0 เรื่องวุ่นๆของวัยรุ่นขอพร
อันจะกล่าวเล่าถึงซึ่งตำนาน
ที่ขับขานลือลั่นทุกสมัย
เป็นหนึ่งปางวิษณุท่านลงไป
เพื่อคงไว้ถ้อยคำที่สัจจา
ณ บันไดขึ้นเขาเข้าไกรลาศ
น่าประหลาดใจนักเป็นหนักหนา
มีเจ้ายักษ์ล้างเท้าเทวดา
โดนก่นด่าต่อว่าแกล้งทุกวัน
อันเจ้ายักษ์ตนนี้มีพงศา
เป็นพรหมา¹อยู่ชั้นฟ้าเมืองสวรรค์
เหตุเกิดจากริษยาอิจฉากัน
จึงถูกท่านเทพอิศวรสาปลงมา
จึงต้องทำหน้าที่ให้ครบโกฎิ²
สำเร็จโทษของตนอันหนักหนา
แต่ก็ถูกกลั่นแกล้งโดยเทวดา
เจ็บอุราตัวข้าชอกช้ำใจ
อ้าวไอ้ยักษ์ล้างเท้าที่ต่ำต้อย
ยศก็น้อยจะทำตัวช้าไปไหน
รีบล้างเท้าตัวข้าให้เร็วไว
จะรีบไปพานพบประสบองค์
นนทกได้แต่คิดแค้นในทรวง
พวกมันล่วงเล่นหัวตามประสงค์
ผมก็ร่วงโรยราเริ่มน้อยลง
ไม่อาจคงความงามได้ทั้งมวล
เลยรีบวิ่งขึ้นเขาเข้าไกรลาศ
ด้วยใจคาดหวังพบองค์อิศวร
พอไปถึงร้องร่ำทำคร่ำครวญ
โศกกำสรวลครวญไห้ใจระทม
อ้าวไอ้นี่เป็นไรมาร้องร่ำ
หรือใครทำให้เอ็งใจขื่นขม
มาร้องไห้ดั่งใจเจ้าตรอมตรม
ทำเป็นซมซึมเศร้าโศกทรวงใน
ข้าแต่องค์อิศวรผู้ใหญ่ยิ่ง
ข้ารีบวิ่งมาขอพรท่านโปรดให้
ข้าทำงานรับใช้ทุกวันไป
ขอท่านใช้ความคิดพิจารณา
ครั้นสดับรับฟังท่านก็คิด
ต้องใช้จิตไร้คนให้ปรึกษา
จึงตัดสินถวิลไต่ถามมา
เอ็งนั้นหนาต้องการซึ่งสิ่งใด
อันพระองค์ตัวข้านั้นถูกรังแก
ขอเพียงแค่นิ้วเพชรใช้ได้ไหม
ให้ชี้ที่ผู้อื่นแล้วตายไป
แค่เอาไว้ป้องกันกายข้านี้เอง
เมื่อองค์เทพได้ยินก็ครุ่นคิด
ใช้ดวงจิตพินิจว่าเหมาะเหมง
มันเอาไปใช้ให้คนอื่นเกรง
ถ้าละเลงไปใช้ไม่เป็นไร
ว่าแล้วก็รีบรี่ไม่รอช้า
ให้พรมาเกิดแสงสว่างไสว
นิ้วมือก็เปลี่ยนเป็นนิ้วเพชรไป
จากร้องไห้กลับกลายเป็นยิ้มแทน
อันนิ้วเพชรที่กูให้มึงนี้
ทำแต่ดีอย่าชี้ให้ใครเจ็บแสน
ใช้ให้ดีอย่าให้มีใครดูแคลน
เก็บความแค้นในใจไว้ให้ดี
นนทกได้สดับรับคำกล่าว
มือเหนือเกล้าบังคมกราบพระทรงศรี
ตัวข้านั้นจะใช้ทำแต่ความดี
ไม่ให้มีราคีมาครอบงำ
และแล้วก็มาถึงซึ่งวันใหม่
นั่งรับใช้ล้างเท้าพร้อมกับขำ
โถ่ไอ้พวกเทวดาหน้าระยำ
จะกระหน่ำนิ้วชี้ให้วอดวาย
ครั้นเหล่าเทพเทวดามาถึงเสร็จ
ชี้นิ้วเพชรหมายเด็ดชีวาหาย
เหล่าเทวาผวาหนีกระจาย
ไม่ทันไซร้ล้มตายมากมายตน
เรื่องราวทราบถึงซึ่งหัสนัยต์³
ความบรรลัยมอดไหม้ทุกขุมขน
ไอ้ยักษ์เลวระเริงหลงลืมตน
เทวดาหลายตนต้องตายไป
ต้องรายงานกล่าวขานแก่จอมเทพ
ด้วยสังเขปทำเวลาอย่าสงสัย
แล้วบอกกล่าวองค์อิศวรในทันใด
ให้รู้ไว้ว่าใครมันก่อการ
ครั้นองค์เทพทราบเรื่องก็พิโรธ
ต้องให้โทษมันถึงขั้นประหาร
ไอ้ยักษ์เลวระยำช่างสามานย์
ต้องประหารร้าวรานซึ่งชีวา
จงไปตามนารายณ์ที่ทรงฤทธิ์
ที่สถิตชั้นไวกูณฐ์มาเถิดหนา
เพื่อมาปราบยักษ์ชั่วตัวต่ำช้า
สิ้นชีวาหากช้าไม่ได้การ
ครั้นนารายณ์ทราบเรื่องก็เข้าเฝ้า
ฟังเรื่องราวที่เล่าคำกล่าวขาน
ชีวายักษ์ตนนี้ต้องแหลกลาญ
จะจัดการประหารให้มันตาย
ว่าแล้วก็รีบเหาะไปดักหน้า
เปลี่ยนกายาเป็นนางฟ้างามเฉิดฉาย
เดินผ่านหน้าร่ายรำงามไม่คลาย
นนทกชายเหลือบเห็นใจเต้นรัว
โอ้น้องนางเจ้าช่างสวยจริงแท้
งามจริงแม่โสภาไม่สลัว
พี่มาสร้างสัมพันธ์น้องอย่ากลัว
พี่มิชั่วหรอกหนาน้องคนดี
อันชายชาญวาจาเป็นร้อยลิ้น
คงไม่สิ้นคารมหลอกโฉมศรี
หากอยากได้น้องเป็นคู่ชีวี
รำตามซีน้องจึงจะมีใจ
รำท่าไหนขอให้เจ้าบอกมา
พี่นั้นหนาจะรำตามไม่ห่างหาย
ได้ทุกท่าทุกทางไม่เสื่อมคลาย
ขอดวงใจนั้นไซร้โปรดรำนำ
ครั้นได้ยินนนทกพูดขึ้นแล้ว
ตัวนางแก้วเพริศแพร้วหน้างามขำ
เทพพนมปฐมใส่ท่ารำ
พรหมสี่หน้าน้อมนำรำเชื้อเชิญ
สอดสร้อยมาลาร่ายรำตรง
กวางเดินดงเดินรำไม่เคอะเขิน
ท่าหงษ์บินไม่สิ้นงามเหลือเกิน
อีกท่าเพลินกินรินเลียบถ้ำไง
ช้านางนอนงามงอนภมรเคล้า
อีกแขกเต้าเข้ารังดูสดใส
อีกหนึ่งท่าคือผาลาเพียงไหล่
เมขลาล่อแก้วไงจำได้ดี
มยุเรศฟ้อนบังอรงามจับจ้อง
ลมพัดยอดตองดังน้องสง่าศรี
พรหมนิมิตลิขิตเจอนารี
ตัวพี่นี้สุขใจจริงงามงอน
ร่ายรำกลางนภางค์กับดวงใจ
อีกท่าไงพิศมัยเรียงหมอน
อีกหนึ่งท่ามัจฉาชมสาคร
พระสี่กรขว้างจักรหักใจปอง
มาถึงท่านาคาม้วนหางนี้
ตัวของพี่ชี้นิ้วลงไม่หม่นหมอง
ถูกที่ขาเจ็บแสบน้ำตานอง
ครั้นเมื่อมองร่างน้องก็เปลี่ยนไป
กลายเป็นองค์นารายณ์ผู้เรืองฤทธิ์
ทำไมคิดแปลงกายหลอกน่าสงสัย
ด้วยความโกรธพิโรธจึงกล่าวไป
ว่าไม่อายหรือไรเทพเทวา
อันตัวท่านมีสี่กรพร้อมอาวุธ
ตัวข้าสุดแค่สองมือน่าอิจฉา
หรือเกรงกลัวนิ้วเพชรจงบอกมา
จึงทำเป็นนางฟ้าใช้อุบาย
เดี๋ยวเถอะไอ้นนทกยักษ์โอหัง
เอ็งจงฟังก่อนที่ชีพจะสลาย
ที่เอ็งแพ้เพราะเจ้าชู้ของใจกาย
จึงมลายหายสูญความจำตน
ถ้าชาตินี้เอ็งบอกว่าสู้ไม่ได้
เพราะข้าใช้สี่กรไม่ขัดสน
เอ็งจงเกิดเป็นยักษ์ไม่อับจน
แล้วตั้งตนแข็งแกร่งเหนือโลกา
จงให้มีสิบหน้ายี่สิบมือ
ให้ร่ำลือเรื่ยงราวไปเถิดหนา
ข้าจะเกิดเป็นมนุษย์ธรรมดา
และจะฆ่าชีวาพาแหลกลาญ
เมื่อสิ้นคำจำนรรจ์ที่บอกกล่าว
ชีพยักษ์เล่าก็หายอวสาน
ใช้ตรีเพชรจัดการไม่ช้านาน
ก็กลับคืนวิมานสวรรค์เอย
"เห้อ...." ชลธีถอนหายใจเฮือก..ใหญ่หลังอ่านบทประพันธ์ที่ตนพึ่งเขียนเสร็จเมื่อสักครูในชีวิตของเขาคือนักศึกษาชั้นปีที่2ของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในประเทศไทยยังไงล่ะแถมเขายังเรียนครุศาสตร์บัณฑิตสาขาภาษาไทยด้วยนะ
ไอ้ตอนแรกก็คิดว่าจะไปยากตอนปี3 ปี4 แต่ไหงกลับกลายต้องมาแต่งกลอนตั้งแต่ปีสองด้วย...รามเกียรติ์ก็เป็นตำนานวรรณคดีที่สนุกเรื่องหนึ่งของไทยแต่มันแฝงไปด้วยความเศร้า...เหตุใดเล่ายักษานามว่านนทกถึงต้องถูกกลั่นแกล้งจากเหล่าเทวาทั้งหลายพอได้นิ้วเพชรมาด้วยความแค้นก็ฆ่าเทวดาทั้งหมด
เป็นอันต้องถูกองค์นารายณ์มาสั่งหาร...แล้วก็ไปเกิดเป็นพญายักษ์ทศกัณฐ์ที่ท้ายที่สุดก็จบชีวิตลงอยู่ดี...แต่ว่านอกเหนือจากความเศร้าก็มีสิ่งที่ชลธีชื่นชอบและใฝ่หามาตลอด..นั่นคือความรักแท้ของนางสีดาที่มีต่อพระรามเป็นความใฝ่ฝันที่ชลธีอยากให้เกิดขึ้นกับตนเองจริงๆ
นึกดูสิหากเขาได้มีคนรักที่เพียบพร้อมด้วยความงามทั้งกริยา วาจา ใจ เหมือนดั่งนางสีดาคงจะเป็นความสุขที่ประเมินค่ามิได้เป็นแน่
ด้วยความปรารถนาอันยิ่งใหญ่ของชลธีนี้เองเขาจึงเฝ้าขอพรจากรูปภาพของท้าวมาลีวราช⁴ที่เขาซื้อมาจากห้างชั้นนำราคาก็แพงพอสมควร...แต่นี่ก็ผ่านพ้นมาเนิ่นนานนับปีแล้วเหตุใดเขาถึงไม่สมหวังในสิ่งที่ขอสักที
ชลธีเดินเข้ามาในห้องที่เก็บรูปท้าวมาลีวราชไว้เพื่อจะขอพรเหมือนดังเช่นเคยที่ทำทุกวันเขามองดูรูปภาพด้วยความท้อแท้...นี่ก็หนึ่งปีเต็มแล้วที่ผมเฝ้าขอพรจากท่านทำไมถึงไม่สมหวังสักทีกันนะ
เหมือนกับว่ารูปภาพได้ยินสิ่งที่เขาอธิษฐานจู่ๆพายุลมก็โหมกระหน่ำเล่นเอาชลธีวิ่งไปปิดหน้าต่างเกือบไม่ทัน...แต่สิ่งที่หน้ากลัวกว่านั้นพอชลธีหันหน้าไปก็ตกใจสุดขีดกับภาพที่เห็น...
บุคคลที่นั่งอยู่บนบัลลังก์พร้อมกับเหล่าคนธรรพ์⁵ทั้งหลายซึ่งเหมือนกับในรูปที่เขาเฝ้าขอพรจนหาจุดต่างมิได้กำลังนั่งปรากฏอยู่ด้านหน้าของเขา...ชลธีแทบหัวใจวายตายเขาไม่คิดว่าชาตินี้จะได้เห็นท้าวมาลีวราชตัวเป็นๆ
"อ้าวๆ...มัวแต่ร่ำไห้จาบัลย์⁶อยู่ทำไมเจ้าอยากได้พรไม่ใช่หรือ"
"ชะ...ชะ...ใช่ครับ" เขาเอ่ยตอบไปด้วยเสียงสั่นๆอย่าว่าแต่เสียงเลยแค่ประคองร่างกายไม่ให้สั่นก็ยากแล้ว
"หากเจ้าอยากได้พรนักล่ะก็เราจะให้เจ้าเลือกสิ่งต่อไปนี้"
"เอ๋...เลือกอะไรหรอครับ"
"อันความรักของเจ้านั้นหากจะหาบุคคลที่มีความเพียบพร้อมทั้งด้านกริยา วาจา และใจย่อมหาได้ยากจะมีก็ได้ในวรรณคดีเท่านั้นแหละข้าจึงจะให้เจ้าเลือกเรื่องที่เจ้าต้องการ"
ชลธียิ่งงงเข้าไปใหญ่...เขาแค่ต้องการมนุษย์ในโลกความจริงทำไมท่านมาลีวราชถึงเอ่ยถึงนางในวรรณคดีซะได้
"เจ้าจงเลือกเถิด"
1.พระอภัยมณี
2.อิเหนา
3.รามเกียรติ์
เมื่อชลธีทราบเรื่องที่เขาต้องเลือก...เขาก็ช่างใจคิดอยู่ครู่หนึ่ง...พระอภัยมณีมีนางเงือกก็ไม่เลวแต่ต้องไปอยู่กับนางยักษ์อีกช่างน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง อิเหนาก็สตรีมากมายเหลือเกินแถมยังต้องง้องอนบุษบาอีกส่วนรามเกียรติ์แม้นจะได้สีดาแต่ก็ต้องทำสงครามกับยักษ์คงจะเป็นเรื่องยาก
"เลือกอิเหนาครับ"
"อืมเลือกได้ดีงั้นเจ้าไปในรามเกียรติ์แล้วกัน" What...ผมบอกอิเหนาเหตุใดท่านเอารามเกียรติ์มาให้ผมเล่า...ชลธีอยากจะกรี๊ดออกมาให้รู้แล้วรู้รอด
"แต่ว่า"
"ไม่มีแต่...เอ้าเจ้าจงเลือกตัวละคร"
1.พระราม
2.ทศกัณฐ์
3.พิเภก
ตัวเลือกนี้ชลธีแทบไม่ได้คิดจึงตอบไปในทันทีว่า
"พระรามครับ"
"ช่างน่าเสียดายแต่รามเกียรติ์ขาดเพียงคนเดียวเท่านั้นก็คือทศกัณฐ์" เเล้วจะให้ผมเลือกทำสากกระเบือมะเขือเผาทำไม...ฮือๆๆๆต่อยเทพจะผิดไหมกู
"ด้วยฤทธิ์เดชแห่งวาจาสิทธิ์ของข้าเจ้าจงเข้าไปในโลกรามเกียรติ์ไปเป็นทศกัณฐ์เมื่อใดที่ถึงเวลาความรักของเจ้าก็จะปรากฏ"
"แต่ท่านผมไม่ขอพรแล้วได้ไหมผมขอยกเลิก"
"เห็นทีจะไม่ได้มาลีวราชตรัสแล้วไม่คืนคำ"
"ม่ายยยยยย"
___________________________________
โอย...ปวดเอวสุดๆ...ชลธีลืมตาตื่นขึ้นมาก็ไม่พบอะไรเห็นเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น...นี่เราอยู่ที่ไหนกันแน่หรือว่าเราจะฝันไปช่วงนี้ทำงานหนักสมองคงจะเบลอๆเป็นแน่
แต่ที่นี่ก็มิใช่ห้องของเขานี่นาหรือว่าเขาจะเข้ามาในรามเกียรติ์แล้วจริงๆ...ชลธีมุ่งหน้าไปส่องคันฉ่อง⁷ดู...ใบหน้าที่งดงามร่างกายที่บอบบางที่มันอะไรกันแต่ก็ยังมีเขี้ยวน้อยๆพอให้เขาได้รู้ว่าเขาคือทศกัณฐ์อยู่แล้วผมสีน้ำเงินนี่มันอะไรกัน....ทศกัณฐ์โลกไหนวะเนี่ย
แต่พอคิดๆดูสงสัยเขาจะฝันไปแน่แล้วเพื่อนๆก็มาแต่งหน้าให้เขาเช่นนี่เมื่คิดได้ดังนั้นชลธีจึงรีบรี่เดินปรี่ออกจากห้องในทันใด
"ตื่นแล้วหรือเพคะท่านพี่" เสียงเอ่ยถาม...จากผู้หญิงปริศนาผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นเธอสวยเลยแหละซึ่งถ้าชลธีเดาไม่ผิดคนๆนี้ก็คงจะเป็น....มณโฑ⁸เป็นแน่แท้
พญายักษ์ทศกัณฐ์จำเป็นในยามนี้จึงได้แต่พยายามใช้ภาษาที่ตนร่ำเรียนมาตอบไปในทันที
"อืม...ข้าตื่นแล้วเจ้าล่ะไปหนใดมาถึงพึ่งมาไตร่ถามข้า"
"อะไรกันเพคะก็ท่านพี่ให้น้องไปจัดเตรียมอาหารน้องก็ไปจัดเตรียมเรียบร้อยแล้วจึงด้นดั้น⁸เดินมาเรียกท่านพี่นี่แหละเพคะ
"อย่างงั้นเองรึสงสัยข้าจะลืมไปน่ะ5555" ชลธีไม่รู้ว่านางจะจับได้หรือเปล่าแต่เรื่องแถนี่เขาไม่เป็นสองรองใครแน่นอน
วันนี้คงเป็นวันรวมญาติเป็นแน่แท้...พี่น้องมากันซะเยอะเลย...ทั้งกุมภกรรณ พิเภก ขร ทูษณ์ ตรีเศียร และยังมีสำมนักขาอีกเล่นเอาทศกัณฐ์ฝึกหัดทำตัวไม่ถูก
ชลธีไม่รู้ว่าจะพูดคุยอะไรกับเหล่าพี่น้องพวกนี้เขาคิดแค่ว่าอย่าถามไถ่ตัวเขาเลยจะดีกว่ามิเช่นนั้นคงจะคุยกันไม่รู้เรื่องเป็นแน่
"หมู่นี้ข้าไม่ค่อยเห็นท่านพี่ไปออกรบกับเทวดาเลยเป็นเพราะเหตุใดหรือพะย่ะค่ะ" พญาขรเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัยเล่นเอาเจ้าลงกาถึงกับสะดุ้ง
"ข้าเห็นว่าพวกมันคงสู้ไม่ได้ข้าเลยไม่รู้จะไปรบกับพวกมันทำไม"
"สมกับเป็นท่านพี่จริงๆ"
"พวกเจ้ามาเหนื่อยๆกินกันให้อิ่มหนำสำราญเถิด" ชลธีเอ่ยตัดบทไปเขาไม่อยากจะยืดเยื้อบทสนทนาให้มากถึงเขาจะอ่านรามเกียรติ์มาจนจำเนื้อเรื่องได้บ้างแล้วแต่พอมาอยู่ในเรื่องจริงๆความตกใจและตื่นเต้นก็กลืนกินความจำไปเสียจนหมดสิ้น
อันเหตุการณ์ในยามนี้ก็คงจะพอประมวลภาพได้....เนื่องจากเห็นอินทรชิตคงจะแสดงว่าในตอนนี้ทศกัณฐ์เพียบพร้อมไปด้วยอำนาจบารมีชื่อเสียงขจรไกลไปทั่วหล้าแล้ว
และหากเขาไปลักพาตัวสีดาผู้งดงามมาก็คงจะต้องถึงจุดจบของชีวิตเป็นแน่แค่คิดเขาก็ไม่อยากจะทำอะไรแล้ว...
ทันทีที่ทศกัณฐ์กำลังนึกอะไรได้นั้น...ก็มีตัวประหลาดปรากฏกายขึ้นมาซึ่งหากเขาไม่ได้เรียนภาษาไทยแล้วนั้นคงจะคิดว่ามันเป็นค้างคาวผีเป็นแน่แต่เขารู้จักมันเป็นอย่างดีเจ้านี่คือเวตาลสมุนของเขาเอง
"เวตาลเจ้ามาทำอะไรที่นี่"
"ข้ารู้ว่าท่านมาจากต่างแดน"
"เจ้ารู้ได้เยี่ยงไร"
"ท้าวมาลีวราชบอกข้าหมดแล้วข้าจึงต้องมาดูแลท่านในยามนี้"
"ถ้าเป็นเช่นนั้นข้าขอถามอะไรเจ้าหน่อยข้าสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องราวได้หรือไม่"
"ตามกฏที่ท้าวมาลีวราชสร้างขึ้นให้ข้าดูแลท่านมีดังต่อไปนี้"
กฏจากมาลีวราช
1.เจ้ามีค่าแห่งความดีอยู่ 100 คะแนน
2.หากฝ่าฝืนเนื้อเรื่องจะถูกหักคราวละ 5 คะแนน หากเหลือ 0 จะปิดทางพบรักแท้ทันที
3.หากทำสิ่งที่เป็นความดีคะแนนความประพฤติจะกลับมา 1 คะแนน
4.เจ้าจะได้รับความดีอันทรงคุณค่าหากทำสิ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมาก 1 ความดี
5.ความดีอันทรงคุณค่าสามารถเปลี่ยนแปลงเนื้อเรื่องได้หนึ่งอย่างทั้งนี้ขึ้นอยู่กับท้าวมาลีวราชจะพิจารณา
6.หากจะใช้ความดีธรรมดาในการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวต้องใช้ 10 คะแนนความดี
นี่มันกฏบ้าอะไรวะเนี่ยคะแนนความดี100คะแนนกูนึกว่าค่า K P A ให้คะแนนนักเรียน ข้อสองยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ แล้วความดีกูจะทำอะไรเล่า โอ้โหอันทรงคุณค่าก็มาแบบนี้กูคงลำบากเป็นแน่
"และนี่ก็คือกฏทั้งหมดของท่านขอจงปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด"
"อืม...ข้าจะปฏิบัติตามก็แล้วกัน"
"ไม่มีแล้วกันท่านต้องปฏิบัติตาม"
"เออๆ"
คุยกันเสร็จสรรพเจ้าเวตาลก็พลันหายวับไปกับตาทิ้งไว้แต่ทศกัณฐ์ยักษาที่กำลังกลัดกลุ้มใจเป็นยิ่งนักเขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าชาตินี้เขาจะเข้ามาอยู่ในโลกรามเกียรติ์จริงๆยิ่งคิดเขาก็แทบจะบ้าตายแล้ว
ถึงแม้นว่าชลธีจะรู้เรื่องราวรามเกียรติ์อย่างดีแต่เขาก็ยังหาจุดที่จะเปลี่ยนแปลงได้ยากเพราะสิ่งที่ควรเปลี่ยนคือสิ่งที่มันต้องจำเป็นจริงๆ
หากจะกล่าวถึงเวตาลนั้นในตอนนี้ได้รับหน้าที่อันใหญ่หลวงจากท้าวมาลีวราชให้เป็นผู้คุมคะแนนทั้งหมดของทศกัณฐ์และมีหน้าที่บอกภารกิจในแต่ละวันให้ทศกัณฐ์ทราบด้วย
ชลธีนอนกุมขมับที่เขาเป็นยักษ์ทศกัณฐ์จริงๆหรอเนี่ยว่าแต่ทำไมหน้าตาไม่ดุดันเหมือนยักษ์เลยแต่กับน่ารักซะงั้น...แก้มขาวเนียนแทนที่จะตัวสีเขียวแถมยังมีผมสีฟ้าอีกนี่มันทศกัณฐ์โลกไหนวะเนี่ย ปากก็ได้รูปน่าจูบซะเหลือเกินขนตางอนสวยนี่มันผู้หญิงชัดๆ...ถามจริงๆใครจะกลัวกูวะเนี่ย
สมดังที่พิเภกได้ร่ายอักษราชมความงามของพี่ชายตนไว้ว่า
งามพักตร์ดุจดังศศิธร
พระขนงโก่งงอนมากจริงเหลือ
นวลปรางสองแก้มหอมกรุ่นเจือ
งามเนื้อกายาช่างงามจริง
งามนาสิกงามเนตรทั่วธาตุขันธ์
งามทุกวันหน้าตาเหมือนดังหญิง
ใครพบเห็นมิอาจจะประวิง
ต้องรีบวิ่งพานพบประสบเจอ
"ท่านพี่เพคะวันนี้น้องไปนอนอีกห้องนะเพคะ"
"ตามใจเจ้าเถิด"
ถึงแม้นนางมณโฑจะหน้าตาโสภามากเพียงใดก็ไม่ได้ทำให้ทศกัณฐ์รู้สึกพิศวาสเลยเล็กน้อยอาจจะเป็นเพราะมิใช่รักแท้ด้วยจึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้้
ชลธีนอนหลับตาไปในใจก็ยังคงว้าวุ่นหากได้พบหน้าสีดาแล้วตนไม่ชอบพอก็คงหารักแท้ไม่เจอเป็นแน่ในยามนี้ยังไม่รู้เลยว่าตนเองรักใครกันแน่ท้าวมาลีวราชให้พรอย่างไรถึงเป็นเช่นนี้
__________________________________
1.พรหมา คือพระพรหม ในที่นี้หมายถึง อดีตของนนทก นนทกเคยเป็นพรหมมาก่อน แต่อิจฉาริษยารุ่นน้องที่ได้รับตำแหน่งไปแทน จึงถูกพระอิศวร (หรือพระศิวะ) สาปให้เป็นยักษ์ล้างเท้าอยู่เชิงบันไดเขาไกรลาศเป็นเวลาโกฏิปี
2.โกฏิ ชื่อมาตรานับ ๑ โกฏิเท่ากับ ๑๐ ล้าน.
3.หัสนัยต์ คือ พระอินทร์
4.ท้าวมาลีวาราช คือ ท้าวมาลีวราช หรือมาลีวัคคพรหม เป็นพระพรหมมีสี่พักตร์แปดกร มีความยุติธรรมมากจึงได้รับพรจากพระอิศวรให้มีวาจาสิทธิ์ ท้าวมาลีวราช มีศักดิ์เป็นปู่ของทศกัณฐ์เนื่องจากเป็นเชษฐาของท้าวจตุรพักตร์
5.คนธรรพ์ คือ ชาวสวรรค์พวกหนึ่งจัดเป็นเทพชั้นต่ำ
6.จาบัลย์ คือ ร้องไห้คร่ำครวญ, สะอึกสะอื้น.
7.คันฉ่อง คือ เครื่องสำหรับส่องหน้าทำด้วยโลหะเช่น ทองแดง หรือสัมฤทธิ์ ขัดจนเป็นมันเงา มีด้ามจับ.หรือ กระจกเงารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ามีกรอบ 2 ชั้น เอียงเข้าออกได้.
8.มณโฑ คือ เป็นมเหสีของทศกัณฐ์ มีชาติกำเนิดเดิมเป็นกบ อาศัยอยู่ใกล้อาศรมของพระฤๅษี 4 ตน พระฤๅษีมักจะให้ทานน้ำนมนางกบอยู่เสมอวันหนึ่งนางกบเห็นนางนาคมาคายพิษใส่อ่างน้ำนมเพื่อฆ่าพระฤๅษีทั้ง 4 นางจึงสละชีวิตกระโดดลงไปกินนมในอ่างจนตายพระฤๅษีได้ชุบชีวิตนางให้ฟื้นขึ้นเพื่อถามเรื่องราวเมื่อทราบความจริงแล้ว จึงชุบนางกบให้เป็นมนุษย์ มีความสวยงามมาก ตั้งชื่อให้ว่า "มณโฑ" (แปลว่ากบ)แล้วนำนางไปถวายพระอุมาบนสวรรค์ ต่อมาพระอิศวรประทานนางมณโฑให้แก่ทศกัณฐ์เป็นรางวัลตอบแทนที่ยกเขาไกรลาสให้ตั้งตรงเหมือนเดิมได้แต่ถูกพาลีชิงนางไประหว่างทางนางต้องเป็นภรรยาของพาลีจนตั้งครรภ์ พระฤๅษีอังคัตจึงสั่งให้คืนนางให้แก่ทศกัณฐ์โดยผ่าท้องนำทารกไปฝากไว้ในท้องแพะ ต่อมาจึงเกิดมาเป็นองคต
___________________________________
สวัสดีทุกคนสาเหตุที่เราเขียนเรื่องนี้ก็เป็นเพราะชื่นชอบในรามเกียรติ์มากๆจึงอยากจะลองเขียนแนวนี้ดูหวังว่าทุกคนจะชอบกันน๊าาา
ยังไงก็ฝากติดตามกันด้วยนะจะพยายามเขียนให้ดีที่สุดเลย
ทศกัณฐ์จะเจอรักแท้ตอนไหนนะ....กฏของท้าวมาลีวราชจะทำให้ความรักทศกัณฐ์เป็นอย่างไรโปรดติดตามตอนต่อไป
บทย่อยที่2 หนุมานเกี้ยวสุพรรณมัจฉา(กลอนทั้งบท)
เป็นกลอนแบบบทละครนะครับอ่านจากซ้ายไปขวา
บัดนั้น เหล่าวานรที่มากล้น
ขยันขันแข็งอดทน ร่วมใจกันขนก้อนหินมา
ถมทะเลก่อร่างสร้างทาง ใจก็พลางครุ่นคิดครรหา
เหตุไฉนไยหินที่ขนมา ดูเหมือนว่าลดเลือนน้อยลง
จึงแจ้งเหตุแก่ท่านหนุมาน บอกเล่าขานถ้อยคำตามประสงค์
หินที่เราขนมาดูน้อยลง พวกข้างงไม่รู้เพราะเหตุใด
บัดนั้น หนุมานวานรผู้ยิ่งใหญ่
ได้สดับรับฟังให้วุ่นใจ คิดสงสัยหาเหตุในทันที
จึงปรึกษาน้าชายชื่อสุครีพ ว่าต้องรีบสร้างทางพระทรงศรี
ขืนชักช้าเสียเวลาจะไม่ดี ตัวข้านี้จะรีบรุดลงไปดู
ด้านสุครีพได้ยินจึงเอ่ยบอก อย่าโดนหลอกจงฟังไว้ระวังหู
หากผิดพลาดถือซะว่าเป็นครู จงไปดูเถิดหลานอย่าช้าเลย
หนุมานรับคำตามน้ากล่าว เหาะลงเข้าสู่วารีไม่รอเฉย
เห็นปลาแหวกว่ายไม่เหมือนเคย ไฉนเลยขนหินไปทิ้งกัน
ฝ่ายวานรได้เห็นก็กริ้วโกรธ จิตพิโรธเกินกว่าจะเสกสรรค์
เสมือนหนึ่งไฟไหม้บรรลัยกัลป์ ชีพมึงนั้นต้องพลันสลายไป
แล้วพุ่งเข้าโถมไปไล่เช่นฆ่า ฝูงมัจฉาตายเกลื่อนตามน้ำไหล
แล้วเหลือบเห็นนางปลาดูวิไล เหตุอันใดจึงได้นำฝูงปลา
บัดนั้น หนุมานวานรเห็นมัจฉา
ลักษณะครึ่งคนครึ่งปลา ดูโสภาแน่งน้อยวิไลวรรณ
นำฝูงปลาเข้าขนหินกันใหญ่ ให้แค้นใจเร่าร้อนในธาตุขันธ์
เหวยอีปลามาขนหินทำไมกัน หรือมึงนั้นอยากตายวายชีวี
อันก้อนหินที่พวกกูถมมานั้น เป็นของท่านพระรามผู้เรืองศรี
จะจัดการตัวมึงไม่ปราณี แล้วรีบรี่รุดไล่จับในทันใด
ฝ่ายสุพรรณมัจฉาเห็นดังนั้น ตกใจพลันรีบหนีซ่อนให้ได้
แต่ด้วยลิงสีเผือกนั้นว่องไว จับไว้ได้เงื้อตรีเพชรในทันที
ฝ่ายนางปลากลัวตายจึงเอ่ยไป ขอจงไว้ชีวิตมารศรี
อันทศกัณฐ์บิดาใช้นารี ด้วยเหตุนี้ข้าจึงต้องทำตาม
ฝ่ายว่าหนุมานชาญสมร ฟังบังอรพูดมาใจวาบหวาม
เสียงไพเราะหลงไหลในนงราม จึงห้ามปรามเอ่ยปลอบยอดดวงใจ
ดูก่อนนวลนางหน้าแฉล้ม แก้มสีแดงดูแล้วสวยสดใส
อันชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร เจ้านั้นไซร้โปรดบอกชื่อตนมา
ฝ่ายนางปลาได้ยินจึงเอ่ยคำ ชื่องามขำคือสุพรรณมัจฉา
เหตุอันใดจึงอยากรู้เล่าพี่ยา มาถามข้าด้วยเหตุผลอะไร
อันนารีสตรีเห็นมามาก สองฝั่งฟากเห็นหมดไม่สงสัย
ทั้งแผ่นฟ้าผืนดินป่าพงไพร แต่ก็ไม่เทียบเท่าแม่นงคราญ
บัดนั้น นางปลาได้ฟังคำกล่าวขาน
ก็บิดกายอายเขินหนุมาน ดูตัวท่านก็ยังกล้าพูดไป
อันสองเราต่างเผ่าพันธุ์กันนัก ข้าลูกยักษ์มิอาจรักท่านได้
โปรดเถิดท่านอย่ามาเกี้ยวทรามวัย รักไม่ได้หรอกหนาพี่ลิงเอย
หนุมานได้ยินนางปลากล่าว เหตุใดเรารักไม่ได้เล่าน้องเอ๋ย
มาเถิดน้องนวลนางน่าชิดเชย อย่าช้าเลยที่รักศรีสุดา
อันเผ่าพันธุ์ต่างกันมิแค่เรา ฤาษีเล่าคู่กินรีได้หนา
อย่าเขินอายเลยเจ้านางปลา ขอตัวข้าร่วมรักสลักใจ
ว่าจบหนุมานเข้าอิงแอบ ตัวชิดแนบกับกายแม่แขไข
ประโลมจูบลูบคลำทั้งร่างกาย คลึงบัวไว้ด้วยมือของพญา
มหาสมุทรคลื่นลอกกระฉอกเข้า เรือสำเภาหมายมุ่งพุ่งเข้าหา
คลื่นเกี่ยวรัดกระหวัดปิดทางมา เรือนั้นหนาจำต้องหยุดกลางคัน
แล้วรอคลื่นคลี่คลายความแน่นหนัก เรือก็จักแล่นไปสู่สวรรค์
มุ่งหน้าตรงแล้วถอยแล้วตรงพลัน ถึงสวรรค์ในที่สุดก็หยุดลง
มีน้ำฝนพรอยพรมรดลงคลื่น เสียงสะอื้นสุขสันต์พิศวง
เรือสำเภาก็เริ่มลำน้อยลง ท้ายสุดคงออกจากคลื่นน้ำไป
บัดนั้น สุพรรณมัจฉาพักตร์ผ่องใส
มอบตัวกับหนุมานทั้งใจกาย ด้วยหลงไหลในคารมวานร
เมื่อเสร็จสิ้นกิจรักศึก วานรนึกได้แล้วบอกดวงสมร
พี่มีงานต้องทำนะงามงอน ต้องไปก่อนแล้วพี่จะกลับมา
ฝ่ายสุพรรณมัจฉาได้ยินคำ อกระกำสุดแสนอาวรณ์หา
ถ้าไม่รักไม่ต้องมาเกี้ยวพา ให้สุดาหลงไหลในอารมณ์
หนุมานเห็นนางปลาหันหน้าหนี ก็รีบรี่ประคองเอวให้เหมาะสม
โถพี่นั้นยังรักเจ้าแม่ชวนชม เสร็จศึกกรมแล้วจะกลับมาหานาง
ว่าแล้วก็จุมพิตจูบสุดา แล้วไคลคลาขึ้นฝั่งตอนฟ้าสาง
นำหมู่ลิงเอาหินมาถมทาง โฉมสอางค์มองดูน้ำตาคลอ
วันเวลาผันผ่านเนิ่นนานไป ท้องก็ใหญ่เติบโตขึ้นแล้วหนอ
น่าเสียดายเจ้าเกิดมาพ่อไม่รอ ไม่พะนอดูเจ้าแน่แท้เอย
ด้วยกลัวเกรงทศกัณฐ์บิตุเรศ จะสังเกตพิรุธนำเฉลย
จึงไหว้วอนเทวาอย่าเฉยเมย สำรอกเลยเป็นลูกกำเนิดมา
เป็นวานรแกล้วกล้าดูแข็งขัน อายุนั้นโสฬสดูเก่งกล้า
ตัวเป็นลิงกายสีเผือกเช่นบิดา เหมือนมารดรตรงหางปลาน่าแปลกใจ
แล้วจึงสั่งบอกคำอำลาจาก จำต้องพรากจากเจ้าไม่สุงสิง
พ่อของเจ้านั้นหนาเขาเป็นลิง แต่มีสิ่งให้เจ้าควรจดจำ
เป็นทหารเอกขององค์รามา ร่างกายก็แข็งแรงดูคมขำ
หาวเป็นดาวเป็นเดือนเจ้าจงจำ งามเลิศล้ำกุณฑลดูให้ดี
ชื่อพ่อเจ้านั้นคือหนุมาน ปรีชาชาญกล้าแกร่งมากศักดิ์ศรี
หากเจ้าพบจงเคารพดุษณี ตัวแม่นี้ขอลาจำจากจร