แจ้งข่าวนะคะ
ไคขอหยุดอัพนิยายสักพัก เมื่อร่างกายพร้อมใจพร้อมและต้นฉบับพร้อมเจอกันค่า :jul3:
อัพนิยายพี่แล้วก็ต้องมาอัพนิยายน้องนะคะ โปรดรอครู่ยาวๆ นะจ๊ะ :impress3:
ส่วนแก้ไขใหม่
Ghost Day - 5
Will We Be! - น้องว่าดีแล้วพี่ว่าไง?
หมอลุยส์เข้ามาดูคนไข้หลานรักรอบสุดท้ายของวัน สภาพร่างกายและค่ามาตรฐานทางการแพทย์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปในทางเลวร้าย เขาจดบันทึกผลประมวลต่างๆ จากหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนได้ยินเสียงเปิดประตูดังมาจากห้องน้ำในห้องของตะวัน
“ขอโทษทีนอนหรือยัง” หมอเอ่ยถามแปลกใจที่หลานชายอีกคนน่าจะนอนพักอยู่ห้องสำหรับแขก
“ยังครับผมพึ่งอาบน้ำเสร็จ” ร่างสูงสมาร์ทของทรรศสวมเพียงกางเกงหูรูดธรรมดาคาคาดหมิ่นเหม่ช่วงสะโพกลำตัวด้านบนไม่มีเสื้อผ้าสวมใส่มีเพียงผ้าขนหนูพาดคอไว้เช็ดหน้าเช็ดตา
น่าอิจฉาร่างกายวัยรุ่นนักกล้าเนื้อแน่นขมวดมัดเป็นรูปร่างน่ามอง พอนึกถึงพุงย้วยๆ ของตัวเองรู้สึกสังเวชสังขารของตัวเองในวัยใกล้เข้าเลขสี่ปลายๆ หมออย่างเขาไม่มีเวลาเวิร์คเอ้าท์เหมือนอาชีพอื่นได้แต่อาศัยวิ่งเบาๆ บนลู่วิ่งในฟิตเนส อาศัยสังขารนี้วิ่งรอกตรวจคนไข้ก็แทบหมดแรงเดินแล้ว
“พี่ลูอิสไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ” เด็กหนุ่มรุ่นน้องล้อชื่อของหมอลูยส์เพราะมีตัวสะกดอ่อนออกเสียงต่างกันแต่ดันเขียนเหมือนกัน ตอนเขาดังเป็นเด็กนั้นไม่ปะสีปะสาเรียกผิดเรียกถูกเจ้าตัวก็เอ็นดูไม่ว่าอะไร
“โตเป็นหนุ่มแล้วเรียกชื่อน้าให้ถูกเสียหน่อยก็ดีนะทรรศ” คนอะไรรู้ว่าออกเสียงไม่ถูกก็ดันทุรังเรียกมาเรื่อยๆ เขายังออกเสียงเจ้าตัวถูกต้องชัดถ้อยชัดคำ....ยกเว้นทวาร กับ ตะวันถูกบ้างผิดบ้างเจ้าตัวไม่รู้หรอก
“น่ารักดีออกครับพี่ ไม่เหมือนใคร ผมชอบ(เรียก)” ทรรศกระเซ้าเพื่อนน้าชายเหมือนรุ่นพี่ที่มหาลัย
“ไม่คุยด้วยแล้วนอนซะไป” หมอลูยส์เป็นฝ่ายตัดบทไม่อยากอยู่ให้เด็กรุ่นลูกถอนผมถอนหงอก
ร่างสมส่วนเปลือยอกชวนมองเดินมาขวางหน้าหมอไว้หน้าแทบจะชนแผงอกแน่นมัดกล้ามอวดเนื้ออวดหนังนั่น มือหนาเลื่อนเปิดประตูด้วยท่าประหลาดจนคนเป็นหมอสงสารกล้ามเนื้อที่ทำงานผิดธรรมชาติขืนฝึนทำแบบนี้บ่อยๆ หลายชายต้องได้รับการรักษาด้านกายภาพก่อนวัยเกษียณแน่นอน
เจ้าทรรศเจ้าเด็กขี้อวด อวดทุกอย่างทั้งของลับที่คนเขาไม่อวด! อ่อนใจกับเด็กขี้โอ่นี้จริงๆ ก็รู้อยากอวดว่าโตขนาดไหนแล้วแต่คนไม่อยากมอง มันอิจฉาไม่ได้คิดพิเศษพิศวาสไอ้ร่างกายรุ่นหลานคนนี้เลยจริงๆ ให้ตาย!
หนุ่มขี้เล่นโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ส่งพี่หมอเข้านอนจะได้หลับฝันดี มีร่างกายเซ็กซี่ของเขาในความฝัน อยากรู้จังคนทำงานวัยอย่างลูอิสจะฝันถึงเขาเรื่องอะไรหนอ?(คนแต่งจะจิ้น แกมันร้ายนายทรรศ)
คืนนี้มีการบ้านหลายงานวิจัยที่ต้องอ่านทรรศไม่อยากโง่อยู่คนเดียวในหมู่หมอเจ้าของไข้ของทั้งตะวันและคนไข้ที่มีรหัสลับว่าลูกชายของท่านรองฯ
ตัวเขาเองคิดว่าการรักษาด้วยวิทยาการวิทยาศาสตร์ล้ำสมัยเป็นสิ่งเพ้อฝันที่เป็นจริงได้แค่ห้องทดลองและประสบความสำเร็จกับสัตว์ทดลองเท่านั้นไม่มีใครกล้าทำการวิจัยกับคนจริงๆ คนสมัยนี้บางกลุ่มต่อต้านการใช้ขนสัตว์หนังสัตว์มาทำเครื่องแต่งกายกระเป๋าถือหรือรองเท้ายังมีคนเดินประท้วงจนต้องปิดถนน
เขาต่อต้านการรักษาครั้งนี้หรือเปล่าอย่างนั้นหรือ? ใจจริงไม่อยาก แต่บางครั้งก็อยากให้น้องชายตื่นขึ้นมามองโลกเส็งเคร็งใบนี้ในด้านอื่นๆ บ้าง เขาปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าลึกสุดใจอยากให้ตะวันได้หลับใหลและล่องลอยไปยังดินแดนไกลโพ้นไม่ต้องเวียนว่ายอยู่ในอ่างน้ำวนแห่งชีวิตในโลกนี้อีกแล้ว
สัตว์ป่าที่ว่าดุร้ายบางครั้งมนุษย์เราร้ายยิ่งกว่าสัตว์ป่าเสียอีก! สัตว์ออกล่าเพื่ออยู่รอดคนเดินสองขาออกล่าตามความต้องการของตัวเองไม่สนว่าจะทำลายใครทำลายวงจรแห่งชีวิตใดไปบ้าง ก็นั่นแหล่ะที่เขาเรียกว่า มนุษย์ ล่ะ
ความคิดคนหนุ่มอย่างเขาลุ่มลึกสัจธรรมเกินวัยคงไม่ต้องปลงผมออกบวชละทิ้งทางโลกแล้วมุ่งหาความสว่างทางธรรมเสียหรอกนะ แต่ทำไม่ได้หรอกกิเลสยังหนาขูดเท่าไหร่ก็ไม่ออกขนาดนี้ แค่อารมณ์สงสารน้องชายพาไปเท่านั้นล่ะ เขาก็มนุษย์คนหนึ่งมีด้านดีและเลวสลับกันไปตามสถานการณ์
ดึกมากแล้วและเขาใช้สายตากับบรรดาตัวหนังสือจนสายตาพร่ามัว เขาปิดไฟในส่วนโซฟายาวล้มตัวลงนอนพักทั้งสายตาและความคิด การทดลองทางการแพทย์เป็นสิ่งที่สมควรแล้วหรือที่จะทดลองกับมนุษย์?เป็นคำถามที่ค้างอยู่ในความคิดของทรรศจนกระทั้งหลับไป
“บ้าพลังจริงๆ ต่อให้อ่านทั้งหมดนี่ใช่ว่าจะเข้าใจกระบวนการทดลองทั้งหมดเสียหน่อย นายเพียงแค่เปิดหนังสือหน้าแรกเท่านั้น” หมอลูยส์อดใจไม่ได้ที่จะเดินมาดูลูกหลานของเพื่อนที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ดูแลของตัวเองไม่ได้
หมอเดินมาดูผลการวิจัยต่างๆ เกี่ยวกับการปลูกถ่ายอวัยวะ และวารสารการแพทย์มากมายที่หลานของเพื่อนรวบรวมมาเพื่อเทความรู้ใส่สมอง แต่ความจริงนั้นขั้นตอนต่างๆ ไม่ได้ง่ายที่จะทำความเข้าใจแค่อ่านบทความเพื่อสร้างผลงานและเลื่อนตำแหน่งหน้าที่จากนายแพทย์เป็นศาสตราจารย์
ร่างกะทัดรัดทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้นวมอีกชุดหนึ่งในห้องมองทรรศและตะวัน ปล่อยความคิดว่างเปล่าเขาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วในวันนี้พรุ่งนี้จะเป็นวันหยุดที่เฝ้ารอมาทั้งอาทิตย์เขาอยากไปออกกำลังกายฟิตหุ่นและอยากใช้เวลาอยู่กับหลานตะวัน
บางครั้งใช้เวลากับคนไข้เจ้าชายนิทราที่ไม่โต้ตอบอะไรก็สุขใจดีเหมือนกันพูดเองตอบเองใช้ชีวิตอีกรูปแบบที่แปลกกว่าปกติคงมีแต่คนแบบเขาที่ทำแบบนี้กระมัง
“เฮ้อ! นายจากไปยังทิ้งตะวันไว้กับฉันอีกนายมันใจร้ายเกินไปนะฮาน” เสียงเปรยเบาๆ ของหมอลูยส์ไม่ได้เกิดจากความอาลัยอาวรณ์เพื่อนรักแต่เกิดจากความขัดเคืองใจที่ลูกชายของเพื่อนดันหน้าตาเหมือนเพื่อนสนิทยังกับย้อนวัยกลับมายิ่งได้ดูแลมองเห็นเช้าเย็นไม่มีทางที่จะลืมคนที่จากไปได้เลย
คนนอนหลับตาได้ยินเสียงบ่นรำไร เขาหรี่ตามองผู้มาเยื่อนยามดึกที่กำลังนั่งปล่อยกายใจอยู่ที่ชุดรับแขกอีกด้านของห้อง เขานึกแปลกใจที่วัยอย่างหมอลูยส์ไม่คิดอยากมีครอบครัวสร้างเนื้อสร้างตัวหรืออย่างไรแทนที่จะมานั่งทอดอาลัยนึกถึงเพื่อนที่จากไป
ทุกวันนี้เขารู้สึกว่าหมอทำหน้าที่เหมือนพ่อของตะวันไปเสียแล้ว นี่เขาคงไม่ได้อิจฉาน้องชายใช่ไหมนะ เขาก็อยากอยู่ใกล้ๆ หมอลูอิสบ้างเหมือนตอนยังเป็นวัยรุ่นอาจเป็นเพราะเชื้อชาติตะวันออกในตัวหมอหรือเปล่านะที่มองดูที่ไรก็ดูเป็นคนละมุนนุ่มนวลไปหมด...ท่าจะบ้าแล้วทรรศ หลับไปซะ!
‘อ้าว! หมอลูยส์ พี่ทรรศ ทำไมมานอนกองกันในห้องผมละครับ?’ ตะวันลอยตัวมามองคนทั้งคู่หมอหลับไปทั้งชุดเครื่องแบบประจำโรงพยาบาลส่วนอีกคนนอนเอกนกอยู่บนโซฟารับแขก เด็กหนุ่มลอยตัวยิ้มมองภาพคนทั้งสองด้วยความอิ่มใจหากเขาได้ตื่นลืมตาอีกครั้งแม้จะไม่เหลือใครแล้วแต่ยังมีหมอและพี่ทรรศที่ยังอยู่กับเขา
“อบอุ่นดีจัง” ชายหนุ่มไม่รู้โผล่มาตั้งแต่เมื่อไหร่เข้ามายืนใกล้กับตะวัน เขาไม่ตั้งใจประชดประชัดแต่รู้สึกถึงความรักที่อบอวนอยู่ในห้องของเด็กหนุ่มจริงๆ
รูปครอบครัวที่แขวนไว้บนผนังบอกเล่าเรื่องราวว่าตะวันเติบโตมาอย่างดีด้วยความรักของพ่อแม่ รอยยิ้มของเด็กหนุ่มอ่อนละมุนมองแล้วสบายตาสบายใจดวงตากลมโตคู่นี้ของตะวันช่างเหมาะสมกับชื่อ ‘ตาหวาน’ เสียจริง ประกายตาทั้งคู่เจิดจ้าด้วยพลังงานด้านบวก
‘พี่ซุกท์ไม่นอนหรือครับ’ ตะวันลงไปนอนทับร่างตัวเองแต่ลำตัวลอยเหนือร่างจริงเล็กน้อย คนโตกว่ามองว่าเหมือนผีน้องนอนรอยตัวเหมือนนอนอยู่บนเปลเด็กกวัดแกว่งไปมาน่าเวียนหัว
“นอน...จะนอนยังไงล่ะแบบนั้น” เห็นแล้วยังเวียนหัวแทนเจ้าตัวแต่กรณีร่างของเขาต่างกันตัวของตัวเองดีดตัวเองออกจากร่างเป็นว่าเล่นคงทำตามตะวันไม่ได้
‘แบบนี้ไง!’ เด็กน้อยนอนหนุนแขนสองข้างสบายอกสบายใจถึงไม่หลับเหมือนตอนเป็นคนปกติแต่การที่เขาลอยตัวอยู่กับที่แบบนี้เขารู้สึกสงบและผ่อนคลาย
“นายนอนไปเถอะพี่อยู่ตรงนี้ดีกว่า” เขาทิ้งตัวบนพื้นแปลกใจที่ไม่หล่นไปด้านล่างเลยเดินไปนั่งบนเก้าอี้รับแขกอีกตัวตรงข้ามหมอลูยส์และชายหนุ่มนั่งได้เหมือนตอนเป็นคนธรรมดาทำให้เขาประหลาดใจไม่น้อย
‘ขี้โกงอ่ะ พี่ซุกท์ขี้โกงที่สุด!’ ตะวันต่อว่าอย่างไม่พอใจทำไมเขาถึงนั่งบนโซฟาแบบนั้นไม่ได้ทำไมได้แต่ลอยไปมาพี่เขาพึ่งเป็นวิณญาณวันแรกทำไมได้สิทธิพิเศษแบบนี้
คนพี่ได้แต่หัวเราะหึๆ ในลำคอ นึกในใจเขาคงเข้าร่างได้สักวันเพราะนอกจากทะลุกำแพงได้เขายังทำอย่างอื่นได้เหมือนอย่างที่เคยมีร่างกายคนปกติ
ซูกุเทินรู้สึกวูบหลับไปชั่วครู่เขานึกเป็นห่วงร่างตัวเองขึ้นมาจึงเดินทะลุกำแพงไปยังห้องคนไข้ของตนเอง ก็ไม่ค่อยชอบแต่ก็สะดวกสบายดี! เขาเดินวนสำรวจตัวเองรอบเตียงทุกอย่างรอบตัวเป็นปกติดีเขาจึงเดินไปยังด้านนอกห้องเลยจากห้องรับรองแขกไปอีกไม่ไกล
คนของเขาอยู่ยืนยามประจำตำแหน่งอยู่ห้องโถงรับรองในห้องสุดพิเศษชั้นนี้ อยากจะก้าวขาเดินต่ออีกหน่อยแต่เหมือนมีบางอย่างดึงทั้งร่างกายเขาไว้ไม่ให้ออกไปไกลกว่านี้ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้ฝืนยอมถอยหลังกลับมายังพื้นที่ของตัวเองโดยดี
ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้ในระหว่างเป็นผีฝึกหัดสินะ!
เจอกันตอนต่อไปนะคะ รอกันหน่อยนะคะเรื่องนี้มาช้าแต่มาแน่ค่าอัพทีสองเรื่องจ้า :hao3: