พิมพ์หน้านี้ - ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: monrita ที่ 11-09-2019 19:58:47

หัวข้อ: ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: monrita ที่ 11-09-2019 19:58:47
*************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************



เรื่องสั้น

ข้าจะกินเจ้า







หัวข้อ: Re: ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: monrita ที่ 11-09-2019 20:12:12
คุณเชื่อเรื่องปีศาจไหม


ป่าแห่งวิญญาณล่ะ


เรื่องพวกนี้คนอย่างมู่ฉิงไม่เชื่อหรอก และเขาก็ไม่ชอบเข้าโบสถ์ด้วย


ยิ่งเรื่องผีสางอย่าหวัง


แต่เชื่อไหมว่าคนไม่เชื่อในสิ่งลี้ลับอย่างเขาคนนี้กำลังถูกสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุได้ว่าคือผี ปีศาจ คน หรือตัวอะไรกันแน่จับได้


“เฮ้! ช้าหน่อยสิ” เขาตะโกนใส่เด็กสาวตรงหน้าเพื่อขอให้เธอเดินช้าลงกว่านี้อีกนิด ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก เด็กสาว ตัวเล็ก แต่งตัวประหลาดอย่างกับหลุดมาจากหนังยุโรปยุคโกธิคหรือพวกโลลิต้าทำผมทวินเทลในงานคอสเพลย์ มือข้างหนึ่งถือร่มคันโต ส่วนอีกข้าง...


ถือเชือกที่มัดสองมือของเขาเอาไว้อยู่แล้วลากให้เดินตามถูลู่ถูกังลึกเข้ามาในป่ามากขึ้นเรื่อยๆ


แรงเยอะเป็นบ้า แถมเชือกเวรนี่ก็แกะไม่ออกเลยสักนิด พอพยายามจะแก้มัดมันก็เหมือนอะไรสักอย่างที่ขยับได้แล้วก็เลื้อยพันรอบข้อมือรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมจนสุดท้ายเขาต้องถอดใจ


แล้วก็ไอ้ฝนน่ารำคาญนี่ด้วย


ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหม แต่ทุกที่ที่เด็กคนนี้เดินผ่านจะมีฝนตกอยู่เสมอทั้งที่ก่อนหน้านั้นท้องฟ้ายังคงแจ่มใส ยิ่งลึกเข้ามาในป่าเพียงใด ความมืดก็ยิ่งปกคลุมมากขึ้นเท่านั้น ระหว่างถูกกึ่งเดินกึ่งลากตามเด็กตัวเล็กตรงหน้าเขาก็เหลือบมองรอบกายเป็นระยะ สองข้างทางเป็นต้นไม้สูงใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกไอแปลกประหลาด


บางครั้งมู่ฉิงก็รู้สึกว่ามีอะไรลอยผ่านตัวเขาไปมา พอหันกลับไปก็พบเพียงความว่างเปล่า แต่บางครั้งก็คล้ายถูกอะไรบางอย่างจ้องมองตลอดเวลาซึ่งไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่หลังต้นไม้พวกนั้น


ขนลุกเป็นบ้า


เขาไม่น่าเดินเข้ามาหาที่ชิ้งฉ่องสุ่มสี่สุ่มห้าจนพลัดหลงกับกลุ่มเพื่อนที่มาตั้งแคมป์บนเขากันเลยให้ตาย คืนนี้จะมีเกมทดสอบความกล้าด้วยสิ เจ้าพวกนั้นบอกว่าแถวนี้คือทางเข้าของป่าวิญญาณบ้าบออะไรสักอย่าง ตัวมู่ฉิงซึ่งไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้จึงไม่คิดสนใจนัก ก็แค่อยากมาหาเรื่องสนุกทำเท่านั้น


ใครจะคิดล่ะว่าไอ้ป่าบ้านั่นจะมีจริง


แถมยังได้เข้ามาก่อนใครพวก


โดนลากอยู่นานในที่สุดทั้งคู่ก็หลุดออกมาจากอาณาเขตของป่ารกร้างนั่นสักที บรรยากาศรอบข้างถูกล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ไม่ต่างจากก่อนหน้าเพียงแต่มันไม่รกทึบเท่า มู่ฉิงเอียงหน้าหลบเหล่าหิ่งห้อยลอยไปลอยมารอบกายระหว่างเดินตามเด็กสาวตรงหน้าเงียบๆ


เอาแต่ย่ำเท้าดุ่มๆ โดยไม่สนใจเลยว่าเขาจะต้องเดินในสภาพบ้าบอแค่ไหน ด้วยส่วนสูงที่คาดว่าห่างกันมากกว่า 10 เซนทำให้มู่ฉิงต้องก้มตัวเดินอยู่ตลอดเวลา


และขอบคุณ ในที่สุดเธอก็หยุดเดินสักที


ได้ยินเสียงถอนหายใจลอยมาแผ่วเบาก่อนใบหน้าเยาว์วัยจะหันมามองเขาแวบหนึ่ง ตอนนั้นเองมู่ฉิงพึ่งสังเกตว่าพวกเขาเดินมาหยุดอยู่หน้ากระโจมแบบเปิดโล่งหลังใหญ่ตั้งอยู่ริมบึงน้ำใสจนเห็นสิ่งมีชีวิตข้างใต้ชัดเจน เพราะมัวแต่มองถึงได้ไม่ทันตั้งตัว เขาเซไปตามแรงลากจนเกือบล้ม ถูกอีกคนฉุดให้รีบเดินเข้ามาด้านในกระโจม


“อั่ก!”


ขาถูกเตะด้วยรองเท้าแข็งๆ จนข้อพับล้มลงไปบนพื้นพรม มันเจ็บจนนึกคำด่าไม่ออกด้วยซ้ำ


“สายัณห์สวัสดิ์ ฮาลายูรี” เสียงของสาวน้อยดังขึ้นทักทายใครบางคน


"เจ้าทำให้งานเลี้ยงของข้าเต็มไปด้วยเมฆฝน" เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารณ์


"ก็แค่แวะมาทักทายเพื่อนเก่า" เด็กสาวใต้ร่มสีน้ำเงินสดเอ่ยเสียงเรียบ ใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์จนเริ่มสงสัยว่าเต็มใจมาเยือนจริงหรือไม่


มู่ฉิงลากสายตากลับไปยังเบื้องหน้า ภาพที่ได้เห็นมันเกินกว่าจะจินตนาการ ร่างบอบบางภายใต้อาภรณ์สีแดงเข้มคลุมทับด้วยเสื้อนอกสีขาวสะอาดตาปักไหมแดงเป็นลวดลายของดอกโบตั๋นกำลังเอนตัวพิงกับโซฟาตัวยาว


ใบหน้าหวาน


ริมฝีปากสีชาด


หางตาโค้งขับให้ดวงตาคู่นั้นดูเรียวยาวไม่ต่างอะไรกับจิ้งจอก นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองมานิ่ง ความรู้สึกราวกับกำลังถูกสะกดให้ตกอยู่ในมนตรา ไม่ว่าใครที่ได้สบดวงแก้วคู่นั้นแม้แต่การหายใจก็ยังทำได้ยากลำบาก


คล้ายร่างกายไร้การควบคุม


แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้สะดุดสายตาไม่ใช่ใบหน้างดงามนั้น หากแต่เป็น...


หางทั้งเก้า


นี่เขาหลุดเข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งหนใดกัน หรือแค่ฝันไป


"นั่นอะไรน่ะ" เสียงนุ่มดังกังวาน หัวคิ้วเลิกขึ้นอย่างรู้สึกสงสัย


"มนุษย์"


นัยน์ตาวาววับ หางทั้งเก้าขยับไปมาอย่างตื่นเต้นเมื่อได้ยินคำตอบ


"พึ่งเคยเห็นมนุษย์ตัวเป็นๆ นะเนี่ย เจ้าไปเจอเขาที่ไหนมากัน สาวพิรุณ" ปีศาจตรงหน้าถามอย่างสนใจ ดวงหน้าหวานเอาแต่จ้องมองไปยังเด็กหนุ่มไม่วางตา


"ก็แค่ เก็บได้ข้างทาง" หญิงสาวตัวเล็กสะบัดร่มในมือไปมาขณะกำลังพยายามหุบมัน ส่งผลให้หยดน้ำกระเซ็นมาโดนตัวมู่ฉิง


"เฮ้" เด็กหนุ่มท้วงเสียงเบา ขยับตัวถอยออกมาอีกนิด


"โอ้ โทษที"


"ฟังดูเป็นของขวัญที่ไม่จริงใจเอาซะเลยนะ” เสียงกังวานจากเจ้าของงานดังขัดบทสนทนาเล็กๆ ของคนทั้งสอง ได้ยินดังนั้นสาวพิรุณไหวไหล่


"แต่ข้ารู้ว่าเจ้าต้องชอบ" น้ำเสียงมั่นใจทำให้ปีศาจจิ้งจอกขมวดคิ้ว


"ยังไง"


ดูจากท่าทางแล้วเหมือนภูมิใจนำเสนอของขวัญตัวเองเหลือเกิน ถึงมนุษย์จะเป็นสิ่งหาพบได้ยากในหุบเขาวิญญาณแห่งนี้ แต่มันก็แค่มนุษย์ล่ะนะ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ ไร้ซึ่งพลัง ฮาลายูรีไม่ได้รู้สึกสนใจหรือตื่นเต้นอะไรมากมายจนต้องนึกของคุณสหายเก่าผู้นี้


"ได้ยินว่าหากได้กินหัวใจของมนุษย์วัยเยาว์ตัวเป็นๆ จะได้พลังวิญาณมาเสริมให้พลังแกร่งกล้า แล้วก็เป็นอมตะล่ะ"


“หืม?” ฮาลายูรียืดตัวขึ้น ใบหน้าหวานแสดงความสนใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง


คำว่าหัวใจทำให้มู่ฉิงที่กำลังพยายามกัดแขนตัวเองเผื่อจะตื่นจากความฝันบ้าๆ นี่สักทีชะงักไป


กินอะไรนะ?


"นี่มันของล้ำค่าเลยนะจะบอกให้ เชื่อเถอะว่าเจ้าจะชอบมันที่สุดในบรรดาของขวัญทั้งหมด" ใบหน้าเยาว์วัยแต่คำพูดคำจาไม่ได้ดูเด็กเลยสักนิด ริมฝีปากกระจับยกขึ้นอย่างมั่นอกมั่นใจ และเสียงหัวเราะแหลมหูนั้นทำให้มู่ฉิงรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย


เจ้าของงานหรี่ดวงตาลง มองรูปร่างสูงใหญ่พอมีกล้ามเนื้อนั้นดูจะไม่ค่อยตรงตามคุณสมบัติอย่างที่อีกคนกล่าวอ้างมาเลยสักนิด ยิ่งพิจารณาดูแล้วตัวสูงกว่ายัยเด็กโรคจิตนี่เยอะ หัวของหล่อนสูงเพียงแค่ช่วงท้องเขาเท่านั้น ไม่รู้ไปจับมาท่าไหน


"เจ้าน่ะ" เปลี่ยนทิศทางของระยะสายตาไปยังมนุษย์ตรงหน้า คนถูกเรียกชี้มือเข้าหาตัวเองอย่างฉงน


"อายุเท่าไหร่"


"20" คำตอบทำให้ปีศาจจิ้งจอกตาลุกวาวระคนทึ่ง หางทั้งเก้าสะบัดไปมาอย่างระริกระรี้มองเห็นเป็นก้อนขนกลุ่มหนึ่งกำลังกระเพื่อมเป็นระลอกคลื่นอยู่ในอากาศ


"ไง ต้องให้ข้าบวกลบให้ไหม" เสียงแหลมเล็กท้วงขึ้นเมื่อถูกเมินเป็นการชั่วคราว สองมือยืนเท้าสะโพกด้วยลักษณะที่เหมือนเด็กสาวแสนเอาแต่ใจโดนพ่อแม่ประคบประหงมจนนิสัยเสีย พลันมู่ฉิงนึกถึงเด็กข้างบ้าน หล่อนมักจะกรีดร้องด้วยน้ำเสียงแหลมหูระดับเจ็ดร้อยล้านเดซิเบลยามโดนขัดใจจนนึกอยากจะหาเศษไปผ้าไปอุดปากวันละหลายพันครั้ง ฟังแล้วประสาทเสียเป็นบ้า


"ถ้าไม่เอาก็จะได้เอาไปทิ้งข้างนอก เพราะเจ้าเด็กนี่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับข้าหรอกนะ แค่เห็นว่าหล่อดีเลยจับมาขำๆ พอดีงานข้ามันเยอะน่ะต้องรีบไปแล้ว"


ตัวเองก็เด็กไม่ใช่หรือไง


มู่ฉิงเบ้ปากขณะฟังคำพูดอวดดีจากเด็กสาวข้างกาย แล้วไอ้ที่ว่าหล่อดีเลยจับมาคืออะไรกัน เหตุผลเพราะงั้นเรอะ!


"ไม่ต้องๆ ข้าจำอายุตัวเองได้"  ปีศาจตรงหน้าโบกมือปัดไปมานึกรำคาญใจ ไม่คิดให้เด็กสาวมาวุ่นวายเรื่องอายุตัวเอง "ทิ้งไว้ตรงนั้นแหละ แล้วจะไปไหนก็ไป"


ริมฝีปากกระจับบิดโค้งขึ้นเล็กน้อย เด็กสาวกางร่มออกก่อนจะสะบัดชายกระโปรงหมุนตัวเดินออกไป ซึ่งก่อนร่างนั้นจะพ้นกรอบประตูเสียงแหลมเล็กก็ลอยมาตามลม


"ยินดีกับครบรอบอายุ 1999 ปี"


ปีศาจจิ้งจอกได้แต่กลอกตาก่อนจะเอนกายลงพิงหมอนอิงดังเดิม พลูลมหายใจออกมาเล็กน้อยเมื่อเสียงฝนหายไปแล้วพร้อมกับไอวิญาณของสาวพิรุณที่เขาจับได้


 “จะให้ทำยังไงกับมนุษย์คนนั้นดีครับ ท่านยูริ” จิ้งจอกตัวที่คิดว่าน่าจะเป็นบริวารหันไปถามผู้เป็นนาย ฮาลายูรีนิ่งคิดไปครู่ใหญ่ ปลายนิ้วเคาะลงกับพนักแขนอย่างใช้ความคิด


“เอาไปขังไว้ที่ปราสาทก่อนแล้วกัน” สิ้นประโยคนั้นมู่ฉิงก็โดนหิ้วปีกแทบจะทันที เขาพยายามดิ้นเพราะคำว่าขังที่อีกคนกล่าวนั้นดูไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่


“เฮ้ เดี๋ยว!”


“อยู่เฉยๆ เจ้ามนุษย์ก่อนที่เจ้าจะโดนเผา”


“ไฟของจิ้งจอกต่อให้เจ้าวิ่งลงบึงนั่นมันก็ไม่ดับหรอกนะจะบอกให้”


ปีศาจบริวารทั้งสองพูดเสียงเข้ม พอหันไปมองบึงใหญ่ใกล้ๆ แล้วก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา ไม่ตายเพราะไฟก็ต้องตายเพราะน้ำล่ะวะ ด้วยความที่มันใสมากจึงสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่าความลึกของสระนั้นมันมากมายแค่ไหน สุดท้ายก็ทำได้แค่ลุกขึ้นยืนแล้วปล่อยให้พวกมันหิ้วปีกออกไปจากกระโจมนี้แต่โดยดี


ในระหว่างที่กำลังจะเดินพ้นออกไปสายตาบังเอิญสบเข้ากับดวงตาเรียวยาวคู่นั้น ราวกับพลอยนิล สุกสกาวทว่าน่าเกรงขาม จดจ้องอยู่อย่างนั้นกระทั่งถูกลากออกไปจนพ้นสายตา



ห้องขังเดี่ยวใต้ปราสาทก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด อย่างน้อยมันก็ไม่ได้โสโครกหรือมีซากศพอย่างในภาพยนตร์ที่เคยดู มู่ฉิงถูกจับอยู่ในนั้นค่อนคืนจนกระทั่งวันถัดมาประตูหนึ่งเดียวในสถานที่แห่งนี้ก็ถูกเปิดออก เสียงเสียดสีของไม้ทำให้รู้สึกขนลุกเล็กน้อย


เสียงรองเท้ากระทบพื้นหินใกล้เข้ามาเรื่อย ตอนแรกเด็กหนุ่มคิดว่าน่าจะเป็นพวกทหารเอาอะไรมาให้กินเหมือนปกติ แต่ความรู้สึกมันแตกต่างไป


คล้ายกับมีไอปีศาจสูงกว่าปกติ


แล้วก็ใช่อย่างที่คิด ปีศาจจิ้งจอกตัวเล็กในชุดที่น้อยกว่าตอนพบกันครั้งแรก อีกฝ่ายสวมเพียงผ้าแพรสีดำเนื้อบางเบาคลุมทับด้วยผ้าปักลายนกกระเรียนสีน้ำเงินเข้ม แต่สิ่งน่าแปลกใจยิ่งกว่าคือปีศาจตรงหน้าตอนนี้ไม่มีหางทั้งเก้าเหมือนตอนแรก


มู่ฉิงเลื่อนระดับสายตาตามปีศาจตรงหน้าซึ่งย่อตัวนั่งลง เจ้าตัวยกมือขึ้นเท้าคางแล้วจ้องแป๋วตรงมายังเขานิ่ง แล้วก็เอาแต่มองแบบนั้นอยู่พักใหญ่


“เจ้าอายุ 20 จริงเหรอ” ดวงตาสีเข้มกะพริบไปมาพลางเอียงคอเล็กน้อย


แต่ว่าเกิดมาสงสัยอะไรในตัวเขากันล่ะเนี่ย มู่ฉิงคิดพลางพยักหน้าตอบรับคำถาม


“อืม...”


และดูท่าปีศาจตนนี้จะขี้สงสัยเอาเสียเหลือเกิน หลังจากนั่งจ้องตากันอยู่ในคุกตั้งนานเขาก็ถูกพาตัวเข้ามายังห้องหนึ่งซึ่งอยู่ชั้นสูงสุดของปราสาทหลังโตนี้ แล้วก็ยังคงถูกจับจ้องไม่เลิกรา


“ผมเริ่มจะเวียนหัวแล้วนะ” มู่ฉิงเบ้หน้า เนื่องจากปีศาจตนนี้เอาแต่เดินวนไปวนมารอบตัวเขามาครึ่งค่อนวันแล้ว และขอบคุณ ในที่สุดอีกฝ่ายก็หยุดเดินเสียที


“มองอะ.. เอ่อ...” สะดุ้งจนเกือบลืมหายใจเมื่อจู่ๆ ใบหน้าหวานก็เคลื่อนเข้ามาจนแทบชิด แต่เรียกว่าพุ่งคงจะถูกกว่า ดวงตาเรียวรีมองตรงมาโดยไม่กะพริบราวกับต้องการจะมองทะลุเข้ามาในความคิดให้ได้ แล้วก็คงลืมตัวว่าเผลอขยับเข้ามาชิดจนร่างกายเบียดกันเพียงใด


ใกล้ จนได้กลิ่นกำยานลอยมาอ่อนๆ


หอมราวดอกไม้ป่า แอบคิดในใจว่าที่มาของกลิ่นนั้นเป็นเพราะเครื่องประทินโฉม อาภรณ์ หรือร่างกายนั้นกันแน่


 “ข้าจะกินเจ้า” ในที่สุดริมฝีปากอิ่มนั้นก็ขยับ


“ตลกหรือเปล่า ใครมันจะไปยอมให้กินง่ายๆ กัน” และเขาก็จ้องตากลับไปพร้อมสีหน้าจริงจัง แต่ในใจนั้นขำจนแทบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อวานก็กลัวอยู่หรอก อยู่ดีไม่ว่าดีหลุดเข้ามายังแห่งหนใดก็ไม่รู้แถมยังถูกจับมาทิ้งไว้กลางดงปีศาจอีก แต่ตอนนี้ความรู้สึกเหล่านั้นมันดันหายไปเสียดื้อๆ จะเพราะใครล่ะหากไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอกตัวน้อยตรงหน้า


ไร้เดียงสาเสียจริง จู่ๆ ก็เข้ามาบอกกันโต้งๆ ว่าจะกินชาวบ้านเขาเนี่ยนะ?


และดูเหมือนคำพูดของมู่ฉิงจะไปกระตุกต่อมอะไรเข้าใบหน้าหวานนั่นถึงได้ดูบึ้งตึงทันตา ซึ่งแทนที่จะมองว่าน่ากลัวเขากลับคิดว่ามันน่ารักมากกว่าน่ะสิ


“นี่!”


มู่ฉิงจุ๊ปากเมื่อปีศาจตรงหน้าตั้งท่าจะง้างกรงเล็บใส่กัน “อันตรายนะเนี่ย” เขาเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย ถ้ายกมือขึ้นจับแขนไม่ทันหน้าคงเหวอะไปแล้ว


“ข้าจะกินเจ้า!” ปลายเล็บเรียวยาวสีดำกางๆ หุบๆ เพราะข้อมือถูกคนเด็กกว่าร่วมพันปีจับยึดเอาไว้แน่น


“พูดเป็นอยู่คำเดียวหรือไง หืม?” นอกจากไม่กลัวแล้วยังแกล้งทำเสียงยียวนกวนโมโหอีกฝ่าย


“ถ้าไม่ติดว่าต้องกินสดๆ ข้าจะเสกไฟเผาเจ้าให้เกรียมเลย!” ปีศาจตัวเล็กกัดฟันกรอด กระฟัดกระเฟียดเมื่อทำอะไรไม่ได้ สะบัดมือเพียงพริบตาเดียวก็หลุดจากการจับกุมแล้วเดินปึงปังออกไป ก่อนประตูจะปิดลงก็ไม่วายทันได้ยินเสียงพึมพำว่าฝากไว้ก่อนเถอะลอยมา


เด็กหนุ่มหัวเราะแกนๆ นึกในใจว่าจะช่วยรับฝากเอาไว้ก็แล้วกัน


ไม่ใช่ว่าเขาผ่อนแรงลงหรอก แต่แรงเมื่อครู่คงจะเป็นแรงโทสะที่อีกฝ่ายปล่อยออกมามากกว่า ถึงตอนปกติจะสู้ไม่ได้ก็เถอะ แต่คิดว่าถ้าขืนเขายังไปยั่วโมโหปีศาจตนนั้นเรื่อยๆ ก็คงจะโดนซัดกระเด็นได้เหมือนกัน นั่นปีศาจเชียวนะเกิดโมโหร้ายคิดเอาจริงขึ้นมาคงได้เหลือแต่ชื่อแล้ว ให้ตายเถอะ ถอนหายใจพลางเดินวนไปวนมารอบห้องอย่างคนไม่กล้าออกไปไหน


เห็นทำเก่งแบบนี้เอาจริงก็กลัวนะครับ ข้างนอกนั่นมีปีศาจเดินวนไปวนมาให้ว่อน ตัวใหญ่ๆ ล่ำๆ ทั้งนั้น จะมีก็แต่เจ้าของปราสาทนั่นแหละที่กล้าต่อกรด้วย


ว่าแล้วก็ขอนอนสักงีบก่อนแล้วกันเมื่อคืนมัวแต่ระแวงจนข่มตาไม่ลง เขาเดินไปทรุดตัวลงบนเตียงหลังกว้าง ไม่รู้หรอกว่านี่คือห้องใคร แต่ไหนๆ ก็ถูกเอามาโยนไว้ในนี้แล้วก็ขอสักหน่อยเถอะ เมื่อคืนนอนในคุกพื้นแข็งเป็นบ้า


    ด้วยความเหนื่อยล้าประกอบกับกลิ่นจากกำยานหอมลอยอบอวลอยู่ภายในห้องทำให้เปลือกตาของมู่ฉิงหนักอึ้งแล้วจมดิ่งสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว



    
เด็กหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นในช่วงกลางดึกเพราะความรู้สึกขยุกขยิกบนตัว เมื่อลืมตาขึ้นปรากฏเป็นภาพเงาเลือนรางๆคล้ายมนุษย์ เขาหรี่ตาเพื่อพยายามโฟกัสว่าอะไรที่มันอยู่ตรงหน้าตอนนี้ สิ่งแรกที่สังเกตเห็นท่ามกลางความมืดคือกลุ่มขนสีขาวสะบัดลอยไปลอยมาเป็นระลอกคลื่นอยู่ในอากาศ นั่นมัน


หาง...


ดูเหมือนจะไม่ใช่มนุษย์เสียแล้ว


หางทั้งเก้ากำลังกระดิกไปมา ใบหน้าหมดจดเคลื่อนเข้ามาใกล้จนเห็นเขี้ยวแหลมชัดเจน ราวกับนักล่ากำลังเตรียมตะครุบเหยื่อ เป็นตอนนั้นเองที่มู่ฉิงตื่นเต็มตา เขายกมือขึ้นจับมือเล็กที่นิ้วทั้งห้าเต็มไปด้วยเล็บยาวแหลมคมนั้นได้ทันก่อนที่มันจะแทงตรงมายังลำคอตัวเอง


ร่างด้านบนซึ่งกำลังคร่อมทับอยู่บนตัวเขาชะงักไปคล้ายตกใจ ผ้าแพรสีขาวตัวบางดูไม่เรียบร้อยยิ่งลักษณะท่าทางของอีกฝ่ายตอนนี้ก็ยิ่งทำให้คอเสื้อแหวกย้อยลงมาเผยเนินผิวขาวซีดกับหัวไหล่มน


เป็นมุมล่อแหลมมาก...


"จะทำอะไรน่ะ" เด็กหนุ่มถามเสียงแหบพร่า ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าฝ่าความมืด อีกคนที่เหมือนจะตกใจหางและเขี้ยวเล็บทั้งหลายสลายไปทันทีราวกับถูกจับได้


"กินเจ้าไง" ปีศาจจิ้งจอกตอบอ้อมแอ้มแบบไม่เต็มเสียง ถึงกระนั้นก็ยังแสร้งตีหน้าถมึงทึงแต่ไร้ซึ่งความน่ายำเกรงสิ้นดี มู่ฉิงแค่นหัวเราะในลำคอ


ได้ เดี๋ยวได้กินแน่


"อ๊ะ!"


มู่ฉิงใช้จังหวะตอนอีกฝ่ายเผลอผลักเจ้าตัวจนหงายหลังลงไป พริบตาเดียวร่างที่เคยนั่งอยู่เหนือ ตอนนี้กลับเป็นฝ่ายตกอยู่ภายใต้อาณัติของเด็กหนุ่มเสียเอง


"ปล่อยข้านะ เจ้ามนุษย์!!" จิ้งจอกตัวน้อยดิ้นขลุกขลัก เส้นผมสีเข้มยาวสลวยสยายไปทั่วเตียงกว้าง อาภรณ์ที่ว่าวับแวมก็ยิ่งหลุดลุ่ยอวดผิวเนื้อเนียนมากกว่าเดิม คนใต้ร่างหน้าบึ้งตึงเอ่ยเสียงแข็งแต่ก็ทำอะไรมากไม่ได้เพราะตอนนี้สองมือถูกตรึงไว้กับผืนเตียงเสียเองแล้ว นัยน์ตาดั่งพลอยนิลนั้นกลอกไปมาเหลอหลาอย่างคนทำอะไรไม่ถูกชั่วขณะ


ตอนนี้มันผิดแผนไปหมด


"ไง จะกินผมไม่ใช่เหรอ" เด็กหนุ่มกระตุกมุมปาก ดวงตาจ้องคนใต้ร่างเขม็ง


ปีศาจจิ้งจอกพยายามดิ้นสุดกำลังแต่แรงตรึงบนข้อมือนั้นแข็งแรงมากเกินไป จนสุดท้ายก็ได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่ในใจ


ถ้าหลุดไปได้นะ ข้าจะเสกไฟจิ้งจอกเผาให้เกรียมเลย!


"ไง ยังอยากกินผมอยู่ไหม" เด็กหนุ่มเลิกคิ้วส่งไปให้ด้วยใบหน้าที่รู้สึกว่ากวนโอ๊ยสุดชีวิต เขาเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้จนอีกคนต้องร่นคอหนีโดยสัญชาตญาณ


ลมหายใจอุ่นเป่ารดอยู่ข้างลำคอจนรู้สึกขนลุกไปทั้งร่าง


“อยากรู้ไหม ว่าอะไรร้อนกว่าไฟจิ้งจอก” เสียงแหบพร่ากระซิบชิดใบหู มู่ฉิงมองดูใบหน้าหวานท่ามกลางความสลัวจากแสงจันทร์ลอดผ่านหน้าต่างเห็นเป็นริ้วแดงสีจางบนปรางแก้มนวล


“มะ ไม่อยากรู้” อีกคนตอบเสียงตะกุกตะกัก


ใบหน้าหมดจดขึ้นสีระเรื่อ แม้แสงจะมืดเพียงใดแต่เขาก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน ปีศาจจิ้งจอกแสนน่าเกรงขามตนนั้นหายไปไหนกันนะ ตอนนี้เหลือเพียงแค่ลูกจิ้งจอกตัวน้อยกำลังนอนสั่นเทาอยู่ตรงหน้า ใครจะรู้ล่ะว่าปีศาจก็มีจุดอ่อนกับเขาอยู่เหมือนกัน จากตอนแรกว่าจะแค่แกล้งเล่นแท้ๆ แต่ตอนนี้...


ริมฝีปากบางกดลงไปบนผิวเนื้อนุ่ม ดูดเม้มต้นคอขาวจนคาดว่ามันอาจจะเริ่มขึ้นสี ปีศาจตัวเล็กสะดุ้งเฮือก สองมือที่ถูกตรึงเอาไว้กระตุกเกร็งแล้วกำแน่น


“อื้อ…”


ตั้งใจจะเอียงคอหนีแต่กลับยิ่งเหมือนเปิดช่องทางให้คนโลภมากขึ้น


ต้นคอ


ปลายคาง


ปรางแก้ม


ไล้ไปจนถึงริมฝีปากอิ่ม


ปลายลิ้นเกี่ยวกระหวัดกวาดชิมความหวานอย่างไม่รู้จักพอ ริมฝีปากบดขยี้ราวกับต้องการให้สูญสลายอยู่ตรงนั้น เนิ่นนานกว่าจะพอใจ


ฮาลายูรีหอบหายใจหนักเมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ นัยน์ตาคู่สวยราวว่ากักเก็บเอาความงามของผืนฟ้ายามราตรีเอาไว้ทั้งหมดสั่นระริกขณะจ้องกลับไปยังคนด้านบน


จนถึงตอนนั้นเองปีศาจจิ้งจอกเริ่มเกิดคำถามในใจ ว่าใครกันแน่ที่กำลังจะโดนสูบพลังชีวิต


มือไม้ที่เคยขัดขืนตอนนี้กลับอ่อนยวบไม่เป็นท่า หน้าอกกระเพื่อมตามแรงหอบหายใจ ดวงตาเลื่อนลงตามเมื่อร่างสูงเคลื่อนตัวลงต่ำ


ตั้งแต่เมื่อไหร่... สาบเสื้อถูกแหวกออกพร้อมกับสัมผัสร้อนวูบวาบประทับไล้ลงไปเรื่อยๆ


บ้าเอ๊ย


ตั้งใจจะกินเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมาจะถูกกินเสียเอง



.
.
.


End?

.
.
.
.




ฝนพรำลงมาอีกแล้ว


ปีศาจจิ้งจอกนั่งเท้าคางอยู่บนศาลาริมน้ำภายในสวนหย่อมของปราสาท ริมฝีปากอิ่มยู่เล็กน้อย นึกไม่ชอบใจกับบรรยากาศชื้นๆ ในตอนนี้


“ไง~”


ส่วนต้นเหตุมาจากไหนคงไม่ต้องเดา


เขาหันไปหาต้นเสียง เด็กสาวตัวเล็กในชุดกระโปรงแปลกตามือข้างหนึ่งกำลังพยายามหุบร่มคันโตของตัวเอง


“มาทำไมอีกล่ะ เจ้าก็รู้ว่าข้าเกลียดฝน” เจ้าของปราสาทเอ่ยทักทายอย่างไม่ยินดียินร้าย


“เปล่า” อาคันตุกะคุ้นหน้าไหวไหล่พลางเดินมาทรุดตัวนั่งข้างกัน แสร้งชมนกชมไม้อยู่นานก็เอ่ยขึ้นมาลอยๆ


“เป็นไง”


“อะไร” คนถูกถามขานรับอย่างรำคาญ ไม่แม้แต่จะขยับมือรินน้ำชาเสิร์ฟตามมารยาท


“อร่อยป่ะ มนุษย์คนนั้นน่ะ” เด็กสาวเอนตัวเข้ามากระซิบใกล้ ใบหน้าเจ้าเล่ห์เสียเต็มประดา


ปีศาจจิ้งจอกหน้าตึงไปถนัดตา ยิ่งพอเหลือบสายตาไปเจอตัวต้นเหตุที่กำลังเดินเข้ามาทางนี้ใบหน้าก็ยิ่งเห่อร้อนมากขึ้นราวกับมีใครมาเสกไฟใส่หน้า มือขาวจนเกือบซีดยกขึ้นตะปบต้นคอตัวเองอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าชุดที่สวมใส่อยู่มิดชิดเพียงพอ สาวน้อยแต่อายุไม่น้อยยิ้มกริ่มกับท่าทางนั้นแล้วหันไปมองตามสายตาของเจ้าบ้านบ้างพบเข้ากับเด็กหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาใกล้ เจ้าตัวอยู่ในชุดคล้ายคลึงกับปีศาจตรงหน้าแต่ดูเบาสบายกว่า ผูกสายคาดเอวหลวมๆ ส่งผลให้สาบเสื้อแหวกออกเล็กน้อยพอให้มองเห็นแผ่นอกแน่นๆ ล่อตา เด็กสาวดึงสายตาหลับมาเหล่มองจิ้งจอกก่อนจะกลั้วหัวเราะในลำคอ


“แหม ท่าทางจะเด็ด”

.
.
.
Fin for real~






    555555 อยากได้เหตุผลไปทางอื่นแต่ถ้าแค่แวะมาหื่นเชิญทางนี้จ้า เรื่องสั้นไร้สาระประจำวัน
งานป่วง งานหยาบ งานอารายวะ เหมือนสติคนเขียนช่วงนี้ -.- อ่านจบแล้วอย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้กันด้วยน้า ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน ณ ที่นี้ค่ะ


หัวข้อ: Re: ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-09-2019 22:17:59
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Gedswato ที่ 17-09-2019 17:50:11
อ่านแล้วเพลินดีมากๆ
หัวข้อ: Re: ข้าจะกินเจ้า! [ตอนเดียวจบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ืืnanana21 ที่ 19-09-2019 19:22:54
น่ารักดีค่ะ
น้องโดนกินแล้ววว