พิมพ์หน้านี้ - หมัดจากหัวใจ เสียงจากศรัทธา
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: Shibaguy ที่ 30-03-2025 10:02:22
-
แฟ้มลับฮีโร่: Captain Muay Thai
“หมัดจากหัวใจ เสียงจากศรัทธา”
---
ชื่อจริง: ธันวา ศาสตรา
ชื่อฮีโร่: Captain Muay Thai
อายุ: 24 ปี
สัญชาติ: ไทย
สถานะ: นักศึกษาปี 3 คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
---
ประวัติส่วนตัวของธันวา
ธันวาเกิดในครอบครัวยากจนในภาคอีสาน เป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่ยังเล็ก และย้ายมาอยู่กับ ลุงและป้าในกรุงเทพฯ
เขาเติบโตใน ค่ายมวยของครูพละในโรงเรียนมัธยม ทั้งกินนอนและฝึกฝนที่นั่น
เป็น “พี่ใหญ่” ของน้อง ๆ ในค่าย มีความเป็นผู้นำ เป็นที่พึ่งพาทั้งในและนอกเวที
บุคลิก:
ร่าเริง ขี้เล่น เจ้าชู้แบบพี่ชายอบอุ่น
ชอบคนอายุน้อยกว่าตัวเล็ก ชอบดูแล
มั่นใจในรูปร่าง หน้าตา และเสน่ห์ของตัวเอง
เมื่อถึงเวลาขึ้นเวที จะเข้าสู่โหมดจริงจัง โฟกัสจัด
ฮอร์โมนแรง พลังทางเพศสูงตามวัย
---
จุดเปลี่ยน:
ตอนอายุ 20 ปี เขาขึ้นชกไฟต์สำคัญกลางเวทีแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
ทันใดนั้น Olympus Black องค์กรลับที่แทรกซึมในวงการกีฬาไทย ก็โจมตีเวทีเพื่อทดสอบอาวุธทดลอง
ฟ้าผ่าลงข้างตัวเขา พลังโบราณแห่งนักรบไทยถูกปลุกขึ้น และเลือก “ธันวา ศาสตรา” ให้เป็นผู้สืบทอด
---
Captain Muay Thai: ตัวตนลับ
หน้ากากสีแดงคาดปิดตา
กางเกง Spandex สีแดงเข้มแบบแนบเนื้อ (ไม่มีเสื้อ)
ขนหน้าอก และทั่วตัวเป็นศูนย์สะสมพลังธรรมชาติ
ผ้าพันมือ เสริมพลังหมัดและศอก
รองเท้าพิเศษ เสริมพลังเตะและเข่า
เสียงเชียร์ จะกลายเป็นเกราะป้องกันผ่านกางเกงยูนิฟอร์ม
---
ภารกิจหลัก:
ต่อสู้กับ Olympus Black ที่ใช้ยา เทคโนโลยี มนุษย์ดัดแปลง และอิทธิพลเงินยึดครองวงการกีฬา
รักษาเกียรติของมวยไทยและหัวใจนักกีฬาแท้
ปกปิดตัวตน เพื่อความปลอดภัยของคนรอบตัว
---
คำพูดประจำตัว:
> "หมัดของผมอาจไม่แรงที่สุด… แต่ผมไม่เคยชกด้วยกล้าม ผมชกด้วยหัวใจ"
---
สัดส่วนร่างกาย (Captain Muay Thai ความสูง 185 ซม.)
ส่วนสูง: 185 ซม.
น้ำหนัก: 85 กก.
รอบอก: 116 ซม.
รอบเอว: 80 ซม. (ทรงเอวคอดเมื่อใส่กางเกงยูนิฟอร์ม)
รอบสะโพก: 106 ซม.
ต้นแขน: 45 ซม. (แน่นเต็มแขนแบบมวยไทยมืออาชีพ)
ต้นขา: 65 ซม. (กล้ามชัด มีพลังเตะสูง)
น่อง: 45 ซม.
-
“วันเปิดเทอมของธันวา ศาสตรา”
[เวลา 07:43 น. – ลานหน้าคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา]
เสียงนักศึกษาปี 1 วิ่งกันพล่าน แต่มีร่างสูงใหญ่อยู่ตรงมุมใต้ต้นไม้
ชายหนุ่มสูง 185 ซม. กล้ามแน่น เป้ากางเกง Jogger ฟิตพอดีตัว แบกกระเป๋าเป้ข้างเดียว
เคราสั้นเข้มรับกับคิ้วหนา และขนหน้าอกที่โผล่จากเสื้อยืดพละตัวเก่า ๆ
ธันวา ศาสตรา – ปี 3 (เวอร์ชันไม่ใช่ Captain)
> "สวัสดีครับน้อง ๆ... เดี๋ยวพี่พาเดินแนะนำตึกให้นะ ถ้าใครหิว ข้าวเหนียวไก่เจ้าเด็ดอยู่หลังตึก D"
เสียงหัวเราะดังจากน้องปี 1
มีน้องคนหนึ่งตัวเล็กกว่าเพื่อน ยิ้มเขิน ๆ มองธันวานานกว่าคนอื่น
ธันวา:
> (ยิ้มมุมปาก ขยับผ้าพันข้อมือที่ใส่ไว้เป็นแฟชั่น)
"น้องชื่ออะไรครับ... พี่ชื่อธันวา เรียกว่าพี่ก็ได้ แต่ถ้าเรียกพี่ว่า 'เฮีย' ก็ไม่ว่าอะไรนะ"
---
ในขณะที่เขายิ้มแบบพี่ชายคนดี
เสียงโทรศัพท์สั่น...
ข้อความจากเบอร์ลับ:
> “Olympus Black เคลื่อนไหวแถวสนามกีฬาในเมือง เจอกันหลังเที่ยง”
ธันวายิ้มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีรอยยิ้มในดวงตา
> "เปิดเทอมวันแรก... ก็มีศึกให้วอร์มเหรอ"
เขาล้วงมือเข้าเป้
ผ้าคาดตาสีแดงกับกางเกง Spandex พับอยู่พร้อม
หัวใจเต้นเป็นจังหวะเดียวกับเสียงเชียร์ที่ยังไม่มา... แต่เขาได้ยินมันเสมอ
---
ตอนที่ 2: ใต้เสื้อนักกีฬา”
[เวลา 09:00 – ห้องเรียนทฤษฎีวิชาพละ]
แอร์เย็น ๆ ไม่อาจกลบไอร้อนจากแดด และกล้ามแน่นใต้เสื้อยืดแขนสั้นของ “ธันวา ศาสตรา” ที่นั่งหลังห้อง กอดอกพิงโต๊ะ มองดูน้องใหม่ตัวเล็ก ๆ เดินเข้าห้อง
น้องคนหนึ่งนั่งลงข้าง ๆ เขา
ผิวขาวนิด ๆ แว่นใส ยิ้มเก้อ ๆ
> “พี่ธันวา… นี่เรานั่งเรียนด้วยกันจริงเหรอครับ?”
ธันวา หันไปยิ้มช้า ๆ
> “จริงสิครับ... พี่เรียนปี 3 ก็จริง แต่เรียนช้ากว่าเพื่อนหน่อย... ก็เลยได้เจอเรา”
น้อง:
> “ผมเห็นพี่บ่อยมากเลยในเวทีมวย... เอ่อ... พี่เคยชกเวทีแถวราชดำเนินใช่มั้ยครับ?”
ธันวาชะงักไปครู่หนึ่ง — มือข้างหนึ่งเผลอแตะผ้าพันข้อมือที่เขาใส่ไว้แทนสายข้อมือธรรมดา
เขาไม่ตอบตรง ๆ แต่...
> “พี่เคยขึ้นเวทีหลายเวทีครับ... แต่พี่ชอบเวทีที่มีคนดูจริงใจมากกว่าเสียงดัง”
น้องยิ้มไม่เข้าใจนัก... แต่รู้สึกอบอุ่น
---
[เวลา 10:05 – ช่วงพักเบรก]
ธันวาลุกขึ้นเดินไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา
เขาเปิดประตูเข้าไปช้า ๆ แล้วล็อก…
ข้างใน มีตู้เหล็กใบหนึ่งซ่อนของไว้
เขาค่อย ๆ เปิดออก
ผ้าพันมือ, กางเกง Spandex สีแดง, หน้ากากคาดตา… วางเรียงกันพร้อมเปล่งพลังบางเบา
ธันวามองเข้าไปในเงากระจกเงาเล็ก ๆ ตรงตู้
เห็นภาพสะท้อนของ “Captain Muay Thai” ซ้อนอยู่บนใบหน้าของตัวเอง
ธันวา:
> “ยังไม่ถึงเวลา... แต่ถ้าพวกมันเคลื่อนไหวในวันนี้จริง... พี่จะไม่ยอมให้สนามนี้กลายเป็นสนามทดลองของ Olympus Black”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบา ๆ...
“พี่ธันวาครับ... อยู่ในนั้นเหรอครับ?”
เป็นเสียงของน้องคนนั้น...
ธันวาชะงัก — ใจเต้นแรง ไม่ใช่เพราะกลัวโป๊ะแตก...
แต่เพราะเสียงนั้น “มีพลังเชียร์” แบบบริสุทธิ์ที่ร่างเขารู้สึกได้ทันที
---
-
ตอนที่ 3 : มือที่ยื่นมา โดยไม่รู้ว่าใครอยู่หลังหน้ากาก”
[เวลา 10:06 – ห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา]
ธันวาหยุดนิ่งอยู่ตรงหน้าตู้เหล็ก
มือของเขาวางอยู่บนหน้ากากผืนแดง
เหงื่อซึมเบา ๆ ตามแนวขมับและแผงอก — ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เพราะ "ใจยังไม่พร้อม"
เสียงเคาะประตูดังขึ้น
เบา… ไม่เร่ง ไม่กดดัน
เป็นเสียงที่คุ้น
> “พี่ธันวา... อยู่ข้างในใช่มั้ยครับ?”
“ผมแค่จะเอาขวดน้ำมาให้... พี่ดูเหนื่อย ๆ ตอนเดินออกมาจากห้องเมื่อกี้”
ธันวาสูดลมหายใจ
รีบหยิบเสื้อยืดคลุมอกไว้อย่างเร็ว
ยัดหน้ากากกลับเข้าไปในตู้ แล้วดึงบานตู้ปิด
จากนั้นค่อย ๆ เปิดประตูห้องเก็บของออก
---
น้องคนเดิมยืนอยู่ตรงนั้น — ยิ้มเล็ก ๆ ในมือมีขวดน้ำเย็น
> “นี่ครับ... ไม่ใช่น้ำเกลือแร่หรูอะไรนะครับ แค่น้ำเปล่าในตู้เย็นหลังห้องพักครู”
“แต่ผมเห็นพี่เหงื่อออก เลย... อยากให้ครับ”
ธันวายิ้มอ่อน หยิบขวดนั้นมาช้า ๆ
นิ้วของทั้งสองแตะกันนิดเดียว
แต่เหมือนโลกหยุดหมุนไปครู่หนึ่ง
> “ขอบคุณครับน้อง... พี่ไม่ค่อยมีใครเอาน้ำมาให้แบบนี้นานแล้ว”
น้องยิ้มเก้อ ๆ
> “ก็พี่ดูเข้ม ๆ น่ากลัว ๆ ...ผมนึกว่าจะไม่ชอบให้คนมายุ่ง”
> ธันวา (ยิ้มซน ๆ):
“จริง ๆ พี่ชอบให้คนตัวเล็ก ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ มากเลยนะ”
---
เสียงระฆังเปลี่ยนคาบดังขึ้น
น้องรีบขยับตัวเตรียมเดินกลับห้องเรียน
> “ผมรีบกลับก่อนนะครับ เดี๋ยวอาจารย์เข้า”
ก่อนวิ่งไป น้องหันกลับมาหาธันวา
> “พี่ธันวา... ถึงจะดูเงียบ ๆ แต่...เวลาพี่ยิ้มนี่น่ากลัวน้อยลงเยอะเลยนะครับ”
---
[ธันวายืนมองหลังน้องคนนั้นอยู่เงียบ ๆ]
เขาหยิบหน้ากากออกจากตู้กลับมาในมืออีกครั้ง
พลิกมันไปมา แสงกระทบผ้าแดงสะท้อนตาเขาเบา ๆ
> “ถ้าจะมีใครคนหนึ่ง... ที่อยากรู้จักตัวตนของพี่
พี่ก็หวังว่าเขาจะรู้เพราะใจ... ไม่ใช่เพราะหน้ากาก…”
ตอนที่ 3.4: หมัดแรกของเทอมใหม่
[เวลา 11:02 น. – สนามกีฬาอเนกประสงค์ของมหาวิทยาลัย]
ขณะงานกีฬาเปิดเทอมกำลังเริ่ม นักศึกษานับร้อยนั่งล้อมเวทีกลางสนาม
แต่แล้ว…
เสียงเครื่องบินโดรนแตกรัว!
ม่านควันดำปล่อยลงมากลางสนาม
เสียงประกาศจากลำโพงแปลก ๆ ดังขึ้น
> “การแสดงจะเริ่มขึ้น… กับนักกีฬาชุดแรกของเรา — Beta Grappler รุ่นทดลองของ Olympus Black”
ประตูด้านข้างสนามพังลง
หุ่นยนต์นักมวยปล้ำร่างยักษ์ 2 ตัวพุ่งเข้ามา มวลกล้ามเทียมแน่นเต็มร่าง แขนกล 4 ข้าง เตรียมกวาดคนดูให้ตื่นกลัว
---
ธันวาซ่อนตัวอยู่หลังอาคาร
เขาสวมหน้ากาก
สวมผ้าพันมือ
เปลี่ยนจากเสื้อยืดธรรมดาเป็นกางเกง Spandex สีแดง
ไม่มีเสื้อ
Captain Muay Thai ปรากฏตัวพร้อมเสียงเชียร์ที่เริ่มดังขึ้นแม้ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร
---
[เสียงลำโพง]:
> “ฮีโร่ตัวใหม่ของพวกแกจะทำอะไรได้? นี่ไม่ใช่แค่มวย — แต่นี่คือสงครามเทคโนโลยี”
Captain Muay Thai:
> “พวกนายไม่เข้าใจ… มวยไทยไม่ใช่แค่ศิลปะการต่อสู้
แต่มันคือหัวใจคนไทยทั้งสนามนี้!”
พลังเสียงเชียร์เริ่มเรืองแสงใต้กางเกงยูนิฟอร์ม
ขนหน้าอกลุกตั้งเป็นเส้นไฟฟ้าพลังงาน
หมัดแรกฟาดเข้าใส่ Beta Grappler #1 จนล้มทั้งยืน
---
5 นาทีต่อมา…
หุ่นยนต์ถูกทุบจนขาดสองแขน
สนามไม่เสียหาย
แต่มีเด็กคนหนึ่งมองจากฝั่งอัฒจันทร์
คนตัวเล็กใส่แว่น
มองฮีโร่ที่กำลังหอบเหนื่อยเหงื่อหยดกับแสงแดดเที่ยงวัน
เขารู้สึกบางอย่างในอก… แต่ยังไม่เข้าใจ
---
จากนั้น Captain Muay Thai ก็หายตัวไปในเงา
กลายเป็น "ธันวา" ที่เดินกลับเข้าคณะ… พร้อมเหงื่อชื้นเล็กน้อย และขวดน้ำที่มีคนนำมาให้
---
-
บทขยายการต่อสู้
Captain Muay Thai vs Beta Grappler รุ่นทดลอง (Olympus Black)
---
[เวลา 11:00 น. – สนามกีฬาอเนกประสงค์, งานกีฬาเปิดเทอม]
แดดเที่ยงวันร้อนจ้า เสียงพิธีกรกำลังแนะนำชมรมกีฬา
เสียงเชียร์ เสียงหัวเราะของนักศึกษาปี 1 เต็มสนาม
แต่แล้ว… ทุกอย่างก็เงียบลงทันที
แสงไฟบนเวทีดับลงกะทันหัน
ม่านควันสีดำทะมึนลอยขึ้นกลางสนาม
ตามด้วยเสียงกระแทกหนัก ๆ บนพื้นสนาม…
ตุ้บ... ตุ้บ... โครม!!
2 ร่างยักษ์สูงกว่า 2 เมตรครึ่ง พุ่งฝ่าหมอกควันเข้ามาในสนาม
หุ่นยนต์กึ่งชีวภาพในชุดนักกีฬาเกราะกล้ามแน่น Beta Grappler รุ่นทดลองของ Olympus Black
แขนกล 4 ข้างมีไฟฟ้าแล่นตามข้อต่อ
ดวงตาเรืองแสงสีม่วง
พวกมันเล็งเป้าไว้ที่เวทีและนักกีฬาหน้าเสาธง
---
[อีกฝั่งของสนาม – หลังอาคารคณะพละ]
ธันวาวิ่งเข้าห้องเก็บของ เงียบและเร็ว
เขาโยนเสื้อยืดลงพื้น หยิบ Spandex สีแดงที่พับไว้ขึ้นมา
ร่างกายเปลือยเปียกเหงื่อจากการฝึกตอนเช้า
ผ้าพันมือสีขาวถูกดึงรัดแน่น จนเส้นเลือดที่ต้นแขนพองขึ้นเล็กน้อย
กล้ามอกขยับตามลมหายใจ
หน้ากากสีแดงคาดปิดตาเลื่อนขึ้นปิดใบหน้า พร้อมเสียงกระซิบในใจ:
> “พวกมันมาเร็วกว่าแผนที่ครูส่ง… งั้นจัดไปก่อนเรียนบ่ายก็แล้วกัน…”
---
[กลางสนาม – เวทีระเบิด]
Beta Grappler #1 พุ่งเข้าชกเครื่องเสียง
เสียงดังเปรี้ยงแตกกระจาย
นักศึกษากรีดร้อง พี่พนักงานคุมเวทีกำลังจะโดนแขนกลฟาดใส่…
หมัดขวาของ Captain Muay Thai พุ่งมาแทน
ปั้กกกกกกก!!!
Beta Grappler เซ 3 ก้าว
เสียงเชียร์จากนักศึกษาดังลั่นโดยไม่รู้ว่าเขาคือใคร
เสียงเชียร์นั้น… เรืองแสงใต้กางเกง Spandex ของเขาทันที
เกราะพลังงานจากความศรัทธากำลังก่อตัว
---
[ดวลจริง – หมัด ศอก เข่า ระเบิดสนาม]
Beta Grappler #2 กระโดดเข้าพร้อม 4 หมัด
Captain Muay Thai ลื่นหลบเฉียงขวา
เข่าซ้ายฟาดเข้าใต้รักแร้หุ่นแบบเต็มแรง
ก่อนศอกขวาจะฟาดเฉียงลงด้านหลังในจังหวะเดียวกัน —
ท่า “ศอกช้างถล่มเวที” ที่ครูเคยสอนเมื่อ 4 ปีก่อน
โครม!! หุ่นกระเด็นไปไกลกว่า 5 เมตร
กล้ามเทียมขาดเสียงดัง
ธันวาเปลี่ยนฝ่าเท้าเป็นหมัดตรง
กระแทกเข้าที่แผงวงจรหน้าอกจนหุ่นระเบิดไฟลุกเล็กน้อย
---
Beta Grappler #1 ลุกขึ้นได้ทัน
มันยิงสายเคเบิลควบคุมเข้ามาจะพันตัวเขา
แต่ Captain Muay Thai ไม่หลบ
เขายืนนิ่ง สูดลมหายใจ
เสียงเชียร์ทั้งสนามดังกระหึ่ม
ขนหน้าอกเปล่งแสงเรืองจาง ๆ เหมือนซับพลังฟื้นฟูเข้าสู่ร่างกาย
กล้ามเนื้อของเขาเด้งแน่นตามจังหวะชีพจร
เขาใช้เพียง "ท่าถีบ" จากเท้าเดียว
เตะหุ่นออกจากสนามไปทั้งตัวในครั้งเดียว
---
หุ่นทั้งสองพังยับ แหลกกลางสนาม
เสียงเชียร์จากนักศึกษาเต็มสนามกีฬา
ไม่มีใครรู้ว่า “เขาเป็นใคร”
แต่พวกเขาเรียกกันด้วยเสียงเดียว…
> “Captain Muay Thai! Captain Muay Thai!”
---
[อีกมุมหนึ่ง – ชายแก่คนหนึ่งยืนพิงกำแพง กอดอก]
ครูเจ้าของค่ายมวยของธันวา
เขากดมือถือเงียบ ๆ ส่งข้อความ
> “เกินคาด… ไอ้ธันวาเอ็งจะไปได้ไกลกว่าที่ครูเคยฝันไว้”
---
-
ตอนที่ 5: กลับสู่เงา”
(ต่อจากฉากศึกเที่ยงวัน)
---
[เวลา 11:38 น. – หลังสนามกีฬา มุมเงียบของโรงเรียน]
Captain Muay Thai วิ่งออกจากจุดต่อสู้
หลบหลังโรงอาหารเก่า ร่างกายยังหอบแรง
เสียงเชียร์ยังดังก้องในหัว
แต่เขารู้ว่าต้องรีบ… ไม่ใช่เพราะกลัวใครรู้
แต่เพราะ “เรียนบ่ายมีเช็คชื่อ”
เขาเปิดประตูห้องเก็บอุปกรณ์ที่ซ่อนทุกอย่างไว้
ปลดหน้ากากคาดตา
หยิบชุดนักศึกษาที่เตรียมไว้ — เสื้อเชิ้ตขาวบางกับกางเกงผ้าสีดำที่ยังแห้งสนิท
---
[ธันวา – ตอนเปลี่ยนร่างกลับ]
เขาถอดกางเกง Spandex แดงพับเก็บไว้ พร้อมผ้าพันมือ
ก้มตัวล้างหน้ากับขันน้ำในห้องเก็บของ
แต่เหงื่อยังไหลจากหลังลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง
กลิ่นกายของผู้ชายหลังศึกยังอวลอยู่ในอากาศอับนิด ๆ
กลิ่นเหงื่อ กำลังกล้าม และลมหายใจหนัก ๆ ปะปนกับกลิ่นผงซักฟอกจากเสื้อนักศึกษา
เขาใส่เสื้อเชิ้ต
เม็ดเหงื่อยังค้างอยู่ที่ร่องอก — ดันเสื้อบางจนแนบกล้ามอก
กล้ามแขนเบียดรอยแขนเสื้อจนตึง
ผมเปียกนิด ๆ จากน้ำที่วักล้างหน้า
เขายืนมองกระจกเก่า ๆ ในนั้นสะท้อน “ชายหนุ่มธรรมดา” อีกครั้ง
> “กลับมาเป็นธันวา… เด็กคณะพละ ปี 3... ที่ไม่มีใครต้องรู้ว่าคือใคร”
---
[เวลา 11:55 – บันไดทางขึ้นตึกเรียน]
เสียงรองเท้าหนังเบา ๆ เดินขึ้นบันได
ธันวานั่งพิงกำแพงชั้น 3 คนเดียว หายใจยังแรงเล็กน้อย
เสื้อนักศึกษาขาวเปียกเล็กน้อยตรงกลางอก
นักศึกษาหญิงที่เดินผ่านยังเหลียวมองกล้ามอกที่ดันเสื้ออยู่ชัด ๆ
> แต่ไม่มีใครรู้... ว่ากล้ามนั้นเมื่อครู่เพิ่งใช้ “ศอกถล่มสนาม”
---
เสียงข้อความจากเบอร์ลับส่งมาพอดี
> “จัดการได้ดีมาก… แต่คราวหน้าต้องระวังกล้องจากนักข่าวสำนักกีฬา”
– จากเบอร์ของครู
---
ธันวายิ้มมุมปากนิด ๆ
หยิบปากกาขึ้นมา
เข้าสู่โหมด “นักศึกษาเรียนบ่าย” ที่เหงื่อยังไม่แห้ง แต่หัวใจยังเต้นแรงเพราะศึกที่ผ่านมา
---
-
ตอนที่ 6
แสงแดดสะท้อนลงบนเหงื่อที่เกาะตามกล้ามแขนของ Captain Muay Thai
เขาหอบแรง หลังจากซัดกับหุ่นของ Olympus Black จนอีกฝ่ายสลบแน่นิ่งกลางพื้นคอนกรีต
กล้ามอกขยายตัวขึ้นลง เส้นขนเปียกแนบอก เสียงฝีเท้าตัวเองชัดเจนในลานที่ไร้ผู้คน
เขาถอดหน้ากากสีแดงออก เผยให้เห็นใบหน้าคมเข้มกับเหงื่อที่ไหลซึมตามกรอบหน้า
“บ่ายนี้มีเรียน…จะสายไม่ได้”
ธันวาหลับตาแน่น
ธันวาเปลี่ยนจากฮีโร่…กลับมาเป็นหนุ่มนักศึกษาปี 3 ที่เรียนช้ากว่าเพื่อนเพราะต้องต่อยมวยเลี้ยงชีพ
“หวังว่ากลิ่นเหงื่อจะไม่แรงเกินไปนะ…”
เขาก้มดมเสื้อตัวเองก่อนจะถอนหายใจ
เสียงมือถือสั่นเตือนอีกครั้ง
[LINE: อ.วิชาเลือก] — “อย่าลืมนำเสนอรายงานวันนี้นะครับ!”
ธันวากลอกตาอย่างเหนื่อยใจ
“โอ้ย...นอกจากจะสู้กับนักมวยกลายพันธุ์ ยังต้องสู้กับ PowerPoint อีกเหรอวะ”
เขาสะพายเป้ที่ซ่อนไว้ข้างเสา ก่อนรีบเดินออกไปขึ้นรถสองแถวที่วิ่งผ่าน
ไม่มีใครรู้ว่าผู้ชายเหงื่อโชก กล้ามแน่นคนนี้…เพิ่งช่วยเมืองไว้เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน
[ห้องบรรยาย – เวลา 13:12 น.]
แอร์ในห้องเย็นเฉียบ ตัดกับแสงแดดแรง ๆ ข้างนอก นักศึกษานั่งเรียงกันเต็มห้อง ธันวา—ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ กล้ามแน่น เสื้อนักศึกษาขาวที่เขาใส่แนบไปกับลำตัวจนเห็นลอนกล้ามอกและหน้าท้องบางส่วนเวลาขยับ
แต่ตอนนี้…เขาฟุบหน้ากับแขนตัวเองบนโต๊ะ เงียบสนิท…หลับสนิทจากความเหนื่อยล้า
แม้จะหลับ แต่หน้าผากมีเหงื่อซึมเล็กน้อย
กรามแข็งของเขายังคงขบแน่น
เหมือนกำลังต่อสู้อยู่ในฝัน
เปลือกตากระตุกเบา ๆ ขณะที่เสียงอาจารย์ยังคงบรรยายอยู่ด้านหน้า
[ซิบ...ซิบ...]
เสื้อนักศึกษาสีขาวตรงช่วงไหล่ซ้ายเริ่มปรากฏรอยสีแดงจาง ๆ
เลือดจากแผลปะทะเมื่อเช้าเริ่มซึมออก
แผลที่โดนเตะจาก Runner-07 ยังไม่ได้ทำแผลอย่างดี
เพื่อนข้าง ๆ เหลือบมองด้วยความตกใจ
“เห้ย…ธันวาไปฟัดกับอะไรมาเนี่ย แผลทะลุเสื้อเลย”
“ดูนั่นดิ…ถึงจะหลับ แต่ยังดูเท่เลยว่ะ มึงดูกรามดิ กัดแน่นเหมือนพยายามสู้กับอะไรสักอย่างในความฝัน”
บางคนหยิบมือถือขึ้นมาแอบถ่ายเบา ๆ
“จะลง Story ว่า #เพื่อนหล่อร้ายเงียบ”
อีกคนกระซิบ “เหมือนนักกล้ามในดราม่าเกาหลีอะ ตัวจริงยังแน่นกว่าในไอจีอีก”
เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังในห้อง
แต่ไม่มีใครกล้าแตะเขา เพราะถึงจะหลับ แต่รังสีบางอย่างจากตัวธันวา…มันแผ่ออกมา
เหมือนคนที่กลับมาจากสนามรบจริง ๆ
---
-
[Olympus Black HQ – ห้องควบคุมกลาง / เวลา 13:27 น.]
ภายในห้องสี่เหลี่ยมมืดสลัว มีเพียงแสงจากจอภาพหลายสิบจอสาดแสงสีฟ้าขาววาบไปทั่ว
จอแสดงภาพจากกล้องโดรนที่จับเหตุการณ์ในสนามกีฬาเช้านี้
กล้องหลายมุมเห็นเงาร่างล่ำ กล้ามโต ที่โจมตี Runner-07 จนพังพินาศ
เสียงคนทั้งห้องเงียบสนิท
จนกระทั่ง…
"ใคร…มันกล้าทำลายแผนล่อสายลับในสนามแข่งขัน!"
เสียงทุ้มต่ำ หนักแน่นจาก “โครโนส” หัวหน้า Olympus Black
ชายร่างสูงใหญ่ใส่สูทสีดำสนิท มีหน้ากากปิดตาข้างหนึ่งเหมือนเครื่องหมายแห่งการควบคุมเวลา
มือเขาฟาดโต๊ะกระจกจนร้าว
เลือดจากแผลเก่าบนหลังมือซึมผ่านผิว
แต่เขาไม่สน
"หาต้นตอของไอ้หมอนั่นให้เจอ—"
"มันไม่ใช่นักกีฬาในระบบของเรา ไม่มีบันทึก ไม่มีรหัสยีนดัดแปลง มันมาจากไหน!"
คนในห้องเริ่มเคลื่อนไหว พิมพ์โค้ดลงคอนโซล เร่งค้นหาข้อมูล
"ท่านครับ…กล้องสนามถูกเจาะช่วงเวลานั้น มีการบล็อกสัญญาณภายนอกไว้ชั่วขณะ เหมือนมืออาชีพ"
"สแกนโครงสร้างกล้ามเนื้อจากภาพ — เปรียบเทียบกับนักมวยในระบบพาณิชย์และสมัครเล่นทุกคนในไทย!"
โครโนสบีบมือแน่น ขนตามแขนลุกชันด้วยความโกรธ
"ใครก็ตามที่มันเป็น...มันรู้แล้วว่าเรากำลังทำอะไร"
เขาหันไปหาชายคนหนึ่งที่ยืนเงียบในมุมมืดของห้อง
“ยูนิต ...นายแฝงตัวอยู่ในสถาบันการศึกษาใช่มั้ย? ถ้างั้นฉันมีภารกิจให้”
เงาร่างสูงในชุดเสื้อนักศึกษาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น
แววตาดูเย็นชา…แต่ริมฝีปากยกยิ้มมุมปากเพียงนิด
"เข้าใจครับ...จะดูแลเรื่องนี้ให้ใกล้ชิด—มากกว่าที่พวกคุณคิด"
Olympus Black – องค์กรเงาครองกีฬาไทย
Olympus Black ไม่ใช่แค่กลุ่มใต้ดิน แต่คือ “จักรวาลแห่งการควบคุมกีฬา”
พวกเขาสร้างเครือข่ายที่ครอบคลุมตั้งแต่
แล็บลับผลิตยาและสารกระตุ้น
ฝ่ายเทคโนโลยีที่ดัดแปลงร่างกายนักกีฬาให้เหนือมนุษย์
แผนกควบคุมสื่อและข้อมูลกีฬาทุกระดับ
หน่วยข่าวกรองในสถาบันการศึกษาทุกแห่ง
กองทัพกีฬาเถื่อน ที่แต่ละคนคือหัวหน้ากีฬาที่ Captain Muay Thai ต้องเจอ
---
20 หัวหน้าสายกีฬา – กองทัพของ Olympus Black
1. Ares-X (มวยสากล)
พลังต่อสู้: หมัดช็อกคลื่นพลังทะลุกระดูก, โหมดคลั่งเมื่อเจ็บ
จุดเด่นทำลาย: พังเกราะหรือสนามได้ด้วยหมัดเดียว, ทำลายการป้องกันทุกแบบ
2. Vulcan (มวยปล้ำ)
พลังต่อสู้: แรงกด 3 ตันต่อการล็อก, กระดูกเสริมโลหะ
จุดเด่นทำลาย: ทำลายโครงสร้างร่างกาย, ล็อกแล้วหลบไม่ได้
3. Helios (ฟุตบอล)
พลังต่อสู้: เตะคลื่นกระแทกอากาศ, ลูกบอลเป็นอาวุธระเบิดแรงเฉื่อย
จุดเด่นทำลาย: ทำลายวงกว้าง, ควบคุมฝูงชนผ่านพลังสนาม
4. Centaur Dunk (บาสเกตบอล)
พลังต่อสู้: กระโดดสูง 4 เมตรพร้อมชาร์จแรงกระแทก
จุดเด่นทำลาย: ทำลายพื้นสนาม, กระแทกทำลายเส้นประสาท
5. Poseidra (ว่ายน้ำ)
พลังต่อสู้: แรงดันน้ำในร่างกายอัดกระแทก, หายใจในทุกสภาพ
จุดเด่นทำลาย: สร้างแรงระเบิดจากหยดน้ำ, บุกใต้น้ำลอบสังหาร
6. Nike Queen (กรีฑา)
พลังต่อสู้: เร่งสปีดทะลุมิติ, เตะกระแทกความเร็วเหนือเสียง
จุดเด่นทำลาย: พุ่งผ่านวัตถุใดก็ได้, ทะลวงกำแพงเป็นเส้นตรง
7. Titania (ยิมนาสติก)
พลังต่อสู้: บิดตัวหลบทุกโจมตี, เตะจากทุกมุมที่เป็นไปไม่ได้
จุดเด่นทำลาย: ทำลายสมดุล, โจมตีต่อเนื่องจนระบบประสาทรวน
8. Skadi (ยิงปืน)
พลังต่อสู้: ยิงวิถีแม่น 100%, กระสุนปรับอุณหภูมิเป้าหมาย
จุดเด่นทำลาย: เจาะเกราะ, สกัดเป้าหมายจากระยะไกล
9. Hawkeye-82 (ยิงธนู)
พลังต่อสู้: ธนูควบคุมทิศทาง, สร้างสนามแม่เหล็กรอบลูกธนู
จุดเด่นทำลาย: ล็อกเป้าหมายทะลุสิ่งกีดขวาง, คิลล์แบบไร้เสียง
10. Swing Phantom (เทนนิส)
พลังต่อสู้: หวดลูกพลังคลื่นกระแทก, ลูกเด้งกลับอัตโนมัติ
จุดเด่นทำลาย: ควบคุมแรงสั่นสะเทือน, หวดทำลายโครงสร้างสนาม
11. Feather Ghost (แบดมินตัน)
พลังต่อสู้: เปลี่ยนความเร็วลูกได้กลางอากาศ, ปล่อยพลังคลื่นแรงดึง
จุดเด่นทำลาย: ก่อกวนระบบการเคลื่อนไหว, ทำลายสมดุลศัตรู
12. White Fang (เทควันโด)
พลังต่อสู้: เตะหมุน 720° แรงคลื่น, เตะได้หลายเป้าพร้อมกัน
จุดเด่นทำลาย: ทำลายจุดตาย, ล้มระบบประสาทส่วนกลาง
13. Jin Gado (คาราเต้)
พลังต่อสู้: ต่อยมวลอัดคลื่นพลัง, ป้องกันด้วยฝ่ามือเดียว
จุดเด่นทำลาย: ช็อกระบบหัวใจชั่วขณะ, ปิดชีพจรแบบศิลป์โบราณ
14. Tri-Pulse (ไตรกีฬา)
พลังต่อสู้: สลับพลัง 3 โหมดทันที: ว่าย-วิ่ง-ปั่น
จุดเด่นทำลาย: บุกเร็วไม่หยุด, ล้มแผนต่อสู้ระยะยาว
15. Black Knees (มวยไทยเทียม)
พลังต่อสู้: เข่าเสริมเหล็ก, ศอกไฟฟ้า
จุดเด่นทำลาย: ทำลายเกียรติมวยไทย, ล้างระบบการต่อสู้ต้นฉบับ
16. Velox (จักรยาน)
พลังต่อสู้: ปั่นสร้างคลื่นพายุ, ล้อมศัตรูด้วยแรงเหวี่ยง
จุดเด่นทำลาย: ทำลายระยะไล่ตาม, ควบคุมภูมิประเทศ
17. Hollow Runner (มาราธอน)
พลังต่อสู้: ร่างวิ่งไร้เสียง, สะสมแรงวิ่งปล่อยในทีเดียว
จุดเด่นทำลาย: ทำลายอุปกรณ์-กำแพงแบบพุ่งทะลุ
18. Red Widow (มวยหญิง)
พลังต่อสู้: กำปั้นตามอารมณ์, ความโกรธเพิ่มแรงโจมตี
จุดเด่นทำลาย: จิตสังหารที่สะสมได้, พลังจิตคุมหมู่
19. Ctrl-Virus (อีสปอร์ต)
พลังต่อสู้: เจาะระบบประสาทศัตรู, รบกวนสมองผ่านคลื่นภาพ
จุดเด่นทำลาย: ปั่นจิต, สั่งให้เห็นภาพลวงหลอก
20. Glacia (ไอซ์สเก็ต)
พลังต่อสู้: พลังเยือกแข็งปล่อยจากปลายใบมีด, เลื่อนไร้เสียง
จุดเด่นทำลาย: แช่แข็งสนาม, หยุดการเคลื่อนไหวแบบไม่รู้ตัว
---
-
ตอนที่ 8
[17:42 น. – ค่ายมวยครูวิชิต / เย็นวันหนึ่งที่ฟ้าหม่น]
เสียงกระสอบทรายสั่นสะเทือนเป็นจังหวะ
กลิ่นเหงื่อ กลิ่นผ้าพันมือเก่า ๆ และฝุ่นในค่ายมวยลอยปนกันในอากาศ
“ปั้ก! ปั้ก! ปั้ก!”
เสียงหมัดกระแทกซ้าย–ขวา–ศอกตามด้วยเข่าเต็มแรง
ธันวา ศาสตรา อยู่ในท่อนล่างแค่กางเกงมวยไทยสีแดง
ร่างแน่น กล้ามเนื้อเป็นลอนเปียกชุ่ม ขนหน้าอกแนบกับผิว
ผ้าพันมือสีซีดจากการซ้อมหลายปีรัดแน่นรอบข้อมือ
ครูวิชิต ยืนอยู่ข้าง ๆ ถือเป้าซ้อม
ชายวัยกลางคนร่างผอมแต่ออร่าดุดัน
สายตาคมที่ผ่านศึกทั้งในและนอกสังเวียนมาไม่รู้กี่ปี
เขาไม่พูดมาก แต่ทุกคำพูดหนักแน่นเหมือนหมัดลั่นเป้า
“ธันวา ถ้าเหนื่อยก็ซ้อมให้หนักขึ้น—ไม่งั้นแพ้พวกมัน”
ธันวาขบกรามแน่น ตาแข็ง
“ผมไม่ยอมให้พวกมันควบคุมกีฬาไทยแน่…แม้แต่สายกางเกงมวยผืนเดียว”
เสียงหอบของเขาผสมกับเสียงเป้ากระแทก
---
[19:18 น. – หลังซ้อมรอบแรก]
เด็กในค่ายทยอยอาบน้ำ กินข้าว แต่ธัวยังไม่หยุด
เขาอยู่ลำพังในลานทรายซ้อมเตะลม ขาเปลือยมีรอยช้ำจาง ๆ
เหงื่อหยดจากคางลงหน้าอกเป็นสาย
เขาเปลี่ยนผ้าพันมือเป็นผืนสีแดงเข้มพิเศษที่เก็บไว้ในถุงผ้า
มันวาว แฝงพลังบางอย่าง…
“คืนนี้… Swing Phantom มันจะมาที่สนามเทนนิส”
“แต่ฉันจะอยู่ก่อนมัน…ในเงา”
---
[20:07 น. – ค่ายเงียบ เหลือแค่แสงจากไฟเสาเก่า ๆ]
ธันวานั่งอยู่หน้าเวทีชกมวย
เขาไม่ได้พูดกับใคร แค่หลับตา สูดลมหายใจ
เสียงลมพัดผ่านกับเสียงไฟสว่างกริบ
เงาร่างของเขาค่อย ๆ ลุกขึ้น ก้าวไปในความมืด
ไม่มีเสียง ไม่มีเครื่องแบบ
มีแค่ร่างนักมวยเปลือยอกที่กล้ามตึง กลิ่นเหงื่อ และใจที่ไม่เคยยอมแพ้
คืนนี้...กัปตันมวยไทยจะล่าเงาเงียบของ Olympus Black
---
-
ตอนที่ 10
[21:13 น. – สนามเทนนิสโรงเรียนกีฬาแห่งหนึ่ง / ไฟสนามเปิดสว่างจ้า]
เสียงลูกเทนนิสดีดออกจากพื้นด้วยแรงประหลาด
ปึ้งงง!! พื้นสั่นสะเทือนเป็นวง
ตาข่ายกลางสนามปลิวจากแรงกระแทก
พื้นปูนแตกร้าวตรงจุดที่ลูกกระทบ
กลางสนามนั้น ยืนอยู่ชายคนหนึ่ง—หุ่นสูงโปร่ง ใส่เสื้อเทนนิสสีขาวสะอาด
Swing Phantom ยืนอยู่ด้วยแววตาเรียบนิ่ง มีไม้เทนนิสพลังพิเศษในมือ
ลูกเทนนิสลอยรอบตัวเขาอย่างกับวิญญาณวงโคจร
“คืนนี้ไม่มีการแข่งขัน…มีแค่การทำลาย”
เขาหวดลูกออกไป—แรงกระแทกสั่นไปถึงรั้วเหล็กรอบสนาม
ฟิ้วววววว—ปั้ก!!
ลูกกระเด้งกลับเองราวกับมีชีวิต
ทำลายกำแพงปูนอีกด้านของสนามทันที
---
[อีกด้าน – เงามืดข้างตู้ไฟสนาม]
Captain Muay Thai ยืนเปลือยอกในกางเกง Spandex สีแดงแนบเนื้อ
กล้ามอกกระเพื่อมเบา ๆ จากแรงหอบ
ผ้าพันมือแดงส่องแสงจาง ๆ จากพลังที่เก็บสะสม
ขนหน้าอกเปียกชื้น แต่ร่างยังไม่ไหวเอน
“สนามนี้ไม่ควรเป็นของพวกแก…”
เขากระโจนเข้าสนามกลางแสงไฟ
---
[การต่อสู้เริ่มต้น – ยาก ลำบาก หายใจแทบไม่ทัน]
Swing Phantom หวดลูกด้วยความเร็วเหนือเสียง
ลูกเทนนิสหมุนเป็นพายุอัดเข้าใส่ Captain Muay Thai
ปึ้ง! ปึ้ง! ปั้ก!
ลูกกระแทกเข้ากล้ามแขนซ้ายจนเนื้อแตก
อีกลูกซัดเข้าชายโครง—ธันวาทรุดลงทันที
“อึก…แม่งเร็วเกินไป…”
เขาพยายามพุ่งเข้าหาศัตรู แต่ทุกครั้งที่เข้าระยะ ลูกเทนนิสจะดีดกลับเอง
เหมือนสนามทั้งสนามเป็นส่วนหนึ่งของอาวุธ
พื้นสนามเริ่มสั่นแรงขึ้น
Swing Phantom หวดลูกลงพื้นแล้วสะท้อนพลัง “คลื่นสะเทือน”
จนพื้นระเบิดกระเด็นใส่ธันวาอีกครั้ง
กล้ามหน้าท้องแน่น ๆ ของเขารับแรงกระแทกเต็มที่ แต่เลือดเริ่มไหลจากมุมปาก
"แค่หมัดกับศอกมันไม่พอแล้วเว้ย...สนามมันเป็นอาวุธของมัน!"
---
ธันวาหลับตา กำมือแน่น
เสียงในหัวก้องขึ้น—เสียงเชียร์จากคนดูที่ไม่มีอยู่จริง
แต่กางเกง Spandex เริ่มเรืองแสง
พลังเสียงเชียร์เสมือนถูกแปลงเป็นเกราะบาง ๆ รอบตัวเขา
“อย่าลืม…มึงไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง”
---
Captain Muay Thai หอบแรง กล้ามแน่นเต็มตัวสั่นสะท้าน
รอยช้ำกระจายเต็มแขนและลำตัว
ขนหน้าอกเปียกโชกจากเหงื่อและเลือด
แสงจากเกราะพลังเสียงเชียร์เริ่มมอดลง
“แฮ่ก…แม่ง…เร็วเกินไป…”
เขากระโดดพุ่งเข้าอีกครั้ง พุ่งเข้าไประยะประชิด
“ศอกหมุน—!!”
ปั้ก!!
Swing Phantom หวดลูกสวนใส่ท้องเต็มแรง
ร่างของธันวาลอยกระแทกไปไกล 6 เมตร ฟาดเข้ากับรั้วสนาม
เปรี๊ยะ!!
รั้วเหล็กบิดงอ
Captain ทรุดลงกับพื้น กล้ามหน้าท้องหดเกร็ง
เลือดไหลจากมุมปากและหน้าผาก
เขาพยายามจะลุก
แต่มือที่เคยหนักแน่นเริ่มสั่น
ขาไม่ขยับตามใจ
[21:31 น. – กลางสนามเทนนิส / ความเงียบที่เจ็บปวด]
Captain Muay Thai หอบหายใจแรง เหงื่ออาบทั้งหน้าอก ขนหน้าอกเกาะเป็นเส้นเปียกแนบแน่น
กล้ามหน้าท้องกระตุกเพราะแรงกระแทกหลายจุด
รอยฟกช้ำเต็มช่วงลำตัว แขนข้างขวาเริ่มยกไม่ขึ้น
Swing Phantom ยืนอยู่อีกฝั่งของสนาม สีหน้ายังคงนิ่งไร้อารมณ์
ลูกเทนนิสใหม่กระเด้งขึ้นในมือเหมือนมีชีวิต
“กับตันมวยไทย…ขี้อวดนัก”
“ฉันจะหวดให้มึงจำไปถึงจิตวิญญาณมวยไทยของมึงเลย”
เขาหวดลูกด้วยความเร็วเหนือเสียง
ลูกพุ่งทะลุกระแสอากาศ แหวกแนวเสียง
เปรี้ยง!!!
กระแทกเข้าที่ต้นขาขวาเต็มแรง!
เสียงเนื้อกระทบลูกบอลดังสะท้าน
กัปตันทรุดลงทันที!
กล้ามขาเกร็ง
“อ๊ากก!!” เขากัดฟันเสียงดัง เส้นเลือดที่คอปูดชัด
---
[21:34 น.]
Swing Phantom ไม่หยุด
เขาหวดอีกลูก พุ่งมาตรงกลางลำตัวด้วยมุมที่แม่นยำราวกับคำนวณมาแล้ว
เป้ากลางกางเกง Spandex สีแดงที่แนบชิดกับร่างกาย
โดนลูกเทนนิสกระแทกเข้าไปเต็มแรง!!
“อึก...อ๊าาาาาาา!!”
Captain Muay Thai โค้งตัวแทบทันที
มือจับเป้ากางเกงอย่างอัตโนมัติ
ขาอ่อนจนล้มลงไปนั่งกับพื้น
ดวงตาเบิกกว้าง น้ำตาแทบไหลออกมาเพราะแรงเจ็บที่ยากจะบรรยาย
ไม่ใช่แค่เจ็บ…แต่มันคือความอัปยศที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเจอในสนาม
เสียงลูกเทนนิสกระเด้งกลับมาอัตโนมัติ
Swing Phantom รับไว้แล้วหมุนไม้เล่นอย่างช้า ๆ เหมือนนักเชือดที่ใจเย็น
“ตรงนั้นน่ะ…ก็เป็นแหล่งพลังของนายไม่ใช่เหรอ?”
“อยากปล่อยออกมาเลยมั้ยล่ะ…ฉันช่วยให้ก็ได้นะ”
---
Captain Muay Thai พยายามยันตัวขึ้น
แม้ดวงตาจะพร่า กล้ามท้องกระตุกไม่หยุด
เขายกมือข้างหนึ่งขึ้น…แต่มือกลับสั่นจนควบคุมไม่ได้
ขนหน้าอกเขากระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจ กล้ามแน่นเหมือนกำลังจะพัง
ความร้อนจากความอับอายในกางเกงแนบเนื้อ—ทำให้เขาหายใจไม่ออก
เขาอาจจะเคยล้มบนเวที
แต่ไม่เคยมีใคร…ตีเป้าเขาต่อหน้าฟ้าแบบนี้
---
[21:39 น.]
ลูกสุดท้ายถูกหวด
เปรี้ยง!!
โดนเข้าที่ท้องน้อยซ้ำอีกครั้ง
Captain Muay Thai สลบกลางสนาม
กล้ามเนื้อทั่วร่างเกร็งนิ่ง
ร่างแน่นเปื้อนเหงื่อและเลือดนิด ๆ ตามต้นขา
เป้าในกางเกง Spandex แนบชิดยังสั่นเบา ๆ จากอาการกระตุก
แต่สุดท้ายก่อนหมดสติ
Swing Phantom เดินเข้ามาช้า ๆ พร้อมลูกเทนนิสสุดท้ายในมือ
“เจ้ามวยบ้าน ๆ น่ะเหรอจะมาหยุดเราได้”
“จำเอาไว้…นี่คือพลังของ ‘กีฬาในมือเรา’!”
ลูกเทนนิสสุดท้ายถูกหวดเข้าที่พื้น
คลื่นสั่นสะเทือนกระแทกเข้าทั้งร่าง Captain Muay Thai
ร่างเขานอนนิ่ง…แสงพลังจางหาย
แปลงร่างสลาย กลายเป็น “ธันวา ศาสตรา” ที่ร่างกายเปลือยท่อนบน เหลือเพียงกางเกงวอร์มบาง ๆ
ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือกัปตัน
---
[22:01 น.]
Swing Phantom หายตัวไปในเงา
เบื้องหลังทิ้งไว้แค่สนามพัง ร่างชายหนุ่มกล้ามแน่นที่สลบแน่นิ่ง
แสงไฟสนามค่อย ๆ ดับลง เหลือเพียงเงาและเสียงจิ้งหรีด
ในความเงียบ…เสียงฝีเท้าจากเงามืดปรากฏ
ชายในชุดนักศึกษายืนมองร่างธันวาที่หมดสภาพ
สายตาเรียบนิ่ง…คือ ยูนิต
เขากระซิบเบา ๆ:
“มึง...ยังอ่อนเกินไป ถ้าจะมาสู้กับ Olympus Black”
-
ตอนที่ 11
[23:15 น. – ห้องสังเกตการณ์ Olympus Black / สถานที่ลับใต้ดิน]
จอภาพแสดงภาพสนามเทนนิสจากโดรนทุกมุม
กล้องอินฟราเรดจับอัตราเต้นหัวใจ
กล้องเสียงวิเคราะห์คลื่นสมอง
กล้องความร้อนจับจุดปล่อยพลังจากขนหน้าอก
ทุกจังหวะของการต่อสู้ระหว่าง Captain Muay Thai กับ Swing Phantom…ถูกบันทึกไว้หมด
บนจอ…ภาพสุดท้ายคือร่างของ “ธันวา” ที่หมดสภาพหลังแปลงร่างสลาย
กางเกงวอร์มเปียกเลือด กำปั้นร้าว เสื้อไม่มี
ใบหน้าเปื้อนเลือด และ—ตรงหน้าอก…รอยขนที่ซ้อนตำแหน่งกับ Captain Muay Thai เป๊ะ
---
[โครโนส – หัวหน้า Olympus Black เดินเข้ามาในห้อง]
เขาหยุดมองจอ แล้วพูดช้า ๆ
“เป้าหมายยืนยัน…ชื่อจริง ธันวา ศาสตรา ปี 3 มหาวิทยาลัยกีฬา”
“ข้อมูลชีวภาพ ตรงกับที่เราเก็บไว้จากการสแกนสนามเด็กเล่นเมื่อ 3 ปีก่อน”
ภาพธันวาตอนวัยรุ่นที่ซ้อมมวยในค่ายของครูวิชิต ปรากฏขึ้นอีกจอ
แม้ภาพจะเบลอ แต่กล้ามหน้าอกและไหล่เริ่มชัด
“เจ้าหนูนี่...แปลงร่างได้เพราะจิตวิญญาณมวยไทย แต่ก็ยังมีจุดอ่อนเหมือนคนธรรมดา…”
Swing Phantomยืนอยู่ในเงา มุมห้อง
เขาเงียบแต่ยิ้มเล็ก ๆ
“มันรอดคืนนี้เพราะเราปล่อยให้รอด”
“หมากตัวนี้ต้องถูกเลี้ยงให้อ่อนใจ ก่อนโดนกินในสนามใหญ่”
---
[ยูนิต – สายลับที่แฝงตัวอยู่ในมหา’ลัย]
เขายืนพิงผนังมืดในห้องเดียวกัน สวมชุดนักศึกษาแต่เต็มไปด้วยออร่าลึกลับ
ตาคมกริบไม่แสดงอารมณ์
“ให้ผมดูแลเขาเอง”
“ธันวาจะไม่รู้เลยว่า คนที่เขาไว้ใจที่สุด…คือคนที่ป้อนข้อมูลให้ Olympus Black มาตลอด”
โครโนสหันไปมอง พร้อมรอยยิ้มช้า ๆ
“ดี…ยูนิต นายจะกลายเป็นดาบที่เสียบกลางอกกัปตัน โดยที่เขายังเรียกนายว่าเพื่อนอยู่”
---
-
ตอนที่ 12 ขโมย
[เวลา 03:22 น. – ห้องพักของยูนิต / แสงไฟสลัว สีขาวนวล]
ร่างเปลือยท่อนบนของ ธันวา นอนหลับแน่นิ่งบนเตียง
แผงอกเต็ม กล้ามแน่นยังมีรอยช้ำจากการสู้เมื่อคืน
ขนหน้าอกหนาแนบกับผิวเปียก
กางเกงวอร์มบางแนบลำตัวจากเหงื่อที่ยังชื้นไม่แห้ง
เขาหลับด้วยความอ่อนล้า…แต่ไม่รู้เลยว่าความลับภายในร่างกายเขากำลังถูก ขโมย
---
ยูนิต ยืนอยู่ข้างเตียง สวมถุงมือยางสีดำ
เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
ในมือลูบอุปกรณ์ดูดสารชีวภาพแบบไร้แผล เจาะจงไปยังจุดลับที่สุดของร่างกายมนุษย์
“ขอโทษนะธันวา…แต่ความลับในร่างกายนาย ไม่ได้เป็นของนายอีกต่อไป”
เสียงเครื่องทำงานเบา ๆ ขณะของเหลวขุ่นข้นอุ่น ๆ ถูกดูดเก็บอย่างแม่นยำ
ไม่มีร่องรอย…ไม่มีรอยช้ำ
มีเพียงร่างชายหนุ่มที่หลับใหลต่อไปใต้ผ้าห่มบาง
---
[เวลา 05:11 น. – Olympus Black Bio-Lab / ห้องวิเคราะห์ลับ]
หลอดตัวอย่างที่ติดแท็กว่า "Specimen #MTH-01 / DNA: Tanwa S."
ถูกวางบนแท่นตรวจระดับไมโครโมเลกุล
เจ้าหน้าที่ห้องแล็บหญิงในชุดขาว อ่านผลการสแกนอย่างตกตะลึง
“นี่มัน…อะไรกัน…”
ความเข้มข้นของอสุจิ: สูงกว่ามาตรฐานมนุษย์ 340%
ความแข็งแรงของตัวอสุจิ: 99.9% ไม่ผิดรูปร่าง
DNA: มีรหัสพิเศษที่ตรงกับ “สายพันธุ์นักสู้โบราณ”
ความสามารถในการเข้ากับการโคลนนิ่ง: สมบูรณ์เกือบ 100%
เสียงหัวหน้าทีมวิจัยตะโกนออกมา
“นี่คือแหล่งพลังต้นแบบที่เราตามหามาทั้งชีวิต!”
---
[ยูนิต ยืนเงียบอยู่หน้ากระจกห้องแล็บ]
เขาไม่ยิ้ม ไม่พูด
เพียงจ้องตัวอย่างนั้น…ก่อนพูดในใจ
“เขาคือพลังของโลกกีฬาใบนี้…แต่จะถูกกลั่นจนเหลือแค่สารพันธุกรรม”
“และฉันคือคนที่ตัดเขาให้ตกจากสวรรค์”
---
[เบื้องหลังความลับของ Olympus Black – แผน "จุดจบแห่งความหวัง"]
> “ถ้าทำลายหัวใจของฮีโร่ได้ ความหวังของโลกจะกลายเป็นเชื้อเพลิงของเรา”
– โครโนส
---
1. Captain Muay Thai = แหล่งพลังระดับสูงสุด
จากข้อมูลที่ Olympus Black เก็บมาหลายปี พวกเขาพบว่า
ร่างกายของ Captain Muay Thai มีคุณสมบัติพิเศษเหนือมนุษย์
เมื่อถูกบีบคั้นด้วยอารมณ์ทางเพศ ความเจ็บ ความรัก และความสิ้นหวัง
→ ร่างกายของเขาจะปล่อย พลังงานชีวภาพเข้มข้นระดับสูงที่สุดในโลก
โดยเฉพาะเมื่อ “อดกลั้นไม่ช่วยตัวเอง” จนครบ 7 วัน
→ ร่างกายจะค่อย ๆ กลั่น "ฮอร์โมนพิเศษ" ออกมา
→ หากถูก “บีบให้ปลดปล่อยอย่างรุนแรง” เช่นจากความเศร้า สิ้นหวัง หรืออารมณ์สูงสุด
→ จะได้พลังงานกลั่นระดับ Omega – ซึ่งใช้ผลิตกองทัพได้
---
2. แผนลับ: “Project 0 – Captain Drain”
Olympus Black ไม่ต้องการฆ่า Captain ทันที
แต่จะทำให้เขา เจ็บปวดครั้งละน้อย
แพ้ศัตรูทีละคน
รู้ว่าคนรอบตัวทรยศทีละคน
หมดศรัทธาในกีฬา
จนสุดท้าย เขาต้องระเบิดพลังออกเอง – ผ่านการช่วยตัวเองอย่างเต็มแรงในภาวะสิ้นหวัง
แล้ว Olympus จะใช้เทคโนโลยีดูดพลังออกจากจุดนั้นทั้งหมด
รวมถึง น้ำเชื้อที่เกิดจากการปล่อยนั้น
เพื่อใช้ใน การเพาะสร้างทหารกีฬารุ่นใหม่ ที่ไร้หัวใจแต่มีร่างแบบ Captain
---
3. ผลลัพธ์ที่ Olympus ต้องการ
ล้มจิตวิญญาณกีฬาทั้งโลก
ประกาศว่า “ไม่มีฮีโร่คนไหนรอดจากระบบของเราได้”
สร้าง “กองทัพแฝดของกัปตัน” ที่ไม่มีหัวใจ ไม่มีศีลธรรม มีแต่พลัง
→ พร้อมควบคุมทุกกีฬา ทุกชาติ ทุกสนาม
---
4. ยูนิต – คนที่ต้องผลัก Captain ให้ไปถึงจุดสิ้นหวัง
ยูนิต…คือมีดที่ต้องกรีดหัวใจของธันวาทีละน้อย
ไม่ใช่ด้วยการแทง…แต่ด้วย “การอยู่ใกล้”
ให้ความหวัง ให้อ้อมกอด
ก่อนค่อย ๆ ทอดทิ้งและเฝ้ามองตอนเขาแตกสลาย
---
-
ตอนที่ 12 ขโมย
[เวลา 03:22 น. – ห้องพักของยูนิต / แสงไฟสลัว สีขาวนวล]
ร่างเปลือยท่อนบนของ ธันวา นอนหลับแน่นิ่งบนเตียง
แผงอกเต็ม กล้ามแน่นยังมีรอยช้ำจากการสู้เมื่อคืน
ขนหน้าอกหนาแนบกับผิวเปียก
กางเกงวอร์มบางแนบลำตัวจากเหงื่อที่ยังชื้นไม่แห้ง
เขาหลับด้วยความอ่อนล้า…แต่ไม่รู้เลยว่าความลับภายในร่างกายเขากำลังถูก ขโมย
---
ยูนิต ยืนอยู่ข้างเตียง สวมถุงมือยางสีดำ
เขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
ในมือลูบอุปกรณ์ดูดสารชีวภาพแบบไร้แผล เจาะจงไปยังจุดลับที่สุดของร่างกายมนุษย์
“ขอโทษนะธันวา…แต่ความลับในร่างกายนาย ไม่ได้เป็นของนายอีกต่อไป”
เสียงเครื่องทำงานเบา ๆ ขณะของเหลวขุ่นข้นอุ่น ๆ ถูกดูดเก็บอย่างแม่นยำ
ไม่มีร่องรอย…ไม่มีรอยช้ำ
มีเพียงร่างชายหนุ่มที่หลับใหลต่อไปใต้ผ้าห่มบาง
---
[เวลา 05:11 น. – Olympus Black Bio-Lab / ห้องวิเคราะห์ลับ]
หลอดตัวอย่างที่ติดแท็กว่า "Specimen #MTH-01 / DNA: Tanwa S."
ถูกวางบนแท่นตรวจระดับไมโครโมเลกุล
เจ้าหน้าที่ห้องแล็บหญิงในชุดขาว อ่านผลการสแกนอย่างตกตะลึง
“นี่มัน…อะไรกัน…”
ความเข้มข้นของอสุจิ: สูงกว่ามาตรฐานมนุษย์ 340%
ความแข็งแรงของตัวอสุจิ: 99.9% ไม่ผิดรูปร่าง
DNA: มีรหัสพิเศษที่ตรงกับ “สายพันธุ์นักสู้โบราณ”
ความสามารถในการเข้ากับการโคลนนิ่ง: สมบูรณ์เกือบ 100%
เสียงหัวหน้าทีมวิจัยตะโกนออกมา
“นี่คือแหล่งพลังต้นแบบที่เราตามหามาทั้งชีวิต!”
---
[ยูนิต ยืนเงียบอยู่หน้ากระจกห้องแล็บ]
เขาไม่ยิ้ม ไม่พูด
เพียงจ้องตัวอย่างนั้น…ก่อนพูดในใจ
“เขาคือพลังของโลกกีฬาใบนี้…แต่จะถูกกลั่นจนเหลือแค่สารพันธุกรรม”
“และฉันคือคนที่ตัดเขาให้ตกจากสวรรค์”
---
[เบื้องหลังความลับของ Olympus Black – แผน "จุดจบแห่งความหวัง"]
> “ถ้าทำลายหัวใจของฮีโร่ได้ ความหวังของโลกจะกลายเป็นเชื้อเพลิงของเรา”
– โครโนส
---
1. Captain Muay Thai = แหล่งพลังระดับสูงสุด
จากข้อมูลที่ Olympus Black เก็บมาหลายปี พวกเขาพบว่า
ร่างกายของ Captain Muay Thai มีคุณสมบัติพิเศษเหนือมนุษย์
เมื่อถูกบีบคั้นด้วยอารมณ์ทางเพศ ความเจ็บ ความรัก และความสิ้นหวัง
→ ร่างกายของเขาจะปล่อย พลังงานชีวภาพเข้มข้นระดับสูงที่สุดในโลก
โดยเฉพาะเมื่อ “อดกลั้นไม่ช่วยตัวเอง” จนครบ 7 วัน
→ ร่างกายจะค่อย ๆ กลั่น "ฮอร์โมนพิเศษ" ออกมา
→ หากถูก “บีบให้ปลดปล่อยอย่างรุนแรง” เช่นจากความเศร้า สิ้นหวัง หรืออารมณ์สูงสุด
→ จะได้พลังงานกลั่นระดับ Omega – ซึ่งใช้ผลิตกองทัพได้
---
2. แผนลับ: “Project 0 – Captain Drain”
Olympus Black ไม่ต้องการฆ่า Captain ทันที
แต่จะทำให้เขา เจ็บปวดครั้งละน้อย
แพ้ศัตรูทีละคน
รู้ว่าคนรอบตัวทรยศทีละคน
หมดศรัทธาในกีฬา
จนสุดท้าย เขาต้องระเบิดพลังออกเอง – ผ่านการช่วยตัวเองอย่างเต็มแรงในภาวะสิ้นหวัง
แล้ว Olympus จะใช้เทคโนโลยีดูดพลังออกจากจุดนั้นทั้งหมด
รวมถึง น้ำเชื้อที่เกิดจากการปล่อยนั้น
เพื่อใช้ใน การเพาะสร้างทหารกีฬารุ่นใหม่ ที่ไร้หัวใจแต่มีร่างแบบ Captain
---
3. ผลลัพธ์ที่ Olympus ต้องการ
ล้มจิตวิญญาณกีฬาทั้งโลก
ประกาศว่า “ไม่มีฮีโร่คนไหนรอดจากระบบของเราได้”
สร้าง “กองทัพแฝดของกัปตัน” ที่ไม่มีหัวใจ ไม่มีศีลธรรม มีแต่พลัง
→ พร้อมควบคุมทุกกีฬา ทุกชาติ ทุกสนาม
---
4. ยูนิต – คนที่ต้องผลัก Captain ให้ไปถึงจุดสิ้นหวัง
ยูนิต…คือมีดที่ต้องกรีดหัวใจของธันวาทีละน้อย
ไม่ใช่ด้วยการแทง…แต่ด้วย “การอยู่ใกล้”
ให้ความหวัง ให้อ้อมกอด
ก่อนค่อย ๆ ทอดทิ้งและเฝ้ามองตอนเขาแตกสลาย
---
[06:43 น. – แสงเช้าสาดผ่านม่านในห้องของยูนิต]
ร่างของ ธันวา ขยับเล็กน้อย
กล้ามแน่นเต็มตัวเปลือยท่อนบนเผยให้เห็นรอยช้ำกระจายทั่ว
ขนหน้าอกแห้งติดตัวตามเหงื่อเมื่อคืน
กล้ามหน้าท้องตึง แขนซ้ายเจ็บจนขยับไม่ได้
เขาค่อย ๆ ลืมตา
เบลออยู่พักหนึ่ง ก่อนจะมองไปรอบห้อง—ไม่คุ้น
กลิ่นสะอาดของผ้าห่ม
แอร์เย็น ๆ
ห้องเงียบ
ไฟในห้องปิด มีเพียงแสงเช้าจากหน้าต่าง
ธันวา: “ที่นี่…ห้องใครวะ…”
สายตาเขาหันไปอีกมุม
ยูนิต นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียง เสื้อยืดสีเทาเรียบ ๆ ไหล่กว้างพิงกำแพง หน้าตานิ่ง
ยูนิต (ตอบเรียบ ๆ): “ห้องฉัน”
ธันวาหรี่ตา หายใจแรง
กล้ามขาเกร็งเล็กน้อยเพราะยังระบม
“แล้ว…ทำไมฉันมานอนอยู่ที่นี่?”
ยูนิตขยับตัวเล็กน้อย เอาแขนพาดพนักพิง
สบตากับธันวาแล้วพูดด้วยเสียงราบ
“เมื่อคืนฉันเดินผ่านสนามเทนนิส เห็นนาย…นอนแก้ผ้าอยู่คนเดียว”
“แผลเต็มตัว ตัวแดงทั้งตัว เหมือนโดนรถชนมา...”
“เลยอุ้มกลับมาเอง”
ธันวาเงียบไปพักหนึ่ง
ไม่ถามต่อว่า ทำไมยูนิตไปสนามเทนนิสตอนดึก
ไม่สงสัยว่า เขาอยู่ในสภาพนั้นได้ยังไง
เขาแค่มองยูนิตด้วยแววตานิ่ง ๆ
“…ขอบใจนะ”
เสียงแผ่วเบา เจือความเจ็บปวดในลำคอ
---
ยูนิตลุกขึ้น เดินไปหยิบเสื้อยืดสีขาวของธันวาที่พาดตากไว้
ส่งให้โดยไม่พูดอะไร
ธันวารับไว้ มือยังสั่นนิด ๆ
เสื้อแนบอกกล้ามแน่นที่เต็มไปด้วยรอย
-
ตอนที่ 13
[08:22 น. – หน้าห้องน้ำรวมในหอพักนักกีฬา]
เสียงน้ำหยดลงพื้นปูน
ธันวายืนหน้ากระจก เปลือยท่อนบน
กล้ามเนื้อยังแน่น…แต่มีกล้ามช้ำจุดใหญ่บริเวณชายโครง ซี่โครงล่าง และขาในขวา
โดยเฉพาะเป้ากลางกางเกงวอร์ม ยังปวดลึกจากลูกเทนนิสเมื่อคืน
ขนหน้าอกแนบผิว
ดวงตาเขาดูอ่อนล้าแต่ยังแข็ง
เขาหายใจเข้าช้า ๆ แล้วกัดฟันแน่น
“จะถอยไม่ได้…ถ้าฉันไม่ขึ้นเวที ครูวิชิตจะไม่มีเงินค่ายมวยเลี้ยงเด็กคนอื่น”
เขาคว้าเสื้อยืดมาใส่ช้า ๆ ราวกับแต่ละนิ้วกำลังฝืนทุกกล้ามเนื้อ
แล้วหยิบกางเกงมวยไทยสีเลือดหมูของตัวเอง…ใส่ทับกางเกงวอร์ม
แม้จะเจ็บ แต่เขา “ต้องทำเหมือนไม่เจ็บ”
---
[08:57 น. – สนามมวยเวทีลุมพินี / จุดชั่งน้ำหนัก รุ่น 85 กิโลกรัม]
นักมวยหลายคนในห้องชั่งน้ำหนักมองมาที่ธันวา
ด้วยสายตาแบบ “เอาแน่เหรอ?”
เพราะร่างเขาใหญ่—ไหล่กว้าง กล้ามอกเต็มแน่นเหมือนนักเพาะกาย
แต่ก็มีรอยฟกช้ำแต้มทั่วตัว
แววตาดูนิ่งแต่แอบหม่น
เสียงประกาศดังขึ้น
“นักมวยสายแดง...ธันวา ศาสตรา ขึ้นชั่งได้เลย!”
เขาถอดเสื้อ
ทั้งห้องเงียบวูบลงครู่หนึ่ง
ร่างกายของเขาใหญ่กว่าใครในห้อง
กล้ามเนื้อทุกส่วนถูกฝึกมาอย่างเข้ม
ขนหน้าอกดก เรียงแน่นแนบผิว
กางเกงมวยสีเลือดหมูตึงแน่นรอบสะโพกใหญ่
แต่รอยฟกช้ำใต้ชายโครงและต้นขาในขวาชัดเจนจนนักมวยบางคนขมวดคิ้ว
เขาขึ้นเครื่องชั่ง…
“85.0 กิโลพอดี”
กรรมการพยักหน้า
แต่โค้ชคู่แข่งแอบกระซิบลูกทีม
“ดูมันดิ…ร่างใหญ่ก็จริง แต่สีหน้าแม่งล้า เหมือนโดนซ้อมมาก่อนมาอีกที”
---
ธันวาลงจากเครื่องชั่ง
หยิบเสื้อขึ้นมาคลุม ไม่พูดอะไร
หลังเปียกเหงื่อทั้งที่ยังเช้า
แต่ในใจคือ…ไฟที่ยังไม่ยอมดับ แม้กล้ามเนื้อจะร้องว่า พอแล้ว
[09:44 น. – ห้องพักนักมวย / หลังชั่งน้ำหนัก]
กลิ่นน้ำมันมวย ยาหม่อง ผ้าพันมือใหม่ ๆ ลอยอวลอยู่ในอากาศ
ธันวานั่งพิงผนัง เหงื่อเริ่มซึมออกจากผิว
เขายกมือขึ้นพันผ้าเอง ช้า ๆ
แต่ในใจ…
“มันแปลก…เหมือนร่างกายแม่งเบากว่าทุกที”
กล้ามเนื้อขาในกระตุก
ชายโครงซ้ายยังระบม
และ…เป้าในกางเกงมวย
รู้สึกโล่งวูบ…เหมือนพลังหายไปจากตรงนั้น
เขาหลับตา
หายใจเข้าลึก
ภาพจำจากเมื่อคืนซ้อนเข้ามาในหัว—แม้จะหลับสนิท แต่มีอะไรบางอย่างที่รู้สึกได้
เหมือนโดนดูดน้ำสำคัญออกจากตัว…
---
เสียงครูวิชิตดังขึ้นจากหน้าห้อง
“ธันวา! เหลืออีก 20 นาที เตรียมให้พร้อม!”
ธันวาตอบ
“ครับครู…”
แต่เสียงเบากว่าทุกที
เขาลุกขึ้นช้า ๆ
เหงื่อไหลซึมจากแผ่นหลังทันที
ขาขวาสะอึกเล็กน้อย
แรงในร่าง…มันไม่ใช่แบบเดิมอีกแล้ว
---
“กูเหลือแค่หนึ่งในสาม…แต่ยังต้องขึ้นเวที”
“ไม่ใช่ในฐานะฮีโร่…แต่ในฐานะนักมวยไทย”
---
– ห้องพักหลังเวที / สักพักก่อนขึ้นชก]
ธันวานั่งพิงผนัง มือที่พันผ้าเริ่มคลายจากเหงื่อ
แผ่นหลังยังระบม แต่เขาต้องกดทับมันไว้
กล้ามท้องเกร็งเหมือนจะรับแรงจากการเตรียมตัว
แต่สิ่งที่เจ็บที่สุดกลับเป็น…
“ใส่กระจับเถอะพี่ธันวา…” เสียงของ น้องมวย คนหนึ่งที่เดินเข้ามาพร้อมกระจับมวยสีดำ
ธันวาเงยหน้าขึ้นมอง
กล้ามหน้าท้องขยับขึ้นลงจากลมหายใจที่หนักหน่วง
“ไม่ต้อง…ผมไม่ต้องการ...” เขาพูดเบา ๆ หันหน้าหนี
น้องมวยพยักหน้า และเริ่มเดินไปที่ข้างหลังเขา
“ไม่ใส่ไม่ได้…ถ้าไม่อยากเจ็บยิ่งกว่านี้ตอนชก”
ธันวากัดฟันแน่น พยายามลุกขึ้นยืน
ขาในขวากระตุก เขาหลับตา หยุดหายใจพักหนึ่ง
เขารู้ว่าทุกครั้งที่ต้องใส่กระจับ…มันหมายถึงการต้องทนเจ็บที่ จุดที่เขาไม่เคยให้ใครแตะต้อง
ร่างกายบาดเจ็บจากการชกหนัก แต่ยังต้องฝืนใส่กระจับที่คับแน่นเข้ามา—เหมือนโดนบีบจนหายใจไม่ออก
น้องมวยค่อย ๆ วางมือรอบข้างเอวของธันวาเพื่อใส่กระจับเข้าไป
“เดี๋ยว…ขอเวลาหน่อย…” ธันวาพูดเสียงสั่น เพราะเขารู้ว่าความเจ็บจาก “ความอับอาย” และการฝืนมันจะทำให้เขาแทบไม่สามารถขยับได้
กระจับถูกดันเข้าไปอย่างช้า ๆ ข้างในนั้น
เขารู้สึกเหมือนกล้ามเนื้อขาในและทุกส่วนของร่างกายเริ่มสะท้าน
“อย่าพึ่ง…อย่าทำรุนแรง…เจ็บ…”
เสียงของธันวากดเสียงต่ำจนแทบไม่ได้ยิน
แต่ในใจเขากลับบอกตัวเองว่า
“อย่าหยุด…อย่าร้อง…ต้องทำเหมือนปกติ…เหมือนเป็นมวยไทยธรรมดา…”
---
กระจับถูกจัดเรียบร้อย
ธันวายืนนิ่ง แขนขวาที่มีรอยบาดจากการต่อสู้เมื่อคืนแน่นเกร็ง
“พอแล้ว…ขอบใจ...”
น้อง ๆ คนอื่นในห้องยืนเงียบ เห็นธันวากัดฟันไม่ยอมพูดอะไรต่อ
แค่พยักหน้าและมองการเคลื่อนไหวของธันวา—ที่แม้จะเจ็บแต่ยังมีความมุ่งมั่น
---
[เสียงเรียกจากข้างนอก]
“ธันวา! ถึงคิวแล้ว!”
ธันวาไม่พูดอะไรอีก เขาเดินออกจากห้องมาอย่างช้า ๆ แม้แต่การยืน เดิน แต่ละย่างก้าวก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
เขามองไปข้างหน้า…
“มันจะต้องจบอย่างไรสักวัน...”
---