พิมพ์หน้านี้ - ทางที่เลือกเดิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: hayuho ที่ 04-06-2007 12:08:52

หัวข้อ: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 04-06-2007 12:08:52
นักเขียนใหม่ครับฝากตัวด้วย  ครั้งแรกแถมให้ 2 ตอน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่อง..........ทางที่เลือกเดิน

ตอนที่ 1  แนะนำตัว

“เอ่อ.........สวัสดีครับ ...ผม เมท ใหม่นะครับ  พี่ๆ”     ผมเอ่ยอย่างค่อนข้างมั่นใจ

“ชื่อ ทิศ นะครับ  มนุษศาสตร์ ปี 1 ครับ” ต่อด้วยการแนะนำตัวอย่างรวดเร็ว  พร้อม ๆ กับการวางกระเป๋าเป้อันหนักและเต็มไปด้วยสัมภาระต่างๆมากมายลงบนเตียง

“เอ๋า...นึกว่าจะไม่มีคนมาแล้วนะเนี่ย”  พี่คนหนึ่งเอ่ยปากขึ้นมา   “เอ้า  พี่ชื่อ หนึ่ง อยู่ ทันตะนะ  
แล้วไอ้นั่น ชื่อ ปอ คณะ วิทยา อยู่  ปี  2  ทั้งสองคนส่วน  นั่น ชื่อ พี่  นาว คณะ วิดวะ อยู่ ปี 3 แล้ว”  พี่อีกสองคนที่เหลือ พยักหน้าทักทาย

   ใช่แล้วครับผมพึ่งจะย้ายมาอยู่หอในเป็นวันแรก  เราต้องอยู่กันห้องละ 4  คน แล้วผมก็ต้องอยู่กับรุ่นพี่ด้วย
“ทำไมเพิ่งมาอยู่หอล่ะนี่เลยครึ่งเทอมมาแล้วนะ” พี่หนึ่งเอ่ยถามขณะที่อ่านหนังสืออย่างขะมักเขม้น

“อ๋อ  ผม สัมพาสน์ ตอนอยู่หอตอนต้นเทอมไม่ผ่าน น่ะครับ  ก็เลย ทำเรื่องเข้ามาซะเลย 5555”  ผมพูดพร้อมๆกับหัวเราะ
เพื่อผ่อนคลายตัวเอง  และมือก็ยังคงจัดข้าวของจากกระเป๋าเข้าตู้อย่างวุ่นวาย

“อ้าว  มีด้วยเหรอ การทำเรื่องเข้าหอเนี่ย” พี่ ปอ พูดขึ้นมา ขณะที่กำลังนอนกลิ้งเกลือกบน ที่นอนของแกอยู่

“แหมๆ พี่ มันก็ต้องมีบ้างดิ ตอนเรามาทำตามระเบียบดันไม่อยากให้เราอยู่เองหนิ  มันก็ต้องใช้ เส้นสายบ้างดิ”  ผมพยายามพูด เพื่อให้ เป็นกันเองที่สุด พร้อมทำหน้า เจ้าเล่ห์ นิสนึง

“เดี๋ยวผมไปซื้อของเดี๋ยวมานะครับ”  ผมจัดของจนเข้าที่แล้วรีบเดินออกมาจากห้อง   ......เฮ้อกูอยู่ที่นี่กูจะมีความสุขมั้ยวะเนี่ย  ผมคิดพร้อมๆ กับ หยิบโทรศัพท์ ขึ้นมาโทรหาเพื่อนคณะคนเดียวที่รู้จักว่าอยู่ที่หอนี่

“เฮ้ย  กู  ทิศนะเว้ย  พากูไปซื้อของหน่อยดิ” ผมพูดไปในใจก็เกรงใจมันนะ  เพราะเจอที่คณะเราก็ไม่ค่อยคุยกันมากมาย  แต่ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นมิตรดีนะ  มัน ชื่อ นิว ครับ

“เออๆ มา ใต้หอเลยเดี๋ยวกูพาไป”

“เออๆ  ให้ไวล่ะมึง”  ผมพูดเสร็จแล้วก็วางสายไป

.............................................................
...............................................ผ่านไปหลายวัน  ชีวิตของผมเริ่มเข้ารูปเข้ารอย  คือสามารถดำเนินชีวิตเองได้อย่างสบายๆ  
แต่ผมก็ยังไม่มีเพื่อนเลยสักคน  ไม่ค่อยสนิทกะเมทด้วย เพราะ  เค้า เป็นรุ่นพี่  มันมีความเกรงๆกันนิดๆน่ะ  
ส่วนไอ้นิวมันก็ เด็ก เรียน  ไม่ค่อยไปไหน  ผมต้องเดินคนเดียวตลอด  เพราะผมไม่รู้จักใคร  เพราะเข้ามากลางเทอม
คนอื่นเขาก็รู้จักกันหมดแล้ว  ตอน ม.ปลาย ผมมีเพื่อนรุมล้อมอยู่ตลอดเวลา  และผมก็รักเพื่อนๆมากๆด้วย  
ถ้าผมทุ่มเทให้ใครแล้ว ผมทุ่มสุดตัวแน่ๆ  ไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์แบบคนรักเท่านั้นนะ  แบบเพื่อนก็เหมือนกัน  
ทำให้ผมรู้สึกเหงามากๆ  มากที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมา  
   ทุกวันพอเรียนที่คณะเสร็จผมก็จะกลับมาที่หอทันที  และ เริ่มที่จะเล่นกีฬาเพื่อหาเพื่อนๆ  55555  
ต้องใช้แผนตีซี้  ผมก็เลยไปตีแบต ที่โรงยิมต่อทุกวัน  แหมๆ อย่างน้อยผมก็ตัวแทนโรงเรียนนา555  
และผมก็รักกีฬานี้มากๆด้วย  วันแรกที่ไป ผมก็ได้เจอเพื่อนๆมากหน้าหลายตา แต่ผมก็นั่งอยู่เฉยๆ
เพราะ เขามากันเป็นกลุ่มๆ  ผมก็ไม่กล้าขอเค้าเล่นด้วย............นั่งไปจนเซ็ง  ผมเลยลุกหันหลังกลับดีกว่า
ไม่ได้รอให้คนชวนนะแต่ไม่กล้าขอเล่นมากกว่า

“เฮ้ยนายน่ะ  จะเล่นมั้ย “  ผมรีบหันขวับไปตามเสียง  ก็  เจอ  คนที่พูดอยู่  เขาเป็นคนสูงทีเดียวนะ  สูงกว่าผมหน่อยนึงมั้ง  
ขาวเชียว  แต่ทำไมหน้าเข้มจังวะ  คิ้วก็ดกเข้มด้วย  ตาก็ลึกจัง  ตัวก็หนามาก  แขนนะ เห็นกล้ามเลย

“เฮ้ยจะเล่นมั้ย” มันถามย้ำอีกครั้งครับ  

“เล่นดิเล่น ออมมือให้ด้วยนะ”  แหม  เล่นตอนแรกจะให้โม้ว่าเก่งได้ไง ต้องหลอกให้ตายใจ  แล้วจะรู้ว่าความเก่งกาจเป็นเช่นไร 5555555  เราเล่นเกมส์แบบคู่ครับ ผมได้อยู่กับไอ้คนนึงที่หัวฟูๆ ครับ  หน้าก็ดำๆ  ตาโตๆ  ไว้ผมทรงแอฟโฟ่อ่ะครับ  
ส่วนไอ้คนที่มันชวนผม(ต่อไปผมเรียกมันว่าไอ้งั่งนะครับเพราะตอนนี้ยังไม่รู้ชื่อมันครับ)ได้อยู่กับคนตัวสูงมากๆ
ผมว่า 180 กว่าๆ  ไม่ขาวเท่าไหร่  หน้างี้  เหลี่ยมเชียว

“เกมส์เท่าไหร่” ผมถามแต้มที่จะเล่นกันครับ

“ 15  เอาเลยนะ”  ไอ้งั่งมันพูดครับ  ผมคิดในใจไอ้เชี่ยนี่  กูยังไม่ได้วอร์มเลยนับแต้มซะละ

“ เราไม่เก่งนะ  อย่าว่าเราหละ” ไอ้แอฟโฟ่ที่คู่กับผมมันพูดครับ

“ เออน่า  เราก็ไม่ค่อยเก่งหรอก”  ผมก็ถ่อมตัวไปงั้นๆ อ่ะครับ   พอเริ่มเล่นผมก็รู้เลยครับว่าไอ้งั่งนั่นเล่นเก่งพอตัว เลยครับ  “ผัวะ” ผมตบสุดแรง  แต่ไอ้งั่งนั่นรับได้ครับ  หยอดสวนซะงั้น พอมันได้แต้มแล้วยื้มใหญ่เลยครับ  ผมงี้แค้นสุดๆ  
ไอ้แอฟโฟ่ที่คู่กะผมก็ห่วยจริงๆครับ  รับไม่ได้เลย  ส่วนเพื่อนไอ้งั่งก็เก่งกว่าไอ้แอฟโฟ่นิดๆ  
สรุปคือมีผมกะมันครับที่ไม่รู้ว่าใครเหนือกว่ากัน 5555  ท้ายที่คู่ของผมก็แพ้ไปตามระเบียบ
เพราะไอ้แอฟโฟ่คนเดียวเลย(ไม่ค่อยโทษคนอื่นเล้ยผม555)  พอแพ้ผมก็มานั่งพักครับ  ไอ้แอฟโฟ่มันเลยชวนผมคุยครับ

“เฮ้ยมึงชื่ออะไรวะ  กูชื่อรัน  คณะมนุษย์ ปี 1”  

“กูก็ปี 1 คณะเดียวกัน  ชื่อ ทิศ”  ผมก็ตอบไปครับ ดีใจได้เพื่อน 1 คนแถมคณะเดียวกันด้วย  หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่อยเปื่อยครับ  นับแต่นั้นผมก็ไปตีแบตทุกวันครับ  ค่อยรู้จักคนมากขึ้น  แต่ผมก็ยังไม่เจอเพื่อนที่จะกลายมาเป็นเพื่อนตายเลยครับ  
ไอ้รัน มันก็มีเพื่อนเยอะครับ ไม่ค่อยไปใหนกับผมเท่าไหร่  ผมก็ไม่ค่อยเห็นหน้ามัน ผมจึงยังต้องเดินไปไหนมาไหนคนเดียวเสมอ  ยอมรับว่าเหงามากๆครับ  แต่ที่หน้าแปลกก็คือไอ้งั่งครับ  ผมเจอมันบ่อยมากๆ  โรงอาหารก็เจอ  
ทางเดินไปกินข้าวตอนดึกๆหลังมหาลัยก็เจอ  แล้วมันก็อยู่กับไอ้เพื่อนมันทุกครั้งเลยครับ(ไอ้คนที่คู่กะมันนั่นแหละ  
ผมจะเรียกมันว่าเพื่อนไอ้งั่งละกันนะครับ)  ส่วนเหตุผลที่ผมไม่ชอบมันจนต้องเรียกว่าไอ้งั่งก็เพราะกีฬานี่ล่ะครับ  
วันนึงไม่มีคนมาเล่นแบตเลยครับ  ผมเลยต้องเล่นเดี่ยวกะมัน  ทั้งที่จุดอ่อนของผมอยู่ที่ความเหนื่อยง่ายนี่หละ

“เล่นเซตเดียวนะ  เราไม่ค่อยมีแรง” ผมบอกมันก่อนเล่น

“ เออๆ ก็ได้”มันว่า  เราสู้กันอย่างไม่ยอมใครเลยครับ  มันเห็นหุ่นผมผอมๆมันคงไม่นึกว่าผมมวยกำลังครับ  แรกๆผมเลยตบอัดมันยับเยินด้วยความสะใจ

“5555555  ยอมแพ้ยัง” ผมว่า

“เหนื่อยแล้วเหรอ”  มันถามครับ  ผมอึ้งเลยครับ  นี่มันรู้จุดอ่อนผมแล้วเหรอเนี่ย

“5555555” มันเห็นผมหน้าเสียครับ  เลยหัวเราะด้วยความสะใจ  ครึ่งเกมส์หลังมันโยกผมซะจนผมแทบไม่มีแรงกำไม้เลย  เหงื่อหยดจากเสื้อผ้าติ๋งๆ  สุดท้ายผมก็แพ้มันด้วยความคับแค้นครับ

“แฮ่กๆๆๆๆ”  ผมนั่งเลยครับ  หอบจนหน้าแดง

“แฮ่กๆ  เหนื่อยอ่ะดิ  ยอมแพ้ยัง 555”  มันเยาะเย้ยผมครับด้วยคำพูดที่ผมเยาะเย้ยมันตอนกลางๆเกมส์

“อีกเกมส์นึง” ผมพูดพร้อมยืนขึ้นครับ

“ก๊าาาากก  จะตายอยู่แล้วยังจะเล้นอีก” มันหัวเราะลั่นเลยครับ

“เออ  แพ้เลี้ยงข้าวมั้ยล่ะ” ผมท้าทายมันครับ  มันตกลงครับ  แล้วเราก็เล่นกัน  ผมเลยตัดกำลังมันบ้างครับโยกมัน  
แต่มันเห็นผมหมดแรงมันเลยเล่นลูกเร็วใส่ผม  สุดท้ายผมก็แพ้มันขาดลอยเลย

“ไง  แฮ่กๆๆ   แพ้กูอยู่ดี” มันเยาะเย้ยอีกแล้วครับ

“เลี้ยงข้างกูด้วยล่ะอย่าลืมสัญญา”  มันทวงเลยครับ

“แฮ่กๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”  ผมตอบไม่ได้เลยครับนั่งหอบอย่างเดียว

“ก๊ากกก....แฮ่ก..ปัญญาพูดยังไม่มีเล้ย......อ่อนๆ”  ขนาดมันเหนื่อยๆมันยังกัดผมเลยครับ

“...แฮ่กๆๆๆๆ...อีกเกมส์...”  ผมบอกมันด้วยความแค้น

“ อย่างี่เง่าเหมือนเด็กๆ  เดี๋ยวก็ตายห่าหรอก” มันบอกผมแล้วเก็บของออกไปเลยครับ

“แฮ่กๆๆๆๆๆ”  ผมยังหอบต่อไป......................นี่ล่ะครับเป็นเหตุผมที่ผมไม่รู้ชื่อมันซะที  ไอ้งั่งใครจะอยากคุยกะมันวะ  
ประจวบกับช่วงนั้นมีพี่จังหวัดพาผมไปกินข้าวทำความรู้จักกันครับ  ก็เลยไม่มีเวลาสนใจไอ้งั่งมากมายนัก
(พอเรียกมันแล้วก็รู้สึกดีจัง  เหมือนได้ด่ามันไปในตัว 55555)  ดั๊นมีพี่คนหนึ่งเขาดันมาชอบผมครับ  
ปัญหาก็คือเขาเป็นผู้ชายอะดิ  พี่เขาชื่อว่า ต้อมครับ ออกสาวนิดๆ  พี่เขาบอกว่า ผมหน้าตี๋ดี ผมไม่ดีใจกับคำชมเลย
 เพราะผมไม่ได้ตาตี่นี่นา และผมก็ไม่ค่อยคิดว่าตัวเองหน้าตาดีนะครับ รู้แต่ว่าเวลาผมพูดจามันจะเหมือนกับผมยิ้มไปด้วย  
ซึ่งนั่นทำให้ผมดูเป็นคนมีอัธยาศัยดี  ประกอบกับผมเป็นคนพูดเก่งมาก ทำให้ผมค่อนข้างเป็นที่รู้จัก  ของคนในหอ  
พี่เขาชอบชวนผมไปกินข้าวด้านหลังมหาลัยตอนดึกๆครับ  ด้วยความที่เป็นคนที่ไม่ค่อยคิดอะไรมาก
ผมก็เลยไปกะแกช่วงพักนึง  พี่ต้อมแกก็ชอบมาเกาะแกะผมครับ

“นี่ๆ พี่  พี่ไม่คิดว่ามันเกินไปเหรอครับ”  ผมพูดเมื่อพี่แกจับมือผมครับ  แรกผมก็นึกว่าแกแค่จะแกล้งผม  
หลังๆไม่ไหวแล้วครับ  บอกตรงๆนะ......กลัว  พี่แกก็จะโทรมาหาผมทุกวัน  จนเริ่มมีข่าวแปลกๆ  ครับ แรกๆผมก็ไม่รู้หรอก  
แต่ผมเป็นคนที่รับรู้เวลาที่มีคนจ้องมองมา  เลยรู้สึกถึงสายตาแปลกๆเวลาที่กินข้าว(ซึ่งยังกินคนเดียวอยู่)  
หรือเวลาลงมาจากหอ  จนวันหนึ่ง  ผมมารู้จากไอ้รันครับว่า  มีข่าวลือว่าผมกับพี่ต้อมเป็นแฟนกันครับแล้วก็มีอะไรกันแล้วด้วย    ส่วนผมเหรอ เดือด ดิครับ โมโหมากๆ    ตาจากที่เคยหม่นๆเหนื่อยๆ  กลับกลายเป็น  คุกรุ่นไปด้วย ความโกรธ  
แต่ไม่รู้จะไปโกรธใครดี  

ตอนที่ 2 คำสัญญาที่ไม่ได้ยิน

   นับแต่นั้นผมก็ต้องเดินคนเดียวโดยมีสายตาที่แปลกๆมองมาทุกเวลาเลย  ผมพยายามไม่ติดต่อกับพี่ต้อมอีกครับ  เขาโทรมาผมก็ไม่ค่อยรับอ้างไปต่างๆนาๆ  ช่วงนี้กินเวลาเป็นเดือนเลยครับ  จนไอ้รันมันทักว่าผมหงอยๆไป  
ผมเลยบอกมันว่าผมกลัวข่าวลือครับ  ผมจึงพยายามไม่อยู่ใกล้ใครอีกไม่อยากให้มันมีข่าว  ไอ้รันผมก็ไม่อยากให้มันเดือดร้อน  

เย็นวันหนึ่งผมนั่งอยู่ที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใกล้ๆกับสนามแบต  คิดถึงพ่อครับ  พ่อผมไม่ได้เป็นคนที่ดีอะไรมากนัก  
แต่ผมเห็นครับว่าแกทำอะไรให้ครอบครัวบ้าง  ผมจำตอนที่ผมโอบเอวพ่อนั่งรถมอไซ วิบากไปเรียนประถมได้เสมอ  
มันสูงมากๆ  ล้อใหญ่ๆ  มีดอกยางเต็ม  เสียงดัง  พอนั่งบนนั้นเราจะอยู่สูงกว่าหลังคารถยนต์อีกครับ  ผมไม่มีวันลืม  
มันอบอุ่นมากๆ  ขาของพ่อไม่ถึงพื้นเลยครับ  เพราะรถมันสูงมากๆ  เมื่อมาถึงโรงเรียนเพื่อนผมพากันมามุงดูเลยครับ
เพราะไม่เคยเห็นรถวิบาก  ผมภูมิใจมากครับ  แต่ไม่กี่วันต่อมาผมได้ยินคนแถวบ้าน  ว่ากันว่า  พ่อผมเกาะเมียกิน  
ไม่ยอมทำงาน  ผมร้องไห้เลยครับ  บ้านผมมีลูกหลายคน  ต้องมีคนดูแลไม่แม่ก็พ่อ  แต่แม่ผมทำงานเก่งกว่า  
อันนี้ทุกคนก็รู้ดี  พ่อจึงต้องดูแลพวกผมแทน  ผมสงสารพ่อครับที่โดนชาวบ้านนินทา  พ่อผมแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง  
พ่อผมต้องทนการหยามหยันมามาก  แต่แกไม่เคยบ่นเลย  หัวเราะร่าเริง  ดูแลผมและแม่เป็นอย่างดี......
สมัยก่อนพ่อเป็นนักเลงครับ.....เมื่อต้องมาอยู่บ้านดูแลครอบครัวพ่อจึงหงอยๆไป......
แต่พ่อไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปทำให้แม่ไม่สบายใจ.....พ่อรักแม่มากครับแต่พวกแกไม่เคยหวานกันให้ผมเห็น........
มีแต่แม่ที่เล่าตำนานรักของพ่อกับแม่ให้ผมฟังหลังจากพ่อไม่อยู่แล้ว..........................คิดไปคิดมามืดซะแล้ว.............
ผมมองท้องฟ้าสีม่วงๆ  หลังอาทิตย์ตกหมาดๆ  .............ใจหายเลย  เพราะอาทิตย์หายไปจากฟ้าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้  
รู้ตัวอีกทีก็มืดซะแล้ว  ผมน้ำตาไหล  พระอาทิตย์ก็เหมือนพ่อผมที่ผมยังไม่ตั้งตัว.....ก็ลาลับจากไป.......
ผมไม่รู้เรื่องเลยตอนนั้น......เหมือนชีวิตของผมช่วงนั้นมันหายไป......ผมจำไม่ได้ว่าผมผ่านช่วงนั้นมาได้ยังไง....
รู้แค่ว่า.....พ่อ.......ไปแล้ว......ผม.........คิดถึง........พ่อ.....แม่.......เพื่อนเก่า......แฟนเก่า.......
แต่ผมก็ต้องอยู่คนเดียวเพราะผมไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเพราะข่าวลือ.......ผมไม่กล้าหาเพื่อนใหม่.....
เพราะกลัวการพลัดพราก............แต่ผมก็สงสัย....ทำไมผมต้องอยู่คนเดียวด้วย.................ทำไมต้องเป็นผม...............
ผมไม่รู้จริงๆ

วันต่อมาผมก็ใช้ชีวิตปกติ  ไปเล่นกีฬาตามปกติ  ได้เจอกับรุ่นพี่ที่คณะคนหนึ่ง  ตัวดำๆ  แต่หน้าโคตรหล่อ  ดูมั่นคงดี  
เหมือนเป็นผู้ใหญ่  แต่ก็เข้ากับผมได้ดี  อันที่จริงผมเป็นน้องรหัสของพี่เขาครับเราเลยสนิทกัน  พี่เขาชื่อจางครับ  
วันนั้นผมก็เล่นกีฬาไปตามปกติ  แต่ไอ้งั่งดิครับมันจ้องผมไม่วางตาเลย  จนผมไม่สบายใจ

“เมื่อวานมึงร้องไห้ทำไม”  มันถามผมครับ  ผมอึ้งเลย  หันขวับไปมองหน้ามัน  กระชากตัวมันออกมาที่เงียบๆ

“มึงอย่าบอกใครนะกูอาย”  ผมกระซิบมัน

“แล้วมึงร้องไห้ทำไม”  มันทำหน้าเจ้าเลห์ครับ  เหมือนถือไพ่เหนือกว่า   ผมก็ไม่สนใจ  ต่อให้มันบอกคนอื่นผมก็บอกคนอื่นว่ามันตอแหลก็แล้วเรื่อง55555

“เออน่าไม่ต้องรู้หรอก”  ว่าแล้วผมก็เดินออกมาเลย

 “เฮ้ยๆมึง....มึง”  มันเรียกแต่ผมทำท่าไม่ได้ยิน.....ก็มันไม่ได้เรียกชื่อผมนี่นา  ผมเลยเดินหนีมันไปเลย55555555

“ไอ้ทิศ  มึงมานี่”  มันเรียกผมครับ  ไม่รู้ชื่อผมได้ไงสงสัยถามไอ้รันมั้งครับ  ไม่งั้นคงจากที่จางมั้ง   ว่าแล้วมันตรงเข้ามาหาผมเลยครับ  จับแขนเสื้อผมเอาไว้  ผมเลยหันกลับไปมองมัน

“หือ”ผมถามมัน

“มึงจะไม่ถามชื่อกูเลยเหรอวะ” มันถามครับท่าทางยัวะเหมือนกัน

“มึงชื่ออะไรล่ะ”ผมถามมันเซ็งๆ

“ชื่อคม” มันตอบ

“อ้อ  เหรอ  หวัดดีไอ้คม”  แล้วผมก็เดินกระหยิมยิ้มย่อง  มาเล่นแบตคู่กะพีจางซะ  ปล่อยไอ้งั่งที่ชื่อว่าคมยืนเป็นควายตัวเดียว

.............พอตอนดึกๆผมไม่รับโทรศัพท์ที่พี่ต้อมโทรมาครับไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย...กลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง  ปรากฏว่าพี่ต้อมแกโทรมาถึง 30  สาย  .....................................พอแกโทรมาอีกครั้งผมก็เลยใจอ่อนรับไปจนได้ในที่สุด

“ทำไมไม่รับสายพี่”  พี่ต้อมถามผม  ผมปวดแปลบเลยครับ  เพราะ  เขาร้องไห้ครับ  สะอื้นด้วย

“พี่ครับอย่าโทรมาหาผมอีกเลยนะครับ  ผมชอบพี่ไม่ได้หรอกครับ”  ผมตอบไปตามจริงเพื่อให้พี่เขาเจ็บน้อยที่สุด

“เพราะเรื่องนั้นใช่มั้ยเพราะข่าวลือใช่มั้ย.....เพื่อนพี่มันแกล้งพี่  พี่รักเรานะน้องทิศ  พี่รักเรา”  ผมอึ้งเลยครับ  
เกิดมาพึ่งโดนผู้ชายบอกรัก

“....................................”  ผมเงียบไป

“....................ทำไมหนูรักพี่ไม่ได้.............” พี่ต้อมถามผม ด้วยเสียงสะอื้น

ผมอยากจะบอกเหลือเกินว่าเพราะผมไม่ชอบผู้ชายด้วยกันเอง  แต่ก็กลัวว่า พี่ต้อมจะเสียใจมาก  ผมเลยบอกไปว่า

“..........ผมยังไม่พร้อมครับเพราะผมเข็ดขยาดต่อความรัก...” ผมไม่ได้โกหกนะครับเพราะผมเลิกกับแฟน
ตอนก่อนเรียนมหาลัยนี่เองโอกาศหน้าจะเล่าให้ฟังนะครับ  ความจริงผมจะโกหกไปก็ได้ต่างๆนาๆ  แต่ผมดันไม่ชอบคนโกหก
 ก็เลยพาลเกลียดการโกหกไปด้วย

“.....ไม่เป็นไรพี่รอได้นะ...” พี่ต้อมตอบมาด้วย  ความหวังที่ริบหรี่เต็มที

“ .....พี่ต้อมครับผมขอโทษแต่ทิศไม่มีทางรักพี่ได้ครับพี่ต้อมผมขอโทษครับ....”  ผมตอบพร้อมกับเสียใจ  
ไม่ได้เสียใจที่ปฏิเสธนะครับ  แต่เสียใจที่ไปกินข้าวกับแก  ทำให้แกคิดว่าผมมีใจให้ ผมช่างเลวจริงๆ

“................................” พี่ต้อมเงียบครับ มีแต่เสียงสะอื้นเล็กๆ

“.....มันอาจลำบากช่วงแรก  แต่ไม่นานพี่ก็จะเห็นว่ามันก็แค่เรื่องหนึ่งที่ผ่านเข้ามานะครับ...”  นี่เป็นคำปลอบใจที่ผมใช้เสมอๆตอนเลิกกับแฟนเก่า  ............คิดแล้วก็เศร้าแฮะ

“...........................”มีแต่ความเงียบเป็นคำตอบ

“...........งั้นแค่นี้นะครับพี่  ผมขอโทษนะครับ.........”  พอผมวางหูเท่านั้นแหละ  น้ำตาผมก็ไหลเป็นทาง  เพราะความไม่รู้จักคิดไม่รู้จักระวังตัวของผมนี่แหละเลยทำให้คนดีๆคนหนึ่งต้องเสียใจ  ผมรีบเดินไปจากห้องทันทีคิดว่าจะไปหาที่สงบๆ  
คิดอะไรเรื่อยเปื่อย   พอเดินมาจากห้องกำลังจะลงบันได  ผมก็เจอไอ้คมครับ(ไอ้ที่ขาวๆ เข้มๆ อ่ะครับ)(ไอ้งั่งนั่นเอง)

“ไปไหน”ไอ้คมมันถามผม

“เดินเล่น” ผมรีบก้มหน้าก้มตาเดิน  กลัวมันจะเห็นน้ำตา  ผมอายมัน ผมรีบเดินผ่านตัวมันไป  
.........................................แต่มันดันกระชากแขนผมกลับมาครับ  ผมเผลอมองหน้ามันจังๆ   ดูมันชะงักนิดนึง  
ที่รู้ว่าผมร้องไห้

“อะไร”  ผมถามมันแล้วรีบก้มหน้าลงไม่ให้มันเห็น

“ไปเป็นเพื่อนมั้ย” มันถาม........ผมก็ดีใจ....เออมันห่วงเราด้วยแฮะ

“....ไม่เป็นไร....”  ผมรีบเดินไป  พร้อมกระตุกแขนให้มันปล่อยมือออกซะ

“.....ขอโทษ...” มันตกใจเมื่อรู้ว่าตัวเองยังไม่ปล่อยมือ     ผมรีบเดินลงไปแต่ก็หันมาบอกมันว่า

“....ขอบใจนะ....คม”  มันยิ้มให้ผมครับ  สงสัยมันคิดว่าผมยิ้มให้มันมั้ง  ไอ้บ้าคนกะลังเสียใจมายิ้มให้ซะงั้น

ผมออกเดินเรื่อยเปื่อย  เตร่ดเตร่ไปมา  จนมีคนมาทัก

“เฮ้ยไอ้ทิศ  5  ทุ่มยังไม่กลับหออีกเหรอ” ผมหันกลับไปครับ  เป็นพี่จางครับ  พี่เขากำลังเดินมาหาครับใส่ชุดกีฬา
คงเพิ่งกลับจากคอร์ท

“มาเดินเล่นครับ”ผมตอบไปตามมารยาท

“อ้าว...ร้องไห้เหรอ”  พี่เขารีบเดินมาเลยครับทีนี้

“เฮ่ย......รู้ได้ไง” ผมตอบไป  แกล้งกวนพี่เขาไปครับ

“ก็ตาแดง....หน้าแดงขนาดนั้น”.พี่เขาเอื้อมมือมาแตะบ่าครับผมรู้สึกมีที่พึ่งยังไงไม่รู้

“ไปไปกินข้าวกันแล้วเล่าให้พี่ฟังด้วย...เรื่องนั้นใช่มั้ย”  พี่เค้ารู้ครับก็แน่ล่ะผมออกจะดังขนาดนี้ ฮือๆๆ

ผมเลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้เขาฟังเลยครับ  

“แล้วเราไปกินข้าวแล้วก็คุยกับเขาทุกวันทำไม”  พี่จางถามผม

“ก็ผมนึกว่าเขาดูแลในฐานะพี่จังหวัดนี่หว่า”  ผมก็บ่นอุบอิบไป

“เอ็งนี่มันอ่อนต่อโลกจิงๆนะ”พี่เขาพูดเปรยๆ  พร้อมๆกับตักข้าวเข้าปากไป

“พี่”

“ผมเหมือนเกย์ตรงไหน”

“........ตรงไหนเหรอ......”  พี่เขาทำท่าคิด

“ก็แก หน้าหวานนี่หว่า  ขาวๆ  ตัวก็เล็กๆ  ผอมๆ  ขี้อ้อน  ยิ้มตลอดเวลา  พูดเก่งด้วย”พี่เขาตอบผม  เพื่อเป็นการแก้เขิน  
ผมเลยทำตาโต  ปากเบี้ยว  พยักหน้าหาเรื่อง  พร้อมกับพูดว่า

“ถือว่าชมใหมเนี่ยหาาาาาาาาา”พี่จางขำใหญ่เลยครับบอกว่า

“ยิ่งเหมือนกว่าเดิมอีก”  ผมหน้าเจื่อนลงทันทีเลย

“เอา เบียร์มั้ยพี่เลี้ยง”พี่เขาบอก

“อุย  ผมไม่เคยกินอ่ะชาตินี้  บอกตรงๆนะ  รังเกียจอ่ะ   เหม็น”  ผมตอบพร้อมโบกไม้โบกมือ

“เออน่าฝึกไว้  เวลาจำเป็นจะได้ไม่เมาง่าย” พี่จางบอกพร้อมเดินไปซื้อมาเลย

..................................เฮ้อ.............ไม่มีใครตามใจกูซักคน........................ผมคิด

ผ่านไป 1 ชั่วโมง

“เน่ะ พี่จาง   ผ๊มอะนะ  โคตรสงสาร พี่ต้อมเลย ดันมารักผมซะงั้น  ผมก็เล๊วเลวทำพี่ต้อมเสียใจ......  
แต่ก็โค๊ตรสงสารตัวเองนะที่เหมือนตุ๊ดเหมือนเกย์”ผมพูดเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์  เดินโซเซ  จนพี่จางต้องจับไหล่ไว้

“พี่รู๊ป่าว  ผ๊มอ่ะนะโดนล้อว่าเป็นเกย์ตั้งแต่เด็กเลย  ก็เลยไม่มีคนคบผ๊มเลยต้องพูดมากปากหมาอย่างที่เห็นน่ะแหละนะ
เพื่อจะได้มีคนคบ   เน่ะ  ผมว่า  ไอ่รันกะไอ่นิว มันต้องเกลียดผมแหงๆ  ที่ผมเหมือนเกย์”ยิ่งเดินผมก็ยิ่งกระดกเข้าไปใหญ่  
พี่จางก็ทำท่าจะเมา  ผมเลยย่ามใจ  พี่เค้าตื่นมาคงลืมเรื่องที่เราพูดหมดแล้วแหละ

“ผมคงไม่มีเพื่อนแล้วอ่ะนะ  พี่ ขนาดพี่ต้อมนะผมกะเอาเป็นพื่อนดั๊นร๊ากผมซะงั๊น  ผมแค่อยากมีคนคุยด้วยง่ะ
ทามมายต้องร๊ากผมด้วยน๊า ต่อไปผ๊มคงต้องอยู่โคนเดียว  ในมหาลายแล้วหละ  เข้าใกล้ใครใครก็รักผมหมดนิ  
มีเพื่อนมันก็ไม่เคยส๊นจายผ๊มเลย   เน่ะ  พี่อย่ามาว่าผ๋ม  ขี้อ้อนนา   ก็พ่อผมตายตอน ผ๊ม  อยู่ ป.4  แม่ก็ทำงานหามรุ่งหามค่ำ  ม่ายมีใครดูแลผมเลย  โผมน้อยจายนา  ผมรักแม่มากๆเลยนา  เอิ๊ก”  พี่จางเอามือมาโอบไหล่ผมครับ  โซเซไปมา

“อย่ามาโอบไหล่นาเด๋วหาว่าเกย์ไม่เตือน55555”ผมปรามแกไปเพราะกลัวคนเข้าใจผิด  เดี๋ยวแกเสียหาย  ส่วนผมน่ะเหรอ  
ไม่มีอะไรให้เสียแล้ว

“น่านะ  น้องทิศนะ พี่เดินไม่หวาย”  พี่จางไม่ปล่อยมือ  มืออีกข้างยังมาโอบเอวอีก  ขนลุกเลย

“อาร๊าย  ตัวเป้งๆอย่างพี่  แค่เบียร์  2-3 ขวดก็เมาแล้วเรอะ  มามะ  กลับกาน”  ด้วยความที่เป็นลูกคนเล็กเลยชอบเอาอกเอาใจคนอื่นเลยพากันลากกันและกันมาจนถึงหอ............ปล่อยพี่จางขึ้นลิฟท์    ส่วนผมเดินบันไดอย่างงงงวย

“ทำไมมามทรมานอย่างงี้วะรู้งี้ไม่กินซะก็ดี”ผมก็บ่นไปตามประสา

“แล้วใครให้กิน” ผมสะดุ้งโหยง  เสียงไอ้คมนี่หว่า   มองขึ้นไปเห็นมันยืนอยู่บนบันได  มองด้วยสายตาอาฆาต

“...ยืนมองทามมายมาช่วยดิไอ้คม”  ผมสั่งอย่างวางอำนาจและกวนโอ๊ยที่สุดและไม่นึกว่ามันจะมาตามที่ผมขอร้อง
 แต่มันก็มา  ประคองผมอย่างรวดเร็ว

“ทีหลัง ถ้าไม่เคยกินก็อย่ากิน”ไอ้คมพูดเสียงดุๆ

“เอ๊ะมึงนี่เรื่องมากจัง....................................เฮ้ย  มึงรู้ได้งายวะว่ากูไม่เคยกิน”  ผมถามมันอย่างประหลาดใจ

“.......................”มันเงียบไม่ยอมตอบ

“อั๊นแน่ตอนนั้นตามกูมาอะดี๊”ผมชี้หน้ามันและยิ้มอย่างผู้มีชัย  

“งั๊นมึงก็ได้ยินที่กูพูดทุกอย่างช่ายม้าย” ผมหันหน้าไปคาดคั้นกับมัน รู้สึกร้อนหน้า  และรู้สึกว่าตัวแดงจากฤทธิ์เหล้า

“อือ”มันก้มหน้าก้มตาตอบ  พร้อมๆพยุงผมเดิน

“งั๊นมึงช่วยกูทีดิ๊”ผมจับไหล่มันไวทั้ง 2 ข้าง  รู้สึกน้ำตาคลอๆ

“อะไร”มันจ้องหน้าผม

“............อ้ายคม.......กู.......ฮือ......ฮือ.....กู ..........เหงา.........มึงช่วยกูที...........นะ......ฮือฮือ.....กูเหงา........”
ผมพูดสิ่งที่โหยหามานานคือคนที่จะมาเอาใจใส่ผม  พร้อมกับร้องไห้ออกมาน้ำตานองหน้า   แล้วกอดมันไว้   สะอื้นอยู่นาน..........จนหลับไปตอนไหนไม่รู้   และผมคงล้มไปแล้วถ้ามันไม่กอดผมเอาไว้

“.......ได้...กูจะดูแลมึงเอง.....”ไอ้คมพูดขึ้นมาเบาๆ

story by นายโฮะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ใช้ได้มั้ยครับ o11
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 04-06-2007 12:16:16
เป็นกำลังใจให้น้องใหม่ครับ

ยินดีต้อนรับนะค้าบบบบบบบบบบบบ

 o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: NewcoolstaR ที่ 04-06-2007 12:24:56
 :o10: ตอนนี้กำลังเริ่มทำหน้าที่วันแรก กับการอ่านและเฝ้าเล้านิยายวันแรก ... :try2:

เป็นกำลังใจให้ครับ :o9:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 04-06-2007 13:55:33
เป็นกำลังใจให้กับครั้งแรกของทั้งคู่ด้วยครับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 04-06-2007 14:12:18
กรีดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

หวาดดีเคอะคุณน้อง

แหม่ๆ  เขียนเก่งนะเคอะ

แต่เจ้ขอฝากนิดนึงนะเคอะ

ช่วยจัดหน้านิดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดนึง อิอิ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-06-2007 15:06:57
เรื่องน่ารักดีนะ
เหตุเพราะทำตัวน่ารักเกินไป
 o7
แต่เจ้าคมนี่ทำตัวน่าฉงฉัยจริงๆ
มีการแอบตามรอยด้วย
 o3
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-06-2007 15:44:02
ตาคมน่าสงสัย มีพิรุธ รึแอบชอบทิศ  :laugh:

เรื่องใหม่อีกแล้ว น่าติดตามอีกแระ  :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 04-06-2007 16:16:28
คม  หน้าตาคงคมคายสมชื่อ  :impress2:

ยินดีต้อนรับนักเขียนหน้าใหม่จ้า..สู้สู้น๊า  :o8:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 04-06-2007 16:55:05
 o15

อ่านตอนแรกชักสนุกแล้วสิ  :laugh3:


เป็นกำลังใจให้คุณ hayuho นะครับ  :teach:


จะรออ่านต่อไปคับ  :impress:
 
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 04-06-2007 18:26:35
สนุกดี  ชอบๆ o13
เป็นกำลังใจให้กับการเขียนเรื่องแรกจ้า  สู้สู้

ปล จัดหน้า  แบ่งวรรคตอน แบ่ง paragragh หน่อยก็จะทำให้อ่านง่ายขึ้นนะ  :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-06-2007 19:00:52
ยินดีต้อนรับจ้า  o15 มาติดตามอ่านด้วยคนนะ  :give2:
เรื่องนี้ท่าทางสนุกดี เป็นกำลังใจให้น้า  o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มะนาว ที่ 04-06-2007 20:32:44

มารออ่านด้วยคนคร้าบบบบบบบ......เอากำลังใจมาฝากคร้าบบ..........
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 04-06-2007 23:47:04
 :o :o  นี่ผมต้องมาตามอ่านอีกเรื่องแล้วเหรอครับเนี่ยะ  :haun5: :haun5:  จริงๆก็สนุกน่ะครับ  เลยอยากตามอ่าน :laugh: :laugh:  แต่อย่างเจ๊สองแกบอกน่ะครับ  จัดหน้าหน่อยก็ดีครับ  อ่านแล้วตาลาย o2 o2
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 05-06-2007 00:41:00
โอววววว   เรื่องน่าติดตาม   
ขอบคุณครับ :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 05-06-2007 04:54:49
 :like6: :like6: :like6: :like6: :like6:

ไร้คำบรรยาย แต่อยากบอกจากใจว่า "เริศ"..........

มาต่อด่วน ถ้าไม่มาเดี๋ยว "ด้วน"  :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:

ล้อเล่นหรอกจ๊ะ :haun5: :haun5: :haun5: :haun5:


ปล.หนุกจัง...เข้าใจความรู้สึกคนไร้เพื่อน คนต้องการคนดูแล... :o11: :o11: :o11: :o11: (นั่งเขี่ยหาเหรียญ)
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 05-06-2007 13:55:13
ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ  เรื่องนี้มี 10 กว่าตอนครับ  ผมแต่งเกือบจบแล้วรับรองไมให้รอเก้อแน่นอน  ขอบคุณสำหรับกำลังใจอีกทีครับ o7

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 3 สายตาที่น่ากลัว
เช้าถัดมาผมตื่นมาตอนเที่ยง...................ตกใจ ...........ปวดหัว..........ขี้เกียจ........เหม็น...........
เลยโดดเรียนซะเลย........นอนต่อ  จนบ่าย 3  ก็ออกมาอาบน้ำ กินข้าว  แต่งตัวจะไปตีแบต.....
เดินลงหอมารู้สึกถึงสายตามุ่งร้ายอยู่เช่นเคย   เอรู้สึกมันเยอะกว่าเดิมแฮะ  ช่างมันเหอะ  ทามอารายกุไม่ได้หรอก555555(หัวเราะให้ความงี่เง่าของตัวเอง)
เดินๆอยู่โทรศัพท์ดันร้องโหวกเหวกโวยวาย  .....

“ใครวะ”ผมบ่นอุบ  เมื่อเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกโทรมารู้สึกเซ็งมากถึงมากที่สุด

“หวัดดีครับ”  ผมกรอกเสียงลงไป

“อย่าเพิ่งไป  รอกูก่อน”

“ใครวะ” ผมถามอย่างไม่เกรงใจเพราะมีไม่กี่คนหรอกที่รู้ว่าผมกำลังจะไปตีแบต

“เออน่าไม่ต้องรู้หรอก”...เอ๊มึงนี่ยังไง

“งั้นแค่นี้นะมีอารมณ์บอกค่อยโทรมาละกันกูไปล่ะ”ผมบอกมันอย่างเซ็งๆ  กูไม่ได้ตื่นเต้นกับมึงเล้ย

“เฮ้ยๆ   อย่าๆ   กู  คมไง  กูเอง”มันตอบอย่างร้อนรน

“ก็ไม่บอกแต่แรก  เร็วๆดิกูอยู่ข้างล่างแล้ว”ผมรีบพูดให้มันจบๆไปซะ

“แปป”มันตอบแล้ววางหูไป

ซักพักมันลงมาแล้วถามผมว่า
“เมื่อคืนมึงไปไหนวะ”

“เออว่ะ  กูก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ”ผมตอบไปทำหน้างงไปด้วย....เออแฮะเมื่อวานกูไปใหนหว่าไหงมาโผล่ห้องตัวเองได้

“เฮ้ยมึงตัวเองไปไหนมาก็ไม่รู้เนี่ยนะ”ไอ้คมถามอย่างประหลาดใจ

“กูจำได้แต่ว่าไปกินข้าวกับพี่จางนี่หว่า..................อืม...................เฮ้ย.......ดันแดกเบียร์ไปด้วยนี่หว่า”ผมตกใจ
เพราะจำอะไรไม่ค่อยได้จริงๆ.......หวังว่ากูคงไม่ทำอะไรแปลกๆนะ

“ทำไมถามทำไม”ผมถามมันคาดคั้นขณะที่เดินไปคอร์ท

“เปล๊า”มันพูดเปล่า เสียงสูงเชียว   แล้วมึงจะหลบหน้ากูทำไมวะ  ผมคิดเมื่อเห็นมันหันหน้าไปทางอื่น

“เอาน่า  เมิงอย่าเรื่องมาก”  มันตอบ

ไอ้เชี่ยนี่  อันนี้คิดนะ   ...............เอว่าแต่ว่าเมื่อคืนกูกลับยังไงวะเดี๋ยวถามพี่จางดูดีกว่า
..................................................................................
.................พอตกหัวค่ำผมก็จะไปเช่าการ์ตูนตามระเบียบ  เก็บรองเท้า  เก็บไม้เรียบร้อย  พอกำลังจะไป 

“ไปไหน”ไอ้คมถาม

“เช่าการ์ตูน”ผมตอบพลางเดินพลาง

“ไปด้วย”มันวิ่งถือข้าวของพะรุงพะรังตามมา

“เฮ้ย  อะไรของมึง  ทีแต่ก่อนกูชวนไม่เคยไป”ผมพูดไปพร้อมกับเดินกลับไปช่วยมันยัดข้าวของลงเป้มัน

“ขอบใจ”  มันพูดพร้อมกับยิ้มให้

“เออ”แปลกๆ ว่ะไอ้นี่

ระหว่างทางที่เดินผมก็พูดขึ้น
“มึงรู้ข่าวลือว่ากูเป็นเกย์รึเปล่า”  ในในรู้สึกแปลกๆที่พูดออกมา

“รู้”มันตอบหน้าตาเฉย

“อ้าว แล้วมึงเดินกะกูเนี่ย  ไม่กัวโดนหางเร่เหรอ55555” ใจจริงผมดีใจมากที่มันมาด้วย
แต่ผมคงต้องทำให้ชินกับการที่ต้องอยู่คนเดียวแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่ต้องทรมานอีก  ก็เลยบอกใบ้ว่าถ้าอยู่กับกูแล้วมันลำบาก

“กูไม่กลัว  ถ้ากูไม่อยู่มึงจะอยู่กับใคร”มันตอบหน้าจริงจัง  ส่วนผมรู้สึกอ่อนแอขึ้นมาทันใด  แต่ปากอะดิ๊

“เฮ้ย  เว่อร์ละกูไปคนเดียวดีที่สุดแล้ว  ไม่มีคนเสียหาย  สบายใจดี  กูก็ไปคนเดียวได้  ตามใจตัวเองอยากทำอะไรก็ทำ 
ไม่ต้องแคร์ใคร”  ผมพูดกับมองไปข้างหน้าอย่างยิ้มแย้ม  แต่ผมก็รู้ดีว่าการที่ต้องอยู่คนเดียวมันเป็นยังไง

“กู บอกว่า ไปกับมึงก็ไป ไม่ต้องห่วงคนอื่นหรอกมึงน่ะ”  มันพูด   ผมดีใจจังที่มันมาด้วย 
และไม่กลัวความซวยที่มันจะเกิดขึ้นเมื่ออยู่กับผม  แต่เอ  ทำไมมันรู้ว่าผมห่วงมัน  ไม่อยากให้มันโดนข่าวลือไปด้วย 
รู้ใจกูจิงแฮะ

“อย่ามาบ่นทีหลังแล้วกัน5555” คราวนี้หัวเราะจริงๆครับดีใจที่มีคนอยู่ด้วย

“อีกอย่างมึงยังไม่เลี้ยงข้าวกูตามสัญญาเลย5555”  มันว่าพร้อมกับทำหน้าเจ้าเลห์

“เออๆๆค่อยว่ากัน”  ที่แท้ก็อยากกินของฟรี  เฮ้อ.......

พอถึงร้านการ์ตูน
“เอ้า มึงไม่เช่าเหรอ  แล้วมาทำไมวะ”  ผมถามเพราะเห็นมันดูๆเฉยๆ

“ไม่มีบัตร”มันตอบเรียบๆ

“เอ๋า  ใช้กะกูดิ”ผมแปลกใจทำไมมันโง่จังนะไม่รู้จักยืมผม

“เออๆ”มันรีบหยิบๆออกมา 2- 3 เล่ม  แล้วยื่นให้ผม

“เอามาแต่แรกก็แล้วเรื่อง”ผมบ่นอุบอิบ
..........................................................................

...........................เกือบเดือนผ่านไปมันก็ยังคงไปตีแบตแล้วเช่าการ์ตูนกับผมเหมือนเดิม 
สไตล์ที่คุยกันบ่อยๆตอนกินข้าวคือ

   (ผม)  กูว่าหน้ามึงเหลี่ยมชิบหาย  (ชี้ๆหน้ามันด้วย)
   (มัน) ทำไม....ถึงเหลี่ยมกูก็ไม่ได้มีแต่ เกย์มาจีบเหมือนมึงละกัน  (ยื่นหน้ามมา)
   (ผม) น่าดีใจตายละไม่มีคนมาจีบควายอย่างมึงอ่ะดิ5555  (กอดอกพิงพนัก)
   (มัน) เออ  ก็มีแต่ตุ๊ดมาจีบกูนี่หว่า.....ตรงหน้ากูก็คนหนึ่ง555  (กอดอกพิงพนัก)
   (ผม)  ไอ้ควายคม....(ค้ำโต๊ะ  ชี้หน้าไอ้งั่ง)
...
   (ผม)  ทำไมมึงดำจังวะ  ที่บ้านทำนารึไง  (ชี้ๆตัวมันด้วย)
   (มัน)  ทำไมมึงรู้วะ  กูก็มีที่นาบ้างเหมือนกัน  (ยื่นหน้ามา)
   (ผม)  คนมันเก่งน่ะนะ  ดูหน้ามึงกูก็รู้เลย5555  (กอดอกพิงพนัก)
   (มัน) กูว่าไม่จริงหรอกว่ะ  ที่มึงรู้เพราะมึงแอบเล็มหญ้าข้างๆที่นากูอะดิ555  (กอดอกพิงพนัก)
   (ผม)  ไอ้HEREคม....(ค้ำโต๊ะ  ชี้หน้าไอ้งั่ง)
...
   (ผม)  มึงไม่มีเสื้อผ้าดีๆกว่านี้ใส่แล้วเหรอเนี่ย  มากะมึงแล้วกูอายคนชิหาย  (ชี้ๆเสื้อมันด้วย)
   (มัน)  เออ  พอดีกูไม่มีตังค์ว่ะ  พอใจมึงยัง  (ยื่นหน้ามา)
   (ผม)  ที่แท้ก็จนนี่เอง  มิน่า  หน้าตาไม่มีสง่าราศี555  (กอดอกพิงพนัก)
   (มัน) เฮ้ยกูไม่ได้จน  กูมัวแต่เอาเงินไปซื้อ Alpo  ให้มึงแดกน่ะกูเลยไม่มีตังค์5555  (กอดอกพิงพนัก)
   (ผม)  ไอ้sadคม....(ค้ำโต๊ะ  ชี้หน้าไอ้งั่ง)
...
   (ผม)  นี่ๆมึง  คิดยังไงไปตัดทรงนี้วะ  อย่างมึงตัดทรงไหนมึงก็ไม่ฉลาดขึ้นหรอก   (ชี้ๆหัวมันด้วย)
   (มัน  บ้านป๊ามึงเหรอตัดแล้วฉลาดขึ้น  กูตัดแล้วหล่อโว้ย  (ยื่นหน้ามา)
   (ผม)  ก๊าาาากก  อย่างมึงนี่นะหล่อ  ถ้ามึงหล่อโลกนี้ไม่มีคนขี้เหร่แล้ว  (กอดอกพิงพนัก)
   (มัน)  อ้าว  ห้องมึงไม่มีกระจกเหรอ ถึงมองไม่เห็นคนขี้เหร่กว่ากู  กูว่าถ้ามึงตัดทรงนี้อ่ะนะ 
พระอาทิตย์คงตกงาน5555(กอดอกพิงพนัก)
   (ผม)  ไอ้......คม....(ค้ำโต๊ะ  ชี้หน้าไอ้งั่ง)  (***อันนี้ไม่รู้จะด่ามันว่าอะไรแล้วครับ...หน้าด้านนัก***)
   
   ผมก็ยอมรับว่าส่วนใหญ่ผมไปกวนทีนมันก่อน(ย้ำ....ส่วนใหญ่)และมันก็โต้ตอบกลับมาได้สมน้ำสมเนื้อเสมอ  แต่ผมไม่เคยโกรธมันนะครับ  ผมรู้ว่ามันหวังดีไม่อยากให้ผมเหงา  ซึ่งผมก็ลืมความเหงาไปจริงๆ  เพราะมีเพื่อนดีๆ อย่างมันนี่หละครับ

จนวันหนึ่งมันกลับจากคณะดึกมากปล่อยให้ผมรอมันไปเช่าการ์ตูนตั้งนาน  ผมเคาะประตูห้องมันแล้วเปิดเข้าไป
เห็นมันนอนอยู่

“เฮ้ยการ์ตูนล่ะ”ผมถามมันด้วยน้ำเสียงโมโห

“เออๆ  อยู่นี่” มันยื่นให้ผมพร้อมๆกับทำหน้าเซ็งๆ

“เป็นไร”ผมถามมัน

“ปวดหัว”มันตอบผม

“งั้นมึงไม่ต้องไปเดี๋ยวกูซื้อยามาให้ด้วย”ผมไม่อยากทรมานมันนัก

“อืม”มันล้มตัวลงนอนแล้วครับ

ผมเดินไปซื้อยาแล้วเช่าการ์ตูนมาให้มันเล่มหนึ่ง ใจหนึ่งก็ห่วงมันเลยเอากระดาษแผ่นเล็กๆเขียนว่าโทรหากูด้วย
ยัดใส่ในการ์ตูน  พอผมไปหามันที่ห้องมันหลับแล้วครับผมเลยกลับห้องรอให้มันโทรมา  เพราะถ้ามันโทรมา
ก็หมายความว่าอาการมันดีขึ้นจนอ่านการ์ตูนได้แล้ว  แต่รอจนหลับก็ไม่โทรมาคับ  ห่วงก็ห่วงแต่ไม่กล้าไปดูกลัวมันรู้
เดี๋ยวเสียฟอร์ม  ผมไปเรียนกลับมาแล้วไอ้คมก็ยังไม่โทรมา  จะโทรหามันก็ไม่มีเบอร์  ลืมขอ 
ตอนมันโทรมาก็ลืมเมม  หรือมันไม่สบายจนไม่ได้อ่านการ์ตูนเลยเหรอวะ   ห่วงว่ะ  เลยไปหามันที่ห้อง 
เอเหรอว่าหลับอยู่  ลองเคาะดู  เคาะเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ   ฮึ่ม  พังเข้าไปผิดกฎหมายมั้ยวะ  ขณะที่กำลังบ่นอุบอิบ 
ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย

“ทำไร” ไอ้คมครับ ชุดนักศึกษาเลยครับ  โผล่มาด้านหลัง  ทำเอาผวาไปเลยครับ

“เอ่อ”  จะบอกว่าห่วงก็อายครับ

“กูจะมาเอาการ์ตูนน่ะ  กูจะอ่านด้วย”เฮ้อ  แก้ตัวเก่งจริงๆกู

“เอ้า”มันหยิบจากกระเป๋ายื่นมาให้ผม

“อ่านแล้วเหรอ” ผมถามมัน ทำหน้าสงสัย

“อ่านแล้ว....ทำไมวะ”มันถามทำหน้าสงสัย

“ทำไมไม่โทรหากู”ผมถามมันคาดคั้นเอาเรื่อง

“ทำไมกูต้องโทรวะ”  มันทำหน้างง  คิ้วเข้มๆขมวดติดกันเลยนะมึง

“ก็”  ซวยละจะให้บอกว่าห่วงก็กระไรอยู่

“ก็กูจะรีบเอาการ์ตูนไปส่ง  เขียนโน้ตให้มึงแล้วในหนังสือการ์ตูนไง   หรือมึงไม่เห็น”  แหม  เรื่องแก้ตัวมีหรือจะแพ้ 
แถมยังโยนความผิดที่มันไม่เห็นไปให้มันอีก  แต่เอ  เมื่อมันอ่านแล้วทำไมไม่เจอโน้ตวะ  หรือว่า.............

“ก็กูไม่เห็นหนิ” มันทำหน้าตกใจ  เหงื่อแตก  ไอ้งั่ง  ไม่เนียน เลยนะ มึง   555555  ผมแอบขำ 
มันน่ารักดีนะ  เฮ้ย  ไม่ใช่ๆ  ตลกดี

“พระเอกชื่ออะไร”  ผมถามคาดคั้นเอาเรื่อง พร้อมๆกับย่ามสามขุมเข้าหามัน

“เอ่อ.....ชื่อ..” มันหน้าซีดครับ5555555

“เรื่องนี้ชื่ออะไร”  ผมทำหน้าสะใจครับ

“....................เอ่อ”มันตอบไม่ได้ครับ

“....นี่เมิง..........อ่านแล้วจริงเหรอ”

“กูไม่ได้อ่านพอใจยัง”  มันยอมแพ้ครับ  คงโมโหที่โดนจับไต๋ได้

“แล้วมึง ไปเช่ามากับกูทุกวันทำไมวะ  เช่ามาแล้วไม่อ่านนี่นะ”  อันนี้สงสัยจริงๆครับ

“.......ก็...........เอ่อ.......กูแค่อยากเดินเล่นกับมึงเฉยๆ” มันทำหน้าอายๆครับ

“ก๊ากกกกกกก.......”อาจเสียมารยาทแต่ผมอดขำไม่ไหวครับที่มันปากแข็ง  แล้วก็วางฟอร์มขนาดนั้น

“ห้าม  หัวเราะนะ”  มันพูดท่าทางโมโห

“ก๊าาาาาาาาาาาากกกก”นี่คือคำตอบของผมครับ
แต่ผมก็ต้องชะงักลงเมื่อมันจับมือของผมทั้ง 2 ข้างชู ขึ้น  ลากผมมาในห้องมันแล้วกด ผมลงกับประตู

“ เฮ้ย  ปล่อย  กูนะ”  ผมเค้นเสียงออกทางไรฟัน  ไม่อยากตะโกนกลัวคนอื่นรู้เข้า  แล้วมันจะเดือดร้อน 
แน้  ยังห่วงมันอีกนะ  กรู 

“หึหึหึหึหึ”มันครับหัวเราะอย่างชั่วร้าย  แทนที่จะโกรธ  ผมกลับอายครับ  เป็นไรไม่ รู้ 
ตาของมันลึกล้ำจนเหมือนรู้ทุกอย่างที่ผมคิดเลยครับ  แล้ว  ก็จริงๆครับ

“อายทำไม” มันถามพร้อมหัวเราะในลำคอครับ

“ไม่ได้อายเว้ย” แต่ผมหลบหน้าแล้วครับ  หันหน้าด้านข้างให้มัน  มันเอามือทั้ง 2 ข้างของผม มาชิดกัน
แล้วใช้มือข้างเดียวบีบข้อมือที่กำลังสะบัดของผมไว้  ส่วนอีกข้าง  ล้วงกระเป๋ากางเกงของผม

“เฮ้ย” ผมตกใจ หันมามองตาคู่นั้น  แต่ก็ต้องหันกลับเมื่อพบเห็นบางอย่างในนั้น

“อ..อออ...อย่า...”ผมขอร้องมันด้วยเสียงสั่นๆ

“ป..ป...ก....ปล่อยกูนะ....นะ”ผมอ้อนวอนมัน

“กูแค่จะเอามือถือมึง  มึงไม่ต้องกลัว”  น้ำเสียงมันนุ่มนวลดีจัง  ตรงข้ามกับสายตาที่ผมกลัวเหลือเกินที่จะรู้
ว่ามันหมายความว่ายังไง   แล้วมันก็ปล่อยมือผมครับ  พร้อมกับมันถอยหลังไปอย่างรวดเร็วในมือถือมือของผมเอาไว้ 
คงกลัวผมชกมันมั้ง  แต่ผมทรุดครับ  ขาอ่อนไปหมด

“เฮ้ยไอ้ทิศ เป็นไร” มันรีบพุ่งตัวมาประคองผม  แต่พอมองหน้าผมมันก็รู้ครับ ว่าหลงกล  แล้ว   
ตุ้บ!!   
หมัดขวาของผมกระทบที่ท้องมันอย่างจัง   มันตัวงอเลย 

“ก๊าาาาาาาาาาากกกกกก”เสียงหัวเราะชั่วร้ายอย่างผู้มีชัย  เปล่งออกมาจากปากของผมเอง5555   
ถัดจากนั้นผมก็ฉวยโทรศัพท์มา  พร้อมเผ่นแน่บออกจากห้องมันอย่างรวดเร็ว 

“ไอ้ตัวแสบ”  ไอ้คมกัดฟันพูด

ผมเปิดมือถือเชคดู  ปรากฏว่ามันโทรออกไปเบอร์แปลกๆ  ผมเดาว่าคงเป็นเบอร์ของมัน

“อยากให้เบอร์กูก็ไม่บอกดีๆ  สม 55555”  ว่าแล้วก็เมมไว้เผื่อ จะได้มีโอกาส  จิกเรียกเอาการ์ตูนจากมัน555


story by นายโฮะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หายตาลายรึยังครับ  คือผมไม่เคยโพสเลยก็ว่าได้  เลยไมรู้ว่าต้องจัดหน้ายังไงหน่ะ o1
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 05-06-2007 14:32:17
..........ตามมาหั้ยกำลังใจคับ.........รออ่านต่อนะคับ........ :impress:

..........ว่าแต่ฝีปากแพ้คุณคมตลอด...ระวังจะแพ้ใจคุณคมด้วยนะ........ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 05-06-2007 14:53:28
สำหรับเราอ่านง่ายแล้วจ๊ะ ตาไม่ลายแย้ว  o13


..........ว่าแต่ฝีปากแพ้คุณคมตลอด...ระวังจะแพ้ใจคุณคมด้วยนะ........ :laugh: :laugh:
@

อันนี้เห็นด้วยกะคุณถุง  :laugh3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 05-06-2007 15:06:42
ถึงคุณน้องคนเขียนเรื่อง

เจ้ถือวิสาสะเข้าไปจัดหน้าให้แล้วนะเคอะ 
เจ้คิดส่าถ้าจัดแบบนี้แล้ว  เจ้ไม่ตาลายเวลาอ่านก็เลยจัดไปตามใจตัว  ไม่ได้เป็นแบบแผนอะไรหรอกนะเคอะ  แต่ถ้าสงสารเจ้ก็จัดแบบนี้ก็ดีนะเคอะ  แบบว่าเจ้มันแก่แล้ว

หวังว่าคงไม่โกรธที่เจ้จุ้นจ้านนะเคอะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 05-06-2007 15:41:36
เป็นความสัมพันธ์ที่ประหลาดเจงๆ
อย่างน้อยก็ไม่เหงาหล่ะนะ
 o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 05-06-2007 16:13:05
ยังมะได้อ่านเยย มาเม้นเป็นกะลังใจก่อง เด๋วตามอ่านเน้อ  o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 05-06-2007 17:56:09
 :laugh:

ตามต่อไปคับ มาลงไว ๆ นะครับ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-06-2007 20:17:45
คู่นี้เขาฝีปากกินกันไม่ค่อยลงจริง ๆ  o18  o18
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: pajaa ที่ 05-06-2007 23:17:37
 o13 เข้ามาแปะโป้งไว้ก่อนคับ ลองอ่านคร่าว ๆ หล่ะ ชอบอีกแล้วคับ o17
ไว้วันหน้าจะเข้ามาอ่านแบบเต็ม ๆ นะคับป๋ม :interest:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 06-06-2007 08:37:39
มาเปนกำลังใจให้คนเขียนด้วยอีกคน

อ่านแล้วสนุกดีอะ  อิอิ  :give2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 06-06-2007 12:45:28
ตอนที่ 4 ความอบอุ่นของลูกบิดประตู

“เฮ้ยไอ้รัน...แดกข้าวกันเหอะ”  ผมตะโกนร้องเรียกไอ้รันที่หน้าห้องมัน  ตอนเย็นๆของวันหนึ่ง

“เออๆ...มีใครไปมั่งวะ”  ไอ้รันถาม  พร้อมเปิดประตูออกมา

“อ๋อ....ก็...มี...กู...มีไอ้คม...มีมึง....กูไอ้คมแล้วก็มึง..ไง  ตั้ง 6 คนแน่ะ5555”  ผมตอบไปแล้วก็หัวเราะอย่างเต็มที่

“เยอะจังเลย” ไอ้รันทำหน้าตอแหล  ก่อนที่จะเตะผมไป 1 ที  ช่วงนี้พวกเราไปกินข้าวกันทุกวันเลยครับ 
ผมเลยไม่เหงา  รู้สึกมีเพื่อนอยู่ด้วย

ระหว่างทางที่เดินๆ กันอยู่  ผมสังเกตเห็นผู้ชายคนนึงเดินตามมาแวบๆ  ผมเลยเดินนำหน้า  ไอ้รันกะไอ้คม  แล้วก็เดินวนเวียนเข้า ๆ ออกๆ ซอย แถวๆนั้น  จนไอ้รันถาม

“เฮ้ยมึงจะเดิน  อ้อมทำ....อะไรเนี่ย  กูหิวแล้วนะ” 

“มีคนเดินตามมาว่ะ”ผมตอบไปเรียบๆ   ไอ้คมกะไอ้รัน ก็ หันหน้าไปมอง

“เมทกูเอง...........ชื่อโน้ต”ไอ้คมตอบแบบเซ็ง ๆ  ผมก็..อ๋อ..เลยไอ้นี่แหละครับที่ตัวติดกะไอ้คมเลยตอนแรกๆนะ
(ที่ตีแบตคู่กันน่ะ  ตัวควายๆ  181 ซ.ม.  หน้าเหลี่ยม)

“เอ๋า  แล้วไม่ชวนมา  ล่ะ”  ผมถามไอ้คมไป

“ชวนแล้ว....มันบอกว่ามันไม่มา”

“เอ๋า”  ผมกับไอ้รันพูดพร้อมกัน

“แล้ว  มาเดินตามทำป๊าอะไรฟะ”  ผมเปรยอย่างฉุนเฉียว

“กู  จะรู้ใหมวะ”  ไอ้คมตอบเซ็งๆ

ระหว่างที่พวกเรากินข้าวกัน ไอ้โน้ต  มันก็เดินผ่านหน้าร้านไปมา  ตั้งหลายรอบจน  ไอ้รันถาม

“มันโกรธแล้วงอนมึงป่าววะไอ้คม”

“ช่างแม่ง”ไอ้คมตอบ
.........................................

.................นับแต่วันนั้นมา  ทุกวันผมกับไอ้คมก็จะไปกินข้าวด้วยกันทุกเย็น  บางวันก็มีไอ้รันไปด้วย 
และทุก ๆ วันไอ้โน้ตก็จะเดินตามมาเสมอๆ  จนพวกเรารู้สึกชิน

“นี่ๆ  วันนั้น  กูน่ะนะ  ไปเจอ...........”ผมก็โม้ไปตามเรื่องราว  พร้อมกับหัวเราะอย่างสนุกสนาน  ไอ้รันก็ร่วมคุยด้วยจน

“ปึ้ก”  ผมโดนชนอย่างจังครับ  ล้มดิครับ  เงยหน้าไปดู  ใครวะ สูงชะมัด  180  ได้มั้ง ตัวควายชิบหาย

“ไอ้โน้ต ...”ไอ้คมพูดขึ้นมา

“เฮ้ย...แม่งชนกูทำไมวะ”  ผมโมโหดิครับ  มึงเป็นใครมาแกล้งกูหาาาาาาาา  ไอ้รันพยุงผมขึ้นมาครับ

“ทำไมมึงไม่ชวนกูมา”  ไอ้โน้ต พูด

“มึงเคยบอกว่าจะมาเหรอ”  ไอ้คม....มันโมโหครับ....เอ.......โมโหทำไมหว่า

“มึงมีตีนมึงก็มาเองดิ  จะให้คนอื่นชวนมึงทุกวันเหรอ”ผมกัดเลยครับ

“ใช่  ไม่ใช่ควายต้องมีคนลากจูง” ไอ้รันครับด่าเจ็บจริงๆ 55555

“ไม่ใช่เรื่องของมึงอย่ายุ่ง”  ไอ้โน้ต มันพูดมองหน้าผมด้วย คร้าบ

“ช่าง  แม่ง  เรื่องของมึง”  ไอ้คมด่าครับ  ผมไม่เคยเห็นมันโมโหขนาดนี้เลยครับ 

“ป่ะ”ไอ้คมพูดพร้อมจูงมือผมเดินผ่านมันไปเลยครับ  ส่วนไอ้รัน  เดินตามมาครับ  ปล่อยไอ้เชี่ยโน้ต  เป็นควายไป

..............เรากินข้าวกันตามประสาครับ  แต่อารมณ์เซ็งยังไม่หมดไป  จนพี่จาง  เดินผ่านมา  พวกผมก็ทักทาย
ตามระเบียบ 

“เฮ้ยๆ  ครบองค์ ....ป่ะ  กินเหล้ากัน”  ไอ้พี่จางพูด

“กินๆๆๆๆ”ไอ้รันพูดขึ้นมา  ไอ้นี่มันชอบของฟรีครับ

“ก็ดี”ไอ้คมพูดทำหน้าเซ็ง ๆ   ส่วนผมก็ไม่อยากขัดเพื่อนให้เสียอารมณ์  ลงท้ายเราก็เลยกินเหล้ากัน

กินไปกินมาเริ่มอารมณ์ดีกันครับ  แย่งกันพูดเชียวนะพวกมึงทีไม่เมานะปล่อยให้กูพูดอยู่คนเดียว  แต่คราวนี้แปลก ๆ
ไอ้พี่จางกินเท่าไหร่ก็ไม่เมาครับ  เฉยๆ  แต่ทำไมครั้งก่อนคออ่อนจัง

“เน่ะ  พี่จาง  ทำไมไม่เมาล่ะ  ทีวันนั้น  แค่เบียร์ก็ไปละ” ผมถามทีเล่นทีจริง

“ก็ไม่อยากให้แกอายที่คออ่อน  ก็เลย  แกล้งเมาเป็นเพื่อน”พี่เขาตอบพร้อมยิ้มแบบแปลกๆมา  .....แกล้งเหรอวะผมคิด...หาาาาาาาาแล้วที่โอบเอวกูก็ตั้งใจอ่ะดิ  ซวววววววววยยยย  ล่ะ กู  โดนหลอกแล้ว

“เฮ้ย  งั้นพี่  ทำไม....”  ผมพูดได้แค่นั้นครับ  เพราะไอ้คมมันตบบ่าผมครับ

“กูมีเรื่องจะเล่า” มันพูดครับ  ส่วนผมจ้องหน้าพี่จางเขม็งเลยครับ  ส่วนพี่เขาหัวเราะครับ  น่าถีบจริงๆ

“ไอ้โน้ตน่ะ  มันแปลกว่ะ”  มันทำหน้าจริงจังครับ  ผมเลยหันไปมองมัน  อดสำรวจมันไม่ได้  มองหน้าขาวๆ ของมัน 
จ้องตาคู่นั้น  มองแขนและกล้ามเนื้อหัวไหล่ของมัน

“มีวันนึงมันเมา.....มามานอนกับกู” ผมหันขวับเลยครับเมื่อมันพูดคำว่า  นอน  ออกมา  โกรธครับ
........เอ๊  กูโกรธทำไมวะ  แปลกใจตัวเอง  ไอ้คมมันมองหน้าผมครับ  แล้วมันก็รีบพูดว่า

“ ไม่ไช่อย่างนั้น...ไอ้ทิศ”

“ว่ามา”ผมจ้องตามัน

“มันมานอนเตียงกู...กอดกู.....กูก็เลย...ย้ายไปนอนเตียงมันแทน”  เฮ้อค่อยยังชั่ว....ฟู่

“แล้วมันก็เดินมากอดกูอีก”

“เฮ้ย”ผมร้องเสียงหลง เลยครับ  ตัวแดงเพราะเหล้า

“กู  ก็เลยไปนอน  ห้องอื่นเลย”  ค่อยยังชั่ว  เอ๊  กู  ลุกขึ้นยืนตั้งแต่เมื่อไหร่  ว่าแล้วก็รีบนั่งลง  อย่างเร็ว

“มัน ชอบมึง”  ไอ้รันครับ  มันสรุปเลยครับ  ไม่มีใครทำท่าแปลกใจแต่อย่างใด  เพราะมันค่อนข้างชัดเจนทีเดียว

“แล้วมันชนกูทำไม”  ผมถามด้วยความงง

“มันกลัวมึงแย่งไอ้คมจากมันไง”  ไอ้รันตอบ อย่างมั่นอกมั่นใจ

“เฮ้ย”  ตกใจครับ  ตบโต๊ะ  ลุกเลยครับงานนี้ 

“มันนึกว่ากู ชอบไอ้คมเหรอวะ”  ผมถามทำตาโต

“ก็พวกมึงตัวติดกันชิบหาย  หยอกล้อกัน  กินข้าวด้วยกันทุกวันนี่หว่า”  ไอ้รันพูด ครับ

“ก๊ากกกกกกไอ้คมเนี่ยนะ”ผมต้องกลบเกลื่อนแก้เขินครับ  หน้าผมแดงกว่าเก่า นั่งเลยครับ  แอบมองไอ้คมนิดนึง
มันมองมาครับ  เอ๋า  กู  เขินทำไมเนี่ย

“แต่กูไม่ได้ชอบมัน....แม่งโรคจิต....เดินตามกูทุกวัน”  ไอ้คมพูดครับ

“ใครเหรอ” พี่จางถาม  เพราะยังไม่รู้เรื่อง  ไอ้ รันจึงบอกไปอย่างละเอียด  ทีนินทาน่ะเก่งนักนะมึง5555

เราคุยกันไปอีกพักใหญ่ครับ

“ไอ้ทิศ”ไอ้คมเรียกผมครับ

“หืม” ผมหันหน้าไปหามันครับ  แต่มันหลบตาครับ  ยิ้มด้วย

“กูว่ามึงพอเหอะ  ตัวแดงหมดแล้ว  หน้าก็แดง”พอมันพูดจบ  ผมมองดูมือตัวเองครับ

“จ๊าาาาาาาาาากกก” ตกใจครับ  มันแดงมากๆ  เลย  แล้วหน้าก็ร้อนด้วย  เหมือนจะหน้ามืด

“งั้นกลับกันเหอะ” พี่จางพูดขึ้นมาครับ  แล้วไอ้คมครับมันมาพยุงผม  เราเดินกลับกัน  ไอ้คมมาส่งผมที่ห้อง 
มันมองหน้าผม  ผมก็มึนแล้ว  ไม่รูเรื่องยิ้มอย่างเดียว

“ถ้าพวกเกย์เห็นมึงตอนเมานะ  เขาคงอยากมอมมึงเลยแหงๆว่ะ555”  ไอ้คมพูดครับ  กะจะยั่วให้โมโห
เพราะผมจะโมโหมากถ้ามีคนมาว่าว่าเป็นเสป็คเกย์  ส่วนผมเหรอ  55555  หลับแล้วคร้าบ โดยที่มันกอดอยู่เช่นเคย.......

ซักพักนึง

“เฮ้ย  ทำอะไรน่ะ”  ผมตกใจตื่นเลยครับ  แต่ยังคงซบมันอยู่เพราะหมดแรง  ไอ้คมก็ดูตกใจครับ  มันสะดุ้งเลย

“กูมาส่งไอ้ทิศ  ทำไมมึงมีปัญหาอะไรไอ้โน้ต” พอผมได้ยินชื่อไอ้โน้ต  ผมก็สะดุ้งเลยครับ  เงยหน้ามามองไอ้คม
แล้วบอกมันว่า

“กู เข้าห้องก่อนนะ  พวกมึงคุยกันเอง”  แล้วผมก็เปิดประตูห้องออก เดินเข้าไปปิดประตูไว้  ล็อกลูกบิด 
แต่ผมยังไม่ปล่อยมือจากลูกบิด  เพราะอยากรู้ว่ามันจะเปิดเข้ามาหาผมมั้ย  ปรากฏว่า ลูกบิดขยับนิดนึงครับ 
ผมดีใจยิ้มเลยครับ  แล้วก็ค่อยๆคืบคลานไปนอนลงบนเตียงแล้วก็หลับไป

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Wordslinger ที่ 06-06-2007 12:58:46
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

ไม่ชอบสั้นๆๆๆๆๆ จะอาวยาวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ปล. หนุกจังเรยอ่ะ :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-06-2007 13:44:16

..........ราวังนะ.........ไอ้เมาเนี่ย...ตัวดี.... :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-06-2007 14:00:11
มีคู่แข่งซะล่ะ กล้าหาญขนาดนี้ด้วย ลำบากแล้วท่าน
 o3
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 06-06-2007 14:50:39
ความรักคือการช่วงชิง  o3  คู่แข่งเยอะๆจิดี หนุก





ปล. เรื่องหนุกดีนะ  o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 06-06-2007 15:38:20
 o1

ลูกบิดขยับ

หมายความว่าอย่างไร ไม่อยากจิ้นเลยอ่ะ

มาต่อไว ๆ นะครับ  รออยู่

เป็นกำลังใจให้คับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-06-2007 16:23:34
คมจาเข้ามามั้ยน๊า รออ่านอยู่จ้า  :o9:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-06-2007 19:28:39
อืม ล็อกประตูแล้ว ยังอยากรู้ว่าเขาจะเข้ามารึเปล่า  o22
มาต่อไว ๆ น้า สนุกดีจ้า   :interest:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 07-06-2007 01:47:49
 :laugh3: :laugh3:  ปรากฎว่าเปนโน้ตจะเข้ามาฆาตกรรมทิศ  :laugh3: :laugh3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 07-06-2007 15:35:05
 :o
 :serius2:
 o9

ทำอาไรกานเคอะ 
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 07-06-2007 18:15:22
คือไอ้ที่ลูกบิดขยับเนี่ยผมยากสื่อว่ามันเป็นความต้องการส่วนลึกๆของทิศน่ะครับ o8
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 5 สนามเด็กเล่น

“ทำไงดีวะ”ผมรำพึงกับตัวเองเบาๆ ในตอนเย็นของวันศุกร์ที่วุ่นวาย โอย ใครจะช่วยกูได้มั้งเนี่ย
พอผมนึกภาพเพื่อนๆทีละคนๆ คนแรกที่ปรากฏออกมา กลับเป็นไอ้คมครับ ไม่รู้ทำไม ผมหยิบโทรศัพท์มาโทรหามัน

“...ตู๊ดดดด.........ตู๊ดดด.......เออว่าไง”มันรับแล้วครับ

“ไอ้คม ทำไงดีกูหลงทาง”ผมพูดอย่างร้อนรน

“เฮ้ย!!!”มันก็น่าตกใจอยู่หรอก..เฮ้อ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อ 3 ชั่วโมงก่อน ผมต้องไปทำธุระให้ญาติที่อยู่ในกรุงเทพ ผมนั่งรถเมล์ไปบ้านของแกซึ่งค่อนข้างไกล
นั่งรถ 2 ชั่วโมงแน่ะ(รถติด) พอผมทำธุระเสร็จ ขึ้นรถกลับดันหลับซะนี่ นั่งจนถึงท่ารถโดนกระเป๋าไล่ลงมา
งงงวย งวยงง เอ ที่นี่ที่ไหน ..........แย้กกกกก!!!!........หลงทางในเมืองใหญ่ซะแล้ว........
เออลองเดินไปเดินมาดูก่อนแล้วกัน......เดิน....เดินแล้วก็เดิน.....ไม่คุ้นแฮะ.......หรือจะนั่งแท็กซี่กลับเลยควักกระเป๋าเงินออกมา......แย้กกระเป๋าหาย.....เคยไหมครับอาการหน้ามืดจากการตกใจ.......แงกูจะตายไหมเนี่ย  เหงื่อออกเต็มตัว......

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“มึงก็นั่งแท็กซี่มาดิอย่าโง่”มันว่า

“กระเป๋าหาย”ผมพูดแบบสำนึกผิด.......ทั้งๆที่ไม่รู้ต้องรู้สึกผิดทำไม.....แต่รู้สึกเหมือนจะโดนผู้ใหญ่ดุอ่ะ

“เฮ้ย..........มึงนี่น้าไม่เคยจะรอบคอบเลย......แล้วมึงอยู่ไหนล่ะ”มันถาม

“เอ๋า....ถ้ากูรู้ว่าอยู่ไหนเค้าจะเรียกว่าหลงทางเหรอ.....มึงคิดไหมเนี่ยก่อนที่จะถามกู”แน้มีย้อนแฮะผม

“อย่ากวนตีน.....ไปถามคนแถวๆนั้น”มันออกคำสั่ง ผมได้ยินเสียงรถดังในมือถือมันคงกำลังเรียกแท็กซี่
ผมเลยเดินไปถามคนแถวๆนั้นว่าที่นี่ที่ไหน ผมโคตรอายเลย พอรู้แล้วก็บอกมันไป ก็ได้ยินมันบอกกับแท็กซี่อีกทอดหนึ่ง

“รออยู่นั้นแหละ...อย่าวิ่งพล่านไปไหนล่ะ”มันว่าก่อนจะตัดสายไปดื้อๆ วิ่งพล่าน??? มึงเห็นกูเป็นอะไรเนี่ย
เอาน่าๆ อย่างน้อยๆมันก็จะมาช่วยล่ะวะ ผมนั่งรอตั้งนานมันก็ไม่โทรมาซะที ร้อนก็ร้อน มืดก็มืด
น่ากลัวกูจะโดนปล้นมั้ยเนี่ย

“น้องครับ”มีคนพูดข้างหลังครับ

“ครับ”ผมหันหน้าไป ปรากฏว่าเป็นคนที่ผมถามทางอ่ะครับ ผู้ชายคัวท้วมๆ ดำๆ หนวดๆ

“พี่ยืมตังค์หน่อยดิ 20 บาท”เอาแล้วไงกู พูดไม่ทันขาดคำ โดนปล้นซึ่งๆหน้าเลย

“เอ่อ.....กระเป๋าตังค์ผมหายน่ะครับพี่”ผมว่า พร้อมกับใช้สมองอย่างรวดเร็ว

“งั้นน้อง...”โจรยังพูดไม่ทันขาดคำผมก็พูดสวนขึ้นมา

“อ้าวพอดีเพื่อนโทรมาแล้ว....ขอบคุณครับพี่ที่บอกทาง”ผมรีบเดินมา เอามือถือมาแนบหูแทบไม่ทัน จั้มอย่างรวดเร็ว
มือถือก็ต่อสายไอ้คมตั้งแต่อยู่ในกระเป๋าแล้ว เผยพิรุธสุดๆ

“...ตู๊ดดดด.........ตู๊ดดด......”รับดิ๊รับดิ๊ ผมบ่นอุบ มึงไม่รับกูตายแน่เพราะผมได้ยินเสียงคนเดินตามมาอย่างกระชั้นชิด

“เออ....อะไรอีก”มันรับแล้วครับ

“มึง.....มีคนเดินตามกูมาอ่ะ”ผมว่า แอบหันหลังไปดู ปรากฏว่าพี่อ้วนดำตามมาจริงๆครับ

“คิดมากรึเปล่ามึง”มันว่าน้ำเสียงสงสัย

“มากป๊ามึงดิ......ไอ้คนที่กูถามทางนั่นแหละ.....มันมาขอตังค์กู........กูบอกไม่มีแล้ววิ่งหนีมา........
แล้วตอนนี้มันก็เดินตามมาอยู่เนี่ย”ผมว่าเบาๆ พร้อมเร่งฝีเท้าโดยเร็ว เหงื่อเริ่มแตกแล้วครับ

“จริงดิ”มันถามผมตื่นๆ

“เออ......แม่งมืดก็มืด.....ถ้ากูโดนฆ่าตายที่นี่......คงหลายวันกว่าจะมีคนมาพบศพ”แน้ผมยังมีมุขเล่นอีก

“แล้วมันตามมาใกล้มั้ย”มันถาม ผมเหลียวหน้ากลับไปก่อนจะออกวิ่ง พร้อมบอกมันว่า

“มัน.....มันวิ่งตามกู....มาแหล่ว....มึงมาช่วยกูที”ผมวิ่งสุดขีดครับ แต่ก็ยังไม่ว่างมือถือ

“มึงรีบวิ่งหาแสงดิ.....ไม่งั้นก็หาคนเยอะๆ”มันพลอยตื่นเต้นไปด้วยครับ

“รู้...แฮ่กๆ......แล้ว”ผมตอบไปหอบไป

“พ้นยัง”มันถามต่อ ผมหันหลังกลับก่อนที่จะบอกมันว่า

“...แง......มันมีเพื่อนด้วย....2 ....คน.....มึงรีบมาดิ”ผมบอกมัน......มือก็ถือมือถือ.......ขาก็โกยสุดขีด

“มึงอยู่ไหนแล้ว....ลองร้องไห้คนช่วยดิ”มันว่าน้ำเสียงร้อนรน

“....กู.....แฮ่กๆ.....กำลังวิ่งเข้าหาเซเว่น....แฮ่กๆ..”ผมตอบไป....เวลาเหลียวหน้าไปมองยังไม่มี....
แต่ยังได้ยินเสียงวิ่งตามอยู่

“กูเห็นมึงแล้ว......รถแท็กซี่อยู่หน้าเซเว่นเนี่ย...รีบขึ้นมา”มันว่า แต่สำหรับผมเหมือนเสียงสวรรค์เลยครับ
มองไปที่แท็กซี่ด้านหน้า ไอ้คมมันเปิดประตูรถไว้คอยท่าแล้ว ผมเห็นมันห่างไปประมาณแค่ 10 เมตร
พอผมถึงรถ ผมก็มุดเข้าไป ไอ้คมมุดตามาแล้วปิดประตูไห้ผม ดังปึง แล้วรถก็แล่นจากไปทันที

“แฮ่กๆๆๆ”ผมยังหอบไม่หยุดยั้ง แต่ไอ้คมหัวเราะร่า มันด่าว่าผมงี่เง่าครับ มันบอกผมว่า

“ลุงแกวิ่งไล่เด็ก.....แล้วก็ตะครุบตัวเด็กได้ตั้งแต่รถกูจอดหน้าเซเว่นแล้ว” แป่ว ผมหน้าแตกแหลกละเอียด

“แล้วไอ้เพื่อนลุงที่มึงเห็นอ่ะ คงเป็นลูกมั้ง 10 กว่าขวบทั้ง 2 คน”มันยังไม่หยุดครับ ถึงว่าทำไมมันเหมือนหนัง
โจรจะวิ่งไล่ปล้นคนกลางเมืองเรอะ ผมคิด แต่ปากก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอหรอก

“ก็หน้าแกเหมือนโจรนี่หว่า.....โคตรน่ากลัวเลย”ผมยังตื่นเต้นไม่หาย มันหัวเราะอีกพักใหญ่ ก่อนจะถามผมว่า

“กลัวมากมั้ย”

“เออดิ.......มึงลองมาเจออย่างกูมั่งดิ”ผมโวย

“หายกลัวยัง”มันพูดเบาๆ

“กำลัง....ยังใจเต้นไม่หายเลย”ผมตอบ พร้อมเอามือกุมหน้าอกไว้ ที่มันเต้นตุบๆ เพราะความตื่นเต้น
ผมนั่งนิ่งๆอยู่นาน มันก็ไม่ได้พูดอะไร ผมคิดว่ารอลงรถก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องกระเป๋าตังค์ที่หายไปละกัน
ขณะที่คิดอยู่รถก็ขับผ่านถนนราชดำเนิน ที่ถูกประดับประดาด้วยแสงไปที่สวยงาม(ช่วงนั้นมีเทศกาลน่ะครับ)

“อยากไปเดินจัง”ผมรำพึงเบาๆ

“พี่ครับจอดตรงนี้แหละครับ”มันบอกคนขับแท็กซี่แล้วจ่ายเงินทันที

“เฮ้ย...ยังไม่ถึงมหาลัยเลย”ผมพูด แต่มันก็แค่นั้นครับเพราะมันดันผมออกมานอกรถเรียบร้อย

“ก็กูลืมว่ากูมีตังค์ไม่พอ เนี่ยกูเหลือ 5 บาทเอง เราเดินกลับละกัน ไม่ไกลเท่าไหร่หรอกน่า”มันว่าพร้อมเดินนำหน้าเลย

“ทำไมมึงไม่มีความรอบคอบเลย.....แม่งไม่รู้จักพกเงินเยอะๆ”ผมบ่นอุบก่อนที่จะเดินตามมันไป

“เออ....เนี่ยเพราะกูมาช่วยมึงไง..กูเลยรีบออกมา....ไม่ได้เอาตังค์มาเผื่อ...พอใจยัง”มันพูด หันหน้าไปอีกทางหนึ่ง

“...ขอโทษ.....กูก็บ่นไปงั้นแหละ.....น้า..นะ”ผมก็ง้อมันไป เพราะผมทำไห้มันลำบากนี่ครับ

“ช่างมันเหอะ”มันว่า ท่าทางยังงอนอยู่ ผมจึงเล่าเรื่องตลกๆไห้มันฟังหลายเรื่อง เช่น
มีพระอาจารย์ที่เคยสอนศาสนาผมตอน ม. ปลาย แกออกสาวอย่างเด่นชัด ผมจึงตั้งฉายานามให้แกว่าหลวงป้า
พอไอ้คมฟังเท่านั้นแหละครับ มันหันเราะก๊ากเลย ถัดจากนั้นผมก็เล่าเรื่องอีกหลายเรื่องจนมันยิ้มออก
คงหายงอนผมแล้วมั้ง ขณะที่เราพูดคุยกัน เราก็เดินชมความสวยงามของถนนยามค่ำกันด้วย
ผมรู้สึกสนิทใจกับมันมากๆครับ รู้สึกเหมือนว่าผมสามารถเล่าทุกอย่างไห้มันฟังได้อย่างไม่ต้องอาย
ท่ามกลางผู้คนรอบกายผมรู้สึกว่ามันเข้าใจผมครับแปลกดีจริงๆ เราเดินกันอยู่นาน
ผมไม่มีอะไรจะพูดเลยบอกมันว่า

“ขอบใจนะที่มาช่วยกู....ไม่งั้นกูคงแย่แน่”ผมบอกมันแต่ไม่ยอมมองหน้ามัน ผมรู้สึกว่ามันกำลังมองมาครับ

“ไม่เป็นไรมึงกำลังลำบากกูฟังเสียงก็รู้แล้ว”มันบอก ยิ้มนิดหนึ่ง

“นี่มึง..มึง”ผมพูดได้แค่นั้นครับเพราะมือถือมันดังขึ้นมาซะก่อน มันรีบรับ

“ว่าไง ไอ้โน้ต”มันตอบในโทรศัพท์ครับ ผมรู้สึกแปลกๆครับที่ได้ยินชื่อไอ้โน้ต แน่นอนย่อมไม่ไช่ความรู้สึกที่ดี

“อืมกูจะไปเดี๋ยวนี้”ไอ้คมพูดพร้อมโบกมือเรียกแท็กซี่

“อือๆ เดี๋ยวไปรับแค่นี้แหละ”มันวางหูเปิดประตูแท็กซี่ที่พึ่งจอด

“แล้วกูหล่ะ”ผมถามมันเพราะรู้ว่ามันจะทิ้งผมแล้ว

“เอ้ากลับแท็กซี่ซะ”มันเอาเงิน 100 บาทยัดมาที่มือผมแล้วขึ้นรถหนีไปเลยครับ ผมงง ไหนบอกกูมีเงินแค่ 5 บาทวะ
ผมกะจะเรียกแท็กซี่กลับ แต่ไหนๆก็เกือบถึงมหาลัยแล้วเดินกลับก็ดี แก้เซ็งดี ไม่รู้ผมเป็นอะไรครับรู้สึกเซ็งมากมาย
เลยเดินไปเรื่อยเปื่อย พอเมื่อยกำลังดี ก็อีกไม่ถึงร้อยเมตรก็ถึงหอแล้ว แต่อารมณ์ยังคงเซ็งดุจเดิม
สายตาเหลือบไปเห็นสนามเด็กเล่นเล็กๆข้างถนน มีชิงช้าด้วยแฮะ กลับไปก็ไม่มีอะไรทำ ผมเลยนั่งชิงช้าซะเลย
ไกวไปไกวมาอารมณ์เริ่มดีขึ้นแล้ว ผมหยิบเครื่องเล่น mp3 ออกมา (พกติดตัวเสมอ เวลาอยู่คนเดียวจะได้ไม่เหงา)
เปิดเพลงฟังเพลินๆ ได้หลายเพลงอยู่ก็มีมือมาตบที่บ่าผมอย่างแรง ป้าบ ผมหันขวับกลับไปอย่างแตกตื่น
คนที่ตบบ่าผมคือ......คือ......ไอ้พี่จางครับ

“โห....ดำก็ดำยังโผล่มาข้างหลังอีก....เกรงใจผมมั่งเห้อ”ผมโวยนิดๆหันหน้าไปด้านหน้าต่อ

“นี่ไอ้ทิศ....พาพี่ไปส่งหอหน่อยดิ”พี่จางว่า กลิ่นเหล้าหึ่ง

“พี่รู้มั้ย...ผมเจอพี่ทีไรพี่ก็เมาทุกที.....พี่ไม่เบื่อเหรอที่เจอผมตอนตัวเองเมา”ผมบ่นอย่างเซ็ง

“ไม่..........พี่เจอทิศเวลาไหนพี่ก็ไม่เบื่อ”พี่จางว่าพร้อมเอาคางมาเกยบ่าผมจากด้านหลัง

“เน่ะๆ....อย่ามาลามปามนะ...ผมไม่เชื่อหรอกว่าพี่เมา........ถ้าอยากกลับกลับเอง....ใครจะแบกไหว”ผมยังบ่น
พร้อมเบี่ยงหน้าออกจากการเสียดสีของพี่แก

“น่านะ....พี่เมาจริงๆ.....แล้วเราก็ประคองพี่เฉยๆก็ได้นี่นา”พี่แกว่า ผมก็เออๆ กลับก็กลับวะ
อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลับคนเดียว

“โอเค...งั้นสมมุติว่า...ผมเชื่อว่าพี่เมาแล้วกัน.....พอใจยัง”ผมว่า แล้วลุกขึ้นมือที่วางบนไหล่ผมให้โอบรอบคอ
แต่ไอ้พี่จางเอามืออีกข้างมาโอบเอวผมด้วย

“พี่ๆเกินไปละ....ผมลดตัวลงช่วยพี่ก็ถือเป็นพระกรุณาธิคุณแล้ว....เกรงใจผมมั่ง”ผมก็บ่นไปตามประสา
แต่ไม่ได้ปัดมือพี่แกออกเพราะตัวผมเล็ก แขนข้างเดียวกลัวว่าจะไม่พอรับน้ำหนักควาย เลยยอมๆพี่แก
แต่ปากผมก็ยังบ่นไม่หยุด คล้ายกลัวแถวนี้เงียบเกินไป ส่วนพี่จางก็คุยจ้อไม่หยุด ผมเลยรู้สึกดีที่มีเพื่อนคุย
ถึงไม่ค่อยจะมีสติก็เหอะ

.....................................................................................ท่ามกลางความสงบของสนามเด็กเล่นผมไม่รู้เลยว่ามีอีกสายตาที่คอยจ้องมองมาตลอดด้วยความสับสน...........ไอ้คมนั่นเองที่ยืนอยู่หลังพุ่มไม้ด้านข้างนั่น

stoty by นายโฮะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่างนี้อาจติดขัดหน่อยนะครับเพราะเน็ตที่บ้านมีปัญหาน่ะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-06-2007 19:01:07
หุหุ เริ่มมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันแล้ววุ้ย  o18
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: in_the_sky ที่ 07-06-2007 21:43:42
ทิศน่ารักอ่ะ แอบเชียร์พี่จาง......ได้ใจจริงๆ o13


หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 07-06-2007 22:44:57
เรื่องนี้มีแต่คนแผนสูง  :o9:  คนนึงบอกลืมเงินมีติดตัวแค่5บาท  อีกคนก็แกล้งเมา  o3  ถ้าเมาจริงต้องทำไม่ได้แน่ๆ  o17
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 07-06-2007 22:56:49
 o1

ขอให้เข้าใจกันกันนะ คม กับ ทิศ

เป็นกำลังใจให้น๊า...........

มาต่อไว ๆ นะครับ

 :impress:

หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 07-06-2007 23:16:19
เรื่องสนุกมากคับ มาต่อเร็วๆนะ เปงกามลางใจให้คับ o13 :like6:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 08-06-2007 13:59:01
 :impress:

หายไปนานจังเลยครับ

รออยู่นะครับ

 o15
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 08-06-2007 14:36:39
ตามคำเรียกร้องครับ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 6 การตัดสินใจที่เงียบเหงา

“ก๊อกๆ”ผมได้ยินเสียงเคาะประตูห้องแต่เช้าครับ รำคาญชิ๊หาย ใครวะผมคิด

“เออๆ กำลังๆ”ผมบอกงัวเงียก่อนจะเดินไปเปิดประตู

“เฮ้ย....อ้าวมีอะไรแต่เช้า”ไอ้คมครับมันมาหาผมแต่เช้า ในสภาพชุดนิสิตเรียบร้อย

“กูมีเรื่องคุยด้วย”มันว่าแล้วเดินเข้ามานั่งที่เตียงผมอย่างไม่เกรงใจ ด้วยความที่เรียนสายศิลป์
ตารางเรียนของผมเลยว่างกว่าพวกพี่เมทเยอะ พวกพี่ๆเขาไปเรียนแต่เช้า ส่วนผมโน่น 10 โมงก็ยังทัน

“มีอะไร”ผมนั่งลง สังเกตมันก้มลงมองอะไรของมัน ผมเลยก้มตาม ปรากฏว่าผมใส่แค่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวนอนครับ
เสื้อก็ไม่ใส่ มันเลยค่อนข้างไม่สุภาพ ผมรีบเอาหมอนมมาบังไว้เลยครับ อายเลย

“เอ้าก็ว่ามาดิจะไปอาบน้ำ”ผมโวยตามนิสัย พยายามหลบตามัน

“เมื่อวานกลับยังไง”มันถามผม

“ก็เดินกลับ...ไหนๆก็เกือบถึงหอแล้ว”ผมเริ่มสร่างแล้วครับ สังเกตุมันอารมณ์ไม่ค่อยดีครับ คิ้วขมวดเชียวนะมึง

“กลับคนเดียวเหรอ”มันถามผม ผมก็คิดเมื่อวานไอ้พี่จางถือเป็นคนมั้ยวะ5555

“ก็ไม่เชิง....มีคนเมากลับด้วย”ผมเลยตอบมันไปยิ้มๆ ขำพี่จางแก

“เออ ....งั้นกูไปละ”มันว่า ลุกเลยครับ เดินจ้ำๆไปถึงประตู ผมเลยงง อยู่ๆก็โกรธซะงั้น

“เฮ้ยเดี๋ยว”ผมลุกขึ้นคว้าหมับที่แขนมัน กระชากมันหันหน้ามา หน้ามันงี้โคตรหน้ากลัวเลยครับ

“แล้วเมื่อวานมึงกับไอ้โน้ตไปไหน”ผมถามอย่างอารมณ์เสียทั้งๆที่ไม่รู้ว่าทำไม

“ทำไมมึงอยากรู้เหรอ”มันว่า ผมสาบานได้มันแอบยิ้มครับ ฮึ่มไอ้เลว

“ไม่หนิ”ผมว่าลอยหน้าลอยตา

“แล้วมึงดึงแขนกูทำไม”มันว่ามียิ้มมุมปาก พอผมรู้ตัวว่ายังจับแขนมันอยู่ ผมก็ปล่อยดิครับ แล้วรีบแก้ตัวทันที

“ก็กูไม่ได้ใช้ตังค์ที่มึงให้ไว้กลับหอนี่ เลยจะเอาคืนให้”55555ผมแก้ตัวอย่างแนบเนียน

“มึงกระเป๋าตังค์หายไม่ไช่เหรอ....เก็บไว้แดกข้าวเลย”มันว่า

“แหมหวานกันแต่เช้าเลยนะคู่นี้.....เรารึอุตส่าห์มาชวนไปเรียน”เสียงของพี่จางดังขึ้นก่อนที่แกจะโผล่มาตรงประตู
แล้วเห็นสภาพผม

“เฮ้ย....ไอ้ทิศมึงถึงขั้นแก้ผ้าแล้วเหรอ”พี่จางยังแซวไม่เลิก ขำครับขำ พี่แกหัวเราะไม่เลิก ส่วนผมเอามือบังเป้าเอาไว้
ไอ้คมยืนตรงกลางนิ่งๆ

“ไม่ใช่อย่างงั้น  ไอ้คมมันมาเอาเงินที่ผมยืมมันไปน่ะ”ผมรีบแก้ตัวแต่รู้สึกอายชิหายเลย

“เออ.......กูไปได้ยัง”ไอ้คมว่า กระแทกเสียงใส่ผม แล้วเดินออกไปเลย ผมก็งง อารายของมันว้า

           วันนั้นผมไม่ค่อยมีสมาธิเรียนเลย  คอยแต่คิดเรื่องไอ้คมกับไอ้โน้ต  ว่ามันไปไหนกัน แถมยังหวั่นๆ
เรื่องที่มันเป็นเมทกันด้วยครับ  แล้วคิดว่าไอ้คมมันโกรธผมเรื่องเมื่อเช้ารึเปล่า  พอนึกๆแล้วตกใจ 
กูคิดถึงมันทำไมเนี่ย  แล้วที่กูนึกแบบนี้  กูหึงมันเหรอ  ............นึกไปนึกไป    แม่ง หรือกูจะชอบมันวะ   
พอนึกอย่างนี้แล้วใจสั่นเลยครับ  น้ำตาพาลจะไหล  นึกในใจ  “ไม่เอากูไม่อยากเป็นเกย์” 
แต่เดือนกว่าที่ผ่านมาที่มีมันอยู่ด้วย  ผมไม่เคยเหงาและเดียวดายอีกเลย  เพราะคำพูดและสายตาที่ไอ้คมมองมา
มันช่างอ่อนโยนและจริงใจ  มันคอยอยู่เป็นเพื่อนของผมเสมอโดยไม่เรียกร้องอะไรจากผมเลย  แต่ผมมีแต่แกล้งมัน 
หยอกมัน.....................ผมเริ่มถามใจตัวเองว่าผมชอบมันไหม 
ผมก็ต้องถามตัวเองก่อนว่าผมมีความสุขที่มีมันอยู่ด้วยมั้ย  ซึ่งมันมากมายจนผมลืมความทุกข์กัดกินจิตใจมาตลอดได้ 
และแน่นอนว่าไม่อยากให้มันไปใหน  ถ้าถามว่าผมหึงหวงมันใหม  มันก็มีบ้าง อย่างเมื่อคืน  แต่เรื่องหวง
กับเพื่อนผมก็เป็นนะ  เลยไม่รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่  ผมเลยคิดว่าผมอาจจะคิดกับมันอย่างเพื่อน.............
แต่มีอย่างหนึ่งที่ผมกลัวเหลือเกิน  คือสิ่งที่อยู่ในตาของมัน  โดยเฉพาะ  ตอนที่มันแย่งมือถือของผมไป 
ผมกลัวเหลือเกินว่ามันคืออะไร  อีกใจหนึ่งก็มุ่งหวังให้มันมากกว่านั้น.......................................
และตรงนี้แหละที่ผมหนักใจ   ถ้าผมเกิดคิดกับมันมากกว่าเพื่อนล่ะ..........ความรักแบบนี้คงไม่มีผลลงเอยที่ดี..............
ผมกลัวใจตัวเอง.......กลัวใจมัน...........กลัวทำมันเสียใจ.......กลัวเกินกว่าที่จะเดาอนาคต..........และผมก็ตัดสินใจ....
ที่จะห่างจากมันไปทีละนิดๆ  โดยไม่ให้มันรู้ตัว  เดี๋ยวมันจะรู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิดถึงทำให้ผมต้องห่างๆมัน.....
ทั้งๆที่ทุกอย่างเป็นเพราะผมอ่อนแอเอง......โชคดีที่ตอนเช้ามันโกรธผม.....มันคงไม่อยากเจอผมอีกพักใหญ่......
พอคิดถึงตอนนี้  น้ำตากลับไหลออกมา  เพื่อนๆ  พากันมองมา  เพราะผมเป็นคนร่าเริงเสมอ  แต่ทำไมวันนี้...........
พอน้ำตาไหลผมก็ยิ่งมั่นใจว่าผมต้องเริ่มห่างๆมันให้เร็วที่สุด  เพราะการไม่มีมันอีกหน่อยคงยากกว่านี้ 
ดังนั้นต้องรีบตัดปัญหา.............พอตัดสินใจแล้วผมก็เช็ดน้ำตา    ยิ้มให้อากาศ 1 ที  แล้ว คิดแผนต่างๆนานา 
โดยลืมนึกไปว่า............................ตัวผมจะทนเหงาได้ไหมเมื่อไม่มีมัน..................

ตกเย็น  ไอ้คมโทรหาผม ผมไม่ยอมรับ   รอจนมันวางไป  .......พักนึงมันก็โทรมาใหม่   ไม่ยอมหยุดเลย   ผมเลยต้องรับ

“อื่อ”ผมพูดในโทรศัพท์

“ทำไมไม่รับ” ไอ้คมถามครับ  น้ำเสียงโคตรกดดันเลย

“กูนอนอยู่”  ผมตอบไปตามประสา

“โกรธกูเหรอ”มันถาม

“โกรธเรื่องอะไร”ผมถามมันกลับ

“ก็เรื่องที่กูปล่อยให้มึงกลับคนเดียว”มันว่า

“ไม่หรอกก็มึงมีธุระกับไอ้โน้ตนี่”ผมว่า แต่ในใจก็รู้สึกแปลกๆ

“พอดีเมทกูอีกคน เข้าโรงพยาบาล กูกะไอ้โน้ตก็เลยไปเยี่ยม”มันอธิบาย

“เหรอ”ผมพยายามต่อบทสนทนา อยากถามมันว่าเมื่อเช้าทำไมมันโกรธผม แต่ก็บอกตัวเองว่า
อยากห่างจากมันแล้วนี่นา การที่ไม่รู้อะไรเลยน่าจะดีกว่าสำหรับผม

“จะเล่นแบตใหม”  มันถาม

“ไม่อ่ะ  ขี้เกียจ”

“แล้วการ์ตูนล่ะ  จะไปเช่าใหม”  มันเริ่มพูดธรรมดาแล้วครับ

“นี่มึงใกล้สอบแล้วนะ  กูจะอ่านหนังสือ” ผมตอบไปให้ปรกติที่สุด

“เออๆ  แล้วแต่มึงละกัน”  มันพูดน้ำเสียงธรรมดามากๆ จนผมใจหาย .....นี่มึงไม่โกรธกูเลยเหรอที่กูปฏิเสธมึง....
ใจหนึ่งก็ดีใจที่มันไม่ได้ผูกพันกับผมมากมาย.....ใจหนึ่งก็......................เฮ้อ......

   ผมอ่านหนังสือจนเบลอ.........เลยจะออกไปหาอะไรกิน.......ผมเดินลงมาจากหอ.......เผชิญกับสายตา
ที่ยังคงนินทาไม่เลิก..........ผมชินซะแล้ว..............ตามทางเดินที่คิดเคยมีมัน....แต่วันนี้กลับไม่มี.....
ผมดีใจที่ผมรีบตัดใจจากมันไม่ให้มันเกินเลย.........ขนาดเวลา 1 เดือน ยังเป็นอย่างนี้ 
แล้วหากยิ่งนานวันเข้าผมต้องทุกข์ใจอย่างหนักแหงๆ........ผมยิ้มแห้งๆให้อากาศ 1 ที่แล้วเดินต่อเรื่อยเปื่อย...........
ทำไมผมไม่สามารถหยุดคิดถึงมันได้นะ......มันก็แค่เพื่อนคนหนึ่ง...............แค่เพื่อน..........
นับแต่นี้ผมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ร้องไห้ให้มันอีก.............................ผมเดินๆ จนมาถึงสนามเด็กเล่นเมื่อวาน
อย่างไม่รู้ตัว เออแปลกดีแฮะเหมือนขาของผมมันพาเดินมาโดยอัตโนมัติ ผมนั่งลงที่ชิงช้าอันหนึ่ง
เหม่อมองชิงช้าที่ว่างเปล่าด้านข้าง นึกภาพไอ้คมนั่งอยู่ ผมถามตัวเองทำไมต้องเป็นมัน ......แต่ผมก็ตอบไม่ได้......
เพื่อไม่ไห้ฟุ้งซ่าน....ผมเอาหูฟังมาฟังตามเคย...........สายตายังคงมองชิงช้าอย่างหงอยๆ......ยื่นมือไปไกวมันเบาๆ.........

   หลายวันผ่านไปโดยที่ผมไม่เจอมันเลย  พอเจอมัน มันก็จะจ้องตาผม  แต่ผมย่อมไม่โง่พอจะพลาดอะไร 
ผมเดินไปทักทายมันตามปกติ ยิ้มแย้มแจ่มใส  หยอกล้อ  เพียงแต่ไม่ค่อยไปใหนกับมันบ่อยๆเหมือนก่อน 
มันเริ่มโทรหาผมบ่อยๆ ครับ  แต่ผมก็อ้างว่า  ผมจะอ่านหนังสืออย่างงั้นอย่างงี้ 
เป็นอย่างนี้เรื่อยๆจนสอบปลายภาคเสร็จ..................ผมไม่อยากกลับบ้านจึงเรียน summer ส่วนไอ้รัน  ไอ้นิว  พี่จาง
ไอ้โน้ต  ไม่มีใครเรียนเลย  ไอ้คมก็ด้วย  ผมถามมันตอนสอบเสร็จ

“เฮ้ยมึง  เรียน summer  เปล่า”

“ไม่ว่ะไม่มีตังค์หรอก” มันพูดพร้อมๆ จ้องหน้าผม

“ก๊าาาก...ดีๆ...จะได้ไม่ต้องมีคนมากวนใจกู” ผมหัวเราะอย่างร่าเริง

“เฮ้ย” มันตะโกนเรียกเมื่อผมวิ่งตามเพื่อนที่คณะที่กำลังไปฉลองสอบเสร็จ  แต่สายไปแล้ว

“โชคดี  เจอกันเปิดเทอม  ไอ้คม” ผมโบกมือให้มัน  แล้วรีบหันหน้ากลับมา 
เพราะผมขี้เกียจเสแสร้งให้มันสบายใจเต็มทีแล้ว

........................................summer  เรื่มขึ้น

ผมไปเรียนรายวิชาที่เลือกเอาไว้  กับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้อยู่หอ 4- 5 คน  เรียนทั้ง วัน  กลับหอมาพบกับห้องที่ว่างเปล่า.....
เพราะเมทผมไม่มีใครเรียน summer ซักคน...ผมวางกระเป๋าลงบนเตียง.......ความเหงาเริ่มเข้าครอบงำ.......
ล้มตัวลงโดยที่เท้ายังสัมผัสพื้นห้องที่อบอุ่น  ด้วยแสงอาทิตย์สีส้มยามเย็น......ผมเปิดฟังเพลงจากเครื่องเล่น......
เอามือก่ายหน้าผาก.....ปิดบังดวงตาเอาไว้......รู้สึกแย่มาก......น้ำตาจะไหลซะงั้น......ผมรีบลุกขึ้น.........
เดินไปที่ระเบียงห้อง.......เกาะกุมมันเอาไว้......จับจ้องมองดวงอาทิตย์อย่างเงียบงัน.........เนิ่นนาน.........
จวบจนลาลับไป....

“ก๊อกๆ”เสียงคนเคาะประตูครับ

“คร้าบๆ”ผมเดินไปเปิดประตู  พร้อมๆกับปรับสีหน้าเสียใหม่

“แอออออ๊ด”ประตูเปิดออกครับ   ผมพบกับใบหน้าอันหล่อเหลาที่ไม่ได้เจอมานาน

“ไปกินข้าวกัน”  ตายห่าาาาาาาาา.........ไอ้คมครับมันมาได้ไงเนี่ย

story by นายโฮะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 08-06-2007 15:16:58
ทิศรักคมเข้าแล้วซิ   :o9:









เชียร์คม  :loveu: เชียร์คม  :loveu: เชียร์คม
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 08-06-2007 15:55:58
 :teach:

เหมือนรีบนครับ เชียร์คม

ขอบคุณที่มาต่อนะครับ ดีใจจัง

จะรออ่านต่อไปคับ  :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 08-06-2007 16:17:33
เพิ่งตามอ่านทันวันนี้ หนุก ๆ ชอบ ๆ  o13 ต่อเร็ว ๆ นะ  o11
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 08-06-2007 16:34:15
เนื้อเรื่องไหลไปเรื่อยๆ จัง

เวลาจะตัดบทเปลี่ยนฉากก็ตัดฉับเอาดื้อๆ

เวลาตัวละครคิดเองในใจ  บรรยายยาวมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  ย่นย่ลงนิดส์นึง เอาแต่ที่ใจความ

เลือกใช้ประโยคและถ้อยคำที่สั้นแต่กินใจ  บ่งบอกถึงอารมณ์ของตัวละครนั้นๆ ให้ชัดเจน จะดีกว่านะ

หวังว่าคงไม่หงุดหงิดกะเม้นต์ของเจ้นะ 

แต่ถ้าไม่ชอบคราวหน้าเจ้จะเม้นต์แบบใสๆ  ก็ดี  ไม่ปวดสมองด้วยที่ต้องอ่านแล้วยังต้องวิเคราะห์จุดด้อยของนิยายคุณน้องไปด้วย  มันไม่ใช่เรื่องที่เพลิดเพลินหรอกนะที่ต้องทำแบบนี้  แต่ว่าทำให้เพราะว่ารักดอกหนา  อยากให้เขียนได้ดีๆ (แต่เรื่องของตัวเองก็เขียนไม่ได้เรื่อง อิอิ)  :laugh:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 08-06-2007 16:45:22

..........คมจะปล่อยที่รักอยู่คนเดียวได้อย่างไร......... o3 o3 o3
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 08-06-2007 19:36:55
 o12 o12  ทิศทำอย่างนี้จะเปนการทำร้ายจิตใจตัวเองแล้วก็คมอะป่าวครับเนี่ยะ  :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 08-06-2007 20:10:30
ดูเหมือนตาคมจะรู้ทันทิศอยู่แฮะ  :try2:
มีการหลอกว่าไม่ได้ลง summer แต่ก็โผล่มาให้ประหลาดใจเล่น  o8
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 09-06-2007 08:45:57
โอ....เป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์มากครับ.....ผมจะรับไว้ปรับปรุงนะครับ(อันที่จริงผมแต่งเองงงเองก็เยอะนะ :try2:)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ตอนที่ 7 ผลรวมของความรู้สึก

.............ระหว่างทางที่เราเดินไปร้านอาหาร

“กูนึกว่ามึงกลับบ้านซะอีก...ไอ้ห่าดันโผล่มาตกใจหมด”ผมพูดพร้อมกับออกสีหน้าให้สมบทบาทที่สุด

“อ๋อกูทำงานพิเศษน่ะ...ใกล้ๆนี่เอง”มันตอบแล้วยิ้มให้ผมครับ

“เหรอวะ.........ดีจัง...งั้นมึงเก็บเงินไว้นะ  กูจะได้กินของฟรี5555”  ผมทำท่าเลียริมฝีปาก

“เออๆๆ      อยากกินอะไรก็ว่ามาเดี๋ยวกูเลี้ยงเอง”  มันพูดพร้อมหันไปด้านหน้าครับ

“กูพูดเล่นน่า.....เกรงใจ”  ซวยละผมหาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ

“ทำไมต้องเกรงใจกูด้วยล่ะ  กูนึกว่ามึงตะกละซะอีก555”  ไอ้นี่กัดด้วยเว้ย

“เฮ้ยๆ  พูดให้ดีนะพูดกะกูเดี๋ยวเจอบาทาไร้เงานะ”  ผมบอกมันทำท่าขึงขัง

“ก๊าาาาากก....อย่างมึงเตะบาทาไร้เงา...กุก็เป็นเง็กเซียนฮ่องเต้อะดิ” มันสวนครับ

“เออ...เดี๋ยวมึงจะเสียใจ555”ผมสวนมันไปหนุกๆ

“อยากรู้เหมือนกัน”มันว่า

“แล้วมึงทำงานกี่เดือนวะ” ผมถามไปงั้นๆ แหละ

“ตลอด summer”  มันตอบผมครับ  ผมมองมันตาโต....งั้นกูก็ต้องอยู่กะมันตลอด summer เหรอวะ 
แม่งไม่เห็นใจกูเลยนะมึง  ผมคิด

.......สรุปคือผมต้องไปกินข้าวกะมันทุกค่ำแล้วมันก็จะมาเล่นห้องผมบ่อยๆโทรมาหาผมทุกๆเที่ยง....
ผมก็อ้างไปต่างๆนาๆเพื่อจะได้ไม่ต้องไกล้ชิดกะมัน

..................................................................
(ผม) มึงกูมีเรียนเช้าไปกินกะมึงไม่ได้
(มัน)เดี๋ยวกูซื้อมากินห้องมึงก็ได้...มึงกินอะไรล่ะ  เดี๋ยวซื้อมาให้
................................................................................
(ผม)มึงๆห้องกูผีดุนะมึงไม่กลัวเหรอ
(มัน)จิงดิงั้น.....กูอยู่เป็นเพื่อนมึงเอง
.................................................................................
(ผม)มึงๆพรุ่งนี้กูมีสอบไปดึกไม่ได้
(มัน)งั้นเลิกเรียนแล้วมาหากูเลยนะ
..............................................................................
(ผม)มึงๆ กูไม่สบายไม่อยากให้มึงมาห้องกูเดี๋ยวติดหวัด  แค่กๆ(ตอแหลไป)
(มัน)งั้นเดี๋ยวกูไปนอนเฝ้ามึงเอง....มียารึยัง
.............................................................................
(ผม)มึงๆ  กูมีธุระกลับดึกๆ ง่ะ คงไปกะมึงไม่ได้
(มัน)งั้นกูนอนรอที่เตียงมึงเลยนะ
................................................................
            ผมสุดจะหามุขมายับยั้งมันได้แล้วก็เลยไปกะมัน  แล้วก็ให้มันมานอนด้วยบ่อยๆ(คนละเตียงนะ) 
จนผมเริ่มยอมๆมัน  ชวนไปไหนก็ไป   เป็นอย่างนี้ทุกวันๆ  จนเกือบหมด summer   
ผมต้องยอมรับว่าผมมีความสุขมากระหว่างนี้  เหมือนความฝัน  ผมไม่นึกเลยว่าผมก็มีวันที่มีความสุขกับเขาด้วย

           วันนึงผมรอมันที่ห้องตั้งแต่เลิกเรียนเพื่อจะได้ไปกินข้าวเหมือนทุกๆวัน......แต่มันก็ไม่มา......จน 2 ทุ่ม ......
โทรหาก็ปิดเครื่อง....ผมเลยเดินไปกินข้าวคนเดียว   ระหว่างทางที่ไปผมก็คอยหันหลังไปมองว่ามันจะตามมารึยัง......
มือถือก็ถืออยู่ในมือเมื่อไหร่ที่มันโทรมาจะได้รับได้ทันทีเลย......เดินๆหยุดๆตลอด.....เหลียวหน้ากลับไปมองหลายครั้ง.........รู้สึกอ่อนแอขึ้นมาทันใด.......ผมนั่งลงในมุมมืด.........ก้มหน้า.....ผมร้องไห้ให้มันอีกครั้ง.........
แต่ไม่มากมายนัก......ไม่มีเสียงสะอื้น...

“ไหนบอกจะไม่ร้องไห้ให้มันวะ”ผมคิด...และนึกภาพว่ามันกำลังเดินตามผมมาตามทางเดิน....
แต่พอเหลียวหน้ากลับไปอีกทีก็เจอแต่ความว่างเปล่า.......อันที่จริงแล้วตอนที่มันเริ่มเข้ามาในชีวิตผม.....
ผมค่อนข้างจะมีทัศนะคติที่ดีกับตัวเองแล้ว......อย่างน้อยผมก็สามารถอยู่คนเดียวได้........แต่ว่าตอนนี้.....ทำไม่ได้.....

   รู้สึกตัวอีกทีในมือผมถือขวดเบียร์เปล่าอยู่ในมือ 2 ขวด นั่งอยู่ที่ม้านั่งเหม่อมองชิงช้าที่ว่างเปล่า
ในสนามเด็กเล่นตามเคย สำหรับผม 1 ขวดก็เต็มที่แล้ว(คออ่อนสุดๆ)  ผมมึนๆ 
แล้วนึกออกว่าซื้อมาจากเซเว่นด้วยตัวเอง................

“ขอโทษ”เสียงคนที่คุ้นหูดังขึ้นข้างๆม้านั่ง

“ใคร”ผมถามเสียงเครียด

“กูเอง”ไอ้คมนั่งลงมาข้างๆผม

ผมเงื้อมือต่อยมันทันที  แต่ด้วยความเมามันจึงพลาดไปโดนพนักพิงอย่างจัง....

“โอ้ย”ผมร้อง....มือมีเลือดออกนิดหน่อย

“ใครบอกให้หลบ”ผมถามมัน ปากพวยพุ่งกลิ่นแอลกอฮอล์

“กูไม่ได้หลบ”  มันโต้เถียง

“กูไม่สน”ผมบอกอย่างเอาแต่ใจ

.........................เงียบกันไปพักใหญ่

“ป่ะกลับกัน” มันลุกขึ้นจะประคองผม

“มึงรู้มั้ยว่ากูเหงา”  ผมพูดขึ้นมองหน้ามันด้วยสายตาอาฆาต

“อะไรของมึงกูมาช้าแค่นี้.....แม่งต้องโกรธกูขนาดนี้ด้วย.......ก็กูทำ  OT  แบตมือถือกูก็หมด”มันเริ่มรำคาญครับ

“ไม่ไช่เรื่องนี้”ผมบอกมัน

“งั้นอะไร”

“มึงรู้มั้ยว่ากูเหงา”  ผมถามประโยคเดิม

“รู้....ก็กูอยู่เป็นเพื่อนมึงแล้วไง” มันตอบโดยที่อารมณ์เสีย

“มึงรู้มั้ยว่ากูเหงามากขนาดใหนตลอดชีวิตกู........กูมีแต่เพื่อนเท่านั้น.....แต่ที่นี่กูไม่มี”ผมพูดน้ำตาคลอเบ้า

“...........................” มันเงียบครับคงรู้ว่าผมยังพูดไม่จบ

“ตอนที่มึงเริ่มไปกินข้าวกับกู.......กูเริ่มอยู่คนเดียวได้แล้วมึงรู้มั้ย”

“............................”

“แล้วมึงเข้ามาหากูทำไม.................ทำให้กูอ่อนแอทำไม”ผมปล่อยน้ำตาเลยครับ

“...........................”

“ทำไมมึงไม่สงสารกูบ้าง.....อย่างมึงโดนล้อว่าเป็นคู่เกย์กับกูมึงก็หนีกูไปแล้ว.......ฮือ....ทำไม่มึงไม่ช่วยให้กูชินกับมัน”

“................................”

“แล้วมึงมาทำดีกับกูทำไม........กูเป็นผู้ชายนะ.......ฮือ.....”

“..........................”

“มึงเห็นมั้ย...........แค่มึงไม่มามันก็ทำให้กูทรมานขนาดนี้แล้ว....ฮือ......น่าสมเพชมั้ยล่ะ.........สะใจมึงรึยัง”
ผมเค้นเสียงออกไรฟันและเริ่มสะอื้น

“............................”

“.......กูทรมาน.......ฮือๆ....”

“..................”มันก้มหน้าลงครับ

 “..รู้งี้กูเลือกเรียนมหาลัยเดียวกับเพื่อนเก่ากูก็ดีหรอก.......ฮือ.....จะได้ไม่ต้องมาเจอ.....มึง.....ฮือๆ”ผมเริ่มเพ้อครับ

 “.......ขอโทษ...”มันพูดเป็นคำแรกครับ  น้ำเสียงสั่นๆ

“.....ฮือ...มึง....มึงทำให้กูชอบมึงมากขนาดนี้มึงพอใจรึยัง” ผมสารภาพไปแล้วครับ 
ด้วยการเค้นเสียงที่เต็มไปด้วยความแค้น

“....................”มันทำท่าอึ้งครับ

“.....มึงได้ยินยัง......กูชอบมึง.....ฮือ....ชอบทั้งๆที่รู้ว่าปลายทางของมันมีแต่ความทรมาน...............
เพราะกูรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้”ผมตะโกนเลยครับสุดเสียง...โชคดีที่มันค่อนข้างดึกแล้วไม่มีใครเดินผ่านมาครับ

“.......................”มันจับไหล่ทั้ง 2 ข้างของผมไว้ครับ

“ไอ้คม.....ฮือ....กูขาดมึงไม่ได้.....ฮือ......กูจะทำยังไงดี”  ผมกอดมันแน่นเลยครับ   ผมเริ่มเสียงอ่อยๆ......
ฟุบลงบนไหล่ที่แข็งแรงของมัน...............เนิ่นนาน......จนหลับไปตามเคย...........

“กูขอโทษนะ  ทิศ  แต่กูก็ทรมาน”ไอ้คมพูดอย่างแผ่วเบาราวกับจะกระซิบให้ตัวเองได้ยิน
.............................
...............................
.................................................

เช้าถัดมา

“อือ” ผมบิดขี้เกียจขึ้นมา  เหยียดขา  ลืมตา

“เฮ้ย”  ไอ้เชี่ยคมตัวมึงมาทำอะไรบนตัวกูเนี่ย ...... แขนแม่งหนักจัง  ขาก็หนักขนหยุบหยับ...แหวะ....เสื้อกูหล่ะ..
ทำไมกูไม่ใส่เสื้อ..............กางเกงล่ะ........เฮ้อโชคดี......กางเกงยังอยู่............ผมรีบยันตัวขึ้นเห็นมันนอนตะแคงอยู่.....
นี่คงกอดผมตลอดคืน......หน้าตอนหลับที่ไม่มีคำพูดคอยกวนทีน.....ยิ่งเข้มกว่าเดิม......ปากก็แดงจัง......
ตัวขาวๆกระทบกับแสงอาทิตย์รำไร.........กล้ามก็เป็นมัดๆเลยแฮะ......คิดแล้วเขิน......อ้าวเขินทำไมวะ....
ว่าแต่ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหว่าทำไมเวียนหัวจังวะ......ช่างแม่ง......นอนต่อดีกว่า.........
ว่าแล้วผมก็ล้มตัวลงนอนแล้วหลับไปข้างๆไอ้คม..........
story by นายโฮะ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สั้นจังเดี๋ยววันนี้ลงแถมให้อีก 1
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-06-2007 09:35:21
สั้นจริง ๆ ด้วย (อิอิ ล้อเล่นน้า)  o18
มาต่อไวไวน้า  o15
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 09-06-2007 09:52:53
ตอนที่ 8 เกราะป้องกัน......หัวใจ

“เฮ้ยตื่น”

“มึง”

“เฮ้ย”

โอ้ยเสียงใครแม่งหนวกหูว้อย  อันนี้ไม่ได้พูดนะครับ(ขี้เกียจอ่ะคนพึ่งตื่นนอน)

“ไอ้ทิศ”

“อืม” ผมพูดพร้อยพยักหัวหงึกๆ

“ตื่น” มีคนพูดครับแต่ผมยังไม่รู้ว่าใคร(ขี้เกียจนึก)

“แปป”  ผมยังนอนคว่ำอยู่

............5 นาทีผ่านไป............

“เฮ้ยตื่นยัง”  มีเสียงคนพูด

“เออๆ  ตื่นแล้ว” ผมลุกขึ้นมา  แต่ก็อยากจะล้มตัวไปนอนต่อเหลือเกิน.....ผมนั่งนิ่งอยู่นาน....ระลึกชาติ.....นึกออกนิดๆ

“ไอ้คมเหรอ”  ผมถาม

“เออ  มึงไปอาบน้ำซะ  แล้วมาแดกข้าว”  ก็น่าจะเป็นมันนะเพราะนอกจากมันก็ไม่มีใครที่ผมรู้จักที่อยู่หอตอน
summer นี่นา

“อือ”  ผมเดินไปอาบน้ำ  ระหว่างนั้นก็  ระลึกถึงชาติเมื่อคืน  ....อืมจำได้แต่ว่า...เจ็บมือเพราะชกไอ้คมไม่โดน
ไปโดนพนักพิงแทน  พอเอามือมาดู

“อ้าว มีพลาสเตอร์ตั้งแต่เมื่อไหร่”  นึกๆไป  ยิ้มไป  เฮ้ย  กูบอกอะไรมันไปป่าววะ  ซวยแล้วกู  มันจะไม่เอาไปแฉเหรอวะ   หรือกูต้องย้ายที่เรียนเนี่ย

“เหยิ้ยก”ผมสบถ  บ่นอุบอิบไปเรื่อย  พออาบน้ำเสร็จก็กลับมาใส่เสื้อผ้าที่ห้อง  อ้ะๆ  รู้นะคิดอะไร 
ปกติเขาจะใส่ผ้าขนหนูผืนเดียวไปเข้าห้องน้ำกันน่ะ  อย่าคิดมากดิ

“มึง”ผมพูดกะไอ้คมที่นั่งบนโต๊ะเตี้ยที่พื้น  พร้อมกับเช็ดผมที่เปียกอยู่

“อะไร”มันถาม  พร้อมกับลวนลามผมด้วยสายตาเที่ยวหนึ่ง  อันที่จริงผมไม่ได้หุ่นดีอะไร  แต่ผมเล่นกีฬาทุกวัน 
บวกกับความผอม  กล้ามเนื้อจึงค่อนข้างเห็นได้ชัด  บวกกับความขาวและหน้าหวานๆด้วยแล้ว5555 
มีแต่คนหลง555  ต่อๆ  มัวแต่ชมตัวเอง  พอผมเห็นมันมองผมก็รีบหันหน้าหนี  ใส่เสื้อผ้าทั้งๆที่เปียก

“เมื่อคืนกูพูดอะไรบ้าง”  ผมถามมันในใจก็กลัวคำตอบที่จะได้รับ

“เปล๊าไม่มีอะไรนี่  ทำไมอยากรู้เหรอ”  มันบอกพร้อมกับบุ้ยใบ้ให้ผมนั่งลง

“เอ๊มึงนี่กูจะได้รู้ว่ากูเผยความลับของสวรรค์  มากขนาดไหนไง5555” ผมพูดพลางนั่งลงไป

“ไม่มีอะไรมาก  มึงแค่บอกว่ามึงเหงา  แล้วมึงก็ด่ากูซะเสียหาย  จะชกกูด้วย  แล้วก็.........” มันจ้องหน้าผมที่กำลังโซ้ยโจ๊กที่มันซื้อมาถวาย  แต่ผมมีเหรอจะเผยพิรุธ  ผมก็ทำหน้าเฉยๆ  มั้งๆที่หน้ามืดจะเป็นลมอยู่แล้ว

“แล้วมึงก็อ้วก....กูก็เลยถอดเสื้อมึงออก”  มันว่า

“จริงดิกูขอโทษนะ  เมื่อวานกูไปดูหนังเศร้ามาน่ะเลยอินไปหน่อย”  ผมว่า 555  การโกหกระดับกูไม่ทีใครจับได้หรอก

“พ่อมึงเป็นไร”มันถามผมครับ

“คน”ผมตอบขณะที่เป่าโจ๊กอยู่

“กูถามดีๆ  มึงพูดดีๆได้มั้ยวะ”  มันทำตาโตแล้วครับ

“กูพูดถึงพ่อเหรอเมื่อวาน” ผมกินไปทำท่าไม่รู้ไม่ชี้

“เปล่ากูได้ยินตอนที่มึงไป กินกะพี่จาง”  มันเพ่งเลยครับไม่ไช่จ้อง

“ยอมรับแล้วอะดิ๊ว่าตามกูมา555”  ผมพูดพร้อมกับเอาช้อนชี้หน้ามันยิ้มเยาะๆ

“เออน่า”  มันทำท่ารำคาญ

“...มะเร็ง..”  ผมพูด ขณะที่ช้อนตักโจ๊กเข้าปาก

“....มึงเหงามากเหรอ...”  มันทำหน้าสงสารครับ

“กูบอกมึงแล้ว  ว่ากูแค่อินกะหนังมึงจะอะไรมากเนี่ย  แล้วมึงไม่ต้องมาสงสารกูนะ  กูไม่ชอบให้คนมาสมเพช”
ผมบอกมันเริ่มยัวะ  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

“  เมื่อไหร่มึงจะเลิกโกหกวะ”  มันทำท่าเอือม  ผมกระแทกช้อนลงถ้วยแล้วเงยหน้ามองมัน

“...ถ้ากูบอกว่าเหงาแล้วมึงจะทำอะไรได้....มึงจะอยู่กับกูรึไง....ถ้ามึงจะทำอย่างเมื่อวานก็เงียบไปเลย.....
กูเกลียดที่สุดคือความเหงาแล้วก็ความผิดหวัง......แล้วเมื่อวานกูเจอทั้ง 2 อย่างมึงพอใจยัง”

“...ก็กูบอกกูขอโทษแล้วไงเมื่อวานน่ะ”  มันพูดครับน้ำเสียงเริ่มอ่อยๆลง

“กูจำไม่ได้......แต่ช่างมันเถอะ...กูเป็นคนมีเหตุผลเดียว....เรื่องเล็กน้อยแค่นี้กูไม่แคร์หรอก...แต่อย่าทำอีกละกัน”
ผมพูดพร้อมกินที่เหลือจนหมด

“....ขอโทษ..”มันก้มหน้าพูด

“...มึงโรคจิตป่าววะ.....เมื่อวานคนที่เป็นบ้าน่ะกู....แค่มึงไม่มากูกะจะชกมึงซะงั้น”  ผมพูดให้มันสบายใจ 
พร้อมๆกับปิดบังความรู้สึกให้ลึกมากกว่าเดิม  เมื่อรู้ว่ามันแคร์ผมขนาดไหน

“ไม่หรอก....กูเข้าใจมึงนะไอ้ทิศ....ว่ามึงต้องอยู่คนเดียวมานานขนาดไหน.....ก็ตอนขากลับมึง...พูดออกมาหมดเลย” 
มันยังนั่งก้มหน้าอยู่ครับ

“เฮ้ย....ไหนมึงบอกกูว่ากูไม่ได้พูดอะไรไง”  ผมขมวดคิ้ว

“แหะๆๆ.....กูแค่บอกว่ามึงพูดอะไรออกมาเฉยๆหนิ  แล้วมึงก็พูดเยอะมาก  กูจำได้ไม่หมดหรอก”  มันเดินหนี
ไปนอนที่เตียงแล้วครับ(เตียงผม)

“นี่ๆ......กูพูดอะไรแปลกๆรึเปล่า”  ผมสะกิดๆ  มันครับ

“...ก็ไม่นี่นา...”มันทำท่าคิดครับ

“เออ...ก็ดีแล้ว”ผมโล่งอกเลยครับ  กำลังจะเอาจานไปล้างซะหน่อย มันดันพูดว่า

“แต่ว่า....”  ผมนี่นะเอามือตบหน้าผากด้วยความเซ็งจัด

“อะไรของมึงอีก”ผมบ่น

“มึงบอกว่าอยากไปเดินราชดำเนิน”  มันพูดแล้วทำท่านึก

“ตอนไหนวะ”  ผมงงเกาหัว  แกรกๆ

“เออน่าจะไปป่าว  เดี๋ยวกูไปเป็นเพื่อน”  มันว่า

“แล้วแต่มึงละกันวันไหนล่ะ”อ้าวแบบนี้ผมก็ยอมไปกะมันอะดิครับ  งงๆตัวเองเหมือนกันนะ

“วันศุกร์ละกันนะ”  มันฟุบลงกับผ้าห่มพูดอู้อี้

“เออๆ”  ผมตอบไปอย่างอารมณ์ดี(อย่าถามนะว่าทำไม)

หลายวันผ่านไปวันนี้ก็วันพฤหัสบดีแล้ว  พรุ่งนี้ผมก็จะได้ไปเที่ยวกะไอ้คม  ใจหนึ่งก็ดีใจ  ใจหนึ่งก็กลัว 
เมื่อวันนั้น(วันที่มันนัดผมน่ะครับ) มันส่ง message มาหาผมว่า “มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูห่วงมึงขนาดไหน 
แต่ก็ไม่เป็นไร  ยังไงกูก็ห่วงมึง”  ผมงี้ปลื้มเลยครับ  ผมใช้เวลาหลายวันว่าผมควรทำยังไงกับความรู้สึกที่ผมมีต่อมัน 
ผมก็ได้ข้อสรุปว่า “ผมมัวแต่คิดถึงคิดถึงความรู้สึกคนอื่น และสายตาจากคนรอบข้างมานาน
การทำอย่างนั้นมันทำให้ผมยิ่งจมดิ่งลงไปในหลุมแห่งความโดดเดี่ยว  ดังนั้นผมจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่มันมอบให้
แต่ก็จะไม่เรียกร้องอะไรจากมันด้วยเช่นกัน”  นั่นคือถ้ามันมาหาผมมาคุยกับผม 
ผมก็จะคุยกับมันปกติหยอกล้อธรรมดา แต่ผมจะไม่คอยชวนมันคุยหรือแคร์มันออกหน้าออกตา 
ถ้ามันโทรมาผมก็จะรับแต่ผมจะไม่เป็นฝ่ายโทรหามันก่อน และยังมีมาตรการอื่นๆอีกมากมายที่ไปในทำนองนี้ 

“สวัสดีครับ”ผมรับโทรศัพท์ครับ

“เฮ้ย  เป็นไงไม่เจอกันนานไปกินข้าวกัน”พี่จางครับ  พี่รหัสของผมเอง

“พี่อยู่ไหนน่ะ  แล้วจะไปกินกี่โมง  กินที่ไหน” ผมถามคำถามเป็นชุดเลยครับ 
พอฟังความจบผมก็ออกไปกินของฟรีทันทีเลย  กินกันได้สักพัก  พี่จางก็ยืมมือถือผมออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
พักนึงแกก็กลับเข้ามา

“แกกับไอ้คมเป็นอะไรกัน” พี่จางถามไม่มีปี่มีขลุ่ยเลยครับ

“เฮ้ยพี่  ทำไมว่างี้ล่ะ”ผมตกใจครับหน้าซีดเลย  หรือพี่จางจะรู้ว่าผมชอบไอ้คม

“ก็เห็น message รักที่มันส่งมาหาแกไง”  พี่เขาทำท่าทางผู้ชนะครับเค้นถามความจริงใหญ่เลย

“อ๋อ  พอดีวันนั้นผมดื่มหนักน่ะมันเลยมาส่ง”ผมก็แก้ตัวไป  แต่ไม่ได้โกหกนะครับแค่ปิดบังความจริงบางอย่างเฉยๆ 5555 คนอย่างผมถ้าได้แก้ตัว ต่อให้เปาบุ้นจิ้นก็จับไม่ได้ 5555

“แต่มันไงๆ อยู่นา  ผู้ชายเค้าไม่ส่งของแบบนี้หากันหรอก.......อืมหรือว่ามันชอบแกวะ”พี่จางพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามา

“เฮ้ยไม่หรอกพี่....คิดมากน่า”ผมกินไม่ลงเลยครับ  พอคิดๆดู  มันก็ทำดีกับผมเกินไปนะครับ  เกินกว่าที่เพื่อนทำให้กัน

“แกคิดดีๆนะอย่าเล่นกับไฟนา....เดี๋ยวไอ้คมมันจะเสียใจ.....ถ้าแกจะชอบผู้ชายมาชอบพี่ดีกว่า”
พี่จางพูดพร้อมทำหน้าจริงจัง

“เฮ้ยพี่....ไม่ขำนา.....ผมไม่ได้....”พูดไม่ออกครับเพราะผมก็ไม่รู้ตกลงผมเป็นอะไร...

“อ้าวแกไม่รู้เหรอ.....พี่เล็งแกมาตั้งนานแล้ว”พี่จางทำหน้าทะเล้น

“พี่ๆเกินไปแล้ว......ผมอิ่มแล้วผมกลับก่อนนะ”ผมลุกขึ้นยืน  กลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย 
กลัวพี่จางจะเป็นเหมือนพี่ต้อม  ผมไม่อยากทำให้พี่จางเสียใจ

“เฮ้ย....เราก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดินนั่นแหละ......เพียงแต่ให้แกรู้ไว้ว่าพี่ก็ชอบแกเหมือนกัน”พี่เขาทำหน้าจริงจังครับ

“แล้วแต่พี่ละกัน”ผมอยากกลับแล้วครับมันงงไปหมด

“....ถ้าพี่ทำให้ไม่สบายใจพี่ก็ขอโทษละกันนะ...”พี่เขาทำหน้าเศร้าๆ

“...พี่ผมไม่เป็นไร...........ผมขอโทษนะครับพี่”ผมก็รู้สึกผิดครับ

“งั้นไปฉลองที่พี่อกหักกันเถอะนะ”พี่จางพูดพร้อมจูงมือผมเลย

“เฮ้อ.........ซวยกูอีกแล้ว”ผมบ่นอุบอิบให้ตัวเองครับ   คืนนั้นพี่จางเล่าประสบการณ์ชายรักชายให้ผมฟังมากมาย 
พี่แกโชกโชนจริงๆครับ พี่แกบอกตอนนี้พี่แกก็มีแฟนแล้ว แต่เขาเห็นผมตลกดี แล้วพี่จางเค้ารู้สึกเป็นห่วงผม
พี่จางเลยบอกผมว่าผมไม่ต้องอึดอัด ให้คิดว่าพี่จางเป็นพี่ชายคนหนึ่งที่ผมพึ่งพิงได้พี่เขาก็พอใจแล้ว
ผมได้อะไรหลายอย่างจากพี่จาง  แต่ผมก็ไม่สามารถตอบแทนอะไรพี่แกได้  แต่ดูๆแล้วพี่จางไม่ได้เสียใจมากมายนะ 
ผมก็ดีใจ..........ระหว่างทางที่ผมเดินกลับหอพร้อมๆกับพี่จางที่แกล้งเมาแล้วโอบผมอีกตามเคย....
ผมก็ฉุกใจคิดคำๆนึงที่พี่จางพูดออกมา.... “แกคิดดีๆนะอย่าเล่นกับไฟนา....เดี๋ยวไอ้คมมันจะเสียใจ” 
คำพูดนี้ดังสะท้อนก้องอยู่ในความคิด........อันที่จริงในตอนแรกๆผมตั้งสมมุติฐานไว้ว่า 
ไอ้คมมันไม่ได้ชอบผม...มันแค่อยู่กับผมแล้วสนุกดีเพราะความฮาของผมก็ได้.....
ผมจึงยอมที่จะเป็นฝ่ายแอบชอบมันโดยไม่เรียกร้องอะไรจากมัน....ผมยอมทรมาน......
แต่ถ้ามันชอบผมและเราเป็นอะไรที่มากกว่าเพื่อนกัน......เราคงมีความสุข......
แต่ความสุขนั้นผมไม่รู้ว่ามันจะนานขนาดไหน......ไม่ไช่ผมไม่เชื่อใจมัน........ไม่ไช่ผมไม่ไว้ใจตัวเอง....แต่....
ผมรู้ดี......ไม่ว่าเราจะรักกันมากเท่าไหร่ความรักแบบนี้ก็ต้องจบลงในวันหนึ่ง.......
เพราะเราไม่สามารถอยู่ข้างกายกันได้ตลอดไป..........และรสชาติของการร้างลามันยากเกินทนรับได้จริงๆ......
ผมไม่รู้ว่าความสุขจากการได้มีความรักมันจะคุ้มค่ากับการลาจากในวันนึงมั้ย............ผมไม่รู้.....ไม่รู้จริงๆ....
และไม่อยากเสี่ยงด้วย......ท้ายที่สุดแล้วผมจึงคิดว่า.......
“การที่เราเปิดใจจะรักใครสักคน....ก็หมายความว่าเราถอดเกราะที่ป้องกันจิตใจออกและปล่อยให้ความรู้สึก
โหมกระหน่ำเข้ามาอย่างเต็มที่.....ไม่ว่าสุขหรือเศร้า......ไม่ว่าดีหรือร้าย....โดยที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้........
จวบจนวันที่ทุกอย่างจบลง”พอผมส่งพี่จางเรียบร้อยแล้ว  ผมจึงมานั่งลงที่ชิงช้าที่เดินเช่นเคย
และตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่ผมจะมีความสุขจากการได้แอบชอบคนๆหนึ่ง.......
เพราะผมจะหยุดความสัมพันธ์ของเราตรงนี้......เพื่อไม่ไห้ทั้งมันและผมต้องเจ็บปวดในภายหลัง.......
น้ำตาไหลอีกแล้วครับ......สมเพชตัวเอง........ตัดพ้อโชคชะตา.........ผมเดินกลับหอด้วยความเหงาหงอย...........
แต่อย่างน้อยผมก็ได้ตัดสินอนาคตของตัวเองแล้ว......... “คนอย่างกูอยู่คนเดียวดีที่สุด”...ผมพูดเบาๆ...
ให้มันล่องลอยไปตามสายลมที่พัดไหวอย่างอ่อนโยน
story by นายโฮะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปกติผมแต่งได้วันละ 1 ตอนเลยพยายามลงวันละ 1 ตอนด้วย ตอนนี้แต่งถึงตอนที่ 14 แล้ว คาดว่าอีกไม่เกิน 3 ตอนก็จบ ไม่รู้มันสั้นไปมั้ย แต่ผมก็ไม่อยากยืดเรื่องนะ เอาเป็นว่าตามนั้นละกัน
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 09-06-2007 15:57:38
 :impress:

ขอบคุณครับที่มาต่อ อ่านแร้วลุ้นจังเรย

เป็นกำลังใจให้นะครับ

 :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 10-06-2007 03:10:41
ตอนนี้อ่านแล้วเศร้าๆเหงาๆ  :o11:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 10-06-2007 08:46:16
พี่จางนี่ก็แฟร์ดีแฮะ  :impress2:

อ่านง่ายดี  o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-06-2007 09:11:00
ชักอยากให้จางเป็นพระเอกซะแล้วซี  o22  o22
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 11-06-2007 13:37:48
แต่อย่างน้อยผมก็ได้ตัดสินอนาคตของตัวเองแล้ว......... “คนอย่างกูอยู่คนเดียวดีที่สุด”...ผมพูดเบาๆ...
ให้มันล่องลอยไปตามสายลมที่พัดไหวอย่างอ่อนโยน

ประโยคนี้เขียนได้ดีนะ  สำนวนสวย  เริ่มมีลูกเล่นกะคำ  สายลม...พัดไหว...อย่างอ่อนโยน  เก่งขึ้นนะเนี่ย

ปล. ทำไมสรุปชีวิตของตัวเองเหมือนเจ้เลย.................“คนอย่างกูอยู่คนเดียวดีที่สุด”.........................  :o11:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 11-06-2007 13:48:12
“คนอย่างกูอยู่คนเดียวดีที่สุด”

............ถึงแม้มันจะไม่สุข.....แต่มันก็จะไม่ทุกข์มากกว่าที่เคยเป็น... o7 o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 11-06-2007 15:35:09
ตอนที่ 9 สัญญาที่เป็นไปไม่ได้
เช้าวันศุกร์.....หลังการตัดสินใจ  ผมก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกสิ่งที่จะตามมา  พอคิดอย่างนี้แล้วผมก็โล่งใจ  อย่างน้อยๆ  ก็กำหนดเป้าหมายได้แล้ว  เราไปถึงราชดำเนินกันประมาณเกือบ 2 ทุ่ม  คนเยอะมากๆ 
ผมว่าน่าจะหลายแสน  ทั้งผมและไอ้คมต่างก็แต่งตัวกันหล่อสุดฤทธิ์(อย่าถามนะว่าทำไม) 
นี่อาจเป็นเดทครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเราถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด  ผมจึงพยายามพูดคุยกับมันให้สนุกที่สุด
 ผมมีความสุขมาก  พวกเราหัวเราะกันเสียงดังจนคนแถวนั้นมองมา 
“ก๊กกาาากก” เสียงผมและมันประสานเสียงขณะซื้อลูกชิ้นทอด  ท่ามกลางผู้คนมากมาย
 ท่ามกลางแสงไฟสีเหลืองที่ประดับประดาตามต้นไม้นับล้านดวง  ส่องสว่างจนถนนทั้งสาย
คล้ายอยู่ในห้วงความฝัน  ผมเดินข้างๆมัน  รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก 
เราเดินกันจนเมื่อยสุดท้ายจึงมาหยุดอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย  ผมนั่งลงข้างๆมันบนม้านั่ง
 ล้วงเอาน้ำออกมากิน

“ไอ้คม  ไอ้HEREโน้ตเมทสุดที่รักของมึงจะมาวันไหนวะ”  ผมถามมัน พร้อมๆกับกระดกขวดน้ำ

“สัปดาห์หน้า  แล้วกูไม่ได้รักมัน  มึงพูดดีๆนะ”  มันพูดขณะเคี้ยวลูกชิ้นตุ้ยๆ

“แหมๆ  เขินอะดิ๊  ก๊าาากก  กูอยากรู้  มันชอบส่วนไหนของมึงวะ”  ผมหัวเราะร่วน

“คนมันหล่ออ่ะนะช่วยไม่ได้555”  มันพูดไปเก๊กไป

เราคุยไปหัวเราะไป  นาน ประมาณ  30 นาทีเห็นจะได้ 

“พอๆ  อย่าพูด กูหัวเราะจนปวดท้องแล้วเนี่ย”  ผมพูดให้มันหยุดครับ  จากนั้นเราก็นั่งมองผู้คน  แสงไฟ 
และรถราที่ผ่านมา อย่างเงียบงัน  ผมมีความสุขมากและก็รู้สึกได้ว่ามันก็มีความสุข
 ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้  ผมกลับรู้สึกว่า ณ เวลานี้มีแค่ผมกับมันเท่านั้นที่สื่ออารมณ์ที่ไม่ต้องเอ่ยออกมา
 ผมยิ้มอย่างแผ่วเบาไปด้านหน้า  เนิ่นนาน  จนผู้คนเริ่มบางตาลง

“ไอ้คม” ผมเรียกมันเบาๆ

“หืม” มันตอบมาเหมือนเพิ่งตื่นจากพวัง

“มึง” ผมเริ่มกลัวครับ

“อือ” มันตอบ  โดยที่เราทั้ง 2 คนยังหันไปด้านหน้าอยู่เหมือนเดิม

“มึงคิดยังไงกับกู”มันหันหน้ามาเลยครับ  แต่ผมยังเหม่อมองไปเบื้องหน้าเหมือนเดิม

“แล้วมึงคิดยังไงกับกู”มันดันถามผมคืนครับ พร้อมกับหันไปมองด้านหน้า

“มึงตอบกูก่อน”ผมบอกมันเบาๆ  ถ้าเป็นปกติผมคงกวนตีนมันไปแล้ว  แต่คราวนี้ผมจริงจังครับ

“.....กู....กูอยากอยู่ใกล้ๆมึง.....มันสนุกดี”มันบอกผมเบาๆ

“แล้วมึงล่ะ”มันถามผมต่อ

“กูก็เหมือนกัน.....มีมึงอยู่ด้วยแล้วกูไม่เหงา”ผมตอบไปด้วยรอยยิ้มเหงาๆ  เมื่อคิดว่าถ้าผมบอกมันว่า
ไม่ต้องมายุ่งกับผม  ต่อแต่นี้ไม่ต้องสนใจผม  มันจะเกิดอะไรขึ้น

...........เงียบกันไปพักใหญ่............

“ไอ้ทิศ”มันเรียกผม

“อือ”ผมขานรับ

“มึงคบกับกูได้มั้ย”มันพูดครับแต่ไม่ยอมมองหน้าผม

“เฮ้ย”ผมตกใจครับ  หันหน้ามามองมัน  ซวยละกู  เอาแล้วไง  ดีใจจัง  แต่ก็รู้ดีว่าผมต้องปฏิเสธมันอยู่ดี

“อือ.....ก็ได้”ผมได้ยินตัวเองตอบไปแบบนั้นครับ.....แย้ก....ไอ้บ้าไหนว่าจะปฏิเสธวะ.....ผมหน้ามืดทันที......เหมือนจะเป็นลม
“งั้นมึงเป็นแฟนกูแล้วนะ”มันทำน้ำเสียงยินดีถึงขีดสุดเลย

“..ด.....เดี๋ยวๆ...”ผมรีบปรามมันครับ.......อะไรกันเนี่ยกู.....ผมยังงงๆเลยปล่อยคำถามถ่วงเวลาไปก่อน

“ทำไม”ผมถามมันเสียงสั่นๆ  หันหน้าไปมองถนน

“กูชอบมึงมานานแล้ว”มันเขินครับ

“ทำไมต้องเป็นกู.....กูเป็นผู้ชายนะ”ผมถามมันทั้งๆที่ยังงง

“กูไม่รู้แต่กูว่ามึงน่ารักดี.....รู้ตัวอีกทีกูก็รู้สึกแบบนี้แล้ว”มันตอบเรียบๆ

“ไอ้คมมึงเป็น....เอ่อ...เกย์เหรอวะ”ผมก้มหน้าถามมันเบาๆ  แม้แต่ตัวเองก็ไม่รู้ว่าต้องการคำตอบแบบไหน

“ไม่......กูไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนเลย......มึงเป็นคนแรกที่กูชอบขนาดนี้”มันพูดคำว่าชอบบ่อยเหลือเกินครับ

“มึงรู้มั้ยอนาคตจะเป็นยังไง”ผมถามมัน....เริ่มโมโห.....โมโหตัวเอง......โมโหมัน...ที่มาชอบคนเพศเดียวกัน

“รู้”มันตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

“แล้วทำไมมึงยังทำ”ผมถามมันเสียงสั่นๆ

“หรือมึงไม่ชอบกู”มันหันหน้ามามองผม

“.....กูเหรอ....กูก็ชอบมึง”ผมยังคงมองไปด้านหน้าอย่างไร้จุดหมาย

“มึงมีความสุขมั้ยเวลาที่อยู่กับกู”

“มี”

“แล้วมึงกลัวทำไมอนาคต......ถ้าตอนนี้มึงไม่มีความสุขมึงมั่นใจเหรอว่าอนาคตมึงจะมี”มันคาดคั้น 
ส่วนผมสติสตังค์ไปหมดแล้วครับ....ทำได้แค่ตอบคำถามมันไปเรื่อยๆ

“กูไม่รู้.....ไม่รู้อะไรทั้งนั้น.....อย่าพึ่งถาม...กูเบลอๆ”ผมหันไปมองหน้ามันเป็นครั้งแรกตั้งแต่พูดเรื่องนี้กันมา

“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร.....มึงไม่อยากให้กูชอบมึง.....มึงไม่อยากให้ความรักของเราต้องจบลงอย่างเจ็บปวด......
มึงเลยจะหนีใช่มั้ย”มันจ้องตาผมเขม็ง

“อืม”ผมพยักหน้าอย่างโง่งม.....ทึ่งที่มันรู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร....ขนาดผมยังงงกับตัวเองเลย

“กูก็เคยคิดแบบมึง......กูพยายามห่างๆมึง....แต่กูทำไม่ได้...กูอยู่ใกล้มึงมากเกินเลยชอบมึงแบบถอนตัวไม่ขึ้น”
ตามันสุดจะจริงใจเลยครับ

“ไอ้บ้า....มึงไม่อายเหรอ”ผมเขินครับหันหน้าหนีเลย

“กูไม่กลัวอนาคต.....กูแค่อยากให้ตอนนี้กูมีความสุขก็พอแล้ว......กูไม่เคยชอบใครเท่ามึงเลย.....
กูจะไม่มีวันปล่อยมือมึงก่อนแน่นอน.......นี่ไม่ไช่คำสัญญา...แต่กูรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.........มึงก็เหมือนกัน.....เลิกหนีซะที”มันเอามือมาวางบนมือผมครับ ....ผมชอบที่มันบอกว่า...ขอแค่ตอนนี้มันมีความสุขก็พอ....
และที่มันว่ามันไม่กลัวอนาคต.....2 อย่างนี้ไม่เคยอยู่ในข่ายความคิดของผมมาก่อน....ผมแปลกใจ
ในความกล้าของมัน

.....ผมคิดอยู่นานจนมันถาม

“ตกลงมึงเอาไง”

“มึงว่าเราจะมีความสุขกันมั้ยวะ”ผมถามมันลอยๆ

“กูน่ะมีแน่แต่มึงน่ะ กูไม่รู้”มันว่า

“แต่กูกลัว...ถึงเราจะพยายามแค่ไหนแต่กูก็กลัวอยู่ดี”

“กูไม่ทำให้มึงเสียใจแน่นอน......มึงเอาไง....จะปฏิเสธกูก็ไม่ว่า....กูเตรียมใจมาแล้ว”

“มึงรู้มั้ยว่า....วันนี้กูมาเพื่อปฏิเสธมึงนะ”ผมบอกมันเบาๆ

“....กูรู้ว่าทำไม.....แล้วกูก็ดีใจที่มึงห่วงกู....แต่กูทนไม่ไหวแล้วกูต้องพูด....ตกลงเอาไง”

ผมเงียบอยู่นาน ก่อนถอนจะถอนหายใจ แล้วตอบมันว่า

“ไอ้คม.....มึงอย่าทิ้งกูล่ะ”

“เออ....มึงก็อย่าทิ้งกู”มันบอกผม

“อือ...ได้กูจะไม่ทิ้งมึง”ผมสัญญาไป.....ทั้งที่รู้ว่าวันนึงเราคนใดคนนึงต้องฉีกสัญญาทิ้ง.....
แต่ตอนนี้ขอให้ผมมีความสุขก็พอแล้วนี่นา....พอคิดได้อย่างนี้ผมก็ยิ้มเลยครับ.....ใช่......ตอนนี้กูก็มีความสุขได้....ไม่เห็นต้องรออนาคตที่ไม่แน่นอนเลย

“กูชอบมึงนะไอ้คม”ผมยิ้มให้มัน.....มันยิ้มตอบ....มือที่จับผมไว้ยิ่งแน่นกว่าเดิม
story by นายโฮะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่รู้เป็นไรคอมพ์ที่บ้านล็อกอินไม่ได้ แล้วคอมพ์ที่คณะดันจัดหน้ากระดาษไม่ได้เลยจัดแบบมั่วๆ หวังว่าคงไม่งง
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 11-06-2007 15:42:48
ไม่เป็นไรจ๊ะ อ่านได้  :o9:

มาต่ออีกนะ   :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-06-2007 20:06:17
กูจะไม่มีวันปล่อยมือมึงก่อนแน่นอน.......นี่ไม่ไช่คำสัญญา...แต่กูรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.  o7  o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 12-06-2007 12:46:31
อยากจะบอกว่า............

เอาไปหนึ่งบวกเลยเคอะ  อ่านแล้วสนุกได้ใจ  ลุ้นไปด้วยเลยตอนนี้  แต่....(เบื่อมะคำนี้?) ประโยคที่ว่า....

....“ไม่......กูไม่เคยชอบผู้ชายคนไหนเลย......มึงเป็นคนแรกที่กูชอบขนาดนี้”....

ขอร้องหละ  เรื่องหน้าอย่ามีอีกนะ  o21

หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 12-06-2007 13:40:36

“กูไม่กลัวอนาคต.....กูแค่อยากให้ตอนนี้กูมีความสุขก็พอแล้ว......กูไม่เคยชอบใครเท่ามึงเลย.....
กูจะไม่มีวันปล่อยมือมึงก่อนแน่นอน.......นี่ไม่ไช่คำสัญญา...แต่กูรู้ว่ามันจะเป็นอย่างนั้น.........มึงก็เหมือนกัน.....เลิกหนีซะที”


.............คำพูดที่เอ่ยออกมามันก็เป็นสัญญาไปครึ่งหนึ่งแล้ว.....

.............อยู่ที่ว่า....เคยจำมันได้รึเปล่า......... :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 13-06-2007 12:25:35
ตอนที่ 10 เพื่อนที่อยู่ห้องเดียวกัน

เช้าที่สดใสของวันต่อมาตาผมมองเพดานห้อง  สำรวจตามใยแมงมุม  แต่ความคิดยังยอกย้อนกลับไปถึงเรื่องราว
ที่เหนือความคาดหมายเมื่อคืน

“กูน่ารักตรงไหน”ผมถามมันเขินๆ  ระหว่างรอรถ

“...ตรงไหนเหรอ.....ปากไง....เล็กๆน่ารัก....แดงๆดีด้วย....แต่เวลาพูดออกมานะมีแต่หมา.55555”มันว่า

“แล้วมึงชอบกูตรงไหน”มันถามกลับครับ

“...เอ่อ...นิสัยมึงไง......มีเหตุผล...ตรงไปตรงมา”ผมตอบไปคิดไป  ใจจริงก็อยากตอบว่ารูปร่างหน้าตาน่ะนะ.....
แต่กลัวมันเหลิง  เมื่อคืนเรานั่งแท็กซี่กลับกันครับ  พอถึงหอก็แยกย้ายกันไปนอน.......พอมาคิดไปแล้วเหมือนฝันเลย......
ว่าแต่มันเกิดขึ้นจริงรึเปล่าวะ....ผมยังสงสัย

“เฮ้ย”ผมอุทานเสียงหลงเมื่อมีมือมาวางพาดหน้าอกอย่างแรง

“ตกใจอะไร...ให้แฟนกอดไม่ได้เหรอ”ไอ้นี่หวานแต่เช้าเลยครับ  น้ำเสียงอ้อนสุดๆ

“มาเมื่อไหร่....ไม่บอกล่ะ”ผมถามพร้อมหันหน้าไปหามัน....

“นึกว่าฝันไปซะอีกเมื่อคืนน่ะ”มันหัวเราะหึๆ  ผมแปลกใจครับที่มันคิดเหมือนผมเลย  หรือว่ามันมีพลังจิตอ่านใจคนได้....เพ้อเจ้อแล้วกู........ป้าบ....ไอ้คมคับ..มันเอาขามาพาดบนตัวผมแถมไปทับของผมเต็มๆ

“เฮ้ย...ไอ้คมเอาขาออก” ผมพยายามใช้มือช่วยยกขามันออก  แต่แขนก็โดนมือที่มันกอดผมเอาไว้ขวางอยู่

“หึหึหึหึ”มันหัวเราะหื่นๆ  มือไม้เริ่มลูบไล้แล้วครับ

“แค่นี้มีอารมณ์แล้วเหรอ”มันว่าพร้อมเริ่มเอามือรุกรานเข้าไป  ก็รู้ดีว่าของสำคัญตอนเช้าๆน่ะมันขยันขนาดไหน
ยังมากวนอารมณ์อีกแฮะไอ้นี่

“ไอ้คมกูยังไม่พร้อม.....กูกลัว”ผมหน้าแดงหันหน้าหนี  แต่มันดิครับ  จับมือผมอีกข้างล้วงเข้าไปในกางเกงมัน
สัมผัสกับไอ้คมน้อยที่พร้อมเต็มที่

 “น่ารักจริงๆ  แฟนกู”มันว่าพร้อมหอมแก้มผมครับ  ผมงี้เขินหน้าแดงเลย

“ไป ไปอาบน้ำเลยไอ้คม...มานอนทับตัวกูอยู่ได้”ผมพูดไปเบาๆ

“หึหึหึ.....ทำไมเหรอแค่นี้ก็เขินแล้วเหรอ”มันรีบกระโดดไปเลยครับก่อนจะโดนหมอนที่แฝงพลังวัตร 20 ปีจากมือผม 
พอมันออกไปครับผมอมยิ้มเลยครับ....มีความสุขมาก

   วันเวลาที่เหลือจนเปิดเทอมผ่านไปในลักษณะนี้  มันจะอยู่กับผมเกือบตลอดเวลา  ตอนที่ผมไปเรียน 
มันไปทำงานมันก็จะโทรหาผมตอนเทื่ยงวันเที่ยงคืนทุกวัน  จนเปิดเทอมทุกคนก็กลับมาอยู่หอตามปกติ
(ปี 2 เทอม 1 ครับ)  แต่ผมกับมันอะดิ  ไม่รู้จะทำตัวยังไง  เลยได้ข้อสรุปว่า  เป็นเหมือนเดิมแล้วกัน 
แต่มันต้องโทรหาผมทุกเทื่ยง  วันนี้ผมมาเรียนตามปกติครับ  เจอไอ้รัน  ไอ้นิว ตามเคย เพราะไม่เจอกันนาน
เราเลยคุยกันเพลินจนไอ้คมโทรมา

“อื่อ”ผมรับ

“สวัสดีครับแฟน”มันว่า

“อยู่คนเดียวเหรอ”ผมถาม

“ใช่.....ทำไมรู้”

“ถ้ามีคนอยู่ด้วยคงไม่กล้าพูดหรอก”

“5555....แสนรู้จัง.......นี่ไม่บอกรักหน่อยเหรอ”มันอ้อนแล้วครับ....แต่ผมยังไม่เคยบอกรักมันนะครับ...
มีแต่บอกว่าชอบ....เพราะผมจะไม่พูดคำว่ารักง่ายๆ

“ไม่”ผมตอบไปเรียบๆ

“ทำไม”มันถามฉุนๆ

“คิดดิ”

“.........อยู่กับเพื่อนเหรอ...”มันถามครับ

“อือ”

“...งั้นไม่เป็นไร......คิดถึงนะ”

“เหมือนกัน”แล้วมันก็วางหูครับ  คราวนี้ไอ้นิวถามครับ

“มึงมีแฟนแล้วเหรอ”มันแซวครับ

“....ไม่เมื่อกี้เพื่อนกูเอง....”ผมก็แก้ตัวไปตามประสา

พอตกค่ำพวกเราก็ออกไปกินข้าวข้างนอกกันตามระเบียบ  มีผม  ไอ้คม  ไอ้รัน  ตามเคย  แล้วก็มีไอ้โน้ตสะกดรอยตาม  พวกผมคร้านที่จะสนใจมันแล้วครับ  น่าเบื่อที่สุด......มาตามตื้อแฟนผมอยู่ได้

“พวกมึงสนิทกันมากเหรอวะ”ไอ้รันมันถามขึ้นมาครับ

“...ถามทำไม”ผมก็ถามไปเรียบๆ  ไม่เผยพิรุธ

“ไอ้เชี่ยโน้ตมันถามกู”ไอ้รันมันว่า....ท่าทางมันก็รำคาญ

“อ้าวมึงรู้จักไอ้โน้ตด้วยเหรอ”ไอ้คมถามด้วยความสงสัย

“ก็นิดหน่อย”ไอ้รันตอบส่งๆ

“.......พวกมึงเล่นกลับกันหมด...เหลือกูกับไอ้คม.....ถ้ากูไม่ไปกะมันจะไห้กูไปกะป๊ามึงเหรอ”กวนตีนทันทีครับผม

“ใครบอกให้มึงอยู่ล่ะ....คนอื่นเขากลับบ้านไปเสวยสุขกันไม่ต้องมานั่งเรียนหัวฟูแบบมึงหรอก...5555”ไอ้รันสวนเลยครับ

“ก๊าาาากาาากก...ถ้าอย่างกูมันฟู...แล้วแอฟโฟ่อย่างมึงเรียกอะไร”ผมว่าแล้วเอามือไปขยำหัวมัน

“ไอ้ควายทิศมึงเอามือออกหัวกูเสียทรงหมด”มันว่าแล้วเอามือผมปัดวุ่นวายเลยครับ

“มึงว่าใครเป็นควาย....ถ้ากูเป็นควาย...พวกมึงก็ญาติควายล่ะวะ....มึงก็ตัวควาย(ผมชี้ไอ้คมครับ)....มึงก็สมองควาย
(ผมชี้ไอ้รัน)....ได้ข่าวเกรดไม่ถึง 2....ก๊าาากกกไอ้โง่”ผมว่าพวกมันทั้ง 2 ตัวเลยครับเพื่อความฮา

“เฮ้ยลามมาถึงกู...ถึงกูจะตัวควายกูก็ไม่ได้หน้าควายเหมือนไอ้รันนะ”ไอ้คมร่วมด้วยครับ  พอว่าจบผมกะไอ้คมก็หัวเราะไปวิ่งไป  หลบการตระครุบตัวจากไอ้รันครับ  พอไปถึงร้านพวกเราก็หัวเราะไปจนหมดเรี่ยวแรงไปตามกัน  ขณะที่รอข้าว 
ไอ้เชี่ยโน้ตครับ  โผล่มาโฉบอีกแล้ว  ผมก็ไม่สนใจ  แต่ไอ้คมดิครับดันชวนมันมาด้วย

“เฮ้ยไอ้โน้ต...แดกข้าว”ไอ้คมแอบยื่นมือมากุมนิ้วก้อยผมใต้โต๊ะครับ  คล้ายๆจะบอกว่าอย่าคิดมาก
แต่ผมก็อดอารมณ์เสียไม่ได้

“เออๆ...มาดิ.....กินด้วยกัน”ไอ้รันก็อีกคนครับ  เออก็พวกมึงรู้จักกันนี่หว่า  ผมคิด  ส่วนไอ้โน้ตมันไม่ว่าอะไรครับ 
เดินไปสั่งอาหารแล้วมานั่งเก้าอี้ข้างๆไอ้คมเลย  ไอ้คมปล่อยมือผมเลยครับ 
ไอ้รู้น่ะรู้ว่าเดี๋ยวไอ้โน้ตเห็นแล้วมันจะเป็นเรื่อง  แต่อีกใจหนึ่งก็.............เฮ้อ  พอมันนั่งลงเท่านั้นแหละ
บรรยากาศก็เปลี่ยนไปทันที   เงียบครับเงียบ  จู่ๆดูเหมือนทุกคนไม่มีเรื่องจะพูดขึ้นมากะทันหัน 
มื้อนั้นจบลงด้วยความอึดอัด   หลายวันต่อมาไอ้โน้ตก็มากินข้าวด้วยกันตลอด  คราวนี้เดินมาอย่างเปิดเผยครับ
ไม่สะกดรอยตามเหมือนเคย  บรรยากาศอึดอัดทุกวัน  มีแต่ไอ้คมพยายามชวนไอ้โน้ตคุยตลอด  ผมงี้ทั้งหึงทั้งเซ็ง.....
มึงเป็นใครต้องไห้แฟนกูเอาใจ.....แม่......ง        วันนึงก่อนจะไปกินข้าวไอ้คมมันมาคุยกับผมครับ

“มึงชวนมันคุยหน่อยดิ”

“ทำไมกูต้องชวนมันคุย”ผมถามหงุดหงิด

“ก็มันบอกว่ามึงน่ะ  ทีกับไอ้รัน  กับกูคุยได้คุยดีแต่กับมันไม่ยอมคุย”ไอ้คมว่าเสียงอ่อยๆ

“อ๋อ...เพราะงี้ใช่มั้ยถึงมาบอกให้กูชวนมันคุย...เพราะมันว่ากูใช่มั้ย”ผมมองหน้าหาเรื่องเลยครับอารมณ์เสีย 
กูไม่ไล่มึงกลับตอนแดกข้าวก็บุญแล้ว

“ไม่ใช่อย่างงั้น”

“แล้วทำไม่มันไม่ชวนกูคุย.....ทำไมกูต้องพูดกับมันก่อน...พ่อกูก็ไม่ใช่”ผมว่า

“ก็มันไม่กล้าพูด”ไอ้คมพยายามเกลี้ยกล่อม

“แล้วกูล่ะ......ถึงกูจะพูดมากกูก็ไม่เคยตอแหล.....คนที่กูไม่ชอบกูไม่อยากคุย”ผมหันหน้าไปทางอื่น
ไม่อยากมองหน้าของไอ้คมที่กำลังทำเพื่อคนอื่นต่อหน้าผม

“มึงสงสารมันเหอะ......มันเป็นเมทกูนะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน.......กูไม่อยากอึดอัด”ไอ้คมขอร้องครับ

“........แล้ว........กูหล่ะ........”ผมถามันช้าๆชัดๆ  เสียใจมาก...แต่ไม่รู้ว่าทำไม

“มึงก็แฟนกูไง”ไอ้คมพูดเบาๆครับ  หลังจากสำรวจรอบข้างเรียบร้อย

“......มึงบังคับไห้แฟนมึงทำในสิ่งที่คนที่ชอบมึงอยากให้กูทำเหรอ..........”ผมก้มหน้าพูดเบาๆ  ราวกับรำพึงกับตัวเอง

“ไม่ไช่อย่างงั้น........”มันพูดทำท่าลำบากใจ

“......................”ผมเงียบครับรู้ว่ามันยังพูดไม่จบ

“......ตอนปี 1 แรกๆไม่มีใครคบกูเลย........มีแต่มันนี่แหละ........แต่เมื่อก่อนมันไม่เป็นอย่างนี้......
มันก็ธรรมดานั่นแหละ.......พูดคุยหยอกล้อกันธรรมดา.............แต่ตั้งแต่กูเจอมึงกูก็อยู่แต่กับมึง........
กูว่ามันคงน้อยใจกูที่กูไม่มีเวลาไห้มัน..........แต่กูก็อยู่กับมันตลอดไม่ได้เดี๋ยวแฟนหึงตายเลย.........
กูก็เลยอยากให้มึงกับมันเป็นเพื่อนกันไว้.........นะกูขอร้อง.......ยังไงมันก็เพื่อนกู”มันอธิบายครับ 
ผมเงียบอยู่นานแล้วถามมันว่า

“มึงรู้มั้ยว่ามันชอบมึง”

“กูไม่รู้แล้วกูก็ไม่อยากรู้.......กูมีแต่มึงคนเดียว....มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอ”มันว่า  ตั้งแต่รู้จักกับมันมามันไม่เคยโกหกผมเลย 
จนผมเชื่อมันทุกอย่าง  โดยเฉพาะการกระทำของมันครับที่ทำไห้ผมเชื่อใจมัน
ดังนั้นพอผมรู้ว่ามันต้องการเก็บเพื่อนคนนี้เอาไว้  ผมก็เต็มใจที่จะช่วยมันครับ 
แต่ในใจลึกๆก็รู้ว่าไอ้คมไม่มีทางหลงรักไอ้โน้ตแน่นอนครับเพราะผมหน้าตาดีกว่าและไม่โรคจิตเหมือนมันด้วย55555

“ก็ได้กูจะพยายาม”ผมบอกมันปลงๆ

“กูขอโทษนะที่ทำไห้มึงลำบากใจ”มันว่าด้วยสายตาสงสาร

“กูเข้าใจว่าถ้าต้องอยู่ห้องเดียวกันแล้วน่าอึดอัดมันทรมานขนาดไหน”

   หลังจากวันนั้นเราก็ไปกินข้าวกันบ่อยๆผมก็แหย่ไอ้รันกะไอ้คมตามปกติ....บางทีก็เลยไปถึงไอ้โน้ตด้วย....
คุยๆไปก็ชิน....เริ่มเฉยๆ.......ลึกๆก็สงสารมันนะที่มีคู่แข่งด้านความรักร้ายกาจอย่างผม55555 อันที่จริงแล้วไอ้โน้ต
มันก็นิสัยใช้ได้นะครับ แต่มันขี้งอนมากๆ แล้วก็ชอบงอนไอ้คมบ่อยๆ งอนจนออกนอหน้าทั้งๆที่ไอ้คมมันไม่เคยง้อเลย
ผมพยายามตะล่อมถามมันว่ามันมีคนที่ชอบไหม มีแฟนรึยัง มันก็ตอบว่ายังครับ ผมเคยถามมันว่า

“มึง.....กูถามมึงจริงๆนะ...มึงชอบไอ้คมรึเปล่า”

“ทำไมถามกูอย่างนี้”มันสวนผม

“ก็มึงชอบงอนมันอยู่เรื่อย”ผมก็บอกไปตามความจริง (ซึ่งหลายคนไม่ค่อยยอมรับ555)

“ไม่หนิ.........กูไปงอนมันตอนไหน”มันยังถามใสซื่อ

“เออๆ ถือว่ากูเชื่อมึงละกัน”ผมว่าอย่างหน่ายๆ เบื่อจริงๆ น่าจะพูดตรงๆ ผมกับมันจะได้มีเฮ.....55555
(มีหวังผมเละแน่ครับ เพราะมันเป็นนักกีฬา) บางครั่งพอผมถามมันว่า ทำไมชอบเดินตามไอ้คม มันก็จะบอกว่า

“กูเหงา มันไปไหนไม่เคยชวนกูเลย” พอผมไปถามไอ้คม

“เฮ้ย  มันว่ามึงไม่ยอมชวนมันไปไหนมาไหนด้วยอ่ะ...แล้วมึงว่าไง” ไอ้คมก็จะตอบว่า

“กูชวนมันแล้ว......แต่มันเงียบไม่ตอบกูสักที...กูเลยไปเลย....แม่งน่ารำคาญ”

“ไม่ใช่มันไม่ได้ยินเหรอ”ผมถามไอ้คม เมื่อผมคิดว่าไอ้โน้ตมันเป็นเพื่อนผมคนนึง
ผมก็ต้องทำกับมันให้สมกับคำว่าเพื่อนครับ

“ไม่ได้ยินป๊ามึงเหรอ กูตะโกนตั้งหลายครั้ง ส่วนมันแม้แต่หน้ายังไม่เหลียวมา”ไอ้คมยิ่งพูดยิ่งขบเคี้ยวเขี้ยวฟันครับ
เวลาที่ผมไปกันข้าวกับพวกมันนะ ถ้ามีวันไหนที่มีไอ้โน้ตไปด้วย ผมต้องชวนไอ้โน้ตคุยก่อนแล้วพยายามโยนบทสนทนา
ให้ไอ้คมต่อ ไม่งั้นพวกมันไม่มีใครเอ่ยปากแน่ๆ บางครั้งผมก็สงสัยว่าใครเป็นแฟนใครกันแน่วะเนี่ย
แต่ผมก็ดีใจนะที่ตั่งแต่มีผมไปเป็นตัวประสานเนี่ยสถานการณ์ไม่ตรึงเครียดมาก ดีพอที่จะกินข้าวลง ก็นับว่าคุ้มอยู่

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-06-2007 12:36:38
สงสารน้องทิศ รับหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ของสามีกะเมียน้อย  หน้าที่หนักจริงๆ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 13-06-2007 12:42:14
 o12 o12  เคยได้ยินเรื่องม้าอารีย์มั๊ยครับ  :laugh: :laugh:

ผมใจร้ายไปอะป่าวเนี่ยะ o18 o18
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 13-06-2007 15:05:14
ซึ้งน้ำใจทิศ   :o8:

แต่ระวังหน่อยก็ดีนะ  :o9:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Junrai_Hyper™ ที่ 13-06-2007 15:56:56
ตามมาทันแระ

ลุ้นโคดดดดด

เป็นกำลังใจให้ครับ

 o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-06-2007 18:20:53
ระวังมือที่สามนะ มาแบบเนียน ๆ นี้แหละ น่ากลัวนัก  o18
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 13-06-2007 19:18:27
อ๊ะ  ตามมาทันแล้วเหมือนกัน  ดีใจๆ :laugh:

มือที่สามถ้าเราให้ใจเค้า จริงใจกับเค้า มันก็ไม่น่ามีไรป่าว
อยู่ที่คนของเราแหละ   o8

สนุกดี  รออ่านต่อจ้า   :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: FOAM ที่ 13-06-2007 20:25:05
กว่าจาตามทัน  นานเหมือนกันแฮะ

เรื่องน่าติดตามครับ  และจะติดตามต่อไป

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 14-06-2007 11:04:46
ตอนที่ 11 สัมผัสแรก


วันนี้ผมกับไอ้คมมีนัดไปเดทกันที่สะพานพุทธครับ 

มันว่า “พาไปซื้อเสื้อหน่อย....น้า...น้า”ทำท่าอ้อนครับ  ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเลย.....

เราไปกันประมาณ 3 ทุ่มครับ  แต่ผมต้องไปรอที่ป้ายรถเมล์ที่ห่างออกไป 2- 3 ป้าย  แล้วก็ต้องรอไอ้คมมันด้วย 
รอประมาณ 30 นาที  มันก็รายงานว่าสลัดหลุดจากการติดตามของไอ้โน้ตเรียบร้อย(พักนี้มันสะกดรอยตามไอ้คมครับ)  เรานั่งรถเมล์ไป  ชื่นชมทิวทัศที่สวยงามยามค่ำไปตามรายทาง  ไม่รู้เป็นอะไร
ผมมักจะเคลิบเคลิ้มไปกับแสงไฟสีเหลืองๆเสมอ  มันให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่ก็เงียบเหงาไปพร้อมกัน 
พอคิดถึงตอนนี้...เอาแล้วครับ....เจ้าตัวแสบยื่นมือมากุมมือผมไว้....ผมก็.....ก็.....ย่อมปฎิบัติตามแต่โดยดี....
เราเอาขาบังเอาไว้ครับ....ไม่ได้รู้สึกว่าอบอุ่นหรอกนะ....เพียงแต่ไม่อยากปล่อย(เรายังไม่เคย”เกินเลย”กันเลย....
อย่างเก่งก็หอมแก้ม).......พอมาถึงเราก็เดินผลุบๆโผล่ๆอยู่ตามร้านต่างๆ  ไอ้คมมันได้กระเป๋ามาใบนึง
ส่วนผมได้ถุงเท้าถูกๆมาหลายคู่.....ผมเห็นมันมองเสื้อตัวหนึ่งอยู่นานแต่ไม่ยอมซื้อ...ผมเลยถามมัน

“จะซื้อก็ซื้อดิ”

“ไม่มีตังค์อ่ะซื้อกระเป๋าไปแล้ว”มันทำท่าละห้อย

“กูซื้อให้นะงั้น”ผมเดินเข้าร้านครับจะไปต่อราคานึดนึง

“ไม่เอา......มานี่”มันจับแขนผมแล้วลากมาเชิงสะพาน  ชื้อน้ำเปล่าน้ำผลไม้และขนมต่างๆ  พลางบอกผมว่า

“เค้าว่ากันว่า......ถ้าแฟนกันซื้อเสื้อผ้าให้กันจะต้องเลิกกัน”มันว่า  พร้อมดูดน้ำ  ก่อนจะส่งน้ำผลไม้ให้ผม

“เหรอวะ.....กูไม่เคยได้ยินเลย”ผมพูดขณะแย่งขนมมาจากมันนิดนึง

“ตอนแรกกูก็ไม่เชื่อ.....แต่เพื่อนกูอะดิทดลอง.....เห็นผลทันตา”มันทำตาโตเหมือนเล่าเรื่องตื่นเต้น

“เหรอ”ผมยื่นหน้าไปแกล้งทำตื่นเต้น 2 วิ  แล้วกลับมาทำหน้าเซ็งตามเดิม  ให้มันรู้ว่าผมตอแหลมัน

“ป้าบ”มันตบหัวผมโทษฐานล้อเลียนมัน

พอเรากินอิ่มหน่ำ  มันก็ชวนผมไปยืนบนสะพานพุทธ  เรายืนเกาะสะพานจ้องมองสายน้ำและแสงไฟเบื้องล่าง 
มีรถวิ่งผ่านไปมาด้านหลังทำให้สะพานสั่นเล็กน้อย  แต่ผมรู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก
คล้ายกับสามารถอยู่ที่นั้นได้โดยไม่เบื่อหน่ายหลายๆชั่วโมงและก็รู้ว่ามันเองก็รู้สึกเหมือนกัน 
สายลมเย็นๆยังคงพัดพลิ้วเบื้องหน้าไปอย่างแผ่วเบา  คล้ายกับจะพัดเอาความกลัดกลุ้มไปจากตัวเรา....ผมปลดปล่อยความอึดอัดจากการที่ต้องคบแบบหลบซ่อนๆ และความหวาดกลัวอนาคตไปกับมัน........ปกติผมเป็นคนพูดมาก.......
แต่พอมีมันอยู่  คล้ายกับว่าระหว่างเราไม่ต้องพูดอะไรมากโดยเฉพาะบรรยากาศแบบนี้

“ไปเดินเล่นกัน” มันพูดเบาๆ  คล้ายกับกลัวทำลายบรรยากาศที่สุขสงบไป  มันจูงมือผมเดินไปฝั่งธนบุรี 
เราพูดคุยเล่าเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัวอย่างแผ่วเบา หลังจากนั้นเราก็เดินกลับฝั่งกรุงเทพด้วยสะพานที่อยู่ด้านข้าง

 ผมยิ้มตลอดเวลา นอกจากการได้อยู่กับมันแล้วไม่ได้คิดถึงเรื่องราวอื่นอีก  เราเดินกันจนเหนื่อย  ซื้อน้ำอีก 1 ขวด 
แล้วก็มานั่งคุยกันที่ท่าน้ำสะพานพุทธ  รวมๆแล้วได้ความว่า  บ้านมันมี 4 คน  มันเป็นลูกชายคนเดียว  มีพี่สาวอีก 1
มีพ่อมีแม่ครบพร้อม  บ้านมันอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ครับฐานะค่อนข้างยากจน 
มันจึงเป็นความหวังของวงศ์ตระกูล  ส่วนผมเป็นลูกคนที่ 5 คนสุดท้อง  พ่อเสีย  แม่ทำงานหนักฐานะปานกลาง 
ญาติๆก็ห่างๆกันไปไม่ได้สนิทเท่าไหร่  ถ้าเทียบกันแล้ว  ไหล่บ่าของมันจึงแบกรับภาระไว้มากมาย 
มิน่ามันถึงเข้มแข็งนัก  เราคุยกันจนเพลินจนผมถามมันว่า

“เน่ะ.....มึงชอบกูตั้งแต่ตอนไหนวะ”ผมก้มหน้ามองสายน้ำ

“ก็ตั้งแต่....ตอนที่เจอที่สนามแบตครั้งแรกเลย”มันยิ้มๆ

“ฮะ....ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ”ผมแปลกใจ.....ดีใจด้วยนิดนึง

“ก็.......กูคิดว่ามึงน่ารักดี.....แต่กูก็กลัวใจตัวเอง.......แต่ยิ่งรู้จักมึงมึงยิ่งทำให้กูรู้สึก......”มันหยุดไป

“รู้สึกอะไร”ผมถามมัน

“ไม่รู้.....เหมือนควบคุมไม่ได้.....เหมือนอยากดูแลมึง......ยิ่งตอนที่กูเห็นมึงร้องไห้หน้าสนาม.....กูแทบบ้า......
สงสารมึง......อยากรู้ว่าเป็นอะไร”มันทำท่าทางหวนรำลึก

“........แต่กูเป็นผู้ชายนะ.....”ผมพูดเบาๆ.....คิดว่าถ้าพูดเบาแล้วจะทำร้ายจิตใจมันน้อยลง

“นี่แหละที่กูกลัว......มึงก็รู้ว่ากูมีภาระในอนาคตขนาดไหน......แต่กูก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้....พอใจมึงยัง”มันว่า

“ขอโทษนะ”ผมก้มหน้าลง

“แล้วมึงล่ะเริ่มขาดกูไม่ได้ตอนไหน”มันว่าหันหน้ามาซะด้วย  ผมหันซ้ายขวาอย่างระแวดระวัง

“มึงนี่.....รู้ว่าอายสะกดยังไงมั้ยหาาาาา”ผมเขินครับเลยโวยแก้เขิน

“เออน่าว่ามาอยากรู้”

“....อือ...ก็คงตอนที่มึงเข้ามาในชีวิตกูมั้ง.....แต่เริ่มแน่ใจตอนที่เริ่มหึงมึงกะไอ้โน้ตมัน.......แล้วทนไม่ได้
ตอนที่มึงมาสายช่วงsummer.....มึงคงรู้ว่าตอนไหนนะ”ผมตอบเรียบๆ

“ชอบกูขนาดนั้นเชียว”ยิ้มแฉ่งเลยครับมัน

“ไอ้คมมึงเงียบเลย”การแก้เขินของผมคือด่าครับ

เราเงียบกันไปอีกนาน  ไอ้คมเคลิบเคลิ้มกับลมแม่น้ำพริ้มตาหลับลง

“มึงรู้มั้ยว่า...สักวันหนึ่งเราก็ต้องเลิกกัน”ผมพูดในสิ่งที่คิดออกมา  สิ่งนี้แหละที่คอยกวนใจผมอยู่ตลอดเวลา

“อย่าพูด”มัน  จ้องไปที่แม่น้ำเขม็ง  ใบหน้าสงบจนน่าประหวั่นใจ

“แต่กูกลัว...กูต้องพูด”ผมพูดเบาๆ  กลัวว่ามันจะไม่พอใจ

“กูบอกว่าอย่าพูด”มันยังคงย้ำคำเดิม  ผมรู้ได้ทันทีว่ามันก็กลัวอนาคตไม่แพ้ผม 
แต่มันไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ผมเห็นเลย  มันคอยดูแลปกป้องผมตลอด

“มึงว่าถ้าซื้อเสื้อให้แล้วต้องเลิกกันใช่มั้ย”

“........................”มันเงียบครับ

“......ถ้าวันนั้นมาถึง.......ถ้ามึงลำบากใจที่จะพูด.....มึงก็ซื้อเสื้อให้กูละกันนะ....”ผมยิ้มอย่างน่าดูที่สุดเท่าที่ทำได้

“.....ไม่....กูไม่มีวันที่จะซื้อเสื้อผ้าให้มึง....กูบอกมึงไว้แล้ว”มันหน้าเครียด  ยังคงจ้องสายน้ำ

“มึงอย่าผูกมัดตัวเองกับคำสัญญาโง่ๆดิวะ.....กูไม่อยากให้มึงทรมานตัวเอง”ผมยังคงพูดเพราะห่วงมันจริงๆ

“กูบอกแล้วว่ามันไม่ใช่สัญญา.....แต่กูรู้ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้น......เลิกพูดได้แล้ว”มันอารมณ์เสียแล้วครับ


..............................
..............................
..........................................................................


“มึง..”ไอ้คมพูดขึ้นมา

“หือ”ผมขานรับหันหน้าไปหามัน

“มึงชอบกูมั้ย....”มันหันหน้ามามอง

“ชอบ....ชอบมากๆ...ชอบจนกูกลัว”ผมตอบ

“ตั้งแต่กูเกิดมา.....มึงเป็นผู้ชายคนแรก.....และคนสุดท้ายที่กูจะรู้สึกแบบนี้ด้วย”มันว่า  ทำหน้าจริงจัง  สายตาที่จริงใจ 
ทำไห้ผมไม่อาจละสายตาไปได้  ก่อนที่มันจะพูดต่อ

“ถ้ามึงทำให้กูมีความสุข กูก็มีความสุขมากกว่าเรื่องไหนๆ แต่ถ้ามึงทำไห้กูทรมาน กูไม่รู้ว่ากูจะอยู่ได้ยังไง”

“เหรอ”ผมยิ้มอย่างมีความสุข  แต่ดวงตาที่หวั่นเกรงอนาคตก็ยังฉายแววกังวล

“กูรักมึง”................................................................................กาลเวลาของผมหยุดนิ่ง...............รู้สึกสมองมึนๆ.........ไอ้คมหอมแก้มผม.....ผมสะดุ้ง

“เฮ้ย”ผมตกใจ  หันซ้ายหันขวาไม่มีใครโชคดีที่อยู่มุมเปลี่ยว  พอหันหน้ามาเจอสายตาที่อ้อนวอนจากมัน
ก็รู้ตัวว่าไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้อีกแล้ว  มันโน้มตัวลงมาหอมแก้มผมอย่างแผ่วเบาเนิ่นนานอีกที 
ปากของมันค่อยขยับเลื่อนมาที่กึ่งกลางของใบหน้า  จนริมฝีปากมันเริ่มสัมผัสกับส่วนเดียวกันของผม 
จนจมูกเราชนกัน 

กาลเวลาหยุดอยู่อย่างนั้น.......เนิ่นนาน....จนผมรู้สึกว่าปากของคมเริ่มขยับ........ผมจึงตอบสนองอย่างแผ่วเบา........
อย่างไม่รู้ตัว.......ไอ้คมสอดลิ้นเข้ามาครับ.....ผมตกใจลืมตาโพลง.....ก่อนจะขยับหนีอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ย”ผมอุทานออกมา

“ใจเย็นดิวะ.....กูครั้งแรก”ผมบอกมันตาตื่นๆ

“กูก็เหมือนกัน”มันยิ้มๆพยายามจะหลบตา.......เราสองคนเงียบอยู่นานครับ.....ผมไม่รู้ว่าใครหัวเราะออกมาก่อน
แต่ท้ายที่สุดเราก็หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็งด้วยกันทั้งคู่   ก่อนที่จะจูงมือกันเดินกลับ.....

วันนี้เหมือนว่าเราได้ถ่ายทอดบางอย่างที่เรากลัวออกมาให้อีกฝ่ายได้รับรู้.......ซึ่งมาจากความเข้าใจ
และความต้องการปกป้องซึ่งกันและกันทั้งสิ้น ผมโบกแท็กซี่ ส่วนไอ้คมยืนยิ้มครับให้กำลังใจอย่างเดียว
เวลามันจะซื้อของหรือว่าไปถามข้อมูลอะไรเนี่ย มันมักจะดันผมออกหน้าเสมอ มันบอกมันหน้าบาง
ไม่กล้าคุยกับคนแปลกหน้า

“แหมไอ้ควายหน้าบางนะ.....ทีเมื่อกี้....กูนึกว่ามีควายมาหอมแก้ม.....หนวดสากชิหายเลย”ผมแซวมันตอนรอรถ

“เออ...มึงไม่ชอบก็บอกกูดีๆ....กูจะได้ไม่ทำอีก”มันว่าหน้าบูดเลยครับ ส่วนผมก็

“โอ๋ๆๆ....กิ้วๆ...”จี๋เอวมันครับ มันหัวเราะก๊ากเลย บิดตัวหนีแทบไม่ทัน แต่เทียบกันแล้วผมค่อนข้างอ่อนไหวมาก
เวลาอยู่ด้วยกันนะ 10 นาทีผมจะงอนมันประมาณ 2 ครั้ง (มันว่า) ผมไม่รู้หรอกว่าจริงมั้ย แต่ถ้าถามว่าผมขี้งอนมั้ย
อันนี้ยอมรับ

อยู่บนแท็กซี่

ไอ้คมมันจับมือผมอีกแล้ว ทีกะคนแปลกหน้างี้อายนะมึง กะกูมึงออกลายซะพร้อยเลย ผมนั่งซ้ายหันหน้ามองวิวทางซ้าย แต่มันนั่งด้านขวาดันมองวิวทางซ้ายซะนี่ ผมอยากบอกมันเหลือเกินว่า

“กูเขิน....หันหน้าไป๊” แต่ก็กลัวคนขับแท็กซี่ทำตัวไม่ถูก เลยเงียบ พอถึงหอ มันปล่อยมือทันทีเลยครับ ไม่ต้องบอกเลย
ทีงี้รู้ดีเชียว มีคนที่เดินกระวนกระวายอยู่ตรงระเบียงห้องครับแน่นอนว่าเป็นไอ้โน้ต

“ไปไหนมา....”มันถามไอ้คม

“ไปสะพานพุทธ.....ถามทำไม”ไอ้คมตอบเซ็งๆ ไอ้โน้ตมันไม่ตอบครับ เดินเข้าห้องปิดประตูดัง ปึง
ผมกับไอ้คมมองหน้ากัน ไอ้คมยักไหล่ ผมก็ยักไหล่ตอบ ก่อนที่มันจะไปส่งผมที่ห้อง

“ฝันดีนะ....อย่าลืมฝันถึงแฟนล่ะ”มันว่า ทำหน้าประมาณว่าถ้าฝันถึงคนอื่นมึงตาย!!!

“เอ๋าแล้วให้กูฝันถึงแฟนคนไหนล่ะ”ผมว่า พร้อมกับเดินเข้าห้องปิดประตูล็อกทันที ก่อนที่ไอ้คมจะฆ่าผมซะก่อน
ผมเอาหูแนบประตูอยากรู้ว่ามันจะพูดอะไร แต่มันไม่พูดครับ ดันโทรเข้ามาแทน

“เออ”ผมรับแบบขำๆ

“อย่าไห้กูรู้นะมึง.....ไม่งั้นไอ้นั่นตาย!!!”มันว่า ผมก็กลัวนิด มันยิ่งเรียน anatomy ได้ เอ คงชำแหละเก่งน่าดู55555

“ห่า...มึงก็รู้ว่ากูพูดเล่น...ฝันดีล่ะ....ใส่เสื้อผ้าหนาๆล่ะ....ระวังไอ้โน้ตลักหลับนา555”ผมแซวไม่เลิก

“....เออน่า.....แล้วมึงจะพูดได้ยัง”มันว่า

“ฝันดีนะ อย่าฝันถึงคนอื่นล่ะ.......พอใจยัง”ผมบอกมันทั้งๆที่กั้นอยู่แค่ประตูแต่ดันโทรคุยกันซะงั้น

“ค้าบบบ.....เฮ้อ  นอนหลับแล้ววันนี้” ว่าแล้วมันก็วางเลยครับ ผมก็อาบน้ำนอน รับวันทีจะมาถึงของผมกับมันต่อไป

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 14-06-2007 12:48:31

.........ถ้าจะรัก.........จงอย่ากลัวกับวันข้างหน้า........ o13

.........ยิ่งกลัวก็ยิ่งรังแต่จะทำหั้ยความสัมพันธ์ลดน้องลง...... :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-06-2007 15:23:05
มารอลุ้นต่อ  o3
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-06-2007 20:02:41
เหอ เหอ เข้าโหมดเตรียมเศร้า  :undecided:  :undecided:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 14-06-2007 20:43:15
แต่งได้ดีมากเลยครับ
เป็นกำลังใจให้นะคับ
 o13
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 15-06-2007 01:46:21
 o18 o18  มะเข้าใจรูมเมทคมเลยครับ  รู้ทั้งรู้  แต่ก็ยังจะหึงหวงมะเข้าท่าเลย  :oak: :oak:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 15-06-2007 14:06:36
ตอนที่ 12 ความเปลี่ยนแปลง

หลังจากช่วงนั้นผมและมันก็หวานกันมากขึ้น(เวลาอยู่กัน 2 คน)  เราทะเลาะกันบ้างครับ  แต่ส่วนใหญ่
คนที่ผิดจะเป็นผมและผมก็จะเป็นคนง้อซะส่วนใหญ่(ทั้งงอนเองและง้อเองว่างั้นเหอะ) 
ใจหนึ่งก็รู้ว่าตัวเองผิด  อีกใจหนึ่งก็อยากให้มันง้อนะครับ  แต่ไม่รู้ทำไมเหตุผลมักจะไปยืนอยู่ฝ่ายมันเสมอ(ทั้งๆที่ผมเห็นว่าผมถูกแท้ๆ......มั้งแหะๆ)เช่น

มันไม่ยอมโทรหาผมตอนเที่ยงของวันหนึ่ง  ผมก็ไม่ยอมโทรหามัน  เพราะอยากให้มันโทรหาก่อนอยากรู้ว่าคิดถึงผมมั้ย  กลับถึงหอ  ผมโวยเลยครับ

ผม-----ทำไมไม่โทรหากู

มัน—แล้วทำไม่มึงไม่โทรหากู

ผม—มึงบอกมาก่อนเลยอย่าให้กูโมโห(กอดอก)

มัน—ก็กูอยากรู้ว่ามึงจะคิดถึงกูมั่งมั้ยปกติกูเป็นฝ่ายโทรตลอด

ผม—อ้าว....เหรอกูก็คิดแบบมึงเลย....ก็เลยรอแต่มึง(เขิน)

มัน—ทีหลังโทรหากูบ้างกูน้อยใจนะ(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ไปไหนทำไมไม่บอกกู

มัน—แล้วมึงล่ะไปไหนมา

ผม—ก็กูว่าจะไปชวนมึงไปซื้อของ  เลยไปหามึงที่ห้อง  มึงบอกมาเลยไม่ต้องโยกโย้(กอดอก)

มัน—กูก็ไปหามึงที่ห้องมาพอดีซื้อขนมมาฝาก  พอดีมึงไม่อยู่เลยกลับมา

ผม—อ้าว....เหรอไปหากูมาเหรอ(เขิน)

มัน—ทีหลังจะโมโหมึงดูก่อนได้มั้ยหาาาา(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ทำไมป่านนี้มึงไม่ยอมไปเรียน

มัน—แล้วมึงล่ะ

ผม—มึงไม่ต้องเลยไหนบอกจะตั้งใจเรียน  ใครบอกให้มึงโดด(กอดอก)

มัน—กูไม่ได้โดด  กูไม่สบาย  ไปหาหมอมา  แล้วทำไมมึงไม่ไปเรียน

ผม—อ้าวไม่สบายเหรอ......เอ่อ....กูรู้ว่ามึงไม่สบายไงเลยโดดมาดูแลมึงไง(เขิน)

มัน—มึงอย่าเอานิสัยขี้เกียจมาอ้างนะ  กูรู้ว่ามึงไม่ห่วงกูหรอก(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—เมื่อวานมึงไปดูหนังกับใครมา

มัน—ตอนไหนล่ะ

ผม—มึงไม่ต้องมาถ่วงเวลารีบตอบมา...กูเห็นกะตาเลย(กอดอก)

มัน----กูไปทำ research ช่วยอาจารย์  แจกแบบสอบถามเฉยๆ

ผม—อ้าวเหรอ.....ทำไมกูตามมึงตั้งนานไม่เห็นวะ(เขิน)

มัน—มึงตามกูมาเหรอ......มึงไม่ไว้ใจกูเลยใช่มั้ย(งอนครับงอน)

ผม----ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผม—ทำไมมึงไม่ยอมรับโทรศัพท์หาาาาาาา......สายไม่ว่างตลอดเลย

มัน—อ้าวมึงโทรหากูเหรอ

ผม—มึงไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง......บอกมาดีๆ...คุยกับใคร....ทำไมสายไม่ว่าง(กอดอก)

มัน—ก็โทรหามึงนั่นแหละ.......ถึงว่าทำไมสายไม่ว่างเลย

ผม----อ้าว.......โทรหากูเหมือนกันเหรอ(เขิน)

มัน----ถ้ากูไม่โทรหามึงจะให้กูโทรหาหมาที่ไหนหาาาาาา(งอนครับงอน)

ผม—ขอโทษน้า(ง้อซะงั้น)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายตัวอย่างความเลวของมันนะครับ(ขอย้ำ.....ของมัน)  คิดแล้วมันน่านัก.....ฮึ่ม

   วันเวลาของเราผ่านไปในอย่างรวดเร็วจนกระทั่งปิดเทอมอีกครั้งหนึ่ง 
ระหว่างนี้ข่าวลือว่าผมกับไอ้คมเป็นแฟนกันมันก็เริ่มก่อตัวแต่ทั้งผมและไอ้คมก็ไม่ได้สนใจเท่าไหร่นัก 
เรายังคงไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิมและบางครั้งเรายังขโมยจูบกันในบางโอกาส5555555 
พอเราสอบเสร็จผมก็ต้องกลับไปเยี่ยมบ้านในช่วงนี้  ไอ้คมก็เหมือนกันครับ 
จากที่เราโทรคุยกันวัน 2 ครั้งครั้งละหลายนาที  แต่บ้านผมไม่ค่อยมีคลื่นครับผมจึงได้แต่หยอดตู้โทรหามัน  คำพูดที่พูดออกมาก็เป็นคำที่แทบจะถมตัวผมจนหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

“คม”ผมพูด

“อื้อ”มันตอบอย่างเร็วๆ

“คิดถึงมากๆนะ”ผมบอกมัน

“เหมือนกัน”มันว่า

“งั้นแค่นี้นะ.....เดี๋ยวเจอกันนะ”ผมพูดเพราะเหรีญกำลังจะหมด

“อือ...เจอกันนะ”พอมันพูดจบสายก็ตัดไปเลยครับ ตลอดเวลา 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา เราไม่ได้พูดเกินเลยไปกว่านี้เลยครับ เพราะเราต่างไม่มีเรื่องตื่นเต้นที่ต้องเล่าด้วยมั้ง ผมคิดถึงมันมาก
คอยคิดแต่ว่ากลับไปแล้วจะทำอะไรดี  จะไปกินอะไรดี  จะไปเดทที่ไหนดีน้า   คิดแล้วก็ความสุขครับ
พอมาสำรวจตัวเอง ก็ตกใจครับเพราะช่วงนี้ผมไม่เหงาเลยครับ มีมันให้คิดถึงตลอด
ชีวิตมีความหมายขึ้นอีกเยอะ 5555

   พอกลับมาถึงกรุงเทพฯ ขนกระเป๋าขึ้นหอ ผ่านหน้าห้องมันเห็นมันเล่นเกมส์อยู่กะไอ้โน้ต

“เฮ้ย...ไอ้คม..ไอ้โน้ต..กูกลับมาแล้ว”ผมร้องเรียกพร้อมยกของพะรุงพะรังให้มันดู

“อ้าวมาแล้วเหรอ”ไอ้คมว่า  ส่วนไอ้โน้ตแค่หันหน้ามายิ้มให้เฉยๆ ไม่ว่าอะไร

“อือ”ผมทำท่ายกกระเป๋าแล้วเดินออกมาครับ คิดว่าเดี๋ยวมันคงเดินออกมาช่วย แต่เดินๆแล้วมันก็ไม่มา
ผมหยุดฟังเสียงอยู่นาน ไม่มีควานเคลื่อนไหวใดๆครับ ผมวางกระเป๋าแอบย่องกลับไปดู เห็นมัน 2 คน
เล่นเกมส์อยู่เหมือนเดิม รู้สึกไม่ดีเลยครับ มันแปลกๆ แต่ก็บอกไม่ถูก
ผมหันกลับมาหอบของขึ้นมาจัดเข้าตู้ในห้อง สมองยังทำงานไม่หยุดยั้ง
เอ.....มันไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลยครับ ผมคิดว่ามันจะคิดถึงผมเหมือนที่ผมคิดถึงมัน
มันคงอยากออกมาเจอผมมากๆ แต่ทำไมมันไม่ทำ .......ไม่มีคำตอบครับ.....ผมไม่กล้าหาคำตอบ.....
อีกใจหนึ่งก็บอกตัวเองว่าอย่าคิดมากไอ้นิสัยคิดมากเนี่ยเลิกได้แล้ว คบกันมา 1 เทอมแล้ว
ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ ยังไม่เชื่อใจมันอีกเหรอ ผมรีบเค้นรอยยิ้มออกมา มือก็จัดของไม่หยุด
สมองหาเหตุผลที่ดีที่สุดในการกระทำของมัน......แต่หาไม่เจอ!!!  เฮ้ยคิดมากน่า
หลายครั้งแล้วนาที่เข้าใจผิดเนี่ย ผมบอกตัวเองอย่างนั้น เริ่มค่ำแล้ว ผมขยับกระสับกระส่าย
จ้องมองมือถือในมือ รอใครบางคนโทรมาแต่ก็ไม่มี 2 ชั่วโมงแล้วก็ไม่มี ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้ว
ผมลุกขึ้นเดินออกจากหอ จ้องมองหน้าต่างห้องมันที่มีแสงไปส่องลอดออกมาสักพัก
จากนั้นจึงก้าวเดินออกไปยังเส้นทางที่พวกเราเคยไปกินข้าวด้วยกันทุกวัน ผมยิ้มแห้งๆให้อากาศ
ใช่แล้วเงินมันอาจจะหมดไง เลยโทรหาไม่ได้ อือ....อาจใช่.....ผมกินข้าวเพียงลำพังอย่างแจ่มใสจนเกินจริง ถึงขั้นยิ้มให้กับช้อน หัวเราะหึหึหึในลำคอ แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วที่ผมทำได้ ผมกลับไปนอนพักสักพัก
ไอ้คมก็โทรมา

“อือ”ผมรับแกล้งทำเป็นง่วงนอน

“จะนอนแล้วนะ...มีอะไรมั้ย”มันพูดเรียบๆ

“ไม่มี จะนอนเหมือนกัน แค่นี้นะ”ผมพูดอย่างร่าเริง เพราะพอจับใจความได้ว่ามันไม่มีอะไรจะพูด
แล้วคำที่ว่าจะนอนแล้วก็หมายความว่า ไม่ต้องโทรมาอีก...............................ผมอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันตามปกติ แซวทรงผมไอ้รันที่ย้ายมาอยู่ชั้นเดียวกันแล้ว หัวเราะร่วน ก่อนจะล้มตัวลงนอนตอน 5 ทุ่ม
น้ำตาไหลไม่มากนัก ไม่ถึง 10 หยด ไม่มีเสียงสะอื้น แต่ปวดหัวเหลือเกิน ปวดจนคิดอะไรไม่ออก
ได้แต่รอคอยคำตอบจาก..........คนบางคน............

   2 อาทิตย์ผ่านไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เราโทรคุยกันเหมืนเดิมแต่เหมือนไม่มีเรื่องคุย
แต่ละครั้งไม่เกิน 1 นาที ความเย็นชาจากสายตาของคม สาดส่องจนผมเหน็บหนาวใจ
ผมยังคงหัวเราะร่วนดุจเดิม ปากร้ายเหมือนเดิม บางทีอาจร้ายกว่าเดิมก็ได้ และน้ำตาก็ยังไหลทุกคืน
คืนละ 10 หยด 14 คืนก็ 140 หยด ไม่ถือว่ามาก แต่อาการปวดหัวและปวดใจกลับมากขึ้นทุกๆวัน

“ไอ้โน้ต ปิดเทอมมึงไปไหนมาวะ”ไอ้รันถามเรื่อยเปื่อย

“กูไปเล่นบ้านไอ้คมมา ไปช่วยพี่มันทำงาน”ไอ้โน้ตเอ่ย

“ไปค้างตลอดปิดเทอมเลยเหรอ”ไอ้รันถาม

“อือ”ไอ้โน้ตตอบเสียงเรียบๆ มองมาทางผมที่นั่งอยู่ สมองของผมมึนงงไปหมด ขาวโพลน
เหมือนโดนทุบอย่างแรง

“ตุ้บ”ผมตบโต๊ะอย่างไม่รู้ตัวแล้วพูดอย่างเสียดายว่า

“ไอ้โน้ต....ทำไมมึงไม่ชวนกูไปด้วยว้า...กูอยู่บ้านเบื่อชิหายเลย...เนอะไอ้รัน”หน้าผมพยักบุ้ยใบ้ไปที่ไอ้รัน
แต่สติยังไม่มาสิ่งที่มองเห็นยังขาวโพลน แต่ร่างกายและคำพูดยังทำตามหน้าที่อย่างแนบเนียน
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกสมเพชกับการปกปิดความรู้สึกที่เป็นพรสวรรค์ของผมตลอดมา.............................
 
อย่างไม่รู้ตัว...ผมเดินออกมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ตามทางเดินที่มีกลีบดอกไม้สีขาวร่วงหล่น ผมร้องไห้

ตลอดเวลาที่ผมเฝ้าคิดถึงมัน มันอยู่กับไอ้โน้ต ค้างอยู่ด้วยกัน 2 อาทิตย์
ตลอดเวลาที่ผมวางแผนว่าจะไปไหนกับมันดี มันทำอะไรอยู่...ผมอยากรู้แต่ก็กลัวที่จะรู้เหมือนกัน.......
ทุกย่างก้าวที่ผมเดินออกมาคล้ายไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผมเลย คล้ายกับวิญญาณมันหลุดลอยออกไป
เฝ้ามองร่างกายตัวเองกำลังเคลื่อนไหวทั้งๆที่ไม่ได้สั่งงาน ตอนนี้ผมอยู่ที่ห้องแล้ว
ตอนเที่ยง ๆ ที่ทุกคนต่างก็เรียนกันหมด ผมนั่งหมดเรี่ยวแรงบนเตียง หยิบมือถือออกมา
โทรหาคนที่ทำให้ผมมีความสุข และทำให้ผมเสียใจมากที่สุด

“ตื้ด.............ตื้ด.....”มือถือต่อติด ผมรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนสู่สมอง เพื่อรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น สูดหายใจลึกๆ 2 ครั้ง รอคอยอย่างเงียบงัน

“ว่าไง”เสียงคนรับ รับอย่างสดใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรทิศก็ไม่มีทางที่จะลืมน้ำเสียงที่นุ่มนวลนี้ได้เลย เพราะมันคือเสียงของ.............คม

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 15-06-2007 14:12:33

............ความใส่ใจของคนเรา...ไม่เท่ากัน..... :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 15-06-2007 14:23:18
สงสารทิศจัง  :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 15-06-2007 14:41:05
คิดจะรัก....ต้องลืมกลัว

ปล.  น้องถุงเม้นต์ได้ใจเจ้.....ความใส่ใจของคนเราไม่เท่ากัน  ถูกต้องที่สุดคร้า  o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 15-06-2007 15:00:17
จะเข้าโหมดเศร้าแล้วใช่มะ จะได้เตรียมใจ  :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 15-06-2007 15:12:56
แต่งได้กินใจมากเลยครับ

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-06-2007 19:27:41
และแล้ว ก็เริ่มเศร้าได้ซักที  :sad4:  :sad4:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 16-06-2007 08:55:29
ตอนที่ 13 ผิดสัญญา 2 ครั้ง

“ตื้ด.............ตื้ด.....”มือถือต่อติด ผมรวบรวมสติทั้งหมดกลับคืนสู่สมอง เพื่อรับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น
สูดหายใจลึกๆ 2 ครั้ง รอคอยอย่างเงียบงัน

“ว่าไง”เสียงคนรับ รับอย่างสดใส ไม่ว่าจะเกิดอะไรทิศก็ไม่มีทางที่จะลืมน้ำเสียงที่นุ่มนวลนี้ได้เลย
เพราะมันคือเสียงของ.............คม

“เราเลิกกันเถอะ”ผมบอกให้ตรงประเด็นที่สุดด้วยเสียงเรียบๆ

“อยู่ไหนน่ะ”น้ำเสียงของมันไม่ได้ตื่นเต้นหรือสงสัยเลย ตรงกันข้ามผมได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆก่อนที่มันจะพูด

“อยู่ห้อง”ผมตอบไปอย่าง...เซื่องซึม.....ทำไมมันไม่เสียใจเลยที่ผมผิดสัญญาที่เราทำไว้เมื่อหลายเดือนก่อน

“รออยู่นั้นแหละเดี๋ยวไปหา”น้ำเสียงที่ร่าเริงอีกแล้ว ได้ยินแล้วปวดใจ................ถึงจะดีใจ
แต่แกล้งทำเป็นเสียใจก็ได้นี่นา.......ไม่เห็นต้องออกนอกหน้าขนาดนั้น......

“แหมะ”อ้าวน้ำตาผมไหลมาตอนไหน นี่ผมกำลังร้องไห้เหรอไม่รู้ตัวเลย...........พอคิดได้เท่านี้
น้ำตาก็ไหลออกมาอีก.......คราวนี้ไม่แค่ 10 หยดแล้ว...ขณะที่กำลังจะตัดสินใจร้องไห้ให้สะใจสักครั้ง
ก็ได้ยินเสียงประตูเปิดออกมา........ไอ้คมนั่งลงมาที่เตียงข้างๆผม.....ไม่พูดว่าอะไร......ไม่ปลอบผม.....
ไม่จับต้องตัวผมเลย........น้ำตาผมหายไปตามสัญชาตญาณ ผมมองหน้ามัน คิดจะเค้นรอยยิ้มให้เหมือนเคย
กลับทำไม่ได้..........

“นึกแล้วว่าถ้ากูทำแบบนี้มึงต้องเสียใจ”มันพูดพร้อมกับยิ้มนิดนึง

“...........มึงรักกับไอ้โน้ตใช่มั้ย....”ผมบอกมันด้วยเสียงนุ่มนวล

“...........................”มันไม่ตอบ ทำหน้างงๆ  ผมยิ้มอย่างเต็มฝืนให้มัน แล้วเอ่ยอย่างนุ่มนวลว่า

“ไอ้here.........มึงบอกกูมา......ไอ้sad”รอยยิ้มที่ผมมีให้มันยังคงจริงใจขนาดนั้น น้ำเสียงยังนุ่มนวลปานนั้น
แต่คำพูดนี้เป็นการแก้แค้นที่มากเกินพอแล้วที่ผมจะทำ

“เรื่องที่มันไปอยู่บ้านกูใช่มั้ย”ไอ้คมถามผม

“ไอ้เลว”ผมยังคงใช้น้ำเสียงเดิม

“มันไม่ใช่อย่างนั้น มันไปทำงานพิเศษกับพี่กู มันเลยได้อยู่บ้านกู กูไล่มันก็ไม่ยอมไป”มันมองหน้าผม
เอามือมาจับที่มือผม

“.......................มึงปิดบังกู”ผมพูดเรียบๆเช็ดน้ำตาจนเหือดแห้ง

“กูรู้ว่าถ้ามึงรู้มึงจะเสียใจ.......แต่กูกับมันไม่มีอะไรกัน....กูนอนกับพ่อแม่กู.....มันนอนอีกห้อง”พอมันพูดถึงตอนนี้
ผมใจอ่อนซะแล้วครับ เพราะคนอย่างมันไม่โกหกแน่นอน ในขณะเดียวกันก็แค้นตัวเองที่ใจอ่อนง่ายๆอย่างนี้
คงเป็นเพราะความรักที่มันให้กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขาดได้ซะแล้ว

“.......................”ผมเงียบครับ

“....กูขอโทษนะ......ที่ไม่ได้บอกมึงก่อน.....เราเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย”มันถามผมอ้อนๆ........................................


ผมค่อยๆพยักหน้าอย่างไม่อาจบังคับตัวเอง


เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น แม่ผมโทรมาครับ

“อือ”ผมรับ พยายามทำเสียงปกติซึ่งก็สำเร็จด้วยดี แม่ผมวานให้ไปรับของที่ส่งมาจากบ้านไปให้ญาติที่อยู่ในกรุงเทพ ผมวางหูไป หันไปมองหน้าไอ้คมซึ่งตอนนี้ยิ้มอย่างดีใจอยู่ในขณะที่หน้าผมไม่แสดงอารมณ์ไดๆ

“คม.....ไปสถานีรถไฟเป็นเพื่อนหน่อย....ไม่อยากไปคนเดียว”ผมบอกมันอย่างช่วยตัวเองไม่ได้
เพราะผมกำลังงงกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จนคิดอะไรไม่ออก

“ไม่ไปได้มั้ยเราเหนื่อยแล้ว”มันพูด

“อือได้”ผมเดินออกมาจากห้องอย่างไร้วิญญาณ ทบทวนเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้........สติเริ่มกลับมา.....
ความทรงจำเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ ผมทำธุระให้แม่เสร็จแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาเย็นๆ ผมนั่งลงที่ป้ายรถเมล์
ความคิดที่ผ่านมาก็ถึงบทสรุป

1.ถึงแม้มันไม่ได้มีอะไรกับไอ้โน้ต....แต่มันปิดบังผม

2.ผมบอกเลิกมัน...มันไม่มีทีท่าเสียใจเลย.....กลับหัวเราะในลำคอ

3.ผมอ่อนแอเกินไป...ไปยอมคืนดีง่ายเกินไปมันจะไม่เห็นค่า

4.มันไม่ได้บอกสาเหตุที่ช่วงนี้มันเปลี่ยนไปแสดงว่ามันยังไม่เชื่อใจผม....และอาจปิดบังบางอย่างเอาไว้

5..มันรู้ว่าผมไม่อยากไปไหนคนเดียวแต่มันก็ยังทิ้งผมเอาไว้หลายครั้ง.....เช่นตอนที่ผมต้องไปสถานีรถไฟ

6..ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองไร้ค่าและอยากแก้แค้น

7.เหตุผลที่มันขอคืนดีตอนนั้นก็เพราะมันรู้ว่าผมอ่อนแอ.....เพราะผมร้องไห้.....คงไม่อยากให้ผมเสียใจ

8.ผมทนไม่ได้

9. .....มัน...........ไม่ได้รักผมแล้ว

เมื่อถึงบทสรุปสุดท้ายผมพลันได้คิด ใช่มันไม่ได้รักผม ผมควรปล่อยมันไปซะ ไม่ให้มันต้องมาฝืนตัวเอง
เพื่อผมอีก การบอกเลิกครั้งแรกของผมเกิดจากอารมณ์ไม่มีการไตร่ตรอง ไม่มีความเหมาะสม ไม่มีสติ
แต่คราวนี้ไม่ใช่ เพราะผมพร้อมแล้วกับการต้องโดดเดี่ยวอีกครั้ง ถ้ามันจะทำให้มันหยุดฝืนตัวเองและธรรมชาติวิถี
ผมหัวเราะฮาฮาอย่างสาแก่ใจ หยิบมือถือโทรหามัน

“อือ”มันรับเสียงเบาๆ คงกำลังเล่นเกมส์อยู่

“เน่ะ คม”ผมทำเสียงอ้อนเต็มที่

“หือ”มันทำท่าฟัง

“ขอโทษด้วยนะ.....แต่เราเลิกกันเถอะนะ.....น้า”ผมอ้อนมัน ไม่ใช่แค่น้ำเสียงเท่านั้นใบหน้าก็ยิ้มแย้มเปล่งจากใจจริง เพราะอยากให้คนที่เรารักได้ทำในสิ่งที่ต้องการจริงๆ

“อะไรของมึงอีก”มันโมโหครับ

“ตอนบ่ายๆขอโทษด้วยนะ.......แต่คราวนี้เอาจริง.....อย่าโกรธน้า....เราเลิกกันเถ้อ”ผมอ้อนสุดชีวิต

“มึงอยู่ไหน”มันพูดพร้อมกับที่ผมได้ยินเสียงมันกำลังวิ่ง

“เอาน่า.....เอาเป็นว่าเราจบกันตรงนี้แล้วกันนะ”ผมยังคงร่าเริง

“ไม่...มึงอยู่ไหนบอกกูมา”มันเค้นเสียงตามไรฟันแล้วครับ

“นี่ๆ....มึงไม่ต้องห่วงกูหรอก...พอเอาเข้าจริงก็ไม่เสียใจเท่าไหร่นี่นา....คมก็ลองตัดใจดูดิ”ผมลุกขึ้น
เดินปะทะกับสายลมที่พัดไหวอย่างต่อเนื่อง

“ไม่กูบอกมึงแล้วว่ากูจะไม่ปล่อยมึงไป”มันพูดพร้อมเสียงหอบแฮ่กๆ คงกำลังวิ่งหาผมอยู่

“5555มึงนี่ดื้อด้านจังเอ้....เอาเป็นว่ากูจะวางแล้วนา...กูถือว่ามึงตกลงนะ”ผมเดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย

“ไม่.....มึง...มึงร้องไห้ใช่มั้ย.....ฮะ...มึงร้องไห้ใช่มั้ย”มันเริ่มหอบ  ผมจับหน้าตัวเอง อ้าวน้ำตาไหลมาเมื่อไหร่เนี่ย

“ไม่หนิ.....มึงอย่าเวอร์....มึงต้องลองคิดว่าจะเลิกดูดิมันไม่ได้เจ็บขนาดนั้นหรอกน่า”ผมยังพูดติดตลก

“มึง....แฮ่กๆ.....บอกกูได้มั้ยว่าทำไม”มันพูดอย่างเร็วเพราะกำลังวิ่งสุดฝีเท้า

“ทำไมเหรอ...อืมขอคิดนะ....เพราะกูไม่เคยรักมึงเลยไงไอ้โง่.....ก๊าาาก”ผมยังคงแสดงละครอย่างต่อเนื่อง
แต่ต้องเว้นจังหวะการพูดเดี๋ยวจะมีเสียงสะอื้นลอดออกมา

“ไม่.....กูไม่เชื่อ......มึงรักกู.....กูก็รักมึง...แฮ่กๆ....”มันว่าอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ยังคงวิ่งไม่หยุดยั้ง

“นี่ๆมึงเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว........น่าขำคนรักกันเขาทำแบบที่มึงทำเหรอ........แค่นี้ล่ะกูจะนอน”พูดเสร็จ
ผมก็วางสายไปเลย.....ปิดเครื่อง........ใช้ความสามารถทั้งหมดหยุดน้ำตาไว้....เฮ้อ.....ดันหลอกมันว่ากำลังจะนอน
ป่านนี้มันคงวิ่งกลับหอแล้วมั้ง.....ผมพยายามเปล่งเสียงหัวเราะให้กับความเหลี่ยมจัดของตัวเอง........
เอแล้วคืนนี้กูจะนอนไหนวะเนี่ย....ผมโทรหาเพื่อน ม.ปลายที่สนิทกันกะจะขอนอนด้วยซักคืน....
แต่ลืมไปว่าเปิดเครื่องไม่ได้เดี๋ยวไอ้คมโทรมา....ผมเอ่ยปากรำพึงกับตัวเอง.....
คิดจะพูดคำว่า “แล้วจะทำยังไงวะกู” แต่พอเปล่งเสียงออกมา

“.....ลฮึก....ฮึก...ฮึก”กลับมีแต่เสียงสะอื้นที่ดันมาจากภายในจนอดกลั้นไม่ได้ ผมตกใจ......กูจะอ่อนแอไม่ได้.....
แต่เสียงสะอื้นยังดังไม่หยุดยั้งทั้งๆที่ไม่มีน้ำตา....ผมเริ่มหายใจไม่ทัน....จังหวะการหายใจมันผิดเพี้ยนไปหมด....

ผมเอามือทุบอกตัวเอง ปึก ปึก ไม่ไหวว่ะ มันจะออกมาไห้ได้ ตาผมรู้สึกมีน้ำมากจนเกินไป ผมกระพริบตาถี่ๆ
ฮึก ฮึก ตัวผมยังสะอื้นไม่หยุด ผมรีบเดินไปที่สนามเด็กเล่นเช่นเคย นั่งบนม้านั่งตรงข้ามชิงช้านั่น
ทบทวนทุกอย่างอีกที.... “ฮึก..ฮื้อ....ฮึก” เสียงสะอื้นยังดังอย่างต่อเนื่อง ทั้งๆที่ผมกัดฟันแน่น....
คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่มันเคยบอกผม....ที่มันเคยทำไห้ผม....แต่ตอนนี้มันไม่มีค่า........มันพยายามบีบบังคับ
ให้ผมเป็นฝ่ายบอกเลิกมัน....มันจะได้ไม่ต้องผิดสัญญา......มันเลือดเย็นจังแฮะผมคิด.....

ผมบอกตัวเอง....มึงก็รู้อยู่แล้วว่าวันที่ต้องเลิกกันจะมาถึง......มึงยังทำใจไม่ได้อีกเหรอ......
อีกใจหนึ่งก็ว่า.....ถึงกูจะรู้แต่กูไม่รู้ว่ามันจะเร็วขนาดนี้นี่.....

ไม่ได้......มึงต้องเข้มแข็งไอ้คมจะได้ไม่คิดมากเรื่องมึง...ไม่ต้องห่วงมึงมาก....
มึงปล่อยให้เค้าไปรักกับผู้หญิงดีๆสักคนเถอะ....สงสารมันที่มันต้องมารักผู้ชายทั้งๆที่รู้ผลสุดท้ายแต่แรก.............
มึงปล่อยมันไปซะอย่ายื้อ......และที่สำคัญ.....มันไม่ได้รักมึงแล้ว.......

ผมรีบควาญหาเครื่องเล่น mp3 ออกมาคิดจะหาเพลงที่สดใสฟังสักหลายเพลง.....ในขณะที่กลั้นน้ำตาสุดขีด.....แต่ก็ไปสะดุดกับเพลงๆนึงที่พึ่งจะได้มา....คืนเหงาครับ


คนเหงาคนหนึ่ง ในค่ำคืนเหน็บหนาว
ยืนมองดาวอยู่เพียงลำพัง
มีแค่น้ำตามีแค่ภาพความหลัง
คืนนี้มันช่างยาวนาน

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจจะลืม

คำว่าลาก่อน ตอนที่เราจากกัน
เธอแค่เอ่ยออกมาเบาๆ
ฟังทั้งน้ำตาฟังด้วยใจปวดร้าว
จะให้ลืมได้ยังไง

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจจะลืม

อ้อมกอดของเธอคงไม่มีวันกลับคืนแล้วใช่ไหม
รักเธอแค่ไหนแต่สุดท้ายต้องพรากกัน

หัวใจที่ว่างเปล่าคืนเหงามันช่างเดียวดาย
ต้องทนฝันร้ายฝั่งใจแค่ภาพเก่าๆ
เมื่อไหร่จะเช้าเมื่อไหร่ที่ใจฉันจะลืม

อยากจะลืมเธอ แต่จะเมื่อไหร่ไม่รู้


ทำนบที่ก่อสร้างอย่างยากเย็นพังทลายลง ผมปลดปล่อยทุกอย่างออกมา น้ำตาที่กลั้นมานานก็ร่วงพรูลงมาอย่างรวดเร็ว

ท้องของผมรู้สึกโหวงๆ  จากเสียงร้องฮือฮือก็กลายเป็น เสียงครวญครางอย่างเจ็บปวด
ซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเจ็บปวดตรงไหน

“โอย.......ฮือ.......ฮือ.....ฮึก...เจ็บ”ผมพูดเบาๆ มันรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออก เหมือนปอดไม่ยอมรับอากาศที่สูดลงไป

ผมร้องไห้โฮๆเหมือนเด็กๆ ในใจก็คิดว่าร้องแบบนี้กูจะตายมั้ยเนี่ย มือผมปิดหน้าเอาไว้ สติยังครบถ้วน
เพียงแต่ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ ฟังเสียงที่นักร้องเปล่งออกมาก็อดจะร้องตามไม่ได้
แต่เสียงที่ออกมาจากปากมีแต่เพียงเสียงคร่ำครวญคำหนึ่งเท่านั้น.......

ยอมรับว่าตอนแรกๆที่ผมคบกับมัน ผมไม่เคยคิดเลยว่าความรู้สึกของพวกเราจะเลยเถิดขนาดนี้ ผมเจ็บมาก เจ็บจนแทบทนไม่ได้  ผมบอกตัวเองให้เข้มแข็งแต่น้ำตาก็ยิ่งไหลลงมาอีก

“ตึกๆ”ผมได้ยินเสียงคนวิ่งผ่านพุ่มไม้ด้านหลังมา สังหรณ์ใจแปลกๆ รีบเหลียวหน้าไป ไอ้คมครับ มันเห็นผมแล้ว
และกำลังวิ่งตรงมา ผมลุกขึ้นและกระโจนออกไปสุดแรงเกิด วิ่งไปได้ 2-3 ก้าว ก็โดนมันโดดมารวบขาเอาไว้ได้
ผลล้มลงหน้าฟาดพื้นดังป้าบ ส่วนมันข้อศอกกระแทกพื้นจนหนังหลุด ผมงงนิดหน่อย โดนมันจับให้นอนหงาย
ส่วนมันตะกายขึ้นมารวบแขนผมไว้ กดผมลงกับพื้น

“ไหนมึงบอกกูไม่ร้องไห้”มันตะโกนเลยครับ

“ไม่....ฮึก..ได้ร้อง....ฮึก”ผมยังสะอื้นอยู่เลยครับ มองหน้าที่มีเหงื่อเต็มของมัน

story by นายโฮะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อันที่จริงผมว่าจะใส่เพลงด้วย แต่ทำไม่เป็นซะงั้น o6
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 16-06-2007 11:32:22
  :dont2: :sad4: :o7:

รีบๆ มาต่อนะครับ

 :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-06-2007 12:48:21
กรี๊ดๆๆๆ สลบแล้ว ตื่นขึ้นมา
กรี๊ดๆๆๆๆสลบต่อ

อ้างถึง
“แล้วมึงกลัวทำไมอนาคต......ถ้าตอนนี้มึงไม่มีความสุขมึงมั่นใจเหรอว่าอนาคตมึงจะมี”มันคาดคั้น 
ส่วนผมสติสตังค์ไปหมดแล้วครับ....ทำได้แค่ตอบคำถามมันไป


จะมีความรักไหน น่าประทับใจและโรแมนติคเท่านี้

เอาไปบวก 1


 :o12: :o12: :o12:

http://resources.imeem.com/resources/flash/audio_player.swf?&autoStart=false&ak=4c1U7-lhpD&gatewayUrl=http%3a%2f%2fwww.imeem.com%2famf%2f&isEmbed=1
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-06-2007 13:09:21
ความรักที่มันให้กลายเป็นสิ่งที่ผมไม่อาจขาดได้ซะแล้ว
  :o11:  :o11:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 16-06-2007 16:40:38
ทิศยังแคร์คมอยู่นะเนี่ย
ยังคงลุ้นและหวังไปกับความรักครั้งนี้  :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 16-06-2007 20:08:40
 :o7: :o7: ยังรักกันอยู่  แต่ว่าไม่เข้าใจกัน  ก็คงจะต้องทรมานใจอย่างนี้ละครับ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-06-2007 22:24:00
ขอให้ปรับความเข้าใจกันให้ได้นะ

ไม่อยากให้เลิกกันทั้งที่ยังรักกัน

คนอ่านก็เจ็บเป็นเหมือนกันนะ เรื่องเศร้าหน่ะ  :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 17-06-2007 13:40:12
ตอนที่ 14 ทางเดินสู่จุดจบสายเดียว

“มึงร้องไห้ทำไม”มันถามเสียงสั่นๆ

“...ฮือ..ฮือ”ผมตอบไม่ได้จะหยุดน้ำตาก็ไม่ได้เลยขอตามอารมณ์ตัวเองสักครั้ง ผมไม่ห้ามน้ำตาแล้ว

“ถ้ามึง..ไม่รักกูแล้วมึงร้องไห้ทำไม”มันถามทั้งๆที่กดผมอยู่กับพื้นในมุมเปลี่ยวของมหาลัยตอน 3 ทุ่ม

“ถ้ามึงรักกูแล้วมึงบอกเลิกกูทำไม”มันเสียงสั่นๆครับ ในขณะที่ผมได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว

“กูไม่เข้าใจมึงเลย......มึงบอกกูได้มั้ยมึงคิดอะไร” มันพูดพร้อมๆ กับที่ผมรู้สึกว่ามีหยดน้ำหยดลงมาที่แก้มผม

“...หรือมึงไม่รักกู...มึงอย่าเงียบ”มันเริ่มตะโกนครับ เขย่าตัวผมอย่างแรง

“มึงไม่เคยบอกกูว่ารักเลย.....แล้วช่วงที่ผ่านมา....ทำไมมึงพยายามห่างๆกู....มึงไม่อยากอยู่กับกูใช่มั้ย”มันตะโกน ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่ามันเองก็ร้องไห้ น้ำตาหยดลงมาที่ผมไม่ขาดสาย ผมอึ้งที่คนแข็งแกร่งอย่างมันก็ร้องไห้ได้

“มึงหลบหน้ากูตลอด...แล้ววันนี้มึงก็บอกเลิกกู 2 ครั้ง.....มึงสนุก!!”มันยังคงตะโกนต่อ ผมพยายามดันตัวขึ้น
แต่มันก็ไม่ยอม

“กูคิดถึงมึงตลอดปิดเทอม....แล้วเปิดเทอมมึงยัง....ห่างเหินกูอีก....แต่มึงไม่รู้สึกอะไรเลย”มันกระแทกอารมณ์ใส่ผมเต็มที่

“หุบปาก!! มึงนั่นแหละที่พยายามห่างกู.....ไม่อยากคุยกับกู....ไงล่ะตูดไอ้hereโน้ตอร่อยมั้ย”ผมตะโกนแข่งบ้าง

“กูบอกว่า กูไม่ได้มีอะไรกับมัน....กูเกลียดมัน”

“มึงไม่ต้องอ้าง.....มึงบีบบังคับให้กูต้องขอเลิกเองอย่ามาโยนให้กู”เรายังคงตะโกนใส่กันทั้งๆที่นอนอยู่

“ทำไมมึงเย็นชากับกู....กูจะบ้าตายอยู่แล้ว”

“ไม่ต้องมาค...ว...ย...มึงนั่นแหละไม่ยอมคุยกะกู.....แล้วปล่อยกูซะ...เราเลิกกันไปแล้ว”ผมดิ้นรนจนยืนได้
พยายามวิ่งหนี แต่มันยังจับมือผมไว้อยู่

“ไม่....กูไม่เลิก....”มันดึงผมไปกอดไว้เลยครับ

“ปล่อยกู!!”ผมดิ้นสุดแรง

“ไม่...กูไม่ปล่อยมึง”มันยิ่งกอดรัดผมไว้แน่น

“งั้น...กูจะบอกมึงล่ะนะ....ที่ผ่านมาน่ะกูหลอกมึง..กูไม่ได้รั..”ผมพูดได้แค่นั้นครับ เพราะมันเอามือมาปิดปากผมไว้

“อย่า!!!”มันพูดเสียงแหบแห้ง น้ำตามันไหลไม่ขาดสายก่อนที่จะพูดว่า

“ถ้ามึงสงสารกู.....มึงอย่าพูดคำนั้น.....กูทนไม่ได้”ดวงตาที่ชุ่มน้ำตาของมัน จ้องมองตาผมอย่างอ้อนวอน
เหมือนมันพยายามจะบอกอะไรผม ก่อนที่มันจะปล่อยมือที่ปิดปากผมออกแล้วประกบปากอย่างแรง
มันจูบผมแรงมากๆ ผมพยายามหุบปากเอาไว้ แต่ก็ไม่สำเร็จ ลิ้นมันสอดผ่านเข้ามาได้ในที่สุด
ผมดิ้นรนอยู่พักใหญ่ แต่มันไม่ยอมเลิกรา ผมร้องไห้จนหมดแรง อีกใจหนึ่งก็อยากจะฟังว่ามันจะพูดอะไร
แต่มันยังจูบผมอยู่เลย เรายังคงร้องไห้ด้วยกันทั้งคู่ และยังไม่เข้าในกันและกัน แต่ผมรู้สึกว่าในโลกที่วุ่นวายอย่างนี้
มีเพียงจูบนี้เท่านั้นที่เป็นความจริงใจทั้งหมดที่มันมอบให้ มือของมันก็ไม่ยอมหยุดกอดผมเอาไว้
ผมเองก็กอดมันเช่นกัน เราจูบกันอยู่นาน เมื่อมันถอนปากออกมามันก็พูดว่า

“กูรักมึงมากขนาดนี้......มึงไม่สงสารกูบ้างเหรอ”มันบอกผมเสียงสั่นๆ

“............................”ผมเงียบ แต่ยังสะอื้นเบาๆ

“มึงรู้มั้ย....ว่ากูต้องทรมานขนาดไหนที่ต้องหลงรักมึง......ที่ต้องรักผู้ชายอย่างมึง”มันพูดทั้งๆที่ร้องๆไห้อยู่

“......................”

“กูพยายามหลายครั้งที่จะเลิก........แต่กูทำไม่ได้.....ทำไมมึงไม่คิดถึงความรู้สึกกู”มันว่าพร้อมกับกอดผมแรงขึ้น

“..................”ผมไม่พูดอะไรได้แต่กอดมัน........เริ่มสงสารมัน เพราะความรู้สึกที่ขัดแย้งของมันนั้น.....ผมเข้าใจดี

“กูคิดถึงที่บ้านกูทีไร.....กูร้องไห้ทุกครั้ง.....ถ้าที่บ้านกูรู้เรื่องกูกับมึง...พ่อแม่กูจะเสียใจขนาดไหน......ฮึกๆ....
ไอ้โน้ตมันก็ชอบถามกูว่ากูเป็นอะไรกับมึง........ข่าวที่หอก็ว่าว่ากูกับมึงเป็นแฟนกัน....... ฮึกๆ......
เพื่อนที่คณะก็ล้อกู”มันเริ่มสะอื้นครับ ผมก็อึ้งๆ เริ่มประติดประต่อเรื่องราวได้

“มึงกลัวคนอื่นรู้เหรอ”ผมถามมันเบาๆ ทั้งๆที่รู้คำตอบดี

“ทำไมมึงไม่คิดบ้างว่าการที่กูจับมือกับมึงต่อหน้าคนเยอะๆไม่ได้....มันทรมานกูขนาดไหน....”มันยังคงพูดต่อไป

“......ขอโทษ...”ผมรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัวมากเลยครับ.....ที่คิดถึงแต่ตัวเอง

“แล้วมึงยังมาทำอย่างงี้กับกูอีก”มันรำพึง น้ำตาหยดลงบนบ่าผมจนชุ่ม

“แล้วทำไมมึงไม่คุยกับกูทางโทรศัพท์”ผมถามมัน

“ไอ้โน้ตมันอยู่ด้วย......กูกลัวว่ามันจะบอกคนที่บ้านกู”มันว่า....ยังคงร้องไห้เหมือนเด็กๆ

“อือ” เอาแล้วไง ผมคิด เรื่องที่ผมกลัวมาตลอดเกิดขึ้นแล้ว เราต้องห่างกันเพราะข่าวลือที่ผมกลัวเกรง
อันที่จริงผมก็พยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่พอถึงเวลาแล้วก็อดกลัวไม่ได้

“งั้น.....มึงก็เลิกกับกูก็แล้วเรื่อง”ผมบอกมัน แม้ผมจะเสียใจ..............แต่ถ้ามันต้องการผมก็จะปล่อยมันไปครับ

“ต่อไปมึงห้ามพูดคำนี้ให้กูได้ยินอีก แล้วกูก็เลิกกับมึงไม่ได้”มันว่าพร้อมจับมือผมไว้
คล้ายกลัวว่าผมจะระเหยหายไปกับอากาศ

“ทำไม....ถ้ามึงพยายามมึงต้องทำได้แน่”ผมพูดใจนึงก็อยากให้มันเป็นอิสระจากรักต้องห้ามนี้
ใจนึงก็ไม่อยากให้มันไป แต่เพื่อตัวมันแล้วแน่นอนผมย่อมทนได้

“กูทำไม่ได้.....มึงรู้มั้ยระหว่างที่วิ่งมา...ใจกูแทบขาดตาย”มันพูดทำท่าขึงขัง ทั้งๆที่น้ำตายังเปรอะหน้า

“อือ”ผมก็ดีใจครับ

“แล้วทำไมมึงอยาก...........ไม่อยู่กับกู”มันพูด...ท่าทางมันกลัวจริงครับแม้แต่คำว่าเลิกมันยังไม่กล้าพูดเลย
ท่าทางรักจริงแฮะ คิดถึงตอนนี้ก็ปลื้มเลย

“ก็กูคิดว่ามึงอยาก......ไม่อยู่กับกู....กูไม่อยากบังคับมึง....เลยต้องพูด”ผมเองก็ไม่กล้าใช้คำนั้นแล้วครับ
คำนั้นกลายเป็นคำต้องห้ามสำหรับเราซะแล้ว

“ทิศฟังที่กูพูด.....ไม่มีเวลาไหนที่กูไม่รักมึงตั้งแต่กูขอมึงเป็นแฟนกูก็รู้แล้วว่าอนาคตจะเป็นยังไง....
แต่ถ้ามีมึงอยู่ด้วยกูไม่กลัว”มันกุมมือผม 2 ข้างจ้องตาผม

“กูจะไม่ให้มึงลำบากอีก...ต่อไปกูจะระวังตัวมากขึ้นละกัน.....ไม่ให้ข่าวลือมันแรงไปกว่านี้”ผมขอโทษมันครับ
ที่ไม่เคยคิดถึงใจมันเลย

เรานั่งกันอีกพักใหญ่...ผมปลอบมัน...ตบหลังมันเบาๆ..

“คม.......มึงจำวันที่มึงขอกูเป็นแฟนได้มั้ย....มึงเป็นคนพูดเองนะว่าอย่าไปกลัวอนาคต”ผมบอกมันเบาๆ

“อือ”มันว่า

“ตอนนั้นกูก็กลัวเหมือนมึง......แต่มึงบอกกูเองนี่นาว่า.....เราไม่รู้ว่าอนาคตเป็นยังไง.....ดังนั้นเราควรจะหาความสุขไว้ตั้งแต่ตอนนี้”ผมบอกมัน

“....กูจำได้...”มันตอบเบลอๆ

“ในเมื่อตอนนี้กูไม่กลัว......มึงก็ไม่ต้องกลัว....ไม่ว่าจะยังไงกูก็จะไม่ไปจากมึง.....ถ้ามึงไม่หมดรักกูก่อน”

มันเงียบไปอีก ก่อนจะพูดว่า

 “ทิศ....มึงคิดยังไงกับกู”มันถามจริงจัง

“อยากให้กูพูดเหรอ”ผมถามมัน

“อือ”มันพยักหน้าหงึกๆ

“ก็ได้วะ....”ผมสูดหายใจลึกๆ....แล้วบอกมันว่า

“กูรักมึง.....คม”ผมพูดเบาๆ ก่อนที่ไอ้คมจะโน้มหน้ามาจูบอย่างนุ่มนวล

ผมรู้แล้วครับว่าที่มันต้องห่างๆผมเพราะมันกลัวข่าวลือ แล้วที่มันไม่ค่อยคุยกับผมทางโทรศัพท์ก็เพราะว่า
ไอ้โน้ตมันคอยคุมเชิงอยู่ ผมแค้นไอ้โน้ตจริงๆ ที่ทำให้ผมกับไอ้คมไม่เข้าใจกัน และต้องทรมานเกือบเดือน
ผมยังมีความสุขดีเมื่อรู้ว่ามันรักผมขนาดไหน แต่ในใจก็ยังหวั่นเมื่อคิดว่าวันที่เราต้องเลิกกันจะมาถึง
ผมคิดว่ามันคงไม่ได้เป็นฝ่ายพูดแน่ๆ คนอย่างมันต่อให้ตายก็จะไม่ยอมผิดสัญญาเด็ดขาด

ส่วนผมก็รู้ตัวดีว่าผมไม่มีทางหยุดรักมันได้ สำหรับจุดจบของพวกเราไม่มีหนทางสายอื่นอีก นอกจาก
มันจะหมดรักผม แล้วผมก็จะยอมเป็นคนที่ผิดสัญญาเป็นครั้งที่ 3  เอง เพื่อให้มันสบายใจ

   เรานั่งชิงช้าด้วยกันอีกซักพักแต่ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย บางทีเราอาจต้องการแค่เวลา
ที่อยู่ด้วยกันแค่ 2 คน มันลุกขึ้นมาไกวชิงช้าไห้ผมเบาๆ ผมหลับตาลงปล่อยให้ร่างกายสัมผัสกับสายลม
ที่มากระทบตัวจากการแกว่งไกว

“มานั่งเหอะ”ผมบอกมันให้มานั่งที่ชิงช้าข้างๆกาย

“คราวหลัง มีเรื่องอะไร มึงจะทำอะไรบอกกูก่อนได้มั้ย”ผมพูด พร้อมกับยื่นมือไปกุมมือมันไว้

“อือ”มันว่า

......................................
.....................................
.....................................

“นี่คม”ผมเอ่ย

“หือ”มันขานรับอย่างซึมเซา

“มึงสัญญากับกูอย่างนึงได้มั้ย”ผมก้มหน้ามองกองทรายที่อยู่ตรงหน้า พร้อมๆกับที่ไกวชิงช้าเบาๆ

“สัญญาอะไร”มันหันหน้ามา

“อีก 2 ปีกูจะเรียนจบ ส่วนมึง อีก 4 ปี”ผมเปรย

“แล้วไง”มันถาม

“ก่อนที่กูจะเรียนจบเราต้องเลิกรักกันไห้ได้นะ”ผมว่า

“อะไรของมึง”มันว่า ทำตาขวาง

“ถ้าเป็นอย่างนั้น มึงก็มีเวลาอีก 2 ปีที่จะหาคนดีๆมาร่วมชีวิตในรั้วมหาลัย ส่วนกูก็จะได้ไปทำงาน
อย่างไม่ต้องพะวงถึงมึง มึงไม่ต้องบอกตกลงอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องพูด ถ้ามึงปฏิเสธ.....กูก็ไม่สบายใจ
แต่ถ้ามึงตอบตกลง.........กูก็เสียใจอีกนั่นแหละ ดังนั้น มึงไม่ต้องพูดนะ”ผมพูดเรียบๆ

“..................”มันไม่ตอบครับ แต่ก้มลงคิดอะไรก็ไม่รู้

“แต่ที่กูจะให้มึงสัญญาไม่ไช่เรื่องนี้......เพราะกูรู้ว่าเรื่องความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้”ผมพูด

“แล้วเรื่องอะไร”

“ที่กูจะให้มึงสัญญาคือ มึงต้องใช้เงินเดือนเดือนที่ 2 ที่มึงทำงานได้ มาเลี้ยงข้าวกู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
มึงต้องโทรมาชวนกูไปกินข้าวเข้าใจมั้ย”ผมยังไม่ได้มองหน้ามันครับ

“ทำไมไม่เป็นเดือนแรก”มันถามผม

“เดือนแรกให้มึงเอาให้พ่อกับแม่มึงดีกว่าว่ามั้ย”ผมว่า

“ทำไมต้องเป็นตอนที่กูทำงานแล้วด้วย”มันยังถามต่อ

“กูคิดว่า......ถึงตอนนั้นกูคงอยากเห็นหน้ามึง......ดูว่ามึงสบายดีมั้ย”ผมตอบ

“กูถามมึงอีกอย่างได้มั้ย”มันพูดทั้งๆที่ยังก้มอยู่

“ว่ามา”

“ถ้ากูหยุดรักมึงไม่ได้ใน 2 ปีล่ะ”

“อย่าถามอย่างนี้.......เพราะกูไม่รู้ว่ากูจะตอบยังไง.......กูรู้แต่ว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของเรา”ผมบอกมัน

“แล้วมึงล่ะ......มึงคิดถึงตัวเองรึยัง”มันว่า ผมเงียบอยู่นานก่อนจะพูดว่า

“....................กูก็ไม่รู้.........กูไม่รู้ว่ามันจะเจ็บขนาดไหน......ไม่รู้ว่าจะทำได้มั้ย......”ผมบอกเสียงสั่นๆ
ดูเหมือนมันรู้ว่าผมกำลังจะร้องไห้ มันลุกขึ้นแล้วฉุดดึงผมมากอดเอาไว้ ผมร้องไห้ น้ำตาไหลลงบนไหล่มัน

“อย่าร้องไห้......กูปวดใจ”มันว่า เสียงสั่นๆ ผมร้องไห้ได้แป๊ปเดียวมันก็ร้องไห้ตามผม
เรากอดกันด้วยแรงทั้งหมดที่มี ร้องไห้ด้วยกันท่ามกลาง เหล่าหนอนแมลงร่ำร้องในคืนที่ดวงจันทร์กระจ่างจ้า
สะกดข่มแสงดาวจนหมองศรี............ขณะที่ผมกอดมันผมวาดฝันว่าเราสามารถอยู่ด้วยกันอย่างนี้ตลอดไป.......
แต่จิตใต้สำนึกก็ยังคอยเตือนเสมอว่าเป็นไปไม่ได้........พอคิดอย่างนี้น้ำตาก็ไหลลงมาอีก

“ทำไมเราไม่ได้เกิดมาคู่กัน”

   ค่ำคืนนั้นผมหลับตาลงด้วยความเหนื่อยอ่อน ครุ่นคิดเรื่องราวต่างๆมากมาย
นึกๆไปถึงภาพตอนที่ไอ้คมมันร้องไห้น้ำตานองหน้า ผมไม่เคยเห็นมันในเวลาที่อ่อนแอขนาดนี้มาก่อน คิดถึงความรักของผมและมันที่ต้องจบลงอย่างปวดร้าวแน่นอนในอนาคต ผมเฝ้าตั้งคำถามกับตัวเองว่า

“ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ผมจะยังรักมันไหม”คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของผมอย่างมึนงง แต่ก่อนที่จะคิดไปถึงคำตอบ
ผมก็ผล็อยหลับลงช้าๆ

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-06-2007 13:52:24
แม้จะเข้าใจกันแล้ว แต่ยังไม่หายเศร้า  :o7:  :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 17-06-2007 18:22:56
 o7 ยังเศร้าอยู่เลย  o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine ที่ 17-06-2007 18:40:20
หากกังวลถึงสิงที่ยังมาไม่ถึง...........สิ่งนั้นจะมาถึงเร็วเสมอ

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

เป็นกำลังใจให้นะครับ :bye2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 17-06-2007 19:32:32
ทำไมต้องเลิกรักกันด้วยหล่ะครับ มันเลิกไม่ได้หรอก

 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 17-06-2007 22:11:08
ไม่ต้องเสียใจเลย อย่างน้อยก็เกิดมได้พบกับความรักที่สวยงามแล้ว

กลัวไปเรื่อย แต่กลับไม่กลัวทำร้ายคนที่เรารัก และรักเรา

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 17-06-2007 23:41:46
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7: เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 18-06-2007 00:34:14
เศร้ามากชีวิตคนเราทำมัยน้า :dont2: :dont2: :sad2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 18-06-2007 02:20:14
อิชั้นเป็นอะไรไปเนี้ย  อิชั้นอ่านเรื่องนี้แล้วไม่เข้าใจ  ออกจะงงๆ  หรือว่า อิชั้นโง่เคอะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 18-06-2007 14:19:17

...........พูดกันหั้ยเข้าใจ...

...........มันยากนักหรอสำหรับคนรักกัน......... :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 20-06-2007 18:15:00
ตอนที่ 15 กอดให้หายคิดถึง
[/b]

   เช้าวันถัดมาผมตื่นขึ้นเพราะเสียงร้องวุ่นวายของไอ้คม มันมาปลุกผมครับ
มันว่าไม่อยากให้ผมไปเรียนสาย ผมเลยต้องลุกไปอาบน้ำตามระเบียบ พออาบเรียบร้อย
กะจะมาหามันที่ห้อง มันก็ไปเรียนซะแล้ว วันนี้ผมเรียนจนถึงเย็น ผมก็เรียนไปตามประสา
พอตอนเที่ยงไอ้คมโทรมาหาผมบอกว่าให้รีบกลับ ตอนเย็นมันจะพาไปเที่ยว
ผมเลยต้องค่อยปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อนเพื่อที่จะถามมันว่าจะพาผมไปไหน.....แต่ไม่ทันครับ
มันชิงวางสายไปก่อน ผมเลยต้องเรียนไปนึกไปว่ามันจะพาไปไหน อิอิ ตื่นเต้นดี

พอตอนเย็นผมก็รีบกลับห้อง ไม่กล้าเถลไถลไปไหน เดี๋ยวมันจะว่าเอา พอวางกระเป๋าแล้ว
ผมก็นอนแผ่หลาลงบนเตียง แม่แต่รองเท้ายังคร้านที่จะถอดออก นอนยังไม่ทันหายเมื่อย
มันก็มาแล้วครับ เคาะประตูกึงกัง ก่อนจะเข้ามาฉุดกระชากผมไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ๆหอ

“อยากดูหนัง”มันว่า ผมเลยเลยตามเลย นั่งรอดิครับ ส่วนมันวุ่นวายกับการซื้อตั๋วและกินขนม
(ผมไม่ชอบกินหนม ไม่งั้น....มันไม่ได้กินแน่นอน5555) ปรากฏว่ามันซื้อตั๋วหนังอะไรไม่รู้ รู้แต่บู๊แหลก ระเบิดภูเขาเผากระท่อมอะไรประมาณนั้น แถมเลือกที่นั่งข้างหน้าซะด้วย แหงนหน้าจนคอตั้งบ่า ผมถามมัน

“ทำไมไม่เลือกที่ๆมันดีกว่านี้”ผมทำตาโต

“ก็มันเต็ม”มันว่า

“เต็มป้ามึงเหรอ....มึงหันหัวโง่ๆของมึงกลับไปมองเลย”ผมว่า เอามือจับหัวมันบังคับให้หันกลับ

“เออๆ.....ก็กูอยากนั่งกับมึง 2 คนนี่”มันว่า พยายามต่อต้านผมโดยการเอามือมาดึงมือผมออก
ซึ่งก็ได้ผลครับ เพราะมันแรงควาย ส่วนผมแรงคน แถมหล่อซะด้วย5555

“มึงคิดบ้างดิ....พอหนังจบนะคนได้แห่มาดูว่า ....ไอ้ 2 คนข้างหน้ามันใคร...งามหน้ามั้ยหล่ะมึง”ผมว่า

“ช่างดิ.....กูอยากจับมือมึงจะตายอยู่แล้ว.....เอามือมานี่เลย”มันว่าแล้วเอามือผมไปวางบนตักมัน
แล้วเอามือมันทั้ง 2 ข้างมากุมเอาไว้

“ห้ามปล่อยนะ”ผมว่า แอบยิ้มในความมืดเพราะหนังเริ่มฉายแล้วครับ พอหนังฉายได้สักพัก
ก็มีคนมานั่งข้างผมครับ 2 คน ผู้ชายทั้งคู่ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ดูไปๆ ไอ้ 2 ตัวข้างผมมันยุกยิกครับ รำคาญ.......เลยหันไปดูว่ามันทำเฮียอะไร ปรากฏว่ามันกระซิบกระซาบกันครับ ไอ้คนนั่งข้างๆผม
เอานิ้วมันแอบๆชี้มาที่ผม ผมมองมือที่ถูกกุมเอาไว้........แม่งซวยแหล่ว ......มานเหนแหงๆ.....

ผมรีบกระตุกมือกลับ....แต่ไอ้แฟนที่แสนดีไม่ยอม ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้......ผมสบถในใจ...ไอ้ควาย
ภัยมาถึงตัวยังทำเป็นไม่รู้.....ผมยังไม่ละความพยายาม.....เอามือข้างที่ยังว่างพยายามแกะมือมันออก......
ตาก็เหลือบไปเห็นไอ้ 2 ตัวข้างๆจ้องมองมาไม่วางตา ผมอายแทบแทรกแผ่นดินหนี.....
ออกแรงให้มากขึ้น........

“อย่าดิ้น!!!”ไอ้คมมันกัดฟันพูดเลยครับ.....ตาโตจนผมกลัวว่ามันจะหลุดออกมา

“แต่มึง”ผมพูดได้แค่นี้เพราะมันพูดสวนขึ้นมา

“ไม่งั้นกูจูบนะ”มันว่า........แย้ก....ไอ้เชี่ย.....มึงนี่น้า........

หลังจากนั้นผมต้องคอยรับสายตาที่ไอ้ 2 ตัวข้างจ้องมองมาอย่างหื่นกระหาย.......ผมอายจนเซ็ง.....
แล้วก็เซ็งจนอายอีกรอบ.......ดูหนังไม่รู้เรื่องเลยครับ....

   พอออกจากโรงหนังได้ ผมก็ด่ามัน

“ไอ้5.....มึงเห็นไหมมีคนรู้ว่าเราจับมือกันด้วย.....ไอ้คู่นั้นไง”ผมบุ้ยไบ้ไปที่ผู้ชาย 2 คนที่เดินออกจากโรงหนังตามเรามา

“รู้..”มันว่าคำเดียว แล้วลากผมเดินเร็วๆ ไปให้พ้นจากไอ้ 2 ตัวนั่น(พวกมันเดินตามมาครับ
คงอยากเห็นหน้าผม)

“พวกมันจ้องมึงตั้งแต่อยู่หน้าโรงหนังแล้ว....กูเลยประกาศให้รู้ซะเลยว่าของใครเป็นของใคร555”มันว่างั้น

“อายเนี่ยสะกดเป็นมั้ย”ผมกัดฟันแล้ว ขณะที่เหลือบไปมองด้านหลังว่า ไอ้พวกนั้นตามมามั้ย

“ไม่.....สะกดเป็นแต่คำว่าหวง”มันสวนครับ ทำเอาผมหันขวับกลับมา

“เออๆ...แล้วหวงสะใจยัง....”ผมก้มหน้าลงเขินตามระเบียบ

   เดินไปซักพัก ก็มาถึงหน้าร้านไอติม มันก็ดันผมเข้าไปเลยครับ

“กินไอติมกัน”มันว่า

“เออๆ....ก็ดีไม่ได้กินนานแล้ว”ผมตอบ เราก็กินกันตามปกติ

ผมก็พูดเรื่อยเปื่อยไปตามประสา มันก็คอยหัวเราะอย่างเดียว อันที่จริงมันกินเสร็จตั้งนานแล้วครับ
แต่ต้องรอผมก่อน เพราะผมมัวแต่พูดไอติมเลยไม่พร่องเท่าไหร่ ผมเองก็ไม่สนใจ โม้ต่อไปไม่หยุดยั้ง
มันอยากกินเร็วเองนี่ ช่วยไม่ได้ 55555

   กว่าเราจะได้เวลากลับ ก็ตอนประมาณ 3 ทุ่ม ผมแอบถามมันเบาๆ บนแท็กซี่

“ทำไมพามาเที่ยวมีอะไรรึเปล่า” ผมคิดถึงเรื่องเมื่อวานครับ ไม่รู้มันจะเกี่ยวข้องกันหรือเปล่า

“ไม่มีอะไร แค่อยากเดทเหมือนคนอื่นๆ....ก็แค่นั้น”มันว่า นั่งไปซักพักไอ้คมมันก็บอกให้จอดครับ
ผมลงมาก็ปรากฏว่า เป็นสนามเด็กเล่นเหมือนเคย มันจูงมือผมไปนั่งลงที่ชิงช้า ผมคิดถึงเรื่องเมื่อวาน
หรือว่ามันจะบอกเลิกผม!!! ผมตกใจครับ นี่มันเลิกรักผมได้เร็วขนากนั้นเลยเหรอ
ผมแอบหันหน้าไปมองมัน มันก็ไม่มีทีท่าจะพูดอะไรครับ มันเดินมาด้านหลัง แล้วไกวชิงช้าให้ผม
ผมทนไม่ไหวเลยต้องถามมันว่า

“มีอะไรหรือเปล่า”

“ไม่หนิ”มันตอบ

“หรือว่าเรื่องเมื่อวาน”ผมถามอย่างกลัวๆ

“เมื่อวานก็เรื่องเมื่อวาน...........วันนี้ก็เรื่องวันนี้.......ส่วนพรุ่งนี้ก็เรื่องของอนาคต....อย่าคิดมาก”
เอาอีกแล้วครับมันพูดเหมือนกับเดาใจผมได้อีกแล้ว

“กอดคมหน่อยดิ”มันว่า ผมอายมากเลยได้แต่นั่งเฉยๆ

“บอกให้มา!!”มันเค้นเสียงเลยครับ ผมเลยต้องลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปกอดมันหลวมๆ แต่มันดิครับ
เล่นกอดผมเต็มแรงเลย

“ไม่ต้องกลัวนะ......คมรักทิศมากๆ....ไม่เลิกรักง่ายๆหรอก”มันว่า

“อืม”ผมได้แต่ขานรับเบาๆ

“กอดยังไงให้หายคิดถึงน้า”มันกระซิบที่หูผมครับ ผมอายแทบแซรกแผ่นดิน รีบเอาคางเกยไหล่มันไ
ม่ให้มันเห็นว่าผมกำลังอาย ก่อนจะพูดว่า

“ไปเอามาจากไหนเนี่ย” มันไม่ตอบครับแต่เปลี่ยนเป็นกอดผมหลวมๆ

กอดกันอยู่นาน จนผมทำท่าจะผละออกแต่ก็เริ่มสังเกตว่า ตัวมันโยกๆพิกล ผมก้มมองเท้าของมัน
เท้าซ้ายขวามันเริ่มขยับไปมา ตัวของมันเริ่มโยกซ้ายขวา

“อยากเต้นเหรอ”ผมถามมัน

“อือ”มันตอบเบาๆ พร้อมๆกับมีลมหายใจของมันพัดผ่านต้นคอผมไป

ผมเลยขยับไปตามจังหวะของมัน....

แม้มีแต่ความเงียบรอบข้างแต่ผมก็รู้สึกว่าความนึกคิดของผมและมันสื่อถึงกันอย่างไม่ปิดบังอำพราง......

ถึงไม่มีเสียงเพลง จังหวะของเราก็ยังเข้ากันได้โดยไม่ต้องฝืน.....

ผมและมันค่อยๆหมุนไปตามทิศทางที่เราทั้งสองนำไป........

ร่างกายของเราเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน.......

ผมรู้สึกสงบอย่างประหลาด.....

เหมือนได้ครอบครองทุกสิ่งที่ต้องการไว้จนหมดสิ้น ผมพริ้มตาหลับช้าๆ ก่อนที่จะพูดว่า

“คม......ขอบคุณนะที่รักทิศ”

“ไม่เป็นไรครับ......คมเต็มใจรัก”ที่รักของผมตอบมา

ผมยังคงหลับตา.....

แต่ในห้วงความคิดยังคงมองเห็นคนที่ผมรักที่สุดเบื้องหน้าของผม.....

ที่คอยรักและดูแลไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

“ทิศรักคมนะ”ผมเอ่ยเบาๆ ก่อนจะขยับหน้ามาแล้วจูบที่ปากของคมอย่างแผ่วเบา

            จำได้ไหมครับที่ผมเคยถามตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะยังรักมันมั้ย
ผมได้คำตอบแล้วครับ

นั่นแน่นอน.......รักครับ

   หลังจากช่วงนั้นทั้งผมและมันก็มีช่วงเวลาที่ดีที่เราไม่มีวันลืม....เราไปเที่ยวกันบ่อยๆ.....
เราเข้าใจกัน.....ไม่ทะเลาะกันบ่อยๆเหมือนเคย.....ผมเชื่อใจมันมากกว่าที่ผมมีให้ตัวเองเสียอีก.....
ความสุขของผมดำเนินมาจนถึงวันหนึ่ง......วันที่ทุกอย่างก้าวเข้าสู่จุดสุดท้ายอย่างช้าๆ.....
คือวันที่ผมไม่สามารถอยู่ในหอเดียวกับมันได้.....และก็เป็นวันที่ผมต้องออกไปใช้ชีวิตอย่างเดียวดายตามเดิม

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 20-06-2007 18:36:50
เพิ่งจะหวีตหวานกัน จะเข้าโหมดเศร้าอีกแล้วหรอ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-06-2007 18:42:20
ขอเศร้าล่วงหน้าก่อนเลยได้มะ  :dont2:  :dont2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: blach ที่ 20-06-2007 20:37:08
ไม่อยากให้เศร้าเลยครับ

 :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 20-06-2007 21:44:46
อะไรเนี๊ย เศร้าตอนสุขตอน  :o12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine ที่ 20-06-2007 23:27:49
 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 21-06-2007 00:46:18
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7: o7 :o12:

 :m15: :m2:

จะเศร้าอีกแล้วหรอ ไม่อยากเศร้าแล้วคับ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 21-06-2007 09:01:35
อ้างถึง
  จำได้ไหมครับที่ผมเคยถามตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะยังรักมันมั้ย
ผมได้คำตอบแล้วครับ

ถ้าเราบังคับหัวใจตัวเองได้ โลกนี้คงไม่มีความรักหรอก
 :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 21-06-2007 10:42:45
 :sad2: :sad4: :dont2: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 21-06-2007 11:38:18
อ้างถึง
     จำได้ไหมครับที่ผมเคยถามตัวเองว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะยังรักมันมั้ย
ผมได้คำตอบแล้วครับ

..............ถ้าคนเรารู้ว่าทางข้างหน้าเดินไปแล้วต้องทุกข์......

..............มีใครบ้างที่อยากเดิน..... :o12: :o12:

..............เก็บเกี่ยวแค่ความสุขปัจจุบันไว้ก็พอ........ o7
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 21-06-2007 15:31:28
 o15

มาเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมแร้วครับ

หายไปนาน อิอิ.......

 :teach:

หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 24-06-2007 13:25:12
ตอนที่ 16 นับถอยหลัง

   วันนี้ผมจะพาไอ้นิวไปตัดผมครับ 4 โมงกว่าๆ ไอ้คมยังเรียนไม่เสร็จ ผมเลยไปชวนไอ้รันมาด้วยกัน
จำได้มั้ยครับที่ผมเคยบอกว่าผมไม่มีเพื่อนตาย ตอนนี้ผมมีแล้วครับ ไอ้ 2 ตัวนี้แหละครับ ตอนที่เดินลงหอ
ผมก็เผชิญกับสายตาอีกหลายคู่ที่คอยซุบซิบนินทา ตาของผมเหลือบไปเห็น บอร์ดที่ติดด้านล่างของป้ายกิจกรรมใต้หอ

“อ้าวนั่นรายชื่อ คนที่ได้อยู่หอต่อนี่หว่า”ผมคิด แล้วก็เดินไปดู ระหว่างที่ไอ้นิวกะไอ้รันทักทายสาวๆ ผมมองหารายชื่อ
นักศึกษาคณะมนุษศาสตร์

“อืม....ทศทิศ....ทศทิศ....อืม”ผมไล่เรียงหาชื่อตัวเอง จนเลยไปที่คณะอื่น ก็ยังไม่เจอ ผมใจหาย
รีบไล่สายตาดูอีกรอบ....ก็ไม่เจอ......

ชื่อไอ้นิว......


ไอ้รัน.....

พี่จาง...ครบ....

แต่.....ไม่มีชื่อผม

“เฮ้ยทิศ.....ไปได้แล้ว”พี่จางครับตบไหล่ผมดังป้าบ ผมสะดุ้งโหยง

“อ้าวพี่จางไปด้วยเหรอ”ผมเอ่ยถามแต่สายตายังเลื่อนลอย

“เออๆ จะไปตัดเหมือนกัน ไปเร็วไอ้นิวไอ้รันรอนานแล้ว”พี่จางพูดจบก็ฉุดลากผมไปโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้าง
ที่มองมาเป็นจุดเดียว ผมยังงง แล้วก็คิดได้ว่า ผมเด้งหอซะแล้ว (หอในของมหาลัยผมจะมีการพิจารณาสิทธิ
การอยู่หอต่อเป็นปีๆ แต่ถ้าไม่มีความประพฤติแย่จริงๆก็ไม่มีปัญหา) นี่ผมไม่ได้อยู่ที่นี่ในปีหน้าหรือนี่
ผมคิดได้อย่างนี้ก็หมดแรงจนไอ้รันทัก

“เป็นไรทำหน้าเซ็งๆ”

“ไม่เป็นไร”ผมตอบ อันที่จริงผมอยากบอกมันแต่ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าผมเด้งจริงๆ แล้วถ้าเด้งจริงๆผมจะทำไงเนี่ย ผมจะไปอยู่ที่ไหน ผมจะไม่บอกใครเด็ดขาดจนกว่าผมจะหาที่อยู่อื่นได้ เพื่อไม่ไห้เพื่อนไม่สบายใจ

 “เอาไว้ตอนเย็นๆค่อยคิดแล้วกัน” พอคิดได้อย่างนี้ผมตัดใจได้.....ตอนนี้มีความสุขกันเพื่อนๆก็มีความสุขไปก่อน....เอาไว้กลับไปเจอความจริงค่อยคิดคงไม่สาย ผมกับไอ้นิวนั่งรอครับมองดูไอ้รันกับพี่จางโดนช่างตัดผม ตัดๆหวีๆ
ไปเรื่อย ผมหัวเราะทรงผมที่พิลึกพิลั่นของไอ้รันตอนที่มันตัดเสร็จ

“แฟชั่นเฟ้ย”มันว่า ส่วนพี่จางตัดสั้นเลยครับเข้มดีชะมัด พี่จางหันมายิ้มแยกเขี้ยวให้ผม แล้วถามผมว่า

“เปลี่ยนใจมารักพี่รึยัง” ผมตอบว่าไงรู้ไหมครับ

“ก๊าาาาาาาก”ผมหัวเราะอย่างสะใจ ก่อนที่จะวิ่งหนีลูกเตะของพี่แกวุ่นวาย มือถือของผมดังขณะที่พี่จาง
ตระครุบตัวผมได้ แกล็อกคอผมแน่น ผมและแกหอบแฮ่กๆทั้งคู่ ผมหยิบมือถือมาดู เป็นไอ้คมที่โทรหา

“มึงเด้งหอเหรอ”มันพูดกระแทกเลยครับ

“อ้าวทำไมรู้”ผมถามมัน

“ก็กูหาชื่อมึงไม่เจอเนี่ย”มันว่าอย่างร้อนรน

“อือ ก็คงเด้งแล้วล่ะ”ผมตอบเนือยๆ

“ทำไมถึงเด้งล่ะ....แล้วมึงจะไปอยู่ไหน.....แล้วมึงต้องทำไง...แล้วกูจะทำไงเนี่ย”มันพูดลิ้นแทบพันกัน
ท่าทางมันคงสับสน

“คม”ผมเรียกมัน

“.....มึงไปทำอะไรให้เด้ง...แล้ว”ไอ้คมยังพูดไม่หยุด

“คม......ฟังกูพูด”ผมตะโกนจนไอ้นิวกะไอ้รันแล้วก็พี่จางสะดุ้ง

“อะไร”มันตอบงงๆ

“กูกำลังกลับ แล้วก็กำลังงง อย่าถามมากเดี๋ยวค่อยคุยกัน”ผมบอกมันเรียบๆ

“อือๆ.....กูรอที่ห้องรีบกลับนะ......ไม่เป็นไรใช่มั้ย”มันถามผม

“อือ...ไม่เป็นไร”ผมตอบก่อนที่จะวางหู

“มึงเด้งหอเหรอ”ไอรันถามผม

“เอ๋า....มึงทำอะไรให้เด้งวะ”ไอ้นิวถามผม

“หรือว่าเรื่องข่าวลือนั่นวะ”ไอ้รันพูดขึ้นมา

“แล้วมึงจะไปอยู่ไหน”ไอ้นิวถาม

“อย่าพึ่งถาม..............”พี่จางตัดบทเรียบๆ ยืนจ้องหน้าผม ผมนิ่งอยู่นานก่อนที่จะตอบไปว่า

“กูไม่รู้.....นี่ตอบได้ทุกคำถามที่มึงสงสัย”ผมก้มหน้าก้าวเดินฉับๆกลับหอ โดยมีไอ้ตัวยุ่ง 3 ตัวเดินตามต้อยๆ
ตั้งแต่ผมมาอยู่ที่นี่ในวันแรกผมได้พบเจอเรื่องราวต่างๆมากมาย ไม่ว่าสุขหรือทุกข์ เศร้า เหงา เสียใจ
ความสนุก ความหวัง เสียงหัวเราะ ที่นี่ให้ผมทั้งสิ้น ถ้าผมไม่ได้อยู่ที่นี่ผมคงไม่ได้เจอ เพื่อน พี่ และคนรักแน่นอน
พอคิดว่า ปีหน้าผมจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างนี้แล้วมันก็ใจหาย ในขณะที่เรื่องราวของพวกคนที่ผมผูกพันดำเนินต่อไป
แต่ผมต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวตามเดิม

ผมมองท้องฟ้า คิดจะตะโกนด่าระบายอารมณ์ แต่ก็ไม่รู้จะด่าไปทำไม พอกลับถึงหอ ไอ้ตัวยุ่งทั้ง 3
ก็แยกย้ายกันกลับไปห้องตัวเองอย่างหงอยเหงา ผมไปหาไอ้คมที่ห้องมัน โดนมันลากออกมาเดินเล่นข้างๆ
สนามฟุตบอล

“จะทำไง”มันถามผมสั้นๆ

“ไม่รู้”ผมตอบ

“โทรหาแม่ดิ”มันว่า ผมหยิบมือถือมาโทรหาแม่ คุยกับแม่อยู่นาน ส่วนไอ้คมมันก็ยืนรอผลสรุป

“กูต้องไปอยู่กับญาติ”ผมว่า หลังจากที่คุยกับแม่นานประมาณ 1 ชั่วโมง

“ไกลมั้ย”มันถาม

“ประมาณ 1 ชั่วโมง ครึ่ง”ผมตอบ

“แล้วทำไมมึงไม่อยู่หอนอกใกล้ๆล่ะ”

“บ้านกูไม่ตังค์ขนาดเช่าห้องแถวๆนี้อยู่หรอก”

“แล้วมึงจะไม่เหนื่อยเหรอ...ยิ่งเมารถอยู่”

“ไม่รู้”

“แล้วบ้านญาติมึงเป็นยังไง”

“ก็บ้าน 2 ชั้นธรรมดา พี่ที่เค้าอยู่นั่น......เขาอยู่คนเดียว เลยให้กูไปอยู่ด้วยได้”

“เป็นญาติฝ่ายไหน ผู้ชายหรือผู้หญิง”

“เป็นญาติฝ่ายแม่  เป็นผู้ชาย”

“แล้วมึงจะไม่เหงาเหรอ”

“............กูไม่รู้”ผมตอบ

“แล้วจะไปวันไหน”

“คงหลังสอบเสร็จ”

“อีก 2 อาทิตย์เองนี่”มันว่า

“อือ”ผมตอบ

“แล้ว......”มันยังไม่ทันถามต่อ ผมก็พูดสวนมัน

“ให้กำลังใจกูหน่อย”

“....อืม....เดี๋ยวกูไปหาบ่อยๆ...แล้วมึงก็มาหากูบ่อยๆนะ”มันว่า

“ไอ้คม.....ทำไมกูรู้สึกแย่จังเลยวะ....แค่จะไม่ได้อยู่ที่นี่เอง......แค่จะไม่ได้เจอมึงเกือบ 24 ชั่วโมง
ทุกๆวันเหมือนเคย.......แค่ไม่ได้ตีแบตกับเพื่อนๆเหมือนก่อน.....ไม่ได้ไปกินข้าวกันตอนเย็น......
ไม่ได้เดินไปด้วยกันอีก......แค่จะต้องไปอยู่คนเดียวเหมือนเมื่อก่อน”ผมบอกมันเบาๆ

“.....................”มันไม่ได้พูดอะไรครับ

“......อิจฉาพวกมึงจังที่ได้อยู่ด้วยกัน.......”ผมพูด

“...............................”

“.....พอกูออกไปแล้วกูจะมีเพื่อนไหมคม...”

“มึงจะบ้าเหรอ....แค่ย้ายหอเอง....เดี๋ยวพวกไอ้รันมันก็ไปนอนค้างกับมึงเองแหละ......มึงจะไม่อยากให้มาล่ะไม่ว่า”
มันปลอบผม ผมรู้ดีว่าการที่เราจะไปอยู่ที่อื่นมันก็ไม่ไช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก แต่ในเมื่อความทรงจะที่ดีๆของผม
อยู่ที่นี่ มันคงไม่ผิดที่ผมจะเสียใจใช่มั้ยครับ........................ เสียงมือถือไอ้คมดังครับ มันรับ

“เออ.....ไปๆ......เออ.....มีใครมั่ง....เออ.....เดี๋ยวกูชวนให้....เออ....กี่โมง....เออๆ....หวัดดี” พอมันพูดจบ
แล้วมันก็หันหน้ามาหาผม

“ไอ้รันมันชวนไปกินเหล้าตอนค่ำ”มันว่า

“มีใครไปมั่ง”ผมถาม

“เยอะแยะ มีพี่จาง ไอ้รัน ไอ้นิว ไอ้โน้ต”

“กี่โมง”

“อีก 1 ชั่วโมง”

“งั้นเราไปเดินเล่นกันเถอะ”ผมชวนมัน

“เอาดิ”มันว่า

   เราเดินเล่นแถวๆนั้น สักพัก อยู่ๆไอ้คมมันก็เดินเข้าไปในพุ่มไม้ก่อนที่จะยื่นมือมาส่งบางอย่างให้ผม

“เอ้า”มันเอ่ย พร้อมกับส่งดอกไม้เล็กๆสีขาวมาให้ผม 2 ดอก

“อะไร”ผมถามมัน

“ก็ไม่รู้จะปลอบใจยังไงก็เลยเอาดอกไม้มาให้”มันว่าท่าทางเขินๆ

“ขอบใจนะ.......นี่กูต้องเอาทัดหูมั้ยเนี่ย”ผมแซวมันพลาง ยื่นมือไปรับพลาง

“บ้าดิ.....หรือมึงไม่อายคน”มันว่า

“..........มึงว่ามั้ย....กูไปอยู่ที่อื่นก็ดีเหมือนกัน....มึงจะได้ไม่ต้องกังวลกับข่าวลือ......”ผมพูด ขณะที่เอาดอกไม้
ทับใส่ในหนังสือเล่มหนึ่งแล้วยัดหนังสือเล่มนั้นลงเป้

“ไม่.....กูอยากให้มึงอยู่ด้วยกัน”มันพูด

“กูว่าเป็นแบบนี้ก็ดี........กูกับมึงจะได้ตั้งใจเรียนมากขึ้น”ผมพูดปิดท้าย
ก่อนที่พวกเพื่อนๆของผมจะโทรมาตามให้ไปที่ร้านที่เรานัดกันไว้

3 ทุ่ม

      พวกเรานั่งกินเหล้ากันเงียบ มีพูดคุยกันเรื่องต่างๆบ้าง แต่ไม่มีใครเอ่ยถึงเรื่องที่ผมเด้งหอเลย
คล้ายกับว่าทุกคนไม่อยากพูดถึง คงกลัวผมเสียใจ ผมเลยตัดสินใจพูดออกมาเอง ท่ามกลางบทสนทนาของทุกคน

“กูจะไปอยู่กับญาติ”ผมพูดเร็วๆ เพื่อนๆทุกคนเงียบลงทันใดหันมามองหน้าผมเป็นจุดเดียว

“ไม่ต้องห่วง......กูไม่ได้เสียใจอะไร....กะอีแค่ย้ายหอเอง”ผมยังพูดต่อ

“แล้วมันไกลมั้ย”ไอ้รันถามผม ผมเลยบอกรายละเอียดทั้งหมดอย่างยืดยาว เหมือนกับที่ไอ้คมถามไว้

“เหนื่อยตายเลยมึง”ไอ้นิวว่า

“งั้นมึงก็ไม่ได้ตีแบตแล้วดิ”ไอ้โน้ตมันถาม

“เออ....คงงั้น”ผมตอบไป

“มึงไม่ไปไม่ได้เหรอวะ”ไอ้รันถามผม

“กูไม่ได้ออกเองนะเว้ย......มึงอย่าลืม.....เขาไล่กูออกมา....”ผมบอกมันอย่างเซ็ง

“กูว่าก็ดีนะ...เวลาที่กูอยู่หอเซ็งๆ...กูจะได้ไปนอนกับมึงได้ไง”ไอ้นิวมันว่า

“เออๆ....เวลากูลำบากกูก็ไปนอนกับมึงได้นี่หว่า”ไอ้รันรีบพูดเลยครับ

“ช่ายๆ....เดี๋ยวพี่ไปนอนกะเอ็งเอง....ไม่ต้องกลัวเหงานะ”พี่จางเริ่มพูดแล้วครับ บรรยากาศครื้นเครงขึ้นมาทันใด
บางที่ผมอาจคิดมากเกินไป ถึงแม้ผมไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ผมก็ยังมีเพื่อนที่นี่จริงมั้ยครับ เพื่อนที่จะไม่ลืมผม
แม้เราจะไม่ได้ไปไหนมาไหนร่วมกันเหมือนก่อน

“แต่กูไม่อยากให้มึงไปว่ะ”ไอ้นิวมันบอกผม ทุกคนเงียบ ผมก็เงียบ มีแต่ไอ้คมที่บีบมือผมเบาๆ

“เอ้า!!! ชน”ผมยกแก้วขึ้น ชักชวนทุกคนเอาแก้วมากระทบกันอย่างวุ่นวาย พอทุกคนกินกันจนหมดแก้วแล้ว ผมก็พูดว่า

“เดี๋ยวกูจะมาเล่นแถวๆนี้บ่อย...พวกมึงมีกินเหล้า...มีเลี้ยงอะไรก็โทรเรียกกู...กูจะมาหาแน่นอน”ผมบอกพวกมัน
แน่นอนครับ แม้ตัวผมจะอยู่ไกลกัน แต่มันก็ยังเป็นเพื่อนตายของผมอยู่ดีนี่ครับ ผมอุ่นใจขึ้นมา
บางทีการที่ผมต้องห่างๆจากพวกมันอาจไม่เลวร้ายอย่างที่ผมคิดก็ได้

   การสนทนาในวงเหล้าเลี้ยงส่งผมออกจากหอเริ่มดังอื้ออึง ผมเริ่มเมา ไม่รู้ทุกคนเอาเรื่องจากไหน
มาพูดคุย จ้อกันไม่หยุดเลยครับ ระหว่างนี้พี่จางก็หาโอกาสจ้องตาผมเยิ้มๆเสมอ แกชอบยื่นหน้ามาหาผมใกล้
ผมก็จะจี๋พุงแก ส่วนไอ้คมน่ะเหรอครับ บีบมือผมแน่นเลย  ใจของผมมีความสุขมากที่สุด
ผมมีทุกอย่างที่ต้องการครบพร้อมที่นี่ ผมไม่มีอะไรต้องห่วงพะวงอีก

   พวกเรากินเหล้ากันจนถึง ตี 2 เจ้าของร้านกลับไปแล้ว ร้านก็ปิดไปแล้ว มีแต่พวกผมที่ยังดื่มต่อได้
เพราะพี่จางเคยทำงานที่นี่ พี่เจ้าของร้านแกเลยฝากร้านให้พี่จางปิดให้ ดังนั้นคืนนี้ร้านนี้เป็นของพวกเราครับ
พวกที่ยังคงคุยจ้ออยู่ก็มีแต่ พี่จาง ไอ้คม ไอ้รัน ไอ้โน้ต ส่วนผมกับไอ้นิวไม่ไหวครับ คออ่อนทั้งคู่
ไอ้นิวเด็กเรียนมันคายของเก่าออกมาแล้วเรียบร้อย ส่วนผมได้แต่ยิ้มเป็นนกโง่งม ไม่รู้อะไรแล้วครับ
ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลย มองหน้าเพื่อนๆไปมา เห็นเพื่อนหัวเราะก็หัวเราะตาม พี่จางคงเห็นท่าทางผมไม่ไหว
แกเลยบอกว่า

“ไปนอนข้างในดิ....มีโซฟาอันนึงอยู่ข้างใน......ไปนอนก่อนดิ”

“ลุกไม่หวายอ่ะ”ผมบอกช้าๆ

“ไอ้คม พยุงมันไปดิ”พี่จางว่า พอไอ้คมได้ยินมันก็หยุดการสนทนา แล้วมาพยุงผมเดินเข้าร้านไปนิดนึง
มีโซฟาอยู่ในมุมด้านหนึ่งของร้าน มันหอมแก้มผม แล้วบอกผมเบาๆว่า

“หลับซะนะครับคนดี” ว่าแล้วมันก็วางผมลง ส่วนผมหลับไปก่อนที่มันจะวางผมเสียอีก

   รู้สึกตัวอีกทีหนึ่งรู้สึกว่ามีอะไรมาดุนๆที่หัวของผมผมลืมตาขึ้น มองนาฬิกาที่แขวนที่ผนัง ตี 4 แล้ว
ผมหันหน้าไปด้านขวานิดนึง เฮ้ย!! พี่จางครับ หน้าอยู่ห่างจากหน้าผมไม่ถึง 1 คืบ ผมสะดุ้ง พี่จางเลยตื่นขึ้นมา
มองหน้าผมแกทำตาเยิ้มๆครับ หน้าก็แดง ใจผมเต้นแรงมาก ผมเมาจนแขนขาไม่มีแรง หน้ามืด
รู้สึกว่ามีคนดึงผมขึ้นมา ผมมองให้ชัดๆ ปรากฏว่าเป็นไอ้คมครับ ส่วนพี่จางยังนอนอยู่ที่เดิม

“โชคดีที่เดินเข้ามาดูนะเนี่ย”ไอ้คมมันว่า ไอ้นี่คอแข็งแฮะ กันตั้งแต่ 3 ทุ่ม ยังไม่เมาอีก

“...อ...ก..ำ......า..เ.”ผมพูดไม่เป็นภาษาเลยครับ รู้แต่ไอ้คมประคองผมกลับมาที่หอ ระหว่างทางเหมือน
มันจะพูดอะไรกับผมแต่ผมฟังไม่รู้เรื่อง พอถึงที่หอมันก็ปล่อยผมนอนลงบนเตียง
แล้วมันก็เดินออกจากห้องปิดประตูลง

   เช้าวันถัดมา ผมลืมตาตื่นมาตอนบ่าย 2 โมง โดดเรียนอีกตามเคย ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อวานแล้วอุ่นใจ
ผมมีใครหลายคนที่รักผม รู้สึกดีมากๆครับ ผมยกมือขึ้นมา ลองงอนิ้วนับวันดู ว่าเหลืออีกกี่วันที่ผมต้องไปจากที่นี่

12 วัน....................................ผมทบทวนคำว่า “12 วัน” อยู่นานกว่าจะเข้าใจความหมาย

story by นายโฮะ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าไม่ได้ตั้งหลายวัน  :try2: นึกว่าจะไม่ได้มาที่บอร์ดนี้อีกแล้ว ตกใจหมด
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 24-06-2007 13:36:38
 :confuse: :confuse:  ทำไมโดนเด้งจากหอง่ายๆอย่างนี้ล่ะครับ  มันไม่ยุติธรรมเลยอ่ะคับ  :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-06-2007 14:38:16
เง้อ ทำไมเด้งแค่คนเดียวล่ะ ไม่เด้งสองคนเลยจะได้ออกไปอยู่ด้วยกัน  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 24-06-2007 15:29:42
เย้ มาต่อแล้ว  :m1:

เหมือนเพื่อนๆ จะรู้เรื่องระหว่างทิศกับคมแล้วหรอ  อ่านแล้วได้ความรู้สึกอย่างนั้นอ่ะ  :m5:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: prince_halation ที่ 24-06-2007 15:41:09
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ ... แล้วก็อ่านรวดเดียวเลย

แบบว่าสนุกมาก ๆ เลยอะ ... เนื้อเรื่องมันสมจริงดีครับ ...

คือแบบว่ามันเกิดขึ้นได้จริงอะ ( ชอบเนื้อเรื่องแนวนี้จัง ) แล้วก็บรรยายเรื่องได้ดีมาก ๆ เลย

อ่านแล้วอินตามเลยอะครับ ... สงสารทั้งคมแล้วก็ทิศด้วย ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

ขอให้สองคนนี้มีความสุขเร็ว ๆ ซะทีเถอะนะ ...   :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 24-06-2007 15:49:30
รึจามีคนแกล้งนะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Electrolyte ที่ 24-06-2007 18:15:33
รีบมาต่อนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 24-06-2007 18:48:24
 :teach:

เชียร์ทิศคับ

สู้ ๆ นะคับ

รีบมาต่อเน้อ

 :-[
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 24-06-2007 22:26:09
ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่เลย
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-06-2007 23:48:58
ว้า นึกว่าจะได้ไปสวีทหอนอกกันสองคน
 :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 25-06-2007 11:05:25
หอนอกมันส์ฟ่าแยะ  :m14:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 26-06-2007 13:36:54

..........หวังว่าจะเป็นอย่างที่รีบนๆเชียร์นะ... o4 o4
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 27-06-2007 17:40:16
รออยู่นะคับ  :m13:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 27-06-2007 18:15:24
อยากให้ไปอยู่หอนอกด้วยกันจังอ่า  :m2:   :m2:

เหมือนจะเป็นจุดเปลี่ยนเรื่องรึเปล่าเนี่ย ย้ายหอเนี่ย  ยังไม่อยากเศร้าน้า   :m5:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 28-06-2007 09:38:42
ยังรออยู่นะครับ
 :m8:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 28-06-2007 19:52:51
ตอนที่ 17 Event บอกลา
[/b]

   ผมยังคงใช้ชีวิตตามเดิม ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพราะช่วงนี้พวกเรามีสอบไฟนอลกัน
ผมอยากเก็บทุกช่วงเวลาเหล่านี้เอาไว้เป็นพิเศษ และมัวยุ่งกับการสอบ เลยไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้กับเพื่อนๆอีก

วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของผม.....และไอ้คมด้วย.....ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงเพื่อนๆของเรา พวกผมซื้อของกินกันมาครับ
เอามานั่งกินด้วยกันเล่นเกมส์ด้วยกันบนหอ คืนนั้นทั้งคืนเรานั่งคุยกันไปเล่นเกมส์กันไป จนถึงเช้าอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งไอ้รัน
ไอ้นิว ไอ้โน้ตต่างก็สลบไสลไม่ได้สติ ผมกับไอ้คมเลยสบโอกาสที่จะนอนข้างๆกัน (เมทคนอื่นๆของมันกลับบ้านกันหมดแล้ว
พวกผมเลยมายึดห้องซะเลย55555) นี่นับเป็นครั้งแรกที่พวกเราได้นอนร่วมเตียงเดียวกันไอ้คมมันเอามือมากุมมือผมเอาไว้

หลังจากที่ผมโน้มตัวลง ผมก็นอนนิ่งเหม่อมองเพดานไปเรื่อย ตื่นเต้นมากๆ แต่มันก็ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น
ส่วนผมตาสว่างนอนไม่หลับครับ(ทั้งๆที่เช้าแล้ว)

“คม”ผมเรียกมันกะจะชวนมันคุยซะหน่อย แต่มันไม่ได้ตอบครับ ผมเลยหันไปมองหน้ามันก็รู้ว่ามันหลับซะแล้วครับ ก็แหงล่ะ
เมื่อคืนก็ไม่ได้นอน คืนก่อนนั้นก็อ่านหนังสือจนเช้าเลย อึดจริงๆแฮะมัน ผมคิด

   ผมลุกขึ้นมานั่งบนเตียง มองเพื่อนแต่ละคนที่หลับกันอย่างไม่อายฟ้าดิน เกลื่อนกลาดเต็มพื้น ผมหัวเราะเบาๆ
ไม่นึกเลยว่าจะมีวันนี้สำหรับผม ผมมองหน้าคนที่อยู่ข้างกายอีกครั้ง ทั้งที่ๆผมรักคนๆนี้ แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ว่ารักคืออะไร
เคยได้ยินใครหลายๆคนให้นิยามของมัน แต่ก็ไม่มีนิยามใดที่ผมคิดว่าตรงความเป็นจริง ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าความรักคืออะไร
รู้แต่เพียงว่า ความรักทำให้เราไม่คำนึงถึงทุกสิ่ง ยอมใช้ทุกอย่างเพื่อจะให้ได้มาซึ่งมัน ในความรักย่อมมีความเสียสละ
ความเคารพ และความไว้ใจ ยิ่งไม่เห็นแก่ตัว และจะไม่ยอมทำร้ายอีกฝ่าย ผมไม่รู้ว่าความรักที่ผมมีให้มันจัดเป็นรักแท้มั้ย
ผมรู้แต่เพียง นอกจากวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ผมไม่ต้องการสิ่งอื่นใดไปจากนั้น ไม่ว่าจะเป็น เงินทอง สิ่งของ และคำพูดที่หวานหู

คำสัญญาที่มันอยากมอบให้ผมแต่ผมไม่อยากใช้มันเพื่อผูกมัดมันไว้----นี่นับเป็นการเสียสละหรือไม่ผมไม่ทราบ

คำพูดที่มันบอกและแนะนำผมทุกคำ...ผมพยายามปรับตัวเพื่อให้มันสบายใจ----นี่ก็อาจไม่นับเป็นความเคารพ

บางเวลาสมองของผมรู้ว่ามันไม่มีวันและหลอกลวงทำร้ายผม.....แต่จิตใจก็ยังเสียใจและร้องไห้อยู่บ่อยๆ-----นี่อาจ
เป็นความระแวงผมคิด

การที่ผมยอมให้มันจากไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการ.....แม้ผมต้องเสียใจมากขนาดไหน----นี่คงเป็นความเห็นแก่ตัวของผม
ที่อยากหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดก็ได้ ถึงได้ทิ้งภาระที่หนักหน่วงอย่างการบอกลาไว้ให้กับมัน

แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ผมแน่ใจ

เป็นสิ่งที่ร่ำร้องออกมาจากจิตวิญญาณ

ไม่ว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร...........

ผมไม่อาจรักคนอื่นได้มากมายเท่ามันอีก

ไม่มีใครทำให้ผมยิ้ม.....

และร้องไห้ได้มากมายเท่ามัน

ถ้านี่หมายถึงรักแท้ ผมก็ไม่เสียใจเลยที่มอบมันให้กับคนๆนี้

ผมก้มลงบรรจงหอมแก้มไอ้คมเบาๆ ก่อนที่จะล้มตัวลงนอนเคียงข้างมัน พยายามเบียดตัวเองให้ได้รับความอบอุ่นจากมัน
ให้มากที่สุด ในใจคิดถึงแต่เรื่องที่ดีงามในโลกหล้า.....หลับตาพริ้มลงและพักผ่อนไปข้างๆ “ดวงใจ” ของตัวเอง
   ..............................................................
............................................................................
.............................................................................
“เฮ้ย!!!...ตื่นไอ้ทิศ”มีคนตะโกนครับ

“....ฟี้ๆ...”ผมกรนให้ฟังซะเลย

“ลุกเร็ว”คราวนี้ไม่แค่ตะโกนครับ มีคนดึงผมขึ้นมาจากเตียง

“หือ.....อะไรอ่ะ”ผมพูดทั้งๆที่หลับตาอยู่

“ไปเจเจกัน”เสียงไอ้คมครับที่เปล่งออกมา

“โอ๊ยขี้เกียจ....ไปอะไรแต่เช้าอ่ะ”ผมบ่นงัวเงีย

“ไม่เช้าแล้วโว้ย.......นี่บ่าย 3 แล้วเร็วๆ ทุกคนรอมึงคนเดียว”มันว่า พลางเอามือมาถ่างตาของผมให้มองดูมัน

“เออๆ.....ปล่อยดิ.....พอใจยัง”ผมทำเสียงประท้วง ก่อนที่จะไปอาบน้ำแต่งตัว

   30 นาทีถัดมาพวกเราก็มาดำผุดดำโผล่ท่ามกลางผู้คนที่เบียดเสียดยัดเยียด ในเจเจ บอกตรงๆว่าร้อนครับ
ไม่เคยอยากมาเล้ย ที่ๆคนเยอะเนี่ยๆ แต่ก็ไหนๆ เพื่อนอุตส่าห์ชวน พวกเราเดินกันอยู่นาน จนผมไม่ไหว

“เฮ้ย....พอยังกูไม่ไหวแล้ว”ผมพูดครับ รู้สึกเวียนหัวนิดๆ

“พวกมึงไปกันก่อนเหอะ....เดี๋ยวกูกับไอ้ทิศไปนั่งข้างสระน้ำนะเว้ย”ไอ้คมมันว่าแล้วมาดุนผมให้เดินไปที่สวน
โดยไม่สนใจไอ้โน้ตที่มองมาอย่างหงอยๆ ไอ้นิวกะไอ้รัน ก็ไม่ว่าอะไรพากันเดินดูของต่อ ไอ้โน้ตมันดันไม่ยอมไปกับพวกไอ้รัน
กับไอ้นิวครับ ดันมานั่งข้างๆผม

“เป็นไรวะหน้าซีดเลย”ไอ้โน้ตมันว่า

“กูไม่ชอบที่ๆคนเยอะ หายใจไม่ออก......แล้วมึงไม่เดินต่อเหรอวะ”ผมว่า

“กูก็เหนื่อยแล้ว”มันตอบผม ผมหันหน้าไปอีกด้านบอกไอ้คมว่า

“มึงไปเดินก่อนก็ได้....เดี๋ยวกูอยู่กะไอ้โน้ต”ผมกระพริบตาที่หนึ่งเป็นความหมายว่า ไม่เป็นไร ผมอยู่กับไอ้โน้ตได้ ไม่งอน
ไม่โกรธ (เพราะมันชอบบอกว่าผมขี้งอนเลยต้องบอกมันก่อนว่าไม่งอน.....แต่ถ้าผมงอนผมจะไม่พูดอะไรมันก็จะมาง้อผมครับ)

“ไม่เอา....กูก็ไม่ชอบที่คนเยอะๆ”มันไม่พูดเฉยๆครับ ขยับมานั่งใกล้ๆผม แกล้งมานั่งทับมือของผมไว้
แล้วแอบเอามือสอดมาจับนิ้วผม

“เออๆ....ตามใจ”ผมว่าส่งยิ้มที่มันต้องการให้มันทีหนึ่ง ก่อนจะหันไปชวนไอ้โน้ตมันคุย แม้ว่ามันจะชอบไอ้คม
แต่ผมก็ไม่ระแวงมันนะครับ เพราะตอนนี้ตัวมันเองก็เป็นเพื่อนผม ผมรู้จักนิสัยมันดี มันไม่ยอมเปิดเผยว่าชอบไอ้คมแน่ๆครับ

“พอกูไปแล้วพวกมึงก็คุยกันให้มากๆนะ”ผมบอกไอ้โน้ต แต่มันไม่ตอบผม

“พวกมึงน่ะมีอะไรก็พูดตรงๆ......ไม่ต้องเก็บเอาไปคิดมาก....ไม่งั้นถ้ากูไม่อยู่แล้วพวกมึงจะทำไง” ผมพูดต่อไป
ไอ้คมมันหันหน้ามามองหน้าผม ส่วนไอ้โน้ตยังคงมองที่สระน้ำเช่นเดิม

“พวกกูอยู่ได้มึงไม่ต้องห่วง”ไอ้โน้ตเอ่ยขึ้นมา

“อันที่จริง.....กูรู้ว่าพวกมึงอยู่กันได้........เพราะก่อนที่กูมาพวกมึงก็มีความสุขกันดี.....บางครั้งกูแค่อยากรู้ว่า...กูมีค่าขนาดไหนสำหรับพวกมึง.......มึงไม่ต้องตอบกู....ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น.....กูแค่อยากบอกให้พวกมึงรู้ไว้....เพราะกูมาอยู่ที่หลัง.....
เลยรู้สึกว่ามีเส้นบางๆกั้นเอาไว้ในตอนแรก.......แต่ตอนนี้กูต้องออกไปเป็นคนแรก......บอกตรงๆ....กูใจหายว่ะ”ผมบอกมันเรียบๆ

“อย่าคิดมากกูจะไม่ทำให้มึงเหงา”ไอ้คมมันว่า

“เฮ้ยๆ....ไม่ต้องมาซึ้ง.....เวอร์ละ.....กูแค่อยากพูดอะไรเรื่อยเปื่อย.....ถ้ากูไม่พูดพวกมึงก็ไม่มีเรื่องคุย....
บรรยากาศเลยอึดอัด.....พวกมึง 2 คนขอบคุณกูซะก็ดีนะ”ผมพูดจบก็ลุกขึ้น ตบหัวไอ้โน้ตกับไอ้คมคนละป้าบ
แล้วกระโดดหนีก่อนที่ไอ้ 2 ตัวนั้นจะแก้แค้น ไอ้ 2 ตัวนั่นก็ไม่ยอมครับวิ่งมาตระครุบตัวผมไว้ แต่ระดับผมมีหรือจะโดนจับได้
ผมน่ะมือหนึ่ง บาลูนกักเชียวนะ(ไม่รู้ทุกคนรู้จักไหมนะ) เราวิ่งวุ่นวายแถวนั้นเหมือนเด็กๆ มีคนหันมามองเยอะแยะ
แต่ผมไม่สนใจ หน้าตาดีซะอย่างทำอะไรไม่น่าเกลียดหรอก555555

วิ่งจนเหนื่อยได้ที่ ไอ้รันกะไอ้นิวก็หอบสังขารอันยับเยินกลับมาหาพวกผม ผมเลยสงบศึก นั่งแหมะลงที่สนามหญ้าที่เดิม ไอ้คม
ไอ้โน้ต ทั้งวิ่งทั้งหัวเราะจนหอบก็ลากขามานั่งด้วย ไอ้นิวกะไอ้รันก็นั่ง ตรงกันข้าม กลายเป็นวง ไอ้รันยื่นถุงขนมมาให้ผม
พร้อมกับน้ำเปล่าหนึ่งขวด ผมก็รับมาแล้วเทลงปากโดยไม่เกรงใจ พวกเรานั่งคุยเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องครอบครัว การเรียน
ความรัก ส่วนผมอยากเก็บเอาบรรยากาศนี้ไว้เลยไม่ค่อยได้พูด มัวแต่ฟังพวกมันพูดกันจนเพลิน

บรรยากาศที่ลมพัดเฉื่อยฉิวก็ทำให้พวกเรารู้สึกสงบสุข ผมรู้แล้วครับว่าการที่มีเพื่อนเป็นยังไง
ไม่มีใครพูดถึงเรื่องการที่ผมต้องย้ายออกซักคน แต่ความรู้สึกของผมมันบอกว่า นี่คือการบอกลาที่พวกมันร่วมกันทำเพื่อผม เพราะเจ้าพวกนี้มันก็ไม่ชอบมาที่เจเจหรอกครับ อันที่จริงพวกมันอยากมาเที่ยวกับผมมากกว่า(มั้ง)

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานขนาดไหน รู้สึกตัวอีกทีก็มืดแล้วพวกผมเลยนั่ง BTS กลับ ทุกคนเหนื่อยเต็มที่ แต่พอมาถึงอนุสาวรีย์ชัย
ไอ้โน้ตที่ไม่เคยชวนใครไปไหนมาไหนก็เอ่ยปากชวนพวกผมไปกินก๋วยเตี๋ยวชามเล็กๆแถวๆนั้น ผมจะเรียงลำดับจากกินน้อย
ไปมากนะครับ

-ไอ้รัน 7 ชาม มันว่ามันกินมาแล้ว โธ่เอ้ยแก้ตัวนี่หว่า

-ไอ้คม 7 ชาม มันบอกแม่ไม่ให้กินเยอะ

-ไอ้นิว 8 ชาม มันว่ามันไม่ชอบก๋วยเตี๋ยว

-ไอ้โน้ต 9 ชาม มันว่ามันวิ่งจนจุก

-ผม 11 ชาม ผมบอกผมยังไม่อิ่ม แต่เกรงใจเพื่อนๆ เห็นทำหน้าเหนื่อยๆ 5555555(เรื่องกินน่ะไม่เคยแพ้....เห็นหุ่นผอมๆอย่างงี้)

พอกลับถึงหอ ผมก็แวะไปห้องไอ้คมเล่นเกมส์นิดหน่อย จนประมาณ เที่ยงคืนก็กลับมานอนที่ห้อง
ในขณะที่ไอ้คมมันยังเล่นเกมส์อยู่เลย พรุ่งนี้จะไปเที่ยวไหนดีน้า ผมคิด งั้นต้องรีบนอนพรุ่งนี้จะได้มีเวลาไปเที่ยวกะเพื่อนๆ
แล้วก็แฟนด้วย ผมอาบน้ำอย่างรีบร้อนก่อนจะล้มตัวลงนอน แล้วงอนิ้วนับว่าเหลือเวลาที่อยู่ที่นี่อีกกี่วัน
เอ...............เอ...........กี่วันหว่า.......1....2..........................2วันครับ...ไม่รวมวันนี้

story by นายโฮะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-06-2007 19:55:46
11 ชาม  :sad3: กินเข้าไปด้าย  :m2:  :m2:  :m2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 28-06-2007 20:20:31
 o15

สิบเอ็ดชาม กินหรือไรเนี่ย

สู้ ๆ นะทิศ คมด้วย

 :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 29-06-2007 00:07:13
เก็บเกี่ยวความสุขให้ได้มากที่สุดนะคับทิศ
 :m15:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 29-06-2007 14:58:31

..............กินเข้าไปได้....11 ชาม  :m9: :m9:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 29-06-2007 17:10:24
เจ้กินอย่างมากสุดก็สองชามเคอะ  แบบว่า เด๋วจะอ้วนแล้วไม่สวย  :m15:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 01-07-2007 08:48:16
เวลาเหลือน้อยจังเยย
 o9 o9 o9 o9 o9
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: abcd ที่ 01-07-2007 09:31:44
 o7  นับเปงวันคงมะได้แระน้อยเกิน นับเปงวินาทีเลยดีก่าจาได้รู้สึกเหมือนว่านาน  :undecided:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 01-07-2007 14:30:52
จะไปแล้วหรอ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 02-07-2007 08:35:34
ตอนที่ 18 รุ่งอรุณของวันสุดท้าย
[/b]

   เช้านี้ผมตื่นตอน 10 โมง อาบน้ำ แต่งตัว แล้วเดินไปห้องไอ้คม กะชวนออกไปเดินเที่ยว หึหึหึ อยากใช้ทุกวินาที
ที่เหลือให้คุ้มค่า พอไปหามันที่เตียงเห็นมันนอนคว่ำหน้าอยู่ ชุดเดียวกับเมื่อวานนี่หว่า มึงยังไม่อาบน้ำเหรอเนี่ย ผมคิด
แม่งสกปรกชิหาย ผมนั่งลงตรงหน้าโต๊ะคอมพ์ของมัน เปิดเครื่องเล่นเน็ตจน 11 โมง มันก็ยังไม่ตื่น ผมก็ไม่อยากปลุก....
เมื่อวานมันคงเหนื่อยมาก....เลยนอนตะวันโด่ง.....ไอ้โน้ตก็ไม่รู้ไปไหน....ผมเซ็งเลยไปเดินเล่นด้านล่าง หาอะไรกิน
กินไปกินมาเกิดเหงาซะงั้น.......ม่ายๆ.....เมื่อวานกูยังไปเที่ยวกะเพื่อนๆอยู่เลย ผมส่ายหน้าแรงๆสะบัดความเหงา
ไปที่โต๊ะข้างๆ สมน้ำหน้าใครอยากรับก็รับไป ผมรีบลุกขึ้นมาเดินไปซื้อโจ๊กมา 1 ถุง ไอ้คมคงตื่นแล้ว
ผมซื้อโจ๊กไปให้มันคงจะดีใจ คิดแล้วผมก็ยิ้มออกมา รีบเดินขึ้นหอ ไอ้พวกช่างนินทา ก็ยังมองมาที่ผมเป็นจุดเดียว ช่างแม่ง
ผมคิด อีกเดี๋ยวกูก็ไม่อยู่ให้พวกมึงนินทาหรอกเฟ้ย ผมหัวเราะฮาๆ

   พอมาถึงห้องไอ้คม ผมเปิดประตูเข้าไป ไอ้คมยังนอนอยู่ท่าเดิม ไอ้โน้ตนั่งเล่นเกมส์อยู่ ผมเลยเอาโจ๊กวางไว้
ที่โต๊ะอ่านหนังสือของไอ้คม แล้วเดินออกมา

“ทำไมยังไม่ตื่นวะ......แล้วกูจะไปไหนดีเนี่ย”ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ

“ไปร้านหนังสือดีกว่า” ว่าแล้วผมก็เดินออกจากหอมา เดินมาประมาณ 100 เมตรมีร้านหนังสือที่ค่อนข้างใหญ่ร้านหนึ่ง
ผมรีบเดินหลบไอร้อนยามเที่ยงเข้าไปในร้าน แล้วหยิบหนังสือที่สนใจออกมาดูทีละเล่ม เรียกว่าเอามานั่งอ่านก็ได้เลยนะ
นั่งไปนั่งไป อ่านไปก็ตั้งหลายเล่ม แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย คิดถึงแต่ไอ้คม ถ้ามันตื่นมา

มันคงเห็นโจ๊กแล้วคงรู้ว่าผมเป็นคนซื้อให้

พอมันรู้ว่าผมซื้อให้มันคงอยากรู้ว่าผมไปไหน

พอมันอยากรู้ว่าผมไปไหนมันก็คงโทรหาผมเองแหละ

ผมคิดไปตามสเต็ป ล้วงเอามือถือมาวางบนตัก นั่งอ่านนิยายงี่เง่าไปเรื่อย เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า
ผมรอด้วยความร้อนรุ่มทรมานอยู่นาน 2 ชั่วโมง ตอนนี้บ่าย 2 จะเย็นอยู่แล้วผมยังไม่ได้พูดคุยกะมันเลย
พรุ่งนี้ผมก็จะไปจากที่นี่แท้ๆ

“มันอาจไม่มีตังค์โทรศัพท์ได้”ผมคิด

“หรือมันยังไม่ตื่น”

“หรือมันไม่สบาย”

“เฮ้ย......ถ้ามันไม่สบายขนาดลุกไม่ขึ้น....แล้วกูทำอะไรที่นี่วะ”พอผมทุ่มเถียงกับตัวเองจบ
ผมก็กระวีกระวาดออกจากร้านทันที เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงสุดจนถึงที่หมาย ไอ้คมยังนอนท่าเดิม
ไอ้โน้ตยังเล่มเกมส์อยู่ บรรยากาศสงบสันตินักนะพวกมึง ผมปรี่เข้าไป ยื่นมือแตะหน้าผากของมัน

“เอ็ะ....ก็ไม่ร้อนนี่หว่า”ผมคิด

“มีอะไร”ไอ้โน้ตมันถามผม

“กูเห็นไอ้คมนอนไม่ตื่น........เลยนึกว่าไม่สบาย”ผมบอกมัน

“มันไม่ได้นอนทั้งคืน.....เล่นเกมส์กับไอ้รันจน 9 โมงมันถึงนอน”ไอ้โน้ตพูดเสียงเรียบ

“อ้าวเหรอ.....มิน่าไอ้เชี่ยรันก็ไม่มาหากูเลย” ผมว่า แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างสับสน

“มันเล่นเกมส์ทั้งคืนจนไม่ได้นอน”ผมคิด

“ทั้งๆที่เมื่อคืนกูรีบนอนเพื่อจะได้มาอยู่กะมันแต่เช้า” ผมมองนาฬิกา 4 โมงเย็นแล้ว วันนี้จะหมดลงแล้ว
โดยที่ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย จากความห่วง กลัวมันไม่สบาย กลายเป็นความงงเมื่อรู้ความจริง
และท้ายที่สุดก็กลายเป็นความโกรธเมื่อผมกลับถึงห้องของผม ผมนั่งแหมะลงบนเตียง โกรธจนตัวสั่น น้อยใจ
ทั้งๆที่ผมจะไม่อยู่แล้ว มันยังทำอย่างนี้ ทำไมวันอื่นมีตั้งมากมายทำไมต้องมาเล่นเกมส์จนเช้าเอาวันนี้
พรุ่งนี้ทุกคนที่ไม่มีสิทธิอยู่หอต่อ หรือคนที่จบการศึกษาต้องย้ายของออกไป แต่ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะไปวันนี้เลย
เมื่อผมจัดของพร้อมแล้วผมจะไปทันที อันที่จริงก็อยากให้เพื่อนๆมาช่วยขนของในทีแรก แต่ตอนนี้ขอไปเงียบๆดีกว่า
ผมหยิบเครื่องเล่น mp3 คู่ใจออกมาฟัง หูผมก็ฟังไปเรื่อย มือผมก็รื้อข้าวของในตู้เสื้อผ้าออกมากองไว้ที่เตียง
ปากก็ฮัมเพลงในคอเบาๆ เมทของผมกลับบ้านกันหมดแล้วหลังจากสอบเสร็จไม่กี่วัน น้ำตาที่พยายามกลั้นก็ไหลออกมา
น้ำตาที่เจือปนด้วยความเหงาและน้อยใจ ผมตะกุยของออกมาได้สักพัก

ตู้ของผมก็ว่างเปล่า......

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นก็ยังไม่จางหายไป......อาจจะโหดเหี้ยม.....แต่ผมอยากรู้เหลือเกินว่าเมื่อมันตื่นมาและรู้ว่าผมไปแล้ว
และไม่อาจเข้ามาที่นี่ได้อีกมันจะรู้สึกยังไง........รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผม.......

“อย่างน้อยความโกรธก็ลดลงบ้างเมื่อได้แก้แค้นละวะ”ผมพูดเบาๆ

   คราวนี้เป็นโต๊ะหนังสือครับ ผมเอาสมุดและหนังสือใส่กล่องเอาไว้ ส่วนปากกาและเครื่องเรียนอื่นๆก็ยัดลงกระเป๋าอย่างลวกๆ ผมหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา และนึกได้ว่าในนั้นมีของขวัญเพียงชิ้นเดียวที่ไอ้คมมันให้ผมไว้
ผมเปิดหนังสือไปยังหน้าที่มีดอกไม้สีขาวดอกเล็ก 2 ดอก นั่น ผมยิ้มให้มัน 1 ที ก่อนจะหยิบกรอบรูปอันนึงขึ้นมา ดึงรูปออก
แล้วเอาดอกไม้ดอกนึงใส่ในกรอบรูปแทนรูปใบนั้น

“ถือว่าเป็นของเอาไว้ดูต่างหน้านะคม”ผมรำพึงเบาๆ ส่วนอีกดอกผมขอเก็บเอาไว้กับตัวก็แล้วกัน

   เครื่องเล่นเพลงยังคงทำหน้าที่ของมันเมื่อผมพับเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ผมเอาเป้หลายๆใบมาเตรียมรองรับพวกมัน ระหว่างที่ผมเก็บของผมก็รู้สึกดีขึ้นเรื่อยๆ พอนึกว่า ไม่ว่าไปวันไหน พรุ่งนี้หรือวันนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก ก็สบายใจขึ้นมา
และรู้สึกผิดต่อไอ้คมนิดๆ ช่างแม่งมันอยากแส่หาเอง ขณะที่ผมกำลังเดินไปที่ชั้นวางรองเท้าเพื่อจะขนย้ายมันลงมาในถุงใบใหญ่ที่เตรียมเอาไว้ ประตูห้องของผมก็เปิดออกมากระแทกผนังดัง “ปึง” คนที่เข้ามาแน่นอนว่าเป็นไอ้คมครับ หน้าตาตื่นเชียว ตายังสลึมสลืออยู่เลย เสื้อผ้ายับยู่ยี่ รวมๆแล้ว ก็สภาพยับเยินครับ

“มึงทำอะไร”มันพูดเสียงสั่นจนผมหวั่นใจก่อนที่มันจะเดินเข้ามาแล้วปิดประตูห้องลง ผมเหลียวหน้ากลับไปมองมันด้วยสีหน้าเป็นปกติไม่เปลี่ยนแปลง ก่อนจะบอกมันว่า

“อ้าว.....ก็เก็บของไง” มันมาหยุดยืนด้านหลังของผม มองดูผมยัดเสื้อผ้าเข้ากระเป๋า

“ไหนมึงว่ามึงจะไปพรุ่งนี้ไง”มันถามผม ส่วนผมไม่รู้จะตอบว่าไง เลยแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินซะ โชคดีจริงที่มีแก MUVO
(เครื่องเล่นน่ะครับ)

“ไหนมึงบอกกูว่าจะไปพรุ่งนี้!!!!”....แย้ก!!...ไอ้เชี่ยนี่มันตะโกนครับ...ถึงผมจะตกใจขนาดไหน....แต่แน่นอนว่าภายนอก
ย่อมไม่แสดงพิรุธออกมา ผมยังคงแกล้งไม่ได้ยินครับ(แม้รู้ว่าไม่สมเหตุสมผมก็ตาม...)

“มึงหันหน้ามา”มันว่า แต่ไม่แค่พูดครับ มันกระชากแขนผมให้หันหน้ามา แล้วดึงหูฟังของผมออก

“ทำอะไรของมึง”ผมทำตาดุใส่มันบ้างครับ เอาดิมึงกล้าเล่นแรงกับกูมึงก็ลองดู ผมคิด

“ทำไมต้องไปวันนี้”มันยังบีบแขนผมแน่น

“กูไม่อยากอยู่แล้ว.....ไปวันไหนก็เหมือนกัน”ผมพูดพลางสะบัดมือมันออกจนหลุด ผมหันกลับไปจัดข้าวของต่อ

“กูไม่ให้ไป”มันว่า

“หน้าอย่างมึงจะมาห้ามอะไรกูได้”ผมบอกมัน แม้แต่เหลียวหน้ากลับไปยังขี้เกียจทำ

“กูไม่ให้มึงไป”มันพูดคำเดิมซ้ำ พร้อมกับที่เข้ามาแย่งกระเป๋าที่ผมจัดเสร็จแล้ว ไอ้คมรื้อของข้างในออกมาจนกระจุย
แทบจะเทของออกมาเลยทีเดียว

“แม่ง....ทำไรวะ....กูขี้เกียจจัดนะเว้ย.......หลีก...เกะกะ”ผมตวาดมันเมื่อมันนั่งทับข้าวของที่กระจุยกระจายบนเตียง

“ไม่.......กูไม่ให้ไป”มันยังยืนกรานเสียงแข็งแต่คราวนี้ไม่พูดเปล่า มันลุกรวบแขนผมแล้วกอดผมเต็มแรง

“ปล่อยกู...กูจะเก็บของไอ้บ้า....ปล่อย”ผมตะโกน ใช้แรงที่มีทั้งหมดต่อต้านมันเต็มที่

“กูขอร้องอย่าเพิ่งไป”มันกัดฟันกระซิบที่หูผมเลยครับ ทำเอาผมอึ้ง จากที่ต้องตะโกนคุยกัน มันดันเปลี่ยนมาเป็นกระซิบแทน
ทำเอาผมปรับอารมณ์ไม่ถูก

“ถ้ามึงไปกูจะอยู่ยังไง”มันพูดเสียงสั่นๆ เอาแล้วครับมันเริ่มร้องไห้แล้ว ผมอึ้งจนลืมดิ้น.......สงสารมัน นี่ผมทำให้มันร้องไห้
อีกแล้วหรือนี่

“กูขอนะ......อย่าไป....อยู่กับกูก่อน......กูขอโทษ...ที่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนมึงวันนี้”มันว่าเสียงสะอื้นเลย

“มึงรู้ว่ากูจะไปพรุ่งนี้แล้ว....แล้วทำไมมึงยังทำ”ผมยังไม่หายแค้น แต่ร่างกายมันหยุดดิ้นแล้วครับ

“กูขอโทษ...กูแค่กะจะนอนแป๊ปเดียว......พอกูตื่นมามันก็มืดแล้ว....กูใจหายเลย...พอมาเห็นมึงเก็บของกูทนไม่ไหว........
ทิศอย่าไปตอนนี้นะ.....กูเหมือนกำลังจะตายเลย.....กูหายใจไม่ออก...เหมือนอากาศมันไม่เข้าปอด.....ขอร้องอย่าไปนะ”มันว่าทั้งๆที่สะอื้นอยู่

ผมดันตัวออกมามองหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาที่ไหลอย่างไม่หยุดยั้งของมัน เอามือปัดผมที่ด้านหน้าของมันเบาๆ ส่วนมันร้องไห้อยู่นาน ผมก็ไม่ได้พูดอะไร มือของมันยิ่งกอดผมแน่นกว่าเดิม ไอ้สงสารน่ะก็ส่วนนึง แต่ผมรู้สึกว่ามันอยากร้องไห้เพื่อระบายอะไรบางอย่าง ผมจึงอยู่นิ่งๆ ปล่อยให้มันซบอยู่อย่างงั้น

“ทำไมมึงไม่รู้จักควบคุมตัวเอง”ผมพูด

“กู....ฮึกๆ....ขอโทษ”มันตอบอย่างอ่อนแรง หน้าตาตอนร้องไห้ของมันทำเอาผมใจสลายได้เลยครับ ผมเอื้อมมือไปกอดมัน
แล้วบอกมันว่า

“ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป.....มึงก็รู้”ผมกระซิบที่หูของมัน

“ตอนแรกๆ....กูก็นึกว่ากูจะไม่เสียใจขนาดนี้....ฮึก...แต่ตอนนี้กูทนไม่ได้.....ฮึก...ถ้ากลับมาจากเรียน
แล้วไม่ได้เห็นหน้ามึงอีก......มึงรู้มั้ย...พอเรียนเสร็จ..กูรีบกลับมาหามึงทันทีเลยนะ”มันพูดยืดยาว....ทั้งๆที่ร้องไห้อยู่อย่างนั้น

“....ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป....ถึงกูไม่โดนเด้งหอ....แต่กูก็อยู่กับมึงตลอดไปไม่ได้....ซักวันเราก็ต้องจากกันอยู่ดี.....เอางี้ดิ
ถ้าความทรงจำเรื่องของเรา...ทำให้มึงต้องร้องไห้....งั้นมึงก็ลืมไปดิจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลากูไม่อยู่”ผมปลอบมัน

“มึง...ฮึก...ก็รู้ว่ากูลืมไม่ได้ยังจะพูดอีก”มันว่า....ผมรู้สึกขำนิดๆที่มันทำตัวเหมือนเด็กๆ กอดผมซะแน่นเลย
คงอยากให้ผมเอาใจ

“งั้นมึงก็จำแต่เรื่องดีๆได้เปล่า.....ตอนที่เราจากกันมึงไม่ต้องจำ.....ถ้ารู้สึกเหงา...ก็คิดถึงตอนที่อยู่ด้วยกันก็ได้”

“กูจะพยายาม”

“ไม่.......มึงต้องทำได้ต่างหาก.....คม....มึงต้องทำได้”ผมจูบที่ใบหูมัน

เงียบกันไปนาน ก่อนที่ไอ้คมจะพูดว่า

“ไปพรุ่งนี้......ฮึก....ได้ไหม”

“อันที่จริงกูก็กะไปพรุ่งนี้....แต่พอกูเก็บของแล้วมันก็สบายใจว่ะ....กูขอไปวันนี้เลยนะ”ผมว่า

“ไม่.....วันนี้มึงไปอยู่ห้องกูกะกู...อ้างว่ามันเล่นเกมส์ก็ได้...แล้วพรุ่งนี้กูจะช่วยมึงขนของเอง”

“มึงอย่าคิดมาก...กูไม่โกรธมึงแล้ว....กูแค่ไม่อยากเสียความตั้งใจ”

“แต่มันดึกแล้วนะ”มันยังตื้อไม่เลิก ผมต้องหาอะไรเบนความสนใจมัน พอดีนึกเรื่องดอกไม้นั่นได้

“นี่ๆ.....เอาไว้ดูตอนคิดถึงกูนะ”ผมยื่นกรอบรูปที่ใส่ดอกไม้เอาไว้ให้มัน มันยิ้มแฉ่งเลยครับ ทั้งๆที่ยังมีน้ำตานองหน้า

“กูนึกว่ามึงจะทิ้งไปแล้ว”มันว่า ผมเห็นว่าแผนสำเร็จด้วยดี ขณะที่มันมัวแต่ลูบคลำกรอบรูปอยู่ผมก็จัดของเข้ากระเป๋าต่อไป
มันคงได้ยินเสียงครับ หันขวับมา

“กูบอกว่าไม่ให้ไป”มันพูดเสียงแข็ง ผมเริ่มรำคาญ

“....เฮ้อ....มึงนี่ดื้อด้านจริงๆ.....ลองบอกเหตุผมมาฟังดูดิ๊”ผมท้ามัน แล้วใช้เวลานี้ใช้หาข้ออ้างต่อไป

“กูรักมึงมากไอ้ทิศ...เลยไม่อยากให้มึงไป” ผมเงียบเลยครับคิดอะไรไม่ออก....ไอ้5...คำว่ารักของมึงเนี่ยชะงัดนักนะ

“ไม่ต้องคิดแล้ว....มาเล่นคอมพ์กูมะ......เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อน”มันดึงแขนผมลากออกมาจากห้อง เปิดประตูห้องตัวเอง
ดันผมเข้าไป แล้วมุดตามเข้ามาก่อนที่จะปิดประตูลง

“ไปนั่งเก้าอี้”มันสั่งครับ ผมแลบลิ้นออกมา ไหนๆก็ไหนๆ ผมเลยไปนั่งเล่นเกมส์ตามที่มันว่า

   คืนนั้นทั้งคืนผมอยู่ที่ห้องของมันครับ ผมกับมันเล่นกันไปซักพัก ไอ้พวกเพื่อนๆตัวร้ายก็มาสุมหัวกันตามเคย
(สงสัยมันคงตามสัญชาติญาณมา.....ไอ้พวกนี้....ทั้งๆที่ไม่ได้ชวน...เฮ้ยนจริงๆ) พวกเราเล่นเกมส์กันจนเช้าอีกแล้ว
ผมยืนตรงระเบียงห้อง เหม่อมองแสงอาทิตย์ที่เพิ่งสาดส่องแสงมายังผืนดินเป็นลำแรกของวัน วันที่ผมต้องไป......

ผมยิ้มเหงาๆให้อากาศ....ก็รู้สึกว่ามีคนมากอดจากทางด้านหลัง....ผมไม่ต้องหันหน้าไปก็รู้ว่าใคร...ผมเอาหัวไปแนบแก้มของมันที่ยื่นมาจากทางด้านซ้าย......รับรู้ความอบอุ่นและสายใยที่ถูกส่งผ่านมาอย่างแผ่วเบา.....ไอ้นิว....ไอ้รัน....ไอ้โน้ต.....
ทุกคนสลบกันไปเรียบร้อย.....ผมเอามือ 2 ข้าง จับมือของคมไว้ แล้วดึงแขนมันให้กอดผมแน่นยิ่งขึ้น
ส่วนคมก็จูบลงบนขม่อมของผมเบาๆ ร่างกายของพวกเราแนบชิดติดกัน แต่ผมรู้สึกว่าหัวใจของพวกเรายิ่งใกล้ชิดยิ่งกว่า
ผมถอนหายใจเบาๆ พริ้มตาหลับลง หันไปหอมแก้มมัน ก่อนที่มันจะหันหน้ามาและจูบลงมาที่ปากของผมอย่างนุ่มนวล
ราวกับแมลงปอแตะผืนน้ำ แต่ก็เนิ่นนานราวจะถึงกาลปาวสานของโลก

“ไปตอนเย็นๆนะ เดี๋ยวช่วยขนของ”คมพูดเบาๆหลังผละจากปากของผมได้

“อือ....ง่วงแล้วอ่ะ....ไปนอนกันเถอะ”พอผมพูดจบเราก็เดินเข้าห้อง มันนอนเตียงตัวเอง ส่วนผมนอนเตียงไอ้โน้ต แต่สายตาของเรายังจับจ้องที่กันและกันจนต่างก็หลับใหลไปอย่างไม่รู้ตัว

story by นายโฮะ
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วครับ แต่ยังมีบทส่งท้ายอีก 1 ตอนครับ ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจครับ o14
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 02-07-2007 10:12:12
ม่ายน้า
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:
 :o7: :o7: :o7: :o7: :o7:
==============================

“กูขอโทษ...กูแค่กะจะนอนแป๊ปเดียว......พอกูตื่นมามันก็มืดแล้ว....กูใจหายเลย...พอมาเห็นมึงเก็บของกูทนไม่ไหว........
ทิศอย่าไปตอนนี้นะ.....กูเหมือนกำลังจะตายเลย.....กูหายใจไม่ออก...เหมือนอากาศมันไม่เข้าปอด.....ขอร้องอย่าไปนะ”มันว่าทั้งๆที่สะอื้นอยู่

“....ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป....ถึงกูไม่โดนเด้งหอ....แต่กูก็อยู่กับมึงตลอดไปไม่ได้....ซักวันเราก็ต้องจากกันอยู่ดี.....เอางี้ดิ
ถ้าความทรงจำเรื่องของเรา...ทำให้มึงต้องร้องไห้....งั้นมึงก็ลืมไปดิจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลากูไม่อยู่”

ผมเอามือ 2 ข้าง จับมือของคมไว้ แล้วดึงแขนมันให้กอดผมแน่นยิ่งขึ้น
ส่วนคมก็จูบลงบนขม่อมของผมเบาๆ
ร่างกายของพวกเราแนบชิดติดกัน แต่ผมรู้สึกว่าหัวใจของพวกเรายิ่งใกล้ชิดยิ่งกว่า
ผมถอนหายใจเบาๆ พริ้มตาหลับลง หันไปหอมแก้มมัน ก่อนที่มันจะหันหน้ามาและจูบลงมาที่ปากของผมอย่างนุ่มนวล
ราวกับแมลงปอแตะผืนน้ำ แต่ก็เนิ่นนานราวจะถึงกาลปาวสานของโลก

 
     :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:




หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 02-07-2007 16:22:34
 :m3:

จะจบแล้วหรือเนี่ย

รออ่านต่อไปคับ

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 02-07-2007 16:29:21
ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
ว่าแต่ว่า แค่ย้ายไปอยู่หอนอกเอง
ยังไงก็มีโอกาสเจอกันอีกอยู่แล้ว
ถ้ารักกันจริง
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: มูมู่น้อย ที่ 02-07-2007 17:53:09
ตอนที่ผ่านมา แต่งดึงอารมณ์ได้เศร้าดี  :m15:
ถ้าไม่แอบคิดว่าเพียงแค่ไปอยู่หอนอก
ถ้ารักกันจริง  ระยะห่างแค่นี้ ไม่มากเกินไปหรอก

รออ่านต่อนะ  เกือบจบแล้ว  เป็นกำลังใจน้า
 :m3:  :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-07-2007 19:27:58
เอ่อ  :try2: เว่อร์ไปรึเปล่าครับ แค่ไปอยู่หอนอกแค่นี้
ทำยังกะจะไม่ได้เจอกันอีก  :o10:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 02-07-2007 20:18:07
ทำไมต้องแยกจากกันด้วย

สงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 03-07-2007 01:59:19
อาจเป็นหอนอกโลกก็ได้นะเคอะทุกคน  อิอิ  :m9:

ปล. คุณน้องคนเขียนเคอะ  อย่าลืมว่าในเล้านี้  มีนักอ่านหลายคน  อ่านกันดุๆ ทั้งนั้น

จะเขียนอะไรก็ให้มันสมเหตุสมผลมีน้ำหนักนิดนึง   เพราะมีคนท้วงมาเยอะแล้ว

ซึ่งเจ้ก็ท้วงเรื่องเดียวกันนี้ไปแล้วด้วย  ไม่เชื่อก้ไปหาอ่านเม้นต์เจ้ย้อนหลังดูจิ อิอิ  :m12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 03-07-2007 13:48:00

.............ระยะทางกับระยะใจ.....มันไม่เท่ากัน.......... :undecided:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 03-07-2007 23:47:58
 :try2:เอ่อ ขอแก้ตัวหน่อยนะครับ ไอ้คำพูดของตัวละครเนี่ย แม้ตอนนี้มันไม่สมเหตุสมผล แต่ความหมายแท้จริงของมันจะเฉลยออกมาในบทส่งท้ายนะครับ ซึ่งตอนจบมันค่อนข้างหักมุมเล็กๆอ่ะครับ(ติดตามด้วยนา)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนจบ ก้าวต่อไป
[/b]

   ข้าวของของผมถูกจัดลงกระเป๋าเรียบร้อย โดยมีเพื่อนๆบ้างนั่งบ้างนอนอยู่ด้านข้าง ถ้าเทียบกับตอนที่ผมมาแล้วล่ะก็ ถือว่าผมพัฒนาไปมากที่เดียว หวนนึกถึงตอนนั้นผมมาโดยมีเป้ใบใหญ่แค่ใบเดียว แต่ตอนนี้แค่ใบนั้นไม่พอซะแล้ว

“ดูดิพวกมึง.....ตอนกูมามีแค่เป้ใบเดียว....ตอนไปมีตั้งหลายใบแหน่ะ”ผมเอ่ยขึ้นมาอย่างร่าเริง

“รีบๆเหอะ.....บ่าย 3 แล้ว....มึงมัวแต่นอนอืดอยู่นั่น”ไอ้รันมันกัดผมครับ

“มึงว่าอะไรนะ.....ก็แม่งมึงนอนตั้งแต่ตี 4 นี่หว่า....เสือกกรนอีก....กูไม่เอาที่หนีบผ้า มาหนีบปากมึงก็บุญแล้ว”ผมสวนคืน

“เลิกกัดกันซะลิฟท์มาแล้ว”คมพูดขึ้นมาพร้อมกับเข้ามาเอากระเป๋าใบที่หนักอึ้งที่สุดไป ส่วนไอ้รัน ไอ้นิว
ไอ้โน้ตก็มาช่วยหันขนคนละไม้คนละมือ  ระหว่างที่อยู่ในลิฟท์ ผมก็ได้รู้ว่า วันนี้ไอ้ 3 ตัวนี้ต้องกลับตอนค่ำๆ
ไอ้คมต้องไปอยู่กับพี่ชายมันย่านชานเมือง เพื่อไปหางานพิเศษทำ ส่วนผมเรียนซัมเมอร์เช่นเคย
ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ริมถนนหลักของกรุงเทพ ผมโบกแท็กซี่ บอกจุดหมายปลายทาง แล้วโยนกระเป๋าเข้าไป
ก่อนจะมุดตัวตามเข้ามา เพื่อนๆก็ทำแบบเดียวกัน

“รถเมล์ไปไม่ถึงเหรอวะ”ไอ้คมถามตอนที่อยู่บนแท็กซี่

“ถึงน่ะถึง แต่กูกลัวพวกมึงจะเหนื่อย เลยคิดว่าไปแท็กซี่ดีกว่า”ผมตอบไป

“รู้ตัวก็ดี......กูน่ะไม่เหมาะกับรถเมล์โว้ย....ต้องแท็กซี่เท่านั้น”ไอ้รันรีบสอดเลย

“อ้าว.....กูเห็นหัวมึงนึกว่ามึงเป็นกระเป๋ารถซะอีก....โดนลมตีซะฟูฟ่องเลย”ไอ้นิวสกัดดาวรุ่ง

“อย่าไปว่ามันดิ ถึงไอ้รันมันจะนั่งรถเมล์แต่มันก็ไม่หล่อนะโว้ย”ผมรีบเหยียบซ้ำ

   เมื่อถึงที่หมาย พี่ชายของผมก็ออกมารอรับ บ้านนี้มีชั้นเดียวครับ เป็นบ้านเช่าเก่า ผมมีห้องส่วนตัว พี่ผมก็มีอีกห้อง
มีห้องน้ำ นอกนั้นก็ไม่มีห้องอื่นอีก(อันทีจริงห้องผมเป็นห้องเก็บของมาก่อน) พวกเราขนของเข้ามาในห้องผม
ไอ้พวกเลวมันก็นอนเกลื่อนกลาดเต็มพื้น ปล่อยให้ผมจัดของเองคนเดียว

“กูมาช่วยขนไม่ได้มาช่วยจัด”ไอ้โน้ตว่า

“กูขี้เกียจ”ไอ้รันว่า

“กลัว่าจัดแล้วจะไม่ถูกใจมึง”ไอ้นิวว่า

“ครอออออออออกกฟี้”ไอ้คมกรนไปแล้ว ผมใช้เวลาจัดของ 2 ชั่วโมง ก่อนจะพาไอ้พวกเพื่อนเลวไปเลี้ยงอาหารที่หรูหรา
ที่สุดในย่านนั้น

“พวกมึงไม่ต้องสั่ง....กูสั่งเอง....เปลือง”ผมว่าพลางแย่งชิงเมนูมาจากมือพวกมันทุกตัว (ก่อนที่ผมจะได้อยู่หอ
ตอนครึ่งเทอมแรกผมเคยพักที่นี่มาแล้วน่ะครับ เลยค่อนข้างคุ้นเคย)

“พี่ครับๆ”ผมเรียกบริกรมารับรายการอาหาร แล้วสั่งอาหารมาหลายอย่างพลางแนะนำสถานที่ต่างๆในย่านนี้
พออาหารถูกยกมาถึง พวกมันก็สวาเข้าไปโดยไม่ออมรั้ง

“รีบกินรีบกลับ...เดี๋ยวไม่ทันรถ”พวกมันว่า

   กว่าพวกเราจะกินกันเสร็จก็ปาเข้าไป 2 ทุ่มนู่น ไอ้พวกเลวรีบเดินทางอย่างตาลีตาเหลือก
ผมไปส่งพวกมันขึ้นแท็กซี่ ระหว่างทางกลับพี่ของผมก็โทรมา

“วันนี้พี่ไปงานศพต่างจังหวัดนะ กลับพรุ่งนี้เย็นๆ”

“อ้าวพี่ แล้วให้ผมนอนไงอ่ะ”ผมถามไป

“ก็ชวนเพื่อนมานอนด้วยดิ”

“พวกมันกลับกันหมดแล้วอ่ะ........แต่....ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมลองชวนดู”

“เออ....พาเพื่อนมานอนด้วยก็ได้....มีอะไรโทรมานะ”

“ครับ”ผมตอบรับก่อนที่จะวางสายไป ใช่แล้วครับผมคิดถึงไอ้คมครับ เพราะมีแต่มันคนเดียวที่ไม่ได้กลับบ้าน
ผมลองโทรหามันหลังจากที่คิดว่าพวกมันคงถึงที่หอแล้ว

“นี่”ผมอ้อนไปเมื่อมันรับโทรศัพท์ของผม

“อะไร”

“มานอนเป็นเพื่อนหน่อยดิ”ผมว่า

“ได้เหรอ!!!!”มันทำเสียงตื่นเต้นสุดขีด

“อือ??”ผมงงกับอาการตื่นเต้นของมันครับ

“จะรีบไป.....แป๊ปนึงนะ”

“อือ”ผมตอบ เท่านั้นแหละมันก็วางหูทันที

“ดีใจเรื่องอะไรวะ”ผมคิด .............อือ..........นอนค้าง.....

“เฮ้ย...แม่ง”ผมคิดออกแล้วครับ

“จ๊าาาาาาาก”

“กูทำอะไรเนี่ย” ผมยืนเอามือกุมขมับอยู่หน้าบ้านพัก

“ซวยแล้ว ระบมแน่กู ยังไม่เตรียมพร้อมเลย” ผมบ่นอุบ

“เอาวะ...ก็รักไปแล้วหนิ...เป็นไงเป็นกันวะ” ผมตัดสินใจ พร้อมกับเพ่งเล็งสายตาอันเด็ดเดี่ยวไปที่เบื้องหน้า

เนิ่นนานมันก็ยังไม่มา ..............ผมรออยู่ 50 นาทีเห็นจะได้....แล้วมันก็มา ด้วยสภาพ “หล่อ”ไม่น่าเชื่อ
กางเกงยีนส์ที่รับกับรูปร่างที่สูงโปร่ง เสื้อยืดสีเหลืองที่รับกับผิวขาวๆ และกล้ามเนื้อข้างใต้
ทรงผมที่จัดมาอย่างเหมาะเจาะก็เข้ากับคิ้วและดวงตามีคมเข้มลึกล้ำ

“เอาแล้วไง”ผมคิด แค่นี้ใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ กลัวว่ะ แต่ก็ตัดสินใจไปแล้วนี่นา ช่างแม่ง

“เข้ามาดิ”ผมเอ่ยปากชวนมันให้มันเดินเข้ามาอย่างประหม่ามากถึงมากที่สุด

“..........”มันไม่ตอบครับ ได้แต่ก้มหน้างุดๆเดินเข้ามา

“....เอ่อ....หิวมั้ย”ผมถาม

“ไม่”

“เหรอ”ผมไม่รู้จะพูดอะไรแล้วครับ

เงียบกันไปนานก่อนที่มันจะพูดเสียงแหบแห้งว่า

“ง่วงแล้ว”ผมหน้ามืดทันทีครับ หัวใจไปตกที่ตาตุ่มนู่น

“เออ......เข้าไปนอนก่อนดิ....เดี๋ยวอาบน้ำก่อน”ผมตอบไปด้วยเสียงที่เรียบที่สุดที่สามารถ

“เร็วนะ”.....อ้าาาาาาายบ้าาาาาา....หมายความว่าไงวะ

“อือ”พูดจบก็ผมหันหลังไปหยิบผ้าขนหนูจากราว แล้วรีบมุดตัวเข้าห้องน้ำทันที ผมยืนพิงผนังอยู่นาน

“ทำไงดีวะ”ผมคิด

“เอาไงเอากันดิ”ผมคิดอีก

“กลัวว่ะ”ผมคิดอีกนั่นแหละ

“รักมันไม่ใช่เหรอ”ผมกล่อมตัวเอง

“เออ”ผมยอมรับ(กรุณานึกภาพ ตัวเราฝ่ายดีกะเลว เถียงกันเอง)

“แล้วไง”

“แล้วไง”

“ยอมมันดิ”

“ว่าแต่.....มันทำกันยังไงวะ”

“ก็เข้าไปตรงนั้นไง”

“เฮ้ย!!!”

“ช่าาาาาาาาายยย”

“งั้น............กูต้องอาบน้ำให้สะอาดที่สุด” พอได้ผลสรุปเป็นที่พอใจของทั้งหลายฝ่ายผมก็ลงมือขัดสีฉวีวรรณเต็มที่
พอเดินออกมาจากห้องน้ำ

“เสื้อผ้าอยู่ในห้องหว่ะ”

“เข้าไปเอาดิ”

“อาย”

“อายแม่งอาราย แต่ก่อนไม่เห็นเป็นไร”

“มันไม่เหมือนกัน”

“เข้าไปเหอะมึงอย่าเรื่องมาก” ผมเปิดประตูห้องนอน เห็นไอ้คมนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง ผมรีบแง้มประตูออกมา
มุดเข้าไปหยิบเสื้อผ้าออกมาใส่

“เอ....แล้วต้องแต่งชุดยั่วยวนมั้ยวะ”

“เออดิ”

“กรูอายยยยย....อย่าบังคับกูได้มั้ย”

“งั้นแต่งชุดธรรมดาแล้วกัน”

“เออๆ....ก็ดี”ผมจบลงด้วยการใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้านอน

“มึงจะบ้าเหรอ...ใส่ยีนส์เข้านอน”

“ช่างแม่ง...แต่งไปแล้วนี่”

“พร้อมยัง”

“พร้อม”

“ล้มตัวลงนอนเร็วกูตื่นเต้น เลือดจะออกจากรูขุมขนอยู่แล้ว”

“หัวใจกรูก็จะหลุดออกจากปากอยู่แล้ว.....มึงเงียบซะ” สิ้นเสียงคำสั่ง มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่เข้าครอบงำผม
ผมค่อยๆนั่งลงบนเคียง แล้วล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็ว เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงพร้อมกับหลับตาปี๋

“มันจะเริ่มที่ไหนก่อนวะ”

“ปากแหงๆ”

“กูว่ามือ”

“กูว่ากอดก่อนแหงๆ”

“โอยพวกมึงเงียบๆ...กูจะตายอยู่แล้ว”ผมตะโกนในใจขับไล่ความคิดฟุ้งซ่าน

   หลับตาอยู่นานไม่เห็นมันขยับ ผมค่อยๆเงี่ยหูฟัง

“ฟี้ๆๆๆๆ”ไอ้เชี่ย......เมิงหลับแล้วเหรอ....กรูตื่นเต้นจะตายแล้ว...เมิงดันหลับ....มึงนี่น้า เฮ้อกรูอุตส่าห์ลุ้น

   พอผมรู้ว่ามันหลับไปแล้ว ผมก็ไม่เกร็งแล้วครับ ผมนอนตะแคงข้างไปมองแผ่นหลังของมันที่ถูกกระทบ
ด้วยแสงจันทร์ในท่านอนคว่ำ

“เหนื่อยอ่ะดิ....นอนไม่ถึง 6 ชั่วโมงตั้งหลายวัน”ผมพูดเบาๆ เอื้อมมือไปทาบกับหลังมัน อยากจะกอดแต่กลัวจะตื่น
เดี๋ยวได้เจ็บตัว ผมพริ้มตาหลับ เพ่งความรู้สึกไปที่ฝ่ามือนั้น อุ่นดีจัง รู้สึกว่าหัวใจมันเต้นด้วยแฮะ อืม ตุบๆ ตุบๆ ตุบๆ

ผมนับจังหวะการเต้นของหัวใจของมันไปจนเพลิน ผล็อยหลับไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้


ตี 2


“หือ”ผมพูดงัวเงียเมื่อรู้สึกว่า มีอะไรมาสะกิดใบหน้า

“อือ”ไอ้คมครับมันกำลังหอมแก้มผม ไม่รู้ผมนอนตะแคงเมื่อไหร่ ปล่อยให้มันกอดผมจากด้านหลัง
มือของมันโอบรอบเอวผมไว้แล้ว

“ตื่นแล้วเหรอ”ผมเงยหน้าไปดูนาฬิกาที่หัวเตียง

“ตี 2 แล้วรีบนอนเหอะ...เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นไม่ไหวนะ”ผมพูดจบก็หลับตาลงเตรียมตัวนอนอีกรอบ

“ไม่อยากหลับ”มันกระซิบที่หูของผมพร้อมกับลมหายใจอุ่นๆที่มากระทบซอกคอ

“เหรอ....งั้นทิศหลับก่อนนะ”ผมบอกเนือยๆ

“ไม่”มันว่า

“อย่ามาทำอะไรลามกนา...ง่วงนอนไม่มีอารมณ์หรอก”ผมบอกมันทั้งๆที่หลับตาอยู่

“เหรอ...งั้นทำให้มีนะ”มันว่า หลังจากที่ประโยคนี้จบลงมันก็ลุกขึ้นมานอนคร่อมตัวของผม พร้อมกับจูบลงมาที่ปากของผม
พร้อมกับขยับเขยื้อนอย่างร้อนแรงที่สุดที่ผมเคยเจอ ผมลืมตาโพลง

“เอาแล้วไง”ผมคิด มือไม้ของคมเริ่มขยับเขยื้อนไปมาไม่อยู่สุข ตอนนี้เสื้อของผมหายไปแล้วครับ
มีแต่มือของมันที่คอยกระตุ้นตามจุดสำคัญของผม

“อือ.......อืม”ปากของผมยังถูกประกบไว้ด้วยปากของมัน พร้อมด้วยสายตาที่ลึกล้ำไปด้วยคำพูดและความหมาย
อย่างไร้ที่สิ้นสุดของมันที่จ้องมองมา

ตอนนี้เสื้อผ้าของมันหายไปหมดแล้ว ส่วนผมเหลือกางเกงในตัวเดียว เจ้าคมน้อยสัมผัสกับต้นขาของผมอย่างแนบแน่น
ปากของคมตอนนี้ผละจากปากของผมเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้ผมร้องครางอย่างสั่นสะท้าน
ในขณะที่มันใช้ลิ้นชิมร่างกายของผมอยู่ ในที่สุดปากของมันก็มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดของผม เมื่อมันสัมผัสส่วนนั้น
ผมแทบขาดใจ จนต้องระบายความทรมานออกมาโดยใช้เสียง .............เมื่อมันเล่นสนุกจนพอใจมันก็ลุกขึ้นมา
กดมือทั้ง 2 ของผมลง เอาปากมาจูบผมอีกครั้ง

“พร้อมยัง”มันถามผม

“อือ”ผมพยักหน้าเบาๆ อายจนรู้สึกว่า ใบหน้ากำลังร้อนอย่างมาก คมปล่อยมือออกข้างหนึ่ง ใช้มือข้างนั้น ประคองเจ้าคมน้อย
มาหยุดอยู่ที่หว่างขาของผม มันเริ่มต้นดันเข้ามาแล้วครับ

“โอ้ย.....ไม่ใช่”ผมบอกมันเมื่อมันจะเข้าผิดที่

“ตรงไหนอ่ะ”มันถามผม

“ขึ้นอีก......อีก....อือตรงนั้นแหละ”ผมบอกมันตอนที่มันเริ่มจ่อเข้าด้านหลังของผม

“หึหึหึ....เบาๆล่ะ”ผมหัวเราะให้ความมือใหม่ของมัน

“หัวเราะทำไม .....ก็คนมันไม่เคยนี่หว่า...คอยดูเห๊อะ”มันว่าพร้อมทำหน้ามั่นอกมั่นใจ

“พร้อมยัง”มันถามผมอีกครั้ง

“อือ”ผมตอบมันไป ความคิดของผมย้อนกับไปตอนแรกๆที่ได้พบเจอกับมัน ผมไม่นึกเลยว่าเราจะมากันได้ไกลมากขนาดนี้
ทุกอ้อมกอด และทุกความอบอุ่นที่มันมอบให้ เป็นกำลังที่ทำให้ผมสามารถจะเผชิญกับโลกที่กว้างใหญ่ได้อย่างไม่ลังเล
นับแต่วินาที่แรกที่เรารักกันมา จุดจบของเราก็ถูกกำหนดไว้แล้ว ว่าจะจบอย่างไรและเมื่อไหร่ ตอนแรกๆ
ผมคิดว่าแค่จะรับเอาความอบอุ่นจากมัน แค่ได้แอบรักมันก็พอ แต่เรื่องราวทั้งหมดช่างบังเอิญและยอกย้อน
จนผมไม่สามารถคาดเดาได้ ท้ายที่สุดเราก็พร้อมที่จะเสี่ยงกับมัน และพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดในอนาคตทั้งมวลจนได้

   ตอนนี้ตัวของคมแทรกเข้ามาในตัวของผมแล้ว น้ำตาของผมไหลเป็นสาย มือของผมกำผ้าปูที่นอนอย่างแรง
แต่ความเจ็บปวดที่ผมได้รับไม่อาจเทียบได้เลย กับความรักที่ท่วมท้น จนแทบขาดใจ ข

ณะที่ผมกำลังจะบอกมันว่าผมรักมันมาก มันก็พูดในความมืดด้วยปากที่แทบติดกับใบหน้าของผม

“คมรักทิศนะ”สิ้นคำๆนี้ หน้าอกของผมรู้สึกร้อนและตื้นตันอย่างประหลาด น้ำตาของผมไหลออกมาโดยอัตโนมัติ
ผมเอามือทั้ง 2 ข้างของผมกอดมันเอาไว้ด้วยแรงมากมายที่สุดเท่าที่ผมมี เปล่งเสียงร้องไห้ออกมาอย่างสุดแรงเกิด

“เป็นไร.....เจ็บเหรอ.....งั้นคมเอาออกนะ”คมพูดอย่างตกใจ

“ไม่.....ไม่เจ็บแล้ว.....แต่ตอนนี้ทิศมีความสุขมาก....ทิศอยากให้คมกอดทิศนานๆนะ.....อย่าปล่อยให้ทิศอยู่คนเดียว.....
ทิศกลัว......เหงา”ผมพูดไปอย่างไม่รู้ตัว

“ไม่ต้องกลัว....เพราะคมแน่ใจว่า...คมไม่ได้รักทิศน้อยไปกว่าที่ทิศรักคมเลย”พอคมพูดจบ คมก็ประกบปากกับผม
หยดน้ำตาไหลลงมาจากสองตาของผมเริ่มแห้งเหือด คมเริ่มขยับไปตามจังหวะของความต้องการ ผมพูดด้วยเสียงกระเส่า
เบาๆท่ามกลางลมหายใจที่ร้อนระอุของเรา 2 คนว่า

“ทิศก็รักคม” คมยิ้มเล็กๆก่อนใช้ปากและแรงกายที่มีหยุดความทรมานของเรา 2 คนลง

   เช้าวันถัดมา พระอาทิตย์ส่องแสงลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาอย่างอ่อนโยน เสียงนกร้องต้อนรับการมาของฤดูร้อน
ผมเอาคางเกยแขนอยู่ที่ริมหน้าต่าง ความคิดคำนึงล่องลอยไปในอนาคตที่ห่างไกลแสนไกล อย่างเลื่อนลอยและเคลิบเคลิ้ม

“เจ็บมั้ยครับที่รัก”คมกอดผมจากด้านหลังพร้อมเอาคางมาเกยไหล่ผม

“อาบน้ำนานจัง ป่ะไปกินข้าวกันเหอะ”ผมหันหน้ากลับไปก็โดน ไอ้เจ้าเล่ห์ขโมยจูบไป 1 ที ผมเลยพูดขึ้นว่า

“เราวิ่งแข่งกันออกไปหน้าบ้านไหม เริ่มจากตรงนี้แหละ...”

“เอาดิ”มันว่าจบก็รีบกระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว

“โอ๊ย!!!”แหมๆ ผมก็ต้องใช้มารยาบ้างเป็นธรรมดา

“เป็นไร!!!.......เจ็บเหรอ”มันว่ารีบกลับมายื่นมือมาพยุงผม ผมได้โอกาสกระชากแขนมันให้มันล้มลงมานอนที่เตียง
ก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปหน้าบ้านอย่างรวดเร็ว

“โหย.....ไม่อาว...โกงอ้ะ”มันประท้วงครับ พร้อมกับรีบวิ่งมารวบตัวผมไว้ได้เมื่อเกือบจะพ้นประตูบ้านไปแล้ว

“แฮ่กๆ....”ผมหอบครับ คงเพราะนอนไม่พอ แล้วยังต้องมาออกกำลังตอนเช้าอีก

“นี่....ไม่ต้องรีบนะ.................เห็นข้างนอกนั่นไหม”มันว่า มือข้างหนึ่งกอดผมไว้ มืออีกข้างชี้ออกไปหน้าประตู
ซึ่งมีแสงสว่างลอดเข้ามาอย่างรำไร

“ทำไม”ผมถามมัน

“เรากำลังมุ่งหน้าสู่อนาคต ไม่ว่ามันจะเป็นอย่างไร คมก็จะจูงมือทิศไปเอง ไม่ต้องกลัวนะ”ว่าแล้วมันก็เดินไปเบื้องหน้า
จนเกือบจะถึงขอบประตูแล้ว ก่อนที่จะยื่นมือออกมา

   ในตอนนั้นผมมองไม่เห็นหน้าของคม เพราะพระอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังของมันสาดส่องจนทำให้ผมแสบตา
ผมรู้แต่เพียงว่าตัวมันช่างสว่างเหลือเกิน อบอุ่นและสว่างไสว สาดส่องลงมายังที่ๆมืดมิดภายในจิตใจของผม
มอบทุกๆสิ่งที่ผมโหยหาและต้องการ ผมยื่นมือออกไปโดยไม่ลังเล สัมผัสกับความอบอุ่นนั้น
ก่อนที่จะก้าวข้ามประตูบานนั้นไป......เพื่อเผชิญกับอนาคตที่สุดจะคาดหยั่ง....เบื้องหลังแสงสว่างนั่น......................





จบ

story by นายโฮะ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ช่วงนี้เรียนหนัก ผมจะมาอัพตอนส่งท้ายอีก 2- 3 วันนะครับ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 04-07-2007 00:27:08
อ้างถึง
“ไม่ต้องกลัว....เพราะคมแน่ใจว่า...คมไม่ได้รักทิศน้อยไปกว่าที่ทิศรักคมเลย”
:m3: :m3: :m3: :m3:

จะละลายตาย ไม่ว่าจะเจออะไร ถ้าเจอคนอย่างคมก็พร้อมจะตายด้วยกัน

 :m11: :m11: :m11: :m11: :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine ที่ 04-07-2007 00:27:52
อ้า..........จบไปแบบแฮปปี้อีกเรื่องนะครับ :m11:

ขอบคุณนะครับที่มีเรื่องดีๆ มาเล่าให้ฟัง :m1:

สู้ๆน๊า........................ o14
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 04-07-2007 00:38:17
ว้ายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


จบได้สวย

แบบนี้เขาเรียกว่าการจบด้วยการใช้สัญลักษณ์ ใช่ไหมเคอะ

แสงสว่าง...อนาคต

ว้ายๆ

เชื่อไหมว่า...อ่านถึงประโยคนี้แล้วขนลุก

เอาไปหนึ่งบวกเลยคร้า  :m3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 04-07-2007 10:28:05
 :teach:

จบอย่างสมบูรณ์แบบครับ

แสงแห่งอนาคต

ขอบคุณ คุณhayuho ที่แต่งนิยายดี ๆ มาให้อ่านกัน

รออ่านเรื่องต่อไปนะครับ

 :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 04-07-2007 11:31:02

..............น่ารักมากมาย........... :m3: :m3:

..............อนาคตจะสดใสหรือไม่มันขึ้นกับเรา 2 คนคับ......... :m1: :m1:

..............ขอบคุณคับ.............. :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 04-07-2007 14:51:39
จบได้สวยงามมากๆ ครับ  :m1:
เป็นกำลังใจให้คุณ hayuho แต่งนิยายดีๆ ต่อไปนะคับ :m13:

========================
รอตอนส่งท้าย
 :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 04-07-2007 16:25:18
ลุ้นแทบแย่ ในที่สุดก็จบแบบมาความสุข

ขอบคุณมากนะจ๊ะที่เอาเรื่องราวน่ารักๆมาให้อ่าน

 :m3:  :m3:  :m3:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 04-07-2007 16:36:56
รอบทส่งท้ายด้วยคน เห็นบอกหักมุม  :m12:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 04-07-2007 16:52:40
น่ารักมาก แต่อยากให้มีภาค2 อยากรู้ว่าอนาคตต่อไปจะเป็นไง  :m1:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: aumzaa ที่ 04-07-2007 17:13:07
 o14 o14 o15 o15น่ารักมากมายครับ o18 o18
รอตอนย่อยๆๆนะครับ :impress2: :impress2: :impress2:(http://)[/img][/img][/img]
ขอบคุณอีกตรั้งครับ :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-07-2007 19:01:46
จบแบบหักมุมจริง ๆ ด้วย
นึกว่าเรื่องจะยาวกว่านี้ซะอีก แต่ก็จบได้สวยงามดีค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ  o1
และจะติดตามผลงานต่อไปนะคะ  :teach:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 04-07-2007 20:58:50
อ่านตอนแรกเศร้ามากเลย แต่ตอนจบก็ดีใจนะที่มีความสุขมีความหวังอันสดใส แสงแห่งอนาคต อืม ใช้คำพูดดีค่ะ

แล้วแต่งเรื่องสนุก ๆ มาลงอีกนะคะ o15
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับŬ
เริ่มหัวข้อโดย: hayuho ที่ 06-07-2007 17:44:35
บทส่งท้าย...............สัญญา............
[/b]

5 ปีผ่านไป

ชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาชั้นแนวหน้าคนหนึ่งนั่งอยู่เพียงลำพังในร้านอาหารที่ค่อนข้างหรูหรา อันที่จริงแล้ว
เขาเป็นคนที่ค่อนข้างใจเย็นและสุขุม แต่บัดนี้เขากำลังทำท่าทางลุกลี้ลุกลนอย่างเห็นได้ชัด สายตาของเขาสอดส่ายไปมา พร้อมๆกับที่กวาดตาไปมองที่นาฬิกาเป็นระยะๆ

“ทำไมยังไม่มาน้า” ผมเอ่ยขึ้นมา คนที่ผมกำลังนั่งรอ ปล่อยให้ผมรออยู่ตั้งนาน แต่พอคิดว่าจะได้เจอคนๆนั้นแล้ว
ก็ทำให้ความทุกทรมานจากการรอคอยลดลงได้บ้าง ...... “ไอ้ตัวแสบ”ของผม

   วันนี้เป็นวันแรกของเดือนที่ 2 ที่ผมเปิดคลินิกครับ ด้วยเพราะสัญญาบ้าๆกับใครบางคน
ทำให้ผมต้องมานั่งรอเกือบชั่วโมงอยู่อย่างนี้ อันที่จริงแล้ว ผมเรียนจบตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่ก่อน แต่ผมได้รับทุนการศึกษา
ให้ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมรีบเรียนปริญญาโทจนจบภายใน 1 ปี เพราะผมคิดถึงคู่หมั้นของผมเหลือเกิน

“ที่กูจะให้มึงสัญญาคือ มึงต้องใช้เงินเดือนเดือนที่ 2 ที่มึงทำงานได้ มาเลี้ยงข้าวกู ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
มึงต้องโทรมาชวนกูไปกินข้าวเข้าใจมั้ย”


คำพูดของคนๆหนึ่งยังคงก้องอยู่ในห้วงความคิดของผมเสมอ ผมจึงถือเอาวันนี้แหละที่จะทำตามสัญญาที่ผมเคยให้ไว้กับเค้า

“......เฮ้อ......”ผมเผลอถอนหายใจเมื่อคิดถึงคนๆนั้น ผมมองดูนาฬิกาอีกครั้งนี่มันเกินเวลานัดมา 1 ชั่วโมง 30 นาทีแล้ว
แต่ผมก็ยังไม่อยากกลับ ผมรู้ดีว่าเขาต้องมา
   ในขณะที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ผมหันไปทางขวาเพื่อที่จะหาวิวดูฆ่าเวลา กระจกหน้าร้านอาหารก็ใสสะอาด
จนไม่อาจบดบังทัศนะวิสัยได้ นั่นไง ผมเจอแล้วครับ มันคือสนามเด็กเล่นของเรา

ผมยังจำค่ำคืนนั้นของเรา 2 คนได้ดี.........................


เมื่อ  3  ปีก่อน.....ในค่ำคืนที่หัวใจสลาย


ผมยืนอยู่ที่นั่น

ด้านข้างม้านั่งนั่น

ตรงข้ามผมยืนไว้ด้วย ผู้ชายร่างผอมบาง ปากแดงชาดเล็กๆกำลังเม้มเข้าหากัน มือ 2 ข้างกำลังสั่นและกำเป็นหมัดแน่นๆ
แววตาของทิศเปล่งประกายเจิดจ้าราวกับสามารถมองทะลุไปได้แม้กาลเวลา
เป็นแววตาที่ทิศชอบทำเสมอเมื่อทิศกำลังทรมาน แม้ว่าทิศพยายามที่จะปิดบังบางอย่างหรือเสแสร้งทำอะไร
ผมมักจะจับผิดได้จากแววตาของเขาเสมอ

‘ช่างน่าทะนุถนอมเหลือเกิน’ ตอนนั้นผมอยากจะรั้งตัวของทิศให้เข้ามาในอ้อมอกของผม

“จำคำที่เราพูดได้มั้ย” น้ำเสียงที่นุ่มนวลชวนฟังถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากคู่นั้น

‘คำไหนที่นายอยากให้เราจำได้’ผมคิด.............ถ้าเป็นคำว่า

“............อ้ายคม.......กู.......ฮือ......ฮือ.....กู ..........เหงา.........มึงช่วยกูที...........นะ......ฮือฮือ.....กูเหงา........”ล่ะก็ผมจำได้.....ไม่อาจลืมเลือนด้วยซ้ำ.......หรืออาจเป็นคำที่ทิศบอกว่า

“เฮ้ย  เว่อร์ละกูไปคนเดียวดีที่สุดแล้ว  ไม่มีคนเสียหาย  สบายใจดี  กูก็ไปคนเดียวได้  ตามใจตัวเองอยากทำอะไรก็ทำ 
ไม่ต้องแคร์ใคร”

ผมก็ยังจำได้........นอกจากนี้ยังมีคำพูดอีกมากมายที่ทิศได้ บอกใบ้ผมไว้แล้ว ว่าวันนี้จะต้องมาถึง

“.....มึงได้ยินยัง......กูชอบมึง.....ฮือ....ชอบทั้งๆที่รู้ว่าปลายทางของมันมีแต่ความทรมาน...............เพราะกูรู้ว่า
มันไม่มีทางเป็นไปได้”

“...ถ้ากูบอกว่าเหงาแล้วมึงจะทำอะไรได้....มึงจะอยู่กับกูรึไง....ถ้ามึงจะทำอย่างเมื่อวานก็เงียบไปเลย.....
กูเกลียดที่สุดคือความเหงาแล้วก็ความผิดหวัง......แล้วเมื่อวานกูเจอทั้ง 2 อย่างมึงพอใจยัง”

“แต่กูกลัว...ถึงเราจะพยายามแค่ไหนแต่กูก็กลัวอยู่ดี”

“มึงรู้มั้ยว่า...สักวันหนึ่งเราก็ต้องเลิกกัน”

“ก่อนที่กูจะเรียนจบเราต้องเลิกรักกันไห้ได้นะ”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น มึงก็มีเวลาอีก 2 ปีที่จะหาคนดีๆมาร่วมชีวิตในรั้วมหาลัย ส่วนกูก็จะได้ไปทำงานอย่างไม่ต้องพะวงถึงมึง
มึงไม่ต้องบอกตกลงอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องพูด ถ้ามึงปฏิเสธ.....กูก็ไม่สบายใจ แต่ถ้ามึงตอบตกลง.........กูก็เสียใจอีกนั่นแหละ
ดังนั้น มึงไม่ต้องพูดนะ”

“กูคิดว่า......ถึงตอนนั้นกูคงอยากเห็นหน้ามึง......ดูว่ามึงสบายดีมั้ย”

“..........มึงว่ามั้ย....กูไปอยู่ที่อื่นก็ดีเหมือนกัน....มึงจะได้ไม่ต้องกังวลกับข่าวลือ......”

“ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป.....มึงก็รู้”

“....ไม่ว่ายังไงกูก็ต้องไป....ถึงกูไม่โดนเด้งหอ....แต่กูก็อยู่กับมึงตลอดไปไม่ได้....ซักวันเราก็ต้องจากกันอยู่ดี.....
เอางี้ดิถ้าความทรงจำเรื่องของเรา...ทำให้มึงต้องร้องไห้....งั้นมึงก็ลืมไปดิจะได้ไม่ต้องเสียใจเวลากูไม่อยู่”

“งั้นมึงก็จำแต่เรื่องดีๆได้เปล่า.....ตอนที่เราจากกันมึงไม่ต้องจำ.....ถ้ารู้สึกเหงา...ก็คิดถึงตอนที่อยู่ด้วยกันก็ได้”

“ไม่.......มึงต้องทำได้ต่างหาก.....คม....มึงต้องทำได้”

“ไม่.....ไม่เจ็บแล้ว.....แต่ตอนนี้ทิศมีความสุขมาก....ทิศอยากให้คมกอดทิศนานๆนะ.....อย่าปล่อยให้ทิศอยู่คนเดียว.....
ทิศกลัว......เหงา”

“ทิศก็รักคม”



คำพูดต่างๆคอยเข้ามาวนเวียนในห้วงความคิดของผมราวความฝัน ในโลกนี้มีแต่ผมเท่านั้นที่เข้าใจในสิ่งที่ทิศพูด 
เพราะในขณะที่ทิศพูดคำพูดเหล่านี้ ดวงตาของทิศเปล่งประกายเจิดจ้า และเอ่อล้นไปด้วยน้ำตา ผมรู้ดีแต่แรกว่าคำพูดเหล่านี้
ทิศพูดเผื่อเพื่อใช้ในวันนี้แล้ว.......

วันที่ทิศเรียนจบ....และเป็นวันที่ทิศต้องจากผมไป.....

วันสุดท้ายที่เราจะอยู่ร่วมโลกในฐานะคนรัก...........

วันนี้คงไม่ต้องมีคำพูดอะไรมากมาย.........

“เราจำได้”ผมเอ่ยเบาๆท่ามกลางสายลมและเวลาที่ยังคงโชยพัด.....................

“ทุกคำเลยใช่มั้ย”ทิศเผยอปากที่ขบกัดจนแทบมีเลือดไหลเพื่อที่จะเปล่งคำๆนี้ออกมา.......
หัวใจของผมเจ็บราวถูกฉีกกระชากให้ขาดออกจากกัน

“อือ”ผมตอบรับคำด้วยความเจ็บปวด พร้อมกับสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงแววตาของทิศ บัดนี้ แววตาที่เคยเจิดจ้า
คล้ายมีเมฆหมอกมาบดบังจนหมองศรี น้ำตาค่อยๆ ไหลเอ่อท่วมท้น ดวงตาของคนที่ผมรัก ในขณะที่เขาพยายามก้มหน้าลง เพื่อหลบไม่ให้ผมเห็นความเจ็บปวดจากในแววตาเหมือนเช่นเคย

“คม......คม...”ทิศรำพึงด้วยเสียงแผ่วจนน่ากลัว ไหล่บ่าสั่นสะท้านจากความเสียใจ
หัวใจของผมเจ็บปวดจนแทบมีเลือดหยาดหยดอยู่ภายใน ผมรีบเดินเข้าไป เอื้อมมือไปคว้าคนที่เบื้องหน้ามากอดเอาไว้
ในอ้อมอก พร้อมๆกับที่รู้สึกว่ามือของคนๆนั้นก็กอดรัดผมอย่างรุนแรง ผมตอบสนองไปด้วยความรู้สึก
ผมเริ่มกอดให้แน่นขึ้น เพื่อให้ตัวของเราแนบแน่นกว่าที่เคย.ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะเป็นหนึ่งเดียวกันกับทิศ.
เรา 2 คนจะได้ไม่ต้องแยกจากกัน น้ำตาของผมไหลเป็นสาย ทิศยังคงร้องไห้อย่างไม่อาจควบคุมตัวเองในอ้อมกอดของผม
ผมบีบรัดวงแขนมากขึ้น จนรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดหายใจไม่ออก

“ขอโทษ”ผมเปล่งเสียงที่ปวดร้าว พร้อมๆกับคลายวงแขนออก

“กอดแน่นๆ”ทิศบอกผมทั้งที่ใบหน้ายังซุกกับหน้าอกผม ราวกับจะแทรกเข้าไปในร่างของผม ผมค่อยๆกระชับวงแขน
กางมือทั้ง 2 ข้างออก โอบจนแทบเต็มแผ่นหลังของทิศ ผมอยากเก็บกักเอาอณูความอบอุ่นที่มีทั้งหมดของทิศไว้กับตัวผม

ณ วินาที่นั้น ผมรู้สึกเหมือนกับว่า ตัวของทิศช่างเรือนรางและอ่อนไหว ราวกับจะสามารถระเหยหายไปกับอากาศได้ทุกเมื่อ เหมือนกับผมพยายามจะคว้าอากาศเอาไว้ ผมเสียใจถึงที่สุดที่จุดจบของเราต้องเป็นอย่างนั้น

เรากอดกันอยู่เนิ่นนาน ทิศพลันผละจากอ้อมอกผม เผยอรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจสลายทั้งๆที่น้ำตายังไหลริน

“หลับตาลงสิ”น้ำเสียงที่นุ่มนวลเกินปกติ ถูกเอื้อนเอ่ยออกมาจากปากคู่นั้น

ผมหลับตาลงตามความต้องการของทิศ รับรู้ถึงเสียงสะอื้นของตัวเอง น้ำตาของผมยังคงไหลออกมาจากเปลือกตาที่ปิดตาไปแล้ว พร้อมกับที่รับรู้ถึงรอยจูบครั้งสุดท้ายที่ทิศมอบให้

“ทิศรักคมตลอดมา......และเราต่างก็รู้ดีว่ารักของเราไม่มีทางจบลง.......รักษาตัวนะคม”

นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยินจากปากของทิศ......

อ้อมกอดของผมไม่มีความอบอุ่นที่เคยมีอีกแล้ว......ไม่มีคนที่ทำให้ผมหัวเราะและร้องไห้อีก......
ความหนาวเหน็บเริ่มเข้าครอบงำ......

เมื่อผมลืมตาตื่นขึ้น

ก็พบแต่ความว่างเปล่า....

ความมืดมิดของกลางคืน......

และแสงไฟสีเหลืองที่คอยส่องหนทางข้างหน้า

นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอทิศ

ผมไม่รู้ตัวว่าลงไปนั่งกองกับพื้นเมื่อไหร่

รู้แต่ว่า ผมร้องไห้อยู่อย่างนั้นจนเช้า..............

นับจากวันนั้นเป็นต้นมา ขุมนรกของผมก็เริ่มต้นขึ้น ผมร้องไห้ทุกวัน.......
เสียใจจนแทบเป็นบ้า......แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของทิศที่ว่า

“งั้นมึงก็จำแต่เรื่องดีๆได้เปล่า.....ตอนที่เราจากกันมึงไม่ต้องจำ.....ถ้ารู้สึกเหงา...ก็คิดถึงตอนที่อยู่ด้วยกันก็ได้”

ผมก็ยิ้มทั้งน้ำตาทุกครั้งที่นึกถึงคำนี้

ความรู้สึกและความทรงจำของรัก.....ไม่เคยลบเลือนจากชีวิตของผม  

เพียงแต่บางครั้ง ปลอบโยนผม....บางครั้งทำร้ายผม.........

ช่วงเวลาที่ปวดร้าวที่สุดในชีวิตของผมดำเนินอยู่เกือบ 2 ปี

จนผมได้มาพบกับคู่หมั้นของผม ..........สำหรับผม เธอเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ยามเช้าที่สาดส่องลงมายังพื้นโลก
คอยให้กำลังใจและคอยปลอบโยนผม ความรักที่ผมมีให้เธอก็สามารถยืนยันต่อฟ้าได้ เป็นความรักที่สมบูรณ์ที่สุดที่ผมเคยรู้จัก

นับตั้งแต่แรกเริ่มเป็นต้นมา ทุกสิ่งที่ทิศทำ ทิศได้ทำเพื่อผมทั้งสิ้น ถ้าหากความรักของเราไม่จบลง ผมคงจะไม่มีโอกาสได้เจอกับผู้หญิงดีๆ อย่างเธอ

แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ไอ้ตัวแสบจะกลายเป็นแค่คนเคยรักสำหรับผม...............

นั่นเป็นความทรงจำที่สวยงามและปวดร้าวที่สุดที่ผมเคยมี

เป็นช่วงชีวิตที่มีความรู้สึกของผมถูกปลุกเร้าให้มีความสุขและความทุกข์มากที่สุด

นอกจากนั้น ทิศก็ยังเป็นคนรัก ที่ผมรักมากที่สุดเสมอมาและจะเป็นอย่างนั้นตลอดไป

ความรักที่ทิศมีให้ผม.....มันมากมาย.....

ทิศยอมที่จะทำร้ายตัวเอง......และทำร้ายผม.....

เพื่ออนาคตที่ถูกต้องของพวกเรา......

เพื่อที่จะหยุดความรักที่เป็นเหมือนภาพลวงตาครั้งนั้น...

ผมเคยถามตัวเองหลายครั้ง ถ้าหากผมในตอนนี้ได้มีโอกาสย้อนกลับไปเจอกับทิศที่คอร์ทแบตอีก ผมจะทำอย่างไร........
น่าแปลกใจที่ผมไม่เคยลังเลเลย ที่จะตอบว่า ผมจะรักคนๆนั้นเหมือนเดิม และทำให้ชีวิตของเรา.....ผูกพันกันเหมือนเดิม........
นี่คงจะสามารถยืนยันความรักที่ผมมีให้ทิศได้

“กริ๊ง”กระดิ่งที่หน้าประตูของร้านถูกกระทบจากการเปิดประตู ชายหนุ่มที่มีร่างผอมบางอันเป็นยี่ห้อของเขา
เดินผ่านช่องประตูเข้ามา และฉีกยิ้มที่สดใสจนดวงอาทิตย์ยังอายมาให้ผม บุคลิกและท่าทางของทิศยังคงเดิม
ผมดีใจที่ทิศมีความสุขดีหลังจากค่ำคืนนั้น

“โทษที....รถมันติด”ทิศบอกผม ตอนนี้ทิศเป็นเจ้าของบริษัทเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเล็กๆ....และยังเป็นเพลย์บอยตัวยง
(เพื่อนๆบอกผมมาด้วยความอิจฉาเลื่อมใส)

“ทีหลังมาพรุ่งนี้เลยละกัน”ผมแอบงอนนิดนึง

“อย่าพูดมาก....สั่งอาหารเร็วๆ”ทิศตัดบทอย่างไม่มีเยื่อใย แววตาของเขายังคงเปล่งประกายเจิดจ้าเหมือนเช่นเคย
และสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหันไปเจอสถานที่แห่งความทรงจำ

“หึหึหึ”ผมหัวเราะในลำคอ

“ห้ามหัวเราะ”ทิศหันมาเอ็ดผมด้วยสายตาขวางโลก

“พี่ครับๆ”ผมโบกมือเรียกบริกรให้มารับรายการอาหาร พร้อมกังเกตุแววตาที่ค่อยๆหม่นหมองลง
เมื่อยังคงจ้องมองสนามเด็กเล่นนั่น ผมเผลอหันไปจ้องมองตามอย่างเหม่อลอย




ณ ที่ห่างออกไปเล็กน้อย



ภายใต้ผืนดินในสนามเด็กเล่น ข้างๆต้นไม้ต้นใหญ่ที่สุด


มีกล่องเหล็ก 4 เหลี่ยมใบหนึ่งถูกฝังเอาไว้

ภายในกล่องใส่ไว้ด้วย

กรอบรูป ที่บรรจุดอกไม้สีน้ำตาลแห้งๆเล็กๆที่วางคู่กันไว้ 2 ดอก แทนที่รูปภาพ ที่ควรจะเป็น

และกระดาษสาสีขาว 2 ใบที่ถูกพับไว้อย่างแน่นหนา

ไม่มีใครรู้ว่าภายในกระดาษ 2 ใบนั้นได้ถูกเขียนข้อความอะไรไว้

นอกจาก.................ชายหนุ่มทั้ง 2 ที่กำลังวุ่นวายกับการสั่งอาหารในเมนูของร้านอาหารฝั่งตรงข้าม



............................................................................อวสาน............................................................................................

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมต้องขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจที่ทุกคนมอบให้ผมอย่างมากมาย เคยมีบางเวลาที่ผมรู้สึกท้อจนอยากจะทำให้เรื่องจบลงไปอย่างลวกๆ เอาให้จบเร็วๆ แต่ทุกคอมเมนท์ที่ทุกคนมอบให้ก็เป็นพลังให้ผมสามารถที่จะทำให้เรื่องนี้จบอย่างที่ผมวางเอาไว้

ต้องขอขอบคุณครับ แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดมากมายแต่ทุกคนก็ยังคงติดตามตลอดมา .....โอย....ไม่รู้จะอธิบายยังไง........เอาเป็นว่า.......ผมสุดจะปลื้มเลยครับ :m5:

ป.ล.ถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ขออำภัยมานะที่นี้(เรื่องนี้ base on true story นะครับ(ว่าจะไม่บอกแล้วเชียว))
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-07-2007 18:28:49
ความรักไม่จำเป็นต้องได้ครอบครอง  :m4:

ขอบคุณ hayuho ที่มาเล่าเรื่องราวดีดีให้ฟังจ๊ะ  :m3:

 
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: Jingjoh ที่ 06-07-2007 19:15:11
ซาบซึ้ง
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-07-2007 19:27:39
 :m15:  :m15:  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: gobgab ที่ 06-07-2007 19:31:46

............ความฝันกับความจริงมันต่างกันเสมอ.............

............ทุกคนอยากได้ความรักอย่างที่ฝัน.....แต่มันไม่ใช่ความจริง..........

............ขอบคุณนะคับ........ขอบคุณ......... o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 06-07-2007 19:40:19
เอาไปอีกหนึ่งบวกเลยนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

สำหรับอีกหนึ่งเรื่องราวของความรัก
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 06-07-2007 20:26:22
จบยังไง จบแบบนี้ไม่ได้นะ
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ทำไมต้องเป็นอย่างนี้
 o9 o9 o9 o9 o9


อ้างถึง
ผมเคยถามตัวเองหลายครั้ง ถ้าหากผมในตอนนี้ได้มีโอกาสย้อนกลับไปเจอกับทิศที่คอร์ทแบตอีก ผมจะทำอย่างไร........
น่าแปลกใจที่ผมไม่เคยลังเลเลย ที่จะตอบว่า ผมจะรักคนๆนั้นเหมือนเดิม และทำให้ชีวิตของเรา.....ผูกพันกันเหมือนเดิม........
นี่คงจะสามารถยืนยันความรักที่ผมมีให้ทิศได้

 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: meeza31 ที่ 06-07-2007 22:27:48
ง่าทำใมถึงต้องจบแบบนี้ด้วยอยากให้ทั้ง2คนได้อยู่ด้วยกันจริงเศร้าเลย  :o7: :o7: :o7:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: zandwizz ที่ 07-07-2007 22:10:39
 :teach:

ขอบคุณครับคุณ hayuho ที่เล่าเรื่องดี ๆ ให้เราได้อ่านกัน

เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

รออ่านเรื่องต่อไปด้วยนะ

 :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: na_na_fuji ที่ 07-07-2007 22:35:47
 อ่านเเล้ว ตอนเเรกทำให้ ฟูจิ ไม่กล้ามีความรักเลยอ่ะ
กลัว  เเต่พออ่านไปอ่านมา  ก็เห็นได้ว่าความรักไม่จำเป็นที่เราจะต้องเป็นคนไปครอบครองมัน
ฟูจิ ขอนับถือในการเเต่งคับ 

ปล.  ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดี


                                                                                      จาก  นายฟูจิซัง  :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: suregirl ที่ 09-08-2007 11:47:32
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนี้ ซึ่งจบได้แบบสมบูรณ์ แล้ว  :m4:
เข้าใจทุกคน ทุกฝ่าย ทุกความคิดอ่ะ  :m11:

สรุปแล้ว ชอบจ้า  :m27:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: kei_kakura ที่ 15-08-2007 00:00:47

  :a9: ......สุดยอด......  :a1:

...อ่านเรื่องนี้จบได้ข้อคิดว่า..........

...คนเรารักกัน...แต่บางทีก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน...แม้กายจะห่าง...แต่รักยังอยู่ที่ใจ...

 :a1:  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:  :a1:

+1 สำหรับคนแต่งงับ....ซึ้งมากกกกกกกกกกกก  :m13:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: jomjai ที่ 16-08-2007 20:20:38
 o1 o1 o1ขอบคุณก๊าบ o1 o1 o1
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 20-08-2007 15:41:28
มันมาสะดุดตรง

Base On True Story

นี่ล้ะคับ

เหอ ๆ ขนลุกเรยง่ะ

(รู้สึกดีที่ตอนนี้ยังมิมีแฟน อิอิอิ)

............................................................

ชอบเรื่องนี้มากครับ ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะง้าบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 28-09-2007 16:32:34
 :m15:
รู้แบบนี้ไม่อ่านบทพิเศษก็ดี...จะได้รับรู้แค่ความสุขในบทสุดท้ายยยย กับความหวังที่จะอยู่ร่วมกันในอนาคต
ให้เป็นที่สงสัยเหลือเกิน ว่าทำไม ชีวิตรักของ "เกย์" จะไม่มีโอกาสสมหวังบ้างเลยหรือ ?  :undecided:
แต่เอาเถอะ...เรื่องนี้คงยังเป็นปัญหาของชนกลุ่มน้อยอย่างเราไปอีกนานนนน :เฮ้อ:
 :give2:
แต่ที่แน่ ๆ ไม่บอกไม่รู้เลยนะเนี่ยยยยว่าเขียนเป็นเรื่องแรก แม้ภาษาที่ใช้จะยังไม่เข้าขั้นเซียน
แต่ก็บรรยายได้เห็นภาพ เนื้อเรื่องลื่นไหลไปเป็นลำดับขั้น กระตุกหัวใจคนอ่านเป็นช่วง ๆ  :a5:
เท่านี้ก็น่านับถือแล้วครับบบบบบ  :m4:
ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆ ที่ได้นำมา post ให้ได้ติดตามกัน ... รอผลงานใหม่ ๆ นะครับ สู้ สู้  :a2:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 30-09-2007 18:32:36
ยังอ่านไม่จบคับ  แต่มาแสดงตัวเป็นแฟนคลับไว้ก่อน

เรื่องนี้สนุกดีคับ  ถูกใจมากๆ


เป็นกำลังใจให้นะคับ...แล้วจะมีเรื่องอื่นอีกปะคับอยากอ่าน...อิอิ




ปล.สุดยอดไปเลยเพ้
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: anisongchanon ที่ 02-10-2007 17:57:13
ในที่สุดก็จบซะที   :เฮ้อ:


แต่จบแบบคาใจมากๆเลยนะพี่


มีต่อภาคสองปะคับ..อิอิ


เป็นกำลังใจให้ทำผลงานเรื่องใหม่ออกมาอีกนะคับ


รักพี่คมกับพี่ทิศมากเลย
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: hutsepsut ที่ 02-10-2007 23:23:10
 :o11: :undecided:....เข้ามาอ่านรวดียวจบเลยครับ....เขียนได้ดีมากนะครับ...อ่านแล้วเตรียมใจเศร้าไว้ตั้งแต่แรกเลย...แล้วมันก็เศร้า :sad2:จริงๆ..ในชีวิตจริงเราอาจจะไม่ได้จบลงแบบนี้ก็ได้...อนาคต...เป็นอย่างไร??ไม่รู้..รู้แต่วันนี้..เดี๋ยวนี้...มีใจที่รักกัน..ไว้ใจ..เชื่อใจ..มั่นคงต่อกันก็พอ... o7 o7ขอบคุณมากๆนะครับ...

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: snowvy ที่ 09-03-2008 01:02:07
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:ซึ้งอ่ะ  โดยเฉพาะบทส่งท้าย
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: bbboy ที่ 13-05-2008 22:12:37
สนุกครับ แต่เศร้าไปหน่อยอะ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 23-09-2008 14:31:30
อ่านรวดเดียวจบ


เศร้าง่ะ  o7



หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: shiawase ที่ 24-09-2008 23:09:17
ประทับใจอ้วนมากกกกกกกกกกกก.....แต่ทำไมภาคพิเศษถึงเป็นแบบนี้อ่ะ

แอบอยากรุ้ว่าในกระดาษเขียนว่าอะไรอ่ะ

ถ้าว่างๆยังไงก็ขอให้เขียนเนื้อหาในจ.ม.ได้มั้ยอ่ะ

ซาบซึ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: LadyLatte ที่ 15-04-2009 18:07:57
ขอขอบคุณพี่โฮะนะค่ะ
ที่แต่งเรื่องดีๆ ในความเป็นจริงมาให้อ่าน
ไม่ว่าสุดท้ายความรักจะต้องลงเอยเช่้นไร
แต่ความผูกพันที่เคยมีให้กันเสมอ จะไม่จางหายไปแน่นอน
เพราะมันจะตราตรึงในทุกๆ วินาทีที่เคยใช้ชีวิตร่วมกัน
ตอนแรกเคยคิดอยากเกิดมาเป็นผู้ชายมากกว่าค่ะ (เพราะคง Y แน่นอน)
แต่ว่าเรื่องนี้ ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลย
การที่เราจะรักใครสักคน เรื่องเพศ ญ หรือ ช
ในบางครั้งไม่สำคัญก็จริง แต่..ในอนาคต
มันอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายชีวิตล่ะคะ
นี้เป็นเม้นครั้งแรกเลยค่ะ
หลังจากซุ้มอ่านนิยายที่จบแล้วมาพักนึง
ไม่จบแล้วค้างคาคะ
บางทีพี่โฮะอาจจะไม่ได้เข้ามาอ่านเม้นนี้...
แต่ก็ขอให้พี่แต่งเรื่องดีๆ มาให้อ่านอีกนะค่ะ
( ̄︶ ̄)// ♥
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 04-04-2010 07:00:11
 :m15: อ่านจบแบบจะขาดใจ

พออ่านมาถึงตอนส่งท้าย เพิ่งนึกออกว่า เรื่องนี้เคยเข้ามาดูแล้ว ตัดสินใจไม่อ่าน

แล้ววันนี้ก็ได้มาอ่านจนจบจนได้ ใจแทบขาดเลยทีเดียว

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆนะคะ

ไม่รู้ว่าจขกท. จะยังอยู่รึป่าว แต่ก็อยากบอก ^ ^


 :sad4:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 08-04-2010 21:05:43
ขอบคุณค๊าบบบบบบ อิอิ

ลุ้นสุดๆ แต่ก็จบได้งามมากค๊าบบบ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: sek-sy ที่ 13-04-2010 18:58:30
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ
อ่านแล้วทำให้ได้ข้อคิดที่ว่า อนาคตข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอทำปัจจุบันให้ดีที่สุดก็เพียงพอ
จะรอติดตามเรื่องต่อไปจร้า
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: leogemini ที่ 23-08-2010 13:07:58
T.T    T.T
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: BankkunG23 ที่ 23-08-2010 14:16:44
ขอบคุณมากๆนะค๊าบบบ ได้ประโยช์จริงๆ
หัวข้อ: Re: นิยายใหม่ครับแต่งเอง ลงที่นี่เป็นที่แรก ....ทางที่เลือกเดิน(จบสมบูรณ์แล้ว)
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 24-08-2010 09:51:42
นี่แหละน่ะชีวิตจริง เห้อ จะมีรักแท้ในหมู่เกย์บ้างไหมน่ะ
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: nco1236 ที่ 11-07-2011 19:32:21
 :o12: ทำไมไม่ได้อยู่ด้วยกันทำไม :z3: ทำไม  :z3: ทำไม  :z3:
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: entirom ที่ 12-07-2011 00:07:10
 :m15:
 :monkeysad:
 :sad11:
 :impress3:
 :L3:


 :เฮ้อ:
คนอื่นไม่รู้
รู้แค่ว่า
ยิ่งอ่านเรื่องนี้ ทำไมเค้าเหงายิ่งกว่าเดิม
 :a5:
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 01-10-2011 00:50:09
เศร้ามากกกกก แงๆๆๆๆ แต่ก็นะ เป็นธรรมดา มีพบ ก็ต้องมีจาก มีพลัดพราก เฮ้อๆๆ แงๆๆ
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: monoo ที่ 11-10-2011 23:48:57
 :m15:
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: GeTOuTNoW ที่ 11-02-2012 15:40:19
เศร้าจัง อ่านแล้วร้องไห้เย
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Shalyon ที่ 12-08-2012 00:27:41
Mai na pen bab nee loey
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: Pawana ที่ 03-08-2017 18:51:15
จบอย่างมีหวัง. บทส่งท้ายด้วยความเศร้า.    มันลึกอยู่ในใจ.   เป็นรักที่เสียสละ.    ด้วยใจคับ   
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 31-07-2019 15:31:41
เป็นความรักที่สวยงามจริง แม้เส้นทางที่เลือกจะไม่อาจบรรจบด้วยการครองคู่ แต่ก็อยู่ในความทรงจำที่มีความสุขต่างอยู่ในใจกันลึกสุดหัวใจ มันดีมากกกก  นิยายสนุกจริง ชอบบบบบบมากกก ทำไมเพิ่งมาเจอน๊า~~~ กลับมาอ่านอีกแน่นอน
หัวข้อ: Re: ทางที่เลือกเดิน
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-04-2020 12:23:28
 :pig4: