Just The Way I Am #แค่เป็นเรา
ตอนที่ 1 รักใส ๆ หัวใจ 3 ดวง
มนายุไม่อยากเข้าใจและยอมรับ
ทำไมโลกนี้ต้องมีเพียงโอเมกา (Omega) ชายเท่านั้นที่มีสิทธิพิเศษตั้งท้องได้ ในขณะที่เผ่าพันธุ์อื่นจะมีเพียงฝ่ายหญิงเท่านั้นที่สามารถตั้งท้องได้ ทำไมโลกใบนี้ต้องกำหนดให้มันเกิดขึ้นกับร่างกายโอเมกาชายด้วย เขาไม่อยากได้ ไม่อยากให้ใครต่อใครมองว่าเขาเป็นเพียงเครื่องมือหรือเป็นเพียงตัวอะไรสักอย่างที่มีหน้าที่ผลิตลูก
ผลิตเด็กที่เกิดออกมาโดยปราศจากความรักของพ่อและแม่
และยังมีสิ่งที่ควบคุมไม่ได้อีกเล่า ทั้งอาการฮีต (Heat) หรือการปล่อยฟีโรโมนที่กลิ่นจะเข้มข้นขึ้นไปอีกหากโอเมกาคนนั้นเกิดมีอาการที่ว่าขึ้นมา แม้ปัจจุบันจะมียาช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังที่กล่าวมา ทว่าโอเมกาทุกคน ทุกเพศไม่สามารถกินยาล่วงหน้าไว้ก่อนได้ ต้องกินระงับหลังเกิดอาการแล้วเท่านั้น
อีกทั้งตัวยายังมีราคาสูง แน่นอนว่าคนจนไม่สามารถซื้อได้ ความโชคร้ายยังไม่หมด โอกาสที่จะมีคนใจดีรับโอเมกาเข้าทำงานด้วยนั้นน้อยมาก โอเมกาสามารถทำงานได้เหมือนคนอื่น ๆ แต่ส่งผลเสียมากกว่านัก อาจมีเหตุการณ์ชุลมุนเนื่องจากจู่ ๆ ก็มีโอเมกาคนหนึ่งฮีตขึ้นมาระหว่างทำงานแล้วบังเอิญว่าไม่มียากินระงับนั้นทำพังมาหลายบริษัทแล้ว นายจ้างทั้งหลายจึงมักส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อรู้ว่าคนสมัครงานเป็นโอเมกา เลือกรับเบตา (Beta) ที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเข้าทำงานยังสบายใจเสียกว่า
แล้วถ้าโอเมกาเกิดฮีตขึ้นมาจะทำอย่างไร หากมียาให้กินก็รอดตัว ถ้าไม่มีน่ะเหรอ? ไม่แคล้วว่าวันนั้นอาจจะมีโอเมกาตั้งท้องโดยไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็กเลยด้วยซ้ำ
วิถีความเป็นอยู่ของโอเมกาในยุคสมัยนี้ค่อนข้างลำบาก คนเป็นพ่อแม่นั้นเมื่อรู้ว่ามีโอเมกาในครอบครัว หากมีกำลังเลี้ยงดูไหวก็ไม่มีปัญหา หากบ้านไหนขัดสนยากจนเงินทอง งานที่โอเมกาแทบทุกคนรับทำก็คือรับจ้างอุ้มท้องให้กับตระกูลอัลฟา (Alpha) ต่าง ๆ โอเมกาสามารถรับจ้างทำงานนี้ได้เมื่อบรรลุนิติภาวะหรืออายุยี่สิบแล้วเท่านั้น แต่ใครเล่าจะทำตามกฎทุกคน หากทำแบบนั้นอดตายกันพอดี ดังนั้นจึงมีโอเมกาหลายคนที่ปลอมอายุเพื่อลักลอบเข้าทำงาน
ถึงแม้จะเรียกว่าทำงานแต่อันที่จริงก็ไม่ต่างกับกาฝากเท่าไหร่นัก เมื่อเข้าทำงาน บริษัทหรือนายหน้าจะส่งโอเมกาไปอยู่ที่บ้านตระกูลผู้ว่าจ้างหรืออัลฟาเลย โอเมกาจะได้รับการเลี้ยงดู มีเงินให้ใช้ มีที่พักและอุดมสมบูรณ์พรั่งพร้อมด้วยอาหารการกิน กระทั่งเมื่อคลอดเด็ก โอเมกาจะไม่มีโอกาสเห็นใบหน้าเด็กที่ตนอุ้มท้องมาตลอดเก้าเดือนเพื่อป้องกันปัญหาความผูกพัน
เงินที่ได้มานั้นมากพอที่จะอยู่ได้สบาย ๆ ไปอีกหลายปีถ้าหากใช้อย่างประหยัด และเมื่อเงินหมดก็มารับงานตั้งท้องใหม่ได้ตามที่ต้องการ โอเมกาหลายคนจึงมักจะเก็บเกี่ยวช่วงวัยเยาว์ของอายุ อุ้มทองให้ตระกูลอัลฟาหลาย ๆ ตระกูลเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิต หากมนายุก็ไม่ค่อยเห็นโอเมกาคนไหนทันได้ใช้เงินไปจนแก่ตามที่ตั้งใจ
อัลฟาอยู่ในลำดับชนชั้นสูงที่สุด ทำให้โอเมกาหลายคนพลาดมานักต่อนักแล้ว กล่าวคือเมื่อโอเมกาตั้งท้องลูกให้อัลฟานั้นอาจได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างที่ตนไม่เคยได้รับจากใคร ทำให้ตกหลุมรักอัลฟาได้ง่าย ส่งผลให้บางครั้งถูกกัดที่หลังคอตีตราจองก็มีไม่น้อย หมดโอกาสที่จะท้องกับอัลฟาคนอื่น ทำให้ฆ่าตัวตายก็มาก
แล้วทำไมอัลฟาต้องเลือกโอเมกา ยอมเสียเงินจ้างด้วยล่ะ ในเมื่ออัลฟาก็ท้องได้ เบตาก็ท้องได้อีกเหมือนกัน สาเหตุก็เพราะว่า...
อัลฟาชนชั้นสูงมีบุตรยาก ในความสูงส่งกลับมีความโชคร้ายแฝงในเผ่าพันธุ์ โอกาสที่อัลฟาหญิงจะตั้งท้องกับอัลฟาด้วยกันเองนั้นเกิดขึ้นน้อยมากเพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น แต่มั่นใจได้เลยว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นอัลฟาร้อยเปอร์เซ็นต์ และจะมีโอกาสตั้งท้องเพิ่มขึ้นเป็นสิบเปอร์เซ็นต์เมื่ออัลฟาจับคู่กับเบตา ทว่าลูกที่เกิดมาจะเป็นเบตาร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ทำให้ไม่มีอัลฟาคนไหนที่คิดจะมีลูกนั้นเลือกเบตามาเป็นคู่ครอง
แล้วถ้าอัลฟากับโอเมกาล่ะ
โอกาสที่โอเมกาจะตั้งท้องอยู่ที่ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปและจะเพิ่มเป็นแปดสิบเปอร์เซ็นต์เมื่อโอเมกาคนนั้นอยู่ในช่วงที่ ฮีตแม้จะกินยาระงับไปแล้วก็ตาม และจะกลายเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ทันทีเมื่อโอเมกาคนดังกล่าวอยู่ในช่วงฮีตผนวกกับอัลฟาที่เกิดอาการรัท (Rat) และนอต (Knot)
อยากมีลูกเหรอ ไม่ยาก แค่มีโอเมกาสักคนหนึ่งก็มีลูกได้แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน...ความสมบูรณ์เพอร์เฟ็กไม่มีอยู่จริงหรอก เพราะลูกที่เกิดจากโอเมกานั้นไม่สามารถระบุได้ว่าจะเป็นอัลฟาหรือโอเมกาจนกว่าจะคลอดเด็กออกมา
โลกเรามันก็ไม่ยุติธรรมแบบนี้แหละ น่าขันสิ้นดี ถ้าเลือกได้เขาเองก็ไม่ได้อยากเกิดเป็นโอเมกาเลย
“คุณยุ..คุณยุคะ หลับหรือเปล่าเอ่ย คุณรุจกลับมาแล้วค่ะ” เสียงเคาะประตูห้องตามด้วยเสียงอ่อนโยนจากเบตาสาวสูงวัยที่ทำหน้าเป็นหัวหน้าแม่บ้านมารุ่นต่อรุ่น
“แป๊บนะครับป้าสาย ผมจะออกไปเดี๋ยวนี้ครับ”
ป้าสายได้ยินเสียงกุกกักในห้องคล้ายมีอะไรตกพื้นจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง “มีอะไรหรือเปล่าคะ ให้ป้าเข้าไปช่วยไหม”
มนายุเปิดประตูออกมาพร้อมกับรอยยิ้มกว้างแต่ดวงตากลับตรงกันข้าม ช่างดูเศร้าเหลือเกินในความรู้สึกของคนที่ผ่านโลกมาครึ่งชีวิตแล้ว “ผมแค่ทำโทรศัพท์ร่วงน่ะครับ หน้าจอแตกเลย”
เจ้าตัวยิ้มแห้งพลางชูโทรศัพท์รุ่นใหม่โชว์หน้าจอแตกร้าวที่มาจากอภินันทนาการเจ้าของบ้าน
“จะโดนคุณรุจดุไหมคะเนี่ย เดือนที่แล้วก็เพิ่งทำร่วงจนพังไปเครื่องหนึ่งนะคะ”
“ขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ” มนายุบอก เขาก็ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้หรอก แต่ดวงตาของเขาเริ่มมีอาการแปลก ๆ มองอะไรไม่ค่อยชัด บางครั้งก็ชัดแจ๋วเลย เคยคิดว่าอาจจะเกี่ยวกับสายตาสั้นหรือยาว แต่เมื่อไปตรวจก็พบว่าค่าสายตากลับปกติเสียอย่างนั้น
“ป้าไม่ได้จะดุคุณนะคะ แต่อยากให้ระวัง ไม่ใช่ตัวคนเดียวแล้วนะคะ”
“ครับป้า”
“ลงไปข้างล่างกันค่ะ คุณรุจรอนานแล้ว ป้าช่วยพยุงนะคะ”
“ไม่ต้องพยุงหรอกครับ ผมเดินได้”
“ไม่ได้ค่ะ ป้าสังเกตเห็นนะคะว่าคุณเดินช้า ๆ”
“ช่วยพยุงก็ได้ครับ” มนายุไม่อยากดื้อรั้นกับความหวังดีของป้าสาย มันก็จริงอย่างที่เธอพูดตอนนี้เขาเดินช้าลงกว่าเดิมมากเพราะมองเห็นอะไรไม่ค่อยชัดนี่แหละทำให้ไม่กล้าก้าวเดินอย่างมั่นใจ
“ลงลิฟต์นะคะ”
“แต่นี่ชั้นสอง..”
“ถึงจะเป็นชั้นสองก็ใช้ลิฟต์ค่ะ” ป้าสายบอกด้วยน้ำเสียงคล้ายจะดุคนขี้เกรงใจ “ต่อไปคุณยุต้องขึ้นลงระหว่างชั้นด้วยลิฟต์เท่านั้นนะคะ ห้ามใช้บันไดอีก”
“เอ่อ..”
“ถ้าไม่ทำ ป้าจะบอกว่าคุณดื้อกับป้าให้คุณรุจฟัง และจะบอกเพิ่มด้วยว่าวันก่อนคุณเกือบล้ม โชคดีที่ป้ามาช่วยทัน”
“ครับ ๆ ต่อไปผมจะใช้ลิฟต์อย่างเดียว เลิกใช้บันไดครับ ป้าสายอย่าบอกคุณรุจนะครับ” มนายุรีบให้สัญญา ถ้าหากเจ้าของบ้านรู้เรื่องนี้ มีหวังเขาต้องถูกอีกฝ่ายบ่นหูชาแน่ ๆ
“ว่าง่าย ๆ ทำตัวน่ารัก ป้าก็จะไม่รายงานค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
ป้าสายพยุงมนายุเดินมาถึงโต๊ะอาหารหรูหราใหญ่โตขนาดยี่สิบที่นั่ง แม้ว่าจะมีคนนั่งเป็นประจำเพียงแค่สองหรือสามคนก็ตาม มันสวยงามแต่ดูอ้างว้างในความคิดของมนายุ
“มาแล้วหรือ” สายตาคมจากคนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะมองร่างที่ถูกพยุงเข้ามา “เป็นอะไรทำไมต้องพยุงกันมาแบบนั้น”
“ไม่มีอะไรค่ะ ป้าก็แค่เป็นห่วงคุณยุตามประสา ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้คุณหนูด้วย ป้ายิ่งกังวล” ป้าสายชิงตอบแทน จนมนายุนึกขอบคุณอีกฝ่ายในใจ เพราะเขาเองก็หาข้ออ้างไม่ทัน
“อืม ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว นั่งลงกินข้าวเถอะ”
“ครับ” มนายุนั่งลงที่เก้าอี้ด้านซ้ายมือของเจ้าบ้าน
“คุณยุดูเหนื่อย ๆ นะครับ” ทว่ากลับมีอีกเสียงหนึ่งถามไถ่ขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง เสียงนุ่มชวนให้ผ่อนคลายกำลังถามมนายุอยู่
“เพราะเพิ่งตื่นมั้งครับ”
“ถ้ารู้สึกไม่สบายคุณยุต้องบอกพี่รุจ อย่าเกรงใจนะครับหรือจะบอกธีแทนก็ได้” ใบหน้าอ่อนหวานแต่ก็ดูแข็งแกร่งตามเผ่าพันธุ์อัลฟาบอกด้วยความห่วงใยเอื้อเฟื้อ อัลฟาคนนี้ดูออกว่าโอเมกาตรงหน้าโกหก เขาไม่ได้เชื่อคำตอบของมนายุ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องเค้นเอาคำตอบ
“ขอบคุณครับคุณธี”
มื้อเย็นผ่านไปอย่างเรียบง่าย ไร้การพูดคุย คนนั่งประจำหัวโต๊ะไม่ชอบพูดคุยระหว่างรับประทานอาหาร เขาชอบทำอะไรให้จบเป็นอย่าง ๆ เมื่ออิ่มแล้วจึงค่อยแยกย้ายทำสิ่งอื่นต่อเป็นลำดับถัดไป
“ธีอิ่มแล้วพี่รุจ” เจ้าของชื่อชลธีรวบช้อนส้อมเข้าด้วยกันพลางบอกอีกคนด้วยใบหน้าทะเล้น
“จะรีบไปหาลูกล่ะสิ”
“ครับ ธีคิดถึงลูก ไม่รู้จะลืมหน้าธีหรือยัง”
“ไม่เจอแค่สองสัปดาห์เอง” รุจอิ่มพอดี มนายุที่เห็นภาพทุกอย่างมัว ๆ นั้น ยังพอมองเห็นว่าเจ้าของบ้านอิ่มแล้ว เขาตั้งใจจะวางช้อนส้อมลงแสดงตัวว่าอิ่มแล้วเช่นกัน ในเมื่อเจ้าบ้านและคนรักอิ่มแล้ว เขาก็ไม่ควรกินต่อทั้งที่ทำได้ก็ตาม
“สองสัปดาห์ก็นานพอจะลืมได้แล้วครับ เด็กกำลังโตขึ้นทุก ๆ วัน ธีไปนะ ถ้าพี่รุจคุยธุระเสร็จแล้วตามธีไปนะครับ”
“ครับ” รุจบอกชลธีแล้วหันไปมองอีกคนที่นั่งทางซ้ายมือของเขา “เธอน่ะ กินอีกสิ”
“แต่ผม..”
“ฉันเห็นเธอเพิ่งกินไปไม่กี่คำ อย่างไรก็ไม่มีทางอิ่มได้”
“คุณรุจอิ่มแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่ แต่เธอยังไม่อิ่มเพราะฉะนั้นกินต่อไปจนกว่าจะอิ่ม ฉันจะนั่งรอเงียบ ๆ”
“ครับ”
“ป้าสายเอาผลไม้เข้ามาเลยครับ เดี๋ยวเขาอิ่มแล้วจะได้กินผลไม้ต่อเลย”
“ค่ะคุณรุจ” ป้าสายที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ไม่ไกล รีบกุลีกุจอยกจานผลไม้เข้ามาเสิร์ฟทันที ผลไม้หลากหลายชนิดโดยเน้นที่มีประโยชน์และเป็นของโปรดมนายุมากที่สุด
มนายุกินต่ออีกครู่หนึ่ง เจ้าตัวก็บอกว่าอิ่มแล้วก่อนจะเลือกผลไม้ในจานมากินอย่างระวัง ไม่ใช่ว่าเขาเลือกกิน แต่เขาเริ่มมองไม่ออกว่ามันคืออะไร
“วันนี้เป็นอย่างไรบ้าง” คำถามที่เหมือนทุก ๆ วันหลังจากที่มนายุเริ่มตั้งครรภ์
“ไม่มีอะไรผิดปกติครับ”
“แพ้บ้างหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ” มนายุส่ายหน้า “ปกติทุกอย่าง”
“สัปดาห์หน้าฉันจะพาเธอไปพบหมอตรวจตามนัด”
“ครับ”
“มีอะไรอยากถามฉันไหม”
“เอ่อ..คือ..วันนี้เขาเป็นไงบ้างครับ” ถ้าประโยคประจำตัวของรุจคือถามอาการมนายุแล้วล่ะก็ ประโยคประจำตัวมนายุคงหนีไม่พ้นคำถามที่เจ้าตัวกำลังถามอีกฝ่ายเช่นกัน
“วันนี้ฉันให้ลุงทัดไปรับเขาที่โรงเรียนแทนฉัน แต่ก่อนจะกินข้าวกับเธอ ฉันไปหาเขามาแล้ว เขาสบายดี เล่าให้ฟังว่ามีเพื่อนที่โรงเรียนเยอะและสนุกมาก เขาพูดเก่ง ไม่เหมือนเธอที่ไม่ค่อยพูด”
“ขอบคุณครับ”
“อยากรู้อะไรอีกไหม”
“ไม่แล้วครับ ผมแค่อยาก...”
“ไม่ได้ยุ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปหาเขา ถ้าเธอไม่เชื่อฟัง ฉันจะให้เธอไปอยู่ที่อื่น จนกว่าเธอจะคลอดลูกคนในท้องเธออีกครั้ง” รุจเตือนความจำมนายุ เพราะไม่ใช่ครั้งแรกที่มนายุเอ่ยขอร้องเขาในลักษณะนี้
“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ขอไปหาเขา ผมแค่จะบอกว่าผมเผลอทำโทรศัพท์ร่วงจนหน้าจอแตก อยากขอเปลี่ยนได้ไหมครับ” มนายุว่าพลางหยิบโทรศัพท์มือถือที่มีหน้าจอแตกร้าวใช้งานไม่ได้ออกมาวางให้อีกฝ่ายได้เห็น
“อย่างนั้นเหรอ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนเอาเครื่องใหม่มาให้”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วจะให้คนเปลี่ยนพรมห้องนอนเธอใหม่ด้วยแล้วกัน พรุ่งนี้ฉันจะให้ป้าสายจัดห้องให้ใหม่ระหว่างที่คนงานมาเปลี่ยนพรม”
“เปลี่ยนทำไมครับ”
“พรมในห้องมันเก่าแล้ว คงบางเปื่อยเต็มที ต่อไปของอะไรตกจะได้ไม่เสียหายอีก” เจ้าของบ้านอธิบายเพิ่ม “ป้าสายได้ยินแล้วใช่ไหมครับ”
“รับทราบค่ะ พรุ่งนี้เช้าป้าจะให้เด็กไปทำความสะอาดห้องให้คุณยุใหม่นะคะ แล้วคุณรุจจะให้คุณยุพักห้องไหนคะ”
“ห้องข้าง ๆ ผมก็ได้ครับ”
“ค่ะ”
มนายุเดินเข้าห้องอย่างใจลอย เขาโดยสารลิฟต์ขึ้นมาชั้นสอง เคร่งครัดตามคำสั่งคุณป้าแม่บ้านอย่างดี โอเมกาตาโศกนั่งลงบนเตียงอย่างระวัง รู้สึกอิจฉาชลธีที่มีสิทธิ์ไปหาลูกได้ทุกเวลา เขาเองก็อยากไปหาลูกบ้าง แต่รู้ดีว่าผิดกฎการทำงาน โอเมกาเมื่อคลอดเด็กออกมาแล้ว จะไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กทุกกรณี
แค่ขอรู้ชื่อลูก แค่ชื่อก็ยังดี แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้ มือเรียวขาวลูบหน้าท้องตนเองอย่างอ่อนโยน นุ่มนวล เต็มไปด้วยความรัก น้ำตาสายหนึ่งไหลลงมา อีกหกเดือน เมื่อเขาคลอดลูกคนนี้ ตนก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าลูกเช่นกัน
ทั้งที่อุ้มท้องมาแต่พอถึงเวลาคลอดกลับไม่มีโอกาสสัมผัสหรือได้เห็นแม้เพียงใบหน้าลูกสักครั้ง ช่างเป็นกฎที่บาดหัวใจเหลือเกิน เขาไม่ได้อยากทำงานนี้เลยด้วยซ้ำ มันทำร้ายหัวใจมากเกินไป ถ้าไม่ใช่เพราะความอดตายกำลังมาเยือน และถ้าไม่ใช่เพราะเขารักคนที่มีเจ้าของอยู่แล้ว คงไม่ยอมทำมันอีกครั้ง
มนายุสมเพชตัวเอง เขาพยายามกล่อมเกลาสมองให้จดจำว่าความอ่อนโยนและเอาใจใส่ที่อีกฝ่ายทำไปทั้งหมดเพราะเขาคือกำลังตั้งท้องลูกอีกฝ่ายอยู่ ไม่อย่างนั้นคนอย่างรุจไม่มีวันจะชายตาแลเขาแน่นอน หัวใจของคน ๆ นั้นมีเพียงชลธี คนรักอัลฟาคนเดียวเท่านั้น
หกปีก่อน มนายุในเวลานั้นอายุเข้าสู่ปีที่ยี่สิบ เขาไม่ต่างจากโอเมกาคนอื่น พอบรรลุนิติภาวะสามารถทำงานได้ ก็ถูกพ่อแม่เร่งและไล่ให้ไปทำงานเร็ว ๆ บังเอิญจับพลัดจับผลูมาอยู่ในบ้านหลังนี้ รุจเป็นผู้ชายคนแรกที่เขานอนด้วยและเป็นรักแรกของเขาด้วยเช่นกัน วันที่ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ คืนนั้นเขาเกิดฮีตขึ้นมาแล้วคนว่าจ้างจะพลาดโอกาสนี้ไปได้อย่างไร
คืนเดียวเขาก็ตั้งท้องลูกของอีกฝ่ายโดยไร้ข้อกังขา เปิดปุ๊บติดปั๊บทันใจ คราวนี้เขากลับมาทำงานนี้อีกครั้งเพราะเรื่องเดิม ๆ ไม่มีใครรับโอเมกาทำงานนอกจากงานประเภทนี้เท่านั้น จังหวะที่เขากำลังเครียดเพราะไม่รู้ว่าจะถูกส่งตัวไปที่ตระกูลอัลฟาบ้านไหน จังหวะเดียวกันนั้นรุจอยากมีลูกเพิ่มอีกสักคนพอดี และเขาก็คือตัวเลือกแรกที่อีกฝ่ายแจ้งความประสงค์
ไม่รู้ว่าโชคดีที่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับผู้ชายคนแรกหรือโชคร้ายที่กลับมาอยู่กับคนที่เขาแอบรักและไม่มีวันจะรักตอบ
มนายุตั้งปณิธานว่าหากคลอดลูกแล้ว เขาอาจจะใช้ชีวิตต่อไปอีกสักพัก เมื่อไหร่ที่เงินใกล้หมด จวนอดตาย เขาตั้งใจจะลาโลกนี้ไปอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง ชีวิตที่อยู่โดยไร้ความสุขมีแต่ความทุกข์ ไม่ใช่ชีวิตที่เขาอยากได้
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น มนายุใช้แขนเสื้อเช็ดคราบน้ำตาออกอย่างรวดเร็ว พลางลุกขึ้นไปเปิดประตู ฝืนยิ้มอย่างร่าเริง
“คุณยุนอนหรือยัง”
“ยังครับ คุณธีมีอะไรหรือเปล่า”
“ธีเอานมมาให้ ดื่มอะไรอุ่น ๆ ก่อนนอนเผื่อจะช่วยให้หลับสบายมากขึ้น”
“ไม่น่าลำบากคุณธีเลยครับ ปกติป้าสายยกมาให้ผมเอง” มนายุบอกอย่างเกรงใจที่เจ้าของบ้านอีกคนดูแลเขาอย่างดีถึงที่ห้องพัก
“ไม่ลำบากเลยครับ เรื่องเล็กน้อย คุณยุสิครับลำบากมากกว่าธีอีกต้องอุ้มท้องลูกพี่รุจ"
“ไม่เป็นไรครับ มันคืองานของผม”
“เพราะฉะนั้นถ้าธีช่วยอะไรคุณยุได้ ธีก็อยากช่วยครับ ธีอยากให้คุณยุแข็งแรงมาก ๆ”
“ขอบคุณครับ”
“งั้นธีเอาไปวางให้ในห้องนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ” มนายุเอ่ยเกรงใจอีกครั้ง “ผมถือไปเองได้ครับ”
“เอาอย่างนั้นเหรอ ก็ได้ครับ” ชลธียื่นถาดที่มีแก้วนมวางอยู่บนนั้นให้ ทว่าจังหวะที่มนายุยื่นมือออกไปรับ เขากะระยะผิดจากที่จะจับแก้วกลายเป็นปัดถาดจนแก้วนมร่วงแตกกระจายลงบนพื้น น้ำนมสีขาวไหล่เจิ่งนองไปทั่วบริเวณ
มนายุตกใจ เขาไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้
“ขอโทษครับคุณธี ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” โอเมกาหนุ่มรีบขอโทษขอโพยอีกฝ่ายเป็นการใหญ่ เตรียมจะหาผ้าหรืออะไรที่พอจะเช็ดได้มาเช็ดเสื้อผ้าให้อีกฝ่าย
“อย่าขยับนะครับคุณยุ เดี๋ยวแก้วจะบาดเท้า”
“ขอโทษจริง ๆ ครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมผิดเองไม่น่าซุ่มซ่าม คุณอุตส่าห์หวังดีเอานมมาให้แท้ ๆ” มนายุยังพร่ำพูดแต่คำเดิม
“ไม่เป็นไรครับ ธีไม่ได้โกรธคุณ เรื่องนมน่ะช่างเถอะ ให้ป้าสายยกมาให้ใหม่ก็ได้ จริงสิ ลืมเลย ธีนี่แย่จริง ควรเรียกเด็กมาเก็บเศษแก้วกับทำความสะอาดห้องคุณยุก่อน”
“เกิดอะไรขึ้นธี แล้วนี่มาทำอะไรที่ห้องยุ” ทว่าไม่ใช่ป้าสายที่ชลธีนึกถึงกลับเป็นเจ้าของบ้านตัวจริง
“อุบัติเหตุนิดหน่อยครับพี่รุจ แก้วแตกน่ะ แล้วพี่รุจมาได้ไงครับ” ชลธีหน้าม่อยลงเล็กน้อย
“พี่ได้ยินเสียงดังเลยเดินมาดู”
“ความผิดผมเองครับ คุณธีเอานมมาให้ แต่ผมไม่ระวังเลยปัดถาดจนแก้วตกแตก” มนายุรีบออกรับแทน
“เธอสองคนอย่าเพิ่งขยับตัวเดินไปไหน ยืนอยู่เฉย ๆ” เจ้าบ้านสั่ง ก่อนจะเรียกคนในบ้านให้เข้ามาเก็บกวาดเศษแก้วและทำความสะอาดพรม
“ตายจริงแล้วคืนนี้คุณยุจะนอนอย่างไรละคะเนี่ย” ป้าสายยกมือทาบอกเมื่อมาถึงสถานที่เกิดเหตุ พลางสั่งให้เด็กที่ตามมาด้วยเก็บกวาดอย่างรวดเร็ว
“ทำไมครับ” ชลธีถาม เขาคิดว่าเก็บกวาดและทำความสะอาดเรียบร้อยก็น่าจะนอนได้แล้วนี่นา
“นมซึมไปตามพรมหมดแล้ว คงต้องรื้อทิ้ง อย่างไรพรุ่งนี้ก็จะเปลี่ยนพรมอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่เรื่องนั้นยังไม่น่าหนักใจเท่าเศษแก้ว ไม่รู้กระจายไปตรงไหนบ้าง เดิน ๆ ไปอาจจะเหยียบเข้าก็ได้นะคะ” ป้าสายเฉลยด้วยความกังวลใจ
“งั้นคืนนี้ให้ยุไปนอนห้องอื่นก่อน”
“คุณรุจคะ คุณก็ทราบว่าถ้าห้องไหนไม่ได้ใช้ก็ปิดไว้เฉย ๆ ไม่ได้ทำความสะอาด ขืนให้คุณยุไปนอนคืนนี้มีหวังลูกในท้องคุณยุจะสำลักฝุ่นเอาได้นะคะ" ป้าสายพูดด้วยน้ำเสียงลำบากใจ
"งั้นเอาไงดีล่ะ” ชลธียิงคำถามขึ้นมา
“ให้ยุไปนอนกับธีที่ห้องเราแล้วกัน พี่จะไปนอนกับลูกเอง คืนนี้ธีนอนกับยุได้ไหม” เจ้าของบ้านถามความเห็นคนรัก
“ได้น่ะมันได้ครับ แต่ไม่ดีแน่ ๆ เอาแบบนี้ดีกว่า ธีไปนอนกับลูกเอง ส่วนคืนนี้พี่รุจก็นอนที่ห้องกับคุณยุนะครับ”
“แต่พี่..” รุจทำท่าจะค้าน
“ไม่มีแต่ครับพี่รุจ จะพูดไงดี อย่างไรพี่รุจก็เป็นพ่อของลูกในท้องคุณยุนะครับ” ชลธีมองที่ท้องมนายุแวบหนึ่ง แล้วถอนสายตากลับ
“คุณธี” มนายุรู้สึกเหมือนกำลังกลายเป็นตัวปัญหา เขาตั้งใจจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่อีกฝ่ายไม่ให้โอกาสเขาพูดให้จบ
“ไม่ต้องเกรงใจครับคุณยุ” ชลธียิ้มแล้วหันไปบอกอีกคน “อีกอย่างธีกำลังจะบอกพี่รุจอยู่พอดีว่าอยากไปนอนห้องลูกคืนนี้ เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ ธีไปนะพี่รุจ ไปนะครับคุณยุ อ้อป้าสายจัดการต่อได้เลยนะครับ” ชลธียืดตัวหอมแก้มคนรักก่อนเดินห่างออกไป
“ค่ะคุณธี”
“ถ้างั้นผม..” มนายุที่เงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง
“เธอยืนอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวเหยียบเศษแก้วเอาได้” รุจสั่งและเดินเข้าไปหาคนในห้องหมายจะทำอะไรสักอย่าง
“ครับ? ” ไม่ทันได้สงสัยนาน ร่างของมนายุก็ลอยขึ้นจากพื้น รุจกำลังอุ้มเขาออกมาจากห้องนอน โอเมกาหนุ่มดิ้นขลุกขลักด้วยความตกใจ “ไม่เป็นไรครับคุณรุจ ผมเดินเองได้”
“กอดคอฉันไว้แล้วช่วยอยู่นิ่ง ๆ อย่าดิ้น เดี๋ยวร่วงลงไปหรอก” มนายุหยุดทำตามคำพูดอีกฝ่าย เขากอดคอรุจอัตโนมัติ ซุกใบหน้าลงที่ไหล่อีกฝ่าย
เขาขอเก็บเกี่ยวความสุขอันน้อยนิดได้ไหม
อัลฟาสูงใหญ่วางมนายุลงบนเตียงของเขากับชลธีอย่างเบามือเพราะกลัวจะกระเทือนท้องอีกฝ่าย
“ขอบคุณครับ”
“ฉันลืมถามเธอไปเลยว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ผมไม่เป็นไร ขอโทษที่ทำให้วุ่นวายนะครับ”
“ไม่เป็นไร ปกติป้าสายจะเอานมขึ้นมาให้เธอดื่มก่อนนอนใช่ไหม”
“ครับ”
“งั้นนั่งรออยู่ที่นี่ เดี๋ยวฉันลงไปเอามาให้”
“ครับ” มนายุตั้งใจจะปฏิเสธ แต่รู้ตัวว่าไม่มีประโยชน์อยู่ดี หากรุจต้องการทำอะไรแล้ว เจ้าตัวไม่มีวันเปลี่ยนใจ เขาจึงรับคำอย่างสงบ
รอไม่นานเจ้าของร่างสูงใหญ่ตามลักษณะอัลฟาก็กลับมาพร้อมกับแก้วนมและน้ำเปล่าอีกหนึ่งเหยือก มนายุกล่าวขอบคุณและดื่มนมเงียบ ๆ จนหมดแก้ว และตามด้วยน้ำเปล่าอีกหนึ่งแก้วที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ เขาก็ทำตามโดยไม่อิดออด
“จะนอนเลยไหม”
“อีกสักพักได้ไหมครับ ถ้านอนตอนนี้ผมกลัวจะปวดท้อง”
“อืม”
“คุณรุจจะนอนแล้วใช่ไหมครับ ปิดไฟเลยก็ได้ เดี๋ยวผมนั่งอีกสักครู่ก็จะนอนแล้วเหมือนกัน”
“ยังหรอก ฉันจะไปหาธีกับลูกหน่อย ถ้าเธอง่วงก็นอนไปก่อน”
“ครับ”
เจ้าของห้องออกไปอย่างเงียบกริบ มนายุมองตามแผ่นหลังกว้างนั้นกระทั่งประตูปิดลงจนไม่มีโอกาสมองเห็นอีกฝ่ายอีก เขามองไปรอบ ๆ แม้ภาพจะไม่ค่อยชัดเจนแต่ก็ไม่เป็นไร เขาได้กลิ่นของรุจและชลธีปะปนกัน แต่กลิ่นของชลธีนั้นบางเบา สาเหตุเพราะอีกคนไปดูงานที่ต่างประเทศสองสัปดาห์เพิ่งกลับมาวันนี้เอง
มนายุก่นด่าตัวเอง เขานี่มันไม่ได้เรื่องเลย ชลธีเพิ่งกลับมาแท้ ๆ อีกทั้งรุจก็ต้องอยู่ห่างคนรักนานหลายวันแทนที่ทั้งคู่จะได้อยู่ด้วยกัน เพราะเขาทำให้ทั้งสองต้องแยกห้องนอนกันเสียอีก แต่ก็ไม่แน่คืนนี้รุจอาจจะนอนค้างที่ห้องลูกก็เป็นได้
บางครั้งเขาก็มองหน้าชลธีได้ไม่สนิทใจ อัลฟาหนุ่มช่างใจกว้าง เพื่อลูกแล้ว ยอมให้คนรักมีสัมพันธ์กับคนอื่นและยังยอมให้คนอย่างเขาเข้ามาอยู่ในบ้านร่วมชายคาเดียวกัน ยิ่งชลธีดีกับเขามากเท่าไหร่ มนายุยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้น ที่ดันเผลอไปรักคนของอีกฝ่าย
“คุณธีโอเคกับการที่ผมย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่เหรอครับ”
“ธีจะไม่โอเคกับคุณยุได้อย่างไร”
“แต่ผมอยู่ที่นี่เพราะท้องลูกคุณรุจ”
“แล้วมันผิดตรงไหน ในเมื่อผมมีลูกให้พี่รุจไม่ได้ วิธีนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด”
“ผม..”
“คุณยุอย่าโทษตัวเองเลยครับ คุณยุต้องการเงิน พี่รุจอยากมีลูก ธีเองก็อยากมีลูก เราต่างวินวินกันหมดทุกคน มีตรงไหนที่ไม่ดีครับ”
‘ตรงที่ผมรักคุณรุจไงครับคุณธี’
==========================
เปิดบทมาด้วยเนื้อหาประมาณนี้ค่ะ ใส ๆ แหละเนอะ เขมว่าใช่แหละ อิอิ
ติชมได้น้าาาา ตื่นเต้นเพราะไม่เคยแต่งแนวโอเมก้าเลย บอกให้รู้กันหน่อยนะคะ
ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นนะคะ
Just The Way I Am #แค่เป็นเรา
Just The Way I Am #แค่เป็นเรา
ตอนที่ 2 ความอ่อนแอที่ฉันมี ความอ่อนโยนที่เธอทำ
มนายุตื่นขึ้นจากความรู้สึกแปลก ๆ ความชื้นเย็นเกิดขึ้นบริเวณต้นคอ
ดวงตาโศกกะพริบตาไล่ความง่วงงุน เขาเห็นแขนใครคนหนึ่งพาดเอวเขาไว้ระวังไม่ให้กดทับที่ท้อง รับรู้ไออุ่นจากทางด้านหลัง กลิ่นหอมเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอีกฝ่ายทำให้เขาผ่อนคลายลง
เมื่อคืนนี้เขาเผลอหลับไปก่อน ไม่รู้ว่ารุจกลับมานอนที่ห้องตอนไหน คิดว่าอีกฝ่ายจะนอนที่ห้องลูกชายพร้อมกับชลธีเสียด้วยซ้ำ
“อย่ากัดนะครับ” โอเมกาตาโศกบอกดักทางเอาไว้
“ฉันรู้ ไม่ทำหรอก” เจ้าของห้องบอกแต่ยังเลียที่ต้นคอมนายุไม่หยุด ทุกอย่างเป็นไปตามสัญชาตญาณ จนมนายุต้องหดคอลงด้วยความจักจี้
“ขอบคุณครับ”
“ตัวเธอหอมขึ้นกว่าเดิมมาก”
“อย่างนั้นเหรอครับ ผมไม่รู้เลย”
“สงสัยคนนี้จะเป็นผู้หญิง"
“แล้วคุณรุจอยากได้ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ”
“ได้หมด ถ้าเป็นผู้หญิง เขาคงน่ารัก พี่ชายคงจะดีใจมาก เจ้าเด็กดื้อบอกว่าอยากมีน้องสาวเพราะอยากคอยดูแลน้อง แต่ถ้าเป็นผู้ชายก็ไม่เป็นไร พี่ชายกับน้องชายจะได้เล่นด้วยกันตามประสาเด็กผู้ชาย”
มนายุได้ฟังก็อมยิ้มตาม ปัจจุบันเด็กน้อยอายุเข้าสู่ห้าขวบแล้วคงกำลังช่างพูดช่างคุยและคาดว่าซนไม่น้อยเลยทีเดียว เขาชอบฟังเวลาที่มีใครเล่าเรื่องเด็กชายให้ฟัง แม้จะไม่รู้จักชื่อ ไม่เคยเห็นใบหน้า แต่ก็ยังพอจินตนาการได้ว่าเด็กคนนั้นต้องน่ารักมากแน่ ๆ
“แล้วถ้าหากว่าเขาเกิดมาเป็นโอเมกา..”
“ไม่เป็นไร ไม่ว่าจะเป็นอัลฟาเหมือนฉันหรือเป็นโอเมกาเหมือนเธอ อย่างไรเขาก็คือลูกฉัน ดังนั้นฉันจะไม่ยอมให้เขาลำบากแน่นอน จะปกป้องดูแลเขาเป็นอย่างดี เธอวางใจเถอะ”
“ผมอยากให้เขาเป็นเหมือนคุณ” มนายุปรารถนา ถึงจะเป็นโอเมกาที่เกิดในตระกูลร่ำรวย แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นโอเมกาก็มักจะถูกเหยียดหยามได้ตลอดเวลา
“แต่ถ้าคนนี้เกิดเป็นผู้หญิงจริง ๆ ฉันเองก็ยังอยากได้ผู้ชายอีกสักคน เธอจะว่าอะไรไหม ถ้าฉันจะขอเธอมีลูกให้ฉันอีก”
“ผมไม่แน่ใจ ขอคิดดูก่อนได้ไหม” มนายุปฏิเสธ เขาไม่คิดจะทำงานนี้อีก อยากขอให้เป็นครั้งสุดท้าย แม้ว่าจะยอมตามใจรุจ ยอมตั้งท้องลูกให้อีกหนึ่งคนมันก็แค่ยืดเวลาออกไปอีกเก้าเดือนหรือหนึ่งปีเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่สามารถหนีความทุกข์ที่เกิดจากความโง่เขลาได้พ้น
เขาไม่อยากเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว
“ตามใจ ฉันไม่บังคับเธอ มันเป็นงานฉันเข้าใจ แค่คิดว่าถ้าเด็ก ๆ เกิดจากแม่เพียงคนเดียวคงจะดีไม่น้อย”
“คุณธีจะไม่ว่าอะไรเหรอครับ”
“ไม่หรอก ฉันคุยกับธีเรื่องนี้แล้ว เขาเห็นด้วย เธอก็รู้ว่าธีรักเด็กมากแค่ไหน”
ยุรู้สึกขอบคุณอะไรก็ตามที่ทำให้เขานอนหันหลังให้อีกฝ่าย รุจจึงไม่สามารถมองเห็นแววตาเขาได้ในขณะนี้ โอเมกาตาโศกยังคลางแคลงใจชลธีรับได้จริง ๆ เหรอที่คนรักตัวเองพาใครอีกคนเข้ามาอยู่ในบ้าน เลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดีราวกับเป็นคนรักอีกคนหนึ่ง
“ผมขอคิดดูก่อนนะครับ” มนายุพูดซ้ำ
“ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“เรื่องอะไรครับ”
“ถ้าไม่ทำงานนี้ เธอจะใช้ชีวิตอย่างไร”
“ถ้าใช้เงินอย่างประหยัดก็อยู่ได้เรื่อย ๆ ไม่มีปัญหาครับ”
“เงินที่มีอยู่สามารถใช้ไปได้ตลอดชีวิตเลยหรือ” อัลฟาหนุ่มถามด้วยความแปลกใจ
“คุณเป็นเจ้านายที่จ้างผมในราคาที่สูงกว่าอัตราค่าจ้างปกติ ถ้าไม่ฟุ่มเฟือยก็อยู่ได้ไม่ลำบากครับ” มนายุตอบตามความจริง สิ่งที่เขาได้รับจากรุจไม่ใช่เพียงเงินทอง แต่ยังมีบ้าน รถและอื่น ๆ อีก
“วันหน้า แม้ว่าเธอจะไม่ทำงานให้กับฉันแล้วแต่ถ้าขาดเหลืออะไรสามารถบอกฉันได้เสมอ เธอรู้ว่าจะติดต่อฉันได้อย่างไรใช่ไหม”
“ขอบคุณครับ”
“ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอกับลูกให้ดี” เจ้าของบ้านให้คำมั่น มนายุรู้ว่าอีกฝ่ายพูดจริงทำจริงอย่างแน่นอน เงียบกันไปครู่หนึ่งมนายุก็ต้องร้องอย่างตกใจ
“คุณรุจ อย่า..” มนายุร้องห้ามเมื่อสัมผัสบริเวณต้นคอเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความเย็นชื้นจากปลายลิ้นกลับไปฟันคมที่พร้อมจะกัดเขาได้ทุกเมื่อ
“ขอโทษที” รุจรีบลุกขึ้นทันทีราวกับเพิ่งได้สติ “ฉันไปหาลูกกับธีก่อน อีกครึ่งชั่วโมงเจอกันข้างล่าง”
เขาหัวเสียที่มัวเมาในกลิ่นหอมเย้ายวนจนเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ แค่อารมณ์วูบเดียวอาจทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
คล้อยหลังเจ้าของห้องที่ผลุนผลันออกไป ผู้อาศัยอย่างเขาก็ลุกขึ้นบ้าง วันนี้เขามองเห็นค่อนข้างชัด เจ้าตัวยิ้มออกมาอย่างพอใจ คนเรามันก็ต้องมีวันที่ดีหรือวันที่แย่ปะปนกันไปใช่ไหม ป้าสายยืนรออยู่ที่หน้าห้อง เมื่อมนายุเปิดประตูจึงเจอกับเบตาวัยกลางคนยืนยิ้มให้เช่นกัน
“วันนี้คุณยุดูหน้าตาสดใสนะคะ”
“เอ่อ..เหรอครับ” เขาเกาท้ายทอยแก้เก้อ
“ไปกับป้าค่ะ เดี๋ยวป้าพาไปที่ห้องใหม่นะคะ ป้าให้เด็กเร่งทำความสะอาดตั้งแต่เช้าเลย ข้าวของต่าง ๆ ก็ย้ายมาให้เรียบร้อย จัดวางอย่างเป๊ะเหมือนอยู่ห้องเก่าเลยค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ห้องใหม่อยู่ติดกับห้องคุณรุจคุณธีนะคะ” ป้าสายเปิดประตูห้องที่ว่าแล้วพาเดินชมพลางแนะนำทุกอย่างภายในห้องอย่างคล่องแคล่ว “ห้องนี้มีประตูเชื่อมไปห้องคุณรุจด้วยนะคะ มีกลอนล็อกที่ฝั่งนั้นฝั่งเดียว ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ล็อกก็เปิดเข้าไปได้แบบนี้เลยค่ะ สะดวกดีใช่ไหมคะ” หญิงสาวว่าแล้วสาธิตให้ดู ปกติแล้วรุจกับชลธีไม่เคยล็อกห้องฝั่งตนเองอยู่แล้วเพราะเป็นห้องลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“ครับ แต่ผมคิดว่าคงไม่ใช้ ป้าสายปิดไว้เถอะครับ” มนายุไม่คิดจะใช้ประตูเชื่อมนี้เด็ดขาด
“ได้ค่ะ แล้วเป็นไงคะ คุณยุชอบไหม”
“ป้าสายทำเหมือนผู้ใหญ่ที่กำลังเอาขนมมาล่อเด็กเลยครับ ผมไม่ใช่แล้วเด็กแล้ว อีกอย่างห้องนี้ก็เป็นแค่ที่พักชั่วคราวไม่ใช่เหรอครับ เดี๋ยวเปลี่ยนพรมห้องเก่าเสร็จ ผมก็ย้ายกลับไปอยู่ดี”
“เผื่อคุณยุชอบก็บอกคุณรุจเลยสิคะ จะได้ไม่ต้องย้ายกลับไป คุณรุจตามใจคุณยุอยู่แล้วค่ะ อย่างไรบ้านนี้ก็มีห้องหับเยอะแยะถมไป”
“แล้วห้องนี้เป็นของใครมาก่อนครับ ของคุณผู้หญิงคนก่อนหรือเปล่า”
“เป็นห้องของคุณหนูค่ะ ก่อนหน้านี้คุณหนูนอนที่ห้องนี้ค่ะ พอคุณยุเข้ามา คุณรุจเลยสั่งให้คุณหนูย้ายไปอยู่อีกตึก”
“อ่า..ครับ” มนายุหลุบตาลง การมาอยู่ของเขาทำให้หลายอย่างถูกเปลี่ยนแปลง “อันที่จริง ผมชอบห้องนี้”
“นั่นสิคะ ป้าก็คิดว่าคุณยุน่าจะชอบค่ะ” เธอเห็นดวงตาโศกหม่นแสงลงไปอีกจึงเอ่ยถามตามประสาคนที่เคยมีลูกเหมือนกัน “คุณยุ..อยากเจอคุณหนูใช่ไหมคะ”
“ครับ แต่เป็นไปไม่ได้หรอก ผมไม่ควรคาดหวังอะไรลม ๆ แล้ง ๆ”
“บางทีป้าก็อยากตีคุณรุจนะคะ ไม่มีอัลฟาคนไหนเขาจ้างคนอุ้มท้องคนเดิมกลับมาหรอกค่ะ เรื่องจิตใจมันบังคับกันได้ยาก”
“เรื่องนั้น..จะโทษคุณรุจคนเดียวก็ไม่ได้ ผมเองก็ตกลงรับงานนี้ด้วยเหมือนกัน ตอนนั้นคิดแต่เพียงว่ารู้จักคุณรุจอยู่แล้วคงจะทำงานได้ง่ายขึ้น ลืมคิดถึงเรื่องคุณหนูของป้าสายไปเลย” มนายุแค่นหัวเราะ
“โถ ไม่เป็นไรนะคะทูนหัว ป้าน่ะสงสารคุณจริง ๆ”
“...”
“ป้าไม่กวนแล้วค่ะ อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วลงไปทานมื้อเช้ากันนะคะ”
“ครับ”
“อ้อ..คุณยุคะ”
“ครับ? ”
“ห้ามใช้บันไดนะคะ” เธอออกคำสั่ง
“ครับ ไม่ใช้บันไดครับ” โอเมกาหนุ่มรับปากยิ้มให้กับความเจ้ากี้เจ้าการของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความหวังดีทั้งนั้น
มนายุลงไปข้างล่างเมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อย เขาเห็นโต๊ะอาหารมีอัลฟาสองคนนั่งอยู่เหมือนทุกวันตามปกติ
“เป็นไงครับคุณยุ หลับสบายดีไหม” น้ำเสียงสดใสถามขึ้นทันทีที่มนายุเดินมาถึง
“สบายมากเลยครับ ขอบคุณครับคุณธี”
“กินข้าวเถอะ เดี๋ยวจะเลยเวลา” เจ้าของบ้านไม่พูดไม่ถามนอกจากบอกให้ทุกคนกินข้าวตรงตามเวลา จริง ๆ แล้วกฎบ้านหลังนี้ไม่ได้เคร่งครัดขนาดนั้น แต่เพราะเด็กในท้องของมนายุนั่นแหละคือสาเหตุทั้งหมด
ตัวอย่างแรกในความห่วงใยที่รุจมีให้กับลูก
พวกเขาใช้เวลาบนโต๊ะอาหารไม่นาน วันนี้ชลธีต้องไปคุยกับลูกค้านอกสถานที่ รุจเข้าบริษัทเหมือนทุกวัน ส่วนมนายุนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้ไปไหน
“ตอนบ่ายฉันจะให้คนเอาโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่มาให้ อดทนรอได้ใช่ไหม” รุจพูดขึ้นก่อนจะออกไปบริษัท ทางด้านชลธีเจ้าตัวออกไปได้ครู่ใหญ่แล้ว สองอัลฟาคู่รักตกลงกันว่าจะใช้รถคนละคันถ้าหากต้องไปทำงานคนละสถานที่
“ครับ ผมไม่ได้มีธุระโทรหาใครอยู่แล้ว”
“มีสิ เธอต้องโทรหาฉันตอนเที่ยงทุกวัน”
“ครับ” มนายุลืมเรื่องนี้ไป
“ถ้าจะโทรหาฉันก็ใช้โทรศัพท์บ้านไปก่อน”
“ได้ครับ”
“อย่าทำอะไรฝืนตัวเองเกินไปละ”
“ครับคุณรุจ”
“ฉันไปนะ” อัลฟาหนุ่มวางมือลงบนกลุ่มเส้นผมสีดำหนานุ่มของโอเมกาแผ่วเบาแล้วผละออกไป เหลือเพียงความอบอุ่นในใจมนายุเท่านั้น
‘ถ้าคุณยังใจดีกับผมอยู่แบบนี้แล้วผมจะตัดใจจากคุณได้อย่างไร’
“ธีมาถึงบริษัทลูกค้าแล้วนะพี่รุจ” ชลธีโทรศัพท์บอกคนรักเมื่อถึงที่หมาย
“รถไม่ติดใช่ไหม”
“ติดนิดหน่อย แต่ยังถึงก่อนเวลา พี่รุจล่ะครับถึงไหนแล้ว”
“พี่เพิ่งถึงบริษัทพอดีตอนที่ธีโทรมา” อัลฟาเจ้าบ้านหนุ่มตอบ
“โอเคครับ เจอกันที่บ้านตอนเย็นนะ” ชลธีเตรียมจะกดวางสายแต่ถูกคนปลายทางเรียกชื่อเขาไว้ได้ทัน
“เดี๋ยวก่อนครับธี”
“มีอะไรครับพี่รุจ”
“เรื่องเมื่อคืน..” รุจเกริ่นขึ้น
“พี่รุจกำลังกังวลเรื่องอะไรครับ” ชลธีถามกลับด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ “ถ้าพี่กังวลว่าธีจะโกรธเรื่องที่ต้องย้ายไปนอนห้องลูก เรื่องนั้นธีบอกพี่ไปแล้วว่าตั้งใจจะไปนอนกับลูกอยู่แล้ว อันนี้ธีพูดจริง ๆ ครับ แต่ถ้าพี่รุจกังวลเรื่องอื่นอันนี้ธีไม่รู้ว่าจะตอบพี่ว่าอย่างไร”
“...”
“ธีรู้ว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยากที่อัลฟาเป็นเกย์สองคนดันรักกัน ตั้งแต่เริ่มที่จะรัก มันก็เห็นคำตอบชัดอยู่แล้วว่าเราสองคนไม่สามารถมีลูกให้กันและกันได้ ธีพูดถูกไหมครับ”
“ครับ”
“พี่รุจฟังธีนะครับ ธีไม่อยากพูดถึงมันซ้ำอีก เราเคยคุยเรื่องนี้กันไปแล้ว ปัญหาเรื่องทายาทมันเป็นปัญหาโลกแตกที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใครใช้ให้พี่เป็นลูกคนเดียวของตระกูลทำไมล่ะ” ชลธีเป็นคนใจเย็น แต่เขาไม่ได้ใจเย็นได้ทุกเรื่อง เลยถือโอกาสนี้ระบายความโกรธใส่อีกฝ่ายอย่างไม่รอช้า
“ธี..คือพี่ไม่ได้”
“บ้านธีไม่มีปัญหาเพราะมีลูกชายหลายคน ขาดธีไปสักคนตระกูลมันก็ยังไปได้ แต่บ้านพี่รุจไม่เหมือนกัน บ้านพี่มีลูกยาก ทั้งตระกูลเหลือพี่กับแม่แค่สองคน และพี่ต้องทำตามขนมธรรมเนียมลูกที่ดี เชื่อฟังพ่อแม่ ขอโทษครับที่พูดแบบนี้ ธีรู้ว่าจริง ๆ พี่ไม่ได้ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้หรอก”
“ธีใจเย็น ฟังพี่ก่อน” คนปลายสายที่เริ่มเรื่องชักพูดไม่ออก
“ธีเข้าใจทุกอย่างแล้วพี่ยังกังวลอะไรอีกครับ หรือพี่กำลังกังวลเรื่องคุณยุใช่ไหม พี่อยากบอกธีหรือเปล่าว่าคุณยุมีผลต่อใจพี่”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ธีกำลังเข้าใจผิด”
“แล้วมันอย่างไรครับ”
“พี่ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์ เลิกงานวันนี้เราคุยกันได้ไหมครับ” รุจรอฟังคำตอบ เขาได้ยินเสียงลมหายใจหนักหน่วงคล้ายคนถอนหายใจอยู่อีกฝั่ง
“ธีรักพี่รุจและรักลูกของพี่นะครับ และธีไม่เคยโกรธหรือเกลียดคุณยุ เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด แต่เรื่องนี้พี่รุจคือคนผิดทำไมพี่ต้องอยากมีลูกอีกคน ไม่สิ พี่ไม่ได้ผิดที่อยากมีลูกอีกคน แต่ธีไม่เข้าใจทำไมพี่ต้องเลือกโอเมกาคนเดิมมาตั้งท้องลูกพี่ด้วยครับ”
“พี่อยากให้ลูกของเราเกิดจากแม่คนเดียวกัน”
“พี่รุจแน่ใจใช่ไหมครับถึงพูดแบบนี้? ”
“ธีคิดอะไร”
ชลธียกนาฬิกาขึ้นมาดู “ธีไม่มีเวลาแล้วครับ ใกล้ถึงเวลานัดเต็มที”
“คืนนี้เราค่อยคุยกันนะครับ”
“ถ้าพี่รุจอยากคุย ธีก็จะคุย เจอกันที่บ้านนะครับ”
“ครับ”
รุจอยากจะทิ้งงานพาชลธีกลับไปคุยกันที่บ้านเสียเดี๋ยวนั้น แต่รู้ว่าทำไม่ได้ การเป็นผู้ใหญ่มันยากต้องฝึกอดทนและรับผิดชอบมากกว่าตอนเป็นเด็กหลายเท่านัก ทุกการกระทำมักจะมีคำพูดกรอกหูว่าไม่ใช่เด็กแล้วนะ ทำตัวให้สมกับเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ
อัลฟาหนุ่มอยากจะบ้าตาย เขาได้แต่กำหมัดแน่นทั้งสองข้างเพื่อข่มอารมณ์เอาไว้
ไหนจะเรื่องเมื่อเช้าอีก กลิ่นหอมจากตัวมนายุทำให้เขาเคลิ้มมัวเมาหลงใหลจนเผลอเกือบจะกัดคอตีตราจองอีกฝ่าย การกระทำที่ขาดสติ นั้นใช้ไม่ได้เอาเสียเลย เขาสงสาร เอ็นดูและห่วงใยโอเมกาคนนี้มากจนชลธีสังเกตเห็น แม้อัลฟาคนรักของเขาจะไม่พูด แต่ไม่ได้แปลว่าเห็นด้วย ชลธีเป็นคนฉลาด อีกฝ่ายคงกำลังประเมินสถานการณ์อยู่เหมือนกัน
ฟังจากน้ำเสียงของชลธีผ่านทางโทรศัพท์ก็รู้ว่าชลธีไม่ได้อยากพูดถึงเรื่องนี้ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพราะต้องการจัดการความรู้สึกด้วยตัวเอง เจ้าตัวพยายามทำความเข้าใจว่าสถานการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นจากสัญชาตญาณพาไป แต่เขากลับเริ่มเรื่องขึ้นมาเองเพราะไม่สบายใจ เรื่องราวเลยชักจะบานปลายใหญ่โต
ยังนับว่าโชคดีที่ชลธียังอยากจะคุยกับเขาอยู่
ชลธีหงุดหงิดหลังจากวางโทรศัพท์ เขาอุตส่าห์ไม่พูดถึงแล้วแท้ ๆ คนก่อปัญหายังพูดขึ้นมาเองอีกทำให้เขานึกฉุนอารมณ์หลุด เผลอด่าอีกฝ่ายไปอย่างตั้งใจ สาเหตุมาจากเช้าวันนี้อัลฟาคนรักเดินมาหาเขาด้วยกลิ่นคนอื่น ดวงตาสีดำสนิทเหมือนมีประกายไฟเรืองรองวาวโรจน์อยู่ในนั้น ทำให้เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีอาการไม่ปกติ
ทุกอย่างเกิดขึ้นตามสัญชาตญาณทั้งนั้น เขารู้แต่ไม่อยากเข้าใจ มันน่าดีใจนักเหรอที่เห็นคนรักมีอารมณ์อยากนอนกับคนอื่น เขาใจเย็นอีกทั้งยังใจกว้าง แต่ไม่ได้ใจกว้างพอสำหรับทุกกรณี เรื่องที่รุจจำเป็นต้องมีลูกนั่นเขาก็เข้าใจ ต้องว่าจ้างโอเมกามาตั้งท้องก็เข้าใจ ยอมทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าการตั้งท้องน่ะ มันไม่ได้จ้องหน้ามองตากันแบบปลากัดแล้วจะท้องได้ มันต้องผ่านกรรมวิธีผ่านขั้นตอนที่ลึกซึ้งอยู่แล้ว
ถือว่าฟ้าดินยังเมตตา รุจกับมนายุนอนด้วยกันครั้งแรกโอเมกาก็ตั้งท้องทันที ไม่ต้องมีสัมพันธ์ด้วยกันครั้งต่อไป ชลธีรู้สึกโล่งใจ แต่เขาโมโหจนเกือบควบคุมอารมณ์ไม่ได้เมื่ออีกฝ่ายอยากมีลูกเพิ่มอีกหนึ่งหรือสองคน และจำเพาะต้องเป็นโอเมกาคนเดิม อดคิดไม่ได้ว่าทำไมต้องเป็นคนเดิม
จริงอยู่ที่บ้านของรุจนั้นมีลูกยาก ยิ่งเป็นลูกชายยิ่งยากขึ้นไปอีก แต่พอเป็นโอเมกาที่ชื่อมนายุแล้ว ปัญหามีลูกยากนั้นเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง กลายเป็นเรื่องตลกทั้งเพ มนายุท้องง่ายดายราวกับสามารถดีดนิ้วเสกเด็กเข้าท้องได้จนเขาประหลาดใจ และถ้าคิดว่าครั้งแรกฟลุ๊กละก็ผิดถนัด ครั้งที่สองก็เหมือนกัน ง่ายอย่างกับเกิดปาฏิหาริย์
เขาไม่เคยนึกโกรธหรือเกลียดมนายุตามที่บอกรุจไปด้วยความสัตย์จริง แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าโอเมกาคนนี้กำลังตกหลุมรักพ่อของลูก แต่มนายุไม่เคยแสดงออกว่าต้องการแย่งรุจมาครอบครอง เขาจึงวางใจว่าไม่แปลกที่โอเมกาจะรักอัลฟา ยิ่งท้องลูกอีกฝ่ายด้วยแล้วความผูกพันก็คงมีมากกว่าปกติล่ะมั้ง เรื่องนี้ชลธีคิดเองทั้งนั้นเพราะเขาไม่เคยท้องและไม่ได้เป็นโอเมกาจึงไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกพวกนี้ได้
‘โธ่เว้ย’
ชลธีสบถคำนี้ในใจแล้วต้องปรับเปลี่ยนสีหน้ากลับมายิ้มแย้มดังเดิม ลูกค้ารออยู่ในห้องแล้ว วันนี้เขาต้องได้โปรเจ็กต์ใหม่มาครอบครองให้ได้
ช่วงเที่ยงมนายุโทรศัพท์ไปหารุจเป็นประจำ เรื่องที่โทรไปนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือแปลกใหม่อะไร มันคือคำบอกเล่าเท่านั้น
“คุณรุจเหรอครับ ยุ่งอยู่หรือเปล่า”
“ไม่ยุ่ง ตอนนี้พักเที่ยง”
“อ๋อ..ครับ”
“เช้านี้เธอเป็นไงบ้าง มีอาการแพ้อะไรไหม ปวดหัว คลื่นไส้บ้างหรือเปล่า”
“ไม่ครับ ท้องนี้ไม่เป็นอะไรเลย ไม่เหมือนคนแรก” มนายุเล่า
“ฉันจำได้ว่าตอนนั้นเธอนอนซมทั้งวัน กินอะไรไม่ค่อยได้ เอาแต่อ้วกอย่างเดียวจนฉันนึกกลัว”
“ครับ แต่คนนี้ไม่มีอาการอะไรเลยครับ” มนายุพูดไม่หมด เขาไม่ได้บอกว่าความจริงที่เหลือว่า ไม่แพ้ก็จริง แต่บางวันเขามองไม่ค่อยชัด บางวันก็ชัดเจนดีเหมือนวันนี้
“กินข้าวหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ตอนเย็นอยากกินอะไรบอกป้าสายได้เลย”
“แล้วคุณล่ะครับ อยากกินอะไร คุณธีด้วยครับ”
“ฉันกับธีกินง่าย เธออยากกินอะไรฉันสองคนก็กินได้หมด แต่ว่าวันนี้เธอคงต้องกินข้าวคนเดียว ฉันกับธีคงไปกินด้วยไม่ได้”
“...” มนายุเงียบ ไม่บ่อยนักที่รุจจะปล่อยให้เขากินเองเพียงลำพัง
“มนายุ เธอกินข้าวคนเดียวได้ใช่ไหม” รุจเรียกซ้ำเพราะไม่ได้คำตอบจากอีกฝั่ง
“ดะ..ได้ครับ”
“ขอโทษนะ วันนี้ฉันมีธุระต้องคุยกับธีต่อน่ะกลัวเธอจะหิ้วท้องรอ”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ย้ายไปห้องใหม่เรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้วครับ” มนายุตอบด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ
“ดี ชอบไหม”
“ครับ? ”
“ชอบห้องนั้นไหม”
“เอ่อ..ก็ดีครับ” โอเมกาหนุ่มไม่เข้าใจว่าเจ้าของบ้านถามเขาทำไม
“ป้าสายคงเล่าให้เธอฟังแล้วใช่ไหม ห้องนั้นเป็นห้องของลูกน่ะ”
“ครับ ป้าสายเล่าให้ผมฟังแล้ว”
“อยากตกแต่งอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า”
“ไม่ครับ อีกวันสองวันผมก็จะย้ายกลับไปอยู่ห้องเดิม” มนายุปฏิเสธ ไม่เห็นความจำเป็นที่จะเปลี่ยนแปลงห้องที่อยู่ชั่วคราว
“ที่ฉันถามก็เผื่อว่าเธออยากอยู่ห้องนี้มากกว่า”
“ไม่ละครับ” มนายุหัวเราะ “ถ้าผมอยากเปลี่ยนห้องนี้ ระหว่างที่เขามาตกแต่งผมก็ต้องย้ายไปห้องอื่นอยู่ดี ไม่อยากย้ายไปย้ายมา อย่าดีกว่าครับ”
“อืม มีอะไรอีกไหมเพราะอีกสิบนาทีฉันต้องไปประชุมแล้ว”
“ไม่มีครับ” โอเมกาหนุ่มตอบอย่างรวดเร็วก่อนจะพลันนึกขึ้นได้ “เดี๋ยวครับคุณรุจ”
“อะไร”
“คือห้องนี้มีประตูเชื่อมถึงกัน เมื่อเช้าป้าสายบอกว่าปกติคุณไม่เคยลงกลอนอยู่แล้ว”
“ใช่ บางครั้งลูกก็ชอบเข้ามาที่ห้อง ฉันกับธีก็เลยไม่เคยล็อกประตูนั้น”
“ถ้าผมจะขอให้คุณล็อกได้ไหมครับ”
“ทำไมล่ะ” รุจแปลกใจถึงแม้เขาจะล็อกประตูแต่ก็สามารถเปิดเข้าห้องอีกฝ่ายได้ทุกเมื่ออยู่ดี เพราะห้องที่มนายุอยู่ชั่วคราวไม่มีกลอนประตู
“ผมขอนะครับ”
“ได้ ถ้าเป็นความต้องการของเธอ เดี๋ยวฉันจะล็อกไว้แล้วกัน ตกลงไหม”
“ขอบคุณครับ”
“ฉันวางนะ แล้วก่อนเธอเข้านอนฉันจะแวะไปหา”
“ครับ”
มนายุถือโทรศัพท์ค้างไว้ไม่ได้วางมันลงบนแป้น เขากำลังลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่เรื่องเมื่อคืนจนกระทั่งเรื่องเมื่อเช้าที่รุจเกือบลืมตัวกัดหลังคอเขา หลังจากนั้นมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือเปล่า
เขาเริ่มไม่สบายใจกลัวความสัมพันธ์ระหว่างอัลฟาสองคนจะมีปัญหาโดยสาเหตุมาจากตัวเขา
โอเมกาหนุ่มกำลังกลัว
กลัวว่าจะต้องถูกย้ายไปอยู่ที่อื่นและไม่ได้เจอรุจอีกทั้งที่อุ้มท้องอยู่ ถ้าเป็นแบบนั้นจริงเขาต้องแย่แน่ ๆ แม้จะปิดปากเงียบไม่เคยบอกใครแต่ตัวเขาเองย่อมรู้ดีว่าโหยหาอีกฝ่ายมากแค่ไหน ป้าสายเพียงคนเดียวที่ดูออกว่าเขามีอาการอย่างไร ดังนั้นเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของรุจจึงอยู่ที่ห้องเขาเกินกว่าครึ่งและมันถูกเปลี่ยนตลอดเพื่อให้ได้กลิ่นกายเจ้าของได้อย่างชัดเจน
เขาภาวนา ขอให้ชลธีช่วยอดทนหน่อยได้ไหม ขอให้เขาอยู่ที่นี่จนคลอดด้วยเถิด แล้วเขาจะหายไปจากตระกูลนี้อย่างถาวร
มนายุให้สัญญา
==========================
มาดูกันอีกมุมกันนะคะ
ตอนหน้าก็น่าจะจบได้แล้วค่า
Just The Way I Am #แค่เป็นเรา