ บ้างสักครั้งให้นางได้เห็นก่อนสิ้นลม

***************************************************************

ส้มกระฟัดกระเฟียดกลับไปยังเรือนพัก สินที่นอนเล่นอยู่ชานเรือนมองเห็นอาการจึงลุกนั่งเอ่ยถาม
“ใครไปทำอะไรเอ็งมานังส้ม ถึงกลับมาหน้าตาบูดบึ้งแบบนี้ตอนไปข้าก็ห็เห็นเอ็งระริกระรี้นี่”
“ยัยจิตรากับไอ้อิทธิ” คนแรกส้มบอกตามจริง แต่คนหลังหล่อนป้ายสีให้เต็มแปรงเพราะไม่อาจบอกพี่ชายได้ว่าอาทีเป็นคนปั่นรถจักรยานชนหล่อนเอง ทำได้อย่างไรล่ะ เพราะหากหลุดมือจากการจ้องจับพี่ชายน้องชายก็น่าจะเป็นตัวสำรองได้ดีอยู่
“ยังไงวะ ข้าไม่เข้าใจ สองคนนั้นไม่ถูกกันแล้วจะรวมหัวแกล้งเอ็งเนี่ยนะ เป็นไปได้เหรอ” สินทำหน้าฉงน ส้มเห็นอาการถึงกับหน่ายระอาแว้ดขึ้น
“โอ้ย พี่สินนี่โง่สมกับเรียนน้อยจริงๆ สองคนนั้นมันแกล้งส้มต่างที่ต่างเวลากัน ฮึ่ย”
“อ้าวอีน้องเวรนี่ กูพี่มึงนะโว้ย มาแว้ดๆ ใส่แบบนี้เดี๋ยวกูถีบไปโน่นเลยนี่"
”จะมาทำนักเลงใส่น้องตัวเองให้มันได้อะไรไอ้พี่สิน โน่นคนที่พี่ควรจะไปกร่างใส่เพื่อแก้แค้นแทนน้องคือยัยคุณจิตรกับไอ้อิทธิโน่น”
“นี่แสดงว่าสองคนนั้นทำเอ็งเจ็บใจมากเลยสินะถึงได้เคืองแค้นมาแบบนี้”
“ก็ยัยจิตรามันกันท่าส้มไม่ให้เจอพี่อาทิตย์ ส่วนไอ้อิทธิมันปั่นจักรยานชนส้มจนล้มลงข้างทาง”
“เรื่องอีนังคุณจิตรกูเข้าใจว่ามันหวงลุกชายมัน แต่เรื่องไอ้อิทธิมันกล้าทำกับเอ็งขนาดนี้เชียวเหรอ”
“ก็เออน่ะสิ ดีนะที่ฉันไม่ได้แผล ไม่อย่างนั้นนะฉันจะแจ้นไปฟ้องพ่อทันทีเลย”
“โอ้ย แค่เรื่องไอ้อิทธิเอ็งไม่ต้องให้ถึงมือพ่อหรอก ข้าจัดการให้เองก็ได้โว้ย”
“ได้อย่างนั้นก็ดีสิ เอามันให้น่วมเลยนะ หมั่นไส้นักเกาะแกะพี่อาทีอยู่ได้ นี่ถ้ามันเป็นผู้หญิงนะฉันจะตามตบเช้าตบเย็นให้หลาบจำเลยเชียว”
“เอ็งนี่มันสมเป็นลูกพ่อเป็นน้องข้าจริงๆ ว่ะนังส้ม”
“แน่นอนที่สุด ว่าแต่พี่จะไปจัดการไอ้อิทธิให้ส้มตอนไหนเหรอ”
“ตอนนี้ก็ยังไง ข้าคิดว่ามันคงอยู่ที่เรือนคนเดียวแหละตอนนี้ ป่านนี้แม่มันคงอยู่ที่เรือนสำนักงาน”
“งั้นไปสิ ส้มไปด้วยจะไปดูหน้าตามันหน่อยเวลาโดนพี่ชกต่อย”
“เอ็งจะไปทำไม เกะกะข้าเปล่าๆ อยู่ที่นี่แหละรอฟังข่าวอาการช้ำในของมันแล้วกัน”
สินบอกน้องสาวก่อนจะลุกลงจากเรือนแล้วเดินตรงไปยังเรือนของอิทธิ

***************************************************************

 ในขณะที่สินกำลังมุ่งหน้ามายังเรือนอิทธิ อาทิตเองก็กำลังด้อมๆ มองๆ อยู่ใกล้ๆ เรือนหลังนี้เช่นกัน ชายหนุ่มไม่แน่ใจนักว่าอิทธิจะอยู่ข้างในหรือไม่เลยไม่กล้าที่จะดุ่มๆ เข้าไป เสียงฝีเท้าที่ย่ำมาหนักๆ ทำให้ต้องหันไปมอง เห็นเป็นร่างของสินจึงพาตัวเองไปหลบหลังพุ่มไม้ใกล้ๆ มองสังเกตการณ์ว่าฝ่ายนั้นมายังเรือนหลังนี้ทำไม
“เรือนมันเงียบแบบนี้มันหมกตัวอยู่ในห้องแน่ๆ ดีล่ะกูจะได้ปิดประตูตีแมวกันให้หนำใจ บังอาจมาแกล้งน้องสาวกู” เสียงสินเอ่ยให้ได้ยินทำชายหนุ่มตกใจเมื่อพอจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอิทธิหากเจ้าตัวอยู่ในเรือนนั้นจริงๆ
สองขากำลังจะก้าวออกจากที่ซ่อนเพื่อแสดงตัวให้คนที่คิดแผนร้ายเห็นแต่แล้วต้องชะงักเมื่อโดนทักซะก่อน
“มาด้อมๆ มองๆ อะไรที่เรือนไอ้อิทพี่อาทิตย์”
เสียงนั่นเป็นของอาทีนั่นเอง ซึ่งกำลังมองสบตาพี่ชายอยู่
“ฉันยังไม่มีเวลาตอบนายตอนนี้ ขอตัวนะ” อาทิตย์รีบเลี่ยงออกมาจากร่างน้องชาย ตรงไปเดินขวางทางสินที่กำลังเดินดุ่มๆ มา
“มาทำอะไรที่นี่นายสิน” ชายหนุ่มเอ่ยทัก สินชะงักเท้าเงยหน้าขึ้นมองเรียกชื่อ
“คุณอาทิตย์”
“ใช่ฉันเอง ว่าแต่นายยังไม่ตอบเลยว่ามาทำอะไรที่นี่ทำไมไม่เข้าไปช่วยนายศรทำงานในไร่” อาทิตย์เอ่ยถาม ขณะนั้นอาทีเดินมายืนเคียงข้างพอดี
“ก็นี่ไง ผมก็เดินตรวจไร่อยู่นี่ไง” สินเอ่ยปด นึกขัดใจที่เจอสองพี่น้องหลานชายเจ้าไร่มายืนขวางทางการเข้าไปราวีอิทธิ
ทางด้านอิทธิซึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก ได้ยินเสียงพูดคุยจึงเยี่ยมหน้าออกมามอง พอเห็นว่าเป็นคนรู้จักทั้งสามคนจึงเดินออกมาถามไถ่ว่ามันเรื่องอะไรกันถึงต้องมาชุมนุมที่หน้าเรือนตนเช่นนี้
“กูก็มาหามึงตามปกติน่ะแหละไอ้อิท แต่กับสองคนนี้กูไม่รู้ว่ะ” อาทีเป็นฝ่ายตอบก่อนใคร พลางเดินไปยืนเคียงร่างเจ้าของเรือนมองใบหน้าพี่ชายและสินสลับกัน
“ผมก็มาเดินตรวจไร่ แต่คุณอาทิตย์ ผมไม่รู้” สินชิงตอบยียวน จ้องมองสบตาอาทีไม่ถอย แถมยิ้มเยาะส่งให้หน่อยๆ เมื่อนึกถึงตอนที่ตนทำร้ายเจ้าตัวคืนนั้น
“มายิ้มใส่หน้าเพื่อข้าแบบนี้ทำไมไอ้สิน” อิทธิเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยว่า ยิ่งเห็นแววตาและสีหน้าแบบนี้ของสินก็ยิ่งเชื่อแน่ว่าคืนนั้นอาทีคงโดนคนๆ นี้ลอบทำร้ายเป็นแน่
“เอ็งอย่ามาหาเรื่องข้าไอ้อิท ข้าก็มองของข้าไปเรื่อย” สินเฉไฉ อาทิตย์ที่ฟังอยู่จึงเอ่ยขึ้นอีกคน
“ฉันก็เห็นเหมือนอิทธิเห็นน่ะแหละ นายมีอะไรกับน้องชายฉันหรือเปล่า”
“ผมจะกล้าไปมีอะไรกับหลานชายคนเล็กของเจ้าของไร่ล่ะครับคุณอาทิตย์”
“แล้วกับอิทธิล่ะ ฉันรู้นะว่าที่นายมาที่นี่นายไม่ได้แค่เดินตรวจไร่หรอก” อาทิตย์เอ่ยดักคออีก คราวนี้อิทธิอดที่มองหน้าเจ้าตัวไม่ได้
“ปล่อยให้อันธพาลสองคนเขาเคลียร์กันเองเถอะไอ้อิท มึงกะกูอย่ายุ่งดีกว่า” อาทีเอ่ยว่าแล้วชวนเพื่อนซี้เดินกลับเข้าเรือน ขายังไม่ทันก้าวหนีก็ต้องชะงักไว้เมื่อได้ยินเสียงเอ่ยกระทบ
“ไม่อยากยุ่งเรื่องคนอื่นจะแอบไปยุ่งกันเองสองต่อสองเหรอครับคุณอาที”
เสียงนั่นเป็นเสียงของสิน อิทธิได้ยินเข้าใจความหมายถึงกับเลือดขึ้นหน้าจึงโผเข้าชกหน้าคนว่าจนเจ้าตัวหน้าหันสะบัด
“โทษฐานที่เอ็งปากดีนะไอ้สิน จำไว้ว่าอย่าพูดจาทำนองนี้ใส่ข้ากับไอ้อาทีอีก”
สินหันหน้ามามองร่างหนุ่มน้อย จากอารมณ์ขัดใจตั้งแต่ต้นผสมโกรธแค้นที่โดนชกหน้า จึงถือจังหวะที่ฝ่ายนั้นเผลอชกหน้ากลับ แล้วชี้หน้าเอ่ยกำชับ
“มึงมันแค่ลูกขี้ข้า มึงกล้าดียังไงมาสั่งกูไอ้อิท และที่กูมานี่คุณอาทิตย์พูดถูก กูไม่ได้มาตรวจไร่ แต่กูจะมากระทืบมึงที่ไปแกล้งน้องสาวกูเมื่อเช้านี้”
“เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่านายสิน คนที่แกล้ง…”
“แล้วไง กูเหม็นหน้าน้องสาวมึงพอๆ กับที่กูเกลียดขี้หน้ามึง กูพอใจจะแกล้งมึงจะทำไม คิดจะมากระทืบกู มึงคิดว่ากูไม่มีมือมีตีนหรือไง” อิทธิชิงเอ่ยตัดหน้าอาทีตอนที่เห็นเจ้าตัวกำลังจะอธิบายเรื่องราวเมื่อเช้า เด็กหนุ่มออกรับแทนเพื่อนเพราะไม่อยากให้เจ้าตัวตกที่นั่งลำบาก การที่ส้มไปรายงานพี่ชายว่าตนเองเป็นคนกลั่นแกล้งเมื่อเช้า เพราะยัยนั่นคงรู้ดีว่าหากบอกว่าเป็นอาที หนุ่มน้อยคนนี้คงโดนสินราวีเป็นแน่ ยัยส้มคงจะยังหวังกับอาทีน่ะแหละจึงปดพี่ชายไปแบบนั้น แต่ดูแล้วมันก็เข้าท่าดี เพราะเขาเองก็ไม่ต้องการให้อาทีเป็นคนผิดอยู่แล้ว อาทีปกป้องเขาหลายครั้ง แค่รับผิดแทนครั้งนี้ทำไมจะทำให้ไม่ได้
“ที่แท้เรื่องมันก็เป็นแบบนี้เองเหรอ ทำไมนายถึงอันธพาลกลั่นแกล้งได้แม้กระทั่งผู้หญิงอิทธิ” อาทิตย์หันมาต่อว่าอิทธิ หลังเข้าใจเรื่องราวเอาเอง
“อย่ามาต่อว่าไอ้อิทพี่อาทิตย์ เรื่องนี้ได้อิท…” อาทีกำลังจะอธิบาย แต่ต้องหยุดไว้อีกเมื่ออิทธิชิงเอ่ยอีกเช่นเคย
“มึงไม่ต้องพูดอะไรมากไอ้อาที กูไม่ถือสาคำพูดของพี่ชายมึงหรอก คนมันดีแต่ปาก ดีแต่เตือนคนอื่น ส่วนตัวเองทำอะไรไว้ไม่เคยสำนึก กูไม่ติดใจให้เสียเวลาหรอก”
“อย่าปากกล้ากับฉันให้มากนักนะอิทธิ ฉันกำลังจะรู้สึกดีกับนายอยู่แล้วนะ ทำไมจะต้องทำให้ฉันโกรธด้วย เฮอะ” อาทิตย์ว่ากลับทันควันเมื่อฟังคำพูดแดกดันจากปากอิทธิจบ อิทธิยิ้มเหยียดส่งให้เอ่ยกลับ
“ใครขอร้องให้คุณมารู้สึกดีกับผมเหรอครับ”
“พูดแบบนี้แสดงว่านายต้องการเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฉันไปจนตายเลยใช่มั้ยอิทธิ” อาทิตย์เอ่ยว่าอย่างรู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ  อิทธิเงียบคิดสักพัก ก่อนตอบกลับอย่างหนักแน่น
“ไม่ใช่แค่ไม้เบื่อไม้เมาหรอก คุณกับผมมันเป็นดังเส้นขนานที่ไม่มีทางมาบรรจบกันได้แล้วล่ะคุณอาทิตย์”
สถานการณ์เงียบงันลงเมื่ออิทธิเอ่ยจบ อาทิตย์หมดเรี่ยวแรงตอบโต้เมื่อเจอแววรั้นด้วยทิฐิที่เจ้าตัวส่งให้ตอนเอ่ยตอบ ในขณะที่สินเริ่มมึนงงที่อยู่ดีๆ คู่ราวีอิทธิกลับกลายเป็นหลานชายเจ้าของไร่แทนตน ส่วนอาทีเมื่อเห็นพี่ชายกับเพื่อนสนิทสู้สายตากันไม่ถอยจึงเอ่ยขึ้น
“กลับเรือนไปเถอะพี่อาทิตย์ ผมจะอยู่ทำการบ้านต่อกับไอ้อิท ส่วนนายสิน กลับไปทำงานในไร่ต่อซะ ฉันจะถือว่าเรื่องที่นายมาหาเรื่องไอ้อิทเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน เรื่องนี้จะไม่ถึงหูป้าจันทร์ แต่แค่ครั้งนี้นะ ขืนมีครั้งหน้าอีก อย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน”
หนุ่มหน่อยฉุดแขนเพื่อเดินกลับไปยังเรือนเมื่อเอ่ยจบ สินลอบมองตามด้วยแววตาและสีหน้าชิงชัง ในขณะที่อาทิตย์ดินหันหลังกลับเรือนช้าๆ หมดแล้วหนทางที่จะได้พูดจาดีๆ กับอิทธิ ชายหนุ่มไม่มีกะจิตกะใจที่จะอยู่ในไร่นี้ต่อจึงคิดว่าจะกลับกรุงเทพฯ เสียตั้งแต่พรุ่งนี้

***************************************************************
 “อะไรกัน นึกจะมาก็มา นึกจะกลับก็กลับ ไหนบอกหยุดเรียนได้หลายวันไง” จันทร์จวงเอ่ยถามหลานชายในตอนที่เจ้าตัวมาบอกเรื่องว่าจะขอลากลับกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้น
“เดี๋ยวปิดเทอมใหญ่ผมก็จะมาอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ากลับมาอยู่อยู่ที่นี่นานๆ คราวนั้นเลบยดีกว่า” อาทิตย์เอ่ยอ้าง ไม่รู้จะบอกผู้เป็นป้าว่าอย่างไรดีถึงสาเหตุที่ตัวเองรู้สึกห่อเหี่ยวใจพิลึกกับการอยู่ในไร่นี้ต่อ คำพูดและท่าทีชิงชังของอิทธิมีผลต่อจิตใจชายหนุ่มมากนัก
“อืม เอาไว้บอกแม่เราอีกทีแล้วกัน ป้าก็ถามไถ่ไปงั้นแหละ” จันทร์จวงบอก ไม่ติดใจถามถึงสาเหตุต่อ
“แล้วแม่ไปไหนเหรอครับ”
“ไปเดินตรวจไร่น่ะ เห็นบอกจะสืบตามเรื่องที่อาทีโดนลอบทำร้ายด้วย”
“จริงเหรอครับ นี่แม่ตามเรื่องนี้ให้อาทีจริงๆ เหรอครับ”
“ดีใจล่ะสิที่เห็นสัญญาณดีๆ แบบนี้ ป้าเองก็แอบดีใจเหมือนกัน สองแม่ลูกเขาจะได้พูดจากันดีๆ สักที”
“ผมก็หวังอย่างนั้นแหละครับ” อาทิตย์ยิ้มออกได้บ้างเมื่อเห็นว่ามารดาเริ่มทำตามคำที่ตนเอ่ยขอ หากมารดากับน้องชายตนหันมาพูดจากันดีๆ ได้แล้ว ก็หวังเหลือเกินว่าตนเองจะได้รับความเคารพจากน้องชายบ้าง แล้วอีกคนนั่นเล่า เขาจะทำอย่างไรดีนะ ให้เจ้าตัวยอมเปิดใจและรับฟังในสิ่งที่เขาอยากจะเอ่ย อยากจะพูดจากใจจริงๆ
ชายหนุ่มลอบถอนหายใจเมื่อนึกถึงภาพสีหน้าและแววตาแห่งความชิงชังที่อิทธิแสดงต่อตน


โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 14-03-2011 03:55:09
 :เฮ้อ:หนักใจ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-03-2011 05:10:42
อ่านอดึกๆแ้ล้วแอบ งง อาที อิทธิ  อาทิต อิอิ  ครอบครัวตัว อ.

ว่าแต่เรื่องนี้ตัวร้ายเยอะจริงๆอ่านแล้วกดดั้นกดดัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 14-03-2011 06:52:53
มาอัพตอนตี 3

ผมอ่านตอน 6 โมง เช้า

สู้ๆ คร้าบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-03-2011 08:24:39
อยากบอกว่านายอาทิตย์ "โง่" เหมือนแม่มันเลย -*-
ไม่ต้องมาท้อมาอะไรหรอก ทำตัวเองทั้งนั้น - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 14-03-2011 09:37:00
แวะมารออ่ะ
ดีจัยจังมาต่อแล้ว
แต่ตอนนี้มึนๆงัยไม่รู้เนอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 14-03-2011 09:42:00
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-03-2011 10:06:29
มาแล้วๆ วู้วว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 14-03-2011 10:49:42
อาทิตย์จะโง่ววว ไปนานขนาดไหนอ่าน่าน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 14-03-2011 10:58:10
อาทิตย์ก้นะ...งั่งดีแท้
ชิชะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: zeen11 ที่ 14-03-2011 12:51:16
ยังยืนยันว่า เปลี่ยนพระเอกเถอะค่ะ :m31: :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 14-03-2011 13:37:25
 o13 o13 o13

โดนใจจริงๆ กับประโยคนี้ "เราเป็นดั่งเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ"
เหมาะสมแล้ว กับการกระทำที่ผ่านมา มารู้สึกผิดหรือเสียใจตอนนี้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 14-03-2011 15:56:42
อยากให้เรื่องนี้เ้ด้งไปกระทบหูของพี่ผีเร็วๆจัง

อยากเห็นผีเดือด ฮ่าๆ จะเป็นศึกชิงนายโรบินรึเปล่าเนี่ย กรี๊ดๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-03-2011 16:14:26
โตซะเปล่า  เมี่อไหร่จะฉลาดสักทีนะ อาทิตย์!!!!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 14-03-2011 16:35:02
เฮ้อเมื่อไรจะหวานกันล่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-03-2011 18:29:39
อ่านตอนแล้วล่าสุดแล้วแบบว่า  o18
เดาไว้เล่นๆ ว่ามันอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้อาทิตย์ไม่ได้กลับกรุงเทพ แน่เลย หรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในไร่ทำให้อาทิตย์ต้องรีบกลับ
คนเขียนคงไม่เอาแบบว่า อิทธิ ไปเจอเอาที่กรุงเทพหรอกเนอะ
มันต้องให้อาทิตย์กลับมาที่ไล่พร้อมความแค้นสิขอรับ มันถึงจะมันส์ >.< โฮก!! อยากได้มาม่าเรื่องนี้ที่ซู๊ด!! me/  :z6: โดนเหล่านักอ่านคนอื่นถีบหัวส่ง ติดกำแพง

ร่ายมาซะยาว  :man1: เนื้อเื่รื่องจะเป็นยังไงก็จะติดตามต่อไปขอรับ 
รอๆตอนต่อไปโลด  :z2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-03-2011 18:49:44
ปากหมาหน้าเชรียใจทรามขนาดนั้นใครเขาจะพูดและญาติดีด้วยละไอ้อาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-03-2011 19:06:45
ไปๆ รีบกลับไปเลยไป อย่าให้อิทธิต้องรับมือกับหลายคนนัก
แค่นังแม่จิตรา กับครอบครัวไอ้สินก็อานแล้ว
จะมีใครเผยโฉมหน้าอันธพาลขี้โกงของครอบครัวไอ้สิน ให้นังแม่จิตราได้รู้ไหมนี่
อยากให้หล่อนได้รู้ได้เห็นไวๆจัง อยากให้หล่อนได้รู้จักคำว่าเจ็บใจอ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-03-2011 19:18:54
คิดไปคิดมา

อยากให้สินมันกลับตัวมาแอบชอบอิทธินะเนี่ย อิอิ

แต่สินเลวแบบนี้ก็ดี (ชอบคนเลว)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 14-03-2011 19:24:09
ต่อๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ชอร์ปสติ๊ก ที่ 14-03-2011 22:13:45
เหนื่อยใจกับพระเอกจริงๆ ค่ะ  :เฮ้อ:
แบบนี้มันจะคืบหน้ามั้ยเนี่ยยยย

อิทธิเกลียดขี้หน้าอาทิตย์มาแต่ไหนแต่ไร แต่ตัวเองดันชอบเขาก็ต้องทำตัวดีๆ สิคะ
นี่อะไร ปากบอกว่าชอบแต่ยังทำตัวแย่ๆ เหมือนเดิม :z6: :z6: :z6:

กว่าจะจบนี่ อิทคงไม่เป็นศัตรูกับตัวละครแทบทุกตัวในเรื่องหรอกนะคะ  o18
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: tombaza ที่ 14-03-2011 22:25:37
อยากอ่านต่ออ่ะ มันค้าง !!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 14-03-2011 22:30:35
อ๊ายมาต่อให้ร้องกรี๊ดอีกตลบแล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 14-03-2011 23:12:06
^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 14-03-2011 23:36:28
หนักใจแทนอาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 14-03-2011 23:40:18
ก็ต้องมาตามลุ้นกันต่อ  
แต่อยากอ่านต่อมากๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: art ที่ 15-03-2011 00:10:14
เฮ้ออออ...เมื่อไหร่จะได้กันอีกนะะะะ...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 15-03-2011 00:34:14
เอ๊อ..อ

อาทิตย์นี่เข้าข่ายพระเอกหลงตัวเองได้มะ?
ออกแนวข้าถูกตลอดประจำ...

ไม่ปั๊ดตะนา -__-"
อ้อ.. หลังๆตั้งใจ(?)จะทำดีกะอิทแล้วนี้
พัฒนาล้ง พัฒนาลง -___-"
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 15-03-2011 00:55:12
โอ้ยยยยยยยๆ หวานให้มดขึ้น ให้ป้าชื่นใจสักดอกหน่อยลูก :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 15-03-2011 04:48:01

วุ้ย อาทิตย์คะ:
Served you right!!!!
โส น้า หน้า 55
คุณ BBoy คะ:
ปล่อยให้ อาที พา อิฐ กับ คุณแม่นาง ไปก่อร่างสร้างตัวกันใหม่ดีกว่าไหมคะ
คนน่ารัก กับคนน่ารัก จริตค่อยเสมอกันดี
กิต.ว่า อาที ลึกๆแล้ว ก็แอบปลื้มอิทธิอยู่ไม่น้อยเลย
ปล่อยให้พวก ไร่นรก เขาอยู่กันไปตามเดิมเถิดค่ะ
จะให้เหมาะ จับคู่ สิน - อาทิตย์ ค่ะ....สมกั๊น สมกัน หุหุ

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 15-03-2011 21:09:55
ในที่สุดก็อ่านทันแล้วววววววววว :mc4: :mc4: :mc4:
เข้ามาอ่านก็ติดใจทันทีแบบว่าแนว ฮาร์ดคอมากกกกกอ่ะ
สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
น้องอิทธิ แมนได้ใจ แต่น่าสงสารชะมัดยาด....โดน :beat: บวก :z6: ตลอดเวลา เฮ้ย :เฮ้อ: น่าสงสารแม่นางกับน้องอิทธิ :sad4: :sad4:
รีบหาทางออกจากไร้ สารพัดพิษ เถอะนะ ถึงแม้จะจากอาทีไป แต่ชีวิตจะได้ไม่จมปลักอย่างนี้อีก :z3:
อาทิตย์ นี่แกก็ ซาดิสต์ :serius2:เหมือนกันนี่หว่า ชอบรุนแรงกับอิทธิ :m16: ทุกทีเลยยย :z10: แถม เป็นพระเอกที่ อ่อนไหวง่ายชะมัดอ่ะ :a6:
แล้วเมื่อไหร่จะได้รักกันละเนี้ยะ....เฮ้ยยยยยยยย :เฮ้อ:(อีกนานชั่ว :m29:)

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-03-2011 10:15:51
มารอค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-03-2011 11:34:35
ชะแว๊บเข้ามารอ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 16-03-2011 13:02:38
เข้ามาเป็นกำลังใจน่ะครับ  o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 16-03-2011 17:51:30
อาทิตย์นายเชื่อคนง่ายไปมั้ย -3-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 17-03-2011 00:45:24
 :z3: :z3: :z3: :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 17-03-2011 10:34:27
รอน้า~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-03-2011 10:55:07
เข้ามารอด้วยคนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-03-2011 16:10:44
เข้ามารอ คุณบอยอีกวัน อยากอ่านนนน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-03-2011 18:21:30
รออยู่น้า
อยากอ่านๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 19-03-2011 20:54:24
เข้ามารอ ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-03-2011 10:49:07
อยากอ่านๆๆๆๆT^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 17 อัพเดต 14.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-03-2011 16:24:43
ตอนที่ 18

จิตราออกตรวจไร่พร้อมกับนายศรและเพลินพิศที่หล่อนไม่ลืมเรียกมาตัวส่งเสริมบารมี ตรวจตราไปหล่อนก็บ่นไปตามนิสัย เห็นอะไรที่ขัดหูขัดตาหล่อนก็ดุด่าว่ากล่าวจนคนงานต้องหมอบหน้าไม่กล้าปริปากแย้งสักราย หล่อนไล่บี้หลายต่อหลายคนงานที่น่าจะเข้าข่ายการมีนิสัยเป็นอันธพาลมากที่สุดว่ามีใครบังอาจลอบทำร้ายบุตรชายคนเล็กของนาง เมื่อจับไม่ได้เนื่องจากไม่มีใครยอมรับ และหลักฐานการตามสืบอะไรก็ไม่มี หล่อนจึงได้แต่เอ่ยขู่ไปว่าหากจับได้จะเฉดหัวออกจากไร่ไปทั้งชั่วโครต เพราะมัวแต่เกรี้ยวกราดใส่ขี้ข้าชั้นคนงาน หล่อนจึงไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มเยาะจากขี้ข้าชั้นหัวหน้าอย่างนายศร กระทั่งตกบ่ายหล่อนจึงแวะเวียนไปยังเรือนสำนักงาน โดยปล่อยให้นายศรคุมคนงานต่อไป ส่วนเพลินพิศก็ตามไปเป็นข้าบารมีหล่อนเช่นเคย
“วันนี้เราจะได้ตบนังแม่นางกันมั้ยคะคุณจิตร” เพลินพิศเอ่ยถามอย่างนึกคะนองมือ จิตราแว้ดใส่ว่าเหนื่อยจากการเดินตรวจงานมาพอแล้ว คงไม่มีแรงเงื้อมือตบตีใคร
“แล้วเราจะไปที่นั่นทำไมคะ” เพลินพิศถามต่อ นึกเสียดายที่ไม่ได้เล่นบทร้ายในวันนี้
“อ้าว ฉันก็จะไปตรวจดูรายรับรายจ่ายของไร่ฉันบ้างสิ ไม่รู้ว่าอีแม่นางมันจะงุบงิบอะไรบ้างหรือเปล่า มัวแต่กลั่นแกล้งมันเรื่องนั้นเรื่องนี้ฉันก็เลยลืมนึกถึงเม็ดเงินที่มันดูแล วันนี้แหละฉันจะให้มันรายงานฉันให้หมดว่าเงินฉันกระเด็นกระดอนไปไหนมาไหนยังไง”
“ปกติคุณจันทร์กะคุณจิตรก็ตรวจอยู่ทุกเดือนไม่ใช่เหรอคะ”
“ก็ฉันจะตรวจวันนี้ตอนนี้แกมีปัญหาอะไรมั้ยนังพิศ”
“โอ้ย พิศจะกล้ามีปัญหาอะไรกับผู้มีพระคุณอย่างคุณจิตรล่ะคะ”
“ไม่มีก็ดี ฉะนั้นตามฉันมาเงียบๆ พอ ฉันพูดมากมาตั้งแต่เช้าแล้ว มันเหนื่อยรู้มั้ย”
“ค่า”
เพลินพิศรับคำแล้วเดินตามหลังเจ้านายไปเงียบๆ กระทั่งถึงจุดหมาย
“อุ้ย คุณจิตรมา” คนงานหญิงหนึ่งคนเอ่ยให้หลายๆ คนที่อยู่ในที่แห่งนั้นได้ยิน หนึ่งในนั้นคือแม่นางที่เงยหน้าจากกองสมุดบัญชีแทบจะทันทีที่ได้ยินเสียงบอกว่าใครมา
“ผงกหัวขึ้นมาเร็วดีนี่ยัยแม่นาง ที่ก้มๆ ใส่สมุดบัญชีฉันน่ะ แอบแก้ไขตัวเลขอะไรหรือเปล่า” จิตราส่งเสียงแว้ดทักทาย แม่นางถึงกับน้ำลายเหนียวฝืดคอ เหตุที่นางก้มมองสมุดบัญชีเมื่อครู่อย่างพินิจก็เพราะรู้สึกผิดปกติกับตัวเลขรายจ่ายของไร่ มันดูคล้ายๆ ว่าใครมาแก้ไขตัวเลขยังไงอย่างงั้น รายการนี้อยู่ในสมุดจดขั้นต้นซึ่งยังไม่ถูกบันทึกลงในบัญชีหลักจริงๆ ซึ่งปกตินางก็เก็บไว้ในลิ้นชักส่วนตัวอยู่แล้ว ใครกันจะมาเปิดเอาไปแก้ไขตัวเลขได้
“ถามไม่ตอบ ไหนเอาบัญชีประจำเดือนนี้มาดูซิ” จิตราเดินไปคว้าสมุดบัญชีเล่มนั้นมาถือไว้ในมือ แม่นางได้แต่สูดลมหายใจ คิดเอาว่าจิตราจะเห็นความผิดปกติอย่างที่ตนเห็นหรือไม่
จิตราพินิจไล่ตัวเลขไปช้าๆ มีบ้างที่สายตาชำเลืองมองมาทางคนจัดทำ ซึ่งทุกครั้งที่มองฝ่ายนั้นก็หลบสายตาตลอด จากที่ไม่คิดอะไรตั้งแต่ต้น จึงเริ่มจับพิรุธมองพินิจตัวเลขใหม่อีกรอบ เอ่ยขึ้นเมื่อรู้สึกเห็นความผิดปกติที่ไม่สมดุลเช่นกัน
“ฉันจะเอาบัญชีนี้ไปให้พี่จันทร์ดู”
“อย่าเพิ่งได้มั้ยคะคุณจิตร ดิฉันคิดว่ามันมีข้อผิดพลาดบางอย่างอยู่” แม่นางรีบเอ่ยท้วง จิตราเอ่ยมาแบบนี้ก็แน่แล้วล่ะว่าหล่อนคงเห็นตัวเลขผิดปกติอย่างที่นางเห็น ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของตัวนางเองหรือฝีมือใครนางก็สุดจะคาดเดาอยู่ตอนนี้ แต่หากว่ายื้อสมุดเล่มนั้นไว้กับตัวเพื่อทำการตรวจสอบ นางมั่นใจว่านางรู้สาเหตุแน่ๆ ว่ารายจ่ายมันหายไปไหนมากมาย ในขณะที่รายรับมันช่างน้อยนิดจนน่าตกใจ แต่จิตรานั่นเล่าจะให้โอกาสนางหาสาเหตุหรือเปล่า
“ฉันจะเอาไปวันนี้ เดี๋ยวนี้ หล่อนเตรียมตัวกระเด็นออกจากไร่นี้ได้เลยยัยแม่นาง เพราะแค่ฉันดูคร่าวๆ ฉันก็เห็นแล้วว่าหล่อนทำบัญชีผิดพลาด” จิตราเอ่ยตามสิ่งที่เห็นจริง หล่อนยิ้มเหยีดส่งให้ให้กับคนที่พูดอะไรไม่ออกก่อนจะชวนเพลินพิศกลับเรือนหลังใหญ่พร้อมสมุดบัญชีในมือ
“หวังว่าคุณจันทร์คงไม่คิดอย่างที่คุณจิตรคิดนะ” แม่นางได้แต่เอ่ยภาวนาตามหลัง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ให้กับปัญหาที่ตนจะต้องตามสะสางอีกเป็นแน่ ระหว่างนั้นนายศรเดินกลับเข้ามาในเรือนสำนักงานพอดี นางขี้เกียจเผชิญหน้าด้วยจึงคิดจะเดินกลับโต๊ะทำงาน แต่แล้วก็ต้องชะงักกับเสียงทัก
“ท่าทางเครียดๆ นะแม่นาง เมื่อกี้ข้าเดินผ่านคุณจิตรเห็นสมุดบัญชีอยู่ในมือ สงสัยจังเลยว่าคุณจิตรเอาไปทำไม”
“คุณจิตรเป็นเจ้าของไร่ แปลกตรงไหนที่เธอจะเอาบัญชีไปตรวจ” แม่นางหันมาว่า ไม่ชอบใจเอาเสียเลยกับรอยยิ้มเยาะของคู่สนทนา
“ไม่แปลกหรอกถ้าบัญชีมันไม่ผิดปกติ” หลังยิ้มเยาะเสร็จนายศรก็เอ่ยบอกตามนั้น ถึงคราวนี้แม่นางมองจ้องหน้าถามกลับอย่างมีชั้นเชิงบ้าง
“นายศรพูดเหมือนกับรู้เลยนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับบัญชีเล่มนั้น”
“นี่เอ็งอย่ามาสงสัยอะไรข้านะ เรื่องบัญชีของเอ็ง ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น” นายศรออกอาการร้อนตัวโวยวาย แม่นางจึงเอ่ยให้ได้สะอึกว่า
“ฉันยังไม่ได้สงสัยอะไรนายศรเลยนะ ก็แค่ถามดูไปอย่างนั้น แต่ท่าทีนายศรดูร้อนรนพิกล”
“นี่เอ็งอย่ามาเล่นลิ้นกับข้านะแม่นาง ข้าเป็นหัวหน้าคนงานที่นี่ข้าจะทุจริตที่ทำกินไปเพื่ออะไร” นายศรเผลอเอ่ยออกไปอย่างลืมตัว แม่นางถึงกับสะดุดกึก นางยังไม่ทันได้กล่าวหาอะไรที่นายศรก็ชิงแก้ตัวแบบนี้ มันช่างมีพิรุธนัก ครั้งหนึ่งนางก็เคยจับได้ว่าหัวหน้าคนงานผู้นี้เคยโกงกินเงินรายได้ของไร่มาแล้ว แต่ก็รอดไปตอนโดนถามสืบเอาความ แล้วครั้งนี้ล่ะ เป็นไปได้มั้ยว่าความผิดปกติในบัญชีของนางเป็นฝีมือคนผู้นี้
“อย่ามามองข้าแบบนั้นนะ ข้าไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ถ้าขืนข้าโดนเรียกสอบอีกหนล่ะก็ เอ็งกะข้าคงจะอยู่ร่วมไร่กันไม่ได้แน่” นายศรเริ่มนึกหวั่นในสายตาที่แม่นางจ้องมอง นางผู้นั้นบทมันจะอ่อนแอก็โศรกโศกาซะน่าหมั่นไส้ แต่บทมันจะจ้องจับผิดใครสักคน แววตามันช่างมาดมั่นนัก
แม่นางละสายตาจากคนเอ่ยขู่ ไม่ใช่เพราะนึกกลัวหรือเกรง นายศรไม่ใช่คนมีพระคุณอะไรกับนางไม่มีเหตุผลใดที่นางจะรู้สึกเช่นนั้น แต่ที่ต้องละสายตาเพราะหากใช้สายตาไล่บี้เอาความจริงจากคนปากแข็งตอนนี้ก็ใช่ว่าจะได้เรื่องอะไร รอให้ถึงเวลาเจ้าของไร่เรียกสอบสวนซะก่อนเถอะ ถึงเวลานั้นนางก็พร้อมจะชี้แจงพร้อมกับถามไถ่ว่าใครกันที่ถือกุญแจลิ้นชักเก็บเอกสารของนางไว้อีกชุด หากผู้ที่ถูกชี้ตัวคือหัวหน้าคนงานอย่างชายผู้นี้ ถึงครานั้นนางก็พร้อมจะใช้ความบริสุทธิ์ใจของตัวเองชี้เป็นชี้ตายว่าใครกันแน่ที่จะกระเด็นออกจากไร่แห่งนี้ก่อนกันระหว่างนางกับผู้ที่มีกุญแจลิ้นชักเอกสารสำคัญเช่นนางอย่างนายศรนี่
เมื่อเห็นแม่นางเลิกสนใจนายศรจึงเดินดุ่มๆ ออกจากเรือนสำนักงานโดยเร็ว อยู่ไปก็ใช่ว่าจะมีอารมณ์ทำอะไร เพราะยอมรับว่าสายตาจับผิดเมื่อครู่ของคนคุมบัญชีมันเชือดเข้าไปถึงกลางใจจนนึกหวั่นว่าจะโดนเรียกสอบสวนอีกรอบ นึกแล้วก็ฉุนนัก หูตาอีนังนี่พอจ้องดีๆ มันแกร่งเกินกว่าหญิงบ้านป่าซื่อๆ เป็นไหนๆ อยากจะรู้จริงเชียวว่าก่อนมันจะมายึดหน้าที่คุมบัญชีไปได้มันย้ายรกรากมาจากไหนอียัยแก่จันทร์จวงนั่นถึงกล้าไว้ใจให้มันดูแลเงินทองของไร่ได้
ลับหลังนายศรไปแล้วแม่นางลอบมองตามหลัง ถอนหายใจอย่างนึกระอา หากว่าความผิดปกติทางบัญชีของนางเป็นฝีมือของฝ่ายนั้นจริงๆ ก็น่าเป็นห่วงนักหากว่าตอนนางย้ายออกไปจากไร่นี้เมื่อบุตรชายเรียนจบชั้นมัธยมหกแล้วชายผู้นี้ถือจะวิสาสะและบารมีการเป็นหัวหน้าคนงานเข้ามาดูแลงานส่วนนี้แทนนาง
ที่เรือนหลังใหญ่จิตราเอาสมุดบัญชีเข้าไปรายงานพี่สาวทันทีถึงความผิดปกติที่เห็น จันทร์จวงที่เกิดอาการเหนื่อยๆ เพลียๆ ตามวัยปฏิเสธที่จะพิจารณาเพราะเชื่อและไว้ใจคนคุมบัญชีที่นางเป็นคนมอบตำแหน่งให้เองว่าไม่น่าจะทำอะไรผิดพลาดร้ายแรง หนำซ้ำคนที่หอบบัญชีมาก็เป็นน้องสาวที่จ้องจะหาเรื่องคนของนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน นางเลยไม่ค่อยอยากสนใจนัก บัญชีนี้ถึงสิ้นเดือนนางก็ต้องตรวจอยู่แล้ว เลยคิดเก็บเอาไว้ดูรวบยอดเอาตอนนั้นเสียทีเดียว
“โอ้ย ไว้ใจมันเข้าไปเถอะค่ะ มันสูบเงินจากไร่ไปเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้เนี่ย” จิตราออกอาการหงุดหงิด หล่อนไม่มีอำนาจพอที่จะจัดการเรื่องเงินๆ ทองๆ ได้เท่ากับพี่สาวจึงคิดจะลงทัณฑ์แม่นางได้ไม่เต็มที่นัก ที่ทำได้คือแค่เหวี่ยงสมุดบัญชีไปให้พ้นตัวแล้วลุกก้าวฉับๆ ลงจากเรือนไปตามหาบุตรชายคนโตที่วันนี้ยังไม่ได้พูดคุยกันสักเท่าไหร่นัก พี่สาวหล่อนบอกแล้วว่าเจ้าตัวก็ออกไปเดินเล่นในท้องไร่ตามประสา คงจะไปเก็บส้มอยู่กับคนงานสักมุมในไร่นั่นแหละ
“ชีพจรลงเท้าเหรอคะวันนี้เดินบ่อยจัง” เพลินพิศแอบบ่นให้เจ้านายตอนโดนเรียกตัวให้ตามไปรับใช้เช่นเคย
“มึงอย่าบ่นได้มั้ยอีพิศ เดี๋ยวกูเอาส้มยัดปากกลางท้องไร่เลยนี่” จิตราบอกอย่างอารมณ์เสีย แล้วเดินนำไป ถามคนงานถึงที่อยู่ของบุตรชายจึงได้คำตอบว่ากำลังเก็บส้มอยู่กับเหล่าคนงานในส่วนไร่ทางทิศเหนือ หล่อนจึงตามไปเพื่อให้ได้พูดคุยและเห็นหน้าจะได้อารมณ์ดีขึ้น
ทางด้านอาทิตย์นึกเบื่อหน่ายที่อยู่ดีๆ ส้มลูกสาวนายศรตามมาเจอตัวตอนที้เขากำลังง่วนอยู่กับคนงาน เด็กสาวนั่นเข้ามารบเร้าว่าอยากจะเดินชมไร่พร้อมชายหนุ่ม บ่ายเบี่ยงไปยังไงฝ่ายนั้นก็กระเง้ากระงอดบอกว่าเสียใจบ้างล่ะ น้อยใจบ้างล่ะ ที่นานๆ เขาจะกลับมาไร่ทีแต่ไม่มีเวลาให้กับเธอเลย ในใจก็อยากจะถามว่าเป็นอะไรกันเหรอถึงต้องมีเวลาให้ แต่ไม่อยากเห็นอาการงอแงเลยเลือกที่จะเงียบซะแล้วทนๆ เดินคู่ไปเพื่อชมไร่สวน เพราะคิดว่าไหนๆ รุ่งเช้าตนก็จะกลับกรุงเทพฯ แล้ว ทนๆ เบื่อไปสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็เอา
ระหว่างเดินไปนั้นส้มก็ถือโอกาสเกาะแขนชายหนุ่มตลอดทาง ไม่สนสายตาใครจะมอง กระทั่งได้หยุดเผชิญหน้ากับจิตราที่เดินเข้ามาขวางทางพร้อมกระชากมือเด็กสาวออกจากตัวบุตรชาย
“โอ้ย ส้มเจ็บนะคะคุณจิตร” ส้มออกจริตแกล้งเจ็บกลับเข้าออเซาะอิทตย์อีกหน คราวนี้จิตราจึงเพิ่มแรงกระชากให้มากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้สาวน้อยเจ็บขึ้นมาจริงๆ จนเก็บอาการไม่พอใจไม่อยู่ลืมตัวถลึงตาสู้คนกระชาก
“ต๊าย! อีส้ม ที่ยืนต่อหน้าเอ็งตอนนี้น่ะคุณจิตรนะ เอ็งมาถลึงตาใส่แบบนี้ได้ไง” เพลินพิศขนลุกซู่ไปทุกเส้น มองเห็นเงารางๆ ว่าชะตาลูกสาวหัวหน้าคนงานจะขาดเอาก็คราวนี้ และก็เป็นจริงตามคาด เมื่อสิ้นเสียงหล่อน เสียงดังเพี๊ยะก็สนั่นตามมา
“บ๊ะ! อีพิศว่าแล้วไง” สาวใช้ตบมือฉาดใหญ่เมื่อเห็นภาพใบหน้าฉาบเครื่องประทินผิวของส้มหันสะบัดไปเพราะแรงฟาดฝ่ามือของเจ้านายตน
“แม่ แม่ตบหน้าส้มทำไม ไม่รุนแรงไปหน่อยเหรอครับ” อาทิตย์ตกใจกับภาพที่เห็น จึงเอ่ยถามมารดา
“สั่งสอนมันไงที่บังอาจมายืนจ้องหน้าแม่ มันเป็นใคร แม่เป็นใคร ลูกก็อีกคน ทนให้มันเดินเกาะแข้งเกาะขาโชว์คนงานไปได้ เกิดพวกมันสุมหัวนินทาเข้าใจผิดกันไปใหญ่จะว่ายังไง” จิตราเอ่ยระบาย ในขณะที่ส้มข่มอารมณ์โกรธเกลียดเอาไว้ข้างใน สิ่งที่แสดงออกมาแทนอารมณ์นั้นคือภาพสาวน้อยที่ร้องห่มร้องไห้ซบอกบุตรชายเจ้าของฝ่ามือพิฆาต
“พี่อาทิตย์ ส้มทำผิดอะไร ทำไมแม่พี่อาทิตย์ทำกับส้มแบบนี้” สาวน้อยคร่ำครวญ อาทิตย์ที่ตามไม่ทันจริตสาวจึงเผลอยกมือขึ้นโอบไหล่ แต่ก็ไม่วายตกใจรอบสองเมื่อมารดาจับตนแยกร่างออกจากคนในอ้อมอกอีกครั้ง
“ถือดียังไงมาร้องห่มร้องไห้ซบอกลูกชายฉันนังส้มเน่า” จิตราเอ่ยตวาดใส่หน้าลูกสาวหัวหน้าคนงานทันทีที่จับร่างบุตรชายมายืนข้างตนได้สำเร็จ ส้มลืมตัวตวาดกลับเมื่อทนต่อการกระทำของจิตราที่ยิ่งกว่าแม่จงอางหวงไข่
“พี่อาทิตย์เขาไม่เห็นว่าอะไรส้มเลย คุณจิตรจะมาแว้ดๆ ใส่ส้มทำไมกันคะ ฐานะส้มก็ไม่ได้ต่ำต้อยอะไร เป็นถึงลูกคนงานของไร่ เดินควงลูกชายเจ้าของไร่แค่นี้คนเห็นมีแต่จะว่าเหมาะสมกัน จะกลัวอะไรคะกับคำนินทาหากจะมีคงเกิดจากพวกที่ขี้อิจฉาเท่านั้นแหละค่ะ”
“ต๊าย หล่อนช่างกล้ามาพูดต่อหน้าฉันแบบนี้นะแม่สาวส้ม การที่หล่อนเป็นลูกคนงานในไร่ก็ใช่ว่าจะเหมาะสมกับลูกชายฉันที่กำลังจะเรียนจบชั้นสูงส่งในเมืองหลวง สะไภ้ของฉันต้องมีศักดิ์มีศรีและมีการศึกษาเท่าเทียมกันเท่านั้น อย่างหล่อนอย่ามาสะเออะอ่อยซะให้เป็นที่หัวเราะเยาะจากเหล่าคนงานว่าไม่เจียมกะลาหัว แล้วการที่หล่อนมาแว้ดๆ ตอบฉันแบบนี้หล่อนคิดว่ามันสมควรมั้ย พ่อหล่อนเป็นคนสนิทฉันก็จริง แต่ยังไงก็เป็นขี้ข้าอยู่วันยังค่ำ ฉะนั้นจงสำนึกข้าวแดงแกงร้อนที่ฉันให้หล่อนได้กินอยู่ครบทุกมื้อ วันนี้ฉันจะแค่คาดโทษหล่อน แต่หากวันหน้าหล่อนมีพฤติกรรมกำเริบกับฉันแบบนี้อีกละก็ พ่อหล่อนก็ช่วยหล่อนไม่ได้หรอกหากฉันคิดจะเฉดหัวหล่อนให้พ้นจากเงาต้นส้มในไร่ของฉันจำเอาไว้”
หลังร่ายจบนิ้วชี้ที่เคยจิ้มหน้าผากใครต่อใครจนหงายหลังมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ถูกนำมาใช้กับหน้าผากของคนตรงหน้าบ้าง
ส้มหงายหลังจนเกือบจะล้มเมื่อโดนนิ้วมือของจิตราจิ้มเข้าหน้าผากสุดแรง นึกอยากจะกรีดร้องระบายอารมณ์โกรธเกลียดที่กระอักสุมในอก แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะเกรงว่าจะเสียภาพลักษณ์สาวน้อยที่ถูกรังแกในสายตาอาทิตย์ ความคิดที่จะแสดงจริตออกมาจึงแล่นเข้ามาในหัวแทนที่การกรีดร้อง แต่ยังไม่ทันทำอะไร หญิงร้ายอย่างจิตราก็เดินจูงแขนคนที่ตนต้องการออกจริตให้เห็นอย่างอาทิตย์จากไปเสียก่อน จึงได้แต่ยืนกำหมัดแน่นขบกรามมองตามหลัง
“กล้ากับใครไม่กล้า มากล้ากับคุณจิตรของกู โธ่อีโง่ส้มเน่า” เพลินพิศเอ่ยว่าเหยียดๆ ก่อนหัวเราะคิกคักเดินตามหลังเจ้านายไปอีกคน คำพูดและอาการนั่นยิ่งสร้างความชิงชังให้กับส้มที่มีต่อจิตรามากเท่าทบทวี

************************************************************************
   
มืดลงแล้วอีกวัน อาทียังคงขลุกอยู่กับอิทธิ แม้ว่าการบ้านที่ช่วยกันทำจะเสร็จไปแล้วก็ตาม สองหนุ่มออกมานั่งพิงหลังกันตรงชานเรือนเพื่อรับลมเย็นๆ ที่พัดเข้ามาจากทางไร่ แสงดาวเริ่มพราวให้เห็นบนท้องฟ้าเหนือท้องไร่ เมื่อแสงตะวันดับไป
“หลายคืนแล้วนะเนี่ยที่พระจันทร์ไม่เคยเต็มดวงให้กูเห็นเลย” อาทีเอ่ยขึ้นก่อนตอนที่สายตามองดูดวงดาวน้อยใหญ่เบื้องบน
“มึงไม่ชอบแสงดาวเหรอ” อิทธิเอ่ยถาม
“ก็ชอบ แต่กูก็อยากเห็นพระจันทร์เต็มดวงบ้างนี่หว่า”
“ทำไม มึงจะอธิษฐานอะไร”
“อธิษฐานว่าให้แม่นางกลับมาเร็วๆ กูหิว”
“ห่าเอ้ย กูนึกว่าจะทำซึ้งขอโน่นขอนี่”
“ถึงกูขอกูก็ไม่บอกมึงหรอก เดี๋ยวพรเสื่อม”
“อ๋อ นี่มึงกล้ามีความลับกะกูเหรอ”
“ทำไมกูจะไม่กล้า”
“พูดแบบนี้แสดงว่ามีอ่ะดิ”
“แน่นอน”
“บอกกูมาเดี๋ยวนี้ปิดบังอะไรกูไว้”
“จะรู้ไปทำไม มึงมันก็แค่ลูกคนงาน เรื่องของหลานเจ้าของไร่ไม่รู้สักเรื่องได้มั้ย เฮอะ”
“พูดแบบนี้ลุกมาต่อยกะกูดีกว่ามา แม่งขอไว้สักคนเหอะว่ะครอบครัวมึงอ่ะ อย่าให้มันมากนักเรื่องชนชั้นวรรณะน่ะ”
“โธ่เอ้ย กูพูดเล่น เชี่ยต่อยกะมึงกูก็น็อคอ่ะดิ อย่ามึงอ่ะถูกแล้วที่เป็นคู่ปรับกับพี่ชายกู”
“มึงอย่าพูดถึงพี่ชายมึงได้มั้ย บรรยากาศเสียหมด”
“อะไรจะขนาดน้านเพื่อนกู แค่เอ่ยถึงก็ไม่ได้เลยหรือไง”
“ไม่ได้โว้ย พูดถึงแล้วของขึ้น”
“ของขึ้นหรืออะไรขึ้นกันแน่จ๊ะ พี่ชายกูยิ่งหล่อๆ อยู่ด้วย”
“ปากหมานะไอ้อาที เดี๊ยะ ได้กินข้าวต้ม”
“ดุ ทำเป็นดุ เออว่าแต่ทำไมป่านนี้แม่นางยังไม่กลับอีกอ่ะ หิวนะเนี่ย”
“โอ้ย มืดกว่านี้ก็เคยมี แม่กูอ่ะขยัน ไม่เหมือนแม่มึงหรอก ขยันเหมือนกัน แต่ขยันหาเรื่องชาวบ้าน”
“อ้าว จะชมแม่ตัวเองก็ชมไป ไหงมาว่าแม่กูซะงั้น เดี๋ยวโดน”
“อ๊ะ อ๊ะ เห็นทะเลาะกับแม่บ่อยๆ จริงๆ ก็รักอยู่ล่ะสิ ปกป้องกันเชียว”
“กูรู้จักแยกแยะต่างหากโว้ย แม่กูจะร้ายจะดียังไงก็แม่กู เพียงแต่ที่กูต่อต้านเพราะท่านทำไม่ถูกในหลายๆ เรื่องต่างหากล่ะ”
“เออกูเข้าใจ แม่ใครใครก็เคารพ กูขอโทษ”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก จริงๆ สิ่งที่แม่กูทำกับกับมึงกับแม่นางมันก็สมควรแล้วที่มึงจะว่า”
“อืม เลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะว่ะ เครียดเปล่าๆ ว่าแต่มึงอ่ะจะอยู่กินข้าวกะกูเหรอ”
“อืม”
“จะดีเหรอวะ มาอยู่กะกูทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ เดี๋ยวแม่มึงก็ตามมาอาละวาดอีกหรอก”
“บอกแล้วไงว่าช่วงนี้เขาเห่อพี่อาทิตย์อยู่ พี่อาทิตย์กลับโน่นแหละถึงจะมาสนใจกู”
“อืม งั้นก็แล้วแต่มึงละกัน ว่าแต่ตอนนี้หิวมากมั้ย กูพอจะทำกับข้าวเป็น เดี๋ยวกูทำให้กิน”
“จริงเหรอ มึงทำอะไรเป็นอ่ะ”
“ไข่เจียว”
“ห่าเอ้ย กูก็นึกว่าจะมีอะไรพิสดารกว่านี้”
“จะกินมั้ยล่ะ”
“รอแม่นางมาก่อนก็ได้”
“ก็บ่นหิวนี่หว่ากูก็ห่วงว่าจะเจ็บท้องเอา”
“ห่วงกูจริงเหรอ”
“เออสิวะ มีอยู่คนเดียวนี่แหละตามกูอยู่เช้าเย็น ไม่ห่วงมึงกูจะไปห่วงใคร”
“เฮ้อ ได้ยินแบบนี้ดาวแม่งมันดูสวยว่ะ”
“อ้าวไม่อยากดูพระจันทร์เต็มดวงแล้วหรอกเหรอ”
“ไม่อ่ะ นั่งมองดาวกับมึงแบบนี้แหละ เข้าท่าดีเหมือนกัน”
“เข้าท่าก็รีบมองเข้า โตขึ้นคงไม่มีโอกาสแบบนี้บ่อยนักหรอก” เอ่ยจบอิทธิก็ได้แต่ถอนหายใจ นึกถึงวันสุดท้ายที่ตนจะต้องออกจากรั้วโรงเรียนพร้อมก้าวออกจากไร่แห่งนี้แล้วก็อดที่จะใจหายไม่ได้
อาทีเอ้ย กูจะบอกมึงยังไงดีว่ากูหมดความอดทนที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปได้แล้ว

โปรดติดตามตอนต่อไป

อ่านเรื่องนี้จบ  ขอฝากไว้อีกหนึ่งกระทู้นะครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23396.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23396.0)

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 20-03-2011 16:42:04
กรี๊ดด ได้จิ้มคนแรกก แวบไปอ่านก่อนน

...............................................................

เหวยๆ อินังส้ม มากไปและ ของใครให้มันรู้ซะบ้างงง 55
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 20-03-2011 16:49:09
ชอบๆ ต่ออีกน้า ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 20-03-2011 17:48:14
ออกไปเร็วๆเถอะ

อยากรู้ว่าต่อจากนั้นใครมันจะหัวเราะ

แต่ไม่เอาบรรดาตัวร้ายหัวเราะที่หลังน่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 20-03-2011 18:45:25
น้องอิทธิ อยากออกแล้ว พี่อาทิตย์ จะทำไงดี รีบๆ คิดซะหละ เด๋วอดแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-03-2011 19:53:11
พระเอกนี่.......โง่เนอะ เหอๆ โดนหลอกตลอด ฟังใครมาก็เชื่อซะหมด
อ๊ะ! ไม่ได้สิ ต้องบอกว่าซื่อ(บื้อ)สินะ เขาเป็นพระเอก ต้องดูดีหน่อยนึง
ส่วนคุณจิตรา คิดว่าคงไม่ตายดีแหง ๆ ครอบครัวนังส้มเอาตายแน่ ๆ ยิ่งแค้น ๆ อยู่ หึ ไม่สงสารเลย 555+
ส่วนหนูอาที (เปลี่ยนคำขึ้นต้นทันใด 55+) ไปแซวอะไรหนูอิทเขา เดี๋ยวความจริงก็เปิดเผยหรอก 55+ แซวไปเถอพ เราชอบ เอิ๊ก~ เดี๋ยวอีกไม่นานก็ไม่มีใครให้แซวแล้ว เพื่อนเราน่ะมันทนไม่ไหวแล้ว อยากอ่านตอนที่อิทธิออกจากไร่นี้จัง โฮะๆ อยากเห็นนายอาทิตย์กับจิตราทรมาน^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: inimeg ที่ 20-03-2011 20:54:20
กี๊สๆๆๆๆๆ เน่าเฟะมาก โดนเส้นสุดริด บุ๊คมาร์คแร้วฮัฟ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 20-03-2011 21:28:23
อิทใกล้จะออกจากไร่เเล้ว
ถึงตอนนั้นอยากรู้จริงว่าอาทิตย์จะทำยังไง หึหึ

เเต่บรรยากาศตอนนี้ของอาทีกับอิทเเอบโรเเมนติกนะ 555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 20-03-2011 21:39:06
ถ้าถึงวันที่อิทธิจะไม่อยู่ในไร่นี้แล้วอาทีจะทำยังไงหล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 20-03-2011 23:17:56
เซ็งป้าจิตร :เฮ้อ:

อิทกำลังจะไปแล้ว คุณพระเอกจะทำไงละเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rawint_PK ที่ 21-03-2011 01:56:25
ไม่รู้ว่าคนที่เสียใจจะเป็นใครกันแน่..
แต่คิดว่า
คงไม่มีใครมีความสุขแน่นอน..
เอาใจช่วยอิทธิให้สามารถแก้ปัญต่างๆให้ลุล่วงด้วยดีครับบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: matame ที่ 21-03-2011 13:25:07
ไปเลยอิทธิ ชักอยากเห็นคนทุรนทุราย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-03-2011 13:35:29
อาทิตย์ตกลงเมิงเป็นพระเอกหรือเปล่าเนี่ยะ  ทำไมมีแค่หล่ออย่างเดียวล่ะ
น่าจะให้อิทธิเป็นพระเอกมากกว่านะ  เฮ้อออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 21-03-2011 13:58:41
ยิ่งอ่าน ยิ่งเบื่อครอบครัวอาทิตย์อ่ะ เซ็งเป็ด!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 21-03-2011 14:04:02
เกลียดจิตรา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 21-03-2011 14:41:34
ศสั้นแหะตอนนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 21-03-2011 19:12:49
มาม่าอืดไปหมดแล้วครับ
เมื่อไหร่ชีวิตอิทธิจะเห็นแสงสว่างซักทีนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 21-03-2011 19:25:55
คะแนนพระเอกติดลบเลยแฮะ 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Samudra ที่ 21-03-2011 21:14:17
ตามมาทันแล้ว เย้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 21-03-2011 21:53:00
อาทิตย์จะทำอะไรก็รีบทำมัวแต่ใจเย็นเดี๋ยวพลาด อิทออกจากไร่แล้วจะแย่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 21-03-2011 22:40:22
ขอบอกว่า :m4: สะใจอ่ะ.....ยัยชะนีส้มเน่า โดนตบ ถึงจะไม่ชอบ คุณจิตตก ก็เถอะนะ
สงสารก็แต่แม่นางกับน้องอิทธิ :เฮ้อ: เมื่อไหร่จะเดินไปพบทางสว่างสักที เฮ้ยยยยยย
สงสารรรร :o7: :o7:

ปล. รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ writter อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จะรอตอนต่อไปค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 21-03-2011 23:01:05
ท่าทางงานนี้แม่นางจะแย่.......คุณ(โรค)จิต ที่คอยจ้องหาโอกาสเล่นงานอยู่ คงไม่ยอมปล่อยแน่

แต่จะว่าไปก็อยากเห็นการจากลาเหมือนกัน เพราะอยากเห็นใครบางคนทรมานกับความคิดถึง

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: YourSister ที่ 22-03-2011 00:25:36
 :เฮ้อ: เอาใจช่วยอิทธิให้ออกจากไร่ได้ไว ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 22-03-2011 06:37:57

A:  “ห่วงกูจริงเหรอ”
I: “เออสิวะ มีอยู่คนเดียวนี่แหละตามกูอยู่เช้าเย็น ไม่ห่วงมึงกูจะไปห่วงใคร”
A: “เฮ้อ ได้ยินแบบนี้ดาวแม่งมันดูสวยว่ะ
ว้าย น้ำขัง(เกือบๆ....)แล้วค่ะอ๊าร์ธี่
ระวังอิทจะโธรว(throw up) 5555

๑๐๕ + ๑ = ๑๐๖
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 22-03-2011 11:38:24
ขอให้ถึงตอนนั้นเร็วๆเถอะ สาธุ  :call: อิทธิจะได้หมดทุกข์หมดโศกซะที

ปล.เอาแบบหนีไปไกลๆหาไม่เจอเลยอะไรอย่างเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 22-03-2011 23:59:44
อยากรู้ว่าถ้าคุณจันทร์เห็นสมุดบัญชีจะทำยังไงต่อ - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 23-03-2011 12:09:41
มาตอนไหนเนี้ยะ ทำไมมองไม่เห็น

จิบอกว่า ทำไมเรื่องนี้มันเหมือนละครช่อง 7 นักละครับคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-03-2011 12:28:42
เข้ามารอคุณบอย
รอวันอิสระภาพของอิธิและแม่นาง อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 23-03-2011 12:40:19
สะใจอิส้มโดนตบ  :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 18 อัพเดต 20.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 23-03-2011 13:35:27

ตอนที่ 19

ค่อนคืนแล้ว เรือนสามหลังที่ตั้งอยู่ภายในไร่ สมาชิกที่อาศัยอยู่ใต้ชายคาตอนนี้ต่างก็ตั้งวงล้อมสนทนาในเรื่องราวที่ต่างไป

ที่เรือนหลังใหญ่จิตราแสดงอาการไม่พอใจต่อว่าบุตรชายคนโตที่ยอมให้ลูกสาวนายศรถูกเนื้อต้องตัวควงขาควงแขนเดินรอบไร่ หล่อนมัวแต่ใส่ใจเรื่องนี้จนลืมนึกถึงเรื่องข้อผิดพลาดทางบัญชีของแม่นางและการที่บุตรชายคนเล็กยังไม่กลับมาที่เรือน

“หล่อนก็โวยวายมันได้ทุกเรื่องนะแม่จิตร จะหวงลูกชายไปถึงไหน ใจคอจะไม่ยอมให้ทั้งตาอาทีและตาอาทิตย์ได้พบเจอพูดคุยกับใครได้เลยงั้นรึ” จันทร์จวงติงน้องสาวเมื่อเห็นเจ้าตัวบ่นไม่ยอมเลิก

“พี่จันทร์ไม่ได้เห็นอย่างที่จิตรเห็นพี่จันทร์ก็พูดได้สิคะ จะให้จิตรตามตัวนังพิศมายืนยันมั้ยคะว่าหูตานังส้มมันจ้องลูกอาทิตย์ของจิตรอย่างกะจะกลืนกินไปทั้งตัว” จิตราเถียง อาทิตย์เพียงแต่นั่งฟังเงียบๆ ข้อนี้ไม่อยากจะแย้งมารดา เพราะสายตาของส้มที่มองตนเป็นเช่นนั้นจริงๆ

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ แต่การที่หล่อนไปตบตีเด็กมันก็เกินไปนะ ตักเตือนว่ากล่าวก็น่าจะพอ” จันทร์จวงบอกต่อ ทราบว่าน้องสาวตบตีลูกสาวนายศรก็จากปากเพลินพิศที่หลุดปากเอ่ยชมเจ้านายที่เคารพว่าลีลาวาดฝ่ามือช่างสวยเสียกระไร

“น้อยไปสิคะนั่น ไอ้อีหน้าไหนที่มันมากล้ากับจิตรคิดว่าจิตรจะยิ้มสวยๆ ให้หรือคะ ไม่มีทาง” จิตราหน้าเชิดตามเดิม จันทร์จวงส่ายหน้าไม่อยากจะต่อความให้มากมาย เพราะเวลานี้ก็สมควรแก่การพักผ่อนแล้ว

“งั้นหล่อนก็นั่งคุยกับลูกหล่อนไปนะ ฉันขอตัวล่ะอยากจะงีบพักผ่อน” นางเอ่ยบอกน้องสาว กำลังจะลุกหนีแต่ก็พลันหยุดฟังสิ่งที่น้องสาวเอ่ยถามใหม่

“แล้วนี่ไอ้อาทีมันอยู่ที่นี่หรือเรือนนังแม่นางคะ ตั้งแต่กลับมาจิตรยังไม่เห็นหัวมันเลย”

“คงจะเรือนแม่นางนั่นล่ะ” จันทร์จวงตอบ ไม่ทันสังเกตอาการหลานชายข้างๆ ที่ตอนนี้ทำหน้าเฉาลงหน่อยๆ

“แน่หรือคะ ไม่ใช่ว่าเดินทะเร่อทะร่าให้ใครเขาลอบทำร้ายเอาอีกนะคะ” จิตราเอ่ยบอก แม้จะคงอาการหน้าเชิดตอนพูด แต่นั่นพี่สาวกลับมองว่าเป็นคำพูดที่น่าฟัง นางจึงเอ่ยยั่วล้อเล่นๆ

“ห่วงลูกชายขึ้นมาแล้วล่ะสิ”

“โอ้ย ยังไงก็เบ่งออกมาจะดุด่าว่าตียังไงก็ได้ขึ้นชื่อว่าลูกในไส้ หายหัวไปในตอนที่เกิดเรื่องไม่ดีแบบนี้แม่คนไหนมันจะไม่ห่วงคะ” จิตราเอ่ยบอกตามความรู้สึก เพิ่งรู้ว่าการทำอะไรเพื่อบุตรชายคนเล็กตลอดเวลาตั้งแต่ช่วงสายถึงบ่ายวันนี้นางไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายหรืออะไรเลย แต่ก็นั่นล่ะนางเป็นแม่เรื่องอะไรจะยอมงอนง้อลูกล่ะ เจ้าตัวต่างหากที่ควรจะอ่อนข้อและเดินมาขอขมาโดยพูดจาดีๆ กับหล่อนก่อน มันถึงจะถูก ด้วยความคิดแบบนี้จึงไม่อยากแสดงความห่วงใยอะไรออกมาให้ออกนอกหน้านัก ประโยคเมื่อครู่ที่เอ่ยไปจึงไม่วายใส่น้ำเสียงให้ดูว่าจริงๆ แล้วตนก็ไม่ห่วงหาอะไรมากมาย แต่หากทั้งพี่สาวและบุตรชายจะสังเกตคงจะเห็นเองแล้วแหละว่าหล่อนไม่ได้ร้อนรนที่จะไปตามฉุดกระชากลากดึงเหมือนอย่างที่เคยทำเช่นก่อนหน้า แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าหล่อนจะยอมญาติดีกับไอ้อีสองแม่ลูกที่หล่อนไม่ชอบหน้าหรอกนะ ถึงตอนนี้สองคนนั้นก็ยังคงเป็นแม่ลูกขี้ประจบสอพลอในสายตาหล่อนอยู่เช่นเดิม ถึงเวลาเหม็นขี้หน้าหรือออกอาการคันไม้คันมือหล่อนก็คงจะตามไปสั่งสอนเช่นเดิมน่ะแหละ วันนี้ที่ยอมหย่าศึกก็ถือซะว่าทำทานให้ขี้ข้าก็แล้วกัน


***************************************************************

ที่เรือนนายศรซึ่งตอนนี้นั่งล้อมวงสนทนากันพร้อมหน้าสามคนพ่อลูก ส้มรายงานเรื่องราวที่ตนเองโดนราวีจากจิตราวันนี้ให้ทั้งบิดาและพี่ชายฟัง ทั้งสองออกอาการโกรธแค้นจนอยากจะบุกมาสะสางเรื่องราวซะให้แตกหัก แต่พอฉุกคิดได้ว่าขืนทำอะไรบุ่มบ่ามตอนนี้หนทางที่จะกอบโกยผลประโยชน์จากไร่นี้คงจะตีบตัน เพราะที่ผ่านมายังกอบโกยกันไม่หนำใจ หากหนำใจเมื่อไหร่ไม่ว่าจะอีหัวหงอกหัวดำทั้งสองก็พร้อมจะจับฆ่าและฝังไว้เป็นผีเฝ้าไร่นี้ได้ทุกเวลา

“แล้วเราต้องทนให้มันโขกสับอย่างนี้นานมั้ยล่ะพ่อ ส้มเริ่มจะเกลียดขี้หน้าอีคุณจิตรจนไม่อยากจะให้ความเคารพมันแล้วนะ” ส้มออกอาการฮึดฮัด หากว่าเธอสามารถตอบโต้คนอย่างจิตราได้ป่านนี้คงได้ออกลีลาการวาดฝ่ามือไปแล้ว

“เถอะน่า ใจเย็นๆ ก่อนนังส้มถึงเวลาข้าคิดคืนทบต้นทบดอกให้เอ็งแน่” นายศรบอกอย่างมาดมั่น ที่จริงทุกวันนี้หากคิดจะฮุบเอาไร่นี้เป็นของตนมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรนัก เพราะคนที่ชี้นิ้วสั่งโน่นสั่งนี่ในไร่ตอนนี้ก็มีแค่หญิงแก่สองพี่น้องเท่านั้น แต่ก็นั่นล่ะ ค่อยๆ สะสมบารมีการเป็นนายคนใหม่ให้ขี้ข้าที่นี่ยอมรับได้มากกว่าครึ่งซะก่อนก็น่าจะดีกว่า มันจะได้ไม่เสี่ยงนักต่อการโดนต่อต้าน ทุกวันนี้ก็มีบ้างแล้วกับไอ้อีขี้ข้าที่ไม่ชอบหน้าอีนังจิตรา ด้วยพฤติกรรมชอบโขกสับของมันเองน่ะแหละที่ทำให้มันโดนเอือมระอา ติดแต่อีแก่จันทร์จวงนี่สิ ไม่รู้มันจะทำตัวเป็นแม่พระไปถึงไหน ใครๆ ที่นี่ถึงต้องคอยจงรักภักดีมันอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง สงสัยว่าแผนการฮุบไร่นี้จะต้องกำจัดอีนี่ก่อนเป็นคนแรกซะล่ะมั้ง จากนั้นอะไรๆ ก็คงจะง่ายขึ้น แต่แหม๊ อีนี่มันดันมีทาสฉลาดเคียงข้างอย่างอีนังแม่นางนี่สิที่ทำให้การคิดทำการใดจะยุ่งยาก อีห่านั่นมันยอมก้มหัวให้อีนังจิตราก็จริงแต่กับคนอื่นมันก็ใช้บารมีนิ่งๆ ของมันข่มได้อยู่หลายคนเหมือนกัน ยิ่งกับสายตามันที่จ้องมองมาเมื่อตอนบ่ายก็แลดูว่าตอนนี้มันอาจจะจับจ้องพฤติกรรมอยู่ต่อจากนี้ ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ หากจะทำอะไรที่เป็นเรื่องครึกโครมขึ้นมาตอนนี้

“ทบต้นทบดอกก็ขอแค่คิดกับอีจิตรนั่นก็พอนะคะ หรือจะพ่วงคุณจันทร์ไปด้วยก็สุดแต่พ่อกับพี่สิน แต่กับพี่อาทีกับพี่อาทิตย์ ส้มขอไว้นะคะ เพราะส้มรักส้มหวง” ส้มบอก ทำสายตาเคลิ้มขึ้นมาใหม่ตอนที่นึกถึงใบหน้าที่หล่อเหลาไปคนละแบบของสองพี่น้องที่หล่อนคิดว่าต้องได้คนใดคนหนึ่งมาเป็นคู่ผัวตัวเมียเมื่อเรียนจบ

“มึงจะเอาใครสักคนมึงก็เอาไปอีส้ม ห่าทำเป็นนางวันทองนะมึง” สินว่าน้องอย่างหมั่นไส้ สองคนจึงโต้แย้งกันไปมา ไม่ได้สนใจว่าตอนนี้บิดากำลังใช้สายตามาดร้ายจ้องไปยังทิศเรือนของผู้เป็นนาย


***************************************************************

ที่เรือนอิทธิ ซึ่งต่างก็เข้านอนแล้วทั้งหมด โดยอาทีก็นอนเคียงข้างอิทธิเช่นเคย สองหนุ่มน้อยคุยกันเบาๆ ท่ามกลางความมืดถึงเรื่องที่อยู่รอดแบบไม่โดนจิตราตามมาราวีตลอดวัน

“ก็บอกแล้วว่าเขากำลังเห่อพี่อาทิตย์” อาทีเอ่ยสรุปให้ นอนเบียดร่างเพื่อนซี้เมื่อรู้สึกอากาศเย็นโชยมาให้ได้สัมผัส

“หนาวเหรอวะ” อิทธิถามไม่ได้คิดถอยร่างหนี สองคนจึงนอนชิดกันภายใต้ผ้าห่มผืนอุ่น

“เรือนคนงานมันก็งี้แหละมันไม่ได้ปิดทางลมมิดชิดเหมือนเรือนมึงหรอก” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกอีกเมื่อเห็นคนนอนชิดร่างไม่ตอบอะไร

“กูไม่ทันบ่นอะไรเลยไอ้ห่า” อาทีว่าให้ ขยับผ้าห่มให้เข้าที่ทั้งกับตนและคนนอนข้างๆ

“หนาวก็บอกไอ้น้องเดี๋ยวพี่กอดให้หายหนาว” อิทธิเอ่ยแซวอย่างนึกคะนองปาก เข้าใจว่าเพื่อนคงหนาวจริงๆ แต่ยังปากแข็ง ก็ดูสินั่นจัดผ้าห้มคลุมร่างให้วุ่นวาย

“ล้อกูนะมึงเดี๊ยะกูลักหลับซะนี่ ยิ่งชอบหลับก่อนกูอยู่” อาทีโต้กลับ ก่อนจะสะดุ้งเย็นวาบไปทั้งร่างเมื่อผ้าห่มถูกดึงออกไป

“ไอ้ห่าอิท กูหนาวนะมึงเอาผ้าห่มมา” เด็กหนุ่มพยายามยื้อแย่งผ้าห่มคืน อิทธินึกสนุกไม่คืนให้ สองคนจึงยื้อแย่งกันอยู่อย่างนั้นหัวเราะคิกคักจนหมดแรงและก็เพลียหลับตามๆ กันทั้งสองคน

รุ่งเช้าแม่นางออกมาหุงหาอาหารตามเดิม เอ่ยทักสองหนุ่มน้อยที่ตื่นออกมาพร้อมกันด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

“หยอกล้ออะไรกันเหรอเมื่อคืนดึกดื่นยังหัวเราะกันคิกคักๆ”

“ก็ไอ้อิทมันแย่งผ้าห่มผมน่ะสิแม่นาง ผมก็เลยต้องแย่งมันกลับ” อาทีรายงานก่อน แล้วก็แทบหัวทิ่มเมื่อโดนคนยืนข้างๆ ยกมือขึ้นตบท้ายทอยเชิงหยอกเหย้า

“ผ้าห่มใคร มาอาศัยกูนอนยังไม่สำนึกอีก” อิทธิเอ่ยว่าเล่นๆ ก่อนจะกระโดดลงจากเรือนเมื่อเห็นคนที่ตนว่ายกเท้าขึ้นจะเตะ

“ตบหัวกูแล้วหนีเหรอมึง ไม่ไหนไม่พ้นหรอก” อาทีกระโดดตามลงไปวิ่งไล่ แม่นางส่งเสียงร้องตามว่าให้ระวังหกล้มเอา แต่ดูท่าสองหนุ่มน้อยจะไม่สนใจ ยังคงวิ่งไล่เตะก้นกันอย่างสนุกสนานไปตามวัย กระทั่งอิทธิวิ่งชนกับร่างๆ หนึ่งเข้าเหตุการณ์จึงชะงัก

“พี่อาทิตย์” อาทีเอ่ยเรียกชื่อคนที่เพื่อนวิ่งชนร่าง หนุ่มน้อยยืนหอบเหนื่อยสังเกตการแต่งกายของพี่ชายที่ดูดีเกินกว่าจะสวมใส่เดินเล่นจึงเอ่ยปากถาม

“จะไปไหนน่ะพี่อาทิตย์ แต่ตัวซะหล่อเลย”

“กลับกรุงเทพฯ” อาทิตย์ตอบเสียงนิ่ง มองไปยังร่างคนที่วิ่งชนตนเมื่อครู่ที่บัดนี้ทำหน้าตาไม่รับรู้อะไรได้อย่างน่าหมั่นไส้

“อ้าว จะกลับวันนี้หรือคะคุณอาทิตย์” แม่นางเห็นอาการบุตรชายไม่สนใจคนมองหน้าจึงลงจากเรือนเดินมาทักทายแทน

“ครับแม่นาง ที่มานี่ก็กะจะมาลาแม่นางน่ะครับ” อาทิตย์เอ่ยบอกยิ้มๆ ไม่ทันสังเกตเห็นคนว่าบางคนแอบย่นหน้าใส่ ต่างจากอาทีที่มองเห็น ซึ่งจากการแค้นที่เอาคืนเพื่อนได้ไม่เต็มที่นักจากการวิ่งไล่เตะเมื่อครู่จึงเอ่ยขึ้นเพื่อหวังแกล้งเจ้าตัวทางนี้แทน

“ทำไมรีบกลับล่ะพี่อาทิตย์ ไอ้อิทมันยังอยากให้พี่อยู่ต่อเลย”

อิทธิหันมองหน้าเพื่อนทันควัน อาทียักคิ้วล้อเลียนที่ได้เห็นใบหน้าไร้แววยียวนของเพื่อน

“ปากหมานะมึงอาที ใครวะอยากให้พี่มึงอยู่ให้หนักท้องไร่” อิทธิโพล่งขึ้นอย่างไม่ไว้หน้า แม่นางติงบุตรชายด้วยสายตา แต่กับอาทิตย์เอ่ยโต้กลับเลยตรงๆ

“ฉันก็ใช่จะเชื่อคำพูดไอ้อาทีนักหรอก นายไม่ต้องรีบแสดงอาการเนื้อเต้นที่ฉันจะไปให้พ้นหน้าขนาดนั้นก็ได้นายอิทธิ”

“หูย สมกับเป็นคู่ปรับกันจริงๆ คนหนึ่งปากไวอีกคนก็โต้กลับ เอาเลยซัดกันเลย หนุกดี” จากอารมณ์ทะเล้นเมื่อครู่อาทีจึงคิดแหย่ทั้งพี่ชายและเพื่อนสนิทต่อ เมื่อเห็นทั้งสองต่างหันมามองด้วยแววตาดุๆ จึงทำท่าไม่รู้ไม่ชี้อะไร แม่นางแอบส่ายหน้า นึกถึงตอนเป็นเด็กที่สามคนนี้อยู่ต่อหน้ากันเหตุการณ์มันก็มักจะเป็นแบบนี้แหละยั่วล้อ ตอบโต้ และทะเลาะกันไปมากันได้ตลอด

“อิทธิลาคุณเขาสิลูก” นางชิงเอ่ยตัดบทเพื่อหย่าศึกก่อนที่มันจะลามปามไปกันใหญ่

“เขาไม่ได้ไปตายนี่แม่ อีกหน่อยเขาก็คงกลับมาราวีเราสองคนจนได้แหละหากเราไม่ชิงหนีจากที่นี่ไปก่อน” อิทธิยังคงเอ่ยอย่างไม่เก็บอาการชิงชังเช่นเคย อาทิตย์รู้สึกเดือดจึงไม่ยอมเช่นกัน ชายหนุ่มจึงยกมือชี้หน้าว่ากลับ

“ปากแบบนี้อย่าได้มีโอกาสไปอยู่กับฉันที่กรุงเทพฯ นะ จะพาพวกมาเฉือนลิ้นแล้วสับโยนให้ปลามันตอดเล่นในแม่น้ำเจ้าพระยาเลยจริงๆ”

“โหดแฮะพี่กู” อาทีเอ่ยแซวออกมาจึงโดนร่างแหไปอีกคน

“แกก็เหมือนกันไอ้อาที ห้องหับที่เรือนมีก็ไม่รู้จักไปนอน มาขลุกอยู่ที่นี่อยู่ได้ข้ามวันข้ามคืน แม่เขาเป็นห่วงนึกว่าโดนใครลอบทำร้ายเอาอีกจะรู้บ้างมั้ย”

“อย่างแม่น่ะนะเป็นห่วงผม เชื่อตายล่ะ” อาทีออกอาการเบ้ปากให้เห็น พี่ชายจึงอบรมอีก

“มันก็คิดอย่างนี้ไงเลยต่อต้านแม่ได้ตลอดเวลา”

“เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ เบื่อจะฟัง” อาทีเอ่ยตัดบท หันไปบอกลาเพื่อนแล้วเดินหนีกลับไปทางเรือน ได้ยินเรื่องมารดาทีไรจิตใจภายในก็วุ่นวายได้ทุกที

“จะต้องให้แม่ก้มกราบเลยหรือไงถึงจะรู้ว่าท่านรักท่านห่วงไอ้ตัวดี” อาทิตย์เอ่ยตามหลังอย่างนึกหงุดหงิด ก่อนจะปรับอารมณ์หันมาสนใจคำถามจากปากแม่นาง

“แล้วนี่คุณอาทิตย์จะกลับยังไงหรือคะ”

“คงนั่งเครื่องแหละครับแม่นาง” ชายหนุ่มเอ่ยตอบ นึกหัวเสียอีกกับคำถากถางจากปากอิทธิ

“แม่งเบื่อคนรวยว่ะ”

“อย่าให้มันมากนักนะอิทธิ ระวังฉันทนไม่ไหวแล้วบอกใครต่อใครว่าเราเป็นอะไรกันนะ” ชายหนุ่มหันมาว่า ถึงตอนนี้นึกสะใจที่เห็นใบหน้าคนปากดีเริ่มเครียดตึง

“เป็นอะไรกัน หมายถึงอะไรหรือคะ” แม่นางเอ่ยถามอย่างงๆ อาทิตย์ได้ทีจึงทำทีเอ่ยขึ้น

“ก็เป็น…”

“อย่านะคุณอาทิตย์” อิทธิที่ยืนฟังอยู่รีบร้องห้าม ใบหน้าเด็กหนุ่มเริ่มมีสีซีดจนอาทิตย์สังเกตได้ เห็นฝ่ายนั้นพลาดท่ากลัวแบบนี้ก็ยิ่งได้ใจรุกหนัก

“ไม่อยากให้ฉันพูดก็เดินไปส่งฉันขึ้นรถที่เรือนสิ”

“ขาก็ไม่ได้ขาด ตาก็ไม่ได้บอด ทำไมผมถึงจะต้องเดินไปส่งคุณด้วยล่ะ” อิทธิปฏิเสธ นึกขัดใจที่มารดากลับเข้าข้างคู่กรณี

“อย่าให้มันมากนักเลยอิท เดินไปส่งคุณเขาเถอะไป”

“แม่” เด็กหนุ่มเอ่ยเรียกมารดา เห็นสายตาเจ้าตัวสั่งว่าให้เชื่อฟังอย่าขัดจึงจำยอมเดินไปส่งอาทิตย์จริงๆ ระหว่างทางอาทิตย์ก็ไม่วายที่จะเอ่ยยั่วจุดประเด็นตอบโต้ขึ้นอีก

“สงสัยแม่นางคงอยากได้ฉันเป็นลูกเขยแล้วแน่ๆ ถึงสั่งให้นายเดินมาส่งฉัน”

“อย่าพูดจาเชิงดูถูกแม่ผมนะคุณอาทิตย์”

“ดูถูกตรงไหนไม่ทราบ”

“ก็เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรล่ะ สมองเสื่อมหรือไงถึงจำสิ่งที่ตัวเองพูดไม่ได้”

“ฉันจำได้ แต่ความหมายฉันไม่ได้หมายถึงดูถูก เข้าใจซะใหม่นะเมียรัก”

“ไอ้..”

“ไอ้อะไร อย่ามาหยาบคายกับฉันนะ ไม่งั้นนายโดนจูบกลางแสงแดดยามเช้านี้แน่ แล้วอย่าคิดว่าฉันไม่กล้านะ เพราะนายก็เคยพลาดท่าตอนท้าทายฉันวันนั้นมาแล้ว”

อิทธิยอมเงียบเสียง เกลียดแววตาร้ายข่มๆ ของอาทิตย์เป็นไหนๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมมารดาถึงใช้คนตนเดินมาส่งคนๆ นี้

“ไงไม่เถียงฉันต่อแล้วเหรอ ฉันไม่อยู่หลายเดือนระวังเหงาปากนะถ้าวันนี้ไม่รีบกักตุนเอาไว้”

“ผมไม่ได้โรคจิตเหมือนคุณนี่ที่พอใจกับการได้กลั่นแกล้งหรือโต้เถียงกับคนอื่น เรียนสูงซะเปล่า ชอบเรื่องอะไรไร้สาระ ส่งแค่นี้นะ ไม่อยากเข้าไปใกล้เขตเรือนคุณมากไปกว่านี้กลัวรังสีอำมหิตแม่คุณจะแผ่ซ่านมากระทบตัว”

เอ่ยจบหนุ่มน้อยก็หมุนตัวเดินกลับทางเดิมทันที อาทิตย์ได้แต่ถอนหายใจตามหลัง คิดตามว่าปากคออิทธินี่ร้ายเหลือเชื่อจริงๆ นี่ถ้ามีโอกาสไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วยกันจริงๆ พ่อจะจับกดสั่งสอนแม่งทุกเช้าเย็น คนอะไรยั่วโมโหได้ตลอดเวลา


โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 23-03-2011 14:07:27
เซ็งกับพวกตัวร้ายจิมๆ
สงสารอิทธิ แม่นาง กับ คุณจันทร์ กับ อาทีจิมๆ << รู้สึกว่าจะมีตัวดีจะมีเท่านี้สิน่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 23-03-2011 14:14:06
โอ้วววว  เกลียดอาทิต อ่ะ รีบๆ มาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 23-03-2011 14:31:45
เอางั้นเลยเชียว  ถ้างั้นก็ต้องส่งตัวอิทธิไปกรุงเทพแล้ว
อยากรู้ว่าจะมีแรงกดเช้ากดเย็นอย่างที่ปากว่าหรือเปล่า  อิ อิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 23-03-2011 15:00:27
แหมไม่ค่อยหื่นเลยนะคะกะกดเช้ากดเย็นเชียว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 23-03-2011 15:38:12
อาทิตย์กลับ กทม แล้ว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Gunung ที่ 23-03-2011 15:57:03
แปะไว้ก่อน เด่วจะมาตามอ่านนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 23-03-2011 16:09:49
เช้าเย็นเลยเหรอ จะไหวเร้อ... 555+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-03-2011 16:23:08
ตอนนี้สบายๆแฮะ 55+ ผิดคาด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 23-03-2011 17:33:08
ต้องกดจริงๆ นะ พี่อาทิตย์

ไม่งั้น ไม่ยอม
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 23-03-2011 17:37:01
ต้องกดทุกวันนะ จะได้ส่งอิทธิไปนะบัดนาวเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-03-2011 17:38:54
ศรเตรียมแผนเร็วๆเข้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 23-03-2011 18:07:24
เอางั้นเลยเชียว  ถ้างั้นก็ต้องส่งตัวอิทธิไปกรุงเทพแล้ว
อยากรู้ว่าจะมีแรงกดเช้ากดเย็นอย่างที่ปากว่าหรือเปล่า  อิ อิ

นั่นดิ อิอิ  :z1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: tombaza ที่ 23-03-2011 18:30:24
อยากให้อิทธิไปอยู่กรุงเทพจริงๆ จะได้โดนจับกดทั้งเช้าเย็น อิๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 23-03-2011 18:54:08
อาฮะ มีแต่คนเชียร์ ว่าแต่กว่าจะไปได้นี่ต้องฝ่าอีกกี่ด่านเนี่ย
คิดแล้วเหนื่อยแทนอิทจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 23-03-2011 19:21:36
มีแต่คนเชียร์แฮะ เราละอยากให้อิทโต้คืนได้บ้าง เห็นแพ้ทางตลอดแล้วเหนื่อยใจ เถียงเก่งอย่างเดียวเอง T^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 23-03-2011 19:27:52
ถ้าอิทธิย้ายไปกรงเทพจริงๆนี่ ช้ำในแย่ โดนเช้าเย็นเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-03-2011 20:14:41
 :L1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 23-03-2011 21:35:42
ฮุ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย o18
นี่ขนาดเป็นคู่กัดกันมาก่อนนะเนี้ยะ.......
ใครจะไปคิดว่า อาทิตย์จะติดใจหนูอิทธิขนาดนี้ๆๆๆๆๆ :o8:
เล่นเปรยว่าจะจับกดเช้า เย็น :z1: แล้วจะสงสารใครดี ระหว่างหนูอิทธิ กับ อาทิตย์ o18
จะรอตอนต่อไปนะค่ะ... :o8: :o8:
ปล. อยากเห็นอิทธิโดนจับกดซะแล้ววว
ปปล. รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย  :กอด1: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 23-03-2011 22:22:01
อิทรีบย้ายไปอยู่ กทม. เร็ว  :z1:

ขอบคุณ &  รอตอนต่อไปนะค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: candy06eang ที่ 23-03-2011 22:29:46
เช้าเย็นเลย ... จะไหวหรออาทิตย์ ฮาๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 23-03-2011 22:39:02
จะคอยดูนะอาทิตย์ วะฮ่าๆๆๆ
.สนุกมากมายค่ะ ชอบๆ
มาต่อเร็วๆเน้อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 23-03-2011 23:02:38
พระเอกหื่นมากมาย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 23-03-2011 23:59:28
อิทจะได้คู่กับนายอาทิตย์อย่างปลอดภัยเหรอ
แม่จิตรเขาหวงลูกอย่างกับจงอางหวงไข่ - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 24-03-2011 02:03:25
ถึงจะสงสารอิทกับแม่นางที่โดนกระทำมาตลอด แต่ก็อยากให้อิทได้ไปกรุงเทพจัง อิอิ อยากดูวิธีสั่งสอนของพี่อาทิตย์ 555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 24-03-2011 02:11:19
แหมๆ ว่าเค้าปากร้ายอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ดูตัวเองเลยนะคุณอาทิตย์  :เฮ้อ:
ยังจะมาจับกดเช้าเย็นอีก :z1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 24-03-2011 20:10:15
มาบอกว่าอ่านแล้วครับ
ขอไว้เมนท์ตอนหน้าละกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 25-03-2011 10:11:58
รอจ้า^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 26-03-2011 18:23:51
ทำยังกับเหมือนคู่ข้าวใม่ปลามันเลยอ่ะ
กะจับกดเช้ากดเย็นเลยน่ะ นายอาทิตย์ :impress2:

 :call: :call:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 19 อัพเดต 23.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 27-03-2011 04:36:49
ตอนที่ 20

อาทีกลับเข้าเขตเรือน พบมารดากับผู้ป้ากำลังยืนอยู่กับลุงไกรคนขับรถ เด็กหนุ่มคิดว่าทั้งหมดคงยืนรอพี่ชายตนน่ะแหละ จึงคิดจะเดินผ่านไป แต่แล้วมารดาก็กลับทักเอาไว้ ทำให้ต้องหยุดสนทนาด้วย

“ทำไมกลับมาคนเดียว พี่ชายแกล่ะ”

“เดี๋ยวคงตามมามั้งครับ”

“เหลวไหลจริง พี่จันทร์นี่ก็นะ อีแม่นางนั่นเป็นใครถึงยอมให้ลูกอาทิตย์ไปลาก็ไม่รู้” จิตราหันไปทางพี่สาวบ้าง ถึงตอนนี้อาทีจึงเดินขึ้นเรือนไป

“อ้าว นี่ก็อีกคน คุยกับแม่มันยังไม่ถึงสามคำเดินหนีซะอย่างนั้น โอ้ย นี่ลูกชายฉันเป็นอะไรไปกันหมดเนี่ย” จิตราเห็นหลังบุตรชายคนเล็กหายไปไวๆ จึงบ่นโวยวายเสียงดัง จันทร์จวงได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้า ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่อาการขัดใจไปซะทุกอย่างของน้องสาวจะลดๆ ลงบ้าง

“นั่นคุณอาทิตย์มาแล้วครับ” เสียงลุงไกรเอ่ยขึ้นเรียกสายตาให้จิตรากับจันทร์จวงหันไปมอง เห็นชัดถึงใบหน้าตึงเรียบของคนที่เดินมา

“หน้าตาบูดบึ้งมาเชียวตาอาทิตย์ เป็นอะไรมา” จันทร์จวงเอ่ยทักหลานชายก่อน จิตราเห็นด้วยจึงว่าเสริม

“นั่นสิ ก่อนไปก็ดีๆ อยู่นี่นา”

“ไม่มีอะไรครับแม่ แล้วนี่ไอ้อาทีล่ะครับ” อาทิตย์ปฏิเสธ ไม่อาจบอกได้หรอกว่ากำลังขัดใจคำพูดถากถางและเชือดเฉือนจากอิทธิ

“ขึ้นเรือนไปแล้ว” จิตราตอบบุตรชายสั้นๆ อาทิตย์มองไปยังชั้นบนของเรือน นี่เขาจะไปไหนมาไหนน้องชายจะไม่คิดรู้สึกยินดียินดียินร้ายด้วยเลยงั้นเหรอ

“น้องคงเพลีย นอนที่เรือนนั่นไม่เต็มตื่นมั้ง คงจะยังอยากงีบต่อ” จันทร์จวงเห็นแววตาหลานชายพอจะเข้าใจความหมายจึงรีบเอ่ยปลอบ

“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะครับ” อาทิตย์หันมาตอบ ฝืนยิ้มน้อยๆ อย่างคนพยามเข้าใจ จันทร์จวงเห็นเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นลูบไหล่เอ่ยอีก

“อย่าคิดมากนะเรา ตั้งใจเรียนให้จบเร็วๆ แล้วกลับมาอยู่กับน้องมันนานๆ เดี๋ยวก็จะผูกพันกันไปเองแหละ”

“โอ้ย อย่าไปสนใจท่าทีมันเลยไอ้อาทีน่ะ ขนาดแม่อยู่กับมันมาตั้งแต่เกิดจนป่านนี้ มันยังมองไม่เห็นหัวแม่เลย” จิตราพอจะเข้าใจความหมายที่ป้ากับหลานเอ่ยคุยกันจึงเอ่ยขึ้นบ้าง ก่อนจะตำหนิบุตรชายถึงเรื่องที่เพิ่งจะบอกตนเองเมื่อคืนว่าเช้านี้จะกลับกรุงเทพฯ

“จริงๆ แม่โกรธนะเนี่ยที่ลูกอาทิตย์มาบอกแม่กะทันหันแบบนี้ นานๆ มาทีก็น่าจะอยู่กับแม่นานๆ หน่อย นี่อะไรปุ๊บปั๊บคิดจะกลับก็กลับ”

“ผมต้องกลับไปเรียนครับแม่ อีกอย่างเป็นห่วงพ่อด้วย ปล่อยให้อยู่คนเดียวกลัวท่านเหงา” อาทิตย์หันมาสนใจมารดา

“คงจะเหงามากอยู่หรอก ไม่เห็นติดต่อมาหาแม่มั่ง” จิตราออกอาการน้อยใจที่ไม่ค่อยแสดงออกให้บุตรชายและพี่สาวได้เห็นหลังจากที่สามีทำคล้ายกับว่าหล่อนไม่มีตัวตนมานาน

“งานพ่อเขายุ่งจริงๆ ครับแม่ ขนาดผมอยู่ด้วยบางวันยังแทบไม่ได้คุยกันเลย” อาทิตย์ให้เหตุผล ส่วนจันทร์จวงเอ่ยติงน้องสาวแทน

“ไปว่าแต่สามี หล่อนก็ใช่ว่าจะติดต่อไปหาเขานักหรอก วันๆ ตามแต่ราวีคนนั้นคนนี้ในไร่จนฉันล่ะเวียนหัวแทน”

“ต๊าย! พี่จันทร์จิตรเป็นน้องสาวพี่นะคะ แทนที่จะเข้าข้างจิตรทำไมถึงได้ไปเข้าข้างคนอื่นอย่างนั้นล่ะคะ”

“คนอื่นที่ไหน เขาเป็นพ่อหลานฉัน เป็นสามีหล่อน อย่างนี้เหรอหล่อนเรียกว่าคนอื่น”

“โอ้ย พูดกับพี่จันทร์ทีไรจิตรล่ะเวียนหัวได้ทุกที ขอตัวไปส่งลูกอาทิตย์นะคะ ไปอาทิตย์ลาป้าเขาซะ” เอ่ยจบจิตราก็เดินไปที่รถ ซึ่งลุงไกรเปิดประตูรอไว้แล้ว อาทิตย์หันมายกมือไหว้ลาผู้เป็นป้าพร้อมก้มหน้ารับคำให้พร เสร็จจากนั้นจึงหันมองกลับขึ้นไปบนเรือนอีก อาทีไม่โผล่หน้ามาให้เห็นเลยจริงๆ ชายหนุ่มนึกน้อยใจอยู่ลึกๆ ถอนหายใจอีกหนึ่งเฮือกแล้วเดินไปขึ้นรถตามมารดา ก่อนที่ลุงไกรจะทำหน้าทีขับพาออกไปนอกเขตเรือน ถึงตอนนี้ชายหนุ่มหันไปมองทางที่ตนเพิ่งเดินจากมาเมื่อครู่ นึกคิดไปถึงอิทธิบ้างว่าตอนนี้เจ้าตัวจะกำลังทำอะไรอยู่ ฝ่ายนั้นจะรู้สึกเหงาๆ แบบที่เขากำลังรู้สึกอยู่นี่หรือเปล่านะ

หลังจากที่รถรับส่งของเรือนเคลื่อนตัวลับสายตาไปแล้ว จันทร์จวงหมุนตัวจะเดินกลับขึ้นเรือนบ้าง นางแหงนหน้าขึ้นไปมองบนเรือนจึงได้เห็นว่าหลานชายคนเล็กกำลังยืนเหม่อมองตามรถคันที่แล่นออกไปอยู่ นึกเอาว่าแท้ที่จริงน้องชายก็สนใจในการไปมาของพี่ชายอยู่นี่เอง ดูสายตาสินั่นมองละห้อยตามหลังรถคันที่พี่ชายนั่งไปจนสังเกตเห็นได้ หญิงชราเดินขึ้นเรือนไปหยุดอยู่เคียงข้างร่างหลานชายจับไหล่เจ้าตัวเอ่ยถามยิ้มๆ

“อยากมาส่งพี่เขาแล้วทำไมไม่ออกมาแสดงตัวล่ะอาที”

“เปล่านี่ครับ ผมแค่ออกมายืนดูว่าไปกันหรือยังแค่นั้น” อาทีปากแข็ง ใช่ว่าจะมีทิฐิกับพี่ชายได้นานนัก รู้สึกโหวงๆ หวิวๆ อยู่เหมือนกันเมื่อจากนี้ไปอีกนานกว่าตนจะได้เห็นร่างพี่ชายกลับมาที่นี่อีก

“ป้าน่ะแก่แล้วนะ ผ่านโน่นผ่านนี่มาเยอะ ทำไมป้าจะดูเราไม่ออกเฮอะ อย่าปดป้าเลยน่า” จันทร์จวงบอกอีก คราวนี้อาทีหันมามองหน้าช้าๆ เอ่ยถามคล้ายยอมรับความรู้สึกจริงๆ ของตนที่มีต่อพี่ชาย

“แล้วเขาบอกมั้ยว่าเขาจะมาอีกเมื่อไหร่ป้าจันทร์”

“คงเป็นปิดเทอมใหญ่น่ะแหละ ถึงตอนนั้นเราก็จบม.6 แล้วน่ะสินะ พี่ชายเราก็คงจะจบชั้นปริญญาสมใจแม่เขาล่ะ ถึงตอนนั้นก็ไม่แน่หรอกว่าพี่เราอาจจะมาอยู่กับเราที่นี่นานเลยก็ได้ ว่าแต่เราเหอะ มองๆ ที่เรียนที่ใหม่ไว้เป็นยังไงบ้างล่ะ เตรียมตัวสอบเข้าไปถึงไหนแล้ว”

“ผมพร้อมตลอดอยู่แล้วครับป้าจันทร์ อืมพูดถึงเรื่องนี้ป้าจันทร์จะเอายังไงต่อกับไอ้อิทเหรอครับ สรุปว่าป้าจันทร์จะส่งเสียมันต่อมั้ย”

“หลานป้าขอมาขนาดนี้ อีกอย่างอิทธิก็เป็นเด็กดี กตัญญูมุมานะ ป้าก็ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธ”

“ขอบคุณมากครับป้า ป้าจันทร์ใจดีที่สุดในโลกเลยครับ แล้วผมจะบอกเรื่องนี้กับไอ้อิทนะครับ มันจะได้เตรียมตัวสอบจริงๆ จังๆ ซะที ทุกวันนี้มันก็มัวแต่ทีเล่นทีจริงเพราะคิดว่าตัวเองคงหมดโอกาสเรียนต่อแล้ว”

“อืม แล้วถ้าทั้งเรากับเพื่อนเราสอบเข้าให้ได้มหา’ ลัยดีๆ อย่างพี่ชายเราป้าไม่ใช่แค่ส่งเสียนะ แต่ป้าจะมีรางวัลให้ด้วยสำหรับคนเก่ง” จันทร์จวงบอกอีกยิ้มๆ รู้สึกสุขใจทุกทีกับการเป็นผู้ให้โอกาสกับคนที่นางเอ็นดู

“ผมรักป้าจันทร์จังครับ” อาทีโผกอดป้าที่แสนดี รู้สึกอบอุ่นยามที่ฝ่ามือฝ่ายนั้นลูบไล้เส้นผมเบาๆ


***************************************************************

ทางด้านอิทธิซึ่งกำลังนั่งอยู่ในวงสำรับกับมารดาเพราะวันนี้เป็นวันหยุดของเจ้าตัวเช่นกัน สองแม่ลูกเริ่มพูดคุยเรื่องอนาคตการย้ายถิ่นฐานออกจากที่นี่

“เราจะไปอยู่ไหนกันเหรอแม่หากว่าเราออกจากที่นี่กันแล้ว”

“แม่ยังไม่ทันได้หาเลยอิท อิทเพิ่งบอกแม่ไม่กี่วันเอง ให้เวลาแม่หน่อยนะ”

“ได้ครับ แต่แม่คงไม่ผิดสัญญากับผมนะ ผมเรียนจบเมื่อไหร่เราก็ไปกันเลยเนอะแม่เนอะ”

“อิทไม่ห่วงคุณอาทีเหรอลูก”

“ถึงตอนนั้นอาทีมันก็คงจะวุ่นวายกับที่เรียนใหม่เหมือนกันแหละแม่ คนเรามันตั้งโต ต้องแยกจากกันสักวัน ไอ้อาทีมันคงเข้าใจผมแหละ”

“แต่แม่ว่าคุณอาทีผูกพันกับอิทมากเลยนะ เกิดเธอทำใจไม่ได้ที่ต้องห่างกันอิทจะว่ายังไง”

“เดี๋ยวอิทจัดการของอิทได้เองแหละแม่ ว่าแต่แม่เถอะ คุณจันทร์ก็ใช่ว่าจะปล่อยให้แม่ไปไหนง่ายๆ เลยนี่ หากท่านไม่ยอมแม่จะเอายังไงอ่ะ”

“คุณจันทร์เป็นผู้ใหญ่เป็นคนมีเหตุมีผล ท่านน่าจะเข้าใจอะไรได้มากกว่าคุณอาทีซึ่งดูยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลยในสายตาของแม่”

“จะว่าไปทั้งไร่ก็มีคนที่ดีกับเราแค่สองคนนี้เนอะแม่ ดีมากเสียจนเราต่างไม่อยากทำให้ใครต้องเสียใจหรือไม่สบายใจเลย”

“กับคุณอาทิตย์ แม่ก็ไม่เห็นเขาจะร้ายอะไรใส่เรานักนี่นา”

“น้อยไปสิแม่ นั่นแหละตัวเป้งรองจากคุณจิตรเลยล่ะ ต่อหน้าแม่ก็ทำทีเป็นคนมีสัมมาคารวะไปอย่างนั้นแหละ ลับหลังร้ายยิ่งกว่าเสือซะอีก”

“แม่ชักอยากรู้แล้วสิว่ากลับมาคราวนี้คุณอาทิตย์เธอมาทำอะไรลูกชายแม่ ลูกชายแม่ถึงได้เคืองแค้นเธอขนาดเอ่ยถึงแล้วต้องทำท่าทีขยาดได้ขนาดนี้”

“แม่อย่าสนใจเลยนะ เราสองคนก็ทะเลาะกันตามปกติคนไม่ถูกชะตากันน่ะแหละ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก”

“แม่ก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ เออว่าแต่เรื่องเรียนล่ะอิท แม่เตรียมเงินไว้ก้อนหนึ่งเพื่อส่งเสียอิทได้เรียนชั้นสูงขึ้นไว้แล้วนะ แต่แม่มัวแต่วุ่นวายเรื่องโน้นเรื่องนี้แม่จึง
ไม่มีเวลาบอกอิทเลย อิทคิดไว้หรือยังว่าอยากเรียนอะไร”

“อย่าลำบากเลยครับแม่ หากอิทจะเรียนต่ออิทคิดว่าจะทำงานหาเงินส่งตัวเองจะได้ไม่ต้องลำบากแม่ เงินที่แม่เก็บเอาไว้แม่ก็เก็บเอาไว้อย่างนั้นเถอะนะ”

“แม่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง มันเป็นส่วนของอิทแม่ก็ต้องให้อิทสิ แม่เก็บหอมรอมริบไว้เพื่ออนาคตของอิทนะ เพราะแม่ก็ไม่รู้ว่าแม่จะอยู่ดูแลอิทได้นานเท่าไหร่”

“แม่อย่าพูดแบบนี้สิครับ แม่เป็นแม่ที่ดีของอิท แม่ก็ต้องอยู่กับอิทไปนานๆ สิ”

“อะไรๆ มันไม่แน่นอนหรอกอิทเอ้ย ทุกวันนี้แม่ก็ได้แต่ภาวนาว่าขอให้แม่ส่งอิทถึงฝั่งดูแลตัวเองได้ไม่ให้ใครมาดูถูกข่มเหง บางทีแม่ก็คิดนะว่าแม่คิดผิดหรือเปล่าที่แม่พาอิทมาระหกระเหินอย่างนี้”

“แม่ แม่อย่าพูดอย่าคิดแบบนี้นะครับ ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับแม่ ผมไม่ได้รู้สึกลำบากหรือว้าเหว่อะไรเลยที่แม่เลี้ยงอิทมาโดยลำพังแบบนี้ อิทก็หวังนะว่าสักวันอิทจะดูแลแม่ให้แม่อยู่สบายโดยไม่ต้องทำอะไร เราต้องมีวันนั้นนะแม่ อิทสัญญา”

“แล้วอิทไม่อยากรู้เรื่องพ่ออิทเหรอลูก”

“รู้ไปก็เท่านั้นแหละแม่ ตอนนี้แม่เป็นทั้งพ่อทั้งแม่ให้อิทแล้ว อิทไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมจากนี้แล้วครับ”

“อิทลูกรัก แม่ภูมิใจในตัวลูกมากเลยรู้มั้ย แม่สัญญานะว่าแม่จะอยู่ดูแลอิทแบบนี้ตลอดไป”

“ครับแม่ อิทก็จะเป็นลูกที่ดีของแม่ จะไม่ทำให้แม่ผิดหวังไม่ว่าเรื่องใดๆ เหมือนกัน”
สองแม่ลูกโผเข้ากอดกันโดยอัตโนมัติตอนสิ้นคำสัญญาที่มีให้กันและกัน

หากว่าฟ้าดินจะเห็นใจ คงจะช่วยบันดาลให้ถ้อยคำภาวนาและข้อสัญญาของทั้งสองเป็นจริง แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น แล้วอะไรกันเล่าที่จะพรากเอาทั้งสองออกจากอ้อมอกของกันและกัน


โปรดติดตามตอนต่อไป


ตอนนี้นิยายเรื่องไฟรักมีวางขายที่งานสัปดาห์หนังสือแล้วนะครับ ติดตามรายละเอียดที่กระทู้นี้นะครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23501.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23501.0)




หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 27-03-2011 04:45:06
จะเกิดอะไรขึ้นอีกอะ

อ่านแล้วบีบหัวใจอย่างแรง :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-03-2011 07:49:53
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 27-03-2011 08:16:22
 :o12:
มันต้องมีอะไรแน่ๆ เตรียมซดมาม่ากันต่อ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 27-03-2011 10:21:36
อ่านเรื่องนี้ รวดเดียวเลยค่ะ  นานมากแล้วที่ไม่เคยอ่านฟิคไหนรวดเดียวแบบนี้
เพราะบางเรื่องอ่านไปได้ครึ่งทางเกิดไม่ถูกใจพระเอกซะงั้น แต่เรื่องนี้ พระเอกตรงกับที่ใจต้องการ :impress2:
นายเอกนี่ก็ปากดีเจรงๆ อย่างนี้ต้องให้ อาทิตย์จับกดบ่อยๆ :oo1:จะได้ไม่มีแรงเถึยง อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 27-03-2011 10:26:34
ไม่อยากจะคิดถึงตอนที่อิทธิย้ายออกเลย
อทีต้องเสียใจมากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 27-03-2011 10:34:02
คงต้องเตรียมซดมาม่า ชามใหญ่สินะขอรับ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 27-03-2011 10:53:30
ต้องเตรียมตะเกียบไว้กินมาม่าป่ะครับ  - -*
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 27-03-2011 11:11:47
ตั้งแต่อ่านมานี้นายอาทิตย์พูดเพราะๆกับอาทีเกิน5คำพูดไหมนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 27-03-2011 11:17:45
แล้วคุณบอยจะไปแจกลายเซนต์ในงานหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-03-2011 11:33:10
เฮ้อ..อนาคตของอิทธิจะออกมาในรูปแบบใดหนอ
แต่ก่อนที่สองแม่ลูกจะไปนี่ อยากให้มีเหตุการณ์อะไรซักอย่างพลิกผันที่ทำให้
ยายจิตราได้ตาสว่างก่อนก็ดีนะ ให้หล่อนได้รู้ว่า ลิ่วล้อหล่อนทั้งครอบครัวน่ะตัวร้ายสุด
ส่วนแม่นางกับอิทธิน่ะคือคนที่ดีโดยเนื้อแท้ ยัยจิตราจะได้อยู่กับความรู้สึกผิดตลอดไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-03-2011 14:59:27
ก็ขอให้ฟ้าดินเห็นใจละกันนะ

แล้วก็  อย่าให้เป็นเพราะเงินจำนวนนั้นละคับ

ที่ทำให้อืท กับแม่นางต้องจากกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-03-2011 15:05:39
อาทิตย์คงเริ่มมีใจหน่อย ๆ แล้วมั๊ง  ส่วนอิทคงยากส์
โดนทำไว้เยอะขนาดนั้น  ไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรอีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 27-03-2011 15:27:21
เรื่องนี้จะดำเนินเรื่องไปทางไหนต่อน้า~
ตอนนี้เดาไม่ออกเลย - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 27-03-2011 16:20:13
^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 27-03-2011 19:01:21
สวัสดีค่ะ ไรท์เตอร์  แต่งสนุกมาก  ๆ  ชอบการวางคาแร็กเตอร์และตัวละครของไรท์เตอร์มากๆ

วางพล็อตได้ดีด้วยค่ะ  ชอบทุกตัวละครเลย  สนุกๆๆๆๆ  มาต่อไวไวไนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 27-03-2011 20:15:28
ติดตามครับว่าเมื่อใหร่อิทกับแม่นางจะหลุดพ้นจากไร่ส้มซะที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 27-03-2011 22:49:52
 :a5: :a5: :a5:
น้องอิทธิกับแม่นาง จะเจอมรสุมชีวิตอีกหรือ....ฮ่วยยยยย
แค่นี้ก็อยากจะบ้าตายแล้วววว
แต่ จะรอตอนต่อไปค่ะ
ปล.รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 28-03-2011 11:41:26
อิทธิจะไปจริงๆหรือ :o12:
คุณอาทิตย์รีบกลับมาห้ามเร็ว :serius2:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Gunung ที่ 28-03-2011 13:08:12
อิทจะหนีไปไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 28-03-2011 16:57:55
ทิ้งท้ายไว้ได้อย่างค้างคา เหมือนเป็นลางเลยแฮะ ว่าแต่ย้ายไปอยู่ใกล้พี่อาทิตย์หน่อยก็ดีนะ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 28-03-2011 16:58:23
ทิ้งท้ายไว้ได้อย่างค้างคา เหมือนเป็นลางเลยแฮะ ว่าแต่ย้ายไปอยู่ใกล้พี่อาทิตย์หน่อยก็ดีนะ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 20 อัพเดต 27.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 29-03-2011 23:44:05
ตอนที่ 21

สายแล้ว อาทีกลับมายังเรือนอิทธิอีกครั้งเพื่อบอกว่าป้าจันทร์ของตนตกลงว่าจะส่งเสียเจ้าตัวเรียนต่อชั้นที่สูงขึ้นแล้ว หนุ่มน้อยเห็นท่าทีเพื่อนรักไม่ยินดียินร้ายจึงเอ่ยถามเสียงหงอย
“มึงไม่ดีใจหรือวะไอ้อิท”
“มึงจะให้กูดีใจได้ไงบุญคุณเก่ากูก็ยังตอบแทนท่านไม่หมดแล้วอยู่ดีๆ มึงมาบอกว่าท่านจะส่งเสียกูอีก กูคงรับความเมตตานั่นไม่ได้ว่ะ” อิทธิบอกออกไป มันเป็นความจริงเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งอีกส่วนหนึ่งคือเขาจะรับความเมตตานั่นได้อย่างไรเล่าก็ในเมื่อพอเรียนจบจากชั้นมัธยมหกเขาก็จะไปจากที่นี่แล้วพร้อมมารดา
“มึงจะคิดมากทำไมวะไอ้ห่า ป้ากูท่านไม่คิดเล็กคิดน้อยเรื่องพวกนี้หรอก ท่านบอกว่ามึงเป็นเด็กดีจึงอยากส่งเสียให้ได้ดิบได้ดีบ้าง  ท่านบอกด้วยนะโว้ยถ้าเราสองคนสอบติดที่ดีๆ ท่านจะมีรางวัลให้” อาทีอวดอีก ยิ่งสร้างความหนักใจให้กับคนฟังมากขึ้น จึงเอ่ยตัดบท
“พอเหอะว่ะอาที ไม่ว่ามึงจะพูดยังไงนะโว้ย กูก็คงจะรับความเมตตาจากคุณจันทร์ไม่ได้แล้ว”
“ทำไมวะ เพียงเพราะมึงกลัวบุญคุณท่วมหัวหรือมีอะไรมากกว่านั้น” คราวนี้อาทีเริ่มเสียงแข็งขึ้นบ้าง รู้สึกผิดหวังที่ความหวังดีของตนโดนคนตรงหน้าปฏิเสธที่จะรับ
“มันจะมีอะไรมากกว่านั้นได้ล่ะ ก็มีแค่เรื่องเดียวน่ะแหละ ฝากบอกท่านด้วยว่ากูคงไม่อาจรับความเมตตานี้ได้จริงๆ” อิทธิยังคงยืนยันข้ออ้างเดิม เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่จะบอกเรื่องที่ตนคิดจะย้ายหนีออกจากที่นี่ให้เพื่อนรับรู้
“มึงแน่ใจนะ” อาทีมองจ้องตา
“เออ”
“แต่กูไม่เชื่อ มันต้องมีอะไรมากว่านั้นใช่มั้ยถึงสาเหตุที่มึงไม่รับความหวังดีของกูครั้งนี้”
“ไม่มีอะไรก็ไม่มีอะไรสิวะ มึงนี่เซ้าซี้เป็นเด็กแฮะ”
“ก็ดีถ้าไม่มีอะไรมากกว่านี้”
“ยอมเข้าใจแล้วเหรอ เอออย่างนี้ค่อยน่าคบต่อหน่อย”
“ใครบอกว่ากูยอมเข้าใจ”
“หมายความว่าไง”
“ถ้ามึงติดปัญหาแค่นี้เห็นทีกูคงให้ป้าจันทร์มาคุยกับมึงเองแล้วล่ะ จะดูซิว่ามึงจะกล้าขัดใจท่านต่อหน้ามั้ย”
“อย่านะมึงไอ้อาที”
“มึงไม่ต้องมาห้ามหรอก เพราะยังไงกูก็ไม่ยอมให้มึงหยุดอนาคตมึงแค่ชั้นม.6 แน่ ในเมื่อกูพูดแล้วมึงยังรั้น กูก็คงเพิ่งมือป้าจันทร์กูล่ะ”
“มึงนี่มันวุ่นวายจริงว่ะ กูเองก็ใช่ว่าอยากจะจบอนาคตกูเท่านี้หรอก แต่ถ้ากูจะเรียนต่อกูก็จะหางานหาเงินส่งกูเรียนเอง เข้าใจกูซะใหม่นะไอ้เด็กเจ้าปัญหา”
“มึงน่ะสิเด็กเจ้าปัญหา อวดดีอวดเก่งล่ะเป็นที่หนึ่ง ตัวแค่นี้มึงจะมีปัญญาหางานหาเงินอะไรพอจะที่จะส่งตัวเองเรียนจบปริญญาได้”
“มึงอย่ามาดูถูกกูแบบนี้นะไอ้อาที เชี่ยถ้ากูไม่เห็นเป็นร่างมึงยืนอยู่กูคิดว่าที่ด่ากูเมื่อกี้เป็นพี่ชายมึงนะ ถ้าจะมาชวนกูทะเลาะแบบนี้มึงกลับเรือนมึงไปเลยไป”
“นี่มึงไล่กูเหรอ”
“ก็เออสิ”
“มึงไล่คนที่หอบเอาความหวังดีมาให้มึงได้ลงคอ กูไม่น่าคบมึงมาได้นานขนาดนี้เลยไอ้อิท แม่งเสียความรู้สึก”
“มึงอย่ามางอน เพราะปากมึงน่ะแหละทำให้กูฉุน”
“ก็แล้วทำไมมึงต้องรั้นใส่กูล่ะ”
“กูก็บอกเหตุผลไปแล้วไง”
“แต่กูไม่เชื่อ มึงกำลังปิดบังอะไรกูอยู่ใช่มั้ย”
“ปิดอะไร มึงอย่ามาเดาส่งเดช”
“กูว่ากูไม่ได้เดาหรอก แต่กูรู้เลยล่ะว่ามึงคิดอะไรอยู่ เว้นเสียแต่กูจะพูดไม่พูดแค่นั้นเอง”
“มึงรู้อะไร”
“รู้ความคิดมึงน่ะแหละ”
“เสียใจว่ะกูไม่ได้คิดอะไร”
“มึงพูดเองนะว่าไม่ได้คิดอะไร”
“เออ”
“งั้นมึงเตรียมเจอกับป้าจันทร์ละกัน ไม่พ้นวันนี้หรอกกูพาท่านมาหามึงแน่ ดูซิว่ามึงจะละอายใจมั้ยที่เจ้าของไร่ต้องมาอ้อนวอนให้มึงรับความเมตตาจากท่านซะเอง”
“ขืนมึงทำแบบนั้นมึงกะกูไม่ต้องมาพูดไม่ต้องมาเจอกันอีกไอ้อาที”
“มึงกล้าขู่กูเหรอ”
“กูไม่ได้ขู่แต่กูเอาจริง มึงไม่เชื่อก็ลองดู”
“เชี่ยเอ้ย ขอซักทีเหอะว่ะ”
ด้วยเพราะไม่รู้จะตอบโต้อะไร อาทีจึงตะบันหมัดเข้าที่ใบหน้าคนมองจ้องหน้าตนดุๆ ไม่ได้คิดอยากจะทำหรอกแต่มันรู้เหลืออดแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะตั้งแง่ต่อต้านความหวังดีจากตนไปทำไม หากได้ยินเหตุผลว่ากลัวว่ามารดาตนจะมาอาละวาดอีกก็น่าคิดตาม แต่นี่ดันให้เหตุผลกลัวบุญคุณท่วมหัว ก็บอกอยู่ว่าป้าของตนเป็นคนออกปากจะส่งเสียเองอย่างเต็มใจจะมาคิดเล็กคิดน้อยทำไม ที่เอ่ยบอกออกไปเมื่อครู่ที่ว่ารู้ว่าเจ้าตัวกำลังคิดอะไร จริงๆ ก็แค่สงสัยว่าเจ้าตัวคงกำลังคิดย้ายออกไปจากที่นี่ มันเอะใจตั้งคืนที่ได้นั่งคุยกันใต้แสงดาวเมื่อครั้งโน้นที่โดนบอกให้หัดคบกับใครคนอื่นไว้บ้าง แต่มันก็แค่ความสงสัยที่ไม่อยากให้มันเป็นจริง ที่ผ่านมาจึงไม่อยากเอามาเป็นประเด็นพูดคุย แต่การกระทำและคำพูดในวันนี้ที่เห็นและได้ยินมันส่อเหลือเกินว่าความสงสัยนี้จะเป็นจริง
“นี่มึงต่อยกูทำไมอาที” อิทธิเอ่ยถามเพื่อนอย่างตกใจ รู้สึกเจ็บใบหน้าขึ้นมาจึงใช้มือลูบคลำบรรเทาอาการ
“มึงจะได้รู้ตัวไงว่ากูไม่ใช่คนที่มึงจะมาขู่เอาๆ แบบนี้ ทุกอย่างที่กูทำกูหวังดีกับมึงทั้งนั้น แม่งทำยังกะกูมาเซ้าซี้รบกวน” อาทีเอ่ยระบาย แสดงสีหน้าแสดงความน้อยใจออกมาให้เห็นชัดเจน อิทธิเห็นอาการจึงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเดินไปดึงร่างนั้นเข้ามากอด เอ่ยขอโทษพลางยกมือตบหลังเจ้าตัวเบาๆ
“กูขอโทษ กูรู้ว่ามึงหวังดี แต่อย่างที่กูบอกว่าถ้ากูจะเรียนต่อกูขอหาเงินส่งเสียตัวกูเองดีกว่า กูก็อยากสร้างความภูมิใจให้กับกูและแม่กูเหมือนกันนะ แต่กูขอทำทุกอย่างด้วยลำแข้งกูเองจะดีกว่า”
อาทีอารมณ์นิ่งลง ผละร่างออกจากคนกอดปลอบเอ่ยบอกเสียงเบา
“กูก็ขอโทษด้วยเหมือนกัน ก็เอาเป็นว่ากูไม่บังคับมึงแล้วกัน อยากหาเงินส่งเสียตัวเองก็ลองเอาสักตั้ง แต่อย่าลืมนะโว้ยว่ามึงไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว หากลำบากอะไรบอกกูได้ทุกเมื่อ กูพร้อมตลอดที่จะยื่นมือช่วยเหลือมึง”
“ขอบใจว่ะ มึงเป็นคนที่กูไม่มีทางลืมแน่นอนอาที ไม่ว่าเฉพาะตอนกูลำบากหรอก หากวันไหนกูสบายขึ้นแล้ว มึงก็ยังจะเป็นเพื่อนที่อยู่ในใจกูเสมอ” สองหนุ่มน้อยส่งยิ้มให้กันเมื่อเริ่มเข้าใจกันใหม่ ก่อนอาทีจึงเอ่ยชวนไปว่ายน้ำที่คลองท้ายไร่ เพราะไม่ได้ไปมานานแล้ว อิทธิทำท่าทีอิดออดเมื่อสถานที่นั้นมันชวนให้เด็กหนุ่มนึกถึงวันที่ร่างกายโดนข่มเหงจากฝีมืออาทิตย์ การจะกลับไปที่ตรงนั้นอีกจึงเป็นเรื่องที่ลำบากใจขึ้นมา
“กูว่าเราอย่าไปเลยว่ะ” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกเพื่อน
“ทำไมวะ” อาทีถามอย่างสงสัย อิทธิไม่รู้จะหาเหตุผลใดมาอ้างจึงยกเอาเรื่องจิตรามาพูด
“ก็เดี๋ยวแม่มึงจะตามมาอาละวาดกูอีกไงว่าพามึงไปเล่นอะไรในน้ำคลองแบบนั้น ตอนนี้พี่ชายมึงกลับกรุงเทพฯ ไปแล้ว ต่อไปคุณจิตรคงกลับมาราวีเราตามเดิม”
“ตอนนี้แม่ยังไม่กลับเลย ไปส่งพี่อาทีที่สนามบินน่ะ กว่าจะมาถึงไร่ เราคงเลิกเล่นกันแล้ว แม่คงไม่รู้หรอก”
“แต่อาจมีคนไปฟ้องก็ได้นะ”
“มึงก็รู้ว่าที่คลองนั่นไม่ค่อยมีใครไปกัน จะมีใครตามไปเห็นเราวะ”
อิทธินิ่งคิด ใช่สินะที่ตรงนั้นไม่ค่อยมีใครย่างกรายเข้าไปนัก อาทิตย์ก็น่าจะรู้เรื่องนี้ด้วยล่ะมั้งถึงกล้าทำเรื่องบัดสีกับตนที่ตรงนั้น
“แต่กูยังไม่อยากว่ายว่ะ ร่างกายเพิ่งหายไข้เอง” เด็กหนุ่มเอ่ยปฏิเสธอีกเมื่อนึกถึงการกระทำของอาทิตย์ที่กระทำกับตนคืนนั้น
“มึงก็ไม่ต้องว่ายไง ไปเป็นเพื่อนกูเฉยๆ” อาทียังรั้นที่จะชวน เห็นเพื่อนอิดออดมากๆ จึงยกเรื่องที่ว่าตนโดนขัดใจหลายเรื่องแล้ว เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมยังจะมาขัดใจกันอีก นั่นแหละอิทธิจึงยอมทำตามใจ
“แต่ก็ต้องรีบกลับมานะโว้ย ก่อนที่แม่นางจะกลับมาจากตลาด เพราะกูก็กลัวแม่กูเป็นห่วงเหมือนกัน” อิทธิเอ่ยบอกตอนเห็นเพื่อนแสดงออกถึงความดีใจออกนอกหน้า ก่อนหน้าที่อาทีจะมาที่นี่ มารดาของหนุ่มน้อยก็เข้าทำธุระในเมือง ซึ่งนางจะเข้าไปประจำทุกวันหยุด กลับเข้ามาอีกทีก็บ่ายๆ นั่นแหละ
   
*****************************************************************

ใต้ร่มไม้ใหญ่อิทธินั่งมองร่างอาทีดำผุดดำว่ายภายในน้ำ เด็กหนุ่มเลี่ยงที่จะลงไปว่ายด้วยเพราะร่างกายก็เพิ่งจะดีขึ้นจากพิษไข้ และแผลที่แขนจากการโดนกิ่งไม้ก็ยังไม่หายสนิทดี ตอนปั่นจักรยานกันมาเลี่ยงไม่ได้เลยกับการที่จะต้องผ่านจุดที่ตนโดนอาทิตย์ข่มเหงรังแก เด็กหนุ่มอดไม่ได้ที่จะหันมอง แต่ก็ไม่ได้ทำตัวผิดสังเกตกระทั่งปั่นจักรยานมาจนถึงท่าที่คนซ้อนท้ายบอกจะลงว่ายจึงได้หยุดรถส่งให้เจ้าตัวเปลื้องผ้ากระโดดลงน้ำ ส่วนตัวเองก็หาร่มไม้นั่งมองถึงตอนนี้
เวลาผ่านไปหลายนาที อาทียังคงดำผุดดำว่ายในน้ำอย่างร่าเริงอยู่เพียงลำพัง อิทธิละสายตาจากร่างนั้นเอนตาพิงต้นไม้ แหงนหน้ามองฟ้ากว้างคิดเรื่องราวต่างๆ ที่เคยผ่านมาไปเรื่อยเปื่อย ลมเย็นๆ พัดมากระทบร่างเป็นระยะ หอบเอากลิ่นดอกไม้ป่ามาให้สูดดมความหอมสดชื่นอยู่เป็นระลอก ท้องฟ้าสีฟ้าครามใสวันนี้ช่างสวยนัก ป่านนี้ใครบางคนจะขึ้นเครื่องบินขึ้นไปยู่บนนั้นหรือยังนะ
“นี่กูจะคิดถึงเขาทำไมวะ” เด็กหนุ่มรีบสลัดภาพใบหน้าของอาทิตย์ทิ้งเมื่อตอนที่แอบคิดถึงเจ้าตัวในตอนเหม่อมองฟ้ากว้าง หนุ่มน้อยส่ายหน้าระอาในความคิดของตัวเองที่ดันแอบนึกถึงภาพใบหน้าคมหล่อเหลาของคนที่จ้องแต่จะรังแกตน สักพักจึงหันมาสนใจร่างเกือบเปลือยของเพื่อนที่ดูจะปล่อยกายไปใจไปกับสายน้ำที่โอบพันร่างตอนแหวกว่ายอย่างสนุกสนาน เด็กหนุ่มยิ้มหน่อยๆ ให้กับภาพที่เห็น ดูเพื่อนมีความสุขกับกิจกรรมที่ทำแบบนี้หัวใจก็พาลสุขร่วมไปด้วย เห็นแบบนี้แล้วก็ไม่แน่นักหรอกว่าวันที่ตัวเองจะต้องห่างไกลกับเจ้าตัวจริงๆ คนที่คิดถึงอยากจะกลับมาเจอมาพูดคุยอยากจะมานั่งมองดาวคู่กันยามค่ำคืนอาจจะเป็นตัวเขาเองก็เป็นได้
เสียงเดินสวบสาบดังตามลมมาให้ได้ยิน บ่งบอกว่ามีคนรุกล้ำเข้ามาในเขตนี้เรียกความสนใจให้ต้องหันไปมองทางที่มาของเสียง ในใจก็นึกคิดว่าใครมาทำอะไรกันที่นี่ น่าจะหลายคนซะด้วยเพราะเสียงมันดังเหลือเกิน แต่ปกติก็ไม่ค่อยจะมีคนเข้ามานี่นา หรือว่าเป็นคนงานเดินมาหายิงนกยิงหนูเพราะวันนี้คนงานบางส่วนก็หยุดงานเฉกเช่นมารดาของตน
เสียงนั่นเงียบไปสักพัก ก่อนจะดังหนักขึ้นคล้ายกับว่าคนกลุ่มนั่นกำลังวิ่ง หนุ่มน้อยสนใจได้สักพักก็ต้องรีบหันกลับมามองที่ในคลองแทนเพราะได้ยินเสียงเพื่อนร้องโอ้ยลั่นขึ้น
“อาที เป็นอะไรวะ” เด็กหนุ่มลุกยืนมองร่างเพื่อนที่กำลังยกมือขึ้นกุมหัวไหล่ซ้าย ด้วยอารมณ์เป็นห่วงจึงไม่คิดรอคำตอบอะไร หนุ่มน้อยจึงตัดสินใจถอดเสื้อถอดรองเท้าแล้ววิ่งไปยังท่าน้ำกระโดดพุ่งร่างลงไปแล้วรีบว่ายไปดูอาการเพื่อนทันที
“ไม่รู้ใครยิงอะไรมาว่ะไอ้อิทธิ เฉี่ยวไหล่กูไปเมื่อกี้” อาทีรายงานอย่างตกใจ มือยังกุมที่หัวไหล่ซึ่งน่าจะได้แผลจากการโดนวัตถุบางอย่างพุ่งเฉี่ยว
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ขึ้นฝั่งก่อนเถอะ” อิทธิรีบเอ่ยชวนเพราะรู้สึกไม่ชอบมาพากลในเหตุการณ์ สองหนุ่มจึงรีบพาร่างกลับขึ้นฝั่ง เช็ดเนื้อตัวผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เตรียมมาเสร็จจึงพูดคุยกัน
“ดีนะแผลไม่หญ่มาก แต่แม่งใครมันยิงอะไรมาวะ” อาทีเอ่ยอย่างหัวเสียนี่ถ้าวัตถุนั้นตรงเข้าที่ใบหน้าหรือศีรษะเขาอะไรจะเกิดขึ้นก็ไม่อยากจะคิด
“มีคนมาที่นี่หลายคนซะด้วยกูได้ยินเสียงเดินมา มันต้องเป็นคนกลุ่มนั้นแน่ๆ กูว่าตอนนี้เรารีบกลับเรือนก่อนดีกว่า ท่าทางจะไม่ดีว่ะ” อิทธิเอ่ยบอก อาทีพยักหน้าตาม สองหนุ่มจึงรีบกลับเข้ามาที่เรือน โดยเป็นเรือนของอิทธิ ซึ่งขณะนี้แม่นางยังไม่กลับเข้ามา
“เดี๋ยวทำแผลก่อนนะมึง” อิทธิเอ่ยบอกเพื่อนหลังจอดจักรยานได้แล้ว ก่อนจะผละไปเตรียมอุปกรณ์และยาที่มารดาของตนเตรียมติดเรือนไว้ตลอดมาทำแผลให้เพื่อน หลังทำเสร็จจึงนั่งพูดคุยกันถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
“อยากรู้จริงว่าใครกันที่มันทำแบบนี้” อาทีบ่นขึ้นก่อน นึกแล้วยังหวาดเสียวไม่หายกับสิ่งที่เจอ
“กูว่ามันคงเป็นคนในไร่นี้แหละ และกูพอจะรู้ด้วยว่าใคร” อิทธิเอ่ยบอกคาดเดาว่านี่คงเป็นฝีมือของนายสิน ไม่ใช่การคาดเดาด้วยใจที่เป็นอคติ แต่ระหว่างทางกลับมาก็ครุ่นคิดถึงตอนที่นายสินบุกจะมาทำร้ายตนแล้วอาทีกับอิทธิโดดมาขัดจังหวะ วันนั้นนายนั่นเข้าใจว่าคนที่ทำร้ายยัยส้มน้องสาวคือตัวเขาจึงบุกมาเช่นนั้น เป็นไปได้มากว่าตอนนี้ยัยส้มอาจจะบอกความจริงกับพี่ชายแล้วก็ได้ว่าจริงๆ คนที่ปั่นจักรยานชนตัวเองคืออาที นายสินถึงคิดจะแก้แค้นให้ แต่เพราะเห็นอาทีเป็นหลานเจ้าของไร่คงจะไม่คิดลงมือซึ่งๆ หน้า เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาน่าจะเป็นการลอบทำร้ายแน่ๆ เลวแล้วยังหน้าตัวเมียแบบนี้มันน่าตามไปกระชากถามเอาความจริงนักว่าหากว่าวัตถุนั่นเกิดพลาดโดนจุดสำคัญของอาทีอะไรจะเกิดขึ้น
“มึงกำลังคิดว่าเป็นนายสินใช่มั้ย” อาทีมองสบสายตาเพื่อน เห็นแววตาเจ้าตัวแข็งกร้าวอยู่อย่างน่ากลัว
“จะมีใครซะอีกล่ะที่เป็นอันธพาลที่สุดในไร่นี้” อิทธิบอก แล้วสั่งให้เพื่อนกลับเรือนไปก่อน ส่วนตัวเองขอสะสางเรื่องนี้ให้เอง
“มึงคิดจะทำอะไรวะ” อาทีเอ่ยถามเพื่อนอย่างนึกห่วง ไม่อยากให้เพื่อนมีปัญหากับคนอย่างนายสินเท่าไหร่นัก
“เดี๋ยวกูจะตามไปถามมันว่าที่มันทำแบบนี้เพราะต้องการอะไร” อิทธิเอ่ยตอบ
“เฮ้ย ไม่ต้องเดี๋ยวเรื่องนี้ปล่อยให้ป้าจันทร์จัดการเถอะ”
“บอกตามตรงนะ กูไม่ได้คิดจะว่าป้ามึงนะโว้ย แต่รอแบบนั้นเดี๋ยวก็พาลจับคนทำผิดไม่ได้อย่างคราวที่มึงโดนก่อนหน้านั่นอีก”
“แล้วมึงคิดว่ามึงจะเค้นให้มันยอมรับได้เหรอ กูว่าเรื่องมันจะบานปลายไปกันใหญ่นะ”
“ถึงมันไม่ยอมรับ แต่อย่างน้อยกูก็ได้ทวงคืนสิ่งที่มันทำกับมึงล่ะวะ มึงจะยอมให้มันลอบทำนร้ายมึงแบบนี้ตลอดๆ เหรอ มันอันธพาลมากูก็ต้องอันธพาลกลับสิ คนอย่างกูไม่มีอะไรจะต้องเสียอยู่แล้วหากคิดจะแลกหมัดกับคนอย่างไอ้สิน” อิทธิบอกอย่ามาดมั่น ส่วนอาทีนึกลำบากใจ
“แต่กูไม่อยากให้มึงเดือดร้อนเพราะกูนะไอ้อิท”
“การที่มึงโดนคนอื่นลอบทำร้ายเอาแบบนี้มึงคิดว่ากูมีความสุขหรือไงล่ะ บอกแล้วไงว่ากูมันก็ขี้ข้าในไร่พอๆ กับไอ้สิน เกิดเหตุชกต่อยกันมันก็คงเป็นเรื่องที่คนไม่คิดจะใส่ใจ”
“ก็บอกแล้วไงว่ารอให้ป้าจันทร์จัดการ”
“แล้วคิดว่าจะจับมันได้มั้ย”
อาทีเงียบ ก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก เพราะจนป่านนี้ไม่เห็นผู้เป็นป้าบอกเลยว่าสั่งสืบตามเรื่องผู้ร้ายที่ลอบทำร้ายตนคราวก่อนไปถึงไหนแล้วบ้าง
“แต่กูก็ไม่อยากให้มึงเดือดร้อนอยู่ดี” หนุ่มน้อยบอกออกมาใหม่หลังจากหยุดคิดไปพัก อิทธิถอนหายใจ เห็นเพื่อนรักออกอาการห่วงแบบนี้ก็คิดว่าการตามไปเป็นฝ่ายราวีคนอย่างนายสินบ้างคงเป็นเรื่องยาก ที่สุดเด็กหนุ่มจึงแกล้งบอกเป็นเชิงให้เพื่อนสบายใจ
“เออๆๆ ไว้รอให้คุณจันทร์จัดการก็ได้ กูไม่ทำอะไรก็ได้ ว่าแต่มึงกลับเรือนไปก่อนเถอะไป เดี๋ยวแม่มึงกลับมาถามหาแล้วจะยุ่งขึ้นมาอีก”
อาทีสบายใจขึ้นที่เพื่อนบอกออกมาอย่างนั้น แต่ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันกับสิ่งที่ตนเอ่ยโกหกบอกว่าเรื่องนี้จะให้ป้าของตนจัดการ ใครบอกล่ะว่าเขาจะไปรายงานเรื่องนี้ฝ่ายนั้นรู้ เพราะขืนบอกไปมารดาเขาก็รับรู้กันพอดีว่าเขาลอบไปเล่นน้ำคลองที่ไร่กับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีก หากเป็นเช่นนั้นมารดาตนคงไม่วายที่จะตามมาราวีเจ้าตัวเป็นแน่ ยิ่งตอนนี้พี่ชายตนได้กลับกรุงเทพฯ ไปแล้วด้วย คงไม่มีใครที่จะมาแย่งความสนใจจากมารดาได้อีก เรื่องนี้เด็กหนุ่มจึงตั้งใจปิดเงียบไม่บอกใครเลยทั้งสิ้น
อาทีเอ่ยลากลับเรือนในที่สุด อิทธิบอกจะไปส่งแต่หนุ่มน้อยกลัวว่าเพื่อนจะได้เผชิญหน้ากับมารดาจึงเลี่ยงขอกลับเอง
“งั้นก็ระวังตัวด้วยละกัน” อิทธิบอกเพื่อนอย่างนึกห่วงใย จริงๆ ไม่ได้กลัวเผชิญหน้ากับจิตราเลยหากว่าจะรั้นไปส่ง แต่ที่ยอมไม่ไปเพราะว่าเป้าหมายที่จะไปหลังจากเพื่อนรักลับสายตาไปแล้วคือเรือนของนายศรต่างหากล่ะ เปล่าหรอกหนุ่มน้อยไม่ได้ไปหานายศร แต่นายสินต่างหากล่ะคือคนที่ต้องการเจอ!

โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 29-03-2011 23:53:20
เฮ้ออ  เจ้ากวางไปหาเสือถึงถ้ำ  คิดว่าจะได้เดินกลับมาอย่างเฉิดฉายหรืองัยกัน  คิดสิ คิด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 29-03-2011 23:54:10


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 30-03-2011 01:00:25
สินจัดหนักๆ

แล้วเอาให้หลงอิทธิไปเลย

เอ๊ะ จะเป็นอย่างที่คิดไหมนั
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 30-03-2011 01:32:33
ยิ่งอ่านยิ่งดราม่าเข้มข้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 30-03-2011 10:14:53
เฮ้ออ  เจ้ากวางไปหาเสือถึงถ้ำ  คิดว่าจะได้เดินกลับมาอย่างเฉิดฉายหรืองัยกัน  คิดสิ คิด

เปรียบซะน่ารักเลย แต่ก็จริง
จะได้เดินออกมาอย่างสบายใจหรือไง เดี๋ยวก็มีเรื่องทำให้คุณนายจิตรามารังควาญหรอก - -

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 30-03-2011 11:12:04
 :เฮ้อ:

นั่นก็ไม่คิดจะบอก เดี๋ยวมันต้องมีเหตุแหง๋ๆ แอร๊ยยส์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Samudra ที่ 30-03-2011 11:22:34
โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 30-03-2011 11:23:06
เด็กเอ๋ย  คิดอะไรให้รอบคอบก่อนเถอะ  
พวกคนเลวมันทำอะไรได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 30-03-2011 11:33:21
ลุ้นคอดๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 30-03-2011 11:43:58
 :เฮ้อ:

อะไรมันรันทดปานนั้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 30-03-2011 11:45:27
โอ๊ย ทำไมมันเป็นเยี่ยงนี้
อิทธิไปคนเดียวเดี๋ยวก็ได้เรื่องหรอก เฮ้อ  :o11:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 30-03-2011 12:07:29
อีกนานมั้ยกว่าอาทิตย์จะได้กลับมาเจออิทธิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 30-03-2011 17:42:32
คิดถึงอาทิตย์ ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 30-03-2011 18:54:52
พี่อาทิตย์ กลับมาช่วยน้องอิทเร็ว :sad4:

นายสิน อย่างมันต้องโดน :z6:
 :beat: :beat:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 30-03-2011 19:34:06
โถ อาทิตย์ก้กลับไปแล้ว
แล้วอิทธิจะทำไงเนี่ย เข้าถ้ำเสือด้วยตัวเองเลยนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 30-03-2011 20:28:37
แล้วใครจะช่วยล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 03-04-2011 16:03:56
โอยยย มันอารายกานนนนนมันอารายก๊านนนน จะโดนอะไรอีกไม๊เนี่ยอิทเอ๊ย!! เป็นห่วงเหลือเกิน -''-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 21 อัพเดต 29.03.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 03-04-2011 18:15:24



ตอนที่ 22

เรือนของนายศรตั้งอยู่ตรงหน้า อิทธิหยุดยืนมองเห็นแล้วว่าตรงชานเรือนทั้งนายศรนายสินและส้มกำลังนั่งกันอยู่ ทั้งกลุ่มกำลังจะสนทนาอะไรกันก็ช่าง ณ ตอนนี้สิ่งที่เด็กหนุ่มอยากรู้คือเป็นฝีมือของนายสินหรือไม่ที่ลอบทำอะไรอุกอาจต่อหลานของเจ้าของไร่ คิดได้เช่นนั้นหนุ่มน้อยจึงออกก้าวเดินตรงดิ่งไปหาบุคคลทั้งสามทันที
“พ่อ พี่สิน ไอ้อิทธิมา” ส้มหันมาเห็นอิทธิก่อนใครจึงรีบหันไปบอกบิดาและพี่ชาย ชายสองวัยหันมามองตามคำบอก ต่างลุกเดินลงจากเรือนมาหยุดต่อหน้าแขกที่มาเยือน
“มาที่เรือนข้าทำไมไอ้เด็กน้อย” นายศรเอ่ยทักก่อน อิทธิไม่ได้มาหาเจ้าตัวจึงไม่ใคร่อยากจะตอบ สายตาเด็กหนุ่มตวัดมองไปยังอีกร่างหนึ่งที่ยืนขนาบคู่คนถาม
“มองหน้ากูเดี๋ยวโดนๆ” สินเอ่ยว่าเมื่อถูกจ้องหน้า อิทธิใช่จะกลัวกับคำขู่จึงถามกลับนิ่งๆ
“เอ็งอยู่ที่เรือนนี้ตลอดหรือเปล่าสิน”
“อ้าว ก็นี่มันเรือนกูถ้ากูไม่อยู่นี่มึงจะให้กูไปอยู่ไหน” สินตอบยียวน อิทธิทำใจเย็นถามใหม่
“ข้าหมายถึงก่อนหน้านี้เอ็งได้ไปที่คลองท้ายไร่บ้างหรือเปล่า”
สองพ่อลูกหันมองหน้ากันเมื่อสิ้นคำถามเด็กหนุ่มตรงหน้า อิทธิอ่านแววตาที่ทั้งคู่มองกันก็พอจะรู้ว่าสิ่งที่ตนคาดเดาไม่น่าจะผิด
“เอ็งถามทำไม ลูกข้าอยู่กะข้าที่นี่ยังไม่ทันได้ออกไปไหน” ที่สุดผู้เป็นบิดาก็หันมาเอ่ยด้วยก่อน แต่จากที่ใจเชื่อไปเกินครึ่งแล้วกับสิ่งที่เห็นอิทธิจึงบอกออกไปเลยตรงๆ
“แน่ใจหรือลุงศรว่าไอ้สินมันอยู่กับลุงศรที่นี่จริงๆ ไม่ใช่ว่ามันเพิ่งกลับมาจากการลอบทำร้ายไอ้อาทีนะ”
“อะไรนะ ใครลอบทำร้ายใครนะ ลองพูดใหม่ซินายอิท” เสียงส้มดังแว้ดมาก่อนตัวก่อนที่ร่างสาวน้อยจะมายืนเสนอหน้ารอฟังคำพูดจากปากคนที่หล่อนบอกให้พูดอีกครั้ง
“ถอยไปนังส้ม มันไม่ใช่เรื่องของผู้หญิง ตอนนี้ปล่อยให้ลูกผู้ชายเขาคุยกัน” นายสินเอ่ยบอกบุตรสาวพร้อมดึงร่างบางของเจ้าตัวถอยห่าง ประโยคหลังที่เน้นคำว่าลูกผู้ชายแน่นอนที่สุดว่าต้องการเสี้ยมให้บุตรชายใช้กำลังพูดคุยกับคนตรงหน้าที่บังอาจพาร่างมาให้เชือดถึงถิ่น ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมแบบนี้ยังจะกล้ามาโอหังพูดจาเล่นลิ้นใส่เขา ถ้าไม่ปล่อยให้บุตรชายจัดการก็เสียเหลี่ยมหัวหน้าคนงานกันพอดี
“ก็ส้มอยากรู้นี่พ่อว่าที่พี่สินหายไปพี่สินไปลอบทำร้ายพี่อาทีมาจริงๆ อย่างที่ไอ้อิทมันพูดหรือเปล่า” ส้มออกอาการไม่พอใจ ก็หล่อนเคยเอ่ยขอแล้วนี่ว่าห้ามใครแตะต้องหลานชายทั้งสองของเจ้าของไร่นี้ การได้ยินสิ่งที่อิทธิเอ่ยเมื่อครู่จึงสร้างความร้อนใจให้หล่อนได้ดีนัก
“อีส้มอีปากพล่อย พ่อเอามันไปไกลตีนผมเลยนะ ก่อนที่มันจะโดนหางเลขไปอีกคน” สินเอ่ยอย่างขัดใจในคำพูดของน้องสาว นายศรเองก็เห็นด้วยจึงออกแรงลากบุตรสาวไปทางอื่น ปล่อยให้บุตรชายเผชิญหน้ากับอิทธิเพียงลำพัง
“นั่นไง ข้าคิดไว้ผิดซะที่ไหน ไอ้อาทีมันไปทำอะไรให้เอ็งวะสิน เอ็งถึงได้ลอบทำร้ายมัน คราวก่อนโน้นก็ฝีมือเอ็งใช่มั้ย” อิทธิเปิดฉากถามทันทีเมื่อได้อยู่ตามลำพังกับคนอันธพาลอย่างนายสิน ซึ่งยังไม่ยอมรับข้อกล่าวหาง่ายๆ
“เอ็งไม่มีหลักฐานเอ็งอย่ามาว่าข้าแบบนี้ไอ้อิท”
“คนอย่างเอ็งไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานมามัดตัวหรอกเพราะคำว่าอันธพาลมันแปะประจานไว้กลางหน้าผากเอ็งไว้อยู่แล้วไอ้สิน” อิทธิเอ่ยว่าอย่างเหลืออด ผิดซะที่ไหนกับสิ่งที่คิด เรื่องอะไรที่โจรมันจะรับผิดถึงคดีที่มันก่อง่ายๆ
“มึงอย่ามาปากกล้ากะกูนะไอ้อิท ที่นี่มันเขตเรือนกู กูจะทำอะไรมึงก็ได้นะ” สินเกิดเลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินถ้อยคำเอ่ยว่าเมื่อครู่ จึงส่งสายตากร้าวให้กับคนว่าพร้อมกับยกนิ้วชี้หน้าคาดโทษอย่างหยาบคาย
“การที่กูมาที่นี่กูก็คิดอยู่แล้วว่าอันธพาลอย่างมึงคงใช้กำลังตัดสินปัญหากะกูน่ะแหละ แต่มึงอย่าคิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นมือตีนกูก็มี เรื่องอะไรกูจะยอมให้มึงทำฝ่ายเดียว” อิทธิมองจ้องตาอย่างไม่นึกเกรง รู้อยู่แล้วว่าผลจากการมาที่นี่ต้องลงเอยด้วยการแลกหมัดกับคนตรงหน้าเป็นแน่ ซึ่งหากการเจ็บตัวครั้งนี้เป็นการแลกกับการได้ระบายแค้นแทนเพื่อนรักอย่างอาทีเขาก็ยินดี
“มึงวอนเองนะไอ้อิท มึงกล้าท้าทายกูขนาดนี้กูก็จะสนองให้” สิ้นคำเอ่ย สินใช้จังหวะที่คนตรงหน้าไม่ทันตั้งรับตะบันหมัดแรกใส่ใบหน้าเจ้าตัวทันที คิดจะตามด้วยหมัดที่สองตอนเห็นร่างนั้นเซไปด้านหลัง แต่แล้วกลับโดนปลายเท้าถีบสวนกลับมาสุดแรงจนเซถลาล้มลงร้องโอดโอย
อิทธิย่างเท้าเข้าไปเตรียมกระทืบร่างอันธพาลให้หายซ่า แต่ฝ่ายนั้นไหวตัวทันด้วยการกลิ้งหลบแล้วยันกายลุกขึ้นถีบสวนกลับมา เด็กหนุ่มเบี่ยงตัวหลบปลายเท้าด้วยความไวแล้วจัดการเตะเข้าที่ปลายน่องคนที่ยืนขาเดียวส่งผลให้ร่างนั้นล้มลงกับพื้นอีก
สินร้องโอ้ยด้วยความเจ็บจากการล้มร่างกระแทกพื้นเป็นหนที่สอง สายตาอัธพาลหนุ่มจ้องมองคนที่เดินเข้าหาอย่างโกรธแค้น ไม่น่าเชื่อตนจะพลาดท่าเสียหลักได้ขนาดนี้
อิทธิหยุดการเดินเข้าหาถอยฉากออกมายืนตั้งรับเมื่อเห็นคนที่นอนกับพื้นดีดตัวลุกยืนพร้อมมือที่กำลังถือท่อนไม้ยาวเท่าแขน
“มึงทำกูเจ็บกูฟาดมึงไม่เลี้ยงแน่ไอ้อิท” สินโพล่งออกมา นาทีนี้รู้สึกโกรธปนเสียหน้าจนคิดว่าสามารถใช้ท่อนไม้ในมือที่ฉวยหยิบมาได้ฟาดใส่ร่างคู่ต่อสู้ให้ดับดิ้นได้อย่างไม่สนใจผลที่ตามมาใดๆ ทั้งสิ้น
“โธ่เอ้ยกูนึกว่าจะแน่ สุดท้ายมึงก็ใช้อาวุธจนได้นะไอ้สิน” อิทธิเอ่ยกลับ แม้จะหวั่นใจอยู่บ้างกับท่อนไม้ขนาดเขื่องในมือของสิน แต่เด็กหนุ่มก็ไม่เคยคิดที่จะยอมศิโรราบโดยการวิ่งหนีไปไหน ตรงกันข้าม สายตาหนุ่มน้อยกลับมองจ้องไปที่คนถือไม้อย่างเหยียดๆ แสดงออกถึงความสมเพชในการกระทำของฝ่ายนั้น
“เรื่องของกู! ตายซะเถอะมึง” สินเอ่ยตวาดพร้อมขู่แล้วถือท่อนไม้ในมือวิ่งเข้าใส่ร่างคู่ต่อสู้ ออกแรงเหวี่ยงไปอย่างบ้าคลั่ง อิทธิเองที่ตั้งรับอยู่แล้วจึงเบี่ยงกายหลบทิศทางได้ฉิวเฉียด แต่ยิ่งหลบอีกคนก็ยิ่งฟาด ซึ่งหากเป็นแบบนี้อาจจะพลาดท่าโดนฟาดเอาสักทีเป็นแน่ คิดได้เช่นนั้นสายตาเด็กหนุ่มจึงเริ่มจับจ้องจังหวะการเงื้อมือฟาดของคนอันธพาล พอได้จังหวะเหมาะจึงตัดสินใจยกสองมือขึ้นจับข้อมือคนนั้นเอาไว้ นาทีที่ทำสำเร็จก็ไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปยกปลายเข่าขึ้นกระแทกใส่หน้าท้องเจ้าตัวเน้นๆ แบบไม่นับครั้ง
สินร้องอ๊อก!ในทุกครั้งที่โดนปลายเข่าคนคนอ่อนกว่ากระแทกเข้าที่หน้าท้อง ร่างกายเริ่มทนความจุกเสียดไม่ไหวจึงปล่อยให้ท่อนไม้ในมือร่วงลงที่พื้นเพราะไร้เรี่ยวแรงจับยึด อิทธิรู้สึกถึงไม้ท่อนเขื่องได้หล่นลงพื้นไปแล้วจึงจัดการกระแทกเข่าสุดแรงใส่ร่างสินเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกแรงถีบร่างเจ้าตัวให้หงายหลังล้มตึงไปนอนสิ้นท่ากับพื้นดิน รู้สึกสาแก่ใจที่เห็นร่างนั้นนอนขดร่างตาเหลือกลานคล้ายคนกำลังเจ็บปวดทรมาน
“จำเอาไว้ว่าอย่าไประรานไอ้อาทีอีกไอ้อันธพาลสวะ” อิทธิชี้หน้าเอ่ยกำชับก่อนจะพาร่างเดินหนีไป สินฝืนอาการจุกเสียดมองตามอย่างอาฆาตแค้น
อิทธิกลับมาที่เรือนในตอนที่มารดากลับเข้ามาแล้วเช่นกัน ฝ่ายนั้นถามว่าหายไปไหนมาเด็กหนุ่มจึงเอ่ยปดว่าไปเดินเล่น เห็นมารดาไม่ซักต่อจึงเดินไปล้างมือล้างหน้าล้างเท้าให้คราบไคลคนอันธพาลหลุดออกจากเนื้อตัว
ทางด้านอาทีที่กำลังนั่งสนทนากับผู้เป็นป้าที่เรียกมาซักถามเรื่องการเรียน พอเห็นร่างมารดาเดินขึ้นมาบนเรือนจึงคิดจะผละหนี แต่ก็ไม่ทันเมื่อมารดาเรียกไว้ซะก่อน พร้อมเดินมานั่งตรงหน้า
“จะไปไหนไอ้อาที เห็นฉันเป็นผีหรือไงถึงคิดแจ้นหนีมันทุกครั้ง”
“เปล่าครับ ผมต้องไปอ่านหนังสือ” อาทีตอบเลี่ยงๆ พยายามไม่มองหน้ามารดา
“แน่แรอะ! ไม่ใช่ว่าจะแจ้นไปเรือนคนงานหรอกนะ” จิตราประชดอย่างอดไม่ได้ ก่อนส่งบุตรชายคนโตขึ้นเครื่องเจ้าตัวก็กำชับอีกครั้งว่าให้พูดจาดีๆ กับบุตรชายคนนี้เหมือนกับพูดกับตนหน่อยก็ดี หล่อนก็อยากจะทำหรอกนะ แต่ดูมันสินั่น หน้าหล่อนมันยังเมินใส่แล้วอย่างนี้จะให้หล่อนพูดดีๆ ด้วยได้อย่างไร
“ตอนนี้พี่อาทิตย์ไม่อยู่ ผมคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับเพราะผมเชื่อว่าแม่คงจะตามราวีผมกับไอ้อิทและแม่นางตามเดิมเป็นแน่” อาทียอมหันมามองหน้ามารดาเมื่อโดนเจ้าตัวเอ่ยประชด เด็กหนุ่มนึกไปถึงว่าจะมีสักครั้งมั้ยนะที่มารดาผู้นี้จะเอ่ยดีๆ กับตนอย่างที่ได้เอ่ยกับบุตรชายคนโตอย่างพี่ชายตนบ้าง
“ไอ้อาที นี่แกกำลังจะชวนให้ฉันโมโหอีกแล้วนะ หนอยแน่ะทำพูด ประชดประชัน” จิตราแว้ดใส่ทันควันเมื่อฟังคำบุตรชายจบ อาทีเองก็ใช่ว่าจะยอม
“ก็แม่ประชดผมก่อนนี่”
“แล้วยังไง ฉันเป็นแม่แกนะ ฉันมีสิทธิ์ที่จะพูดจะเอ่ยอะไรกับแกก็ได้”
“แล้วทีกับพี่อาทิตย์ล่ะ แม่เคยเอ่ยกระทบกระทั่งแบบนี้บ้างหรือเปล่า”
“แล้วพี่ชายแกทำอะไรขวางหูขวางตาฉันเหมือนอย่างแกทำมั้ยล่ะ”
“ถึงทำแม่ก็หลับหูหลับตาทำมองไม่เห็นอยู่ดีนั่นแหละ แม่อย่ามาพูดเลย” เอ่ยจบอาทีตัดสินใจลุกเดินหนีทันที เพราะขืนอยู่นานกว่านี้กลัวว่าจะเอ่ยอะไรที่มันอาจจะดูไม่เหมาะไม่ควร ยังไงภายในใจหนุ่มน้อยก็สำนึกอยู่ว่าคนที่แว้ดๆ ใส่ตนนั่นคือมารดาผู้ให้กำเนิด การเลี่ยงการเผชิญหน้าในตอนที่อารมณ์กำลังแปรปรวนคือหนทางเดียวที่จะทำให้ไม่ต้องได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเนรคุณโดยการต่อล้อต่อเถียงกับผู้ให้กำเนิด ส่วนจิตรานั่นก็ไม่วายส่งเสียงดังตามหลังเช่นเคย
“ไอ้อาที ไอ้ๆๆ โอ้ย กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ลูกปากเก่ง”
“พอกันทั้งคู่ ไอ้ฉันก็นึกว่าจะดีกันให้ฉันเห็นชื่นใจก่อนตาย ที่ไหนได้แว้ดๆ ใส่กันยังกะไม่ใช่แม่ลูก” จันทร์จวงเอ่ยบ่นออกมาตอนที่เห็นร่างหลานชายลงจากเรือนไปแล้ว จิตราจึงหันมาสนทนาด้วย
“มาพูดเรื่องตงเรื่องตายอะไรตอนนี้คะพี่จันทร์ สุขภาพยิ่งไม่ค่อยดีๆ อยู่”
“สนใจเรื่องสุขภาพฉันด้วยเหรอ ฉันนึกว่าหล่อนจะมัวแต่แว้ดใส่คนนั้นทีคนนี้ทีจนลืมใส่ใจฉันซะแล้ว”
“โอ้ย ยังจะคิดว่าจิตราใม่ใส่ใจอีกเหรอคะ ก็อีจิตรคนนี้ไม่ใช่เหรอคะที่ร่วมหัวจมท้ายจนโดนตัดขาดจากญาติพี่น้อง จิตรเคยใส่ใจพี่จันทร์ยังไงวันนี้จิตรก็เป็นอย่างนั้นแหละค่ะ เพียงแต่ตอนนี้จิตรไม่ได้ตัวคนเดียวอย่างเมื่อก่อน มีลูกมาให้ดูแลตั้งสองคน ไร่เหรอก็ขยายใหญ่กว่าแต่ก่อนมากนัก จิตรก็มีละเลยพี่จันทร์บ้างเป็นบางเวลาแหละค่ะ”
“ฉันก็ประชดหล่อนไปอย่างนั้นแหละ การที่หล่อนใส่ใจดูแลไนร่ดูแลลูกหล่อนน่ะถูกแล้ว สามคนแม่ลูกจะได้ช่วยกันรักษาไร่นี้ให้มันอยู่ได้ต่อไปในตอนที่ฉันไม่อยู่แล้ว”
“พี่จันทร์นี่ยังไงนะ พูดจาไม่เข้าหูเลย พี่จันทร์ไม่อยู่แล้วไร่นี้จะเป็นไร่ได้ยังไงคะ”
“หล่อนก็ดูแลไปซี้ จะมายึดติดกับฉันทำไม”
“จิตรน่ะดูอยู่แล้วล่ะค่ะ จิตรคงไม่ยอมให้อีนังแม่นางมาชุบมือเปิบเอาหรอกค่ะ”
“วกกลับมาเรื่องนี้อีกแล้ว บอกกี่ครั้งแล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่คนของฉันคิดจะเนรคุณฉัน”
“ค้า! คุณพี่ เห็นประชดจิตรจิตรก็ประชดกลับบ้างสิคะ จิตรขอตัวนะคะ อยากอาบน้ำสักหน่อย เหนียวตัวเหลือเกิน”
จิตราลุกเดินจากไปแล้ว จันทร์จวงมองตามหลังสักพักก็หันมาปลงตกกับวัฏจักรของชีวิต
“ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้หรอกจิตราเอ้ย หากฉันจะเป็นอะไรไปจริงๆ ฉันก็อยากเห็นหล่อนปรองดองกับแม่นางและเด็กอิทธิเหลือเกิน ฉันเชื่อว่าสองคนนั้นจะร่วมดูแลไร่นี้ไปกับหล่อนได้มากกว่าคนของหล่อนซะอีก”
หญิงชราถอนหายใจหนึ่งเฮือกก่อนจะนั่งหลับตาทำจิตใจให้โปร่ง คล้ายๆ ปลงแล้วจริงๆ กับชีวิตบั้นปลายที่ไม่รู้ว่ายมบาลจะมาพรากนางไปจากไร่นี้เมื่อไหร่

*******************************************************

ฟากอาที ทันทีที่ลงจากเรือนได้เด็กหนุ่มก็ตรงมาหาเพื่อนรักอย่างอิทธิทันที ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวกำลังนั่งพูดคุยกับมารดาอยู่
“หน้าหงิกมาเชียวไอ้อาที เป็นอะไรมาวะ” อิทธิทักเพื่อนเมื่อเห็นเจ้าตัวเดินเข้ามานั่งร่วมวงสนทนาด้วย อาทีมองหน้ากลับ สังเกตเห็นรอยช้ำนิดๆ บนใบหน้าเพื่อนจึงเอ่ยถาม
“หน้ามึงไปโดนอะไรมาวะไอ้อิท”
แม่นางละมือจากผ้าซิ่นที่นำมาเย็บระหว่างสนทนาเริ่มสังเกตที่ใบหน้าบุตรชายหลังสิ้นคำหลานชายเจ้าของไร่
“จริงด้วยอิท หน้าไปโดนอะไรมาหรือลูก แม่เพิ่งสังเกตเห็น” นางยกมือขึ้นจับใบหน้าบุตรชายพินิจ อิทธิพยายามเบี่ยงหลบแล้วปฏิเสธตอบ
“รอยอะไรไม่มีหรอกแม่”
“ไม่มีได้ไงก็กูกับแม่นางเห็นอยู่” อาทีขึ้นเสียง เริ่มสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างจึงลุกฉุดแขนเพื่อนลากไปคุยยังที่ที่คิดว่าอีกคนจะไม่ได้ยิน
“มึงไปมีเรื่องกับนายสินมาใช่มั้ย” อาทีเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นว่าแม่นางเพียงแต่ส่งสายตามองตาม
“มึงพูดอะไรของมึงอาที กูอยู่ที่นี่กับแม่กูกูจะไปไหนได้ไง” อิทธิปฏิเสธ
“มึงโกหกกูได้ตอนนี้แต่ไม่ถึงวันหรอกเดี๋ยวเรื่องมันก็แดงขึ้นมาจนได้ มึงคิดเหรอว่านายศรกะยัยส้มจะไม่วิ่งโร่มาฟ้องป้ากูว่ามึงบุกไปหาเรื่องนายสินที่เรือนนั่น”
อิทธิหยุดคิดตามกับคำพูดของเพื่อน ก็ขนาดตอนที่ตนไม่ได้ทำอะไรคนพวกนั้นยังเคยใส่ร้ายป้ายสีมาแล้วเลย แล้วกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไปนั่นเล่า เดี๋ยวมันคงจะมาถึงหูผู้ปกครองไร่นี้อย่างจันทร์จวงในอีกไม่กี่อึดใจเป็นแน่แท้
“เออกูยอมรับก็ได้” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเมื่อคิดว่ายังไงซะเรื่องนี้ก็ไม่มีทางเป็นความลับได้แน่
“ทำไมวะไอ้อิท ที่กูบอกกูห้ามมึงไม่ฟังเลยใช่มั้ย” อาทีเอ่ยว่าอย่างหงุดหงิด ด้วยเพราะไม่อยากให้เพื่อนมาตกที่นั่งลำบากจากการโดนราวีกลับแบบไม่จบไม่สิ้นจากเรื่องของตน
“ก็กูแค้นแทนมึงนี่” อิทธิสารภาพ อาทีเข้าใจในความรู้สึกจึงเสียงอ่อนลงบ้าง
“แล้วมันยอมรับมั้ยล่ะ”
“มันไม่ยอมรับตรงๆ หรอก แต่แค่เห็นปฏิกิริยาและคำพูดของน้องสาวมันว่ามันหายไปตอนที่เราไปเล่นน้ำคลองกันกูก็รู้ว่าที่มึงโดนเป็นฝีมือมันน่ะแหละ”
“กูก็ไม่เข้าใจนะโว้ยว่ากูไปทำอะไรให้มันมันถึงคิดลอบทำร้ายกู” อาทีเอ่ยเมื่อเริ่มคิดคล้อยตาม
“ยัยส้มอาจจะบอกมันแล้วมั้งว่ามึงเป็นคนปั่นจักรยานแกล้งชนวันนั้น” อิทธิเดาเรื่องราว
“แล้วครั้งก่อนโน่นล่ะ อย่าบอกนะว่าคนที่ลอบทำร้ายกูมีหลายคน”
“ก็คงจะเป็นไอ้สินคนเดียวน่ะแหละ ครั้งก่อนโน้นมันก็คงแค้นที่มึงทำมันเสียหน้าไงตอนที่ห้ามกูขึ้นไปบนเรือน”
“แม่งมันนี่อันธพาลจริงๆ แม่นี่ก็นะจะรู้มั้ยเนี่ยว่าลูกชายคนสนิทของตัวเองมีนิสัยยังไง”
“สักวันพวกมันคงหางโผล่ให้แม่มึงเห็นเองน่ะแหละ เนี่ยเมื่อกี้แม่กูก็บอกกูนะโว้ยว่าตัวเลขทางบัญชีที่ทำไว้โดนแก้ไข เขาคิดว่าเป็นนายศรที่ทำ ก็รออยู่ว่าทำไมป่านนี้คุณจันทร์ไม่เรียกเขาไปพบซะทีเพราะแม่มึงถือสมุดบัญชีเล่มนั้นไปรายงานท่านแล้ว”
“ป้ากูตอนนี้ก็อิดๆ ออดๆ ตามวัยท่านน่ะแหละ ท่านคงไม่อยากจะดูอะไรที่มันปวดหัว แต่ถ้าเป็นอย่างที่มึงบอกจริงๆ ก็น่าห่วงนะว่าพวกนั้นอาจจะคิดโกงรายได้ของไร่จนไร่ขาดทุน”
“แต่กูห่วงมากกว่านั้นว่ะ”
“ยังไง”
“กูคิดว่าครอบครัวนั้นคงไม่คิดแค่โกงกินรายได้หรอก อาจจะเป็นไร่นี้ด้วยซ้ำที่พวกมันต้องการ”
สองหนุ่มน้อยมองหน้ากันอย่างกังวลนิดๆ กับความคิดที่อิทธิเป็นคนเอ่ยออกมา
“ถ้าเป็นแบนั้นจริงก็น่าห่วงป้าจันทร์กับแม่ว่ะ”
อาทีเอ่ยออกมาในตอนท้าย ในใจก็ได้แต่ภาวนาให้สิ่งที่เพื่อนคิดไม่เป็นจริง

*****************************************************************

ที่เรือนนายศรซึ่งขณะนี้ทั้งบิดาและบุตรสาวต่างกำลังวุ่นวายกับการปฐมพยาบาลนายสินที่บอบช้ำอย่างสาหัสจากฝีมืออิทธิ นายศรปฏิเสธที่จะพาบุตรชายไปรักษาตัวยังอนามัยตามที่บุตรสาวแนะนำ หรือแม้กระทั่งนำเรื่องราวไปฟ้องเจ้าของไร่อย่างจันทร์จวงก็ยังค้านที่จะทำ ด้วยเพราะไม่อยากให้เรื่องนี้แพร่สะพัด รู้ไปถึงไหนอายไปถึงนั่นว่าบุตรชายตนโดนเด็กหนุ่มรุ่นน้องกระทืบเสียจนกระอักเลือด
“แล้วยังไงอ่ะพ่อ พ่อจะปล่อยให้ไอ้อิทธิมันลอยนวลเหรอ ดูมันทำกับพี่สินสิ” ส้มเอ่ยถามบิดาอย่างข้องใจเมื่อสิ่งที่ตนเองแนะนำถูกบิดาปฏิเสธที่จะทำตามทั้งสองข้อ
“ใครบอกว่าข้าจะปล่อยมันนังส้ม พี่เอ็งโดนขนาดนี้ ไอ้อีสองแม่ลูกนั่นมันต้องโดนหนักกว่าเป็นหลายเท่าแน่ๆ”
“แล้วรอให้มันได้อะไรล่ะพ่อ ตามๆ ไปจัดการมันซะให้แตกหักเลยไม่ดีเหรอ”
“บ๊ะ! อีส้ม ข้าเป็นหัวหน้าคนงานนะโว้ย เรื่องของเด็กทะเลาะกันเอ็งจะให้ข้าเข้าไปแส่ให้โดนโห่ โดนหมดความนับถือหรือไง ถ้าเป็นเมื่อก่อนข้าก็อาจจะทำ แต่เอ็งอย่าลืมสิว่าตอนนี้สิ่งที่เราต้องการคือไร่นี้ ฉะนั้นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเหล่าบริวารต้องมาก่อน ไอ้เรื่องถอนทุนคืนให้พี่เอ็งข้าทำแน่ แต่ไม่ใช่เพราะน้ำมือข้า”
“พ่อหมายความว่ายังไง”
นายศรไม่ตอบคำถามบุตรสาวถึงแผนการแยบยลที่คิดไว้ สิ่งที่ไอ้เด็กอิทธิมาตามมาราวีที่นี่มันเข้าใจถูกแล้วที่ว่าบุตรชายของตนเป็นคนลอบทำร้ายไอ้เด็กอาทีนั่น แต่สิ่งที่มันไม่รู้อีกอย่างคือการกระทำอันอุกอาจที่คลองท้ายไร่นั่น บุตรชายของตนไม่ได้ไปเพียงคนเดียวแต่ไปพร้อมกับสมุนอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่คนงานในไร่นี้ ซึ่งคนเหล่านี้ก็มีความจงรักภักดีต่อบุตรชายตนน้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ หากพวกมันรู้ว่าบุตรชายตนโดนทำร้ายแทบกระอักจากน้ำมือใคร ขี้คร้านว่าพวกมันจะแห่กันมาถลกหนังหัวคนทำเพื่อแก้แค้นแทนให้ แล้วเมื่อเป็นแบบนี้ เขาจะออกแรงทวงแค้นแทนบุตรชายให้เสียเหงื่อ เสียภาพลักษณ์ไปทำไม สู้เอาเวลามานั่งคิดหาวิธีกำจัดอีแก่จันทร์จวงและอีบ้าจิตราให้แนบเนียนว่าสูญหายหรือตายจากไปแบบไม่โดนสงสัยหรือโดนคำครหาว่าฆ่าผู้มีพระคุณไม่ดีกว่าหรือ หึหึหึ!


โปรดติดตามตอนต่อไป

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 03-04-2011 18:41:53
เลวทั้งบ้าน เหอๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 03-04-2011 20:08:29
เกลียดอีพวกนี้จัง เมื่อไหร่จะโดนเฉดหัวออกจากไร่ซะที
ไม่พอใจอย่างแรง!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 03-04-2011 20:26:54
อิทก็เริ่มคิดถึงอาทิตย์บ้างแหละ  :-[

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 03-04-2011 20:29:35
ไอ้ศร  ไอ้เลว

กินบนเรือน  ขี้เลอะที่นอน
 :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 03-04-2011 20:42:34
ครอบครัวนายสิน นี่เลว อย่าบอกใครเลย

แล้วเมื่อไหร่ เจ้านายสองคนจะรู้ซักทีละเนี่ย

เฮ้อออ  เรื่องซับซ้อนมากมายเลยค่ะ  เดาเรื่องไม่ถูกเลย  มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammer ที่ 03-04-2011 20:44:08
ยังกะดูละครหลังข่าวเลย
เลวทั้งบ้านจริงๆ :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-04-2011 21:05:47
พ่อแม่มันเลวแล้วลูกมันจะเหลือเหรอ


แบบอย่างที่เลวจากพ่อแม่มันสอนให้เห็นอยู่ตำตา


ลูกจะดีกว่าพ่อแม่ไปได้อย่างไร เลวทั้งโคตร สันดร สันดาน สงสัยหน่อยไปสำหรับครอบครัวนี้


สงสัยอยู่อย่างนึง อีจิตราเนี้ยมันเป็นคนประเภทไหน มันมีหูมีตามั้ย หรือว่าหูที่มีอยู่เนี้ยมีไว้คั่นผมอย่างเดียว


แล้วตาเนี้ยสงสัยมีอยู่ที่ตาตุ่มไม่ได้มองอะไรที่มันสูงๆสักหน่อยเลยเหรอ   สมองก็น่าสงสารนะมีแต่ขี้เลื่อย


ดูๆคนเชรี่ยอะไรโคตรพิการ  สงสารนะที่ได้เกิดมาเป็นคนแต่ไร้อะไรหลายๆอย่างที่เหมือนคนอื่นๆเขา


มีหูก็หูเบาเชื่อคนง่าย  มีตาก็บอดสนิด  มีสมองก็ไร้ความคิด  มีจิตใจก้ไร้คุณธรรม  เหลือร่างกายก็รอวันตายอย่างเดียว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 03-04-2011 21:07:00
บ้านนายสินนี่ความคิดเลวๆทั้งนั้นเลยเนอะ
เมื่อไหร่อิทธิจะมีความสุข อยู่แบบสงบสุขกับเขาบ้างนะ - -
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-04-2011 21:18:46
อ่านแล้วมีอารมณ์มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 03-04-2011 21:32:06
ขอให้กรรมตามสนองไวไว เนรคุณจริงๆครอบครัวนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 03-04-2011 22:17:00
กร๊าซซซซซซ

มันคิดว่าจะเอาไปได้ง่ายๆหรือไง ตราบใดที่อาทิตย์ยังไม่สิ้นแสง มันก็อย่าได้หวัง วะฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 03-04-2011 23:11:35
บ้านนายศรนี่เลวทั้งบ้านอะ คุณจิตรนี่ก็โง่ได้ใจ รื่องหาเรื่องก่งมาก แต่เรื่องอื่นโง่ขนาด
อยากให้อาทิตย์กลับมา มาปกป้องอิทธิบ้าง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-04-2011 00:37:06
พ่อแม่เป็นอย่างไร ลูกมักเป็นแบบนั้น สงสัยจะจริง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 04-04-2011 02:39:38
เลวยกครอบครัว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 04-04-2011 07:55:27
ใกล้ไคลแมกซ์เข้าไปทุกที  ลุ้น!!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-04-2011 11:22:13
อ่านแล้วเครียด  แต่ก็อ่าน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 04-04-2011 17:08:58
เลวได้อีกเว๊ยครอบครัวนี้ ..เฮ่ออออ เจองานหนักแล้วไม๊ล่ะอิทเอ๊ยยยย!!!~  อ่านแลวเครียดแทน -''-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 04-04-2011 18:17:06
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
กระโดดถีบไอ้คู๋พ่ลูกเวรตะไลให้ไปไกลๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 05-04-2011 00:27:43
เลวขนาดนี้ พี่อาทิตย์กลับมาช่วยอิทด้วยนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: gang ที่ 07-04-2011 10:48:03
ขอบคุณครับ o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 07-04-2011 11:28:30
หวังว่าจะไม่เกิดอะไรรุนแรงขึ้นกับอิทธินะขอรับ  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 07-04-2011 16:12:15
สันดานเลวทั้งครอบครัว ไอ้พวกสัตว์นรกเอ๊ย :m31:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 07-04-2011 20:31:30
ครอบครัวนรกพวกนี้ เมื่อไร่จะออกไปซักทีนะ :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:
อยากฆ่าให้ตายซะจริงๆๆ ทำแต่เรื่องเลวๆๆทั้งนั้น หวังว่าแม่นางกับอิทธิจะไม่เป็นอะไรมากนะ เขาสงสาร
ปล.จะรอตอนต่อไปนะค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 08-04-2011 14:19:49
 :L2:
ตามติดมาอีก 1 เรื่อง กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
นิยายคุณบอยไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยยย  :m1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 08-04-2011 17:10:38
เข้ามานั่งรอคุณบอยค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 22 อัพเดต 03.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 08-04-2011 22:36:09
ตอนที่ 23

กลางดึกสงัด เสียงแม่นางกรีดร้องภายในห้องทำอิทธิถึงกับลุกจากที่นอนคว้ามีดทำครัววิ่งไปดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น
“แม่ แม่เป็นอะไร” หนุ่มน้อยนั่งลงวางมีดไว้ข้างตัวแล้วจับร่างมารดาเขย่าถาม เมื่อแสงไฟกลางห้องที่เอื้อมมือไปเปิดตอนมาถึงส่องให้เห็นใบหน้ามารดาชุ่มไปด้วยเหงื่อพร้อมอาการอย่างคนวิตก
“แม่ฝันร้ายอิท แม่ฝันร้าย” แม่นางเอ่ยบอกบุตรชาย ฝันร้ายที่ว่ามันช่างน่ากลัวนัก ในภาพฝันนางมองเห็นบุตรชายโดนกลุ่มชายฉกรรจ์รุมจ้วงแทงจนร่างพรุนไปหลายแผลจนร่างทรุด ก่อนที่พวกมันจะหันมาเงื้อมีดดาบในมือขึ้นสูงหวังฟันลงที่ร่างของนางบ้าง นางจึงส่งเสียงกรีดร้องสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนนี้
“มันเป็นแค่ฝันน่ะแม่ แม่นอนต่อนะ” อิทธิเอ่ยปลอบมารดาหลังจากที่ถามไถ่จนได้ความถึงภาพฝันที่มารดาตนเห็น
“แม่คงนอนไม่หลับแล้วอิท ในฝันมันช่างน่ากลัวนัก ทำไมแม่ถึงฝันแบบนี้ก็ไม่รู้” แม่นางเอ่ยบอกนึกถึงภาพอันสะเทือนใจ นึกถึงตอนเห็นบุตรชายร่างชุ่มไปด้วยเลือดก็แทบน้ำตาไหล ที่สุดนางจึงพนมมือขึ้นกล่าวอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์
“เจ้าประคุณเอ้ย ขอให้สิ่งที่ลูกช้างนิมิตเห็นเป็นเพียงภาพฝันจริงๆ ด้วยเทอญ อย่าให้เกิดเภทภัยอันตรายใดๆ กับบุตรชายลูกช้างเลย” ด้วยความเป็นห่วงบุตรชายนางจึงอ้อนวอนสิ่งศักสิทธิ์เพียงแค่นั้น อนิจจา นางลืมไปแล้วหรือว่าภาพสุดท้ายก่อนที่นางจะกรีดร้องแล้วสะดุ้งตื่น คมมีดในมือกลุ่มชายฉกรรจ์มันเงื้อจะฟาดฟันมาที่ใคร!
อิทธิเห็นมารดาตกอยู่ในอาการเช่นนั้นก็รู้สึกไม่จะสบายใจเพิ่มขึ้น ตลอดคืนตั้งแต่ล้มตัวลงนอนก็ใช่ว่าจะหลับตาลงได้ เพราะจากเหตุการณ์ที่ตนบุกไปชกต่อยกับนายสินทำให้นึกระวังทุกสรรพเสียงที่แฝงเร้นมาในความมืด จากที่ไม่เคยนอนเคียงคู่อาวุธ ในตอนก่อนเข้านอนเด็กหนุ่มจำต้องแอบหยิบมีดทำครัวของมารดาไปไว้เคียงร่าง โดยไม่อาจที่จะข่มสายตาให้หลับได้ เพราะนึกระแวงว่านายศรอาจจะลอบมาทวงแค้นคืนให้กับบุตรชาย ทุกยามที่หูได้ยินเสียงสวบสาบมือน้อยก็คอยแต่จะเอื้อมไปจับอาวุธคมไว้มั่น  ไม่ได้คิดชะล่าใจว่าเสียงนั่นอาจเกิดจากสัตว์เลื้อยคลานเลื้อยผ่านพงหญ้า อาการระวังตัวเช่นนี้หนุ่มน้อยเป็นอยู่ตลอดคืนกระทั่งได้ยินเสียงมารดากรีดร้องเมื่อครู่นั่นล่ะจึงได้ถืออาวุธอย่างมีดทำครัวถลาไปดูเหตุการณ์ นึกเบาใจที่เป็นเพียงแค่ความฝันที่ทำให้มารดากรีดร้อง แต่ก็ไม่สบายใจอยู่บ้างเพราะคงวามฝันที่มารดาเล่าให้ฟังใช่ว่ามันจะไม่มีทางเป็นจริง ถ้าตราบใดที่ตนและมารดายังไม่ย้ายออกจากไร่แห่งนี้
“ทำไมถือมีดมาด้วยล่ะอิท” แม่นางเอ่ยถามบุตรชายเมื่อหลังจากอ้อนวอนสิ่งศักสิทธิ์แล้วมองเห็นมีดเล่มคมที่นางใช้ทำครัวประจำวางอยู่ข้างตัวฝ่ายนั้น
“อิทนึกว่ามีคนลอบมาทำร้ายแม่” อิทธิตอบ น้ำตาจะไหลเมื่อเริ่มรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำลงไปเพราะอารมณ์วู่วาม นี่เขาทำพลาดมหันต์เลยสินะที่นึกแต่จะระบายแค้นแทนเพื่อนรัก แต่กลับลืมนึกถึงความปลอดภัยของคนที่รักและหวังดีกับตนมากที่สุด
“มันเป็นแค่ฝันอย่างที่อิทว่าจริงๆ น่ะแหละ แม่ขอโทษนะที่ทำอิทไม่สบายใจ” แม่นางกลับมาเป็นฝ่ายเอ่ยปลอบบุตรชายบ้าง นางยังไม่ทราบเรื่องที่บุตรชายได้ไปมีเรื่องชกต่อยกับบุตรชายนายศร จนฝ่ายนั้นตกอยู่ในอาการช้ำใน
อิทธิโผเข้ากอดร่างมารดา น้ำตาเด็กหนุ่มไหลพรากอาบแก้ม เพราะเริ่มคิดไปต่างๆ นานา กลัวเหลือเกินว่าความเป็นอยู่ของมารดาหลังจากนี้จะอยู่ในอันตราย
“แม่ อิทว่าเรารีบออกไปจากที่นี่เถอะนะ ไม่ต้องรอให้อิทเรียนจบหรอก” หนุ่มน้อยเอ่ยบอกมารดาปนเสียงสะอื้น ลำพังตัวเขาเองพอจะรับมือได้อยู่หรอกกับอันตรายจากเหล่าอันธพาล แต่กับมารดานี่สิ กลัวเหลือเกินว่านางจะแพ้ภัยคนพวกนั้นจนเกิดเหตุที่อาจทำให้เขาต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
“ไม่เอาน่าอิท เป็นอะไรไปอีกหึ ก็เราคุยกันเรียบร้อยแล้วนี่นา มันอีกไม่นานเลยนะลูกที่ลูกจะเรียนจบ ตั้งใจเรียนสอบเอาเกรดดีๆ มาให้แม่ชื่นใจเถอะนะ ยังไงซะถึงวันนั้นแม่ก็จะพาอิทไปจากที่นี่จนได้แหละ” แม่นางกอดกระชับร่างบุตรชายเอ่ยปลอบ อิทธิไม่อาจจะพูดอะไรได้อีกเพราะกำลังสะอื้นหนักกับความรู้สึกผิดและหวาดกลัวว่าตนกับมารดาจะไม่มีโอกาสไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ผืนแผ่นดินอื่น!

*******************************************************

เช้าวันใหม่ เป็นวันแรกของสัปดาห์ที่จะต้องไปโรงเรียน อาทีบอกกับลุงไกรว่าตนจะซ้อนท้ายจักรยานของอิทธิไปโรงเรียนเอง แต่แล้วก็รู้สึกขัดใจเมื่อมารดาพาร่างออกมาพูดกระทบกระทั่งเชิงขัดขวางตามเดิม
“ชอบตกระกำลำบากนักนะไอ้อาที มีรถขับไปส่งดีๆ ไม่ชอบ ไอ้เด็กอิทธินั่นมันมีดีอะไรนักหนาแกถึงติดมันนัก”
“แม่อย่าชวนผมทะเลาะแต่เช้าได้มั้ยครับ ผมกำลังจะไปโรงเรียนนะครับ ผมต้องเรียนหนังสือทั้งวัน ผมต้องการสมาธิ” หนุ่มน้อยเอ่ยตอบมารดา นึกถึงช่วงเวลาที่พี่ชายตนอยู่ที่นี่ ในตอนนั้นดูจะเป็นช่วงเดียวที่ได้เทียวไปเทียวมาหาเพื่อนซี้ได้อย่างสบายใจยิ่งกว่าตอนนี้
“งั้นแกก็รีบไปสิ แต่ให้นายไกรขับรถไปส่งนะ ฉันห้ามแกไปกับไอ้อิทธิ” จิตราบอกเสียงดุ นานแล้วที่ห่างหายจากการราวีไอ้อีขี้ข้าที่นางนึกชัง วันนี้รู้สึกครึ้มๆ อยากเล่นบทร้ายพิกล ใครอย่ามาทำอะไรขัดหูขัดตาเชียวหล่อนจะด่าให้หูชาไปสามวันเจ็ดวัน
“โธ่เอ้ย ไอ้เราก็นึกว่าจะดีขึ้น ที่ไหนได้เหมือนเดิมไม่มีผิด” อาทีบ่นเปรยๆ ก่อนจะยอมเดินหน้าบึ้งตึงไปยังรถรับส่ง ก่อนหน้าที่มารดาเพลาๆ การราวีลงหน่อยก็เคยนึกแอบดีใจว่าเจ้าตัวจะละทิ้งนิสัยจอมบงการ แต่ที่ไหนได้ พอพี่ชายเขาไม่อยู่ ทุกอย่างก็เหมือนเดิม
“เออ ไม่เคยเลยที่จะเห็นความหวังดีของฉัน การที่ฉันปกป้องแกไม่ให้ลดตัวไปใกล้ชิดกับลูกคนงานฉันผิดนักเรอะ ฮึ่ย!” จิตราส่งเสียงแว้ดๆ ตามหลังรถบุตรชายที่เคลื่อนตัวออกไปแล้ว รู้สึกขัดใจจนอยากหาที่ระบายอารมณ์ พอสายหน่อยจึงส่งเสียงเรียกเพลินพิศเพื่อไปจัดการราวีแม่นางที่เรือนสำนักงานอีกครั้ง พอไปถึงก็ไม่รีรอที่จะตรงเข้าไปหาเรื่องว่ากระทบกระทั่ง โดยยกเรื่องโต๊ะทำงานมาเปิดประเด็น
“นั่นโต๊ะทำงานหล่อนหรือกองขยะยัยแม่นางทำไมมันโสโครกสกปรกอย่างนั้น”
“ก็ไม่ได้รกอะไรนี่คะ ดิฉันก็เก็บเช้าเก็บเย็นอยู่ตลอด” แม่น่างเอ่ยตอบ จะว่าไปโต๊ะของนางดูเป็นระเบียบกว่าโต๊ะใครๆ ในเรือนสำนักงานแห่งนี้เสียด้วยซ้ำ การทักท้วงของจิตราบ่งบอกได้ชัดเจนว่านางกำลังโดนราวีดังเช่นแต่ก่อนอีกแล้วแน่ๆ
“ต๊าย! ดูมันยอกมันย้อนสิคะคุณจิตร จัดการมันเลยค่ะ เดี๋ยวพิศช่วย” เพลินพิศเอ่ยเสี้ยมเจ้านายทันที เนื้อกายเต้นระริกตั้งแต่ได้ยินเจ้านายบอกว่าจะมาทำอะไรที่นี่แล้ว พอสบโอกาสเสี้ยมจึงใส่จริตเต็มที่
“งั้นมึงก็ไปไล่คนงานในนี้ออกไปข้างนอกให้หมดสิอีพิศ กูจะได้จัดการได้คล่องมือหน่อย” จิตราหันมาสั่งสาวใช้ เพลินพิศหน้าบานรับคำแล้วเดินเชิดไปสั่งคนงานให้ออกไปข้างนอกกันก่อนบอกเจ้านายตนมีประชุมลับๆ กับผู้คุมบัญชี
“คุณจิตรคิดจะมารังแกดิฉันแบบนี้ไม่ได้นะคะ ดิฉันทำอะไรผิดเหรอคะถึงได้มาเรื่องกันแต่เช้า” แม่นางเอ่ยว่าในตอนที่คนงานออกไปข้างนอกกันหมดแล้ว ภายในเรือนสำนักงานแห่งนี้จึงเหลือแต่นางที่กำลังยืนเผชิญหน้ากับจิตราและเพลินพิศที่ตอนนี้ได้หันไปหัวเราะเยาะให้กันเองพลางเอ่ยสนทนากัน
“ดูสิอีพิศ กูยังไม่ทันทำอะไรเลยมันก็กลัวจนหน้าถอดสีซะแล้ว โอ้ย กูจะสงสารดีมั้ยนะ” เจ้านายเริ่มก่อนสาวใช้รีบเอ่ยเสริม
“จริตมันน่ะสิคะคุณจิตร มันแสร้งกลัวเพื่อให้คุณจิตรเวทนามันเหมือนที่มันทำกับคุณจันทร์ไงคะ อย่าไปสงสารมันค่ะ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ใครเห็น โอกาสงามๆ แบบนี้หายากนะคะ ถ้าคุณจิตรไม่อยากให้มือแปดเปื้อนหนังหน้ามันเดี๋ยวพิศจัดการให้ก็ได้ค่ะ”
“ก็ดีนะ งั้นมึงไปจัดการมันก่อนไป เดี๋ยวกูจะยืนดูซิว่าฝีมือมึงยังสมกับเป็นคนสนิทกูอยู่มั้ยอีพิศ”
จิตราเอ่ยสั่งสาวใช้แล้วหันมามองแม่นางเหยียดๆ ซึ่งขณะนี้ได้ถอยร่นไปหน่อยๆ ตอนที่เห็นสาวใช้ของหล่อนย่างสามขุมเข้าหา
“อย่านะเพลินพิศ หล่อนจะทำกิริยาป่าเถื่อนแบบนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันกับหล่อนไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกัน” แม่นางเอ่ยกับสาวใช้เจ้านายขณะที่ถอยร่างหนีการรุกราน
“ต๊าย! พูดจายังกะเป็นผู้ดีมาก่อนนะยะอีแม่นาง แบบนี้อีพิศขอตบให้จริตผู้ดีออกจากร่างหล่อนทีเถอะ” เพลินพิศถลาร่างเข้าใส่แม่นางหลังจากเอ่ยจบ ถือโอกาสที่ฝ่ายนั้นยังไม่ทันตั้งตัวยกฝ่ามือขึ้นฟาดไปบนใบหน้าเจ้าตัวถึงสองฉาดซ้ายขวา
“ต๊าย! งามมากอีพิศ สาใจกูนักเชียว” จิตราเอ่ยชมให้กำลังใจสาวใช้พลางหัวเราะออกมาอย่างสะใจที่เห็นใบหน้าแม่นางหันสะบัดไปตามแรงตบ ส่วนเพลินพิศพอได้รับคำชมก็ดีใจจนเนื้อเต้นจึงหันมาใส่จริตยกมือไหว้ขอบคุณผู้เป็นนาย หลังทำเสร็จคิดจะหันกลับไปจัดการแม่นางต่อ แต่คราวนี้ก็ต้องเป็นฝ่ายร้องกรี๊ดหน้าหงายบ้างเมื่อโดนฝ่ามือแม่นางตบสวนกลับมาซ้ายขวาเช่นกัน
“ฉันสุดจะทนกับพฤติกรรมหล่อนแล้วล่ะเพลินพิศฉันถึงต้องทำแบบนี้” แม่นางเอ่ยว่าเสียงเข้ม หายใจฟึดฟัดเพราะแรงโกรธ คิดว่าสาวใช้เพลินพิศไม่มีสิทธิ์ทำกับหล่อนแบบนี้
“อีแม่นางมึงตบกู มึงตาย” เพลินพิศโกรธเนื้อกายสั่นที่โดนฝ่ามือตบสวนกลับมาจนแสบระบม ที่สุดจึงพุ่งร่างเข้าคิดจะขย้ำคนตรงหน้าให้แหลกคามือ แต่เกมกลับพลิกผันเมื่อแม่นางสุดจะทนแล้วกับการโดนราวีเกินกว่าเหตุแบบนี้ ทันทีที่ร่างของเพลินพิศพุ่งถึงตัวนางจึงจับร่างนั้นนอนราบลงบนโต๊ะทำงานแล้วจัดการฟาดฝ่ามือใส่ยั้งปากก็ว่า
“หล่อนเองก็ขี้ข้าไม่ต่างจากฉัน อย่ามากล้ากับฉันให้มันมากนักจำไว้”
จิตรายืนอ้าปากค้างมองร่างสาวใช้หน้าหันสะบัดจากแรงฟาดฝ่ามือของแม่นางจนเลือดไหลกลบปาก เมื่อเห็นดังนั้นจึงได้สติพุ่งเข้าไปดึงร่างแม่นางออกมาจับล็อคไว้
“อีพิศลุกเร็ว กูจับมันไว้แล้วจัดการเอาคืนเลย” หล่อนส่งเสียงบอกสาวใช้ แม่นางเริ่มใจเสีย เพราะคิดว่าเพลินพิศจะต้องถอนทุนคืนจากนางมากกว่าที่นางทำหล่อนเป็นแน่ ด้านเพลินพิศพอได้ยินเสียงเจ้านายบอกก็ใจชื้นบ้างจึงพยามยันกายลุกขึ้นพาใบหน้าสะบักสะบอมเดินมายังร่างคนที่ตบตนไม่ยั้ง
“มึงทำกูได้เลือด มึงก็ต้องได้เลือดด้วยอีแม่นาง” สาวใช้เอ่ยว่าก่อนจะยกมือขึ้นฟาดฉาดแรกเข้าเป้าสมใจจนเหยื่อหน้าหันสะบัด
“ดีมากอีพิศ เอามันให้หนักกว่าที่มันตบมึงอีกเร็ว” จิตราเอ่ยออกคำสั่ง พลางออกแรงจับเหยื่อไว้มั่น
“ได้ค่ะคุณจิตร มันทำพิศเจ็บ พิศก็ต้องจัดการมันอยู่แล้ว” เพลินพิศได้ใจกำเริบขึ้นเมื่อเห็นคนทำตนเลือดกลบปากไม่มีทางสู้ สาวใช้เงื้อมือขึ้นฟาดลงไปอีกสุดแรงเสียงดังเพี๊ยะ!และแทนที่จะดีใจกลับหัวใจแทบวายเมื่อพบว่าใบหน้าที่รับแรงตบจากตนไปเต็มๆ ครั้งนี้คือใบหน้าเจ้านายนั่นเอง
“กรี๊ดดด! อีพิศ มึงตบกู” จิตราร้องลั่นด้วยความตกใจปนเจ็บใจที่ตัวเองเป็นฝ่ายโดนฝ่ามือสาวใช้ซะเอง เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะแม่นางได้ก้มหลบฝ่ามือนั่นที่เหวี่ยงมาจากมือสาวใช้ คนที่รับเคราะห์แทนจึงเป็นหล่อนซะเอง
แม่นางเป็นอิสระในตอนที่จิตราปล่อยร่าง นางเห็นฝ่ายนั้นใช้มือไปประคบประหงมใบหน้าตัวเอง จึงถอยร่างออกมา สักพักมองเห็นสาวใช้ถลาไปก้มลงกราบแทบเท้าผู้เป็นเจ้านายก็นึกสมเพช ก่อนจะสาแก่ใจเล็กๆ ที่เห็นผู้เป็นเจ้านายเงื้อมือขึ้นตบหน้าบ่าวของตัวเองซะเอง
“แค่นี้มึงก็ตบพลาด มึงอย่าอยู่เลยอีพิศ” จิตราอาละวาดใส่สาวใช้เพื่อระบายอารมณ์โกรธจนไม่ทันสังเกตเห็นว่าว่าคนที่ตัวเองตั้งใจมาราวีกำลังยืนส่ายหน้ามองการกระทำของหล่อน
แม่นางเดินเลี่ยงหนีออกจากเรือนสำนักงานโดยปล่อยให้บ่าวกับเจ้านายราวีกันเอง เหตุการณ์นี้ช่างเป็นแรงขับให้นางอยากออกไปให้พ้นจากไร่นี้ให้เร็วที่สุดได้ดีนัก รอให้บุตรชายนางกลับมาจากโรงเรียนก่อนเถอะ บางทีนางอาจจะบอกเจ้าตัวใหม่ก็ได้ว่าเป็นไปได้มากที่นางจะพาเจ้าตัวออกจากไร่นี้เร็วกว่ากำหนด

*******************************************************

ทางด้านอิทธิหลังเลิกเรียนก็มีเหตุวุ่นวายเช่นกัน เมื่อปั่นจักรยานกลับไร่อยู่ดีๆ ก็มีชายฉกรรจ์สามนายออกมาจากป่าข้างทางแสดงท่าทีอันธพาลหาเรื่องด้วยการจับร่างเจ้าตัวเหวี่ยงลงจากจักรยานแล้วคนหนึ่งจับร่างล็อคไว้ ส่วนอีกสองคนใช้เหล็กในมือที่เตรียมกันมาพังทุบจักรยานเสียจนผิดรูปไม่สามารถใช้งานได้ พอสมใจจึงพากันยกจักรยานที่พังแล้วเหวี่ยงหายเข้าไปในป่า ก่อนคนที่จับร่างไว้จะยอมปล่อย
“ไอ้พวกเลว พวกมึงเป็นใครวะมาทำรถกูแบบนี้ได้ไง” หนุ่มน้อยตวาดถามคนกลุ่มนั้นเมื่อร่างเป็นอิสระ ไม่อาจฝืนกลั้นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดที่เห็นจักรยานคู่ใจพังลงต่อหน้าต่อหน้าแล้วถูกจับโยนหายไปในพงหญ้าข้างทาง
“พวกกูเป็นใครไม่สำคัญหรอก แต่นี่มันแค่เริ่มต้นโว้ยไอ้เด็กน้อย ต่อไปมึงกับแม่มึงเจอหนักกว่านี้แน่หากว่ายังอวดดีอวดเก่งกันอยู่ หึหึ” ชายหน้าเหี้ยมที่สุดในกลุ่มเอ่ยบอก แล้วแสยะยิ้มให้อย่างน่ากลัวพลางยกท่อนเหล็กมาแตะที่แก้มให้รู้สึกถึงความเย็นยะเยือกก่อนจะพากันหัวเราะร่าผละไป ถึงตอนนี้อิทธิจึงรีบวิ่งเข้าไปดูจักรยานคู่ใจที่กลายเป็นเพียงเศษเหล็กนอนหมกอยู่ในพงหญ้า เด็กหนุ่มค่อยๆ เอามือลูบคลำไปยังส่วนต่างๆ นึกถึงภาพที่เคยใช้งานมันเพื่อไปในทุกที่แล้วน้ำตาก็ร่วงเป็นสาย คงไม่มีอะไรที่จะสร้างความปวดใจได้เท่ากับการมองเห็นของที่รักโดนทำลายต่อหน้าต่อต่อตาแล้วไม่อาจเข้าไปช่วยได้ สำนึกสุดท้ายของความเสียใจหนุ่มน้อยได้ฉุกคิดถึงถ้อยคำของเหล่าอันธพาลวัยฉกรรจ์ที่กล่าวคาดโทษถึงมารดาของตนด้วย
“แม่” หนุ่มน้อยยกมือปาดน้ำตาทิ้ง เมื่อความรู้สึกเป็นห่วงมารดามาบดบังความรู้สึกอาลัยณ์จักรยานคู่ชีพ ที่สุดเด็กหนุ่มจึงลุกขึ้นวิ่งดึงใบไม้ใบหญ้าพร้อมกิ่งไม้ต่างๆ นาๆ ที่พอจะเอามาปกคลุมจักรยานตนให้พ้นจากการมองเห็นโดยง่าย นาทีนี้เขาคงต้องรีบกลับเรือนให้เร็วที่สุดเพื่อไปให้เห็นกับตาว่ามารดาตนนั้นปลอดภัยดีอยู่ ส่วนจักรยานคันนี้ค่อยคิดกลับมาเอาไปซ่อมแซมภายในวันหลัง

*******************************************************

เกือบมืดที่อิทธิกลับถึงเรือนเพราะต้องเสียเวลารอรถรับส่งเพื่อนั่งมาลงปากทางไร่นานหลายนาที ทันทีที่ไม่เห็นร่างมารดาอยู่ที่เรือนจึงวิ่งเข้าไปยังเรือนสำนักงานหวังว่าจะพบเจ้าตัวที่นั่นแต่แล้วก็ผิดหวัง เด็กหนุ่มออกอาการร้อนรนถามไถ่คนงานที่ยังไม่กลับ โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้มีสายตานายศรกำลังลอบมองอยู่อย่างเยาะๆ พลางเอ่ยออกมาอย่างสาใจ
“สงสัยพวกนั้นคงจัดการขู่มันเรียบร้อยแล้ว มันถึงต้องมาร้อนรนวิ่งพล่านหาแม่มันแบบนี้”
ทางด้านอิทธิถามไถ่คนนั้นคนนี้สุดท้ายก็ได้คำตอบที่คนบอกคาดเดาเอาว่ามารดาของตนน่าจะอยู่ที่เรือนหลังใหญ่ เพราะเมื่อช่วงสายของวันนี้จิตราตามมาอาละวาดเจ้าตัวถึงที่นี่ แล้วเจ้าตัวก็ตบตีกับเพลินพิศจนเพลินพิศสะบักสะบอม คิดว่าจันทร์จวงน่าจะเรียกไปชำระความ
“แม่” หนุ่มน้อยเอ่ยเรียกมารดาเสียงเบา นึกเป็นห่วงขึ้นมาอีกหลายเท่าจึงรีบวิ่งกระหืดกระหอบกลับไปยังเรือนหลังใหญ่ พรวดพราดขึ้นไปบนเรือนทันทีเมื่อไปถึงแล้วได้ยินเสียงจิตรากำลังอาละวาดใส่มารดาตนจริงๆ ภาพแรกที่เห็นต่อหน้าทำเอาหนุ่มน้อยตัวชา นั่นคือจิตรากำลังเงื้อมือขึ้นจะตบหน้ามารดาตน จึงตวาดเสียงห้ามลั่นเรือน
“อย่าแตะต้องแม่ผมแม้แต่ปลายเล็บนะคุณจิตร!”
โปรดติดตามตอนต่อไป

ขออนุญาตแจ้งข่าวสักนิดนะครับ สำหรับนิยายเรื่องนี้ซึ่งกำลังจะจบลงแล้วในอีกไม่กี่ตอน
หากใครสนใจอยากจะเก็บสะสมผลงานในรูปแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค เปิดจอง 16 เมษายนนี้ครับ พร้อมอีกสองผลงานที่จะทำการเปิดจองพร้อมกันคือ Ten & Champ ซึ่งกำลังจะจบลงแล้วเช่นกัน และอีกหนึ่งผลงานคือ รู้ไหม? หัวใจฉันตามหา หากใครยังคิดถึงการินทร์และรณวีย์ และบรรยากาศบนภูปลายสายอยู่ก็ตามเก็บความประทบใจได้เช่นกัน ย้ำอีกครั้งนะครับว่า 16 เมษายนนี้เปิดจองพร้อมกันทั้งสามเล่ม ส่วนผลงานเก่าๆ ก็ยังสามารถสั่งซื้อได้อยู่ครับ นั่นคือ ติวรักสุดใจนายเกเร / Real Love Story และ ไฟรัก รายละเอียดต่างๆ อ่านเพิ่มเติมที่กระทู้นี้
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23710.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23710.0)
หรือจะ pm มาสอบถามเพิ่มเติมได้ครับ ส่วนด้านล่างเป็นปกนิยายทั้งหมดครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28599.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28512.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18638.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201148_72955.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18411.gif)
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201145_18525.gif)

ขอบคุณครับ


 

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 08-04-2011 23:04:52
อ๊ายเรื่องราวกำลังเข้มข้นสุดๆ ไปเลย

ตกลงแม่นางกับอิทจะย้ายออกไปแล้วใช่ไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 08-04-2011 23:24:00
เรื่องนี้ใกล้จะจบลงในไม่กี่ตอน...จริงอ่ะ ทำไม น้องอิท กะ พี่อาทิตย์ยังไร้วี่แวจะหวานแหวว กันเลยง่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 08-04-2011 23:27:35
คุณจิตรเมื่อไหร่หะ!

เมื่อไหร่จะหยุดพฤติกรรมแบบนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 08-04-2011 23:57:37
จะจบอีกไม่กี่ตอน!!!~ ช๊อค
แอบเดาว่าเป็นแซดเอนดิ้งป่าวอ่ะ ไม่ก็จบภาคแรก 555
เพราะดูแล้วเหมือนเรื่องยังไม่คืบไปไหนเลย
พระเอกก็ยังไม่มีวี่แวว ความแค้นอะไรก็ยังดูไม่ถึงจุดแตกหัก
ลุ้นๆให้มีภาค2หล่ะกัน อยากอ่านต่อ 5555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 09-04-2011 00:23:41
หวังว่าฝันแม่นางคงไม่เป็นจริงนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 09-04-2011 08:49:27
ห๊ษ จะจบแล้ว
อิทธิกับอาทิตย์ยังไม่เคลีบร์กันเลยน้า

ฝันของแม่นางขอให้มันเป็นเพียงแค่ฝันไปเถอะนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-04-2011 10:01:02
หุหุ
อยากได้เป็นหนังสือจริงๆเลย
เรื่องนี้เข้มข้นมาก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-04-2011 11:04:57
 :เฮ้อ:บรรยายแต่ละเรื่องไม่ถูก



 :t3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 09-04-2011 11:28:53
จะจบแล้วเหรอคุณบอย
ง่ะ ยังดราม่าอยู่เลย ^^;
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 09-04-2011 19:25:16
อยากได้จัง หนังสือแต่ละเรื่องนี้น่าเก็บสะสมจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 09-04-2011 20:26:39
 :m16:
ตามราวีได้ตลอดเวลา ไร้เหตุผลจริงๆ ยัยคุณจิตรนี่  :beat:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-04-2011 23:14:31
เห็นแล้วอยากได้ แต่ตอนนี้ที่อ่านอิทธิกำลังจะได้รบภัย หรือการสูญเสีย น่าสงสารอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 10-04-2011 01:24:00
จะจบในไม่กี่ตอน?   :a5:

ยังไม่ทันได้เห็นบทหวานอิทกับพี่อาทิตย์เลยน้า ~
อึ่งไปสิบวิ....

คุณจิตร  :beat:

ไปจากไร่นี้เถอะแม่นาง :sad4: อยู่ต่อคนอ่านได้แค้นคับอกตายแทนซะก่อน ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 23 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 08.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 14:23:18

ตอนที่ 24

“ไอ้อิท” อาทีเอ่ยเรียกชื่ออิทธิก่อนใครในตอนที่เห็นเด็กหนุ่มเดินตรงมายังร่างของมารดาของตนเอง

“เสนอหน้ามาจนได้นะไอ้เด็กไพร่” จิตราแว้ดตามมาหลังจากลดมือลง อิทธิไม่สนใจมากนัก หนุ่มน้อยดึงร่างมารดาออกมาห่างจากฝ่ายนั้น หันมองหน้าแต่ละคนคล้ายอยากได้คำตอบว่านี่มันเรื่องอะไรกันทำไมคนบนเรือนนี้ถึงยอมให้จิตรามาพิพากษามารดาของตนด้วยวิธีนี้

“พาแม่เรากลับเรือนไปก่อนอิทธิ ฉันชักจะเวียนหัวกับเหตุการณ์แล้ว” จันทร์จวงเอ่ยบอกหนุ่มน้อยในจังหวะที่เจ้าตัวหันมาสบตาเป็นเชิงตั้งคำถาม หญิงชรารู้สึกหน้ามืดจริงๆ กับเรื่องราววุ่นวายที่กำลังจะบานปลายตอนนี้ แต่จะโทษใครได้ล่ะก็นางเองแหละที่ให้บ่าวรับใช้ไปเรียกตัวแม่นางมาเพื่อสืบความในเรื่องที่น้องสาวนางถลาเข้ามารายงานว่าเจ้าตัวไปตบตีสาวใช้อย่างเพลินพิศจนใบหน้าบวมช้ำ

ตอนแรกก็คิดว่าน้องสาวคงจะใส่ความเช่นเดิมแต่พอเห็นใบหน้าของสาวใช้ที่โดนกล่าวอ้างก็อดที่จะตกใจไม่ได้ เป็นไปได้เหรอว่ารอยบวมช้ำบนใบหน้าของสาวใช้อย่างเพลินพิศจะเป็นฝีมือของแม่นางคนที่ไม่น่าจะร้ายใส่ใครเป็น

วินาทีแรกที่แม่นางพาร่างมาบนเรือน นางก็ต้องออกโรงหย่าศึกไปรอบหนึ่งแล้วตอนที่จิตราก็ถลาเข้าไปตบตีฝ่ายนั้น พอศึกสงบจึงได้เอ่ยถามไถ่ถึงเหตุการณ์ว่ามายังไงไปยังไงถึงได้มีเรื่องมีราวกันขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่เคยอยู่กันอย่างสงบมาได้หลายวัน และคนแรกที่แถลงการณ์ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก น้องสาวแท้ๆ ของนางเองน่ะแหละที่เปิดปากบอกว่าตัวเองแค่เดินตรวจงานในเรือนสำนักงานอยู่ดีๆ พอเจอโต๊ะทำงานที่รกราวกองขยะของแม่นางก็เลยตำหนิไปตามหน้าที่เจ้านาย แต่อีคนโดนตำหนิมันกลับทำท่าทีไม่พอใจโต้ตอบกลับอย่างโอหังว่าโต๊ะทำงานของมัน มันทำงานคนเดียว จะรกยังไงคนอื่นก็ไม่น่าที่จะมายุ่ง และด้วยความที่เพลินพิศบ่าวคนสนิทนั้นภักดีต่อตัวเองมากนักก็เลยออกโรงโต้กลับว่าคำพูดและการทำนั้นไม่สมควร สองคนตอบโต้กันไปมาสุดท้ายสาวใช้ของหล่อนก็พลาดท่าเสียทีโดนอีกฝ่ายเข้าทำร้ายตบตีอย่างที่เห็น


“จริงรึแม่นาง” คำถามนี้นางเอ่ยถามอีกหนึ่งคู่กรณีที่รับฟังเรื่องราวจากปากน้องสาวนางด้วยท่าทางนิ่งๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาเพียงสั้นๆว่าขอให้นางใช้วิจารณญาณของคนมีเหตุมีผลคิดทบทวนเอาเองว่าคนอย่างตนจะเริ่มกระทำสิ่งร้ายๆ นั้นได้อย่างนั้นหรือ ถ้าไม่โดนราวีจนสุดจะทนก่อน และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาคงจะช่วยให้นางหาคำตอบได้ง่ายขึ้น

คำแถลงการณ์เพียงเท่านั้นแหละที่ทำน้องสาวนางปากสั่นตัวสั่นถลาเข้าคิดจะเงื้อมือตบตีฝ่ายนั้นอีก นางก็กำลังคิดจะห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียงของเด็กหนุ่มที่กำลังยืนจ้องตาอยู่ตอนนี้

“อย่าหาว่าผมก้าวร้าวเลยนะครับคุณจันทร์ ก่อนที่ผมจะพาแม่ผมกลับเรือน คุณจันทร์โปรดบอกผมมาได้มั้ยครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมคุณจิตรถึงได้คิดจะทำร้ายแม่ผมอีก” อิทธิเอ่ยถามหญิงเจ้าของไร่ แต่ยังไม่ทันที่ฝ่ายนั้นจะตอบก็โดนอีกคนที่ส่งเสียงแว้ดใส่ซะก่อน

“หาว่าฉันคิดทำร้ายแม่แกเหรอไอ้เด็กไพร่ แล้วทีแม่แกมาทำร้ายคนของฉันล่ะ หันไปใช้ตาดำๆ ของแกมองดูอีพิศซิว่าที่สภาพหน้ามันเป็นแบบนั้นเพราะฝีมือใคร”

เสียงนั่นเป็นเสียงจิตรา อิทธิหันไปมองใบหน้าสาวใช้ของเจ้าตัว ตกใจไม่น้อยที่เห็นว่านั่นบวมช้ำ แต่นั่นมันจะเป็นฝีมือมารดาตนจริงๆ น่ะหรือ

“แม่บอกอิทสิว่ามันไม่จริง” เด็กหนุ่มหันมาถามมารดา ก่อนจะใจหายกับคำตอบที่ได้รับ

“จริงอิท แต่แม่อธิบายได้นะ”

“นั่นยังไงล่ะมันยอมรับแล้ว คราวนี้พี่จันทร์อย่าห้ามจิตรนะคะที่จิตรจะทวงความยุติธรรมให้บ่าวของจิตร” จิตราเอ่ยขึ้นทันควันในตอนสิ้นคำของแม่นาง และขณะที่ทุกคนยังงงๆ กับเหตุการณ์หล่อนก็ถือเวลานั้นถลาเข้าไปฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าแม่นางทันที

ใบหน้าแม่นางหันสะบัดไปตามแรงตบ อิทธิตกใจจนตัวชาที่เห็นมารดาถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตาอีกครั้ง หนุ่มน้อยหันมามองคนกระทำ นึกชิงชังจนเก็บกลั้นไม่ไหวจึงยกมือผลักเจ้าตัวให้ถอยออกจากร่างมารดาตนสุดแรง

จิตรากรี๊ดลั่นในตอนที่ร่างเซถอยหลังจากการโดนผลัก อารมณ์ร้ายของหล่อนปะทุถึงจุดเดือดทันทีจึงรีบพยุงตัวไว้แล้วถลาเข้าไปเงื้อมือฟาดใส่ใบหน้าคนที่ทำร้ายตน แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเหยื่อที่เข้ามารับฝ่ามือหล่อนคือบุตรชายของหล่อนเอง

“อาทีลูก” จันทร์จวงเผลอร้องเรียกชื่อหลานชายอย่างตกใจในตอนที่เห็นใบหน้าเจ้าตัวหันสะบัดไปตามแรงฟาดฝ่ามือของผู้เป็นมารดา ด้านอาทีความเจ็บปวดแค่นี้ไม่สามารถลดทอนความรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนได้จึงรีบเอ่ยบอกให้เจ้าตัวพามารดากลับไปที่เรือนในเดี๋ยวนี้
อิทธิยอมฟังคำเพื่อนเมื่อเห็นจิตราแสดงท่าทีร้ายกาจออกมาอีก หนุ่มน้อยดึงแขนมารดาเตรียมหันหลังลงจากเรือน แต่แล้วก็ต้องตกใจในเสียงร้องของฝ่ายนั้น

เหตุที่แม่นางร้องลั่นเรือนเพราะบัดนี้เส้นผมของนางโดนจิตราคว้ากระชากไว้พร้อมคำขู่กรรโชก

“วันนี้กูไม่ได้เห็นเลือดหัวทั้งแม่ทั้งลูกก็อย่ามาเรียกกูอีจิตร”

เอ่ยเสร็จจิตราก็ออกแรงดึงเส้นผมทั้งกระจุกในอุ้งมือเพื่อพาร่างของเจ้าของไปยังเสาเรือนใกล้ๆ การกระทำของหล่อนนั้นรวดเร็วเสียจนใครก็ไม่อาจคาดคิด หลายสายตาต่างอึ้งไปกับความร้ายกาจของหล่อนที่แสดงออกมาให้เห็นด้วยสีหน้าและแววตาที่ไร้ซึ่งความปราณีใดๆ แม้คนที่โดนลากไปจะร้องโอดโอยอ้อนวอนขอให้ปล่อย ทุกคนมารู้สึกตัวอีกทีก็ในตอนที่หญิงร้ายผู้นั้นกำลังจะจับศีรษะเหยื่อโขกเข้ากับเสาเรือน สาวใช้ที่อยู่บนเรือนด้วยต่างกรี๊ดลั่นยกมือปิดตาเพราะคิดว่าจะเห็นภาพอันสะเทือนใจ แต่สามคนที่ไม่ยอมให้ภาพนั้นเกิดขึ้นง่ายๆ ต่างก็วิ่งไปจับร่างของคนร้ายกาจเอาไว้ ส่งเสียงห้ามกันจ้าละหวั่น

“จิตรา! หล่อนอย่าทำอะไรอุกอาจบนเรือนหลังนี้นะ ปล่อยแม่นางเดี๋ยวนี้” แม้เรี่ยวแรงจะมีน้อยตามวัยแต่จันทร์จวงก็เข้าขวางการะกระทำอันร้ายกาจของน้องสาวนางสุดใจขาดด้วยการยกมือแกะอุ้งมือที่เกร็งจิกบนเส้นผมของแม่นางให้หลุดออก แต่ก็ช่างยากนักเมื่อจิตราไม่ยอมปล่อยง่ายๆ

“แม่ พอเถอะครับ หยุดร้ายกาจผิดมนุษย์ซะทีเถอะ” อาทีอีกคนที่ช่วยดึงร่างมารดาของตนให้ห่างออกจากเสาเรือน ส่วนอิทธินั่นได้เข้าช่วยจันทร์จวงแกะกรงเล็บจิตราออกจากเส้นผมมารดาตน น้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจเมื่อเห็นมารดาตนร้องโอดโอยจากอาการเจ็บหนังศีรษะ

“ถอยออกไป ใครก็อย่าได้มายุ่ง กูบอกแล้วไงว่าหากวันนี้เลือดหัวอีแม่ลูกคู่นี้ไม่ออกมาให้กูเห็น ก็อย่ามาเรียกกูอีจิตร” จิตราตวาดขึ้นอีก ออกแรงฮึดฮัดให้ทุกร่างที่เข้ารั้งตัวกระเด็นหลุดหนีห่าง และคนแรกที่เซถลาล้มไปก็คือจันทร์จวง

“ว้าย! คุณจันทร์” เสียงบ่าวไพร่ที่เปิดตามามองเหตุการณ์ร้องกันระงมในตอนที่เห็นร่างเจ้านายชราร่างหงายล้มฟาดกับพื้นเรือน หลายสายตาเห็นนางพยายามจะลุกขึ้นแต่สุดท้ายก็ล้มชักกระตุกสองสามครั้งก่อนฟุบหมดสติทั้งๆ ที่สายตายังเบิกโพลงอยู่อย่างน่ากลัว

“ป้าจันทร์ ป้าจันทร์ ป้าเป็นอะไร” อาทีละความสนใจจากมารดาถลาเข้ามาจับร่างผู้เป็นป้าเขย่า เด็กหนุ่มเห็นร่างนั้นนอนแข็งทื่อตาค้างก็แทบช็อคกลัวว่าเจ้าตัวจะเป็นอะไรในสิ่งที่ไม่อยากให้เป็น น้ำตาหนุ่มน้อยไหลออกมาอาบแก้มเป็นสายพลางร้องตะโกนให้บ่าวไพร่เข้าช่วยจ้าละหวั่น

จิตราหยุดอาการบ้าคลั่งไว้ชั่วคราวแล้วหันมาสนใจอาการพี่สาวบ้าง ภาพที่เห็นทำเอาหล่อนแท็บช็อคเช่นกันจึงยอมปล่อยร่างของแม่นางให้เป็นอิสระแล้วถลาเข้ามาพยุงร่างพี่สาวเขย่าถามพลางร้องห่มร้องไห้

“พี่จันทร์ พี่จันทร์ พี่จันทร์ฟื้นสิคะ พี่จันทร์เป็นอะไร จิตรขอโทษ จิตรขอโทษ”
“แม่ แม่พาป้าจันทร์ไปหาหมอนะครับแม่ ผมเป็นห่วงป้าจันทร์ ผมกลัวอ่ะแม่ ผมกลัว” อาทีร้องห่มร้องไห้อ้อนวอนมารดา สติหนุ่มน้อยตอนนี้หลุดกระเจิดกระเจิงจนเกินจะกู่กลับ เพราะหากผู้เป็นป้าเป็นอะไรไปจริงๆ แล้วก็ไม่รู้ว่าตนเองจะอยู่ในไร่นี้ได้ยังไง

จิตราเองก็ใช่ว่าจะต่างจากบุตรชาย หล่อนเองก็ร้องห่มร้องไห้พลางออกปากสั่งให้คนงานเตรียมรถเพื่อที่จะพาพี่สาวหล่อนไปโรงพยาบาลในเมือง

ส่วนอีกด้านหนึ่งแม่นางกับอิทธิเองก็กำลังนั่งกอดกันกลม โดยต่างคนก็ต่างร้องไห้สายตาทั้งคู่มองมายังร่างของผู้มีพระคุณที่นอนแข็งทื่อตาเบิกโพลงเฉกเช่นคนไร้ซึ่งชีวิต ในใจสองคนอยากจะเข้ามาดูอาการอย่างใกล้ชิดนัก แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะยังหวั่นใจว่าจิตราจะร้ายเข้าใส่ดังเช่นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้อีก

“แม่ คุณจันทร์จะเป็นอะไรมั้ยแม่” อิทธิเอ่ยถามมารดาปนสะอื้น ในนาทีนี้นึกห่วงใยผู้มีพระคุณเหลือล้น ซึ่งก็ไม่ต่างจากมารดาเท่าไหร่นักที่ไม่สนใจเก็บเผ้าผมที่กระเซอะกระเซิงจากการโดนจิกกระชากให้เข้ารูป นางปล่อยให้น้ำหูน้ำตาไหลอาบสองแก้มเป็นสาย ไม่อาจตอบบุตรชายได้เต็มปากนักว่าเจ้าของไร่นี้จะเป็นอะไรได้แค่ไหน แต่จากอาการที่นางเห็นน่ากลัวนักว่าฝ่ายนั้นอาจจะช็อคจนสิ้นลมไปแล้ว

ข่าวที่จันทร์จวงถูกหามร่างส่งโรงพยาบาลในตัวเมืองสร้างความสะทือนใจให้กับเหล่าคนงานกันถ้วนหน้า หลายคนร้องห่มร้องไห้ร่ำร้องขอตามไปดูอาการ หลายคนรีบจุดธูปเทียนกราบไหว้เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่อยู่ในไร่ส่มแห่งนี้ ให้ช่วยปกป้องคุ้มครองผู้มีพระคุณได้มีลมหายใจต่อไปเพื่อเป็นใบบุญให้หลายชีวิตได้อาศัยร่มเงา แต่กับสามคนนี้ข่าวที่ได้ยินดูจะเป็นข่าวดีนักแล

นายศร นายสิน และส้ม นั่งจับวงล้อมกันกลางกองไฟในเวลาค่อนคืน ต่างคนต่างหัวเราะอย่างรื่นเริงทันทีที่ได้ยินข่าวว่าหญิงชราเจ้าของพื้นดินในไร่นี้ถูกหามร่างส่งโรงพยาบาล อาการสินที่ว่าแย่ๆ แต่แรกกลับดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ทันทีที่ได้ยินข่าวที่ว่า จึงสามารถพาร่างกายมานั่งจับกลุ่มกับบิดาและน้องสาวได้

“โชคมันช่างเข้าข้างพ่อของพวกเอ็งดีแท้ไอ้สิน นังส้ม อยู่ดีๆ อีแก่จันทร์จวงมันก็มาล้มเจ็บหรืออาจจะตายแล้วก็ได้ในตอนที่ข้ากำลังคิดจะฮุบเอาไร่ของมัน เป็นแบบนี้ก็เท่ากับว่าคนที่ข้าต้องเปลืองสมองคิดแผนจัดการก็มีแค่อีบ้าจิตราเพียงคนเดียว ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะคนที่นี่ไม่ได้จงรักภักดีกับอีนี่เท่าไหร่ การที่มันจะล้มหายตายจากไปคงไม่มีใครที่จะตามสืบความให้วุ่นวาย หนำซ้ำอาจจะดีใจจนช่วยกันปิดเรื่องซะด้วยซ้ำ ไม่คิดเล้ย ว่าเรื่องราวมันจะเข้าลงเอยง่ายๆ แบบนี้” นายศรเอ่ยบอกกับบุตรสาวและบุตรชายที่นั่งตีสีหน้าระรื่นรับฟังก่อนจะหัวเราะชอบใจตุนเอาไว้ให้พอ เพราะหลังจากนี้อาจจะต้องมีแกล้งเล่นบทโศกเสร้าเสียใจไปกับการจากไปเจ้านายผู้ใจดี ซึ่งทั้งหมดคิดว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น เพราะจากการลอบสืบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ทุกคนต่างก็เล่าว่าภาพสุดท้ายที่ได้เห็นจันทร์จวงมันช่างน่ากลัวนักเพราะนางดั่งเหมือนคนช็อคตายเฉียบพลันแล้วจริงๆ
ที่เรือนอิทธิและแม่นาง สองคนต่างกระวนกระวายเรื่องที่ผู้มีพระคุณถูกหามส่งโรงพยาบาล จนลืมนึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ตัวเองเคยกลัดกลุ้มก่อนหน้า โดยอิทธินั้นลืมเสียสนิทว่าตัวเองโดนเหล่าอันธพาลรุมรังแกจนเสียจักรยานคันรักไป ส่วนแม่นางเองก็ลืมเรื่องหนักใจเกี่ยวกับที่บัญชีโดนลักลอบแก้ไขตัวเลขไปเสียสิ้นเช่นกัน สิ่งที่ทั้งสองสนทนากันตอนนึ้งเป็นเรื่องของจันทร์จวงไปซะหมด

“แม่ คุณจันทร์คงไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ”

“แม่ก็สุดจะคาดเดาอิทเอ้ย แต่คนดีๆ อย่างท่านคงไม่เป็นอะไรหรอกลูก”

“แต่มันน่ากลัวนะแม่ ตอนที่อิทเห็นท่านชักกระตุกแล้วหมดสติไป”

“อย่าไปจำภาพนั้นเลยลูก มันไม่ดีหรอก มาช่วยกันภาวนาให้ท่านหายเป็นปกติเถอะนะ”

“อิทกราบไหว้สิ่งศักดิ์ไปทุกทิศแล้วแม่ อิทใม่อยากให้คุณจันทร์เป็นอะไร ท่านมีพระคุณกับอิทมากนัก”

“แม่ก็เหมือนกันลูก แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดนะ”

สองคนโผเข้ากอดกัน รู้สึกร้อนรนอยากทราบข่าวของเจ้านายเจียนใจจะขาด แต่ก็ทำได้แค่รอ เพราะตอนนี้คงไม่สมควรนักที่จะพาร่างเฉียดเข้าใกล้กับจิตราอีก

หลังจากที่พาพี่สาวถึงมือหมอได้จิตราก็เดินไปเดินมารอฟังผลจากการตรวจอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน หล่อนตัดสินใจเก็บเรื่องที่พี่สาวเข้าโรงพยาบาลไว้ไม่บอกกับบุตรชายคนโตอย่างอาทิตย์เมื่อตอนแรกที่ติดต่อไปหาเจ้าตัวเพื่อจะแจ้งข่าวแต่เจ้าตัวบอกกำลังอ่านหนังสือหนักเพื่อเตรียมตัวสอบหวังคว้าเกียรตินิยมมาให้ชื่นชม แน่นอนที่สุดว่าหล่อนเองก็หวังว่าจะให้พี่สาวหล่อนยินดีกับหล่อนด้วย ใช่สิ พี่สาวหล่อนต้องไม่เป็นอะไร เจ้าตัวอยู่ในความดูแลของหมอของพยาบาลแล้วนางต้องปลอดภัย และหากว่านางจะเป็นอะไรไป คนที่จะรับผิดชอบเรื่องนี้ได้ก็คือไอ้อีแม่ลูกคู่อับปรีย์นั่น ซึ่งหากพี่สาวหล่อนหมดลมหายใจไปจริงๆ ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้หากหล่อนจะให้พวกมันสองคนชดใช้การสูญเสียครั้งใหญ่หลวงนี้ด้วยชีวิตของพวกมันเช่นกัน!
เวลาผ่านไปนานยังไม่มีใครออกมาจากห้องตรวจสักคน จิตราออกอาการวุ่นวายจนรู้สึกขัดใจต่อสิ่งรอบตัว ที่สุดไม่มีอะไรให้ระบายจึงหันมาตวาดใส่บุตรชายที่นั่งสะอื้นเบาๆ อยู่หน้าห้อง

“แกจะร้องไห้อีกนานมั้ยไอ้อาที ป้าแกยังไม่ตาย แค่ช็อคสิ้นสติ แกจะมาคร่ำครวญอะไรนักหนาห๊ะ!”

“ผมเป็นคน ผมมีหัวจิตหัวใจ ผมไม่ใช่แม่นี่ ที่ป้าจันทร์เป็นแบบนี้ก็เพราะแม่น่ะแหละรู้เอาไว้ด้วย” อาทีเอ่ยเถียง ยังจำภาพความร้ายกาจถึงขีดสุดของมารดาได้ดี มันช่างน่ากลัวอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนนัก แม้ที่ผ่านมาเจ้าตัวอาจจะร้ายแต่ทุกคราก็ไม่ถึงขั้นจิกกระชากลากผมใครไปทำทารุณให้ได้เห็น

“อย่ามาโทษฉัน คนที่แกควรจะโทษคือไอ้อีสองแม่ลูกนั่น แกก็เห็นว่าพวกมันรังแกแม่แก แกยังจะคิดเข้าข้างมันอีกเหรอไอ้ลูกเวร” จิตราด่าว่าเมื่อรู้สึกผิดหวังที่จนป่านนี้บุตรชายยังไม่คิดเข้าข้างตนอีก ก็เห็นอยู่ตำตาว่าหล่อนโดนไอ้เด็กเปรตอิทธิผลักจนหัวแทบคำมำ หากมันไม่ทำโอหังอย่างนั้นหล่อนจะร้ายถึงจุดเดือดมั้ย!

“แล้วเหตุการณ์ที่วุ่นวายมาจนป่านนี้ใครเป็นฝ่ายเริ่มล่ะ หากแม่ไม่เริ่มราวีแม่นางกับไอ้อิทตั้งแต่ต้น ไร่เราคงไม่ร้อนเป็นไฟจนป้าจันทร์ต้องมาล้มเจ็บแบบนี้หรอก ทีกับนายศรนายสินแม่ทำไมไม่ร้ายใส่พวกมันบ้าง พวกมันน่ะเลวกว่าแม่นางกับอิทธิเป็นไหนๆ เคยคิดจะเปิดตจามองบ้างมั้ย วันๆ จ้องแต่จะรังแกคนดี ส่วนคนไม่ดีปล่อยให้มันขี้รดบนรังคาได้ทุกวี่ทุกวัน ผมไม่อยากจะว่าแม่โง่นะ แต่วันนี้ผมสุดจะทนแล้ว”

“ไอ้อาที ไอ้ๆๆๆ” จิตราปากคอสั่นกับคำด่าว่าของบุตรชาย ว่าจะตอบโต้กลับก็ไม่ทันการณ์เมื่อเจ้าตัวพาร่างเดินหายไปแล้ว หล่อนจึงได้แต่ยืนกำหมัดแน่นมองตามหลังด้วยอารมณ์นึกฉุน

ขณะยืนโกรธบุตรชายจนอกแทบระเบิด ทางด้านหลังก็มีเสียงเปิดประตูห้องจิตราจึงหันไปมองพบหมอและพยาบาลเดินกันมาด้วยสีหน้าไม่สู้จะดีนัก หล่อนจึงปรี่เข้าไปถามถึงอาการพี่สาว คำตอบที่ได้ทำเอาแทบทรุดลงกับพื้น

 “ทำใจดีๆ นะครับ ตอนนี้ผู้ป่วย………”

โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 10-04-2011 14:48:12
 :เฮ้อ:
คนอย่างคุณจิตรนี่จะสำนึกได้ตอนไหน???
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 10-04-2011 14:57:11
กรี๊ดดดดดดดดดดด


คุณจิตรนี่ไม่มีความใจเย็นเลยสักนิด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 15:11:30

แอบบมาสปอยล์ว่าตอนนี้เบาๆ ตอนหน้า จัดหนักสำหรับคอมาม่า  o18

รอติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 10-04-2011 15:52:03
ลุ้นระทึก ตอนหน้าต้องหาผ้าเช็ดหน้ามาเตรียมไว้ละ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 10-04-2011 16:27:47
คนอย่างคุณจิตรเนี่ยนะไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่เสียอะไรไปซักอย่างก็ไม่รู้สึกหรอก ดีนะคนรอบข้างไม่มีใครเป็นแบบนี้ ไม่งั้นนะ...ฮึ่มๆๆ สงสัยตอนหน้าจะได้ใช่ผ้าเช็ดตัวแทนผ้าเช็ดหน้าแหง่มๆ เฮ้อ!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2011 16:42:04
เฮ้อ!
บ้านนี้ร้อนอย่างกับไฟ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-04-2011 18:22:58
โอ๊ยย อ่านเรื่องนี้แล้วหัวใจจะวาย
วุ่ยวายตั้งแต่เริ่มเรื่องยันจะจบ
มันจะมีซักตอนไหมที่ Happy
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2011 18:52:48
เวรกรรมของอีจิตรา เพราะจิตใตของมันที่ร้อนจนหาอะไรมาดับไม่ได้

เรื่องราวต่างๆมันเลยเหมือนเดิมกับเหตุการณ์ในอดีต

จิตใจชั่วร้าย ไร้เมตตาปราณี มองคนในแง่ร้าย

มองๆดูแล้วไม่มีอะไรดีเลยอีเหี้ยนี่ :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 10-04-2011 19:47:06
เดาว่าอีจิตรต้องไปใส่ร้ายให้อาทิตย์ฟัง
อาทิตย์มาทำร้ายอิทธิ อิทธิกับแม่นางหนี ไร่โดนนายศรยึด อาทิตย์รู้ความจริง
แล้วจะจบยังไงหว่า โอ้ยยย อ่านแล้วปวดตับปวดไต
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 10-04-2011 20:16:53
อย่าบอกนะว่าป้าจันทร์ ตายนะ เรื่องชัดจะดราม่าขึ้นทุกวัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 20:39:44

ตอนที่ 25

“ทำใจดีๆ นะครับ ตอนนี้ผู้ป่วยยังไม่ได้สติ เกิดจากอาการช็อคเฉียบพลันน่ะครับ เป็นอาการของโรคหัวใจชนิดหนึ่งซึ่งเกิดจากการทำงานผิดปกติของเซลล์หัวใจ โรคนี้ตรวจพบยากมาก เพราะอาการจะไม่แสดงออก แต่หากมีอะไรมากระตุ้น จะทำให้เหมือนกับคนหัวใจหยุดเต้น เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ การเต้นของหัวใจจึงผิดปกติ ถ้าไม่มีสิ่งกระตุ้นก็จะไม่เป็นไร หากมีสิ่งกระตุ้น เช่น ดีใจมากหรือเสียใจมากก็จะเกิดอาการช็อคจนไม่ได้สติแบบนี้ ซึ่งเสี่ยงมากกับการเป็นผู้ป่วยนิทรา ไม่ทราบว่าก่อนหน้านี้ ผู้ป่วยไปพบเจอเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ต้องเกิดอาการช็อคแบนี้มาหรือครับ แต่อย่าเพิ่งกังวลมากไปนะครับ ทางเราจะพยายามเต็มที่เพื่อทำให้ผู้ป่วยฟื้นและไม่ต้องเป็นผู้ป่วยนิทรา แต่คงไม่ใช่วันสองวันนี้”

นั่นคือถ้อยคำของแพทย์ผู้ตรวจอาการ เจ้าตัวเดินผ่านไปแล้วจิตราถึงกับร่างทรุดลงบนพื้นจริงๆ ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกสงสารต่ออาการพี่สาว หล่อนส่ายหน้าไปมาอย่างคนไม่อยากจะเชื่อว่าพี่สาวหล่อนเป็นมากขนาดนี้ นี่ถ้าหล่อนรู้ว่าพี่สาวหล่อนเป็นโรคหัวใจหล่อนก็คงจะเอาในใส่นางมากกว่านี้ เห็นเป็นลมหน้ามืดบ่อยๆ ก็เพียงคิดว่าเป็นไปตามวัย ใครจะรู้กันเล่าว่านางมีโรคร้ายแฝงอยู่ภายในร่างกายด้วย แต่ไม่สิ หล่อนจะมานั่งสำนึกผิดอยู่เพียงคนเดียวแบบนี้ไม่ได้ คนที่ทำให้หล่อนต้องร้ายจนพี่สาวหล่อนต้องช็อคสิ้นสติแบบนี้คือไอ้อีแม่ลูกคู่นั้น พวกมันสองคนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้

เมื่อคิดได้เช่นนั้นสองมือหญิงร้ายก็ยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งยันกายลุกขึ้นอย่างมาดมั่น นาทีนี้หล่อนจะมัวอ่อนแอไม่ได้ ถึงเวลาที่หล่อนจะต้องเด็ดขาดกับกับอีแม่ลูกอับปรีย์คู่นั้นซะที คิดอีกทีการที่พี่สาวหล่อนหลับใหลไม่รู้เรื่องราวแบบนี้มันก็ดีไม่น้อย เพราะหล่อนจะได้จัดการขับไล่ไอ้อีขี้ข้าที่หล่อนนึกเกลียดไปให้พ้นจากไร่นี้ได้สะดวก มันสมควรแก่เวลาแล้วล่ะทีหล่อนจะทำเช่นนั้น

“ขอโทษนะคะพี่จันทร์ที่จิตรต้องถือเอาโอกาสนี้เฉดหัวไอ้อีแม่ลูกคู่นั้นไปให้พ้นจากไร่ของเรา”

หล่อนหันไปทางห้องที่คิดว่าร่างพี่สาวคงกำลังนอนหลับอย่างสงบอยู่แล้วออกก้าวเดินฉับไปกลับไปยังรถที่ลุงไกรขับมาส่ง ไปถึงก็เอ่ยออกคำสั่งให้คนขับนำพาตนกลับไปที่ไร่
อาทีมองเห็นร่างมารดาก้าวขึ้นรถก่อนที่รถจะขับเคลื่อนออกไปก็นึกแปลกใจว่าทำไมมารดาไม่อยู่รอดูอาการป้าของตน หรือว่าเจ้าตัวจะทราบอาการแล้ว ใช่สิ ป่านนี้แล้วหมอน่าจะออกมาจากห้องตรวจแล้ว คิดได้เช่นนั้นหนุ่มน้อยก็ไม่รอช้าที่จะวิ่งกลับไปทางห้องตรวจเพื่อขอพบนายแพทย์ที่ตรวจอาการป้าของตน เด็กหนุ่มสนใจในอาการของผู้เป็นป้ายิ่งกว่าสิ่งใดจนไม่ได้ใส่ใจว่าขณะนี้มารดาของตนกำลังไปที่ใด

จิตรากลับมาที่ไร่ได้ก็ตรงไปยังเรือนนายศรสั่งการให้เจ้าตัวไปเกณฑ์คนงานชายที่ร่างกายกำยำมาให้พอสำหรับการไปรื้อถอนเรือนของแม่ลูกที่หล่อนนึกชัง ด้วยอารมณ์ที่กำลังร้ายกาจจนขาดสติหล่อนจึงไม่สนใจอาการฟกช้ำของสิน ซึ่งสินเองพอได้ยินคำสั่งการแบบนั้นก็เปรียบเป็นยาวิเศษอีกหม้อที่ช่วยรักษาอาการฟกช้ำ หนุ่มอันธพาลฮึดร่างกายรับคำบัญชาการทันที ไม่ต่างจากนายศรที่แทบจะกระโดดลงจากเรือนเพื่อไปเกณฑ์พรรคพวกอย่างว่าง่าย การที่จิตราทำแบบนี้ก็เท่ากับว่าตนเองจะได้กำจัดแม่นางไปให้พ้นไร่นี้ได้ง่ายขึ้นแบบไม่ต้องเปลืองสมองคิดหาทาง

ชายหัวหน้าคนงานหันมาสั่งบุตรสาวให้อยู่เฝ้าเรือนแล้วรีบพาบุตรชายไปเกณฑ์เหล่าสมุน ด้านจิตรามองตามยิ้มอย่างสมใจคิดว่านายศรนั่นช่างรู้ใจและจงรักภักดีกับหล่อนมากนัก เอ่ยปากสั่งยังไม่ทันไรฝ่ายนั้นก็กระตือรือร้นทำตาม และการที่หล่อนมัวแต่ยิ้มสมใจจึงไม่ทันสังเกตเห็นรอยยิ้มเยาะหยันแกมสมเพชที่ส้มแอบยิ้มส่งให้อยู่ไม่ไกลตัว

“ไร่จะโดนฮุบยังไม่รู้สำนึกอีกอีแก่” สาวน้อยเอ่ยขึ้นตามหลังเมื่อจิตราเดินตามบิดาและพี่ชายของตนไป

ด้านแม่นางและอิทธิ แม้จะค่อนคืนเข้าไปแล้วแต่ก็ต่างพากันนอนไม่หลับ ด้วยเพราะอยากจะรู้ข่าวของผู้มีพระคุณ

“เราตามไปที่โรงพยาบาลดีมั้ยแม่” อิทธิเอ่ยเสนอขึ้น เมื่อคิดว่าจะทนร้อนใจแบบนี้ไปเพื่ออะไร

“แม่ก็อยากไปอิท แต่นี่มันค่ำมืดขนาดนี้เราจะเอารถที่ไหนออกไปกัน”

แม่นางหันมาเอ่ยตอบ ทั้งสองถอนหายใจปลงตกว่าคงต้องรอให้ฟ้าสางนั่นล่ะถึงจะรับรู้อาการของจันทร์จวง

ระหว่างที่นั่งปลงตกกันอยู่นั้น สองคนก็ต้องตกใจเมื่อมีเสียงดังโครมบนหลังคาเรือน

“เสียงอะไรแม่ ต้นไม้ล้มทับหลังคาเรือนเราเหรอ” อิทธิเอ่ยถามมารดาอย่างตกใจ แม่นางเองก็คิดว่าเป็นเช่นนั้นจึงรีบฉุดแขนบุตรชายออกมานอกชายคาเรือน เพราะเรือนของตนใช่ว่าจะแข็งแรงนัก หากเป็นต้นไม้ล้มทับลงมาจริงก็ไม่ควรที่จะอยู่ภายใน

สองคนวิ่งหน้าตาตื่นออกมาได้แค่ชานเรือนก็ต้องตกใจซ้ำสองเมื่อบัดนี้ที่ลานกว้างหน้าเรือนพบจิตราพาร่างนายศรนายสินและคนงานชายวัยฉกรรจ์หลายนายมายืนจังก้าจ้องมอง

“โผล่หัวออกมาแล้วเหรออีพวกไพร่ วันนี้พี่จันทร์ไม่สามารถคุ้มกะลาหัวของพวกแกได้อีก ก็ถึงคราวที่ฉันจะจัดการกับพวกแกให้เด็ดขาดซะที”

จิตราเอ่ยขึ้นก่อนใคร สิ่งที่ออกมาจากปากของหล่อนทำให้แม่นางและอิทธิคิดเป็นห่วงจันทร์จวงจนลืมนึกถึงเรื่องตัวเอง ที่สุดแม่นางจึงเอ่ยปากถามก่อน

“คุณจิตรหมายความว่ายังไงคะ คุณจันทร์เป็นอะไรคะ คุณจันทร์เป็นอะไร”

“หนอยอีไพร่ แกไม่ต้องมาสะเออะถามถึงพี่สาวฉัน แกสมควรห่วงตัวแกเองและลูกชายแกเถอะว่าคืนนี้พวกแกจะไปมุดหัวนอนกันอยู่ที่ไหน นายศร พาพวกไปจัดการรื้อเรือนมันให้หมด อย่าให้เสามันเหลือไว้ทิ่มตาฉันแม้แต่ต้นเดียว” จิตราตวาดตอบกลับมาก่อนจะออกคำสั่งให้เหล่าบริวารที่ติดตามมาเข้าไปพังทลายเรือนหลังที่ตั้งอยู่ตรงหน้า

ถึงตอนนี้สองแม่ลูกจึงได้สติว่าภัยกำลังจะมาถึงตัวจึงรีบแยกร่างกันเข้าขวางคนหลายคนที่กรูเข้ามายังเรือน โดยฝั่งอิทธิได้เผชิญหน้ากับนายสินและสมุนส่วนแม่นางเองต้องต้านทางฝั่งนายศรและสมุนเช่นกัน

สองแม่ลูกเอ่ยห้ามบุคคลทั้งหมดกันจ้าละหวั่นว่าห้ามเข้ามาทำอะไรเรือนของพวกตน แต่อนิจจา เสียงห้ามของพวกเขาหรือจะสู้เสียงสั่งการของจิตรา
“อย่าไปยึกยักเพราะพวกมัน เข้าไปจัดการพังมันให้สิ้นซาก หากมันสองคนขัดขวางนัก ก็จับมันลงมาจัดการกระทืบซะให้จมไปกับพื้นเรือนของพวกมันซะ”

คำสั่งการของจิตรานั้นกระตุ้นให้นายศรและนายสินฮึกเหิมกว่าใครเพื่อน ทั้งสองจึงกรูเข้าไปกระชากร่างของเจ้าของเรือนที่ตั้งท่าปกป้องที่คุ้มกะลาหัวอยู่ลงมาแล้วจับโยนให้ร่างกระแทกกันเองกลิ้งไปตามพื้นดินพื้นหญ้า

“พวกมึงจัดการพังเรือนมัน ส่วนมันสองคนกูกับลูกจะจัดการเอง” นายศรเอ่ยสั่งสมุนแล้วหันมาย่างเท้าสามขุมเข้าหาแม่นางซึ่งกำลังพยายามยันกายลุกขึ้น อิทธิเห็นภาพนั้นจึงคิดจะคลานมาขวางการจู่โจม แต่หนุ่มน้อยก็ไม่อาจทำอย่างที่หวังเมื่อปลายเท้าโดนมือแข็งๆ กระชากกลับไปจนร่างครูดไปกับพื้นหญ้า เด็กหนุ่มร้องโอ้ยเพราะรู้สึกเจ็บแสบกับการโดนเส้นหญ้าคมและกิ่งไม้แห้งบาดเข้าตามแขนขา

“อิท!” แม่นางร้องตามร่างบุตรชายที่โดยอุ้งมือของสินกระชากเข้าที่ปลายเท้าลากไปตามพื้นดินพื้นหญ้า ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะปล่อยร่างเจ้าตัวให้เป็นอิสระแล้วจัดการเตะเข้าที่ชายโครงหนึ่งครั้งจนบุตรชายนางร้องโอ้ยขดตัว

“มึงทำกูกระอักมาแล้วไอ้อิทธิ ถึงคราวนี้กูขอเอาคืนบ้างเถอะ” สินเอ่ยลอดไรฟันออกมาก่อนจะจัดการเตะซ้ำเข้าที่ชายโครงของอิทธิที่กำลังนอนขดตัวอยู่อีกหนึ่งครั้ง แม่นางแทบใจสลายกับภาพที่บุตรชายของตนนอนขดตัวอย่างคนฝืนอาการเจ็บปวดตามร่างกาย นางคิดจะลุกวิ่งเข้าไปหาเพื่อปกป้อง แต่ก็ทำไม่ได้เมื่อโดยมือบางมือดึงกระชากเส้นผมเอาไว้จนต้องแหงนหน้าบรรเทาแรงรั้ง เจ้าของมือคือนายศรที่กำลังนั่งลงเอ่ยแสยะยิ้มใส่หน้า

“เอ็งไม่ต้องห่วงลูกเอ็งหรอกแม่นาง เอ็งห่วงเอ็งจะดีกว่า”

“นายศรจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันกับลูกไปเถอะ ทำไมต้องมาทำกันแบบนี้ด้วย” แม่นางเอ่ยอ้อนวินเสียงสั่น ลำพังนางเจ็บคนเดียวนางคงไม่อ้อนวอนแบบนี้ แต่นี่อีกฝั่งหนึ่งบุตรชายของนางกำลังระบมจากฝีมือของบุตรชายคนที่กำลังกระชากเส้นผมนางตอนนี้

“แกสองคนวอนให้วันนี้มันเกิดขึ้นเองนะอีแม่นาง ฉันพยายามไล่ให้แกออกไปจากไร่นี้ดีๆ แต่แกยังดื้อด้านที่จะเกาะกินใบบุญพี่สาวฉันอยู่ วันนี้พี่สาวฉันลุกมาปกป้องพวกแกไม่ได้ พวกแกสองคนจึงต้องมาพบจุดจบแบบนี้แหละ นายศรจับหน้ามันหันไปให้มันเห็นเรือนที่คุ้มกะลาหัวมันพังทะลายลงต่อหน้าต่อตาซิ”

จิตราเอ่ยขึ้นบ้างหลังจากยืนสาแก่ใจในภาพต่างๆ ที่เห็นเป็นนาน เบื้องหน้าตอนนี้เรือนทั้งหลังกำลังถูกคนงานวัยฉกรรจ์หลายนายรื้อถอนและทำลายไปแล้วบางส่วน ส่วนที่พื้นอีกฝั่งไอ้เด็กไพร่อย่างอิทธิก็นอนขดตัวงอพูดจาไม่ออกจากการจุกเสียดที่โดนนายสินกระทืบจนกระอัก และที่ปลายเท้าตอนนี้อีแม่นางก็กำลังโดนนายศรกระชากผมแหงนหน้าให้หันมองเรือนทั้งหลังของมันถูกทำลาย มันคงไม่มีอะไรที่จะสาแก่ใจหล่อนไปมากกว่านี้อีกแล้ว

แม่นางสะอื้นไห้อย่างคนใจสลายที่เห็นเรือนทั้งหลังที่ตนอาศัยอยู่กับบุตรชายอย่างอบอุ่นกำลังพังทลายจนไม่เหลือโครงเรือน ข้าวของต่างๆ ถูกรื้อมาทุบทิ้ง เสื้อผ้านาง ตำราเรียนของบุตรชายถูกฉีกทำลายจนย่อยยับไปต่อหน้า นาทีที่เห็นชายคนหนึ่งหยิบชุดนักเรียนของบุตรชายขึ้นมาเตรียมฉีกทิ้งนางพยายามฝืนร่างกายคิดจะคลานไปเข้าขวาง แต่แล้วก็ทำไม่ได้เมื่อนายศรออกแรงดึงรั้งเส้นผมนางจนกลัวว่าหากดิ้นต่อไปหนังศีรษะอาจจะหลุดติดมือไปได้

สุดท้ายนางจึงยอมยกมือพนมเอ่ยอ้อนวอนทั้งน้ำตาว่าอย่าให้ชายคนนั้นทำอะไรเช่นนั้นเลย คำอ้อนวอนของนางดังไปถึงหูอิทธิที่กำลังนอนจมซบพื้นอยู่ หนุ่มน้อยฝืนร่างกายหันมามองทางมารดา จิตใจที่เคยแกร่งแทบแตกเป็นเสี่ยงๆ ตอนที่เห็นเจ้าตัวยกมือไหว้อ้อนวอนคนงานชายไม่ให้ทำลายชุดนักเรียนของตน เด็กหนุ่มอยากจะลุกไปห้ามมารดาให้หยุดทำเช่นนั้น แต่ทุกครั้งที่ขยับร่างกายก็โดนปลายเท้าของอันธพาลอย่างสินเตะเข้าจนเจ็บไปทั้งร่างกาย

“ไม่!!! อย่า! ฮือๆ อย่าทำชุดนักเรียนลูกฉัน อย่า! ฮือๆ” แม่นางส่งเสียงโฮหนักเมื่อเห็นชายผู้นั้นไม่ฟังคำอ้อนวอนด้วยการเตรียมจะทำลายชุดที่นางภูมิใจทุกครั้งที่เห็นบุตรชายสวมใส่ แล้วที่สุดเสียงร้องไห้ของนางก็สามารถหยุดการกระทำของชายผู้นั้นได้ นางยิ้มทั้งน้ำตาที่เห็นชุดนักเรียนของบุตรชายยังไม่ถูกทำลายไป

“ฮึ่ย! ขัดใจกูนัก จะสนใจทำไมกับเสียงเห่าหอนของอีนี่ มานี่กูจัดการเอง” จิตรารู้สึกโกรธกับอาการใจอ่อนของคนงาน หล่อนก้าวฉับๆ ไปแย่งเสื้อผ้าชุดนั้นมาถือไว้ในมือ หันมาแสยะยิ้มให้แม่นางเอ่ยบอก
“คนอื่นใจอ่อนให้มึง แต่สำหรับกูมึงอย่าหวัง ดูชัดๆ อีแม่นางนี่คือสิ่งที่มึงหวงแหนให้ลูกชายมึงใช่มั้ย ดูชัดๆ ว่ากูจะทำอะไรกับมัน”

จิตราเตรียมจะฉีกทำลายเสื้อผ้าในมือ แม่นางยกมือไหว้อ้อนวอนทั้งน้ำตาอีกรอบ

“คุณจิตรคะ ดิฉันขอล่ะค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างคุณจิตรก็สั่งให้คนงานทำลายไปหมดแล้ว เรือนดิฉันก็ไม่เหลือ ข้าวของดิฉันก็พังทลาย ดิฉันขอชุดนักเรียนนี้ให้ลูกชายดิฉันนะคะ ได้โปรดเถอะค่ะ อีกไม่เท่าไหร่อิทมันก็จะเรียนจบแล้ว และเราสองแม่ลูกก็จะไปจากที่นี่ทันที ดิฉันขอนะคะ ดิฉันขอ”

อิทธิฮึดร่างกายที่เจ็บเจียนตายเอ่ยร้องบอกมารดาว่าหยุดขอร้องกราบไหว้คนชั่วช้าเถอะ เพราะยิ่งทำพวกมันก็ยิ่งได้ใจ จิตราได้ยินเช่นนั้นจึงเดินมาทางหนุ่มน้อยบ้าง หล่อนนั่งลงใช้มือกระชากผมทางด้านหน้าของฝ่ายนั้นให้มองมาที่มือของหล่อนที่ถือชุดนักเรียนนั่นไว้ถลึงตาบอก

“ปากดีนักใช่มั้ยไอ้เด็กไพร่ ดี งั้นแกก็จงดูซะ ฉันจะทำลายชุดอันมีเกียรติของแกนี่ต่อหน้าต่อตาแกนี่แหละ อย่าหวังเลยว่าแกจะได้เรียนจบแล้วมีอนาคตมาเทียบเท่าลูกชายฉัน แกมันลูกขี้ข้าก็สมควรมีอนาคตอย่างลูกขี้ข้า จำเอาไว้” เอ่ยจบหล่อนก็จับใบหน้านั่นกระแทกซบพื้นหญ้า แล้วลุกขึ้นจัดการใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีฉีกกระชากทำลายชุดนักเรียนทั้งชุด กระทั่งหลายชิ้นส่วนได้ตกลงต่อหน้าต่อตาของเจ้าของชุด

อิทธิทนกล้ำกลืนความเสียใจที่ชุดอันมีเกียรติของตนถูกฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้า การกระทำครั้งนี้ของจิตราสร้างความชิงชังและอาฆาตแค้นให้เกิดในใจหนุ่มน้อยจนยากที่จะให้อภัยได้ หากว่าตนมีชีวิตรอดนับจากวันนี้ ก็จะถือเอาว่าหากมีโอกาสไถ่ถอนแค้นทั้งหมดคืนผู้หญิงอย่างจิตราจะต้องได้รับการสนองกลับอย่างเจ็บปวดกว่านี้หลายเท่าพันเท่า

“อิทลูก แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ” แม่นางมองเห็นแววตาบุตรชายที่นอนมองเศษชิ้นเสื้อผ้าหล่นลงตรงหน้าก็ใจสลาย นึกสงสารเหลือเกินกับแววตาหนุ่มน้อยที่คลอด้วยหยดน้ำตา นางผิดเองที่ไม่พาบุตรชายออกไปจากไร่นี้ นางผิดเองที่ดันทุรังอยู่เพื่อตอบแทนบุญคุณผู้มีพระคุณ นางผิดเองที่นางเลือกที่จะอุ้มท้องเจ้าตัวเพื่อมาคลอดในไร่แห่งนี้ นางผิดเองที่ไม่เคยปกป้องเจ้าตัวได้เลยในยามคับขัน
เศษผ้าชิ้นสุดท้ายหล่นลงต่อหน้าอิทธิ จิตราแสยะยิ้มมองดูอย่างสาสมใจ เสียงร้องไห้สะอื้นของแม่นางเป็นแรงขับให้หล่อนยกเท้าขึ้นเหยียบเศษผ้าซ้ำให้มันจมไปกับผืนดิน เสียงโครมครามของเรือนทั้งหลังที่พังทลายจนไม่เหลือเสาให้เห็นเป็นดั่งฉากตลกขบขันให้หล่อนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาเมื่อได้ชม พอๆ กับนายสินและนายศรที่ต่างผสมโรงเปล่งเสียงหัวเราะกับผู้เป็นนายจนเสียงนั่นดังสนั่นลั่นไร่ ก่อนจะเงียบลงเมื่อมีหนึ่งเสียงตวาดขึ้น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น หยุดกันเดี๋ยวนี้นะใครไม่หยุดฉันยิงไส้แตกแน่”

เสียงนั่นเป็นเสียงของอาทีที่กำลังยืนจังก้าอยู่พร้อมปืนยาวในมือ หนุ่มน้อยมาที่นี่ได้เพราะสังหรณ์ใจว่ามารดาของตนคงจะตามมาอาละวาดเพื่อนของตนเป็นแน่เพราะในตอนแรกที่ได้รับรู้อาการของผู้เป็นป้าก็เกิดอาการช็อคใจหาย และคิดว่ามารดาของตนคงจะเป็นเช่นนั้น และหากให้เดาตอนที่เห็นมารดาขึ้นรถลุงไกรออกมาจากโรงพยาบาลเจ้าตัวก็น่าจะตามมาราวีนี่นี่เป็นแน่จึงรีบตามออกมา เจอหน้าบ่าวไพร่ที่เรือนก็ถามไถ่ว่าเจ้าตัวไปไหนเพื่อความแน่ใจ และลุงไกรก็เป็นคนตอบว่าเจ้าตัวมาที่เรือนนายศร จึงได้ตามมาแต่ก็พบเพียงบุตรสาวนายศรอยู่เพียงลำพังจึงเค้นถามเรื่องราว โชคดีที่ฝ่ายนั้นเปิดปากบอกทุกอย่างจึงได้ถือวิสาสะขึ้นเรือนนายศรแล้วฉวยคว้าปืนยาวติดมือเพื่อตรงมาห้ามการกระทำอันป่าเถื่อนของมารดา แต่ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะมาช้าไป เพราะภาพที่อยู่ตรงหน้า เรือนทั้งหลังที่เคยตั้งเด่นได้พังทลายลงจนไม่เหลือซาก หนำซ้ำเจ้าของเรือนทั้งสองคนยังอยู่ในสภาพสะบักสะบอม ร้องห่มร้องไห้กันอย่างน่าเวทนา

“เรื่องนี้แกไม่เกี่ยวไอ้อาที กลับเรือนไปซะ แล้วนั่นแกไปเอาปืนผาหน้าไม้มาจากไหน” จิตราสั่งและถามบุตรชาย ตกใจหน่อยๆ ที่เห็นเจ้าตัวถืออาวุธอันตรายเข้ามาแบบนี้

“นั่นมันปืนพ่อนี่” สินหันไปเอ่ยกับบิดา ตกใจเช่นกันที่เห็นอาทีส่งสายตาดุดันมาที่กลุ่ม

“ใช่ปืนนายศร นายถอยไปจากร่างเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันยิงนายคนแรกแน่” อาทีหันมาเอ่ยสั่งสินพร้อมยกปืนเล็งเข้าใส่ สินจึงรีบถอยฉากหนีอย่างร้อนรนไปหลบหลังบิดาที่ปล่อยแม่นางให้เป็นอิสระแล้วยืนยิ้มเยาะอยู่เพียงคนเดียว

“พ่อยิ้มอะไร ไอ้อาทีนั่นมันจะยิงผมนะ” สินเอ่ยถามบิดาอย่างข้องใจ นายศรจึงเฉลยด้วยการหันไปเอ่ยกับคนเล็งปืน
“คุณอาทีใช้ปืนเป็นด้วยเหรอครับ”

อาทียิ้มเยาะกับกับคำถามก่อนจะยกปลายกระบอกปืนขึ้นฟ้าแล้วลั่นไกหนึ่งนัดเสียงดังปังกัมปนาท ส่งผลให้ทุกร่างที่อยู่ในเหตุการณ์ก้มหมอบหลบกันพัลวัน ไม่เว้นแม้แต่จิตรา

“ฉันเป็นลูกหลานชาวไร่ ทำไมฉันจะไม่หัดใช้ปืนผาหน้าไม้เอาไว้” อาทีเอ่ยบอกแล้วสั่งให้เจ้าของปืนที่ตนถืออยู่ถอยร่างออกห่างจากแม่นางเช่นกัน จิตราเหลือจะทนกับการกระทำอันอุกอาจของบุตรชายจึงเอ่ยเสียงดังขึ้น

“ทุกคนไม่ต้องไปฟังคำไอ้ลูกไม่รักดีของฉัน ตราบใดที่ฉันอยู่ที่นี่ก็อย่ากลัวกับคำสั่งของมัน เพราะหากมันคิดจะยิงใครแม่มันนี่แหละจะเข้าขวางก่อน ดูซิว่ามันจะกล้าฆ่าคนที่เบ่งมันออกมามั้ย”

อาทีชะงักไม่น่าเชื่อว่ามารดาตนจะเป็นไปได้ขนาดนี้ หล่อนไม่เคยคิดระแวดระวังว่ากลุ่มคนที่หล่อนกางปีกปกป้องอาจจะแว้งกัดหล่อนเข้าสักวันหรือ หนุ่มน้อยสู้สายตากับมารดาตัดสินใจเอ่ยขึ้น

“ผมเคยคิดมาตลอดว่าผมกับแม่จะเข้าใจกันได้สักวัน ผมเคยคิดว่าจริงๆ แม่ก็รักผมเท่าๆ กับพี่อาทิตย์ ผมเคยคิดว่าแม่จะเลิกร้ายกาจกับแม่นางและไอ้อิทเพราะคำสอนของป้าจันทร์ ผมเคยคิดจะกราบขอโทษแม่หากว่าแม่จะยอมฟังคำป้าจันทร์จริงๆ แต่แล้ววันนี้สิ่งที่ผมคิดมันก็ไม่มีทางเป็นจริง แม่รู้อะไรมั้ยว่าผมเคยภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกแม่ ผมอยากบอกแม่ว่าเองก็รักและเคารพแม่ ผมอยากขอขมาแม่ใจแทบขาดในทุกตอนที่ผมพูดไม่ดีกับแม่ แต่แม่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ผมเลย กระทั่งวันนี้ วันที่ผมเห็นแม่ของผมร้ายกาจจนเกินกว่าที่มนุษย์ปุถุชนทั่วไปจะเป็นกัน แม่กางปีกปกป้องคนอื่นตลอด แม่ลืมแล้วหรือว่าที่ยืนต่อหน้าแม่ตอนนี้เป็นลูกชายแม่ เป็นคนที่แม่ควรเข้าข้างมากกว่าใคร แม่ทำแบบนี้มันก็เปรียบเสมือนแม่ได้ฆ่าลูกชายคนนี้ทิ้งแล้ว แล้วเมื่อเป็นอย่างนี้ ผมมีเหตุผลอะไรมั้ยที่ผมจะต้องไม่กล้าทำในสิ่งที่คนทั่วไปมองว่ามันบาปมหันต์ แม่สั่งทุกคนให้ถอยไปยังเขตเรือนหลังนี้ซะ ไม่อย่างนั้นผมคิดว่าผมกล้าที่จะยิงปีกที่แม่กางปกป้องทุกคนทิ้ง ผมเชื่อว่าการที่ผมปกป้องคนดีๆ ไม่ให้ถูกรังแกคงจะช่วยลดโทษบาปที่ผมต้องชดใช้ในนรกได้หากว่าผมจำเป็นที่จะต้องเด็ดปีกแม่ทิ้งจริงๆ”
แม้ถอยคำจะเด็ดขาดแต่ทว่านัยน์ตาเด็กหนุ่มกลับไหวระริกด้วยหยดน้ำที่เอ่อล้นเต็มขอบตา ยอมรับว่าเอ่ยเองก็สะเทือนใจเองกับคำพูดของตน แต่ในเมื่อมารดาของตนเห็นใครต่อใครดีกว่าตนไปซะหมดและสถานการณ์มันก็บังคับให้ต้องสร้างบาปมหันต์ให้ตัวเองแบบนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

“แกกล้าเอ่ยกับฉันขนาดนี้เลยเหรออาที แกคิดเหรอว่าฉันไม่รักแก ที่ฉันด่าฉันว่าฉันทุบฉันฉันตีก็เพราะแกเองก็ชอบพาตัวเองลงมาเกลือกกลั้วกับไอ้อีขี้ข้าชั้นสวะนี่ แกไม่รู้หรอกว่าก่อนแกจะเกิดอีแม่นางนี่มันเข้ามาออเซาะขออาศัยใบบุญป้าของแกอย่างไร้ซึ่งศักดิ์ศรี ฉันเจอคนที่คิดจะมาปอกลอกป้าของแกมาเยอะต่อเยอะและฉันก็กำราบมาจนเหนื่อยอ่อนกว่าที่ป้าของแกและฉันจะได้มาเป็นเจ้าของไร่นี้ให้แกได้เกิดมามีลมหายใจ ให้ใครต่อใครได้เพิ่งใบบุญ ไร่นี้มันไม่ใช่สมบัติติดตัวป้าแกหรือแม่แก แต่มันเป็นไร่ที่เกิดจากน้ำพักน้ำแรงของแม่แกกับป้าแกที่ช่วยกันถากพงหญ้าไถท้องไร่จนเกิดเป็นขุมสมบัติให้แกได้มีใช้มีสอย แล้วมีเหตุผลอันใดที่ฉันจะต้องญาติดีกับคนที่คิดเข้าปอกลอกโดยการอ้อนวอนว่าขออยู่อาศัยทำงานแลกเงินด้วย ดูท่าทีวันแรกฉันก็รู้แล้วว่ามันหวังมากกว่านั้น ป้าแกเป็นคนใจอ่อน ฉันรู้ว่าอีนังแม่นางนี่มันรู้จุดนี้ ฉันถึงต้องคอยกำราบมันไง แล้วอย่างนี้แกคิดว่าฉันผิดมหันต์เหรอกับการที่ฉันปกป้องแกไม่ให้ลดตัวลงมายุ่งกับพวกมัน”

จิตราเองก็เอนไหวไปไม่ต่างกัน เพราะเบื้องลึกแล้วหล่อนเองก็ไม่ได้นึกชิงชังบุตรชายไปซะทีเดียว แต่การกระทำของเจ้าตัวและเหตุการณ์ทุกอย่างมันบังคับให้นางต้องร้าย ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะได้มายินว่าลูกจะทำร้ายแม่บังเกิดเกล้าได้ลงคอ

“จะกี่วัน กี่เดือน กี่ปี แม่ก็ยึดแต่ความเชื่อนี้มาโดยตลอด ไม่เคยเลยสักครั้งที่แม่จะเปิดตาเปิดใจมองว่าแท้จริงแล้วคนที่ห่วงครอบครัวเราและไร่ของเรามากที่สุดก็คือสองคนที่แม่รุมรังแกเช้าเย็นนี่แหละ พูดตรงๆ เถอะ หากแม่นางไม่เข้ามาคุมบัญชีแทนนายศร แม่คิดมั้ยว่าขุมสมบัติที่แม่หวงนักหวงหนามันอาจมลายไปแล้วก็ได้”

ประโยคหลังของอาทีตรงเข้ากระแทกใจนายศรสุดขั้ว จนมีท่าทีขยับ ปลายกระบอกปืนในมืออาทีจึงหันไปหาเจ้าตัวทันที

“อย่าคิดที่จะทำอะไรนายศร ไม่อย่างนั้นฉันยิงนายแน่ ถอยไป พาสมุนของนายกลับไปให้หมด” อาทีตวาดลั่นใส่ ส่วนจิตราเกิดทิฐิอยากเอาชนะบุตรชายจึงเอ่ยขึ้น
“นายศรไม่ต้องไปกลัวมัน มันจะกล้าทำร้ายแม่มันอย่างที่มันเอ่ยก็เอา ฉันจะยืนปกป้องทุกคนอยู่ตรงนี้ จะดูซิว่าลูกชายฉันมันจะกล้าทำอย่างที่พูดมั้ย”

สายตาหญิงร้ายส่งไปท้าทายบุตรชาย ภายใต้ถ้อยคำท้าทายนัยน์ตาหล่อนก็เอ่อล้นด้วยน้ำตาอยู่เช่นกัน

อาทีกำกระบอกปืนในมือแน่น ส่งสายตาไหวระริกมาจ้องร่างมารดาเช่นกัน ในเมื่อสถานการณ์มันบังคับแล้ว มือน้อยจึงค่อยๆ หันกระบอกปืนมาทางคนยืนท้าทาย
แม่นางตาเบิกโพลงกับภาพที่เห็น ไม่! นางจะปล่อยให้เด็กน้อยอย่างอาทีมีบาปมหันต์ติดตัวไม่ได้ วินาทีสุดท้ายก่อนจะเห็นกระบอกปืนเล็งมาที่ร่างจิตราเต็มลำ นางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้ว……..



โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 20:41:57
ตอนที่ 26
แม่นางตาเบิกโพลงกับภาพที่เห็น ไม่! นางจะปล่อยให้เด็กน้อยอย่างอาทีมีบาปมหันต์ติดตัวไม่ได้ วินาทีสุดท้ายก่อนจะเห็นกระบอกปืนเล็งมาที่ร่างจิตราเต็มลำ นางจึงตัดสินใจลุกขึ้นแล้วรีบปัดปลายกระบอกปืนในมือหนุ่มน้อยไปทางอื่นแทนการจ้องใส่ร่างมารดาเจ้าตัว
“อย่าค่ะคุณอาที มันบาปนักนะคะ อย่าทำแบบนี้เลย”
อาทีน้ำตาไหลพรากในตอนที่ปลายกระบอกปืนหันไปทางอื่นแล้ว ทั้งแรงเก็บกดที่มีต่อมารดาและรู้สึกเต็มตื้นที่หญิงผู้ที่ไม่ใช่มารดาแท้ๆ นึกเป็นห่วงตนเกรงว่าจะมีบาปติดตัวมหันต์มากกว่าผู้ให้กำเนิดที่พยายามยั่วยุให้ตนทำบาปอยู่ทุกลมหายใจ
“ผมขอโทษแม่นาง ผมมาช้าไป ผมมาช้าไป” หนุ่มน้อยกอดปลอบร่างแม่นางร้องไห้สะอื้นหนักเมื่อเห็นสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิงของเจ้าตัว ก่อนจะรีบทรุดนั่งดูอาการของเพื่อนรักบ้าง โดยการนั่งคุกเข่าวางปืนในมือลงแล้วจับร่างนั่นมานอนหนุนตักเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงจะยังลุกไม่ไหว
“แข็งใจไว้ไอ้อิท กูจะพามึงไปหาหมอ แข็งใจไว้นะ แข็งใจไว้” เด็กหนุ่มบอกเพื่อนให้แข็งใจแต่ตัวเองนั้นน้ำตาไหลเป็นสายในยามที่เห็นเพื่อไอสำลักออกมาเป็นลิ่มเลือด แม่นางอีกคนที่ใจสลายเป็นเสี่ยงๆ ตอนเห็นอาการบุตรชายพยามยามฝืนใจพูด นางใช้มือเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปากบุตรชายอย่างสั่นเทิ้มเพราะเกร็งมือกลัวว่าเจ้าตัวจะเจ็บ
ทางฝั่งกลุ่มของจิตราที่ยืนมองสถานการณ์นิ่งๆ ที่สุดนายศรจึงเอ่ยถามผู้เป็นนาย
“เอาไงดีครับคุณจิตร”
“ปล่อยให้พวกมันคร่ำครวญกันอยู่ตรงนี้แหละ วันนี้สาแก่ใจฉันแล้วพวกนายศรทำดีมากแล้วฉันจะมีรางวัลให้ทุกคน ไป แยกย้ายกันกลับ”
จิตราเอ่ยบอกแล้วเดินนำแยกไปก่อน หล่อนหยุดเดินในตอนที่เดินไปเคียงร่างสองคนที่กำลังสะอื้นไห้กอดร่างคนเจ็บ ตอนนั้นบุตรชายของนายแหงนหน้าขึ้นมามองหล่อน หล่อนจึงอดที่จะมองกลับไม่ได้ สองคนสู้สายตากันด้วยแรงทิฐิในใจสักพัก สุดท้ายผู้เป็นมารดาจึงเป็นฝ่ายเดินเชิดหน้าหนีไป
“สินไปเอาปืนข้ามา” นายสินเอ่ยสั่งบุตรชายในตอนลับหลังจิตราไปแล้ว สินเดินไปยังปืนกระบอกที่วางอยู่ข้างๆ ตัวอาทีอย่างกล้าๆ กลัวๆ แล้วก็ต้องชะงักเมื่ออาทีคว้ากระบอกปืนเล็งมาที่ร่างกายส่วนล่างของตนก่อนเจ้าตัวจะลั่นไกใส่ขาขวาจนร่างทรุดลงร้องโอดโอยดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บ
“ไอ้สิน” นายศรเห็นภาพนั้นก็ตกใจจนตัวชาก่อนจะตั้งสติวิ่งไปประคองร่างบุตรชาย อาทีส่งร่างอิทธิให้กับแม่นางแล้วลุกยืนขึ้นเล็งปลายกระบอกปืนมายังร่างของนายศรบ้าง
“นัดนั้นเพื่อไอ้อิทส่วนนัดนี้เพื่อแม่นางและก็เรือนหลังนี้” หนุ่มน้อยเอ่ยบอกนิ่งๆ จ้องเขม็งไปที่ร่างเหยื่อตัดสินใจลั่นไกปืนอีกครั้งตอนที่ปลายกระบอกชี้ตั้งลำได้ที่
“อย่า!” นายศรร้องเสียงหลงยกมือขึ้นบังร่าง ไม่คาดคิดว่าจิตใจเด็กน้อยในสายตาตนจะเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้ นาทีต่อมาพอได้ยินเพียงเสียงคลิ๊กจึงค่อยๆ ลดมือลงส่งสายตามองกลับมาที่กระบอกปืน พบว่าอาทีนั่นได้ลั่นไกแล้วจริงๆ แต่โชคยังเข้าข้างตัวเพราะกระสุนนั้นได้หมดไป
อาทีใจเสียหน่อยๆ ที่กระสุนปืนเกิดหมดขึ้นมาตอนนัดสำคัญ เด็กหนุ่มมัวแต่จ้องลำปืนจึงไม่ได้สนใจว่าตอนนี้นายศรกำลังลุกพรวดตรงเข้ามายังร่างพร้อมยกมือคิดตะบันหมัดใส่
“อย่าทำอะไรลูกฉันนะนายศร!” เสียงของจิตราดังแผดลั่นมาห้ามจังหวะนั่น ส่งผลให้นายศรรีบลดมือลง พอๆ กับที่เจ้าของเสียงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า
“ฉันได้ยินเสียงปืน นึกแล้วต้องเกิดเหตุร้าย พาลูกชายของนายไปรักษาตัวซะ ส่วนลูกฉันฉันจัดการเอง” จิตราเอ่ยบอกเสียงเข้ม ส่งสายตาของผู้เป็นนายไปยังบ่าว นายศรยอมเก็บความคับแค้นไว้ หันไปสั่งให้สมุนพยุงร่างบุตรชายเดินกลับไปยังเรือน
ลับหลังคนทั้งหมด จิตราหันมามองหน้าบุตรชาเอ่ยบอก
“อย่ากล้าให้มันมากนักไอ้อาที ถ้าฉันไม่กลับมาแกรู้มั้ยว่านายศรจะทำอะไรกับแก”
“ขอบคุณสำหรับพระคุณ หากมีโอกาสจะทดแทนให้” อาทีเอ่ยตอบกลับไปด้วยท่าทีและน้ำเสียงห่างเหิน หนุ่มน้อยละความสนใจจากมารดา โยนปืนในมือทิ้งไปแล้วนั่งลงไปพยุงร่างของอิทธิยืนขึ้นพาเดินหายไปพร้อมแม่นาง จิตรามองตาด้วยหางตาแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมามองภาพซากเรือนเบื้องหน้า อยากจะแสยะยิ้มให้เช่นเคยนักแต่จากแววตาและคำพูดห่างเหินของบุตรชายเมื่อครู่ทำให้นางไม่อาจทำเช่นนั้นได้

*****************************************************************************

อาทีพาร่างอันบอบช้ำของเพื่อนและแม่นางมาขอให้ลุงไกรขับรถไปส่งโรงพยาบาล ลุงไกรเองก็กุลีกุจอช่วยเต็มที่ ซึ่งการกระทำทั้งหมดอยู่ภายใต้สายตาของเพลินพิศที่ซุ่มดูอยู่
ที่โรงพยาบาลระหว่างที่อิทธิโดนเข็นร่างเข้าไปปฐมพยาบาล อาทีกับแม่นางก็กำลังนั่งปรึกษาหารือถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยลุงไกรเองก็ยังไม่ยอมห่างไปไหนเพราะเป็นห่วงเจ้านายตัวน้อยกลัวว่าหากจะเรียกใช้รถแล้วจะลำบาก
“ไอ้อิทมันคงแค่บอบช้ำ หมอปฐมพยาบาลมันหน่อยเดี๋ยวมันก็หายครับแม่นาง แม่นางอย่ากังวลเลยนะ” อาทีเอ่ยปลอบมารดาของเพื่อน นึกเห็นใจที่เจ้าตัวยังสะอื้นไห้ไม่หยุด
“ดิฉันขอบคุณคุณอาทีมากนะคะที่ช่วยเหลือทุกอย่าง หากคุณอาทีไม่มาช่วยดิฉันกับอิทก็อาจจะแย่ไปมากกว่านี้” แม่นางยกมือไหว้เด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยความซึ้งใจ รองลงมาจากจันทร์จวงก็คงเป็นหนุ่มน้อยผู้นี้ล่ะมั้งที่เป็นห่วงเป็นใยนางและบุตรชายด้วยความจริงใจ
“แม่นางอย่าไหว้ผมสิครับ เดี๋ยวผมอายุสั้นเอา อันที่จริงผมน่าจะไปถึงเร็วกว่านั้นนะครับ เรือนแม่นางจะได้ไม่ถูกรื้อ” อาทีรีบจับมือคนคนที่อาวุโสกว่าตนไว้ในตอนที่เห็นเจ้าตัวยกไหว้ ถึงตอนนี้แม่นางจึงเริ่มคิดหนักเรื่องหาที่อยู่อาศัยจึงเอ่ยออกมา
“ต่อไปดิฉันคงจะอยู่ในไร่นั้นไม่ได้แล้ว ตอนนี้ดิฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าจะพาอิทไปอยู่ทีไหน”
“นี่ถ้าป้าจันทร์ยังได้สติอยู่ท่านก็คงจะช่วยพวกเราได้เนาะ” อาทีเอ่ยถึงผู้มีพระคุณที่ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นขึ้นมารับรู้เรื่องราวนี้เมื่อไหร่ เด็กหนุ่มบอกเล่าอาการของฝ่ายนั้นให้คนตรงหน้าฟังแล้ว แม้เจ้าตัวจะมีท่าทีตกใจแต่ก็เอ่ยปลอบเขาให้สบายใจว่าสักวันคนดีๆ อย่างป้าของเขาต้องฟื้น
“มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับคุณอาที แม่นาง พอจะเล่าให้ผมฟังได้มั้ยครับ” ลุงไกรเอ่ยถามขึ้นเมื่อยืนฟังสองคนคุยกันแต่ยังจับเรื่องราวไม่ถูก อาทีจึงเอ่ยระบายเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง ชายชราผู้มีหน้าที่ขับรถรู้สึกเห็นใจในชะตากรรมของผู้หญิงที่เลี้ยงลูกมาเพียงคนเดียวอย่างแม่นางจึงเอ่ยเสนอ
“อย่าว่าอย่างนี้อย่างนั้นเลยนะ แม่นางพาลูกชายไปพักกับญาติฉันก่อนมั้ย อยู่ไม่ไกลจากที่นี่นักหรอก พวกเขาก็ทำไร่เหมือนกันแต่เป็นไร่ลำไย เดี๋ยวฉันจะฝากฝังให้”
แม่นางกับอาทีมองหน้ากัน ต่างก็รู้สึกตื้นตันใจที่มีอีกมือหนึ่งยื่นเข้ามาช่วยเหลือ
“ขอบคุณลุงไกรมากที่เมตตาฉันกับลูก ฉันจะขออาศัยเพียงไม่นานหรอกค่ะ ฉันขอให้อิทมันเรียนจบแล้วฉันก็จะพาลูกไปตั้งหลักปักฐานที่อื่นโดยรบกวนญาติลุงไกรต่อ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณลุงไกรมาก”
แม่นางตัดสินใจก้มลงกราบเท้าผู้ที่เอ่ยให้หนทางอันมืดสนิทสว่างขึ้น อาทีซึ้งใจในท่าทีของฝ่ายนั้นที่นอบน้อมต่อผู้มีพระคุณได้เสมอตัว นี่น่ะหรือคนที่คิดจะฮุบเอาไร่ที่มารดาและป้าของตนถางพงหญ้ากันมา ช่างน่าอดสู่ในความคิดมารดานัก

****************************************************************************

บรรยากาศที่ไร่ในเช้าวันใหม่ ลุงไกรกลับมาทำหน้าที่เป็นคนขับรถรับส่งจิตราตามเดิม เกิดความกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบว่าตอนนี้บุตรชายคนเล็กของเจ้านายอยู่ที่ไหนในตอนที่โดนฝ่ายนั้นถาม
“อย่ามาโกหกอะไรฉันนะนายไกร เพราะเมื่อคืนนังพิศมันเห็นว่านายไกรขับรถพาไอ้อาทีกับไอ้อิทธิและอีแม่นางหายไป” จิตราเอ่ยคาดคั้นโดยยกเอาสิ่งที่เพลินพิศรายงานมาข่มขู่ว่าลุงรับใช้ผู้นี้อย่าคิดเอ่ยปดต่อตนเด็ดขาด
ลุงไกรใช้เวลาคิดหลายนาทีว่าจะตอบเจ้านายว่ายังไง เพราะหากจะเล่าความจริงว่าตนเป็นคนขับรถพาทั้งเจ้านายน้อยอย่างอาทีและอิทธิที่หมอบอกให้กลับไปพักต่อที่บ้านได้พร้อมแม่นางไปหลบพักพิงที่ไร่ญาติของตนในอำเภอใกล้ๆ กันก็คงจะไม่ได้ เนื่องจากว่าเจ้านายน้อยอย่างอาทีขอร้องเอาไว้อย่าบอกใคร ด้วยเพราะเป็นกังวลเหลือเกินว่ามารดาตนจะตามมาลากตัวตัวเองกลับเรือนนรกนรกในวันสองวันนี้อีก ที่หนุ่มน้อยเรียกเรือนที่อยู่มาตั้งแต่เด็กอย่างนั้นเพราะตอนนี้ป้าผู้แสนดีไม่ได้อยู่ปกครองแล้ว การที่มารดาตนเป็นใหญ่ภายในเรือนในตอนนี้ เรือนหลังนั้นมันจะต่างอะไรกับสิ่งที่เอ่ยเรียกล่ะ
“คงไม่มีใครมาถามผมหรอกครับคุณอาทีเพราะไม่น่าจะมีใครเห็นผมขับรถมาส่งคุณอาทีในตอนดึกแบบนี้” ตอนนั้นชายชราตอบไปว่าอย่างนั้น จึงไม่ได้เตรียมคำตอบเอาไว้ ไม่นึกเลยจริงๆ ว่าหูตาอีนังบ่าวเพลินพิศมันจะไวได้ขนาดนี้
“ถึงถึงอย่างนั้นก็เถอะ เกิดแม่ผมถามลุงไกรก็โกหกอะไรไปก่อนละกันแล้วพรุ่งนี้เย็นๆ ค่อยมารับผม ผมจะกลับไปเก็บข้าวของทั้งของผมและก็ของไอ้อิทและแม่นางพอที่จะเหลือให้เก็บมาอยู่ที่นี่ชั่วคราว”
นั่นเป็นคำสั่งสุดท้ายของบุตรชายเจ้านายก่อนที่ตนจะแยกตัวกลับมาที่ไร่
“ว่ายังไงล่ะ ลูกชายฉันอยู่ที่ไหน” จิตราตวาดถามอีกในตอนปัจจุบัน การไม่เห็นเงาบุตรชายอยู่ในเขตไร่ครั้งนี้มันต่างจากทุกๆ ครั้งนัก เพราะเหตุการณ์เมื่อคืนมันคล้ายจะเป็นจุดแตกหักให้ฝ่ายนั้นนึกจงเกลียดจงชังหล่อนจนพาลคิดไปว่าเจ้าไม่อยากจะพบหน้าหล่อนแล้วจริงๆ จึงได้หนีหายไปแบบนี้
“ผมไม่ทราบครับคุณจิตร ผมแค่ขับรถไปส่งคุณอาทีไอ้อิทและแม่นางถึงโรงพยาบาลแล้วผมก็กลับมาครับ จากนั้นคุณอาทีไปไหนต่อผมก็ไม่อาจจะทราบได้”
ลุงไกรเอ่ยบอกออกไปในที่สุด รู้สึกโล่งใจที่เจ้านายไม่คาดคั้นอะไรต่อ  โดยหารู้ไม่ว่าเจ้าตัวมีแผนการเตรียมสั่งให้คนงานพลิกแผ่นดินเมืองเหนือลากตัวบุตรชายหล่อนกลับมาเอ่ยขอขมาหล่อนอยู่
ด้านอาที อิทธิ และแม่นาง ในเช้าวันแรกที่ได้อาศัยอยู่พื้นดินต่างถิ่นก็ยังไม่ชินนัก สามคนอาศัยอยู่เรือนหลังเล็กๆ ท้ายไร่ซึ่งเป็นเรือนว่างที่ลุงไกรบอกว่าทุกทีที่กลับมาเยี่ยมญาติเรือนนี้ก็จะเป็นที่พักพิงของเจ้าตัว หากจะเปรียบไปมันก็เป็นเรือนของเจ้าตัวน่ะแหละ เพียงแต่นานๆ ทีจะได้กลับมาอยู่เท่านั้นเอง
ของใช้ในเรือนไม่มีอะไรมากนัก มีเพียงที่นอนหมอนมุ้ง ผ้าห่ม และก็ตุ่มน้ำ ซึ่งเสบียงอาหารมื้อแรกก็เป็นญาติของลุงไกรเองซึ่งเป็นผู้หญิงที่เอามาส่งให้พร้อมถามไถ่ถึงเรื่องราวต่างๆ ตามประสาคนเป็นเจ้าของถิ่น ซึ่งทั้งสามคนก็เล่าตามจริงบ้าง บิดเบือนบ้าง เพราะไม่คิดที่จะตั้งหลักปักฐานอยู่ถาวร
อาการมื้อแรกทานกันอิ่ม แม่นางก็ช่วยเก็บสำรับผู้ที่นำส่ง โดยปล่อยให้สองหนุ่มน้อยแยกตัวออกมาคุยกันตามลำพัง อาทีนั้นต้องคอยพยุงอิทธิเดินเพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะเดินเองไม่ไหว
“กูยังไงไหวไอ้อาที กูคงไม่ตายง่ายๆ หรอกหากว่ากูยังเอาเลือดของคนชั่วๆ มาล้างตีนแม่กูไม่ได้” อิทธิเอ่ยบอกเสียงนิ่ง อาทีเข้าใจความรู้สึกจึงได้แต่เอ่ยปลอบ
“รักษาตัวให้หายดีก่อนเถอะไอ้อิท ตอนนี้อย่าเพิ่งคิดอะไรมากเลยนะ”
 “”กูขอบใจมึงมากนะอาทีที่มันยืนอยู่ข้างกูกับแม่มาโดยตลอด” อิทธิหันมาเอ่ยกับเพื่อนรัก รู้สึกซึ้งใจอย่างยากที่จะหาใดเปรียบ อาทีเห็นนัยน์ตาคนมองหน้าไหวระริกจึงดึงร่างเจ้าตัวเอามากอดเอ่ยขึ้น
“ตราบใดที่กูยังอยู่ กูไม่ปล่อยให้ใครมารังแกมึงกับแม่นางง่ายๆ หรอกไอ้อิท”
อิทธิปล่อยให้น้ำตาแห่งความซึ้งใจไหลอาบบ่าของเพื่อน หากว่าไม่มีคนๆ นี้ป่านนี้ตนกับมารดาจะมีลมหายใจอยู่ถึงตอนนี้หรือปล่าก็สุดจะคาดเดา
“อย่าร้องไห้สิวะ เสียหมดเลยนะมึงไอ้เสืออิท” อาทีเอ่ยติดตลกเพื่อให้เพื่อนรักมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเช่นเดิม และมันก็ได้ผลเมื่ออิทธิผละร่างออกมาแล้วตบศีรษะตนเล่นเบาๆ เอ่ยแซวขันๆ
“ไอ้ห่ากูจะทำซึ้งหน่อยก็มาขัด”
“รอซึ้งเอาตอนกูตายดีกว่า ตอนนั้นกูคงลุกมาขัดใจมึงไม่ได้” อาทีเอ่ยว่าอย่างคะนองปาก อิทธิเองก็ไม่ได้คิดติดใจในคำพูด ที่สุดสองหนุ่มก็เดินคู่กันไปชมท้องไร่ที่ไม่คุ้นเคยกันสองต่อสอง ส่วนทางด้านหลังมีสายตาแม่นางมองตามอยู่ นางกำลังจะผุดรอยยิ้มให้กับภาพที่เห็นบุตรชายมีความสุข แต่แล้วสายตานางก็เจอกับภาพที่ชวนขนลุกจนต้องร้องว้ายออกมาเสียงหลงแล้วปล่อยให้จานที่ถืออยู่ในมือตกหล่นกระจาย
ภาพที่สายตานางเห็นคือร่างหนุ่มน้อยที่เดินคู่กับบุตรชายของนางไร้ซึ่งศีรษะ!

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 20:44:25
ตอนที่ 27
จิตราเข้ามาดูอาการของพี่สาวที่โรงพยาบาล บังเอิญมาพบกับนายศรและส้มที่พาสินมารักษาผ่าตัดเอาลูกกระสุนออกจากขา หล่อนจึงต้องรับภาระดูแลค่าใช้จ่ายให้และขอร้องนายศรว่าให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ อย่าคิดบอกใคร หรือแจ้งตำรวจให้ทำอะไรบุตรชายหล่อน นายศรได้โอกาสรีดไถเงินเกินจำนวนค่ารักษาพยาบาลบุตรชายจึงทำซะ จิตราไม่กล้าขัด เพราะเป็นห่วงอนาคตบุตรชายคนเล็กอยู่เช่นกัน จึงยอมจ่ายๆ ไปตามที่ขอ พอนายศรได้เงินสมใจก็พาบุตรสาวและบุตรชายกลับไปหัวเราะเสียงดังลั่นเรือนที่หลอกไถเอาเงินจิตรามาได้ เรื่องนี้นายศรเองก็ไม่คิดจะแจ้งตำรวจหรือบอกใครอยู่แล้ว การทำอะไรให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายไม่ใช่สันดานของเขา ในเมื่อไอ้เด็กอาทีมันกล้ามาแหย่หนวดเสือขนาดนี้ เสือร้ายตัวนี้ก็พร้อมจะขย้ำมันให้ร่างแหลกเละคามือเช่นกัน
“พ่อ พ่อคงไม่คิดทำอะไรพี่อาทีนะ” ส้มที่ยังไม่รู้ถึงความคิดของบิดาเอ่ยถามขึ้น สินที่ฟังอยู่โมโหน้องสาวที่จนป่านนี้ยังหวังลมๆ แล้งๆ กับไอ้สองพี่น้องนั่นจึงตวาด
“อีส้ม! ให้มันน้อยๆ หน่อยนะมึง หนอยความผิดที่มึงปากโป้งบอกไอ้อาทีว่ากูกับพ่อบุกไปพังเรือนเพื่อนรักมันจนมันคว้าเอาปืนมายิงขากูเนี่ยกูยังไม่คิดบัญชีกับมึงเลยนะอีน้องอกตัญญู”
“เอ๊ะ! พี่สิน อย่ามาว่าฉันแบบนี้นะ ก็ฉันรักของฉันนี่ อะไรที่ทำให้พี่อาทีและพี่อาทิตย์ได้ทำไมฉันจะไม่ทำ” ส้มเอ่ยแย้ง สินถลาจะเข้าตบหน้าสั่งสอนเพราะโมโห แต่นายศรตวาดห้ามไว้
“หยุด! ไอ้สิน เอ็งจะมาตบตีน้องเอ็งทำไม มันอุตส่าห์หยุดเรียนพาเอ็งไปโรงพยาบาล เป็นพี่น้องกันต้องรักกันสิ จะมากัดกันเหมือนหมาทำไม เอ็งน่ะควรจะเก็บแรงไว้เพื่อล้างแค้นดีกว่า จะมาเสียเหงื่อเพราะอีส้มมันเพื่ออะไร”
“ล้างแค้น หมายความว่ายังไงอ่ะพ่อ พ่อจะทำอะไรพี่อาที” ส้มเกาะแขนบิดาเขย่าถามเอาความจริง นายศรรู้ตัวว่าพลั้งปากไปจึงรีบแก้ต่างให้ตัวเอง
“ที่ข้าบอกว่าล้างแค้นข้าหมายถึงการวางแผนเตรียมฮุบไร่นี้โว้ยอีส้ม ข้าไม่ทำอะไรคนที่เอ็งรักเอ็งชอบหรอกน่า”
“จริงๆ นะ” ส้มถามเพื่อความแน่ใจ พอเห็นบิดาพยักหน้ายืนยันก็ออกอาการเบาใจแล้วรีบโผเข้าสวมกอดฝ่ายนั้นเอ่ยบอก
“ไม่ใช่เฉพาะพี่อาทีนะ พี่อาทิตย์ด้วยพ่อก็ห้ามทำอะไร เพราะสองคนนี้ส้มกำลังตัดสินอยู่ว่าเอาใครมาเป็นลูกเขยพอดี”
ทางด้านหลังน้องสาวสินแอบส่ายหน้ากับอาการเพ้อฝันที่ได้ยินอย่างนึกสังเวชใจ เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้ครอบครัวนังจิตรามันเหลือโครตเหง้าไว้ตำตาตำใจ สู้จัดการเสียให้สิ้นซากไม่ดีกว่ารึ

***************************************************************************************
   
หลังจากเยี่ยมดูอาการจันทร์จวงเสร็จจิตราก็กลับมายังเรือน หล่อนนั่งเคว้งอยู่บนเรือนเพียงลำพัง ดูทุกอย่างรอบกายตอนนี้มันเงียบเหงาไปหมด บ่าวไพร่ที่เคยอยู่เต็มเรือนตอนที่พี่สาวหล่อนอยู่บัดนี้ไม่มีร่างใครย่างกายมาให้หล่อนเห็นเลย จะมาทั้งทีก็ต้องรอให้หล่อนเรียกใช้ หล่อนถามไถ่หาสาวใช้คนสนิทอย่างเพลินพิศก็ได้คำตอบชวนฉุนว่าเจ้าตัวกำลังหายาสมุนไพรประคบประหงมให้รอยบวมตามใบหน้าหายเป็นปกติ จึงไม่สะดวกมารับใช้ชั่วคราว นั่งเคว้งได้สักพักหล่อนก็ตัดสินใจเดินไปยังห้องบุตรชายคนเล็ก คิดเอาว่าจะพบร่างเจ้าตัวนอนหลับพักผ่อนอยู่ แต่พอเปิดประตูเข้าไปห้องนั้นก็ว่างเปล่าไม่มีซึ่งเงาของใคร หล่อนหันมองสำรวจรอบห้อง ห้องที่หล่อนไม่เคยคิดจะเข้ามาเยี่ยมเยียนบุตรชายเลยหากไม่ได้เข้ามาหาเรื่องต่อว่าตบตี ยอมรับว่ารู้สึกเหงาหงอยอย่างพิลึกเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้เจ้าตัวหนีหายไปไหนแล้วก็ยังไม่อาจรู้ได้ หล่อนยังไม่ได้ใช้คนงานในไร่ตามหาหรอก เพราะยังหวังว่าบุตรชายจะกลับมาเอง แต่แล้วการที่หล่อนก้าวเข้ามาในห้องนี้แล้วพบกับความว่างเปล่าอารมณ์หดหู่ใจก็เข้าจู่โจมหล่อนไม่น้อย หล่อนหันไปมองภาพถ่ายใบเล็กของบุตรชายที่อยู่ในกรอบรูปไม้สลักลวดลายวิจิตรที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง ตัดสินเดินไปนั่งลงบนขอบเตียงแล้วเอื้อมมือไปหยิบมาดู ภาพถ่ายใบนั้นบุตรชายหล่อนกำลังร่าเริงนัก หล่อนไม่รู้ว่าใครเป็นถ่ายภาพนี้ให้เจ้าตัว รู้แต่ว่ามันสามารถสร้างรอยยิ้มบางๆ ให้หล่อนได้ยามจ้องมอง
   เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังอยู่ภายนอกห้องทำให้จิตราหยุดสนใจกับภาพบุตรชาย หล่อนวางมันไว้ที่เดิม แล้วลุกเดินออกไปนอกห้องเพื่อไปดูว่าใครมา
   “อาที” หล่อนเอ่ยครางชื่อบุตรชายเบาๆ ในตอนเห็นร่างนั้นชะงักหยุดเดินแล้วเงยหน้าขึ้นมองหล่อน ใบหน้าบุตรชายหล่อนตอนนี้ช่างบึ้งตึงนัก โธ่ลูกน้อยของแม่ คงจะโกรธแม่สินะ วันนี้เถอะเราจะได้ปรับความเข้าใจกันนะลูกนะ หล่อนนึกในใจเมื่อคิดอยากจะปรับความเข้าใจกับฝ่ายนั้นจริงๆ สองขาจึงเดินออกมาหาร่างบุตรชายที่ยังยืนจ้องมองหล่อนด้วยสายตาชิงชังอยู่ แปลกจังวันนี้หล่อนไม่รู้สึกโกรธเกลียดแววตานั่นเลยแม้แต่นิด ตรงกันข้ามหล่อนรู้สึกอยากจะดึงร่างนั่นเข้ามากอดมาหอมและเอ่ยขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปพร้อมเอ่ยปรับความเข้าใจกันเหลือทน
   ร่างบุตรชายเดินถอยหนีช้าๆ แววตาเจ้าตัวยังคงมองมาแบบเย็นชาเช่นเคย หล่อนจึงเผยยิ้มน้อยๆ เพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าวันนี้หล่อนไม่ได้ร้ายกาจอย่างคืนนั้นแล้ว แต่รอยยิ้มของหล่อนท่าจะไม่เป็นผลเมื่อร่างบุตรชายหมุนตัวเดินกลับออกไปทางชานเรือนคล้ายไม่อยากสนทนากับหล่อน ร่างนั้นเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นตอนหล่อนเร่งฝีเท้าเดินตาม จนเมื่อเห็นเจ้าตัวกำลังจะลงจากเรือนไปจึงยอมตะโกนบอก
   “อาที ฟังแม่ก่อนลูก แม่ขอโทษ” คำพูดของหล่อนได้ผล หล่อนดีใจยิ่งนักที่ร่างบุตรชายยอมยืนนิ่งๆ อยู่ตรงเชิงบันไดก่อนเจ้าตัวจะหันมาส่งยิ้มให้หล่อนจางๆ
   จิตรารู้สึกสุขล้นในใจที่ได้รับรอยยิ้มแรกจากบุตรชายคนเล็ก หล่อนรีบเดินตรงไปหาร่างนั้น แต่แล้วก็ใจหายอีกเมื่อเจ้าตัวหมุนตัวพาร่างวิ่งลงบันไดเรือนไป
   “อาทีรอแม่ก่อนลูก” หล่อนส่งเสียงเรียกแล้วรีบวิ่งตามไป ใจหายวาบเมื่อไปถึงบันไดร่างของบุตรชายได้อันตรธานหายไปแล้ว ทำไมถึงได้หายไปเร็วแบบนี้ล่ะ หล่อนอดสงสัยไม่ได้ ก่อนจะตกใจจนสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างตกกระทบพื้นภายในห้องที่หล่อนเดินออกมาเมื่อครู่ ในใจนึกสังหรณ์อะไรบางอย่างจึงรีบวิ่งกลับไปดู ทันทีที่พบวัตถุที่หล่นลงพื้นขนทุกเส้นในร่างกายของหล่อนต่างก็พร้อมใจกันลุกชันอย่างน่าอัศจรรย์ เมื่อวัตถุที่นอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้นห้องเป็นกรอบรูปที่ใส่ภาพบุตรชายคนเล็กหล่อนเอาไว้
   “ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริ๊ง” ร่างหล่อนทรุดลงกับพื้นร้องกรี๊ดโวยวายเมื่อคิดว่าภาพบุตรชายที่หล่อนเห็นเมื่อครู่คงไม่ใช่ร่างที่มาหาแบบที่เป็นมนุษย์ปุถุชน เสียงร้องของหล่อนเรียกให้บ่าวไพร่วิ่งขึ้นมาดูเหตุการณ์ หลายคนต่างเข้าพยุงหล่อนที่กำลังโวยวายคล้ายคนเสียสติ ก่อนจะกรี๊ดลั่นครั้งสุดท้ายแล้วเป็นลมหมดสติไป
   จิตรารู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งพบบ่าวไพร่ปรนนิบัติพัดวีอยู่ก็ลุกขึ้นถามคนโน้นทีคนนี้ทีว่าตอนขึ้นมาบนเรือนเดินสวนกับบุตรชายคนเล็กของหล่อนหรือไม่ ทุกคนที่โดนถามต่างส่ายหน้าปฏิเสธและบอกว่า ไม่เห็นเลยว่าบุตรชายนางมาที่นี่ คำตอบเหล่านั้นทำหล่อนปากคอสั่นเพราะทั้งกลัวและทั้งหวาดวิตกไปต่างๆ นานา บอกบ่าวไพร่ว่าห้ามทิ้งให้หล่อนอยู่บนเรือนคนเดียวโดยเด็ดขาด พลางใช้ให้บางส่วนโทรศัพท์ไปแจ้งบุตรชายคนโตของหล่อนให้ขึ้นมาที่นี่ด่วน

******************************************************************************    
   
อาทิตย์ตกใจที่ได้ฟังข่าวร้ายจากคนทางไร่ที่ติดต่อมาบอกว่าป้าของตนเข้าโรงพยาบาลและมารดาของตนหวาดกลัวที่จะอยู่คนเดียว ถามไถ่ว่ามารดาหวาดกลัวอะไรก็ไม่มีใครให้คำตอบได้สักคน สุดท้ายชายหนุ่มจึงหยุดเรียนอีกครั้งเพื่อทางกลับมาดูอาการผู้เป็นป้าและอยู่เป็นเพื่อนมารดาของตน
   ทางด้านอิทธิและอาทีหลังจากเดินเที่ยวมุมโน่นมุมนี้ของไร่ก็กลับมายังเรือนที่พัก ไม่ได้เอะใจอะไรที่เห็นญาติของลุงไกรยังคงนั่งสนทนากับแม่นางอยู่ คิดเพียงว่าสองคนคงจะคุยกันถูกคอจึงอยู่คุยกันยาว เพราะเชื่อว่าความนอบน้อมของแม่นางคงจะผูกมิตรกับผู้ที่นำเสบียงมาส่งได้ไม่ยาก
   “มาเหนื่อยๆ กินน้ำกินท่าซักหน่อยนะพ่อหนุ่มน้อย” หญิงผู้นั่นยื่นขันน้ำให้อาทีเป็นคนแรก หนุ่มน้อยรับมาดื่มแล้วส่งต่อให้เพื่อนดื่มตาม สุดท้ายอิทธิจึงเป็นคนยื่นขันน้ำคืนให้กับเจ้าของพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ อาทีเองก็เช่นกัน แม่นางลอบยิ้มกับภาพความนอบน้อมของเด็กที่ตนรักทั้งสอง เผลอยกมือขึ้นลูบเส้นผมอาทีอย่างลืมตัวด้วยเพราะยังติดตาอยู่กับภาพที่เห็น อิทธิทำหน้าฉงนเมื่อเห็นมารดาตนทำแบบนั้นกับหลานเจ้าของไร่จึงแกล้งแซว
   “ลูบหัวผิดคนหรือเปล่าแม่ นั่นมันหัวไอ้อาทีหลานคุณจันทร์นะไม่ใช่ผม”
   แม่นางได้สติจึงคิดจะยกมือไหว้ขอโทษหลานชายเจ้านาย แต่แล้วก็ทำไม่ทันเมื่ออาทีรีบคว้ามือไว้แล้วเอ่ยบอก
   “แม่นางนี่จะแช่งผมให้ตายเร็วๆ ใช่มั้ยเนี่ย ไหว้ผมจัง”
   “อย่าพูดแบบนี้สิคะคุณอาที ฟังดูไม่ดีเลยนะคะ” แม่นางเอ่ยบอกออกมาเมื่อฟังถ้อยคำจากปากหนุ่มน้อยตรงหน้าแล้วรู้สึกไม่สบายใจ
   “เด็กมันก็พูดไปอย่างเองแหละแม่นาง อย่าคิดอะไรมากน่า สบายใจเถอะนะ เออ แล้วฉันขอตัวกลับก่อนล่ะ เดี๋ยวจะแวะเอาเสบียงมาส่งให้ใหม่ แรกๆ ก็อย่างนี้ล่ะนะ ต่อไปเดี๋ยวฉันจะให้คนงานมาต่อเติมที่ทางสำหรับทำครัวให้เผื่อแม่นางอยากจะทำกับข้าวกินเองบ้าง”
   “แค่นี้ก็เป็นพระคุณแล้วค่ะพี่ดวง” แม่นางยกมือขึ้นไหว้อีกหนึ่งผู้มีพระคุณ ฝ่ายนั้นบอกไม่ต้องไหว้บ่อยๆ หรอก เพราะตนก็เคยตกทุกข์ได้ยากมาก่อน ช่วยๆ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันไปได้บุญได้กุศลดี
หญิงชื่อดวงเดินจากไปแล้ว แม่นางจึงหันมาถามหนุ่มน้อยทั้งสองตรงหน้าว่าไปไหนกันมา สองคนเอ่ยรายงานอย่างตื่นเต้นถึงสิ่งใหม่ๆ ผู้คนใหม่ๆ บนไร่แห่งใหม่นี้ให้ฟัง เล่าไปก็แย้งกันอย่างสนุกสนาน มันเป็นภาพที่ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นมากจากความหดหู่ในเหตุการณ์ก่อนหน้าที่ได้พบเจอมา แต่ภาพที่นางเห็นเพื่อนรักบุตรชายไร้ซึ่งศีรษะนี่สิทำให้นางกังวลใจตามมา ขอให้เพียงภาพที่นางตาฝาดทีเถอะ
“แล้วนี่ลุงไกรจะมารับคุณอาทีกี่โมงกันหรือคะ” นึกภาวนาเสร็จแม่นางก็เอ่ยถามขึ้น นึกถึงตอนที่ต้องกลับเรือนอาทีก็มีสีหน้าเรียบเฉยขึ้นมาอีก เอ่ยตอบคำถามอย่างเนือยๆ
“ลุงไกรแกหลบสายตาแม่ได้ตอนนั้นก็คงตอนนั้นแหละครับแม่นาง”
“มึงไม่น่ามาลำบากกับกูและแม่เลยนะอาที” อิทธิเอ่ยบอกเพื่อน เพราะนึกเห็นใจกับการที่เจ้าตัวมาระหกระเหินกับตนและมารดาแบบนี้
“คับที่น่ะมันอยู่ได้แต่คับใจมันอยู่ยากนะโว้ย” อาทีหันมาตอบ สามคนจึงไม่พูดถึงเรื่องนี้กันอีก ได้แต่นั่งมองหน้ากันปลงๆ กับชะตากรรมที่กำลังเผชิญอยู่ร่วมกัน

*******************************************************************************
อาทิตย์กลับถึงไร่ในตอนมืดแล้ว หลังรับคำรายงานจากบ่าวไพร่ของมารดาเสร็จชายหนุ่มก็รีบนั่งเครื่องบินกลับมาเพราะร้อนรนอยากมารับรู้เรื่องราวต่างๆ จนใจจะขาด เสียดายที่ตอนนี้ผู้เป็นบิดาได้ไปดูงานที่ต่างประเทศ ไม่อย่างงั้นตนก็คงจะชวนมาด้วย เพราะฟังจากสิ่งที่บ่าวไพร่รายงานอาการของผู้เป็นมารดาให้ฟังก็น่าเป็นห่วงนัก
ชายหนุ่มขึ้นเรือนได้ก็ตรงไปยังห้องพักมารดาเพื่อดูอาการทันที ภายในนั้นมีหญิงรับใช้นั่งอยู่สองสามนาง ส่วนมารดานั่นกำลังนอนน้ำตาซึมสะอื้นเล็กๆ อยู่บนเตียงนอน ช่างเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจนัก นี่มันเกิดอะไรขึ้นตอนที่ตนเดินทางกลับกรุงเทพฯ มารดาตนยังร่าเริงแช่มชื่นดีอยู่ นี่เพียงไม่กี่วันทำไมถึงได้มานอนสะอื้นไห้แบบนี้
“แม่” ชายหนุ่มส่งเสียงเรียกพลางเดินเข้าไปหาร่างมารดา จิตราพอได้ยินเสียงบุตรชายคนโตก็รีบลุกนั่งแล้วโผเข้าซบอกเจ้าตัวสะอื้นไห้หนักตอนที่เจ้าตัวนั่งอยู่บนเตียงด้วยแล้ว หล่อนละล่ำละลักบอกบุตรชายถึงเรื่องที่หล่อนเจอ
“อาทิตย์ น้อง น้อง น้องมาหาแม่ น้องมาหาแม่ มันน่ากลัวอาทิตย์ มันน่ากลัว”
“แม่ใจเย็นๆ นะครับ ค่อยๆ เล่าให้ผมฟังนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น” อาทิตย์พยายามปลอบใจก่อนจะสั่งให้สาวใช้ทั้งหมดออกไปนอกห้อง เพื่อที่จะคุยกับมารดาได้สะดวกขึ้น
“ไม่ ไม่ อย่าไปไหนกัน อยู่กันเยอะๆ อยู่กันเยอะๆ ผีไอ้อาทีมันจะได้ไม่มาหลอก” จิตรารีบเอ่ยบอกคล้ายคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อาทิตย์ตกใจในสิ่งที่ได้ยินจึงรีบถามเอาความ
“แม่ แม่พูดอะไร ไอ้อาทีมันเป็นอะไร ทำไมแม่พูดว่ามันเป็น เอ่อ อย่างนั้น”
“น้องมันมาหลอกแม่ มันมาหลอกแม่ มันอาฆาตแค้นแม่ที่แม่ไปทุบตีด่าทอมัน อาทิตย์ แม่กลัว แม่กลัว อย่าทิ้งแม่ไปไหนนะ อยู่กับแม่ อยู่กับแม่นะอาทิตย์” สติของผู้เป็นมารดายังไม่กลับมาอยู่กับตัว อาทิตย์จึงหันไปถามกับบรรดาสาวใช้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นทำไมมารดาตนถึงได้เป็นแบบนี้
“คุณอาทีหายตัวไปค่ะ ป่านนี้ยังไม่กลับมาที่ไร่เลย แต่คุณจิตรบอกว่าเห็นคุณอาทีมาหา มายืนถลึงตาใส่ มาแสยะยิ้มให้ แล้วก็หายไปค่ะ ท่านเลยคิดว่า คุณอาที เอ่อ…” หญิงรับใช้ที่รายงานเรื่องราวไม่กล้าพูดต่อไป แต่เพียงเท่านี้อาทิตย์ก็พอจะเข้าใจเรื่องราวนี้ แต่เรื่องราวก่อนหน้านี้ล่ะ เหตุการณ์ที่ว่าป้าของตนต้องเข้าโรงพยาบาล และน้องชายของตนได้หายตัวไป มันเกิดอะไรขึ้นที่ไร่นี้กันแน่ ชายหนุ่มหันไปถามหญิงรับใช้ในเรื่องนี้ต่อ เพราะตอนนี้สติของมารดายังคงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงอาการกายสะท้านสั่นของเจ้าตัว
“เรื่องที่คุณจันทร์เข้าโรงพยาบาลดิฉันว่าคุณอาทิตย์ถามคุณจิตรเองดีกว่านะคะ ดิฉันคงไม่กล้าเล่าเรื่องราว เดี๋ยวคุณจิตรจะหาว่าดิฉันใส่ความ ส่วนเรื่องที่คุณอาทีหายไป เห็นคนงานในไร่ลือกันว่าค่ำคืนนั้นได้ยินเสียงปืน เลยวิ่งมาแอบซุ่มดู พบว่าเรือนแม่นางโดนทุบทิ้ง ตอนนั้นคุณจิตรกับคุณอาที นายศร นายสิน อิทธิ แม่นาง อยู่ตรงและคนงานชายอีกกลุ่มหนึ่งอยู่กันตรงนั้น อิทธิกับแม่นางและนายสินนั่นเหมือนโดนทำร้าย ส่วนคนถือปืนคือคุณอาที ซึ่งกำลังทะเลาะกับคุณจิตร แล้วสุดท้ายเธอก็พยุงร่างอิทธิและแม่นางหายไปน่ะค่ะ”
หญิงคนเดิมรายงานตามเรื่องราวที่หล่อนได้ฟังมาอีกทีหนึ่งจากการจับกลุ่มสนทนาของเหล่าคนงาน อาทิตย์คิดตามยังรู้สึกงงๆ อยู่เพราะเรื่องราวมันยังไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ กำลังจะเอ่ยปากถามอีก แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อมารดาผละออกจากร่างตนกระโจนลงจากเตียงแล้วโผเข้าบีบคอหญิงรับใช้ที่เอ่ยเล่าเรื่องราวเมื่อครู่จนเกิดการกรีดร้องกันวุ่นวาย
“อีไพร่ มึงเล่าอะไร มึงใส่ความกูเหรอ มึงกำลังว่ากูทำให้พี่กูเข้าโรงพยาบาลเหรอ มึงว่ากูทำให้ลูกชายกูหนีไปด้วยใช่มั้ย มึงอย่าอยู่เลย กูจะเฉดหัวมึงออกไปจากที่นี่เหมือนที่กูเฉดหัวอีนังแม่นางกับลูกชายมันน่ะแหละ อีอัปรีย์ อีสถุน อีชั่ว อีๆ” จิตราเอ่ยอาละวาดอย่างคนไร้ซึ่งสติจนเป็นที่น่าหวาดกลัวของหญิงรับใช้ทั้งหมด โดยเฉพาะนางที่โดนบีบคอนั่นตกใจจนหน้าซีดตัวสั่น ร้องห่มร้องไห้ออกมาก่อนจะลุกวิ่งหนีไปตอนที่อาทิตย์มาช่วยแกะมือมารดาเจ้าตัวออกจากลำคอได้สำเร็จ
“กรี๊ด! ผีคุณอาที!” เสียงหญิงรับใช้ผู้นั้นกรีดร้องอยู่ตรงชานเรือน พลางเอ่ยเรียกหนึ่งชื่อให้ทุกคนในห้องต้องลุกวิ่งไปมอง พบร่างหญิงรับใช้นางนั้นนอนสลบซบแทบเท้าร่างของอาทีที่กำลังยืนมึนงง
“ไอ้อาที” อาทิตย์เอ่ยครางเรียกชื่อน้องชายในขณะที่หญิงรับใช้สองคนกระโดดกอดกันกลม วิ่งไปหลบกันอยู่มุมห้อง เพราะหลงเชื่อตามคำบอกเล่าของจิตราไปแล้วกว่าครึ่ง ด้านจิตราวิ่งเข้าซบร่างบุตรชายคนโต ร้องไห้โฮละล่ำละลักเอ่ย
“อาทิตย์ บอกน้องหน่อยว่าแม่ขอโทษ แม่ขอโทษ บอกน้องอย่าตามหลอกตามหลอนแม่เลย บอกน้องหน่อยลูก บอกน้องหน่อย”
อาทียืนมองภาพตรงหน้ารู้สึกฉงนหนักขึ้นอื่น นี่มารดาเขาเป็นอะไร ภาพแบบนี้เกิดมาเขาไม่เคยได้เห็น แล้วนั่นพี่ชายเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หนุ่มน้อยหันมองสบตาพี่ชาย อาทิตย์เองเมื่อเห็นแววตาที่น้องชายจ้องมองจึงเอ่ยทัก เพราะไม่ได้หลงเชื่อไปกับคำบอกมารดา
“แกไปไหนมาอาที”
“ขอโทษนะ ผมไม่มีเวลาตอบ ต้องไปเก็บของ” อาทีเอ่ยตอบเสียงแข็ง เลิกสนใจอาการมารดา เพราะคิดกว่าเจ้าตัวคงกำลังเล่นละครออเซาะพี่ชายของตน หนุ่มน้อยมาที่นี่ได้เพราะลุงไกรขับรถไปรับตามสัญญานั่นเอง
“เก็บของ แกจะไปไหน” อาทิตย์เอ่ยถามเสียงดุ จิตราพอเห็นสองพี่น้องสนทนากันจึงเริ่มคลายอาการหวาดกลัว สติหญิงร้ายเริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยในตอนที่ได้ยินน้ำเสียงที่มากด้วยทิฐิของบุตรชายคนเล็กที่เอ่ยตอบพี่ชายกลับมาว่า
“ไปให้พ้นจากเรือนนรกนี่ไง ในเมื่อป้าจันทร์ไม่อยู่ มันก็ไม่ใช่ที่ๆ ผมจะอยู่อีกต่อไป”
“ไอ้อาที นี่แกจะโอหังมากไปแล้วนะ แกจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น ตราบที่ฉันยังมีลมหายใจอยู่”
เสียงมารดาเอ่ยว่าขึ้นในน้ำเสียงเดิมทำเอาอาทิตย์เกิดอาการประหลาดใจ นี่มารดาของเข้าสติกับมาอยู่กับตัวแล้วหรือ ใจหนึ่งก็ยินดี แต่ใจหนึ่งก็ฉงนเป็นหวาดกลัวว่ามารดาตนจะมีปัญหาทางจิต ส่วนหญิงรับใช้ทั้งสองต่างเมื่อเห็นสถานการณ์แปรเปลี่ยนไปจึงรีบวิ่งไปพยุงร่างอีกหนึ่งหญิงรับใช้ที่นอนสลบอยู่ลงจากเรือนไป
“แม่ แม่หายแล้วเหรอ” อาทิตย์หันมาถามมารดาในตอนที่เหลือเพียงตนกับฝ่ายนั้นและน้องชายที่ยืนสนทนากันอยู่
“แม่ไม่ได้เป็นอะไร ในเมื่อน้องแกยังไม่ตาย แม่ก็ไม่เห็นจะต้องกลัวมัน” จิตราตอบกลับ อาทิตย์เกิดอาการเครียดหนักกับอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเจ้าตัว แต่อาทีนั้นกลับสนใจแต่คำว่าตายที่ได้ยินจึงเอ่ยถาม
“แม่หมายถึงใครตาย”
“ก็แกน่ะแหละ นรกมันจะมาลากคอแกไปอยู่ด้วยแกรู้ตัวบ้างมั้ย เป็นไงล่ะ บาปกรรมมันมีจริง แกจะยิงแม่แก ยมบาลถึงจะมาเอาตัวแกไปลงโทษ” จิตราว่ากลับ เมื่อจิตใจกลับมาครบสมบูรณ์จึงเริ่มนึกแค้นเคืองถึงเหตุการณ์ที่คิดว่าบุตรชายจะยิงตัวเองจริงๆ
“แม่ แม่พูดอะไรครับ” อาทิตย์เอ่ยถาม ถึงตอนนี้จริตหญิงร้ายจึงเริ่มทำงานดังเดิม หล่อนรีบจุดไฟให้บุตรชายร้อนตามว่าเหตุที่ป้าของเจ้าตัวต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะรับไม่ได้ที่คนงานที่สนิทอย่างแม่นางนั้นแผลงฤทธิ์ร้ายออกมาให้เห็นด้วยการโกงกินรายได้ของไร่
“ป้าของลูกตามอีแม่นางมาสืบความ มันไม่ยอมรับท่าเดียว ป้าของลูกก็เลยเอาบัญชีออกมาตรวจจนต่อหน้าต่อตามันบอกว่าบัญชีนี้มันชี้ชัดอยู่แล้วว่ามันโกง ให้มันยอมรับซะดีๆ ไม่อย่างนั้นป้าของลูกจะแจ้งตำรวจมาจับมันไปสอบสวนเอง พอมันได้ยินคำว่าตำรวจมันก็เลยโมโหโผล่หางต่อว่าป้าของลูกพลางเข้าทำร้ายจนป้าของลูกต้องช็อกหมดสติไป แล้ววิ่งหนีกลับเรือนคิดจะหอบผ้าหอบผ่อนหนี แม่ก็เลยสั่งให้นายศรและพวกล้อมจับ และพังเรือนมันเพราะแม่แค้นที่มันทำกับป้าของลูกแบบนี้ มันกำลังจะโดนพวกนายศรจับได้ แต่น้องชายของลูกนี้มาช่วยมันไว้ทัน แม่ล่ะเจ็บใจนักที่อธิบายเหตุการณ์อะไรๆ ให้ฟังน้องชายลูกก็ไม่ฟังท่าเดียว มันเชื่อว่าอีแม่นางเป็นคนดี มันเชื่อว่าไอ้อิทธิเป็นคนดี มันหาว่าแม่ร้ายกาจเกินมนุษย์ มันจะยิงแม่ มันจะทำร้ายแม่ แม่ถึงต้องยอมให้มันพาไอ้อีแม่ลูกคู่นั้นหนีไป แต่เมื่อช่วงหัววันวิญญาณมันกลับมาหลอกมาหลอนแม่ มันคงเป็นเวรเป็นกรรมที่มันคิดจะฆ่าแม่น่ะแหละ ท่านยมบาลเลยจะมาเอามันไปชดใช้กรรมในนรก ท่านคงจะมาเตือนให้แม่ทำใจว่าแม่จะต้องสูญเสียมันไป แม่ถึงต้องมาหวาดกลัวอยู่แบบนี้ แต่ตอนนี้มันกลับมาแบบเป็นร่างคนก็ดีแล้ว อาทิตย์สั่งน้องลูกมากราบขอขมาแม่เดี๋ยวนี้ถ้าไม่อยากให้มันโดนท่านยมบาลลากคอมันไปชดใช้บาปกรรมในนรก”
นั่นคือถ้อยคำทั้งหมดที่หล่อนเอ่ยให้บุตรชายคนโตฟัง หล่อนเชื่อเหลือเกินว่าบุตรชายจะเชื่อหล่อน แม้เจ้าตัวจะหันไปถามน้องชายอยู่ก็ตาม
“ที่แม่บอกฉันมันเป็นเรื่องจริงเหรออาที”
“ผมจะไม่เปลืองน้ำลายอธิบายอะไรแล้วทั้งนั้น เพราะผมพูดผมเอ่ยอะไรไปในใจพี่ก็คงเข้าข้างแม่มากกว่าผม ผมคงไม่กล้าบอกว่าแม่โกหกหรอก เพราะเดี๋ยวผมจะบาปหนักอีก กลัวเหลือเกินว่าท่านยมบาลจะมาลากตัวผมไปชดใช้กรรมเร็วขึ้น ขอตัวนะครับ” อาทีเอ่ยตอบอย่างหนักแน่นแกมประชดประชันมารดา เขากำลังจะไปจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตอยู่กับคนที่ไม่เคยให้ร้ายกับเขาแม้จะไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะอธิบายอะไร รอให้ป้าของเขาฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่โน้นแหละเขาถึงจะกลับมาที่นี่
หนุ่มน้อยเดินเดินไปทางห้องตัวเองเมื่อเอ่ยจบ จิตรามองตามอย่างนึกโกรธ บุตรชายโอหังคนนี้ของหล่อนจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นตราบใดที่เจ้าตัวไม่ก้มกราบและขอขมาหล่อน
“อาทิตย์ อย่าให้อาทีไปไหนได้เด็ดขาดจนกว่ามันจะมากราบเท้าขอขมาแม่”
หล่อนเอ่ยสั่งบุตรชายคนโตเสียงหนักแน่น อาทิตย์เครียดหนักกับเรื่องราววุ่นวายที่ต้องเผชิญ ชายหนุ่มมองสบตาวาวโรจน์ของมารดาสักพักจึงเดินตามน้องชายไปและเข้าขัดขวางไม่ให้เจ้าตัวเก็บของใส่กระเป๋าได้ง่าย สองคนยื้อแย่งของกันไปมาก่อนจะลามปามเป็นชกต่อยกันในที่สุด ผลัดกันรุกผลัดกันรับจนข้าวของในห้องกระจุยกระจาย สุดท้ายอาทีก็พลาดท่าเสียทีโดนพี่ชายจับมือไพล่หลังหาเชือกมามัดเอาไว้จนสำเร็จ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 20:46:52
ตอนที่ 28
“ปล่อยผมนะพี่อาทิตย์ พี่จะมามัดผมไว้แบบนี้ไม่ได้นะ” อาทีเอ่ยสั่งพี่ชายเสียงแข็งตอนโดนเจ้าตัวจับมัดไว้กับเสาของเตียงนอน อาทิตย์ยืนขึ้นจ้องหน้าเอ่ยบอก
   “ใช่ว่าฉันอยากจะถามแบบนี้หรอกนะ แต่ดูทุกอย่างมันวุ่นวายไปหมด ดูเหมือนแกกับแม่จะเกิดปัญหากันขั้นแตกหัก ฉันว่าแกอยู่นิ่งๆ แบบนี้แหละดีแล้ว รอฉันเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้กระจ่างก่อน แล้วฉันจะมาปล่อยแก”
   อาทีมองจ้องหน้าพี่ชายอย่างเคืองแค้น เด็กหนุ่มงดตอบโต้เพราะกำลังคิดหาทางที่จะพาตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการนี้ให้ได้ เขาจะต้องกลับไปหาอิทธิกับแม่นางก่อนรุ่งสางเพราะได้สัญญากับสองคนนั้นไว้แล้ว เขาจะต้องรีบเก็บของใช้ที่จำเป็น รวมถึงตำราเรียน และชุดนักเรียนไปเผื่ออิทธิ เพราะทั้งเขาและฝ่ายนั้นยังมีหน้าที่เรียนหนังสือกันอยู่ ถึงแม้จะโดนปัญหาหนักๆ ทับถมมาตอนนี้เพียงไร แต่อีกไม่กี่อึดใจทั้งเขาและเพื่อนรักกำลังจะเรียนจบ ไม่มีทางที่เขาจะยอมให้สิ่งใดมาตัดอนาคตทั้งเขาและเพื่อนได้ตอนนี้ คิดแล้วก็ช่างน่าสมเพชนัก ทั้งมารดาและพี่ชายคงจะมองเลยข้อสำคัญนี้ไปสินะ ในใจคงคิดแต่กำราบเขาให้อยู่ภายใต้โอวาทจนลืมใส่ใจในเรื่องที่ใครบางคนที่ไม่ใช่ผู้ให้กำเนิดใส่ใจเขา แน่ล่ะหนุ่มน้อยกำลังนึกถึงแม่นาง คนที่เอ่ยบอกทั้งเขาและอิทธิว่ายังไงซะก็อย่าให้ปัญหานี้มาทำให้ต้องหยุดเรียนจนไม่มีสิทธิ์สอบกัน
   “ดีมากลูกอาทิตย์ อย่าปล่อยมันจนกว่ามันจะเอ่ยขอขมาแม่” จิตราเดินมายืนเคียงร่างบุตรชายคนโต อาทีมองจ้องหน้าคนทั้งสองอย่างนึกชิงชัง เอาเถอะ ถ้าคิดว่าเชือกแค่นี้จะต้านเขาอยู่ก็ลองดู
   “ออกไปจากห้องผมให้หมด ผมไม่อยากเจอใครตอนนี้” หนุ่มน้อยเอ่ยปากไล่คนทั้งสองให้ออกไปจากห้องเพื่อที่จะได้มีเวลาหาทางกำจัดเชือกบ้าๆ นี้ออกจากแขนทั้งสอง
   “ช่วยตัวเองไม่ได้แล้วยังอวดเก่งอีก มันน่านัก” จิตราเกิดอารมณ์โมโหขึ้นมาอีก ถลาเข้าใส่ร่างคนไล่ ร้อนถึงอาทิตย์ที่ต้องรั้งตัวไว้แล้วฉุดไปนอกห้อง
   “ปล่อยมันอยู่ของมันแบบนั้นแหละแม่ ให้มันได้คิดเองของมันคนเดียว ผมว่าแม่ไปนอนพักเถอะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกมารดา ยกแม่น้ำทั้งห้ามาเกลี้ยกล่อมจนเจ้าตัวอยู่อยู่ในอาการสงบและยอมกลับเข้าห้องพักโดยง่าย
   หลังมารดากลับเข้าห้องพักไปแล้วชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินลงจากเรือนเพื่อไปยังเรือนของแม่นางและอิทธิที่ได้ทราบว่าถูกรื้อถอนทิ้ง ส่วนการไปเยี่ยมป้าของตนคิดว่าพรุ่งนี้ค่อยเดินทางไปน่าจะสะดวกกว่า
พอลงมายังลานหน้าเรือนชายหนุ่มก็นึกสงสัยเมื่อเห็นร่างของลุงไกรยืนซุ่มอยู่จึงเดินเข้าไปถาม
“ดึกดื่นป่านนี้มาซุ่มดูอะไรลุงไกร”
ลุงไกรตกใจที่พบร่างบุตรชายคนโตของเจ้านายแทนร่างบุตรชายคนเล็ก เหตุที่ชายชรามาซุ่มอยู่แบบนี้เพราะรอที่จะไปส่งเจ้านายน้อยที่ไร่ญาติของตนตามที่เจ้าตัวสั่งให้รอ
“ปะ เปล่าครับ” ชายชราอึกอักตอบ ยังคงภักดีต่อคำสั่งของเจ้าน้อยอยู่ว่าห้ามเอ่ยบอกใครถึงเรื่องที่อยู่ใหม่ของเจ้าตัว
“เปล่าอะไร ก็ผมเห็นลุงไกรยืนซุ่มอยู่” อาทิตย์ถามอีก จ้องหน้าหาพิรุธ ลุงไกรจึงรีบเอ่ยเอาตัวรอด
“ผมก็มาดูมาเผื่อว่าคุณจิตรจะเรียกใช้น่ะครับ ช่วงนี้คุณจันทร์อยู่โรงพยาบาลเผื่อแกอยากจะไปเยี่ยม”
“ค่ำมืดดึกดื่นป่านนี้หมอที่ไหนเขาจะให้เยี่ยม กลับไปพักผ่อนเถอะไป ถ้ามีอะไรเดี๋ยวผมให้คนไปตามเอง” อาทิตย์ขี้เกียจหาความเพราะยังคลายปมเรื่องราวต่างๆ ไม่ออก จึงไม่อยากหาเรื่องให้หนักสมองเพิ่มเพิ่มเติม ลำพังอาการเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของมารดาก็ทำชายหนุ่มเครียดพออยู่แล้ว
“แล้วคุณอาทีล่ะครับ” ลุงไกรตัดสินใจถามถึงเจ้านายน้อยของตน นึกห่วงขึ้นมาแล้วว่าทำไมป่านนี้เจ้าตัวยังไม่ลงมา จะว่าเก็บของนานก็ไม่น่าใช่เพราะเจ้าตัวบอกจะเอาเฉพาะที่จำเป็น
“ถามถึงน้องผมทำไม” อาทิตย์จับพิรุธอีก
“ปะ เปล่าครับ งั้นผมขอตัวนะครับ” ลุงไกรรีบปฏิเสธแล้วรีบเลี่ยงหนีไปก่อน ไม่อยากที่จะมองสบตาคนจับพิรุธในตอนนี้นัก
ชายชราเลี่ยงไปหลบในเงามืด รอให้ร่างของบุตรชายคนโตเจ้านายเดินหายไปนอกเขตเรือน จึงค่อยๆ ย่องออกมาจากที่ซ่อน หันซ้ายแลขวา เห็นช่องทางสงบจึงค่อยย่องขึ้นเรือนไป เพื่อตามสืบว่าเจ้านายน้อยของตนทำไมยังไม่ลงมาตามสัญญา เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าก็จะสางแล้ว และตนคงจะมาลักลอบทำอะไรแบบนี้ไม่ได้อีก เนื่องจากคิดว่าคงติดภาระที่จะต้องขับรถรับส่งจิตราและอาทิตย์ไปโรงพยาบาลทั้งวัน
บนเรือนเงียบสงบ บัดนี้ไม่มีร่างใครให้เห็น ชายชราค่อยเดินไปยังห้องของคนที่ตนตามสืบเมื่อได้ยินเสียงกุกๆ กักๆ ภายในนั้น ถึงหน้าประตูก็ส่งเสียงเรียกเบาๆ
“คุณอาทีครับ คุณอาที อยู่ข้างในมั้ยครับ”
อาทีพอได้ยินเสียงของลุงไกรก็ดีใจจนต้องรีบส่งเสียงตอบว่าตนถูกมัดอยู่ภายในห้องนี้ ให้รีบเข้ามาแก้มัดให้ที ชายชราพอได้ยินคำบอกก็รีบเปิดประตูทีไม่ได้ล็อกเอาไว้เข้าไป นึกสงสารและเห็นใจที่เห็นเจ้านายน้อยโดนพันธนาการไว้ จึงรีบตรงเข้าไปเพื่อช่วยพลางบอก
“โธ่ คุณอาที ทำไมคุณจิตรกับคุณอาทิตย์ถึงทำกับคุณอย่างนี้ล่ะครับ ป่านนี้แม่นางกับอิทธิเป็นห่วงแย่แล้วครับที่เห็นคุณยังไม่กลับไป”
อาทีกำลังจะเอ่ยตอบ แต่แล้วก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตู เห็นร่างมารดาของตนยืนถือไม้ขนาดเหมาะมือจ้องมองร่างของคนที่พยายามแก้มัดให้ตนอยู่
“กูนึกแล้วว่ามึงต้องโกหกกูไอ้แก่ไกร”
เจ้าตัวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเหี้ยม ก่อนจะยกไม้ในมือขึ้นสูงเตรียมหวดลงมา
 “ลุงไกรระวัง แม่อย่า!” อาทีร้องบอกทั้งชายชราและร้องห้ามมารดาของตนเสียงดังลั่น ในตอนที่เห็นว่าทั้งสองได้หันไปเผชิญหน้ากันแล้ว
ลุงไกรหมอบร่างเพื่อจะหลบท่อนไม้ขนาดเขื่องในมือเจ้านายที่เจ้าตัวหวดลงมาเต็มแรง อาทีหลับตาลงทันใดเพราะไม่อาจทนเห็นภาพสะเทือนใจได้ หนุ่มน้อยคิดว่ายังไงซะชายชราตรงหน้าก็หลบท่อนไม้ในมือมารดาตนไม่พ้น แต่แล้วเหตุการณ์กลับไม่ร้ายแรงเท่าที่คิดเมื่อมีหนึ่งเสียงดังขึ้นซะก่อน
“อย่าแม่ ทำแบบนี้ทันเท่ากับฆ่าคนเลยนะ” เสียงนั่นเป็นเสียงของอาทิตย์ในตอนที่ทั้งลุงไกรและอาทีหันมามอง พบว่าชายหนุ่มรายนั้นกำลังยื้อแย่งท่อนไม้ออกจากมือมารดา
จิตรายื้อแย่งไม่ยอมปล่อยท่อนไม้โดยง่าย หล่อนกรีดร้องโวยวายว่าจะเอาเลือดหัวทุกคนที่มันกล้าโกหกและทรยศหล่อน
“แม่ แม่ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ทำไมแม่ถึงเป็นไปได้ขนาดนี้แล้ว” อาทิตย์ใจหายกับอาการโวยวายด้วยท่าทีร้ายกาจของมารดา มันช่างเหมือนผีป่ามาสิงร่างเจ้าตัวยังไงอย่างนั้นในตอนนี้
“ลุงไกร แกะมัดผมก่อนเร็ว” อาทีถือโอกาสที่ทั้งพี่ชายและมารดายื้อแย่งท่อนไม้กันอยู่เอ่ยสั่งชายชราตรงหน้า ไม่ได้อยากสนใจอาการมารดาตอนนี้นัก เชื่อเหลือเกินว่าที่เจ้าตัวเป็นคนร้ายอย่างขาดสติตอนนี้คงเป็นเพราะพยามต่อต้านความผิดที่ตัวเองได้เป็นต้นเหตุให้พี่สาวต้องนอนเป็นผู้ป่วยนิทรา
พอร่างเป็นอิสระได้หนุ่มน้อยก็รีบเก็บคว้ากระเป๋าแล้วเก็บของอย่างลวกๆ ปล่อยให้ทั้งมารดาและพี่ชายยื้อแย่งท่อนไม้กันอยู่แบบนั้น เมื่อเก็บทุกอย่างเสร็จสรรพก็เอ่ยชวนลุงไกรออกไปนอกห้องทันที
“ไอ้อาทีแกจะไปไหน นี่แกไม่ห่วงแม่เลยหรือไง” อาทิตย์ส่งเสียงตามหลังน้องชาย เผลอผ่อนแรงที่กำลังยื้อแย่งท่อนไม้จากมารดา จิตราถือจังหวะที่บุตรชายเผลอผลักเจ้าตัวล้มลงแล้ววิ่งถือท่อนไม้ไล่ตามสองคนที่วิ่งลงบันไดเรือนไป
“ระวังตกบันไดครับคุณอาที” ลุงไกรเอ่ยบอกเจ้านายน้อยของตนอย่างอดห่วงไม่ได้เมื่อเห็นเจ้าตัวอุ้มกระเป๋าวิ่งลงบันไดเรือนแบบไม่คิดชีวิต
“ลุงไกรเร็วๆ เข้าเถอะ แม่ตามมาแล้ว” อาทีหันมาบอกคนเตือนเมื่อมองกลับมาเห็นร่างของมารดาวิ่งตามมาพร้อมท่อนไม้ในมือและเสียงขู่กรรโชก
“หยุดกันเดี๋ยวนี้นะ แกสองคนจะโอหังกับฉันมากไปแล้ว”
อาทีและลุงไกรไม่มีเวลาหันมาสนใจเสียงขู่ สองคนวิ่งลงไปยังลานหน้าเรือนแล้วตรงกันไปที่รถ ลุงไกรหยุดชะงักทำหน้าตาตื่น อาทีเอ่ยถามอย่างร้อนรน
“ลุงไกรเปิดประตูรถสิ หยุดยืนทำไม”
“กุญแจครับคุณอาที กุญแจรถอยู่ไหนก็ไม่รู้” ลุงไกรเอ่ยบอกเสียงตระหนก พลางคลำหากุญแจตามร่างกาย อาทีหน้าเสียตกใจไปด้วยเมื่อมองกลับไปทางด้านหลังเห็นร่างมารดากำลังวิ่งลงจากบันไดเรือนมา พร้อมกับกับร่างพี่ชายที่ตามมาด้วยอีกคน
“แย่แล้วลุงไกร แม่จะมาถึงเราแล้วทำไงดี” หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน เชื่อแน่ว่าหากทั้งตนและชายชราตรงหน้าโดนไล่ล่ามาถึงตัวและโดนจับเอาไว้ คราวนี้คงจะพากันรอดลำบาก เพราะดูมารดาของตนจะควบคุมอารมณ์ร้ายไม่อยู่แล้ว
“มันคงหล่นตอนผมวิ่งมาแหละครับ” ลุงไกรเอ่ยบอกแล้วหันไปมองทางที่วิ่งมา แล้วก็เห็นพวงกุญแจตัวเองหล่นอยู่บนพื้นหญ้าจริงๆ สิ่งนั้นวางนิ่งอยู่ที่พื้น ซึ่งเหนือพื้นไปอีกไม่ไกล จิตราก็กำลังเดินส่งสายตาดุดันพลางตวาดมาให้ได้ยิน ยกท่อนไม้ในมือชี้หน้าว่า
“โชคมันไม่เข้าข้างไอ้ไพร่ทรยศและไอ้ลูกบาปหรอก วันนี้แหละกูจะเอาเลือดหัวพวกมึงออกมาล้างตีนขอขมาที่มาโอหังกับกู”
“ลุงไกรอย่าเพิ่งไปกลัว อยู่ตรงนี้นะถือกระเป๋าผมไว้ ผมวิ่งเร็วกว่าลุงไกร เดี๋ยวผมวิ่งไปหยิบกุญแจเอง” อาทีเอ่ยบอกแล้วยกกระเป๋าให้กับชายชราตรงหน้าตัดสินวิ่งกลับไปเอากุญแจที่ตนมองเห็นอยู่เช่นกัน
จิตรามองร่างบุตรชายวิ่งกลับมาจึงมองก้มต่ำที่พื้นบ้าง เห็นชัดว่ามีกุญแจหนึ่งพวงวางอยู่ตรงหน้า มันคงเป็นกุญแจรถสินะ ดีล่ะ ตอนนี้หล่อนอยู่ใกล้สิ่งนั้นมากกว่าบุตรชายนัก ไอ้อาทีแกได้ก้มขอขมาฉันพร้อมเลือดหัวขอแกแน่
หญิงร้ายนึกคิดในใจแล้วเร่งฝีเท้าเดินมายังพวงกุญแจนั่นบ้าง ลุงไกรมองเห็นนึกเป็นห่วงเจ้านายน้อยเหลือทนจึงเอ่ยร้องบอก
“คุณอาทีเร็วครับ คุณจิตรเห็นกุญแจแล้ว”
อาทีเงยหน้าขึ้นมองเห็นร่างมารดาเร่งฝีเท้ามายังกุญแจเช่นกัน สายตาคู่นั้นของมารดาจ้องมาที่ตนคล้ายจะปีศาจร้ายจ้องจะทำร้ายเหยื่อยังไงยังงั้น เด็กหนุ่มเร่งฝีเท้าวิ่งเร็วขึ้น คิดว่ายังไงซะตนคงจะไปถึงพวงกุญแจเร็วกว่ามารดา
อาทิตย์ใจหายกับภาพที่เห็นจนเข่าอ่อนเดินต่อไม่ไหว ภาพที่ว่าคือมารดาเดินเงื้อท่อนไม้ในมือตรงไปยังร่างของน้องชายตนที่กำลังวิ่งมาคล้ายจะมาเอาอะไรสักอย่าง ชายหนุ่มได้แต่ภาวนาไม่ให้สองคนวิ่งมาบรรจบกันได้ เพราะกลัวว่าจะเจอภาพสะเทือนใจ
อาทีมองเห็นร่างมารดามาถึงพวงกุญแจนั่นก่อนตนก็ใจหายที่ตนทำไม่สำเร็จ เด็กหนุ่มไม่มีเวลาชะงักเพราะหากวัดตามระยะทางถ้าได้พุ่งร่างไปหยิบเอาพวงกุญแจตอนนี้ก็น่าจะทัน คิดได้ดังนั้นหนุ่มน้อยก็จึงตัดสินใจพุ่งร่างไปหยิบคว้าเอาพวงกุญแจมาถือไว้ในมือได้สำเร็จ แต่อนิจจา ภาพตอนนี้ที่ทั้งอาทิตย์และลุงไกรมองเห็นคือร่างของหนุ่มน้อยกำลังล้มศีรษะคะมำอยู่แทบเท้ามารดา
จิตราแสยะยิ้มอย่างสมใจ ด้วยแรงแค้น แรงทิฐิ และแรงเก็บกดต่างๆ ที่เก็บสะสมในใจมาจนอกจะระเบิด หล่อนปล่อยให้จิตใจส่วนร้ายเข้าครอบงำความรู้สึกทั้งหมด ส่งผลให้หล่อนลืมไปชั่วขณะว่าที่ก้มคะมำแทบเท้าหล่อนตอนนี้คือบุตรชายของหล่อนเอง ท่อนไม้ในเมื่อถูกเงื้อขึ้นสูงอีกครั้ง ก่อนหล่อนจะตัดสินใจฟาดมันลงมากะให้โดนร่างของผู้ที่คะมำอยู่ตรงหน้า อาทิตย์หัวใจแทบวายกับภาพที่เห็น ลุงไกรเองก็เข่าทรุดลง

โปรดติดตามตอนต่อไป


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 24 พร้อมอัพเดตรายการหนังสือ 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2011 20:54:04
เฮ้อ!
อยากจะร้องไห้T^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 20:57:31

ป้าดด อายจ๋า ทำไมอ่านเร็วขนาดน้านน เพิ่งโพสเนอะ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sweardear ที่ 10-04-2011 21:01:42
แม่งเอ้ยยยยยยย :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 10-04-2011 21:02:53

ป้าดด อายจ๋า ทำไมอ่านเร็วขนาดน้านน เพิ่งโพสเนอะ 

อายก็นึกว่าจะหมดแล้ว
แต่จิตราบ้าไปแล้วอ่ะพี่
น่ากลัวT^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2011 21:04:24
เรื่องนี้อาทีเป็นพระเอกเฉยเลย  สงสารและเสียดายคนดีๆ   คนที่น่าจะตายเสือกไม่ตาย ห่า

อีจิตราขอให้มันไม่ตายดีทีเถอะ ถึงสำนึกได้ก็ไม่มีค่าอะไรในใจของคนอื่นเขา

ร้ายกับคนอื่นเขานัก เมื่อถึงเวลาคนอื่นเขาร้ายกับตัวเองบ้างดูสิจะมีใครเขาช่วยมัน เป็นถึงแม่คนน่าจะมีสำนึกดีๆบ้าง

พี่น้องกันแต่ต่างจิตใจ  ลูกสองคนก็จิตใจแตกต่างกัน    พี่น้องเป็นเพราะใครไม่รู้  แต่ลูกๆเป็นเพราะแม่มันเสี้ยมสอนคนพี่แม่มันรัก  แต่สำหรับคนน้องมันรักดีมีเลือด

ของป้ามัน               :เฮ้อ:เนื่อยใจกับอีผู้ดีแต่จิตใจทรามที่แสนโสมมอย่างอีจิตรา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: aekporamai2 ที่ 10-04-2011 21:34:00
คุณบอบใจร้ายมากๆๆ
ทำไมล่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ทำไม...รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องนี้ได้ขนาดนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 10-04-2011 21:46:12
มนุษย์เรานั้นเปรียบได้เช่นดอกบัว

๑.ดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ  พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว รู้ผิดรู้ชอบ รู้ดีรู้ชัว  พึงกระทำแต่สิ่งที่ชอบที่ดี

๒.ดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำ  พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง จะรู้ผิดรู้ชอบได้ หากมีคนแนะนำ

๓.ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ  พวกที่มีสติปัญญาน้อย ต้องใช้เวลานานกว่าจะรู้ผิดชอบชั่วดีได้

๔.ดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม  พวกที่ไร้สติปัญญา ไม่รู้ผิดชอบ ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

แต่คุณจิตรนี่

คงเป็นบัวเหล่าที่ ๕ ที่ไม่มีแม้กระสัญชาตญาณ ความเป็นมารดา เปรียบได้ดั่งบัวเหล่าที่๕ ที่แม้กระทั่งเต่าปลากินเข้าไป  ยังต้อง ถุยทิ้งเลย

อ่านตอนล่าสุดน้ำตาไหลเลยครับ

+1 ให้ไรเต่อนะครับ ที่ทำให้ร้องไห้คลายเคลียดได้เลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-04-2011 21:47:24
จิ้มไว้ก่อน กรี๊ดด คุณบอยมายาวรวดด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 10-04-2011 22:08:16
  ต้องยอมรับว่าในโลกนี้มีคนแบบจิตตราอยู่จริงๆ
มีทางเดียวถ้าพบเจอะเจอคนแบบนี้ คือหนีให้ไกล อย่าได้ข้องแวะ แม่นางก็ผิดที่ดันทุรังอยู่
ถ้าแม่นางออกไปแต่แรก เรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นแบบนี้  คนดี ขยันแบบแม่นางไปอยู่ไหนคงไม่อดตาย
ทำไมยังดันทุรังอยู่ในที่ที่เขาเกลียดเราพร้อมที่จะฆ่าเราให้ตายได้ตลอดเวลา  ถ้าเป็นเดี๊ยน คงเลือกรักษาชีวิตลูกไว้ก่อน เรื่องเรียนไม่ตายก็เรียนใหม่ได้ค่ะ
ปล.คนที่ควรตายถึงเวลาตายก็ต้องตาย  คนที่ไม่ควรตายถึงเวลาตายก็ต้องตาย 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 10-04-2011 22:14:36
อะไรมันจะขนาดนั้น

ไอ้อาทิตย์มันก็ไม่รู้ว่าจะโง่ขนาดนั้น

รู้ตัวไหมว่าตัวเองก็มีส่วนที่ทำให้น้องชายตัวเองตาย

เข้าข้างคนผิด ฆ่าคนร่วมสายเลือด คนอย่างนี้จะยังให้เป็นพระเอกอีกหรอพี่บอย

ผมว่าตอนสุดท้ายไม่อยากเห็นอิทธิมีคนรักหรอก

แต่อยากเห็นวาระสุดท้ายของพรรคพวกเหล่าคนเลวมากกว่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 10-04-2011 22:31:57
เรื่องนี้อาทิตย์เป็นตัวประกอบ (ไร้ค่า)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 10-04-2011 22:43:03
โว้ย  อะไรเนี่ย !?
คุณจิตราเหมือนไม่ใช่คนแล้วพี่บอย  เหมือนมีเวรมีกรรม  ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามรังควาน ตามบังตา  จริงๆแล้วคนแบบนี้น่าสงสารมากๆ  คนที่ถูกความแค้น ริษยา ดำมืด เผาไหม้ในจิตใจ
มันเป็นอะไรที่...สุดๆ  แม่ฆ่าลูกเนี่ยนะ!?     ยังไงก็ตาม  อยากให้อโหสิกรรมให้กันเถอะ
ไม่งั้นความแค้นนี้จะถูกเก็บอยู่ในใจทั้งคู่   อาทีเองก็จะบาปมหันต์ต่อพระอรหันตร์ของตนเอง  (ถึงแม้แม่จะเป็นคนฆ่าลูกก็เถอะ และแม่จิตราก็ไม่ใช่คนดีออกไปทางชั่วซะมากกว่า)
พี่บอย  ขอจริงๆเถอะ  ขอให้แม่ลูกคู่นี้ได้คุยด้วยกันดีๆเถอะ   อย่าให้เรื่องราวไปจบลงไปทั้งๆแบบนี้เลยนะ  

ส่วนนายศรและครอบครัว  ไม่มีคำใดจะกล่าวแล้วนอกจาก 'เลว' จริงๆ  
คนคนหนึ่งเนี่ยเลวได้ครบสูตรขนาดนี้เลยหรอเนี่ย !? ไม่ไหว  ไม่แค้นเลยนะ  รู้สึกรังเกียจ  รู้สึกสมเพสเสียมากกว่า ไม่ใช่แึค่ที่การกระทำนะ  ที่รู้สึกเกลียดก็คือ   ความคิดของเขาเนี่ยแหละ  
คิดว่าคนที่มีความคิดไม่เป็นกุศล คิดชั่วกับคนอื่นแบบนี้เนี่ยน่าสมเพส   จนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว

ใจจริงตอนนี้อยากให้สองแม่ลูกย้ายออกจากไร่เร็วๆ   ไปไหนก็ได้  ไปไกลๆไอ้พวกนี้เลย   แล้วจะกลับมาแก้แค้นวันหลังก็ยังไม่สาย  เวทนาพวกคนที่มีจิตใจต่ำช้าแบบนี้จริงๆ  ไม่เคยพบไม่เคยเจอ  ไม่เคยคิดดีอะไรกับใครเลยมั้ง  คงมีความสุขหรอกคนแบบนี้  ถ้ามีแต่ความริษยาอยู่ในจิตใจ  เฮ้อ

รู้สึกเครียด  ไม่มีความสุขเลย  ปวดตับรออีก 4 ตอนนะึคะ 55 5 5  ให้อาทิตย์รังแกอิทแก้เครียดเถอะ   (ซาดิสชอบเห็นเคะถูกเมะรังแก กร้ากๆ)  

 ใครๆก็ดูเหมือนดอกบัวในตมกันไปเสียทุกคน  จริงๆนะทุกคนเลย  (ยกเว้นป้ากับแม่ไว้สองคน)

ขอบคุณพี่บอยนะคะ  จะรออีก 4 ตอน  (ขยันมากๆ) ขอบคุณจริงๆ เพราะในช่วงเวลานี้ถ้าอัพทีละตอนคง....ค้างมากกกกกก

สวัสดีึ่้ค่ะ   รักษาสุขภาพด้วยนะคะ    
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 10-04-2011 22:52:09
อ้าว  ขอโทษค่ะ  พึ่งสังเกตุว่าอัพถึงตอนที่ 28 แล้ว  :sad4:

อั่ก   รีบมาอัพต่อเร็วๆนะคะ  จะลงแดงแว้ววววว   :jul1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 10-04-2011 23:03:28
จิตราแสยะยิ้มอย่างสมใจ ด้วยแรงแค้น แรงทิฐิ และแรงเก็บกดต่างๆ ที่เก็บสะสมในใจมาจนอกจะระเบิด หล่อนปล่อยให้จิตใจส่วนร้ายเข้าครอบงำความรู้สึกทั้งหมด ส่งผลให้หล่อนลืมไปชั่วขณะว่าที่ก้มคะมำแทบเท้าหล่อนตอนนี้คือบุตรชายของหล่อนเอง ท่อนไม้ในเมื่อถูกเงื้อขึ้นสูงอีกครั้ง ก่อนหล่อนจะตัดสินใจฟาดมันลงมากะให้โดนร่างของผู้ที่คะมำอยู่ตรงหน้า อาทิตย์หัวใจแทบวายกับภาพที่เห็น ลุงไกรเองก็เข่าทรุดลง แต่คนที่มีสติที่สุดคืออาที หนุ่มน้อยไม่ยอมเป็นเป้านิ่งให้มารดาระบายความร้ายกาจด้วยการกลิ้งร่างหลบท่อนไม้ที่ฟาดลงมา ซึ่งก็พ้นไปอย่างฉิวเฉียด
“อย่าหวังว่าแม่จะทำอะไรผมได้ง่ายๆ” เด็กหนุ่มรีบดีดตัวลุกขึ้นเอ่ยใส่หน้ามารดาแล้วรีบวิ่งกลับไปยังรถที่จอดอยู่ อาทิตย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกกับภาพที่เห็น แต่ก็ต้องกลับมาเครียดและตกใจหนักเมื่อเห็นมารดาตนถือท่อนไม้วิ่งตามร่างน้องชายไป พร้อมๆ กับเสียงลุงไกรที่ดังขึ้น
“คุณอาทีเร็วๆ ครับ”
อาทีกัดฟันวิ่งให้เร็วที่สุดแม้ร่างกายจะเริ่มเหนื่อยหอบ หนุ่มน้อยรีบยื่นกุญแจรถให้กับลุงไกรเมื่อมาถึงแล้วคว้าเอากระเป๋าของตนเองมาถือไว้ในมือวิ่งอ้มไปยังเบาะอีกฝั่ง เปิดประตูรถเมื่อคนได้กุญแจจัดการปลดล็อคเรียบร้อย
สองคนขึ้นไปนั่งคู่กันในรถทันก่อนที่จิตราจะมาถึง ลุงไกรไม่รอช้าที่จะสตาร์ทรถ แล้วก็ต้องใจเสียอีกเมื่อสตาร์ทยังไงรถก็ไม่ติด
“เป็นอะไรอีกเนี่ย โธ่เอ้ย” ลุงไกรเอ่ยออกมาอย่างหัวเสีย อาทีพยายามเร่งเร้าให้เจ้าตัวรีบแก้ไขปัญหาเพราะร่างมารดาวิ่งเข้ามาจวนจะถึงแล้ว
“กูบอกแล้วว่าโชคไม่เข้าข้างพวกมึง” จิตราตวาดลั่นอย่างสาแก่ใจที่เห็นรถคันนั้นยังไม่เคลื่อนตัวไป และทำท่าว่าจะมีปัญหาเครื่องยนต์ไม่ติด หล่อนเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเพื่อจะไปกระหน่ำทุบรถให้ย่อยยับ หลังจากนั้นจึงคิดจะกระชากทั้งนายทั้งบ่าวที่นั่งอยู่ภายในนั้นลงมากราบขอขมาหล่อน
อาทิตย์เห็นสถานการณ์ฝั่งน้องชายกำลังแย่จึงฮึดกำลังที่อ่อนโรยตั้งแต่แรกวิ่งมายังร่างมารดา แล้วรีบคว้ามือเจ้าตัวที่เงื้อขึ้นเตรียมฟาดใส่รถไว้ได้สำเร็จ นาทีนั้นเสียงเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้นทันที
จิตราเบิกตาโพลงที่ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ไม่สิ โชคต้องเข้าข้างหล่อน โชคต้องไม่เข้าข้างไอ้ลูกบาปกับไอ้บ่าวทรยศ หล่อนกรีดร้องโวยวายตามหลังเมื่อเห็นรถคันนั้นแล่นออกจากเขตเรือนไปด้วยความเร็ว
อาทิตย์ยอมปล่อยร่างมารดาเมื่อเห็นรถคันที่น้องชายขึ้นนั่งถูกลุงไกรขับพาออกไปอย่างปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มยืนมองภาพมารดาที่ทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วกรีดร้องโหยหวนโวยวายแสดงออกถึงอาการของคนที่กำลังคับแค้นใจในสถานการณ์ที่ตนตกเป็นผู้แพ้ สรุปแล้ว ณ ตอนนี้ ชายหนุ่มก็ยังไม่สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่าก่อนเหตุการณ์จะวุ่นวายและลามปามมาขนาดนี้มันเกิดอะไรขึ้นในตอนก่อนหน้า นึกถึงภาพที่มารดาตนจะเงื้อไม้ฟาดลงแสกหน้าลุงไกรเมื่อตอนอยู่บนห้องนอนชายก่อนจะเกิดเหตุการณ์ไล่ล่ากันแบบนี้มันยังเป็นภาพที่สะท้านใจนัก หากว่าตนไม่เอะใจในพิรุธของชายชราผู้นั้นจนย้อนกลับขึ้นเรือนมา แล้วก็ไม่อยากจะคิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายไปทางไหน อะไรกันที่ทำให้มารดาตนร้ายอย่างขาดสติได้แบบนี้ อะไรกันที่เป็นสาเหตุให้คนที่ปกครองเรือนให้อยู่อย่างสงบเย็นอย่างป้าของตนจะต้องนอนนิทราที่โรงพยาบาล อะไรกันที่เป็นสาเหตุให้น้องชายตนออกอการก้าวร้าวกับมารดาจนถึงขั้นแตกหัก แล้วอะไรกันที่ทำให้แม่นางกับอิทธิต้องโดนทำร้ายตามคำบอกเล่าของหญิงรับใช้ หรือสาเหตุทั้งหมดมันจะเกิดจากสิ่งที่มารดาตนบอกเล่าให้ฟังจริงๆ ว่าแม่นางโกงกินรายได้ของไร่แล้วโดนจับได้จึงอาละวาดหนักเป็นเหตุให้มารดาของตนต้องร้ายกาจอย่างคนขาดสติเช่นนี้ ใช่สินะ บัญชีเล่มที่มีปัญหาอยู่ไหนกัน อย่างน้อยที่สุดหากว่าบัญชีเล่มนั้นเป็นอย่างที่มารดาตนบอกจริงๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คงจะกระจ่างต่อใจเขามากกว่านี้ และหากมันเป็นเช่นนั้นจริง เห็นทีว่าเขาจะต้องตามล่าหาตัวสองแม่ลูกที่เป็นต้นตอเผาไร่นี้ให้ร้อนเป็นไฟมาชำระความกันล่ะ
ลุงไกรพาอาทีมาถึงไร่ญาติของตนอย่างปลอดภัย แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นสองคนก็ออกอาการเหนื่อยหอบให้กับแม่นางและอิทธิให้เห็น
“เป็นอะไรกันมาหรือ ทำไมดูเหนื่อยๆ ล้าๆ กันแบบนี้ล่ะ”
แม่นางเอ่ยถามเมื่ออดสงสัยไม่ได้ อาทีจึงยอมเปิดปากเล่าทุกอย่างให้ฟัง ว่ากว่าที่ตนจะมาที่นี่ได้ก็เกือบเอาตัวไม่รอดจากความร้ายกาจของมารดาตน หนุ่มน้อยเอ่ยขอโทษที่ไม่สามารถไปเก็บของที่เรือนคนถามได้ เพราะต้องรีบออกจากไร่มากันอุตลุด ก่อนที่จะโดนจับตัวได้
“ไม่เป็นไรหรอกคุณอาที ของที่นั่นมันก็ไม่สำคัญเท่าไหร่นักหรอกค่ะ สิ่งที่มีค่าที่สุดที่นั่นก็คงจะเป็นชุดนักเรียนของอิท ซึ่งมันก็โดนทำลายไปแล้ว ที่เหลือนอกนั้นดิฉันคิดว่าหากมีลมหายใจอยู่ก็คงจะหาเอาใหม่ได้ เงินทองเงินเก็บดิฉันก็เก็บเข้าธนาคารหมดแล้ว เดี๋ยวว่าจะไปเบิกมาช่วยค่าอาหารและที่อยู่ให้กับพี่ดวงอยู่”
แม่นางเอ่ยบอกเพื่อคลายความไม่สบายใจให้ฝ่ายนั้น ลุงไกรได้ฟังจึงแย้งเรื่องค่าใช้จ่าย
“อย่าเพิ่งมาชงมาช่วยอะไรเลยแม่นาง นังดวงมันเป็นญาติที่ฉันสนิทมาก มันไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องพวกนี้หรอก เก็บเงินเก็บทองไว้เพื่อลูกเถอะนะ”
“ลุงไกรเลยต้องพลอยมารลำบากกับฉันและก็ลูกอีกคนเลย เห็นแบบนี้แล้วฉันรู้สึกไม่ดีเลย” นางนางเอ่ยตอบ ฟังเรื่องราวทุกอย่างจบก็คิดว่าชายชราผู้นี้คงจะกลับไร่ไปไม่ได้แน่ๆ
   “ที่ไร่นี้เปรียบไปมันก็เหมือนบ้านฉัน ฉันจะมาอยู่ที่นี่เลยก็ได้ ฉันไม่ลำบากอะไรหรอกแม่นางอย่าคิดมากเลยนะ ว่าแต่คุณอาทีนี่สิ  แตกหักกับคุณจิตรมาขนาดนี้ แล้วจะเอายังไงต่อไปล่ะครับ” หลังตอบแม่นางเสร็จลุงไกรก็หันมาเอ่ยกับเจ้านายน้อยของตน อาทีได้ฟังก็ถอนหายใจแล้วบอก
   “ผมก็คงจะอยู่กับแม่นางและก็ไอ้อิทที่นี่สักระยะแหละลุงไกร รอให้ป้าจันทร์ฟื้นก่อน จะเอายังไงต่อไปก็ค่อยว่ากันอีกที”
   “ผมว่าคุณอาทิตย์ไม่ยอมหรอกครับ ยังไงคุณอาทิตย์ก็ต้องมาตามตัวคุณอาทีกลับไปแน่ๆ” ลุงไกรเอ่ยบอก ชื่อที่ได้ยินทำอิทธิที่ฟังเรื่องราวอยู่เงียบๆ ชะงักหันมาถาม
   “คุณอาทิตย์อยู่กรุงเทพฯ ไม่ใช่เหรอ”
   “พี่กูมาที่ไร่แล้ว ตอนไหนไม่รู้กูกลับไปกูก็เห็นแล้ว” อาทีเอ่ยบอก นึกหนักใจในคำพูดของลุงไกรไม่น้อย จริงอยู่ที่พี่ชายตนคงจะไม่รู้ว่าตนมาอยู่ที่ไหน แต่เชื่อสิว่าเจ้าตัวจะต้องไปดักรอพบตนที่โรงเรียนเป็นแน่
   อิทธิปล่อยให้สามคนสนทนาปรึกษาหารือกันต่อไปถึงการดำเนินชีวิตในอนาคต เด็กหนุ่มแยกตัวออกมายืนคิดอะไรเงียบๆ ตามลำพัง วันนี้ผู้มีพระคุณของเขาอย่างจันทร์จวงยังคงนอนหลับไม่รับรู้เรื่องราวอยู่ที่โรงพยาบาล จิตราเอ่ยมันก็ถูกที่ว่าทั้งเขาและมารดาต้องมาเจอชะตากรรมแบบนี้เพราะขาดคนคุ้มกะลาหัว
   “ใช่ว่าผมจะขาดคนคุ้มกะลาหัวเพียงคนเดียวซะเมื่อไหร่ล่ะคุณจิตร คุณเองก็ไม่ต่างจากผมหรอก” เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเย็น รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหนุ่มน้อยเป็นครั้งแรกเมื่อคิดว่ายังไงซะตนต้องลากคอคนทั้งหมดที่มารุมย่ำยีตนและมารดามาคุกเข่าขอขมามารดาของตนให้หมด ไอ้อีหน้าไหนที่มันร้ายวันนี้ เจอกันอีกทีเขาไม่ปราณีมันหน้าไหนทั้งนั้น เป็นไปได้อยากจะกลับไร่เดิมเพื่อไปดูสภาพคนจิตเริ่มวิปริตกระทั่งจะทุบตีลูกตัวเองด้วยท่อนไม้ให้เห็นกับตาเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะได้ยืนสมเพชมันได้อย่างทันเวลาก่อนที่อาการมันจะหายดี แต่ไม่สิ อาการมันถึงขั้นนี้แล้วมันก็คงจะหายยากอยู่หรอก เพราะที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอย่างพี่สาวของมันไม่อยู่พอที่มันจะใช้ความดีอบรมความเลวได้ จะมีก็คงแต่บุตรชายคนโตของมันน่ะแหละที่ป่านนี้มันคงออเซาะอยู่พร้อมกับปลุกปั่นให้ฝ่ายนั้นเข้าข้างมันด้วยการใส่ไฟตนกับมารดา ซึ่งนายนั่นก็หูเบาเชื่อง่ายซะด้วยสิ แต่ไม่เป็นไรหรอก นาทีนี้ ตอนนี้ คำว่าบุญคุณต้องทดแทนมันโดนเหวี่ยงทิ้งไปตั้งวินาทีโดนย่ำยีนั่นแล้ว จากนี้ไปมีเพียงความแค้นที่ต้องชำระเท่านั้นมันถึงจะสาสมกับสิ่งที่โดนกระทำ หากลูกชายมันหลับหูหลับตาเข้าข้างมันและคิดจะลุกมาฟาดฟันกับเขาอีกคนก็เอา เขาจะได้ถอนดอกถอนต้นมันคืนทั้งหมดตั้งแต่เรื่องราวในวัยเยาว์ที่โดนข่มเหงสารพัดลามมาจนถึงคืนที่โดนย่ำยีทางเพศอย่างป่าเถื่อน และการทวงแค้นคืนครั้งนี้หากเขาจะทำเพียงคนเดียวก็ท่าจะไม่สาใจพอ พวกมันสองแม่ลูกอาจจะเพียงเจ็บกายหากเขาบุกไปทำอะไรบุ่มบ่ามเช่นนั้น แผลกายรักษายังไงไม่นานมันก็หาย แต่แผลใจนี่สิ มันคงจะแสบๆ คันๆ ดีอย่างพิลึกถ้าพวกมันโดนกรีดด้วยเรื่องราวสะท้านใจ แล้วใครกันล่ะที่จะมาเป็นคมมีดช่วยให้เขากรีดแผลใจพวกมันมาโรยพริกโรยเกลือให้ดิ้นกันพล่านๆ ได้เท่ากับสายเลือดของพวกมันเอง หนุ่มน้อยยิ้มร้ายอีกเป็นหนที่สอง ก่อนจะหันหน้ากลับมามองยังร่างเพื่อนรักที่กำลังสนทนาอยู่กับมารดาของตนพร้อมลุงไกร
   “ขอโทษอาทีที่กูจะใช้มึงเป็นเครื่องมือในการเฉือนใจแม่และพี่ชายมึงให้พวกมันดิ้นทุรนทุรายจนอยู่ไม่สุข”
   เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น พร้อมเหลือเกินแล้วกับการกลับไปเผชิญหน้าเพื่อทวงแค้นกับคนพวกนั้น!

อ่ะ ปาระเบิดไว้อีกลูก ที่เหลือรอตอนต่อไปนะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2011 23:11:36
เอาเลยน้องสู้ๆๆๆๆๆแผนอะไรก็ได้เอาให้มันเจ็บซะบ้าง






 :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 10-04-2011 23:14:45
จิ้มๆๆๆ
 สรุป ใครจะเป็นพระเอกกันเหนอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักมาเต็มอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 10-04-2011 23:19:28
เดาเรื่องผิด แต่ความดราม่าไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ 555
แอบไม่อยากให้อีจิตรเป็นบ้า อยากให้มีสติรับรู้ตอนที่ตัวเองถูกทรยศหักหลัง ตอนที่ไม่เหลือใครแล้ว
อีอาทิตย์ด้วย ไม่อยากให้เป็นพระเอกเลย จริงๆไม่น่ามีใครเป็นพระเอกเลยด้วยซ้ำ
แบบเรื่องมาร้ายแรงขนาดนี้ ทำชั่วใส่เขาขนาดนี้
ถ้าสุดท้ายดีกัน ครองรักกัน 2 ครอบครัวกลมเกลียว มันแอบรับไม่ได้อ่ะในความรู้สึกเรา
ตื่นเต้นกับแผนของอิทธิ 5555
คิดว่าคงเป็นแผนแบบใช้สมองจริงๆนะ ไม่ใช่เข้าไปตบตีกันอีก เรื่องนี้ฉากบู๊เยอะมากกก สะเทือนใจ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: win200 ที่ 10-04-2011 23:35:58
ครางนี้พี่บอยคงไม่เล่นตลกให้ฝ่ายอิจิตราชนะอีกแล้วน่ะ

ถึงคราวคนดีดีมั้งเหอะ แต่โล่งอกที่อาทีไม่เป็นอะไรไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 10-04-2011 23:39:37
 o22
ต้องบอกว่าตอนนี้ไม่เห็นด้วยกับอิทเลย
ไม่ชอบเลยที่เพื่อนใช้เพื่อนเป็นเครื่องมือ
สงสารอาทีจังเลย... :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 10-04-2011 23:54:43
ง่า อ่านรวดเดียวแบบนี้ พอจบแล้วมันทรมานเพราะค้างคานะค้า ตอนหน้าต้องกินมาม่าอีกแน่ๆ ฮือๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: koollook ที่ 11-04-2011 00:11:43
ไม่อยากอ่านต่อเลย กลัวอ่ะ
ไม่อยากให้แก้แค้นกันเลย ไม่อยากให้จิตราบ้า ไม่อยากให้อาทีตาย สงสารอ่ะ
อยากให้จบแบบเข้าใจกัน ส่วนที่อยากให้ตายคือพวกนายศร สิน..

สู้ๆละกันจ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 11-04-2011 00:12:59
สงสารอาทีโคตรรรร  จะต้องตายจริงๆหรอ
แล้วยังจะโดนใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นอีก ลุ้นจนปวดม้าม - -*
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 11-04-2011 00:52:46
โว๊ยยย อะไรกันนี้  มีแม่แบบนี้ไม่ขอมีดีกว่า

ขออย่าให้อาทีตายเลย สาธุ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 11-04-2011 01:02:06
เลวจริงๆนังจิตรา ลูกแท้ยังทำได้
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 11-04-2011 01:11:49
สงสารอาที....  แต่ไม่ตายก็ดีแล้ว   :sad4:

ปล.  มาอัพเร็วจริงๆ    :a5:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 11-04-2011 07:21:26
สงสารอาทีอะ ถ้ารู้ว่าโดนอิทธิใช้เป็นเครื่องมือแก้แค้นจะเจ็บปวดแค่ไหน
ยุติธรรมแล้วหรือกับอาที ที่รักและปกป้อง2แม่ลูกนี้มาตลอด กลับต้อง
กลายเป็นเครื่องมือสำหรับแก้แค้น ของคน2ฝ่ายที่เต็มไปด้วย โทสะ และโมหะ
 เดี๊ยนว่าเกินไปนะคะคนเขียน สรุปเลวกันหมดแก้แค้นกันไป แก้แค้นกันมา
คนดีๆกลายเป็นหมากตัวนึง  สุดท้ายก็ต้องมาตายสะงั้น...นี่มันคือ????
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 11-04-2011 07:59:40
ว้าวคุณบอยมาอย่างเยอะสะใจจจจจจริงค่ะ เดี๊ยวกับมาอ่านเย็นนี้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 11-04-2011 10:20:42
อิทธิจะแก้แค้นใช่มั้ย
จะได้เห็นอิทธิร้ายแล้ว^^
ลืมไปว่าแม่นางก็มีมือไว้ตบคนเหมือนกัน 55+ แม่นางเยี่ยมยอด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 11-04-2011 11:01:27
อิทธิ  ทำไมเลวขึ้นมาซะเฉยๆ  กล้าหลอกใช้เพื่อนรักมาเป็นเครื่องมือนี่  รับไม่ได้จริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 11-04-2011 11:31:20
ง่ะ โอ๊ย อ่านแล้วปวดใจ
หวังว่าอาทีจะไม่เป้นอะไรไปนะ ชักหวั่นๆใจยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 11-04-2011 13:44:16
ขออย่าไห้อาทีเป็นอะไรไปเลยเราทำใจไม่ได้

ส่วนยัยจิตรนี่บ้าไปแล้วหรือเปล่าถึงกับจะทำร้ายลูกตัวเองได้ลงคอ

แล้วเมื่อไรไอ้พวกสัตว์นรก ไอ้ครอบครัวอัปปรีย์ ไอ้สิน ไอ้ศร นังส้มจะตายห่....ากันไปซักทีน่าลำคาญชิบ ...หาย

(ขออภัยในความไม่สุภาพแต่พออ่านแล้วมันอดใจด่าไม่ได้จริงๆ)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 11-04-2011 18:19:52
ละคร 3 ช่องมารวมกัน ยังดราม่าไม่เท่าเรื่องนี้เลย
อูย หิวมาม่า อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 11-04-2011 23:35:56
อ้ากกกกกกกพี่บอยอย่าใจร้ายให้อาทีเป็นอะไรไปเลยน้าๆๆๆๆ  :serius2:
 :a5:เข้ามาอ่านรวดๆๆเพราะไม่ได้เข้ามาหลายวัน บอกตามตรง หัวใจจะวายตายยย  o22
ยิ่งตอนที่อาทีเกือบโดนฟาดหัวนั่น โอ้ยยยยยย  :m15:น้ำตาพลานจะไหลกลัวว่าที่แม่นางนึกกลัวจะเป็นจริง :เฮ้อ:
แล้วยังอิทธิที่ตอนนี้ไม่เหมือนอิธิแล้วเพราะแรงแค้น :fire: ไม่อยากจะคิดเลยยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป :z3:
สงสารแต่จันทร์จวงที่ตอนนี้กลายเป็นนิทราไปแล้ว :monkeysad: มีแต่ยัยจิตรานั่นล่ะ อยากเอาไม้ที่อยู่ในมือแกมาเรียกเลือดออกจากหัวจัง :z6:

จะรอตอนต่อไปนะค่ะ มาต่อแบบไวว่องน้าๆๆๆ กำลังสนุกแล้วก็กำลังจะลงแดง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 12-04-2011 00:03:57
โอยยยย อ่านแล้วเครียดดดดดดดดดดดดดดด!!!!  ..แต่ก็จะอ่านนนนนน >__<
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 12-04-2011 00:14:15
อ่านสี่ตอนนี้ ขอบอกนังจิตร มันจะร้ายผิดมนุษย์ไปไหม ขนาดเสือไม่กินลูก แต่นี่คน ยังจะฆ่าลูก
ส่วนอาทิตย์ ก็หูเบาอย่างว่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 12-04-2011 19:57:03
เคลียดแบบงงๆ  :เฮ้อ:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 12-04-2011 22:32:53
ที่จริงถ้าจบแบบ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร
ถึงแม้มันจะน้ำเน่า แต่ก็โอเคกว่า แค้นนี้ต้องชำระน่ะ  :เฮ้อ:

สู้ๆ ไรเตอร์  :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 13-04-2011 11:31:06
ไม่อยากให้อิทดึงเอาเพื่อนรักเข้ามาเป็นตัวกลางของการแก้แค้นเลย
อยากให้แก้แค้นด้วยวิธีอื่นมากกว่า
เสียดายคำว่าเพื่อนตายมากๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-04-2011 11:35:12
เอาอาทีทำผัวเลยน้องอิท :กอด1:


ให้ไอ้อาทิตย์อกแตกตายไปพร้อมๆแม่เลวๆของมัน :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 13-04-2011 20:09:22
อ่าน คห.บนแล้วขำ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 13-04-2011 23:49:44
รันม่ามากกกก

ติดตามนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-04-2011 00:06:59
เราใช้อ่านจากเม้นเอา อิอิ เครียดเกินรับไม่ไหวรอเบาๆแล้วค่อยกลับมาอ่าน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [จัดหนักอัพเพิ่ม 4 ตอนรวด 25-28 10.04.54 อัพเพิ่มตอน 29 ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 14-04-2011 07:03:27


ตอนที่ 30




เช้าวันใหม่ อิทธิกับอาทีไปเรียนหนังสือตามปกติ โดยมีลุงไกรเป็นคนขับรถไปส่งเช่นเดิม ชายชราบอกคงส่งได้เพียงแค่ช่วงแรก ต่อไปสองหนุ่มคงต้องนั่งรถรับส่งไปกันเอง เพราะตนคงต้องเอารถไปคืนที่ไร่ดังเดิม อาทีกับอิทธิยอมเข้าใจและรับสภาพที่จะต้องออกไปเรียนแต่เช้ามืดเพื่อให้ทันเข้าเรียน อิทธินั่นไม่เท่าไหร่เพราะการลำบากเพียงนี้เด็กหนุ่มทนได้ แต่กับอีกคนนี่สิ เด็กหนุ่มอดห่วงและเห็นใจไม่ได้เลยที่ชีวิตต้องพลิกผันมาลำบากกับตน
“มึงไม่น่ามาลำบากกับกูแบบนี้เลยนะอาที” หนุ่มน้อยเอ่ยบอกออกไป แม้ความคิดในหัวตอนนี้จะใช้เจ้าตัวเป็นตัวเล่นเกมทวงแค้นคืนให้กับมารดา แต่เขาจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่ออยู่ต่อหน้าเหล่าศัตรูเท่านั้น วันวานเขาเคยรักเคยซึ้งใจเพื่อนคนนี้ยังไงวันนี้เขาก็ยังเป็นอย่างนั้น
“มึงทนได้กูก็ทนได้ไอ้อิท แค่นี้เรื่องจิ๊บๆ” อาทีเอ่ยบอกให้เพื่อนสบายใจตอนที่โดนอีกฝ่ายแสดงความห่วงใยให้เห็น สองคนจึงเดินคู่กันเข้าไปในโรงเรียน พลางคาดเดากันว่าวันนี้อาทิตย์จะมาดักพบหรือไม่
“มากูก็ไม่กลัวหรอก พี่อาทิตย์เขาคงไม่กล้าทำอะไรกูต่อหน้าที่สาธารณะ” อาทีเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่งเมื่อเชื่อว่าระหว่างมารดากับพี่ชาย หากนับในเรื่องความมีเหตุผล พี่ชายตนมีมากกว่ามารดาตนหลายเท่าอยู่ อย่างมากฝ่ายนั้นก็คงจะแค่เอ่ยปากอบรมและชักชวนให้กลับไร่เท่านั้น ซึ่งมันคงเป็นไปได้ยาก เพราะหนุ่มน้อยหนักแน่นแล้วว่าตราบใดที่ป้าของตนไม่ฟื้นก็จะไม่มีทางย่างกรายกลับเข้าไปที่ไร่นั้นอีก

*************************************************************************

ภายในโรงเรียนตอนเสียงสัญญาณการเข้าเรียนยังไม่ดัง ส้มนั่งหน้าง้ำอยู่เพียงลำพัง หล่อนเพิ่งรู้เมื่อเช้านี้เองว่าอาทีหายตัวไปจากไร่ ขัดใจนักที่เห็นบิดาและพี่ชายแสดงอาการยินดีกันออกนอกหน้า มีตอนหนึ่งที่หล่อนได้ยินพี่ชายเอ่ยว่าจะทำให้อาทีหายไปจากไร่อย่างตลอดกาลแล้วหัวเราะเสียงดังจนน่ากลัว หล่อนคิดว่าพี่ชายคงมีแผนร้ายจึงต่อว่าและเอ่ยห้ามการกระทำใดๆ ที่ส่งผลร้ายตนคนที่ตนนึกชอบ หล่อนกับพี่ชายจึงทะเลาะกันลั่นเรือนก่อนที่บิดาจะมาห้าม ที่สุดหล่อนก็มานั่งหน้าง้ำอยู่แบบนี้
เวลาผ่านไปสักพักคิดว่าสัญญาณน่าจะดังแล้ว สาวน้อยจึงลุกเดินหนีไปจากที่นั่งอยู่ เดินไปสองสามก้าวก็ต้องชะงักหยุดเมื่อสายตาแลเห็นคนที่พี่ชายตนคิดทำร้ายเดินมากับอีกคนที่หล่อนไม่ชอบหน้า
“พี่อาที พี่อาทีมาโรงเรียนด้วย” หล่อนเอ่ยขึ้นอย่างยินดี รอยยิ้มร่าปรากฏให้เห็นบนใบหน้าที่เคยง้ำ ไม่รอช้า หล่อนรีบเดินฉับๆ ไปยังร่างที่สายตาจ้องมองทันที พอไปถึงก็รีบถลันชนอิทธิให้ถอยห่าวจากร่างของคนที่หล่อนนึกรัก
“โอ้ย!” อิทธิร้องออกมาด้วยความเจ็บในตอนที่โดนชนเพราะร่างกายที่โดนทำร้ายยังบอบช้ำอยู่
“เป็นอะไรยะ แค่นี้ทำสำออย ผู้ชายหรือเปล่า” ส้มเอ่ยแขวะ ก่อนจะเกาะแขนอาทีออดอ้อน
“พี่อาทีไปอยู่ไหนมาคะ ส้มล่ะใจหายกลัวว่าเราจะไม่เจอกันอีก”
“ปล่อยฉันส้ม” อาทีเอ่ยสั่ง ไม่อยากพูดสุภาพแล้วกับน้องสาวอันธพาล ในใจตอนนี้นึกห่วงอาการเพื่อนรักเพียงอย่างเดียว
อิทธิยืนมองอาทีที่พยายามแกะแขนส้มออกในตอนที่หายเจ็บแล้ว ระอานักที่เห็นส้มไม่ยอมปล่อย ผู้หญิงคนนี้เป็นน้องสาวนายสินเป็นลูกสาวนายศร ก็เท่ากับว่าหล่อนเป็นศัตรูเขาด้วยเช่นกัน ถึงเวลาแล้วสิที่เขาจะใช้อาทีกรีดใจมันเล่น หนุ่มน้อยยิ้มร้ายออกมาในตอนคิดได้ ผลดีผลร้ายที่จะเกิดขึ้นตามมาตอนนี้ไม่นึกสนทั้งนั้น ขอเพียงให้เขาทำให้บุตรสาวนายศรร้อนรนเล่นได้มันก็สมใจแล้ว
“ปล่อยอาทีส้ม” เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นเสียงนิ่งตอนที่เดินเข้ามาประกบร่างเพื่อนรักได้ ส้มมองสบสายตา รู้สึกสะท้านใจอยู่บ้างกับแววตาที่ตนไม่เคยได้รับจากคนเอ่ย แววตาอิทธิตอนนี้มันดูดุดันและเยาะหยันจนหล่อนไม่อาจทราบได้ว่าเจ้าตัวกำลังอยู่ในอารมณ์ไหน แต่อิทธิจะมาไม้ไหนก็ช่าง หล่อนเกาะแขนคนที่หล่อนนึกรักนึกชอบได้แล้ว เรื่องอะไรหล่อนจะปล่อยง่ายๆ ล่ะ
“ปล่อยไม่ปล่อยแล้วแกมายุ่งอะไรด้วย” สาวน้อยแว้ดกลับไปใส่หน้าคนที่ทำหล่อนสะท้านเล็ก อิทธิยิ้มหยันที่มุมปากแล้วค่อยๆ ยกมือขึ้นแกะมือของส้มออกจากแขนเพื่อนรัก
“แอร๊ยยส์ เรื่องอะไรแกมาถูกเนื้อต้องตัวฉันไอ้อิทธิ” ส้มทำท่าสะบัดสะบิ้ง ตอนเนื้อตัวโดนจับจากมือเด็กหนุ่ม อิทธิไม่แยแส จัดการแกะมือของสาวน้อยสะดิ้งออกจากแขนเพื่อนตนได้สำเร็จก็จัดการเหวี่ยงทิ้งทันที แล้วเอ่ยสั่งออกมาดุๆ
“อย่ามายุ่งกับอาทีอีก ฉันขอสั่ง”
อาทีหันมองหน้าเพื่อนรัก ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเจ้าตัวออกปากสั่งส้มแบบนี้ นี่มันอะไรกัน
“นี่มันอะไรกัน ทำไมฉันจะยุ่งกับพี่อาทีไม่ได้” ส้มเอ่ยถามในสิ่งที่สงสัย อิทธินิ่งสักพักตัดสินใจเอ่ยออกมาในที่สุด
“อาทีไม่ชอบเธอหรือผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น พยายามเท่าไหร่เธอก็ทำไม่สำเร็จหรอก”
อาทีตัวชาในสิ่งที่ได้ยิน เอ่ยถามเพื่อนทันควัน
“นี่ นี่มันอะไรวะไอ้อิท”
“นั่นสิ แกหมายความว่าไง” ส้มเอ่ยถามอีก ใบหน้าเด็กสาวซีดเผือดในคำตอบที่ได้รับ
“ผู้ชายที่ไม่ชอบผู้หญิงเขาเรียกว่าอะไรล่ะ เธออย่าโง่ไปหน่อยเลยส้ม”
“มะ ไม่จริงอ่ะ แกโกหก แกโกหก ไม่จริงใช่มั้ยคะพี่อาที” ส้มหันไปเอ่ยถามคนที่โดนกล่าวหา อาทีกำลังอึ้งมึนในคำพูดของเพื่อนจึงได้แต่ยืนตัวแข็ง อิทธิเห็นอาการรู้สึกผิดอยู่หรอก แต่เมื่อได้เริ่มต้นแล้วจะให้ถอยกลับคงไม่ใช่ เด็กหนุ่มเห็นเพื่อนขยับปากคล้ายจะเอ่ยอะไร เป็นไปได้มากว่าเจ้าตัวอาจจะปฏิเสธไม่ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองกล่าวหา ไม่ได้เด็ดขาด เขาจะยอมให้อาทีมาฉีกหน้าเขาต่อหน้าศัตรูให้เขาต้องกลายเป็นคนแพ้ตั้งแต่เริ่มต้นไม่ได้ คิดได้เช่นนั้นหนุ่มน้อยจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่สะท้านใจยิ่งกว่าด้วยการหันไปใช้ริมฝีปากประกบจูบกับคนที่กำลังอ้าปากต่อหน้าต่อตาของคนที่ยืนดูอยู่
“กรี๊ดดดดดดดดดดด! ไม่จริง ไม่จริง ไม่จริ๊ง!” ส้มออกอาการรับไม่ได้กับสิ่งที่เห็น หล่อนส่ายหน้าไปหานัยน์ตาล่องลอยมองหน้าสองหนุ่มตรงหน้าสลับกัน ในสมองคิดทบทวนถึงความสนิทสนมที่ทั้งสองเคยมีให้กันตลอดมา ภาพเหล่านั้นมันสนับสนุนคำพูดของอิทธิเต็มเหยียด อิทธิเห็นอาการนั่นเริ่มจับความรู้สึกว่าสาวน้อยคงเริ่มใจสลายบ้างแล้วจึงรีบทับถมทันที
“ทำใจซะนะส้ม คงรู้แล้วสินะว่าที่ผ่านมาพยายามโปรยเสน่ห์ให้ไอ้อาทีขนาดไหน แต่ทำยังไงก็ไม่สำเร็จ ฉันไม่อยากสมเพชเธอนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ขอตัวนะ ไปเถอะอาที” หนุ่มน้อยยังคงเล่นละครต่อด้วยการเลื่อนมือลงไปกุมมือคนที่ยังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ข้างๆ แล้วจูงเดินผ่านหน้าอีกคนที่ยืนช๊อกไร้เรี่ยวแรงตรงหน้า จะให้จากไปเฉยๆ ก็ดูกระไรอยู่ ไหนๆ ก็เล่นบทร้ายแล้วก็ขอให้มันถึงที่สุดแล้วกัน ตอนเดินถึงร่างส้มหนุ่มน้อยจึงตั้งใจชนเจ้าตัวเต็มแรงจนร่างบางกระเด็นล้มลงริมทาง
ส้มกรี๊ดลั่นในตอนโดนแกล้งชนจนร่างล้มกระแทกพื้น หล่อนมองตามร่างคนแกล้งอย่างอาฆาตแค้น
“ไอ้อิทธิ บังอาจประกาศการเป็นศัตรูกับฉันเหรอ คอยดูฉันจะให้พี่ชายกับพ่อฉันทำให้แกไม่มีโอกาสมาเยาะหยันฉันแบบนี้อีก”
เอ่ยอาฆาตเสร็จหล่อนก็ทุบดินทุบหญ้าอย่างขัดใจ นึกถึงภาพในวันวานต่างๆ ที่หล่อนเคยหว่านเสน่ห์สาวเพื่อหวังมัดใจเด็กหนุ่มอย่างหลานเจ้าของไร่ ไม่นึกเลยว่าสิ่งที่หล่อนทำมันจะเป็นสิ่งที่น่าตลกและน่าสมเพชได้ขนาดนี้
“แอร๊ยยยส์ ฉันไม่ยอม ฉันไม่ยอม เรื่องนี้จะต้องถึงหูคุณจิตร มันจะต้องถึงหูคุณจิตร ในเมื่อฉันไม่ได้พี่อาที ก็อย่าหวังว่าแกจะเป็นคนได้ไอ้อิทธิ”
สาวน้อยออกอาการโวยวายอีก ความรู้สึกต่างๆ มันถาโถมหล่อนไปหมดในตอนนี้ ทั้งสมเพชตัวเอง ทั้งอาฆาตแค้นอิทธิ ทั้งโกรธเคืองอาที นี่หล่อนต้องทำยังไงถึงจะหายร้อนรุ่ม หล่อนต้องทำยังไง กรี๊ดดดดดดดดดด!

*********************************************************************

“โกรธกูเหรออาที ไม่พูดไม่จาเลย” อิทธิเอ่ยถามคนข้างกายในตอนที่เดินคู่กันมาแต่ฝ่ายนั้นยังไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรออกมาเลย เอาแต่นิ่งเงียบมาตลอดทาง ซึ่งมันก็สร้างความอึดอัดใจให้ไม่น้อย
“มึงคิดดีแล้วเหรอที่ทำแบบนี้” อาทียอมเอ่ยประโยคแรกออกมา ไม่ได้โกรธเพื่อนเลยสักนิดกับสิ่งที่เจ้าตัวทำ แต่ที่เงียบเพราะนึกเป็นห่วงเจ้าตัวต่างหากที่การแสดงตัวเป็นศัตรูกับบุตรสาวอันธพาลแบบนั้น ก็เท่ากับเป็นการจุดเชื้อไฟในการราวีเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หนุ่มน้อยเชื่อเหลือเกินว่าส้มจะต้องนำความคับแค้นใจไปบอกพี่ชายและบิดา ซ้ำร้ายมารดาตนน่าจะเป็นหนึ่งคนที่รับรู้เรื่องนี้ และหากจะพ่วงพี่ชายด้วยอีกคนก็ไม่น่าจะแปลกเลย
“มึงก็เห็นนี่อาทีว่ากูกับแม่นางต้องโดนย่ำยีขนาดไหน ถึงเวลาแล้วล่ะที่กูจะต้องทำให้คนที่มันทำกูกับแม่กูเจ็บปวดได้ร้อนรนบ้าง กูขอโทษนะโว้ยที่ต้องใช้มึงมาช่วยสร้างความวุ่นวายใจให้พวกมัน” อิทธิเอ่ยบอก อาทีได้ฟังแล้วถอนหายใจถาม
“พวกมันที่ว่านี่คือแม่กูด้วยหรือเปล่า”
อิทธิมองจ้องหน้าหนุ่มน้อย เข้าใจว่าเจ้าตัวน่าจะห่วงมารดาอยู่แหละถึงถามแบบนี้ แต่เขาไม่อาจละเว้นแรงแค้นครั้งนี้ได้จริงๆ จิตราร้ายใส่เขาและมารดามามาก หากเขาจะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ละเว้นการราวีคืนบ้างมันอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกในสายตาและความคิดของใครหลายคนที่ไม่นึกชอบการจองเวรกันและกัน แต่ก็นั่นล่ะคนกลุ่มนั้นไม่ได้มาเผชิญตากรรมอย่างเขาก็อาจจะพูดได้ ลองมาสัมผัสกับสถาณการณ์ที่มารดาต้องโดนจิกกระชากเส้นผมจนระบมไปทั้งหนังศีรษะ ลองมาเห็นมารดาโดนตบตีจนเป็นชอกช้ำไม่เว้นแต่ละวัน ลองมาเห็นน้ำตาและคำอ้อนวอนพร้อมคำกราบไหว้ของมารดาที่เสียไปแต่ไร้ซึ่งความปราณีจากเหล่าอันธพาลเช่นเขาแล้วคนกลุ่มนั้นยังจะพูดว่าปล่อยไปเถอะ เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวรเขาก็จะยอมสรรเสริญว่าเป็นคนดี แต่สำหรับเขาแล้วเมื่อเป็นคนดีแล้วโดนแต่คนชั่วมันรังแกอยู่ร่ำไป ถึงคราวร้ายมันก็ต้องร้ายบ้างล่ะ
“กูไม่มีทางเลือก” อิทธิบอกอย่างเด็ดเดี่ยว เข้าใจว่ามันคงสร้างความลำบากใจให้เพื่อนรักซึ่งเป็นบุตรชายของศัตรู แต่แล้วสิ่งที่เจ้าตัวเอ่ยกลับมากลับสร้างความซึ้งใจให้อีก
“กูเข้าใจและกูก็เห็นใจมึงไอ้อิท เอาเป็นว่ากูจะหลับหูหลับตาเรื่องนี้ก็แล้วกัน กูเชื่อว่ามึงคงไม่กะเอาให้แม่กูถึงตายหรอก แต่เรื่องที่มึงทำเมื่อครู่หากรู้ถึงหูแม่กู ท่านอาจจะร้อนรนสมใจมึงนะโว้ย แต่กับคนอื่น พวกเขาจะไม่สมเพชเราสองคนเหรอวะ”
ประโยคท้ายอาทีพูดให้น่าคิด อิทธินิ่งสักพักแล้วเอ่ยออกมาตามความเชื่อของตัวเอง
“ยัยส้มทั้งชอบทั้งหลงมึง ยัยนั่นไม่ทำร้ายมึงโดยการเอาเรื่องนี้ไปโพทะนาบอกใครให้มึงได้อายหรอก อย่างมากก็คงจะแค่ใส่ไฟกูฝ่ายเดียวแหละ ซึ่งกูก็ไม่สนแล้วล่ะว่าตอนนี้ใครจะมองกูยังไง กูขอแค่ให้กูได้ระบายแค้นที่มันสุมในอกกูตอนนี้ออกไปบ้างก็พอแล้ว เพราะมึงก็รู้ว่ากูกับแม่คงไม่อยู่ที่นี่แล้ว หลังเรียนจบกูกับแม่ก็คงไปไกลจากที่นี่เกินกว่าที่ใครจะตามไปสมเพชหรืออะไรกูได้”
“กูไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายดังที่มึงคิดน่ะสิอิท เปรียบไปตอนนี้มึงก็แค่เด็กตัวเล็กๆ แค่คนดียว มึงจะสู้รบปรบมือกับแม่กู นายศร นายสินกับสมุนได้ขนาดไหนกัน เผลอๆ พ่วงพี่ชายกูขึ้นมาอีกคน กูว่าตอนนี้มันอยู่นิ่งๆ แล้วตั้งหลักก่อนดีมั้ยวะ รอให้มึงโตหรือพร้อมกว่านี้หน่อยแล้วค่อยกลับมาระบายแค้นมันไม่ดีกว่าเหรอวะ” อาทียังคงเตือนสติอีก แต่คนที่มีเพียงความแค้นสุมในอกหรือจะฟัง
“กูไม่รออะไรแล้วทั้งนั้นอาที กูจะสู้เท่าที่กูสู้ได้ ก่อนกูจะตาย หรือจะไปจากที่นี่ ทุกคนที่มันย่ำยีกูกับแม่ต้องได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทั้งกายและใจอย่างที่กูกับแม่กูโดน”
อิทธิตอบกลับอย่างหนักแน่น เข้าใจว่าเพื่อนห่วง แต่มันถึงที่สุดแล้วจริงๆ กับแรงแค้นที่สุมในอกตั้งแต่โดนรังแกหนแรกจนปัจจุบัน หากไม่ได้ระบายออกเสียบ้าง แม้ว่าชีวิตที่เหลืออยู่จะสงบสุขแต่จิตใจเขามันไม่มีวันสุขใจแน่หากว่าไม่ได้สนองกลับในสิ่งที่เหล่าอันธพาลควรได้รับ

*************************************************************************************

สิ่งที่อิทธิคาดเดาไว้เรื่องของส้มไม่ผิดเพี้ยนไปแม้แต่นิด เพราะสาวน้อยมากจริตรายนี้นำเรื่องที่หล่อนเห็นและรับไม่ได้กลับไปรายงานจิตราและอาทิตย์ทันทีที่กลับถึงไร่ แน่ล่ะ หล่อนรักหล่อนหลงอาทีหล่อนจึงไม่ได้บอกสองแม่ลูกว่าเจ้าตัวเป็นอย่างที่อิทธิกล่าวหา แต่หล่อนกลับโยนเชื้อไฟเพื่อเผาร่างอิทธิให้ไหม้เป็นจุลด้วยการบอกว่าอิทธินั่นแหละคือคนที่วิปริตผิดเพศตามเกาะตามแกะอาทีถึงขั้นจูบปากจูบคอแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของให้หล่อนเห็น ที่จริงการเล่าความแบบนี้ก็ถือว่าหล่อนฉลาดพอตัว เพราะหากหล่อนมาบอกกับจิตราว่าบุตรชายคนเล็กของเจ้าตัวเป็นอย่างที่หล่อนให้ร้ายอิทธิหล่อนก็อาจจะโดนจิตรากระโดดแหกอกเอาง่ายๆ เพราะตามนิสัย จิตรามักจะร้ายใส่ได้กับทุกคนที่มาเอ่ยถ้อยคำในเชิงให้ร้ายบุตรชายของตน ฉะนั้นแล้วการที่หล่อนให้ร้ายอิทธิเพียงคนเดียวก็เท่ากับว่าหล่อนปูทางให้ตัวเองมีค่ามีราคาให้หญิงร้ายผู้นี้มองเห็นความดีอยู่บ้างนั่นเอง
และก็เป็นอย่างที่คิดเมื่อจิตราออกอาการร้อนรุ่มสั่งให้บุตรชายคนโตไปจัดการแยกตัวอิทธิออกจากบุตรชายคนเล็กของหล่อนในวันรุ่งขึ้นให้ได้ก่อนที่ไอ้ลูกขี้ข้านั่นจะทำเรื่องบัดสีบัดเถลิงใส่บุตรชายหล่อนมากไปกว่าการจูบปากจูบคอ ด้านอาทิตย์ก็ยินดีอยู่บ้างที่เห็นสติมารดากลับมานึกห่วงนึกหวงน้องชายตนอย่างแต่ก่อนแล้ว แต่สิ่งที่ออกจากปากของส้มชายหนุ่มก็ยังไม่อยากปักใจเชื่อนัก เป็นไปได้เหรอว่าคนที่รักศักดิ์รักศรี มีทิฐิอย่างรุนแรงอย่างอิทธิจะทำอะไรที่เสี่ยงต่อการโดนสมเพชแบบนั้น จำได้ว่าเจ้าตัวเคยขัดขวางตัวเองสุดใจขาดตอนที่ได้ขู่ว่าจะบอกเรื่องที่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันต่อหน้าแม่นางวันนั้น หรือนายนั่นกำลังคิดอะไรอยู่
“ไว้พรุ่งนี้ผมจะไปครับ” ชายหนุ่มเอ่ยตอบมารดา นึกอยากเผชิญหน้ากับอิทธิอยู่น้อยซะเมื่อไหร่ล่ะ

โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 14-04-2011 07:07:07


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ณ ที่เดิม™ ที่ 14-04-2011 07:59:13
คงต้องทำใจรอรับมาม่าสินะขอรับ กับเรื่องนี้  :man1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-04-2011 08:01:56
เออนะ  พระเอกเรื่องนี้ไม่โงหลงเชื่อตามแผนน้องอิท


แต่โง่ที่เชื่อแม่ตัวเองทำเลวๆมาได้ตลอดเวลา ตอนนแม่สั่งให้ทำอะไรก็ทำตามแบบไม่คิดว่าผิดหรือถูก


มาตอนนี้คิดเป็นวุ๊ยนึกว่าเป็นควายต้องให้บอกให้จูงตลอดเวลา  ลูกที่ดีต้องเชื่อที่แม่บอกและสั่ง ดั่งเช่นไอ้อาทิตย์ เหมาะที่จะเป็นแม่ลูกกันมากๆ :beat: :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 14-04-2011 11:51:34
ถึงตอนนี้จะไม่มีอะไรมาก
แต่ ก็ยังกลัวเรื่องอาทีอยู่ดี
ไม่อยากให้เป็นอะไรเลยจริงๆ สงสาร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 14-04-2011 12:43:11
อยากเห็นอิทแก้แค้นแบบผู้ใหญ่
ไม่ใช่แก้แค้นแบบเด็กๆ ที่แค่บาดเจ็บแค่ผิวกาย
และไม่อยากให้อิทเปลืองตัวด้วย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 14-04-2011 14:06:45
อิทธิน่าจะทนรอหน่อยนะ เอาแบบเชือดนิ่มๆช้าๆ แต่ได้ผลเกินคุ้มน่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 14-04-2011 16:02:09
อ้าว  อาทิตย์  ฉลาดเป็นซะละหรอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 14-04-2011 19:23:15
สวัสดีอีกครั้งค่ะไรท์เตอร์ มาอ่านรวดเดียวหลายตอนเลยย

สนุกมาก ๆ ค่ะ ถึงพริกถึงขิงกันสุด ๆ ไปเลย

คุณจิตร ร้ายมาก ร้ายเกินไปและ

สงสาร อิทธิ อาที แล้วก็แม่นาง

อิทธิ ดูแค้นแรงมาก แต่เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ ต่อไป

อาทิตย์จะทำยังไงกับอิทธิ และอาที

แล้วอาทีจะเป็นอะไรมั้ย  ทำไม ลางร้าย มันเกินถี่จังเลย

สงสารอาที ฮือออออออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 14-04-2011 20:15:39
รอลุ้นๆ ต่อไป :z3:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: iCyber ที่ 14-04-2011 21:01:36
อ่านรวดเดียว มันส์มากเรื่องนี้ ขอติดตามครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 14-04-2011 21:08:20
เฮ้อ เหนื่อยใจ  คนมันจะเจ้าแค้นกันไปถึงไหน  สงสารอาที อยู่ดีๆก็ซวยไปด้วย

สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 14-04-2011 22:33:29
รอค่ะเห็นเปลี่ยนชื่อตอนแล้ว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 14-04-2011 23:16:56
ค้างT^T
เฮ้อ! ว่าแต่เรื่องนี้อาทิตย์เป็นพระเอกสินะ - -
รู้สึกบทจะหายไปเล็กน้อย 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 15-04-2011 20:11:02
ค้างด้วยคน T.T

สงสารอาที สงสารอิทธิ สงสารแม่นางงงงงงงงงงงงงงง >///<

อยากเห็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยจริงงๆ เมื่อไหร่น๊อออออ ความสุขจะมาหาอิทธิซะที!!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 15-04-2011 22:24:26
ทำไม ทำไม ทำไมเรื่องมันบีบเค้นจิตใจคนอ่านได้ขนาดนี้

อ่านแล้วเฮ้อออ  :m15:

ความรักสงสัยจะยังมาไม่ถึง มีแต่ความแค้น :serius2:

จะรออ่านต่อไปค้าฟฟ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 16-04-2011 02:32:20
แรงแค้น สมชื่อนิยายจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 14.04.54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 16-04-2011 09:19:22

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011414_63578.gif)
ตอนที่ 31
เวลาผ่านมาจนค่อนคืนอาทิตย์เดินออกมารับลมที่ชานเรือนเมื่อรู้สึกล้าสายตาและเครียดกับตัวเลขทางบัญชีในสมุดเล่มที่มีปัญหา ชายหนุ่มพบข้อผิดปกติจริงๆ อย่างที่มารดาตนบอกแต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียวว่าการโกงกินรายได้ครั้งนี้จะเป็นฝีมือของแม่นาง จำได้ว่าเมื่อตอนเด็กปัญหานี้มันเกิดขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ตอนนายศรคือคนที่โดนเรียกสอบความเพราะเป็นคนคุมบัญชีอยู่ในสมัยนั้นแต่บังเอิญว่าแม่นางตรวจพบข้อผิดปกติเข้าจึงนำเรื่องมาบอกกล่าวกับป้าของตน ครั้งนั้นนายศรรอดตัวไปส่วนหนึ่งก็มาจากการที่มารดาของตนถือหางเอาไว้ ป้าของตนไม่อย่างไม่ปัญหาด้วยก็เลยยอมให้เรื่องมันจบไป แล้วครั้งนี้ล่ะคนที่เคยภักดีป้าของตนจะกล้าทำสิ่งนี้เองน่ะหรือ เจ้าตัวจะทำไปเพื่ออะไรในเมื่อการอยู่ในไร่นี้ป้าของตนก็ให้อยู่ในฐานะที่ไม่ได้เรียกว่าเป็นคนงานเสียทีเดียว มีอะไรที่ป้าของตนช่วยได้นางก็ไม่เคยขัด เรื่องการส่งเสียอิทธิก็เช่นกัน สิ่งนั้นแม่นางก็บอกว่าเป็นพระคุณล้นหัวอยู่ทุกเช้าเย็น แล้วเหตุอันใดนางจึงคิดจะทรยศผู้มีพระคุณ
ท้องฟ้าคืนนี้ไม่ค่อยมืดนัก เพราะพระจันทร์ดวงโตได้ฉายแสงฉาบไปทั่วบริเวณ ดวงดาวที่เคยพรายแสงในคืนก่อนๆ คืนนี้ดูจะงีบหลับพักผ่อนกัน แล้วกับอีกสองคนล่ะ ป่านนี้จะทำอะไรกันอยู่หนอ อิทธิ หวังว่านายคงจะไม่ได้เกาะเกะอาทีอย่างที่ส้มกล่าวหาหรอกนะ ชายหนุ่มนึกภาวนาในใจถึงการกระทำของใครบางคนที่จู่ๆ หัวใจเริ่มคิดถึง จริงอยู่ที่ว่าข้อภาวนาส่วนหนึ่งจะนึกเป็นห่วงน้องชายตน แต่อีกส่วนหนึ่งนั่นเล่า จะเอ่ยปากบอกใครๆ ได้มั้ยนะว่าหัวใจตอนนี้นึกหวงอีกคนขึ้นมา

*****************************************************************************

ภายใต้ท้องฟ้าผืนเดียวกัน ขณะนี้อาทีกำลังยืนยิ้มสมใจมองพระจันทร์ดวงโตสวยงามที่ส่องสว่างอยู่เหนือทิวไม้ อิทธิด้วยอีกคนที่กำลังยืนชื่นชมกับสิ่งที่จำได้ว่าครั้งหนึ่งคนที่ยืนข้างถวิลหาว่าอยากจะเห็นมันสักครั้ง
“คืนนี้พระจันทร์ดูสวยสมใจมึงแล้วสิอาที” เด็กหนุ่มเอ่ยกับเพื่อน พลางยกมือกอดคอเจ้าตัวเอาไว้
“เห็นแบบนี้กูก็คงตายตาหลับได้ซะที” อาทีเอ่ยออกมา อิทธิชะงักเมื่อได้ยิน นี่เป็นหนที่สองแล้วที่หนุ่มน้อยได้ยินเพื่อพูดจาทำนองนี้ จึงเอ่ยว่าด้วยความไม่พอใจ
“จะพูดเรื่องตงเรื่องตายทำไมวะอาที พระจันทร์เขามีไว้ให้ขอพร มั่วนะมึง”
“กลัวกูตายเหรอ” อาทีหันมาถามคนว่า สองหนุ่มน้อยจ้องตากัน สักพักอิทธิจึงเอ่ยตอบขำๆ เพื่อให้บรรยากาศมันดีขึ้น
“กูไม่ได้กลัวมึงตายหรอก แต่กูจะไม่ยอมให้มึงตายต่างหากล่ะ มึงต้องอยู่กับกูไปนานๆ เข้าใจมั้ยไอ้เด็กน้อย”
“บังอาจเรียกกูว่าเด็กน้อยนะมึงไอ้อิท ก็ไอ้เด็กน้อยคนนี้ไม่ใช่เหรอที่ถือปืนไปช่วยมึงวันนั้น”
อาทีแสร้งโกรธ เห็นเพื่อนทำหน้าหม่นลงก็หลุดขำออกมาแล้วกระทุ้งศอกใส่สีข้างเจ้าตัวเบาๆ เอ่ยล้อว่าแซวเล่นก่อนจะวิ่งหนีกลับไปทางเรือน
อิทธิเห็นเพื่อวิ่งหนีจึงออกวิ่งตามจนจับตัวไว้ได้แต่ทว่าสองคนกลับสะดุดขากันเองแล้วล้มกลิ้งลงไปที่พื้นหญ้าทั้งสองคน อิทธิใช้ความไวกว่าประคองกอดร่างอาทีไม่ให้กลิ้งไปไกลตัวแม้ว่าตนจะเจ็บอยู่ก็ตาม ที่สุดสองหนุ่มจึงหยุดอยู่กับที่ในท่าที่อิทธิเป็นฝ่ายอยู่เบื้องบนส่วนอาทีนั่นนอนนิ่งอยู่เบื้องล่าง แต่ร่างสองร่างนั่นเกือบจะผสานเป็นร่างเดียวกันด้วยการมีวงแขนที่กอดกันไว้แน่นเป็นสิ่งชื่อม
แสงสวยงามของพระจันทร์สาดส่องลงมายังร่างสองหนุ่มที่บัดนี้กำลังมองจ้องหน้ากันนิ่ง
“ทำไมหัวใจมึงเต้นแรงจังอิท” อาทีเอ่ยถามเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจคนที่กำลังนอนทับร่างตนอยู่
“ทำยังกะหัวใจมึงเต้นเบานักนะ” อิทธิเอ่ยตอบเมื่อสัมผัสได้ถึงแรงเต้นของหัวใจคนอยู่เบื้องล่างตนเช่นกัน
“กะ กู เหนื่อยไง มันเลยเต้นแรง” อาทีเอ่ยปฏิเสธพัลวัน พยายามหลบสายตาคนจ้องมอง อิทธิลอบยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นอาการเพื่อนรักขัดขืนคล้ายกลัวว่าตนจะทำอะไร เด็กหนุ่มได้ทีเอ่ยแซว
“กลัวกูจะจูบมึงอีกหรือไงดิ้นซะไอ้เบื้อก”
“กูไม่ได้กลัวโว้ยแต่กูหนัก แม่งมึงคิดว่าตัวมึงเล็กนักหรือไง ปล่อยกู กูจะไปนอนแล้ว” อาทีพยายามผลักร่างคนที่นอนกดทับตน แต่อิทธินั่นชักอยากแกล้งเล่นซะอย่างนั้นจึงบอกยิ้มๆ
“กูไม่ปล่อย มึงอยากดูพระจันทร์เต็มดวงนักไม่ใช่เหรอ นอนดูมันอยู่ตรงนี้แหละ”
“มึงจะบ้าเหรอ น้ำค้างแรงขนาดนี้ เดี๋ยวได้ไข้ขึ้นกันพอดี”
“กูว่าก่อนไข้จะขึ้นอย่างอื่นมึงจะขึ้นซะก่อนล่ะมั้ง” อิทธิเอ่ยยั่วล้อก่อนจะแกล้งเลื่อนมือไปจับเป้ากางเกงของเพื่อน อาทีสะดุ้งตกใจไม่คิดว่าคนนอนทับจะแกล้งตนด้วยวิธีนี้ จึงดิ้นหนักกระทั่งเป็นอิสระได้จึงลุกไล่เตะคนแกล้งไปกระทั่งถึงเรือนที่แม่นางกำลังจัดที่หลับที่นอนให้อยู่
“สองคนนี้ เมื่อไหร่จะโตกันซักทีนะ ขึ้นมานอนกันได้แล้ว” นางส่งเสียงบอกหนุ่มน้อยทั้งสอง ก่อนจะส่ายหน้านิดๆ เมื่อสองคนบอกขอไปอาบน้ำอีกรอบก่อนเพราะเหนียวตัวกันเหลือเกินกับการวิ่งไล่กันเมื่อครู่

****************************************************************************

เช้าแล้ว อาทิตย์และจิตราแปลกใจที่เห็นรถของไร่จอดอยู่ชานเรือน
“นายไกรคงจะแอบขับมาคืนน่ะสิ คงจะกลัวแม่จนขี้ขึ้นสมองแล้วล่ะมั้งถึงไม่กล้ามาเผชิญหน้า” จิตราเอ่ยก่อน อาทิตย์แอบคิดว่าเป็นใครใครก็คงกลัว ชายหนุ่มไม่อยากเอ่ยออกมาให้มารดาต้องถูกอารมณ์โมโหเข้าครอบงำอีกจึงปัดไปเอ่ยเรื่องอื่น
“ได้รถคืนมาก็ดีแล้วแม่ อย่าสนใจเลยนะว่ามันจะมายังไง เดี๋ยววันนี้ผมไปส่งแม่ที่โรงพยาบาลเสร็จแล้วผมค่อยแวะที่โรงเรียนหาน้องนะครับ”
“อืม ลากคอมันกลับมาที่ไร่ให้ได้ละกัน” จิตราเอ่ยบอก อาทิตย์ไม่แน่ใจสถานการณ์นักจึงถามหยั่งเชิง
“แม่ไม่โกรธน้องแล้วเหรอครับ”
“ทำไม กลัวแม่จะฆ่ามันทิ้งอย่างวันนั้นหรือไง” จิตราถามเสียงนิ่ง วันนั้นหล่อนยอมรับว่าหล่อนไม่สามารถระงับหรือควบคุมอารมณ์ได้เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างวิ่งเข้ามากดทับกระตุ้นให้สติใม่อยู่กับร่องกับรอย ไหนจะช็อกที่พี่สาวกลายเป็นผู้ป่วยนิทรา ไหนจะเกลียดไอ้อีแม่ลูกที่หล่อนตราหน้าว่าเป็นต้นเหตุจนเลือดขึ้นหน้า ไหนจะกลัวที่เห็นภาพหลอนว่าวิญญาณบุตรชายมาหลอกในตอนกลางวันแสกๆ และไหนจะโกรธที่โดนคนขับรถกล้าโกหกอีก ทุกสิ่งอย่างที่รุมเร้าเข้ามาพร้อมกันมันสั่งให้หล่อนหน้ามืดตามัวอยากระบายออกไปแบบไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่หากวันนี้หล่อนเริ่มมีสติรู้เห็นอะไรบ้างแล้ว ในจิตใจหล่อนตอนนี้ที่นึกอยากจะได้คือการที่บุตรชายคนเล็กมาก้มขอขมาในหลายๆ สิ่งหลายๆ ที่ทำโอหังไว้กับหล่อนนั่นเอง
“ก็ถ้าแม่ยังไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ผมก็คงไม่กล้าพาน้องมาที่นี่หรอกนะครับ” อาทิตย์เอ่ยบอกตามตรง การไปหาน้องชายครั้งนี้ก็เพื่อจะถามไถ่ข้อเท็จจริงต่างๆ ให้มันกระจ่างชัดต่อใจตนซะทีว่าทำไมเหตุการณ์ในไร่ที่ตนกลับมาเจอคราวนี้ถึงได้วุ่นวายจนน่าสะเทือนใจได้แบบนี้ รวมถึงอยากให้อิทธิช่วยยืนยันและอธิบายทีว่าแม่นางไม่ใช่คนที่จะมาโกงกินรายได้อย่างที่มารดาตนเอ่ยบอก ในตอนนี้หากเปรียบไปเขาก็เป็นเฉกเช่นคนกลางที่จะผสานเรื่องราวบาดหมางไม่ให้มันฉีกขาดเกินกว่าที่เป็นอยู่ เขามั่นใจว่าเขาสามารถเกลี้ยกล่อมมารดาให้ยอมเปิดหูเปิดตามองอะไรที่เป็นกลางหากว่าเขาได้รับคำยืนยันและคำอธิบายเรื่องราวทั้งหมดจากอิทธิและแม่นาง เขามั่นใจว่าเขาสามารถทำให้มารดาและน้องชายลดทิฐิที่มีให้แก่กันลงได้หากว่าเขามีโอกาสพาทั้งสองมาเผชิญหน้ากันในขณะที่อารมณ์ต่างฝ่ายต่างเย็นลง เขามั่นใจว่าเขาสามารถทำให้สถานการณ์ในไร่เย็นลงได้ก่อนที่ป้าของเขาจะฟื้นขึ้นมา ซึ่งนั่นคือความต้องการสูงสุดของเขา เขาไม่อยากให้ป้าของเขาตื่นขึ้นมาพบกับความสูญเสีย หรือตื่นขึ้นมาพบกับความวุ่นวายที่ร้ายแรงกว่าตอนที่นางได้ปกครองอยู่ด้วยตัวนางเอง เพราะหากมันเป็นเช่นนั้น เขาก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าหากเลือกได้ป้าของเขาเลือกที่จะหลับไปโดยไม่รู้เรื่องราวหรือฟื้นคืนมาปกครองไร่ที่ลุกดั่งไฟอยู่อีก
“ลูกพามันมาให้ได้ก่อนแล้วกัน พนันได้เลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ที่ไอ้อาทีมันจะยอมกลับมา” จิตราคาดการ ใช่ว่าหล่อนจะไม่รู้ว่าสิ่งที่หล่อนทำมันร้ายแรงเพียงใด ยากนักที่บุตรชายคนเล็กจะยอมกลับมาเจอหน้าหล่อนอีก ขนาดแค่หล่อนด่าทอเมื่อไม่พอใจ เจ้าตัวยังเตลิดเปิดเปิงไปค้างอ้างแรมเรือนไอ้อีชาติไพร่นั่นอยู่ทุกค่ำทุกคืน
“ผมจะพยายามครับ” อาทิตย์รับปากแล้วบอกให้มารดาเตรียมตัวเพื่อจะไปโรงพยาบาลกัน

**********************************************************************************
ด้านฝั่งนายศรและนายสินที่ได้รับความคืบหน้าว่าเด็กที่พวกตนกำลังหาทางคิดกำจัดเพื่อระบายแค้นอย่างอาทียังคงไปเรียนตามปกติ ข่าวนี้สองคนได้รับฟังจากปากของส้มเอง ซึ่งกระพัดกระเฟียดมาให้ทั้งคู่ช่วยกำจัดให้อิทธิไปให้พ้นทางตัวเองเสียที เพราะมาขัดมาขวางการเข้าถึงเนื้อถึงตัวคนที่ตนนึกชอบซะเหลือเกิน สองอันธพาลรับปากว่าจะจัดการให้ สุดท้ายจึงมานั่งวางแผนกันอยู่ตอนนี้ ซึ่งส้มได้ออกไปเรียนตามปกติแล้ว
“แล้วถ้าส้มมันรู้ว่าเรากำจัดไอ้อาทีด้วย มันจะไม่โกรธเราหรือพ่อ” สินเอ่ยถามบิดาเมื่อฟังแผนการที่ว่าให้ตัวเองสั่งให้ลูกสมุนที่เคยดักรังแกอิทธิเป็นพวกไปดักฉุดสองหนุ่มน้อยที่หน้าโรงเรียนเพื่อนำไปจัดการให้หายไปจากโลกนี้แบบไร้ร่องรอย
“มึงกับกูยังทำงานกันปกติที่ไร่ ในขณะที่เด็กสองคนนั้นมันหายไป อีส้มมันจะไปรู้ได้ไงว่าเป็นฝีมือเรา” นายศรบอก สินจึงเริ่มคิดตามและเห็นด้วย สุดท้ายจึงยอมผละออกไปเพื่อไปสั่งสมุนที่ไม่ใช่คนงานในไร่นี้ให้ทำตามแผน
หลังสินแยกตัวไปแล้วนายศรหันมองไปยังทิศเรือนของผู้เป็นเจ้านาย นึกขัดใจที่อาทิตย์กลับมาดูแลมารดาตอนนี้ หากว่าชายหนุ่มผู้นี้ไม่มา การกำจัดจิตราอีกคนมันก็คงจะง่ายดายนัก แต่ไม่เป็นไรหรอก เชื่อเหลือเกินว่าอีกนานกว่าอีแก่จันทร์จวงนั่นจะฟื้นคืนได้สติ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป เพราะยังไงตอนสุดท้ายไร่นี้มันต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่แท้ที่สุด หึหึหึ

************************************************************************************

อาทิตย์เข้าเยี่ยมผู้เป็นป้า รู้สึกหดหู่ใจกับภาพที่เห็นจนอดที่น้ำตาไหลไม่ได้ ยิ่งมารดาที่มาด้วยกันนั่นยิ่งแล้วใหญ่ ชายหนุ่มสะท้อนใจที่เห็นเจ้าตัวร้องไห้สะอื้นไม่หยุดขณะนั่งมองร่างป้าของตนที่นอนสงบเฉกเช่นคนไม่รับรู้เรื่องราวใดๆ แล้วทั้งสิ้น จากตอนแรกที่คิดจะผละไปหาน้องชายที่โรงเรียนตอนส่งมารดาที่โรงพยาบาลแล้ว แต่พอคิดอีกทีถึงตอนนี้ก็ท่าจะเจอกับน้องชายลำบากเพราะเจ้าตัวคงจะเรียนหนังสือ ชายหนุ่มจึงอยู่อยู่เป็นเพื่อนมารดาก่อนสักระยะ คิดว่าค่อยไปดักเจอน้องชายตอนโรงเรียนเลิกน่าจะดีกว่า
ส่วนที่โรงเรียนในตอนพักเที่ยง ส้มเดินตรงเข้ามาหาเรื่องอิทธิในโรงอาหารทันทีที่เห็นร่างเด็กหนุ่มเดินคู่มากับอีกคนที่หล่อนยังคงรักอยู่แม้จะโดนคนที่หล่อนต้องการหาเรื่องกล่าวหาว่าเจ้าตัวไม่นึกชอบผู้หญิงก็ตาม
“มาแล้วเหรออีกะเทย ทุกคนในนี้รู้ไว้นะ ไอ้อิทธิเนี่ยมันเป็นกะเทย มันชอบพี่อาทีของฉัน มันตามเกาะตามแกะอยู่ตลอดเวลาทุกคนเห็นมั้ย เนี่ยเหตุที่มันเป็นกะเทยเพราะว่ามันเกิดมาไม่มีพ่อ มันมีแต่แม่ที่เป็นผู้หญิงขี้ประจบสอพลอเลี้ยงมัน มันก็เลยติดเชื้อตอแหลมามากกว่าครึ่ง น่าสงสารเนาะเกิดมากำพร้าแล้วยังเป็นกะเทยอีก อ้าว พวกผู้ชายในนี้มีใครสนใจจะเอาอีกะเทยนี้ไปลงแขกมั้ง เรียงคิวเข้ามาเลยจ้า เดี๋ยวฉันจัดคิวให้” สาวน้อยป่าวประกาศเสียงดังทันทีที่เดินมาถึงร่างของคนที่ทำหล่อนทุรนทุรายเพราะแค้นใจมาแล้ว
อาทีกับอิทธิมองหน้ากันในตอนที่มีเพื่อนนักเรียนเริ่มหันมาสนใจบ้างแล้ว อิทธินั่นพยามใจเย็นเอาไว้เพราะเริ่มชินชากับการโดนหาเรื่องแล้ว ส่วนอาทีนั้นโกรธเคืองแทนเพื่อนจนเป็นฝ่ายเอ่ยตอบโต้เอง
“เลิกหาเรื่องคนอื่นเถอะส้ม อยู่เฉยๆ ได้มั้ย เรื่องที่เธอพูดอิทมันเสียหายนะ”
“พี่อาที นี่พี่อาทีปกป้องอีกะเทยเหรอคะ ทุกคนดูสิ ว่าอีกะเทยอิทมันตอแหลขนาดไหน มันทำให้ผู้ชายเข้าข้างมันได้” ส้มออกจริตเรียกร้องความสนใจพิ่มขึ้น อาทีขยับปากจะพูดอะไรต่อ อิทธิเอ่ยติงไว้
“ส้มมันอยากมีเรื่องกับกู ก็ปล่อยให้กูจัดการเองเถอะอาที มึงอย่ายุ่ง” เอ่ยเสร็จเด็กหนุ่มก็หันมาทางคนหาเรื่อง ซึ่งกำลังยืนเบ้ปากเชิดคิดว่าตนกำลังเป็นผู้ชนะในเกมนี้ได้อย่างน่าตบ

แล้วคิดว่าอิทจะตบมั้ย หุหุ รอติดตามตอนต่อไปครับ

วันที่ 25 นี้ นิยายเรื่องนี้ก็จะจบลงแล้ว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
ส่วนใครที่ต้องการสะสมผลงานนี้ในแบบพ็อคเก็ตบุ๊ค
วันนี้เปิดจองแล้วนะครับ ติดตามอ่านรายละเอียดที่กระทู้นี้ครับ
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-04-2011 09:28:44
 :กอด1: :กอด1:


สงสารอิทกับอาที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: luxilove ที่ 16-04-2011 10:35:06
 :L1: :3123: :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 16-04-2011 11:07:09
หาาาา

ใกล้จะจบแล้วหรอเนี่ยยย

จะได้กันมั้ยชาตินี้ :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 16-04-2011 11:37:27
เข้ามาจองเรื่องนี้
เรื่องกำลังเข้มข้นเลยอ่ะ ตบเลยอิท 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 16-04-2011 13:42:34
พึ่งเข้ามาอ่านครับ  ปัจจุบันถึงตอนที่ 6
คืออยากถามว่านักเขียนเป็นนักเขียนบทละครให้กับช่อง 7 หรอครับ ทำไมเรื่องมันถึงได้   โอ้ย  อ่านแล้วเจ็บแปล๊บที่ใจอ่ะ  ชีวิตจริงคงไม่มีใครเลวทั้งตระกูลแบบนี้หรอกเนาะ
แต่ชอบครับ ดราม่าดี
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 16-04-2011 14:06:50
ตอน7
ทั้งอ่านไป ทั้งทำใจไป พูดในใจว่า 'กรูจะอ่านต่อไหวมั้ยวะ อีกนิดเดียว อีกนิดเดียวก็หมดตอน สู้ๆ'

มันจะ ทรมารอะไรขนาดนี้  มีใครเป็นเหมือนกันบ้าง  ผมเกลียดที่สุดก็เรื่องที่มักเข้าใจผิดกันนี่แหล่ะ  เฮ้อ!
อ่านต่อดีก่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: pitsanu33 ที่ 16-04-2011 15:00:50
ยังกะสงคราม :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 16-04-2011 15:20:16
อย่าตบนะอิท   


เต๊ะผ่าหมากเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-04-2011 16:51:57
โอยย มันยังปวดหัวใจ
จะเศร้าไหมหนอ อาทีของช้านน อย่าเป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 16-04-2011 16:57:52
ตอน 13
ไร้คำบรรยายในความเลววววววววของไอ้ _าทิตย์  <---( _ =หมา) จริงๆ

ถ้าจะหั่นมันเป็นพันชิ้นยังไม่หายปวดตับเลย 
ปั๊ดโท่ คุณบอยก็     
สงสารอิทหน่อยเถอะนะ     
ฮึก! *ปาดน้ำตา*
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 16-04-2011 18:31:16
ตอน18
แค่เจ้าของไร่ส้ม ทำสูงส่งอย่างกะ ชินวา กรุ๊ป ใน บอยส์โอเวอร์เฟลาเว่อ 

อยากให้อาที กะ อิท หวานแหววกันต่อหน้า ไอ้ ซันเด ให้มันอิจฉาใจขาดไปเลย ฮื้ย!

ป.ล (อย่าถือสาคนอินจัดเลยครับ)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 16-04-2011 20:03:27
ไม่ไหวแล้ววววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 16-04-2011 20:22:46
อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วหรือครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 16-04-2011 21:41:04

๑๒๗ + ๑ = ๑๒๘
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 17-04-2011 00:32:24
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก ใกล้จบแล้วเหรออออออ ม่ายยยยย!! ยังไม่จู้ฮุ๊กกรู๊ววววกันเบยยยยยย

อยากจะสองขาคู่อินังส้ม(เน่า) กับพ่อและพี่ชายมันซะจริงงงงงงงง

อิทธิเอ๊ยยย! สู้มันนะ เอาใจช่วย T.T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: yut1402 ที่ 17-04-2011 01:18:10
 :o12: สงสาร น้อง อา ที  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 17-04-2011 20:50:52
เอ๋ มันจะจบอิท่าไหนเนี่ย :m21:

รออ่านดีกว่า

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 17-04-2011 22:39:02
อ่าวรวดเรียวจบแบบลุ้นสุดกู่ครับ

สมกับชื่อ Bboyseries จริงๆ คุณภาพเต็มที ดราม่าเต็มเรื่อง ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-04-2011 22:40:26
โอ้ยยยยย ลุ้นมากมายยยยยย

อาทีจะตายจริงๆ เหรอ ใจร้ายไปมั้ยอ่ะคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 31 16.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 17-04-2011 23:32:26
ตอนที่ 32
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

อิทธิเดินตรงไปยังร่างส้มช้าๆ ส้มเริ่มเกิดอาการฝ่อเมื่อมองเห็นสีหน้าและแววตานิ่งๆ ของคนที่เดินตรงมาหา อาการหน้าเชิดของหล่อนหายไปเมื่อหล่อนเดินถอยหลังหนีการเดินเข้าหาพร้อมเอ่ยถามเสียงสั่น
“แกคิดจะรังแกผู้หญิงเหรอไอ้อิทธิ”
“ทำไมกลัวเหรอ” อิทธิถามเสียงเยาะ
“ฉันไม่ได้กลัว แต่แกเป็นผู้ชายแกจะมารังแกผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้นะ” ส้มเอ่ยออกไป ในใจเริ่มสั่นกับท่าทีและแววตาของอิทธิที่จ้องมองพลางเดินเข้าหา
“ไหนตอนแรกบอกว่าฉันเป็นกะเทยไง” อิทธิถามใหม่ เห็นคำพูดแบบลิ้นสองแฉกแล้วนึกสมเพช ส้มออกอากรละล่ำละลัก ไม่รู้จะเถียงยังไง นึกโกรธตัวเองที่อารมณ์กลัวทำให้พูดอะไรไม่คิด อิทธิเห็นอาการจึงเอ่ยขู่
“ถอนคำพูดและก็ขอโทษฉันต่อหน้าทุกคนเดี๋ยวนี้ส้ม ไม่อย่างนั้นผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ ฉันต่อยหน้าแหกแน่ถ้าคิดจะมาหาเรื่องกันแบบนี้”
“ไม่ เรื่องอะไรฉันจะต้องขอโทษแก ฉันไม่กลัวแกหรอก เพราะหากแกทำอะไรฉันก็แสดงว่าแกเป็นกะเทยจริงๆ ไม่มีผู้ชายคนไหนหรอกที่จะทำร้ายผู้หญิงได้ลงคอนอกจากผู้ชายหน้าตัวเมีย” ส้มระงับอารมณ์กลัวได้อยู่เพราะเชื่อว่าคนอย่างอิทธิคงไม่กล้าทำอะไรหล่อนแน่
“งั้นพ่อเธอก็เป็นผู้ชายหน้าตัวเมียหรือกะเทยอย่างที่เธอพูดสิส้ม” เสียงอาทีเอ่ยขึ้น หลายคนที่สนใจและลุ้นอยู่ว่าอิทธิจะแก้ปัญหาการโดนระรานยังไงจึงหันไปสนใจหนุ่มน้อยผู้นั้นแทน
“พี่อาทีหมายความว่ายังไง” ส้มถามเสียงสะบัด นึกไม่พอใจที่อาทีเอ่ยว่าบิดาตนเช่นนั้น
“ก็หมายความอย่างที่พูด” อาทีบอกแล้วเดินมาหยุดเคียงร่างอิทธิ เอ่ยอธิบายคำพูดให้ชัดแจ้งขึ้น
“ฟังนะทุกคน หากนิยามที่ผู้ชายรังแกผู้หญิงคือผู้ชายหน้าตัวเมีย พ่อของส้มก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ ส้มเป็นลูกหัวหน้าคนงานในไร่ฉัน นายนั่นชื่อนายศร ซึ่งมีพฤติกรรมอันธพาลและกร่างไปทั่ว อย่างที่ส้มเป็นตอนนี้น่ะแหละ เห็นแบบนี้ทุกคนคงไม่คิดว่าฉันโกหกหรอกนะ นายศรตบตีและทำร้ายแม่ของไอ้อิทซึ่งเป็นผู้คุมบัญชีในไร่ของฉัน รวมถึงคนงานหญิงคนอื่นๆ ที่เขาไม่พอใจ ฉันว่าคำว่ากะเทยหรือหน้าตัวเมียยัยส้มนี่คงจะเก็บกดที่ไม่สามารถประนามพ่อของตัวเองได้เลยมาลงกับไอ้อิท ซึ่งเป็นเพื่อนรักของฉัน ไอ้อิทเป็นผู้ชาย ฉันก็เป็นผู้ชาย ผู้ชายที่ยัยส้มพยายามหว่านเสน่ห์ให้สารพัด แต่ดูจากนิสัยทั้งพ่อทั้งลูก ทุกคนคิดว่าฉันควรจะสนใจมั้ย ไอ้อิทไม่ได้เกาะแกะฉัน มันเป็นห่วงกลัวว่าฉันจะหลงเสน่ห์ลูกอันธพาลเข้ามันก็เลยคอยเตือนสติฉันอยู่ตลอด แต่ยัยส้มมักคิดว่าตัวเองโดนขัดขวางจึงพยายามหาเรื่องไอ้อิทตลอดเวลา ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้ถือซะว่าฉันจะประกาศให้ทุกคนเป็นพยานให้ฉันวันนี้เลยละกันว่าฉันไม่มีวันนึกรักยัยส้มได้อย่างเด็ดขาด รวมถึงฉันขอเตือนผู้ชายทุกคนที่กำลังสนใจผู้หญิงคนนี้ ขอให้เลิกคิดซะเพราะผู้หญิงคนนี้เป็นลูกสาวของอันธพาล เป็นลูกสาวของกะเทย เป็นลูกสาวของผู้ชายหน้าตัวเมีย ถ้าไม่อยากให้ชีวิตวุ่นวายไปให้ไกลเธอให้มากที่สุด ผู้หญิงก็เหมือนกัน หากจะคบยัยส้มเป็นเพื่อน ก็อย่าจริงใจกับเธอมากนัก เพราะคนอย่างผู้หญิงคนนี้ไม่เคยจริงใจกับใคร ดูง่ายๆ ว่าแม้เธอจะบอกว่ารักว่าชอบฉัน แต่พอเห็นหน้าพี่ชายฉันอย่างพี่อาทิตย์รุ่นพี่ของที่นี่ ผู้หญิงคนนี้ก็มักจะวิ่งเกาะแกะได้อย่างไม่มียางอาย นี่เป็นความหวังดีจากฉันที่ฝากเตือนทุกคน ใครจะเชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ ไปไอ้อิท มึงไม่ต้องจัดการอะไรทั้งนั้น กูจัดการให้แล้ว”
เอ่ยจบอาทีก็ลากแขนเพื่อนที่กำลังยืนอึ้งไปพร้อมกับคนหมู่มากไปทางอื่น ส่วนส้มนั้นแทบยืนไม่อยู่หลังจากที่โดนอาทีสาดน้ำลายใส่มาทั้งถังแบบไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิ้ว สาวน้อยอยากจะกรี๊ดแต่รู้สึกจุกในอกจนกรี๊ดไม่ออก ยิ่งได้ยินเสียงซุบซิบจากคนหลายคนหล่อนก็แทบอยากจะเอาหน้าแทรกแผ่นดินมุดหายจากที่ตรงนั้น
“จริงๆ พี่อาทีพูดถูก ฉันเคยเห็นส้มควงผ้ชายหน้าตาดีประกาศแจ้วๆ ว่าเป็นแฟน น่าจะเป็นพี่อาทิตย์ที่พี่อาทีบอกน่ะแหละ เพราะหน้าตามีส่วนคล้ายกันอยู่ หลายใจนะเนี่ยยัยเนี่ย”
“จริง ฉันก็เห็นนะวันนั้น”
“โห่นางวันทองนี่”
“คนไม่สวยนิสัยไม่ดีเพิ่งเคยเจอ”
“พ่อก็ชั่ว ลูกก็ร่าน ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ”
   “จะแปลกอะไรล่ะเธอมีพ่อเป็นกะเทย ลูกสาวก็ตอแหลแบบนี้แหละ”
   นั่นเป็นเพียงแค่ถ้อยคำบางส่วนที่ได้ยินก่อนที่สาวน้อยจะวิ่งน้ำตาอาบแก้มไปหาที่นั่งระงับอารมณ์โกรธและความรู้สึกอายใต้ร่มไม้ใหญ่เพียงลำพัง
   “พี่อาที ฉันอุตส่าห์ปกป้องพี่ไม่ให้พ่อกับพี่สินทำร้าย แต่พี่ทำร้ายฉันเสียเอง ดีล่ะ ฉันจะไม่ปกป้องพี่อีกแล้ว ฉันจะให้พ่อกับพี่สินจัดการพี่กับไอ้อิทธิซะ ไอ้พี่บ้า ไอ้พี่ทุเรศ ไอ้ๆๆ ฮือ” สาวน้อยร้องห่มร้องไห้อย่างเคียดแค้น คิดเอาไว้ว่าจะไม่ขัดขวางการกระทำใดๆ ของบิดาและพี่ชายอีกเด็ดขาด

***********************************************************************************************

ตกเย็นอาทิตย์มาดักพบน้องชายที่หน้าโรงเรียนจริงๆ ตอนแรกก็คิดว่าจะไม่เจอเพราะหลังสัญญาณเลิกเรียนดังขึ้นนานนับครึ่งชั่วโมง ร่างน้องชายก็ยังไม่เดินออกมาให้เห็น กระทั่งเมื่อคิดจะกลับจึงได้เห็นว่าน้องชายกำลังเดินหยอกล้อมากับอิทธิ
ภาพความสนิทสนมเบื้องหน้าทำชายหนุ่มคิดถึงคำพูดของส้ม ในตอนหนึ่งเห็นอิทธินั่งลงผูกเชือกรองเท้าให้น้องชายตนแล้วเกิดสะท้านใจอย่างประหลาด แต่ก็ทำใจให้นิ่งไว้อดทนยืนรอให้ทั้งคู่เดินมาจนถึงหน้าโรงเรียนจึงพาร่างสูงออกไปยืนขวางเอ่ยทัก เห็นชัดว่าสองคนข้างหน้าเกิดอาการชะงัก
“ทำอะไรกันอยู่ โรงเรียนเลิกตั้งนานแล้วทำไมเพิ่งออกมากัน”
“มาทำไม” อาทีเป็นคนแรกที่ตั้งสติเอ่ยถามพี่ชายเสียงห้วน ส่วนอิทธินั้น แม้จะตกใจตอนแรก แต่เมื่อคิดว่าคนที่ยืนข้างหน้าคือศัตรูอีกหนึ่งคนจึงเรียกสติกลับคืน ยืนนิ่งๆ อ่านสถานการณ์
“มารับแกกลับไร่” อาทิตย์เอ่ยตอบตรงๆ เห็นน้องชายยังไม่ตอบโต้ จึงหันไปทักอีกคนบ้าง
“สบายดีเหรออิทธิ”
“ร่างกายผมดูสบายดีมั้ยล่ะ” อิทธิตอบยียวน เพราะหากเขายืนส่องกระจกตอนนี้ก็คงจะเห็นรอยช้ำต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามตัวหลายจุด แต่คนตั้งคำถามเมื่อครู่นี่สิ เห็นหรือแกล้งไม่เห็นกันแน่ถึงได้ถามอะไรโง่ๆ ออกมาแบบนั้น
“ฉันถามดีๆ นะ ตอบให้ตรงคำถามจะลงไปดิ้นตายใช่มั้ย” อาทิตย์โต้กลับบ้าง จะกี่วันนิสัยยียวนคนตรงหน้าก็ไม่เปลี่ยน แล้วอย่างนี้การเจราจาหาข้อยุติมันจะได้ผลมากน้อยเพียงใดกัน
“โทษที ผมลืมไปว่าผมกำลังพูดอยู่กับคนโง่ คนหูเบา จะพูดจะจาอะไรก็ควรให้มันตรงประเด็นเข้าไว้ เพราะพูดอะไรให้คิดก็คงจะตามไม่ทันล่ะสินะครับ” อิทธิยิ้มเยาะกวนประสาท เป็นสุขนักกับการได้เริ่มต้นเชือดเฉือนคนตรงหน้าด้วยคำพูด ยิ่งเมื่อเห็นเจ้าตัวยืนขบกรามจนเส้นเลือดปูดให้เห็นตรงขมับก็ยิ่งสาแก่ใจ แต่แค่นี้มันยังน้อยไป ไหนๆ ก็มาให้เล่นเกมกวนประสาทถึงที่แล้ว ก็จะสนองให้จิตหลุดกันไปสามวันเจ็ดวันเลยเชียว
“ขอโทษนะครับที่ต้องถาม มารับไอ้อาทีไปศาลาสวดศพที่วัดไหนเหรอครับ เดาว่าคุณจิตรคงไม่ตายดีนะครับ”
หนุ่มน้อยเริ่มต้นก่อกวนคนตรงหน้าด้วยการถามไถ่ในสิ่งที่สองพี่น้องไม่คิดว่าจะได้ยิน อาทีนั่นพอรับได้เพราะเข้าใจอารมณ์แค้นในใจของเพื่อน แต่อาทิตย์นี่สิ แทบจะกระโดดขย้ำคอคนพูดเมื่อได้ยินเจ้าตัวเอ่ยจบ ติดที่ว่าตัวเองต้องการมาที่นี่เพื่อเจรจาหาข้อยุติต่างๆ จึงพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ แล้วเอ่ยตอบโต้นิ่งๆ
 “อย่าลามปามให้มันมากนักอิทธิ ฉันมานี่ฉันมารับน้องชายฉันกลับบ้าน แม่ฉันยังไม่ตายและยังสบายดีอยู่”
“อ๋อเหรอครับ สบายดีแค่ตัวน่ะสินะครับ จิตใจคงวิปริตไปแล้วขนาดจะฆ่าได้แม้กระทั่งลูกในไส้ หมามันยังรักลูกมัน แต่การกระทำของแม่คุณผมไม่รู้จะเปรียบกับอะไรดี”
อิทธิยังคงตอบโต้ให้เจ็บแสบได้อีก คราวนี้อาทิตย์จึงเริ่มมีโมโหบ้าง น้ำเสียงจึงเริ่มกร้าวออกมาอย่างน่ากลัว
“ขืนนายเอ่ยถึงแม่ฉันในทางที่ไม่ดีอีก เราได้เห็นดีกันแน่อิทธิ”
“นึกว่าผมกลัวหรือไง ที่จริงคุณไม่น่ารีบมาตามไอ้อาทีหรอก เพราะอีกไม่กี่วันผมพามันไปส่งที่ไร่แน่ พร้อมกับประกาศให้คนที่นั่นรู้ว่าผมกับมันเป็นอะไรกัน” อิทธิขึ้นเสียงใส่บ้าง คิดเอาไว้แล้วว่าวันหยุดนี้จะบุกไปฉีกอกจิตราถึงที่ไร่เพื่อไถ่ถอนความแค้นทั้งหมดที่มันจุกอยู่ที่อกให้ระบายออกไปบ้าง จากนั้นจึงจะตามไปจัดการกับนายศรกับนายสิน สองพ่อลูกอันธพาลที่ในใจนึกเคียดแค้นพอๆ กับจิตรา
“นายหมายความว่ายังไง” อาทิตย์ถามเสียงเบา คำว่าเป็นอะไรกันที่ได้ยินมันช่วยสนับสนุนคำพูดของส้มได้ดียิ่งนัก
“นั่นยังไงล่ะ ผมลืมตัวอีกแล้วว่ากำลังสนทนากับคนโง่อยู่ จะบอกให้ฟังตรงๆ ก็ได้ว่าผมกับไอ้อาทีเป็น…”
“อย่าเพิ่งอิท”
อาทีเอ่ยแย้งเพื่อนในตอนที่เจ้าตัวกำลังคิดทำตามแผนการ หนุ่มน้อยใช้เวลามองพินิจพี่ชายตอนที่เห็นเจ้าตัวกำลังระงับอารมณ์โกรธ รู้สึกว่าพี่ชายของตนนิ่งผิดสังเกตกับคำถากถางของเพื่อนตน บางทีคนๆ นี้อาจจะมาหาข้อยุติอะไรก็ได้ จึงบอกให้คนข้างอย่าเพิ่งเอ่ยอะไรที่เป็นการจุดชนวนความเคียดแค้นและชิงชังให้แก่กันมากไปกว่านี้
อิทธิกับอาทิตย์เพียงแต่มองสบตากันเมื่อสิ้นคำของอาที สองคนแทบไม่ละสายตากันเลยในช่วงเวลานี้ เพราะเอาเข้าจริงๆ พอได้มองเห็นใบหน้าและแววตาของอาทิตย์จริงๆ อิทธิก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองรู้สึกวูบไหวอย่างประหลาด ทำไมนะ ทำไมตอนไม่เจอหน้าคนๆ นี้เขาถึงนึกเกลียด นึกโกรธ จนคิดว่าสามารถจะทำอะไรกับเจ้าตัวก็ได้ แต่พอมาได้ยินเสียง มายืนจ้องตากันซึ่งๆ หน้าแบบนี้กลับต้องมีอาการวูบไหวได้อย่างนี้ ส่วนอาทิตย์นั้นหัวใจแทบหยุดเต้นตอนที่คิดว่าจะได้ยินสิ่งที่ไม่อยากได้ยินออกมาจากปากของอิทธิ  เพราะหากวัดความรู้สึกจริงๆ เขายังพอทำใจรับได้ในตอนที่ได้ยินสิ่งนี้จากปากของส้ม แต่หากมาได้ยินจากปากของอิทธิเอง มันคงจะสร้างความช้ำใจได้ดีพิลึก อิทธิเคยเป็นของเขา ความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนนั้นเขายังไม่ลืมมันง่ายๆ แล้วจะให้เขามายืนฟังว่าเจ้าตัวมีความสัมพันธ์แบบนี้กับน้องชายเขาอีกคน เขาจะทนได้ยังไงกันล่ะ
อาทีมองพี่ชายกับเพื่อนรักมองสบตากัน เข้าใจได้เลยถึงความรู้สึกที่ทั้งสองพยายามเก็บซ่อนมันเอาไว้ ภายใต้ความแค้นของเพื่อนรักเขาเชื่อเหลือเกินว่าพี่ชายเขากำลังสร้างความสับสนให้คนๆ นี้ตกอยู่ในภาวะสับสนว่าจะเอายังไงดีต่อไป ส่วนพี่ชายตนภายใต้ท่าทีร้ายๆ นั้นเขาก็เชื่อเหลือเกินว่าคนที่ยืนข้างๆ ตนได้เข้าไปมีอิทธิพลเหนือใจอยู่ไม่มากก็น้อย
“พี่กลับไปก่อนพี่อาทิตย์ ผมยังไม่พร้อมกลับไปที่ไร่ตอนนี้ ผมขอทำใจสักระยะก่อนพี่ก็รู้ก็เห็นในสิ่งที่แม่ทำกับผม ตอนนี้ผมสบายดี มีข้าวกิน มีที่หลับที่นอน และก็สามารถมาเรียนได้ตามปกติ พี่ไม่ต้องเป็นห่วง ผมพร้อมเมื่อไหร่ผมจะกลับไปเอง ฝากดูแลแม่ด้วย ผมหวังว่าสติท่าจะกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ดังเดิม”
ประโยคสุดท้ายก็ไม่วายที่อาทีจะเป็นห่วงมารดา จะว่าไปการกล่าวหาว่ามารดาสติหลุดไปคนเดียวก็ไม่ค่อยจะถูกนัก เพราะเหตุการณ์คืนก่อนจะเกิดเรื่องเขาเองก็ใช่ว่าจะควบคุมสติได้ เพราะหากแม่นางไม่เข้ามาคัดค้านการหันลำปืนไปยังร่างมารดา เขาก็ไม่อยากจะคิดว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นบ้าง ดีไม่ดีเขาอาจจะกลายเป็นฆาตรฆ่ามารดาผู้ให้กำเนิดก่อนที่มารดาเขาจะกลายเป็นคนเข่นฆ่าลูกในไส้เสียด้วยซ้ำ เขากับมารดาอาจจะผูกเวรผูกกรรมกันไว้ตั้งแต่ชาติที่แล้วและยังชดใช้ให้แก่กันยังไม่หมดก็เป็นได้ชาตินี้ถึงต้องตามมามีเรื่องมีราวให้ต้องถึงขั้นคิดจะฆ่าจะแกงกันกันได้ลงคอ
  “แกกับแม่ต้องคุยกันนะอาที ฉันไม่ยอมให้แกกับแม่ตกอยู่ในภาวะแบบนี้หรอก แกไว้ใจฉันได้มั้ยว่าครั้งนี้ฉันจะทำให้แม่เข้าใจแก” อาทิตย์หยุดความสนใจอิทธิเอาไว้แล้วหันมาแกลี้ยกล่อมน้องชาย อิทธิยอมสงบปากสงบคำ มองดูสองพี่น้องโต้แย้งปัญหากัน
“ขนาดป้าจันทร์แม่ยังไม่ฟังเลย นับประสาอะไรกับพี่ล่ะพี่อาทิตย์”
“ที่ผ่านมาฉันยังไม่เริ่มคุยกับแม่อย่างจริงๆ จังๆ เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายมาขนาดนี้”
“ผมกับแม่มันมาสุดทางที่จะพูดกันดีๆ ได้แล้วล่ะ ผมไม่อยากให้พี่ผิดหวังหากพี่ทำไม่สำเร็จ”
“ทำไมถึงพูดแบบนั้น แกกับแม่สายเลือดเดียวกันนะโว้ย ยังไงมันก็ตัดกันไม่ขาดหรอก”
“แต่แม่พยายามจะฆ่าผม พี่ก็เห็น”
“แกเองก็เคยคิดจะยิงแม่ไม่ใช่เหรอ แล้วลองถามตัวเองสิว่าตอนอารมณ์เย็นลงแบบนี้แกจะทำอย่างนั้นได้อีกมั้ย ซึ่งแม่ก็คงจะเหมือนกัน ตอนนี้ท่านก็อารมณ์เย็นลงแล้ว ท่านคงไม่คิดจะฆ่าแกได้ลงคอแล้ว ตอนนี้มันเป็นตอนเดียวที่แกกับแม่ต้องคุยกัน ต้องตกลงกันให้เข้าใจกัน”
“ใครเล่าเรื่องที่ผมจะยิงแม่ให้พี่ฟัง”
“แม่บอกเอง”
“คงใส่ไฟไปมากกว่าครึ่งล่ะสิ”
“นั่นมันเรื่องของแม่ แม่จะใส่ไฟใครยังไง หากฉันไม่เชื่อไปซะหมด เดี๋ยวไฟนั่นมันก็ดับไปเอง”
“จะบอกว่าตัวเองเลิกหูเบางั้นเหรอครับ” ถึงตอนนี้อิทธิอดแดกดันไม่ได้ เป็นเหตุให้อาทิตย์ต้องหันมากำราบ
“อย่าแส่ก่อนเวลาอันควรได้มั้ย อยู่เฉยๆ ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะลืมหรอก นายได้คุยกับฉันอีกยาวแน่”
อิทธิเพียงย่นหน้าให้ขี้เกียจตอบโต้ เพราะเริ่มเห็นคนโง่ในสายตาพูดจาเข้าทีก็ตอนนี้ จึงยอมยืนฟังต่อไปเงียบๆ
“ถ้าจะให้ผมเชื่อใจพี่พี่จะต้องเล่าในสิ่งที่แม่เล่าให้พี่ฟังทั้งหมด ผมจะดูซิว่าแม่บอกกับพี่ว่ายังไง แม้ว่าผมจะมีคำตอบแล้วก็เถอะ” อาทีบอกพี่ชาย ต้องการให้ฝ่ายนั้นเล่าเพราะอยากได้ยินจากปากเจ้าตัวเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่ามารดาจะต้องพูดดีเข้าตัวแล้วยกความชั่วให้คนอื่น ซึ่งมันก็เป็นตามที่คิดเมื่อพี่ชายเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังจนจบ
“แล้วพี่เชื่อมั้ยว่าแม่นางจะโกงไร่เราจริงๆ” เด็กหนุ่มถามขึ้นใหม่ในตอนที่ฟังทุกอย่างจนสิ้น
อาทิตย์ยังไม่ตอบน้องชายในทันที ชายหนุ่มหันมามองหน้าอีกคนที่ยืนอยู่ด้วย เห็นเจ้าตัวตกอยู่ในอาการของคนที่กำลังระงับความโกรธ เข้าใจว่าคงกำลังชิงชังที่มารดาตนน่ะแหละ
“กำลังโกรธแม่ฉันอยู่ใช่มั้ย” ชายหนุ่มตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น
“ขนาดผมเอ่ยถึงแม่คุณในทางไม่ดีคุณยังโกรธ แล้วผมจะไม่โกรธได้ยังไงล่ะครับ แม่ผมไม่เคยโกงกินรายได้ของไร่ แม่ผมไม่เคยทรยศคุณจันทร์ การที่คุณจันทร์ต้องเข้าโรงพยาบาลก็เพราะแม่คุณน่ะแหละที่มาร้ายใส่แม่ผมจนคุณจันทร์ต้องเข้ามาห้ามแล้วคุณจิตรผลักกระเด็นล้มกระแทกพื้นเรือน แล้วที่แม่คุณพาพวกมารื้อถอนเรือนผมกับแม่ผมทิ้ง ผมยอมรับว่าแม่คุณเกลียดผมกับแม่ผม แต่มันเป็นความเกลียดที่สะสมมานานแล้วตั้งแต่ผมยังไม่เกิด แต่แม่คุณหาทางจัดการผมกับแม่ไม่ได้เพราะคุณจันทร์คอยรั้งไว้ แต่เมื่อคุณจันทร์ไม่รับรู้อะไรในตอนนี้แม่คุณก็เลยฉวยโอกาสมาระบายความแค้นที่อัดอั้นมันมากว่าสิบปียี่สิบปี ผลที่ได้มันจึงรุนแรงอย่างที่คุณเห็นและรับรู้ตอนนี้ ผมกับแม่โดนทำร้าย ผมกับแม่ไร้ที่ซุกหัวนอน หากน้องคุณและลุงไกรไม่ยื่นมือมาช่วย ผมกับแม่ก็อาจจะกลายเป็นผีเฝ้าไร่สมใจแม่คุณไปแล้ว” อิทธิเอ่ยระบายในความจริงที่อัดอั้น ระหว่างที่พูดน้ำเสียงก็สั่นเครือไปด้วย รวมไปถึงนัยน์ตาก็เริ่มซึมด้วยหยดน้ำ เพราะนึกถึงภาพสะเทือนใจที่เรือนทั้งหลังและทรัพย์สิน เสื้อผ้า ข้าวของทั้งของตนและของมารดาถูกทำลายลงต่อหน้าต่อตา และภาพที่สะเทือนใจยิ่งกว่าก็คือภาพที่มารดาตนโดนทำร้ายด้วยการโดนจิกเส้นผมจนต้องร้องห่มร้องไห้
อาทิตย์สะเทือนใจในสิ่งที่รับรู้ ก็นี่ไงเล่าคือสิ่งที่เขาต้องการอยากจะฟัง ชายหนุ่มเห็นน้ำตาของอิทธิไหลอาบลงบนแก้ม ลืมตัวไปชั่วขณะว่าน้องชายตนยืนอยู่ด้วยจึงยกมือขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้ฝ่ายนั้นพลางถอนหายใจเบาๆ
อาทีเห็นภาพตรงหน้าอดทำเสียงในลำคอเป็นสัญญาณบอกพี่ชายไม่ได้ว่าตนก็กำลังยืนอยู่ด้วยตอนนี้  นั่นแหละ อาทิตย์จึงชะงักแล้วรีบชักมือกลับรีบเอ่ยแก้เก้อ
“ฉันแค่สงสารเพื่อนแก ปกติไม่เคยเห็นขี้แยขนาดนี้”
“ให้ใครสักคนมาทำร้ายและตบตีแม่คุณต่อหน้ามั้ยล่ะ อย่ามาว่ากันหน่อยเลย” อิทธิเอ่ยตอบโต้อย่างนึกหมั่นไส้ในท่าทีแก้เก้อของพี่ชายเพื่อน นึกโกรธตัวเองอยู่ไม่น้อยที่ไม่รู้จักปัดมือจ้าตัวออกก่อนที่จะสัมผัสถึงใบหน้าตน เสียเชิงชะมัด เขาต้องโกรธต้องเกลียดผู้ชายคนนี้สิถึงจะถูก จะสับสนไปไหนนะหัวใจ
“ไอ้ฉันก็นึกว่าแม่ผัวกับลูกสะไภ้จะไม่ถูกกันแค่ในนิยายหรือในละครนะ ไม่น่าเชื่อว่าจะมาเจอกับตัวเองจริงๆ” อาทิตย์อดเอ่ยเปรียบเปรยไม่ได้เมื่อเห็นลมหายใจเข้าออกของอิทธิดูจะแช่งชักหักกระดูกมารดาตนเหลือเกิน อาทีทำหน้าฉงนหันมองหน้าเพื่อนรัก ยังไม่เข้าใจความหมายที่ชายเอ่ย แต่กลับอิทธินี่สิ ตกใจจนหน้าซีด เพราะเข้าใจความหมายของอาทิตย์ได้ดี
“ปากพล่อยนะคุณอาทิตย์” เด็กหนุ่มว่าค้อน ไม่รู้หรอกว่าอาทีจะเข้าใจความหมายหรือไม่ รู้แต่ว่าตอนนี้ตัวเองรู้สึกทั้งโกรธทั้งอายจนไม่รู้จะวางสีหน้ายังไง ส่วนอาทิตย์นั่นได้แต่ยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้ ไม่สงไม่สนหรอกว่าที่ตรงนี้จะมีน้องชายยืนอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้ก็ต้องถูกปิดเผยมาอยู่ดี เขายังไม่รู้ว่าใครจะยินดียินร้ายรับมันได้เท่าไหร่ รู้แค่เพียงว่าตอนนี้อิทธิคือคนที่หัวใจเขาต้องการ หากเขาทำให้น้องชายกับมารดาหันมาดีกันได้การที่เขาจะทำให้คนรอบข้างยอมรับสถานะการเป็นคนรักกันระหว่างเขากับอิทธิก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากนัก เพราะสองเรื่องนี้ที่เขาคิดจะจัดการหากวัดบริบทรอบข้าง ความยากง่ายมันก็ไม่ต่างกันมากมายเลยสักนิด

อาทิตย์จะทำสำเร็จหรือไม่ ติดตามตอนต่อไปจ้า
ฝากผลงานรวมเล่มด้วยนะครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-04-2011 23:52:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
อาทิตย์สู้ๆ อาทิตย์สู้ตาย อาทิตย์ไว้ลาย สู้ตายสู้ๆ
ขอให้ดีกันได้เถอะ ถึงเรื่องนี้จะ มาม่า มากมาย
แต่แหม o18 มีแซวหวานๆเล็กๆ (เล็กจริงๆ) ก็ดีใจแล้ว
ชอบจริง แม่ผัวลูกสะใภ้ตีกัน ฮิ้ววววววววววว
จะรอตอนต่อไปค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 18-04-2011 00:01:02
เย้ เย้ มาต่อแล้ว สงสารอิทธิจังง่ะ

อยากให้อิทธิมีความสุขบ้าง แบบนี้มันเกินไปแล้วนะ อิชั้นไม่ยอม

ว่าแต่จะเกิดอะไรขึ้นกับอาทีมั้ยอ่ะ ถ้าเกิดอิทธิคงเศร้าน่าดู  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 18-04-2011 00:11:30
อาทิตย์แมร่งลีลา

ตั๊กเอ้ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 18-04-2011 00:20:30
ขอให้เรียบร้อยดีด้วยเถิดโดยการไม่สูญเสียใครเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 18-04-2011 01:32:47


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 18-04-2011 01:55:31
^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 18-04-2011 03:20:30
ไปต่างจังหวัดมาหลายวัน  กลับมาคุณบอยอัพไว้หลายตอน
อ่านกันแบบยาว ๆ  ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: tarkung ที่ 18-04-2011 10:34:31
ลุ้นสุดๆเลย

อยากให้ถึงตอนที่คนชั่วได้รับกรรมเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 18-04-2011 11:20:16
กรี๊ด ดังๆอีกรอบ ตอนนี้เหมือนจะพอทำให้หัวใจชุ่มชื้นขึ้นมาหน่อย
แต่ เรื่องของคุณบอย มันคงไม่ง่ายใช่มั้ยคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 18-04-2011 11:33:23
อาทิตย์เอ๊ย - - ไม่มีอะไรจะพูด เซ็ง
อิทธิน่าสงสาร :sad4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 18-04-2011 12:04:22
ก็ขอให้ทำให้สำเร็จละกัน  คุณอาทิตย์ อย่าช้าจนไม่เหลืออะไรล่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 18-04-2011 18:37:14
ตอน 25-28

อ้าาาาาาาาาาาาาา(สระ อา ล้านอัน)
ผมจะหัวใจวายยยยยยยยย
คุณบอยทำไมแต่งออกมาได้อย่างงี้อ่ะ  ฆ่ากันเลย ยังดีเสียกว่า
มันปวดบริเวรอกจริงๆนะ พระเจ้า!!! ไม่เคยอ่านเรื่องไหนโคตรจะ ดร่าม่างี้เลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 18-04-2011 20:05:57
เรื่องนี้จะจบแล้วแม่ผัวกับลูกสะใภ้ยังตีกันไม่เลิก
แถมรุนแรงกว่าเดิมอีก = ="
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 18-04-2011 20:18:41
อีจิตรโชคดีมีลูกเป็นควายเลยเลี้ยงง่าย


ว่าซ้ายก็ซ้าย ว่าขวาก็ขวา ใช่มั้ยไอ้อาทิตย์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 18-04-2011 20:41:15
บีบหัวใจเสียจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 18-04-2011 21:07:36
มิจฉาทิฐิตัวเดียว ทำให้คนเราน่ากลัวจริงๆ
อ่านจบตอนแล้วก็ปวดใจ
Bboyseriesคะ เหตุการณ์ใกล้จะคลี่คลายไปทางที่ดีหรือยังคะ
สงสารคนอ่านทีเทอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 18-04-2011 21:12:20
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด
รักอาทิตย์ที่สุดก็ตอนนี้แหละจ้า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 18-04-2011 21:38:08
ใกล้จบจริงๆแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 18-04-2011 21:51:56
เย้ เย้ โย้ โย้  วิ้วๆๆ
ในที่สุด ฮะฮ่าๆๆๆ
ในที่สุดก็ตามทันจนได้

ไม่อยากให้จบเร็วอ่ะ สามารถขยายให้ยาวขึ้น หรือ ทำพากษ์สองของอาทียังได้เลย

ตอนจบไม่อยากให้อาทีและแม่นางหรือป้าตาย  ขอได้มั้ย?

มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 18-04-2011 23:06:19
สงสารทั้งอาทิตย์และอาที แต่ชอบตอนนี้นะ อนที่สามสิบสอง พ่อแง่แม่งอน
แต่เรื่องนี้ก็เริ่มดร้าม้ามากแล้วอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 19-04-2011 00:01:43
เรื่องจะลงเอยยังไงเนี่ย
ชอบอาทิตย์ตอนล่าสุดมากๆ เลย
ดูใจดี อ่อนโยน แต่ก็ยังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม
อิทธิก็หวั่นไหว

อย่าให้อาทีเป็นไรเลยน๊า

คุณจิตร จะจิตไปแล้วไหมเนี่ย
อารมณ์ขึ้นลงตลอดเลย
สงสารอาที เฮ้อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 32 17.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 19-04-2011 01:59:29
ตอนที่ 33
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)
อาทีเริ่มไว้ใจพี่ชายเมื่อพูดคุยกันต่อสักระยะ แต่กระนั้นหนุ่มน้อยก็ขอเวลาทำใจก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้ามารดาจริงๆ เด็กแหนุ่มยอมให้พี่ชายขับรถไปส่งที่ไร่ที่ตนพักอยู่ตอนนี้ตอนบอกขอตัวกลับแล้วพี่ชายอาสาจะส่ง
ตอนแรกอิทธิไม่ยอมขึ้นรถไปด้วย อาทีต้องใช้วาจาเกลี้ยกล่อมอยู่นานเพื่อนรักจึงยอมในตอนท้าย
“มึงไปนั่งคู่พี่อาทิตย์ไป กูเหนื่อย เพลียด้วย ขอนั่งข้างหลังแล้วกัน กูจะนอน” หนุ่มน้อยบอกกับเพื่อนแล้วหายไปนั่งล้มตัวนอนตรงเบาะหลังก่อนใครเพื่อน ไม่สนว่าสองคนที่ยังไม่เข้าไปในตัวรถจะยืนพูดคุยอะไรกันต่อ
“ทำเป็นเล่นตัว โธ่ ไอ้อาทีไม่รบเร้าฉันก็ไม่คิดจะง้อนายหรอก” อาทิตย์เอ่ยแหย่ก่อน ไม่ได้คิดจริงจังในคำพูด แค่อยากเห็นอาการแง่งอนของอิทธิบ้างก็เท่านั้น เชื่อว่าจิตใจเจ้าตัวตอนนี้คงไม่โดนแรงแค้นบดบังไปเสียหมด เชื่อเหอะว่าจากการยืนสบสายตากันเป็นานเมื่อครู่เขาเริ่มเห็นเงารักบางๆ ที่กำลังก่อตัวขึ้น ซึ่งฝ่ายนั้นอาจะรู้ตัวแต่ยังไม่ อาจยอมรับก็ได้ แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่เขากับเจ้าตัวจะมาตกลงกันเรื่องหัวใจ รอให้เรื่องราววุ่นวายภายในไร่สงบลงเสียก่อนเถอะ ถึงตอนนั้นเขาจะเป็นคนทำให้เงารักที่เป็นดั่งม่านบางๆ ก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงหนาเพื่อบดบังแรงแค้นทั้งหมดไม่ให้มันแผ่ขยายอานุภาคเข้ามาทำลายล้างคนรอบกายและไร่ของเขาได้อีก
“ก็ถ้าอาทีไม่รบเร้าคิดเหรอครับว่าผมจะยอมขึ้นรถไปนั่งคู่กับคุณ” อิทธิโต้กลับอย่างฉับไวเช่นกัน
“ปากคอยังร้ายใช้ได้เหมือนเดิมนะนายอิทธิ”
“ไม่ได้ร้ายแค่ปากหรอก จิตใจผมก็พร้อมจะร้ายได้ทุกเมื่อ อย่ามากระตุ้นก็แล้วกัน”
อาทิตย์กำลังจะโต้กลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อน้องชายเปิดประตูรถออกมาตะโกนใส่
“สองคนจะทะเลาะกันอีกนานมั้ย เหนื่อยก็เหนื่อย หิวก็หิว เหนียวตัวก็ปานนั้น อยากกลับแล้วโว้ย”
“เออ ไอ้คุณชาย อย่าบ่นไปกลับเข้าไป อยากกินอะไรบอกมาผ่านตลาดเดี๋ยวแวะซื้อให้” อาทิตย์หันไปผลักศีรษะน้องชายให้หายเข้าไปในรถ ไม่รอฟังคำตอบที่ถาม เพราะแม้น้องชายไม่บอกก็ตั้งใจจะแวะซื้อเสบียงและข้าวของต่างๆ ที่คิดว่าเจ้าตัวจำเป็นต้องใช้ให้อยู่แล้ว เพราะไม่รู้ว่าน้องชายไปอยู่ที่ไร่คนอื่นจะลำบากหรือเปล่า
“นายด้วย หิวหรือเปล่าล่ะ อยากกินอะไรก็บอกนะ”
ตอนร่างน้องชายหายไปแล้วอาทิตย์จึงหันมาคุยกับอิทธิ ซึ่งก็ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ เมื่อฝ่ายนั้นเดินขึ้นไปรถไปเสียเฉยๆ
“ให้มันได้อย่างนี้สิ พูดดีด้วยก็ไม่ตอบ พอร้ายเข้าหน่อยล่ะเถียงเป็นไฟ” ชายหนุ่มเอ่ยบ่นตามหลังส่ายหน้านิดๆ แล้วเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับเปิดประตูเข้าไปนั่งประจำที เอี้ยวตัวมองด้านหลังเห็นน้องชายนอนหลับตาอยู่ จึงโน้มใบหน้าไปจุมพิตเข้าที่แก้มคนที่นั่งหน้าตึงข้างๆ
อิทธิสะดุ้งตกใจเมื่อโดนรุกรานอย่างไม่ทันตั้งตัว กำลังจะหันมาจัดการคนกระทำแต่พอเห็นเจ้าตัวมองไปยังร่างของคนที่นอนหลับตาอยู่จึงไม่กล้าเอ่ยหรือทำอะไร
อาทิตย์ยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อคิดว่าตนเป็นต่อหลังจากที่อิทธิไม่สามารถส่งเสียงเอะอะหรือทำอะไรตนได้ ด้านอิทธินั้นได้แต่นั่งนิ่งๆ เพราะทั้งรู้สึกโกรธและซาบซ่านอย่างประหลาดจากการโดนคนข้างๆ จุมพิตเข้าที่ใบหน้า เด็กหนุ่มตอบตัวเองไม่ได้เลยว่าหัวใจที่เต้นผิดจังหวะตอนนี้เกิดจากอารมณ์ใดกันแน่
เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นหลังคนนั่งข้างๆ หันไปสตาร์ทแล้ว หนุ่มน้อยหลับตาลงไล่อารมณ์ฝ่ายซาบซ่านให้พ้นไปจากใจ เขาต้องไม่หวั่นไหวกับบุตรชายของศัตรู เขาต้องเข้มแข็งและหนักแน่นกับการทวงแค้นคืนให้มารดา เข้าต้อง…
“เฮ้ย! อะไรวะ” ระหว่างหลับตาคิดอยู่นั้นก็ต้องสะดุ้งขึ้นอีกครั้ง คราวนี้หลุดปากโวยวายออกมาอย่างอัตโนมัติเมื่อรู้สึกได้ว่ามีมือมาขยำเข้าที่เป้ากางเกง
“เฮ้ย! โทษทีนึกว่าเกียร์รถ จับผิดน่ะ” อาทิตย์ตอบหน้าตาย ยักคิ้วให้อย่างเจ้าเล่ห์ลอบยิ้มมุมปากนิดๆ เมื่อเห็นคนที่ตนแกล้งแหย่เล่นผิวหน้าแดงซ่านอย่างเห็นได้ชัด
“ไอ้…” อิทธิเอ่ยปากจะว่าแต่แล้วก็ไม่ทันเสียงของเพื่อนรักที่เอ่ยออกมาทั้งๆ ที่ตายังหลับอยู่
“เกรงใจคนจะนอนกันบ้างนะทั้งสองคนน่ะ”
อาทิตย์ยิ้มอย่างผู้ชนะอีกครั้งเมื่อคำพูดของน้องเป็นดั่งผ้ามาปิดปากอิทธิที่กำลังจะเอ่ยว่าตน สุดท้ายชายหนุ่มจึงออกรถไปพร้อมผิวปากเบาๆ เล่นอย่างอารมณ์ดี โดยมีอิทธินั่งหน้าตึงอยู่ข้างๆ อดชำเลืองมองไม่ได้ที่เห็นเจ้าตัวขยับตัวชิดประตูอย่างกับว่าจะพ้นรัศมีมือเขาไปได้หากว่าเขาคิดจะเอื้อมไปแกล้งลวนลามอีกจริงๆ แต่เพราะกรงใจน้องชายที่กำลังนอนอยู่จึงไม่อยากจะพูดอะไรมาก ได้แต่ส่ายตายิ้มๆ เลิกผิวปากแล้วขับรถไปเงียบๆ กระทั่งถึงตลาดจึงหาที่จอดแล้วปลุกน้องชายที่หลับไปแล้วให้ลงมาหาอะไรทานและก็เลือกซื้อของใช้ที่จำเป็น
อาทีไม่อาจขัดพี่ชายเพราะหลายวันแล้วที่ตัวเองยังไม่ได้ทานอะไรที่เป็นของชอบจริงๆ การอยู่ที่ไร่ลำไยของญาติลุงไกรหนุ่มน้อยก็ยอมปรับตัวอยู่กินแบบตามมีตามเกิด วันไหนมีเสบียงอะไรมาให้ก็กินๆ ไป เพราะไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับแม่นางและเพื่อนรักได้นึกห่วงที่เห็นว่าตนลำบาก หนุ่มน้อยจึงเดินเลือกซื้อโน่นซื้อนี้นำไปก่อน ปล่อยให้สองคนเดินเคียงกันอยู่ทางด้านหลัง
“นานแล้วนะที่ฉันไม่เห็นอาทีมันร่าเริงแบบนี้” อาทิตย์เอ่ยขึ้นตอนเห็นร่างน้องชายมีความสุขกับการเดินเลือกโน่นเลือกนี่ข้างหน้า ส่วนอิทธินั่นเฉยๆ เพราะเห็นอาทีร่างเริงแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรตอนอยู่กับตน การที่อาทิตย์เอ่ยออกมาแบบนี้ก็คงจะเคยเห็นเพื่อนของตนเพียงแค่ด้านเด็กเก็บกดที่คอยโต้แย้งหรือถกเถียงกับมารดาที่ไม่เคยพูดดีๆ กันสักวันน่ะแหละ
“ไอ้อาทีมันก็เป็นของมันแบบนี้แหละ ที่คุณไม่เคยเห็นก็เพราะแม่คุณน่ะแหละสร้างภาพให้มันต้องเป็นเด็กก้าวร้าวต่อหน้าคุณ” เด็กหนุ่มบอกออกมาตรงๆ หากว่าอาทิตย์จะโกรธก็ช่าง มันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะพูดเรื่องนี้บ้าง
“ฉันก็กำลังจะผสานรอยร้าวที่ว่านั่นนะ แต่ก็ไม่รู้จะทำได้แค่ไหน” อาทิตย์บอก หนักใจอยู่เหมือนกันกับการเป็นคนเชื่อมความสัมพันธ์ให้มารดาและน้องชายหันมาพูดจากันดีๆ อิทธิลอบเห็นอาการถอนหายใจ อยากจะเอ่ยให้กำลังใจ แต่ติดที่คิดว่าตนยังไม่ได้ทวงแค้นใดๆ คืนให้มารดาเลย แล้วจู่ๆ จะมายอมญาติดีกับผู้ชายคนนี้อย่างนั้นหรือ มันจะง่ายไปหน่อยมั้ยกับการยอมลงเอยแบบนี้
“ช่างเถอะ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น อย่างน้อยๆ ฉันก็รู้ว่าฉันพยามแล้ว ส่วนผลที่ออกมาจะเป็นยังไงก็สุดแล้วแต่ฟ้าจะเห็นใจฉันก็แล้วกัน ว่าแต่นายเถอะ ไม่เห็นเลือกซื้ออะไรเลย เลือกเผื่อแม่นางและลุงไกรด้วยก็ได้นะ ถือว่าฉันตอบแทนที่ช่วยดูแลน้องชายฉันก็แล้วกัน” หลังปลงตกเสร็จอาทิตย์จึงหันมาบอกคนข้างๆ ด้วยรอยยิ้ม อิทธิซึ่งกำลังนึกต่อต้านอยู่ จึงไม่ยอมรับความหวังดีโดยง่าย
“คุณซื้อให้น้องชายคุณคนเดียวพอแล้ว ผมกับแม่นางเป็นคนนอก คงไม่อาจรับความหวังดีได้ ส่วนลุงไกรหากคุณเมตตาคุณก็เลือกซื้อให้แกเองละกัน” เอ่ยเสร็จก็คิดจะเดินหนีเพราะไม่แน่ว่าตัวเองจะใจอ่อนเข้าจนได้หากได้อยู่ใกล้กับอาทิตย์นานเกินไป
“ไม่เอาน่าอิทธิ เราพักรบกันชั่วคราวได้มั้ย ตอนนี้ฉันกำลังจะทำสถานการณ์ให้มันดีขึ้นนะ นายจะช่วยฉันหน่อยไม่ได้หรือไง”
อาทิตย์รั้งเอาไว้โดยบอกเสียงอ่อนโรย ลำพังเรื่องน้องชายกับมารดาก็หนักใจพอสมควรแล้ว อารมณ์นี้ตอนนี้อยากให้อิทธินึกเห็นใจตนบ้าง ไม่ได้เลยเชียวหรือ
“ในเมื่อคุณรู้ข้อเท็จจริงไปหมดแล้วถึงสิ่งที่ผมกับแม่ผมโดน คุณยังคิดว่าครอบครัวคุณกับผมและแม่จะต่อกันติดอีกเหรอครับ มันคงเป็นไปได้ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร” อิทธิตอบกลับอย่างหนักแน่น แม้จะนึกสับสนอยู่บ้างบางจังหวะก็ตาม แต่ทุกครั้งที่สับสนก็มักจะดึงเอาภาพที่มารดาโดนทำร้ายมากระตุ้นให้ใจได้เคียดแค้นดังเดิม ซึ่งมันก็ได้ผล
“ฉันยอมรับและยอมเข้าใจในจุดนี้ก็ได้ ฉันคิดว่าหากนายคิดจะแก้แค้นครอบครัวฉันจริงๆ นายคงทำได้ไม่ยากหรอก แต่กับอีกครอบครัวนึงล่ะ นายศร นายสิน ยัยส้ม เคยสักครั้งมั้ยที่พวกเขาจะมาพูดดีๆ กับนาย ฉันรู้ว่านายก็คงเคียดแค้นครอบครัวนั้นไม่ต่างจากครอบครัวฉันหรอก และการที่นายคิดจะไปราวีพวกเขาฉันคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ บัญชีเล่มที่มีปัญหานั่น หากแม่นางไม่ได้เป็นคนแก้ ก็คงไม่มีใครที่จะแก้ได้ถ้าไม่ใช่นายศร เรื่องโกงกินไร่นายศรเคยทำมาแล้วสมัยที่ฉันยังเด็กๆ แต่ก็รอดไปเพราะแม่ฉันถือหางเอาไว้ แต่หากคราวนี้นายยอมลดละเลิกแรงแค้นที่นายมีต่อแม่ฉันชั่วคราว แล้วลองเปิดใจคุยกับฉันดีๆ รอให้ฉันสะสางปัญหาและจับผิดนายศรได้สำเร็จเพราะทำให้แม่ฉันเลิกเข้าข้างได้ ถึงคราวนั้นโอกาสที่นายจะแก้แค้นคืนให้แม่นางมันเป็นไปได้สูงกว่าตอนนี้นะ เพราะฉันคนหนึ่งล่ะที่จะไม่ยอมให้นายแก้แค้นเพียงลำพัง หากว่านายศรผิดจริงก็เท่ากับว่ามันทรยศแม่ฉันกับป้าฉันมานาน เราสองคนมาร่วมทวงความยุติธรรมคืนให้กับคนที่มีพระคุณกับเราไม่ดีกว่าการที่เรามาราวีกันเองเหรอ ซึ่งมันมีแต่เสียกับเสีย และคนที่ได้ประโยชน์เป็นใครล่ะถ้าไม่ใช่นายศร นายลองนึกดูดีๆ นะ จริงอยู่ว่าที่ผ่านมาพฤติกรรมฉันมันก็เลวร้ายพอๆ กับแม่ฉัน แต่นั่นฉันคิดเพียงจะเอาชนะทิฐิของนายเท่านั้น ฉันไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายและวุ่นวายได้ขนาดนี้ มีทางไหนที่นายจะยอมญาติดีกับฉันง่ายๆ นายลองบอกมาซิ หากมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงฉันจะยอมทำตามข้อเสนอ” อาทิตย์เอ่ยบอกยืดยาว สุดจะคาดเดาว่ามันจะได้ผลหรือไม่กับความหวังที่จะบั่นทอนความแค้นในใจของคนตรงหน้าให้เบาบางลง ที่สุดก็ต้องผิดหวังเมื่อคนๆ นั้นตอบกลับมาว่า
“คุณจะพยายามทำให้แม่คุณกับน้องคุณดีกันคุณก็ทำไปคุณอาทิตย์ แต่หากคุณคิดให้ผมรู้สึกดีๆ กับแม่คุณไปด้วย เลิกล้มความคิดซะเถอะ” อิทธิเดินตรงไปหาอาทีหลังเอ่ยจบ เด็กหนุ่มแสร้งยิ้มแย้มเล่นหัวกับเพื่อนรักทั้งๆ ที่ในใจตอนนี้ปวดร้าวและสับสนอยู่ไม่น้อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญ อาทิตย์มาเกลี้ยกล่อมเขาช้าไป หากชายหนุ่มผู้นี้มาพูดจาดีๆ ให้น่าฟังแบบนี้ซะตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่องแตกหักเขาก็อาจจะยอมรับฟัง แต่ ณ วินาที สิ่งที่เขาต้องทำคือเรียกความชอบธรรมคืนให้มารดาเท่านั้น จริงอยู่ที่เขาอาจเป็นเพียงแค่เด็กชายตัวเล็กๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการพลาดท่าโดนรุมทำร้ายเสียเองหากว่ากลับเข้าไปเขตไร่อัปยศนั้นอีกครั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก หากแม้นลมหายใจจะปลิดปลิวเพราะสู้เพียงลำพังไม่ไหว อย่างน้อยเขาก็ยังดีใจที่ว่าได้พยายามสุดใจขาดแล้วกับการทวงแค้นคืนให้ผู้ให้กำเนิด
“โธ่อิทธิ ทำไมนายไม่ฟังฉันบ้างนะ” อาทิตย์ยืนท้อใจตามหลัง ก่อนจะเดินตามไปสมทบกับทั้งน้องชายและคนที่ตนนึกห่วงใยในความคิดที่มีแต่แรงอาฆาต
อาทิตย์ปัดความไม่สบายใจทิ้งไปเมื่ออยู่ต่อหน้าน้องชาย ในเมื่อเห็นน้องชายยิ้มแย้มเขาก็ไม่ควรที่จะตีสีหน้าเครียดขรึมให้ได้เห็น ชายหนุ่มคอยเอาใจน้องชายทุกอย่าง ไม่ว่าฝ่ายนั้นอยากซื้ออะไรอยากได้อะไรก็ไม่เคยขัด อิทธิเดินตามหลังมองสังเกตพฤติกรรมพี่ชายกับน้องชายที่หันหน้ามาดีต่อกันอย่างผิดสังเกต จากที่สองคนเคยแต่บึ้งตึงให้กันทำไมวันนี้ดูร่าเริงให้กันได้มากมายขนาดนี้ เริ่มคิดตามในคำพูดของอาทิตย์ที่เอ่ยทำนองว่าวันนี้ดูน้องชายตัวเองร่างเริงกว่าวันไหนๆ เด็กหนุ่มเริ่มรู้สึกอย่างนั้น เมื่อสังเกตอาการเพื่อนรักไปนานๆ ไม่รู้สินะ เขาก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไงกับภาพที่เห็น จะว่ายินดีที่เพื่อนมีความสุขมันก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะมันเหมือนมีความกังวลใจอะไรบางอย่างอยู่ลึกๆ
อิทธิหยุดเดินในตอนที่เห็นเพื่อนรักที่เดินคู่พี่ชายหยุดยืนมองเข้าไปยังร้านๆ หนึ่ง แล้วหันมาเอ่ยอะไรบางอย่างกับพี่ชายพลางชี้ไม้ชี้มือเข้าไปยังร้านนั้น เด็กหนุ่มมองตามนิ้วมือของเพื่อนที่ชี้ไป ใจหายวาบเมื่อเห็นว่าร้านนั้นเป็นร้านจำหน่ายหีบศพ ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เด็กหนุ่มรีบวิ่งไปยังร่างเพื่อนแล้วปัดแขนเจ้าตัวที่กำลังชี้ค้างอยู่เอ่ยตวาด
“มึงเป็นบ้าเหรออาที มายืนสนอกสนใจอะไรกับโลงศพ”
“เป็นบ้าอะไรของนายอิทธิ น้องฉันสนใจโลงศพที่ไหน หันไปดูซิว่าร้านที่ติดกับร้านขายโลงศพนั่นมันเป็นร้านเสื้อผ้าคนแก่ อาทีมันอยากซื้อไปฝากลุงไกรเลยชี้ให้ฉันดู เพี้ยนใหญ่นะนายนี่ คนมีความแค้นสุมอก เพี้ยนๆ กันแบบนี้ทุกคนเลยหรือไง” อาทิตย์เอ่ยว่าคนตวาดน้องชายตน อิทธิรีบหันมองกลับไปยังทิศทางที่ว่า รู้สึกอายเมื่อเห็นว่าตรงนั้นเป็นร้านขายเสื้อผ้าคนแก่จริงๆ เพราะความกังวลบ้าๆ นั่นแท้ๆ เชียวถึงคิดเตลิดเปิดเปิงว่าเพื่อนกำลังยืนชี้หีบศพ
“ขอโทษ เข้าใจผิด” อิทธิหันมาบอก แล้วรีบเดินนำหนีไป อาทิตย์ส่ายหน้าตามหลัง ก่อนจะมาสนใจคำพูดน้องชายที่เอ่ยให้ได้ยินอย่างน่าตกใจว่า
“แต่โลงศพเดี๋ยวนี้มันก็สวยดีเนาะพี่อาทิตย์ น่านอนดี”
“เป็นบ้าอีกคนเหรอไอ้อาที พูดอะไรของแก ไป จะซื้อเสื้อให้ลุงไกรก็ไปเลือก” ชายหนุ่มตวาดน้องชายแล้วผลักร่างเจ้าตัวให้เข้าไปในร้านเสื้อผ้า พอร่างน้องชายหายไปในร้าน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรดลใจให้ตนหันไปมองร้านหีบศพนั่นอีกคน

โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากผลงานรวมเล่มด้วยครับ
(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 19-04-2011 02:29:18
เฮ้ออออ อ่านตอนนี้ค่อยยังชั่วที่ไม่มีเรื่องร้ายอะไร

แต่ทำไมอาทีถึงพูดแบบนั้นน่ะ อาทีอย่าเปนไรไปเลยนะ

อยุ่เป็นอิทธิต่อไปได้มั้ยยย เค้าสงสารอิทธิจะแย่  :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 19-04-2011 03:56:10

วุ้ย หางตากระตุก  o2
ดูทีท่าจะไม่ ‘ขำๆ’ แล้วสิคะ นี่ เฮ้อออออออ

ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 19-04-2011 07:31:29
คุณบอยดลใจอ่ะจิ...  ไม่น้าาา.....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-04-2011 07:48:21
 :เฮ้อ:เวรกรรมตามทันแล้วไอ้อาทิตย์


มึงกับแม่ได้ทำไว้  แต่คนที่รับกรรมกลับเป็นอีกคน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 19-04-2011 08:20:01
 :o12:  กลัวตอนต่อไปจัง 

 :amen:  อาทีอย่าเป็นไรเลยนะ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-04-2011 10:42:17
อาทิตย์ นาย...รู้สึกจะไม่ค่อยเด่นเลยนะ -*-
อิทธิสู้ๆ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 19-04-2011 10:52:17
คุณบอยยยย
ฮือๆ ไม่อยากให้อาทีตายเลย
มันทำใจไม่ด้ายยยย
ทรมานหัวใจ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 19-04-2011 11:01:33
ไม่อยากจะคิดต่อเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryze ที่ 19-04-2011 11:04:27
...ความหล่อซึมเข้าตาเหรออิท..กีซซ
ผู้ชายแบบอาทิตย์ เลวๆหน่อยมักจะมีเสนห์เนอะ
หลงรักเค้าซะแล้ว T^T

แอร๊ยยส์ เซ็ง
 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 19-04-2011 16:59:45
ไม่อยากอ่านตอนต่อไปเลย
กลัวทำใจไม่ได้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 19-04-2011 17:17:25
 :เฮ้อ:
ชีวิตของพระรอง...  :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 19-04-2011 17:19:32
อย่าให้อาทีเป็นอะไรเลยเราทำใจไม่ได้ :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 19-04-2011 17:27:20

ชีวิตของพระรอง...  :m15:

 :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-04-2011 17:34:26
อ่านช่วงต้น ดูท่าจะเป็นไปในทางที่ดี แต่พอมาถึงตอนหีบศพนี่ ชักหวั่นๆน่ะ
จะบอกเป็นนัยๆว่าจะมีเหตุร้ายรออยู่ข้างหน้าหรือเปล่าคะ

ป.ล."...เพื่อบดบังแรงแค้นทั้งหมดไม่ให้มันแผ่ขยายอานุภาคเข้ามาทำลายล้างคนรอบกายและไร่ของเขาได้อีก.."
คำที่เป็นตัวแดงนั่น น่าจะเป็น"อานุภาพ" นะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 19-04-2011 17:52:54
อย่าให้อาทีเป็นอะไรเลยเราทำใจไม่ได้ :m15:
ด้วยคนT^T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 19-04-2011 18:55:42
สงสารอาทีอ่ะ ไม่อยากให้เป้นอะไรไปเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 19-04-2011 19:19:46
เตรียมกระดาษเตรียมผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำตาอีกรอบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 19-04-2011 19:35:54
ตอนจบได้มีเสียน้ำตาแน่ๆ
ไม่อยากให้อาทีเป็นอะไรอ่ะ
แง้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 19-04-2011 20:42:12
พี่บอยจะให้อาที ตาย จริงๆๆๆๆหรอ  :monkeysad:
ช่วงหลังๆๆที่อ่านมา มันสื่อมากเลยว่าอาทีจะจากไป :serius2:
สงสารง่ะ ไม่อยากให้อาทีตาย มันเศร้าเนไป :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: theblink ที่ 19-04-2011 21:24:01
โนววว   ม่ายยยย
ห้ามอาทีัเป็นอะไรนะ !
แง   
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 19-04-2011 22:47:25
เค้าลางและเงมืด ทีทำให้ต้องพลัดพราก กลังคืบคลานเข้ามาแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: tombaza ที่ 19-04-2011 23:03:14
ไม่อย่าให้อาทีตายน่ะ T_T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 20-04-2011 08:10:53
ลางเยอะมาก กลัวใจคนแต่งเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 20-04-2011 08:18:25
ลางเยอะมาก กลัวใจคนแต่งเหลือเกิน

คุณพูห์ก็นะ ทำยังกะไม่เคยอ่านงานกันงั้นแหละ มีกลัวใจด้วย หุหุ

ว่าแต่ติดต่อลงแบรนเนอร์โฆษณายาดม ยาหอม พร้อมผ้าเช็ดหน้าที่นี่น่าจะเวิร์กเนอะ
ท่าทางจะขายดีกว่าหนังสือ อิอิ



หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 20-04-2011 12:31:51
ถ้าอาทีตาย พี่บอยจะกลายเป็นคนใจร้ายใจดำมากก่วาคุณจิตรเป็น2เท่า สำหรับคนอ่านทุกคน
รู้หรอกน้าว่าพี่กะจะเอาชีวิตอาทีไป แต่ถามหน่อยเหอะ ว่าอาทีเค้าสมควรตายตรงใหน?
ถ้าจะให้เค้าตายก็แต่งให้เค้าเป็นคนชั่วซิ
อย่านะพี่บอย!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 20-04-2011 19:43:02
เข้ามาอ่านด้วยคนนะคะ ฝากตัวด้วย(ช้าไปมั้ยแก เรื่องเค้าจะจบอยู่แล้ว _*_)
เข้มข้นได้อีก รู้สึกเหมือนดูละครหลังข่าวยังไงยังงั้นเลย
อ่านรวดเดียวเลยค่ะ(วันนี้ทั้งวันตั้งแต่บ่าย ข้าวปลายังไม่ได้กินเลยขี้เกียจไปซื้อ ฮุๆ)
ชอบค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ คิดว่าเป็นเรื่องมาม่าเดาได้ทั่วไป แต่มันไม่ใช่! มันมีอะไรมากกว่านั้น โดนมาก!
มาต่อไวไวนะคะ รออยู่(เพิ่งโผล่หัวมาวันนี้ก็ทวงเค้าซะแล้วเรา555)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 20-04-2011 20:17:24
โอ้ยย เวรกรรมอะไรเนี่ยยยย  พี่น้อง เพิ่งจะได้ปรับความเข้าใจกัน

เฮ้อออออ ลางสังหรณ์ทุกคนนี้ น่ากลัวจริง ๆ เลย

ไม่อยากให้มีเรื่องเศร้า ๆ เลยจริง ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lushess ที่ 20-04-2011 23:27:19
ณ จุดนี้ กลัวความคิดอาทีที่สุด

อย่าให้อาทีเปนอะไรนะคะ :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 21-04-2011 22:21:25
มันจะจบยังไงน่ะ :เฮ้อ:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 23-04-2011 14:08:30
ถ้าๆๆ
ถ้าๆๆๆ


ถ้าอาทีตายนะจะตายตามเลยยยย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 23-04-2011 19:57:57
อย่าให้อาทีเป็นอะไรเลยเราทำใจไม่ได้ :m15:
ด้วยคนT^T
:m15: อ่ะ ใครจะช่วยอิทธิ ถ้าอาทิ :z3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: iCyber ที่ 24-04-2011 12:00:02
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 24-04-2011 12:16:16
ลางร้าย ไม่น่ะ ไม่เอาอย่าทำอะไรอาทีเลยT-T

 อยากให้อาทีอยู่กับอิทธิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 24-04-2011 15:31:02
ทำไมแกล้งกันแบบนี้ อาทีต้องเป็นอะไรแน่ๆเลย ลางมาซะหลายรอบแบบนี้ อย่าให้เรื่องมันดราม่าไปมากกว่านี้เลยนะครับ

สงสารจังยังเด็กอยุ่ทั้งคู่ต้องมาเจอปัญหาขนาดนี้ซะละ พรุ่งนี้มาต่อใช่ไหมครับเห็นว่าจะลงถึงพรุ่งนี้ จะรออ่านนะครับ ^^

ไว้ถ้าเงินพร้อมเมื่อไหร่จะรีบสั่งติวรักฯไปนะคร้าบ อยกาอ่านตอนจบ+ตอนพิเศษมากมาย อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 24-04-2011 21:23:40
อาทีนี่ทำเป็นลางมาหลายตอนแล้วนะหนู  :m16:

แก่ตายบ้างอะไรบ้างดีกว่ามั๊ยห๊ะอาที  :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 24-04-2011 23:29:33
เรื่องอาที อย่านะ
เขากลัว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 25-04-2011 18:58:02
ตอนที่ 34

(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

อาทิตย์ขับรถมาส่งน้องชายและอิทธิที่ไร่ลำไยก็ตอนพลบค่ำ ตอนแรกชายหนุ่มอยากจะพบและพูดคุยกับแม่นางถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่มองดูเวลาแล้วก็นึกเป็นห่วงมารดาที่อยู่คนเดียว จึงรีบตีรถกลับไร่อย่างเสียไม่ได้ กลับถึงไร่ก็ค่ำมากนักแล้ว พารถเข้าจอดได้ก็รีบขึ้นเรือนเพื่อไปพบมารดา เห็นเจ้าตัวนั่งหน้าตึงอยู่ชานเรือนพร้อมบ่าวไพร่ผู้หญิงอีกสองสามนาง
ชายหนุ่มบอกบ่าวไพร่ไปพักผ่อนกันซะ อาสาว่าตนจะเป็นคนดูแลมารดาเอง พอบ่าวไพร่ลงจากเรือนไปหมด สองแม่ลูกจึงได้พูดคุยกัน
“ทานข้าวมาแล้วรึ” จิตราเอ่ยถามก่อน หล่อนรู้สึกผิดหวังนิดๆ ที่เห็นบุตรชายคนโตกลับมาเพียงลำพัง ตอนแรกตรงหน้าหล่อนมีสำรับกับข้าวหลายอย่างที่เป็นของโปรดของบุตรชายคนเล็ก หล่อนสั่งให้บ่าวไพร่ทำมาแล้วนำมาจัดวาง หวังสร้างความประหลาดใจให้บุตรชายที่หล่อนคิดว่าจะมาให้หล่อนเห็นหน้า ตอนได้ยินเสียงรถวิ่งข้ามาจอดหล่อนได้สั่งบ่าวไพร่ลุกไปชะเง้อมองว่าเจ้าตัวนั่งมาในรถพร้อมพี่ชายด้วยหรือเปล่า สักพักพอบ่าวไพร่กลับมารายงานว่าไม่เห็นมาหล่อนจึงสั่งให้บ่าวไพร่บางส่วนรีบยกสำรับไปเก็บเพราะรู้สึกผิดหวัง และสุดท้ายก็มานั่งหน้าตึงอยู่แบบนี้
“ทานแล้วครับ” อาทิตย์ตอบ ไม่รู้จะเริ่มต้นบอกมารดายังไงดีว่าตนไม่สามารถบังคับให้น้องชายกลับมาพร้อมกันได้ จึงนั่งเงียบๆ สังเกตดูอาการมารดาก่อน
“น้องล่ะ” ที่สุดจิตราก็เอ่ยถามขึ้น การได้อยู่เงียบๆ เพียงคนเดียวบนเรือนหลังใหญ่มันสร้างอารมณ์เหงาหงอยให้หล่อนโหยหาทั้งพี่สาวและบุตรชายคนเล็กอีกครั้ง หวังเอาไว้มากมายว่าพี่ชายจะพาน้องชายกัลบมาได้แต่แล้วเจ้าตัวก็กลับมาเพียงลำพัง หล่อนเกิดอาการชอกช้ำอยู่นิดๆ แต่เพราะทิฐิที่ล้นอยู่ก่อนหน้าทำให้หล่อนไม่อาจแสดงท่าทีออกมาให้บุตรชายคนโตเห็น
“น้องสบายดีครับ น้องบอกว่าจะกลับมาในวันหยุดครับ” อาทิตย์จำใจโกหกถึงวันที่อาทีจะมาที่นี่ เขายังไม่แน่ใจนักหรอกว่าอิทธิจะพาเจ้าตัวบุกมาจริงๆ หรือเปล่า แต่ที่ต้องบอกมารดาออกไปเพราะพอจะดูออกว่ามารดานั้นคล้ายคนกำลังผิดหวังแต่ไม่แสดงออกมา
“ไม่รอให้แม่มันตายก่อนล่ะค่อยมา” จิตราอดประชดประชันไม่ได้ เมื่อรับรู้ว่าสองพี่น้องได้เจอหน้าพูดคุยกันจริงๆ หากอาทิตย์ตอบว่าไม่เจอหน้าน้องชายหล่อนก็คงจะไม่เอ่ยประโยคประชดประชันเช่นนี้ แต่นี่อะไร บุตรชายคนเล็กของหล่อนตัดขาดหล่อนได้ลงคอเลยเชียวหรือ
“อย่าพูดแบบนั้นสิครับแม่ อาทีมันก็คิดถึงและห่วงแม่อยู่แหละครับ แต่มันขอมาวันหยุด ผมก็ไม่อยากจะบังคับน้อง” อาทิตย์พยายามเอ่ยปลอบ แต่จิตราเมื่อได้ประชดแล้ว มีหรือหล่อนจะกู่กลับ ทันทีที่บุตรชายเอ่ยปลอบหล่อนก็สวนกลับทันทีเช่นกันว่า
“ไม่ต้องมาทำให้แม่รู้สึกดีหรอกอาทิตย์ แม่รู้นะว่าที่มันไม่มาเพราะมันโดนลูกชายอีข้าแม่นางรั้งเอาไว้ สิ่งที่นังส้มมันมาบอกคงเป็นเรื่องจริงสินะ น่าสมเพชนักที่อีนังแม่นางมันมีลูกชายเพียงคนเดียวก็ดันเกิดมาเป็นพวกวิปริตผิดเพศ แม่ว่าแล้วเชียวว่าทำไมมันถึงตามเกาะตามแกะไอ้อาทีนัก”
อาทิตย์น้ำลายเหนียวฝืดคอ มารดาจะรู้มั้ยนะด่าว่าคำพูดเมื่อครู่นั้นเปรียบไปก็เป็นดั่งด่าว่าตัวเขาเอง
“ทุกอย่างมันอาจไม่เป็นอย่างที่ส้มพูดนะแม่ แม่อย่าเพิ่งตีโพยตีพายว่าอิทธิเลยนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยบอก จิตราหันมองหน้าเอ่ยว่าเสียงดุ
“ทำไมแม่จะว่าไอ้ลูกขี้ข้านั้นไม่ได้ ลูกอย่ามาทำเป็นเข้าข้างมันหน่อยเลย โดนมันเป่าหูอะไรมาล่ะ”
“อิทธิไม่ได้เป่าหูผมหรอกแม่ แต่ตอนนี้เราฟังหูไว้หูถึงสิ่งที่ครอบครัวนายศรมาบอกกับเราบ้างก็ดีนะครับ” อาทิตย์เริ่มโน้มน้าว หวั่นอยู่ว่ามารดาจะไม่พอใจและก็เป็นดังคาด เมื่อมารดาถามกลับมาเสียงเขียว
“ลูกหมายความว่ายังไง”
“ผมกำลังคิดว่าบางทีบัญชีเล่มนั้นที่มันผิดเพี้ยนไป นายศรอาจจะเป็นคนแก้ตัวเลขเองเพื่อยักยอกรายได้ของไร่อย่างที่เคยทำน่ะครับ” อาทิตย์บอกออกไปตรงๆ ถึงตอนนี้จิตราลุกขึ้นเอ่ยเสียงลั่น
“นายศรเป็นคนที่แม่เอาเข้ามาทำงานเองกับมือ เป็นคนสนิทที่คอยช่วยเหลือไร่เราทุกอย่าง ทำไมลูกถึงมาพูดแบบนี้ พูดแบบนี้เท่ากับลูกดูถูกว่าแม่โง่นะอาทิตย์ แม่ล่ะอยากจะรู้นักว่าไอ้อีสองแม่ลูกนั้นมันมีอะไรดีทำไมมันถึงเป่าหูคนรอบข้างแม่ได้ขนาดนี้ แม่เคยคิดว่าอาทิตย์จะไม่เป็นไปกับน้องกับป้า แต่สุดท้ายอาทิตย์ก็กำลังจะไปเข้าข้างศัตรูของแม่ แม่ผิดหวังในตัวลูกมากนะอาทิตย์”
“ใจเย็นๆ นะแม่ ฟังผมอธิบายก่อน ผมแค่สงสัยยังไม่ได้ปักใจเชื่อเสียทีเดียว ยังไงแม่ก็คือแม่ ผมไม่เคยเห็นใครดีไปกว่าแม่หรอกนะครับ” อาทิตย์ลุกขึ้นตามพยามอธิบายให้มารดาเข้าใจ แต่ก็ต้องใจหายเมื่อมารดาไม่พูดไม่จาเอาแต่ส่งสายตาที่เจือด้วยความตัดพ้อมาให้ก่อนจะสะบัดหน้าเดินหนีหายกลับเข้าห้อง
“โว้ย! ทำไมเป็นแบบนี้วะ” อาทิตย์ร้องระบายออกมาเมื่อรู้สึกเครียดหนัก พยายามเกลี้ยกล่อมอิทธิก็ไม่ได้ผล กลับมาอธิบายทางมารดาก็ทำท่าจะพังราบตั้งแต่ประโยคแรก แล้วปัญหานี้มันจะยุติลงยังไง ชายหนุ่มนึกเห็นใจคนเป็นป้าที่ก่อนหน้านี้คงจะต้องทนอยู่กับความแตกแยกที่ไม่มีทางบรรจบกันได้ระหว่างมารดากับคนของนางอย่างแม่นางสินะ
“ป้าจันทร์ ผมจะทำทุกอย่างให้เรียบร้อยก่อนที่ป้าจะฟื้นขึ้นมานะครับ ป้าต้องกลับมาพบไร่ของป้าที่สงบสมกับเป็นแผ่นดินที่ป้ารักป้าหวง เอาใจช่วยผมด้วยนะครับป้าจันทร์” พอนึกถึงป้าชายหนุ่มก็เริ่มมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง นี่มันเพียงยกแรกเท่านั้น เขาจะมาท้อแท้ตั้งแต่ตอนนี้ไม่ได้ เขาจะต้องทำให้สถานการณ์ในไร่นี้ดีขึ้นโดยไร้ซึ่งเหตุรุนแรง เขาต้องทำให้ได้ เข้าต้องทำให้ได้
   ที่เรือนของนายศร ขณะนี้สมาชิกทั้งหมดก็ไม่ยอมหลับยอมนอนกัน สามคนพ่อลูกนั่งพูดคุยปรึกษากันถึงแผนการร้ายๆ ตามปกติของครอบครัวอันธพาล
“ต่อไปนี้ผู้ชายที่ส้มรักเหลือเพียงคนเดียวคือพี่อาทิตย์ ส่วนพี่อาทีส้มขอเลิกเป็นห่วงเป็นใยนับตั้งแต่วินาทีนี้ พ่อกับพี่สินจะทำอะไรก็ทำเลยตอนนี้ส้มไม่ขัดแล้ว”
ส้มเอ่ยบอกบิดาและพี่ชายทั้งน้ำตาหลังจากที่เล่าเรื่องราวที่หล่อนได้เผชิญมาตอนอยู่ที่โรงเรียน นายศรนั้นขบกรามแน่น แสดงสีหน้าและแววตาเหี้ยมเกรียมออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนนึกอยากจะเห็นหน้าคนที่มาตราหน้าว่าตนเป็นผู้ชายหน้าตัวเมียเสียเลยตอนนี้ จะได้จัดการฆ่าทิ้งหมกป่าซะให้หายแค้น ชายหน้าเหี้ยมหันไปเอ่ยกับบุตรชายเมื่อกำลังเคืองแค้นอย่างได้ที่
“ไอ้สิน สมุนเอ็งมันจะลงมือกันเมื่อไหร่ รีบๆ จัดการเลยนะก่อนที่กูจะอดทนรอไม่ไหวลุกไปจัดการไอ้เด็กปากกล้านั่นเอง”
“พวกมันเริ่มแผนการแล้วล่ะพ่อ วันนี้เมื่อตอนเย็นพวกมันก็ไปดักซุ่มดูไอ้อิทธิกับไอ้อาทีแล้วล่ะ แต่พวกมันบอกเห็นใครก็ไม่รู้ไปดักรอเด็กสองคนด้วยเช่นกัน เลยไม่กล้าลงมืออะไร” สินเอ่ยรายนงานส้มจึงเอ่ยเดา
“คงจะเป็นพี่อาทิตย์น่ะแหละ”
“น่าจะจริง เพราะมันบอกลักษณะมาว่าเป็นผู้ชายตัวสูง รูปร่างดี ผิวพรรณสะอาดสะอ้าน หน้าตาก็หล่อเหลา” สินเอ่ยสมทบคำบอกน้องสาว ส้มเผลอเคลิ้มตามคำที่พี่ชายบรรยาย คนที่มีพร้อมสรรพทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติอย่างอาทิตย์ หากผู้หญิงคนไหนได้ไปครอบครองคงมีบุญไม่น้อย แต่อย่าหวังเลยว่าหล่อนจะปล่อยให้ใครได้ไปง่ายๆ หล่อนพลาดหวังจากคนเป็นน้องแล้ว คนเป็นพี่ที่เหลืออยู่หล่อนจะต้องจับให้อยู่หมัด ต่อไปนี้ผู้หญิงหน้าไหนที่คิดจะเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้ของหล่อนเป็นเห็นดีกับหล่อนแน่
“อีส้ม เคลิ้มเลยนะมึง” สินเอ่ยตวาดน้องสาวเมื่อเห็นอาการเคลิ้มฝันของเจ้าตัว ส้มสะดุ้งตื่นจากภวังค์ ย่นหน้าใส่พี่ชายแล้วเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นบิดากับพี่ชายปรึกษาว่าจะหาทางอุ้มเด็กปากกล้าสองคนนั่นไปจัดการยังไงดี หากว่าอาทิตย์ไปดักเจออยู่เช่นนี้
“ให้ส้มไปแยกพี่อาทิตย์ออกจากพวกมันมั้ยล่ะ ส้มว่าส้มทำได้นะ”
นายศรกับสินหันมองส้มเมื่อฟังประโยคเมื่อครู่จบ แววตาชายอันธพาลทั้งวัยหนุ่มวัยแก่เป็นประกายชัดให้เห็น สื่อถึงว่าถึงเวลาปลิดชีพสองเด็กปากกล้าอย่างอาทีกับอิทธิเสียที

โปรดติดตามตอนต่อไป
นิยายใกล้จบแล้ว ฝากผลงานรวมเล่มด้วยนะครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/2011416_11206.gif)
http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718 (http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 33 19.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 25-04-2011 18:58:54
เกลียดมันจริงๆไอ้ครอบครัวนี้
ตั้งแต่ต้นเรื่องยันจะจบเรื่อง
มันน่าโมโหจริงๆ  :beat:
อาทีของชั้นน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 25-04-2011 19:37:32
พ่อแม่พี่น้องโคตรเลวครอบครัวนี้

คนน้องสาวก็แรดเรียกพี่   คนที่ตกนรกงานนี้ไม่พ้นยายจิตตรา

คนเชรี่ยอะไรไม่มีเศษเสี้ยวความดีหลงเหลืออยู่ในสมอง

ตอนมองยายแก่ใช้อะไรมองตาถึงได้บอดสนิท  ตอนคิดยายแกใช่ส่วนไหนของแกคิดถึงได้คิดได้แต่เรื่องเลวๆและมองคนดีๆเป็นคนเลว แล้วมองคนเลวๆเป็นคนดี

ตอนแกหายใจเสียดายๆลมหายใจที่ได้ใช้ร่วมกับอื่นๆ  แกน่าจะตายมาตั้งแรกเกิดจะได้ไม่ต้องทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนเหมือนตอนนี้

ตอนสาวๆและตอนแก่ชีวิตของยายแกดูๆแล้วชาตินี้ก็หาความสงบสุขให้กับชีวิตและจิตใจไม่ได้   อนิจจายายจิตตรา  แกตายและตกนรกทั้งเป็นเลยตอนนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 25-04-2011 19:58:03
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซววววว
ไอ้พ่อลูกสารเลวนั่น
เมื่อไหร่มันจะตายวะ!?
ของอย่าให้อิทธิกับอาทีเป็นอะไรเลยนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 25-04-2011 20:08:55
ไอ้พวกสารเลว เมื่อไรมันจะตายอะ

ภาวนาอย่าให้อาที เป็นอันตรายถึงชีวิตนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-04-2011 20:30:37
ภาวนาให้อาที อิทธิ แคล้วคลาดจากอันตราย
ส่วนผู้ที่คิดร้ายขอให้มันมีอันเป็นไป แพ้ภัยตัวเอง(ไม่อินจัดเลย..ดิฉัน)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 25-04-2011 20:34:08
 :m29: :m29: :m29:
ทุกเม้นท์แรงมาก เราเลยขอเบาๆ ละกัน ใจร่มๆ กันนะพี่น้องเน้อ
เป็นกำลังใจให้อาที คนดีขอให้พระคุ้มครองนะคะ คุณบอยอย่าใจร้ายนักเลย  
จะโดนฆ่าตายหรือตายเพราะโดนแทนแม่ก็ไม่เอาทั้งนั้น อย่าให้อาทีตายเลยนะคะ น้องขอ :monkeysad:

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 25-04-2011 21:39:54
สั้นมากคุณบอย รอตอนต่อไปนะครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 25-04-2011 22:50:07
เป็นครอบครัวที่น่าจับมาทำสารคดีจริงๆ เขาเลี้ยงกันมายังไงน้อครอบครัวนี้ แต่ละคน...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 26-04-2011 00:38:55
อิทธิ อาที  หนูทั้งสองคะ โดดเรียนบ้างอะไรบ้างก็ได้นะคะ   o18
พี่หนับหนุนค่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 26-04-2011 00:52:56
ร้ายไปไหมคนเรา

ถึงขั้นจะปลิดชีพกันเลยหรออ

ขออย่าอิทะฺกับอาทีเป็นอะไรไปเลยยนะ  :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 26-04-2011 01:01:33


ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 26-04-2011 11:01:57
เบื่อคุณนายจิตราจริงๆ โง่ซ้ำซาก - -
อิทธิตอนนี้ไม่มีบท 55+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 26-04-2011 12:31:14
พ่อลูกชั่วเมื่อไรจะตายสักที่ อาทีต้องอยู่กับอิทธิ ต้องไม่เป้นไรน่ะ อิทธิอีกคน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 26-04-2011 15:08:59
ป้าจิตรโง่อ่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 27-04-2011 12:16:03
สุดท้ายไม่อยากให้อาทีตาย
และไม่อยากให้ยัยจิตรเป็นบ้า  ถ้าบ้าก็อดสนุก อดรู้นะสิว่าที่ผ่านมาคุณเทอโง่แค่ไหน. ครอบครัวนายศรก็ เลวได้โล่จริงๆ อยากเลวได้ครึ่งนึงของมันจัง   อ๊ากกกกก ล้อเล่น





ขอบคุณพี่บอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 27-04-2011 13:55:13
 :L2:
รอเอาใจช่วยอาทิตย์กู้สถานการณ์  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-04-2011 20:12:19
อีเลวววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 27-04-2011 20:36:25
ชั่วกว่าครอบครัวนี้มีอีกมัํ๊ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 27-04-2011 21:22:59
เกลียดดดดดดดดดดด
ครอบครัว ทรพีนี่จริงๆๆ :z6: :z6:
หวังว่า อิทธิกับอาที จะปลอดภัยนะ :call: ไม่อยากให้อาทีตาย(พี่บอยมาลางหลายตอนล่ะ)
จะรอตอนต่อไปค่ะ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 27-04-2011 22:57:54
เลวมากกกกกกกกกกกก  ครอบครัวนายสิน

สงสาร แต่ อาทีไม่อยากให้เป็นอะไร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 29-04-2011 23:25:47
.
วุ้ย กิต.เป็นห่วงจังค่ะ
เกรงว่า อ๊าร์ธี่(Arty)มีอันเป็นอะไรไป
ผู้ประพันธ์นิยายบางท่าน
อาจจะมีอาการ
ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, เรอเปรี้ยว
นอนไม่หลับ, กระสับกระส่าย
ฝันร้าย, ละเมอกรีดร้อง
โดยมีทราบสาเหตุแน่ชัด
ก็ได้ นะคะ อิอิ

.
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 30-04-2011 11:51:43
เข้ามารออาที 
อาทีอย่าเป็นอาไรเลย
ฟ้าดินอย่าแกล้งอาทีน๊า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 34 25.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 30-04-2011 21:57:18
ตอนที่ 35
(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)
ที่ไร่ลำไยของญาติลุงไกร แม่นางเข้านอนแล้ว ส่วนอาทีและอิทธิยังคงออกมานั่งพูดคุยกันตามปกติ
“มะรืนนี้ก็วันหยุดแล้วมึงจะกลับไปที่ไร่นั้นกะกูมั้ยอาที” อิทธิเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่งเมื่อนึกถึงว่ามันจวนเจียนเวลาที่ตนจะต้องตามไปเรียกร้องความยุติธรรมคืนให้มารดาตน เรื่องนี้เด็กหนุ่มยังไม่ได้บอกกับมารดา เพราะเชื่อว่าบอกไปมารดาคงไม่ยอมให้ตนทำอะไรบ้าบิ่นแบบนี้แน่
“ถามแปลกๆ กูเคยปล่อยให้มึงสู้กับอะไรเพียงลำพังเหรอ” อาทีเอ่ยตอบ แม้ลึกๆ จะรู้สึกหนักใจกับการเผชิญหน้ามารดาอยู่ก็ตาม แต่การที่จะปล่อยให้เพื่อนรักเดินเขาดงศัตรูเพียงลำพังก็ไม่อาจทำได้
“มึงนี่สมกับเป็นเพื่อนตายกูจริงๆ ไอ้อาที” อิทธิเอ่ยบอก รู้สึกซึ้งใจในน้ำใจเพื่อนจนอดไม่ได้ที่จะยกมือโยกศีรษะเจ้าตัวคลอนเล่นเบาๆ
“แล้วหากการไปครั้งนี้กูไม่ได้กลับมาที่นี่กับมึงอีกล่ะ มึงจะว่ายังไง” อาทีเอ่ยถามขึ้นเสียงสลด เป็นเหตุให้อิทธิต้องสลดตามก่อนเอ่ยถาม
“ทำไมวะ”
“ไม่รู้ดิ กูคิดว่าแม่กูกับพี่อาทิตย์คงไม่ปล่อยให้กูมาที่นี่อีกหากว่ากูกลับไปที่ไร่”
“เชี่ย เรื่องแค่นี้พูดซะกูตกใจ”
“มึงตกใจอะไร”
“ปะ เปล่า ไม่มีอะไร”
อิทธิปฏิเสธก็ไม่รู้จะให้บอกเพื่อนว่ายังไงว่าตัวเองรู้สึกสังหรณ์ใจและกังวลใจอยู่ลึกๆ ถึงเรื่องที่เข้าใจว่าเจ้าตัวมองหีบศพในวันนั้น
“งั้นก็ขึ้นนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า”
อาทีเอ่ยบอกแล้วเดินหายกลับเข้าไปยังเรือนก่อน อิทธิมองตามสักพักจึงค่อยเดินตามเข้าไป

 ************************************************************************

เช้าวันใหม่ที่โรงเรียน อิทธิกับอาทีเดินคู่กันขึ้นไปบนอาคารเรียน รู้สึกหน่ายใจหน่อยๆ เมื่อเห็นส้มเดินมาขวางหน้าพร้อมพูดจากระทบกระทั่งได้อย่างน่ารำคาญ
“ห่างกันไม่ได้สักวินาทีเลยนะสงสัยจังเลยว่าตอนนี้ใครเป็นผัวเป็นเมียกันแน่”
“อย่ามากวนประสาทกันแต่เช้าเลยส้ม” อาทีเป็นฝ่ายตอบโต้ อิทธินั้นได้แต่ยืนข่มอารมณ์ เป็นไปได้อยากให้คนตรงหน้าเป็นผู้ชายนัก เขาจะได้ลงทัณฑ์โทษฐานที่ปากไม่ดีได้สนิทใจ
“กวนประสาทอะไรส้มพูดตามที่ไอ้อิทธิมันประกาศปาวๆ ว่าพี่กับมันเป็นอะไรกัน ส้มพูดอะไรผิดเหรอ” ส้มลอยหน้าลอยตายั่วโมโหต่อ เพราะเชื่อว่าสองคนตรงหน้าคงไม่กล้าลงมือทำร้ายหล่อน
“ไปเถอะอาทีอย่าไปสนใจเลย” อิทธิหันมาเอ่ยชวนอาทีเพื่อเดินหนีเสีย เพราะขืนอยู่ต่อไปก็ไม่แน่ว่าตัวเองจะข่มอารมณ์เอาไว้ได้นานแค่ไหน เด็กหนุ่มเห็นเพื่อนยืนจ้องหน้าส้มนิ่งจึงเอื้อมมือไปฉุดแขนเจ้าตัวซึ่งส้มเองก็มองเห็นพอดีจึงร้องวี้ดว้ายขึ้นตามจริต
“ว้าย จับมือถือแขนกันด้วย จะลากกันไปไหนจ๊ะ ที่นี่มีแต่ห้องเรียนนะไม่มีห้องนอน”
“ขืนเธอพูดจาแบบนี้อีกคำเดียวเธอได้ไปนอนห้องพยาบาลแน่ส้ม” อิทธิหันมาเอ่ยเสียงนิ่งเมื่อนึกไม่ชอบใจท่าทีและคำพูดของคนที่เดินเข้ามาหาเรื่อง
“กล้าทำอะไรฉันเหรอไอ้ลูกขี้ข้า” ส้มลอยหน้าลอยตาท้าทาย อิทธิพยายามข่มอารมณ์ไว้ด้วยการกำหมัดแน่นมองจ้องหน้าส้มเขม็ง
“กูเข้าใจว่ามึงคงอยากกระทืบผู้หญิงคนนี้อิท แต่อย่ามามัวเสียเวลาเลยนะ เก็บแรงไว้จัดการนายศรกับนายสินดีกว่า” อาทีเอ่ยบอกเมื่อเกรงว่าเพื่อนจะควบคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ส้มได้ยินเช่นนั้นแทนที่จะสลดกลับหัวเราะขึ้นเอ่ยบอก
“คิดว่าไอ้อิทธิมันจะมีโอกาสไปถึงตัวพี่สินกับพ่อส้มได้เหรอพี่อาที”
“เธอหมายความว่าไงส้ม” อาทีถามขึ้นทันควันแต่ส้มก็ยังยียวนตอบได้อย่างน่าหมั่นไส้เช่นเคย
“ก็ไม่ได้หมายความว่าไงหรอก แค่พูดให้ฟังเฉยๆ ทำไมเหรอคะ กลัวเหรอกับคำพูดส้มแค่นี้”
“แล้วเธอพูดให้เป็นปริศนาทำไม”
“ปริศนามีเอาไว้ให้หาคำตอบ พี่กับไอ้อิทธิลองใช้มันสมองของพวกผิดเพศคิดกันดูนะเผื่อจะนึกได้ ส้มไปล่ะ ยืนอยู่ด้วยนานๆ เดี๋ยวคนอื่นจะพาลว่าส้มคบค้ากับพวกวิปริต”
ส้มเดินหัวเราะร่าจากไปอย่างสะใจเมื่อเอ่ยจบ อาทีมองตามหลังเกิดอารมณ์ครุกรุ่นขึ้นจนอยากจะตามไปคุยกับฝ่ายนั้นให้รู้เรื่อง เด็กหนุ่มกำลังจะออกก้าวเดินตามไปจริงๆ แต่ต้องหยุดไว้เมื่อคนยืนข้างๆ ดึงแขนไว้พร้อมบอก
“อย่าไปสนใจมารยาของส้มเลยอาที ขึ้นห้องเรียนเถอะไป”
อาทียอมเดินตามอิทธิไปห้องเรียน แต่ตลอดการเรียนคาบเช้าเด็กหนุ่มคิดไปถึงคำของส้มตลอดจนเรียนไม่รู้เรื่องสักวิชา กระทั่งเที่ยงจึงมีโอกาสเจอกับส้มอีกครั้งที่โรงอาหาร หนุ่มน้อยจึงตามไปถามถึงเรื่องที่ข้องใจทันที
“คุยกันก่อนส้ม เมื่อเช้าที่เธอพูดเธอหมายความว่ายังไง พ่อเธอคิดจะทำอะไรไอ้อิทใช่มั้ย”
“ไม่ใช่แค่ไอ้อิทหรอกพี่เองก็ระวังตัวให้ดี ไม่มีส้มคอยคุ้มกะลาหัวแบบนี้ระวังจะเรียนไม่จบม.6” ส้มเอ่ยบอกออกมาเมื่อนึกแค้นเคืองถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าที่หล่อนโดนฉีกหน้าจนโดนหลายคนสุมหัวนินทาและมองด้วยสายตาแปลกๆ มาแล้ว
“มันจะมากไปแล้วนะส้ม กล้าดียังไงถึงมายืนขู่ไอ้อาทีแบบนี้ เธอเป็นใครแล้วไอ้อาทีมันเป็นใคร” อิทธิตรงเข้ามาต่อว่าถึงความโอหังของส้ม ซึ่งก็โดนโต้กลับทันควันเช่นกัน
“ตอนนี้คนที่ฉันจะเคารพในฐานะหลานเจ้าของไร่หรือลูกชายคุณจิตรคือพี่อาทิตย์คนเดียวเท่านั้น ส่วนลูกนอกคอกอย่างพี่อาทีหมดความสำคัญกับฉันนับตั้งแต่ฉันรู้ว่าเป็นพวกวิปริตแล้ว”
“ส้ม! ขอโทษไอ้อาทีเดี๋ยวนี้” อิทธิเอ่ยตวาดพลางชี้หน้าคนที่พูดจาไม่คิดอย่างส้ม นึกสงสารเพื่อนรักจับใจที่ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เจ้าตัวต้องมาโดนตราหน้าแบบนี้
“ฉันไม่ขอโทษ ฉันพูดเรื่องจริง พี่อาทีเคยฉีกหน้าฉัน ทำไมฉันจะต้องให้ความเคารพด้วย” ส้มตวาดกลับ อิทธิเองก็ขึ้นเสียงโต้
“แต่อาทีพูดมันเรื่องจริงทั้งนั้น เธอมันไม่ยอมรับความจริงแล้วเที่ยวมาพาลต่างหาก”
“เรื่องจริงอะไร พ่อฉันไม่ได้เป็นอันธพาล พ่อฉันไม่ได้เป็นกะเทย พ่อฉันไม่เคยโกงไร่ พ่อฉันเป็นคนสนิทคุณจิตรซึ่งเป็นแม่พี่อาที พ่อฉันคอยดูแลไร่ไม่ให้ยัยแม่นางขี้โกงขี้ประจบของแกเข้ามาหลอกคุณจันทร์ หากพี่อาทีจะว่าใครเป็นคนไม่ดีพี่อาทีควรจะว่ายัยแม่นางแม่แกที่มันขี้ประจบ ขี้ฟ้อง ตอแหลแกล้งอ่อนแอ ใสซื่อ ทั้งๆ ที่น่าจะร่านพอตัวไม่อย่างนั้นคงไม่หอบท้องหอบไส้ระหกระเหินตอนโดนพ่อแกทิ้งหรอก ไอ้ลูกไม่มีพ่อ”
“เพี๊ยะ!” เสียงฝ่ามือหนักๆ ดังสนั่นไปทั่วบริเวณตอนอิทธิตัดสินใจฟาดมันลงบนใบหน้าของส้ม เสียงส้มร้องกรี๊ดออกมาเรียกความสนใจให้หลายสายตาจ้องมองเหตุการณ์ แต่ ณ ตอนนี้อิทธิเหมือนมองไม่เห็นหรือนึกเกรงต่อสายตาใครแล้ว คำที่ส้มต่อว่ามารดาเขาเมื่อครู่มันทำให้ภายในใจเจ็บปวดจนคิดว่าต้องสั่งสอนคนปากดีให้หลาบจำว่าอย่ามาดูถูกผู้ให้กำเนิด เด็กหนุ่มตรงเข้าดึงแขนของส้มตอนเจ้าตัวหันมาเผชิญหน้าเหวี่ยงสะบัดจนฝ่ายนั้นล้มกลิ้งไปตามโต๊ะอาหาร
ส้มร้องกรี๊ดตกใจที่โดนอิทธิกระทำในสิ่งที่หล่อนคาดไม่ถึง หล่อนร้องเรียกให้หลายคนช่วยตอนเห็นอิทธิเดินเข้าหา หลายคนจะกรูเข้าห้ามแต่แล้วต้องชะงักเมื่ออิทธิตวาดลั่นขึ้น
“ใครหน้าไหนอย่าได้เข้ามายุ่ง เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของฉันกับส้มเท่านั้น” เอ่ยจบเด็กหนุ่มก็ตรงไปยังร่างของส้มที่ลุกขึ้นคิดจะวิ่งหนี มือข้างหนึ่งจึงรีบคว้าเอาแขนของฝ่ายนั้นไว้อีกพร้อมกับออกแรงกระชากมาหาตัวแล้วจัดการฟาดฝ่ามือลงไปบนใบหน้านั่นอีกหนึ่งฉาดตอนเจ้าตัวหันใบหน้ามาหา
“กรี๊ดด!” ส้มร้องกรี๊ดยกมือขึ้นลูบใบหน้าน้ำหูน้ำตาไหลเมื่อร่างล้มคะมำลงกับพื้น สาวน้อยคิดจะคลานหนีเมื่อเห็นอิทธิเดินเข้าหาแต่แล้วก็ร้องลั่นดิ้นพล่านๆ เมื่อโดนน้ำอุ่นๆ สาดเข้าที่ร่าง ซึ่งมารู้ทีหลังว่ามันคือน้ำซุปจากชามก๋วยเตี๋ยว
“ไอ้อิทธิ ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด ไอ้เลว ไอ้อันธพาล”
“เออ จะทำอะไรก็ทำเลย เธอมันวอนเจ็บตัวเองก็ช่วยไม่ได้ หากไม่ถึงที่สุดคิดเหรอว่าฉันจะทำกับเธอแบบนี้ หากเธอจะว่าฉันฉันยังพอทนได้แต่นี่เล่นถึงแม่ฉันเธอก็สมควรโดนแบบนี้แหละ” อิทธิเอ่ยออกมาอย่างคนขาดสติ นึกสาใจที่เห็นคนตรงหน้าร้องห่มร้องไห้ปัดเนื้อตัวพัลวัน ก่อนจากไปสายตามองเห็นชามพะโล้วางอยู่ใกล้ๆ มือจึงหยิบมันขึ้นมาสาดไปใส่ร่างนั้นอีกครั้ง
ส้มร้องกรี๊ดอีกรอบเมื่อโดนไข่สองฟองที่ลอยมากับน้ำต้มเครื่องเทศอุ่นๆ กระทบเข้าที่ปากตามด้วยชามพลาสติกเปล่าที่ลอยมากระทบหน้าซ้ำเข้าอีก
“หอบเรื่องนี้ไปฟ้องพี่ชายกับพ่อเธอเลยนะ และหากพวกมันแค้นก็บอกพวกมันด้วยว่าไม่ต้องตามหาฉัน พรุ่งนี้ฉันเข้าไปหาพวกมันแน่” อิทธิเอ่ยทิ้งท้ายเอาไว้แล้วเดินจากไป อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ช่างมันรู้เพียงแต่ว่าได้จัดการกับคนที่มาด่าว่ามารดาจนสิ้นฤทธิ์แบบนี้เขาก็พอใจแล้ว
“อิท รอกูด้วย” อาทีที่ยืนอึ้งกับการกระทำเพื่อนอยู่นาน พอสถานการณ์สงบจึงได้สติออกวิ่งตามเพื่อนไป ส่วนส้มนั่นทั้งหวีดร้องทั้งดิ้นพล่านๆ ด้วยความคับแค้นใจกับสิ่งที่ได้ยินคนที่ยืนมองดูหล่อนคุยกัน
“พวกเราพาส้มไปห้องพยาบาลหน่อยเร็ว”
“อย่าไปช่วยมัน มันหาเรื่องเอง”
“ใช่ เห็นมันตามแว้ดๆ ใส่พี่อิทและพี่อาทีตั้งแต่เช้าแล้ว ฉันแอบเห็น”
“สมน้ำหน้ามัน ฉันอยากให้มันโดนแบบนี้ตั้งนานแล้ว นิสัยไม่ดีมาหลายเรื่องแล้ว”
“กรี๊ดดด! อีพวกบ้า ไม่ช่วยแล้วยังมาว่ากูอีก กรี๊ดดด” ส้มกรีดร้องอย่างคับแค้นใจก่อนจะพยายามลุกขึ้นเองแล้ววิ่งกะเผลกหนีออกไปจากโรงอาหารและกลับไร่ไปรายงานบิดากับพี่ชายโดยทันที

*******************************************************************************

“มันหยามหน้ากูมาก ไอ้สินมึงสั่งให้พวกสมุนมึงลงมือกันเย็นนี้เลยนะ ก่อนที่กูจะหมดความอดทน” นายศรกร้าวใส่หน้าบุตรชายทันทีหลังเห็นสภาพบุตรสาวที่ใบหน้าชอกช้ำและเนื้อตัวเป็นรอยแดงจากโดนน้ำร้อนลวก
“แล้วถ้าไอ้อาทิตย์ไปดักรอมันสองคนอีกล่ะพ่อ อีส้มน่ะแหละทำเสียเรื่อง ไหนบอกว่าวันนี้จะคอยกันท่าให้ แล้วไปยั่วโมโหอะไรไอ้อิทมันล่ะถึงโดนมันเล่นงานมาแบบนี้” สินหันไปต่อว่าน้องสาวเมื่อเห็นเจ้าตัวทำอะไรผิดแผนที่วางไว้
“นี่พี่สิน ฉันโดนทำร้ายมาขนาดนี้แทนที่พี่จะโกรธแค้นแทนฉันนะ” ส้มแว้ดใส่หน้าพี่ชาย ก็หล่อนไม่คิดว่าอิทธิจะกล้าทำร้ายอะไรหล่อน หล่อนก็ตามยั่วตามกวนโมโหหวังให้เจ้าตัวอกแตกตายกับคำว่าผู้ชายไม่สมควรทำอะไรผู้หญิง
“โกรธแล้วยังไง มึงยอมให้กูลากตัวไอ้อาทิตย์ไปพร้อมไอ้เด็กสองคนนั่นมั้ยล่ะอีส้ม” สินโต้กลับ ส้มได้ยินจึงแย้งหน้าตาตื่น
“อย่านะ อย่าคิดแตะต้องพี่อาทิตย์ของส้มแม้แต่ปลายเล็บ”
“ก็ถ้าหากมันไปโรงเรียนเย็นนี้มันก็ไม่แน่หรอก”
“แล้วตอนนี้พี่อาทิตย์ออกไปหรือยังล่ะ ถ้ายังส้มจะรีบไปขวางทางไว้เดี๋ยวนี้แหละ”
“เอ็งทายาแล้วก็นอนพักเถอะอีส้ม สภาพเอ็งตอนนี้อย่าได้ไปเจอหน้าใครจะดีกว่า เดี๋ยวเรื่องนี้ข้าจัดการเอง” นายศรเอ่ยแย้งบุตรสาว
“ยิ่งส้มเป็นแบบนี้ส้มยิ่งต้องไปฟ้องคุณจิตรนะพ่อให้มันเกลียดชังไอ้อิทมากขึ้นไง” ส้มแย้งกลับ
“เกลียดชังมากขึ้นแล้วยังไง ตอนนี้ไอ้เด็กนั่นมันอยู่ให้อีจิตรจัดการหรือไง อีกอย่างเอ็งก็เผลอทำตัวให้อีนั่นชังน้ำหน้าเอ็งแล้ว มีแต่มันจะหัวเราะเยาะเอ็งน่ะแหละที่โดนทำร้ายมาแบบนี้อีส้ม” นายศรเอ่ยให้ได้คิด ส้มจึงยอมอยู่ติดเรือนตามคำสั่ง โดยปล่อยให้บิดาออกโรงในเรื่องนี้เอง
“ถึงมือพ่อแบบนี้ รับรองมึงได้เห็นคนที่มันทำมึงหายไปจากโลกนี้แน่อีส้ม”
สินเอ่ยกับน้องสาวหลังลับลังบิดาไปแล้ว สองพี่น้องมองหน้ากันได้สักพักก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างสะใจตอนที่นึกถึงว่าทั้งอิทธิและอาทีได้รับความทรมานก่อนสิ้นใจยังไง แน่นอนที่สุดว่าสินสั่งให้ลูกสมุนค่อยๆ ปลิดชีพเด็กสองคนนั้นอย่างใจเย็นให้พวกมันได้รสชาติความเจ็บปวดก่อนตายให้มากที่สุด!

********************************************************************************
ด้านนายศรไม่ค่อยมั่นใจนักว่าจิตราและบุตรชายจะอยู่ที่เรือนหรือว่าไปที่โรงพยาบาลกันแล้ว แต่ก็ลองเสี่ยงๆ ไปดูที่เรือน และก็คิดว่าตนเองโชคดีที่มาทันขณะสองแม่ลูกกำลังจะไปโรงพยาบาลจึงเดินเข้าไปทักพร้อมตีสีหน้าสลดแสดงให้เห็นว่าตัวเองยังตกในภาวะซึมเศร้าอยู่กับเรื่องที่จันทร์จวงเข้าโรงพยาบาล
“อ้าวนายศร มีอะไรรึทำไมหน้าตาดูไม่ดีเลย” จิตราเอ่ยทักชายหัวหน้าคนงานตอนเห็นเจ้าตัวเดินมาหยุดตรงหน้าขณะตัวเองกำลังจะขึ้นรถ
“คือผมเป็นห่วงคุณจันทร์น่ะครับ ตั้งแต่เกิดเรื่องผมยังไม่ได้มาถามไถ่ดูอาการท่านเลยเพราะตอนนี้งานในไร่ก็วุ่นวายเหลือเกิน แล้วนี่คุณจิตรจะไปโรงพยาบาลหรือครับ” นายศรเอ่ยตอบพร้อมตั้งคำถาม ชำเลืองมองดูท่าทีของอาทิตย์ที่บัดนี้จ้องมองดูตนด้วยสายตาที่แปลกเหลือเกิน
“อืม ฉันจะไปเยี่ยมพี่จันทร์ ช่วงนี้มันมีเรื่องวุ่นวายหลายอย่างนายศรอาจจะยุ่งๆ บ้างยังไงฉันก็ฝากไร่ด้วยนะ” จิตราเอ่ยตอบก่อนจะหันไปบอกให้บุตรชายขึ้นรถ นายศรรีบเอ่ยถามถึงบุตรชายคนเล็กของฝ่ายนั้นทันทีเผื่อจะรู้ได้บ้างว่าตอนเย็นอาทิตย์จะไปหาเจ้าตัวอีกหรือไม่
“ถามถึงลูกชายฉันทำไม” ในตอนนี้จิตราเสียงเขียวขึ้นมาทันที อาทิตย์ถอนหายใจที่นายศรมากวนอารมณ์มารดาของตนให้ฉุนเฉียวขึ้นได้ เข้าใจว่าที่มารดาเกิดอารมณ์นี้เพราะยังเคืองน้องชายอยู่จนไม่อยากที่จะได้ยินชื่อ ซึ่งตลอดทั้งวันเขาก็เลี่ยงที่จะเอ่ยให้ได้ยิน แต่สุดท้ายนายศรก็ดันมาเอ่ยซะเอง
“ก็ผมไม่เห็นคุณอาทีหลายวันแล้ว ผมก็นึกเป็นห่วงตามประสาคนงานที่ห่วงเจ้านายแหละครับ แม้คุณอาทีจะยังเด็กแต่อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นหลานชายคุณจันทร์” นายศรแสร้งทำสีหน้าสลด อาทิตย์จึงเอ่ยขึ้นบ้าง
“น้องฉันสบายดี ลูกสาวนายศรน่าจะเห็นน้องฉันที่โรงเรียนนี่นาเพราะน้องฉันยังไปเรียนอยู่ตามปกติ”
“อะ อ๋อ ปกติผมกับลูกไม่ค่อยได้คุยอะไรกันมากมายหรอกครับ ได้ยินแบบนี้ผมก็ดีใจ แล้ววันนี้คุณอาทิตย์จะไปรับคุณอาทีกลับมาที่ไร่มั้ยครับ”
“ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะมาตอบนายศร นายศรกลับไปทำงานต่อเถอะไป ฉันจะรีบพาแม่ฉันไปเยี่ยมป้าจันทร์” อาทิตย์บอกปัด นายศรนึกขัดใจที่ไม่ได้คำตอบที่ต้องการ จึงคิดอุบายใหม่โดยการขอติดรถไปเยี่ยมจันทร์จวงด้วยคน บอกว่านึกเป็นห่วงจริงๆ
“แล้วงานในไร่ล่ะ ใครจะคุม” จิตราเอ่ยถาม
“นี่มันก็จะหมดวันแล้ว เดี๋ยวผมฝากไอ้สินมันดูให้ก็ได้ครับ ผมขอติดรถคุณจิตรไปเยี่ยมคุณจันทร์ด้วยคนนะครับ ผมเป็นห่วงท่านเหลือเกิน” นายศรเอ่ยขอ อาทิตย์ล่ะกลัวใจมารดาจะโอนอ่อนตามจึงรีบแย้ง
“แม้นายศรไปก็ใช่ว่าป้าจันทร์จะตื่นมารับรู้ได้ ฉันว่ารอป้าจันทร์ฟื้นก่อนดีกว่าแล้วนายศรค่อยพาคนงานไปหากว่ายังอยากเยี่ยมจริงๆ”
“โธ่คุณอาทิตย์ ผมอยู่รับใช้คุณจันทร์มานานแม้คุณจันทร์จะไม่รับรู้ว่าผมไปเยี่ยมแต่อย่างน้อยก็ขอให้ไปเยี่ยมท่านเถอะนะครับ” นายศรไม่ยอมแพ้ โดยการเอ่ยอ้อนวอนทำหน้าสลดต่อ จิตราเห็นอาการก็นึกว่าคนงานหล่อนผู้นี้เป็นห่วงเป็นใยพี่สาวหล่อนจริงๆ จึงเอ่ยออกมาในที่สุด
“จะไปก็รีบกลับไปสั่งงานนายสินไว้ก่อนให้เรียบร้อย ฉันจะรอ”
“แม่” อาทิตย์เอ่ยเรียกมารดาอย่างนึกขัดใจ รู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยกับการเห็นเจ้าตัวไว้อกไว้ใจคนที่ตนเริ่มสงสัยพฤติกรรมทุจริต
“งั้นเดี๋ยวผมรีบมานะครับ” นายศรนึกสมใจที่อุบายนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เหตุที่ขอติดสอยห้อยตามแม่ลูกคู่นี้ไปใช่ว่าจะไปดูอาการหญิงเจ้าของไร่จริงๆ ซะเมื่อไหร่ ที่ไปก็เพื่อต้องการกันท่าอาทิตย์ไม่ให้ไปดักพบเด็กน้อยชะตาขาดสองตัวนั่นต่างหาก แน่นอนที่สุดว่างานที่คิดจะฝากบุตรชายให้เรียบร้อยตามคำบอกของจิตราคือการบอกให้เจ้าตัวสั่งลูกสมุนชิงลงมืออุ้มทั้งอิทธิและอาทีไปเชือดทิ้งให้เร็วที่สุดโดยอย่าทิ้งร่องรอยอะไรให้ต้องสืบมาที่ตัวได้
ชายหัวหน้าคนงานหมุนเดินกลับมายังเรือนเพื่อสั่งบุตรชายอย่างที่คิด เดินไปได้สักพักก็ยิ้มร้ายสมเพชจิตราที่หลงเชื่อมารยาตนง่ายๆ รอให้บุตรชายคนเล็กมันพร้อมเพื่อนคู่หูอย่างไอ้อิทธิสิ้นชีพกันก่อนเถอะ ต่อไปถึงคราวมันกับบุตรชายคนโตบ้างล่ะ ที่ต้องตายตกไปตามกัน ถึงวันนั้นการเข้าครอบครองไร่นี้ก็คงจะง่ายนัก เชื่อเหลือเกินว่าหากตนครองไร่ได้สำเร็จอีนังแม่นางมันคงไม่กล้ามาวุ่นวายอะไร แต่จะว่าไปอีนังนั่นมันก็คงจะขาดใจตายก่อนใครเพื่อนน่ะแหละตอนที่มันได้รู้ว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมันไร้ซึ่งลมหายใจแล้ว ส่วนอีแก่จันทร์จวงหากมันฟื้นขึ้นมาพบว่าทั้งหลานทั้งน้องมันก็ล้มหายตายจากยกไร่ไปแบบนี้ มันก็คงจะฝืนวัยชราอยู่ได้ไม่นานนักหรอก
ลับหลังนายศรไปแล้วอาทิตย์เอ่ยปากต่อว่ามารดาทันทีที่ยอมโอนอ่อนตามคำพูดของฝ่ายนั้นง่ายๆ
“ก็นายศรจะไปเยี่ยมป้าของลูก มันเป็นความปรารถนาดีที่บ่าวมีต่อนาย ทำไมแม่จะต้องคิดเล็กคิดน้อยล่ะอาทิตย์” จิตราเอ่ยแย้งบุตรชายไปอย่างนั้น เป็นเหตุให้สองคนทะเลาะกันจริงๆ จังๆ
“แต่ตอนนี้ผมขอให้แม่ฟังหูไว้หูเกี่ยวกับนายศรและครอบครัวได้มั้ยครับ รอให้ผมพิสูจน์บางอย่างก่อนแค่นี้แม่รอได้มั้ย”
“พิสูจน์อะไร มันมีอะไรที่ต้องพิสูจน์อย่างนั้นเหรอ ปกติลูกไม่เคยขึ้นเสียงกับแม่นะอาทิตย์”
“ก็พิสูจน์ว่าแท้จริงคนที่โกงกินรายได้เราคือใครไงครับ ตอนนี้ผมกำลังไล่ดูบัญชีย้อนหลัง และรอที่จะพบแม่นางเพื่อปรึกษาเรื่องนี้อยู่”
“จะไปปรึกษาอีนั่นทำไม มันเป็นดูบัญชีของไร่ และบัญชีมันก็เพี้ยนไปอย่างที่ลูกเห็น แม่ว่าการที่ลูกจะไปปรึกษามัน ลูกพาตำรวจไปลากตัวมันเข้าคุกเลยดีกว่า”
“แม่ลองลดละเลิกทิฐิที่มีต่อตัวแม่นางตั้งแต่แรกเจอดูหน่อยก็ดีนะครับ แล้วแม่จะเห็นว่าคนอย่างแม่นางไม่น่าจะทรยศป้าจันทร์ได้”
“แม่จะบอกอะไรให้นะอาทิตย์ คนที่เราไว้ใจนั่นแหละคือศัตรูตัวร้ายที่สุด ป้าจันทร์น่ะไว้ใจยัยแม่นางเกินไปผลสุดท้ายมันก็แว้งกัดแบบนี้ ดีนะที่แม่ยังอยู่มันถึงทำอะไรได้แค่นี้”
“หากว่าวันนี้ผมจะบาปเพราะคำพูดผมผมก็ยอมนะครับแม่ ผมอยากให้แม่เอาคำที่แม่พูดเมื่อครู่บอกและเตือนตัวเองดูหน่อยก็ดีนะครับ เผื่อบางทีแม่จะได้ไม่เสียใจกับความจริงที่ปรากฏ”
“อาทิตย์ นี่ลูกกำลังสั่งสอนแม่มั้ย”
“ผมมิบังอาจครับผมแค่อยากให้แม่คิดได้ตามที่แม่พูดก็แค่นั้น ผมรอในรถนะครับ” เอ่ยจบอาทิตย์ก็เดินขึ้นไปนั่งรอมารดาบนรถ จิตรามองตามหลังด้วยอามณ์ที่เริ่มเคือง สักพักนายศรก็เดินมาถึงพอดี หล่อนจึงชวนขึ้นรถโดยสั่งให้เจ้าตัวเป็นคนขับให้หล่อนกับบุตรชายนั่ง
นาทีที่อาทิตย์ก้าวลงจากตำแหน่งคนขับเพื่อสลับที่ให้นายศร สองคนต่างวัยมีโอกาสมองจ้องหน้ากัน อาทิตย์เห็นรอยยิ้มเยาะนิดๆ ฉายชัดบนใบหน้าชายหัวหน้าคนงาน เป็นไปได้มั้ยที่เจ้าตัวจะมาแอบได้ยินสิ่งที่ตนเอ่ยทะเลาะกับมารดาเมื่อครู่ ถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับว่าเขาแหวกหญ้าให้งูตื่นเสียแล้ว


โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากผลงานรวมเล่มด้วยครับ
(http://file.siam2web.com/bboyseries/reallove/2011421_9874.gif)
(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)
http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718 (http://bboyseries.thai-forum.net/t39-topic#718)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=23985.0)

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 30-04-2011 22:05:32
เฮ้อออ 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: primmi ที่ 30-04-2011 22:36:43
เฮ้ออออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 30-04-2011 22:38:39
แก้บทได้ไหม

ไม่อยากให้อาทีเป็นอะไรอะ :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-04-2011 22:50:01
 :เฮ้อ:คนที่น่าจะตายคนแรกน่าจะเป็นอีแก่ไร้สมองอย่างอีจิตรา อยู่ไปก็รกโลกว่ะ


รกโลกมาตั้งนานแล้วน่าจะตายไปให้พ้นๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 30-04-2011 22:56:08
บางทีถ้าความเจ็บปวดเหมือนจะขาดใจตายมันทำให้จิตราตาสว่างขึ้นมาได้บ้างมันก็ดีเหมือนนะ แต่ก็นั่นแหละ...ใครอยากให้เป็นอาทีกัน T^T มันจะมีคนที่โง่ หูหนวกตาบอดได้จนวินาทีสุดท้ายได้อย่างจิตราอีกม้ายยยย คนห่าไรแว๊!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 30-04-2011 23:30:13
ขอปืนสักกระะบอก เถอะ ม่ายไหวววววววววววววววววแล้วว้อยยยยยยยยยยยย

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 30-04-2011 23:51:27

ว้าย จะมาลูบคมกันถึงถิ่นแบบนี้
ลุงไกรอย่ายอมนะคะ ยอมไม่ได้ค่ะ เสียชื่อลุงนะคะ
‘ครูไกร’ - เกรียงไกร ณ ไทยบอย - อดีตเจ้าของค่ายมวยท้องถิ่น
ก่อนไปใช้กรรมเนื่องจากเตะคู่ซ้อมตายโดยไม่เจตนา

เรียกลูกๆหลานๆ ที่เป็นนักมวยเก่งๆมาคุ้มกัน อ.๑, อ.๒, อ.๓ กับแม่นางด้วยนะคะ

๑๔๖ + ๑ = ๑๔๗
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-05-2011 10:12:26
จิตราก็โง่ซ้ำซากอยู่ได้ -*-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 01-05-2011 10:25:17
อยากเป็นคนเอาปืนไปยิงไอ้พ่อลูกคู่นรกส่งมาเกิดจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 01-05-2011 10:32:58
เฮ้อออ  
เฮ้ออออ
เฮ้ออออออ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-05-2011 11:19:08
เฮ้อ ลูกตัวเองจะตายแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก
แบบนี้มันเรียกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาใช่ไหม
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 35 30.04.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 01-05-2011 11:26:06
ตอนที่ 36

(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)

เย็นแล้ว อิทธิกับอาทีเดินออกมารอรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับไร่ลำไย สองหนุ่มน้อยเอ่ยคุยกันถึงเหตุการณ์วันนี้เมื่อตอนเที่ยงที่แทบไม่น่าเชื่อว่าเรื่องจะไม่ไปถึงหูฝ่ายปกครอง
“ยัยส้มนั่นหายไปเลย เห็นประกาศปาวๆ ว่าจะเอาเรื่องมึงให้ถึงที่สุด ที่แท้ก็แค่ขู่ว่ะ” อาทีเปรยขึ้นขณะเดินจะไปถึงท่ารถ
“กูว่าที่ยัยส้มบอกจะเอาเรื่องมันคงให้พ่อกับพี่มันเป็นคนจัดการน่ะแหละ” อิทธิเอ่ยเดา ในใจก็คิดว่าป่านนี้ทั้งนายศรและนายสินอาจกำลังโกรธแค้นตนอยู่ สมแล้วล่ะให้พวกมันรู้สึกทุรนทุรายซะบ้างอยากเป็นอันธพาลกันดีนัก
“แต่พอเรื่องมันเป็นแบบนี้มันก็น่ากลัวนะโว้ยว่านายศรกับไอ้สินมันจะโกรธแค้นแกจนอยากจะฆ่าให้ตายไปเลยก็ได้นะ” อาทีเอ่ยเสียงเครียด แต่อิทธิใช่จะยีระ
“พวกมันสองคนคิดจะฆ่ากูกับแม่ตั้งแต่คืนนั้นแล้วไอ้อาที แม้กูไม่ทำยัยส้ม ก็ใช่ว่าพวกมันจะญาติดีกับกู อีกอย่างก่อนหน้าที่กูจะทำยัยส้มไอ้สินมันก็โดนกูกระทืบซะกระอักมาแล้ว กูว่าหากมีโอกาสพวกมันคงไม่เก็บกูไว้หรอก” อิทธิเอ่ยตามที่คิด อาทีได้ฟังแล้วก็ถอนหายใจถาม
“แล้วอย่างนี้มึงจะกลับเข้าไปที่ไร่จริงๆ เหรอพรุ่งนี้น่ะ”
“ทำไมกูกับแม่จะต้องเป็นฝ่ายหนีหัวซุกหัวซุนล่ะในเมื่อกูกับแม่ไม่ได้ผิดอะไร แม่มึงจะต้องขอโทษแม่กูในสิ่งที่ทำเอาไว้กับแม่กูทั้งหมด ขอโทษที่กูต้องพูดตรงๆ แต่กูต้องการฟังคำขอโทษจากแม่มึงจริงๆ ต่อให้ยากแค่ไหนกูก็จะหาวิธีง้างปากแม่มึงจนได้ ส่วนนายศรและนายสินหากจำเป็นที่จะต้องฆ่าฟันกันจริงๆ และหากกูพลาดท่าไม่ใครก็ใครล่ะที่จะต้องตายตกลงไปตามกู พวกมันจะต้องรู้สึกถึงความสูญเสีย กูไม่ปล่อยให้มันยืนชนะกูด้วยรอยยิ้มหรอก คนอย่างพวกมันสมควรโอดครวญมากกว่าหัวเราะ”
อาทีใจหายที่ได้ยินเพื่อนรักเอ่ยออกมาแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าแรงแค้นที่เกิดขึ้นในใจเจ้าตัวจะรุนแรงเป็นพายุขนาดนี้ จากตอนต้นที่คิดว่าเรื่องราวจะไม่บานปลายมาขนาดถึงขั้นขู่เอาชีวิต แต่ตอนท้ายทำไมสถานการณ์มันถึงร้ายแรงได้อย่างน่าเป็นห่วง ไม่สิ เขาจะปล่อยให้เพื่อนคู่กายเป็นอะไรไปได้ยังไง มันไม่สมควรเลยที่เจ้าตัวจะต้องมาพบจุดจบที่น่าหดหู่ในวัยที่ยังเด็ก
“อิท ฟังกูสักครั้งนะ กูว่าพรุ่งนี้มึงอย่าเพิ่งกลับไปที่ไร่เลย เรารอปรึกษาพี่อาทิตย์ก่อนดีกว่าว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี”
อาทีเอ่ยบอกเพื่อนในตอนที่คิดจะยื้อไม่ให้เจ้าตัวกลับเข้าไปในไร่ขณะที่ภายในใจกรุ่นด้วยความแค้นแบบขาดสติเช่นนี้ เด็กหนุ่มเชื่อว่าเรื่องนี้พี่ชายตนคงหาทางออกให้ปัญหาได้ เพราะฝ่ายนั้นดูจะเป็นคนเดียวที่คนในไร่ไม่ว่าจะกับมารดา นายศร ไอ้สิน หรือยัยส้มไม่กล้าที่จะหือด้วย หนุ่มน้อยเริ่มเชื่อมั่นในตัวพี่ชายว่าจะเป็นคนเดียวที่น่าจะเป็นคนดับเปลวไฟแห่งความวุ่นวายให้สงบลง
“พี่ชายมึงเคยเข้าข้างกูเหรอไอ้อาที” อิทธิเอ่ยถามเพื่อน รู้สึกเจ็บอยู่ลึกๆ เมื่อนึกถึงว่าอาทิตย์น่าจะหลับหูหลับตาเข้าข้างจิตราเช่นเดิม เป็นไปได้น้อยมากที่ฝ่ายนั้นจะมาเห็นดีเห็นงามกับเขาซึ่งเป็นเพียงลูกขี้ข้าที่กำลังถูกใส่ร้ายว่าโกงกินรายได้ของไร่
“หากเป็นเมื่อก่อนที่มึงพูดมันก็อาจจะจริง แต่ตอนนี้กูว่าพี่อาทิตย์เหมือนจะเริ่มเห็นใจมึงแล้ว ลองเชื่อใจพี่ชายกูสักครั้งเถอะนะ” อาทีเอ่ยตามความรู้สึกจากที่เห็นแววตาพี่ชายมองมายังเพื่อนตอนเมื่อวานขณะทั้งสองมีโอกาสอยู่ด้วยกัน อิทธินั่นจิตใจคงมากด้วยทิฐินั่นแหละถึงไม่รู้ว่าพี่ชายเขานั้นลอบมองอยู่บ่อยๆ ตอนเดินตลาดและนั่งทานข้าวด้วยกัน ฝ่ายพี่ชายเขาก็คงมัวแต่สนใจเจ้าตัวล่ะมั้งถึงไม่รู้ตัวเลยว่าเขากำลังจับพฤติกรรมและแววตาที่มองฝ่ายนั้นอยู่เช่นกัน
“มันสายไปแล้วอาที ที่ผ่านมาพี่ชายมึงรังแกกูเกินกว่าที่กูจะไว้ใจได้อีก” อิทธิเอ่ยบอกเสียงหนักแน่นทั้งๆ ที่รู้สึกเจ็บร้าวอยู่ไม่น้อยที่ต้องยึดมั่นในทิฐิและศักดิ์ศรีในใจที่ต้องการทวงถามคืนความยุติธรรมด้วยตัวเอง
“แต่กูเป็นห่วงมึงน่ะไอ้อิท กูเข้าใจว่ามึงแค้นมึงโกรธ แต่มันไม่คุ้มเลยนะมึงถ้าเกิดมึงพลาดท่าเสียทีขึ้นมา มึงลองคิดสิว่าแม่นางจะรู้สึกยังไง แม่นางรักมึงเท่าชีวิต พอๆ กับที่มึงรักเขาเท่าชีวิต มึงเจ็บปวดที่แม่นางโดนกระทำโดนรังแก แล้วมึงลองคิดกลับกันซิว่าแม่นางจะเจ็บปวดที่เห็นมึงโดนรังแกมั้ย กูว่าเรื่องนี้รอให้พี่อาทิตย์ยื่นมือลงมาจัดการเถอะ กูเองก็เคยมีอคติกับพี่ชายกู แต่วันนี้กูขอยอมทำใจนิ่งๆ มองอย่างเป็นกลางว่าตอนนี้พี่ชายกูกำลังหาทางช่วยมึงและช่วยกูอยู่ ดูจากเมื่อวานมึงก็น่าจะดูออกนะว่าพี่ชายกูไม่ได้ตามมาราวีหรือก่อกวนอะไรเราเลย”
ในตอนต้นที่อาทียกเรื่องมารดามาเตือนสติ อิทธิเกือบจะคล้อยตามเพราะเริ่มคิดถึงผลกระทบที่ตามมาถึงผู้ที่รักตนสุดชีวิต แต่ในตอนท้ายที่ฝ่ายนั้นเอ่ยว่าให้อาทิตย์ยื่นมือเข้ามาช่วยสะสางปัญหามันเหมือนกลับทำลายความคิดคำนึงตั้งแต่ต้นให้มลายสิ้น เพราะภายในใจตอนนี้ไม่ได้คิดว่าคนอย่างอาทิตย์จะหวังดีกับตนด้วยใจที่บริสุทธิ์
“มึงเข้าใจผิดแล้วล่ะที่บอกว่าคุณอาทิตย์กำลังหาทางช่วยกูไอ้อาที สิ่งที่พี่ชายมึงทำทั้งหมดตอนนี้คือเขาต้องการช่วยแม่มึงต่างหาก มึงจะหลงกลพี่ชายมึงมึงก็หลงไป แต่กับกูไม่มีวัน!”
เอ่ยจบอิทธิก็เดินผละหนีไปเพื่อหามุมสงบอารมณ์ที่กำลังกรุ่นขึ้นอีกเพราะความสับสน จริงๆ ก็อยากจะเชื่อเพื่อนรักเรื่องที่เจ้าตัวบอกว่าอาทิตย์กำลังยื่นมือมาช่วยเหลือตน แต่ภาพการโดนข่มเหงรังแกยังลำคลองท้ายไร่ในคืนนั้นมันกลับแล่นเข้ามาบดบังจิตใจให้ดำมืดจนไม่อาจมองเห็นความดีและความยุติธรรมภายในจิตใจชายหนุ่มผู้นั่นเลยแม้แต่เศษเสี้ยว!
อาทีมองตามหลังเพื่อนก็ได้แต่ถอนหายใจก่อนจะใจหายวาบเมื่อเมื่อเห็นเพื่อนเดินไปชนกับร่างชายฉกรรจ์สองนายที่เดินสวนมาจนร่างเจ้าตัวล้มกระเด็นไปซบพื้น
“ไอ้อิท” หนุ่มน้อยเรียกชื่อเพื่อนแล้วรีบวิ่งไปดู
***************************************************************************************

ที่โรงพยาบาลอาทิตย์รู้สึกขัดใจและกระวนกระวายที่เห็นมารดากับนายศรมาพูดคุยปรึกษาเรื่องงานในไร่กันตอนนี้หลังจากที่ออกจากห้องเยี่ยมดูอาการป้าของตนได้สักพัก
หัวข้อสนทนานั้นนายศรเป็นคนเปิดประเด็นก่อนโดยกล่าวว่าคนงานในไร่ตอนนี้กำลังใจในการทำงานหายหมดหลังจากที่ได้ทราบว่าหญิงเจ้าของไร่นอนหลับไม่ได้สติอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว มันส่งผลกระทบให้งานเสียพลาดไปบ้างซึ่งตนก็ไม่อยากจะไปดุไปว่าเพราะเข้าใจในความรู้สึกที่บ่าวมีต่อนายดี
“หากวันนั้นพี่จันทร์ไม่ตัดสินใจรับนังแม่นางเข้ามาในไร่นี้ เรื่องราวมันคงไม่วุ่นวายแบบนี้นะนายศร ฉันเห็นใจนายศรนะที่ต้องตกอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ห่วงงานก็ห่วง ห่วงความรู้สึกขวัญเสียของคนงานก็ห่วง ก็เอาเป็นว่านายศรก็ลองๆ ดูไปแล้วกัน อะไรที่มันเสียหายต่องานเกินไปก็ปรามๆ บ้างก็ดี เพราะพี่สาวฉันยังไม่ได้ตาย จะมาโศกเศร้าเสียใจเกินจริตมันก็ดูจะเกินไปนัก” นั่นคือสิ่งที่มารดาตอบกลับนายศร ก่อนที่ทั้งสองจะหาที่นั่งปรึกษาหารือกันเรื่องอื่นๆ อีก ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องรอเพราะไม่อยากให้มารดาอยู่กับนายศรเพียงลำพัง ในใจก็อยากบอกเหลือเกินว่าจะรีบไปรับไปดูแลน้องชายดังเช่นเมื่อวาน แต่ก็เกรงว่าเอ่ยไปมารดาจะฉุนเฉียวและอารมณ์แปรปรวนจนยากจะดับลงอีกจึงทำใจยืนนิ่งรออย่างขัดใจ
“นี่มันกี่โมงกี่ยามกันครับเนี่ย ตายล่ะผมมัวแต่ปรึกษาเรื่องงานซะเพลินเลย ผมว่าเรากลับไร่กันเถอะครับ เดี๋ยวจะค่ำจะมืดเอา
เวลาผ่านไปนานจนน่าพอใจนายศรจึงเอ่ยขึ้น ระหว่างที่พูดคุยเรื่องงานกับผู้เป็นนายอยู่นั้นใช่ว่าจิตใจจะรับฟังเรื่องราวจริงๆ เพราะไม่ได้คิดปรึกษาอย่างจริงๆ จังๆ แต่เหตุที่เอ่ยปรึกษาไปเพราะต้องการถ่วงเวลาไม่ให้อาทิตย์ไปขัดขวางแผนการสมุนบุตรชายลากเด็กน้อยโอหังไปเชือดคอทิ้ง นึกสมใจเหลือหลายที่แอบเห็นอาการกระวนกระวายของอาทิตย์ที่ลุก นั่ง เดินไปมาหลายรอบ จากอาการนั่นแสดงให้เห็นเลยว่าเจ้าตัวคงคิดจะไปดักรอพบเหยื่อโทสะตนเป็นแน่ ซึ่งป่านนี้น่าจะกำลังเผชิญหน้ากับสมุนบุตรชายอยู่แล้วแน่ๆ
“ไม่คุยกันต่อจนค่ำมืดไปเลยล่ะ อีกไม่กี่นาทีตะวันก็จะตกดินแล้วนี่” อาทิตย์เอ่ยแขวะสองคนที่เดินมาหาตนบอกจะกลับกันแล้ว
“คุณอาทิตย์พูดเหมือนกับไม่พอใจเลยนะครับ ตอนนี้ไร่กำลังวุ่นวาย คุณจิตรเองก็เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลเพื่อดูอาการคุณจันทร์ หากผมไม่ถือโอกาสนี้ปรึกษาเรื่องงานตอนนี้ผมก็ไม่รู้จะไปปรึกษาได้ตอนไหน ผมขอโทษด้วยนะครับหากว่าผมทำให้คุณอาทิตย์เสียเวลา” นายศรตอบกลับอย่างนึกรู้ทัน ก่อนจะมองจ้องหน้าอาทิตย์ส่งแววตาท้าทายให้นิดๆ เพราะก่อนจะมานี่เขาได้ยินแล้วว่าชายหนุ่มผู้นี้กำลังคิดจะตามสืบเรื่องบัญชียัยแม่นางเพื่อหาคนทุจริต แน่นอนว่าเป้าหมายของเจ้าตัวคือเขานั่นเอง แต่มันไม่ง่ายนักหรอกนะไอ้หนุ่ม เพราะหลังจากได้ข่าวว่าน้องมึงสิ้นชีพแล้ว มึงนั่นแหละจะเป็นรายต่อไปพร้อมอีจิตราแม่มึง!
“มันจะเสียเวลาอะไรลูกชายฉันไม่ได้คิดจะไปไหนซะหน่อย ใช่มั้ยอาทิตย์” จิตราเอ่ยขึ้นในตอนที่นายศรคิดสิ่งชั่วร้ายจบลง อาทิตย์ไม่อยากจะพูดอะไรมากจึงเดินผละไปที่รถก่อนใครเพื่อนด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“นับวันยิ่งแปลกๆ ไอ้ลูกคนนี้” จิตราเอ่ยตามหลังก่อนจะเดินตามไปอีกคน
ลับหลังสองแม่ลูกนายศรยิ้มร้ายออกมาก่อนจะเอ่ย
“ป่านนี้ไอ้เด็กสองคนนั่นคงโดนจัดการไปแล้วแน่ๆ หึหึ”

***************************************************************************************

ที่ไร่ลำไย แม่นางออกมายืนกระวนกระวายนอกเรือนตอนมืดมากแล้วแต่ยังไม่เห็นบุตรชายและอาทีกลับเข้ามา นางเดินไปเดินมาอย่างกระวนกระวายใจคิดไปต่างๆ นาๆ ว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงอะไรเกิดขึ้นกับสองหนุ่มนั่นหรือไม่ เพราะเมื่อคืนเองนางก็ฝันไม่ดีจนสะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วอีกครั้ง ภาพในความฝันนางเห็นอิทธิและอาทีจับมึงกันวิ่งหาทางออกภายในป่ารกร้าง คล้ายๆ กำลังหนีอะไรสักอย่าง และในตอนที่นางสะดุ้งตื่นก็คือตอนที่นางเห็นว่าหนุ่มน้อยอย่างอาทีสะดุดล้มจนมือน้อยที่จับอยู่กับมือบุตรชายตนขาดสะบั้นลง
“แม่นาง”
เสียงเรียกชื่อทำให้แม่นางสะดุ้งตื่นจากภวังค์ นางหันไปมองเจ้าของเสียงก็พบกับหญิงเจ้าของไร่นี้ยืนยิ้มให้อยู่จึงเอ่ยทัก
“พี่ดวง มาซะเงียบเลยนะคะ”
“แล้วแม่นางยืนคิดอะไรอยู่ล่ะถึงกลับสะดุ้ง” ฝ่ายนั้นถามกลับนางจึงเล่าเรื่องราวให้ฟัง

****************************************************************************

   ทีไร่ส้ม นายศรขอตัวกลับไปที่เรือนเมื่อกลับเข้าไร่แล้ว ส่วนอาทิตย์นั่นรู้สึกขุ่นเคืองมาตั้งแต่ต้นจึงขอตัวเข้าห้องพักโดยไม่ยอมพูดคุยกับมารดาเลยแม้แต่คำเดียว
   จิตราส่ายหน้ามองตามร่างบุตรชาย กำลังจะก้าวขึ้นเรือนบ้าง แต่ก็ได้ยินเสียงสวบสาบดังมาทางพุ่มไม้มุมมืดเยื้องๆ เรือน
   “ใครน่ะ” นางส่งเสียงถาม เงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ แต่กลับมีเสียงสวบสาบดังขึ้นอีก นางจึงตัดสินใจเดินไปดู พอเข้าไปใกล้ๆ และสายตาปรับชินกับความมืดหล่อนก็เห็นคล้ายเด็กใส่ชุดนักเรียนยืนจ้องมาที่ร่างหล่อน
   จิตราใจสั่นผิดจังหวะเมื่อเดินเข้าไปใกล้ภาพที่เห็นมันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ กระทั่งกระจ่างชัดต่อสายตาว่าแท้จริงแล้วภาพนั้นคือร่างบุตรชายคนเล็กที่ยืนยิ้มให้บางๆ
   “อะ อาที นะนี่ แกกลับมาแล้วเหรอ ละแล้วมะ มายืนทำไมมืดๆ” จิตราเอ่ยถามบุตรชายเสียงสั่นเมื่อรู้สึกว่าร่างกายตนเย็นอย่างประหลาดตอนเข้าใกล้ร่างนั้น
   เงียบ ไม่มีคำตอบหลุดออกมาจากปากบุตรชายนอกจากรอยยิ้มบางๆ เช่นเดิม ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆ ยกมือขึ้นพนมแนบอกแล้วก้มศีรษะลงไหว้อย่างอ่อนโยนและงดงาม จิตราแทบน้ำตาไหลที่เห็นการกระทำเช่นนั้นของบุตรชาย นี่หล่อนกำลังได้รับการขอขมาแล้วสินะ หล่อนรีบปรี่เข้าไปหาร่างนั้นเพื่อรับการไหว้ขอขมาที่หล่อนเข้าใจไปเอง แต่แล้วสองขาหล่อนก็ชะงักตอนที่เห็นใบหน้าบุตรชายขณะเงยหน้าขึ้นมองมา
   จิตราอ้าปากค้างนัยน์ตาเหลือกมองไปยังภาพใบหน้าบุตรชายที่จ้องหล่อนเขม็งด้วยแววตาน่ากลัว ใบหน้าที่เจือรอยยิ้มบางๆ บัดนี้กลายเป็นบูดบึ้ง และเต็มไปด้วยรอยแผลเหวอะหวะ หนำซ้ำหล่อนยังมองเห็นลิ่มเลือดที่ไหลออกมาจากสองตาเจ้าตัวจนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งมากระทบจมูกพร้อมๆ กับคำพูดแข็งกร้าวเสียงสั่นสะท้อน
   “สาใจแม่แล้วใช่มั้ย สาใจแม่แล้วใช่มั้ย!!”
   จิตรากรีดลั่นสุดเสียงเท่าที่หล่อนจะสามารถเปล่งออกมาได้ตอนนี้เมื่อเห็นใบหน้าและแววตาอันน่ากลัวของบุตรชายพุ่งมาให้หล่อนเห็นชิดนัยน์ตา จิตใจของหล่อนตอนนี้หล่นหายไปด้วยอาการช็อคกลัวจนไร้เรี่ยวแรงยืนทรงตัว ที่สุดร่างทั้งร่างหล่อนก็ทรุดลงกับพื้นหมดสติหลับใหลอยู่ตรงนั้น
   ด้านเรือนนายศร ขณะนี้สามคนพ่อลูกได้นั่งล้อมวงถามไถ่ถึงความคืบหน้าของกันและกันอยู่ภายใต้ความมืด
   “เป็นไงไอ้สิน ได้เรื่องยังไงบ้าง”
   “ระดับพ่อที่ลงมือไปขวางทางไอ้อาทิตย์เอง ผมจะกล้าทำให้เสียแผนเหรอครับ ป่านนี้สงสัยอิ่ทธิและไอ้อาทีคงกำลังร่ำร้องขอชีวิตคนของผมแหละพ่อ” สินเอ่ยออกมากลั้วเสียงหัวเราะ ส้มที่นั่งอยู่ด้วยเริ่มสลดเมื่อนึกถึงอาทีขึ้นมา
   “พ่อ พี่สิน กลับใจตอนนี้ทันมั้ย ส้มเริ่มสงสารพี่อาทีแล้ว” สาวน้อยเอ่ยขึ้นทำท่าจะร้องไห้เมื่อจินตนาการไปว่าตนเองคงไม่มีโอกาสได้เห็นได้พูดคุยกับอาทีอีกในวันรุ่งขึ้น
   “ตอนนี้ต่อให้ไอ้อีหน้าไหนมีปีกก็ไม่มีทางบินไปช่วยไอ้เด็กสองคนนั่นแล้วอีส้ม มึงทำใจซะเถอะ และอย่ามาทำพิรุธอะไรให้ใครเห็น มันจะซวยรู้เอาไว้” สินตวาดว่าน้องสาว ส้มน้ำตาไหลพรากลงสะอื้นไห้ซบอกบิดาเมื่อรู้สึกใจหายขึ้นมาจริงๆ
   “พ่อ พ่อ ส้มกลัว ส้มกลัวว่าส้มจะทนไม่ได้หากได้ข่าวว่าพี่อาทีตายแล้ว”
   “จะมาคร่ำครวญอะไรตอนนี้นังส้ม เป็นลูกข้าต้องแน่วแน่ต้องเข้มแข็งสิวะ ไอ้อาทีมันเคยรักเอ็งเหรอเอ็งถึงต้องมาอาลัยอาวรณ์มัน ตัดใจซะเถอะ เอ็งน่ะยังสาวยังสวย พอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกสาวเจ้าของไร่ ขี้คร้านเอ็งจะมีแต่หนุ่มๆ มารุมตอม”
   นายศรเอ่ยว่าบุตรสาวในตอนต้นแต่ในตอนท้ายวาดภาพเอาไว้แล้วอย่างงดงามว่าตนจะได้ครอบครองไร่นี้อย่างสมความตั้งใจ

โปรดติดตามตอนต่อไป
(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 01-05-2011 11:49:41
^
จิ้ม
ส้มเลว ฉึกๆ :m31:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-05-2011 11:57:04
 :เฮ้อ:เวรกรรมของยายจิตตราปาบหนาเหลือเกิน


สงสารอาที ต้องมาตายเพราะน้ำมือแม่ตัวเอง ที่หลงเชื่อคนเลวมาตลอด


ดีใจด้วยไอ้อาทิตย์ที่แกเกิดมาเป็นลูกอีแก่จิตราปาบหนาพอกัน


ครอบครัวไอ้ศรไอ้สินจงตกนรก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 01-05-2011 13:59:44
สงสารอาที T^T ไม่น่าตายเล้ย ไอ้คนที่อยากให้ตายดันมีชีวิตอยู่ ลูกมาขอขมาในสภาพนั้นสมใจมึงหรือยังอิ¤*$€พ฿% ปล่อยให้โง่ไปจนตายเลยดีมั้ย ชิ!!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 01-05-2011 14:45:44
อาที...ที่ไม่เคยคิดร้ายหรือทำร้ายใครก่อน ทำไมต้องมาเจอจุดจบของชีวิตแบบนี้ด้วยค่ะ เค้าไม่เข้าใจและยอมรับไม่ได้ :m15: อาทีที่น่าสงสาร :m15: :o12:

หวังว่าจุดจบของคนเลว ๆ ทั้งไอ้เชี่ยศร ไอ้เชี่ยสิน อีส้มจอมคัน และลูกสมุนของพวกมัน ๆ ทั้งหลาย คงไม่จบแค่เข้าคุกหรอกนะค่ะ เพราะนั่นเทียบกับความเลวที่พวกมันสร้างขึ้นไม่ได้เลย...สักนิด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-05-2011 16:10:51
เลวกันได้อีกนะ
เฮือกก ใจสลาย สงสารอาที TT
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: b_hihi ที่ 01-05-2011 16:26:11
โอ้ย อานวันเดียวจบเลย
ชอบมาก ดราม่ามาก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 01-05-2011 17:42:37

วุ้ย ดวง is the key. อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 01-05-2011 18:45:21
อาที ตายจริงหรือ?
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 01-05-2011 21:00:08
กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ
อิทธิกับอาทีจะเป็นยังไงบ้าง
แง๊
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 01-05-2011 23:16:43
ไม่อยากให้อาทีตายอะ อ่านไปเศร้าเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 02-05-2011 00:35:32
ไม่กล้าอ่านเลยตอนนี้  o22
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 02-05-2011 00:55:41
 :impress3:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 02-05-2011 12:23:16
เครียด


อาทีมาแบบสยอง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 02-05-2011 17:13:26
ดราม่า ขาดใจ :sad11:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 02-05-2011 19:48:21
เลวทั้งบ้านจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 02-05-2011 20:47:35
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คุณบอยเขาไม่อาวดราม่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

กีซซซซซซซซซซซ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 03-05-2011 01:46:33
ตกลงตายจริงๆหรอ ไม่นะ ขอให้อีบ้าจิตราเพ้อเจ้อไปเอง สงสารอาทีเป็นคนดีต้องมาตาย ส่วนอีพวกชั่วๆยังลอยนวลอยู่ครบ = =
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 03-05-2011 15:02:42
 o22
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 03-05-2011 15:27:54
  กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

อาที ทำไมอ่ะ :sad4: ทำไม ทำเเบบนี้อ่ะ อาที ทำไมอ่ะ    สาธุคุณหญิงฝันเถอะ

กริ๊ดถ้าพวกนั้นไม่ตาย เเบบทรมาท ไม่รุ ว่าไงเเล้ว สะใจคุณหญิงจิตร ง่าว

อิทธิละ :serius2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 04-05-2011 00:29:18
 ไอ้ครอบครัวเลวววววว:angry2:

 :o12:ไม่เอานะครับไม่อยากให้ใครตายเลยสักคน


 ยกเว้นไอ้ครอบครัวสารเลวววว:z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 36 01.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-05-2011 13:27:37


ก่อนอ่านนิยาย ขอแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์หน่อยนะครับ

ขณะนี้นิยายเรื่องนี้ได้ทำการรวมเล่มเปิดจำหน่ายแล้ว

พร้อมผลงานอื่นๆ ของผมก็มีขายด้วยเช่นกันครับ

สนใจก็สอบถามรายละเอียดเข้ามาได้ครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/cover/201146_28512.gif)   


(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 37


“อิท อิท” อาทีเขย่าร่างปลุกคนที่นอนหลับอยู่กลางพงหญ้า คืนนี้พระจันทร์ฉายแสงเต็มดวงอยู่เหนือท้องฟ้า ทำให้ในป่ารกทึบแห่งนี้ไม่มืดมากนัก ว่าแต่เขากับอิทธิมาที่นี่ได้ยังไง ใช่สิ สำนึกสุดท้ายก่อนสติจะดับวูบจำได้ว่าตัวเองกำลังจะวิ่งไปดูอิทธิตอนที่เห็นเจ้าตัวเดินไปชนร่างชายฉกรรจ์จนร่างกระเด็นซบพื้น แต่แล้วกลับโดนใครสักคนดึงแขนเอาไว้พอหันมามองก็โดนเจ้าตัวใช้มือที่ถือผ้าผืนเล็กโปะเข้าที่จมูกจากนั้นไม่กี่วินาทีสติเขาก็ดับวูบไป ตื่นมาอีกทีก็มาเจอตัวเองนอนอยู่กลางป่ารกพร้อมเพื่อนรักตอนนี้ที่ยังไม่ได้สติ

“นี่เราโดนวางยาเหรอ แล้วที่นี่มันที่ไหน อิท ไอ้อิท ตื่นเร็ว แย่แล้วว่ะ ตื่นเร็วไอ้อิท มึงจะนอนหลับแบบนี้ไม่ได้นะ เราสองคนโดนวางยา ตื่นสิวะ ไอ้อิท ตื่นสิวะ” เมื่อนึกลำดับเหตุการณ์ได้หนุ่มน้อยก็เกิดอาการหวดกลัวนิดๆ จึงหันไปปลุกคนที่นอนหลับอยู่ด้วยการออกแรงเขย่างเจ้าตัว แต่ทำเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล เด็กหนุ่มใจหายไปกับสถานการณ์ค่อยๆ หันมองรอบตัวพลางคิดว่าใครกันที่พาพวกตนมาที่นี่

“ตื่นแล้วเหรอเด็กน้อย” หนึ่งเสียงเอ่ยทักมาพร้อมเสียงเดินสวบสาบเข้ามาใกล้ อาทีหันไปมองยังทิศทางนั้นทันที ภายในใจเต้นแรงจนแทบกระดอนออกมานอกอกเมื่อภายใต้แสงจันทร์ที่สาดไปยังร่างชายฉกรรจ์สามนายที่เดินมาในสมองจำได้ว่าสองในสามเป็นกลุ่มฉกรรจ์ที่อิทธิเดินชน ส่วนอีกหนึ่งเป็นคนที่จัดการโปะยาสลบตนเอง

“ผะ พวกนายเป็นใคร” หนุ่มน้อยถามปากสั่น พลางกระเถิบร่างถอยหนีการเดินเข้าหาเมื่อยังไม่สามารถลุกยืนได้เพราะยังมึนๆ เบลอๆ อยู่ สายตาก็จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มนั้นสลับกับมองมายังร่างของเพื่อนที่ยังนอนหลับอยู่อย่างคนไม่ได้สติ

“จะรู้ไปทำไมไอ้หนู ไม่ใช่ธุระอะไรที่เอ็งจะรู้” หนึ่งคนตัวใหญ่ที่สุดเป็นคนเอ่ยบอกก่อนจะหัวเราะเสียงเหี้ยมพาอีกสองคนเดินตรงเข้ามาหา จนหยุดยืนอยู่เหนือร่างของคนที่หลับอยู่

อาทีมองดูคนตัวใหญ่ใช้ปลายเท้าเขี่ยร่างอิทธิไปมาอาการหวาดกลัวตั้งแต่ต้นก็เริ่มกลายเป็นโกรธเคืองขึ้นมา จากตอนแรกที่กระเถิบร่างถอยหนีจึงแปรเปลี่ยนเป็นคลานเข้ามาปัดปลายเท้าที่กำลังเขี่ยร่างเพื่อนตนออกไปให้ห่าง

“อย่ามาทำแบบนี้กับเพื่อนฉันนะ” เด็กหนุ่มเงยหน้าบอกเสียงกร้าวเมื่อปัดปลายเท้าที่ว่าออกไปได้สำเร็จ

“มึงนี่มันอวดดีสมกับที่โดนบอกมาจริงๆ ว่ะ กล้ามองกูแบบนี้ชิมหลังมือหน่อยเป็นไง” สิ้นคำเจ้าของปลายเท้าอาทีก็ต้องร้องโอ้ยหน้าหันสะบัดซบพื้นเมื่อโดนฝ่ายนั้นฟาดหลังมือลงบนใบหน้า แรงของมันส่งผลให้เด็กหนุ่มรู้สึกเค็มปะแล่มๆ ภายในช่องปากแน่นอนที่สุดว่ามันคงเป็นรสชาติของเลือดสดๆ ที่หลั่งออกมา แต่แม้จะเจ็บจนน้ำตาแทบไหลก็ยังฝืนใจแข็งหันมาเผชิญหน้ากับคนที่ทำร้ายตนเอ่ยถาม

“ฉันไม่เคยเห็นหน้าพวกนายและฉันคิดว่าเราไม่น่าจะมีอะไรข้องเกี่ยวกัน พวกนายพาฉันกับเพื่อนมาที่นี่ทำไม”

“มึงไม่เคยเห็นหน้ากู แต่พวกกูเคยเห็นหน้ามึงแล้วไอ้อาที” ชายคนเดิมเอ่ยบอกพร้อมกับเรียกชื่อให้ได้ยิน อาทีกายเย็นสะท้าน นี่มันอะไรกัน คนพวกนี้รู้จักชื่อเขาได้ยังไง ไม่ได้การล่ะ ยังไงเขาต้องปลุกให้อิทธิตื่นขึ้นมาแล้วหาวิธีหนีออกจากป่านี้ให้ได้ ชายฉกรรจ์สามคนนี้คงไม่ได้จับพวกเขามาผิดตัว พวกมันรู้จักชื่อเขาแสดงว่าพวกมันตั้งใจจับเขากับอิทธิมาแน่ๆ    จะด้วยสาเหตุใดนาทีนี้ยังไม่มีเวลาขบคิดเท่ากับต้องการเรียกเพื่อนรักให้ได้สติขึ้นมาเสียก่อน

“ไอ้อิทตื่นๆๆ มึงจะหลับไปแบบนี้ไม่ได้นะ ตื่นๆๆ” หนุ่มน้อยหันไปเขย่าร่างเพื่อนอีกพลางเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของตนที่เริ่มย้อยมาเรื่อยๆ

“กว่าเพื่อนมึงจะตื่น มึงก็คงไปไปสวรรค์หรือนรกแล้วล่ะไอ้อาที เพราะยาที่กูโปะให้มันออกฤทธิ์มากกว่าที่มึงโดน” ชายร่างใหญ่เอ่ยให้อาทีผวาหนัก สวรรค์ นรก นี่มันอะไรกัน คนกลุ่มนี้ต้องการฆ่าเขางั้นเหรอ สาเหตุล่ะ มันเกิดจากอะไรที่จู่ๆ ตัวเองต้องมาเผชิญชะตากรรมแบบนี้ หากว่าสามคนที่ยืนอยู่ตรงนี้คือนายศร ไอ้สิน หรือยัยยส้ม เด็กหนุ่มจะไม่งงงวยเลยสักนิดกับคำขู่ที่ได้ยินเมื่อครู่ แต่กับสามคนนี้สาบานได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นหน้าและได้พูดคุยด้วย แล้วเรื่องอะไรกันที่พวกมันมาขู่เอาชีวิตเขาเช่นนี้

“พวกนายช่วยบอกฉันได้มั้ยว่านี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมถึงได้มาขู่เอาชีวิตกันแบบนี้ ฉันไปทำอะไรให้พวกนายหรือว่ามีใครอยู่เบื้องหลัง”

ถ้อยคำสุดท้ายอาทีถามออกไปเพราะพลั้งปากแต่ก็ทำให้ฉุกคิดว่าสามคนนี้อาจจะรับคำสั่งมาจากใคร ใช่สิ มันต้องเป็นนายศรกับนายสินที่ว่าจ้างคนพวกนี้มาให้เข่นฆ่าเขากับอิทธิ นี่หรือเปล่าคำขู่จากปากยัยยส้มที่ว่า

“ไม่ใช่แค่ไอ้อิทหรอกพี่เองก็ระวังตัวให้ดี ไม่มีส้มคอยคุ้มกะลาหัวแบบนี้ระวังจะเรียนไม่จบม.6”

“พวกนายโดนนายศรกับไอ้สินจ้างมาใช่มั้ย”

ถึงตอนนี้อาทีเอ่ยถามสามคนหน้าตรงๆ สังเกตเห็นพวกมันมองหน้ากันไปมาก็คิดว่าตนคงเข้าใจไม่ผิด จึงเอ่ยออกมาเยาะๆ เพราะอารมณ์แค้นใจคนสนิทของมารดาได้ปะทุขึ้นมาจนกลบเกลื่อนความกลัว

“ทำแบบนี้มันหมาลอบกัดนี่ นายศรไอ้สิน ยัยส้ม สาบานได้ว่าหากฉันรอดในคืนนี้พวกแกสามคนไม่มีทางได้อยู่ในไร่ป้าของฉันอีกต่อไปแน่”

หนุ่มน้อยเอ่ยลอดไรฟันออกมากำหมัดแน่นกับวิธีการหมาลอบกัดที่ครอบครัวนั้นทำกับตนและเพื่อน

“บ่นอะไรงึมงำๆ ไอ้หนู อย่าทำปากกล้าไปหน่อยเลย เพราะคืนนี้เอ็งไปไหนไม่รอดหรอกว่ะ” หนึ่งในสามคนนั้นเอ่ยขึ้นในตอนที่กำลังนั่งนึกชิงชังอยู่ อาทีเงยหน้าขึ้นมองเอ่ยบอก

“พวกนายรู้จักชื่อฉันแสดงว่าพวกนายก็รู้ใช่มั้ยว่าฉันเป็นหลานเจ้าของไร่ที่นายศรและไอ้สินทำงานอยู่ พวกนั้นจ้างนายมาเท่าไหร่ หากพวกนายปล่อยฉันกับไอ้อิทไปฉันให้พวกนายได้อีกสามเท่าสนใจมั้ย”

เสียงหัวเราะดังกลับมาแทนการตอบรับ อาทีมองหน้าคนเหล่านั้นอย่างไม่เข้าใจว่าพวกมันขำอะไรนักหนา หรือว่าพวกมันคิดว่าเขาไม่มีปัญญาจ่าย

“หัวเราะอะไรกันฉันมีปัญญาจ่ายให้ได้สามเท่าน้อยไปใช่มั้ย ฉันให้ห้าเท่าเลยเอามั้ย” เด็กหนุ่มยื่นข้อเสนอไปใหม่ คราวนี้จึงได้รับคำเฉลยว่าทำไมคนพวกนั้นถึงหัวเราะ

“อย่าว่าแต่สามเท่าหรือห้าเท่าเลยไอ้หนูอาที แม้แต่เงินหนึ่งบาทพวกข้าว่าเอ็งก็คงจะหามาถือไว้ในกำมือยากว่ะ เพราะไอ้ตำแหน่งหลานชายเจ้าของไร่คงจะไม่ตกเป็นของเอ็งอีกแล้ว หากว่าพ่อศรขึ้นครอบครองไร่ได้สำเร็จ”

“พ่อศรเหรอ นี่พวกนายเป็นคนของนายศรจริงๆ ด้วย พวกนายกำลังจะบอกฉันใช่มั้ยว่านายศรมีแผนคิดจะฮุบไร่ของป้าจันทร์”

“เข้าใจถูกแล้วไอ้หนู เ เฮ้ย! พวกเราจัดการมันเลย รำคาญที่จะฟังมันพูดแล้ว”

อาทีกระเถิบร่างถอยอีกในตอนที่ได้ยินคำพูดนั่น เด็กหนุ่มมองหาอาวุธที่จะมาใช้ต่อกรกับสามคนที่เดินข้ามร่างเพื่อนตนเข้าหา ที่สุดสายตาก็มองเห็นท่อนไม้ขนาดเหมาะมือวางอยู่จึงเอื้อมมือไปหยิบ แต่อนิจจาพอนิ้วทั้งห้าสัมผัสท่อนไม้ได้หนุ่มน้อยก็ต้องร้องออกมาสุด
เสียงเมื่อโดนเท้าหนักๆ เหยียบทับมือเอาไว้พร้อมออกแรงบดขยี้จนเจ็บปวดเกินจะทน

“มึงอย่ามาอวดเก่งคิดสู้ไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม”

เจ้าของปลายเท้ายกเท้าเขี่ยท่อนไม้นั่นไปทางด้านหลัง ก่อนจะฟาดหลังมือลงบนใบหน้าอาทีอีกครั้งจนหนุ่มน้อยใบหน้าหันสะบัดและได้ลิ้มรสชาติของเลือดสดๆ ในช่องปากอีกหน

อาทีค่อยๆ ยกมือข้างที่ไม่โดนทำร้ายเช็ดลิ่มเลือดที่มุมปากก่อนจะใช้มันไปจับประคบมือที่โดนเหยียบขยี้ ซึ่งบัดนี้สั่นเทาจากอาการเจ็บอยู่ สายตาที่พร่าเลือนไปแล้วด้วยหยาดน้ำตาก็จ้องมองไปที่ร่างอันธพาลสามร่างที่ยืนมองหน้าหัวเราะเยาะอยู่

“กูให้มึงเลือกว่าจะตายเพราะคมมีดหรือว่าลูกตะกั่ว” ชายที่ยืนตรงกลางเอ่ยถามก่อนที่สองคนขนาบซ้ายขวาจะหยิบอาวุธออกมาถือไว้ในมือ คนหนึ่งถือมีดปลายแหลมลูบคมไปมาส่วนอีกคนถือปืนสั้นทรงโบราณเป่าปลายกระบอกเล่นๆ

“หรือถ้ามึงไม่เลือกทั้งสองอย่าง แต่อยากจะตายเพราะโดนกูกระทืบกูก็จะสนองให้” ชายคนกลางเอ่ยขึ้นอีกก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบเข้าที่ยอดอกจนร่างหนุ่มน้อยกระเด็นหงายหลังไอสำลักเลือดที่ทะลักออกมาทางปาก

อาทีแข็งใจพยุงร่างขึ้นใหม่ทั้งๆ ที่รู้สึกจุกในทรวงอกจากการโดนปลายเท้าถีบเข้าเต็มแรงเมื่อครู่ เด็กหนุ่มไอสำลักออกมาเป็นระยะๆ เมื่อรู้สึกว่าความบอบช้ำภายในกำลังถูกระบายออกมาเป็นลิ่มเลือด

“ฉันขอสาปแช่งให้พวกแกตกนรกรวมถึงคนที่มันจ้างพวกแกมา” หนุ่มน้อยฝืนเอ่ยออกมาเมื่อคิดว่าตนคงไม่รอดชีวิตออกไปจากป่าแห่งนี้แน่แล้ว

“จะตายแล้วยังปากดี แบบนี้กินตีนกูจนตายน่ะดีแล้ว” ชายคนเดิมเอ่ยตวาดขึ้นพร้อมยกเท้าขึ้นจะกระทืบอีก อาทีหลับตารับชะตากรรมเพราะไร้เรี่ยวแรงขยับหนี แต่แล้วหูก็ได้ยินเสียงคุ้นหูตวาดขึ้น

“หยุดนะได้พวกอันธพาล!”

เสียงนั้นเป็นเสียงของอิทธินั่นเอง อาทียิ้มได้ในตอนที่หันไปมองเห็น สามชายฉกรรจ์เองก็ตกใจในน้ำเสียงตวาดไม่น้อยจึงหันมองกลับไปเช่นกัน แต่แล้วก็ต้องร้องโอดโอยกันถ้วนหน้าเมื่อโดนท่อนไม้ในมือเจ้าของเสียงฟาดเข้าแบบไม่ทันตั้งตัว
อิทธิรู้สึกตัวในตอนที่ได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแว่วๆ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นร่างเพื่อนรักโดนชายร่างใหญ่ที่หันหลังให้อยู่เหยียบเข้าที่ปลายนิ้วอยู่ ก่อนที่ใครคนนั้นจะยกปลายเท้าเขี่ยท่อนไม้มาตกตรงหน้า ตอนแรกก็อยากจะลุกไปจัดการคนพวกนั้นเพราะแค้นเกินทนกับภาพที่เห็น แต่เพราะยังมึนๆ เบลอๆ อยู่จึงทำให้ลุกไม่ได้ในทันที ประกอบกับเห็นคนสองคนควักอาวุธออกมายืนขู่ทั้งปืนทั้งมีด จึงทนกัดฟันมองเพื่อนโดนทำร้ายอยู่พลางคิดหาวิธีช่วยเจ้าตัว สุดท้ายเมื่อนึกได้จึงค่อยๆ เลื่อนมือไปหยิบท่อนไม้มาถือไว้มั่นแล้วตัดสินใจดีดตัวลุกยืนส่งเสียงห้ามตอนที่เพื่อนตนจะโดนทำร้ายอีก และในจังหวะที่คนเหล่านั้นหันมาหาจึงไม่รอช้าที่จะหวดอาวุธในมือใส่สุดแรงแบบไม่ให้ใครสักคนได้ตั้งตัวโดยเลือกหวดฟาดคนที่ถือปืนอยู่เป็นคนแรกทั้งที่แขนจนปืนหลุดกระเด็นตกพื้น ตามด้วยใบหน้า ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบให้เจ้าตัวหงายหลังเสียหลักล้มลงไป ต่อมาจึงหันไปจัดการฟาดแขนคนที่ถือมีดอยู่จนมีดนั่นหล่นกระเด็นไปทางไหนก็ไม่อยากสนใจเพราะต้องการเล่นงานเจ้าตัวให้หมอบโดยเร็วที่สุดด้วยการหวดไม้ท่อนซ้ำเข้าที่หน้าท้องจนร่างนั้นทรุดนั่งตัวงอร้องโอดโอย จากนั้นจึงหันมาหวดท่อนไม้ใส่ปลายคางคนที่มันถีบเพื่อนตนเมื่อครู่ตบท้ายด้วยการก้มลงฟาดซ้ำที่หน้าแข้งจนฝ่ายนั้นล้มลงดิ้นพล่านๆ กุมหน้าขา ในใจคิดจะจัดการมากกว่านั้นแต่ก็เป็นห่วงเพื่อนเหลือเกินจึงวางท่อนไม้ลงวิ่งจะไปพยุงร่างเพื่อนให้ยืนขึ้น
อาทีตกใจที่เห็นเพื่อนทิ้งอาวุธในมือพร้อมกับเห็นชายคนที่เคยถือปืนกำลังคลานจะไปหยิบเอาอาวุธของตัวเองที่หล่นอยู่บนพงหญ้า มือนั้นใกล้ถึงปืนแล้ว เด็กหนุ่มฝืนเรี่ยวแรงที่มีพุ่งร่างหยิบเอามีดปลายแหลมที่กระเด็นมาใกล้ๆ ตัวแล้วจับด้ามมีดไว้มั่นด้วยมือข้างที่ไม่เจ็บก่อนจะหันมาจ้วงแทงลงบนหลังมือของชายที่กำลังจะหยิบปืนดั่งใช้มันเป็นตะปูตอกหลังมือนั่นไว้ไม่ให้ขยับ

“โอ้ยยย! มือกู มือกู ไอ้เด็กเปรตกูจะฆ่ามึง กูจะฆ่ามึง” ชายคนนั้นร้องออกมาเสียงลั่นป่าในตอนที่หลังมือโดนปลายมีดเสียบทะลุปักเอาไว้กับพื้นดิน มือที่ว่างกำลังจะเอื้อมมาดึงมีดนั่นออกในตอนที่คนจ้วงแทงปล่อยมือไปแล้ว แต่ก็ต้องร้องลั่นป่าขึ้นอีกเมื่อหลังมือโดนลูกตะกั่วยิงทะลุ ซึ่งคนที่ยิงก็คืออาทีที่หลังจากจ้วงแทงหลังมือวายร้ายได้เสร็จก็รีบฉวยหยิบปืนมาลั่นไกใส่มืออีกข้างของฝ่ายนั้นทันทีเพื่อไม่ให้เจ้าตัวใช้มือมาดึงมีดปลายแหลมออกจากหลังมือได้

อาทิตย์ยืนอึ้งต่อฝีมือการยิงปืนที่แม่นปานจับวางของอาทีอีกครั้งหลังจากที่เคยเห็นเจ้าตัวยิงใส่ขาของสินมาเมื่อครั้งก่อนโน้น เด็กหนุ่มวิ่งจะไปดูอาการเพื่อนแต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อร่างโดนคว้าเอาไว้พร้อมโดนจี้ลำคอเอาไว้ด้วยมีดปลายแหลม

“พวกมึงคิดว่าพวกกูพกอาวุธมีดมาแค่เล่มเดียวหรือไง โยนปืนมาให้กูซะไม่งั้นเพื่อนมึงคอหอยขาดแน่ไอ้ตัวดี”

อาทีตกใจเมื่อเห็นสภาพอิทธิโดนจับไว้เป็นตัวประกันสำหรับยื่นข้อต่อรองให้ตนทิ้งปืนในมือ ชายฉกรรจ์ที่กำลังจี้คอหอยเพื่อนด้วยมีดคมวาวอยู่นั่นคือชายที่โดนอิทธิฟาดไม้ท่อนใส่ลำตัวนั่นเอง

“อาที มึงไม่ต้องห่วงกู ยิงพวกมันซะ กูจะตายจะรอดยังไงก็ไม่สำคัญเท่ามึงต้องรอด เชื่อกูมึงอย่าไปเชื่อมัน” อิทธิรีบเอ่ยบอกเพื่อนเพราะเกรงว่าเจ้าตัวจะเชื่อพวกวายร้ายจริงๆ เด็กหนุ่มมีโอกาสมองหน้าคนพวกนี้ชัดๆ จึงจำได้ว่าเป็นพวกเดียวที่เคยดักก่อกวนทำลายจักรยานของตน แต่ตอนนี้ไม่อาจลำดับความคิดได้ว่าเหตุใดตัวเองต้องมาเจอกับชะตากรรมลุ้นชีวิตในป่ารกร้างเช่นนี้เพราะตอนนี้อยากให้อาทีเชื่อฟังคำพูดตนมากกว่ายอมทำตามคำสั่งพวกวายร้าย เพราะหากฝ่ายนั้นเชื่อตนยังไงเจ้าตัวก็รอด แต่หากเชื่อพวกมันโอกาสที่จะกอดคอกันตายมีสูงมากนัก

“กูรอดแล้วมึงตายกูจะอยู่ไปทำไมล่ะไอ้อิท” อาทีเอ่ยบอกกับเพื่อน สถานการณ์แบบนี้จะให้เขายืนมองฝ่ายนั้นโดนเชือดคอทิ้งเขาจะทำได้ยังไง เด็กหนุ่มตัดสินใจโยนปืนไปทางชายฉกรรจ์ผู้นั้นจนมันตกอยู่ที่พื้น อิทธิน้ำตาแทบไหล ซึ้งใจที่เพื่อนไม่ยอมเอาตัวรอดคน
เดียวแม้ตนจะเอ่ยปากขอร้องแล้ว เด็กหนุ่มนึกเกลียดชังเสียงหัวเราะของชายที่กำลังจี้คอหอยตนอยู่ ตัดสินใจเอ่ยถามขึ้น

“พวกแกเป็นคนของนายศรใช่มั้ย”

“มึงสองคนนี่สมเป็นเพื่อนรักกันจริงๆ เดาเรื่องได้เก่งเหลือเกิน” ชายผู้นั้นเอ่ยตอบก่อนจะผลักร่างเด็กหนุ่มให้ไปยืนอยู่ข้างๆ อาที แล้วก้มลงหยิบปืนมาถือไว้ในมือยกขึ้นชี้ขู่แล้วว่า

“พวกมึงสองคนดูรักกันดีนะ แต่น่าเสียดายที่มิตรภาพดีๆ ของพวกมึงต้องจบลงตรงนี้”

“ถึงแม้ว่ามันจะจบแต่ฉันก็ดีใจที่ฉันไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพวกหน้าตัวเมียที่ส่งลูกสมุนมารุมทำร้ายคนอื่นด้วยวิธีการหมาลอบกัด หากฉันกับไอ้อาทีตายจริงๆ ก็ฝากกลับไปบอกนายของพวกแกด้วยนะว่าฉันสมเพชพวกมันและขอสาปแช่งให้มันตกนรกหมกไหม้ไปทั้งตระกูล”
อิทธิเอ่ยระบายใส่หน้าเมื่อรู้สึกสมเพชมากกว่ากลัวตาย

“ปากดีกันนักนะ กูว่าก่อนที่กูจะยิงพวกมึงทิ้งกูเฉือนลิ้นพวกมึงส่งไปให้พ่อศรกับพี่สินดูดีกว่าว่ะ ท่าทางพวกกูคงจะได้ค่าตอบแทนเพิ่มขึ้น”

แม้จะใจแข็งเพียงไรแต่คำว่าเฉือนลิ้นที่ได้ยินก็ทำให้อิทธิและอาทีหันมองหน้ากันด้วยสีหน้าหวั่นวิตก

“ไงกลัวเหรอ เฮ้ย พวกมึงสองคนมัวแต่สำออยลุกไม่ขึ้นอยู่นั่นแหละ แข็งใจลุกมาช่วยกูทำงานก่อนสิวะ”

ชายผู้นั้นเอ่ยเยาะใส่หน้าก่อนจะหันไปสั่งพรรคพวกสองคนที่นอนเจ็บกันอยู่คนละทาง แต่ดูคนที่โดนมีดปลายแหลมปักหลังมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งโดนยิงจนทะลุจะเจ็บปวดกว่าใครอีกคนที่เจ็บแค่หน้าแข้ง ซึ่งตอนนี้ได้ฝืนใจเดินมาช่วยเพื่อนที่หลังมือพรุนทั้งสองข้างจนพยุงกันไปยืนสมทบกันได้สำเร็จ

“เสียมั้ยล่ะมึง โดนไอ้เด็กเมื่อวานซืนเล่นงานซะมือพรุน ไม่ไหวก็ไปนั่งพัก ส่วนมึงไปลากตัวไอ้อาทีจับมัดไว้ ส่วนกูจะจัดการกับไอ้อิทธิเอง”

ชายถือปืนเอ่ยบอกสองคนที่มายืนอยู่ข้างๆ คนที่มือพรุนจึงเดินไปหลบนั่งฉีกเสื้อผ้ามาพันมือตัวเองไว้ ส่วนอีกคนเดินถือมีดเปื้อนเลือดเพื่อนตรงเข้าหาอาที

“อย่านะ อย่าแตะต้องเพื่อนกูแม้แต่ปลายเล็บ” อิทธิตรงเข้าขวางจึงโดนหมัดตะบันบันใส่หน้า นาทีนี้นึกเป็นห่วงเพื่อนมากกว่ากลัวตายจึงหันมาชกหน้ากลับคนที่ชกตนก่อน คิดจะตามไปซ้ำอีกเมื่อเห็นฝ่ายนั้นเซถลาหน่อยๆ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงปืนหนึ่งนัดลั่นขึ้น

“ขืนมึงซ่าส์อีกคราวนี้ก็จะยิงกบาลมึงแทนการยิงขึ้นฟ้าไอ้อิทธิ”
มีเสียงดังตวาดตามมาที่แท้เสียงปืนนั่นก็เกิดจากคนนั้นยิงมันขึ้นฟ้านั่นเอง อิทธิยอมถอยร่างกลับมายืนคู่อาที เอ่ยบอก

“ไม่มีใครแยกมึงกับกูออกจากกันได้ไอ้อาทีมึงไม่ต้องกลัว”

“โธ่โว้ย กูขอเอาคืนทีเถอะที่บังอาจมากล้าดีกับกู”

ในนาทีนั้นชายที่โดนอิทธิโต้ตอบกลับด้วยการต่อยหน้าเกิดมีน้ำโหขึ้นมาจึงเดินถือมีดปลายแหลมในมือตรงเข้าหาร่างอิทธิเงื้อขึ้นเตรียมจ้วงแทง

“ไอ้อิทระวัง!” อาทีมองเห็นภาพนั้นเอ่ยร้องเสียงหลงตาเบิกโพลง และคิดว่าคำเตือนตนคงจะช้าไปจึงตัดสินใจดึงร่างเพื่อนมาซ่อนไว้ข้างหลังแล้วตนเข้ายืนตำแหน่งนั้นแทน

“ฉึก!” เสียงคมมีดเสียบเข้าทะลุร่างบริเวณช่องท้องจนมิดด้าม อาทีตาเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวดเจียนขาดใจในตอนนั้น


โปรดติดตามตอนต่อไป
ฝากเรื่องหนังสือรวมเล่มด้วยครับ
(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-05-2011 14:07:12
 :sad4: ไม่ยอมนะคะ คุณBboyseries จะให้อาทีเป็นอะไรไม่ได้นะ คนดีต้องตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ดิ
แบบนี้อิทธิยิ่งจะโดนคนที่เกลียดอยู่แล้วเกลียดต่อไปอีก ทั้งอาที ทั้งป้าจันทร์ เป็นคนดีที่ฟ้าไม่เมตตาเหรอ :monkeysad:
เอาใจช่วยอาที อย่าให้เป็นอะไรเลย สาธุคุณพระช่วยด้วย :m5:  นั่งสมาธิจิตอีกแรง:amen:(ไม่ค่อนอินค่ะ)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 04-05-2011 14:30:05
อ๊าก....................... หนูไม่ยอม.................

วิ่งหนีเตลิด   :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 04-05-2011 14:45:57
ม่ายยยยย...ไม่เอาแบบนี้ค่ะ อาทีต้องไม่เป็นไรน๊า :m15:

Writer ทำไมใจร้าย ลำเอียง จ้องแต่จะทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของอาที อิทธิ และแม่นางให้พังทลายนักหนาค่ะ ถ้าทำดีแล้วได้รับผลตอบแทนแบบนี้ ยังจะมีใครศรัทธาในการทำความดีอีกหรอค่ะ :o12:

นี่ค่ะสำหรับ Writer :โป้ก1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-05-2011 14:53:30
อาที T^T
ลุ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 04-05-2011 15:07:54
คนชั่วต้องได้รับผลกรรมนะค่ะ  อย่าปล่อยให้รังแกคนดี

ส่วนคุณพระเอกค่ะ  อย่าเป็นเลยค่ะพระเอกเนี่ยะ นอกจากจะไม่มีบทเด่นแล่้วยังไร้ประโยชน์ช่วยอะไรอิทธิได้สักอย่างม้ายยยย  ขัดใจๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-05-2011 15:56:15
ไม่นะ อาที!!!!
แง ไอ้พวกชั่ว ไอ้พวกเลว
งือ พวกแกไม่ได้ตายดีแน่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 04-05-2011 16:04:46
 o22
และแล้วก็เป็นไปตามความคาดหมาย... :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 04-05-2011 16:27:40
เดี๋ยวกรรมก็ตามทันพวกมัน ไอ้พวกชั่ว!! :fire:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-05-2011 17:06:47

(http://image.ohozaa.com/i/ede/ngon002rc.jpg)

 :sad4:
อิอิ
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 04-05-2011 17:27:10
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-05-2011 18:49:34
ตายสมใจอีจิตตรางานนี้

อาที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 04-05-2011 19:25:42
ตอนนี้มันสั้นมากขอบอก

ขอให้มีปราฏิหารเกิดขึ้นด้วยเถอะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 04-05-2011 19:41:34
 :serius2:ม่ายยยยยยยน๊า


 :m31:อ๊าคคคคคค
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 04-05-2011 19:51:31
ไม่นะอาที ไม่เป็นอะไรนะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 04-05-2011 19:55:26
ตอนนี้มันสั้นมากขอบอก

ขอให้มีปราฏิหารเกิดขึ้นด้วยเถอะ


เหอๆ รู้ด้วยว่าสั้น จะบอกว่าที่สั้นเพราะผมแอบบตัดตอนให้ใจระทึกเล่น อิอิ อ่ะ มาลงต่อให้จบต่อดีกว่า
อาทีโดนแทงฉึกเดียวมันน้อยไป มาเพิ่มให้อีกฉึกนึง จะมีใครว่าเราโหดมั้ยเนี่ย แต่ก็นะ มันเกิดขึ้นแล้วววววววววว


ต่อตอนที่ 37


“อาที!” อิทธิร้องลั่นเรียกเพื่อนด้วยความตกใจ ส่วนชายมือมีดตัดสินใจชักมีดออกแล้วแทงซ้ำเข้าไปยังร่างของอาทีอีกหนเพื่อตอบสนองที่คิดว่าเจ้าตัวคงอยากตายเต็มแก่จึงได้พาร่างมารับคมมีดแทนเพื่อนอย่างนี้
“อยากตายก่อนเพื่อนกูก็จัดให้ไอ้เด็กน้อย” ชายเหี้ยมเอ่ยบอกไม่สนใจกับอาการตาเหลือกร่างกระตุกของเหยื่อปลายมีดที่เกิดขึ้นอีกครั้ง อิทธิได้ยินเสียงปลายมีดจ้วงแทงร่างเพื่อนอีกหนก็หัวใจแทบวายเด็กหนุ่มตัวสั่นน้ำตาไหลยืนอึ้งได้สักพักก็ตัดสินพุ่งตัวมาข้างหน้าแล้วผลักร่างมือมีดออกห่างจากร่างเพื่อนรัก กัดฟันกลั้นใจจับด้ามมีดแล้วดึงส่วนปลายที่ฝั่งอยู่ในร่างของเพื่อนออกมาหันไปกระหน่ำแทงเข้าที่ร่างวายร้ายอันธพาลแบบไม่นับครั้ง ส่วนอาทีนั้นร่างได้หงายหลังล้มตึงไปบนพงหญ้าทั้งๆ ที่นัยน์ตายังเหลือกลานอยู่อย่างนั้น
อิทธิร้องไห้ไปก็จ้วงแทงร่างชายวายร้ายนั่นแบบไม่ยั้งมือจนร่างนั้นอ่อนปวกเปียกคามือ และเห็นเลือดสดๆ ไหลทะลักออกทั้งทางปากและจมูกของเจ้าตัวจึงคิดว่าตัวเองได้ฆ่าคนตายเสียแล้วจึงหยุดแล้วหันไปมองทางคนที่ถือปืนที่ยืนอ้าปากค้างอยู่
สองคนมองสบตากันในนาทีที่ต่างคนต่างได้สติ อิทธิรู้ทันทีว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นจึงใช้ร่างอันปวกเปียกของคนตรงหน้าเป็นเกราะกำบังลูกกระสุนที่โดนยิงกราดมาแบบกระหน่ำ
“มึงฆ่าเพื่อนกูมึงต้องตายมึงต้องตาย” ชายผู้นั้นตวาดออกมาอย่างคนเสียสติพลางสาดกระสุนมาอย่างบ้าครั้ง กระทั่งได้ยินเสียงคลิ๊กเป็นสัญญาณว่ากระสุนหมดจึงหยุดดูผลงาน รู้สึกโกรธจนแทบกระอักปนตกใจจนสติกระเจิงเมื่อเห็นร่างเพื่อนของตนพรุนจนไม่เหลือชิ้นดีและค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น จนในที่สุดตัวเองก็ได้มองเห็นแววตาเยาะหยันจากคนที่ไม่ได้รับลูกกระสุนเลยสักนิดที่ยืนถือมีดจังก้ามองอยู่
“เสียใจด้วยนะที่ลูกกระสุนหมด ทีนี้คราวกูบ้างล่ะ” อิทธิเอ่ยบอกออกมาแล้วตัดสินใจขว้างมีดในมือไปยังร่างเป้าหมายด้วยจิตใจที่ภาวนาว่าขอให้โดนจุดสำคัญของมันสักที่ แล้วคำภาวนานั้นก็ได้ผลเมื่อมีดเล่มนั่นปักเข้าบนอกของชายผู้นั้นจนร่างเจ้าตัวทรุดลง
“เฮ้ย! อะไรกันวะ” ชายที่ไปนั่งดูแลแผลหลังมือเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนั้นก็ตกใจวิ่งมาช่วยเพื่อน ในตอนนั้นเองอิทธิจึงหันไปยกร่างอาทีขึ้นหลังแล้วพาวิ่งฝ่าพงหญ้าหนีไป
   “มึงจะหนีไปไหน มึงคิดว่าจะรอดเหรอไอ้เด็กเปรต”
ชายที่เจ็บแค่มือเอ่ยขึ้นพลางคิดจะถือเล่มที่เพื่อนเคยใช้จี้คอยหอยอิทธิซึ่งหล่นหล่นจากมือเพื่อนตอนร่างทรุดลงตามไป
“มะ มึงช่วยกูก่อน ไม่ต้องไปตะ ตามมัน” เพื่อนที่โดนปลายมีดปักอกแต่ยังไม่ถึงกับสิ้นใจเอ่ยห้ามเอาไว้ทำให้ความคิดจะไล่ตามชะงักลง
ด้านอิทธิแม้จะเหนื่อยหอบเพียงใดแต่ก็ไม่ลดละที่จะแบกร่างอาทีไปขอความช่วยเหลือจากใครก็ได้ให้พาเจ้าตัวส่งโรงพยาบาล เด็กหนุ่มพยายามทรงตัวไม่ให้ตัวเองล้มลงเพราะเกรงว่าเพื่อนจะเจ็บแผลซ้ำ ปากก็บอกให้เพื่อนแข็งใจไว้ทั้งๆ ที่คนอ่อนแอน่าจะเป็นตัวเองเสียมากกว่าเพราะตอนนี้ได้สะอื้นไห้อยู่ตลอดเวลา ยิ่งได้กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งมาแตะจมูกเพราะเลือดเหล่านั้นมันไหลออกมาจากทางปากของคนอยู่บนหลังจนเปียกชุ่มไปทั้งไหล่ก็หัวใจแทบวายเพราะกลัวว่าเจ้าตัวจะเป็นอะไรไปแบบที่ตัวเองไม่อยากให้เป็น
จากเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยและยังเป็นยามค่ำคืนอีก แม้จะพยายามทรงตัวเพียงไรแต่อิทธิก็พลาดล้มลงจนได้ในตอนหนึ่งขณะที่แบกร่างอาทีฝ่าพงหญ้าไป
“อาทีกูขอโทษ กูขอโทษ มึงเจ็บมั้ย แข็งใจไว้กูต้องพามึงออกไปจากที่นี่ มึงต้องไม่เป็นอะไร มึงต้องไม่เป็นอะไร”เด็กหนุ่มรีบคลานมากุมมือเพื่อนไว้เอ่ยบอกทั้งน้ำตา และพยายามจะพาร่างที่อ่อนปวกเปียกนั้นขึ้นหลังอีกครั้งแต่ก็ทำไม่ง่ายนักเมื่อฝ่ายนั้นรั้งร่างกายไม่ยอมขึ้นไปโดยง่าย
“อาทีมึงต้องขึ้นหลังกูนะ มึงต้องไปหาหมอ มึงอย่ามาหมดแรงตอนนี้สิ มึงทำให้กูกลัวนะ ขึ้นหลังกูนะ กูจะพามึงไปหาหมอ แข็งใจไว้ แข็งใจไว้” อิทธิเอ่ยบอกเพื่อนทั้งน้ำตา ใจหายเมื่อเห็นเจ้าตัวพยายามฝืนร่างกายที่อ่อนแรงบอกยิ้มๆ
“แค่นี้ก็ก็รู้ว่ามึงห่วงกูแล้วไอ้อิท แต่มึงอย่าเหนื่อยอีกเลยนะ กูรู้ว่ากูไม่ไหวแล้ว มันเจ็บจนกูไม่อยากหายใจแล้ว” จากรอยยิ้มในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวเมื่อร่างกายเริ่มเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง อิทธิมองเห็นภาพนั้นก็รีบคว้ามือเจ้าตัวบอกปากคอสั่น
“ไม่อาที มึงอย่าพูดแบบนี้ มึงต้องไม่เป็นอะไร มึงต้องไม่เป็นอะไร มึงจะทิ้งกูไปแบบนี้ไม่ได้กูไม่ยอม กูไม่ยอม มึงอดทนไว้นะ อดทนไว้ หากมึงรอดคราวนี้มึงเตือนมึงบอกอะไรกูจะฟังมึงทุกอย่างขอให้มึงบอก มึงต้องรอดนะมึงต้องรอด”
“ตะแต่กูไม่ไหวแล้ว กูไม่ไหวแล้ว” อาทีฝืนใจพูดออกมาตอนที่ร่างกายสะดุ้งเฮือกจากความเจ็บปวดที่แล่นเข้าเล่นงานอวัยวะภายในที่อาจโดนคมมีดเฉือนจนขาดไปแล้ว
“มึงต้องไหว มึงต้องไหว แล้วมึงก็เลิกพูด มึงอยู่นิ่งๆ กูจะพามึงไปหาหมอให้ได้ มึงจะต้องไม่เป็นไร มึงต้องไม่เป็นไร”
อิทธิร้องไห้โฮในตอนที่เห็นอาการเพื่อนสะดุ้งเฮือกหน้าตาบิดเบี้ยว เด็กหนุ่มแข็งใจพาร่างอ่อนปวกเปียกเจ้าตัวขึ้นบนหลังอีกครั้งก่อนจะออกก้าวเดินแกมวิ่งไปอย่างคนไม่รู้จักเหนื่อยเพื่อหาทางออกไปจากป่ารกร้างนี้ซึ่งยังไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน พอวิ่งไปได้สักพักก็ใจชื้นเมื่อเห็นเส้นถนนอยู่ตรงหน้า
“มึงรอดแล้วอาทีมึงรอดแล้ว”
เด็กหนุ่มเอ่ยบอกกับเพื่อน เห็นเพื่อนออกแรงจิกนิ้วมือที่หัวไหล่สุดแรงก็ดีใจจนลืมความเจ็บ เมื่อคิดว่านั่นคืออาการตอบรับของเจ้าตัว หนุ่มน้อยยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตาก่อนจะฝืนเรี่ยวแรงแบกร่างนั่นไปยังเส้นถนนที่ว่า แต่แล้วก็ชะงักหยุดเมื่อรู้สึกเรี่ยวแรงจากนิ้วมือเพื่อนที่จิกลงบนหัวไหล่ค่อยๆ ค่อยๆ ค่อยๆ เบาแรงลงจนที่สุดแขนทั้งสองข้างข้องเจ้าตัวก็ตกลงมาขนาบข้างกายแกว่งไปมาให้เห็นคล้ายว่าเจ้าของอวัยวะส่วนนี้ไม่มีสติที่จะบังคับมันได้อีกแล้ว
“ไม่นะอาที ไม่!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!” อิทธิร้องออกมาเสียงหลงปฏิเสธที่จะรับรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่อยู่บนหลังตอนนี้


โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 04.05.54 พร้อมเปิดจองหนังสือ]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 04-05-2011 20:00:06
อาที T______________________________T
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 04-05-2011 20:02:57
ฮือๆๆ แง
อาที อาที อาที แงๆ
 :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-05-2011 20:06:37
 :o12: :o12:อาทีๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


 :เฮ้อ: :เฮ้อ:เหนื่อย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 04-05-2011 20:07:51
เข้ามาลุ้นเรื่องนี้มากกว่าดอกทองสีส้มอีก



 :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-05-2011 20:15:56
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :sad4: :sad4: :sad4:
ไม่เอา เราไม่ยอมให้อาทีเป็นอะไรมากกว่าบาดเจ็บ อ่ะ บาดเจ็บสาหัสก็ได้ แต่ต้องรอด ๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 04-05-2011 20:35:29
ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม

ขอปาฏิหาร สักครั้งได้ไหม :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 04-05-2011 20:44:23
ยังอีกนะ Writer ไม่เข็ดชิมิ :โป้ก1: ยังมีหน้ากล้ามาทำร้ายอาทีซ้ำอีกนะ ไอ้คนจัยร้ายจัยดำผิดมนุษย์ :m15:

เค้าขอสาปแช่ง ขอให้ Writer อกหัก รักคุด ได้ตุ๊ดเป็นสะมี (เผาพริก เผาเกลือ +ร่ายคำสาปกำกับ) ว่ะ 55555 :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 04-05-2011 20:45:13
อาทีตาย ต่อด้วย คุณจันทร์โดนนายศรฆ่าอย่างโหดเหี้ยม ต่อด้วยแม่นางที่สภาพศพไม่ต่างกัน  อาทิตย์ อาทีตายพร้อมกัน โดยมีจิตราเห็นลูกโดนฆ่าต่อหน้า แล้วเป็นบ้า  นายศร3พ่อลูกฮุปไร่ได้สำเร็จ ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข  เดี๊ยนเดาตอนจบถูกชิมิคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 04-05-2011 20:47:13
 :z3:หนักกว่าเก่าอีกอ่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 04-05-2011 20:49:00
ไม่นะ :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 04-05-2011 21:22:15
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
คุณบอยใจร้ายที่สุด ห้ามตายนะ ทำไมชอบให้คนดีๆ ตายกัน คนชั่วมีตั้งเยอะแยะจะแต่งให้กระหน่ำแทงมัน ยิงซ้ำ เลาะฟัน ถลกหนังยังไงก็ทำไปสิ
ทำไมต้องทำกับคนดีๆ  :m15: ใจร้ายๆๆๆ ถ้าแต่งไว้ให้ตายจริงๆ ก็ต้องไปแก้บทใหม่ด้วยไม่งั้นจะโกรธ :m16:
จะไม่คุยด้วยเลยคอยดู โป้ง!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 04-05-2011 21:31:31

ต๊าย ผิดหวังนิดๆค่ะ
นึกว่า Sailor Sun (อาทิตยาวดี  :3125: )
จะมาช่วยสองหนุ่มนี้ไว้ได้
สรุป เดี๋ยวก็มาต่อว่าอิฐอีก(ตามเคย)
โทษฐานไม่ตายก่อนอาที ชิส์

๑๕๒ + ๑ = ๑๕๓
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 04-05-2011 23:31:00
ง่า.....
 :o12: อาที
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 05-05-2011 00:29:10
ทำไมอ่านแล้วบีบหัวใจมาก อาทีจะตายเหรอ อยากร้องให้ มิตรภาพของอาทีอิทธิทำไมมันเศร้าจัง ทำไมอาทีต้องตาย
อยากร้องไห้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 05-05-2011 00:43:55
อาที....
และแล้ววันนี้ก็มาถึง
พวกชั่ว เกลียดมัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 05-05-2011 08:22:34
ตอนนี้มันสั้นมากขอบอก

ขอให้มีปราฏิหารเกิดขึ้นด้วยเถอะ

เหอๆ รู้ด้วยว่าสั้น จะบอกว่าที่สั้นเพราะผมแอบบตัดตอนให้ใจระทึกเล่น อิอิ อ่ะ มาลงต่อให้จบต่อดีกว่า
อาทีโดนแทงฉึกเดียวมันน้อยไป มาเพิ่มให้อีกฉึกนึง จะมีใครว่าเราโหดมั้ยเนี่ย แต่ก็นะ มันเกิดขึ้นแล้วววววววววว

 

คุณบอยไม่โหดหรอก  แต่โหดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 05-05-2011 08:37:42
อาที T_________________T
ไม่นะ
หัวข้อ: Re:
เริ่มหัวข้อโดย: white_destiny ที่ 05-05-2011 09:13:08
ไม่ให้ตายไม่เอาไม่ให้ตายตายไม่ได้นะ สาธุฟื้นสิฟื้น ตายไม่ได้
อิทธิผายปอดเร็วๆดิ
มันต้องมีปาติหานดิ
ฟื้นดิว๊ายังไม่มีคู่เลยแค่2รูเอง
ฟื้นๆๆอย่าอู้เด๋วไม่จ่ายค่าตัว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 05-05-2011 10:12:03
โหดร้ายยยยยยยยยยยยย ทำไมอ่ะอาทีไม่เป้นไรน่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 05-05-2011 15:41:47
 :m15:
ดีนะไม่ได้อ่านที่ทำงาน...คนดีตายก่อนตลอดดดด  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 05-05-2011 16:22:03
อาที :m15: :m15:

ไม่น่ะ :m15:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: I_ARMS ที่ 05-05-2011 18:43:24
งอนคนเขียนแล้ว  :sad4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: BlueFaith ที่ 05-05-2011 19:38:21
ตายจริงอ่ะ O_o"

ไม่ให้ตายนะ  ฮือออออออ  ขอให้แค่สลบเพราะพิษบาดแผลนะ
   :sad4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 05-05-2011 20:02:51
อาทีแค่สลบไปเท่านั้นใช่ไหม
ใครก้ได้ช่วยบอกที :z3:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 05-05-2011 21:52:49
ไรเตอร์ครับ ถ้าผมจะสาบแช่งพี่เหมือนรีนึงพี่จะเอามาลงให้อ่านอีกมั้ย? ผมโกรธและเกลียดพี่ที่สุดอ่า

ตอนจบครอบครัวไอ้สาระเลวศรได้ไร่และคนดีทุกคนตายหมดใช่ป่ะ? เออดี!!
กรูอยากฆ่าไอ้อาทิตย์!!!!!!! อาทีเป็นพระเอกในดวงใจตลอดกาล
สำหรับพี่บอย  :โป้ก1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 05-05-2011 21:58:57
ตอนที่อิทแบกอาทีอยู่บนหลังแล้วร้องเรียกอาทีว่าอย่าตายอ่ะ มันยิ่งกว่าตอน ฮันซังกุง ตายซะอีก น้ำตาผมไหลเลยอ่ะ

เกลียดไอ้พระเอกหน้าทุเรศศศศศศศศศศศศศศ!!!!!! ไม่เป็นฮีโร่ แม่มเลยไอ้สัสเอ้ย!!

(ขอโทษที่ใช้อารมณ์มากไป อินจัด!!)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 06-05-2011 11:56:17
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
อาทีอย่าตายน้า............. :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
พี่บอย อย่างโหดอ่ะ........... อาทีตายจริงๆๆๆๆใช่ไหมมมม
 :o12: :o12: :o12: :o12:
อาทิตย์ออกมาช่วยเลยยย ไอพระเอกไม่มีบท :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 07-05-2011 00:12:28
ไม่นะอาที  :serius2:

แข็งใจไว้ก่อน

อาทิตย์ขับมาเจอทีเหอะ

ใครก็ได้พาอาทีไปส่งโรงพยาบาลที

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 37 (มาต่อเพิ่มให้อีกนิดจากช่วงบ่ายครับ) 4-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 07-05-2011 00:55:50
ตอนที่ 38
แสงไฟหน้ารถส่องอยู่ไม่ไกลตาในตอนที่อิทธิกำลังควบคุมสติไม่อยู่จากสิ่งที่กำลังเผชิญตอนนี้ เด็กหนุ่มวางร่างที่แน่นิ่งของเพื่อนลงแล้วรีบวิ่งออกไปเพื่อโบกรถคันนั้นให้จอดพลางตะโกน
“ช่วยด้วยครับ! ช่วยด้วย!”
อาทิตย์ใจเต้นตึกตักในตอนที่แสงไฟหน้ารถตัวเองส่องไปให้เห็นร่างเปื้อนเลือดของอิทธิที่กำลังยืนโบกไม้โบกมืออยู่กลางถนนอย่างไม่เกรงกลัวว่ารถเขาจะพุ่งชน ชายหนุ่มชะลอความเร็วรถลงเมื่อขับไปจะถึงร่างนั้น ในใจก็ภาวนาว่าให้ตัวเองตาฝาดที่เห็นว่าร่างของอิทธิโชกเลือด มันต้องไม่ใช่สิ เขาต้องไม่เจออิทธิในสภาพแบบนี้ เพราะนั่นหมายถึงว่าอาทีน้องชายเขาก็จะต้องตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน เพราะสองคนนี้ไม่เคยตัวห่างกันเลยสักวินาที หากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นกับอิทธิ ก็เป็นไปไม่ได้เลยว่าน้องชายเขาจะปลอดภัย
กว่าที่จะมาเจออิทธิได้ตอนนี้อาทิตย์เพิ่งจะขับรถออกมาจากไร่ลำไยที่เคยไปส่งน้องชายเพื่อตามหาเจ้าตัว เพราะมารดาร่ำร้องให้ตนเป็นคนออกตามหาตอนฟื้นขึ้นมาจากการหมดสติ นึกถึงตอนนี้ชายหนุ่มก็สะเทือนใจกับภาพที่มารดาร่ำไห้ปากคอสั่นว่าน้องชายตนตามมาหลอกมาหลอนอีกแล้ว
“อาทิตย์น้องอยู่ที่ไหน น้องอยู่ไหน ลูกไปตามน้องกลับมาที่ไร่นะ มันน่ากลัว มันน่ากลัว น้องมาหลอกแม่อีกแล้ว น้องมาหลอกแม่ ไม่จริง ไม่จริง น้องยังไม่ตาย แม่ไม่เชื่อว่าน้องตาย น้องแค่มาเตือนว่าตกอยู่ในอันตราย อาทิตย์ไปตามน้องกลับมานะ ไปตามน้องกลับมา แม่ให้อภัยน้องแล้ว แม่กลัว แม่กลัวว่าน้องจะตาย อาทิตย์ไปนะ ไปตามน้องกลับมา ไปตามน้องกลับมา ฮือๆ” นั่นคือถ้อยคำที่มารดาเอ่ยออกมาทั้งหมดในตอนนั้น ชายหนุ่มเห็นอาการก็รู้สึกใจไม่ดีตามไปด้วยจึงตัดสินขับรถไปยังไร่ลำไยนั่นเพื่อดูให้แน่ใจว่าน้องชายตนไม่ได้เป็นอะไร แต่แล้วก็ใจหายเมื่อพอไปถึงก็พบเพียงแต่แม่นางที่ร่ำไห้กระวนกระวายอยู่ไม่ต่างจากมารดาตน ฝ่ายนั้นพอเห็นตนในตอนแรกที่แสดงออกถึงท่าทีตกใจ แต่สุดท้ายก็เข้าโผเข้าใส่รายงานปากคอกันว่าบุตรชายของนางและน้องชายของตนยังไม่กลับเข้าไร่มาจนป่านนี้ และนางยังบอกอีกว่าเมื่อคืนนั้นฝันเห็นสองคนนั้นหลงป่ากันอยู่ก่อนร้องไห้ออกมาอย่างน่าเห็นใจ
“คุณอาทิตย์ตามหาอิทกับคุณอาทีทีนะคะ ดิฉันเป็นห่วงพวกเขาเหลือเกิน นะคะ ดิฉันขอร้อง ดิฉันขอร้อง” ฝ่ายนั้นร่ำไห้บอกพลางยกมือไหว้ขอร้อง ชายหนุ่มจึงเอ่ยบอกว่าตัวเองจะต้องออกตามหาทั้งอิทธิและอาทีอย่างแน่นอนเพราะก็รู้สึกห่วงใยสองคนนั้นอย่างสุดหัวใจไม่ต่างจากนางเลย
ชายหนุ่มขับรถออกมาจากไร่และขับตะเวนตามหาทั้งอิทธิและอาทีไปทุกซอกของมุมเมืองเขตนั้น แต่แล้วก็ไม่พบวี่แววว่าจะเจอจนคิดว่าลองขับรถออกมาตามป่าไร่รอบนอกของเมืองดู ระหว่างขับรถก็ได้แต่ภาวนาให้ทั้งน้องชายและอิทธิอยู่รอดปลอดภัย แต่แล้วสุดท้ายก็ต้องมาเจอกับอิทธิในสภาพโชคเลือดแบบนี้ มันทำให้หัวใจหวิวไหวหวั่นวิตกไปต่างๆ นานาๆ
“คุณอาทิตย์ คุณอาทิตย์จริงๆ ด้วย คุณอาทิตย์ช่วยไอ้อาทีด้วย ช่วยไอ้อาทีด้วย”
อิทธิโผวิ่งเข้าหาอาทิตย์ในตอนปัจจุบันเมื่อเห็นคนนั้นลงจากรถเดินมาหาตน
“น้องฉันเป็นอะไร แล้วน้องฉันอยู่ไหน” อาทิตย์เอ่ยถามคนตรงหน้ารู้สึกเครียดจัดกับภาพที่ฝ่ายนั้นร้องห่มร้องไห้อย่างคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“อาทีถูกแทง คุณต้องรีบช่วยมันนะ ตอนนี้มันแน่นิ่งไปแล้ว คุณต้องช่วยมันนะ”
อิทธิรีบเอ่ยบอก อาทิตย์ได้ฟังก็ใจหาย ชายหนุ่มรีบจับร่างอิทธิตะคอกถามทันที
“มันเกิดขึ้นได้ยังไง แล้วอาทีอยู่ไหน อาทีอยู่ไหน”
“อยู่นั่นครับ คุณอาทิตย์ช่วยมันก่อนนะครับ แล้วผมจะเล่าเรื่องให้ฟังทีหลัง” อิทธิชี้มือไปทางร่างเพื่อนที่นอนจมกองเลือดแน่นิ่งอยู่ อาทิตย์มองตามไป เอ่ยเรียกชื่อน้องชายลั่นก่อนจะวิ่งไปอุ้มร่างเจ้าตัวมายังรถที่อิทธิคอยเปิดประตูให้ สองคนช่วยกันวางร่างแน่นิ่งของอาทีไว้บนเบาะหลังก่อนที่ต่างคนจะต่างวิ่งขึ้นรถพอขึ้นได้สำเร็จอาทิตย์ก็ไม่รอช้าที่จะบึ่งรถออกไปด้วยความเร็ว
“อาทีมันยังไม่ตาย นายหยุดร้องไห้แล้วตั้งสติเล่าให้ฉันฟังได้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น”  
อาทิตย์พยายามควบคุมสติเอาไว้ให้มั่นไม่ให้กระเจิดกระเจิงไปอีกคน ชายหนุ่มตรวจดูชีพจรน้องชายแล้วตอนอุ้มขึ้นรถพบว่าเจ้าตัวยังไม่ได้จากเขาไปไหน น้องเขายังมีลมหายใจอยู่
“จริงเหรอครับ อาทียังไม่ตาย” อิทธิเอ่ยออกมาอย่างตื่นเต้น เด็กหนุ่มหันมองร่างเพื่อนที่หลับใหลอยู่อย่างนั้นก็เผลอยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนจะหันมาเล่าเรื่องราวให้อาทิตย์ฟังตั้งแต่เริ่มต้น
“ฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยว่าให้ใจเย็นๆ ทำไมนายไม่ฟังฉันอิทธิ นายไปเริ่มระรานยัยส้มแบบนั้นผลสุดท้ายมันเป็นยังไง มันเป็นยังไง”
อาทิตย์เอ่ยขึ้นเสียงดังเมื่อฟังเรื่องราวที่อิทธิเล่าให้ฟังว่าโดนสมุนนายศรและนายสินอุ้มมาเพื่อฆ่าทิ้ง สาเหตุนั้นฝ่ายนั้นบอกอาจเป็นเพราะตนได้ลงมือทำร้ายยัยส้มหลังจากที่โดนก่อกวนอยู่ตลอด
“ใจเย็น ใจเย็นแล้วยังไง คนที่คุณควรจะตำหนิจะว่ามันควรจะเป็นครอบครัวอันธพาลนั่นไม่ใช่ผม แล้วเรื่องที่คุณบอกว่าผมเริ่มระรานยัยส้มคุณพูดมาได้ยังไง พวกมันต่างหากที่ระรานผมก่อน รวมถึงแม่คุณด้วย”
อิทธิเอ่ยเถียงขึ้นเมื่อรู้สึกเสียใจและน้อยใจกับท่าทีของอาทิตย์ที่ควรจะชิงชังครอบครัวนายศรแต่กลับกลายเป็นว่ามาตำหนิและต่อว่าตนแทน
“ครอบครัวนั่นหากตามสืบว่าพวกเขาเป็นคนเลวว่าจ้างอันธพาลมาทำร้ายน้องชายฉันจริงฉันก็ไม่เก็บเอาไว้แน่ นายไม่ต้องมาขึ้นเสียงใส่ฉัน” อาทิตย์ตอบกลับไป อันที่จริงใช่ว่าจะไม่เห็นใจอิทธิ เพียงแต่นึกโกรธที่เจ้าตัวไม่ได้ฟังคำทัดทานของตนเลย ในเรื่องที่บอกว่าให้ใจเย็นรอคอยที่จะจัดการนายศรนายสินตามวิธีที่ควรจะเป็น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง
“ตามสืบเหรอ นี่หมายความว่าคุณไม่เชื่อสิ่งที่ผมบอกใช่มั้ย คุณกำลังคิดว่าผมใส่ร้ายครอบครัวนายศรใช่มั้ย” อิทธิเอ่ยถามอย่างเจ็บปวด เมื่อคำพูดเมื่อครู่ของอาทิตย์มันช่วยตกย้ำความคิดที่ว่าเจ้าตัวไม่เคยหวังดีกับตนอย่างบริสุทธิ์ใจ
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เอาเถอะขืนพูดกันต่อนี้ก็ไม่วายที่นายกับฉันจะมาทะเลาะกัน” อาทิตย์เอ่ยสรุปยุติข้อถกเถียงก่อนจะรีบเร่งความเร็วของรถเพิ่มขึ้นเพื่อส่งน้องนายให้ถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด
***********************************************
ค่อนคืนแล้ว หญิงสองคนแม้จะอยู่ต่างไร่กัน แต่ตอนนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนทั้งคู่เหมือนกันคืออาการหวั่นวิตกนึกเป็นห่วงบุตรชายที่ต่างพากันหายตัวไปทั้งคู่
ที่ไร่ส้ม จิตรายังคงนั่งเหม่อน้ำตาซึมนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาจากอดีตจนถึงปัจจุบันกับสิ่งที่หล่อนเคยทำกับบุตรชายคนเล็กนับตั้งแต่ที่รู้ว่าเจ้าตัวลดตัวลงไปคลุกคลีกับเด็กชายที่หล่อนตราหน้าว่าเป็นลุกขี้ข้าตั้งแต่กำเนิด
“ถอยออกไปจากลูกคนชั้นไพร่อย่างเด็กนั่นตาอาที”
“นี่แกจะไปปกป้องมันทำไมตาอาที เดี๋ยวเถอะสักวันมันจะจองหองพองขนกะแก ที่โรงเรียนแกมีลูกผู้รากมากดีตั้งหลายคน ทำไมแกไม่คบ แกมาคบทำไมกะอีแค่ลูกคนงานในไร่ที่สะเออะเกิดมาพร้อมแก หา!”
“แกไม่ต้องมาประชดฉัน แล้วก็อย่าพาลถึงพี่ชายแก พี่ชายแกน่ะฉลาดและมีความคิดที่จะเป็นเจ้าคนนายคนมากกว่าแก่หลายเท่านัก เขาไม่เคยที่จะคบหากับคนชั้นต่ำชั้นไพร่ให้ฉันต้องระอาใจเหมือนอย่างแกจำไว้ และฉันจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าแกยังไม่ถอยตัวของแกออกห่างไอ้ลูกขี้ข้านั่น แกเป็นหลังลายแน่ หนึ่ง!”
“ไอ้อาทีไอ้ลูกไม่รักดี แกท้าทายฉันนักฉันใช่มั้ย แกนึกว่าฉันจะไม่กล้าทำโทษแกงั้นเหรอ วันนี้ฉันเอาแกหลังลายแน่ มานี่”
“ฉันสั่งอะไรแกไม่เคยฟังเลยใช่มั้ย บอกกี่ครั้งว่าอย่าไปเข้าใกล้กับไอ้เด็กเวรนั่นทำไมแกไม่ฟังฉัน เรือนหลังนี้มันเล็กนักหรือไร แกถึงต้องดั้นด้นไปค้างอ้างแรมที่เรือนคนงาน แกเป็นถึงหลานเจ้าของไร่ จะทำอะไรทำไมไม่คิดถึงฐานะตนบ้าง”
“แกไม่ต้องมาเถียงฉัน ฉันเป็นแม่แกฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำ เอาอย่างพี่ชายแกหน่อยสิ เขาไม่เคยขัดใจอะไรฉันแล้วผลที่เขาได้รับมันเป็นยังไง ตอนนี้กำลังจะได้ดิบได้ดี เรียนจบชั้นสูงเหมาะที่จะเป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งต่างกับแกนัก ตะลอนๆ ใช้ชีวิตอยู่กับอีพวกเด็กไร้อนาคตให้มันได้อะไร”
ถ้อยคำในส่วนที่หล่อนนึกได้ในตอนนี้เป็นถ้อยคำบางส่วนที่หล่อนเคยใช้ดุด่าต่อว่าบุตรชายกระทั่งเกิดเหตุให้ต้องทะเลาะกันหลายครั้ง หล่อนเองก็รักบุตรชายคนนี้ใช่ว่าหล่อนจะไม่รัก แต่เพราะความเกลียดชังไอ้อีสองแม่ลูกอย่างอิทธิและแม่นางทำให้หล่อนพาลขัดใจในการกระทำของเจ้าตัวจนเกินที่จะแสดงความรักความเอาใจใส่ออกมาเฉกเช่นที่หล่อนทำกับบุตรชายคนโต แต่วันนี้ทำไมหล่อนถึงรู้สึกโหยหาที่จะแสดงความรักความห่วงใยให้กับเจ้าตัวเหลือเกิน หล่อนอยากจะกอด อยากจะหอม อยากจะเอ่ยคำว่าแม่รักลูกให้เจ้าตัวได้ยิน ขอให้คืนนี้หล่อนได้มีโอกาสได้แสดงออกสิ่งเหล่านี้ด้วยเถิด ขอให้สิ่งที่หล่อนเห็นเมื่อช่วงหัววันเป็นเพียงภาพหลอนที่หล่อนคิดไปเอง อาทีกลับมาหาแม่นะลูก กลับมาหาแม่นะ
น้ำตาที่เอ่อซึมตั้งแต่ต้นร่วงหล่นอาบแก้มในตอนท้ายของความคิดคำนึง เพลินพิศซึ่งตอนนี้กลับมารับใช้เจ้านายแล้วตามปกติ เห็นอาการก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้เพราะหล่อนไม่ชินเอาเสียเลยกับท่าทีเหม่อๆ เศร้าๆ ของผู้เป็นนาย
ส่วนที่ไร่ลำไย แม่นางนั้นได้ลงมานั่งพนมมืออ้อนวอนสิ่งศักดิ์ให้คุ้มครองบุตรชายหล่อนและหลานชายผู้มีพระคุณให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง
“เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าคะขอให้สิ่งที่พี่ดวงทำช่วยปัดเป่าเงาดำออกจากชีวิตของคุณอาทีได้จริงๆ ด้วยเถิด และก็ขอให้บุตรชายของลูกช้างอยู่รอดปลอดภัยด้วยอีกคนนะเจ้าคะ”
ในตอนท้ายที่พนมมือเหนือหัวแม่นางเอ่ยภาวนาให้พิธีกรรมที่หญิงเจ้าของไร่ลำไยทำให้คราที่หล่อนเห็นภาพของอาทีไร้ซึ่งศีรษะช่วยปัดเป่าบรรเทาเคราะห์กรรมให้กับเจ้าตัวได้จริง ก่อนจะหวนนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น
 “ว้าย!”
“เพล้ง!” เสียงร้องว้ายตามด้วยเสียงถ้วยชามตกลงบนพื้นแตกกระจาย แม่นางทรุดลงกับพื้นใจเต้นตัวสั่นอย่างตกใจกับภาพที่นางเห็นว่าร่างของหนุ่มน้อยอาทีที่เดินคู่ร่างบุตรชายหล่อนไปไร้ซึ่งศรีษะ
“แม่นาง เป็นอะไร ร้องเสียงหลงเชียว ตกใจอะไรรึ” เสียงหญิงเจ้าของไร่ดังทักมาก่อนเจ้าตัวจะวิ่งมาช่วยฉุดให้ลุกยืนนางจึงบอกอย่างละล่ำละลั่ก
“ผะ พี่ดวง เมื่อกี้ฉันเห็น ฉันเห็น”
“เห็นอะไร ไหนบอกฉันมาซิ  แล้วนี้จะเป็นลมหรือเปล่าหน้าซีดเชียว”
“ฉันตกใจน่ะพี่ดวง คือเมื่อกี้ฉันมองเห็นคุณอาทีไม่มีหัว!”
“หา! นี่เธอเหนื่อยมากไปหรือเปล่าเลยมองอะไรฝ้าฟาง”
“ฉันก็อยากให้เป็นอย่างนั้นนะพี่ดวง แต่ภาพมันชัดมากเลยพี่ดวง ฉันกลัว ฉันกลัว”
“เธอแน่ใจนะว่ามันชัดมาก และเธอก็ไม่ได้ตาฝาด”
“จ๊ะ ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ได้ตาฝาด”
“อืม มันก็พอมีเค้านะ เพราะบอกตามตรงว่าแวบแรกที่ฉันเห็นหน้าเด็กหนุ่มนั่นฉันก็พอจะรู้แล้วว่าเจ้าตัวกำลังมีเคราะห์”
“พี่ดวงหมายความว่ายังไงคะ”
“คือฉันพอจะรู้เรื่องดวงเรื่องเคราะห์อยู่บ้าง เธอรู้วันเดือนปีเกิดของหนุ่มนั่นมั้ย เดี๋ยวฉันจะช่วยดูเรื่องเคราะห์กรรมและหาทางปัดเป่าให้มันทุเลาลง”
แม่นางยอมบอกวันเดือนปีเกิดของอาทีให้กับหญิงเจ้าของไร่ผู้นั่น ที่นางรู้เพราะจำได้ไม่ลืมว่าอาทีกับบุตรชายหล่อนคลอดออกมาในวันเดียวกัน
หญิงเจ้าของไร่หาที่นั่งทำสมาธินับนิ้วหลับตาเอ่ยมุมมำๆ ไปสักระยะ ก็ลืมตาขึ้นหันมามองด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก นางจึงเอ่ยถามขึ้น
“เป็นอย่างไรบ้างคะพี่ดวง”
“ก็อย่างที่ฉันบอกแหละแม่นางว่าเด็กหนุ่มนี่กำลังมีเคราะห์ มันเป็นเวรเป็นกรรมที่เจ้ากรรมนายเวรตามมารังควานตั้งแต่ชาติภพที่แล้ว”
“ผะ พี่ดวงดูได้ขนาดนั้นเลยหรือคะ”
“หากเคราะห์ไม่แรงกรรมไม่ซัดหนักๆ ฉันก็คงมองไม่เห็นหรอก แต่กับเด็กหนุ่มนี่ถึงขั้นชะตาขาด”
“ชะตาขาด! พี่ดวง พี่ดวงพูดจริงๆ หรือคะ งั้นแสดงว่าสิ่งที่ฉันเห็นเมื่อครู่มันคงลางบอกเหตุอย่างนั้นหรือคะ”
“มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น แต่อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปเลยนะ เดี๋ยวฉันจะทำพิธีปัดเป่าบรรเทาเคราะห์ ฉันก็ไม่สามารถรับรองได้ว่ามันจะได้ผล แต่มันก็ดีกว่าการไม่ทำอะไรเลย”
“ยังไงหรือคะพี่ดวง”
“ลำพังฉันคงไม่มีปัดเป่าได้มากมายนัก ฉันจะลองเอาดวงของพ่อหนุ่มนี่ไปให้กับหมอเวทย์ที่ฉันนับถืออยู่ทำพิธีให้ มันก็อาจจะพอช่วยได้แต่ยังไงซะหนุ่มน้อยรายนี้ก็ต้องรับเคราะห์รับกรรมอยู่ดี แต่อาจจะเบาบางลงจากชะตาขาดอาจจะแค่เจ็บหนัก”
“หากได้อย่างนั้นก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะค่ะ ได้ยินแบบนี้ดิฉันก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรืออะไรดี”
แม่นางเอ่ยออกมาอย่างคิดหนัก นึกเป็นห่วงในชะตากรรมในวันข้างหน้าของหลานชายผู้มีพระคุณเหลือเกิน
“ท่าทางเธอรักเด็กคนนี้มากนะ ฉันเข้าใจแต่กรรมของใครก็ของมัน ในโลกนี้ไม่มีใครฝืนกรรมได้หรอก เธอกับลูกเองก็เหมือนกันนั่นแหละ การที่พวกเธอระเห็ดกันมาที่นี่เพราะกรรมเก่ามันก็ยังตามรังควานอยู่ ไปตักน้ำในตุ่มมาให้ฉันสักขันใหญ่ๆไป ฉันจะทำพิธีปัดเป่ากรรมให้ตามวิธีที่ฉันพอจะทำได้เมื่อเวลาที่ฉันรู้สึกว่าชีวิตมันเหมือนโดยรังควาน”
น้ำขันใหญ่ถูกยกมาตั้งลงบนหน้าหญิงเจ้าของไร่ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะนั่งหลับตาเอ่ยอะไรมุมมำๆ อีกสักพักก็จับขันน้ำขึ้นยกเหนือหัวเอ่ยมุมมำๆ ต่อไปจนเสร็จจึงวางลงตรงหน้าแม่นางเอ่ยบอก
“เอาน้ำนี่ให้หนุ่มน้อยนั่นดื่มก่อนนะ มันจะช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายที่กำลังจะเกิดในช่วงนี้ได้บ้าง ส่วนเรื่องชะตาชีวิต ฉันจะเอาดวงชะตาของเจ้าตัวไปทำพิธีให้อีกที ตอนนี้เธอก็อย่าคิดมาก ทำใจสบายๆ ยอมรับสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นเถอะ”
ถึงตอนนี้แม่นางยกมือขึ้นไหว้ขอบคุณหญิงผู้นั้น แม้จะไม่ได้ปักใจเชื่อเรื่องพิธีกรรมไปเสียหมด แต่อย่างน้อยนางก็ก็นึกขอบใจที่ฝ่ายนั้นพยายามทำให้นางคลายความกังวลใจ นางพูดคุยกับหญิงผู้นั้นต่อสักพักก่อนที่บุตรชายกับคนมีเคราะห์จะวิ่งเข้ามาหา
“มาเหนื่อยๆ กินน้ำกินท่าซักหน่อยนะพ่อหนุ่มน้อย” นางเห็นหญิงเจ้าของไร่ยื่นขันน้ำให้อาทีเป็นคนแรก หนุ่มน้อยนั่นรับมาดื่มแล้วส่งต่อให้บุตรชายของนางดื่มตาม แล้วบุตรชายก็เป็นคนยื่นขันน้ำคืนให้กับหญิงเจ้าของไร่พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณ
   “ลูบหัวผิดคนหรือเปล่าแม่ นั่นมันหัวไอ้อาทีหลานคุณจันทร์นะไม่ใช่ผม” เสียงบุตรชายนางเอ่ยว่าในตอนที่นางเผลอยกมือขึ้นลูบเส้นผมของคนที่นางนึกห่วงในชะตากรรม
   “แม่นางนี่จะแช่งผมให้ตายเร็วๆ ใช่มั้ยเนี่ย ไหว้ผมจัง” ถ้อยคำต่อมาเป็นประโยคที่หลุดออกมาจากปากของอาทีเองตอนนางเผลอจะยกมือไหว้ขอโทษ
   “อย่าพูดแบบนี้สิคะคุณอาที ฟังดูไม่ดีเลยนะคะ” นางจำต้องเอ่ยบอกออกมาเมื่อฟังถ้อยคำจากปากหนุ่มน้อยตรงหน้าแล้วรู้สึกไม่สบายใจ ก่อนที่หญิงเจ้าไร่จะเอ่ยปลอบอีก
   “เด็กมันก็พูดไปอย่างเองแหละแม่นาง อย่าคิดอะไรมากน่า สบายใจเถอะนะ เออ แล้วฉันขอตัวกลับก่อนล่ะ เดี๋ยวจะแวะเอาสเบียงมาส่งให้ใหม่ แรกๆ ก็อย่างนี้ล่ะนะ ต่อไปเดี๋ยวฉันจะให้คนงานมาต่อเติมที่ทางสำหรับทำครัวให้เผื่อแม่นางอยากจะทำกับข้าวกินเองบ้าง”
สายลมเย็นพัดมากระทบใบหน้าในตอนที่ภาพเหตุการณ์ในวันนั้นหายไปจากห้วงความคิด แม่นางอดขนลุกไม่ได้กับสายลมเย็นที่พัดผ่านจึงยกมือพนมไหว้อีกครั้งแล้วลุกเดินกลับขึ้นเรือน
**************************************************
อาทิตย์พาอาทีเข้าโรงพยาบาลเดียวกับที่ผู้เป็นป้ารักษาตัวอยู่ ชายหนุ่มนึกสงสารสภาพร่างกายที่โชกด้วยเลือดสีแดงสดของน้องชายขณะโดนเหล่าพยาบาลเข็นเข้าห้องไอซียู ในมุมหนึ่งอิทธิได้ยังคงนั่งร่ำไห้อยู่เพราะยังหวาดกลัวว่าเพื่อนรักจะเป็นอะไรไป อาทิตย์หันไปมองสักพักจึงเดินลงไปนั่งข้างๆ เจ้าตัวตัดสินใจดึงเจ้าตัวเข้ามากอดปลอบ
“อาทีมันต้องรอดมันถึงมือหมอแล้วอย่าร้องเลยนะ”
อิทธิชะงักในตอนแรกตอนโดนกอดปลอบ ต่อมาก็ไร้เรี่ยวแรงขัดขืนเพราะยังจมอยู่กับความรู้สึกสะเทือนใจอยู่จึงยอมปล่อยให้ร่างซบอยู่บนอกอาทิตย์อยู่เช่นนั้น สักพักสองคนจึงผละร่างออกจากกันลุกยืนตอนที่มีพยาบาลเดินมาบอกและถาม
“ขอโทษนะครับ ตอนนี้ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากและกำลังอยู่ในขั้นโคม่า ทางเราต้องการเลือดด่วนเพราะที่มีอยู่คงไม่เพียงพอต่อการยื้อชีวิตคนเจ็บ ไม่ทราบว่าใครมีเลือดกรุ๊ป O และพอจะให้เลือดกับเราได้มั้ยครับ”
“ผมครับ ผมเป็นพี่ชายเขาเองเราเลือดกรุ๊ปเดียวกันครับ” อาทิตย์รีบเอ่ยบอกทัน แล้วหันมากำชับอิทธิ
“นายรอฉันอยู่ที่นี่ก่อนนะ เสร็จแล้วฉันจะมาหา ทำใจดีๆ อาทีต้องรอดเชื่อฉัน”
ชายหนุ่มเดินจากไปเมื่อบอกเสร็จ อิทธิยืนมองตามหลัง ค่อยๆ คลายอาการสะอื้นเมื่อเมื่อร่างของอาทิตย์หายเข้าไปในห้อง เรื่องนี้ระหว่างที่พาร่างอาทีมาที่นี่ฝ่ายนั้นบอกว่ายังไม่คิดจะบอกใคร และก็ขอร้องว่าให้ตนอย่าเพิ่งผลีผลามทำอะไรบุ่มบ่ามอีก รอให้ฟ้าสางแล้วเจ้าตัวจะดำเนินการเรื่องราวเองทั้งบอกกับจิตราและแจ้งความกับตำรวจ คำว่าแจ้งความทำอิทธิกังวลอยู่ลึกๆ เพราะไม่แน่ใจนักว่าหนึ่งวายร้ายที่ตายต่อหน้าต่อตาจะเกิดจากคมมีดที่ตนกระหน่ำแทงหรือลูกกระสุนที่สาดเข้าร่าง
หนุ่มน้อยนั่งลงตรงที่เดิมพยายามทำใจให้นิ่งและสงบที่สุด แต่พยายามเท่าไหร่เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ได้เผชิญและรุมเร้ามาตั้งแต่จำความได้ก็ตีวนเข้ามาในห้วงความคิดทั้งภาพที่ตัวเองกับอาทีโดนวาจาดุด่าจากจิตรา ทั้งภาพที่มารดาของโดนโดนรังแกทั้งทางคำพูดและการกระทำจากหญิงผู้นั้น ทั้งนาทีที่โดนอาทิตย์กลั่นแกล้งและข่มเหง แต่ภาพความร้ายกาจของคนๆ นี้มันจางลงบ้างแล้วเมื่อสักครู่ที่เจ้าตัวได้กอดปลอบตัวเอง ส่วนภาพที่ฉายชัดขึ้นมาแทนที่จนจิตใจเริ่มกรุ่นขึ้นอีกครั้งคือวาจาและการกระทำที่สุดอันธพาลจากทั้งนายศร นายสิน และส้ม
เด็กหนุ่มนั่งกำหมัดแน่นเม้มริมฝีปากเข้าหากันเมื่อในสมองนึกประมวลถึงภาพต่างๆ ที่ตนได้ปะทะกับครอบครัวนั้น ซึ่งแต่ละครั้งคนเหล่านั้นช่างน่าขยะแขยงเหลือเกินกับการกระทำของสันดานอันธพาลที่ส่งผ่านจากผู้เป็นพ่อถึงคนเป็นลูกทุกกระเบียดนิ้ว และที่น่ารังเกียจมากขึ้นยิ่งกว่าคือการที่พวกมันทั้งสามเล่นสกปรกด้วยการลอบกัดตนอย่างไร้ซึ่งสำนึกความเป็นคน พวกมันกะคร่าเอาชีวิตเขา กะคร่าเอาชีวิตอาทีแต่ไม่คิดลงมือเอง แบบนี้หากว่าเรื่องถึงมือกฏหมายแล้วพวกมันทั้งสามดิ้นจนหลุดแล้วใครกันจะพิพากษาพวกมัน
“นายรอฉันอยู่ที่นี่ก่อนนะ เสร็จแล้วฉันจะมาหา ทำใจดีๆ อาทีต้องรอดเชื่อฉัน”
อิทธินึกถึงคำพูดสุดท้ายของอาทิตย์ที่ทิ้งไว้ให้ก่อนแยกไป ในใจตอนนี้ขอรับฟังเพียงแค่ประโยคหลังที่บอกว่าอาทีต้องรอด ใช่ เขาภาวนาให้เพื่อนรักเป็นเช่นนั้น แต่ประโยคแรกที่อาทิตย์บอกให้รอ รอแล้วได้อะไรล่ะ รอแล้วเขาได้อะไร?
เด็กหนุ่มตั้งคำถามนี้ขึ้นในใจ ไหนๆ ก็เคยตั้งปณิธานเอาไว้แล้วว่าจะตามทวงความยุติธรรมให้ตนและมารดาถึงตอนนี้ขอเหมารวมถึงการทวงแค้นคืนให้เพื่อนรักมันเลยละกัน อาทิตย์ไม่ได้อยู่ที่ไร่เท่ากับที่เขาอยู่ ชายหนุ่มผู้นั้นยังไม่รู้ถึงความปลิ้นปล้อนของคนพวกนั้นถึงได้บอกว่าใจเขาใจเย็น และรอจัดการเรื่องราวเมื่อฟ้าสาง รอเวลาขนาดนั้นก็เท่ากับว่าให้เวลาคนพวกนั้นมันเตรียมแผนรับมือน่ะสิ
“คุณจะรอคุณก็รอไปคุณอาทิตย์ แต่ผมคงไม่ขอรอกับคุณ ครอบครัวนั้นมันร้ายเกินกว่าที่จะใช้การพูดจาดีๆ ให้มันรู้สำนึก ในเมื่อมันร้ายมาผมก็จะร้ายกลับเช่นกัน”
หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นมาเมื่อภายในใจร้อนกรุ่นได้ที่ ก่อนจะตัดสินใจก้าวออกจากเขตโรงพยาบาลเพื่อย้อนกลับไปยังไร่อัปยศนั้นที่เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวทุกอย่าง มันคาราคาซังมาเนิ่นนานเกินไปแล้วกับเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้น ถึงเวลาแล้วที่มันจะจบลงเสียที

โปรดติดตามตอนต่อไป
(http://i28.servimg.com/u/f28/16/28/24/61/12640311.jpg)




หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kenshinkenchu ที่ 07-05-2011 01:06:00
โมโหอาิทิตย์กับอิทธิ เถียงกันอยู่ได้  จากไม่ตายจะกลายเป็นตายเนี่ยะ -*-
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 07-05-2011 01:18:03
อิทธิกับอาทิตย์ จะเถียงกันเพื่อ :m16:

แต่ก็โล่งใจที่ อาทีถึงมือหมอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 07-05-2011 07:04:10

ต๊าย อาทิตยาต่อว่าอิฐ อย่างที่กิต.คาดเดาไว้เลยค่ะ เชอะ
๑๕๓ + ๑ = ๑๕๔
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 07-05-2011 07:41:30
ยังทำตัวเป็นพระเอกเหมือนเดิมเลยไอ้อิท


อาทีจะได้เพราะความใจร้อนของมึงแล้วยังไม่สำนึกอีก


เพราะความใจร้อนและจิตใจที่ร้อนรุ่มแค้นที่ฝังอยูในใจทำให้คนอื่นๆเขาเดือดร้อนกันทั่วแล้วนะไอ้อิท


ไม่เหมือนแม่นางที่ใจเย็นเหมือนดาวพระศุกร์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 07-05-2011 08:07:06
โฮ้ย อิทธิดื้อง่า
ไปแบบนั้นคนเดียว เดี๋ญวก้มีปัญหา = =
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 07-05-2011 08:35:47
อิทธิ จะใจร้อนไปไหนเนี่ย ไปคนเดียวอีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 07-05-2011 09:02:27
 :m31: ขัดใจๆ...อ๊ากกกกกกก

 :z6:ขอสักทีเถอะคุณอาทิตย์ปากหนักท่ามากอยู่นั้น

 :beat:อันสำหรับน้องอิทวู้วาม ขาดสติ....
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 07-05-2011 09:02:40
*กระโดดกอดและดึงคอพี่บอยมาหอมแก้มแรงๆ*

ผมชอบพี่ครับ!!! พี่ใจดีมากที่ไม่ให้อาทีตาย   เรื่องมันเป็นอย่างนี้นี่เอง   มีปมมีอะไรเบื้องหลังเต็มไปหมด
ตอนพูดถึงเรื่องเลือดกรุ๊ปโอ ก็เผลอนึกว่า อิทและอาทีจะเป็นพี่น้องกันซะอีก 

ขอบคุณครับ!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 07-05-2011 10:10:39
อิทธิดื้อจังเลย เป็นเด็กดีกับอาทิตย์หน่อยซิ หุหุ

อาทีอย่าเป็นอะไรนะ TT^TT
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 07-05-2011 10:35:51
ได้แต่นั่งถอนใจ
ใจเย็นๆหน่อยก็ไม่ได้เลยนะ อิทธิเนี่ย
ถ้าเป้นอะไรขึ้นมาอีกคนจะทำยังไงล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 07-05-2011 11:04:09
อะไรกันเนี้ย ยังมีคนแบบอาทิตย์อยู่บนโลกอีกเหรอเนี้ย

รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 07-05-2011 17:01:51
งืมๆ ลุ้นๆๆ ไอ้คุณอาทิตย์เอ้ย!รีบไปตามอิทกลับมาเซ่!! คราวนี้แย่แน่ๆ วุ่นวายๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 07-05-2011 18:29:08
เฮ้อ สติมาปัญญาเกิน สติเตลิด มีแต่ปัญหา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 07-05-2011 18:56:09
ถ้ายังไม่หยุดกัน เรื่องก็ไม่จบ
แต่วิ่งเข้าหาเรื่องเอง เรื่องมันก็จะจบไปเร็วดีเหมือนกัน :เฮ้อ:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 07-05-2011 19:17:49
สงสัย  ตอนจบ มันจะตายกันหมดหรือเปล่าหว่า?
เล่นใช้แต่อารมณ์แบบนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 07-05-2011 22:09:18
อิทธิตั้งสติหน่อยสิ เดี๋ยวเรื่องก็แย่ลงกว่าที่เป็นอยู่หรอก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ทับทิมกรอบ ที่ 07-05-2011 22:27:04
อ่านไปอ่านมา เหมือนในเรื่องมีคนบ้าอยู่สองคน คือ จิตรา และ อิทธิ

ไร้สติที่สุด  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 07-05-2011 22:43:08
อ่าว เห้ย ไปไหนล่ะนั้น
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: darajoy ที่ 07-05-2011 22:45:57
อิทธิจะโดนเล่นงานอีกคนไหม

อาทิตย์ไปช่วยด่วน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 08-05-2011 11:35:52
เฮ้อ~~~~
โล่ง ขอบคุณคุณบอย น่าร๊ากกกที่ซู๊ดดดด มาจุ๊บที^3^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-05-2011 20:29:14


ตอนที่ 39

ที่เรือนนายศรต่างกำลังนั่งร้อนรนและกลุ้มใจกันทั้งสามพ่อลูก เพราะเมื่อสักครู่สมุนที่สินส่งไปเพื่อกำจัดอิทธิและอาทีลอบมาแจ้งข่าวว่าทำพลาดในส่วนของอิทธิซึ่งหนีไปได้ ส่วนอาทีนั้นพวกมันไม่คิดว่าจะรอดเพราะโดนจ้วงแทงจนมิดด้ามถึงสองแผล แต่นั้นมันก็แลกมาด้วยชีวิตของหนึ่งในกลุ่มที่เสียชีวิตลงเช่นกัน
   นายศรไล่สองวายร้ายที่พาร่างกายสะบักสะบอมมารายงานข่าวไปให้ไกลเขตไร่ก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า เพราะพวกนั้นได้หลุดปากกับอิทธิไปแล้วว่านายสินบุตรชายของตนเป็นคนว่าจ้างให้ไปทำเรื่องอุกอาจนั่น
   “เราจะทำไงกันดีล่ะพ่อ เกิดไอ้อิทธิมันไปแจ้งตำรวจเราจะไม่โดนจับเหรอ” สินเอ่ยถามบิดาเสียงร้อนรน นายศรหยุดคิดสักพักจึงหันไปมองหน้าส้มเอ่ยขึ้น
   “คราวนี้ถึงทีเอ็งแสดงฝีมือบ้างแล้วล่ะอีส้ม”
   “พ่อหมายความว่าไง” ส้มเอ่ยถามบิดา ก่อนจะรับคำสั่งที่บิดาบอกให้ตนไปสร้างเรื่องบอกจิตราว่าอิทธิไปมีเรื่องกับอันธพาลขณะเลิกเรียน เพื่อสร้างปมเรื่องคนร้ายขึ้นมาว่าเป็นพวกอันธพาลทั่วไปไม่ใช่สมุนของนายสิน ชายหัวหน้าคนงานยังกำชับบุตรสาวอีกว่าให้ใส่ไฟอิทธิให้มากที่สุดเรื่องพาอาทีกลายไปเป็นเด็กอันธพาลเกเรและมีเรื่องกับคนนั้นทีคนนี้ทีเท่าที่ความสามารถทางด้านปลิ้นปล้อนของบุตรสาวจะพึงมี การทำเช่นนั้นก็เพราะเสี้ยมให้จิตรานึกเกลีดนึกชังอิทธิว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้บุตรชายคนเล็กของหล่อนมีอันเป็นไปตามความเข้าใจที่คิดกันไปแล้ว
“เอาให้อีนั่นเกลียดไอ้อิทธิชนิดอยากจะเข่นอยากจะฆ่าเลยนะนังส้ม ข้าเชื่อว่าเอ็งทำได้ เป่าหูอีจิตรแค่นี้มันคงไม่ยากเกินความสามารถแก เพราะอีจิตรมันโง่ มันหูเบา มันเข้าข้างข้ามาแต่ไหนแต่ไร และมันก็เกลียดอีนังแม่นางและไอ้อิทธิเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เบี่ยงประเด็นให้มันคิดว่าคนที่ทำให้ลูกมันตายคือไอ้อิทธิ เอ็งต้องทำให้มันแค้นไอ้อิทธิมากกว่าสมุนของพี่ชายเอ็งให้ได้ ถึงตอนนั้นก็ไม่มีทางที่ตำรวจจะเอาผิดเราได้ เพราะเดี๋ยวอีจิตรมันก็จะกระโดดมาปกป้องเราเองอย่างที่มันเคยทำคืนนั้น”
นายศรเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจว่าคนอย่างจิตราหากว่าพวกตนปลุกปั่นให้เชื่อตามคำบอกขี้คร้านว่ามันจะตามลงทัณฑ์ไอ้อิทธิมากว่าสมุนของบุตรชายตน
ส้มรีบตรงไปเรือนหลังใหญ่ทันทีเพื่อหาเรื่องใส่ร้ายอิทธิตามที่บิดาสั่ง การไปทำตามแผนการครั้งนี้หล่อนไม่ได้หนักใจกับการเป่าหูจิตราแต่หล่อนหนักใจกลัวว่าอาทิตย์จะจับพิรุธได้และไม่เชื่อในสิ่งที่หล่อนกุเรื่องง่ายๆ
“อีส้ม เอ็งมาทำไมค่อนคืนป่านนี้ เอ็งจะมาลอบทำร้ายคุณจิตรเรอะ” เพลินพิศที่อยู่เฝ้าเจ้านายมาตั้งแต่หัวค่ำจนป่านนี้เอ่ยถามส้ม พลางกันท่าส้มไปพบเจ้านายที่เข้าห้องพักไปแล้ว
“ฉันมีเรื่องสำคัญจะมาบอกคุณจิตร น้าพิศไม่เกี่ยว” ส้มบอกพลางผลักร่างเพลินพิศให้พ้นทางก่อนจะก้าวฉับๆ ขึ้นบนเรือน เพลินพิศตามรั้งแขนไว้
“คุณจิตรแกไม่ค่อยสบายใจอยู่เอ็งอย่าเอาเรื่องรกสมองอะไรมาให้ท่านตอนนี้ได้มั้ย”
“ไม่สบายใจเรื่องอะไร เรื่องพี่อาทีหรือเปล่า” ส้มเอ่ยถามแบบปูทางให้แผนการ
“มีใครบอกเอ็งเรื่องนี้เหรอ” เพลินพิศถามเมื่อคิดว่าส้มน่าจะรู้ว่าเจ้านายตนเป็นลมเพราะเห็นภาพหลอนว่าบุตรชายคนเล็กมาหลอกมาหลอน
“เรื่องอะไรเหรอ” ส้มที่ยังไม่รู้เรื่องนี้เอ่ยถาม เพลินพิศจึงเปิดปากเล่าให้ฟังจนสิ้น รวมทั้งบอกว่าตอนนี้อาทิตย์กำลังขับรถไปตามหาอาทีอยู่ยังไม่กลับเข้ามา ส้มลอบยิ้มร้ายสมใจที่เหตุการณ์มันลงล็อคก่อนจะแสร้งตีสีหน้าตื่นตะลึงแล้วบอก
“ฉันว่าแล้ว ฉันสังหรณ์ใจอยู่ว่าพี่อาทีจะต้องไปเจอเรื่องร้าย ที่ฉันมาที่นี่เพราะจะมาบอกคุณจิตรเรื่องนี้แหละ ตอนแรกก็กะว่าจะรอให้ฟ้าสางแต่มันไม่สบายใจเลยน้าพิศ เพราะฉันเห็นไอ้อิทธิมีเรื่องกับอันธพาลที่โรงเรียนแล้วพี่อาทีเข้าช่วย ฉันว่านะไอ้อันธพาลพวกนั้นมันคงจับพี่อาทีกับไอ้อิทธิไปแล้วแน่ๆ”
“เหรอ เอ็งมีเบาะแสเรื่องนี้เหรอ งั้นเดี๋ยวข้ารีบไปตามคุณจิตรมานะ ตอนนี้ท่านรอฟังข่าวเรื่องคุณอาทีอยู่ทุกลมหายใจ หากเอ็งมาคุยเรื่องนี้ท่านคงยอมฟังเอ็ง”
   จิตราออกมาพบส้มจริงๆ พร้อมรับฟังเรื่องราวที่ส้มใส่ร้ายอิทธิ จากจิตใจที่จงเกลียดจงชังอิทธิมาตั้งแต่ต้นทำให้หล่อนคล้อยตามส้มได้ไม่ยาก หล่อนฟังไปก็เม้มปากไปเพราะอารมณ์โกรธเกลียดอิทธิและเป็นห่วงบุตรชายที่ส้มบอกว่าเกรงว่าน่าจะกำลังเผชิญอันตรายที่อิทธิเป็นพาก่อ
   “ฉันว่าแล้วสักวันมันต้องพาหายนะมาหาลูกชายฉัน ลูกฉันไม่ใช่เด็กอันธพาลโดยสันดาน หากเกิดอะไรขึ้นกับลูกฉันไอ้เด็กเด็กปรตนั่นมันต้องรับผิดชอบพร้อมกับอีไพร่แม่ของมัน!” จิตราประกาศกร้าวหลังฟังสิ่งที่ส้มเอ่ยบอกให้ฟังจนสิ้น เพลินพิศที่นั่งฟังด้วยแม้จะเคยมีเรื่องกับแม่นางและคอยกระแนะกระแหนอิทธิอยู่บ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้หล่อนรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่บุตรสาวนายศรบอกเจ้านาย เพราะหล่อนก็พอจะรู้จักจริตของสาวน้อยผู้นี้อยู่ไม่น้อย แต่ช่างเถอะ ตอนนี้เปรียบอารมณ์จิตราก็เป็นเช่นดั่งสายน้ำกำลังเชี่ยว เรือลำน้อยๆ อย่างหล่อนจะลอยเข้าไปขวางก็พาลจะโดนสาดซัดจมหายไปตามคุ้งน้ำเท่านั้น
   ด้านอาทิตย์หลังสิ้นกระบวนการถ่ายโอนเลือดในกายเพื่อยื้อชีวิตน้องชายก็ออกมาจากห้องนั้นด้วยร่างกายที่หวิวๆ แต่นั่นมันก็ไม่เท่าจิตใจที่หดหู่เหลือจะทน ระหว่างที่เลือดในกายไหลไปสู่ร่างน้องชายที่นอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่ชายหนุ่มแอบน้ำตาไหลด้วยความสงสารเจ้าตัวแต่ก็พยายามแข็งใจเอาไว้เพื่อไม่ให้ร่างกายอ่อนแอ ชายหนุ่มคิดไปเองว่ามันอาจส่งผลให้เลือดส่งผ่านให้น้องชายได้ไม่เต็มที่ หากเป็นไปได้เขาก็อยากถ่ายเลือดทั้งตัวให้กับน้องชายเสียด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายก็ต้องทำตามกระบวนการและคำแนะนำของแพทย์ พอเสร็จสิ้นจึงได้เดินออกมาด้วยร่างกายที่หวิวไหวเช่นนี้
   ชายหนุ่มหันไปมองห้องน้องชายอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินไปดูอาการของผู้เป็นป้าที่อยู่อีกห้องหนึ่ง ขณะนั้นพยาบาลไม่ได้อนุญาตให้เยี่ยมจึงได้ยืนมองแค่ประตูซึ่งเป็นกระจกใสพอให้มองเห็นร่างนั่นที่ยังคงนอนหลับใหลไม่ได้สติ
   เนิ่นนานเหลือเกินที่ชายหนุ่มยืนมองภาพนั้นในตอนสุดท้ายก่อนจะหันหนีน้ำตาก็ได้ไหลอาบสองแก้มเอ่ยขอโทษขึ้เสียงเบาที่ตนไม่อาจต้านเรื่องร้ายๆ ได้
   “ผมขอโทษนะครับป้าจันทร์ ผมขอโทษ”
เป็นครั้งแรกที่อาทิตย์ร้องไห้จนสะอื้นเมื่อรู้สึกเสียใจและนึกโทษตัวเองที่ไม่อาจทำให้ไร่สงบลงได้โดยไร้เหตุรุนแรงอย่างที่ตั้งใจ ชายหนุ่มปาดน้ำตาทิ้ง ฮึดเรียกกำลังใจให้กับตัวเองอีกครั้ง เมื่อคิดว่าแม้จะสายไปแต่เขาก็ควรจะลงมือจัดการอะไรขั้นเด็ดขาดซะที
ชายหนุ่มเดินปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเดินย้อนกลับไปทางที่คิดว่าอิทธิน่าจะรอตนอยู่ ความตั้งใจคือจะสอบถามเรื่องราวต่างๆ ให้มันกระจ่างชัดขึ้นเพื่อเป็นเหตุผลที่หนักแน่นพอสำหรับการเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ตามรวบครอบครัวนายศรมารับโทษข้อหาว่าจ้างผู้อื่นเพื่อการพยามฆ่า และหากจะมีข้อหาอื่นเพิ่มเติมที่อิทธิจะแจ้งเพิ่มเขาก็ยินดีที่จะช่วย สองขาชะงักเมื่อเดินไปถึงจุดนั้นแล้วไม่พบร่างของอิทธิ มองซ้ายแลขวาก็ไร้ซึ่งเงาฝ่ายนั้นจึงเอ่ยพึมพำออกมา
“หายไปไนวะ บอกให้รอให้รอ หรือว่า”
ในตอนท้ายอาทิตย์รู้สึกใจหายเมื่อคิดไปแล้วว่าอิทธิอาจกำลังคิดพิพากษาครอบครัวนายศรด้วยตัวเอง ใช่แล้วล่ะมันต้องเป็นแบบนั้นแน่ เพราะคนๆ นี้เคยตั้งมั่นเอาไว้ด้วยใจหนักแน่นว่าจะทำเช่นนั้นในไม่ช้า ซึ่งการเกิดเรื่องร้ายแรงแบบนี้ขึ้น มันก็เป็นเช่นแรงขับให้เจ้าตัวคิดทำการนี้ในตอนนี้
“บอกอะไรไม่เคยฟังกันเลยนะอิทธิ นายนี่มันรั้นจริงๆ ให้ตายสิ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะวิ่งไปยังที่จอดรถเพื่อจะพาตัวเองกลับเข้าไปที่ไร่ ซึ่งคิดว่าอิทธิน่าจะกำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นแน่ๆ
อิทธิมาถึงไร่จนได้ในตอนที่ส้มกลัมาเล่าความคืบหน้าเรื่องที่ตนปลิ้นปล้อนใส่จิตราให้กับบิดาและพี่ชายฟัง และตกลงเข้านอนเก็บแรงไว้เผชิญกับเรื่องราวที่มันอาจไม่เป็นไปตามแผน
 เด็กหนุ่มมองท้องไร่ที่ครั้งหนึ่งตนเคยอยู่ตั้งแต่เล็กอย่างเต็มสายตาก่อนจะหันไปทางทิศเรือนหลังใหญ่ ขณะนี้จิตราคงจะอยู่ที่นั่นสินะ แต่รอก่อนเถอะ หากว่าเอาเอาชีวิตรอดหรือร่างกายยังครบสามสิบสองจากการตามไปทวงแค้นกับครอบครัวนายศรเขาไม่ลืมที่จะหันมาราวีหญิงร้ายผู้นี้แน่
หนุ่มน้อยหยิบเอาท่อนไม้ขณะเหมาะมือริมทางถือไว้มั่นแล้วเดินตรงไปยังทิศเรือนของนายศรด้วยจิตใจที่เต้นตึกตักตึกตัก ซึ่งก็ไม่ต่างจากอาทิตย์ที่ขณะนี้กำลังขับรถมาด้วยความเร็วสูงพร้อมจิตใจที่เป็นกังวลว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายๆ อะไรเกิดขึ้นกับอิทธิเหมือนเช่นที่น้องชายตนโดน นาทีนี้ชายหนุ่มขอเป็นคนไม่รักษากฎการจราจรสักวันด้วยการขับปาดหน้าแซงรถคันนั้นทีคนโน้นทีเพื่อที่จะพาตัวเองกลับถึงไร่ให้เร็วที่สุด
ด้านจิตราที่ยังไม่กลับเข้าห้องพักเพราะกำลังนั่งแค้นเคืองอิทธิอยู่ตรงชานเรือน ใกล้ๆ ตัวมีเพลินพิศคอยนั่งจับอาการอยู่ สาวใช้สังเกตเห็นผู้เป็นนายเม้มปากตาลุกกำหมัดสลับกันปานคนที่สามารถทำลายล้างอะไรก็ได้ที่บังอาจมาขัดหูขัดตาตอนนี้ หล่อนจึงนั่งอยู่เงียบๆ งดออกความเห็นเรื่องที่ส้มมาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับบุตรชายคนเล็กของเจ้าตัว
ส่วนอิทธิเมื่อเดินเข้าไปใกล้เขตเรือนนายศรก็จับท่อนไม้ในมือไว้มั่น ตั้งใจแน่วแน่ว่าหากพบร่างใครคนใดคนหนึ่งนั่งเผลออยู่ตอนนี้จะลงมือฟาดให้ดับดิ้นกองอยู่ตรงนั้น พวกมันเคยหมาลอบกัด ก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะไม่ใช้วิธีไร้ซึ่งศักดิ์ศรีนี้เป็นการโต้กลับ
หนุ่มน้อยเบาฝีเท้าให้มากที่สุดเมื่อเห็นเรือนตรงหน้าไร้ซึ่งแสงสว่าง นั่นแสดงว่าพวกมันคงกำลังนอนหลับ ดีล่ะ เขาจะได้จัดการพวกมันได้ง่ายสมใจกว่าเดิม
บนเรือน นายศรไม่อาจรู้ว่าบุตรสาวกับบุตรชายหลับไปหรือยัง แต่สำหรับตนนั้นยังไม่สามารถข่มตาหลับลงได้ เพราะยังรู้สึกกระวนกระวายเรื่องที่สมุนของบุตรชายทำแผนการอุ้มฆ่าเด็กน้อยสองคนนั่นไม่สำเร็จแบบสิ้นซาก การตีงูให้หลังหักแบบนี้ น่ากลัวนักว่าจะโดนงูนั้นมันวกกลับมาฉกกัด สำคัญที่สุดคืองูพิษอย่างไอ้อิทธินั่นแหละ เชื่อเหลือเกินว่าตอนนี้มันคงกรุ่นด้วยความแค้น เป็นไปได้มากว่าสิ่งที่มันโดนกระทำและผลร้ายต่างๆ ที่คนที่มันรักและเคารพได้เผชิญจะทำให้มันกลายเป็นงูพิษที่ร้ายกาจเกินจะกำจัดได้ง่ายๆ
ระหว่างนอนคิดนายศรต้องดีดตัวลุกขึ้นโดยไวเมื่อได้ยินเสียงดังคล้ายมีวัตถุอะไรบางอย่างตกลงกระทบพื้น
ปืนยาวข้างกายถูกฉวยหยิบขึ้นตามสัญชาตญาณ ก่อนจะลุกออกมาจากห้อง คืนนี้พระจันทร์สาดส่องมันคงพอมองเห็นที่มาของเสียงได้จึงไม่คิดที่จะเปิดไฟ ชายเหี้ยมเดินมาหยุดหน้าชานเรือนกวาดสายตามองไปทั่วหาสิ่งผิดปกติที่คิดว่าเกิดขึ้นในตอนนี้ แต่แล้วก็พบกับความว่างเปล่าจึงคิดจะเดินกลับเข้าไปในห้องพัก แต่พอหันหลังเท่านั้นเสียงนั่นก็ดังขึ้นอีก คราวนี้ถึงกับต้องยกปืนขึ้นส่องไปยังทิศของเสียงเอ่ยลอดไรฟันขึ้น
“ใครมันบังอาจมาแหย่หนวดกู เจอให้กูจะยิงไส้แตก” ไม่ใช่แค่ขู่ เมื่อสิ้นคำนายศรตัดสินใจเดินลงจากเรือนส่องปืนไปยังทิศที่มาของเสียงซึ่งเป็นสุมทุมพุ่มไม้ จิตใจชายเหี้ยมเต้นตึกตักเมื่อเดินเข้าไปไกล้ ในใจมัวจับจดและลุ้นอยู่ว่าตัวเองจะเผชิญอะไรจึงไม่ได้สนใจว่าลับหลังตนนั้นมีหนึ่งร่างกำลังลอบก้าวขึ้นเรือนพร้อมท่อนไม้ในมือ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 38 7-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 09-05-2011 20:30:08
อิทธิคิดได้ในตอนหลังว่าคงมีใครสักคนในเรือนนั้นที่ยังนอนไม่หลับและกำลังระแวดระวังภัยอยู่จึงได้ทดสอบด้วยการโดยก้อนหินไปทางพุ่มไม้ที่นายศรกำลังถือปืนส่องไปหา การทำแบบนี้นอกจากจะรู้ว่านายศรยังไม่หลับหนุ่มน้อยยังได้รู้อีกว่าฝ่ายนั้นมีอาวุธปืนที่พร้อมจะส่องใส่ร่างตนได้ทุกเมื่อหากผลีผลามเข้าไป สมใจล่ะคราวนี้เมื่อปืนกระบอกนั้นมันกำลังถูกเจ้าของส่องไปผิดทิศทาง ส่วนบนเรือนนี้ไอ้อีสองพี่น่องคงกำลังหลับใหลกันอยู่ ไม่อย่างนั้นพวกมันก็คงจะออกมาสมทบกับพ่อเลวๆ มันแล้วหากว่าได้ยินสิ่งผิดปกติ
เดินขึ้นเรือนได้อิทธิก็ยืนคิดว่าจะเข้าไปจัดการใครสักคนในห้องใดก่อนเพราะตนก็ไม่อาจรู้ได้ว่าสินจะนอนห้องไหน และส้มอยู่ห้องใด แต่ยิ่งคิดนานก็ยิ่งเสียการ ที่สุดหนุ่มน้อยก็ตัดสินใจเปิดแง้มดูห้องๆ หนึ่ง โชคดีที่เห็นประตูไม่ได้ล็อค แบบนี้ก็น่าจะเป็นห้องของนายสินเป็นแน่ เพราะหากเป็นส้ม ประตูหล่อนก็น่าจะล็อคตามจริตผู้หญิง
บานประตูถูกแง้มกว้างขึ้น อิทธิปรับสายตาให้ชินกับความืดภายในห้องได้ก็พบว่าสินกำลังนอนหลับอยู่จริงๆ เด็กหนุ่มจ้องมองร่างนั้นอย่างนึกเกลียดชังก่อนจะเงื้อท่อนไม้ในมือขึ้นสูงหวังจะฟาดลงเต็มแรง แต่แล้วต้องชะงักเมื่อมีเสียงทักดังแว้ดขึ้นตรงประตู
“นั่นใครน่ะ! คิดจะทำอะไรพี่สิน”
อิทธินึกขัดใจเมื่อพบว่าส้มกำลังยืนมองมาที่ตน นาทีนั้นก็ต้องใจหายเมื่อเห็นร่างสินดีดตัวลุก เด็กหนุ่มเห็นเช่นนั้นจึงหวดไม้ในมือลงมาทันที แต่น่าเสียดายนักที่มันพลาดเป้าเพราะสินได้กลิ้งตัวหลบไปได้
“ไอ้อิทธิ นี่มึงกล้าบุกมาทำร้ายกูเหรอ” สินเอ่ยกร้าวขึ้นในตอนที่ปรับสายตามองในความมืดแล้วพบว่าอิทธิกำลังถือท่อนไว้ยืนจ้องหน้าอยู่ นาทีนั้นหนุ่มอัธพาลคว้าหยิบเอามีดปลายแหลมข้างที่นอนมาถือไว้ แต่ก็ได้แค่ถือเมื่ออิทธิใช้ความไวกว่าใช้ท่อนไม้นั่นฟาดเข้าที่แขนข้างที่เจ้าตัวถือมีดส่งผลให้มีเล่มนั้นหล่นลงพื้น
สองพี่นองในห้องส่งเสียงร้องออกมาพร้อมกันแต่ต่างความรู้สึก ส้มนั้นร้องกรี๊ดเพราะตกใจกับภาพที่เห็นพี่ชายโดนท่อนไม้ฟาดแขน ส่วนสินร้องโอ้ยด้วยความเจ็บปวดที่ท่อนแขน เสียงร้องของคนทั้งคู่เรียกความสนใจนายศรได้ดีจนเลิกสนใจกับพุ่มไม้ตรงหน้าที่กำลังเดินส่องปืนไปหา ชายเหี้ยมหันหลังกลับมองมาทางเรือนตัดสินใจวิ่งกลับเข้ามา
หูอิทธิได้ยินเสียงฝีเท้าของคนมีอาวุธอันตรายกำลังวิ่งเข้ามาจึงรีบตัดสินใจทำอะไรสักอย่าง เร็วที่สุดที่ทำได้ตอนนี้คือรีบเล่นงานสองคนในห้องให้หมอบก่อนน่าจะได้ เมื่อคิดได้หนุ่มน้อยจึงไม่รอช้าที่จะหวดไม้เอาใส่ร่างของสินที่กำลังสนใจแขนข้างที่เจ็บอยู่ คราวนี้ท่อนไม้ถูกหวดลงกลางหลังสินสุดแรงจนสินร้องอ๊อกแล้วร่างทรุดลงพื้นห้อง ส้มร้องกรี๊ดอีกครั้งตอนเห็นภาพนั้น อิทธิหันหน้าเข้าหา นาทีนี้ผู้หญิงผู้ชายเด็กหนุ่มไม่คิดใส่ใจจึงเอื้อมมือไปกระชากเส้นผมของฝ่ายนั้นแล้วจับใบหน้ากระแทกฝาเรือนส้มกรีดร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรับรู้ว่าหน้าผากตนแตกเป็นแผลได้เลือดก็แทบเป็นลมร่างปวกเปียก
เสียงฝีเท้านายศรตึงตังขึ้นเรือนมา อิทธิทิ้งท่อนไม้ในมือแต่ไม่ทิ้งร่างส้ม หนุ่มน้อยลากร่างนั้นไปยังมีดเล่มที่หล่นอยู่ นั่งลงคว้าหยิบขึ้นมาจี้เข้าที่คอหอยของสาวน้อยทันในตอนที่นายศรส่องปลายกระบอกปืนเข้าใส่
“ยิงมาสิรับรองว่ากูเชือดคอหอยลูกสาวมึงแน่” อิทธิประกาศกร้าวอย่างไร้ความเคารพในตอนนี้ นึกสาใจที่เห็นส้มตัวสั่นร่ำร้องขอชีวิต
“พี่อิท พี่อิทอย่าทำอะไรฉันเลยนะ นะพี่อิทปล่อยฉันนะ”
“เอ็งไม่ต้องไปอ้อนวอนมันอีส้ม ยังไงคืนนี้คนที่จะตายก็คือมันไม่ใช่เอ็ง” นายศรเอ่ยบอกบุตรสาวเสียงดัง ก่อนจะเดินไปพยุงร่างบุตรชายที่ยังกระอักอยู่จากฤทธิ์ท่อนไม้ นึกโกรธที่เห็นว่าเด็กน้อยอย่างอิทธิกล้าเข้ามาลูบคมตนถึงเพียงนี้ นึกเอาไว้แล้วไม่ผิดว่าไอ้เด็กนี่จะกลายเป็นงูพิษที่ร้ายกาจอย่างนี้
อิทธิกดคมมีดลงที่ลำคอของส้มประหนึ่งท้าทายนายศรว่าตอนนี้ตนพร้อมที่จะเฉือนคอสาวน้อยตัวประกันได้ทุกเมื่อ ส้มกรีดร้องออกมาอีกครั้ง เอ่ยอ้อนวอนปากคอสั่นโดยไม่สนใจคำปลอบของผู้เป็นบิดา
“ส้มกลัวแล้วพี่อิทส้มกลัวแล้ว อย่าทำอะไรส้มนะ อะไรที่สมเคยทำไม่ดีกับพี่ไว้ส้มขอโทษ ส้มขอโทษ”
“มันสายไปแล้วส้ม เธอจะมาสำนึกผิดตอนนี้มันก็สายไป สิ่งที่เธอทำรวมทั้งพี่ชายและพ่อของเธอ มันเกินกว่าที่จะได้รับคำว่าอภัยจากฉัน” อิทธิเอ่ยบอกส้มเสียงแข็ง น้ำเสียงและถ้อยคำเหล่านั้นเพิ่มความหวาดกลัวให้กับส้มได้ดีนัก แต่หากคนที่หัวเราะเยาะอย่างไม่นึกหวั่นกลับเป็นนายศรที่บัดนี้พยุงบุตรชายมายืนอยู่ข้างกายได้สำเร็จ
“เอ็งมันกล้าดีนะข้าชอบว่ะไอ้อิทธิ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงจะกลัวเอ็งลนลานกันหมด แต่กับข้ามันไม่ใช่ เอ็งเป็นใครแล้วข้าเป็นใครลองใช้มันสมองที่ดีแต่อวดเก่งของเอ็งคิดดูให้ถี่ถ้วน เอ็งรอดออกมาจากสมุนไอ้สินได้แล้วแต่เอ็งก็เสือกโง่วิ่งเข้ามาหาที่ตายใหม่ ข้าไม่รู้จะหัวเราะเยาะเอ็งเป็นภาษาอะไรดีไอ้ลูกหมา” นายศรเอ่ยบอกหลังหัวเราะเสร็จ ชายเหี้ยมมั่นใจว่าฝีมือการยิงปืนของตนก็ไม่เป็นสองรองใคร ขอแค่ให้ได้จังหวะเล็งดีๆ ไอ้เด็กหาญกล้านั่นก็คงจะดับดิ้นสิ้นใจไปเสียก่อนที่มันจะเฉือนคมมีดลงบนคอหอยบุตรสาวตน
“พ่อ พ่อไปหลุดปากบอกมันทำไมว่าคนพวกนั้นเป็นสมุนผม” สินเอ่ยติงบิดา แต่แล้วกลับโดนตวาดกลับมา
“เอ็งจะกลัวอะไรไอ้สิน เพราะคืนนี้ยังไงไอ้อิทธินี่มันก็คงถูกฝังร่างไว้ใต้พื้นดินไม่มีโอกาสไปบอกใครได้หรอก มันแส่มาหาที่ขนาดนี้ เดี๋ยวข้าจะโชว์ฝีมือการยิงปืนให้เอ็งดู”
“อย่าดีแต่เห่า ถ้ามั่นใจในฝีมือมึงก็ลองยิงมาเลยไอ้ศร ถ้าพลาดอย่างน้อยลูกมึงก็ตายไม่เพราะโดนกระสุนมึงก็จากคมมีดกู จะรออะไรล่ะยิงสิ ยิง!” อิทธิเอ่ยท้าทาย ในวินาทีนี้ไม่มีความหวาดกลัวหรือหวั่นเกรงเกิดขึ้นในใจของเด็กหนุ่มเมื่อได้ฟังคำยืนยันชัดเจนจากปากของสินเมื่อครู่แล้วว่าคนพวกนั้นที่หวังคร่าชีวิตนตนและอาทีคือสมุนของเจ้าตัว
“มึงท้าทายกูเองนะไอ้เด็กน้อย มึงท้าทายมัจจุราชเองนะ” นายศรเอ่ยคำรามยกปืนขึ้นตั้งลำเล็งไปที่ร่างคนท้าทาย สินออกอาการหวั่นๆ เกรงว่าฝีมือบิดาจะไม่แม่นขนาดปลิดชีพอิทธิลงได้ ส่วนส้มนั้นเอาแต่ร่ำร้องห้ามการกระทำของบิดาเพราะหวาดกลัวเหลือเกินกับวินาทีเสี่ยงรอดเสี่ยงร่วงของตน
อิทธิมองจ้องหน้าทายนายศรพลางกดคมมีดในมือลงบนลำคอส้มหนักมือขึ้นอีก เป็นไงเป็นกันเถอะ เขาเคยบอกกับอาทีเอาไว้แล้วว่าหากเขาพลาดท่าเสียทีไม่ใครก็ใครในครอบครัวนี้จะต้องตายตกตามลงไปกับเขา แต่หากดวงเขาไม่ถึงคราวเคราะห์ ก็ถือว่าสววรค์มีตาที่ไม่เข้าข้างคนชั่ว
“ตายซะเถอะไอ้เด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม” นายศรเอ่ยตวาดขึ้นเมื่อต้องลำปืนเล็งเป้าจนได้ที่ อิทธิมองนิ้วมือที่เตรียมเหนี่ยวไกของนายศรก็จับด้ามมีดไว้มั่น สาบานได้ว่าหากนายศรเหนี่ยวไกเมื่อไหร่คอหอยของส้มก็จะขาดสะบั้นลงเมื่อนั้น ส่วนเรื่องราวต่อไปตนจะรอดหวุดหวิดจากวิถีกระสุนหรือดับดิ้นเพราะหลบไม่พ้นก็คงเป็นสิ่งที่ต้องลุ้นกันต่อไป
สองคนต่างวัยที่กำลังมองตาท้าทายกันอยู่นั้นเมื่อจังหวะและอารมณ์กรุ่นได้ที่ทั้งสองคนจึงคิดจะลงมือในสิ่งที่เตรียมไว้ สินหลับตาไม่กล้ามองภาพที่อาจจะเห็นน้องสาวตนโดนเฉือนคอหรือลูกกระสุนหากว่าบิดาตนทำพลาดเข้าใจว่าที่บิดาคิดจะทำอะไรบ้าบิ่นก็คงเพราะไม่ยอมเสียเชิงหัวหน้าคนงานให้กับเด็กเมื่อวานซืนอย่างอิทธินั่นเอง
“หยุดนะ! คิดจะทำอะไรกัน วางอาวุธลงเลยทั้งสองคน” เสียงตวาดดังขึ้นช่วยชะงักการตัดสินใจของทั้งอิทธิและนายศร
“ผะ พี่อาทิตย์ พี่อาทิตย์ช่วยส้มด้วย ไอ้อิทมันจะฆ่าส้ม ไอ้อิทมันจะฆ่าส้ม” ส้มเอ่ยออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นใบหน้าเจ้าของเสียงเมื่อครู่โผล่มาอยู่ในเหตุการณ์ด้วย  อาทิตย์ไม่ได้มาถึงเหตุการณ์นี้เพียงผู้เดียว แต่อีกคนที่ตามเข้ามาคือจิตราซึ่งขณะนี้กำลังตกใจกับภาพที่เห็น หล่อนทราบแล้วว่าตอนนี้บุตรชายคนเล็กของหล่อนกำลังนอนโคม่าอยู่โรงพยาบาลเมื่อบุตรชายคนโตกลับมารายงานพร้อมถามหาไอ้เด็กเปรตที่ยืนถือมีดจี้คอหอยของบุตรสาวคนสนิทหล่อนอยู่ ตอนแรกที่รู้เรื่องหล่อนรบเร้าให้บุตรชายพาไปโรงพยาบาลโดยด่วนแต่บุตรชายบอกว่าตอนนี้อาทีอยู่ในความดูแลของแพทย์ในห้องฉุกเฉิน เพื่อทำการยื้อชีวิต ถึงไปก็ยังไม่สามารถเข้าดูอาการได้ และตอนนี้สังหรณ์ใจเหลือเกินว่าจะมีเรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นที่เรือนนายศรจึงขอตามมาดูก่อนหากว่าที่นี่เหตุการณ์ปกติแล้วจะรีบพาไปโรงพยาบาลทันที
ด้วยจิตใจที่ร้อนรนอยู่ไม่สุขจิตราจึงตามบุตรชายมาอีกคน ซึ่งตอนนี้ก็มาเห็นในภาพที่ไม่น่าเห็น อาทิตย์ยังไม่ได้บอกหล่อนว่าที่บุตรชายคนเล็กหล่อนถึงขั้นเข้าห้องฉุกเฉินเกิดจากฝีมือใคร หล่อนจึงเดาไปตามเรื่องที่ส้มขึ้นไปรายงานบนเรือนก่อนหน้านั้น นาทีนี้ภาพความร้ายกาจของอิทธิที่หล่อนเห็นจึงเพิ่มความโกรธเกลียดและชิงชังถึงขั้นตวาดว่า
“มันจะมากเกินไปแล้วนะไอ้อิทธิ ปล่อยนังส้มเดี๋ยวนี้ แกไม่มีสิทธิ์ที่จะมาเข่นฆ่าใครภายในไร่นี้ไอ้ลูกขี้ข้า”
“มาอีกตัวแล้วเหรอ ลูกชายตัวเองจะตายเพราะน้ำมือพวกมันยังหลับหูหลับตาเข้าข้างพวกมันอยู่อีกช่างน่าสมเพชเหลือเกินนะคุณจิตรา” อิทธิเอ่ยโต้กลับ สุดจะเดาได้ว่าจิตรารู้เรื่องความเลวทรามต่ำช้าของครอบครัวนายศรหรือยัง แต่ท่าจะยังหรอกเพราะถ้ารู้หล่อนก็คงไม่กางปีกปกป้องอยู่เช่นนี้ แต่หากรู้แล้วแต่ยังไม่ปักใจเชื่อมันก็ช่างน่าอดสูนัก
“แกพูดอะไร อย่ามาเล่นลิ้นกับฉันนะไอ้ขี้ครอก” จิตราตวาดกลับก่อนจะหันมองหน้านายศร สิน ส้ม และมาจบที่ใบหน้าบุตรชาย ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากปากเจ้าตัวทันทีว่า
“อิทธิบอกผมว่าคนที่ว่าจ้างนักเลงไปทำร้ายเขาและอาทีคือครอบครัวนายศรครับ”
สิ้นคำอาทิตย์นายศรกับบุตรชายถึงกับตกใจ ที่เห็นอาทิตย์รู้เรื่องนี้ด้วยอีกคน สองคนมองหน้ากันไปมากำลังคิดหาคำแก้ต่างขณะโดนจิตรามองจ้องหน้า ส้มเห็นดังนั้นจึงตั้งสติแสดงจริตออกมา
“นี่มันอะไรกันพี่อาทีโดนทำร้ายจริงๆ เหรอ คุณจิตร คุณจิตรจำคำที่ส้มบอกได้มั้ยคะว่าพี่อาทีไปมีเรื่องกับเหล่านักเลงได้ยังไง อิทธิ แกเลวมาก นี่แกกล้าใส่ร้ายครอบครัวฉันให้พี่อาทิตย์ฟังเหรอ พ่อฉัน พี่ฉัน ทำงานอยู่ในไร่งกๆๆ จะเอาเวลาที่ไหนไปสั่งนักเลง แล้วก็จะทำไปทำไมในเมื่อพี่อาทีเป็นหลานคุณจันทร์เป็นลูกคุณจิตรซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของพวกเรา ฉันรู้ฉันเห็นนะว่าแกน่ะมีเรื่องกับเหล่านักเลงเอง เรื่องมันเลยซวยมาถึงพี่อาที นี่แสดงว่าพี่อาทีบาดเจ็บหนักหรือถึงขั้นตายไปแล้วล่ะสิ แกถึงคิดใส่ร้ายพวกฉันเพื่อชุบมือเปิบแก้แค้นเรื่องที่พ่อฉันไปพังเรือนแก พ่อฉันพี่ฉันไม่ได้ทำไปโดยพลการมันเป็นคำสั่งคุณจิตรแกก็รู้ ทำไมแกจะต้องมาใส่ร้ายครอบครัวเราด้วย แล้วนี่หรือเปล่าคือสาเหตุที่แกบุกมาทำร้ายฉันเพราะฉันดันไปเห็นแกมีเรื่องกับเหล่าอันธพาล แกกลัวว่าฉันจะแฉเรื่องแกใช่มั้ย ช้าไปแล้วล่ะเพราะเรื่องนี้ฉันรายงานให้คุณจิตรท่านทราบแล้ว”
ส้มเล่นละครตบตาจิตราซ้ำในตอนท้ายด้วยการหันมาต่อว่าถึงแผนการของอิทธิ นายศรกับสินลอบมองหน้ากันแอบยิ้มให้กับความหัวไวของส้ม ส่วนอิทธินั้นรีบมองสบตาอาทิตย์หวังเอาไว้ว่าชายหนุ่มจะไม่หลงเชื่อส้มง่ายๆ หนุ่มน้อยไม่ได้ตั้งความหวังว่าจิตราจะคิดอะไรให้ถี่ถ้วนเพราะรู้อยู่แล้วว่ายังไงซะฝ่ายนั้นก็ต้องเชื่อคำพูดของส้มเพราะภายในใจเจ้าตัวจงเกลียดจงชังเขายิ่งกว่าสิ่งใด
“เธอนี่มันปลิ้นปล้อนเก่งจังนะส้ม สมแล้วล่ะที่เกิดเป็นลูกและน้องอันธพาล” อิทธิเอ่ยขึ้นเยาะๆ ส่งแววตาสมเพชไปทางนายศรและสิน
“แกไม่ต้องไปว่าคนอื่นไอ้เด็กขี้ครอก แล้วก็ปล่อยนังส้มซะ ไม่อย่างนั้นฉันเกณฑ์คนงานหมดทั้งไร่นี้มาเล่นงานแกแน่โทษฐานที่นำหายนะมาสู่ลูกฉัน” จิตราเอ่ยว่าแทนสองพ่อลูกที่ถูกมองด้วยแววตาสมเพช อาทิตย์ฟังอยู่จึงรีบติงมารดา
“แค่นี้เรื่องมันก็วุ่นวายพอแล้วแม่ อย่าทำอะไรให้มันลุกลามอีกเลยนะ ส่วนนายปล่อยส้มก่อนเถอะ มีอะไรค่อยๆ พูดกัน ฉันยู่ตรงนี้แล้ว ไม่มีใครกล้าทำอะไรนายตอนนี้หรอกเชื่อฉัน” ประโยคหลังชายหนุ่มหันไปเอ่ยกับอิทธิ ส่งแววตาอ้อนวอนให้เจ้าตัวยอมเชื่อตนสักครั้ง
อิทธิมองสบตาอาทิตย์สักพัก เห็นแววตาอ้อนวอนของเจ้าตัวจึงค่อยๆ คลายมือออกจากตัวส้ม และยอมปล่อยคมมีดออกจากคอสาวน้อยในที่สุด นายศรเห็นดังนั้นก็ตั้งลำปืนใหม่คิดจะเหนี่ยวไกใส่ร่างอิทธิเมื่อเห็นบุตรสาวตัวเองปลอดจากคมมีดแล้ว แต่แล้วต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงอาทิตย์ตวาดขึ้น พร้อมกับโดนปืนสั้นของเจ้าตัวจี้เข้าที่ขมับ
“อย่าแม้แต่จะคิดนะนายศร”
“อาทิตย์!” จิตราเอ่ยขึ้นอย่างตกใจเมื่อนึกไม่ถึงว่าบุตรชายคนโตของหล่อนจะพกปืนผาหน้าไม้ นี่เจ้าตัวไปแอบหยิบมาตอนไหนกันทำไมหล่อนไม่เห็นรู้เรื่อง
“ทิ้งปืนลง แล้วไปยืนรวมกับนายสิน เธอด้วยส้ม” อาทิตย์สั่งขึ้นท่ามกลางความตกตะลึงของทุกๆ คน ส้มอ้าปากค้างไม่คิดว่าอาทิตย์จะแสดงบุคลิกด้านกร้าวออกมาให้ตนเห็น นายศรกับนายสินเองก็ตะลึงเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนอย่างอาทิตย์จะจับปืนผ้าหน้าไม้ได้น่ากลัวแบบนี้ ส่วนอิทธิรู้สึกรื้นขึ้นมาในอกเมื่อคิดว่าอาทิตย์กำลังปกป้องตนเองอยู่ สิ่งที่หนุ่มน้อยเห็นตอนนี้มันทำให้รู้สึกอุ่นใจอยู่ลึกๆ ว่าตัวเองไม่ได้สู้เพียงลำพังอีกแล้ว
“อาทิตย์วางปืนลง ลูกทำบ้าอะไร” จิตราเอ่ยสั่งบุตรชายแต่ก็ไม่เป็นผล หนำซ้ำเจ้าตัวยังเอ่ยให้ได้อึ้งอีก
“ผมเคยนบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ฟังหูไว้หูกับครอบครัวนี้ ที่ส้มบอกเมื่อครู่ผมไม่เชื่อว่ามันจะเป็นจริง เพราะผมเคยไปดักรอทั้งอิทธิและอาทีวันก่อนก็ไม่เห็นว่าสองคนจะมีเรื่องกับใคร แล้วทำไมจู่ๆ ทั้งคู่ถึงจะมามีเรื่องกับอันธพาลในวันที่นายศรอุตริชวนแม่คุยเรื่องงานที่โรงพยาบาล ผมไม่ได้ใส่ร้ายแต่การกระทำนั้นมันบ่งชัดว่านายศรต้องการยื้อเวลาไม่ให้ผมไปไปหาน้องไปหาอิทธิที่โรงเรียน  ผมแปลกใจตั้งแต่นายศรขอติดสอยห้อยตามเราไปเยี่ยมป้าจันทร์แล้ว แต่ผมก็พยายามไม่คิดอะไร แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็ได้จังหวะกันพอดี”
“คุณพูดอะไรคุณอาทิตย์ คุณกำลังใส่ร้ายพ่อผมนะ” สินเอ่ยแย้ง อาทิตย์จึงหันไปคุยด้วย
“ฉันไม่ได้ใส่ร้ายฉันแค่สงสัย หากว่าพวกนายบริสุทธิ์กันจริงก็ไม่ต้องกลัวหรอกว่าจะโดนจับ เพราะยังไงฉันก็ต้องการให้ผู้ร้ายตัวจริงที่ทำร้ายน้องฉันได้รับโทษทัณฑ์ ไม่ใช่แพะ”
“งั้นลูกก็วางปืนก่อนอาทิตย์ มีอะไรค่อยๆ พูดกันนะ” จิตราเอ่ยบอกบุตรชายเมื่อเห็นท่าทีเจ้าตัวจริงจังอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน
“ผมจะวางก็ต่อเมื่อตำรวจมาถึงหรือคนพวกนี้ยอมอยู่นิ่งๆ ยอมให้ความร่วมมือในการสืบสวนสอบสวนเท่านั้น” อาทิตย์บอกมารดา จิตราไม่รู้จะพูดอะไรอีกจึงได้แต่มองดูใบหน้าครอบครัวคนสนิทของตนที่อยู่ในท่าทีวิตกทั้งสามคน ด้านส้มเมื่อเห็นจิตรามองสบตาจึงรีบจุดไฟให้ร้ายอิทธิเพื่อให้จิตรายื่นมาเข้ามาช่วยครอบครัวตน
“คุณจิตร ไอ้อิทธิมันกำลังปั่นหัวพี่อาทิตย์อีกคนนะคะ คุณจิตรอย่าปล่อยให้พี่อาทิตย์หลงคารมมันเหมือนกับที่พี่อาทีเป็นนะคะ ถ้าคุณจิตรไม่อยากให้จุดจบพี่อาทิตย์เป็นอย่างพี่อาที”
“จุดจบอะไรตาอาทีลูกฉันยังไม่ตาย หล่อนอย่ามาปากไม่ดีนังส้ม” จิตราแว้ดกลับเมื่อตีความหมายของส้มว่าเจ้าตัวเข้าใจว่าบุตรชายตนนั้นพบจุดจบไปแล้ว นายศร สิน และส้ม มองหน้ากันทันควัน ต่างคนต่างคิดว่าแล้วที่พวกสมุนมารายงานว่าอาทีโดนแทงมิดด้ามถึงสองครั้งมันหมายความว่ายังไง ไอ้เด็กนั่นดวงแข็งอย่างนั้นหรอกเหรอ
“เสียใจด้วยนะที่พวกแกพลาด ดวงอาทีมันยังแข็ง คนเลวๆ อย่าพวกแกทำอะไรมันไม่ได้หรอก” อิทธิเอ่ยขึ้นเสียงเยาะเมื่อเห็นครอบครัวอันธพาลมองหน้ากันเลิ่กลัก
“ไอ้อิทธิ มึง” สินเกิดมีน้ำโหเมื่อโดนคำพูดเยาะหยัน ชายอันธพาลคิดตรงเข้าทำร้ายเจ้าของคำพูดแต่ต้องชะงักเมื่อปลายกระบอกปืนจากมืออาทิตย์ที่จี้ขมับบิดาตนแต่แรกหันมาทางตนพร้อมเสียงตวาด
“ฉันบอกให้อยู่นิ่งๆ ไง”
ในนาทีที่ปลายกระบอกปืนเปลี่ยนทิศทางนายศรตัดสินใจดึงเอาร่างจิตรามาล็อคเอาไว้ก่อนทิ้งปืนยาวในมือลงแล้วเปลี่ยนเป็นชักมีดปลายแหลมที่พกติดตัวไว้ใช้ยามฉุกเฉินขึ้นมาจี้คอหอยเอาไว้เอ่ยตวาดขึ้น
“คนเพิ่งหัดร้ายอย่างมึงอย่ามากล้ากับกูไอ้อาทิตย์ ทิ้งปืนลง ไม่งั้นแม่มึงคอขาดแน่”
ทุกสายตาตกตะลึงในสิ่งที่นายศรกระทำ โดยเฉพาะจิตราที่ตัวเย็นตกใจละล่ำละลักถามคนสนิทเสียงสั่น
“นะ นายศร นี่มันอะไรกัน นายศรมาจี้คอฉันทำไม”
“หุบปากอีโรคจิต ตอนนี้มึงไม่ใช่เจ้านายกูแล้วโว้ย บอกลูกมึงทิ้งปืนลงเดี๋ยวนี้ไม่งั้นมึงได้ตายเฝ้าไร่ที่มึงหวงนักหวงหนาแน่” นายศรตวาดกลับ ก่อนจะสั่งให้สินและส้มมายืนอยู่ข้างๆ ตน โดยให้สินนั่นถือปืนยาวเอาไว้เผื่อใช้งาน
อาทิตย์ตัวชาตอนเห็นมารดาตนถูกมีดคมจี้เข้าที่คอหอย ชายหนุ่มค่อยๆ ลดมือที่ถือปืนลงเมื่อโดนฝ่ายนั้นร้องห่มร้องไห้ขอร้อง
“อาทิตย์วางปืนก่อนลูกวางปืนก่อนแม่กลัว แม่กลัว”
“แม่ใจเย็นๆ นะครับ แม่ต้องไม่เป็นอะไร ผมจะช่วยแม่ครับ”  อาทิตย์เอ่ยบอกในตอนที่วางปืนลงบนพื้นแล้วเรียบร้อย นายศรสั่งให้บุตรสาวไปหยิบมา ส้มละล้าละลังแต่พอโดนตวาดซ้ำก็ยอมทำแต่โดยดี
“นี่มันเรื่องอะไรกันนายศรบอกฉันซิว่านี่มันเรื่องอะไร” จิตราเอ่ยถามนายศรอีกครั้งเพื่อหาคำอธิบาย และคำตอบที่ได้รับกลับมาทำเอาหล่อนเข่าทรุด
“ทุกสิ่งทุกอย่างลูกชายมึงก็พูดมาหมดแล้วนี่อีโง่ หรือว่าที่ไอ้ลูกหมานั้นพูดมึงฟังไม่ชัด กูจะบอกให้มึงฟังก็ได้ว่ากูให้ไอ้สินลูกกูส่งสมุนไปจัดการกับลูกชายมึงเองกับไอ้อิทธิคนที่มึงเกลียดนักเกลียดหนานั่นแหละ  แต่เสียดายที่พวกมันดันรอดแล้วคิดจะตามมาเอาผิดกู แต่พวกมันคงลืมไปว่ากูเป็นใคร กูไอ้ศรหัวหน้าคนงานที่กำชีวิตพวกขี้ข้าไว้นับร้อยในไร่นี้ หากกูไม่แน่จริงกูก็คงคุมไม่ได้ คิดจะมาเด็ดปีกกูอย่างงั้นเหรอ ไปคิดแผนมากันใหม่นะไอ้พวกโง่”
“ไม่จริง ไม่จริง นายศรล้อฉันเล่นใช่มั้ย ใช่มั้ย นายศรล้อฉันเล่นใช่มั้ย” จิตราส่ายหน้าละล่ำละลักอีกครั้งเมื่อไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน นายศรเป็นสนิทของหล่อนที่หล่อนไว้ใจและเชื่อใจมากที่สุดในไร่นี้ แล้วเหตุผลใดเล่าที่ชายคนนี้จะทรยศหล่อน ไม่จริง มันต้องไม่จริง เรื่องนี้มันต้องเป็นเรื่องโกหก หล่อนไม่เชื่อ หล่อนไม่เชื่อ
นายศรหัวเราะลั่นเมื่อเห็นอาการจิตราตั้งคำถามออกมาคล้ายคนเสียสติ หัวเราะเสร็จจึงตอบออกมาให้เรื่องราวกระจ่างว่าตลอดเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่ตนไม่เคยมีความภักดีให้ใคร ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อผลประโยชน์เข้าตัวแทบทั้งนั้น ชายหัวหน้าคนงานสารภาพออกมาว่าตนเป็นคนโกงกินรายได้ของไร่มาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าคนงาน และทำมันเรื่อยมาเพราะรู้ทางหนีทีไล่ดี
“อีแม่แม่นางแม้มันจะเก่งที่เคยจับผิดกูได้แต่น่าสงสารมันนักที่ขี้ข้าอย่างมันทำอะไรกูไม่ได้ จะว่าไปกูก็ขอบใจมึงนะอีจิตรที่คอยให้ท้ายกูตลอดจนกูสูบเลือดสูบเนื้ออีแก่พี่สาวมึงมาได้จนทุกวันนี้ รู้อะไรมั้ยว่าตอนที่กูไปเยี่ยมมันกูได้แต่ยืนสาปแช่งให้หลับอยู่แบบนั้นไปตลอดกาล มันจะได้ไม่ต้องตื่นมาเจอกับความทรมานจากน้ำมือกูที่เตรียมจะลงมือฮุบไร่นี้ของมันในเร็ววันนี้”
อาทิตย์กับอิทธิหันมองหน้ากันตอนที่โดนนายศรกล่าวถึงผู้ที่ตนเคารพในทางไม่ดี สองคนได้แต่ยืนข่มอารมณ์โกรธที่มีอยู่ล้นอก ส่วนจิตรานั่นยังคงมึนๆ งงๆ กับคำพูดของคนสนิทอยู่จึงตั้งคำถามวนๆ เวียนๆ อย่างคนเสียสติ
“ฮุบไร่ ฮุบไร่ มะ หมายความว่าไง ใครฮุบไร่ นะนายเหรอ นะ นายจะฮุบไร่พี่จันทร์เหรอนายศร”
“ก็เออน่ะสิอีโง่ มึงคิดว่าคนอย่างกูจะทนเป็นขี้ข้ามึงไปจนตายหรือยังไง  ตกใจมากนักเหรอกับการได้ยินแบบนี้ถึงพูดวกไปวนมาอยู่แบบนี้ หรือมึงมันจะบ้าไปแล้ว ใช่สินะ กูว่าตอนนี้มึงมันคงกำลังเป็นโรคจิตอ่อนๆ เพราะแรงแค้นที่สุมในอกมึงน่ะแหละใช่มั้ยอีจิตรา อีโรคจิต” นายศรตวาดใส่หน้านึกสาใจที่เห็นน้ำตาของจิตราร่วงเผาะอาบแก้มในสภาพของคนที่กำลังเลื่อนลอย
“ปล่อยแม่ฉันนายศรแม่ฉันเคยมีพระคุณกับนายนะ นายจะทำแบบนี้กับท่านไม่ได้” อาทิตย์รู้สึกสงสารมารดาจับใจจึงเอ่ยขึ้น นายศรหัวเราะเยาะหันมาบอก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 09-05-2011 21:13:18
อ๊ากกก มาต่อ T^T เค้าค้างที่ฉุดดดด แต่...โสน้าหน้า สะใจคุณจิตราเหลือหลาย โฮะๆๆ แต่น่าจะโง่ให้นานกว่านี้น้า ยังสะจายไม่พอ โฮะๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 09-05-2011 21:29:14
ตอนนี้ อาทิตย์ค่อยเหมาะสมกับบท พระเอกขึ้นมาหน่อย

แอบสะใจจิตรานิดๆที่โดนซะบ้าง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 09-05-2011 21:31:46
สมน้ำหน้าจัง...ฮ่าๆคุณแตงโมจิตราน่าโง่ ..อิอิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-05-2011 22:12:30
สะใจแทนไอ้ศรฉิบหายตอนนี้หลอกอีแก่นั้นให้โง่เป็นควายมาได้ตั้งนาน


ว่าไงอีแกยังไม่ยอมรับอีกเหรอขนาดเจ้าตัวเขาบอกอยู่ต่อหน้าต่อตายังไม่เชื่ออีก


สุดยอดเลยมึง มีชีวิตแต่ไร้สมอง แยกแยะไม่ออกว่าคนไหนดีชั่ว :z6: :z6:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 09-05-2011 22:55:25
+1ชอบตอนนี้ที่สุดอ่ะ o13 ช่วย :z6:นังจิต รา   ซะจาย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 09-05-2011 23:18:27
ค้าง เมื่อเหตุการณ์กำลัง
คลี่คลาย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 09-05-2011 23:24:50
ตอนนี้จิตราเหมือนคนบ้าเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 09-05-2011 23:38:47
เหมือนๆจะลงไม่ครบเนาะ

แต่อยากบอกว่าสะใจนังจิตรางี่เง้าเหลือเกิน ไม่ลืมหูลืมตา
และขอด่าอิทธิหน่อย  ง่าวจ๊าดนัก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: นางคุ้ม ที่ 09-05-2011 23:58:33
อร๊าย รู้สึกผ่อนครายมากค่ะ ณ.ตอนนี้ ขอบใจนะนายศร คริคริ ด่านังโรคจิตอีก เอาอีกๆ o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 10-05-2011 00:01:42
โอ่ววววววววววดราม่าสุดๆ รอตอนต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: mantdash ที่ 10-05-2011 00:34:09
สมน้ำหน้าอีจิตรจัง น่าจะให้นายศรตบหน้าแรงๆนะจะได้ตื่นซะทีบ้ามานาน หมั่นไส้มากๆ

แต่ก็ดีนะเพราะความโง่ของนายศรทำให้รุ้กันหมดว่าชั่วมาตั้งแต่โครตไหน คราวนี้แหละดิ้นไม่หลุดแน่ เหลือแค่รอคนมาช่วย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 10-05-2011 00:40:36
สมน้ำหน้าจิตตรา ตายไปเลยคนอย่างมึงอะ

มาต่อไวๆนะครับรออยู่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: BExBOY ที่ 10-05-2011 00:50:27
เออ...สม

รอมานานแล้วตอนนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: boyza_Casanova ที่ 10-05-2011 01:23:16
คุณจิต  5555  สมน้ำน่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงาũ
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 10-05-2011 02:44:52
อยากบอกว่า
ตอนนี้เป็นตอนที่ชอบที่สุด ตั้งแต่อ่านนิยายเรื่องนี้มาเลยค่ะ  o18

สะใจโว๊ย!!!  :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 10-05-2011 08:01:49
ด่าอีคุณจิตร เยอะๆกว่านี้ยิ่งดี

สะใจ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 10-05-2011 10:04:04
แอ๊รยยยยยยยยย

ความจริงปรากฏแล้วววววววววว

แต่ค้างมากมายค่าคุณ ๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: THELOOM ที่ 10-05-2011 12:46:47
เป็นไงละคุณจิตร คนงานผู้จงรักภักดีกำลังใช้มีดจี้คอตัวเองอยู่ ฉลาดดีนัก :angry2:


แต่คุณอาทิตย์เทห์จัง :impress2:

มาต่อเร็วๆนะครับบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-05-2011 13:14:27
5 5 5 (โปรดจิ้นว่าเป็นเสียงหัวเราะแบบผู้ร้ายโรคจิต) ขอหัวเราะแบบสะใจ๊สะใจทีเทอะ
กรรมชั่วที่แต่ละคนได้กระทำไว้กำลังย้อนคืนกับแต่ละคนแล้ว
เริ่มจากนังจิตรา ฮึ คงแทบกระอักเลือดออกมาเป็นลิ่มๆเลยเนอะ 555
ต่อไปก็ต้องเป็นครอบครัวไอ้ศรซินะ(ครอบครัวนี้ เอาแบบไม่ตายดีน่ะ นะพญากรรม)
โอ๊ย...อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  ไวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  จ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สาธุ มีคนตามมาช่วยอิทธิกับ  นายอาทิตย์ไวๆเทอะ เจ้าประคู้ณ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kimkanyuang ที่ 10-05-2011 13:15:59
เข้ามารอทุกวัน

ดีจัยจังได้อ่านแล้ว

สะใจมีคนด่าจิตราแทนด้วย555

ป.ล.ชอบอาทิตย์อ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: tatum1234 ที่ 10-05-2011 15:02:28
 :laugh: สะใจสุด..สมน้ำหน้าแม่จิตรา

 :o8:แอบชอบอาทิตย์ขึ้นมานิดนึง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 10-05-2011 15:03:27
 :laugh:
ปาดคอให้เลือดกระฉูดไปเล๊ยยยยย สมน้ำหน้ายัยคุณนายจิตร
อาทิตย์กับอิทธิสู้ๆๆๆ  :ped149:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 10-05-2011 18:25:03
อยากเอาระเบิดไปปาไอ้ครอบครัวเวรตะไลนี่
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-05-2011 19:18:59
อื้อหือ เป็นไงคุณจิตรา
งูเห่ามันหันมาฉกเข้าให้แล้ว
ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือสงสารดีงานนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 11-05-2011 14:26:33
อยากบอกว่า
สะใจเว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย :m4: :m4: :m4: :m4:
สมน้ำหน้า คุณจิตรา หรือ นังโรคจิต :interest: :interest:
ในที่สุดก็ได้รู้สึกทีว่าที่ผ่านมานะ ตัวเองโง่แค่ไหน แถมหูเบาอีกต่างหาก
สะใจเป็นบ้า โดนกับตัวซะมั่ง เป็นไง อึ้งไปเลยยยย
ส่วนอาทิตย์ ก็ยังคงเป็นพระเอกที่บทบาทไม่เท่ห์เท่าไหร่เลยอ่ะ :m17:
ดีนะที่มาห้ามทัพอิทธิทัน แต่เสียเชิงไอครอบครัว ชั่วๆๆ บัดซบนั่น :beat: :z6: :โป้ก1:
จะรอตอนต่อไปค่ะ หวังว่าอาทิตย์จะแสดงบทพระเอกเท่ๆๆออกมานะค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :L2:

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 12-05-2011 16:19:56
ว้าาา มีแต่คนโสน้าหน้าคุณจิตรา  จะมีคนเกลียดผมมั้ยถ้าผมจะบอกว่าสงสารหล่อน =="
ไม่อยากให้จิตราเป็นบ้า แต่อยากให้มีบทบาทฆ่านายศร ไม่ก็กันไอ้อิทจากลูกปืนนายศรไรงี้  อิทถึงเลิกโกรธแม่พระเอก  อยากให้จิตรารับลูกสะใภ้อย่างอิทได้อีก

รอ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: engrish ที่ 12-05-2011 23:29:22
รออ่านต่อ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 13-05-2011 11:23:36
ในที่สุดก็รู้ความจริงซักทีนะคุณนายจิตรา

เลี้ยงงูเห่าไว้ใกล้ ๆ แท้ๆ

คนดีดี มีไม่เก็บไว้ แต่ดันเลือกเก็บคนชั่วไว้ข้างตัว
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 13-05-2011 11:24:00
ปล เนื้อหาเข้มข้นมากค่ะตอนนี้้  สนุกมากๆ มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 13-05-2011 14:03:41
ชักจะเหมือนละครไทยเข้าไปทุกที เฮ้อ มาม่าได้อีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 14-05-2011 23:59:32
กำลังสนุกเลย
ขอให้ตำรวจมาแล้วเกิดการยิงปะทะกัน
นายศร สิน ส้ม ตายหมด หึหึ
สะใจสุดๆ
ส่วนจิตราแล้วแต่ค่ะ

 o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: zemicolon ที่ 15-05-2011 01:14:59
จะเกิดรายขึ้นมารอคร้าบบบบบบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 15-05-2011 02:00:58
ตอนที่ 40

“มีพระคุณเหรอ กูบอกแล้วไงว่ากูไม่เคยภักดีกับใครหน้าไหนทั้งนั้นในไร่นี้ มึงก็เหมือนกันกล้าดียังไงถึงคิดจะจับกูส่งตำรวจ คงคิดอยากเล่นบทพระเอกในตอนสุดท้ายสินะถึงคิดมาหือกับกูเอาตอนนี้ มึงไม่เก่งซะตั้งแต่ตอนที่ป้ามึงยังไม่ป่วย น้องมึงยังไม่เจ็บ และแม่มึงยังไม่ใกล้บ้าล่ะไอ้ลูกหมา มึงมาทำเก่งทำฉลาดตอนนี้ให้มันได้อะไร”
อาทิตย์รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่โดนด่าว่า ใช่สินะ นี่ที่ผ่านมาเขาไปมัวทำอะไรที่ไหนทำไมเขาถึงปล่อยให้เรื่องราวร้ายแรงมันเกิดขึ้นในไร่ได้แบบนี้ เขาห่วงแต่อนาคตตัวเองห่วงแต่การเร่งเอาปริญญามาให้ผู้เป็นมารดาชื่นชมจนลืมสนใจความเป็นมาเป็นไปในไร่นี้ เขาปล่อยให้ผู้หญิงมีอายุสองคนปกครองไร่กันตามลำพัง ทำไมเขาถึงเป็นลูกเป็นหลานที่ไม่เอาไหนแบบนี้
อิทธิเดินเข้ามาใกล้อาทิตย์เมื่อเห็นเจ้าตัวยืนนิ่งคล้ายคนกำลังคิดอะไรอยู่ เด็กหนุ่มเห็นนัยน์ตาเจ้าตัวไหวนิดๆ ก็นึกสงสารและเห็นใจขึ้นมาเพราะหากให้เดา ฝ่ายนั้นคงกำลังนึกโทษตัวเองอยู่เป็นแน่ที่ปกป้องใครในไร่นี้ไม่ได้เลยสักคน อาทิตย์หันมองสบตาคนที่เดินเข้าหาตัว รู้สึกละอายใจเมื่อนึกถึงภาพคนๆ นี้ที่พยายามเรียกร้องความยุติธรรมให้กับมารดาตัวเองในทุกวิถีทางโดยไม่เกรงใครหน้าไหน ส้มนึกริษยาที่เห็นชายหนุ่มที่ตนหลงรักมองสบสายตาคนที่หล่อนเข้าใจว่าเป็นพวกวิปริตผิดเพศ ประกอบกับที่หล่อนนึกโมโหที่คนๆ นั้นทำหล่อนหน้าผากแตกเมื่อครู่ และบังอาจจับหล่อนเป็นตัวประกันเพื่อต่อรองกับบิดา ในที่สุดก็ตัดสินใจถลาร่างเข้าไปหาอิทธิหวังตบตีให้หายแค้น โดยที่มือยังถือปืนสั้นของอาทิตย์อยู่
“ไอ้อิทธิ ไอ้ลูกขี้ข้า เห็นหน้ามึงแล้วกูเหม็นเขียวนัก” สาวน้อยเอ่ยว่าเมื่อวิ่งเข้าไปถึงร่างนั้นกำลังจะใช้ด้ามปืนในมือทุบตีฝ่ายนั้นแต่แล้ว
“ฉึก!”
เสียงคมมีดเสียบทะลุเนื้อ ส้มตาเบิกโพลงด้วยความเจ็บปวดมองสบสายตาคนที่หล่อนกะจะตบตีจนลืมไปว่าเจ้าตัวถือมีดปลายแหลมเอาไว้อยู่
อิทธิส่งสายตากร้าวมองส้มอย่างไม่สะทกสะท้านในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ก่อนหน้านั้นตอนที่สายตาเห็นส้มปรี่เข้าหาตัวมีดปลายแหลมที่ยังไม่ทิ้งลงจากมือจึงยกขึ้นเสียบสวนทะลุท้องฝ่ายนั้นทันที
“เธอมันวิ่งเข้ามาฉันเอง ช่วยไม่ได้นะส้ม” อิทธิเอ่ยบอกในตอนที่ส้มมองมาตาเหลือกก่อนจะตัดสินใจชักคมมีดออกแล้วเสียบซ้ำเข้าไปอีกครั้ง ถึงตอนนี้ส้มถึงกลับนัยน์ตาถลนร้องอ๊อคปล่อยปืนสั้นในมือหล่นตกพื้น พร้อมกับอาการตกตะลึงของทุกคนที่มองดูอยู่ โดยเฉพาะนายศรและสินที่ร้องเรียกชื่อสาวน้อยพร้อมๆ กัน คิดไม่ถึงว่าอิทธิจะกล้าทำกับส้มขนาดนั้น
จิตราได้สติในตอนที่หูได้ยินเสียงเรียกชื่อส้ม พอพ้นจากอาการเลื่อนลอยหล่อนจึงมองไปทางส้มที่บัดนี้ร่างกำลังร่วงลงพื้นช้าๆ ในสภาพตาเหลือกลานกายกระตุก หล่อนมองที่คอตัวเอง ยังคงเห็นคมมีดจากมือนายศรจ่ออยู่แต่ดูมันคลายออกจากเดิมมาก คงเป็นเพราะนายศรไร้เรี่ยวแรงจากที่เห็นลูกสาวตัวเองโดนแทงนั่นแหละ
จิตราถือโอกาสที่นายศรเผลอใช้มือยกมีดในมือฝ่ายนั้นให้ห่างจากลำคออย่างรวดเร็ว ซึ่งพอทำสำเร็จหล่อนก็วิ่งออกจากห้องไปด้วยสภาพจิตใจที่กระเจิดกระเจิงด้วยความกลัว
“ไอ้อิทธิ มึงทำน้องกู มึงตาย” สินเอ่ยออกมาเสียงดังยกปืนในมือเล็งไปยังร่างอิทธิกะจะกระหน่ำกระสุนใส่ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างก็กระเด็นไปอีกทางเพราะโดนแรงถีบจากบิดาตัวเอง
เหตุที่นายศรต้องถีบร่างบุตรชายให้ล้มไปเพราะว่ามองเห็นว่าอาทิตย์ได้ฉวยหยิบปืนสั้นที่หล่นจากมือบุตรสาวตนแล้วยกจะจ่อยิงมาทางบุตรชายตนแล้วนั่นเอง ซึ่งนาทีนั้นบุตรชายของตนยังไม่ทันได้ระวังจึงต้องรีบถีบเจ้าตัวให้พ้นวิถีกระสุน
“เปรี้ยง!” เสียงปืนนัดแรกดังออกมาจากปลายกระบอกปืนอาทิตย์ แต่เสียดายที่มันพลาดเป้าเพราะร่างสินนั้นกระเด็นทางอื่นแล้วจากปลายเท้านายศร
“อิทธิ เร็วไปกับฉัน” ชายหนุ่มรีบคว้าแขนหนุ่มน้อยข้างตัววิ่งออกไปจากห้องแคบๆ นั้นเพราะคิดว่าตัวเองคงโดนยิงสวนกลับมาอย่างแน่นอน
“ไอ้สินตามไปฆ่าพวกมันอย่าให้มันพาชีวิตพ้นคืนนี้ ส่วนกูจะตามไปเชือดคอหอยอีจิตราเอง” นายศรเอ่ยสั่งบุตรชายก่อนที่สองคนจะแยกกันวิ่งล่าเหยื่อด้วยจิตใจที่สุมด้วยไฟโทสะ
อาทิตย์จับมืออิทธิวิ่งหลบวิถีกระสุนที่สินยิงไล่ตามหลังไปทางท้ายไร่ ชายหนุ่มยิงต้านบ้างเป็นบางจังหวะ ซึ่งทุกครั้งก็โดนยิงสวนกลับมาจนต้องหาที่หลบตลอดเส้นทาง ในตอนหนึ่งอิทธิเกิดเสียหลักล้มลง แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังช่วยฉุดและจับแขนเจ้าตัววิ่งหลบห่ากระสุนได้อย่างหวุดหงิด
“ไหวมั้ยครับคุณอาทิตย์”  อิทธิเอ่ยถามคนที่ฉุดแขนตัวเองวิ่งในตอนที่เจ้าตัวล้มลงบ้างเพราะหมดแรง ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ชายหนุ่มได้ถ่ายเลือดให้น้องชายในปริมาณที่มากพอดู ซึ่งตามคำแนะนำของแพทย์คือให้พักผ่อนก่อนสักระยะ แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับต้องพาร่างกายมาวิ่งหลบห่ากระสุน จึงทำให้เกิดอาการงวูบไหวไปบ้าง
“ฉันไม่เป็นไร” อาทิตย์เอ่ยตอบก่อนจะโผเข้ากอดร่างคนถามพาล้มกลิ้งหลบลูกกระสุนที่ถูกยิงสาดมาอีกหนึ่งห่า ชายหนุ่มยกปืนยิงตอบกลับไปก่อนจะฮึดแรงคว้ามืออิทธิวิ่งหลบไปได้อีก
ทางด้านจิตราที่วิ่งกระเซอะกระเซิงเข้าป่าไปเช่นกันเพราะรู้สึกกลัวจนลนลาน ยิ่งคำขู่กรรโชกที่คนวิ่งไล่หลังตะโกนให้ได้ยินยิ่งทำให้หล่อนสติหลุด
“อีจิตรามึงไม่ต้องวิ่งหรอก คืนนี้กูเชือดคอหอยมึงแน่”
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”  จิตราร้องหาคนช่วยเมื่อเริ่มหมดแรงวิ่ง
“โอ้ย!” หญิงร้ายร้องออกมาด้วยความเจ็บเมื่อฝืนวิ่งต่อไปได้สักพักแล้วหมดแรงล้มลงหัวเข่ากระแทกกับก้อนหินแข็ง หล่อนผวาหนักเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามเข้ามาใกล้ๆ จึงฮึดเรี่ยวแรงที่มีลุกขึ้นจะวิ่ง แต่แล้วต้องสะดุ้งกรี๊ดเมื่อได้ยินเสียงตวาดมาใกล้หูแล้ว
“มึงหนีไม่รอดหรอกอีจิตร มึงต้องตายมึงต้องตาย”
“กรี๊ด!” จิตราร้องลั่นเมื่อหันมามองด้านหลังเห็นนายศรถือมีดวิ่งเข้าใส่ร่างในระยะใกล้ตัวแล้ว
“โอ้ย!” นายศรร้องลั่นในตอนที่ร่างกำลังจะวิ่งไปถึงตัวจิตราแล้ว เหตุที่ร้องเพราะโดนวัตถุบางอย่างฟาดเข้าที่น่อง
“แม่นาง!” จิตราครางชื่อของคนที่วิ่งเข้ามาใช้ท่อนไม้ฟาดเข้าที่ขานายศรจนเสียหลักล้มลง แต่กระนั้นฝ่ายนั้นก็ยังไม่ยอมทิ้งมีดในมือ หนำซ้ำยังดีดตัวลงยืนได้อย่างคนไม่มีอาการเจ็บ
จิตราคิดจะวิ่งหนีต่อเมื่อเห็นนายศรลุกขึ้นได้ใหม่ ต่างจากแม่นางที่ตัดสินใจฟาดไม้ในมือใส่แขนข้างที่ชายเหี้ยมถือมีดอยู่ จนมีดกระเด็นออกจากมือชายผู้นั้นได้สำเร็จ
“อีแม่นางมึงทำกูอีสัตว์” นายศรโกรธแค้นที่โดนผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำร้ายได้ถึงสองครั้ง ไม่สนใจที่จะถามว่าคนทำโผล่มาตอนไหน สิ่งที่ตั้งใจคือพุ่งร่างเข้าใส่หวังใช้สองมือขย้ำร่างนั้นให้แหลกเละ
แม่นางยกไม้ในมือคิดจะฟาดใส่ร่างนายศรอีก แต่คราวนี้โดนฝ่ายนั้นจับข้อมือไว้มั่นก่อนจะจับบิดจนต้องร้องโอ้ยปล่อยให้ไม้หล่นจากมือ ด้านนายศรพอเห็นอาวุธแม่นางหล่นลงพื้นแล้วก็จัดการตบหน้าเจ้าตัวด้วยหลังมือเต็มแรงจนร่างบางหันสะบัดล้มกลิ้งไปตามพื้น
“มึงถือไม้มาให้กูทุบหัวมึงเองนะอีเปรต” นายศรก้มลงหยิบท่อนไม้ที่แม่นางใช้ฟาดตนตรงเข้าไปกะจะฟาดใส่ร่างเจ้าของไม้ให้แน่นิ่ง แต่แล้วก็ต้องร้องโอ้ยร่างเซเมื่อโดนอะไรบางอย่างฟาดเข้าที่กลางหลัง หันมามองจึงเห็นว่าเป็นจิตรานั่นเองที่ถือไม้ยืนจังก้าอยู่
“อีจิตรมึงอยากตายก่อนใช่มั้ย งั้นกูจะสนองให้” นายศรตรงเข้าหาจิตราหวังจะฟาดด้วยท่อนไม้ในมือ ไม่สนว่าจิตราจะถือไม้อยู่ในมือเช่นกัน คิดแต่ว่าผู้หญิงอย่างนั้นจะสู้รบปรบมืออะไรกับตนได้ แม่นางเห็นภาพนายศรถลาเข้าหาจิตราจึงรีบยันกายลุกขึ้นพุ่งร่างเข้าแย่งไม้จากมือชายผู้นั้น ปากก็ตะโกน
“คุณจิตรหนีไปก่อน”
จิตราเห็นภาพยื้อแย่งไม้ของแม่นางเพราะฝ่ายนั้นต้องการช่วยตนก็อึ้งอยู่สักพัก แต่เมื่อเห็นแม่นางพลาดท่าเสียทีล้มลงที่พื้นและนายศรตามไปจะฟาดท่อนไม้ใส่หล่อนจึงรีบเข้าช่วยฝ่ายนั้นด้วยการหวดไม้ในมือใส่ร่างนายศรอีกครั้ง แต่แล้วต้องล้มกระเด็นเกิดอาการจุกเสียดไปทั้งหน้าท้องเมื่อโดนฝ่ายนั้นยกเท้าถีบสวนจนไม้หล่นลงจากมือ แม่นางตกใจที่เห็นจิตราสิ้นท่าร้องโอดโอยแล้วนั่งกุมท้องอยู่ โดยที่มีนายศรเดินถือท่อนไม้เข้าหา ในนาทีที่นายศรยกไม้ขึ้นเตรียมหวดใส่ร่างนั้น นางจึงไม่รอช้าที่จะวิ่งไปฉุดแขนเจ้าตัวลุกขึ้นแล้วพาวิ่งหนีจนร่างนั้นพ้นรัศมีของท่อนไม้ที่นายศรตัดสินใจหวดลงมาแล้ว
“คิดจะหนีกูรอดอย่างนั้นเหรออีห่า” นายศรเอ่ยออกมาอย่างเดือดดาลก่อนจะทิ้งท่อนไม้แล้วเดินไปหยิบมีดเล่มที่ตกอยู่วิ่งตามร่างสองหญิงที่กำลังจับมือกันวิ่งหนีเอาตัวรอดกันอุตลุด
ด้านสินก็วิ่งไล่ล่าอาทิตย์กับอิทธิอย่างไม่ลดละ เพราะความเคียดแค้นที่คิดว่าน้องสาวตนสิ้นลมไปแล้วจึงทำให้มีแรงฮึดที่จะตามเอาชีวิตสองคนที่จับมือกันวิ่งหลบห่ากระสุนให้ได้ ชายอันธพาลลืมไปแม้กระทั่งอาการบาดเจ็บที่ของตนที่โดนลูกกระสุนจากฝีมืออาทีตอนก่อนหน้า ส่วนอาทิตย์อาการเพลียแต่ต้นเริ่มส่งผลให้ร่างกายวิ่งได้ช้าลงพลางรู้สึกหอบเหนื่อยหวิวๆ แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังฝืนพาร่างอิทธิหลบวิถีกระสุนได้อย่างหวุดหวิดทุกครั้งพลางยิงตอบโต้กลับเป็นระยะๆ กระทั่งกระสุนหมด สองคนมองหน้าอย่างอัตโนมัติเมื่อเห็นอาวุธในมือไร้ซึ่งพิษสงลงแล้ว
“กระสุนหมด เราต้องหาที่หลบนายสินนั่นให้ได้แล้วล่ะอิทธิ” อาทิตย์บอกออกมาด้วยเสียงเหนื่อยหอบ อิทธิเห็นอาการก็เข้าใจว่าเจ้าตัวคงจะเพลียมากจึงไม่อยากทำตัวให้มีปัญหาอีก โดยยอมทำตามคำสั่งที่ฝ่ายนั้นบอกทุกอย่าง
สองคนพากันวิ่งลัดเลาะไปตามเงามืดของพุ่มไม้  จนเห็นมุมที่เหมาะแก่การหลบสายตาคนตามล่าจึงเข้าไปซุกตัวอยู่ในสภาพที่กายชิดกันเพราะที่แห่งนั้นนั่นแคบนัก อาทิตย์โอบกอดอิทธิไว้มั่นตามสัญชาตญาณการปกป้อง อิทธิเพียงแต่ลอบมองแต่ยอมรับกับใจว่ารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอยู่ลึกๆ จนเมื่อสองคนได้มองสบตากันในจังหวะหนึ่ง
“ผมขอโทษนะที่ทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวาย” อิทธิเอ่ยขึ้นเสียงเบาเมื่อรู้สึกผิดขึ้นมานิดๆ ที่ตัวเองเป็นต้นเหตุให้เกิดการไล่ล่าในคืนนี้
“ช่างมันเถอะ ไม่ช้าก็เร็วเหตุการณ์นี้มันก็เกิดขึ้นอยู่ดี เพราะนายศรมีแผนที่จะเข้าครองไร่นี้อยู่แล้ว” อาทิตย์เอ่ยบอก ส่งรอยยิ้มบางๆ เพื่อแสดงออกให้อีกฝ่ายสบายใจ ก่อนจะกอดร่างเจ้าตัวกระชับขึ้นแล้วพาหมอบลงตอนได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเดินย่ำมาพร้อมเสียงตวาด
“พวกมึงมุดหัวกันอยู่ไหน ออกมาให้กูยิงกบาลซะดีๆ พวกมึงรวมหัวกันฆ่าน้องกู กูต้องล้างแค้นให้น้องกู ออกมาซะดีๆ กูรู้นะว่าพวกมึงซ่อนตัวกันอยู่แถวนี้”
“เสียดายลูกปืนหมด ไม่งั้นฉันจะส่องมันให้” อาทิตย์เอ่ยว่าตอนเห็นร่างสินเดินถือปืนกร่างมองหาตนและอิทธิ
ทางด้านแม่นางกับจิตราที่ขณะนี้กำลังจับมือกันวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิงเพราะนายศรได้ถือมีดวิ่งตามไล่มาในระยะใกล้ตัวแล้ว
“ฉันเหนื่อย ฉันไม่ไหวแล้ว ฉันไม่ไม่ไหวแล้ว” จิตราเอ่ยออกมาอย่างเหนื่อยหอบเมื่อรู้สึกว่าล้าร่างกายเกินจะวิ่งต่อไปได้แม่นางจึงหันมาบอก
“เราหยุดไม่ได้นะคะคุณจิตรนายศรใกล้ถึงตัวเราแล้ว หากเราหยุดมันต้องฆ่าเราแน่”
“ฆ่าเหรอ ไม่ ไม่ ฉันไม่อยากตาย ฉันยังไม่อยากตาย” จิตราโวยวายขึ้นมาเมื่อได้ยินคำว่าฆ่า นาทีนี้หล่อนทิ้งคำว่าโกรธและเกลียดแม่นางทิ้งไว้ตามริมทางไปเสียหมดโดยยอมให้ฝ่ายนั้นดึงมือวิ่งไปตามทางอย่างว่าง่าย แต่สุดท้ายทั้งสองก็พลาดล้มกลิ้งไปตามกันเมื่อปลายเท้าวิ่งไปเกี่ยวเอากับท่อนไม้ที่วางขวางอยู่
จิตราร้องกรี๊ดเมื่อร่างกลิ้งขมำ ในขณะที่แม่นางยังคงมีสติได้อย่างดีเยี่ยมนางรีบลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปฉุดจิตราให้ลุกขึ้นจะได้วิ่งหนีกันต่อไป แต่แล้วนางก็ต้องร้องลั่นอย่างเจ็บปวดเมื่อเส้นผมโดนกระชากจากทางด้านหลัง
“แม่นาง!” จิตราร้องเรียกอย่างตกใจในตอนที่เห็นร่างแม่นางโดนนายศรกระชากเส้นผมจนหน้าแหงน
“อย่านะนายศร แกจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ” หล่อนร้องห้ามเสียงลั่นตอนเห็นนายศรจ่อคมมีดไว้ที่ลำคอแม่นางทำท่าจะเชือดด้วยสีหน้าและแววตาน่ากลัว เสียงร้องของหล่อนหยุดการกระทำของนายศรได้ในวินาทีสุดท้ายก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเชือดคอเหยื่อ
“มึงเคยอยากให้มันตายไม่ใช่เหรออีจิตรา ตอนนี้กูก็จะทำให้มึงสมใจแล้วไง มึงจะมากระแดะห้ามกูทำไมอีโรคจิต” นายศรหันมาพูดกับจิตราที่ยันกายลุกขึ้นยืนได้ในตอนนี้ มือข้างหนึ่งชายเหี้ยมยังคงดึ้งรั้งเส้นผมแม่นางเอาไว้ ส่วนอีกข้างยังคงจับมีดแหลมคมจ่อไว้ที่คอหอยเจ้าตัวอยู่ด้วยท่าทีพร้อมเชือดตลอดเวลา
“ฉันไม่ได้ห้ามแก แต่ฉันอยากจะเป็นคนฆ่าอีห่านั่นด้วยตัวฉันเอง” จิตราตั้งสติเอ่ยขึ้น พลางยันกายลุกยืนส่งแววตาชิงชังไปที่แม่นาง
“หมายความว่าไง” นายศรถามอย่างนึกแปลกใจ นึกคิดว่าอีห่านี่มันเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกเดี๋ยวกลัวเดี๋ยวกล้า ก่อนจะนึกสับสนในสิ่งที่ฝ่ายนั้นเอ่ยบอก
“ฉันรู้แล้วว่ายังไงคืนนี้ฉันก็คงหนีแกไม่รอด แต่ก่อนที่ฉันจะตายฉันขอเป็นคนที่ลงมือฆ่าคนที่ฉันเกลียดมาตลอดชีวิตอย่างอีเปรตนั่นก่อนไม่อย่างนั้นฉันก็คงนอนตายตาไม่หลับ ฉันขอนายศรแค่นี้ได้มั้ย”
“มะ หมายความว่ายังไงคุณจิตร” แม่นางเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ นี่จนป่านนี้จิตรายังคงนึกเกลียดชังนางอยู่อีกเหรอ เท่าที่เดาเหตุการณ์นางเชื่อว่านายศรคงจะเผยธาตุแท้ออกมาแล้วแน่ๆ ถึงได้คิดไล่ฆ่าผู้มีพระคุณแบบนี้
แม่นางมาที่ไร่นี้ก็เพราะขอให้ลุงไกรหารถมาส่งเนื่องจากนางสังหรณ์ใจว่าบุตรชายจะมาที่นี่พร้อมกับอาทีจึงลองเสี่ยงตามมา เรือนหลังแรกที่นางไปตามหาบุตรชายคือเรือนหลังใหญ่ แต่ที่นั่นนางพบแต่เพียงเพลินพิศที่ออกอาการหวาดกลัวนางอย่างเห็นได้ชัด ถ้าให้เดาคงจะเข็ดที่โดนนางตบตีครานั้นน่ะแหละ นางเอ่ยปากถามเพลินพิศถึงบุตรชายของนาง ฝ่ายนั้นบอกไม่รู้ไม่เห็น รู้แต่เพียงว่าตอนนี้เจ้านายตนทั้งสองคืออาทิตย์และจิตรากำลังมุ่งหน้าไปที่เรือนนายศร นางจึงได้รีบตามมาเพราะคิดว่าบางทีบุตรชายของนางอาจจะอยู่ที่นี่ นายศรขอตามมาด้วยแต่นางห้ามไว้เพราะไม่อยากให้เจ้าตัวเผชิญหน้ากับจิตราเท่าไหร่ เป็นห่วงกลัวว่าเจ้าตัวจะโดนจิตราด่าว่าในเรื่องที่ใช้รถของไร่พาตนหนีไป ตอนขึ้นเรือนนางก็บอกให้ลุงใจดีผู้นี้หลบอยู่ในมุมมืดที่คิดว่าจิตราจะมองไม่เห็น ตอนที่นางไปยังเรือนนายศรนางจึงขอไปคนเดียว แต่แล้วพอไปถึงนางก็ต้องตกใจที่เห็นร่างจิตราวิ่งกระเจิดกระเจิงลงจากเรือนตามด้วยเสียงปืนที่ดังขึ้นหนึ่งนัด ก่อนที่นางจะเห็นร่างนายศรถือมีดวิ่งตามจิตราไป ตอนนั้นนางคิดได้เพียงว่าจิตราคงกำลังตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ นางจึงออกวิ่งตามไป โดยฉวยหยิบท่อนใม้ติดมือไปด้วย และก็ได้ใช้งานมันจริงๆ ในตอนที่นางเห็นจิตรากำลังจะโดนทำร้าย นาทีนั้นนางช่วยชีวิตหญิงร้ายผู้นั้นไว้ได้จนถึงนาทีนี้ แล้วสิ่งที่นางกำลังจะได้รับการตอบแทนกลับคือการที่เจ้าตัวคิดจะเชือดคอนางเองอย่างนั้นเหรอ คิดแล้วมันช่างน่าอดสูนัก
“จะหมายความว่าไงล่ะอีขี้ข้า มึงอย่าคิดนะว่าถึงตอนนี้กูจะเห็นความดีของมึง ในอดีตกูเคยเกลียดมึงยังไงกูก็ยังคงจะเกลียดมึงอยู่อย่างนั้นแหละจนกว่ากูจะสิ้นใจ แต่กูคงตายตาหลับหากว่ากูได้เชือดคอมึงทิ้งด้วยมือกูเอง” จิตราถลึงตาเข้าใส่ แม่นางน้ำตาร่วงเผาะด้วยความสะเทือนใจ นางไม่ตอบโต้อะไรอีกนอกจากยืนรับชะตากรรมนิ่งๆ คิดตามคำพูดของดวงหญิงเจ้าของไร่ลำไยว่ากรรมใครก็กรรมมัน บางทีนางกับจิตราอาจจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรกันในชาติภพที่แล้วก็เป็นได้
“นายศรส่งมีดให้ฉัน ฉันจะฆ่าอีไพร่นี่ด้วยตัวฉันเอง จากนั้นนายศรจะฆ่าจะแกงฉันยังไงก็เชิญ” จิตราหันไปบอกกับนายศร ซึ่งขณะนี้เกิดอาการลังเลอยู่
“มึงอย่ามาแผนสูงกับกูอีจิตร กูไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างมึงจะกล้าฆ่าแกงใครได้ลงคอ”
ชายเหี้ยมเอ่ยบอกเพราะยังเกรงว่าตัวเองจะโดนจิตราเล่นละครตบตา แต่แล้วก็คลายความแคลงใจลงไปตามคำท้าทายของเจ้าตัว
“เป็นถึงหัวหน้าคนงานอย่ามาขี้ขลาดเพราะกลัวผู้หญิงหลอกนายศร นายศรจะมากลัวอะไรกับฉัน แม้ในมือฉันมีมีดสักสิบเล่ม แต่นายศรมีเพียงมือกับเท้าฉันก็ว่าฉันคงไม่มีปัญญาสู้รบปรบมืออะไรนายศรได้ ส่งมีดให้ฉัน แล้วถอยไปยืนห่างๆ รอดูว่าฉันจะกล้าฆ่าอีห่าแม่นางนี่มั้ย”
“ก็ได้ กูว่ามันก็คงสนุกดีเหมือนกันกับการยืนลุ้นว่ามึงจะกล้าฆ่าอีแม่นางนี่มั้ย อย่างที่มึงบอกนั่นแหละ คนอย่างมึงแม้มีอาวุธครบมือก็คงไม่มีปัญญาทำอะไรกูได้ เอาไป แล้วก็เชือดคออีแม่นางนี้ให้กูดู อย่าตุกติกนะมึง ไม่งั้นกูจะเชือดคอมึงคนแรก” นายศรยื่นมีดให้กับจิตรา ปล่อยร่างแม่นางให้เป็นอิสระ จิตรายิ้มร้ายรับมีดมาถือไว้ในมือเดินตรงเข้าหาแม่นางที่ถอยร่นออกไปด้วยความกลัว
“มึงไม่ต้องถอยหนีอีไพร่ คืนนี้แหละที่กูจะสมหวังกับการได้ฆ่ามึงด้วยตัวกูเอง” จิตราตวาดเข้าใส่นายศรยิ้มพอใจกับภาพที่เห็นส่วนแม่นางได้แต่เอ่ยอ้อนวอนให้จิตราได้คิด
“ฆ่าคนมันบาปนักนะคะคุณจิตร คุณจิตรคิดจะฆ่าดิฉันจริงๆ เหรอคะ” จิตราไม่ตอบว่าอะไรนอกจากโน้มหน้าลงไปใกล้ๆ แม่นางขณะที่เดินไล่เจ้าตัวไปไกลร่างนายศรแล้ว
“ตบหน้าฉันเดี๋ยวนี้แม่นาง ถ้าแกอยากรอด” หล่อนแอบเอ่ยออกมาเบาๆ แม่นางมองหน้าอย่างนึกงงงวยว่านี่มันอะไรกัน
“ฉันบอกให้ตบไง ตบ!” จิตราสั่งใหม่พลางถลึงตาบังคับ แม่นางจึงจำใจทำตามแต่ก็ไม่แรงมากนัก จิตราแม่จะขัดใจในท่าทีอ้อยสร้อยของแม่นาง แต่จริตที่เคยมีติดตัวทำให้หล่อนแกล้งหน้าหันประหนึ่งว่าโดนฝ่ามือฟาดเต็มใบหน้าร้องกรี๊ดขึ้น
“กรี๊ด! อีแม่นางมึงตบหน้ากู นายศรช่วยฉันหน่อย ช่วยมาจับอีนี่ให้มันสิ้นฤทธิ์ทีฉันจะได้จัดการมันง่ายๆ” ประโยคหลังนางหันมาสั่งนายศร ซึ่งชายเหี้ยมก็ยอมเดินเข้ามาทำตามเพราะนึกขัดใจในความชักช้าและเชื่อตามที่สายตาเห็นว่าจิตราโดนตบหน้าจนหันสะบัดจริง
นายศรเดินผ่านร่างจิตราเพื่อไปจับตัวแม่นางแต่มือยังไม่ทันได้แตะตัวฝ่ายนั้นชายเหี้ยมก็ต้องร้องลั่นตาเหลือกลานเมื่อรู้สึกว่ามีสิ่งแหลมคมทิ่มเสียบร่างมาจากทางด้านหลัง
“มึงว่ากูไม่กล้าฆ่าใครใช่มั้ยไอ้ชั่ว มึงว่ากูไม่กล้าใครใช่มั้ยไอ้ทรยศ ไอ้อัปรีย์” จิตราหลุดคำด่าออกมาอย่างคนบันดาลโทสะก่อนจะชักมีดกลับแล้วเสียบไปยังร่างนายศรอยู่อย่านั้นซ้ำหลายครั้ง แม่นางร้องกรี๊ดลั่นในตอนที่ร่างนายศรล้มทรุบลงแทบเท้าแล้วจิตราตามมากระทืบหลังซ้ำอย่างคนคุมสติไม่อยู่จนนายศรกระอักเลือดกายกระตุก
“มึงรู้จักกูน้อยไปไอ้ศร มึงทำให้ไว้ใจกูก็จะไว้ใจแต่ถ้ามึงทำกูเกลียดเมื่อไหร่มึงก็อย่าคิดว่ากูจะไม่กล้าฆ่ามึง” จิตราออกแรงกระทืบร่างนายศรอย่างบ้าคลั่ง ร้อนถึงแม่นางที่ต้องรั้งตัวห้ามเอาไว้เพราะสะเทือนใจกับภาพที่เห็นจนจะเป็นลม
“พอแล้วคุณจิตร พอนะคะ นายศรคงไม่รอดแล้ว พอแล้วนะคะ พอแล้ว”
จิตรายอมสงบสติอารมณ์หันมองหน้าแม่นาง ถึงตอนนี้แม่นางผงะร่างเล็กน้อยเพราะคิดว่าจิตราอาจจะฆ่าตนอีกคน จิตราพอเห็นอาการนั่นจึงแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการทิ้งมีดลงจากมือเอ่ยบอก
“ไม่ต้องกลัวฉัน ฉันไม่ฆ่าเธอหรอกแม่นาง วันนี้ฉันรู้แล้วว่าใครมันทรยศฉันกับพี่จันทร์” แม่นางยิ้มยินดีน้ำตารื้น แต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนเป็นอาการตกตะลึงเมื่อเห็นร่างคนตรงหน้ากระตุกตาเหลือกเนื่องจากโดนนายศรที่โซเซลุกขึ้นมาหยิบมีดขึ้นเสียบทะลุจากทางด้านหลังถึงสองครั้ง
“คุณจิตร! ไม่นะ” นางร้องลั่นตอนเห็นร่างของจิตราค่อยๆ ทรุดลงกับพื้น ในขณะที่นายศรเอ่ยคำราม
“หากกูต้องตายมึงก็อย่าคิดว่ามึงจะรอดอีจิตร” ชายเหี้ยมชักมีดออกจากร่างจิตราเตรียมยกเท้ากระทืบซ้ำเมื่อร่างนั้นล้มลงกับพื้นนอนตาเหลือกอยู่ นาทีนั้นแม่นางตั้งสติโดยไวแล้วจับขาข้างที่นายศรยกขึ้นกระชากจนเจ้าตัวล้มล้งร่างกระแทกพื้นมีดหล่นจากมือ ฝ่ายนั้นตะกายร่างจะหยิบมีดนางจึงไม่รอช้าที่จะพุ่งร่างกายที่ครบสามสิบสองอยู่ไปหยิบมาถือไว้ในมือก่อนแล้วหันมาจัดการจ้วงแทงลงไปยังอกข้างซ้ายของนายศรทันที ส่งผลให้ร่างนายศรสะดุ้งเฮือกนัยน์ตาถลน ด้วยความตกใจแม่นางจึงชักมีดกลับแล้วแทงซ้ำลงไปใหม่ กายนายศรจึงสะดุ้งเฮือกอีกครั้งตามด้วยอาการปากคอสั่นและมือไม้เกร็ง พยายามพูดออกมากระท่อนกระแท่น
“อะ อี มะแม่นาง มึงขะ ฆ่า กะกู มะ มึงฆ่ากู”
ที่สุดร่างนั้นก็แน่นิ่งไปต่อหน้าต่อตา แม่นางถอยร่างออกมาอย่างลนลานก่อนจะหันไปดูอาการจิตราที่กำลังหายใจรวยรินอยู่
“คุณจิตรแข็งใจไว้นะคะ แข็งใจไว้” นางละล่ำละลั่กบอกฝ่ายนั้นพลางพยุงเจ้าตัวเพื่อพาร่างหาทางออกจากป่านี้ แล้วก็ใจชื้นเมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกจากลุงไกร
“แม่นาง แม่นาง อยู่ไหน อยู่แถวนี้มั้ย แม่นาง”
“ลุงไกรฉันอยู่นี่ ฉันอยู่นี่ ช่วยคุณจิตรด้วยลุงไกร ช่วยคุณจิตรด้วย” นางส่งเสียงบอกไปสักพักก็เห็นลุงไกรวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหา
   ทางด้านสิน อาทิตย์ และอิทธิ ที่ต่างฝ่ายต่างได้เผชิญหน้ากันแล้วเพราะสินได้ตัดสินใจยิงกราดไปทั้งป่าทำให้อาทิตย์จำใจพาอิทธิออกจากที่ซ่อนและได้เผชิญกับสินในที่สุด สินนั้นตั้งใจจะยิงคนทั้งคู่ทิ้งซะให้สมใจ แต่อนิจจา กระสุนนั้นได้หมดลงเสียก่อน ในนาทีนั้นอาทิตย์จึงไม่รอช้าที่จะกระโจนเข้าชกต่อยชายอันธพาล คนทั้งคู่จึงได้แลกหมัดแลกเท้ากันไปมา ด้วยเรี่ยวแรงที่หดหายไปจากการถ่ายเลือดให้น้องชายและตามนิสัยที่ไม่ใช่อันธพาลโดยสันดานทำให้อาทิตย์พลาดท่าในตอนหนึ่ง สินกำลังจะเข้าซ้ำเติมแต่ก็โดนอิทธิเข้าขวางไว้ ซึ่งเปรียบไปก็เป็นมวยที่ถูกคู่เพราะอิทธิเองก็มีเชื้อนักเลงอยู่ในกายอยู่ไม่น้อย สองคนที่แลกหมัดแลกเท้ากันตอนนี้อย่างถึงรสถึงชาติซัดกันไปมาจึงกลายเป็นอิทธิและสิน แต่ไม่ว่าจะใจนักเลงเพียงใดอิทธิก็เรี่ยวแรงถดถอยลงเหมือนกันเพราะเผชิญกับเรื่องราววุ่นวายและการหนีเอาตัวรอดมาก่อนหน้า ในตอนหนึ่งเด็กหนุ่มจึงพลาดท่าเสียทีสินจนโดนจับร่างล็อกไว้เป็นตัวประกันจนได้
   “มึงเก่งนักใช่มั้ยไอ้ลูกหมา กูจะจับมึงหักคอทิ้งซะเดี๋ยวนี้แหละเพื่อแก้แค้นที่มึงฆ่าอีส้ม” สินเอ่ยบอกเสียงกร้าว อาทิตย์ตรงจะเข้าช่วย แต่เมื่อเห็นสินเตรียมจะจับลำคออิทธิหักทิ้งด้วยมือเปล่าก็ชะงักไว้เอ่ยขึ้น
   “ปล่อยอิทธิซะนายสินนายแน่ใจได้ไงว่าส้มตายแล้ว”
   “จะตายไม่ตายไอ้อิทธิมันก็ต้องชดใช้ มึงอีกคน จัดการไอ้ลูกหมานี่เสร็จมึงนั่นแหละจะเป็นรายต่อไป” สินเอ่ยตอบโต้ อาทิตย์มองสบตาอิทธิคิดอยู่ว่าจะช่วยเจ้าตัวยังไง
    “คุณอาทิตย์ตามไปช่วยคุณจิตรก่อนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงผม” อิทธิเอ่ยบอกเมื่อคิดได้ว่าอีกทางด้านหนึ่งจิตราก็คงจะวิ่งหนีคมมีดนายศรอยู่เหมือนกัน อาทิตย์แม้จะนึกห่วงตาม แต่จะให้เขาทิ้งอิทธิไปแบบนี้ก็ทำไม่ลง จึงเอ่ยถามสินเพื่อหาทางช่วยหนุ่มน้อย
   “ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะยอมปล่อยอิทธินายสิน”
   “มึงไม่ต้องทำอะไรหรอกไอ้อาทิตย์เพราะยังไงกูก็ไม่มีทางปล่อยให้ไอ้อิทธินี้รอดไปได้หรอก กูจะฆ่ามันทิ้งให้มึงเห็นเป็นบุญตานะไอ้คนมีการศึกษา” สินตอบออกมากึ่งประชดประชัน อาทิตย์จึงอดที่จะมองไปยังอิทธิด้วยแววตาอดห่วงใยไม่ได้ อิทธิรับรู้ได้ถึงความห่วงใยในแววตานั่น รู้สึกอิ่มใจอยู่ลึกๆ ที่เห็นอาทิตย์ไม่ทิ้งตนไปแบบนี้ทั้งๆ ที่ในใจเจ้าตัวก็น่าจะร้อนรนอยากจะไปช่วยมารดาอยู่เช่นกัน เด็กหนุ่มส่งยิ้มบางๆ ให้ฝ่ายนั้นคลายความกังวลต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในใจตอนนี้เพราะเชื่อแน่ว่าตัวเองรอดพ้นจากการโดนพันธนาการคราวนี้แน่ ไอ้สินมันก็แค่อันธพาลปลายแถว ขนาดโดนกลุ่มวายร้ายที่มีทั้งมีดทั้งปืนเขายังเอาตัวรอดมาได้นับประสาอะไรกับการโดนจับร่างไว้ด้วยมือเปล่าแบบนี้ ไอ้สินมึงรู้จักกูน้อยไป
   “มึงยิ้มอะไรไอ้อิทธิ จะตายแล้วยังอารมณ์ดีนะมึง” สินเอ่ยตวาดเมื่อนึกไม่พอใจในรอยยิ้มบางๆ ของอิทธิ


โปรดติดตามตอนต่อไป (อวสาน)

 
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-05-2011 02:23:34

จิ้มรีบนด้วยความร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  อิอิ

เจ้สอง

ปล. จาจบแล้วจิงๆ เหยอ?  เสียดายจัง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 15-05-2011 02:56:09
แง๊ๆๆ อิสอะค้างงงงง ตอนหน้าจบแล้วเหรอเนี่ย เสียดายจัง...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 15-05-2011 02:58:40
ตอนจบจะจบแบบใหนเน้อออ

สงสารอาทีที่สุด  :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 15-05-2011 03:48:33
เสียบมันๆๆๆ เอาให้เลือดสาด!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kit ที่ 15-05-2011 04:04:25

๑๕๖ + ๑ = ๑๕๗
ขอบคุณนะคะ คุณ Bboyseries

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-05-2011 04:58:57
สงสัยจะตายยกครัวตามคำสาบแช่ง

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kungyung ที่ 15-05-2011 08:47:59
บู้ กระชู้ด เลือดสาด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 15-05-2011 09:16:36
ตอนหน้าจบแล้ว><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lazewcielo ที่ 15-05-2011 10:35:41
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงง
แต่ขอไอ้บ้านนีลูดชั่วพ่อเลวตายยกบ้านเลย ชิชะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 15-05-2011 10:49:33
อืม อารมณ์แบบว่าเลือดสาดดด
แล้วคราวนี้จะเป็นไงต่อ
รอตอนจบนะคะคุณบอย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 15-05-2011 11:17:14
โอ้ว  สะใจ  ยิ่งกว่าดูหนังอาหลองอีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 15-05-2011 11:53:05
อย่าพึ่งจบได้มั้ยอ่า? คงไม่ได้สินะ
จิตราอย่าตายได้มั้ย? คงไม่ได้สินะ
เอาเลิฟซีนกลางป่าได้มั้ย? คงไม่ได้สินะ
งั้นก็ขอตอนพิเศษหวานๆๆๆนะพี่บอย
พี่บอยว่า: โอเค้ เด๋วจัดให้
มาร์โค่ว่า: ขอบคุณคร้าบ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: liptudzii_chi ที่ 15-05-2011 12:24:47
 :กอด1: thx
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 15-05-2011 14:13:14
ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษด้วยน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 15-05-2011 14:55:52
งานนี้ เสือดสาดเต็มจอ
ใครจะรอดบ้างเนี้ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Y2Y ที่ 15-05-2011 15:16:36
Thanks  ka
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 15-05-2011 15:46:35
จะว่าไหก็สงสารจิตรา อยู่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: 2Botaku ที่ 15-05-2011 16:23:36
แทง ๆๆๆๆ


ตอนหน้าก็จะจบแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 15-05-2011 17:38:34
โอ้ยยย  พระเจ้า  เข้มข้นเลือดสาด ดราม่ามาก ๆ ค่ะะะะะ  สุดยอด  อ่านไปอินไปไม่หยุด  ไม่อยากให้จบเลย 

ตามลุ้นต่อไป ยังไง อิทธิก็จะตายไม่ได้นะะ 

ขอให้ทุกคนรอดด้วยเถอะค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 15-05-2011 20:21:24
จะจบแล้วหรือ ยังมันส์อยู่เลย

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Annetemis ที่ 15-05-2011 20:26:51
ใจหายใจคว่ำหมดเลย ลุ้นสุด ๆ :monkeysad:

Writer ค่ะเรื่องนี้จะจบแล้ว แต่...พ่อของอิทธิยังไม่โผล่ออกมาเลย จะไม่ตามหาลูกเมียสักหน่อยหรอค่ะ ใจร้ายใจดำเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ย o22
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-05-2011 20:46:52
วุ้ย..หวาดเสียว ดุเดือดเลือดพล่าน ทั้งมีด ทั้งไม้ ทั้งปืน ทั้งหมัดด้วย
คนอ่านก็อินซะ ลุ้นให้ฝ่ายถูกล่าจงรอดพ้น ลุ้นให้ไอ้พวกผู้ร้ายมีอันเป็นไป
หุ หุ หุ ขำตัวเองอ่านไปก็ลุ้นตัวโก่งไป โก่งยังไม่เต็มที่เลย ตัดฉับไปก่อนซะงั้น
มาต่อเร็วๆนะคะ พลีส...
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 15-05-2011 22:40:09
จะจบแล้ว แต่อ่านตอนนี้หลายอย่างที่เลวร้าย ก็สร้างมิตรเล็กๆขึ้นมา คิดได้เมื่อสาย แต่ก็ยังดีที่ได้คิดนะคุณจิตร
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 15-05-2011 23:33:59
หุ้ยยยยยยยยยยยย
เลือดสาด กระจายสุดๆๆ
ดราม่าเสมอต้นเสมอปลายมั่กมาก
ตอนหน้าก็อวสานแล้วอ่ะ.....เฮ้ย
จะรอตอนสุดท้ายนะค่ะ หวังว่าจะ แฮปปี้เน้อะ
ปล.หวังว่าอาทีจะรอดตาย :call:
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 16-05-2011 00:22:45
รอค่ะรอ เพิ่งมาอ่านตอนใกล้จะจบเนี่ยแหละ
สนุกมากเลยค่ะ มาม่าซี้ดถึงใจมากก อ่านแล้วน้ำตาปริ่มเลยทีเดียว  :o12:
แต่ดีใจจังที่จิตรารู้ความจริงและเลิกอคติกับแม่นางซะที แถมอาทีก็มีหนทางรอดแล้ว ตอนนี้เลยโล่งใจสุดๆเลยค่ะ
หวังว่าอิทธิจะไม่ตายนะ พระเอกคงไม่ตายหรอกใช่มั้ย  :sad4: ยังไม่ทันได้ทำไรเลยน๊า

รอตอนต่อไปค่ะ  :z2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 16-05-2011 11:57:09
เข้ามานั่งรอคุณบอยลงตอนจบ!!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 16-05-2011 15:34:35
 :laugh:
ตายกันล้างบางงงง เหลืออีก 1 จัดการซะให้สิ้นซากเลยอาทิตย์  o18
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 16-05-2011 21:41:27
อย่า พึ่ง จบ ได้ มั้ย ? ให้ พ่อ ของ อิท โผล่ กะโหลก  มา ก่อน จิ คร่าบ

พี่บอยคงไม่รีบปิดกล้องนะงานนี้ 
คนอ่านจะนั่งจะนอนรอตอนพิเศษอยู่อย่างงี้แหละ ไม่เก็บเสื่อ หมอนไปไหน

รอ~
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 17-05-2011 01:57:48
อวสาน

“น้ำหน้าอย่างมึงจะทำอะไรกูได้ไอ้สิน คนที่จะตายคือมึงไม่ใช่กู!” อิทธิเอ่ยขึ้นก่อนจะตัดสินใจกระทุ้งข้อศอกไปด้านหลังเต็มแรงและมันก็กระแทกเข้าทรวงอกสิ้นจนฝ่ายนั้นร้องลั่นร่างเซถลาปล่อยมือจากการล็อคร่างเจ้าของข้อศอกโดยอัตโนมัติ อาทิตย์เห็นเช่นนั้นก็ไม่รอช้าที่จะตรงเข้าไปใช้เท้าถีบร่างของสินให้เซถลาไปไกลตัวอิทธิจนสำเร็จ สินร้องอ็อคในตอนที่โดนปลายเท้าอาทิตย์ถีบซ้ำตรงยอดอก ร่างชายอันธพาลเซถลาลงไปกระแทกพื้น กำลังจะยันกายลุกขึ้นแต่แล้วก็ไม่ทันสองเท้าจากสองคนที่ตรงมาเหยียบซ้ำที่อกคนละข้างจนร่างจมพื้นจุกแน่นไปทั้งทรวงจนแทบหายใจไม่ออก
   อาทิตย์กับอิทธิออกแรงขยี้ปลายเท้าลงไปบนร่างของสินหนักขึ้นเมื่อนึกถึงว่าคนๆ นี้เป็นอันธพาลต้นเหตุที่ทำให้อาทีต้องนอนโรงพยาบาล ด้านสินทำอะไรไม่ได้เมื่อรู้สึกใจจะขาดจากการโดนเท้าหนักๆ สองเท้าขยี้ลงบนอกแน่น นัยน์ตาชายอันธพาลที่ถลนออกมาจากอาการเกร็งเจ็บมองจ้องใบหน้าและแววตาชิงชังของทั้งอาทิตย์และอิทธิที่มองจ้องมา รู้สึกอยากจะลุกมาเพื่อสู้กับสองคนนั้นอีกสักครั้งจึงฮึดเรี่ยวแรงขยับกายเพื่อลุกขึ้น แต่เพียงแค่ขยับก็ต้องกายสะดุ้งเฮือกเมื่อโดนสองเท้ายกขึ้นกระทืบลงมาที่อกอีกพร้อมกันด้วยน้ำหนักที่มากกว่าตอนแรกมากเกินจะทน เลือดสีสดทะลักออกมาจากทั้งทางปากและจมูกของสินตอนที่โดนปลายเท้าของคนทั้งคู่ที่ยืนเหยียบร่างอยู่พร้อมใจกดขยี้แรงลงมาอีก
   “กะ กูจะขอจองเวรผะ พวกมึง” ชายอันธพาลฝืนเรี่ยงแรงพูดได้แค่นั้นก่อนขจะสะดุ้งเฮือกเป็นรอบสุดท้ายเมื่อโดนคนที่ตนเอ่ยจองเวรกระทืบร่างซ้ำลงมาอีก สุดท้ายลมหายใจก็ปลิดปลิวไปอย่างไม่มีวันหวนกลับในสภาพนัยน์ตาเหลือกถลน!
   อาทิตย์กับอิทธิยกปลายเท้าออกจากร่างของสินเมื่อเห็นฝ่ายนั้นแน่นิ่งไปแล้ว สองคนหันมองหน้ากันต่างคนต่างผ่อนลมหายใจก่อนที่อาทิตย์จะเป็นฝ่ายดึงร่างอิทธิเข้ามากอดปลอบ
   “จบสิ้นกันที ไม่เป็นไรแล้วนะอิท”
   อิทธิยอมซบร่างลงบนอกอาทิตย์พราะรู้สึกล้าเหลือเกินกับเหตุการณ์ที่เผชิญมาในวันนี้ และพอนึกอะไรได้เด็กหนุ่มจึงเอ่ย
   “แล้วคุณจิตรละครับคุณอาทิตย์”
“จริงสิ ป่านนี้นายศรจะทำอะไรแม่ฉันไปหรือยัง” อาทิตย์เอ่ยขึ้นหน้าตาตระหนก ก่อนจะจูงร่างอาทิตย์ไปเพื่อตามหามารดาตน ที่สุดก็มาเจอตอนที่เห็นลุงไกรกำลังอุ้มวิ่งมาตามทางและมีแม่นางวิ่งตามมาด้วย
“แม่”
“อิท”
สองคนแม่ลูกที่ได้พบกันโผร่างเข้ากอดกันด้วยความรู้สึกดีใจและยินดีที่ไม่เห็นว่าต่างฝ่ายต่างไม้ได้รับอันตรายใดๆ ร้ายแรง ส่วนอาทิตย์นั่นตกใจกับสภาพมารดาจนแทบช็อกจึงเข้าช่วยรับจากลุงไกรวิ่งพาร่างฝ่ายนั้นเพื่อหาทางออกจากป่าท้ายไร่นี้ โดยที่แม่นางกับอิทธิได้ตามไปด้วย
*****************************************************
ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ ในตอนที่อาทิตย์พาร่างมารดาถึงมือหมอเรียบร้อยชายหนุ่มก็รู้สึกยินดีที่ได้รับข่าวว่าผู้เป็นป้าของตนฟื้นขึ้นมาแล้วอย่างปาฏิหาริย์ พร้อมๆ กับน้องชายได้พ้นขีดอันตรายและรู้สึกตัวด้วยเช่นกัน
ลุงไกรรับอาสาดูแลเรื่องวุ่นวายภายในไร่ให้เพื่อให้อาทิตย์ อิทธิ และแม่นางเข้าเยี่ยมจันทร์จวง ซึ่งพอจันทร์จวงเห็นสภาพคนทั้งสามที่เข้าเยี่ยมก็ตกใจถามไถ่เรื่องราวว่ามันเกิดอะไรขึ้น อาทิตย์จึงเป็นคนเล่าให้ฟังทั้งหมด หญิงเจ้าของไร่ได้ฟังก็ใจหาย แล้วก็แทบหลับใหลลงไปอีกเมื่อมีพยาบาลมาแจ้งว่าตอนนี้อาการน้องสาวนางเข้าขั้นโคม่าต้องการเลือดด่วน อาทิตย์เสนอตัวจะมอบเลือดให้อีกแต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะก่อนหน้าชายหนุ่มได้เสียเลือดมากมายเพื่อยื้อชีวิตน้องชายแล้ว ที่สุดแม่นางจึงเสนอตัวขึ้นว่าตนพอจะช่วยเหลืออะไรได้มั้ย สุดท้ายนางก็ได้รับการรับการพาเข้าห้องตรวจและปรากฏว่าเลือดของนางสามารถโอนถ่ายให้กับจิตราได้เช่นกัน ที่สุดเลือดในกายของนางจึงส่งผ่านไปยังร่างจิตราเพื่อช่วยยื้อชีวิตหญิงร้ายผู้นั้น
จันทร์จวงและอาทิตย์รู้สึกเบาใจที่จิตราได้รับการยื้อชีวิตไว้ได้ ส่วนอิทธินั้นได้แต่ยืนนิ่งๆ ไม่รู้จะแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา อาทิตย์หันมามองเห็นจึงเอ่ย
“ฉันถือว่าครอบครัวฉันเป็นหนี้บุญคุณแม่นางนะอิทธิ แม่ฉันฟื้นขึ้นมาฉันจะเล่าทุกอย่างให้แม่ฉันฟัง”
อิทธิไม่ตอบอะไรได้แต่เดินออกหนีไปเงียบๆ อาทิตย์เข้าใจว่าเจ้าตัวคงไปเยี่ยมน้องชายตนจึงเดินตามไป
“พี่อาทิตย์ ไอ้อิท” อาทีเอ่ยเรียกชื่อบุคลทั้งสองที่โผล่หน้าเข้ามาเยี่ยมตน เด็กหนุ่มยังรู้สึกเจ็บที่บาดแผลอยู่จึงไม่อาจลุกนั่งหรือพูดอะไรได้มาก สองคนที่เข้ามาเยี่ยมจึงไม่ได้ตั้งคำถามหรือพูดอะไรกวนใจ ได้แต่ส่งรอยยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าตัวหายเป็นปกติโดยเร็ว
ส่วนทางไร่ซึ่งตอนนี้ฟ้าได้สางแล้ว เหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นจบลงตรงที่นายศร สิน และส้มสิ้นใจตายอย่างน่าอนาถ ตำรวจท้องที่ทำคดีไปตามหน้าที่ด้วยการเรียกสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ลุงไกรเสนอตัวเป็นพยานยืนยันว่าบุคลสามคนที่ตายไปคิดร้ายต่อผู้เป็นเจ้านายด้วยการวางแผนฆ่ายกครัวเพื่อเข้ายึดครองไร่ เหตุที่ต้องตายตกไปตามกันเพราะเกิดจากฝ่ายรอดชีวิตทำไปเพื่อป้องกันตัว เหล่าคนงานหลายคนที่นึกไม่ชอบนายสินกับการเป็นหัวหน้าคนงานที่ข่มเหงรังแกมาโดยตลอดเข้าสนับสนุนคำให้การของลุงไกร จึงทำให้ตำรวจไม่ติดใจมุ่งเอาผิดคนร้ายคนใดที่คร่าชีวิตของครอบครัวอันธพาลนี้ เมื่อตำรวจสรุปสำนวนคดีไปเช่นนั้นฝ่ายที่สนับสนุนนายศรก็ไม่กล้าขัดข้องเพราะยังไงๆ ก็คิดว่าตนจะยังต้องพึ่งใบบุญของจันทร์จวงเพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพต่อไป
อาทิตย์เข้าแจ้งความเพิ่มเติมถึงเรื่องที่วายร้ายอุ้มน้องชายตนไปเพื่อหวังฆ่าทำให้ตำรวจต้องตามไล่ล่าวายร้ายเหล่านั้นมาลงโทษ ซึ่งพอจับตัวได้ก็พบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายที่เคยหนีคดีอุกอาจอยู่หลายคดี อาทิตย์เองก็จำได้ว่าวายร้ายพวกนี้คือกลุ่มคนสินเคยจับกลุ่มพูดคุยด้วยตอนที่ตนขับรถตะเวนชมรอบตัวเมื่อเมื่อครานั้น ชายหนุ่มรู้สึกยินดีที่น้องชายของตนไม่เจ็บตัวฟรี
ในวันนี้จันทร์จวงออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว นางยกตำแหน่งหัวหน้าคนงานให้กับลุงไกรเป็นคนดูแลต่อจากนายศร เรื่องงานในไร่ลุงไกรจึงช่วยสะสางและจัดการให้มันเข้ารูปเข้ารอยหลังจากที่คนงานหลายกลุ่มต่างขวัญเสียไปกับเหตุการณ์ร้ายแรงนี้ ส่วนหน้าที่คนคุมบัญชีนางก็ยังคงมอบให้แม่นางกลับเข้ามาดูแลเหมือนเดิม โดยบอกจะสร้างเรือนที่แข็งแรงมั่นคงให้อยู่ใหม่แทนเรือนหลังเก่า
“อิทไม่ว่าอะไรแม่ใช่มั้ยลูก แม่ทิ้งคุณจันทร์ไปไม่ได้จริงๆ” แม่นางเอ่ยกับบุตรชายในวันหนึ่งขณะเดินทางไปบอกลาดวงและขอบคุณในทุกเรื่องที่ฝ่ายนั้นยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
“แล้วแม่แน่ใจเหรอว่าคุณจิตรแกจะไม่อาละวาดเราอีก” อิทธิออกความเห็น แม่นางนิ่งคิด จำได้ถึงวินาทีก่อนที่หญิงร้ายผู้นั้นจะสิ้นสติคิดว่าตนน่าจะพ้นจากการโดนราวีแล้วเป็นแน่
************************************************
อาทิตย์เข็นรถพาน้องชายซึ่งยังเดินเหินไม่สะดวกเข้าเยี่ยมมารดาที่ยังคงนอนพักอยู่พร้อมผู้เป็นป้าในวันหนึ่ง ชายหนุ่มพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้สองคนลดละทิฐิในใจที่มีต่อกันแล้วเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นกันซะทีเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงผู้เป็นบิดาก็กำลังจะมาถึงที่นี่หลังจากที่ตัวเองส่งข่าวไปบอก
“อาทีให้อภัยแม่นะลูก แม่ขอโทษ แม่ขอโทษ” จิตราน้ำตาไหลพรากในตอนที่เห็นบุตรชายคนเล็กมองมายังร่างตนด้วยแววตาวูบไหว อาทีเองพอเห็นเช่นนั้นจึงก้มลงกราบแทบเท้ามารดาเอ่ยขอโทษเจ้าตัวเช่นกันในสิ่งที่ตนเผลอล่วงเกินในวันวาน จันทร์จวงและอาทิตย์รู้สึกยินดีที่เห็นสองคนจับมือกันมั่นแสดงออกถึงการเชื่อมรอยร้าวที่มีให้แก่กันให้แนบสนิท เวลาผ่านไปสักพัก จิตราจึงถามขึ้น
“แล้วแม่นางกับอิทธิเป็นยังไงบ้างล่ะอาทิตย์พี่จันทร์”
“ทำไมหรือ เธอจะลุกไปอาละวาดสองคนเขามั้ยหากฉันจะบอกว่าพวกเขาสบายกันดี และแม่นางก็กลับมาดูแลบัญชีให้ฉันเหมือนเดิม ส่วนอิทธิฉันก็รับอุปการะเหมือนเดิม” จันทร์จวงเอ่ยว่า จิตราหน้าง้ำหน่อยๆ เอ่ยบอก
“พี่จันทร์ไม่ต้องมาประชดประชันจิตรเลยค่ะ จิตรขอโทษที่จิตรเคยเห็นกงจักรเป็นดอกบัว วันนี้แม่นางเป็นคนที่ช่วยชุบชีวิตจิตรขึ้นใหม่ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ประจักษ์ต่อสายตาจิตรเอง หากจิตรจะมัวเมามองไม่เห็นความดีนี้จิตรก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอยู่เป็นผู้เป็นคนหรอกค่ะ”
“ฉันก็ล้อหล่อนเล่นไปอย่างนั้นเองแหละ คราวนี้ลองหล่อนร้ายใส่แม่นางอีกสิ ฉันเป็นไล่หล่อนออกจากไร่ก่อนใครเพื่อนแน่” จันทร์จวงเอ่ยบอกยิ้มๆ ทำให้สามคนแม่ลูกยิ้มตาม ก่อนจะหยุดอาการนั่นไว้เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าคนเดินเข้ามา ซึ่งพอหันไปมองจึงพบว่าเป็นแม่นาง
“อยู่ที่นี่กันหมดเลย ขะ คุณจิตรเป็นยังไงบ้างคะ” แม่นางเอ่ยถามเมื่อเห็นสายตาจิตรามองมายังตน
“ฉันยังไม่ตายหรอก เลือดหล่อนนี่มันมันแรงดีจริงๆ มาใกล้ๆ ฉันซิ” จิตราเอ่ยขึ้นติดตลกก่อนจะเอ่ยปากบอกให้คนเพิ่งเข้ามาเดินมาหาตน ฟากแม่นางมองสบสายตาจันทร์จวงเป็นเชิงขอความเห็น พอเห็นฝ่ายนั้นพยักหน้าให้จึงยอมเดินเข้าไปใกล้ๆ จิตราก่อนจะสะดุ้งหน่อยๆ ตอนที่ฝ่ายนั้นเอื้อมมือมาจับมือตนเอ่ยขึ้น
“ฉันขอโทษนะในทุกเรื่องที่เคยผ่านมา”
“ดิฉันไม่เคยโกรธคุณจิตรนะคะ ดิฉันเข้าใจว่าสิ่งที่คุณจิตรทำทั้งหมดเพราะเป็นห่วงคุณจันทร์” แม่นางเอ่ยบอกยิ้มๆ ก่อนจะตัดสินใจเอื้อมมือไปกุมมือจิตราไว้ สองคนส่งยิ้มให้กันท่ามกลางสายตายินดีของคนทั้งสามที่มองอยู่
“ลูกชายหล่อนคงจะเกลียดขี้หน้าฉันมากสินะ ตั้งแต่ฉันฟื้นมาฉันยังไม่เห็นหน้าเห็นตาเลย” จิตราเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่งทำให้คนทั้งห้องมองหน้ากัน เพราะรู้กันดีว่าอิทธิยังไม่สนิทใจที่จะหันมาญาติดีกับจิตรานั่นเอง
“เดี๋ยวผมไปตามให้เองครับ คงจะนั่งหน้างออยู่ด้านนอกน่ะแหละ” อาทิตย์เอ่ยบอกยิ้มๆ อาทีจึงเอ่ยแซว
“อย่าไปชวนไอ้อิทมันทะเลาะล่ะพี่อาทิตย์ จะง้อก็ง้อดีๆ”
“ปากดีนะไอ้อาที แกคิดว่าพี่ชายแกเป็นอันธพาลหรือไง” อาทิตย์ว่าน้องอาทีเพียงแต่หัวเราะไม่ตอบโต้ ก่อนจะหันมาสนทนากับมารดาและแม่นางด้วยรอยยิ้มกันทั้งสามคน จันทร์จวงที่ยืนมองอยู่ก็รู้สึกอิ่มเอมใจไปด้วย
ทางด้านนอกอาทิตย์เดินตามหาอิทธิจนพบเจ้าตัวกำลังนั่งหน้าตึงอยู่ใต้ร่มไม้ไหญ่จึงเดินยิ้มเข้าไปหาเอ่ยแหย่
“มานั่งหน้าตึงอยู่คนเดียวกำลังคิดจะเอามีดไปไล่แทงใครอีกล่ะ”
“อย่ามาปากเสียนะคุณอาทิตย์” อิทธิหันมาตอบโต้ตอนที่ร่างสูงของอาทิตย์นั่งลงข้างตัวแล้ว
“คนปากเสียกับคนปากดีบางทีมันก็เข้ากันได้ดีนะนายว่าป่ะล่ะ” อาทิตย์ยังคงล้ออีก อิทธินึกฉุนจึงหันมาว่าอีก
“ถ้าจะมากวนประสาทกันก็ไปไกลๆ เลยนะคุณอาทิตย์ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ที่จะล้อเล่นกับคุณ”
“ไม่มีอารมณ์ล้อเล่นแล้วมีอารมณ์อะไรหรือจ๊ะเมียรัก แต่นี่มันโรงพยาบาลนะคงจะทำอะไรกันไม่สะดวกมั้ง”
อิทธิอ้าปากค้างในสิ่งที่หลุดออกมาจากปากอาทิตย์ เด็กหนุ่มจึงลุกจะเดินหนีแต่ก็ไปไหนไม่ได้เมื่อโดนอาทิตย์ฉุดไว้พลางถาม
“ไปไหน”
“ยุ่ง” หนุ่มน้อยหันมาว่า อาทิตย์จึงเลิกเล่นแล้วเอ่ยเข้าเรื่อง
“แม่ฉันเขาถามหานายแน่ะ ไปกับฉันหน่อยสิ”
อิทธิหยุดคิดเมื่อได้ยิน การที่หลบมานั่งอยู่ลำพังแบบนี้ตอนมารดาบอกจะเข้าไปเยี่ยมจิตราก็เพราะยังรู้สึกเคืองในการกระทำที่ผ่านๆ มาของจิตราอยู่นั่นเอง
“ทำไมนิ่งไปล่ะ” อาทิตย์ลุกขึ้นยืนเอ่ยถาม อิทธิจึงถอนหายใจก่อนตอบ
“อย่าให้ผมต้องไปเผชิญหน้ากับคุณจิตรตอนนี้เลยนะคุณอาทิตย์”
“ทำไมล่ะ”
“คุณก็รู้อยู่เต็มอกคุณจะมาถามผมทำไม” อิทธิเดินผละหนีเมื่อเอ่ยจบอาทิตย์จึงเดินตามไปเพื่อจัดการปัญหานี้ให้ลงตัวให้ได้ในวันนี้
“แม่ฉันกับแม่นายเขาหันมาดีกันแล้วรวมถึงไอ้อาทีด้วย นายจะยอมทำตัวแปลกแยกคนเดียวแบบนี้เหรออิทธิ อะไรที่แล้วๆ ไปก็ทำใจลืมๆ มันบ้างเถอะนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจตอกย้ำนะแต่เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในไร่ต้นเหตุมันก็มาจากความเคียดแค้นชิงชังกันไม่ใช่เหรอ ต่างคนต่างแรง ต่างคนต่างโกรธ ต่างคนต่างใช้อารมณ์ในการเผชิญหน้ากับคู่อริ สุดท้ายก็ต้องวอดวายกันไปอย่างที่นายเห็น” ชายหนุ่มโน้มน้าวเมื่อเห็นอิทธิไม่ยอมฟังท่าเดียวบอกแต่ว่ายังทำใจไม่ได้ที่จะหันไปญาติดีกับมารดาของตน
“แม่งเอ้ย ทำไมมันง้อยากแบบนี้วะ” ชายหนุ่มโวยขึ้นเมื่อคำโน้มน้าวไม่เป็นผลสำเร็จ ก่อนจะหยุดเดินตามอิทธิแล้วหาที่นั่งสงบสติอารมณ์ อิทธิหยุดเดินแล้วหันมามอง เห็นชัดถึงอาการท้อใจของอาทิตย์จึงยอมเดินกลับมาหาเอื้อมมือไปหวังแตะกายฝ่ายนั้นเพื่อจะบอกว่าขอเวลาให้ตนทำใจสักพักก่อน อาทิตย์พอเห็นอาการคนใจแข็งคล้ายจะกลับมาง้อจึงแกล้งงอนบ้างโดนการขยับตัวหนีเอ่ยบอกเสียงเข้ม
“ไม่ต้องมาแตะเลย ฉันมันลูกคนนิสัยไม่ดี”
“อย่ามาทำงอนเป็นเด็กนะคุณอาทิตย์ ผมขอเวลาทำใจหน่อยแค่นั้นได้หรือไง อย่างน้อยผมกับแม่ก็ไม่ได้ไปไหนจากไร่ ต้องมีสักวันแหละที่ผมกับคุณจิตรจะมองหน้ากันติดถ้าคุณจิตรไม่ราวีเราสองแม่ลูกอีก” อิทธิเอ่ยบอกเมื่อพอจะเดาอาการออกว่าฝ่ายนั้นมีอาการแง่งอน
“คราวนี้ฉันเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าแม่ฉันไม่มีทางราวีนายกับแม่นางแน่” อาทิตย์เลิกแกล้งงอนหันมาบอกด้วยรอยยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น นาทีถัดมาชายหนุ่มเลื่อนมือไปกุมมือคนนั่งข้างๆ มองจ้องตาเอ่ยบอก
“แต่กับฉันหวังว่านายคงไม่ขอเวลาทำใจนะ”
“ทำไมต้องทำใจ ทำใจเรื่องอะไร” อิทธิถามงงๆ
“ไม่รู้สิฉันกลัวนายยังโกรธและก็เคืองฉันอยู่ในหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา” อาทิตย์บอกตามจริง
“รู้ตัวด้วยเหรอว่าตัวเองทำอะไรที่น่าจะทำให้คนอื่นเขาโกรธเขาเคือง” อิทธิต่อว่าอย่างไม่จริงจังมากนัก เพราะในใจตอนนี้ก็ไม่ได้นึกจงเกลียดจงชังคนๆ นี้แล้วจากที่เคยผ่านคืนวุ่นวายคืนนั้นมาด้วยกันและฝ่ายนั้นก็แสดงออกถึงการปกป้องตนด้วยดี
“แล้วนายให้อภัยฉันได้มั้ยล่ะ” อาทิตย์เอ่ยถามแทนการตอบเพราะก็รู้อยู่ว่าที่ผ่านมาตนก็เคยทำตัวน่าชิงชังใส่คนๆ นี้เหมือนกัน
“ถ้าคุณสำนึกผิดจริงผมก็คงไม่ฝังใจที่จะเก็บความโกรธนั้นมาคิดมากหรอก แต่สำหรับคุณเท่านั้นนะ สำหรับแม่คุณมันคงต้องใช้เวลาอย่างที่ผมบอกคุณน่ะแหละเพราะผมกับคุณจิตรเราปะทะกันมามากเกินกว่าที่คุณเห็น”
อาทิตย์ยิ้มรับเหตุผลของอิทธิพลางนึกสัญญากับตัวเองว่าจะทำให้คนๆ นี้กับมารดาของตนต่อกันติดให้ได้อย่างที่ตนเคยทำให้น้องชายกับฝ่ายนั้นมาแล้ว
****************************************************
   จิตรารู้สึกเสียใจหน่อยๆ ที่ไม่รับการให้อภัยจากอิทธิง่ายๆ ตลอดระยะเวลาที่นอนพักฟื้นหนุ่มน้อยรายนั้นไม่เคยโผล่หน้าไปเยี่ยมหล่อนเลย จะมีก็แต่แม่นางเท่านั้นที่เทียวไปเทียวมาตามปรนนิบัติอยู่เช้าเย็นกระทั่งหล่อนสามารถออกมาพักฟื้นได้ที่ไร่ หล่อนก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเด็กนั่นเลย
   “ฉันมันเลวมากใช่มั้ยคะคุณเกริกลูกชายแม่นางถึงไม่ยอมอภัยให้ฉัน” หล่อนเอ่ยถามสามีที่ขณะนี้ยอมทิ้งหน้าที่การงานชั่วคราวเพื่อมาช่วยดูแลหล่อนสลับกับบุตรชายคนโตของหล่อนที่ต้องกลับไปศึกษาต่อในตอนนี้
   “ทุกอย่างมันต้องใช้เวลานะจิตราสิ่งที่คุณเล่าให้ผมฟังผมว่ามันก็ไม่น่าแปลกหรอกที่อิทธิเขาจะไม่ยอมญาติดีกับคุณง่ายๆ แต่หากคุณแสดงความจริงใจว่าคุณสำนึกผิดได้จริงสักวันอิทธิก็ต้องยอมอภัยให้คุณเชื่อผมเถอะ” สามีเอ่ยปลอบ หล่อนจึงได้แต่ยิ้มรับและบอกกับตัวเองว่าจะพิสูจน์ให้อิทธิเห็นให้ได้ว่าหล่อนทิ้งพิษสงร้ายกาจไปแล้ว เหลืออยู่ตอนนี้ก็คือจิตใจที่พร้อมจะเมตตาในทุกๆ เมื่อหากว่าเจ้าตัวต้องการรับไป
   เรือนที่จันทร์จวงให้คนงานมาสร้างขึ้นใหม่ให้กับแม่นางยังไม่เสร็จดี ขณะนี้แม่นางกับอิทธิจึงต้องอาศัยอยู่เรือนคนงานหลังอื่นไปก่อน ซึ่งอาทีเองก็ยังคงเทียวไปเทียวมาหาสองแม่ลูกนั่นในทุกยามที่ว่าง วันนี้ก็เช่นกัน ซึ่งแม่นางได้เข้าไปทำงานที่เรือนสำนักงานแล้ว ที่เหลืออยู่จึงเป็นหนุ่มน้อยสองคนที่นั่งพูดคุยสรุปเรื่องราวที่เคยผ่านๆ มา
   “กูรอดมาได้ยังไงก็ไม่รู้ว่ะไอ้อิท กูดีใจนะที่วันนี้กูได้มีโอกาสมานั่งคุยกับมึงอยู่” อาทีเอ่ยขึ้นในตอนหนึ่ง อิทธิพอจะรู้เรื่องที่มารดาเล่าเรื่องพิธีกรรมของหญิงเจ้าของไร่ลำไยให้ฟังอยู่ แต่เด็กหนุ่มก็ไม่ได้บอกคนข้างๆ เพราะวันนี้ที่เจ้าตัวรอดมาได้ไม่ว่าจะเหตุผลใดเขาก็รู้สึกยินดีด้วยเช่นกัน
   “ต่อไปเรื่องร้ายๆ มันคงไม่เกิดขึ้นกับเราอีกแล้วล่ะมั้ง เพราะไอ้พวกอันธพาลก็ถูกส่งตัวไปให้ยมบาลจัดการแล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยติดตลก ก่อนจะยิ้มไม่ออกเมื่อคนข้างตัวเอ่ยถึงใครอีกคนที่เดินทางกลับกรุงเทพฯ ไปหลายวันแล้ว
   “คิดถึงพี่อาทิตย์เหมือนกันเนาะ เมื่อไหร่จะกลับมาก็ไม่รู้”
   “มึงคิดถึงเหรอ ทำไมกูเฉยๆ” หนุ่มน้อยแสร้งปากแข็งทั้งๆ ที่ภายในใจก็รู้สึกโหวงเหวงอยู่เหมือนกันเมื่อไม่เห็นเงาของอาทิตย์อยู่ในไร่นี้หลายวัน
   “มึงเฉยๆ ก็ไม่แปลกหรอก ก็มึงไม่ได้เป็นอะไรกะพี่กูนี่ เอ๊ะ หรือว่ามึงเป็น” อาทีหันมาว่า ถึงคราวนี้อิทธิถึงกับอึกอักแก้ตัวพัลวัน
   “มึงอย่ามามั่วไอ้อาที กูจะเป็นอะไรได้ไง”
   “โหยรีบแก้ตัวเชียว มีพิรุธนะเนี่ยพี่สะไภ้กูเนี่ย” อาทีเอ่ยแซวอย่างคะนองปาก อิทธิหน้าชารู้สึกอายและเขินจึงไล่ทุบตีเพื่อนแก้อาการดังว่า
   “น้องฉันเพิ่งหายดีนะอิทธิ มาวิ่งไล่แบบนี้ได้ไง นิสัยเสียนะนายน่ะ” เสียงดุดังมาให้ได้ยินสองหนุ่มน้อยหันไปมองแทบจะพร้อมกัน
   “พี่อาทิตย์” อาทีเอ่ยออกมาอย่างดีใจเมื่อเห็นร่างพี่ชายยืนจ้องพวกตนอยู่ หนุ่มน้อยวิ่งเข้าไปหา อาทิตย์จึงยกมือลูบผมเป็นการทักทาย ก่อนจะมองเลยไปทักอีกคนที่ยืนนิ่งๆ อยู่
“ไม่คิดจะทักทายกันบ้างหรือไงอิทธิ นี่มาถึงไร่ฉันก็ตรงมาหานายเลยนะ”
    “ก็เมื่อกี้คุณว่าผม” อิทธิบอกหน้านิ่ง อาทีเห็นอาการจึงบอกพี่ชายยิ้มๆ
   “เคลียร์กันเอาเองนะ ผมไปดูแม่ก่อนล่ะ” หนุ่มน้อยวิ่งหายไปทางเรือนเมื่อเอ่ยจบ อิทธิทำท่าจะเดินหนีไปด้วยแต่ช้ากว่าที่อาทิตย์ตรงเข้าประชิดตัวไว้ก่อน
   “หนีไปไหน คิดถึงจะตายอยู่แล้ว ที่นี่ปลอดสายสายตาใครแล้ว นายเสร็จฉันแน่” ชายหนุ่มเอ่ยบอกยิ้มๆ ก่อนจะฉุดแขนคนที่ไม่ยอมมองสบตาเดินไปทางเรือน
   “คุณจะพาผมไปไหนคุณอาทิตย์” อิทธิเอ่ยแย้งทั้งๆ ที่พอจะรู้ว่าตัวเองจะโดนพาไปที่ไหน
   “จะให้ฉันปล้ำหน้าเรือนนี้เลยมั้ยล่ะ” อาทิตย์หันมาว่าแล้วพาร่างคนถามขึ้นเรือนจนสำเร็จ เข้าห้องได้ก็ปิดประตูบดบังสายตาใครๆ ทันทีเพราะสิ่งที่จะทำต่อไปคือมอบความรักความเสน่ห์ และความคิดถึงทั้งหมดทั้งมวลให้กับอิทธินั่นเอง ซึ่งเชื่อว่าครั้งนี้ฝ่ายนั้นก็จะมอบกลับคืนให้ด้วยความเต็มใจเช่นกัน
**************************************************
เย็นแล้วประตูห้องถูกเปิดออก อาทิตย์เดินจูงมืออิทธิออกมาภายนอก ทั้งสองเดินลงจากเรือนจับมือกันเดินไปตามเส้นทางท่ามกลางบรรยากาศโพล้เพล้ จุดหมายที่จะไปยังไม่รู้หรอกว่าคือที่ใด ความคิดตอนนี้คือเดินจับมือกันเดินเล่นไปเรื่อยๆ หลังจากที่เพิ่งผ่านบทเสน่ห์หาที่ต่างฝ่ายต่างมอบให้กันจนสุขสมไปเมื่อครู่
“คุณอาทิตย์จะกลับไปเรียนอีกเมื่อไหร่ครับ” อิทธิเอ่ยถามในตอนหนึ่งเมื่อรับรู้ว่าคนที่เดินจับมือตนตอนนี้กลับมาเพียงชั่วคราวเท่านั้น
“อีกสามสี่วันโน่นแหละ ไปกับฉันมั้ยล่ะ” อาทิตย์ตอบด้วยรอยยิ้มรู้สึกสุขใจที่คนข้างกายแสดงออกถึงจิตใจแท้จริงว่าก็โหยหาตนไม่น้อยในวันที่ห่างกัน
“ไปได้ไงเล่าผมก็ติดเรียนเหมือนกัน” หนุ่มน้อยเอ่ยบอก อาทิตย์เพียงแต่ยิ้มรับแล้วชวนคุยเรื่องมารดาตนเอง
“แล้วกับแม่ฉันล่ะ นายพอจะให้อภัยท่านได้หรือยัง”
“อีกนิดได้มั้ยครับ เกือบแล้วล่ะ เพราะตอนนี้แม่ก็เอ่ยชมเหลือเกินว่าคุณจิตรดูเป็นคนละคนกับเมื่อก่อน”
“ตามใจฉันไม่เร่งรีบอะไรหรอกเพราะฉันเชื่อว่าแม่ฉันเลิกราวีแม่นายแล้วจริงๆ ฉันจะรอแล้วกันว่าวันไหนที่นายจะยอมไปพบท่านด้วยจิตใจที่คลายความแค้นลงแล้ว”
“จริงๆ ตอนนี้ผมก็ไม่ได้แค้นอะไรแล้วล่ะ เพียงผมขอเวลาปั้นหน้าหน่อยนึง บอกตรงๆ จะให้ผมกับคุณจิตรยิ้มให้กัน ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง”
“ฉันเองก็นึกไม่ออกหรอก ที่ฉันนึกออกตอนนี้ก็มีแต่ภาพที่นายนอนหลับตาพริ้มร้องครางภายในห้องเมื่อครู่นั่นแหละ”
“คุณอาทิตย์ อย่ามาล้อผมนะ คุณเองร้องดังกว่าผมอีก”
“ก็มันเสียวนี่จ๊ะที่รัก ไม่ร้องก็บ้าแล้ว ว่าแต่จะไปรำลึกความหลังที่คลองท้ายไร่นั้นอีกมั้ย ที่แรกของเรา”
“จะไปให้ผีครอบครัวนายศรหักคอเอาหรือไง”
“ใช่สินะ งั้นกลับเข้าห้องอีกรอบดีกว่า”
“อย่าให้มันมากนักคุณอาทิตย์ เดินเล่นแบบนี้แหละบรรยากาศกำลังลังดี”
“อืม ตะวันโพล้เพล้เหนือทิวไม้ ลมเย็นๆ พัดมาเป็นระยะๆ นกกาต่างก็กำลังบินเข้ารัง แล้วนายกับฉันกำลังเดินจับมือกันไปแบบนี้มันก็ดูโรแมนติกแบบท้องไร่ดีนะ”
“ผมก็ได้แต่หวังว่าบรรยากาศนี้จะเกิดขึ้นแทนการตามราวีกันนะต่อจากนี้”
“หากภายในใจของนายของฉันไม่คุกรุ่นด้วยแรงแค้นเหตุการณ์เหล่านั้นในคงไม่เกิดขึ้นหรอกอิทธิ ฉันสัญญานะว่าต่อแต่นี้ไปฉันจะไม่ทำให้นายนึกโกรธหรือชิงชังกับการกระทำของฉันเลย นายเองก็สัญญากับฉันได้มั้ยว่าจะไม่ดื้อและไม่รั้นอย่างที่เคยผ่านๆ มา”
อาทิตย์หยุดเดินหันมาเผชิญหน้ามองจ้องตากับอิทธิ ซึ่งตอนนี้ส่งรอยยิ้มบางๆ ให้พร้อมคำสัญญาที่ออกมาจากใจ
“ผมสัญญาครับว่าผมจะเป็นคนใจเย็นและไม่รั้นกับคุณ”
“ชื่นใจจัง” อาทิตย์เอ่ยบอกแล้วโน้มตัวไปจุมพิตหน้าผากของคนตรงหน้า อิทธิหลับตาพริ้มรับสัมผัสนั่น สองคนเดินจับมือคู่กันไปอีกครั้งตามเส้นทางที่เริ่มโรยปกคลุมแล้วด้วยความมืดบนผืนไร่แห่งนี้ ไร่ที่เกิดเรื่องราวมากมายจนเกือบจะวอดวายและตกไปอยู่ในมือของคนอันธพาล แต่สุดท้ายมันก็ยังคงเป็นผืนไร่ของคนที่มีจิตใจดีเฉกเช่นจันทร์จวงอยู่เช่นเดิม


***********************************************



เรื่องราวของอนาคตทั้งอาทิตย์และอิทธิยังไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากทั้งสองยอมเปิดเผยเรื่องราวว่าได้ตกเป็นของกันและกัน แต่นั่นมันไม่ใช่สิ่งที่สองหัวใจคิดหนักเพราะบริบทรอบกายตอนนี้ทั้งหญิงใจดีอย่างจันทร์จวง หญิงร้ายกลับใจอย่างจิตรา หญิงกตัญญูรู้คุณอย่างแม่นาง ชายนักธุรกิจอย่างเกริกเกรียง และหนุ่มน้อยอารมณ์ดีอย่างอาที ต่างก็ไม่มีท่าทีว่าฝ่ายใดจะลุกมาขัดขวางความสัมพันธ์นี้ที่เริ่มแสดงออกต่อกันมากขึ้น แต่ถึงแม้มีใครขัดขวาง ด้วยหัวใจที่เชื่อมั่นในกันและกันสองคนก็เชื่อว่าจะร่วมกันฝ่าฟันจนได้รับการยอมรับได้ในสักวัน แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่คาดเดา บางทีเรื่องราวในปัจจุบันก็ไม่สามารถกำหนดทิศทางเรื่องราวในอนาคตได้เสียหมด แค่วันนี้ ตอนนี้ วินาทีนี้ สองหัวใจยอมลดละทิฐิและความชิงชังที่เคยมีให้กันมันก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ




ขอบคุณสำหรับการติดตาม
จบบริบูรณ์
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 40 15-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 17-05-2011 02:06:20
จบลงไปแล้วอีกหนึ่งผลงาน ขอบคุณสำหรับการติดตามนะครับ โพสช้าบ้าง  เร็วบ้าง แต่ก็จบลงแล้วในวันนี้ ยังไงก็ก็ขอให้มีความสุขขกับการอ่านผลงานอีกชิ้นของผมนะครับ  หากชื่นชอบหรือประทับใจอยากจะเก็บสะสมเอาไว้ในรูปแบบหนังสือก็ยินดีครับ เพราะตอนนี้ผลงานนี้คลอดเป็นรูปเล่มแล้วเรียบร้อย และเตรียมจัดส่งล็อตแรกให้กับผู้ที่สั่งจองเข้ามาตั้งแต่นิยายยังไม่จบ ซึ่งต้องขอบอกว่าขอบคุณมากๆ ที่เชื่อมั่นในผลงานของคนทำหนังสือที่ชื่อ Bboyseries  ไม่ว่าจะเป็นผลงานนี้หรือผลงานอื่น โดยผลงานนี้ภายในเล่มมีตอนพิเศษแทนคำขอบคุณมอบให้หนึ่งตอนนะครับ แต่ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าไม่ได้หวือหวาหรือติดเรตแต่ประการใดในตอนพิเศษนั้น แต่เป็นตอนที่แม่นางและอิทธิพบกับนายยุทธผู้เป็นสามีแม่นางและพ่อของอิทธิครับ ส่วนสมาชิกที่นี่ที่ไม่สะดวกในการสั่งจองหนังสือ  สำหรับตอนพิเศษที่ว่านั้นเพื่อเป็นการขอบคุณที่ตามเม้นต์ ตามดันกระทู้กันอยู่เรื่อยๆ หลังจากหนังสือล็อตแรกถึงมือของผู้ที่สั่งหนังสือแล้วผมจึงจะนำตอนพิเศษนี้มาลงให้ได้อ่านกันนะครับ ถึงวันนั้นกระทู้น่าจะไปที่ห้องนิยายจบแล้วมั้งครับ ยังไงก็รอกันนิดนึงนะ ขออนุญาตให้ตอนพิเศษนี้ส่งถึงผู้ที่ให้กำลังใจในด้านการสั่งหนังสือได้สัมผัสกันก่อนนะ ส่วนพวกเรารอกันก่อนเนาะ แม้จะอ่านทีหลัง แต่ทุกตัวอักษรเหมือนกันแน่นอนครับ และก็เช่นเคยหากว่าอ่านแล้วชอบอ่านแล้วอยากสะสมสมก็สามารถสั่งจองเป็นเจ้าของในรูปแบบหนังสือได้เช่นกัน ตัวอย่างหนังสือเล่มเป็นๆ ตามรูปเลยครับ ทั้งเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ ส่วนรายละเอียดการจองก็อยู่ที่ลิงค์แนบท้ายครับ ตอนนี้มีนิยายออกใหม่อีกสองเรื่องด้วยนะ คือเรื่องจนกว่าฟ้าจะมีเวลาและสองคนบนทางรัก ปกตามรูปที่แนบเลย

 
(http://file.siam2web.com/bboyseries/books/2011514_67950.jpg)

(http://file.siam2web.com/bboyseries/books/2011514_68190.jpg)
 
(http://file.siam2web.com/bboyseries/books/2011514_68241.jpg)

หนังสือเหล่านี้เป็นของผู้ที่จองรอบก่อนหน้านะครับ ไม่ใช่สต็อคของแต่ประการใด
ชี้แจงก่อนว่าหากสั่งรอบนี้หนังสือจะจัดส่งได้อีกทีประมาณวันที่ 15 มิถุนายนครับ

(http://file.siam2web.com/bboyseries/books/2011516_57951.jpg)

(http://file.siam2web.com/bboyseries/books/2011516_58070.png)


ส่วนนี่เป็นลิงค์สำหรับผู้ที่สนใจสั่งจองครับ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25573.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=25573.0)

ขอบคุณครับ

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠♥♦♣ ที่ 17-05-2011 03:37:25
^
ขอจิ้มปิดท้าย โฮะๆๆ
ในที่สุดก็จบลงด้วยดีเนอะ ขอบคุณคุณบอยสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ มันไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงแต่ให้ข้อคิดดีๆ มากมาย
ขอบคุณอีกครั้งจากใจค่า^^
ปล. แอบกลัวอิผีสามตัวนั่น ดูท่าจะจองเวรสิงไร่ไปอีกนาน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 17-05-2011 03:49:57
รอบก่อนหน้าหมดเขตจองแล้วหรอคะ  :sad4:
ไปเที่ยวเพลินจัเ ลืมจองเลยยยยยยย  :o12:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 17-05-2011 08:49:19
 :กอด1:


หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 17-05-2011 09:53:14
จบอย่างแฮปปี้ มีความสุข^^ แต่ก็น้า นิยายเรื่องนี้หาอะไรหวานยากจริงๆ จบแบบนี้เลยยิ้มไม่หุบ 5555+
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์ผา ที่ 17-05-2011 10:50:56
และแล้วเรื่องร้ายๆก็ผ่านไปด้วยดี :mc4:  :3123:

ขอขอบคุณ คุณBboyseriesมากๆนะครับที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 17-05-2011 11:28:06
ขอบคุณสำหรับตอนจบดีๆนะคะคุณบอย
แต่กว่าจะได้หวานกันบ้างอะไรบ้าง ซดมาม่ากันไปหลายถ้วยเลยทีเดียว 55
แล้วจะรอตอนพิเศษนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: pingpong ที่ 17-05-2011 13:23:33
ขอบคุณมากนะครับ ที่เขียนนิยายดีๆ ให้พวกเราอ่าน ตามอ่านมานานมากแล้วครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 17-05-2011 15:02:14
ขอบคุณมากค่ะที่ทำให้อ่านเรื่องดีๆ ชอบมาก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 17-05-2011 15:25:59
จบซ่ะแล้ววววว ยิ่งกว่าละครช่อง 7

ขอบคุณคุณบอยมากครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ordkrub ที่ 17-05-2011 15:39:42
ในที่สุด Happy Ending!!!!!!
ขอบคุณที่นำเรื่องมันๆมาให้อ่านครับ
จะรอเรื่องต่อๆไปครับ :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 17-05-2011 15:47:44
ขอบคุณมากครับสำหรับนิยายดีๆ  
อยากสั่งหนังสือเหมือนกันนะครับแต่ว่ายังเป็นชาวเกาะอยู่เลย (เกาะแม่กิน)
เรื่องนี้จบแบบรุนแรง+เร่าร้อน+รัก  ตอนจบมีครบจริงๆ
ขอบคุณนะคับจะติดตามผลงานต่อไปตลอดนะคับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 17-05-2011 15:58:21
จบแล้ว

เย้ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: runynam ที่ 17-05-2011 16:28:26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบได้น่ารักน่าหยิกมากกกกค่ะ
แฮปปี้แอนด์ดิ้ง แบบนี้ สบายใจสุขโข
(เฮ้ยยยย ดีนะที่พี่บอยไม่ใจร้าย ให้อาทีตาย)
 :fire:ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆๆ ที่ดุเด็ดเผ็ดมันตั้งแต่ต้น จนจบนะค่ะ
สนุกสุดยอดมากกกก
จะติดตามเรื่องต่อๆไปของพี่บอยค่ะ
 :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 17-05-2011 16:46:33
 :L2:หอบดอกไม้มา :pig4:สำหรับเรื่องราวดีๆสนุกๆค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ryojung ที่ 17-05-2011 19:57:55
 :o12: โอววววววววว มาม่าตั้งแต่ต้นเรื่องยันท้ายเรื่องเลยค่ะ
แต่ว่าในที่สุดเรื่องเลวร้ายก็ผ่านไปซะทีนะคะ
ก็ขอให้ทั้งสองคนรักกันมากๆค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 17-05-2011 21:22:11
โอ้ย ในที่สุดก็จบลงด้วยดีจนได้ซินะะะะ

ดีใจมาก ๆ ที่อาทีไม่เป็นอะไร

ทุกคนดูมีความสุขดี กริ๊ดดด

อยากอ่านตอนพิเศษ บทของ แม่ผัวลูกสะใภ้จัง ฮ่าๆ คงจะน่ารักมาก ๆ แน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: mimirin ที่ 17-05-2011 21:56:08
ขอเค้าเก็บตังก่อนนะพี่บอยยยย

อยากได้หมดเลยเชียว :laugh:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: hotladyanyavee ที่ 17-05-2011 23:15:04
จบแล้วด้วยความบริบูรณ์ สองรัก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ~มือวางอันดับ1~ ที่ 17-05-2011 23:55:07
 :mc4: จบแล้ว  :L2:+1
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bow55 ที่ 18-05-2011 00:01:11
จบแล้ว มีความสุขทุกคน
ขออบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: KMprince ที่ 18-05-2011 00:45:46
 :3123:

จบอย่างมีความสุข
แอบรู้สึกอาทิตย์หื่นๆ อยู่นะเนี่ย อิอิ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ ที่แฝงข้อคิดนะค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 18-05-2011 02:27:54

นิยายจบ ชีวิตจริงก็จบลงด้วย เข้ามาบ่นเฉยๆ ครับ ต่อแต่นี้คงต้องเดินคนเดียวอีกแล้ว เบื่อจัง!
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: aorpp ที่ 18-05-2011 02:33:40

นิยายจบ ชีวิตจริงก็จบลงด้วย เข้ามาบ่นเฉยๆ ครับ ต่อแต่นี้คงต้องเดินคนเดียวอีกแล้ว เบื่อจัง!

+1  :กอด1: โอ๋ๆๆ มามะ มากอดกัน กอดกัน
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: DraCo_SLa13 ที่ 18-05-2011 17:51:49
หนุกมากค่ะพี่  นึกว่าดูละครอยู๋

แหม  คุณจิตตกนี่  ถ้าให้คุณตุ๊ก ดวงตาตุง เล่นนี่  ถ้าจะเหมาะ

+1 จ๊า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 18-05-2011 19:12:15
อ่านจบแล้ว
ขอบคุณมากคะ
ดำเนินเรื่องได้ปวดใจมากถ้าอาทีตาย
คนเลวมันเล๊วเลวจริง ๆ คนดีอย่างแม่นางก้อดีจนน่าหมั่นไส้ 555
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 18-05-2011 19:27:09
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกค่ะ  :3123: เสียดายอาทีกับอิทธิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: debubly ที่ 18-05-2011 23:15:49
มันส์จนหยดสุดท้ายเจงๆๆ

ขอบคุณค่ะ  :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: A. marco ที่ 19-05-2011 22:40:36
อยากหอมแก้มพี่บอยฟอดใหญ่ๆเลยจริงๆครับ  ให้ตายสิ!! จบสวยมากกกกคัฟ!!!
ไอ่ผมก็นึกว่าอาทีจะตาย จิตราจะวายวอด จวงจันจะไม่รอด แม่นางจะไม่ปรอดภัย อาทิดจะไม่สมใจ  อิทจะเป็นม่ายไปซะอีก   5555+
(คิดได้)
___
รอตอนพิเศษครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: LifeTime ที่ 20-05-2011 17:34:17
 :L2:
ขอขอบคุณสำหรับผลงานดีๆ อีกหนึ่งเรื่องค้าบบบบ

น่าเสียดายที่ปมชีวิตของอิทธิยังไม่ถูกขยาย...แต่ก็
ไม่เป็นไร เพราะจบลงแบบนี้ก็สบายใจไปอีกแบบ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 28-05-2011 16:19:13
สนุกมากเลยครับ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 28-05-2011 16:37:08
จบไปอีกเรื่อง เป็นเรื่องที่อ่านแล้วลุ้นมาก ลุ้นตรงที่จะมีใครตายรึเปล่า

นั่งอ่านไปเสียวไปอ่ะ ฮ่าๆ

นิยายของพี่บอยไม่เคยผิดหวังสักเรื่อง ต้องออกตัวว่าเป็นแฟนคลับพี่บอย ชอบนิยายพี่บอยทุกเรื่องเลย

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะสนุกมากๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 28-05-2011 20:05:13
^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 28-05-2011 21:31:12
ตื่นเต้นได้ตลอดตลอด :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 28-05-2011 22:37:13
 :z3:

ยิ่งกว่าละครช่อง7ซะอีกนะ

มาม่ามากกกก

อาทิตย์โง่ งี่เง่า หูเบา ครบสูตรพระเอกละครไทย

อิทธิ  ดีที่สู้บ้างไม่งั้นอกแตกตาย

อาที  น่าสงสารจัง ดีที่ไม่ตาย

นังจิตรา  ร้ายมาก ร้ายเวอร์ หูเบา ไม่น่าจะรอดอ่ะ สมควรตายยยยยยยยยยย

คุนแม่นาง  ดีเวอร์ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตัวร้ายในเรื่องก้ร้ายๆๆๆๆๆๆกันซะ

ดีนะที่ยังมีป้าจันไม่งั้นนิยายนี่คงอืดมาม่าแน่

5555  อินเกินไป  แต่อย่างน้อยก็จบ Happy Ending
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: maple4120 ที่ 29-05-2011 13:26:55
ในที่สุดก็จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง  :mc4:
ดีจังเลยค่ะ จบดีมากๆ อาทีก็ไม่ตายด้วย (อันนี้ดีใจสุดๆอ่ะค่ะ  :o8:)

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆอย่างนี้ขึ้นมานะคะ  :L2: จะรอติดตามผลงานเรื่องต่อๆไปค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 29-05-2011 22:02:55
โอย... ลุ้นจะตายตอนที่อาทีโดนแทง
แอบน้ำตาซึมไปหลายครั้งเหมืิอนกัน
ไรเตอร์แต่งได้ดีมากๆเลยค่ะ ชอบพี่อาทิตย์มากเลย ><!
พอคุณจิตรไม่ร้ายก็เป็นคนที่ดีคนนึงเหมือนกัน
แอบหวังลึกๆว่าอิทจะได้เจอพ่อ
ลุ้นหลายรอบเพราะเจ้าตัวหวิดโดนยำอยู่หลายตอน (555)
ขอบคุณไรเตอร์ที่แต่งเรื่องดีมาให้อ่านนะค๊าา
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: yotsaput ที่ 29-05-2011 22:25:17
ลุ้นสุดตัว อ่านไปเกร็งไป เจ็บท้องเลย 555+++
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 29-05-2011 22:38:21
โอ๊ยยยย ดราม่าสมกับเป็นคุณบอย
อ่านไปก็ลุ้นไป ยังเขียนนิยายได้บีบหัวใจคนอ่านอย่างเราเหมือนเดิมเลย
นึกว่าพี่อาทิตย์จะมาเป็นตัวร้ายอีกคนแล้วนะเนี่ย
ชอบอาทีที่สุดแล้ว ดูรักความยุติธรรมดี
ส่วนอิทธิ ปากร้ายไปหน่อย หักคะแนนที่ชอบเถียงพี่อาทิตย์ อิอิ

ขอบคุณสำหรับนิยายเรื่องนี้นะคะ
จะรออ่านตอนพิเศษค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 29-05-2011 22:44:09
สุด ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Bboyseries ที่ 29-05-2011 23:55:44

แวะผ่านมาเลยแวะมาจิ้มๆ ทุกๆ รีที่มาทักทายกระทู้ครับ
 :bye2:



หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kamikame ที่ 30-05-2011 00:57:18
อ่านเรื่องนี้แล้วลุ้นสุด ๆ เลย
ทั้งบีบหัวใจ ปวดตับ และเลือดสาดดดด
 :pig4: ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: bunnyfunny ที่ 01-06-2011 18:54:37
กว่าจะจบ นั่งลุ้นตัวโก่งเลย กลัวมีใครเป็นอะไร
ตอนแรกคิดว่าจะเป็นคู่ อิท-อาที แต่ดูอาทีจะเชียร์ให้พี่ชายยังไงชอบกล
ชอบอาทีมากกกก ตอนโดนแม่จะเอาไม้ฟาดน้ำตาไหลเลย ขอให้อย่าได้เป็นอะไร
แถมลางร้ายมาเรื่อยๆอีก กะว่าถ้าอาทีเป็นอะไรก็จะตัดใจไม่อ่าน ทำใจไม่ได้ :serius2:
พอรอดแล้วน้ำตาซึมเลยอ่ะ อาทีเป็นเพื่อนที่ดีมาก ชอบความมั่นคงของคู่นี้มากๆ
ไม่ว่าจะยังไงก็เชื่อใจดูแลกันเสมอ
พี่อาทิตย์มาตีโค้งสุดท้ายจริงๆแบบพี่พระเอกมากๆ ถ้าไม่ได้อาทิตย์เรื่องคงไม่จบได้ด้วยดี
ตอนจบมาเดินจับมือกันมันอบอุ่นดีจัง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 01-06-2011 22:09:22
เข้ามาเยี่ยมครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: pae666 ที่ 03-06-2011 22:51:30
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ในที่สุดก็จบแล้ว >///<

แต่ยังไม่สะใจเลยง่ะ อยากได้ฉานหวานๆ NCๆๆ อ่ะ 555555

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ToffeE_PrincE ที่ 09-06-2011 20:22:26
จบแล้ว :mc4:
ขอบคุณมากครับ :pig4:

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: THELOOM ที่ 14-06-2011 14:31:21
จบแล้วว ว ชอบเรื่องนี้มากเลย

ชอบคุณอาทิตย์ด้วย  :impress2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kongrapee ที่ 24-06-2011 18:04:15
ขอบคุณครับสองวันกว่าจะจบ สุดยอด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: aodjung ที่ 28-06-2011 17:28:29
ม่าม่ารสต้มยำรวมมิตร แซบจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lastlover ที่ 28-06-2011 19:13:17
เป็นนิยายที่สนุกมากเลยค่ะ วิวชอบอ่านนิยายของคุณบอยหลายเรื่องเลย ส่วนใหญ่เนื้อหาเข้มข้นถึงใจและจบไม่เศร้า
ในเรื่องนี้แสดงเนื้อหาของความหลง ไม่ว่าจะหลงผิดหรือหลงไหลก็ตาม ส่วนใหญ่สังคมก็มักจะตีความคนที่ไม่ชอบขี้หน้า
แบบนี้กันทั้งนั้น จนบางครั้งทำให้เกิดความเสียหายคล้ายๆกับในเรื่องนั่นแหละค่ะ นิยายคุณบอยนอกจากจะสนุกแล้ว
ยังให้ข้อคิดหลายๆอย่างเลยค่ะ ชอบมากเลย ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥Täsinä→l3€LL♥ ที่ 05-07-2011 19:40:01
สนุกมากเลยค่ะ

กว่าจะได้มีความสุขกัน

ลุ้นจนเหนื่อยเลย ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: tummy22 ที่ 05-07-2011 19:43:17
สุดยอด    ขอบคุณครับ 

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: som ที่ 22-07-2011 20:25:51
ทักทายครับด้วยความคิดถึง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 03-11-2011 00:41:59
เรื่องนี้นั่งอ่านไปก็นั่งเกร็งลุ้นอยู่ตลอด....กลัวว่าอาทีจะตายอ่ะ :monkeysad:

แต่ในที่สุดก็จบแบบสมใจผู้อ่าน

ยังไงก็ยังอยากอ่านตอนพิเศษจัง :sad4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 06-11-2011 14:49:42
คุณบอยหายไปน๊านนาน
อยากได้ตอนพิเศษ งิงิ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: mook0007 ที่ 06-11-2011 22:32:57
จบซะแล้ว ลุ้นแทบแย่กลัวว่าอาทีจะตาย
ทำไม้ทำไมแม่นางเป็นคนดีแบบนี้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ibeaver_error ที่ 06-11-2011 22:35:27
อ่านมาได้สองสามตอนอยากจะตบนางจิตราให้คว่ำ :beat: :beat: หล่อนบ้ามาจากไหนยะส่งตัวเข้าศรีธัญญาด่วนนนนนน  :m31:

edit
อ่านมาได้ซักพักพรางคิดว่าไอ้อาทิตย์นี่มันพระเอกจริงๆเหรออยากตบให้คว่ำไปพร้อมๆกับแม่มัน กอดอาทีรักอ่ะ  เป็นเพื่อนที่ดีมากๆ

เริ่มจะรำคาญแม่นาง ปากบอกจะทำเพื่อลูกๆการกระทำนี่ทำร้ายลูกมากๆจะให้อิทตายก่อนเหรอไงยะถึงจะยอมมีปากมีเสียงบ้างเนี่ยยยยยย

editอีกรอบไม่ไหวจะทน
แม่นางนี่ยังไงเห็นอิทโดนตบมาซะขนาดนั้นแล้วยังไม่ยอมย้ายไปไหนอีก หรือต้องให้อิคุณอาทิตมาข่มขืนลูกตัวเองให้ดูยะถึงจะยอม (me/อินสุดๆไม่ไหวแม่นางไม่ได้ดั่งใจ55)

อิคุณอาทิตย์จะโง่ก็ให้มันมีลิมิตบ้างเถอะ เวลาสระผมนี่เอะใจบ้างมั๊ยว่าเขานี่งอกแล้ว
แอบหงุดหงิดตอนจบนังจิตราน่าจะตายๆไปซะไม่ก็เป็นบ้าไปเลย ทำเค้าไว้เยอะแต่ผลกรรมที่ตามมาทันมันเบาไป
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: keem ที่ 01-05-2012 14:04:36
ชอบเรื่องนี้มากมายนัก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 02-05-2012 02:02:23
อาทีเป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ เลยนะเนี่ย อาทิตย์แรก ๆ ใจร้ายนะเนี่ย ทำแบบนั้นกับอิทธิได้
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: V ที่ 02-05-2012 07:27:00
เฮ้อออออ

โล่งอกเป็นที่สุด

ลุ้นมากมายกับอาทีเนี่ยยยย

อิอิ

รอฉากหวานๆในตอนพิเศษดีกว่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 25-06-2012 21:15:50
สนุกมากเลยค่ะ

อ่านเเล้วปวดใจดี :sad4:

เเต่ตอนหลังก็เเฮปปี้กันถ้วนหน้า o13

ขอบคุณค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: azure™ ที่ 03-07-2012 01:40:31
เรื่องนี้สุดๆกันไปเลยคับ ดุเด็ดเผ็ดมา เกือบทำคนอ่านหัวใจวายไปหลายรอบ
ขอบคุณมากๆ สำหรับเรื่องราวดีๆนะคับ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 03-07-2012 21:05:21
นึกว่าอาทีจะต้องตายซะอีก

ล่วงอก ดีที่ไม่มีใครเป็นอะไรไป

ไอ้พวกตัวร้ายก็ตายกันไปซะดีได้ก็ดี
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 04-07-2012 19:47:46
ตอนที่อ่านครั้งแรกเชียร์อิทธิกับอาทีมากเลยครับ โดยเฉพาะฉากที่ทั้งคู่ล้มลงไปด้วยกันแล้วอิทธิจับเป้าอาที คิดแล้วจิ้นแตกมากครับ อิอิ ตอนแรก ๆ ยอมรับเลยว่าไม่ชอบคุณจิตรา แต่หลัง ๆ มานี่รู้สึกสงสารมาก ๆ
ดีใจที่จบแบบนี้แต่แอบกลัวอารมณ์ของมนุษย์ด้วยกันครับเวลาที่ไฟแค้นครอบงำ บรึ๋ย ผมจะนำข้อคิดที่ได้จากเรื่องไปใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ ขอบคุณนะครับที่นำเรื่องราวดี ๆ แบบนี้มาแบ่งปันกัน ^ ^"
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: dekthuem ที่ 04-07-2012 19:57:10
ลุ้นจนตัวเกร็งเลย
สุดท้ายก้อจบด้วยดี
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 06-07-2012 17:02:41
 :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 15-09-2012 15:37:59
อ่านรวดเดียวจบ เสียน้ำตาไปเยอะเลย
ลุ้นตลอดว่าจะเป็นยังไงต่อ
ตอนแรกนึกว่าอิทธิกับอาทีจะคู่กัน
แอบเซ็งอาทิตย์ รู้สึกเหมือนซื่อบื้อนิดๆ ฮร่าๆๆ
ส่วนจิตราก็ร้ายซะ ถอดแบบตัวร้ายละครไทยมาเลยจริงๆ
แต่ยัยส้มเน่านี่มันน่านัก ไม่ชอบเลยๆๆๆ
ขอบคุณคุณบอยสำหรับเรื่องราวดีๆ เรื่องนี้นะคะ :")
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: loverken ที่ 09-11-2012 22:01:42
 :impress2:
อ่านแล้วประทับใจ....ขอบคุณคะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: lovely1714 ที่ 10-11-2012 16:29:11
ลุ้นทั้งเรื่อง แต่สนุกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ammamooty ที่ 26-12-2012 22:01:08
โอ๊ยเรื่องนี้สนุกมากกกกกกกกกกกเลยอะ
ตอนแรกเกลียดบ้านำอ้คนอันตพาลสามคนนั่นมากเลยตอนนี้ก็ยังเกลียดอยู่


ไอ้เราหวังอ่านฉากหวานนนนนนนนแต่ก็ไม่มี(ฮา)แต่ไหงเรื่องดันสนุกอีกแบบไม่รู้ซิ

ถ้าเป็นเรื่องอื่นเราเจองี้คงเลิกอ่านแต่เรื่องนี้เลิกไม่ได้จริงๆแต่งได้น่าติดตามมาก><„

ยังไงก็ขอบคุณมากๆนะคะที่แต่งมาให้อ่านขอบคุณคะ><
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: vanny ที่ 26-12-2012 23:25:23
 o13 o13 o13

สำหรับเรื่องนี้คงต้องบอกว่า สุดสุด

อิทธิและแม่นาง เป็นครอบครัวที่น่าสงสารที่สุด ชีวิตมีเรื่องให้ต้องดิ้นรนต่อสู่อยู่ตลอด

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Thep503 ที่ 30-12-2012 23:18:57
ครบรสครับเรื่องนี้....อ่านแล้วบีบหัวใจมากๆๆ   ขอบคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 30-12-2012 23:49:32
รักอาทีกับแม่นางที่สุด
เบื่ออาทิตย์จริงๆ
ชอบเขาแล้วยังแกล้งเขาอีก
ไม่ชอบคุณจิตราอย่างแรง
อยากอ่านNCของอิทธิและอาทิตย์จัง
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 18-01-2013 21:40:35
เป็นนิยายที่เข้มข้นมาก

อ่านไปลุ้นไปตลอดเลย

แอบคิดว่าอาทีจะตายด้วยซ้ำ >.<

ขอบคุณนะคะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: libra82 ที่ 30-01-2013 06:32:38
ปกติชอบอ่านนิยายดราม่านายเอกน่าสงสารมากค่ะ
แต่เรื่องนี้นายเอกกับแม่โดนกระทำมากไป แล้วคนที่สมควรจะได้รับโทษกลับได้รับการอภัยอย่างที่ไม่น่าจะได้โอกาสนั้น
จำภาพที่จิตรจับหัวแม่นางโขกเสาได้ดี สงสารมากอ่านไปใจหายไปคนร้ายกาจขนาดนี้ต้องได้รับการบำบัดทางจิตแล้ว
ไหนจะพาคนไปพังบ้านอีก ศรและครอบครัวยังร้ายไม่เท่าจิตรด้วยซ้ำ ใจจริงอยากให้คุณบอยแต่งต่ออีกนิดเพราะอยากให้อิทธิได้เจอกับพ่อและครอบครัวของมารดา อยากให้อาทีได้เจอคนดีเพราะเป็นดีมาก ส่วนจิตรจำส่งโรงพยาบาลบ้าไปจะเหมาะกว่า
อ่านแล้วเครียดเลย อินจัดขนาดนี้ ยังไงก็ต้องของคุณคุณบอยนะคะที่แต่งนิยายสนุก ๆ ให้ได้อ่านกัน โค้งงาม ๆ ให้กับความสามารถค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: liza sarin ที่ 24-05-2013 11:19:35
 อ่านจบเป็นไข้เลือดออกเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: taoz ที่ 04-06-2013 23:11:05
รอ ตอนพิเศษ นะครับ :)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: pee122 ที่ 23-06-2013 02:10:37
 :bye2: o13 o13 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: ตีสี่ ที่ 27-06-2013 17:32:57
อ่านตอนแรกๆ ในความคิดคือ น้ำเน่าอ่ะ อารมณ์หนังไทยสุดๆ สไตล์นี้นิยายเล่มละสิบบาทสมัยก่อนเลย
ยังรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงคุณจิตตรา ปรี้ดๆอยู่ข้างหูอยู่เลย แบบว่าอารมณ์เก่ามากอ่ะ หนังฟิลม์ที่ตัวละครในสมัยนั้นต้องเสียงสูงไรงี้
สองสามตอนแรกคิดเหมือนกันว่า 'ไม่อ่านดีกว่าเว้ย เน่าเกิน' แต่ก็นะ ก็อ่านมาเรื่อยๆนี่หล่ะ
แต่อ่านมาช่วงท้ายๆนี่ลุ้นตาม ยิ่งอ่านยิ่งวางไม่ลง คือแบบว่าไม่รีบอ่านให้จบเนี่ยลงแดงแน่ๆ ถ้าเป็นหนังสือนะ เราพลิกไปอ่านท้ายเล่มก่อนเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: jinjin283 ที่ 27-06-2013 21:51:11
น้ำเน่าที่สุดในสามโลกเลยคะ เราแทบจะร้องไห้ตามนายอิทแล้วอะ
อะไรจะน่าสงสารตั่งกัต้นเรื่องยันท้ายเรื่องแบบนี้อะ
จะมีฉากหวานๆก็น้อยเป็นติ่งเลยอ่าา ื
ที่เคืองสุดๆเลยคือพระเอกอะ อาทิตย์แบบโง่มากมายอะ
กว่าจะรู้เรื่องกะคนอื่นเข้าก็ล่อเข้าไปจะท้ายเรื่องแล้วอ
อยากเปลี่ยนตัวพระเอกจริงเลย ให้ตายสิ
แบบอ่านแล้วเคืองอะคะ
ปล อยากอ่านตอนหวานๆบ้างอะ
เรื่องนี้พระเอกนายเอกหวานกันน้อยที่สุดเเล้วมั้งเนี่ย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: pipoo ที่ 18-03-2014 11:31:57
พึ่งมาอ่านและพึ่งเจอปิดเทอมพึ่งได้อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกสนุกมากกก แบบเป็นคนชอบดราม่ามากเจอเรื่องนี้เข้าไปฟินจัด
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: aezac ที่ 19-03-2014 15:53:36
กว่าป้าจิตจะยอมเชื่อ เฮ้อลุ้นแล้วลุ้นอีก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Baruda ที่ 21-03-2014 12:44:21
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-03-2014 21:21:00
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: kittisak Intarasarn ที่ 30-10-2014 22:52:31
เขียนได้มืออาชีพมากๆ  คำพูด เนื้อหา ดูprofessional สุดๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: disney ที่ 10-05-2015 19:58:57
กลับมาอ่านอีกรอบก็ยังสนุกเหมือนเดิมค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: up2goo ที่ 11-05-2015 02:38:14
ทำไมเรารู้สึกว่าไม่ควรจบแบบนี้
คนที่ร้ายมากขนาดนั้น ทำไมไม่ได้รับผลกรรมอะไรเลย
คือเค้าไม่ใช่ร้ายธรรมดาอ่ะ เค้าเข้าขั้นจิตไม่ปกติเลยด้วยซ้ำ
แต่ทำไมทุกคนในเรื่องถึงมองว่ามันปกติและไม่คิดจะทำอะไรเลย :katai1:

มันม่ายช่ายอ่ะกิ๊ฟฟฟฟฟฟฟ :katai4:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 04-05-2016 04:14:27
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Ciin ที่ 19-05-2016 10:35:29
เนื้อเรื่องเข้มข้นมาก บทบู้เขียนละเอียดสุดๆ
ขอบคุณมากค่า
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 11-08-2017 20:34:10
      ในที่สุดก็อ่านจบไปแล้วนะค่ะ
โอ๊ยยิ่งกว่ายกถูเบาออกจากอกอีกค่ะ
อยากเลิกอ่านมากตอนที่อ่านไปแล้วเจอแต่คนทำร้ายแม่นางกับอิทธิ แต่ เลิกไม่ได้เพราะมันสนุกมากอิอิ
สุดท้ายตอนจบของเรื่องทุกอย่างลงตัวมากค่ะอาทิตย์ก็น่ารักในแบบกวน ส่วนอาทีก็ดีแสนดีช่างเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ
ต่อจากนี้ไปมนไร่คงมีแต่ความสุขนะค่ะ
 แรงแค้นใต้เงารักคงไม่มีแล้วเพราะจะมีแต่ความรักอิอิ
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: gongiotherin ที่ 12-08-2017 10:35:51
น่าสงสารพ่อของอาทิตย์ ค่าตัวน้อยจริงๆ มาเป็นนักแสดงรับเชิญในตอนจบซะงั้น
ฮ่าๆๆๆ
สนุกมากๆเรื่องนี้ ตอนแรกคิดว่าจะจบแบบไม่แฮปปี้ แต่ก็ไม่ แถมยังมีแฮปปี้โผล่ในตอนสุดท้ายซึ่งขัดใจอิชั้นมาก ฉันไม่เห็นภาพพพ งืออออ
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ชอบค่ะ  o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: tae1234 ที่ 12-08-2017 22:19:32
ลุ้นมากทุกตอน สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: zysygy ที่ 21-09-2017 17:28:17
 :mew1:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Maymon ที่ 21-11-2017 01:17:18
อ่านจบแล้วหน่วงทั้งเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 22-11-2017 11:34:47
เป็นเรื่องที้อ่านไปด่าไปทั้งเรื่องจริงๆ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 04-12-2017 09:12:54
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: เงาเดือน ที่ 21-07-2018 09:44:01
มาช้าแต่ทว่าพึ่งอ่านจบ เรื่องจบแต่อารมณ์ยังไม่จบ บั๊บมันยังฟินไม่มากพอ อยากให้หวานๆยาวๆ มัวแต่จิตกับยัยจิตรจนลืมคู่พระนาง พระเอกก็มาน้อยมาก ฮือ แต่ยอมรับว่าเรื่องนี้หน่วงที่ใจมาก โมโหแทนทั้งเรื่องเลย คุณคนเขียนเก่งมาก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 20-05-2019 07:04:04
 o13
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sakurako38 ที่ 31-12-2019 03:06:57
เป็นนิยายที่อ่านข้ามมากที่สุดแล้วนะครับ 55555 ยอมรับว่าอ่านครบตอนเฉพาะ 7 ตอนแรก นอกนั้นอ่านข้ามเพื่อดูเนื้อหาว่าเป็นอย่าที่คิดไหม ไม่เข้าใจทุกอย่างในนิยายเรื่องนี้เลย พระเอกเหมือนนักแสดงสมทบ บทไม่เด่นเลย สู้บทของน้องชายตัวเองยังไม่ได้เลยเด่นกว่า แล้วที่งงกว่าคือความรู้สึกของของอาทีที่ทีให้อิธมันคือเพื่อนแท้จริง ๆ เหรอ สับสนกับความรู้สึกที่ควรจะเป็นของอิธ มันแปลกไหมถ้าจะบอกว่าไปชอบคนที่แทบจะเรียกได้ว่าทำร้ายตัวเอง ยิ่งไม่เข้าไปกว่าคือตอนโดนข่มขืน ทั้ง ๆที่มีแรงขับเรื่องความแค้นที่มีแต่เดิมบวกกับเรื่องที่โดนข่มขืน มันเรียกได้ว่าแทบจะเอามีดแทงเลยไม่ใช่เหรอ อยากเห็นแอกชั่นความเกลียดมากกว่านี้ ถ้าเป็นคนปกติรักอาทีไปนานแล้ว แทบจะเป็นรักแรกและรู้สึกสับสนกับเพื่อนคนนี้มากกว่าแล้วไปโดนพี่ชายคนที่ตัวเองชอบข่มขืน ทำอย่างไงก็รักพี่ชายเพื่อนที่ตนรักไม่ได้เต็มร้อยเพราะอย่างไงก็รักอาที อะไรแบบนี้จะน่าสนใจมาก 5555 เพ้อเจ้อไปไกลแหละ
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 09-03-2020 01:32:02
สนุก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [ตอนที่ 39 9-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: Musashi ที่ 03-03-2022 03:19:00
ตอนที่ 40

  มึงไม่เก่งซะตั้งแต่ตอนที่ป้ามึงยังไม่ป่วย น้องมึงยังไม่เจ็บ และแม่มึงยังไม่ใกล้บ้าล่ะไอ้ลูกหมา มึงมาทำเก่งทำฉลาดตอนนี้ให้มันได้อะไร”
อาทิตย์รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่โดนด่าว่า 
นายศรเอาไป10/10 ด่าไอ้พระเอกหน้าขี้หมาได้โดนใจมาก
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 21-03-2024 19:51:23
ดีแทค ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 803บ./90วัน กด *104*591*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,284บ./180วัน กด *104*592*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) 1,926บ./365วัน กด *104*593*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,069บ./90วัน กด *104*594*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 1,498บ./180วัน กด *104*595*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 2,675บ./365วัน กด *104*596*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *104*388*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *104*389*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,711บ./90วัน กด *104*598*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 2,139บ./180วัน กด *104*578*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 3,745บ./365วัน กด *104*579*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *104*398*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 1,188บ./30วัน กด *104*597*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 139บ./7วัน กด *104*77*8488034#
เน็ตดีแทค 1 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 535บ./30วัน กด *104*97*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 246บ./7วัน กด *104*78*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 696บ./30วัน กด *104*98*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 375บ./7วัน กด *104*79*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) 95บ./8วัน กด *104*897*8488034#
เน็ตดีแทค 8 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 42บ./1วัน กด *104*68*8488034#
เน็ตดีแทค 10 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*798*8488034#
เน็ตดีแทค 2 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 380บ./30วัน กด *104*237*8488034#
เน็ตดีแทค 4 Mbps(เม็ก) +โทรดีแทค 470บ./30วัน กด *104*236*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 193บ./7วัน กด *104*841*8488034#
เน็ตดีแทค 12 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *104*842*8488034#
ยกเลิกเน็ต  กด  *103*0# โทรออก
ดีแทค  เช็คเน็ต คงเหลือ กด *101*1# โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง กด *102# โทรออก
ยกเลิก SMS กินเงิน กด *137 โทรออก
เช็คเงิน คงเหลือ กด *101# โทรออก 
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ กด 1678 โทรออก
เน็ตไม่อั้น ไม่ลดสปีด  โปรรวม
สมัครง่ายๆ กดตามได้เลยค่ะ
#โปรเน็ตสุดฮิต  DTAC
โปรที่คุ้มที่สุดของการใช้เน็ต
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด #โปรเน็ตดีแทค #เน็ตดีแทคเติมเงิน #โปรดีแทครายสัปดาห์ #โปรดีแทครายวัน #โปรแทครายเดือน #โปรเน็ตDTAC #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน #DTAC #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #โปรเสริมDTAC #โปรเสริมดีแทค
https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368 (https://www.facebook.com/media/set/?vanity=sarawutcomputer&set=a.1735376596730368)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I (https://www.youtube.com/watch?v=U8gZx3BTz_I)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg (https://www.youtube.com/watch?v=xgJOI7_4_vg)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว  dtac  ดีแทค ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg (https://www.facebook.com/share/p/sTA3Vv6dxR4GnW6x/?mibextid=qi2Omg)


ดีแทค ระบบเติมเงิน Dtac เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 30 เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc (https://www.youtube.com/watch?v=-u5Ua409XKc)


ดีแทค ระบบเติมเงิน เน็ตไม่อั้น เร็ว 30 Mbps(เม็ก) นาน 30 วัน ราคา 350 บาท แถมโทรฟรีทุกค่าย
https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA (https://www.youtube.com/watch?v=9ATbQS3gVwA)

หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 22-04-2024 19:23:56
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 43บ./1วัน กด *777*7721*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 75บ./2วัน กด *777*7724*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 113บ./3วัน กด *777*7719*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7722*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 97บ./2วัน กด *777*7725*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 140บ./3วัน กด *777*7720*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 70บ./1วัน กด *777*7723*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8 (https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)


AIS ระบบเติมเงิน เอไอเอส เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 31 มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k (https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k)
หัวข้อ: Re: แรงแค้นใต้เงารัก [อวสาน 17-5-54]
เริ่มหัวข้อโดย: sarawutcom ที่ 26-04-2024 19:49:25
aIS ระบบเติมเงิน โปรเน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว (ราคารวมภาษี 7% แล้ว)
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 27บ./1วัน กด *777*7021*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7023*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 38บ./2วัน กด *777*7380*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 59บ./3วัน กด *777*7096*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 129บ./7วัน กด *777*7098*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 139บ./7วัน กด *777*7220*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 375บ./30วัน กด *777*7153*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 800บ./90วัน กด *777*7379*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,200บ./180วัน กด *777*7328*117010#
เน็ต aIS 1 Mbps(เม็ก) 1,800บ./365วัน กด *777*7329*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 30บ./1วัน กด *777*7381*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 32บ./1วัน กด *777*7084*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 130บ./7วัน กด *777*7629*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 161บ./7วัน กด *777*7382*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก) 482บ./30วัน กด *777*7383*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 380บ./30วัน กด *777*7631*117010#
เน็ต aIS 2 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย15นาที 155บ./7วัน กด *777*7630*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 35บ./1วัน กด *777*620*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 38บ./1วัน กด *777*7627*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 43บ./1วัน กด *777*7721*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทรทุกค่าย10นาที 58บ./2วัน กด *777*7628*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 45บ./1วัน กด *777*7151*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 246บ./7วัน กด *777*7221*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก)+โทร aIS 470บ./30วัน กด *777*7632*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 59บ./2วัน กด *777*7384*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 75บ./2วัน กด *777*7724*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 113บ./3วัน กด *777*7719*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 236บ./7วัน กด *777*7154*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 696บ./30วัน กด *777*7159*117010#
เน็ต aIS 4 Mbps(เม็ก) 1,285บ./90วัน กด *777*7398*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 49บ./1วัน กด *777*7209*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7722*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 81บ./2วัน กด *777*7385*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 97บ./2วัน กด *777*7725*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 140บ./3วัน กด *777*7720*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 289บ./7วัน กด *777*7210*117010#
เน็ต aIS 6 Mbps(เม็ก) 910บ./30วัน กด *777*7211*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 59บ./1วัน กด *777*7386*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 70บ./1วัน กด *777*7723*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 102บ./2วัน กด *777*7387*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 354บ./7วัน กด *777*7388*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,177บ./30วัน กด *777*7389*117010#
เน็ต aIS 10 Mbps(เม็ก) 1,925บ./90วัน กด *777*7399*117010#
21 บาท 1 วัน  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ช่วงเวลา 05.00 - 17.00 น.  โทรครั้งละไม่เกิน 30 นาที  กด  *777*231*117010#
22 บาท 100 นาที  โทรฟรี  ทุกเครือข่าย  ได้  100 นาที  อายุ  1  วัน  กด  *777*246*117010#
aIS  สมัคร  โทรไป  จีน,  ฮ่องกง,  มาเลเซีย,  สิงคโปร์,  เกาหลีใต้,  อินเดีย
*777*3801*117010#
ราคา  99  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  1.54  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  ลาว,  กัมพูชา,  เมียนมาร์,  เวียดนาม 
*777*3802*117010#
ราคา  119  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.78  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  สหรัฐอเมริกา,  แคนนาดา 
*777*3803*117010#
ราคา  129  บาท  โทรได้  60  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  2.01  บาท
aIS  สมัคร  โทรไป  เยอรมนี,  สหราชอาณาจักร,  ญี่ปุ่น,  ฝรั่งเศส
*777*3804*117010#
ราคา  159  บาท  โทรได้  40  นาที
เฉลี่ยนาทีละ  3.71  บาท
เวลาโทร  กด
003  รหัสประเทศ  รหัสเมือง  เบอร์ปลายทาง
เช็คเน็ต aIS คงเหลือ  กด  *121*32#  โทรออก
เช็คเบอร์ตัวเอง aIS กด  *545#  โทรออก
ยกเลิกข้อความ SMS กินเงิน  กด  *137  โทรออก
ติดต่อ คอลเซ็นเตอร์ aIS กด  1175  โทรออก
#โปรเสริมเน็ตวันนี้ #โปรเน็ตสุดฮิต #เน็ตไม่อั้นไม่ลดสปีด  #โปรเสริมเน็ต #สมัครเน็ต #โปรเน็ตดีดี #เน็ตไม่จำกัด #เน็ตไม่ลดสปีด #โปรเน็ตไม่อั้นรายวัน #โปรเน็ตไม่อั้นรายสัปดาห์ #โปรเน็ตไม่อั้นรายเดือน
https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3 (https://web.facebook.com/media/set/?set=a.1735334963401198&type=3)



เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8 (https://www.youtube.com/watch?v=ClwQq4AZEb8)


เน็ต เปิดเบอร์ใหม่ ย้ายค่าย เบอร์เก่า AIS ระบบเติมเงิน มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU (https://www.youtube.com/watch?v=9tfjDajR-yU)


เน็ตไม่อั้น ไม่ลดความเร็ว AIS เอไอเอส ระบบเติมเงิน เมษายน 2567
https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v (https://www.facebook.com/100063871243003/posts/905036281635405/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v)


AIS ระบบเติมเงิน เอไอเอส เน็ตไม่อั้น เร็ว 12 Mbps เม็ก หมดเขต 31 มีนาคม 2567
https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k (https://www.youtube.com/watch?v=HEXso1Duo6k)