พิมพ์หน้านี้ - Parallel World || สลับขั้วสร้างรัก || บทที่เก้า 15.08.25 (update)
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: sk_bunggi ที่ 02-10-2024 19:51:54
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทหนึ่ง
'เฮ้ยๆ พวกมึงรู้ยังวะ...ไอ้ซันห้องสามมันถูกไอ้ท๊อปแย่งแฟนอีกแล้วนะเว้ย'
'ใช่เหรอวะ กูได้ข่าวผู้หญิงมันไปเองนะ'
'พวกมึงไม่รู้อะไร ไอ้ซันมันไม่มีดวงเรื่องความรักตั้งหาก'
ไอ้พวกห่านี่ กูก็นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้แท้ๆไม่เดินมาตะโกนใส่หน้ากูเลยล่ะวะ!! ผมได้แต่นั่งกัดฟันฟังเสียงนินทาจากรอบข้างที่ลอยปะทะหู จนเส้นเลือดข้างขมับปูดโปนแทบจะระเบิด
"เฮ่อออ อย่าไปใส่ใจเลยมึง รีบๆแดกจะได้รีบๆหนี"
ไอ้วิทย์เพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกันพยายามบอกผมให้ใจเย็นลงด้วยการผลักมือที่ถือช้อนค้างไว้เข้าปากให้
"แต่กูก็สงสัยจริงๆนะไอ้ซัน กูเห็นแฟนเก่าที่เลิกกับมึงทีไรไปควงต่อกับไอ้ท๊อปทุกทีเลย มันเป็นเพราะอะไรวะ?"
ไอ้จั๊ดที่นั่งเคี้ยวข้าวตุ่ยๆถัดจากไอ้วิทย์เงยหน้าถามขึ้น ราวกับผมจะให้คำตอบมันได้ทันที...ไอ้นี่ก็อีกคน กูเพื่อนมึงนะเว้ย
"กูจะไปรู้มันมั้ยละ แม่ง!"
ตอบมันได้คำเดียวเลยครับ ไอ้ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไม...นึกถึงไอ้หน้าวอกๆของอีกคนแล้วมันก็คับแค้นใจ ถึงแม้มันจะไม่ได้แย่งผู้หญิงซึ่งๆหน้า แต่มาทำแบบนี้ก็ถือว่าถูกหยามอยู่ไม่น้อย
"แต่เอาจริงๆกูก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ อดีตเดือนนิเทศฯซะอย่าง ใครๆก็อยากควง"
ไอ้จั๊ดมันยังพล่ามไม่เลิกแถมมันยังพูดแทงใจดำกันอีก...ไอ้มิตนทรยศ เห็นทีคงไม่อยากเก็บปากไว้กินข้าวซะแล้วมั้ง!!
"มึงเพื่อนใครกันแน่วะไอ้จั๊ด!" ผมขึ้นเสียงใส่มันอย่างไม่สบอารมณ์ วางช้อนส้อมลงข้างจานพร้อมตั้งท่าวางมวยใส่มันเต็มที่
"เฮ้ยๆใจเย็นก่อนเพื่อน กูก็แค่พูดเปรียบเปรยให้ฟังเฉยๆ"
"กูก็หล่อเหอะ ถ้าไอ้หน้าวอกนั่นไม่ได้เป็นเดือนก็ไอ้ซันนี่แหละวะที่ได้เป็น หึ!!"
"หราาาาาา เอากระจกไปส่องก่อนมั้ยเพื่อน"
"พอๆเลยพวกมึง จะแดกมั้ยข้าวน่ะหรือจะแดกเอฟแทน กูจะได้ขึ้นเรียนก่อน"
"เออ แดกเว้ย! " ผมกับไอ้จั๊ดประสานเสียงกันก่อนจะรีบจ้วงข้าวเข้าปากเพื่อทำเวลาให้เร็วที่สุด
"ไงไอ้ซัน ได้ข่าวว่ามึงถูกหญิงทิ้งอีกแล้วเหรอวะ"
ไอ้คัตเตอร์เพื่อนร่วมห้องรีบเดินมากอดคอผม หน้าตาที่เชิญชวนให้โดนบาทาเชิดขึ้นหยอกล้อกันอย่างไม่เกรงกลัว
"อยากโดนตีนกูเหรอไอ้เตอร์ ถามอะไรไม่สร้างสรรค์เลยนะมึง"
"เฮ้ยๆอย่าเพิ่งอารมณ์เสียดิวะเพื่อน กูก็แค่จะมาชวนไปแดกเหล้ากันเฉยๆ"
มันรีบยกมือทั้งสองข้างที่แตะไหล่ผมขึ้น ก่อนจะพยักหน้าเชิญชวนไอ้จั๊ดกับไอ้วิทย์ที่กำลังหย่อนตูดลงข้างๆกัน
"เออๆไปดิวะ ช่วงนี้กำลังคอแห้งอยู่พอดีเลยว่ะ"
ไอ้จั๊ดรีบตอบโดยที่ยังไม่ได้ถามความเห็นจากใคร ไอ้นี่มันเร็วครับโดยเฉพาะเรื่องของมึนเมาขอให้บอก
"เออดี งั้นเย็นนี้เจอกันร้านพี่อู๊ดหลังมอนะเว้ย เดี๋ยวกูไลน์ไปบอกเวลาอีกทีถ้าถึงหอแล้ว"
ผมพยักหน้าส่งๆพลางโปกมือไล่ให้มันกลับไปนั่งที่ตัวเอง เพราะเห็นว่าอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาในห้องแล้ว
.
.
หลังจากเลิกเรียนพวกผมลงความเห็นว่าจะกลับไปที่หอเพื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเสียหน่อยและค่อยออกมาลุยกันที่ร้าน ช่วงทุ่มนึงโต๊ะภายในร้านค่อนข้างแน่นแม้จะเป็นวันธรรมดา เพราะสถานที่บันเทิงนี้ไม่ได้ไกลจากมหาลัยและหอพักนักศึกษานัก ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่พวกนักศึกษาและพนักงานแถวนั้นแหละที่มากัน และเป็นโชคดีที่พวกผมโทรมาจองกับพี่เจ้าของร้านไว้ก่อนไม่งั้นคงต้องรอคิวยาวที่หน้าร้านเหมือนคนอื่นๆแน่นอน
บรรยายกาศในร้านค่อนข้างจอแจมาก กระทั่งถึงช่วงสามทุ่มกว่าก็มีนักร้องขึ้นมาแทนเปิดดนตรี นั่นยิ่งทำให้บรรยายกาศในร้านตอนนี้ยิ่งครึกครื้นเข้าไปใหญ่
"เฮ้ยๆมึง นั่นมันไอ้ท๊อปนี่หว่า"
ไอ้จั๊ดผู้มีหูตาไวราวกับสัปะรด เอ๊ะ หรือหมาบ้านดีวะ มันรีบหันมากระซิบกระซากแข่งกับเสียงนักร้องทันที...แหม่ กระซิบได้เบามากครับเพื่อน โต๊ะข้างๆมันถึงได้หันมามองพวกเราเป็นตาเดียวกัน
"มึงจะตะโกนให้มันได้ยินเหรอไงวะ ไอ้ห่านี่!"
ผมโปกหัวมันไปทีข้อหาโวกเวกโวยวายเกินควร พวกผมหันไปมองตามทิศที่ไอ้จั๊ดปุ้ยปากไป ก็เห็นไอ้เจ้าของชื่อนั่งอยู่ไม่ไกลกันนัก แถมด้านข้างของมันยังมีผู้หญิงที่ผมคุ้นเคยอย่างมากซบไหล่มันอยู่ด้วย
หึ้ยยยย เห็นแล้วมันเจ็บกระดองใจเว้ย!!
"กูไม่เข้าใจเลย แม่งหล่อตรงไหนวะ" ผมว่าพลางโยนถั่วเข้าปากตัวเอง ตามด้วยกระดกแก้วเหล้าสีอำพันขึ้นอึกใหญ่
"มึงไม่น่าถามเลยไอ้ซัน ดูปากคัตเตอร์นะคะ...หล่อ รวย สูง ยาว ขาว ดี คอนเซ็ปต์แบบนี้ผู้หญิงชอบม๊ากมากค่ะ"
ไอ้เตอร์จีบปากจีบคอทำเสียงเล็กเสียงน้อยแบบสาวๆ แต่ผมคิดว่าเหมือนพวกสาวเทียมมากกว่าน่ะนะ ผมมองท่าทางตอแหลของมันที่สาธยายคุณสมบัติดีเลิศให้ฟัง
"พวกผู้หญิงแม่งตาถั่ว กูก็สูง ยาว ขาว ดี เหมือนกันแหละโว้ย ถึงจะไม่รวยเท่ามันก็เถอะ"
"อ๋อหราาาา!!" เสียงเพื่อนทั้งสามร้องอย่างพร้อมเพรียงกัน แหม ประสานเสียงได้ไพเราะมากครับเพื่อน ถุ้ย!!
"สูงอ่ะกูไม่เถียง" ไอ้เตอร์เริ่มพูดคนแรก
"177 ซม.นะเว้ย" ผมยืดอกรับกับส่วนสูงที่ก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร
"ส่วนยาว ดูจากทรงแล้วไอ้ท๊อปน่าจะยาวกว่ามึงแน่นอน" ไอ้จั๊ดรีบต่อทันที
"เดี๋ยวๆ เห็นแบบนี้กูหกนิ้วนะครัช"
"และที่แน่ๆ อย่างมึงไม่เรียกว่าขาวว่ะเพื่อน"
ไอ้วิทย์เพื่อนที่ไว้ใจร้ายที่สุดไม่คิดว่ามันจะเอากับเขาด้วย แถมมันยังยื่นมือมาตบบ่าผมเบาๆเชิงว่าทำใจซะเถอะมึง
"เขาเรียกว่าผิวสีน้ำผึ้งตั้งหาก...นี่ตกลงกูมีอะไรดีบ้างวะ??"
"ไม่มีเลย ฮ่าๆๆๆๆ"
ไอ้ชิบหาย ทำไมชีวิตผู้ชายแบบไอ้ซันมันช่างอาภัพยิ่งนักนะ กระซิกๆ...ผมว่าผมก็ไม่ได้ขี้เหร่ขนาดนั้นซะหน่อย ถึงจะไม่ได้หน้าวอกและสูงเท่าไอ้เปรตนั่นก็เถอะ
"เฮ้ยๆพวกมึง ไอ้ท๊อปมันเดินมาทางนี้ว่ะ"
ไอ้เตอร์รีบหันมาสะกิดพวกผมยิกๆ พวกเราเลยทำทีเป็นชนแก้วและรีบเปลี่ยนเรื่องคุยกันทันที
"ไงพวกมึง"
แขกที่ไม่ได้รับเชิญหยุดยืนที่หัวโต๊ะ มันส่งยิ้มทักทายทุกคนรวมถึงผมด้วย...ยิ้มที่มันชอบยิ้มเป็นประจำและเป็นยิ้มที่ผมเห็นทีไรก็ชวนให้รู้สึกสะอิดสะเอียนทุกที
"ไงไอ้ท๊อป...มาคนเดียวเหรอวะ" ไอ้เตอร์ทำทีเอ่ยทักอดีตเดือนกลับราวกับเพิ่งเห็นอีกฝ่ายเข้ามาในร้านก็ไม่ปาน
"เปล่า กูมากับแพรวน่ะ" มันพยักหน้าไปทางที่หญิงสาวนั่งอยู่ก่อนจะหันมาหยุดสายตาที่ผม และนั่นเลยทำให้ผมเห็นว่ามุมปากมันยกขึ้นเล็กน้อย แค่นั้นก็ทำให้ผมเผลอกำหมัดแน่นพลางผ่อนลมหายใจเข้าออก
ยุบหนอพองหนอ!!
"กูขอนั่งด้วยคนดิ"
มันพูดพร้อมกับหย่อนตูดลงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ ทั้งๆที่ยังไม่มีใครตอบรับคำขอมันด้วยซ้ำ ส่วนเพื่อนๆผมที่นั่งกันอยู่ก็มองหน้ากันเลิกลั่ก
"ไหนมึงบอกมากับแพรวไงวะ" ไอ้จั๊ดรีบถามขึ้นเพราะบรรยายกาศตอนนี้มันดูมาคุเสียเหลือเกิน
"อืม แต่แพรวมากับกลุ่มเพื่อน กูไม่อยากขัด"
มันหยักคิ้วตอบส่วนมือก็คว้าแก้วเหล้าที่ไอ้เตอร์ชงให้ขึ้นกระดกช้าๆแก้กระไส
กรี้ดดดด...เสียงผู้หญิงจากโต๊ะรอบข้างผมร้องขึ้นเบาๆ...อะไรวะ กะอิแค่ท่าซดเหล้าแค่นี้ คุณเธอทั้งหลายถึงกับต้องกรี้ดกร้าดกันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย ไอ้ซันไม่เข้าใจจจจจ
เวลาล่วงผ่านไปจนเกือบห้าทุ่ม ทุกคนบนโต๊ะก็ดูเริ่มจะเมาได้ที่กันแล้ว โดยเฉพาะไอ้เตอร์กับไอ้จั๊ดที่เข้าขากันเป็นอย่างดีในการชวนไอ้แขกไม่ได้รับเชิญคุยไปเรื่อย
"ท๊อปคะ แพรวเมาแล้วพาแพรวกลับหน่อยสิคะ"
หญิงสาวที่รู้จักกันดีในนามแฟนเก่าผมแต่บัดนี้คือแฟนใหม่ไอ้หน้าวอกนี่ เดินโซเซมานั่งเกยบนตักไอ้ท๊อปแบบไม่อายใคร
"อ่าว ซันก็อยู่ด้วยเหรอ"
หญิงสาวทำหน้าแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นผมนั่งร่วมวงอยู่ด้วย ส่วนผมก็ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองหล่อนนิ่งๆอยู่แบบนั้น
"อืม ไปสิ...กูกลับก่อนนะพวกมึง นี่ค่าเหล้า ไว้เจอกัน"
มันดันแพรวให้ลุกแล้วหันมาบอกลาเราทุกคนบนโต๊ะ แขนมันโอบเอวบางของแพรวออกจากร้านพร้อมกับกลุ่มเพื่อนๆของเธอ ผมได้แต่มองตามทั้งคู่ที่เดินลับหายไปพลางคิดในใจ...หรือผมจะปลงกับเรื่องรักๆดีวะ เฮ่ออออ
~~เมาทุกขวดเจ็บปวดทุกเพลง อยู่ดีๆน้ำตามันไหลมาเองได้~~
โอ้โห เพลงแม่งอย่างกับมานั่งอยู่กลางใจผมตอนนี้!! ทั้งโต๊ะเงียบไปชั่วขณะก่อนที่ไอ้จั๊ดจะตะโกนขึ้นกลางวง
"เอ๊า ชนนนน!!!!"
พวกเรายกแก้วเหล้าทั้งสี่แก้วขึ้นชนกันพร้อมๆกับตะโกนร้องตามนักร้องบนเวทีไปด้วย งานนี้ไม่เมาไม่เลิกสิครับ ฮื่ออออออ!!
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
สวัสดีชาวเป็ดทุกคนค๊าาา มือใหม่ขอฝากเรื่องสลับขั้วไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ :impress: :impress:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทสอง
ผมกระเตงมอไซค์ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนจ้า ผ่านแยกไฟแดงมาก็หลายแยกจนมาถึงลานจอดรถหน้าคณะในมหาวิทยาลัย ผมถอดเสื้อคลุมออกมาพาดไว้บนมอเตอร์ไซค์ด้วยสภาพที่เหมือนคนเพิ่งอาบน้ำมาใหม่ๆ เหงื่อไหลไคลย้อยเปียกเต็มเสื้อนักศึกษา ไหนจะหัวที่สวมหมวกกันน๊อคก็เปียกยังกับเพิ่งสระผมมาด้วย
"เชี้ย!?"
ผมร้องอุทานเสียงหลงด้วยความตกใจ ก็ไอ้รุ่นพี่ตัวดีมันดันโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงนี่สิ...เกือบจะหัวใจวายตายทั้งที่ขายังไม่ทันได้แตะพื้นปูนดีเลยนะเว้ยพี่!!
"กูคนไม่ใช่น้องวรนุชเว้ย เดี๋ยวปั้ดโปกเลย"
คนตัวเล็กกว่ายืนเท้าสะเอวก่นด่าปาวๆ ผมหัวเราะแห้งรีบยกมือไหว้ขอโทษพี่ไผ่ที่มีสถานะพี่รหัสไปด้วย
"โหพี่ โผล่มาแบบนี้ใครๆก็ตกใจเปล่าวะ"
"ขวัญอ่อนจริงๆนะมึง...ว่าแต่ ช่วงบ่ายๆมึงว่างเปล่าวะ"
"ก็ว่างนะพี่ ผมเลิกเรียนบ่ายโมงพอดี พี่มีไรเปล่าอ่ะ"
"เออๆ ดีเลยมึง...คืองี้เว้ย วันนี้มันมีงานเปิดหมวกร้องเพลงของดาวเดือนว่ะ แต่ไอ้โก้มันดันท้องเสียมันเลยมาถ่ายรูปให้ไม่ได้"
"แล้วไง?"
"ก็จะแล้วไงอะไรล่ะ กูจะมาให้มึงไปช่วยเป็นตากล้องแทนมันให้หน่อย"
"เอ้า ทำไมเป็นผมล่ะพี่ ผมไม่ได้เป็นตากล้องของคณะซะหน่อย"
"ในฐานะที่มึงเป็นน้องรหัสกู กูเลยตัดสินใจว่ามึงทำได้ จบนะ ห้ามขัดกูด้วยไม่งั้นกูงอน...กูไปละเดี๋ยวกูโทรตามนะจ๊ะน้องรหัสที่รัก จุ๊ฟฟฟ"
พี่ไผ่แตะไหล่ผมอย่างคาดหวังและเดินหายลับเข้าหลังพุ่มไม้ดังเดิม ผมได้แต่ยืนมองพี่รหัสตัวเองที่เป็นคนหรือหนอนกันแน่วะถึงชอบผลุบโผล่ตามพุ่มไม้...ผมได้แต่ส่ายหัวถอนหายใจออกมากับความมัดมือชกของอีกคน
พอเข้าช่วงบ่ายโมงในคาบสุดท้ายนั้นพี่ไผ่ก็โทรมาตามผมจริงๆอย่างที่เจ้าตัวบอกไว้ หึ้ยยย โทรจิกตรงเวลาทำอย่างกับเป็นเมียกูเลยนะพี่มึ้ง
"เสร็จแล้วๆให้ไปเจอตรงไหนดีพี่"
(มาลานน้ำพุเลยมึง อีกครึ่งชม.ก็เริ่มแล้ว)
"ครับๆ เดี๋ยวผมไป"
"เฮ้ย กูไปก่อนนะพวกมึง แล้วเจอกันพรุ่งนี้"
"อ่าว มึงจะรีบไปไหนวะ"
ไอ้จั๊ดถามอย่างสงสัยส่วนไอ้วิทย์ก็หันมามองตามเช่นกัน พวกมันถามเพราะเห็นผมรีบร้อนยัดสิ่งของลงกระเป๋าสะพาย
"ไปช่วยพี่ไผ่ถ่ายรูปว่ะ...กูไปละ เดี๋ยวพี่มันโทรมาตามกูอีก" ผมโปกมือลาเจ้าเพื่อนยากทั้งสองและตรงดิ่งไปที่ลานน้ำพุที่จัดงานทันที
ผมแว๊นมอไซค์มายังลานน้ำพุที่อยู่ห่างจากคณะเกือบกิโล เสียงซ้อมดีดกีต้าร์และเสียงซ้อมร้องเพลงดังแว่วมาเป็นระยะเมื่อเข้าใกล้เวลาแสดง
"ไอ้ซันๆ ทางนี้เว้ย!!"
พี่ไผ่โผล่ออกมาจากด้านหลังฉากกั้น มือเล็กๆโปกพลิ้วไหวเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาเจ้าตัว แต่เมื่อก้าวเข้ามาด้านในผมก็ต้องชะงักเท้าที่จะเดินต่อทันที
ไอ้ท๊อป...มันมาอยู่นี่ได้ไงวะ
"ซวยชิบ!" ผมสบถเบาๆในลำคอก่อนไอ้ตัวต้นเหตุมันจะเงยหน้าขึ้นมามอง มันยักคิ้วทักทายให้ตามสไตล์ของมัน แต่ผมคิดว่ามันคือการกวนตีนผมซะมากกว่า
"นี่กล้องมึงนะซัน เดี๋ยวมึงเอากล้องไปเซ็ตก่อน เพราะอีก 10 นาทีพวกดาวปีหนึ่งจะร้องเพลงแล้ว"
พี่ไผ่ยัดกล้อง DSLR ของคณะใส่ไว้ในมือผมขณะสาธยายว่าผมต้องถ่ายตรงไหนอะไรยังไงบ้าง เพื่อเก็บไปส่งคณะอาจารย์ในการจัดงานของมหาลัย
"มาถ่ายรูปเหรอมึง"
ไอ้ท๊อปมันเดินเข้าทักหลังจากที่พี่ไผ่เดินหนีหายไปไหนไม่รู้ ผมที่กำลังง่วนกับการเช็คความพร้อมของกล้องถ่ายรูปในมือก็เออออตอบมันไปส่งๆเพราะไม่ได้อยากจะคุยด้วยอยู่แล้ว ผมยังคงตั้งค่ากล้องในมือไปเรื่อยๆโดยไม่สนใจไอ้หน้าวอกที่ยื่นหน้าเสล่อๆมาดูด้วย...มันจะมองไรนักหนาวะ ไม่เคยเห็นคนจับกล้องเหรอไง วุ้ย!
"ไอ้ซันโว้ยยย ออกมาได้แล้ว"
เสียงพี่ไผ่ตะโกนเรียกเร่งจากด้านนอก ผมเลยถือโอกาสนี้ปลีกตัวออกจากไอ้ท๊อปเสียเลย ตอนที่ผมเบี่ยงตัวออกมาไอ้ท๊อปมันก็พึมพำอะไรสักอย่างแต่ผมฟังไม่ถนัดและไม่ได้คิดจะใส่ใจ ก่อนจะเดินออกไปด้านหน้าเวทีแทน
ผมใช้เวลาในการเก็บภาพบรรยากาศทั้งของนักร้องและเหล่านักศึกษาที่มาออกันฟังดาว-เดือนร้องเพลง บ้างก็มีป้ายไฟป้ายไวท์บอร์ดกันมาครบเซ็ททำให้บรรยากาศครึกครื้นอย่างมาก จนกระทั่ง...
กรี๊ดดดดดดด พี่ท๊อปๆๆ!!!
เสียงกรีดร้องลั่นของเหล่านิสิตสาวไม่เว้นแม้แต่นิสิตชายหัวใจสาวก็ดังขึ้นรอบทิศ เมื่อไอ้ท๊อปอดีตเดือนนิเทศปีสองก้าวขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับถือกีต้าร์ตัวหนึ่งขึ้นมาด้วย
"สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนที่มาให้กำลังใจกัน และมาร่วมบริจาคกันในวันนี้นะครับ"
เสียงตะโกนผ่านไมค์ของมันนั้นเรียกเสียงกรี้ดกร้าดจากเหล่าแม่ยกทั้งหลายได้เป็นอย่างดี...อะไรจะขนาดนั้นกันล่ะแม่คู๊นนนนนน
"เพลงที่ผมจะร้องต่อไปนี้ ขอมอบให้กับทุกคนๆเลยนะครับ"
มันว่าพร้อมกับขยิบตาโปรยเสน่ห์ให้เหล่าสาวๆที่นั่งชักดิ้นชักงออยู่ด้านล่าง เก้าอี้ทรงสูงที่วางไว้ถูกครอบครองโดยอดีตเดือนนิเทศ กีต้าร์โปร่งที่มันหิ้วมาด้วยเริ่มดีดทำนองพร้อมกับเสียงขับร้องของมัน
~~ เป็นเพราะความบังเอิญหรือใครลิขิต
ให้ชีวิตฉันได้พบกับเธอ
คนที่ธรรมดาแต่ดูช่างเลิศเลอ
อยู่ข้างฉันด้วยกันตอนนี้~~
เพียงท่อนแรกของเพลงทุกคนก็กรี้ดลั่นให้กับเสียงของมัน ผมยืนทึ่งไปวินาทีเพราะเสียงของมันดีถึงขั้นดีมากเลยทีเดียว เด็กผู้หญิงหลายๆคนยกมือทำท่าไอเลิฟยูแกว่งไกวไปตามทำนองเพลง
~~ยิ่งใกล้เท่าไรก็ยิ่งหวั่นไหว
อยากจะถามเธอมากับใครหรือไม่มี
แต่ทำได้แค่มอง ไม่ยอมทำอะไรสักที~~
เสียงดีดกีต้าร์ในท่อนนี้ของมันเริ่มเร็วขึ้น สีหน้าและการบรรเลงกีต้าร์ขั้นเทพของมันทำให้ผมเผลอรัวชัตเตอร์ในมือไม่ยั่ง
~~แล้วฉันจะพูดอย่างไรเพื่อให้เธอได้เข้าใจ
ให้รู้ว่ามีความรักมาจากคนข้างข้างกาย
จะต้องทำยังไงช่วยบอกฉัน
เพื่อไม่ให้เธอนั้นเดินผ่านไป โว้โว
ความรักมันเต็มท่วมหัวตัวกับใจยังไม่กล้า
หลงรักคนยืนข้างซ้ายตรงที่เก้านาฬิกา
ก่อนเสียงเพลงบรรเลงท่อนสุดท้าย
ฉันต้องทำยังไงเพื่อได้เธอมา
ก่อนที่ใครจะคว้าไป
เธอจะพอมองเห็นกันบ้างไหม
คนที่ยืนไม่ไกลแค่ข้างข้าง
เธอจะพอมีใจให้ฉันบ้างไหม~~
เสียงโซโล่กีต้าร์เดี่ยวของมันตรึงทุกสายตาไว้ไม่เว้นแม้แต่ผมที่ก็ถือกล้องค้างเติ่งจนลืมกดชัตเตอร์ ไอ้ท๊อปมันยืนขึ้นแล้วเดินถือไมค์มาชิดริมขอบเวทีที่เยื้องกัน ก่อนที่มันจะร้องท่อนถัดไปช้าลง
~~แล้วฉันจะพูดอย่างไรเพื่อให้เธอได้เข้าใจ
ให้รู้ว่ามีความรักมาจากคนข้างข้างกาย
จะต้องทำยังไงช่วยบอกฉัน
เพื่อไม่ให้เธอนั้นเดินผ่านไป
ความรักมันเต็มท่วมหัวตัวกับใจยังไม่กล้า
หลงรักคนยืนข้างซ้ายตรงที่เก้านาฬิกา
ก่อนเสียงเพลงบรรเลงท่อนสุดท้าย
ฉันต้องทำยังไงเพื่อได้เธอมา
ก่อนที่ใครจะคว้า...ไป~~
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!
หื้มมมมม ยังไงก่อน ท่อนจบคืออะไร ทำไมมึงต้องหันยิ้มให้ทางกูด้วยวะ...ผมนี่ถึงกับขนตูดลุกซู่ซ่าเลยครับ บรื้ออออออออ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
สวัสดียามเย็น ตอนที่สองพร้อมเสิร์ฟแล้วค๊าาา :impress2: :impress2:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทสาม
หลังจากงานเปิดหมวกของคณะจบลง ผมก็สรุปกับตัวเองได้ว่า...ไอ้ท๊อปมันคือศัตรูตัวฉกาจของผมตัวจริงเสียงจริง!! เมื่อสโลแกน หล่อ รวย สูง ยาว ขาว ดี ของมันนั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วยแต่มันคือเรื่องจริงทั้งหมด แถมผมเพิ่งรู้สดๆร้อนๆกับความสามารถที่ทั้งร้องเพลงทั้งเล่นดนตรีของมันได้อีก มึงจะโคตรคูลเกินไปแล้วนะเว้ยไอ้หน้าวอกกกก!!
"เฮ้ยๆ พวกมึงเห็นเฟสดาว-เดือนมหาลัยยังวะ"
ไอ้จั๊ดถามพวกผมที่นั่งกึ่งนอนแผ่หลารอเรียนวิชาถัดไปอยู่ มันยื่นโทรศัพท์มาไว้ตรงหน้าพลางเลื่อนดูรูปไปเรื่อยๆ
"เชี้ยยย ไอ้ท๊อปแม่งอย่างเท่ห์เลยว่ะ เสียงแม่งก็โคตรดี"
ไอ้เตอร์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลลุกขึ้นมาร่วมวงสนทนาด้วยซึ่งหัวข้อสนทนานี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล ไอ้ท๊อปเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่แอดมินเพจกิจกรรมดาว-เดือน-ดาวเทียวของมหาลัยอวยยกมงลงให้กับความหล่อเท่ห์ของมันสุดๆ
"ไหนวะ...อ๋อ อันนี้งานที่มึงไปถ่ายมาเมื่อวานใช่มะ แล้วทำไมมึงถึงได้ไปถ่ายให้เขาวะ"
ไอ้วิทย์เงยหน้าขึ้นจากถุงขนมที่กินเข้าไปจะหมดห่อก่อนจะถามประโยคยาวๆออกมาหลังจากที่มันเลื่อนดูรูปในเพจนั้นจนหมด
"มึงจำพี่โก้เพื่อนพี่ไผ่ได้ป่ะ...อืม นั้นแหละ เขาท้องเสียกระทันหัน พี่ไผ่ก็เลยให้กูไปถ่ายรูปแทนก็เท่านั้น"
"แล้วมึงรู้สึกยังไงวะที่ต้องไปถ่ายไอ้ท๊อปอ่ะ กูเห็นถ่ายมันออกมาหล่อทุกช็อตเลย คนห่าไรแม่งหันมุมไหนก็หล่อ งงมากแม่ ขนาดกูเป็นผู้ชายยังอดมองไม่ได้เลย"
ไอ้เตอร์ถามออกมาบ้างส่วนมือมันก็เลื่อนดูรูปไอ้หน้าวอกไปมาราวกับมีมนต์ขลังอยู่ในรูปพวกนั้น แถมคำพูดชวนขนลุกของมันทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่เจอมันยิ้มให้อีก หึ้ยยยยย แค่คิดก็ขนคิงลุกแล้วเว้ย!!!
.
.
หลังเลิกเรียนทีแรกพวกผมว่าจะแยกย้ายกลับใครกลับมัน แต่ด้วยความที่เริ่มจะตกเย็นแล้วน้ำย่อยในท้องมันก็ร้องประท้วงแข่งกันระงม เป้าหมายของเราทั้งสี่จึงเปลี่ยนจากกลับห้องไปเป็นร้านสเต็กลุงหยองหลังมอแทน
นั่งลงได้ไม่นานเมนูของทางร้านก็มาวางไว้ตรงหน้า แต่แล้วผมก็ต้องหันมาสนใจเสียงไอ้เตอร์ที่โวกเวกขึ้นแทน
"เฮ้ยๆ อันนี้แม่งเด็ดว่ะ พวกมึงอ่านนี่ดิ"
ไอ้เตอร์วางมือถือของมันลงกลางโต๊ะ หน้าจอของมันเปิดเพจซุบซิบดาว-เดือนไว้ พวกผมรีบสุมหัวยื่นหน้าเข้าไปดูโทรศัพท์ของมัน รูปที่เห็นคืออดีตเดือนนิเทศน์ที่ควงผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มคนหนึ่ง อิริยาบทต่างๆมากมายของทั้งคู่ถูกถ่ายทอดลงโพสต์พร้อมกับข้อความชวนคิดให้แก่ชาวเผือกทั้งหลาย
ผมกำหมัดตัวเองแน่นไม่ใช่ด้วยความอิจฉาแต่กลับเป็นความโกรธเสียมากกว่า เมื่อผู้หญิงในรูปนั้นดูยังไงก็ไม่ใช่แพรวที่ปัจจุปันเธอคือแฟนของไอ้ท๊อป!!
"เชี้ยซัน! ใจเย็นๆก่อนมึง"
เพื่อนๆพยายามตะครุบแขนผมไว้เมื่อเห็นท่าผมจะวิ่งออกจากร้าน ผมไม่รู้หรอกว่าไอ้ตัวต้นเหตุมันอยู่ที่ไหนแต่ขาทั้งสองข้างก็พาตัวเองออกเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาหยุดที่สนามหญ้าข้างตึกของคณะและก็คงเป็นโชคดีของผมที่เห็นไอ้มารหัวใจนั่งหัวโด่อยู่ตรงม้านั่งข้างหน้า
"ไอ้เหี้ยท๊อป!!"
ผมรีบปรี่เข้าไปคว้าคอเสื้อมันที่นั่งอยู่ สีหน้าของมันตกใจในทีแรก แต่เมื่อเห็นว่าเป็นผมใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นแสยะยิ้มพร้อมกับปัดมือผมออกจากคอเสื้อตัวเอง มันยืนขึ้นเต็มความสูงที่ห่างกันไม่มากไม่น้อยกับผม สองมือมันล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยท่วงท่าสบายๆ ต่างจากผมที่แทบกินเลือดกินเนื้อมันอยู่แล้ว เพื่อนๆมันที่นั่งอยู่รีบลุกฮือตามกันมา ขณะที่เพื่อนฝั่งผมก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาห้ามเช่นเดียวกัน
"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆไอ้ซัน มีอะไรก็คุยกันก่อนดิวะ"
เพื่อนสนิทของมันคนหนึ่งพูดขึ้นขณะเอาตัวเองมาคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้ท๊อป
"มึงออกไปเลยดิว กูมีเรื่องกับมันไม่ใช่กับมึง"
ผมดันไอ้ดิวที่ตัวเล็กกว่าให้พ้นทางก่อนจะขย่ำคอเสื้อของไอ้ท๊อปไว้อีกครั้ง
"มึงทำยังงี้ได้ยังไง มึงทำกับแพรวแบบนี้ได้ยังไงวะ!"
ผมตะคอกใส่หน้ามันเสียงดัง แต่มีหรือที่หน้าด้านๆของมันจะสะทกสะท้าน แถมยังมีหน้ามายิ้มกวนประสาทใส่อีก
"กูทำยังไง?"
"ก็รูปที่มึงควงคนอื่นอยู่นี่อะไรวะ!"
ผมคว้ามือถือของไอ้เตอร์ที่วิ่งตามมาติดๆให้มันดู มันเลิกคิ้วมองรูปนั้นก่อนจะไหวไหล่ราวกับไม่แยแสสิ่งที่เห็น มันเดินเข้ามาประชิดตัวผมมากขึ้นพร้อมกับกระซิบคำที่ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะทำให้มันจมคาตีนก็วันนี้แหละ!!
"มึงหึงแฟนเก่าตัวเอง หรือว่ามึง...หึงกูกันแน่?"
"ไอ้เหี้ยท๊อป!"
พลั๊วะ!
หมัดหนักแหวกกลางอากาศเข้าที่โหนกแก้มขวาของมันจนร่างหนาของมันเซไปเล็กน้อย หมัดที่สองกำลังจะตามไปแต่มันดันเบี่ยงหลบได้จนกลายเป็นผมเองที่หวืดเป้าหน้าคะมำลงพื้น
ไอ้ชิบหาย...แม่งหลบทันได้ไงวะ!!
ไอ้ท๊อปมันได้จังหวะจับแขนผมล็อคไขว้หลังแล้วตามลงมานั่งทับตัวผมไว้อย่างรวดเร็ว ผมดิ้นไปมาคิดจะพลิกตัวเองกลับแต่ต้องหยุดชะงักในตอนที่มันก้มลงมาพูดที่ข้างหู
"อย่าทำตัวไม่น่ารักกับกู ไม่งั้นมึงจะโดนหนักกว่านี้"
"ไอ้เหี้ย ปล่อยกู!"
"เฮ้ยท๊อป! ปล่อยซันมันเถอะนะ"
ฝูงเพื่อนที่ยืนนิ่งมานานเหมือนเพิ่งได้สติกัน พวกมันกรูกันเข้ามาช่วยห้ามทัพของเราทั้งคู่ไว้ ไอ้ท๊อปนั่งทับผมที่นอนขืนตัวอยู่พักนึง จนในที่สุดมันก็ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเสื้อผ้าตัวเองราวกับจับต้องสิ่งของสกปรกมา
ผมกัดฟันแน่นจนเจ็บสันกราม...กูไม่ยอมให้มึงหยามหน้ากูได้อีกเด็ดขาด ไอ้หน้าวอก!!
จังหวะที่มันหันหลังเดินหนีนั้นผมก็รีบวิ่งเข้าไปหวังจะเล่นงานลับหลัง แต่ไม่รู้เป็นโชคร้ายของผมหรือมันเก่งจริงกันแน่ ไอ้ท๊อปดันหลบได้อีกครั้งและคราวนี้มันสวนหมัดหนักกระทุ้งเข้ากลางหน้าท้องของผมจนเจ็บจุกไปหมด
ผมทรุดตัวลงนอนคุดคู้ มือทั้งสองข้างกุมบริเวณที่ถูกประทุษร้ายไว้ รู้สึกได้ว่าตัวเองเริ่มหายใจถี่ขึ้นและไม่สามารถประคองสติตัวเองได้ ผมได้ยินเสียงเพื่อนหลายๆคนร้องเรียกด้วยความตกใจและเข้ามาช่วยกันแบกผม แต่ก่อนที่สติผมกำลังจะหลุดไปจริงๆ ความคิดในหัวก็พลันแว๊บขึ้นมา
ไอ้เวรนี่...มันอยู่ชมรมมวยสากลนี่หว่า
อ๊อกกกกกก ลาก่อนเพื่อนๆทุกคน
และทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าก็เริ่มมืดมิดพร้อมๆกับสติของผมที่ค่อยๆดับไป
================
อัพเดทตอนใหม่ค๊ะ ช่วงนี้อาจจะนานๆเพราะคนเขียนกำลังรักษาตัวจากการผ่าตัดอยู่ค่ะ :m23: :m23:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทที่สี่
"ฮื้มมมมม"
ผมเบี่ยงหน้าหนีบางสิ่งที้กำลังคลอเคลี่ยอยู่แถวแก้มตัวเอง ก่อนมันจะเลื้อยลงมาบริเวณปากล่างผมและความชื้นแฉะที่ถูกดูดดึงจนเกิดเสียงจ๊อบแจ๊บ
“โว้ยยยย คนจะนอ-!!”
ผมตะโกนด้วยความรำคาญแต่ต้องกลืนคำด่าลงไปในลำคอแทน...ไอ้เชี้ยท๊อป!!
“ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา”
คำพูดเย้าแหย่พร้อมกับรอยยิ้มกวนๆที่เป็นท่าประจำของมัน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกแปลกต่างออกไปเพราะไอ้รอยยิ้มนี้มันดูอ่อนโยนผิดปกติ
ผมตาค้างอยู่แบบนั้นไม่แม้แต่จะพูดด่ามันออกไป รู้สึกหัวสมองยังจูนเครื่องไม่ติดว่าทำไมผมกับมันถึงมาอยู่ตรงนี้ จำได้แค่ว่าก่อนน่านี้ผมกับมันยังวางมวยกันอยู่เลย
มวย...เออ ใช่ วางมวย!!
“มึง! ออกไปห่างๆกูเลยนะ”
เท้าผมไวเท่าความคิด ประทับยันไปที่กลางลำตัวมันจนหงายหลังไปนอนจูบพื้นด้านล่าง ผมตาเหลือกอีกครั้งเมื่อเห็นสภาพเปลือยเปล่าของมันที่โผล่พ้นผ้าห่ม นั่นเลยทำให้ผมรีบก้มมองดูตัวเองเหมือนกัน...เชี้ยไรวะเนี่ยยยยยยยยย
“มึงกล้าถีบกูเหรอซัน?!”
ไอ้ท๊อปชี้หน้าคาดโทษมาทางผมแขนมันก็พยุงตัวเองลุกขึ้นมายืน ผมรีบโกยผ้าห่มมาปิดของสงวนไว้กระโจนหนีมันไปอีกฝั่งทันที
“มะ มึงอย่าเข้ามานะเว้ย”
ผมคว้าหมอนที่อยู่หัวเตียงฟาดใส่มันเต็มแรงจนใบหน้าและข้างหูขึ้นรอยแดงเป็นแถบริ้ว และก็ดูเหมือนว่ามันจะเริ่มโกรธจนเลือดขึ้นหน้าเสียด้วย
“มึงเป็นอะไรของมึงซัน ผีเข้าเหรอไงวะ!!”
“มึงนั่นแหละผีเข้า อยู่ๆมาจับกูแก้ผ้าทำห่าไร”
“มึงพูดบ้าอะไร คนเป็นแฟนก็ต้องแก้ผ้าตอนเอากันเปล่าวะ”
ห๊ะ ใครเป็นแฟนใครแล้วใครเอากันวะ!!??...ผมทวนคำพูดมันในใจ แต่พอได้สติผมก็อยากจะขย่อนของเก่าออกมาเสียตรงนี้
"ดะ เดี๋ยวนะมึง เมื่อกี้มึงพูดว่า...แฟน...ใช่มั้ย?"
ไอ้ท๊อปกอดอกพยักหน้ารับคำ ตอนนี้ดูเหมือนมันจะใจเย็นลงนิดหน่อยที่เห็นท่าทีของผม
"ไม่มีทางอ่ะ เป็นไปไม่ได้"
"แต่มันเป็นไปแล้วไง ห้องนี้มึงก็ย้ายมาอยู่กับกู นู่นก็ของๆมึงที่ยังเก็บไม่เสร็จ"
ผมมองไปรอบๆห้องตามคำพูดของมัน จนมาสะดุดตาเข้ากับกล่องใบใหญ่ที่ด้านหน้ากล่องเขียนไว้ชัดเจนว่า "ซัน" ผมรีบเดินตรงไปที่กล่องใบนั้นพร้อมกับรื้อของด้านในทันที ของด้านในส่วนใหญ่จะเป็นของสำคัญและบางอันก็เก็บเพราะมันมีความทรงจำที่ดี ซึ่งของทุกๆชิ้นล้วนแต่เป็นของผมจริงๆ...
"เป็นไปไม่ได้...กูกับมึงจะเป็นแฟนกันได้ยังไง ก็ในเมื่อกูกับมึงเกลียดกันขนาดนั้น"
"ถ้ายังไม่เชื่อก็เอานี่ไปดู"
มันกดเปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วโยนมาให้ผม บนพื้นหลังหน้าจอนั้นตั้งเป็นรูปถ่ายของมันกับผมที่เอาแก้มแตะกันแถมยังทำท่ามินิฮาร์ทอีกตั้งหาก...หึ้ยยยยย ขนลุกสัสๆ
"ของมึงก็ตั้งรูปเดียวกันนะ ไม่เชื่อก็เปิดดู"
มันหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องเปิดเข้าหน้าจอเหมือนกัน ทั้งยังประกบเข้ากับโทรศัพท์ของมันเพื่อเพิ่มพลังทำลายร้างลูกกะตาทั้งสองข้างของผม
โอ้มายก๊อดดดดดดดด...ผมยืนโซซัดโซเซคล้ายจะเป็นลมจับอีกครั้ง ไอ้ท๊อปมันรีบเข้ามาพยุงผมไว้ก่อนที่จะล้มลงไปจริงๆ
"ไม่ ไม่ เป็นไปไม่ได้...นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ยยยยยยย"
ไอ้ซันขอลาตายก่อนครับทุกคนนนน แอ๊ก!!!
.
.
“ไอ้วิทย์ มึงอยู่ไหนวะ”
(อยู่ห้องกูดิ ทำไมวะ)
“กูขอไปห้องมึงได้มั้ยวะ กูมีเรื่องอยากปรึกษามึงว่ะ”
(เป็นไรวะ? ทะเลาะกับผัวมาเหรอไงมึง)
ไอ้เพื่อนห่านี่ก็ย้ำกูจริงๆ ตกลงตัวผมในตอนนี้แม่งมีซัมติงกับไอ้หน้าวอกนั่นจริงๆเหรอวะ แล้วอีกอย่างนะทำไมกูต้องเป็นเมียมันด้วยวะ น่าโมโหโว้ยยยย!!
“...เออน่า เดี๋ยวกูไปหา”
ผมรีบเดินออกจากห้องหลังจากวางสายของไอ้วิทย์โดยไม่สนใจเสียงเรียกของไอ้ท๊อปที่เรียกไล่หลังมา เมื่อหลุดออกมาจากคอนโดได้ผมก็รีบโปกแท๊กซี่ขึ้นทันที ระหว่างทางผมก็เอาแต่คิดทบทวนกับเหตุการณ์ในตอนนี้มันคืออะไร แต่จนแล้วจนเล่าก็คิดไม่ออกซะที หรือจริงๆแล้วผมกำลังฝันอยู่วะ?
“โอ้ยยยย ซี๊ดดดดดด” เจ็บครับ ลองทึ้งหัวตัวเองจนแทบหลุดติดมือและพบว่ามันเจ็บจริงๆ ลุงคนขับแท๊กซี่แกก็สะดุ้งตามกับเสียงร้องจนต้องขอโทษขอโพยแกไปที
สายเรียกเข้าของโทรศัพท์ที่อยู่ในมือสั่นเป็นระยะๆ ไหนจะแจ้งเตือนจากในไลน์จนน่ารำคาญ แต่ผมกลับไม่มีกะใจจะกดดูมันเลย ในที่สุดผมก็มาโผล่ที่หน้าห้องไอ้วิทย์ในช่วงเย็นของวัน ผมเคาะเรียกมันอยู่พักหนึ่งก่อนจะเผยให้เห็นว่าไอ้วิทย์ยังคงเป็นไอ้วิทย์คนเดิมที่ผมรู้จัก ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไรที่ห้องของมันยังอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนไปไหน
“ทะเลาะกับไอ้ท๊อปมาเหรอวะ”
คำถามแรกถูกส่งมาทั้งที่ยังไม่ได้ทักทายกันด้วยซ้ำ ผมถอยหายใจและส่ายหน้าก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในห้องมันเอง ส่วนไอ้วิทย์มันก็ไม่ได้ว่าอะไรและเดินตามผมเข้ามาในห้องติดๆ
“ไม่ได้ทะเลาะแล้วหนีมาทำไม ปกติตัวติดกันจะตายห่า”
"ก็แบบว่า กู...กูทำตัวไม่ถูกว่ะ"
"ทำตัวไม่ถูก? อะไรของมึงวะซัน"
“นั่นแหละปัญหา คือกูไม่รู้จะเริ่มเล่ายังไงดีว่ะแล้วกูก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วย ถ้ากูเล่าให้มึงฟังมึงอย่าหาว่ากูบ้านะเว้ย"
"อะไรของมึงวะซัน กูเริ่มกลัวๆมึงแล้วนะเนี่ย"
"ตอนนี้มึงเป็นคนเดียวที่กูพอจะนึกออกว่ะวิทย์...มึงช่วยฟังเรื่องที่กูจะเล่าทีได้มั้ย"
ผมมองหน้าไอ้วิทย์ด้วยสีหน้าจริงจัง ส่วนมันก็มองผมเหมือนอยากจะถามแต่ท้ายที่สุดมันก็พยักหน้ารับ ระหว่างที่เล่าๆอยู่นั้นไอ้วิทย์ก็มีสีหน้าประหลาดใจปนสงสัยตลอด เพราะหากเทียบเป็นทฤษฎีของโลกใบนี้แล้วเรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำ
“เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้แหละมึง...มึงต้องช่วยกูนะเว้ยไอ้วิทย์”
“...แล้วมึงได้คุยกับไอ้ท๊อปบ้างยัง"
ผมส่ายหน้าไปมาจนไอ้วิทย์ถอนหายใจ มันลุกเดินไปเปิดตู้เย็นและกลับมาพร้อมกับเบียร์เย็นๆสองกระป๋อง มันยื่นมาให้ผมก่อนจะเปิดของตัวเองกระดกซดเสียงดัง
“แม่งโคตรเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่ออ่ะ เรื่องที่มึงเล่ากับสิ่งที่มันเป็นอยู่แม่งสวนทางกันชิบหาย”
ไอ้วิทย์กุมขมันแน่น จะไม่ให้มันปวดหัวได้ยังไง ก็ในเมื่อปัจจุบันไอ้คู่นี้มันรักกันปานจะแหกตูดดม...เออ ไม่สิ มันคงดมกันเรียบร้อยไปนานแล้ว
“กูก็ไม่รู้จะพูดยังไง พอตื่นมาก็เป็นแบบนี้เฉยเลยอ่ะ”
“ซัน...มึงเชื่อเรื่องมิติพิศวงหรือโลกคู่ขนานอะไรพวกนี้เปล่าวะ”
ผมทำหน้ากระอักกระอ่วน อยากจะตอบว่าไม่เชื่อก็ดูกระไรอยู่ ในเมื่อเหตุการณ์ตอนนี้มันเกิดขึ้นโดยหาคำอธิบายไม่ได้นอกเสียจากเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติที่เกินจะบรรยายจริงๆ
“แล้ว-แล้วมึงคิดว่ากูต้องทำไงต่อวะ”
“กูก็ไม่รู้ว่ะ แต่ตอนนี้ก็ปล่อยให้มันเป็นไปก่อน ถึงตอนนั้นมันอาจจะมีวิธีแก้ก็ได้นะมึง”
“เฮ่อ กูก็หวังว่าจะมีวิธีแก้จริงๆน่ะนะ...แต่วันนี้กูขอนอนกับมึงนะ กูยังไม่อยากกลับห้องว่ะ”
“เออๆ อย่าลืมบอกผัวมึงด้วยเดี๋ยวแม่งโวยวายบ้านแตกอีก แล้วพรุ่งนี้ก็กลับไปคุยกันให้รู้เรื่องนะเว้ย”
ผมกรอกตากับคำพูดที่ไม่กระดากปากของมันคำก็ผัวสองคำก็เมีย กระดกเบียร์ต่อแม่งซะเลย!!!
ไม่รู้จะเอายังไงต่อกับชีวิตตัวเองดี แต่ตอนนี้แค่ไม่อยากกลับไปเจอหน้าไอ้ท๊อปเฉยๆ ผมทำใจไม่ได้จริงๆ...ทำใจไม่ได้กับการตกเป็นเมียมันนี่แหละครับ ซันรับบ่ได้จริงจริ้งงงงง
‘คืนนี้กูนอนกับไอ้วิทย์นะ’
ผมตัดสินใจส่งข้อความสั้นๆไปบอกมันแล้วปิดเครื่องหนี พยายามข่มตานอนเพื่อหวังลึกๆว่าหากพรุ่งนี้เช้าลืมตาตื่นขึ้นผมอาจจะกลับไปอยู่ในโลกเดิม และตอนนี้ก็อาจจะเป็นแค่ฝันร้ายที่โคตรร้ายของผมก็เป็นได้
==========================
กลับมาต่อให้แล้วค๊าาา :impress2: :impress2:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทห้า
ผมงัวเงียตื่นขึ้นในเช้าวันต่อมาพอดิบพอดีกับที่เสียงกดออดหน้าห้องดังขึ้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงไอ้วิทย์ไปเปิดประตูและตามมาด้วยเสียงคนคุยกันอยู่ด้านนอก
'ซันอยู่ไหน'
'อยู่ในห้องนอนนู่น มันยังหลับอยู่เลย'
'อืม เดี๋ยวกูไปปลุกเอง'
ตายห่า เสียงไอ้ท๊อปนี้หว่า!! ทำไงดีวะกู จะลุกหนีตอนนี้ก็ไม่ได้ซะด้วย เอาวะ...แกล้งนอนต่อมันเลยแล้วกัน คร้อกกกกก
เสียงเปิดประตูห้องพร้อมเสียงฝีเท้าบ่งบอกว่ามีคนมาหยุดข้างฟูกนอนผม ผมหลับตาปี๋แกล้งหลับต่อ พยายามปรับลมหายใจตัวเองไม่ให้ตื่นเต้นไม่งั้นเดี๋ยวมันรู้ว่าตื่นอยู่
"ซันครับ ตื่นได้แล้ว"
ซันครับ บ บ... ห๊ะ นั่นชื่อกูเหรอวะ?! เดี๋ยวก๊อนนนนน อะไรมันจะนุ่มนวลขนาดนั้นพ่อคุ๊นนนนน
ผมขยับตัวเปลี่ยนท่านอนหนีมัน แต่ข้างในใจคืออยากจะมุดหนีให้พ้นแต่ก็ทำได้แค่นอนตัวเกร็งอยู่กับที่เท่านั้น สักพักก็รู้สึกถึงแรงยุบของที่นอนจากด้านหลังและตามด้วยมือคนข้างหลังที่คว้าตัวผมเข้าไปกอด
"ซันไม่อยู่ท๊อปนอนไม่หลับเลย"
มันกระซิบเสียงเบาชิดใบหูชวนให้สยิวกิ้ว คำพูดและการกระทำของมันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนจนผมเผลอใจเต้นระส่ำ
"อื้มมมม" ผมแกล้งส่งเสียงรำคาญค่อยๆลืมตามองคนที่ก่อกวนกัน แต่แทนที่มันจะปล่อยแขนออกจากตัวผม มันกลับพลิกตัวเองขึ้นมาคร่อมกักผมไว้ซะงั้น
"ตื่นแล้วเหรอครับ กลับห้องเรากันดีกว่าเนอะ"
เช๊ดดดดดด ยิ้มละลายตับละลายม้ามมากพ่อ ไม่อยากจะยอมรับเลยว่ามันหล่อแต่มันก็ดันหล่อจริงๆแหละ หล่อจนกูแสบตาไปหมดละเนี่ย อ่าวๆ แล้วนั่นมึงจะทำอะไร จะเข้ามาใกล้กูทำไม ออกไป๊!!
"เฮ้ยๆ ถ้าตื่นแล้วก็ลุกไปล้างหน้าล้างตาได้แล้ว มาจู๋จี๋กันในห้องคนอื่นหน้าไม่อายจริงๆเลยพวกมึงนี่"
เสียงไอ้วิทย์มันยืนบ่นทำหน้าเหม็นเบื่อ แต่สำหรับผมคือเสียงจากสรรค์ชัดๆ เพราะไม่งั้นไอ้หน้าวอกมันคงจะเขมือบผมไปแล้วเป็นแน่ ไอ้วิทย์โยนผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้ตรงหน้า ผมเลยได้ทีรีบผลักไอ้ท๊อปที่คร่อมอยู่ออกไปไกลตัวและรีบเดินเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาทันที
"ขอบใจมึงมากนะวิทย์"
ไอ้หน้าวอกหันไปขอบใจเพื่อนผมและเดินจูงมือผมออกจากห้องไปหน้าตาเฉย แต่ก่อนที่ผมจะโดนลากตัวออกไป ไอ้วิทย์มันก็รั้งแขนผมไว้ได้ทัน มันกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
"อย่าลืมคุยกับไอ้ท๊อป" ผมพยักหน้ารับตามคำบอกแม้ใจจริงจะน้ำตาตกในแล้วก็ตาม...มึงไม่คิดจะรั้งกูไว้หน่อยเหรอเพื่อนนนน
.
.
ไอ้ท๊อปมันพาผมกลับมาห้องที่คอนโด มันโถมกายเข้ากอดผมไว้ทันทีหลังจากที่ประตูห้องปิดลง ผมเกือบล้มหน้าคะมำแต่โชคดีที่มีแขนของไอ้ท๊อปรัดผมไว้แน่นพอ
"ซันอย่าทำแบบนี้อีกนะ...อย่าหนีท๊อปไปอีกนะ"
ไหล่กว้างของมันสั่นไหวน้อยๆ อดสงสารมันไม่ได้เลยเผลอลูบแผ่นหลังกว้างเพื่อปลอบใจ ตัวแม่งก็เท่าควายดันร้องไห้เป็นเด็กสามขวบซะงั้น...ผมถอนหายใจปลงตก เอาวะ ไอ้ท๊อปคนนี้มันคนละคนกับไอ้ท๊อปนั่น ลองตามน้ำมันไปก่อนแล้วกันวะ
"เออไม่หนี แล้วก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว"
"สัญญากับท๊อปแล้วนะ ท๊อปรักซันนะครับ"
"เอออออ รู้แล้ว ปล่อยกูได้แล้วมันอึดอัด"
"จุ๊บก่อนแล้วจะปล่อย" มันจับผมหมุนตัวให้เผชิญหน้ากันพร้อมกับก้มหน้ามาถูไถแถวซอกคอผมไปมาจนเริ่มขนลุกซู่
"จุ๊บบ้าจุ๊บบอมึงสิ ปล่อย!"
"นะครับ จุ๊บๆก่อน"
ผมยืนกระอักกระอวนทำอะไรไม่ถูกกับคำขอมัน นี่ผมต้องทำแบบที่มันขอจริงๆเหรอวะเนี่ย กูจะอ้วก!!
จุ๊บ!!
เสียงปากกระทบปากดังขึ้น ไอ้หน้าวอกมันจูบผม!! อ๊ากกกกก
สองมือหนาของมันยึดหน้าผมเอาไว้ ก่อนที่มันจะโน้มริมฝีปากเข้ามาขบเม้มปากผมเบาๆ ไม่นานมันก็ผละออกและปล่อยผมให้เป็นอิสระ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของมันแต้มอยู่บนฝีปาก มันเดินเลี่ยงไปทางกล่องใบใหญ่ทั้งหลายที่วางเกลื่อนอยู่
"ซันมาช่วยกันสิ จะได้จัดเสร็จเร็วๆ"
ไอ้ท๊อปหันมากวักมือเรียกผมที่ยังยืนตาค้างอยู่อย่างงั้น ชีพจรในอกซ้ายเต้นระรัวอย่างช่วยไม่ได้ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย!!!
.
.
แกว้ก ๆ ๆ ... ผมกวาดมือไปมาเพื่อหาต้นตอเสียงน่ารำคาญ คว้ามันมากดปิดได้ก็โยนไปอีกทาง
"ซันนนนน ตื่นได้แล้ว"
เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังมาจากนอกห้องนอน กลิ่นหอมๆของอะไรบางอย่างโชยมาเตะจมูก แต่ทั้งหมดที่ว่ามานั้นก็ไม่ได้เรียกความสนใจของผมได้มากกว่าที่นอนนุ่มๆที่นอนอยู่ตอนนี้
"ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา เดี๋ยวไปเรียนสายนะ"
มืออุ่นๆของไอ้คนที่ส่งเสียงน่ารำคาญไม่แพ้เสียงนาฬิกาปลุกกำลังยีหัวผมเหมือนลูบขนหมาก็ไม่ปาน
"ฮื้มมมม จะนอน" ผมบ่นพึมพำเอาผ้าห่มมาคลุมโปงหนี แต่ยังไม่ทันจะได้หลับต่อดีไอ้หน้าวอกมันก็แหกปากแทรกขึ้นมา จนผมต้องตะกายลุกจากเตียงในทันที
"ถ้าไม่ลุกกูจะปล้ำมึงเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องไปมันแล้วมหาลัยน่ะ!!"
"เออๆลุกแล้วโว้ย อย่าแม้แต่จะคิดนะมึง"
ผมชี้หน้าคาดโทษมันทั้งที่ยังเมาขี้ตา นอนก็แทบไม่หลับเพราะมึงคนเดียวเลย แม่งนอนกอดกูทั้งคืนจนกระดิกตัวไปไหนก็ไม่ได้ไม่รู้จะกอดอะไรนักหนา กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เล่นเอาเกือบเช้า ง่วงชิบหาย!!
"ลุกแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า จะได้มากินข้าวก่อนไปเรียน"
มันพูดสั่งปาวๆขณะทำตัวเป็นแม่ศรีเรือน ยิ่งมันใส่ผ้ากันเปื้อนลายหวานแหว๋วแม่งยิ่งเหมือนเข้าไปใหญ่ มันเดินมาเก็บหมอนและผ้าห่มที่ผมเพิ่งลุกขึ้นเมื่อกี้ให้เรียบร้อย
"แม่งบ่นอย่างกับแม่เลยวุ้ย!"
ผมบ่นขึ้นขณะถือผ้าขนหนูเดินเข้าไปอาบน้ำ ได้ยินเสียงแว้ดๆของไอ้หน้าวอกไล่หลังแล้วอยากจะหยิบฝักบัวเขวี้ยงใส่หัวมันแทน!!
"ไม่ใช่แม่แต่เป็นผัวเว้ย!"
.
.
ผมกับไอ้ท๊อปมาถึงมหาลัยในช่วงเก้าโมงครึ่ง มันจอดรถที่หน้าตึกเรียนของคณะ ซึ่งสภาพมหาลัยของที่นี่นั้นไม่ต่างกับมหาลัยที่ๆจากมาซักกะนิด
"ตอนพักกลางวันเดี๋ยวท๊อปโทรหานะ จะได้ไปกินข้าวด้วยกัน"
"มากินด้วยทำไม? มึงก็ไปกินกับเพื่อนมึงสิ"
"พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ" มันทำโทษด้วยการดึงปากผมจนยืดจนกลายเป็นปากเป็ด
"มันเจ็บนะเว้ย!" ผมปัดมือมันทิ้ง จะให้กูพูดกระหนุงกระหนิงกับมึงก็คงไม่ใช่เรื่องมั้งไอ้นี่!!
"เจ็บสิดีจะะได้ไม่ต้องพูดอีก แล้วคนเป็นแฟนกันเขาก็ต้องไปไหนมาไหนด้วยกันเปล่าวะซัน"
นั่นไง มาอีกละ ไอ้โหมดงอนแล้วทำหน้างอๆใส่ของมันเนี่ยะ คิดว่ามันน่ารักน่าชังหรือยังไงวะ เห็นทีไรอยากจะทุบมันทุกที
"เฮ่อ แล้วแต่มึงละกัน กูจะไปเรียนแล้ว"
ผมตอบมันไปส่งๆจะได้จบเรื่อง ไม่งั้นมันก็งอนอยู่แบบนี้ล่ะ ผมมองหน้าไอ้ท๊อปที่ยกยิ้มพอใจกในคำตอบ มือซ้ายมันเอื้อมมาลูบหัวผมเล่นก่อนที่จะรั้งหัวผมเข้าไปประกบฝีปากอย่างดูดดื่มแทน
"อื้อออ!! ไอ้-เ" โอยยยยย ให้กูได้ด่าก่อนได้มั้ยวะเนี่ยะ ดูดเอาๆอยู่นั่นแหละ!!!
มันเปลี่ยนตำแหน่งจากปากมาที่ต้นคอผม ดูดดึงตรงนั้นแรงๆจนเจ็บแปล๊บ ผมกระชากหัวที่จัดแต่งทรงไว้เนี้ยบของมัน มันอุทานร้องเสียงหลงแต่กลับไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไรแถมยังยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีกตั้งหาก
"อ้ะ ไปได้" มันโน้มตัวมาเอื้อมเปิดประตูรถฝั่งผมให้ มือหนาผายออกเชิญผมให้ลงจากรถ
ห๊ะ แบบนี้ก็ได้เหรอวะ!! ผมลงจากรถด้วยอาการงุนงงจนลืมเรื่องที่ถูกจูบไป เดินตรงไปยังม้านั่งใต้ตึกคณะที่มีเพื่อนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ไอ้วิทย์มองเลยด้านหลังผมไปยังรถยนต์ของไอ้ท๊อปที่เพิ่งออกตัวไปเมื้อกี้
"หน้ามึงดูมีคำถามนะ"
"คุยกันแล้ว?" มันเลิกคิ้วถามด้วยความอยากรู้ แต่ก็เปลี่ยนเป็นถอนหายใจแทนเมื่อคำตอบของผมมีเพียงส่ายหน้าให้มันเท่านั้น
"กูก็นึกว่าคุยกันแล้ว เห็นจู๋จี๋กันในรถตั้งนานสองนาน"
"พูดไปเรื่อย ใครมันจะไปจู๋จี๋กับไอ้นั่นกันวะ"
"มึงไม่เห็นสภาพตัวเองเลยสินะ คอแดงเป็นปื้ดยังบอกว่าไม่ได้จู๋จี๋อีก"
นิ้วมันจิ้มมาบริเวณผิวเนื้อที่ปกเสื้อนักศึกษาดันปิดไม่มิด ผมรีบตะครุบคอเสื้อตัวเองไว้แน่นจนไอ้วิทย์ยิ้มล้อ
"มอร์นิ่งคุณเพื่อนนน" ไอ้จั๊ดที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้แหกปากทักพวกผมจนสะดุ้งโหยงกันเป็นแถบ
"ไรของพวกมึงวะ ทำขวัญอ่อนกันไปได้"
"ไอ้ห่านี่ โผล่มาไม่ให้สุ่มให้เสียงกูก็ตกใจมั้ยวะ"
"แหมๆ ตั้งแต่มีผัวนี่แต๋วแตกนะมึง"
"ไอ้สัดจั๊ด เดี๋ยวกูถีบปากแตกเลย"
"ฮ่าๆๆๆ...อุ้ยๆ ที่คอนั่นอะไรอ่าตัวเองงง กี้วๆ"
"กี้วๆบ้านมึงสิ!!" ผมถกแขนเสื้อเตรียมไฝ้วกับมันเต็มที่ แต่ก็ถูกไอ้วิทย์ลุกขึ้นมาห้ามทัพเสียก่อน
"พอเลยพวกมึง จะไปเรียนมั้ยหรือจะแดกหัวกันอยู่ตรงนี้ กูจะได้ขึ้นไปก่อน"
"เออ ไป!!"
ผมกับไอ้ห่าจั๊ดประสานเสียงก่อนจะวิ่งกันตัวปลิวตามหลังไอ้วิทย์ไปติดๆ
.
.
จ๊อกกกกก...
"หิวข้าวเว้ยยยย ในที่สุดก็ถึงเวลาพักเที่ยงที่รอคอย" ไอ้จั๊ดยกแขนลูบหน้าท้องที่ร้องโจ้กจ้ากเพราะน้ำย่อยในกระเพาะเริ่มกำลังทำงาน
"ไปดิเพื่อน จะรออะไรล่ะ"
ผมคว้าคอไอ้จั๊ดกับไอ้วิทย์มากอด พากันมุ่งหน้าไปที่โรงอาหารของคณะทันที... เอ เหมือนผมจะลืมอะไรไปสักอย่างเลยหว่าาา แต่ช่างมันเต๊อะ
ณ โรงอาหาร
"โทรหาทำไมไม่รับ?"
ผมชะงักช้อนที่กำลังตักข้าวเข้าปาก มองใบหน้าหงิกงอของไอ้ท๊อปที่ยืนตัวสูงชะลู่อย่างกับยักษ์ปักหลัก มันแทรกตัวลงมานั่งคั่นกลางระหว่างผมกับไอ้วิทย์ทั้งที่ฝั่งไอ้จั๊ดนั่งก็ยังว่างอยู่แท้ๆ ไอ้วิทย์ที่ตัวเล็กกว่ามันมากแทบกระเด็นตกจากเก้าอี้ มันเลยจำใจลุกเดินไปนั่งข้างไอ้จั๊ดแทน
ตัวแม่งก็ใหญ่อย่างกับยักษ์ ยังกล้ามานั่งแทรกกลางพวกกูอีกนะ เฮ่ออออ
"ตกลงทำไมไม่รับสาย"
อ่ออออออ มันนี่เองที่ผมลืม
"ก็ไม่ได้ยินเสียงนี่หว่า...เอาน่าๆ ไหนๆก็เจอกูแล้วเลิกทำหน้าขี้ไม่ออกสักทีเถอะ นี่กูแบ่งข้าวให้เลยนะ เลิกงอนได้แล้ว"
ผมเลื่อนจานข้าวผัดกระเพราไข่ดาวตัวเองที่เพิ่งจ้วงได้แค่คำเดียวไปให้ตรงหน้ามัน เพื่อหวังให้มันอารมณ์ดีและเลิกทำหน้าเป็นตูดซักที เห็นแล้วรำคาญลูกตามากๆ
"ขอบคุณนะครับ"
กรี๊ดดดดดดดด!! เสียงกรี้ดกร้าดลั่นโรงอาหารเมื่อไอ้หน้าวอกที่ยิ้มจนแก้มปริหันมาหอมแก้มผมท่ามกลางนักศึกษานับไม่ถ้วน ดวงตาผมเบิกกว้างแทบถลน ไม่คิดว่ามันจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าประชาชีทั้งหลาย ไม่เว้นแม้แต่เพื่อนทั้งสองที่ทำตาเล็กตาน้อยล้อเลียนผมกันใหญ่
"ทำห่าอะไรของมึงเนี่ย หน้าไม่อาย!!"
ผมก่นด่ามัน มือก็ถูที่แก้มด้วยความอายปนขนลุก แต่ไอ้ท๊อปกลับลอยหน้าลอยตาตักข้าวในจานกินอย่างสบายใจเฉิ่ม...หนอยยยย ไอ้หน้าวอก ไอ้หน้าปูซีเมนต์!!!
"มึงอายอะไรของมึงวะ กูเห็นปกติมึงก็สมยอมตลอด แทบจะสิงกันตลอดอยู่แล้ว"
"มึงอย่ามามั่วไอ้จั๊ด นี่มันในมหาลัยนะเว้ย"
"โอ้ยยยยย พวกมึงสองคนเคยสนที่ไหน แถมคนทั้งมอเขาก็รู้ๆอยู่ว่าพวกมึงเป็นแฟนกัน"
"ห๊ะ!? มะ มึงว่ายังไงนะ ...ทะ ทั้งมหาลัยเลยเหรอ"
ผมหันไปมองไอ้วิทย์และไอ้ท๊อปที่พร้อมใจกันพยักหน้ารับ ยืนยันว่าไอ้จั๊ดฉายยาปากสว่างนั้นพูดความจริงทั้งปวง
ผมแทบจะมุดแผ่นดินหนี ไม่นะ แล้วแบบนี้ผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้ ไอ้ซันรับบ่ด้ายยยยย!!
'******************************************
มีหลัวขี้อ้อนก็ต้องทำใจหน่อยนะจ๊ะน้องซัน :laugh:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทที่หก
"ซันๆ ตื่นได้แล้ว ถึงห้างแล้วครับ"
แรงเขย่าเบาๆที่ต้นแขนทำให้ผมที่กำลังหลับฝันหวานต้องบรือตาตื่น ยกแขนสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจไปมา
"โอ่ยยยย ปล่อยก่อนนน"
ผมส่งเสียงฟึดฟัดดันหน้าไอ้ท๊อปที่ก้มลงฟัดแก้มตัวเองเล่นอย่างบ้าคลั่งไม่ยอมปล่อย...มันเป็นอะไรกับแก้มกูนักหนาเนี่ย ตัดออกไปเล่นด้วยเลยมั้ย โว๊ะ!!
"หมั่นเขี้ยวว่ะ"
"มัวแต่เล่นแล้วจะได้ไปเดินกี่โมง?"
ผมเหลือบตามองเจ้าของใบหน้าหล่อที่ยังคงส่งยิ้มมาให้ เอ๊ะ นี่ผมยังไม่ตื่นดีเหรอไงวะ ถึงได้มองว่าไอ้หน้าวอกๆของมันหล่ออีกแล้ว
ผมสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าบอออกไปและหันไปมองรอบๆลานจอดรถแทน วันหยุดทั้งทีแทนที่จะได้นอนสบายๆแต่ไอ้ท๊อปกลับลากผมออกมาข้างนอกด้วยเหตุผลแค่ว่า 'อยากออกไปเดท' ก็เท่านั้น
จุ๊บ! มันคว้าหัวผมไปจุ๊บเหม่งส่งท้ายก่อนมันจะวิ่งอ้อมมาเปิดประตูรถให้ผมทั้งที่ผมเองก็เปิดออกจนเกือบจะสุดอยู่แล้ว คงเพราะมันเทคแคร์ดีแบบนี้ล่ะสิ สาวๆถึงได้หลงมันกันทุกคน หึ!!
"อืมมม เดี๋ยวเราไปดูรอบหนังกันก่อน ถ้ามีเวลาก็หาอะไรกินก่อนเข้าไปแล้วกัน"
"อืม ยังไงก็ได้"
ระหว่างที่กำลังเดินไปโซนโรงหนัง ผมสังเกตุได้ว่าทั้งหญิงและชายรอบๆข้างหันคอมองตามมันแทบทุกราย ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ไอ้คนข้างๆกันจะเป็นจุดสนใจ เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่มันก็เป็นแบบนั้นมาตลอด
หมับ! จู่ๆมันก็เดินมาโอบไหล่ผมให้เข้าไปชิดตัว คุณๆลองนึกสภาพผู้ชายตัวใหญ่ๆสองคนมันเดินโอบกันสิครับ ก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่หรอกเนอะ วุ้ย!!!!
"มึงจะมาโอบทำไมวะ!! เดินดีๆไม่เป็นเหรอไง"
ผมหันขวับไปมองมันทันที คนอยู่เยอะแยะเต็มห้างก็ยังไม่วายมาตอดนิดตอดหน่อยนะมึง!
"เอาน่า ออกมาเดทกันทั้งทีก็ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นหรอก"
ถ้าแคร์เรื่องแค่นี้ก็ไม่ใช่ไอ้ท๊อปน่ะสิครับ!! มันหันมายิ้มโชว์ฟันขาวแฉ่ง คอของผมถูกแขนใหญ่รัดแน่นพร้อมกับถูกฉุดลากถูมาจนกระทั่งถึงหน้าโรงหนัง
.
.
"มีเวลาอีกเกือบๆชั่วโมงก่อนหนังฉาย ซันอยากกินอะไรครับ"
"ไม่รู้ว่ะ กินอะไรก็ได้อ่ะ"
"อะไรก็ได้ไม่มีครับ เลือกมาเร็วๆ"
"เอ้า ก็กูไม่รู้จะกินอะไร แล้วมึงอยากกินอะไรล่ะถามแต่กูอยู่ได้"
"บอกได้เหรอ...งั้นไปตอนนี้เลย อยากกินซันจะแย่อยู่แล้ว"
"ห๊ะ อะ-ไอ้ทุเรศ ไอ้ลามก โว้ย!!"
ผมหน้าหวอจากที่ตอนแรกคุยกันเรื่องกินอยู่ดีๆ แล้วนี่มันพาวกเข้ามาเรื่องนี้ได้ไงวะเนี่ยะ!!
"ฮะๆๆ ล้อเล่นครับ เขินเลยเหรอ"
"เขินกับผีดิ แม่งขนลุกชิบหาย...แล้วตกลงจะกินอะไร มัวแต่ถามกันอยู่แบบนี้ชาตินี้ก็ไม่ได้กินหรอกข้าวน่ะ"
"ครับๆ งั้นไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน ลงไปอีกชั้นก็ถึงแล้ว"
ผมพยักหน้าตกลง เหมือนจะจำได้ว่าอีกฝ่ายอยากกินมาหลายวันแล้ว ผมเลยดันหลังให้มันเดินนำทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าวทันที
.
.
"ไอ้ท๊อปๆมึงรอก่อน กูดันปวดท้องว่ะ"
แม่งไม่น่าเห็นแก่กินเกินไปเลยผม มื้อกลางวันดันซัดเข้าไปเต็มเหนี่ยวเพราะไอ้ท๊อปมันทำตัวเป็นอาเสี่ยใจดีเลี้ยงกันเต็มที่ จนทำให้ตอนนี้ถึงเวลาเข้าโรงหนังแล้วแต่ผมดันถูกข้าศึกบุกทะลวงซะงั้น
"เดี๋ยวท๊อปนั่งรอตรงนี้ ซันก็รีบเข้าเถอะ"
ไอ้ท๊อปหิ้วถังป๊อปคอร์นกับแก้วน้ำเดินไปนั่งโซฟาที่ไม่ไกลจากหน้าห้องน้ำมาก เห็นแบบนั้นผมก็เลยรีบเข้าไปปลดปล่อยอย่างสบายใจทันที หลังจากปลดทุกข์เสร็จผมที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำก็เห็นผู้หญิงคนนึงเดินดุ่มๆเข้าไปหาไอ้ท๊อปที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ เธอเอ่ยทักเสียงหวานทำให้อีกฝ่ายต้องละสายตาจากหน้าจอขึ้นมองหน้าเธอแทน
"ตัวเองนั่งรอเข้าโรงหนังเหรอคะ"
"อ่า ครับ"
"งั้นแพนขอนั่งด้วยคนนะคะ พอดีกำลังรอเพื่อนอยู่พอดีน่ะค่ะ"
"เชิญครับ"
"ชื่อแพนเค้กนะคะ ตัวเองชื่ออะไรเหรอ"
หล่อนแนะนำตัวพลางขยับหันมองไอ้ท๊อปที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ไม่ได้สนใจเธอ ผมยืนกอดอกมองทั้งสอง ก็แค่ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะก็เท่านั้น แต่อีกใจก็อยากรู้ว่ามันจะทำตัวยังไงถ้าผมที่เป็นแฟนมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น
"ท๊อปครับ"
"ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ ท๊อปมีเฟซบุ๊คมั้ยคะ พอดีแพนอยากขอแอดเพื่อนไว้หน่อย"
"มีครับ...แต่ผมไม่สะดวกให้น่ะ ขอโทษที"
ผมเลิกคิ้วหลังจากได้ยินคำตอบมัน...ถ้าเป็นไอ้ท๊อปตัวจริงมีเหรอวะที่มันจะปฏิเสธผู้หญิงที่เข้าหา นี่มันไอ้ท๊อปตัวปลอมชัดๆ!!!
ผู้หญิงคนนั้นเธอหน้าเสียไปนิดที่ถูกตอบกลับแบบนั้นแต่เธอก็ยังชวนอีกฝ่ายคุยไม่ลดละ จนผมเริ่มเห็นว่าสีหน้าของไอ้ท๊อปมันดูจะหงุดหงิดพร้อมกับมองนาฬิกาข้อมือไปด้วย นั่นเลยทำให้ผมเลิกแอบดูและเดินออกไปหามันแทน
"โทษทีมึง ไปกันเลยมั้ย"
"ไปสิ เลทมาสิบนาทีแล้วนะ"
มันว่าพร้อมกับส่งแก้วน้ำมาให้ผมถือ มันอุ้มถังป๊อบคอร์นขึ้นมาส่วนมือข้างที่ว่างก็จับที่ต้นคอของผมไว้ ก่อนจะไปมันไม่วายหันไปเอ่ยลาหญิงสาวที่จ้องเขม็งมาทางผม
"ไปนะครับ แฟนผมมาแล้ว"
"ออกจะสวย"
"อยากโดนดีเหรอซัน"
"ก็แค่บอกว่าสวยเฉยๆ เสียดายที่มึงไม่ให้เฟซเขาไป"
"นิสัยไม่ดี อยู่ตั้งนานแล้วทำไมไม่รีบออกมา"
"ก็ยืนดูออเดิร์ฟก่อนจะเข้าไปดูหนังจริงในโรงไง หึๆๆ"
ผมว่าขำๆส่วนอีกคนน่ะเหรอ หน้างอเป็นตูดลิงไปเรียบร้อยแล้ว ผมมองตามหลังมันที่เดินนำหน้ากันไปโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองนั้นกำลังยกยิ้มอยู่...ทำไมกันนะ ทำไมผมได้โล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
********************************
มาต่อแล้วหลังจากหายไปนาน คนเขียนยุ่งมากๆจ้าาา :mew2:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทที่เจ็ด
"เฮ่ยๆพวกมึง เย็นนี้ไปเดินงานขายของที่ตึกคณะ marketing กัน" ไอ้จั๊ดเอยชวนพวกผมหลังจากเลิกเรียนวิชาแรกของวัน มันเปิดเพจของมหาวิทยาลัยชี้เชิญชวนให้พวกผมดู
"งานขายของอะไรวะ"
"โห่มึงนี่ไม่รู้เรื่องเลย ตอนนี้มอเรามีงานมหกรรมของมหาลัยเปิดให้นศ.และคนนอกเข้ามาขายของได้ไง วันนี้เพิ่งเริ่มวันแรกเลยนะเว้ย กูเลยจะชวนพวกมึงไปเดินดูของกันซะหน่อย"
"เออๆน่าสนใจดีว่ะ มึงว่าไงวิทย์ ไปเดินด้วยกันเปล่า"
"ไปดิ เผื่อได้อะไรติดไม้ติดมือมาด้วย"
"งั้นเดี๋ยวกูโทรไปชวนไอ้ท๊อปด้วย เผื่อมันอยากไปเดินด้วย" ผมพูดพร้อมกับกดโทรศัพท์หาอีกฝ่าย และเมินไม่สนใจท่าทางล้อเลียนของไอ้จั๊ดมัน
(ฮัลโหลครับ)
"มึง เย็นนี้ไอ้จั๊ดชวนไปเดินของมหาลัยอ่ะ มึงไปด้วยกันเปล่า"
(ไปด้วยได้ครับแต่ท๊อปน่าจะไม่ได้เดินด้วย)
"อ่า ถ้ามึงไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปกับเพื่อนๆกูเองก็ได้"
(เปล่า ที่บอกไปเดินด้วยไม่ได้เพราะท๊อปทำหน้าที่เป็นพิธีกรของงานวันนี้อ่ะ)
"อ่าว มึงไม่เห็นเคยบอกกูเลย ช่างมันเถอะ งั้นเจอกันที่งานแล้วกันเดี๋ยวโทรหาอีกที"
"ว่าไง ผัวมึงว่างไปกับมึงมั้ยล่ะ" ไอ้จั๊ดรีบแทรกเข้าแซวหลังจากที่ผมเพิ่งวางสายได้ไม่นาน
"เดี๋ยวกูเตะปากให้...มันบอกมันไปอยู่แล้วเพราะมันเป็นพิธีกรของงานวันนี้"
"อ๋ออออ กูไม่แปลกใจเลยที่งานจะเข้าเดือนคณะในวันที่มีกิจกรรมแบบนี้ ก็ผัวมึงหล่อซะขนาดนั้นมีหรือจะรอดจากการถูกใช้แรงงาน ฮ่าๆๆ"
"แต่มันก็ไม่ได้บอกกูก่อนเลยนะว่ามีงานแบบนี้ รู้แค่ว่าอาทิตย์ก่อนมันกลับช้า บอกแค่ว่ามาทำงานของคณะ"
"หรือผัวมึงแอบมีชู้วะ?"
ผัวะ!!
"โอ๊ยย!!! " ไอ้จั๊ดร้องเสียงหลงเพราะโดนฝ่ามืออรหันต์ของไอ้วิทย์ประเคนให้ถึงกลางกระบาลจนน้ำตาเล็ด สมน้ำหน้าดีแท้ พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลยนะมึง!!
"ตบกูทำไมอะวิทย์ กูเจ็บนะ ฮืออออ"
"ก็ปากมึงมันอยู่ไม่สุข พูดห่าอะไรดูหน้าเพื่อนมึงด้วย แม่งจะฆ่ามึงได้อยู่แล้ว เดี๋ยวมันมีปัญหากันขึ้นมาจริงๆซวยกูอีก"
ไอ้วิทย์เอานิ้วมาจิ้มที่หว่างคิ้วจนผมสะดุ้ง นี่ผมเผลอทำหน้าเครียดโดยที่ไม่รู้ตัวเพียงแค่ได้ยินที่ไอ้จั๊ดพูดนี่เหรอวะ บ้าไปแล้วน่าไอ้ซัน
"กูเปล่าทำ...ช่างมันเหอะ ครูเข้าแล้ว" ผมพูดแค่นั้นก่อนที่เราแยกย้ายกันกันที่นั่งเพื่อเรียนตามเดิม แต่เอาเข้าจริงๆตอนนี้ผมกลับเรียนไม่ค่อยเข้าใจและคิดไปต่างๆนาๆถึงเรื่องของไอ้ท๊อปทั้งคาบเรียน
ช่วงสามโมงกว่าๆของวันหลังจากเลิกเรียนครบทุกวิชา พวกผมก็เดินตรงไปที่ใต้ตึกคณะ marketing ทันทีโดยมีไอ้จั๊ดเดินนำและร่ายให้ฟังตลอดทางว่ามันจะเดินกินอะไรบ้าง มันนี่คิดถึงแต่เรื่องกินจริงๆเลย เฮ่ออออ
'สวัสดียามเย็นทุกๆท่านนะครับที่อยู่ในงาน Eat & Shop ที่จัดขึ้นโดยคณะ marketing ของมหาวิทยาลัยเรานะครับ งานในวันนี้จะจัดทั้งหมด 3 วันด้วยกันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันพุธกันเลยทีเดียว และสำหรับวันนี้ทุกๆท่านได้อยู่กับผม ธัญณกรหรือท๊อป นิเทศศาสตร์ ปี 2 ทำหน้าที่พิธีกรของวันนี้ครับ~'
กรี้ดดดดดดดดด~
เสียงกรี้ดจากสาวๆทั้งหลายทำให้พวกผมรู้ว่าใกล้มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ผมชะเง้อคอมองก็เห็นหน้าวอกๆของมันเด่นหรา มันดูหล่อเป็นพิเศษคงเพราะทรวผมที่ถูกเซ็ทจนเป๊ะและเสื้อเชิ้ตสีอ่อนทำให้มันดูสว่างจ้าตามากกว่าเดิม
'งานนี้มีวัตถุประสงค์ในการจัดเพื่อสร้างเสริมรายได้และการจัดการธุรกิจนะครับ เผื่อมีนักศึกษาท่านใดเนี่ยสนใจเปิดเฟรนไชน์ก็สามารถสอบถามได้ตามซุ้มในงานได้เลยนะครับ หรือนักศึกษาท่านใดอยากจะโปรโมตร้านตัวเองก็ได้เช่นกัน สามารถติดต่อที่โต๊ะเจ้าหน้าที่ด้านหน้าเพื่อลงทะเบียนร้านได้เลยครับ.... เอาล่ะครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเพราะคนเริ่มมากันเยอะแล้ว งั้นผมจะขอเริ่มพาทุกๆท่านเดินทัวร์แต่ละร้านกันดีกว่าครับ'
"ไอ้ท๊อปมันพูดเก่งนะ กูว่าที่มันกลับช้าคงไปซ้อมมาอย่างหนักจริงๆนั่นแหละ" ไอ้วิทย์พูดยิ้มๆพลางขว้าบ่าผมไว้ และผมก็คิดอย่างที่มันพูดจริงๆ
ผมมองจอผ้าใบผืนใหญ่ที่กล้องของมหาลัยฉายให้เห็นไอ้ท๊อปในนั้น มันพูดอธิบายพร้อมกับอ่านสคริปต์ไปด้วย บ้างก็หันไมค์ไปทางพ่อค้าแม่ค้าที่มาในงานพูดเล่นแซวอย่างเป็นกันเอง ดูไปก็เพลินไปอยู่ไม่น้อย
'โห นี่ผมเพิ่งพาเดินได้แค่ล็อคแรกเองนะครับ ทุกท่านคิดดูว่าในงานของเราอลังการมากแค่ไหน มีร้านมาเปิดลงทะเบียนเยอะมากๆ ไปต่อกันที่ล็อคสองเลยดีกว่าครับ ลุย!'
"กูว่างานนี่ผัวมึงต้องพูดจนเจ็บคอแน่เลยว่ะซัน หาน้ำไปให้มันซักหน่อยดีมั้ยวะ"
"มึงจะบ้าเหรอคนอยู่เยอะแยะ สต๊าฟก็อยู่เดี๋ยวเขาก็เอาไปให้เองนั่นล่ะ"
"มึงนี่ไม่รู้อะไร น้ำสต๊าฟมันจะชื่นใจเท่าน้ำที่เมียเตรียมให้ได้ไงวะ เชื่อกูดิไอ้ท๊อปหายเหนื่อยเลย" มันพูดเย้าแหย่พลางเอาบ่ามาชนบ่าผม คะยั้นคะยอให้ผมทำตามที่มันบอก
"กูละรำคาญ คำก็เมียสองคำก็ผัว เออก็ได้วะ!!" เห็นแก่ไอ้ท๊อปที่มันเดินร้อนเหงื่อแตกจนหน้าแดงหรอกนะ ถ้ามันเป็นลมเป็นแร้งไปจะมีใครรับผิดชอบล่ะ
ผมเดินไปซื้อน้ำกับทิชชู่มาก่อนจะเดินตรงเข้าไปในฝูงชนที่เดินตามพิธีกรหน้าวอกต้อยๆ ผมไม่ได้แวกฝูงชนเข้าไปเพียงแต่ยืนอยู่ในระดับสายตามันเฉยๆ ไม่นานหลังจากที่มันร่ายสคริปต์จบมันก็หันมาเจอผมจนได้ มันยิ้มกว้างหันไปพูดกับคนข้างๆ พอคนนั้นพยักหน้าตอบมันก็กวักมือเรียกผมให้เข้าไป ซึ่งผมก็เดินเข้าไปหามันดื้อๆแบบนั้น
"มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วไปเดินมารึยังครับ"
"มาตอนที่มึงเริ่มพูดนั่นล่ะ แต่อยู่ด้านนอกๆยังไม่ได้เดินเข้าไปดู... อ่ะ นี่น้ำกับทิชชู่ กูแวะเอามาให้ เดี๋ยวไปละ"
"ป้อนหน่อยสิครับ นะ" มันขว้ามือผมไว้ได้ทัน เสียงของมันออดอ้อนเหมือนที่มันชอบทำประจำ ผมหน้าเบ้หน้าแต่ถึงอย่างนั้นมือก็ดันเปิดฝาขวดน้ำให้มันโดยอัตโนมัติ สายตาของมันจับจ้องผมไม่วางตากระทั่งส่งหลอดยื่นเข้าไปจ่อปากที่เคลือบลิปสติกไว้
"อ๊า ชื่นใจจัง ขอบคุณนะครับ"
มันยิ้มหวานจนตาปิด ทำให้สาวๆแถวนั้นส่งเสียงกรี้ดกร้าดกันเป็นแถบ ผมรีบชักมือตัวเองกลับและยื่นถุงที่ซื้อมาให้มันไปถือเอง
"มะ มึงเอาไปถือไว้เถอะ กูไปละ"
"ไปเดินกันเถอะมึง แต่ไปเดินด้านหลังๆนะ" ผมชวนเพื่อนทั้งสองที่นั่งรออยู่ ไอ้จั๊ดทำหน้างงๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ผมแค่ไม่อยากอยู่ตรงนี้นานๆเท่าไหร่ ก็เพราะผมดันเกิดอาการคันยุบยิบที่ตรงอกและตกเป้าสายตาใครหลายๆคนน่ะสิถึงได้ต้องรีบหนี
ตกเย็น
"ไงมึง เหนื่อยเลยสิ" ผมเอ่ยทักเมื่อเห็นคนที่เป็นพิธีกรในงานวางกระเป๋าเป้ลงตรงหน้าในชุดสบายๆที่มันชอบใส่ เสื้อยืดธรรมดากับกางเกงวอร์ม
"เมื่อยขาครับ เดินทั้งงานเลย"
"หิวเปล่าววะ มึงได้กินอะไรมายัง"
มันส่ายหน้าและมองไปรอบๆงาน "ซันพาไปเดินในงานหน่อยสิ"
"อ่าว ไหนบอกเมื่อยไง ยังจะเดินอีกเหรอ"
"เมื่อยแต่ก็อยากเดินดูของไง มีของที่ท๊อปเล็งไว้ตั้งแต่มาแล้ว"
"เออๆ ไปก็ไปวะ"
"แล้ววิทย์กับจั๊ดล่ะ หายไปไหนกันแล้ว"
"กลับหอกันไปแล้ว กูนั่งรอมึงอยู่คนเดียว"
มันยิ้มพร้อมกับแตะมือผมแผ่วเบา ใบหน้าโน้มเข้ามาชิดจนได้กลิ่นน้ำหอมเย็นๆ ผมนั่งนิ่งไม่กล้าขยับจนปากของมันโฉบเข้าที่แก้มด้านซ้าย สัมผัสอ้อยอิ่งทำให้ผมหายใจติดขัด มันดูนุ่มนวลชวนให้ใจหวิวอย่างบอกไม่ถูก
"ไปหาอะไรกินกันเถอะ ก่อนที่ท๊อปอยากจะกินซันแทน"
"อะ-ไอ้บ้า ไอ้ลามก!! รีบเดินไปเลยนะมึง" ผมโวยวายลั่น แต่มันกลับหัวเราะชอบใจพร้อมกับจูงมือผมเข้าไปในงานด้วยกัน
__________________
มาต่อหลังจากที่หายไปนาน ไฟล์หายเลยต้องเขียนใหม่เลยค่ะ แง้ๆๆๆๆๆ :hao5:
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทที่แปด
"เออ วันนี้กูน่าจะกลับช้านะท๊อป ต้องรีบทำโครงงานส่งอาจารย์ให้ทันศุกร์นี้ว่ะ" ผมพูดขึ้นระหว่างที่กำลังขึ้นรถเพื่อไปมหาลัย
"กลับช้ากี่โมงเดี๋ยวท๊อปมารอรับ"
"ยังไม่รู้เลยว่ะ แต่ก็น่าจะดึกๆหน่อย"
"งั้นเดี๋ยวท๊อปโทรหาซันอีกที" มันพูดและหันไปขับรถต่อ ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรแถมดีซะอีกมีคนมารอรับ เผลอๆมันจะหาซื้อข้าวซื้อน้ำรอผมอีกด้วย ลาภปากเลยทีนี้
"ถึงแล้วครับ เดี๋ยวท๊อปโทรหาหลังเลิกเรียนนะ"
"โอเค...เฮ้ย!!" ผมที่กำลังปลดสายเบลล์อยู่ถึงกับสะดุ้ง มือเย็นคว้าหมับเข้าที่แก้มผมก่อนมันจะก้มลงมาจูบและดูดดึงริมฝีปากผมแรงๆจนเจ็บ ผมพยายามสะบัดแขนออกแต่มันรวบข้อมือทั้งของผมไว้จนขยับไม่ได้
"พอ-พอแล้ว" ผมเบี่ยงหน้าออกมาพูด ไอหอบของทั้งมันและผมชิดติดริมฝีปากของกันและกัน มันโฉบลงดูดดึงผิวตรงต้นคอผมและผละออกไปหลังจากนั้น
"ทะ ทำอะไรของมึงเนี่ยะ เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นรอยอีก" ผมง้างมือจะทุบเข้าที่หัวแต่มันไวกว่าเอี้ยวตัวตะแคงหลบเปิดประตูฝั่งผมออกทันที
"จะได้คิดถึงท๊อปตลอดเวลาไง ไปได้แล้วๆเดี๋ยวสายนะครับ" มันยิ้มมุมปากกวนๆสไตล์เดิม สไตล์ที่เห็นเมื่อไหร่ก็อยากจะเอาบาทาไปทาบบนนั้นซะจริง
ผมฮึดฮัดลงจากรถ เดินตรงไปทางม้านั่งที่มีเพื่อนๆนั่งกันอยู่เต็มไปหมด...แม่งจะเห็นกันป่าววะ แต่คงไม่น่าเห็นเพราะฟิล์มกระจกรถมันค่อนข้างมืด
"ไงมึง เดินหน้าตาเหมือนคนขี้ไม่ออกมาแต่ไกลเลยนะ" ไอ้จั๊ดคนปากหมาเจ้าเก่าเจ้าเดิม สงสัยอยากโดนใส่ตะกร้อครอบปากมั้งครับไอ้นี่
"เออ พอเห็นหน้ามึงแล้วกูปวดขี้ขึ้นมาเลย"
"สัส!!"
"พอเลยมึง มากันแล้วก็รีบมาทำเลย มีเวลาแค่สองวันนะเว้ยอยากตกเหรอไงพวกมึง" ไอ้วิทย์ที่พูดเบรคพวกผมเหมือนเดิม ทำให้ต้องรีบหันมาทำงานใครงานมันจ้าละหวั่น
พวกเราทำงานจนล่วงเลยมากระทั่งเย็น รู้ตัวกันอีกทีก็ตอนที่กระเพาะอาหารของแต่ละคนส่งเสียงร้องโครกครากแข่งกัน
ครืดๆๆ....โทรศัพท์ของผมสั่นแรง ทำให้ต้องหยุดมือจากงานข้างหน้ารับสายอีกฝ่ายแทน เป็นไอ้ท๊อปโทรมาตามว่าทำอะไรอยู่ไหนอย่างไร แถมมันบ่นซะยาวเพราะไม่ยอมติดต่อมันเลยทั้งวัน
"ยังไม่เสร็จเลยว่ะ มึงกินข้าวไปก่อนได้เลยไม่ต้องรอ"
//ท๊อปกำลังซื้อข้าวอยู่ งั้นเดี๋ยวท๊อปซื้อเข้าไปให้ครับ บอกเพื่อนๆด้วยจะได้ไม่ต้องออกไปซื้อ//
"เออๆแล้วแต่ละกัน เอ้อ ฝากซื้อพวกน้ำกะขนมมาให้ด้วยนะมึง แค่นี้ล่ะ" ไหนๆมันก็เลี้ยงละสั่งให้คุ้มครับ อิอิ
"พวกมึง เดี๋ยวท๊อปมันจะซื้อข้าวมาให้นะ เราค่อยพักตอนมันมาละกัน"
"โชคดีจังเว้ยยยย มีคนเลี้ยงข้าวแล้ว" ไอ้จั๊ดว่า ทำท่าจริตซับน้ำตาแบบสาวน้อย
"ซันโชคดีจังเลยเนอะ มีแฟนทั้งหล่อทั้งรวยทั้งเอาใจใส่ มดแดงอยากมีแบบนี้บ้างจัง งื้ออออ" มดแดงหญิงสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มโครงงานเอ่ยขึ้นบ้าง หล่อนกุมมือทำหน้าเพ้อฝันไปด้วย
ไม่นานก็มีเสียงรถยนต์คันหนึ่งที่ผมจำเสียงได้ดีมาจอดเทียบข้างตึกที่เรานั่งอยู่ เป็นใครไปไม่ได้นอกจากไอ้ท๊อปที่ตอนนี้หิ้วถุงพะรุงพะรังเต็มสองแขนจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน ผมลุกขึ้นเดินไปช่วยมันเพราะเห็นมันน่าจะหนักไม่น้อย
"ซื้ออะไรมาเยอะแยะวะ จะกินหมดมั้ยเนี่ยะ?"
"ก็ซื้อมาให้เผื่อไม่พอ เหลือดีกว่าขาดครับ"
"ขอบใจมึงมากเลยท๊อป กูกำลังหิวอยู่พอดีเลย" ไอ้จั๊ดรีบคว้ากล่องข้าวที่อยู่ตรงหน้าเหมือนกลัวว่าจะมีคนมาแย่งทั้งที่ก็มีข้าวครบจำนวนคน
"มึงค่อยๆกินได้มั้ยวะไอ้จั๊ด แม่งน่าเกลียด"
"ก็กูหิวอ่ะ... น้ำนี่กินได้เลยใช่มั้ยวะ แม่งติดคอว่ะ" มันว่ามือก็คว้าน้ำเปล่าในถุงมาเปิดดื่มอึกใหญ่
พวกผมได้แต่มองมันแบบเอือมๆยกเว้นแต่มดแดงสาวน้อยอารมณ์ดีที่นั่งหัวเราะให้กับไอ้จั๊ด นั่งกินข้าวกันไปได้สักพักพวกผมก็ต้องเริ่มกลับลุยงานต่อ
"เฮ้ยวิทย์ มีอะไรต้องไปซื้อเพิ่มเปล่าวะ เดี๋ยวร้านเครื่องเขียนเขาจะปิดเอา" ผมถามขึ้นเพราะตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว ร้านรวงในมหาลัยก็เลยทะยอยปิดกันแล้ว
"แป๊ปนะๆ...มีๆ มึงไปซื้อกระดาษแข็งกะเทปกาวมาเพิ่มหน่อย เอามาอีกสามสี่อันอ่ะ"
"เค ได้...เดี๋ยวกูมานะท๊อป ไปซื้อของก่อน"
"ท๊อปไปด้วย จะได้ช่วยถือ" มันว่าพร้อมกับลุกขึ้นเดิมตามผมมา
ร้านขายเครื่องเขียนในมหาลัยไม่ได้ไกลกันมากกับตึกผมแต่ก็ต้องข้ามฝากไปอีกตึกตรงข้ามที่ถัดไปเล็กน้อย ผมและมันเดินไปถึงร้านจัดแจงซื้อของเรียบร้อย มันอาสาช่วยถือของแทนผมซึ่งผมเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ดีซะอีกจะได้เดินตัวปลิว ฮิๆ
"เฮ้ย คุณระวัง!!"
ปรี้นนนน!! ผลั๊ก!
...... เจ็บ เจ็บจังวะ เกิดอะไรขึ้นกับผมนะ
"ซัน!! ซันได้ยินท๊อปมั้ย ช่วยด้วยครับ!!"
ทำไมไอ้ท๊อปมันเหมือนจะร้องไห้อีกแล้วล่ะ ตัวก็โตเท่าควายดันขี้แยจังเลยวะไอ้นี่ ผมค่อยๆยื่นมือขึ้นไปจับหน้ามันแต่ก็รู้สึกเจ็บแปลบไปทั่ว
"ซันอย่าเพิ่งหลับนะ ห้ามหลับนะ!!" มันกุมมือผมไว้ ผมได้ยินเสียงมันพูดและเสียงอีกหลายๆคนอยู่รอบด้าน รู้สึกถึงแรงที่ถูกหิ้วขึ้นแต่ตอนนี้ผมลืมตาไม่ไหวแล้ว ผมเพลียเหลือเกิน....
----------------------------------------- TBC
-
Parallel World สลับขั้วสร้างรัก บทที่เก้า
"อื้มมมม" ผมขยับตัวเล็กน้อยค่อยๆลืมตาขึ้น แสงไฟที่อยู่ตรงหน้าทำให้ผมต้องหลับตาลงไปใหม่และค่อยๆหรี่ตาขึ้น
"ที่ไหนวะ...แค๊กๆ!" ทำไมเสียงผมแหบขนาดนี้ คอก็แห้งแสบไปหมด
"ไอ้ซัน!! ไอ้ซันฟื้นแล้ว ไอ้วิทย์ๆ" เสียงโวยวายที่คุ้นเคยดังอยู่ข้างๆ ทำให้ผมค่อยๆหันหน้าไปทางที่มันอยู่
"มึง... ขอน้ำหน่อย"
"แป๊ปๆ นี่น้ำมึงค่อยๆกินนะ" ไอ้จั๊ดจ่อหลอดน้ำมาให้ ผมดูดมันขึ้นมาด้วยความกระหายและแห้งผาดจนเกือบหมดแก้ว
"กู-กูอยู่ไหน"
"มึงอยู่โรงพยาบาลของมหาลัย เป็นไงบ้างวะ ยังเจ็บท้องอยู่มั้ย" ไอ้วิทย์เดินมาหาผมสีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด
ผมจำได้แค่ว่าก่อนหน้านี้ยังอยู่ในมหาลัยและเดินมาซื้ออุปกรณ์ทำโครงงานกับไอ้ท๊อป...ใช่แล้ว ก่อนหน้านีเผมอยู่กับมันนี่
"ไอ้ท๊อปล่ะ"
"มึงจะถามหามันทำไม?" ไอ้วิทย์ถามผมขึ้นมาอีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด "มึงยังอยากทะลาะกับมันอีกเหรอไง พอเลยนะซันกูขอร้อง เรื่องมันแล้วก็ให้แล้วกันไป อย่าไปหาเรื่องใส่ตัวอีกเลยแค่นี้มึงก็เจ็บตัวจนนอนสลบมาวันนึงแล้ว"
ไอ้วิทย์พูดออกมาเป็นชุดจนผมมึนงงไปหมด ผมไปทะเลาะอะไรกับไอ้ท๊อปมันวะ? ก่อนมานอนอยู่นี่มันยังหาข้าวหาน้ำมาประเคนผมอยู่เลยแล้วจะไปเอาเวลาที่ไหนไปทะเลาะกันวะครับ???
"มึงงง หรือหัวไอ้ซันมันได้รับการกระทบกระเทือนวะ มันเหมือนจำอะไรไม่ได้เลยอ่ะ... หมอ ต้องเรียกหมอ!!"
"ไอ้สัสจั๊ด กูไม่ได้สมองเสื่อมแค่ยังมึนๆอยู่เว้ย!" ถึงผมจะเบลอแต่ปากผมก็ยังดีอยู่นะครับ ยังประมวลผลและด่ามันกลับไปได้ทันอยู่ แต่ผมรู้แล้วว่าตอนนี้ผมน่าจะกลับมาแล้ว...กลับมาในโลกเดิมที่ผมเคยอยู่
จริงๆผมควรจะดีใจสิที่ได้กลับมา แต่ทำไมมันกลับรู้สึกโหวงเหวงอยู่ภายในใจกันนะ
"มึงไหวมั้ยหรือจะนอนต่อก็ได้นะ...มีคนจ่ายค่าห้องไว้ให้เรียบร้อยแล้ว"
"ใครวะ"
"...คนที่มึงก็รู้ว่าใครนั่นแหละ เอาไงจะกลับหรือจะนอนต่อ"
"กลับแล้วกัน กูไม่อยากอยู่ต่อแล้ว"
"โอเค งั้นเดี๋ยวกูไปแจ้งที่เคาน์เตอร์ก่อน...มึงพาซันออกไปรอที่ลานจอดเลยนะจั๊ด"
ไอ้จั๊ดพยักหน้ารับแล้วเดินมาพยุงตัวผมขึ้นจากเตียง มันเดินไปหยิบกระเป๋าเป้ให้และพากันเดินไปรอไอ้วิทย์ที่รถ ไม่นานนักไอ้วิทย์ก็กลับออกมาเราถึงพากันขับรถออกไป
"มอไซค์มึงยังจอดอยู่ในลานจอดมหาลัยนะ เดี๋ยววันจันทร์กูแวะมารับไปมอด้วยกัน มึงก็นอนพักผ่อนซะจะได้หายไวๆ"
"เออได้"
.
.
เช้าวันจันทร์ผมกลับมาเรียนพร้อมกับขอบตาอันดำคล่ำอย่างกับหมีแพนด้า ผมนอนแทบไม่หลับในคืนที่ผ่านๆมา พยายามข่มตานอนแล้วแต่มันกลับหลับไม่ได้เองเหมือนรู้สึกไม่ชินไปซะอย่างงั้น ผมนอนคิดอยู่ทั้งคืนจนต้องยอมรับความจริงว่าที่เป็นแบบนี้เพราะไอ้ท๊อป ทั้งๆที่พยายามปฏิเสธทุกอย่างของมัน แต่ผมกลับคิดถึงอ้อมกอดที่ชอบกอดผมตอนนอน คิดถึงคำบอกฝันดี คิดถึงรอยยิ้มกวนๆของมัน... อ่า แต่จริงๆแล้วผมคิดถึงทุกๆการกระทำของมันเลยต่างหาก
ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลวันนั้นก็ไม่เจอมันอีกเลย มีแต่เพียงรูปถ่ายผ่านทางเฟสบุ๊คของมหาลัยเท่านั้นที่ทำให้ผมได้เห็นหน้ามัน...หน้าวอกๆที่ผมเคยก่นด่ามันเป็นประจำ แต่บัดนี้ผมกลับมองว่ามันหล่อซะงั้น เฮ่อออออ เพ้อซะแล้วไอ้ซันเอ้ย
"โห เต็มหมดเลยเหรอวะ แดดก็ยิ่งร้อนๆอยู่" ผมบ่นพร้อมกับบอดมอไซค์ไปด้วยในช่วงสายของวันอังคาร ลานจอดหน้าคณะกลับเต็มทำให้ต้องไปหาลานจอดที่เลยไปอีก
เมื่อมาถึงผมก็ชะลอมองหาที่ว่างซึ่งเหลือช่องนึงข้างรถหรูคันนั้น...คันที่จำได้ดีว่าเป็นของใคร ผมรีบจอดเทียบข้างรถคันนั้นเสร็จก็เดินมาหยุดยืนข้างตัวรถด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ เผลอยกมือขึ้นแตะกระจกรถข้างคนขับที่ไม่รู้ว่ามีใครอยู่หรือเปล่าเพราะฟิล์มรถมันค่อนข้างมืดมาก แต่ที่แน่ๆผิวกระจกมันยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่
"มึงทำอะไร?"
ผมชักมือจากกระจกแทบไม่ทัน ทันทีที่กระจกฝั่งนั่นถูกเลื่อนลงเผยให้เห็นหน้าไอ้ท๊อปที่ชะโงกออกมาถามจากในตัวรถ
"มะ-ไม่มีอะไร" ผมชะงักถอยหลังออกมาก้าว ก่อนจะเปลี่ยนสับขาถอยออกเตรียมวิ่งหนีจนเกือบล้ม
"มึงหายดีแล้วเหรอ"
"อ-อื้ม" ผมหลุบตาตอบมันไปเบาๆ ไม่กล้าหันไปสบตามันโดยตรงก่อนจะกลั้นใจหันหลังพาตัวเองหนีออกตรงนั้น
.
.
"ไงมึง หยุดไปตั้งหลายวันแต่ทำไมหน้าตาเหมือนคนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยวะ"
ไอ้วิทย์ตบบ่าทักหลังจากที่เข้ามาในห้องเรียนได้แล้ว ผมหันไปมองหน้ามันพร้อมกับคว้าหมับเข้าที่ใบหน้าไอ้วิทย์จนมันผวาประเคนมะเหงกใส่หัวกัน...อู้ยยยย เห็นดาวเลยว่ะกู
"เชี้ยไรมึงเนี่ยไอ้ซัน"
"โทษที กูแค่อยากรู้ว่ากูไม่ได้ฝันอยู่"
"ฝันบ้าอะไรของมึงอีก" มันเช็ดหน้าตัวเองไปมาตรงที่โดนมือผมจับ ทำอย่างกับตรงนั้นโดนของสกปรกนักล่ะ ชิ้
"กู...ช่วงนี้กูนอนไม่ค่อยหลับเลยว่ะ"
"หรือมึงยังเจ็บท้องที่โดนต่อยอยู่วะ"
"ฮ่าๆ ใช่ที่ไหนล่ะมึง กูแค่นอนไม่หลับเฉยๆเว้ย"
"...มึงมีอะไรไม่สบายใจอยู่เปล่าวะ ตั้งแต่วันที่มึงออกจากโรงพยาบาลมึงก็ดูแปลกๆไปนะ"
มันพูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วงจนผมต้องเผลอยิ้มออกมา...นั่นสิ ผมก็คิดว่าผมแปลกไปจริงๆ แปลกก็เพราะคิดถึงใครบางคนจนแทบบ้า จนกินแทบไม่ได้นอนก็ไม่หลับนี่ล่ะ
"ถ้ามึงมีอะไรจะเล่าจะให้ฟังกูก็พร้อมจะฟังและช่วยเหลือมึงนะเว้ย"
"เออน่า กูสบายดีเชื่อกูสิ แล้วนี่ไอ้จั๊ดกับไอ้เตอร์ไปไหนวะ ยังไม่เห็นโผล่หัวมาเลย"
"มึงก็รู้ว่าสองคนนี้มันตรงเวลาจะตาย ตรงตอนจารย์เข้าอ่ะนะ ฮ่าๆ" ผมกับไอ้วิทย์นั่งหัวเราะเราพร้อมกัน ไม่นานอาจารย์ประจำวิชาก็เข้ามาพร้อมๆกับที่ไอ้จั๊ดและไอ้เตอร์วิ่งสไลด์ตามอาจารย์เข้ามาติดๆ
========================= tbc
มาต่อให้แล้วค๊าาาา :impress2: