ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
วิฬาร์เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่จู่ๆก็ทราบว่าตัวเองเป็นพ่อมดและต้องเข้าเรียนในโรงเรียนเวทมนตร์ไทยพร้อมกับถูกหมายหัวจากจอมมารที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค แต่เหมือนกับมีปริศนาบางอย่างซ่อนเร้นอยู่ มันคืออะไรกันนะ?
อนันยช X วิฬาร์
ตระกูลรัตนเวทย์ถูกสาปด้วยคำสาปของจอมมารนามว่า "อนันตวิราช"
แต่มีเพียงทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลที่รอดชีวิต
เขามีนามว่า "วิฬาร์ รัตนเวทย์" เป็นความหวังของทุกคนในการโค่นล้มจอมมาร
ทว่า วิฬาร์ รัตนเวทย์ ถูกสาปไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่มีอายุได้ 19 ปี จอมมารจะมาสังหารเขา
และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในโลกเวทมนตร์ของวิฬาร์ ณ โรงเรียนสยามมนตราวิทยาคม
บทที่ 6 สยามมนตราวิทยาคม
ประตูไม้เปิดออกเผยให้เห็นพ่อมดร่างท้วมผมสีน้ำตาลแดงยืนกอดอกมองพวกเขาอยู่ด้วยสายตาที่คาดเดาอารมณ์ได้ยาก รอยแผลเป็นยาวลากผ่านจากคิ้วซ้ายของเขา ผ่านสันจมูกจนถึงคางขวา สร้างความรู้สึกหวาดเกรงปนสงสัยแก่ผู้พบเห็น
“พามาแล้วสินะ” พ่อมดชรากล่าว
“ครับ พึ่งมาถึงตะกี้นี้เอง” กนต์ธรรายงาน
“ขอบใจนายมาก” เขากล่าว “ยินดีที่ได้พบพวกเธอ ฉันศาสตราจารย์เลคดาฟเป็นอาจารย์ที่นี่ถึงจะยังไม่ถึงปีก็เถอะ” เลคดาฟเอ่ยขึ้น ก่อนจะมีเสียงจ๊อกแจ๊กจอแจของนักเรียนปีหนึ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“เป็นเขาจริงๆด้วย” รามเอ่ย
“ใครหรอ” วิฬาร์ถามอย่างสงสัย อย่าว่าเขาโง่เลยก็เขาไม่เคยรับรู้เรื่องภายนอกเลยนี่นา
“ประธานสมาคมพ่อมดบริสุทธิ์น่ะ เป็นสมาคมที่ต่อต้านพวกทายาทมรณะ ว่ากันว่าเขาเป็นพ่อมดที่แข็งแกร่งมากๆคนหนึ่งเลยล่ะ--ขาทั้งสองข้างของเขาสังเวยไปในสงครามเวทมนตร์ครั้งที่ 2 มิหนำซ้ำนิ้วชี้ขวาของเขาก็หายไปจนได้ไม้กายสิทธิ์มาไว้แทนนิ้วชี้เท่ห์สุดๆไปเลยล่ะ” รามเอ่ยบอกอย่างตื่นเต้น
จะว่าไปแล้วศาสตราจารย์เลคดาฟก็เท่ห์จริงๆนั่นแหละเพราะนิ้วชี้ข้างขวาของเขาไม่ใช่เนื้อหนัง แต่เป็นแท่งไม้สีดำสนิทประดับด้วยอักษรแปลกๆซึ่งเรืองแสงสีฟ้าอ่อน ดูเหมือนกับว่าเป็นไม้กายสิทธิ์ที่เขาสามารถควบคุมได้ดั่งอวัยวะหนึ่งในร่างกาย
“อะแฮ่ม--ดูเหมือนพวกเธอจะไม่รู้จักคำว่าเงียบนะ” เลคดาฟว่าเสียงดุ แล้วบรรยากาศก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง เขาเปิดประตูให้กว้างออกก่อนจะพานักเรียนใหม่เดินเข้าไปด้านใน วิฬาร์ได้ยินเสียงดังกระหึ่มราวกับคนเชียร์กีฬาอยู่ในห้องด้านหน้าที่ศาสตราจารย์เลคดาฟกำลังจะเปิดออกแต่เขาก็ชะงักไปก่อนจะหันมามองนักเรียนใหม่
“เกือบลืมไป--ยินดีต้อนรับพวกเธอสู่สยามมนตราวิทยาคม” ศาสตราจารย์เลคดาฟกล่าว วิฬาร์สังเกตเห็นว่าเขาส่งสายตาดุๆไปให้นักเรียนที่กำลังคุยกันอยู่ทางด้านหลังจนนักเรียนพวกนั้นรีบหยุดคุยในทันที “ก่อนที่เธอจะได้เรียนเธอจำเป็นต้องมีเรือนอยู่เสียก่อน--สยามมนตรามีเรือนมากถึง 5 หลัง แต่ละหลังจะมีความแตกต่างกันอยู่”
“เรือนหลังแรกคือ คชสีห์ นักเรียนในเรือนคชสีห์มักมีความเป็นผู้นำ กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยว พวกเขามีจิตใจหนักแน่น พร้อมที่จะเสียสละเพื่อส่วนรวม ในร่างกายมีเวทมนตร์ป้องกันและการต่อสู้ที่สูง เรือนหลังที่สองคือ เรือนกินนรี นักเรียนในเรือนนี้มีจินตนาการสูง และมักเป็นศิลปินหรือผู้คิดค้นสิ่งใหม่มีเสน่ห์ในตัวเอง เข้าใจความงดงามของเวทมนตร์ในรูปแบบที่ละเอียดอ่อน สายเลือดของพวกเขาจะมีเวทมนตร์เกี่ยวกับการรักษาและศิลปะที่สูงกว่าใคร” ศาสตราจารย์เลคดาฟพักหายใจครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“เรือนครุฑ นักเรียนในเรือนนี้มักมีพลังงานเหลือล้น เป็นนักสู้ที่ไม่ยอมแพ้ แม้จะดูน่าเกรงขาม แต่พวกเขามีความซื่อสัตย์ต่อคนที่รักและเคารพ นักเรียนในเรือนนี้จะมีเวทมนตร์โจมตีและการเสริมพลังที่สูงมาก ต่อไปคือ เรือนอัปสรสวรรค์ นักเรียนในเรือนนี้มักมีความเมตตา ใจเย็น และรอบคอบ พวกเขามีความเข้าใจผู้อื่นและมองเห็นความจริงได้ดี ถนัดในเรื่องของเวทมนตร์เกี่ยวกับจิตใจและการรักษาความสมดุล สุดท้ายคือ เรือนเหรา นักเรียนในเรือนเหรามักฉลาด เจ้าเล่ห์ และมีไหวพริบ พวกเขาเป็นนักวางแผนและสามารถแก้ปัญหายากๆ ได้อย่างชาญฉลาด เขาถนัดในเวทมนตร์แห่งภาพลวงตาและการควบคุม เรือนทั้งห้านี้จะสะท้อนถึงบุคลิกและความถนัดของพวกเธอ”
“เมื่อก่อนการที่จะให้พวกเธอไปประจำอยู่เรือนไหนนั้นมักใช้การสุ่ม จนกระทั่งสมัยอยุธยาของพวกมานพ เราได้พบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์พิธีหนึ่งทางพ่อมดจึงได้นำเอามาปรับใช้กับโลกเวทมนตร์เพื่อคัดเลือกพวกเธอเข้าสู่เรือน ขอให้อดใจรออีกสักหน่อยเดี๋ยวฉันมา” ศาสตราจารย์เลคดาฟกล่าวก่อนจะเดินเปิดประตูเข้าไปในห้องทิ้งให้นักเรียนทั้งหลายยืนงงกันเป็นแถบ
“นายว่าเขาจะคัดเลือกเรายังไงหรอ” รามกระซิบกระซาบถามเหมันต์
“พี่ชายฉันบอกว่า--ค่อนข้างเจ็บตัว บางครั้งให้นกแสกมาจิกไม่ก็จับเข้าเครื่องตัดหัวแต่ฉันว่านั่นเป็นเรื่องโกหก”
ราวกับหัวใจจะหลุดออกจากทรวง คัดเลือกเนี่ยนะ ตั้งแต่เกิดมานอกจากทำงานบ้านให้พวกมนตรี วิฬาร์ก็ไม่เคยทำอย่างอื่นเลยเสียด้วยซ้ำ เวทมนตร์น่ะหรืออย่าหวังเลยเขาไม่เคยร่ายคาถาเลยแม้แต่ครั้งเดียว บรรยากาศที่เงียบสงบเพราะความตื่นเต้นของเหล่านักเรียนทำให้ได้ยินเสียงทุกอย่างชัดเจนขึ้น ห้องด้านหน้าของพวกเขามีเสียงพูดคุยกันดังสนั่น ถ้าให้เดาคงจะเป็นพวกรุ่นพี่นั่นแหละ
เสียงประตูเปิดออกราวกับเสียงกระซิบของมัจจุราชที่จะพาวิฬาร์ไปสู่ความอับอายในอนาคตอันใกล้ ศาสตราจารย์เลคดาฟเดินออกมาพลางสอดส่ายสายตาไปทั่วอาณาบริเวณ
“จัดเครื่องแต่งกายให้ดี พิธีคัดเลือกจะเริ่มแล้ว” เสียงเลคดาฟดังขึ้น “ตามฉันมา จัดแถวให้ดีอย่าให้เขาเห็นว่าพวกเธอไร้ระเบียบวินัย”
วิฬาร์เดินตามหลังรามและเหมันต์ เวลานี้พวกเขากำลังเดินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ ให้ตายสินี่มันราวกับความฝัน วิฬาร์สาบานได้เลยว่าตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยเห็นสถานที่ไหนมีความสวยงามขนาดนี้มาก่อน โต๊ะยาว 5 โต๊ะมีลักษณะโค้งเป็นวงกลมมาบรรจบกัน แกะสลักด้วยลวดลายของสัตว์ถ้าจะให้เดาคงเป็นสัตว์ของเรือนนั่นแหละ เขาเห็นลวดลายครุฑด้วยล่ะ เพดานสูงตระหง่านจนไม่อาจทราบได้ว่าเขาจะขึ้นไปยังไง เทียนทั้งหลายส่องแสงสว่างจนหาจุดมืดไม่เจอ เบื้องหน้าของพวกเขามีคณาจารย์นั่งอยู่มากมายหนึ่งในนั้นคือ คุณกนต์ธร ศาสตราจารย์เลคดาฟมาพวกเขามาหยุดอยู่ตรงกลางนักเรียนนับร้อยที่กำลังมองมาที่เขาอย่างสนใจ
ศาสตราจารย์เลคดาฟเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าขั้นบันไดขั้นแรกซึ่งมันจะนำไปสู่แท่นพิธีอะไรบางอย่างที่มีลักษณะเป็นวงกลมมีลวดลายกนกตกแต่งอยู่ในวงกลมนั้น อีกทั้งยังมีแสงสีทองส่องสว่างอีกด้วย
“นี่คือแท่นศิลาเวทมนตร์--เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่กับเรามาเนิ่นนาน เมื่อใดก็ตามที่เธอเดินขึ้นมาด้านบนศิลา มันจะเผยเรือนที่เธอควรจะอยู่ให้เธอได้รู้เอง” ศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ย ก่อนที่เขาจะยกนิ้วชี้ขวาขึ้นมาร่ายคาถาบางอย่าง จากนั้นแก้วสีทองหลายใบก็ลอยละลิ่วมาเข้ามือนักเรียนปี 1 ทุกคน
“เพื่อให้เวทมนตร์ในร่างกายเธอมีความชัดเจนขึ้น--พวกเธอต้องดื่มน้ำสัตยเวทย์พิพัฒยคม1 เสียก่อนแม้รสชาติมันจะไม่น่าอภิรมย์นักแต่ฉันคิดว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเธออย่างแน่นอน” เมื่อศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ยจบนักเรียนใหม่ทั้งหลายก็ยกแก้วขึ้นมากระดกจนหมด วิฬาร์แทบจะอ๊วกออกมาโชคดีนักที่เขาจะอดทนเอาไว้ได้ น้ำนี้มีรสชาติขมชะมัด คงไม่ต้องถามใครคนอื่นเพราะดูจากสีหน้าแต่ละคนก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน
“ฉันจะเรียกพวกเธอทีละคนนะ--เตรียมตัวให้ดีล่ะ เมื่อเรียกแล้วให้เธอเดินขึ้นไปยืนตรงกลางศิลา จุดที่เป็นวงกลมใหญ่ๆนั่นแหละ” ศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ยก่อนที่นักเรียนทุกคนจะพยักหน้าหงึกๆ
เสียงในห้องโถงเงียบสงัดลงอย่างพร้อมเพรียง เมื่อศาสตราจารย์เลคดาฟเปิดม้วนกระดาษที่มีชื่อของนักเรียนรุ่นใหม่
“คนแรก... พชร เวทย์ภาษิต”
เด็กชายผิวคล้ำ ร่างผอมบาง ใบหน้าจริงจังเดินออกมาจากแถว วิฬาร์จับสังเกตได้ว่าพชรมีแววตาที่มุ่งมั่นและกล้าหาญ เขาก้าวขึ้นไปยืนบนแท่นศิลาเวทมนตร์ เสียงกระซิบจากรุ่นพี่ดังขึ้นเบาๆ ทั่วทั้งห้อง
“ขอให้ได้เรือนคชสีห์เถอะ...” สาบานว่าเบาแล้ว ให้ตายเถอะวิฬาร์ยังได้ยินเลย
ทันใดนั้น ลวดลายของศิลาก็เปล่งแสงสีทองสดใส ก่อนจะเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงอันร้อนแรง เสียงปรบมือดังกระหึ่มขึ้นเมื่อศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ยเสียงดัง
“เรือนคชสีห์!”
พชรยิ้มกว้าง รุ่นพี่เรือนคชสีห์พากันลุกขึ้นโห่ร้องอย่างยินดี พวกเขาพากันยืนขึ้นตบมือและโบกมือเรียก พชรเดินกลับลงมาอย่างภาคภูมิใจและตรงไปนั่งรวมกับรุ่นพี่ในเรือนของเขา
“คนต่อไป... เกศินี อัครเวทย์”
เด็กสาวร่างเล็ก ผิวขาวเนียน ใบหน้ารูปไข่ประดับด้วยดวงตากลมโตลุกขึ้นยืน เธอดูประหม่าเล็กน้อยขณะเดินไปยังแท่นศิลา ทันทีที่เธอเหยียบแท่นศิลา แสงสีฟ้าครามอ่อนโยนก็ส่องประกายไปรอบๆ
“เรือนกินนรี!”
เสียงกรี๊ดเบาๆ ดังขึ้นจากฝั่งของเรือนกินนรี เหล่ารุ่นพี่หญิงชายพากันปรบมือพร้อมรอยยิ้ม เกศินีโค้งเล็กน้อยก่อนเดินลงมาสมทบกับกลุ่มรุ่นพี่
ศาสตราจารย์เลคดาฟยังคงเรียกชื่อต่อไปเรื่อยๆ เด็กแต่ละคนต่างมีความตื่นเต้นจนแทบจะยืนไม่อยู่กับที่
“คนต่อไป... ธนวัฒน์ ศักดาเวทมนตร์”
เด็กชายรูปร่างสูงโปร่ง ผิวสีน้ำผึ้ง เดินออกมาจากแถวอย่างมั่นใจ ใบหน้าคมคายแฝงด้วยรอยยิ้มกึ่งท้าทาย เขาก้าวขึ้นไปบนแท่นศิลาเวทมนตร์ ท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง ศิลาเริ่มเปล่งแสงสีทองอ่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเงินวาววับ ประกายแสงนั้นระยิบระยับเหมือนปีกครุฑขณะบินในท้องฟ้า
“เรือนครุฑ!” ศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ย
เสียงเชียร์จากรุ่นพี่เรือนครุฑดังสนั่น รุ่นพี่ชายหญิงลุกขึ้นปรบมือส่งเสียงแสดงความยินดี ธนวัฒน์ยิ้มกว้าง เดินลงจากแท่นศิลาด้วยท่าทางมั่นใจ ก่อนจะตรงไปนั่งกับรุ่นพี่ของเขาที่ยืนขึ้นยกนิ้วโป้งมาให้
“คนต่อไป... พิมพ์ผกา นันทยาคมเวทย์”
เด็กสาวรูปร่างเล็ก ผิวขาวอมชมพู ใบหน้าอ่อนหวาน เธอเดินออกไปยังแท่นศิลาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แสงสีเขียวอ่อนเปล่งประกายออกมาจากศิลาอย่างนุ่มนวล ราวกับแสงนั้นอบอุ่นและปลอบโยน
“เรือนอัปสรสวรรค์!” เลคดาฟเอ่ยแผ่วเบา
เสียงปรบมือดังขึ้นจากกลุ่มเรือนอัปสรสวรรค์ เด็กสาวเดินลงมาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูโล่งใจ และตรงไปนั่งรวมกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ต้อนรับเธออย่างอบอุ่น
ศาสตราจารย์เลคดาฟเอ่ยชื่อถัดไปเรื่อยๆ ผู้ที่ถูกคัดเลือกแต่ละคนต่างได้รับการต้อนรับจากเรือนที่เหมาะสม
“ราม วัชรกุลเวทย์” คราวนี้เป็นราม เขาเดินขึ้นไปอย่างมั่นใจก่อนจะหยุดยืนและส่งสายตาแน่วแน่มาทางทุกคน
แสงจากศิลาปะทุขึ้นอีกครั้ง มันไม่ต่างอะไรจากพิมพ์ผกาเลยแม้แต่น้อย ศาสตราจารย์เลคดาฟประกาศเสียงดังอีกครั้ง
“เรือนอัปสรสวรรค์!”
เสียงเชียร์ดังจากฝั่งเรือนอัปสรสวรรค์อีกครั้ง รามเดินกลับลงมาด้วยท่าทีมั่นใจ ก่อนจะตรงไปนั่งรวมกับรุ่นพี่อย่างร่าเริงชูนิ้วให้เขากับเหมันต์ว่าสู้ๆ
“เหมันต์ อนุรักษ์เวทย์ไทย” หนุ่มหน้าหวานขยับแว่นเล็กน้อยก่อนจะก้าวเดินไปยืนบนศิลา
“เรือนอัปสรสวรรค์!” ศาสตราจารย์เลคดาฟกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง น่าอิจฉาชะมัดที่เหมันต์ได้อยู่กับรามนี่ถ้าเขาไม่ได้อยู่เรือนอัปสรสวรรค์ เขาจะทำยังไงดีนะ
เสียงเชียร์ดังขึ้นอีกครั้งหลังจากทราบผล รามที่นั่งอยู่ก่อนหน้ายกมือขึ้นโบกให้เพื่อนสนิทของเขา เหมันต์เดินลงมาพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะไปนั่งข้างราม
ศาสตราจารย์เลคดาฟเรียกชื่ออื่นๆ ต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงชื่อที่ทุกคนในห้องต่างจับจ้อง
“วิฬาร์ รัตนเวทย์” เสียงจากศาสตราจารย์เลคดาฟชวนให้ใจเต้นไม่น้อย เวลานี้สายตาทุกสายตาจับจ้องมาที่เขา วิฬาร์รู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะสายตาจากชายหนุ่มรุ่นพี่จากเรือนคชสีห์ ไม่รู้ทำไมทันทีที่ได้จดจ้องกับสายตารุ่นพี่คนนั้นเขาถึงรู้สึกผูกพันอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าเคยรู้จักกันมาก่อน แต่ไม่ทันที่วิฬาร์จะได้คิดอะไร ศาสตราจารย์เลคดาฟก็เรียกชื่อเขาด้วยเสียงต่ำๆ ซึ่งมันบ่งบอกได้ว่าเขาควรรีบขึ้นไป วิฬาร์ก้าวขาขึ้นบันไดได้ราวๆ 5 ขั้น เขาก็ถึงจุดหมาย เขายืนรอฟังผลการคัดเลือกด้วยใจที่จดจ่อ
ทว่าศิลากลับไม่มีแสงอะไรขึ้นมา เหล่าคณาจารย์และนักเรียนทั้งหลายต่างสงสัยและจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ ไม่นานนักก็มีเสียงดังมาจากศิลาก็
“น่าตกใจจริง... ข้าไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน วิฬาร์เหมาะสมกับทุกเรือน!”
เสียงฮือฮาดังขึ้นรอบห้องโถง ทุกคนต่างมองวิฬาร์อย่างอึ้งๆ ศาสตราจารย์เลคดาฟขมวดคิ้ว
เสียงซุบซิบดังขึ้นมาในทันที
“ศิลา--ศิลามันพูดได้” นักเรียนรุ่นพี่ผมฟูจากเรือนเหราเอ่ยขึ้น
“โห--กี่ร้อยปีมาแล้วที่ศิลาไม่เคยพูด” หญิงสาวจากเรือนกินนรีเอ่ยขึ้น ไม่นานนักเสียงจากศิลาก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“แต่ถึงอย่างไร... ศิลาได้ตัดสินใจแล้ว วิฬาร์ รัตนเวทย์ ต้องไปอยู่ที่...”
ทุกคนเงียบอย่างลุ้นๆ
“เรือนอัปสรสวรรค์!”
เสียงปรบมือและเสียงเชียร์จากเรือนอัปสรสวรรค์ดังลั่น ห้องโถง วิฬาร์เดินลงจากแท่นด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขาเห็นรามและเหมันต์ยกมือขึ้นเรียกเขาให้ไปนั่งด้วยกัน วิฬาร์ยิ้มบางๆ และเดินไปหาพวกเขา
“ไชโย--เราได้วิฬาร์มาร่วมเรือน--คราวนี้แหละการแข่งขันกีฬาเรือนเราต้องได้แชมป์” เสียงจากรุ่นพี่คนหนึ่งในอัปสรสวรรค์เอ่ยขึ้น
“ทุกคนเงียบ--ผู้อำนวยการโรงเรียนจะทักทายพวกเธอ” เป็นเสียงของศาสตราจารย์เลคดาฟที่ดังขึ้นที่ช่วยให้บรรยากาศเงียบลงอีกครั้ง
ศาสตราจารย์ปรเมศวร์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางห้องโถง เขายิ้มกว้างเผยให้เห็นฟันทุกซี่
“สวัสดี” เขากล่าว “ฉันดีใจอย่างยิ่งที่ได้พบนักเรียนปี 1 พวกเธอจะเป็นพ่อมดที่ดีได้ในอนาคตฉันเชื่ออย่างงั้น” ศาสตราจารย์ปรเมศวร์เอ่ย
“คงไม่มีคำพูดใดที่จะดูให้เกียรติพวกเธอเท่าเพลงมาร์ช
ประจำสยามมนตราวิทยาคมแล้วล่ะ” ศาสตราจารย์เอ่ย “เอาล่ะ! ทุกคนช่วยกันร้องหน่อยเร็ว” นักเรียนรุ่นพี่ยืนขึ้นก่อนจะทำกำปั้นมือขวาแล้วไปทาบไว้ที่หน้าอกข้างซ้าย
เราสยามมนตราฝึกฝนเรียนวิชาจนไปถึงเส้นชัย
เรานั้นสามัคคีมิเคยมีสิ่งใดให้ขัดแย้งดอกหนา
ระเบียบวินัยมากล้นนานา
ระเบียบวินัยมากล้นนานา
ขอน้อมวันทาแล้วสวัสดี
เราสยามมนตราฝึกฝนเรียนวิชาจนไปถึงเส้นชัย
เรานั้นช่วยเหลือกันร่วมกันช่วยกวดขันให้ใจนั้นสุขี
ความคิดสร้างสรรค์หน้าตาก็ดี
ความคิดสร้างสรรค์หน้าตาก็ดี
ยกมือไหว้อีกทีแล้วจบเพลงเอย (ซ้ำ)
เพลงสยามมนตรา
เนื้อร้อง: ศาสตราจารย์ธนารัตน์
ทำนอง: ศาสตราจารย์ธนารัตน์
[/b]
“ยอดเยี่ยมไปเลย--ขอเสียงหน่อย” ศาสตราจารย์ปรเมศวร์กล่าว ไม่นานเสียงกระหึ่มจากนักเรียนก็ดังขึ้น
“เอาล่ะ--ชักจะหิวแล้วสิเอาเป็นว่าพวกเธอกินอาหารให้เอร็ดอร่อยเถอะ” ศาสตราจารย์ปรเมศวร์เอ่ยก่อนจะผายมือทั้งสองข้างออก และปรากฏอาหารนานาชนิดขึ้นบนโต๊ะ ทั้งไก่ทอด ส้มตำ ข้าวเหนียว ต้มไก่ อื่นๆ มันมากเสียจนวิฬาร์เลือกกินไปถูก
“นี่มันอร่อยสุดๆไปเลยว่าไหม” รามเอ่ยขณะกำลังงับน่องไก่อย่างเอร็ดอร่อย
“จริง--ฉันไม่คิดว่าจะมีอาหารมากขนาดนี้” เหมันต์เสริม
วิฬาร์ที่กำลังจะหยิบไก่ขึ้นมากินบ้างก็ต้องตกใจจนหน้าถอดสี “เหวอ!” วิฬาร์แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้เคราะห์ดีที่มีคนมาจับไว้ได้ทัน จะไม่ให้เขาตกใจได้ไงเพราะจู่ๆก็มีผีโผล่มาซะงั้น
ผีนายพลสวมชุดทหารแบบพวกมานพ ไว้หนวดเขี้ยว ใบหน้ามีรอยแผลและมีสายตาที่ดุดันกำลังมองพวกเขาอยู่
“สวัสดีครับพลเอกเสนา” โอเวนหัวหน้าเรือนอัปสรสวรรค์เอ่ยทักทายผีทหารซึ่งผีตนนั้นก็ทำท่าวันทยหัตถ์เป็นเชิงว่าได้รับไหว้แล้ว
“สวัสดี--พอดีทราบว่ามีนักเรียนใหม่เข้ามาเลยมาตรวจตราดูสักหน่อย” พลเอกเสนาพูดเสียงดุๆ ราวกับจะบอกว่าอย่าได้ทำตัวมีปัญหาในที่นี่ก่อนที่เขาจะลอยไปทักทายเรือนอื่น
ไม่นานนักก็มีผีตนที่สองโผล่ออกมา ผีตนนี้มีรูปร่างอ้วน หัวล้าน สวมชุดพ่อครัว เขามีใบหน้าที่ดูใจดีและก็ขี้โมโหในคราวเดียวกัน และในตอนนี้มันก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว
“เฮ้--ผมว่าผมรู้จักคุณนะลุงอ้วน” รามตะโกนบอกอย่างดีใจ แต่ดูเหมือนผู้ฟังจะไม่ดีใจด้วยเพราะนอกจากจะหน้าแดงแปร๊ดแล้วยังตะโกนออกมาอีกด้วย
“ฉันชื่อตุ๊ต๊ะต่างหากเจ้าเด็กบ้า!!!!!!!!!!!!” เสียงตะโกนจากคุณตุ๊ต๊ะดังเสียจนเรือนอื่นๆนั่งหัวเราะ เอาเถอะวิฬาร์คิดว่าผู้คนที่นี่คงชินกับคุณตุ๊ต๊ะแล้วล่ะ
คุณตุ๊ต๊ะหายไปพร้อมกับเสียงของศาสตราจารย์ปรเมศวร์ที่ดังขึ้น ดูเหมือนเขาจะประกาศเรียกใครคนหนึ่งให้มาพูดคุยกับนักเรียนใหม่ อ่า…เป็นชายหนุ่มรุ่นพี่จากเรือนคชสีห์ที่เขารู้สึกผูกพันนี่เอง แต่ให้ตายเถอะทำไมเขาดูเย็นชาชะมัด ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ก้าวเดินอย่างสง่างาม เขาสวมชุดคลุมสีดำสนิทที่มีลวดลายกนกสีทองตกแต่งอย่างสวยงาม ผมสีดำมันเงาถูกเซตอย่างเนี้ยบ ทรงผมแบบคอมมาดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความสง่างาม ดวงตาคมกริบเฉียบขาดประหนึ่งพญาอินทรีที่กำลังมองหาเหยื่อทอดมองสำรวจทุกคนในห้องโถง ริมฝีปากบางเฉียบคล้ายจะยิ้มเล็กน้อยแต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนที่สีหน้าเย็นชาจะกลับมาปกคลุมอีกครั้งหนึ่ง
เสียงพูดคุยเบาๆ ของเหล่านักเรียนในห้องเงียบลงแทบจะทันที ชายหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้ากลุ่มนักเรียนใหม่ที่พากันมองเขาราวกับต้องมนตร์ ดวงตาหลายคู่จ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจและทึ่ง บ้างก็มีเสียงกระซิบดังขึ้นจากมุมหนึ่งของเรือนอัปสรสวรรค์
“หล่อมาก... นั่นประธานโรงเรียนหรอ?” หญิงสาวผมทองเอ่ยขึ้น
“ใช่! ฉันเคยเห็นในจดหมายข่าวเวทมนตร์...ไม่คิดว่าตัวจริงจะดูดีกว่าในรูปเสียอีก!” สาวแว่นผมแดงเอ่ยเสริม
“ดูดุจัง...แต่ก็ดูมีเสน่ห์” คราวนี้เป็นสาวผมน้ำตาลเอ่ย
ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะเมินเสียงกระซิบของกลุ่มหญิงสาวอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่ศาสตราจารย์ปรเมศวร์จะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนและแนะนำชายหนุ่มให้ทุกคนได้รู้จัก
“นักเรียนใหม่ทุกคน ฟังให้ดี คนผู้นี้คือ อนันยช ศิรวัชรเวทยาคม ประธานโรงเรียนของพวกเรา--เขาจะมาพูดอะไรเล็กน้อยกับพวกเธอ”
อนันยชเหลือบตามองนักเรียนใหม่ด้วยแววตานิ่งเฉย ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบลึก แต่แฝงไปด้วยความหนักแน่น
“ยินดีที่ได้พบพวกเธอทุกคน ฉันอนันยช ประธานโรงเรียนแห่งนี้” เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะไล่สายตามองไปรอบๆ ราวกับกำลังตรวจสอบนักเรียนใหม่ทีละคน “หน้าที่ของฉันไม่ใช่การดูแลพวกเธออย่างใกล้ชิด แต่เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเธอจะปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด เพราะที่นี่...ความประมาทเพียงครั้งเดียว อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับพวกเด็กที่ไม่รู้เรื่อง”
เสียงเขาเรียบเฉยแต่แฝงด้วยพลังอำนาจ นักเรียนใหม่ที่ยืนอยู่ต่างรู้สึกเหมือนถูกจ้องลึกเข้าไปในจิตใจ ร่างเล็กๆ ของวิฬาร์ถึงกับก้มหน้าหลบสายตา ให้ตายสิเผลอสบสายตาดุๆนั่นจนได้
“จำไว้ให้ดีว่า กฎมีไว้เพื่อปกป้อง ไม่ใช่กดขี่” อนันยชพูดต่อ ดวงตาของเขาทอประกายเย็นเยียบขณะกวาดมองทั่วห้องอีกครั้ง “และสำหรับใครที่คิดจะฝ่าฝืน ฉันจะถือว่าเธอได้เลือกทางของตัวเองแล้ว คงรู้นะว่าหมายถึงทางอะไร”
ทันใดนั้น เสียงกระซิบกระซาบจากกลุ่มนักเรียนหญิงก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“เท่สุดๆ เลย...”
“ดูนิ่งๆ แต่มีอำนาจเหลือเกิน”
“ฉันไม่เคยเห็นคนไหนดูดีแบบนี้มาก่อน!”
อนันยชแสร้งทำเหมือนไม่ได้ยิน เขาหันกลับไปมองศาสตราจารย์ปรเมศวร์ ราวกับจะส่งสัญญาณว่าเขาพูดจบแล้ว ก่อนจะก้าวถอยหลังไปยืนสงบอยู่มุมหนึ่งของห้อง โครงร่างสูงใหญ่ของเขายังคงดูโดดเด่นเหนือใคร แม้ในตอนที่เขานิ่งเงียบ ให้ตายสิวิฬาร์อยากหน้าตาดีให้ได้ครึ่งของเขาจริงๆ
ศาสตราจารย์ปรเมศวร์ส่งยิ้มบางๆ ก่อนจะหันกลับมาหานักเรียน “อย่างที่พวกเธอได้ยินแล้ว หวังว่าคำพูดของประธานโรงเรียนจะช่วยให้พวกเธอเข้าใจว่าความรับผิดชอบและวินัยสำคัญเพียงใด”
วิฬาร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก สายตาของเขายังจับจ้องไปที่ชายหนุ่มผู้นั้น...ชายหนุ่มที่ราวกับมีออร่าของความสมบูรณ์แบบจนแทบจะไร้ที่ติ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูเหมือนจะอยู่ห่างไกลเกินเอื้อมถึงเช่นกัน ทำไมกันนะพึ่งเคยเห็นหน้าครั้งแรกแต่จิตใจเขากลับเต้นระรัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หรือว่าจะเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนกันนะ