************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
************************************************
ทุกเรื่องราวถูกกำหนดโดยโชคชะตา
เริ่มจากสร้อยคอของคุณย่าพาให้จอมขวัญย้อนเวลากลับไปสวมรอยเป็นใครบางคนเพื่อตามหาความจริง
***********************
"ทำไมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงด้วยล่ะครับ"
"ก็พาขวัญลูกของข้าเป็นผู้หญิงน่ะซิ"
"ห๋า!!!"
***********************
"มองอะไร"
"ข้าแค่เพียงคิดว่า..."
แทนกานต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน
"...หน้าอกของเจ้า หายไปไหนหมดหรือพาขวัญ"
"คนโรคจิต!"
***********************
เรือนจอมขวัญ
สารบัญ
เรือนหลังที่ 1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3985497#msg3985497)
เรือนหลังที่ 2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3985808#msg3985808)
เรือนหลังที่ 3 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3986425#msg3986425)
เรือนหลังที่ 4 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3987160#msg3987160)
เรือนหลังที่ 5 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3987585#msg3987585)
เรือนหลังที่ 6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3988960#msg3988960)
เรือนหลังที่ 7 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3989413#msg3989413)
เรือนหลังที่ 8 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3991497#msg3991497)
เรือนหลังที่ 9 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3993948#msg3993948)
เรือนหลังที่ 10 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3999515#msg3999515)
เรือนหลังที่ 11 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4006879#msg4006879)
เรือนหลังที่ 12 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4006886#msg4006886)
เรือนหลังที่ 13 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4012493#msg4012493)
********************************************
ผลงาน
Detective liu : นักสืบหลิว ภาค รถไฟฆาตกรรม [END] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69427.0)
เรือนหลังที่ 6
หลังจากที่อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวตรงท่าน้ำเสร็จแล้วจอมขวัญก็มานั่งนิ่งอยู่หน้ากระจกปล่อยให้สร้อยทิพย์จับประแป้ง แต่งเนื้อแต่งตัวและหวีผมยาวสวยนั้นให้เข้ารูปเข้าทรงเพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้านอน
จอมขวัญจ้องมองเงาตัวเองในกระจกเจอภาพของใบหน้าสวยที่สะท้อนกลับมานั้นมองกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกชินซักที...เหมือนเงาที่สะท้อนในกระจกนั้นไม่ใช่ตนเอง
"พี่สร้อย"
"เจ้าคะคุณหนู"
สร้อยทิพย์หยุดมือจากการหวีผมแล้วลงไปนั่งพับเพียบบนพื้นอย่างถ่อมตัวก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
"ผมหน้าตาเหมือนคุณหนูพาขวัญจริงหรอครับ"
"จริงซิเจ้าคะ" สร้อยทิพย์ยิ้มพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม "ทั้งรูปร่างหน้าตาเอยก็สะสวยงดงามราวกับเป็นคนเดียวกันเลยเจ้าค่ะ"
"แล้วสวยแค่ไหนล่ะ"
"สวยมากจนเป็นที่เรื่องลือในพระนครเลยเจ้าค่ะ"
"ขนาดนั้นเลยหรอ"
จอมขวัญทำหน้าตาตกใจพร้อมเหลือบมองเงาตัวเองในกระจกอีกหลายรอบ
...สวยจริงนั่นแหละ...
"ใช่น่ะซิเจ้าคะ ผู้ชายคนไหนก็อยากแต่งงานด้วยทั้งนั้นล่ะเจ้าค่ะ"
"สวย...สวยหรอ?"
จอมขวัญทำหน้าตาคิดหนักก่อนจะดีดนิ้วและยิ้มหวานออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างออกจนสร้อยทิพย์สะดุ้งมองมาด้วยความตกใจ
"อ๊ะ! ใช่แล้ว!"
"อะไรหรือเจ้าคะคุณหนู"
"ผมนึกออกแล้วว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี"
จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะมองไปรอบห้องและถามด้วยสีหน้าจริงจัง
"แต่พี่สร้อยครับ ที่นี่พอจะมีสมุดกับดินสอไหม"
"มีเจ้าค่ะ คุณหนูพาขวัญน่ะเก็บไว้เยอะมากเดี๋ยวสร้อยไปดูให้นะเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์เดินไปรื้อหีบที่ตั้งอยู่หลบมุมหลังมานสีขาวตรงหน้าต่างก่อนจะหยิบทั้งสมุดและดินสอออกมาให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานและยื่นมือไปรับอย่างชอบอกชอบใจ
"สมัยนี้มีสมุดกับดินสอแล้วซินะ"
"หากจะซื้อสมุดต้องไปที่ตลาดบ้านสมุด หากจะซื้อดินสอต้องไปที่ตลาดบ้านดินสอ เจ้าค่ะคุณหนู"
"ยุ่งยากจัง"
จอมขวัญปากยื่นออกมาด้วยความไม่คอยชอบใจเท่าไหร่ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้สร้อยทิพย์ด้วยแววตาจริงจัง
"เอาล่ะ! เรามาเริ่มการสอบสวนกันเถอะพี่สร้อย"
"ห๊ะ! สวนอะไรเจ้าคะ"
"สอบสวนจ้ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานแอบหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตามึนงง
"ช่างเถอะแค่พี่สร้อยตอบคำถามผมมาก็พอ"
"อ่า...เจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์พยักหน้ารับแม้จะยังงุนงงอยู่ก็ตาม
"คุณหนูพาขวัญอายุเท่าไหร่"
"18 เจ้าค่ะ"
"หืม? อายุเท่ากันกับผมเลย"
จอมขวัญขมวดคิ้วผิดกับสร้อยทิพย์ที่ยกมือขึ้นมาทาบอกอย่างตกใจ
"บังเอิญจังเลยนะเจ้าคะ"
"แล้วเหตุใดถึงยังไม่แต่งงานล่ะ อายุตั้ง 18 แล้วไม่ใช่หรือ"
เท่าทีจำได้ในหนังสือที่อ่านมาคนสมัยก่อนแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยกันอยู่นี่หน่า
"คุณหนูพาขวัญไม่ยอมไปดูตัวเจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น "พอผู้ชายมาหาที่เรือนก็จะทำกริยาไม่งามใส่จนคนพวกนั้นหนีเตลิดไปเลยเจ้าค่ะ"
"หือ? แสบเอาเรื่องเหมือนกันนะ"
จอมขวัญแอบหัวเราะในลำคออย่างขบขันก่อนจะฟังสิ่งที่สร้อยทิพย์เล่ามาอย่างตั้งใจ
"จนกระทั่งเมื่อช่วงสองปีที่แล้วคุณหนูพาขวัญก็ยอมดูตัวกับหลวงแทนกานต์ที่ตอนนั้นอยู่ในตำแหน่งออกหมื่นเจ้าค่ะ"
"แสดงว่าสนิทกับคุณหลวงคนนี้มาก...ไม่ค่อยสนิทกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม"
"แต่เท่าที่สร้อยเห็นน่ะคุณหนูพาขวัญเข้ากันได้ดีกับผู้ชายหลายคนเหมือนกันนะเจ้าคะ ใครเห็นก็ต้องหลงรักกันทั้งนั้น"
"ขนาดนั้นเลยหรอพี่สร้อย"
จอมขวัญชะงักมือที่กำลังเขียนอยู่ก่อนจะทำหน้าตาท่าทางคิดหนัก
"แล้วคุณหนูพาขวัญของพี่สนิทกับผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษนอกจากคู่หมั้นคู่หมายน่ะ"
"ที่พิเศษหน่อยเห็นจะเป็นออกขุนจักรกวินเจ้าค่ะ"
"แล้วหมื่นแสงหล้าล่ะ"
จอมขวัญถามด้วยความสงสัยเพราะอีกฝ่ายเองก็ทำท่าทางสนิทสนมและหวงพอสมควร
"รายนั้นเป็นฝ่ายเข้าหาตลอดแต่คุณหนูไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ"
"แต่ในเมื่อยอมดูตัวกับหลวงแทนกานต์" จอมขวัญเอาดินสอขึ้นมากัดเบาอย่างเผลอตัวเพราะกำลังคิดอะไรบางอย่างที่น่าสงสัย "แล้วทำไมถึงยังไม่ยอมออกเรือนด้วยซักทีล่ะ"
"อันนั้นสร้อยเองก็ไม่แน่ใจนะเจ้าคะ แต่คุณหนูพาขวัญนั้นก็ขอท่านเจ้าคุณเลื่อนงานแต่งไปหลายรอบด้วยเจ้าค่ะ"
"อ๋อ..." จอมขวัญพยักหน้า "แล้วคุณหลวงแทนกานต์กับพาขวัญสนิทกันมากไหม"
"ตามประสาคู่หมั้นคู่หมายเจ้าค่ะ แต่ดูเหมือนคุณหลวงจะไว้ตัวมากกว่าวันนี้นะเจ้าคะ วันนี้สร้อยตกใจแทบแย่ตอนที่หลวงแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาน่ะเจ้าค่ะ"
"ผมเองก็ตกใจเหมือนกันแหละ"
จอมขวัญปากยื่นพร้อมกับเขียนข้อความลงในสมุดอย่างคล่องแคล่วจนสร้อยทิพย์อดมองด้วยสายตาชื่นชมไม่ได้
"คุณหนูจอมขวัญเขียนหนังสือเก่งจังเลยเจ้าค่ะ"
"ผมเรียนมาตั้งแต่เด็กนี่ครับ"
"สร้อยก็เห็นคุณหนูพาขวัญชอบเขียนหนังสือเหมือนกันนะเจ้าคะ"
คำพูดของสร้อยทิพย์นั้นทำให้จอมขวัญเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วสวยมองอย่างสนอกสนใจ
"แล้วหนังสือเล่มนั้นอยู่ไหนล่ะครับ"
"ไม่ทราบเจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ส่ายหน้า "หนังสือเล่มนั้นหายไปพร้อมกับคุณหนูพาขวัญเจ้าค่ะ"
"อย่างนั้นหรอ"
จอมขวัญทำหน้าตาเสียดายก่อนจะจดบันทึกอะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะยอมวางสมุดลงตรงโต๊ะที่วางชาแล้วเดินตามสร้อยทิพย์มายังเตียงนอนที่จัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย
"นอนเถอะเจ้าค่ะคุณหนู วันพรุ่งสร้อยจะพาคุณหนูไปเดินเที่ยวตรงตลาดน้อยดีไหมเจ้าคะ"
"จริงนะพี่สร้อย"
"เจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มแต่โดยดีปล่อยให้สร้อยทิพย์จัดการห่มผ้าและคลุมม่านสีขาวลงมาปิดก่อนจะดับเทียนแถวหัวเตียงแล้วหลบไปนอนแถวประตูห้อง
จอมขวัญนอนกระพริบตาซักพักก่อนจะหาวออกมาอย่างง่วงนอน ระหว่างนั้นก็คิดไม่ตกเกี่ยวกับผู้ชายทั้งสามคน
แทนกานต์ จักรกวิน แสงหล้า
เกี่ยวข้องอะไรกับการหายตัวไปของพาขวัญรึเปล่านะ... คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
จอมขวัญรีบตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่ออาบน้ำและแต่งตัวซึ่งการแต่งตัววันนี้ดูผิดแปลกไปนิดหน่อยเพราะวันนี้สร้อยทิพย์นั้นให้ตนเองสวมเสื้อแขนกระบอกยาวจรดแขนสีครีมเข้ากันกับสไบสีขมพูอ่อนที่ห่มแบบเฉียง และนุ่งผ้าซิ่นสีแดงมืดลวดลายสีทอง พร้อมกับเครื่องประดับที่เต็มยศเหมือนเดิมทำให้จอมขวัญมองเงาตัวเองในกระจกอย่างชอบอกชอบใจ
"ชุดเสื้อแขนยาวแบบนี้ใส่สบายดีนะครับ"
"ชุดเวลาใส่ออกไปข้างนอกต้องใส่แขนยาวน่ะเจ้าค่ะคุณหนู" สร้อยทิพย์ยิ้มหวานกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า "แต่งแบบนี้สวยไปอีกแบบนะเจ้าคะคุณหนู ยิ่งดูยิ่งเหมือนกันไม่มีผิด"
"ผมจะดีใจกว่านี้ถ้าพี่ชมว่าผมหล่อนะ"
จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมเหลือบมองสร้อยทิพย์ที่หัวเราะออกมาอย่างขบขัน
"คุณหนูนี่พูดอะไรตลกจังเลยนะเจ้าคะ คำว่าสวยเหมาะกับคุณหนูที่สุดแล้วเจ้าค่ะ"
"ผมไม่คุยกับพี่สร้อยแล้ว ไปขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า"
จอมขวัญลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทันทีทำให้สร้อยทิพย์แอบอมยิ้มแล้วรีบเดินตามหลังไปอย่างรวดเร็ว
"ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงอยู่ตรงห้องโถงกลางเจ้าค่ะ"
"งั้นไปกันเถอะพี่สร้อย"
จอมขวัญหันมายิ้มหวานแล้วเดินตรงไปยังห้องโถงกลางที่มีพัณณิตากำลังนั่งร้อยมาลัยและจอมทัพกำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างกันทำให้พัณณิตาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสนอกสนใจ
"แต่งตัวแบบนี้จะออกไปไหนหรือลูกพาขวัญ"
"ลูกจะมาขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่ไปเดินเที่ยวตลาดน้อยเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมทำสายตาส่งมาให้ทั้งสองคนอบ่างออดอ้อน
"เอาซิ" จอมทัพอนุญาติพร้อมยกมือขึ้นมาลูบผมอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี "ตามใจเถิดเพราะอยู่บ้านตลอดเวลาเจ้าคงจะเบื่อแย่"
"ขอบคุณเจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างเอาใจก่อนจะชะงักเมื่อพัณณิตานั้นห้ามด้วยความเป็นห่วง
"แต่แม่ไม่อยากให้เจ้าไปเลย"
"ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ" จอมขวัญหันไปมองสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่ด้านหลัง "ข้ามีพี่สร้อยไปด้วยทั้งคน ใช่ไหมพี่สร้อย"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ตอบรับทันทีแม้จะยังงงอยู่ก็ตาแต่พัณณิตาชักสีหน้าอย่างขัดใจ
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะแม่ก็ไม่ไว้ใจนังสร้อยอยู่ดีนั่นแหละ"
"คุณแม่เจ้าขา~"
จอมขวัญขยับเข้ามากอดพร้อมซบไหล่พัณณิตาอย่างออดอ้อนจนอีกฝ่ายพยักหน้าอย่างตามใจ
"เอาเถอะ ถ้าเจ้าอยากไปมากนักงั้นก็เอานั้งพริ้มกับอ้ายเมืองไปด้วยก็แล้วกัน"
"เจ้าค่ะคุณแม่"
"อ้ายเมืองไปเตรียมเรือไป"
พัณณิตาหันไปสั่งเมืองที่รีบลุกขึ้นเดินลงไปจากเรือนเพื่อไปเตรียมเรือทันที ก่อนจะหันไปสั่งบ่าวคนสนืททั้งสองคนที่นั่งก้มหน้าแทบจะติดพื้น
"ส่วนนั่งพริ้มกับนังสร้อยดูแลลูกข้าให้ดีนะรู้ไหม"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายและสร้อยทิพย์รับคำอย่างนอบน้อมก่อนที่จอมขวัญจะหอมแก้มพัณณิตาและจอมทัพอย่างเอาอกเอาใจ
"งั้นลูกไปก่อนนะเจ้าคะ"
"ระวังตัวเองด้วยนะลูก"
พัณณิตาชะเง้อมองลูกตนเองที่เดินลงไปจากเรือนด้วยความเป็นห่วงโดยมีจอมทัพลูบหลังภรรยาด้วยแววตาที่อ่อนโยน
"พาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก มีนังพริ้ม นังสร้อย กับอ้ายเมืองไปด้วยแบบนั้น เจ้าสบายใจเถิดแม่พัณ"
"เจ้าค่ะคุณพี่"
พัณณิตาตอบรับพร้อมถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นห่วง
ส่วนจอมขวัญรีบเดินลงมาตรงไปยังท่าน้ำก็พบกับเมืองที่เตรียมเรือไว้เรียบร้อยพร้อมกับยื่นมือมาให้ตนเองจับด้วยความเป็นห่วง
"ระวังนะขอรับคุณหนู"
"ขอบใจนะพี่เมือง"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจับมือเกร่งนั้นแน่นก่อนจะก้าวลงไปนั่งบนเรืออย่างระมัดระวัง หลังจากขึ้นเรือกันเรียบร้อยทุกคนแล้วเมืองก็ดันเรือออกจากท่าและตั้งใจพายเรือไปตามเส้นทางสายน้ำเพื่อมุ่งตรงไปยังตลาดน้อยที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร ซึ่งจอมขวัญหันซ้ายแลขวามองบรรยากาศรอบกายด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้นั่งเรือไปเที่ยวตลาดครั้งแรก
โดยที่ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของพลอยปภัสที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนบนเรือนด้วยแววตาจับผิด
"พวกนั้นจะไปไหนกันน่ะนังฝ้าย"
"ฝ้ายได้ยินมาว่ากำลังจะไปเที่ยวตลาดน้อยเจ้าค่ะ"
ฝ้ายตอบผู้เป็นนายตนเองขณะที่กำลังขัดเครื่องประดับสีเงินที่เริ่มดำอย่างตั้งอกตั้งใจซึ่งพอได้ฟังแบบนั้นพลอยปภัสก็เหยียดยิ้มตรงมุมปากเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก
"ตลาดน้อยอย่างนั้นหรือ หึ! นังฝ้ายเองไปตามอ้ายนพให้เตรียมเรือไป"
"คุณหนูจะไปไหนหรือเจ้าคะ"
ฝ้ายชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปถามด้วยความสงสัยทำให้พลอยปภัสหน้าตาบึ้งตึงใส่ด้วยความขัดใจ
"นังโง่! ไปตลาดน้อยน่ะซิ"
"ไปทำไมเจ้าคะ!?" ฝ้ายทำท่าทางตกอกตกใจเมื่อคุณหนูของตนนึกยังไงอยากไปเที่ยวตลาด
"ไม่ต้องถามอะไรมากทำตามที่ข้าสั่งก็พอ"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
ฝ้ายตอบรับพร้อมรีบเดินออกจากห้องทันทีทิ้งให้พลอยปภัสยืนมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าและแววตาที่ร้ายกาจ
หลังจากพายเรือมาได้ไกลพอสมควรก็ใกล้ถึงบริเวณคลองสวนพูล ซึ่งตลาดน้อยนั้นตั้งอยู่ตั้งแต่เชิงสะพานในไก่ตะวันออกยาวไปจรดถึงหัวมุมพระนครบริเวณประตูช่องกุดซึ่งมีท่าเรือขนาดใหญ่และมีเรือจ้างข้ามไปวัดพระนางเชิง
"ตรงนั้นวัดพระนางเชิงใช่ไหมพี่สร้อย"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
"งดงามยิ่งนัก"
วัดพระนางเชิง พระอารามหลวงชั้นโท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลำน้ำที่เป็นวังวนน้ำเชี่ยว สามารถมองเห็นเด่นสง่าได้แต่ไกล ความงดงามแลความศักดิ์สิทธิ์นั้นทำให้จอมขวัญยิ้มหวานและยกมือขึ้นไหว้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา
'เป็นบุญตาของจอมขวัญยิ่งนักที่ได้มาเห็นของจริงแบบนี้'
"คุณหนูเจ้าคะด้านหน้านั้นก็จะถึงท่าเรือจ้างข้ามไปวัดพนัญเชิงตรงประตูช่องกุดแล้วเจ้าค่ะ"
"ประตูช่องกุดหรอ"
จอมขวัญชะโงกหน้ามองประตูขนาดเล็กสีขาวซึ่งถูกเจาะไว้เป็นระยะเท่ากันบริเวณรอบกำแพงพระนครถึงหกสิบเอ็ดประตู ซึ่งภาพตรงหน้างดงามมาก มีมีชาวบ้านเดินกันตรงท่าเรือที่ทำจากแพไม้มากมายครึกครื้นยิ่งทำให้จอมขวัญหันซ้ายหันขวาด้วยความตื่นเต้นไปหมดก่อนจะไปสะดุดตากับป้อมปืนใหญ่ก่อด้วยศิลาแลงมั่งคงแข็งแรง มีกำแพงล้อมรอบ บนชานป้อมนั้นมีทหารเดินอยู่จำนวนมาก ด้านบนมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตามช่องแปดกระบอก ชั้นล่างปืนใหญ่รางเกวียนวางไว้ทุกช่องนับรวมแล้วประมาณสิบหกกระบอกเหมือนที่เห็นในหนังสือประวัติศาสตร์ที่คุณย่าอ่านบ่อยครั้ง
"ส่วนนั่นถ้าข้าจำไม่ผิดคือป้อมเพชรใช่หรือไม่"
"ใช่แล้วเจ้าค่ะ แถวนั้นมีตลาดน้ำบางกะจะด้วยนะเจ้าคะ เดี๋ยววันหลังสร้อยจะพาคุณหนูไปเดินเล่นนะเจ้าคะ"
"จริงนะพี่สร้อย"
จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะหันไปมองท่าเรือแพไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าที่มีเรือเล็กเรือใหญ่ตลอดไปถึงเรือสำเภาจอดเทียบท่ามากมาย เมืองนั้นค่อยพายเรือไปเทียบกับท่า ก่อนจะรีบไปคุกเข่าบนท่าเรือแล้วยื่นมือมาให้จบเหมือนเดิม
"ขึ้นระวังหน่อยนะขอรับคุณหนูตรงนี้ค่อนข้างลื่นมาก"
"ขอบใจจ้ะพี่เมือง"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับยื่นมือไปจับอย่างไม่นึกรังเกียจและมองคนที่เดินผ่านไปมาอยู่รอบตัวด้วยความตื่นเต้น
จอมขวัญควงแขนสร้อยทิพย์ให้เดินไปด้วยกันโดยมีพริ้มพรายและเมืองเดินตามอยู่ด้านหลังมุ่งตรงไปยังตลาดน้อยตลงหน้าซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของคนจีน มีการซื้อขายสินค้ากันคึกคัก โดยมีขนมแห้งจีนหลากหลายทั้งลูกกวาด ฟักเชื่อม และมีตลาดขายของสดมากมายเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือไม่มีผิด
"ของเยอะจังเลยนะพี่สร้อย"
"แถวนี้ยังเยอะไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างพร้อมชี้ไปยังตลาดฝั่งตรงข้ามที่มีสะพานข้ามคลองขนาดเล็กกั้นเอาไว้มีผู้คนเดินข้ามกันมากพอสมควร
"หากเดินไปอีกซักหน่อยก็จะเป็นตลาดใหญ่ท้ายพระนครเจ้าค่ะ ที่นั่นมีผ้าแพรผ้าไหมสีสดใสมากมายเลยนะเจ้าคะ"
"งั้นไปกันเถอะพี่สร้อย"
จอมขวัญลากสร้อยทิพย์ให้เดินมาตาโดยพริ้มพรายนั้นห้ามไว้ไม่ทันจึงรีบวิ่งตามหลังกับเมืองที่ยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความงุนงงโดยไม่ทันสังเกตุเห็นใครบางคนที่ชะโงกหน้าเดินตามหลังมาห่างกันพอสมควร
"พวกนั้นอยู่ตรงนู้นเจ้าค่ะคุณหนู"
"นั่นทางไปตลาดใหญ่ท้ายพระนครไม่ใช่รึไง"
พลอยปภัสกอดอกทำหน้าตาบึ้งตึงเพราะตนเองไม่ชอบที่จะมาเดินตลาดแถมอากาศร้อนอีกต่างหาก ก่อนจะหันไปมองนพที่พึ่งเดินตามหลังมาโดยที่ในมือถือเหล้าไว้หนึ่งไหด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
"กินเหล้าแต่หัววันเลยหรออ้ายนพ"
"เหล้าจีนที่นี่รสชาติเลื่องลือนี่ขอรับคุณหนู ถ้าไม่ซื้อกินก็ไม่ใช่ข้าแล้วกระมั้ง"
นพตอบเสียงเข้มก่อนจะยกไหเหล้าขึ้นมาดื่มอีกอึดใหญ่
นพเป็นผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่ผิวสีแทนและเนื้อตัวมอมแมมแต่หน้าตาหล่อเข้มแววตามีเสน่ห์จนใครเห็นก็ต้องโอนอ่อนยอมให้อีกฝ่ายทุกราย
ซึ่งพอเห็นท่าทางมึนเมาแบบนั้นทำให้พลอยปภัสเบ้ปากให้ด้วยความเอือมระอา
"รีบไปเถอะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นานซักเท่าไหร่"
"ตามบัญชาขอรับคุณหนู"
นพแสยะยิ้มพร้อมกับเดินตามหลังพลอยปภัสและฝ้ายที่เดินจ้ำอ้าวไม่หยุด
ทางด้านจอมขวัญกำลังชื่นชมกับความคึกคักของตลาดใหญ่ท้ายพระนครที่มีชาวจีนชาวไทยนั้นตั้งนั่งร้านขายข้าวของมากมายทั้งเครื่องทองเหลือง เครื่องทองขาว ชามกระเบื้องเคลือบ ผ้าแพรและผ้าไหมสีสดใสจากจีน เครื่องประดับงดงามหลากหลาย มีอาหารและผลไม้มาจากเมืองจีนวางขายตามท้องตลาดมากมาย
สร้อยทิพย์หยิบผ้าแพรสีแดงที่ปัดลวดลายของจีนด้วยด้ายทองยื่นมาทาบผิวจอมขวัญด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ
"คุณหนูว่าผ้าแพรสีแดงผืนนี้สวยหรือไม่เจ้าคะ"
"แต่นังสร้อย..."
พริ้มพรายขัดพร้อมกับหยิบผ้าแพรสีม่วงที่ถักทอด้วยลวดลายอลังการมาทาบบนแขนอีกข้างที่ว่างอยู่ของจอมขวัญอย่างภูมิอกภูมิใจ
"ข้าว่าสีม่วงผืนนี้เหมาะกับคุณหนูมากกว่านะ"
"เอ่อ...ข้ามีเสื้อผ้าเยอะแล้วไว้ค่อยมาดูแล้วกันนะ งั้นเราเดินไปดูเครื่องประดับตรงนู้นกันเถอะพี่สร้อย"
จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับลากแขนสร้อยทิพย์ให้มาดูร้านเครื่องประดับจากจีนซึ่งทำด้วยหยกมากมายหลากหลายชนิดก่อนที่จอมขวัญจะถูกตาต้องใจกับแหวนหยกเนื้ออ่อนสามสีที่หายากพอสมควรจึงเอื้อมมือจะไปหยิบแต่มีมือของใครบางคนฉวยมันเอาไปซะก่อน
"ข้าจะเอาแหวนวงนี้"
พอเงยหน้าขึ้นมามองพบว่าคนที่มาแย่งแหวนวงนั้นไปคือพลอยปภัสนั่นเอง พลอยปภัสหันหน้ามาเหยียดยิ้มให้กับน้องสาวต่างมารดา
"บังเอิญจริง ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอเจ้าที่นี่ หายป่วยแล้วรึพาขวัญ"
"ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะคุณพี่พลอย"
จอมขวัญยิ้มหวานกลับก่อนที่พริ้มพรายที่เดินตามหลังมาจะทำท่าทางตกใจเมื่อไม่คิดว่าจะมีใครบางคนยืนอยู่ตรงนี้
"ตายแล้ว! คุณหนูพลอยปภัส! ออกจากเรือนได้ด้วยหรือเจ้าคะ"
"ข้าก็มีขานะนังพริ้ม"
พลอยปภัสตอบด้วยความไม่ชอบใจก่อนจะหันไปกวักมือเรียกนพให้เดินมายืนข้างตนเอง
"ตั้งแต่กลับมายังไม่เคยเจออ้ายนพเลยซินะ"
"นพ?"
จอมขวัญทำหน้าตางุนงงทำให้พลอยปภัสนั้นแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
"เจ้าคงจะจำไม่ได้ เมื่อก่อนเจ้าสนิทกับอ้ายนพมากเลยมิใช่รึเห็นเรียกหามันทุกวัน"
"แค่คนพายเรือเองคุณหนูเรียกหาก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์กอดอกจ้องหน้าคนที่กำลังมึนเมาด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่พอใจ
"อีกอย่างคุณหนูพาขวัญของข้าจะต้องจำคนใช้ขี้เมาแบบนี้ได้ด้วยหรือเจ้าคะ"
"ปากดีนักนะนังสร้อย"
นพขบฟันเข้าหากันอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับยกมือขึ้นมาเตรียมจะทำร้ายร่างกายแต่จอมขวัญจับแขนของสร้อยทิพย์และเอาตัวเองมาบังเอาไว้จนมิด
"พี่สร้อยเป็นคนของข้า หากคิดจะทำร้ายข้าจะกลับไปฟ้องคุณพ่อคุณแม่ให้ลงโทษเจ้า"
"นพก็เป็นคนของพี่เหมือนกันมันจะไม่เกินไปหน่อยหรือพาขวัญ"
พลอยปภัสออกตัวปกป้องบ่าวของตนเองบ้างด้วยสีหน้าและแววตาโกรธจัดทำให้จอมขวัญถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
"งั้นพี่พลอยก็ดูแลคนของพี่ให้ดีหน่อยซิเจ้าคะ เอาเถอะข้าไม่อยากได้เครื่องประดับแล้วเราเดินไปดูขนมตรงนู้นกันเถอะพี่สร้อย แม่พริ้ม พี่เมือง"
"เหอะ!"
พลอยปภัสยกมือขึ้นกอดอกทำเสียงและสีหน้าไม่พอใจมากพร้อมกับมองพวกจอมขวัญที่เดินหนีไปจากตรงนั้นด้วยสายตาอาฆาต
"พวกมันเดินไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนู"
"ข้าเห็นแล้ว!"
พลอยปภัสขึ้นเสียงใส่ฝ้ายที่ผงะถอยห่างออกไปทันที ก่อนจะมองเจ้านายของตนเองที่เดินกระทืบเท้าปึงปังเดินไปแกล้งชนน้องสาวต่างมารดาอย่างแรงจนอีกฝ่ายกระเด็นหลุดออกจากมือสร้อยทิพย์ที่เกาะแขนเอาไว้
"โอ๊ะ!"
"ว๊าย! คุณหนู!!"
สร้อยทิพย์หวีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นจอมขวัญกำลังหน้าทิ่มไปทางกระทะใบใหญ่ที่กำลังทอดขนมขายอยู่นั้นอย่างแรงและเร็วจนเมืองเองที่เดินตามอยู่ด้านหลังก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน
ส่วนจอมขวัญเองกำลังเสียหลักไปด้านหน้าเพราะโดนพลอยปภัสตั้งใจชนจากด้นหลังและกำลังจะหน้าทิ่มไปตรงกระทะที่กำลังเดือดเต็มที่ทำให้หลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัวก่อนจะรู้สึกเหมือนมีใครคว้าเอวเอาไว้แล้วพลิกตัวของเขาให้หันมากอดอีกฝ่ายอย่างแนบแน่น ตามมาด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยกระซิบอยู่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย
"เป็นอะไรหรือไม่พาขวัญ"
"คุณหลวง?"
จอมขวัญลืมตาขึ้นมาจ้องคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตางุนงงซึ่งแทนกานต์ที่ทำสีหน้าท่าทางเป็นห่วง
และท่าทางแบบนั่นของอีกฝ่ายทำให้แทนกานต์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โชคดีที่วันนี้ตนคุยงานกับพวกขุนนางเสร็จพอดีจึงมาเดินเล่นในตลาดและดันได้ยินเสียงร้องโวยวายเหมือนคนจะทะเลาะกันจึงเดินมาดูและไม่คิดว่าจะเข้ามาเจอฉากที่พลอยปภัสแกล้งเดินชนพอดีจึงรีบเข้าไปคว้าเอวไว้ได้ทันแล้วพลิกตัวให้อีกฝ่ายหันมากอดตนเองเพื่อให้้พ้นกระทะที่กำลังร้อนและเดือดเต็มที่นั่น
แต่ทว่ามืออีกข้างหนึ่งดันเผลอจับบริเวนใกล้หน้าอกซึ่งจอมขวัญเองก็ยังไม่รู้ตัวเพราะกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย
"ข้าตกใจแทบแย่ ขอบคุณที่คุณหลวงมาช่วยไว้นะเจ้าคะ"
"ไม่เป็นไร"
แทนกานต์จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนจะเหลือบลงไปมองมือตนเองข้างที่อยู่แถวบริเวณหน้าอกนั้นด้วยแววตาสงสัย
'หน้าอกจริงรึเปล่านะ'
คิดได้อย่างนั้นแทนกานต์ก็เผลอขยับมือไปทาบอย่างลืมตัวท่ามกลางความตกใจของพวกบ่าวไพร่และชาวบ้านแถวนั้น
ไม่เว้นแม้แต่จอมขวัญที่เบิกตากว้างขยับปากกำลังจะโวยวายใส่ทว่าก็ต้องหน้าแดงจัดเมื่ออีกฝ่ายลองบีบอย่างแรงหนึ่งรอบ
'ทำไม...ไม่เห็นเหมือนหน้าอกเลย'
พอไม่รู้สึกอะไรจึงขยับมือหลายครั้งจนจอมขวัญนั้นหน้าแดงไปหมดทั้งอายทั้งโกรธจึงชกหน้าอย่างแรงท่ามกลางสายตาของชาวบ้านทุกคน
พลัก!
"คุณหลวงโรคจิต"
จอมขวัญหน้ามุ่ยพร้อมกับแตะขาของคนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ทำให้แทนกานต์ได้สติปล่อยมือจากอีกฝ่ายพร้อมกุมตาตนเองด้วยความเจ็บ
พอมองไปอีกทีก็เห็นจอมขวัญกอดแขนสร้อยทิพย์แล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปพร้อมกับบ่าวไพร่โดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของแทนกานต์เลยซักนิดเดียว
"กลับบ้านกันเถอะพี่สร้อย"
"เดี๋ยวก่อนซิพาขวัญ"
แทนกานต์ตะโกนตามหลังพร้อมกับกอบกุมดวงตาตนเองด้วยความเจ็บซึ่งแสงก็มองด้วยความเป็นห่วง
"เขียวเลยนะขอรับคุณหลวง"
"เงียบไปเลยอ้ายแสง"
แทนกานต์หันไปแยกเขี้ยวใส่บ่าวรับใช้ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยความอับอายกับการลืมตัวของตนเองนั่นเหละ
'โอยย ข้าทำอะไรลงไปเนี่ย'
*************มีต่อค่ะ****************
เรือนหลังที่ 7
"สายจนป่านนี้แล้วพาขวัญยังไม่ออกมาอีกรึ"
เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อเช้าแต่ยังไม่เห็นจอมขวัญออกจากห้องทำให้พัณณิตาร้อนใจหันไปสั่งพริ้มพรายบ่าวรับใช้คนสนิทด้วยความหงุดหงิดจากเรื่องเมื่อวานไม่หาย
"นังพริ้มไปตามแม่พาขวัญออกมากินข้าวซิ"
"เอ่อคือ..."
พริ้มพรายอึกอักพร้อมก้มหน้าลงจนแทบติดพื้นและหลบสายตาเจ้านายที่มองมาด้วยความขัดใจ
"ไปตามมาซิ!"
"คือคุณหนูให้นังสร้อยมาบอกบ่าวเมื่อตอนเช้ามืดว่า..."
"ว่าอะไร"
พัณณิตาขึ้นเสียงก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินคำตอบจากบ่าวรับใช้ของตนเอง
"ว่า...จะไม่ออกมากินข้าวด้านนอกเจ้าค่ะ"
"ตายแล้ว"
แพรวพรรณรายทำน้ำเสียงตกใจแต่ทว่าริมฝีปากกลับเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ
"สงสัยแม่พาขวัญจะโกรธคุณพี่เรื่องเมื่อวานนะเจ้าคะ"
"น้องพาขวัญจะโกรทำไมในเมื่อเป็นฝ่ายทำผิดเองนะเจ้าคะคุณแม่"
พลอยปภัสเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่สะใจ ส่วนจอมทัพนั้นนั่งนิ่งจ้อมมองภรรยาของตนเองอย่างไม่พอใจ
"ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวไปก่อนเถอะแม่พัณ"
"นี่ก็เลยเวลาอาหารเช้ามานานแล้ว หรือลูกจะไม่สบายรึเปล่าเจ้าคะ"
พัณณิตาเมินไม่ฟังคำเตือนของจอมทัพแล้วลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจ
"งั้นข้าจะไปตามแม่พาขวัญเอง"
"เดี๋ยวก่อนแม่พัณ"
จอมทัพตะโกนห้ามแต่อีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาเดินไปไม่หยุดจนต้องแอบถอนหายใจออกมาด้วยความหนักหน่วง
ส่วนพัณณิตาก็เดินไปยืนตรงหน้าห้องก่อนจะส่งสายตาให้บ่าวรับใช้เป็นคนเคาะประตู ซึ่งพริ้มพรายก็เคาะประตูห้องอย่างเบามือ
ก๊อกก๊อก~
"พาขวัญ"
ก๊อกก๊อก~
"พาขวัญออกมากินข้าวเถอะลูก เจ้าเป็นอะไรไม่สบายรึเปล่าลูก"
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับทำให้พัณณิตาหันไปสั่งพริ้มพรายอีกครั้งด้วยความร้อนใจ
"เคาะให้แรงกว่านี้ซินังพริ้ม"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายตอบพร้อมกับเคาะประตูห้องอีกครั้งสองครั้งก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของสร้อยทิพย์ที่ก้มหน้าลงหลบสายตาของพัณณิตาด้วยความกลัว
"นายแม่"
"นังสร้อยแล้วพาขวัญล่ะ"
พัณณิตาชักสีหน้าพร้อมมองบ่าวตรงหน้าด้วยสายตาตำหนิ
"ทำไมเองถึงไม่ยอมพาลูกข้าออกมากินข้าวด้านนอกหะ"
"คุณหนูจะกินข้าวในห้องเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ตอบเสียงสั่นก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาตวาดเสียงดังลั่น
"ทำไม!"
"บ่าวมิทราบเจ้าค่ะนายแม่"
สร้อยทิพย์ตัวสั่นไปหมดจนพริ้มพรายแอบมองด้วยความเห็นใจซึ่งพัณณิตาไม่สนใจดึงดันจะเข้าไปในห้องให้ได้
"งั้นถอยซิ ข้าจะเข้าไปข้างใน"
"ไม่ได้เจ้าค่ะนายแม่ คุณหนูไม่อนุญาติให้ใครเข้าไปทั้งนั้นเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์สายหน้าพร้อมกางมือขวางทางเอาไว้สุดตัวทำให้พัณณิตาตวาดเสียงดังกว่าเดิมแถมกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ
"เอ๊ะ! นังสร้อย!"
"บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ก้มหน้าแทบติดพื้นก่อนจะรีบปิดบานประตูกั้นไม่ให้พัณณิตาเข้ามาด้านในซึ่งอีกฝ่ายก็เคาะประตูห้องหลายรอบจนยอมล่าถอยไปทำให้สร้อยทิพย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันมามองจอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้ทันที
"เยี่ยมมากพี่สร้อย"
"สร้อยกลัวจะโดนหวายเจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ตอบพร้อมหยิบหวีขึ้นมาหวีผมให้จอมขวัญต่อทั้งที่สีหน้ายังซีดเซียวไม่หาย
"ไม่ต้องห่วงหรอกพี่สร้อย ข้าไม่ยอมให้พี่โดนลงโทษหรอกน่ะ"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์รับคำพร้อมตั้งใจกับการหวีผมจนไม่ได้สนใจแก้มอมชมพูหน้าบีบนั้นพองลมขึ้นเล็กน้อยด้วยความแง่งอน
'ในเมื่อสั่งไม่ให้ออกนอกเรือน ผมก็จะอยู่แต่ในห้องนี่แหละ เฮอะ!'
ก๊อกก๊อก~
"ใครมาเคาะประตูห้องอีกแล้วนะ"
จอมขวัญยื่นปากออกมาอย่างไม่ชอบใจทำให้สร้อยทิพย์ส่ายหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง แต่ต้องตกใจเมื่อคนที่เคาะประตูนั้นคือเมืองและคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเมืองนั้นคือจอมทัพที่มองมาด้วยสายตาดุดัน
"ท่านเจ้าคุณ"
"ออกมานังสร้อย ข้ามีเรื่องจะคุยกับลูกข้าเพียงสองคน"
จอมทัพออกคำสั่งทำให้สร้อยทิพย์พยักหน้าแล้วคลานเข่าออกมาจากห้องซึ่งจอมทัพก็รีบเดินเข้าไปแล้วปิดประตูห้องลงกลอนจากด้านในทันที พอหันมาก็พบจอมขวัญที่หันมามองด้วยความแปลกใจ
"ท่านเจ้าคุณเข้ามาได้อย่างไรครับ"
"ไม่ได้หรือ? ข้าไม่เกี่ยวกับเรื่องการลงโทษของเจ้าเลยหนาจอมขวัญ"
จอมทัพยิ้มกว้างก่อนจะเดินมาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะเล็กด้านข้างที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารและขนมมากมาย
"เห็นเจ้าไม่ออกไปทานข้าวข้างนอกข้าจึงจัดเตรียมสำรับมาให้"
"ขอบคุณครับ"
จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเกรงตัวเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาลูบผมตนเองด้วยสายตาเอ็นดู
"บอกข้ามาซิว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอันใดขึ้นทำไมถึงไปต่อยหน้าหลวงแทนกานแบบนั้น บอกข้าในฐานะพ่อคนหนึ่งของเจ้าก็ได้นะ"
"ท่านเจ้าคุณ~"
จอมขวัญโผเข้ากอดอีกฝ่ายเต็มรักก่อนจะอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงที่แง่งอนไม่ไม่หาย
"เมื่อวานผมไปเดินตลาดบังเอิญเจอแม่พลอยเข้า แล้วแม่พลอยแกล้งพลักข้าไปทางกระทะที่มีน้ำมันร้อน"
"ห๋า"
จอมทัพย์ทำสีหน้าตกใจแล้วลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน
"แล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"
"โชคดีที่หลวงแทนกานต์มาช่วยเอาไว้ได้ทัน แต่เหตุที่ผมต่อยเขานั้น..."
จอมขวัญกัดปากและใบหน้าขาวที่เริ่มแดงขึ้นมาด้วยความอาย
"เพราะหลวงแทนกานต์มาจับหน้าอกผมที่ยัดผ้าเอาไว้กลางตลาดครับ!"
"ห๊ะ!"
จอมทัพทำหน้าเหวอก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความขบขัน
"พ่อแทนทำแบบนั้นกับเจ้าหรือ ฮะฮะฮะ"
"ไม่ตลกเลยนะครับท่านเจ้าคุณ"
จอมขวัญแก้มพองลมขึ้นอย่างไม่พอใจทำให้จอมทัพต้องกลั้นหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาลูบผมอย่างอ่อนโยน
"ไม่งอนนะ ไม่ต้องโกรธด้วยเข้าใจไหม"
"แต่ทำไมผมต้องโดนสั่งห้ามออกนอกเรือนด้วยล่ะ" จอมขวัญกอดอกด้วยความไม่พอใจ "คุณหญิงพัณณิตาไม่เคยคิดจะฟังผมเลยด้วยซ้ำ"
"แม่พัณเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเจ้าอย่าไปใส่ใจนักเลย ระหว่างนี้ก็อย่าไปซนอะไรที่ไหนล่ะเข้าใจไหม"
จอมทัพลูบผมอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูซึ่งจอมขวัญก็พยักหน้ารับอย่างว่านอนสอนง่าย
"ผมไม่ซนหรอกครับ แต่จนกว่าคุณหญิงจะมาขอโทษผมก็จะไม่ยอมก้าวออกจากห้องนี้เด็ดขาด"
"แสบนักนะ เหมือนพาขวัญไม่มีผิด"
จอมทัพหยิกแก้มอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยวท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของจอมขวัญที่หัวเราะออกมาอย่างสดใสขึ้นกว่าเดิมจนสร้อยทิพย์และเมืองที่นั่งอยู่หน้าห้องได้ยินเสียงหัวเราะนั้นแล้วแอบยิ้มออกมาพร้อมกัน
พอกินข้าวเรียบร้อยแล้วจอมขวัญก็มานั่งร้อยมาลัยอย่างตั้งอกตั้งใจ ตรงหน้ามีพานที่ใส่ดอกไม้มากมายหลายชนิด ทั้งมะลิ กุหลาบ ดาวเรือง และดอกรัก โดยมือบางจับดอกไม้เหล่านั้นมาร้อยเรียงกันอย่างปราณีตสวยงามมากจนสร้อยทิพย์นั้นอดที่จะยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้สึกชื่นชม
"คุณหนูร้อยมาลัยสวยมากเลยเจ้าค่ะ"
"จริงหรอ คุณย่าสอนผมมาตั้งแต่เด็กน่ะครับ"
จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะจับมาผูกเป็นพวงแล้ววางลงบนพานอย่างเบามือก่อนจะเหลือบไปเห็นสร้อยทิพย์กำลังรื้อพวกเครื่องประดับออกมานั่งขัด
"นั่นพี่สร้อยกำลังจะทำอะไรน่ะครับ"
"สร้อยกำลังจะเอาเครื่องประดับมาขัดเจ้าค่ะ"
พอได้ยินสร้อยทิพย์ตอบพร้อมทั้งเริ่มลงมือขัดอย่างตั้งอกตั้งใจทำให้จอมขวัญยิ้มกว้างแล้วหยิบผ้ามาช่วยกันนั่งขัดอีกแรง
"ข้าช่วยนะพี่สร้อย"
"ตามใจเถอะเจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ลอบมองคนที่กำลังนั่งขัดเครื่องประดับอย่างมุ่งมั่นด้วยสายตาที่เอ็นดู
จอมขวัญขัดเครื่องประดับไปหลายชิ้นก่อนจะไปสะดุดตากับสร้อยคอเส้นหนึ่งที่มีขนาดและความงดงามเหมือนของคุณย่าไม่มีผิด ทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย
"พี่สร้อย"
จอมขวัญร้องเรียกเสียงหลงพร้อมชูสร้อยเส้นที่กำลังถืออยู่ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู
"พี่เคยเห็นคุณหนูพาขวัญใส่สร้อยเส้นนี้ไหม"
"โอ๊ะ!" สร้อยทิพย์หันมามองด้วยความตกใจ "สร้อยเส้นนี้คุณหนูรักมากเลยเจ้าค่ะ ใส่ทุกวันไม่ยอมให้ใครแตะต้อง นี่ท่าคุณหนูจอมขวัญไม่รื้อของบ่าวก็ลืมไปเลยนะเจ้าคะ"
"หวงหรอ" จอมขวัญเลิกคิ้วสูง "แล้วใครเป็นคนให้"
"คุณหนูบอกว่าคนสำคัญเจ้าค่ะ"
พอได้ยินคำตอบแบบนั้นของสร้อยทิพย์ทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงใบหน้าของใครบางคน
"คุณหลวงหรอ"
"ได้มาก่อนพบคุณหลวงนะเจ้าคะ"
"อย่างนั้นหรอ"
ยิ่งฟังยิ่งอดที่จะสงสัยไม่ได้คิดไปคิดมามากก็เริ่มจะปวดหัว
"แต่ทำไมเหมือนสร้อยของคุณย่าจัง"
"อะไรนะเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยเหมือนได้ยินอีกฝ่ายบ่นอะไรบางอย่างพึมพัมในลำคอก่อนที่จอมขวัญรีบส่ายหน้าพร้อมถือสร้อยเส้นนั้นไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
"เปล่าไม่มีอะไรหรอก งั้นผมขอเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้นะครับ"
"ได้เลยเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปขัดเครื่องประดับต่อทิ้งให้จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นมองสร้อยที่ถือในมือนั้นด้วยความสงสัยอยู่คนเดียว
หลายสัปดาห์ผ่านไปบรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเพราะวันนี้มีเพียงพัณณิตาและจอมทัพที่กินข้าวตอนบ่ายเพียงสองคนเท่านั้น ส่วนแพรวพรรณรายพาพลอยปภัสออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า
พัณณิตาลอบมองจอมทัพด้วยความอึดอัดใจเมื่ออีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจมัวแต่ทานอาหารอย่างเดียวจนตนเองต้องโวยวายขึ้นมาอย่างหมดความอดทน
"คุณพี่เจ้าคะ ไม่คิดจะพูดกับน้องเลยหรือเจ้าคะ"
"แม่พัณมีอะไรอยากพูดกับพี่รึ"
จอมทัพเหลือบตาขึ้นมามองเล็กน้อยทำให้พัณณิตาเริ่มทำหน้าตาบึ้งตึง
"คุณพี่ยังโกรธน้องเรื่องพาขวัญหรือเจ้าคะ"
"รู้ตัวด้วยหรือ"
จอมทัพตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจแฝงไปด้วยคำตำหนิ
"เพราะเจ้าไม่เคยเปลี่ยนนิสัยไม่ฟังลูกได้ซักที"
"คุณพี่!"
พัณณิตาขึ้นเสียงดังพร้อมกับใช้มือตบโต๊ะไม้อย่างแรงด้วยความโมโห แต่ก่อนที่จะทะเลาะกันมากไปกว่านี้เมืองก็คลานเข่าเข้ามาอยู่ตรงด้านหลังของเจ้านายตนเองด้วยใบหน้าที่อึดอัด
"คุณหญิงรินทร์ทิพย์กับคุณหลวงแทนกานต์มาขอพบขอรับ"
"จริงรึ!"
พัณณิตาลืมความโกรธแล้วรีบหันไปสั่งคนรับใช้ตนเองอย่างกระตือรือร้น
"นังพริ้ม ลงไปเชิญทั้งสองคนขึ้นมาบนเรือนเร็ว"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายเดินลงไปตรงด้านหน้าของเรือนด้วยความรีบร้อน พอเห็นแบบนั้นแล้วจอมทัพก็ล้างมือก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องหนังสือกับเมืองทันทีที่เห็นรินทร์ทิพย์และแทนกานต์เดินขึ้นมาบนเรือน ทำให้รินทร์ทิพย์ชะงักเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้พัณณิตาแล้วส่งรอยยิ้มหวานมาให้อย่างเอาอกเอาใจ
"น้องไหว้เจ้าค่ะคุณพี่พัณ"
รินทร์ทิพย์หันไปตีแขนลูกตนเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังชะเง้อมองไปทางห้องนอนพาขวัญด้วยท่าทางแสดงออกอย่างเกินหน้าเกินตา
"ไหว้คุณป้าซิพ่อแทน"
"สวัสดีขอรับคุณป้า"
แทนกานต์หันมายกมือขึ้นไหว้แต่สายตายังเหลือบไปมองห้องของพาขวัญตลอดเวลา
ก่อนที่ทั้งสามจะเดินมานั่งตรงห้องโถงกลางที่มีพวกบ่าวไพร่จัดเตรียมน้ำและขนมมาเรียบร้อย รินทร์ทิพย์ดื่มน้ำชาพร้อมมองไปยังห้องหนังสือด้วยใบหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
"แล้วท่านเจ้าคุณรีบเดินไปห้องหนังสือทำไมหรือเจ้าคะ'
"อย่าไปสนใจเลยแม่รินทร์"
พัณณิตาเชิดหน้าขึ้นอย่างแง่งอนก่อนจะหันไปมองแทนต์กานต์ที่กำลังชะเง้อมองไปทางห้องนอนลูกตนเองด้วยสายตาเอ็นดู
"พ่อแทนเป็นอย่างไรบ้าง หายเจ็บรึยังจ้ะ"
"ข้าหายดีแล้วขอรับคุณป้า"
แทนกานต์สะดุ้งก่อนจะหันมายิ้มแห้งให้อย่างกลัวเสียมารยาท แล้วต้องหลบสายตาเมื่อเห็นท่าทางของพัณณิตาที่มองมาอย่างไม่สบายใจ
"ป้าต้องขอโทษพ่อแทนด้วยนะที่พาขวัญไปต่อยหน้าพ่อแทนกลางตลาดแบบนั้น"
"ความจริงไม่ใช่ความผิดของจอมขวัญหรอกขอรับ ข้าเป็นฝ่ายผิดเอง"
แทนกานต์โบกไม้โบกมือแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ คำพูดของอีกฝ่ายทำให้พัณณิตาชะฃักแล้วจ้องมองด้วยแววตาสงสัย
"หมายความว่ายังไงจ๊ะพ่อแทน"
"ข้าเป็นฝ่าย..." แทนกานต์ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด "จับหน้าอกพาขวัญก่อนขอรับ"
"ตายแล้ว!"
พัณณิตายกมือขึ้นมาทาบอกตนเองอย่างตกใจก่อนที่จะทำหน้าตาเศร้าหมองด้วยความรู้สึกผิด
"เพราะน่าอายอย่างนี้นี่เองแม่พาขวัญถึงไม่ยอมพูดความจริง"
"แต่มันเป็นอุบัติเหตุนะขอรับคุณป้า..."
แทนกานต์เล่าย้อนความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทั้งหมดยิ่งทำให้คนฟังแทบจะเป็นลม ก่อนจะเหลือบมองไปยังห้องนอนนั้นอีกครั้งด้วยสายตาเป็นห่วง
"ได้ยินมาว่าคุณป้าลงโทษพาขวัญด้วยหรือขอรับ"
"ป้าฟังความจากแม่พลอยข้างเดียวจึงด่วนสรุปและลงโทษไปแบบนั้น"
พัณณิตาดมยาดมเข้าปอดโดยมีรินทร์ทิพย์คอยพัดให้ด้วยความเป็นห่วง
"น่าสงสารหลานพาขวัญจังเลยนะคะคุณพี่"
"พี่ผิดเอง"
พัณณิตาส่ายหน้าพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ตีตื้นขึ้นมาจนแทบจะร้องไห้ไม่แตกต่างจากแทนกานต์ที่อยากขอโทษแทบแย่
"คุณป้าจะว่าอะไรไหมครับถ้าข้าจะขอพบหน้าพาขวัญเพื่อจะขอโทษน่ะขอรับ"
"ป้าเกรงว่าพาขวัญคงจะไม่ยอมออกมาพบพ่อแทนล่ะนะ เพราะขนาดป้าเองก็ยังไม่ยอมออกมาเลย"
พัณณิตาเตือนด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเริ่มสะอื้นเล็กน้อย แต่แทนกานต์กลับส่ายหน้าและดึงดันที่จะพบให้ได้
"ไม่เป็นไรขอรับคุณป้า ข้าอยากพบพาขวัญน่ะขอรับ"
"ถ้าพ่อแทนพูดเช่นนี้แล้วป้าก็คงจะไม่ขัดอะไรหรอก" พัณณิตาหันไปสั่งพริ้มพรายที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยความร้อนใจ "นังพริ้มไปตามพาขวัญออกมาซิบอกว่าคุณหลวงมาขอพบ"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องของพาขวัญแล้วเคาะประตูหลายครั้งแต่ทว่ากลับเงียบไม่มีใครยอมมาเปิดประตูห้องเหมือนเดิมจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิมและก้มหน้าแทบติดพื้น
"ไม่เปิดเจ้าค่ะนายแม่"
"ข้าเห็นแล้ว" พัณณิตาขมวดคิ้วด้วยความหนักอกหนักใจ "แม่พาขวัญคงโกรธข้ามากซินะ ฮึก!"
"คุณพี่พัณอย่าร้องไห้ซิเจ้าคะ"
รินทร์ทิพย์ยื่นมือไปลูบหลังอย่างแผ่วเบาด้วยความสงสารทำให้พัณณิตาหายสะอื้นแล้วหันไปมองแทนกานต์ที่ทำหน้าเจือนลงอย่างเห็นได้ชัด
"วันนี้พ่อแทนกลับไปก่อนเถิดหนา"
"แต่"
"ทำตามที่คุณป้าท่านบอกเถิดพ่อแทน ขืนดื้อรั้นอยู่อย่างนี้คงจะหมางเมินกันไปมากกว่าเดิม"
รินทร์ทิพย์พูดขัดขึ้นมาทำให้แทนกานต์พยักหน้าแต่สายตาแอบคอยชะเง้อมองที่หน้าประตูห้องอยู่นานจนจอมทัพที่แอบมองสถานการมาจากห้องหนังสือนั้นเริ่มเห็นใจนิดหน่อย
"กลับไปเถิดพ่อแทน อีกไม่นานพาขวัญก็คงยอมออกจากห้องแล้วล่ะ"
"งั้นข้าขอลานะขอรับ"
แทนกานต์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะเดินลงจากเรือนโดยแอบหันมามองตรงห้องนอนนั้นอีกหลายต่อหลายครั้งจนรินทร์ทิพย์ต้องแตะแขนแล้วพาเดินลงเรือนไปพร้อมกัน
ส่วนจอมทัพแกล้งทำเป็นเมินคนที่กำลังร้องไห้ด้วบการเดินเข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องหนังสือต่อโดยปล่อยให้พัณณิตานั้นรู้สึกผิดอยู่คนเดียวทั้งวันจนมืดค่ำก็นอนไม่หลับ
จนกระทั่งทนไม่ไหวลุกขึ้นมาจากเตียงนอนโดยที่พริ้มพรายที่นอนอยู่ตรงหน้าประตูห้องลุกขึ้นมามองอย่างแปลกใจ
"คุณหญิงจะไปไหนหรือเจ้าคะ"
"ข้าจะไปหาลูกข้า"
พัณณิตาออกมาจากห้องนอนตอนดึกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าประตูพร้อมกับพริ้มพรายที่เอื้อมมือไปเคาะประตูห้องอย่างแผ่วเบา
"พาขวัญ เปิดประตูให้แม่หน่อยนะลูก"
ก๊อก ก๊อก
"พาขวัญ แม่ขอโทษด้วยนะลูก" พัณณิตาน้ำตาคลอพร้อมพูดต่อด้วยน้ำเสียงสันเครือ "แม่รู้ความจริงทุกอย่างจากพ่อแทนแล้ว"
เสียงเรียกนั้นทำให้จอมขวัญที่กำลังจะหลับต้องลุกขึ้นนั่งก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่บนพื้นตรงหน้าประตูแต่ไม่ยอมพูดหรือโต้ตอบอะไรออกไป แต่แอบยินพิงประตูบานนั้นแล้วตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดออกมาอย่างเริ่มจะใจอ่อน
"แม่ผิดเองที่ไปหลงเชื่อคำของแม่พลอยปภัสและไม่ยอมฟังสิ่งที่ลูกกำลังจะอธิบาย แม่ขอโทษนะ"
"แต่คุณแม่สั่งไม่ให้ข้าออกไปเที่ยวนอกเรือน"
จอมขวัญยอมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแง่งอนทำให้คนฟังนั้นเริ่มยิ้มกว้างอย่างมีความหวัง
"ที่แม่ทำไปเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะหายไปอีกเหมือนตอนนั้น" พัณณิตายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด "ไม่อย่างนั้นยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากเรือนก็ได้หากเจ้ายอมออกมาให้แม่เห็นหน้าหน่อยเถิดหนาพาขวัญ"
แอ๊ด~
"พาขวัญลูกแม่"
พัณณิตาโผเข้ากอดจอมขวัญทันทีที่อีกฝ่ายยอมเปิดประตูห้องออกมาทำให้จอมขวัญชะงักเล็กน้อยด้วยความตกใจ
"แม่ขอโทษนะลูก ฮึก แม่จะไม่ทำแบบนั้นอีก"
"ไม่ร้องซิเจ้าคะคุณแม่"
จอมขวัญกอดกลับพร้อมเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายด้วยความสงสารซึ่งตนเองก็ลืมนึกไปเลยว่าอีกฝ่ายนั้นป่วยง่ายขนาดไหน
"เดี๋ยวคุณแม่จะป่วยเอานะเจ้าคะ"
"พาขวัญ" พัณณิตายิ้มกว้างพร้อมลูบผมอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม "แม่รักลูกนะ"
"พาขวัญก็รักคุณแม่เจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกอดอีกฝ่ายกลับโดยที่สายตาเหลือบไปเห็นจอมทัพที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ด้านหลังด้วยสายตาชื่นชม
*************มีต่อค่ะ************
เรือนหลังที่ 8
หลายสัปดาห์มาแล้วที่จอมขวัญทำกิจกรรมที่เหมือนเดิมติดต่อกันเกือบทุกวันไม่ว่าจะเป็นการนั่งร้อยมาลัย จัดดอกไม้ หรือบางครั้งก็แอบลงไปยังเรือนครัวเพื่อทำอาหารกับขนมบ้างแต่มันก็อดที่จะรู้สึกเบื่อไม่ได้
'อยากออกไปเที่ยวจัง'
"คุณหนูเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นจอมขวัญวางพวงมาลัยบนพานดอกไม้ด้วยสีหน้าท่าทางที่เบื่อหน่าย
"อยู่แต่ในบ้านแบบนี้เบื่อจังเลยครับพี่สร้อย"
"หรือจะลงไปนั่งเล่นตรงท่าน้ำดีไหมเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์เสนอแต่ถูกอีกฝ่ายส่ายหน้าแล้วยื่นปากใสทำให้อดเอ็นดูไม่ได้
"หรือคุณหนูอยากออกไปเที่ยวข้างนอกใช่ไหมเจ้าคะ"
"พี่สร้อยรู้ใจผมจังเลย" จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะทำหน้าเจื่อนลง "แต่คุณแม่คงจะไม่ยอมให้ไปหรอก"
"คุณหนูลองไปขอดูซิเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์เสริมขึ้นมาแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้ากลับมาอย่างเหงาหงอย
"เคยขอไปหลายครั้งแล้วแต่คุณแม่ก็หาเรื่องเลี่ยงไม่ให้ผมออกไปไหนซักครั้งเลย"
"อ่า...เอายังไงกันดีล่ะเจ้าคะ" สร้อยทิพย์ทำท่าทางคิด "หรือจะไปขอท่านเจ้าคุณดีเจ้าคะ"
"คุณพ่อเข้าวังหลวงไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว"
จอมขวัญตอบพร้อมทำสีหน้าสลดก่อนจะดีดนิ้วขึ้นมาเมื่อความคิดบางอย่าง
"คิดออกแล้ว!"
"คิดอะไรออกหรือเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์เอียงคอถามด้วยความสงสัยทำให้จอมขวัญก้มลงไปกระซิบข้างหูกันสองคนจนกระทั่งคนฟังทำตาโตด้วยความตกใจ
"ตายแล้ว!"
"ชู่ว์"
จอมขวัญยกนิ้วขึ้นมาทาบตรงริมฝีปาก
"อย่าเสียงดังซิครับ"
"แต่มันเสี่ยงนะเจ้าคะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ทำท่าทางลำบากใจแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มตรงมุมปาก
"แต่ผมอยากไปนี่หน่า อย่าเสียเวลาเลยเรารีบไปกันเถอะพี่สร้อย"
จอมขวัญลุกขึ้นก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วรีบเดินลงไปจากเรือนโดยมีสร้อยทิพย์เดินตามไปอย่างเร่งรีบ เมื่อมาถึงตรงท่าน้ำก็เห็นมีเรือลำเล็กผูกอยู่จอมขวัญจึงก้าวลงเรือโดยที่สร้อยทิพย์ตามคว้าตัวไว้ไม่ทัน
"คุณหนู! จะทำอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวสร้อยไปตามอ้ายเมืองมาพายให้"
"ไม่ต้องหรอกพี่สร้อย" จอมขวัญยิ้มหวานมาให้อย่างประจบ "ผมพายเรือเป็นนะ"
"แต่..."
สร้อยทิพย์ลังเลจนจอมขวัญขมวดคิ้วแน่น
"ถ้าพี่สร้อยไม่ลงมาผมจะไปคนเดียวแล้วนะ"
"เดี๋ยวก่อนซิเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์จับเรือเอาไว้แน่นแล้วก้าวขึ้นมานั่งบนเรืออย่างเร่งรีบจนจอมขวัญหัวเราะออกอย่างถูกอกถูกใจ
"ฮะฮะฮะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นะพี่สร้อย ผมไม่พายเรือหนีหรอกน่ะ"
"คุณหนูแกล้งบ่าวอีกแล้วนะเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์ปากยื่นจนจอมขวัญหัวเราะดังกว่าเดิมก่อนที่ทั้งสองจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงพัณณิตาตะโกนดังลงมาจากเรือน
"พาขวัญ! จะไปไหนน่ะลูก! นังพริ้มเองรีบลงไปซิ"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายรีบวิ่งลงมาจากเรือนทำให้สร้อยทิพย์นั้นใจหายใจคว้ำ
"แม่พริ้มวิ่งมานู่นแล้วเจ้าค่ะ"
"แย่ละ"
จอมขวัญบ่นอุบอิบก่อนจะทัดเรือออกจากฝั่งแล้วรีบพายหนีทันที แถมยังแอบหันไปมองเห็นพริ้มพรายยืนตะโกนเรียกปนหอบอยู่ตรงท่าน้ำพอดิบพอดี
"คุณหนู! กลับมาก่อนเจ้าค่ะ!!!"
"เองใช้อะไรไม่ได้เรื่องเลยนะนังพริ้ม"
พัณณิตาตะโกนลงมาอย่างหงุดหงิดพร้อมมองไปยังเรือลำเล็กที่พายออกไปไกลด้วยความเป็นห่วง ส่วนจอมขวัญเมื่อพายเรือออกมาในระยะที่ปลอดภัยแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน
"ดูแม่พริ้มซิพี่สร้อยยืนหอบหนักเลย"
"บ่าวเห็นแล้วเจ้าค่ะคุณหนู ฮะฮะ"
สร้อยทิพย์เองก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะมองหน้าจอมขวัญที่กำลังพายเรืออยู่ด้วยสายตาชื่นชม
"คุณหนูเก่งจังเลยนะเจ้าคะ พายเรือเป็นด้วย"
"คุณย่าท่านสอนและพานั่งเรือเล่นประจำน่ะครับ"
จอมขวัญตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มจนคนมองอดที่จะยิ้มตามไม่ได้
"คุณย่าคุณหนูต้องเก่งมากแน่เลยใช่ไหมเจ้าคะ"
"คุณย่าผมเก่งที่สุดเลยล่ะครับ"
จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะตั้งใจพายเรือไปยังทิศทางที่ตนเคยไปคราวที่แล้วจนสร้อยทิพย์อดที่จะสงสัยไม่ได้
"คุณหนูจะไปไหนเที่ยวที่ไหนเจ้าคะ"
"ตลาดน้ำบางกะจะ" จอมขวัญยิ้มกว้าง "พี่สร้อยเคยบอกว่าจะพาผมไปนะ"
"แต่แถวนั้นเป็นน้ำวนนะเจ้าคะ"
สร้อยทิพย์ทำหน้าตาเป็นห่วงแต่จอมขวัญกลับยิ้มหวานมาให้อย่างน่ารัก
"ไม่ต้องห่วงผมจะพายอย่างระวังที่สุดเลย"
"เจ้าค่ะ"
ถึงจะตอบไปแบบนั้นแต่สร้อยทิพย์ก็เอามือไปจับขอบเรือแล้วนั่งตัวเกรงไม่ตลอดทางจนคนพายอดที่จะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างขบขัน
ทางด้านแทนกานต์หลังจากคุยงานกับพวกขุนนางในวังเรียบร้อยแล้วก็มาเดินสำรวจตลาดแถวป้อมเพชรว่าค้าขายดีกันขนาดไหนเพื่อเอาไปรายงานกับท่านเจ้าคุณจอมทัพในการหารือครั้งต่อไป
ซึ่งแทนกานต์นั้นเป็นคนหล่อมากจึงไม่แปลกนักที่เดินไปทางไหนแล้วคนจะพากันมองแบบไม่ละสายตา
โดยที่เจ้าตัวก็ไม่สนอะไรแถมยังหน้าหงิกจนแสงที่เดินตามข้างหลังอดที่จะทักขึ้นมาไม่ได้
"คุณหลวงหน้าหงิกจังเลยนะขอรับ"
"ข้าไม่ชอบ"
แทนกานต์ตอบด้วยใบหน้าบึ้งตึงและแววตาฉายความหงุดหงิด
"ข้าจะกลับบ้าน"
"ขอรับ"
แสงตอบรับก่อนจะเดินตามหลังเจ้านายตนเองไปอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงกระซิบจากสาวน้อยใหญ่ดังตามมาจากด้านหลัง
"หลวงแทนกานต์รูปงามสมคำร่ำลือนัก"
"เสียดายที่มีคู่หมั้นแล้ว"
"หึ"
พอคิดถึงคู่หมั้นตนเองขึ้นมาทำให้แทนกานต์อดที่จะกระตุกยิ้มออกมาตรงมุมปากไม่ได้
'คิดถึง'
คำนี้ดังขึ้นมาจากความรู้สึกที่หลายอาทิตยที่ผ่านมานี้ไม่ได้ไปพบหน้าเพราะมีงานที่จะต้องสะสาง แต่เหมือนจะคิดถึงมากไปหน่อยเพราะตนเหมือนเห็นอีกฝ่ายกำลังพายเรือตรงเข้ามาทางท่าน้ำ
"อ้ายแสง เองช่วยข้าดูหน่อยซิว่านั่นใช่พาขวัญรึเปล่า"
"ไหนขอรับ โอ๊ะ!"
แสงกวาดสายตามองไม่นานก็ไปสะดุดตากับเรือลำเล็กที่กำลังพายมาเทียบท่า
"นั่นคุณหนูพาขวัญขอรับ"
"หึ"
แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะเดินตรงไปยังเรือลำนั้นที่จอมขวัญกำลังผูกเชือกกับตอไม้อย่างตั้งอกตั้งใจจนไม่ทันสังเกตเห็นว่ากำลังมีใครเดินมาหาตนเอง
พอผูกเรือเสร็จจอมขวัญจึงหันมายิ้มหวานให้สร้อยทิพย์ที่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ไม่ต้องถอนหายใจขนาดนั้นก็ได้มั้งพี่สร้อย"
"สร้อยกลัวเรือล่มนี่เจ้าคะ"
สร้อยทิพย์ถอนหายใจออกมาอีกครั้งจนจอมขวัญส่ายหน้าแล้วหัวเราะในลำคอ
"เราขึ้นไปกันเถอะพี่สร้อย ข้าอยากเดินตลาดจะแย่แล้ว"
จอมขวัญกำลังตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนแต่ต้องชะงักเมื่อมีมือขาวยื่นมาหาตนเอง จนอดที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"โอ๊ะ! คุณหลวง!"
"ตกใจอะไรรึพาขวัญ"
แทนกานต์หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นหน้าตาที่เบิกกว้างอย่างน่าเอ็นดู
"รีบจับมือข้าซิ"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
จอมขวัญกัดปากแน่นด้วยความขัดใจก่อนจะยอมวางมือเรียวบางของตนเองลงบนมือขาวนั้นแล้วพยุงตนเองให้ขึ้นมาบนท่าเรือโดยที่สร้อยทิพย์ลุกตามขึ้นมาเองอย่างชำนาญโดยที่ไม่มีใครต้องจับ
แทนกานต์ยิ้มที่มุมปากพร้อมจ้องมองคู่หมั้นคู่หมายของตนเองด้วยแววตาแปล่งประกายเพราะวันนี้เจ้าตัวแต่งเพียงสไบสีม่วงอ่อนห่มแบบเฉียงทับกับสะไบสีม่วงเข้มที่อยู่ด้านในและนุ่งผ้าถุงจีบหน้าสีน้ำเงินมืดปักด้วยด้ายทองคำโดยที่มีเครื่องประดับกำลังพอดีไม่มากชิ้นจนเกินไปทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ได้ตั้งใจจะออกจากบ้านมาตั้งแต่แรก
"เจ้าแอบหนีคุณป้าออกมาเที่ยวอย่างนั้นหรือพาขวัญ"
"ห๊ะ! คุณหลวงรู้ได้ยังไงเจ้าคะ"
จอมขวัญทำหน้าเหวอออกมาอย่างลืมตัวโดยมีสร้อยทิพย์ยืนตัวสั่นก้มหน้าหลบสายตาอยู่ด้านหลังทำให้แทนต์กานต์อดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้
"จะไม่ให้ข้ารู้ได้อย่างไรในเมื่อเจ้าแต่งตัวอยู่บ้านขนาดนี้น่ะ"
"เอ่อ..."
พอได้ยินแบบนั้นแล้วทำให้สร้อยทิพย์เหลือบมองจอมขวัญอย่างไม่สบายใจ
"สร้อยลืมให้คุณหนูเปลี่ยนชุดเลยเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกน่ะพี่สร้อย ชาวบ้านคนอื่นเขาก็แต่งแบบนี้กันเยอะแยะไป"
จอมขวัญตอบด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจพร้อมเงยหน้ามองคนที่สูงกว่าอย่างเอาเรื่อง
"คุณหลวงจะไปฟ้องคุณแม่ใช่ไหมเจ้าคะ"
"ข้าบอกรึยังว่าจะนำเรื่องของเจ้าไปฟ้อง"
แทนกานต์ยิ้มหวานพร้อมยกมือขึ้นมาลูบผมนุ่มนิ่มนั้นอย่างแผ่วเบา
"ออกมาเที่ยวนอกบ้านบ้างก็ดีเพราะถ้าอยู่แต่ในเรือนก็คงจะได้เฉาตายใช่ไหมล่ะ"
"เจ้าค่ะ"
จอมขวัญปากยื่นก่อนจะพยายามเอาหัวหลบฝ่ามือนั้นเล็กน้อยทำให้แทนกานต์เปลี่ยนตำแหน่งย้ายมาจับมือนุ่มนิ่มนั้นไว้แทน
"ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาเจ้าเดินเที่ยวตลาดบางกะจะเองดีหรือไม่"
"ข้าเกรงใจคุณหลวงเจ้าค่ะ"
จอมขวัญพยายามเลี่ยงแต่อีกฝ่ายทำหูทวนลมและกระชับมือแน่นขึ้นไปอีก
"งั้นเริ่มต้นโดยการไปไหว้พระที่วัดบางกะจะกันเถอะนะ"
"ด...เดี๋ยวซิเจ้าคะ"
จอมขวัญอึกอักแต่ถูกอีกฝ่ายกระตุกมือแล้วลากให้เดินไปพร้อมกันโดยที่ตนเองนั้นยังงุนงงไม่หาย ทำให้สร้อยทิพย์และแสงแอบหัวเราะเจ้านายตนเองและรีบเดินตามหลังโดยเว้นระยะห่างพอสมควร
จากตอนแรกที่ขัดขืนก็กลายเป็นเดินตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่ายพร้อมมองบรรยากาศรอบตัวที่มีของขายและมีคนเดินสวนกันไปมาอย่างคึกคักจนจอมขวัญอดที่จะยิ้มหวานออกมาไม่ได้โดยที่แทนกานต์แอบหันมามองรอยยิ้มนั้นอย่างไม่ละสายตา
จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าวัดบางกะจะซึ่งความสวยงามของวัดนั้นทำให้จอมขวัญจ้องมองด้วยความตกตะลึง
"โห๋! สวยจัง"
"เข้าไปด้านในกันเถอะ"
แทนกานต์ชวนซึ่งจอมขวัญรีบพยักหน้ารับแล้วเดินไปพร้อมกัน
เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณวัดก็พบกับเจดีย์ทองคำองค์ใหญ่ที่เด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินเข้ามาในพระอุโบสถซึ่งภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทองคำ และภาพฝาผนังที่มีความงดงามมาก
จอมขวัญก้มลงกราบอย่างนอบน้อมพร้อมมองพระพทธรูปปางมารวิชัยตรงหน้าด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาโดยมีแทนกานต์แอบชำเลืองมองอย่างไม่ละสายตาจนจอมขวัญรู้สึกตัวและหันมามองด้วยความสงสัย
"มองอะไรหรือเจ้าคะคุณหลวง"
"เปล่าหรอก"
แทนกานต์ส่ายหน้าพร้อมยิ้มตรงมุมปาก
"เราออกไปข้างนอกกันเถอะ"
"เจ้าค่ะ"
จอมขวัญพยักหน้าพร้อมทั้งเดินออกมาเห็นสร้อยทิพย์และแสงกำลังยืนรออยู่ด้านนอก จอมขวัญเดินตรงเข้าไปกอดแขนสร้อยทิพย์อย่างออดอ้อน
"พี่สร้อยเราไปเดินตลาดกันเถอะข้าเห็นมีของขายเยอะเลย"
"เจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์เดินตามแรงดึงของเจ้านายตนเองโดยมีแทนกานต์เดินตามหลังตลอดเวลาด้วยสายตาเอ็นดู
จอมขวัญตื่นตาตื่นใจกับตลาดน้ำแบบที่แพลอยผูกกันยาวทั้งสองฝั่งฟากแม่น้ำและเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย จีน แขก ขายของมากมายทั้งขายน้ำตาลทราย น้ำตาลกรวด สาคูเม็ดใหญ่เม็ดเล็ก กำมะถัน และพวกสมุนไพรหลายชนิดทั้งจันทน์แดง หวายตะค้า และสิ่งของหลายชนิดจากแดนใต้ รวมไปถึงอาหารและขนมหวานมากมายละลานตาไปหมด จนกระทั่งจอมขวัญไปสะดุดตากับขนมชนิดหนึ่งที่แปลกตาไม่เคยเห็นมาก่อน
"ขนมอะไรน่ะน่ากินจัง"
"ขนมโคเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์อมยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาในลำคอเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเบิกตากว้างแล้วพูดจาที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่
"ทำมาจากวัวหรอ"
"ไม่ใช่เจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ยิ้มให้อย่างเอ็นดู "แต่เป็นชื่อของขนมจากแดนใต้ต่างหาก"
"น่ากินจังเลย"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมด้วยแววตาเป็นประกาย
"ป้าจ๊ะ เอาขนมโคหนึ่งชุดนะ"
"ได้เลยเจ้าค่ะแม่หญิง"
แม่ค้ายิ้มกว้างพร้อมจัดขนมลงบนใบกล้วยสีเขียวเข้มก่อนจะยื่นให้กับลูกค้าโดยที่สร้อยทิพย์เป็นคนจ่ายเงิน
จอมขวัญหยิบขนมโคขึ้นมากินก่อนที่แก้มยุ้ยนั้นจะพองลมและเคี้ยวหนุมหนับในปากด้วยความเพลิดเพลินเพราะขนมที่ตนเองกินนั้นมีสีสันที่สวยงามตัวแป้งนั้นนุ่มหนึบไม่แข็งกระด้างและหอมกลิ่นมะพร้าว จนอดที่จะหยิบไปจ่อปากบ่าวรับใช้ของตนเองไม่ได้
"อร่อยจัง พี่สร้อยลองชิมดูซิ"
"ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ผงะก่อนจะยิ้มแห้งมาให้เมื่อคู่หมั่นคู่หมายของอีกคนมองมาอย่างคาดโทษแต่จอมขวัญนั้นไม่รู้เรื่องอะไรจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"ทำไมล่ะ"
"ไหนขอข้าลองชิมดูซิ"
แทนกานต์กุมมือนุ่มนิ่มพร้อมกับก้มหน้าลงไปกินขนมในมือนั้นเต็มคำพร้อมกับยิ้มกว้างมาให้จนสาวที่อยู่แถวนั้นใจละลายเป็นแถว
"อืม...อร่อยจริงด้วย"
"คุณหลวง!"
จอมขวัญหน้าแดงจัดและรีบดึงมือกลับมาทันที
"คุณหลวงจะกินทำไมไม่หยิบเองล่ะเจ้าคะ"
"ข้าอยากให้เจ้าป้อนบ้างไม่ได้หรอ"
แทนกานต์ถามกลับพร้อมหน้าตาออดอ้อนทำให้จอมขวัญหน้ามุ่ยด้วยความอารมณ์เสีย
"ได้เจ้าค่ะ แต่คราวหลังบอกกันก่อนก็ดีนะ"
"คราวหน้าข้าจะบอกเจ้าแล้วกัน"
แทนกานต์ตอบกลับอย่างอมยิ้มทำให้จอมขวัญหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ ซึ่งในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงหวานเรียกดังขึ้นมาจากด้านหลัง
"คุณหลวงแทนกานต์"
"แม่นวล"
แทนกานต์ยกมือรับไหว้ทำให้จอมขวัญหันไปมองด้วยสายตาสงสัย
หญิงสาวตรงหน้าดูสวยและตัวเล็ก นุ่งผ้าสไบสีเขียวอ่อนและผ้าถุงสีเขียวน้ำทะเลพร้อมกับสวมเครื่องประดับไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แต่สง่างามโดยเฉพาะรอยยิ้มหวานนั่น
แถมเดินมาควงแขนแทนกานต์อย่างถึงเนื้อถึงตว
"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเจ้าคะ"
นวลจันทร์ยิ้มหวานพร้อมจ้องมายังจอมขวัญที่ยืนอยู่อย่างสนอกสนใจ
"แล้วแม่หญิงผู้นี้คือ..."
"พาขวัญ"
แทนกานต์ตอบพร้อมเอามืออีกฝ่ายแขนออกจากแขนตัวเองแล้วถอยหลังมายืนข้างคู่หมั้นคู่หมายของตนเอง
"คู่หมั้นของข้าเอง"
"สวยจังเลยนะคะ" นวลจันทร์อมยิ้มตรงมุมปาก "เหมือนที่คุณหลวงบอกข้าไม่มีผิด"
"เอ่อ...ข้าชื่อพาขวัญ เป็นบุตรสาวของเจ้าพระยาจอมทัพเจ้าค่ะ"
จอมขวัญอึกอักเริ่มวางตัวไม่ถูกทำให้นวลจันทร์ยิ้มตาหยีมาให้อย่างน่ารัก
"ข้าชื่อนวลจันทร์" นวลจันทร์ยิ้มหวาน "ตอนนี้ได้ถวายตัวเป็นนางรับใช้เจ้าฟ้าทองสุกในวังหลวงน่ะจ้ะ"
"อ๋อ...เจ้าค่ะ"
จอมขวัญพยักหน้ารับทำให้นวลจันทร์ยิ้มหวานหันไปกอดแขนออดอ้อนคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน
"คุณหลวงเจ้าขา พาข้าไปเดินเล่นตรงนู้นหน่อยได้ไหมเจ้าคะ เราสองคนไม่ได้เดินเล่นกันนานแล้วนะ"
นวลจันทร์หันมายิ้มให้จอมขวัญด้วยสายตาเป็นมิตร
"อ้อ! พาขวัญไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่"
"ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"
จอมขวัญยิ้มหวานกลับก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีสร้อยทิพย์เดินตามไปด้วยความรีบร้อน ทำให้แทนกานต์หันมาจ้องคนขี้แกล้งอย่างไม่พอใจ
"เจ้าจะแกล้งทำไม"
"ข้าสนุกนี่หน่า" นวลจันทร์ยิ้มแป้นมาให้อย่างน่าหมั่นเขี้ยว "แต่คู่หมั้นคู่หมายของคุณหลวงน่ะ สวยสมคำร่ำลือยิ้งนัก"
"ไว้แต่งงานแล้วข้าจักเชิญเจ้าไปแล้วกัน"
แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมหันไปมองจอมขวัญที่เดินไปแถวท่าเรือ
"จริงนะเจ้าคะ อย่าลืมชวนน้องนะ" นวลจันทร์ชะเง้อตามแล้วอมยิ้ม "เดินงอนไปนู้นแล้ว รีบเดินตามไปซิเจ้าคะ"
"อืม ข้าลาล่ะ"
แทนกานต์รีบเดินตามไปด้วยความรีบร้อนแต่ก็ไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายพายเรือหนีออกไปแล้ว จึงสั่งให้แสงนั้นเร่งมือพายเรือตามเรือของจอมขวัญที่พายไปไกลพอสมควร
จนกระทั่งทันกันในที่สุดทำให้แทนกานต์ตะโกนถามอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มมุมปากและน้ำเสียงที่หยอกล้อ
"เดี๋ยวก่อนซิ เจ้าจะรีบพายเรือไปไหน"
"ข้าไม่อยากรบกวนเวลาของคุณหลวง"
จอมขวัญตอบกลับพร้อมรีบพายเรือหนีทำให้แทนกานต์แอบอมยิ้ม
"ข้าไม่ได้ยุ่งอะไร อีกอย่างแม่นวลก็เป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นเอง"
"แค่น้องสาวแล้วมาเกาะแขนเกาะขาคุณหลวงแถมชวนไปเดินเที่ยวแบบนั้นได้หรือเจ้าคะ"
จอมขวัญหันมาค้อนใส่พร้อมกับรีบจ้วงเรือหนีทำให้แทนกานต์ยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดู
"เดี๋ยวก่อนซิ รีบพายไปเร็วอ้ายแสง"
"ขอรับคุณหลวง"
แสงรับคำแล้วรีบพายเรือตามไปอย่างเร่งรีบ ระหว่างที่กำลังพายเรืออยู่นั้นเองก็มีเสียงตะโกนเรียกมาจากเรือที่พายมาจากด้านหน้าเสียงดังลั่น
"น้องพาขวัญ~"
"อ๊ะ! นั่นออกขุนจักรนี่เจ้าคะ"
สร้อยทิพย์ร้องอย่างแตกตื่นทำให้จอมขวัญกัดปากแน่นด้วยความขัดใจ
"โอ๊ย...จะเจอทำไมเนี่ย"
"น้องพาขวัญจะพายเรือไปไหนหรือจ๊ะ"
จักรกวินยิ้มหวานพร้อมพายเรือมาดักหน้าทำให้จอมขวัญต้องหยุดเรืออย่างเลี่ยงไม่ได้
"ข้ากำลังจะกลับบ้านเจ้าค่ะ"
"แล้วไม่มีบ่าวไพร่มาพายเรือให้หรือ"
จักรกวินถามด้วยด้วยตากรุ่มกริ่มทำให้จอมขวัญยิ้มแห้ง
"ข้าอยากพายเรือเองน่ะเจ้าค่ะ"
"ถ้าเช่นนั้นเราไปพายเรือเล่นกันดีหรือไม่"
ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะตอบก็มีเสียงทุ้มขัดขึ้นมาจากด้านหลัง
"คงไม่ได้เพราะวันนี้พาขวัญพายเรือออกมาเที่ยวกับข้า"
"แทนกานต์" จักรกวินขมวดคิ้วแน่น "นี่น้องพาขวัญมาพายเรือเล่นกับแทนกานต์อย่างนั้นหรือ"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
จอมขวัญพยักหน้ารับก่อนจะถูกแทนกานต์เอาเรือมาเทียบและยื่นมือมาจับเรือเอาไว้แน่น ทำให้จักรกวินจ้องมองมาอย่างหาเรื่อง
"ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาพายเรือเล่นเล่า"
"แล้วเจ้ามายุ่งอะไรด้วยเล่า" แทนกานต์จ้องอีกฝ่ายแขม่ง "คู่หมั้นคู่หมายจะมานั่งพายเรือเล่นด้วยกันก็ไม่แปลก"
"อ้ายแทน!"
จักรกวินเริ่มหงุดหงิดแต่ต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้เพราะยังอยู่ต่อหน้าจอมขวัญนั่นเอง
ระหว่างนั้นเองมีเรือของแสงหล้ากำลังพายมาจากด้านหลังมองเห็นเรือของแทนกานต์พอดี ทำให้เพลิงซึ่งเป็นบ่าวรับใช้นั้นเรียกเจ้านายตนเองที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายอกสบายใจทั้งที่พึ่งฝึกซ้อมดาบมา
"ท่านหมื่นขอรับ นั่นเรือของคุณหลวงแทนกานต์นี่ขอรับ"
"พายเรือไปชนมัน"
แสงหล้าแสยะยิ้มซึ่งคำสั่งนั้นทำให้เพลิงร้องออกมาด้วยความตกใจ
"ห๊ะ!"
"พายไปชนมันเลย!"
แสงหล้าสั่งอีกครั้งพร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่ม
"เร็วซิอ้ายเพลิง"
"ขอรับท่านหมื่น"
เพลิงรับคำก่อนจะเร่งพายเรือมุ่งตรงไปทางเรือของแทนกานต์ที่อยู่ข้างกับเรือของจอมขวัญ ซึ่งโชคดีจักรกวินเห็นพอดีจึงเอาเรือมาจอดขวางหน้าแล้วตะโกนอย่างไม่ชอบใจ
"อ้ายแสงหล้า!"
"อ้ายจักรกวิน" แสงหล้าขมวดคิ้วแน่น "เองจะมาขวางเรือข้าทำไม"
"เองนั่นแหละพายเรือมาเร็วขนาดนี้หากเรือของน้องพาขวัญล่มเองจะรับผิดชอบอย่างไรเล่า"
พอได้ยินคำตอบแบบนั้นแสงหล้าก็ชะเง้อหน้าไปมองเรือที่อยู่ด้านหลัง
"พาขวัญอย่างนั้นหรือ"
แสงหล้าขมวดคิ้วพร้อมจ้องไปทางเรืออีกลำที่มีจอมขวัญกำลังมองมาทางตนเช่นเดียวกัน
"พาขวัญ ไม่ได้เจอกันนานเลยหนา"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับกรีดร้องขึ้นมาดังลั่นด้วยความรำคาญ
'วันนี้มีเวลาว่างมากหรอถึงมาพายเรือเล่นกันเนี่ย!'
"ได้ข่าวว่าเจ้าถูกกักบริเวณรึ" แสงหล้าทำสายตากรุ่มกริ่ม "รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่"
"ข้าสบายดีเจ้าค่ะ"
จอมขวัญนั่งตัวเกร็งปล่อยให้แสงหล้าแทะโลมด้วยสายตา
"แล้ววันนี้มาพายเรือเล่นคนเดียวหรือ ให้พี่พายเรือเป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไหม"
"ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนที่แทนกานต์จะเป็นฝ่ายพูดเสริมขึ้นมา
"ที่พาขวัญไปพายเรือเล่นกับพวกเจ้าไม่ได้เพราะนางมากับข้ายังไงล่ะ"
"อ้ายแทนกานต์!"
ทั้งสองประสานเสียงพร้อมกันอย่างไม่พอใจ แต่คนที่หงุดหงิดเห็นจะเป็นแสงหล้าที่ตั้งท่าจะกระโจนใส่แต่จักรกวินกันเอาไว้
"ปล่อยข้าซิจะมาขวางทางข้าไว้ทำไม"
"อย่าโมโหไปหน่อยเลยน่ะ"
จักรกวินห้ามปรามเพราะกำลังแกล้งทำตัวดีต่อหน้าจอมขวัญ ซึ่งแสงหล้าไม่สนใจเพราะความโกรธกำลังครอบงำ
"อ้ายแทนกานต์"
"ข้าบอกให้หยุดไง"
ทั้งสองยื้อยุดผลักกันจนน้ำแถวนั้นสั่นไหวแต่จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นไม่เป็นเรือของจอมขวัญที่ตอนนี้เอียงและโยกไปมาจนสร้อยทิพย์ร้องลั่นด้วยความกลัว
"ว๊าย! คุณหนูเจ้าคะ"
"ไม่ต้องกลัวนะพี่สร้อย"
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่จอมขวัญก็หวาดกลัวไม่แพ้กันจึงพยามประคองเรือให้นิ่ง แต่เรือของจักรกวินดันเลื่อนมาชนเรือของตนเองอย่างแรงจนเรือทั้งลำคว้ำลงสู่แม่น้ำท่ามกลางความตกใจของทุกคน
*******************มีต่อค่ะ*****************
เรือนหลังที่ 10
จอมขวัญตื่นขึ้นมาแต่เช้ารีบอาบน้ำแล้วยืนให้สร้อยทิพย์จับแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วออกมานั่งรอแทนกานต์ตรงท่าน้ำ
แต่ทว่ารอจนถึงเวลาช่วงสายล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่มา จนกระทั่งจอมทัพที่แอบมองมานานอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกจากบนเรือนด้วยความเป็นห่วง
"แม่พาขวัญขึ้นมานั่งบนเรือนเถิด นี่ใกล้เที่ยงแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอาหนา"
"เจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญยอมเดินขึ้นมาบนเรือนก็เห็นจอมทัพมองมาที่ตนเองด้วยสายตาเป็นห่วง แต่พลอยปภัสที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับเหยียดยิ้มมาให้อย่างสะใจ ผิดกับพัณณิตาที่คิดหาคำพูดมาปลอบใจลูกตนเอง
"สงสัยพ่อแทนคงจะติดงานกระมั้ง"
"พลอยว่าไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะ"
พลอยปภัสที่นั่งอยู่ตรงนั้นพูดแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
"บางทีคุณหลวงอาจจะเบื่อแม่พาขวัญแล้วก็ได้นะเจ้าคะ"
"ทำไมปากพล่อยแบบนั้นล่ะแม่พลอย"
พัณณิตามองด้วยความไม่ชอบใจแต่พลอยปภัสกลับเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี
"พลอยพูดเรื่องจริงนี่เจ้าคะแม่ใหญ่"
"แม่พลอย!"
พัณณิตาขึ้นเสียงและตั้งท่าจะอบรมแต่จอมขวัญกลับขัดขึ้นมาก่อนแล้วรีบเดินกลับเข้าห้องทันทีจนสร้อยทิพย์ต้องรีบวิ่งตามแทบไม่ทัน
"ลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะคุณแม่"
"เดี๋ยวก่อนซิพาขวัญ"
แม้แต่เสียงจอมทัพเองก็ไม่สามารถรั้งจอมขวัญเอาไว้ได้ทำให้พัณณิตาตวัดสายตาไปมองพลอยปภัสอย่างคาดโทษ
"แม่พลอย"
"เจ้าคะแม่ใหญ่"
พลอยปภัสทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
"หากวันหลังรู้ตัวว่าปากพล่อยก็เงียบปากไว้เข้าใจไหม"
พัณณิตาเดินหนีกลับเข้าห้องนอนทำให้พลอยปภัสหันไปฟ้องจอมทัพที่นั่งทำหน้าตาบึ้งตึง
"คุณพ่อดูแม่ใหญ่ซิเจ้าคะ"
"เชื่อฟังคำของแม่พัณน่ะดีแล้วล่ะ"
จอมทัพตอบแค่นั้นก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหนังสือทำให้พลอยปภัสหวีดร้องออกมากระทืบเท้าขัดใจอยู่กลางเรือน
ส่วนจอมขวัญนั้นเดินปึงปังเข้ามาในห้องแล้วไปนั่งกอดอกอยู่ตรงหน้ากระจกพร้อมทำหน้าตาบึ้งตึง
"คนใจร้าย จะไม่มาก็ไม่บอกซักคำ"
"คุณหลวงอาจจะติดราชการก็ได้นะเจ้าคะ"
"ผมไม่สนใจหรอก ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ไม่ได้รอซักหน่อย"
จอมขวัญสะบัดหน้าหนีหันไปมองทางอื่นด้วยความแง่งอน จนสร้อยทิพย์แอบถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นกังวลเพราะท่าทางแบบนี้เห็นทีคุณหลวงโดนงอนหนักแน่นอน
ตอนช่วงเย็นวันนั้นแทนกานต์ก็เดินขึ้นมาบนเรือนเจอพัณณิตาที่กำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่กับพวกบ่าวไพร่ ซึ่งพัณณิตาเองพอเห็นแทนกานต์จึงเอ่ยทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
"พ่อแทน"
"สวัสดีขอรับคุณป้า"
แทนกานต์ยกมือขึ้นมาไหว้ก่อนจะยกมือขึ้นมาซับเหงื่อตรงหน้าผากเพราะหลังจากเสร็จงานแล้วก็รีบตรงมาหาจอมขวัญทันที ทำให้พัณณิตาถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ
"วันนี้มาเย็นเชียวนะพ่อแทน แม่พาขวัญไปนั่งรอตรงท่าเรือตั้งแต่เช้าแหนะ"
"แล้วตอนนี้น้องพาขวัญอยู่ไหนขอรับ"
แทนกานต์หันซ้ายหันขวาอย่างร้อนรนจนพัณณิตาต้องแอบยิ้มตรงมุมปาก
"ในห้องน่ะ นังพริ้มไปตามแม่พาขวัญมาซิ"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายเดินไปเคาะประตูไม่นานนักจอมขวัญก็ยอมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับสร้อยทิพย์ด้วยใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย
"คุณหนูมาแล้วเจ้าค่ะนายแม่"
"คุณแม่มีอะ..."
จอมขวัญชะงักเมื่อมองเห็นใครบางคนที่กำลังนั่งส่งยิ้มมาให้ตนเองจนน่าหมั่นไส้
"คุณหลวง"
"ยืนนิ่งทำไมล่ะลูก ทำไมไม่มานั่งข้างพี่เขาล่ะ"
พัณณิตายิ้มกว้างทำให้จอมขวัญถอนหายใจพร้อมเดินมานั่งข้างแทนกานต์ด้วยใบหน้าบึ้งตึง
"คุณหลวงมาทำไมเจ้าคะ"
"ข้ามาหาเจ้านั่นแหละพาขวัญ"
แทนกานต์ยิ้มแห้งเมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่ายนั้นน่าจะงอนตัวเอง
"ขอโทษที่ปล่อยให้เจ้ารอเมื่อเช้า พอดีมีราชการด่วนน่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นคุณหลวงก็รีบกลับไปทำงานต่อซิเจ้าคะ"
จอมขวัญปากยื่นพร้อมทำหน้าตาบึ้งตึงมากกว่าเดิมทำให้พัณณิตาถอนหายใจออกมาเสียงดังพร้อมดุคนขี้งอนเล็กน้อย
"แม่พาขวัญจะรีบไล่พี่เขากลับไปทำไมเล่า"
ก่อนที่พัณณิตาจะหันไปยิ้มกว้างให้กับแทนกานต์ด้วยสายตาเอ็นดู
"ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาทานอาหารเย็นแล้วพ่อแทนอยู่ทานด้วยกันก่อนนะ"
"จะดีหรือขอรับ"
แทนกานต์ทำท่าทางเกรงใจทำให้พัณณิตาแอบหัวเราะในลำคอ
"ไม่ต้องเกรงใจหรอก อีกอย่างแม่พาขวัญนั้นตอนนี้ปรุงอาหารเก่งมากกว่าแต่ก่อนเลยหนา"
"ถ้าอย่างนั้นข้าขอฝากท้องไว้ที่นี่ซักมื้อหนึ่งนะขอรับ"
แทนกานต์อมยิ้มพร้อมหันไปมองคนที่กำลังทำท่าทางแง่งอนด้วยสายตาเป็นประกาย
"ตามสบายเลยจ้ะ" พัณณิตายิ้มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ "พาขวัญ"
"เจ้าคะคุณแม่"
จอมขวัญยิ้มแห้งเมื่อพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายต้องการจะให้ทำอะไร
"วันนี้ลงไปปรุงอาหารให้พี่เขาทานซักอย่างสองอย่างซิลูก"
"เจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับเมินสายตาที่คุณหลวงมองมาแล้วรีบเดินเลยลงไปตรงเรือนครัวด้วยท่าทางแง่งอน
ซึ่งเรือนครัวด้านล่างเป็นเรือนไม้เก่าแก่มีเครื่องปรุงและข้าวของเครื่องใช้เต็มไปหมด ตรงมุมหนึ่งของห้องครัวนั้นมีไม้ก่อฟืนหม้อดินเหมือนกำลังต้มน้ำร้อนโดยมีพวกคนรับใช้กำลังทำอาหารกันอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลาสำรับเย็น
จอมขวัญมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางสนใจก่อนจะเดินตามสร้อยทิพย์ไปนั่งตรงที่แคร่ไม้ตรงกลางห้องครัว
"คุณหนูรอตรงนี้ก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวสร้อยมานะเจ้าคะ"
"ไปไหนหรือพี่สร้อย"
จอมขวัญเอียงหน้าถามด้วยความสงสัยแต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรรีบเดินไปตรงด้านหลังของเรือนครัวพบกับคนที่ตามหาซึ่งกำลังนั่งแยกเม็ดข้าวอยู่นั่นเอง
"นังหวาน"
"โอ๊ะ! น้าสร้อย"
หวานสะดุ้งตกใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมาไม่หยุดพร้อมมองด้วยสายตาแปลกใจ
"น้าสร้อยลงมาทำอะไรที่เรือนครัวจ๊ะ"
"ข้ามากับคุณหนู"
สร้อยทิพย์เอื้อมมือไปลากอีกฝ่ายให้เดินตามตนเอง
"มานี่ซิ ข้าจะพาเองไปรู้จักกับคุณหนูพาขวัญ"
"จ้ะ"
หวานทำท่าทางงุนงงแต่ก็เดินตามมมาโดยดี ก่อนจะรีบไปนั่งลงกับพื้นเมื่อมาพบกับใครบางคนที่กำลังนั่งเลือกปลาตากแห้งที่หมักรวมกับพวกเกลืออยู่กับบ่าวคนหนึ่ง
"คุณหนูพาขวัญ บ่าวชื่อหวานนะเจ้าคะเป็นหลานของน้าสร้อยเจ้าค่ะ"
"คนนี้นี่เอง"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาเป็นมิตร
"หน้าตาคล้ายพี่สร้อยเลยนะ"
"หวานสวยกว่าเจ้าค่ะ"
หวานตอบอย่างรวดเร็วจนโดนคนเป็นน้าที่นั่งอยู่ด้านข้างฟาดลงมาตรงแขนอย่างแรง
"โอ๊ย! หวานเจ็บนะน้าสร้อย"
"พูดมากนะเองน่ะ"
สร้อยทิพย์ทำหน่าตาดุใส่ก่อนจะหันไปสั่งบ่าวทุกคนที่นั่งอยู่ในเรือนครัว
"เอาล่ะวันนี้คุณหนูจะลงมือทำอาหารให้ท่านเจ้าคุณ นายแม่ และคุณหลวง เดี๋ยวพวกเองก็เป็นลูกมือคอยช่วยก็แล้วกันนะ"
"เจ้าค่ะ"
บ่าวในเรือนตอบรับพร้อมกันก่อนที่หวานจะยิ้มกว้างให้กับเจ้านายตนเองอย่างกระตือรือล้น
"แล้วคุณหนูจะทำอะไรบ้างล่ะเจ้าคะ"
"มีปลาตากแห้งอยู่ข้าจะทำต้มโคล้งปลากรอบ น้ำพริกกะปิ ปลาทอด ล่าเตียง ส่วนขนมหวานจะเป็นลำเจียกน่ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างตื่นเต้นที่จะได้ทำอาหารแต่กลับมีบ่าวคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
"ต้มโคล้งคืออะไรหรือเจ้าคะคุณหนู"
"คล้ายต้มยำนั่นแหละ พวกพี่ยังไม่เคยกินกันใช่ไหม"
พวกบ่าวไพร่ทุกคนต่างส่ายหน้าทำให้จอมขวัญอมยิ้ม
"เดี่ยวข้าจะแบ่งไว้ให้พวกพี่ได้ลองกินกัน รับรองอร่อยมาก"
"เอาล่ะมาเริ่มทำกันเถอะเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ตัดบทพร้อมช่วยจอมขวัญเลือกปลาแห้ง ส่วนหวานไปเตรียมพวกพริกและสมุนไพรมาให้เลือกกันอยู่ไม่นานจอมขวัญก็จัดการทำหม้อต้มโคล้งสองหม้อซึ่งหม้อแรกนั้นสำหรับท่านเจ้าคุณและคุณหญิง ส่วนหม้อที่สองนั้นสำหรับคุณหลวงที่ชอบมาวุ่นวายกับตนเองจนน่ารำคาญ
จอมขวัญจึงแกล้งโดยการสาดพริกลงไปในครกหินเกือบหมดชามแล้วตำเล็กน้อยก่อนจะเทใส่ลงไปในหม้อดินเผาซึ่งสีสันของน้ำต้มโคล้งนั้นจัดจ้านและส่งกลิ่นหอมจนบ่าวไพร่ต่างแอบกลืนน้ำลายกันด้วยความหิว
จอมขวัญเหยียดยิ้มออกมาอย่างขบขันเมื่อต้มโคล้งหม้อนี้ตนเองตังใจทำเพื่อกลั่นแกล้งแทนกานต์โดยเฉพาะเลยล่ะ
นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกกะปิกินคู่กันกับปลาทอดพร้อมผักสดเครื่องเคียงและแถมท้ายด้วยล่าเตียงที่คุณยายเคยทำให้กินเมื่อตอนเด็กแต่ยังจำรสชาติได้ไม่เคยลืม
เมื่อถึงเวลายกอาหารขึ้นมาบนเรือนจอมขวัญจงใจวางถ้วยต้มโคล้งลงตรงหน้าของแทนกานต์ด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะนั่งลงตรงด้านข้างที่ว่างอยู่โดยที่จอมทัพมองอาหารตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ
"ต้มอะไรรึแม่พาขวัญ กลิ่นหอมน่าทานเชียว"
"ต้มโคล้งเจ้าค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ และคุณหลวงลองชมดูซิเจ้าคะ รับรองอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มหวานทำให้จอมทัพและพัณณิตายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูก่อนจะลงมือทานอาหารด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย
ซึ่งแทนกานต์ไม่รู้ตัวว่าโดนแกล้งจึงตักน้ำต้มโคล้งเข้าปากก่อนจะทำตาโตเมื่อได้รสชาติเผ็ดร้อนจนทนไม่ไหวไอออกมาเสียงดังลั่น
"แค๊ก! น้ำ อ้ายแสงขอน้ำหน่อย"
"น้ำเจ้าค่ะคุณหลวง"
จอมขวัญอมยิ้มแต่ก็ยอมยื่นขันน้ำมาให้ด้วยตนเองซึ่งอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมารับแล้วรีบดื่มทันทีอย่างกระหายสร้างความขบขันให้คนแกล้งมากจนต้องแอบหัวเราะในลำคอ
"เผ็ดไปหรือเจ้าคะคุณหลวง"
"ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่"
แทนกานต์เอ่ยชมทั้งที่เหงื่อออกเต็มไปหมดแต่กลัวอีกฝ่ายน้อยใจไปมากกว่านี้จึงตักน้ำต้มโคล้งขึ้นมาซดอีกหนึ่งคำ
"ฝีมือของเจ้าอร่อยกลมกล่อมมาก"
"เอ่อ...เจ้าค่ะ"
จอมขวัญยิ้มแห้งกลับมาให้เมื่อเห็นอีกฝ่ายถึงแม้จะเผ็ดมากแต่ก็ฝืนกินต้มโคล้งจนหมดชามและตามด้วยขนมหวานอีกสองสามจาน
พอพวกบ่าวไพร่เก็บสำรับหมดแล้วแทนกานต์จึงหันมายกมือไหว้ผู้ใหญ่ของเรือนทั้งสองคน
"ตอนนี้ใกล้จะมืดค่ำมากแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อนนะขอครับคุณลุง คุณป้า"
"เดินทางปลอดภัยนะพ่อแทน"
พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปบอกจอมขวัญที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน
"พาขวัญลงไปส่งพี่เขาที่ท่าน้ำซิลูก"
"เจ้าค่ะคุณแม่"
จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนจะเดินตามแทนกานต์ลงมาตรงท่าน้ำซึ่งดูจากท่าทางของอีกฝ่ายแล้วยังเผ็ดไม่หายจนอดที่จะสงสารไม่ได้
"คุณหลวงรู้ว่าเผ็ดยังจะฝืนกินทำไม"
"เจ้าลงมือทำอาหารให้ข้าทั้งทีก็ต้องทานให้หมดอยู่แล้ว" แทนกานต์ยิ้มให้อย่างเอาใจ "ถึงแม้ว่ารสชาติจะเผ็ดไปซักหน่อยแต่ก็อร่อยกว่าอาหารชาววังเยอะเลยล่ะ"
"ไม่ต้องมาชมข้าเลยนะ"
จอมขวัญปากยื่นแล้วกอดอกหันหน้าไปมองทางอื่นอย่างแง่งอน
"ถึงชมไปข้าก็ไม่หายงอนคุณหลวงเรื่องเมื่อเช้าหรอกนะ"
"ข้าขอโทษ เมื่อเช้าข้าติดราชการจนมาหาเจ้าไม่ได้" แทนกานต์่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อต้องการจะง้ออีกฝ่ายที่กำลังงอน "พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้าไปเที่ยวแต่เช้าดีหรือไม่"
"จริงนะเจ้าคะ" จอมขวัญมองด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับแก้มที่ป่องขึ้นมาเล็กน้อย "ถ้าไม่มาคราวนี้ข้าโกรธจริงด้วย"
"ข้าจะมารับเจ้าแต่เช้าแน่นอน"
แทนกานต์ยิ้มไม่หุบทำให้จอมขวัญเริ่มหมั่นไส้แต่ก็ยอมยื่นตระกร้าสานไปให้อีกฝ่ายโดยที่ด้านในนั้นใส่ขนมหวานเต็มไปหมด
"ด้านในเป็นขนมลำเจียกเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้ตอนอยู่บนเรือนเห็นคุณหลวงชอบกินมากเลยแบ่งใส่ตะกร้ามาให้"
"ขอบน้ำใจเจ้ามาก"
แทนกานต์ยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือไปกุมบนมือที่กำลังจับตะกร้าอยู่อย่างแนบเนียน
"ข้าจะกินขนมพวกนี้ให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว"
"คุณหลวงกินเก่งแบบนี้ระวังอ้วนนะเจ้าคะ"
จอมขวัญอมยิ้มพร้อมกับหันหลังตั้งใจจะเดินกลับเข้าบ้านแต่ทว่าถูกอีกฝ่ายรั้งข้อมือเอาไว้ทำให้หันกลับไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะหน้าแดงเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายที่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
"พี่ยอมอ้วนถ้าหากได้กินอาหารรสมือของเจ้าทั้งกลางวันทั้งกลางคืน"
"เอ่อ...ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"
จอมขวัญรีบดึงมือและถอยห่างออกมาก่อนจะหนีขึ้นเรือนไปปล่อยให้แทนกานต์ยืนอมยิ้มอยู่ตรงท่าเรือเพียงคนเดียว
ซึ่งภาพนั้นทำให้สร้อยทิพย์ที่กำลังแอบมองทั้งสองคนอยู่นั้นหลุดขำออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากหวานที่แอบย่องเข้ามาจับไหล่ด้านหลัง
"น้าสร้อย!"
"โอ๊ย! นังหวานนี่ข้าตกใจหมด"
สร้อยทิพย์ยกมือขึ้นมาทาบตรงอกด้วยความตกใจ
"เองมีอะไรหะนังหวาน"
"เมื่อวานยายพวงฝากจดหมายมาให้น้าน่ะจ้ะ บอกว่ามาจากป้ากำไลด้วยนะ"
หวานยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ซึ่งสร้อยทิพย์รีบคว้าจดหมายมาถือเอาไว้แน่นทันที
"ขอบใจมาก เองไปช่วยคนในเรือนครัวเก็บของได้แล้วไป"
"งั้นข้าไปก่อนนะน้า"
หวานเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่ได้คิดอะไรปล่อยให้สร้อยทิพย์มองซ้ายมองขวาแล้วรีบเดินขึ้นไปบนเรือนทันที
หลังจากอ่านจดหมายเรียบร้อยแล้วสร้อยทิพย์ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งท่าทางกังวลของอีกฝ่ายทำให้จอมขวัญที่กำลังนั่งหวีผมอยู่นั้นเอียงหน้าถามด้วยความงุนงง
"พี่สร้อยเป็นอะไรทำไมทำหน้ากังวลแบบนั้นล่ะ"
"คือ..."
สร้อยทิพย์กัดปากก่อนจะตัดสินใจยอมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล
"เมื่อตอนเย็นสร้อยได้รับจดหมายจากพี่กำไลเจ้าค่ะ"
"หรอ"
จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"แล้วพี่กำไลเป็นอย่างไรบ้างครับสบายดีไหม"
"ตอนนี้พี่กำไลป่วยหนัก เลยจะให้ข้ากลับบ้านไปดูแลเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์ทำท่าทางเป็นกังวลทำให้จอมขวัญเป็นฝ่ายเอ่ยปากสนับสนุนด้วยรอยยิ้มหวาน
"ถ้าอย่างนั้นพี่สร้อยก็ไปซิครับ ผมอนุญาติ"
"แต่ถ้าสร้อยไม่อยู่ที่นี่..." สร้อยทิพย์มองขึ้นมาด้วยสายตาเป็นห่วง "แล้วใครจะรับใช้คุณหนูล่ะเจ้าคะ"
"ผมอยู่คนเดียวได้..."
จอมขวัญกำลังจะปฏิเสธแต่สร้อยทิพย์กลับห้ามขึ้นมาซะก่อน
"ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหนูน่ะเป็นถึงลูกของท่านเจ้าคุณจอมทัพเลยนะเจ้าคะ จะไม่มีคนรับใช้ติดตามไม่ได้เด็ดขาด"
"อืม..."
จอมขวัญทำท่าคิดก่อนจะยิ้มหวานเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก
"หวานยังไงล่ะพี่สร้อย"
"ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวสร้อยมานะเจ้าค่ะ"
สร้อยทิพย์รีบลงไปเดินแถวเรือนครัวทันที ก่อนจะพบกับหวานที่กำลังนั่งเช็ดหม้อดินเผาอยู่คนเดียวจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยความร้อนใจ
"นังหวาน"
"น้าสร้อย" หวานหันมามองด้วยสายตาแปลกใจ "ลงมาถึงเรือนครัวมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ"
"เองเก็บของเสร็จรึยัง"
"เสร็จแล้วจ้ะ"
พอเห็นท่าทางรีบร้อนของอีกฝ่ายทำให้อดที่จะเอียงคอมองด้วยความสงสัย
"น้ามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ"
"เองเก็บความลับเป็นใช่ไหมนังหวาน"
"เป็นซิจ๊ะน้าสร้อย ทำไมหรือ"
"งั้นเองตามข้ามา"
สร้อยทิพย์จูงหวานเดินขึ้นไปบนเรือนโดยที่หันซ้ายหันขวาด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะรีบพาเข้าไปในห้องซึ่งมีจอมขวัญกำลังนั่งรออยู่ตรงหน้ากระจกเช่นเดิม
"คุณหนูพาขวัญมีอะไรกับหวานหรือเจ้าคะ"
"ข้ามีเรื่องอยากให้เองช่วย"
ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะได้ตอบอะไรสร้อยทิพย์ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หนักใจ
"เมื่อตอนเย็นข้าได้รับจดหมายจากพี่กำไลจึงต้องรีบกลับบ้าน ข้าจะให้เองมาดูแลคุณหนูพาขวัญระหว่างที่ข้าไม่อยู่"
"เรื่องแค่นี้เอง" หวานแอบถอนหายใจ "น้าสร้อยทำตัวลึกลับไปได้ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก"
"แต่มีอีกเรื่องที่เองต้องรับรู้เอาไว้"
คำพูดของสร้อยทิพย์ทำให้หวานเอียงคอมองด้วยความสงสัย
"อะไรจ๊ะ"
"คนตรงหน้าไม่ใช่คุณหนูพาขวัญ"
หวานเบิกตากว้าด้วยความตกใจ
"และไม่ใช่ผู้หญิง"
"ห๋า!!!"
เผลอร้องเสียงดังออกไปจนถูกผู้เป็นน้าตีหลายรอบ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังซึ่งพอได้ฟังแล้วหวานก็ยิ้มกว้างออกมาพร้อมมองจอมขวัญด้วยสายตาเป็นมิตร
"ไม่คิดว่าผู้ชายจะแต่งตัวออกมาได้สวยขนาดนี้"
"เอ่อ..."
จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าตนนี้จะดีใจกับคำชมนี้ดีรึเปล่า ก่อนที่สร้อยทิพย์จะพูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"สัญญากับข้านะนังหวานว่าเองจะรับใช้คุณหนูจอมขวัญอย่างดี"
"ข้าสัญญา" หวานยิ้มกว้างพร้อมเอื้อมมือไปกุมมือสร้อยทิพย์แน่น "น้าสร้อยอย่าเป็นกังวลเลย กลับไปดูแลป้ากำไลเถอะ"
"อาการเป็นยังไง อย่าลืมแจ้งข้ามาด้วยนะ"
จอมขวัญยิ้มหวานทำให้สร้อยทิพย์โผเข้ามากอดขาเอาไว้แน่นจนจอมขวัญอดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้
"รีบไปเถอะเดี๋ยวข้าลงไปส่งที่ท่าเรือนะ"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์รับคำโดยง่ายก่อนจะถือห่อผ้าที่จัดเตรียมเอาไว้แล้วนั้นเดินลงมาหยุดยืนตรงแถวท่าเรือซึ่งจอมขวัญนั้นยิ้มหวานมาให้อย่างน่ารัก
"แล้วรีบกลับมานะพี่สร้อย"
"เจ้าค่ะคุณหนู"
สร้อยทิพย์ยิ้มตอบกลับพร้อมกับก้าวลงเรือที่หวานเอามาเตรียมไว้ตรงท่าน้ำเรียบร้อย หลังจากนั้นสร้อยทิพย์จึงดึงหวานเข้ามาใกล้แล้วกระซิบกระซาบให้ได้ยินกันเพียงสองคน
"จำไว้นะนังหวาน จับตาดูนังพยอมให้ดีอย่าให้เข้าใกล้คุณหนูเด็ดขาด"
"ได้เลยน้าสร้อย"
หวานยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาซึ่งสร้อยทิพย์ก็พยักหน้าแล้วพายเรือออกไปจากท่าน้ำของเรือนโดยหันไปมองจอมขวัญด้วยสายตาเป็นห่วงแต่มือนั้นก็พายเรือต่อไปอย่างเร่งรีบเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นจนกระทั่งเรือทั้งลำหายไปกับความมืด
ขณะเดียวกันนั้นเองบ้านของท่านเจ้าคุณอาทิตย์ พอเริ่มมืดค่ำและเจ้านายต่างพากันเข้าห้องหมดแล้วพวกบ่าวไพร่ต่างพากันดับไฟบนเรือนแล้วเริ่มทยอยกันเข้านอน
ยกเว้นหมื่นแสงหล้ากำลังนั่งดื่มชาอยู่ตรงขอบหน้าต่างในห้องนอนด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดและบึ้งตึงก่อนจะตวัดสายตาไปมองแสนกล้าบ่าวคนสนิทที่รีบวิ่งเข้ามาในห้อง
"ได้ความว่ายังไงบ้างอ้ายแสน"
"คุณหลวงแทนกานต์มาหาคุณหนูพาขวัญที่เรือนทุกวันเลยขอรับ" แสนกล้าก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น "และมีคนเห็นไปเดินที่ตลาดด้วยกันขอรับ"
"หึ!"
แสงกล้ากระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะที่อยู่แถวนั้นอย่างแรงด้วยท่าทางคับแค้นใจ
"ข้าไม่ยอมแพ้อ้ายแทนกานต์หรอก"
"ท่านหมื่นจะทำอย่างไรหรือขอรับ"
แสนกล้าถามเจ้านายตนเองด้วยความสงสัย
"ต้องเริ่มลงมือก่อนที่คุณหนูจะแต่งงานกับคุณหลวงอีกรอบนะขอรับ"
"ข้ารู้แล้วน่ะ! เองส่งคนจับตาดูพาขวัญเอาไว้"
แสงหล้าแสยะยิ้มตรงมุมปาก
"สบโอกาสเมื่อไหร่ลงมือได้เลย"
"ขอรับท่านหมื่น"
แสนกล้าตอบรับพร้อมกับเดินออกไปนอกห้องปล่อยให้แสงหล้าเหยียดยิ้มร้ายกับแผนการของตนเอง
'ข้าไม่มีวันแพ้พวกเจ้าแน่แทนกานต์ จักรกวิน'
******************************
แอบสงสารพ่อแทนนิดหน่อยโดนน้องจอมขวัญแกล้ง 555 :laugh: :laugh:
:pig4: :pig4: :pig4:
เรือนหลังที่ 12
หลังจากวันนั้นที่จอมขวัญหายตัวไปคินตาก็พยายามตามหาอีกฝ่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแถวรอบวัดหรือที่บ้านแต่ทว่าหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ
เจอเพียงสร้อยคอเส้นเดียวที่ตกบนพื้นหญ้าซึ่งตรงแถวนั้นไม่มีบึงน้ำอะไรทั้งสิ้น
ทำให้คินตากินไม่ได้นอนไม่หลับพยามตามหาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ จนต้องกลับไปหาหลวงพ่อที่วัดอีกครั้งด้วยท่าทางร้อนใจ
"จอมขวัญกลับมาที่วัดบ้างหรือไม่ครับหลวงพ่อ"
"ไม่ได้กลับมาเลยโยม"
หลวงพ่อถอนหายใจอย่างเวทนาอีกฝ่ายทำให้คินตาทำสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
"ที่วัดก็ไม่มีแถมไม่ได้กลับบ้านอีกต่างหาก แล้วจอมขวัญจะไปอยู่ที่ไหนกัน"
"บางทีอาจจะอยู่ในที่ไกลแสนไกล"
หลวงพ่อพึมพัมอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากถุงย่ามมากำเอาไว้พร้อมพึมพัมคาถาบางอย่างทำให้คินตามองด้วยความประหลาดใจ
"ยื่นข้อมือซ้ายมาซิ"
"ครับ?"
แม้จะงุนงงแต่คินตาก็ยอมยื่นข้อมือซ้ายไปด้านหน้าแต่โดยดีซึ่งหลวงพ่อก็บรรจงผูกสายสิญจน์ตรงข้อมือซ้ายพร้อมทั้งพึมพัมคาถาไปด้วยจนจบก่อนจะเป่าอย่างแผ่วเบาแต่ทำให้คินตาขนลุกไปหมด
"หลวงพ่อสายสิญจน์เส้นนี้ทำไมหรือครับ"
"ทางข้างหน้าอาจยากลำบากนัก เองห้ามถอดสายสิญจน์เส้นนี้เด็ดขาด"
หลวงพ่อจ้องมองมาด้วยสายตาจริงจัง
"เข้าใจไหม"
"ครับ"
คินตาตอบรับแต่ยังทำสีหน้ากังวลไม่หาย
"แต่ผมต้องทำยังไงถึงจะได้เจอจอมขวัญอีกครั้งล่ะครับหลวงพ่อ หลวงพ่อช่วยชี้แนะให้หน่อยได้ไหมครับ"
"เฮ้อ~"
หลวงพ่อถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายนั้นงุนงง
"ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา"
"คืออะไรหรือครับหลวงพ่อ"
คินตาไม่เข้าใจแต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรเพิ่มเติมหลวงพ่อก็เข้าสู่สมาธิไปเสียแล้ว ทำให้คินตาตัดสินใจกราบลาแล้วเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยความงุนงง
"หลวงพ่อหมายถึงอะไรกันนะ??"
คืนวันนั้นเองคินตาตัดสินใจมานอนที่บ้านของจอมขวัญเผื่อว่าอีกฝ่ายจะกลับมาบ้าน แต่ทว่ารอไปจนเกือบถึงเที่ยงคืนก็ไม่พบแม้แต่เงาของอีกฝ่ายทำให้คินตาถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกหนักใจ
"แล้วจะไปหาจอมขวัญได้ที่ไหนเนี่ย"
ระหว่างที่กำลังเครียดอยู่นั้นดวงตาคมก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังส่องแสงสว่างเรืองรอง ซึ่งเป็นสร้อยคออันเดียวกันกับที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าคู่กันกับกล้องถ่ายรูป พร้อมกับเสียงหลวงพ่อที่ดังก้องขึ้นมาเสียงดัง
'ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา'
"สร้อยเส้นนี้จะพาเราไปหาจอมขวัญได้ไหมนะ"
คินตาเริ่มคิดจริงจังก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสร้อยคอเส้นนั้นกุมเอาไว้แน่นพร้อมนึกถึงใบหน้าของจอมขวัญที่คิดถึงมาตลอด
'อยากเจอจอมขวัญอีกครั้ง'
คิดได้เท่านั้นก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไปและรู้สึกเหมือนมีแรงอะไรบางบางอย่างกำลังดึงตนเองเข้าไปในสร้อยเส้นนั้น
ก่อนที่แสงสว่างจะดับลงพร้อมกับสร้อยเส้นงามที่หล่นลงไปอยู่บนเตียงและไฟทั้งบ้านที่ดับลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ
ซึ่งภาพที่เห็นในนิมิตนั้นทำให้หลวงพ่อลืมตาขึ้นมามองแสงเทียนตรงหน้าด้วยแววตาที่ลำบากใจไม่น้อย
"โชคชะตาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว"
'ช่วย...ด้วย'
"อืมมม..."
คินตานั้นลืมตาขึ้นมามองรอบกายด้วยความงุนงงเพราะตนเองยืนอยู่กลางป่า ก่อนจะเหมือนได้ยินเสียงคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังมาจากอีกทางหนึ่ง
ทำให้คินตารีบวิ่งวิ่งตามเสียงไปเพื่อจะช่วยเหลือก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังรังแกผู้หญิงอยู่แต่ดูไปดูมาดันหน้าตาเหมือนเพื่อนของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว
"จอมขวัญ!"
เมื่อคิดได้อย่างนั้นคินตาจึงรีบวิ่งเข้าไปกระชากแสงหล้าให้ผละออกจากจอมขวัญแล้วลากมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างแรงหลายต่อหลายทีจนอีกฝ่ายสลบไป
ก่อนที่คินตาจะง้างหมัดเพื่อต่อยอีกครั้งก็ต้องชะงักค้างได้ยินเสียงคุ้นเคยของคนที่ตามหาเรียกชื่อตัวเองอย่างแผ่วเบา
"คินตา"
"หืม?"
คินตาหันไปมองด้วยสายตาที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยแถมยังไว้ผมยาวและแต่งตัวผู้หญิงอีกต่างหาก
"จ...จอมขวัญจริงด้วย!?"
"คินตา!"
จอมขวัญตะโกนเรียกอีกฝ่ายอย่างดีใจทำให้คินตาผละออกจากร่างที่นอนสลบของแสงหล้าและตรงเข้ามาหาก่อนที่จะโดนจอมขวัญดึงเข้าไปกอดแน่นแล้วร้องไห้เสียงดังลั่น
"ฮืออ ฮึก! จอมคิดว่าจะไม่ได้เจอคินอีกแล้วนะเนี่ย ฮึก! จอมคิดถึงคินนะ ฮืออ~"
"ในที่สุดคินก็หาจอมจนเจอซักทีนะ รู้ไหมว่าคินเป็นห่วงจอมมากแค่ไหน"
คินตาลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงมากยิ่งขึ้นจนหน้าแดงไปหมด แถมยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายยังไว้ผมยาวแถมอยู่ในชุดผู้หญิงแบบนี้อีกทำให้คินตาสงสัยหลายอย่างจนเผลอหลุดพูดออกไป
"เกิดอะไรขึ้นน่ะจอม ทำไมจอมถึงมาที่นี่ได้ ทำไมตอนที่จอมหายไปคินถึงหาจอมไม่เจอ แล้วทำไมจอมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ"
"เรื่องมันยาวน่ะคิน"
จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรื่องไหนอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อนดีนะ แต่ทว่าต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มคุ้นเคยตะโกนเรียกมาดังลั่น
"พาขวัญ!"
"เดี๋ยวจอมเล่าให้คินฟังทีหลังนะ"
จอมขวัญยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังตอนนี้เพราะต้องเตรียมรับมือกับแทนกานต์ที่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
ฝ่ายแทนกานต์เองนั้นพอเห็นจอมขวัญนั่งอยู่บนพื้นก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังกอดผู้ชายคนอื่นแน่น จึงเผลอพูดเสียงไม่พอใจออกไปอย่างลืมตัว
"เจ้าปลอดภัยหรือไม่พาขวัญ แล้วชายผู้นี้คือใครกันเหตุใดจึงต้องกอดกันแน่นขนาดนั้น"
"เขาเป็นคนมาช่วยข้าไว้น่ะเจ้าค่ะ"
จอมขวัญตอบคำถามนั้นก่อนจะเผลอปล่อยมือออกจากคินตาในจังหวะที่แทนกานต์ยกมือขึ้นมาจับบริเวณแผลบริเวณหัวนั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับห้ามเลือดให้อย่างเบามือแถมคิ้วยังขมวดจนแทบจะติดกัน
"ไอ้แสงหล้ามันทำเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เจ็บมากหรือไม่"
"ข้าไม่เป็นไร...อย่าขมวดคิ้วซิเจ้าคะ"
จอมขวัญยกมือขึ้นไปจิ้มตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาทำให้แทนกานต์ได้โอกาสกุมมือนุ่มนิ่มนั้นแน่น ก่อนจะประคองจอมขวัญให้ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษใบไม้ออกไปจากตัวให้อย่างอ่อนโยน
"แล้วหวานล่ะ...เห็นหวานบ้างไหม"
"ไม่ต้องกังวลข้าให้แสงดูแลนางอยู่ทางด้านนู้นน่ะ"
แทนกานต์ตอบพร้อมกับเหลือบมองแสงหล้าที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยความคับแค้นใจ
"ไอ้แสงหล้า ข้าน่าจะฆ่ามันให้ตายนัก"
"อย่าเลยเจ้าค่ะ เรารีบไปหาหวานกันดีกว่า"
จอมขวัญรั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้แล้วรีบลากออกไปจากตรงนั้นโดยมีคินตาเดินตามหลังปล่อยให้แสงหล้านอนสลบอยู่เพียงคนเดียว
เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่
พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง
"คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"
"ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"
จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง
"หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"
"ดีแล้วล่ะ"
จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม
"ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"
"ยัง"
แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
"จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"
"เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"
จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง
"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"
"อ...อืม เจ้าค่ะ"
จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา
"ไปกันเถอะ"
"เอ่อ...เออ"
คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง
เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่
พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง
"คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"
"ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"
จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง
"หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"
"ดีแล้วล่ะ"
จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม
"ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"
"ยัง"
แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว
"จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"
"เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"
จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง
"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"
"อ...อืม เจ้าค่ะ"
จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา
"ไปกันเถอะ"
"เอ่อ...เออ"
คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง
ทางฝั่งคุณหญิงพัณณิตาและท่านเจ้าคุณจอมทัพยื่นรออยู่ด้านล่างของเรือนเพราะนี่ก็ยามเย็นมากแล้วด้วยแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมาทำให้คุณหญิงพัณณิตาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นกังวลมาก
"ทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะคุณพี่ หากพาขวัญหลงทางกับแทนกานต์หรือหายตัวไปไม่กลับมาอีกล่ะ"
"อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลยแม่พัณ มีแทนกานต์ไปด้วยพาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก"
จอมทัพปลอบใจอีกฝ่ายขัดกับภายในที่เป็นห่วงจอมขวัญมาก ก่อนที่เมืองจะวิ่งเข้ามารายงานด้วยใบหน้าและรอยยิ้มที่ยินดีมาก
"คุณหนูพาขวัญกับคุณหลวงแทนกานต์กลับมาแล้วขอครับ"
"จริงหรืออ้ายเมือง"
พัณณิตาดีใจรีบเดินออกไปก่อนอย่างรีบร้อนโดยที่มีจอมทัพเดินตามมาด้านหลังไม่ห่างด้วยความโล่งอก
พอถึงหน้าสะพานขึ้นเรือนพัณณิตาก็ตรงเข้าไปกอดจอมขวัญทั้นทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายทำให้แทนกานต์ต้องยอมปลอยมือออกมาอย่างเสียดาย
"ฮึก! พาขวัญหายไปไหนมานานสองนานล่ะลูก แม่เป็นห่วงเจ้าแทบแย่"
"ลูกกลับมาแล้ว อย่าร้องไห้ซิเจ้าคะคุณแม่"
จอมขวัญยกมือขึ้นมากอดเอวของอีกฝ่ายกลับอย่างออดอ้อนก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพยื่นมือมาจับตรงแผลบนศีรษะของตนเองด้วยความกังวลใจ
"เลือดออกด้วย เกิดอะไรกันขึ้นหรือพาขวัญ"
"พาขวัญบาดเจ็บด้วยหรอลูก"
พัณณิตาถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่นพร้อมกับจ้องมองมองบาดแผลตรงหน้าผากของลูกด้วยอาการเป็นกังวล
"ตายแล้ว!!! แผลใหญ่เชียวรีบขึ้นเรือนกันเถิดเดี๋ยวแม่พาไปทำแผล...นี่นังพริ้ม!!"
"เจ้าคะนายแม่"
พริ้มพรายสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาหันมาทำเสียงดังใส่ตนเองด้วยท่าทางรีบร้อนและเอาแต่ใจ
"นังพริ้มเองรีบให้บ่าวไพร่ตระเตรียมยาให้ลูกข้าเดี๋ยวนี้เลย!!!"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนพร้อมบ่าวจำนวนหนึ่งด้วยความเร่งรีบเพื่อไปเตรียมยาสำหรับการทำแผล ส่วนพัณณิตาหันมาลูบผมอย่างอ่อนโยนแล้วรีบประคองลูกตัวเองขึ้นเรือนด้วยความเป็นห่วง
"ใกล้ค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นรีบขึ้นไปบนเรือนกันเถิดลูก"
พัณณิตาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันไปชวนแทนกานต์ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู
"พ่อแทนก็ขึ้นมาด้วยกันนะ ป้ามีหลายเรื่องที่ต้องถามเยอะเลย"
"ขอรับคุณป้า"
แทนกานต์ไม่ปฏิเสธพร้อมกับเดินตามหลังท่านเจ้าคุณขึ้นไปบนเรือนและปิดท้ายด้วยคินตาที่เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับบ่าวรับใช้
เมื่อขึ้นมาบนเรือนแล้วพัณณิตาก็รีบหาผ้าสะอาดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวลูกสาวของตนที่มีแผลถลอกเต็มไปหมดทำให้อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้
"เจ็บมาไหมพาขวัญ ดูซิมีแผลเต็มไปหมดเลย"
"ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณแม่"
จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมยิ้มหวานให้อย่างเอาใจแต่ไม่ได้ทำให้พัณณิตาหายกังวลเลยซักนิดเดียว
ยิ่งเมื่อท่านเจ้าคุณจอมทัพเห็นบาดแผลของจอมขวัญที่ไม่ได้มีแค่ตรงหัวแต่มีลอยถลอกไปทั่วหลายจุด ทำให้รีบหันไปถามแทนกานต์ด้วยสายตาที่คาดคั้นและเต็มไปด้วยความโมโห
"มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหะพ่อแทน ทำไมแม่พาขวัญถึงบาดเจ็บกลับมาแบบนี้"
"พาขวัญ..."
แทนกานต์เว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่ส่ายหน้าอย่างห้ามปราม แต่พอเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองที่มองอย่างคาดคั้นแล้วจึงตอบคำถามอย่างจำใจ
"โดนฉุดขอรับ"
"ตายแล้ว!"
พัณณิตายกมือขึ้นมาแทบหน้าอกลมแทบจับ
"แต่พาขวัญไปกับพ่อแทนไม่ใช่หรือแล้วไปโดนฉุดได้อย่างไรกัน"
"เราสองคนหลงทางกันที่ตลาดขอรับ ส่วนใครมาฉุดนั้นข้าเองก็ไม่อยากพูด"
แทนกานต์กำมือแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธไปมากกว่าเดิม
"ให้พาขวัญตอบเองเถิดขอครับ"
"เรื่องเป็นไงมาไงรีบบอกมาซิลูก"
พัณณิตาถามอย่างร้อนใจไม่ต่างกับจอมทัพที่เริ่มหงุดหงิด
"ตอบมาซิลูก"
"ลูก...คือลูก..."
จอมขวัญอึกอักอยู่อย่างนั้นจนพัณณิตาต้องหันไปถามหวานที่กำลังนั่งห่อลูกประคบอยู่ด้านหลังลูกของตนเองด้วยสายตาที่คาดคั้น
"นังหวาน! เองบอกข้ามาซิว่าใครเป็นคนฉุดลูกสาวข้า"
"คือ..."
หวานชะงักเมื่อจอมขวัญส่งสายตามาอย่างห้ามปรามทำให้จอมทัพขมวดคิ้วแล้วจ้องไปยังแสงที่หมอบอยู่ด้านหลังนายของตนเอง
"อ้ายแสง เองมานี้ซิ"
"ขอรับ"
แสงรับคำพร้อมคลานออกมาด้านหน้าด้วยท่าทางที่เงอะงะเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น
"เองเห็นคนร้ายที่ฉุดลูกสาวข้าไปหรือไม่"
"เห็นขอรับคุณหลวง"
คำถามนั้นทำให้แสงตอบไปตามความจริงตามประสาคนซื่อ
"ตอนที่กระผมเข้าไปช่วยแม่หวานนั้น กระผมเห็นเป็นคนรับใช้ของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"
"คนของแสงหล้าอย่างนั้นหรือ?"
จอมทัพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับจ้องมองไปทางจอมขวัญที่เริ่มหลบสายตาตนเองอย่างกลัวความผิด
"พาขวัญตอบพ่อมาตามตรง แสงหล้าเป็นคนทำร้ายและลักพาตัวลูกไปใช่หรือไม่"
"เจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญตอบรับอย่างจำใจทำให้จอมทัพโมโหอย่างหนักจนขนาดกระทืบเท้าอย่างแรงจนเสียงดังลั่นไปทั้งเรือน
"บังอาจนัก! นึกว่าเป็นลูกของเจ้าพระยาอาทิตย์ฝ่ายการทหารแล้วจักทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ พ่อมันก็ร้ายเหลือเกินมิรู้จักห้ามปรามลูกของมันบ้างซักเรื่องเดียว"
"ใจเย็นลงก่อนเถิดเจ้าค่ะคุณพี่"
พัณณิตายื่นมือไปจับตรงแขนของท่านเจ้าคุณก่อนจะหันไปรับน้ำเย็นจากพริ้มพรายมายื่นให้คนที่กำลังโมโหจัดอย่างเอาใจ
"ดื่มน้ำก่อนเถิดเจ้าค่ะจะได้ใจเย็นลง"
"ขอบใจนะแม่พัณ"
จอมทัพยอมดื่มน้ำเย็นในขันใบนั้นก่อนที่มองไปยังใบหน้าของจอมขวัญอย่างอ่อนใจ
"แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะพาขวัญ"
"เจ้าค่ะคุณพ่อ"
จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างเอาใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหายโกรธลงมานิดหน่อย ก่อนที่แทนกานต์จะเหลือบมองไปยังคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นข้างล่างตรงด้านหลังเมืองด้วยสายตาจับผิด
"พาขวัญยังไม่ได้บอกข้าเลยนะว่าไปรู้จักมักจี่กับผู้ชายคนนี้ตอนไหน"
"ผู้ชายคนนี้ชื่อ คินตา เขาเป็นคนช่วยข้าเอาไว้"
จอมขวัญตอบพร้อมกับหลับตาลงเมื่อหวานเอาลูกประคบมาประคบบริเวณแผลของตนเอง แต่แทนกานต์ยังขมวดคิ้วมากขึ้นเพราะตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความหึงหวง
"คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ต้องสนิทสนมขนาดรู้จักชื่อเสียงเรียงรามแล้วถึงขั้นต้องเดินจับมือกันด้วยหรือ"
"ข้ารู้จักคินตามาก่อนแล้ว"
จอมขวัญมองไปทางอื่นเล็กน้อยราวกับกำลังคิดคำตอบ
"คินตาคือ..."
"หลานชายของลุงเองแหละพ่อแทน"
จอมทัพพูดขึ้นมาทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ พัณณิตายกพัดขึ้นมาโบกด้วยพร้อมจ้องหน้าคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้วยความสงสัย
"เรามีหลานชายตอนไหนกันหรือเจ้าคะคุณพี่ ญาติฝ่ายน้องรึก็ไม่มีชื่อนี้หรือจะเป็นญาติของคุณพี่กันเจ้าคะ"
"ลูกชายของแม่กิ่งแก้วน่ะ เจ้าจำแม่กิ่งแก้วได้หรือไม่แม่พัณ"
จอมทัพหันไปถามพัณณิตาที่ทำท่าทางคิดหนักแล้วหันไปยิ้มตรงมุมปากให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจ
"แม่กิ่งแก้ว? กิ่งแก้ว...อ๋อ! แม่กิ่งแก้วน้องสาวคนสุดท้ายของคุณพี่ที่อยู่ลพบุรีใช่หรือไม่เจ้าคะ โอ้! โตเป็นหนุ่มขนาดนี้เชียวรึ"
พิณณิตายิ้มหวานพร้อมกับกวักมือเรียกคินตาที่นั่งอยู่ด้านหลังของเมืองด้วยสายตาเอ็นดู
"ไหนมาหาป้าซิลูก"
"เอ่อ...ขอรับ"
คินตาลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงหน้าของพัณณิตาด้วยความงุนงงพร้อมกับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม
"สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"
"ชื่อคินตาใช่ไหม"
พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะลูยผมคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
"แล้วนี่แม่กิ่งแก้วสบายดี หรือไม่จ๊ะ"
"เอ่อ...สบายดีขอรับ คุณแม่ฝากความคิดถึงมาถึงคุณลุงคุณป้าด้วยนะขอรับ"
คินตาสวมรอยเป็นหลานชายท่านเจ้าคุณอย่างแนบเนียนสมกับที่เรียนการแสดงมาจนจอมขวัญแอบอมยิ้มพร้อมจ้องมองใบหน้าแทนกานต์ที่นิ่งไปด้วยสายตาขบขัน
"ไม่ทราบว่าคุณหลวงมีเรื่องอะไรสงสัยอะไรอีกหรือไม่เจ้าคะ"
"หากเป็นเช่นนั้นข้าเองก็สบายใจที่รู้ว่าคู่หมั้นคู่หมายของข้าไม่ได้มีใจไปให้ชายอื่น"
แทนกานต์กระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม
"นี่ก็ดึกมากแล้วข้าขอลาก่อนขอรับคุณลุง คุณป้า"
"เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะพ่อแทน"
จอมทัพพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้วต้องสำลักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของพัณณิตาที่หันไปคะยั้นคะยอลูกตนเอง
"พาขวัญ เดินออกไปส่งพี่เขาซิลูก"
"เจ้าค่ะคุณแม่"
จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมจ้องไปยังแทนกานต์ที่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจจนอดที่จะหมั้นไส้ไม่ได้
"นั่งยิ้มทำไมเจ้าคะ คุณหลวงรีบกลับเรือนไม่ใช่หรือ"
"เสียมารยาทน่ะพาขวัญ"
พัณณิตาดุลูกตนเองแต่แทนกานต์ห้ามเอาไว้ซะก่อนพร้อมกับลุกชึ้นยืนแล้วไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอีกครั้ง
"อย่าดุเลยครับคุณป้า ข้าลาขอครับ"
"เดี๋ยวลูกมานะเจ้าคะ"
จอมขวัญแกล้งยิ้มหวานแล้วเดินลงเรือนไปพร้อมกันกับแทนกานต์ที่ยกมือขึ้นมาโอบไหล่บอบบางนั่นพร้อมกับหันไปแสยะยิ้มเยาะเย้ยคินตาที่นั่งอยู่ข้างจอมทัพแล้วจึงหันกลับมายิ้มกว้างให้กับจอมขวัญที่ตอนนี้ทำตาโตจนแทบจะแยกเขี้ยวใส่ท่ามกลางพัณณิตาที่ยกพักขึ้นมาพัดอย่างปลื้มอกปลื้มใจ
"คุณพี่ว่าเด็กสองคนนี้ดูแปลกไปไหมเจ้า"
"ทำไมรึแม่พัณ" จอมทัพขมวดคิ้วแน่น "พี่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะแปลกอะไรตรงไหนเลย"
"แปลกซิเจ้าคะเพราะยิ่งนานวันทั้งสองคนยิ่งเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยนะเจ้าคะคุณพี่ น้องล่ะอยากจะให้ถึงวันที่ลูกสาวของเราจะได้ออกเรือนซักที"
พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังด้วยความกระตือรือร้น
"นังพริ้ม พรุ่งนี้เตรียมเรือให้ข้าที ข้าจะไปที่เรือนท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์ จะไปคุยกับแม่รินเรื่องฤกษ์แต่งงานอย่างจริงจังเสียที"
"เจ้าค่ะนายแม่"
พริ้มพรายรีบตอบรับทันทีก่อนจะเดินตามพัณณิตาที่รีบเข้าห้องนอนไม่อยู่ฟังเสียงบ่นของจอมทัพที่เริ่มเหนื่อยจะห้ามปราม
"แม่พัณนะแม่พัณ ทำไมถึงอยากเร่งรัดให้ลูกแต่งงานนักนะ"
"แต่งงานอะไรกันขอรับท่านเจ้าคุณ"
คินตากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้จอมทัพหันมามองด้วยสีหน้าท่าทางที่ลำบากใจ
"ไว้เจ้าไปถามกับจอมขวัญเองเถิด"
"ขอรับ"
คินตารับคำพร้อมกับมองไปยังแถวบันไดหน้าเรือนด้วยท่าทางที่เป็นห่วงหมายมั่นจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นและต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ละเอียดเลย
พอลงมาด้านล่างพ้นจากสายตาของบ่าวรับใช้บนเรือนแล้วจอมขวัญก็รีบสะบัดตัวออกจากมือของแทนกานต์พร้อมกับทำหน้าตาไม่พอใจใส่คนที่ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้
"โอบทำไมเจ้าคะ"
"ข้าโอบไม่ได้หรือ?"
แทนกานต์ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตาเริ่มกวนประสาท
"ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ"
"คู่หมั้นของพาขวัญ ไม่ใช่คู่หมั้นของข้าซักหน่อย"
จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเชิดหน้าใส่อีกฝ่ายด้วยความแง่งอน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แบบไม่ทันตั้งตัว
"ไม่ว่าจะพาขวัญหรือจอมขวัญก็จะต้องหมั้นหมายและออกเรือนกับข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะ"
"กลับเรือนไปเลยไป...ข้าจะพักผ่อน"
จอมขวัญพลักอีกฝ่ายให้ออกไปจากตนเองด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำเพราะเขินกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อแทนกานต์ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณแผลของตนเองอย่างอ่อนโยนและเบามือมาก
"รักษาตัวเองด้วยนะจอมขวัญ ข้าคงจะทนไม่ได้ถ้าหากเห็นเจ้าต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้อีก"
"เจ้าค่ะคุณหลวง"
จอมขวัญตอบรับด้วยท่าทางว่านอนสอนง่ายแถมแก้มนั้นเริ่มแดงทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มออกมาพร้อมกับแอบหอมแก้มนุ่มนิ่มน่าหมั่นเขี้ยวนั่นไปเต็มปอด
"ถ้าเช่นนั้นข้าขอกลับเรือนก่อนนะจอมขวัญ"
ฟอด!
"อ๊ะ! คนฉวยโอกาส"
จอมขวัญหันไปโวยวายใส่ด้วยความแง่งอน
"รีบกลับเรือนไปได้แล้วเจ้าค่ะ"
"แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า"
แทนกานต์อมยิ้มพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตากรุ่มกริ่ม
"รอข้าด้วยนะเข้าใจไหม"
"เจ้าค่ะ!"
จอมขวัญตอบรับด้วยความรำคาญ
"ไปซักทีซิเจ้าคะ"
"ข้าลาล่ะ อย่าลืมฝันถึงข้าด้วยนะแม่จอมขวัญ"
แทนกานต์หัวเราะในลำคอแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วปล่อยให้จอมขวัญยืนกุมแก้มข้างที่โดนหอมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุด ท่ามกลางสายตาของหวานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งสายตาให้คุณหนูของตนเองอย่างเอ็นดู
"คุณหนูหน้าแดงไปหมดเลยนะเจ้าคะ"
"อากาศมันร้อนน่ะหวาน"
จอมขวัญทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทำให้หวานอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
"แต่หวานว่าอากาศเย็นดีออกนะเจ้าคะไม่เห็นร้อนตรงไหนเลย"
"เอ่อ..."
จอมขวัญชะงักพร้อมกับทำหน้างอลงเล็กน้อยอย่างขัดใจ
"สงสัยข้าคงจะไม่สบาย"
"หวานรู้แล้วเจ้าค่ะว่าคุณหนูเป็นโรคอะไร"
หวานอมยิ้มพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาพราวระยับเต็มไปด้วยความล้อเลียน
"โรคเขินอาย อาการเริ่มต้นของคนตกหลุมรักเจ้าค่ะ"
"หวาน!!!"
จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความแง่งอน
"ข้าจะขึ้นเรือนแล้ว"
"รอหวานด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"
หวานรีบเร่งฝีเท้าตามเจ้านายตนเองที่เดินหนีขึ้นไปบนเรือนด้วยความแง่งอน
************* :กอด1: มีต่อค่ะ :กอด1:*************