พิมพ์หน้านี้ - แฟนเด็กพี่ภาคิน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: Oncloud69_ ที่ 07-09-2021 22:11:29

หัวข้อ: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 07-09-2021 22:11:29
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



เรื่องราวความสัมพันธ์ของเราเริ่มต้นเพราะผมเมาแล้วไปนั่งตักพี่เขา จากคนที่แอบชอบเงียบ ๆ จวนจะยอมแพ้แล้วเลิกชอบพี่เขาแล้วแต่พอได้ใกล้ชิดกันแบบนี้ผมกลับรู้สึกดีมากขึ้น เอาละ ผมจะชอบพี่ต่อไปก็ได้พี่เบียร์
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 07-09-2021 22:13:16
PROLOGUE : ได้จูบพี่เบียร์แล้ว





ณ ร้านเหล้าหลังมอ.แห่งหนึ่ง มีผู้คนมากมายนั่งดื่มและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสียงดนตรีในร้านดังกลบเสียงพูดคุย ใบหน้านวลระเรื่อพยายามเพ่งมองปากเพื่อนว่าเพื่อนทั้งสองกำลังคุยอะไรกัน

"ไอ้รักมึงไหวไหม" เสียงเพื่อนสนิทที่นั่งฝั่งตรงข้ามหันมาสนใจเขาพร้อมกับตะโกนถามเสียงดัง คนหน้าแดงส่งยิ้มให้เพื่อนรักจนตาหยี เขายังไงไหว ยังนั่งดื่มกับเพื่อนได้ถึงเช้า

"ไหว กูไหวมาก" บอกเพื่อนเสียงยานเมื่อเริ่มจะเห็นหน้าเพื่อนทับซ้อนกันหลายคน มือขาวขยี้ตาตัวเองจนเริ่มแน่ใจว่าหายตาพร่ามัวแล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่ทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว ช้ำใจจนต้องนั่งดื่มเหล้าย้อมใจตัวเอง

เคยไหม...ทั้งที่เจ็บปวด แต่ก็ยังรักอยู่

เคยไหม...ทั้งที่พยายามจะหลบหน้า แต่กลับพบเจอ

เคยไหม...แอบมอง แต่ก็หลบตายามเขาหันมา

เคยไหม...แอบรักแต่ไม่กล้าพอที่จะเอ่ยคำ 'รัก' ออกไป

แล้วไงวะ กูแค่ชอบจะผิดตรงไหนห๊ะ!!

อยากตะโกนก้องดังๆ ให้ร่างสูงหล่อโดดเด่นที่ควงสาวสวยระดับดาวคณะนิติแนบอกนั้นไว้ได้รู้เหลือเกินว่าเขารู้สึกยังไง เป็นอีกคืนแล้วที่ร่างสูงควงยัยนมโตนั่นมาร้านเหล้าแห่งนี้ ผมมองภาพเขาสองคนสวีทหวานกันปานจะกลืนกินอย่างอิจฉา

มันอิจฉามาก เป็นผมแทนยัยนมโตนั่นไม่ได้เหรอที่คน ๆ นั้นจะควงแขน!! เล่าถึงคนอื่นนานละมาทำความรู้จักกันดีกว่า

ผมมีชื่อเล่นว่า เจ้ารัก รสิน อินทรักษ์ เป็นเฟรชชี่ปี1 คณะศิลปกรรรมหน้าใสมาได้หนึ่งเทอมละ เทอมสองก็เหลวแหลกตามรุ่นพี่แนะนำอย่างไอ้พี่โซดามัน พี่โซดาเป็นเจ้าของร้านเหล้าแห่งนี้ ตอนผมรู้ว่าร้านน้ำเมาแห่งนี้เป็นของพี่มันก็ตกใจเหมือนกัน

บังเอิญผมมันเข้ากับคนง่าย

บังเอิญร้องเพลงเก่ง

บังเอิญหน้าตาดี

บังเอิญเป็นหลานเทคฯ ไอ้พี่โซดาผมจึงถูกลากให้มาร้องเพลงและทำงานที่นี่ไปแบบไม่ต้องตั้งใบสมัครเลย

ชีวิตผมดีๆ คุณแม่ชมใหญ่เลยว่าผมขยัน ส่งให้มาเรียนแต่กลับมาทำงานหาเงินเที่ยวเอง

อยากบอกแม่เหลือกินว่ากูโดนไอ้พี่เทคแคร์มันบังคับครับแม่ แม่งงงงงง!!

และเพราะการมาทำงานที่ร้านทุกคืนนี่แหละครับจึงเป็นเหตุให้ผมได้รู้จักกับ พี่เบียร์ ภาคิน เจริญวัฒนกุล ปี 3 วิศวะไฟฟ้านี่เอง แหละนี่คืออีกเหตุผลที่ทำให้ผมไม่อยากจากร้านนี้ไปไหนแม้แต่คืนเดียว เพราะพี่เบียร์กับเพื่อนแก๊งอีกสี่คน ชอบมาสุงสิงที่นี่ทุกคืน บางคืนยัยนมโตนั้นก็มา แต่บางคืนก็ไม่มา ซึ่งคืนนี้ยัยนั้นมาและผมก็นั่งกรอกเหล้าดามใจตัวเองอีกเช่นเคย

กูเกลียดนมโต ๆ นั้น สัส!! เบียดพี่เบียร์จนนมจะทะล้นออกมาละ

ปัก!!

"แดกจนเหล้าร้านกูจะหมดร้านละ" เสียงไอ้พี่เทคผมเองเดินเข้ามาทักทาย พร้อมตบหัวผมดังปาบเพื่อเรียกสติ กูจะกินมันผิดด้วยหราาาา นี่ก็ทำงานเกินเงินเดือนที่ได้อีกล่ะไอ้พี่โซดาคร้าาาบ

"เหมือนเดิมแหละเฮีย โน้นครับโน้น" ไอ้โนเพื่อนผมมันชี้บอกให้พี่โซดารู้ถึงเหตุผลที่ผมซดเหล้าไม่หยุด ส่วนอีกคนที่นั่งข้าง ๆ คือไอ้แพร์ครับรายนี้ขยับลุกมาหยิกแก้มผมด้วยเพื่อเรียกสติไม่ให้ผมปิดตา

"จะแดกแล้วจะทำไมวะ" ผมกวนตีนใส่แม่งเลย เข้าใจฟิวใช่ไหม แม่งอกหักทุกวี่ทุกวัน เพ้อไปสิบชาติคนเดียวไปว่าเป็นแฟนกับเขาทั้งที่เขาไม่เคยแลมองสักครั้ง

"ไอ้นี่หนิ!!" และก็อีกลูกครับผมหันขวับมองด้วยสายตาร้ายใส่ไอ้พี่โซดา หัวกูน่ะไม่ใช่กลอง ตบเอาตบเอา เดี่ยวเถอะพ่อจะเตะก้านคอให้เลยพี่เทคฯ ก็พี่เทคฯ เถอะ

"ไอ้รักมึงเมาแล้วนะเว้ย กลับหอกัน" ไอ้โนมันชวนผม เรื่องอะไรผมจะกลับล่ะ แค่ได้เจอหน้าพี่เบียร์มันก็ดีมากแล้ว แต่ผมไม่ชอบเลยเวลามียัยนมโตนั้นคลอเคลียพี่เบียร์แบบนั้น ทั้งที่ไม่มีสิทธ์อะไร

แต่กูจะทวงสิทธ์

สิทธ์ของหัวใจที่รักมั่น 69 วัน!!

ครับ ผมแอบชอบพี่เบียร์เข้า 69 วันแล้ว และอีกเกือบชั่วโมง ก็จะวันที่ 70 แล้วครับทุกคน เสียงดังสนั่นทั่วร้านยังคงดังเพราะมีกลุ่มคนดูบอลอยู่อีกฝั่ง ไอ้พี่โซดามาตามให้พวกผมลุกมาช่วยงานในร้านก่อน เพื่อนทั้งสองจึงได้หิ้วปีกพาผมมานั่งอยู่บนเคาน์เตอร์เรียงราย โดยมีพี่โซดานั่งข้างไอ้แพร์ที่กำลังคิดยอดรวมของวันนี้เช่นเดิม

"มึง..ตัดใจเหอะ เขารักกันขนาดนั้น เขาไม่สนมึงหรอก" หึ ผมแสยะยิ้มเยาะให้กับตัวเองเมื่อเห็นชายหญิงตรงข้างหน้าร้านจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม

อีนั่นมันเป็นใครฟ้ะ...มายุ่งกะพี่เบียร์ของกูได้ยังไง!!

"อ้าว ๆ มึงจะลุกไปไหน" ผมปัดมือของสองเพื่อนรักออกแล้วเดินโซซัดโซเซตรงไปยังโต๊ะของพี่เบียร์ ผู้คนรอบข้างที่ผมเดินผ่าน ต่างก็หันมามองผม ราวกับกลัวว่าผมจะล้มเอาได้เพราะทรงตัวไม่อยู่

กูไม่ได้เมาเว้ย กู-ไม่-ได้-เมา!!

ผมเดินอย่างมาดมั่นเข้าไปลากยัยป้าที่นั่งแลกลิ้นกับพี่เบียร์ตกลงพื้นอย่างจัง นางยักษ์ร้ายดูจะตกใจและเจ็บตัวก่อนจะหันมาวีนใส่ผม ระหว่างนั้นผมเลือกมานั่งทับบนตักพี่เบียร์แทน

พี่เบียร์ผัวกูครับยัยป้าหน้าวอก

กรี๊ดดดดด

"เด็กบ้า เมาแล้วกลับบ้านไปเลยไป แล้วก็ปล่อยเบียร์นะ ออกไปจากตักเบียร์เดี่ยวนี้" เสียงแปดหลอดที่ดังแข่งดนตรีเรียกสายตาทุกคนในร้านเป็นอย่างดี ร่างอวบอัดลุกขึ้นเองด้วยความยากลำบากเพราะรองเท้าส้นสูงที่สวมใส่ ผมพยายามเพ่งเล็งมองหน้าเพราะสายตาเริ่มพร่ามัวด้วยฤทธิ์เหล้า ผมว่าผมไม่ได้เมานะแต่ทำไมเธอมีหลายคนจัง

"เลิกยุ่งกับพี่เบียร์ของน้องได้แล้ว ไม่เห็นรึไงว่าพี่เบียร์เขาไม่สนใจเธอ แหกตาดูบ้างนะ พี่เบียร์กอดน้องอยู่" ผมชี้มือไปยังยัยป้าหน้าหนาที่เอาแต่เกาะแกะพี่เบียร์ไม่ยอมไปไหน ที่สำคัญผมกอดคอพี่เบียร์ไว้แน่นด้วยเพราะกลัวว่าร่างสูงหายไปไหนแล้วโดนยัยป้าตรงหน้าฉกไปกินอีก

กรี๊ดดดดดดดดดดด

และก็ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องจนแก้วหูจะแตกดังทั่วร้านอีกครั้งพร้อมกับเท้าที่กระทืบอย่างไม่พอใจสุดๆ

"จะบอกอะไรให้หายโง่นะเจ้ พี่เบียร์เป็นของน้อง เรารักกัน แล้วเราก็จูบกัน" ผมสาธยายเรื่องราวมากมายที่คิดเองเออเองคนเดียวข้างเดียวออกมา เหล่าเพื่อน ๆ และพี่เบียร์ดูจะแปลกใจไม่น้อย สองมือผมดึงคอพี่เบียร์มาจูบแลกลิ้นกันต่อหน้าเจ้แกและทุก ๆ คน

อื้ม...ราวกับฝันเป็นจริง ผมได้จูบพี่เบียร์แล้ว

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 2
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 08-09-2021 18:38:14

EPISODE : 01 เรียกรักว่าน้องหนู





ได้เข้ามาในห้องกว้าง คนเมาก็ถูกพาเข้าห้องน้ำเมื่อน้องอยากอ้วก ผมลูบหลังให้น้อง เพราะน้องเมาแล้วเอาแต่บอกว่าอยากกลับกับผม ผมจึงได้อุ้มน้องออกจากร้านเฮียโซดา แล้วพากลับมายังห้องตัวเอง

มือหนาช่วยเหลือคนเมาอย่างไม่มีทางเลือก พอได้ล้างหน้าล้างปากน้องก็เริ่มลุกขึ้น

ผมอาสาจะพาเจ้าตัวไปนั่งแต่น้องกลับไม่ยอม ปากบอกว่าเดินเองได้ ใบหน้าแดงยิ้มกว้างให้แต่แค่จะยืนให้ตัวตรงน้องยังทำไม่ได้ ผมเป็นห่วงกลัวน้องล้ม มือจะเอื้อมจับมือน้องตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้า

"พี่เบียร์ของน้อง" ผมยืนชิดขอบประตูห้องน้ำเมื่อร่างเล็กเซตัวมาโอบกอดคอ มือใหญ่รวบเอวน้องเพราะกลัวน้องจะล้มเอา

"น้องชอบพี่เบียร์นะครับ" ความในใจของเจ้ารักพรั้งพรูออกมาโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัว ผมมองตัวเล็กที่ยังคงจ้องมองผมราวกับมีเรื่องจะพูดอีกมากมาย

"พี่เบียร์น่ะเป็นของน้อง" คนเมาแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวของผม แต่ผมก็ไม่ได้ขัดค้านอะไร

ก็น้องมันเมานี่น่า

"เป็นของน้องคนเดียว เข้าใจไหมครับ" สีหน้าคาดหวังคำตอบของน้องดูน่าหยิกแก้มเหลือเกิน หากผมจะหยิกแก้มน้องจะถูกตีมือไหม

"ทำไมไม่ตอบ น้องถามอยู่นะ ไหนคำตอบ" ทนรอไม่ไหวคนเมาก็คาดคั้นขอคำตอบอีก มือผมโอบเอวบางของน้องไว้หลวม ๆ

แมวน้อยตอนเมาช่างดุแต่ไม่ได้รู้สึกน่ากลัว

"ครับ พี่เป็นของน้องเจ้ารักครับ" ร่างเล็กซบอกผมอยู่อย่างนั้นแต่สายตาเมามายมองผมไม่วางตา รอยยิ้มหวานฉีกยิ้มกว้างแต่ยังไม่รู้สึกพอใจกับคำเรียกตัวเอง

"ไม่เอาเจ้ารัก ไม่เรียกชื่อเล่น" ผมก้มมองคนเมา สองมือกลายเป็นกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมกอดแล้ว ไม่เข้าใจว่าน้องจะให้เรียกอะไรในเมื่อเจ้าตัวก็ชื่อเจ้ารักตามที่ผมได้ยินมา

"แล้วจะให้พี่เรียกอะไรครับ" เอ่ยเสียงนุ่มถาม คนเมาฉีกยิ้มจนตาหยี ยามเมาน้องดูน่ารักสิบเท่า "เรียกน้องรักเหรอครับ" หรือจะให้เรียกด้วยชื่อเล่น น้องเจ้ารัก น้องรัก เขาเรียกได้ทั้งนั้น

"น้องหนู" มือนุ่มนิ่มเลื่อนมาจับใบหน้าผมแล้วเขย่งเท้าพร้อมกระซิบบอกเบา ๆ ให้ได้รู้ ผมรู้สึกแปลกกับคำเรียก น้องไปได้ยินคำนี้จากไหน มันช่างเข้ากับตัวน้องมาก

"น้องหนูเหรอครับ" ผมถามน้องด้วยความอยากแน่ใจ

"ใช่ คุณป๋าเรียกน้องหนูเหมือนกัน" น้องวางคางบนอกหนาของผมเมื่อเริ่มทรงตัวไม่อยู่

"แต่จุ๊ ๆ อย่าบอกคุณป๋านะ คุณป๋าบอกอยากเรียกน้องหนูคนเดียว แต่น้องอยากให้พี่เบียร์เรียกด้วย" น้ำเสียงคนเมาดูขี้เล่น น้องเริ่มปิดตาลงคงจจะง่วงนอน

"น้องหนู"

"อือ จั๊กจี๊ อิอิ แต่น้องชอบฟัง" น้องค่อย ๆ หัวเราะคิกคักออกมาทั้งที่ตายังคงหลับ คนเมาอยากได้ยินพี่เบียร์เรียกเขาว่าน้องหนูอย่างที่คุณป๋าเรียก แต่พอได้ฟังแล้วกลับรู้สึกว่ามันจั๊กจี๊กว่าที่คิด

"ถ้าชอบ พี่ก็จะเรียกครับ" ผมบอกคนเมา น้องอยากให้เรียกและชอบที่ได้ฟังผมก็เต็มใจเรียกเพื่อเจ้าตัว แต่แก้มนวลก็ช่างเรียกสายตาให้ก้มมองจนละสายตาไปไม่ได้ น้องมีแก้มนุ่มราวกับผิวเด็ก อยากจิ้ม อยากบีบแก้มแดง แต่กลัวน้องจะดุเอา

"ชอบ ชอบพี่เบียร์ที่สุด" ผมถอนหายใจ ผมแพ้แล้ว ความรู้สึกของน้องผมรับรู้แล้ว หัวใจผมเต้นดังราวกับกลองชุดใหญ่ ผมพาคนเมามานั่งบนเตียง มือเรียวถอดเสื้อผ้าตัวเหม็นออกแล้วปาทิ้งอย่างไม่ใยดี ทำตัวราวกับอยู่ห้องตัวเอง ผมช่วยเก็บเสื้อผ้าบนพื้นไปใส่ในตะกร้าเตรียมซักร่วมกับชุดของผม พอหันมาอีกทีเด็กขี้เมาก็กำลังเคลิ้มหลับบนเตียง ผมเดินมาพร้อมยื่นชุดนอนที่คิดว่าน้องน่าจะใส่ได้

"นี่เสื้อพี่ครับ ถ้าไม่รังเกียจน้องหนูใส่ไปก่อนก็ได้" ผมเอาชุดนอนมาให้น้องได้ใส่ จะใจร้ายปล่อยให้น้องนอนหนาวก็ทำไม่ลง อีกทั้งผมกลัวใจตัวเองเพราะรู้สึกใจกระตุกเวลาเห็นหุ่นของน้อง

น้องค่อนข้างจะหุ่นดี เอวคอด มีสะโพก ผิวสวยและหน้าหวานยิ่งกว่าเพื่อนของผมที่ชอบดูแลตัวเองบางคนซะอีก

"พี่เบียร์" เสียงค่อยยังคงละเมอเรียกชื่อของผม ถูกเรียกบ่อย ๆ แล้วผมก็แอบเขิน น้องไม่ได้หยิบชุดนอนมาใส่ คงง่วงนนอนเกินกว่าจะลุกขึ้นแล้ว

"หลับซะแล้ว" ผมนั่งมองน้องนอนหลับและหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ

"ปกติก็เห็นเป็นคนหวงตัว แต่พอเมาแล้วอ่อยเก่ง พูดเก่งจังเลยนะน้อง" ผมส่ายหน้าและยกยิ้มอ่อนโยน ถึงจะไม่เคยได้พูดคุยกันมาก่อนแต่ผมก็เจอกับน้องเจ้ารักบ่อยที่ร้านน้ำเมา เห็นแล้วสะดุดตาอยู่หลายครั้งจนจำหน้าได้

"พี่เบียร์" ปากเรียวยังคงเรียกชื่อผม เรียกบ่อยจนผมใจเหลว ชื่อผมมันน่าเรียกหาขนาดนั้นงั้นเหรอ มือหนาลูบกลุ่มผมสีนิลนุ่มเพื่อกล่อมคนเมาให้นอนหลับ

"ครับ ฝันดีนะน้องหนู" บอกแล้วร่างสูงก็เดินไปอาบน้ำสักพัก ผมเดินออกมาด้วยท่าทีสดชื่น ใส่บ็อกเซอร์เสร็จก็ล้มตัวนอนข้าง ๆ มันดึกมากแล้ว ผมเฝ้ามองรุ่นน้องที่นอนหลับบนเตียงอย่างไม่รู้เรื่องราว

มาพร่ำบอกว่าชอบผมทั้งที่ยังไม่รู้จักผมดี แบบนี้มันใช่ความรักงั้นเหรอ

"น้องหนูขี้เมา" ผมระบายยิ้มขณะนอนมองเด็กน้อยที่นอนหลับสนิทบนเตียง แก้มของน้องขยับเบียดกับแขนล่ำที่ยอมให้คนเมาได้หลับแทนหมอน มืออีกข้างของผมเลื่อนหน้าม้าของคนหลับอย่างแผ่วเบาก่อนจะขยับเข้าใกล้และบรรจงจูบหน้าผากมน

"ฝันดีครับน้องหนู"

คนเมาลืมตาตื่นเพราะสัมผัสแสนอบอุ่นในที่สุดก็ได้ขยับมาอีกก้าวแล้ว

"ชอบพี่เบียร์ รักชอบพี่เบียร์นะครับ" เสียงละเมอแผ่วเบานั้นดังก้องหู หน้าน้องแดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล ร่างเล็กขยับเบียด จมูกก็ขยับฟุดฟิดเมื่อรู้สึกถึงกลิ่นหอมของสบู่และไอเย็นจากตัวคนที่กำลังกอด

"ได้ยินแล้วครับ" ผมกระชับกอดคนเมาที่เอาแต่เพ้อบอกว่าชอบ พลันรอยยิ้มมุมปากยกยิ้มขึ้นมาเมื่อเผลออยากรู้ว่ารุ่นน้องคนนี้ชอบผมมากแค่ไหน ถ้าจะให้คุยกันตอนนี้ก็คงคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมคงต้องรอให้น้องตื่นและมีสติกว่านี้เพื่อจะได้ทำความรู้จักกัน

สำหรับคืนนี้ผมจะยอมให้กอดฟรีหนึ่งคืนก็แล้วกัน

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 08-09-2021 18:49:49
 :z6: :a5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 08-09-2021 20:46:48
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 3
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 09-09-2021 20:20:38
 EPISODE : 02 นี่มันห้องพี่เบียร์ 

 

"ห้อง..ห้องใคร!! " หลังตื่นมาในเช้าวันใหม่ผมพบว่าตัวเองนอนห้องคนอื่น ความหวาดกลัวทำให้ผมลุกขึ้นจะหนีแต่สายตาเหลือบไปเห็นรูปที่วางบนโต๊ะและติดพนังยิ่งต้องขยี้ตาหลายครั้ง

เชี่ย เอาแล้วไง

"นี่มันห้องพี่เบียร์เหรอ ฮะฮ่า" พอได้รู้ว่าอยู่ห้องใคร ขาแข้งผมก็อ่อนแรง นั่งลงบนเตียงอย่างเดิมมือควานหาผ้านวมหนามาห่มตัวเอง

คงกำลังฝันแน่ที่เห็นตัวเองอยู่ในห้องของพี่เบียร์ ต้องไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว

ผมลองตั้งสติแล้วเอามือเล็กจิ้มแก้มตัวเองเพื่อพิสูจน์สิ่งที่กำลังสงสัย หัวใจเต้นตึกตักเมื่อสัมผัสได้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันอย่างที่นึกคิด สมองนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืนก็จำได้ว่าดื่มไปเยอะแล้วก็อยู่กับเพื่อนด้วยแต่ทำไมถึงได้มาตื่นห้องพี่เบียร์ล่ะ

แบบนี้พี่เบียร์ต้องโกรธแน่เลย!!!

วิตกกังวลคนเดียวแล้วก็เผลอสะดุ้งเมื่อมีสายโทรเข้ามา มือผมก็ร้อนรนหยิบมือถือเครื่องนั้นรับสายอย่างลืมตัว

"ฮัลโหลโนเหรอ แพร์เหรอ ช่วยด้วย รักมานอนห้องพี่เบียร์ได้ไงก็ไม่รู้" บอกเพียงแค่นั้นแล้วก็เม้มปากตัวเองเข้าด้วยความอายเมื่อคนในสายบอกว่าเป็นเพื่อนของพี่เบียร์ ผมจ้องมองมือถือก็พบว่ามันไม่ใช่เครื่องของตัวเอง

มือถือเครื่องนี้เป็นของพี่เบียร์

แกร็ก

เจ้าของห้องออกมาจากห้องน้ำ ผมเปียกหมาด ๆ น้ำหยดลงบนไหล่กว้าง บ้างก็หล่นถึงพื้น ทุกอย่างดูน่ามองไปหมดจนผมไม่อยากละสายตา

"พี่เบียร์ คือรัก รักคิดว่าเป็นมือถือตัวเองครับ" แก้ตัวพัลวันเพราะกลัวว่าถูกเข้าใจผิด ผมวางมือถือปลายเตียง อายแสนอาย เขินก็เขิน สุดท้ายทนสายตาต้องมนต์ไม่ไหวหยิบผ้านวมมาห่มตัวเองแล้วนอนคุดคู้คลุมโป่งอีกครั้ง ได้ยินเสียงพี่เบียร์หัวเราะแล้วก้าวเดินมาหยิบมือถือเพื่อคุยสายกับเพื่อน

"อือ ครึ่งชั่วโมงเจอกันที่ห้องเรียนเลยละกัน" ไม่รู้พี่เบียร์คุยสายอีกนานแค่ไหนจึงไม่ได้ออกจากห้องสักที ผมอยากหนีออกจากห้องนี้แล้ว แรงนั่งลงบนเตียงทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าพี่เบียร์ไม่คิดจะออกไปจากห้องนอนง่าย ๆ ผ้านวมถูกขยับแต่ผมยื้อไว้ไม่ยอมให้พี่เบียร์ดึง

"น้องหนูตื่นแล้วออกมาจากผ้าห่มเถอะครับ" เสียงอบอุ่นของพี่เบียร์นั้นเรียกให้ผมได้ออกมาจากการคลุมโป่งแต่ใครจะยอมออกไปเจอหน้าพี่เบียร์เมื่ออยู่ในสภาพนี้

เดี๋ยวนะ ทำไมผมถึงไม่ใส่เสื้อนอนแถมกางเกงก็มีแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ทำไมผมถึงได้ปล่อยตัว ทำตัวสบายในห้องของพี่เบียร์

ผมไม่อยากยอมรับ ไม่อยากพูดคุยและไม่อยากเจอหน้าพี่เบียร์ 

"รักจะตื่นแต่พี่เบียร์ต้องออกจากห้องนี้ก่อน" ผมต่อรอง

"แต่นี่มันห้องนอนของพี่นะครับน้องหนู" แว่วได้ยินเสียงขำจากน้ำเสียงนั่นด้วย พี่เบียร์แกล้งกันอยู่ใช่ไหม แล้วเรียกน้องหนูด้วย ทำไมถึงเรียกผมอย่างนั้น 

"นะครับพี่เบียร์ช่วยออกไปจากห้องนี้ก่อนนะครับ รักอาย" สุดท้ายผมก็ต้องพูดออกไป มันอายจริง ๆ ได้อยู่กับคนที่แอบรัก ผมก็อยากจะดูดี แต่พอนึกสภาพตัวเองตอนเมาเมื่อคืนแล้ว คิดว่าพี่เบียร์คงรู้แล้วว่าผมมันไม่น่าคบหาแน่

"ก็ได้ครับพี่ออกไปแล้วน้องหนูต้องลุกนะ" เสียงคนใจดีบอก ไม่นานเสียงประตูห้องก็ปิดลง ผมค่อย ๆ เลิกผ้านวม เมื่อไม่เห็นพี่เบียร์อยู่ในห้องผมก็รีบลุกหาโทรศัพท์ของตัวเอง ถึงจะโทรหาเพื่อนรักทั้งสองแต่ก็ไม่มีใครรับสายสักคน

"ไปไหนกันหมดนะ" ปล่อยให้ผมมาอยู่กับพี่เบียร์ได้ยังไง ได้ยินเสียงประตูห้องนอนก็เปิดผมจึงได้รีบมุดเข้าไปใต้ผ้านวมอีกด้วยความตื่นเต้น  เสียงของพี่เบียร์ดังขึ้น

"อ้อ เสื้อเราพี่เอาเข้าเครื่องซักผ้าแล้วน้องหนูใส่เสื้อพี่แทนก่อนนะครับ พี่วางไว้ให้แล้ว" อยากจะมุดดินหนี ทำไมพี่เบียร์ถึงได้แกล้งกันได้ลง รู้ว่าผมอายก็ยังจะแกล้ง ผมได้ยินเสียงหัวเราะขำก่อนพี่เบียร์จะปิดประตูด้วย คนนิสัยไม่ดี รอจนแน่ใจว่าพี่เบียร์ปิดประตูห้องนอนแล้ว หนอนยักษ์อย่างผมก็ค่อย ๆ กระดึบตัวเข้าไปยังห้องน้ำ เมื่อได้เข้ามาอยู่ในห้องน้ำแล้วผมก็ตกใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นรอยบนตัวของเขา

"รอยเยอะเลย ห้องพี่เบียร์มียุ่งหรือไง"

ใช้เวลาสักพักกับการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่พี่เบียร์วางเตรียมไว้ใกล้เตียง ผมก็ช่างใจอยู่นานมากกว่าจะได้ใส่เสื้อผ้าของพี่เบียร์ ก็เล่นใจเต้นอยู่นานกว่าจะตั้งสติได้ความกลัวก็ทักทายเข้ามา

ผมจะออกไปจากห้องพี่เบียร์ยังไง

พอสูดลมหายใจหลังใส่ชุดเรียบร้อยมือก็ค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูแล้วแง้มเปิด ผมจะเดินตรงออกจากห้องกว้างโดยไม่พูดคุยกับพี่เบียร์สักคำ

"น้องหนูคิดจะหนีหรือครับ" แค่เปิดประตูเจ้าของห้องก็เดินมาขวาง ผมหมุนตัวหลบหน้าเพราะปิดประตูไปก็ปิดไม่ได้เนื่องจากพี่เบียร์จับบานประตูไว้ ผมอยากจะปิดประตูให้แน่นสนิทแต่ก็กลัวว่าประตูจะหนีบมือพี่เบียร์ด้วยสิ

"รักอยากกลับห้องตัวเอง" ยอมพูดคุยก็ได้แต่ยังไม่ยอมสบตา ฝ่ามืออบอุ่นทามทับบนหัวผมเล่นเอาหัวใจผมเต้นผิดจังหวะ ทำไมคนที่แอบชอบถึงได้ดูอ่อนโยนกว่าที่คิด 

"ให้กลับนะครับน้องหนู"  แกล้งเรียกกันอีกแล้วใช่ไหม ผมเม้มปากเงียบ สายตาก็พยายามไม่มองพี่เบียร์ 

"รักไปได้หรือยังครับ รักอาย พี่เบียร์น่ะชอบแกล้ง" ผมเง้างอดเพื่อหลบหน้าแต่เหๅลๅือบไปดห็นรอยยิ้มของพี่เบียร์ เดี๋ยวนะเมื่อกี้พี่เบียร์ยิ้มให้ผมด้วย เกินต้านแล้ว 

"พี่ไม่ได้แกล้งเลย งั้นพี่ไปส่งนะรอพี่แต่งตัวก่อนนะห้ามหนีล่ะ" จะอยากไปส่งทำไมในเมื่อเขาเองก็เดินกลับไปห้องตัวเองได้ รับรองไม่มีหลงทางอยู่แล้ว 

"รักกลับเองได้ครับ"  ถ้าหายตัวได้ผมคงทำไปแล้ว

"ขอเวลาแต่งตัวแปปเดียวครับ" บ่าเล็กโดนดันให้เดินมานั่งรอบนเตียงนุ่ม แม้จะอยากก้าวขาออกจากห้องนอนของพี่เบียร์แต่ผมก็ต้องนั่งรอด้วยท่าทีสงบนิ่งพยายามไม่หันไปสนใจเรือนร่างของพี่เบียร์

จะฆ่าผมทางอ้อมใช่ไหม  

"จะดูพี่ก็ได้นะพี่ไม่หวง" คนขี้แกล้งพูดขึ้นมาทำลายบรรยากาศแสนน่าอึดอัดของเรา ผมหันไปมองพี่เบียร์ทันที

"จะบ้าเหรอครับ รักไม่ได้อยากดูพี่เบียร์โป๊สักหน่อย" คนชอบแกล้งยิ้มกว้าง กลัดกระดุมเสื้อนักศึกษาอย่างใจเย็น

ไหนบอกว่ารีบไปเรียนแล้วผมจะหันมาคุยกับพี่เบียร์ทำไม 

"ร่างกายของพี่น้องหนูจะมองได้นะครับพี่อนุญาต"

"แต่งตัวให้เร็วเลยครับ" ผมดุใส่ พยายามหักห้ามหน้าตัวเองไม่ให้หันไปมองพี่เบียร์อีก รู้ว่ามีสุขภาพดีแล้วอวดจังเลย รอผมมีกล้ามก่อนก็แล้วกัน จะอวดให้พี่เบียร์เห็นคนแรกเลยละ

"ครับ" พี่เบียร์จะมาบอกว่าอนุญาตให้ดูทำไมผมไม่ได้อยากดูสักหน่อย

สักนิดก็ไม่มี...

แต่กล้ามเนื้อท้องของพี่เบียร์น่าจับเหมือนกัน

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 10-09-2021 04:22:57
ติดตามนะครับ
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 4
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 10-09-2021 19:40:44


 EPISODE : 03 พี่เบียร์คนดีตรงไหน



หลังพี่เบียร์มาส่ง พอขึ้นมายังห้องตัวเองก็พบว่าเพื่อนรักทั้งสองมาเคาะประตูเรียกให้ผมเปิด ใครจะไปคิดว่าเพื่อนจะห่วงผมขนาดที่ว่าตรวจร่างกายของผมเพื่อให้แน่ใจว่าพี่เบียร์ไม่ได้ทำอะไร แต่เพราะเรื่องรอยช้ำบริเวณคอนั้นทำให้ผมนั่งนิ่งก้มหน้าก้มตาไม่สบตาเพื่อนรักทั้งสอง เพื่อนทั้งสองบอกว่าพี่เบียร์เป็นคนทิ้งรอยไว้ ผมจะโกหกก็ไม่ได้ด้วยเพราะไม่รู้ว่านี่คือรอยที่พี่เบียร์ทำไว้จริงหรือเปล่า เมื่อคืนผมเมาแล้วจำอะไรได้ไม่หมดแล้วไหนจะเรื่องเสื้อผ้าของพี่เบียร์ที่อยู่บนตัวผมอีก

"รักเสียตัวให้พี่เบียร์แล้วจริงใช่ไหม" ผมฟังแล้วตกใจตาโต ไม่คิดว่าเพื่อนแสนดีจะเอ่ยถามเรื่องนี้ได้

"ได้ดงอะไรเล่า!!" ผมรีบแก้ข้อสงสัย จะไปได้เสียกับพี่เบียร์ตอนไหน ผมจำได้ไม่ได้ แต่เอะหรือว่าผมได้เสียกับพี่เบียร์อย่างที่เพื่อนสงสัย ลูกแพร์จ้องมองผมเมื่อต้องการคาดคั้นคำตอบแต่ผมไม่มีคำตอบให้หรอก เพราะผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน

"หลักฐานก็ชัดเจนบนตัวมันอะ มึงก็ถามย้ำอยู่ได้นะไอ้แพร์" นายโนเหมือนเหนื่อยจะฟังคำถามจากเพื่อนซ้ำ ๆ ผมหันไปส่ายหน้าให้เพื่อนทั้งสองด้วยความเว้าวอน

"รักไม่ได้มีอะไรกับพี่เบียร์"

"แน่ใจ๊...แต่รอยชัดนะ!" ลูกแพร์กอกอกแน่น อย่าดุเค้านะเพื่อน

"แล้วก็เสื้อนี้อีก มันไม่ใช่ของรักนะเรารู้! " ลูกแพร์ถามจี้อีก เรื่องเสื้อพี่เบียร์บอกว่าซักให้อยู่ ไม่รู้ว่าจะซักเสร็จตอนไหนและเมื่อไหร่ถึงจะได้คืนด้วยผมเลยต้องใส่เสื้อพี่เบียร์ไปก่อน

"ไม่มีก็คือไม่มีจริง ๆ นะแต่เรื่องที่ทิ้งให้รักไปนอนกับพี่เบียร์ รักงอนนะทั้งสองคนเลย" ผมรีบหาเรื่องเปลี่ยนทันใด ยูโนกับลูกแพร์หันมามองหน้ากัน

"เรื่องนั้นเราสองคนไม่ได้ทิ้งรัก" ลูกแพร์แย้งในส่วนที่ผมกำลังเข้าใจผิด หมายความว่าอะไร

"ใช่ เป็นมึงนั่นแหละที่เดินไปนั่งบนตักพี่เบียร์ แถมยังกอดคอพี่เขาแล้วบอกเองว่าจะนอนกับพี่เขานะ มึงพูดเองนี่กูถ่ายไว้เป็นหลักฐาน" เพื่อนบอกพร้อมเปิดให้ดูวิดีโอที่ถ่ายเก็บไว้ โชคดีที่เขาคิดได้และถ่ายเก็บเป็นหลักฐานทัน

ผมมองเหตุการณ์เมื่อคืนด้วยความตื่นเต้น พอเมาแล้วก็ชอบทำตัวไม่น่ารักเพราะอย่างนั้นผมจึงได้เลี่ยงจะดื่มของมึนเมา เมื่อคืนก็แค่พลาดไปหน่อยมันเลยจบด้วยการที่พี่เบียร์ต้องอุ้มผมพากลับมานอน แถมยังนอนห้องพี่เบียร์อีกด้วย

"ทำไมรักทำตัวแบบนี้ล่ะ" ผมรับไม่ได้กับสภาพตัวเองตอนขาดสติ แต่แอบดีใจที่พี่เบียร์ไม่คิดจะผลักไส มันน่ารักก็ตรงนี้แหละ ผมกรอดูวิดีโอไปและยิ้มไปเล่นเอาเพื่อนสองคนเกิดอาการหมั่นไส้

“อาการมันเป็นยังไงไหนบอกเพื่อนมาสิ” นายโนเอ่ยล้อแล้วหยิกแก้มผม เพื่อนมันหมั่นไส้หรือมันกำลังด่าผมว่าอ้วนออกแก้มกันแน่

“พี่เบียร์หล่อมาก ยิ่งได้อยู่ใกล้นะคือหล่อสุด ๆ ไปเลยละ” อาการงอนเพื่อนก่อนหน้าหายไปโดยปริยายเมื่อผมจำเหตุการณ์ตอนถูกพี่เบียร์กอด อยากใกล้ชิดอย่างเมื่อคืนโดยที่มีสติสมบูรณ์บ้าง มันคงรู้สึกดี

“ก็ฟังชมมาตั้งหลายครั้งแล้ว” ลูกแพร์พิงโซฟาเมื่อได้ยินผมชมพี่เบียร์อีกแล้ว สำหรับคนแอบรักอย่างผมแล้วใครคนนั้นดูดีไปหมดนั่นแหละ

"เออ ฟังทุกวัน พี่เบียร์ดียังนั้น พี่เบียร์ดอย่างงี้ ถามจริงเหอะนะไอ้รัก พี่เบียร์ของมึงเนี่ยดีตรงไหน" ผมรู้ว่าเพื่อนคงจะเบื่อที่ต้องฟังผมพูดถึงพี่เบียร์บ่อย

“ดีทุกตรง" ผมมั่นใจในตัวคนที่ผมแอบรัก "แต่หล่อจริง ๆ นะพี่เบียร์ของรัก" นายโนคว่ำปากใส่

“สรุปเมื่อคืนไม่ได้มีอะไรแน่เหรอรัก พี่เบียร์ไม่ได้ทำอะไรรักแน่นะ” ดูเหมือนลูกแพร์จะยังไม่เลิกเป็นห่วงผม

“ก็” พอเพื่อนถามย้ำหลายรอบแล้วผมก็แอบไม่แน่ใจแล้วสิ นายโนขยับมากระซิบใกล้ ๆ

“แต่ถ้ามีก็เป็นเจ้าของกันแล้วล่ะมึง” ความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในหัวผมทันที ผมตาโตวางหมอนอิงในมือแล้วรีบวิ่งเข้าห้องน้ำสำรวจตัวเองอีกครั้ง

ต้องมีอะไรกันสิ

มีอยู่แล้ว

ต้องมีนะ ได้โปรด

ประตูห้องน้ำเปิดออก สองเพื่อนรักมองมายังหน้าประตูห้องน้ำอยู่แล้ว

“แพร์ โน เมื่อคืนรักนอนกอดกับพี่เบียร์แหละรักว่า เราต้องมีอะไรกันแล้วแน่ ๆ!!!”

"ห้ะ!!" ลูกแพร์ไม่เข้าใจเพื่อนตัวเอง ไหนใครก่อนหน้าปฏิเสธเสียงแข็งว่าพี่เบียร์ไม่ได้ทำอะไร

"ฮ่าๆๆ " นายโนอดขำไม่ไหว รู้ว่าเพื่อนป็นคนยังไงแต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะติ๊งต๊องได้ขนาดแยกไม่ออกว่าเผลอมีอะไรกันหรือเปล่า แต่สุภาพบุรุษอย่างพี่เบียร์ไม่กินมันหรอกมั้ง น่าจะ..

"เออ ๆ ๆ รู้แล้ว ๆ ๆ เห็นไหมไอ้แพร์กูบอกแล้วว่าได้กันชัวร์" เรื่องของผมกับพี่เบียร์ยุติลงเมื่อพี่ไรเดอร์ที่สั่งอาหารไว้ได้โทรเข้ามา นายโนเป็นคนลงไปรับอาหารด้วยความเร็วแสงเพราะหิวกันแล้ว

"เรื่องเมื่อคืนเราขอโทษนะรัก เราไม่ได้อยากปล่อยให้รักไปกับพี่เบียร์" ผมยิ้มให้เพื่อนที่ยังเอ่ยขอโทษเรื่องที่ปล่อยให้พี่เบียร์อุ้มผมกลับ หากเขาไม่ปล่อยเพื่อนก็คงไม่มีอะไรเกินเลยกับรุ่นพี่

"คิกคิก ที่จริงรักต้องขอบคุณมากกว่า อย่างน้อยรักก็ได้เข้าไปอยู่ห้องพี่เบียร์ด้วย รักไม่โกรธ ๆ ๆ " ผมไม่ได้โกรธเพื่อนจริงๆ ก็แค่งอนกลบเกลื่อนเฉย ๆ

"แพร์.."

"หือ"

"คิดถึงพี่เบียร์แล้วอะ ทำไงดี" ลูกแพร์ถอนหายใจล้มตัวนอนบนโซฟา จากตอนแรกที่กังวลดูเหมือนว่าเขาจะเหนื่อยเปล่าแล้ว ผมยิ้มให้เพื่อน มันคิดถึงพี่เบียร์จริง ๆ คิดถึงและอยากเห็นหน้า

"รักดูดีใจนะ"

"ก็นิดนึง" บอกด้วยรอยยิ้ม "แต่แพร์ว่าพี่เบียร์จะชอบคนอย่างรักใช่ไหม"

"..." ลูกแพร์ไม่มีคำตอบให้กัน คุยกันไม่นานมื้อเช้าก็มา ผมเป็นคนเลี้ยงมื้อนี้ยิ่งสร้างความหมั่นไส้อีกครั้งกับเพื่อนรัก ระหว่างนั่งกินข้าวเช้ากับเพื่อนนั้น

ไลน์!

“หือ ใครไลน์มานะรัก” ลูกแพร์แปลกใจเมื่อเห็นการแจ้งเตือนรัวจากแอพลิเคชั่นสีเขียวยอดฮิต ผมหยิบมือถือเพื่อจะเปิดอ่าน จำได้ว่าวันนี้ไม่มีเรียนเช้าด้วย

“เพ้นส์เหรอ”

ไม่ใช่นายพัชรกานต์แต่เป็น...

พี่เบียร์!!!

“หือ พี่เบียร์!! เดี๋ยวนะ พี่เบียร์ไลน์มา พี่เบียร์มีคอนแทคไลน์รักด้วย” ผมดีใจที่สุด มืออวดให้เพื่อนทั้งสองรู้ว่าพี่เบียร์ทักมาหากันจริง ๆ

'สวัสดีครับน้องหนู พี่เบียร์เองนะครับ'

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 10-09-2021 21:10:48
 :-[ :impress2:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 10-09-2021 21:30:29
ลูกสติ!!!
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-09-2021 20:57:10
 :3123:
 o13
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 5
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 11-09-2021 21:39:32
 EPISODE : 04 น้องขี้เมานี่เอง 

ตกดึกของวันนั้นผมต้องมาทำงานที่ร้านของพี่โซดา ความรู้สึกปลื้มปิติเพียงแค่เพราะพี่เบียร์ทักไลน์มาบอกจะคืนเสื้อของผม เราเลยนัดกันว่าพรุ่งนี้จะแลกเสื้อกันเพราะผมต้องซักเสื้อผ้าพี่เบียร์ก่อนจะให้คืนด้วยเหมือนกัน ช่วงบ่ายที่ผมไปเรียน ผมมีความสุขมากนั่งยิ้มราวกับคนบ้าจนเพ้นส์สงสัย ผมไม่ได้เล่าให้เพื่อนรู้ อยากเก็บเป็นความลับมากกว่า

ปัก

"ไงมึง เมื่อคืนเมาแล้วก่อเรื่องเลยนะ" ผมโดนไอ้พี่โซดาใช้ช้อนเคาะหน้าผากทันทีที่เจอหน้ากัน เกินไปแล้วนะเฮีย พี่โซดาเดินผ่านผมไปผมก็เดินตามต้อย ๆ หลงมาเป็นหลานเทคแคร์ของพี่มันได้ยังไงก็ไม่รู้ ผมท้าวสะเอวใส่คนที่หันหลัง

"รักไม่ได้ก่อเรื่องสักหน่อย เฮียอย่ามากล่าวหากันนะ" พอพี่โซดาหันกลับมาผมก็รีบเอามือลงจากเอวทันที ไม่ได้กลัวหรอกนะ พี่โซดามองผมและแสยะยิ้ม

"เหรอ เผื่อมึงจะลืมว่าร้านกูมีกล้องวงจรปิด มึงอยากย้อนความจำหน่อยไหม" ผมมเถียงไม่ออกทันที เรื่องแค่นี้เองต้องถึงขั้นเปิดกลองวงจรเลยนะเหรอไอ้พี่เทคคนเลว "แล้วสรุปมึงได้นอนกับไอ้เบียร์ไหม"

"..." มาถามเรื่องนี้ใครจะยอมบอก ผมเม้มปากแน่นไม่อยากเล่าเรื่องพี่เบียร์ให้พี่โซดาฟังแล้ว ใส่ใจเรื่องผมกับพี่เบียร์จนผมแอบคิดหลายครั้งว่าพี่โซดาอาจจะแอบชอบผมอยู่ก็ได้

"ความลับ"

"หึ" ได้ยินเสียงคนนั่งเช็ดแก้วหัวเราะเยาะใส่ ผมฉวยโอกาสตอนทีพี่โซดาหันหลังแล้วยกมือขึ้นจะทุบคนตัวโต แต่ร่างสูงก็หันมาไวผมเลยต้องง้างมือค้างกลางอากาศแล้วเปลี่ยนเป็นเกาหัวตัวเองแทน 

"แต่จะว่าไปไอ้เบียร์มันก็ดูใจดีกับมึงนะ เมื่อคืนกูไม่เห็นมันผลักมึง ไหนจะเต็มใจให้มึงนั่งบนตักด้วย" ได้ยินพี่โซดาพูดอย่างนั้นหัวใจผมก็เต้นรัว อยากจะกรี๊ดร้องไปถึงอวกาศ ไม่มีใครเข้าใจเรื่องความรักของผมดีเท่าพี่เทคแคร์คนนี้แล้ว ผมเท้าคางบนเคาน์เตอร์มองดูพี่โซดาเช็ดแก้วไปพูดเรื่องของผมกับพี่เบียร์ไป

"จริงเหรอเฮีย"

"เออ กูอยู่ในเหตุการณ์และก็รู้ด้วยว่าคนอย่างไอ้เบียร์ถ้ามันไม่ชอบอะไรมันไม่ยอมให้ถึงตัวมันหรอก" ผมเขินไปหมดเมื่อได้ฟังพี่โซดาบอกอย่างนั้น 

"เฮียว่าผมพอมีสิทธิ์ใช่ไหม" ผมอยากได้ความมั่นใจอีก

"เรื่องนี้ถามกูไม่ได้ มึงต้องถามไอ้เบียร์มัน กูบอกมึงตั้งหลายครั้งแล้ว"  แต่คำตอบของพี่เทคแคร์ช่างไร้ความเมตตาจริง ถ้าผมกล้าถามพี่เบียร์ขนาดนั้นผมคงพกความั่นใจเต็มร้อยไปแล้ว แต่ผมไม่ใช่คนที่มีความกล้าหาญขนาดนั้น

"แต่ก็คืบหน้าไปแล้วไม่ใช่เหรอวะ" ผมพยักหน้ารัว ๆ ก็จริงอย่างที่พี่โซดาพูด วันนี้ผมมีไลน์ของพี่เบียร์แล้ว

"เฮียว่าคืนนี้พวกพี่เบียร์จะมาไหมอะ"

"มา ไม่มาเดี๋ยวมึงก็รู้ไหม อย่ามัวแต่อู้มาช่วยกูทำงานเร็ว เดี๋ยวลูกค้าก็มาเต็มร้านอีก"

"ชิ" ผมไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ชุดนักศึกษาที่สวมก็ไม่ได้เปลี่ยนทำงานมันทั้งอย่างนี้นั่นแหละ หวังว่าคืนนี้จะได้เจอกับพี่เบียร์อีกคืน

"เออเฮียคืนนี้เพื่อนรักมาทำงานไม่ได้นะ" ผมละสายตาจากไลน์กลุ่มของเพื่อนที่ส่งมาบอก พี่โซดาหันมามองผม สีหน้าบ่งบอกถึงความสงสัย

"ทั้งสองคนเลยเหรอวะ" ผมส่ายหน้า

"คนเดียว โนมาไม่ได้เพราะติดงานกลุ่มกับเพื่อนแต่ลูกแพร์มาเลทหน่อยครับ" ผมก็ไม่เข้าใจว่าเพื่อนสองคนของผมจะยอมมาทำงานที่นี่กับผมด้วยทำไม ไอ้ผมโดนบังคับมาก็เข้าใจอยู่หรอกแต่เพื่อนสองคนจะมาทนลำบากทำงานด้วยทำไมก็ไม่รู้แต่ก็ดีใจที่ได้เจอเพื่อนบ่อย พี่โซดาพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ 

"ถ้างั้นคืนนี้มึงทำงานหนักแน่" ผมหันไปแลบลิ้นใส่พี่เทคแคร์ งานหนักทุกคืนนั่นแหละทำอย่างกับว่างานที่ร้านพี่เขาไม่หนัก ผมกลับมามีสมาธิในการทำงาน ระหว่างนั้นก็เหลือบมองหน้าทางเข้าตลอดเพราะแอบลุ้นว่าคืนนี้จะได้เจอหน้าพี่เบียร์ไหม

"โอ๊ะ น้องขี้เมานี่น่า" ผมมองคนที่เดินมาทักทายขณะที่กำลังทำงาน มาว่าผมเป็นคนขี้เมาได้ยังไงแต่เห็นหน้าก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นเพื่อนของพี่เบียร์ ผมให้อภัยก็ได้ 

"จริงด้วย น้องคนเมื่อคืนนี่น่า" พี่อีกคนเดินเข้ามาโอบคอผม ใบหน้าเขาใกล้จนผมถอยห่าง นี่เราสนิทกันจนถึงขั้นแตะเนื้อต้องตัวกันแล้วงั้นเหรอ เพื่อนพี่เบียร์ดูท่าจะสนิทกับคนอื่นได้ง่าย

"มึงก็ใกล้ไปครับ ดูสิน้องเจ้ารักกลัวแล้ว" รุ่นพี่ใจดีคนนึงดึงเพื่อนให้ออกห่างไปจากผม แต่เมื่อกี้พี่เขาเรียกชื่อด้วย พวกพี่เขารู้จักชื่อผมด้วยงั้นเหรอ ผมเผลอยกยิ้มมุมปากเพราะดีใจที่พวกพี่เขารู้จักผมด้วย

"พวกมึงก็อย่ากวนน้องเขาทำงานสิ ไปกันได้แล้ว" ผมอยากจะขอบคุณที่พี่เขาช่วยลากเพื่อน ๆ ไปนั่งกันสักที ผมก็ยุ่งกับงานไม่มีเวลามาทำความรู้จักกับพวกพี่เขาด้วย

"ครับ ๆ ไปนะน้องเจ้ารัก" พี่ที่โอบคอผมเอ่ยลาด้วยรอยยิ้ม ผมมองพวกพี่เขาดันหลังกันไปก่อนพี่คนสุดท้ายจะหันมาบอกผมให้รู้

"อ้อ เดี๋ยวไอ้เบียร์มันมานะครับ" บอกผมเสร็จแล้วก็เหมือนว่าเพื่อนพี่เบียร์จะพากันยิ้ม ผมหันไปรับออเดอร์ของลูกค้า เริ่มจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังเป็นจังหวะกลองดนตรี

"แล้วมาบอกเราทำไมเล่า" ผมจับหัวใจตัวเอง แค่ได้รู้ว่าพี่เบียร์จะมามันก็ทำให้ผมอมยิ้มจนปิดไม่มิดแล้ว คงไม่มีใครรู้หรอกเนาะว่าผมกำลังรอพี่เบียร์ 



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 11-09-2021 21:57:09
งือออ
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 11-09-2021 22:44:40
 :impress2: :-[
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 6
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 12-09-2021 19:03:47
 EPISODE : 05 ทางที่ต้องเลือก 


"รัก เรามาแล้ว" เสียงเพื่อนสนิทเดินมาทักทายผมที่กำลังนั่งไถทวิตเตอร์ไปเรื่อย ลูกแพร์ไปเก็บกระเป๋าแล้วใส่ผ้ากันเปื้อนเรียบร้อยแล้วเดินมาหาผมที่ยังคงนั่งที่เดิมอีกครั้ง

"เป็นอะไรหรือเปล่า หน้าหงอยเลยนะหรือว่าคืนนี้ลูกค้าเยอะอีกแล้ว" ผมวางมือถือแล้วส่ายหน้าให้เพื่อนรู้ พลันสายตาเจ้ากรรมก็เสมองไปยังโต๊ะกลุ่มพี่เบียร์อีก ที่เพื่อนพี่เบียร์บอกว่าพี่เบียร์กำลังจะมานั้นพี่เบียร์มาจริง เพียงแต่มีพี่ผู้หญิงคนเมื่อคืนมาอีก 

หรือพี่เบียร์จะตกลงคบกับพี่คนสวยนั้นแล้ว

ลูกแพร์มองตามด้วยก็ร้องอ้อออกมา เพื่อนขยับมานั่งข้างกายผมคงรู้แล้วว่าผมกำลังหงอยเพราะเรื่องอะไร

"ที่จริงวันนี้รักมีความสุขมาก ๆ เลยนะ เผลอคิดไปด้วยว่ารักอาจจะพอมีหวังที่พี่เบียร์จะมองมา แต่พอมาคิด ๆ ดูแล้วมันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงเลย พี่เบียร์เขาไม่สนใจรักอยู่แล้ว"

"เอาน่ารัก อย่างนี้น้อยวันนี้รักก็มีความสุขเพราะพี่เขานะ รักควรดีใจนะที่พี่เขาทำให้รักยิ้มได้ตั้งหนึ่งวันแหนะ" ลูกแพร์แตะบ่าผมและปลอบโยน ความสุขเพียงแค่หนึ่งวันของผมมันจบลงไปตั้งแต่ที่พี่เบียร์เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเธอคนนั้น

"รักคงต้องเลิกชอบพี่เบียร์เขาจริง ๆ นั่นแหละ" แม้จะทำใจอยู่นานและเอ่ยบอกเพื่อนไปตั้งหลายครั้งแต่ผมก็ไม่เคยจะทำได้อย่างปากพูด การต้องเลิกชอบคนที่เป็นความสุขของเรามันไม่ใช่ว่าจะทำได้ง่าย

"เราจะอยู่เป็นเพื่อนรักเอง ทั้งตอนที่รักชอบพี่เบียร์และตอนที่รักเลิกชอบพี่เขาไปน่ะ" ผมโคตรซึ้งใจที่มีเพื่อนสนิทเข้าใจและรักในตัวผม ก็แค่เวลาสั้น ๆ เพียงชั่วครู่มันทำให้ผมหลงระเริงคิดว่าเป็นเรื่องจริง 

เรื่องจริงในชีวิตผมตอนนี้คือผมต้องเลิกแอบรักพี่เบียร์ได้แล้ว

"ทำงานกันเถอะ ไม่มีอะไรสนุกเท่าเงินเดือนที่ออกทุกสิ้นเดือนแล้ว" ลูกแพร์ดึงแขนผมให้ลุกขึ้นเพื่อทำงาน ผมมองกลุ่มพี่เบียร์อีกครั้ง เห็นพี่เขายิ้มได้ก็รู้สึกปวดใจ 

ผมควรเลิกรักแล้วใช่ไหม คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว ลาก่อนรักครั้งแรกของผม  



"สวัสดีครับทุกคน คืนนี้รักคนเดิม เพิ่มเติมคืออกหักแล้วจะมาร้องเพลงให้ฟังกันนะครับ" ผมเปล่งเสียงตามไมค์ เมื่อคืนนี้นักดนตรีขาประจำของร้านเกิดท้องเสียกะทันหัน ไอ้พี่โซดาเลยลากให้ผมขึ้นมาร้องแทน เสียงปรบมือตอบรับดังสนั่น ผมก็อยากจะยินดีและยิ้มหรอกนะแต่ไม่มีอารมณ์

กูกำลังเฮิร์ตอยู่นะเว้ยไอ้พี่เทคบ้า!!

"ใครอยากฟังเพลงไหน รีเควชมาเลยนะครับ" ไม่ถึงนาทีกระดาษจดเพลงจากเหล่าลูกค้าที่ขอมาก็ถูกยื่นมาให้ผม

แม่ง มีแต่เพลงอกหัก คืนนี้มีคนอกหักพร้อมกับผมด้วย ทราบซึ้งจริง ๆ

"ครับ เอาเป็นว่ารักจะร้องเพลงทุกเพลงตามนี้นะครับ" อาหะ เคยสงสัยอยู่ว่าทำไมอกหักแล้วต้องฟังเพลงอกหักด้วย แต่ตอนนี้ชีวิตผมแม่งดีดี้ ตอนกูอกหักมีคนให้ร้องเพลงอกหักให้ฟังด้วย

หลังพ้นไปหนึ่งเพลงแสนเศร้า ตอนผมร้องเพลง น้ำตามันไหลทุกคนต่างร้องไห้และเศร้าซึมตาม ๆ กัน บรรยากาศคืนนี้เลยเศร้ากว่าทุกคืนผมได้รับเสียงปรบมือจากเพื่อนสนิทอย่างลูกแพร์

คืนนี้ผมจะร้องไห้และจบเรื่องความรักแสนเศร้าของตัวเองให้ได้ 

"ต่อไปผมขอร้องเพลงนี้นะครับเพื่อมอบให้กับใครคนนึงที่ผมแอบรักเขามาตลอด 70 วัน" ขณะที่ผมกำลังพูดนั้น ร่างสูงที่ควงพี่สาวคนนั้นก็เดินผ่านเข้ามานั่งที่เดิม ก่อนผมจะขึ้นเวทีผมเห็นพวกเขาลุกไปห้องน้ำกัน ผมได้แต่กลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลต่อหน้าเขา

จะร้องไห้ต่อหน้าพี่เบียร์ไม่ได้เด็ดขาด!! 

"แต่วันนี้ผมทำอะไรไม่ได้เลย เขามีคนรักแล้ว และผมคิดว่าผมเองควรถอยออกไปจากเขาแต่ผมก็ทำไม่ได้สักที" ยิ่งผมพูด บรรยากาศยิ่งซึม  ผู้หญิงหลายคนเริ่มน้ำตาคลอตาม ก็อย่างว่าคืนนี้คนอกหักเพียบ รวมถึงผมด้วย

"เอาเป็นว่า .. ผมอยากร้องเพลงนี้ให้เขาฟังก็แล้วกันนะคับ ส่วนชีวิตต่อจากนี้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นแบบไหน มาฟังเพลงกันดีกว่านะครับ" ผมตัดบทไปดื้อๆ ขืนพูดมากกว่านี้ ยิ่งไม่รู้เรื่อง ยิ่งอยากร้องไห้

***

~ ข่ม..ฝืนอารมณ์ที่มี สถานะในวันนี้ฉันควรทำยังไง 

~ เธอ ที่มากวนหัวใจ เริ่มที่จะหวั่นไหว หัวใจมันสับสน

(ผมเริ่มร้องเพลงและสบตาพี่เบียร์ทั้งน้ำตา)

สิ่งที่เหมาะสมควรที่สุด ฉันควรจะหยุดทุกอย่าง

(ใช่..ผมควรเริ่มจะหยุดทุกอย่างได้แล้ว)

จะให้ถูกฉันควรระวัง และถอยให้ไกลห่างเธอ...

(อื้ม..ผมกำลังจะทำต่อจากวินาทีนี้ไป!!)

ผิดที่คิดเกินเลยไปไกล ผิดที่รู้แต่ใจดึงดัน แต่คงผิดเหมือนกัน ที่ฉันไม่เปิดหัวใจบอกเธอ

(หรือผมควรบอกพี่เบียร์มันไปตามตรงนะว่าผมชอบพี่มัน)

ผิดก็รู้แต่ทำยังไง เมื่อใจก็ยังพร่ำเพ้อ

คงผิดก็ตรงที่ฉันรักเธอ จนถอนตัวกลับไม่ทัน

(ฮือๆๆๆ ผมรักพี่เบียร์ ผมยังรักพี่เบียร์อยู่ ผมไม่เลิกรักพี่เบียร์ได้ไหม )

ผมฝืนร้องเพลงต่อจนจบก่อนจะรีบลงจากเวทีมาทั้งน้ำตา

ตอนนี้ผมได้คำตอบให้กับใจตัวเองแล้วว่าผมรักพี่เบียร์ที่สุด  





*** เนื้อเพลงที่น้องรักร้องคือเพลง ผิดทั้งสองทาง ศิลปิน Abnomal ค่ะ   ***

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Nattie69 ที่ 12-09-2021 19:31:33
 :hao5: :sad11:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 7
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 13-09-2021 20:25:30

 EPISODE : 06  อยู่ในโหมดทำใจ



"โอ้ย ทำไมปวดหัวแบบนี้นะ"

ผมนั่งทุบหัวตัวเองเบา ๆ เพื่อเรียกสติตัวเองกลับมา เมื่อคืนผมร้องไห้หนักไปหน่อยตื่นมาเลยเป็นอย่างที่เห็น ซ้ำเช้านี้มีเรียนเช้าด้วย ผมเลยต้องลากสังขารตัวเองไปครับ ไปหลับในห้องเรียนก็ได้ว่ะ!

"ไง เป็นไงบ้าง" ผมหันไปเงยหน้ามองเสียงจากร่างสูงของรองประธานชมรมฟุตบอลอย่างพี่เหล้าที่เดินเข้ามาทักผมพร้อมน้ำเย็นขวดนึงยื่นให้ ผมรับมาด้วยความเคยชิน ก็พี่เหล้าเขาใจดีกับผมเสมอ

"ช่วงนี้ก็ไม่ค่อยโอเลยพี่ ว่าแต่พี่มากินข้าวที่นี่เหรอ เท่าที่จำได้ตึกคณะพี่อยู่อีกฝั่ง" ร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงหน้าผมหยิบขวดน้ำที่ยื่นให้ผมก่อนหน้าเอามาแกะฝาขวดน้ำเย็นให้แล้วเลื่อนให้ผมดื่มก่อนจะเปิดของตัวเองมาดื่มบ้าง

นิสัยดีเป็นบ้า 

"เปล่า พี่แค่เดินผ่านแล้วเห็นเราเข้านะเลยซื้อน้ำมาฝาก"

"โหพี่ โคตรหล่อเลย" ผมชื่นชมพี่เหล้าจากใจจริง ตั้งแต่มาอยู่มหาลัยนอกจากเพื่อนรักสองคนแล้ว ผมก็เห็นว่าพี่เหล้านี่แหละที่ดีกับผมที่สุด

"ฮา ๆ หล่อแล้วรักไหม"

เอะ..ยังไง 

นี่พี่เหล้าจะจีบผมอยู่เปล่าเนี่ย ผมเพียงส่ายหน้าน้อย ๆ จะให้รู้สึกอะไรกับพี่เหล้าได้ยังไงในเมื่อหัวใจยังมีความรู้สึกดีต่อพี่เบียร์ เราสองคนเลือกจะเงียบกันเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่ผมจะเป็นฝ่ายคุยมากกว่าส่วนพี่เหล้าจะคอยรับฟัง

เมื่อวันนี้ผมไม่มีเรื่องจะพูด เลยตกอยู่ในความเงียบกัน

"พี่เหล้า"

"หือ อะไร อยู่ ๆ ก็เรียก ตกใจหมด" ผมเพียงยิ้มแห้ง ๆ พี่เหล้าคงมีเรื่องให้คิดอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ปกติไม่ได้เหม่อลอยขนาดนี้เท่าไหร่ 

"พี่ล่ะเป็นไงบ้าง" ผมถามกลับบ้างเพราะไม่อยากเห็นแก่ตัวปล่อยให้พี่เหล้าเป็นห่วงผมอยู่ฝ่ายเดียว คนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ก็ต้องใส่ใจกันเป็นเรื่องธรรมดา พี่เหล้าทำท่าทีครุ่นคิด ยกเท้าขวามานั่งไขว้หางด้วยท่าทีสบาย ๆ 

"ช่วงนี้ก็หนักอยู่หรอก" 

"หมายถึงเรื่องเรียนหรือเรื่องรักอะ" ผมหยอกถาม พี่เหล้าดื่มน้ำเสร็จแล้วตอบคำถามผมอีกครั้ง

"เรื่องชมรม" 

"โห อดเผือกเลย นึกว่าพี่จะมีเรื่องรักมาเล่าให้ฟังซะอีก" พี่เหล้ายิ้มกว้าง มือก็ยื่นมาลูบหัวผมเหมือนที่เคยชอบทำอยู่บ่อยครั้ง ผมหัวเราะเล็กน้อยที่ได้แกล้งพี่เขา    

"เรื่องรักอะไรแบบนั้นไม่มีหรอก ไปนะเพื่อนพี่มากันแล้ว" พี่เหล้าลุกขึ้นทันทีที่เพื่อนออกมาจากร้านขนม ผมหันไปสวัสดีเพื่อนของพี่เหล้า ถึงไม่ได้สนิทกันแต่ก็เคยรู้จักมักหน้าคาตามาตั้งหลายครั้งจนจำชื่อพวกพี่เขาได้แล้ว

"ครับ"

"ยังไงก็ดูแลตัวเอง อย่ามานั่งทำหน้าทำตาเหมือนคนอกหักเลยมันดูไม่ดี" อ้าว พี่เหล้ารู้ด้วยว่าผมกำลังอยู่ในโหมดทำใจอยู่ด้วย ผมก้มหน้าแล้วถอนหายใจ 

"อือ จะพยายามครับพี่"

"ไปละ ค่อยเจอกัน อ้อเย็นนี้ว่างไหม" พี่เหล้าถามผมกำลังนึกถึงตารางเรียนของตัวเอง 

"ทำไมเหรอพี่ จะพาไปไหนหรือเปล่า" ผมสงสัย 

"ไปแตะบอลกัน หาคนให้ครบทีมอยู่น่ะ"

"อ้อ ก็ว่างอยู่หรอกแต่ผมเล่นไม่เก่งเท่าไหร่ ถ้ายังไงผมให้เพื่อนลงสนามแทนได้ไหม"

"ได้สิ ไว้เจอกัน"

"ครับ" พี่เหล้าเดินไปหาเพื่อนไม่นาน มือถือของผมก็มีข้อความส่งเข้ามา เป็นข้อความจากพี่เบียร์ที่ทักมาหา ก่อนหน้านี้ผมก็คงจะดีใจอยู่หรอกแต่ว่าตอนนี้ผมมีความสุขไม่ลงจริง ๆ 

'สวัสดีครับ'

'เรื่องเสื้อที่นัดกันไว้ น้องหนูว่างจะให้พี่ไปส่งเลยไหมครับ'  ผมอ่านข้อความแล้วรีบตอบแบบไม่คิดทันที

'ผมไม่ว่างครับ' ตอบไแล้วก็ได้รับข้อความกลับมาเร็วเหมือนว่าพี่เบียร์กำลังจดจ่ออ่านอยู่

'ครับ ว่างเมื่อไหร่มาเจอกันหน่อยนะครับ' 

'ส่งสติกเกอร์'

กำลังทำใจจะเลิกรักพี่เบียร์อยู่ ใครมันจะมีกระจิตกระใจไปเจอหน้าพี่เขาให้หวั่นไหวกัน 

"รักรอนานไหม" เพ้นส์เป็นเพื่อนร่วมสาขาคนเดียวที่ผมสนิท ช่วงเข้ามหาลัยใหม่ ๆ เวลาเข้าเรียนส่วนใหญ่เรามักจะนั่งติดกันบ่อย เริ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนไอเดียกันจนไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เราไปไหนมาไหนกันสองคนจนไม่ได้คบเพื่อนคนอื่นสุดท้ายก็คบกันมาเกินหนึ่งเทอม ผมชอบเพ้นส์นะเพื่อนคนนี้เป็นคนที่เก่งคนนึงแต่ชอบถ่อมตนอยู่บ่อย ๆ 

"ไม่นานเท่าไหร่" ช่วงเวลาแบบนี้ผมเองก็อยากอยู่คนเดียวอยู่เหมือนกัน เพ้นส์วางกระเป๋าเรียนแล้วนั่งลงเพื่อพักหายใจ

"ตะกี้เห็นหลังไว ๆ พี่เหล้าเหรอ" เพ้นส์ถาม ผมเลยพยักหน้า นาทีก่อนหน้านั้น ผมกำลังหัวเราะกับพี่เหล้าอยู่เลย แต่ตั้งแต่นาทีที่พี่เบียร์ทักมาคุยก็ทำเอาใจผมห่อเหี่ยว พี่เบียร์กำลังทำอะไรอยู่นะ ผมคิดถึงพี่เบียร์

ผมอกหักดีไหม

ผมร้องไห้ได้ไหม

หรือผมควรรักพี่เบียร์ต่อ..

แต่แค่นี้..ผมก็เริ่มจะเหนื่อยแล้ว 

หลังกินข้าวเช้าเสร็จผมกับเพ้นส์ก็ไปเรียนคาบเช้า มันอยากมากที่จะให้ลืมใครบางคนในเวลาสั้นๆ อย่างนี้ ผมเรียนไปน้ำตาไหลไปจนเพ้นส์และคนอื่นที่นั่งใกล้กันได้ยินผมสะอื้นพากันแปลกใจ

"รักเป็นอะไรวะ" เพ้นส์สะกิดถามหน้าตาดูกังวล แต่ผมกลับยิ่งร้องไห้ดัง คราวนี้อาจารย์ข้างล่างเองเลยได้ยิน

ฮือๆๆๆๆ กูอกหักเว้ย

"นักศึกษาตรงนั้นไม่เป็นไรใช่ไหม" อาจารย์ป้าแว่นพูดตามสายไมค์ ผมสะอื้นหนักกว่าเดิม แม้แต่อาจารย์ก็ห่วงผมด้วย แต่ทำไมพี่เบียร์กลับไม่สนใจ ไม่ห่วงผมอย่างอาจารย์สักนิด

ผมเม้มปากแน่นกลั้นน้ำตาก่อนจะชูนิ้วโอเคเพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้อาจารย์รู้ก่อนจะฟุบหน้าร้องไห้หนักกว่าเดิม ทั้งห้องเรียนเงียบกริบ เด็กที่มาเรียนเกือบร้อยกว่าชีวิตต่างพากันงงงวย

ผมอกหัก ผมจะร้องไห้ ผมอาย ฮือๆๆๆๆๆ

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 13-09-2021 23:21:22
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 8
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 14-09-2021 19:18:04

EPISODE : 07 : เจอกันตอนเลิกรัก

"โอเคใช่ไหม" เพ้นส์ถามผมเมื่อเราเดินมาห้องสมุดก่อนจะเริ่มเรียนคาบบ่าย ยอมรับว่าคาบเรียนเมื่อเช้าผมอายมาก ก่อนจะหมดคาบอาจารย์ยังใจดีถามถึงผมอีก เพื่อนทั้งห้องเรียนพากันมอง บางคนก็ขำบางคนก็เป็นห่วง หวังว่าคาบหน้าคงไม่มีใครจดจำผมได้ก็แล้วกัน

"โอเคแล้ว ขอโทษนะที่ทำให้อายไปด้วย" ผมไม่ได้ตั้งใจให้เพ้นส์ต้องมาอายไปด้วย ตอนนั้นอารมณ์มันระเบิดจนผมกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพ้นส์โอบบ่าผมระหว่างเดินเข้าห้องสมุดของมหาลัย

'"ไม่เป็นไร แล้วนี่มีเรื่องอะไร ว่าจะถามตั้งแต่ตอนกินข้าวแล้วแต่ไม่มีโอกาสถามสักที" คนสงสัยถามผมขึ้น ผมถอนหายใจ ตั้งใจว่าจะปิดเป็นความลับแล้วแต่ทำให้เพื่อนเป็นห่วงมันก็ไม่สมควรปกปิด

"ก็แค่ อกหักมั้ง" ผมบอกด้วยน้ำเสียงเบาหวิว จะเรียกว่าอกหักได้ไหมผมก็ไม่แน่ใจ เราเดินเข้ามารับกุญแจกับประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินมายังโซนล็อกเกอร์เพ้นส์เปิดล็อกเกอร์แล้วหยิบเอากระเป๋าใส่เข้าไป

"อกหักกับใคร รักมีแฟนด้วยเหรอ" เพื่อนหันมาถาม เพราะผมไม่เคยพูดถึงด้วยละมั้งเพ้นส์เลยไม่รู้ว่าผมมีคนที่แอบรักอยู่ด้วย ผมหยิบกระเป๋าใส่ล็อกเกอร์แล้วล็อกกุญแจ

"ก็แค่แอบรักข้างเดียว" เพ้นส์พยักหน้าเหมือนจะรู้เรื่องมาก่อน เพราะเพื่อนไม่ได้มีท่าทีแปลกใจที่ได้ยินผมพูดอย่างนั้น  เพื่อนเดินมาใกล้ผม

"อ้อ พี่เบียร์สินะ" 

"เฮ้ย เพ้นส์รู้ได้ไง" ผมตกใจที่เพื่อนไม่ใช่แค่รู้ว่าผมมีความรักแต่รู้ด้วยว่าผมแอบรักใครอยู่ เป็นไปได้ยังไง ผมไม่เคบอกใครนอกจากเพื่อนรักอย่างนายโนและลูกแพร์

"ก็ไม่เห็นจะดูยากตรงไหน เวลาทำงานที่ร้านเฮียโซดาทุกคืนรักชอบมองพี่เบียร์หนิ แค่นี่เราก็ดูออกอยู่แล้ว" ผมเม้มปากตัวเอง กำลังนึกอยู่ว่าเวลาตัวเองอยู่ที่ร้านพี่โซดาผมทำตัวยังไงทำไมเพื่อนคนนี้ถึงได้ดูออก

"อ้อ" เพ้นส์เดิน ผมก็เดินไปกับเพื่อนด้วย มีนักศึกษาหลายคนมาใช้บริการห้องสมุดในช่วงเที่ยงผมกับเพ้นส์เลยต้องกระซิบคุยกันเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น เราเข้ามายังห้องสมุดแสนกว้างโดยเลือกจะขึ้นบันไดมายังชั้นสองก่อน

"ชอบพี่เบียร์เขามากเหรอรัก" ผมคว้าจับมือเพื่อนเพราะรู้สึกจะลื่นล้ม โชคดีที่เพ้นส์ก็จับมือผมไว้ได้ทัน เกือบไปแล้ว ผมเอาแต่เหม่อจนมองไม่ดูทางไงเลยเกือบสะดุดบันได

"ระวัง" เพ้นส์แอบดุผ่านสีหน้า 

"จริง ๆ ก็ไม่ได้แค่ชอบ แต่รักเลยแหละ" ความรู้สึกของผมมันบอกว่าเกินกว่าการแอบชอบ แอบปลื้มแล้ว  เดินมาถึงชั้นสองเพ้นส์เลือกโต๊ะให้เราได้นั่งพักกันก่อน

"ถ้ารักก็แล้วทำไมไม่ไปสารภาพให้พี่เขารู้ล่ะ เท่าที่รู้มาพี่เบียร์ก็ไม่ได้คบกับใครจริง ๆ จัง ๆ สักหน่อยแล้วรักจะอกหักจากพี่เขาได้ยังไง"

"..." ผมถอนหายใจอีกครั้ง เพ้นส์พูดเหมือนว่ามันเป็นเรื่องง่ายดาย  

"หรือว่าสารภาพรักไปแล้วแต่พี่เขาปฏิเสธ" ผมหลบสายตาของเพื่อนที่จ้องมองผมราวกับกำลังขอคำตอบ เพ้นส์เท้าคางบนโต๊ะและมองผมด้วยความสงสัย ผมเกาหัวตัวเองเรื่องสารภาพเป็นเรื่องที่ยากที่สุดสำหรับผม

"ไม่กล้าหรอกแต่รักรู้ตัวดีว่าพี่เบียร์ไม่มองกันอยู่แล้ว ให้คิดอะไรด้วยก็คงเป็นไปไม่ได้" ความสัมพันธ์ของผมกับพี่เบียร์แถบจะเป็นศูนย์ ก็ถ้าหากผมเป็นคนมั่นใจในตัวเองไปแล้วป่านนี้ก็คงไม่ได้เป็นแค่คนแอบรักพี่เบียร์ข้างเดียวหรอก ผมวางแขนแล้วล้มตัวนอน ห้องสมุดอากาศเย็นน่าอยู่ 

"อย่าเพิ่งคิดเองไปสิ ทำไมไม่ลองบอกความรู้สึกออกไปก่อนถ้าพี่เขาปฏิเสธรักค่อยมาเสียใจทีหลังก็ได้" เพ้นส์แนะนำ ผมได้ยินคำแนะนำอย่างนี้จากทุกคน แต่ผมทำไม่ได้ ผมมันขี้คลาด

"ไม่ไหวหรอก รักไม่ใช่คนใจกล้าขนาดนั้นเพ้นส์ก็รู้จักรักดี" เพ้นส์เป็นคนมั่นใจในตัวเองและแสดงออกเก่งกว่าผม เรื่องให้ไปสารภาพความรู้สึกของตัวเองเพ้นส์คงทำได้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

"ให้เราไปบอกพี่เขาเอาไหม" เพ้นส์เสนอ ผมลุกขึ้นนั่งตัวตรงแล้วรีบห้าม

"ไม่เอา ๆ รักจะเลิกรักพี่เขาแล้ว" ผมตั้งใจอย่างนั้นจริง ๆ และผมกำลังพยายามอยู่ ผมเข้าใจว่าเพ้นส์คงหวังดีอยากจะช่วยแต่ผมกำลังจะเลิกรักพี่เบียร์แล้ว

"จะทำได้เหรอเนี่ย"

"ไม่รู้เหมือนกัน แต่วันนี้นับเป็นวันแรกของการเลิกรักแล้ว" เพ้นส์ลุกขึ้นยื่นมือมาตบบ่าให้กำลังใจ ขอบคุณเพื่อนที่ยังรักกันเสมอ

"ถ้ามั่นใจว่าจะเลิกรัก งั้นก็อย่าลังเล อย่าทำให้ตัวเองต้องด้อยค่านะ รักยังมีคนที่รักอีกมากหนึ่งในนั้นก็คือเรา" ผมยิ้มกับคำพูดของเพื่อน ได้ยินเพื่อนพูดแล้วชื้นใจ ชีวิตจะขาดพี่เบียร์ไปก็ยังมีเพื่อนที่รักอยู่กันครบเหมือนเดิม 

"ขอบคุณครับ"

"เรื่องแค่นี้เอง เราก็เพื่อนกันด้วย" ผมแอบเห็นเพ้นส์เขินเล็กน้อย "เราไปหาหนังสือองค์ประกอบสีแปปนึง รักรอนี่ก่อนนะเดี๋ยวมา"

"รักขอไปหานิยายยืมไปอ่านที่ห้องดีกว่า" เราสองคนเดินไปยังโซนหนังสือที่ต้องการ 

"พี่เบียร์" เดินเลือกได้ครู่เดียวผมก็เหลือบไปเห็นคนทผมกำลังจะเลิกรักเขา พี่เบียร์มาอยู่ที่ห้องสมุดเดียวกับผม

หัวใจผมเต้นดังขึ้นกว่าเดิม ผมกุมหัวใจไม่รักดี จะไปตื่นเต้นทำไม เขาก็แค่พี่เบียร์ คนที่ผมกำลังจะเลิกรัก อย่าหวั่นไหวเด็ดขาด 

ผมสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทำเป็นแกล้งว่าตัวเองไม่ได้เจอพี่เบียร์แต่สายตาก็เอาแต่มองพี่เบียร์ผ่านช่องหนังสือเล็ก ๆ พอพี่เบียร์เดิน สองเท้าผมก็ขยับตาม นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ 

"พี่เบียร์ยิ้มน่ารักมากเลย" ผมเผลอชมคนตัวโตอย่างลืมตัว มือก็ยกขึ้นปิดปากเจ้ากรรม จะไปชมคนที่ทำให้ผมเสียน้ำตาทั้งคืนทำไม

"I have สติ ตั้งสติหน่อยรัก!" ผมยืนพูดกับตัวเองอยู่อย่างนั้น นักศึกษาที่เดินผ่านก็ต่างมองผมด้วยสายตาประหลาด

"อ้าว"

"อุ้ย" ผมตกใจที่เจอพี่เบียร์เดินมายังล็อกหนังสือที่ผมยืน พี่เบียร์ยิ้มให้ผมกำลังจะยิ้มให้อยู่แล้วแต่แล้วก็มีพี่ผู้หญิงคนนั้นมาเกาะแขนพี่เบียร์ ผมหันหลังหนีภาพบาดตาทันที มหาลัยตั้งกว้างทำไมต้องมาเจอกันตอนนี้ด้วย ผมอยากร้องไห้แล้ว

สรุปพี่เบียร์คบหากับพี่ผู้หญิงคนนี้แล้วใช่ไหม

"รัก ได้หนังสือยัง" เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด โชคดีที่ผมได้ยินเพ้นส์เรียก ผมมองเพื่อนพร้อมกับเดินไปหาเพราะไม่อยากให้เพ้นส์รู้ว่าผมเจอพี่เบียร์

"ยังเลย แต่ไปกันเถอะไม่มีเรื่องสนุกให้อ่านนะ" ผมดันแผ่นหลังเพื่อนให้เดินแต่เพ้นส์สงสัย

"รีบอะไรขนาดนั้น ทำไม มีอะไรเหรอรัก" คนสงสัยหันไปมองก็พบพี่เบียร์เข้า ผมก็บอกแล้วว่าไม่รู้จะดีกว่า เพ้นส์มองพี่เบียร์แล้วจับมือผมแน่น

"เชี่ย พี่เบียร์มาอยู่นี่ได้ไง" เพื่อนกระซิบถาม ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าตอบ 

"ไปเถอะ" ผมไม่อยากเจอหน้าและคุยกับพี่เบียร์ทั้งที่ตายังบวม 

"เออ ๆ"  เราสองคนรีบเดินไปลงไปยังชั้นหนึ่ง ผมมายืนรอเพ้นส์ยืมหนังสือที่ล็อกเกอร์โดยที่ไม่รู้ว่าพี่เบียร์ตามผมมา จังหวะที่ผมเหยียบเชือกรองเท้าตัวเองเกือบจะล้มเพราะความเซนั้นพี่เบียร์ก็เข้ามาช่วยประคองตัวผมไว้ได้ทัน

ผมใจเต้นเพราะกลัวจังหวะจะล้มหน้าทิ่มโชคดีที่พี่เขาช่วยไว้ได้ทัน ผมสะบัดหนีแล้วเปิดล็อกเกอร์ตัวเอง พี่เขาคงไม่รู้หรอกมั้งว่าผมกำลังหนีเขาอยู่

พี่เบียร์ขยับมายืนข้างกาย ผมกลั้นหายใจทุกก้าวจังหวะที่พี่เบียร์มาใกล้ จะมาทำให้ใจเต้นรัวทำไมเอาตอนที่ผมกำลังจะเลิอกรักพี่เขา พี่เบียร์เปิดตู้ล็อกเกอร์ข้างผมเลย อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น

"มีเรียนต่อหรือครับ" พี่เขาถาม ผมก็ขานตอบเบา ๆ  มันตื่นเต้นไปหมด พี่เบียร์จะขยันยิ้มไปไหน ผมยิ่งชอบมองเวลาพี่เบียร์ยิ้มด้วย

"ครับ"

"เรื่องเสื้อถ้าน้องหนูว่างก็ทักไลน์มาบอกนะครับ" พี่เขาบอก

"ครับ" ผมอึดอัดใจเพราะอยากร้องไห้อีกรอบ และเผลอทำปากกาหล่นจากกระเป๋าพี่เบียร์ก้มลงช่วยหยิบพร้อมกับผูกเชือกรองเท้าที่หลุดรุ่ยให้แน่นกว่าเดิม ผมมองกลุ่มผมของคนใจดี ถ้าเป็นแฟนให้ไม่ได้ได้โปรดอย่าทำให้ผมหลงรักเขาอีกเลย 

"รัก ไปกันเถอะ" เพ้นส์เดินมาถึงแล้วช่วยผมสุด ๆ มือของเพื่อนฉุดผมให้เดินออกมา ผมไม่ได้บอกลาพี่เบียร์เพราะได้แต่เดินตามเพื่อน  

"อะไรเนี่ยพอบอกจะเลิกรักก็เจอกันเลย รักโอเคนะ"

"ไม่เลย รักว่าเมื่อกี้รักตกหลุมรักพี่เบียร์อีกแล้วละ" เพ้นส์จับบ่าผมทั้งสองข้างแล้วเขย่าตัวเบา ๆ เพื่อให้ผมเรียกสติกลับมา ผมโดนเพื่อนลากไปยังตึกคณะเพื่อรอเรียนคาบต่อไป

"เมื่อกี้พี่เบียร์เขา-" ผมอยากอวยพี่เบียร์ให้เพื่อนฟังทั้งวัน 

"มันเป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้นเองรัก จำไว้นะว่าเมื่อกี้แค่ภาพลวงตา" แต่ผมว่ามันคือเรื่องจริงที่โรแมนติกสุด ๆ พี่เบียร์ของผมเหมือนเทพบุตรเอามาก ๆ ผมไม่แน่ใจแล้วว่าผมจะเลิกรักพี่เบียร์ได้หรือเปล่า 

ทำไมการจะเลิกรักใครสักคนถึงได้มีแต่ความโลเลเข้ามาแทบทุกวินาที 

"แต่พี่เบียร์ผูกเชือกรองเท้าให้รักเลยนะ โอ๊ย" ผมโดนเพ้นส์ดีดหน้าผากซะแรง ทำไมต้องใช้ความรุนแรงกันด้วยเพ้นส์ชักจะนิสัยเสียเหมือนพี่เทคของผมแล้วนะ ผมลูบหน้าผากแดงของตัวเอง ตอนนี้หัวใจกำลังอิ่มเอมผมไม่รู้สึกเจ็บหรอก ต่อให้เพ้นส์ดีดหน้าผากผมอีกกี่ครั้งผมก็ไม่เจ็บ หรอก 


หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 14-09-2021 21:11:43
 :z6:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 15-09-2021 11:04:53
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 9
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 15-09-2021 18:59:03


 EPISODE : 08 ยิ่งหนียิ่งเจอกันตลอด



ตอนเย็นแล้วผมไม่สามารถเล่นฟุตบอลได้เพราะมีคาบบ่ายอาจารย์สั่งงานไว้และผมต้องเคลียร์งานให้เสร็จก่อนจะไปพักผ่อน โชคดีที่ผมวานให้นายโนไปเล่นแทนได้ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องผิดคำพูดกับพี่เหล้า เกือบห้าโมงเย็นผมกับเพ้นส์วาดรูปเสร็จเราถึงได้แยกย้ายกัน

ผมเลือกจะแวะมาสนามฟุตบอลเพราะเพื่อนสนิททั้งสองคนไปอยู่นั่นกันแต่ไม่คิดว่าพอมาแล้วจะเจอกับพี่เบียร์และกลุ่มเพื่อนทั้งหมดมาเล่นฟุตบอลด้วย

"รักทางนี้" ผมหันไปตามเสียเรียก ลูกแพร์สวมชุดฟุตบอลทีมเดียวกับพี่เหล้ายืนโบกมือให้ผม ถ้าให้ผมเดาเพื่อนคนนี้คงเป็นตัวสำรองของทีมพี่เหล้าแน่ ว่าแต่ทำไมนายโนถึงได้ไปอยู่ฝั่งทีมพี่เบียร์ ผมให้มาอยู่เป็นกลุ่มเดียวกับพี่เหล้านี่น่า

"ทำไมโนไปอยู่ฝั่งโน้นล่ะ" ผมสงสัยเอามาก ๆ ลูกแพร์ยื่นเสื้อกักฟุตบอลทีมสีแดงให้ผมได้ใส่

"อ้อ พี่เหล้ากับโนทะเลาะกันเลยขอแลกทีม" ผมตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น ก็รู้ว่าเพื่อนสนิทเป็นพวกไม่ยอมใครแต่ไม่คิดจะทะเลาะกับพี่เหล้าด้วย ผมใส่เสื้อทีมที่เพื่อนตั้งใจใส่ให้ ดูท่าลูกแพร์จะชอบเสื้อฟุตบอลมากถึงได้อยากให้ผมใส่ด้วย เรานั่งยืนให้กำลังใจคนในทีม ยอมรับว่าในใจลึก ๆ ผมแอบเชียร์ทีมพี่เบียร์

ผลการแข่งขันรอบแรกจบลงเพราะฝ่ายพี่เหล้าชนะ ผมก็จะดีใจไม่สุดเพราะอีกฝ่ายมีทั้งเพื่อนสนิทและพี่เบียร์ ผมแปะมือกับพี่เหล้าเพื่อแสดงความดีใจที่ทีมเราชนะ นายโนเดินมาแล้วแย่งขวดน้ำของพี่เหล้าไปดื่ม เหมือนว่าคู่นี้จะทะเลาะกันจริง

"ไอ้รักมึงมานี่เลย" ผมโดนนายโนกอดคอแล้วลากกันมาคุยกันสามคนเพราะลูกแพร์ก็เดินตามมาติด ๆ ผมไม่รู้ว่าเพื่อนมีเรื่องอะไรทำไมถึงได้ลากผมมาคุยกัน

"อะไรเนี่ย ลากมาทำไม" ผมถาม

"กูได้ข่าวมาว่าเมื่อเช้ามึงเป็นคนดังของคลาสเลย สารภาพมาว่ามึงร้องไห้ทำไม" ผมเบิกตากว้างเมื่อเพื่อนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า เพ้นส์ไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับเพื่อนทั้งสองแน่

"นั่นสิรัก เราสองคนเป็นห่วงรักนะ" ผมมองลูกแพร์ เพื่อนขอผมเป็นห่วงผมอยู่แล้วเลยไม่อยากจะบอก

"เออ" นายโนหยีหัวผม ในบรรดาเราสามคนผมตัวเล็กที่สุดในขณะที่เพื่อนทั้งสองคนสูงเท่ากัน มันไม่ยุติธรรมเลยผมอยากสูงอีกสิบเซนติเมตรเพื่อจะได้สูงเท่า ๆ กัน

"ว่าแต่รู้กันได้ยังไง" ผมแกล้งถามเรื่องอื่นก่อนเพราะไม่พร้อมจะเล่า

"อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง สรุปมึงร้องไห้ทำไม" ผมกอดเอวเพื่อนไว้หลวม ๆ ก็แหมเรื่องน่าอายแบบนั้นใครจะอยากบอกให้เพื่อนรู้ เมื่อไม่มีทางเลือกผมเลยต้องเล่าเรื่องราวที่เกิดเมื่อเช้าให้เพื่อนรู้ เอาเถอะยอมหน้าแตกกับเพื่อนด้วยก็ได้ เพื่อนทั้งสองก็ต่อว่าเล็กน้อยแต่ก็ให้กำลังใจ ไม่ทันได้คุยกันเสร็จพี่เหล้าก็เดินมาหาพวกเรา ผมก็เพิ่งจะได้เห็นนายโนทะเลาะกับพี่เหล้าครั้งแรก

ไปรู้จักและทะเลาะกันตั้งแต่เมื่อไหร่กัน





"ไอ้เบียร์ ๆ นั่นเด็กมึงนี่หว่า"

ผมมองร่างเล็กที่นั่งยิ้มร่าอยู่กับไอ้เหล้า เมื่อตอนเที่ยงเราก็บังเอิญเจอกันแล้วแต่เหมือนว่าน้องกำลังหลบหน้าผมยังไงก็ไม่รู้เพราะวันนี้ไม่มีเรียนในช่วงบ่ายเพื่อน ๆ ผมเลยชวนกันมาแข่งแตะบอล ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันอีก

"สัส" ผมหันไปด่าเพื่อน ตั้งแต่คืนนั้นพวกนี้มันชอบชงผมกับเด็กคนนั้น ผมยังไม่รู้จักน้องเขาดีเลย เป็นเพื่อนก็ไม่ใช่ คนรู้จักก็ไม่เชิงแล้วจะให้เป็นเด็กผมได้ไง แต่ทำไมผมแอบไม่พอใจนิด ๆ วะ

ทำไมน้องต้องยิ้มกับไอ้เหล้าแบบนั้นด้วย

แอบหงุดหงิดโว้ย!!!

"อ้าว เชี่ยเบียร์ แซวนิดแซวหน่อยไม่ได้นะมึง ที่คืนนั้นกูเห็นมึงเคลิ้มจูบกับน้องเขาเลย" เออ กูชอบ แล้วไง ก็ปากน้องมันนุ่มนี่หว๋า

"กูก็เห็นด้วยกับไอ้วอร์ม ตกลงมึงสนใจน้องมันไหม ระวังไอ้เหล้าคาบไปแดกนะเว้ย" เพื่อนยังยุไม่เลิก น้องเขาจะไปคบกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับผม ก็เราไม่ได้เป็นอะไรกัน

"แล้วคืนนี้เจอที่ร้านไหมมึง แม่งไปทุกคืน กูไม่เข้าใจมึงเลยไปแดกได้ทุกคืนทุกวันไม่คิดจะเปลี่ยนร้านเหรอวะ" ไอ้กันย์ถามขึ้น เชื่อเถอะว่าไอ้พวกนี้ก็ไปอีกนั่นแหละ

"เหอะ ทำบ่นพวกมึง ไอ้เบียร์จ่ายไหมครับ กูเห็นบ่นแบบนี้ทุกวันแต่พวกมึงก็มาตรงเวลาทุกคืน" ผมเห็นด้วยกับไอ้ริทมันครับ ทำเป็นอวดครวญสุดท้ายก็ไปทุกที นี่แหละครับเพื่อนผม ไอ้กันย์ ไอ้ธีร์ ไอ้เพื่อน ไอ้ริท และไอ้วอร์มครับ ส่วนผมเบียร์ครับ พวกเราก็แค่นักศึกษาปี 3 ธรรมดาที่สนุกกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย

แต่กลุ่มเราก็เป็นที่รู้จักของคนหมู่มาก เรื่องความเนื้อหอม หน้าตาดีและเรียนติดท็อปกวาดผลการเรียนระดบเอกันทุกคน

"แต่น้องเจ้ารักก็น่ารักดีนะมึง มึงไม่คิดจะชอบน้องมันบ้างเหรอ" ผมขมวดคิ้วกับคำพูดของเพื่อน ให้ผมชอบน้องเขาทั้งที่ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองมีดีอะไรที่ทำให้น้องชอบเนี่ยนะ คนอย่างผมมันมีอะไรชอบหรือไง คืนนั้นน้องเขาถึงได้บอกรักผมไม่หยุด

"มึงไม่ลองเปิดโอกาสตัวเองให้เจอความรักหน่อยหรือวะ" ผมรู้ว่าเพื่อนหวังว่าอยากให้ผมเจอรักที่ดีสักครั้ง แต่เด็กคนนั้นจะเป็นรักแท้หรือเปล่า ผมก็ยังไม่รู้หรือผมต้องลองเสี่ยงดู

"..."

"ชักช้าระวังน้องเจ้ารักเลิกชอบมึงจริงนะเว้ย มึงคงไม่รู้ว่ามีคนชอบน้องเขาเยอะ" ผมมองเด็กที่อยู่ในบทสนทนา ตอนนี้กำลังฝึกแตะบอลกับไอ้เหล้าอยู่ ไอ้ลูกพี่ลูกน้องของผมคนนี้มันคิดอะไรกับน้องเขาจริงอย่างที่เพื่อนบอกหรือเปล่าวะ โว้ย สงสัยไปหมด

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-09-2021 21:40:28
 :a5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 10
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 16-09-2021 19:58:05

EPISODE : 09 อย่ายุ่งกับน้องหนู



"ไอ้รักวันนี้ไม่มีงานให้ทำนะ กูแจ้งให้มึงรู้แล้วนะว่าวันนี้หยุดได้" เสียงคนตัวโตหน้าดุดังลอยมาจากในร้าน ผมเดินคอตกเข้ามาในร้านแล้วนั่งลงตรงโต๊ะว่าง

"คืนนี้รักไม่ได้มาทำงานสักหน่อย รักมาดื่ม" ผมบอกจุดประสงค์ ให้นั่งดื่มที่ห้องคนเดียวคงได้ร้องไห้ทั้งคืน อย่างน้อยได้มาที่นี่ก็มีพี่เทคแคร์คอยดูแล ที่จริงแล้วผมก็ชวนเพื่อนรักทั้งสองมาดื่มด้วยกันแต่สองคนนั้นหลังเลิกเล่นฟุตบอลก็ต่างมีงานต้องทำ ผมก็เลยเหลือตัวเดียวอย่างที่เห็น

"มึงคออ่อน ไม่ต้องดื่มเลย เดี๋ยวกูให้เด็กเอานมเย็นมาให้แทน" ว่าแล้วก็หันไปสั่งเด็กในร้านให้ช่วยไปซื้อนมเย็นจากร้านตรงข้ามมาหนึ่งแก้ว ผมหันมาเถียงกลับ

"เฮีย รักโตแล้ว แล้วคนจะดื่มจะขัดทำไม" พี่โซดาวางงานบัญชีที่เคาน์เตอร์เดินมานั่งร่วมโต๊ะกับผมด้วยท่าทีไม่ค่อยสบอารมณ์

"มึงอยากเมาเพื่อ..." มือใหญ่อังหน้าผากก็ไม่เห็นว่ารุ่นน้องมีไข้เล็กน้อย มันน้อยครั้งมากที่น้องเทคแคร์จะงอแงใส่เขา

"รักอกหักแล้ว อกหักจริง ๆ" แทบจะตะโกนใส่หน้าแล้ว ไอ้พี่โซดาจับหัวเล็ก ๆ ของผมเขย่าให้ได้มีสติ

"อกหักจากใคร จากน้องกูเหรอ" ผมก็มีแค่ลูกพี่ลูกน้องของพี่โซดาคนเดียวนั่นแหละ และก็ไม่เคยพูดถึงใคร ไม่มีใครอื่น

"แต่ไอ้เบียร์มันโสดแล้วมึงจะอกหักได้ไงหรือว่าไอ้เบียร์มันมีแฟนแล้ว"

"ใช่ พี่เบียร์มีแฟนแล้ว" ผมตอบออกไปให้ไอ้พี่เทคได้รู้ จะได้เลิกให้ความหวังผมเรื่องพี่เบียร์สักที

"มึงแน่ใจ?" เฮียมันย้ำถามเพราะคงไม่เชื่อว่าน้องชายเขาจะไม่โสดแล้ว ผมอยากลบภาพที่เห็นพี่ผู้หญิงคนนั้นลงรูปแล้วแท็กหาพี่เบียร์ในเฟสบุ๊คด้วย แบบนี้ยิ่งแน่ใจแล้วว่าเขาสองคนต้องกำลังคบกันแน่นอน

"แน่ใจสิ เห็นเต็มสองตาเลย" ผมบอกเสียงติดเง้างอด

"ถ้างั้นมึงก็ตัดใจเลย" ผมมุ่นคิ้วจนผูกโบว์ ทำไม่กลับไม่ชอบที่ได้ยินอย่างนั้น

"เฮียทำไมพูดงี้ล่ะ ตัดใจนะไม่ใช่ตัดกระดาษ" อย่างน้อยก็ขอเวลาผมสักเดือนสองเดือนในการทำใจ

"อ้าว กูกำลังให้ข้อชี้แนะกับมึงอยู่ไง ถ้าไอ้เบียร์มันมีแฟนแล้วกูก็จะไม่สนับสนุนมึง แล้วมึงก็ควรเลิกชอบมัน มันก็เป็นเรื่องปกติของความรักไม่ใช่หรือไง"

"..."

"หรือมึงอยากแย่งมันมา ถ้าจะแย่งก็ไปทำให้มันรักมึงแล้วเลิกกับแฟนสิ มานั่งเสียใจคนเดียวทำไม" ผมตวัดมองไอ้พี่เทคตัวดี

"เฮียนี่เลวจริง แนะนำอะไรแต่ละอย่าง รักแค่อกหักเองนะ รักแค่อยากได้คำปลอบใจไหม ไล่ให้เลิกชอบพี่เบียร์ ให้ไปแย่งพี่เบียร์อยู่นั่นแหละ เป็นพี่เทคแคร์ยังไงไม่เคยมีความรักให้กันเลย" ผมโวยวายใส่อารมณ์กับพี่เทคของตัวเอง ตอนน้องอกหักก็ไม่มีคำปลอบโยนสักคำ มันน่านัก

"กูผิดอีก" ผมไม่สนใจไอ้พี่โซดา ก้มหน้าลงซบแขนที่วางบนโต๊ะ คนเสียใจอยู่ไม่ต้องการคนซ้ำเติม

"เดี๋ยวเอานมมาให้ดื่มละกัน" ว่าแล้วไอ้พี่เทคจอมโหดก็ลุกไปเพื่อสั่งเด็กในร้านให้เอานมมาให้ผมดื่ม

"ชิ เห็นเราเป็นเด็กหรือไง!" แม้จะไม่พอใจแต่เมื่อนมเย็น ๆ มาเสิร์ฟผมก็จำใจต้องดื่ม เพราะคนในร้านไม่มีใครยกเหล้ามาให้ดื่มตามคำสั่งของเจ้าของร้านจอมโหด

ใช้อำนาจในทางที่ผิดชัด ๆ

"โอะโอน้องหน้าหวานนี่เอง ไปกับพี่ไหมครับ" ผมมองหน้าคนที่ตั้งใจเดินชนผมจนตัวเซ ผมไม่ได้เมาสักนิดเพียงแต่มานั่งร้องไห้ในห้องน้ำนานเลยรู้สึกปวดหัว

พี่เด็มคนเดิมยังคงตามตื้อไปเลิก ไม่รู้ว่าพี่แกจะขยันจีบผมไปทำไม ในเมื่อผมก็ปฏิเสธพี่แกไปทุกครั้ง

"ไม่ละครับ รักอยากกลับห้องมากกว่า" ผมปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด

"ให้พี่ไปส่งไหม ไว้ใจพี่ได้น่า" แต่รุ่นพี่จอมตื้อก็ช่างดื้อดึง ชักจะรำคาญแล้ว

'หึ อย่างพี่เขา ใครก็ไม่ไว้ใจ'

ผมปัดมือพี่แกไม่ให้มาจับตัวผม ไอ้รุ่นพี่คนนี้น่ารำคาญที่สุดสำหรับผม

"ขอบคุณครับแต่รักให้เพื่อนมารับแล้ว" ปฏิเสธอีกหนแล้วเลี่ยงไม่ให้อีกคนได้เข้าใกล้ตัวเขา ผมไม่ชอบ

"หว้าเสียดายแย่ แต่ถ้าเพื่อนไม่มาพี่อาสาไปส่งให้ได้นะครับ"

"..." ผมไม่ได้ตอบ เลิกสนใจคนอื่น ่พอเดินมานั่งข้างนอกร้านพี่เด็มก็เดินมานังด้วยอีก น่ารำคาญเกินไปแล้วนะ ผมไม่ได้สนใจเขาแต่เลือกจะมองหารถของเพื่อน หวังว่านายโนจะมารับไว ๆ

"เพื่อนยังไม่มาหรือครับ" ร่างสูงหาเรื่องชวนคุยไม่หยุด ผมหันหลังแล้วถอนหายใจพี่เขาก็ยังจะเดินมามองหน้าผมอีก

"ครับ" พี่เด็มขยับตัวลงไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ ดูท่าทีสบายเหมือนกับไม่รู้ว่าผมไม่อยากสนทนาด้วย ผมหันมองไปในร้านก็เห็นพี่โซดากำลังคุยกับเพื่อน อยากให้พี่โซดามาลากเพื่อนคนนี้ไปเหลือเกิน

"น้องหน้าหวานดูเหมือนไม่ชอบพี่นะครับ" เขาว่าทั้งที่ยังยิ้ม ผมหันมาสบตากับรุ่นพี่ตรงหน้าแล้วถอนหายใจอีก ยุงกัดขาหมดแล้วพี่เขาจะอยากคุยกันตรงนี้จริงนะเหรอ

"ไม่เชิงไม่ชอบหรอกครับ รักแค่ไม่ชอบนิสัยของพี่" บอกไปตามความจริงออกไปเพราะอยากให้พี่เด็มได้รู้ว่าผมไม่ชอบนิสัยของพี่เขามากกว่า พี่เด็มหัวเราะออกมา ผมขมวดคิ้วไม่เข้าใจพี่เขาเท่าไหร่

"ตรงประเด็นดี พี่ชอบนะ"

"..." ผมเงียบกริบ ไม่ได้พูดอะไร ไอ้คนที่อยากให้ชอบก็ไม่ชอบ คนที่ไม่อยากรู้สึกอะไรกันกลับมาบอกว่าชอบกัน พี่เด็มจ้องมองผมไม่วางตาจนผมจนหลบสายตา

"แล้วร้องไห้เรื่องอะไรครับพี่ได้ยินเสียงน้องร้องไห้หนักมาก อกหักหรือครับ" คำถามของพี่เขาเล่นเอาผมพูดไม่ออก ถามซะจี้จุดด้วย "เงียบแบบนี้อกหักชัวร์ จากไอ้เบียร์สินะ" มองชัดขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมทุกคนถึงได้มองออก

"ไม่ครับ" ผมปฏิเสธทันควัน ใครจะไปยอมรับว่าอกหักจากพี่เบียร์ เรื่องความรักของผมมีกี่คนที่รู้กันเนี่ย ผมนึกมาตลอดว่ามันเป็นความลับ

"แต่สาว ๆ อกหักจากหมอนั่นเป็นว่าเล่นเลยนะครับ ปีที่แล้วพี่เบียร์ของน้องก็หักอกอดีตแฟนสาวที่ควงเล่นด้วย" ผมฟังพี่เด็มเล่าเรื่องแล้วอดคิดไม่ได้ว่ากำลังฟังเรื่องคนอื่นอยู่

"นั่นเรื่องพี่หรือเปล่าครับ" เพราะพี่เบียร์ที่ผมรู้จัก ไม่เคยมีประวัติหักอกผู้หญิงมาก่อน พี่เด็มแสดงท่าทีตกใจที่ผมจับไต๋เขาได้

"ฮ่า ๆ โดนจับได้ว่าโกหกซะแล้ว"

"..." ผมเบือนหน้าหนีพี่เด็ม เรื่องแค่นี้คิดว่าผมจะหลงเชื่อง่าย มันไม่มีวันซะหรอก พี่เบียร์ของผมนิสัยดีกว่าคนตรงหน้า พี่เด็มยังขำไม่หยุด พี่คนนี้เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่ามานั่งแกล้งผมเถอะ

"ก็แบบอยากให้น้องได้ผ่อนคลายไง" พี่เขาบอกอย่างนั้น ผมสะดุ้งเมื่อถูกโอบคอเข้า ตกใจนึกว่าไอ้พี่เด็มมาโอบคอตอนผมหันหลังเข้าแต่กลับเป็นพี่เทคแคร์ของผมที่เดินมาหา

"ไอ้เด็มมึงมายุ่งวุ่นวายอะไรกับน้องกู" ผมเงยหน้าแล้วยิ้มให้พี่โซดา พี่เทคแคร์คนโปรดของผมมาช่วยผมแล้ว รู้สึกโล่งใจ มือกอดอกเหมือนเหนือกว่าเพราะมีพี่โซดาอยูด้วย

"อ้าวทำไมพูดแบบนั้น กูคนดีนะแค่มานั่งพูดคุยกับน้องหน้าหวานเอง" ผมแบะปากใส่ ไม่ชอบคำพูดหยอดของพี่เด็ม

"อย่างมึงเนี่ยนะ ไอ้รักมึงก็กลับห้องได้แล้ว" พี่โซดาสั่ง ผมก็อยากกลับคอนโดแล้วเหมือนกัน

"รักรอโนมารับ"

"งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง" พี่เด็มพูดแทรกอาสาจะไปส่ง ผมกับพี่โซดาหันไปมองคนนอกสายตาทันที พี่โซดาชี้หน้าเพื่อนตัวเองอย่างหงุดหงิด

"เก็บความหวังดีของมึงไปเลยไอ้เด็ม ไม่ต้องมาใช้กับน้องกู น้องมันรอเพื่อนอยู่มึงก็ไปที่อื่นไป กูไม่ไว้ใจมึง" ผมโคตรจะชอบพี่เทคแคร์ตัวเองก็ตรงนี้แหละ

"นี่เพื่อนเองคุณภาวิค" ผมมองสองคนพูดกัน สีหน้าพี่โซดาพร้อมเอาเรื่องมาก โคตรเท่เลยพี่เทคแคร์ของผม

"อยากโดนหมัดกูสัดหน้ามึงก่อนไหมถึงจะลุก" พี่เด็มไม่ได้มีท่าทีจะโกรธเคืองอะไร ออกจะชอบที่ได้แกล้งพี่โซดาให้โมโห สุดท้ายพี่เด็มลุกขึ้นยืน คงเพราะไม่อยากจะมีเรื่องกับเจ้าของร้าน

"โหดร้าย ไปก็ได้ น้องหน้าหวานครับพี่นั่งตรงนู้นนะถ้าเพื่อนไม่มา มาหาพี่ได้"

"ไอ้นี่!" ผมมองพี่โซดาจะสัดหน้าพี่เด็ม คนก่อกวนเดินเข้าไปในร้านด้วยสีหน้าอารมณ์ดี ผมมองพี่เด็มแล้วยกมือจะซัดตัวพี่เขาด้วย มีพี่โซดาอยู่ด้วยผมไม่ต้องกลัวอะไร

"มึงก็ด้วย อย่าไปยุ่งกับมัน ไอ้เด็มมันก็หวังล่าแต้มไปงั้น ไม่ได้คิดจริงจังกับใคร" อ้าว มาดุผมซะงั้น

"รักไม่เอาพี่เขาอยู่แล้วน่า" ผมบอกชัดคำ ก็ความรักสำหรับผมคือการรักเดียวใจเดียว คนแบบพี่เด็มไม่ได้อยู่ในสายตาอยู่แล้ว

พี่โซดากลับเข้าไปในร้าน ผมยังยืนรอเพื่อนแต่ไม่คิดว่าจะเจอกับพี่เบียร์กำลังเดินมาหา หัวใจผมเริ่มเต้นแรง จะหนีก็เหมือนจะมีพิรุธ ผมหันหลังก็เจอพี่เด็มคนเดิมเดินมาหาผมด้วย

ฟุบ

ผมมองมือที่โอบเอวผมอย่างแปลกใจ มือหนาของพี่เบียร์โอบเอวผมราวกับไม่พอใจเมื่อเห็นพี่เด็มจะมาเต๊าะผมอีก ผมเคยได้ยินมาจากพี่โซดาว่าพี่เด็มกับพวกพี่เบียร์ไม่ถูกชะตากันมาก ๆ เวลาเจอหน้ากันก็ชอบมีเรื่องกันทุกที

"ไอ้เด็ม มึงอย่ามายุ่งกับน้องหนู!" พี่เบียร์ชี้หน้าใส่พี่เด็ม ผมเองก็เต็มใจให้พี่เบียร์กอด ให้ตายเถอะมาทำดีกันอย่างนี้แล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะเลิกรักพี่เบียร์ได้ล่ะเนี่ย

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 17-09-2021 01:54:58
 :hao6:ข
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 11
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 17-09-2021 19:36:38
 EPISODE : 10 ได้ใกล้ชิดกับพี่เบียร์

"โอะน้องเจ้ารักนี่น่า" ผมรีบก้มหน้าก้มตาไม่กล้าสบตาเพื่อนสี่คนของพี่เบียร์ที่ทยอยเดินมานั่งโต๊ะร่วมกัน พี่เบียร์ลากผมมาตั้งแต่หน้าร้านให้มานั่งด้วยกัน ผมก็ไม่ไปคิดขืนซ้ำยังเต็มใจเดินมานั่งข้างกายพี่เบียร์ นั่งด้วยกันก็ใช่ว่าจะคุยกันเพราะผมก็เงียบ พี่เบียร์ก็เงียบ เรานั่งฟังเพลงในร้านกันจนเพื่อนพี่เบียร์มานี่แหละ 

"นั่นสิ มาอยู่นี่ได้ไงน้าาา" ผมยิ่งก้มหน้ามองพื้นจนหน้าจะทิ่มโต๊ะแล้วพี่เบียร์เอามือมารองไม่ให้หัวผมชนกับโต๊ะด้วย ผมหันไปมองคนใจดี นิสัยแบบนี้แล้วจะให้ผมเลิกรักพี่เบียร์ได้ยังไง 

"สวัสดีครับน้อง" พี่คนนึงเคาะโต๊ะเพื่อให้ผมได้ทำความรู้จักกัน ผมลุกนั่งตัวตรง ผมรู้จักเพื่อนพี่เบียร์ทุกคนอยู่แล้ว พี่คนนึงขอตัวไปห้องน้ำ ที่เหลือทั้งสามคนมองกันยิ้ม ๆ ขณะมองผมและพี่เบียร์ อย่าล้อกันด้วยสายตาได้ไหมครับ 

"สวัสดีครับ" ผมทักทายรุ่นพี่ทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ พี่เบียร์ขยับมาใกล้จนผมต้องขยับไปชิดริมเมื่อเพื่อนคนนึงของพี่เบียร์มานั่งข้างพี่เบียร์

"แล้วไอ้เพื่อนไม่มาเหรอ" พี่เบียร์ถามถึงเพื่อนอีกคน คนนั้นผมก็รู้จักเหมือนกัน 

"มันมา แต่ไปสูบบุหรี่อยู่" เพื่อนที่นั่งข้างพี่เบียร์ตอบ

"ว่าแต่น้องเจ้ารักมาอยู่ด้วยได้ไงครับ พี่เบียร์ชวนมานั่งเหรอครับ" ผมมองรุ่นพี่ที่นั่งข้างพี่เบียร์เอ่ยถามอย่างอยากรู้ เรื่องนั้นก็คงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ทุกคนต้องอยากรู้เพราะผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะตามพี่เบียร์มานั่งด้วยทำไม

"ก็ ครับ" ผมพยักหน้ายอมรับ พี่เบียร์ลากผมมาครึ่งหนึ่งแต่อีกครึ่งหนึ่งขาผมมันเต็มใจมาเอง 

"เออกูพาน้องมานั่งเอง ไม่พามาด้วยไอ้เด็มได้หิ้วกลับห้องแน่" พี่เบียร์พูดขึ้นพร้อมยกแก้วเหล้าดื่ม ผมกระหายน้ำมาก อยากดื่มน้ำด้วยแต่มีแต่เหล้าผมยังไม่อยากหมดสภาพ หรือผมควรดื่มจนหมดสภาพตอนนี้ดีจะได้ไม่ต้องอายเพื่อนพี่เบียร์

"หวีดวิ้ววว" ผมหลบตาพวกเพื่อนพี่เบียร์ที่กำลังแซว ทำไมถึงได้มองผมด้วยสายตาอย่างนั้นมันทำให้ผมทำตัวไม่ถูก

"อะไร ยังไง คุณภาคินเป็นห่วงน้องเจ้ารักเหรอครับ" กูอยากเมาแล้ว ผมอยากยื่นมือไปหยิบแก้วพี่เบียร์มาดื่มซะตอนนี้เลย เพื่อนพี่เบียร์ดูท่าจะกำลังสนุกกะนใหญ่ 

"สัส พูดมากนะ" พี่เบียร์ด่าเพื่อน ผมกัดปากตัวเอง  ได้เห็นพี่เบียร์โหมดโหดกับเพื่อนใกล้ ๆ แล้ว ปกติพี่เบียร์จะนิสัยดีกับคนไปทั่วและหายากมากที่จะได้เห็นมุมแบนี้นอกจากคนที่สนิทเท่านั้น เพื่อนพี่เบียร์ยังขำกันเหมือนสนุกกันอยู่ 

"แต่ไอ้พี่เด็มมันก็เต๊าะน้องเจ้ารักมานานแล้ว น้องไม่ชอบพี่มันหน่อยเหรอครับ" ผมมองพี่ที่ถามขึ้น คำถามแบบนี้จะมาถามต่อหน้าพี่เบียร์ไม่ได้นะ ผมไม่อยากให้พี่เบียร์เข้าใจผิด

"ไม่ครับ ผมไม่ได้ชอบพี่เด็ม" ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เด็มสักนิดเดียว ในใจของผมมีแค่คนข้างกายคนเดียวแล้วผมจะรู้สึกเขินทำไม ไม่ได้สารภาพรักพี่เบียร์สักหน่อย พี่ ๆ ก็ดูตั้งใจฟังผมพูดมาก  

"ไม่ชอบแบบพี่เด็ม แล้วชอบแบบพี่คนไหนครับ"

"ก็.." ผมเกาท้ายทอยตัวเองพลางเอียงคอมองหน้าพี่เบียร์ สำหรับผมแล้วก็มีแค่คนเดียว พี่เบียร์มองผมด้วยแหละ คนอะไรมองใกล้ ๆ แล้วดูดีทุกมุม ผมจะตายเพราะแค่ได้อยู่ใกล้พี่เบียร์ 

"แบบคนข้างกายได้ไหมครับ" ผมหันขวับมองเพื่อนพี่เบียร์ทันที รู้ด้วยเหรอว่าผมชอบพี่เบียร์ ไม่จริงน่า เรื่องความรักของผมมีกี่คนที่รู้กันแน่ ผมเห็นพี่เบียร์แตะขาเพื่อนใต้โต๊ะด้วย 

"ไอ้ริทเงียบไปเลยนะมึง" เพื่อน ๆ พี่เบียร์ต่างพากันขำ ผมนั่งมองนาฬิกาเพราะรอนายโนมารับ หน้าผมร้อนผ่าวอยากซุกอกพี่เบียร์เพื่อหนีสายตาล้อของเพื่อนพี่เบียร์

"ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เรามาทำความรู้จักกันดีกว่านะครับ" ผมเห็นแก้วของพี่เบียร์อยู่ใกล้มือแล้วแอบจิบเล็กน้อยเพื่อให้ตัวเองมีอากาศหายใจ พี่เบียร์เหมือนจะไม่ทันได้สังเกตเพราะหันไปคุยกับเพื่อนข้างกาย 

"นั่นสิเห็นหน้ามาตั้งหลายครั้งแต่ไม่เคยรู้จักกันจริง ๆ จัง ๆ เลย" ผมยิ้มให้พวกพี่สองคน คาดว่างานนี้ผมไม่ได้กลับห้องได้ง่ายแล้ว นายโนก็มาช้าเหลือเกิน ไม่รู้ว่าลืมผมไปแล้วหรือเปล่า 

"พวกพี่เป็นเพื่อนของพี่เบียร์นะครับ พี่ชื่อริทครับ" ผมพยักหน้ารับรู้ เพื่อนพี่เบียร์ที่นั่งข้าง ๆ ก็รีบแย่งแนะนำตัวอีก ผมมองพี่เขาแล้วยิ้มให้ด้วย

"พี่ชื่อวอร์มครับส่วนคนนั้นพี่ธีร์" พี่วอร์มแนะนำตัวแล้วชี้ไปยังพี่ธีร์ คนที่นั่งข้างพี่เบียร์ พี่ธีร์ละสายตาจากเมนูแล้วหันมายิ้มมทักทาย ผมเผลอสบตาเข้ากับพี่เบียร์ที่หันมาด้วย 

"ส่วนอีกคนที่ไปสูบบุหรี่ชื่อพี่เพื่อนครับ" พี่ธีร์บอก ผมยกมือไหว้ทักทายอย่างเป็นทางการและแนะนำตัวเองบ้าง "อ้อส่วนคนเมื่อกี้ที่ไปห้องน้ำน่ะชื่อพี่กันย์ครับ" ดูเหมือนพี่ธีร์จะสนิทกับพี่กันต์มากกว่าใครเพราะผมเห็นสองคนนี้ชอบไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย

"ยินดีรู้จักครับ ผมชื่อเจ้ารัก ปี1 เรียนประยุกต์ศิลป์ครับ" บอกด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่คิดว่าวันนี้ผมจะได้มีโอกาสได้มาอยู่กับพี่เบียร์และกลุ่มเพื่อนของพี่เขาที่ผมเฝ้ามองทุกคืน มันยิ่งกว่าฝันอีก

"แบบนี้ก็วาดรูปสวยสิ" พี่ริทชวนคุย ผมไม่อยากจะบอกว่าตัวเองไม่ได้มีพรสวรรค์อะไรมากมายที่เลือกเรียนก็เพราะความชอบเท่านั้น พี่เบียร์ยังคงมองผมไม่ละสายตาไปไหน ผมจะกลั้นหายใจตายแล้ว

"ก็พอวาดได้ครับ" ตอนเทอมที่แล้วผมเคยตั้งเป้าหมายกับตัวเองว่าผมอยากวาดรูปเหมือนจริงของพี่เบียร์สักรูปให้ได้ เพื่อนพี่เบียร์ก็น่ารักเป็นกันเองดี ความรู้สึกกดดันก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง 

"เดี๋ยว ๆ มึงจะไม่แนะนำตัวกับน้องเจ้ารักบ้างเหรอครับไอ้คุณชาย" พี่วอร์มเรียกให้พี่เบียร์ได้แนะนำตัวบ้าง ผมรับส่ายมือพัลวันเพราะยังไงก็รู้จักพี่เบียร์อยู่แล้ว

"ยุ่งยากจริง" ได้ยินเสียงขัดใจของพี่เบียร์ด้วย พี่เบียร์คงไม่ชอบใจที่โดนเพื่อนบังคับ ผมรีบช่วยพี่เบียร์ทันที

"พี่เบียร์ าภคิน เจริญวัฒนกุล ปี 3 วิศวะไฟฟ้า ผมรู้จักครับ" อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องให้พี่เบียร์ขัดใจกับเพื่อน แต่พอผมบอกไปอย่างนั้นกลับได้เสียงโห่แซวจากพวกพี่เขา ผมทำอะไรลงไป โอ๊ย

"น้องชอบเพื่อนพี่เหรอครับ"

"..." ผมหยิบเหล้าแก้วของพี่เบียร์มาดื่มรวดเดียวเพื่อเลี่ยงจะตอบคำถาม อยากหนีออกไปจากโต๊ะนี้แล้ว พวกพี่เขารู้ได้ยังไงผมคงไม่ได้หลุดปากพูดออกไปใช่ไหม ไม่น่าเลย 

"เห้ย ๆ พวกมึงมอมน้องกูเหรอ ไอ้รักมึงอย่าแดกเหล้า" แก้วในมือผมถูกพี่โซดาดึงไป ผมยังเสียดายเพราะยังเหลืออยู่อีกหยด พี่เบียร์หยิบทิชชูเพื่อเช็ดปากให้ ผมเผลอดีใจและตื่นเต้นมาก พี่เบียร์เช็ดปากให้ผมด้วย ถ้าไปเล่าให้เพื่อนสองคนฟังเพื่อนจะเชื่อไหม

"โอ๊ย โอย ดูแลใส่ใจกัน" พี่วอร์มกับพี่ริทหัวเราะคิกคักกัน พี่ธีร์ก็ช่างแกล้งแซวให้ผมอาย ไอ้พี่เทคผมมองผมเขม่งชียว มาตาเขียวใส่ทำไมเล่าผมไม่ได้ทำอะไรเลย 

"ไอ้รักมึงลุกเลย" พี่โซดาดึงแขนเพื่อจะให้ลุกขึ้นแต่พี่เบียร์ดึงมืผมอีกข้าง ผมมองคนที่จับมือผมด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าพี่เบียร์จะรั้งมือผม อยากจะให้เพื่อนทั้งสองมาเห็นช็อตเด็ดนี้ด้วย ผมตื่นเต้นไปหมด

"จะให้ไอ้เด็มมันมาเต๊าะไปหรือไง ให้น้องนั่งรอเพื่อนตรงนี่แหละ" พี่เบียร์มองพี่โซดาด้วยสายตาไม่พอใจ ผมเข้าใจแล้วว่าพี่เบียร์ไม่ถูกชะตากับพี่เด็ม พอไม่ชอบก็ไม่อยากให้ผมไปยุ่งเเกี่ยว แต่ผมน่ะไม่ยุ่งกับพี่เด็มอยู่แล้วพี่เบียร์สบายใจได้

"เดี๋ยวกูไปส่งมันเอง" พี่โซดาอาสาไปส่ง แล้วผมต้องเลือกทางไหน มือพี่เบียร์ยังจับมือผมไม่ปล่อย โอกาสแบบนี้มันหาได้ง่ายเสียที่ไหน 

"ไม่เอา รักจะรอโน" ผมต้องบอกให้พี่โซดารู้ ก็ผมรอเพื่อนอยู่เกิดสวนทางกับเพื่อนนายโนได้โกรธผม พี่โซดาดีดหน้าผากผมซะแรง บอกแล้วไงว่าหัวผมไม่ใช่กลองไง 

"เออ ๆ รอไอ้โนก็ได้แต่มึงอย่าแดกเหล้า พวกมึงก็ห้ามให้มันแดก เดี๋ยวกูเอานมมาให้ เข้าใจ๊" ผมพยักหน้ารับทราบไปอย่างนั้น ผมโตแล้วน่า ไม่ให้ผมดื่ม ผมแอบดื่มแก้วพี่เบียร์ก็ได้

"เข้าใจแล้วน่า บ่นเป็นคนแก่เลย" ผมแลบลิ้นใส่ พี่โซดายอมปล่อยมือผมพร้อมกับไปสั่งให้เด็กเอานมเย็นมาให้ผมดื่มอีก ผมโตแล้วดูแลผมเหมือนกับเด็กน้อยเลยไอ้พี่เทคบ้า

แต่ลืมไปเลย ก็เนี่ยทำไมผมถึงไม่รีบหนีไป จะอยู่ใกล้พี่เบียร์ไปทำไมให้ตัวเองอาย ผมไม่เข้าใจตัวเอง เพื่อนพี่เบียร์มองผมด้วยสายตายิ้ม ๆ ผมเห็นเพื่อนของพี่เบียร์อีกคนเดินมายังโต๊ะ ก็พอจะรู้ว่าคนนี้คือพี่เพื่อน

"อ้าวเด็กมึงนี่"

"..." ผมอ้าปากค้าง ไม่คิดว่าคนที่เพิ่งมานั่งจะเรียกผมอย่างนั้น ทำไมถึงบอกว่าผมเป็นเด็กของพี่เบียร์ล่ะ ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เบียร์เลยด้วยซ้ำ ผมนั่งร่วมโต๊ะกับพวกพี่แล้วเริ่มมึน เห็นพี่เบียร์ยกแก้มดื่มเสร็จผมก็หยิบมาดื่มต่อ พี่เบียร์ก็มองแต่ไม่ได้ดุเหมือนพี่โซดา ใจดีแบบนี้น่ารักจนผมถอยตัวไม่ขึ้นแล้ว

ผมจะเลิกรักพี่เบียร์ได้ยังไง



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 17-09-2021 21:27:55
ถึงห้อง
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 12
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 20-09-2021 16:54:50
 EPISODE : 11 หลอกลูกแกะอีกคืน



"มึงนี่ร้ายนะไอ้เบียร์" ผมเลิกคิ้วมองเพื่อนที่อยู่ดี ๆ ก็มาว่ากัน ร่างคนเมาข้างกายขยับมากอดแขนผมไม่ยอมปล่อย ตั้งแต่เฮียโซดาไปน้องก็แอบดื่มเหล้าจากแก้วผมไม่หยุด ถึงผมเห็นก็ไม่ได้คิดจะว่าอะไร ก็คนมันโต ๆ กันแล้วเรื่องจะดื่มหรือไม่ดื่มมันก็เป็นสิทธิ์ของเจ้าตัว 

"กูทำอะไร" เพื่อนผมคว่ำปากใส่ คงมันคงไม่เชื่อว่าผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่ปากบอก ไอ้วอร์มมันหัวราะใส่ ไอ้พวกนี้นี่ 

"ไม่ได้ทำเหรอ หึ"

"ก็ที่มอมเหล้าเนียน ๆ เนี่ยไม่ทำอีกเหรอครับคุณภาคิน" ผมไม่ได้สนใจสิ่งที่เพื่อนมันพูด ก็ผมไม่ได้มอมเหล้าน้องจริงสักหน่อย น้องดื่มของน้องเอง ผมจับหัวน้องให้พิงไหล่ผม 

"พี่เบียร์"

"ครับ" น้องไม่ได้สติตั้งนานแล้ว ผมโอบตัวน้องแล้วให้น้องพิงอกผมแทน เห็นหน้างอแงแล้วอยากพาเจ้าตัวไปนอน เพื่อนผมต่างมองแต่ผมก็ไม่ได้สนใจพวกมันอยู่ดี 

"แต่กูรู้นานแล้วว่ามึงมันร้าย" ไอ้เพื่อนมันพูด มันเป็นคนเงียบแต่ถ้าพูดคือพูดแต่เรื่องจริง ผมละเกลียดมัน ผมยกแก้มมาดื่มอีกระหว่างที่ปล่อยให้น้องได้นอนซบอก 

"แล้วนี่เพื่อนน้องมันจะมาเมื่อไหร่" ผมถามเพราะคิดว่าน้องคงรอเพื่อน แต่มันนานแล้วเพื่อนของน้องก็ไม่มาสักที ยิ่งน้องเมาแล้วผมยิ่งอยากพาน้องกลับไปนอน ก็ไม่ได้ห่วงอะไรก็แค่อยากให้น้องได้นอนหลับบนเตียง ผมไม่อยากให้ใครเห็นเวลาน้องมันนอน มันน่ามองอย่างบอกไม่ถูก คืนนั้นผมมองนอนจนเผลอหลับไปเลยก็เคยบอกไปแล้วผิวน้องเหมือนเด็ก เวลานอนยิ่งเหมือนเด็กตัวน้อย ๆ 

"เพิ่งสนใจเหรอครับ กูนึกว่ามึงตั้งใจมอมน้องแล้วจะพาน้องกลับไปซะเอง" ผมปิดหูน้องไม่ให้ได้ยินเสียง ไอ้พวกนี้ชอบพูดอะไรแปลก ๆ ตลอด ผมตั้งใจมอมเหล้าน้องที่ไหน

"กูไม่ได้คิดอะไรแบบที่พวกมึงคิด" ผมค้านสุด ๆ ผมไม่ได้มอมเหล้าน้องสักนิด

"เหรอ" พวกมันประสานเสียงเป็นหนึ่งเดียว สามัคคีกันเหลือเกิน ผมซดอีกแก้วเพราะรู้สึกคอแห้งที่ต้องเถียงกับเพื่อน หน้าผมเหมือนคนที่อยากได้น้องหรือไง 

"พี่เบียร์ครับ น้องอยากกลับแล้ว ที่นี่หนวกหู" เสียงงัวเงียของน้องทำให้ผมละสายตาจากพวกเพื่อน เสียงเพลงที่นี่ดังจนนอนหลับไม่ได้ซินะ

"ครับ กลับก็ได้เดี๋ยวพี่ไปส่ง" ผมบอกน้องให้เจ้าตัวได้รู้ว่าเดี๋ยวผมจะพาน้องกลับไปเอง ผมก็ไม่อยากถูกเพื่อนด่าผมตลอดทั้งคืน น้องเงยหน้ามาพร้อมโอบกอดเหมือนอยากจะลุกไปทันที

"หมาป่าหลอกล่อลูกแกะจนได้" ไอ้เพื่อนมันพูดขึ้นหลังจากเงียบเป็นอยู่นาน

"ถนอมมือ เบามือด้วยเด้อเพื่อน" ไอ้ริทมันแซวตามมา ไอ้พวกนี้ทำงานกันเป็นกระบวนการ คิดว่าผมจะหลอกล่อน้องไปทำอะไร ผมไม่ชอบมีอะไรกับคนไม่มีสติสักหน่อย พวกมันแซวกันเหมือนไม่รู้ว่าผมเป็นคนยังไง

"ไอ้สัส พวกมึงนี่หยุดด่ากูสักที ดูเฮียให้หน่อยกูจะพาน้องออกไป"

"ฮ่า ๆ" เพื่อนขำแต่ก็ช่วยดูต้นทางให้ เห็นทางสะดวกผมก็พาน้องออกมาจากร้านแล้วตรงไปยังคอนโดของตัวเอง ผมแค่อยากรู้ว่าทำไมช่วงนี้น้องชอบหลบหน้าผมก็แค่นั้น นอนด้วยกันอีกคืนพรุ่งนี้เช้าผมจะได้ถามน้องตรง ๆ

ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายแอบแฝงอะไรเลยนะครับ ผมพูดจากใจ



เช้าวันต่อมา...

"พี่เบียร์!"

ผมตกใจเมื่อตื่นมายังห้องที่คุ้นตา พี่เบียร์ไม่ได้เข้าห้องน้ำเหมือนครั้งก่อน ผมรู้สึกได้ถึงแรงกอดของคนข้างกาย มากอดผม ฉวยโอกาสกับผมตอนเมาอีกแล้ว

"รักรู้นะครับว่าพี่ตื่นแล้ว รักจะกลับครับ" 

"แต่มือเราติดกันแบบนี้มันยากนะครับ" คนแกล้งนอนเอ่ยบอกพร้อมยกมือให้ผมได้รู้

"นี่พี่จับรักแบบนี้เลยหรือครับ"  ผมต่อว่าพี่เบียร์ทันทีที่เห็นว่าข้อมือถูกคล้องกุญแจมือกับพี่เบียร์ เพราะผมรีบลุกขึ้นนั่ง พี่เบียร์จึงขยับตาม มาจับกุญแจมือใส่กันอย่างนี้ได้ยังไง 

"พี่เปล่าทำนะครับ เราทำเองทั้งนั้น" ผมหรี่ตามองคนบอก มาโบยความผิดให้ผมตอนเมาอย่างนี้เลยเหรอถึงเป็นคนที่แอบรักก็เถอะแต่ผมไม่ยอม ผมแบมือต่อหน้าพี่เขาแถมยังหลบสายตาเพราะเผลอใจเต้นกระตุกตื่นเต้นที่ได้ใกล้ชิดกับพี่เบียร์อีกแล้ว

"ขอกุญแจด้วยครับ"

"พี่ไม่มีครับ" ผมตีหน้ายุ่งไม่พอ ในใจแอบอยากกรี๊ดดัง ทำไมพี่เบียร์หล่อทุกอริยบท ผมจะบ้าตายแล้ว

"พี่เบียร์ครับ!" จะเริ่มโกรธแล้วนะ เจ้าของห้องเสยผมตัวเองและอวดใบหน้าเนียนให้ผมอิจฉา อยากสัมผัสหน้าพี่เบียร์สักครั้ง ผมส่ายหน้าปลุกตัวเองไม่ให้ลุ่มหลงไปกับรูปลักษณ์ของพี่เบียร์ จะมาใจอ่อนไม่ได้ ผมกำลังอยู่ในช่วงตัดใจ 

"พี่พูดจริง ๆ เมื่อคืนเราไปหยิบของเล่นพวกนี้มาเล่นเองแล้วยังเป็นคนใส่มือเองด้วยสองมือนี้เลย พี่ไม่ได้เป็นคนทำเลย - "

"โกหก" ผมรีบขัดขึ้น ถึงผมจะเมาแต่ก็ไม่น่าทำตัวอย่างนั้น พี่เบียร์ดูหน้าเหว๋อเพราะพูดยังไงผมก็ไม่เชื่อ ผมมองมือเราทั้งสองแล้วพี่เบียร์จะมีของเล่นพวกนี้ไว้ในห้องทำไมหรือว่าจะเอาไว้ใช้ตอน...

"รักจะกลับครับ" เผลอคิดอะไรบางอย่างเข้า ไม่ปลอดภัยแน่ ๆ ยิ่งผมอยู่ในห้องพี่เบียร์ก็มีแต่เรื่องไม่ดี ผมลุกขึ้นพี่เบียร์ลุกขึ้นขยับตาม พร้อมเข้ามาประชิด  ผมยืนเกร็งรีบบอกให้พี่เบียร์ถอยห่างออกไป เรายืดแขนกันถ้าไม่มีลูกกุญแจเราคงต้องอยู่อย่างนี้ไปทั้งวัน

"คุยกันก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

"รักไม่มีอะไรจะคุยครับ รักมีเรียนเช้าด้วย" ผมหันหน้าหนี พอต้องมาอยู่ใกล้ชิดกับพี่เบียร์อย่างนี้มันก็รู้สึกตื่นเต้นทั้งที่ไม่ควรจะรู้สึก โอ๊ยแล้วผมจะไปตื่นเต้นทำไมต้องรีบหาทางออกไปจากห้องพี่เบียร์ให้เร็ว

มายั่วให้หลงแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะเลิกรักพี่เบียร์ได้เล่า

"แล้วพี่ต้องทำยังไงครับน้องหนูถึงจะหันหน้ามาคุยกัน ไม่ใช่ว่าเราตั้งใจหลบหน้าพี่หรือครับ" ผมอ้าปากอยากเถียงแต่คำว่าน้องหนูที่พี่เบียร์มันดูนุ่มนวลจนผมไม่กล้าแย้งใด ๆ พี่เบียร์มองผมด้วยสายตาอ้อนวอน 

แววตาน่าสงสารอย่างนั้น ทำผมโกรธไม่ลง

"คิดไปเองหรือครับ รัก รักไม่ได้หลบหน้าพี่เบียร์สักหน่อย" ผมหมุนตัวหนีคนถามพี่เบียร์ก็หมุนตามเพราะมือเราติดกัน แต่ได้อยู่ใกล้ชิดอย่างนี้มันก็น่ารักไปอีกแบบ 

"แต่พี่รู้สึกว่าเราตั้งใจหลบหน้านี่น่า" ผมรู้สึกเขินกับน้ำเสียงสงสัยนั้น พี่เบียร์พูดเหมือนสนใจเรื่องของผมอยู่ ไม่ได้ ๆ ผมจะใจอ่อนกับการกระทำของพี่เบียร์ไม่ได้ มือเรียวยันหน้าอกของพี่เบียร์ให้ยืนอยู่ห่าง ๆ ตัว

"รักต้องไปเรียนแล้ว พี่เบียร์เอากุญแจมือมาแกะด้วยครับ รักรู้ว่าพี่มีแม่กุญแจ" ผมคาดคั้นแกล้งเก็กขรึมทำท่าทีไม่พอใจและกำลังจะโมโหถ้าพี่เขายังไม่ยอมไขกุญแจออกจากกัน  ผมจะต้องออกไปจากห้องพี่เบียร์ก่อนหัวใจผมจะทำงานหนัก

"พี่ไม่มีครับ" ได้ยินพี่เบียร์ยืนยันหนักแน่นแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจ มันจะดีเหรอที่เราตัวติดกันอย่างนี้ผมว่าผมจะตายก่อนจะได้ออกไปเล่าเรื่องราวให้เพื่อนฟัง ผมมองไปยังนาฬิกาดิจิตอลแล้วเผลอตกใจเมื่อใกล้ถึงเวลาเรียน

"พี่เบียร์เดินไปกับรักหน่อย รักจะขยับไปหยิบมือถือตัวเอง" ผมขอร้อง เพราะเห็นว่ามือถือเครื่องตัวเองโผล่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง มือหนายื่นมือถือเครื่องตัวเองให้ผมแทน

"เล่นมือถือพี่ก็ได้ครับ" พี่เบียร์อนุญาตให้ผมได้เล่นมือถือตัวเอง ผมมองคนตัวโต ทำอย่างกับว่าระหว่างเราเป็นมากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องถึงได้แตะต้องมือถือของกันและกันนั่นแหละ ผมก็ไม่อยากขัดขืน เพราะการที่ได้ใช้มือถือของพี่เบียร์ มันได้ฟีลเหมือนใช้ของแฟนแต่ผมกับพี่เบียร์มันไม่ได้อยู่ในสถานะนั้น ผมต้องคุมสติตัวเองให้ได้

"รักจะบอกให้เพ้นส์ช่วยลาคาบแรกครับ" เมื่อได้คำตอบ พี่เบียร์ก็ยอมลุกแต่โดยดี ผมเดินไปหยิบมือถือตัวเอง กดดูก็ปรากฏว่ามีสายโทรเข้ามาเกือบร้อยจากเพื่อนทั้งสอง โนกับแพร์ต้องเป็นห่วงผมทั้งคืนแน่

"รักจะคุยกับเพื่อนพี่เบียร์ห้ามดู" ผมหันไปดุคนข้างกายก็เห็นพี่เบียร์ยิ้มกว้างและพยักหน้ารับปาก จะไปเล่าให้เพื่อนฟังให้หมดเลยว่าพี่เบียร์โดนผมดุแล้วยอมว่าง่ายเชื่อฟัง เพื่อนต้องไม่เชื่อผมแน่

"พี่ไม่ดูอยู่แล้ว แต่อยากอาบน้ำจังเราไปอาบน้ำด้วยกันนะ" ผมฟังที่พี่เบียร์พูดแต่มือก็พิมพ์คุยกับเพื่อน

"ไม่ครับ"

"แต่พี่ร้อน ตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่ได้อาบน้ำนอน น้องหนูนอนกุมมือกันทั้งคืนอย่างนี้จะมีเวลาไหนไปอาบล่ะครับ" ผมมองมือตัวเองที่โดนพี่เบียร์สาธิตการกุมมือให้ดู อันนี้คือมาแตะอั้งกันหรือไง ผมสะบัดออกและบอกให้พี่เบียร์ช่วยขยับออกห่างไปนิด บ่นว่าร้อนแต่ชอบมาเบียดผมจัง อะไรของพี่เขา

"ใครใช้ให้พี่เบียร์ไม่อาบเองล่ะครับ" ผมพิมพ์ข้อความบอกเพื่อน ปากก็บ่นพี่เบียร์แบบไม่จริงจัง รู้อยู่แล้วว่าสาเหตุที่ทำให้พี่เบียร์ไม่ได้อาบน้ำนั่นก็เพราะเผม

"นั่นสิเนอะ พี่นี่แย่จังเลย"

"ครับ แย่มาก เอะ" คนกำลังสนใจตอบข้อความจากเพื่อนตกใจเมื่อถูกสวมกอดเข้า ผมมองเอวที่ถูกรวบกอดด้วยมือใหญ่ของพี่เบียร์ ผมยังพิมพ์คุยกับเพ้นส์ไม่เสร็จเลยแล้วนี่พี่เบียร์จะขยับมากอดตัวผมทำไม

"พี่เบียร์ จะทำอะไรครับเนี่ย"

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-09-2021 23:42:12
 :hao5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 13
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 21-09-2021 17:55:54
 EPISODE : 12 เวลาพิเศษของเรา



"รักคุยกับเพื่อนอยู่นะครับ" ผมยืนตัวเกร็งก็พี่เบียร์เล่นมาสวมกอดกันอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ผมซบหน้าบนไหล่พี่เบียร์เพราะต้องคุยกับเพื่อนในมือถือ พี่เขาจะฆ่าผมให้ตายหรือไงถึงได้มากอดกัน 

"รู้ครับ พี่แค่ง่วง ขอพิงไหล่นะ" ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ยอมนิ่งให้พี่เบียร์สวมกอดและพยายามซ่อนเร้นรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า บ้าเอ้ยแบบนี้ผมก็ตกอยู่ในอ้อมกอดพี่เบียร์แล้วสิ บ้าจริง ไม่ทันได้เตรียมใจไว้เลย 

"พี่เบียร์อย่ามายืนนอนแบบนี้สิครับ รักคุยกับเพ้นส์เสร็จแล้ว" ผมบอกเมื่อคุยกับเพ้นส์เสร็จเรียบร้อย มีแอบต่อเวลาหนึ่งนาทีให้พี่เบียร์ได้นอนกอดผมด้วยแหละ ก็ถ้าไม่ได้อยู่ในช่วงกำลังหักห้ามใจตัวเองผมคงเป็นลมกับการกระทำของพี่เบียร์แล้ว เมื่อคนคนนี้มีเจ้าของแล้วผมก็จะไม่ยุ่งเกี่ยว ผมให้คำมั่นกับตัวเองอย่างนั่น

"พี่ว่าเรามานอนกันดีกว่านะครับ" ร่างสูงว่าพร้อมขยับยกตัวผมให้ได้เหยียบบนเท้าของเขา บ้าไปแล้ว ผมจะเริ่มต้นเล่าให้เพื่อนฟังตั้งแต่ตอนไหนดีเพื่อนถึงจะเชื่อว่าพี่เบียร์เป็นฝ่ายเริ่มกอดผมก่อน แค่คิดผมก็หน้าแดงแล้ว ผมถูกพามายังเตียง ร่างหนาล้มตัวลงบนเตียงนุ่มโดยมีตัวผมนอนอยู่ข้างล่าง เราสองคนต่างสบตากัน อยู่ในท่านี้แล้วมันทำให้ผมหวั่นไหวมาก

"ไม่ต้องเลยครับ เรามาหาอะไรตัดกุญแจมือนี้ครับ" ผมเอามือยันตัวพี่เบียร์เมื่อหักห้ามใจตัวเองได้ ก็ผมไม่อยากเผลอใจให้พี่เบียร์อีกแล้ว ต้องเลิกรักให้ได้!

"แต่พี่ง่วงนะครับ เมื่อคืนนอนเฝ้าน้องหนูทั้งคืน" พี่เขาบอก นิ้วมือข้างที่ว่างก็เลื่อนมาเล่นจมูกของผม มาเล่นกับใจอย่างนี้ผมอยากตายแล้ว

"พี่อยากเฝ้าเอง รักไม่ได้ขอหนิครับ" แกล้งทำเสียงขรึมแล้วหันหน้าหนี ใบหน้าผมร้อนผ่าวทั้งที่ในห้องก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ

"หาอะไรมาตัดกุญแจแล้วหาของกินรองท้องเถอะครับ รักไม่อยากปวดท้องตอนเช้า" คนกินอาหารเช้าสม่ำเสมอไม่อยากทำร้ายระบบทางเดินอาหารของตัวเอง ผมเคยปวดท้องกระเพาะในตอนวัยเรียนมัธยม นับตั้งแต่นั้นก็พยายามกินข้าวทุกมื้อให้อิ่มและตรงเวลา ได้ยินเสียงพี่เบียร์เหมือนจะหัวเราะเบา ๆ ข้างหู

"ก็ได้ครับ ไปครับ" ผมผลักคนตัวโตให้ออกห่างและลากเจ้าของห้องให้เข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แกร็ก ได้ยินเสียงเหมือนประตูล็อก ผมหันกลับหาพี่เบียร์โดนสายตาดุบอกผ่านสายตา

"ไม่ต้องปิดประตูเลยครับ เปิดกว้าง ๆ" คนถูกสั่งการยอมเปิดประตูห้องน้ำกว้างอย่างที่ผมต้องการ ทำไมผมรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกพี่เบียร์แกล้งก็ไม่รู้หรือผมจะคิดมากไปเอง 

"พี่ก็ปิดด้วยความชินมือเองครับ" ผมหันมองกระจกห้องน้ำ เห็นแปรงฟันสองชิ้นอยู่ในแก้วเดียวกันก็รู้สึกอิจฉาคนของพี่เบียร์ ผมลืมไปเลยว่าตัวเองไม่มีแปรงสีฟัน

"ห้องพี่คงไม่มีแปรงฟันสำรองให้รักยืมใช่ไหมครับ"

"ก็นั่นไงครับ พี่เตรียมไว้ตั้งแต่ครั้งก่อนที่เรามานอนห้องพี่แล้ว" ผมมองแปรงสีฟันที่พี่เบียร์หยิบมา "เราบีบยาสีฟันนะครับเดี๋ยวพี่ถือแปรงให้ มือข้างซ้ายพี่ไม่ถนัดบีบ" ผมก้มหน้าหงุดแอบเขินกับบรรยากาศรอบตัว

ขอกลับไปหวีดพี่เบียร์อย่างเดิมได้ไหม พี่เบียร์ทำให้ใจผมเต้นเร็วมาก

"หน้าแดงเชียว เป็นอะไรไหมครับ" พี่เบียร์เหมือนจะเป็นห่วง 

"ครับ ? ไม่ ๆ" ว่าแล้วผมก็เลิกจมอยู่กับความคิดตัวเองแล้วเริ่มบีบยาสีฟันใส่บนแปรงสีฟันที่พี่เบียร์ยื่นรออยู่ก่อนหน้า นี่มันเหมือนแฟนกันมากเลยผมไม่อยากคิดไปเองคนเดียว

'ได้มีคนแปรงฟันร่วมกัน มันดีแบบนี้นี่เอง' ผมรู้สึกใจเต้นไปอีกเมื่อมือที่ถูกจับด้วยกันประสานกันแน่น ระหว่างแปรงฟันผมก็ถือโอกาสมองพี่เบียร์ตลอด

"แอบมองหรือเรา" คนชอบแกล้งถามผมทั้งที่ยังแปรงฟัน 

"รักเปล่า ชิ" แค่แอบมองนิดเดียวก็โดนจับได้ซะแล้ว พี่เบียร์เป็นพวกตาเหยี่ยวหรือไงถึงได้เห็นไวขนาดนั้น พี่เบียร์หัวเราะและหยอกเล่นจนผมต้องห้ามกว่าเราทั้งสองแปรงฟันเสร็จก็ใช้เวลานานไปนิด 

"ล้างหน้าเสร็จก็ออกเลยครับ" ผมบอกให้พี่เบียร์รู้

"แต่พี่ปวดฉี่"

"พี่เบียร์ก็อั้นไว้สิครับ"

"แต่พี่อั้นไม่ไหวนะครับ"

"พี่น่ะ" ผมปิดตา ปิดหูข้างหนึ่งไว้ เข้าใจว่าเหตุสุตวิสัยแต่มันควรเป็นพี่เเบียร์ที่ต้องอายไหม "รักจะไม่ดู รับรองพี่เบียร์ปลอดภัยครับ" ได้ยินคนฟังยิ้มขำด้วย ผมลากพี่เบียร์ออกมาจากห้องน้ำเมื่อเสร็จธุระส่วนตัวกัน พี่เบียร์เดินตามผมมาค้นตู้เย็น ผมหิวและไม่อยากคุยพี่เบียร์แล้ว

"โอ้ มีของตุนเพียบเลย" ผมแปลกใจมากกว่าที่เปิดตู้เย็นแล้วเจอของตุนไว้ในตู้เย็นเต็มตู้ เคยคิดว่าคนอย่างพี่เบียร์คงไม่เจียดครัวหรือทำอาหารกินเอง

"ก็ครับ วันหยุดพี่ก็ทำกินเอง" ผมอ้าปากค้าง พี่เบียร์มีเรื่องให้ผมได้ทำความรู้จักมากจริง ๆ ถ้าผมไม่ได้ถูกใส่กุญแจมือกันก็คงไม่มีทางรู้ว่าพี่เบียร์ก็มีมุมนี้ด้วย 

"แปลกใจมาก รักนึกว่าพี่เบียร์จะทำอาหารไม่เก่ง" ร่างสูงระบายยิ้ม มือข้างที่ว่างลูบหัวผมคงเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติของเจ้าตัว ผมรีบปัดมือนั้นออก ไม่ได้เป็นอะไรกันอย่าทำให้รู้สึกอะไรกันสิ

"สบประมาทกันแบบนี้ ต้องโชว์ฝีมือซะแล้ว" พี่เบียร์เปิดประเด็นท้าขึ้น ผมเองก็ทำอาหารเป็นอยู่บ้าง ไม่มีทางที่ผมจะแพ้เรื่องฝีมือปลายจวัก

"เอาสิครับ ทำข้าวผัดพอไหวไหมครับรักอยากกินข้าว เดี๋ยวรักทำไข่ม้วนเอง" ผมนึกเมนูในใจอยู่แล้ว มีโอกาสได้กินกับข้าวฝีมือพี่เบียร์แล้ว ตื่นเต้นไม่น้อย 

"ของกล้วย ๆ มาก ถ้างั้นมาแข่งกันไหมครับ ของใครอร่อยกว่าชนะ"

"ชนะแล้วได้อะไรครับ ขอรางวัลด้วยครับ" เมื่อมีการแข่งขันก็ต้องมีรางวัลมาล่อด้วยผมยิ่งกระหายความชนะ เพราะศึกครั้งนี้ผมกำลังแข่งกับพี่เบียร์ คนตัวโตทำท่าครุ่นคิดแปปเดียว

"อือ ได้ตั๋วพิเศษ ขออะไรก็ได้อีกฝ่าย" พี่เบียร์เสนอ มันก็น่าสนใจ

"ขอได้หมดเลยหรือครับ" ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจเพราะไม่อยากถูกหลอก พี่เบียร์พยักหน้ามั่นใจในข้อเสนอที่ตัวเองแนะนำ ผมไม่คิดว่างานนี้ตัวเองจะแพ้พี่เบียร์

"ก็ถ้าน้องหนูมั่นใจว่าจะชนะพี่ได้นะ"

"รักชนะแน่" จะขอตั๋วทดลองเป็นแฟนพี่เบียร์หนึ่งวันเลยคอยดู ผมมั่นใจสุด ๆ พี่เบียร์ก็มั่นใจมากว่าตัวเองต้องชนะเหมือนกัน เราเริ่มการแข่งกันเพราะไม่อยากรอช้า ผมเดินไปหยิบอุปกรณ์เพื่อจะได้ทำเมนูไข่ม้วนของตัวเอง แขนของผมถูกดึงเพราะคนตัวโต

"พี่เบียร์จะขยับไปไหนครับ รักจะไปเอาไข่" 

"แต่พี่ต้องเตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดเหมือนกันนะครับ" พี่เบียร์บอก ผมก็ลืมไปเลยว่ามือของเราสองคนติดกัน 

"วุ่นวายจังเลยครับ" ถึงผมบ่นพี่เบียร์ก็ไม่ได้ว่าอะไร ออกจะขำจนน่าหมั่นไส้ด้วย ทำไมถึงได้ชอบยิ้มตลอดหรือหน้าผมมันตลก

"งั้นให้พี่ทำข้าวผัดก่อนนะครับเสร็จแล้วค่อยทำไข่ม้วนของน้องหนู ไข่จะได้ไม่หายร้อนด้วย" ผมมองคนเสนอแนะอีก ช่างคิดนั่นคิดนี่เร็วไปซะหมด

"ทำไมรักรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม" ปากเล็กหงึใส่แต่ก็ยังหลีกทางให้พี่เบียร์ได้เตรียมอุปกรณ์ทำข้าวผัดก่อน พอผมบอกอยากกินกุ้ง พี่เบียร์ก็ใจดีแกะกุ้งให้ด้วย ผมมองและช่วยพี่เบียร์โดยไม่ได้บ่นอีก ยืนมองพี่เบียร์ทำอาหารแล้วผมก็หยิบมือถือเพื่อถ่ายรูปไว้ ผมต้องการมีหลักฐานว่าพี่เบียร์ไม่ได้โกงการทำอาหาร

"จะถ่ายทำไมครับ พี่นะมืออาชีพอยู่แล้ว" คนมั่นใจเกินร้อยบอกแต่ผมก็ไม่สน เปิดโหมดวิดีโอเพื่อถ่ายเก็บเป็นที่ระลึก 

"ต้องถ่ายทุกขั้นตอนเผื่อพี่โทรฯสั่งแกร็บแล้วมาย้อมแมว" พี่เบียร์หันมาหากล้องด้วยรอยยิ้มสวย 

"ครับ หยิบน้ำตาลหน่อยครับ" พ่อครัวตัวโตสั่ง ผมหาที่ตั้งกล้องและก็หยิบน้ำตาลที่อยู่ใกล้มือส่งไปให้พี่เขา ฝีมือพี่เบียร์จะน่ากินขนาดไหน ผมลุ้นจนเกิดคำถามมากมายในหัว

"รักไม่กินหวานมากนะครับ ใส่น้ำตาลนิด ๆ พอ"

"ครับ เชื่อพี่เลยว่าปรุงได้กลมกล่อมแน่" พี่เบียร์รับทราบและเทน้ำตาลน้อย "เกลือ เตรียมรอได้เลยครับ" ผมเหมือนถูกให้เป็นผู้ช่วยเชฟยังไงก็ไม่รู้ 

"รักรู้แล้วน่า พี่เบียร์พูดมากจัง" และแล้วการทำอาหารเช้ามื้อแรกของวันก็เสร็จเรียบร้อยไป ผมสูดกลิ่นหอมของข้าวผัดในจานแล้วเกิดหิว พี่เบียร์จัดจานและตกแต่งได้น่าทาน

"เอาละ เสร็จเรียบร้อยครับ" ได้จานหลักไปแล้วก็ถึงตาผมที่จะได้ทำไข่ม้วนสักที

"เสร็จแล้ว ต่อไปตารักแล้ว อื้อพี่เบียร์จะไปไหน" ผมพูดไม่ทันจะจบพี่เบียร์ก็อุ้มผมมาเปิดม่านเพื่อรับเช้าวันใหม่ แดดส่องยามเช้าสวย ผมถูกพี่เบียร์อุ้มพามายังห้องครัวเพื่อทำไข่ม้วนที่ต้องทำ

"นี่พี่แกล้งรักใช่ไหม นี่แหนะ"

"กำหมัดแค่นี้ พี่เจ็บมากเลย" พี่เบียร์แซว รอยยิ้มยังคงไม่จางหายไปจากใบหน้า ผมแกล้งตีอกเขาอีกหลาย ๆ ครั้ง 

"นี่แหนะ ๆ"

"ดุจังเลยครับ" ผมลงมือทำไข่ม้วนที่มั่นใจนักหนา โดยมีพี่เบียร์อยู่ช่วยเป็นลูกมือแต่โดยดี ระหว่างกำลังตั้งใจเข้าครัว ผมก็เห็นพี่เบียร์กำลังถ่ายวีดิโอผมเหมือนกัน มันน่านัก

"พี่เบียร์อย่ามัวแต่ถ่ายสิครับ จะกินไหมข้าวเช้า" ผมทำไข่ม้วนเสร็จแล้ว ขนาดเรามานั่งที่โต๊ะกินข้าวพี่เบียร์ก็ยังไม่หยุดถ่ายวิดีโอ

"เหมือนแฟนเด็กดุแต่เช้าเลย ฮ่า ๆ" ผมสตั้นไปสามวินาที เมื่อกี้ผมได้ยินอะไรผิดหรือเปล่า พี่เบียร์ว่าอะไรนะ แฟนดงแฟนเด็กอะไรผมไม่ได้เป็นแฟนเด็กของพี่เขาสักหน่อย

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 14
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 22-09-2021 17:13:06
 EPISODE : 13 เราเลิกกันแล้ว



"เรามาลองชิมแล้วให้คะแนนกันนะครับ สิบถึงร้อย ใครคะแนนเยอะกว่าคนนั้นชนะ" ผมมองน้องที่ดูจะตื่นเต้นกับการชนะในครั้งนี้แต่ผมเองก็อยากจะชนะเหมือนกัน 

"ครับ งั้นรักเริ่มก่อนครับ" น้องหยิบช้อนขึ้นมา ผมเพียงมองเพราะลุ้นเหมือนกันว่ารสมือตัวเองจะถูกปากน้องหรือเปล่า "จะกินแล้วนะครับ อ้าม" เจ้าแก้มขาวเคี้ยวอย่างอร่อย ผมเห็นแล้วเกิดรู้สึกหิวขึ้นมาบ้างเพราะน้องกินเหมือนอร่อยมาก

"ตาพี่แล้ว ป้อนให้หน่อยสิครับมือข้างซ้ายพี่ไม่ถนัด" คนกำลังฟินหันมองผมด้วยสายตาเหวี่ยง อยากบอกเจ้าตัวเหลือเกินว่ามันน่ารักเวลาน้องชักสีหน้าใส่ 

"พี่นี่เรื่องมากจังเลย อ้าปากเลยครับ" ผมขำแต่ก็ยอมอ้าปากเพื่อให้น้องป้อนแต่โดยดี น้องตักข้าวกินอีกคำ เชื่อแล้วว่าหิวหรือฝีมือผมอร่อยถูกปากนะ แอบลุ้นเหมือนกัน 

"ต่อไปไข่ม้วนของรักนะ ให้พี่เบียร์ชิมก่อนเลยรับรองอร่อยเหาะ" น้องดูภูมิใจนำเสนอมาก ผมกลืนข้าวลงคอ

"ป้อนครับ" ผมบอกเจ้าตัว น้องทำเสียงฮึดฮัดเล็กน้อยคงเพราะไม่ชอบที่ถูกผมสั่งบ่อย ผมรู้แต่กลับชอบและอยากแกล้งให้น้องงอนใส่บ่อย เจ้าตัวตักไข่ม้วนคำโตเหมือนแกล้งผมคืน

"รู้แล้วครับ อ้าปากกว้าง ๆ ไข่ม้วนสูตรน้องเจ้ารักมาแล้ว อ้ามมม" ผมเพิ่งได้ลองลิ้มรสฝีมือไข่ม้วนของน้องครั้งแรก มันนุ่มหอมและไม่หวานมากยิ่งได้กินกับข้าวผัดของผมยิ่งเข้าคู่กัน จานข้าวถูกน้องขยับไปอยู่ใกล้เจ้าตัว

"เดี๋ยวรักกินต่อให้หมดเอง อืมม อร่อยมาก ข้าวผัดพี่เบียร์สู้ไข่ม้วนของรักไม่ได้สักนิด" น้องเล่นกินข้าวแล้วไม่ยอมแบ่งกันอีก ผมก็อดกิน ได้แต่นั่งพิงเก้าอี้อยู่เงียบ ๆ เห็นเม็ดข้าวติดอยู่ริมฝีปากผมก็เอื้อมมือไปหยิบมันมากินแทน น้องดูตกใจไปชั่วขณะนี่ผมทำให้น้องตกใจเหรอ

"กินคนเดียว ขี้โกงนะเรา" ผมเทน้ำใส่แก้ว น้องหยิบมาดื่มทันที ไม่รู้จะรีบกินไปทำไมผมไม่ได้แย่งกินเลย  

"ก็พี่เบียร์ไม่ได้หิวนี่ครับ" จนเมื่อทานเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คะแนนกันและกัน น้องวางช้อนพร้อมรับฟังคะแนนที่ให้กันและกัน "จะให้รักให้คะแนนก่อนไหมครับ" 

"ครับ ข้าวผัดฝีมือพี่เราให้คะแนนความอร่อยกี่คะแนนครับ" ผมถามขึ้นน้องตอบแบบไม่ต้องครุ่นคิดสักนิด

"รสชาติอาหารดี ข้าวก็ผัดไม่แห้งและข้าวนุ่มมากด้วย งั้นรักให้พี่เบียร์สิบเต็มร้อยก็แล้วกันครับ"

"โห" เด็กขี้แกล้งหัวเราะเพราะอยากเอาชนะ ผมแกล้งยอมแพ้เพราะได้คะแนนน้อยเกินกว่าที่คาดหวัง "ไว้วันหลังพี่จะทำอาหารสุดฝีมือให้ชิม"

"ตั้งตารอเลยครับ แล้วคะแนนไข่ม้วนของรักล่ะครับ" พอถึงตาตัวเอง น้องก็ดูคาดหวังมาก ผมวิจารณ์อาหารให้ฟังพร้อมให้คะแนนที่ทำเอาน้องตกใจ

"เป็นไข่ม้วนที่อร่อยที่สุดเท่าที่พี่เคยกินมา พี่ให้คะแนนเกินร้อยเลยครับ" 

"เอาจริงหรือครับ รักนึกว่าพี่เบียร์จะแกล้งลดคะแนนเหมือนรักซะอีก" ผมรู้อยู่แล้วว่าน้อแกล้งแค่ยอมไปแค่นั้นเอง

"พี่จะลดคะแนนทำไม อาหารฝีมือน้องหนูอร่อยมากพี่ก็ต้องให้คะแนนตามความจริง" คนฟังรู้สึกเหลิงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พอใจกับคำชมของผม ชักอยากจะเข้าครัวฝึกทำอาหารอื่นให้น้องได้ลองชิมอีกหลายเมนู

"ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่ารักชนะนะครับ"

"ครับ" ผมพยักหน้า 

"เย่ ดีเลยครับ รักจะกลับไปคิดก่อนว่าจะใช้ตั๋วแบบไหนดี ล้างจานกันเถอะครับ" ได้เห็นน้องยิ้มผมก็ดีใจ เราสองคนยืนเถียงกันระหว่างล้างจานเกี่ยวกับการหากุญแจมาไขกุญแจมือ สุดท้ายผมก็ต้องบอกน้องไปตามตรงว่ากุญแจมีเพียงแต่เราต้องคุยกันก่อน น้องก็เถียงไม่ยอมแต่ผมขอเวลาคุยเพื่อคุยกันเรื่องที่ผมกำลังสงสัย ขอร้องอยู่นานว่าน้องก็ยอมแต่โดยดี

เราสองคนเดินมานั่งบริเวณห้องนั่งเล่น ผมหยิบกุญแจมาแล้วเพื่อให้น้องได้สบายใจ น้องนั่งลงนั่งบนโซฟาสีหน้าบ่งบอกชัดถึงความกังวล

"พี่เบียร์อยากรู้เรื่องอะไรก็ถามมาได้เลยครับ"

ก๊อก ๆ ๆ 

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมกับน้องมองหน้ากันเพราะสงสัยว่าเช้าขนาดนี้จะมีใครมาหาในเมื่อผมไม่ได้นัดใคร น้องยอมลุกขึ้นเพื่อเดินไปเปิดประตูพร้อมกับผม แต่พอมองผ่านช่องตาแมวที่ประตูแล้วผมก็ได้แต่ถอนหายใจ

เบลล์ เธอมาหาผมอีกแล้ว

"ใครมาเหรอครับ" ผมเกาหัวตัวเอง น้องขมวดคิ้วสงสัยที่ผมไม่ยอมบอก ร่างเล็กขยับมาดูด้วยตัวเอง น้องหันมาหาผมด้วยสีหน้าตกใจยิ่งกว่า "แฟนพี่เบียร์มาหาหนิครับ แล้วเราจะทำยังไงกันดีครับ"

"หือ" ผมไม่เข้าใจว่าน้องกำลังเข้าใจอะไรผิดเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับเบลล์

"ใครเป็นแฟนพี่นะครับ" ผมถาม

"พี่เบลล์ไงครับแฟนพี่เบียร์ แล้วเราอยู่ในสภาพนี้เราจะเอายังไงกันดีครับ" ผมมองเจ้าตัวน้อยที่ตื่นตูมเกินเหตุ ผมยกยิ้มมุมปาก พอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมช่วงนี้ถึงได้ชอบหลบหน้าผม คิดว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเรื่องผมกับเบลล์

ผมขยับชิดใกล้ใบหน้าน้อง เห็นดวงตาหวั่นแล้วใจผมกระตุกแปลก ๆ ก่อนจะเลื่อนหน้าไปกระซิบข้าง ๆ หูให้น้องได้รับรู้ความจริง

"พี่กับเบลล์เราเลิกกันไปนานแล้ว มีแต่เธอที่อยากจะคืนดีกัน ความจริงพี่โสดนะครับน้องหนู"





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 23-09-2021 13:22:46
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 15
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 23-09-2021 17:37:06
 EPISODE : 14 ข่าวลือเรื่องของเรา



"แล้วพี่เบียร์จะมาบอกรักทำไมล่ะครับ" ปฏิกิริยาของน้องดูน่าเอ็นดู ทั้งที่ตัวแดงแก้มแดงแล้วยังจะปากแข็ง เรื่องที่น้องชอบผมและเข้าใจผิดเรื่องผมกับเบลล์ ผมรับรู้และกำลังแก้ไขความเข้าใจผิดให้น้องอยู่

เมื่อผมไม่เปิดประตูออกไปเสียงข้างนอกห้องก็เงียบลง ผมคงต้องบอกยามแล้วว่าต้องไปห้ามเธอมาหาผมอีก ก็ไม่ได้อยากใจร้ายแต่เบลล์ทำตัวเองทั้งนั้น 

"ก็มีเด็กบางคนเข้าใจผิดนี่ครับพี่เลยต้องอธิบายให้เข้าใจ" น้องไม่กล้าสบตาผม ซ้ำยังแสดงออกผ่านสีหน้าได้ชัดว่ากำลังเก็บซ่อนอารมณ์มากมายไว้ ยิ่งเห็นแก้มแดงนั่นก็ยิ่งอยากแกล้ง 

"เข้าใจ เข้าใจว่าอะไรครับ" น้องยังไม่ยอมรับ ผมอยากขำท่าทีของเจ้าตัว ทำไมผมถึงได้มองว่าน่ารักนะ น้องไม่ได้ผลักผมออกห่างผมก็ยังคงยืนใกล้ 

"ก็เข้าใจว่าพี่กับเบลล์ไม่ได้คบกัน เราเลิกกันไปนานแล้ว เธอคอยตื้อจะกลับมาคบกันใหม่แต่พี่ขอปฏิเสธ" ผมบอกความจริงเรื่องของผมให้น้องได้รู้ ถึงจะเป็นคนที่มีผู้หญิงมาอยู่รอบตัวบ่อยแต่จริง ๆ แล้วผมไม่มีใครที่คบหากันแบบจริงจัง ยกเว้นเบลล์ที่เคยคบหาด้วยตอนมัธยมแต่เราก็เลิกรากันไปเพราะเธอเลือกจะทิ้งผม

ขนาดเข้ามหาลัยเดียวกันเธอก็ไม่ได้มีท่าทีจะสนใจผม แต่แปลกที่ช่วงหลังมานี้เธอบอกจะขอคืนดีกัน ผมเคยลองให้โอกาสกลับมาคบกับเธอแต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่ได้รู้สึกกับเธอเหมือนตอนเด็ก ทั้งที่บอกเธอตั้งหลายครั้งแล้วแต่เธอก็ยังไม่ยอมเข้าใจ  

"จะไม่พูดอะไรหน่อยเหรอครับ" ก็เห็นน้องเงียบอยู่นานผมเลยถามขึ้น น้องกรอกตามองไปทั่วเพราะไม่กล้าสบตากับผม มันน่ารักไปแล้ว แค่น้องขยับนิดเดียวทุกอย่างก็ดูน่ารักไปหมด ดูท่าแล้วผมคงชอบน้องเข้าแล้ว

"ให้พูดเรื่องอะไรครับ รักไม่เห็นจะรู้เลยว่าต้องพูดอะไร ก็ในเมื่อเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับรักสักหน่อย" น้องพูดเสียงสั่น เห็นแล้วนึกถึงเวลาเจอกับน้องแรก ๆ ผมไม่ได้รู้สึกไปเองว่าน้องชอบมองและชอบมาอยู่ใกล้แล้วชอบทำตัวแปลก ๆ คิดว่าน่าจะมาจากอาการตื่นเต้นจนไม่รู้จะทำตัวยังไง

"อือ พี่เพิ่งรู้ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับน้องหนู" น้องต่อยหน้าอกผมเพื่อให้ถอยห่าง วันนี้แกล้งแค่นี้ก็พอ ได้เห็นแก้มแดงแล้วก็ชื่นใจ ผมเพิ่งรู้ว่าเวลาอยู่ใกล้กับน้องแล้วเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับน้องที่ผมเห็นเคยมันมีเยอะมากดูเหมือนว่าน้องมาอยู่ในสายตาผมตลอดเวลาแค่ผมไม่เคยได้ขยับไปทำความรู้จักกันแค่นั้น

"พี่เบียร์ เอากุญแจมาไขเลยครับ" น้องแบมือขอกุญแจอีกรอบ ผมล้วงกระเป๋ากางเกงก็โล่งใจที่กุญแจยังอยู่ เพราะถ้าหายไปน้องคงได้โวยวายทุบหลังผมหักแน่

"แต่เรายังไม่ได้คุยเรื่องของเราเลยนะครับ" ผมอยากเคลียร์กับน้องให้เข้าใจตรงกัน มีเรื่องที่น้องต้องแน่ใจมากกว่าที่จะคิดเองฝ่ายเดียว ร่างเล็กดูเลิกลั่กมาก ไม่รู้จะตื่นตูมอะไรนักหนาแต่มันน่ารัก

"เรื่องของเราไม่มี๊ ไม่มีอะไรสักหน่อยครับ"

"เสียงสูงเชียวนะ ฮ่า ๆ" ผมขำจริง ๆ ท่าทีของน้องนอกจากปล่อยความน่ารักแล้วยังปล่อยความสุขออกมาตลอด เวลาอยู่ใกล้ผมเลยพลอยมีความสุขตาม เห็นผมขำเจ้าตัวก็ตีหน้ายุ่งแสดงความไม่พอใจ สำหรับผมแล้วมองยังไงก็ยังน่ารัก

"ก็แล้วพี่เบียร์จะอยากคุยเรื่องอะไรครับ" ผมเชยคางน้องให้หันหน้าสบตากัน สบตาผมแปปเดียวน้องก็ชอบหลบตา ไม่รู้ว่าเขินหรือกลัวผม

"ก็เรื่องที่น้องหนูบอกว่าจะเลิกรักพี่แล้ว เรื่องนั้นน่ะเราไม่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้นะ จะชอบจะรักพี่อย่างเดิมก็ได้เดี๋ยวพี่ขยับไปทำความรู้จักเราเอง" อย่างน้อยก็ต้องลองดู ผมก็อยากเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่ยอมปล่อยเด็กคนนี้ไปหากเป็นคนอื่นมาสารภาพรักแล้วบอกจะขอเลิกรักผมก็คงเฉย ๆ ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอเป็นน้องพูดแล้วมันทำให้ผมรู้สึกแปลก ผมยังอยากอยู่ในสายตาน้องเหมือนที่ผ่านมา

"ล้อเล่นกันอยู่ใช่ไหมครับเนี่ย" น้องดูจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ผมเองก็ยังไม่เข้าใจตัวเอง แค่รู้สึกว่าถ้าเป็นคนนี้แล้วผมจะลองให้โอกาสตัวเองได้ทำความรู้จักกับน้องมากขึ้น 

"เกี่ยวกับความรักพี่จริงจังครับ" เพราะถ้าน้องคือความรักที่ผมกำลังตามหา ผมก็ไม่อยากปล่อยน้องให้จากไปไกล เราสองคนคงต้องเรียนรู้และทำความรู้จักกันมากขึ้น ผมบอกความรู้สึกออกไปให้รับรู้แล้วหวังว่าน้องจะตอบรับความรู้สึกของผม

"พี่เบียร์ชอบรักหรือครับ" น้องถามได้ตรงประเด็นดี ผมหลุบตาลงเพื่อหาคำอธิบาย ในตอนนี้ผมยังไม่มีความรู้สึกรักให้น้องหรอกมันมีเพียงความรู้สึกดี อยู่ใกล้แล้วผมมีความสุขนะ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

"ตอนนี้ยังครับแต่พี่สนใจและอยากทำความรู้จักกับเรามากกว่าครับ" บอกไปแล้วน้องก็นิ่งงัน กะพริบตาถี่ ผมตอบตามความรู้สึกของตัวเองไปแล้วน้องจะเข้าใจที่ผมสื่อออกไปไหม 

"รักอยากกลับคอนโดแล้วครับ ใกล้จะเข้าเรียนวิชาที่สองด้วย" ผมเข้าใจว่าน้องมีเรียนดังนั้นเรื่องของเราก็เอาไว้คุยหลังจากนี้ก็ได้ ผมจะรอคำตอบจากน้อง อยากรู้ว่าเจ้าตัวจะให้โอกาสผมได้ทำความรู้จักไหม

"ครับ เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ" ผมขออนุญาตระหว่างที่หยิบกุญแจเพื่อไขให้กุญแจมือของเราออกจากกัน ต้องขอบคุณของขวัญวันเกิดจากไอ้เพื่อนที่มันซื้อให้ ผมไม่เคยได้ใช้สักครั้งเลย เมื่อคืนก็ตกใจที่น้องเอามาใส่มือเราสองคนแต่พอเป็นแบบนี้แล้ว ผมว่าผมควรขอบคุณไอ้เพื่อนซะแล้ว

"ขอบคุณครับ" 



"นี่คอนโดเราเหรอครับ" ผมยังตื่นเต้นและทำตัวไม่ถูกเพราะคำพูดของพี่เบียร์ที่พูดไว้ก่อนหน้าที่พวกเราจะออกมา พี่เบียร์ขับไปยังที่จอดรถและจอดลงอย่างนิ่มนวล ผมไม่กล้าสบตากับพี่เบียร์อีก เรื่องที่พี่เบียร์บอกมันคือเรื่องจริงใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหม

"ครับ พี่เบียร์รอข้างล่างก่อนนะครับรักขอเวลาสิบนาทีแล้วจะรีบลงมา" ผมอยากหายตัวไปเหลือเกิน เพราะพี่เบียร์ไม่มีคาบเรียนเลยอาสาจะไปส่งผมถึงมหาลัย ตัวผมก็ไม่กล้าปฏิเสธด้วย

"ตั้งสิบนาทีพี่ขอเข้าไปรอที่ห้องเราไม่ดีกว่าเหรอครับ" พี่เบียร์พูดอย่างนั้นผมลังเลเล็กน้อยแต่ให้รอตั้งสิบนาที ก็คงรบกวนเวลาของพี่เบียร์ 

"พี่นี่เรื่องมากจังเลยครับ" ผมแกล้งพูดกลบเกลื่อนความเขิน "จะไปก็รีบออกมาเลยครับ" พี่เบียร์ยิ้มกว้างทันที ผมลงจากรถแล้วรอร่างสูงลงจากรถเพื่อเดินขึ้นไปยังห้องของผม เหงื่อเริ่มเต็มบนฝ่ามือเพราะความตื่นเต้น ผมคิดต่าง ๆ นานาว่าห้องผมรกแค่ไหนเพราะไม่ได้ทำความสะอาดตั้งแต่วันก่อน ขึ้นลิฟต์มาด้วยกันพี่เบียร์ก็ชวนคุยผมก็ตอบบ้าง ผมยืนตื่นเต้นอยู่หน้าประตูห้องตัวเองเป็นครั้งแรก 

"เชิญครับ" เปิดประตูให้พี่เบียร์ได้เข้ามาในห้องก่อนจะปิดประตูผมมองไปยังห้องรอบข้าง โชคดีที่เพื่อนรักทั้งสองไม่ได้ออกมาหากันไม่อย่างนั้นผมก็ไม่รู้จะตอบคำถามเพื่อนยังไง 

"ห้องกว้างใช้ได้" คนตัวสูงเอ่ยชมระหว่างที่กำลังสำรวจห้องผม 

"เชิญสำรวจได้ตามสบายเลยครับรักขออาบน้ำแต่งตัวก่อน" ระหว่างผมกำลังรีบอาบน้ำ พี่เบียร์ก็นั่งเล่นมือถือที่นอกระเบียง ผมออกมาแล้วแต่งตัวอย่างไว ปากก็คุยกับพี่เบียร์ตลอด พี่เบียร์สั่งให้ผมอย่าลืมอุปกรณ์การเรียนใส่ไว้ในกระเป๋าให้ครบอย่ารีบร้อนจนเมื่อพร้อมสำหรับไปเรียนผมจึงได้ชวนพี่เบียร์ให้รีบไปส่ง

เพราะความรีบมากแล้วเกือบจะเดินหกล้มตลอด พี่เบียร์ถึงบอกให้ผมช้าลงหน่อย ยังไงก็ได้เข้าคาบบ่ายอยู่ดี รีบไปตอนนี้ก็แค่เรียนคาบสุดท้ายได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พี่เบียร์มาส่งผมถึงตึกเรียนอย่างปลอดภัยและเอ่ยขอบคุณแล้วรีบไปยังห้องเรียน อย่างน้อยมาสายก็ดีกว่าขาดเรียน เพ้นส์จองที่ให้ผมไว้แล้วเมื่อรู้ว่าพี่เบียร์มาส่งเพื่อนก็ล้อทางสายตา ผมตั้งสมาธิและตั่งใจเรียนจนหมดคาบ

"มีข่าวดีเหรอรัก"

"ไม่ต้องมาแซว เลกเชอร์คาบเช้าขอยืมมาลอกหน่อยรักจะเขียนให้เสร็จก่อนคาบบ่าย" เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ระหว่างที่เพ้นส์สั่งอาหารผมก็นั่งลอกเลกเชอร์เพื่อนอย่างตั้งใจ โชคดีที่เพ้นส์อัดวิดีโอตอนอาจารย์สอนมาให้ด้วยผมสามารถเปิดเรียนทบทวนด้วยตนเองได้อีกด้วย เพื่อนคนนี้รอบคอบที่สุด

"แล้วเมื่อคืนถึงไหนแล้วรัก" เพ้นส์ยังคงถามอีก ผมเลี่ยงไม่ตอบ

"ถึงไหน อะไรเล่า รักไม่มีสมาธิจะจดแล้ว" เพื่อนหัวเราะแล้วขอตัวเดินไปสั่งน้ำปั่น ผมยังคงมีสมาธิจดเลทเชอร์เพ้นส์ก็เดินกลับมา ซ้ำยังแซวผมอีก เพื่อนคนนี้ก็แซวเก่ง

"ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนกุ๊กกิ๊กกันจนขี้เกียจมาเรียนเช้าหรือเปล่าครับคุณรสิน" เพ้นส์ถามด้วยสีหน้าขี้เล่น ผมเอาปากกาในมือเคาะหน้าผากเพื่อนอย่างเบามือ

"คุณพัทธนันท์ก็ช่างจินตนาการจังเลยนะครับ เดี๋ยวค่อยเล่าให้ฟัง รักขอจดวิชาอาจารย์เพียงดาวก่อน" ผมจำเป็นต้องหยุดความอยากรู้ของเพื่อน 

"ครับผม" เพ้นส์หยิบมือถือขึ้นมาระหว่างที่ต้องรอผมจด ผมเงยหน้ามองเพื่อนอีก กลัวเพ้นส์จะเหงาที่ตัวเองเอาแต่ก้มหน้าเขียน

"อดใจรออีกนิดเดียวนะครับจดใกล้หมดแล้ว เดี๋ยวเพื่อนเล่าครับ" เพ้นส์หัวเราะดัง ผมเงยหน้ามาหลังจากที่เขียนเลทเชอร์เสร็จก็พบว่าอาหารเที่ยงพร้อมสำหรับการกินที่บริการโดยเพื่อนแสนใจดีอย่างเพ้นส์ 

"เสร็จละ คาบเช้าทำไมอาจารย์ดาวให้จดเยอะจัง" ผมบ่นระหว่างหยิบสมุดใส่กระเป๋า เพ้นส์ก็หยิบสมุดเลทเชอร์คืนใส่กระเป๋าตัวเองเหมือนกัน เสียงข้อความจากมือถือของผมดัง ผมเลยอดไม่ได้ที่จะเปิดดู 



รักไปนอนห้องพี่เบียร์อีกแล้วเหรอ

มันเกิดอะไรขึ้น

แชร์วิดีโอ

แล้ววิดีโอนี่มันแปลว่าอะไร

วันนี้แพร์มีเรียนเช้า ตอนบ่ายว่างไหมมาเจอกันหน่อย



ไอ้รัก สรุปมึงกับพี่เบียร์คบกันหรือไง

ทำไมออกสื่อโดยไม่บอกกูสักคำวะ



ผมสับสนงงงวยไม่เข้าใจในสิ่งที่เพื่อนรักทั้งสองบอก พอกดวิดีโอที่ลูกแพร์แชร์เข้ามาถึงได้รู้ว่าเป็นวิดีโอตอนที่ผมกำลังทำาหารเช้าในห้องพี่เบียร์ แต่ทำไมพี่เบียร์ถึงได้โพสต์ลงในเฟสบุ๊คแถมยังลงเป็นสาธารณะด้วย แบบนี้ผมก็ตายน่ะซิเพื่อนรักทั้งสองได้เค้นปากผมแน่ 

"รัก พี่เบียร์โพสต์ขนาดนี้ คือตกลงคบหากันแล้วเหรอ" ผมเงยหน้ามองเพ้นส์ที่โชว์วิดีโอเดียวกับที่ผมดู จะให้ผมตอบเพื่อนยังไงก็เรายังไม่ได้คบกันด้วยซ้ำนะ แล้วไอ้พี่เบียร์ทำอะไรทำไมไม่บอกกันบ้างเลย

ผมจะร้องไห้แล้วนะไอ้พี่เบียร์บ้า 





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 24-09-2021 14:08:12
 o18
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 15
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 24-09-2021 17:58:35

EPISODE : 15 ผมมันคนเสียอาการ





'เย็นนี้ว่างไปกินข้าวด้วยกันมั้ยครับน้องหนู'





ผมมองข้อความที่ถูกส่งโดยคนตัวดีที่สร้างเรื่องไว้จนผมต้องลำบากเพราะถูกเพื่อนรักทั้งสองลากมาจากห้องเรียนหลังจากเรียนหมดคาบ เพ้นส์ก็ใจดีอาสาเก็บกระเป๋าผมแล้วตามมาด้วย ทำงานกันเป็นทีมมาก

ผมนั่งตัวหลีบไม่กล้าจะตอบข้อความส่งกลับไป เพื่อนรักทั้งสองมองหน้าผมราวกับจะเอาเรื่อง เพ้นส์ขอตัวไปซื้อขนมมาให้กินผมอยากยื้อเพื่อนให้มานั่งด้วยแต่ก็ไม่ทัน

"สรุปเรื่องมึงกับไอ้พี่เบียร์มันยังไงห๊ะไอ้รัก" นายโนทุบโต๊ะถามด้วยความอยากรู้ ผมนั่งคอตกเพราะไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไง

"ว่าไงรัก สรุปคบกับพี่เบียร์แล้วเหรอ" ลูกแพร์ถามอีกคน ผมกัดปากตัวเอง เรื่องนี้มันเป็นความผิดของพี่เบียร์ชัด ๆ ทำไมผมต้องโดนเพื่อนสอบสวนคนเดียวด้วย

"ไม่รู้" ผมบอกเพื่อนเสียงค่อยจนแทบไม่ได้ยินเสียง ก็มันไม่รู้จริง ๆ ไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยแต่ก็ไม่เข้าใจว่าพี่เบียร์จะโพสต์แบบนั้นไปทำไม มันกลายเป็นเรื่องใหญ่จนเขาโดนเพื่อนสงสัยแล้ว

"ไม่รู้ หมายความว่าอะไร"

"ก็..."

"หรือว่าเมื่อคืนมึงมีอะไรกับพี่เขาแล้ว" ผมตกใจที่ได้ยินนายโนถามขึ้นอย่างนั้น

"จะบ้าเหรอ รักไม่ได้ง่ายขนาดนั้นไหม ก็เมื่อคืนรักเมาไงพี่เบียร์เลยพากลับ เพราะใครบางคนไม่ยอมมารับรักกลับสักที" ผมว่าเพื่อนที่ไม่ยอมมารับ เมื่อคืนผมรอเพื่อนตั้งนานแต่นายโนก็ไม่มา นายโนก็เพิ่งจะนึกได้ว่าตัวเองลืมมารับผม

"จริงด้วย กูลืมไปรับมึงเลย"

"นี่โนลืมไปรับรักจริงเหรอ" ผมพยักหน้าทันที นายโนโดนแน่ กล้าที่จะลืมไปรับผม ลูกแพร์ไม่ชอบเวลาใครไม่รักษาสัญญา ขนาดผิดเวลานัดกันนิดเดียว ผมเคยไปสายไปห้านาทียังโดนบ่น

"เออกูง่วงนอนเลยเผลอหลับ แต่มึงก็ผิด" เพื่อนโบ๊ยเรื่องมาหาผมอีก "มึงเมาหรือตั้งใจเมาเพื่อให้พี่เบียร์พากลับกันแน่" ผมปฏิเสธทันควัน ผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นมาก่อนด้วยซ้ำ ตอนอยู่กับกลุ่มพี่เบียร์สมองผมโล่งแทบไม่ได้ยินแต่เสียงเพลงในร้านด้วยซ้ำว่าเปิดเพลงอะไรทั้งคืน

ลูกแพร์หันไปดุนายโนที่ไม่ได้ไปรับผมตามสัญญา พอเพื่อนหันมาจะพูด คงจะบ่นนั่นแหละผมรีบแทรกทันที

"รักเมาจริง ๆ นะ" ผมส่งสายตาอ้อนให้เพื่อน "แล้วเรื่องที่เกิดในวิดีโอนั่นคือรักกับพี่เบียร์แข่งกันทำข้าวเช้า รักชนะด้วยแหละได้ตั๋วพิเศษจากพี่เบียร์ด้วย" เพื่อนทั้งสองมองผมด้วยสายตาสงสัย



"แต่มีเรื่องนึงที่พี่เบียร์พูดแล้วรักยังสงสัยอยู่"

"เรื่องอะไรของมึง" นายโนถามขึ้น

"พี่เบียร์บอกว่าตอนนี้กำลังสนใจรักอยู่" พูดเองผมก็ยังตื่นเต้นไม่หาย ตั้งแต่รู้ว่าพี่เบียร์สนใจผมก็ทำตัวไม่ถูก ตื่นเต้นกับปฏิกิริยาของเพื่อนด้วยอยากรู้ว่าเพื่อนจะคิดยังไง แต่พอเห็นหน้านิ่ง ๆ ของเพื่อนทั้งสองผมก็ขมวดคิ้วไม่เข้าใจ

"มึงมโนคนเดียวไปอีกหรือเปล่า" นายโนดีดหน้าผากผม มันเกินไปแล้วที่มาหาว่าผมมโน ผมไม่ได้มโนอะไรทั้งนั้นมันคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า

"อ้าว รักพูดเรื่องจริงนะ" ผมยังยืนยันกับเพื่อน จังหวะนั้นเพ้นส์เดินมาพร้อมกับขนมในมือและนั่งลงข้างกายผม

"กูไม่เชื่ออะ" นายโนยังคงไม่เชื่ออีก แล้วผมต้องทำยังไงเพื่อนถึงจะเชื่อ เพ้นส์มองพวกเรา คงกำลังสงสัยนั่นแหละว่าพวกเรากำลังคุยกันเรื่องอะไรทำไมถึงได้เครียดกัน

"จริง ๆ นะ รักพูดเรื่องจริง!" ผมมองเพื่อนทั้งสองด้วยแววตาเสียใจ ทำไมไม่เชื่อที่ผมพูด

"รัก เราว่ารักต้องยอมรับความจริงนะ รักบอกเองว่าจะเลิกรักพี่เบียร์อยู่แล้วอย่าโกหกตัวเองแบบนี้เลยนะ ถึงพี่เบียร์ไม่รักพวกเราก็รักรักอยู่นะ" ผมถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ ขนาดเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างลูกแพร์ก็ไม่เชื่อ ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้ ผมหันมองเพ้นส์ก็เห็นเพ้นส์ทำหน้าตาสงสัยไม่เลิกแต่ผมไม่มีเวลาอธิบาย

"รักพูดเรื่องจริงนะ พี่เบียร์บอกกำลังสนใจรักอยู่จริง ๆ รักไม่ได้หูฝาดแล้วก็ไม่ได้มโนเหมือนที่ผ่านมา" ผมยืนยันคำพูดของตัวเอง เพ้นส์ตาลุกวาวตกใจที่เห็นใครบางคนมายืนอยู่ข้างหลังเพื่อนทั้งสองของผม

พะพี่เบียร์!!!

"สวัสดีครับ น้องหนูเรียนเสร็จแล้วใช่ไหมครับ อยากกินอะไรไหมครับเดี๋ยวพี่พาไป" ผมตกใจไม่ต่างจากเพ้นส์ ลูกแพร์กับนายโนเอียงคอไปมอง พี่เบียร์มาพร้อมกับเพื่อนสองคน คือพี่ธีร์และพี่กันต์

"ครับ รักเรียนเสร็จแล้ว พี่เบียร์ครับนี่เพื่อนรัก ลูกแพร์ ยูโนแล้วก็เพ้นส์ครับ" ผมรีบแนะนำเพื่อนให้พี่เบียร์รู้ พี่ธีร์คนร่าเริงแนะนำตัวเองและพี่กันต์ให้เพื่อนผมได้รู้จักอย่างเป็นทางการด้วย พี่เบียร์ยิ้มเป็นมิตร ผมเขินสายยตาที่มองมาหาผม

"อะไรวะเนี่ย นี่พี่จะจีบเพื่อนผมจริงเหรอ" ผมลุกขึ้นตีแขนนายโน ใจจริงก็อยากปิดปากเพื่อนแต่เอื้อมไม่ถึง ไปถามพี่เบียร์อย่างนั้นผมอายหนะซิ คนตัวโตพยักหน้าทันทีทำเอาผมยืนสตั้น

"ตอนแรกก็ยังไม่คิดจะจีบหรอกครับเพราะพี่แค่สนใจเพื่อนเราเฉย ๆ แต่ตอนนี้กำลังคิดแล้วว่าถ้าจะจีบเพื่อนเราจะอนุญาตหรือเปล่า"

"อนุญาตครับ รักโสดมาก ๆ พี่เบียร์จีบได้ครับ" ผมดีใจจนเผลอโพล่งปากบอกออกไปอย่างนั้น

"จีบไม่ได้!" ทั้งนายโนและลูกแพร์พูดขัดมาพร้อมกัน ผมมองเพื่อนที่พูดอย่างนั้น "ถ้าพี่เห็นรักมันเป็นแค่ของเล่นที่สนใจชั่วคราวพวกเราไม่อนุญาตครับ"

"ใช่พี่ ถ้าเห็นมันเป็นแค่เรื่องสนุก ผมไม่ยอมเด็ดขาด มันเป็นเพื่อนผมและผมไม่ยอมให้พี่มาเล่น ๆ กับมัน!!"

"มีเพื่อนดีนี่น่าน้อง" พี่กันต์เอ่ยชม ผมก็ได้แต่หน้างอ อีกใจอยากให้พี่เบียร์จีบ อยากเป็นแฟนพี่เบียร์แต่อีกใจก็ไม่อยากเป็นแค่ของเล่นของพี่เบียร์อย่างที่เพื่อนบอก มันก็จริงที่พี่เบียร์บอกสนใจผมอยู่แต่พี่เขาอาจจะแค่เล่นสนุกกับผมแค่ชั่วคราว พอหมดสนุกก็ทิ้งไปแบบนั้นผมยิ่งเสียใจหนักกว่าเดิม



ผมเข้าใจว่าเพื่อนทั้งสองรักผมมาก ผมไม่โกรธเพื่อนจริง ๆ แถมยังรักโนกับแพร์มากขึ้นอีก

ร่างสูงมองผมตลอดพร้อมเดินมาจับมือผมไว้แน่นเล่นเอาผมใจเต้น เพราะเป็นครั้งแรกที่พี่เบียร์จับมือผมต่อหน้าเพื่อน

"ถ้าอย่างนั้นพี่ขอเวลาสามเดือนเพื่อเป็นการพิสูจน์ได้ไหม ถ้าสามเดือนนี้พี่ยังไม่มีใคร ยังไม่ได้รักใครพี่ขอจีบน้องหนูได้ไหมครับ พี่เองก็อยากรู้เหมือนกันว่าภายในเวลาสามเดือนพี่จะเลิกสนใจน้องหนูหรือเปล่า" ผมพยักหน้าเออออไปหมดไม่ว่าพี่เบียร์จะพูดอะไร ถึงต่อให้พี่เบียร์จะเป็นคนแบบไหนผมก็ไม่เกี่ยง

พอหันไปมองเพื่อนรักทั้งสอง เพื่อนก็พูดขึ้นทันทีหลังจากปรึกษากัน

"สามเดือนก็ได้ครับเราสองคนจะได้แน่ใจว่าพี่จริงจังกับเพื่อนของเรา" ลูกแพร์ยอมรับคำเจรจาของพี่เบียร์ ผมอยากกอดเพื่อนที่สุด ที่เหลือก็แค่รอเวลาให้พี่เบียร์พิสูจน์ใจตัวเองก่อน อย่างน้อยภายในสามเดือนผมก็จะได้ตัดสินใจได้ว่าควรจะรักพี่เบียร์ต่อหรือจะยอมแพ้เลิกรักพี่เบียร์แบบจริงจังสักที

"แต่ว่าในระหว่างนี้พี่จะแตะต้องเพื่อนผมไม่ได้นะ ห้ามจูบ ห้ามมีเซ็กส์ ผมอนุญาตให้กอดกับจับมือเท่านั้น" นายโนเสนอ ผมถลึงตามองเพื่อน มาตั้งข้อห้ามแบบนั้นได้ไง ผมจะทรมานเอานะ เพ้นส์หัวเราะแต่ก็เห็นด้วยกับนายโน พี่เบียร์ครุ่นคิดครู่เดียว

"แต่ออรัลได้ใช่ไหม พี่ว่าถ้าอยู่กับน้องหนูทุกวันพี่คงจะทำตามข้อห้ามนั้นไม่ได้นะครับ" ผมหันไปมองพี่เบียร์แล้วอยากเอามือออกจากการถูกมือใหญ่กุมมือทันที พี่ธีร์กับพี่กันต์มองหน้าผมเหมือนจะบอกนัย ๆ ว่าให้ผมระวังพี่เบียร์ให้มาก ๆ ผมกัดปากตัวเอง ในใจก็เต้นตุบตับ ทำไมผมรู้สึกร้อน



ฮึบไว้นะรัก อย่าเสียอาการออกไปให้คนอื่นรู้เดี๋ยวจะโดนล้อไปทั้งปี

"ออรัลเหรอพี่ ถ้าไอ้รักมันยอมผมจะไปห้ามอะไรได้" นายโนยังไม่เลิกอีกนะผมเขินอายจะแย่แล้ว ใบหน้าผมร้อนผ่าวขึ้นจนพี่เบียร์เช็ดเหงื่อที่แก้มอย่างเบามือ



อาการร้อนแหละ สงสัยวันนี้อากาศจะร้อนมากกว่าทุกวัน









หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 24-09-2021 21:38:14
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 16
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 27-09-2021 16:51:59
EPISODE : 16 น้องหนูน่าเอ็นดู



19.00 น.

ค่ำคืนที่สว่างด้วยแสงประดับรอบทิศ เสียงดนตรียังคงดังชวนเต้น เหล่านักศึกษาจากทุกคณะมากมายต่างมารวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมาย รู้แค่เพียงว่าหากว่าพลาดงานนี้ก็จะเสียดาย เพราะตัวท็อปของวงดนตรีประจำมหาลัยทั้งสองวงนัดกันดวลฝีมือ ได้ยินมาว่าตอนแรกสองวงก็แค่คุยกันเล่น ๆ ว่าจะแข่งเพื่อหาวงที่ได้รับความนิยมกว่า แต่ไหงกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปได้ก็ไม่รู้

เพราะเรื่องกลับบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่ในเพจของมหาลัย ผลโหวตสถานที่ที่จัดการประลองที่ดีที่สุดมาณ.คืนนี้คือร้านน้ำเมาของพี่โซดานั่นเอง เพราะสถานที่รองรับคนได้มากดังนั้นคืนนี้ร้านจึงครึกครื้นกว่าปกติ เจ้าของร้านอายุน้อยคอยดูแลหน้าร้านและจัดแจงเรื่องหลังร้านเพื่อรองรับลูกค้าทุกคนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

"คืนนี้แม่งเหมือนศูนย์รวมเทวดาและเทพธิดาทั้งหลายเลยว่ะ มอ.เรานี่ยังมีคนหน้าตาดีกว่ากูอีกเหรอ พึ่งรู้เลย" คนมั่นหน้าอย่างนายโนบอกเพ้นส์ วันนี้เพ้นส์ตระเวนไปไหนทั้งวันกับผมและเพื่อน ผมมองหน้าเพ้นส์ สีหน้าบ่งบอกชัดเลยว่าเอือมระอากับความมั่นหน้าของคนข้างกาย

"มีสิ กูไงคนหนึ่ง" ผมไม่อยากเชื่อว่าเพ้นส์จะมีความมั่นใจเหมือนอย่างนายโน

"โอ้ย มึงนะเด็กน้อยเว้ย กูหล่อกว่ามึงอีก" ผมไม่สนใจสองคนนั้นแล้วเพราะมัวแต่จิ้มโทรศัพท์หาพี่เบียร์ นัดแนะกันว่าทุ่มตรงจะมาเจอกันที่นี่แต่คนเยอะมากจนผมมองหาพี่เบียร์ไม่เจอ

"รัก ยืนดี ๆ เดี๋ยวก็หลงกันหรอก" เพราะคนพลุกพล่านเดินไปมาเยอะ ลูกแพร์กลัวเพื่อนอย่างผมจะพลัดหลงเพราะมัวแต่ก้มหน้ามองมือถือ

"อือ" ผมขานรับแต่ก็ยังสนใจโทรศัพท์ลูกแพร์คล้องแขนผมไว้ป้องกันเพื่อนจะหาย ผมเงยหน้ามามองพร้อมรอยยิ้ม เพื่อนคนนี้น่ารักมาตั้งแต่เด็กจนโต

"ทำตัวน่าเป็นห่วงนะรัก แล้วแบบนี้พี่เบียร์ไม่ห่วงหรือไง" เพื่อนถามเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ผมก็คาดหวังว่าพี่เบียร์จะเป็นห่วงผมเหมือนกัน แต่เรายังไม่ได้ขยับความสัมพันธ์กันมาก ให้เวลาเป็นเรื่องพิสูจน์ก็แล้วกัน

"ไม่รู้เหมือนกัน ไว้เจอพี่เบียร์แล้วรักจะถามนะ"

"ไม่ต้อง เราแค่ถามรักเฉย ๆ ไม่ได้อยากได้คำตอบจริง ๆ" ลูกแพร์ส่ายหน้าน้อย ๆ ผมมองเพื่อนอีกสองคน นายโนกับเพ้นส์ยังไม่เลิกเถียงเรื่องใครหน้าตาดีกันอีก เพื่อนผมทั้งสองก็หน้าตาดีกันทั้งคู่

"โอะโอ มานู้นแล้วคุณสามีของคุณหนูเจ้ารัก กูพูดให้ดูดีนะ จริง ๆ จะบอกว่าว่าที่ผัวมันมาแล้ว" ผมยกมือตีนายโน พูดแฟนพูดผัวล้อผมตลอด รอให้สถานะชัดเจนก่อนผมจะไม่เกี่ยงงอนเลย ร่างสูงของพี่เบียร์เดินมาพร้อมกับเพื่อน

เมื่อเดินมาถึงพี่เบียร์ก็เอื้อมมือไปเช็ดเหงื่อให้ผม มาทำน่ารักแบบนี้ผมจะละลายตายเอาได้ พวกผมปีหนึ่งยกมือไหว้ทักทายรุ่นพี่ ตัวผมยืนอยู่ใกล้พี่เบียร์มากเลยรู้สึกตื่นเต้นไปหมด

"อยู่ข้างนอกมันร้อน ไปเข้าข้างในกันดีกว่านะครับ" พี่เบียร์ชวน ความจริงพวกเราก็อยากเข้าไปข้างในแต่คืนนี้เป็นวันหยุดงานผมและเพื่อนทั้งสองจึงไม่ได้มาช่วย และการที่พี่โซดาไม่โทรมาตามแสดงว่าที่ร้านมีคนช่วยแล้ว

"ข้างในไหนครับ คืนนี้คนเยอะโต๊ะน่าจะเต็มแล้ว" ผมมองมือตัวเองที่พี่เบียร์กุมไว้ ยอมรับว่าเขินสายตาที่เพื่อนและเพื่อนพี่เบียร์มองแต่ก็ไม่อยากผลักมือที่จับกันให้ออกห่าง ผมเองก็ชอบสัมผัสพี่เบียร์เช่นกัน

"สำหรับพี่น้องของเฮียมันต้องมีที่ให้อยู่แล้ว ไปกันเถอะ" พี่กันต์เป็นคนบอก พวกผมต่างดีใจเพราะจะได้ไม่ต้องยืนดูการแสดงข้างนอกร้านแถมยังมองเห็นเวทีด้วย

"ไปกันครับ อ้อ ถ้าไม่รบกวนมากไปมีใครสนใจรับจ้างชั่วคราวสักคืนไหม พอดีตอนนี้ที่ร้านพนักงานทำงานล้นมือมากแล้ว" พี่เบียร์ถามความสมัครใจของพวกเรา ผมยังไงก็ได้อยู่แล้วยิ่งมีพี่เบียร์ทำงานด้วยผมก็ทำงานได้สบาย

"ได้ครับ รักช่วยได้"

"พวกเราได้แหละครับ" ลูกแพร์ใจดีเสมอ ผมชอบที่เพื่อนเต็มใจช่วยพี่เบียร์และพี่เทคของผม พี่เบียร์เอ่ยขอบคุณเพื่อนผมด้วย

"แต่ถ้าได้ค่าจ้างจะขยันขึ้นมาเลย" นายโนพูดกวนตามนิสัย "มึงทำไหมเพ้นส์" ไม่รอคำตอบก็หันไปถามเพ้นส์ต่อ ผมก็อยากชวนเพ้นส์ให้ทำงานด้วยแต่ก็เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ต้องอยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละคน

"ไม่ละ อยากดูเขาแข่งมากกว่า" เพ้นส์เคยบอกว่าไม่ค่อยชอบงานบริการเท่าไหร่ ผมก็ไม่เซ้าซี้เพื่อนมาก

"ตามใจ" ผมเริ่มได้ยินเสียงผู้คนคุยกันดังจนฟังเพื่อนพูดไม่ได้ยินแล้ว พวกเราทั้งหกคนเดินเบียดผ่านผู้คนมาเข้าข้างในจนได้ พี่เบียร์จูงมือผมตลอดทาง พอเข้ามาทางหลังร้านก็เจอพี่เทคของผมกำลังวุ่นวายเพราะคนครึกครื้นเกิน

"น้องเทคของพี่มึงมาด้วยงั้นเหรอ กูนึกว่ามึงไม่มีน้ำใจมาช่วยกูแล้ว" ผมยู่ปากใส่เฮีย ผมเต็มใจมาช่วยเพราะพี่เบียร์หรอกน่า ไม่เกี่ยวกับเฮียสักนิด

"ก็รักนึกว่าเฮียจะจัดการได้ แล้วที่มาช่วยเพราะพี่เบียร์บอกว่าพี่กำลังต้องการเด็กเสิร์ฟเพิ่ม รักกับเพื่อนเลยมาช่วยครับ" อีกอย่างก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เรื่องแค่นี้ผมกับเพื่อนทำได้

"ดีเลย แล้วทำหมดนี่เลยใช่ไหมเดี๋ยวกูจ้าง ไม่ได้ให้ฟรีเหมือนพวกไอ้เบียร์หรอก" ผมเข้าใจว่าพวกพี่เขาสนิทกันจนไม่รับเงินค่าจ้าง ถ้าไอ้พี่เทคมันจะจ่ายผมก็รับไว้ได้ อย่างน้อยเพื่อนผมก็ควรได้ค่าแรงตรงนี้ส่วนของผมค่อยบอกพี่มันตอนหลังก็ได้ว่าไม่ต้องการ

"ฝั่งน้องหนูมีสามคน ส่วนพวกกูก็อย่างที่เห็น ขาดไอ้เพื่อนมันบอกจะไปรับแฟนมันมาช่วยอีกแรง" พี่เบียร์บอกลูกพี่ลูกน้องตัวเองให้รู้ ผมมองดูบนเวทีด้วยความตื่นเต้น ได้เห็นนักร้องวงดังของมหาลัยแบบเต็มตาก็คืนนี้แหละ อยากร่วมแจมด้วยคนจัง

"ส่วนวอร์มมันมาไม่ได้ ทะเลาะกับหลานรหัสมันอยู่" พี่กันต์บอก ผมเห็นพี่ธีร์กับพี่ริทกำลังเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้าโต๊ะข้างหน้าเวทีด้วย

"เออ ๆ แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว ไปทำงานกันเถอะพวกมึง ถ้างานคืนนี้เสร็จไปด้วยดีกูจะจัดทริปพาพวกมึงไปเที่ยวสองวันหนึ่งคืนไปเลย" ผมและเพื่อนตาลุกวาว เพ้นส์รีบขออนุญาตไปด้วยพี่โซดาก็ให้ไปเพราะยังไงก็เป็นรุ่นน้องในสาขาอยู่ดี

ระหว่างที่เริ่มทำงาน การแข่งของวงดนตรีสุดฮิตก็เริ่มต้น ผมตื่นเต้นมากด้วยความที่หลงรักเสียงดนตรีอยู่แล้วจึงใช้โอกาสมาแอบอู้แบบเนียน ๆ มาเป็นผู้ชมบ้าง พี่เบียร์เห็นก็ไม่ได้ว่าอะไร สักพักร่างสูงก็เดินมายืนข้างกายเพื่อดูการแสดงด้วยกัน ผมยิ้มจนปากจะฉีก ได้ฟังดนตรีที่ชอบและอยู่กับคนที่แอบรัก ทุกอย่างล้วนทำให้ผมมีความสุข

"พี่เบียร์ชอบดนตรีบ้างไหมครับ" ผมกระซิบถามเพราะอยากรู้ว่าพี่เบียร์มีรสนิยมแบบไหน เราเริ่มจะใกล้ชิดกันผมก็อยากรู้จักพี่เบียร์ให้มาก ร่างสูงเห็นผู้ชายข้างผมโยกจนโดนตัวผม มือหนาก็โอบแขนผมอย่างสุภาพแล้วให้ผมขยับห่างออกมานิดเพื่อจะได้ไม่โดนคนอื่นเต้นแรงใส่ ผมโคตรชอบผู้ชายแสนดีอย่างพี่เบียร์

"ชอบครับ แต่ส่วนใหญ่พี่ฟังแนวคลาสสิกมากกว่า" พี่เบียร์ก้มลงกระซิบข้างหูผม แล้วเอียงคอเพื่อฟังผมพูดอีก

"ว้าว แล้วเพลงป๊อปล่ะครับชอบฟังบ้างไหมครับ" คนตัวโตยิ้ม

"ชอบครับ"

"รักก็ชอบครับ ชอบพี่เบียร์ด้วย" ผมเผลอพูดออกไปจนต้องรีบเอามือปิดปากตัวเอง พี่เบียร์ยิ้มกว้างไม่รู้จะโกรธไหมที่ผมพูดออกไปอย่างนั้น มือหนาหยิกแก้มผมแล้วกระซิบใกล้ข้างหู

"น่ารักว่ะน้องหนู น่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้พี่คงชอบเราเข้าสักวัน" ผมอมยิ้มกับคำพูดของพี่เบียร์ ผมก็หวังว่าวันนั้นจะมาถึงไว ๆ เราสองคนมองตากันแล้วยิ้ม เรื่องความรักให้เวลาทำหน้าที่ของมันไปก็แล้วกัน ผมกวักมือให้พี่เบียร์ก้มลงเพื่อกระซิบอีกครั้ง

"รีบ ๆ ชอบนะครับ รักรออยู่" บอกแล้วก็เขิน ผมรีบวิ่งไปช่วยเพื่อน ๆ ทำงาน จะว่าไปแล้วดนตรีคืนนี้เพราะที่สุดเท่าที่เคยฟังมาเลยละ



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 17
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 29-09-2021 20:11:41

 EPISODE : 17 ทริปเที่ยวกับพี่เบียร์

ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์หลังจากคืนนั้น ในที่สุดพี่เทคของผมก็สร้างกลุ่มไลน์กลุ่มใหญ่โดยมีกลุ่มผมและกลุ่มพี่เบียร์อยู่กันครบทุกคนจนเพื่อนัดแนะวันเวลาที่จะออกเดินทาง

ผมตื่นเต้นมากเพราะวันนี้พวกเรากำลังจะไปทริปเที่ยวพักผ่อนโดยมีผู้ใหญ่ใจดีอย่างเฮียโซดาเป็นคนออกค่าทริปทั้งหมด ถือว่าการช่วยงานในคืนนั้นเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ผมกับเพื่อนมายืนรอที่หน้าคณะของผมเพราะนัดให้ทุกคนมาเจอกันที่นี่เพื่อออกเดินทางกันแต่เช้า

จากตอนแรกเฮียบอกว่าเป็นทริปหนึ่งคืนสองวันแต่เพราะเป็นทริปที่ออกเดินทางไปต่างจังหวัดถึงกลายเป็นทริปสองคืนสองวันแทน ผมและเพื่อนทั้งสองต่างก็รีบทำการบ้านทุกวิชาที่อาจารย์สั่งให้เสร็จก่อนจะออกไปเที่ยวสนุกกัน

เมื่อคืนพี่เบียร์ก็โทรมาคุยกับผมจนเผลอหลับ พอตกเช้าผมจึงได้โทรปลุกพี่เบียร์เพราะกลัวพี่เบียร์จะตื่นสาย

"ตกลงพี่พีชไปเที่ยวด้วยเหรอแพร์" พี่ลูกพีชคือพี่ชายแท้ ๆ ของเพื่อนผมเรื่องที่พี่ลูกพีชได้ไปทริปนี้ด้วยคิดว่าเพราะสนิทกับพี่เพื่อนและคืนนั้นพี่ลูกพีชก็มาช่วยงานด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าพี่ลูกพีชไปด้วยก็คงสนุกดี พี่ลูกพีชถ่ายรูปสวยมากผมชอบและอยากให้พี่ลูกพีชถ่ายรูปตอนผมเที่ยวด้วย จะได้มีรูปสวย ๆ อัปเดทโซเชียลกับเขาบ้าง

"ไม่รู้สิ แต่ไม่อยากให้ไปด้วยเราไม่ชอบเห็นพี่พีชอยู่กับพี่เพื่อนเท่าไหร่" ผมไม่เข้าใจเพื่อนคนนี้พี่ลูกพีชกับพี่เพื่อนเป็นเพื่อนกัน อยู่ด้วยก็ไม่เห็นแปลก นายโนวิ่งออกมาจากคณะผมหลังจากไปวิ่งเข้าห้องน้ำเสร็จ

"พวกมึงยังไม่มีใครมาอีกเหรอวะ" นายโนถาม เหมือนเพื่อนจะเป็นหวัดตั้งแต่เมื่อคืนแต่ก็ยังอยากมา ผมกับลูกแพร์ก็เป็นห่วงเพื่อน แต่ไม่เป็นไรพวกเราเพื่อนกันดูแลกันอยู่แล้ว

"ก็มีแค่พวกเราเนี่ย" ลูกแพร์ลุกขึ้นยืนเมื่อทนรอไม่ไหว ผมเองก็เบื่อกับการรอเหมือนกัน

"เรามาเช้าเกินหรือพวกพี่มันมาสายวะ" ผมไหวไหล่พอมองดูนาฬิกาก็พบว่าไม่เกินครึ่งชั่วโมงที่รถจะออกจากมหาลัยตามกำหนดเวลาที่เฮียแจ้งไว้ในกลุ่ม ลูกแพร์หยิบเสื้อหนาวให้นายโนได้ใส่ ป่วยแล้วยังจะใส่แค่เสื้อยืดบาง ๆ

"กินยาดักไข้แล้วใช่ไหมโน"

"เรียบร้อย" ผมก้มมองมือถือกะว่าจะทักหาพี่เบียร์ก็มีรถสองคันขับมาจอดเป็น ในที่สุดกลุ่มของพี่เบียร์ที่มากันสักที ผมตื่นเต้นเพราะจะได้เจอพี่เบียร์แต่เช้าของวัน เมื่อคืนมีการอัปเดทในกลุ่มว่ามีลูกพี่ลูกน้องฝาแฝดของพี่เบียร์มาด้วย ผมไม่คิดว่าจะได้เจอสองเดือนในทริปนี้จริง ๆ

"ไอ้พี่เหล้ามันจะมาด้วยทำไมว่ะเนี่ย รำคาญหน้าพี่มัน" เข้าใจอยู่หรอกว่าเพื่อนไม่ชอบหน้าพี่เหล้า แต่งานนี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าพี่สองเดือนจะไปด้วย พี่เบียร์โบกมือมาหาผมเลยยกมือโบกมือตาม ทริปเที่ยวครั้งนี้ผมก็ได้เจอญาติพี่เบียร์ครบทุกคนแล้วสิ ผมเห็นเพ้นส์วิ่งหน้าตาตื่นมาหาด้วยท่าทีร้อนรน

"หวัดดีรัก หวัดดีพวกมึง"

"หวัดดี" ลูกแพร์ทักทาย ผมช่วยเอากระเป๋าเพ้นส์เพื่อวางกองกับกระเป๋าของเราสามคน พอมีกันหลายคนก็มีเสียงดังเกิดขึ้นกลุ่มพี่เบียร์เอะอะโววยวายกันใหญ่ไม่รู้ว่าคุยหรือถกเถียงอะไรกัน

"สองเดือนก็ไปด้วยเหรอ" เพ้นส์ถามขึ้นผมก็เพิ่งจะรู้เหมือนกัน พี่เบียร์หันมองผมเป็นระยะขณะกำลังขนกระเป๋าออกจากรถระหว่างนั้นผมเห็นพี่เพื่อนขับบิ๊กไบค์มาโดยมีพี่ลูกพีชซ้อนท้าย เพื่อนผมเดินจ้ำอ้าวไปหาพี่ชาย ผมว่าลูกแพร์น่ะเป็นพวกหวงพี่ชาย ไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้พี่ลูกพีช

เราต่างมากันครบ พี่เบียร์เดินมานั่งคุยกับผมโดยมีพี่ริทโทรตามเฮียโซดา รถบัสหนึ่งคันขับมาจอดพวกเราต่างกันตื่นเต้น พี่เทคของผมมาพร้อมกับรถคันนี้แล้วทุกคนเริ่มทยอยกันขนกระเป๋าเดินทางแล้วพากันขึ้นรถ ผมแอบตื่นเต้นเผลอคิดว่าตัวเองอยากนั่งข้างพี่เบียร์สักครั้ง รถมารับตามเวลาที่นัดหมายแปะ การจัดทริปครั้งนี้ไม่ได้ไปในนามมหาลัยหรือโครงการใดแต่มันคือการเที่ยวจริง ๆ

"เฮียมาช้าจัง" ระหว่างทางเดินขึ้นมาบนรถผมบ่นใส่พี่เทคตัวเอง มาก็สาย ติดต่อก็ยาก แล้วทำไมถึงได้นัดเวลาเช้าก็ไม่รู้ เฮียโซดายกมือมายีหัวผมจนยุ่งพลางหลีกทางให้ผมได้ขึ้นบนรถ

"พูดมากนะมึง กูไม่ทิ้งพวกมึงก็ดีมากแล้ว"

"ชิ"

"ไปนั่งได้แล้วรถจะออกแล้ว"

"รู้แล้วน่า" ผมแลบลิ้นและก็เจอพี่เบียร์ยืนขำอยู่เพราะรอเดินตามหลังผม นายโนกวักมือเรียกให้ผมไปนั่งข้างหลังเพราะจองที่นั่งให้พร้อม หลังจัดเก็บสัมภาระของตัวเองพร้อมนั่งลงตอนแรกที่นั่งข้างกายผมก็เป็นลูกแพร์ แต่เพราะเพื่อนห่วงพี่ลูกพีชเลยลุกไปนั่งใกล้ ผมทำตัวไม่ถูกเมื่อพี่เบียร์มาขอนั่งด้วย

"ถ้าที่นั่งว่างอยู่พี่ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ" พี่เบียร์ขออนุญาต ผมเอากระเป๋าเพื่อนไปวางข้างล่างใต้เบาะแทนเพื่อให้พี่เบียร์ได้นั่งลง

"ครับ ว่างครับ แพร์ก็ไม่นั่งที่ด้วย" พี่เบียร์เอ่ยขอบคุณและนั่งลง ได้อยู่ข้างกายพี่เบียร์ขนาดนี้ผมหายง่วงนอนแล้ว ได้ยินเสียงเฮียโซดาประกาศผ่านไมค์อีกครั้งเมื่อทุกคนพร้อม รถก็ออกเดินทาง ผมหันไปมองวิวข้าง ๆ เพื่อแก้เขิน ตื่นเต้นจนไม่กล้าสบตาพี่เบียร์

"ถ้าน้องหนูง่วงก็นอนพิงไหล่พี่ได้นะครับ"

"ไม่ครับรักตื่นเต้นมากกว่า แต่รักไม่คิดว่าพี่ไวน์กับพี่เหล้าจะมาด้วย"

"อ้อ พวกนั้นขอตามมาครับเฮียก็ให้มาแต่ต้องแลกด้วยการที่สองคนนั้นต้องกลับมาทำงานที่ร้านหนึ่งคืน" ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่เทคถึงได้ยอมให้มาง่าย ๆ เพราะมีข้อแลกเปลี่ยนกันนี่เอง

"อ้อ เข้าใจแล้วครับ เฮียนี่สุดยอดจริง ๆ" วันนี้ผมดีใจมากกว่าที่ได้เจอญาติพี่เบียร์ครบทุกคน รถออกเดินทางไปเรื่อย นายโนที่นั่งกับเพ้นส์ข้างหน้าผมเริ่มแกะขนมกิน เพื่อนแสนรักไม่วายลุกขึ้นมายื่นขนมให้ผมด้วย พี่เบียร์ก็คุยกับเพื่อนบ้างปล่อยให้ผมได้คุยกับเพื่อนตัวเอง ผมเห็นลูกแพร์นั่งกับพี่ลูกพีชเหมือนแม่ที่นั่งคุมลูกยังไงอย่างนั้น

"ไอ้แพร์กินขนมไหมมึง" พอนายโนชวนเท่านั้นเพื่อนผมก็ลุกเดินมากินขนมแล้วยืนคุยกับพวกผม ส่วนพี่เพื่อนก็ลุกมานั่งแทนที่เพื่อนผมทันที สงสัยพี่เพื่อนกับพี่ลูกพีชจะเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนพวกผมแน่เลย เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงก็เข้าสู่ต่างจังหวัด ผมตื่นหลังจากเผลอหลับซบไหล่พี่เบียร์

ทำไมผมถึงได้เผลอหลับไปได้

"ตื่นแล้วเหรอครับ"

"พี่เบียร์ รักขอโทษครับรักไม่ได้ตั้งใจจะนอน" ผมรีบเช็ดไหล่พี่เบียร์ กลัวตัวเองจะเผลอหลับจนน้ำลายยืดใส่ ผมคงไม่ได้ทำตัวอย่างนั้นใช่ไหม พี่เบียร์จับมือผมไว้เพื่อห้าม

"นอนได้ครับพี่ก็ไม่ได้ว่าอะไร" ผมเผลอกัดปากตัวเอง อยากกรี๊ดให้เพื่อนได้รู้ว่าพี่เบียร์ของผมนิสัยดีแค่ไหน ผมหันมองทุกคนก็พบว่าส่วนใหญ่ก็ต่างกันหลับมีเพียงเพลงในรถที่ยังคงเปิดดัง มีบางคนที่ยังไม่ได้นอนเพราะเอาแต่เล่นมือถือ

"ถึงไหนแล้วครับเนี่ย"

"ก็ใกล้จะถึงแล้วนะครับ" พี่เบียร์บอกให้ผมรู้ ผมมองธรรมชาติรอบทางแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ นานมากแล้วที่ผมไม่ได้เดินทางออกไปต่างจังหวัด จนเมื่อถึงที่หมาย เฮียก็ปลุกพวกเราทุกคนให้ตื่น 

"ไปครับ" ผมมองมือพี่เบียร์ที่ยื่นมา นาทีนี้แล้วผมไม่คิดเล่นตัวใด ๆ ส่งมือตัวเองให้พี่เบียร์ได้กุมมืออีก ถือเป็นการเริ่มต้นการรู้จักกันและกันที่ดี

จริง ๆ ผมมีเป้าหมายของการออกทริปครั้งนี้ด้วยนะนั่นก็คือ การอ่อยให้พี่เบียร์หลงรักผมหัวปักหัวปำ แต่ดูจากการกระทำของพี่เบียร์ที่ผ่านมาแล้วผมว่าแค่อ่อยหนึ่งท่าสองท่าพี่เบียร์ก็หลงรักผมแล้ว คอยดูสิครับ





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 01-10-2021 07:35:39
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 18
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 11-10-2021 18:09:38

EPISODE : 18 ถ่ายรูปคู่ครั้งแรก 

"ตกลงไอ้แพร์มันจะตามพี่พีชไปถึงไหน" นายโนมาหาผมระหว่างที่รอกระเป๋าของตัวเอง ผมแอบเขินที่มือตัวเองยังคงถูกพี่เบียร์จับมือไม่ปล่อย มันอาจดูแปลกแต่ผมไม่อยากหนีความรู้สึกตัวเองได้จับมือกับพี่เบียร์อย่างนี้มันยิ่งกว่าฝัน

"ไม่รู้หมือนกัน ไปแยกมาเถอะรักสงสารพี่ลูกพีชแล้ว มาเที่ยวแล้วเหมือนโดนคุมเลย" ผมเสนอแนะ กลัวพี่ลูกพีชจะหมดสนุกทั้งที่เพิ่งจะมีโอกาสได้เที่ยวทั้งที นายโนมองหน้าผมพลางพยักหน้าเห็นด้วย

"เออ ไปกัน มึงก็ตามมาด้วยไอ้รัก ตัวติดพี่เบียร์ไม่ต่างกับไอ้แพร์นั่นแหละ" เพื่อนควงแขนผม พี่เบียร์ก็เหมือนจะแอบขำที่เพื่อนผมว่าอย่างนั้น นายโนจะมาหาว่าผมติดพี่เบียร์เหมือนอย่างลูกแพร์ได้ไงเล่า พี่เบียร์ต่างหากที่ตามติดผมไม่ยอมห่าง

"ก็.."

"ครับ เชิญตามสบาย" พี่เบียร์บอกเอง มือเราค่อย ๆ ปล่อยมือจากกัน ผมแอบโบกมือลาพี่เบียร์ นายโนก็ลากผมออกห่าง ว่าแต่ลูกแพร์หมอนี่เองก็เป็นพวกหวงเพื่อนกันนั่นแหละ หวงเก่ง ผมเพิ่งจะได้จับมือกับพี่เบียร์เอง 

"เดี๋ยวเจอกันนะครับ" ผมหันหน้ามาพูดเสียงเบาพลางยิ้มหวาน พี่เบียร์โบกมือตามรอยยิ้มยังคงเปื้อนอยู่บนหน้า

"ครับน้องหนู" ผมหันหน้าแล้วเดินไปพร้อมกับเพื่อนด้วยใจเต็มสุข ได้ยินนายโนแซวนั่นแหละว่ายิ้มจนแก้มจะแตกแล้วแต่ใครจะสน เราเดินมาหาลูกแพร์ก็เห็นพี่ลูกพีชทำหน้าจะร้องไห้แล้ว ผมยิ้มทักทายพี่ลูกพีชกันเพราะเหมือนเราเพิ่งจะได้เจอกันทั้งที่ขึ้นรถมาด้วยกันแท้ ๆ 

"ไอ้แพร์มึงจะตามพี่มึงไปถึงไหน นี่มาเที่ยวนะเว้ย มาเที่ยว" เพื่อนแสนเท่ของผมเปิดประเด็นทันที ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับนายโน ลูกแพร์ก็หวงพี่ชายเกิน

"เราจะนอนกับพี่พีชนะ" ได้ยินเพื่อนพูดทั้งผม นายโนก็ตกใจ พี่ลูกพีชดูจะไม่พอใจที่น้องชายจะตามไปนอนด้วย 

"พี่จะนอนกับเพื่อนพี่" พี่ลูกพีชเถียงทันที เป็นผมก็เถียงมาเที่ยวแต่เหมือนไม่ได้เที่ยว มันก็ไม่สนุกนะซิ ผมสะกิดให้นายโนช่วยพูดก่อน ตอนลูกแพร์โกรธหรือโมโหมันน่ากลัว แต่แปลกที่นายโนไม่เคยจะกลัวอะไร

"ได้ไงวะมึง พี่พีชก็อยากมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อน ๆ เขาบ้างสิว่ะ"

"นั่นสิ แพร์จะไม่นอนด้วยกันเหรอ ปล่อยให้พี่ลูกพีชได้อยู่กับเพื่อนดีกว่านะ" ผมรีบเสริมแล้วอ้อนวอนกอดแขนเพื่อนรัก สีหน้าลูกแพร์ยังคงติดความไม่พอใจอีก 

"ไม่เอา เราเป็นห่วง" พี่ลูกพีชถอนหายใจอีกครั้ง คิดว่าพี่น้องคู่นี้คงทะเลาะกันมาแล้วแน่ 

"พี่มึงอายุมากกว่าสองปีไหมไอ้แพร์ ตั้งสติหน่อย" นายโนช่วยพี่ลูกพีชสุดฤทธิ์ พลางบอกให้พี่ลูกพีชไปรับกระเป๋าก่อนเพราะพี่เพื่อนตะโกนบอกให้มารับ เพื่อนผมจะตามไปด้วยแต่เราสองคนขวางไว้ก่อน ลูกแพร์หน้าบึ้งไม่หายเมื่อเห็นพี่ชายเดินไปรับกระเป๋าแล้วยิ้มหวานให้พี่เพื่อน

"ก็ไม่อยากให้พี่พีชอยู่กับพี่เพื่อน" ผมกับนายโนมองหน้ากัน เข้าใจที่เพื่อนจะหวงพี่ชายแต่ก็ไม่คิดว่าจะหวงแม้กระทั่งเพื่อนของพี่ชาย ผมกอดเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ อยากโอ๋อยู่หรอกแต่กลัวโดนผลักใส่ 

"ก็เพื่อนเขาไหม มึงเป็นอะไรก่อน โรคหวงพี่เหรอ" 

"ไม่" ผมหลุดขำ ลูกแพร์ปากไม่ตรงกับใจอยู่แล้ว ไอ้โรคห่วงพี่ชายเราสองคนก็พอดูออกแต่เมื่อถาม ลูกแพร์ก็จะปฏิเสธตลอด เห็นเพื่อนมองด้วยสายตาที่แผงไปด้วยอำนาจร้ายกาจผมเลยต้องเม้มปากแล้วแกล้งจริงจังบ้าง

"แพร์ เรามาเที่ยวทั้งทีก็ให้พี่ลูกพีชได้สนุกกับเพื่อน ๆ ดีกว่านะ อีกอย่างพวกเราก็ได้สนุกด้วยกันด้วย" เมื่อเพื่อนอารมณ์ร้อนอยู่ผมจะเป็นน้ำเย็นชื่นฉ่ำให้เพื่อนเอง ลูกแพร์ชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย ผมหันไปยักคิ้วให้นายโนระหว่างที่กอดแขนลูกแพร์

"เออ มึงก็เตือนตัวเองด้วยไม่ใช่ว่าคืนนี้หายไปนอนกับพี่เบียร์อีกคน" ไหงเพื่อนมาว่าผมได้ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นด้วยซ้ำ

"บ้าเหรอ รักจะทำแบบไหนได้ไงเล่า ไปเลือกห้องกันเถอะนะอยากนอนด้วยกันมากกว่า" ผมชวนเพื่อนไปเลือกห้องเพื่อเลี่ยงโดนเพื่อนหาเรื่องล้อผมกับพี่เบียร์ อย่างน้อยก็ช่วยทำให้พี่ลูกพีชได้มีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนและเที่ยวอย่างสนุกก็ดีมากแล้ว นายโนยังคงมองผมราวกับคาดโทษไว้ก่อนเพราะกลัวผมจะหนีไปนอนกับพี่เบียร์

เราสามคนเดินมาหาเฮียโซดาเมื่อหันไปเห็นว่ากระเป๋าของพวกผมถูกลากเข้าไปข้างในกันหมด ถ้ามัวแต่ยืนคุยกันมีหวังไม่ได้ห้องนอนแน่คืนนี้ ผมเห็นกลุ่มพี่เบียร์เถียงกันอยู่ คิดว่าคงไม่พ้นเรื่องห้องนอนนั่นแหละ

"เฮีย เลือกห้องกันหมดแล้วเหรอ" ผมวิ่งมาถามพี่เทคฯตัวเองด้วยความอยากรู้ มือทั้งสองก็แบขอกุญแจห้องบ้าง

"มาช้า ไม่มีห้องให้เลือกแล้ว"

"อ้าว" ผมร้องทันทีที่เฮียบอกอย่างนั้น ไม่มีห้องแปลว่าพวกเราสามคนต้องนอนในเต็นท์หรือไง เพ้นส์เดินมาหาพร้อมกับกุญแจในมือ ผมยิ้มกว้างเมื่อเพื่อนใจดีเลือกห้องไว้ให้แล้ว

"เราเลือกห้องรวมเล็กนอนกันสี่คนได้ ทุกคนโอเคใช่ไหม" เพ้นส์ถามขึ้น ผมพยักหน้างึกให้เพื่อน รักเพื่อนที่สุดในโลกเลย ผมกอดแขนเพ้นส์แล้วมองไปยังเฮียที่แสนใจร้าย 

"ได้/ขอบคุณครับ" เพื่อนผมทั้งสองขอบคุณเพ้นส์

"เห็นไหม เพ้นส์ใจดี๊ ใจดี ไม่เหมือนพี่เทคใจร้ายไม่เหลือห้องนอนไว้ให้น้องเทคตัวเอง" เฮียส่ายหน้าคงรู้นั่นแหละว่าผมกำลังเหน็บแนม ร่างสูงใหญ่เดินมายีหัวผมจนยุ่ง ผมมันน่าหมั่นไส้มากขนาดนั้นหรือยังไง

"เออกูใจร้าย แต่ทั้งทริปนี้กูจ่ายไหม"

"อุ๊ย ลืมตัวไปนิดเดียวเองครับ" ผมแกล้งปิดปากตัวเอง กับพี่เทคคนนี้ผมสนิทและเล่นได้ตลอดเวลา มันรู้สึกว่าเฮียจะเอ็นดูผมมาก มากขนาดที่ว่าผมพูดอะไรเฮียก็เออออหมด เป็นแบบนี้ตั้งแต่เทอมก่อนแล้ว เคยสงสัยว่าเฮียชอบผมมากเหรอแต่ไม่ถามดีกว่า 

"งั้นเราก็นอนด้วยกันนี่แหละเฮีย" นายโนสรุปให้เฮียได้รู้ ผมกอดแขนเพ้นส์และลูกแพร์เอาไว้ทั้งสองข้าง อยู่ด้วยกันกับเพื่อนต้องเป็นทริปที่สนุกแน่นอน

"เออ" เมื่อตกลงกันเรียบร้อย เฮียก็ปรบมือเรียกทุกคนเพื่อแจ้งกำหนดการ "เดี๋ยวไปเก็บของกันก่อนได้เลยนะ ทุ่มตรงจะถึงเวลาอาหารเย็น ส่วนใครจะทำอะไรก็ตามสบายได้เลย แต่อย่าลืมดูแลกันด้วยนะเว้ย"

"ครับ" เราทุกคนต่างขานรับทราบ ผมมองพี่เบียร์ตลอดก็เห็นร่างสูงมองผมอยู่เหมือนกัน สถานที่ที่เรามาเที่ยวมีทั้งน้ำตกที่ไหลผ่านใสสะอาดตา และมีที่ถ่ายรูปอีกมากมาย ผมไม่ได้ฟังตอนที่เฮียอธิบายบนรถนักหรอกเลยยังไม่คิดวางแผน ตอนนี้แค่ได้ไปเปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน อากาศมันอบอ้าวจนผมรู้สึกร้อน

"ไหน ๆ ก็ถึงที่หมายแล้ว เฮียถ่ายรูปหมู่กันหน่อยสิ" เสียงใครสักคนพูดเพราะอยากถ่ายรูปหมู่กันสักรูป ทุกคนแอบโวยวายเพราะอยากรีบกันไปห้องตัวเองแต่เมื่อเฮียโซดาไล่ให้ไปถ่ายหน้าบ้านพัก เราก็เดินกันไปเป็นขบวน ทริปเที่ยวครั้งนี้คำพูดของเฮียมีอิทธิพลจริง ๆ ระหว่างจัดเตรียมแถวเพื่อถ่ายรูปนั้น ผมก็มองหาพี่เบียร์แต่กลับหาไม่เจอ มารู้ตัวก็ตอนที่พี่เบียร์จับมือกันนี่แหละ

"มองหาพี่อยู่เหรอครับ" ผมเผลอฉีกยิ้มกว้างทันทีที่เห็นหน้าพี่เบียร์ เราเลือกจะยืนแถวหลังเพื่อให้คนอื่นได้นั่งและยืนในตำแหน่งของตัวเอง เจ้าของบ้านแสนใจดีอาสามาถ่ายรูปให้ จนเมื่อทุกคนพร้อมแล้วเริ่มนับถอยหลัง ภาพถ่ายรูปหมู่ครั้งแรกถูกบันทึก

แชะ ผมเอียงคอมองพี่เบียร์ ไม่คิดว่าพี่เบียร์ก็หันมาเอียงคอมองผมเหมือนกัน 

นับเป็นการถ่ายรูปแรกของเราสองคนเลยก็ว่าได้นะ 

"พี่ครับ ๆ ถ่ายอีกรูปนะครับ แล้วคู่นั้นน่ะหยุดจีบก่อน ถ่ายรูปหมู่ไม่ใช่ถ่ายรูปคู่เว้ย" 

บ้าจริง ดูออกขนาดนั้นเลยเหรอ 

เมื่อได้รูปที่พอใจ ทุกคนก็แยกย้ายกันเข้าไปยังห้องของตัวเอง ผมถูกเพ้นส์ลากมาเมื่อยังเอื่อยเฉื่อยโบกมือลาพี่เบียร์ทั้งที่ห้องนอนเราก็อยู่ตรงข้ามกัน เราสองคนเดินไปสำรวจบ้านกันก่อนเมื่อเพ้นส์อยากไปเดิน

บ้านพักหลังใหญ่มีสามชั้น มีห้าห้องนอน สามห้องน้ำ ชั้นบนสุดจะเป็นห้องนอนเดี่ยวสามห้อง ชั้นสองจะเป็นห้องรวมมีสองห้องคือห้องพวกผมและพี่เบียร์ แยกไปอีกฝั่งของชั้นสองจะเป็นห้องนั่งเล่นที่มีทั้งตู้เกมให้เล่นและคาราโอเกะให้ร้องได้ตลอดเวลา ผมกับเพ้นส์ยืนชมวิวจากเรือนกระจกที่มองเห็นวิวรอบข้างพร้อมกับถ่ายรูปกันเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก

"บ้านกว้างมาก ราคาต่อคืนเท่าไหร่นะ" เพ้นส์ถามขึ้นมาระหว่างที่ผมเดินไปจับไมโครโฟนแล้วเลือกเพลงที่จะร้อง "คงแพงแน่ ๆ"

"แพงนั่นแหละแต่เราไม่ต้องจ่าย" ผมบอกเพื่อนด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เพ้นส์ส่ายหน้าน้อย ๆ ไม่รู้เรื่องราคาต่อคืนหรอกแต่ถ้าเฮียพามาได้แสดงว่าเฮียใจป๋าของจริง ซึ่งปกติก็ใจดีกับผมอยู่แล้ว

"ร้องเพลงกันไหมเพ้นส์ มาร้องคู่กัน" ผมยื่นไมโครโฟนอีกอันให้เพื่อน เพ้นส์วิ่งมารับทันทีระหว่างนั้นก็มีสองเดือนคนหนึ่งเดินมานั่งเล่นเกมคนเดียวเงียบ ๆ ผมรู้ว่าแฝดคนที่มานั่งเล่นเกมต้องเป็นพี่ไวน์แน่เพราะหากเป็นพี่เหล้าก็คงหันมายิ้มทักทายผมแล้ว

"พี่ไวน์มาร้องเพลงด้วยกันไหมครับ" ผมตกใจที่เพ้นส์เล่นถามพี่ไวน์เอาดื้อ ๆ เคยรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่าทำไมพี่ไวน์ถึงได้หันมายิ้มให้เพื่อนผมด้วย ได้ยินมาว่าพี่ไวน์ค่อนข้างจะเข้าถึงยากกว่าพี่เหล้า

"ไม่เป็นไรครับน้องเพ้นส์ พี่นั่งฟังดีกว่าให้ร้องเพลงเดี๋ยวคนอื่นได้ตามมาด่า" ผมเห็นเพื่อนขำด้วย อาการแบบนี้รู้จักกับพี่ไวน์แน่เลย ในบรรดาญาติของพี่เบียร์ก็มีพี่ไวน์นี่แหละที่ผมยังเข้าไปสนิทด้วยไม่ได้

"งั้นก็ได้ครับ" เพ้นส์หุบยิ้มลงเมื่อหันหน้ามาเจอผม อาการชัดมากเพื่อน เอาไว้พี่ไวน์ไม่อยู่ผมจะรีบถามเพื่อนทันที ไปใช้เคล็ดลับยังไงพี่ไวน์ถึงได้ยอมคุยด้วย

เราสองคนเริ่มกันร้องเพลง ผมแปลกใจที่เพ้นส์ร้องเพลงได้ดี ปกติเจ้าตัวจะปฏิเสธบ่อย ๆ ว่าไม่เก่ง ตอนเพื่อนฮัมเพลงผมก็คิดแล้วว่าเพื่อนต้องร้องเพลงเป็น ถ้าเพื่อนเอาดีด้านดนตรีผมก็ว่ารุ่งนะ พอสนุกกันอยู่สองคนโดยมีพี่ไวน์สนใจตู้เกมนั้นก็เริ่มมีพี่ ๆ สองสามคนเดินเข้ามาร่วมร้องเพลงตาม ผมหันหลังไปมองก็พบว่าพี่เบียร์ก็มานั่งอยู่บนโซฟาข้างหลังด้วย

"เพราะครับน้องรัก น้องเพ้นส์" พี่ริทตะโกนให้กำลังใจ ทั้งผมและเพ้นส์ก็โค้งขอบคุณแล้วยังคงร้องต่อ พี่เบียร์ยกมือถือมาคิดว่าคงกำลังถ่ายรูปนั่นแหละแต่ผมแกล้งไม่สนใจแล้วหันไปสนุกกับเพื่อน นายโนลากลูกแพร์มาผมเลยยื่นไมโครโฟนให้เพื่อนร้องด้วย เราสนุกกันมากจริง ๆ ยิ่งได้รับแรงเชียร์ข้างหลังเรายิ่งสนุก ผมหันไปมองพี่เบียร์ก็พบว่าเจ้าตัวมองอยู่ มันเขินอยู่นะ

พอมองลงไปยังชั้นล่างก็พบว่าบริเวณสนามหญ้ามีพี่เหล้า เฮียและพี่อีกสองคนกำลังเล่นฟุตบอลกัน ผมโบกมือให้พี่เหล้าที่เงยหน้ามองมา

แฝดคู่นี้มีกิจกรรมที่แตกต่างกันจริง

"ห๊ะ" ผมไม่เข้าใจเพราะอ่านปากพี่เหล้าที่ตะโกนไม่ออก เลยโบกมือว่าไม่ได้ยินพี่เหล้าก็หัวเราะ อะไรของพี่เขาก็ไม่รู้ นายโนเดินมาหาผมพร้อมชูนิ้วกลางให้ พี่เหล้าก็ชูมือเป็นรูปหัวใจกลับมา นี่พี่เหล้าจีบเพื่อนผมอยู่เหรอ

"ไปร้องเพลงเลยมึง" เพื่อนตัวใหญ่กอดคอผมแล้วลากมาร้องเพลงพอผมหันไปก็พบว่าบริเวณโซฟาไม่มีพี่เบียร์แล้ว พี่เบียร์หายไปไหน ถึงอย่างนั้นผมก็สนใจเพื่อนก่อน ร้องเพลงได้สองเพลงผมก็ขอตัวไปจัดกระเป๋าและอยากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ด้วย

"เพ้นส์ไปไหม" ผมถามเพื่อนที่ตอนนี้กำลังจริงจังแข่งกันเล่นเกมกับพี่ไวน์

"ไม่ ๆ รักไปก่อนได้เลย" ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะรู้ไหมว่าสีหน้าตัวเองจริงจังแค่ไหน ผมหยิบมือถือตัวเองเพราะอยากถ่ายวิดีโอสั้นลงสตอรี่ในไอจีแต่กลับต้องประหลาดใจเพราะพี่เบียร์ลงสตอรี่และแท็กผมมาก่อนหน้านี้ เป็นตอนนั้นที่ผมกับเพ้นส์กำลังร้องเพลง พี่เบียร์ถ่ายผมจริง ๆ ด้วย

'คนอะไรน่ารักแล้วยังร้องเพลงเพราะอีก'

ผมอ่านข้อความเล็ก ๆ นั้นแล้วอมยิ้มชอบใจ พี่เบียร์ก็ช่างขยันทำให้ผมชอบพี่เขามากขึ้น ผมกดข้อความพิมพ์ส่งส่วนตัวหาพี่เบียร์ทันที

'อยู่ไหนครับพี่เบียร์'

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 19
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 14-10-2021 17:45:28
EPISODE : 19 นอนดูดาวด้วยกันไหม


'อยู่ไหนครับพี่เบียร์'

พอกดส่งไปแล้วก็ไม่มีการตอบรับอะไรจากพี่เบียร์ ปกติพี่เบียร์จะตอบเร็วมาก ผมเดินมาถึงห้อง พี่เบียร์ก็ยังไม่เปิดอ่านข้อความ 

ไปอยู่ที่ไหนกันแน่นะพี่เบียร์ 

ก้าวเดินเข้ามาในห้อง ก็พบว่าเพื่อนทั้งสองจองที่นอนกันแล้ว แถมยังวางกระเป๋าผมกับเพ้นส์ให้รู้ว่าเราต้องนอนกันเตียงไหน เพื่อนจัดการครอบครองตู้เสื้อผ้าไปแล้วผมจึงได้จัดเสื้อผ้าตัวเองเข้าตู้บ้าง ผมอยากอาบน้ำแต่ว่าก่อนจะเข้ามาในห้องผมเหลือบไปเห็นว่าห้องน้ำมีคนใช้งานอยู่ มีเสียงข้อความส่งเข้ามา ผมรีบเปิดดูทันทีเพราะหวังว่าจะเป็นพี่เบียร์ 

'อยู่ห้องครัวครับ เพื่อนพี่มันอยากกินปิ้งย่างครับ' 

ผมโล่งอกทันทีที่ได้รู้ว่าพี่เบียร์อยู่ส่วนไหนของบ้านหลังใหญ่ 

'แล้วน้องหนูทำอะไรอยู่ครับ'

'รักกำลังรอคิวอาบน้ำครับ ห้องน้ำยังมีคนเข้าใช้งานอยู่' 

'ไปอาบชั้นสามก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องรอ' 

'จริงด้วยครับ รักก็ลืมไปเลย ขอบคุณครับพี่เบียร์' 

'555 ยินดีครับ' 

'น้องหนูครับ' 

'ครับ' 

'คืนนี้เราขึ้นไปนอนดูดาวที่ชั้นดาดฟ้ากันไหมครับ' 

ผมตื่นเต้นเมื่ออ่านข้อความที่พี่เบียร์ส่งมา นอนดูดาวด้วยกันบนชั้นดาดฟ้าด้วย โคตรโรแมนติก มือมันสั่น ๆ แต่ผมก็รีบพิมพ์ส่งไปเพราะไม่อยากให้พี่เบียร์รอคำตอบนาน 

'ได้สิครับ' 

ตอบไปแล้วก็ได้รับสติ้กเกอร์กลับมา พี่เบียร์รับทราบแล้วขอตัวไปปิ้งย่างกันต่อ จากตอนแรกว่าจะรออาบน้ำแต่ผมเปลี่ยนใจขึ้นไปชั้นสามเพื่ออาบน้ำทันที 

เดินย่างผ่านหน้าห้องเดี่ยวด้วยแต่กลับมีเพื่อนพี่เบียร์สองคนยืนคุยโดยที่ประตูยังเปิดกว้าง พี่กันต์กับพี่ธีร์นี่ตัวติดกันตลอดเวลาเหมือนที่พี่ ๆ คนอื่นบอก 

"มาอาบน้ำเหรอครับน้องรัก" เสียงพี่ธีร์ถาม ห้องนอนมีตั้งสามห้องคิดว่าพี่กันต์กับพี่ธีร์คงนอนกันคนละห้อง ส่วนอีกห้องคงเป็นของเฮีย 

"ครับ ห้องน้ำชั้นสองมีคนเข้ารักเลยขึ้นมาอาบชั้นนี่นะครับ พวกพี่ยังไม่ใช้ห้องน้ำใช่ไหมครับ" ผมรีบถามก่อนเพราะกลัวพวกพี่ ๆ จะใช้ห้องน้ำ 

พี่กันต์ส่ายหน้าทั้งที่ตัวเองอยู่ในชุดเตรียมอาบน้ำแล้ว ผมคงไม่ได้มาแย่งห้องน้ำใช่ไหม 

"เชิญเลย เดี๋ยวพี่ค่อยอาบ จะรออาบพร้อมธีร์น่ะ" พี่กันต์โดนพี่ธีร์ตีทันที เมื่อกี้ผมคงไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม พี่กันต์บอกจะอาบน้ำพร้อมพี่ธีร์แต่เพื่อนกันอาบด้วยกันได้ละมั้งนะ ผมยิ้มเห่ย ๆ ส่งไป รีบอาบก่อนจะโดนพี่ธีร์ดุด้วยดีกว่า 

"งั้นรักไปอาบก่อนนะครับ" ปล่อยให้พี่สองคนคุยกันแล้วเดินผ่านไปยังห้องน้ำ ห้องกว้างน่าอาบมาก มีอ่างกุชชี่แช่ตัวด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพี่กันต์จะชวนพี่ธีร์มาอาบด้วย ก็ช่วยกันถูหลังได้นี่น่า 

พอลองเลื่อนเปิดม่านเท่านั้นผมก็อึ้งอ้าปากค้างทันที ได้อาบน้ำชมวิวเห็นภูเขาข้างนอกด้วย ข้างล่างมีลำธารใสเล็กผ่าน เพราะยังอยู่ในช่วงเย็นผมกลัวคนจะมองเห็นเลยเลือกปิดม่านแทน

"ถ้ามาอาบตอนดึก เปิดม่านละก็คงโรแมนติกน่าดู" ผมหัวเราะกับความคิดตัวเอง ได้แช่น้ำมองดูดาวกับคนรักคงเขินจนหน้าแดงแน่เลย 

หลังสลัดความคิดและใช้เวลาร่วมยี่สิบนาทีกับการอาบน้ำ มันช่วยให้ผ่อนคลายและสดชื่นมาก ไม่รู้ว่าป่านนี้ทุกคนจะทำอะไรกันอยู่ ผมเช็ดผมตัวให้แห้งมาด ๆ อยากใช้ไดร์เป่าผมอยู่หรอกแต่กลัวพี่กันต์จะรออาบผมจึงคิดจะไปใช่ไดร์ของตัวเองที่ห้องแทน พอเดินออกมาห้องของพี่กันต์กลับปิดประตู ผมแอบรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะผมอาบนานแน่พี่กันต์เลยไม่ได้อาบสักที สองเท้าเดินลงบันไดมาขั้นเดียวผมก็เจอกับเฮียโซดาที่กำลังเดินขึ้นมาพอดี

"อาบน้ำเร็วนะมึง เดี๋ยวก็ได้อาบอีกรอบหรอก พวกนี้มันทำปิ้งย่างกันควันได้ติดตัวมึงแน่" เฮียขู่แต่ผมรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว แต่คนมันเหนียวตัวจะอาบน้ำก็ไม่แปลกไหม 

"เดี๋ยวรักอาบใหม่ก็ได้"

"เออ" เฮียเออออคงไม่อยากเถียงผมนั่นแหละ "อ้าว แพร์จะมาอาบน้ำด้วยเหรอ" เพราะเห็นเพื่อนเดินขึ้นมาผมเลยถามขึ้น 

"เปล่า เรามาตามพี่พีชน่ะ พี่พีชอยู่ห้องเดี่ยวอะ" 

"เหรอ" ผมปล่อยให้เพื่อนเดินขึ้นไป เฮียก็ขึ้นไปด้วย แปลกจังเลยแหะ ไม่ใช่ว่าพี่กันต์กับพี่ธีร์นอนชั้นบนกับเฮียหรือไง แต่ช่างเถอะรีบแต่งตัวแล้วลงไปหาพี่เบียร์ดีกว่า แต่แอบตื่นเต้นไม่หายเลยนะคืนนี้จะได้นอนดูดาวกับพี่เบียร์แล้ว 

พอเดินลงมายังชั้นสองก็ได้ยินเสียงร้องเพลงเพราะเลยแวะไปดูถึงได้เห็นว่าเป็นพี่ธีร์ที่กำลังนั่งร้องเพลง โดยมีพี่กันต์นั่งข้างกายแล้วเอามือพาดไหล่พี่ธีร์

เหมือนแฟนกันเลยแต่ผมคงคิดมากไปเอง ผมย่องเบากลับห้องตัวเองและเห็นว่าเพ้นส์เอาผ้าห่มม้วนตัวอยู่

"เพ้นส์เป็นอะไร" เพื่อนรีบเด้งลุกขึ้นมานั่งทันที เห็นเพื่อนหน้าแดงก็คงไม่พ้นเรื่องแฟนของเพื่อนนั่นแหละ " คุยกับแฟนเหรอ"

"เปล๊า แฟนอะไร ใครมีแฟนล่ะ" ผมเชื่อก็ได้ ก็ช่วงนี้เพ้นส์ดูแปลกตาขึ้น ดูสดใส ร่าเริงมาก แถมยังชอบมองมือถือบ่อยเหมือนรอใครทักมา จะไม่ให้เรียกแฟนแล้วจะให้เรียกอะไร

"รักนอนนี่นะเดี๋ยวเรานอนริมเอง" เตียงกว้างสองเตียงถูกชิดใกล้ ผมรู้ว่าอีกเตียงนายโนกับลูกแพร์นอน เพ้นส์ที่ไม่คุ้นเคยกับสองคนของผทอีกก็ต้องให้ผมนอนใกล้ชิดกับเพื่อนตัวเอง แต่คืนนี้ผมจะไปนอนดูดาวกับพี่เบียร์แล้วผมจะเอาเวลาไหนลุกหนีไปถ้าต้องนอนตรงกลาง

"รักขอนอนริมได้ไหมเพ้นส์ นะ ๆ" ผมใช้มุกอ้อนและเว้าวอน "พลีสสส~" เพ้นส์เห็นผมทำท่าทีอ้อนก็รีบยกที่นอนให้โดยไม่คิดมากอะไร

"ได้สิ เรานอนตรงไหนก็ได้" เย่ ผมขอบคุณเพื่อนแสนรัก ภารกิจหนีไปนอนดูดาวกับพี่เบียร์คืนนี้ผ่านฉลุยแล้ว ที่เหลือก็แค่หวังว่าตอนลุกออกมาเพื่อน ๆ จะไม่สงสัยก็เท่านั้น

"แล้วเพ้นส์ไม่อาบน้ำเหรอ รักไปอาบชั้นสามมาห้องน้ำกว้างมาก มีม่านเปิดดูวิวได้ด้วย พอแช่ตัวแล้วหายเมื่อยเลยละ" ผมเริ่มไดร์ผมและเกิดเสียงดังจนไม่ได้ยินเพื่อนพูดเท่าไหร่

"แพร์ แล้วพี่ลูกพีชล่ะ" พอปิดเสียงไดร์ลูกแพร์ก็เข้ามาในห้องนอนด้วยสีหน้าบึ้งตึง

"พี่พีชลงไปข้างล่างกับพี่เพื่อนแล้ว ทีน้องไปตามไม่ยอมไปพอพี่เพื่อนตามพี่พีชลุกไปเลย มันน่าโมโห" เพ้นส์มองพวกเรา ผมขำท่าทีของเพื่อนเลยเดินเข้าไปโอ๋ให้ลูกแพร์ใจเย็น

"โอ๋ ๆ นะแพร์ ไม่งอนนะครับ แพร์ยังมีรักนะเดี๋ยวเราลงไปข้างล่างกันแต่รักขอแต่งตัวแป๊ปเดียว"

"ไม่ต้องมาเนียนโอ๋เราเลย เราก็เห็นว่ารักอยู่กับพี่เบียร์ทั้งวัน"

"ก็แพร์ลุกไปไง ที่นั่งมันว๊าวว่าง พี่เบียร์เขาขอมานั่งเอง รักไม่ได้เชิญพี่เบียร์เลยนะ" ผมรีบแก้ตัวให้ตัวเอง โทษพี่เบียร์ไว้ก่อนเพื่อนผมไม่กล้าว่าพี่เบียร์แน่

"ก็ถ้ารักปฏิเสธไป บอกว่าที่เราพี่เบียร์จะกล้านั่งไหม" ผมไม่กล้าเถียงเพื่อน ก็ในเมื่อมันเป็นอย่างที่เพื่อนบอก เพ้นส์แอบหัวเราะอยู่คนเดียวไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกับคนในมือถือ ผมเดินเลี่ยงไปไดร์ผมต่อจนผมแห้งสนิท ลูกแพร์นอนเล่นมือถืออย่างเบื่อ ๆ คิดว่าทริปนี้ลูกแพร์จะยิ้มออกกับคนอื่นเขาไหม

"แพร์ไปข้างล่างกัน รักหิวแล้ว" ผมชวนเพื่อนเมื่อแต่งตัวเสร็จ อยากไปเจอพี่เบียร์มากกว่า คิดว่าป่านนี้แล้วพี่เบียร์น่าจะเล่นอยู่ข้างล่างกับเพื่อน ๆ นั่นแหละ

"ไป"

"เพ้นส์ไปกัน" จะปล่อยให้เพ้นส์อยู่ในห้องคนเดียวก็แปลก ๆ อยู่ นายโนก็หายหน้าไปนานหรือจะลงไปหาอะไรรองท้องกินแล้ว เพ้นส์เงยหน้าละสายตาจากหน้าจอมือถือมาคุยด้วย เพื่อนผมก็ช่างติดคนในแชทเหลือเกิน เพ้นส์ลุกขึ้นจากเตียงทันที

"ไปดิ ไปกันครับ" เราสามคนเดินออกมาจากห้อง ผมควงแขนเพื่อนทั้งสองคน ระหว่างทางเดินลงบันไดไปชั้นล่าง ผมเห็นพี่เหล้าแตะบอลแข่งกัน อยากไปเล่นด้วยแต่คงต้องรอไว้เล่นกับเพื่อนดีกว่า ให้เล่นกับรุ่นพี่ที่เก่งด้านกีฬาคงไม่เอาดีกว่า

พี่เบียร์หันมาส่งยิ้มให้ผมทันทีที่เห็นหน้า ผมก็ส่งยิ้มกลับไป พวกพี่เบียร์ที่ยืนอยู่หน้าเตาต่างมอมเมมกัน เชื่อแล้วว่าอยากกินปิ้งย่างกันจริง ๆ

"ออกอาการมากเพื่อน"

"เพ้นส์ก็ ว่ารักเหรอ" ผมหันไปหาเพื่อนกลบเกลื่อนความเขินเอาไว้

"จริง ออกอาการมาก"

"แพร์ รักไม่พูดกับทั้งสองคนแล้ว" ผมหนีจากการแซวของเพื่อนทั้งสอง เวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้วทุกคนเริ่มทยอยกันมาเพื่อทานอาหารมื้อแรกของที่นี่ พี่เบียร์เดินมาเสิร์ฟอาหารให้ ผมเอ่ยขอบคุณพร้อมนั่งลง ไม่คิดว่าพี่เบียร์จะจองที่นั่งไว้ให้ผมด้วย เพื่อน ๆ ของผมนั่งอยู่ใกล้ ๆ นายโนตัวดีวิ่งมาจากไหนก็ไม่รู้มาแย่งบาร์บีคิวในมือผมไปซะงั้น

"โนแย่งของรักนะ แพร์ดูดิ" ผมฟ้องเพื่อนรักเมื่อโดนนายโน ลูกแพร์กำลังเคี้ยวอาหารในปากเงยหน้าทำตาดุใส่ เพื่อนตัวดีกอดคอผมแล้วยีหัวผมอีก ผมเพิ่งจะเซ็ตผมมาเองนะ

"กูหิวนี่หว๋า อีกอย่างกูก็ไม่มีคนคอยเอาใจด้วยเลยต้องแย่งของมึง" ผมรีบป้อนน้ำซุปเนื้อให้เพื่อนกินจะได้ไม่ต้องพูดมาก พี่เบียร์อยู่ข้าง ๆ เพื่อนจะพูดให้ผมเขินทำไม "ไอ้เพ้นส์เว้นที่ให้กูด้วย"

"อือ" พอกวนผมเสร็จก็หันไปกวนเพ้นส์ต่อ ได้ยินเสียงเฮียพูดผ่านไมโครโฟนของคาราโอเกะข้างขอบสนาม บอกให้คนที่อยู่ในบ้านได้ออกมาทานมื้อเย็น ผมตักกับข้าวใส่จานพี่เบียร์บ้างเพื่อเอาใจ

"ขอบคุณครับ"

"ครับ" เรานั่งทานมื้อเย็นกัน เรียกว่าเสียงดังกันมากเมื่ออยู่รวมกันหลายคน ผมสังเกตว่ามีเพื่อนเฮียมาด้วย แต่เพราะไม่ได้สนิทด้วยผมเลยไม่รู้จะทักทายยังไง

"กินกุ้งไหมครับ เดี๋ยวพี่แกะให้" พี่เบียร์กระซิบถาม ผมพยักหน้าทันที

"กินได้ครับ รักไม่แพ้อาหารทะเล" ระหว่างที่พี่เบียร์แกะกุ้งให้ผมก็หยิบมือถือมาถ่ายวิดีโอสั้น ๆ ลงสตอรี่ไอจีตัวเองแล้วแท็กเจ้าตัว พี่เบียร์ที่ยังมือเลอะจากการแกะกุ้งอยู่ชะเง้อมองบนหน้าจอมือถือตัวเอง

"รักแท็กเองครับ" ผมรีบบอก ไม่ได้คิดเซอร์ไพรส์อะไร คนที่หันไปมองหน้าจอเผลอหันหน้ามาจนเหมือนเราสองคนกำลังจะจูบกัน และนั่นก็ได้รับเสียงโห่แซวจากคนรอบกาย ผมขยับมานั่งชิดเก้าอี้ตัวเอง รู้สึกว่าหน้าร้อนเหมือนมีไฟออกมาผมก้มหน้าไม่กล้ามองหน้าพี่ ๆ คนอื่น

"คู่นี้จะจีบกันทุกที่เลยเหรอครับ" ผมกินกุ้งที่พี่เบียร์ป้อนแม้จะเขินอายกับคำแซวต่าง ๆ พี่เบียร์หันไปว่าเพื่อนตัวเองให้หยุดแซวได้แล้ว ผมอยากจะหนีจากตรงนี้เหลือเกิน ภาพเมื่อกี้ถูกเพื่อนถ่ายพร้อมลงโซเชียลแท็กผมกับพี่เบียร์เรียบร้อย นายโนจะแกล้งกันแบบนี้ไม่ได้นะ ผมหันไปมองเพื่อนตาเขียว แกล้ง ๆ ดุไปหรอกครับเพราะจริง ๆ แล้วก็แอบเขินกลบเกลื่อน

เริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติเมื่อพวกพี่เขาเลิกแซวแล้วมีเรื่องคุยกัน ผมกินอิ่มท้องและอิ่มเอมใจมาก หลังกินข้าวเสร็จเพื่อนผมก็ต่างไปทำธุระของตัวเอง ผมแอบชิ่งหนีช่วงที่ไม่มีใครอยู่ในห้องเพื่อไปรอพี่เบียร์ตามสถานที่ที่เรานัดกันไว้

ยืนรอไม่นาน เมื่อทักบอกพี่เบียร์ว่าผมมาถึงที่หมายแล้วพี่เบียร์ก็บอกกำลังรีบไปทันที ผมกลัวคนอื่นจะเห็นมากจึงได้ปิดแสงมือถือแล้วรอพี่เบียร์ เมื่อได้ยินเสียงพี่เบียร์เรียกผมก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วเปิดแสงไฟในมือถือให้พี่เบียร์รู้

"รอนานไหมครับ พี่แวะไปเอาผ้าห่มเลยออกมาช้านะครับ" พี่เบียร์ถามผม ในมือก็ถือผ้าห่มอย่างที่บอกไว้ ผมรีบปิดแสงไฟ ขืนเปิดนานมีหวังคนอื่นได้เห็น

"ไม่นานเลยครับ ว่าแต่เราต้องไปทางไหนครับ" ผมกระซิบถามแล้วได้ยินเสียงพี่เบียร์ขำ

"ด้านหลังน้องหนูเลยครับ มันมีห้องใต้หลังคาเอาไว้ขึ้นไปบนดาดฟ้าครับ" พี่เบียร์ชี้ไปยังประตูห้องที่ผมไม่กล้าเปิดเข้าไป

"จริงเหรอครับ" ผมตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินอย่างนั้น กลไกเหมือนกับบ้านผมเลย บ้านผมก็มีห้องใต้หลังคาแล้วมีประตูเล็กเอาไว้ขึ้นไปเล่นบนดาดฟ้า เมื่อก่อนตอนยังเด็กผมกับพี่หมอและเจ้าขาชอบไปเล่นอยู่บ่อย ๆ

"ครับ พี่แอบไปขึ้นมาแล้ว บนดาดฟ้ามีที่นั่งชมวิวด้วย หรือจะนอนดูดดาวที่ห้องใต้หลังคาก็ได้นะครับ เจ้าของบ้านเขาอนุญาตให้นอนเล่นได้ พี่ไปถามมาให้แล้วครับ"

"ได้ทั้งนั้นเลยครับ ขอแค่มีพี่เบียร์อยู่ด้วย ดาวคืนนี้คงสวยมากที่สุดเท่าที่รักเคยดูมา" ผมยืนสตั้นไปเมื่อพี่เบียร์ลูบกลุ่มผมของผมอย่างเบามือ ทำไมพี่เบียร์ถึงได้ทำตัวให้ผมหลงได้ทุกวินาที มือหนาเลื่อนลงมาจับมือผมแล้วดันประตูให้เปิดออกเพื่อเข้าไปข้างในด้วยกัน จากตอนแรกตั้งใจว่าจะปีนไปดูดาวบนดาดฟ้าแต่กลับมีคนนอนอยู่ก่อนหน้านี้แล้วเราเลยเลือกจะนอนดูดาวที่ห้องใต้หลังคาแทน

"มานอนมุมนี้ดีกว่าครับ ถ้าพวกนั้นลงมาจะได้ไม่เห็นเรา" พี่เบียร์บอกพร้อมเลื่อนฟูกมานอนบริเวณที่ปลอดสายตาคนเดินผ่านไปมา ผมก็ช่วยเลื่อนพร้อมเดินไปหยิบหมอนบนเตียงมาหนุนสองใบ พี่เบียร์เอ่ยขอบคุณเมื่อจัดที่นอนเรียบร้อยผมก็ล้มตัวนอนบ้าง ได้ใกล้ชิดกันสองคนอย่างนี้ก็ตื่นเต้นไม่น้อย พี่เบียร์ลุกขึ้นไปเปิดไฟดวงกลมจนมองเห็นดวงดาวหลากหลายรอบเพดาน

"เปิดไฟแบบนี้จะมองเห็นดาวจริง ๆ เหรอครับ" ผมถามเมื่อพี่เบียร์เดินมานั่งใกล้

"มองเห็นครับ คืนนี้ฟ้าเปิดด้วยนอนดูดาวได้สบายเลยครับ" ผมล้มตัวนอนตามพี่เบียร์และทอดมองท้องฟ้าผ่านหลังคาใส คิดว่าเจ้าของบ้านคงออกแบบมาให้คนที่นอนห้องนี้ได้ดูดาวโดยเฉพาะ "แต่เสียดายเราไม่ได้ขึ้นไปดูบนดาดฟ้า"

"นั่นสิครับ ไม่คิดว่าจะมีคนที่มาเร็วกว่าเรา" เราต่างหัวเราะกันเบา ๆ พี่เบียร์ชวนคุยกันหลายเรื่อง นอนชมวิว เปิดเพลงคลอเบา ๆ เครื่องปรับอากาศในห้องก็ทำงานได้ดี ผมเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัวตอนแรกก็นอนกันคนละหมอนแต่เมื่อลืมตาตื่นผมก็พบว่าตัวเองกับพี่เบียร์นอนหมอนใบเดียว ผมแทบไม่กล้าหายใจเมื่อพี่เบียร์อยู่ใกล้แค่คืบ มือเลื่อนหามือถือตัวเองก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาช่วงตีสองของวันใหม่แล้ว แถมมีข้อความจากเพื่อนหลายข้อความ ก็รู้สึกผิดแต่เวลาได้ใกล้ชิดพี่เบียร์มันไม่ได้มีกันง่าย ๆ ผมปิดมือถือลงพร้อมนอนจ้องมองหน้าพี่เบียร์ แพขนตายาวน่ามองยามหลับไหลเรียกร้องให้ผมค่อย ๆ ขยับหน้าแล้วบรรจบจูบบริเวณโหนกแก้มของพี่เบียร์

"ฝันดีครับพี่เบียร์" บอกพร้อมล้มตัวนอนข้าง ๆ แต่ไม่คิดว่ามือหนาจะขยับมากอดเอวผม ใบหน้าที่หลับตาอยู่นั้นยกยิ้มมาเหมือนรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลา

ให้ตายสิ พี่เบียร์แกล้งหลับใช่ไหม อาย ผมอายมากแล้วก็เลือกจะปิดตาหนีพราะกลัวพี่เบียร์ลืมตาตื่น 

"ฝันดีเช่นกันครับน้องหนู"



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 16-10-2021 17:04:15
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 20
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 18-10-2021 17:27:30

 EPISODE : 20 วันพักผ่อนแสนสบาย

"มึงนี่ร้ายนะ อย่านึกว่ากูไม่รู้ว่ามึงไปทำอะไรมาเมื่อคืน" ผมมองเพื่อนตัวเองแล้วแสยะยิ้มกับคำพูดของมัน ไอ้วอร์มมันนึกว่าผมไม่รู้หรือไงว่าเมื่อคืนผมก็เห็นมันกับหลานรหัสนอนบนดาดฟ้านั่น

"แล้วคุณมึงไปทำอะไรกับหลานรหัสบนดาดฟ้าล่ะครับ" ผมถามมันกลับบ้าง คนหาเรื่องก่อนทำตาโตตกใจ บอกแล้วว่าเมื่อคืนผมก็เห็นมันเหมือนกัน

"อะไร กูทำอะไร ไอ้เหนือมันแค่อยากขึ้นไปสูดอากาศข้างบนกูเลยไปเป็นเพื่อนมัน"

"เหรอ" ตอนแรกน้องไม้เหนือมันก็ไม่ได้มาด้วยหรอก แต่เพราะน้องมันให้เพื่อนขับรถตามรถบัสมาเพื่อขอไปด้วย มีเหรอที่เฮียจะไม่ยอมให้ไป เล่นลงทุนขับไล่มาอย่างนั้น เห็นไอ้ริทเดินมาหาพร้อมกับจานอาหารเช้าที่ตักมาเรียบร้อย เราสองคนเลยเงียบกัน ไม่พูดอะไรจะดีกว่าอย่างน้อยจะได้ไม่ถูกต่อว่าเรื่องที่แอบหนีไปเมื่อคืน

"ว่าแต่มึงสองตัวหายไปไหนทั้งคืนทิ้งกูนอนอยู่ห้องคนเดียวเนี่ย" ผมกับไอ้วอร์มสบตากัน มันหมายความว่าอะไรที่ไอ้ริทบอกว่ามันนอนห้องคนเดียว ในเมื่อญาติของผมไอ้สองเดือนกับไอ้ธีร์มันก็นอนห้องรวมด้วย แต่คนหลังตัดออกไปได้เลยไอ้กันต์ต้องลากไปนอนห้องเดี่ยวของมันนั่นแหละ

"สองเดือนก็หายไปด้วย กูนอนคนเดียวห้องใหญ่มันวังเวงนะเว้ย" แล้วผมต้องปลอบใจเพื่อนมันยังไงดี ก็ผมอยากมีเวลาสวีทกับน้องหนูบ้างเลยปลีกตัวกันไปดูดาวสองคน

"มาเดี่ยวไม่มีคู่กับเขาก็ต้องทำใจนะครับริท" นี่เพื่อนเฮียมันนั่งอยู่ข้างไอ้วอร์มแต่ชื่ออะไรแล้วก็ไม่รู้ผมก็ลืมถามไปเลย ไอ้ริทเบะปากด้วยท่าทีเง้างอน

"เออ ถ้ารู้ว่าพวกมึง ๆ จะไปนอนกับน้องเขากูจะได้ล็อคห้องไปเลย ไม่มัวพะวงตื่นหรอก ไอ้เราก็เป็นห่วงแต่เพื่อนไม่มีใครเป็นห่วงกูสักคน" มันตัดพ้อชุดใหญ่ใส่ผมและไอ้วอร์ม แต่เรื่องนี้มันก็ไม่คาดคิดจริง ๆ ว่าจะไม่มีใครนอนห้องแต่ที่ผมอยากรู้ก็คือไอ้แฝดมันแอบไปนอนที่ไหน

"พูดมากว่ะมึง เสียงดังถึงโน้นเลย" ไอ้กันต์มันเดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทมันนั่นแหละ สองคนก็ตัวติดยิ่งกว่าตังเม พวกมันไม่รู้หรือไงว่าแทบจะเป็นคนคนเดียวกันอยู่แล้ว ไอ้ธีร์เดินมากอดคอไอ้ริทเพื่อปลอบโยน

"เดี๋ยวคืนนี้ไปนอนด้วยก็ได้"

" ได้ไงวะ แล้วกูล่ะ" นั่นไง ถึงไอ้ธีร์มันจะใจดีจะนอนเป็นเพื่อนไอ้ริทแต่ไอ้กันต์มันไม่ยอมให้ใครได้เอาเพื่อนรักของมันไปหรอก ไอ้วอร์มตักข้าวกินไม่สนใจพวกเรากำลังคุยกัน ผมหันมองมันแล้วแตะขามัน ได้ทีก็ชิ่งหนีเลยนะมึง 

"ก็นอนคนเดียวไปไง อยากเลือกห้องเดี่ยวเอง" ไอ้ธีร์มันเถียงเสียงน่ารัก เวลาพวกมันคุยกันจะใช้เสียงสองเสียงสามคุยกันเหมือนโลกนี้มีแค่พวกมันสองคนนั่นแหละ ไอ้ริทกอดไอ้ธีร์แน่นอวดโชว์ไอ้กันต์ให้มันกระอักตาย เราต่างก็รู้ว่าไอ้กันต์มันหวงไอ้ธีร์มากแต่ก็ไม่มีใครชอบแตะเนื้อต้องตัวไอ้ธีร์บ่อยเหมือนไอ้ริท

"เออ คืนนี้ต้องมีคนนอนกับกู เข้าใจ๊นะพวกมึง" นิ้วชี้เล็ก ๆ นั่นสั่งพวกเราทุกคน จะขาดก็แต่ไอ้เพื่อน เดาว่าเมื่อคืนมันหายไปนอนห้องเดี่ยวกับลูกพีชเพื่อนตัวเล็กของมันนั่นแหละ รายนั่นเดินมาพร้อมกับลูกพีชพอดี ผมมองจานในมือทั้งสองข้างแล้วอยากจะอ้วก เพื่อนผมมันไม่เคยอ่อนโยนกับใครนอกจากเพื่อนตัวเล็กของมัน 

"อะไรเนี่ย มึงงอแงอะไรแต่เช้าไอ้ริท" เฮียเดินมาหาที่นั่งโดยเลือกนั่งใกล้เพื่อนเฮียที่นั่งข้างไอ้วอร์มนั่นแหละ ผมเห็นไอ้เพื่อนกับลูกพีชเลือกนั่งอีกฝั่ง นั่นก็แทบจะสวีทกันอยู่แล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องลูกแพร์ถึงได้หวงพี่ชาย สายตาของไอ้เพื่อนมันอันตรายจริง ๆ กินลูกพีชได้คงกลืนกินลงท้องไปแล้ว

"ก็แค่หาเพื่อนนอนด้วย เพราะเมื่อคืนไม่มีใครนอนกับผมสักคน" ผมหันหน้าหนีไปชมวิวแล้วกัดขนมปังกินคำนึง แต่ผลที่ได้มาคือความเงียบ ทุกคนคือเงียบกันหมด ไม่มีใครยอมพูดอะไรอีก งานนี้คงไม่ใช่ผมกับไอ้วอร์มที่แอบไปนอนทีอื่นจริง ๆ เห็นกลุ่มมน้องปีหนึ่งของน้องหนูเดินมาพร้อมกับจานข้าวในมือแต่ละคนพวกเราเลยสลายกลุ่มกัน

"น้องหนูมานั่งนี่ครับ" ผมเรียกให้น้องมานั่งข้างกายโดยจองที่นั่งให้ ส่วนเพื่อนของผมพวกมันจะไปนั่งที่ไหนก็ไป เราก็โต ๆ กันแล้ว ดูแลตัวเองกันได้ น้องเดินมาหาพร้อมรอยยิ้มสดใส หากคืนนี้มีโอกาสผมอยากจะพาน้องไปนอนบนดาดฟ้าจะได้ดูดาวโดยไม่ต้องผ่านหลังคากระจกเหมือนเมื่อคืน

"ขอบคุณครับพี่เบียร์ แพร์มานั่งตรงนั้นกันได้เห็นลำธารด้วย" เสียงน้องชวนเพื่อนให้มานั่งด้วยเพราะมีที่นั่งว่าง ก็ผมเองนั่นเองที่จองที่ไว้ให้เอง ผมมองอาหารเช้าในจานของน้องแล้วแปลกใจ

"ทำไมตักมาน้อยล่ะครับ" มันน้อยมาก เป็นผมคงกินไม่อิ่ม ปกติเวลาอยู่กับกลุ่มเพื่อนผมแต่ละคนกินเก่งกันมาก พอเห็นอาหารน้อย ๆ ผมเลยแปลกใจ กินน้อยแค่นี้จะอิ่มเหรอ 

"รักยังไม่หิวเท่าไหร่ครับ ก่อนออกมาพวกเรากินขนมมาก่อนแล้ว" น้องบอกเหตุผลผมเลยเข้าใจในทันที ก็ถึงว่าคนอะไรจะทานข้าวน้อยราวกับแมวดม น้องนั่งลงบนที่นั่งไม้แล้วถามผมกลับเมื่อมองจานข้าวของผม "แต่พี่เบียร์ตักมาเยอะ"

"เช้านี้พี่หิวครับ" ไอ้วอร์มมันขำ ผมเลยหันไปมองมัน พอเห็นจานว่างเปล่าของมันก็แอบทึ่งอยู่เหมือนกัน ทานจนหมดเกลี้ยงมันนั่นแหละหิวมากกว่าผมอีก น้องนั่งยิ้มแล้วมองธรรมชาติข้างหน้า บรรยากาศยามเช้าสดชื่นมาก ยิ่งข้างล่างเป็นธารน้ำใสมีผู้ปกครองกับเด็กลงไปเล่นน้ำกัน มันยิ่งดูผ่อนคลาย น้องหันไปคุยกับเพื่อนบ้าง แล้วก็ชวนผมคุยเล็กน้อย

"ถ้าทานไม่หมดละน่าดู" น้องขู่เหมือนคุณครูอนุบาลที่อยากฝึกให้เด็ก ๆ ทานอาหารให้หมดจาน ผมระบายยิ้ม หน้าก็หวานแต่ชอบทำหน้าดุซึ่งไม่ได้ดูน่ากลัวสักนิดเดียว ไอ้วอร์มมันลุกไปตักอาหารว่างมาเพิ่ม มันกินเก่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก

"วันนี้พี่เบียร์จะทำอะไรบ้างครับ" ผมดื่มกาแฟเสร็จแล้วนั่งมองวิว อยากหันมองหน้าน้องแต่กลัวเจ้าตัวจะเขิน ดังนั้นผมเลยเลือกจะมองนาน ๆ ครั้ง ค่อย ๆ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติแต่ความจริงแล้วผมกลับรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งเวลาเห็นน้องยิ้ม

"ถ้าตามโปรแกรมที่วางไว้พวกพี่จะไปถ่ายรูปที่น้ำตกครับ น้องหนูกับเพื่อนจะไปด้วยไหมครับมีรถเอทีวีให้ขับด้วย" ผมเอ่ยชวน อยากพาน้องไปนั่งเอทีวีแล้วพาไปน้ำตก ที่นั่นวิวสวยกว่าที่นี่สิบเท่าเชื่อว่าน้องต้องชอบมากแน่ ๆ 

"ไปครับ แต่รักขอถามเพื่อนก่อนว่ามีใครจะไปอีกไหม" อย่างนึงที่ผมชอบคือน้องไม่เคยปฏิเสธ ทุกอย่างเหมือนเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับเจ้าตัว ผมมองว่ามันน่ารักน่ามอง พอเห็นน้องอยากรู้นั่นนี่ในหัวก็คิดถึงสถานที่สวย ๆ หลายที่ที่อยากพาไปให้เจ้าตัวได้เห็น น้องเหมือนเด็กน้อยที่ตื่นเต้นทุกครั้งเวลาที่ผู้ปกครองบอกจะพาไปเที่ยว

"ตกลงครับ ปีหนึ่งห้าคนจะไปน้ำตกด้วยครับ" ปรึกษากับเพื่อนเสร็จน้องก็หันมาบอกผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สายตาฉายแววเปล่งประกาย

"ครับ" แต่ทำไมผมรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังหลอกล่อเด็กน้อยก็ไม่รู้ เห็นเฮียลุกขึ้นยืนเพราะกำลังจะไปเก็บจานน้องก็หันหน้าไปถามเหมือนอยากรู้ ผมไม่ได้สนใจเฮียหรอกเพราะสายตาเอาแต่จับจ้องมองน้อง

"เฮียขับเอทีวีเป็นป่ะ" คำถามแสนธรรมดาแต่น่ารักนั่นทำให้ผมยกยิ้ม น้องกับเฮียเหมือนคู่กัดกันแต่บางครั้งก็รักกันมาก เป็นพี่เทคกับน้องเทคที่สนิทกันในระดับนึงเลยละ ตอนผมอยู่ปีหนึ่งไม่มีพี่ที่คอยใส่ใจและสนิทกันอย่างนี้เลย ไม่รู้ว่าน้องไปโปรยเสน่ห์ยังไงจึงทำให้เฮียหลงถึงขั้นเอ่ยขอเป็นน้องเทคแคร์ 

"เป็นดิ ไม่เป็นได้ไงล่ะ" ได้ยินเฮียตอบน้องก็ทำหน้าหมั่นไส้ ผมรู้สึกอยากหยิกแก้มนั่นมาก

"ชิ อวดจังเลย"

"อ้าว ก็มึงถามเองไหม"

"พี่ก็ขับเป็นนะ" เสียงไอ้เหล้ามันดังขึ้นแทรก ผมหันไปมองมันทันที ผมจะไว้ใจไอ้ลูกพี่ลูกน้องตัวแสบไม่ได้ ไอ้เหล้ามันแสดงชัดมากว่าชอบที่ได้ใกล้ชิดกับน้องและเหมือนว่าน้องก็จะสนิทกับมันในระดับหนึ่งด้วย

"พี่เหล้าด้วยเหรอ" น้องเหมือนครุ่นคิดบางอย่าง คิ้วเริ่มผูกกัน ไอ้เหล้าก็ขานตอบทั้งที่มันอยู่ไกลถัดจากเฮียด้วยซ้ำ "ทำไมขับกันเป็นกันทุกคนล่ะ แล้วพี่เบียร์ล่ะครับขับเก่งไหมครับ" น้องหันมาถามผมด้วยความอยากรู้

"แน่นอนครับ เป็นกีฬาที่พี่ชื่นชอบที่สุดด้วย" ผมตอบอย่างมั่นใจ 

"เก่งจังเลยครับ เอาไว้รักจะฝึกขับด้วยนะครับ จะได้ขับไปเที่ยวกับพี่เบียร์ได้ในอนาคตนะครับ เอ้ย รักแค่คิดเผื่อ ๆ เอาไว้" น้องพูดแล้วกัดปากตัวเอง คงลืมตัวเผลอคิดสิ่งที่อยู่ในใจ ผมเอ็นดูเจ้าตัวทุกครั้ง มีเรื่องที่ทำให้ยิ้มเสมอ

"ถ้าได้อย่างนั้นก็ดีครับ"

"ครับ" หลังทานมื้อเช้ากันเสร็จ หลายคนก็เดินไปถ่ายรูป ชมวิวยามเช้า บางคนก็นอนเอาแรงก่อนและมีเตรียมตัวเพื่อออกเดินทางไปเที่ยวน้ำตกกัน

"พี่เบียร์กำลังทำอะไรอยู่ครับ" น้องเดินมาพร้อมกับมือถือในมือคิดว่าคงกำลังไลฟ์อยู่ เพราะก่อนหน้านี้เห็นบ่นกับเพื่อนว่าอยากไลฟ์ในอินสตาแกรม ผมเงยหน้ามายิ้มให้น้อง

"ผูกเชือกรองเท้าครับ ต้องผูกให้แน่นเดี๋ยวสะดุดล้มครับ" ปากบอก ตามองน้อง ส่วนมือก็ผูกเชือกรองเท้าไป ไอ้ริทกับไอ้วอร์มมันเดินไปหามุมถ่ายรูปไม่รอผมแล้ว

"แค่ผูกเชือกรองเท้าต้องเก็กหล่อด้วยเหรอครับ" น้องขยับมือถือเพื่อซูมหน้าผมใกล้ ๆ ผมไม่ได้ขยับหนีและปล่อยให้น้องได้ถ่ายตามใจชอบ

"เก๊กหล่อเหรอครับ ไม่นะพี่ว่าพี่ก็ทำตัวปกติแล้ว เชือกรองเท้าน้องหนูหลุดด้วย พี่ผูกใหม่ให้ครับ" เห็นเชือกรองเท้าน้องใกล้จะหลุดผมเลยอาสาผูกให้ใหม่ น้องยืนนิ่งเงียบไม่พูดอะไร ผมเงยหน้ามาถามเจ้าตัวเมื่อผูกเสร็จ

"แบบนี้แน่นไปไหมครับ" น้องส่ายหน้าแล้วตอบเสียงเบา เหมือนจะหน้าแดงขึ้นเพราะโดนแดดตอนเช้าผิวแก้มน้องเลยแดงขึ้นหรือเปล่า

"ไม่แน่นครับ ขอบคุณครับ"

"ยินดีครับ" ผมขยิบตาให้น้องข้างนึง แต่เห็นหน้าแดงนั่นก็ยิ่งอยากแกล้ง น้องกำลังเขินผมอยู่หรือเปล่า

"หมดชั่วโมงหล่อของพี่เบียร์แล้ว ตามรักไปสัมภาษณ์คนอื่นต่อดีกว่าครับ" เห็นน้องจะวิ่งหนี ผมเลยลุกขึ้นรวบตัวน้องไว้เพราะเจ้าตัวไม่เห็นเจ้ากบน้อยที่นั่งนิ่งตรงนั้นอยู่นาน

"น้องหนูจะเหยียบเจ้ากบแล้วครับ" ผมกระซิบบอก น้องก็ก้มมองเจ้ากบน้อยที่กำลังกระโดดหนี

"จริงด้วย ขอโทษนะเจ้ากบ" บอกเสร็จก็หันมามองผมด้วยแววตาชื่นชม "ขอบคุณครับพี่เบียร์"

"..." ผมเหมือนจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ คนเราจะน่ารักตลอดเวลาโดยไม่เว้นช่วงพักเลยหรือไงนะ

"ครับน้องหนู"






หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 19-10-2021 10:45:25
 :pig4:
 :L2:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-10-2021 22:44:40
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 21
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 21-10-2021 19:46:11

 EPISODE : 21 คืนนี้พระจันทร์สวย



หลังตัดสินใจว่าใครจะไปกับใคร ก็ลงเอยด้วยการที่ผมจับมือน้องให้มาซ้อนท้ายรถของตนเองก่อนที่ลูกพี่ลูกน้องอย่างไอ้เหล้ามันชวนน้อง ใครจะไปยอมให้น้องไปกับมัน

"แน่ใจนะครับว่าเราจะไม่หลงทาง" น้องถามเมื่อเห็นคนอื่นขับไปไกลแล้วแต่เรายังตามหลังแถมยังเป็นคนสุดท้ายของทริปนี้ด้วย น้องถึงได้หวั่นกลัว

"ไม่หลงแน่ครับเพราะพี่รู้ทางจริง ๆ" ผมชำนาญทางอยู่แล้วไม่พาน้องหลงทางเหมือนอย่างที่เจ้าตัวกังวล

"แต่รักกลัวหลงนะครับ พี่เบียร์ขับเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอครับ" น้องเร่งให้ผมรีบขับไปใกล้กับเพื่อน ๆ แต่เปล่าประโยชน์เส้นทางนั้นที่เฮียพาไปคือเส้นทางที่อยู่ไกลจากที่หมายที่เรากำลังจะไปกัน

"ขับเร็ว มันไม่ปลอดภัยนะครับ หรือน้องหนูอยากลองขับเองครับเดี๋ยวพี่สอน" ผมเต็มใจสอนหากน้องอยากเรียน มีสถานที่ให้เริ่มฝึกด้วย น้องส่ายหน้า 

"พี่เบียร์โกหกแน่เลยครับที่บอกว่าขับเก่ง ถ้าพาหลงรักโกรธจริงด้วย รักอยากถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ นะครับ" เจ้าตัวพูดติดจะงอน คงกลัวหลงป่าและไม่ได้ถ่ายรูปกับเพื่อน ผ่านลำธารเล็กไปผมจึงหักเลี้ยวไปอีกเส้นทางที่ตรงข้ามกับรอยรถของคนอื่นที่ขับผ่านไปก่อนหน้า

"ครับ เดี๋ยวพาไปทางลัด รับรองถึงเร็วกว่าอีกครับ"

"ไม่หลงแน่นะครับ" น้องถามย้ำ 

"แน่ครับ" ผมขับรถอย่างมีสมาธิโดยมีน้องซ้อนข้างหลังแล้วชวนคุยไม่หยุด แรก ๆ น้องก็หวั่นกลัวเพราะแยกจากกลุ่มแต่พอได้เห็นธรรมชาติรอบข้างน้องก็เริ่มผ่อนคลายลง มือที่กอดเอวผมก็เริ่มผ่อนแรง ผมขับรถอย่างช้า ๆ เพื่อความปลอดภัย พอน้องได้ชมวิวรอบตัวก็เอ่ยชมธรรมชาติไม่หยุด จนเมื่อขับตามเส้นทางเดินที่คุ้นเคยผมก็จอดรถเมื่อพาน้องมายังที่หมายอย่างที่รับปากไว้

"ถึงแล้วครับ" พอลงจาดรถแล้วหันไปบอกก็แววตาน้องดูเปล่งประกายเมื่อเห็นน้ำตกแสนสวย เราต้องเดินเข้าไปอีกหน่อยหากอยากไปดูใกล้ ๆ แต่ผมมีสถานที่ที่ดีกว่านั้นรับรองว่าน้องต้องชอบมากกว่านี้ น้องลงจากรถแต่สายตายังคงมองน้ำตกไม่วางตา

"โห้สวยจัง พี่เบียร์รู้ว่ามีที่สวย ๆ แบบนี้ด้วยเหรอครับ" น้องถามน้ำเสียงตื่นเต้น ผมยื่นขวดน้ำให้เจ้าตัวก็ยอมดื่มแต่โดยดี เราเดินทางกันมานานก็ต้องมีกระหายน้ำบ้าง

"ก็ต้องรู้สิครับ ไม่งั้นพี่จะพามาถูกได้ไงจริงไหมครับ" ผมรับขวดน้ำจากน้องคืนแล้วดื่มน้ำต่อจากน้อง

"เหมือนจะฟลุ๊คยังไงก็ไม่รู้" น้องหรี่ตามองผมเหมือนจะสงสัย ผมแอบขำหลังดื่มน้ำเสร็จผมก็แขวนขวดน้ำไว้ที่รถไว้อย่างเดิม น้องเตรียมมือถือเพื่อเตรียมถ่ายรูป เจ้าตัวชอบถ่ายวิวธรรมชาติมากผมเลยอยากพาไปใกล้ ๆ

"ถ่ายรูปไหม พี่ถ่ายให้ครับ"

"ถ่ายครับ แล้วคนอื่น ๆ ล่ะครับ เมื่อไหร่จะถึง" ผมยื่นมือให้น้องได้จับ เราเดินจับมือกันไปใกล้น้ำตกแสนสวย ยิ่งใกล้เสียงน้ำก็ยิ่งชัดดังจนต้องเพิ่มเสียงในการคุย

"อีกสักพักครับ เฮียแกล้งพาวนไปอีกเส้นทาง" ผมเฉลยให้น้องได้รู้ ก็พวกเพื่อนผมมันไม่เคยมา ไม่แปลกที่จะโดนเฮียแกล้ง เชื่อว่าถ้าพวกนั้นรู้คงได้บ่น เพราะขนาดผมที่มารู้หลังจากที่โดนหลอกไปเส้นทางนั้นผมก็บ่นเฮียเหมือนกัน

"แกล้งงั้นเหรอครับ"

"ครับ เฮียแค่อยากให้ออกกำลังกายกันน่ะครับ" ผมแก้ตัวให้เฮียและช่วยเป็นช่างภาพถ่ายรูปให้น้องหลายสิบรูป น้องดูมีความสุขกับการเป็นนายแบบแสนน่ารัก ผมเงยหน้ามองข้างบนน้ำตกนั่น อยากพาน้องไปถ่ายข้างบนเวลาถ่ายรูปออกมามันจะสวยยิ่งกว่า

"ขึ้นไปข้างบนดีกว่าครับจะได้วิวสวยกว่านี้" ผมเสนอและก็ได้รับคำตอบโดยทันที

"ครับ" น้องไม่ได้ปฏิเสธแถมยังกล้าที่จะเดินตามผมมา ไม่รู้ว่าไว้ใจผมหรือเป็นคนชอบความท้าทายถึงได้ยอมไปง่าย ๆ สองเท้าผมเดินนำขึ้นมายังทางเดิน

"พี่ช่วยครับ" ผมยื่นมือเพื่อช่วยน้อง ร่างเล็กก็เอ่ยขอบคุณแล้วยื่นมือให้ผมจับ 

"ทางชันจังเลยครับ" ความชันและลื่นนั่นทำให้ผมกลัวว่าน้องจะตกจึงได้จับมือน้องแน่น "แบบนี้ถ้าตกละก็น่ากลัวนะครับ"

"ระวังด้วยครับ" หากอุ้มน้องได้ผมก็อยากจะทำ น้องจับมือผมทั้งสองมือเมื่อสะดุดรากไม้ผมก็พยุงน้องไว้มั่นคงแล้วยิ้มให้เจ้าตัว มือผมคู่นี้จะไม่ยอมปล่อยให้น้องตกลงไปเด็ดขาด

"ขอบคุณครับ" เราเริ่มเดินกันต่อ "ว่าแต่พี่เบียร์เคยมาที่นี่แล้วเหรอครับ"

"ก็เคยครับ พี่ เฮียและก็สองเดือนฝึกขับเอทีวีก็ที่นี่แหละครับ" ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือสถานที่นี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณลุง ซึ่งเป็นพ่อของเฮียโซดานั่นแหละ ช่วงวันหยุดในวัยเด็กตอนปิดเทอมใหญ่เรามักจะมาเที่ยวเล่นที่นี่อยู่บ่อย เพียงแต่พอโตขึ้นมาก็นานครั้งกว่าจะได้มา ไม่แปลกที่ผมจะรู้ทาง

"มิน่าแหละครับถึงได้ขับรถกันเก่ง" น้องเอ่ยชมทันที เจ้าตัวเก่งในการชื่นชมคนอื่น ผมนึกถึงวัยเด็กที่วิ่งเล่นกับญาติแล้วก็พลอยยิ้มออกมา

"แต่ไอ้เหล้าแพ้ทุกรอบเพราะมันหลงทางเก่ง"

"จริงเหรอครับ พี่เหล้าก็โม้ว่าตัวเองชนะหลายรอบแหนะ" ผมหันมามองก็เห็นใบหน้าหวานบึ้งตึงใส่ ผมลูบหัวน้องโดยไม่รู้ตัว เพราะชอบทำหน้าน่ารักแบบนี้ไม่แปลกใจทำไมเฮียชอบลูบหัวน้องบ่อย

"มันโกหกทั้งนั้นแหละครับ" ก็ไอ้เหล้ามันชอบหลงทางตั้งแต่เด็ก ผมก็ลืมดูไปเลยว่าตอนมามีใครนั่งกับมันด้วยหรือเปล่า ไม่ได้เป็นห่วงมันแต่ผมเป็นห่วงคนที่มากับมันต่างหาก

"ดีนะครับที่รักไม่ไปกับพี่เหล้าด้วย"

"น้องหนูอยู่กับพี่ดีแล้ว เห็นไหมพี่พามาถึงก่อนคนอื่นเลย" ได้ทีผมก็อวดตัวเองให้น้องชื่นชม เรียกว่าผมหวงก้างก็ได้แต่ผมไม่อยากให้ญาติตัวเองจีบน้อง ผมคงเห็นแก่ตัวจริง ๆ

"ครับ พี่เบียร์เก่งที่สุด ไม่สิครับ พี่เบียร์เก่งกว่าพี่เหล้าที่สุดครับ" ผมหยุดเดินแล้วหยิกแก้มน้องด้วยความลืมตัวอีกหน เรายิ้มเขินแล้วเริ่มเดินกันต่อ เดินขึ้นมาอยู่ข้างบนเหนือน้ำตกอย่างที่ตั้งใจไว้ แม้จะหอบและได้เหงื่อจากการเดินทางแต่มันก็ถือว่าคุ้มเมื่อเห็นน้องประทับใจ

"ว้าว พี่เบียร์ พี่เบียร์" น้องถึงกับพูดไม่ออก ตอนเด็กที่ผมขึ้นมาที่นี่ครั้งแรกผมก็ตื่นเต้นไม่ต่างจากน้อง เรานั่งพักกันเพื่อให้หายเหนื่อย ผมเห็นน้องจะถ่ายรูปอีกเลยอาสาช่วยอีกรอบ

"พี่ถ่ายรูปให้ครับ"

"ขอบคุณครับ" เจ้าตัวโพสต์ท่ารอ ผมหยิบมือถือตัวเองมาถ่ายรูปให้น้อง ไม่แปลกที่เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ น้องจะชอบถ่ายรูปเพราะขนาดอยู่กับผมก็ยังถ่ายรูปแทบทุบอย่าง เป็นคนประเภทชอบทิ้งร่องรอยไว้ในความจำแน่เลย แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ เพราะก่อนหน้านี้ดูน้องจะเขินและไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไหร่

"เซลฟี่ด้วยกันซิครับ" น้องเอ่ยชวนหลังเขินที่ผมเอ่ยชมว่าเจ้าตัวถ่ายรูปขึ้นกล้อง ผมขยับมาใกล้น้องพร้อมยื่นมือหามุมให้เราสองคนได้เข้ากล้อง ผมตั้งเวลาในการถ่ายไว้สามวินาที ตัวเลขในกล้องขึ้นนับถอยหลัง ร่างเล็กข้างกายฉีกยิ้มสู้กล้องอวดใบหน้าหวาน

แชะ ฟอด

"พี่เบียร์" ผมอยากหอมแก้มน้องหนึ่งฟอดแต่ก็ไม่กลัวน้องจะไม่อนุญาตจึงได้แต่หันหน้าไปมองน้องอย่างรีบร้อนไม่คิดว่าน้องจะเผลอขยับแก้มเข้ามาใกล้และชนกับจมูกของผม รูปในกล้องถ่ายติดเป็นรูปเหมือนน้องโดนผมหอมแก้มพอดี ผมแอบหน้าร้อนผ่าวแทน ทำอะไรลงไปวะเรา ก่อนจะรีบหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองอย่างเขิน ๆ

"หอมแก้มคืนครับ เมื่อคืนเราหอมแก้มพี่ด้วย"

"ครับ" น้องก็เขินไม่ต่างกัน เราต่างหันหน้าหนีก่อนจะสบตากันเมื่อได้ยินเสียงรถของทุกคนขับมาจอดข้างล่าง "เสียงนั่น"

"ทุกคนมากันแล้ว เราลงไปกันเถอะครับ" ผมชวนน้องพร้อมยื่นมือกันลงไปข้างล่าง น้องก็ยื่นมือให้ผมกุมือโดยดี ไม่รู้ซิ อยู่กับน้องแล้วอยู่ด้วยกันมันรู้สึกสบายใจจริง ๆ 



"พี่เบียร์ครับคืนนี้ไม่มีใครขึ้นมาบนดาดฟ้าแน่นะครับ" ได้ยินเสียงน้องกระซิบแล้วก็แอบเอ็นดู วันนี้ทั้งวันพวกเราเล่นน้ำตกกันหลายชั่วโมง กว่าจะได้กลับก็ช่วงบ่ายคล้อย เวลาว่างระหว่างนั้นก็เป็นเวลาส่วนตัว น้องก็แยกไปอยู่กับกลุ่มเพื่อน คอยส่งรูปมาอวดผมตลอด ทริปนี้ดูเจ้าตัวจะยิ้มสดใสมาก แอบนึกขอบคุณเฮียที่ใจดีพาพวกเรามา จนตกดึกหลังทานมื้อเย็นเสร็จ ผมชวนน้องที่นั่งรอบกองไฟด้วยกันขึ้นไปดูดาวบนดาดฟ้าน้องก็ตอบตกลง 

"ครับ พี่ล็อกประตูลงกลอนเรียบร้อย รับรองไม่มีใครขึ้นมาครับ" น้องใจชื้นระหว่างล้มตัวลงนั่งมองท้องฟ้ายามดึก ผมเดินมานั่งข้าง ๆ น้องอย่างใจเย็น สายลมยามดึกพัดผ่านแล้วรู้สึกหนาวหรือเพราะพวกเราเล่นน้ำกันหลายชั่วโมงผมถึงได้หนาวอย่างนี้  

"แต่รักคิดว่าคนอื่นน่าจะไม่มีใครมาแล้วครับเพราะเหนื่อยจากการกิจกรรมของวันนี้" 

"แล้วน้องหนูไม่เมื่อยเหรอครับ" ผมถามน้องกลับบ้าง ร่างเล็กหันมาสบตากัน 

"มีเมื่อยตัวนิดหน่อยครับ" เราต่างก็รู้สึกสนุกทั้งวันจนลืมไปเลยว่าเราอาจจะเมื่อยตัว การมาเที่ยวครั้งนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ผมก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองสบายใจเมื่ออยู่ใกล้น้อง หากเป็นเมื่อก่อนเวลามีใครเข้ามาในชีวิตผมมักจะปิดกั้นแต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว 

น้องเอามือกอดเข่าตัวเองระหว่างที่ผมกำลังยกมือถือถ่ายรูปวิวกลางคืน เป็นอีกคืนที่เราได้อยู่ด้วยกัน 

"คืนนี้พระจันทร์สวยดีนะครับพี่เบียร์" ผมหยุดชะงักลงหลังได้ยินน้องพูดท่ามกลางความเงียบสงบ 

"ครับ" 

"..." 

"พระจันทร์สวย แต่น้องหนูสวยกว่าครับ" เพราะสำหรับผมตอนนี้น้องหนูสวยสดใสกว่าอะไรทั้งสิ้นแล้ว 



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 22-10-2021 23:42:33
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 23-10-2021 13:08:01
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 24-10-2021 00:25:54
 :hao6:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 22
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 01-11-2021 17:15:16

 EPISODE : 22 คุณป๊าแวะมาหา

"จริง ๆ พี่เบียร์กลับห้องไปพักผ่อนก็ได้นะครับ ไม่น่าลำบากแวะมาส่งรักเลย" หลังกลับมาจากทริป รถบัสก็ขับมาจอดหน้าคณะของผมตามเดิม เพราะเพื่อนทั้งสองคนอาสาไปส่งเพ้นส์ พี่เบียร์จึงอาสาจะมาส่งผมแทน ที่จริงผมกลับกับเพื่อนก็ได้เพราะยังไงก็อยู่คอนโดเดียวกันอยู่แล้ว เพียงแต่กลับกับพี่เบียร์ก็ดี จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกันต่ออีกนิด 

"หือ แปลว่าน้องหนูไม่อยากอยู่กับพี่นาน ๆ แล้วเหรอครับ" พอถูกถามเข้าผมก็หันมองคนขับด้วยความตกใจ มารู้ใจผมว่าอยากอยู่ใกล้แต่ใจผมไม่รู้ว่าพี่เบียร์จะอยากอยู่ใกล้กับผมไหม

"นั่นก็อยากอยู่หรอกครับ แต่รักอยากให้พี่เบียร์พักผ่อนมากกว่า" บอกออกไปเพื่อให้พี่เบียร์รับรู้ถึงความห่วงใยของผม พี่เบียร์ละสายตาจากหน้ารถเพื่อหันมามองผมครู่เดียว

"ไว้พี่กลับไปพักผ่อนให้เต็มอิ่มครับ"

"ดีครับ" ขอแค่พี่เบียร์ไม่เจ็บไม่ป่วยผมก็มีความสุข พี่เบียร์ขับรถมาส่งที่คอนโดของผมโดยที่ผมไม่ได้บอกทางอีก มาแค่ครั้งเดียวพี่เบียร์ก็จำได้ทันที

"ขอบคุณครับ" ผมจับคาดเบลด้วยความลังเลว่าจะให้พี่เบียร์กลับเลยหรือจะรั้งให้อยู่ด้วยกันต่อ "เออ พี่เบียร์จะขึ้นดื่มน้ำก่อนไหมครับ" ถามไปแล้วก็กัดปากตัวเองเพื่อรอคำตอบอย่างคาดหวัง หากพี่เบียร์จะขึ้นไปด้วยผมก็ยินดี 

"พี่ขอล้างหน้าล้างตาให้มันสดชื่นหน่อยดีกว่าครับ" 

"ครับ เชิญครับ" ได้ยินแบบนั้นผมก็ดีใจ อย่างน้อยก็ได้ใกล้ชิดกับพี่เบียร์อีกหน่อย เราสองคนเดินขึ้นไปยังห้อง ผมให้พี่เบียร์ได้เข้าไปล้างหน้าก่อน ส่วนผมก็เดินไปยังห้องครัว ระหว่างเทน้ำจะดื่มเสียงมือถือดังขึ้น 

"ฮัลโหลครับคุณป๊า" ผมกรอกเสียงอ้อนเมื่อคุณป๊าสุดรักโทรเข้ามา 

(น้องหนูของป๊า ถึงคอนโดหรือยังคะลูก) ผมระบายยิ้มเมื่อเสียงของคุณป๊ายังคงอบอุ่นเหมือนเดิม วันหยุดรอบหน้าผมจะกลับบ้านไปกอดคุณป๊ากับคุณแม่ให้หายคิดถึง 

"เพิ่งถึงเองครับคุณป๊าหายห่วงได้เลยนะครับ หนูปลอดภัยดี" 

(ก็ป๊าเป็นห่วง ได้ยินแค่เสียงคงไม่ทำให้หายเป็นห่วง) 

"ครับ?" ผมสงสัยในน้ำเสียงของคุณป๊า คุณป๊าพูดแบบนี้มันหมายความว่าอะไร 

(ป๊ามาถึงคอนโดหนูแล้วนะคะ)

"อะไรนะครับ" ผมเบิกตากว้างตกใจ คุณป๊าจะมาหาผม แล้วพี่เบียร์อยู่ในห้องด้วย ถ้าคุณป๊ารู้เรื่องพี่เบียร์ผมตายแน่ 

(นี่ป๊าเข้ามาคอนโดหนูแล้ว กำลังรอลิฟต์เดี๋ยวเจอกันนะลูก)

"ป๊าครับ คุณป๊า!" คุณป๊าบอกด้วยน้ำเสียงชอบใจก่อนจะวางสายไป คาดว่าคงกำลังเข้ามาในลิฟต์แล้ว 

เอาแล้วไงซวยแล้ว  

"มีอะไรครับน้องหนู" พี่เบียร์ออกมาจากห้องน้ำและถามผมด้วยความอยากรู้ ผมจะบ้าตายแล้ว จะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี 

"พี่เบียร์หนูว่า เอ้ย รักว่าต้องรีบแล้วครับ คุณป๊ากำลังขึ้นมาที่ห้องแล้วครับ" สองมือเขย่าแขนพี่เบียร์ด้วยความกังวล ผมไม่อยากให้คุณป๊าเจอกับพี่เบียร์ในตอนนี้ มันอาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ได้ 

"เดี๋ยวครับ ใจเย็น ๆ" พี่เบียร์เตือนสติผม 

"ก็คุณป๊ากำลังขึ้นมา พี่เบียร์กลับก่อนเถอะนะครับ คุณป๊าของรักดุมาก รักไม่อยากให้คุณป๊าดุพี่เบียร์" ผมจะร้องไห้แล้ว คุณป๊าก็มาหาได้เวลาพอดิบพอดี 

"อะ ๆ ได้ครับพี่กลับก่อนก็ได้" พี่เบียร์คงเห็นว่าผมกลัวคุณป๊าจะดุเลยยอมกลับแต่โดยดี "แต่หอมแก้มพี่ก่อนสิครับ"

"พี่เบียร์ อย่าแกล้งกันสิครับ" พี่เริ่มงอแงเมื่อคิดว่าพี่เบียร์กำลังล้อเล่น 

"ไม่แกล้งครับพี่เอาจริง" ร่างสูงบอกด้วยท่าทีเอาจริงพร้อมยื่นแก้มให้ผมได้หอมแก้ม 

"ก็ได้ครับ" จุ้ฟ ผมไม่มีทางเลือกอื่นอยู่แล้ว พี่เบียร์อวดยิ้มแสนเจ้าเล่ห์นั่นระหว่างที่เราเดินไปยังประตู 

"พอใจไหมครับ" ผมถามคนตัวโตเมื่อเปิดประตูให้พี่เบียร์ได้ออกจากห้อง 

"พอใจที่สุดครับ" ฟอดดด 

"พี่เบียร์" ผมไม่ทันได้ตั้งตัวเลย พี่เบียร์ลูบหัวผมก่อนจะบอก 

"พี่ไปนะครับ" 

ติ้ง!!

"คุณป๊า ไม่ทันแล้ว ๆ พี่เบียร์ไปซ่อนครับ ซ่อนในห้องนอนรักก็ได้ครับคุณป๊าไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายก่อนได้รับอนุญาตอยู่แล้ว" ผมดึงพี่เบียร์เข้ามาในห้องแล้วดันหลังพี่เบียร์ให้เข้าไปข้างในเสียงเคาะดังขึ้นพร้อมเสียงคุ้นของคุณป๊า

"อยู่ในห้องรักไปก่อนนะครับ รักจะรีบบอกให้คุณป๊ากลับครับ"

"ครับ" เมื่อปิดประตูห้องแล้วผมพ่นลมหายใจ ยอมรับว่าตื่นเต้นมากเพราะกลัวคุณป๊าจะรู้ว่าผมกำลังมีเรื่องปิดบัง เมื่อเดินไปเปิดประตูคุณป๊าก็อ้าแขนรอกอดผมเช่นเคย 

"น้องหนูของป๊า" ผมกอดคุณป๊าและแอบปาดเหงื่อตัวเอง คนติดตามของคุณป๊าขออนุญาตเอาของไปวางข้างใน ผมผละจากคุณป๊าแล้วพาคุณป๊าเข้ามาในห้อง 

"คุณป๊า ทำไมมาเร็วจังเลยครับ"

"ก็ป๊าคิดถึงน้องหนูไงคะ แล้วเป็นไงบ้าง ไปเที่ยวนุกไหม"

"สนุกครับ สนุกมาก หนูชอบด้วย"

"ดีจัง แต่ผิวหนูดูคล้ำขึ้นนะลูก ป๊าว่าวันหยุดนี้หนูไปเช็คผิวดีกว่านะคะ เดี๋ยวป๊ามารับ" ผมมองดูผิวตัวเอง มันดูคล้ำขึ้นก็จริงแต่ผมยังไม่อยากคุยเรื่องนี้ ต้องทำทุกวิธีทางให้คุณป๊ากลับโดยไว 

"ไม่ ๆ คุณป๊าก็รู้ว่าหนูชอบผิวตัวเองมาก ๆ ถ้ายังไงคุณป๊าไปกับน้องเจ้าขาดีกว่านะครับ"

"รายนั้นอ้อนป๊าทุกวันแล้ว แต่ป๊าอยากให้หนูอ้อนป๊าเหมือนเมื่อก่อนมากกว่า" คุณป๊าสำรวจห้องผมเลยเข้าไปอ้อนควงแขนให้คุณป๊ามานั่งเล่นเพื่อดูทีวีด้วยกัน 

"หนูโตแล้วนะครับ เข้ามหาลัยแล้วหนูดูแลตัวเองได้" ผมโตแล้วจริง ๆ "อีกอย่างก็มีโนกับแพร์คอยดูแลด้วยนะครับ"

"เพราะโตนั่นแหละหนูเลยห่างป๊าไปอีกคน เหมือนพี่หมอ รายนั้นก็ไม่กลับมาบ้านเลยตั้งแต่เปิดร้าน" ก็พี่หมอติดคลีนิกมากกว่าบ้าน ไม่แปลกที่จะไม่ค่อยมีเวลากลับบ้าน 

"คุณป๊าเหงาเหรอครับ"

"เหงาสิ ลูก ๆ พากันโตกันหมดแล้ว ปีหน้าน้องเจ้าขาก็จะเข้ามหาลัยด้วย" คุณป๊าที่ติดลูกชายทั้งสามเอ่ยแกมงอน ผมก็อยากจะกลับบ้านบ่อย ๆทเหมือนตอนมัธยมแต่พอได้ใช้ชีวิตที่มหาลัยแล้ว ตารางชีวิตก็เปลี่ยนไปหมด การจะกลับบ้านแต่ละครั้งก็ต้องดูก่อนว่ามันว่างจริง ๆ เพราะถ้ากลับบ้านเมื่อไหร่คุณป๊าจะรั้งให้อยู่นาน 

"โอ๋ ๆ ครับ ไว้หนูจะกลับบ้านบ่อย ๆ นะครับคุณป๊าจะได้หายคิดถึง"

"ป๊าจะรอนะ" คุณป๊าชอบแพ้ลูกอ้อน ตั้งแต่เด็กจนโตแค่พวกเราสามคนอ้อนอยากได้อะไรคุณป๊าก็หามาให้ได้ "ป๊าซื้อของกินที่หนูชอบเยอะแยะด้วย อย่าลืมกินนะ"

"ครับ แล้วคุณแม่ไม่มาด้วยเหรอครับ" ผมมีของกินตุนไว้ให้เพื่อนได้กินอีกหลายวัน นายโนกับแพร์คงได้แวะมาห้องผมอีกหลายรอบ 

"แม่ติดธุระที่บ้านเด็กกำพร้าน่ะป๊ากำลังจะไปรับแล้ว หนูจะไปด้วยไหม" คุณป๊าถามแต่ผมปฏิเสธ ก็พี่เบียร์ยังอยู่ในห้องผมไปไม่ได้หรอก 

"ไม่ดีกว่าครับ หนูเหนื่อยจากการเดินทาง คุณป๊าฝากความคิดถึงถึงคุณแม่ด้วยนะครับ" 

"ครับลูก งั้นป๊าไปนะ ดูแลตัวเองด้วย" คุณป๊าลุกขึ้นเมื่อมีธุระต่อต้องไปรับคุณแม่ ผมแอบโล่งใจที่ไม่ต้องติดหาวิธีให้คุณป๊ากลับ 

ผมเดินมาส่งคุณป๊าที่ลิฟต์เพราะคุณป๊าไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของผม 

"รักคุณป๊าครับ" คุณป๊าโบกมือบายบาย จนเมื่อประตูลิฟต์ปิดลง

ฟูววว ผมพ่นลมหายใจโล่งอกอีกรอบเมื่อคุณป๊ากลับไปสักทีสองเท้ารีบวิ่งกลับไปห้องตัวเองพร้อมเปิดห้องนอนปรากฏว่าเห็นพี่เบียร์นอนหลับบนเตียง

อะไรเนี่ย พี่เบียร์หลับบนเตียงนอนผมซะงั้น ผมก็กังวลแทบตาย แต่ใบหน้าตอนนอนก็ยังน่ารักไม่เปลี่ยน 

"พี่เบียร์ครับ คุณป๊ากลับแล้วครับ" ผมกระซิบบอกเบา ๆ พี่เบียร์ไม่รู้สึกตัวใด ๆ คงเพลียจากการเดินทางไม่ต่างกัน 

ถือว่าผมปลุกแล้วนะแต่พี่เบียร์ไม่ตื่นเอง 



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 01-11-2021 22:59:28
 :z10: :hao7:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 23
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 08-11-2021 16:54:12
  EPISODE : 23 มาหาเพราะคิดถึง



'คืนนี้ผมทำงานที่ตึกคณะนะครับพี่เบียร์'

พิมพ์ข้อความเพื่อบอกให้พี่เบียร์รู้ว่าคืนนี้ผมอาจจะกลับห้องดึก เพราะตั้งใจไว้ว่าจะทำรายงานกลุ่มและงานเดี่ยวบางตัวให้เสร็จก่อนที่งานมันจะดองจนขี้เกียจทำ พี่เบียร์อ่านข้อความจากผมทันทีแล้วตอบกลับมา



'รับทราบครับ'



ตอบเพียงแค่นั้นแล้วพี่เบียร์ก็หายเงียบไป ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้เนื่องจากรู้ว่าพี่เบียร์ก็กำลังยุ่งกับงานของตัวเอง ตั้งแต่วันที่ไปทริปมันก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วแต่ผมยังไม่ลืมความสนุกในทริปนั้นอีก แค่คิดถึงก็อยากเที่ยวอีกแล้ว แต่ไม่ละตอนนี้ผมต้องทำรายงานและโฟกัสเรื่องเรียนก่อน

ผมและเพื่อนในกลุ่มเริ่มนำข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ได้ปรึกษา แบ่งหน้าที่ให้ไปหา เพ้นส์ถือเป็นหัวหน้าของกลุ่มผู้ที่ทำแทบจะทุกอย่างของรายงานชิ้นนี้ ผมไม่อยากเอาเปรียบเพื่อนเพราะฉะนั้นจึงได้ทำตามทุกอย่างที่เพ้นส์บอก ให้หาเรื่องไหนก็หาให้ได้มากที่สุดแล้วสรุปความเข้าใจให้เพ้นส์

เพื่อนในกลุ่มอีกสามคนก็คุยโม้กินขนมกันเสียงดัง หลายครั้งเพ้นส์ดุเพื่อนก็เงียบสักพักก็คุยกันใหม่ ผมช่วยป้อนขนมให้เพ้นส์ได้กินและช่วยนวดไหล่ไม่ให้เพ้นส์โมโหมากเกินไป



'ลงมาหน้าคณะหน่อยครับน้องหนู'



ผมอ่านข้อความที่ส่งมาด้วยความสงสัย คิ้วขมวดเข้าหากัน ทำไมพี่เบียร์ถึงได้บอกให้ผมลงไปหน้าคณะ มันดึกแล้วยุงเยอะผมไม่อยากลงไปเท่าไหร่



'ทำไมเหรอครับพี่เบียร์'



'พี่ทำโปรเจคเสร็จแล้ว คิดถึงเลยแวะมาหาครับ'



เห็นเพียงแค่ข้อความก็ทำให้ผมยิ้ม พี่เบียร์มาหาผมที่คณะเพียงเพราะว่าคิดถึง เห็นท่าทีของผมแล้วเพ้นส์เลยหันมามอง

"เป็นอะไรเหรอรัก"

"เปล่า ๆ รักขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" ผมไม่อยากบอกต่อหน้าเพื่อนคนอื่นว่ากำลังจะไปเจอพี่เบียร์ เพ้นส์พยักหน้าแล้วก้มหน้าสนใจงานกลุ่มต่อ ผมรีบวิ่งลงมาจากชั้นสองของคณะด้วยความดีใจ ไม่ได้เจอหน้าพี่เบียร์ตั้งสามวันผมเองก็คิดถึงเหมือนกัน

"พี่เบียร์ครับ"

"ครับ พี่เอาขนมมาฝาก" พี่เบียร์ยื่นถุงขนมในมือผมตั้งใจจะรับแต่ร่างสูงก็ขยับมือหนี จะแกล้งกันอีกแล้วใช่ไหมพี่เบียร์ แขนล่ำทั้งสองอ้ากว้างเพื่อขอสิ่งตอบแทน

"กอดก่อนถึงจะได้ขนมครับ" ผมไม่คิดว่าพี่เบียร์จะมีมุมนี้ถ้าบอกว่าเขินพี่เบียร์ก็ไม่ใช่ ผมอยากกอดพี่เบียร์เหมือนกันแต่นี่มันที่สาธารณะผมเลยลังเล พี่เบียร์ยังยืนรอผมเข้ามาสู่อ้อมอกเพื่อแลกกับขนม

"ไม่กอดวันหลังจะไม่มีบริการนี้แล้วนะครับ" ผมหันซ้ายหันขวามองดูว่ามีคนมองไหมเมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครร่างกายถึงได้ขยับเข้าไปกอดพี่เบียร์ด้วยความคิดถึง สองแขนของพี่เบียร์ก็โอบกอดผม ไม่รู้คิดไปเองไหมแต่ผมได้ยินเสียงหัวใจของพี่เบียร์ว่ามันเต้นแรง

"คิดถึงนะครับ"

"คิดถึงเหมือนกันครับ" พี่เบียร์แค่แวะมาชาร์ตพลังกับผมไม่นานก็ขอตัวกลับไปนอน ผมเข้าใจเพราะตลอดสามวันนี้พี่เบียร์ทำโปรเจคของตัวเองจนแทบไม่มีเวลานอน ผมยืนรอจนรภพี่เบียร์ขับห่างออกไปจึงได้เดินเข้ามายังคณะด้วยสีหน้าแต้มยิ้มมีความสุข เพื่อนในกลุ่มต่างดีใจที่ผมมีขนมมาตุนเพิ่มระหว่างทำรายงาน ความสัมพันธ์ระหว่างเรามันขยับขึ้นมาอีกขั้นแล้ว 





ก๊อก ก๊อก ก๊อก

ช่วงสายของเช้าวันใหม่ผมได้ยินเสียงเคาะประตู เช้านี้อาจารย์ยกเลิกคลาสผมถึงได้ว่างในช่วงคาบเช้า มีเรียนอีกตัวก็ตอนบ่ายสาม เพราะฉะนั้นผมจึงมานั่งดูซี่รีส์เรื่องโปรดเรื่องเดิม ดูเป็นสิบรอบแล้วดูจนจำบทพูดแต่ละฉากได้แต่ผมก็ยังไม่เบื่อ ผมลุกขึ้นและรีบวิ่งไปเปิดประตูคิดว่าคงจะเป็นเพื่อนทั้งสองคน แต่ก็ต้องแปลกใจมากที่ได้เจอพี่เบียร์

"โหขนมเยอะมาก" ผมคิดว่าพี่เบียร์น่าจะอยากขุนผมให้อ้วนเพราะช่วงนี้ชอบเอาขนมมาให้ผมกินตลอด ถ้าผมอ้วนขึ้น มีแก้มมากกว่านี้พี่เบียร์จะรู้สึกชอบผมบ้างไหม

"พี่ไม่รู้ว่าน้องหนูชอบขนมแบบไหนที่สุดเลยซื้อมาฝากให้หมด" ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่คาดคิดว่าพี่เบียร์จะซื้อมาให้เยอะขนาดนี้ที่ห้องผมก็ไม่ได้ขาดแคลน มีของตุนทุกอย่างพร้อมอยู่แล้ว

"แล้วจะไม่เชิญพี่เข้าห้องหน่อยหรือครับ" จริงด้วยผมลืมไปเลย

"เชิญครับ" ผมหลีกทางเพื่อให้พี่เบียร์ได้เดินเข้ามา ระหว่างเราเริ่มขยับความสัมพันธ์มาทีละนิดจนบางทีผมก็คิดว่าความสัมพันธ์ของเรามันขยับเร็วไปด้วยซ้ำ

"พี่คิดถึงครับ ไม่โกรธใช่ไหมที่พี่แวะมาหาโดยไม่บอกก่อน" ผมวางขนมไว้แล้วหยิบรีโมทกดลดเสียงทีวี การที่พี่เบียร์คิดถึงและแวะมาหาโดยไม่ได้นัดกันก่อนมันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม

"ไม่ครับ รักดีใจมากกว่าที่พี่เบียร์คิดถึงรักแต่รักไม่เห็นจะคิดถึงพี่เบียร์สักนิด"

"คนน่ารักใจร้ายทุกคนเลยหรือไงนะ คุณแม่พี่ก็ใจร้ายเหมือนเราเลย" มือหนาหยิกแก้มผม มันรู้สึกตื่นเต้นที่พี่เบียร์ชอบทำอย่างนี้กับผม หัวใจผมยิ่งชอบเมื่อพี่เบียร์ใกล้ชิดผมมากขึ้น

"ว่าคุณแม่ รักฟ้องคุณแม่พี่แน่!" ผมแอบขู่พี่เบียร์ ร่างสูงหัวเราะคงรู้ว่าผมไม่ได้พูดจริง

"ฮาๆ เข้าทางแม่พี่สินะเรา" ผมเดินเลี่ยงไปหยิบน้ำดื่มมาต้อนรับพี่เบียร์ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน เมื่อคืนเจอกันไม่กี่นาทีก็ยังไม่หายคิดถึง "พี่ว่าจะกลับบ้านนะเลยแวะมาบอกครับ" ผมวางน้ำบนโต๊ะหน้าโซฟา

"กลับบ้านกี่วันครับ" พอรู้ว่าต้องห่างกันไปอีกแล้วหัวใจผมก็รู้สึกโหวง ๆ แม้เรายังไม่ได้เป็นอะไรกันก็จริง "แล้วบ้านพี่เบียร์อยู่ไกลไหมครับ" ผมอยากขออนุญาตไปด้วยแต่มันคงจะดูน่าเกลียดเกินไป

"บ้านพี่อยู่ไม่ไกลเลยครับขับรถไม่ถึงชั่วโมงก็ถึง อยากไปด้วยไหมครับ" ผมตาวาวทันทีที่ได้ยินพี่เบียร์เอ่ยชวน รู้สึกตื่นเต้นจนรีบพยักหน้ารัว ๆ จะได้ไปบ้านพี่เบียร์จริงงั้นเหรอ

"รักไปได้เหรอครับ"

"ก็ได้นะพี่แค่จะแวะไปเอาของที่บ้านแค่นั้นเองครับ"

"งั้นพี่เบียร์รอแปปเดียวนะครับ รักจะรีบเปลี่ยนเสื้อครับ" ผมไม่รีรอปล่อยให้พี่เบียร์ได้นั่งดูซีรี่ส์ส่วนตัวเองก็เข้าไปในห้องนอน จัดการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ๆ เพื่อออกไปข้างนอกกับพี่เบียร์ เรียกว่าเป็นการเดทได้ไหมนะ ไม่สิไม่ได้เป็นการเดทสักหน่อยแต่เป็นการไปบ้านของว่าที่แฟนมากกว่า ผมเดินออกมาพร้อมกับปิดประตูที่ระเบียงหันมาอีกทีพี่เบียร์ก็ปิดทีวีให้แล้ว

"เรียบร้อยครับ" พี่เบียร์เงยหน้าจากการก้มมองมือถือ ร่างสูงลุกขึ้นเต็มความสูง เรื่องเรียนที่มีอีกหนึ่งคาบช่วงบ่ายสามผมกะว่าจะลา เพราะยังไงคาบนี้อาจารย์ไม่เช็คชื่ออยู่แล้ว

"ไปครับ"

"ครับ" ผมสั่นไหวเพราะถูกพี่เบียร์กุมมือโดยไม่ทันตั้งตัว เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าพี่เบียร์จะถึงเนื้อถึงตัวผมไวตลอด อยู่ใกล้พี่เบียร์ทุกครั้งหัวใจผมทำหน้าที่หนักทุกวัน

"พ่อกับแม่พี่อยู่บ้านด้วยนะครับ ถ้ายังไงเราทานข้าวที่บ้านพี่ก่อนกลับนะครับ"

จะได้เจอคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์งั้นเหรอ แบบนี้มันน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว 

"ครับ" 





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 08-11-2021 21:54:41
พามาเปิดตัวแล้ว1
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: cakecoco-boom ที่ 09-11-2021 10:51:58
 :pig4:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 24
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 11-11-2021 17:19:29

EPISODE : 24 ไปบ้านของพี่เบียร์

"ทำไมผมตื่นเต้นก็ไม่รู้ เปลี่ยนใจตอนนี้ได้ไหมครับ" ผมไม่เชิงถามพี่เบียร์แต่กำลังถามใจตัวเองมากกว่า ตั้งแต่พี่เบียร์บอกว่าที่บ้านมีคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ด้วยผมก็เริ่มวิตกกลัว ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เบียร์ผมยังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกำลังจะได้ไปบ้านแฟน

"ไม่ทันแล้วครับเลี้ยวซอยข้างหน้าก็ถึงบ้านพี่แล้ว" ผมมองข้างหน้าทางแยกตามที่พี่เบียร์บอก ยิ่งใกล้บ้านพี่เบียร์ผมยิ่งตื่นเต้น เหงื่อผมเริ่มออกมาตามร่างกาย พี่เบียร์ยื่นมือมากุมมือผมที่เย็นเฉียบ ผมกลืนน้ำลายด้วยความวิตก

"ไม่ต้องห่วงหรอกครับทุกคนที่บ้านพี่ใจดีทั้งนั้น"

"..." ถึงจะใจดีกันแค่ไหนผมก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ พี่เบียร์กลับไปมีสมาธิกับการขับรถ ผมเลียริมฝีปากตัวเองเพราะมองเห็นบ้านหลังใหญ่ คิดว่าคงใช่บ้านของพี่เบียร์

"นี่บ้านพี่เบียร์หมดเลยหรือครับ กว้างมาก" ผมตกใจมากกว่าเพราะบ้านของพี่เบียร์หลังใหญ่และกว้างมาก ไม่ได้มีแค่บ้านหลังเดียวที่อยู่ในรั้ว พี่เบียร์ขับรถเข้ามาจอดรถในบ้านหลังโต

"บ้านหลังอื่นก็เป็นบ้านของพี่เบียร์เหรอครับ" อดไม่ได้ที่จะถาม พี่เบียร์เดินมากุมมือผมพลางอธิบาย

"เปล่าครับ บ้านหลังถัดไปเป็นบ้านของคุณป้าแม่เฮีย ส่วนบ้านถัดไปอีกก็บ้านไอ้แฝดลูกของคุณน้าพี่ครับ"

"อ้อ" ผมพยักหน้าน้อย ๆ

"คุณตาของพวกพี่เอาที่ดินตรงนี้มาสร้างบ้านไว้ให้ลูกหลาน เพราะอยากให้อยู่ใกล้กันดูแลกันนะครับมันเลยกลายเป็นอย่างนี้แต่พี่ก็ชอบนะครับ อยู่ใกล้กันไปมาหาสู่กันได้ง่าย" คงจะเหมือนบ้านผมและเพื่อนทั้งสองที่อยู่ใกล้กัน ไปมาหาสู่เข้าออกบ้านไหนก็ได้เพราะทุกบ้านสนิทกัน

"คุณตามีลูกสาวสามคนด้วยนะครับเลยสร้างบ้านมาให้อยู่ใกล้สายตา"

"บ้านรัก โนและแพร์ก็อยู่ติดกันครับ เราสนิทกันมาตั้งแต่เข้าอนุบาลจนตอนนี้ก็เรียนอยู่ด้วยกัน ไม่ห่างไปไหน" บอกให้พี่เบียร์ได้รู้เรื่องราวของผมกับเพื่อนบ้าง ผมถูกพาเข้ามาข้างในบ้านจนลืมความตื่นเต้น พี่เบียร์ทักทายผู้ใหญ่ที่นั่งคุยกันบริเวณห้องรับแขกผมตกใจที่เห็นบรรดาญาติของพี่เบียร์ไหนพี่เบียร์บอกว่าที่บ้านมีแค่คุณพ่อกับคุณแม่ไง

"พี่เบียร์ของแม่มาถึงแล้วเหรอคะ" ผมเบิกตากว้างที่เห็นคุณแม่ของพี่เบียร์เดินกอดแล้วหอมแก้มซ้ายขวา ไม่เคยคิดว่าผู้ชายแบบพี่เบียร์จะแสดงออกความรักกับครอบครัวได้เก่ง ผมยกมือไหว้ทักทายครอบครัวของพี่เบียร์ทั้งหลาย คุณแม่ของเบียร์มองผมหลังจากที่กอดกับลูกชายจนอิ่มใจ

"คนนี้ใครคะพี่เบียร์ ปกติพี่เบียร์ไม่ชอบพาใครมาที่บ้าน" ผมสบตากับพี่เบียร์ มือหนากุมมือผมไว้คงเพราะอยากให้กำลังใจ ท่องเอาไว้ทุกคนที่บ้านของพี่เบียร์ใจดีทุกคน

"สวัสดีครับ"

"น้องหนูครับคุณแม่ คนนี้แหละครับแฟนผม" ได้ยินพี่เบียร์แนะนำอย่างนั้นไปผมหันขวับไปมองพี่เบียร์ทั้งตกใจ ตื่นเต้นและดีใจ พี่เบียร์เปลี่ยนมากอดเอวผม สถานการณ์รอบตัวเปลี่ยนไปจากเดิม คุณแม่พี่เบียร์มองผมคล้ายกับสำรวจ

"อย่าล้อเล่นกันสิครับพี่เบียร์ รักชื่อเจ้ารักครับคุณแม่ เป็นรุ่นน้องที่มหาลัย" ผมรีบแก้ตัวให้ มาบอกว่าผมเป็นแฟนอย่างนี้ผมจะตายเพราะความดีใจเอาได้ พี่เบียร์หัวเราะเพราะโดนผมตีอก คุณแม่พี่เบียร์ดูไม่ได้ตกใจหรือต่อว่าอะไรผมถึงได้โล่งใจไปเปราะหนึ่ง

"แค่รุ่นน้องจริงเหรอคะ เสียดายเลยค่ะแม่นึกว่าจะได้เจอหน้าแฟนพี่เบียร์แล้ว" พี่เบียร์กับคุณแม่มองตากัน คงกำลังหยอกล้อรู้ใจกันอยู่สองคน พี่เบียร์แนะนำให้ผมรู้จักกับคุณป้าและคุณน้า ก่อนจะพาผมไปแนะนำคุณพ่อและสามีของคุณป้ากับคุณน้า ผมรู้สึกเหมือนกดดันเพราะได้เจอคุณพ่อของพี่เทคตัวเอง คุณพ่อเฮียโซดาดูดุ แววตาก็แข็งกระดาน ผิดกับคุณพ่อของพี่เบียร์ที่ดูผ่อนคลาย

"ผมพาน้องขึ้นไปข้างบนนะครับแม่ เดี๋ยวลงมาครับ" พี่เบียร์บอกคุณแม่ ผมรู้สึกคลายความอึดอัดลงไป คุณแม่พี่เบียร์แตะแขนผมและยิ้มด้วยมิตรไมตรี ไม่แปลกใจที่พี่เบียร์บอกว่าทุกคนที่บ้านพี่เขาใจดี

"ได้ค่ะ เดี๋ยวแม่ให้เด็กเอาของว่างไปให้นะคะ"

"ขอบคุณครับ" ผมเดินตามพี่เบียร์ขึ้นมายังชั้นบน ห้องนอนพี่เบียร์อยู่ฝั่งปีกซ้าย เห็นหน้าประตูห้องพี่เบียร์มีกระดานข้อความด้วย พี่เบียร์มีแต่เรื่องแปลกใจตลอดเวลา

"น้องพันช์เขียนถึงพี่เต็มหน้ากระดานแล้ว" ผมยืนมองพี่เบียร์อ่านข้อความจากคนที่ชื่อพันช์ ได้ยินพี่เบียร์เรียกน้องด้วยหรือจะเป็นน้องของพี่เบียร์

"ยัยคนนี้งอแงให้พี่กลับบ้านตลอดเลย" พี่เบียร์เปิดประตูห้องนอน ผมสูดลมหายใจเข้าเพราะคุมความตื่นเต้นไม่อยู่ จะได้เข้าห้องพี่เบียร์แล้ว ตื่นเต้นชะมัด

ห้องพี่เบียร์ตกแต่งเป็นโทนสีน้ำเงินทะเล ภายในห้องมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทุกอย่างขนาดตู้เสื้อผ้ายังดูแพง เสื้อผ้าในนั้นก็ถูกจัดเป็นระเบียบมาก ห้องนอนสะอาดเอี่ยม ไม่แน่ใจว่าช่วงที่พี่เบียร์ไม่อยู่คุณแม่เข้ามาทำความสะอาดหรือพี่เบียร์จะเป็นพวกหวงห้องนอนถึงขั้นดูแลห้องเอง

"น้องพันช์คือน้องพี่เบียร์เหรอครับ" ผมถามถึงเรื่องน้องพันช์แทน มายืนเก้ ๆ กัง ๆ ห้องพี่เบียร์จนพี่เบียร์ต้องดึงมือผมมานั่งบนเตียง

"ครับ เป็นสาวน้อยคนเดียวของตระกูลด้วย ตอนนี้ก็ใกล้จะจบม.ต้นแล้ว" ผมเพิ่งจะสังเกตรูปครอบครัวที่ตั้งโชว์ พอหันมองไปอีกก็เห็นว่ามีแต่รูปของน้องพันช์ พี่เบียร์ต้องเป็นพี่ชายที่รักน้องสาวมากแน่เลย

"แล้วน้องหนูล่ะครับ มีพี่น้องกี่คน"

"สามคนครับ มีพี่เจ้าคุณ รักและก็เจ้าขาครับ" ผมรีบแนะนำครอบครัวของตัวเองเพื่อให้พี่เบียร์รู้อย่างรวดเร็ว อยากให้พี่เบียร์ได้รู้จักกับครอบครัวผมบ้าง 

"รักอายุห่างกับพี่เจ้าคุณตั้งแปดปี ส่วนเจ้าขาเราห่างกันแค่ปีเดียวครับ แต่เราไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่เพราะเจ้าขาชอบแกล้งรักครับ" พี่เบียร์ตั้งใจฟังผมพูด ระหว่างนั้นผมก็เห็นว่าพี่เบียร์เริ่มปลดกระดุมข้อมือ ห้องก็เปิดแอร์ฯแล้วพี่เบียร์ยังรู้สึกร้อนหรือไง

"พี่เบียร์ จะทำอะไรครับ อย่าถอดเสื้อนะครับ" ผมรีบปิดตาทันที เข้าใจว่านี่คือห้องของพี่เบียร์ แต่พี่เบียร์จะมาทำอะไรตามใจชอบไม่ได้ ผมยังอยู่ทั้งคนหรือพี่เบียร์จะให้ผมออกไปข้างนอกก่อน ได้ยินเสียงหัวเราะจากเจ้าตัว พี่เบียร์ต้องคิดแกล้งผมอยู่แน่ ๆ ผมมารู้สึกตัวก็ตอนที่พี่เบียร์เดินมายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมทั้งเอามือผมให้ออกห่างจากใบหน้า

คนชอบแกล้งยิ้มเมื่อได้แกล้งให้ผมตื่นตูม "ขี้แกล้ง" ก็ผมคิดว่าพี่เบียร์จะถอนเสื้อผ้าจริง ๆ

"พี่ไม่แกล้งแล้วก็ได้ เปิดเกมเล่นหรือดูทีวีไปก่อนนะครับพี่ขอหาของก่อนเดี๋ยวพี่มาครับ" ในท้ายประโยคน้ำเสียงเอ่ยบอกดูไม่มีวี่แววขี้แกล้งเช่นก่อนหน้า "รอพี่นะครับ"

"ครับ" ถึงจะไม่กล้าสบตาแต่ผมก็ขานรับปากด้วยความเข้าใจ ผมปล่อยให้พี่เบียร์หาของระหว่างนั้นก็นั่งสำรวจภายในห้องนอนของพี่เบียร์อย่างละเอียดก่อนจะคิดอะไรบางอย่าง ถ่ายรูปอวดเพื่อนดีกว่าว่าวันนี้ผมได้มาบ้านพี่เบียร์แล้ว

(ส่งรูปภาพ)

'อยู่ห้องพี่เบียร์นะ ตื่นเต้นมาก ๆๆๆ'

ผมกดส่งข้อความเสร็จก็ปล่อยเบลอไม่สนใจเพื่อนว่าจะตอบอะไรกลับมา เชื่อเถอะเพื่อนต้องดีใจกับผมแน่เลยที่ได้มาบ้านของคนที่แอบรัก

'ออกจากห้องพี่เบียร์เลยนะรัก'

'เชี่ยรัก มึงจะนอนห้องพี่เขาแล้วหรือไง มึงอย่าใจอ่อนให้พี่เขาง่าย ๆ สิเว้ย'







หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 13-11-2021 22:44:31
 :hao6:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: tiger2006 ที่ 14-11-2021 12:36:52
 :hao7: :hao7: :hao6: :mew1:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 25
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 15-11-2021 18:54:10
EPISODE : 25 คุณพ่อคุณแม่ของ​​​​​​พี่เบียร์



"พี่เบียร์ล่ะคะลูก" ทันทีที่ผมลงมาข้างล่าง คุณแม่ของพี่เบียร์ก็เดินมาถามเล่นเอาผมที่กำลังมองดูรูปภาพในบ้านสะดุ้งตกใจ แต่เมื่อเห็นรอยยิ้มของคุณแม่ผมก็คลายความกังวล 

"พี่เบียร์หาของอยู่ครับ รักว่างก็เลยว่าจะลงมาช่วย เผื่อคุณแม่อยากได้ผู้ช่วยทำกับข้าว" ผมอาสาเพราะจะให้อยู่เฉย ๆ ก็รู้สึกเกรงใจ คุณแม่พี่เบียร์เดินมาใกล้ พลางจับมือผมอย่างเป็นกันเอง แม้จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อยแต่ผมก็รู้สึกดีที่คุณแม่พี่เบียร์ไม่ได้ตั้งแง่ไม่ชอบผมอย่างที่ผมกังวล

"ไม่ต้องหรอกลูก ที่บ้านมีแม่ครัวอยู่แล้วค่ะ" คุณแม่บอกเสียงหวาน ผมเพียงพยักหน้าเล็กน้อย 

"ครับ" ผมหันไปสนใจรูปต่อ  "รูปนี้พี่เบียร์ตอนเด็กใช่ไหมครับ น่ารักมาก" ผมรีบชวนคุยเรื่องอื่นต่อก่อนที่ผมจะกลายเป็นใบ้เงียบนิ่งไม่มีเรื่องจะพูดคุยสานสัมพันธ์ที่ดีกับคุณแม่ของคนที่ผมแอบรัก คุณแม่มองดูรูปแล้วยิ้มตามมือของท่านหยิบเอารูปใบนั้นมาดูใกล้ ๆ  

"ใช่ค่ะ สักตอนสามขวบได้ ส่วนนี่ก็เฮียโซดาค่ะหนูรู้จักไหม พี่เขาก็เรียนคณะเดียวกับหนูด้วย" ผมเผลอยิ้มกว้างเมื่อคุณแม่จำได้ว่าผมเรียนอยู่คณะเดียวกับเฮีย

"รู้จักครับ เฮียเป็นพี่เทคของรักครับ" 

"งั้นเหรอ โลกกลมซะจริง" คุณแม่ก็ดูแปลกใจไม่ต่างจากผม ถ้าเล่าเรื่องของพี่เหล้าคุณแม่ก็คงแปลกใจยิ่งหว่านี้ผมใกล้ชิดกับญาติของพี่เบียร์ถึงสองคน หากพี่ไวน์เป็นคนที่ตีสนิทได้ง่ายผมก็คงหาทางสนิทด้วยเพราะอยากรู้เรื่องของพี่เบียร์ แต่พี่ไวน์ดูเข้าถึงได้ยากขนาดเราไปทริปเที่ยวด้วยกันผมยังไม่สามารถสนิทกับพี่ไวน์ได้เหมือนอย่างเพ้นส์ 

"เฮียหน้าดุ ส่วนพี่เบียร์หน้าหวาน" ผมวิจารณ์ให้คุณแม่ได้รับรู้ในสิ่งที่คิด สำหรับผมแล้วพี่น้องบ้านนี้มีเอกลักษณ์มาตั้งแต่เด็ก ผมเห็นครั้งแรกก็แยกออกได้ทันทีว่าใครเป็นคนไหน

"หน้าหวานเหมือนแม่ค่ะ แต่พอโตมาแล้วหน้าเหมือนพ่อจนแม่แอบคิดว่าตัวเองได้สามีคนก่อนกลับมาตลอด" คุณแม่พูดติดตลก ผมพาลหัวเราะไปกับท่านด้วย คงจริงอย่างที่คุณแม่บอก พี่เบียร์หน้าเหมือนคุณพ่อช่วงวัยรุ่นมาก 

"คุณแม่ก็หน้าใสเหมือนเดิมเลยครับ ในรูปกับตอนนี้รักแยกไม่ออก ไม่คิดว่ามันจะห่างกันหลายสิบปีขนาดนี้นะครับ" ผมเอ่ยบอกตามที่เห็น เมื่อเปรียบเทียบรูปคุณแม่เมื่อตอนยังสาวกับตอนนี้ก็ดูไม่แตกต่างกันมาก คุณแม่ยิ้มกว้างดูพอใจเมื่อถูกผมเอ่ยชม 

"เราอย่าชมมากลูก แม่เขาชอบเหลิงเวลาถูกชมบ่อย ๆ" ได้ยินเสียงคุณพ่อเดินเข้ามาผมจึงหันไปมอง คุณพ่อพี่เบียร์เดินมาคนเดียวแปลว่าญาติผู้ใหญ่ของพี่เบียร์ท่านอื่นคงจะกลับกันไปแล้ว 

คุณพ่อพี่เบียร์มีท่าทีใจดีกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก นึกว่าคุณพ่อจะเหมือนคุณป๊าผมซะอีก 

"คุณก็รู้ดีว่ารัมยังหน้าเด็กเหมือนตอนนั้น" ผมยืนมองท่านทั้งสองคุยกันแล้วอมยิ้ม คุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ดูสวีทหวานมากกว่าคุณป๊ากับคุณแม่ของผม ท่านทั้งสองแสดงออกความรักได้อย่างง่ายดายผิดกับคุณป๊าของผมชอบวางมาดไม่ค่อยจะอ้อนคุณแม่สักเท่าไร 

"ครับ เมียผมยังสวยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน" เห็นท่านทั้งสองเดินมานั่งคุย ผมจึงได้เดินมานั่งบนโซฟาด้วย จะให้ยืนค้ำหัวผู้ใหญ่มันก็แปลก พี่เบียร์ก็อยู่บนห้องยังไม่ลงมา ผมสูดลมหายใจเข้าเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองแค่คุยกับพ่อแม่ของพี่เบียร์ทำไมผมต้องตื่นเต้นขนาดนี้ด้วย

"ว่าแต่รู้จักกับพี่เบียร์นานแล้วเหรอลูก" คุณแม่ถามอีกผมยิ้มให้ท่านทั้งสองก่อนจะตอบ 

"รักรู้จักมานานแล้วครับแต่รักไม่กล้าทำความรู้จัก แต่ตอนนี้เราก็เพิ่งจะมาสนิทกันน่ะครับ" ในความคิดของผม ระหว่างผมกับพี่เบียร์ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราเริ่มกระชับใกล้มากกว่าเมื่อก่อน 

"พี่เบียร์เข้าหาง่ายนะลูก ถึงจะดูแบบนั้นพี่เบียร์เขาใจดี" คุณพ่อบอกเสียงเรียบ น้ำเสียงดูเข้าใจลูกชายตัวเองผมก็เห็นด้วยกับเรื่องที่คุณพ่อบอก

"ครับ" เรื่องความใจดีนั้นผมรับรู้ได้ดี อาจเพราะว่าผมเริ่มต้นจากการแอบรักพี่เบียร์ก่อนเราจึงรู้จักกันช้า เพราะหากว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่เบียร์ป่านนี้ผมก็คงได้สนิทกับพี่เบียร์ในฐานะน้องชายของเฮียเท่านั้น

"พ่อก็ว่าหนูหน้าคุ้น ๆ  ที่แท้คนที่เคยช่วยเราสองคนครั้งก่อนนั้นไว้นี่น่า" ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินคุณพ่อของพี่เบียร์พูดขึ้น คุณแม่พี่เบียร์จ้องมองผมครู่เดียวก็พลอยยิ้มกว้างตาม

"จริงด้วยหนูคนที่ดันรถให้เราตอนนั้น" 

"ครับ?"

"หนูคงจำไม่ได้แล้ว วันนั้นพ่อกับแม่รถเสียกลางทางแล้วหนูก็วิ่งมาช่วยดันรถให้ ตอนนั้นพ่อจำได้ว่าหนูห้อยป้ายชื่อตัวใหญ่ไว้ด้วย ไม่คิดว่าตัวผอมขนาดนั้นจะมีแรงดันรถได้" ผมประมวลเรื่องราวที่คุณแม่พูดก็พอจะจำได้ราง ๆ 

"แต่นั่นมันเมื่อเทอมที่แล้วเลยนะครับ ตอนนั้นรักยังใส่แว่น ยังดัดฟัน คุณพ่อกับคุณแม่ยังอุตส่าห์จำรักได้อีกนะครับ" พอคิดถึงเรื่องวันนั้นแล้วผมก็แอบเขิน ตอนนั้นผมยังไม่มีความมั่นใจในตัวเองมากเท่าตอนนี้ เคยคิดว่าไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ ผมแอบแปลกใจที่คุณพ่อของพี่เบียร์ยังจำกันได้

"จำได้สิ ดวงตาหนูมันสดใสตลอดทั้งตอนนั้นและตอนนี้พ่อเลยจำได้ครับ" ผมฉีกยิ้มกว้างกับคำพูดแสนเพราะกินใจนั้น น้อยครั้งที่จะมีคนชมผมจากใจ  

"แม่เกือบจำไม่ได้แหนะ หนูดูโตขึ้น วันนั้นเหมือนเด็กมัธยมแต่วันนี้เหมือนเด็กมหาลัยแล้ว" คุณแม่แซว

"นั่นสินะ ฮ่า ๆ" พอเห็นท่านทั้งสองหัวเราะผมก็หัวเราะตาม คุณพ่อกับคุณแม่พี่เบียร์ช่างเป็นคนที่น่ารักเหมือนพี่เบียร์จริง ๆ พลันสายตาผมหันไปมองพี่เบียร์ที่เดินลงบันไดมา 

"คุยอะไรกันอยู่ครับ"  พี่เบียร์เดินมานั่งข้างกาย ผมรู้สึกโล่งใจที่มีพี่เบียร์อยู่ด้วย 

"กำลังคุยเรื่องความลับของเราสามคนที่พี่เบียร์ไม่รู้ค่ะ" คุณแม่พี่เบียร์หยอกเย้าอย่างนั้นผมก็ยิ่งได้ใจ ดีใจที่คุณแม่เอ็นดูผม รอยยิ้มบนใบหน้ายังคงมีให้ผมตลอด 

ใบหน้าพี่เบียร์มีแต่เครื่องหมายคำถาม พี่เบียร์มองหน้าผมราวกับไม่เชื่อว่าผมไปมีความลับกับคุณพ่อคุณแม่เขาด้วย

"มีความลับอะไรที่บอกผมไม่ได้ด้วยเหรอครับ" 

"มีสิค่ะความลับนี้พี่เบียร์ไม่มีทางรู้เพราะเป็นเรื่องของคุณพ่อ แม่แล้วก็น้องเจ้ารักเท่านั้น" ผมส่ายหน้าปฏิเสธที่จะบอกความลับให้พี่เบียร์ฟังเมื่อเจ้าตัวหันมาคาดคั้น คุณพ่อหัวเราะออกมาบอกให้พี่เบียร์หยุดพยายามคาดคั้นผมเพราะเรื่องความลับนี้เราสามคนจะไม่บอกใครเด็ดขาด 

"ร้ายนะเรามาถึงแป๊ปเดียวก็ขโมยคุณพ่อคุณแม่ของพี่ไปแล้ว" 

"รักเปล่าทำอย่างนั้นสักหน่อยครับพี่เบียร์" ผมรีบเถียงเพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงเลย ผมไม่ได้แย่งคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์สักหน่อย 

"อย่าปรักปรำน้อง" คุณแม่เอ่ยเตือนผมก็ยิ่งดีใจ ทำไมคุณพ่อคุณแม่พี่เบียร์ถึงได้น่ารักขนาดนี้ 

"โอ้โหผมกลายเป็นหมาหัวเน่าแล้ว" ผมอมยิ้ม อยากหัวเราะพี่เบียร์แต่ก็กลัวว่าพี่เบียร์จะเสียใจที่โดนคุณพ่อและคุณแม่แกล้ง เรานั่งคุยกันอยู่สักพักแม่บ้านก็เดินมาตามไปกินข้าวกัน 

"ไปกินข้าวกันเถอะ" คุณพ่อชวน 

"ไปกันค่ะน้องรัก" คุณแม่กลายเป็นคนเดินมาควงแขนผมแล้วพากันมาทานมื้อแรกร่วมกัน ผมหันหลังไปมองพี่เบียร์ที่เดินตามหลังมาตลอด เห็นคนตัวโตยิ้มให้ก็อุ่นใจ 

วันนี้ผมก้าวเข้าไปใกล้ชิดพี่เบียร์อีกก้าวแล้ว

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 15-11-2021 23:32:05
 :z13:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 26
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 19-11-2021 08:46:35

 EPISODE : 26 ทดลองเป็นแฟน



"พี่เบียร์ยังจำเรื่องตั๋วพิเศษได้อีกไหมครับ ที่วันนั้นรักชนะพี่เรื่องแข่ง" เมื่อคืนน้องถามผมขึ้นระหว่างที่ผมมาส่งเจ้าตัวถึงคอนโด

"จำได้ครับ น้องหนูจะใช้ตั๋วแล้วงั้นเหรอ"

"ครับ รักอยากใช้ตั๋วพิเศษนั้นแลกกับการไปทดลองเป็นแฟนกับพี่เบียร์หนึ่งวันครับ" ผมแปลกใจที่ได้ยินคำขอของน้อง ตอนแรกคิดว่าน้องต้องขออะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นและคิดว่าน้องอาจจะลืมไปแล้วเพราะน้องไม่เคยพูดถึงตั๋วพิเศษนี้เลยสักครั้ง

"ได้สิครับ พรุ่งนี้พี่ว่างทั้งวันอยู่แล้ว" ผมบอกน้อง ร่างเล็กพยักหน้าอย่างน่ารัก

"รักก็ว่างครับ ถ้างั้นพรุ่งนี้แปดโมงเจอกันนะครับ"

"โอเคครับ แปดโมงพี่แวะมารับนะครับ"

"ครับผม"

และเพราะเรื่องนี้เมื่อคืนผมถึงนอนไม่หลับ ใจมันตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก เมื่อคืนก็นอนมองน้องหลับผ่านมือถือ เช้ามาก็รีบอาบน้ำมารอน้องอยู่หน้าคอนโดตั้งแต่รุ่งเช้า

(อรุณสวัสดิ์ครับพี่เบียร์) ผมโทรหาน้องทันทีที่นาฬิกาข้อมือบอกเวลาหกโมงเช้า

"อรุณสวัสดิ์ครับ"

(พี่เบียร์ตื่นเช้าจังเลยครับ หรือว่าไม่ได้นอนครับ) เสียงน้องดูสดใสร่าเริง ผมยกยิ้มเมื่อถูกน้องล้อแต่เช้า

"ครับ พี่เลยมาอยู่หน้าคอนโดน้องหนูแล้ว"

(ห๊ะ อะไรนะครับพี่เบียร์มารอข้างล่างเหรอครับ)

"ครับ"

(ดะ...เดี๋ยว ๆ รักลงไปรับครับพี่เบียร์รออยู่แป๊บเดียวนะครับ รักกำลังลงครับ) ผมรู้อยู่แล้ว ว่าถ้าน้องรู้คงต้องรีบลงมา อยากจะเข้าไปเหมือนกันแต่เพราะยังเช้าเกิน ยามที่หน้าคอนโดก็ไม่ใช่คนเดิมที่จำหน้าผมได้เพราะแบบนี้ผมเลยต้องโทรหาน้องแทน

"พี่เบียร์" ผมยืนพิงรถอยู่พอได้ยินเสียงของน้องถึงได้หันไป น้องวิ่งมาหาทั้งที่ผมกระเซิง ร่างเล็กโผเข้ากอดแน่นทำเอาผมตกใจ

มีคนเข้ามาตั้งหลายคนในชีวิตแต่ไม่เคยมีใครทำตัวน่ารักทุกวันอย่างน้องได้สักคน

"รักเคยคิดว่าถ้าได้เป็นแฟนกับพี่แล้วพี่เซอร์ไพรส์แวะมาหาที่คอนโดแบบนี้รักจะวิ่งไปกอดให้แน่น ๆ แบบนี้ครับ" ใจผมกระตุกดัง มือใหญ่ยกมาหยีผมนุ่มของน้องด้วยความเอ็นดู

"งั้นก็ถือว่าพี่ทำหน้าที่แฟนได้ดีตั้งแต่เห็นหน้าแล้วใช่ไหมครับ" ผมยิ้มให้น้องที่ยังกอดผมไม่ปล่อย มือข้างหนึ่งเผลอกอดเอวน้องไปโดยอัตโนมัติ หมู่นี้ร่างกายของผมชอบไว รู้ตัวอีกทีก็จับมือน้องตลอด หรือผมจะเสพติดน้องเข้าแล้ว

"ครับ"

"หัวยุ่งจังเลย เพิ่งตื่นเหรอครับ" ผมเซ็ทผมให้น้องอย่างแผ่วเบา ผมน้องนุ่มน่าสัมผัสมาก

"รักตื่นมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วครับ ตื่นมาทำข้าวเช้าแล้วก็กำลังจะอาบน้ำแต่พี่เบียร์โทรมาก่อน" ผมนึกยิ้มเอ็นดู น้องเป็นคนตื่นไวทุกวัน เคยตื่นห้าโมงเช้าเพื่อออกกำลังกายด้วย

"ไปขึ้นห้องกันครับ" มือเล็ก ๆ จับมือผมเพื่อขึ้นไปยังห้องน้อง ขึ้นมาถึงห้องน้องก็ยื่นกระดาษใบนึงให้ผมเปิดอ่าน ไม่คิดว่าทั้งหมดที่น้องเขียนมานั้นเราสองคนจะทำได้หมดในวันเดียว

"แพลนเดทวันนี้ครับ" น้องยังฉีกยิ้มบอก คงอยากเดทกับผมมากจริง ๆ ถึงได้ใส่ใจทุกขั้นตอน ปกติผมไม่ค่อยจะใส่ใจใครแต่กับน้องแล้วผมไม่กล้าปฏิเสธ รู้สึกว่าคนนี้ต้องใส่ใจให้มาก

"รักตั้งใจเขียนทุกอย่างที่อยากทำตอนเป็นแฟนกับพี่เบียร์ คิดว่าน่าจะทำตามนี้ได้ครบครับ" แต่ผมไม่คิดว่าจะทำได้หมดในหนึ่งวัน

"ก็ได้ครับ" ผมจะพยายามทำตามทุกอย่างที่น้องเขียน เห็นน้องดีใจผมก็พลอยยิ้มตาม

"รักขออาบน้ำก่อนนะครับ พี่เบียร์นั่งรอแป๊บเดียวน่า" เสียงน้องอ้อนผมหยีหัวน้องอีกครั้งและขานตอบรับคำ ร่างเล็กยิ้มกว้างสดใสแล้วรีบไปอาบน้ำผมเดินมานั่งบนโซฟาแล้วเผลอหลับ เพราะความง่วงมารู้ตัวก็ตอนที่น้องสะกิดปลุกผมให้ตื่นมากินข้าวเช้า ผมบิดขี้เกียจขับไล่ความง่วง ผมคงต้องบ้าไปแล้วแน่ที่ดันมาหลับในห้องน้องทั้งที่เรากำลังจะเดทตามคำขอของน้อง

"พี่ขอโทษนะครับ เผลอหลับไปจนได้" ผมเดินมานั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้ากับน้องแต่เด็กตรงหน้ากลับไม่มีท่าทีโกรธผมสักนิด น้องเป็นแบบนี้เสมอ ไม่โกรธแม้ผมจะทำให้น้องต้องรอหรือเสียใจก็ตาม

"ไม่เป็นไรเลยครับรักเข้าใจว่าพี่เบียร์ง่วง" ผมมองกับข้าวบนโต๊ะที่น้องตกแต่งหน้าตาอาหารให้ดูน่ารักน่าทาน "ตามแพลนที่วางรักคิดว่าเราจะได้ทานมื้อเช้าข้างนอกเลยตั้งใจตื่นมาทำอาหารครับแต่ว่าถ้ารู้ว่าพี่เบียร์จะมาอยู่ที่ห้องตั้งแต่เช้ารักเลยเปลี่ยนเป็นแผนสองครับ"

ผมมองกระดาษที่น้องยื่นมให้มันเหมือนกับกระดาษใบก่อนหน้านี้เพียงแต่ตารางกิจกรรมมันดูต่างจากเดิม

"นี่เราคิดแผนทั้งหมดกี่แผ่นครับเนี่ย" ผมแซวน้องคิดว่าเจ้าตัวคงมีแผนสาม แผนสี่ สำรองแน่นอน น้องยกมือมานับนิ้ว

"แปดครับ รักต้องเผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินครับ ก็รักมีอะไรหลายอย่างที่อยากจะทำกับพี่เบียร์ ให้วาปไปสวนสนุกตอนนี้ได้รักก็จะวาปไปครับ ไปดูหนัง เล่นสกี ไปดูแสงเหนือ ไปเที่ยวหลาย ๆ ประเทศกับพี่ มีอะไรเยอะมากเลยครับที่รักอยากจะทำ" ผมเชื่อแล้วว่าน้องมีเรื่องมากมายที่อยากจะทำ เพราะถ้าเป็นคนอื่นพูดผมคงไม่เชื่อแต่นี่คือน้อง เด็กที่รักผมมากและผมกำลังให้โอกาสตัวเองและน้องได้รู้จักกันและกัน

เห็นผมเงียบน้องเลยเริ่มหน้าถอดสี "รักขอโทษครับถ้าเกิดพูดมากไปรักแค่อยากบอกให้พี่เบียร์รู้เท่านั้นแต่ไม่ได้ตั้งใจจะกดดันพี่หรือทำให้พี่กลัวรักนะครับ ถ้าพี่ไม่พอใจก็ว่ารักได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจเพราะเราสองคนก็ยังไม่ได้เป็นอะไรกันจริง ๆ ด้วย" ผมยกยิ้มมุมปาก น้องดูหน้าหงอยจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ

"แต่วันนี้เราเป็นแฟนกันนี่ครับ น้องหนูอยากทำอะไรพี่จะทำตามทุกอย่าง" ผมตั้งใจว่าวันนี้จะตามใจน้องทุกอย่าง ขอแค่ให้น้องมีความสุขทั้งวันก็พอ น้องกลับมามีท่าทีดีใจแล้วบอกรักผมอีก พอฟังหลายรอบเข้าแล้วมันก็ชอบและอยากฟังอีก

เราสองคนเริ่มทานข้าวเช้าคุยกันไปเรื่อย ปล่อยให้เวลาเดินตามหน้าที่หลังจากนั้นก็เล่นเกมแข่งกัน น้องเล่นเกมไม่เก่ง แพ้บ่อยจนเจ้าตัวงอแงหาว่าผมโกง ผมชอบมองท่าทีน่ารักของน้อง อัดวิดีโอเต้นกันแต่ไป ๆ มา ๆ ผมก็ขอนอนบนตักน้องระหว่างที่เรานั่งพัก ตั้งใจไว้ว่าสักตอนบ่ายสองไปดูหนังและกินข้าวข้างนอก 

"จุ้บ" ผมลืมตาตื่นเพราะรู้สึกถึงริมฝีปากนุ่มของน้อง ใบหน้าเราใกล้เพียงเอื้อม ให้ตายเด็กคนนี้จะทำให้ผมหลงไปถึงไหน ผมยกมือขึ้นมาประคองลำคอน้องไม่ให้ขยับหนีแล้วครอบครองริมฝีปากนุ่มทันที

"อย่าไปทำแบบนี้กับใครนะครับ นอกจากพี่คนเดียว" น้องตอบรับพยักหน้าอย่างน่ารัก ผมจุ้บริมฝีปากน้องอีกครั้ง

"ไปดูหนังกันไหมครับ รักอยากไปดูหนังกับพี่" เมื่อน้องขอผมก็พร้อมจะทำ เราสองคนเตรียมตัวออกไปข้างนอกกัน น้องลูกแพร์กลับมาจากเรียนถึงได้เจอกันน้องขอตัวไปคุยกับเพื่อน ผมแอบได้ยินแว่ว ๆ ว่าลูกแพร์บอกให้น้องรักระวังตัวแล้วอย่าเผลอแสดงออกว่ารักผมมากเกินไป เพื่อนน้องดูจะรักน้องมาก น้องเดินมาจูงมือผมด้วยสีหน้างอแง

"พี่เบียร์เชื่อไหมครับขนาดรักบอกว่าวันนี้รักกับพี่เบียร์เป็นแฟนกันแพร์ยังไม่เชื่อเลย แพร์บอกให้รักเลิกมโน" เจ้าตัวเล็กเอาแต่พูดไม่หยุดตั้งแต่ขึ้นรถ ผมพยายามกลั้นเสียงหัวเราะมือใหญ่ก็เลื่อนมาจับมือของคนเง้างอเพื่อให้กำลังใจ

"ถ้าอย่างนั้นเราเอาแบบนี้ดีไหมครับ" น้องมองผมอย่างคาดหวัง ผมหยิบมือถือตัวเองกดเข้าแอปพลิเคชันที่ช่วงนี้เข้าบ่อยเพราะมีเรื่องอัปเดทตลอด น้องมองผมเขียนสเตตัสพร้อมโพสต์วิดีโอและแท็กน้องด้วยความตกใจ

"พี่เบียร์รีบลบเลยครับ รักอาย" แก้มนุ่มถูกผมหยิกเพราะความหมั่นเขี้ยว เห็นน้องอายก็ยิ่งอยากแกล้ง

"อายอะไรล่ะหือ ก็วันนี้เราเป็นแฟนกันจริงนี่ครับ" ผมบอกเรื่องจริง น้องอมยิ้มแล้วไม่โวยวายให้ผมลบอีก เชื่อว่าเพื่อนของน้องต้องเห็นแน่นอน "แบบนี้เพื่อนน้องหนูก็เชื่อแล้วครับ"

"ไม่ใช่แค่เพื่อนรักหรอก เพื่อน ๆ พี่เบียร์ด้วย"

"พี่ว่าเขารู้กันทั่วมหาลัยแล้วล่ะครับว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน"

"เพราะพี่เบียร์นั่นแหละ" น้องทำแก้มป่องอย่างน่ารัก ผมรู้สึกคุ้นหน้าน้องเหมือนว่าก่อนหน้านี้เคยเจอน้องมาก่อน เคยเจอหันมาก่อนหรือเปล่านะ ผมไม่มั่นใจ

"ว่าแต่น้องหนูเริ่มชอบพี่เพราะอะไรเหรอครับ" ผมขับรถมาจอดถึงร้านที่น้องต้องการมากิน ภายในร้านมีคนเยอะพอสมควรผมจูงมือน้องมานั่งด้วยกันระหว่างนั่งรออาหารผมก็ถามน้องถึงเรื่องที่อยากรู้

"เพราะความใจดีครับ คิดว่าพี่เบียร์คงจำไม่ได้ว่าเคยช่วยตอนรักโดนลูกเทนนิสตีโดนหัวตรงนี้วันนั้นพี่เบียร์พารักไปห้องพยาบาลด้วยรักก็เลยตกหลุมรักครับ" ผมเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าเด็กปีหนึ่งที่โดนลูกพลาดของเพื่อนผมในวันนั้นคือน้อง เพราะน้องคนนั้นไม่เหมือนน้องเลยสักนิดเดียว

"เด็กคนนั้นเป็นน้องหนูเหรอครับ ทำไมไม่เหมือน" น้องเหมือนจะเขินอาย

"อ้อ ตอนนั้นรักโดนรุ่นพี่เอกการแสดงจับแต่งตัวเพื่อลองเคสละครนะครับแต่รักก็ไม่ผ่าน พี่เขาบอกว่ารักเล่นแข็งเกินไปเลยถูกเปลี่ยนบทมาให้รักแสดงเป็นลูกแกะแทนนะครับ" ผมขมวดคิ้ว เชื่อแล้วว่าน้องมีเรื่องให้แปลกใจตลอด

"ลูกแกะ?"

"ลูกแกะตัวขาว ๆ ในยูทูบก็มีน่ะครับพี่เขาอัปโหลดเพราะเป็นโปรเจ็คร่วมของพี่เขากับเพื่อน ๆ" ผมชักอยากจะเห็นแล้วสิแกะตัวสีขาวจะน่ารักแค่ไหน "อยากจะบอกว่ารักอายมากเลยครับ" คำหลังน้องกระซิบบอก คงอายมากจริง ๆ เอาเถอะไว้วันหลังค่อยขอน้องดูก็แล้วกัน

"แต่ไม่ได้มีแค่วันนั้นนะครับ พี่เบียร์เคยใจดีช่วยรักขนกล่องอุปกรณ์จัดฉากไปที่ตึกด้วยครับ วันนั้นรักตื่นเต้นมากที่ได้ใกล้ชิดพี่" ผมอ้าปากค้างเพราะเพิ่งจะนึกออกว่าเคยเจอน้องมาก่อน วันนั้นน้องมัดจุกผมเป็นต้นมะพร้าวเล็กและไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาด้วย ก็ถึงว่าทำไมผมถึงได้คุ้นหน้าน้อง

"วันนั้นน้องหนูมัดผมจุกแล้วก็ทำแก้มป่อง ๆ"

"วันนั้นรักเล่นเกมแพ้เพ้นส์เลยโดนมัดจุกแบบนั้นครับ" ผมเข้าใจแล้ว น้องกัดริมฝีปากตัวเองเหมือนมีเรื่องราวจะบอกอีกผมเลยตั้งใจฟัง "จริง ๆ เราสองคนเคยเจอกันอีกครั้งครับ"

"หือ เจอกันอีกหรือครับ"

"ครับ เที่ยงวันนั้นพี่เบียร์มานั่งผิดโต๊ะเพราะคิดว่าเป็นโต๊ะของเพื่อน แต่ตอนนั้นรักนั่งรอเพ้นส์อยู่ ส่วนโต๊ะกลุ่มเพื่อนพี่เบียร์คือโต๊ะข้าง ๆ" ผมกุมขมับเมื่อจำวันนั้นได้ มันเป็นเรื่องน่าอายไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะเป็นน้องด้วย น้องหลุดหัวเราะและปลอบผมว่าไม่ต้องอายเพราะเรื่องวันนั้นทำให้น้องมีความสุขทุกครั้งที่คิดถึง กระทั่งอาหารถูกยกมาเต็มโต๊ะ เพราะความหิวสายตาก็จ้องมองอาหารบนโต๊ะอย่างไม่วางตา

"กินเยอะๆครับ"

"พี่เบียร์ก็เหมือนกัน อ่ำ อ้าปากสิครับ รักป้อนให้" เห็นผมเอาแต่มองหน้าและขอถ่ายรูปเก็บไว้ น้องคงรู้สึกก็เขิน ผมอ้าปากกินรู้สึกเหมือนเราเป็นแฟนกันจริง

"เป็นไงครับ อร่อยไหมครับ"

"อร่อยครับ"

"ใช่ไหมครับ รักบอกแล้วร้านนี้อร่อย" คนแนะนำพามายังร้านรู้สึกหัวใจฟองโตเมื่อผมเอ่ยชม ผมมองน้องทานอย่างอร่อยแล้วพลอยหิวตาม

"จริง ๆ อาหารก็อร่อยอยู่แล้ว แต่เพราะมีคนป้อนอาหารมันเลยอร่อยกว่าทุกมื้อครับ"

เพล้ง!!

RIP ตะเกียบในมือน้องที่หล่นตกพื้นอย่างเรียบร้อย

"พี่เบียร์อะ!" น้องแก้เขินด้วยการลุกหยิบตะเกียบที่ทำหล่นแต่ผมลุกหยิบก่อน เจ้าตัวเล็กคงจะแพ้คำหวาน รู้แบบนี้ไว้ผมแกล้งอีกดีกว่า

"พี่หยอดนิดหยอดหน่อยไม่ได้เลยนะ เป็นเขินแก้มแดงตลอด" ผมยังคงแกล้งให้น้องได้เขิน น้องจับแก้มสองข้าง เขาเขินง่ายจะตาย แค่เผลอมองตาพี่เบียร์เขาก็เขินจนไม่รู้จะสบตาไปทางไหน ก้มต่ำหาเศษเหรียญบนพื้นละกัน

"ตะเกียบใหม่ครับ ถือไหวไหมนะเรา ถ้าไม่ไหวพี่ป้อนจนกว่าจะกินอิ่มก็ได้นะครับ"

"รักจะฟ้องแพร์กับโนว่าพี่เบียร์แกล้งรัก" ผมฟังคำขู่แล้วยิ่งขำใหญ่ เดทมื้อแรกที่ได้กินด้วยกันอบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความสุข จนเห็นร่างของเบลล์ที่เดินมายืนใกล้เราสองคน น้องมองเบลล์สลับกับผมด้วยแววตาหวั่น

"ตกลงเบียร์คบกับเด็กคนนี้จริง ๆ นะเหรอ ไม่ตาต่ำไปหน่อยเหรอ" เสียงเบลล์ถามอย่างเสียมารยาท ท่าทีไม่พอใจของเธอดูอย่างนี้ผมไม่เคยเห็นมาก่อน น้องวางช้อนลง คนรอบข้างเริ่มหันมองพวกเรา มันน่าอายแต่ทำไมเบลล์ถึงได้ไม่อายที่มาถามเรื่องนี้ในที่สาธารณะ

"เบลล์ ผมว่าผมบอกเบลล์ไปหลายครั้งแล้วนะครับว่าเราสองคนไปกันไม่รอด" น้องนั่งนิ่งไม่กล้าขยับไปไหน คงกลัวสงครามระหว่างผมกับเบลล์

"แต่เบลล์ไม่เชื่อ เบียร์โสดมาตั้งนาน ไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกับใครสักคนแต่ทำไมเบียร์ต้องคบกับเด็กคนนี้เอาตอนที่เราสองคนกำลังจะไปได้ดีด้วย"

เห้อ ผมถอนหายใจ เบลล์คนเดิมที่ผมรู้จักได้หายไปแล้วจริง ผมมองน้องถึงจะนั่งนิ่ง อุตส่าห์วางแผนมาเดททั้งทีผมกลับมาทำให้เดทของน้องต้องพัง เบลล์ดึงแขนผมให้ลุกขึ้นรอบข้างมีสายตาคนทั้งร้านมอง

"เรารักเบียร์นะ เรากลับมาเริ่มกันใหม่อีกครั้งนะคะ" เธออ้อนผมแต่ผมไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดของเธอแล้ว ความรู้สึกที่เคยมีต่อเบลล์มันจางหายไปจากหัวใจผมแล้วมีเพียงความสึกที่เป็นห่วงความสุขของน้องมากกว่า ผมกลัวน้องจะเข้าใจผิด เห็นน้องลุกขึ้นยืนผมก็หวั่น อย่าเข้าใจผิดนะครับ ผมยื่นมือจะรั้งน้องให้อยู่กันก่อน

"แต่วันนี้พี่เบียร์เป็นแฟนรักครับ รบกวนพี่เบลล์เอามือออกจากแฟนรักด้วย เพราะรักไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับคนของรักครับ!!"









หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 19-11-2021 15:23:19
 :pig4:
 o13
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 19-11-2021 22:09:09
แรงมากครับ
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 27
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 22-11-2021 18:42:01

 EPISODE : 27 เจ้ารักโหมดไม่น่ารัก



ไม่ชอบเลย ไม่ชอบความรู้สึกหงุดหงิดที่มี ผมไม่อยากให้ตัวเองหงุดหงิดเรื่องพี่เบลล์แต่มันก็อดไม่ได้ พี่เบียร์เดินมาพร้อมจับแขนผมให้หันมาคุยด้วยแม้ผมไม่มีอารมณ์จะคุยก็ตาม 

"เป็นอะไรไปครับน้องหนู" ร่างสูงถามผมกับเรื่องที่ตัวเองน่าจะรู้ดีแล้ว ผมงอน ผมโกรธก็เรื่องของพี่เบลล์นั่นแหละ ผมพยายามปรับอารมณ์และควบคุมสีหน้าตัวเอง อยากพาลใส่คนตัวสูงแต่ก็รู้ว่าพี่เบียร์ไม่ได้ทำผิดอะไร

"รักโกรธตัวเองครับ" พี่เบียร์รวบมือผมทั้งสองข้างคล้ายแกมง้อ 

"โกรธเรื่องพี่เบลล์กับพี่ใช่ไหมครับ" คนตัวโตรู้ว่าผมกำลังคิดมากเรื่องตัวเองอยู่ ผมถอนหายใจเบา ๆ มันไม่สามารถปฏิเสธได้ ร่างสูงจ้องมองผมราวกับอ้อนวอน พี่เบียร์คงไม่ชอบที่ผมกำลังงอนเขาอยู่แน่เลย 

"ก็ครับ"

"พี่ขอโทษที่ทำให้น้องหนูคิดมากนะครับแต่พี่กับเบลล์เราเลิกกันไปแล้ว" พี่บียร์ยืนยันหนักแน่น ผมเองก็ได้ยินมาหลายรอบแล้วแต่จะให้เชื่อใจหมดใจยอมรับว่าตอนนี้ผมแอบลังเลเรื่องพี่เบลล์ไม่น้อย ผมอยากเชื่อใจสนิทแต่ทำไมผมจึงทำไม่ได้ก็ไม่รู้ 

"รักรู้ครับรักแค่โมโหตัวเองด้วย" พี่เบียร์ยกมือขึ้นมาดึงแก้มผมเพื่อให้ผมได้หายกังวล 

"ถึงพี่เบียร์จะบอกว่าเลิกกันไปแล้วแต่พี่เบลล์ไม่เลิกรากันแบบนี้รักก็ต้องมีหวั่นไหวบ้างสิครับ ความจริงในใจพี่อาจจะมีพี่เบลล์อยู่อีกก็ได้"

"ไม่อยู่แล้ว พี่จัดการหัวใจตัวเองไปหมดแล้วครับ" พี่เบียร์ว่าอย่างนั้นเพื่อให้ผมได้สบายใจ ผมยังแบะปากอยากงอแงเพราะไม่เชื่อสักเท่าไหร่พี่เบียร์กับพี่เบลล์เลิกกันไปแน่เหรอ

"ถ้ารักจะรู้สึกดีแบบนี้กับพี่เบียร์ต่อไปมันดีใช่ไหมครับ" ผมไม่อยากให้เรื่องของเราต้องกลายเป็นเรื่องอดีต เพราะผมยังไม่ได้เริ่มรู้จักกับพี่เบียร์มากกว่าที่ใจต้องการ ถ้าผมอยากจะรู้จักพี่เบียร์ให้มากกว่าเดิมผมก็คงต้องไว้ใจพี่เบียร์ด้วยเหมือนกัน 

"ถ้าตอนนี้พี่ก็ตอบว่าดีครับเพราะพี่ชอบที่มีเราอยู่อย่างนี้" ได้ฟังแบบนั้นผมก็ชื่นใจอย่างน้อยพี่เบียร์ก็รู้สึกดีกับผม มีเยื่อใยให้ผมบ้าง ผมไม่อยากคิดมากเรื่องของพี่เบลล์แล้ว 

"แต่รักไม่ได้น่ารักกับทุกเรื่องหรอกนะครับ" ผมคงต้องบอกเรื่องนี้ให้พี่เบียร์ได้รู้ นิสัยหลายอย่างของตัวเองผมก็ไม่ค่อยชอบแต่ก็พยายามปรับปรุงตัวเองเพื่อให้เป็นคนที่ดียิ่งกว่าเดิม ผมไม่อยากไม่น่ารักเหมือนอย่างน้องเจ้าขา  

"ครับพี่รู้ พี่เองก็ไม่ต่างกันแต่พี่สลัดเบลล์เธอออกไปจากใจไปหมดแล้ว" พี่เบียร์ยืนยันหนักแน่น ผมก็จะเชื่อใจ ยอมให้โอกาสตัวเองได้ยอมเชื่อใจพี่เบียร์และตัวเอง 

"รักจะพยายามไม่คิดมากเรื่องพี่เบลล์อีกก็แล้วกันครับ" ได้ยินอย่างนั้นพี่เบียร์ก็ดึงแก้มงอนนั้นอีก ผมยู่หน้า แก้มผมมันน่าจับมากหรือยังไงพี่เบียร์หัวเราะเมื่อเห็นผมกำลังงอนเจ้าตัวอีก

"ไม่ต้องคิดเรื่องเบลล์แล้วเพราะเขาเป็นคนอื่นสำหรับเราสองคนนะครับ" 

"มันอดที่จะคิดไม่ได้ครับ" ผมบอกอย่างนั้นแต่ในใจเริ่มรู้สึกดีขึ้นมาก พี่เบลล์คือคนอื่นสำหรับเราผมจะทำใจให้สบายและไม่คิดมากเรื่องนี้อีกแล้วเพื่อจิตใจของตัวเอง 

"พี่ชัดเจนกับเราขนาดนี้เรายังไม่เชื่ออีกเหรอครับ"

"ชัดเจนอะไรครับรักไม่เห็นว่าเรื่องของเราจะคืบหน้าไปไหน" เพราะความงอนผมเลยพูดออกไปอย่างนั้น พี่เบียร์จับมือผมแล้วยกขึ้นมาพร้อมจูบหลังมือทำเอาผมตกใจ 

"กลับห้องไหมครับเดี๋ยวพี่พิสูจน์ให้เอง" คำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำเอาผมต้องรีบดึงมือกลับมา 

"พี่เบียร์ ทะลึ่ง"

"ฮ่า ๆ ทะลึ่งอะไรครับ พี่แค่จะอธิบายเรื่องของเราให้น้องหนูเข้าใจไงครับหรือเราคิดว่าพี่จะทำอะไรครับ" คนเจ้าเล่ห์ถามผมในสิ่งที่คิดผมกอดอกตัวเองแล้วหันหน้าหนีทันที

"รักไม่รู้ครับ"

"แต่จะให้พี่ทำอย่างอื่นพี่ก็ทำได้นะครับ" ร่างสูงเดินมาประชิดใกล้อีก ผมหันหน้าไปว่าคนตัวโตอีกครั้ง 

"คนลามก" พี่เบียร์ก็แปลกพอถูกผมว่าแล้วชอบหัวเราะ อยากถูกผมว่าตลอดใช่ไหม พี่เบียร์จับมือผมเพื่อชวนไปเที่ยวกันต่อ แต่ผมไม่มีอารมณ์ไปไหนต่อแล้ว 

"ไปเดินเล่นกันไหมครับ"

"รักอยากกลับห้องครับวันนี้ไม่มีอารมณ์ไปไหนแล้ว"

"ได้ครับ" ร่างสูงยอมเอาใจผมเพราะไม่อยากเห็นผมงอแงและงอนอีกเราเดินไปยังรถเพื่อกลับห้องอย่างที่ผมต้องการ พี่เบียร์เดินมาส่งผมถึงห้อง ผมแปลกใจเมื่อร่างสูงเดินตามจะเข้ามาในห้องผมด้วย

"พี่เบียร์จะเข้ามาทำไมครับ" ผมไม่ยอมให้ร่างสูงได้เข้ามา 

"ก็พี่ยังไม่อยากกลับห้องไปนอนคนเดียวอีกนะครับ" พี่เบียร์หาข้ออ้างให้ตัวเอง ผมมองดูนาฬิกาแล้วแอบหมั่นไส้คนตัวโต ยังไม่หัวค่ำด้วยซ้ำใครเขาจะนอนกัน

"ป่านนี้ยังไม่ถึงเวลานอนสักหน่อย"

"ก็เวลากลางคืนมันยาวนาน มีคนรักแล้วพี่ก็อยากอ้อนบ้าง" พี่เบียร์เบียดตัวจะเข้ามาแต่ผมยืนขวางไม่ยอมให้ได้เข้าไป วันนี้เราเจอกันแค่นี้พอ

"ใครคนรักพี่ครับ ที่ห้องนี้ไม่เห็นจะมีใครเป็นคนรักพี่สักหน่อย"

"แล้วคนนี้ไม่ใช่คนรักพี่แล้วเหรอครับ" ผมมองมือพี่เบียร์ที่จิ้มบริเวณหัวใจของผม 

"ตอนนี้งอนอยู่ ไม่อยากตอบครับ" ผมเล่นตัวบ้างไม่อยากให้พี่เบียร์ได้ใจ บอกรักทุกวันก็ใช่ว่าพี่เบียร์จะรับรักเร็วสักหน่อย พี่เบียร์โผกอดผมอย่างไม่คาดคิด ผมแอบหวั่นกลัวว่าเพื่อนจะมาเห็นเข้า 

"แล้วต้องทำยังไงถึงจะหายงอนครับ หอมแก้ม" ฟอด บอกผมพร้อมหอมแก้มผมเข้าอีก "หรือจูบ" ผมรีบห้ามปากที่เตรียมจะจูบผมอย่างที่บอก  

"พี่เบียร์อย่าแกล้งสิครับ" 

"พี่ไม่ได้แกล้งครับแต่อยากให้เราหายเครียดเรื่องพี่กับเบลล์ เรื่องนั้นมันจบไปแล้วจริง ๆ ครับ" ผมยิ้มออกอย่างน้อยก็รู้สึกสบายใจขึ้นมากเมื่อพี่เบียร์ยืนยันหนักแน่นเช่นเดิม แววตาอ้อนวอนของพี่เบียร์ทำเอาผมใจอ่อนยวบ 

"ครับ รักจะไม่คิดมากแล้วครับ"

"ดีครับ" ร่างสูงอุ้มผมเข้ามาแล้วพามานั่งบนโซฟาแต่เพราะเผลอสะดุดล้มหัวโขกกัน เราสองคนจึงต่างขำกัน

 "งั้นคืนนี้พี่ขอนอนนี่นะครับ"

"..." ร่างกายผมตอบรับอย่างไวรีบพยักหน้าตอบคนตัวโตให้รู้ว่าอนุญาต เนี่ยผมเป็นแบบนี้ทุกทีเลย 













หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 24-11-2021 21:39:58
 :hao6:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 28
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 25-11-2021 21:14:06

 EPISODE : 28 เจ้าขาจอมแสบ





"เจ้าขา มาได้ไง!" ผมมองคนที่นั่งรอหน้าห้องเรียนด้วยความตกใจ เจ้าขาในชุดไพรเวทแสนเซ็กซี่ชวนมองเหงื่อตกไม่น้อยคงเพราะอากาศร้อน น้องมาที่ตึกคณะผมได้ยังไง 

"ก็โดดเรียนแล้วก็ขึ้นแท็กซี่มาหา จะไปยากอะไร" ถ้าใครมองก็คงไม่คิดว่าเราสองคนจะเป็นพี่น้องกัน เมื่อผมแทบจะไม่ค่อยแต่งตัวเก่งแต่เจ้าขาเป็นเด็กแต่งตัวเก่งและจัดเต็มตั้งแต่ทรงผมจรดเท้า เจ้าขาเป็นเด็กมั่นใจในตัวเองสูงกว่าผมเกือบจะสิบเท่า

"ทำแบบนี้ไม่ดีนะ คุณป๊ากับคุณแม่รู้เข้าคงเสียใจ" ผมไม่ได้โกรธน้องที่แวะมาหา แต่การมาแต่ละครั้งของเจ้าขาล้วนมีเรื่องไม่ดีเสมอ ตั้งแต่เด็กผมไม่เคยเถียงหรือดุน้องได้ทั้งที่ตัวเองเป็นพี่ชายคนรอง

"ใช่ คุณป๊ากับคุณแม่รู้คงเสียใจแย่" ผมขมวดคิ้วเมื่อน้องแกว่งโทรศัพท์เล่นคล้ายกับกำลังจะแบล็กเมล์ผมอีกแล้ว "ถ้ารู้เรื่องนี้"

"น้องเจ้า!!" ยิ่งได้เห็นรูปตัวเองกับพี่เบียร์แนบชิดชนิดที่แบบแนบเนื้อกันก็น้ำลายฝืดคอ "คือมันไม่ใช่อย่างที่น้องเจ้าเห็นนะ"

"ไม่สน ใครจะอยากใส่ใจ" น้องพูดเหมือนทุกครั้ง

"งั้นก็ลบนะ เค้าขอร้องนะน้องเจ้า" พี่ชายอ่อนแอผู้โดนน้องรังแกตั้งแต่เด็กรีบยกมือไหว้ขอให้น้องชายช่วยลบ ผมยังไม่กล้าบอกคุณป๊ากับคุณแม่รู้เรื่องพี่เบียร์อีก ถ้าคนในบ้านรู้คงกลายเป็นเรื่องใหญ่

คนถือไพ่เหนือกว่ายกยิ้มพอใจ อย่างน้อยก็คุ้มค่ากับการโดดเรียนเพื่อมาแบล็กเมล์พี่ชาย "ลบก็ได้แต่ตัวก็ต้องมีของมาปิดปากเค้าเหมือนเดิม"

ผมไม่ชอบเวลาที่แทนตัวเอง ตัว เค้ากับเจ้าขา เพราะเมื่อไรที่พูดอย่างนี้แปลว่าผมต้องเสียเปรียบให้น้องทุกครั้ง "แต่เค้าไม่มีเงินให้นะ"

"ก็ไม่ได้อยากได้เงิน ที่มาวันนี้เพราะอยากได้อย่างอื่นมากกว่า" ได้ยินน้องพูดแล้วผมอยากจะร้องไห้อยู่ร่ำไร สิ่งที่เจ้าขาต้องการไม่เคยได้มาง่ายๆ

ผมมองดูรูปที่น้องชายเปิดให้ดู "รู้จักคนนี้ไหม หาคอนเทคของเขามาให้หน่อยสิเค้าอยากได้" ดวงตาหวานกะพริบถี่ รู้สึกกลัวกับภารกิจที่น้องต้องการ บอกแล้วไงว่าของที่เจ้าขาต้องการไม่ได้มาง่าย ๆ

"ก็รู้จัก" รุ่นพี่ข้างห้องลูกแพร์เอง แต่ผมไม่ได้สนิทถึงขั้นมีคอนเทคพี่เขา

"ดี ได้แล้วก็ทักมาบอกด้วยละกัน" ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมจะชนะน้องชายได้สักครั้ง เจ้าขาหยิบกระเป๋าเมื่อตั้งใจจะแวะเที่ยวเล่นก่อนกลับบ้าน

"แต่นี่ แฟนหล่อขนาดนั้นระวังด้วยล่ะ" ท่าทีและสายตาของน้องนั้นดูก็รู้ว่าเจ้าขาสนใจพี่เบียร์ ผมเม้มปากแน่นได้แต่มองน้องชายที่ห่างกันปีเดียวเดินจากไป

เจ้าขาก็แบบนี้เสมอ ชอบเอาเปรียบผม ไม่เคารพผมเป็นพี่สักนิด "ไม่ให้หรอก ถ้าเป็นพี่เบียร์ไม่ยอมให้เด็ดขาด!"



ผมกลับคอนโดด้วยท่าทีครุ่นคิด ในสมองกำลังคิดแผนการเพื่อได้ใกล้ชิดคนที่น้องชายหมายปอง

"เครียดจริง" ผมบ่นกับตัวด้วยความหงุดหงิด "หรือว่าเราจะเข้าไปอ่อยเอง" ผมเหม่อคิดอยู่หน้าประตูห้องโดยไม่รู้ว่ามีร่างสูงเดินมาพร้อมกับขนมในมือ

"คิดอะไรอยู่ครับน้องหนู" ผมหันหน้าไปมอง

"พี่เบียร์ทำงานเสร็จแล้วหรือครับ" แค่ได้เห็นหน้าพี่เบียร์ผมก็รู้สึกดี เราสองคนเดินเข้ามาในห้องของผม พี่เบียร์เข้ามาห้องผมจนชินเสียแล้ว

"เพิ่งเสร็จครับพี่เลยแวะมาหาแต่เมื่อกี้ได้ยินอะไรอ่อย ๆ" ผมร้อนรนเพราะไม่คิดว่าพี่เบียร์จะได้ยินที่ผมเผลอพูดหน้าปะตู พี่เบียร์มองผมราวกับกำลังจ้องจับผิด ผมไม่ได้คิดจะอ่อยใคร ถ้าไม่จำเป็นนะ

"อือ ไม่เลยครับพี่เบียร์หูแว่วแล้ว" พี่เบียร์แกะขนมแล้วป้อนให้ผมกิน ผมพยายามไม่สบตารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังแอบคิดนอกใจพี่เบียร์ยังไงก็ไม่รู้ พี่เบียร์มองมือสั่น ๆ ของผมในตอนที่หยิบขนมมาป้อนให้พี่เบียร์กิน

"อาการน้องหนูออกชัดมากเลยครับ"

"ไม่มี๊จริงๆ ครับ รักไม่ได้จะอ่อยใครเลย" พลั้งปากบอกความคิดแล้วผมก็รีบปิดปากตัวเอง จะบอกความลับให้พี่เบียร์รู้ไม่ได้

"น้องหนูคิดจะอ่อยใครนอกจากพี่ครับ" 

"ไม่มีเลยครับ" ความสัมพันธ์ระหว่างพี่เบียร์กับผมยังคงคบหากันโดยไม่มีสถานะที่ชัดเจน แต่ที่ผมรู้สึกชัดเจนนั่นคือความรู้สึกของตัวเอง ผมมั่นใจว่าไม่อยากห่างจากพี่เบียร์แม้แต่สักวันเดียว

"พี่ไปเรียนก่อนนะครับ ไว้พี่จะโทรหานะ" ผมมายืนส่งพี่เบียร์หน้าประตูเมื่อใกล้ถึงเวลาที่พี่เบียร์ต้องไปเรียน มือเราประสานกันราวกับไม่อยากปล่อยจากกัน

"อย่าไปอ่อยใครนอกจากพี่นะครับ" ผมหัวเราะ พี่เบียร์จะกังวลเรื่องนี้ไปทำไมผมไม่มีใครนอกจากพี่เบียร์อยู่แล้ว

"ครับ รักจะอ่อยแค่พี่เบียร์เท่านั้น" ผมสัญญาเลย 



"ได้มาแล้ว ๆ เจ้าขาจะได้ไม่ต้องขู่เราอีก" ผมโล่งใจกระโดดโลดเต้นดีใจกับผลงานของตัวเอง เบอร์ติดต่อของพี่ฟ้าครามคงพอใจเจ้าขา

ผมใช้ความพยายามเต็มที่กับการโกหกครั้งแรกด้วยแรงกายและแรงใจที่มี ความจริงผมก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายแค่รอเวลาที่พี่ฟ้าครามกลับมาหอแล้วไปเคาะประตูเรียกเพื่อไปทำความรู้จัก ก่อนจะขอเบอร์ติดต่อและคอนเทคไลน์มาเอาไว้ติดต่อกันยามฉุกเฉิน พี่ฟ้าครามก็ใจดีไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ผมกังวลอย่างตอนแรก หลังกดส่งให้น้องชายได้ในสิ่งที่ต้องการเสร็จ ผมก็เพิ่งจะรู้สึกว่ามันเงียบผิดปกติ ไม่มีข้อความหรือสายที่โทรเข้ามาจากพี่เบียร์

ผิดแปลกเกินไป

เสียงมือถือดังผมเลื่อนกดรับสายจากเพื่อนพี่เบียร์ด้วยความสงสัย ปกติหากไม่มีเรื่องด่วนพี่เบียร์จะไม่ให้ใครโทรเข้ามาเบอร์ผมเด็ดขาดแม้ว่าผมจะมีเบอร์เพื่อนพี่เบียร์ทุกคน

"สวัสดีครับพี่ริท"

(น้องรักมารับไอ้เบียร์หน่อยครับ มันเมาไม่ยอมกลับครับ) ปลายสายบอกผมยิ่งขมวดคิ้วใหญ่

"พี่เบียร์เมาแล้ว มันยังไม่ดึกมากเลยครับพี่ริท"

(ก็ครับ มันบ่นว่ามีเรื่องกลุ้มต้องดื่มเท่านั้น)

"มีเรื่องกลุ้มใจหรือครับ ได้ครับเดี๋ยวรักรีบไปรับ ร้านเฮียใช่ไหมครับ"

(ใช่ครับ แต่น้องรักไม่ต้องมาเองนะครับพี่ธีร์ขับรถไปรับแล้วเดี๋ยวคงถึง)

"ได้ ๆ ๆ ครับ" เชื่อเขาเลยต้องเป็นพี่เบียร์พี่กำชับให้มารับแน่ทั้งที่ตัวเองยังเมา ผมเดินลงไปรอล็อบบี้ไม่นานก็เห็นรถพี่ธีร์มารับจริงอย่างที่พี่ริทบอกไว้

"พี่ธีร์สวัสดีครับ" ผมยกมือทักทายพี่ธีร์

"น้องรักขึ้นมาเลยครับ" พี่ธีร์เปิดประตูรถให้ผมได้เข้ามานั่ง พี่ธีร์ไม่ใช่คนพูดน้อยเหมือนพี่เพื่อน แค่เป็นคนนิ่ง ๆ ติดจะหยิ่งหากไม่ได้รู้จักกันแต่พอได้สนิทด้วยก็พบว่าพี่ธีร์ก็ช่างพูดเหมือนกัน

"ทะเลาะกันมาหรือเปล่าครับ พี่ไม่เคยเห็นไอ้เบียร์มันเป็นแบบนี้มาก่อน" พี่ธีร์ถามขณะขับรถ

"เอะ ก็ไม่นะครับ ล่าสุดที่เจอกันก็ตอนเช้าครับหลังพี่เบียร์ออกไปเรียนรักก็ยังไม่ได้เจอกันนะครับ" เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องของเจ้าขา ผมเลยไม่ได้โทรหาพี่เบียร์ แต่เรื่องที่จะให้ทะเลาะกับพี่เบียร์นั้นเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปไม่ได้

"แต่มันบอกกลุ้มใจเรื่องของเรานะ" ผมได้แต่ยิ้มเจื่อน ใจร้อนรนเป็นห่วงพี่เบียร์ "ปกติมีเรื่องอะไรมันบอกเราทุกเรื่องไหม"

"ก็บอกนะครับ เราคุยกันทุกเรื่อง"

"เอาน่าเราอย่าคิดมากเลย ไปเจอมันก็คุยกัน เคลียร์กันให้จบ มันก็ทุกทีขนาดเมายังให้พี่มารับเราอีก เป็นห่วงขนาดนี้ไม่รู้ว่าจะกลุ้มใจเรื่องเราอีกทำไม" ผมเงียบไปครู่เดียว ใจอยากเจอหน้าพีเบียร์โดยไว 

"เราไม่ได้นอกใจมันใช่ไหม" ใจผมเริ่มเต้นแรงดังหลังพี่ธีร์ถามเมื่อเงียบกันนาน

ผมนะเหรอจะนอกใจพี่เบียร์

"มาแล้ว น้องรักเชิญพามันกลับเลยนะครับ" พอมาถึงพวกพี่กันต์ก็หลีกทางให้ผมไปดูแลพี่เบียร์โดยไว สภาพโต๊ะที่ถูกปัดป่ายจนแก้วและขวดเหล้าตกแตกเกลื่อนกราย ไม่แปลกใจทำไมเฮียถึงได้ยืนจ้องหน้าผมเขม่ง ผมรีบยกมือไหว้ทักทายพี่เทคฯ พร้อมพยายามเข้าไปพยุงตัวพี่เบียร์ให้ลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้ 

"สภาพยังกับหมา"

"หยุดบ่นดิไอ้กันต์ น้องรักพามันกลับไปเลยก็ดีนะครับพวกพี่ปวดหัวกับมันมาก" คนเมาไม่ยอมลุกถึงแม้ว่าผมจะช่วยพยุง

"พี่เบียร์ครับ กลับห้องกันนะครับ" พี่เบียร์มองหน้าผมด้วยสีหน้ามึนเมา หน้าแดงขนาดนี้พี่เบียร์กำลังกลุ้มใจเรื่องอะไรกันแน่ ผมไม่เคยเห็นพี่เบียร์เมาขนาดนี้มาก่อน

"น้องหนูใจร้าย" ว่าไปด้วยท่าทีเมามาย อาการแบะปากงอนคล้ายเด็กน้อยชวนขยาดสายตา เพื่อน ๆ พี่เบียร์ต่างพากันเงียบกริบแม้จะสงสัยเรื่องที่เกิดขึ้นก็ตาม ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่เบียร์ถึงได้มาว่าผมอย่างนั้น

"หนูนอกใจพี่ หนูไปกอดคนอื่น" ผมตาโตตกใจกับสิ่งที่พี่เบียร์พูด "หนูให้คนอื่นกอดด้วยนะพี่ไม่ยอม" คนเมาเปลี่ยนอารมณ์อย่างไว ตะครุบตัวร่างเล็กพร้อมทั้งร้องไห้งอแงกลายเป็นเด็ก ดูน่าเวทนาสำหรับเพื่อนที่มอง

"หนูไปยุ่งกับไอ้ฟ้าครามอะ พี่ไม่ยอมนะครับ พี่ไม่ยอม ไหนน้องหนูบอกว่ารักแค่พี่ มีพี่คนเดียวแต่หนูเข้าไปห้องมันทำไม"

"พี่เบียร์เห็นหรือครับ" ผมตกอยู่ในอ้อมกอดแน่น รู้สึกหายใจติดขัดถึงพวกเพื่อนของพี่เบียร์จะแยกย้ายกันไปแค่สายตายังคงมองเพื่อน ผมรู้สึกอายและอยากจะพาคนเมากลับเคลียร์กันที่ห้องแต่เหมือนพี่เบียร์จะไม่ยอมกลับง่าย ๆ ถ้าไม่ได้คุยกัน

"ใช่พี่เห็น พี่เห็นหนูกอดกับไอ้นั่น"

"มันไม่ใช่อย่างที่พี่เบียร์เข้าใจเลยนะครับ จะพูดยังไงดี คือเจ้าขาน่ะครับน้องชายรักเขาชอบพี่ฟ้าครามเลยบอกให้รักเอาคอนแทคพี่เขาให้ เจ้าขาวานให้รักช่วยเฉย ๆ ครับ" เมื่อเรื่องมันเริ่มจะไปกันใหญ่ผมจึงตัดสินใจบอก ไม่เข้าใจว่าทำไมแผนการถึงได้ล่มไม่เป็นท่าและพี่เบียร์จับได้จนน้อยใจมาดื่มจนเมาเละเทะอย่างที่เห็น

"แน่นะครับ" ผมเช็ดน้ำตาที่หางตาให้พี่เบียร์ เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เบียร์มีเรื่องกังวลใจอย่างนี้ ต่อไปถ้ามีเรื่องอะไรผมคงต้องบอกพี่เบียร์ไปตามตรง หากเราจะคบหากันในอนาคตผมก็ไม่อยากให้คนรักของผมต้องกังวลเพราะผม

"แน่ครับ รักไม่นอกใจพี่เบียร์อยู่แล้ว รักชอบพี่มากพี่ก็รู้"

"แต่พี่น้อยใจกลัวหนูจะไปรักคนอื่นมากกว่าพี่" ผมยิ้มกว้าง รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกอย่างน้อยพี่เบียร์ก็เริ่มผูกพันกับผมทีละนิด พี่เบียร์ค่อย ๆ รักผมวันละนิดก็ได้ มั่นใจว่าผมคือคนที่ใช่เมื่อไหร่เราค่อยคบกัน ผมรอได้เสมอ

"ไม่มีใครเหมาะกับรักเท่าพี่แล้วครับ" ผมคิดอย่างนั้นเสมอ "กลับห้องกันไหมครับพี่เมาแบบนี้มันไม่ใช่ตัวพี่เลย"

"ก็ได้ครับ แต่น้องหนูต้องกลับไปปลอบใจพี่ให้สงบด้วยนะครับ วันนี้ทั้งวันพี่ร้อนใจเรื่องน้องหนูมากเลย" เสียงออดอ้อนทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ เวลาพี่เบียร์เมาก็อ้อนเก่ง

"ครับ" ผมมองเพื่อนพี่เบียร์ แต่ละคนทำหน้าตาโล่งอกที่พี่เบียร์ยอมสงบลงและพร้อมจะกลับห้องแล้ว ผมค่อย ๆ พยุงร่างสูงให้ลุกขึ้นจากพื้น เล่นเมาแต่หัวค่ำเลยไม่แปลกที่เพื่อน ๆ พี่เบียร์จะไม่เป็นห่วง

"กอดด้วยนะ" ผมขานตอบให้รู้

"ครับ"

"หอมแก้มด้วย"

"ครับ"

"จุ้บจุ้บด้วย"

"ครับ ๆ"

"เพื่อนอย่างกูเป็นหมาเลย" พี่กันต์กล่าวหลังผมขอตัวพาพี่เบียร์กลับ พี่ธีร์ยกแก้วมาชนเพราะเห็นด้วยกับพี่กันต์ เฮียเดินมาพยุงช่วยผมพาพี่เบียร์ไปยังรถ เพราะเจ้าขาตัวแสบเลยพี่เบียร์ถึงได้เศร้าอย่างนี้ คอยดูเถอะผมจะไม่ยอมน้องอีกต่อไปแล้ว ผมจะสู้กับเจ้าขาให้ได้!!





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 25-11-2021 22:14:52
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 29
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 29-11-2021 16:32:29

EPISODE : 29 เจ้าขามาป่วนอีกแล้ว



"น้องเจ้า เข้ามาไม่ได้นะพี่เบียร์นอนอยู่" หลังเคลียร์กับพี่เบียร์เรื่องในวันนั้น พี่เบียร์ก็ได้รู้จักหน้าตาของน้องชายผมและผมจำเป็นต้องคอลหาเพื่อให้น้องชายยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเองและเพื่อความสบายใจของพี่เบียร์มันคือสิ่งที่ผมใส่ใจ เรื่องวันนั้นถึงได้จบเรื่องไป 

"ก็เค้ามาแล้วนี่ไง" น้องผู้ไม่เกรงใจบุกเข้าห้องผมทันทีที่ผมเผลอ

"ทำไมไม่บอกว่าพี่คนนั้นอยู่ห้องข้าง ๆ" ผมไม่แปลกใจกับการมาของน้องชาย เจ้าขานั่งลงบนโซฟาราวกับเป็นห้องตัวเอง

"ก็พี่เพิ่งรู้เหมือนกัน" ผมแกล้งโกหกไปเพราะไม่อยากคุยกับน้อง ผมให้คำสัญญากับตัวเองแล้วว่าผมจะไม่ยอมน้องอีกแล้ว

"โกหกหรือเปล่า" เจ้าขาถามเหมือนจะรู้ทัน ผมรีบแย้งทันที

"จะโกหกทำไมล่ะ แล้วเจ้ามีเรื่องอะไรเราไปคุยข้างนอกกันดีไหม" ผมกลัวจะรบกวนการนอนของพี่เบียร์ เมื่อคืนพี่เบียร์บ่นปวดหัวผมเลยให้นอนที่ห้องเพราะจะได้ดูแลพี่เบียร์ด้วยหากป่วยไข้กลางดึกมันจะลำบากเพราะอยู่ตัวคนเดียว

"ไม่เอา เจ้าขี้เกียจเดินไปแล้ว มีน้ำให้ดื่มไหมคอแห้งแล้วนะ" คนน้องบ่นหิวแต่ไม่ยอมไปหาน้ำดื่มเอง ผมจึงไปหยิบมาให้น้อง ก็แล้วทำไมผมถึงได้เดินไปอย่างง่าย ๆ ไม่โต้เถียงอะไรแล้วแบบนี้เมื่อไหร่ผมจะกล้า ผมเดินมาวางน้ำบนโต๊ะน้องเปิดทีวีดูสบายใจเฉิบ น่าโมโหตัวเองจริง

"งั้นเจ้ามาหาพี่มีเรื่องอะไรหรือเปล่า คงไม่ได้จะแบล็กเมล์พี่อีกนะ พี่ก็ขอคอนแทคพี่ฟ้าครามให้แล้ว" ผมมองน้องชายที่ดื่มน้ำเย็นด้วยใจฉงน ผมไม่อยากโดนน้องใช้งานอีกครั้งที่สอง

"เค้าอยากได้ห้องของตัวน่ะ ยกให้ได้ไหม"

"ไม่ได้!" ยังไงก็ให้ไม่ได้เด็ดขาด ผมยอมสละเงินที่เขาได้จากการขายรถสุดรักเพราะไม่อยากรบกวนคุณป๊ากับคุณแม่เลยนะกว่าจะได้คอนโดนี้มา ใครจะยกให้น้องไปง่าย ๆ "ถ้าเจ้าเอาไปแล้วพี่จะไปอยู่ไหนล่ะ"

"ก็มีผัวแล้วหนิพี่ก็ไปอยู่กับผัวสิ เพราะงั้นก็ยกห้องให้เค้าอยู่ดีกว่าปล่อยให้ห้องมันว่าง" เจ้าขาบอกอย่างน่าไม่อาย

"แต่.." แต่ผมยังไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เบียร์สักหน่อยอีกอย่างมาบอกว่าพี่เบียร์เป็นผัวแบบนั้นมันฟังดูแปลก ๆ เจ้าขามองผมพลางกอดอกเหมือนติดจะรำคาญที่ผมไม่ยอมให้ง่าย ๆ

"เอาเถอะ ไม่ต้องบอกตอนนี้ก็ได้แล้วผั-"

"พี่เบียร์นอนอยู่เจ้าอย่าเรียกพี่เบียร์ด้วยคำนั้นสิ พี่อายนะ!" ผมรีบเถียงก่อนน้องจะพูดคำเรียกพี่เบียร์ที่ชวนเขินอายอีก เจ้าขาคว่ำปาก ก็รู้ว่าพี่ชายเป็นคนน่าแกล้ง "ผัว จะเรียกใครจะทำไม"

"เจ้าขา" ระหว่างเราสองคนคุยกันนั้น พี่เบียร์ที่ตื่นแล้วเดินออกมา ผมไม่อยากให้น้องชายได้รู้จักกับพี่เบียร์สักนิด

"ตื่นแล้วหรือครับพี่เบียร์" เจ้าขาแจกยิ้มหวานให้คนที่เข้าใจว่าเป็นคนรักของพี่ชาย มือก็ไหว้คนอายุมากกว่าเห็นสายตาพี่ชายมองคนเพิ่งตื่นนอนแล้วเจ้าขาก็คิดแกล้ง

"สวัสดีครับพี่เบียร์ เจ้าขานะครับเรียกเจ้าเฉย ๆ ก็ได้" แนะนำตัวพร้อมจะเข้าใกล้ไปกอด ผมดึงแขนน้องไว้ รั้งไม่ให้ไปใกล้ชิดตัวพี่เบียร์

"ห้ามกอดนะเจ้า" เสียงน้องจิ๊ปากเมื่อโดนผมรู้ทัน "น้องชายรักครับที่คุยกับพี่เบียร์เมื่อวันก่อน" พี่เบียร์รับไหว้และจำน้องชายของผมได้

"สวัสดีครับน้องเจ้า เจอกันสักทีนะครับ" เจ้าขาดึงมือผมออกไปจากแขนเล็ก ผมรีบวิ่งไปอยู่คั่นกลางเพราะไม่อยากเห็นเจ้าขาโปรยเสน่ห์ใส่พี่เบียร์ น้องชักสีหน้าใส่ผมแล้วหันไปยิ้มหวานกับพี่เบียร์

เด็กร้อยมารยา ผมจ้องมองน้องด้วยสายตาไม่ยอมแพ้เช่นกัน

"ครับ เจ้าก็อยากเจอพี่เบียร์เหมือนกัน ถ้าเจ้าจะขออยู่ด้วยทั้งสองสามวันจะได้ไหมครับ"

"ได้ครับ/ไม่ได้!!" เจ้าขาหันขวับมองเมื่อผมปฏิเสธ ผมส่ายหน้าไม่ยอมให้น้องได้อยู่ห้องเดียวกันหรอก เราเข้ากันไม่ได้สักนิดเดียว พี่เบียร์มองผมกับน้องสลับกันไปมา

"เราสองคนทะเลาะกันเหรอครับ"

"ไม่ครับ แค่น้องเจ้าพูดเล่นแค่นั้นเอง" ผมแอบไม่พอใจ แค่คิดว่าเจ้าขามาเกาะแกะตัวพี่เบียร์ ผมก็ทนรับไม่ไหวแล้ว "จริงไหมเมื่อกี้เจ้ายังบอกเลยว่าจะกลับแล้วเนอะ"

"แต่เจ้าเปลี่ยนใจแล้ว" น้องตอบกลับมาอย่างไว เด็กคนนี้มันร้ายเกินไป

"งั้นก็อยู่นั่งเล่นด้วยกันก่อนก็ได้ครับ กินอะไรไหมเดี๋ยวพี่ลงไปซื้อให้นะ" พี่เบียร์ใจดีจะลงไปซื้อของกินมาให้ ไม่ทันน้องจะเอ่ยปากพูดผมก็พูดแทรกอีกครั้ง

"ไม่เป็นไรเลยครับพี่เบียร์ น้องเจ้าจะกลับแล้ว ไว้เจอกันที่บ้านนะ" โดนผลักหลังให้ออกไปจากห้อง เจ้าขากระฟัดกระเฟียดกระทืบเท้าโมโห ผมไม่ยอมให้น้องได้อยู่ต่อรีบล็อคประตูหันมายิ้มเจื่อนให้พี่เบียร์ที่ยืนมอง คนที่มองพฤติกรรมของผมขมวดคิ้วสงสัย

"มีพิรุธนะครับ" พี่เบียร์ถาม

"เปล๊า ไม่มีเลยครับ" ผมปฏิเสธอีกครั้ง

"ถ้าไม่มีทำไมต้องไล่น้องไปแบบนั้นล่ะครับ" พี่เบียร์ถามถึงเหตุผลที่ผมแสดงนิสัยอย่างนั้นกับน้องชาย คงเพราะเป็นพี่ชายที่แสนดีให้กับน้องคอกเทลด้วยมั้งพี่เบียร์จึงได้ไม่ชอบที่ผมแสดงออกกับเจ้าขาอย่างนั้น

"ก็..." อ่ำอึ้งอยู่นาน ก็ผมไม่อยากจะบอก

"ว่าไงครับ"

"ก็รักหึง รักกลัวเจ้าขาจะมายุ่งกับพี่เบียร์ไงครับ" ได้ฟังคำตอบคนคาดคั้นก็เผยยิ้มพอใจ เสียงเคาะประตูยังดังแต่ผมไม่ยอมเปิดประตูให้น้องชายได้เข้า ผมจะไม่ยอมเปิดให้น้องเข้ามาก่อกวนให้อารมณ์เสียแต่เช้าแล้ว

'กลับไปก่อนนะเจ้าไว้พี่จะตัดสินใจเรื่องห้องก่อนแล้วจะให้คำตอบ'

ส่งข้อความบอกน้องอย่างนั้นเสียงเคาะประตูก็หยุด ผมเงี่ยหูฟังและมองไปยังช่องตาแมวไม่พบน้องก็ถอนหายใจโล่งอก ถึงอย่างนั้นผมก็ยังคงยืนส่องเกาะเป็นตุ๊กแกที่ประตู

"ทำอะไรอยู่ตรงนั้นอีกครับ" ผมรีบเดินไปยังห้องครัว ขอแค่น้องชายไม่มากวนหนึ่งวันของผมก็เป็นสุข

"พี่เบียร์ครับเช้านี้เราไปกินข้าวข้างนอกกันไหมครับ" ผมชวนพี่เบียร์เพราะเกิดหิวโจ๊กหน้ามหาลัยร้านดังที่ลูกแพร์กับนายโนแนะนำ

"ก็ได้ครับ ตื่นสายจนไม่ได้ไปวิ่งเลยถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปวิ่งด้วยกันนะครับ" ผมพยักหน้าเป็นเชิงรับปาก ขอแค่ได้อยู่กับพี่เบียร์ ให้ไปไหนผมก็ยอม ผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอกด้วยกัน

แกร็ก

"พี่เบียร์" เสียงใสของเจ้าขาดังขึ้น

"อ้าว เน้องเจ้าทำไมมานั่งอยู่หน้าห้องล่ะครับ" คนไม่ยอมกลับง่าย ๆ ยังคงนั่งรอ เจ้าขาเบื่อและการแกล้งพี่ชายเป็นสิ่งที่เขาชอบ

"เจ้าขี้เกียจกลับบ้านครับเลยกะว่าจะมานั่งเล่นกับพี่รักน่ะครับ" คนใจดียิ้มให้ น้องคงไม่อยากให้น้องชายได้อยู่แต่เขาอนุญาต เข้าทางครอบครัวน้องไว้เขาจะได้มีโอกาสชิดใกล้กับคนในครอบครัวน้องมากขึ้น ต่อไปในอนาคตจะไม่ต้องลำบากทำความรู้จักกันใหม่

"ได้สิอยู่ด้วยก็ได้แต่ห้ามทำให้พี่ชายเราหึงล่ะพี่ไม่เห็นเขางอแง"

"ก็ได้ครับ" คนเจ้าเล่ห์เหลี่ยมเยอะยอมตกปากรับคำเพราะไม่อยากโดนไล่ให้กลับไปนอนเหงาที่บ้านคนเดียว "แต่ไม่สัญญาว่าจะทำให้ได้ไหมนะ" เจ้าขาบ่นมุบมิบคนเดียว เห็นพี่ชายเดินมาหาที่ประตูเจ้าขาก็รีบเกาะแขนพี่เบียร์เพื่อเป็นเกราะปกป้องเขาไม่ให้โดนไล่กลับบ้าน

"เจ้าขา" ทำไมไม่กลับบ้านอีก ผมเหนื่อยกับน้องชายตัวเอง

"อย่าไล่น้องเลย ไหน ๆ ก็ไหนแล้วพี่ชวนน้องเจ้าไปกินข้าวเช้าด้วยกันเลย ดีไหมครับ"

"ดีครับ" เจ้าขาขานตอบด้วยสีหน้าพอใจผิดกับผมที่ยังคงหน้านิ่ง พี่เบียร์สัมผัสความรู้สึกได้ถึงได้จับมือผมเพื่ออ้อน

"น้องหนูไม่โกรธพี่ใช่ไหมครับ" จะบอกว่าโกรธก็ไม่เชิงผมแค่ไม่ชอบที่น้องชายวุ่นวายกับพี่เบียร์

"ก็ถ้าพี่เบียร์อยากให้เจ้าขาไปด้วยรักก็ไม่ได้ว่าอะไร" แต่หน้าตาผมไม่ยิ้มแย้มมาก เจ้าขายิ้มขำ คงพอใจแล้วสินะที่พี่เบียร์เอาใจใส่ดูแล

"ขอบคุณครับ งั้นเราไปกันเลยนะ" พี่เบียร์แกะมือเจ้าขาให้ปล่อยแขนเขาอย่างสุภาพก่อนจะยื่นมือไปหาคนขี้น้อยใจ งอนจนแก้มป่องอย่างผม ผมยอมให้จับมือกันแม้จะยังเคือง ๆ เรื่องเจ้าขาก็ตาม

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 30-11-2021 22:55:30
 :sad4:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอนที่ 30
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 02-12-2021 16:34:33

 EPISODE : 30 หึงเพราะน้องชาย 



ครึ่งวันที่มีน้องชายอยู่ด้วยผมหน้างอเพราะเจ้าขาเอาแต่เกาะแกะพี่เบียร์ชนิดที่แบบติดหนึบ ไม่ยอมออกห่าง เมื่อพี่เบียร์ถูกเพื่อนเรียกรวมตัวที่คณะ เจ้าขาก็ขอตามไปด้วยแต่ผมไม่ขอไปด้วยถึงได้แวะมาหาเพื่อนแทน ลูกแพร์นั่งทำการ์ดบนโต๊ะหน้าจกเหลือบมองผมหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่มาหาเพื่อนผมก็ไม่พูดไม่จา เพื่อนถามอะไรไปผมก็บอกว่าไม่มีอะไร รู้แหละว่าลูกแพร์ต้องเป็นห่วงอยู่แน่ ๆ

"พวกมึง กูมาแล้ว" คนติดเรียนรีบวิ่งมาหา ลูกแพร์เป็นคนบอกให้นายโนมาที่ห้องเพราะผมกำลังมีปัญหาอยู่ คนหงุดหงิดอารมณ์เย็นลงหลังนั่งเงียบ ผมแก้เครียดด้วยการวาดรูปในไอแพดเล่น "กูซื้อส้มตำไก่ย่างมาด้วย มากินกัน ๆ ๆ"

"รักมาเร็ว" ถึงจะไม่มีอารมณ์กินแต่พอเห็นอาหารท้องว่างก็ร้องประท้วง ผมลากขาตัวเองมานั่งกินกับเพื่อนด้วยความจำใจ

"เฮิร์ตหรือมึงหรือพี่เบียร์ทิ้งมึงแล้ว"

"เปล่า" ตอบเพื่อนด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน พี่เบียร์ไม่ได้ทิ้งผมไปสักหน่อย

"แล้วมีเรื่องอะไรทำไมมึงถึงได้นั่งหน้าอมขี้ในห้องไอ้แพร์อย่างนี้ล่ะ" เพื่อนถามย้ำ "ถ้ามึงไม่บอกพวกกูไม่รู้จะปลอบยังไงนะ" ผมมองหน้าเพื่อนสองคน ก็รู้ว่าทำเพื่อนเป็นห่วง แต่ผมแค่เหนื่อยใจ

"ว่าไงล่ะรัก พวกเรายังเป็นเพื่อนกันนี่น่า"

"ก็.." พูดแค่นั้นแล้วเว้นวรรคอยู่นาน เพื่อนทั้งสองก็รอฟังแววตาลุ้น "น้องเจ้ามาหา บอกจะขออยู่ด้วยสองสามวัน" เท่านั้นเพื่อนสองคนก็ต่างมองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย พวกเราต่างรู้ว่าน้องเจ้าเป็นเด็กนิสัยไม่ดี

"แล้วตอนนี้น้องเจ้าอยู่ไหนแล้วล่ะ"

"อยู่กับพี่เบียร์ที่คณะมั้ง" ผมบอกเพื่อนอย่างนั้น ไม่แน่ใจว่าพี่เบียร์จะพาน้องไปที่ไหนอีกไหม ไม่อยากรู้แล้วมันทำให้ผมปวดหัว

"แล้วปล่อยให้ไปเหรอ เดี๋ยวน้องเจ้าก็เขมือบพี่เบียร์ของมึงหรอก" นายโนถามเพื่อย้ำเตือนให้ผมรู้ตัวว่าไม่ควรปล่อยให้น้องอยู่กับพี่เบียร์ ผมก็ไม่ได้อยากปล่อยแต่ผมทนเห็นเจ้าขาออเซาะใส่พี่เบียร์ไม่ได้ มันรู้สึกอิจฉาจนอยากจะผลักน้องออกไปไกล ๆ แต่ผมทำไม่ลง ถึงจะไม่ชอบหน้ากันแต่ยังไงเจ้าขาก็เป็นน้องชายของผม

"ก็กลัว แต่น้องเจ้าบอกอยากไปด้วย พี่เบียร์ก็ใจดีให้ไปแถมบอกด้วยว่าจะดูแลน้องเจ้าให้ดี"

"แล้วรักยอมให้ไปเหรอ" ลูกแพร์ถามบ้าง

"รักไม่ยอม ตอนแรกก็บอกน้องเจ้าแล้วว่าให้กลับไปอยู่ห้องด้วยกันไม่ต้องไปรบกวนพี่เบียร์แต่เจ้าขาก็ไม่ยอม บ่นว่าอยากเดินเล่นดูคณะพี่เบียร์เผื่อปีหน้าจะสอบติดมหาลัยนี้นะ" ผมรู้ว่าน้องเล่ห์เหลี่ยมเยอะ มีข้ออ้างโน้นนี่ให้คนอื่นตามใจโดยง่ายแต่ผมไม่คิดว่าพี่เบียร์จะเป็นเหมือนคนอื่นด้วย

"กลัวเหรอรัก" โดนถามจี้จุดรผมก็พยักหน้าตอบเพื่อนอย่างไม่อาย ผมกลัวว่าพี่เบียร์จะหวั่นไหวเพราะน้องชายตัวเอง

"งั้นก็ไปอยู่เป็นก้างสองคนนั้นซิ จะเปิดโอกาสให้น้องเจ้าเขมือบพี่เบียร์ทำไมวะ" นายโนไม่เข้าเพื่อนเท่าไหร่ "มึงมานั่งซึมแบบนี้มันก็ไม่มีประโยชน์นะเว้ยไอ้รัก"

"แต่รักไม่อยากงี่เง่าต่อหน้าพี่เบียร์"

"โอ้ยกูจะบ้าตายกับมึง" มือเพื่อนจับผมมาเขย่าๆ ให้หายซื่อบื้อ "เอาจริงนะเว้ย ถึงมึงจะงี่เง่าใส่ถ้าพี่เบียร์ชอบมึงจริงเขาก็ต้องรับได้ป่ะวะ"

"ก็จริงนะ" ลูกแพร์เองก็เห็นด้วยกับนายโน

"ไม่เอา รักกลัวพี่เบียร์จะไม่รัก" นายโนถึงกับถอนหายใจดังหลังได้ยินผมพูดอย่างนั้น

"งั้นก็รีบกิน เดี๋ยวพวกกูไปเป็นเพื่อนมึงเอง ปล่อยผัวไว้กับน้องเจ้าแบบนั้นอันตรายยิ่งกว่าระเบิดปรมาณูอีก" ผมสบตากับเพื่อนทันที อาการหน้าแดงเห่อร้อนกลับมาหาอีก 

"ห้ามพูดนะ"

"อะไร"

"ก็คำนั้นไง ห้ามพูด" ผมบอกนายโนและสั่งห้ามเด็ดขาด อย่าพูดถึงคำนั้นเชียว

"ผัวเหรอ" ลูกแพร์ถามผมเพื่อความแน่ใจ ผมพยักหน้าแก้มเริ่มแดงเพราะอาการเขิน

"ทำไมชอบพูดคำนั้นกันก็ไม่รู้" นายโนกรอกตา ถอนหายใจรอบที่ห้าแล้ว

"โอเค กูไม่พูดแล้วก็ได้แต่ใคร ๆ ก็ดูออกไหมว่ามึงกับพี่เบียร์กำลังคบหาดูใจกันนะ" ผมนิ่งเงียบ เรื่องนั้นมันก็จริงแต่สถานะของผมกับพี่เบียร์มันยังไม่ชัดเจน เราก็แค่กำลังดูใจตัวเองอยู่แต่เรายังไม่ได้เป็นแฟนจริง ๆ สักหน่อย

"พี่เบียร์แสนดีขนาดนั้นไม่หลงน้องเจ้าหรอกรัก" ลูกแพร์เชื่ออย่างนั้น

"เอาเถอะ แต่ให้ปลาย่างอยู่ใกล้กับแมวนานๆ ก็ไม่ได้หรอกนะ กินเสร็จแล้วไปกัน จะได้รู้ว่าพี่เบียร์จะทนแรงยั่วของน้องเจ้าได้แค่ไหนกัน"

นั่นสินะ เจ้าขาขี้ยั่วมาแต่ไหนแต่ไรแล้วพี่เบียร์จะเผลอตัว เผลอใจบ้างแค่ไหนก็ต้องวัดใจกันดู หลังกินส้มตำจนหมดผมกับเพื่อนตั้งใจไปหาพี่เบียร์กับเจ้าขา เราสามคนอยู่ในรถของลูกแพร์ ผมกวาดสายตามองหน้าคณะก็พบว่ามันเงียบเกิน หรือพวกพี่เบียร์จะนัดกันที่อื่น

"พี่เบียร์อยู่ไหนวะมึง" ผมเองก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะไม่ได้บอกพี่เบียร์ไว้ก่อนว่าจะมาหา ผมไม่รู้ว่าพี่เบียร์จะยังอยู่ที่คณะหรือเปล่า "อ้าว แล้วมึงจะให้พวกกูมากับมึงด้วยทำไม ถ้าไม่เจอพี่เขาวะ"

"ขอโทษ รักคิดว่าพี่เบียร์น่าจะอยู่ที่นี่อีก เดี๋ยวรักโทรหาก่อนนะ" ลูกแพร์พยักหน้า เราต่างเหงื่อไหลเพราะอากาศร้อน

"มึงนี่นะ" นายโนคงเหนื่อยใจ "กูน่าจะเตือนก่อนจะมา"

"อ้าวน้องรัก มาหาไอ้เบียร์เหรอไปดิ มันไปเข้าห้องน้ำ" เสียงพี่วอร์มเอ่ยทักขึ้น เราสามคนเลยหันไปมอง พี่วอร์มเดินมาพร้อมกับถุงขนมคิดว่าคงออกไปซื้อขนมมา

"ครับ" เราสามคนเดินตามพี่วอร์มมายังโต๊ะนั่งเล่นประจำของกลุ่มพี่เบียร์ พี่ที่เหลือรับไหว้รุ่นน้องอย่างพวกผม

"ไอ้เบียร์มันไปห้องน้ำน่ะกับน้องชายเราหรือเปล่า" ผมตอบรับเพราะก็มีแค่เจ้าขานั่นแหละที่มากับพี่เบียร์ แถมยังตัวติดกับพี่เบียร์แน่น ไม่ยอมห่างไปไหน

"แต่ก็เข้าไปนานแล้วนะกับน้องเจ้าขา" ผมฟังเม้มปากตัวเองพยายามไม่คิดมาก มือถูกนายโนดึง

"พวกมึงตามกูมานี่ พวกเราไปซื้อขนมก่อนนะพี่เดี๋ยวมานั่งครับ" นายโนพูดโกหกรุ่นพี่อยู่

"เออ ๆ " ผมโดนเพื่อนลากมาเพื่อตามหาพี่เบียร์และน้องเจ้าในห้องน้ำ แอบไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนต้องโกหกว่าจะไปซื้อขนมมากินทั้งที่ลากเขาและลูกแพร์มาทางห้องน้ำ บอกว่ามาห้องน้ำก็ไม่มีใครว่าอะไร

"หาให้ทั่วเลย ผัวมึงอย่าให้น้องมึงคาบไปแดก" ผมตีแขนเพื่อนที่พูดไม่เพราะใส่ ถึงจะหวั่นไหวนิดแต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดไม่ไว้ใจพี่เบียร์

"รักไม่ชอบนะโน" ผมไม่ชอบจริง ๆ กับคำนั้น แต่ทำไมเพื่อนชอบพูด

"ช่างก่อนๆ ไอ้แพร์เจอไหม" นายโนถามคนที่เข้าไปในห้องน้ำ  

"ไม่เจอ อยู่ห้องน้ำอีกฝั่งหรือเปล่า" พอเพื่อนบอกอย่างนั้นผมก็โดนนายโนจับมือลากอีก ชักสงสัยแล้วว่าที่เพื่อนสองคนจริงจังมากเกินไปเพราะคิดจะช่วยผมหรือเพราะเกลียดขี้หน้าน้องผมกันแน่

"รักว่าเราไม่ต้องตามหาก็ได้นะบางทีพี่เบียร์กับน้องเจ้าอาจจะกลับไปนั่งที่โต๊ะแล้วก็ได้"

"มาถึงขั้นนี้แล้วนะเว้ย ยังไงกูสองคนก็จะตามหาให้เจอ มึงน่ะไอ้รัก ยอมน้องมึงตลอด ถ้าน้องเจ้าบอกอยากได้พี่เบียร์ขึ้นมามึงจะยกให้หรือไง" ผมนิ่งคิด ก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก ผมจะใจอ่อนให้น้องเจ้าไม่ได้ พี่เบียร์เป็นคนที่ผมรักยังไงก็ยกให้ใครไม่ได้

"ไปเถอะ หาไม่เจอก็ค่อยไปนั่งรอที่โต๊ะกัน" ลูกแพร์ยุติความตึงเครียดของพวกเรา ระหว่างเราสามคนเดินไปหาห้องน้ำอีกฝั่งจนมาถึงหน้าห้องน้ำชายผมเป็นฝ่ายยืนอึ้งเมื่อเห็นภาพบาดตาบาดใจเข้าโดยไม่ทันตั้งตัว

ทำไมพี่เบียร์กับเจ้าขายืนจูบกัน!!



"อะไร หนีมาทำไรเนี่ยไอ้รัก" นายโนยื้อแขนผมไว้หลังเห็นภาพบาดตาผมหันหลังเดินออกมา เพื่อนก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมผมไม่ยอมเข้าไปข้างในแต่เลือกจะเดินหนี

"รัก ไปถามให้รู้เรื่องดีกว่าไหม บางทีอาจไม่มีอะไรก็ได้" แต่ผมยังไม่พร้อมจะไปถาม เริ่มรู้สึกน้ำตาคลอเบ้า ผมอยากจะร้องไห้ถ้าหากพี่เบียร์กับน้องเจ้าจูบกันจริง ๆ ผมจะรับได้ไหม

"ไม่เอา รักกลัว"

"กลัวอะไร" นายโนถามหน้านิ่วคิ้วขมวด ผมรู้ว่าเพื่อนไม่พอใจ แต่ผมไม่มีความกล้าพอ

"กลัวว่าพี่เบียร์จะชอบน้องเจ้ามากกว่า" สองเพื่อนรักได้แต่ถอนหายใจ

"เพราะแบบนี้เลยต้องบุกไปให้รู้ไง พี่เบียร์จะได้ชัดเจนว่าชอบคนพี่หรือชอบคนน้อง"

"นั่นสิรัก เรายังไม่รู้เรื่องราวเลยว่าทำไมสองคนถึงได้จูบกันน่ะ ไปถามเถอะ" ลูกแพร์อยากให้ผมกล้าเผชิญหน้ากับความจริง แต่ผมส่ายหน้า ผมไม่พร้อมรับรู้เรื่องอื่น พอผมดื้อไม่ยอมไป เพื่อนทั้งสองก็ล็อคแขนผมเพื่อจะพาไปเคลียร์กับพี่เบียร์ คนที่ออกมาจากห้องน้ำดูตกใจที่เห็นผมโดนเพื่อนหิ้วปีกทั้งสองข้าง

"พี่เบียร์" ผมเริ่มตาแดง เห็น้องเจ้าเดินตามหลังพี่เบียร์ก็ยิ่งเจ็บปวด

"มาได้ไงครับ" พี่เบียร์ถามผมกับเพื่อน มือของเพื่อนก็สะกิดให้ผมถาม ผมฝืนยิ้มให้พี่เบียร์

"รักกับเพื่อนแค่แวะมานะครับ แต่พวกเรากำลังจะกลับแล้วครับ" ผมรวบแขนเพื่อนให้กลับแต่ทั้งนายโนและลูกแพร์ไม่มีใครยอมให้ลาก

"พี่ทำแบบนั้นได้ไงวะ"

"ตะกี้พวกเราเห็นพี่เบียร์กับน้องเจ้าจูบกันครับ" ผมปิดปากเพื่อนไม่ทัน ลูกแพร์ไม่อยากให้เพื่อนหนีความจริง เพราะถ้าต้องมีคนรู้สึกผิดต้องไม่ใช่เพื่อนรักของเขา

"น้องเจ้าชอบพี่เบียร์หรือไง"

พี่เบียร์มองมายังผม เราสองคนสบตากันผมรู้สึกตาแดงคล้ายจะร้องไห้ดีหรือควรกักเก็บน้ำตาไว้ ความกังวลทำให้ผมเม้มปากแน่น ปากอิ่มกลายเป็นสีช้ำ นัยน์ตาไหวระริก ไม่ชอบที่เห็นน้องชายยืนอยู่ข้างกายพี่เบียร์ ภาพที่คนสองคนตรงหน้าจูบกันยังคงฉายซ้ำให้ชวนร้องไห้

พี่เบียร์เดินเข้าใกล้ อ้อมกอดที่แสนอุ่นโอบกอดผมไว้ผมถึงได้หลั่งน้ำตา เพื่อนทั้งสองปลีกตัวขยับห่างปล่อยให้เราสองคนได้ปรับความเข้าใจกันเอาเอง เจ้าขากรอกตามองพร้อมกอดอก พี่ชายของเขาขี้แงไม่เคยเปลี่ยน

"ขี้แงตลอดเลย น่ารำคาญจริง"

"แล้วใครล่ะที่ชอบแกล้งไอ้รักมันให้ร้องไห้บ่อย เป็นน้องชายทำไมชอบแกล้งพี่" ถึงนายโนจะบ่นแต่เจ้าขาก็ไม่คิดฟัง

ผมยังคงน้พตาคลอในอ้อมอกของพี่เบียร์ ลูกแพร์ลากนายโนและเจ้าขาให้ออกห่าง ยืนทะเลาะกันไปก็ไม่มีใครหันมาสนใจ ผมเองก็อยากมีเวลาเคลียร์กับพี่เบียร์เหมือนกัน

"หย่าร้องไห้นะครับ พี่ไม่ได้จูบน้องเจ้าจริง ๆ" คำยืนยันหนักแน่นยังไม่เพียงพอจะทำให้ความน้อยใจน้องชายจากหายไป มือหนาโอบกอดปลอบผมและบอกความจริง

 "แค่ขนตาเข้าตาของน้องเจ้าพี่เลยช่วยเอาออกมาแค่นั้นเองครับ"

"..." ผมเชื่อแต่ผมแค่น้อยใจ

"เจ้าขาเป็นน้องชายของเรา พี่ก็แค่ดูแลในฐานะพี่ชายคนนึง ไม่ได้คิดอะไรมากกว่านั้นเลยครับ" ยิ่งพี่เบียร์พูดผมยิ่งร้องไห้ ทำไมต้องไปสนใจเจ้าขาขนาดนั้น

"แต่รักไม่อยากให้พี่เบียร์ดูแลน้องเจ้า รักหึง พี่เบียร์ไม่เข้าใจรักหรอกก็พี่เบียร์ไม่ได้รู้สึกเหมือนอย่างรัก" ความในใจของผมถูกกลั่นออกมาเป็นคำพูด พี่เบียร์ขยับตัวผมให้ออกห่างจากตัว สายตาอ่อนโยนมองผมและเช็ดน้ำตาให้

"ใครบอกว่าพี่ไม่รู้สึกเหมือนกับเราครับ ถ้าพี่ไม่รัก ไม่ชอบพี่จะใส่ใจครอบครัวของเราทำไม" ผมพยายามสะอื้นให้เบา "เพราะตอนนี้พี่สนใจเราอยู่พี่ก็อยากใส่ใจครอบครัวของเราเหมือนกันแต่ถ้ามันทำให้เราไม่สบายใจขนาดนี้ต่อไปพี่จะระวังไม่ให้น้องเจ้าอยู่ใกล้เกินไปดีไหมครับ" ผมพยักหน้าพอใจกับคำพูดของพี่เบียร์ เราสองคนยืนเคลียร์กันอยู่สักพักจนผมเลิกร้องไห้พี่เบียร์ถึงได้พามานั่งร่วมกับกลุ่มเพื่อนไม่ยอมให้ผมหายไปไหนไกลตัวอีก

เจ้าขาขอตัวกลับบ้านเพราะไม่มีเรื่องสนุกให้แกล้งแล้ว ผมขอบคุณเพื่อนทั้งสองที่ช่วยผมเรื่องน้องเจ้า นายโนกับลูกแพร์ขอตัวกลับไปเรียนเมื่อพี่เบียร์บอกจะดูแลผมเอง กลายเป็นว่าคืนนี้พี่เบียร์ก็ขอนอนที่ห้องผมอีกคืน
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 02-12-2021 22:39:35
 :hao5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอนที่ 31
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 06-12-2021 17:00:37



 EPISODE : 31 ออกกำลังกายด้วยกัน 

"ตื่นได้แล้วครับ ไหนบอกจะไปออกกำลังกายกับพี่ไงครับน้องหนู" เสียงปลุกแสนหวานไม่ได้ช่วยให้อยากลุกจากที่นอน ผมงอแงเพราะไม่อยากลุกจากเตียงแต่เช้า ก็เมื่อคืนเล่นนอนดึกเช้านี้จึงขี้เกียจลุก

"ทำไมเวลานอนแป๊ปเดียวเองล่ะครับ รักยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย" บอกพี่เบียร์พลางกอดคนตัวโต เมื่อคืนเรานอนด้วยกัน ผมเล่าเรื่องที่น้องเจ้าขาแกล้งผมตอนเด็กให้พี่เบียร์ฟังจนเผลอหลับไป

"สำหรับน้องหนูนอนทั้งวันก็นอนไม่อิ่มครับ"

"พี่เบียร์อะ" โดนแซวเรื่องจริงเข้าหน่อยผมก็ค้อนใส่ "รักตื่นก็ได้ครับ แต่อุ้มไปส่งห้องน้ำหน่อยสิครับ" อ้าแขนรอจนคนมองอดใจไม่ไหวก้มลงฟัดแก้ม

"ค่ามัดจำครับ" พี่เบียร์บอกหลังได้เอาค่ามัดจำไปแล้ว

"พี่เบียร์ขี้แกล้ง" บอกอย่างนั้นแต่ก็ยิ้มชอบแหละที่โดนพี่เบียร์หอมแก้ม

"ค่ามัดจำได้แล้วแล้วของรางวัลล่ะครับ"

"ของรางวัลตอบแทนต้องให้หลังจากทำงานเสร็จครับ" ผมลุกขึ้นนั่งพิงไหล่พี่เบียร์อย่างอิดออด อยากไปออกกำลังกับพี่เบียร์ก็อยาก แต่ง่วงนอนผมอยากนอนต่อรอให้แสงอาทิตย์ขึ้นทักทายมาก่อน "แต่รักง่วง"

"น้องหนูไม่ไปพี่ก็ไม่ว่านะครับ"

"อือ อยากไปด้วย รักอยากเห็นพี่บียร์ออกกำลังกายเท่ ๆ"

"ฮา ๆ นั่นเหรอเหตุผลของเราน่ะ"

"ก็แค่นี้แหละ พี่เบียร์เป็นเหตุผลของรักทุกอย่างแหละครับ" ตายแล้ว ผมกลายเป็นคนช่างกล้าพูดตั้งแต่เมื่อไหร่กัน พอเห็นหน้าพี่เบียร์กับผมยุ่ง ๆ แล้วเรื่องที่เฮียโซดาส่งรูปในวัยเด็กของพี่เบียร์ก็ผุดเข้ามาในหัวจนเขาอดขำไม่ได้ พี่เบียร์ตอนเด็กถูกคุณแม่จับแต่งตัวเป็นเจ้าหญิงดิสนีย์แล้วน่ารักมาก เขาจะบอกพี่เบียร์เรื่องนี้ไม่ได้เพราะมันเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่ได้มาจากเฮียโซดาเวลาที่ถูกขอร้องให้ช่วยงานที่ร้าน

คนปลุกขมวดคิ้วสงสัย "ขำเรื่องอะไรครับ"

"ก็มีเรื่องให้ยิ้มครับ อุ้มไปแปรงฟันหน่อยนะครับ" ผมอ้อนแล้วกอดคอของพี่เบียร์ ไม่รู้ทำไมพอเป็นพี่เบียร์ผมจึงได้ชอบอ้อนหนักทั้งที่อยู่กับพี่น้องตัวเองผมไม่ค่อยจะกล้า

"ก็ได้ครับ" พี่เบียร์อุ้มลูกลิงอย่างผมพามาเข้าห้องน้ำ ตัวผมถูกวางให้นั่งบนเคาน์เตอร์

"ขอบคุณครับ"

"ยินดีครับ"

"อะ" และแล้วรางวัลตอบแทนก็ถูกเรียกเก็บอีก "พี่เบียร์อีกแล้วนะครับ" พี่เบียร์ฉวยโอกาสหอมแก้มผมอีกครั้ง

"รอบนี้พี่ตั้งใจครับ"

"ไม่คุยด้วยแล้ว" จะตั้งใจหรือจะแกล้งเรียกค่าตอบแทนผมก็เขินทั้งนั้น เราสองคนแปรงฟันกันหยอกล้อกันมีความสุขรับยามเช้า

จนกระทั่งแต่งตัวพร้อมผมก็รู้สึกตาสว่าง เมื่อถึงสวนสาธารณะ แดดยามเช้ายังไม่ร้อนมาก เช้านี้ท้องฟ้าแจ่มใสผมทำตามที่พี่เบียร์แนะนำนั่นคือการวอร์มอัพร่างกายก่อนเริ่มออกวิ่ง

"คนตื่นกันมาออกกำลังกายเยอะจังเลยนะครับ" ผมชวนคุยระหว่างยืดแขนยืดขาทำตามพี่เบียร์

"ปกตินะครับ" สำหรับพี่เบียร์แล้วกวาดตามองก็เจอคนรักสุขภาพที่หมั่นมาออกกำลังกายทุกวันอย่างคุ้นตา สาวหลายคนที่มาวิ่งต่างหันมายิ้มหวานทอดสะพานใส่ ผมหันมองพี่เบียร์ คนรู้ตัวรีบตอบคลายความสงสัยทันที 

"พี่มาออกกำลังกายเท่านั้นครับ"

"รักก็ไม่ได้ว่าอะไรหนิคะ" พี่เบียร์ขำกับน้ำเสียงนั้นเวลาน้องพูดคะขาแล้วเขาคิดว่ามันน่าฟัง "ต่อไปรักจะมาวิ่งกับพี่เบียร์ทุกวัน"

"พี่เพิ่งรู้ว่าคนน่ารักเป็นพวกหวงเก่งด้วย"

"รักไม่ได้หวงสักหน่อยครับ รักแค่ไม่ชอบเวลาใครมองคนของรัก"

"พูดว่า 'หวง' ยังสั้นกว่านะครับน้องหนู"

หึย..พี่เบียร์ทำไมเข้าใจยากจัง ผมไม่ได้หวงแค่ไม่พอใจเอง คนตัวเล็กคว่ำปากเชิดใส่พอหันไปเห็นพี่ผู้หญิงส่งสายตาให้พี่เบียร์ ผมก็ขยับชิดใกล้แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ

"พี่เบียร์วิ่งกันเถอะครับ" ผมไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร มันหงุดหงิดใจแปลกๆ ไหนพี่เบียร์บอกว่าออกกำลังจะสนุกผมไม่เห็นจะสนุกสักนิด

นิดเดียวก็ไม่!

พี่เบียร์เสน่ห์แรงเกินไปแล้ว...

"ภาคินวันนี้ก็มาออกกำลังเหมือนกันอีกแล้ว ใจตรงกันเลย" เธอที่วิ่งเยาะเข้ามาทักพี่เบียร์ ผมขยับเข้าชิดพี่เบียร์เพราะไม่อยากให้เธอได้เข้าใกล้

"ครับ"

"วันนี้มีคนมาวิ่งเป็นเพื่อน น้องชายเหรอคะ" เธอยังคงต่อบทสนทนา ผมร้อนรนพูดแทรกก่อน

"ไม่ใช่ครับ!" เผลอตะโกนดังจนเธอคนนั้นสะดุ้ง "ไม่ใช่น้องชายครับ" บอกเสียงอ่อนลง พี่เบียร์โอบเอวผมเอาไว้ เหมือนจะบอกผมว่าร้อนใจไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะพี่เบียร์ไม่ได้คิดกับผมแค่น้องชายเหมือนกัน

"ไม่ใช่น้องชายหรอกครับ คนนี้คนพิเศษ" ประกาศชัดให้เธอได้รับรู้ ผมรู้สึกเหมือนเป็นต่อเหนือเธอ ก็บอกแล้วว่าผมไม่ใช่น้องชาย

"คะ..คนพิเศษ"

"..."

"เหรอคะ" เธอดูสับสน

"ครับ คนนี้ผมกำลังดู ๆ ใจกันอยู่นะครับ"

"พี่เบียร์" ผมตกใจเมื่อคนข้างกายกล้ายอมรับอย่างนั้น สำหรับพี่เบียร์ผมเป็นคนพิเศษจริงเหรอ น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

"ขอตัวนะครับ น้องหนูไปวิ่งกันต่อเถอะครับ" เสียงหวานหูนั้นมีไว้คุยกับผมคนเดียว

"ครับ" เผลออมยิ้มพอใจกับการกระทำของพี่เบียร์เข้าแล้ว "ชอบล่ะซิ" พี่เบียร์วิ่งถอยหลังถามผมระหว่างที่เรากำลังวิ่ง

"ครับ รักชอบพี่เบียร์ทุกวันเลย" ผมค่อย ๆ ส่งมือไปให้พี่เบียร์จับมือไว้ ผมต้องใช้ความกล้ามากในการจะแสดงออกความรู้สึกโดยไม่ให้หน้าแดง "คนนี้ของรัก" จิ้มชี้ตรงหัวใจของพี่เบียร์อย่างเขินอาย คนโดนแอทเทคหยุดวิ่งแล้วหยิกแก้มผมทั้งสองข้างด้วยความหมั่นเขี้ยว

"โห น้องหนูน่ารักอีกแล้ว"


"โอ้ยเมื่อยขาจังเลยครับ รักปวดตัวไปหมดแล้ว" ผมเมื่อยขาแล้วแกล้งร้องโอดครวญดัง มือก็นวดขาไปปากก็พร่ำบ่นเรียกร้องความสนใจจากคนที่กำลังเดินมาหา

"วันแรกก็ต้องปวดเมื่อยตัวเป็นธรรมดาครับ แต่น้องหนูหักดิบไปหน่อยที่วิ่งไปกับพี่ด้วยตลอด พี่บอกให้พักก็ไม่ยอม" พี่เบียร์เดินมาหาพร้อมน้ำอุ่นให้ผมได้ดื่ม ร่างสูงนั่งลงข้างล่างจัดการฉีดสเปรย์ทั่วบริเวณกล้ามเนื้อที่ผมปวด

"ก็รัก...เก่ง" เกือบเผลอจะบอกว่ากลัวมีผู้หญิงเข้ามาทักทายพี่เบียร์อีกผมจึงไม่คิดยอมห่าง พอเซล้มเพราะปวดขานั่นแหละพี่เบียร์จึงรีบพากลับมาปฐมพยาบาล

"คนเก่งแต่กลัวโรงพยาบาล"

"คนเก่งก็ต้องมีจุดอ่อนบ้าง"

"ครับ พี่เชื่อ" พี่เบียร์ย่นจมูกให้ผมที่ช่างพูดมากขึ้น ผมมองมือที่บรรจงนวดให้เขาผ่อนคลาย "พี่ว่าหาหมอก็ดีนะครับ ขาน้องหนูเริ่มบวมแดงแล้ว"

"ไม่เอาครับ เดี๋ยวนั่งนิ่งสักพักก็หาย" คนกลัวโรงพยาบาลปฏิเสธเสียงค้าน ผมไม่อยากไปโรงพยาบาล

"ไม่หายครับ"

"พี่เบียร์ก็ดูแลรักสิครับ ดูแลให้หาย ถ้ารักหายรักจะไม่ดื้อนะ" ผมชี้โพรงให้คนตัวสูงได้เห็นหนทาง พี่เบียร์เหมือนจะสองจิตสองใจ คงอยากให้ผมหายแต่ก็อยากจะดูแลผมนั่นแหละ

"แน่นะครับ"

"แน่ครับ" ผมเป็นคนดื้อเงียบต่อให้ปวดเมื่อยแค่ไหนหรือเป็นตายร้ายดียังไงก็จะไม่ไปโรงพยาบาลเป็นอันขาด เมื่อผมต้องการอย่างนั้นพี่เบียร์จึงตามใจผม

"ไม่ไปก็ไม่ไปครับ พี่จะดูแลเราให้หายเองครับ" ผมดีใจที่พี่เบียร์ยอมตามใจ เอาไว้ผมจะตามใจพี่เบียร์หนึ่งเรื่องก็แล้วกันเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน

ช่วงบ่ายของวันหลังจากที่เผลอหลับเพราะความง่วงและอาการปวดเมื่อย ผมตื่นมาเห็นพี่เบียร์กำลังขมักเขม้นทำรายงานอยู่กับโต๊ะญี่ปุ่นเล็กข้างเตียงที่ผมนอน

พี่เบียร์หันมามองเมื่อได้ยินเสียงแรงขยับเพียงนิดของผ้าห่ม ผมยิ้มให้ พี่เบียร์ก็ยิ้มตาม

"ตื่นแล้วหรือครับ"

"ครับ รักหลับไปนานไหมครับ" พี่เบียร์ก้มมองนาฬิกาของตัวเอง

"ไม่นานเท่าไรครับยังปวดเมื่อยขาอีกไหม" พอถูกถามเรื่องอาการเมื่อยบริเวณเท้าผมก็พยักหน้า ขยับตัวไปกอดแขนใหญ่เพื่ออ้อน

"รักอยากกินไอศกรีม อยากกินข้าวด้วย หิวแล้วครับ" ก็เล่นหลับไปก่อนจะกินข้าวเช้าไม่แปลกที่ตื่นมาแล้วผมจะร้องหาของกิน

"ถ้าอย่างนั้นพี่ลงไปซื้อให้นะครับ" พี่เบียร์ใจดีแต่ผมปฏิเสธ

"สั่งเอาดีกว่าครับ เดี๋ยวรักสั่งให้เอง" ว่าแล้วก็หยิบโทรศัพท์เปิดแอปพลิเคชันยอดฮิตจัดส่งไว พี่เบียร์หยีหัวคนร่าเริงเมื่อพูดถึงของกิน ร่างสูงเดินไปยังตู้เย็นเพื่อหยิบไอศกรีมที่ตุนไว้มานั่งกินด้วยกัน

"เป็นคนกินเยอะแต่ไม่อ้วนนะเรา" ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาพี่เบียร์ยังคงสงสัยว่ากระเพาะน้อย ๆ กับพุงแบน ๆ นั่นกักเก็บอาหารที่กินเข้าไปตรงไหน

"ทั้งบ้านก็กินเยอะแต่ผอมครับ พี่หมอกับน้องเจ้ากินจุกว่ารักอีก" ผมเคยเล่าเรื่องตัวเองให้พี่เบียร์ฟังหลายครั้ง บ่นถึงพี่ชายที่เป็นสัตวแพทย์และน้องชายที่เรียนมัธยมปลายเกือบทุกวัน พี่เบียร์เคยเจอเจ้าขามาแล้วแต่ยังไม่เคยเจอพี่เจ้าคุณอีก

"กรรมพันธุ์สินะ"

"จะพูดว่างั้นก็ได้ครับ ครอบครัวฝั่งคุณป๋าค่อนข้างสมบูรณ์ มีน้ำมีนวล จะเรียกว่าอ้วนก็ได้ครับคุณป๋าเลยดูแลตัวเองมากๆ แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับรักคุณป๋าก็ไม่ได้ดูอ้วนเหมือนพวกคุณลุงเลยครับ" ผมหันมายิ้ม ขยับแนบชิดข้างกายพี่เบียร์ทีกำลังใจดีเปิดฝาไอศกรีมถ้วยใหญ่

"แล้วทำไมหนูไม่เห็นอ้วนเลย"

"เราสามพี่น้องได้ฝั่งคุณแม่มานะครับ ผอมบาง ถึงจะขุนมากแค่ไหนก็ไม่อ้วน กรรมพันธุ์ฝั่งคุณแม่เป็นนายแบบ นางแบบทั้งตระกูล บางคนก็ซุบซิบนินทากันว่าพวกดราคลั่งผอมครับแต่เปล่า คุณป๋าบอกว่าอยากกินได้แบบพวกเราและคุณแม่กินเท่าไรก็ไม่อ้วน ส่วนคุณป๋ากินนิดเดียวก็อ้วน ถ้าไม่ขยับตัวขยันออกกำลังก็อ้วนลงพุงเลยครับ พูดแล้วก็คิดถึงร่างกายตัวใหญ่กับอ้อมกอดของคุณป๋าเลยครับ" พี่เบียร์ป้อนไอศกรีมคำพอดีให้คนช่างพูด ยิ่งรู้จักก็ยิ่งหลง ผมรู้สึกชื้นใจเมื่อได้กินของเย็น ๆ

"พี่เบียร์อยากกินอะไรเพิ่มอีกไหมครับ"

"เอาอันนี้ก็ได้ครับ" อะเมซ่อนแก้วโปรดยังคงวางอยู่ พี่เบียร์คงลงไปซื้อช่วงระหว่างผมหลับแน่

"สั่งน้ำเพิ่มไหมครับหรือไม่ต้องแล้ว"

"สั่งเพิ่มก็ได้ค่ะแก้วนี้พี่ดื่มหมดแล้ว"

"จัดไปเลยครับ" กระทั่งยืนยันสั่งซื้อรายการอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อย มุมปากผมเลอะไอศกรีมพี่เบียร์ก็ใจดีเช็ดให้ หัวใจดวงน้อยทำงานหนักทุกวันแต่ก็ยังไม่ชิน

"มื้อนี้รักเลี้ยงนะครับ" เพราะไม่ต้องการเอาเปรียบ แม้พี่เบียร์จะเต็มใจจ่ายทุกครั้งแต่ผมไม่ยอม เลยออกกฏไว้ว่าต้องผลักกันจ่ายคนละรอบถึงจะแฟร์ต่อกัน

"แล้วครอบครัวพี่เบียร์ล่ะครับ เป็นไงบ้าง" ล่าสุดพี่เบียร์บอกว่าคุณพ่อหน้าวูบไปขณะทำงานผมเลยอดห่วงไม่ได้ แต่โชคดีที่คุณพ่อของพี่เบียร์ไม่ได้เป็นโรคอะไรร้ายแรง แค่ขาดสารอาหารเท่านั้น

"ก็เหมือนเดิมครับบ้างานทั้งคู่"

"เหมือนคุณป๋ากับคุณแม่รักเลยครับ" ผมตักไอศกรีมให้พี่เบียร์ได้กินบ้าง "ครั้งก่อนที่ไปบ้านพี่เบียร์ผมเห็นว่ามีรูปถ่ายกับแมวด้วยนี่ครับ แต่ไม่เห็นว่าที่บ้านจะมีแมวเลยสักตัว"

"อ้อคุณแม่เคยเลี้ยงไว้ตัวหนึ่งครับ คุณแม่รักแมวมาก รักมากกว่าพี่ที่เป็นลูกชายคนเดียวซะอีก" ได้พูดถึงบุพการีรอยยิ้มของพี่เบียร์ก็อ่อนโยนอีกครั้ง "ตอนน้องหนูไปบ้านพี่ คุณแซวม่อนป่วยเลยอยู่ที่คลีนิกน่ะครับ"

"อ้อ"

"แต่ตอนนี้หายดีแล้วครับ วิ่งเล่นได้อย่างเดิม" ผมโล่งใจขึ้น ก่อนหน้านี้จะถามก็ไม่กล้าเลยมาถามเอาป่านนี้

"รักก็เลี้ยงแมวหนึ่งตัวที่บ้านเหมือนกันครับ แล้วคุณแซวม่อนน่ารักไหมครับ" ผมอยากรู้เรื่องราวของครอบครัวพี่เบียร์

"อือ ก็ไม่ค่อยน่ารักเท่าไร คุณแซวม่อนชอบแย่งความรักจากคุณแม่พี่ไป พี่เลยหมั่นไส้" ผมหัวเราะขำใหญ่ เข้าใจความรู้สึกของพี่เบียร์เพราะคุณแม่ก็รักทาร์กไข่ยิ่งกว่าลูกเหมือนกัน

"ทาร์กไข่ก็ชอบอ้อนคุณแม่รักบ่อยครับ ตอนจะย้ายมาคอนโดรักก็อยากพาทาร์กไข่มาด้วยแต่คุณแม่ไม่อนุญาตครับ"

"งั้นไว้เราค่อยพาคุณแซวม่อนกับทาร์กไข่ไปเที่ยวกันนะครับ" พี่เบียร์บอกอย่างใจดี ผมพยักหน้าทันที

"ตกลงครับ" นั่งคุยกันสักพักอาหารที่สั่งก็มา พี่เบียร์เป็นคนลงไปรับ หนึ่งวันที่แสนจะธรรมดาหมดไปเพราะการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของเราทั้งสองคน

มีกันแค่นี้

มันก็มีความสุขมากพอแล้ว.

หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 06-12-2021 21:11:43
 :hao7:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 32
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 08-12-2021 09:32:07

 EPISODE : 32 หนึ่งวันกับพี่หมอ 



"พี่หมอครับ" หลังวุ่นวายกับเรื่องความรักของตัวเอง จนเมื่อเคลียร์การบ้านเรียบร้อยพอมีวันหยุดทั้งทีผมเลยหาโอกาสเพื่อแวะมาหาพี่ชายสุดที่รัก พี่หมอก็หายหน้าไปนาน ไม่แวะมาหาผมเมื่อมีเคสเข้ามาเยอะ พี่ชายแสนดีที่กำลังจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เงยหน้ามองผมด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

"อ้าวน้องมาได้ไง" ผมฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้าอิดโรยของพี่ชายคนบ้างานนั้นเป็นอย่างนี้มาโดยตลอดตั้งแต่พี่เลือกเรียนสัตวแพทย์ พี่บอกว่ารักสัตว์และอยากดูแลสัตว์ทุกตัวให้มีชีวิตที่ดีตั้งแต่นั้นมาพี่ก็ทำตามความปรารถนาของตัวเองโดยมีครอบครัวของเราสนับสนุน พี่หมอจึงได้เป็นสัตวแพทย์และเพิ่งจะมีคลีนิกของตัวเองเมื่อสามปีก่อน

"รักก็แวะมาหาพี่ชายสุดที่รักยังไงละครับ" ผมบอกพี่ชาย อยากอ้อนอยู่หรอกแต่พี่เหมือนจะยังทำงานไม่เสร็จ ถ้าพี่ชายทำงานไม่เสร็จก็จะไม่หันสนใจอย่างอื่นเป็นอันขาด

"เรื่องนั้นพี่รู้ครับ พี่แค่แปลกใจว่าทำไมวันนี้น้องมาหาพี่ได้" คนสายตาสั้นขยับแว่นตาของตัวเองพลางมองผมให้ชัด พี่ชายก็น่ารักทุกอริยบทแค่พี่ชายขยับตัวผมก็ว่าน่ามองหมด

"ก็รักคิดถึงพี่หมอนี่ครับ" ผมบอกน้ำเสียงอ้อน พี่หมอมองผมแล้วหันไปสนใจงานในจอคอมพิวเตอร์อีก ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเป็นผมเองที่มารบกวนเวลาทำงานของพี่ชาย

"ไม่ใช่ว่ามีแฟนแล้วหายหน้าจนลืมหน้าพี่ชายคนนี้ไปแล้วเหรอครับ" ผมสะดุ้งที่ได้ยินพี่ชายพูดอย่างนั้น พี่หมอรู้เรื่องที่ผมกำลังดูใจกับพี่เบียร์แล้วงั้นเหรอ ไม่รู้ว่าพี่จะโอเคกับคนนี้ไหม

"แฟนอะไรครับรักยังโสด ยังเป็นน้องชายของพี่หมอเหมือนเดิม"

"ถึงพี่จะงานยุ่งแต่ก็มีเวลาเล่นโซเชียลนะครับ" ผมอมยิ้ม ไม่ได้อยากปิดบังอะไรพี่ชายอยู่แล้ว เว้นแต่คุณป๊ารายนั้นไม่ชอบเล่นโซเชียลอยู่แล้วผมเลยถือว่าโชคดี พี่หมอเงยหน้าขึ้นมามองผม "แล้วเขาไม่มาด้วยเหรอ"

"ใครครับ" ผมรู้ว่าพี่หมอถามถึงพี่เบียร์แต่วันนี้พี่เบียร์ติดเรียนผมจึงได้แวะมาหาพี่ชายด้วยตนเอง

"แฟนน้องไงครับ ชื่อภาคินเรียนวิศวะใช่ไหม"

"โหสืบเยอะเลยแฮะ" กลายเป็นผมที่ตกใจเพราะพี่ชายรู้เรื่องของพี่เบียร์ ผมยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพี่เพราะที่ผ่านมามันเป็นแค่การแอบรัก เมื่อตอนนี้สถานะหัวใจผมมันพัฒนามากกว่าเดิม ผมจึงอยากจะมาบอกพี่ชายให้รับรู้ด้วยตนเอง

"บนโปรไฟล์เขาบอกแค่นั้น พี่ดูรอบเดียวก็จำได้" พี่หมอรีบอธิบาย ผมกลับรู้สึกชอบมากกว่าที่พี่ชายใส่ใจเรื่องคนรักของผม

"ฮ่า ๆ ครับรักรู้ว่าพี่หมอไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น" เพราะปกติถ้าไม่ใช่คนสำคัญในชีวิตพี่หมอจะไม่สนใจสักนิด ถ้าจะให้พูดถูกก็คือพี่หมอสนใจพวกสัตว์ตัวน้อยมากกว่าคนเสียอีก "แล้วในสายตาพี่หมอพี่เบียร์เขาเป็นไงบ้างครับ"

"ก็..." พี่ชายผมพูดแล้วเว้นช่วงไปยาว ทำเอาคนอยากรู้อย่างผมลุ้น ก็ผมอยากรู้ว่าพี่ชายจะชอบพี่เบียร์บ้างหรือเปล่า

"ว่าไงครับพี่หมอ พี่เบียร์คนนี้ผ่านไหมครับ น้องแอบรักเขาตั้งแต่เทอมที่แล้วแล้วไม่คิดไม่ฝันว่าเทอมนี้จะได้ใกล้ชิดกันนะครับ" ผมคาดคั้นเพราะคาดหวังกับคำตอบของพี่ชาย อยากให้พี่ชอบพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมชอบ

"ก็แสดงว่าตอนนี้สมหวังแล้วใช่ไหม"

"สมหวังนิดเดียวครับ เรายังไม่ได้ตกลงคบหากัน แค่ดู ๆ ใจกันก่อน" ผมบอกตามความเป็นจริง ขอแค่พี่ชายชอบคนนี้ผมจะได้โล่งใจ เวลาผมรักใครผมก็อยากให้ครอบครัวของผมได้รักคนนั้นบ้าง

"ดูใจกันก่อนก็ดี ถ้าไม่ใช่สิ่งที่ต้องการทั้งสองฝ่ายจะได้เลิกกันไปได้ง่าย" เรื่องนั้นผมรู้

"แต่คนนี้รักจริงจังนะครับ ถ้าพี่หมอเจอคนที่ทำให้หัวใจเต้นรัวทุกครั้งที่เจอหน้าพี่หมอจะรู้ว่าเขาคือคนพิเศษ" แค่คิดถึงหน้าพี่เบียร์ความรู้สึกมายมากก็ถาโถมจนอยากเจอหน้ากันอีกแล้ว

"ครับ พอมีความรักแล้วพูดเก่ง" ผมคงพูดมากมากกว่าเดิม ก็มีแต่เรื่องพี่เบียร์นั่นแหละที่ผมพูดบ่อย "รอพี่แป๊ปเดียวนะ ใกล้จะเสร็จแล้ว"

"ครับ" ผมจำเป็นต้องนั่งรอพี่ชาย ระหว่างพี่หมอทำงานผมก็ถือโอกาสถ่ายรูปแล้วส่งให้น้องชายตัวดี เจ้าขาจะได้รู้ว่าวันนี้พี่ชายสุดรักถูกผมจองตัวหนึ่งวัน

ระหว่างนั้นมีลูกค้าเข้ามาในร้าน โดนที่มีคนรับใช้อุ้มสัตว์ตัวใหญ่ไว้ในอ้อมอก พี่หมอรีบลุกแล้วบอกให้พาเจ้าแมวไปข้างในห้องตรวจทันที

"คุณแม่" ผมแปลกใจมากเมื่อได้เจอคุณแม่ของพี่เบียร์ที่คลีนิคชองพี่ชายตัวเอง มันไม่บังเอิญเกินไปหน่อยเหรอ

"อ้าว น้องรักมาทำอะไรที่นี่คะ"

"รักมาหาพี่ชายครับ แล้วคุณแม่พาแมวมารักษาที่นี่ประจำเหรอครับ" ผมเอ่ยถามอย่างประหม่าและตื่นเต้นเล็กน้อยเมื่อบังเอิญเจอกับคุณแม่ของรุ่นพี่ที่กำลังดูใจกัน คุณแม่ของพี่เบียร์เดินมาใกล้พร้อมกับจับมือผม

"ใช่ค่ะ คุณแซม่อนไม่สบายอีกแล้วน่ะค่ะแม่เลยต้องพามาหาคุณหมออีก" น้ำเสียงดูกังวลเพราะเป็นห่วงสัตว์เลี้ยง แต่ผมมั่นใจในฝีมือของพี่ชายตัวเอง พี่หมอต้องรักษาคุณแซวม่อนได้แน่

"คุณหมอคนนั้นพี่ชายรักเองครับ ชื่อพี่เจ้าคุณ" 

"ตายจริง โลกกลมอีกแล้วนะคะ แล้ววันนี้น้องรักมาคนเดียวเหรอคะ" บอกออกไปแล้วคุณแม่ก็ประหลาดใจอีกรอบเมื่อพี่ชายที่ผมพูดถึงคือคุณหมอที่รักษาคุณแซวม่อน 

"ครับ พี่เบียร์มีเรียนผมคิดถึงพี่หมอก็เลยแวะมาครับ" 

"ค่ะ งั้นเดี๋ยวแม่มาคุยด้วยนะคะ"

"ครับ" ว่าแต่ทำไมผมต้องคิดถึงพี่เบียร์ด้วย บอกไปว่ามาหาพี่ชายก็จบจะไปพูดถึงพี่เบียร์ไปทำไม คุณแม่เดินเข้าไปข้างในด้วยสีหน้ากังวล ผ่านไปหลายนาทีคุณแม่ก็เดินออกมา ผมลุกขึ้นไปหาพร้อมถามอาการแมวตัวนั้น

"เป็นไงบ้างครับ คุณแซวม่อนปลอดภัยนะครับ"

"อาการแย่ลงค่ะแต่อยู่ในมือคุณหมอแล้วแม่ก็หายห่วงค่ะ" คุณแม่ยิ้มสู้แม้ว่าอาการคุณแซวม่อนจะไม่ได้ดีขึ้นมาในทันตา ผมพาคุณแม่พี่เบียร์มานั่งแล้วปลอบโยน คุณแม่คงรักเจ้าแมวมากแน่

"ครับ พี่หมอเขาเก่ง รักษาสัตว์ทุกตัวด้วยใจรักและจิตวิญญาณ รักว่ายังไงคุณแซวม่อนก็หายป่วยอีกครับ" ผมมั่นใจสุด ๆ คุณแม่ระบายยิ้มพลางสำรวจมองหน้าผมจนผมรู้สึกประหม่า

"ค่ะแม่ก็เชื่ออย่างนั้น แล้วช่วงนี้น้องรักเป็นยังไงบ้างคะไม่แวะไปที่บ้านอีกเลย" ได้ยินคุณแม่พูดแล้วผมก็รู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิม คุณแม่พี่เบียร์ยินดีให้ผมไปที่บ้านอีก 

"ช่วงนี้ก็งานเยอะนิดหน่อยครับแล้วคุณแม่สบายดีนะครับ"

"สบายดีค่ะ แม่คิดถึงน้องรักนะคะถ้าว่างก็แวะไปหาที่บ้านได้เสมอ"

"ครับคุณแม่" แม้จะฟังดูแปลกไปหน่อยแต่ผมกลับชื้นใจที่คุณแม่ของคนที่แอบรักรู้สึกดีด้วย ผมนั่งมองไปยังประตูห้อง เฝ้ารอการออกมาของคุณหมอเพื่อบอกอาการของเจ้าแมวตัวนั้น ขอให้คุณแซวม่อนหายป่วยไว ๆ

"ว่าแต่ทานข้าวกันมาหรือยังคะ ชวนคุณหมอไปทานข้าวด้วยกัน นี่ก็ใกล้เวลาพักเที่ยงแล้ว" คุณแม่ใจดีชวนไปทานข้าวด้วย จะปฏิเสธผมก็เกรงใจเพราะตอนเช้ามาผมก็ทานแค่ซีเรียลกับนมแค่นั้น ตั้งใจว่าจะมาทานมื้อเที่ยงกับพี่หมอ

"รักยังไม่ทานเลยครับ แต่เรื่องจะไปทานข้าวด้วยกันรักคงต้องถามพี่หมอก่อนนะครับว่าสะดวกไปด้วยไหม" หากพี่หมอสบายใจจะไปทานข้าวด้วยกันมันก็ยิ่งดี เพราะผมเองก็อยากให้พี่ชายได้รู้จักกับคุณแม่ของพี่เบียร์ในฐานะคุณแม่ของคนที่ผมแอบรักไม่ใช่ในฐานะลูกค้าที่พาแมวมารักษา

"ค่ะลูก น้องรักถามคุณหมอก่อนก็ได้ค่ะถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ"

"ครับ" นั่งรอจนพี่หมอรักษาคุณแซวม่อนเสร็จ คุณแซวม่อนปลอดภัยดีแล้วแต่ต้องอยู่รออาการที่คลีนิกก่อน ผมถามถึงเรื่องไปทานมื้อเที่ยงแม้จะโดนเขกหัวไปหนึ่งครั้งแต่สุดท้ายพี่หมอก็ยอมไปทานข้าวด้วย กลายเป็นว่าพี่เบียร์เห็นรูปผมทานข้าวกับแม่ของตัวเองด้วยความงุนงงจึงได้ทักมาหา



'อยู่ไหนแล้วครับ'

'อยู่ข้างนอกครับ'

'ทานข้าวกับใครอยู่เหรอครับ'

'พี่เบียร์พูดถึงเรื่องอะไรครับ'

'นั่นสิ พี่พูดถึงเรื่องอะไรอยู่'

'ส่งสติกเกอร์หน้ายิ้ม'

'ส่งรูปภาพ'

'แม่พี่อวดใหญ่เลยครับ ว่าแต่ไปเจอกันได้ยังไงครับ'

'ความลับครับ'

'ความลับอีกแล้วนะครับ' 

'พี่เบียร์มีเรียนอีกไหมครับ' 

'วันนี้หมดแล้วครับแต่พี่แวะมาร้านเฮียกับเพื่อนครับ ว่าแต่เราจะกลับมอ.เมื่อไหร่ครับ พี่คิดถึง' 

'ส่งสติกเกอร์ยิ้มกว้าง' 

'ทุ่มนึงครับพี่หมอไปส่ง' 

'โอเคครับ ฝากหอมแก้มคุณแม่พี่ก่อนจะกลับด้วยนะครับ บอกว่าพี่ฝากมา' 

'จะบ้าเหรอครับ รักไม่กล้าทำหรอก' 

'เป็นลูกชายสุดรักของคุณแม่พี่แล้ว เรื่องแค่นี้คุณแม่อนุญาตแน่ครับ' 



"นั่งยิ้มอยู่นั่น ข้าวล่ะเมื่อไหร่จะกิน" ผมละสายตาจากมือถือแล้วเงยหน้ามองพี่ชายกับคุณแม่ของพี่เบียร์ กลางโต๊ะอาหารที่มีผู้ใหญ่คุยกันแต่ผมกลับเสียมารยาทมาคุยแชทกับพี่เบียร์ 

"พี่หมออย่าดุสิครับ" พอโดนดุเข้าผมก็ใช้ไม้อ้อนเข้าสู้ คุณแม่ที่นั่งข้าง ๆ ถามผมด้วยรอยยิ้มหวาน 

"ว่าแต่คุยกับพี่เบียร์เหรอลูก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลย" 

"ครับ พี่เบียร์บอกว่าก่อนกลับฝากหอมแก้มคุณแม่แทนพี่เบียร์ด้วยครับ" ก็พี่เบียร์ฝากมาอย่างนั้นผมก็บอกไปถึงแม้จะรู้สึกเขินเล็กน้อย คุณแม่พี่เบียร์ก็ช่างน่ารัก นอกจากไม่ถือตัวแล้วยังทำตัวสนิทสนมกับผมด้วย แบบนี้ผมก็ยิ่งได้ใจนะซิ 

"เอาสิ ๆ ตาลูกคนนี้ก็ช่างร้ายนักนะไม่บอกแม่ก็รู้ว่าพี่เบียร์อยากให้น้องรักมาเป็นลูกแม่อีกคน" 

"รักไม่กล้าหรอกครับ" ผมส่ายหน้าเพราะความเขิน ยิ่งมีพี่ชายอยู่ด้วยผมก็ยิ่งเขิน กับคุณแม่ตัวเองที่นานครั้งจะเจอกันก็มีหอมแก้มกันบ้างแต่มาเป็นคุณแม่ของพี่เบียร์มาก็ขัดเขินเล็กน้อย 

"มา ๆ ขยับมาค่ะลูกเดี๋ยวแม่ถ่ายรูปอวดคนไม่มาค่ะ" 

"ครับ" และต่อมาพี่เบียร์ก็ได้รูปที่ผมหอมแก้มคุณแม่ส่งไปให้ หลังทานมื้อเที่ยงเสร็จคุณแม่ก็ขอตัวกลับเหลือเพียงผมกับพี่หมอแค่สองคน 

"โอ๊ย ๆ เจ็บจังเลย" ผมแกล้งร้องโอดครวญเมื่อถูกพี่ชายเขกหัวให้อีกรอบ ทำไมชอบเขกหัวผมก็ไม่รู้ พี่หมอส่ายหน้าคล้ายกับเอือมระอากับมุขเจ็บตัวของผม

"ทะเล้นละ พี่ไม่ได้มือหนักขนาดนั้น" 

"ฮา ๆ รักล้อเล่นครับ แล้วเราจะไปไหนกันต่อดีครับนานทีพี่หมอจะว่างมีเวลาให้น้องชาย" ก็เพราะเป็นพี่ชายที่รักเลยรู้ว่าผมแค่แกล้งเรียกร้องความสนใจ พี่หมอเช็ดแว่นตัวเองแล้วใส่กลับไปใหม่ ในบ้านของเราก็มีพี่หมอกับคุณแม่นี่แหละที่ใส่แว่นเพราะสายตาสั้น

"ว่างที่ไหนเรามาขโมยเวลาทำงานของพี่ต่างหาก"

"โห ปากคอเราะรายจัง" ผมยู่ปากเมื่อถูกพี่ชายบ่น แต่ผมก็มาขโมยเวลาทำงานของพี่หมอจริงนั่นแหละ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเองเป็นฝ่ายผิด 

"ไปดูหนังกันไหมหรือไปช็อปปิ้งดี" ผมครุ่นคิดหลังจากพี่ชายเสนอ ความจริงก็มีอีกหลายสถานที่ที่อยากไปเพราะผมเบื่อกับสองตัวเลือกนี้แล้ว

"รักอยากนั่งชมวิวมากกว่า แต่ช่วงบ่ายแดดแรง เราไปหอศิลป์ฆ่าเวลาแถมยังมีรูปอวดน้องเจ้าดีกว่านะครับ" ผมลองเสนอ ก็มันนานแล้วที่ไม่ได้เดินเล่นกับพี่ชาย ถ้ามีเวลาอีกหน่อยผมอยากพาพี่ชายไปสวนสนุกมากกว่า  

"เราน่ะนะ เป็นพี่น้องคลานตามกันมาแท้ ๆ ทำไมถึงได้ไม่ถูกชะตากัน" พี่ชายคนโตก็คงแปลกใจนั่นแหละว่าทำไมผมกับน้องเจ้าถึงได้ทะเลาะกันตั้งแต่เด็กจนโต

"ก็น้องเจ้านิสัยไม่ดี วันก่อนก็ยังมาป่วนทำให้รักกับพี่เบียร์ทะเลาะกัน" 

"จริงร้อยเปอร์เซ็นแน่นะ" ผมเห็นพี่หมอหรี่ตามอง คงรู้ดีอีกว่าผมกำลังใส่ร้ายน้องเจ้าอีก พอโดนจับไต๋ได้ผมก็ได้แต่บอกเสียงอ่อน จะหลอกพี่หมอหลอกไม่เคยจะได้เลย 

"ก็เจ็ดสิบเปอร์เซ็นส่วนอีกสามสิบเปอร์รักเติมแต่งเอง" พูดออกไปแล้วพี่หมอก็ดีดหน้าผากใส่หน้าผม "โอ๊ย พี่หมอ" 

"เห็นไหม เราน่ะคิดมากเรื่องเจ้าขา เป็นพี่น้องกันก็รักกันสิจะทะเลาะกันตั้งแต่เล็กจนโตหรือไง" พี่ชายบ่นผมเรื่องน้องเจ้าอีก รายนั้นเกิดมาแล้วทำให้ผมดูไม่ดีกับทุกคนเลย ยังโชคดีที่มีเพื่อนแสนดีทั้งสองคนเข้าใจผม ก็น้องเจ้ามาแกล้งผมก่อน

"ไม่รู้แหละถ้าน้องเจ้ายังแกล้งรัก รักก็ไม่ยอม" 

"นิสัยดื้อรั้นกันทั้งสองเลย" พี่หมอโอบกอดผมแทนเมื่อเราพากันเดินมายังรถ ถึงพี่หมอจะไม่เลือกเข้าข้างใครแต่พี่หมอเป็นพี่ชายที่ดีมาก ๆ รักน้องและไม่ชอบให้ผมกับเจ้าขาทะเลาะกัน 

"งั้นถ้าให้เลือกระหว่างรักกับน้องเจ้าพี่หมอรักใครมากกว่ากันครับ" ผมถามพี่ชายขึ้น ก็มันอยากรู้นี่น่า พี่หมอมุ่นคิ้วเล็กน้อย เท้าหยุดเดินเพื่อมาคุยกัน

"อย่าถามเหมือนให้พี่เลือกระหว่างคุณป๊ากับคุณแม่สิ พี่เลือกใครสักคนไม่ได้เพราะพี่รักทั้งสอง น้องของพี่สองคนพี่ก็รักเท่ากัน" ซีเรียสมากจนผมอดที่จะขำพี่ชายไม่ได้ พี่หมอช่างไม่รู้จักวิธีเอาใจเสียเลย

"พี่หมอนี่ไม่ได้เรื่องเลย เป็นรักล่ะก็ถ้าตอนนั้นใครถามก็บอกว่ารักคนนั้นครับ เพราะยังไงคนถามก็อยากได้คำตอบว่าเป็นตัวเองอยู่ดี" 

"อ้อ งั้นพี่ต้องตอบว่ารักน้องมากกว่าน้องเจ้าสินะ" เหมือนพี่หมอจะเพิ่งเข้าใจผมพยักหน้าทันที ก็ที่อยากได้ยินคือพี่หมอรักผมมากกว่าน้องเจ้านั่นแหละ ผมยิ้มพอใจทันทีเมื่อพี่ชายเข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการ 

"ถูกต้องนะครับ พี่หมอพูดบอกรักรักใหม่นะครับ รักจะถ่ายวิดีโออวดน้องเจ้า" 

"ครับ ๆ" เมื่อพี่หมอยอมพูดบอกรักให้ผมได้ถ่ายวิดีโอเพื่อแกล้งน้องเจ้าเสร็จ เราก็เดินกันมาถึงรถของพี่หมอ ผมมัวแต่กดส่งวิดีโอและคุยแชทกับน้องเจ้าอย่างดุเดือด คอยดูวันนี้ผมจะอวดรูปส่งไปให้เจ้าขาได้กระอัดไปเลย มาแกล้งผมก่อนดีนัก จนเมื่อพี่หมอเปิดประตูจะขึ้นรถผมเลยเงยหน้าเรียก

"พี่หมอ" 

"ครับ" 

"ตอนนี้รักกำลังมีความรักนะครับ พี่หมออาจจะเคยเห็นรูปพี่เขามาบ้างแล้วและก็เพิ่งจะเจอคุณแม่ของพี่เบียร์เขาด้วย แต่กับคนนี้รักจริงจังนะครับ รักชอบพี่เขามากและอยากอยู่กับพี่เขาไปนาน ๆ" ผมบอกในเรื่องที่อยากจะบอกมานาน อย่างน้อยผมก็อยากให้มีคนในครอบครัวได้ยินดีกับความรักของผม แต่ก่อนที่คุณป๊าจะรู้เรื่องผมต้องบอกทุกคนเพื่อเป็นกำลังเสริมไว้ต่อกรกับคุณป๊า เมื่อตอนนี้น้องเจ้าขารู้แล้ว พี่หมอก็รู้ ก็เหลือแต่คุณแม่ ผมจะรีบหาโอกาสเหมาะเพื่อแนะนำคนที่ผมรักให้ เชื่อว่าคุณแม่ต้องรักพี่เบียร์เหมือนอย่างที่ผมรัก 

"อือพี่รู้แล้ว วันว่าง ๆ ก็พาเขามาแนะนำให้พี่รู้จักด้วยละ" 

"ครับ แต่พี่หมอห้ามบอกคุณป๊าเรื่องพี่เบียร์นะครับรักไม่อยากถูกคุณป๊าดุ" ผมเอ่ยขอเพราะหากคุณป๊ารู้เรื่องเมื่อไหร่ คนหวงลูกอย่างคุณป๊าคงไม่ยอมให้ผมได้คบหากับพี่เบียร์

"ได้สิ" 

"น่ารักที่สุด พี่ชายสุดที่รักของรักน่ารักกว่าใครเลย" ผมชอบพี่หมอก็ตรงนี้ ตามใจผมทุกอย่างไม่ขัดใจและชวนทะเลาะเหมือนน้องเจ้า เราต่างเปิดประตูรถแล้วขึ้นรถเพื่อออกเดินทางกัน

"น่ารักกว่าแฟนน้องหรือเปล่า" พี่หมอไม่วายล้อผมเรื่องพี่เบียร์

"ตอนนี้ยังไม่ใช่แฟนสักหน่อยครับ" 

"เดี๋ยวก็เป็น" ผมยิ้มกว้างเมื่อคิดว่าจะได้เป็นแฟนของพี่เบียร์อย่างที่พี่หมอบอก 

"พี่หมออย่าพูดให้ดีใจสิครับ ดีใจมาก ๆ รักก็คิดถึงพี่เขาอีก" 

"อาการหนักแล้ว" ฮา ๆ คงใช่อย่างที่พี่หมอว่านั่นแหละว่าแล้วผมก็หยิบมือถือมาแชทคุยกับเบียร์ ผมเชื่อแล้วว่าความคิดถึงมันฆ่าคนได้





หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 08-12-2021 22:51:48
 :hao5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 33
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 11-12-2021 19:52:25


 EPISODE : 33 นายจีบได้ป่าว

'รักเรียนก่อนนะครับพี่เบียร์'

มือกดส่งข้อความให้พี่เบียร์ได้รับรู้ เรียนจวนจะหมดคาบอาจารย์ก็สั่งให้หากลุ่มเพื่อทำรายงานกลุ่มกัน ทุกครั้งที่เรียนวิชามหาลัยงานกลุ่มหกคนเมื่อไหร่ผมกับเพ้นส์ต้องหาเพื่อนใหม่จากคณะอื่นเข้ามารวมกลุ่มทุกครั้งเมื่อเด็กประยุกต์ศิลป์มาลงกลุ่มนี้เพียงแค่สี่คนเลยต้องหาอีกสองคนจึงจะครบกลุ่ม

"เธอ ๆ มาสี่คนใช่ไหม ขอเข้ากลุ่มด้วยได้ป่าว" เสียงผู้หญิงที่นั่งถัดจากเก้าอี้พวกเราไปหนึ่งแถวสะกิดมาขอเข้ากลุ่ม ผม เพ้นส์และเพื่อนผู้หญิงสองคนสบตากัน "คือพวกเราลงวิชานี้สองคนหนะ" เธอคนนั้นบอก

"งั้นก็ดีสิ ครบกลุ่มพอดี" เพื่อนผู้หญิงผมสั้นกล่าวขึ้น

"ตกลงไหม" เพื่อนผู้หญิงที่นั่งข้างเพ้นส์หันมาถามความสมัครใจจากพวกเราสองคน ผมกับเพ้นส์พยักหน้าเห็นด้วยอย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลาหาเพื่อนร่วมกลุ่มอีก

"ได้ ๆ"

"ได้เลย จะได้ไม่ต้องหาใหม่ให้เหนื่อยด้วย"

"งั้นเราเขียนชื่อส่งอาจารย์กัน" เมื่อเสร็จเรื่องผมหันไปพิมพ์ตอบข้อความจากพี่เบียร์ต่อ เพราะแค่รอเพื่อนเขียนชื่อกลุ่มเสร็จเราก็จะได้เลิกเรียน

"เธอ เธอชื่ออะไร" มีคนสะกิดเรียกอีกผมจึงเงยหน้าไปมอง เป็นนักศึกษาชายที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มนั่นแหละที่ทักทายขึ้น

"เราเหรอครับ" ผมชี้มาที่ตัวเอง เพ้นส์เองหันมามองด้วย

"ใช่ เธอนั่นแหละชื่ออะไรเหรอ เราชอบ" ทั้งผมและเพ้นส์ต่างมองหน้ากันอย่างแอบหวั่น เพ้นส์ส่ายหน้าเมื่อมีคนน่ารำคาญอีกคนเข้ามาทักทายผม

"เจ้ารักครับส่วนนี่เพ้นส์เพื่อนเราครับ ส่วนผู้หญิงสองคนชื่อมิ้มกับส้มโอครับ" ผมพยายามพูดสุภาพที่สุดเพื่อบ่งบอกถึงการวางตัวห่างเหินให้เขารับรู้ อยู่ดี ๆ ก็โพล่งบอกว่าชอบต่อหน้าคนอื่น ผมรู้สึกอายสายตาเพื่อนที่มองมา

"เห้ย ชื่อเพราะจังครับคนก็น่ารัก ส่วนเราชื่อดัค เรียนจีนนะ" อ่าครับ ผมได้แต่ยิ้มแหย่น้อย ๆ ให้เขา

"ดักเหรอ ดักแด้งี้เหรอ" เพ้นส์หันไปถามเพราะสงสัย ผมเองก็สงสัยไม่ต่างจากเพ้นส์

"ดัคที่แปลว่าเป็ดนะเธอ เป็ดก๊าบ ก๊าบ" เขาอธิบายด้วยรอยยิ้มนั่น ไม่ชอบที่หมอนั่นเอาแต่มองมาที่ผมทั้งที่ในกลุ่มเรามีคนอื่น ๆ อยู่ด้วย เห็นแบบนี้แล้วผมคิดถึงพี่เบียร์ขึ้นมา อยากให้พี่เบียร์อยู่ด้วย

"อ้อ" ผมเองก็พยักหน้าตามเพื่อน "แต่ชอบรักก็เหนื่อยหน่อยนะ มันมีแฟนแล้ว" เพ้นส์พูดขึ้นผมหันขวับมองเพื่อน

"เหรอ มีแล้วเหรอ ทำไมคนน่ารักจึงรีบมีเจ้าของกันหมด ไม่โสดอยู่รอพี่ดัคเลยสักคน" เพ้นส์พยายามกลั้นขำ เพื่อนใหม่ดูท่าจะโอเว่อร์ ออกอาการเล่นใหญ่เกินจริงมาก ไม่ควรสนิทจะดีกว่า ผมเองก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องมีแฟน เมื่อผมก็ไม่ต้องการมีใครอื่นนอกจากพี่เบียร์

"มันอาจจะมีสักคนที่อยู่รอดัคก็ได้" ผมให้กำลังใจเขา อยากให้ดักรู้ว่าผมเองไม่ได้คิดสนใจดัคสักนิดเดียว

"ใครสักคนที่ว่านั้น ใช่เธอหรือเปล่า" ดัคขยิบตาเริ่มหว่านเสน่ห์ ผมก้มหน้ากลับไปคุยกับพี่เบียร์ต่อ เพ้นส์ขยับมากระซิบใกล้ ๆ

"ท่าทางจะเพี้ยน อย่าสนิทดีกว่า"

"เห็นด้วย" ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับเพื่อน จนเมื่อนักศึกษาส่งรายชื่อกลุ่มครบกันทุกคน อาจารย์ก็สั่งงานกลุ่มให้ไปทำ ดัคขอเบอร์ติดต่อผมอย่างไม่ลดละ เพื่อนผู้หญิงที่มาด้วยก็ขอโทษแทนหลายครั้งเพราะบางครั้งเธอก็เหนื่อยกับความหลงตัวเองของหมอนี่

"อย่าดีกว่าครับ ติดต่อกันในกลุ่มดีกว่า" ผมพยายามเลี่ยง ไม่รู้ว่ามาชอบผมเพราะอะไร

"เห้ยชอบ คนที่ไม่แจกเบอร์ให้คนอื่นง่าย ๆ แบบนี้เป็นแฟนกันก็อยากได้แฟนแบบนี้นะ มาเป็นแฟนกันไหมเธอ" ผมและเพ้นส์หน้าเหวอกับคนตรงหน้า เขาดูมีความมั่นใจกับความรู้สึกตัวเองดี

"ไม่อยากเป็นแฟนคุณครับ"

"โหเธอ ตอนปฏิเสธก็น่ารัก ไม่เป็นไรนะเราจะพยายามจีบเธอทุกวัน เธอต้องชอบเราแน่" มาแนวเดียวกับพี่เด็มเลย ที่บอกจะจีบทุกวันเอาเข้าจริงก็หายหน้าหายตาไปเลย ผมเองก็ไม่ได้คิดจะสนใจอยู่แล้ว

"โอกาสเป็นศูนย์และไม่มีทางเป็นไปได้ครับ" ผมบอกชัดคำ เก็บกระเป๋าสะพายแล้วเดินไปกับเพ้นส์เมื่อเพื่อนผู้หญิงลุกขึ้นกันเพื่อออกจากห้องเรียนกว้าง

"เพิ่งจะเจอหน้ากัน จะมาจีบรักทำไมก็ไม่รู้" ผมถอนหายใจ ไม่ชอบให้ใครล้อเล่นกับเรื่องความรัก เวลาผมมีความรักผมจะจริงจังกับมันเสมอ เพ้นส์ขำเล็กน้อยแล้วกระทุ้งแขนผม

"ก็ลองให้เขาจีบดิ เผื่อพี่เบียร์จะรู้สึกหึงขึ้นมาบ้าง" ผมไม่คิดอย่างนั้น

"พี่เบียร์จะหึงทำไม เขาก็ไม่ได้ชอบรักมากสักหน่อย" ถ้าเป็นผมก็พอจะมีแววหึงพี่เบียร์ถ้ารู้ว่ามีคนจะจีบพี่เบียร์

"แต่ได้ยินบางคนบอกว่าพาพี่เขาไปนอนห้องมาด้วย พาไปทำไมเอ่ย หรือตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ" เพื่อนผมก็ชอบล้อ พี่เบียร์ก็แวะมาหาผมที่คอนโดเป็นเรื่องปกติไปแล้ว นั่นสิ มันกลายเป็นเรื่องปกติตั้งแต่ตอนไหน ผมไม่ทันได้สังเกต

"ไม่ใช่แฟน ยังเป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้อง" ผมยืนยันสถานะหนักแน่น เรายังไม่ใช่แฟนผมไม่สามารถเรียกตัวเองด้วยคำนั้นไม่ได้

"อ้อ พี่น้อง... ประโยคคุ้น ๆ ตอบเหมือนดาราเลยเนอะ"

"ไม่ใช่พี่น้อง รุ่นพี่รุ่นน้องต่างหาก"

"รุ่นพี่รุ่นน้อง" เพ้นส์ล้อไม่หยุด "แล้วใครเล่านะว่าถูกรุ่นพี่หอมแก้มแล้วก็กอดด้วยน้าาา"

"เพ้นส์ ชูว์ เงียบไปเลยนะ" เรื่องนี้ผมเผลอพูดแค่ครั้งเดียวเพ้นส์เอามาล้อผมหลายครั้งเชียว น่าจะทำเป็นลืมแล้วแกล้งไม่ได้ยินก็ยังดี

"เป็นแค่รุ่นพี่รุ่นน้องกันเขาไม่หอมแก้ม ไม่นอนกอดกันหรอกนะรัก" ผมรู้แต่ผมต้องการฟังสถานะที่ชัดเจนจากพี่เบียร์มากกว่า ถึงตอนนั้นแล้วผมจะเลี้ยงฉลองที่ตัวเองได้เป็นแฟนของพี่เบียร์ทุกวันเลย เพ้นส์กอดคอผมระหว่างที่เรากำลังเดินลงบันไดอาคาร

"แล้วจะไปกินข้าวเย็นที่ไหน"

"พี่เบียร์จองร้านไว้แล้ว เดี๋ยวจะมารับเพ้นส์ก็ไปด้วยได้นะ"

"หือ หน้าที่รุ่นพี่มีแบบนี้ด้วยเหรอ อิจฉาจังนะ"

"จะล้อกันให้ได้ใช่ไหมคุณเพ้นส์" เพื่อนผมหัวเราะเมื่อถูกผมว่า เพ้นส์เกาหัวผม นี่ก็อีกคนชอบมายุ่งวุ่นวายกับหัวผมอีกคน ผมหน้าหงิกหน้างอใส่เพื่อน

"ก็รักน่าแกล้งดี เราไปด้วยก็ได้เบื่ออาหารในมอ.แล้ว"

"อือ บอกพี่เบียร์ไว้แล้วแหละ" ผมบอกพี่เบียร์ไว้แล้วจริง ๆ เพราะอยากพาเพ้นส์ไปทานอาหารนอกมหาลัยด้วยกัน เรายืนรอพี่เบียร์มารับสักพัก รถคันเดิมก็ขับมาจอด ผมฉีกยิ้มให้คนตัวโตที่วันนี้เพิ่งจะได้เจอหน้ากัน พี่เบียร์ตัดสินใจจะพาไปทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารอีตาเลียน ระหว่างนั้นดัคขับรถผ่านแล้วส่งจุบให้ทำเอาผมต้องรีบหลบหน้าส่วนเพ้นส์ก็ขำไม่หยุด ต้องมาทำรายงานกลุ่มเดียวกันด้วย แบบนี้ผมต้องรู้สึกลำบากใจไปถึงตอนไหน

"วันนี้เรียนเป็นไงบ้างครับ" พี่เบียร์ถามระหว่างขับรถ ใบหน้าก็ขมวดตั้งแต่ตอนที่ดักบีบแตรแล้วส่งจูบมาให้ผมแล้ว

"เรียนกลุ่มอาจารย์วิเนื้อหาแน่นไปหน่อยครับ รักจดตามแทบไม่ทัน ยังดีที่อาจารย์มีไฟล์แจกไว้ให้อ่าน"

"ข้อสอบอาจารย์แกชอบบรรยายนะครับ เขียนเยอะ แต่ถ้าจับใจความได้ เน้นเนื้อความก็ยิ่งได้คะแนนสูง อย่างงานกลุ่มของแกก็มีคนไม่ได้คะแนนด้วยนะครับ ใครทำชุ่ยไปส่ง ได้ศูนย์คะแนนไม่ก็ติดลบด้วย" คนเคยเรียนมาก่อนบอกเคล็ดลับให้ผมและเพ้นส์ได้รู้

"โห"

"ถึงอาจารย์แกซื่อตรง และเข้มงวดมากแต่เวลามีใครป่วยลาหรือมีเหตุผลที่รองรับได้ก็ผ่อนปรนให้นะครับ ดูใจดีกว่าที่เคยได้ยินรุ่นพี่ขู่กันมาอีก" เห็นผมกังวล พี่เบียร์จึงได้หาข้อดีของอาจารย์วิมาให้ผมหายกังวล

"งานอาจารย์ต้องเนี้ยบจริงครับ" ตั้งแต่เรียนกับอาจารย์มา รู้ซึ้งทันทีว่าอาจารย์คนนี้ต้องงานหินแน่

"แล้วเมื่อกี้ใครหรือครับ ที่บีบแตรใส่" ผมกลืนน้ำลายลงคอ ขนาดแกล้งทำเป็นไม่สนใจเรื่องดัคแล้ว พี่เบียร์ยังจะใส่ใจ

"อ้อ เพื่อนร่วมงานกลุ่มนะครับ ชื่อดัคเรียนเอกจีน แต่หมอนี้นชอบรักนะครับ ประกาศในกลุ่มด้วยว่าจะจีบรัก" เพ้นส์ได้ทีก็รีบบอกพี่เบียร์ ผมหันไปมองเพื่อนที่นั่งเบาะหลังให้เงียบแต่เพ้นส์ก็ยังยิ้มยียวนและบอกพี่เบียร์จนหมดเปลือก ถ้าอยู่ใกล้กันผมจะหยิกเพื่อนและปิดปากไม่ให้เพื่อนได้พูด เพ้นส์จะพูดเรื่องนั้นทำไม

"หือ ประกาศเลยหรือครับ"

"ใช่ครับ ลุกขึ้นบอกเลยว่าจะจีบจนกว่ารักจะตกลงเป็นแฟน ความมั่นใจของหมอนั่นนี่สุดยอดจริง ๆ ครับพี่เบียร์"

"..."

"แล้วน้องหนูให้คำตอบเขาไหมครับ"

"ก็ให้-"

"รักบอกว่าจะจีบก็ได้แต่ยากหน่อยนะครับ" เพื่อนผมกำลังโกหกอีก ผมไปพูดแบบนั้นกับดัคตอนไหน

"เพ้นส์"

"ดูซิครับ เห็นแบบนี้รักมันก็มีรุ่นพี่ รุ่นเดียวกันชอบมันเยอะนะครับ" ผมไม่รู้ว่าเพ้นส์จะพูดไปทำไมแต่ผมไม่อยากให้พี่เบียร์มารู้เรื่องไร้สาระพวกนี้ อีกอย่างดักเองก็ไม่รู้ว่าจะชอบผมได้กี่วัน พี่เบียร์มองผมวูบหนึ่ง

"นั่นซิครับ สงสัยจะโปรยความน่ารักใส่คนอื่นเลยมีแต่คนมาชอบ"

"ไม่ใช่สักหน่อยนะครับ รักไม่ได้ชอบดัคสักนิด" ทำไมต้องรีบแก้ตัวเหมือนทำตัวผิดกับแฟนด้วยนะผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเอง ได้ยินเสียงเพ้นส์หัวเราะ คอยดูเถอะผมจะไม่พูดกับเพื่อนหนึ่งวัน พี่เบียร์ขับรถมาถึงร้าน เราก็สั่งอาหารกันเป็นปกติแต่ดูเหมือนบรรยากาศมันไม่ปกติ

"รักจะไปเข้าห้องน้ำครับ" ผมลนลานรีบลุกเดินไม่ดูคนอื่นจนไปชนกับใครบางคนเข้าหน้าห้องน้ำ คนที่ชนกับผมยิ้มกว้างเมื่อเราเจอกัน

"เธอ นางฟ้าของดัค มาร้านนี้เหมือนกันเหรอ เสียดายถ้ารู้ว่ามาร้านเดียวกันจะได้ขับรถมาพร้อมกัน"

"ไม่เป็นไร ๆ เรามากับแฟนนะ" รีบบอกและแอบอ้างว่าพี่เบียร์คือแฟน ผมไม่อยากให้ดัคมาชอบหรือมาจีบผม ก็เพราะผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว

"คนนั้นเหรอแฟนเธอ" ดัคชี้ไปที่พี่เบียร์ ผมพยักหน้าและเผลอสบตากับพี่เบียร์เข้า ร่างสูงเดินมาหาทำเอาผมหัวใจหวาดหวั่น "เธอชอบแบบนั้นเหรอ ดัคเป็นให้เธอได้นะ"

"ไม่เป็นไร" ผมอยากให้ดัคเงียบและหยุดพูดก่อนพี่เบียร์จะมาถึง แล้วทำไมผมต้องรู้สึกกลัวด้วยเล่าเนี่ย

"เราจะไปเข้าห้องน้ำ ดัคจะไปเข้าไหม"

"เธอจับมือเรา มือเธอนุ่มมากหรือเธอจะชอบเราแล้วใช่ไหม" พี่เบียร์เดินมาใกล้พร้อมดึงมือผมให้ออกห่างจากเด็กรุ่นน้องที่ประกาศจะจีบ ผมอยากจะบ้าตาย ไม่รู้ตัวเองกำลังทำอะไรอยู่

"ไม่ไปเข้าห้องน้ำหรือครับ"

"เข้าครับ แต่บังเอิ้นบังเอิญเจอดัคนะครับ"

"ดัค" พี่เบียร์หันไปสนใจเพื่อนใหม่ของผม คนถูกเรียกก็ยังยืนยิ้มสบตากันพี่เบียร์

"ผมดัคเอกจีน ชอบเธอมาก เป้าหมายตอนนี้ของผมคือตามจีบเธอให้ติดก่อนจบเทอมครับ" พี่เบียร์โอบเอวผมไว้หลวม ๆ เหมือนกำลังประกาศให้รุ่นน้องแสนมั่นหน้ารู้ว่าคนนี้นะพี่จองแล้วจีบยากหน่อยนะ

"แต่พี่คงไม่อนุญาตให้จีบคนของพี่หรอกนะครับ น้องหนูไปเข้าห้องน้ำกันครับเดี๋ยวพี่ไปด้วย" ผมพยักหน้าน้อย ๆ แล้วเดินเข้าไปห้องน้ำกับพี่เบียร์ เพ้นส์มองดูห่าง ๆ ที่โต๊ะแล้วนั่งสั่งอาหารคนเดียว เด็กอนุบาลยังดูออกเลยว่าพี่เบียร์กำลังหึง ไม่เข้าใจว่าเพื่อนของเขาไม่มีเซ้นส์เรื่องแบบนี้ได้ยังไงทั้งที่แอบรักคนอื่นเป็น
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 12-12-2021 00:12:44
 :fire:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 34
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 16-12-2021 20:05:12
EPISODE : 34 ข่าวในเพจแอนตี้

"พวกมึงเห็นเพจนี้หรือยัง" ช่วงสองสามวันมานี้ผมรู้สึกว่าถูกมองจากเพื่อนในมหาลัยด้วยสายตาแปลก บ่อยครั้งที่สงสัยแต่ก็ไม่รู้จนเมื่อนายโนวิ่งมาบอกให้ผมรู้ เพ้นส์กับลูกแพร์ก็มองผมเลื่อนอ่านข้อความในเพจพลางบ่น

"ทำไมเพจนี้ถึงได้มีเรื่องรักเขียนทุกวันล่ะ รักไม่ใช่คนดังสักหน่อยผมไม่เข้าใจ" พอได้อ่านข้อความหมิ่นประมาทแต่ละข้อความก็เล่นเอาใจหาย ผมไม่เคยว่าใส่ร้ายคนอื่นมาก่อน

"กูเห็นมานานละ รำคาญมากเพจนี้แม่งแอนตี้มึงชัด ๆ" นายโนพูดด้วยอารมณ์ฉุน ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นเพจนี้ทำไมถึงได้มาแอนตี้ผมขนาดนี้ 

"แต่รักไม่ได้เป็นศัตรูกับใครเลยนะ ทำไมเขาต้องมาเกลียดรักด้วย" 

"แค่รักสนิทสนมกับพี่เบียร์มันก็พอเป็นเหตุผลได้นะ" เพ้นส์พูดขึ้น เนื้อหาแอนตี้ส่วนใหญ่ก็มีแต่เรื่องแซะผมเวลาที่อยู่ใกล้พี่เบียร์ 

"แอนตี้รักเพราะชอบพี่เบียร์เหมือนกันนะเหรอ"

"เออ" แต่ผมไม่เข้าใจ ความรักของผมมันไม่มีค่าพอที่คนอื่นจะเห็นค่าเลยเหรอ ผมก็รักพี่เบียร์อยู่ในส่วนของตัวเอง ไม่เคยก่าวกายชีวิตของใคร ขนาดตอนนั้นพี่เบลล์ใกล้ชิดกับพี่เบียร์ผมก็ไม่เคยว่าร้ายอะไรเธอเลย 

"โน อย่าด่วนสรุปสิ บางทีคนพวกนี้อาจจะไม่ชอบแค่รักอย่างเดียวก็ได้เลยทำแบบนั้นลงไป" ลูกแพร์พูดขึ้นบ้างหลังเงียบอยู่นาน นายโนถอนหายใจดังเพราะแอบไม่พอใจที่ถูกเพื่อนขัดใจ

"ไม่ชอบรักก็ไม่เป็นไรแต่ไม่เห็นต้องเขียนแอนตี้กันเลย" ผมว่า

"อย่าคิดมากสิรัก ใครไม่ชอบรักก็ช่างเขา เขาเขียนสนุกปากไปอย่างนั้นแหละพอเหนื่อยเดี๋ยวเงียบเอง" 

"แต่รักไม่อยากถูกคนเกลียดเยอะ มันรู้สึกไม่ดี" ผมมองลูกแพร์ เพื่อนก็โอบไหล่ผมเพื่อปลอบโยน ไม่มีใครอยากถูกเกลียดหรอก ยิ่งผมไม่ได้ทำอะไรใครมาก่อนผมยิ่งเครียดหนัก หรือผมไม่เหมาะสมกับพี่เบียร์เหมือนอย่างที่แอดมินเขาโพสต์

"กูรู้จักรุ่นพี่คนนึง เรียนไอที เป็นแฮกเกอร์คนเก่ง พี่มันเก่งเรื่องการตามหาคนมาก อย่างน้อยก็จะได้รู้ว่าคนโพสต์นี้เป็นใคร กูนัดพี่มันไว้แล้วเดี๋ยวก็มาน่ะ" คนเรียกรวมกลุ่มบอกอย่างภูมิใจ ผมใจชื้นขึ้นมาเมื่อเพื่อนก็ใจดีช่วยเหลือผม 

"ทำงานเร็วไปนะ" ลูกแพร์เอ่ยชม

"กูไม่ชอบให้ใครว่าเพื่อนรักของกูนี่หว๋า" ผมขยับตัวเลื่อนไปโอบกอดเพื่อนรัก  

"ขอบคุณนะโน" ผมไม่อายสายตาเพื่อนของเพื่อนที่มากับลูกแพร์ด้วย 

"เออ ว่าแต่พวกมึงไม่มีเรียนกันเหรอถึงได้มาด้วย" เห็นมะนาวกับว่านน้ำนั่งบ่นเมื่อเลื่อนดูเพจนั่นเขียนถึงผม นายโนก็หันไปชวนคุยต่อ เพื่อนผมก็คุยเก่ง สนิทกับทุกคนไปทั่ว 

"ก็ลงคาบเรียนพร้อมกับลินหมดทุกตัว จะให้มีเหรอครับในเมื่อลินก็อยู่ตรงนี้" 

"กวนตีนเหรอ กูถามดี ๆ" ผมรีบห้ามเพื่อนไม่ให้ทะเลาะกับมะนาว คู่นี้ก็ชอบคุยกันด้วยหมัดด้วยลูกแตะตัดสินกันเสมอ ลูกแพร์ปล่อยให้เพื่อนได้ทะเลาะกันโดยไม่คิดจะห้ามศึกอีกแล้ว 

"เออ ก็พอรู้ว่ามึงเรียกประชุมด่วนพวกกูว่างอยู่เลยขอตามมาด้วย เพราะอยากเผือก" ว่านน้ำแทรกขึ้น และก็ได้รับความพอใจจากนายโน เพ้นส์ขำเมื่อได้ยินอย่างนั้น 

"อันนี้ฟังเข้าหูสุดละ เหมาะกับพวกมึงดี" ลูกแพร์เหนื่อยจะฟังพวกนี้คุยจึงได้แทรกขึ้นมา 

"เพจนี้เปิดมาหลายปีแล้วนะ ที่ผ่านมาก็โพสต์เรื่องคู่จิ้นในมหาลัยแต่ไม่ดังเท่าเพจเอเวอร์รี่วายเดย์ แต่ทำไมช่วงนี้ถึงได้มาโพสต์แอนตี้รักด้วยล่ะ ไม่เห็นจะดีตรงไหน คนเข้าไปเม้นด่าให้ลบก็เยอะก็ยังดื้อด้านไม่ยอมลบอีก" 

 "ดูเหมือนช่วงนี้เพจจะกลายเป็นแอนตี้แฟนทุกคู่จิ้นที่เพจเวอร์รี่วายด้วยนะ ดูสิ งานนี้โดนทุกคู่เลยแต่รักถูกพูดถึงทุกวัน" เพ้นส์ที่เลื่อนดูก็วิเคราะห์ตาม ผมไม่อยากดูเท่าไหร่เพราะใจยังไม่หายกังวล โกรธเกลียดผมมากถึงขั้นต้องโพสต์กันเลยหรือไง ลูกแพร์ยื่นมือถือให้ผมได้ดูรูปบางอย่าง ผมเบิกตากว้าง นี่มันรูปตอนที่ผมไปเที่ยวกับพี่หมอเมื่ออาทิตย์ก่อน

"นี่มันรูปตอนรักอยู่กับพี่หมอด้วยนะ เขาดูพยายามจังเลย" ผมชักหงุดหงิด แบบนี้มันคุกคามชีวิตของผมแล้ว เราต่างหันไปมองตามเมื่อนายโนโบกมือเรียกใครสักคน 

"พี่มึงทางนี้เว้ย ทางนี้" ร่างสูงของรุ่นพี่ตัวสูงเดินมาหาพวกเรา นายโนก็ช่างเอาใจรีบเคลียร์ที่นั่งให้รุ่นพี่ได้นั่ง เพ้นส์กับมาะนาวต้องเสียสละที่นั่งเพื่อให้พี่เขาได้นั่งแทรกกลาง 

"เรียกกูได้เพราะมากเลยนะไอ้โน" เราต่างก็ไหว้ทักทายรุ่นพี่ ผมไม่เคยเจอหน้ารุ่นพี่คนนี้มาก่อน ไม่รู้ว่าเพื่อนไปรู้จักมักดีกับรุ่นพี่ได้ยังไง

"ก็สนิทกันแล้วเรียกแบบคนที่สบายใจกันไงพี่" นายโนพูดอย่างอวดดี ตีสนิทกับเขาไปทั่วอย่างนี้ผมทำไม่เป็นหรอก อย่างมากก็แค่ทำความรู้จักชื่อก็จบ แต่นายโนเก่งเรื่องการรักษาความสัมพันธ์กับคนอื่น

"เออว่าแต่เรียกมามีเรื่องอะไรให้ช่วย" รุ่นพี่วางโน๊ตบุ๊กที่พกมาแล้วถาม เชื่อแล้วว่ารุ่นพี่เก่งไอทีขนาดอุปกรณ์คู่ใจที่มานั้นยังดูมีออร่าไม่เหมือนโน๊ตบุ๊คธรรมดาของผม ที่วัน ๆ ก็เปิดแค่ดูหนังไม่ก็ทำรายงานแค่นั้น 

"หาเจ้าของเพจนี้ให้หน่อยสิ มันด่าเพื่อนผมทุกวันจนผมทนไม่ไหวละ" นายโนบอกแล้วให้ชื่อเพจให้พี่เขาได้ตามหา รุ่นพี่ดูแล้วยิ้มกว้างเหมือนเป็นเรื่องง่าย

"หาได้สบายมาก แต่มีอะไรเป็นค่าขนมให้กูล่ะ กูมีฝีมือแต่กูไม่ทำให้ฟรีนะเว้ย" ผมเข้าใจดี ไม่มีใครมาเสียเวลาช่วยเหลือคนฟรีหรอก 

"รักจ่ายค่าเสียเวลากับค่างานได้ครับ" 

"แบบนี้ค่อยน่าคุยหน่อยครับ หือ เด็กไอ้ภาคินหรือเปล่านะเรา" รุ่นพี่สบตากับผมแล้วถามเหมือนจะเพิ่งได้สบตากันละมั้งพี่เขาเลยถามอย่างนั้น พวกเพื่อนผมต่างก็ยิ้มแซวกันใหญ่ 

"เอ่อ..." ผมเกาหลังคอเพราะไม่รู้จะตอบยังไง

"ใช่พี่คนนี้แหละเด็กพี่เบียร์มัน" เพื่อนตัวดีของผมบอกแทน นายโนก็เหมือนเพ้นส์ชอบป่าวประกาศว่าผมเป็นแฟนกับพี่เบียร์ทั้งที่เรายังไม่ได้คบกันเป็นจริงเป็นจังสักหน่อย 

"ได้ยินมันบ่นว่าน่ารัก เออน่ารักจริงด้วย สเปกมันยิ่งชอบคนมีแก้มนุ่ม ๆ ด้วย สมัยมอปลายพี่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้ภาคินมันน่ะ" 

"อ้อครับ" ผมก็เพิ่งจะรู้ว่ารุ่นพี่ตรงหน้าเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่เบียร์

"คนกันเองเดี๋ยวพี่ลดราคาครึ่งหนึ่งให้ละกัน" พี่เขาใจดีลดราคาให้ด้วย ผมยังไงก็ได้เพราะต่อให้จ่ายแพงแค่ไหนแค่ได้รู้ตัวของเจ้าของเพจนั้นผมก็จ่ายไหว 

"โอ้ยพี่มึงรีบ ๆ เถอะ เรื่องเงินพวกผมไม่มีปัญหาค้าบ" 

"เออ ๆ พูดมากนะมึงไอ้โน" หลังถูกนายโนรบเร้า รุ่นพี่ก็เปิดโน๊ตบุ๊กแล้วง่วนอยู่กับการทำงานโดยมีเพื่อนผมหลายคนมุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น ผมก็อยากดูแต่ไม่อยากชะโงกดูเพราะรู้สึกเกรงใจรุ่นพี่เขา

"อะได้แล้ว ของจิ๊บจ๊อยมาก" รอเพียงไม่นาน พวกเราก็ได้รู้ว่าเจ้าของเพจนั้นเป็นใคร นายโนเอ่ยขอบคุณก่อนใคร 

"ขอบคุณครับพี่" ผมเองก็เอ่ยขอบคุณรุ่นพี่และเห็นร่างสูงของพี่เบียร์เดินมาหาพร้อมรอยยิ้ม ผมไม่ได้นัดพี่เบียร์เลยแต่ไม่คิดว่าเราจะบังเอิญเจอกันที่ลานอาหาร

"มีเรื่องอะไรกันครับ" พี่เบียร์ถามพวกเราจนเหลือบไปเห็นเพื่อนของตัวเอง "ไอ้เคโอ"

"ไงครับไอ้ภาคิน" รู้จักกันจริงด้วย

"เรากำลังให้พี่มึงหาเจ้าของเพจแอนตี้นี่นะพี่ ก็ช่วงนี้เพจนี้มันชอบด่าไอ้รักทุกวัน" ผมไม่ทันจะได้บอกอะไรนายโนก็ชิงบอกก่อน พี่เบียร์มุ่นคิ้วไม่เข้าใจแล้วขยับมานั่งใกล้ผมเมื่อที่ว่างข้างผมนั้นนายโนไม่ยอมมานั่งอย่างเดิม 

"เพจอะไรครับ"

"เพจนี้ครับพี่เบียร์ แต่พี่เขาหาเจ้าของเพจได้แล้วครับ" ผมยื่นมือถือให้พี่เบียร์ได้รู้ มีพี่เบียร์อยู่ด้วยมันก็รู้สึกแปลกแต่ผมกลับยิ้มชอบใจ 

"ไหนดูซิครับ" พี่เบียร์เลื่อนดูพร้อมทำหน้าจริงจัง พี่เคโอพูดสวนขึ้นนั่นแหละที่ทำให้ผมตั้งใจฟัง 

"เป็นเด็กบัญชีปีสามคิดว่ามึงก็น่าจะรู้จักด้วย"

"ซีแนนเหรอวะ ทำไมต้องมาเขียนแอนตี้ด้วย"

"กูไม่รู้ คงต้องไปถามเจ้าตัวเองมึงเองก็เป็นเพื่อนกับมันหนิ"

"เออ ขอบคุณ" ผมและเพื่อนต่างเงียบ ไม่คิดว่างานนี้คนที่พี่เบียร์รู้จักจะเป็นเจ้าของเพจแอนตี้ ผมมองพี่เบียร์ก็เห็นว่าพี่เบียร์หันมามองผมด้วย 

"กูทำงานเสร็จแล้ว ไอ้โนอย่าลืมโอนมานะเว้ยกูต้องไปเรียนละ" 

"เออพี่ ขอบคุณค้าบ" นายโนไหว้อย่างมีมารยาท พี่เคโอเตรียมตัวเก็บสัมภาระของตัวเองเมื่อมีเรียนต่อ ผมขอจ่ายค่าทำงานเองเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของผม จนพี่เคโอเดินออกไปเราถึงได้นั่งหารือกันต่อ 

"พี่รู้จักซีแนนเขาครับ ถ้าจะไปหาเดี๋ยวพี่นัดให้เอง"

"ดีเลยพี่ นัดมาเลยจะได้ไปถามให้รู้เรื่อง" ผมก็แล้วแต่พี่เบียร์จะจัดการ พี่เบียร์พิมพ์ข้อความส่งไปหาพี่ซีแนน งานนี้โชคดีมากที่เจ้าของเพจนั้นเป็นคนในมหาลัยและยังเป็นคนที่พี่เบียร์รู้จักเราจงไม่ต้องเสียเวลาหากันนาน

"จริง ๆ เราสนับสนุนให้รักฟ้องนะ โดนด่าขนาดนั้น" เพื่อนผมต่างเห็นด้วยกับลูกแพร์ ผมยังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลยอย่างน้อยก็อยากจะฟังเหตุผลที่เขาโพสต์แอนตี้ผมก่อน

"ฟ้องก็ดีครับ พี่ก็ไม่ชอบให้ใครว่าน้องหนูเหมือนกัน" พี่เบียร์เสนอความคิดเห็นด้วยท่าทีจริงจัง

"เออครับ" ถ้าพี่เบียร์บอกว่าฟ้องผมฟ้องด้วยก็ได้ครับ พี่เบียร์นั่งรอจนคุยกับฝ่ายนั้นแล้วนัดเจอกันที่คณะของพี่ซีแนน ผม พี่เบียร์และเพื่อนรักสองคนจึงได้ขับรถมาหา เรามองหาพี่คนนั้นจนพี่เบียร์บังเอิญไปเจอแล้วสกัดทางเดินของเธอ คงเพราะเห็นผมมาด้วยหรือเปล่าเธอถึงได้ดูลุกลี้ลุกลนทำท่าจะหนีพี่เบียร์ทั้งที่นัดกันไว้แล้ว

"มีอะไรเหรอภาคิน"

"คิดว่าเธอน่าจะพอรู้เรื่องของน้องเจ้ารักมากบ้างใช่ไหม" พี่เบียร์จับแขนเธอไว้เพราะกลัวพี่ซีแนนจะวิ่งหนี นายโนกับลูกแพร์เดินไปสกัดทางข้างหลังเพื่อไม่ให้พี่เขาคิดหนีไปไหน 

"อ้อน้องคนนี้ก็เห็นผ่านเฟสบุ๊คภาคินบ่อย ๆ นี่น่า คบกันแล้วเหรอ" ผมมองเธอ ถือเป็นรุ่นพี่ที่สวยคนนึงและผมไม่รู้จักหน้าตามาก่อน ทำไมถึงได้เขียนแอนตี้ผมขนาดนั้น  

"ผมไม่ได้ถามในฐานะนั้นครับ แต่ถามในฐานะเจ้าของเพจเพอเพิลวาย" พี่เบียร์จี้ถามอีก พี่ซีแนนตกใจแสดงอาการออกมาชัดเจน "ทำไมต้องเขียนแอนตี้น้องหนูด้วย"

"ภาคินพูดอะไรอย่างนั้น เราจะไปรู้ได้ยังไงเราไม่ใช่เจ้าของเพจสักหน่อย" เธอปฏิเสธเสียงแข็ง

"เหรอครับ พิสูจน์ได้ไหมครับว่าไม่ใช่เธอ เอามือถือมาพิสูจน์ตอนนี้สิครับ" ผมไม่คิดว่าพี่เบียร์จะจริงจังขนาดนี้ แค่เรื่องเล็กน้อยของผมพี่เบียร์ดูใส่ใจจนผมแอบปลื้มพี่เบียร์เพิ่ม

"ถ้าแน่ใจพิสูจน์สิครับเจ๊"

"นี่ใครเป็นเจ๊แกห๊ะ" เสียงนายโนรบกวนสมาธิพี่ซีแนนเข้า พี่เขาถึงได้หันไปโวยวาย

"ไม่เป็นแต่จะเรียกแบบนี้ถ้าเจ๊ยังไม่หยุดว่าร้ายเพื่อนผม"

"ผมขอทราบเหตุผลที่เธอทำอย่างนี้ด้วยครับ ถ้าไม่พูดผมคงต้องใช้หมายศาลคุยกัน" 

"ภาคินจะฟ้องเราเหรอ ทำเกินไปไหม เราเพื่อนกันนะ" ผมปล่อยให้พี่เบียร์ได้เคลียร์กับพี่ซีแนนไปก่อน

"เพื่อนเขาไม่ทำร้ายคนรักของเพื่อนหรอกว่าไหม" คำพูดของพี่เบียร์เล่นเอาผมรู้สึกดีและอมยิ้มบาง ๆ ลูกแพร์มองผมตลอด คงอยากจะดุผมที่มัวแต่เขินไม่ดูเวล่ำเวลา

"นี่ภาคินตกลงคบหากับเด็กคนนี้แล้วงั้นเหรอ"

"ใช่" แววตาดุดันกดดันพี่ซีแนนทำเอาเธอไหวหวั่น พี่เบียร์ช่างดูน่ากลัว ผมไม่เคยเห็นพี่เบียร์โกรธใครขนาดนี้มาก่อน 

"ยัยเบลล์จ้างเรามาน่ะ จ้างให้เราเขียนว่าน้องเขาทุกวันแต่เราไม่ได้อยากทำนะ เราจำเป็นต้องใช้เงินจ่ายค่าเที่ยวเรือสำราญน่ะเราเลยต้องทำ" คำสารภาพของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของผมเรียบร้อย ลูกแพร์เสนอให้ผมบันทึกทุกคำพูดและการกระทำของพี่ซีแนน เพื่อนผมแต่ละคนดูร้ายกาจไม่ต่างจากพี่เบียร์ 

"เห็นแก่ตัวไปไหมเจ๊ จะเที่ยวเองก็หาเงินเองสิครับยอมใส่ร้ายว่าเพื่อนผมเพื่อแลกค่าเที่ยวเนี่ยนะ"

"เด็กบ้า อย่ามาด่าฉันนะ ก็ฉันจำเป็นต้องไป" เธอบอกอย่างนั้น ผมก็อยากจะเห็นใจแต่พี่ซีแนนเห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ฟ้องพี่เธอแล้วละ

"งั้นผมก็จำเป็นต้องฟ้องเธอเหมือนกัน บอกเบลล์ให้ไปเจอกันที่ศาลได้เลย" พี่เบียร์ดูหนักแน่นจนผมแอบกลัว พี่ซีแนนจับมือขอร้องพี่เบียร์ด้วยความกลัว

"ภาคินใจเย็น ๆ ก่อนนะ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้เราจะไม่เขียนถึงน้องเขาแล้ว แต่ภาคินอย่าฟ้องเลยนะ"

"ทำอะไรไว้ก็น่าจะรับผลที่ตามมาด้วยสิครับ ผมว่าเรื่องนี้พี่กับพี่เบลล์ก็น่าจะคิดกันเอาไว้แล้ว ทนายที่บ้านผมจะดำเนินเรื่องฟ้องคาดว่าคงจะได้รับหมายศาลภายในสองสามวันนี้ครับ" คนจริงจังอย่างลูกแพร์พูดขึ้นเมื่อเริ่มทนไม่ไหว 

"เดี๋ยว ๆ น้องเจ้ารัก คือพี่ขอโทษนะคะน้องอย่าฟ้องพี่เลยนะ" เมื่ออ้อนวอนพี่เบียร์ไม่สำเร็จ มือของพี่ซีแนก็มาอ้อนวอนผมต่อ

"รักว่าพี่คุยกับทนายของรักดีกว่านะครับ รักไม่อยากคุยกับคนที่ไม่รู้จักรักแต่กลับมาทำร้ายกัน" ผมยืนยันหนักแน่น พี่ซีแนนหน้าซีดลงแล้วขอตัวไปหาทนายเพื่อเจราจาในทันที พี่เบียร์คงรู้ว่าผมกังวลจึงได้จับมือผมแน่น 

"ทำดีแล้วครับน้องหนู" ผมเพียงยิ้มบาง นึกขอบคุณที่พี่เบียร์อยู่เคียงข้างผมตลอดมา  



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 17-12-2021 23:15:08
 :hao3:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 35
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 19-01-2022 19:19:55
EPISODE : 35 พี่เบียร์คนโกหก



ผมรออย่างมีความหวัง ทั้งคาบที่เรียนก็แทบจะไม่มีสมาธิ เพ้นส์มองผมแล้วดึงสติให้ผมกลับมาเรียนอยู่ตั้งหลายครั้ง วันนี้ผมไม่พกสติมาเรียนแล้ว

"รัก โอเคแน่ใช่ไหม" เพ้นส์ดูเป็นห่วงผมมาก สีหน้าบ่งบอกได้ชัดว่ากังวลที่จะปล่อยให้ผมกลับคนเดียว ผมหันมายิ้มหวานพร้อมพยักหน้ามั่นใจ "อือ"

"อือบ้าอะไรเนี่ย สติน่ะพกมาด้วยสิ ตะกี้ไม่เห็นรักจะจดอะไร ไม่รู้ได้ฟังที่อาจารย์บรรยายหรือเปล่า" เพ้นส์บ่นยาว ผมเป็นเพื่อนที่ทำให้ต้องเป็นห่วง ทั้งที่อายุเท่ากันแต่ความรู้สึกมันบอกว่าผมถูกคนอื่นดูแลตลอด

"ฟังสิ อาจารย์ก็บรรยายเข้าใจ"

"เข้าใจก็ทำสรุปด้วย อย่าปล่อยผ่านเผื่อว่าออกสอบ"

"โอเคครับ" ผมรู้ว่าเพื่อนหวังดีแต่ผมตั้งใจเรียนอยู่แล้ว

"เป็นห่วงจริง แต่เราต้องไปเจอเพื่อนหน่อย กลับถึงห้องแล้วทักบอกด้วยนะ" เพราะมีนัดเดินตลาดนัดยามเย็นกับเพื่อนรูมเมท เพ้นส์จึงไม่สามารถกลับด้วยกันเหมือนทุกครั้ง

"ได้ รักกลับได้สบายมาก เพ้นส์อย่าห่วงเลย" เพราะผมเองก็มีนัดกับพี่เบียร์ อยากเจอจะแย่แล้ว

"โทรตามไอ้แพร์ไอ้โนดีไหม บอกตามตรงว่าเป็นห่วง วันนี้รักดูแปลก ๆ" คนเป็นห่วงไม่วายคิดถึงเพื่อนสนิทของผม ถ้าสองคนนั้นมาผมก็ไม่ได้อยู่กับพี่เบียร์กันสองคน ผมหันมองเพื่อนแล้วรีบปฏิเสธขณะเดินลงบันไดไปยังชั้นล่างเมื่อเลิกคลาส นักศึกษาหลายคนเดินลงไปพูดคุยกันเสียงดัง เพ้นส์ดึงผมให้ขยับมาชิดราวบันได คงเห็นว่าผมขวางทางคนอื่น

"ไม่ต้อง ไม่ต้องเลย รักกลับได้ รักสบายดีมากเลยนะเพ้นส์" ผมรีบหาข้อแก้ตัว

"งั้นก็ดูแลตัวเองดี ๆ หลงทาง รถยางแบนหรือน้ำมันรถหมดก็อย่าลืมโทร ฯ มาล่ะ" เพ้นส์บ่นเหมือนลูกแพร์ไม่มีผิด

"โอเค เจอกัน" ผมเห็นว่าเพื่อนรูมเมทของเพ้นส์กำลังเดินมาหา ความจริงผมดูแลตัวเองได้แต่เพื่อน ๆ ชอบเป็นห่วงผมเกิน จนเมื่อรูมเมทของเพ้นส์เดินมาใกล้เพ้นส์จึงขอตัว

"เจอกัน บาย"

"บายบาย" ผมมองเพื่อนเดินไปกับรูมเมทจึงวิ่งไปรอข้างหลังตึกบริเวณลานจอดรถตรงข้ามตึกคณะวิทยาศาสตร์ พี่เบียร์นัดกันว่าหลังเรียนเสร็จแล้วจะขับรถผ่านเส้นทางนี้ ผมรอยังคงยิ้มเก้อมองดูนาฬิกาแล้วสำรวจตัวเอง ได้เจอพี่เบียร์ทุกครั้งมันก็ไม่หายตื่นเต้นทุกที

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป

จากคนรอที่มีรอยยิ้มแต้มใบหน้าหวานกลายเป็นคนเริ่มกังวล ผมยืนไล่ยุงที่บินรอบตัวเพื่อดูดเลือด แม้จะปัดก็ยังรำคาญเสียงพวกมันที่เข้ามาวนเวียนอยู่ดี

"เมื่อไหร่พี่เบียร์จะมานะ" ทักไลน์ถามแล้วแต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบกลับมา

"ไปรอหน้าตึกดีกว่า" เมื่อรอเท่าไหร่พี่เบียร์ก็ไม่มาผมจึงคิดจะไปรอหน้าตึกเพื่อเลี่ยงยุงและอากาศร้อน ซ้ำข้างหน้าก็มีนักศึกษาเดินผ่านไปผ่านมา ระหว่างเดินคอตกมาบริเวณหน้าตึกผมก็เห็นภาพของคนที่นัดเจอ พี่เบียร์กำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งควงแขนไว้ไม่ปล่อย รอบข้างก็มีเหล่านักศึกษาหญิงมองกันอย่างสงสัยในความสัมพันธ์

"แฟนเด็กของรองเดือนเหรอ คนนี้ฉันไม่เคยเห็นนะ แต่อิจฉาจัง"

"น้องคนนั้นก็สวยมาก เด็กม.ปลายด้วย การแต่งตัวดูเก๋มาก" ผมฟังคำพูดของผู้หญิงกลุ่มข้างหน้าตัวเองด้วยสายตาหวั่นไหว พี่เบียร์ยิ้มให้เธอแล้วเธอก็อ้อนซบอก กอดกันไม่อายสายตาใคร ผมมองภาพตรงหน้าด้วยความข่มขื่น 

เสียงกลุ่มผู้หญิงข้างหน้ายังคงพูด ผมรู้สึกเหมือนขาไม่มีแรงจะเดิน สองเท้ารีบหันหลังเพื่อให้พ้นจากภาพที่ไม่อยากเห็น ผมคงหวังมากไป เป็นความคาดหวังที่ลม ๆ แล้ง ๆ และคิดไปเองคนเดียว หรือที่ผ่านมาพี่เบียร์แค่ทำดีกับผมเหมือนรุ่นน้องคนอื่น ๆ

"ไม่ร้องสิรัก เรื่องแค่นี้เองจะร้องไห้ทำไม" แปลกเมื่อเข้ามาในรถตัวเอง น้ำตาที่ฝืนก็หลั่งออกมา ผมได้รับข้อความจากเพ้นส์ที่ทักมาถามด้วยความเป็นห่วง ผมจึงปล่อยน้ำตาอีกระลอก พี่เบียร์โกหกผมทำไม นัดกันแล้วทำไมถึงได้ไปกับคนอื่นได้ล่ะ แล้วปล่อยให้ผมรอเก้อทำไม 

หลังร้องไห้เพราะความเสียใจผมก็เตรียมจะกลับคอนโดตัวเองระหว่างถอยหลังรถก็มีรถคันหนึ่งขับเข้ามาจนเกือบจะชนกัน โชคดีที่เขาเบรกได้ทัน คนใจไม่อยู่กับตัวตกใจ เมื่อตั้งสติก็รีบลงมาเพื่อขอโทษทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง

"รักขอโทษนะครับ รักไม่ทันมองว่ามีรถ-"

"เอ๋ น้องหน้าหวานนี่น่า" ผมกัดปากตัวเอง เผลอเลียริมฝีปากแห้งด้วยความกังวล ผู้ชายคนนี้อันตราย พี่เด็มทำท่าทีจะเดินมาหาแต่มีรถอีกคันที่ขับผ่านมาบีบแตรพอดี ผมรู้สึกโชคดีที่คนขับคนนั้นคือพี่เพื่อน

"ถนนส่วนรวมนะเว้ย ช่วยขยับให้คนที่มีธุระด้วยครับไอ้พี่เด็ม" เสียงพี่เพื่อนบ่งบอกชัดว่าไม่สบอารมณ์ที่จะเสวนากับรุ่นพี่

"รบกวนมึงขับผ่านไปเลยนะครับ เพราะกูมีธุระกับน้องเจ้ารักครับ"

"..." ผมมองพี่เพื่อนพร้อมเม้มปาก

"เออ เรื่องรถพี่คงต้องติดค้างเราเอาไว้ก่อนนะครับ บอกไว้ก่อนพี่ไม่ยกโทษให้ง่าย ๆ"

"ไม่เป็นไรมั้งพี่ เดี๋ยวกูเคลียร์ให้ตรงนี้เลย ห้าพันพอไหมครับ" เป็นพี่เพื่อนที่เดินลงมาจากรถแล้วหยิบธนบัตรหลายใบยื่นให้อย่างใจเด็ด ผมขยับมายืนใกล้พี่เพื่อน รู้สึกอุ่นใจมากและแอบกลัวกับสายตาของพี่เด็มที่มองมา ไม่ชอบเวลาถูกมองอย่างนั้น

"ไอ้เพื่อน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกันมึง"

"ก็นี่น้องเฮีย ใครเป็นน้องเฮียก็น้องกูเหมือนกันกูเคลียร์ให้เองเลย ห้าพันก็แยกครับ" พี่เพื่อนเป็นคนที่ใจร้อนและน่าเกรงขามคนหนึ่ง "หรือพี่จะแลกมัดกันก่อนไปก็ได้นะ" ผมตาโต ไม่แลกมัดกันสิ ผมไม่สนับสนุนความรุนแรง

"ผมขอโทษอีกครั้งนะครับพี่เด็ม" พี่เพื่อนบังตัวผมเอาไว้ไม่ให้พี่เด็มได้มอง ธนบัตรหลายใบในมือพี่เพื่อนปาเข้าไปในรถพี่เด็มอย่างไม่แยแส ผมกำเสื้อพี่เพื่อนแน่น โชคดีที่มีรถอีกคันขับผ่านมา พี่เด็มจึงยอมถอยขับรถผ่านไปแต่โดยดี ผมเอ่ยขอบคุณพี่เพื่อนที่มาช่วยได้ทันเวลาพอดิบพอดี 

"ขอบคุณครับ"

"แล้วจะไปไหนครับ กลับเลยไหมให้พี่ไปส่งหรือเปล่าไอ้เบียร์มันก็ไม่ว่างด้วย"

พอได้ยินชื่อของพี่เบียร์แล้วก็พาลจะร้องไห้อีก พี่เพื่อนพูดก็ยิ่งย้ำว่าพี่เบียร์เลือกจะไปกับเธอคนนั้นมากกว่าผม

"กลับคอนโดครับ" ตอบเสียงเบาหวิว พี่เพื่อนก็พยักหน้าแล้วให้ผมรีบขึ้นรถ ร่างสูงอาสาขับรถตามไปส่งถึงหน้ามหาลัยก่อนเราจะแยกย้ายกันไป ผมนึกขอบคุณพี่เพื่อนจากใจ คงต้องกลับห้องไปนอนทบทวนเรื่องเรียน เพื่อจะได้ไม่ต้องฟุ่งซ่านคิดถึงเรื่องพี่เบียร์
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 20-01-2022 00:41:21
เลิก
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 36
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 23-01-2022 17:17:24
EPISODE : 36 เจ้ารักไม่พร้อมจะคุย



เช้าวันต่อมาผมนั่งซึม ไม่มีรอยยิ้มและไม่ได้พูดถึงพี่เบียร์ให้เพื่อนได้ฟัง 

"ไม่สบายหรือเปล่ารัก" ลูกแพร์ที่มาถึงเห็นว่าผมเศร้าซึมอย่างที่เพ้นส์บอกแล้วก็อังหน้าผากเพื่อตรวจสอบ เพราะมีงานกลุ่มเข้ามาช่วงนี้เราจึงไม่ได้เจอกันบ่อย  นายโนเดินมาพร้อมกับจิน เพื่อนในเอกเศรษศาสตร์ที่สนิทด้วยคนนึง 

"สวัสดีรัก" ผมมองหน้าเพื่อนของเพื่อนพลางทักทายกลับอย่างไร้วิญญาณ

"สวัสดีจิน"

"โอ้โห น่าเป็นห่วงแหะ" จินกล่าว เมื่อวางกระเป๋าสะพายเรียบร้อยก็นั่งลงใกล้นายโน เพื่อนในเอกมนุษย์อิ้งอีกสองคนของลูกแพร์เดินเข้ามาตามหลัง คือมะนาวและว่านน้ำ ไม่คิดว่าจะได้เจอเพื่อนของเพื่อนครบกันทุกคนขนาดนี้แต่ว่ามากันครบในวันที่ใจผมห่อเหี่ยว ถึงต่อให้มีเพื่อนเยอะผมก็ยังรู้สึกไม่สนุกเต็มร้อยอยู่ดี 

"เพื่อนอกหักเหรอ หน้าหงึเชียว" ผมหน้ามุ่ยมองหน้าเพื่อนจอมมั่นใจของลูกแพร์ มะนาวยิ้มเมื่อได้แหย่ผมก่อนจะหันไปทักทายจิน ว่านน้ำเองก็ให้กำลังใจผม 

 อาหารมื้อใหญ่กับปีหนึ่งหกคนสร้างเสียงเฮฮาในลานอาหารและเรียกสายตาจากคนรอบข้าง

"สวัสดีครับพี่ ๆ" ดูเหมือนเพื่อนต่างคณะทุกคนก็รู้จักกลุ่มเพื่อนพี่เบียร์ ผมยังคงก้มหน้าเขี่ยข้าว รู้สึกดีที่เพื่อนพี่เบียร์เข้าถึงได้ง่ายและสนิทด้วยดีแต่เวลานี้ผมยังไม่พร้อมจะคุยกับใคร 

"ทำไมน้องเจ้ารักซึมอย่างนั้นล่ะครับ" พี่ริทดูเป็นห่วง ผมแค่ยิ้มเยาะตัวเอง วันนี้ผมเหนื่อยเกินกว่าจะทักทายใคร 

"มันไม่ค่อยสบายนะครับพี่" นายโนสรุปอาการให้แทน ผมป่วยใจมากกว่า

"ปกติจะเห็นพวกพี่มากันเป็นกลุ่ม" มะนาวถามขึ้นราวกับสนิทกันมาก่อน ผมเผลอกวาดตามองหาพี่เบียร์อย่างลืมตัว 

"อ้อ พี่เบียร์กับพี่วอร์มไปส่งงานกลุ่มครับ เดี๋ยวก็มา" พี่ธีร์รีบบอกอย่างใจดี 

"ก็ว่าละ" ผมเองก็ตั้งใจฟังพอรู้ว่าพี่เบียร์อาจจะมา ใจก็อยากจะลุกหนี แต่อีกใจก็อยากเจอหน้าพี่เบียร์

ทำไมหัวใจไม่รักดี

เพื่อนในกลุ่มของพี่เบียร์กำลังสั่งอาหารกันใหญ่พี่เพื่อนนั่งหน้าเข้มก็ทักถามขึ้นกลางโต๊ะอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย 

"เรื่องไอ้เด็มเป็นไงบ้าง มันไม่ได้มายุ่งอีกใช่ไหม" ผมเงยหน้ามองพี่เพื่อน ทุกคนก็ดูเหมือนจะหยุดทุกอย่างที่ทำแล้วหันมาสนใจบทสนทนาของเราสองคน

"ครับ"

"เรื่องอะไรวะ ไอ้เหี้ยพี่เด็มนะเหรอ" พี่ริทถามด้วยความสงสัย สีหน้าขมวดทันทีที่เอ่ยถึงพี่เด็ม 

"เออ"

"ไอ้พี่เด็มมันมายุ่งอะไรกับมึงเหรอไอ้รัก" ผมไม่รู้จะตอบคำถามเพื่อนยังไง นายโนหน้าตึงขึ้นมา รายนี้ก็อีกคน เพราะอย่างนั้นผมถึงไม่อยากจะบอกเพื่อน รู้ดีว่าเพื่อนต้องเป็นห่วง 

"อือ แต่มันไม่มีอะไรแล้ว พี่เพื่อนช่วยไว้ก่อนนะ"

"มิน่าเมื่อคืนพี่เด็มทักมาขอคอนแทคของรักอะ แต่ไม่ได้ให้นะ!" เพ้นส์บอกก่อนจะรีบชิงตอบก่อนว่าไม่ได้ให้คอนแทคผมไปทั้งสิ้น 

"มันมายุ่งแบบนี้ คงไม่ปล่อยง่าย ๆ แน่ น้องเจ้ารักระวังตัวด้วยนะครับ" พี่กันย์รู้สึกเป็นห่วงรุ่นน้องหน้าหวานขึ้นมา ผมเอ่ยขอบคุณ พอโดนเพื่อนซักไซ้สักพักผมก็ขอตัวเข้าห้องน้ำเมื่อเห็นร่างของพี่เบียร์กำลังลงจากรถพร้อมกับพี่วอร์ม 

"รักเข้าห้องน้ำนะ เดี๋ยวมา" ลูกแพร์ลุกขึ้นไปห้องน้ำด้วยกัน ร่างสูงของคนที่เพิ่งมาในลานอาหารเห็นน้องเดินไปกับเพื่อนอีกทาง คิดว่าน่าจะไปห้องน้ำกัน พี่เบียร์รับไหว้รุ่นน้องที่ทักทายเขา เพื่อนที่นั่งก่อนหน้าก็บ่นใหญ่แล้วเล่าเรื่องของไอ้พี่เด็มให้ฟัง ร่างสูงดูตกใจไม่ต่างจากคนอื่น

ผมไม่ได้เข้าห้องน้ำอย่างที่บอกและเอาแต่หลบหลังห้องน้ำ ลูกแพร์ยืนเท้าสะเอวมองผมอย่างหน่ายใจ เชื่อว่าที่ซึม ๆ ไม่ร่าเริงทั้งวันก็น่าจะเป็นเพราะพี่เบียร์

"รัก เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า" ผมไม่ได้มองเพื่อน ยังคงมองพี่เบียร์ อยากอยู่ใกล้แต่ไม่มีสิทธิ์ "รัก หันมาคุยกันก่อน"

"ก็ได้" ถึงจะไม่อยากเอ่ยถึงแต่ผมก็ปิดบังเพื่อนไม่ได้ "เมื่อวานพี่เบียร์นัดกับรักหลังจากเรียนคาบอาจารย์ป่าน" ลูกแพร์ตั้งใจฟังเพื่อนอย่างใจเย็น

"แล้ว"

"แต่พี่เบียร์ไม่มาตามนัด รักไปรอที่ลานจอดรถครึ่งชั่วโมงพี่เขาก็ไม่มา" ผมอึดอัดเล็กน้อยที่จะเล่า "แต่พอรักจะไปรอหน้าตึกรักก็เห็นพี่เบียร์เดินกับผู้หญิงคนหนึ่ง" ลูกแพร์ขมวดคิ้วสงสัย

"แค่เดินเหรอ ไม่ใช่แค่เดินปกติใช่ไหม" คนฉลาดคิดจี้ถามผมพยักหน้าพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

"อือ เขาควงแขนกัน" กว่าผมจะพูดออกมา มันช่างเจ็บปวด ภาพเมื่อคืนยังคงติดตา 

"แล้วรักเลยเสียใจกับเรื่องนี้นะเหรอ"

"ก็ส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งก็คือ ตอนนั้นพี่เพื่อนบอกว่าพี่เบียร์ไม่ว่าง รักเลยรู้สึกว่ามันคงเป็นเรื่องจริงที่พี่เบียร์เลือกจะไปกับเธอคนนั้นแต่กลับลืมนัดของรักนะ รักเลยเสียใจ"

"แล้วพี่เบียร์ได้บอกเหตุผลบ้างไหม"

"ก็มีทักไลน์มาขอโทษ บอกไม่ว่างและไม่ได้ตั้งใจลืมนัดเพราะมีเหตุสุตวิสัยเข้ามา แต่เหตุสุตวิสัยของพี่เบียร์คือเธอคนนั้นรักก็เลยเสียใจมาก ๆ รักร้องไห้ทั้งคืนเลย มันบ้าดี" เพื่อนดึงผมมาปลอบ หวังว่าเพื่อนคงไม่ได้มองว่าผมไร้สาระและงี่เง่า ผมก็แค่พยายามเข้าใจความรู้สึกตัวเองและกำลังจัดการกับเรื่องการแสดงออกของตัวเองอยู่

"รักได้ถามไหมว่าเธอคนนั้นเป็นใคร บางทีคงไม่ใช่แฟนพี่เบียร์อย่างที่รักกำลังคิดอยู่ก็ได้" ลูกแพร์ลองพยายามประติประต่อเรื่องราว ผมส่ายหน้า น้ำตาใสที่คลอเบ้าตาพลันไหลออกมาด้วยความน้อยใจ 

"ไม่ได้ถาม รักไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น รักรู้ตัวดี" 



บรรยากาศในตอนนั้นดูผิดปกติไม่เหมือนเดิม นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก ระหว่างกำลังนั่งกินข้าวผมก็พยายามมองหน้าน้องแต่น้องก็ตั้งใจหลบหน้าและแทบจะไม่หันมาคุย อยากถามเรื่องไอ้เด็มที่เพื่อนเล่าก็แทบไม่มีโอกาส ไอ้ธีร์สะกิดขาผมให้ชวนน้องคุย ผมส่ายหน้าไม่กล้า

ทำไมรู้สึกว่าโดนน้องงอนเข้าอย่างนั้น

"อะอ้าวน้องหน้าหวานของพี่เด็ม" เสียงน่ารำคาญของไอ้พี่เด็มดังมาแต่ไกล ทั้งที่ทั้งโต๊ะไม่มีใครเชิญมาก็ยังอุตส่าห์พาร่างกายมายืนอยู่ต่อหน้าเขา น้องเกาะแขนน้องโนไว้ราวกับเป็นเกราะกำบัง 

พี่มันจะไม่เลิกยุ่งกับน้องใช่ไหม 

"เหี้ยอะไรของพี่อีก น้องรักไม่ใช่ของพี่สักหน่อย" ไอ้วอร์มฉอดใส่ เราทุกคนต่างไม่ชอบหน้าไอ้พี่เด็ม

"น้องวอร์มยังดุไม่เปลี่ยนนะครับ" เพื่อนทั้งกลุ่มแทบจะลุกหาเรื่องพี่มันแล้ว 

"พี่มึงก็นิสัยเหี้ยไม่เปลี่ยนหนิ" ไอ้ธีร์ไม่วายเสริม น้องลูกแพร์หักมือพี่มันที่กำลังตั้งใจจะลูบผม ไม่คิดว่าน้องลูกแพร์จะเก่งการป้องกันตัว ผมแอบสะใจ

"ไม่ยุ่งกับผมจะดีกว่านะครับ บังเอิญคนอย่างพี่ไม่ใช่สเปกผม" นายโนออกโรงปกป้องเพื่อนด้วย ผมเดินมาใกล้น้องลูกแพร์แล้วผลักไอ้พี่เด็มออกห่าง ไอ้เพื่อนก็เข้ามาพร้อมช่วยเหลือ เมื่อสุดท้ายโดนไล่ไปพี่เด็มตั้งใจแวะจะมาทักทายก็ต้องจำยอมเดินจากไปกับเพื่อนที่มากินข้าวเที่ยงด้วยกัน

"..." 

"เหี้ยอะไรเนี่ย มาทีไรก็ทำเสียบรรยากาศหมด" ผมยังคงได้ยินพวกไอ้ธีร์บ่นเพราะหงุดหงิด ผมเองก็หงุดหงิดไม่ต่างกัน แต่เรื่องน้องนี่สิ ผมยังไม่รู้เลยว่าน้องเป็นอะไร ทำไมต้องหลบหน้าผมด้วย 

"น้องหนูครับ พี่ขอคุยด้วยหน่อยครับ" หลังทนกับความอึดอัดอยู่นาน เมื่อน้องและเพื่อนลุกขึ้นจะกลับผมจึงลุกเดินตามเพื่อนขอเคลียร์ให้เข้าใจ มันต้องมีเรื่องที่ทำให้น้องเข้าใจผิดแน่แถมเรื่องไอ้เด็มนั่นอีก ผมอยากรู้ว่าน้องเป็นยังไง อยากถามว่ามันทำอะไรน้องไหมแต่น้องไม่ยอมสบตาผมสักนิด มันทำให้ผมกระวนกระวาย 

"รักไม่มีอะไรจะคุยครับ" ผมแทบจะอ้อนวอนแล้ว ทำหน้างอนอย่างนั้นคงมีเรื่องอะไรแน่ปกติน้องไม่แสดงสีหน้าอย่างนั้นยกเว้นตอนที่เข้าใจผิดเรื่องน้องเจ้าขา น้องโนจิ๊ปากเหมือนจะรำคาญ

"หน้ามึงฟ้องขนาดนั้นอยู่เคลียร์ไปเลย หรือจะให้พวกกูสองคนช่วยเคลียร์ด้วย" คนเพิ่งจะรู้เรื่องราวจากเพื่อนแอบหงุดหงิด นี่ถ้าลูกแพร์ไม่เล่าให้ฟัง เขาก็ไม่มีทางได้รู้เพื่อนคนนี้ก็อีกคน จะปกปิดกันทำไม 

"ไม่-" ผมเห็นน้องจะห้ามเพื่อนแต่น้องโนชิงพูดออกมาก่อน 

"ตกลงพี่มีแฟนหรือไม่มีกันแน่แล้วพี่คิดจริงจังกับเพื่อนผมหรือคิดแค่เล่น ๆ วะ พี่ก็รู้ไอ้รักมันชอบพี่มากนะเว้ย" ผมขมวดคิ้วมองดูน้องห้ามเพื่อนตัวเอง

"โน"

"มึงเงียบไปเลยไอ้รัก" น้องเผลอสบตาผมแล้วหันหนีอีก 

"พูดเรื่องอะไรกันครับพี่ไม่เข้าใจ" ผมค่อนข้างไม่เข้าใจ เพราะถ้าแค่เรื่องที่ผมยกเลิกนัดกับน้องเมื่อวานมันก็ไม่น่าจะถึงขั้นโดนเพื่อนน้องโกรธแทนขนาดนี้ ผมทำอะไรที่บ่งบอกว่าตัวเองไม่จริงจังกับน้องงั้นเหรอ

"ก็รักบอกว่าเมื่อคืนพี่เบี้ยวนัดแต่เห็นพี่ควงกับผู้หญิง" น้องลูกแพร์บอกให้ผมได้กระจ่าง ผมจึงได้เข้าใจเหตุการณ์

"ควงผู้หญิง อ้อ" เรื่องนี้นี่เอง เรื่องที่ผมยกเลิกนัดกับน้องเมื่อวานแล้วไปกับผู้หญิงมันคือเรื่องจริงนั่นแหละ แต่น้องกำลังเข้าใจผิด ผู้หญิงที่ผมไปด้วยนั่นคือ

"รักไม่อยากคุยตอนนี้ครับ โน แพร์ไปกันเถอะ" ผมกำลังง้างปากจะพูดแล้วแต่ก็ไม่ทันจะบอกเมื่อน้องไม่พร้อมจะรับฟัง แต่เพื่อนน้องก็นิสัยดีที่ไม่ยอมให้น้องได้หันหลังหนีปัญหา 

"มึงต้องอยู่ อย่าคิดหนีเด็ดขาดไอ้รัก" ผมมองหน้าน้อง พยายามจะสบสายตาที่คอยหลบหนี ปกติน้องชอบมองผมตลอดเวลาพอน้องคอยหลบสายตาแล้วผมรู้สึกแปลก 

"ผู้หญิงที่พี่ควงด้วยเมื่อคืนไม่ใช่แฟนพี่ครับ" ผมพูดออกมาอย่างมั่นใจ ก็เธอไม่ใช่แฟนผมอย่างที่น้องกำลังเข้าใจ น้องโนกับน้องลูกแพร์ปล่อยแขนน้องเพราะอยากให้น้องอยู่เคลียร์กับผมให้รู้เรื่องกันก่อน

"ครับ รักเข้าใจแล้วพี่เบียร์ก็ชอบควงคนอื่นไปทั่วนั่นแหละครับ พี่เบียร์ก็ชอบเล่นกับความรู้สึกของคนอื่นอยู่แล้วรวมทั้งรักด้วย"

ไปกันใหญ่แล้ว 

"ไม่ใช่แบบนั้นครับ" ผมกลืนคำพูดตัวเองเมื่อเห็นน้ำตาน้องคลอเบ้า ร่างกายมันขยับไปกอดอย่างอัตโนมัติ ไม่ชอบที่เห็นน้องร้องไห้เลยแล้วทำไมผมจึงทำให้น้องต้องร้องไห้ทุกที รู้แบบนี้ก็น่าจะบอกเหตุผลกับน้องไปตามตรง น้องแพร์กับน้องโนเดินถอยห่างไปคงเพราะอยากให้เราสองคนคุยกัน

"ผู้หญิงที่พี่อยู่ด้วยคือน้องพันช์ครับ น้องสาวพี่เอง" 

"คนโกหก พี่เบียร์โกหก รักเกลียดพี่เบียร์แล้ว" น้องกล่าวตัดพ้อและไม่เชื่อสิ่งที่ผมได้อธิบายไป เพราะน้องดิ้นจะหนีผมเลยกอดเจ้าตัวให้แน่น บอกควาจริงแล้วก็ไม่เชื่อแล้วผมต้องทำยังไงแต่เมื่อวานผมไปกับน้องสาวจริง ๆ ผมไม่ได้โกหกอย่างที่น้องเข้าใจเลย

"จะงอน จะโกรธพี่ก็ได้แต่อย่าเกลียดพี่เลยนะครับ" เพราะผมคงทนไม่ได้ถ้าถูกน้องเกลียดขึ้นมาจริง ๆ 

"เรื่องเมื่อวานพี่ขอโทษนะครับ" 



หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 24-01-2022 22:31:57
 :hao5:
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน ตอน 37
เริ่มหัวข้อโดย: Oncloud69_ ที่ 11-02-2022 15:07:31
EPISODE : 37 สแกนว่าที่คนรักของพี่ชาย

"อะไรอีกล่ะ" เจ้าของใบหน้านิ่ง เพ่งมองไปยังร่างของคนเมาที่ถูกหิ้วปีกมาหาเขา แพมรู้จักเจ้ารัก น้องเทคแคร์ของเฮียภาวิคดี 

"ฝากหาที่นอนให้น้องมันนอนสักคืนได้ไหมเตง คนนี้ทำไม่ลงแล้ว" แพมถอนหายใจ ก็พอรู้ว่าพี่เด็มตามจีบน้องมันเล่น แต่ไม่คิดว่าน้องจะพลาดท่าเมาจนคนหน้าด้านตรงหน้าหอบขึ้นรถมาได้

"แล้วทำไมไม่ไปส่งที่ห้องของเขา" แพมไม่อยากรับฝากหรือยุ่งเกี่ยวเรื่องของพี่เด็ม

"เค้าถามแล้วแต่น้องมันไม่ตอบ ตอนไปเจอก็เมาแล้วเค้าเลยใจดีอาสาพาออกมาจากร้านเอง"

"..." แพมถอนหายใจดัง คนอย่างพี่เด็มก็มีอยู่แค่เรื่องเดียวนั่นแหละ เรื่องบนเตียง 

"ฝากสักคืนนะ จะไม่ลืมความใจดีของเตงเลย" พี่เด็มพาเจ้ารักเข้ามาอยู่ในบ้านแสนกว้าง เชื่อว่าหากฝากแพมดูแล ยังไงน้องมันก็ปลอดภัย

"ไม่พาไปห้องพี่ล่ะ"

"ไม่เอาหรอกเตง คืนนี้ขอไปหาเหยื่อใหม่ดีกว่า ขอบคุณน้า ไปละ" แพมมองร่างสูงเดินออกจากห้องไปด้วยสายตานิ่งเฉยแล้วหันมามองคนเมา

"เห้อ ภาระอีกแล้ว" 

ภายในร้านของเฮียภาวิค ยูโนต้องออกมาถามหาเพื่อนอีกเมื่อเข้าไปข้างในแล้วไม่พบเพื่อนอย่างที่เฮียบอก 

"อ้าวเฮียไหนบอกไอ้รักอยู่ข้างใน ผมไปหาแล้วไม่เจอ" 

"ทำไมไม่เจอ กูให้รอข้างในจริง ๆ" เจ้าของร้านสงสัยเขาเป็นหิ้วน้องเทคให้ไปนอนในห้องนั่งเล่นกับมือเองแล้วน้องมันหายไปไหน"มันเมาอยู่ด้วย"

"ถ้ามันเมาก็น่าจะนอนหลับที่ไหนสักแห่ง เดี๋ยวผมจะไปหาในห้องน้ำก่อน" 

"เดี๋ยว ไอ้เด็มมันไม่อยู่" พอลองสำรวจมองไปยังโต๊ะของเพื่อนตัวดีก็ไม่เจอเจ้าตัว ยูโนตกใจตาโตเมื่อเผลอคิดบางอย่างที่ไม่ดี 

"อะไร หรือเฮียจะบอกว่าพี่เด็มหิ้วไอ้รักไป" 

"ก็เป็นไปได้ ไอ้นี่มัน กูห้ามแล้วว่านั่นน้องกูห้ามยุ่ง" คนหัวเสียพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง เขาเคยเตือนหลายครั้งว่าให้เลิกยุ่งกับน้องของเขา ถ้าหากว่าเจ้ารักเป็นอะไรเพราะไอ้เด็มมัน เขาจะไม่ให้อภัยมันเลย 

"เหี้ยเอ้ย ไอ้รักมันเมาแล้วไม่ค่อยได้สติด้วย" ยูโนเริ่มกังวลเพราะเป็นห่วงเพื่อน ระหว่างนั้นพี่ภาคินและเพื่อนสองคนเดินมาพอดี 

"มีอะไรหรือเปล่า" ผมถามเฮียด้วยความสงสัย เห็นเฮียกับน้องโนมีท่าทีตึงเครียดตั้งแต่ผมและเพื่อนก้าวย่างเข้ามาในร้านแล้ว 

"ไอ้รักมันหายไปนะพี่ มันเมาด้วย" น้องโนบอกมาอย่างนั้นทำเอาผมตกใจขึ้นมา เรายังไม่ได้เคลียร์กันด้วยซ้ำเพราะน้องยังไม่อยากจะคุยกับผม 

"กูสงสัยว่าไอ้เด็มมันจะพาไป ไอ้นี่มันจ้องจะเคลมตั้งแต่หัวค่ำแล้ว" ยิ่งได้ยินเฮียพูดใจผมยิ่งร้อนรุ่ม ไอ้เหี้ยเด็ม มันจะไม่หยุดกันจริง ๆ ใช่ไหม 

"เดี๋ยวกูโทรถามมันก่อน" เฮียหยิบมือถือต่อสายหามันทันที 

"งั้นเดี๋ยวเช็คเฟสมันก่อนเผื่อมันจะโพสต์การเคลื่อนไหว" ไอ้กันย์รีบเช็คเฟสบุ๊คของไอ้เด็มทันที ผมหยิบมือถือติดต่อหาน้องก็พบว่ามือถือปิดเครื่องไปแล้ว น้องโนก็บอกว่าลองโทรเข้าเครื่องน้องแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน 

เมื่อติดต่อแล้วคนก่อเรื่องรับสายแต่กลับยั่วบอกว่าน้องเจ้ารักอยู่กับเขา พวกผมต่างก็รีบไปหามันยังสถานที่ล่าสุดที่มันปักหมุดโพสต์ในเฟสบุ๊คอย่างรวดเร็ว

ผัวะ!!

และใช่ผมต่อยหน้าพี่มันทันทีที่เผชิญหน้ากัน เกิดการชกต่อยกันในคลับไนท์ขึ้นเมื่อมันก็ไม่ยอมให้ผมชกฝ่ายเดียว 

หมับ เฮียจับมือมันไม่ให้ต่อยผมได้ 

"มึงเอาน้องหนูไปไว้ไหนห๊า!" ผมถามด้วยความโมโหสุด ๆ อารมณ์หงุดหงิด โกรธและเกลียดพาลรวมกันจนผมควบคุมตัวเองไม่อยู่ 

"หึ พวกมึงนี่มันจริง ๆ เลยนะ" เฮียผมมันบีบคอไอ้เหี้ยนั่นเมื่อมันยังพูดพล่ามอยู่ 

"ไอ้รักอยู่ไหน" ผมรู้สึกสงบสติอารมณ์ลงเมื่อเฮียลงมือจัดการเพื่อนเอง ไอ้เด็มมันไม่ยอมบอก แถมยังกวนตีนไม่เลิก 

ผมเห็นมันล้มลงเพราะถูกเฮียผลักล้มลงพื้น แต่มันจะเจ็บตัวแค่ไหนใครจะสน ผมเดินมาเผชิญหน้ากับพี่มันที่ยังคงนั่งบนพื้นระหว่างที่เฮียรับสายที่โทรเข้ามา หวังว่าจะมีใครสักคนเจอน้องหนูก่อนที่ผมจะถีบหน้าไอ้พี่เหี้ยตรงหน้า 

(น้องเทคของคุณอยู่กัยผม ช่วยมาเอาเขากลับไปทีครับ)

"มึงกลับ เจอตัวไอ้รักแล้ว" เฮียวางสายทันทีเมื่อรู้แล้วว่าน้องไปอยู่ที่ไหน เจอน้องหนูแล้วจริง ๆ ใช่ไหม 

"แล้วมัน" ผมชี้หน้าไอ้พี่เด็มที่พยายามลุกขึ้น คนรอบข้างจะมองกันเยอะแค่ไหนนาทีนี้ผมไม่สนใครทั้งนั้น ในใจร้อนรุ่มอยากเจอน้องไว ๆ 

"เออคงเป็นมันนั่นแหละ แต่ตอนนี้ไปรับน้องกูก่อน" ไอ้พี่เด็มมันเดาะลิ้นเพราะรู้สึกแสบ ผมจ้องหน้าพี่มันบ่งบอกให้รู้ว่าผมเกลียด  มันทำท่าเหมือนจะพูดอะไรสักคำออกมาแต่เฮียผมชี้หน้ามันก่อนด้วยแววตาเย็นชา

"ต่อจากนี้มึงกับกูตัดขาดความเป็นเพื่อนกัน แล้วอย่าเสนอหน้ามาร้านกูอีก" ผมว่างานนี้มันเล่นผิดคนแล้วละ มายุ่งกับน้องเทคที่เฮียรักมากก็ไม่แปลกที่จะโกรธมากเช่นกัน เป็นผมก็ไม่คบเพื่อนเลว ๆ แบบนี้เหมือนกัน 

"เห้ย ไอ้โซ" เฮียเลือกจะไม่ฟังมันอีกและหันหลังเดินออกมา ผมโดนเพื่อนลากให้กลับไป กับเฮีย ส่วนเรื่องทางนี้เพื่อนทั้งสองอาสาจัดการให้เอง  ก็ดีเหมือนกันนาทีนี้ผมอยากเจอน้องหนูมากกว่าใคร

"แล้วน้องหนูอยู่ไหนวะเฮีย" 

"บ้านน้องแพม" ผมขมวดคิ้ว แปลกใจที่น้องหนูไปอยู่กับน้องแพมคนนั้น 

"ทำไมไปอยู่นั่น"

"รู้สึกไอ้เด็มจะรู้จักกับน้องแพมมันเลยไปฝากที่นั่น" ผมไม่สนอะไรทั้งนั้นแล้ว ตอนนี้อยากไปรับน้องให้อยู่ใกล้ตัวที่สุด ทำไมพอคลาดสายตาแล้วมีแต่เรื่องให้ต้องเป็นห่วงทุกทีนะ เพราะแบบนี้ผมเลยอยากอยู่ใกล้น้องตลอด

"น้องปลอดภัยใช่ไหม" ถึงน้องแพมจะใจดีโทรมาบอกแต่ผมก็แอบเป็นห่วง ตอนนี้จะรู้สึกตัวหรือยังก็ไม่รู้ เฮียมันมองผมแล้วถามคำถามบ้าบอ

"ทำไมวะ หึงหรือหวง"

"..." ผมไม่ได้ตอบอะไร ไม่ได้หึง ไม่ได้หวงทั้งนั้น แค่เป็นห่วงน้องเฉย ๆ เฮียมันแสยะยิ้มเมื่อผมไม่ได้ตอบอะไร

"น้องแพมไม่ทำอะไรไอ้รักมันหรอก แล้วนี่มึงไปทำอะไรให้ไอ้รักเข้าใจผิดอีก มันเสียใจอยู่นะเว้ย"

"รู้ ก็เรื่องน้องพันช์นั่นแหละ อธิบายไปแล้วแต่น้องไม่เชื่อ"

"มึงต้องยืนยันหนักแน่นสิวะ สมองมันยิ่งชอบคิดอะไรแปลก ๆ ด้วย" เฮียมันว่าน้องหนูของผม เราเดินมายังรถแล้วรีบขึ้นรถเพื่อไปยังบ้านของน้องแพมกัน ผมไม่คิดว่าน้องหนูจะแปลกตรงไหน แค่นี้ก็น่ารักแล้วสำหรับผม

เมื่อขับรถไปถึงบ้านของน้องแพม เจ้าของบ้านเปิดประตูรออยู่แล้วเพราะเชื่อว่าเฮียต้องมารับน้องหนูกลับ เราเดินตามเข้ามาในบ้าน ผมวิ่งไปหาคนที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาว มานอนบ้านคนอื่นแล้วยังจะเปิดเสื้ออวดพุงน้อย ๆ ได้ยังไง 

"ขอบคุณที่โทรมาบอกนะครับ" เฮียมันเอ่ยบอกอย่างสุภาพ ผมพยายามปลุกน้องแต่คนเมามากก็ไม่ยอมตื่น 

"ครับ พี่เด็มเองก็เอาภาระมาฝากโดยไม่ถามผมสักคำว่าสะดวกดูแลไหม" จุกมาก คำพูดคำจาของน้องคนนี้ทำไมถึงได้ดูมีพลังบางอย่างก็ไม่รู้ ผมหันไปมองหน้าน้องแพมก็พบว่าเจ้าตัวจ้องผมพอดี

"เขาเอาแต่พูดถึงคุณ ร้องไห้เพราะคุณ ผมว่ายังไงคืนนี้ก็คงไม่ได้หลับถ้าเขายังอยู่ รบกวนคุณเอาเขากลับไปด้วยครับ" ผมไม่ชอบสายตาเฉี่ยวของน้องมันเท่าไหร่ มาหาว่านองหนูเป็นภาระได้ยังไง

"ผมพาไปแน่ ฝากบอกไอ้เด็มด้วยว่าอย่ามายุ่งกับคนของผมอีก"

"ถ้าไม่ลืม จะบอกให้ครับ"

"ขอบคุณครับ" เราสองคนเหมือนกำลังเล่นสงครามทางจิตกัน รู้จักกับไอ้เด็ม ก็คงนิสัยเหมือนไอ้เด็มมันนั่นแหละ ผมจัดการอุ้มน้องออกมาจากบ้านของน้องแพมด้วยใบหน้าดุปนโมโห เฮียมันเปิดประตูรถให้ผมได้เข้าไปดูแลน้องที่เบาะหลังโดยเจ้าตัวเป็นคนขับรถให้อย่างใจดี

"เฮีย รู้จักกันเหรอ" ผมถามขึ้นเมื่อรถขับออกมาจากบ้านของน้องแพมนั่น 

"เออ แต่ไม่ได้สนิท น้องเขาเป็นลูกค้าประจำของร้าน เขาพูดเพราะตลอดแต่ติดจะเย็นชา เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใครง่าย ๆ  กูยังแปลกใจที่เขารู้จักกับไอ้เด็ม" ผมกอดน้องแล้วให้น้องได้นอนซบไหล่ตัวเอง รายนี้ก็ยังเข้าใจผิดเรื่องผมกับน้องพันช์จนเกิดเรื่องใหญ่ ตื่นมาละน่าดู ผมบี้จมูกน้องเบา ๆ มือน้อยก็ปัดเพราะรำคาญ

"เด็กไอ้เด็มหรือเปล่า" ผมคิด มันมีความเป็นไปได้สูงที่น้องแพมจะเป็นเด็กของไอ้เด็ม 

"คงไม่ กูเห็นไอ้เด็มวอแวตามน้องเขาบ่อย แต่ก็โดนเมิน"

"สมควร" เราเลิกพูดถึงเรื่องไอ้เด็มกับน้องแพม เฮียผมมีสมาธิกับการขับรถส่วนผมก็คอยดูแลน้องตลอดทาง ถ้าน้องตื่นมาเราคงต้องมีเรื่องคุยกัน ผมจับมือของน้องแล้วจุมพิตแผ่วเบา ตอนรู้ว่าไอ้เด็มพาตัวน้องไปใจผมหล่นไปอยู่ตาตุ่มเลย

"พี่ไม่ได้มีใครนอกจากน้องหนูเลยนะครับ"

เฮียขับรถมาส่งผมที่คอนโดตามที่ผมขอร้อง ก็แค่อยากคุยกับน้องให้เคลียร์ผมไม่อยากถูกน้องเข้าใจผิดอีก เฮียมันก็ใจดีอนุญาตและไม่วายติดต่อบอกเพื่อนของน้องให้รู้ เพราะกลัวจะเป็นห่วงกัน

"ใครคะ พามานอนที่ห้องทำไม" เสียงสาวน้อยที่นั่งเล่นในห้องรับแขกเดินออกมาถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นพี่ชายอุ้มใครบางคนเดินเลยผ่านเข้าห้องตัวเองอย่างไม่สบอารมณ์ เฮียภาวิคแปลกใจเมื่อเห็นลูกพี่ลูกน้องฝาแฝดสองคนเดินออกมาตามหลังน้องสาวคนเล็ก

"น้องเจ้ารักนี่น่า"

"เกิดอะไรขึ้นเหรอเฮีย" ไวน์เหมือนจะเห็นผ่าน ๆ ว่าเป็นน้องเจ้ารัก สีหน้าอยากรู้และสงสัยไม่ต่างอะไรกับน้องสาว ร่างสูงเดินไปนั่งปิดทีวีที่เปิดเสียงดัง

"เฮียควรถามพวกนายไหม ทำไมมารวมตัวห้องไอ้เบียร์มัน" ทั้งที่ไม่ได้นัดเจอกันแต่เขากลับได้เจอน้องทั้งสี่พร้อมกันโดยบังเอิญ ไวน์กอดคอน้องสาวตัวเล็กจอมจุ้นและฟ้องเฮียให้รู้ทันที

"ก็ยัยนี่นะซิครับ งอแงให้มาเล่นเกมด้วย ถ้าไม่เล่นก็บอกจะหนีไปร้านเฮียอะ" คนถูกฟ้องชักสีหน้าใส่พี่ชายฝาแฝดเมื่อรู้สึกโดนสองแฝดกำลังรังแก 

"ช่วงนี้มาบ่อยไปไหมเราน่ะ" คนถูกถามยิ้มกว้างเมื่อเฮียคนโตแอบสังเกตเห็น เธอไม่อยากอยู่บ้านนี่น่า มันเหงา 

"ก็พันช์มีพี่ชายถึงสี่คน แถมหน้าตาดีกันทุกคนพันช์ก็ต้องหวงพี่ชายสิคะ ว่าแต่นั่นใช่เด็กปีหนึ่งที่พี่เบียร์บอกว่าจีบ ๆ กันอยู่หรือเปล่าคะ" 

"ใช่แล้วละ พอดีเกิดเรื่องขึ้นเลยหน้าดุกลับมาอย่างนั้น" เฮียบอกเพราะไม่อยากให้น้องสาวคิดมากว่าพี่ชายตัวเองพาคนอื่นเข้ามานอนด้วย 

"เรื่องที่ไอ้เด็มมันหิ้วน้องเจ้ารักไปสินะ" เหล้าเอ่ยบอกด้วยสีหน้าจริงจัง เขาเพิ่งจะรู้เรื่องนี้ไม่แปลกที่พี่ชายจะโมโหอย่างนี้น ขนาดเขาเองก็ยังรู้สึกอยากชกหน้าพี่เด็มมัน 

"ข่าวไวไปไหม" สาวน้อยไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร จับประเด็นได้แต่เรื่องที่ตัวเองสนใจ

"อ้อชื่อน้องเจ้ารัก" ท่าทีของน้องทำให้ไวน์นึกหมั่นใส้ในความแก่แดดของเจ้าตัว 

"น้องเจ้ารักแก่กว่าเรานะพันช์ อย่าแก่แดดนักสิ" พันช์กอดอกตัวเอง เธอไม่ได้แก่แดดสักหน่อย 

"แก่กว่าสามปีเองค่ะ หนูถือว่าเพื่อนกัน" เฮียส่ายหน้ากับน้องสาวคนเล็ก 

"อย่าแพลงฤทธิ์เยอะ คนนี้พี่ชายเราจริงจัง" เฮียเตือนเจ้าเด็กแสบ พันช์ยู่ปากเหมือนถูกจับได้ว่าตัวเองกำลังจะแพลงฤทธิ์ใส่ทุกคนที่ยุ่งเกี่ยวกับพี่ชายสุดที่รัก

"แล้วสรุปมันเกิดเรื่องอะไรคะหนูอยากรู้"

"ไม่ใช่เรื่องของเด็กน่า" เจ้าตัวยังไม่ยอมรับอีกว่ากำลังวุ่นวาย 

"พันช์อายุสิบหกปีแล้วค่า ไม่ใช่เด็กน้อยแล้ว"

"ถึงจะอายุห้าสิบเราก็เป็นน้องของพี่เถอะ" พี่ไวน์ผลักหัวน้องสาวด้วยความหมั่นไส้ เมื่อเห็นพี่ชายสุดรักเดินออกมาจากห้องนอน พันช์ก็รีบไปอ้อนพี่ชายทันที 

"พี่เบียร์ขาตกลงหิ้วแฟนมานอนด้วยใช่ไหมคะ หนูอยากเห็นหน้าก่อนจะได้ประเมินถูกว่าสมควรได้เป็นแฟนพี่ชายของหนูไหม"

"เอาไว้พรุ่งนี้นะคะ น้องหนูเมาอยู่พี่ขอตัวดูแลน้องหนูก่อน เฮียขอบคุณนะ" เอ่ยบอกน้องสาวแล้วขอบคุณเฮียสำหรับการช่วยเหลือครั้งนี้ 

"เออ ดูแลน้องเทคกูดี ๆ"

"รู้แล้ว พี่ไปนอนก่อนนะคะ" พี่เบียร์ขอตัวเข้าห้องนอนเพื่อดูแลเจ้ารัก ส่วนเฮียก็ขอตัวกลับหลังจากทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พันช์ยืนกอดอกมองพี่ชายทั้งสองว่าจะเอายังไงกันต่อ 

"ไปเล่นเกมกันต่อเถอะ ไม่งั้นพี่กลับละนะ" เมื่อพี่ไวน์ว่าอย่างนั้นพันช์ก็ไม่มีข้อโต้เถียงใด ๆ 

"ไปค่ะ ๆ" ร่างเล็กควงแขนลากพี่ชายเข้ามายังห้องนั่งเล่นอย่างเดิม พรุ่งนี้เธอจะต้องสแกนว่าที่คนรักของพี่ชายให้ได้เลย
หัวข้อ: Re: แฟนเด็กพี่ภาคิน
เริ่มหัวข้อโดย: meteexp ที่ 11-02-2022 22:17:22
 :hao6: