พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: TONG ที่ 16-12-2008 19:21:59

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 16-12-2008 19:21:59
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2. ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์ แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่าง ประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม/color]

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หากใครเคยอ่าน>>>>>รักจู่โจมที่ติวเตอร์<<<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4820.0)มาแล้ว

เราพูดจาภาษาเดียวกัน เป็นผลงานอีกชิ้นจากปลายปากกาพี่ไอซ์กันค่ะ

รับรองว่าสนุกๆแน่

รออ่านกันนะค่ะ


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: เราพูดจาภาษาเŨ
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 16-12-2008 19:26:49
เราพูดจาภาษาเดียวกัน
   
‘ ความรัก ... จะกระทำสิ่งทั้งหมดนี้แก่เธอ  เพื่อว่าเธอจะได้หยั่งรู้ความลับ ของดวงใจเธอเอง และด้วยความรู้นั้นเธอก็จะได้เป็นส่วนหนึ่ง ของดวงใจแห่งชีวิตอมตะ ’
   ถ้อยคำที่อ่อนหวานและลึกซึ้ง ที่ปรากฏอยู่ในงานเขียนของคาลิล ยิบราน ทำให้ผมตั้งคำถามถึงคุณวิเศษของความรักว่ามันอัศจรรย์แก่เราได้มากขนาดนี้เชียวหรือ?  ผมยังไม่แน่ใจนัก ว่าเคยสัมผัสกับสิ่งที่คนทั้งโลกเรียกว่าความรักแล้วหรือยัง แน่นอนว่า ความรักเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้โดยไม่ต้องจับต้องอยู่ตลอดเวลา แต่ในฐานะของ “คนรัก” ความรักในรูปแบบนั้น ผมสามารถบอกได้ทันทีเลยว่า...ผมยังไม่เคยสัมผัส
   ตัวเลขที่วิ่งพร้อมเข็มนาฬิกา วันเวลาที่พาปฏิทินเปลี่ยนหน้า ชีวิตของผมก็ก้าวไปพร้อมกับฤดูที่ผ่านพ้น ปลายฤดูหนาวนี้ผมจะต้องทำสารนิพนธ์ให้เสร็จ เพื่อจะขอจบการศึกษาแล้ว ข้อมูลที่เก็บกองไว้ในหัวกำลังทยอยถ่ายทอดออกมาเป็นรูปเล่ม ที่เหลือก็มีภาพถ่ายประกอบที่ยังไม่ครบถ้วนตามเป้าที่ได้ตั้งใจเอาไว้
    กล้องถ่ายรูป Nikon FM2 ตัวนี้ยังคงเป็นเพื่อนคู่ใจผมตั้งแต่วันแรกที่ผมหัดถ่ายรูปกับคุณพ่อเมื่อห้าปีก่อน ภาพถ่ายที่ได้มาจากการกดชัตเตอร์แต่ละครั้งของผม แทนความรู้สึกนึกคิดและอารมณ์ลึกๆ ที่ไม่อาจจะถ่ายทอดออกมาเป็นคำพูดสื่อสารให้คนอื่นได้รับรู้ได้ ผมเก็บรูปที่ผมชอบไว้ในสมุดบันทึกเล่มใหญ่ๆ พร้อมกับเขียนเรื่องราวที่อยู่เบื้องหลังรูปเหล่านั้นไว้ เพื่อให้เป็นเหมือนหมุดตอกความทรงจำที่ดีๆ เพื่อให้ย้อนกลับไปหาในวันที่คิดถึง
   บ่ายวันพุธ - - กลางสัปดาห์แบบนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขอยู่กับท้องถนนที่ว่างจนเกือบโล่ง ผู้คนก็ไม่สู้จะจอแจมากเหมือนวันหยุดหรือวันต้นสัปดาห์ และโชคดีที่วันนี้ วัดพระแก้วน้อยเปิดให้เข้าไปได้ ผมเลยแสดงตัวว่าเป็นนักศึกษาพร้อมกับยื่นจดหมายจากอาจารย์ที่ปรึกษาสารนิพนธ์ให้เจ้าหน้าที่ดู สุดท้ายผมก็เข้าไปเก็บภาพทั้งหมดของวัดพระแก้วน้อยได้ตลอดทั้งบ่าย
   ประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ทำให้ผมตั้งคำถามใหม่ๆ อยู่เสมอ มันเป็นเรื่องที่เราต้องย้อนกลับไปร่วมกันเรียนรู้ เพื่อที่จะหาวิธีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ประวัติศาสตร์ไม่ใช่เรื่องที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ไม่ได้เป็นเพียงเศษซากที่ถูกพังลงด้วยเวลา ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องเชื่อตามอย่างเด็ดขาด แต่มันคือร่องรอยที่เป็นฐานรากซึ่งออกผลมาเป็นวันนี้ของเรา 
ผมเลือกเรียนประวัติศาสตร์ด้วยข้อจำกัดและความสนใจที่เป็นทุนอยู่ในตัว...
ภาพบานประตูรอบๆ วิหารในวัดพระแก้วน้อยถูกผมบันทึกจนหมด เมื่อมองดูนาฬิกาที่อยู่ติดกับข้อมือ ก็ทำให้ผมต้องรีบออกมาก่อนเขาจะปิดวัด การถ่ายภาพเพื่อประกอบงานเขียนพาผมมายืนอยู่ในช่วงปลายของวันอันแสนสั้น แสงตะวันที่กำลังทอดแสงสีส้มลงบนแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาท่ามกลางสายลมหนาวที่ต้องเนื้อ ซึ่งนานๆ จะมาเยี่ยมทักคนกรุงอย่างผมสักที
ผมใช้เวลาอันเป็นช่วงต่อของราตรีที่กำลังเดินทางเข้ามานั้น เป็นช่วงเวลาของการเดินผ่อนอารมณ์จากเรื่องการงานที่หมกมุ่นมาทั้งวัน ผมใช้ขนมอร่อยๆ ที่หาซื้อได้แถวนั้นมาเป็นเครื่องมือในการพักผ่อนพร้อมๆ กับการเดินถ่ายรูปบรรยากาศรอบข้างที่มีสีสันและจังหวะเป็นท่วงทำนองเฉพาะตัวเหล่านั้น จนสุดท้ายทางเดินในช่วงแรกของผมก็มาหยุดที่ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตรอกเก่าแก่ของพระนคร
แสงนวลของร้านสาดออกมาผ่านกระจกใส  ร้านเล็กๆ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ผมชอบมาที่นี่ ชอบบรรยากาศ ชอบหน้าตาของเค้ก ชอบกินหอมอันสุขุมของกาแฟรสขมจัด เจ้าของร้านกำลังง่วงอยู่กับการชงกาแฟ ทันทีที่ผมผลักประตูบานใสเข้าไปในร้าน กระดิ่งเสียงใสอันเล็กๆ กังวานขึ้น พร้อมๆ กับที่พี่เอกเงยหน้าขึ้นมายิ้มทักทายให้กับผม ผมยิ้มรับ แล้วเดินเข้าไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาท์เตอร์ เสร็จแล้วเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะด้านใน ซึ่งเป็นมุมริมสุดของร้านและพอมองออกไปด้านนอกจะเห็นภาพบรรยากาศของเจ้าพระยาในเวลาค่ำได้อย่างชัดเจน
        สมุดบันทึกที่นอนนิ่งอยู่ในกระเป๋าสะพานอยู่นาน ถูกผมหยิบขึ้นมาแล้วกางลงบนโต๊ะก่อนที่จะลงมือเขียนบันทึกที่เกี่ยวกับงานสารนิพนธ์ที่ได้ไปสำรวจพื้นที่มาในวันนี้ ไม่นานนักโกโก้ร้อนที่ผมสั่ง ก็มาเสริฟลงที่โต๊ะ พร้อมกับคุ้กกี้สามสี่ชิ้นที่ถูกว่างลงพร้อมกัน
       ‘ผมไม่ได้สั่งนะพี่’ ผมบอกกับรุ่นพี่เจ้าของร้านพร้อมกับเอามือเลื่อนจานใส่คุ้กกี้ไปที่เขา
       “ไม่เป็นไรหรอก ถือว่าแถมให้แล้วกัน” เขายิ้มพร้อมกับเลื่อนจานกลับเข้ามาคืนผม
       ‘ชอบทำให้เกรงใจอยู่เรื่อย’ ผมบอก ‘วันนี้ขายดีมั้ย’
     “ได้เรื่อยๆ เหมือนเดิม” เขาหยิบคุ้กกี้ในจานขึ้นมากิน “ ทำไมไม่กินหล่ะ ขนมร้านนี้อร่อยจะตาย”
     ผมหัวเราะ...แม้ว่าจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะของตัวเองเลยก็ตาม

ปีนี้กรุงเทพฯอากาศเย็นมากกว่าปีก่อนก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับหนาวจนต้องใส่เสื้ออีกชั้นหนึ่งออกจากบ้าน อีกไม่กี่วันก็จะเป็นขึ้นปีใหม่แล้ว เพื่อนๆ ที่คณะ หลายคนกำลังวางแผนจะไปเที่ยวกัน ที่จริงผมก็อยากไปเที่ยว นานแล้วที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ แต่ปีนี้ผมตัดสินใจที่จะอยู่เที่ยวกรุงเทพฯ เนื่องจากยังกังวลกันสารนิพนธ์ที่ค้างคาอยู่
     “ อยากได้อะไรจากปายมั้ย ” นิ่มถาม
     ‘ส่งรูปที่แกถ่ายแนบมาจากโปสการ์ดมาให้สักใบก็พอแล้ว’ ผมตอบ
     หลังจากที่ผมสังสรรค์กับเพื่อนๆ เสร็จแล้ว ผมก็เดินไปที่ท่าพระจันทร์เพื่อไปเอารูปและสไลด์ที่สั่งอัดเอาไว้เมื่อวัน ก่อน ระหว่างทางที่ผมกำลังเดินไปยังร้านอัดรูปผมนึกถึงเพลงในอัลบั้มของ พิงค์ ฟลอยด์ ในอัลบั้ม Dark side of the moon กับเพลงที่ชื่อว่า Time
     เนื้อเพลง Time ได้กล่าวถึงวันเวลาที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว  ชีวิตในเมืองที่เรากำลังใช้ชีวิตพาเราไปอย่างรวดเร็วจนอาจทำให้เราหลงลืมบาง สิ่งไป ทั้งสิ่งที่เราไม่ได้ทำและเวลาที่ผ่านพ้นไปเร็ว โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวเลย เหมือนกับท่อนนึงของเพลง ที่ผมกำลังร้องอยู่ในหัวใจในตอนนี้ว่า : The time is gone, the song is over though I’d something  more to say.
     พอถึงร้านอัดรูป ผมได้ยื่นใบรับรูปและสไลด์และนั่งรออยู่ในร้าน ระหว่างนั้นผมก็ได้พบกับพี่เอก เจ้าของร้านกาแฟคนนั้น
     “ มาเอารูปเหรอ? ” เขาถาม
     ผมยิ้มและพยักหน้าเป็นการให้คำตอบว่าใช่...พร้อมกับหยิบปากกาน้ำเงินขึ้นมาเขียนข้อความลงในสมุดโน้ตเล่มที่ผมพกติดตัวเป็นประจำ
     ‘ แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่ครับ... ’
     “ มาเอารูปเหมือนกันครับ...ถ้าเสร็จแล้วไปดื่มกาแฟที่ร้านพี่มั้ย? ”
   ผมให้คำตอบเป็นรอยยิ้ม...
   ทาง เดินที่ทอดไปข้างหน้า บทฟุตบาทมีผู้คนมากมายเดินอยู่บนนั้น เราคือส่วนหนึ่งของมันโดยที่ไม่รู้ตัว ผมไม่อาจะล่วงรู้ได้ถึงจุดหมายปลายทางของผู้คนที่เดินทางบนถนนสายเดียวกัน เช่นเดียวกันผม แม้ว่าเราจะเดินกันไปที่ร้านกาแฟของพี่เอกแต่ปลายทางนั้นผมยังไม่รู้จัก การเดินทางที่ไร้ซุ่มเสียงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้เดินอยู่แต่ เพียงลำพัง
   ผมยังไม่ทันที่จะได้คาเฟอีนเลย แต่ทำไมเวลาที่มองหน้าพี่เอก...หัวใจผมเต้นแรงจัง...

ร้านกาแฟในวันนี้ มีเพียงแค่ผมกับพี่เอกสองคน วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำเดือนของลูกจ้าง ไฟในร้านเปิดแค่บางส่วน เฉพาะแต่เคาท์เตอร์ที่ชงกาแฟ และโต๊ะด้านริมแม่น้ำ บาริสต้าหนุ่มกำลังชงกาแฟลาเต้ให้ผมอยู่ โดยที่มีผมนั่งสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ หน้าเคาท์เตอร์ กลิ่นหอมของกาแฟทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายพอๆ กับกลิ่นของเบเกอรี่หอมๆ เอสเปรสโซ่อเมริกาโน่ถูกเติมนมสดลงไปจนกลายเป็นสีน้ำตาลสวยและถูกเทลงแก้ว กาแฟเซรามิคสีขาวสะอาด ฟองนมที่ถูกตีขึ้นเป็นฟองหนานุ่มด้วยไอร้อนถูกตักขึ้นมาแต่หน้าลาเต้บนถ้วย กาแฟที่ถูกเตรียมไว้
   “อยากดูลาเต้อาร์ทมั้ย”
   ผมพยักหน้าตอบ
   “งั้นผมจะทำให้...เอารูปไรดีนะ...”
   หลัง จากนั้น ผมกับพี่เอกก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะเล็กๆซึ่งตั้งอยู่ในมุมริมสุดของร้านซึ่ง ทำให้มองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีที่สุด  ผมเพิ่งจะทราบว่าเขาเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีอาชีพเสริมเป็นบาริสต้า หลายต่อหลายเรื่องเราสองคนเพิ่งจะมารู้จากปากของกันและกันในวันนี้ มันเป็นการสนทนาที่ยาวนานและทำให้เรายิ่งรู้จักกันมากยิ่งขึ้น แม้ว่าผมจะมาร้านนี้เป็นปีๆ แล้วก็ตาม
   ‘ตอนนี้พี่กำลังเปิดเพลงอะไรอยู่’ ผมใช้ปากกาน้ำเงินด้ามเก่งของพี่เอกเขียนข้อความลงในสมุดโน้ตของผมก่อนที่จะยื่นให้เขาอ่าน
   “ตอนนี้กำลังเล่นเพลงของ Don’t know why ของ Kan Hirai” เขาตอบ
   ‘เสียงของเขาเพราะมั้ย...’
ผม สูญเสียการได้ยินหลังจากที่เสียงจักจั่นกรีดร้องในหูเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน นับแต่นั้นมา โลกผมก็เงียบสนิท ผมเสียใจที่สูญเสียในสิ่งที่พระเป็นเจ้าประทานมาและเรียกมันกลับคืน แต่ยังโชคดีที่ผมยังเหลือผัสสะอื่นๆ อยู่ มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของผมเลวร้ายจนถึงขนาดมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ แค่อาจจะใช้ชีวิตนับแต่นั้นลำบากมากขึ้นกว่าเก่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่พอจะยอมรับได้ และยังโชคดีที่ยังมีคนดีๆ คอยอยู่เคียงข้างผมอีกมาก ผมเคยได้ฟังเพลงเพราะ ๆ ได้พูดคุยกับคนที่ผมรัก ได้สื่อสารให้คนรอบข้างได้เข้าใจ นับแต่วันที่ผมสูญเสียการได้ยินไป ผมก็ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว เพราะคงป่วยการที่จะพูดออกไปโดยที่ไม่ได้ยินเสียงตัวเองในขณะที่ตัวเองกำลัง พูด
   วันนี้ของผมจบลงด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น เราอาจจะพูดคุยกันได้ช้ากว่าคนทั่วไป แต่พี่เอกก็ยินดีที่จะรอถ้อยคำของผมสื่อสารผ่านปากกาสีน้ำเงินด้ามนั้น โชคดีที่ผมพอจะอ่านปากคู่สนทนาอยู่ได้บ้าง เลยเป็นโชคที่ทำให้เราไม่ต้องนั่งเขียนเพลงยาวแลกกันอ่าน

นับจากวันนั้น เกือบสองสัปดาห์ผมก็มัวแต่จัดการกับสารนิพนธ์ซึ่งจะสิ้นสุดกำหนดส่งครั้งแรก อีกไม่กี่วันนี้แล้ว กิจกรรมเดิมๆ จึงเป็นเสมือนเพื่อนสนิทในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเรียบเรียงข้อมูล รวมทั้งการเขียนบทความต่างๆ โชคดีที่รูปทั้งหมดที่ต้องใช้ประกอบนั้นผมถ่ายเก็บไว้ครบหมดแล้ว เพื่อนหลายๆ คนที่ส่งงานก็เริ่มจะทยอยเดินทางออกไปเที่ยววันปีใหม่ในที่ต่างๆ มหาวิทยาลัยเงียบลงกว่าเดิมทำให้ผมรู้สึกวังเวงพิกล แต่อีกสองวันเท่านั้น ผมก็จะเสร็จงานที่จะตั้งส่งครั้งแรกแล้ว...
   พอผมกลับไปที่ บ้าน ผมเห็นจดหมายวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ บนซองจดหมายสีน้ำตาลเข้มที่บรรจุจดหมายนั้น มีเพียงชื่อเล่นของผมกับที่อยู่เท่านั้น ไม่เห็นว่ามีที่อยู่ผู้ฝากแต่อย่างใด แต่เมื่อแกะซองจดหมายดู ก็พบกับโปสการ์ด 1 ใบ ที่เป็นรูปร้านกาแฟของพี่เอกในยามค่ำคืน ซึ่งถ่ายมาจากอีกฝั่งหนึ่งของร้าน...
   “ นับถอยหลังสู่ปีใหม่...พร้อมเริ่มต้นก้าวไปด้วยกัน ”
   นี่คือข้อความบนโปสการ์ดที่เขาส่งถึงผม

ดีใจจริงๆ ที่วันนี้อากาศเย็น สมกับเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จริงๆ ผมมองดูโปสการ์ดที่พี่เอกส่งมาซึ่งแปะไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือก่อนที่จะหยิบ ขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วสอดมันไว้ในสมุดบันทึกประจำตัวของผม ก่อนที่จะหยิบกล้องตัวเก่งลงกระเป๋า แล้วออกเดินทางไปยังร้านกาแฟของพี่เอก
   ผู้ คนกำลังมีความสุขกับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ผมเองก็อดที่จะตื่นเต้นไปกับบรรยากาศที่เห็นผู้เบื้องหน้าไม่ได้ แสงไฟหลากสีที่ประดับประดาไว้ทำให้ผมคิดถึงวันเก่าๆ ที่ทำให้มีความสุข เหมือนกำลังถูกย้อยเวลาให้กลับไปสู่ความเป็นเด็กอีกครั้ง
   ย่านเก่าแก่ ของเมืองหลวงไม่พลุกพล่านเหมือนกับจุดเคาท์ดาวน์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพ ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ไปถึงร้านกาแฟของพี่เอก บรรยากาศในร้านไม่ต่างจากเมื่อสองอาทิตย์ก่อนที่ผมได้มาพร้อมพี่เอกในคราว นั้น แสงนวลที่สาดมาจากร้านเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังรอผมอยู่ที่นั่น พอผมเข้าไปในร้าน ก็ได้กลิ่นหอมของกาแฟอวลอยู่กับเบเกอร์รี่ที่วางไว้บทเคาท์เตอร์ มุมในสุดของร้านมีต้นคริสมาสประดับไฟส่องแสงเป็นประกายอยู่ในมุมมืด พี่เอกกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงโต๊ะนั้นอยู่คนเดียว ทันทีที่เขาเห็นผมเดินเข้ามา ก็ลุกขึ้นมาต้อนรับผม พร้อมกับจะชงกาแฟให้
   ผม แสดงท่าทีว่า ผมอยากจะลองเป็นบาริสต้าดูบ้าง...สุดท้ายผมก็ได้ลองดื่มลาเต้ที่ตัวเองชง เป็นครั้งแรกและพี่เอกได้หยิบขนมในถาดใส่จานและมาเสริฟให้ผม เขาบอกผมว่า ขนมทั้งหมดเขาเป็นคนทำเอง และหลายอย่างลองทำเป็นครั้งแรก ทั้งหมดนี้ เขาเตรียมไว้เพื่อฉลองสำหรับคืนนี้ ผมอยากจะถามว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้ามคืนพิเศษอยู่ที่นี่ ถ้าผมพูดได้สะดวก รับฟังอะไรๆ ได้เหมือนก่อน ผมคงจะชวนคุยและถามเรื่องราวต่างให้มากขึ้น
   ‘ไม่เบื่อบ้างเหรอ ที่ต้องอยู่เงียบๆ กับผม...’ ผมเขียนข้อความลงในกระดาษและยื่นให้เขาอ่าน ระหว่างที่เรากำลังนั่งรอเวลานับถอยหลังสู่วันปีใหม่
   ‘ไม่เลย’
   เขาเขียนกลับมา และนับแต่นั้น พี่เอกก็ใช้วิธีเดียวกันนี้สื่อสารกับผม โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่อยากเอาเปรียบผม
   ‘เรียนภาษามือแล้วมาคุยกับผมสิ’  ผมเขียนตอบ ทันทีที่เขาอ่านจบเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ จนผมอดหัวเราะตามไม่ได้
   “ รู้มั้ย ว่าเสียงหัวเราะของนาย ...คือสิ่งที่ผมอยากได้ยิน ” คำพูดของเขาแม้ผมจะไม่ได้ยินแต่เมื่อผมเห็นริมฝีปากของเขา ใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะในทันที

อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะเข้าสู่วันใหม่ของปีใหม่แล้ว พี่เอกให้สัญญาณกับผมว่าเหลือเวลาอีกไม่นานเขาบอกว่าริมแม่น้ำจะมีพลุให้ดู ด้วย เขาเลยพาผมออกไปยืนนอกร้าน และเราสองคนก็หันหน้าไปทางสะพานพระราม๘
เมื่อถึงเวลานับถอยหลังพี่เอกก็ให้สัญญาณมือให้ผมนับถอยหลังไปพร้อมๆ กัน
   นานแล้ว...ที่ผมไม่ได้ยืนนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่กับใคร...ทุกอย่างมันตื่นเต้นไปหมดแม้กระทั้งวินาทีสุดท้ายที่สิ้นสุดปีเก่า
        แสงของดอกไม้ไฟสว่างจ้าเป็นสีสันแต้มท้องฟ้าและผืนน้ำยามราตรี


พี่เอกหันมาหาผมพร้อมพูดกับผมด้วยภาษามือว่า
   “ผมชอบคุณ”


---- เอวัง ----


หัวข้อ: Re: เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 16-12-2008 19:31:11
จิ้มๆ  :z2:  เอากฏมาแปะด้วยนะ
หัวข้อ: Re: เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 16-12-2008 19:34:27
 :o8: ขอเม้นเป็นกำลังใจก่อนครับ กำลังเก็บตามอ่าน...
หัวข้อ: Re: เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 16-12-2008 19:38:25
จิ้มๆ  :z2:  เอากฏมาแปะด้วยนะ

เอ่อ กฏแปะยังไงเหรอค่ะ

ไม่เคยเอามาใส่ ต้องใส่ด้วยชิมิค่ะ

เด๋วไปหามาใส่ค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: sun ที่ 16-12-2008 19:54:49
มาช่วยจิ้มเรื่องใหม่ด้วยคน   :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 16-12-2008 20:56:49
เรื่องใหม่ ๆ  :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 16-12-2008 21:52:04
 :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 17-12-2008 10:10:31
 :mc4:ต้อนรับเรื่องใหม่ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: bixzz ที่ 17-12-2008 12:10:24
 :L2: ติดตามมาอ่านผลงานคุณกฤษณ์ต่อไป....
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 17-12-2008 12:48:11
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เรื่องใหม่

มารออ่านต่อไปนะคะ

ภาษาที่ว่านี่คือภาษากายกะใจชิมิ 

ฮิ้ววววววววว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 18-12-2008 03:32:31
ตามมาเจิ่มเรื่องใหม่ :mc4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: palpouverny ที่ 18-12-2008 03:39:43
จิ้มๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Kirimanjaro ที่ 18-12-2008 05:57:53
ตองครับ  คิดถึงครับ >,<

เรื่องนี้น่าสนใจดี  ไม่ค่อยมีเรื่องสั้นแบบนี้ในบอร์ดสักเท่าไหร่   :call:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 18-12-2008 21:28:38
ก่อนอื่นก็ขอขอบคุณทุกคนที่มาให้การต้อนรับนะค่ะ

ให้ดอกไม้ทุกคนเลย คริคริ

 :L2: :L2: :L2:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เรื่องใหม่

มารออ่านต่อไปนะคะ

ภาษาที่ว่านี่คือภาษากายกะใจชิมิ 

ฮิ้ววววววววว


ไม่บอกในกระทู้ค่ะ ต้องมาเจอตัวจริง

แล้วจะบอกว่าภาษากาย หรือภาษาใจ คริคริ

ตองครับ  คิดถึงครับ >,<

เรื่องนี้น่าสนใจดี  ไม่ค่อยมีเรื่องสั้นแบบนี้ในบอร์ดสักเท่าไหร่   :call:

คิดถึงพี่แทนเหมือนกันค่ะ จุบจุบ

มีผลงานใหม่มายังเอ่ย ตองรออ่านต่อนะค่ะ

ฝากนิยายอีกเรื่องด้วยนะค่ะ คริคริ

>>>>>รักจู่โจมที่ติวเตอร์<<<<< (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=4820.0)



--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปีนี้กรุงเทพฯอากาศเย็นมากกว่าปีก่อนก็จริง แต่ก็ไม่ถึงกับหนาวจนต้องใส่เสื้ออีกชั้นหนึ่งออกจากบ้าน อีกไม่กี่วันก็จะเป็นขึ้นปีใหม่แล้ว เพื่อนๆ ที่คณะ หลายคนกำลังวางแผนจะไปเที่ยวกัน ที่จริงผมก็อยากไปเที่ยว นานแล้วที่ไม่ได้ออกต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ แต่ปีนี้ผมตัดสินใจที่จะอยู่เที่ยวกรุงเทพฯ เนื่องจากยังกังวลกันสารนิพนธ์ที่ค้างคาอยู่

     “ อยากได้อะไรจากปายมั้ย ” นิ่มถาม
     ‘ส่งรูปที่แกถ่ายแนบมาจากโปสการ์ดมาให้สักใบก็พอแล้ว’ ผมตอบ
     หลังจากที่ผมสังสรรค์กับเพื่อนๆ เสร็จแล้ว ผมก็เดินไปที่ท่าพระจันทร์เพื่อไปเอารูปและสไลด์ที่สั่งอัดเอาไว้เมื่อวันก่อน ระหว่างทางที่ผมกำลังเดินไปยังร้านอัดรูปผมนึกถึงเพลงในอัลบั้มของ พิงค์ ฟลอยด์ ในอัลบั้ม Dark side of the moon กับเพลงที่ชื่อว่า Time
     เนื้อเพลง Time ได้กล่าวถึงวันเวลาที่ผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว  ชีวิตในเมืองที่เรากำลังใช้ชีวิตพาเราไปอย่างรวดเร็วจนอาจทำให้เราหลงลืมบางสิ่งไป ทั้งสิ่งที่เราไม่ได้ทำและเวลาที่ผ่านพ้นไปเร็ว โดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัวเลย เหมือนกับท่อนนึงของเพลง ที่ผมกำลังร้องอยู่ในหัวใจในตอนนี้ว่า : The time is gone, the song is over though I’d something  more to say.
     พอถึงร้านอัดรูป ผมได้ยื่นใบรับรูปและสไลด์และนั่งรออยู่ในร้าน ระหว่างนั้นผมก็ได้พบกับพี่เอก เจ้าของร้านกาแฟคนนั้น
     “ มาเอารูปเหรอ? ” เขาถาม
     ผมยิ้มและพยักหน้าเป็นการให้คำตอบว่าใช่...พร้อมกับหยิบปากกาน้ำเงินขึ้นมาเขียนข้อความลงในสมุดโน้ตเล่มที่ผมพกติดตัวเป็นประจำ
     ‘ แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่ครับ... ’
     “ มาเอารูปเหมือนกันครับ...ถ้าเสร็จแล้วไปดื่มกาแฟที่ร้านพี่มั้ย? ”
   ผมให้คำตอบเป็นรอยยิ้ม...
   ทางเดินที่ทอดไปข้างหน้า บทฟุตบาทมีผู้คนมากมายเดินอยู่บนนั้น เราคือส่วนหนึ่งของมันโดยที่ไม่รู้ตัว ผมไม่อาจะล่วงรู้ได้ถึงจุดหมายปลายทางของผู้คนที่เดินทางบนถนนสายเดียวกัน เช่นเดียวกันผม แม้ว่าเราจะเดินกันไปที่ร้านกาแฟของพี่เอกแต่ปลายทางนั้นผมยังไม่รู้จัก การเดินทางที่ไร้ซุ่มเสียงไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกทิ้งให้เดินอยู่แต่เพียงลำพัง
   ผมยังไม่ทันที่จะได้คาเฟอีนเลย แต่ทำไมเวลาที่มองหน้าพี่เอก...หัวใจผมเต้นแรงจัง...
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 19-12-2008 14:52:56
ตะหงิด ๆ ตั้งกะตอนแรกแล้ว ตกลงว่านายเอกของเรานี่หูหนวกแล้วก็เป็นใบ้ด้วยใช่ไหมคะ   :m28:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Krish ที่ 19-12-2008 15:43:14
ขอบคุณที่ติดตามผลงานคับ

ช่วยเม้นท์กันหน่อยนะคับ จะได้มีกำลังใจ ^^

รักทุ๊กก คน

โดยเฉพาะน้องตอง แม่ยกคนสำคัญ 55+
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 19-12-2008 16:05:03
^
^
^

จิ้มคุณกฤษณ์ ชอบบรรยากาศในเรื่องนี้จัง อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียนแถวนั้นมากๆ ขอบคุณทั้งคนโพสต์และคนแต่งสำหรับเรื่องน่ารักๆนะจ๊ะ :m1:

+1 ให้ทั้งคู่เลยคับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Krish ที่ 19-12-2008 16:09:44
จิ้มผมทำไมอ่ะ ผมบ้าจี้นะ 55  :-[

ขอบคุณที่ติดตามผลงานนะคับ  :man1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: CMYK ที่ 19-12-2008 16:30:05
มาบ่อยๆนะครับ
ใช้โปรโมชั่น น้านนาน..หรือเปล่าครับ คือรอ น้านนาน อ่ะ 555555
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Krish ที่ 19-12-2008 16:32:30
มาบ่อยๆนะครับ
ใช้โปรโมชั่น น้านนาน..หรือเปล่าครับ คือรอ น้านนาน อ่ะ 555555

เรื่องนี้จบแล้วนะคับ

แต่ว่าให้น้องตองช่วยโพส เค้าวางแผนการโพสไว้แ้ล้วคับ รอติดตามนะคับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: golf ที่ 19-12-2008 16:53:07
ชอบบรรยายกาศอย่างเรื่องอ่ะ.... :-[

มาต่อเร็วๆๆ นะ เค้ารออ่านอยู่นะ :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-12-2008 17:07:04
อ๋อ เจ้าของเดียวกัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 20-12-2008 04:19:20
นายเอกเป็นใบ้ :m28:

รอตอนต่อไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: TinaJunior ที่ 20-12-2008 12:32:58
ชอบคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 20-12-2008 17:26:57
 :z2:  สู้ๆ........ลงๆ .....ต่อ.....ด่วน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 21-12-2008 11:24:04
สั้นละวันนิดจิตแต่มใสค่ะ

ขอบทุกคนกำลังใจนะค่ะ

จุบจุบ

 :pig4: :pig4: :pig4:

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


ร้านกาแฟในวันนี้ มีเพียงแค่ผมกับพี่เอกสองคน วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำเดือนของลูกจ้าง ไฟในร้านเปิดแค่บางส่วน เฉพาะแต่เคาท์เตอร์ที่ชงกาแฟ และโต๊ะด้านริมแม่น้ำ บาริสต้าหนุ่มกำลังชงกาแฟลาเต้ให้ผมอยู่ โดยที่มีผมนั่งสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ หน้าเคาท์เตอร์ กลิ่นหอมของกาแฟทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายพอๆ กับกลิ่นของเบเกอรี่หอมๆ เอสเปรสโซ่อเมริกาโน่ถูกเติมนมสดลงไปจนกลายเป็นสีน้ำตาลสวยและถูกเทลงแก้วกาแฟเซรามิคสีขาวสะอาด ฟองนมที่ถูกตีขึ้นเป็นฟองหนานุ่มด้วยไอร้อนถูกตักขึ้นมาแต่หน้าลาเต้บนถ้วยกาแฟที่ถูกเตรียมไว้
   “อยากดูลาเต้อาร์ทมั้ย”
   ผมพยักหน้าตอบ
   “งั้นผมจะทำให้...เอารูปไรดีนะ...”
   หลังจากนั้น ผมกับพี่เอกก็มานั่งคุยกันที่โต๊ะเล็กๆซึ่งตั้งอยู่ในมุมริมสุดของร้านซึ่งทำให้มองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้ดีที่สุด  ผมเพิ่งจะทราบว่าเขาเป็นนักออกแบบตกแต่งภายใน ที่มีอาชีพเสริมเป็นบาริสต้า หลายต่อหลายเรื่องเราสองคนเพิ่งจะมารู้จากปากของกันและกันในวันนี้ มันเป็นการสนทนาที่ยาวนานและทำให้เรายิ่งรู้จักกันมากยิ่งขึ้น แม้ว่าผมจะมาร้านนี้เป็นปีๆ แล้วก็ตาม
   ‘ตอนนี้พี่กำลังเปิดเพลงอะไรอยู่’ ผมใช้ปากกาน้ำเงินด้ามเก่งของพี่เอกเขียนข้อความลงในสมุดโน้ตของผมก่อนที่จะยื่นให้เขาอ่าน
   “ตอนนี้กำลังเล่นเพลงของ Don’t know why ของ Kan Hirai” เขาตอบ
   ‘เสียงของเขาเพราะมั้ย...’
ผมสูญเสียการได้ยินหลังจากที่เสียงจักจั่นกรีดร้องในหูเมื่อประมาณ 6 ปีก่อน นับแต่นั้นมา โลกผมก็เงียบสนิท ผมเสียใจที่สูญเสียในสิ่งที่พระเป็นเจ้าประทานมาและเรียกมันกลับคืน แต่ยังโชคดีที่ผมยังเหลือผัสสะอื่นๆ อยู่ มันไม่ได้ทำให้ชีวิตของผมเลวร้ายจนถึงขนาดมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้ แค่อาจจะใช้ชีวิตนับแต่นั้นลำบากมากขึ้นกว่าเก่า ซึ่งมันก็เป็นเรื่องที่พอจะยอมรับได้ และยังโชคดีที่ยังมีคนดีๆ คอยอยู่เคียงข้างผมอีกมาก ผมเคยได้ฟังเพลงเพราะ ๆ ได้พูดคุยกับคนที่ผมรัก ได้สื่อสารให้คนรอบข้างได้เข้าใจ นับแต่วันที่ผมสูญเสียการได้ยินไป ผมก็ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว เพราะคงป่วยการที่จะพูดออกไปโดยที่ไม่ได้ยินเสียงตัวเองในขณะที่ตัวเองกำลังพูด
   วันนี้ของผมจบลงด้วยความรู้สึกที่อบอุ่น เราอาจจะพูดคุยกันได้ช้ากว่าคนทั่วไป แต่พี่เอกก็ยินดีที่จะรอถ้อยคำของผมสื่อสารผ่านปากกาสีน้ำเงินด้ามนั้น โชคดีที่ผมพอจะอ่านปากคู่สนทนาอยู่ได้บ้าง เลยเป็นโชคที่ทำให้เราไม่ต้องนั่งเขียนเพลงยาวแลกกันอ่าน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 21-12-2008 11:32:37
^
^
^

สั้นจริงด้วย แต่ชอบค่ะ อุ่นๆหวานๆดี  :man1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 21-12-2008 13:28:02
อร๊ายยยยยยยยยยย

ลงทีละนิดจิตแจ่มใส

อุอุ

อยากกินกาแฟจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 21-12-2008 15:01:35
ชอบๆมารอค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: sickyboy ที่ 22-12-2008 02:42:47
>< ตอนที่3 มาลงสักที ในที่สุด



ป.ล. "เพลง Don't know why ของ Ken Hirai" ครับ พิมพ์ผิดไปตัวนึง^^


ไหนๆก็ไหนๆละ ขออนุญาตคุณตอง เอาเพลงนี้มาแปะนะครับ

http://media.imeem.com/m/eRROcMwqai/aus=false/


 :m23: ตามอ่านมาสองสามวันละ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 22-12-2008 03:17:22
บรรยากาศอบอุ่น

หอมกลิ่นกาแฟ

 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-12-2008 10:57:51
ให้บรรยากาศอุ่น ๆ หวาน ๆ แบบไม่ต้องคุยกันแต่ก็รู้สึกดี ๆ   :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: april ที่ 23-12-2008 00:00:20
บรรยากาศน่ารักดีค่ะ

อบอุ่น เข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูด

อ่านแล้วนึกถึงบรรยากาศแถวนั้นเลย  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Krish ที่ 23-12-2008 01:50:13
>< ตอนที่3 มาลงสักที ในที่สุด



ป.ล. "เพลง Don't know why ของ Ken Hirai" ครับ พิมพ์ผิดไปตัวนึง^^


ไหนๆก็ไหนๆละ ขออนุญาตคุณตอง เอาเพลงนี้มาแปะนะครับ

http://media.imeem.com/m/eRROcMwqai/aus=false/


 :m23: ตามอ่านมาสองสามวันละ ฮ่าๆๆ

น่ารักมากๆ เลยคับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 25-12-2008 11:52:02
(http://i367.photobucket.com/albums/oo111/taan19/DSC_5031.jpg)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 27-12-2008 00:13:47
ขออภัยทีีมาลงเสียช้านะค่ะ

มัวแต่อ่านนิยายหรือว่าความรักอยู่

และก็ติดสอบด้วยละ

ขอบคุณสำหรับเพลงนะค่ะ ลงโค๊ดไม่เป็นก็เลยไม่ได้ทำ

ดีจังมีคนมาลงให้เลย ยอดมากๆ o13

ชมตอนต่อไปกันค่ะ

------------------------------------------------------------------------------

นับจากวันนั้น เกือบสองสัปดาห์ผมก็มัวแต่จัดการกับสารนิพนธ์ซึ่งจะสิ้นสุดกำหนดส่งครั้งแรกอีกไม่กี่วันนี้แล้ว กิจกรรมเดิมๆ จึงเป็นเสมือนเพื่อนสนิทในช่วงนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ การเรียบเรียงข้อมูล รวมทั้งการเขียนบทความต่างๆ โชคดีที่รูปทั้งหมดที่ต้องใช้ประกอบนั้นผมถ่ายเก็บไว้ครบหมดแล้ว เพื่อนหลายๆ คนที่ส่งงานก็เริ่มจะทยอยเดินทางออกไปเที่ยววันปีใหม่ในที่ต่างๆ มหาวิทยาลัยเงียบลงกว่าเดิมทำให้ผมรู้สึกวังเวงพิกล แต่อีกสองวันเท่านั้น ผมก็จะเสร็จงานที่จะตั้งส่งครั้งแรกแล้ว...
   พอผมกลับไปที่บ้าน ผมเห็นจดหมายวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือ บนซองจดหมายสีน้ำตาลเข้มที่บรรจุจดหมายนั้น มีเพียงชื่อเล่นของผมกับที่อยู่เท่านั้น ไม่เห็นว่ามีที่อยู่ผู้ฝากแต่อย่างใด แต่เมื่อแกะซองจดหมายดู ก็พบกับโปสการ์ด 1 ใบ ที่เป็นรูปร้านกาแฟของพี่เอกในยามค่ำคืน ซึ่งถ่ายมาจากอีกฝั่งหนึ่งของร้าน...
   “ นับถอยหลังสู่ปีใหม่...พร้อมเริ่มต้นก้าวไปด้วยกัน ”
   นี่คือข้อความบนโปสการ์ดที่เขาส่งถึงผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: sickyboy ที่ 27-12-2008 01:57:52
>< เกิดมาจะยี่สิบปี ยังไม่เคยได้รับโปสการ์ดกะเค้าบ้างเลย... เหอ เหอ


ป.ล. ลงสั้นๆแบบนี้ คนอ่าน ทรม๊าน ทรมานTT^TT
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 27-12-2008 07:00:48
ทำไมสั้นแบบนี้ ขออีกไดมั้ยค่ะ :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: april ที่ 27-12-2008 08:27:00
พี่เอก........หวานเชียวนะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 27-12-2008 11:22:52
ต้องถามคนแต่งว่า ทำไมแบ่งมาสั้นมาก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 28-12-2008 02:59:28
สั้นอะ:z3:

แต่พี่เอกโรแมนติกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เรา&#
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 28-12-2008 17:33:07
เมื่อวานสั้นจัด

วันนี้เลยมาให้อีกตอนค่ะ

อ่านแล้วก็อยากได้พระเอกหวานๆแบบนี้สักคน

จะหาได้จากไหนนะเนี่ย

เฮ้อ... :serius2:

เชิญชมค่ะ

ปล.ตอนถัดไปรอวันปีใหม่เลย แล้วเจอกัน

------------------------------------------------------------------------

ดีใจจริงๆ ที่วันนี้อากาศเย็น สมกับเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จริงๆ ผมมองดูโปสการ์ดที่พี่เอกส่งมาซึ่งแปะไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือก่อนที่จะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้ง แล้วสอดมันไว้ในสมุดบันทึกประจำตัวของผม ก่อนที่จะหยิบกล้องตัวเก่งลงกระเป๋า แล้วออกเดินทางไปยังร้านกาแฟของพี่เอก
   ผู้คนกำลังมีความสุขกับช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองนี้ ผมเองก็อดที่จะตื่นเต้นไปกับบรรยากาศที่เห็นผู้เบื้องหน้าไม่ได้ แสงไฟหลากสีที่ประดับประดาไว้ทำให้ผมคิดถึงวันเก่าๆ ที่ทำให้มีความสุข เหมือนกำลังถูกย้อยเวลาให้กลับไปสู่ความเป็นเด็กอีกครั้ง
   ย่านเก่าแก่ของเมืองหลวงไม่พลุกพล่านเหมือนกับจุดเคาท์ดาวน์ใหญ่ๆ ในกรุงเทพ ผมใช้เวลาเดินทางไม่นานก็ไปถึงร้านกาแฟของพี่เอก บรรยากาศในร้านไม่ต่างจากเมื่อสองอาทิตย์ก่อนที่ผมได้มาพร้อมพี่เอกในคราวนั้น แสงนวลที่สาดมาจากร้านเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังรอผมอยู่ที่นั่น พอผมเข้าไปในร้าน ก็ได้กลิ่นหอมของกาแฟอวลอยู่กับเบเกอร์รี่ที่วางไว้บทเคาท์เตอร์ มุมในสุดของร้านมีต้นคริสมาสประดับไฟส่องแสงเป็นประกายอยู่ในมุมมืด พี่เอกกำลังนั่งจิบกาแฟอยู่ตรงโต๊ะนั้นอยู่คนเดียว ทันทีที่เขาเห็นผมเดินเข้ามา ก็ลุกขึ้นมาต้อนรับผม พร้อมกับจะชงกาแฟให้
   ผมแสดงท่าทีว่า ผมอยากจะลองเป็นบาริสต้าดูบ้าง...สุดท้ายผมก็ได้ลองดื่มลาเต้ที่ตัวเองชงเป็นครั้งแรกและพี่เอกได้หยิบขนมในถาดใส่จานและมาเสริฟให้ผม เขาบอกผมว่า ขนมทั้งหมดเขาเป็นคนทำเอง และหลายอย่างลองทำเป็นครั้งแรก ทั้งหมดนี้ เขาเตรียมไว้เพื่อฉลองสำหรับคืนนี้ ผมอยากจะถามว่าทำไมเขาถึงเลือกที่จะอยู่ข้ามคืนพิเศษอยู่ที่นี่ ถ้าผมพูดได้สะดวก รับฟังอะไรๆ ได้เหมือนก่อน ผมคงจะชวนคุยและถามเรื่องราวต่างให้มากขึ้น
   ‘ไม่เบื่อบ้างเหรอ ที่ต้องอยู่เงียบๆ กับผม...’ ผมเขียนข้อความลงในกระดาษและยื่นให้เขาอ่าน ระหว่างที่เรากำลังนั่งรอเวลานับถอยหลังสู่วันปีใหม่
   ‘ไม่เลย’
   เขาเขียนกลับมา และนับแต่นั้น พี่เอกก็ใช้วิธีเดียวกันนี้สื่อสารกับผม โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่อยากเอาเปรียบผม
   ‘เรียนภาษามือแล้วมาคุยกับผมสิ’  ผมเขียนตอบ ทันทีที่เขาอ่านจบเขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ จนผมอดหัวเราะตามไม่ได้
   “ รู้มั้ย ว่าเสียงหัวเราะของนาย ...คือสิ่งที่ผมอยากได้ยิน ” คำพูดของเขาแม้ผมจะไม่ได้ยินแต่เมื่อผมเห็นริมฝีปากของเขา ใจผมก็เต้นไม่เป็นจังหวะในทันที
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 28-12-2008 18:16:51
^
^
^

จิ้มจ้า

พี่เอกน่ารักเนอะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 28-12-2008 19:10:13
ทำน่ารักกะนอยู่สองคน :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 28-12-2008 19:22:51
แง้ว ตอนต่อไปวันปีใหม่เลยเหรอ

ยังไงก็รอติดตามคับ   :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: sickyboy ที่ 29-12-2008 00:39:00
โรแมนติคมากมายยย

 :m31:อิจฉาตาร้อนนน
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: YO DEA ที่ 29-12-2008 00:51:40
 :man1:

น่ารักจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 29-12-2008 01:26:28
โรแมนติกมาก

คืนพิเศษกับคนพิเศษ :o8:

 :L2: 
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์ ตอนที่ 5
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 30-12-2008 15:22:58
ลีลามากไปหน่อย

ตอนสุดท้ายแล้วค่ะ สำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้ละ

สุขสันต์ปีใหม่ มีความสุขตลอดปี

ทุกข์โศกก็ขอให้น้อยถึงไม่มี

สุขภาพแข็งแรงทุกคนนะค่ะ

ด้วยรักและปรารถนาดี ตองและพี่ไอซ์

------------------------------------------------------------------------

อีกไม่ถึงสิบนาทีก็จะเข้าสู่วันใหม่ของปีใหม่แล้ว พี่เอกให้สัญญาณกับผมว่าเหลือเวลาอีกไม่นานเขาบอกว่าริมแม่น้ำจะมีพลุให้ดูด้วย เขาเลยพาผมออกไปยืนนอกร้าน และเราสองคนก็หันหน้าไปทางสะพานพระราม๘
เมื่อถึงเวลานับถอยหลังพี่เอกก็ให้สัญญาณมือให้ผมนับถอยหลังไปพร้อมๆ กัน
   นานแล้ว...ที่ผมไม่ได้ยืนนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่กับใคร...ทุกอย่างมันตื่นเต้นไปหมดแม้กระทั้งวินาทีสุดท้ายที่สิ้นสุดปีเก่า
        แสงของดอกไม้ไฟสว่างจ้าเป็นสีสันแต้มท้องฟ้าและผืนน้ำยามราตรี


พี่เอกหันมาหาผมพร้อมพูดกับผมด้วยภาษามือว่า
   “ผมชอบคุณ”
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 30-12-2008 16:20:36
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: april ที่ 30-12-2008 16:50:24
จบแล้วเหรอ

ชอบพี่เอกเป็นผู้ชายอบอุ่น...น่ารัก  o13

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: bellbomb ที่ 30-12-2008 16:55:57
จบได้เข้ากับเทศกาลพอดีเลย ฮิ้วววว หวานกันจัง  :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ^ - ^A s A v I n * o * ที่ 30-12-2008 20:52:36
อืม จบได้แบบ น่ารักมากๆ

ซึ้งเนอะ สนุกดี

อ่านแล้วก้อเหนื่อยใจ มองดูตัวเอง ที่นั่งคนเดียว เหอะๆ

 :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kritcha ที่ 30-12-2008 21:07:41
จบแล้วเหรอ?

โอ๊ย~ น่ารักกันจริง หวานกันจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 31-12-2008 03:24:33
จบแบบหวานๆ+อบอุ่น :-[

(http://i107.photobucket.com/albums/m282/pure100/07/009/053.jpg)
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: sickyboy ที่ 31-12-2008 04:30:29
 :o12: โรแมนติคเกินไป อิจฉา!






^^ ขอบคุณที่เอาเรื่องสั้นดีๆ น่ารักๆ และอบอุ่น มาลงฮะ





ผมอ่านแล้วยิ้ม^^





อ้อ

สุขสันต์วันปีใหม่ นะครับ^^

ขอให้เป็นปีที่ดีนะครับ ปีหน้าฟ้าใหม่
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: both^^ ที่ 01-01-2009 18:11:22
(http://i367.photobucket.com/albums/oo111/taan19/z1.gif)

จบแล้วหรอ

ในที่สุดพี่เอกก็ไปเรียนภาษามือมาจนได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: TONG ที่ 04-01-2009 00:15:01
จบจริงๆแล้วค่ะ

ตอนนี้กำลังเชียร์ พี่กฤษณ์(คนเขียนเรียกได้อีกว่า พี่เว่น พี่ไอซ์ และอีดำ)

ให้เขียนตอนต่อ เรื่องนี้อ่านตอนนี้กำลังเข้ากับบรรยากาศเลยทีเดียว

หวานนุ่ม อุ่นๆ อยากได้ผู้ชายแบบนี้สักคนจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: faareeyong ที่ 04-01-2009 21:44:36

มาแปะไว้ก่อน :z2:

รอบแป๊ปใหญ่ๆ เดี๋ยวมาใหม่

ไปอ่านก่อน  :really2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 05-01-2009 16:19:19
ดีจัง

มีคนทำให้วันเริ่มต้นของปีใหม่ เป็นวันที่พิเศษจิงๆๆๆๆๆๆๆๆ

(แอบอิจฉา เล็กๆๆๆๆ)

^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: LOT ที่ 10-01-2009 01:01:51
อ่านแล้วได้บรรยากาศความสุขที่อบอุ่นหอมกลิ่นกาแฟดีจัง

ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกหมีน้ำแดง ที่ 10-01-2009 12:55:27
 o13 เป็นเรื่องสั้นที่บรรยากาศอบอุ่นจังเลยค่ะ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 11-01-2009 11:38:02
 :กอด1:

น่ารักจังเลย อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ อิอิ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 11-01-2009 16:23:34
จบแล้วเหรอ ขอหวานกว่านี้อีกหน่อยก็ไม่ได้  :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: PEAK ที่ 12-01-2009 02:24:20
ชอบเรื่องสั้นเรื่องนี้จัง  ~!! 

แม้จะสั้น แต่ก็เขียนสิ่งที่ต้องสื่อได้ดี  ชอบชอบ  ^__^

จบได้น่ารักมากมายด้วยอ่ะ  ...  ขอบคุณ คุณกฤษณ์ และน้องตองคนโพส  มากนะครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 13-01-2009 00:11:03
เรื่องสั้นจริงๆ

สั้น น่ารัก ได้ใจความ และหว๊านหวานเนอะพี่เอก อิอิ

ได้ใจคนอ่านครับ   เป็นกำลังใจให้ทั้งคนโพสและคนเขยนครับ o13 
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: doonut_kabpom ที่ 01-03-2009 14:47:29
ร้านกาแฟหรอ  ทำให้คิดถึงเรื่อง coffice pince (พิมพ์ถูกป่าวหว่า)

เลย  แต่ก็น่ารักดี  แต่ไม่น่าหูไม่ดีเลย  น่าสงสารแย่เลย  :sad4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Chk~a ที่ 01-03-2009 15:33:31
อบอุ่นในหัวใจอ่าาาา

 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 03-03-2009 15:42:14
จบแล้วอ่ะ

สมกับที่เป็นเรื่องสั้นเลยเนอะ

อิอิ

ขอบคุณนะครับ

น่ารักมากๆ เลย

 :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 04-03-2009 00:03:50
สั้น ๆ แต่ก็อบอุ่นจังเลยน๊า


 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 06-03-2009 17:19:40
อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกดีมากเลยค่ะ


ดูอบอุ่น หวาน แล้วก็น่ารักดี  :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: popper ที่ 14-03-2009 07:45:36
อบอุ่นมากๆเลยค่ะ

อบอวลไปด้วยกลิ่นกาเเฟ กับเบเกอร์รี่

น่ารักมากๆๆ

 :n1: :n1: :n1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Black Angel ที่ 14-03-2009 21:10:04
 :impress2: :impress2: :impress2:

น่ารักที่สุดเลยครับ

 :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: toeyz12 ที่ 20-03-2009 18:53:45
 :กอด1: :กอด1:  พี่เอกเป็นคนดีจังเลยอ่ะ      น่ารักดีเหมือนกัน   


 :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: HuaTangMo ที่ 21-03-2009 11:16:04
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้นๆ แต่ทำให้รู้สึกดีมากมายครับ

อ่านแล้วคิดถึงใครบางคนเหมือนกัน มีบางช่วงบางตอนที่เหมือนกับผม

ความรักทำให้คนที่อยู่ในโลกที่แสนวุ่นวายส่งผ่านไปถึงคนที่อยู่ในโลกที่เงียบที่สุดสัมผัสได้

เป็นสิ่งที่สวยงามที่สุดครับ

หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: cartoons ที่ 22-03-2009 14:37:17
 :sad4: เปนปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม






 :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Tun_Bow ที่ 26-04-2009 17:47:40
เป็นเรื่องสั้นที่บรรยายได้อบอุ่นและน่ารักจริงๆครับ o13 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 25-05-2009 17:04:35
สั้นๆ แต่ได้ใจ น่ารัก...รักไปแล้ว
ขอบคุณทั้งผู้เขียนและคนโพสครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: patz ที่ 26-05-2009 07:13:30
น่ารักและโรแมนติกมากๆครับ


คำว่ารัก ไม่ว่าจะภาษาไหน ถ้าส่งผ่านจากหัวใจสู่หัวใจ ยังไงก็รับรู้ได้ว่ารักอยู่ดี

 :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Momoro ที่ 05-06-2009 21:25:12
อ่านเเล้วยิ้ม สั้นๆแต่น่ารักมากเลย
หวานๆ อบอุ่น อบอวลไปด้วยรักและความหอมกรุ่นของกาแฟ
ไม่ว่าจะบอกรักกันภาษาไหนหัวใจก็สื่อถึงกันได้
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: BABOO ที่ 03-07-2009 21:58:12
โรแมนติกมากค่ะ

 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 17-11-2009 21:32:04
เรื่องสั้น อุ่นๆ หวานๆ ชอบจัง :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 02-03-2010 20:39:42
น่ารักมากๆๆๆเลยอะคร้าบบบบ

พี่เอกน่ารักโคตรๆๆ

ผมชอบคุณ :impress2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kimagain ที่ 03-03-2010 08:55:39
น่ารักดีอ่ะ อยากมีคนบอกรักมั่งจัง  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: jeabjoong ที่ 10-05-2010 16:51:48
อืม..สั้นๆ แต่ได้ใจความ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 10-05-2010 19:32:57
น่ารักจัง

มันรู้สึกดีอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: jincool ที่ 20-05-2010 13:30:56
ประทับใจมากๆ เลย
เรียบๆ ง่ายๆ แต่กินใจเป็นที่สุด
มันเป็นความรักที่ไม่ว่าใครต่างก็ใฝ่ฝันถึงน่ะนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: LEKU_W ที่ 15-06-2010 23:54:45
สั้น แต่หวาน ซึ้ง  ละเมียดละไมจริงๆเลย

เป็นเรื่องสั้นที่ดีเรื่องหนึ่งเลยล่ะ

ลขอบคุณนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: katte ที่ 27-07-2010 20:41:26
ชอบจังเลย อ่านเเล้วนึถึงแสงสีเหลืองอมส้ม อุ่นๆ


"แม้ไม่มีบทสนทนา แต่ความรักก็หาภาษาของมันเองได้"

ซึ้งๆ :-[
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 21-08-2010 19:27:57
นี่แหละน่า อนุภาพของความรัก

ไม่จำเป็นต้องพูด แต่มัน

ก้อสามารถได้ในภาษาของมันเอง

แล้วเมื่อไรผมจะมีแบบนี้กับเค้าสักที่

รอมาตั้งหลายปีแหละ

ยังไม่มีใครหน้ามืดหลงเข้ามาสักที่เลยเรา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: kazhiki ที่ 22-08-2010 09:12:20
โรแมนติกมากกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: A-J.seiya* ที่ 22-08-2010 12:52:49
พี่เอก น่ารักมากกกก
><
เขินเลยอ่ะ

โรแมนติกจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: หมวยลำเค็ญ ที่ 03-09-2010 08:05:16
ดีจัยจังเลยที่ว่างพอที่จะขุดนิยายเรื่องเก่าๆมาอ่าน
หลายเรื่องที่เจอ ก็เป็นเรื่องที่อ่านแล้วประทับใจ
ถึงแม้จะไม่หวือหวา ต้องลุ้นอะไรมากมาย
แต่อ่านเพลิน อ่านสบาย จบแล้วยังรู้สึกอุ่นๆในใจ

ขอบคุณนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: moony ที่ 04-09-2010 10:49:49
เป็นเรื่องน่ารักและอบอุ่น


เรื่องนึงทีเดียว
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น][จบบริบูรณ์] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: fannan ที่ 09-09-2010 23:33:52
หวานมากน่ารักสุดๆๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 12-04-2011 13:59:04
สั้นๆ แต่น่ารักอบอุ่นไปถึงหัวใจเลยครับ

มันช่างเป็นอะไรที่สวยงามมากเลยนะครับ

ขอบคุณมากนะครับ  :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 11-08-2011 01:24:24
สั้นๆ แต่อบอุ่นมากมายค่ะ

อ่านแล้วอยากเจอคนที่ทำให้รู้สึกแบบนี้บ้างจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: tookta ที่ 12-08-2011 14:34:02
ขอบคุณจ้า
มาหวานหวาน โรแมนติค........
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: 20227ple ที่ 20-08-2011 23:07:52
ชอบเรื่องนี้จัง ไม่ต้องมีคำพูด แต่สื่อมันออกมาจากใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: pllaii ที่ 16-11-2011 11:50:21
อบอุ่น น่ารักมากค่ะ อ่านไปด้วยิ้มไปด้วย  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Nineน้อย ที่ 16-11-2011 12:31:35
ขอบคุณสำหรับเรื่องสั้น แต่หวาน ซึ้ง  แต่ทำให้รู้สึกดีมากเลย

ขอบคุณมากมายครับผม
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: chaoyui ที่ 17-11-2011 22:05:47
อ่านแล้วอมยิ้ม ขอบคุณค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 11-12-2014 16:36:48
อบอุ่น  น่ารัก

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] เราพูดจาภาษาเดียวกัน by กฤษณ์
เริ่มหัวข้อโดย: Cyclopbee ที่ 08-10-2018 21:27:06
 :3123: :pig4: