-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
เรื่องสั๊นสั้น เคาะสนิมตัวขี้เกียจ
ปล.แต่งขึ้นจากจินตนาการของตัวเองค่ะ
miss you boo much.
@pearyypinkyy
-
(เรื่องสั้น) ◦「 ตี ส า ม ข อ ง วั น ที่ สิ บ 」◦ (ตอนเดียวจบ)
“ยังไง ออกจากโรงพยาบาลไปแล้วก็ยังต้องทานยาของจิตแพทย์ต่ออย่างต่อเนื่องนะครับ”
“ครับ”
“คนไข้มีญาติมาด้วยหรือเปล่าครับ?”
“..ไม่มีครับ” คุณหมอวัยกลางคนได้พูดอะไรไม่รู้อีกสักสองสามประโยค ก่อนที่ผมจะยกมือไหว้ขอตัวลาเพื่ออกไปเจอชีวิตในแบบเดิม..
แบบที่พนักงานกินเงินเดือนเขาเป็นกัน ตื่นเช้า ฝ่าฝูงคนยามเช้าเพื่อไปเจอกับงานที่แสนจะสาหัสในค่าตอบแทนแสนธรรมดา ตกดึกก็เตรียมตัวเข้านอนจะได้ตื่นเช้าในวันถัดไป และเป็นวงจรชีวิตที่ผมพอจะจำมันได้เป็นอย่างสุดท้าย...
“เฮ้ย! ไอ้เปอร์ ทางนี้ๆ” สำเนียงกลางแปร่งๆที่มาคู่กับเจ้าของร่างตัวสูงผิวเข้ม ใบหน้าไม่หล่อไม่ขี้เหร่นั่นมักมีรอยยิ้มเจือออกมาด้วยเสมอ แต่ค่อนข้างจะสงสัยไปหน่อยตรงที่ว่าทำไมอีกคนถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
“อ้าว คิง มาได้ไงเนี่ย”
“ก็หัวหน้าเขาไลน์มาในกลุ่มบริษัท บอกว่ามึงจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้”
“อ๋อเหรอ คนอย่างคุณสามน่ะนะ” แปลกใจไม่น่อยที่ได้ยินชื่อที่คาดไม่ถึงมาก่อน ระดับหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่ผมอยู่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเขี้ยวลากดินเป็นที่หนึ่งไม่รองใคร
“เออ คนอย่างคุณสามนั่นแหละ เขาดูเป็นห่วงมึงจะตาย”
“แต่อันที่จริงวันนี้คิงไม่ต้องมารับเราก็ได้นะ เรากลับเองได้”
“ไม่ได้ๆ มึงอยู่กรุงเทพคนเดียว ไหนยายที่ต่างจังหวัดมึงจะไม่ค่อยสบายอีก กูเป็นห่วงกูเลยมารับมึงเนี่ย” วงแขนแน่นไปอวดกล้ามเนื้อวาดเข้ามาโอบไหล่จนรู้สึกอึดอัดแต่ก็เต็มใจให้กระทำอยู่ดี
“ไหนๆมึงก็ออกจากโรงบาลละ เราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันดีกว่าว่ะ”
“อื้อ : )”
“ห้ะ ความจำมึงหายไปเหรอ?”
“อื้อ”
“จริงป่ะเนี่ย กูเคยเห็นแค่ในทีวี แต่มึงก็ยังจำกู จำหัวหน้าได้นี่หว่า” อีกฝ่ายเหลือบซ้ายขวามองมาที่ผมด้วยความตื่นเต้น
“หายไปแค่บางส่วนแหละ”
“แล้วหมอเขาให้ยามึงมาบ้างป่ะเนี่ย”
“ให้สิ”
“เออ แดกๆเข้าไป แดกให้ครบด้วยนะไอ้เปอร์ จะได้ดีขึ้นไวๆ” หนึ่งในเพื่อนทั้งชีวิตของผมพูดขึ้นมาด้วยความหวังดี ในขณะที่เขากำลังขับรถไปส่งผมหลังจากที่เพิ่งทานข้าวกันเสร็จ ... จากที่รู้ก็คือคิงเป็นหนึ่งในบุคคลที่รู้ว่าผมเคยเป็นโรคซึมเศร้ามาก่อน
“อ่าฮะ”
“หัวหน้าเขาให้มึงลาได้อีกสามวัน ก็พักผ่อนเยอะๆ ขาดเหลืออะไรบอกกูได้ อะ .. ถึงหอมึงพอดี” ซิตี้คาร์สีขาวค่อยๆชิดซ้ายเข้าจอดหน้าสถานที่ที่เป็นที่ซุกหัวนอนของเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในกรุงเทพอย่างผม เพราะความโกโรโกโสของมันมักทำให้ใครหลายคนต้องเบือนใบหน้าหนี
“ไอ้เปอร์เอ๊ย ทำงานเก็บตังได้บ้างแล้วก็ย้ายหอเถ๊อะ เก่าก็เก่า ทางเข้าก็เปลี่ยว กูล่ะกลัวมึงจะโดนฉุดไปสักวันนึงจริงๆเชียว” ใครหลายคนที่เห็นต่างพูดกับผมแบบนี้เสมอ แต่จะทำยังไงได้ ทั้งค่ากินค่าเดินทาง ไหนจะเงินที่ต้องส่งกลับไปให้ยายอีก
“คิงก็รู้ว่าเรามียายต้องเลี้ยงดูนะ แย่แค่ไหนเราก็อยู่ได้ทั้งนั้นแหละ”
“เออๆ ตามใจมึงแล้วกัน ถ้ารู้สึกไม่สบายหรืออะไรขึ้นมาอีกโทรหากูได้ตลอดนะ”
“อ่าฮะ ขอบใจมากนะ” ก้าวลงจากรถพร้อมยืนส่งเพื่อนจนกว่าไฟท้ายจะลับตาไป ผมพาร่างกายที่จวนจะหมดเรี่ยวแรงขึ้นบันไดไปจนถึงเบื้องหน้าของห้อง 307
แกร๊ก
บานประตูไม้ถูกเปิดพร้อมกับที่กลิ่นอับภายในห้องที่ไม่ได้เปิดระบายอากาศนานนับสัปดาห์ตีสวนจมูกขึ้นมา แต่ผมก็ไม่ได้แยแสมันสักเท่าไหร่ พอจัดการเปิดไฟให้สว่างโร่ทั้งหัวได้ก็เดินมาทิ้งตัวลงบนฟูกโดยไม่คิดจะเปลี่ยนชุดที่สวมอยู่เปลือกตาทั้งสองค่อยๆปิดลง ก่อนที่จะค่อยๆทบทวนเรื่องราวที่ขาดหายไปทั้งหมด
‘ในกรณีของคุณคือการสูญเสียความทรงจำบางส่วนในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีที่ผ่านมา จากการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงบริเวณศีรษะนะครับ’
‘ครับ’
‘จากประวัติของคนไข้แล้วก่อนหน้านี้ได้มีการพบจิตแพทย์อยู่ ถึงจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องทานยาอยู่นะครับ’
‘ผมจำอะไรไม่ได้แล้ว งั้นผมไม่ต้องกินไม่ได้เหรอหมอ’
‘ไม่ได้ครับ เพราะภาวะซึมเศร้าของคุณที่กำลังเป็นอยู่ไม่ได้เกิดจากความทรงจำเพียงอย่างเดียวครับ มันยังเกี่ยวไปกับสารสื่อประสาทภายในสมองของคุณ’
‘ครับ’
‘ดังนั้นทานยาให้ต่อเนื่องจะดีกว่านะครับ’
การกระทบกระเทือนที่ว่านั่นเกิดจากอุบัติเหตุพลัดตกราวสะพานตามที่คุณพยาบาลเล่าให้ฟัง สะพานที่ว่าผมมักจะใช้เป็นทางผ่านในการออกไปทำงานในทุกๆเช้า แถมที่นั่นก็ทั้งเล็กทั้งแคบ คงตกลงไปในช่วงจังหวะที่หลบรถแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นความสูงของสะพานและระดับน้ำที่ถือว่าค่อยข้างอันตราย การรอดชีวิตของผมนั้นจึงจัดให้อยู่ในหนึ่งเรื่องปาฏิหาริย์ไปทันที
กริ๊ง กริ๊ง
เสียงริงโทนอันแสนจะคร่ำครึดึงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบวัน ผมผงกหัวขึ้นมามองด้วยความสงสัย หน้าจอของโทรศัพท์รุ่นไม่เก่าไม่ใหม่โชว์ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของผู้ที่โทรมา และนั่นมันก็ทำให้ผมยิ่งงงงวยไปกว่าเก่า
หัวหน้า
คิ้วขมวดขึ้นเป็นปมเล็กๆ เวลาในตอนนี้ก็ปาไปเกือบสามทุ่มแล้ว คิดจนจะหัวแตกยังไงก็ไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงเหตุของสายปริศนาได้ จนในที่สุดผมก็ตัดสินใจรับสายที่ว่านั่น
“...สวัสดีครับ”
“…”
“ฮัลโหล ได้ยินหรือเปล่าครับ”
“ได้ยิน”
“หัวหน้ามีธุระอะไรหรือเปล่าครับ โทรมาดึกดื่นเชียว”
“…” คนปลายสายเงียบไปเป็นครั้งที่สอง บรรยากาศอันแสนอึดอัดกำลังกัดกินบางส่วนในใจพาให้ข้างในอกมันวูบโหวงโดยที่ผมเองก็ไม่สามารถทราบได้ถึงสาเหตุ
“หมอบอกผมว่าคุณสูญเสียความทรงจำบางส่วน ... คุณจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ?” ถ้าผมไม่ได้หูฝาดไปก็แสดงว่าเสียงที่สั่นเครือพร้อมจะร้องไห้นั่นคือของจริง
“ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าผมควรจำอะไรได้อีก”
“คุณสาม..”
“ครับ?”
“ก่อนหน้านี้นายจะเรียกฉันว่าคุณสาม”
“ครับ คุณสาม”
“อื้อ พักผ่อนเถอะ อีกสามวันค่อยเจอกัน” ให้หลังสายที่ถูกตัดไปก็เหลือเพียงแค่ผมภายในห้องแคบๆนี้คนเดียว น่าแปลกที่หลังจากคำส่งท้ายของเขาจบลงหัวใจของผมก็เต้นตึกตักในจังหวะที่เร็วกว่าปกติขึ้นมา มิหนำซ้ำยังเจ็บแปลบไปทั่วทั้งอกอีก
“..ฮื่อ” ควาปวดแล่นริ้วไปมาจนน้ำตาไหลรื้นออกมา ผมเปลี่ยนท่ามาอยู่ในท่านั่งชันเข่าเพื่อที่จะสงบสติตนเองจากอาการที่เป็นอยู่
ปฏิกิริยาตอบสนองทั้งหมดนี้ยิ่งสร้างความฉงนให้ตัวเองได้อีกเป็นร้อยเท่า ผมเพิ่งทำงานที่นี่มาปีกว่า ผมสามารถจำบุคคลในชีวิตและความสัมพันธ์ได้เกือบทั้งหมดในช่วงหนึ่งปีก่อนหน้า แต่สำหรับเหตุการณ์ให้หลังจากนั้นเป็นส่วนใหญ่ ผมไม่มีความจำหลงเหลือเลยแต่นิดเดียว
ใครๆหรือแม้กระทั่งผมเองก็ดูออกว่าระหว่างผมและคุณสาม เราคงมีอะไรที่เกินเลยกว่าหัวหน้ากับลูกน้องอย่างแน่นอนเพราะเพียงแค่ได้ฟังเสียง ถึงความทรงจำจะหายไป แต่จิตใต้สำนึกมันกำลังประท้วงอย่างหนักจนร่างกายสั่นเทิ้มจนยากที่จะควบคุม ถึงอย่างนั้นสัญชาตญาณในตัวเองก็กำลังบอกว่ามันคงไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่ดีอย่างแน่นอน
ระหว่างผมกับหัวหน้าในครึ่งปีก่อนหน้านี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
“ไอ้เปอร์ ยินดีต้อนรับการกลับมาอีกครั้งนะโว้ย!”
“เออ ขอบใจ”
“ร่างกายหายดียังจ้ะน้องเปเปอร์”
“หายแล้วครับ ขอบคุณครับพี่หนิง”
“อะไรกันๆ เราสนิทกันจนเลิกใช้ครับไปตั้งนานแล้วน้า”
“เอ้าน่าพี่หนิง ไอ้เปอร์หัวกระแทกมันก็มีจำกันไม่ได้บ้างแหละ อย่าเพิ่งน้อยใจไปเลยพี่” และในที่สุดเช้านี้ผมก็กลับเข้าสู่วงจรมนุษย์เงินเดือนอย่างเป็นทางการ ในคราแรกดูเหมือนว่าความทรงจำหกเดือนที่หายไปจะไม่มีผลต่อผมสักเท่าไหร่ แต่สัตว์สังคมอย่างเราก็ต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตา และนั่นมันก็สร้างความเหนื่อยทางใจให้ผมอย่างมาก
“เฮ้ยไอ้เปอร์!”
“หืม มีอะไร?”
“มึงนั่งผิดโต๊ะ ตอนนี้มึงย้ายมานั่งโต๊ะนี้แล้วโว้ย” เดิมทีโต๊ะตัวริมประตูนั้นเป็นของผม แต่เพื่อนตัวดีกลับชี้ไปที่โต๊ะตัวอื่น .. ตัวที่ติดกับโต๊ะของหัวหน้า
“อ่อ โอเค”
“เหนื่อยหน่อยนะมึง ลืมอะไรไปก็ค่อยๆนึกเอา”
“อื้อๆ” สิ่งของดูคุ้นตาบ้างไม่คุ้นตาบ้างคละกันอยู่บนโต๊ะ และกรอบรูปใส่ภาพถ่ายรูปคาระหว่างผมกับคุณยายที่มุมโต๊ะนั่นเป็นเครื่องตอกย้ำว่าตรงนี้คือที่ของผมจริงๆ
ผมนั่งที่เก้าอี้พลางสอดส่องสายตาไปหาความแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงในความทรงจำผม ซึ่งนั่นมันก็แตกต่างจากที่จำได้อยู่มากโขเลยทีเดียว
จึงตัดสินใจเปิดคอมฯเพื่อเริ่มต้นวันด้วยการทำงาน เผื่อว่าจะนึกอะไรเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมาออกมาบ้าง แต่จนแล้วจนรอดอย่างไรก็สูญเปล่า จนกระทั่งการปรากฏตัวของคนๆหนึ่ง
“หัวหน้ามาแล้วจ้าทุกคน”
“หัวหน้าสวัสดีค่า”
ตึกตัก ตึกตัก
ฝ่ายบัญชีดูวุ่นวายไปถนัดตาเมื่อเจ้าของร่างสูง ผิวสองสี กำลังเดินเข้ามาประจำการที่นั่ง ใบหน้าเข้มเปื้อนรอยยิ้มถูกแต้มด้วยลักยิ้มทั้งสองข้างเป็นเอกลักษณ์นั่นกำลังใช้สายตาคู่นั้นจ้องมาที่ผมพร้อมกับก้อนเนื้อในอกที่เต้นจนแทบจะเกินขีดจำกัด ในวินาทีนั้นเองที่ทำให้ผมไดด้รู้ว่าการปฏิเสธตัวเองไม่ได้มันเป็นอย่างไร
ก่อนหน้านี้ผมต้องรักเขามากแน่ๆ
“ว่าไงเปอร์ ดีขึ้นแล้วใช่ไหม?”
“ครับ .. คุณสาม แต่ยังจำอะไรไม่ค่อยได้หรอกครับ”
“งั้นเหรอ” คนสูงตัวเดินอ้อมข้างหลังผมเพื่อเดินไปยังโต๊ะประจำตำแหน่งของตัวเอง ในตอนแรกผมนึกว่าเราคงจบบทสนทนานี้ไปแล้วเสียอีก แต่การที่คุณสามวางมือของตัวเองลงบนหัวผมไปพร้อมกับการที่เขาก้มใบหน้าลงมาเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง ก่อนที่ทั้งหมดนี้จะโดนคนด้วยฝีมือของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง..
“หัวหน้าครับ ยินดีกับงานแต่งงานเดือนหน้าด้วยนะครับ” เขามีสีหน้าที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย ก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาเป็นดังปกติที่มักจะมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้าเสมอ
“ขอบคุณมากครับ : )”
“ว่างๆก็พาเจ้าสาวมาเปิดตัวบ้างสิค้า”
“ได้เลยครับ” ยิ้มเล็กค่อยๆเปลี่ยนเป็นใบหน้านิ่งเฉย จากนั้นทั้งแผนกก็กลับสู่สภาวะปกติ และความคิดเดียวที่มันเด่นชัดขึ้นมาในหัวผมตอนนี้ไปอะไรไปไม่ได้เลยนอกเสียจาก เปเปอร์เมื่อหกเดือนที่แล้วกำลังตกหลุมรักคุณสามผู้มีฐานะเป็นเจ้านายมิหนำซ้ำเจ้านายที่ว่ากลับมีภรรยาแล้วอีก .. ผมนี่มันแย่เสียจริง
วันและเวลาผ่านไปจนเกือบจะครบหนึ่งเดือน ผมใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดในการรื้อฟื้นความทรงไปจำไปพร้อมกับการปรับตัวกับเพื่อนร่วมงาน ตอนนี้เป็นเวลาตีสามของวันจันทร์แล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะส่วนใหญ่ผมจะนอนไม่หลับจนกว่าจะตีสามของอีกวัน ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ทานอยู่หรือเปล่า ถึงจะอย่างนั้นผมก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไร
ผมนอนมองเพดานสีขาวหม่นมาระยะหนึ่งแล้ว และก็มีแววว่าจะต้องนอนมองมันต่อไปอย่างไร้จุดหมายอีกเช่นเคย
กุกกัก กุกกัก
เสียงกุกกักปนเสียงฝีเท้านอกประตูดังขึ้นที่เวลาเดิมแบบนี้มาได้เป็นวันที่เจ็ดแล้ว เสียงที่ว่าไม่ได้ดังแบบคนเดินไปมาติดกันตลอด แต่มันจะดังเป็นบางช่วงเท่านั้นและมันก็น่าแปลกใจตรงที่ห้องนี้เป็นห้องสุดท้ายของชั้นที่จะไม่มีใครเดินผ่านหากไม่มีอะไรจำเป็น ผมซึ่งทนเก็บความสงสัยนี้มานานเห็นท่าว่าพรุ่งนี้คงต้องไปขอดูกล้องวงจรปิดเพื่อเช็คความชัวร์สักหน่อยว่าบุคลลที่ว่ามีเจตนาอะไรมาเดินไปมาช่วงวิกาลแบบนี้ทุกวันกันแน่..
“เอาเป็นดูเองแล้วกัน พี่ไม่ว่างมาไล่ดูให้น้องหรอก”
“...”
“แล้วถ้าเป็นโจรอะไรก็แจ้งตำรวจไปเลยนะ ไม่ต้องมาบอกพี่” บทสรุปการขอดูกล้องวงจรปิดในวันนี้จบลงตรงที่ไฟล์วิดีโอทั้งหมดในหนึ่งอาทิตย์ถูกก็อปข้อมูลลงแฟลชไดร์ฟให้ไปดูเองทั้งหมด ก่อนที่เจ๊เจ้าของหออันล้าสมัยนี่จะอันตรธานหายไปโดยไม่รอให้ผมได้พูดอะไรเลยสักคำ
จากนั้นจึงใจเอาแฟลชไดร์ฟที่ว่านั่นขึ้นาเปิดดูบนห้องเองทั้งหมด โน้ตบุ๊คที่ไม่ได้ใช้งานนานจนฝุ่นเก่า ถูกเปิดขึ้นเพื่อทำสิ่งสำคัญ
ไฟล์ทั้งเจ็ดไฟล์ไล่เรียงกันอยู่ในโฟลเดอร์ให้ได้เลือกเปิด ผมจึงตัดสินใจเปิดไฟล์ตั้งแต่วันแรกที่ได้ยืนเสียงปริศนาขึ้นมา
มุมกล้องทอดยาวไปทั้งทางเดินหน้าห้องในเวลาตีสองกว่าๆ มีเพียงแสงสว่างจากหลอดไฟหน้าห้องที่สว่างไล่เรียงกันเป็นระยะๆเท่านั้น ทุกอย่างดูเงียบสงบและไม่มีแม้กระทั่งแมลงกลางคืนตัดผ่านหน้ากล้องเลยสักตัว
ผมค่อยๆกรอเวลาเข้าใกล้ตีสามไปเรื่อยๆ หวังอยากจะเห็นเหลือเกินว่าเสียงที่ว่านั้นคือใคร
02:58
จนในที่สุดการรอคอยของผมก็ได้สิ้นสุดลงพร้อมกับร่างของคนๆนึงที่กำลังเดินออกมาจากห้องหมายเลข 306 ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ติดกับผม
ดูจากหุ่นและท่าทางแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเขานั้นเป็นผู้ชาย แต่เพราะคุณภาพของกล้องที่ด้อยไปตามราคาจากตรงนี้เลยทำให้ผมไม่สามารถเห็นใบหน้าของเขาได้ชัดเจนเท่าที่ควร
เขาอยู่ในชุดเสื้อฮู้ดกับกางเกงวอร์มสีเทา สองขายาวเดินตรงเข้ามาใกล้กล้องมายิ่งขึ้น จนมาหยุดลงที่หน้าบานประตูของห้องผม ผมยังคงปล่อยให้วิดีโอเบื้องหน้าเล่นไปเรื่อยๆ แต่เขาก็ยังยืนนิ่งไปแบบนั้นอยู่สักพักก่อนที่จะล้วงเอาซองบุหรี่ขึ้นมา กระทุ้งซองเบาๆพร้อมกับจุดมวนยาสูบนั่นจนติดไฟ
ตึกตัก ตึกตัก
ในจังหวะที่เขากำลังเงยหน้าเพื่อพ่นควันพิษนั่นเอง ที่ทำให้ผมได้รู้ว่าจริงๆแล้วบุคคลปริศนาทุกๆตีสามนั่นเป็นใคร
“...หัวหน้า” ยังเป็นเขา เป็นคนๆเดียวกับคนที่ผมมักจะใจเต้นด้วยเสมอเวลาผมได้พบหน้า
เขาค่อยๆทิ้งตัวลงพิงระเบียงกั้นกันคนตก ขาข้างนึงของเขาชันขึ้นไปพร้อมกับการสูบบุหรี่ที่ดูไม่ได้เร่งรีบอะไร ไฟสีแดงจากปลายมวนจากที่สว่างโร่ก็ค่อยๆดับจนมืดลง และในตอนนั้นเองที่เขาได้จากหน้ากล้องไป
กลับไปยังห้องข้างๆผม
ผมยังคงงุนงงกับเรื่องทั้งหมดที่ได้เห็น เพื่อความแน่ใจผมจึงทำการดูวิดีโอที่ได้ก็อปปี้มาว่าใช่คนเดียวกันในทุกๆวันจริงหรือไม่ด้วยการเปิดไล่คลิป CCTV จนครบหนึ่งสัปดาห์ .. แน่นอนว่าคำตอบก็คือ ใช่ หัวหน้ามาสูบบุหรี่ที่หน้าห้องผมทุกวันเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ
ทำไมคุณสามถึงมาอยู่ห้องข้างๆผมได้ ทั้งๆที่ที่นี่เป็นแค่หอพักคร่ำคร่าเท่านั้น
ทำไมคุณสามถึงต้องออกมาสูบบุหรี่หน้าห้องผมทุกตีสามของทุกวัน
และทำไมผมถึงต้องร้องไห้ออกมาอีกแล้ว..
จัดการปาดน้ำตาลวกๆ พร้อมกับเอื้อมมือไปหยิบถุงยาเพื่อทานยาเม็ดสุดท้ายของวันตามคำสั่งหมอ อาการปวดวิ่งแล่นจากขมับอีกด้านสู่อีกด้าน ใบหน้าของผู้เป็นนายถูกฉายขึ้นทุกครั้งที่หลับตาลง
“ผมกับคุณเราเป็นอะไรกันแน่..” ภาพในหัวฉายขึ้นให้เห็นรอยยิ้มของคุณสามถูกตัดสลับไปมากับสีหน้าไม่ยินดียินร้ายที่แฝงไปด้วยความเศร้า ในนั้นรู้แค่เพียงว่าเรากำลังอยู่บนรถของใครสักคนหนึ่งที่มีเพียงคุณสามและผม คุณสามเอื้อมมือมากอบกุมมือผมไว้ทั้งสองข้าง ความอบอุ่นที่เป็นเพียงจินตนาการกำลังแผ่ซ่านไปทั้งใจ แต่จู่ๆผมกลับหนาวจนแทบสั่นเมื่อความอุ่นสบายจากใบหน้าหล่อเหลาถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่จริงจัง เขาน่าจะกำลังพูดอะไรสักอย่าง ..
‘ผมกำลังจะ ... เปอร์ เปอร์ โอเคไหม? เปอร์’ ผมในตอนนั้นคล้ายคนฟิวส์ขาด ผมหุนหันเปิดประตูลงจากรถไปพร้อมกับการตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปโดยไร้จุดหมาย วิ่งไปโดยที่ไม่รู้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน พลันแสงวูบวาบในหัวจะพาให้ผมในจินตภาพหายไปและถูกแทนที่ด้วยแผ่นน้ำกว้างใหญ่ ที่ทั้งมืด ทั้งน่ากลัว
ผมในตอนนั้นกำลังร้องไห้ และยิ่งร้องไห้หนักขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงใครคนนั้นขึ้นมา ขาทั้งสองข้างปืนป่ายไปนั่งบนราวสะพานอย่างไม่นึกกลัว ผมที่กำลังต่อสู้กับผมอีกคนในความคิดแต่ก็ไม่ทันการ เมื่อผมในนั้นกำลังทิ้งตัวถาโถมเข้าใส่ความมืดมิดของท้องน้ำเบื้องหน้า มันเข้าใกล้ผมเข้ามาเรื่อยๆ และรวดเร็วขึ้น จนผมไม่อาจทนได้อีกต่อไป
“อ๊ากกกกกก” ตาผมเบิกโพลงขึ้นในจังหวะที่ร่างกายกำลังตกลงไปกระแทกผืนน้ำ รับรู้ได้ถึงมือและเท้าที่เกร็งจนเมื่อยไปหมด ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ผมเห็นนั้นมันเป็นเพียงควาฝันหรือความจริงที่ผมได้หลงลืมไปกันแน่
สูดหายใจเข้าลึกๆพลางมองไปรอบๆเพื่อตอกย้ำว่าสิ่งไหนกันแน่ที่เป็นความเป็นจริง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นกระดาษที่หม่นขนาดเท่าฝ่ามือแต่เดิมที่มันเคยอยู่ได้แลปท็อปก่อนที่แลปท็อปที่ว่านั้นจะเอียงกระเท่เร่เพราะแรงสะบัดเมื่อครู่ ด้วยความสงสัยในข้อความที่ถูกเขียนด้วยหมึกสีน้ำเงินนั่นผมเลยยกหยิบขึ้นมาอ่านให้ถนัดตา
“..เฮ้ย” ใครจะไปรู้ว่าแค่ไอ้กระดาษไม่น่าสะดุดตาแผ่นนี้แผ่นเดียว จะสามารถไขข้อข้องใจของผมไปทั้งหมดได้
ถึง ยาย
ยายครับ ขอบคุณที่เลี้ยงดูเปอร์มาตั้งแต่เล็กจนโตนะครับ วันนี้เปอร์รู้สึกว่าทุกอย่างมันหนักหนาเหลือเกินครับยาย ผมรักยายมากๆเลยนะครับ ขอโทษที่เปอร์อ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้นะครับ
ปล.ข้าวของและเงินทุกอย่างของเปอร์ขอยกให้ยายครับ
เปอร์
จดหมายที่สื่อความอยากจะลาโลกใบนี้ถูกเขียนด้วยลายมือและลงชื่อด้วยชื่อของผมเอง แม้มันจะยากแก่การทำความเข้าใจแต่ถึงอย่างนั้นมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้าคนเขียนจดหมายนี้นั้น คือ ตัวผม..
ทนฉงนกับใจความหน้าแรกได้ไม่ทันไร สายตาก็สังเกตเห็นรอยปากกาจางๆที่ซึมผ่านมาจากหน้ากระดาษอีกฝั่ง โชคร้ายที่อีกฝั่งที่ว่านั้นจะเปื้อนไปด้วยคราบที่ดูคล้ายคราบน้ำตาแผ่กระจายเป็นวงๆไปทั่ว แต่ก็ยังโชคดีที่มันยังพอเข้าใจถึงใจความได้
ถึง คุณสาม
ผมเข้าใจครับ และต้องขอโทษที่เสียมารยาทอวยพรงานแต่งงานของคุณผ่านจดหมายแทนการอวยพรในงานแต่งนะครับ
ขอให้คุณสามมีความสุข ขอให้คนที่คุณรักและรักคุณอยู่กับคุณไปนานๆ ขอให้อย่าเจ็บป่วยนะครับ จากนี้ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหน ผมก็จะเป็นหนึ่งในคนที่รักคุณต่อไปครับ : )
เพียงแค่ได้อ่านข้อความอีกหน้าจนจบ ร่างของผมก็ตรงดิ่งพุ่งตัวออกไปทางประตู เบื้องหน้าคือห้องหมายเลข 306 ผมตัดสินใจเคาะประตูบานนั้นด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ใจหนึ่งผมก็กลัวข้อเท็จจริงที่ตนเองได้คาดไว้ แต่อีกใจนึงก็กลัวว่าเขาจะไม่ออกมาเผชิญหน้ากันเพื่อไขความคลางแคลงที่ผมมี
ปึงๆๆ
“คุณสาม! คุณสาม! ได้ยินผมไหม” หลังบานประตูนั้นยังคงแน่นิ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหว แต่ให้หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ประตูไม้ซอมซ่อก็ถือเปิดออกด้วยฝีมือของเจ้าของห้อง
“..คุณสาม” คนตัวสูงในชุดวอร์มสีเทาของยี่ห้อดังชุดเดียวกับในกล้องวงจรปิด ค่อยๆแง้มใบหน้าออกมา ดวงหน้าหล่อเหลาที่เราได้เจอกันแทบจะทุกวัน จากเดิมที่เคยดูเปล่งประกายแต่พอได้เห็นเขาแบบใกล้ๆก็รับรู้ได้ถึงความหม่นหมองชนิดที่ว่าแทบไม่หลงเหลือเค้าของความเป็นคุณสามผู้สดใสคนนั้น คนที่ผมจำได้ เอาไว้เลย
“รู้แล้วเหรอ”
“...”
“ขอโทษนะรบกวนหรือเปล่า จะย้ายออกให้”
“คุณสาม” ดวงตาเข้มที่ผมมักจะชอบมองบัดนี้กลับหลุบลู่มองพื้นราวกับไม่ต้องการจ้องตา เขายังคงจับลูกบิดสีหมองเอาไว้ เหมือนกับคนไร้ความมั่นใจ ช่างแตกต่างกับคุณสามในที่ทำงาน อย่างกับว่าเขาคือคนละคนกัน ..
เขายังคงลังเลที่จะพูดอะไรออกมาอีก จนผมเป็นฝ่ายเปิดฉากการพูดคุยด้วยประโยคคำถามที่ราวกับจะเชือดเฉือนหัวใจของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้
“คุณสาม”
“...”
“ผมเคยรักคุณใช่ไหม” เขาเอาแต่ยิ้มพลางส่ายหัวไปมาให้ผม จนใจผมแป้วไปเกินครึ่ง
“ผมไม่ได้รักคุณเหรอ” ผมถามเขาย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
“เราเคยรักกันต่างหาก” คุณสามดูมีท่าทีที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น ร่างกายของคนตัวสูงเขยิบออกมาจากการบดบังหลังประตูบานเก่าออกมาให้เราได้ประจันใบหน้ากันตรงๆ
“ผมกับเปอร์เคยรักกันครับ” เพียงแค่อึดใจเดียวที่คุณสามระบายยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะปรับเป็นสีหน้าเรียบเฉยตามเดิม และจากนั้นเรื่องราวทั้งหมดก็ร้องเรียงออกมาจากปากของผู้ชายที่กล่าวอ้างว่าเราเคยรักกันโดยที่ไม่ต้องให้ผมไถ่ถามเพิ่มเลยแม้แต่คำเดียว
“เราทั้งสองคนรักกัน ก่อนที่พ่อของผมบังคับให้ผมแต่งงาน”
“...”
“ความสัมพันธ์ของเราเริ่มขึ้นเมื่อหกเดือนที่แล้ว”
“เมื่องานวันปีใหม่?”
“ครับ” ผมแค่คลับคล้ายคลับคลาว่ามันเกิดขึ้นในวันนั้น วันที่เราต่างคนต่างเมากันมาก และลงเอยด้วยเรื่องบนเตียง เพียงก่อนหน้านี้ผมจำไม่ได้ว่าความทรงจำที่ว่านั่นผมได้ทำมันไปกับใคร
“หลังจากที่ผมตัดสินใจบอกเรื่องที่จะแต่งงานกับคุณ คุณก็วิ่งหนีหายไป” ผมกลืนน้ำลายก้อนใหญ่ลงคอ เพื่อเตรียมฟังในสิ่งที่ได้เกิดขึ้น
“ต่อเลยครับ”
“หลังจากนั้นคุณก็โทรมาหาผม .. ก่อนที่คุณจะกระโดดสะพาน ในวันที่สิบ”
“ผมไม่ได้กระโดดสะพาน..” ถึงจะได้เห็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือของผมแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังยืนกรานเชื่อในสิ่งที่มีคนเคยบอกเอาไว้
“ถึงคุณพยาบาลจะบอกคุณมาอย่างนั้นก็จริง แต่คงไม่มีคนตกสะพานที่ไหนเขาถอดรองเท้าวางไว้เรียบร้อยแบบนั้นหรอกครับเปอร์”
“...”
“ผมขอโทษครับ”
“คุณสามเล่าต่อเลยดีกว่าครับ”
“ตอนก่อนที่คุณจะ .. โดด คุณโทรมาหาผม” ฝ่ามือผิวสีน้ำผึ้งลูบไปตามใบหน้าราวกับกำลังพูดในสิ่งที่ยากเกินกว่าจะเอ่ยออกมา
“ผมไม่น่าเลย .. ทั้งๆที่ผมก็รู้ว่าคุณเป็นซึมเศร้า ผมขอโทษครับเปอร์ เพราะผมคนเดียว” เข่าทั้งสองของเขาทรุดลงไปกับพื้นราวกับจะขอการให้อภัย ผมไม่ได้อยากรู้ว่าตอนที่ผมโทรมมาผมได้พูดอะไรกับเขา เขาได้พูดอะไรกับผม ผมอยากรู้แค่เพียงว่า..
“ตอนที่ผมคบกับคุณ คุณมีภรรยาแล้วใช่ไหม”
“..ครับ”
“แล้วผมรู้ไหม?” จู่ๆน้ำตาที่ได้กลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ คุณสามเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเป็นการตอกย้ำนัยๆว่าสิ่งที่เขากำลังจะพูดต่อจากนี้ คือเรื่องจริง
“คุณไม่รู้ครับ…” เหมือนสายฟ้าผ่าลงกลางใจ ผมเข้าใจตัวผมในวันนั้นเป็นอย่างดี เข้าใจว่าทำไมถึงเลือกตัดสินใจที่จะคิดสั้นเช่นนั้น
“แล้วคุณแต่งงานวันไหนครับ?”
“วันพรุ่งนี้ครับ” ผมขมวดคิ้วเล็กๆเพราะคำตอบที่ว่านั่น ในคืนก่อนแต่งงานเจ้าบ่าวนั้นควรที่จะได้ไปเตรียมตัวไม่ใช่หรือ แล้วทำไมว่าที่เจ้าบ่าวป้ายแดงคนนี้ยังถึงนั่งคุกเข่าใจเย็นอย่างนี้อยู่ได้
“คุณสาม .. ไม่ว่าผมกับคุณจะเคยทำผิดมากันแค่ไหน ผมไม่ได้โกรธคุณนะครับ แต่ผมคงไม่มีหน้าไปงานแต่งงานพรุ่งนี้ของคุณ”
“...”
“เปอร์เมื่อหกเดือนที่แล้วเขาอยากอวยพรให้คุณมีความสุขกับคนที่คุณรักและรักคุณนะครับ”
“เปอร์...”
“แต่ตอนนี้ผมลืมไปหมดแล้ว ดังนั้นคุณไม่ต้องห่วงนะครับว่าผมยังจะรักคุณอยู่” ผมค่อยๆโน้มตัวย่อตัวลงเพื่อให้คุยกับเขาได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ดวงตาแดงก่ำทั้งสองของเขาที่ผมกำลังมองเห็น นั่นเป็นเครื่องตอบรับได้อย่างดีว่าเขากำลังรู้สึกเช่นไร
“ผมขอโทษที่เข้าไปก้าวก่ายคุณกับภรรยาของคุณนะครับ .. โชคดีนะครับคุณสาม”
ให้หลังผมก็หมุนตัวพาร่างอันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองกลับห้อง เนื้อตัวที่ไม่สามารถฝืนแรงโน้มถ่วงได้ก็ลู่ไปกับบานไม้จนลงไปนั่งจุมปุกอยู่บนพื้น เหมือนผมเปเปอร์เมื่อหกเดือนที่แล้วกำลังเสียใจอยู่ข้างใน
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้ผมควรจะดีใจที่เห็นเขาไปมีความสุข หรือควรจะเสียใจที่โดนทอดทิ้งดี เพราะผมนั้นไม่รู้ว่าตัวเองเคยรักเขามากแค่ไหน เคยสร้างความทรงจำดีๆอะไรเอาไว้มากเท่าไหร่ ทุกอย่างมันตื้อๆทึบๆไปหมด
“เราควรจะดีใจสิวะ”
(ต่อ)
-
และในตีสามของวันถัดมา
หัวหน้า
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ฉุดให้ผมหลุดออกจากภวังค์แห่งความคิดก่อนเข้านอน หน้าจอแสดงถึงคนโทรมา น่าแปลกจริงๆทั้งๆที่เราเพิ่งได้เจอกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ทำไมเขาถึงต้องโทรมาในเวลานี้ด้วย
“ฮัลโหลครับ”
“คุณจะเป็นหวัดง่ายมากเวลาโดนอากาศหนาว แถมยังชอบท้องอืดบ่อยๆเวลากินนมตอนเช้า ... แถมคุณยังน่ารักกับผมตลอดมาอีกด้วย”
“อะไรกันครับคุณสาม”
“อย่างน้อยคุณช่วยฟังความจริงที่ผมกำลังจะพูดหน่อยนะครับ”
“...”
“เปอร์เพิ่งเป็นภาวะซึมเศร้าเมื่อสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้” เสียงลมอุดอู้ดังเข้ามาแทรกเสียงปลายสายเป็นระยะๆพาให้ผมนึกฉงนในสถานที่ที่เขากำลังอยู่ น้ำสียงทุ้มพูดต่อไปเรื่อยๆไม่มีช่องไฟ ราวกับไม่อยากให้ผมไปขัดขวางเรื่องเล่าที่เขาเอ่ยอยู่ได้
“คุณพยายามสู้กับมันมาตลอด บางทีการที่คุณลืมเรื่องทั้งหมดไปได้ อาจเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแล้ว”
“...”
“แต่ผมอยากให้คุณรู้เอาไว้ ว่าจริงๆแล้วเรื่องราวทั้งหมด .. เปอร์รับรู้ถึงการมีตัวตนของภรรยาผมมาตลอดครับ” เหมือนฟ้าผ่าลงมายังใจกลางความผิดชอบชั่วดี ตัวตนทั้งหมดของผมนิ่งอึ้งไม่อยากรับรู้อะไรไปมากกว่านี้
“เราแอบคบกันมาตลอด จนมีวันนึงคุณทนไม่ไหว เลยบอกเลิกกับผม”
“แล้วเราได้เลิกกันไหม?” เสียงของคุณสามยังนิ่งเรียบต่างจากผม
“ผมรั้งคุณไว้เพราะความเห็นแก่ตัวของผมเองครับ ผมขอโทษ”
“นี่ คุณสาม ผมถามคุณหน่อยสิ” ผมเปลี่ยนท่าทางมาเป็นท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนบนฟูก ใช้มือซ้ายที่ว่างจากการจับมือถือลูบไล้ไปทั่วทั้งหน้าเพื่อเรียกสติกลับคืน พร้อมกับกลั้นใจถามในสิ่งที่ผมพอจะรู้คำตอบเอาไว้อยู่แล้ว
“คุณรักภรรยาของคุณหรือเปล่า?”
“..ไม่ครับ” คำตอบไม่ผิดไปจากการคาดคะเนในความคิดผมสักเท่าไหร่ เมื่อแน่ใจว่าตัวผมเองสงบมากขึ้นแล้วจึงจัดการยิงคำถามถัดไปในทันที
“อีกคำถามนึงครับคุณสาม”
“ครับ”
“แล้วคุณมาทำอะไรหน้าห้องผมเวลาตีสามทุกวัน” เจ้าของน้ำสียงเป็นเอกลักษณ์เงียบไปพักใหญ่ ผมแทบนึกว่าเขาตัดสายไปเสียแล้ว จนกระทั่งเสียงกึ่งพูดกึ่งสะอื้นดังจากผู้ชายอกสามศอกดังขึ้นมาแทนที่ความเงียบ
“ผมไม่ได้รับสายที่คุณโทรมา .. สายที่คุณโทรมาก่อนที่คุณจะคิดหนีผมไป”
“เพราะคุณอยู่กับภรรยาของคุณ”
“..ครับ หลังจากนั้นผมก็ได้รับข่าวดีในโชคร้าย ข่าวดีที่ว่าก็คือคุณสามารถรอดชีวิตมาได้”
“...”
“แต่ผมกลับเหมือนคนตายทั้งเป็น ที่ต้องสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกของทุกคืนเพื่อตื่นขึ้นมาดูว่าคุณยังกำลังหลับอยู่ที่ห้องของคุณจริงๆ” น้ำเสียงหนักแน่นแต่ช่างหนักหนาสำหรับผู้ฟัง ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆวาสิ่งที่กำลังได้ยินนั้นไม่ใช่เรื่องปรุงแต่งจากนวนิยายเรื่องไหนสักเรื่อง
“หลังจากที่คุณฟื้นขึ้นมา ผมก็อยากทำเรื่องระหว่างเราให้มันถูกต้อง”
“...”
“แต่น่าเสียดายที่คุณจำอะไรไม่ได้เลย .. ผมไม่มีความหมายกับคุณอีกต่อไปแล้ว”
“คุณสาม! คุณสาม! คุณจะทำอะไร” ถ้อยคำตัดพ้อที่แสนจะเยือกเย็นค่อยๆพรั่งพรูออกมาจนผมนึกระแวง เสียงลมผสมอาการสะอื้นเริ่มแผ่วลงจนวูบโหวงข้างในไปหมด ภาพแฟลชแบ็คในหัวตัดสลับไปมาระหว่างตัวผมเอง .. และเขา
“เปอร์ครับ”
“คุณอย่าคิดแบบนั้นเลยนะ!”
“ต่อจากนี้ก่อนนอนต้องห่มผ้าทุกวันให้เป็นนิสัยได้แล้วนะครับ เพราะไม่งั้นคุณจะไม่สบาย”
“คุณสาม คุณอยู่ที่ไหน!”
“ส่วนตอนเช้าเลิกดื่มนมวัวแล้วเปลี่ยนไปดื่มพวกนมถั่วเหลืองแทนจะดีกว่านะครับ คุณจะได้ไม่ปวดท้องอีก”
“ได้โปรดคุณ...”
“เปอร์บอกกับผมตลอดว่าอยากสร้างบ้านใหม่ให้ยาย .. เงินที่ว่านั่นผมโอนไปให้ยายคุณแล้วนะครับ ขอโทษที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าด้วยครับ” ม่านน้ำตาเอ่อล้นจนบังบดทัศนียภาพ ความปวดร้าวบีบคั้นไปทั้งหัวใจ ความกังวลที่ว่าพาให้ผมวิ่งออกจากห้องไปยังสถานที่ที่คาดเอาไว้
“ตีสามของวันที่สิบเมื่อเดือนที่แล้ว ผมทำให้คุณเสียใจ..”
“...อย่า”
“วันนี้คือวันที่สิบตอนตีสามเหมือนกัน และผมไม่สามารถรับมือกับมันได้”
แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว...
“ขอเวลาให้ผม-”
“ผมรักคุณเท่าท้องฟ้าในของตีสามในตอนนี้เลยนะเปอร์”
ติ๊ด
ติ๊ด
ติ๊ด
และเมื่อยามที่พระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าในวันเดียวกัน ข่าวของหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่กำลังจะได้ขึ้นเป็นสามีของภรรยาสาวสวยลูกสาวเศรษฐีก็แพร่สะพัดไปทั่วด้วยความเศร้าโศกในการจากไปอย่างไม่มีวันกลับ... ไม่มีปาฏิหาริย์สำหรับคุณสาม
เวลาพบศพโดยทีมกู้ชีพอยู่ที่เวลาตีสามกว่าๆ ที่สะพานเก่าย่านแออัดและเป็นวันที่สิบ .. ลงข่าวแจ้งเหตุโดยบุคคลนิรนามไม่ระบุชื่อแซ่ สาเหตุการเสียชีวิตคือฆ่าตัวตาย มีมูลเหตุเป็นภาวะทางจิตที่เจ้าตัวกำลังรักษามาได้ประมาณเดือนเศษๆ
คุณสามเป็นโรคซึมเศร้า
โดยในที่เกิดเหตุพบโน้ตเขียนข้อความเพียงสั้นๆเอาไว้ว่า
To. My P.
คุณอาจจะจำไม่ได้ว่าคุณเคยถามผมเอาไว้ว่า ดวงจันทร์จะสวยที่สุดตอนไหน
ตอนนี้ผมรู้คำตอบแล้วครับ ว่ามันจะสวยที่สุดเมื่อคุณมองมันเป็นครั้งสุดท้าย : )
ต่างคนต่างหากันให้วุ่นว่าตัว P ในนั้นคือใครที่คุณสามเขียนถึง แต่โชคดีหน่อยที่ว่าที่ภรรยาของเขาก็มีชื่อขึ้นต้นภาษาอังกฤษเป็นตัว P เช่นเดียวกัน ดังนั้น ภารกิจตามล่าแม่มดจึงจบลงไปโดยปริยาย
จบลงไปทั้งๆยังไม่ทันให้โอกาสผมในการนึกเรื่องเก่าๆให้ออก
ถ้าผมยังเป็นคนเดิม คนเดิมที่เคยรักเขา แม้ตัวผมเองจะเจ็บ ถึงตอนนั้นคุณสามยังจะอยู่เพื่อยิ้มให้ผมไหมนะ...
“ใจหายชิบหายเลยว่ะไอ้เปอร์”
“เออกูก็เหมือนกัน”
“เออ มึงยิ่งสนิทๆกับหัวหน้าด้วยนี่หว่า ระวังเขามาหานะมึง” คิงเพื่อนสนิทคนเดิมของผมยังคงปั้นหน้ายิ้ม ทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งปล่อยโฮชุดใหญ่ไปไม่ทันไร
“อยากมาก็มาสิ ฮ่าๆ”
“เฮ้อ คนเรานี่ไม่แน่ไม่นอนจริงๆ เปอร์มึงสัญญากับกูนะว่ามึงจะรักษาตัวเองให้หายดี”
“อ่าฮะ”
“มึงอย่าทิ้งกูไปนะเพื่อน”
“เออน่า”
“เออ สบายใจละ ไปแดกข่าวกันดีกว่า”
สุดท้ายบทสรุปของคนที่ยังอยู่ก็คือการใช้ชีวิตต่อ ผมก็ยังคงต้องดำรงชีวิตเป็นมนุษย์เงินเดือนถึงแม้ยังจะคิดถึงเขาไปอยู่เต็มหัวใจ แต่ก็กลัวว่าสักวันหนึ่งผมจะจำเรื่องเก่าๆขึ้นมาได้ ถึงตอนนั้นผมจะเสียใจมากกว่าตอนนี้ไหมนะ..
อย่างไรก็ตามแต่
แง่ดีคือเราต่างคนก็ต่างได้หลุดจากความเจ็บปวด
หลับให้สบายนะครับ
คุณสามของเปอร์...
▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔▔
คิดถุงนะ, เรื่องสั้นไว้อ่านฆ่าเวลา อย่าซีเรียสกันนะ
-
ไม่น่าเลยคุณสาม
-
เศร้าอะ โทนเรื่องคือดีมากกก จบได้แบบ โอยจะร้องงงงง
-
:m15:
-
แงแงงง :o12:
-
:m15: :m15:
-
ความรู้สึกแตกสลายนี่น่ากลัวมากจริงๆ
-
ภาษาดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วจมไปกับคุณสามเลย ฟีลแบบจะร้องไห้ดีไหม แต่ตอนจบคือดีมาก หน่วงไปทั้งใจเลย
-
:pig4:
-
เศร้าอะ โทนเรื่องคือดีมากกก จบได้แบบ โอยจะร้องงงงง
ใช่เลยค่ะ :hao5: