ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หนังสือเก่า (Omegaverse)
Loammy
♥ - ♥ - ♥ - ♥
ผลงานเรื่องอื่น
เรื่องสั้น ...เป็นบ้า... (Omegaverse) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70270.0#lastPost) -- จบแล้ว
เรื่องสั้น : เสร็จโจร (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69603.0) -- จบแล้ว
เรื่องสั้น : "ก็แค่เจลหล่อลื่นธรรมดา ๆ" (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68362.0) -- จบแล้ว
เรื่องยาว : How to bake me สูตรอบรัก(YAOI) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=67880.0) --จบแล้ว
เรื่องยาว : Love you,bae รักนะ จุ๊บๆ (YAOI) (https://www.readawrite.com/a/a5442d14a3dc2f56981b84c2b48d99c8) --จบแล้ว
เรื่องยาว : Twins Love รักของฝาแฝด(YAOI) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=68618.0)
♥ - ♥ - ♥ - ♥
ติดแท็ก #โอเมก้าน่ารัก (https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81&src=typd) นะคะ
ช่องทางการติดตาม
Twitter : @LoammyLoammie (https://twitter.com/LoammyLoammie?lang=en)
Fackbook : LoammyLoammie (https://www.facebook.com/loammyloammie/?eid=ARCSK3b6ZsR2JbcCKiSjzxPVnjUBdFgVxjDqMCwuxXEaAL2GDG2f96o42RCmNSzf5MifDsD8LwgAXZXF)
▼▼▼▼▼▼▼
ซึ่งมันดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ผมอ่านหนังสือจบเล่มและไปซื้อเล่มที่เขาแนะนำกลับมา ผ่านไปราวๆ สี่เดือน ห้องของผมก็เต็มไปด้วยหนังสือมากมายเหมือนตอนที่รวีอยู่ บางเล่มผมอ่านแล้วไม่ค่อยถูกใจก็จะเก็บไว้ชั้นบนๆ ไม่ได้หยิบมาอ่านบ่อยแต่ก็ไม่มีความคิดที่จะขายทิ้ง ผมสบายใจที่เห็นชั้นที่เคยโล่งเต็มไปด้วยหนังสือแบบนี้
...ผมเข้าใจความคิดของรวีแล้ว
หนังสือทุกเล่มมันเหมือนที่เวทมนตร์ที่ทำให้ผมจำเหตุการณ์ต่างๆ ของผมและรวีได้เกือบทุกตอน เล่มนั้นผมเห็นเขานั่งอ่านไปร้องไห้ไปที่ตรงนั้น เล่นนี้ผมเห็นว่าเขาอ่านจนไม่ยอมนอนผมเลยต้องแกล้งปิดไฟ หรือเล่มโน้นผมจำได้ว่าเขาอ่านให้ฟังตอนที่ผมไม่สบาย
หนังสือมีเรื่องราวของตัวมันเอง แต่ก็เพิ่งรู้ว่าสามารถกักเก็บเรื่องราวและความทรงจำขณะที่อ่านไว้ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนรวีตอนนี้อวบอั๋นน่ากอด จะเรียกว่าอ้วนก็ไม่เต็มปากเพราะเขาใหญ่เป็นบางส่วนเท่านั้น ผมสงสัยเรื่องรูปร่างที่ใหญ่เฉพาะส่วนหน้าท้อง มันไม่ได้ใหญ่มากอะไรแต่ผมมองดูทีไรก็รู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูกทุกที เคยถามอย่างจริงจังแล้วแต่รวีก็บอกเพียงแค่ว่าเขากินเยอะขึ้นเลยทำให้มีรูปร่างลงพุงแบบนี้
และผมยังคงคิดไม่ตกกับรอบการฮีทของเขา ผมพยายามถามบ่อยๆ แต่รวีก็บอกแค่ว่ามันไม่มีอะไรผิดปกติ พอพูดบ่อยเข้าเขาก็มีสีหน้าเรียบเฉยและไม่ค่อยพอใจทุกครั้งที่พูดเอ่ยปากถาม ผมจึงไม่กล้าเซ้าซี้ถามต่อมาก เพราะกลัวว่ามันจะทำให้ความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นมากแย่ลงไปอีก แต่ก็คอยจับตาดูอยู่ห่างๆ
“อืม....คุณอ่านหนังสือเร็วมาก เบื่อหนังสือเก่ารึยัง ลองพักเบรกอ่านที่เพิ่งออกใหม่บ้างมั้ยครับ เล่มนี้เป็นไง...เพื่อนร่วมงานผมอ่านกันก็บอกว่าสนุกนะ”
“คุณเคยอ่านมั้ย?”
รวีเงียบไปครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า ผมจึงวางเล่มนั้นไว้ที่เดิม ผมเดินตามหลังเขามองหนังสือเล่มนู้นเล่มนี้ ก่อนที่เขาจะหยุดชะงักมองไปที่หนังสือเล่มหนึ่ง ปลายนิ้วเขาดึงสันหนังสือออกมาแต่แล้วก็เปลี่ยนใจดันไปไว้ที่เดิม
หนังสือเล่มสีเทาที่สันย่น และมีรอยยับเล่มนั้น... มันเหมือนเล่มที่ผมเผลอขว้างทิ้งไปเลยไม่ใช่เหรอ?
‘ไหนข้าวเย็นของผม’
‘ไม่ได้ทำไว้ คุณบอกว่าจะทานมาจากข้างนอก’
‘เวลาที่พูดกับผม คุณช่วยหยุดอ่านหนังสือซักนิดได้มั้ย?’
‘...’
‘โธ่เว้ย! หนังสือห่านี่มันมีอะไรวะ ถึงได้อ่านไม่หยุด!’
‘คุณ! หนังสือผมนะ แล้วโยนออกไปแบบนั้นถ้ามันโดนหัวคนอื่นขึ้นมาจะทำยังไง’
‘นั่นคุณจะไปไหน’
‘...ไปเก็บหนังสือ’
‘เหรอ...งั้นก็ช่วยกลับมาเก็บหนังสือพวกนี้ของคุณออกไปจากห้องผมด้วยนะ’
ผมหยิบหนังสือมาดู มันยับ สันย่นและมีรอยเปื้อนเหมือนว่าเล่มนี้คือเล่มที่ผมโยนทิ้งจริงๆ ผมมองหน้ารวีแล้วทรุดตัวนั่งลง วันนั้นผมเลวมาก นิสัยแย่จนแปลกใจถ้าหากรวีจะให้อภัยผมในวันนี้
“คุณ...เป็นอะไรรึเปล่า”
“เรื่องเลวร้ายที่ผมเคยทำกับคุณ ผมขอโทษ...ขอโทษจริงๆ”
“...” รวีเงียบไปพักใหญ่ เขามองตาผมริมฝีปากขบเม้มกันไปมา โอเค...ผมเข้าใจหากจะยังไม่ให้อภัยผม
“ไม่เป็นไร ผมรอได้….อืม ผมอยากได้เล่มนี้ครับ”
“แน่ใจนะ...ว่าอยากได้แค่นี้ มีอะไรที่อยากจะขออีกมั้ย” รวีพูดอะไรบางอย่างซึ่งผมไม่เข้าใจ เขาถอนหายใจและส่งยิ้มบางๆ ให้เพราะนึกว่าเขาหมายถึงหนังสือ
“หนังสือเล่มนี้...มันไม่สนุกเหรอ”
รวีเงียบไป เขามองหน้าผมแล้วส่ายหน้าไปมาช้าๆ มือก็ลูบไปตามปกหนังสือที่ค่อนข้างยับ
“มันสนุกมาก...สนุกจนหยุดอ่านไม่ได้ สนุกจนวางไม่ลงเลยล่ะ”
“งั้นผมจะซื้อเล่มนี้”
ผมได้หนังสือเล่มนั้นกลับมาสมใจ ผมอ่านมันตลอดทั้งคืน มาทำงานก็นั่งอ่านจนเลขาไม่กล้ากวน
มันสนุก สนุกจนละสายตาหยุดอ่านไม่ได้และวางไม่ลงอย่างที่รวีว่าไว้จริงๆ เพราะแบบนี้สินะเขาถึงไม่มองหน้าผมในตอนนั้น หนังสือหกร้อยกว่าหน้าผมใช้เวลาอ่านทั้งสิ้นประมาณสิบสี่ชั่วโมง ไม่รวมเวลาอาบน้ำและเข้าประชุม เย็นนั้นผมบอกกับเลขาว่าวันหยุดนี้ห้ามกวนเป็นอันขาด เธอรับปากว่าจะดูแลให้อย่างดี
พอตอนเย็นหลังเลิกงานผมก็ไปที่ร้านหนังสือนั้นเหมือนเดิมเพื่อซื้อหนังสือเล่มใหม่ เย็นนั้นเราไปทานข้าวเย็นด้วยกันและผมขอชวนรวีไปเดทกันอีกครั้งในวันหยุดของผม
รวีตกลงและเป็นคนขอเลือกว่าจะไปที่ไหน เช้าวันต่อมาเขาพาผมไปที่สวนแห่งหนึ่ง เราปิคนิคกันที่นั่น จากนั้นก็นอนเล่น รวีนอนหลับไปท่ามกลางสนามหญ้าสีเขียวและสายลมที่พัดมาอ่อนๆ ผมมีความสุขมากจนไม่อยากหลับตาเท่าไร อยากจะมองหน้าเขาไปนานๆ แต่เพราะอากาศดีๆ หลังอาหารว่างช่วงสายทำให้ผมง่วงเกินจะทน
“ผมรักคุณ”
ผมบอกรักเสียงหวาน ทั้งที่รู้ว่าเขาคงไม่ได้ยิน แต่ก็มีความสุขที่ได้บอกไป ผมดึงตัวนุ่มนิ่มเขาเข้ามากอด นี่คือครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่ผมได้กอดเขา ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเราจะคุยกันแล้วแต่รวีก็ยังแบ่งเส้นไม่ยอมให้ผมสนิทกับเขาจนเกินไป รวีไม่ให้ผมกอด ไม่ให้จับตัว มากสุดที่สามารถทำได้ก็แค่จับมือเพียงเท่านั้น
เพราะฉะนั้นการที่เขาหลับในวันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี ผมขยับให้เขาหนุนหัวบนแขนแล้วผมก็กอดเข้าที่หน้าท้องกลมๆ ของรวี ดมกลิ่นหอมชวนอบอุ่นใจแล้วหลับตาลง แต่ในจังหวะที่กำลังจะเคลิ้มหลับผมก็รู้สึกได้อะไรบางอย่างที่เคลื่อนไหวอยู่ใต้ฝ่ามือ
อะไรบางอย่างที่ว่าหายไปเมื่อผมลืมตาขึ้น ผมนิ่งอยู่สักพักก็คิดว่าคงรู้สึกไปเอง แต่ในวินาทีที่กำลังหลับตาลงบางสิ่งบางอย่างในท้องของรวีก็ถีบฝ่ามือผมอีกครั้ง
ผมลุกขึ้นนั่งนิ่ง ความรู้สึกงุนงนปนตกใจยังอยู่ในอก ผมมองหน้าท้องกลมๆ ของเขาและสัมผัสลงไปอีกครั้ง มันไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนคนอ้วนตัวไปเท่าไร พอลองสัมผัสดูดีๆ แล้วถึงได้รู้ว่ามันกลมนูนและตึง อีกทั้งความรู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างตามถีบมือผมเวลาที่ลูบหน้าท้องของรวีไปมา
คำบางคำผุดขึ้นมาในหัว เป็นการคาดเดาที่ทำให้ตัวเองตกใจเป็นอย่างมาก แต่หากคิดแบบนั้นจริงๆ มันก็ช่วยไขข้อข้องใจเรื่องรูปร่างและรอบฮีทของรวีได้ อีกทั้งพอลองคำนวณเวลาแล้ว มันก็ประจวบเหมาะอย่างพอดิบพอดี
รวียังคงนอนหลับในขณะที่ผมค่อยๆ เลิกชายเสื้อเข้าขึ้น ใจผมแทบเด้งออกมาจากอก เมื่อท้องขาวกลมปรากฏอยู่ตรงหน้า รอยแตกสีแดงจางๆ ขึ้นริ้วอยู่สองสามเส้นและเมื่อลองทาบฝ่ามือลงบนหน้าท้อง อะไรบางอย่างก็นูนขึ้นมาเป็นคลื่นๆ ให้ผมยิ่งมั่นใจ
ผมยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง น้ำตารื้นมาจากไหนไม่รู้ ผมลูบไปทั่วหน้าท้องของเขา เจ้าตัวเล็กข้างในนั้นก็ตามถีบมือผมไม่หยุด จนรวีรู้สึกตัว เขาลืมตาขึ้น รีบลุกขึ้นนั่งและดึงเสื้อคลุมหน้าท้องตัวเองเอาไว้
“รวี...คุณท้อง” ผมพูดเสียงสั่น ขยับตัวเข้าไปหาเขาเพื่อที่จะสัมผัสท้องกลมนั้นอีกครั้ง
“...” รวีขยับหนีเพียงเล็กน้อย ผมหยุดมือมองเขาทั้งน้ำตา รวีเม้มปากและนั่งนิ่งๆ ยอมให้ผมทาบฝ่ามือลงไป
“ล...ลูกของเรา” เจ้าตัวเล็กข้างในนั้นถีบมือผมอีกครั้ง
“คุณร้องไห้ทำไม เสียใจเหรอ?” รวีถาม เขาก้มหน้ามองหน้าท้องตัวเอง
“ดีใจ...รวี ผมกำลังดีใจ” ผมส่ายหน้าตอบออกไปและค่อยก้มลงจูบอย่างแผ่วเบาที่หน้าท้องนั้น จากนั้นก็ขยับเข้าไปกอดเขาเอาไว้ ดมกลิ่นหอมชวนอบอุ่นหัวใจจากเขา นี่เองสาเหตุที่เขามีกลิ่นที่เปลี่ยนไป…
“ทำไมคุณถึงไม่บอกผม…คุณลำบากมากมั้ย?”
“...”
“ผมขอโทษสำหรับสิ่งที่ผมทำ รวีคุณให้โอกาสผมอีกครั้งได้มั้ย? ผมคิดถึงคุณ ผมรักคุณ”
“...” รวีมองตาผม เขาเม้มปากแล้วจ้องมองอยู่แบบนั้น จ้องคล้ายคนกำลังรอคอยอะไรซักอย่าง ผมจึงบอกรักและขอโทษเขาอีกครั้ง รวีก็ถอนหายใจและนั่งนิ่งๆ ให้ผมกอด เขาจับมือผมลูบให้ลูบไปมาตามหน้าท้องของตัวเอง
“ลูกดิ้นใหญ่เลย แข็งแรงจังเลยเจ้าตัวเล็ก”
“อืม...วันนี้ดิ้นเยอะเป็นพิเศษ เขาคงรู้ว่ามือนี้เป็นของคุณ” วีอมยิ้มเล็กๆ ผมจับเขาขึ้นนั่งตักให้เขาพิงอกผมเอาไว้ สองมือผมสอดเข้าไปใต้เสื้อ สัมผัสกับหน้าตึงแน่นนั้นโดยตรงแล้วลูบไปมาเบาๆ
พอได้มามองและลองสัมผัสแบบนี้แล้ว ท้องเขาไม่เล็กเลย อีกทั้งดูท่าจะมีน้ำหนักไม่น้อย นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้วีเดินได้ช้า และนั่งนานๆ ไม่ได้ ผมซบหน้าลงกับไหล่ของเขา ในหัวก็คิดถึงตอนที่เขาใช้ชีวิตคนเดียวโดยที่อุ้มท้องโตแบบนี้ คงลำบากมากเลยใช่มั้ย?
“วี…”
“หืม”
“คุณจะยอมมั้ย หากผมขอให้กลับมาอยู่ด้วยกัน”
ผมถามและรอคำตอบด้วยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ผมขอมากไปรึเปล่า เร่งรัดเขามากไปรึเปล่า รวียังไม่ทันให้อภัยผมเต็มร้อยก็ชวนกลับมาอยู่ด้วยกันเสียแล้ว
“...”
“ผมรู้ว่าคุณยังไม่อยากให้อภัย แต่ผมไม่อยากให้คุณอยู่คนเดียว”
“...”
“ผมสัญญาผมจะดูแลคุณให้ดี ผมรักคุณมากจริงๆ และได้รับรู้ว่าขาดคุณไม่ได้
“...”
“ รวี...กลับมาอยู่กับผมนะ ได้โปรด”
ผมขอร้องอย่างถึงที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ จากคนในอ้อมกอด มีเพียงไหล่เล็กที่เริ่มสั่นแรงขึ้น ผมเงยหน้ามองหันตัวเขากลับมาดูก็พบว่าอีกฝ่ายร้องไห้ และเริ่มสะอึกสะอื้นจนผมตั้งตัวไม่ถูก
“คุณ...ฮึก คุณรู้มั้ยว่าผม...รอคำนี้มานานแค่ไหน” รวีซบหน้าลงกับฝ่ามือ น้ำตาหยดน้อยไหลออกมาจนผมเช็ดให้ไม่ทัน
“วี”
“ผมอยากให้คุณพูดคำนี้มาตั้งแต่ต้น อยากกลับไป แต่คุณกลับไม่เคยพูดเลยสักนิด ฮึก หากคุณไม่พูดชวนก่อนแบบนี้ ใครจะกล้ากลับไปให้โดนด่าอีก ฮือ”
ผมกอดเขาเอาไว้และคิดตามที่รวีพูด จริงด้วยสิ...ผมเอาแต่พูดว่าคำว่าคิดถึง พูดขอโทษ พูดว่ารัก แต่ไม่เคยมีเลยสักครั้งเดียวที่ผมจะพูดขอให้เขากลับไปอยู่ด้วยกัน ไม่เคยนึกจะถามก่อนเลย
ผมมันคนโง่ พลาดมาตั้งแต่ต้นจริงๆ
เรากอดกันแน่นขึ้น ผมปลอบเขาจนหยุดร้องและช่วงบ่ายในวันนั้นผมก็รีบไปขนของจากห้องพักของเขาไปที่ห้องของเราทันที
“คุณดันเตียง เข้ามุมหน่อยให้หน่อยได้มั้ย ตรงนี้มันสว่างไป”
ผมดันเตียงให้ตามที่เขาต้องการ จัดการจัดหมอนนับสิบใบให้เรียงกันบนเตียงและปูผ้านวมทับกันหลายชั้นจนดูนุ่มฟูไปหมด ผมเข้าใจว่านี่คือรังของเขา
“นี่มันเสื้อผมนี่…ไหนคุณบอกว่าทิ้งไปแล้ว แล้วทำไมมันขาดแบบนี้” ผมชูเสื้อตัวเองขึ้น ขายเสื้อคลุมแหว่งไปเป็นชิ้นๆ ไม่เหลือเค้าเสื้อราคราแพงเลยซักนิด
“ตอนท้องใหม่ๆ ผมต้องตัดชายเสื้อคุณมาพกติดตัวเอาไว้ถึงจะรู้สึกสบายใจ” รวีหยิบเศษผ้าที่เขาตัดออกมาส่งให้ดูจากนั้นก็ยิ้มเขิน น่ารักเสียจนก้มลงหอมแก้มเขาทั้งสองข้าง
รวีเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของผม หยิบเสื้อของผมมาอีกหลายตัว โยนเสื้อเหล่านั้นลงบนรัง แล้วเขาก็ค่อยๆ ขยับขึ้นไปซุกตัวลงบนกองเสื้อผ้าเหล่านั้น
“หมอนเต็มเตียงไปหมด แล้วคืนนี้ผมจะนอนไหนล่ะครับ”
ผมพูดแซว รวีโผล่ใบหน้าออกมายิ้มแล้วขยับตัวให้ผมลงไปนอนข้างๆ กัน เรานอนเล่นกันไปซักพัก ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ขนหนังสือเขากลับมาด้วย ที่ห้องเขาก็เห็นอยู่แค่ไม่กี่เล่ม
“รวี แล้วหนังสือของคุณล่ะ ทำไมไม่ขนกลับมาด้วย คุณเอาไปไว้ที่ไหน”
เขาลุกออกมาจากกองผ้า เดินไปที่ชั้นหนังสือแล้วเดินดูไปรอบๆ อยู่ครู่หนึ่ง
“อืม...ผมคิดว่าส่วนใหญ่อยู่นี่หมดแล้ว”
“...หะ?”
“คุณรู้มั้ยว่าผมดีใจมากแค่ไหนที่คุณจำหนังสือของผมได้เกือบทุกเล่มแบบนี้” เขายิ้มเดินเข้ามากอดคอผม ดึงลงไปแล้วจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากในขณะที่ผมยังคงงุนงง
“อะไรนะ? ผมไม่เข้าใจ”
“ทั้งหมดนี่ คือหนังสือที่เคยเป็นของผม”
“...”
“ห้องใหม่มันเล็กมากผมจำเป็นต้องขายให้กับร้านที่ผมไปทำงาน แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันคุณก็มาขอให้ผมแนะนำหนังสือดีๆ ให้...”
“คุณก็เลยหลอกขายหนังสือของคุณให้ผม?”
“หลอกอะไร คุณเลือกของคุณเองทั้งนั้น” เขาหัวเราะเสียงใส ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้น่าบีบแก้มนัก
แต่ก็...ใช่ ผมเป็นคนเลือกเองจริงๆ เขามักจะแนะนำมาสองสามเล่ม แต่สุดท้ายผมจะเป็นคนตัดสินใจเลือกเอง...เลือกเล่มที่เคยเห็นเขาอ่าน
“อ้อ...แต่สิ่งที่ผมต้องทำก็คือ เลือกและเตรียมหนังสือที่ช่วยทำให้คุณคิดถึงเรื่องของผม ได้ผลดีเหมือนกันเนอะ”
“ร้ายกาจไม่เบา”
เดี๋ยวอาจจะแวบมาแต่งอีกซักตอนนึงนะคะ อยากแต่งเจ้าตัวเล็กเล่นกับคุณพ่อ > <
#โอเมก้าน่ารัก (https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81&src=typd)
loammyloammie
หนังสือเก่า (end)
หลังจากที่รวีกลับมาอยู่กับผมได้ไม่ถึงเดือน เขาก็คลอดเจ้าตัวเล็กออกมา ถึงแม้ว่าจะเป็นการคลอดก่อนกำหนดและตัวเล็กกว่ามาตรฐานแต่ลูกของเราก็แข็งแรงดี เป็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักน่าชังแถมยังร้องเก่งอีกตังหาก
เราตั้งชื่อเขาว่า อคิณ ซึ่งแปลว่าดวงอาทิตย์ ความหมายเดียวกันกับชื่อของรวี
ตอนนี้ผมมีพระอาทิตย์ที่สวยงามสองดวงเป็นของตัวเอง
รวีเลี้ยงลูกเก่งกว่าที่ผมคิดไว้ ช่วงที่เขาคลอดใหม่ๆ ผมคิดว่าจะจ้างพี่เลี้ยงมาช่วย แต่รวีก็ยืนยันว่าเขาทำได้ซึ่งเขาก็ทำได้ดีจริงๆ รวีบอกว่าเป็นสัญชาติญาณ จะมีก็แต่ผมนี่แหละเก้ๆ กังๆ แถมเข้ากับลูกไม่ค่อยได้...
เขาตัวเล็กมาสำหรับผม อีกทั้งผิวเด็กทารกก็บาง ทุกอย่างของลูกดูเปราะบางไปหมดและผมกลัวจะทำลูกเจ็บ เวลาจะกอดลูกทีต้องนั่งอยู่กับที่นอน กว่าจะกล้าอุ้มลูกขึ้นบ่าได้ก็เดือนที่สามเข้าไปแล้ว
แต่ดูเหมือนว่าลูกจะไม่ค่อยชอบให้ผมอุ้มเท่าไรเลย...
“หนูจะเอาอะไรอ่ะลูก พอไม่อุ้มก็ร้อง แต่พอพ่อจะอุ้มหนูก็ถีบมือพ่ออ่ะ มันเป็นยังไงครับ ไหนบอกพ่อซิ”
ผมพูดอย่างจนใจกับเด็กชายตรงหน้าที่เหมือนกับว่าพยายามถีบมือผมออก เวลาผมอุ้มเขาขึ้นมาไม่ถึงนาทีเขาก็จะร้องไห้จนผมโดนรวีดุอยู่บ่อยๆ เพราะนึกว่าผมแกล้งลูก แต่พอผมจะผละออกเจ้าตัวเล็กก็ส่งเสียงร้องเรียกจนผมเอาใจไม่ถูกเลยทีเดียว
“เอาแต่ใจจังเลย...หนูดื้อกับพ่อแบบนี้ได้ แต่ห้ามดื้อกับคุณแม่นะครับ แม่เขาเหนื่อยนะ”
ใช่...ผมรับรู้ได้ว่ารวีเหนื่อยมาก เขาต้องตื่นขึ้นกลางดึกหลายรอบเพื่อให้นมเจ้าตัวเล็ก ผมพยายามที่จะตื่นขึ้นมาทำแทนบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้วรวีจะเป็นคนถึงตัวลูกก่อนอยู่เสมอเลย
“แอ้ แอ้…” เด็กชายตัวเล็กตรงหน้ามองผมตาแป๋ว มือเล็กกำรอบนิ้วผมเอาไว้พลางส่งเสียงอ้อแอ้เหมือนกับว่าเขากำลังพูดตอบผมอยู่ หากนอนเล่นแบบนี้เขาจะไม่งอแงเลย แต่ผมก็อยากจะกอดอยากจะอุ้มเจ้าตัวเล็กบ้างอยู่ดี
ผมยิ้มเมื่อเขาหาวจนปากกว้าง ก้มลงไปตั้งใจจะหอมแก้มลูกให้ชื่นใจ แต่เจ้าตัวเล็กก็ยกสองเท้าเล็กๆ ขึ้นมาแปะไว้ที่ปาก ผมก็เลยผละออกแล้วก้มลงไปใหม่ แต่ลูกก็ยังทำแบบเดิม ส่งเสียงอ้อแอ้และยกฝ่าเท้าเล็กดันปากผมเอาไว้เหมือนกับว่าไม่ยอมให้ผมก้มลงไปหอมแก้มได้
“ถีบอีกแล้ว ขาแข็งแรงจริงๆ”
“เขาชอบถีบคุณมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในท้องแล้วนะ” รวีเดินออกมาจากห้องครัว ส่งแก้วน้ำเย็นมาให้ผมดื่ม ผมยกน้ำขึ้นจิบเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองหน้าเจ้าตัวเล็ก
จริงอย่างที่รวีพูด ก่อนที่รวีจะคลอดเวลาที่ผมลูบท้องหรือแนบหูไปกับท้องรวีทีไร ก็จะได้ฝ่าเท้าของลูกมาทักทายอยู่ทุกครั้ง ถึงแม้จะคลอดออกมาแล้วผมก็ยังโดนฝ่าเท้าน้อยๆ นี่ทักทายอยู่บ่อยๆ
“ทำไมถึงชอบถีบพ่อครับ ไม่อยากให้พ่อหอมเหรอตัวเล็ก”
ผมเลิกคิ้วขึ้นแล้วพูดเสียงเล็กเสียงน้อย อคิณส่งเสียงอืออาขยับมือไม้ไปมา แถมยังยิ้มจนเหงือกบานเมื่อผมดันปลายจมูกสู้กับฝ่าเท้านุ่มนิ่มของลูกชาย
“ไม่ให้หอมแก้ม พ่อก็หอมเท้าลูกได้ น่ามันเขี้ยวจริงๆ เลย”
“คุณตัวเหม็นรึเปล่า ลูกเลยไม่ยอมให้จุ๊บ”
“จุ๊บแก้มลูกไม่ได้ งั้นจุ๊บแก้มแม่แทนแล้วกัน” ผมผละออกจากลูกแล้วดึงตัวคุณแม่ยิ้มสวยมากอดเอาไว้ กดปลายจมูกลงบนแก้มนวลทั้งสองข้างสลับกันไปมา
“พอแล้วคุณ เดี๋ยวลูกร้อง”
“แอะ...แอ้!” พูดยังไม่ทันขาดคำ เจ้าลูกชายตัวดีก็เบะปากส่งเสียงร้อง ทำให้รวีดันตัวผมออกแล้วยกตัวลูกชายขึ้นอุ้มลูบหลังพลางโยกตัวไปมาเบาๆ เพียงเท่านั้นอคิณก็หยุดร้องไห้อย่างง่ายดาย
“ทำไมพ่อกอดแม่ทีไรหนูต้องร้องทุกทีเลยอ่ะลูก หวงแม่เหรอ ฮึ?” ผมเดินอ้อมไปด้านหลังรวี พูดกับเจ้าตัวเล็กที่ทำตาแป๋วแว๋วมองมา ปาดน้ำตาเม็ดเล็กออกจากแก้มกลมแล้วส่งยิ้มให้เขา
“คุณเล่นไปก่อนนะ ห้ามทำลูกร้องด้วย ผมจะไปเตรียมกะละมังอาบน้ำให้ลูก”
รวีวางเจ้าตัวเล็กลงบนเตียงนุ่มแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ เจ้าตัวเล็กทำท่าจะร้องตามแม่ แต่ผมก็คว้าเอาของเล่นกรุ๊งกริ๊งมาสั่นให้เกิดเสียงเรียกร้องความสนใจจากเจ้าตัวเล็กได้เป็นอย่างดี ผมยิ้มและมองดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มของลูกชายที่เริ่มมองตามของเล่นได้บ้างแล้ว มือเล็กๆ ก็ชูขึ้นจะหยิบของเล่นจากมือผมให้ได้
“เสร็จพ่อล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” ผมใช้จังหวะที่เขาเผลอก็ก้มลงหอมแก้มใช้ปลายจมูกฟัดหน้าท้องนุ่มนิ่มมีกลิ่นน้ำนมจากตัวลูกอย่างชื่นใจ อคิณส่งเสียงอ้อแอ้สองมือเล็กของเขาดึงเส้นผมของผม สองขาก็ปัดป่ายไปมาแต่สักพักเขาก็นิ่งไป ใบหน้าของลูกแดงขึ้นเล็กน้อยเหมือนเขากำลังเบ่งอะไรบางอย่างก่อนจะตามมาด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์ในผ้าอ้อม
ผมเงยหน้าขึ้นและก้มหน้าลงดมอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และมองหน้าเจ้าตัวเล็กที่กำลังส่งยิ้มโชว์เหงือกมาให้
“แอ้…”
ปู้ด~
“โอโห ลูกอึ!”
ผมรีบอุ้มลูกเข้าไปหาวีเพื่อล้างก้น แต่วีกำลังวุ่นอยู่กับการเตรียมน้ำจึงเป็นผมที่ล้างก้นให้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเห็นลูกอึ แต่เป็นครั้งแรกที่ล้างเองกับมือ...เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ดี
“อ๊ะ ผมลืมหยิบผ้าอ้อมเข้ามา” รวีพูดจบเขาก็เดินออกไปด้านนอก ผมหันกลับมาหาลูกชายที่นอนดีดขาอย่างร่าเริง อคิณเป็นเด็กที่ชอบเล่นน้ำ หลังจากอาสบน้ำเสร็จแบบนี้เขาจะร่าเริ่งและคึกเป็นพิเศษ
“เป็นยังไง สบายตัวแล้วใช่มั้ยครับ” ผมอุ้มลูกมาให้อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้า อคิณที่ไม่ชอบให้ผมอุ้มเริ่มเบะปากทำท่าจะร้อง แต่พอผมส่งยิ้มพูดเล่นกับเขาแล้วยกแขนขึ้นเขาก็ดูจะชอบใจเพราะยิ้มกว้างจนเห็นเหงือกอีกทั้งส่งเสียงไม่หยุด สองขาเล็กๆ ก็ตีอากาศไปมาอย่างร่าเริง
“แอ้ แอ้”
“ยอมให้พ่ออุ้มแล้วเหรอ ชอบเหรอครับ สนุกใช่…”
จ๊อก~
น้ำอุ่นสีใส พุ่งออกจากจุ๊ดจู๋น้อยเข้าที่ใบหน้าเต็มๆ ถึงจะตกใจแต่ก็ปล่อยลูกไม่ได้ สุดท้ายจึงได้แต่ยืนหลับตานิ่งๆ ให้ลูกฉี่ใส่จนหมดก็อก พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นลูกชายตัวแสบที่ยังคงยิ้มและขยับขาไปมาอย่างอารมณ์ดี
“คุ๊ณ!” รวีเดินเข้ามาพอดี เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนพิงประตูแล้วหลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง ขำจนพอใจก็มารับลูกไปทำความสะอาดและแต่งตัวให้ เจ้าตัวแสบก็เป็นเด็กดีเมื่ออยู่กับแม่ นอนยิ้มนิ่งๆ ให้รวีใส่เสื้อผ้าให้ แถมยังเสียงอ้อแอ้คุยรวีอยู่ตลอดอีกตังหาก
“ตัวแสบ ทั้งอึทั้งฉี่เลยนะ นี่พ่อนะไม่ใช่กระโถน”
“หึหึ เข้าปากบ้างมั้ย?” วีอุ้มลูกไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างก็ใช้ผ้าขนหนูซับไปตามใบหน้าของผม ก่อนจะหัวเราะออกมายกใหญ่เมื่อผมตอบออกไป
“...จะเหลือเหรอคุณ เผลอกลืนลงคอไปอีกตังหาก”
นอกจากล้างก้นลูกแล้ว การกินฉี่ลูก...นี่ก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่สำหรับผมเช่นกัน
“ทำงานเสร็จแล้วเหรอ” ผมพยักหน้าแล้วค่อยๆ ทิ้งตัวนอนบนเตียงข้างๆ เขา ตอนนี้ดึกมากแล้วแต่เพราะมีงานกะทันหัน ผมจึงต้องคุยงานกับเลขาอยู่นาน
“รวี...ง่วงรึยัง”
ผมขยับตัวกอดอีกฝ่าย ซุกใบหน้าลงที่ลำคอของเขา รวีพลิกตัวขยับเข้าหาผมแล้วส่งยิ้มให้ ฝ่ามืออบอุ่นลูบแก้มและขยับเข้ามาจูบอย่างแผ่วเบา ในขณะที่มือของผมก็สอดเข้าใต้เสื้อลูบไล้ผิวเนียนอย่างคิดถึง รวีหัวเราะคิกคักเมื่อเจ้าหนูของผมมันตื่นตัวขึ้นดันกับหน้าท้องของเขา
“ทำไมตื่นง่ายจัง?”
“ก็ผมคิดถึงคุณ คิดถึงมากๆ...”
ผมพูดเสียงแผ่ว ไล้ปลายนิ้วไปตามกลีบปากอวบอิ่มอย่างหลงไหล คิดถึงรสชาติหอมหวาน กลิ่นกายหอมหวญคิดถึงร่างกายของเขา…
รวียิ้มหวานแล้วขยับตัวขึ้นนั่งบนตักผม สองมือของเขาลูบส่วนนั้นผ่านกางเกงจนมันตื่นตัวเต็มที่ก่อนที่เขาจะละมือขึ้นที่ขอบกางเกง
“ผมถอดกางเกงคุณออกได้มั้ย?”
“ถอดมันออกเลยที่รัก” สิ้นคำของผมรวีก็ค่อยดึงกางเกงผมลงอย่างช้าๆ ผมมองรวีอย่างไม่วางตา แววตาเขากรุ้มกริ่มน่ารักอีกทั้งยังกัดปากน้อยๆ ผมรู้ว่าเขากำลังยั่วผม ซึ่งเขาทำได้ดี…
“แอ้! แง~”
ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น เสียงร้องของอคิณก็ดังขึ้น รวีสะดุ้ง เขามองผมตาตื่นแล้วรีบวิ่งไปหาลูกทันที ผมนอนกระพริบตาปริบๆ ผงกหัวมองตรงส่วนนั้นของตัวเองที่ยังคงตื่นตัวก่อนจะเงยหน้ามองเพดานแล้วถอนหายใจออกมาอย่างอึดอัด คืนนี้ก็คงต้องโลกสวยด้วยมือตัวเองอีกแล้วสินะ...
ตั้งแต่รวีท้องจนมาถึงตอนนี้ ราวๆ หนึ่งปีได้ที่ผมกับรวีไม่ได้มีอะไรกันเลย พอมีจังหวะแบบนี้ทีไร อคิณก็จะแหกปากร้องขึ้นมาทุกที
เจ้าลูกชายตัวแสบ…
“อย่านะคุณ เดี๋ยวลูกร้องอีก ผมขี้เกียจปลอบแล้ว”
ผมชะงักเมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาก็หวังว่าจะกอดเมียหอมลูกให้หายเหนื่อยเสียหน่อย แต่ก็เจอรวียกมือขึ้นดันอกไม่ยอมให้สวมกอดเพราะเขากลัวว่าลูกจะงอแง
ผมถอนหายใจยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง มองรวีที่ก้มหน้าเล่นกับลูกอย่างน่ารัก ระยะหลังมานี้เราไม่ค่อยได้กอดกันเท่าไรเพราะอคิณงอแงหนักมาก ผมพยายามจะช่วยเขาเลี้ยงแล้ว แต่หากมีรวีอยู่ใกล้ๆ ลูกจะไม่ยอมให้ผมอุ้มเลย…
และในวันหยุดที่ไม่ต้องไปทำงานแบบนี้สิ่งที่ผมพอจะช่วยรวีได้ก็คือการซักผ้าอ้อม และเตรียมของต่างๆ ไว้ให้เขาหยิบจับได้สะดวก
“ผมเตรียมผ้าอ้อมไว้ให้แล้วนะ...”
ผมชะโงกหน้าออกมาจากห้องน้ำหลังจากเตรียมเสื้อผ้าและผ้าอ้อมให้ลูกเสร็จ แต่ก็เห็นว่าอคิณกำลังส่งเสียงหัวเราะอย่างน่ารักเมื่อรวีก้มหน้าลงกดปลายจมูกไปมาที่แก้มกลมของลูก ผมมองภาพนั้นอย่างมีความสุขและเดินเข้าไปหา ตั้งใจว่าจะไปร่วมวงเล่นด้วยเสียหน่อย
“เล่นอะไรกัน ขอพ่อเล่นด้วยคนได้มั้ยครับ?”
“แอ้!” แต่เพียงแค่ผมวางมือลงบนไหล่ของรวี เจ้าอคิณตัวแสบก็เบะปากร้องออกมา ทำให้รวีปัดมือผมมออกทันที
“โอ๋ๆ พ่อจะไม่เข้าใกล้แม่แล้วครับ ไม่ร้องนะคนเก่ง...คุณช่วยขยับออกไปก่อนนะ วันนี้ลูกดูอารมณ์ไม่ดีเลย” รวีพูดกับผมด้วยน้ำเสียงแบบช่วยไม่ได้ในขณะที่มือก็ลูบหลังเล็กๆ แล้วโยกตัวไปมา ผมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลูกถึงไม่ชอบผม แถมตอนนี้ก็โดนรวีบอกให้อยู่ห่างๆ อีก ผมรู้สึกเหมือนเป็นหมาหัวเน่าขึ้นมาทันทีเลย…
ปกติแล้วเราสามารถงอนเมีย งอนลูกได้มั้ย...ผมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังเป็นแบบนั้น
“ลูกก็ไม่ค่อยยอมให้อุ้ม เมียก็ไม่ยอมให้กอดอีก”
“คุณ…”
“อย่าใส่ใจเลย...ไม่มีอะไรหรอก ผมก็แค่บ่นเฉยๆ”
รวีคงรับรู้ได้ว่าผมกำลังน้อยใจ เพราะได้ยินว่าเขาพยายามพูดถึงผมให้ลูกฟัง แต่ผมก็ไม่อยากให้ลูกงอแงไปมากกว่านี้จึงออกมานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่ระเบียง ตาก็ชะเง้อมองเข้าไปในห้องตลอด มองดูรวีที่กำลังให้นมและพยายามกล่อมลูกให้นอนระหว่างวัน
เราสบตากันและรวีก็ส่งยิ้มให้ผมผ่านประตูกระจกกั้นระเบียง ผมเองก็ยิ้มตอบมองใบหน้าที่อิดโรยเล็กน้อยเนื่องจากนอนไม่เพียงพอ...ผมรู้ว่าเขาเหนื่อย การเลี้ยงเด็กนั้นเหนื่อยจริงๆ แถมผมเองก็ช่วยเขาไม่ได้เยอะ
เมื่อครู่นี้ผมทำตัวงี่เง่าไปและตอนนี้ก็เริ่มรู้สึกผิด เลยคิดว่าจะพูดคุยเป็นปกติตอนที่รวีถาม และก็จะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการกอดหรือสัมผัสตัวเขาเวลาอยู่ต่อหน้าลูกด้วย
“คุณ...ลูกหลับแล้ว ช่วยไปนั่งเป็นเพื่อนลูกหน่อยได้มั้ย ผมว่าจะโทรคุยกับคุณหมอเสียหน่อย”
“หมอ? ลูกเป็นอะไร หรือคุณเป็นอะไร” ผมรีบวางหนังสือลงแล้วลุกขึ้นไปหารวี แนบฝ่ามือไปกับแก้มของเขาเผื่อว่าเขาจะไม่สบาย การพักผ่อนน้อยของรวีทำให้เป็นห่วงกลัวว่าเขาจะป่วยขึ้นมา
รวียิ้มบางๆ ดึงมือของผมลงไปจูบ มองผมด้วยสายตารักใคร่ เพียงเท่านั้นความน้อยใจในก่อนหน้านี้ก็สลายไปทันทีเลย
“ลูกกับผมสบายดี แค่มีเรื่องอยากปรึกษาคุณหมอเฉยๆ”
“ปรึกษาเรื่องอะไร” ผมถามและรวีไม่ยอมตอบ แขาแค่ส่งยิ้มและดันผมให้เข้าไปในห้อง
“ไปนอนอ่านหนังสือใกล้ๆ ลูกนะแต่ต้องระวังอย่าทำลูกตื่น”
ผมมองหน้าเขาอีกครั้งและกดจูบลงที่หน้าผากของรวี เดินเข้าไปหาอคิณ ทิ้งตัวนั่งลงใกล้ๆ เปลนอนและมองใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกที่หลับตาพริ้ม...ถึงแม้รวีจะบอกว่าระวังอย่าทำลูกตื่น แต่นี่ก็เป็นโอกาสเดียวที่ผมจะหอมแก้มลูกได้
“ขอพ่อหอมหนูหน่อยนะลูก” ผมบอกเสียงแผ่วไล้ปลายนิ้วไปตามสันจมูกเล็กๆ ของลูกชาย ขยับตัวอย่างเชื่องช้า และค่อยๆ ก้มใบหน้าลงกดปลายจมูกลงบนแก้มของลูก พยายามจะทำอย่างอ่อนโยนที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมผละตัวออกห่างเมื่ออคิณส่งเสียงพร้อมทั้งขยับแขนเล็กนั่น และถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเปลือกตาสีอ่อนของลูกยังคงปิดสนิทอยู่เช่นเดิม ผมขยับตัวออกมานั่งห่างจากเปลนอนเล็กน้อย มองดูเด็กชายที่ผมเพิ่งจะรู้จักได้ไม่กี่เดือน
ใบหน้าน่ารักของอคิณเหมือนรวีมากกว่าผม ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องดี เวลาไปไหนมาจะได้มีแต่คนเอ็นดูเขา
ผมหันมองรวีที่กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ตรงระเบียง ในช่วงแรกผมเห็นว่าเขามีสีหน้าเคร่งเครียดเล็กน้อยแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ดูผ่อนคลายขึ้น เมื่อคุยเสร็จเขาเดินเข้ามาหา จัดการเตรียมของและผักผ่อนในระหว่างที่ลูกหลับ
ตามปกติแล้วผมนึกว่ารวีจะให้ลูกนอนสองครั้งในระหว่างวัน คือรอบเช้า พอลูกตื่นก็พากินนมและเล่นกับลูกซักเล็กน้อย จากนั้นก็พาเข้านอนในรอบบ่ายประมาณสองถึงสามชั่วโมง แต่นี่เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมง รวีก็เดินเข้ามาปลุกเจ้าตัวเล็กเสียแล้ว
เพราะหลับไม่เต็มอิ่ม ทำให้อคิณมีอาการงอแงอย่างหนักในช่วงแรกแต่พอรวีชวนเล่นของเล่นก็กลับมาร่าเริงปกติ ผมเองก็นั่งมองอยู่ไม่ไกล ลูกหันมาสนใจเมื่อในมือผมมีของเล่นแต่ยังคงถีบมือและไม่ยอมให้อุ้มเท่าไร พอสบโอกาสจะจับอุ้มตอนที่เผลอ อคิณก็เบะปากเตรียมร้องจนผมวางลงแทบไม่ทัน
“คุณอยากกล่อมลูกนอนมั้ย?”
ผมเลิกคิ้วขึ้น มองเด็กน้อยที่กำลังร้องให้โยเยเพราะง่วงนอนในอ้อมกอดของรวี ตอนนี้เป็นช่วงหัวค่ำแล้ว เลยเวลานอนของอคิณมาเล็กน้อย แต่ก็ทำให้เจ้าลูกชายที่หลับไม่เต็มอิ่มมาตั้งแต่ช่วงบ่ายงอแงไม่หยุด แล้วรวีจะให้ผมไปกล่อมลูกนอน...คงเป็นความคิดที่ไม่ดีเท่าไร
“จะดีเหรอ เดี๋ยวก็ร้องห้องแตกกันพอดี”
“มาลองดูสิ...”
ผมเดินเข้าหารวี เตรียมจะรับลูกมาอุ้ม แต่เขาก็วางลูกลงบนฟูกแล้วหันไปหยิบกระป๋องแป้งของลูกมาเทใส่มือแทน ผมมองอย่างไม่เข้าใจเมื่อรวีถูฝ่ามือไปมาแล้วเอาแป้งตามใบหน้าและลำคอของผม
“ตัวผมเหม็นจริงๆ เหรอ”
ผมถามอย่างไม่มั่นใจ เรื่องกลิ่นเป็นเรื่องคิดหนักและคิดมาก เพราะมันอาจเป็นสาเหตุที่ลูกไม่ยอมให้ผมอุ้ม แต่ผมก็พยายามอาบน้ำและใส่เสื้อผ้าใ้สะอาดที่สุดแล้วก็ดูจะไม่ได้ผลเลย
“เปล่าหรอก แต่เพราะว่าคุณไม่ได้อยู่กับลูกทั้งวันเหมือนผม เลยทำให้เขาไม่คุ้นกับกลิ่นของคุณ และนั่นอาจเป็นสาเหตุที่อคิณไม่ยอมให้คุณอุ้ม”
“คุณรู้ได้ยังไง?”
“ที่ผมคุยกับคุณหมอเมื่อตอนเที่ยงนั่นไง...พร้อมนะ” รวีพูดพลางจับให้ผมนั่งลงดีๆ จากนั้นก็นำผ้าอ้อมสำหรับเช็ดปากลูกมาพาดไว้ที่หน้าอกของผม แล้วเขาก็หันไปอุ้มลูกขึ้นมา
“อืม…”
ผมพยักหน้าค่อยขยับตัวรับอคิณเข้าสู่อ้อมกอด ลูกชายยกเท้าขึ้นดันมือผมและเริ่มเบะปากร้องอีกครั้ง
“อย่าเกร็งสิคุณ...ทำมือแบบนี้ประคองก้นของเขาเอาไว้ ยกข้อศอกขึ้นแล้วก็ควรระวังไม่ให้ลูกนอนทับกระดูกข้อมือแข็งๆ ของคุณด้วย...เห็นมั้ย แค่นี้เขาก็ยอมอยู่นิ่งๆ แล้ว”
ผมยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าเจ้าลูกชายเริ่มหยุดร้อง รวีหัวเราะกับท่าทางของผมแล้วหยอบขวดนมขึ้นให้ผมป้อนลูก พลางอธิบายนี่อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ ผมอุ้มเขาผิดวิธีทำให้เขานอนไม่สบายในอ้อมกอดของผมอีกทั้งกลิ่นที่เขาไม่คุ้นเคยอีก
“พ่อขอโทษนะครับ ก่อนหน้านี่พ่อทำหนูเจ็บใช่มั้ย?” ผมถามเสียงเบามองหน้าลูกชายที่ดูดนมอย่าเอาเป็นเอาตาย ดวงตากลมโตก้ปรือปรอยใกล้จะปิดเต็มที
“ลองโยกตัวดูสิ ลูกชอบ” รวีแนะนำ ผมก็โยกตัวไปมาช้าเหมือนที่เคยเห็นรวีทำตอนกล่อมลูก ตาที่ปรือปรอยนั้นก็ปิดสนิทลง...
พอเขาหลับผมก็หยุดโยกตัว นั่งฟังเสียงลมหายใจของเขาที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ จู่ๆ ผมก็รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหล ผมไม่เคยกล่อมลูกนอนแบบนี้เลยซักครั้งเพราะไม่สามารถทำได้
ลูกตัวเล็กมากจริงๆ เล็กกว่าท่อนแขนของผมเสียอีก หัวกลมกระจิ๋วหลิวที่แนบตรงหน้าของผม ดูปากเล็กที่ดูดนมนี่สิ ฝ่ามือเล็กๆ ของเขาที่ทาบทับอยู่บนนิ้วชี้นิ้วเดียวของผมนี่ด้วย เจ้าตัวเล็กของพ่อ...
“ลูกหลับแล้วก็วางเขาลงในเปลนะ”
“ขอผมอุ้มเขาต่ออีกซักหน่อยสิ อยากจะอุ้มเขาไว้ทั้งคืนเลย”
ผมพูดทั้งที่ยังไม่ละสายตาไปจากใบหน้าเขาอคิณ รวีขยับเข้ามาใกล้และจูบแก้มจนผมต้องเงยหน้าขึ้นมองเขา
“ปกติลูกจะตื่นมาทุกๆ สามชั่วโมงเพราะหิวนม แต่เพราะตอนบ่ายผมปลุกเขาก่อนเวลาทำให้รอบนี้อาจจะนอนยาวสี่ชั่วโมง”
“...” ผมเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย รวียิ้มกรุ้มกริ่มและเงยหน้าขึ้นจูบริมฝีปาก
“แต่ยังไงก็...เรามีเวลา ทำ กันไม่มากหรอกนะ”
อา…ผมเข้าใจแล้วว่าเขาตั้งใจจะ ทำ อะไรกับผมในคืนนี้…
.
.
.
“วี...ขยับเร็วขึ้นอีกหน่อย”
“ให้อีกรอบเดียวนะ...อือ เดี๋ยวลูกจะตื่นแล้ว”
เขาเหลือบตามองนาฬิกาเล็กน้อยรวีพูดเสียงหอบในขณะที่ขยับขายกสะโพกขึ้นลงเร็วขึ้นตามที่ผมบอกหลังจากเสร็จสมไปสามครั้ง…
ก็อดอยากปากแห้งมาเกือบปี มีโอกาสทั้งทีผมก็ต้องขอตักตวงไว้หน่อย
น้ำรักของผมที่คั่งค้างอยู่ในช้องทางอุ่นก็พากันไหลย้อยออกมาตามจังหวะการขยับตัว ก่อให้เกิดเสียงเฉอะแฉะน่าอาย...แต่ก็เร้าอารมณ์ของเราไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมบีบเคล้นสะโพกที่อวบอัดขึ้นเนื่องจากการมีลูกของรวี มองดูคนรักที่หลับตาพริ้มและกัดริมฝีปากอย่างเซ็กซี่ กลิ่นหอมอันเย้ายวนตลบอบอวลไปทั่วห้องนอน ผมคิดถึงกลิ่นนี้...คิดถึงเสียงครางของเขา
“คุณขยับบ้างสิ...อื้อ อ๊ะๆ” ไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ผมก็จัดให้ตามที่เขาขอ ผมยกสะโพกเขาขึ้นแล้วเป็นฝ่ายขยับตัวขึ้นหา รวีเกร็งตัวและยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นเสียงครางไม่ให้ดังจนเกินไป
ยิ่งเห็นว่าเขาทำพยายามกลั้นเสียงแบบนั้น ผมก็ยิ่งอยากทำให้เขาครางดังกว่าเดิม
ผมเปลี่ยนท่าพลิกตัวเขาให้นอนราบกับที่นอน รวีแยกขาออกกว้างโอบรอบสะโพกผมเอาไว้อย่างรู้งาน รวีปรือตามองผมแล้วส่งยิ้มยั่วยวน เรียวแขนยกขึ้นอย่างช้าโอบรอบคอแล้วดึงผมให้โน้มกายลงไปรับจูบที่แสนหวาน
“อืม...วี” ผมครางในลำคอ เมื่อช่องทางด้านหลังของบีบกระชับแก่นกายของผมอย่างหนักหน่วง วีกอดรัดผมแน่นกว่าเดิมและหยัดกายรับจังหวะจากผมอย่างร้อนแรง ผมรู้ว่ารวีเซ็กซี่ แต่น่าทึ่งที่เขายั่วเย้ากว่าเดิมทุกครั้งที่เราร่วมรักกัน
ผมกอดเขาเอาไว้อย่างหวงแหน พรมจูบไปทั่วใบหน้าใขขณะที่สะโพกของก็เคลื่อนไหว้เข้าหากันไม่มีหยุด จนในที่สุดรวีก็เกร็งตัว จิกเล็บลงกับแผ่นหลังของผม แล้วน้ำสีขุ่นข้นหนืดก็ถูกปลดปล่อยออกมา ด้านในตัวเขาบีบกระชับเป็นจังหวะหนักๆ และนั่นหมายความว่าใกล้จะถึงจุดอีกครั้ง
ผมเร่งจังหวะการขยับสะโพก ขยับฝ่ามือช่วยชัดรูดแก่นกายขนาดพอดีมือของรวี ไม่นานเขาก็เกร็งตัวและกระตุกอย่างรุนแรง
“อือ รวี...ที่รัก”
ผมกัดฟันและมองใบหน้าของภรรยาที่รัก ก้มหน้าลงจุมพิตแก้มนวลและริมฝีปากอวบอิ่มของรวีซ้ำแล้วซ้ำเล่าในขณะที่กระแทกสะโพกเข้าหาเขาเป้ฯจังหวะหนักอยู่ไม่กี่ครั้ง ก่อนที่เราจะปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน
รวีนอนแผ่บนเตียง เงยหน้ารับจูบจากผม บ้างก็หันหนีเพราะเขาเหนื่อย แต่ผมก็จับปลายคางให้เขาหันกลับมารับความรักจากผมจนได้
“พอแล้วคุณ เหนื่อย...”
“อยากอาบน้ำมั้ย เดี๋ยวผมอาบให้”
รวีส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยอ่อน ผมยิ้มขำกับท่าท่างของเขาแล้วคว้าเอาเสื้อผ้าที่เราถอดท้องเอาไว้มาเช็ดทำความสะอาดให้ จากนั้นก็เอาชุดใหม่มาใส่ให้
“เป็นไงบ้าง เต็มอิ่มเลยมั้ย”
“อืม ขอบคุณนะ” ผมยิ้มมองใบหน้าของเขาด้วยหัวใจที่อบอุ่น รวีซุกตัวเข้าหาช้อนตามองสบตากับผมและวางมือไว้บนแผ่นอก ลูบไปมาเบาๆ ให้ความรู้สึกเหมือนว่าเขากำลังกล่อมผมนอนเลย
“คุณอย่าน้อยใจเลย...ตอนนี้ลูกยังเด็กมาก เขาต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อาจมีบางครั้งที่ผมละเลยคุณไป แต่ถึงยังไงผมก็รักคุณมากๆ นะ”
พูดจบเขาก็ยืดตัวขึ้นจูบผมอีกครั้ง รวีส่งยิ้มน่ารักและกอดผมเอาไว้แน่น เขาขยับตัวยุกยิกไปมาอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็นิ่งไป ลมหายใจเขาสงบและเข้าออกอย่างสม่ำเสมอบางบอกว่ารวีของผมหลับไปแล้ว
มีแต่ผมที่ยังลืมตานอนมองเพดาน ดมกลิ่นหอมอบอุ่นจากตัวจากของเขาอย่างสบายใจ สิ่งที่เขาพูดทำให้ผมรู้ว่ารวีทำอะไรเพื่อผมมากมายเลยทีเดียว
ภรรยาดีๆ แบบนี้ผมจะไปหาจากไหนได้อีก
รวี..ดวงอาทิตย์ของผม
โดยส่วนตัว เราชอบนิยายที่มีเด็กๆ มากเลยค่ะ ดูน่ารัก ดูอบอุ่น ดูซุกซน
แต่พอมาแต่งเองก็แบบว่า...ยากเหมือนกันนะเนี่ย 55555
ตอนหน้าพบกับเรื่องใหม่แล้วนะคะ ติดตามกันน๊าา
#โอเมก้าน่ารัก (https://twitter.com/search?q=%23%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81&src=typd)
loammyloammie