พิมพ์หน้านี้ - เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => ข้อความที่เริ่มโดย: tonako2yuri ที่ 25-06-2019 23:01:46

หัวข้อ: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 25-06-2019 23:01:46
************************************************


ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

************************************************



   ทุกเรื่องราวถูกกำหนดโดยโชคชะตา
เริ่มจากสร้อยคอของคุณย่าพาให้จอมขวัญย้อนเวลากลับไปสวมรอยเป็นใครบางคนเพื่อตามหาความจริง



***********************



"ทำไมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงด้วยล่ะครับ"

"ก็พาขวัญลูกของข้าเป็นผู้หญิงน่ะซิ"

"ห๋า!!!"




***********************



"มองอะไร"

"ข้าแค่เพียงคิดว่า..."

แทนกานต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

"...หน้าอกของเจ้า หายไปไหนหมดหรือพาขวัญ"

"คนโรคจิต!"




***********************




เรือนจอมขวัญ


สารบัญ

เรือนหลังที่ 1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3985497#msg3985497)

เรือนหลังที่ 2 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3985808#msg3985808)

เรือนหลังที่ 3 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3986425#msg3986425)

เรือนหลังที่ 4 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3987160#msg3987160)

เรือนหลังที่ 5 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3987585#msg3987585)

เรือนหลังที่ 6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3988960#msg3988960)

เรือนหลังที่ 7 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3989413#msg3989413)

เรือนหลังที่ 8 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3991497#msg3991497)

เรือนหลังที่ 9 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3993948#msg3993948)

เรือนหลังที่ 10 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg3999515#msg3999515)

เรือนหลังที่ 11 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4006879#msg4006879)

เรือนหลังที่ 12 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4006886#msg4006886)

เรือนหลังที่ 13 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70583.msg4012493#msg4012493)



********************************************



ผลงาน


Detective liu : นักสืบหลิว ภาค รถไฟฆาตกรรม [END] (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69427.0)



หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 1}}} [UP 25/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 25-06-2019 23:23:52
เรือนหลังที่ 1




   'เรือนย่าจอม'



   ป้ายชื่อที่ทำด้วยไม้สักทองโบราณหลายปีที่ถูกขัดจนเงาดูใหม่เอี่ยม ซึ่งเป็นชื่อร้านกาแฟและขนมหวานที่ตั้งอยู่สุดจังหวัดนนทบุรี บ้านหลังเล็กที่ตั้งอยู่สุดซอยแต่กลับมีรถจอดมากมาย บริเวณหน้าร้านโดบรอบปลูกดอกไม้เต็มไปหมดแถมมีมุมไว้นั่งเล่นพักผ่อน ตรงหน้าประตูมีกระดิ่งติดเอาไว้และเมื่อประตูถูกเปิดออกจะมีเสียงดังกังวาลน่าฟัง พอเดินเข้ามาด้านในร้านนั้นก็พบว่าไ้ถูกออกแบบและตกแต่งด้วยโทนสีครีมตัดกับสีน้ำตาลเข้มของไม้อย่างลงตัวแถมยังจัดโต๊ะที่นั่งในมุมที่เป็นส่วนตัวอีกต่างหาก

   ส่วนด้านบนของบ้านนั้นก็พบกับห้องนั่งเล่นและห้องนอนขนาดกระทัดรัดสำหรับอยู่คนเดียว ส่วนอีกห้องหนึ่งด้านในสุดนั้นเป็นห้องของคุณย่าที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยมีจอมขวัญซึ่งเป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของร้านนั้นจะแวะเข้าไปไหว้รูปของคุณย่าก่อนเปิดร้านและก่อนเข้านอนเป็นประจำ

   ซึ่งวันนี้เองก็เช่นกันจอมขวัญเปิดประตูเข้ามาภายในห้องของคุณย่าที่ยังดูสะอาดสะอ้านเหมือนเดิมเพราะตนเองนั้นคอยทำความสะอาดอยู่เสมอ  จอมขวัญวางพวงมาลัยดอกไม้ที่ตื่นมาเก็บดอกมะลิหน้าบ้านมาร้อยเองตั้งแต่เช้าลงบนพานสีทองหน้ารูปคุณย่าของตนเองพร้อมกับยกมือไหว้อย่างเคารพ


   ย่าจอมจันทร์


   คุณย่าเพียงคนเดียวของจอมขวัญที่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นคุณย่าที่น่ารัก ใจดี อ่อนโยนกับตนเองเสมอและคอยสอนหลานชายคนเดียวในทุกเรื่องทั้งด้านการร้อยมาลัยและการทำขนมหวาน   หลังจากที่คุณย่าจอมเสียชีวิตไปแล้วจอมขวัญจึงเลือกที่จะไม่เรียนต่อมหาลัยและรับกิจการร้านขนมขวานต่อจากย่าโดยเริ่มปรับปรุงร้านให้ดูใหม่และทันสมัยกว่าเดิมแถมขนมยังหลากหลายทั้งแบบไทยดั้งเดิมและขนมต่างประเทศ แถมทั้งร้านยังเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของกาแฟผสมไปด้วยกลิ่นขนมหวานอบอวลเต็มร้านไปหมดทำให้ดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้านทั้งวันยิ่งตอนเย็นยิ่งมีลูกค้ามาเยอะ


   กรุ๊งกริ๊ง~


   "หนูจอมขวัญ"

   "สวัสดีครับคุณป้าแหวน"

   จอมขวัญเดินออกมาจากหลังร้านหลังจากได้ยินเสียงกระดิ่งแล้วยิ้มหวานต้อนรับลูกค้าประจำที่วันนี้มาเย็นกว่าปกติ

   "วันนี้คุณป้ามาเย็นเลยนะครับ"

   "พอดีป้าไปจัดการเรื่องหลานมาน่ะจ้ะเลยมาช้ามาก แล้วนี่มีอะไรเหลือบ้างจ้ะ"  คุณป้ามองไปรอบตู้ขนมก่อนจะสะดุดตากับขนมที่ตนเองไม่ได้กินมานาน  "โอ๊ะ! วันนี้มีบัวลอยไข่หวานด้วยหรอ ดีจังเลยป้าคิดถึงฝีมือย่าหนูมากเลยล่ะ"

   "ตกลงรับบัวลอยใช่ไหมครับคุณป้า"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับนึกถึงเสียงของคุณย่าที่ดังก้องขึ้นมาจากความทรงจำของตนเอง

   "ผมเองก็คิดถึงคุณย่าเหมือนกันครับ"


...

"คุณย่ากำลังอ่านอะไรอยู่หรอครับ"

   จอมขวัญตัวน้อยวัยเพียงห้าขวบวิ่งมากอดและนั่งตักคุณย่าที่นั่งอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่บนเตียงด้วยท่าทางอยากรู้อยากเห็นจนย่าอดที่จะลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู

   "ย่ากำลังอ่านบทประพันธ์กาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวาน ซึ่งเป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 อยู่จ้ะ"

   "ชมเครื่องคาวหวานหรือครับ น่าสนใจจังคุณย่าอ่านให้จอมฟังหน่อยได้ไหมครับ"

   จอมขวัญทำหน้าตาตื่นเต้นพร้อมชะโงกหน้าเข้ามาดูตัวอักษรที่อ่านไม่ค่อยออกทำให้คุณย่านั้นหัวเราะในลำคอ

   "ได้ซิจ๊ะ"


'บัวลอยเล่ห์บัวงาม คิดบัวกามแก้วกับตน'


   "บัวลอยหรอครับ ผมชอบบัวลอยที่คุณย่าทำที่สุด"

   "พูดแบบนี้หิวแล้วใช่ไหมเด็กอ้วน"

    คุณย่าหยิกแก้มหลานชายที่กำลังยิ้มหวานแถมกำลังออดอ้อนอย่างหมั่นเขี้ยว

    "ผมไม่ได้อ้วนแต่ผมชอบขนมหวานของคุณย่ามากเกินไปต่างหากครับ"

    "จ้าจ้ะ" คุณย่ากอดหลานชายตัวน้อยก่อนจะจูงมือกำลังพาเดินลงไปด้านล่าง "งั้นเราไปกินบัวลอยกันดีกว่านะวันนี้ย่าใส่ไข่หวานของโปรดหนูลงไปด้วยนะ"

    "ผมรักคุณย่าที่สุดเลยครับ~"

...



   "งั้นเดี๋ยวคุณป้ารอซักครู่นะครับ"

   "ได้เลยจ๊ะ"

    คุณป้าแหวนตอบพร้อมกับยื่นเงินมาให้ทำให้จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะจัดขนมลงในถุงแล้วส่งมอบให้คุณป้าที่รีบรับมาถือด้วยความตื่นเต้น

   "ได้แล้วครับ ขอให้อร่อยกับบัวลอยนะครับ"

   "ขอบใจมาเลยนะจ๊ะ"

    คุณป้าแหวนยิ้มก่อนจะเดินออกจากร้านสวนทางกับนักศึกษาสาวที่มาหยุดยืนเลือกขนมหน้าตู้เย็นอย่างสนอกสนใจทำให้จอมขวัญเอ่ยทักทาย

    "เรือนย่าจอม ยินดีต้อนรับครับ"

    "ขนมอันนี้อะไรหรอคะพี่ สีสวยน่ากินจัง"

    นักศึกษาสาวสวยยืนจ้องขนมหลากหลายสีสันในตู้เย็นที่มถุงน้ำกะทิตั้งวางด้านข้างด้วยแววตาที่เป็นประกาย ทำให้จอมขวัญนึกถึงตนเองสมัยเด็กที่เคยนั่งมองคุณย่าทำขนมด้วยแววตาแบบนั้นเช่นเดียวกันทำให้จอมขวัญจำชื่อขนมสีสันสวยงามหลากสีนี้ได้แม่นยำ

    "ขนมซ่าหริ่มครับ"


...


'ซ่าหริ่มลิ้มหวานล้ำ แทรกใส่น้ำกะทิเจือ'


   "สีสวยจังเลยครับคุณย่า"

   "ย่ากำลังทำซ่าหริ่มจ้ะ ต้องกินคู่กันกับน้ำกะทิและน้ำแข็งด้วยนะรู้ไหมถึงจะอร่อย" คุณย่าตักน้ำกะทิใส่เข้าไปในถ้วยที่มีเส้นหลากหลายสีสันตามด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่เป็นปุยก่อนจะตักขึ้นมาป้อนไปที่ปากของหลานชายที่อ้างับทันที "ลองชิมดูซิจ๊ะ"

   "งื้ออ...อร่อย~"

    กลิ่นและรสชาติของน้ำกะทินั้นหอมหวานละมุนละไมแถมเส้นยังนุ่มลื่นละมุนลิ้นอีกต่างหากทำให้จอมขวัญตัวน้อยทำหน้าตามีความสุขจนคุณย่าอดที่จะดึงแก้มยุ้ยของหลานชายคนเดียวไม่ได้

...


   "ขนมซ่าหริ่มหรอคะชื่อน่ากินจังเลย แต่น้ำกะทินี่กินแล้วอ้วนไหมคะ"

   ลูกค้านักศึกษาสาวคิดหนักแต่สายตาไม่ละไปจากขนมหลากสีน่ากินตรงหน้าทำให้จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างเอ็นดู

   "ไม่อ้วนหรอกครับ ผมคั้นน้ำกะทิเองกับมือเมื่อเช้าเลยนะครับไม่ข้ามวันและไม่ใช้กะทิแบบกล่อง รับรองไม่อ้วนแน่นอนครับ"

   "งั้นหนูเอาซ่าหริ่มสองชุดค่ะ จะเอาไปฝากคุณยายด้วย"

   นักศึกษาสาวยิ้มหวานยื่นเงินให้พร้อมกับเท้าแขนตรงเคาท์เตอร์ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้เจ้าของร้านที่ตนเองแอบมองมาหลายวัน

   "ถ้าพี่ใจดีแถมชื่อกับเบอร์โทรศัพท์มาให้หนูด้วยก็ได้นะคะ"

   "ฮะฮะ พี่ชื่อจอมขวัญครับ ส่วนเบอร์โทรเดี๋ยวจะให้เบอร์โทรของร้านแล้วกันนะครับ"

    จอมขวัญหัวเราะแถมพูดด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาขณะที่มือกำลังนำกล่องซ่าหริ่มและน้ำกะทิใส่ถุงโดยไม่สังเกตุเห็นใบหน้าแง่งอนของลูกค้าคนสวย

   "พี่จอมอ่ะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวมุกจะมาซื้อขนม ร้านพี่ทุกวันเลยจนกว่าพี่จะยอมให้เบอร์หนูตกลงไหมคะ"

   "ตกลงครับผม"

    จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างเอ็นดูมองลูกค้านักศึกษาสาวเดินออกไปจากร้านสวนทางกับลูกค้าคนสำคัญที่ไม่ได้มาหลายวันทำให้จอมขวัญจะเอ่ยทักทายอย่างสนิทสนม

   "สวัสดีครับคุณลูกจันทร์"

   "สวัสดีค่ะคุณจอมขวัญ"

   ลูกจันทร์ยิ้มรับก่อนจะมองขนมที่ตนเองซื้อเป็นประจำในตู้ขนมซึ่งเหลือไม่กี่กล่องทำให้จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างรู้ใจเพราะจำได้ว่าอีกฝ่ายนั้นชอบกินอะไร

    "วันนี้รับจ่ามงกุฎเหมือนเดิมใช่ไหมครับ"


...


'งามจริงจ่ามงกุฏ ใส่ชื่อดุจมงกุฏทอง'


   "มีมงกุฎสมกับชื่อแถมอร่อยอีกต่างหาก"

    จอมขวัญจ้องมาขนมในจานที่คุณย่าแบ่งเอาไว้ให้แล้วต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อมีแผ่นทองแปะอยู่ด้านบน

    "แผ่นทองนี่กินได้ด้วยหรอครับ แล้วทำไมต้องใส่ลงไปด้วยล่ะครับ"

    "กินได้ซิจ๊ะเพราะนี่เป็นแผ่นทอคำแท้บริสุทธิ์เลยนะ ส่วนการติดแผ่นทองบนขนมนั้นเพื่อให้ขนมดูมีระดับและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้นยังไงล่ะจ๊ะ"

    คุณย่าลูบผมหลานชายที่พยักหน้าแล้วยิ้มหวานมาให้อย่างเอ็นดูจนอดที่จะหอมแห้มซ้านขวาอย่างหมั่นเขี้ยว

    "แต่ผมชอบกินจ่ามงกุฎของคุณย่าที่สุดเลยครับ"

    "จ้าจ้ะ งั้นกินให้หมดเลยนะ"

    คุณย่ายิ้มหวานก่อนจะป้อนขนมเข้าไปในปากเล็กนั้นที่รับงับขนมเข้าปากทันทีพร้อมเคี้ยวแก้มตุ่ยจนย่าต้องดึงแก้มอีหลายต่อหลายครั้งด้วยความหมั่นเขี้ยวตลอดเวลา

...


   "คุณจอมขวัญจำได้ด้วยหรอคะ?"

   "ลูกค้าทุกคนผมต้องจำลายละเอียดได้อยู่แล้วครับ"

    จอมขวัญยิ้มหวานทำให้ลูกจันทร์แอบแก้มแดงด้วยความเขินอายแต่จอมขวัญไม่ได้สังเกตุแถมเอากล่องขนมจ่ามงกุฎมาใส่ถุงอย่างเรียบร้อย

   "ขนมจ่ามงกุฎครับผมเก็บไว้ให้คุณลูกจันทร์โดยเฉพาะเลยนะครับ"

    "ขอบคุณนะคะ"

   ลูกจันทร์อมยิ้มพร้อมกับยื่นเงินค่าขนมไปให้แล้วรับถุงขนมมาถือไว้อย่างถนุถนอม

   "พรุ่งนี้ฉันจะมาใหม่นะคะ"

   "ยินดีต้อนรับเสมอครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานมากขึ้นกว่าเดิมจนลูกจันทร์หน้าแดงทำตัวไม่ถูกรีบเดินออกไปจากร้านอย่างรีบร้อนแต่จอมขวัญไม่ได้สังเกตอะไรแถมยังยิ้มหวานรับลูกค้าตรงหน้าซี่งเห็นยืนต่อแถวมานานพอสมควรและตอนนี้เหลือเพียงเค้กฝอยทองในตู้เพียงก้อนเดียวเท่านั้น

   "สวัสดีครับลูกค้า"

   "สวัสดีจ๊ะ ลูกค้าเยอะมากเลยนะวันนี้" ลูกค้าวัยกลางคนที่หน้าตายังดูสวยอยู่ไม่เปลี่ยนแปลงนั้นยิ้มหวานพรางจ้องมองขนมในตู้ขนมอย่างพิจารณา "แล้วตอนนี้เหลืออะไรบ้างจ๊ะ"

   "ตอนนี้เหลือแต่เค้กฝอยทองครับ"

...


'ฝอยทองเป็นยองใย เหมือนเส้นไหมไข่ของหวาน'


   "ฝอยทองจอมรู้จักแถมยังอร่อยอีกต่างหากครับคุณย่า"

   "จ้ะ อย่าอร่อยเยอะไปนะเราน่ะ ตัวตันแล้วเห็นไหมหืม?"

   "จอมไม่ได้อ้วนซักหน่อย แค่ขนมคุณย่าอร่อยเกินไปจนหยุดกินไม่ได้เท่านั้นเองครับ"

   "หรอจ๊ะ"  คุณย่าอมยิ้มพร้อมป้อนฝอยทองเข้าไปในปากเล็กนั้นที่เคี้ยวจนแก้มยุ้ยน่าเอ็นดูมาก  "งั้นกินไปเถอะจ๊ะ อ้วนแค่ไหนย่าก็รักจอมขวัญอยู่แล้ว"

   "จอมรักคุณย่าที่สุดเลยครับ"

   จอมขวัญกอดย่าของตัวเองแน่นซึ่งทำให้ย่าจอมจันทร์หอมทั้งแก้มซ้ายขวาอย่างเอ็นดูและเต็มไปด้วยความรัก


...


   "หนูจ๊ะ เป็นอะไรรึเปล่าเหมือนจะร้องไห้เลย"

   เสียงทักจากลูกค้าทำให้จอมขวัญยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำที่ปริ่มตรงหางตาก่อนจะส่ายหน้าและส่งรอยยิ้มหวานไปให้ลูกค้าตรงหน้า

   "ไม่เป็นอะไรครับ ตกลงลูกค้ารับเค้กฝอย ทองชิ้นสุดท้ายไหมครับ"

   "รับจ้ะ ขนมร้านนี้เห็นลูกสาวน้าบอกว่าอร่อยมากแถมวันนี้ยังเป็นวันเกิดลูกสาวน้าอีกจนอดที่ตามใจจะขับรถมาซื้อไม่ได้"

    ลูกค้าคนสวยยิ้มกว้างพร้อมเมื่อนึกถึงลูกสาวของตนเองทำให้จอมขวัญนั้นพลอยมีความสุขไปด้วยและนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ตนนั้นอยากทำร้านขนมหวาน

    "ถ้าอย่างนั้นคุณลูกค้ารอแป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมเอาใส่กล่องให้"

   "ขอบใจมากนะจ๊ะ"

    พอจอมขวัญได้ฟังอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มหวานก่อนจะหยิบเค้กฝอยทองชิ้นสุดท้ายของตู้มาบรรจงใส่กล่องอย่างงดงามก่อนจะมาส่งใหิกับลูกค้าที่กำลังนั่งรออยู่ถึงโต๊ะ

    "เค้กฝอยทองของคุณลูกค้าได้แล้วนะครับ ผมแถมเทียนวันเปิดให้ด้วยไม่คิดเงินเพิ่มด้วย และนี่กาแฟครับผมแถมให้ฟรีเหมือนกันจะได้ไว้ดื่มตอนขับรถ"

    "ขอบใจมากเลยนะจ๊ะ"

    ลูกค้ายิ้มอย่างพึงพอใจก่อนจะหอบกล่องเค้กเดินออกไปจากร้านทำให้จอมขวัญยิ้มหวานเดินตามไปส่งหน้าร้านแล้วเปลี่ยนป้ายตรงประตูร้านก่อนจะเดินหายไปในห้องครัวเพื่อเตรียมเก็บร้าน โดยที่วันนี้ขายขนมได้หมดเกลี้ยงทุกรายการแถมมีลูกค้าใหม่เพิ่มมาอีกตั้งหลายคนซึ่งจอมขวัญรู้สึกดีใจเพราะเริ่มมีลูกค้ามาอุดหนุนเยอะขึ้นพอสมควรเพราะจากคำบอกเล่าปากต่อปากของลูกค้านั่นแหละ 

   เคยมีใครหลายคนถามว่าจอมขวัญไม่เสียดายหรอที่ไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัยเหมือนคนอื่นซึ่งจอมขวัญก็ตอบได้ทันทีว่าไม่เคยนึกเสียใจที่รับร้านขนมหวานแห่งนี้มาเปิดกิจการต่อเลยซักครั้งเดียวและไม่เหงาด้วยเพราะมักจะมีคินตาเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กคอยแวะเวียนมาหาในช่วงปิดร้านแล้วเป็นประจำเหมือนกับวันนี้ที่ได้ยินเสียงกระดิ่งดังขึ้นในช่วงห้าโมงครึ่งตามเวลาไม่ขาดไม่เกิน


   กรุ๊งกริ๊ง~


   "ร้านปิดแล้วหรอจอม"

    คินตาเดินเข้ามาในบ้านด้วยรอยยิ้มพร้อมวางถุงพลาสติกหลายถุงลงบนโต๊ะกระจกมุมด้านในสุดของร้านทำให้จอมขวัญรีบวิ่งเข้ามากอดแขนอีกฝ่ายพร้อมซบลงไหล่กว้างกว่าตนเองเล็กน้อยอย่างออดอ้อน

   "ปิดแล้วล่ะวันนี้ลูกค้าเยอะและขายดีมากเลย แต่คินมาตอนนี้ก็ดีละจอมพึ่งทำคุกกี้รสใหม่เสร็จเดี๋ยวเอามาให้ชิมนะ"

   "ได้ซิ"

    คินตายิ้มพร้อมกับมองคนตัวเล็กที่เดินหายไปด้านในของร้านไม่นานก็เดินออกมาด้วยกลิ่นหอมกรุ่นมาวางลงบนโต๊ะกระจกเผยโฉมคุกกี้ที่มีหน้าตาน่ากินมากแถมยังมีกลิ่นของขนมไทยอีกต่างหาก

   "หอมจังเลย"

   "ใช่ไหมล่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหยิบคุกกี้ขึ้นมาชิ้นหนึ่งมาเป่าเล็กน้อยพร้อมยื่นไปจ่อตรงปากของคนตรงหน้า

   "อ่ะชิมซิ"

   "อ...อืมม"

   คินตางับคุกกี้ที่อยู่บนมือขาวด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงด้วยความเคอะเขินก่อนจะเอ่ยชมเมื่อรับรู้ถึงความกลมกล่อมและหวานหอมที่ฟุ้งอยู่ในปากของตนเอง

   "อร่อย!~"

   "จริงหรอ!"

   จอมขวัญทำท่าทางตื่นเต้นพร้อมกัดคุกกี้ในมือของตนเองด้วยท่าทางมีความสุขกับรสชาติขนมของตนเองโดยไม่รู้เลยว่ากำลังมีใครบางคนหน้าแดงหนักกว่าเดิม

   "อร่อยจริงด้วยล่ะ!"

   "จอมทำขนมอร่อยเหมือนคุณย่าจอมไม่มีผิดเลย...เอ่อ..."

    คินตาเผลอพูดออกมาอย่าลืมตัวทำให้จอมขวัญทำหน้าเจือนลงเล็กน้อยพรางนึกถึงคุณย่าที่จากไปด้วยความเสียดาย

   "น่าเสียดายจังถ้าคุณย่ายังอยู่จะต้องดีใจมากแน่เลย"

   "ขอโทษนะจอม คือฉัน..."

   "ไม่เป็นไรหรอก แล้ววันนี้คินมาทำไมหรอเอาของมาเต็มเลย"

   จอมขวัญเปลี่ยนเรื่องแถมยังจ้องถุงบนโต๊ะด้วยความสนอกสนใจทำให้คินยิ้มกว้างเมื่ออีกฝ่านเริ่มให้ความสนใจกับของที่ตนเองแอบซื้อมาให้

   "เห็นพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบของคุณย่าน่ะเลยจะชวนจอมไปวัดที่อยุธยา"

    "อยุธยาหรอ!"

    จอมขวัญตื่นเต้นจนเผลอจับแขนเพื่อนสนิทตัวเองแน่นทำให้คินตายิ้มกว้างมากกว่าเดิม

    "ใช่แล้ว และคินก็ซื้อชุดไทยที่จอมอยากได้มาให้จอเลือกใส่หลายชุดเลยนะ" คินตายื่นถุงที่วางอยู่บนโต๊ะให้จอมขวัญที่กำลังยืนนิ่งทำตาโต "ดูซิว่าชอบไหม"

    "โอ๊ะ!"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกระโดดกอดคนตรงหน้าแน่นพร้อมหอมแก้มอีกฝ่ายทั้งสองข้าง

   ฟอด! ฟอด!

   "ฉันรักแกที่สุดเลยคิน"

    "อืม..."

    คินตาหน้าแดงจัดพร้อมกับหยิบคุกกี้อีกชิ้นขึ้นมากัดแก้เขินโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกตุเพราะกำลังเอาชุดขึ้นมาทาบตัวเองอย่างตื่นเต้น
 
   "ตอนนี้ก็ใกล้มืดแล้วคินกลับบ้านก่อนนะเดี๋ยวพรุ่งนี้คินจะมารับตั้งแต่เช้านะ"

   "ตกลงจ้ะ"

    จอมขวัญหันมายิ้มหวานก่อนจะยื่นมือมาหยิบถาดคุกกี้ขึ้นมาถือพร้อมหันมาพูดอย่างออดอ้อน

    "แต่คินนั่งรอก่อนได้ไหมเดี๋ยวจอมไปเอาคุกกี้ใส่กระปุกให้กลับไปกินที่บ้าน"

    "ได้ซิ"

    คินตาเอนหลังนั่งกินคุกกี้ในมือพร้อมยกแก้วกาแฟขึ้นมาดื่มพรางเหลือบมองร่างเล็กที่เดินหายเข้าไปด้านในห้องครัวด้วยหัวใจที่เต้นแรงมาก เมื่อไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้แล้วจึงแอบหยิบกล่องแหวนสีแดงจากกระเป๋าสะพายออกมาเปิดเผยให้เห็นแหวนทองโบราณที่ล้อมไปด้วยเพชรหลากหลายสีถึงเก้าชนิดซึ่งหายากและแพงมากแต่คินตาก็สรรหามาได้เพราะวางแผนที่จะบอกรักอีกฝ่ายในวันพรุ่งนี้ก่อนที่มือบางจะรีบเก็บกล่องนั้นใส่ไปที่เดิมเมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินยิ้มหวานออกมาพร้อมกระปุกขนาดกระทัดรัดที่ถูกคุกกี้อัดไว้จนแน่นเต็มไปหมด

    "มาแล้ว~ นี่คุกกี้จ้ะจอมแถมให้เยอะเลยนะเห็นคินชอบกินน่ะ

    "ชอบมากเลยล่ะ"

   คินตาตอบพร้อมเอื้อมมือไปรับกระปุกคุกกี้แต่สายตายังจ้องคนตรงหน้าไม่ละสายตา ซึ่งจอมขวัญไม่ได้สังเกตุอะไรแถมยังยิ้มหวานแล้วเดินมาส่งเพื่อนสนิทถึงหน้าร้าน

   "ขับรถกลับบ้านระวังนะ พรุ่งนี้เจอกันจ้ะ"

   "อืม...คินไปก่อนนะ"

    คินตาเดินมาขึ้นรถคันหรูและขับออกไปอย่างรวดเร็วซึ่งมีจอมขวัญยืนโบกไม้โบกมือให้ซึ่งคนแถวนั้นมองกันอย่างชินตาแต่ก็มีบางครั้งที่ซุบซิบกันเกินความจริงแต่จอมขวัญไม่สนใจเรื่องไร้มาระพวกนั้น 

   เมื่อเพื่อนสนิทขับรถออกไปแล้วจอมขวัญจึงเก็บของหน้าร้านให้เป็นระเบียบและปิดประตูบ้านด้านล่างเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มทำความสะอาดร้านต่อจนถึงดึกดื่นแต่จอมขวัญก็มีความสุขเพราะบ้านนี้คือสมบัติชิ้นเดียวที่คุณย่าทิ้งเอาไว้ให้นั่นเอง



**********************************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 1}}} [UP 25/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 26-06-2019 01:06:13
รอติดตามจ้ะ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 1}}} [UP 25/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 26-06-2019 02:14:11
น่าสนใจๆ รอติดตามอยู่นะ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 1}}} [UP 25/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-06-2019 14:19:27
ติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 1}}} [UP 25/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 27-06-2019 06:49:53
เรื่องน่าอ่านมาก   :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผิดนะ  รับคำจะใช้เสียงต่ำ เสียงโท
รัชกาลที่ 2 อยู่จ๊ะ"     ------  จ้ะ
 "จ้าจ๊ะ"                  ------จ้ะ
"ได้เลยจ๊ะ"              ------จ้ะ

หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 2}}} [UP 27/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 27-06-2019 20:50:35
เรือนหลังที่ 2





   จอมขวัญทำความสะอาดร้านจนเวลาล่วงเลยมาถึงช่วงค่ำหลังจากที่จอมขวัญอาบน้ำเสร็จแล้วจึงเดินเข้าไปในห้องนอนของคุณย่าและก้มลงกราบตรงรูปภาพอย่างนอบน้อม

   "พรุ่งนี้ก็ครบรอบวันจากไปของคุณย่าแล้ว คุณย่าอยู่ที่นู่นสบายดีไหมครับ จอมสบายดีมากเลยแถมวันนี้ยังอบคุกกี้สูตรใหม่สำเร็จแล้วด้วยครับ นี่ครับจอมเอามาให้คุณย่าชิมด้วย"

   จอมขวัญวางกระปุกคุกกี้ขนาดเล็กไว้ตรงหน้ารูปภาพของคุณย่าจอมข้างพานดอกไม้พร้อมกับยิ้มกว้างที่เต็มไปด้วยความอ่อนหวาน

   "พรุ่งนี้จอมจะไปทำบุญให้คุณย่าที่อยุธยากับคินตานะครับ แถมคินยังซื้อชุดไทยมาให้เลือกเยอะเลยแต่ยังไม่มีเครื่องประดับใส่เลยอ่ะครับ ถ้าอย่างนั้นงั้นจอมขอยืมสร้อยของคุณย่าเส้นนั้นมาใส่ด้วยนะครับ"

   จอมขวัญเอื้อมมือไปเปิดตู้ไม้ตรงหัวเตียงพร้อมหยิบกล่องใส่เครื่องประดับสีแดงมากอดเอาไว้อย่างทะนุถนอมแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้กับย่าของตนเอง

   "พรุ่งนี้จอมนัดกับคินตั้งแต่เช้าเลย งั้นจอมไปนอนก่อนนะครับคุณย่า ราตรีสวัสดิ์ครับ"

    จอมขวัญยกมือไหว้รูปคุณย่าของตนเองแล้วเดินหันหลังออกจากห้องไปโดยไม่ได้สังเกตุเห็นรูปของคุณย่าจอมจันทร์ที่ตรงใบหน้ามีรอยยิ้มปรากฏอยู่ตรงมุมปากเล็กน้อยก่อนจะหายไปพร้อมกับความมืดของห้องที่ถูกปิดไฟลงจนมองอะไรไม่เห็นถือเป็นสัญญาณของช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน



    จอมขวัญตื่นขึ้นตั้งแต่ตอนเช้าลงมาเก็บดอกมะลิแล้วร้อยเป็นพวงมาลัยซึ่งวันนี้ตนเก็บดอกกุหลาบมาหลายดอกเอามาร้อยรวมกันเป็นช่อสลับกับดอกมะลิอย่างสวยงามก่อนจะเดินขึ้นไปวางบนพานดอกไม้ที่ห้องคุณย่าเหมือนทุกวันที่ทำ จอมขวัญยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มหวานให้ย่าตนเองด้วยสายที่เต็มไปด้วยความคิดถึง

   "อรุณสวัสดิ์ครับคุณย่า วันนี้เป็นวันครบรอบที่คุณย่าจากจอมไปก็เร็วเหมือนกับนะครับ จำได้เลยว่าปีที่แล้วคุณย่าจะพาจอมไปเที่ยวที่อยุธยาแต่จอมดันติดสอบเลยเลื่อนกันออกไปแล้วปล่อยให้คุณย่าอยู่คนเดียว"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาตนเองแต่ก็ฝืนยิ้มออกมาเมื่อรู้สึกเหมือนว่าถ้าคุณย่าตัวเองกำลังมองอยู่จะรู้สึกไม่สบายใจ

   "จอมคิดถึงคุณย่านะครับ จอมรักคุณย่าที่สุดในโลกเลย"

   จอมขวัญเหลือบไปเห็นนาฬิกาตรงฝาผนังก็รีบลุกขึ้นยืนพร้อมกับหันมายิ้มหวานให้รูปย่าตนเองด้วยหน้าตาที่ดูสดชื่นขึ้นมาทันที

   "ตอนนี้ก็สายแล้วจอมไปอาบน้ำก่อนนะครับคุณย่า เดี๋ยวถ้าคินรอนานล่ะก็จอมโดนบ่นจนถึงอยุธยาเลยนะครับ"

   จอมขวัญหันหลังรีบเดินออกจากห้องด้วยท่าทางทึ่ร่าเริงและหลังจากที่จัดการอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเลือกชุดไทยที่ตนเองเลือกไว้ตั้งแต่เมื่อวานนั้นเอามาใส่ซึ่งชุดไทยที่คินตาซื้อให้นั้นทำมาจากผ้าไหมอย่างดีสีกรมท่าแขนสั้นกำลังดีซึ่งเข้ากันกับกางเกงที่ทำแบบโจงกระเบนสีดำเข้มได้อย่างลงตัวและมีผ้าสีเลือดหมูผูกมัดไว้ตรงเอวไม่แน่นจนเกินไป

   หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้วจอมขวัญจึงหยิบกล่องเครื่องประดับสีแดงที่ไปเอามาจากห้องคุณย่าเมื่อคืนมาเปิดฝากล่องออกก็ได้พบกับความสวยงามของเครื่องประดับที่คุณย่ารักและหวงแหนมาก สร้อยคอทองคำเส้นเล็กพร้อมจี้ขนาดกำลังดีมีลายฉลุบนเนื้อทองคำอย่างปราณีตดูหรูหราประดับด้วยอัญมณีเก้าชนิดโดยมีทับทิมอยู่ตรงกลาง ด้านบนสุดคือเพชร ไข่มุก โกเมน เพทาย ไพลิน นิลกาฬ ไพฑูรย์ บุษราคัม และ มรกต ครบองประกอบแห่งมณีนพรัตน์ซึ่งเป็นสมบัติอันล้ำค่าและเป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวที่คุณย่าจอมจันทร์ทิ้งเอาไว้ให้กับหลานชายคนเดียวของตนเองก่อนเสียชีวิต จอมขวัญบรรจงสวมสร้อยคอเส้นนั้นอย่างทะนุถนอมซึ่งพอใส่แล้วก็เข้ากันกับชุดที่ใส่อยู่อย่างลงตัวและดูสง่างามมาก จอมขวัญยิ้มหวานหันซ้ายหันขวามองตัวเองในกระจกอย่างหลงไหล

   "สร้อยคุณย่าสวยจังเลย"

   บริ๊น! บริ๊นน!

   "โอ๊ะ! คินตามาแล้ว"

   จอมขวัญหยิบกล้องถ่ายรูปขนาดเล็กขึ้นมาถือเอาไว้แล้วรีบลงไปด้านล่างหลังจากเช็คความเรียบร้อยของบ้านเสร็จแล้วจึงเปิดประตูออกไปหาคินตาที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน

    "มาเร็วจังเลย รอจอมนานไหมคิน"

   "ไม่นานหรอก" คินตามองคนตรงหน้าอย่างไม่วางตาพร้อมเอื้อมมือไปลูบผมคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว "วันนี้จอมน่ารักมากเลยนะ"

   "จอมรู้ตัวอยู่แล้วน่ะว่าตัวเองน่ารัก"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมควงแขนเพื่อนสนิทเดินไปยังรถคันหรูที่จอดอยู่หน้าร้าน

   "รีบไปกันเถอะเดี๋ยวคนเยอะ"

   "อืม"

   คินตาอมยิ้มมุมปากด้วยหัวใจที่เต้นรัวพร้อมกับมือที่เผลอกุมไปที่กล่องแหวนในเสื้อของตนเองก่อนจะออกรถอย่างรวดเร็วโดยมีจุดหมายคือเมืองที่เต็มไปด้วยโบราณสถานและประวัติศาตร์อย่างอยุธยา





    ทว่าคินตากลับไม่พาไปตรงแถววัดในตัวเมืองแต่กลับขับรถเข้าไปตามทางขนาดเล็กที่ริมสองฝั่งปลูกข้าวเอาไว้เต็มไปหมด จอมขวัญมองไปนอกหน้าต่างอย่างเพลิดเพลินจนกระทั่งถึงวัดขนาดเล็กที่ห่างไกลจากตัวเมืองพอสมควร


วัดพระงาม


   ป้ายชื่อวัดที่สลักด้วยแผ่นหินเลือนรางไปตามกาลเวลา  ตั้งอยู่นอกเกาะทางด้านทิศเหนือของเมืองอยุธยา ความงดงามของอดีตที่ยังคงหลงเหลือเต็มไปด้วยโบราณสถานอารยธรรมเก่าแก่ มีเจดีย์แปดเหลี่ยมและมีประธานเป็นอุโบสถ โดยมีกำแพงรอบวัดเต็มไปด้วยคูน้ำ  บรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การนั่งสมาธิภาวนา  แต่ทว่ากลับไม่ค่อยมีคนเข้ามาเยี่ยมเยียนเท่าไหร่นัก

   คินตาจอดรถตรงที่จอดรถของวัดก่อนจะหยิบถังสังฆทานเดินไปหาจอมขวัญที่ยืนกางไม้กางมือสูดหายใจอยู่จนคินตาอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

   "ชอบที่นี่ไหมจอม"

   "ชอบซิแถมยังสวยมากเลย คินรู้จักที่นี่ได้ยังไงหรอ"

   จอมขวัญหันมาถามเพื่องสนิทอย่างอารมณ์ดีจนอีกฝ่ายยิ้มให้แก้มแทบฉีก

   "คินเคยมาทำบุญกับแม่ตอนเด็กน่ะ คินคิดไว้แล้วว่าจอมต้องชอบที่นี่"

   "งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะ"

   จอมขวัญคล้องแขนอีกฝ่ายแล้วลากจูงเข้าไปในส่วนบริเวณหน้าลานวัดก็พบกับพระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งกำลังยืนกวาดลานวัดอยู่ทำให้ทั้งสองเดินเข้าไปยกมือไหว้พร้อมกันอย่างนอบน้อม

   "นมัสการครับหลวงพ่อ"

   "เจริญพรเถิดโยม แล้วมาจากที่ใดกันล่ะ"

   พระสงฆ์รูปนั้นหยุดไม้กวาดพร้อมกับมองเด็กหนุ่มทั้งสองคนด้วยสายตาที่เมตตาซึ่งคินตาก็ตอบไปด้วยท่าทางเคารพ

   "นนทบุรีครับหลวงพ่อ วันนี้จะมาถวายสังฆทานเนื่องในวันครบรอบการจากไปของคุณย่าเพื่อนผมครับ"

   "โยมไปรอที่โบสถ์ก่อนเถิดเดี๋ยวอาตมาขอเตรียมตัวก่อนแล้วจะตามไป"

   "ขอครับหลวงพ่อ"

   ทั้งสองยกมือไหว้พรางหลีกทางให้หลวงพ่อได้เดินออกไปจากตรงนั้น จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันหน้าไปมองรอบด้านด้วยสายตาเป็นประกายและตื่นเต้นมากจนคินตาต้องยกมือขึ้นมาลูบผมคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยว

   "เราขึ้นไปบนโบสถ์กันก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยลงมาถ่ายรูปนะ"

   "จ้ะ"

   ทั้งสองเดินตรงไปยังโบสถ์หลังเก่าแก่โบราณที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนั้นมากนักแต่พอเข้าไปด้านในจอมขวัญต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพฝาผนังที่แม้จะเลือนลางทว่างดงามมากแต่จอมขวัญต้องสงวนท่าทางเมื่อเข้ามาก็พบว่าพระสงฆ์รูปนั้นกำลังนั่งสงบอยู่ตรงหน้าพระประธาน คินตาวางสังฆทานไว้ตรงข้างกายก่อนจะก้มลงกราบด้วยความเคารพซึ่งหลวงพ่อพยักหน้ารับด้วยความสงบแต่เต็มไปด้วยความเมตตา

   "ตั้งใจกล่าวคำถวายสังฆทานและตั้งใจกรวดน้ำรับพรนะ"

   "ครับ"

   จอมขวัญตั้งใจสวดคำถวายสังฆทานและกล่าวคำกรวดน้ำระลึกถึงคุณย่าของตนเอง จนกระทั่งเสร็จพิธีการทั้งหลายแล้วหลวงพ่อจึงกล่าวกับจอมขวัญด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความเมตตาและเอ็นดู

   "โยมชื่ออะไรรึ"

   "ผมชื่อจอมขวัญครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมทั้งแนะนำตัวด้วยความนอบน้อมแต่คำกล่าวนั้นทำให้หลวงพ่อนิ่งไป

   "หลานชายของแม่จอมจันทร์อย่างนั้นหรือ"

   "หลวงพ่อรู้จักย่าของจอมด้วยหรือครับ"

   จอมขวัญเบิกตากว้างพร้อมทำหน้าตกใจแต่หลวงพอกลับแค่ยิ้มให้อย่างเมตตา

   "รู้จักซิ อาตมารู้จักดีเลยล่ะ แล้วตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว"

   "อายุ 18 ปีครับ"

   พอได้ฟังคำตอบนั้นทำให้หลวงพ่อนั้นใบหน้าเจือนลงและเต็มไปด้วยความหนักใจ

   "น่าเสียดาย"

   "เสียดายอะไรหรือขอครับหลวงพ่อ"

   คินตาถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าที่หนักใจนั้นซึ่งหลวงพ่อนั้นกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง

   "เสียดายที่พบกับเรื่องราวทุกข์ยากมากมาย แต่โชคดีที่มีบุญมาหนุนเอาไว้ ทว่า..."

    "ทว่าอะไรหรือครับ"

    คินตาขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำตอบจากหลวงพ่อที่แม้จะพยายามทำสีหน้าเรียบนิ่งแต่เต็มไปด้วยความกังวล

   "ทว่าไม่อาจหลีกหนีชะตากรรมพ้น"

   "หมายความว่าอะไรครับ แล้วมีวิธีการแก้ไขไหม"

   คินตาร้อนใจแตกต่างจากจอมขวัญที่นั่งนิ่งมองหลวงพ่อที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยความตั้งอกตั้งใจฟังคำสอนที่กล่าวออกมา

   "เมื่อถึงเวลานั้นขอให้โยมจงใช้สติและสมาธิให้มาก เคยปฎิบัติมาบ้างแล้วใช่หรือไม่"

   "ครับ คุณย่าสอนให้จอมนั่งสมาธิทุกวัน"

   จอมขวัญตอบรับด้วยท่าทางที่ไม่เป็นกังวลพร้อมทั้งยกมือรับพรที่หลวงพ่อท่านกล่าวออกมา

   "ขอให้โยมจงโชคดีและปลอดภัยกับการเดินทางในครั้งนี้เถิดหนา"

   "ขอบคุณครับหลวงพ่อ" จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันไปจับแขนเพื่อสนิทให้ลุกออกไปพร้อมกับตนเอง "ไปกันเถอะคิน"

   "ลาแล้วครับหลวงพ่อ"

    ทั้งสองเดินลงจากศาลาไปโดยไม่ได้ทันสังเกตุเห็นแววตาที่มองมาด้วยความห่วงใยที่ทอดมองมาเพียงเสี้ยวเดียวแล้วหลับตาลงพร้อมกับคำพูดแผ่วเบาที่เหมือนกระซิบกับตัวเองให้ได้ยินเพียงคนเดียว

   "จอมขวัญเอ๋ย...พ่อคงจะเตือนเจ้าได้เท่านี้"





   หลังจากถวายสังฆทานและทำบุญเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงเดินออกมากรวดน้ำใต้ต้นไม้ใหญ่ด้านข้างของโบสถ์ จอมขวัญกรวดน้ำเสร็จแล้วก็ยิ้มหวานด้วยหน้าตาที่เต็มไปด้วยสดใสแตกต่างจากคินตาที่เต็มไปด้วยความกังวล

   "หลวงพ่อท่านเตือนให้ระวังตัว หรือเราจะกลับบ้านกันเลยไหมจอม"

   "ไม่เอานะคิน!"

   จอมขวัญหันไปงอแงใส่เพื่อนสนิทตนเองก่อนจะกอดแขนอีกฝ่ายและทำหน้าอ้อนเต็มที่จนอีกฝ่ายหัวใจกระตุกวูบไปกับเสียงน่ารักนั้น
 
   "จอมอุตสาห์ได้มาอยุธยาแล้วขอจอมเดินเที่ยวหน่อยไม่ได้หรอ"

   "แล้วจอมอยากไปเที่ยวไหนล่ะ"

   คินตาอดที่จะตามใจอีกฝ่ายไม่ได้ซึ่งจอมขวัญก็ยิ้มหวานออกมาอย่างพึงพอใจ

   "จอมยังนึกไม่ออกเลยอ่ะ แต่จอมชอบบรรยากาศของวัดนี้ งั้นขอจอมเดินถ่ายรูปก่อนแล้วกันนะ"

   "ตามใจจอมแล้วกัน" คินตาอมยิ้มก่อนจะโบกมือพัดตรงหน้าหน้าตัวเองด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว "แต่อากาศร้อนมากเลยงั้นคินไปซื้อน้ำก่อนแล้วกัน"

   "ตกลง จอมจะถ่ายรูปอยู่แถวนี้ล่ะไม่หนีไปไหนหรอก"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมมองบรรยากาศรอบข้างด้วยสายตาเป็นประกายทำให้คินตานั้นอดที่จะลูบผมอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้

   "ไม่ได้กลัวหนีแต่กลัวหลงทางมากกว่า"

   "ถึงจอมจะชอบหลงทางแต่คินก็ตามหาจอมเจอทุกครั้งไม่ใช่หรอ"

   จอมขวัญกอดแขนอีกฝ่ายอย่างออดอ้อนซึ่งท่าทางแบบนี้ทำให้คินตาอดที่จะตามใจอีกฝ่ายตลอดทุกครั้ง

   "นั่นซินะ ตามใจจอมแล้วกันเดี๋ยวคินมาแป๊บนึง"

   "จ้ะ"

   คินตาก็ปล่อยให้อีกฝ่ายเดินถ่ายรูปเล่นและเดินตรงไปซื้อน้ำดื่มที่ตั้งขายอยู่ใกล้ที่จอดรถโดยปล่อยอีกฝ่ายไว้คนเดียว  ซึ่งจอมขวัญเดินเล่นพร้อมยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปโบราณสถานด้วยรอยยิ้มหวานมีความสุขทุกครั้งที่กดนิ้มบันทึกภาพทุกมุมมอง

   จนกระทั่งเดินไปเห็นบึงน้ำข้างหลังเมืองจึงเดินเข้าไปใกล้ด้วยท่าทางที่ตื่นเต้นเพราะน้ำใสมากแถมมีกอดอกบัวลอยอยู่บนผิวน้ำเต็มไปหมด

   "แถวนี้มีบึงน้ำด้วยหรอ?"

    จอมขวัญมองไปรอบกายด้วยสายตาเปล่งประกายก่อนจะเหลือบไปเห็นดอกบัวที่ขึ้นอยู่ริมบึงทำให้เดินเข้าไปใกล้ชิดริมขอบพื้นดินอย่างไม่ทันรู้ตัว

   "ดอกบัวสวยจังเลย สายพันธุ์อะไรนะ ถ่ายรูปเก็บไว้เอาไปอวดคุณย่าดีกว่า"

   จอมขวัญยกกล้องขึ้นมาถ่ายแต่ทว่าตอนนั้นเกิดลมพัดมาอย่างแรงจนยืนไม่ไหวเลยก้าวถอยหลังอย่างลืมตัวจนเหยียบดินโคลนจนลื่นเกิดพลัดหล่นตกลงไปยังบึงน้ำนั้นทั้งตัว

   ตู้ม!

   "ช่วยด้วยย! อึก...."

   บุ๋มบุ๋ม~

   เนื่องจากว่ายน้ำไม่เป็นจึงพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมาเหนือน้ำพร้อมตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความหวามกลัวแล้วจมลงไปอีกหลายต่อหลายครัง

   "ช่วยด้วยย! อึก....คินช่วยด้วย..."

   บุ๋มบุ๋ม~

   'คุณย่าช่วยจอมด้วย~'

   จอมขวัญหลับตาแน่นพร้อมกับพยายามพยุงตัวเองให้ขึ้นไปเหนือน้ำอีกครั้งแต่กลับหมดแรงจนจนลงไปด้านล่างตามแรงโน้มถ่วงของโลก

   จอมขวัญลืมตาขึ้นมามองผิวน้ำด้านบนนิ่งพรางคิดถึงเพื่อนคนสำคัญที่ตัวติดกันมาตั้งแต่เด็กแถมยังช่วยเหลือและตามใจกันตลอดเวลา

   'คินจะหาจอมเจอไหมนะ  น่าเสียดายที่จอมจะไม่ได้เจอคินอีกแล้ว น่าเสียดายที่จอมคงจะไม่ได้รับแหวนของคิน'

   แหวนที่จอมขวัญเห็นโดยบังเอิญตอนที่อีกฝ่ายเอาออกมาเปิดดูเมื่อวานทำให้อดที่จะแอบอมยิ้มออกมาไม่ได้

   'ลาก่อนนะคิน'

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนที่สติและภาพตรงหน้าจะเลือนหายไปมองเห็นแต่ความมืดมิดทำให้ในใจนั้นหวาดกลัวปนดีใจเล็กน้อยที่จะได้พบกับคุณย่าที่จากกันไปนาน


   'คุณย่าครับ จอมคิดถึงคุณย่าจังเลย จอมกำลังไปหาคุณย่าแล้วนะครับ'






   ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างจนจอมขวัญหันมามองรอบกายด้วยความหวาดกลัวเพราะเมื่อตัวเองลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็มาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้แถมไม่เจอคุณย่าอีกอีกต่างหาก

   "คุณย่าครับ คุณย่าอยู่ไหนครับจอมมาแล้ว"

   จอมขวัญหันซ้ายหันขวาก่อนที่จะหันหลังหมุนตัวกลับมาก็ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งใสชุดไทยยืนอยู่ในความมืดมิดทำให้สะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

   "คุณคือใครครับ?"

   หญิงสาวตรงหน้าไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับยกมือขึ้นมาลูบผมของจอมขวัญแล้วลากฝ่ามืออันเย็นเชียบลงมาลูบไล้ตามใบหน้าอย่างแผ่วเบาทำให้จอมขวัญยืนนิ่งแถมหัวใจยังเต้นแรงด้วยความหวาดกลัว

   "ค...คุณครับ?"

   หญิงสาวคนนั้นละฝามือออกจากใบหน้าพร้อมแบมือออกมาปรากฎอะไรบางอย่างอยู่บนมือพร้อมกับยื่นมาตรงหน้าทำให้จอมขวัญได้สังเกตุเห็นสร้อยเส้นหนึ่งที่เหมือนกับคุณย่ามอบให้จึงเอื้อมมือไปจับคอของตนพบว่าสร้อยเส้นนั้นของคุณย่าหายไปทำให้จอมขวัญถอยหายใจออกมาอย่างโล่งอกพรางยิ้มหวานให้กับหญิงสาวตรงหน้า

   "ขอบคุณที่เก็บสร้อยให้นะครับ ถ้าเกิดสร้อยของคุณย่าหายไปล่ะก็ผมเสียดายน่าดูเลย"

   จอมขวัญเอื้อมมือไปรับสร้อยเส้นนั้นจากมือของหญิงสาวมาถือเอาไว้ก่อนที่ดวงตากลมโตจะเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อสร้อยเส้นที่ตนเองกำลังถืออยู่นั้นจะเปล่งแสงเรืองรองสีทองเป็นประกายออกมา

  "โอ๊ะ! นี่มันอะไรกันครับเนี่ย"

   จอมขวัญเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวตรงหน้าที่หายตัวไปในความมืดตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ทำให้จอมขวัญตกใจมองไปรอบกายด้วยความสับสนจนกระทั่งมีเสียงเหมือนหลวงพ่อดังขึ้นมาในโสตประสาทของตนเอง

   "จงใช้สติและสมาธิให้มั่น"

   "สติและสมาธิ"

   จอมขวัญหลับตาลงพยายามรวบรวมสติของตัวเองให้อยู่ในสมาธิเหมือนที่คุณย่านั้นเคยสอนตอนเด็กทว่ากลับเริ่มรู้สึกเหมือนมีแรงอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นดึงดูดร่างกายและวิญญาณของตนเองหายเข้าไปในสร้อยเส้นนั้นก่อนที่สติและความรู้สึกทุกอย่างจะดับลง






ฟึบ!





   เปลวเทียนที่จุดเอาไว้ตรงเชิงเทียนได้ถูกลมพัดมาอย่างแรงจนดับลงทำให้หลวงพ่อที่กำลังนั่งสมาธิอยู่นั้นถอนหายใจออกมาพร้อมกับลืมตาขึ้นมาด้วยความอาลัยอาวร

   "ชาตินี้พ่อช่วยเจ้าได้เพียงเท่านี้ ขอให้การเดินทางของลูกครั้งนี้จงเป็นไปโดยสวัสดิภาพด้วยเถิดหนาจอมขวัญ"

   หลวงพ่อหลับตาลงพร้อมกับเริ่มทำสมาธิเจริญจิตภาวนาอีกครังอย่างปล่อยวางให้เรื่องราวดำเนินไปตามวาระกรรมของแต่ละคน



****************************************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 2}}} [UP 27/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 28-06-2019 00:04:53
โอ้วว คินรู้เรื่องจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย
แล้วจอมขวัญจะเจอกับอะไรบ้าง
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 2}}} [UP 27/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 28-06-2019 00:21:25
พ่อของจอมขวัญนี่เอง
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 2}}} [UP 27/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 28-06-2019 11:51:48
ยังไงๆ   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 2}}} [UP 27/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 29-06-2019 23:24:03
น่าติดตามมาก รอ ๆ ๆ ๆ  o13
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 30-06-2019 15:47:55
เรือนหลังที่ 3






   'จอมขวัญ'



  เสียงเรียกแสนคุ้นเคยที่ดังก้องขึ้นมาในโสตประสาทพร้อมกับเปลือกตาที่เริ่มขยับและสติที่กลับมาอีกครั้ง




   'จอมขวัญ'



  "อืมม"

   ส่งเสียงตอบรับไปอย่างสะลึมสะลือก่อนจะได้ยินเสียงกระทบกันของโลหะอะไรซักอย่างดังอยู่รอบกายเต็มไปหมดราวกับมามีคนสู้รบกัน


   เคร้ง!


   "เองต้องการสิ่งใด สมบัติข้าก็ถูกปล้นไปหมดทั้งเกวียนแล้วไม่ใช่รึ!"


   "ฮะฮะฮะ! สิ่งที่ข้าต้องการอีกอย่างคือฆ่าเจ้ายังไงล่ะ!"

   เสียงทุ้มแหบตอบกลับมาอย่างเหี้ยมโหดตามด้วยเสียงดาบที่ฟันลงมากระทบกันอีกหลายต่อหลายครั้ง


   'จอมขวัญ! ตื่น!'


   เฮือก!!!
 

   จอมขวัญลืมตาขึ้นมาพร้อมหอบหายใจเสียงดังลั่นด้วยความตื่นเต้นหลังจากได้ยินเสียงที่เหมือนกับตนเองตะโกนดังลั่น  จอมขวัญนิ่งไปซักพักหนึ่งจนกระทั่งปรับสายตาได้ก็พบว่าเหมือนมีใบไม้มาโปะอยู่บนหน้าตนเองมากมายจึงปัดใบไม้เหล่านั้นออกแล้วลุกขึ้นนั่งมองไปรอบกายด้วยความสงสัยเพราะตอนนี้ตนเองกำลังนั่งบนพื้นดินที่แห้งสนิทเต็มไปด้วยใบไม้ไม่ใช่น้ำ แถมตอนนี้รอบกายเต็มไปด้วยพวกโจรป่าที่จะมาแย่งชิงสมบัติ


   "เกิดอะไรขึ้น ที่นี่มันที่ไหนกัน"


   เคร็ง! ตุบ!


   จอมขวัญมองไปรอบกายด้วยความงุนงงก่อนจะไปสะดุดตากับชายแก่คนหนึ่งพลาดพลั้งล้มลงไปกองกับพื้นแถมยังถูกโจรป่าในชุดดำเหยียบหน้าอกเอาไว้แน่น

   "อึก!"


   "ตายซะ!"


   ภาพของโจรป่ายกดาบขึ้นมาและกำลังจะฟันลงไปยังคนที่นอนอยู่แทบเท้าตนเองทำให้จอมขวัญทนไม่ได้จึงเผลอไปวิ่งเข้าไปช่วยเหลือจัดการถีบโจรคนนั้นจากด้านหลังทำให้โจรคนนั้นหันมามองและตั้งท่าจะฟันแต่กลับโดนจอมขงัญเสยหมัดเข้าที่คางอย่างแรงแถมถีบอีกทีหนึ่งจนล้มลงไปหน้าทิ่มดินตรงโคนต้นไม้  ทำให้พวกโจรที่เหลือแถวนั้นหวาดกลัวรีบเข้ามาประคองโจรป่าที่นอนอยู่และพากันหนีไปจากตรงนั้นไปอย่างรวดเร็ว

   "ไปกันเถอะลูกพี่"

   "ฮึ่ม! ฝากไว้ก่อนเถอะ!"

   โจรป่าหันมาตะคอกอย่างแค้นใจก่อนจะหายเข้าไปในพุ่มไม้ทำให้จอมขวัญเหยียดยิ้มอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะหันไปมองคุณลุงที่นั่งนิ่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับไปไหน

   "คุณลุงลุกไหวไหมครับ"
 
   จอมขวัญเดินเข้าไปประคองให้ชายแก่คนนั้นลุกขึ้นซึ่งพอมองการแต่งตัวของอีกฝ่ายนั้นก็สวมใส่ผ้าไหมอย่างดีพร้อมเครื่องประดับมากมายเหมือนกับเป็นท่านเจ้าคุณแหนะ แต่จอมขวัญไม่สนใจคอยปัดเศษดินและใบไม้ที่อยู่ตามเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกให้ด้วยความเป็นห่วงโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าชายแก่คนนั้นมองตนเองตาไม่กระพริบ

   "คุณลุงเป็นอะไรเจ็บตรงไหนรึเปล่าครับ ดูซิตัวเปื้อนไปหมดเลย สมัยนี้ยังมีพวกโจรที่แต่งตัวย้อนยุดมาทำแบบนี้อีกหรอ"
 
   จอมขวัญปัดเนื้อปัดตัวอีกฝ่ายจนสะอาดสะอ้านแล้วก็เหลือบตาขึ้นมามองเห็นชายแก่นั้นมองตนเองด้วยความตกตะลึงทำให้จอมขวัญเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

   "หน้าผมมีอะไรรึเปล่าครับ"

   "พาขวัญ" เสียงแหบเปล่งออกมาอย่างเลื่อนลอยก่อนจะทำหน้าสลดลงเมื่อนึกถึงเรื่องจริงที่ไม่มีวันเป็นไปได้ "ไม่ใช่สิ ในเมื่อพาขวัญ...เฮ้อ~"

   "ครับ?"

   จอมขวัญยิ่งงุนงงหนักพร้อมกับมองไปรอบกายที่มีป่าไม้เต็มไปหมดด้วยความสงสัยหนักกว่าเดิม

   "แล้วที่นี่คือที่ไหนครับ? ตรงนี้ไม่ใช่บึงน้ำหรอแล้ววัดหายไปไหนหมดล่ะครับคุณลุง"

    "ใจเย็นก่อนนะหนุ่มน้อย" ชายแก่ลูบผมอีกฝ่ายด้วยสายตาอ่อนโยนแฝงไปดวยความเอ็นดูเมื่อใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นงดงามเหมือนคนที่ตนเองตามหาไม่มีผิดเพี้ยน "ไหนลองเล่าให้ข้าฟังซิว่าเจ้านั้นเป็นใครมาจากที่ใดกัน"

  "ผมชื่อ จอมขวัญ ครับ"

   จอมขวัญยกมือไหว้อีกฝ่ายพร้อมยิ้มกว้างออกมาอย่างน่ารักเหมือนที่ตนนั้นชอบใช้ในการอ้อนคุณย่าอย่างลืมตัว

   "ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดเดินทางมาเที่ยววัดกับเพื่อน ทว่าเราแยกกันแล้วผมเกิดผลัดตกบึงน้ำแต่ผมว่ายน้ำไม่เป็นนึกว่าจะจมน้ำตายซะละ พอตื่นขี้นมาก็พบคุณลุงกำลังจะโดนพวกโจรฆ่าเนี่ยเหละครับ"

   "เจ้าจมน้ำจนเสียสติไปนี่เอง ช่างน่าสงสารยิ่งนัก"

   ชายแก่ถอนหายใจก่อนจะยกมือลูบผมอีกฝ่ายพร้อมกับพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและอบอุ่น

   "ข้ายังไม่ได้แนะนำตัวเลยซินะ ข้าคือ เจ้าพระยาจอมทัพ ตำแหน่งเป็นรองเสนาบดี กรมพระคลังหลวง..."

   "ห๊ะ!?"

    จอมขวัญเผลอร้องออกมาเสียงหลงและอ้าปากกว้างด้วยความตกใจเมื่อชายแก่ที่ตนเองได้ช่วยไว้นั้นมีตำแหน่งสูงถึงขั้นเจ้าพระยา แถมดูจริงจังจนอดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นเรื่องโกหก

    "ปีนี้พุทธศักราชที่เท่าไหร่ครับ"

   "เจ้านี่ถามแปลกจริง"  จอมทัพเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะยอมตอบเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตางุนงงไม่เลิก "ปีนี้ปีพุทธศักราชที่ ๒๒๕๒"

   "สมัยพระเจ้าท้ายสระ" จอมขวัญยกมือขึ้นมาปิดปากตนเองด้วยความตกใจก่อนจะบ่นออกมาเสียงเบาให้ได้ยินเพียงคนเดียว "นี่เราทะลุมิติมาเหมือนในหนังเลยอ่ะ"


   "เจ้าเป็นอะไรรึเปล่าจอมขวัญ แล้วบ้านของเจ้าอยู่แถวไหนล่ะข้าจะไปส่ง"

   จอมทัพถามด้วยความเป็นห่วงเพราะตอนนี้ใกล้มืดค่ำเต็มทีกลัวอีกฝ่ายจะเป็นอันตราย ซึ่งคำถามนั้นทำให้จอมขวัญคิดหนักก่อนจะนึกบางอย่างออกจึงบีบน้ำตาออกมาอย่างน่าสงสาร

   "ผมไม่มีพ่อแม่หรอกครับแถมยายของผมก็ตายแล้วด้วย ฮึก! ผมจมน้ำ ผม...ผมจำอะไรไม่ได้เลย ฮึกฮืออ~"

   "โธ่...ช่างน่าสงสารยิ่งนัก"

   จอมทัพลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาด้วยความสงสารยิ่งเห็นใบหน้างดงามที่เหมือนกับคนที่ตนตามหานั้นยิ่งเอ็นดูอีกฝ่ายมาก

   "ถ้าอย่างนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนที่ช่วยชีวิตของข้า คืนนี้เจ้ามาพักที่เรือนของข้าก่อนก็ได้นะ"

   "จริงหรือครับ" จอมขวัญตะโกนเสียงดังลั่นอย่างลืมตัวก่อนจะแกล้งเช็ดน้ำตาต่ออย่างแนบเนียน "ขอบพระคุณท่านเจ้าคุณมากนะครับ"

  "ไม่เป็นอะไรหรอก" จอมทัพยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนมองหนุ่มน้อยตรงหน้าที่ยืดเช็ดน้ำตาตนเองอย่างเอ็นดู "รีบเดินทางเถิดเดี๋ยวจะมืดเอานะ"

   "ครับ~" จอมขวัญตอบรับด้วยน้ำเสียงร่าเริงก่อนจะช่วยหิ้วถือข้าวของที่หล่นบนพื้นเดินตามอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม



   ...'คืนนี้มีที่พักแล้วเรา~'...







    ทั้งสองเดินทางด้วยเท้ากันมาหลายชั่วยามจนท้องฟ้านั้นมืดค่ำ โชคดีที่จอมทัพเตรียมตะเกียงไปด้วยจึงจุดตะเกียงเพื่อนำทางจนกระทั่งทั้งสองเดินทางมาถึงหน้าบ้านทรงเรือนไทยหลังหนึ่งซึ่งใหญ่โตและมีการจุดตะเกียงตามทางเดินอย่างสวยงาม ตรงด้านหน้านั้นติดกับแม่น้ำจึงมีเรือนหลังเล็กสำหรับนั่งเล่นริมแม่น้ำและจอดเรือ ส่วนบ่าวไพร่ของเรือนนี้ก็มีให้มองเห็นอย่างประปรายอาจเป็นเพราะมืดค่ำแล้วก็ได้ จอมขวัญหันมองซ้ายมองขวารอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจเพราะได้เห็นบ้านเรือนไทยสมัยก่อนกับตาตนเองตงจนเผลอพูดออกมาอย่างลืมตัว

   "สวยจังเลย~"

   "ขอบคุณที่ชมเรือนของข้านะ"

   จอมทัพยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเมื่อเห็นอีกฝ่ายสะดุ้งสุดตัวแล้วหันมายิ้มแห้งให้กับตนเอง

   "ผมพึ่งเคยเห็นเรือนที่ใหญ่โตและสวยงามแบบนี้เป็นครั้งแรกน่ะครับ"

   "ถ้าอย่างนั้นขึ้นไปชมบนเรือนกันเถอะ เวลานี้คงนอนกันหมดแล้วล่ะ"   

   จอมทัพจูงมืออีกฝ่ายให้เดินตามตนเองขึ้นมาบนเรือนซึ่งจอมขวัญนั้นตื่นตาตื่นใจกับภาพเรือนหลังนี้ที่สร้างด้วยไม้สักอย่างดีทั้งหลังแถมข้าวของเครื่องใช้ยังทำด้วยทองคำและยังมีการจุดตะเกียงให้ความสว่างทั้งเรือนแถมมีการจัดดอกไม้ที่งดงามเหมือนที่ตนเองนั้นอ่านในหนังสือไม่มีผิด ซึ่งท่าทางอย่างนั้นทำให้จอมทัพอมยิ้มด้วยความเอ็นดูก่อนจะหันไปมองเมืองคนรับใช้คนสนิทที่พอเห็นท่านเจ้าคุณเดินขึ้นมาบนเรือนจึงรีบเดินมาต้อนรับทันทีโดยไม่ทันสังเกตอีกคนที่ยืนอยู่ด้วย

   "ยินดีต้อนรับกลับเรือนขอครับท่านเจ้าคุณ ออกไปครั้งนี้หา..." เมืองอ้าปากค้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างท่านเจ้าคุณอย่างตกตะลึงก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่นเรือนด้วยความตกใจปนตื่นเต้น "คุณหนูพาขวัญ!!!"

   "เบาหน่อยซิอ้ายเมือง" จอมทัพส่งเสียงดุอีกฝ่ายที่ตะโกนลั่นเรือนอย่างหัวเสียก่อนจะหันไปมองจอมขวัญที่ยืนตัวสั่นหันซ้ายมองขวาอย่างทำอะไรไม่ถูก "นี่น่ะไม่ใช่..."


   "เสียงดังอะไรกันรึอ้ายเมืองหรือคุณพี่ตามหาพาขวัญเจอแล้ว"   

   ยังไม่ทันที่จะได้อธิบายประตูห้องนอนบานใหญ่ถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างกายของหญิงสาวในชุดคลุมที่ถึงแม้จะเริ่มสูงวัยแล้วแต่ผิวพรรณและความงดงามยังไม่เปลี่ยนแปลงสมฐานะคุณหญิงใหญ่ของเรือนแห่งนี้ คุณหญิงพัณณิตาที่กำลังจะเตรียมเข้านอนนั้นได้ยินเสียงเอะอะของคนรับใช้ท่านเจ้าคุณตะโกนชื่อคนที่หายออกจากบ้านไปนานเสียงดังลั่นเรือนทำให้ต้องรีบออกจากห้องมาดูด้วยสายตาตนเอง ก่อนจะปิดปากร้องไห้เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นตายืนอยู่ข้างสามีตนเอง


   "พ...พาขวัญ ฮึก!"


   "ไม่..."

    จอมขวัญกำลังจะปฏิเสธแต่ต้องชะงักเมื่อพัณณิตาเดินเข้ามาโอบกอดตนเองอย่างแนบแน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่นท่ามกลางบ่าวคนสนิททั้งสองที่เดินตามออกมานั้นก็นั่งร้องไห้เกาะขาตนเองไว้ทั้งสองข้างอย่างพร้อมเพรียงกัน

   "ฮึกฮืออ...พาขวัญลูกแม่เจ้าหายไปไหนมา รู้หรือไม่ว่าแม่เป็นห่วงเจ้าจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ฮึก!" พัณณิตาสะอึกสะอื้นพร้อมกับหอมแก้มนุ่มนิ่มที่มอมแมมไปด้วยฝุ่นนั้นอย่างไม่รังเกียจ "ฮึก! แม่เป็นห่วงเจ้าจนแทบจะขาดใจ หากเจ้าหายไปแล้วไม่กลับมาแม่จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร อย่าหายไปไหนอีกนะลูกแม่ ฮือ"

   "เอ่อ...คือ..."

    จอมขวัญส่งสายตาไปขอความช่วยเหลือจากท่านเจ้าคุณที่ยื่นอยู่ข้างกาย เมื่อเห็นแบบนั้นจอมทัพจึงแตะไปที่แขนของภรรยาตนเองอย่างแผ่วเบา

   "ใจเย็นลงก่อนเถิดแม่พัณ เดี๋ยว..." จอมทัพชะงักลงไปเล็กน้อยเพราะความโศกเศร้าของคนตรงหน้าทำให้เขาไม่กล้าที่จะพูดความจริงออกไป "เดี๋ยว...พาขวัญจะตกใจเอาหนา"

   "น้องคิดถึงลูกนี่คะคุณพี่" พัณณิตาคลายอ้อมกอดออกมาเล็กน้อยพร้อมกับลูบผมของคนที่ยืนนิ่งตรงหน้าอย่างอ่อนโยน "ยินดีต้อนรับกลับเรือนนะพาขวัญ"

   "คือผมไม่ใช่..."

   ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะอธิบายความจริงอะไรออกไปมากกว่านั้นก็ต้องนิ่งไปเมื่อพัณณิตาเอาผ้าคลุมไหล่นั้นมาเช็ดแก้มที่เต็มไปด้วยฝุ่นของตนเองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความคิดถึง

   "แก้มเปื้อนไปหมดเลยเห็นไหม แสดงว่าตลอดเวลาเป็นแรมปีที่เจ้าหายไปลำบากมามากเลยซินะ ไม่เป็นไรต่อไปนี้แม่จะดูแลไม่ปล่อยให้เจ้าหายไปไหนอีกต่อไปแล้ว"

   "พริ้มเองก็จะคอยกำกับให้นังสร้อยดูแลรับใช้คุณหนูให้ดีกว่าเดิมเจ้าค่ะ" 

   พริ้มพรายเสริมขึ้นมาพร้อมมองไปยังอีกคนด้วยทาทางเข้มงวดซึ่งสร้อมทิพย์รีบก้มหน้าซบขาของจอมขวัญด้วยท่าทางหวาดกลัว

   "สร้อยจะดูแลคุณหนูอย่างดีเจ้าค่ะ"

   "เอาเถอะ แค่ลูกแม่กลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้วเนอะ"

    พัณณิตายิ้มหวาแล้วกอดอีกฝ่ายอีกรอบพร้อมลูบผมนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบาทำให้จอมขวัญหัวใจเต้นแรงพรางนึกถึงความอบอุ่นคุณย่าของตนเอง

   ซึ่งในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงเปิดบานประตูอย่างแรงตามมาด้วยเสียงโวยวายที่ดังมาจากอีกทางฟากหนึ่งของเรือน


    ปัง!


   "ยามดึกดื่นคำคืนอย่างนี้มายืนเอะอะเสียงดังอะไรกันนักกันหนา คนจะหลับจะนอน หากไม่มีเรื่องอันใดข้าสั่งให้คุณพี่ลงหวายพวกเองทุกคนเลย"

   เสียงโวยวายดังขึ้นพร้อมกับการปรากฎตัวของคนที่มีอำนาจเป็นอันดับสามของเรือนแห่งนี้คือ คุณหญิงรองแพรวพรรณราย ภรรยคนที่สองของท่านเจ้าคุณ หน้าตางดงามมากแต่เทียบไม่ได้กับคุณหญิงพัณณิตาแม้อายุจะน้อยกว่าก็ตาม  เดินตรงมายังกลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงบันไดทางขึ้นเรือนด้วยใบหน้าและสายตาจิกกัดพร้อมนังช้อยบ่าวคนสนิทด้วยท่าทางเอาเรื่อง  ก่อนจะเปลี่ยนท่าทีรีบยกมือไหว้ท่านเจ้าคุณจอมทัพผู้เป็นสามีอย่างนอบน้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน

   "น้องไหว้คุณพี่เจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าคุณพี่จะกลับมาดึกขนาดนี้น้องจึงไม่ได้ออกมาต้อนรับ"

   "ไม่เป็นอันใดหรอกแม่แพรว"

    จอมทัพยกมือรับไหว้อย่างไม่ถือสาทำให้แพรวพรรณรายยิ้มหวานก่อนจะหันไปมองคุณหญิงพัณณิตาด้วยสายตาจิกกัด

   "น้องไม่ทราบเลยว่าจะเจอพี่พัณที่นี่ด้วย มีเรื่องราวน่ายินดีอันใดหรือคะถึงมารวมตัวกันครบขนาดนี้"

   "พาขวัญกลับมาแล้ว" 

   คุณหญิงพัณณิตาตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมดึงจอมขวัญให้มายืนอยู่ข้างกายตนเอง คุณหญิงแพรวพรรณรายมองคนที่ยืนตรงหน้าด้วยสายตาตกตะลึงหากแต่การแต่งกายและทรงผมที่คล้ายผู้ชายนั้นทำให้มองคนตรงหน้าด้วยสายตาเคลือบแคลงและจับผิด

   "พาขวัญ? เจ้าหายไปไหนมาเป็นแรมปีเหตุใดจึงกลับมาในช่วงเวลาดึกดื่นป่านนี้แถมการแต่งกายและทรงผมยังคล้ายคลึงผู้ชายอีก เจ้าหายไปทำอันใดมาตอบน้ามาเดี๋ยวนี้นะ"

   "เอ่อคือ..."   

   จอมขวัญอึกอักไม่รู้จะบอกให้อีกฝ่ายเข้าใจในเรื่องใดก่อนดีไหนจะเรื่องที่ตนเองหลุดมาที่นี่ได้อย่างไรทำให้ปวดหัวไปหมด เมื่อเห็นเด็กหนุ่มทำท่าทางลำบากใจจอมทัพจึงขัดจังหวะขึ้นมาพร้อมโอบบ่าคนตัวเล็กให้มายืนข้างตนเอง

   "อย่าพึ่งมาซักไซ้ไล่เลียงอะไรกันในเวลานี้เลย พวกเจ้าควรจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนกันเสียที"

   "ข้าเห็นด้วยกับคุณพี่ค่ะ"

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือนุมนิ่มแต่จอมทัพกับคว้ามือขาวนี้นมากุมไว้เสียก่อน

   "เจ้าพึ่งจะหายไข้รีบไปพักผ่อนก่อนเถิดเดี๋ยวพาขวัญข้าจะพาไปห้องเอง"

   "เจ้าค่ะคุณพี่" พัณณิตายิ้มอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่สนิทสนิทสนมกับลูกตนเอง "ข้าฝากเองคอยดูแลลูกข้าด้วยนะนังสร้อย อย่าให้หายไปไหนเหมือนคราวที่แล้วอีกล่ะ"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

    สร้อยทิพย์น้อมรับคำสั่งพร้อมเกาะขาของจอมขวัญแน่นไม่ยอมปล่อย ก่อนที่พัณณิตาจะห้อมแก้มจอมขวัญซ้ายขวาด้วยความรักและเอ็นดู

   "เจอกันพรุ่งนี้นะลูกแม่ ไปกันเถิดนังพริ้ม"

   "เจ้าค่ะคุณหญิง"

   พริ้มพรายตอบรับพร้อมประคองคุณหญิงพัณณิตาเข้าไปในห้องปล่อยให้จอมขวัญยืนนิ่งเพราะยังอึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หายก่อนจะสะดุ้งเมื่อพบสายตาจับผิดของคุณหญิงแพรวพรรณรายที่ยังยืนนิ่งไม่ยอมไปไหนจนจอมทัพต้องเลิกคิ้วอย่างสงสัย

    "มีอันใดที่ยังจะซักไซร้อีกหรือแม่แพรว"

   "ไม่มีอันใดเจ้าค่ะคุณพี่"

   แพรวพรรณรายแสร้งทำเป็นยิ้มหวานและหลบทางให้ท่านเจ้าคุณที่หันมาประคองลูกตนเอง

   "หากไม่มีอันใดแล้วข้าขอพาพาขวัญเข้าห้องก่อนนะ ไปกันเถิดพาขวัญ"

   "ครับ" 

   จอมขวัญตอบรับด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาก่อนจะเดินตามท่านเจ้าคุณออกจากตรงนั้นโดยมีสร้อยทิพย์รีบเดินตามหลังไปด้วยความเป็นห่วงท่ามกลางสายตาจับผิดของแพรวพรรณรายที่ยืนนิ่งตรงนั้นไม่ยอมขยับไปไหนพร้อมหันไปคุยกับบ่าวคนสนิทที่นั่งอยู่ตรงพื้นข้างตนเอง

   "นังช้อยเองว่าพาขวัญดูแปลกไปหรือไม่"

   "แปลกซิเจ้าคะนายหญิง ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูพาขวัญแต่มองไปมองมาก็เหมือนจะมิใช่"

ช้อยตอบอย่างเอาใจแต่ยิ่งทำให้แพรวพรรณรายสงสัยหนักยิ่งกว่าเดิม

   "แล้วตกลงอย่างไรล่ะ"

   "ข้าเจ้าไม่รู้เจ้าค่ะ" 

   ช้อยส่ายหน้าพรางบ้วนน้ำหมากใส่ประโถนที่ตัวเองถือในมือทำให้แพรวพรรณรายกรอกตาขึ้นอย่างขัดใจ

   "นังช้อย"

   "เจ้าคะ?"

   ช้อยรีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้นายตนเองอย่างรวดเร็วก่อนจะร้องเสียงหลงเมื่อตนเองโดนผลักจนหน้าทิ่มไปกับพื้นไม้

   "นั่งโง่!"

   "โอ๊ยยย! นายหญิงเจ้าขารอข้าเจ้าด้วยเจ้าค่ะ"

   ช้อยรีบเดินตามนายของตนที่เดินกระทีบเท้าปึงบังลั่นเรือนด้วยความขัดใจ





   จอมขวัญเดินตามท่านเจ้าคุณมาตรงส่วนเรือนด้านหลังซึ่งมีพื้นที่กว้างขวางและมีห้องหลังหนึ่งที่ใหญ่โตไม่แพ้ด้านหน้าทำให้ตนนั้นอดที่จะหันซ้ายหันขวามองนั่นมองนี่ด้วยความตื่นตาตื่นใจไม่ได้  พอเดินมาถึงหน้าประตูท่านเจ้าคุณก็หันมาสั่งสร้อยทิพย์ที่ตั้งใจจะเข้าไปด้านในด้วย

   "เองรอตรงล่ะนังสร้อย"

   "แต่นายแม่สั่งมาว่า..."

   สร้อยทิพย์ลังเลพร้อมกับเหลือบมองคุณหนูสลับกับท่านเจ้าคุณที่เริ่มขมวดคิ้วและทำเสียงดุใส่ตนเองอย่างขัดใจ

   "นั่งรอตรงนี้ล่ะจนกว่าข้าจะเรียก เข้าใจไหม!"

   "เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ"

   สร้อยทิพย์น้อมรับพร้อมกับนั่งนิ่งอยู่หน้าประตูปล่อยให้จอมทัพพาจอมขวัญเข้าไปในห้องพัก


    เมื่อปิดประตูจนสนิทเรียบร้อยแล้วจอมขวัญก็หันมาถามจอมทัพที่กำลังจุดตะเกียงแขวนตามผนังด้วยความสงสัยโดยที่ยังไม่ได้มองสังเกตดูว่ามีอะไรอยู่ภายในห้องบ้าง

    "นี่มันเรื่องอะไรกันครับท่านเจ้าคุณทำไมพวกเขาถึงคิดว่าผมเป็นลูกของท่านล่ะครับ"

   "นั่งลงก่อนเถิดจอมขวัญ"

    จอมทัพเป่าไฟจากก้านไม้ให้ดับลงแล้วเอื้อมมือไปแตะที่แผ่นหลังของอีกฝ่ายและพาจอมขวัญเดินไปนั่งลงตรงที่เตียงตั่งไม้สักขนาดใหญ่ตรงกลางห้องซึ่งถูกแกะสลักลายไทยอย่างงดงาม โดยด้านข้างมีเครื่องด้วยชาขนาดเล็กจัดวางเอาไว้อย่างเป็นระเบียบพร้อมกับหมอนอิงทรงสามเหลี่ยมที่วางเอาไว้ทั้งสองด้านของที่นั่ง ทำให้จอมขวัญหันไปมองรอบห้องทั้งซ้ายและขวาด้วยความสนใจ ด้านริมซ้ายสุดมีหีบสมบัติวางเรียงตรงมุมห้องมากมายและด้านริมสุดตรงหน้าต่างเป็นกระจกและที่นั่งไม้ขนาดไม่ใหญ่มากเพื่อเอาไว้แต่งตัว และริมหน้าต่างด้านขวาของห้องนั้นคือเตียงนอนที่ถูกปูด้วยฝูกสีขาวที่ทำมาจากผ้าไหมอย่างปราณีต ตรงเสาทั้งสี่ด้านของเตียงมีผ้าม่านสีขาวผูกเอาไว้แน่นเพื่อปิดลงมาตอนเวลาเข้านอนแต่น่าเสียดายที่ไม่มีดอกไม้ประดับเอาไว้เลยซักนิดเดียว   จอมทัพรินน้ำชาลงในถ้วยพร้อมกับยื่นให้เด็กหนุ่มที่เริ่มหันสนใจกับลวดลายหมอนอิงข้างกาย

   "ดื่มน้ำก่อนเถิด"

   "ขอบคุณครับ"

    จอมขวัญรับถ้วยน้ำชาที่ทำมาจากเครื่องเคลือบอย่างดีแถมลวดลายสีทองตรงแก้วนั้นยังดูปราณีตงดงามจนอดที่จะยกขึ้นมาดื่มไม่ได้แต่พอได้สัมผัสกับรสชาติของน้ำชาแล้วก็ต้องตาโตเมื่อรับรู้ถึงรสชาติที่หวานหอมกลมกล่อมกำลังดี

   "อร่อย!"

   "ชาจากพ่อค้าชาวจีนน่ะ" จอมทัพยิ้มอย่างเอ็นดูพรางจ้องมองเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าเหมือนลูกสาวตนเองอย่างไม่วางตา "เจ้าคงจะสงสัยมากใช่ไหม"

   "ครับ" 

   จอมขวัญตอบรับพร้อมกับมองชายสูงศักดิ์ตรงหน้าด้วยแววตาสงสัยทำให้จอมทัพถอนหายใจพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นมาดื่มแล้วทำหน้าตาเคร่งเครียดเต็มไปด้วยความหนักใจ

   "พาขวัญเป็นลูกคนเล็กของข้ากับที่เกิดกับแม่พัณ ซึ่งพาขวัญนั้นเป็นเด็กดีและเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่ทุกอย่าง แต่ทว่าเมือปีกลายที่ผ่านมาพาขวัญหายออกจากบ้านในวันแต่งงาน ข้าสั่งให้คนใช้ออกตามหาแต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไร แม่พัณเองก็เป็นห่วงมัวแต่ร้องไห้เสียใจทั้งวันทั้งคืนไม่ยอมหลับยอมนอนแถมข้าวปลาอาหารก็ไม่ยอมกินจนทรุดป่วยหนักด้วยอาการตรอมใจ จนข้าต้องคอยออกตามหาหลายครั้งจนกระทั่งเจอโจรป่าและโชคดีได้เจ้ามาช่วยไว้"

   "ไม่เป็นไรหรอกครับผมเต็มใจช่วย"

    จอมขวัญยิ้มหวานทำให้จอมทัพยิ้มตามพรางยกมือขึ้นมาลูบผมอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู

   "ถ้าอย่างนั้น จอมขวัญเจ้าช่วยข้าอีกเรื่องได้ไหม"

   "เรื่องอะไรหรอครับ"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วนความสงสัยก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำขอร้องของอีกฝ่าย

   "เจ้าช่วยมาเป็นลูกของข้าจนกว่าจะหาพาขวัญเจอได้หรือไม่"

   "เอ่อ...คือ..."

   จอมขวัญมีท่าทีลังเลเล็กน้อยทำให้จอมทัพเกลี่ยกล่อมยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเหมือนกำลังหลอกล่อเด็ก

   "หากเจ้าตอบตกลงก็จะเจ้าก็สามารถพักอาศัยอยู่ที่เรือนแห่งนี้ได้อย่างสุขสบายตามที่เจ้าต้องการจนกว่าเจ้าจะจำทางกลับบ้านได้...ตกลงไหม"

   "คือ..."

   จอมขวัญนิ่งคิดถึงข้อเสนอนั้นที่อย่างน้อยก็มีที่อยู่ที่กินนั่นแหละทำให้จอมขวัญตอบตกลงอย่างจำยอม
 
   "ตกลงครับผมจะเป็นลูกของท่านจนกว่าจะหาลูกของท่านจนเจอ"

   "ขอบน้ำใจเจ้ามากจอมขวัญ"

   จอมทัพยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูห้องออกมาพบกับสร้อยทิพย์ที่ล้มหัวทิ่มข้ามาในห้องตามแรงเปิดของประตูเนื่องจากกำลังแอบฟังอยู่นั่นเอง  จอมทัพลากสร้อยทิพย์เข้ามาในห้องและปิดประตูลงกลอนอย่างมิดชิดก่อนจะปล่อยให้สร้อยทิพย์นั่งลงตรงหน้าของจอมขวัญแล้วถามด้วยน้ำเสียงดุดัน

   "เองได้ยินอะไรบ้างนังสร้อย"

   "สร้อย..." สร้อยทิพย์ยิ้มแห้งพร้อมกับก้มลงหลบสายตาดุดันนั้น "ได้ยินตั้งแต่ต้นเลยเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ"

   "เองนี่มันน่าลงหวายนัก"

   จอมทัพตบมือลงบนหมอนอิงด้วยท่าทางที่โกรธจดทำให้สร้อยทิพย์รีบคว้าข้อเท้าจอมขวัญมากอดแน่นทันที

   "สร้อยจะไม่นำเรื่องนี้ไปบอกใคร สร้อยจะรับใช้คุณหนูจอมขวัญอย่างดีเลยเจ้าค่ะ"

   "นั่นเป็นหน้าที่ของเองอยู่แล้ว"

   จอมทัพสูดลมหายใจเพื่อระงับความโกรธของตนเองก่อนจะหันไปหาจอมขวัญที่นั่งตัวเกรงไม่กล้าขยับขาออกจากการเกาะกุมของสร้อยทิพย์ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลง

   "ในเมื่อนังสร้อยรู้เรื่องขนาดนี้แล้ว เจ้าก็ช่วยถอดเสื้อออกหน่อยซิจอมขวัญ"

   "หือ?...ถอดเสื้อหรอครับ?" 

   จอมขวัญทำหน้าตางุนงงพร้อมมองไปยังสร้อยทิพย์ที่อยู่ตรงหน้าด้วยความขัดเขินนิดหน่อยเพราะนอกจากคุณย่าแล้วตนเองยังไม่เคยถอดเสื้อผ้าให้ใครได้ดูเลยซักครั้ง  แต่พอเห็นสายตากดดันจากจอมทัพแล้วจึงกัดปากอย่างขัดใจและปลดกระดุมเสื้อออกมาพอให้เห็นความลับอะไรบางอย่างทึ่ซ่อนอยู่ด้านใน

   "ผ...ผู้ชายนี่เจ้าคะ" 

   สร้อยทิพย์ยกมือทาบตรงอกของตนเองด้วยความตกใจเมื่ออีกฝ่ายถอดเสื้อออกมาพบว่าคนตรงหน้าเป็นผู้ชายที่หน้าตารูปร่างเหมือนกับคุณหนูของตนเองมากราวกับคนเดียวกัน ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้จอมทัพต้องเอ็ดด้วยน้ำเสียงดุดัน

  "เบาเสียงหน่อยซินังสร้อย จอมขวัญเขาจะมาอยู่ที่นี่จนกว่าจะตามหาตัวพาขวัญเจอ เพราะฉะนั้นเองต้องร่วมมือกับข้า"

   "เจ้าคะ?"

   สร้อยทิพย์ทำหน้าตาสงสัยก่อนที่จะขนลุกทั้งตัวเมื่อพบกับสายตาของท่านเจ้าคุณที่มองมาด้วยแววตาข่มขู่และกดดัน

   "เองต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับห้ามปริปากบอกใครเด็ดขาดเข้าใจไหมนังสร้อย"

   "เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ สร้อยจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับจนลมหายใจสุดท้ายของสร้อยเลยเจ้าค่ะ"

  สร้อยทิพย์ให้คำสัญญาพร้อมกอดขาจอมขวัญแน่นทำให้จอมทัพยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

   "ดีมาก ถ้าอย่างนั้นเองพาจอมขวัญลูกข้าไปอาบน้ำที่ชานเรือนเถอะเดี๋ยวมาช่วยแต่งตัวกันอีก"

    "เจ้าค่ะนายท่าน ไปเถอะเจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์จูงมือจอมขวัญให้ลุกขึ้นซึ่งอีกฝ่ายเดินตามไปด้วยท่าทางงุนงงเล็กน้อย

   "ค...ครับ"







หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 30-06-2019 15:48:42

   สร้อยทิพย์พาจอมขวัญลงไปอาบน้ำขัดตัวตรงท่าน้ำด้านล่างตรงชานเรือนซึ่งจอมขวัญเองก็ตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้อาบน้ำตามแบบชาวอยุธยาสมัยก่อน  ถังไม้ใบใหญ่ที่ใส่น้ำลงไปครึ่งถังก่อนที่สร้อยทิพย์จะนำดอกไม้หลากหลายชนิดมาโรยในน้ำอาบโดยหยดน้ำกุหลาบเทศจากเปอร์เซียลงไปเล็กน้อยให้เกิดกลิ่นหอมฟุ้งจนจอมขวัญเผลอยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น

   "กลิ่นหอมจังเลยครับพี่สร้อย"

   "กลิ่นน้ำกุหลาบเทศจากเปอร์เซียเจ้าค่ะ นายแม่ไปเลือกกลิ่นนี้มาเองเลยนะเจ้าคะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ยิ้มหวานพร้อมกับหยิบถาดบางอย่างที่ใส่ในถ้วยหลายใบแล้วหันมาถอดเสื้อผ้าให้จอมขวัญโดยเอาผ้ามาพันตรงเอวก่อนถอดกางเกงออกมาซึ่งที่อีกฝ่ายยังไม่ทันที่จะตั้งตัวก่อนจะพาลงไปนั่งในอ่างน้ำนั้นอย่างว่องไวจนจอมขวัญทำได้เพียงนั่งหน้าแดงอยู่ตรงนั้นทำให้สร้อยทิพย์หัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา

   "ไม่ต้องอายหรอกเจ้าค่ะคุณหนูสร้อยน่ะอาบน้ำให้หลานชายเป็นประจำเลยเจ้าค่ะ รับรองสร้อยไม่เห็นอะไรของคุณหนูแน่นอนเจ้าค่ะ"

   "ถึงอย่างนั้นก็เถอะผมก็อายนะครับ"

    จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมให้สร้อยทิพย์ลากฝ่ามือลูบไล้มาตามผิวพรรณแล้วใช้ดินสอพองขัดผิวขาวใสนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจโดยอธิบายไปด้วย

   "การอาบน้ำตามแบบฉบับคนชั้นสูงนั้นเริ่มต้นจากการนำดินสอพองขัดพวกไคลออกจากผิวแบบนี้นะเจ้าคะเสร็จแล้วก็ล้างออกซะ"

   สร้อยทิพย์เทน้ำเสร็จก็หยิบถ้วยอีกถ้วยหนึ่งขึ้นมาเป็นผงสีเหลืองที่ถูกตำจนละเอียดมาขัดบนผิวขาวนั้นอีกหลายรอบ

   "ตามด้วยขมิ้นที่ตำละเอียดผสมรวมกันกับไพลมาขัดผิวอีกครั้งหนึ่งนะเจ้าคะ"

   หลังจากขัดเสร็จก็หยิบชามที่มีน้ำสีน้ำตาลมาพอกขัดบนผิวหนังเป็นครั้งที่สาม

   "จากนั้นตามด้วยมะขามเปียกเอามาขัดให้ทั้วแบบนี้"

   "เสร็จแล้วใช่ไหมพี่สร้อย"

    จอมขวัญเริ่มเบื่อหน่ายความอายอะไรพวกนั้นหายไปหมดแล้วเหลือแต่ความง่วงนอนเข้ามาแทนที่ซึ่งสร้อยทิพย์ก็แอบหัวเราะอย่างขบขันพร้อมพอกขมิ้นลงบนผิวขาวนั้นด้วยความชำนาญ

   "ยังเจ้าค่ะ ถ้าให้สมบูรณ์แบบที่สุดต้องปิดท้ายด้วยการพอกขมิ้นนะเจ้าคะ"

   "การอาบน้ำแบบคนอยุธยานี่อาบครึ่งวันคงไม่เสร็จ หาว...ง่วงนอนจัง"

   จอมขวัญหาวออกมาทำให้สร้อยทิพย์หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูแล้วจัดการล้างเนื้อล่างตัวออกจนสะอาดแล้วก็ปิดท้ายด้วยการปะแป้งกระแจะหรือทานาคาจากพม่าผสมกับผงจันทร์หอมทำให้มีกลิ่นหอมฟุ้งไปหมดทั้งตัว

   "ขึ้นเรือนกันเถอะเจ้าค่ะคุณหนู"

    หลังจากอาบน้ำเสร็จสร้อยทิพย์ก็พาจอมขวัญกลับเข้าไปในห้องพักซึ่งมีจอมทัพที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งดื่มชาร้อนรออยู่อย่างผ่อนคลายก่อนจะยิ้มให้กับจอมขวัญที่มีกลิ่นกายหอมฟุ้งและสะอาดสะอาดกว่าเดิมเยอะ

   "หอมฟุ้งเชียวนะจอมขวัญ เป็นยังไงบ้างอาบน้ำสนุกไหม"

   "สนุกดีครับแต่นานไปหน่อยจนอดที่จะหาวตั้งหลายรอบแหนะครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานตอบกลับด้วยท่าทีอ้อนเล็กน้อยทำให้จอมทัพลูบผมคนตรงหน้าอย่างเอ็นดูพรางหันไปสั่งสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่ตรงแถวประตู

   "เองไปเลือกเสื้อผ้ามาให้ลูกข้าหน่อยซินังสร้อย เอาแบบเหมาะกับจอมขวัญนะ"

   "เจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์เดินนำทั้งสองคนไปนั่งตรงมุมแต่งตัวพร้อมกับเดินตรงไปที่หีบใบที่ใหญ่ที่สุด พอเปิดหีบออกมาก็พบกับผ้าแพรสีสันสดใสหลากหลายผืนถูกถักทอผสมกับด้ายทองเป็นลวดลายที่งดงามมาก   สร้อยทิพย์หยิบผ้าแพรสีชมพูอ่อนออกมาถือไว้ในมือพร้อมกับผ้านุ่งแบบสบาย   แต่เสื้อผ้าเหล่านั้นทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นมองผ้าแพรในมือของสร้อยทิพย์ด้วยความสงสัย

   "ทำไมมีแต่เสื้อผ้าผู้หญิงทั้งนั้นเลยครับ"

  "ข้าลืมบอกเจ้าไปอีกเรื่องเลย" จอมทัพยิ้มแห้งให้กับเด็กหนุ่มตรงหน้า "ตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่เจ้าต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิง"

   "ทำไมต้องแต่งตัวเป็นผู้หญิงด้วยล่ะครับ"

   จอมขวัญเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงงทำให้จอมทัพนั้นยิ้มแห้งมากกว่าเดิม

   "ก็พาขวัญลูกของข้าเป็นผู้หญิงน่ะซิ"


   "ห๋า!!!"





***********************************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 30-06-2019 17:43:24
5555จะแกล้งเนียนไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 01-07-2019 21:44:42
สนุกน่าติดตามมาก จอมขวัญจะเป็นยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 02-07-2019 06:14:46
ชอบบบบบบ   :m20: :laugh:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 3}}} [UP 30/06/19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 02-07-2019 13:33:38
มาตามดูววว
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 03-07-2019 22:33:16
เรือนหลังที่ 4




   "คุณหนูว่าผ้าซิ่นผืนนี้เข้ากับผ้าสไบดีกว่าหรือไม่เจ้าคะ"

   จอมขวัญนั่งมองบ่าวรับใช้คนสนิทที่ถือผ้าซิ่นอยู่ในมือสองสามผืนก่อนจะหาวออกมาเล็กน้อยด้วยความง่วงนอนหลังจากถูกปลุกให้ลุกขึ้นมาทาขมิ้นให้ตัวขาวเหลืองดังทองตั้งแต่เช้ามืด  ก่อนที่จะถูกจับมานั่งตรงมุมแต่งตัวมองสร้อยทิพย์ที่รื้อผ้าซิ่นและผ้าสไบออกมาเลือกหลายผืน

   "ผืนสีดำก็สวยดีนะพี่สร้อย"

   "ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู ถ้าสร้อยเอาสีดำให้ใส่ล่ะก็โดนลงหวายแน่นอนเลยเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ตอบพร้อมกับเอาผ้าซิ่นสีดำและกองผ้าซิ่นหลายผืนนั้นใส่ลงไปในหีบเหมือนเดิมก่อนจะหันไปเปิดอีกหีบหนึ่งแล้วหยิบผืนผ้าซิ่นผืนหนึ่งออกมาถือในมืออย่างชื่นชมในความงดงาม

   "ผ้าซิ่นผืนนี้กับสไบผืนนี้ก็แล้วกัน มาเถอะเจ้าค่ะคุณหนูจอมขวัญสร้อยจะแต่งตัวให้คุณหนูเด่นและงดงามกว่าใครเลยล่ะเจ้าค่ะ"

   "ผมไม่ได้อยากสวยกว่าใครซักหน่อย"

   จอมขวัญบ่นอุบอิบก่อนจะยืนนิ่งยอมให้อีกฝ่ายแต่งตัวตามใจชอบ สร้อยทิพย์นำผ้าซิ่นสีม่วงที่ถักทอลวดลายมาจากเส้นด้ายทองคำมาพันรอบเอวบางแล้วนุ่งจับจีบหน้าและคาดทับด้วยเข็มขัดสีทองที่สลักลวดลายสวยงาม ก่อนจะเอาผ้าแพรสีชมพูอ่อนที่ใส่เมื่อคืนมาพันรอบอกหลายรอบจนหมดผืนแล้วนำผ้าไหมสีชมพูกลีบบัวมาจับจีบห่มเป็นสไบเฉียงตรงบ่าข้างหนึ่งซึ่งขับผิวพรรณให้ดูขาวผ่องสวยงามสง่าและสร้างความสวยงามเพิ่มขึ้นด้วยเครื่องประดับอย่างสร้อยตัวเส้นสีทองสวมเฉียงบ่าถูกแกะสลักด้วยลวดลายดอกไม้ ก่อนที่สร้อยทิพย์จะจับจอมขวัญหมุนตัวอยู่หลายรอบด้วยสายตาชื่นชม

   "งดงามมากเลยเจ้าค่ะ ยิ่งพอแต่งตัวแบบนี้แล้วงดงามเหมือนคุณหนูพาขวัญไม่มีผิด"

   "อย่างนั้นหรอ"

   จอมขวัญจับผมที่ยาวอยู่ด้านหลังนั้นมาม้วนเล่นด้วยความเขินอายเล็กน้อยที่มีคนมาชื่นชมตนเองซึ่งสร้อยทิพย์ก็ยิ้มให้อย่างเอาใจ

   "ใช่แล้วเจ้าค่ะ มาเถอะเจ้าค่ะคุณหนูเดี๋ยวสร้อยจะหวีผมให้นะเจ้าคะ"

   "อ่า...ครับ"

   จอมขวัญเดินไปนั่งหันหน้าไปทางบานกระจกปล่อยให้สร้อยทิพย์ใช้หวีไม้ขนาดเล็กหวีเส้นผมที่ยาวสยายอยู่กลางหลังให้เข้ารูปเข้าทรง  ซึ่งจอมขวัญนั่งมองเงาตัวเองในกระจกที่ตอนนี้เส้นผมที่เคยตัดสั้นประบ่านั้นกลับยาวสยายเนื่องจากเมื่อคืนถูกสร้อยทิพย์และจอมทัพนั้นนำเส้นผมของพาขวัญที่ตัดเก็บเอาไว้นานหลายปีมาต่อจนยาวถึงกลางหลังแถมเมื่อลองเอามาดมดูแล้วกลับหอมไปด้วยกลิ่นน้ำอบเหมือนกับเส้นผมที่ยังมีชีวิตชีวาตลอดเวลา
 
   หลังจากหวีผมเสร็จแล้วสร้อยทิพย์ก็เดินไปเปิดหีบที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับที่ทำจากทองคำมากมายซึ่งเลือกหยิบมาชุดหนึ่งแล้วเดินกลับมาหาเจ้านานของตนที่นั่งรออยู่ที่เดิม

   "สวยมากเจ้าค่ะ แต่จะสวยมากกว่านี้ถ้าเคียงคู่ด้วยเครื่องประดับ"

  "ต้องใส่ด้วยหรือครับ"

   จอมขวัญทำหน้าตางอแงแต่ก็ยอมให้อีกฝ่ายใส่เครื่องประดับให้ตนเอง เริ่มจากต่างหู สร้อยคอ สร้อยข้อมือ และสวมแหวนขนาดเล็กบนนิ้วมือเรียวยาวนั้นซึ่งใส่ได้อย่างพอดิบพอดีไม่คับและไม่หลวมจนเกินไป

   แต่ยังไม่เสร็จเท่านั้นเมื่อสร้อยทิพย์ยกถาดบางอย่างมาแล้วนำแป้งที่ผสมกับน้ำที่มีกลิ่นหอมนั้นมาเกลี่ยทั้วทั้งใบหน้าและผิวพรรณจนเรียบเนียนเข้ากับสีผิวอันขาวผ่องนั้น แล้วนำแผ่นกระดาษชาดสีแดงมาจ่อตรงปากบางนั้นซึ่งจอมขวัญมองด้วยความสงสัยทำให้สร้อยทิพย์แอบหัวเราะออกมาเล็กน้อยอย่างเอ็นดู

   "งับซิเจ้าคะ"

   'งับ'  จอมขวัญงับแผ่นกระดาษสีแดงนั้นก่อนจะปล่อยออกมาทำให้ริมฝีปากที่เคยซีดเซียวนั้นมีสีสันขึ้นมาจนเจ้าตัวต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจเผลอกระซิบกับตนเองอย่างแผ่วเบา "ปากแดงขึ้นเหมือนที่อ่านในหนังสือจริงด้วย"

   "การผัดหน้าให้ขาวและทาปากเป็นเรื่องที่หญิงชั้นสูงควรกระทำทุกวันนะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ยิ้มอย่างพึงพอใจในผลงานของตนเองก่อนจะวางของลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นสามครั้งพอเปิดประตูออกมาก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อพบว่าเมืองยืนรออยู่หน้าประตูห้อง

   "เองมีอันใดรึอ้ายเมือง ถึงมาเคาะห้องคุณหนูของข้าแต่เช้า"

   "ท่านเจ้าคุณให้มาตามคุณหนูพาขวัญไปพบที่ห้องโถงกลางตอนนี้น่ะซิ"

   เมืองตอบพร้อมกับพยายามชะโงกหน้าเข้าไปดูข้างในแต่สร้อยทิพย์กลับเอาตัวเข้าไปบังเอาไว้

   "แจ้งข่าวเสร็จแล้วก็กลับไปซิเดี๋ยวคุณหนูพาขวัญข้าจะพาไปเอง"

   "อืม"

   เมืองตอบรับพร้อมกับรีบเดินออกไปจากบริเวณนั้นก่อนที่สร้อยทิพย์จะสะดุ้งตกใจเมื่อหันหลังมาพบว่าจอมขวัญมายืนอยู่ข้างหลังพอดี

   "โอ๊ะ! ตกใจหมดเลยเจ้าค่ะคุณหนู"

   "เมื่อกี๊ใครมาหรอพี่สร้อย"

   จอมขวัญถามด้วยความอยากรู้พร้อมกับมองออกไปก็ไม่เห็นใครยืนอยู่ซักคนซึ่งสร้อยทิพย์ก็ตอบด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

   "อ้ายเมืองเจ้าค่ะ"

   "เมือง?" จอมขวัญทำท่าทางคิดก่อนจะคิดออกว่าเคยได้ยินชื่อนี้มาจากที่ไหน "อ๋อ! คนเมื่อคืนที่ออกมาต้อนรับท่านเจ้าคุณใช่ไหม เขาคือใครหรอทำไมถึงสนิทกับท่านเจ้าคุณจังเลยล่ะ"

   "แค่บ่าวรับใช้คนสนิทของท่านเจ้าคุณเท่านั้นเองคุณหนูไม่ต้องไปสนใจอ้ายเมืองมันหรอกเจ้าค่ะ เรารีบไปพบท่านเจ้าคุณที่ห้องโถงกันดีกว่าตอนนี้ทุกคนพร้อมกันหมดแล้วนะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับประคองพาจอมขวัญที่ยังไม่ชินกับการใส่ผ้าถุงนั้นเดินออกจากห้องและตรงไปยังห้องโถงกลางเรือนที่ตอนนี้มีคนนั่งกันเต็มไปหมดซึ่งพอเห็นคนเยอะจอมขวัญก็ขืนตัวเอาไว้ไม่ยอมเดินต่อแถมหันมากระซิบด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

   "ข้าไม่เข้าไปได้ไหมพี่สร้อย"

   "ไม่ได้เจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์รีบตอบกลับมาทันทีก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงตวาดของท่านเจ้าคุณจอมทัพที่มองมาทางตัวเองอย่างดุดัน

   "เมื่อไหร่เองจะพาพาขวัญเดินเข้ามาหะนังสร้อย!"

   "มาแล้วเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ"

   สร้อยทิพย์ตอบรับพร้อมกับพาจอมขวัญให้เดินเข้าไปตรงที่มีคนนั่งมากมายทำให้จอมขวัญยืนนิ่งมองหน้าจอมทัพด้วยความประหม่าซึ่งจอมทัพเองก็กวักมือเรียกพร้อมกับยิ้มมาให้อย่างอ่อนโยน

   "มานั่งข้างพ่อกับแม่ตรงนี้ซิลูกพาขวัญ"

   "ค...ค่ะ"

   จอมขวัญเดินเข้าไปนั่งตรงกลางระหว่างจอมทัพและพัณณิตาที่ยกมือขึ้นมาลูบผมตนเองอย่างอ่อนโยน โดยที่สร้อยทิพย์นั้นเดินเลี่ยงไปหาพริ้มพรายและเมืองที่นั่งรออยู่ด้านหลัง จอมขวัญยกมือไหว้พัณณิตาที่ยิ้มหวานมาให้พร้อมกับกอดตนเองแน่นไม่ยอมปล่อย

   "ลูกไหว้คุณแม่เจ้าค่ะ"

   "ยินดีต้อนรับกลับบ้านอีกครั้งนะพาขวัญลูกแม่"

   พัณณิตาหอมแก้มซ้ายขวาด้วยความคิดถึงทำให้จอมทัพอดที่จะยิ้มตามไม่ได้เมื่อเห็นภรรยาของตนเองแข็งแรงและมีความสุขเหมือนเมื่อก่อน

   "แค่พาขวัญกลับมาแล้วเห็นแม่พัณแข็งแรงขึ้นข้าเองก็มีความสุขเช่นกัน"

   "พาขวัญกลับมาทั้งทีจะไม่ให้น้องแข็งแรงขึ้นได้อย่างไรล่ะเจ้าคะคุณพี่" พัณณิตายิ้มหวานพร้อมกับจับมือจอมขวัญมากุมเอาไว้อย่างทะนุถนอม "สัญญากับแม่ซิลูกพาขวัญว่าเจ้าจะไม่หายออกจากบ้านไปอีก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่ พาขวัญจะอยู่ที่นี่กับคุณพ่อคุณแม่ไม่หายไปไหนอีกแล้วเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับพูดคำโบราณและสำเนียงโบราณที่จอมทัพและสร้อยทิพย์สอนให้พูดจนคล่องเมื่อคืนนี้นั่นเอง ก่อนจะกอดพัณณิตาอย่างเอาอกเอาใจจนอีกฝ่ายหลงในความน่ารักน่าเอ็นดูนั้นจนอดที่จะหอมแก้มอยู่หลายรอบก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงแกล้งไอดังมาจากฝั่งของสองแม่ลูกที่ถูกลืม

   "อะแฮ่ม! ไม่คิดจะทักทายน้ากับพี่สาวของเจ้าเลยหรือจ๊ะแม่พาขวัญ"

   "คุณแม่อย่าพูดอย่างนั้นซิเจ้าคะ น้องพาขวัญอาจจะยังไม่ทันสังเกตเห็นเราก็ได้"

   พลอยปภัสยิ้มหวานแต่แววตาแฝงไปด้วยความจิกกัดทำให้จอมขวัญทำหน้าตางุนงงพร้อมหันไปถามจอมทัพด้วยความสงสัย

   "ใครกันหรือเจ้าคะคุณพ่อ"

   "ตายแล้ว!"

   แพรวพรรณรายยกมือทาบตรงอกด้วยท่าทางตกใจ

   "หายตัวไปเกือบแรมปีพอกลับมาบ้านดันเสียสติจำใครไม่ได้เลยหรือพาขวัญ"

   "อย่าพูดเรื่องเหลวไหลอย่างนั้นซิแม่แพรว"

   พัณณิตาห้ามปรามด้วยความไม่ชอบใจทำให้จอมทัพต้องขัดขึ้นมาก่อนที่จะเถียงกันไปมากกว่าเดิม

   "พอเถอะทั้งแม่แพรวและแม่พัณ"

   "น้องไม่ได้เริ่มก่อนนะเจ้าคะคุณพี่!"

   แพรวพรรณรายรีบแก้ตัวพรางเชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัว ซึ่งจอมทัพถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะหันมาแนะนำทั้งสองคนให้จอมขวัญได้รู้จัก

   "พาขวัญไหว้คุณน้าแพรวพรรณรายซิลูก คุณน้าเขาเป็นภรรยาคนที่สองของพ่อ"

   "สวัสดีเจ้าค่ะคุณน้า"

   จอมขวัญยกมือไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจะจ้องไปยังพลอยปภัสที่ยิ้มหวานมาให้ตลอดเวลา

   "ส่วนนั่นคือพลอยปภัส ลูกของแม่แพรวเป็นพี่สาวของเจ้า"

   "สวัสดีเจ้าค่ะพี่พลอย"

   จอมขวัญยกมือไหว้พรางจ้องมองใบหน้าพี่สาวต่างมาดาอย่างพิจารณา พลอยปภัสเป็นผู้หญิงที่สวยคมและแต่งหน้าแต่งตาจัดแถมสีผิวก็ออกกร้านแดดเล็กน้อยตามแบบฉบับคนอยุธยาขนานแท้เหมือนที่เคยอ่านเจอในหนังสือ นุ่งผ้าถุงสีน้ำเงินเข้มอมมืดตัดกับลวดลายที่ทำมาจากด้ายเงินพร้อมห่มสไบสีแดงแบบเฉียงและสวมใส่เครื่องประดับที่ทำจากเครื่องเงินหลากหลายชิ้นทั้งตัวจนดูเยอะเกินไป แววตาแพรวพราวเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์เข้ากันกับริมฝีปากแดงสดที่ฝืนยิ้มหวานออกมาตลอดเวลา

   "สวัสดีจ๊ะน้องพาขวัญ พี่ดีใจมากเลยนะที่น้องกลับเรือนมาอย่างปลอดภัย ว่าแต่เจ้าหายไปไหนมาเป็นแรมปีหรือถึงพึ่งกลับมาป่านนี้"

   "เอ่อ..." จอมขวัญนั่งตัวเกร็งเมื่อเจอสายตาจับผิดของแพรวพรรณรายและพลอยปภัสที่จ้องมาอย่างไม่วางตา "ข้าไปอยู่บ้านชาวบ้านแถวชายป่ามาน่ะเจ้าค่ะ"

   "เหตุใดจึงต้องไปอยู่บ้านชาวบ้านแถวชายป่าเล่า" แพรวพรรณรายจ้องมองด้วยสายตาจับผิดพร้อมกับเหยียดยิ้มขึ้นมาตรงมุมปาก "หรือเจ้าแอบหนีตามชายใดไปอย่างที่เขาลือกันใช่หรือไม่"

   "พูดแบบนั้นได้อย่างไรแม่แพรว เจ้าก็รู้ว่าพวกนั้นเป็นแค่ข่าวลือน่ะ"

   พัณณิตาขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจซึ่งแพรวพรรณรายไม่ได้เถียงอะไรเพียงแค่ยิ้มเยาะกลับมาเท่านั้น

   "น้องแค่พูดไปตามที่ได้ยินมาน่ะเจ้าค่ะ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงเหตุใดจะต้องเดือดร้อนด้วยล่ะเจ้าคะ"

   "แม่แพรว!"

   พัณณิตาตวาดเสียงดังลั่นด้วยความโมโหก่อนจะอารมณ์เย็นเมื่อจอมขวัญเอามือมากุมเอาไว้แน่น

   "อย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะคุณแม่ แค่ข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงใครเขาก็กุเรื่องขึ้นมาได้ทั้งนั้น"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมสบสายตาแพรวพรรณรายอย่างไม่ยอมแพ้

   "พาขวัญไม่ได้หนีตามใครไปทั้งนั้นล่ะเจ้าค่ะคุณน้า ที่พาขวัญไปอยู่ที่บ้านชาวบ้านเพราะพวกเขามาช่วยเอาไว้ตอนที่ตกน้ำเท่านั้นเอง"

   "ตายจริง! เจ้าตกน้ำด้วยอย่างนั้นหรือพาขวัญ" พลอยปภัสทำท่าทางตกใจพยายามซ่อนสีหน้าเป็นกังวลไว้ภายใต้แววตาจับผิด "แล้วไปตกน้ำตกท่าได้อย่างไรล่ะ"

   "เอ่อ...คือ..."

   จอมขวัญอึกอักก่อนจะจับหัวตัวเองและทำท่าทางปวดหัวหนักจนหลายคนตกใจ

   "โอ๊ะ! ข้าจำอะไรไม่ได้เลย อือ...ปวดหัวจัง"

   "พาขวัญเป็นอะไรมากไหมลูก นังพริ้มเอายาดมมาซิ"

   พัณณิตาจับหน้าจับตาจอมขวัญด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันไปรับยาดมจากพริ้มพรายมาให้สูดดมเป็นการใหญ่ซึ่งจอมขวัญเองก็แกล้งดมแล้วทำท่าทางอาการหายปวดหัว

   "ลูกดีขึ้นมากแล้วเจ้าค่ะคุณแม่"

   "แน่ใจนะลูก" พัณณิตาลูบหลังก่อนจะหันไปดุพลอยปภัสที่เชิดหน้าขึ้นทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  "จะถามอะไรควรคิดให้รอบคอบกว่านี้หน่อยจะได้ไหมแม่พลอย พาขวัญเองก็พึ่งกลับมาจะซักไซร้อะไรนักหนา"

   "พลอยแค่ถามดูด้วยความเป็นห่วงนะเจ้าคะ พลอยผิดตรงไหนเจ้าคะแม่ใหญ่" พลอยปภัสถามกลับพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างถือตัวพร้อมกับเหยียดยิ้มตรงมุมปาก "หากไม่บอกแสดงว่าข่าวรือที่เจ้าหนีตามผู้ชายไปก็เป็นเรื่องจริงซินะ"

   "ไม่ใช่!...นะเจ้าคะพี่พลอย"

   จอมขวัญเผลอตะคอกออกไปอย่างลืมตัวก่อนจะหันไปมองจอมทัพอย่างขอความช่วยเหลือซึ่งอีกฝ่ายก็ช่วยอธิบายเรื่องราวให้ทุกคนฟัง

   "แม่พลอยก็อย่าไปคาดคั้นอะไรน้องมากมายเลย พาขวัญน่ะจมน้ำนานจนหมดสติโชคดีที่ได้ชาวบ้านแถวนั้นมาช่วยเอาไว้ได้ทันแต่ทว่ากลับจำความอะไรไม่ได้ซักเรื่องจึงให้ที่พักอาศัยอยู่ด้วยกัน จนกระทั่งพ่อตามไปเจอตัวเมื่อวานที่หมู่บ้านชายป่านั่นแหละ"

   "จำความไม่ได้จริงหรือ"

   พลอยปภัสจ้องมองคนที่นั่งตรงหน้าอย่างไม่ละสายตาและเต็มไปด้วยความจับผิดซึ่งจอมขวัญไม่หลบสายตากลับยิ้มหวานและทำท่าทางใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราว

   "เป็นความจริงดั่งที่คุณพ่อกล่าวค่ะพี่พลอย"

   "แล้วเหตุใดเมื่อวานข้าเห็นเจ้าตัดผมจนสั้นแถมแต่งตัวเหมือนผุ้ชายอีกล่ะ ไหนเจ้าอธิบายให้น้าฟังได้หรือไม่พาขวัญ"

   แพรวพรรณรายจ้องมองด้วยสายตาจิกกัดแต่อีกฝ่ายไม่เกรงกลัวตนเองเหมือนแต่ก่อนซักนิดเดียวแถมยิ้มหวานมาให้มากกว่าเดิม

   "ข้าไปอยู่ที่หมู่บ้านชายป่ามานะเจ้าคะคุณน้า ที่นั่นยากลำบากแถมโจรป่าเยอะอีกต่างหาก ข้าก็ต้องป้องกันตัวโดยการปลอมเป็นผู้ชายอย่างไรล่ะเจ้าคะ"

   "ถูกต้องแล้วล่ะ แม่แพรว แม่พลอย พวกเจ้าคงไม่มีคำถามอะไรอีกแล้วใช่หรือไม่"

   จอมทัพเห็นดีเห็นงามพร้อมจ้องมองสองแม่ลูกด้วยแววตาที่ดุดันทำให้ทั้งสองคนยอมหยุดแต่โดยดี

   "ที่น้องถามเพราะเป็นห่วงหลานพาขวัญต่างหากค่ะคุณพี่"

   "พลอยก็เป็นห่วงน้องพาขวัญเหมือนกันนะเจ้าคะคุณพ่อ"

    พลอยปภัสเสริมขึ้นมาพร้อมยิ้มให้น้องสาวต่างมารดาของตนอย่างประจบซึ่งจอมขวัญก็ยิ้มหวานกลับไปเช่นกัน

   "ข้าดีใจที่คุณน้าแพรวและพี่พลอยเป็นห่วงเจ้าค่ะ"

   "พาขวัญไปอยู่หมู่บ้านชายป่าเสียนานคงลำบากมากใช่ไหมลูกแม่"

   พัณณิตายิ้มหวานมาให้พร้อมลูบเส้นผมนุ่มนิ่มนั้นอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันไปสั่งพริ้มพรายและสร้อยทิพย์ที่นั่งหมอบอยู่ด้านหลัง

   "นั่งพริ้ม นังสร้อย พวกเองไปจัดเตรียมขนมหวานของโปรดลูกข้ามาซักสองสามอย่างซิไป เร่งมือหน่อยล่ะพวกเอง"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายและสร้อยทิพย์ตอบรับพร้อมกับเดินลงไปทางช่องเล็กด้านหลังเรือนซึ่งเป็นส่วนของโรงครัว ทำให้จอมขวัญอมยิ้มเมื่อมีคนมาเอาอกเอาใจเหมือนคุณย่าไม่มีผิด โดยไม่ทันสังเกตุเห็นพลอยปภัสที่ก้มลงมากระซิบกับบ่าวคนสนิทของตนเองที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก

   "จับตามองพาขวัญเอาไว้นะนังฝ้าย ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพาขวัญจะจำอะไรไม่ได้"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบรับพร้อมเหลือบมองคุณหนูคนเล็กของเรือนด้วยแววตาอิจฉา

   ระหว่างนั้นเองก็มีบ่าวผู้ชายคนหนึ่งเนื้อตัวมอมแมมเดินขึ้นมาบนเรือนแล้วอ้อมไปกระซิบข้างหูเมืองให้ได้ยินกันแค่สองคนซึ่งเมืองก็พยักหน้ารับแล้วโบกมือไล่ให้อีกฝ่ายลงไปก่อนจะคลานเข่ามาหาจอมทัพที่มองมาอย่างสงสัย

   "มีอะไรรึอ้ายเมือง"

   "ไอ้หาญมาบอกว่าคุณหญิงรินทร์ทิพย์และคุณหลวงแทนกานต์มาขอพบขอรับ"

   เมืองรายงานทำให้คุณหญิงพัณณิตาตื่นเต้นรีบออกคำสั่งกับบ่าวคนสนิทของจอมทัพทันที

   "อ้ายเมืองรีบลงไปเชิญให้คุณหญิงกับพ่อแทนขึ้นมาบนเรือนเดี๋ยวนี้เลย และให้พวกบ่าวไปบอกพวกนังพริ้มให้เตรียมน้ำเตรียมขนมมาต้อนรับด้วย"

   "ขอรับนายแม่"

   เมืองก้มหน้าพร้อมกับเดินหายลงไปบริเวณหน้าเรือนพร้อมกับบ่าวอีกสองสามคน คุณหญิงพัณณิตาหันมาลูบผมจอมขวัญและยิ้มหวานให้ด้วยแววตาหยอกล้อ

   "พาขวัญดีใจใช่ไหมลูกที่พี่แทนเขารีบมาหา"

   "ลูก...ต้องดีใจด้วยหรือคะ"

   จอมขวัญเลิกคิ้วขึ้นด้วยความงุนงงเพราะทำไมตนเองจะต้องดีใจด้วยทำให้พัณณิตานั้นตกใจมาก

   "ตายแล้ว! นี่เจ้าลืมพ่อแทนไปด้วยอย่างนั้นหรือ"

   "เอ่อ...คือ..."

   จอมขวัญหันไปมองท่านเจ้าคุณด้วยสายตาสงสัยทำให้อีกฝ่ายนั้นถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

   "แม่พัณอย่าพึ่งไปเอาความอะไรจากลูกตอนนี้เลย ดูซิพาขวัญมึนงงไปหมดแล้ว"

   "น้องก็ลืมไปเลยเจ้าค่ะคุณพี่" พัณณิตาหันไปลูบผมอย่างอ่อนโยน "ไม่ต้องกังวลไปนะ พ่อแทนรอลูกมาตั้งแรมปีแค่รอให้เจ้าจำความได้คงอีกไม่นานหรอก"

   "เอ่อ..."

  จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนจะมองไปยังเมืองที่เดินขึ้นมานำหน้าพร้อมกับหลีกทางให้คุณหญิงรินทร์ทิพย์ที่มีหน้าตางดงามมาก ผิวพรรณขาวผ่อง การแต่งตัวก็ดูดีมีฐานะที่ร่ำรวยพอสมควร แต่ทว่าสายตาที่เหลือบมองเมืองนั้นกลับเต็มไปด้วยความไม่พอใจเช่นเดียวกันกับริมฝีปากอวบอิ่มที่คว้ำลงแสดงถึงความขัดใจ

   "วันหลังเองไม่ต้องเสนอหน้าลงไปรับข้าอีกนะอ้ายเมือง"

   "คุณแม่ขอรับ"

   แทนกานต์แตะไหล่ผู้เป็นแม่เพื่อห้ามปรามแต่อีกฝ่ายกลับหันมาทำหน้างอใส่

   "พ่อแทนก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบอ้ายเมือง"

   "แต่ตอนนี้เราอยู่บนเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพนะขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์กระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้รินทร์ทิพย์ชะงักเล็กน้อยก่อนจะเดินผ่านเมืองที่ก้มหน้าจนแทบจะติดพื้นไปอย่างไม่สนใจอีกต่อไป ทั้งสองเดินเข้ามาตรงห้องโถงกลางที่มีคนนั่งอยู่มากมายแล้วรินทร์ทิพย์จึงยกมือไหว้ผู้เป็นเจ้าของเรือน

   "น้องไหว้เจ้าค่ะท่านเจ้าคุณจอมทัพ คุณพี่พัณ"

   "สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"

   แทนกานต์ยกมือไหว้ซึ่งทั้งสองเองก็ยกมือรับไหว้เช่นกันแล้วเชื้อเชิญทั้งสองให้นั่งลงก่อนที่พัณณิตาจะกล่าวทักด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ไม่ได้เจอแม่รินทร์เสียนานเป็นอย่างไรบ้างสบายดีหรือไม่"

   "สบายดีเจ้าค่ะคุณพี่พัณ"  รินทร์ทิพย์ยิ้มหวานพร้อมจ้องมองไปทางจอมขวัญด้วยสายตาเอ็นดู "พอน้องได้ข่าวว่าแม่พาขวัญกลับมาแล้วก็รีบมาหาเลยเจ้าค่ะ พ่อแทนน่ะเป็นห่วงแม่พาขวัญมากเลยนะเจ้าคะ"

   "จริงหรือแม่รินทร์" พัณณิตายิ้มแย้มอย่างถูกอกถูกใจ "อย่างว่าเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันคงจะคิดถึงกันมากเป็นธรรมดา"

   "ห๊ะ!"

   จอมขวัญทำหน้าตาเหลอหลาก่อนจะเหลือบไปมองคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างพิจารณา แทนกานต์ว่าที่คู่หมั้นคู่หมายของพาขวัญนั้นหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มมากแต่โชคดีที่ผิวขาวผ่องเหมือนแม่ ร่างกายสูงโปร่งและการแต่งกายดูดีมีฐานะเต็มไปด้วยเครื่องทองมากมาย คิ้วเข้มนั้นขมวดเข้ากันเล็กน้อย ดวงตาคมกริบที่จ้องมองมาทางตนเองเช่นเดียวกันแต่ริมฝีปากกลับเรียบตรงไม่ยิ้มแย้มอะไรทั้งนั้น พอเห็นว่าทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรพัณณิตาจึงแตะไหล่กระซิบที่ข้างหูลูกตนเอง

   "ไหว้คุณน้ากับพี่เขาซิลูก ตอนนี้พี่เขาได้รับยศเป็นถึงหลวงแทนกานต์ฝ่ายกรมพระคลังหลวงเชียวนะลูก"

   "ข้าไหว้เจ้าค่ะคุณน้า"

   จอมขวัญยกมือไหว้อย่างนอบน้อมซึ่งรินทร์ทิพย์ก็รับไหว้เช่นเดียวกัน ก่อนที่จะเห็นไปมองแทนกานต์ที่จ้องมองตนเองอย่างไม่วางตาทำให้ตนเองทำอะไรไม่ถูกฝืนยิ้มแห้งส่งไปให้อีกฝ่ายอย่างกระอักกระอ่วน

  "สวัสดีเจ้าค่ะคุณหลวง"

   "ไม่ต้องเรียกเช่นนั้นหรอก พูดตามปกติเถิด"

   แทนกานต์ยกมือไหว้พร้อมพูดด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งยิ่งทำให้จอมขวัญยิ้มแห้งมากกว่าเดิมเริ่มวางตัวไม่ถูกมากขึ้นไปอีกจนต้องแอบกระซิบถามจอมทัพด้วยความสงสัย

   "เอ่อ...ปกติพาขวัญพูดเช่นไรหรือครับ"

   "ชอบยิ้มหวาน พูดจาออดอ้อน พี่แทนคะ พี่แทนขา พร้อมทั้งชอบควงแขนตลอดเวลา"

   จอมทัพกระซิบตอบก่อนจะแอบขำเมื่อเห็นจอมขวัญนั้นขนลุกไปทั้งตัวแถมยังทำหน้าตาเหยเก

   "ขนลุกไปหมด ต้องทำแบบนั้นเลยหรอครับ"

   "ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก เอาแค่พองามก็พอ"

   จอมทัพหัวเราะอย่างแผ่วเบาพร้อมลูบผมสวยนันอย่างเอ็นดู ก่อนที่รินทร์ทิพย์จะถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงเป็นใย

   "คุณพี่พัณเจ้าคะ น้องถามได้หรือไม่เจ้าคะว่าพาขวัญหายไปไหนมาแรมปีขนาดนี้น่ะเจ้าค่ะ"

   "พาขวัญเกิดพลัดตกน้ำแล้วความจำเสื่อมจึงต้องไปอยู่หมู่บ้านริมป่าน่ะจ๊ะ"

   "โธ่...ลำบากลำบนน่าดูเลยซินะแม่พาขวัญ"

   รินทร์ทิพย์ทำหน้าตาออกมาอย่างเห็นใจก่อนที่จะมีเสียงไม่พอใจดังขึ้นมาจากคนที่นั่งอยู่ฟั่งตรงข้าม

   "แต่ดูจากท่าทางแล้วคงไม่ลำบากขนาดนั้นมั้งคะคุณหญิงรินทร์ทิพย์"

   "โอ๊ะ! คุณหญิงรองนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ" รินทร์ทิพย์แสร้งทำท่าทางตกใจก่อนจะหันไปมองลูกอีกคนหนึ่งของท่านเจ้าคุณด้วยสายตารังเกียจ "แม่พลอยก็อยู่ด้วยหรอกหรือ"

   "น้องกับลูกนั่งมาตั้งนานก่อนที่คุณหญิงจะมาอีกเจ้าค่ะ"

   แพรวพรรณรายเชิดหน้าขึ้นอย่าถือตัวเช่นเดียวกับลูกสาวที่ถอดแบบมาจากแม่มาไม่มีผิด

   "สงสัยคุณหญิงคงตาฝ้าฟางเพราะอายุเริ่มเยอะแล้วน่ะเจ้าค่ะคุณแม่"

   "พูดจาไม่เพราะเลยนะแม่พลอย"

   พัณณิตาดุด้วยความไม่ชอบใจแต่รินทร์ทิพย์กลับห้ามเอาไว้อย่างไม่ถือสาแต่แฝงไปด้วยความจิกกัด

   "ไม่เป็นไรน้องไม่ถือหรอกค่ะคุณพี่พัณ แค่ลูกเมียรองการอบรมสั่งสอนคงจะแตกต่างกันเป็นเรื่องธรรมดา"

   "คุณหญิง!"

   แพรวพรรณรายตวาดออกมาเสียงดังลั่นด้วยความลืมตัวก่อนที่ช้อยจะจับขาเอาไว้อย่างห้ามปรามแต่กลับโดยสะบัดขาใส่อย่างรำคาญ

   "เองไม่ต้องมาจับขาข้าเลยนังช้อย อยากโดนลงหวายรึไงหะ!"

   "ช้อยไม่อยากโดนหวายเจ้าค่ะนายแม่"

   ช้อยก้มหน้าจนติดพื้นด้วยความหวาดกลัวก่อนที่แพรวพรรณรายจะจ้องตากับรินทร์ทิพย์อย่างกินเลือดกินเนื้อ

   "เป็นเมียรองแล้วอย่างไรล่ะเจ้าคะ ทำอย่างกับท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์ไม่เคยมีเมียบ่าวเมียไพร่อย่างนั้นแหละ"

   "ถึงท่านเจ้าคุณจะมีเมียบ่าวเมียไพร่จริงแต่ข้าไม่มีวันที่จะให้เชิดหน้าชูคอถึงขนาดเป็นเมียรองหรอก"

   รินทร์ทิพย์ตอบอีกฝ่ายกลับอย่างไม่ยอมแพ้พร้อมกับเหยียดยิ้มตรงมุมปากอย่างสะใจเมื่อเห็นแพรวพรรณรายโกรธจนตัวสั่นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างโมโห

   "ข้าไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงด้วยแล้วขอตัวกลับเข้าห้องก่อนนะเจ้าคะ"

   "นายแม่รอช้อยด้วยเจ้าค่ะ"

   ช้อยลุกขึ้นเดินตามเจ้านายตนเองไปอย่างรีบร้อนทำให้พลอยปภัสหันหน้ามามองอย่างไม่พอใจและกำลังจะเอาเรื่องอีกฝ่าย   แต่ทว่าต้องหยุดลงเมื่อพริ้มพรายและสร้อยทิพย์ต่างนำบ่าวรับใช้ขึ้นมาบนเรือนพร้อมน้ำและขนมหวานมากมายหลายชนิดมามอบให้กับแขกของเรือนทั้งสองอย่างนอบน้อม ก่อนที่สร้อยทิพย์จะคลานเข่าเข้ามาทางด้านหลังพร้อมยื่นจานขนมขนาดกำลังพอดีมือมาให้จอมขวัญอย่างเอาใจ

   "ขนมหวานเจ้าค่ะคุณหนู"

   "ขอบใจจ้ะพี่สร้อย"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมเอื้อมมือไปรับจานขนมหวานมาถือมองขนมหลากหลายชนิดในจานด้วยแววตาเปล่งประกายเพราะมีทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เสน่ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ กลีบลำดวน ลูกชุบ ช่อม่วง ซึ่งวางเรียงรายกันบนกลีบบัวสีชมพูอย่างปราณีต ทำให้จอมขวัญแอบอมยิ้มแล้วลงมือทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยเพราะมันมีรสชาติหวานและหอมมากเหมือนฝีมือคุณย่าที่ตนเองเคยกินเมื่อตอนเด็กไม่มีผิด

   โดยไม่ทันสังเกตุเห็นแทนกานต์แอบลอบมองตนเองตลอดเวลาอย่างไม่ละสายตา พร้อมคิ้วเข้มที่ขมวดเป็นปมเพราะกำลังหาเหตุผลว่าทำไมพาขวัญดูแปลกตาไปจากเมื่อก่อน ทั้งท่าทางการวางตัวไม่มาเกาะแขนออดอ้อนแบบเมื่อก่อน ไหนจะการพูดการจาที่ดูห่างเหินแถมไม่มีการยิ้มหวานให้ตนเองอีกต่างหากแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นลืมเลือนทุกเรื่องไปจากการจมน้ำก็เถอะ

   ซึ่งพอรินทร์ทิพย์นั้นเห็นลูกชายตนเองจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่วางตาจึงอมแอบยิ้มแล้วยื่นหน้าไปกระซิบข้างหูลูกชายตนเองอย่างแผ่วเบา

   "พ่อแทน ชวนน้องไปเดินเล่นด้านล่างซิลูก"

   "ขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์ตอบรับคำก่อนจะกล่าวกับจอมขวัญที่กำลังทานขนมหลายต่อหลายชนิดอย่างไม่หยุดปากด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แสดงท่าทีอ่อนโยนเลยซักนิด

   "เราไปเดินเล่นด้านล่างกันไหมพาขวัญ"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญชะงักหยุดเคี้ยวขนมในปากก่อนที่จะพยายามกลืนขนมลงคอเมื่อพัณณิตายื่นหน้าเข้ามากระซิบด้วยท่าทางสนับสนุนพร้อมกับมือที่ยกขึ้นมาลูบผมลูกสาวตนเองอย่างเอ็นดู

   "พาขวัญไปเดินเล่นเป็นเพื่อนพี่เขาเถอะลูก เดี๋ยวแม่จะให้นังพริ้มเก็บขนมไว้ให้นะจ๊ะ"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญตอบรับพร้อมจำใจวางจานขนมหวานแล้วเดินตามร่างสูงลงไปด้านล่างกันเพียงสองคนโดยมีสร้อยทิพย์และแสงซึ่งเป็นบ่าวคนสนิทของแทนกานต์เดินตามหลังไปอย่างเว้นระยะพอสมควร ซึ่งภาพนั้นทำให้พัณณิตาและรินทร์ทิพย์หันมายิ้มและหัวเราะให้กันสองคนอย่างถูกอกถูกใจ




*******************************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-07-2019 22:34:08
 :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-07-2019 23:58:02
สนุกมาก
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 04-07-2019 05:19:14
 แพรพรรณ  พลอยปภัส วุ่นวาย น่ารำคาญ  :fire: :angry2: :serius2:
เป็นแม่ลูกที่จุ้นจ้าน เสนอหน้ามากเกินไปหรือเปล่า :really2: :เฮ้อ: 
ดูท่าที่พาขวัญหายตัวไป เหมือนตายไปแล้ว
เป็นเพราะสองแม่ลูกกับบ่าวเป็นต้นเหตุสินะ
แล้วไม่เกรงใจสามี กับเมียหลวงเลย    :m16: :เฮ้อ:
จอมทัพ อ่อนอำนาจเกินไปหรือเปล่า  :hao3:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 04-07-2019 15:07:02
เรื่องหายตัวไปต้องมีเงื่อนงำแน่ๆ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 4}}} [UP 03/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 04-07-2019 23:48:22
หึหึ ยังไงละทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 05-07-2019 22:10:22
เรือนหลังที่ 5




   แทนกานต์พาจอมขวัญมาเดินเล่นตรงสวนดอกไม้ด้านล่างโดยที่แสงและสร้อยทิพย์ยืนรออยู่บริเวณหน้าเรือน

   ทั้งสองชมสวนขนาดใหญ่ซึ่งปลูกดอกไม้ไว้หลากหลายสายพันธุ์ทั้งลำดวน ชงโค กระดังงา ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกแก้ว อัญชัน จัทร์กระพ้อ จำปี และอีกมากมายหลากหลายชนิด

    ซึ่งนั่นทำให้จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างลืมตัวก่อนจะเดินไปหยุดตรงหน้าดอกกุหลาบดอกหนึ่งกำลังบานเต็มที่ พร้อมกับเอื้อมมือเพื่อจะไปสัมผัสแต่ถูกมือหนารั้งเอาไว้

   "กุหลาบสวยจัง... โอ๊ะ! มีอะไรเจ้าคะคุณหลวง"

   "อย่าจับเลย ระวังหนามจะตำมือเจ้าเอานะ ปกติเจ้าไม่ชอบดอกกุหลาบไม่ใช่หรือ"

   แทนกานต์จับมือขาวนุ่มนิ่มนั้นไว้แน่นพร้อมพูดออกมาด้วยความเป็นห่วงแต่น้ำเสียงกลับราบเรียบซึ่งมันไม่น่าจะใช้พูดกับคนที่เป็นคู่หมั้น

   เมื่อโดนห้ามปรามทำให้จอมขวัญหยุดชะงักพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ...ทำไมต้องจับมือด้วย?

  "ห่วง?"

   "อืม"

   แทนกานต์ตอบแต่ยังจับมือเนียนนุ่มนั้นไม่ยอมปล่อยแม้อีกฝ่ายจะพยายามสะบัดออกแต่ตนเองกลับกุมมือแน่นขึ้นกว่าเดิมจนจอมขวัญเริ่มหน้ามุ่ยลงด้วยความไม่พอใจ

   "ปล่อยมือข้าได้แล้วมั้งเจ้าคะคุณหลวง"

   "ข้าบอกให้พูดแบบเดิมแบบที่เจ้าเคยพูดยังไงล่ะพาขวัญ"

   แทนกานต์ตอบพร้อมกับใช้ดวงตาคมกริบนั้นจ้องมองคู่หมั้นของตัวเองนิ่งราวกับจะหาความจริงอะไรบางอย่าง   จนกระทั่งจอมขวัญทนไม่ไหวต้องสะบัดหน้าหนีพร้อมพูดออกมาด้วยความเอาแต่ใจ

   "ข้าจำไม่ได้ว่าเมื่อก่อนเคยพูดกับคุณหลวงแบบไหนแต่ตอนนี้ข้าอยากจะพูดแบบนี้ท่านมีปัญหาอะไรไหมล่ะ"

   "พาขวัญ"

    แทนกานต์เอื้อมมือไปทาบกับแก้มนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายแล้วบังคับให้หันมาจ้องตาตนเองเหมือนเดิม

   "เจ้าจำไม่ได้จริงหรือ"

   "ไม่ได้เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทำให้แทนกานต์ยอมปล่อยมือแต่โดยดี   เมื่อเป็นอิสระจอมขวัญก็หันหลังเดินหนีทันทีแต่อีกฝ่ายก็เดินตามมาอย่างไม่เลิกราจนกระทั่งทั้งสองเดินมานั่งตรงศาลาริมท่าน้ำ  จอมขวัญจึงเดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้ริมท่าน้ำพร้อมหันหน้ามองภาพบรรยากาศตรงนั้นโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจอีกคน

    ซึ่งในระหว่างนั้นเองแทนกานต์ไม่ได้พูดอะไรมัวแต่นั่งจ้องหน้าคู่หมั้นตนเองตาไม่กระพริบเพราะกำลังพิจารณาความเปลี่ยนแปลงไปของคนตรงหน้า แม้หน้าตาจะเหมือนพาขวัญแต่กลับดูหวานและสวยกว่ามาก ไหนจะกลิ่นกายจากการสัมผัสทั้งมือและใบหน้าเมื่อครู่นั้นหอมละมุนไม่เหมือนกลิ่นน้ำปรุงที่พาขวัญเคยชอบใช้ แถมการพูดการจาไม่เหมือนเดิมและยังหวงเนื้อหวงตัวมากกว่าเดิม เหมือนคนตรงหน้าเป็นพาขวัญที่ไม่ใช่พาขวัญคู่หมั้นของตนเอง พอคิดถึงตรงนี้แทนกานต์ก็เหยียดยิ้มมุมปากเล็กน้อยราวกับเจอสิ่งที่ถูกใจ

   'เหมือนแต่ไม่ใช่คนเดียวกัน'

   "มองอะไรนักหนาหะคุณหลวง!"

   จอมขวัญโวยวายขึ้นมาเสียงดังลั่นหลังจากถูกอีกฝ่ายจ้องมองมาจนตนเองรู้สึกอึดอัดไปหมดยิ่งทำให้แทนกานต์แปลกใจมากกว่าเดิม

   "เมื่อก่อนเจ้าชอบให้พี่มองหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ"

   "ข้าชอบอย่างนั้นหรอ?"

   จอมขวัญเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัยก่อนจะกอดอกจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจตัวเอง

   "แต่ตอนนี้ข้าไม่ชอบอย่างนั้นแล้วนะเจ้าคะคุณหลวง"

   "ข้าห้ามตัวเองไม่ได้หรอก" แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมยื่นหน้าไปใกล้เล็กน้อยราวกับจะกลั่นแกล้ง "เพราะข้าอยากมองเจ้าตลอดเวลา"

   "เอ่อ...พูดจาหวานเลี่ยน"

    จอมขวัญเบะปากพร้อมทำหน้าตาขยะแขยงยิ่งทำให้อีกฝ่ายอยากแกล้งมากกว่าเดิมโดยยื่นหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายจนได้กลิ่นหอมละมุน

   "เมื่อก่อนเจ้าชอบให้ข้าพูดแบบนี้ตลอดเวลานี่"

   "ตอนนี้ไม่ชอบเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญผลักอกอีกฝ่ายให้ถอยห่างออกไปจากตนเองด้วยท่าทางรังเกียจยิ่งทำให้แทนกานต์จ้องมองด้วยความแปลกใจ  แต่ก่อนที่จะได้มีการถามอะไรออกไปก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อพาขวัญดังลั่นมาจากแถวสวนหน้าเรือน

  "น้องพาขวัญ~"

   "เอ่อ..."

    จอมขวัญหันไปมองอย่างสงสัยและเต็มไปด้วยความงุนงงแตกต่างจากแทนกานต์ที่เผลอกำมือแน่นชักสีหน้าออกมาอย่างไม่ชอบใจเพราะคนที่เรียกนั้นคือจักรกวินเพื่อนสนิทตั้งแต่เด็กที่ไม่ค่อยถูกกันกับเขานั่นเอง


   จักรกวินนั้นแม้อายุจะเท่ากันแถมรับราชการมานานก่อนใครเพื่อนแต่ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นยศออกขุนและอยู่ในตำแหน่งเท่านั้นมาตลอดไม่เหมือนกับแทนกานต์ที่ทำความดีความชอบและได้เลื่อนขั้นทุกปี  จักรกวินนั้นหน้าตาหล่อเหลาคมเข้มและผิวออกแทนคล้ำแดดเล็กน้อย ร่างกายสูงใหญ่กำยำแถมมีเสน่ห์มากจนผู้หญิงทั้งพระนครอยากจะออกเรือนด้วย แต่ทว่าผู้หญิงที่ตนสนใจกลับมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้น


   จักรกวินเดินยิ้มกว้างเข้ามาหยุดตรงหน้าจอมขวัญพร้อมทั้งคว้ามือนุ่มนิ่มนั้นไปกุมไว้ทั้งสองข้าง

   "พี่ดีใจเหลือเกินที่น้องพาขวัญกลับมาบ้านแล้ว รู้หรือไม่ว่าพี่เป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน อย่าหายไปไหนอีกนะน้องพาขวัญของพี่"

   "ปล่อยก่อนเถอะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญแกล้งทำเป็นพูดเพราะแต่พยายามดึงมือออดจากอีกฝ่ายทว่าจักรกวินกลับจับแน่กว่าเดิมไม่ยอมปล่อย

   "พี่ไม่ปล่อย ปกติเราสองคนก็จับเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ทุกครั้งที่พบหน้ากันไม่ใช่หรือ อ๋อ...เจ้ากลัวแทนกานต์จะเข้าใจเราสองคนผิดใช่ไหม"

   "ไม่ใช่นะเจ้าคะ แต่ตอนนี้ข้ายังจำอะไรไม่ได้...ปล่อยมือข้าก่อนเถอะนะ"

   จอมขวัญทำหน้าตาซีดเซียวและอึดอัดเหมือนจะร้องไห้ทำให้จักรวินเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเพราะเมื่อก่อนที่ผ่านมาตนทำแบบนี้เป็นประจำแต่พาขวัญไม่เคยขัดขืนหรือรังเกียจอะไรมากมายขนาดนี้

   "น้องพา..."

   "ปล่อยมือพาขวัญของข้าบัดเดี๋ยวนี้นะอ้ายออกขุนจักร"

   ทว่ากลับมีเสียงหนึ่งขัดขึ้นมาจากตรงท่าน้ำพอหันไปมองพบเรือลำหนึ่งกำลังเทียบท่าจอดตรงท่าน้ำ ก่อนที่จักรวินและแทนกานต์จะทำหน้าตาไม่พอใจพร้อมกันเมื่อคนที่มาใหม่นั้นคือ แสงหล้าซึ่งเป็นศตรูคนสำคัญอีกคนของตนเอง


   แสงหล้าเป็นลูกเจ้าพระยาอาทิตย์ฝ่ายการทหาร รับราชการช้ากว่าใครเพื่อนเพราะมัวแต่เที่ยวเล่นและเมื่อตอนปีกลายที่ผ่านมาได้รับการเลื่อนยศเป็นหมื่น  หน้าตาหล่อเหลาคมเข้มแต่กลับเลือดร้อนที่โผงผางและมุทะลุ เอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรต้องได้จึงทำให้ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าเข้าใกล้ แถมเจ้าพระยาอาทิตย์กับเจ้าพระยาจอมทัพนั้นไม่ถูกกับพบหน้ากันทีไรจะทะเลาะกันทุกที แต่ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลกที่ทำให้แสงหล้ามาตกหลุมรักพาขวัญเพิ่มอีกหนึ่งคน


   แสงหล้าเดินตรงเข้ามาคว้ามือขาวนุ่มนิ่มข้างหนึ่งของจอมขวัญมากุมเอาไว้แทนและกระชากให้เข้ามาหาตนเอง

   "พาขวัญเป็นของข้า! เจ้าไม่มีสิทธิ์มาจับเนื้อต้องตัวของที่เป็นของข้า"

   "น้องพาขวัญไปเป็นของเจ้าเมื่อไหร่อย่ามามั่วนะอ้ายหมื่นแสงหล้า!"

    จักรกวินกลับกุมมือข้างที่ตนยื้อเอาไว้แน่นแล้วกระชากให้มาทางตนเอง ทั้งสองยื้อยุดกระชากฉุดกระชากกันไปมาหลายครั้งจนจอมขวัญทนไม่ไหวโวยวายขึ้นมาเสียงดังลั่นด้วยความเจ็บ

   "โอ๊ย! เจ็บ! ปล่อยเดี่ยวนี้นะทั้งคู่เลย!"

   "ห๊ะ!"

   ทั้งจักรกวินและแสงหล้าทำท่าทางตกใจแล้วเผลอปล่อยมือออกมาพร้อมกันทำให้จอมขวัญหน้าทิ่มเข้าไปหาแทนกานต์ที่คว้าตัวเอาไว้ได้ทันก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่

   จุ๊บ~

   จอมขวัญล้มลงไปทั้งตัวทำให้ริมฝีปากนุ่มนิ่มนั้นกระแทกลงไปตรงแก้มของแทนกานอย่างจังทำให้จอมขวัญตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึงนิ่งค้างอยู่อย่างนั้นไม่ยอมขยับไปไหนอย่างทำอะไรไม่ถูก

   แต่สิ่งที่ทำให้แทนกานตกตะลึงนั้นไม่ใช่แค่โดนจุ๊บแก้มเพียงเรื่องเดียวแต่กลับเป็นหน้าอกที่ควรจะนูนแบบหญิงสาวทั่วไปแต่พอใกล้ชิดแบบนี้กลับไม่รู้สึกถึงสิ่งนั้นเลยซึ่งมันกลับแบนราบเรียบราวกับเป็นหน้าอกของ...ผู้ชาย???

   "อ้ายแทนกานต์!"

  แต่ก่อนที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงของแสงหล้าตะโกนขึ้นมาดังลั่นพร้อมกับผลักจักรกวินให้มาเอาตัวจอมขวัญออกไป

   "ยืนบื้ออะไร ไปเอาตัวพาขวัญออกมาซิ"

   "เจ้าไม่สั่งข้าก็ทำอยู่แล้วน่ะ"

   จักรกวินทำสีหน้าบึ้งตึงแต่กลับยอมเดินไปดึงจอมขวัญให้ลุกขึ้นแล้วลากให้ออกมาจากตรงนั้นและปล่อยให้แสงหล้าเข้าไปต่อยใบหน้าของแทนกานต์อย่างแรงพร้อมตวาดเสียงดังลั่น

  พลัก!

   "กล้ามากนะที่มาจูบพาขวัญของข้า"

   พลัก!

   "พาขวัญไม่ใช่ของเจ้า"

   แทนกานต์เองก็ป้องกันตัวเองโดยการชกเข้าที่ใบหน้าคมนั้นอย่างไม่ยอมแพ้  ทั้งสองแลกหมัดกันอย่างดุเดือดจนไปล้มลุกกันอยู่แถวสวนหน้าเรือนโดยมีพวกบ่าวไพร่ตะโกนห้ามกันเสียงดังลั่น

   สร้อยทิพย์เห็นทีท่าไม่ดีจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนปล่อยให้แสงบ่าวคนสนิทของแทนกานต์ที่เข้ามาห้ามอย่างตื่นตกใจ

   "อย่าต่อยกันนะขอรับคุณหลวง ท่านหมื่น"

   ปึก!

   "โอ๊ย"

   แสงกุมคางตนเองที่มีเลือดไหลออกมายิ่งทำให้แทนกานต์โมโหต่อยหน้าอีกฝ่ายไม่ยั้งแรง  ซึ่งจอมขวัญที่ยืนดูอยู่กับจักรกวินนั้นก็พยายามจะเข้าไปห้ามแต่ถูกรั้งเอาไว้

   "อย่าเข้าไปตอนนี้เลยนะน้องพาขวัญเดี๋ยวก็โดนลูกหลงเอาหรอก"

   "แต่พวกเขากำลังจะฆ่ากันนะ"

   จอมขวัญไม่ฟังพร้อมผลักอีกฝ่ายให้หลบทางแล้วจะเดินเข้าไปห้ามแต่จักรกวินกลับคว้าต้นแขนมากุมเอาไว้แน่น

   "เชื่อพี่ซิน้องพาขวัญ"

   "ไม่..."

   "อย่าดื้อซิ"

   จักรกวินทำเสียงดุซึ่งจอมขวัญไม่กลัวพยายามผลักอีกฝ่ายทำให้ยืนยื้อยุดกันอยู่ตรงนั้น  ก่อนจะได้ยินเสียงห้ามปรามของท่านเจ้าคุณจอมทัพที่ตะโกนเสียงดังลั่นพร้อมเดินลงมาจากเรือนด้วยความโกรธ

   "หยุดทะเลาะกันหน้าเรือนของข้าบัดเดี๋ยวนี้นะ!"

   "คุณพ่อ"

    จอมขวัญยิ้มหวานออกมาเมื่อทั้งสองคนนั้นหยุดทะเลาะกันก่อนจะแยกไปยืนกันคนละฝั่งของต้นดอกกุหลาบ โดยที่คุณหญิงพัณณิตา คุณหญิงรินทร์ทิพย์ และบรรดาบ่าวไพร่ต่างเดินลงมาจากเรือนเพื่อดูเหตุการณ์ยกเว้นพลอยปภัสที่ยืนมองอยู่ด้านบนด้วยแววตาสนุกสนาน   ส่วนทางด้านท่านเจ้าคุณเมื่อเห็นว่าใครมาทะเลาะกับแทนกานต์ก็กำหมัดแน่นตวาดออกไปด้วยความโมโห

   "ไอ้แสงหล้า! ใครสั่งให้เองมาเหยียบที่เรือนแห่งนี้หะ พ่อเองไม่เคยสั่งสอนหรือยังไงกัน"

   "คุณพ่อข้าสั่งสอนอยู่ทุกวัน แต่ข้าคิดถึงอยากมาเจอหน้าน้องพาขวัญ"

   "ไม่ให้เจอ! ออกไปจากเรือนข้าบัดเดี๋ยวนี้!"

   จอมทัพมีท่าทางโกรธจัดแต่แสงหล้ากลับไม่ขยับตัวไปไหนแถมทำสีหน้าท้าทายจนจอมทัพความคุมความโกรธเอาไว้ไม่ได้

   "อ้ายเมืองไปเอาปืนมา"

   "ขอรับท่านเจ้าคุณ" เมืองรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนก่อนจะกลับลงมาพร้อมปืนขนาดกำลังพอดีมือพร้อมกับยื่นให้จอมทัพที่รับมา้หนี่ยวไกปืนทันที "ปืนขอรับ"

   "ออกจากเรือนข้าไปซะ!"

   ปัง!

   "ไป!"

   จอมทัพตวาดไล่เสียงดังหลังจากที่ยิงปืนขึ้นฟ้าไปหนึ่งนัดทำให้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นพากันตกใจรวมถึงแสงหล้าที่ชักสีหน้าอย่างไม่พอใจแต่ยอมถอยออกมาก้าวหนึ่งพร้อมยกมือไหว้แบบไม่เต็มใจ

   "ข้าลา"

  แสงหล้าเดินกลับไปทางศาลาท่าน้ำก่อนที่จะเอื้อมมือจะไปจับแขนพาขวัญแต่จักรกวินกลับก้าวมาบังเสียจนมิดแต่แสงหล้าไม่ยอมแพ้ชะโงกหน้าไปกล่าวลาคนที่ยืนอยู่ข้างหลัง

   "พี่ไปก่อนนะพาขวัญ"

   "กลับไปได้แล้ว"

    จักรกวินไล่เสียงดุพร้อมทำหน้าตาท่าทางกวนประสาททำให้แสงหล้ากำหมัดแน่นแล้วรีบเดินลงเรือที่จอดเอาไว้และพายออกไปอย่างรวดเร็ว

   เมื่อแสงหล้ากลับไปแล้วคุณหญิงรินทร์ทิพย์ก็รีบเดินเข้ามาจับใบหน้าหล่อเหลาของลูกชายให้หันซ้ายหันขวาอย่างเป็นห่วงเพราะใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำแถมมีเลือดออกตรงมุมปากอีกต่างหาก

   "เจ็บมากไหมพ่อแทนลูกแม่ ดูซิหน้าตาช้ำไปหมดเลย"

   "ไม่เป็นไรขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์ตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมจ้องไปยังจอมขวัญอย่างไม่ละสายตาซึ่งรินทร์ทิพย์ไม่ได้สังเกตุเห็นกลับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นแผลบนหน้าลูกตนเอง

   "หน้าตายับเยินขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นอันใดอีก"

   "คุณแม่ขอรับ ข้า..."

   แทนกานต์ก้มลงไปกระซิบข้างหูผู้เป็นแม่อย่างแผ่วเบาทั้งที่ดวงตาคมกริบที่เต็มไปด้วยแววตาแห่งความเจ้าเล่ห์นั้นไม่ละสายตาไปจากคู่หมั้นคู่หมายของตนเอง ซึ่งรินทร์ทิพย์ก็หัวเราะออกมาอย่างถูกอกถูกใจกับแผนการของลูกตนเอง


   พลอยปภัสที่ยืนอยู่บนเรือนเมื่อมองเห็นจักรกวินกำลังจับต้นแขนของจอมขวัญอยู่ตรงแถวริมท่าน้ำจึงรีบเดินลงบันไดและตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มหวาน

  "พี่จักรขา~"

   "โอ๊ะ!"

   จอมขวัญร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อตนเองโดนเบียดจนกระเด็นออกมา ก่อนที่พลอยปภัสจะควงแขนจักรกวินมากเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อยราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ

   "พี่จักรมาถึงเรือนแล้วทำไมถึงไม่ขึ้นไปหาพลอยด้านบนล่ะเจ้าคะ รู้หรือไม่ว่าพลอยคิดถึงพี่จักรขนาดไหน"

   "แม่พลอย พี่ว่าปล่อยแขนพี่ก่อนดีหรือไม่"

   จักรกวินทำหน้าตาซีดเซียวก่อนจะหันไปมองจอมขวัญที่ส่งยิ้มแห้งมาให้อย่างเห็นใจ  ส่วนพลอยปภัสกลับควงแขนแน่นขึ้นกว่าเดิมไม่ยอมปล่อย

   "ไม่เอาเจ้าค่ะ พลอยจะไม่ปล่อยพี่จักรไปไหน พี่จักรต้องขึ้นไปกินขนมหวานบนเรือนกับพลอยก่อนนะเจ้าคะ"

   "แม่พลอย...คือพี่คิดได้ว่ากำลังติดงานด่วนอยู่น่ะขอตัวก่อนนะ"

   พอพูดจบจักรกวินก็ดึงแขนตัวเองออกมาก่อนจะรีบเดินกลับไปยังม้าของตนที่บ่าวจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งเดินหนีออกมาโดยยังไม่ทันได้ลาจอมขวัญเลยซักนเดียวทำให้พลอยปภัสยืนกำมือแน่นและกระทืบเท้าไปมาอย่างขัดใจ

   "เดี๋ยวก่อนซิคะพี่จักร! พี่จักร!"

   "อุ๊ปส์~"

   จอมขวัญกลั้นหัวเราะจนตัวสั่นทำให้พลอยปภัสหันมามองอย่างไม่พอใจ

   "เจ้าหัวเราะอะไรหะพาขวัญ"

   "เปล่านะเจ้าคะพี่พลอย"

   จอมขวัญยกมือขึ้นปฏิเสธก่อนจะแอบหลุดขำออกมาอย่างกลั่นไม่ไหวทำให้พลอยปภัสโกรธจนเนื้อตัวสั่นไปหมด

   "หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะแม่พาขวัญ!"

   "แม่พลอยมายืนส่งเสียงดังอะไรใส่น้องตรงนี้ ไหนพาขวัญมาให้แม่ดูซิลูกว่าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า"

   พัณณิตาเห็นพลอยปภัสกำลังจะหาเรื่องลูกของตนแบบนั้นจึงเดินเข้ามาห้ามพร้อมจึงรีบดึงจอมขวัญมาสำรวจทันทีดูว่าเจ็บตรงไหนรึเปล่าพอพบว่าไม่มีอะไรก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

   "โชคดีนักที่เจ้าไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แม่คิดว่าเจ้าจะโดนลูกหลงเสียแล้ว"

   "ข้าไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มหวานมาให้อย่างออดอ้อนทำให้พัณณิตาลูบผมอย่างเอ็นดูก่อนจะพาลูกตนเองเดินไปหารินทร์ทิพย์ที่ยืนดูแผลแทนกานต์ด้วยท่าทางเป็นห่วง

   "พ่อแทนเป็นอะไรมากหรือไม่แม่รินทร์"

   "หน้าตาเขียวช้ำแถมปากแตกอีกเจ้าค่ะคุณพี่พัณ"

   รินทร์ทิพย์หันมาทำหน้าเหมือนกำลังกลุ้มใจเต็มที่ทำให้พัณณิตาสังเกตุหน้าตาของแทนกานต์แล้วก็ต้องทำท่าทางตกอกตกใจเมื่อมองเห็นใบหน้าของแทนกานต์นั้นมีรอยแดงและปากแตกตรงมุมปาก

   "ตายแล้วพ่อแทน! เจ็บมากหรือไม่"

  "ไม่เท่าไหร่ครับคุณป้า"

   แทนกานต์ตอบพร้อมแอบเหลือบมองจอมขวัญที่แกล้งมองเมินไปทางอื่นก่อนจะแกล้งทำเป็นหน้าเหยเกเหมือนเจ็บแผลตรงมุมปาก

   "แต่ตอนนี้ก็เริ่มเจ็บแล้วขอรับ"

   "ถ้าเช่นนั้นก็ขึ้นมาบนเรือนก่อนเถิด เดี๋ยวแม่พาขวัญจะทำแผลให้"

   "ห๊ะ!"

   จอมขวัญร้องเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายทำท่าทางเป็นเจ็บแผลทำให้พัณณิตารีบชวนขึ้นเรือนและทำไมตนเองต้องเป็นคนทำแผลให้ด้วยล่ะ?

   พอเห็นลูกตนเองร้องเสียงหลงจึงจับไหล่บางนั้นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับห้ามปราม

   "ร้องเสียงดังอย่างนั้นไม่งามเลยหนาลูกพาขวัญ แล้วช่วยทำแผลให้พี่เขาหน่อยเถอะที่เป็นแบบนี้เพราะแย่งเจ้ากันไม่ใช่หรือ"

   "ไม่ได้แย่งกันนะเจ้าคะ"

   จอมขวัญหน้ามุ่ยลงเล็กน้อยทำให้พัณณิตาดึงแก้มของอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู

   "ลูกแม่สวยขนาดนี้ไม่แปลกที่จะมีคนมาแย่ง ใช่ไหมพ่อแทน"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์ตอบรับทันทีก่อนจะแอบยิ้มตรงมุมปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายหันมาสบสายตาของตนเองอย่างแง่งอน





   แต่ถึงจะไม่พอใจมากแค่ไหนสุดท้ายแล้วจอมขวัญก็ต้องจำใจมานั่งข้างอีกฝ่ายพร้อมนำผ้าที่ชุบน้ำร้อนสลับกับชุบน้ำเย็นและยืนมือไปรับลูกประคบสมุนไพรจากสร้อยทิพย์ที่จัดเตรียมให้นั้นมาประคบตามรอยแดงช้ำบนใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มนั้นอย่างเบามือด้วยสีหน้าท่าทางที่บึ้งตึงเพราะยังโกรธอีกฝ่ายในเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่นั่นเอง   แถมต้องมานั่งถามอีกฝ่ายด้วยท่าทางเป็นห่วงเพราะมีสายตาของคนทั้งเรือนกำลังจ้องมองอยู่นั่นเอง

   "เจ็บไหมเจ้าคะ"

   "มือเจ้าเบาขนาดนี้พี่ไม่เจ็บเท่าไหร่แล้วล่ะ"

   พอแทนกานต์ตอบมาแบบนั้นทำให้จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับรับผ้าชุบน้ำร้อนจากสร้อยทิพย์มาประคบให้อีกฝ่ายต่อแต่แอบเพิ่มน้ำหนักมือด้วยความหมั่นไส้และทำท่าทางไม่สนใจ

   แตกต่างจากแทนกานต์ที่จ้องมองใบหน้าสวยหวานของอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตาก่อนจะเลื่อนระดับลงมามองตรงบริเวณหน้าอกของอีกฝ่ายที่ดูเหมือนจะมีอะไรซ่อนเอาไว้อยู่อย่างครุ่นคิดแต่รู้สึกจะจ้องนานไปหน่อยจนจอมขวัญรู้สึกตัวตวัดสายตาขึ้นมามองคนตรงหน้าอย่างจับผิด

   "มองอะไร"

   "ข้าแค่เพียงคิดว่า..."

   แทนกานต์ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พร้อมกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

   "...หน้าอกของเจ้า หายไปไหนหมดหรือพาขวัญ"

   "คนโรคจิต!"

   จอมขวัญโวยวายใส่อีกฝ่ายพร้อมสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอนแถมยังลงมือกดผ้าประคบลงไปบริเวณแผลบนหน้าหล่อนั้นอย่างแรงจนแทนกานต์เผลอร้องออกมาด้วยความเจ็บ

   "โอ๊ย!"

   "สมน้ำหน้า"

   จอมขวัญตอบกลับด้วยน้ำเสียงกระซิบให้ได้ยินกันสองคนก่อนจะเอาลูกประคบกดซ้ำลงไปตรงนั้นอีกรอบพร้อมรอยยิ้มหวานที่เผลอยิ้มออกมาอย่างสนุกสนานที่ได้แกล้งอีกฝ่ายทำให้แทนกานต์มองตาค้างที่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้น

   ซึ่งท่าทางทีเล่นทีจริงแบบนั้นของจอมขวัญทำให้พัณณิตาต้องเอ่ยปากตักเตือนลูกตนเอง


   "ตั้งใจทำแผลให้พี่เขาหน่อยซิลูกพาขวัญ"

   "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณพี่พัณ เด็กเขาแค่หยอกล้อเล่นกันเท่านั้นเอง"

   รินทร์ทิพย์พูดจาออกมาอย่างไม่ถือสาอะไรทำให้พัณณิตาถอนหายใจและจึงสั่งจอมขวัญให้ประคบอีกครั้ง

   "ประคบหน้าพี่เขาให้ดีหน่อยซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญตอบรับและประคบบริเวณแผลตรงนั้นอีกครั้งอย่างเบามือด้วยใบหน้าและสายตาที่แง่งอนท่ามกลางสายตาแทนกานต์ที่ไม่ละไปไหนแถมแสยะยิ้มตรงริมฝีปากมองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แถมเผลอสูดกลิ่นหอมของอีกฝ่ายเข้าไปเต็มปอดและเผลอพูดออกมาอย่างหลงไหล

   "หอมนัก เจ้าใช้น้ำปรุงกลิ่นใดหรือ"

   "ยังไม่ได้ใช้อะไรเลยนะ" จอมขวัญทำหน้าตางุนงงก่อนจะหันไปถามสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่ข้างกาย "เมื่อเช้าพี่สร้อยได้ใส่น้ำปรุงอะไรให้ข้ารึเปล่าจ๊ะ"

   "ไม่นะเจ้าคะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ตอบกลับมาด้วยท่าทางสงสัยไม่ต่างกันทำให้จอมขวัญหันหน้ามามองอีกฝ่ายแล้วเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก

  "สงสัยคุณหลวงจมูกเสียรึเปล่าเจ้าคะ"

   "นั่นซินะ...สงสัยข้าต้องพิสูจน์อีกซักรอบ"

   แทนกานต์ยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมทำสายตาแพรวพราวและเอื้อมมือไปจับต้นแขนขาวนั้นแน่นก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปไกลพร้อมสูดดมความหอมละมุนจากบริเวณข้างแก้มของอีกฝ่ายอย่างจงใจกลั่นแกล้งทำให้จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่ไม่ได้พลักหรือดันตัวเองออกมาเพราะเกรงใจสายตาของผู้ใหญ่ที่จ้องมองมาทั้งเรือน

   เมื่อสูดดมความหอมของอีกฝ่ายจนพอใจแล้วแทนกานต์ก็ถอยใบหน้าอันหล่อเหลาของตนเองออกมาพร้อมจ้องมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "หอม...หอมมาก เจ้าไม่ได้ใช้น้ำปรุงอะไรจริงหรือ"

  "ใช่น่ะซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญตอบด้วยน้ำเสียงและแววตาที่แง่งอนก่อนจะหันมาประคบตามแผลบนใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างทำเป็นไม่สนใจอีกทำให้แทนกานต์แอบหัวเราะในลำคอเล็กน้อยพร้อมกับมองกริยาท่าทางแบบนั้นด้วยแววตาเปล่งประกาย

   'น่ารัก...เจ้าเป็นใครกันแน่'



   'คนอะไรดูโรคจิตตลอดเวลาเลย'

   จอมขวัญหน้ามุ่ยลงพร้อมหลบสายตาอีกฝ่ายด้วยความอึดอัดพยายามจะไม่โวยวายอะไรทั้งนั้น แต่ทว่าภาพที่ทุกคนมองเห็นนั้นเหมือนทั้งสองกำลังแสดงความรักกันอยู่ตามประสาคู่หมั้นคู่หมาย

   ซึ่งทุกการกระทำของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของคุณหญิงพัณณิตาและคุณหญิงรินทร์ทิพย์ที่ยิ้มหวานให้กันอย่างพึงพอใจในความสัมพันธ์ที่คืบหน้าของทั้งสองคน

   "คุณพี่พัณเจ้าคะ เด็กทั้งสองคนนี้เป็นคู่หมายกันมานาน คราวที่แล้วเกือบจะได้แต่งงานกันอยู่แล้วเชียวแต่แม่พาขวัญดันเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน"

   "นั่นซินะ คราที่แล้วข้าต้องขอโทษด้วยที่ต้องให้ทางฝ่ายของเจ้าจัดงานเสียเปล่า"

   พัณณิตาพูดด้วยน้ำเสียงที่กลุ้มอกกลุ่มใจจนรินทร์ทิพย์เอื้อมมือมากุมไว้พร้อมปลอบโยนอีกฝ่าย

   "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าค่ะคุณพี่ มันเป็นเหตุสุดวิสัย"

   "แล้วเจ้าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกทำไมหรือ"

    จอมทัพถามด้วยความสงสัยทำให้รินทร์ทิพย์จ้องมองไปที่ทั้งสองคนที่นั่งทำแผลกันอยู่ด้วยรอยยิ้มและแววตาที่เปล่งประกาย

   "ท่านเจ้าคุณกับคุณพี่พัณจะว่าอะไรไหมหากน้องนั้น..."

   "อะไรหรือแม่รินทร์"

   พัณณิตาหันมามองด้วยความสงสัยเมื่ออีกฝ่ายทำท่าทางเกรงใจแล้วยื่นใบหน้ามากระซิบข้างหูให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน

   "หากน้องจะขอหาฤกษ์แต่งงานให้ทั้งสองคนอีกครั้งน่ะเจ้าค่ะ"

   "จริงหรือแม่รินทร์ หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ดียิ่งนัก เพราะข้าอยากอุ้มหลานใจจะขาดอยู่แล้ว"

   พัณณิตานั้นพยักหน้าพร้อมกับยิ้มอย่างเห็นดีเห็นงามไปกับอีกฝ่ายจนจอมทัพที่นั่งฟังอยู่นานต้องขัดความตั้งใจของทั้งสองคน

   "แต่ข้าว่าเรื่องการออกเรือนควรชะลอออกไปก่อนเถิด"

   "เหตุใดล่ะเจ้าคะคุณพี่"

   พัณณิตาเอ่ยถามด้วยความสงสัยโดยมีรินทิพย์มองมาอย่างไม่เข้าใจ ทำให้จอมทัพต้องแสร้งถอนหายใจอย่างแรงแถมขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวล

   "พาขวัญพึ่งจมน้ำมาแถมยังลืมเรื่องราวสำคัญหลายเรื่องอีกต่างหาก โดยเฉพาะท่าทีที่มีต่อแทนกานต์นี้แตกต่างไปจากเดิม หากไปเร่งรัดอะไรเกินไปมันจะดูไม่งามหนาแม่พัณ คุณหญิงรินทร์ทิพย์"

   "นั่นซินะคะ น้องก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไปเสียสนิท"

   พัณณิตาขมวดคิ้วแน่นอย่างเป็นกังวลทำให้รินทร์ทิพย์จับแขนของอีกฝ่ายแล้วบีบแน่นอย่างให้กำลังใจ

   "คุณพี่พัณกับท่านเจ้าคุณไม่ต้องกังวลนะเจ้าคะ หากหนูพาขวัญยังไม่พร้อมน้องจะไม่เร่งรัดอะไรทั้งสิ้น"

   "ขอบใจคุณหญิงมากนะที่เข้าใจ"

   จอมทัพเหยียดยิ้มก่อนจะจ้องมองไปยังเด็กสองคนนั้นด้วยความหนักใจ

   'จะออกเรือนกันได้อย่างไรในเมื่อเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งสองคน'





*****{{มีต่อค่ะ}}*****
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 05-07-2019 22:14:58

   "เสร็จแล้วเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญขยับตัวให้ออกห่างจากแทนกานต์ก่อนจะยื่นลูกประคบคืนให้กับร้อยทิพย์และล้างมือในขันสีเงินที่อีกฝ่ายจัดเตรียมเอาไว้ให้อย่างเรียบร้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเห็นแทนกานต์ยังจ้องมองมาที่ตนเองตาไม่กระพริบเช่นเดิมทำให้อดที่จะขมวดคิ้วใส่อีกฝ่ายด้วยความอึดอัด

   "มองแบบนี้คุณพี่เป็นปลากัดมาเกิดหรือเจ้าคะ"

   "ปลากัด?"

   แทนกานต์เลิกคิ้วขึ้นสูงแถมทำหน้าตาแปลกใจมาให้อีกต่างหาก

    "เจ้ารู้จักปลากัดที่อยู่แถวบ่อนพนันด้วยหรือพาขวัญ"

   "เอ่อ..." จอมขวัญชะงักพร้อมกัดริมฝีปากตนเองอย่างลืมตัว "พอดีพี่สร้อยเคยเล่าให้ฟังน่ะ"

   "เจ้าคะ?"

    สร้อยทิพย์ทำท่าทางงุนงงแต่ก็ยอมเออออไปกับเจ้านายของตนเอง

  "อ๋อ! สร้อยเล่าให้คุณหนูฟังเองเจ้าค่ะ"

   "ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบไล้ริมฝีปากบางของจอมขวัญตรงหน้าอย่างหลงไหล

   "อย่ากัดปากซิ"

   "อะแฮ่ม"

   จอมทัพแกล้งไอขึ้นมาขัดจังหวะทำให้แทนกานต์ยอมผละมือออกมาพร้อมกับทำหน้าตาเรียบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นแตกต่างจากจอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้พ่อตนเองอย่างออดอ้อน เมื่อเห็นแบบนั้นพัณณิตาจึงหันมาชวนรินทร์ทิพย์ที่นั่งส่งยิ้มแห้งมาให้ตนเอง

   "รีบกลับเรือนหรือไม่แม่รินทร์"

   "ไม่นะเจ้าคะคุณพี่พัณ กว่าคุณพี่แทนนิษฐ์จะกลับมาจากราชการก็ช่วงหัวค่ำนั่นแหละเจ้าค่ะ"

   รินทร์ทิพย์ตอบกับด้วยรอยยิ้มพร้อมรับน้ำชาที่บ่าวรับใช้รินให้มาดื่มอย่างกระหายก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินคำชวนจากคุณหญิงเจ้าของเรือน

   "ถ้าอย่างนั้นอยู่รอทานอาหารเย็นพร้อมกันก่อนไหมแม่รินทร์ข้าจะได้สั่งให้บ่าวไพร่จัดเตรียมสำรับมาให้"

   "น้องเกรงใจเจ้าค่ะ"

   รินทร์ทิพย์ตอบกลับอย่างเกรงอกเกรงใจทำให้คุณหญิงพัณณตาอมยิ้มพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน

   "ไม่ต้องเกรงใจหรอก...พ่อแทนกับแม่พาขวัญจะได้สนิทกันเร็วขึ้น"

   "ถ้าอย่างนั้นมื้อนี้น้องขอฝากท้องไว้ที่เรือนคุณพี่พัณนะเจ้าคะ"

   รินทร์ทิพย์ยิ้มหวานออกมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ลูกชายตนเองอย่างเจ้าเล่ห์ ทำให้พัณณิตาดีอกดีใจหันไปสั่งพวกบ่าวรับใช้เป็นการใหญ่

   "สำหรับแม่รินทร์ได้อยู่แล้วล่ะจ้ะ  นังพริ้มไปบอกพวกโรงครัวว่าให้เตรียมอาหารเพิ่มอีกสองสำรับ"

   "เจ้าค่ะคุณหญิง"

   "ส่วนนังสร้อยไปเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงบ่าวรับใช้ของคุณหญิงรินทร์ทิพย์หน่อยไป เสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยขึ้นมารับใช้ลูกข้า"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายและสร้อยทิพย์เดินลงไปตรงเรือนครัวอีกครั้งเพื่อจัดเตรียมตามคำสั่งของพัณณิตาอย่างรีบร้อน เมื่อเห็นดั่งนั้นพลอยปภัสที่นั่งเงียบอยู่นานจึงหันไปพูดกับพ่อตนเองด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

   "คุณพ่อเจ้าขา ถ้าอย่างนั้นพลอยขอตัวก่อนนะเจ้าคะพอดีรู้สึกไม่ค่อยสบายอยากพักผ่อนเจ้าค่ะ"

   "ตามสบายเถอะแม่พลอย อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ"

   จอมทัพตอบอีกฝ่ายอย่างตามใจโดยไม่คิดจะรั้งเอาไว้เลยซักนิดทำให้พลอยปภัสกำมือแน่นแต่แสร้งยิ้มหวานกลับไปให้พ่อตนเองอย่างเอาใจ

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   พลอยปภัสยกมือไหว้ทุกคนแล้วรีบเดินเข้าห้องไปกับฝ้ายบ่าวคนสนิท พยายามกลั้นหายใจไม่ให้สูดดมกลิ่นเหม็นของอาหารพวกนั้นที่พริ้มพรายและสร้อยทิพย์ต่างพาบ่าวรับใช้ถือขึ้นมาบนเรือนมากมายหลากหลายชนิด

   หลังจากจัดโต๊ะเสร็จแล้วพริ้มพรายจึงเดินเข้ามานั่งใกล้พัณณิตาแล้วก้มหน้าลงไปเกือบติดพื้นเช่นเดิม

   "บ่าวให้คนจัดโต๊ะอาหารเสร็จแล้วเจ้าค่ะคุณหญิง"

   "ดีมากนังพริ้ม"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันมาชวนทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน

   "ถ้าอย่างนั้นเราไปทานมื้อเย็นกันเถอะค่ะ"

   "ไปซิ ข้าก็เริ่มหิวขึ้นมาพอดีเลย"

   จอมทัพยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำหน้าไปพร้อมพัณณิตาและรินทร์ทิพย์ปล่อยให้แทนหานต์และจอมขวัญเดินรั้งท้ายอยู่เพียงแค่สองคนทำให้เวลานั่งทานอาหารก็ต้องนั่งใกล้กันอยู่ดี ทำให้จอมขวัญหน้าตาบึ้งตึงเล็กน้อยด้วยความอึดอัดจนอดที่จะบ่นกับตนเองไม่ได้

   "ทำไมต้องมานั่งใกล้กันด้วยนะ"

   "บ่นอะไรอยู่คนเดียว"

   แทนกานต์หันมามองด้วยรอยยิ้มที่มุมปากทำให้จอมขวัญยิ้มแห้งและส่ายหน้าให้อีกฝ่าย

   "เปล่าเจ้าค่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นกินซิกุ้งย่างของโปรดเจ้าข้าจำได้"

   แทนกานต์ตักกุ้งย่างที่หั่นพอดีคำมาให้อย่างอยากจะเอาอกเอาใจโดยไม่ให้ผู้เป็นแม่ต้องสั่ง   แต่จอมขวัญกลับนั่งนิ่มไม่ยอมตักมาทานแถมทำหน้าตาซีดเซียว

   "เอ่อ..."

   "ทำไมไม่ทานล่ะลูกพาขวัญ"

   พัณณิตาถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นลูกของตนเองนั่งนิ่งไม่ยอมทานซักที ซึ่งท่าทางแบบนั้นของอีกฝ่ายทำให้แทนกานต์ทำหน้าสลดลงด้วยท่าทางรู้สึกน้อยใจนิดหน่อย

   "หรือเจ้ารังเกียจที่ข้าตักอาหาร..."

   "ไม่ใช่นะเจ้าคะ" จอมขวัญรีบยกมือขึ้นโบกไปโบกมาอย่างปฏิเสธเพราะกลัวอีกฝ่ายเข้าใจผิดก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  "คือ...ข้าแพ้กุ้งเจ้าค่ะ"

   "แพ้กุ้ง?"

   คำตอบนั้นทำให้ทุกคนบนเรือนหันมามองหน้ากันด้วยความงุนงงเพราะเมื่อก่อนอีกฝ่ายมักรบเร้าจะกินกุ้งเสมอ ยกเว้นจอมทัพที่หันมาถามด้วยความเป็นห่วง

   "จ...เจ้าเริ่มแพ้กุ้งตั้งแต่เมื่อไหร่หรือลูก"

   "หลังจากจมน้ำน่ะเจ้าค่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องกินนะลูก"

   พัณณิตาลูบผมจอมขวัญอย่างอ่อนโยนก่อนจะหันไปสั่งสร้อยทิพย์ที่นั่งหมอบด้านหลัง

   "นังสร้อยเปลี่ยนข้าวจานใหม่ให้ลูกช้าเร็ว!"

   "เจ้าค่ะนายแม่" สร้อยทิพย์รับจานข้าวมาส่งให้บ่าวที่นั่งอยู่ด้านหลังก่อนจะวางจานข้าวใบใหม่ตรงหน้าเจ้านายของตนเอง "ข้าวเจ้าค่ะคุณหนู"

   "ขอบใจนะพี่สร้อย"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะหันมามองแทนกานต์ที่หันมาพูดด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิดเล็กน้อย

    แต่...ทำไมต้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขนาดนั้นด้วยหรอ??

  "เมื่อครู่ข้าขอโทษเจ้าด้วยนะ"

   "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"

   "ถ้าเช่นนั้น ปลาสลิดทอดนี่เจ้าคงทานได้ซินะใช่ไหม"

   "ขอบคุณเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานไปให้เป็นครั้งแรกก่อนจะลงมือตักปลาสลิดทอดที่อีกฝ่ายตักให้มาทาน  ทำให้แทนกานต์อมยิ้มเล็กน้อยพร้อมขยับตัวเข้าไปใกล้โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวอย่างแนบเนียนและคอยตักอาหารให้ตลอดเวลา

    จอมขวัญทานอาหารหลากหลายตรงหน้าอย่างอร่อยที่มีทั้ง ปลาสลิดทอด น้ำพริกมะม่วง สะเดาน้ำปลาหวาน ปลาดุกย่าง พะแนงไก่ ผักผลไม้แกะสลัก โดยที่หลีกเลี่ยงไม่กินกุ้งย่างที่ปลอกเปลือกเรียบร้อยพอดีดีคำซึ่งถูกย้ายไปอยู่ตรงหน้าจอมทัพเรียบร้อย  และหลังจากกินของคาวเสร็จแล้วก็ต้องมีของหวาน ทองหยิบ ทองหยอด ขนมกระเช้าสีดา

   จอมขวัญเงยยหน้าขึ้นไปสบตากับจอมทัพและยิ้มหวานออกมาเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีความสุข ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่จอมขัญได้ทานอาหารเย็นพร้อมกันกับคนในครอบครัวหลังจากที่อยู่คนเดียวมาเป็นปี ก่อนจะสะดุ้งและหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู

   "เป็นอะไรรึพาขวัญ"

   "เปล่า" จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมกับหันมามองและเอียงคออย่างสงสัย "ทำไมหรือ"

   "เห็นเจ้าทำหน้าเศร้าแล้วดูไม่เหมาะ"

   เอื้อมมือมาจับตรงบริเวณตาแล้วลูบไล้ลงมาตามแก้มก่อนจะหยุดมือที่ตรงใต้คาง แอบแตะตรงมุมปากอมชมพูแดงนั่นอย่างแผ่วเบาพร้อมกับเหยียดยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อยให้อีกฝ่ายเห็นคนเดียว

   "เจ้ายิ้มแล้วงามกว่าเยอะ"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญชะงักก่อนจะส่งรอยยิ้มแห้งมาให้อีกฝ่ายแต่แอบกำมือแน่นด้วยความหงุดหงิดและอึดอัดที่โดนแกล้งตลอดเวลา

   'หลวงแทนกานต์ ทำไมเป็นคนขี้แกล้งแบบนี้นะ!'





   หลังจากทานอาหารและขนมหวานเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งสามคนพร้อมบ่าวไพร่จึงเดินลงมาส่งแขกทั้งสองที่ท่าน้ำหน้าเรือน

   รินทร์ทิพย์ยกมือขึ้นมาจับมือพัณณิตาพร้อมพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

   "น้องดีใจมากเลยที่วันนี้ได้มาคุยกับคุณพี่พัณตั้งหลายเรื่อง แล้ววันหลังน้องจะมาเยี่ยมคุณพี่ให้บ่อยขึ้นนะเจ้าคะ"

   "ข้าเองก็อยากคุยกับเจ้าหลายเรื่องเหมือนกัน แต่วันนี้เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะแม่รินทร์"

   พัณณิตายิ้มหวานไปให้อีกฝ่ายเช่นเดียวกัน ในขณะที่แทนกานต์จะยกมือขึ้นไหว้จอมทัพพร้อมกับเหลือบมองจอมขวัญที่ยืนอยู่ด้านข้างเล็กน้อยก่อนจะหันมาพูดกับคนที่เป็นทั้งลุง เจ้านาย และว่าที่พ่อตาของตนเองอย่างเอาใจ

   "คราวหน้าหากข้ามีปัญหาเรื่องงานอะไร ข้าขอมาปรึกษากับคุณลุงนะขอรับ"

   "คนอย่างเจ้ามีปัญหาเรื่องงานด้วยรึพ่อแทน" จอมทัพหัวเราะในลำคออย่างรู้ทันอีกฝ่าย "แต่เอาเถอะข้าพร้อมที่จะให้คำแนะนำกับเจ้าเสมอ"

   "ขอบคุณขอรับคุณลุง"

   แทนกานต์ยกมือไหว้อย่างนอบน้อมก่อนจะหันไปมองจอมขวัญด้วยสายตาที่แสดงออกมาอย่างหวานเยิ้มแม้จะพยายามปิดก็ตาม

   "ข้ากลับก่อนนะพาขวัญ"

   "ข้าไหว้เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยกมือขึ้นมาไหว้แต่ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายประกบมือตนเองไว้อย่างรวดเร็วทำให้ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองอย่างสงสัยก่อนจะพบรอยยิ้มที่ส่งมาให้อย่างน่าหมั่นไส้

   "คนกันเองไม่ต้องไหว้ตลอดเวลาก็ได้ เพราะต่อไปนี้เราอาจจะได้เจอหน้ากันทุกวัน"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญทำหน้าตากลืนไม่เข้าคายไม่ออกและพยายามดึงมือออกแต่อีกฝ่ายไม่ยอมปล่อยจนกระทั่งอีกฝ่ายนั้นชะงักและละมือออกมาอย่างเสียดายเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนขัดขึ้นมา

   "เรือมาแล้วขอรับคุณหลวง"

   "อ้ายเมือง เองจะมาทำไมตอนนี้หะ"

   พัณณิตาหันไปดุบ่าวรับใช้ของท่านเจ้าคุณอย่างขัดใจเช่นเดียวกันกับรินทร์ทิพย์ที่เชิดหน้าขึ้นอย่างไม่พอใจ

   "ข้าบอกเองแล้วไม่ใช่รึว่าอย่าเสนอหน้ามาให้ข้าเห็นอีก"

   "ไม่ต้องไปโทษอ้ายเมืองมันหรอกแม่รินทร์"

   จอมทัพเอ่ยขัดขึ้นมาพร้อมวางมือบนหัวของเมืองแล้วลูบอย่างแผ่วเบาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเมตตาและเอ็นดู

    "ข้าเป็นคนสั่งให้มันไปจัดเตรียมเรือให้เจัาเองแหละ"

   "ถ้าเช่นนั้นน้องลาแล้วเจ้าค่ะท่านเจ้าคุณ คุณพี่พัณ" รินทร์ทิพย์ยกมือขึ้นมาไหว้ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบผมจอมขวัญอย่างเอ็นดู "น้ากลับแล้วนะจ๊ะแม่พาขวัญ"

   "ข้าไหว้เจ้าค่ะคุณน้า"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมยกมือขึ้นมาไหว้อีกฝ่ายอย่างนอบน้อม ก่อนที่รินทร์ทิพย์จะแตะแขนลูกชายตนเองที่จ้องมองอีกฝ่ายไม่ละสายตา

   "กลับเรือนได้แล้วพ่อแทน"

   "ขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์ตอบรับพร้อมประคองแม่ตนเองให้เดินลงไปนั่งบนเรืออย่างระมัดระวังและหลังจากที่ลงไปนั่งเรียบร้อยแล้วแสงจึงปลดเชือกก่อนจะทัดเรือให้ออกจากท่าน้ำและพายเรือออกไปจากตรงนั้นเพื่อกลับบ้าน  โดยที่แทนกานต์จ้องมองจอมขวัญที่ยืนส่งอยู่ตรงที่าน้ำอย่างไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายแอบแลบลิ้นมาให้แล้วรีบหันหลังเดินหายขึ้นเรือนไปพร้อมกับบ่าวรับใช้คนสนิททันทีทำให้ตนเองแอบหัวเราะในลำคอเล็กน้อนแต่ก็ยังจ้องมองอยู่แบบนั้นจนกระทั้งเรือพายผ่านพ้นโค้งน้ำของเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพไปไกลพอสมควรแล้วรินทร์ทิพย์หันมาพูดกับแทนกานต์ด้วยแววตาที่ระยิบระยับ

   "มองจนคอจะหักแล้วกระมั้งพ่อแทน"

   "คนงามสมควรแล้วที่จะถูกจับตามองขอรับ"

   "ตายแล้ว! นี่พ่อแทนลูกแม่เอ่ยปากชมน้องอย่างนั้นหรือ"

   รินทร์ทิพย์ยกมือขึ้นมาทาบอกด้วยท่าทางตกใจแต่กลับยิ้มกว้างออกมาอย่างตั้งใจล้อเลียนลูกชายตน

   "เจอกันครานี้ถึงเนื้อถึงตัวน้องมากขึ้นกว่าเดิมหนาพ่อแทน เป็นอันใดเดี๋ยวนี้หัดคิดถึงน้องเองโดยไม่ต้องให้แม่บังคับแล้วรึ"

  "ขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์แค่ยิ้มที่มุมปากตอบรับเท่านั้นโดยไม่ได้แก้ตัวอะไรเพิ่มเติมจนรินทร์ทิพย์ต้องยิ้มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

   "เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้นี่หน่า แต่ช่างเถอะแม่เตรียมที่จะสู่ขอแม่พาขวัญให้เจ้าอยู่แล้วทว่าท่านเจ้าคุณกลับห้ามเอาไว้เสียก่อน น่าเสียดาย"

   "ไม่เป็นไรไม่ต้องรีบหรอกรับคุณแม่"

   แทนกานต์ส่ายหน้าพร้อมกับหยิบถ้วยชาขึ้นมาจิบอย่างอารมณ์ดี

   "เพราะข้าเองมีบางอย่างที่ต้องพิสูจน์เช่นเดียวกัน"

   "พิสูจน์เรื่องอันใดหรือจ๊ะพ่อแทน"

   รินทร์ทิพย์เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้อยากเห็นแต่แทนกานทำได้เพียงแค่หัวเราะในลำคอและเหยียดยิ้มออกมาตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์


   "ความลับขอรับ"




**************************************


งุ๊ยยย~

พ่อแทนตอนนี้รุกยังไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ก็นะ! จอมขวัญน่ารักนี่หน่า

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 05-07-2019 23:26:01
 :กอด1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 06-07-2019 00:26:52
ตายแล้ว งานนี้จะหลุดโป๊ะไหมเนี่ย!!!
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 06-07-2019 13:36:39
แสดงว่าแทน ชอบพาขวัญที่ไม่มีหน้าอก  :a5: o22
งั้นแทน ก็เป็นชายชอบชาย   :impress2:
ทั้งพาขวัญ และขอมขวัญมีเสน่ห์มาก
มึคนมาชอบพอ ติดพัน ทั้งจักรวิน ทั้งแสงหล้า  :-[
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
ขอแก้ที่ผืดนะ
"ความลับขอครับ"-----ขอรับ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 07-07-2019 06:56:35
พาขวัญมีแต่คนมารุมจีบ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 5}}} [UP 05/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 07-07-2019 12:20:29
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-07-2019 22:17:37
เรือนหลังที่ 6





   หลังจากที่อาบน้ำขัดเนื้อขัดตัวตรงท่าน้ำเสร็จแล้วจอมขวัญก็มานั่งนิ่งอยู่หน้ากระจกปล่อยให้สร้อยทิพย์จับประแป้ง แต่งเนื้อแต่งตัวและหวีผมยาวสวยนั้นให้เข้ารูปเข้าทรงเพื่อเตรียมตัวสำหรับเข้านอน

   จอมขวัญจ้องมองเงาตัวเองในกระจกเจอภาพของใบหน้าสวยที่สะท้อนกลับมานั้นมองกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกชินซักที...เหมือนเงาที่สะท้อนในกระจกนั้นไม่ใช่ตนเอง

   "พี่สร้อย"

   "เจ้าคะคุณหนู" 

   สร้อยทิพย์หยุดมือจากการหวีผมแล้วลงไปนั่งพับเพียบบนพื้นอย่างถ่อมตัวก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

   "ผมหน้าตาเหมือนคุณหนูพาขวัญจริงหรอครับ"

   "จริงซิเจ้าคะ" สร้อยทิพย์ยิ้มพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาชื่นชม "ทั้งรูปร่างหน้าตาเอยก็สะสวยงดงามราวกับเป็นคนเดียวกันเลยเจ้าค่ะ"

   "แล้วสวยแค่ไหนล่ะ"

   "สวยมากจนเป็นที่เรื่องลือในพระนครเลยเจ้าค่ะ"

   "ขนาดนั้นเลยหรอ"

   จอมขวัญทำหน้าตาตกใจพร้อมเหลือบมองเงาตัวเองในกระจกอีกหลายรอบ

   ...สวยจริงนั่นแหละ...

   "ใช่น่ะซิเจ้าคะ ผู้ชายคนไหนก็อยากแต่งงานด้วยทั้งนั้นล่ะเจ้าค่ะ"

   "สวย...สวยหรอ?"

    จอมขวัญทำหน้าตาคิดหนักก่อนจะดีดนิ้วและยิ้มหวานออกมาเมื่อนึกอะไรบางอย่างออกจนสร้อยทิพย์สะดุ้งมองมาด้วยความตกใจ

    "อ๊ะ! ใช่แล้ว!"

   "อะไรหรือเจ้าคะคุณหนู"

   "ผมนึกออกแล้วว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี"

   จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะมองไปรอบห้องและถามด้วยสีหน้าจริงจัง

   "แต่พี่สร้อยครับ ที่นี่พอจะมีสมุดกับดินสอไหม"

   "มีเจ้าค่ะ คุณหนูพาขวัญน่ะเก็บไว้เยอะมากเดี๋ยวสร้อยไปดูให้นะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เดินไปรื้อหีบที่ตั้งอยู่หลบมุมหลังมานสีขาวตรงหน้าต่างก่อนจะหยิบทั้งสมุดและดินสอออกมาให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานและยื่นมือไปรับอย่างชอบอกชอบใจ

   "สมัยนี้มีสมุดกับดินสอแล้วซินะ"

   "หากจะซื้อสมุดต้องไปที่ตลาดบ้านสมุด หากจะซื้อดินสอต้องไปที่ตลาดบ้านดินสอ เจ้าค่ะคุณหนู"

   "ยุ่งยากจัง"

   จอมขวัญปากยื่นออกมาด้วยความไม่คอยชอบใจเท่าไหร่ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้สร้อยทิพย์ด้วยแววตาจริงจัง

   "เอาล่ะ! เรามาเริ่มการสอบสวนกันเถอะพี่สร้อย"

   "ห๊ะ! สวนอะไรเจ้าคะ"

  "สอบสวนจ้ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานแอบหัวเราะเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตามึนงง

    "ช่างเถอะแค่พี่สร้อยตอบคำถามผมมาก็พอ"

    "อ่า...เจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์พยักหน้ารับแม้จะยังงุนงงอยู่ก็ตาม

   "คุณหนูพาขวัญอายุเท่าไหร่"

   "18 เจ้าค่ะ"

   "หืม? อายุเท่ากันกับผมเลย"

   จอมขวัญขมวดคิ้วผิดกับสร้อยทิพย์ที่ยกมือขึ้นมาทาบอกอย่างตกใจ

   "บังเอิญจังเลยนะเจ้าคะ"

   "แล้วเหตุใดถึงยังไม่แต่งงานล่ะ อายุตั้ง 18 แล้วไม่ใช่หรือ"

   เท่าทีจำได้ในหนังสือที่อ่านมาคนสมัยก่อนแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยกันอยู่นี่หน่า

   "คุณหนูพาขวัญไม่ยอมไปดูตัวเจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้น "พอผู้ชายมาหาที่เรือนก็จะทำกริยาไม่งามใส่จนคนพวกนั้นหนีเตลิดไปเลยเจ้าค่ะ"

   "หือ? แสบเอาเรื่องเหมือนกันนะ"

   จอมขวัญแอบหัวเราะในลำคออย่างขบขันก่อนจะฟังสิ่งที่สร้อยทิพย์เล่ามาอย่างตั้งใจ

   "จนกระทั่งเมื่อช่วงสองปีที่แล้วคุณหนูพาขวัญก็ยอมดูตัวกับหลวงแทนกานต์ที่ตอนนั้นอยู่ในตำแหน่งออกหมื่นเจ้าค่ะ"

   "แสดงว่าสนิทกับคุณหลวงคนนี้มาก...ไม่ค่อยสนิทกับผู้ชายคนอื่นใช่ไหม"

   "แต่เท่าที่สร้อยเห็นน่ะคุณหนูพาขวัญเข้ากันได้ดีกับผู้ชายหลายคนเหมือนกันนะเจ้าคะ ใครเห็นก็ต้องหลงรักกันทั้งนั้น"

   "ขนาดนั้นเลยหรอพี่สร้อย"

   จอมขวัญชะงักมือที่กำลังเขียนอยู่ก่อนจะทำหน้าตาท่าทางคิดหนัก

   "แล้วคุณหนูพาขวัญของพี่สนิทกับผู้ชายคนไหนเป็นพิเศษนอกจากคู่หมั้นคู่หมายน่ะ"

   "ที่พิเศษหน่อยเห็นจะเป็นออกขุนจักรกวินเจ้าค่ะ"

   "แล้วหมื่นแสงหล้าล่ะ"

   จอมขวัญถามด้วยความสงสัยเพราะอีกฝ่ายเองก็ทำท่าทางสนิทสนมและหวงพอสมควร

   "รายนั้นเป็นฝ่ายเข้าหาตลอดแต่คุณหนูไม่ค่อยอยากจะยุ่งด้วยเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ"

   "แต่ในเมื่อยอมดูตัวกับหลวงแทนกานต์" จอมขวัญเอาดินสอขึ้นมากัดเบาอย่างเผลอตัวเพราะกำลังคิดอะไรบางอย่างที่น่าสงสัย "แล้วทำไมถึงยังไม่ยอมออกเรือนด้วยซักทีล่ะ"

   "อันนั้นสร้อยเองก็ไม่แน่ใจนะเจ้าคะ แต่คุณหนูพาขวัญนั้นก็ขอท่านเจ้าคุณเลื่อนงานแต่งไปหลายรอบด้วยเจ้าค่ะ"

   "อ๋อ..." จอมขวัญพยักหน้า "แล้วคุณหลวงแทนกานต์กับพาขวัญสนิทกันมากไหม"

   "ตามประสาคู่หมั้นคู่หมายเจ้าค่ะ แต่ดูเหมือนคุณหลวงจะไว้ตัวมากกว่าวันนี้นะเจ้าคะ วันนี้สร้อยตกใจแทบแย่ตอนที่หลวงแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาน่ะเจ้าค่ะ"

   "ผมเองก็ตกใจเหมือนกันแหละ"

   จอมขวัญปากยื่นพร้อมกับเขียนข้อความลงในสมุดอย่างคล่องแคล่วจนสร้อยทิพย์อดมองด้วยสายตาชื่นชมไม่ได้

   "คุณหนูจอมขวัญเขียนหนังสือเก่งจังเลยเจ้าค่ะ"

   "ผมเรียนมาตั้งแต่เด็กนี่ครับ"

   "สร้อยก็เห็นคุณหนูพาขวัญชอบเขียนหนังสือเหมือนกันนะเจ้าคะ"

   คำพูดของสร้อยทิพย์นั้นทำให้จอมขวัญเงยหน้าขึ้นมาเลิกคิ้วสวยมองอย่างสนอกสนใจ

   "แล้วหนังสือเล่มนั้นอยู่ไหนล่ะครับ"

   "ไม่ทราบเจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ส่ายหน้า "หนังสือเล่มนั้นหายไปพร้อมกับคุณหนูพาขวัญเจ้าค่ะ"

   "อย่างนั้นหรอ"

   จอมขวัญทำหน้าตาเสียดายก่อนจะจดบันทึกอะไรอีกนิดหน่อยก่อนจะยอมวางสมุดลงตรงโต๊ะที่วางชาแล้วเดินตามสร้อยทิพย์มายังเตียงนอนที่จัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย

   "นอนเถอะเจ้าค่ะคุณหนู วันพรุ่งสร้อยจะพาคุณหนูไปเดินเที่ยวตรงตลาดน้อยดีไหมเจ้าคะ"

   "จริงนะพี่สร้อย"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มแต่โดยดีปล่อยให้สร้อยทิพย์จัดการห่มผ้าและคลุมม่านสีขาวลงมาปิดก่อนจะดับเทียนแถวหัวเตียงแล้วหลบไปนอนแถวประตูห้อง

   จอมขวัญนอนกระพริบตาซักพักก่อนจะหาวออกมาอย่างง่วงนอน ระหว่างนั้นก็คิดไม่ตกเกี่ยวกับผู้ชายทั้งสามคน

   แทนกานต์ จักรกวิน แสงหล้า

   เกี่ยวข้องอะไรกับการหายตัวไปของพาขวัญรึเปล่านะ... คิดไปคิดมาก็เผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย





   จอมขวัญรีบตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่ออาบน้ำและแต่งตัวซึ่งการแต่งตัววันนี้ดูผิดแปลกไปนิดหน่อยเพราะวันนี้สร้อยทิพย์นั้นให้ตนเองสวมเสื้อแขนกระบอกยาวจรดแขนสีครีมเข้ากันกับสไบสีขมพูอ่อนที่ห่มแบบเฉียง และนุ่งผ้าซิ่นสีแดงมืดลวดลายสีทอง พร้อมกับเครื่องประดับที่เต็มยศเหมือนเดิมทำให้จอมขวัญมองเงาตัวเองในกระจกอย่างชอบอกชอบใจ

   "ชุดเสื้อแขนยาวแบบนี้ใส่สบายดีนะครับ"

   "ชุดเวลาใส่ออกไปข้างนอกต้องใส่แขนยาวน่ะเจ้าค่ะคุณหนู" สร้อยทิพย์ยิ้มหวานกับภาพที่ปรากฏตรงหน้า "แต่งแบบนี้สวยไปอีกแบบนะเจ้าคะคุณหนู ยิ่งดูยิ่งเหมือนกันไม่มีผิด"

   "ผมจะดีใจกว่านี้ถ้าพี่ชมว่าผมหล่อนะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมเหลือบมองสร้อยทิพย์ที่หัวเราะออกมาอย่างขบขัน

   "คุณหนูนี่พูดอะไรตลกจังเลยนะเจ้าคะ คำว่าสวยเหมาะกับคุณหนูที่สุดแล้วเจ้าค่ะ"

   "ผมไม่คุยกับพี่สร้อยแล้ว ไปขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า"

   จอมขวัญลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องทันทีทำให้สร้อยทิพย์แอบอมยิ้มแล้วรีบเดินตามหลังไปอย่างรวดเร็ว

   "ท่านเจ้าคุณกับคุณหญิงอยู่ตรงห้องโถงกลางเจ้าค่ะ"

   "งั้นไปกันเถอะพี่สร้อย"

   จอมขวัญหันมายิ้มหวานแล้วเดินตรงไปยังห้องโถงกลางที่มีพัณณิตากำลังนั่งร้อยมาลัยและจอมทัพกำลังอ่านหนังสืออยู่ข้างกันทำให้พัณณิตาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างสนอกสนใจ

   "แต่งตัวแบบนี้จะออกไปไหนหรือลูกพาขวัญ"

   "ลูกจะมาขออนุญาติคุณพ่อคุณแม่ไปเดินเที่ยวตลาดน้อยเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมทำสายตาส่งมาให้ทั้งสองคนอบ่างออดอ้อน

   "เอาซิ" จอมทัพอนุญาติพร้อมยกมือขึ้นมาลูบผมอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดี "ตามใจเถิดเพราะอยู่บ้านตลอดเวลาเจ้าคงจะเบื่อแย่"

   "ขอบคุณเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างเอาใจก่อนจะชะงักเมื่อพัณณิตานั้นห้ามด้วยความเป็นห่วง

   "แต่แม่ไม่อยากให้เจ้าไปเลย"

   "ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ" จอมขวัญหันไปมองสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่ด้านหลัง "ข้ามีพี่สร้อยไปด้วยทั้งคน ใช่ไหมพี่สร้อย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ตอบรับทันทีแม้จะยังงงอยู่ก็ตาแต่พัณณิตาชักสีหน้าอย่างขัดใจ

   "ถึงอย่างนั้นก็เถอะแม่ก็ไม่ไว้ใจนังสร้อยอยู่ดีนั่นแหละ"

   "คุณแม่เจ้าขา~"

   จอมขวัญขยับเข้ามากอดพร้อมซบไหล่พัณณิตาอย่างออดอ้อนจนอีกฝ่ายพยักหน้าอย่างตามใจ

   "เอาเถอะ ถ้าเจ้าอยากไปมากนักงั้นก็เอานั้งพริ้มกับอ้ายเมืองไปด้วยก็แล้วกัน"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   "อ้ายเมืองไปเตรียมเรือไป"

   พัณณิตาหันไปสั่งเมืองที่รีบลุกขึ้นเดินลงไปจากเรือนเพื่อไปเตรียมเรือทันที ก่อนจะหันไปสั่งบ่าวคนสนืททั้งสองคนที่นั่งก้มหน้าแทบจะติดพื้น

   "ส่วนนั่งพริ้มกับนังสร้อยดูแลลูกข้าให้ดีนะรู้ไหม"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายและสร้อยทิพย์รับคำอย่างนอบน้อมก่อนที่จอมขวัญจะหอมแก้มพัณณิตาและจอมทัพอย่างเอาอกเอาใจ

   "งั้นลูกไปก่อนนะเจ้าคะ"

   "ระวังตัวเองด้วยนะลูก"

   พัณณิตาชะเง้อมองลูกตนเองที่เดินลงไปจากเรือนด้วยความเป็นห่วงโดยมีจอมทัพลูบหลังภรรยาด้วยแววตาที่อ่อนโยน

   "พาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก มีนังพริ้ม นังสร้อย กับอ้ายเมืองไปด้วยแบบนั้น เจ้าสบายใจเถิดแม่พัณ"

   "เจ้าค่ะคุณพี่"

   พัณณิตาตอบรับพร้อมถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นห่วง

   ส่วนจอมขวัญรีบเดินลงมาตรงไปยังท่าน้ำก็พบกับเมืองที่เตรียมเรือไว้เรียบร้อยพร้อมกับยื่นมือมาให้ตนเองจับด้วยความเป็นห่วง

   "ระวังนะขอรับคุณหนู"

   "ขอบใจนะพี่เมือง"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจับมือเกร่งนั้นแน่นก่อนจะก้าวลงไปนั่งบนเรืออย่างระมัดระวัง หลังจากขึ้นเรือกันเรียบร้อยทุกคนแล้วเมืองก็ดันเรือออกจากท่าและตั้งใจพายเรือไปตามเส้นทางสายน้ำเพื่อมุ่งตรงไปยังตลาดน้อยที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร ซึ่งจอมขวัญหันซ้ายแลขวามองบรรยากาศรอบกายด้วยความตื่นเต้นดีใจที่จะได้นั่งเรือไปเที่ยวตลาดครั้งแรก

   โดยที่ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของพลอยปภัสที่แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างห้องนอนบนเรือนด้วยแววตาจับผิด

   "พวกนั้นจะไปไหนกันน่ะนังฝ้าย"

   "ฝ้ายได้ยินมาว่ากำลังจะไปเที่ยวตลาดน้อยเจ้าค่ะ"

   ฝ้ายตอบผู้เป็นนายตนเองขณะที่กำลังขัดเครื่องประดับสีเงินที่เริ่มดำอย่างตั้งอกตั้งใจซึ่งพอได้ฟังแบบนั้นพลอยปภัสก็เหยียดยิ้มตรงมุมปากเมื่อคิดอะไรบางอย่างออก

   "ตลาดน้อยอย่างนั้นหรือ หึ! นังฝ้ายเองไปตามอ้ายนพให้เตรียมเรือไป"

   "คุณหนูจะไปไหนหรือเจ้าคะ"

   ฝ้ายชะงักมือแล้วเงยหน้าขึ้นไปถามด้วยความสงสัยทำให้พลอยปภัสหน้าตาบึ้งตึงใส่ด้วยความขัดใจ

   "นังโง่! ไปตลาดน้อยน่ะซิ"

   "ไปทำไมเจ้าคะ!?" ฝ้ายทำท่าทางตกอกตกใจเมื่อคุณหนูของตนนึกยังไงอยากไปเที่ยวตลาด

   "ไม่ต้องถามอะไรมากทำตามที่ข้าสั่งก็พอ"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบรับพร้อมรีบเดินออกจากห้องทันทีทิ้งให้พลอยปภัสยืนมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าและแววตาที่ร้ายกาจ





    หลังจากพายเรือมาได้ไกลพอสมควรก็ใกล้ถึงบริเวณคลองสวนพูล ซึ่งตลาดน้อยนั้นตั้งอยู่ตั้งแต่เชิงสะพานในไก่ตะวันออกยาวไปจรดถึงหัวมุมพระนครบริเวณประตูช่องกุดซึ่งมีท่าเรือขนาดใหญ่และมีเรือจ้างข้ามไปวัดพระนางเชิง

   "ตรงนั้นวัดพระนางเชิงใช่ไหมพี่สร้อย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   "งดงามยิ่งนัก"

   วัดพระนางเชิง พระอารามหลวงชั้นโท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณลำน้ำที่เป็นวังวนน้ำเชี่ยว สามารถมองเห็นเด่นสง่าได้แต่ไกล ความงดงามแลความศักดิ์สิทธิ์นั้นทำให้จอมขวัญยิ้มหวานและยกมือขึ้นไหว้ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

'เป็นบุญตาของจอมขวัญยิ่งนักที่ได้มาเห็นของจริงแบบนี้'

   "คุณหนูเจ้าคะด้านหน้านั้นก็จะถึงท่าเรือจ้างข้ามไปวัดพนัญเชิงตรงประตูช่องกุดแล้วเจ้าค่ะ"

   "ประตูช่องกุดหรอ"

   จอมขวัญชะโงกหน้ามองประตูขนาดเล็กสีขาวซึ่งถูกเจาะไว้เป็นระยะเท่ากันบริเวณรอบกำแพงพระนครถึงหกสิบเอ็ดประตู ซึ่งภาพตรงหน้างดงามมาก มีมีชาวบ้านเดินกันตรงท่าเรือที่ทำจากแพไม้มากมายครึกครื้นยิ่งทำให้จอมขวัญหันซ้ายหันขวาด้วยความตื่นเต้นไปหมดก่อนจะไปสะดุดตากับป้อมปืนใหญ่ก่อด้วยศิลาแลงมั่งคงแข็งแรง มีกำแพงล้อมรอบ บนชานป้อมนั้นมีทหารเดินอยู่จำนวนมาก ด้านบนมีปืนใหญ่ตั้งอยู่ตามช่องแปดกระบอก ชั้นล่างปืนใหญ่รางเกวียนวางไว้ทุกช่องนับรวมแล้วประมาณสิบหกกระบอกเหมือนที่เห็นในหนังสือประวัติศาสตร์ที่คุณย่าอ่านบ่อยครั้ง

   "ส่วนนั่นถ้าข้าจำไม่ผิดคือป้อมเพชรใช่หรือไม่"

   "ใช่แล้วเจ้าค่ะ แถวนั้นมีตลาดน้ำบางกะจะด้วยนะเจ้าคะ เดี๋ยววันหลังสร้อยจะพาคุณหนูไปเดินเล่นนะเจ้าคะ"

   "จริงนะพี่สร้อย"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะหันไปมองท่าเรือแพไม้ขนาดใหญ่ตรงหน้าที่มีเรือเล็กเรือใหญ่ตลอดไปถึงเรือสำเภาจอดเทียบท่ามากมาย เมืองนั้นค่อยพายเรือไปเทียบกับท่า ก่อนจะรีบไปคุกเข่าบนท่าเรือแล้วยื่นมือมาให้จบเหมือนเดิม 

   "ขึ้นระวังหน่อยนะขอรับคุณหนูตรงนี้ค่อนข้างลื่นมาก"

   "ขอบใจจ้ะพี่เมือง"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับยื่นมือไปจับอย่างไม่นึกรังเกียจและมองคนที่เดินผ่านไปมาอยู่รอบตัวด้วยความตื่นเต้น

   จอมขวัญควงแขนสร้อยทิพย์ให้เดินไปด้วยกันโดยมีพริ้มพรายและเมืองเดินตามอยู่ด้านหลังมุ่งตรงไปยังตลาดน้อยตลงหน้าซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ของคนจีน มีการซื้อขายสินค้ากันคึกคัก  โดยมีขนมแห้งจีนหลากหลายทั้งลูกกวาด ฟักเชื่อม  และมีตลาดขายของสดมากมายเหมือนที่เคยอ่านในหนังสือไม่มีผิด

   "ของเยอะจังเลยนะพี่สร้อย"

   "แถวนี้ยังเยอะไม่เท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างพร้อมชี้ไปยังตลาดฝั่งตรงข้ามที่มีสะพานข้ามคลองขนาดเล็กกั้นเอาไว้มีผู้คนเดินข้ามกันมากพอสมควร

   "หากเดินไปอีกซักหน่อยก็จะเป็นตลาดใหญ่ท้ายพระนครเจ้าค่ะ ที่นั่นมีผ้าแพรผ้าไหมสีสดใสมากมายเลยนะเจ้าคะ"

   "งั้นไปกันเถอะพี่สร้อย"

   จอมขวัญลากสร้อยทิพย์ให้เดินมาตาโดยพริ้มพรายนั้นห้ามไว้ไม่ทันจึงรีบวิ่งตามหลังกับเมืองที่ยกมือขึ้นมาเกาหัวด้วยความงุนงงโดยไม่ทันสังเกตุเห็นใครบางคนที่ชะโงกหน้าเดินตามหลังมาห่างกันพอสมควร

   "พวกนั้นอยู่ตรงนู้นเจ้าค่ะคุณหนู"

   "นั่นทางไปตลาดใหญ่ท้ายพระนครไม่ใช่รึไง"

   พลอยปภัสกอดอกทำหน้าตาบึ้งตึงเพราะตนเองไม่ชอบที่จะมาเดินตลาดแถมอากาศร้อนอีกต่างหาก ก่อนจะหันไปมองนพที่พึ่งเดินตามหลังมาโดยที่ในมือถือเหล้าไว้หนึ่งไหด้วยสายตาที่ไม่พอใจ

   "กินเหล้าแต่หัววันเลยหรออ้ายนพ"

   "เหล้าจีนที่นี่รสชาติเลื่องลือนี่ขอรับคุณหนู ถ้าไม่ซื้อกินก็ไม่ใช่ข้าแล้วกระมั้ง"

   นพตอบเสียงเข้มก่อนจะยกไหเหล้าขึ้นมาดื่มอีกอึดใหญ่

   นพเป็นผู้ชายที่ร่างกายสูงใหญ่ผิวสีแทนและเนื้อตัวมอมแมมแต่หน้าตาหล่อเข้มแววตามีเสน่ห์จนใครเห็นก็ต้องโอนอ่อนยอมให้อีกฝ่ายทุกราย

   ซึ่งพอเห็นท่าทางมึนเมาแบบนั้นทำให้พลอยปภัสเบ้ปากให้ด้วยความเอือมระอา

   "รีบไปเถอะ ข้าไม่อยากอยู่ที่นี่นานซักเท่าไหร่"

   "ตามบัญชาขอรับคุณหนู"

   นพแสยะยิ้มพร้อมกับเดินตามหลังพลอยปภัสและฝ้ายที่เดินจ้ำอ้าวไม่หยุด



    ทางด้านจอมขวัญกำลังชื่นชมกับความคึกคักของตลาดใหญ่ท้ายพระนครที่มีชาวจีนชาวไทยนั้นตั้งนั่งร้านขายข้าวของมากมายทั้งเครื่องทองเหลือง เครื่องทองขาว ชามกระเบื้องเคลือบ ผ้าแพรและผ้าไหมสีสดใสจากจีน เครื่องประดับงดงามหลากหลาย มีอาหารและผลไม้มาจากเมืองจีนวางขายตามท้องตลาดมากมาย

   สร้อยทิพย์หยิบผ้าแพรสีแดงที่ปัดลวดลายของจีนด้วยด้ายทองยื่นมาทาบผิวจอมขวัญด้วยท่าทางตั้งอกตั้งใจ

   "คุณหนูว่าผ้าแพรสีแดงผืนนี้สวยหรือไม่เจ้าคะ"

   "แต่นังสร้อย..."

    พริ้มพรายขัดพร้อมกับหยิบผ้าแพรสีม่วงที่ถักทอด้วยลวดลายอลังการมาทาบบนแขนอีกข้างที่ว่างอยู่ของจอมขวัญอย่างภูมิอกภูมิใจ

    "ข้าว่าสีม่วงผืนนี้เหมาะกับคุณหนูมากกว่านะ"

    "เอ่อ...ข้ามีเสื้อผ้าเยอะแล้วไว้ค่อยมาดูแล้วกันนะ งั้นเราเดินไปดูเครื่องประดับตรงนู้นกันเถอะพี่สร้อย"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับลากแขนสร้อยทิพย์ให้มาดูร้านเครื่องประดับจากจีนซึ่งทำด้วยหยกมากมายหลากหลายชนิดก่อนที่จอมขวัญจะถูกตาต้องใจกับแหวนหยกเนื้ออ่อนสามสีที่หายากพอสมควรจึงเอื้อมมือจะไปหยิบแต่มีมือของใครบางคนฉวยมันเอาไปซะก่อน

   "ข้าจะเอาแหวนวงนี้"

    พอเงยหน้าขึ้นมามองพบว่าคนที่มาแย่งแหวนวงนั้นไปคือพลอยปภัสนั่นเอง พลอยปภัสหันหน้ามาเหยียดยิ้มให้กับน้องสาวต่างมารดา

   "บังเอิญจริง ไม่คิดเลยนะว่าจะมาเจอเจ้าที่นี่ หายป่วยแล้วรึพาขวัญ"

   "ดีขึ้นแล้วเจ้าค่ะคุณพี่พลอย"

   จอมขวัญยิ้มหวานกลับก่อนที่พริ้มพรายที่เดินตามหลังมาจะทำท่าทางตกใจเมื่อไม่คิดว่าจะมีใครบางคนยืนอยู่ตรงนี้

   "ตายแล้ว! คุณหนูพลอยปภัส! ออกจากเรือนได้ด้วยหรือเจ้าคะ"

   "ข้าก็มีขานะนังพริ้ม"

   พลอยปภัสตอบด้วยความไม่ชอบใจก่อนจะหันไปกวักมือเรียกนพให้เดินมายืนข้างตนเอง

  "ตั้งแต่กลับมายังไม่เคยเจออ้ายนพเลยซินะ"

   "นพ?"

    จอมขวัญทำหน้าตางุนงงทำให้พลอยปภัสนั้นแสยะยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ

   "เจ้าคงจะจำไม่ได้ เมื่อก่อนเจ้าสนิทกับอ้ายนพมากเลยมิใช่รึเห็นเรียกหามันทุกวัน"

   "แค่คนพายเรือเองคุณหนูเรียกหาก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์กอดอกจ้องหน้าคนที่กำลังมึนเมาด้วยสีหน้าและแววตาที่ไม่พอใจ

   "อีกอย่างคุณหนูพาขวัญของข้าจะต้องจำคนใช้ขี้เมาแบบนี้ได้ด้วยหรือเจ้าคะ"

   "ปากดีนักนะนังสร้อย"

   นพขบฟันเข้าหากันอย่างอารมณ์เสียพร้อมกับยกมือขึ้นมาเตรียมจะทำร้ายร่างกายแต่จอมขวัญจับแขนของสร้อยทิพย์และเอาตัวเองมาบังเอาไว้จนมิด

   "พี่สร้อยเป็นคนของข้า หากคิดจะทำร้ายข้าจะกลับไปฟ้องคุณพ่อคุณแม่ให้ลงโทษเจ้า"

   "นพก็เป็นคนของพี่เหมือนกันมันจะไม่เกินไปหน่อยหรือพาขวัญ"

    พลอยปภัสออกตัวปกป้องบ่าวของตนเองบ้างด้วยสีหน้าและแววตาโกรธจัดทำให้จอมขวัญถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย

   "งั้นพี่พลอยก็ดูแลคนของพี่ให้ดีหน่อยซิเจ้าคะ เอาเถอะข้าไม่อยากได้เครื่องประดับแล้วเราเดินไปดูขนมตรงนู้นกันเถอะพี่สร้อย แม่พริ้ม พี่เมือง"

   "เหอะ!"

   พลอยปภัสยกมือขึ้นกอดอกทำเสียงและสีหน้าไม่พอใจมากพร้อมกับมองพวกจอมขวัญที่เดินหนีไปจากตรงนั้นด้วยสายตาอาฆาต

   "พวกมันเดินไปแล้วเจ้าค่ะคุณหนู"

   "ข้าเห็นแล้ว!"

   พลอยปภัสขึ้นเสียงใส่ฝ้ายที่ผงะถอยห่างออกไปทันที ก่อนจะมองเจ้านายของตนเองที่เดินกระทืบเท้าปึงปังเดินไปแกล้งชนน้องสาวต่างมารดาอย่างแรงจนอีกฝ่ายกระเด็นหลุดออกจากมือสร้อยทิพย์ที่เกาะแขนเอาไว้

   "โอ๊ะ!"

   "ว๊าย! คุณหนู!!"

   สร้อยทิพย์หวีดร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นจอมขวัญกำลังหน้าทิ่มไปทางกระทะใบใหญ่ที่กำลังทอดขนมขายอยู่นั้นอย่างแรงและเร็วจนเมืองเองที่เดินตามอยู่ด้านหลังก็คว้าเอาไว้ไม่ทัน

   ส่วนจอมขวัญเองกำลังเสียหลักไปด้านหน้าเพราะโดนพลอยปภัสตั้งใจชนจากด้นหลังและกำลังจะหน้าทิ่มไปตรงกระทะที่กำลังเดือดเต็มที่ทำให้หลับตาแน่นด้วยความหวาดกลัวก่อนจะรู้สึกเหมือนมีใครคว้าเอวเอาไว้แล้วพลิกตัวของเขาให้หันมากอดอีกฝ่ายอย่างแนบแน่น ตามมาด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยกระซิบอยู่ข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความห่วงใย

   "เป็นอะไรหรือไม่พาขวัญ"

   "คุณหลวง?"

   จอมขวัญลืมตาขึ้นมาจ้องคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตางุนงงซึ่งแทนกานต์ที่ทำสีหน้าท่าทางเป็นห่วง

   และท่าทางแบบนั่นของอีกฝ่ายทำให้แทนกานต์ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โชคดีที่วันนี้ตนคุยงานกับพวกขุนนางเสร็จพอดีจึงมาเดินเล่นในตลาดและดันได้ยินเสียงร้องโวยวายเหมือนคนจะทะเลาะกันจึงเดินมาดูและไม่คิดว่าจะเข้ามาเจอฉากที่พลอยปภัสแกล้งเดินชนพอดีจึงรีบเข้าไปคว้าเอวไว้ได้ทันแล้วพลิกตัวให้อีกฝ่ายหันมากอดตนเองเพื่อให้้พ้นกระทะที่กำลังร้อนและเดือดเต็มที่นั่น 

  แต่ทว่ามืออีกข้างหนึ่งดันเผลอจับบริเวนใกล้หน้าอกซึ่งจอมขวัญเองก็ยังไม่รู้ตัวเพราะกำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่หาย

   "ข้าตกใจแทบแย่ ขอบคุณที่คุณหลวงมาช่วยไว้นะเจ้าคะ"

   "ไม่เป็นไร"

    แทนกานต์จ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นห่วงก่อนจะเหลือบลงไปมองมือตนเองข้างที่อยู่แถวบริเวณหน้าอกนั้นด้วยแววตาสงสัย


   'หน้าอกจริงรึเปล่านะ'


   คิดได้อย่างนั้นแทนกานต์ก็เผลอขยับมือไปทาบอย่างลืมตัวท่ามกลางความตกใจของพวกบ่าวไพร่และชาวบ้านแถวนั้น

  ไม่เว้นแม้แต่จอมขวัญที่เบิกตากว้างขยับปากกำลังจะโวยวายใส่ทว่าก็ต้องหน้าแดงจัดเมื่ออีกฝ่ายลองบีบอย่างแรงหนึ่งรอบ


   'ทำไม...ไม่เห็นเหมือนหน้าอกเลย'


   พอไม่รู้สึกอะไรจึงขยับมือหลายครั้งจนจอมขวัญนั้นหน้าแดงไปหมดทั้งอายทั้งโกรธจึงชกหน้าอย่างแรงท่ามกลางสายตาของชาวบ้านทุกคน

   พลัก!

   "คุณหลวงโรคจิต"

   จอมขวัญหน้ามุ่ยพร้อมกับแตะขาของคนตรงหน้าด้วยความหมั่นไส้ทำให้แทนกานต์ได้สติปล่อยมือจากอีกฝ่ายพร้อมกุมตาตนเองด้วยความเจ็บ 

   พอมองไปอีกทีก็เห็นจอมขวัญกอดแขนสร้อยทิพย์แล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปพร้อมกับบ่าวไพร่โดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของแทนกานต์เลยซักนิดเดียว

   "กลับบ้านกันเถอะพี่สร้อย"

   "เดี๋ยวก่อนซิพาขวัญ"

   แทนกานต์ตะโกนตามหลังพร้อมกับกอบกุมดวงตาตนเองด้วยความเจ็บซึ่งแสงก็มองด้วยความเป็นห่วง

   "เขียวเลยนะขอรับคุณหลวง"

   "เงียบไปเลยอ้ายแสง"

    แทนกานต์หันไปแยกเขี้ยวใส่บ่าวรับใช้ก่อนจะรีบเดินออกไปจากตรงนั้นด้วยความอับอายกับการลืมตัวของตนเองนั่นเหละ


   'โอยย ข้าทำอะไรลงไปเนี่ย'












*************มีต่อค่ะ****************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-07-2019 22:20:27


   จอมขวัญกลับมาถึงบ้านในช่วงเย็นแต่ก็ยังไม่ทันกับพลอยปภัสที่กลับมาถึงก่อนหน้านั้นแล้วนั่งยิ้มเยาะมาให้ท่ามกลางทุกคนที่นั่งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา

   จอมขวัญชะงักเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปไหว้จอมทัพ พัณณิตาและแพรวพรรณราย แล้วนั่งตรงที่นั่งข้างจอมทัพที่หันมาลูบผมแล้วยิ้มกว้างมาให้อย่างเอ็นดู

   "กลับมาแล้วรึพาขวัญ เป็นอย่างไรบ้างไปเที่ยวตลาดมาสนุกไหม"

   "สนุกมากเลยเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวาน "วันนี้ลูกได้ไปเที่ยวที่ตลาดใหญ่ท้ายพระนครมาด้วยนะเจ้าคะ ของเยอะมากเลยเจ้าค่ะ"

   "ไปทำขายหน้าที่นู่นน่ะซิ"

   พลอยปภัสพูดขัดขึ้นมาพร้อมหันไปเหยียดยิ้มกับผู้เป็นแม่อย่างร้ายกาจ ซึ่งคำพูดนั้นทำให้พัณณิตาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   "หมายความว่าอย่างไรรึแม่พลอย"

   "หึ!"

  พลอยไปภัสเหยียดยิ้มพร้อมจ้องมองไปยังจอมขวัญด้วยสายตาเยาะเย้ย

  "พาขวัญไปชกหน้าหลวงแทนกานต์ที่ตลาดใหญ่ท้ายพระนครมาเจ้าคะ"

   "ตายแล้ว!"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาทาบหน้าอกตนเองด้วยสีหน้าและท่าทางตกใจ

   "พาขวัญไปชกหน้าพี่เขาทำไมลูก"

   "ก็คุณหลวง...เอ่อคือ"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดก่อนจะกัดปากอย่างขัดใจ

   'ใครเขาจะกล้าไปพูดกันล่ะ ถึงจะไม่ใช่หน้าอกจริงก็เถอะ'

   "คืออะไรรึแม่พาขวัญ"

   แพรวพรรณรายถามย้ำพร้อมเหยียดยิ้มมอย่างสะใจ  ทำให้จอมขวัญเลือกที่จะไม่พูดอะไรที่จะทำให้พาขวัญนั้นอับอาย

   "ไม่มีอะไรหรอกค่ะคุณน้า"

   "ถ้าอย่างนั้นก็เป็นจริงตามที่แม่พลอยกล่าวใช่ไหม" พัณณิตามีสีหน้าโกรธจัด "แม่จะทำโทษเจ้าโดยการกักบริเวณห้ามออกจากเรือนเป็นเวลาสองเดือน"

   "ห๊ะ!"

   จอมขวัญร้องเสียงหลงขณะที่จอมทัพเอ่ยห้ามอย่างไม่ชอบใจ

   "ลงโทษลูกเกินไปรึเปล่าแม่พัณ"

   "ไม่เกินไปหรอกเจ้าค่ะคุณพี่"

   พัณณิตาหยิบพัดขึ้นมาพัดอย่างหงุดหงิดพร้อมเมินหน้าใส่ลูกตนเองทำให้สองแม่ลูกแอบยิ้มออกมาอย่างสะใจ

   "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญเม้มปากแน่นด้วยความน้อยใจ

   "ในเมื่อหมดเรื่องที่จะสอบถามแล้วลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"

   จอมขวัญลุกขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะเดินกลับเข้าห้องด้วยอาการแง่งอนพร้อมกับสร้อยทิพย์ที่รีบเดินตามไปทันที จอมทัพหันมามองพัณณิตาด้วยความไม่พอใจ

   "ลงโทษลูกโดยไม่ถามแหตุผลนี่ยังแก้ไม่หายอีกนะแม่พัณ ถ้าพาขวัญหายไปอีกครั้งข้าจะย้ายไปนอนเรือนเล็ก"

   "คุณพี่!"

   พัณณิตาหันมามองด้วยความขัดใจก่อนที่จะมองตามหลังจอมทัพที่เดินหายเข้าไปในห้องหนังสือท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยของสองแมลูกที่ส่งมาให้อย่างสะใจ







   ฝ่ายแทนกานต์เองก็กลับมาบ้านด้วยเบ้าตาที่เขียวช้ำในช่วงเวลาที่ใกล้มืด คิดว่าคงจะเตรียมตัวจะเข้านอนกันแล้ว แต่ทว่าเมื่อขึ้นมาบนเรือนก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นรินทร์ทิพย์กำลังนั่งป้อนขนมกันต์นิษฐ์น้องชายวัยห้าขวบอย่างเอาอกเอาใจโดยมีท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์ที่นั่งดื่มชาหลังจากกลับมาจากราชการ

   ซึ่งแทนกานต์กำลังจะแอบเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องแต่ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงกันต์นิษฐ์ดังขึ้นมาพร้อมชี้มือชี้ไม้มาให้อีกต่างหาก

   "พี่แทนกลับมาแล้ว!"

   "อ้าวพ่อแทน กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ลูก"

   รินทร์ทิพย์หยุดมือในการป้อนขนมพร้อมยิ้มหวานมาให้ลูกชายคนโตที่หายไปตั้งแต่เช้า

   ทำให้แทนกานต์ชะงักก่อนจะยิ้มแห้งมาให้ก่อนจะเดินมานั่งตรงที่ว่างข้างพ่อตนเองแล้วยกน้ำชาขึ้นมาดื่มพร้อมจ้องไปที่น้องชายตัวแสบอย่างหมั่นไส้

   'จะเรียกพี่ทำไมตอนนี้หะตัวแสบ'

   "ตาพี่แทนไปโดนอะไรมาน่ะ เหมือนหมาที่ข้าพึ่งเจอที่บ้านอ้ายยศเลย"

   กันต์นิษฐ์ไม่สนใจสายตาพี่ชายของตนเองพร้อมหัวเราะออกมาอย่าขบขัน

   กันต์นิษฐ์เด็กชายวัยห้าขวบซึ่งเป็นลูกหลงของรินทร์ทิพย์ทำให้เป็นที่รักใคร่ของทุกคนในเรือน หน้าตาหล่อเหลาตั้งแต่เด็กถึงจะมีแก้มยื่นออกมาน่าหยิกก็ตาม

   ซึ่งตอนนี้เองแทนกานต์อยากจะหยิกน้องชายตนเองมากเพราะคำพูดนั้นทำให้รินทร์ทิพย์หันมาจ้องหน้าตนด้วยสีหน้าและท่าทางตกอกตกใจ

   "ตายแล้ว! พ่อแทน! เบ้าตาเขียวช้ำเชียวไปโดนอันใดมาลูก"

   "ไม่มีอันใดขอรับคุณแม่" แทนกานต์ส่ายหน้าแต่รินทร์ทิพย์นั้นไม่เชื่อ

   "ไม่มีอันใดได้อย่างไรกัน พ่อแทนอย่ามาปดแม่นะ"

   "ลูกเปล่าปด...ไม่มีอันใดจริงขอรับคุณแม่"

   เมื่อแทนกานต์ยังยืนยันคำตอบเดิมทำให้รินทร์ทิพย์หันไปถามแสงที่นั่งก้มหน้าอยู่ตรงด้านหลังเจ้านายตนเอง

   "อ้ายแสง!"

   "ขอรับนายแม่"

   แสงสะดุ้งพร้อมก้มหน้าลงแทบจะติดพื้นเมื่อนายแม่หันมาพูดเสียงเข้มใส่ตนเองอย่างข่มขู่

   "บอกข้ามาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น"

   "เงียบไว้เลยนะอ้ายแสง"

   แทนกานต์หันไปสั่งบ่าวคนสนิทของตนเองทำให้แสงปิดปากเงียบจนรินทร์ทิพย์ต้องขึ้นเสียงใส่อย่างโมโห

  "อ้ายแสง!"

   "เอ่อ...คุณหลวงไปโดนคุณหนูพาขวัญต่อยที่กลางตลาดใหญ่ท้ายพระนครมาขอรับ"

   แสงพูดไปหมดเปลือกเพราะกลัวโดนลงโทษแต่คำตอบนั้นทำให้รินทร์ทิพย์ตกใจและสงสัยมาก

  "คุณพระ! เหตุใดจึงโดนแม่พาขวัญต่อยกลางตลาดเล่า ปกติแม่พาขวัญไม่ใช่คนแบบนั้นไม่ใช่รึ"

   "อย่าเล่านะอ้ายแสง"

   แทนกานต์ห้ามทำให้โดนรินทร์ทิพย์หันมาทำเสียงดุ

   "พ่อแทนน่ะเงียบไปเลย"

   "คุณหลวงไปจับหน้าอกคุณหนูพาขวัญกลางตลาดใหญ่ท้ายพระนครขอครับ"

   พอได้ยินคำตอบนั้นทำให้ทุกคนบนเรือนชะงักค้างด้วยความตกใจ

   "พ่อแทน!"

   รินทร์ทิพย์ร้องเสียงหลงพร้อมกับเอนตัวลงไปพิงหมอนอิงด้านข้างด้วยอาการหน้ามืด

   "โอ๊ย! แม่จะเป็นลม"

   "คุณแม่ขอรับ"

   แทนกานต์รีบลุกไปนั่งลงข้างแม่ตนเองพร้อมพัดให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจด้วยสายตาเป็นห่วง ก่อนที่แทนนิษฐ์ที่นั่งเงียบอยู่นานจะพูดขึ้นมายเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ

   "พ่อแทนไปจับหน้าอกกลางตลาดอย่างนั้นต่อหน้าคนอื่นได้อย่างไรกันถึงแม้จะเป็นคู่หมั้นคู่หมายกันก็ตามเถอะ"

   "ลูกไม่ได้ตั้งใจขอรับคุณพ่อ"

   แทนกานต์ทำสีหน้าสลดท่ามกลางความหนักใจของรินทิพย์ที่คิดแล้วอยากจะเป็นลมอีกหลายรอบ

   "แล้วอย่างนี้คุณพี่พัณจะว่าอย่างไรบ้าง พ่อแทนรีบรักษาหน้าตนเองให้หายดีจะได้ไปสารภาพความจริงกับคุณป้าเข้าใจไหม"

   "ขอรับคุณแม่"

   แทนกานต์ตอบรับในใจนึกห่วงจอมขวัญจึงให้แสงแอบลอบไปสืบความที่เรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพ




   แสงลอบเข้ามาในเขตเรือนของท่านเจ้าคุณจอมทัพและกำลังชะเง้อมองตรงหน้าต่างห้องนอนของจอมขวัญซึ่งอยู่อย่างนั้นมานานหลายชั่วยาม แต่ก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียงทักมาจากด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัวจากหวานคนรับใช้ที่เดินมาเห็นพอดี

   "ทำอะไรน่ะ"

   "โอ๊ะ!"

   แสงรีบหันหลังมาโบกไม้โบกมือจนคนที่ทักนั้นนึกหัวเราะอยู่ในใจ

  "ข้าไม่ใช่ขโมยนะ"

   "แล้วมาทำตัวลับลมคมในที่หน้าต่างห้องคุณหนูพาขวัญทำไมล่ะ แต่จะว่าไปหน้าตาเจ้าก็คุ้นเหมือนกันนะ"

   หวานกอดอกจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจับผิดก่อนจะดีดนิ้วเมื่อนึกบางอย่างออก

   "ข้านึกออกแล้ว! เจ้าคือบ่าวรับใช้เรือนท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์นี่หน่า"

   "เจ้ารู้จักข้าด้วยรึ"

   แสงเลิกคิ้วด้วยความสงสัยทำให้หวานนั้นยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายอย่างน่ารัก

   "ข้าเคยเห็นเมื่อวานนี้ยังไงล่ะ แล้วเจ้ามายืนทำตัวลับลมคมในอะไรตรงห้องคุณหนูพาขวัญเล่า"

   "คุณหลวงสั่งให้ข้ามาดูว่าคุณหนูพาขวัญเป็นอย่างไรบ้าง"

   พอได้ฟังคำตอบนั้นแล้วหวานก็ทำท่าทางสลดโดยสีหน้านั้นเต็มไปด้วยความเป็นกังวล

   "เรื่องที่คุณหนูไปต่อยหน้าคุณหลวงน่ะหรือ"

   "อื้ม" แสงพยักหน้า

   "คุณหนูโดนกักบริเวณไม่ให้ออกจากเรือนสองเดือนเลยทีเดียว"

   "ห๋า! สองเดือนเลยรึ"

   แสงตกใจซึ่งหวานก็พยักหน้าแล้วมองขึ้นไปตรงหน้าต่างห้องอย่างสงสาร

  "ใช่เพราะนายแม่ท่านโกรธมาก"

  "ขอบน้ำใจเจ้ามากข้าไปล่ะ"

   แสงขอบคุณแล้วหันหลังกลับทันทีแต่ต้องชะงักเมื่อถูกมือนุ่มรั้งแขนเอาไว้แน่น

   "เดี๋ยวซิ" หวานรั้งแขนอีกฝ่ายไว้พร้อมยิ้มให้อย่างแป้นแล้น "ไม่คิดจะบอกชื่อหน่อยรึ'

   "ข้าชื่อแสง แล้วเจ้าล่ะ"

   แสงตอบพร้อมจ้องมองใบหน้าน่ารักของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เอ็นดู

   "หวาน หลานสาวน้าสร้อย"

   "ขอบน้ำใจเจ้าอีกครั้งนะแม่หวาน ข้าไปล่ะ"

   แสงรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นโดยมีสายตาของหวานมองตามไปด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงทักมาจากบนเรือน

   "คุยกับใครน่ะนังหวาน"

   "ไม่มีอะไรจ้ะน้าสร้อย ข้าไปนอนแล้วนะ"

    พอเห็นสร้อยทิพย์ชะโงกหน้าออกมาจากตรงหน้าต่างทำให้หวานก็รีบโบกไม้โบกมือทำท่าทางไม่รู้เรื่องแล้วเดินหนีไปจากตรงนั้นทันที จนสร้อยทิพย์ห้ามหลานสาวตนเองเอาไว้ไม่ทัน

   "เดี๋ยวซินังหวานแต่ข้า..."

   "มีอะไรหรอพี่สร้อย"

   จอมขวัญถามเมื่อเห็นสร้อยทิพย์โวยวายหลังจากที่ตนเองเพิ่งสวดมนต์เสร็จทำให้สร้อยทิพย์หันมายิ้มแห้งแล้วรีบเข้ามานั่งบนพื้นข้างเตียงอย่างเอาอกเอาใจ

   "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะคุณหนู นอนเถอะนะเจ้าคะ"

   "พรุ่งนี้ผมจะตื่นสายและไม่ออกไปกินข้าวข้างนอกนะครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานมาให้แต่ภายใต้รอยยิ้มหวานนั้นกลับเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองจนสร้อยทิพย์หน้าซีดลงด้วยความเห็นใจ

   "แล้วเตรียมดอกไม้ให้ผมด้วยได้ไหมครับ เอาดอกมะลิ ดอกกุหลาบ แล้วก็ดอกรักด้วยนะครับ ผมอยากร้อยพวงมาลัยในห้อง"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   จอมขวัญล้มตัวลงนอนพร้อมหันหลังให้ด้วยอารมณ์ที่ยังแง่งอนไม่หายจนสร้อยทิพย์ถอนหายใจแล้วปิดผ้าม่านด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเอ็นดู

   'ขี้งอนเหมือนคุณหนูพาขวัญไม่มีผิด'




   แสงกลับมาจากการไปสืบความที่เรือนท่านเจ้าคณจอมทัพก็เกือบจะเที่ยงคืน แต่พบกับแทนกานต์ที่นั่งรออยู่ตรงกลางห้องโถงเรือนอย่างร้อนใจ

   "เป็นยังไงบ้างอ้ายแสง ไปสืบความที่เรือนคุณลุงได้ความมาว่าอย่างไรบ้าง"

   "ได้ความว่าคุณหนูพาขวัญโดนลงโทษไม่ให้ออกจากเรือนสองเดือนขอรับ"

   พอได้ยินอย่างนั้นแทนกานต์ก็ลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจ

   "จริงรึ!"

   "เดี๋ยว! จะไปไหนขอรับ"

   แสงรีบคลานมาดักข้างหน้าเพราะเห็นเจ้านายตนเองกำลังจะลงจากเรือนทำให้แทนกานต์มองหน้าด้วยความขัดใจ

   "ข้าจะไปบอกความจริงกับคุณลุงคุณป้าน่ะซิ"

   "ด้วยสภาพตาเขียวอย่างนี้น่ะหรือขอรับ"

   แทนกานต์ชะงักก่อนจะจับตรงตาของตัวเองที่ตอนนี้บวมไปหมดก็ต้องนั่งลงที่เดิมอย่างหงุดหงิด

   "อ้ายแสง ไปเอายามา"

   "ขอรับ?"

   แสงเลิกคิ้วสูงด้วยความงุนงงเพราะเมื่อครู่คุณหญิงรินทร์ทิพย์พึ่งทายาให้ไม่ใช่หรือ

   "ข้าต้องรีบหาย"

   "อ่า...ขอรับ"

   แสงยกมือขึ้นมาเกาหัวก่อนจะลงไปปลุกบ่าวด้านล่างให้เตรียมยา ท่ามกลางความร้อนใจของแทนกานต์ที่อยากออกนอกเรือนจะแย่




*************************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 11-07-2019 09:33:32
ควรโดนสมน้ำหน้า
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 11-07-2019 12:11:15
คุณหลวงไปจับหน้าอกน้องกลางตลาดมันไม่ได้ถ้าสองต่อสองก็ว่าไปอย่าง ไม่ใช่แร่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 11-07-2019 21:58:40
ขัดใจๆๆๆๆๆๆๆ  :z3: :z3: :z3:
ทำไมไม่มีใครบอกเล่าสาเหตุ ว่าทำไมแทนกานต์ถูกชกหน้า
ทำไมนังพลอยปภัสตัวร้ายมาเล่าได้ฉอดๆ  เซ็งเป็ด :really2: :เฮ้อ:
มีปากก็เหมือนเป็นใบ้กันทั้งหมด ไปกันตั้งกี่คน  :m16:
เปิดทางให้แต่ตัวร้ายชัดๆ น่าให้พลอยปภัสเจอให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวบ้าง  :z6:
พัณณิตา ตัวแม่ก็รักหวงลูกแบบแปลกๆ  ตลกๆ  :m20:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 6}}} [UP 10/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 11-07-2019 23:42:10
นั้น เป็นเรื่อง
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 12-07-2019 22:09:22


เรือนหลังที่ 7




   "สายจนป่านนี้แล้วพาขวัญยังไม่ออกมาอีกรึ"

   เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อเช้าแต่ยังไม่เห็นจอมขวัญออกจากห้องทำให้พัณณิตาร้อนใจหันไปสั่งพริ้มพรายบ่าวรับใช้คนสนิทด้วยความหงุดหงิดจากเรื่องเมื่อวานไม่หาย

   "นังพริ้มไปตามแม่พาขวัญออกมากินข้าวซิ"

   "เอ่อคือ..."

   พริ้มพรายอึกอักพร้อมก้มหน้าลงจนแทบติดพื้นและหลบสายตาเจ้านายที่มองมาด้วยความขัดใจ

   "ไปตามมาซิ!"

   "คือคุณหนูให้นังสร้อยมาบอกบ่าวเมื่อตอนเช้ามืดว่า..."

   "ว่าอะไร"

   พัณณิตาขึ้นเสียงก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินคำตอบจากบ่าวรับใช้ของตนเอง

   "ว่า...จะไม่ออกมากินข้าวด้านนอกเจ้าค่ะ"

   "ตายแล้ว"

   แพรวพรรณรายทำน้ำเสียงตกใจแต่ทว่าริมฝีปากกลับเหยียดยิ้มออกมาอย่างร้ายกาจ

   "สงสัยแม่พาขวัญจะโกรธคุณพี่เรื่องเมื่อวานนะเจ้าคะ"

   "น้องพาขวัญจะโกรทำไมในเมื่อเป็นฝ่ายทำผิดเองนะเจ้าคะคุณแม่"

   พลอยปภัสเสริมขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและแววตาที่สะใจ ส่วนจอมทัพนั้นนั่งนิ่งจ้อมมองภรรยาของตนเองอย่างไม่พอใจ

   "ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวไปก่อนเถอะแม่พัณ"

   "นี่ก็เลยเวลาอาหารเช้ามานานแล้ว หรือลูกจะไม่สบายรึเปล่าเจ้าคะ"

   พัณณิตาเมินไม่ฟังคำเตือนของจอมทัพแล้วลุกขึ้นยืนด้วยความร้อนใจ

    "งั้นข้าจะไปตามแม่พาขวัญเอง"

   "เดี๋ยวก่อนแม่พัณ"
 
   จอมทัพตะโกนห้ามแต่อีกฝ่ายตั้งหน้าตั้งตาเดินไปไม่หยุดจนต้องแอบถอนหายใจออกมาด้วยความหนักหน่วง

   ส่วนพัณณิตาก็เดินไปยืนตรงหน้าห้องก่อนจะส่งสายตาให้บ่าวรับใช้เป็นคนเคาะประตู ซึ่งพริ้มพรายก็เคาะประตูห้องอย่างเบามือ

  ก๊อกก๊อก~

  "พาขวัญ"

   ก๊อกก๊อก~

  "พาขวัญออกมากินข้าวเถอะลูก เจ้าเป็นอะไรไม่สบายรึเปล่าลูก"

   เมื่อไม่มีเสียงตอบรับทำให้พัณณิตาหันไปสั่งพริ้มพรายอีกครั้งด้วยความร้อนใจ

   "เคาะให้แรงกว่านี้ซินังพริ้ม"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายตอบพร้อมกับเคาะประตูห้องอีกครั้งสองครั้งก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดออกด้วยฝีมือของสร้อยทิพย์ที่ก้มหน้าลงหลบสายตาของพัณณิตาด้วยความกลัว

   "นายแม่"

   "นังสร้อยแล้วพาขวัญล่ะ"

   พัณณิตาชักสีหน้าพร้อมมองบ่าวตรงหน้าด้วยสายตาตำหนิ

   "ทำไมเองถึงไม่ยอมพาลูกข้าออกมากินข้าวด้านนอกหะ"

   "คุณหนูจะกินข้าวในห้องเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ตอบเสียงสั่นก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาตวาดเสียงดังลั่น

   "ทำไม!"

   "บ่าวมิทราบเจ้าค่ะนายแม่"

   สร้อยทิพย์ตัวสั่นไปหมดจนพริ้มพรายแอบมองด้วยความเห็นใจซึ่งพัณณิตาไม่สนใจดึงดันจะเข้าไปในห้องให้ได้

   "งั้นถอยซิ ข้าจะเข้าไปข้างใน"

   "ไม่ได้เจ้าค่ะนายแม่ คุณหนูไม่อนุญาติให้ใครเข้าไปทั้งนั้นเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์สายหน้าพร้อมกางมือขวางทางเอาไว้สุดตัวทำให้พัณณิตาตวาดเสียงดังกว่าเดิมแถมกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ

   "เอ๊ะ! นังสร้อย!"

   "บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ก้มหน้าแทบติดพื้นก่อนจะรีบปิดบานประตูกั้นไม่ให้พัณณิตาเข้ามาด้านในซึ่งอีกฝ่ายก็เคาะประตูห้องหลายรอบจนยอมล่าถอยไปทำให้สร้อยทิพย์ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหันมามองจอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้ทันที

    "เยี่ยมมากพี่สร้อย"

   "สร้อยกลัวจะโดนหวายเจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ตอบพร้อมหยิบหวีขึ้นมาหวีผมให้จอมขวัญต่อทั้งที่สีหน้ายังซีดเซียวไม่หาย

   "ไม่ต้องห่วงหรอกพี่สร้อย ข้าไม่ยอมให้พี่โดนลงโทษหรอกน่ะ"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์รับคำพร้อมตั้งใจกับการหวีผมจนไม่ได้สนใจแก้มอมชมพูหน้าบีบนั้นพองลมขึ้นเล็กน้อยด้วยความแง่งอน


   'ในเมื่อสั่งไม่ให้ออกนอกเรือน ผมก็จะอยู่แต่ในห้องนี่แหละ เฮอะ!'


   ก๊อกก๊อก~

   "ใครมาเคาะประตูห้องอีกแล้วนะ"

   จอมขวัญยื่นปากออกมาอย่างไม่ชอบใจทำให้สร้อยทิพย์ส่ายหน้าแล้วเดินไปเปิดประตูห้อง แต่ต้องตกใจเมื่อคนที่เคาะประตูนั้นคือเมืองและคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเมืองนั้นคือจอมทัพที่มองมาด้วยสายตาดุดัน

   "ท่านเจ้าคุณ"

   "ออกมานังสร้อย ข้ามีเรื่องจะคุยกับลูกข้าเพียงสองคน"

   จอมทัพออกคำสั่งทำให้สร้อยทิพย์พยักหน้าแล้วคลานเข่าออกมาจากห้องซึ่งจอมทัพก็รีบเดินเข้าไปแล้วปิดประตูห้องลงกลอนจากด้านในทันที พอหันมาก็พบจอมขวัญที่หันมามองด้วยความแปลกใจ

   "ท่านเจ้าคุณเข้ามาได้อย่างไรครับ"

   "ไม่ได้หรือ? ข้าไม่เกี่ยวกับเรื่องการลงโทษของเจ้าเลยหนาจอมขวัญ"

   จอมทัพยิ้มกว้างก่อนจะเดินมาวางถาดอาหารลงบนโต๊ะเล็กด้านข้างที่อีกฝ่ายนั่งอยู่ซึ่งเต็มไปด้วยอาหารและขนมมากมาย

   "เห็นเจ้าไม่ออกไปทานข้าวข้างนอกข้าจึงจัดเตรียมสำรับมาให้"

   "ขอบคุณครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเกรงตัวเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือมาลูบผมตนเองด้วยสายตาเอ็นดู

   "บอกข้ามาซิว่าเมื่อวานเกิดเรื่องอันใดขึ้นทำไมถึงไปต่อยหน้าหลวงแทนกานแบบนั้น บอกข้าในฐานะพ่อคนหนึ่งของเจ้าก็ได้นะ"

   "ท่านเจ้าคุณ~"

   จอมขวัญโผเข้ากอดอีกฝ่ายเต็มรักก่อนจะอธิบายออกมาด้วยน้ำเสียงที่แง่งอนไม่ไม่หาย

   "เมื่อวานผมไปเดินตลาดบังเอิญเจอแม่พลอยเข้า แล้วแม่พลอยแกล้งพลักข้าไปทางกระทะที่มีน้ำมันร้อน"

   "ห๋า"

   จอมทัพย์ทำสีหน้าตกใจแล้วลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน

   "แล้วเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง"

   "โชคดีที่หลวงแทนกานต์มาช่วยเอาไว้ได้ทัน แต่เหตุที่ผมต่อยเขานั้น..."

   จอมขวัญกัดปากและใบหน้าขาวที่เริ่มแดงขึ้นมาด้วยความอาย

   "เพราะหลวงแทนกานต์มาจับหน้าอกผมที่ยัดผ้าเอาไว้กลางตลาดครับ!"

   "ห๊ะ!"

   จอมทัพทำหน้าเหวอก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความขบขัน

  "พ่อแทนทำแบบนั้นกับเจ้าหรือ ฮะฮะฮะ"

   "ไม่ตลกเลยนะครับท่านเจ้าคุณ"

    จอมขวัญแก้มพองลมขึ้นอย่างไม่พอใจทำให้จอมทัพต้องกลั้นหัวเราะแล้วเอื้อมมือมาลูบผมอย่างอ่อนโยน

   "ไม่งอนนะ ไม่ต้องโกรธด้วยเข้าใจไหม"

   "แต่ทำไมผมต้องโดนสั่งห้ามออกนอกเรือนด้วยล่ะ" จอมขวัญกอดอกด้วยความไม่พอใจ "คุณหญิงพัณณิตาไม่เคยคิดจะฟังผมเลยด้วยซ้ำ"

   "แม่พัณเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเจ้าอย่าไปใส่ใจนักเลย ระหว่างนี้ก็อย่าไปซนอะไรที่ไหนล่ะเข้าใจไหม"

   จอมทัพลูบผมอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูซึ่งจอมขวัญก็พยักหน้ารับอย่างว่านอนสอนง่าย

   "ผมไม่ซนหรอกครับ แต่จนกว่าคุณหญิงจะมาขอโทษผมก็จะไม่ยอมก้าวออกจากห้องนี้เด็ดขาด"

   "แสบนักนะ เหมือนพาขวัญไม่มีผิด"

   จอมทัพหยิกแก้มอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยวท่ามกลางเสียงหัวเราะคิกคักของจอมขวัญที่หัวเราะออกมาอย่างสดใสขึ้นกว่าเดิมจนสร้อยทิพย์และเมืองที่นั่งอยู่หน้าห้องได้ยินเสียงหัวเราะนั้นแล้วแอบยิ้มออกมาพร้อมกัน





   พอกินข้าวเรียบร้อยแล้วจอมขวัญก็มานั่งร้อยมาลัยอย่างตั้งอกตั้งใจ ตรงหน้ามีพานที่ใส่ดอกไม้มากมายหลายชนิด ทั้งมะลิ กุหลาบ ดาวเรือง และดอกรัก โดยมือบางจับดอกไม้เหล่านั้นมาร้อยเรียงกันอย่างปราณีตสวยงามมากจนสร้อยทิพย์นั้นอดที่จะยิ้มกว้างออกมาด้วยความรู้สึกชื่นชม

   "คุณหนูร้อยมาลัยสวยมากเลยเจ้าค่ะ"

   "จริงหรอ คุณย่าสอนผมมาตั้งแต่เด็กน่ะครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะจับมาผูกเป็นพวงแล้ววางลงบนพานอย่างเบามือก่อนจะเหลือบไปเห็นสร้อยทิพย์กำลังรื้อพวกเครื่องประดับออกมานั่งขัด

   "นั่นพี่สร้อยกำลังจะทำอะไรน่ะครับ"

   "สร้อยกำลังจะเอาเครื่องประดับมาขัดเจ้าค่ะ"

   พอได้ยินสร้อยทิพย์ตอบพร้อมทั้งเริ่มลงมือขัดอย่างตั้งอกตั้งใจทำให้จอมขวัญยิ้มกว้างแล้วหยิบผ้ามาช่วยกันนั่งขัดอีกแรง

   "ข้าช่วยนะพี่สร้อย"

   "ตามใจเถอะเจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ลอบมองคนที่กำลังนั่งขัดเครื่องประดับอย่างมุ่งมั่นด้วยสายตาที่เอ็นดู

   จอมขวัญขัดเครื่องประดับไปหลายชิ้นก่อนจะไปสะดุดตากับสร้อยคอเส้นหนึ่งที่มีขนาดและความงดงามเหมือนของคุณย่าไม่มีผิด ทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "พี่สร้อย"

   จอมขวัญร้องเรียกเสียงหลงพร้อมชูสร้อยเส้นที่กำลังถืออยู่ขึ้นมาให้อีกฝ่ายดู

   "พี่เคยเห็นคุณหนูพาขวัญใส่สร้อยเส้นนี้ไหม"

   "โอ๊ะ!" สร้อยทิพย์หันมามองด้วยความตกใจ "สร้อยเส้นนี้คุณหนูรักมากเลยเจ้าค่ะ ใส่ทุกวันไม่ยอมให้ใครแตะต้อง นี่ท่าคุณหนูจอมขวัญไม่รื้อของบ่าวก็ลืมไปเลยนะเจ้าคะ"

   "หวงหรอ" จอมขวัญเลิกคิ้วสูง "แล้วใครเป็นคนให้"

   "คุณหนูบอกว่าคนสำคัญเจ้าค่ะ"

   พอได้ยินคำตอบแบบนั้นของสร้อยทิพย์ทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงใบหน้าของใครบางคน

   "คุณหลวงหรอ"

   "ได้มาก่อนพบคุณหลวงนะเจ้าคะ"

   "อย่างนั้นหรอ"

   ยิ่งฟังยิ่งอดที่จะสงสัยไม่ได้คิดไปคิดมามากก็เริ่มจะปวดหัว

   "แต่ทำไมเหมือนสร้อยของคุณย่าจัง"

   "อะไรนะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัยเหมือนได้ยินอีกฝ่ายบ่นอะไรบางอย่างพึมพัมในลำคอก่อนที่จอมขวัญรีบส่ายหน้าพร้อมถือสร้อยเส้นนั้นไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

   "เปล่าไม่มีอะไรหรอก งั้นผมขอเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้นะครับ"

   "ได้เลยเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะหันไปขัดเครื่องประดับต่อทิ้งให้จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นมองสร้อยที่ถือในมือนั้นด้วยความสงสัยอยู่คนเดียว





   หลายสัปดาห์ผ่านไปบรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเพราะวันนี้มีเพียงพัณณิตาและจอมทัพที่กินข้าวตอนบ่ายเพียงสองคนเท่านั้น ส่วนแพรวพรรณรายพาพลอยปภัสออกไปข้างนอกตั้งแต่เช้า

   พัณณิตาลอบมองจอมทัพด้วยความอึดอัดใจเมื่ออีกฝ่ายทำเป็นไม่สนใจมัวแต่ทานอาหารอย่างเดียวจนตนเองต้องโวยวายขึ้นมาอย่างหมดความอดทน

   "คุณพี่เจ้าคะ ไม่คิดจะพูดกับน้องเลยหรือเจ้าคะ"

   "แม่พัณมีอะไรอยากพูดกับพี่รึ"

   จอมทัพเหลือบตาขึ้นมามองเล็กน้อยทำให้พัณณิตาเริ่มทำหน้าตาบึ้งตึง

   "คุณพี่ยังโกรธน้องเรื่องพาขวัญหรือเจ้าคะ"

   "รู้ตัวด้วยหรือ"

   จอมทัพตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจแฝงไปด้วยคำตำหนิ

   "เพราะเจ้าไม่เคยเปลี่ยนนิสัยไม่ฟังลูกได้ซักที"

   "คุณพี่!"

   พัณณิตาขึ้นเสียงดังพร้อมกับใช้มือตบโต๊ะไม้อย่างแรงด้วยความโมโห  แต่ก่อนที่จะทะเลาะกันมากไปกว่านี้เมืองก็คลานเข่าเข้ามาอยู่ตรงด้านหลังของเจ้านายตนเองด้วยใบหน้าที่อึดอัด

   "คุณหญิงรินทร์ทิพย์กับคุณหลวงแทนกานต์มาขอพบขอรับ"

   "จริงรึ!"

   พัณณิตาลืมความโกรธแล้วรีบหันไปสั่งคนรับใช้ตนเองอย่างกระตือรือร้น

   "นังพริ้ม ลงไปเชิญทั้งสองคนขึ้นมาบนเรือนเร็ว"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายเดินลงไปตรงด้านหน้าของเรือนด้วยความรีบร้อน  พอเห็นแบบนั้นแล้วจอมทัพก็ล้างมือก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในห้องหนังสือกับเมืองทันทีที่เห็นรินทร์ทิพย์และแทนกานต์เดินขึ้นมาบนเรือน  ทำให้รินทร์ทิพย์ชะงักเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้พัณณิตาแล้วส่งรอยยิ้มหวานมาให้อย่างเอาอกเอาใจ

   "น้องไหว้เจ้าค่ะคุณพี่พัณ" 

   รินทร์ทิพย์หันไปตีแขนลูกตนเองเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังชะเง้อมองไปทางห้องนอนพาขวัญด้วยท่าทางแสดงออกอย่างเกินหน้าเกินตา

   "ไหว้คุณป้าซิพ่อแทน"

   "สวัสดีขอรับคุณป้า" 

   แทนกานต์หันมายกมือขึ้นไหว้แต่สายตายังเหลือบไปมองห้องของพาขวัญตลอดเวลา

   ก่อนที่ทั้งสามจะเดินมานั่งตรงห้องโถงกลางที่มีพวกบ่าวไพร่จัดเตรียมน้ำและขนมมาเรียบร้อย  รินทร์ทิพย์ดื่มน้ำชาพร้อมมองไปยังห้องหนังสือด้วยใบหน้าและสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

   "แล้วท่านเจ้าคุณรีบเดินไปห้องหนังสือทำไมหรือเจ้าคะ'

   "อย่าไปสนใจเลยแม่รินทร์"

   พัณณิตาเชิดหน้าขึ้นอย่างแง่งอนก่อนจะหันไปมองแทนต์กานต์ที่กำลังชะเง้อมองไปทางห้องนอนลูกตนเองด้วยสายตาเอ็นดู

   "พ่อแทนเป็นอย่างไรบ้าง หายเจ็บรึยังจ้ะ"

   "ข้าหายดีแล้วขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์สะดุ้งก่อนจะหันมายิ้มแห้งให้อย่างกลัวเสียมารยาท แล้วต้องหลบสายตาเมื่อเห็นท่าทางของพัณณิตาที่มองมาอย่างไม่สบายใจ

   "ป้าต้องขอโทษพ่อแทนด้วยนะที่พาขวัญไปต่อยหน้าพ่อแทนกลางตลาดแบบนั้น"

   "ความจริงไม่ใช่ความผิดของจอมขวัญหรอกขอรับ ข้าเป็นฝ่ายผิดเอง"

   แทนกานต์โบกไม้โบกมือแล้วบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ้อมแอ้มอยู่ในลำคอ  คำพูดของอีกฝ่ายทำให้พัณณิตาชะฃักแล้วจ้องมองด้วยแววตาสงสัย

   "หมายความว่ายังไงจ๊ะพ่อแทน"

   "ข้าเป็นฝ่าย..." แทนกานต์ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิด "จับหน้าอกพาขวัญก่อนขอรับ"

   "ตายแล้ว!"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาทาบอกตนเองอย่างตกใจก่อนที่จะทำหน้าตาเศร้าหมองด้วยความรู้สึกผิด

  "เพราะน่าอายอย่างนี้นี่เองแม่พาขวัญถึงไม่ยอมพูดความจริง"

   "แต่มันเป็นอุบัติเหตุนะขอรับคุณป้า..."

   แทนกานต์เล่าย้อนความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้นทั้งหมดยิ่งทำให้คนฟังแทบจะเป็นลม ก่อนจะเหลือบมองไปยังห้องนอนนั้นอีกครั้งด้วยสายตาเป็นห่วง

   "ได้ยินมาว่าคุณป้าลงโทษพาขวัญด้วยหรือขอรับ"

   "ป้าฟังความจากแม่พลอยข้างเดียวจึงด่วนสรุปและลงโทษไปแบบนั้น"

   พัณณิตาดมยาดมเข้าปอดโดยมีรินทร์ทิพย์คอยพัดให้ด้วยความเป็นห่วง

   "น่าสงสารหลานพาขวัญจังเลยนะคะคุณพี่"

   "พี่ผิดเอง"

   พัณณิตาส่ายหน้าพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ตีตื้นขึ้นมาจนแทบจะร้องไห้ไม่แตกต่างจากแทนกานต์ที่อยากขอโทษแทบแย่

   "คุณป้าจะว่าอะไรไหมครับถ้าข้าจะขอพบหน้าพาขวัญเพื่อจะขอโทษน่ะขอรับ"

   "ป้าเกรงว่าพาขวัญคงจะไม่ยอมออกมาพบพ่อแทนล่ะนะ เพราะขนาดป้าเองก็ยังไม่ยอมออกมาเลย"

  พัณณิตาเตือนด้วยความเป็นห่วงพร้อมกับเริ่มสะอื้นเล็กน้อย แต่แทนกานต์กลับส่ายหน้าและดึงดันที่จะพบให้ได้

   "ไม่เป็นไรขอรับคุณป้า ข้าอยากพบพาขวัญน่ะขอรับ"

   "ถ้าพ่อแทนพูดเช่นนี้แล้วป้าก็คงจะไม่ขัดอะไรหรอก" พัณณิตาหันไปสั่งพริ้มพรายที่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยความร้อนใจ "นังพริ้มไปตามพาขวัญออกมาซิบอกว่าคุณหลวงมาขอพบ"

    "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องของพาขวัญแล้วเคาะประตูหลายครั้งแต่ทว่ากลับเงียบไม่มีใครยอมมาเปิดประตูห้องเหมือนเดิมจึงเดินกลับไปนั่งที่เดิมและก้มหน้าแทบติดพื้น

   "ไม่เปิดเจ้าค่ะนายแม่"

   "ข้าเห็นแล้ว" พัณณิตาขมวดคิ้วด้วยความหนักอกหนักใจ "แม่พาขวัญคงโกรธข้ามากซินะ ฮึก!"

   "คุณพี่พัณอย่าร้องไห้ซิเจ้าคะ"

    รินทร์ทิพย์ยื่นมือไปลูบหลังอย่างแผ่วเบาด้วยความสงสารทำให้พัณณิตาหายสะอื้นแล้วหันไปมองแทนกานต์ที่ทำหน้าเจือนลงอย่างเห็นได้ชัด

   "วันนี้พ่อแทนกลับไปก่อนเถิดหนา"

   "แต่"

   "ทำตามที่คุณป้าท่านบอกเถิดพ่อแทน ขืนดื้อรั้นอยู่อย่างนี้คงจะหมางเมินกันไปมากกว่าเดิม"

   รินทร์ทิพย์พูดขัดขึ้นมาทำให้แทนกานต์พยักหน้าแต่สายตาแอบคอยชะเง้อมองที่หน้าประตูห้องอยู่นานจนจอมทัพที่แอบมองสถานการมาจากห้องหนังสือนั้นเริ่มเห็นใจนิดหน่อย

   "กลับไปเถิดพ่อแทน อีกไม่นานพาขวัญก็คงยอมออกจากห้องแล้วล่ะ"

   "งั้นข้าขอลานะขอรับ"

   แทนกานต์ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะเดินลงจากเรือนโดยแอบหันมามองตรงห้องนอนนั้นอีกหลายต่อหลายครั้งจนรินทร์ทิพย์ต้องแตะแขนแล้วพาเดินลงเรือนไปพร้อมกัน

   ส่วนจอมทัพแกล้งทำเป็นเมินคนที่กำลังร้องไห้ด้วบการเดินเข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องหนังสือต่อโดยปล่อยให้พัณณิตานั้นรู้สึกผิดอยู่คนเดียวทั้งวันจนมืดค่ำก็นอนไม่หลับ

  จนกระทั่งทนไม่ไหวลุกขึ้นมาจากเตียงนอนโดยที่พริ้มพรายที่นอนอยู่ตรงหน้าประตูห้องลุกขึ้นมามองอย่างแปลกใจ

   "คุณหญิงจะไปไหนหรือเจ้าคะ"

   "ข้าจะไปหาลูกข้า"

   พัณณิตาออกมาจากห้องนอนตอนดึกแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าประตูพร้อมกับพริ้มพรายที่เอื้อมมือไปเคาะประตูห้องอย่างแผ่วเบา

   "พาขวัญ เปิดประตูให้แม่หน่อยนะลูก"

   ก๊อก ก๊อก

   "พาขวัญ แม่ขอโทษด้วยนะลูก" พัณณิตาน้ำตาคลอพร้อมพูดต่อด้วยน้ำเสียงสันเครือ "แม่รู้ความจริงทุกอย่างจากพ่อแทนแล้ว"

   เสียงเรียกนั้นทำให้จอมขวัญที่กำลังจะหลับต้องลุกขึ้นนั่งก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้างสร้อยทิพย์ที่นั่งอยู่บนพื้นตรงหน้าประตูแต่ไม่ยอมพูดหรือโต้ตอบอะไรออกไป แต่แอบยินพิงประตูบานนั้นแล้วตั้งใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดออกมาอย่างเริ่มจะใจอ่อน

    "แม่ผิดเองที่ไปหลงเชื่อคำของแม่พลอยปภัสและไม่ยอมฟังสิ่งที่ลูกกำลังจะอธิบาย แม่ขอโทษนะ"

    "แต่คุณแม่สั่งไม่ให้ข้าออกไปเที่ยวนอกเรือน"

    จอมขวัญยอมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแง่งอนทำให้คนฟังนั้นเริ่มยิ้มกว้างอย่างมีความหวัง

    "ที่แม่ทำไปเพราะความเป็นห่วงกลัวว่าลูกจะหายไปอีกเหมือนตอนนั้น" พัณณิตายกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด "ไม่อย่างนั้นยกเลิกคำสั่งห้ามออกจากเรือนก็ได้หากเจ้ายอมออกมาให้แม่เห็นหน้าหน่อยเถิดหนาพาขวัญ"

   แอ๊ด~

   "พาขวัญลูกแม่"

  พัณณิตาโผเข้ากอดจอมขวัญทันทีที่อีกฝ่ายยอมเปิดประตูห้องออกมาทำให้จอมขวัญชะงักเล็กน้อยด้วยความตกใจ

   "แม่ขอโทษนะลูก ฮึก แม่จะไม่ทำแบบนั้นอีก"

   "ไม่ร้องซิเจ้าคะคุณแม่"

   จอมขวัญกอดกลับพร้อมเช็ดน้ำตาให้อีกฝ่ายด้วยความสงสารซึ่งตนเองก็ลืมนึกไปเลยว่าอีกฝ่ายนั้นป่วยง่ายขนาดไหน

   "เดี๋ยวคุณแม่จะป่วยเอานะเจ้าคะ"

   "พาขวัญ" พัณณิตายิ้มกว้างพร้อมลูบผมอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนและทะนุถนอม "แม่รักลูกนะ"

   "พาขวัญก็รักคุณแม่เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกอดอีกฝ่ายกลับโดยที่สายตาเหลือบไปเห็นจอมทัพที่ยืนยิ้มกว้างอยู่ด้านหลังด้วยสายตาชื่นชม





*************มีต่อค่ะ************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 12-07-2019 22:16:19


   หลังจากวันนั้นที่ยอมคืนดีกัน จอมขวัญก็ออกมานั่งร้อยมาลัยด้านนอก ต่อมาด้วยการจัดดอกไม้ที่ผลงานออกมาสวยงามไม่แพ้ใครโดยที่ไม่ต้องสอนอะไรมากทำให้พัณณิตายกพวงมาลัยดอกไม้ขึ้นมาดูอย่างชื่นชม

   "งดงาม ฝีมือการร้อยมาลัยของเจ้างดงามกว่าเมื่อก่อนมากนัก"

   "เมื่อก่อนลูกร้อยพวงมาลัยไม่สวยหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมทำหน้าตาสงสัยทำให้พัณณิตาหัวเราะออกมาด้วยความเอ็นดู

   "สวยแต่ชอบแอบไปหนีเที่ยวนอกบ้านน่ะซิ"

   พอได้ฟังคำตอบนั้นแล้วทำให้จอมขวัญยิ้มแห้งออกมาก่อนจะหันไปมองเมืองที่เดินนำใครบางคนที่ตนเองนั้นไม่อยากจะพบหน้าพาตรงไปยังห้องหนังสือของจอมทัพซึ่งน่าจะคุยเรื่องงาน

   ส่วนแทนกานต์หลังจากทำงานเสร็จก็รีบเข้ามาหาจอมขวัญที่เรือนท่านเจ้าคุณที่ตนเองนั้นหายหน้าไปทำงานประมาณสองสัปดาห์  แทนกานต์เดินตามเมืองมาจนถึงห้องหนังสือก่อนจะยกมือไหว้จอมทัพด้วยความนอบน้อม

   "สวัสดีขอรับคุณลุง"

   "ไหว้พระเถิดพ่อแทน มาวันนี้มีเรื่องอันใดรึ"

   จอมทัพมองคนตรงหน้าด้วยแววตาที่ยังขุ่นเคืองใจไม่หายทำให้แทนกานต์ก้มลงไปกราบตรงตักของอีกฝ่ายด้วยแววตาที่สำนึกผิด

   "ข้ามาวันนี้เพื่อมากราบขอโทษท่านเจ้าคุณเรื่องที่เผลอตัวไปทำพาขวัญเสียหายกลางตลาดน่ะขอรับ ข้าไม่ได้ตังใจแค่อยากช่วยชีวิตน้องเท่านั้น"

   "ไม่เป็นไรหรอก"

   จอมทัพถอนหายใจพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องงานด้วยสีหน้าที่จริงจัง

   "แล้วตอนนี้งานทางกรมพระคลังหลวงที่ข้าสั่งไปเป็นอย่างไรบ้าง คืบหน้าไปถึงไหนแล้วล่ะ"

   "ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีขอรับคุณลุง..."

    ทั้งสองหารือเรื่องงานกันนานสองนานอย่างเคร่งเครียดโดยแทนกานต์นั้นแอบชำเลืองมองจอมขวัญที่นั่งร้อยมาลัยอยู่กับคุณหญิงพัณณิตาอีกมุมหนึ่งของเรือน  จนเวลาล่วงเลยไปจนถึงตอนเย็นที่ท้องฟ้าใกลมืดจอมทัพจึงสั่งให้แทนกานต์กลับบ้านด้วยความเป็นห่วง

   "นี่จวนเวลาใกล้จะมืดแล้ว ลุงว่าพ่อแทนกลับบ้านไปก่อนเถิดหนา"

   "ถ้าเช่นนั้นข้าลานะขอรับคุณลุง"

   แทนกานยกมือขึ้นมาไหว้ก่อนจะชำเลืองไปยังจอมขวัญที่กำลังนั่งแกะสลักผลไม้อย่างเอาจริงเอาจังทำให้แทนกานต์อมยิ้มเล็กน้อยแล้วเดินลงจากเรือนไปด้วยตวามดีใจที่วันนี้มีโอกาสเห็นหน้าอีกฝ่ายแม้จะเพียงนิดเดียวก็เถอะ

   โดยที่แทนกานต์จะมาที่บ้านเพื่อปรึกษาหารือเรื่องงานกับจอมทัพทุกวันในตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นและทุกครั้งจะแอบมองจอมขวัญอย่างไม่ละสายตาหรือไม่แอบชะเง้อมองอีกฝ่ายเป็นประจำทุกวันจนมืดค่ำถึงจะยอมกลับบ้าน


    จนกระทั่งวันนี้เหมือนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะหาอีกฝ่ายไม่เจอ ซึ่งอาการและท่าทางชะเง้อนั้นทำให้จอมทัพทักขึ้นมาอย่าเหนื่อยใจ

   "มองอันใดอยู่รึพ่อแทน"

   "เปล่าขอรับคุณลุง"

   แทนกานต์รีบสายหน้าพร้อมยิ้มแห้งให้จนจอมทัพกระตุกยิ้มตรงมุมปากด้วยความรู้สึกขบขัน

   "คุยเรื่องงานกันมานานโขแล้ว เจ้าลองลงไปนั่งเล่นที่ริมท่าน้ำหน่อยไหมล่ะพ่อแทน"

   "ขอรับคุณลุง"

    แทนกานต์ยิ้มกว้างอย่างเข้าใจความหมายก่อนจะรีบลงไปจากเรือนทิ้งให้จอมทัพหัวเราะในลำคอก่อนจะหยิบหนังสือขี้นมาอ่านอย่างอารมณ์ดี



   ทางด้านจอมขวัญก็แอบหนีมายืนรับลมอยู่ตรงศาลาริมท่าน้ำจนพอใจแล้วจึงหันหลังตังท่าจะกลับขึ้นเรือน แต่ดันไปชนแผ่นอกของใครบางคนอย่างแรงจนหงายหลัง

   "อ๊ะ!"

   "ระวังหน่อยซิ"

    แทนกานต์เอื้อมมือไปคว้าเอวอีกฝ่ายไว้แน่นเพื่อจะไม่ให้ล้มทำให้จอมขวัญชะงักเล็กน้อยทั้งสองจึงจ้องตากันอยู่นาน ก่อนที่จอมขวัญจะถอยห่างออกมาอย่างตื่นกลัวแล้วทำสีหน้าไม่พอใจ

   "คุณหลวงมาทำอะไรที่นี่เจ้าคะ ไม่ได้ขึ้นไปคุยงานราชการกับคุณพ่อข้างบนหรอกหรือ"

   "คุยงานกับคุณลุงเสร็จแล้ว"

    แทนกานต์ยิ้มกว้างแม้อีกฝ่ายจะตีหน้ายักษ์ใส่ตนเองก็ตาม

   "งั้นทำไมไม่กลับล่ะเจ้าคะ"

   "พี่อยากมาคุยกับเจ้าก่อน"

   แทนกานต์เดินเข้ามาใกล้ทำให้จอมขวัญถอยหลังอีกก้าวพร้อมเชิดหน้าขึ้นมามองอย่างแง่งอน

   "ไม่มีอะไรต้องคุยเจ้าค่ะ"

   "เดี๋ยวก่อนซิพาขวัญ"

   แทนกานต์กางแขนออกมากั้นไม่ให้อีกฝ่ายเดินหนีทำให้จอมขวัญมองตาขวางด้วยความหงุดหงิด

   "ถอย..."

   "ดอกบัวนี้ข้ามอบให้เจ้า"

   จอมขวัญชะงักก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจลืมความงอนไปนิดนึงเมื่ออีกฝ่ายยื่นดอกบัวที่แอบซ่อนอยู่ด้านหลังมาให้ตนเองด้วยสีหน้าที่อ้อนวอน

   "เอามาให้ข้าทำไม"

   "ข้าขอโทษ"

    แทนกานต์พูดเสียงเบาพร้อมมองด้วยสายตาสำนึกผิด

   "ข้าจะไม่ทำแบบนั้นกับเจ้าต่อหน้าคนอื่นอีกแล้ว"

   จอมขวัญไม่ตอบพร้อมเชิดหน้าหันไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ตนเองนั้นใจอ่อน ทำให้แทนกานต์ทิ้งตัวนั่งคุกเข่าบนพื้นไม้ตรงหน้าอีกฝ่ายพร้อมยื่นดอกบัวมาให้จนกลีบดอกบัวสัมผัสกับมือนุ่มนิ่มอย่างแผ่วเบา

   "ยกโทษให้ข้านะพาขวัญ"

   "อืม"

   จอมขวัญถอนหายใจออกมาแต่แอบอมยิ้มตรงมุมปากแล้วยื่นมือไปรับดอกบัวมาถือเอาไว้ ทำให้แทนกานต์เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตื่นเต้น

   "แต่แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ"

   "เจ้าหายงอนข้าจริงรึ"

   "อยากให้งอนต่อหรอ"

   จอมขวัญทำแก้มพองลมเตรียมตัวจะงอนต่อทำให้แทนกานต์รีบยกมือขึ้นห้ามทันที

   "ไม่เอาจ้ะ"

   "แต่คุกเข่าแล้วมาให้ดอกบัวแบบนี้เหมือนคุณหลวงน่ะ..."

   จอมขวัญช้อนตาขึ้นมามองแล้วเหยียดยิ้มตรงมุมปาก

  "เอามาบูชาข้าเลยนะเจ้าคะ"

   "ถ้าบูชาแล้วเจ้าจะยอมหายโกรธ"

   แทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูอย่างแผ่วเบาและแอบสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวเข้าไปเต็มปอด

   "พี่จะยอมเอาดอกบัวมาบูชาเจ้าทั้งชีวิตเลย"

   "เอาดอกบัวไปบูชาพระเถอะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญถอยหลังพร้อมหันหลังไปมองทางอื่นเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายเห็นหน้าตนเองที่ตอนนี้เริ่มแดงจัดด้วยความเขินอาย


   'ทำไมปากหวานแบบนี้นะ!'


   "หึหึ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะย้ายตัวเองมานั่งเบียดอีกฝ่ายพร้อมวางมือไปตรงพนักพิงด้านหลังคล้ายกำลังโอบกอดกัน ทำให้คุณหญิงทั้งสองคนที่กำลังยืนมองอยู่บนเรือนนั้นยิ้มให้กันอย่างพึงพอใจ

   "พอเห็นเด็กทั้งสองคืนดีกันได้ข้าเองก็สบายใจ"

   "คราหน้าข้าจะไม่เชื่อคำของสองแม่ลูกนั่นอีกแล้ว"

   พัณณิตาพูดขึ้นมาด้วยความเจ็บใจทำให้รินทร์ทิพย์รีบเสริมทันที

   "น้องบอกคุณพี่แล้วว่าไม่ต้องไปใจอ่อนให้สองแม่ลูกนั่น คุณพี่ก็ไม่ยอมฟังน้องตั้งแต่แรก"

   "ถ้าไม่เห็นแก่หน้าคุณพี่ข้าก็ไม่อยากทำนักหรอก"

   พัณณิตาตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนรินทร์ทิพย์จะชวนเปลี่ยนเรื่องโดยชี้ไปที่เด็กทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้างกันตรงท่าน้ำที่ดูเข้ากันได้อย่างเหมาะสม

   "พ่อแทนก็ดูรักพาขวัญมากกว่าเมื่อก่อน เห็นทีน้องต้องเริ่มเตรียมสินสอดตั้งแต่ตอนนี้กระมั้ง"

   "น้องรินทร์ทิพย์ก็พูดเกินไป"


   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะคาดหวังถึงการแต่งงานของลูกตนเอง

    "แต่ถ้าเริ่มหาฤกษ์แต่งงานอีกครั้งตั้งแต่ตอนนี้คงจะไม่รีบร้อนเกินไปใช่หรือไม่"

   "ไม่เลยเจ้าค่ะคุณพี่พัณ"

    รินทิพย์รีบสนับสนุนพร้อมกับวางแผนเพื่อให้ลูกตนเองมาที่นี่ทุกวันและดูเหมือนได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเพราะหลังจากที่ยอมคืนดีด้วยตั้งแต่วันนั้นแทนกานต์ก็มาหาที่เรือนทุกวันทั้งมาเรื่องงานบ้างเรื่องส่วนตัวบ้าง โดยมาพร้อมรินทร์ทิพย์บ้าง และมาคนเดียวบ้าง เพื่อหวังจะมาพบหน้าจอมขวัญที่มักจะนั่งร้อยมาลัยและจัดดอกไม้กับพัณณิตาทั้งวัน



   แต่วันนี้จอมขวัญแอบหลบหน้าลงมาสูดอากาศด้านล่างหลังจากที่ร้อยมาลัยเสร็จเรียบร้อยไปหลายพาน

   แต่แล้วต้องเบ้ปากเมื่อเหลือบไปเห็นคุณหลวงกำลังเดินมาหาด้วยรอยยิ้มมุมปากน่ากวนประสาทนั่นยิ่งทำให้จอมขวัญแกล้งทำเป็นไม่สนใจ

   "พาขวัญ"

   เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้จอมขวัญถอนหายใจก่อนจะหันไปมองคนตรงหน้าแล้วยกมือขึ้นมาไหว้ทั้งที่ใบหน้าบึ้งตึง

  "ข้าไหว้เจ้าค่ะคุณหลวง"

   "ไม่ต้องไหว้หรอก"

    แทนกานต์ยิ้มกว้างพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าตาไม่กระพริบ

   "วันนี้ข้าไม่เห็นเจ้าอยู่บนเรือนเลย ที่แท้ลงมานั่งเล่นริมน้ำเองหรอกหรือ"

   "เห็นคุยเรื่องราชการกับคุณพ่ออยู่ข้าเลยไม่อยากกวน"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมหลบสายตาอีกฝ่ายด้วยความอึดอัดทำให้แทนกานต์เขยิบเข้ามาใกล้มากกว่าเดิม

   "ไม่รบกวนหรอก"

   "แต่คุณหลวงมาทุกวันแบบนี้"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วยความสงสัยปนตั้งใจไลอีกฝ่ายเล็กน้อย

   "ทางผู้ใหญ่ในวังหลวงไม่ว่าหรือคะ"

   "ไม่หรอกเพราะที่ข้ามาที่นี่ทุกวันก็ปรึกษาหารือเรื่องงานกับเจ้านายของข้าซึ่งก็คือพ่อของเจ้านั่นแหละ จึงไม่ได้มีผู้ใดว่าอยู่แล้ว"

   แทนกานต์จ้องมองหน้าของอีกฝ่ายด้วยสายตาน้อยใจ

  "หรือเจ้าไม่อยากให้ข้ามาอย่างนั้นหรือ"


   'ไม่อยากน่ะซิ'


   จอมขวัญตอบในใจแต่ไม่ได้พูดออกไปซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มตรงมุมปาก

   "ไม่ตอบแบบนี้แสดงว่าข้ามาทุกวันได้ใช่หรือไม่"

   "ตามใจคุณหลวงเถอะเจ้าค่ะ ข้าขอตัวขึ้นเรือนแล้วนะเจ้าคะ"

    ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงเลยทำหน้าบึ้งตึงใสอีกฝ่ายแล้วจึงเดินหนีขึ้นไปบนเรือนเพื่อที่จะหลบหน้า
 ปล่อยให้แทนกานต์นั่งอมยิ้มกว้างอยู่คนเดียวตรงท่าน้ำราวกับเป็นคนบ้า


    'งอนเก่งไปนิดแต่แบบนี้ก็...น่ารักดี'





*******************************



โธ่พ่อแทน~

ง้อคู่หมั้นด้วยดอกบัว  :o8: :-[

รู้เลยว่าใครใหญ่กว่ากันขนาดยังไม่แต่งงานนะ  :laugh: :laugh:


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 12-07-2019 22:39:14
อาการหนักนะเนี่ย555
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 12-07-2019 22:54:33
คุกเข่าง้อด้วยดอกบัวเหมือนบูชาจริงๆ ถ้าแต่งงานกันนี่คือเข้าสมาคมกลัวเมียเลยนะ555
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 12-07-2019 23:02:25
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 13-07-2019 13:30:17
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Yara ที่ 13-07-2019 21:41:13
ง้อสาวด้วยดอกบัวนี่นะ ไม่เอาดอกมะลิมาด้วยเลยล่ะ :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 15-07-2019 13:27:05
หึหึ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 7}}} [UP 12/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 16-07-2019 09:23:32
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 8}}} [UP 21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 21-07-2019 22:35:43
เรือนหลังที่ 8



   หลายสัปดาห์มาแล้วที่จอมขวัญทำกิจกรรมที่เหมือนเดิมติดต่อกันเกือบทุกวันไม่ว่าจะเป็นการนั่งร้อยมาลัย จัดดอกไม้ หรือบางครั้งก็แอบลงไปยังเรือนครัวเพื่อทำอาหารกับขนมบ้างแต่มันก็อดที่จะรู้สึกเบื่อไม่ได้


   'อยากออกไปเที่ยวจัง'


   "คุณหนูเป็นอะไรรึเปล่าเจ้าคะ"

    สร้อยทิพย์ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นจอมขวัญวางพวงมาลัยบนพานดอกไม้ด้วยสีหน้าท่าทางที่เบื่อหน่าย

   "อยู่แต่ในบ้านแบบนี้เบื่อจังเลยครับพี่สร้อย"

   "หรือจะลงไปนั่งเล่นตรงท่าน้ำดีไหมเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เสนอแต่ถูกอีกฝ่ายส่ายหน้าแล้วยื่นปากใสทำให้อดเอ็นดูไม่ได้

   "หรือคุณหนูอยากออกไปเที่ยวข้างนอกใช่ไหมเจ้าคะ"

   "พี่สร้อยรู้ใจผมจังเลย" จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะทำหน้าเจื่อนลง "แต่คุณแม่คงจะไม่ยอมให้ไปหรอก"

   "คุณหนูลองไปขอดูซิเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เสริมขึ้นมาแต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้ากลับมาอย่างเหงาหงอย

   "เคยขอไปหลายครั้งแล้วแต่คุณแม่ก็หาเรื่องเลี่ยงไม่ให้ผมออกไปไหนซักครั้งเลย"

    "อ่า...เอายังไงกันดีล่ะเจ้าคะ" สร้อยทิพย์ทำท่าทางคิด "หรือจะไปขอท่านเจ้าคุณดีเจ้าคะ"

   "คุณพ่อเข้าวังหลวงไม่ได้กลับบ้านมาหลายวันแล้ว"

   จอมขวัญตอบพร้อมทำสีหน้าสลดก่อนจะดีดนิ้วขึ้นมาเมื่อความคิดบางอย่าง

    "คิดออกแล้ว!"

    "คิดอะไรออกหรือเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์เอียงคอถามด้วยความสงสัยทำให้จอมขวัญก้มลงไปกระซิบข้างหูกันสองคนจนกระทั่งคนฟังทำตาโตด้วยความตกใจ

  "ตายแล้ว!"

  "ชู่ว์"

    จอมขวัญยกนิ้วขึ้นมาทาบตรงริมฝีปาก

   "อย่าเสียงดังซิครับ"

   "แต่มันเสี่ยงนะเจ้าคะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ทำท่าทางลำบากใจแต่อีกฝ่ายกลับยิ้มตรงมุมปาก

   "แต่ผมอยากไปนี่หน่า อย่าเสียเวลาเลยเรารีบไปกันเถอะพี่สร้อย"

   จอมขวัญลุกขึ้นก่อนจะมองซ้ายมองขวาแล้วรีบเดินลงไปจากเรือนโดยมีสร้อยทิพย์เดินตามไปอย่างเร่งรีบ  เมื่อมาถึงตรงท่าน้ำก็เห็นมีเรือลำเล็กผูกอยู่จอมขวัญจึงก้าวลงเรือโดยที่สร้อยทิพย์ตามคว้าตัวไว้ไม่ทัน

   "คุณหนู! จะทำอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวสร้อยไปตามอ้ายเมืองมาพายให้"

   "ไม่ต้องหรอกพี่สร้อย" จอมขวัญยิ้มหวานมาให้อย่างประจบ "ผมพายเรือเป็นนะ"

   "แต่..."

   สร้อยทิพย์ลังเลจนจอมขวัญขมวดคิ้วแน่น

   "ถ้าพี่สร้อยไม่ลงมาผมจะไปคนเดียวแล้วนะ"

   "เดี๋ยวก่อนซิเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์จับเรือเอาไว้แน่นแล้วก้าวขึ้นมานั่งบนเรืออย่างเร่งรีบจนจอมขวัญหัวเราะออกอย่างถูกอกถูกใจ

   "ฮะฮะฮะ ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้นะพี่สร้อย ผมไม่พายเรือหนีหรอกน่ะ"

   "คุณหนูแกล้งบ่าวอีกแล้วนะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ปากยื่นจนจอมขวัญหัวเราะดังกว่าเดิมก่อนที่ทั้งสองจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงพัณณิตาตะโกนดังลงมาจากเรือน

   "พาขวัญ! จะไปไหนน่ะลูก! นังพริ้มเองรีบลงไปซิ"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

    พริ้มพรายรีบวิ่งลงมาจากเรือนทำให้สร้อยทิพย์นั้นใจหายใจคว้ำ

   "แม่พริ้มวิ่งมานู่นแล้วเจ้าค่ะ"

   "แย่ละ"

   จอมขวัญบ่นอุบอิบก่อนจะทัดเรือออกจากฝั่งแล้วรีบพายหนีทันที แถมยังแอบหันไปมองเห็นพริ้มพรายยืนตะโกนเรียกปนหอบอยู่ตรงท่าน้ำพอดิบพอดี

   "คุณหนู! กลับมาก่อนเจ้าค่ะ!!!"

   "เองใช้อะไรไม่ได้เรื่องเลยนะนังพริ้ม"

    พัณณิตาตะโกนลงมาอย่างหงุดหงิดพร้อมมองไปยังเรือลำเล็กที่พายออกไปไกลด้วยความเป็นห่วง ส่วนจอมขวัญเมื่อพายเรือออกมาในระยะที่ปลอดภัยแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างขบขัน

   "ดูแม่พริ้มซิพี่สร้อยยืนหอบหนักเลย"

   "บ่าวเห็นแล้วเจ้าค่ะคุณหนู ฮะฮะ"

   สร้อยทิพย์เองก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ ก่อนจะมองหน้าจอมขวัญที่กำลังพายเรืออยู่ด้วยสายตาชื่นชม

   "คุณหนูเก่งจังเลยนะเจ้าคะ พายเรือเป็นด้วย"

   "คุณย่าท่านสอนและพานั่งเรือเล่นประจำน่ะครับ"

   จอมขวัญตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มจนคนมองอดที่จะยิ้มตามไม่ได้

   "คุณย่าคุณหนูต้องเก่งมากแน่เลยใช่ไหมเจ้าคะ"

   "คุณย่าผมเก่งที่สุดเลยล่ะครับ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะตั้งใจพายเรือไปยังทิศทางที่ตนเคยไปคราวที่แล้วจนสร้อยทิพย์อดที่จะสงสัยไม่ได้

   "คุณหนูจะไปไหนเที่ยวที่ไหนเจ้าคะ"

   "ตลาดน้ำบางกะจะ" จอมขวัญยิ้มกว้าง "พี่สร้อยเคยบอกว่าจะพาผมไปนะ"

   "แต่แถวนั้นเป็นน้ำวนนะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ทำหน้าตาเป็นห่วงแต่จอมขวัญกลับยิ้มหวานมาให้อย่างน่ารัก

   "ไม่ต้องห่วงผมจะพายอย่างระวังที่สุดเลย"

   "เจ้าค่ะ"

   ถึงจะตอบไปแบบนั้นแต่สร้อยทิพย์ก็เอามือไปจับขอบเรือแล้วนั่งตัวเกรงไม่ตลอดทางจนคนพายอดที่จะหัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างขบขัน






   ทางด้านแทนกานต์หลังจากคุยงานกับพวกขุนนางในวังเรียบร้อยแล้วก็มาเดินสำรวจตลาดแถวป้อมเพชรว่าค้าขายดีกันขนาดไหนเพื่อเอาไปรายงานกับท่านเจ้าคุณจอมทัพในการหารือครั้งต่อไป

   ซึ่งแทนกานต์นั้นเป็นคนหล่อมากจึงไม่แปลกนักที่เดินไปทางไหนแล้วคนจะพากันมองแบบไม่ละสายตา

   โดยที่เจ้าตัวก็ไม่สนอะไรแถมยังหน้าหงิกจนแสงที่เดินตามข้างหลังอดที่จะทักขึ้นมาไม่ได้

   "คุณหลวงหน้าหงิกจังเลยนะขอรับ"

   "ข้าไม่ชอบ"

   แทนกานต์ตอบด้วยใบหน้าบึ้งตึงและแววตาฉายความหงุดหงิด

   "ข้าจะกลับบ้าน"

   "ขอรับ"

    แสงตอบรับก่อนจะเดินตามหลังเจ้านายตนเองไปอย่างรวดเร็วโดยมีเสียงกระซิบจากสาวน้อยใหญ่ดังตามมาจากด้านหลัง


   "หลวงแทนกานต์รูปงามสมคำร่ำลือนัก"

   "เสียดายที่มีคู่หมั้นแล้ว"


   "หึ"

   พอคิดถึงคู่หมั้นตนเองขึ้นมาทำให้แทนกานต์อดที่จะกระตุกยิ้มออกมาตรงมุมปากไม่ได้


   'คิดถึง'


   คำนี้ดังขึ้นมาจากความรู้สึกที่หลายอาทิตยที่ผ่านมานี้ไม่ได้ไปพบหน้าเพราะมีงานที่จะต้องสะสาง แต่เหมือนจะคิดถึงมากไปหน่อยเพราะตนเหมือนเห็นอีกฝ่ายกำลังพายเรือตรงเข้ามาทางท่าน้ำ

   "อ้ายแสง เองช่วยข้าดูหน่อยซิว่านั่นใช่พาขวัญรึเปล่า"

   "ไหนขอรับ โอ๊ะ!"

   แสงกวาดสายตามองไม่นานก็ไปสะดุดตากับเรือลำเล็กที่กำลังพายมาเทียบท่า

   "นั่นคุณหนูพาขวัญขอรับ"

   "หึ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะเดินตรงไปยังเรือลำนั้นที่จอมขวัญกำลังผูกเชือกกับตอไม้อย่างตั้งอกตั้งใจจนไม่ทันสังเกตเห็นว่ากำลังมีใครเดินมาหาตนเอง 

   พอผูกเรือเสร็จจอมขวัญจึงหันมายิ้มหวานให้สร้อยทิพย์ที่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

   "ไม่ต้องถอนหายใจขนาดนั้นก็ได้มั้งพี่สร้อย"

   "สร้อยกลัวเรือล่มนี่เจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ถอนหายใจออกมาอีกครั้งจนจอมขวัญส่ายหน้าแล้วหัวเราะในลำคอ

   "เราขึ้นไปกันเถอะพี่สร้อย ข้าอยากเดินตลาดจะแย่แล้ว"

   จอมขวัญกำลังตั้งท่าจะลุกขึ้นยืนแต่ต้องชะงักเมื่อมีมือขาวยื่นมาหาตนเอง จนอดที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

   "โอ๊ะ! คุณหลวง!"

   "ตกใจอะไรรึพาขวัญ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอเมื่อเห็นหน้าตาที่เบิกกว้างอย่างน่าเอ็นดู

   "รีบจับมือข้าซิ"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญกัดปากแน่นด้วยความขัดใจก่อนจะยอมวางมือเรียวบางของตนเองลงบนมือขาวนั้นแล้วพยุงตนเองให้ขึ้นมาบนท่าเรือโดยที่สร้อยทิพย์ลุกตามขึ้นมาเองอย่างชำนาญโดยที่ไม่มีใครต้องจับ

   แทนกานต์ยิ้มที่มุมปากพร้อมจ้องมองคู่หมั้นคู่หมายของตนเองด้วยแววตาแปล่งประกายเพราะวันนี้เจ้าตัวแต่งเพียงสไบสีม่วงอ่อนห่มแบบเฉียงทับกับสะไบสีม่วงเข้มที่อยู่ด้านในและนุ่งผ้าถุงจีบหน้าสีน้ำเงินมืดปักด้วยด้ายทองคำโดยที่มีเครื่องประดับกำลังพอดีไม่มากชิ้นจนเกินไปทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะไม่ได้ตั้งใจจะออกจากบ้านมาตั้งแต่แรก

   "เจ้าแอบหนีคุณป้าออกมาเที่ยวอย่างนั้นหรือพาขวัญ"

   "ห๊ะ! คุณหลวงรู้ได้ยังไงเจ้าคะ"

    จอมขวัญทำหน้าเหวอออกมาอย่างลืมตัวโดยมีสร้อยทิพย์ยืนตัวสั่นก้มหน้าหลบสายตาอยู่ด้านหลังทำให้แทนต์กานต์อดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้

   "จะไม่ให้ข้ารู้ได้อย่างไรในเมื่อเจ้าแต่งตัวอยู่บ้านขนาดนี้น่ะ"

   "เอ่อ..."

   พอได้ยินแบบนั้นแล้วทำให้สร้อยทิพย์เหลือบมองจอมขวัญอย่างไม่สบายใจ

   "สร้อยลืมให้คุณหนูเปลี่ยนชุดเลยเจ้าค่ะ"

   "ไม่เป็นไรหรอกน่ะพี่สร้อย ชาวบ้านคนอื่นเขาก็แต่งแบบนี้กันเยอะแยะไป"

   จอมขวัญตอบด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจพร้อมเงยหน้ามองคนที่สูงกว่าอย่างเอาเรื่อง

   "คุณหลวงจะไปฟ้องคุณแม่ใช่ไหมเจ้าคะ"

   "ข้าบอกรึยังว่าจะนำเรื่องของเจ้าไปฟ้อง"

    แทนกานต์ยิ้มหวานพร้อมยกมือขึ้นมาลูบผมนุ่มนิ่มนั้นอย่างแผ่วเบา

   "ออกมาเที่ยวนอกบ้านบ้างก็ดีเพราะถ้าอยู่แต่ในเรือนก็คงจะได้เฉาตายใช่ไหมล่ะ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญปากยื่นก่อนจะพยายามเอาหัวหลบฝ่ามือนั้นเล็กน้อยทำให้แทนกานต์เปลี่ยนตำแหน่งย้ายมาจับมือนุ่มนิ่มนั้นไว้แทน

   "ถ้าเช่นนั้นข้าจะพาเจ้าเดินเที่ยวตลาดบางกะจะเองดีหรือไม่"

   "ข้าเกรงใจคุณหลวงเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญพยายามเลี่ยงแต่อีกฝ่ายทำหูทวนลมและกระชับมือแน่นขึ้นไปอีก

   "งั้นเริ่มต้นโดยการไปไหว้พระที่วัดบางกะจะกันเถอะนะ"

   "ด...เดี๋ยวซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญอึกอักแต่ถูกอีกฝ่ายกระตุกมือแล้วลากให้เดินไปพร้อมกันโดยที่ตนเองนั้นยังงุนงงไม่หาย  ทำให้สร้อยทิพย์และแสงแอบหัวเราะเจ้านายตนเองและรีบเดินตามหลังโดยเว้นระยะห่างพอสมควร

   จากตอนแรกที่ขัดขืนก็กลายเป็นเดินตามอีกฝ่ายอย่างว่าง่ายพร้อมมองบรรยากาศรอบตัวที่มีของขายและมีคนเดินสวนกันไปมาอย่างคึกคักจนจอมขวัญอดที่จะยิ้มหวานออกมาไม่ได้โดยที่แทนกานต์แอบหันมามองรอยยิ้มนั้นอย่างไม่ละสายตา

   จนกระทั่งเดินมาถึงหน้าวัดบางกะจะซึ่งความสวยงามของวัดนั้นทำให้จอมขวัญจ้องมองด้วยความตกตะลึง

   "โห๋! สวยจัง"

   "เข้าไปด้านในกันเถอะ"

   แทนกานต์ชวนซึ่งจอมขวัญรีบพยักหน้ารับแล้วเดินไปพร้อมกัน

    เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณวัดก็พบกับเจดีย์ทองคำองค์ใหญ่ที่เด่นเป็นสง่าอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินเข้ามาในพระอุโบสถซึ่งภายในประดิษฐานพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทองคำ และภาพฝาผนังที่มีความงดงามมาก

   จอมขวัญก้มลงกราบอย่างนอบน้อมพร้อมมองพระพทธรูปปางมารวิชัยตรงหน้าด้วยความเลื่อมใสและศรัทธาโดยมีแทนกานต์แอบชำเลืองมองอย่างไม่ละสายตาจนจอมขวัญรู้สึกตัวและหันมามองด้วยความสงสัย

   "มองอะไรหรือเจ้าคะคุณหลวง"

   "เปล่าหรอก"

   แทนกานต์ส่ายหน้าพร้อมยิ้มตรงมุมปาก

   "เราออกไปข้างนอกกันเถอะ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญพยักหน้าพร้อมทั้งเดินออกมาเห็นสร้อยทิพย์และแสงกำลังยืนรออยู่ด้านนอก จอมขวัญเดินตรงเข้าไปกอดแขนสร้อยทิพย์อย่างออดอ้อน

   "พี่สร้อยเราไปเดินตลาดกันเถอะข้าเห็นมีของขายเยอะเลย"

   "เจ้าค่ะ"

    สร้อยทิพย์เดินตามแรงดึงของเจ้านายตนเองโดยมีแทนกานต์เดินตามหลังตลอดเวลาด้วยสายตาเอ็นดู

   จอมขวัญตื่นตาตื่นใจกับตลาดน้ำแบบที่แพลอยผูกกันยาวทั้งสองฝั่งฟากแม่น้ำและเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย จีน แขก ขายของมากมายทั้งขายน้ำตาลทราย น้ำตาลกรวด สาคูเม็ดใหญ่เม็ดเล็ก กำมะถัน และพวกสมุนไพรหลายชนิดทั้งจันทน์แดง หวายตะค้า และสิ่งของหลายชนิดจากแดนใต้ รวมไปถึงอาหารและขนมหวานมากมายละลานตาไปหมด  จนกระทั่งจอมขวัญไปสะดุดตากับขนมชนิดหนึ่งที่แปลกตาไม่เคยเห็นมาก่อน

   "ขนมอะไรน่ะน่ากินจัง"

   "ขนมโคเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์อมยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมาในลำคอเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายเบิกตากว้างแล้วพูดจาที่ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่

   "ทำมาจากวัวหรอ"

   "ไม่ใช่เจ้าค่ะ" สร้อยทิพย์ยิ้มให้อย่างเอ็นดู "แต่เป็นชื่อของขนมจากแดนใต้ต่างหาก"

   "น่ากินจังเลย"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าร้านขายขนมด้วยแววตาเป็นประกาย

   "ป้าจ๊ะ เอาขนมโคหนึ่งชุดนะ"

   "ได้เลยเจ้าค่ะแม่หญิง"

    แม่ค้ายิ้มกว้างพร้อมจัดขนมลงบนใบกล้วยสีเขียวเข้มก่อนจะยื่นให้กับลูกค้าโดยที่สร้อยทิพย์เป็นคนจ่ายเงิน

   จอมขวัญหยิบขนมโคขึ้นมากินก่อนที่แก้มยุ้ยนั้นจะพองลมและเคี้ยวหนุมหนับในปากด้วยความเพลิดเพลินเพราะขนมที่ตนเองกินนั้นมีสีสันที่สวยงามตัวแป้งนั้นนุ่มหนึบไม่แข็งกระด้างและหอมกลิ่นมะพร้าว จนอดที่จะหยิบไปจ่อปากบ่าวรับใช้ของตนเองไม่ได้

   "อร่อยจัง พี่สร้อยลองชิมดูซิ"

   "ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ผงะก่อนจะยิ้มแห้งมาให้เมื่อคู่หมั่นคู่หมายของอีกคนมองมาอย่างคาดโทษแต่จอมขวัญนั้นไม่รู้เรื่องอะไรจึงขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   "ทำไมล่ะ"

   "ไหนขอข้าลองชิมดูซิ"

   แทนกานต์กุมมือนุ่มนิ่มพร้อมกับก้มหน้าลงไปกินขนมในมือนั้นเต็มคำพร้อมกับยิ้มกว้างมาให้จนสาวที่อยู่แถวนั้นใจละลายเป็นแถว

   "อืม...อร่อยจริงด้วย"

   "คุณหลวง!"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดและรีบดึงมือกลับมาทันที

   "คุณหลวงจะกินทำไมไม่หยิบเองล่ะเจ้าคะ"

   "ข้าอยากให้เจ้าป้อนบ้างไม่ได้หรอ"

   แทนกานต์ถามกลับพร้อมหน้าตาออดอ้อนทำให้จอมขวัญหน้ามุ่ยด้วยความอารมณ์เสีย

   "ได้เจ้าค่ะ แต่คราวหลังบอกกันก่อนก็ดีนะ"

   "คราวหน้าข้าจะบอกเจ้าแล้วกัน"

    แทนกานต์ตอบกลับอย่างอมยิ้มทำให้จอมขวัญหน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ  ซึ่งในระหว่างนั้นเองก็มีเสียงหวานเรียกดังขึ้นมาจากด้านหลัง

   "คุณหลวงแทนกานต์"

   "แม่นวล"

   แทนกานต์ยกมือรับไหว้ทำให้จอมขวัญหันไปมองด้วยสายตาสงสัย

   หญิงสาวตรงหน้าดูสวยและตัวเล็ก นุ่งผ้าสไบสีเขียวอ่อนและผ้าถุงสีเขียวน้ำทะเลพร้อมกับสวมเครื่องประดับไม่ค่อยมากเท่าไหร่ แต่สง่างามโดยเฉพาะรอยยิ้มหวานนั่น

   แถมเดินมาควงแขนแทนกานต์อย่างถึงเนื้อถึงตว

   "ไม่ได้เจอกันนานเลยนะเจ้าคะ"

   นวลจันทร์ยิ้มหวานพร้อมจ้องมายังจอมขวัญที่ยืนอยู่อย่างสนอกสนใจ

   "แล้วแม่หญิงผู้นี้คือ..."

   "พาขวัญ"

   แทนกานต์ตอบพร้อมเอามืออีกฝ่ายแขนออกจากแขนตัวเองแล้วถอยหลังมายืนข้างคู่หมั้นคู่หมายของตนเอง

   "คู่หมั้นของข้าเอง"

   "สวยจังเลยนะคะ" นวลจันทร์อมยิ้มตรงมุมปาก "เหมือนที่คุณหลวงบอกข้าไม่มีผิด"

   "เอ่อ...ข้าชื่อพาขวัญ เป็นบุตรสาวของเจ้าพระยาจอมทัพเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญอึกอักเริ่มวางตัวไม่ถูกทำให้นวลจันทร์ยิ้มตาหยีมาให้อย่างน่ารัก

   "ข้าชื่อนวลจันทร์" นวลจันทร์ยิ้มหวาน "ตอนนี้ได้ถวายตัวเป็นนางรับใช้เจ้าฟ้าทองสุกในวังหลวงน่ะจ้ะ"

   "อ๋อ...เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญพยักหน้ารับทำให้นวลจันทร์ยิ้มหวานหันไปกอดแขนออดอ้อนคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน

   "คุณหลวงเจ้าขา พาข้าไปเดินเล่นตรงนู้นหน่อยได้ไหมเจ้าคะ เราสองคนไม่ได้เดินเล่นกันนานแล้วนะ"

   นวลจันทร์หันมายิ้มให้จอมขวัญด้วยสายตาเป็นมิตร

   "อ้อ! พาขวัญไม่ว่าอะไรใช่หรือไม่"

   "ถ้าเช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานกลับก่อนจะเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีสร้อยทิพย์เดินตามไปด้วยความรีบร้อน ทำให้แทนกานต์หันมาจ้องคนขี้แกล้งอย่างไม่พอใจ

   "เจ้าจะแกล้งทำไม"

   "ข้าสนุกนี่หน่า"  นวลจันทร์ยิ้มแป้นมาให้อย่างน่าหมั่นเขี้ยว  "แต่คู่หมั้นคู่หมายของคุณหลวงน่ะ สวยสมคำร่ำลือยิ้งนัก"

   "ไว้แต่งงานแล้วข้าจักเชิญเจ้าไปแล้วกัน"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมหันไปมองจอมขวัญที่เดินไปแถวท่าเรือ

   "จริงนะเจ้าคะ อย่าลืมชวนน้องนะ" นวลจันทร์ชะเง้อตามแล้วอมยิ้ม "เดินงอนไปนู้นแล้ว รีบเดินตามไปซิเจ้าคะ"

   "อืม ข้าลาล่ะ"

   แทนกานต์รีบเดินตามไปด้วยความรีบร้อนแต่ก็ไม่ทันเมื่ออีกฝ่ายพายเรือหนีออกไปแล้ว จึงสั่งให้แสงนั้นเร่งมือพายเรือตามเรือของจอมขวัญที่พายไปไกลพอสมควร




   จนกระทั่งทันกันในที่สุดทำให้แทนกานต์ตะโกนถามอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มมุมปากและน้ำเสียงที่หยอกล้อ

   "เดี๋ยวก่อนซิ เจ้าจะรีบพายเรือไปไหน"

   "ข้าไม่อยากรบกวนเวลาของคุณหลวง"

   จอมขวัญตอบกลับพร้อมรีบพายเรือหนีทำให้แทนกานต์แอบอมยิ้ม

   "ข้าไม่ได้ยุ่งอะไร  อีกอย่างแม่นวลก็เป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นเอง"

   "แค่น้องสาวแล้วมาเกาะแขนเกาะขาคุณหลวงแถมชวนไปเดินเที่ยวแบบนั้นได้หรือเจ้าคะ"

    จอมขวัญหันมาค้อนใส่พร้อมกับรีบจ้วงเรือหนีทำให้แทนกานต์ยิ้มกว้างด้วยความเอ็นดู

    "เดี๋ยวก่อนซิ รีบพายไปเร็วอ้ายแสง"

   "ขอรับคุณหลวง"

   แสงรับคำแล้วรีบพายเรือตามไปอย่างเร่งรีบ ระหว่างที่กำลังพายเรืออยู่นั้นเองก็มีเสียงตะโกนเรียกมาจากเรือที่พายมาจากด้านหน้าเสียงดังลั่น

   "น้องพาขวัญ~"

  "อ๊ะ! นั่นออกขุนจักรนี่เจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ร้องอย่างแตกตื่นทำให้จอมขวัญกัดปากแน่นด้วยความขัดใจ

   "โอ๊ย...จะเจอทำไมเนี่ย"

   "น้องพาขวัญจะพายเรือไปไหนหรือจ๊ะ"

   จักรกวินยิ้มหวานพร้อมพายเรือมาดักหน้าทำให้จอมขวัญต้องหยุดเรืออย่างเลี่ยงไม่ได้

   "ข้ากำลังจะกลับบ้านเจ้าค่ะ"

   "แล้วไม่มีบ่าวไพร่มาพายเรือให้หรือ"

   จักรกวินถามด้วยด้วยตากรุ่มกริ่มทำให้จอมขวัญยิ้มแห้ง

   "ข้าอยากพายเรือเองน่ะเจ้าค่ะ"

   "ถ้าเช่นนั้นเราไปพายเรือเล่นกันดีหรือไม่"

   ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะตอบก็มีเสียงทุ้มขัดขึ้นมาจากด้านหลัง

    "คงไม่ได้เพราะวันนี้พาขวัญพายเรือออกมาเที่ยวกับข้า"

   "แทนกานต์" จักรกวินขมวดคิ้วแน่น "นี่น้องพาขวัญมาพายเรือเล่นกับแทนกานต์อย่างนั้นหรือ"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญพยักหน้ารับก่อนจะถูกแทนกานต์เอาเรือมาเทียบและยื่นมือมาจับเรือเอาไว้แน่น ทำให้จักรกวินจ้องมองมาอย่างหาเรื่อง

   "ทำไมวันนี้ถึงมีเวลาพายเรือเล่นเล่า"

   "แล้วเจ้ามายุ่งอะไรด้วยเล่า" แทนกานต์จ้องอีกฝ่ายแขม่ง "คู่หมั้นคู่หมายจะมานั่งพายเรือเล่นด้วยกันก็ไม่แปลก"

   "อ้ายแทน!"

    จักรกวินเริ่มหงุดหงิดแต่ต้องเก็บความไม่พอใจเอาไว้เพราะยังอยู่ต่อหน้าจอมขวัญนั่นเอง

    ระหว่างนั้นเองมีเรือของแสงหล้ากำลังพายมาจากด้านหลังมองเห็นเรือของแทนกานต์พอดี ทำให้เพลิงซึ่งเป็นบ่าวรับใช้นั้นเรียกเจ้านายตนเองที่กำลังนั่งดื่มเหล้าอย่างสบายอกสบายใจทั้งที่พึ่งฝึกซ้อมดาบมา

   "ท่านหมื่นขอรับ นั่นเรือของคุณหลวงแทนกานต์นี่ขอรับ"

   "พายเรือไปชนมัน"

   แสงหล้าแสยะยิ้มซึ่งคำสั่งนั้นทำให้เพลิงร้องออกมาด้วยความตกใจ

   "ห๊ะ!"

   "พายไปชนมันเลย!"

    แสงหล้าสั่งอีกครั้งพร้อมกับยกเหล้าขึ้นมาดื่ม

   "เร็วซิอ้ายเพลิง"

   "ขอรับท่านหมื่น"

   เพลิงรับคำก่อนจะเร่งพายเรือมุ่งตรงไปทางเรือของแทนกานต์ที่อยู่ข้างกับเรือของจอมขวัญ ซึ่งโชคดีจักรกวินเห็นพอดีจึงเอาเรือมาจอดขวางหน้าแล้วตะโกนอย่างไม่ชอบใจ

   "อ้ายแสงหล้า!"

   "อ้ายจักรกวิน" แสงหล้าขมวดคิ้วแน่น "เองจะมาขวางเรือข้าทำไม"

   "เองนั่นแหละพายเรือมาเร็วขนาดนี้หากเรือของน้องพาขวัญล่มเองจะรับผิดชอบอย่างไรเล่า"

   พอได้ยินคำตอบแบบนั้นแสงหล้าก็ชะเง้อหน้าไปมองเรือที่อยู่ด้านหลัง

   "พาขวัญอย่างนั้นหรือ"

    แสงหล้าขมวดคิ้วพร้อมจ้องไปทางเรืออีกลำที่มีจอมขวัญกำลังมองมาทางตนเช่นเดียวกัน

   "พาขวัญ ไม่ได้เจอกันนานเลยหนา"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับกรีดร้องขึ้นมาดังลั่นด้วยความรำคาญ


  'วันนี้มีเวลาว่างมากหรอถึงมาพายเรือเล่นกันเนี่ย!'


    "ได้ข่าวว่าเจ้าถูกกักบริเวณรึ" แสงหล้าทำสายตากรุ่มกริ่ม "รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงเจ้าแทบแย่"

   "ข้าสบายดีเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญนั่งตัวเกร็งปล่อยให้แสงหล้าแทะโลมด้วยสายตา

   "แล้ววันนี้มาพายเรือเล่นคนเดียวหรือ ให้พี่พายเรือเป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไหม"

   "ไม่ดีกว่าเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนที่แทนกานต์จะเป็นฝ่ายพูดเสริมขึ้นมา

   "ที่พาขวัญไปพายเรือเล่นกับพวกเจ้าไม่ได้เพราะนางมากับข้ายังไงล่ะ"

   "อ้ายแทนกานต์!"

   ทั้งสองประสานเสียงพร้อมกันอย่างไม่พอใจ แต่คนที่หงุดหงิดเห็นจะเป็นแสงหล้าที่ตั้งท่าจะกระโจนใส่แต่จักรกวินกันเอาไว้

   "ปล่อยข้าซิจะมาขวางทางข้าไว้ทำไม"

   "อย่าโมโหไปหน่อยเลยน่ะ"

   จักรกวินห้ามปรามเพราะกำลังแกล้งทำตัวดีต่อหน้าจอมขวัญ ซึ่งแสงหล้าไม่สนใจเพราะความโกรธกำลังครอบงำ

   "อ้ายแทนกานต์"

   "ข้าบอกให้หยุดไง"

   ทั้งสองยื้อยุดผลักกันจนน้ำแถวนั้นสั่นไหวแต่จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าเรือที่อยู่ใกล้ที่สุดนั้นไม่เป็นเรือของจอมขวัญที่ตอนนี้เอียงและโยกไปมาจนสร้อยทิพย์ร้องลั่นด้วยความกลัว

   "ว๊าย! คุณหนูเจ้าคะ"

   "ไม่ต้องกลัวนะพี่สร้อย"

   ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่จอมขวัญก็หวาดกลัวไม่แพ้กันจึงพยามประคองเรือให้นิ่ง  แต่เรือของจักรกวินดันเลื่อนมาชนเรือของตนเองอย่างแรงจนเรือทั้งลำคว้ำลงสู่แม่น้ำท่ามกลางความตกใจของทุกคน




*******************มีต่อค่ะ*****************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 8}}} [UP 21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 21-07-2019 22:43:14


   ตู้ม!

   พอเห็นเรือของจอมขวัญคว้ำทำให้จักรกวินและแสงหล้าเถียงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

   "เพราเจ้าคนเดียวที่ทำให้น้องพาขวัญตกน้ำ"

   "เพราะเจ้านั่นแหละ"

  ระหว่างที่ทั้งสองกำลังเถียงกันอยู่นั้นแทนกานต์ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นสร้อยทิพย์โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำแค่คนเดียวแถมอีกฝ่ายยังร้องหาเจ้านายตนเองอย่างเสียขวัญ

   "คุณหนูเจ้าคะ! คุณหนู!"

   "อ้ายแสงเองลงไปดึงแม่สร้อยขึ้นมาบนเรือซิ"

   แทนกานต์หันไปสั่งบ่าวรับใช้คนสนิทก่อนที่จะกระโดดลงน้ำเพื่อว่ายไปช่วยคู่หมั้นของตนเองที่กำลังจมน้ำอยู่ไม่ไกล

   ทางด้านจอมขวัญนั้นว่ายน้ำไม่เป็นจึงพยายามเงยหน้าขึ้นมาบนผิวน้ำก่อนจะจมลงไปอีกหลายต่อหลายรอบ

   บุ๋มบุ๋ม~

   "อึก! ช่วยด้วย! อึก..."

   จอมขวัญตะเกียกตะกายพยายามผงกหัวขึ้นมาจากน้ำแต่ก็จมไปอีกครั้ง แต่คราวนี้กลับดิ้นไปมาด้วยความหวาดกลัว


   'ไม่เอานะ ไม่อยากจมน้ำอีกแล้ว!'


   ยิ่งดิ้นมากเท่าไหร่จอมขวัญยิ่งจมดิ่งลงใต้น้ำเท่านั้นพร้อมกับสติที่เริ่มเลือนลาง แต่สายตาเหมือนเห็นใครบางคนกำลังว่ายน้ำมาหาตนเอง

   แทนกานว่ายน้ำตรงไปยังคนที่ลอยตัวและกำลังจะหมดสติ  ทำให้ยื่นมือเข้ามาใกล้พร้อมกับประคองใบหน้าของอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นรับริมฝีปากของตนเองที่ทาบทับลงไปอย่างแนบเน่น  มือแกร่งกอดเอวบางไว้ให้เข้ามาแนบชิดกับตนเองจนไม่เหลือช่องว่างระหว่างกัน

   เมื่อเริ่มมีสติกลับมาอีกครั้งทำให้จอมขวัญลืมตาขึ้นมามองอีกฝ่ายที่จ้องตนเองไม่วางตาเช่นเดียวกัน

   ซึ่งนั่นทำให้จอมขวัญตกใจรีบยกมือขึ้นมาดันตัวอีกฝ่ายออก แต่พอมีช่องว่างทางอากาศทำให้ตนเองนั้นจมลงอีกครั้งและด้วยความกลัวที่จะจมน้ำจมน้ำจึงเผลอตัวโผเข้ากอดแล้วยื่นมือไปคล้องคออีกฝ่ายไว้แน่นทั้งที่ริมฝีปากของทั้งสองคนยังไม่ผละออกจากกัน

   ซึ่งในระหว่างที่กำลังกอดกันอยู่นั้น ด้วยความใกล้ชิดที่ทำให้แทนกานต์แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ผู้หญิงและด้วยเสื่อผ้าที่เปียกน้ำทำให้ผ้าสไบที่ห่มไว้คลายออก

    ด้วยความอยากรู้อยากเห็นนั้นทำให้แทนกานต์เผลอเอามือไปจับตรงหน้าอกของคนตรงหน้าเพื่อความแน่ใจของตนเองและเป็นจริงดั่งคาดเมื่อมีผ้าผืนหนึ่งที่ยัดเอาไว้หลุดติดมือออกมา

   ก่อนที่จะผละออกมาจ้องใบหน้าของคนที่เหมือนคู่หมั้นของตนที่ตอนนี้หน้าแดงเถือกขนาดไหนทำให้ที่จะเหยียดยิ้มตรงมุมปากแล้วประคองกอดพาอีกฝ่ายว่ายขึ้นไปโผล่บนผิวน้ำ

   "ฮ่า!"

   จอมขวัญหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนและหมดแรงโดยมือคล้องคอกอดอีกฝ่ายไว้แน่นเพราะกลัวที่จะจมน้ำ  ท่ามกลางความดีใจของสร้อยทิพย์ที่นั่งตัวเปียกอยู่บนเรือของแทนกานต์โดยมีแสงคอยจับเรือเอาไว้ด้านล่าง

   "คุณหนูไม่เป็นอะไรมากใช่ไหมเจ้าคะ"

   "ฮึก! พี่สร้อย"

   จอมขวัญน้ำตาคลอเบ้าด้วยความหวาดกลัวจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อแทนกานต์ยื่นมือมาซับน้ำตาให้อย่างเบามือพร้อมคำปลอบที่อ่อนโยน

   "อย่าร้องไห้ซิ เจ้าปลอดภัยแล้วนะ"

   "ค...คุณหลวง"

   จอมขวัญหน้าแดงด้วยความเขินอายเมื่อมองไปเห็นผ้าผืนหนึ่งในมือของอีกฝ่ายที่กำไว้แน่น

   "ข้า...คือข้า..."

   "อย่าพึ่งพูดอะไรตอนนี้เลย"

    แทนกานต์ขัดเอาไว้ก่อนจะประคองตัวอีกฝ่ายไปยังเรือแล้วอุ้มให้ขึ้นไปนั่งด้านบนโดยมีสร้อยทิพย์มาช่วยประคองอีกแรงด้วยความเป็นห่วง ก่อนที่บ่าวคนสนิทจะสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ในมือของคู่หมั้นเจ้านายตนเอง

   "ตายแล้ว! นั่นมัน..."

   "พวกเองสองคน ก้มหน้าซะ"

    แทนกานต์ทำเสียงดุทำให้สร้อยทิพย์และแสงรีบก้มหน้าหลบสายตาทันที  ก่อนจะขึ้นมานั่งข้างจอมขวัญที่เปียกปอนไปทั้งตัวจึงตัดสินใจถอดเสื้อของตนเองออกจนเผยให้เห็นผิวพรรณที่ขาวผ่องและมัดกล้ามตามประสาของพวกลูกขุนนางที่ฐานะดีจนถ้าสาวคนไหนเห็นต้องร้องขอชีวิต

    จอมขวัญนั่งตัวเกรงก่อนจะสะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายเอาเสื้อมาคลุมบนไหล่แล้วเอื้อมมือไปโอบกอดด้านหลังให้แนบชิดกันราวกับเป็นคู่รัก

   ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้จอมขวัญตัวเกร็งถึงขั้นสั่นไปทั้งตัวทำให้แทนกานต์หัวเราะในลำคอด้วยความขบขัน

   "หึหึ กลัวข้าหรือพาขวัญ"

   "ข้าไม่ใช่...คู่หมั้นของคุณหลวงซักหน่อย"

   จอมขวัญกัดปากและก้มหน้าหลบสายตาด้วยความหวาดกลัว เมื่ออีกฝ่ายที่จ้องมาอย่างไม่ละสายตาไปไหน

   "ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าคือใคร ถ้าอย่างนั้นเราไปคุยในที่เงียบกว่านี้กันดีหรือไม่"

   "ที่ไหน"

   จอมขวัญหันมาเลิกคิ้วด้วยความสงสัยก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับคำตอบของคนที่ตอบมาหน้าตาย

   "เรือนของข้าดีหรือไม่"

   "ไม่เอานะ!"

    จอมขวัญตอบกลับเสียงดังทำให้อีกฝ่ายหัวเราะในลำคอด้วยท่าทางเอ็นดู

   "ข้าไม่ใช่คนแบบนั้นเสียหน่อย แค่นั่งเรือไปคุยกันไปก็พอแล้ว ตกลงไหม"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายก่อนที่แสงจะเริ่มพายเรืออย่างรู้ใจเจ้านายตนเองรีบพายเรือออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว

   โดยที่จักรกวินหันมาอีกครั้งก็ไม่เห็นเรือของแทนกานต์ซะแล้ว

   "เจ้าคนเดียว ทำให้น้องพาขวัญต้องไปกับอ้ายแทนกานต์"

   "เจ็บใจนัก"

    แสงหล้าเอามือทุบตรงขอบเรืออย่างแรงด้วยความเจ็บใจที่ปล่อยให้โอกาสที่จะได้ใกล้ชิดกับพาขวัญนั้นหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย




   ทางด้านแทนกานต์นั้นเมื่อพ้นจากเขตอันตรายแล้วก็หันมาจ้องคนที่ก้มหน้าหลบสายตาตนเองด้วยแววตาที่เปล่งประกายแฝงไปด้วยความเอ็นดู

   "พาขวัญ"

   "ข้าไม่ใช่พาขวัญ"

   จอมขวัญช้อนตาขึ้นมามองอีกฝ่ายด้วยความเกรงกลัว

   "คุณหลวงก็พอรู้แล้วไม่ใช่หรอ"

   "งั้นเจ้าคือใคร"

    แทนกานต์จ้องมองมาอย่างไม่ละสายตาทำให้จอมขวัญเผลอกัดปากเล็กน้อยก่อนจะยอมตอบด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

   "ข้าชื่อจอมขวัญ"

   "แล้วเจ้าก็เป็นผู้ชาย"

   จอมขวัญพยักหน้าก่อนจะหันมาทำท่าทางออดอ้อนใส่คนที่นั่งอยู่ข้างกาย

   "ใช่ครับ แต่อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเลยนะคุณหลวง ขอร้องล่ะ"

   "ข้าจะได้อะไรจากการปิดบังเรื่องในวันนี้"

    แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากพร้อมจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ซึ่งจอมขวัญนั้นไม่ทันสังเกตุ

  "จะให้ทำอะไรก็ได้ ข้ายอมทุกอย่าง"

   "ทุกอย่างเลยหรอ"

   "ใช่ครับ" จอมขวัญพยักหน้า "ขอแค่คุณหลวงช่วยปิดบังเรื่องที่ข้าเป็นผู้ชายก็พอ"

   "ตกลง"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "เจ้าต้องทำตามทุกอย่างที่ข้าสั่ง"

   "อืม...อื้อ!"

   จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่ออีกฝ่ายเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วประกบจูบอย่างแผ่วเบาทำให้มือบางรีบดันแทนกานต์ออกแล้วโวยวายเสียงดังลั่น

   "คุณหลวงมาจูบข้าทำไมเนี่ยหะ!"

   "หึ เจ้าบอกเองนะว่าข้าจะทำอะไรก็ได้"

   "แต่ข้าเป็นผู้ชาย"

    แทนกานต์ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ทำให้จอมขวัญปากยื่นออกมาอย่างไม่พอใจ

   "ข้าเองก็คือคู่หมั้นของเจ้าเหมือนกัน"

   "แต่..." จอมขวัญก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย "ข้าไม่ได้เป็นคู่หมั้นตัวจริงของคุณหลวงซักหน่อย"

   "ในเมื่อเจ้าปลอมตัวเป็นพาขวัญ ถึงยังไงต่อไปอีกไม่นานเจ้าก็ต้องแต่งงานกับข้า"

   "เอ่อ...คือข้า..."

    จอมขวัญหัวใจเต้นแรงพร้อมใบหน้าที่เริ่มขึ้นสีทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มและก้มลงไปหอมแก้มอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

   'ฟอด!'

   "หอม"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างออกมาด้วยสายตากรุ่มกริ่มทำให้จอมขวัญก้มหน้าหนีพร้อมบ่นอุบอิบด้วยความเขินอาย

   "หอมเหิมอะไรกันล่ะ คุณหลวงโรคจิต"

   "หึ!"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอหลังจากที่ขโมยหอมแก้มและประกบลงบนปากนุ่มนิ่มนั้นอย่างหมั่นเขี้ยว ทำให้จอมขวัญหน้าแดงพร้อมกับโวยวายออกมาด้วยความเขินอาย

   "หยุดแกล้งข้าซักทีเถอะคุณหลวงอ่ะ"

   "พี่ไม่ได้แกล้งเจ้าซักหน่อย"

   ตอบไปแบบนั้นแต่เอื้อมมือไปโอบกอดอีกฝ่ายให้นั่งพิงตนเอง แม้ตอนแรกแม้จอมขวัญจะฝืนตัวเองเล็กน้อยแต่ด้วยลมที่พัดมาตลอดจนเผลอเคลิ้มหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย  ทำให้แทนกานต์อดที่จะยิ้มออกมาอีกหลายต่อหลายครั้งด้วยความเอ็นดูมาก   

   ก่อนที่อีกฝ่ายจะตื่นอีกทีเมื่อมาถึงเขตโค้งน้ำของเรือนท่านเจ้าคุณ ซึ่งพริ้มพรายที่นั่งรออยู่ริมท่าน้ำจึงรีบวิ่งขึ้นมารายงานเจ้านายตนเองบนเรือนทันทีเมื่อเห็นเรือลำหนึ่งกำลังพายมาจอดเทียบตรงท่าน้ำ

   "คุณหนูพาขวัญกลับมาแล้วเจ้าค่ะ"

   "โล่งอกไปที" 

    พัณณิตาถอนหายใจก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อไม่ได้กลับมากับสร้อยทิพย์แค่สองคน

   "กลับมากับใครน่ะ นังพริ้มช่วยข้าดูหน่อยซิ"

   "ไหนเจ้าคะ"

   พริ้มพรายชะเง้อมองไปยังท่าน้ำด้วยความอยากรู้อยากเห็นก่อนจะยกมือขึ้นมาทาบอกแล้วหันไปโวยวายเสียงดังลั่น

   "โอ๊ะ! นายแม่เจ้าขา!"

   "อะไรนังพริ้ม"

   พัณณิตาทำสีหน้าไม่พอใจแต่พริ้มพรายกลับพูดต่อด้วยความตื่นเต้น

   "คนที่มากับคุณหนูคือคุณหลวงแทนกานต์เจ้าค่ะ"

   "จริงรึ!"

    พัณณิตาดีอกดีใจรีบเดินลงไปยังเรือนท่าน้ำซึ่งจอมขวัญเห็นพอดีจึงดันอีกฝ่ายออกมาเล็กน้อยแล้วหันมายิ้มหวานให้ผู้เป็นแม่

   "คุณแม่"

   "สวัสดีขอรับคุณป้า"

    แทนกานต์ยกมือไหว้ซึ่งพัณณิตาก็อมยิ้มและยกมือไหว้อีกฝ่ายพร้อมจ้องมองทั้งสองคนด้วยแววตาสงสัย

   "ไหว้พระเถิดลูก แล้วนี่แม่พาขวัญกับพ่อแทนไปทำอะไรกันมารึทำไมถึงเปียกกันมาขนาดนี้"

   "เรือที่ลูกพายมาคว้ำลงน่ะเจ้าค่ะคุณแม่"

   คำตอบของจอมขวัญทำให้พัณณิตายกมือขึ้นมาทาบอกอย่างตกใจพร้อมยื่นมือไปจับเนื้อจับตัวด้วยความเป็นห่วง

   "ตายแล้ว! เป็นอะไรมากไหมลูก"

   "ลูกไม่เป็นอะไรมากเจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มหวานทำให้พัณณิตาถอนหายใจพร้อมกับลูบหัวอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดู

   "ถ้าเช่นนั้นให้นังสร้อยพาลูกข้าไปอาบน้ำอาบท่าก่อนเถิดเดี๋ยวจะไม่สบายเอาหนา"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเดินขึ้นเรือนพร้อมกับสร้อยทิพย์ก่อนจะแอบหันไปมองแทนกานต์ทั้งที่มือยังจับเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นอย่างลืมตัว

   "ส่วนพ่อแทน."..

   "ข้าขอลากลับบ้านก่อนดีกว่าขอรับคุณป้า"

    ยังพูดไม่ทันจบแทนกานต์ก็ขัดขึ้นมาก่อนทำให้พัณณิตาพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

    "เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นตามใจพ่อแทนเถอะจ้ะ ขอบน้ำใจมากนะที่พาลูกป้ามาส่งถึงบ้าน"

   "ขอรับ"

    แทนกานต์ยิ้มก่อนจะลงไปนั่งในเรือปล่อยให้แสงเป็นคนพายเหมือนเดิมโดยที่หันกลับไปมองสบสายตากับจอมขวัญที่รีบเดินหายเข้าไปในเรือนทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มตรงมุมปากด้วยความเอ็นดู


    'เจ้าน่ารักจังเลยนะ จอมขวัญ'




*****************************



โอ๊ะ! ความลับแตกซะแล้ว  o22

พอความลับแตกก็ถึงเนื้อถึงตัวทันที พ่อแทนเนี่ยแอบเจ้าเล่ห์เหมือนกันนะ~

ส่วนจอมขวัญผู้น่ารักตามอีกคนไม่ค่อยทัน 555 :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 8}}} [UP 21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 22-07-2019 02:12:38
ปากว่ามือถึงจริงๆ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 8}}} [UP 21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 22-07-2019 05:50:51
ชัดเลย ว่าแทนกานต์ชอบแบบไหน  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 8}}} [UP 21/07/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 24-07-2019 23:25:51
ความแตกจนได้ พอบอกยอมทุกอย่างก็จัดเลยนะคุณหลวง o18
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 02-08-2019 22:52:11



เรือนหลังที่ 9





   คืนนั้นจอมขวัญนอนไม่ค่อยหลับเหลือบสายตามองเสื้อของแทนกานต์ที่แขวนรับลมอยู่ตรงหน้าต่างด้วยหัวใจเต้นรัวอยู่แบบนั้นจนเผลอเคลิ้มหลับไป ทำให้สร้อยทิพย์ที่แอบมองอยู่นั้นอมยิ้มตรงมุมปากด้วยสายตาเอ็นดู

   ก่อนที่จอมขวัญจะสะดุ้งตื่นอีกทีตอนเช้ามืดลุกขึ้นมาให้สร้อยทิพย์จับอาบน้ำแต่งตัว ซึ่งวันนี้เลือกผ้านุ่งสีน้ำตาลมืดลายทองตัดกับผ้าสไบสีทองสวยพร้อมเครื่องประดับมากมายจนจอมขวัญแอบถอดออกด้วยความรำคาญ

   ซึ่งตอนแรกตั้งใจจะแอบหนีเที่ยวเหมือนเมื่อวานแต่พอออกมาดันเจอพัณณิตานั่งดักรออยู่ก่อนแล้วพร้อมกับจอมทัพที่นั่งดื่มชาและมีบ่าวไพร่ที่นั่งอยู่แถวนั้นจำนวนหนึ่งทำให้จอมขวัญเดินยิ้มแห้งเข้าไปทักทาย

   "คุณพ่อ คุณแม่ตื่นแต่เช้าเลยนะเจ้าคะ"

   "เพราะแม่รู้ไงว่าเจ้าจะหนีออกไปเที่ยวพายเรือล่มแบบเมื่อวาน"

   พัณณิตาเหลือบสายตาขึ้นมามองอย่างเข้มงวดทำให้จอมขวัญยิ้มแห้งให้ด้วยท่าทางเกรงอกเกรงใจแต่ก็รีบโผเข้ากอดคนตรงหน้าทั้งตัวพร้อมทำน้ำเสียงออดอ้อน

   "คุณแม่เจ้าขา ลูกอยากออกไปเที่ยวข้างนอกบ้างนะเจ้าคะ อยู่แต่บ้านมาเป็นเดือนแล้วลูกเหงามากเลยเจ้าค่ะ"

   "แม่เป็นห่วง"

    พัณณิตายกมือขึ้นมาลูบหัวลูกตนเองด้วยความอ่อนโยนและสายตานั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

   "กลัวเจ้าจะไปตกน้ำตกท่าอีก"

   "โธ่ คุณแม่เจ้าคะ"

   จอมขวัญกอดพัณญิตาแน่นพร้อมซบหน้าลงตรงไหล่อีกฝ่ายอย่างออดอ้อนทำให้จอมทัพอดที่จะยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูไม่ได้ท่ามกลางบ่าวไพร่ที่กลั้นรอยยิ้มกันไว้ไม่ทัน

   ซึ่งในระหว่างนั้นเองก็ได้ยินเสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาตรงหน้าประตูเรือนที่มาพร้อมกับเมืองและแสงที่พอขึ้นมาถึงบนเรือนก็รีบก้มหน้าลงทันที

   "ถ้าหากข้าจะเป็นคนพาน้องออกไปเที่ยวด้านนอกล่ะขอรับ คุณป้าจะอนุญาตหรือไม่"

   "พ่อแทน"

    พัณณิตาทำท่าทางประหลาดใจพร้อมกับยกมือขึ้นรับไหว้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มกว้างอย่างดีอกดีใจ

   "สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "ไหว้พระเถอะจ๊ะ" พัณณิตายิ้มกว้างพร้อมมองทั้งสองคนด้วยแววตาหยอกล้อเล็กน้อย "วันนี้ว่างหรือจ๊ะถึงจะพาลูกป้าไปเดินเที่ยวน่ะ"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มที่มุมปากพร้อมจ้องมองไปยังจอมขวัญอย่างไม่ละสายตา

   "พอดีเมื่อวานสัญญากันไว้ว่าจะพาไปเดินแถวตลาดชีกุนน่ะขอรับ"

   "ตลาดชีกุน"

   จอมขวัญพึมพัมกับตนเองพร้อมยิ้มหวานออกมาอย่างตื่นเต้นแล้วยื่นมือไปเกาะแขนพัณณิตาอย่างออดอ้อน

   "คุณแม่เจ้าขา ลูกอยากไปเดินตลาดชีกุนกับคุณหลวงเจ้าค่ะ คุณแม่อนุญาตให้ลูกไปนะเจ้าคะ"

   "ในเมื่อพวกเจ้าสัญญาว่าจะไปเดินเที่ยวกันแล้วแม่คงจะห้ามอะไรไม่ได้" พัณณิตายิ้มหวานพร้อมลูบผมสวยของลูกตนเองด้วยสายตาเอ็นดู "ไปตลาดกับพี่เขาก็อย่าซนมากนักล่ะเข้าใจไหม"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันไปชวนสร้อยทิพย์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ด้านหลังตนเอง

   "ไปเที่ยวกันเถอะพี่สร้อย"

   "เมื่อวานเจ้าสัญญากับข้าว่าจะไปเที่ยวกันสองคนมิใช่หรือ"

   "ห๊ะ!" จอมขวัญทำหน้าตาเลิกลักหันมามองคนที่พูดด้วยความตกใจ "ข้า..."

   "นี่ก็สายมากแล้วหากยังไม่รีบร้อนจะแดดแรงมากกว่านี้หนา"

    แทนกานต์เหยียดยิ้มตรงมุมปากพร้อมลุกขึ้นยืนแล้วยื่นมือมาให้คนที่กำลังทำท่าทางตกใจจนกลายเป็นน่าเอ็นดู

   "เราไปกันเถิด"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยื่นมือไปทาบลงบนฝ่ามือของอีกฝ่ายด้วยความงุนงงก่อนทั้งสองจะลงจากเรือนไปพร้อมกันทำให้พัณณิตายิ้มกว้างออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

   "พ่อแทนพาไปเที่ยวกันสองคนแบบนี้เห็นทีน้องต้องรีบไปคุยกับแม่รินทร์เรื่องงานแต่งอย่างเอาจริงเอาจังซักทีนะเจ้าคะคุณพี่"

   "แม่พัณก็รีบร้อนเกินไป"

   จอมทัพถอนหายใจพร้อมกับมองตามหลังจอมขวัญไปด้วยสายตาที่เป็นห่วงอีกฝ่ายมากแต่พัณณิตากลับยิ้มกว้างมาให้อย่างดื้อรั้น

   "น้องไม่คุยกับคุณพี่แล้ว งั้นน้องขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะเจ้าคะ"

   "ตามสบายเถิดแม่พัณ"

   จอมทัพพยักหน้าก่อนที่จะมองไปยังสร้อยทิพย์ด้วยสายตาสงสัยเมื่อเห็นท่าทางเป็นกังวล

   "เองเป็นอะไรนังสร้อย"

   "คือ..."

   สร้อยทิพย์ตัวสั่นทำท่าทางอึกอักทำให้จอมทัพมองด้วยสายตาจับผิด

   "หรือเองมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับจอมขวัญที่ยังไม่ได้บอกข้า"

   "คือบ่าว..."

   สร้อยทิพย์หมอบแทบติดพื้นด้วยเนื้อตัวที่สั่นกลัวไปหมดทำให้จอมทัพกระทืบเท้าอย่างแรงด้วยความโมโหและขัดใจ

   "นังสร้อย!"

   "คุณหลวงแทนกานต์รู้ความจริงทั้งหมดแล้วเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์เผลอหลุดปากออกมาทำให้จอมทัพเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

   "ห๊ะ! พ่อแทนรู้เรื่องได้ยังไงกันเล่ามาให้ข้าฟังทั้งหมดเดี๋ยวนี้นะนังสร้อย"

   "เจ้าค่ะ"

   เนื่องจากถูกจอมทัพคาดคั้นทำให้สร้อยทิพย์ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังด้วยความเกรงกลัวและนั่นทำให้จอมทัพถอนหายใจออกมาอย่างเป็นกังวล

   "เฮ้อ...พ่อแทนฉลาดแบบนี้แล้วจอมขวัญจะตามทันได้อย่างไรกัน"

   "นั่นน่ะซิเจ้าคะ แต่ในเมื่อคุณหลวงรู้แล้วทำไมถึงเกาะแกะมากกว่าเดิมล่ะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์ขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัยทำให้จอมทัพต้องส่ายหน้าไปมาพร้อมมองไปนอกเรือนด้วยความหนักใจ

   "ขออย่าให้เป็นอย่างที่ข้าคิดก็แล้วกัน"






   หลังจากที่พายเรือกันมาซักพักหนึ่งก็มาถึงตรงอยู่สะพานชีกุนตะวันตกโดยจะมีท่าแพไว้สำหรับจอดเรือ ซึ่งแทนกานต์ยื่นมือมาให้จอมขวัญจับขึ้นท่าก่อนที่จะหันมาผูกเชือกเรือไว้ที่ตอไม้อย่างคล่องแคล่วเรียบร้อยแล้วก็พาจอมขวัญเดินเข้าไปชมบรรยากาศของตลาดชีกุน

   ซึ่งจะมีพวกแขกนั่งร้านขายเครื่องประดับมากมายทั้วกำไลมือและเท้า ปิ่นปักผม แหวนหลากหลายรูปแบบ ลูกปัด เครื่องประดับประดามากมายจนเลือกกันไม่ถูกและที่นี่มีผู้คนเดินซื้อของกันอย่างหนาแน่นและคึกคัก

   "โห๊! ของเยอะจังเลย"

   จอมขวัญมองไปรอบตัวอย่างตื่นตาตื่นใจทำให้แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปากด้วยความเอ็นดู

   "ชอบหรือไม่"

   "ชอบสิเจ้าคะ"

   จอมขวัญหันมายิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างลืมตัวพร้อมเดินดูข้าวของที่วางเรียงกันมากมายโดยเฉพาะเครื่องประดับที่มีเยอะจนเลือกไม่ถูก ก่อนที่จะไปสะดุดตากับต่างหูคู่หนึ่งที่ทำมาจากทองคำและมีพลอยถึงเก้าสีประดับไว้อย่างสวยงามและคุ้นตามากจนอดที่จะหยิบขึ้นมามองไม่ได้

   "ต่างหูคู่นี้สวยจังเลย เหมือนที่เคยเห็นตอนคุณย่าใส่ออกงานไม่มีผิด"

   "ชอบรึ"

   แทนกานต์มองต่างหูในมือของอีกฝ่ายด้วยความสนใจไม่แพ้กัน

   "เหมาะกับเจ้าดีนะ"

   "จริงนะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะหุบยิ้มแล้วทำสีหน้าเป็นกังวล

    "แต่ข้าไม่มีเงิน"

   "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เดี๋ยวข้าจ่ายให้"

   แทนกานต์ยิ้มมาอย่างอบอุ่นพร้อมยื่นเงินไปให้แม่ค้าที่รีบรับทันทีทำให้จอมขวัญมองด้วยความเกรงใจ

   "ไม่ต้องจ่ายให้ข้าก็ได้นะเจ้าคะ"

   "ไม่เป็นไรหรอก"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างก่อนจะหยิบต่างหูจากมือนุ่มนิ่มนั่นพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยสายตาที่น่าหลงไหล

   "เดี๋ยวข้าใส่ให้นะ"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญยืนนิ่งด้วยความตกใจปล่อยให้แทนกานต์ใส่ต่างหูให้ทั้งสองข้างโดยใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงคืบ จนร่างสูงอดที่จะสูดกลิ่นหอมตรงแก้มนุ่มนิ่มนั้นเข้าไปเต็มปอดพร้อมเหยียดยิ้มตรงมุมปากอย่างถูกใจ

   "เหมาะกับเจ้ามากเลยหนาจอมขวัญ"

   "อ...อืม"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดด้วยความเขินอายพร้อมยกมือขึ้นมาลูบต่างหูที่ใส่อยู่อย่างถูกใจไม่แพ้กัน ซึ่งภาพตรงหน้าทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมกับยื่นมือไปทาบตรงแก้มนุ่มนิ่มนั้นอย่างหยอกล้อ

   "อากาศร้อนรึ แก้มของเจ้าแดงไปหมดแล้วหนา"

   "ร...ร้อนซิเจ้าคะ"

    จอมขวัญเบี่ยงหน้าหลบพร้อมพูดตะกุกตะกักด้วยอาการตื่นเต้นแล้วหันหนีไปทางอื่นอย่างเขินอาย

   "เราไปดูทางนั้นกันเถอะเจ้าค่ะ"

   "ได้ซิ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมเดินตามหลังคนตัวเล็กไม่ห่างด้วยความเอ็นดูซึ่งทั้งสองพากันเดินเล่นทั่วตลาดจนเย็นใกล้จะค่ำจึงตัดสินใจพายเรือมาส่งอีกฝ่ายที่บ้าน

    ซึ่งพอขึ้นมาบนเรือนก็พบกับพัณณิตาและจอมทัพพร้อมทั้งบ่าวไพร่นั่งรอกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา  ก่อนที่พัณณิตาจะยื่นมาลูบผมสวยของจอมขวัญด้วยสายตาเอ็นดู

   "แม่พาขวัญกับพ่อแทนไปเดินตลาดชีกุนมาสนุกไหมลูก ได้อะไรกลับมาบ้างรึเปล่า"

   "สนุกมากเลยเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมยกมือขึ้นไปจับที่หูของตนเอง

   "แถมคุณหลวงยังซื้อต่างหูให้ลูกด้วยนะเจ้าคะ"

   "เห็นว่าเหมาะกับแม่พาขวัญดีเลยซื้อให้น่ะขอรับ"

   แทนกานต์ตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งแต่แววตานั้นเปล่งประกายตลอดเวลาจนจอมทัพหน้าเรียบตึงด้วยความไม่พอใจ

   "ไหนมาให้แม่ดูซิ"

    พัณณิตาเชยคางของจอมขวัญขึ้นมาพร้อมกับจ้องมองไปที่ต่างหูด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "สวยงามและเหมาะสมกับลูกมากเลยนะพาขวัญ"

   "ไม่เห็นที่จะต้องเปลืองเงินซื้อเลยนะพ่อแทน"

   จอมทัพแทรกขึ้นมาเสียงเข้มทำให้จอมขวัญหน้าเจือนลงเล็กน้อยด้วยความสำนึกผิด

   "ลูกเป็นฝ่ายอยากได้เองเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   "หลานก็แค่อยากจะซื้ออะไรให้พาขวัญบ้างนะขอรับคุณลุง"

   แทนกานต์พูดแทรกขึ้นมาทำให้จอมทัพถอนหายใจออกมาพร้อมจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา

   "เอาเถิดข้าเองก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ชายหญิงพาออกไปไหนต่อไหนกันทั้งวันมันจะดูไม่ดีนัก"

   "วันหลังข้าจะพามาส่งก่อนค่ำนะขอรับ"

   แทนกานต์จ้องกลับอย่างไม่ละสายตาเช่นเดียวกันทำให้พัณณิตาที่มองอยู่ต้องคอยห้ามปรามทั้งสองที่จ้องกันไม่เลิก

   "คุณพี่อย่าไปโกรธพ่อแทนเลยนะเจ้าคะ พ่อแทนคงจะไม่ได้ตั้งใจกลับมาช้าแล้วตอนนี้ก็เริ่มมืดแล้วด้วย"

    พัณณิตาเอื้อมมือไปลูบผมลูกสาวตนเองอย่างเอ็นดู

    "เจ้าก็ลงไปส่งพี่เขาที่ท่าน้ำหน่อยซิ"

   "ไปส่งแค่ตรงหน้าเรือนตรงนี้ก็พอแล้วกระมั้ง" จอมทัพขัดขึ้นมาเสียงเข้มและหน้าตาที่บึ้งตึง "มืดค่ำแบบนี้ให้ลงไปส่งถึงท่าน้ำคงจะไม่งาม"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญตอบรับก่อนจะพาแทนกานต์เดินไปยังประตูเรือน  ก่อนที่สร้อยทิพย์จะถืออะไรบางอย่างเดินมานั่งคุกเข่าอยู่ที่ด้านหลังตนเองพร้อมกระซิบอย่างแผ่วเบาให้ได้ยินกันเพียงสองคน

   "เสื้อคุณหลวงเจ้าค่ะคุณหนู"

   "จริงซิ!" จอมขวัญชะงักฝีเท้าเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก "ข้ายังไม่ได้คืนเสื้อให้คุณหลวงเลยนี่หน่า"

   "ไม่ต้องหรอก"

   แทนกานต์ยกมือขึ้นห้ามทำให้จอมขวัญที่กำลังเอื้อมมือจะไปจับเสื้อนั้นหยุดชะงักแล้วเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความลังเล

   "แต่เสื้อของคุณหลวง..."

   "ข้าฝากไว้ที่เจ้าให้ดูแลไปก่อนก็แล้วกัน"

    แทนกานต์ยิ้มกรุ่มกริ่มพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา

   "เดี๋ยววันหลังค่อยมารับคืน"

   "เสื้อคุณหลวงมีอะไรต้องให้ดูแลเจ้าคะ"

   จอมขวัญงุนงงเพราะตามคำพูดของอีกฝ่ายหนึ่งไม่ค่อยทันทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มตรงมุมปาก

   "เอาเถิดเดี๋ยวซักวันหนึ่งเจ้าก็จะเข้าใจเอง ข้าลาละ"

   "ข้าไหว้เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยกมือไหว้ซึ่งแทนกานต์ก็เอามือประกบทับก่อนจะเดินลงจากเรือนไปทามกลางสายตาปลื้มปริ่มของพัณณิตาที่แอบมองอยู่ด้านหลังพร้อมกับหยิบพัดขึ้นมาพัดแล้วหัวเราะคิกคักกับพริ้มพรายอย่างสนุกสนาน

   "เห็นแบบนี้แล้วข้าอยากจะอุ้มหลานใจจะขาดอยู่แล้วนะนังพริ้ม"

   "แม่พัณอย่าไปเร่งรัดลูกแบบนั้นเลย ข้ายังไม่เห็นว่าทั้งสองจะชอบพอกันถึงขนาดแต่งงานตรงไหน"

   จอมทัพพูดแทรกขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงก่อนยกน้ำชาที่เมืองรินให้ขึ้นมาดื่มด้วยความไม่พอใจ พร้อมมองไปยังจอมขวัญที่เดินกลับมาด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ลูกขอตัวเข้าห้องก่อนนะเจ้าคะคุณพ่อคุณแม่"

   "ตามสบายเถิดแม่พาขวัญ"

   จอมทัพพยักหน้าซึ่งพัณณิตาเองก็ไม่ได้ขัดอะไรทำให้จอมขวัญยกมือขึ้นมาไหว้อย่างเคารพก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องกับสร้อยทิพย์ที่พอเวลาอยู่ด้วยกันสองคนแล้วก็รีบยื่นหน้ามาจ้องมองต่างหูของจอมขวัญด้วยความอยากรู้อยากเห็น

   "ต่างหูสวยมากเลยคงจะราคาสูงน่าดูนะเจ้าคะ"

   "ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันครับ"

    จอมขวัญเอื้อมมือไปจับต่างหูอย่างแผ่วเบา

   "คุณหลวงจ่ายเงินให้โดยที่ยังไม่ทันจะได้ถามราคาเลย"

   "คุณหลวงนี่ตามใจคุณหนูมากเลยนะเจ้าคะ ทั้งที่รู้เรื่องที่คุณหนูไม่ใช่ผู้หญิงแล้วก็ไม่มีท่าทีโกรธหรือรังเกียจอะไรเลยซักนิดเดียว"

    สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างพร้อมทำหน้าตาหยอกล้อ

   "หรือคุณหลวงแทนกานต์สนใจในตัวของคุณหนูจอมขวัญเจ้าคะ"

   "ไม่ใช่หรอกพี่สร้อย"

   จอมขวัญรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันทีทั้งที่หัวใจเต้นรัวอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้สร้อยทิพย์อดที่จะแกล้งอีกฝ่ายด้วยความเอ็นดูไม่ได้

   "หน้าแดงนะเจ้าคะ"

   "อากาศมันร้อนต่างหากล่ะ พี่สร้อยก็อะไรไม่รู้"

   จอมขวัญปากยื่นใส่อีกฝ่ายอย่างแง่งอนก่อนจะหันหน้าหนีไปมองต่างหูที่สะท้อนในกระจกแล้วอดที่จะหัวใจเต้นระรัวและพาลไปนึกถึงหน้าใครบางคนไม่ได้

   'คุณหลวงแอบวางยารึเปล่าเนี่ย ทำไมหัวใจถึงเต้นแรงแบบนี้ล่ะ'





   ซึ่งคืนนั้นจอมขวัญนอนไม่หลับพลิกตัวไปมากว่าจะหลับอีกทีก็ตอนที่ได้ยินเสียงไก่ขัน และนอนไปได้ไม่นานก็ถูกสร้อยทิพย์ปลุกขึ้นมาจับอาบน้ำแต่งตัวเป็นผ้านุ่งสีฟ้ามืดและห่มผ้าสไบสีฟ้าอ่อนเรียบร้อยแล้วจึงพาเดินออกมายังห้องโถงกลาง

   ซึ่งที่นั่นมีพัณณิตาและแทนกานต์กำลังนั่งดื่มชาอยู่ด้วยกันสองคน ก่อนที่อีกฝ่ายจะเงยหน้าขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มตรงมุมปากทำใหจอมขวัญชะงักด้วยความตกใจ

   "คุณหลวงมาทำอะไรแต่เช้าหรือเจ้าคะ"

   "ข้ามาหาเจ้า"

   แทนกานต์จ้องมองต่างหูที่คนตรงหน้ากำลังใส่อยู่ด้วยสายตาเป็นประกาย

   "วันนี้ไม่มีราชการเลยจะชวนเจ้าไปเดินเที่ยวเล่นซักหน่อย ไม่รู้ว่าเจ้าว่างหรือไม่"

   "ว่างซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญรีบตอบทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบประโยคทำให้สร้อยทิพย์ดึงชายผ้าเพื่อเป็นการห้ามปราม

   "ตอบเร็วเกินไปไม่งามเจ้าค่ะคุณหนู"

   "เอ่อ...วันนี้ข้าว่างพอดี หากคุณหลวงจะชวนไปเดินเที่ยวด้วยกันก็ไปได้เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมกับแก้คำพูดใหม่ทำให้พัณณิตาหัวเราะในลำคอด้วยความเอ็นดู

   "เอาเถิดในเมื่อเจ้าอยากไปขนาดนี้แม่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร"

   "ขอบคุณเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนที่ทั้งสองจะลงจากเรือนไปเพียงสองคนโดยที่วันนี้มีแสงเป็นคนพายเรือให้ทั้งสองคนได้นั่งกันอย่างสบาย  ซึ่งจอมขวัญพอนั่งบนเรือเรียบร้อยแล้วก็รีบถามแทนกานต์ที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

   "จะพาข้าไปเที่ยวไหนเจ้าคะ"

   "หึ" แทนกานตืเหยียดยิ้มตรงมุมปาก "วันนี้ข้าจะพาเจ้ามาเดินเล่นรอบพระราชวังดีหรือไม่"

   "ดีเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันไปมองบรรยากาศรอบตัวด้วยสายตาเปล่งประกายตื่นเต้นเพราะไม่เคยมาแถวนี้ ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์ยิ้มกรุ่มกริ่มอยู่แบบนั้นไปจนถึงท่าขึ้นเรือที่อยู่ใกล้ตลาดป่าฟูกซึ่งมีคนจอดเรือกันไว้มากมายพอสมควร

   จอมขวัญจับมือหนาของแทนกานต์ขึ้นมายืนบนแพก่อนจะมองไปยังแสงที่รีบทัดเรือออกจากท่าด้วยความประหลาดใจ

   "แสงไม่ไปเดินกับเราหรอ'

   "แสงจะไปรอเราที่ตลาดหน้าคุกน่ะ"

    จอมทัพเอื้อมมือมาจับมือนุ่มนิ่มแล้วพาเดินออกไปพร้อมกัน

   "ไปกันเถอะเดี๋ยวแดดแรง"

   "เอ่อ..."

    จอมขวัญหน้าเหวอเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกอีกฝ่ายลากจูงไปซะแล้วก่อนจะมองไปรอบตัวด้วยความประหลาดใจ

   "ทำไมมีแต่หมอนขายเต็มไปหมดเลย"

   "ที่นี่เขาเรียกกันว่าตลาดป่าฟูก"

   แทนกานต์ตอบแค่นั้นก่อนจะออกตัวเดินต่อโดยที่จับมือนุ่มนิ่มนั้นแน่นไม่ยอมปล่อยซึ่งจอมขวัญไม่ได้สะบัดออกเพราะกำลังสนใจกับบรรยากาศรอบกาย ตามร้านค้านั้นมีหมอน มุ้ง ฟูกและเบาะนั่ง รวมถึงผ้าที่มีลวดลายแปลกตาวางขายเรียงรายเยอะแยะเต็มไปหมดรวมถึงผู้คนที่เดินกันอย่างหนาแน่น

   จนกระทั่งเดินพ้นจากตัวตลาดไปไม่ไกลนักก็พบกับวิหารมณฑปเรือนยอดหลังคาขนาดใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งเหมือนเคยเห็นตามหนังสือในห้องของคุณย่าไม่มีผิดเพี้ยนและเป็นวัดที่จอมขวัญอยากไปตั้งแต่เด็ก

   "วิหารพระมงคลบพิตร"

   "ไปไหว้พระด้านในกันไหม"

   แทนกานต์ชักชวนทำให้จอมขวัญพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านในวิหารพร้อมกันทำให้ได้พบกับพระมงคลบพิตรซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ซึ่งก่อด้วยอิฐแล้วหุ้มด้วยทองสำริดทั้งจนเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ ซึ่งมีชาวบ้านมากราบไหว้มากมาย

   จอมขวัญเอามือออกจากอีกฝ่ายแล้วก้มลงกราบพระด้วยความนอบน้อมแล้วหลับตาลงตั้งใจขอพรอย่างแน่วแน่

   'ขอให้ผมหาทางกลับบ้านได้ด้วยเถิดนะครับ'

   ระหว่างที่กำลังตั้งใจขอพรอยู่นั้นก็ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกแทนกานต์แอบลอบมองอย่างไม่ละสายตาพร้อมอมยิ้มตรงมุมปาก

    หลังจากที่ทั้งสองไหว้พระขอพรกันเรียบร้อยแล้วทั้งสองจึงเดินออกมานอกวัดซึ่งมีนั่งร้านค้าวางขายของกันบางตาทำให้จอมขวัญมองรอบกายด้วยความสนใจก่อนจะหันไปพบกับแทนกานต์ที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนใบหน้าแทบจะชนกัน

   "เมื่อครู่ขอพรอะไรหรือจอมขวัญ"

   "ขอให้จำทางกลับบ้านได้น่ะ"

    จอมขวัญถอยหลังออกมาเล็กน้อยก่อนจะยิ่มแห้งให้อีกฝ่าย

   "แล้วคุณหลวงล่ะได้ขอพรอะไรไหม"

   "ข้าน่ะหรอ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมยื่นมือไปจับมือนุ่มนิ่มนั้นมากุมเอาไว้อย่างทะนุถนอม

   "ขอพรให้ได้อยู่กับเจ้าตลอดไปยังไงล่ะ"

   "ห๋า!"

   จอมขวัญทำหน้าตาตกใจแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกแทนกานต์ลากเดินออกไปอีกครั้งแถมระหว่างทางยังซื้อขนมเล็กน้อยให้กินอีกต่างหาก

   จนกระทั่งเดินมาถึงกำแพงเมืองสีขาวสูงใหญ่ที่มองเห็นพระเจดีย์ใหญ่ศิลปะลังกาจำนวนสามองค์สีทองอร่ามวางตัวเรียงยาวตลอดทิศตะวันออกและทิศตะวันตกส่องแสงงดงามเป็นประกายจนยากที่จะละสายตา

   "วัดอะไรหรือเจ้าคะทำไมถึงใหญ่โตจังเลย"

   "วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระอารามหลวงในพระบรมมหาราชวังน่ะ"

   "วัดพระศรีสรรเพชรญ์"

   จอมขวัญจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความปลาบปลื้มจนน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัวจนแทนกานต์ต้องยื่นมือไปเช็ดน้ำตาตรงแก้มให้อย่างอ่อนโยน

   "เจ้าร้องไห้ทำไม"

   "ข้าเแค่ดีใจที่ได้เห็นวัดพระศรีสรรเพชรญ์น่ะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มหวานมาให้อีกฝ่ายอย่างน่ารักทำให้แทนกานต์ส่ายหน้าไปมาด้วยความเอ็นดู

   "ไม่ต้องร้องหรอกนะ ไว้วันหน้าข้าจะพาเจ้าเข้าไปกราบพระศรีสรรเพชญ์ด้านในดีหรือไม่"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะละสายตาไปพบกับร่มกระดาษหลากหลายสีสันวางขายอยู่ตรงข้ามกับกำแพงเมือง ซึ่งด้านหลังนั้นเป็นคลองขนาดไม่ใหญ่มากและตอนนี้แดดก็เริ่มแรงจึงเดินไปดูด้วยความสนใจ  จอมขวัญหยิบร่มสีขาวขึ้นมากางพร้อมหันมามองแทนกานต์ด้วยความออดอ้อน

   "แดดเริ่มร้อนแล้ว เราซื้อร่มซักคันดีหรือไม่เจ้าคะ"

   "ตามใจเจ้าเถิด แต่ร่มที่เจ้าถือก็สวยดีหนา"

   แทนกานต์ตอบอย่างเอาใจพร้อมกับจ่ายเงินกับแม่ค้าที่รีบรับทันที ก่อนที่จะเป็นฝ่ายดึงร่มจากมือบางมาถือเอาไว้ทำให้จอมขวัญเงยหน้าขึ้นมองอย่างแปลกใจ

   "คุณหลวงเอาไปถือทำไมเจ้าคะ"

   "ข้าตัวสูงกว่า อีกอย่างเจ้าจะได้เดินดูของได้สะดวก" พอพูดจบก็โอบไหล่อีกฝ่ายให้เข้ามาใกล้กับตนเอง "ร่มคันเล็กแบบนี้ต้องเดินใกล้กันหน่อยเดี๋ยวเจ้าจะโดนแดดเอา"

   "เอ่อ...จะดีหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญหันไปมองรอบกายเห็นพ่อค้าแม่ค้าพากันอมยิ้มอย่างหยอกล้อแต่แทนกานต์ไม่สนใจแถมยังหันมายิ้มกว้างให้อีกต่างหาก

   "ดีซิ ไปกันเถอะ"

   ทั้งสองเดินไปตามถนนเส้นเล็กที่ด้านหนึ่งข้างกำแพงเมืองสีขาวและริมน้ำที่มีเรือพายกันอย่างมากมาย โดยที่ฝั่งตรงข้ามกำแพงเมืองมีของขายกันอย่างคึกคักแต่ไม่หนาแน่นมากนัก

   ทั้งสองเดินดูของกันไปเรื่อยอย่างไม่รีบร้อนจนผ่านไปหลายชั่วยามและสังเกตุพระปรางค์ขนาดใหญ่เห็นเด่นชัดแต่ไกลก่อด้วยอิฐปูนทรงขอมโบราณขนาดใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากเมืองละโว้ ทำให้จอมขวัญมองด้วยความปลาบปลื้มที่ได้มาเห็นของจริงที่สง่างามและอลังการจนอดที่จะยิ้มหวานออกมาไม่ได้

   "พระมหาธาตุวัดพระรามใช่หรือไม่เจ้าคะ"

   "ถูกต้อง ภายในพระปรางค์นั้นมีภาพจิตรกรรมฝาผนังไว้ทั้งสองด้าน"

   "เป็นภาพของพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัยบนบัลลังก์ใช่หรือไม่เจ้าคะ"

   จอมขวัญขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเพราะฟังจากที่คุณย่าอ่านหนังสือให้ฟังในตอนที่ยังเด็กทำให้แทนกานต์พยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกัน

   "ใช่แล้ว รูปจิตรกรรมฝาผนังภาพพระพุทธเจ้าประทับนั่งปางมารวิชัยบนบัลลังก์ซึ่งมีสีสันที่ตัดกันอย่างงดงาม แต่น่าเสียดายที่ไม่ค่อยให้ใครเข้าไปในพระปรางค์เท่าไหร่นัก"

   "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ แค่คุณหลวงพามาข้าก็ดีใจ"

   จอมขวัญยิ้มหวานทำให้แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากแล้วพาเดินไหว้พระตรงบริเวณรอบนอกแทน เริ่มจากด้านหน้าซุ้มประตูขนาดใหญ่มีการสลักไว้อย่างงดงาม อุโบสถวิหารสีขาวขนาดใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่าและวิหารขนาดเล็กเรียงรายกันมากมายเต็มไปหมดทั้งพระปรางค์หลากหลายขนาดอยู่บริเวณรอบประมาณยี่สิบแปดองค์กันเลยทีเดียว





*******มีต่อจ้าา********
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 02-08-2019 22:58:13
 


   หลังจากเดินชมวัดและไหว้พระจากด้านนอกกันเสร็จแล้วจึงเดินออกมาจากวัดซึ่งด้านหน้าวัดนั้นเป็นบึงน้ำขนาดใหญ่มีเรือพายกันอย่างคึกคักซึ่งถูกเรียกขานกันว่าบึงพระราม

    ก่อนที่แทนกานต์จะพามาเดินเล่นแถวบริเวณตลาดหน้าคุกซึ่งมีผู้คนเดินสวนกันไปมาอย่างหนาแน่น มีตลาดขายของกันมากมายหลากหลายชนิด ซึ่งระหว่างที่จอมขวัญกำลังจะซื้อขนมหวานอยู่นั้นก็มีเสียงที่คุ้นเคยตะโกนเรียกมาจากด้านหลัง

   "น้องพาขวัญ"

   "ออกขุนจักร"

   จอมขวัญชะงักก่อนจะมองจักรกวินที่เดินมาหยุดตรงหน้าตนเองด้วยรอยยิ้ม

   "พี่ดีใจที่มาเจอน้องพาขวัญที่นี่"

   "แต่ข้าไม่ดีใจซักนิด"

   แทนกานต์แทรกขึ้นมาพร้อมเอื้อมมือไปโอบไหล่บางให้เข้ามาใกล้กับตนเองราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทำให้จักรกวินชะงักไปก่อนจะมองด้วยความไม่พอใจ

   "เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรกัน ไม่ได้ไปทำราชการหรอกหรือ"

   "วันนี้ข้าว่างเลยออกมาเดินเล่นกับคู่หมั้นคู่หมายเพียงสองคนน่ะ"

    แทนกานต์แสยะยิ้มตรงมุมปากทำให้จักรกวินกำหมัดแน่นด้วยความโมโห

   "คู่หมั้น? ยังกล้าเรียกตัวเองเป็นคู่หมั้นน้องพาขวัญอีกหรือ"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญเริ่มทำตัวไม่ถูกอาจเพราะเสียงทะเลาะที่เริ่มดังจนทำให้ชาวบ้านแถวนั้นเริ่มหันมามอง แต่ด้วยความโมโหทำให้จักรกวินตะโกนเสียงดังมากกว่าเดิม

   "เจ้าเป็นคู่หมั้นภาษาอะไร ตอนที่น้องพาขวัญหายตัวไปไม่เคยออกตามหาเลยซักครั้ง!"

   "จักรกวิน!"

   แทนกานต์หงุดหงิดจ้องมองคนตรงหน้าอย่างมุ่งร้ายแต่ไม่ทำให้อีกฝ่ายเกรงกลัวเลยซักนิดเดียว

   "ทำไม รับความจริงไม่ได้รึไงหะคุณหลวง"

   "หยุดทะเลาะกันเดี๋ยวนี้นะ!"

  จอมขวัญขัดขึ้นมาเสียงดังด้วยความหงุดหงิดพร้อมเอามือแทนกานต์ออกไปจากไหล่ตนเองอย่างแง่งอน

   "ถ้าคุณหลวงกับออกขุนยังจะทะเลาะกัน ข้าก็จะกลับบ้านเอง"

   "เดี๋ยวซิ"

   แทนกานต์รั้งข้อมือของอีกฝ่ายไว้แล้วเอามือมากุมกันแน่นจนจักรกวินมองตาขวาง แต่ยอมหยุดเมื่อเห็นสายตาของคนตัวเล็กที่มองมาอย่าจริงจังจนถอนหายใจ

   "พี่ไม่ทะเลาะกันแล้วก็ได้"

   "ข้าก็ไม่ได้จะทะเลาะอยู่แล้ว"

   แทนกานต์ตอบเสียงอ้อมแอ้มทำให้จอมขวัญส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองจักกวินที่เดินเข้ามาจับมืออีกข้างของตัวเองไปกุมไว้พร้อมรอยยิ้ม

   "น้องพาขวัญ เรื่องเมื่อคราวที่แล้วที่ทำให้เรือของเจ้าล่มข้าต้องขอโทษด้วยนะ"

   "ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมกับพยายามจะดึงมือออกแต่จักรกวินยื้อเอาไว้แน่น

   "ถ้าอย่างนั้นพี่ขอไปเดินเล่นด้วยนะ เราสองคนไม่ได้เดินเล่นด้วยกันมาตั้งนานแล้ว"

   "ไม่ได้"

    แทนกานต์ขัดขึ้นมาอีกครั้งทำให้จักรกวินเหลือบตามองด้วยความไม่พอใจ

   "ข้าถามน้องพาขวัญ ไม่ใช่เจ้า"

   "วันนี้ข้ามากับคุณหลวงคงจะไปเดินเล่นด้วยกันกับออกขุนไม่ได้" พอได้ยินแบบนั้นจักรกวินก็ทำหน้าเจือนลง "ไว้คราวหน้านะเจ้าคะ"

   "งั้นคราวหน้ามาเดินเล่นกับพี่นะ"

   จักรกวินตื่นเต้นดีใจจนไม่ทันสังเกตุเห็นจอมขวัญที่ยิ้มแห้งมาให้ตลอดเวลาต่างจากแทนกานต์ที่ใบหน้าบึ้งตึงพร้อมลากคนตัวเล็กให้เดินออกไปจากตรงนั้น ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรยอมเดินมาตามแรงดึงจนถึงท่าเรือที่มีแสงพายเรือมารอรับไว้เรียบร้อย

   ซึ่งระหว่างกำลังกลับบ้านนั้นต่างคนต่างเงียบไม่ยอมพูดอะไรจนจอมขวัญเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อนด้วยความหงุดหงิด

   "คุณหลวงเป็นอะไร"

   "เปล่า"

   ตอบแค่นั้นพร้อมเบือนหน้าหนีทำให้จอมขวัญกอดอกและปากยื่นออกมาอย่างไม่พอใจ

   "ไม่เป็นอะไรถ้าอย่างนั้นแสดงว่าคุณหลวงไม่อยากพาข้าออกมาเที่ยวแล้วใช่ไหมเจ้าคะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าคงจะต้องได้นอนอยู่บ้านและคุณแม่คงจะไม่ให้ออกไปเที่ยวไหนอีกแล้วล่ะ"

   "ข้ายังไม่ได้พูดว่าจะไม่พาเจ้าออกมาเที่ยวอีกแล้วเสียหน่อย"

    แทนกานต์ยอมเปิดปากพูดหลังจากถูกรบเร้ามาซักพัก

   "ข้าแค่ไม่อยากให้จักรกวินมายุ่งกับเจ้าแค่นั้นเอง"

   "หวงคุณหนูพาขวัญนี่เอง"

   จอมขวัญพยักหน้าอย่างเข้าใจแต่ภายในกลับรู้สึกโหวงเหวงเล็กน้อย

   "ข้าไม่ได้หวงพาขวัญ"

   แทนกานต์จ้องมองคนตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา

   "แต่ข้าหึงหวงเจ้าต่างหากล่ะจอมขวัญ"

   "จ...จะมาหวงข้าทำไมล่ะเจ้าคะ"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดก่อนจะหันไปมองทางอื่นด้วยความเขินอายทำให้แทนกานต์อมยิ้มพร้อมเอื้อมมือไปจับตรงต่างหูทองคำขนาดเล็ก พร้อมกับประคองหน้าอีกฝ่ายให้หันหน้ามาสบตากับตนเองที่เยียดยิ้มตรงมุมปาก

   "ต่างหูของเจ้าสวยดีเนอะ"

   "ข้าแค่ลืมเปลี่ยนเท่านั้นแหละเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญดันตัวเองให้ถอยห่างออกมาก่อนจะมองไปทางอื่นด้วยความเขินอายทำให้แทนกานต์นั่งอมยิ้มคนเดียวราวกับคนเสียสติ

   พอกลับมาถึงท่าน้ำก็รีบเดินขึ้นเรือนทันทีโดยไม่ได้หันมามองคนที่นั่งอยู่บนเรือก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงทุ้มตะโกนมาจากด้านหลัง

   "พรุ่งนี้ข้าจะมารอเจ้าตรงท่าน้ำเวลาเดิมนะ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหันไปตอบแค่นั้นก่อนจะรีบเดินขึ้นเรือนด้วยความรีบร้อนท่ามกลางรอยยิ้มกรุ่มกริ่มของพัณณิตาที่ยืนรออยู่ตรงหน้าประตูเรือน

   "วันนี้ไปเที่ยวกับพ่อแทนมาสนุกไหม"

   "สนุกเจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปนั่งตรงห้องโถงกลางที่มีสร้อยทิพย์กำลังเตรียมน้ำชาและขนมหวานเอาไว้ให้อย่างครบครัน ซึ่งพัณณิตาจ้องมองร่มสีขาวในมือของลูกตนเองด้วยสายตาหยอกล้อ

   "ร่มบ้านเราก็มีเยอะแยะไม่เคยเห็นร่มแบบนี้มาก่อนเลยนะ จริงไหมนังพริ้ม"

   "จริงเจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายเห็นดีเห็นงามจนทำให้จอมขวัญที่กำลังดื่มชานั้นสำลักเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อยจากการสำลักน้ำ

   "คุณหลวงซื้อให้ลูกเจ้าค่ะ"

   "แม่ว่าแล้วเชียว"

   พัณณิตายิ้มกว้างออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

   "พ่อแทนตามใจเจ้าเสียจริง อยากได้อะไรก็ซื้อให้หมดทั้งต่างหูทั้งร่ม เห็นทีจะมีข่าวดีในเร็ววันนี้เสียแล้วกระมั้ง"

   "ไม่ใช่หรอกเจ้าคะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มแห้งมาให้แต่พัณณิตาทำเป็นไม่สนใจเท่าไหร่นักแถมทำแววตาหยอกล้อส่งมาให้อีกต่างหาก

   "ไม่ต้องอายหรอกแม่พาขวัญ เดี๋ยวเรื่องแต่งงานแม่จะรีบจัดการให้เจ้านะ"

   "เอ่อ...คุณแม่เจ้าคะ"

   จอมขวัญพยายามห้ามแต่พัณณิตาเดินยิ้มกว้างเข้าห้องไปเรียบร้อย ทำให้ต้องหันไปทำปากยื่นใส่สร้อยทิพย์ที่นั่งก้มหน้าอยู่ด้านหลัง

   "ทำอย่างไรดีล่ะพี่สร้อย ข้ายังไม่อยากแต่งงานกับคุณหลวงนะ"

   "นายแม่อาจกำลังหยอกเล่นก็ได้นะเจ้าคะ"

   สร้อยทิพย์พูดปลอบทั้งที่พึ่งเห็นพัณณิตากับรินทิพย์คุยกันเรื่องสินสอดเมื่อเที่ยงที่ผ่านมานี้เอง ก่อนที่จะพยายามเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียน

  "คุณหนูเหนื่อยมาทั้งวันแล้วไปอาบน้ำดีหรือไม่เจ้าคะ"

   "ครับพี่สร้อย"

   จอมขวัญพยักหน้าก่อนที่ทั้งสองจะลงไปอาบน้ำตรงชานเรือน ใช้เวลาไม่นานนักก็ขึ้นมานั่งนิ่งทำตาปรือให้สร้อยทิพย์หวีผมให้ด้วยความง่วงนอนจนอดที่หาวออกมาไม่ได้

   "หาวว ทำไมง่วงนอนจัง"

   "เล่นไปเดินตากแดดแบบนั้นก็เหนื่อยเป็นธรรมดาเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์อมยิ้มตรงมุมปากอย่างเอ็นดูก่อนจะพาไปยังเตียงนอนซึ่งพอหัวถึงหมอนจอมขวัญก็นอนหลับสนิททันที สร้อยทิพย์จึงจัดการปิดม่านก่อนจะดับไฟแล้วเดินไปนอนตรงแถวประตูเพื่อให้เจ้านายได้พักผ่อน





   พอเช้าวันต่อมาจอมขวัญรีบตื่นขึ้นมาให้สร้อยทิพย์แต่งตัวตั้งแต่เช้ามืด ก่อนจะแอบลอบลงมาตรงท่าน้ำโดยมีเรือลำหนึ่งมาจอดเทียบท่าตรงท่าน้ำพอดีซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแทนกานต์ที่วันนี้เป็นคนพายเรือมาด้วยตนเอง

   "อรุณสวัสดิ์จอมขวัญ"

   "อรุณสวัสดิ์เจ้าค่ะคุณหลวง"

   จอมขวัญอมยิ้มพร้อมก้าวลงเรือโดยมีสร้อยทิพย์หันซ้ายมองขวาก่อนจะรีบส่งร่มไปให้เจ้านายตนเองอย่างรีบร้อน

   "รีบไปเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะมีใครมาเห็นเข้า"

   "ข้าไปแล้วนะพี่สร้อย"

    จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะพยักหน้าให้แทนกานต์รีบพายเรือออกจากท่าเป็นจังหวะเดียวกันกับที่จอมทัพและเมืองลงมาจากเรือนเห็นภาพตรงท่าน้ำพอดี

   "นั่นจอมขวัญจะรีบไปไหนกับใครน่ะ แล้วทำไมเองไม่ไปด้วย"

   "เอ่อ...คือ..."

   สร้อยทิพย์ตะกุกตะกักพร้อมก้มหน้าหลบสายตาจนหัวแทบโขกกับพื้นทำให้จอมทัพเริ่มหงุดหงิดกระทืบเท้าลงกับพื้นไม้อย่างแรง

   "เองจะบอกหรือไม่บอกหะนังสร้อย"

   "คุณหนูออกไปเที่ยวกับคุณหลวงเจ้าค่ะ"

    สร้อยทิพย์ตอบเสียงสั่นซึ่งคำตอบนั้นทำให้จอมทัพถอนหายใจก่อนจะมองตามเรือลำนั้นไปด้วยสายตาเป็นห่วง


   ทางด้านของแทนกานต์ก็พายเรืออย่างตั้งอกตั้งใจแต่สายตากลับลอบมองคนตรงหน้าเป็นระยะอย่างไม่ละสายตาจนจอมขวัญที่เริ่มรู้สึกตัวเงยหน้าขึ้นมามองด้วยความสงสัย

   "มีอะไรหรอคะ"

   "วันนี้เจ้าแต่งตัวสวยยิ่งนัก"

    แทนกานต์เหลือบสายตามองไปยังร่มที่พิงกับเรือ

   "ร่มคันนี้ก็สวยเหมือนกันสงสัยเจ้าคงจะชอบมาก"

   "กลัวแดดจะร้อนพี่สร้อยเลยหยิบมาโดยไม่ได้ดูน่ะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญปากยื่นก่อนจะมองไปทางอื่นด้วยความเขินอายเล็กน้อยซึ่งพอมองบรรยากาศรอบตัวแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยคุ้นตาเท่าไหร่

   "วันนี้จะพาข้าไปเที่ยวไหนหรือคะ"

   "ตลาดป่าขนม"

   แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตาเป็นประกายอย่างพึงพอใจมาก

   "ข้าอยากไปตลาดป่าขนมมานานแล้วเจ้าค่ะ ได้ยินว่าที่นั่นมีขนมหลายชนิดขายมากมายเลยใช่ไหมเจ้าคะ"

   "ถูกต้อง ขนมมากมายจนเจ้าเลือกกินไม่ถูกเลยล่ะ"

    แทนกานต์มองรอยยิ้มหวานของคนตรงหน้าด้วยความหลงใหล ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีก็พายเรือมาเทียบท่าแพจอดเรือเสียแล้ว

    หลังจากจอดเรือเสร็จทั้งสองจึงเดินเข้าไปในตลาดซึ่งชาวบ้านย่านนี้ทำขนมขายกันทุกร้าน ซึ่งที่นี่มีขนมแปลกตาที่จอมขวัญยังไม่เคยเห็นทั้งขนมชะมด กงเกวียน ขนมสำปะนีและขนมแห้งมากมาย โดยที่แทนกานต์จะเป็นคนจ่ายเงินกับค่าขนมของคนตัวเล็กที่แวะเกือบทุกร้าน

   ก่อนจะไปสะดุดตากับร้านแม่ค้าคนหนึ่งซึ่งกำลังทอดขนมสามลูกที่จอมขวัญนั้นไม่เคยเห็นมาก่อนจึงสนใจเป็นพิเศษ

   "คุณหลวงนั่นขนมอะไรหรือคะ"

   "ขนมสามเกลอน่ะ"

   แทนกานต์ตอบก่อนจะเอามือโอบบ่าพาคนตัวเล็กเดินเข้าไปใกล้ร้านซึ่งแม่ค้าก็ยิ้มกว้างมาให้อย่างเป็นมิตร

   "สวัสดีเจ้าค่ะคุณหนูคุณชาย รับขนมสามเกลอซักกระทงไหมเจ้าคะ"

   "ถ้าหากข้าอยากจะลองทอดเองได้หรือไม่"

   แทนกานต์ถามแต่มือกลับควักถุงเงินยื่นให้กับแม่ค้าที่รับแล้วยอมหลีกทางให้ทั้งสองคนโดยดี

   แทนกานต์จูงมือจอมขวัญเดินเข้ามาตรงหน้ากระทะซึ่งอีกฝ่ายเงยหน้ามองด้วยสายตาสงสัย

   "คุณหลวงจะทำอะไรหรือเจ้าคะ"

   "เห็นเจ้าไม่เคยรู้จักขนมชนิดนี้มาก่อน" แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปาก "เลยจะชวนมาลองทำพร้อมกันสองคนดีหรือไม่"

   "ดีเลยเจ้าค่ะ ข้าก็อยากลองทำขนมชนิดนี้เหมือนกัน"

   จอมขวัญยิ้มหวานโดยไม่ได้คิดอะไรมากก่อนจะลงมือทำขนมด้วยแววตาเป็นประกายเพราะไม่ได้ทำขนมมาซักพักหนึ่งแล้ว โดยเริ่มจากตักไส้มะพร้าวกับน้ำตาลและถั่วซีกบดที่แม่ค้าผัดให้เรียบร้อยแล้วไปลงบนแผ่นแป้งห่อไส้แล้วปั้นขนมเป็นลูกกลมสามลูกโดยมีแทนกานต์ช่วยปั้น แล้วนำทั้งสามลูกนั้นมาติดกันเป็นชิ้นเดียวก่อนจะชุบแป้งอีกครั้งและนำมาวางไว้ในด้ามจับเพื่อนำไปทอด

   ซึ่งมือหนานั้นเอื้อมมือไปสอดใต้มือบางให้จอมขวัญจับด้านบนมือตนเองแล้วนำขนมลงไปทอดจนสุก  ปรากฏว่าขนมที่นำไปทอดนั้นติดกันทั้งสามลูกและไม่แยกจากกันในคราวแรกทำให้ได้รับเสียงฮือฮาจากชาวบ้านแถวนั้นมากมาย

   แทนกานต์เหยียดยิ้มก่อนจะหยิบขนมที่พึ่งทอดเสร็จนั้นมาเป่าทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   "คุณหลวงทำอะไรน่ะเจ้าคะ"

   "ลองชิมดูซิ"

    หลังจากเป่าให้หายร้อนแล้วแทนกานต์จึงเอามาจ่อตรงปากบางนั้นทำให้จอมขวัญยอมงับขนมนั้นก่อนจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายก้มหน้าลงมางับขนมอีกด้านหนึ่งทำให้หน้าทั้งสองคนห่างกันเพียงแค่คืบแถมรอยยิ้มกรุ่มกริ่มที่ไม่ค่อยน่าไว้ใจนั่นอีก

   "อร่อยไหม"

   "อร่อยมากเลยเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนจะมองไปรอบตัวเห็นชาวบ้านพากันมองทั้งสองคนอย่างไม่ละสายตาทำให้รู้สึกอึดอัดทำตัวไม่ถูก

   "ชาวบ้านเขาเป็นอะไรกันหรือเจ้าคะ หรือข้าทำอะไรผิด"

   "ชาวบ้านแค่แปลกใจที่เราทำขนมสามเกลอกันได้ในครั้งเดียวน่ะ"

   คำตอบของแทนกานต์ทำให้จอมขวัญเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

   "ปกติต้องทอดกี่ครั้งหรือเจ้าคะ"

   "ไม่ต้องไปสนใจหรอก"

    แทนกานต์เปลี่ยนเรื่องก่อนจะโอบไหล่บางให้มาชิดกับตนเอง

   "เราเดินไปดูขนมแถวนั้นกันเถอะ"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยอมเดินตามทั้งที่ยังงงเพราะไม่รู้ความหมายที่แฝงเอาไว้ต่างจากแทนกานต์ยิ้มกรุ่มกริ่มพร้อมเหลือบมองคนข้างกายตลอดเวลา


   'การทอดขนมสามเกลอครั้งแรกแล้วไม่มีลูกไหนขาดออกจากกันนั้น หมายความว่าจะได้ครองรักอยู่ด้วยกันตลอดไปและจะมีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองไงล่ะ'





   เมื่อกลับมาถึงเรือนแต่ไม่มีใครออกมาต้อนรับเหมือนทุกวันแม้กระทั่งบ่าวรับใช้ของตนเองทำให้ทั้งสองรีบเดินขึ้นมาบนเรือน

    ก่อนจะพบพัณณิตานอนพิงหมอนอิงอยู่ตรงห้องโถงกลางเรือนโดยมีพวกบ่าวไพร่พากันพัดและนวดกันมากมาย จนจอมขวัญเดินเข้าไปหาด้วยความเป็นห่วงเพราะเห็นอีกฝ่ายใบหน้าซีดเซียวมาก

   "คุณแม่เป็นอะไรหรือเจ้าคะ"

   "แม่แค่เวียนหัวนิดหน่อยไม่เป็นอะไรมาก"

   พัณณิตาตอบแค่นั้นเพื่อให้ลูกตนเองสบายใจแต่พริ้มพรายกลับพูดแทรกขึ้นมาเสียงดังลั่น

   "เวียนหัวจนหน้ามืดเกือบตกบันไดเลยนะเจ้าคะคุณหนู"

   "นังพริ้ม!"

    พัณณิตาหันไปเอ็ดพริ้มพรายที่กำลังพัดให้ตนเองด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองจอมขวัญที่มองมาด้วยความเป็นห่วง

   "ทำไมคุณแม่ไม่ยอมบอกข้าล่ะเจ้าคะ"

   "แม่เป็นเล็กน้อยเอง เจ้าไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"

   ถึงจะพูดแบบนั้นพัณณิตาก็เผลอไอออกมาอย่างห้ามไม่ไหวทำให้จอมขวัญถอนหายใจออกมาอย่างแรง

   "คุณแม่ต้องพักผ่อนนะเจ้าคะ แม่พริ้มพาคุณแม่เข้าไปนอนในห้องเถอะ"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

    พริ้มพรายตอบรับพร้อมประคองตัวแพรวพรรณรายให้เดินกลับเข้าไปนอนในห้อง

    พอไม่มีใครอยู่บนเรือนแล้วจอมขวัญจึงเดินมาส่งแทนกานต์ตรงท่าน้ำด้วยสีหน้าลำบากใจจนแทนกานต์ต้องยกมือลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน

   "อย่าเป็นห่วงเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ข้าจะพาเจ้าไปยังตลาดป่ายาดีหรือไม่"

   "ตลาดป่ายา?"

   จอมขวัญขมวดคิ้วเหลือบตามามองด้วยความสงสัยจนคนมองต้องอธิบายเพิ่มเติมด้วยความเอ็นดู

   "ที่ตลาดป่ายามียาสมุนไพรขายมากมาย ลองไปหายามาต้มให้คุณป้าทานดีหรือไม่"

   "จริงนะเจ้าคะ"

   จอมขวัญเบิกตากว้างพร้อมทำสายตาออดอ้อนทำให้แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากอย่างถูกอกถูกใจ

   "จริงซิ"

   "แต่ข้าไม่ค่อยรู้เรื่องยาเท่าไหร่" จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความหนักใจ "ข้าพาพี่สร้อยไปด้วยได้ไหม"

   "ตามใจเจ้าเถิด"

   "ขอบน้ำใจเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างลืมตัวทำให้แทนกานต์จ้องมองอย่างไม่ละสายตาก่อนที่อีกฝ่ายจะยอมลงเรือแล้วปล่อยให้แสงที่รออยู่นั้นเป็นคนพายกลับ

   จอมขวัญถอนหายใจก่อนจะหันหลังกำลังจะเดินขึ้นเรือนก็ได้ยินเสียงอาเจียนมาจากทางหลังเรือนจึงตัดสินใจเดินแอบย่องไปทางนั้น ก่อนจะพบกับพลอยปภัสที่ยืนอาเจียนอยู่ตรงใต้ต้นไม่ใหญ่โดยมีฝ้ายและนพคอยยืนมองด้วยความเป็นห่วงทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   'พลอยปภัสก็ไม่สบายหรอ ทำไมถึงมายืนแอบอาเจียนอยู่ตรงนี้ล่ะ'

   แต่ทำได้เพียงเก็บความสงสัยไว้แค่นั้นก่อนจะกลับหลังหันรีบเดินขึ้นเรือนด้วยความรู้สึกที่ไม่ชอบมาพากลซักเท่าไหร่





   วันต่อมาจอมขวัญตื่นแต่เช้ามืดยืนนิ่งให้สร้อยทิพย์จับแต่งตัว ซึ่งวันนี้ผ้านุ่งสีชมพูมืดลายทองและผ้าสไบสีชมพูอ่อนพร้อมเครื่องประดับบางตา พอเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงมาช่วยกันนั่งคิดรายการสมุนไพรที่จำเป็นจะเอามาต้ม

  ก่อนจะเดินออกมาจากห้องเห็นแทนกานต์กำลังนั่งดื่มชากับจอมทัพที่วันนี้ตื่นขึ้นมาดักรอแต่เช้า

   "วันนี้คุณพ่อตื่นเร็วจังเลยนะเจ้าคะ"

   "ต้องรีบตื่นก่อนที่เจ้าจะแอบออกไปเที่ยวไหนน่ะซิ"

   จอมทัพยิ้มกว้างก่อนจะยกมือลูบผมยาวสวยนั้นด้วยความเอ็นดู

   "วันนี้จะไปไหนกันหรือไหนบอกพ่อมาซิ"

   "คุณหลวงจะพาข้าไปเดินที่ตลาดป่ายาเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวานให้จอมทัพอย่างเอาใจ "ตั้งใจจะไปดูยามาต้มให้คุณแม่น่ะเจ้าค่ะ"

   "อย่างนั้นรึ"

   จอมทัพพยักหน้าก่อนจะหันไปจ้องหน้าแทนกานต์นิ่งโดยที่ไม่มีใครอ่านสายตาออก

   "วันนี้เอานังสร้อยไปด้วยหากจะนั่งเรือลำเดียวกันกับพ่อแทนเห็นจะหนักเกินไป ถ้าอย่างนั้นวันนี้แยกเรือกันไปดีหรือไม่"

   "ตามใจคุณลุงเถิดขอรับ"

   แทนกานต์ตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่งทำให้จอมทัพพยักหน้าก่อนจะหันไปมองยังเมืองที่นั่งก้มหน้าอยู่ตรงด้านหลังตนเอง

   "อ้ายเมืองวันนี้เองไปรับใช้พาขวัญเถิด อย่างไรเสียข้าก็ไม่ออกไปไหนอยู่แล้ว"

   "ขอรับท่านเจ้าคุณ"

   เมืองตอบรับพร้อมแอบลอบมองจอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้พอดิบพอดี

   "วันนี้ต้องลำบากพี่เมืองแล้วนะ"

   "ไม่เป็นไรขอรับคุณหนู"

   เมืองตอบก่อนจะหลบสายตาที่แทนกานต์มองมาอย่างไม่พอใจจนจอมทัพสังเกตุเห็น

   "ไม่พอใจอันใดรึพ่อแทน"

   "เปล่าขอครับคุณลุง"

   แทนกานต์ส่ายหน้าก่อนจะเลือนสายตาไปมองจอมขวัญที่ชอบยิ้มหวานตลอดเวลา

   "ไปกันเถิดพาขวัญ เดี๋ยวต้องเดินเลือกยาสมุนไพรกันอีก"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมาไหว้จอมทัพก่อนจะเดินลงไปจากเรือนเพื่อไปขึ้นเรือ ซึ่งวันนี้แยกกันไปเป็นสองลำโดยพายเคียงคู่กันไปจนถึงที่หมาย

   ซึ่งตลาดป่ายาแห่งนี้มีร้านขายเครื่องเทศเครื่องไทยสมุนไพรครบทุกสรรพคุณยาทุกสิ่ง แต่ต้องเดินเลือกหากันหลากหลายร้านเพราะราคานั้นแตกต่างกัน แต่ไม่ต้องเป็นกังวลมากเท่าไหร่เพราะสร้อยทิพย์เลือกซื้อยาสมุนไพรที่จดเอาไว้ ตามร้านขายสมุนไพรเหล่านั้นอย่างชำนาญ จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งวันก็ได้ยาสมุนไพรมาอยู่ในมืออย่างครบครัน

   "ครบแล้วเจ้าค่ะคุณหนู"

   "พี่สร้อยเก่งจังเลยจ้ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะตั้งท่าที่จะกลับบ้านกันแต่มีเสียงหวานที่ค่อนข้างคุ้นเคยตะโกนทักมาจากด้านหลังซะก่อน

   พอหันไปมองก็พบกับนวลจันทร์ที่เดินคู่กันมากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ตัวเล็กและหน้าเด็กกว่าจนใครหลายคนนั้นพากันมองเหลียวหลังด้วยสายตาเอ็นดู

   "คุณหลวงแทนกานต์"

   "แม่นวลจันทร์ แม่พลับพลึง"

   แทนกานต์ยกมือขึ้นมารับไหว้ทั้งสองคนด้วยใบหน้าเรียบเฉย

   "ไม่คิดว่าจะมาเจอเจ้าทั้งสองคนที่นี่"

   "น้องต้องเป็นฝ่ายถามมากกว่าว่าคุณหลวงมาทำทำอะไรที่นี่"

    พลับพลึงยิ้มหวานก่อนจะมองไปยังจอมขวัญด้วยสายตาเป็นมิตร

   "แล้วแม่หญิงคนนี้คือใครหรือเจ้าคะ"

   "แม่พลับพลึงนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ" นวลจันทร์ตีแขนน้องสาวตัวเองอย่างหมั่นเขี้ยว "นี่น่ะแม่พาขวัญ ลูกสาวของเจ้าพระยาจอมทัพกรมพระคลังหลวงเชียวหนา"

   "คู่หมั้นคู่หมายของคุณหลวงน่ะหรือ" พลับพลึงยิ้มกว้าง "สวยสมคำร่ำลือ"

   "ไม่ขนาดนั้นหรอกเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งเมื่อมีคนมาชมตัวเองว่าสวยแบบนี้ทั้งที่ไม่ใช่ผู้หญิงซักหน่อย  ซึ่งพลับพลึงเองก็ยิ้มหวานพร้อมมองด้วยแววตาชื่นชม

   "สวยจริงเจ้าค่ะ ลืมแนะนำตัวไปเข้าชื่อพลับพลึง เป็นหมอชาวบ้านรักษาด้วยยาสมุนไพรน่ะเจ้าค่ะ"

   พลับพลึงส่งยิ้มกว้างมาให้จนตาแทบปิด

   "แต่ไม่คิดว่าจะมาเจอแม่หญิงพาขวัญกับคุณหลวงที่ตลาดป่ายาแบบนี้นะเจ้าคะ"

   "ข้าแค่จะมาดูยาสมุนไพรไปต้มให้คุณแม่น่ะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานกลับก่อนจะหันไปถามสร้อยทิพย์ที่ถือห่อยาเต็มไม้เต็มมือ

   "ยาครบแล้วใช่ไหมจ๊ะพี่สร้อย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

    สร้อยทิพย์ตอบรับทำให้จอมขวัญหันมายกมือไหว้ทั้งสามคนด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ถ้าอย่างนั้นข้าขอตัวลากลับเรือนก่อนนะเจ้าคะ"

   "เดี๋ยวก่อนซิเจ้าคะ"

   พลับพลึงจับแขนของอีกฝ่ายไว้แน่นทำให้จอมขวัญชะงัก ก่อนที่นวลจันทร์จะเป็นคนเอ่ยชวนทั้งที่แววตานั้นแอบลอบมองไป่เมือ่่งเป็นบ่าวของจอมขวัญตลอดเวลาด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ไม่ได้เจอกันเสียนาน เราไปดื่มชากันดีไหมเจ้าคะ"

   "เอ่อ..."

    จอมขวัญอึกอักทำตัวไม่ถูกก่อนจะถูกแทนกานต์โอบไหล่พร้อมกับปัดมือของพลับพลึงออกอย่างแนบเนียน

   "ในเมื่อซื้อยากันเสร็จแล้วจะไปดื่มชากันซักหน่อยคงจะไม่เป็นไรหรอกจริงไหมพาขวัญ"

   "เอาแบบนั้นก็ได้เจ้าค่ะคุณหลวง"

   จอมขวัญพยักหน้าอย่างยินยอมก่อนที่ทั้งสี่จะแวะดื่มชาสมุนไพรแถวนั้น โดยที่พวกบ่าวไพร่ต่างยืนรอกันอยู่ด้านนอก

  ซึ่งการพูดคุยกันครั้งนี้ทำให้จอมขวัญสนิทสนมกับนวลจัทร์และพลับพลึงมากกว่าเดิมโดยมีแทนกานต์นั่งจิบชานั่งนิ่งอยู่คนเดียวแต่แววตามองคู่หมั้นคู่หมายของตนเองตลอดเวลาไม่ยอมละสายตาไปไหน

   หลังจากดื่มชากันเสร็จแล้วทั้งสองก็ต่างแยกย้ายกันกลับบ้านเพราะเอาเรือมาคนละลำและอีกอย่างตอนนี้ก็ใกล้มืดค่ำมากแล้ว จอมขวัญยกมือไหว้พร้อมยิ้มหวานให้กับอีกฝ่ายอย่างน่าหลงไหล

   "พายเรือกลับโดยปลอดภัยนะเจ้าคะคุณหลวง"

   "แล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปหาเจ้าที่เรือนนะ...จอมขวัญ"

   แทนกานต์ยิ้มกลับก่อนที่แสงและเมืองจะพายเรือแยกกันไปคนละทางโดยที่ร่างสูงนั้นหันกลับไปมองเรือลำเล็กที่จอมขวัญนั่งนั้นจนไปไกลสุดสายตาจึงถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย

   'อยากไปส่งเจ้าที่เรือนจัง'




******มีต่อน้าาา*******



หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 02-08-2019 23:03:41


   พอกลับมาถึงตรงท่าน้ำก็มีเสียงดังแอะอะโวยวายดังลั่นมาจากบนเรือนทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะรีบเดินขึ้นมาบนเรือนเห็นนพนั่งก้มหน้าอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งโดยที่พัณณ์ตาทำท่าทางโมโหตลอดเวลาและมีจอมทัพ แพรวพรรณราย พลอยปภัสนั่งกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้จอมขวัญเดินเข้าไปนั่งข้างจอมทัพแล้วแอบก้มลงไปกระซิบถามพริ้มพรายด้วยความสงสัย

   "มีเรื่องอันใดกันหรือแม่พริ้ม"

   "อ้ายนพไปทำผู้หญิงท้องเจ้าค่ะ"

   คำตอบของพริ้มพรายทำให้จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

   "ห๊ะ!"

   "ทำเองถึงมักง่ายอย่างนี้หะอ้ายนพ"

   พัณณิตาเอาพัดดันตรงหน้าผากนพอย่างแรงด้วยใบหน้าและท่าทางที่เต็มไปด้วยความโกรธและไม่ชอบใจอย่างหนักปนเปไปด้วยความรู้สึกสมเพช

   "เองนี่นะไม่รู้จักเจียมตัว ไปชิงสุกก่อนห่ามทำลูกสาวคนอื่นท้องไปถึงไหนต่อไหน ป่านนี้ชาวบ้านคงจะลือไปทั่วพระนครเสียแล้ว"

   "ข้ารักแม่พยอมขอรับ"

    นพตอบเสียงดังฟังชัดจนพยอมที่นั่งอยู่สะอื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้

   "รักก็ต้องทำให้ถูกต้องตามประเพณีซิ"

    พัณณิตาโมโหก่อนจะหันไปมองพยอมและถอนหายใจออกมาอย่างแรง

   "เฮ้อ...เองชื่ออะไร"

   "พยอมเจ้าค่ะนายแม่"

   พยอมตอบเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวพร้อมก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น

   "เองเป็นลูกเต้าเหล่าใครล่ะ"

   "พยอมไม่มีพ่อมีแม่ อาศัยอยู่กับตาชื่นที่พึ่งตายจากการถูกสัตว์ป่ากัดตายจากการที่ไปเกี่ยวข้าวครั้งสุดท้ายเมื่อห้าเดือนที่แล้วเจ้าค่ะ" พยอมสะอื้นพยายามก็ห้ามน้ำตาตัวเอง "โชคดีที่พี่นพไปช่วยไล่สัตว์ป่าแล้วนำร่างของคุณตามาฝังให้แถมยังช่วยข้าเกี่ยวข้าวอีกต่างหาก ทำให้ข้าสำนึกบุญคุณ..."

   "สำนึกบุญคุณจนยอมเป็นเมียมันเนี่ยนะ"

   พัณณิตาทำหน้าตาขัดใจปนเปไปด้วยความสมเพช

   "ทำไมถึงคิดสั้นนักล่ะแม่พยอม อ้ายนพมันขี้เหล้าจะตายไปหากออกเรือนด้วยกันมันไม่ไปเอาเงินลงไหเหล้าหมดหรือไง"

   "พยอมแค่รักพี่นพเจ้าค่ะ"

   พยอมสะอื้นไห้ทำให้พัณณิตาถอนหายใจก่อนจะหันไปพูดกับพลอยปภัสที่นั่งกำมือแน่นพร้อมจ้องบ่าวสองคนที่นั่งอยู่ตรงกลางด้วยความโมโห

   "แม่พลอยอบรมสั่งสอนบ่าวของหล่อนยังไงให้ไปทำลูกสาวชาวบ้านเขาท้องก่อนแต่งน่ะ"

   "นพไปทำเองข้าจะรู้ได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ"

   พลอยปภัสหงุดหงิดพร้อมมองไปยังนพด้วยสายตาคาดโทษ

  "ถึงจะเป็นบ่าวแต่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลานะเจ้าคะแม่ใหญ่"

   "คุณพี่พัณก็อย่าไปโทษแม่พลอยของน้องฝ่ายเดียวซิเจ้าคะ" แพรวพรรณรายจิกสายตาไปยังนพด้วยความไม่ชอบใจ "ควรจะโทษคนที่ก่อเรื่องถึงจะถูก"

   "เลิกทะเลาะกันต่อหน้าบ่าวไพร่ได้แล้ว"

    จอมทัพขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดันก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจพร้อมมองไปยังพยอมด้วยสายตาเมตตา

   "เอาเถิดข้าจะผูกข้อไม้ข้อมือให้พวกเองสองคนก็แล้วกัน"

   "ขอบคุณขอรับ"

   นพพาพยอมหมอบกราบคนตรงหน้าทันทีด้วยความดีอกดีใจ ก่อนที่จอมทัพและพัณณิตาซึ่งเป็นนายใหญ่ของเรือนจะทำพิธีเอาสายสิญจน์มาผูกข้อมือของทั้งสองคนพร้อมทั้งกล่าวคำอวยพร

   "ขอให้พวกเองสองคนรักและมั่นคงกันแบบนี้ตลอดไป"

   "ในเมื่อเองมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็อย่าออกนอกลู่นอกทางเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกเองที่จะเกิดมาล่ะเข้าใจไหม"

    พัณณิตาถึงแม้จะเจ้ากี้เจ้าการขี้บ่นไปบ้างแต่กลับมีความเมตตาให้บ่าวไพร่ในเรือนทุกคนอย่างเท่าเทียม จนพยอมร้องไห้ออกมาด้ายความซาบซึ้งทำให้พัณณิตาถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายแต่มองด้วยความเมตตาไม่เปลี่ยนแปลง

   "ในเมื่อเองกำลังท้องกำลังไส้แบบนี้ให้ไปทำงานหนักในเรือนครัวคงจะไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นงั้นไปดูแลพาขวัญลูกของข้าก็แล้วกัน"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พยอมตอบรับพร้อมก้มหน้าลงต่ำแทบจะติดพื้นก่อนที่พัณณิตาจะหันมาพูดกับลูกตนเองด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

   "ฝากลูกดูแลอบรมสั่งสอนนังคนนี้ด้วยนะ"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญรับคำก่อนที่พัณณิตาจะลุกเดินหายเข้าไปในห้องนอนรวมถึงจอมทัพที่เดินแยกไปทางห้องหนังสือ ส่วนสองแม่ลูกต่างแยกย้ายกันกลับห้องตัวเอง เหลือแค่พยอมและนพที่นั่งก้มหน้าไม่ยอมลุกไปไหนทำให้จอมขวัญมองพยอมด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ไม่ต้องกลัวนะ ต่อไปพี่พยอมมารับใช้ข้านี่แหละ ส่วนเรื่องกฎระเบียบข้าคงจะต้องฝากให้พี่ช่วยดูแลด้วยนะพี่สร้อย"

   "ได้เลยเจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์มองพยอมด้วยสายตาไม่ไว้วางใจยิ่งเห็นรอยยิ้มแสยะตรงมุมปากของนพแล้วทำให้สร้อยทิพย์เกาะขาจอมขวัญไว้แน่น

   หลังจากแยกย้ายให้พยอมไปเก็บข้าวของเรียบรอยแล้วสร้อยทิพย์ก็พาจอมขวัญลงไปอาบน้ำอาบท่าตรงชานเรือนโดยเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนที่นั่นเรียบร้อย ก่อนจะขึ้นมาด้านบนเห็พยอมยืนรออยู่หน้าห้องทำให้จอมขวัญเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย

   "ทำไมถึงไม่ไปพักผ่อนล่ะพี่พยอม"

   "พี่นพให้บ่าวมารับใช้คุณหนูเจ้าค่ะ"

   พยอมตอบพร้อมก้มหน้าไปแทบจะติดพื้นทำให้จอมขวัญรีบส่ายหน้าโบกไม้โบกมือทันที

   "ไม่ต้องหรอกข้ามีพี่สร้อยอยู่แล้ว กำลังท้องกำลังไส้รีบกลับไปพักผ่อนก่อนเถิด"

   "แต่..."

   พยอมยังดึงดันที่จะคอยรับใช้ในคืนนี้ทำให้สร้อยทิพย์ประคองเจ้านายตนเองไปยังประตูพร้อมเปิดออกมาก่อนจะจ้องไปยังพยอมอย่างไม่ไว้ใจ

   "คุณหนูเข้าห้องก่อนเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวทางนี้สร้อยจัดการเอง"

   "ฝากด้วยนะพี่สร้อย"

   จอมขวัญพยักหน้าก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องจึงทำให้เหลือเพียงสร้อยทิพย์และพยอมอยู่กันเพียงสองคนที่จ้องกันอย่างไม่ละสายตา

   "นังพยอม"

    สร้อยทิพย์หันมากอดอกจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่ไม่ไว้ใจ

   "เองไม่ต้องเข้าไปด้านในหรอก นั่งรออยู่ด้านนอกนี่แหละรอจนไฟในห้องดับแล้วค่อยกลับเรือน"

   "แต่ข้าถูกส่งมาให้ดูแลคุณหนูเหมือนกันนะพี่สร้อย"

    พยอมทำท่าทางสงสัยและขมวดคิ้วด้วยความงุนงงทำให้สร้อยทิพย์ยกมือขึ้นมาเท้าเอวอย่างเอาเรื่อง

   "ข้าเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของคุณหนู และที่สำคัญข้ารับใช้คุณหนูมาก่อนเองตั้งกี่ปี พึ่งมาถึงคิดจะขัดคำสั่งข้ารึไงนังพยอม"

   "แต่..."

   พยอมจะเถียงทว่าต้องชะงักเมื่อสร้อยทิพย์ยกมือขึ้นมาชี้หน้าพร้อมน้ำเสียงเอาเรื่อง

   "จะเถียงข้าหรือจะทำตามที่ข้าสั่ง หรือไม่อย่างนั้นเองก็ลงไปที่อยู่เรือนครัว" สร้อยทิพย์จ้องหน้าอีกฝ่ายนิ่งอย่างไม่ละสายตา "เลือกเอานังพยอม"

   "งั้นข้ารอตรงนี้ดีกว่าจ้ะพี่สร้อย"

    พยอมก้มหน้าหลบสายตาพร้อมเดินไปนั่งพับเพียบอยู่ตรงหน้าประตูเรือนอย่างเรียบร้อย ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้สร้อยทิพย์เหยียดยิ้มแล้วรีบปิดประตูห้องอย่างแรง

   ก่อนที่จะชะงักเมื่อหันมาเจอจอมขวัญที่นั่งอยู่ตรงหน้ากระจกกำลังมองมายังตนเองด้วยสายตาแปลกใจ

   "ทำไมพี่สร้อยถึงทำท่าทางแบบนั้นใส่พยอมล่ะ หรือพวกพี่เคยเจอกันมาก่อนหรอครับ"

   "สร้อยแค่ไม่ไว้ใจเจ้าค่ะคุณหนู"

    สร้อยทิพย์ถอนหายใจออกมาเสียงดังด้วยความเป็นกังวล ทำให้จอมขวัญขมวดคิ้วด้วนความสงสัย

   "ทำไมล่ะ"

   "นางไม่ใช่คนของเรือนเราตั้งแต่แรกนี่เจ้าคะ" สร้อยทิพย์ปากยื่นอย่างไม่พอใจ "ยิ่งถ้านางรู้ว่าคุณหนูเป็นผู้ชายแล้วเอาไปบอกคนอื่นเข้ามันจะเป็นเรื่องใหญ่"

   "นั่นซินะ"

   จอมขวัญพยักหน้าก่อนจะนึกอะไรบางอย่างออก

   "พี่สร้อยครับ!"

   "เจ้าคะ"

   "พาขวัญเคยโดนปองร้ายบ้างรึเปล่า"

   จอมขวัญเอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมาถือเพื่อจะจดรายละเอียดโดยไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าซีดเผือดของอีกฝ่าย

   "จำพวกโดนลอบทำร้ายหรือวางยาอะไรแบบนี้น่ะครับ"

   "เคยเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ตอบเสียงแผ่วเบาซึ่งน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเศร้า

   "เมื่อสองปีที่แล้ว คุณหนูเคยโดนวางยาจากขนมที่มีคนฝากมาให้จากตลาดเจ้าค่ะ"

   "แล้วพาขวัญเป็นอะไรมากไหม"

   จอมขวัญตกใจในสิ่งที่พึ่งจะรู้ซึ่งสร้อยทิพย์ก็รีบส่ายหน้าไปมาทันที

   "ไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะ ยังดีที่พี่กำไลรู้ทันเลยกินแทน"

   "กำไล?"

   จอมขวัญเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจซึ่งสร้อยทิพย์เองเพียงแค่ยิ้มตรงมุมปากมาให้เท่านั้น

   "พี่สาวของสร้อยเองเจ้าค่ะ"

    น้ำตาเริ่มคลออีกครั้งเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะพูดออกมา

   "น่าเสียดายที่ยาตัวนั้นทำให้พี่กำไลมีลูกไม่ได้"

   "แล้วใครที่เป็นคนวางยาล่ะครับ"

   จอมขวัญยิ่งสงสัยมากขึ้นกว่าเดิมและคำถามนั้นทำให้สร้อยทิพย์เผลอกัดปากอย่างลืมตัวแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

   "อ้ายเดช สามีของพี่กำไลเจ้าค่ะ"

   "ห๊ะ!" จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจ "แล้วตอนนี้กำไลกับเดชหายไปไหนล่ะ ทำไมไม่อยู่ในเรือนนี้"

   "พี่กำไลกลับไปอยู่เรือนที่ต่างจังหวัดเจ้าค่ะ ส่วนอ้ายเดชนั้น..."

    สร้อยทิพย์กัดปากตนแล้วกลืนน้ำลายตนเองลงคออย่างลำบากใจ

   "ตายแล้วเจ้าค่ะ"

   "ลงโทษถึงตายเลยหรือ"

   จอมขวัญตาเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะสมัยนี้ต้องลงโทษกันถึงตายเลยหรอ

   "เปล่าเจ้าค่ะแต่ถูกฆ่าตายต่างหาก" สร้อยทิพย์กำมือแน่น "พี่กำไลทำใจไม่ได้จึงขอกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดน่ะเจ้าค่ะ"

   "โธ่ น่าสงสาร" จอมขวัญถอนหายใจ "แล้วจับคนที่ฆ่าเดชได้รึเปล่า"

   "ไม่ได้เจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ส่ายหน้าทำให้จอมขวัญยื่นมือไปลูบหลังปลอบด้วยความสงสารแต่ยังคงสงสัยเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่หาย

   "แล้วเพราะอะไรเดชถึงวางยาพาขวัญล่ะ ข้าว่าเดชจะต้องถูกปลักปลำแน่เลย"

   "สร้อยก็ว่าอย่างนั้นเจ้าค่ะแต่คนบนเรือนนี้ไม่มีใครเชื่อ"

    สร้อยทิพย์ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาตัวเองที่กำลังเริ่มไหล

   "สงสารก็แต่พี่กำไลเจ้าคะ"

   "แล้วพี่กำไลมีญาติคนอื่นอีกไหม"

    จอมขวัญเอียงคอถามพร้อมลูบหลังอีกฝ่ายหลายครั้งอย่างปลอบโยนซึ่งทำให้สร้อยทิพย์เช็ดน้ำตาและสะอึกอยู่หลายรอบกว่าจะเปล่งเสียงออกมาได้

   "มีนังหวานอีกคนหนึ่งเจ้าค่ะ อึก! แต่นังหวานมาเป็นบ่าวอยู่ที่เรือนนี้"

   "ทำไมข้าไม่เคยเห็นเลย"

   จอมขวัญทำท่าคิดจนสร้อยทิพย์แอบหัวเราะด้วยความเอ็นดู

   "นังหวานอยู่เรือนครัวเจ้าค่ะ หากคุณหนูต้องการพบเดี๋ยวสร้อยจะพามาพบคุณหนูนะเจ้าคะ"

   "เยี่ยมเลยพี่สร้อย"

    จอมขวัญพยักหน้าพร้อมกับยิ้มหวานทำให้สร้อยทิพย์กอดขาเจ้านายตนเองแน่นด้วยความหวงแหน

   "สร้อยเป็นห่วงคุณหนูจอมขวัญจังเลยเจ้าค่ะ"

   "ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมเอื้อมมือไปลูบหลังอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน

   "อย่าลืมซิว่าผมเป็นผู้ชายนะ"

   "นั่นซินะเจ้าคะ ใกล้จะถึงเวลาเข้านอนแล้วถ้าอย่างนั้นมาขัดเนื้อขัดตัวกันเถิดเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ยิ้มกว้างก่อนจะลงมือขัดเนื้อขัดตัวให้ขาว พอเสร็จแล้วจัดการหยิบหวีขึ้นมาสางผมให้อีกฝ่ายอยางทะนุถนอมและเต็มไปด้วยสายตาของความเอ็นดูตลอดเวลา





**************************************


ตอนนี้พ่อแทนช่างตามใจพาเดินเที่ยวตลาด :katai2-1:

ถ้าน้องจอมขวัญอยากได้อะไรบอกมาเดี๋ยวพี่จ่ายให้ 555 :-[

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 03-08-2019 07:16:27
เรื่องใหญ่ๆ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 03-08-2019 09:41:02
ยาวจุใจมากตอนนี้ อิอิ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 03-08-2019 15:24:50
คุณหลวงสายเปย์ น้องอยากได้อะไรขอให้บอก  o18
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 03-08-2019 19:36:42
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 9}}} [UP 02/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 04-08-2019 08:24:56
 :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 25-08-2019 20:45:22




เรือนหลังที่ 10



   จอมขวัญตื่นขึ้นมาแต่เช้ารีบอาบน้ำแล้วยืนให้สร้อยทิพย์จับแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วออกมานั่งรอแทนกานต์ตรงท่าน้ำ

   แต่ทว่ารอจนถึงเวลาช่วงสายล่วงเลยไปจนเกือบเที่ยงแล้วอีกฝ่ายก็ยังไม่มา จนกระทั่งจอมทัพที่แอบมองมานานอดไม่ได้ที่จะตะโกนเรียกจากบนเรือนด้วยความเป็นห่วง

   "แม่พาขวัญขึ้นมานั่งบนเรือนเถิด นี่ใกล้เที่ยงแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอาหนา"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

    จอมขวัญยอมเดินขึ้นมาบนเรือนก็เห็นจอมทัพมองมาที่ตนเองด้วยสายตาเป็นห่วง  แต่พลอยปภัสที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับเหยียดยิ้มมาให้อย่างสะใจ ผิดกับพัณณิตาที่คิดหาคำพูดมาปลอบใจลูกตนเอง

   "สงสัยพ่อแทนคงจะติดงานกระมั้ง"

   "พลอยว่าไม่ใช่หรอกเจ้าค่ะ"

   พลอยปภัสที่นั่งอยู่ตรงนั้นพูดแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

   "บางทีคุณหลวงอาจจะเบื่อแม่พาขวัญแล้วก็ได้นะเจ้าคะ"

   "ทำไมปากพล่อยแบบนั้นล่ะแม่พลอย"

   พัณณิตามองด้วยความไม่ชอบใจแต่พลอยปภัสกลับเชิดหน้าขึ้นอย่างถือดี

   "พลอยพูดเรื่องจริงนี่เจ้าคะแม่ใหญ่"

   "แม่พลอย!"

   พัณณิตาขึ้นเสียงและตั้งท่าจะอบรมแต่จอมขวัญกลับขัดขึ้นมาก่อนแล้วรีบเดินกลับเข้าห้องทันทีจนสร้อยทิพย์ต้องรีบวิ่งตามแทบไม่ทัน

   "ลูกขอตัวก่อนนะเจ้าคะคุณแม่"

   "เดี๋ยวก่อนซิพาขวัญ"

    แม้แต่เสียงจอมทัพเองก็ไม่สามารถรั้งจอมขวัญเอาไว้ได้ทำให้พัณณิตาตวัดสายตาไปมองพลอยปภัสอย่างคาดโทษ

   "แม่พลอย"

   "เจ้าคะแม่ใหญ่"

   พลอยปภัสทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้

   "หากวันหลังรู้ตัวว่าปากพล่อยก็เงียบปากไว้เข้าใจไหม"

   พัณณิตาเดินหนีกลับเข้าห้องนอนทำให้พลอยปภัสหันไปฟ้องจอมทัพที่นั่งทำหน้าตาบึ้งตึง

   "คุณพ่อดูแม่ใหญ่ซิเจ้าคะ"

   "เชื่อฟังคำของแม่พัณน่ะดีแล้วล่ะ"

   จอมทัพตอบแค่นั้นก่อนจะเดินหนีเข้าห้องหนังสือทำให้พลอยปภัสหวีดร้องออกมากระทืบเท้าขัดใจอยู่กลางเรือน

   ส่วนจอมขวัญนั้นเดินปึงปังเข้ามาในห้องแล้วไปนั่งกอดอกอยู่ตรงหน้ากระจกพร้อมทำหน้าตาบึ้งตึง

   "คนใจร้าย จะไม่มาก็ไม่บอกซักคำ"

   "คุณหลวงอาจจะติดราชการก็ได้นะเจ้าคะ"

   "ผมไม่สนใจหรอก ไม่อยากมาก็ไม่ต้องมา ไม่ได้รอซักหน่อย"

   จอมขวัญสะบัดหน้าหนีหันไปมองทางอื่นด้วยความแง่งอน จนสร้อยทิพย์แอบถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นกังวลเพราะท่าทางแบบนี้เห็นทีคุณหลวงโดนงอนหนักแน่นอน





    ตอนช่วงเย็นวันนั้นแทนกานต์ก็เดินขึ้นมาบนเรือนเจอพัณณิตาที่กำลังนั่งร้อยมาลัยอยู่กับพวกบ่าวไพร่ ซึ่งพัณณิตาเองพอเห็นแทนกานต์จึงเอ่ยทักขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

   "พ่อแทน"

   "สวัสดีขอรับคุณป้า"

    แทนกานต์ยกมือขึ้นมาไหว้ก่อนจะยกมือขึ้นมาซับเหงื่อตรงหน้าผากเพราะหลังจากเสร็จงานแล้วก็รีบตรงมาหาจอมขวัญทันที ทำให้พัณณิตาถอนหายใจออกมาอย่างอ่อนใจ

   "วันนี้มาเย็นเชียวนะพ่อแทน แม่พาขวัญไปนั่งรอตรงท่าเรือตั้งแต่เช้าแหนะ"

   "แล้วตอนนี้น้องพาขวัญอยู่ไหนขอรับ"

   แทนกานต์หันซ้ายหันขวาอย่างร้อนรนจนพัณณิตาต้องแอบยิ้มตรงมุมปาก

   "ในห้องน่ะ นังพริ้มไปตามแม่พาขวัญมาซิ"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายเดินไปเคาะประตูไม่นานนักจอมขวัญก็ยอมเดินออกมาจากห้องพร้อมกับสร้อยทิพย์ด้วยใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อย

   "คุณหนูมาแล้วเจ้าค่ะนายแม่"

   "คุณแม่มีอะ..."

    จอมขวัญชะงักเมื่อมองเห็นใครบางคนที่กำลังนั่งส่งยิ้มมาให้ตนเองจนน่าหมั่นไส้

   "คุณหลวง"

   "ยืนนิ่งทำไมล่ะลูก ทำไมไม่มานั่งข้างพี่เขาล่ะ"

    พัณณิตายิ้มกว้างทำให้จอมขวัญถอนหายใจพร้อมเดินมานั่งข้างแทนกานต์ด้วยใบหน้าบึ้งตึง

   "คุณหลวงมาทำไมเจ้าคะ"

   "ข้ามาหาเจ้านั่นแหละพาขวัญ"

   แทนกานต์ยิ้มแห้งเมื่อเห็นท่าทางอีกฝ่ายนั้นน่าจะงอนตัวเอง

   "ขอโทษที่ปล่อยให้เจ้ารอเมื่อเช้า พอดีมีราชการด่วนน่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นคุณหลวงก็รีบกลับไปทำงานต่อซิเจ้าคะ"

    จอมขวัญปากยื่นพร้อมทำหน้าตาบึ้งตึงมากกว่าเดิมทำให้พัณณิตาถอนหายใจออกมาเสียงดังพร้อมดุคนขี้งอนเล็กน้อย

   "แม่พาขวัญจะรีบไล่พี่เขากลับไปทำไมเล่า"

    ก่อนที่พัณณิตาจะหันไปยิ้มกว้างให้กับแทนกานต์ด้วยสายตาเอ็นดู

   "ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเวลาทานอาหารเย็นแล้วพ่อแทนอยู่ทานด้วยกันก่อนนะ"

   "จะดีหรือขอรับ"

   แทนกานต์ทำท่าทางเกรงใจทำให้พัณณิตาแอบหัวเราะในลำคอ

   "ไม่ต้องเกรงใจหรอก อีกอย่างแม่พาขวัญนั้นตอนนี้ปรุงอาหารเก่งมากกว่าแต่ก่อนเลยหนา"

   "ถ้าอย่างนั้นข้าขอฝากท้องไว้ที่นี่ซักมื้อหนึ่งนะขอรับ"

    แทนกานต์อมยิ้มพร้อมหันไปมองคนที่กำลังทำท่าทางแง่งอนด้วยสายตาเป็นประกาย

   "ตามสบายเลยจ้ะ" พัณณิตายิ้มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ "พาขวัญ"

   "เจ้าคะคุณแม่"

    จอมขวัญยิ้มแห้งเมื่อพอจะเดาออกว่าอีกฝ่ายต้องการจะให้ทำอะไร

   "วันนี้ลงไปปรุงอาหารให้พี่เขาทานซักอย่างสองอย่างซิลูก"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับเมินสายตาที่คุณหลวงมองมาแล้วรีบเดินเลยลงไปตรงเรือนครัวด้วยท่าทางแง่งอน

   ซึ่งเรือนครัวด้านล่างเป็นเรือนไม้เก่าแก่มีเครื่องปรุงและข้าวของเครื่องใช้เต็มไปหมด ตรงมุมหนึ่งของห้องครัวนั้นมีไม้ก่อฟืนหม้อดินเหมือนกำลังต้มน้ำร้อนโดยมีพวกคนรับใช้กำลังทำอาหารกันอย่างเร่งรีบเพื่อให้ทันเวลาสำรับเย็น

   จอมขวัญมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางสนใจก่อนจะเดินตามสร้อยทิพย์ไปนั่งตรงที่แคร่ไม้ตรงกลางห้องครัว

   "คุณหนูรอตรงนี้ก่อนนะเจ้าคะ เดี๋ยวสร้อยมานะเจ้าคะ"

   "ไปไหนหรือพี่สร้อย"

   จอมขวัญเอียงหน้าถามด้วยความสงสัยแต่อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรรีบเดินไปตรงด้านหลังของเรือนครัวพบกับคนที่ตามหาซึ่งกำลังนั่งแยกเม็ดข้าวอยู่นั่นเอง

   "นังหวาน"

   "โอ๊ะ! น้าสร้อย"

   หวานสะดุ้งตกใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมาไม่หยุดพร้อมมองด้วยสายตาแปลกใจ

   "น้าสร้อยลงมาทำอะไรที่เรือนครัวจ๊ะ"

   "ข้ามากับคุณหนู"

    สร้อยทิพย์เอื้อมมือไปลากอีกฝ่ายให้เดินตามตนเอง

   "มานี่ซิ ข้าจะพาเองไปรู้จักกับคุณหนูพาขวัญ"

   "จ้ะ"

   หวานทำท่าทางงุนงงแต่ก็เดินตามมมาโดยดี ก่อนจะรีบไปนั่งลงกับพื้นเมื่อมาพบกับใครบางคนที่กำลังนั่งเลือกปลาตากแห้งที่หมักรวมกับพวกเกลืออยู่กับบ่าวคนหนึ่ง

   "คุณหนูพาขวัญ บ่าวชื่อหวานนะเจ้าคะเป็นหลานของน้าสร้อยเจ้าค่ะ"

   "คนนี้นี่เอง"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาเป็นมิตร

   "หน้าตาคล้ายพี่สร้อยเลยนะ"

   "หวานสวยกว่าเจ้าค่ะ"

   หวานตอบอย่างรวดเร็วจนโดนคนเป็นน้าที่นั่งอยู่ด้านข้างฟาดลงมาตรงแขนอย่างแรง

   "โอ๊ย! หวานเจ็บนะน้าสร้อย"

   "พูดมากนะเองน่ะ"

   สร้อยทิพย์ทำหน่าตาดุใส่ก่อนจะหันไปสั่งบ่าวทุกคนที่นั่งอยู่ในเรือนครัว

   "เอาล่ะวันนี้คุณหนูจะลงมือทำอาหารให้ท่านเจ้าคุณ นายแม่ และคุณหลวง เดี๋ยวพวกเองก็เป็นลูกมือคอยช่วยก็แล้วกันนะ"

   "เจ้าค่ะ"

   บ่าวในเรือนตอบรับพร้อมกันก่อนที่หวานจะยิ้มกว้างให้กับเจ้านายตนเองอย่างกระตือรือล้น

   "แล้วคุณหนูจะทำอะไรบ้างล่ะเจ้าคะ"

   "มีปลาตากแห้งอยู่ข้าจะทำต้มโคล้งปลากรอบ น้ำพริกกะปิ ปลาทอด ล่าเตียง ส่วนขนมหวานจะเป็นลำเจียกน่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างตื่นเต้นที่จะได้ทำอาหารแต่กลับมีบ่าวคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

   "ต้มโคล้งคืออะไรหรือเจ้าคะคุณหนู"

   "คล้ายต้มยำนั่นแหละ พวกพี่ยังไม่เคยกินกันใช่ไหม"

   พวกบ่าวไพร่ทุกคนต่างส่ายหน้าทำให้จอมขวัญอมยิ้ม

   "เดี่ยวข้าจะแบ่งไว้ให้พวกพี่ได้ลองกินกัน รับรองอร่อยมาก"

   "เอาล่ะมาเริ่มทำกันเถอะเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ตัดบทพร้อมช่วยจอมขวัญเลือกปลาแห้ง ส่วนหวานไปเตรียมพวกพริกและสมุนไพรมาให้เลือกกันอยู่ไม่นานจอมขวัญก็จัดการทำหม้อต้มโคล้งสองหม้อซึ่งหม้อแรกนั้นสำหรับท่านเจ้าคุณและคุณหญิง ส่วนหม้อที่สองนั้นสำหรับคุณหลวงที่ชอบมาวุ่นวายกับตนเองจนน่ารำคาญ

   จอมขวัญจึงแกล้งโดยการสาดพริกลงไปในครกหินเกือบหมดชามแล้วตำเล็กน้อยก่อนจะเทใส่ลงไปในหม้อดินเผาซึ่งสีสันของน้ำต้มโคล้งนั้นจัดจ้านและส่งกลิ่นหอมจนบ่าวไพร่ต่างแอบกลืนน้ำลายกันด้วยความหิว

   จอมขวัญเหยียดยิ้มออกมาอย่างขบขันเมื่อต้มโคล้งหม้อนี้ตนเองตังใจทำเพื่อกลั่นแกล้งแทนกานต์โดยเฉพาะเลยล่ะ

  นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกกะปิกินคู่กันกับปลาทอดพร้อมผักสดเครื่องเคียงและแถมท้ายด้วยล่าเตียงที่คุณยายเคยทำให้กินเมื่อตอนเด็กแต่ยังจำรสชาติได้ไม่เคยลืม

   เมื่อถึงเวลายกอาหารขึ้นมาบนเรือนจอมขวัญจงใจวางถ้วยต้มโคล้งลงตรงหน้าของแทนกานต์ด้วยรอยยิ้มหวาน ก่อนจะนั่งลงตรงด้านข้างที่ว่างอยู่โดยที่จอมทัพมองอาหารตรงหน้าด้วยความสนอกสนใจ

   "ต้มอะไรรึแม่พาขวัญ กลิ่นหอมน่าทานเชียว"

   "ต้มโคล้งเจ้าค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ และคุณหลวงลองชมดูซิเจ้าคะ รับรองอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานทำให้จอมทัพและพัณณิตายิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูก่อนจะลงมือทานอาหารด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

   ซึ่งแทนกานต์ไม่รู้ตัวว่าโดนแกล้งจึงตักน้ำต้มโคล้งเข้าปากก่อนจะทำตาโตเมื่อได้รสชาติเผ็ดร้อนจนทนไม่ไหวไอออกมาเสียงดังลั่น

   "แค๊ก! น้ำ อ้ายแสงขอน้ำหน่อย"

   "น้ำเจ้าค่ะคุณหลวง"

   จอมขวัญอมยิ้มแต่ก็ยอมยื่นขันน้ำมาให้ด้วยตนเองซึ่งอีกฝ่ายก็เอื้อมมือมารับแล้วรีบดื่มทันทีอย่างกระหายสร้างความขบขันให้คนแกล้งมากจนต้องแอบหัวเราะในลำคอ

   "เผ็ดไปหรือเจ้าคะคุณหลวง"

   "ไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่"

   แทนกานต์เอ่ยชมทั้งที่เหงื่อออกเต็มไปหมดแต่กลัวอีกฝ่ายน้อยใจไปมากกว่านี้จึงตักน้ำต้มโคล้งขึ้นมาซดอีกหนึ่งคำ

   "ฝีมือของเจ้าอร่อยกลมกล่อมมาก"

   "เอ่อ...เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งกลับมาให้เมื่อเห็นอีกฝ่ายถึงแม้จะเผ็ดมากแต่ก็ฝืนกินต้มโคล้งจนหมดชามและตามด้วยขนมหวานอีกสองสามจาน

   พอพวกบ่าวไพร่เก็บสำรับหมดแล้วแทนกานต์จึงหันมายกมือไหว้ผู้ใหญ่ของเรือนทั้งสองคน

   "ตอนนี้ใกล้จะมืดค่ำมากแล้ว ข้าขอตัวกลับก่อนนะขอครับคุณลุง คุณป้า"

   "เดินทางปลอดภัยนะพ่อแทน"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปบอกจอมขวัญที่นั่งนิ่งไม่ขยับไปไหน

   "พาขวัญลงไปส่งพี่เขาที่ท่าน้ำซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มแห้งก่อนจะเดินตามแทนกานต์ลงมาตรงท่าน้ำซึ่งดูจากท่าทางของอีกฝ่ายแล้วยังเผ็ดไม่หายจนอดที่จะสงสารไม่ได้

   "คุณหลวงรู้ว่าเผ็ดยังจะฝืนกินทำไม"

   "เจ้าลงมือทำอาหารให้ข้าทั้งทีก็ต้องทานให้หมดอยู่แล้ว" แทนกานต์ยิ้มให้อย่างเอาใจ "ถึงแม้ว่ารสชาติจะเผ็ดไปซักหน่อยแต่ก็อร่อยกว่าอาหารชาววังเยอะเลยล่ะ"

   "ไม่ต้องมาชมข้าเลยนะ"

   จอมขวัญปากยื่นแล้วกอดอกหันหน้าไปมองทางอื่นอย่างแง่งอน

   "ถึงชมไปข้าก็ไม่หายงอนคุณหลวงเรื่องเมื่อเช้าหรอกนะ"

   "ข้าขอโทษ เมื่อเช้าข้าติดราชการจนมาหาเจ้าไม่ได้" แทนกานต์่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อต้องการจะง้ออีกฝ่ายที่กำลังงอน "พรุ่งนี้ข้ามารับเจ้าไปเที่ยวแต่เช้าดีหรือไม่"

   "จริงนะเจ้าคะ" จอมขวัญมองด้วยแววตาเป็นประกายพร้อมกับแก้มที่ป่องขึ้นมาเล็กน้อย "ถ้าไม่มาคราวนี้ข้าโกรธจริงด้วย"

   "ข้าจะมารับเจ้าแต่เช้าแน่นอน"

   แทนกานต์ยิ้มไม่หุบทำให้จอมขวัญเริ่มหมั่นไส้แต่ก็ยอมยื่นตระกร้าสานไปให้อีกฝ่ายโดยที่ด้านในนั้นใส่ขนมหวานเต็มไปหมด

   "ด้านในเป็นขนมลำเจียกเจ้าค่ะ เมื่อครู่นี้ตอนอยู่บนเรือนเห็นคุณหลวงชอบกินมากเลยแบ่งใส่ตะกร้ามาให้"

   "ขอบน้ำใจเจ้ามาก"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างก่อนจะเอื้อมมือไปกุมบนมือที่กำลังจับตะกร้าอยู่อย่างแนบเนียน

   "ข้าจะกินขนมพวกนี้ให้หมด ไม่ให้เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว"

   "คุณหลวงกินเก่งแบบนี้ระวังอ้วนนะเจ้าคะ"

   จอมขวัญอมยิ้มพร้อมกับหันหลังตั้งใจจะเดินกลับเข้าบ้านแต่ทว่าถูกอีกฝ่ายรั้งข้อมือเอาไว้ทำให้หันกลับไปมองด้วยความสงสัย ก่อนจะหน้าแดงเมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่ายที่ยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา

   "พี่ยอมอ้วนถ้าหากได้กินอาหารรสมือของเจ้าทั้งกลางวันทั้งกลางคืน"

   "เอ่อ...ข้าขอตัวก่อนนะเจ้าคะ"

    จอมขวัญรีบดึงมือและถอยห่างออกมาก่อนจะหนีขึ้นเรือนไปปล่อยให้แทนกานต์ยืนอมยิ้มอยู่ตรงท่าเรือเพียงคนเดียว

   ซึ่งภาพนั้นทำให้สร้อยทิพย์ที่กำลังแอบมองทั้งสองคนอยู่นั้นหลุดขำออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากหวานที่แอบย่องเข้ามาจับไหล่ด้านหลัง

   "น้าสร้อย!"

   "โอ๊ย! นังหวานนี่ข้าตกใจหมด"

   สร้อยทิพย์ยกมือขึ้นมาทาบตรงอกด้วยความตกใจ

   "เองมีอะไรหะนังหวาน"

   "เมื่อวานยายพวงฝากจดหมายมาให้น้าน่ะจ้ะ บอกว่ามาจากป้ากำไลด้วยนะ"

   หวานยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้ซึ่งสร้อยทิพย์รีบคว้าจดหมายมาถือเอาไว้แน่นทันที

   "ขอบใจมาก เองไปช่วยคนในเรือนครัวเก็บของได้แล้วไป"

   "งั้นข้าไปก่อนนะน้า"

   หวานเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่ได้คิดอะไรปล่อยให้สร้อยทิพย์มองซ้ายมองขวาแล้วรีบเดินขึ้นไปบนเรือนทันที





    หลังจากอ่านจดหมายเรียบร้อยแล้วสร้อยทิพย์ก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ ซึ่งท่าทางกังวลของอีกฝ่ายทำให้จอมขวัญที่กำลังนั่งหวีผมอยู่นั้นเอียงหน้าถามด้วยความงุนงง

   "พี่สร้อยเป็นอะไรทำไมทำหน้ากังวลแบบนั้นล่ะ"

   "คือ..."

   สร้อยทิพย์กัดปากก่อนจะตัดสินใจยอมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล

   "เมื่อตอนเย็นสร้อยได้รับจดหมายจากพี่กำไลเจ้าค่ะ"

   "หรอ"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    "แล้วพี่กำไลเป็นอย่างไรบ้างครับสบายดีไหม"

   "ตอนนี้พี่กำไลป่วยหนัก เลยจะให้ข้ากลับบ้านไปดูแลเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์ทำท่าทางเป็นกังวลทำให้จอมขวัญเป็นฝ่ายเอ่ยปากสนับสนุนด้วยรอยยิ้มหวาน

   "ถ้าอย่างนั้นพี่สร้อยก็ไปซิครับ ผมอนุญาติ"

   "แต่ถ้าสร้อยไม่อยู่ที่นี่..." สร้อยทิพย์มองขึ้นมาด้วยสายตาเป็นห่วง "แล้วใครจะรับใช้คุณหนูล่ะเจ้าคะ"

   "ผมอยู่คนเดียวได้..."

   จอมขวัญกำลังจะปฏิเสธแต่สร้อยทิพย์กลับห้ามขึ้นมาซะก่อน

   "ไม่ได้นะเจ้าคะ คุณหนูน่ะเป็นถึงลูกของท่านเจ้าคุณจอมทัพเลยนะเจ้าคะ จะไม่มีคนรับใช้ติดตามไม่ได้เด็ดขาด"

   "อืม..."

   จอมขวัญทำท่าคิดก่อนจะยิ้มหวานเมื่อนึกอะไรบางอย่างออก

   "หวานยังไงล่ะพี่สร้อย"

   "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวสร้อยมานะเจ้าค่ะ"

   สร้อยทิพย์รีบลงไปเดินแถวเรือนครัวทันที ก่อนจะพบกับหวานที่กำลังนั่งเช็ดหม้อดินเผาอยู่คนเดียวจึงรีบเดินเข้าไปหาด้วยความร้อนใจ

   "นังหวาน"

   "น้าสร้อย" หวานหันมามองด้วยสายตาแปลกใจ "ลงมาถึงเรือนครัวมีอะไรรึเปล่าจ๊ะ"

   "เองเก็บของเสร็จรึยัง"

   "เสร็จแล้วจ้ะ"

   พอเห็นท่าทางรีบร้อนของอีกฝ่ายทำให้อดที่จะเอียงคอมองด้วยความสงสัย

   "น้ามีอะไรรึเปล่าจ๊ะ"

   "เองเก็บความลับเป็นใช่ไหมนังหวาน"

   "เป็นซิจ๊ะน้าสร้อย ทำไมหรือ"

   "งั้นเองตามข้ามา"

   สร้อยทิพย์จูงหวานเดินขึ้นไปบนเรือนโดยที่หันซ้ายหันขวาด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะรีบพาเข้าไปในห้องซึ่งมีจอมขวัญกำลังนั่งรออยู่ตรงหน้ากระจกเช่นเดิม

   "คุณหนูพาขวัญมีอะไรกับหวานหรือเจ้าคะ"

   "ข้ามีเรื่องอยากให้เองช่วย"

   ยังไม่ทันที่จอมขวัญจะได้ตอบอะไรสร้อยทิพย์ก็พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่หนักใจ

   "เมื่อตอนเย็นข้าได้รับจดหมายจากพี่กำไลจึงต้องรีบกลับบ้าน ข้าจะให้เองมาดูแลคุณหนูพาขวัญระหว่างที่ข้าไม่อยู่"

   "เรื่องแค่นี้เอง" หวานแอบถอนหายใจ "น้าสร้อยทำตัวลึกลับไปได้ข้านึกว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก"

   "แต่มีอีกเรื่องที่เองต้องรับรู้เอาไว้"

   คำพูดของสร้อยทิพย์ทำให้หวานเอียงคอมองด้วยความสงสัย

   "อะไรจ๊ะ"

   "คนตรงหน้าไม่ใช่คุณหนูพาขวัญ"

   หวานเบิกตากว้าด้วยความตกใจ

   "และไม่ใช่ผู้หญิง"

   "ห๋า!!!"

   เผลอร้องเสียงดังออกไปจนถูกผู้เป็นน้าตีหลายรอบ ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังซึ่งพอได้ฟังแล้วหวานก็ยิ้มกว้างออกมาพร้อมมองจอมขวัญด้วยสายตาเป็นมิตร

   "ไม่คิดว่าผู้ชายจะแต่งตัวออกมาได้สวยขนาดนี้"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าตนนี้จะดีใจกับคำชมนี้ดีรึเปล่า ก่อนที่สร้อยทิพย์จะพูดขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

   "สัญญากับข้านะนังหวานว่าเองจะรับใช้คุณหนูจอมขวัญอย่างดี"

   "ข้าสัญญา" หวานยิ้มกว้างพร้อมเอื้อมมือไปกุมมือสร้อยทิพย์แน่น "น้าสร้อยอย่าเป็นกังวลเลย กลับไปดูแลป้ากำไลเถอะ"

   "อาการเป็นยังไง อย่าลืมแจ้งข้ามาด้วยนะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานทำให้สร้อยทิพย์โผเข้ามากอดขาเอาไว้แน่นจนจอมขวัญอดที่จะหัวเราะในลำคอไม่ได้

  "รีบไปเถอะเดี๋ยวข้าลงไปส่งที่ท่าเรือนะ"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์รับคำโดยง่ายก่อนจะถือห่อผ้าที่จัดเตรียมเอาไว้แล้วนั้นเดินลงมาหยุดยืนตรงแถวท่าเรือซึ่งจอมขวัญนั้นยิ้มหวานมาให้อย่างน่ารัก

   "แล้วรีบกลับมานะพี่สร้อย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   สร้อยทิพย์ยิ้มตอบกลับพร้อมกับก้าวลงเรือที่หวานเอามาเตรียมไว้ตรงท่าน้ำเรียบร้อย  หลังจากนั้นสร้อยทิพย์จึงดึงหวานเข้ามาใกล้แล้วกระซิบกระซาบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

   "จำไว้นะนังหวาน จับตาดูนังพยอมให้ดีอย่าให้เข้าใกล้คุณหนูเด็ดขาด"

   "ได้เลยน้าสร้อย"

   หวานยิ้มกว้างก่อนจะโบกมือลาซึ่งสร้อยทิพย์ก็พยักหน้าแล้วพายเรือออกไปจากท่าน้ำของเรือนโดยหันไปมองจอมขวัญด้วยสายตาเป็นห่วงแต่มือนั้นก็พายเรือต่อไปอย่างเร่งรีบเพราะกลัวจะมีใครมาเห็นจนกระทั่งเรือทั้งลำหายไปกับความมืด





   ขณะเดียวกันนั้นเองบ้านของท่านเจ้าคุณอาทิตย์ พอเริ่มมืดค่ำและเจ้านายต่างพากันเข้าห้องหมดแล้วพวกบ่าวไพร่ต่างพากันดับไฟบนเรือนแล้วเริ่มทยอยกันเข้านอน

   ยกเว้นหมื่นแสงหล้ากำลังนั่งดื่มชาอยู่ตรงขอบหน้าต่างในห้องนอนด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดและบึ้งตึงก่อนจะตวัดสายตาไปมองแสนกล้าบ่าวคนสนิทที่รีบวิ่งเข้ามาในห้อง

   "ได้ความว่ายังไงบ้างอ้ายแสน"

   "คุณหลวงแทนกานต์มาหาคุณหนูพาขวัญที่เรือนทุกวันเลยขอรับ" แสนกล้าก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น "และมีคนเห็นไปเดินที่ตลาดด้วยกันขอรับ"

   "หึ!"

   แสงกล้ากระแทกถ้วยชาลงบนโต๊ะที่อยู่แถวนั้นอย่างแรงด้วยท่าทางคับแค้นใจ

   "ข้าไม่ยอมแพ้อ้ายแทนกานต์หรอก"

   "ท่านหมื่นจะทำอย่างไรหรือขอรับ"

    แสนกล้าถามเจ้านายตนเองด้วยความสงสัย

   "ต้องเริ่มลงมือก่อนที่คุณหนูจะแต่งงานกับคุณหลวงอีกรอบนะขอรับ"

   "ข้ารู้แล้วน่ะ! เองส่งคนจับตาดูพาขวัญเอาไว้"

   แสงหล้าแสยะยิ้มตรงมุมปาก

   "สบโอกาสเมื่อไหร่ลงมือได้เลย"

   "ขอรับท่านหมื่น"

   แสนกล้าตอบรับพร้อมกับเดินออกไปนอกห้องปล่อยให้แสงหล้าเหยียดยิ้มร้ายกับแผนการของตนเอง


   'ข้าไม่มีวันแพ้พวกเจ้าแน่แทนกานต์ จักรกวิน'






******************************


    แอบสงสารพ่อแทนนิดหน่อยโดนน้องจอมขวัญแกล้ง 555  :laugh: :laugh:

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 25-08-2019 21:30:09
จอมขวัญมาแล้วคิดถึงงงง มีการเอาคืนที่คุณหลวงผิดนัดงอนเล็กๆ แต่หายเร็วมากแค่บอกจะพาไปเที่ยวอีกวัน :กอด1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 25-08-2019 23:59:57
 ต้มโคล้งทำพิษ555
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: net. net_n2537 ที่ 26-08-2019 00:02:16
 :a5:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 26-08-2019 07:44:08
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 10}}} [UP 25/08/19]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 06-10-2019 03:37:20
รออยู่นะ  :z13:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 07-10-2019 19:59:09


เรือนหลังที่ 11



   วันต่อมาแทนกานต์นั้นรีบมายังเรือนของท่านเจ้าคุณจอมทัพตั้งแต่เช้ามืดขนาดที่ไก่ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ ทำให้พวกบ่าวไพร่ต่างพากันแตกตื่นรีบหาน้ำหาท่ามาต้อนรับ โดยคุณหญิงพัณณิตาเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมท่านเจ้าคุณจอมทัพด้วยท่าทางที่ประหลาดใจทำให้แทนกานต์รีบยกมือขึ้นไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพ

   "อรุณสวัสดิ์ขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "มาทำอะไรตั้งแต่เช้ารึพ่อแทน"  พัณณิตาแอบอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นอีกฝ่ายมองไปยังห้องนอนของลูกตนเอง  "หรือนัดแม่พาขวัญเอาไว้"

   "ขอรับ" แทนกานต์อมยิ้ม "เมื่อวานผิดนัดไปแล้วครั้งหนึ่งวันนี้เลยรีบมากลัวพาขวัญโกรธอีกน่ะขอรับ"

   "วันนี้ไม่มีงานทำรึพ่อแทน"

   จอมทัพขัดขึ้นมาทำให้แทนกานต์ชะงักก่อนจะยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายอย่างเคารพ

   "ข้าจัดการเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วขอรับคุณลุง"

   "อีกซักพักคงจะตื่นแล้วล่ะ เดี๋ยวนี้แม่พาขวัญตื่นไว"

   พัณณิตาอมยิ้มพร้อมกับหยิบพัดมาพัดอย่างสบายอกสบายใจ

   "คงเพราะชอบแอบไปหนีเที่ยวกับพ่อแทนทุกวันกระมั้ง"

   "อย่าว่าพาขวัญเลยขอรับ ไม่ได้เจอกันมาตั้งนานแถมเห็นว่าป่วยอีกต่างหากข้าจึงอยากทำให้น้องผ่อนคลายบ้าง"

    ซึ่งคำตอบนั้นทำให้พัณณิตายิ้มกว้างขึ้นมามากกว่าเดิม

   "ถ้าอย่างนั้นคงจะไม่ขัดใช่หรือไม่หากป้าจะจัดงานแต่งงานของพวกเจ้าทั้งสองอีกครั้ง"

   "หากคุณป้าเห็นสมควร ข้าเองก็ไม่ขัดอะไรหรอกขอรับ"

    แทนกานต์ยิ้มกว้างด้วยความเก้อเขินเล็กน้อยก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพขัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุดัน

   "เรื่องออกเรือนนั้นเอาไว้ก่อนเถิด ตอนนี้แม่พาขวัญคงยังไม่พร้อม"

   "ไม่เป็นไรขอรับคุณลุง ข้ารอได้"

   แทนกานต์ยิ้มมุมปากพร้อมจ้องตากับจอมทัพอย่างจริงจัง  ก่อนที่จะละสายตาแล้วเปลี่ยนไปมองคนตัวเล็กที่พึ่งเดินออกมาจากห้องด้วยชุดสีชมพูหวานเข้ากันกับเครื่องประดับพองามพร้อมกับใบหน้าหวานที่ถูกแต่งเติมด้วยเครื่องสำอางค์ประทินโฉมเล็กน้อย ทำให้อดที่จะละสายตาออกจากอีกฝ่ายไม่ได้ก่อนจะสะดุ้งเมื่่อได้ยินเสียงของจอมทัพขัดขึ้นมาเช่นเดิม

   "อะแฮ่ม! มองอันใดรึพ่อแทน"

   "ข้ามองพาขวัญขอรับ"

   แทนกานต์ตอบอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะหันไปมองจอมขวัญที่มองมาด้วยความงุนงง

   "วันนี้เจ้าสวยมากเลยนะ ตื่นนานแล้วรึ"

   "ตื่นซักพักแล้วเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญตอบตามมารยาทก่อนจะหันมายิ้มหวานใส่จอมทัพและพัณณิตาและแนะนำบ่าวที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านหลังตนเอง

   "คุณพ่อ คุณแม่เจ้าคะ ลูกขอให้หวานขึ้นมาเป็นบ่าวรับใช้ส่วนตัวแทนสร้อยทิพย์ที่กลับบ้านได้ไหมเจ้าคะ"

   "นังสร้อยกลับบ้านอย่างนั้นหรือ ไม่มาร่ำลาข้าบ้างเลยนะนังนี่"

   พัณณิตาอารมณ์เสียเล็กน้อยแต่ก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ

   "แต่เอาเถอะนังหวานมันก็หลานสาวนังสร้อยก็ไว้ใจให้ดูแลเจ้าได้นั่นแหละ"

   "พ่อเองก็ไม่ขัด"

   จอมทัพลูบผมอีกฝ่ายอย่างตามอกตามใจทำให้จอมขวัญยิ้มกว้างออกมาอย่างออดอ้อน

   "ถ้าอย่างนั้นลูกขอไปเที่ยวกับคุณหลวงนะเจ้าคะ"

   "ไปเถอะลูก อย่ากลับดึกนะ"

   พัณณิตาเป็นฝ่ายอนุญาตก่อนที่จอมทัพจะได้คัดค้านอะไร ทำให้จอมขวัญดีอกดีใจเผลอจูงมือแทนกานต์ลงไปจากเรือนด้วยความลืมตัวทำให้จอมทัพหน้าตึงด้วยความหงุดหงิด

   "พี่ยังไม่อนุญาตเลยนะแม่พัณ"

   "แต่น้องอนุญาตแล้วเจ้าค่ะ"

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะเดินไปทานอาหารเช้าด้วยท่าทางสบายอกสบายใจผิดกับจอมทัพที่ขมวดคิ้วแน่นไปหมด





   แทนกานต์พาจอมขวัญมาเดินตลาดแถวชานเมืองซึ่งมีของขายเยอะมาก ทำให้ทั้งสองตัดสินใจทานอาหารซักอย่างหนึ่งก่อนจะใช้เวลาทั้งวันในการเดินเข้าร้านนู้นออกร้านนี้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

   ซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจทุกอย่างด้วยการจ่ายเงินซื้อของให้ตลอดเวลา จนหวานที่เป็นคนถือถุงเงินนั้นแถบไม่ได้ควักออกมาจ่ายสักนิดเดียวจนอดที่จะบ่นกับแสงด้วยความปราบปลื้มไม่ได้

   "โอ้โห้!~ พ่อบุญทุ่มขนาดนี้คุณหนูของหวานจะใจแข็งไปได้ซักกี่น้ำกันเชียว"

   "ข้าเองก็ไม่เคยเห็นคุณหลวงใช้เงินมากขนาดนี้เช่นเดียวกัน"

   แสงถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนเพราะเดี๋ยวนี้คุณหลวงเริ่มใช้เงินเยอะมากขึ้นทั้งที่แต่ก่อนนั้นไม่ค่อยอยากจะซื้ออะไร  หวานกัดปากพร้อมหันมายิ้มให้แสงอย่างออดอ้อน

   "พี่แสงซื้อขนมให้หวานบ้างซิ"

   "เองอยากกินอะไรล่ะ"

   แสงใจอ่อนก่อนจะถูกอีกฝ่ายกอดแขนและเดินลากเข้าไปยังร้านขนมแถวนั้นปล่อยให้เจ้านายทั้งสองยืนดูข้าวของกันเพียงสองคน

   "ปิ่นปักผมสวยจังเลยเจ้าค่ะ"

   "เหมาะกับเจ้าดีนะ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมก้มลงไปมองปิ่นปักผมในมือของอีกฝ่ายแต่จอมขวัญกลับสายหน้าพร้อมยกมือลูบต่างหูอย่างลืมตัว

   "ไม่เอาหรอก คราวที่แล้วคุณหลวงก็ซื้อต่างหูให้ข้าไปแล้ว"

   "ทุกสิ่งที่เจ้าชอบข้าพร้อมที่จะให้ได้ทุกอย่าง"

   แทนกานต์ยิ้มมุมปากพร้อมกับยื่นมือไปจ่ายเงินกับแม่ค้าก่อนจะรวบผมคนตรงหน้าขึ้นมาพอประมาณก่อนจะบรรจงปักปิ่นลงไปอย่างเบามือทำให้จอมขวัญหน้าแดงด้วยความเขินอาย

   "ประเจิดประเจ้อเกินไปแล้วนะเจ้าคะ"

   "ไม่เห็นประเจิดประเจ้อตรงไหน"

   แทนกานต์ตอบหน้าตายก่อนจะจับมือนุ่มนิ่มนั้นเดินไปร้านอื่นพร้อมกันทำให้จอมขวัญหน้าแดงด้วยความเขินอายเล็กน้อย

   ซึ่งภาพนั้นทำให้คนที่แอบดูอยู่ตรงร้านค้าไม่ใกล้ไม่ไกลกำมือแน่นแถมดวงตาเต็มไปด้วยความหึงหวง

   "เอาอย่างไรดีขอรับ"

   "เอาไอ้นิลมา"

   เสียงทุ้มออกคำสั่งไม่นานนักม้าตัวสีดำขนาดใหญ่ก็ถูกจูงมาหยุดหยู่ตรงด้านข้างของผู้เป็นเจ้านายก่อนที่มือหนาจะลูบแผงคอนั้นอย่างเบามือทั้งที่แววตานั้นเต็มไปด้วยความอาฆาต

   "แกไม่มีวันรอดแน่ไอ้แทนกานต์"


   ฮี่!!!~


   หลังจากจบประโยคมือหนาก็ฟาดลงไปแถวสะโพกจนม้าตัวใหญ่แตกตื่นวิ่งออกไปด้านหน้าด้วยความหวาดกลัวตามสัญชาตญาณ ริมฝีปากหนาเหยียดยิ้มมุมปากนั้นเต็มไปด้วยความร้ายกาจรอชมผลงานที่กำลังจะเกิดขึ้น

   ซึ่งหวานและแสงเดินออกมาจากร้านขนมก็พบว่าผู้คนด้านหน้านั้นร้องโวยวายกันอย่างแตกตื่นทำให้หวานชะโงกหน้าดูด้วยความสงสัย

   "ชาวบ้านโวยวายอะไรกันน่ะพี่แสง"

   "ไม่รู้สิ พี่ยังไม่เห็นอะไรเลย"

   แสงขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามจ้องมองไปด้านหนาเห็นฝุ่นควันหนาฟุ้งไปหมดพร้อมกับชาวบ้านที่พากันกรีดร้องหลบหนีด้วยความหวาดกลัว ไม่นานนักแสงก็เห็นม้าสีดำตัวใหญ่กำลังวิ่งตรงมายังคุณหลวงที่กำลังยืนดูข้าวของแถวนั้นอย่างบ้าคลั้งจนชาวบ้านนั้นพากันห้ามปรามและหลบกันแทบไม่ทัน

   "คุณหลวงระวังขอรับ"

   "คุณหนู!"

   เสียงร้องตะโกนของบ่าวทั้งสองทำให้แทนกานต์หันไปมองเห็นม้าตัวใหญ่กำลังตรงเข้ามาจึงรีบคว้าเอวบางของจอมขวัญดึงเข้าหาตนเองเพื่อหลบม้าที่กำลังวิ่งพุ่งเข้ามาหาได้อย่างหวุดหวิด แต่เพราะแรงดึงอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นทำให้ทั้งสองล้มลงไปกองกับพื้นพร้อมกันอย่างรุนแรง

   "โอ๊ะ!!"

   'จุ๊บ!'

   ริมฝีปากของทั้งสองประกบกันอย่างแนบแน่นปนกระแทกเล็กน้อยเพราะแรงล้มเมื่อครู่ทำให้ทั้งสองจ้องมองกันอยู่นาน  จนจอมขวัญที่นอนอยู่ด้านบนเป็นฝ่ายยันตนเองออกมาก่อนด้วยท่าทางขัดเขิน

   "เอ่อ...คือ..."

   จอมขวัญพูดติดขัดพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุดแถมแก้มยุ้ยนั้นที่เริ่มขึ้นสีด้วยความเขินอาย

   ทางด้านแทนกานต์นิ่งอึ้งไม่ต่างกัน ดวงตาคนแอบลอบมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใยแต่ก็อดที่จะแซวไม่ได้เหมือนกัน

   "เจ็บตรงไหนไหม แต่ทำไมหน้าแดงขนาดนั้นเล่า"

   "เอ่อ...ม...ไม่เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญรีบลุกขึ้นยืนทั้งที่มือปิดปากตัวเองไว้แน่นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำด้วยความเขินอายและอับอายต่อสายตาขาวบ้านที่มองมาจนทำอะไรไม่ถูกจึงลากหวานให้วิ่งหนีออกไปจากตรงนั้นเพื่อจะกลับบ้านเอง

   "ห...หวาน"

   "เจ้าคะ?"

   "กลับบ้านกันเถอะ"

   "ห๊ะ!"

   หวานทำหน้าตาเหรอหราก่อนจะโดนลากไปโดยที่แทนกานต์ยังทำหน้าตางุนงงพยายามรั้งแต่อีกฝ่ายกลับวิ่งหนีตนเองด้วยความตื่นตระหนก

   "เดี๋ยวก่อนซิจอมขวัญ!"

   "คุณหลวงขอรับ"

   แทนกานต์หันไปมองแสงที่เดินกลับมาพร้อมกับม้าตัวนั้นที่เกือบจะชนตนเอง

   "มีอะไรรึแสง แล้วไปตามจับมันมาทำไม"

   "คุณหลวง...ม้าตัวนี้เป็นของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"

   "อ้ายแสงหล้างั้นหรอ? หึ่ม! รีบตามจอมขวัญไปกันเถอะ"

   พอรู้ว่าเป็นม้าของผู้ใดนั้นแทนกานต์จึงกำมือแน่นแล้วรีบเดินไปยังทิศทางที่จอมขวัญพึ่งเดินหนีไปเมื่อครู่อย่างเร่งรีบด้วยความเป็นห่วง






    ทางด้านจอมขวัญนั้นรีบเดินออกมาจากแถวตลาดด้วยเขินอายปนอับอายมากที่โดนแทนกานต์จูบกลางตลาด ก่อนจะหันไปค้อนหวานบ่าวรับใช้คนสนิทที่หัวเราะไม่หยุด

   "หยุดหัวเราะเดี๋ยวนี้นะหวาน"

   "หวานตลกนี่เจ้าคะคุณหนู"

   หัวเราะเสียงเบาด้วยใบหน้าที่แดงไปหมดด้วยความเขินอายเพราะพึ่งเคยเห็นคนจูบกันกลางตลาต ทำให้จอมขวัญทำแก้มพองลมใส่อย่างแง่งอนแล้วแกล้งเดินหนีซึ่งหวานรีบเดินตามทั้งที่ยิ้มและหัวเราะล้อเลียนตลอดเวลา

   "ข้าไม่คุยกับหวานแล้ว!"

   'ปึก!'

   "โอ๊ะ! ขอ..."

   จอมขวัญไม่ทันระวังตัวเพราะกำลังหันไปแง่งอนกับหวานซึ่งพอหันหน้ากลับมาอีกทีก็ชนเข้ากับอกของแสงหล้าที่มายืนตอนไหนไม่รู้แถมยกมือขึ้นมากอดเอวตนเองแน่นพร้อมรอยยิ้มและสายตาที่เจ้าเล่ห์

   "ระวังหน่อยซิพาขวัญ"

   "หมื่นแสงหล้า"

   จอมขวัญเบิกตากว้างด้วยความตกใจแต่แสงหล้ากลับแสยะยิ้มมาให้อย่างร้ายกาจ

   "คิดถึงจัง ไม่ได้เจอน้องพาขวัญตั้งนานแหนะ ถ้าอย่างนั้นมีเวลาว่างไปนั่งคุยกับพี่ซักหน่อยคงไม่เป็นอะไรกระมั้ง"

   "ไม่ไปเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตกใจพยายามขืนตัวและจะดันอีกฝ่ายออกซึ่งหวานก็เข้ามาช่วยอีกแรง

   "ปล่อยคุณหนูนะเจ้าคะท่านหมื่น"

   "อย่ามายุ่ง!"

   แสงหล้าชักสีหน้าก่อนจะหันไปสั่งพวกบ่าวรับใช้ของตนเองที่ยืนอยู่ด้านหลัง

   "พวกเองจับมันเอาไว้ อย่าให้เข้ามาขัดใจช้าอีก"

   "อ๊าย! คุณหนู!"

   หวานที่กำลังจะเข้ามาช่วยแต่ถูกคนของแสงหล้ารุมจับเอาไว้ทำให้ร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนจะถูกลากไปมัดไว้กับต้นไม้ทำให้จอมขวัญท่าทางตื่นตระหนก

   "หวาน! หวาน!"

   "ส่วนเจ้ามากับข้า"

   แสงหล้าพยายามดึงแขนแต่จอมขวัญกลับยื้อเอาไว้ด้วยหน้าตาท่าทางไม่พอใจ

   "ปล่อยเดี๋ยวนี้! ทำไมต้องทำร้ายคนของข้าด้วย!"

   "มันอยากมาขัดใจข้าเอง"

   แสงหล้าทำท่าทางขัดใจก่อนจะแสยะยิ้มตรงมุมปากด้วยความร้ายกาจพร้อมจ้องมองร่างบางตรงหน้าตาเป็นมัน

   "อย่าไปคิดเรื่องของคนอื่นเลย มาคิดเรื่องของเรากันดีกว่า"

   "ห๊ะ" จอมขวัญทำหน้าตางุนงง "เรื่อง...เรื่องอะไร"

   "เรื่องที่เจ้า..."

   แสงหล้ายื่นเข้าไปกระซิบข้างหูจนอีกฝ่ายขนลุกชันไปทั้งตัว

   "กำลังจะเป็นเมียข้าไง"

   "ไม่! ปล่อยข้านะ"

   จอมขวัญพยายามสะบัดอีกฝ่ายด้วยท่าทางรังเกียจแต่อีกฝ่ายดันกำข้อมือแน่นกว่าเดิมด้วยแววตามุ่งร้าย

   "ข้าไม่ปล่อย! ข้ารอเวลานี้มานานแล้วและจะไม่มีวันปล่อยไปไหนอีก"

   "ไม่!!"

   จอมขวัญร้องเสียงหลงพยายามต่อสู้ขัดขืนอีกฝ่ายแต่ก็โดนแสงหล้าลากออกมาให้ห่างไปจากตรงนั้นพอสมควรจึงหยุดเดินและรั้งเอวอีกฝ่ายให้เข้ามาหาตนเองจนเกือบแนบชิดไปทุกส่วนแถมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูอีกต่างหาก

   "ขัดขืนไปก็เปล่าประโยชน์ ยอมเป็นเมียข้าเถอะพาขวัญ"

   "ไม่เอาโว๊ยย!"

   จอมขวัญร้องลั่นด้วยความตกใจพร้อมดันหน้าอกฝ่ายที่พยายามจะจูบตนเองนั้นด้วยท่าทางรังเกียจแล้วยกเท้าขึ้นมาถีบตรงแถวท้องอย่างแรงจนอีกฝ่ายล้มลงไปกองกับพื้น ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีซึ่งแสงหล้าเจบใจรีบวิ่งไล่ตามจนคว้าแขนเรียวบางของคนตรงหน้าได้แล้วเผลอเหวี่ยงไปอย่างลืมตัวด้วยความโมโห

   "หยุดขัดขืนซักทีได้ไหม!"

   ปึก!

   "โอ๊ย!"

   จอมขวัญร้องออกมาด้วยความเจ็บเพราะเมื่อตนโดนอีกฝ่ายนั้นเหวี่ยงจนล้มลงไปหัวฟาดกับท่อนไม้จนเลือดไหลออกมาเยอะพอสมควร แต่ด้วยความหน้ามืดตามัวทำให้แสงหล้าไม่ทันสังเกตุพราะมัวแต่จะซุกหน้าเข้าไปตรงซอกคอของอีกฝ่ายแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเลือดที่ไหลเต็มไปหมด

   "พาขวัญ"

   "เจ็บ..."

   "เจ้าเลือดออก"

   แสงหล้าทำหน้าตาตกใจเอื้อมมือไปซับเลือดพร้อมกับก้มหน้าลงไปหาอย่างห่วงใยแต่ด้วยความที่จอมขวัญยังตื่นกลัวจึงพยายามพลักอีกฝ่ายให้ออกห่าง

  จอมขวัญหลับตาแน่นด้วยความเจ็บแผลตรงหน้าผากและพยายามร้องขอความช่วยเหลือจนหมดแรงพร้อมกับนึกถึงใบหน้าของใครบางคนที่คอยมาช่วยเหลือตนเองตลอดเวลา


   "แทนกานต์...ช่วยด้วย..."


   "จอมขวัญ!!!"


   เสียงตะโกนที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนั้นดังขึ้นอย่างตื่นตระหนกทำให้จอมขวัญเหลือบไปมองก่อนจะนิ่งค้างเมื่อเห็นผู้ชายที่กำลังวิ่งมานั้นคุ้นตาและทำให้หัวใจที่เริ่มเลือนลางภาพของอีกฝ่ายนั้นกลับมาเต้นแรงชัดเจนขึ้นอีกครั้ง



    "คินตา...???!!"





********************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 07-10-2019 20:18:17




เรือนหลังที่ 12


   หลังจากวันนั้นที่จอมขวัญหายตัวไปคินตาก็พยายามตามหาอีกฝ่ายทุกที่ไม่ว่าจะเป็นแถวรอบวัดหรือที่บ้านแต่ทว่าหาเท่าไหร่ก็หาไม่พบ

   เจอเพียงสร้อยคอเส้นเดียวที่ตกบนพื้นหญ้าซึ่งตรงแถวนั้นไม่มีบึงน้ำอะไรทั้งสิ้น

   ทำให้คินตากินไม่ได้นอนไม่หลับพยามตามหาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ จนต้องกลับไปหาหลวงพ่อที่วัดอีกครั้งด้วยท่าทางร้อนใจ

   "จอมขวัญกลับมาที่วัดบ้างหรือไม่ครับหลวงพ่อ"

   "ไม่ได้กลับมาเลยโยม"

   หลวงพ่อถอนหายใจอย่างเวทนาอีกฝ่ายทำให้คินตาทำสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

   "ที่วัดก็ไม่มีแถมไม่ได้กลับบ้านอีกต่างหาก แล้วจอมขวัญจะไปอยู่ที่ไหนกัน"

   "บางทีอาจจะอยู่ในที่ไกลแสนไกล"

   หลวงพ่อพึมพัมอย่างแผ่วเบาก่อนจะหยิบบางอย่างออกจากถุงย่ามมากำเอาไว้พร้อมพึมพัมคาถาบางอย่างทำให้คินตามองด้วยความประหลาดใจ

   "ยื่นข้อมือซ้ายมาซิ"

   "ครับ?"

   แม้จะงุนงงแต่คินตาก็ยอมยื่นข้อมือซ้ายไปด้านหน้าแต่โดยดีซึ่งหลวงพ่อก็บรรจงผูกสายสิญจน์ตรงข้อมือซ้ายพร้อมทั้งพึมพัมคาถาไปด้วยจนจบก่อนจะเป่าอย่างแผ่วเบาแต่ทำให้คินตาขนลุกไปหมด

   "หลวงพ่อสายสิญจน์เส้นนี้ทำไมหรือครับ"

   "ทางข้างหน้าอาจยากลำบากนัก เองห้ามถอดสายสิญจน์เส้นนี้เด็ดขาด"

   หลวงพ่อจ้องมองมาด้วยสายตาจริงจัง

   "เข้าใจไหม"

   "ครับ"

   คินตาตอบรับแต่ยังทำสีหน้ากังวลไม่หาย

   "แต่ผมต้องทำยังไงถึงจะได้เจอจอมขวัญอีกครั้งล่ะครับหลวงพ่อ หลวงพ่อช่วยชี้แนะให้หน่อยได้ไหมครับ"

   "เฮ้อ~"

   หลวงพ่อถอนหายใจออกมาอย่างแผ่วเบาก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้อีกฝ่ายนั้นงุนงง

   "ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา"

   "คืออะไรหรือครับหลวงพ่อ"

   คินตาไม่เข้าใจแต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรเพิ่มเติมหลวงพ่อก็เข้าสู่สมาธิไปเสียแล้ว ทำให้คินตาตัดสินใจกราบลาแล้วเดินออกมาจากโบสถ์ด้วยความงุนงง

   "หลวงพ่อหมายถึงอะไรกันนะ??"





    คืนวันนั้นเองคินตาตัดสินใจมานอนที่บ้านของจอมขวัญเผื่อว่าอีกฝ่ายจะกลับมาบ้าน แต่ทว่ารอไปจนเกือบถึงเที่ยงคืนก็ไม่พบแม้แต่เงาของอีกฝ่ายทำให้คินตาถอนหายใจออกมาอย่างหนักอกหนักใจ

   "แล้วจะไปหาจอมขวัญได้ที่ไหนเนี่ย"

   ระหว่างที่กำลังเครียดอยู่นั้นดวงตาคมก็เหลือบไปเห็นสร้อยคอของอีกฝ่ายที่วางอยู่บนหัวเตียงกำลังส่องแสงสว่างเรืองรอง ซึ่งเป็นสร้อยคออันเดียวกันกับที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นหญ้าคู่กันกับกล้องถ่ายรูป พร้อมกับเสียงหลวงพ่อที่ดังก้องขึ้นมาเสียงดัง


   'ของที่ล้ำค่าจะนำพาเจ้าไปพบกับโชคชะตา'


   "สร้อยเส้นนี้จะพาเราไปหาจอมขวัญได้ไหมนะ"

   คินตาเริ่มคิดจริงจังก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสร้อยคอเส้นนั้นกุมเอาไว้แน่นพร้อมนึกถึงใบหน้าของจอมขวัญที่คิดถึงมาตลอด


   'อยากเจอจอมขวัญอีกครั้ง'


   คิดได้เท่านั้นก่อนที่สติสุดท้ายจะดับวูบไปและรู้สึกเหมือนมีแรงอะไรบางบางอย่างกำลังดึงตนเองเข้าไปในสร้อยเส้นนั้น

   ก่อนที่แสงสว่างจะดับลงพร้อมกับสร้อยเส้นงามที่หล่นลงไปอยู่บนเตียงและไฟทั้งบ้านที่ดับลงพร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ

   ซึ่งภาพที่เห็นในนิมิตนั้นทำให้หลวงพ่อลืมตาขึ้นมามองแสงเทียนตรงหน้าด้วยแววตาที่ลำบากใจไม่น้อย

   "โชคชะตาของพวกเจ้าได้เริ่มขึ้นแล้ว"







   'ช่วย...ด้วย'


   "อืมมม..."

   คินตานั้นลืมตาขึ้นมามองรอบกายด้วยความงุนงงเพราะตนเองยืนอยู่กลางป่า ก่อนจะเหมือนได้ยินเสียงคนร้องเรียกขอความช่วยเหลือดังมาจากอีกทางหนึ่ง

   ทำให้คินตารีบวิ่งวิ่งตามเสียงไปเพื่อจะช่วยเหลือก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังรังแกผู้หญิงอยู่แต่ดูไปดูมาดันหน้าตาเหมือนเพื่อนของเขาที่หายตัวไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว

   "จอมขวัญ!"

   เมื่อคิดได้อย่างนั้นคินตาจึงรีบวิ่งเข้าไปกระชากแสงหล้าให้ผละออกจากจอมขวัญแล้วลากมาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นอย่างแรงหลายต่อหลายทีจนอีกฝ่ายสลบไป

   ก่อนที่คินตาจะง้างหมัดเพื่อต่อยอีกครั้งก็ต้องชะงักค้างได้ยินเสียงคุ้นเคยของคนที่ตามหาเรียกชื่อตัวเองอย่างแผ่วเบา

   "คินตา"

   "หืม?"

   คินตาหันไปมองด้วยสายตาที่เบิกตากว้างเมื่อเห็นใบหน้าสวยหวานที่คุ้นเคยแถมยังไว้ผมยาวและแต่งตัวผู้หญิงอีกต่างหาก

    "จ...จอมขวัญจริงด้วย!?"

   "คินตา!"

   จอมขวัญตะโกนเรียกอีกฝ่ายอย่างดีใจทำให้คินตาผละออกจากร่างที่นอนสลบของแสงหล้าและตรงเข้ามาหาก่อนที่จะโดนจอมขวัญดึงเข้าไปกอดแน่นแล้วร้องไห้เสียงดังลั่น

   "ฮืออ ฮึก! จอมคิดว่าจะไม่ได้เจอคินอีกแล้วนะเนี่ย ฮึก! จอมคิดถึงคินนะ ฮืออ~"

   "ในที่สุดคินก็หาจอมจนเจอซักทีนะ รู้ไหมว่าคินเป็นห่วงจอมมากแค่ไหน"

   คินตาลูบผมอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาพร้อมกับหัวใจที่เต้นแรงมากยิ่งขึ้นจนหน้าแดงไปหมด แถมยิ่งตอนนี้อีกฝ่ายยังไว้ผมยาวแถมอยู่ในชุดผู้หญิงแบบนี้อีกทำให้คินตาสงสัยหลายอย่างจนเผลอหลุดพูดออกไป

   "เกิดอะไรขึ้นน่ะจอม ทำไมจอมถึงมาที่นี่ได้ ทำไมตอนที่จอมหายไปคินถึงหาจอมไม่เจอ แล้วทำไมจอมถึงแต่งตัวเป็นผู้หญิงแบบนี้ด้วยล่ะ"

   "เรื่องมันยาวน่ะคิน"

   จอมขวัญยิ้มแห้งไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเรื่องไหนอธิบายให้อีกฝ่ายฟังก่อนดีนะ แต่ทว่าต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงที่เริ่มคุ้นเคยตะโกนเรียกมาดังลั่น

   "พาขวัญ!"

   "เดี๋ยวจอมเล่าให้คินฟังทีหลังนะ"

   จอมขวัญยังไม่พร้อมจะเล่าให้ฟังตอนนี้เพราะต้องเตรียมรับมือกับแทนกานต์ที่เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง

   ฝ่ายแทนกานต์เองนั้นพอเห็นจอมขวัญนั่งอยู่บนพื้นก็รีบวิ่งมาหาด้วยความเป็นห่วงก่อนจะขมวดคิ้วแน่นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังกอดผู้ชายคนอื่นแน่น จึงเผลอพูดเสียงไม่พอใจออกไปอย่างลืมตัว

   "เจ้าปลอดภัยหรือไม่พาขวัญ แล้วชายผู้นี้คือใครกันเหตุใดจึงต้องกอดกันแน่นขนาดนั้น"

   "เขาเป็นคนมาช่วยข้าไว้น่ะเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญตอบคำถามนั้นก่อนจะเผลอปล่อยมือออกจากคินตาในจังหวะที่แทนกานต์ยกมือขึ้นมาจับบริเวณแผลบริเวณหัวนั้นอย่างแผ่วเบา ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับห้ามเลือดให้อย่างเบามือแถมคิ้วยังขมวดจนแทบจะติดกัน

   "ไอ้แสงหล้ามันทำเจ้าบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ เจ็บมากหรือไม่"

   "ข้าไม่เป็นไร...อย่าขมวดคิ้วซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญยกมือขึ้นไปจิ้มตรงหว่างคิ้วของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบาทำให้แทนกานต์ได้โอกาสกุมมือนุ่มนิ่มนั้นแน่น ก่อนจะประคองจอมขวัญให้ลุกขึ้นยืนแล้วปัดเศษใบไม้ออกไปจากตัวให้อย่างอ่อนโยน

   "แล้วหวานล่ะ...เห็นหวานบ้างไหม"

   "ไม่ต้องกังวลข้าให้แสงดูแลนางอยู่ทางด้านนู้นน่ะ"

    แทนกานต์ตอบพร้อมกับเหลือบมองแสงหล้าที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยความคับแค้นใจ

    "ไอ้แสงหล้า ข้าน่าจะฆ่ามันให้ตายนัก"

    "อย่าเลยเจ้าค่ะ เรารีบไปหาหวานกันดีกว่า"

   จอมขวัญรั้งแขนอีกฝ่ายเอาไว้แล้วรีบลากออกไปจากตรงนั้นโดยมีคินตาเดินตามหลังปล่อยให้แสงหล้านอนสลบอยู่เพียงคนเดียว








    เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่

   พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง

   "คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"

   "ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"

   จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง

   "หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"

   "ดีแล้วล่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม

   "ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"

   "ยัง"

   แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

   "จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"

   "เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"

   จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง

   "ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"

   "อ...อืม เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา

   "ไปกันเถอะ"

   "เอ่อ...เออ"

   คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง



    เมื่อลากอีกฝ่ายออกมาได้แล้วจอมขวัญจึงรีบเดินย้อนกลับมาทางเดิมด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะโล่งใจเพราะเห็นแสงคนรับใช้ของแทนกานต์กำลังปลดเชือกตรงข้อมือให้หวานอยู่ตรงใต้ต้นไม้ใหญ่

   พอหวานเห็นจอมขวัญก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะแขนเจ้านายของตนทันทีด้วยความตื่นกลัวและเป็นห่วง

   "คุณหนูพาขวัญเป็นอะไรมากหรือไม่เจ้าคะ หวานตกใจแทบแย่ตอนที่เห็นคุณหนูโดนพาตัวไป"

   "ข้าไม่เป็นอะไร แล้วเจ้าล่ะเป็นอะไรหรือไม่"

   จอมขวัญสำรวจคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วงก่อนที่หวานจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่แอบแก้มแดงเมื่อพูดถึงคนที่ช่วยตนเอง

   "หวานไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณหนู โชคดียิ่งนักที่พี่แสงมาช่วยไว้ทัน"

   "ดีแล้วล่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจก่อนหันไปมองแทนกานต์ที่ยื่นจับมือตนเองไม่ยอมปล่อยแม้จะพยายามดึงมือออกก็ตาม

   "ปล่อยมือข้าได้รึยังเจ้าคะคุณหลวง"

   "ยัง"

   แทนกานต์ทำหน้าตาบึ้งตึงก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงขุ่นมัว

   "จนกว่าเจ้าจะยอมบอกข้าว่าผู้ชายคนนี้คือใคร"

   "เรากลับไปคุยกันที่เรือนดีหรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ทำแผลด้วย"

   จอมขวัญพยายามเลี่ยงคำตอบซึ่งแทนกานต์ก็ตามใจอีกฝ่ายโดยการเอามือนุ่มนิ่มนั้นมาจับไว้แถมแน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วพาเดินไปพร้อมกับตนเอง

   "ถ้าอย่างนั้นเรากลับเรือนกันเถิด"

   "อ...อืม เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงก่อนจะยอมเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างง่ายดายโดยไม่ลืมที่จะหันไปชวนคินตาให้เดินตามมา

   "ไปกันเถอะ"

   "เอ่อ...เออ"

   คินตาตอบรับอย่างงุนงงและเดินตามหลังด้วยความหงุดหงิดที่จอมขวัญไปสนิทกับคนอื่นนอกจากตนเอง






    ทางฝั่งคุณหญิงพัณณิตาและท่านเจ้าคุณจอมทัพยื่นรออยู่ด้านล่างของเรือนเพราะนี่ก็ยามเย็นมากแล้วด้วยแต่ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับมาทำให้คุณหญิงพัณณิตาใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นกังวลมาก

   "ทำอย่างไรดีล่ะเจ้าคะคุณพี่ หากพาขวัญหลงทางกับแทนกานต์หรือหายตัวไปไม่กลับมาอีกล่ะ"

   "อย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลยแม่พัณ มีแทนกานต์ไปด้วยพาขวัญไม่เป็นอะไรหรอก"

   จอมทัพปลอบใจอีกฝ่ายขัดกับภายในที่เป็นห่วงจอมขวัญมาก ก่อนที่เมืองจะวิ่งเข้ามารายงานด้วยใบหน้าและรอยยิ้มที่ยินดีมาก

   "คุณหนูพาขวัญกับคุณหลวงแทนกานต์กลับมาแล้วขอครับ"

   "จริงหรืออ้ายเมือง"

   พัณณิตาดีใจรีบเดินออกไปก่อนอย่างรีบร้อนโดยที่มีจอมทัพเดินตามมาด้านหลังไม่ห่างด้วยความโล่งอก

   พอถึงหน้าสะพานขึ้นเรือนพัณณิตาก็ตรงเข้าไปกอดจอมขวัญทั้นทีพร้อมกับร้องไห้ฟูมฟายทำให้แทนกานต์ต้องยอมปลอยมือออกมาอย่างเสียดาย

   "ฮึก! พาขวัญหายไปไหนมานานสองนานล่ะลูก แม่เป็นห่วงเจ้าแทบแย่"

   "ลูกกลับมาแล้ว อย่าร้องไห้ซิเจ้าคะคุณแม่"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมากอดเอวของอีกฝ่ายกลับอย่างออดอ้อนก่อนจะสะดุ้งเมื่อจอมทัพยื่นมือมาจับตรงแผลบนศีรษะของตนเองด้วยความกังวลใจ

   "เลือดออกด้วย เกิดอะไรกันขึ้นหรือพาขวัญ"

   "พาขวัญบาดเจ็บด้วยหรอลูก"

   พัณณิตาถามด้วยน้ำเสียงแตกตื่นพร้อมกับจ้องมองมองบาดแผลตรงหน้าผากของลูกด้วยอาการเป็นกังวล

   "ตายแล้ว!!! แผลใหญ่เชียวรีบขึ้นเรือนกันเถิดเดี๋ยวแม่พาไปทำแผล...นี่นังพริ้ม!!"

   "เจ้าคะนายแม่"

   พริ้มพรายสะดุ้งสุดตัวเมื่อพัณณิตาหันมาทำเสียงดังใส่ตนเองด้วยท่าทางรีบร้อนและเอาแต่ใจ

   "นังพริ้มเองรีบให้บ่าวไพร่ตระเตรียมยาให้ลูกข้าเดี๋ยวนี้เลย!!!"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายรีบวิ่งขึ้นไปบนเรือนพร้อมบ่าวจำนวนหนึ่งด้วยความเร่งรีบเพื่อไปเตรียมยาสำหรับการทำแผล  ส่วนพัณณิตาหันมาลูบผมอย่างอ่อนโยนแล้วรีบประคองลูกตัวเองขึ้นเรือนด้วยความเป็นห่วง

   "ใกล้ค่ำแล้วอากาศเริ่มเย็นรีบขึ้นไปบนเรือนกันเถิดลูก"

   พัณณิตาชะงักเล็กน้อยก่อนจะหันไปชวนแทนกานต์ด้วยน้ำเสียงที่เอ็นดู

   "พ่อแทนก็ขึ้นมาด้วยกันนะ ป้ามีหลายเรื่องที่ต้องถามเยอะเลย"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์ไม่ปฏิเสธพร้อมกับเดินตามหลังท่านเจ้าคุณขึ้นไปบนเรือนและปิดท้ายด้วยคินตาที่เดินขึ้นเรือนมาพร้อมกับบ่าวรับใช้

   เมื่อขึ้นมาบนเรือนแล้วพัณณิตาก็รีบหาผ้าสะอาดมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวลูกสาวของตนที่มีแผลถลอกเต็มไปหมดทำให้อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้

   "เจ็บมาไหมพาขวัญ ดูซิมีแผลเต็มไปหมดเลย"

   "ลูกไม่เป็นอะไรเจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญส่ายหน้าพร้อมยิ้มหวานให้อย่างเอาใจแต่ไม่ได้ทำให้พัณณิตาหายกังวลเลยซักนิดเดียว

   ยิ่งเมื่อท่านเจ้าคุณจอมทัพเห็นบาดแผลของจอมขวัญที่ไม่ได้มีแค่ตรงหัวแต่มีลอยถลอกไปทั่วหลายจุด ทำให้รีบหันไปถามแทนกานต์ด้วยสายตาที่คาดคั้นและเต็มไปด้วยความโมโห

   "มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นหะพ่อแทน ทำไมแม่พาขวัญถึงบาดเจ็บกลับมาแบบนี้"

   "พาขวัญ..."

   แทนกานต์เว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนจะเหลือบไปมองคนตัวเล็กที่ส่ายหน้าอย่างห้ามปราม แต่พอเห็นสายตาของผู้ใหญ่ทั้งสองที่มองอย่างคาดคั้นแล้วจึงตอบคำถามอย่างจำใจ

   "โดนฉุดขอรับ"

   "ตายแล้ว!"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาแทบหน้าอกลมแทบจับ

   "แต่พาขวัญไปกับพ่อแทนไม่ใช่หรือแล้วไปโดนฉุดได้อย่างไรกัน"

   "เราสองคนหลงทางกันที่ตลาดขอรับ ส่วนใครมาฉุดนั้นข้าเองก็ไม่อยากพูด"

   แทนกานต์กำมือแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ตัวเองไม่ให้โกรธไปมากกว่าเดิม

   "ให้พาขวัญตอบเองเถิดขอครับ"

   "เรื่องเป็นไงมาไงรีบบอกมาซิลูก"

   พัณณิตาถามอย่างร้อนใจไม่ต่างกับจอมทัพที่เริ่มหงุดหงิด

   "ตอบมาซิลูก"

   "ลูก...คือลูก..."

   จอมขวัญอึกอักอยู่อย่างนั้นจนพัณณิตาต้องหันไปถามหวานที่กำลังนั่งห่อลูกประคบอยู่ด้านหลังลูกของตนเองด้วยสายตาที่คาดคั้น

   "นังหวาน! เองบอกข้ามาซิว่าใครเป็นคนฉุดลูกสาวข้า"

   "คือ..."

    หวานชะงักเมื่อจอมขวัญส่งสายตามาอย่างห้ามปรามทำให้จอมทัพขมวดคิ้วแล้วจ้องไปยังแสงที่หมอบอยู่ด้านหลังนายของตนเอง

   "อ้ายแสง เองมานี้ซิ"

   "ขอรับ"

   แสงรับคำพร้อมคลานออกมาด้านหน้าด้วยท่าทางที่เงอะงะเล็กน้อยพร้อมก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้น

   "เองเห็นคนร้ายที่ฉุดลูกสาวข้าไปหรือไม่"

   "เห็นขอรับคุณหลวง"

   คำถามนั้นทำให้แสงตอบไปตามความจริงตามประสาคนซื่อ

   "ตอนที่กระผมเข้าไปช่วยแม่หวานนั้น กระผมเห็นเป็นคนรับใช้ของท่านหมื่นแสงหล้าขอครับ"

   "คนของแสงหล้าอย่างนั้นหรือ?"

   จอมทัพเริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจพร้อมกับจ้องมองไปทางจอมขวัญที่เริ่มหลบสายตาตนเองอย่างกลัวความผิด

   "พาขวัญตอบพ่อมาตามตรง แสงหล้าเป็นคนทำร้ายและลักพาตัวลูกไปใช่หรือไม่"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญตอบรับอย่างจำใจทำให้จอมทัพโมโหอย่างหนักจนขนาดกระทืบเท้าอย่างแรงจนเสียงดังลั่นไปทั้งเรือน

   "บังอาจนัก! นึกว่าเป็นลูกของเจ้าพระยาอาทิตย์ฝ่ายการทหารแล้วจักทำอะไรก็ได้อย่างนั้นหรือ พ่อมันก็ร้ายเหลือเกินมิรู้จักห้ามปรามลูกของมันบ้างซักเรื่องเดียว"

   "ใจเย็นลงก่อนเถิดเจ้าค่ะคุณพี่"

   พัณณิตายื่นมือไปจับตรงแขนของท่านเจ้าคุณก่อนจะหันไปรับน้ำเย็นจากพริ้มพรายมายื่นให้คนที่กำลังโมโหจัดอย่างเอาใจ

   "ดื่มน้ำก่อนเถิดเจ้าค่ะจะได้ใจเย็นลง"

   "ขอบใจนะแม่พัณ"

   จอมทัพยอมดื่มน้ำเย็นในขันใบนั้นก่อนที่มองไปยังใบหน้าของจอมขวัญอย่างอ่อนใจ

   "แต่ตอนนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัยก็ถือว่าดีมากแล้วล่ะพาขวัญ"

   "เจ้าค่ะคุณพ่อ"

   จอมขวัญยิ้มหวานให้อย่างเอาใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายหายโกรธลงมานิดหน่อย  ก่อนที่แทนกานต์จะเหลือบมองไปยังคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นข้างล่างตรงด้านหลังเมืองด้วยสายตาจับผิด

   "พาขวัญยังไม่ได้บอกข้าเลยนะว่าไปรู้จักมักจี่กับผู้ชายคนนี้ตอนไหน"

   "ผู้ชายคนนี้ชื่อ คินตา เขาเป็นคนช่วยข้าเอาไว้"

   จอมขวัญตอบพร้อมกับหลับตาลงเมื่อหวานเอาลูกประคบมาประคบบริเวณแผลของตนเอง แต่แทนกานต์ยังขมวดคิ้วมากขึ้นเพราะตอนนี้กำลังเต็มไปด้วยความหึงหวง

   "คนที่ช่วยชีวิตเอาไว้ต้องสนิทสนมขนาดรู้จักชื่อเสียงเรียงรามแล้วถึงขั้นต้องเดินจับมือกันด้วยหรือ"

   "ข้ารู้จักคินตามาก่อนแล้ว"

   จอมขวัญมองไปทางอื่นเล็กน้อยราวกับกำลังคิดคำตอบ

   "คินตาคือ..."

   "หลานชายของลุงเองแหละพ่อแทน"

   จอมทัพพูดขึ้นมาทำให้ทั้งหมดต้องหันไปมองด้วยความแปลกใจ พัณณิตายกพัดขึ้นมาโบกด้วยพร้อมจ้องหน้าคินตาที่นั่งอยู่ตรงพื้นด้วยความสงสัย

   "เรามีหลานชายตอนไหนกันหรือเจ้าคะคุณพี่ ญาติฝ่ายน้องรึก็ไม่มีชื่อนี้หรือจะเป็นญาติของคุณพี่กันเจ้าคะ"

   "ลูกชายของแม่กิ่งแก้วน่ะ เจ้าจำแม่กิ่งแก้วได้หรือไม่แม่พัณ"

   จอมทัพหันไปถามพัณณิตาที่ทำท่าทางคิดหนักแล้วหันไปยิ้มตรงมุมปากให้จอมขวัญที่ยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจ

   "แม่กิ่งแก้ว? กิ่งแก้ว...อ๋อ! แม่กิ่งแก้วน้องสาวคนสุดท้ายของคุณพี่ที่อยู่ลพบุรีใช่หรือไม่เจ้าคะ โอ้! โตเป็นหนุ่มขนาดนี้เชียวรึ"

   พิณณิตายิ้มหวานพร้อมกับกวักมือเรียกคินตาที่นั่งอยู่ด้านหลังของเมืองด้วยสายตาเอ็นดู

   "ไหนมาหาป้าซิลูก"

   "เอ่อ...ขอรับ"

   คินตาลุกขึ้นเดินไปนั่งลงตรงหน้าของพัณณิตาด้วยความงุนงงพร้อมกับไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนตรงหน้าอย่างนอบน้อม

   "สวัสดีขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "ชื่อคินตาใช่ไหม" 

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะลูยผมคนตรงหน้าด้วยความเอ็นดู

   "แล้วนี่แม่กิ่งแก้วสบายดี หรือไม่จ๊ะ"

   "เอ่อ...สบายดีขอรับ คุณแม่ฝากความคิดถึงมาถึงคุณลุงคุณป้าด้วยนะขอรับ"

   คินตาสวมรอยเป็นหลานชายท่านเจ้าคุณอย่างแนบเนียนสมกับที่เรียนการแสดงมาจนจอมขวัญแอบอมยิ้มพร้อมจ้องมองใบหน้าแทนกานต์ที่นิ่งไปด้วยสายตาขบขัน

   "ไม่ทราบว่าคุณหลวงมีเรื่องอะไรสงสัยอะไรอีกหรือไม่เจ้าคะ"

   "หากเป็นเช่นนั้นข้าเองก็สบายใจที่รู้ว่าคู่หมั้นคู่หมายของข้าไม่ได้มีใจไปให้ชายอื่น"

   แทนกานต์กระตุกยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม

   "นี่ก็ดึกมากแล้วข้าขอลาก่อนขอรับคุณลุง คุณป้า"

   "เดินทางกลับโดยปลอดภัยนะพ่อแทน"

   จอมทัพพยักหน้าก่อนจะยกน้ำขึ้นมาดื่มแล้วต้องสำลักเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของพัณณิตาที่หันไปคะยั้นคะยอลูกตนเอง

   "พาขวัญ เดินออกไปส่งพี่เขาซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญยิ้มแห้งพร้อมจ้องไปยังแทนกานต์ที่เหยียดยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจจนอดที่จะหมั้นไส้ไม่ได้

   "นั่งยิ้มทำไมเจ้าคะ คุณหลวงรีบกลับเรือนไม่ใช่หรือ"

   "เสียมารยาทน่ะพาขวัญ"

   พัณณิตาดุลูกตนเองแต่แทนกานต์ห้ามเอาไว้ซะก่อนพร้อมกับลุกชึ้นยืนแล้วไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองอีกครั้ง

   "อย่าดุเลยครับคุณป้า ข้าลาขอครับ"

   "เดี๋ยวลูกมานะเจ้าคะ"

   จอมขวัญแกล้งยิ้มหวานแล้วเดินลงเรือนไปพร้อมกันกับแทนกานต์ที่ยกมือขึ้นมาโอบไหล่บอบบางนั่นพร้อมกับหันไปแสยะยิ้มเยาะเย้ยคินตาที่นั่งอยู่ข้างจอมทัพแล้วจึงหันกลับมายิ้มกว้างให้กับจอมขวัญที่ตอนนี้ทำตาโตจนแทบจะแยกเขี้ยวใส่ท่ามกลางพัณณิตาที่ยกพักขึ้นมาพัดอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "คุณพี่ว่าเด็กสองคนนี้ดูแปลกไปไหมเจ้า"

   "ทำไมรึแม่พัณ" จอมทัพขมวดคิ้วแน่น "พี่ก็ไม่เห็นทั้งสองจะแปลกอะไรตรงไหนเลย"

   "แปลกซิเจ้าคะเพราะยิ่งนานวันทั้งสองคนยิ่งเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกเลยนะเจ้าคะคุณพี่ น้องล่ะอยากจะให้ถึงวันที่ลูกสาวของเราจะได้ออกเรือนซักที"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะหันไปสั่งคนรับใช้ที่อยู่ด้านหลังด้วยความกระตือรือร้น

   "นังพริ้ม พรุ่งนี้เตรียมเรือให้ข้าที ข้าจะไปที่เรือนท่านเจ้าคุณแทนนิษฐ์  จะไปคุยกับแม่รินเรื่องฤกษ์แต่งงานอย่างจริงจังเสียที"

   "เจ้าค่ะนายแม่"

   พริ้มพรายรีบตอบรับทันทีก่อนจะเดินตามพัณณิตาที่รีบเข้าห้องนอนไม่อยู่ฟังเสียงบ่นของจอมทัพที่เริ่มเหนื่อยจะห้ามปราม

   "แม่พัณนะแม่พัณ ทำไมถึงอยากเร่งรัดให้ลูกแต่งงานนักนะ"

   "แต่งงานอะไรกันขอรับท่านเจ้าคุณ"

   คินตากระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคนทำให้จอมทัพหันมามองด้วยสีหน้าท่าทางที่ลำบากใจ

   "ไว้เจ้าไปถามกับจอมขวัญเองเถิด"

   "ขอรับ"

   คินตารับคำพร้อมกับมองไปยังแถวบันไดหน้าเรือนด้วยท่าทางที่เป็นห่วงหมายมั่นจะถามเรื่องที่เกิดขึ้นและต้องรู้เรื่องทุกอย่างให้ละเอียดเลย








    พอลงมาด้านล่างพ้นจากสายตาของบ่าวรับใช้บนเรือนแล้วจอมขวัญก็รีบสะบัดตัวออกจากมือของแทนกานต์พร้อมกับทำหน้าตาไม่พอใจใส่คนที่ทำท่าทางไม่รู้ไม่ชี้

   "โอบทำไมเจ้าคะ"

   "ข้าโอบไม่ได้หรือ?"

   แทนกานต์ขมวดคิ้วพร้อมกับจ้องตาอีกฝ่ายด้วยสายตาเริ่มกวนประสาท

   "ข้าเป็นคู่หมั้นของเจ้านะ"

   "คู่หมั้นของพาขวัญ ไม่ใช่คู่หมั้นของข้าซักหน่อย"

   จอมขวัญขมวดคิ้วแน่นพร้อมกับเชิดหน้าใส่อีกฝ่ายด้วยความแง่งอน ก่อนจะสะดุ้งเมื่อแทนกานต์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แบบไม่ทันตั้งตัว

   "ไม่ว่าจะพาขวัญหรือจอมขวัญก็จะต้องหมั้นหมายและออกเรือนกับข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้หรอกนะ"

   "กลับเรือนไปเลยไป...ข้าจะพักผ่อน"

   จอมขวัญพลักอีกฝ่ายให้ออกไปจากตนเองด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงก่ำเพราะเขินกับคำพูดของอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อแทนกานต์ยกมือขึ้นมาลูบบริเวณแผลของตนเองอย่างอ่อนโยนและเบามือมาก

   "รักษาตัวเองด้วยนะจอมขวัญ ข้าคงจะทนไม่ได้ถ้าหากเห็นเจ้าต้องมาเจ็บตัวอย่างนี้อีก"

   "เจ้าค่ะคุณหลวง"

   จอมขวัญตอบรับด้วยท่าทางว่านอนสอนง่ายแถมแก้มนั้นเริ่มแดงทำให้แทนกานต์เหยียดยิ้มออกมาพร้อมกับแอบหอมแก้มนุ่มนิ่มน่าหมั่นเขี้ยวนั่นไปเต็มปอด

   "ถ้าเช่นนั้นข้าขอกลับเรือนก่อนนะจอมขวัญ"

   ฟอด!

   "อ๊ะ! คนฉวยโอกาส"

   จอมขวัญหันไปโวยวายใส่ด้วยความแง่งอน

   "รีบกลับเรือนไปได้แล้วเจ้าค่ะ"

   "แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาเยี่ยมเจ้า"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมมองอีกฝ่ายด้วยสายตากรุ่มกริ่ม

   "รอข้าด้วยนะเข้าใจไหม"

   "เจ้าค่ะ!"

   จอมขวัญตอบรับด้วยความรำคาญ

   "ไปซักทีซิเจ้าคะ"

   "ข้าลาล่ะ อย่าลืมฝันถึงข้าด้วยนะแม่จอมขวัญ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างรวดเร็วปล่อยให้จอมขวัญยืนกุมแก้มข้างที่โดนหอมด้วยใบหน้าที่แดงก่ำพร้อมหัวใจที่เต้นแรงไม่หยุด ท่ามกลางสายตาของหวานที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ส่งสายตาให้คุณหนูของตนเองอย่างเอ็นดู

   "คุณหนูหน้าแดงไปหมดเลยนะเจ้าคะ"

   "อากาศมันร้อนน่ะหวาน"

   จอมขวัญทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ทำให้หวานอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

   "แต่หวานว่าอากาศเย็นดีออกนะเจ้าคะไม่เห็นร้อนตรงไหนเลย"

   "เอ่อ..."

   จอมขวัญชะงักพร้อมกับทำหน้างอลงเล็กน้อยอย่างขัดใจ

   "สงสัยข้าคงจะไม่สบาย"

   "หวานรู้แล้วเจ้าค่ะว่าคุณหนูเป็นโรคอะไร"

   หวานอมยิ้มพร้อมมองคนตรงหน้าด้วยสายตาพราวระยับเต็มไปด้วยความล้อเลียน

   "โรคเขินอาย อาการเริ่มต้นของคนตกหลุมรักเจ้าค่ะ"

   "หวาน!!!"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นด้วยความแง่งอน

   "ข้าจะขึ้นเรือนแล้ว"

   "รอหวานด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"

   หวานรีบเร่งฝีเท้าตามเจ้านายตนเองที่เดินหนีขึ้นไปบนเรือนด้วยความแง่งอน



************* :กอด1: มีต่อค่ะ :กอด1:*************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 07-10-2019 20:26:15



   ก่อนที่จอมขวัญจะต้องชะงักเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาพบคินตาที่เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้วกำลังนั่งรอเจ้าของห้องอยู่ตรงที่นั่งแถวหน้ากระจก

   ตอนนี้คินตาอยู่ในเสื้อผ้าแพรไหมสีน้ำเงินเข้ม ด้านล่างนุ่งโจงกระเบนแบบยาวเลยเข่าสีน้ำตาลเปลือกไม้ พร้อมกับผ้าแพรคาดตรงเอวสีครีมที่ผูดเอาไว้ไม่แน่นมาก ทำให้ดูหล่อและลงตัวเข้ากับยุคสมัยมากจนจอมขวัญอดที่จะยิ้มกว้างอย่างชื่นชมไม่ได้

   "คินแต่งตัวแบบนี้แล้วดูหล่อมากเลยนะ"

   "ท่านเจ้าคุณเป็นคนเลือกเสื้อผ้าให้น่ะ"

   คินตาอมยิ้มพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่ยังอยู่ในสภาพมอมแมม

   "จอมไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน"

   "ได้สิ"

   จอมขวัญตอบรับเสียงใสก่อนจะเดินตามหวานลงไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตรงท่าน้ำของเรือนซึ่งใช้เวลาซักพักหนึ่งกว่าจะได้ฤกษ์กลับขึ้นมาบนห้อง ซึ่งเพื่อนสนิทนั้นยังนั่งอยู่ที่เดิมแต่แทบจะหลับคาหมอนอิง

   "อย่าพึ่งหลับซิคิน!"

   "เสร็จแล้วหรอจอ...."

   คินตาชะงักค้างกับภาพตรงหน้าในสภาพที่จอมขวัญอยู่ในชุดนอนแบบผู้หญิงสีชมพูอ่อนนั่นแหละถึงจะมีผ้าคลุมทับเอาไว้แต่ปกปิดความขาวไม่ได้ ทำให้คินตาหัวใจเต้นแรง

   "จอมใส่แบบนี้แล้วดูเนียนเหมือนผู้หญิงมาก็เลยนะ"

   "เนียนซิ! จอมต้องปลอมตัวเป็นผู้หญิงเพราะสัญญากับท่านเจ้าคุณเอาไว้แล้ว"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับเดินมานั่งข้างเพื่อนสนิทที่รีบเขยิบหนีไปชิดริมขอบที่นั่งทันที

    "ท่านเจ้าคุณเล่าให้คินฟังบ้างแล้วใช่ไหม"

   "ใช่แล้ว"

   คินตาตอบรับก่อนจะมองคนตรงหน้าด้วยสายตาทีเป็นกังวล

   "แต่ที่คินอยากจะรู้คือจอมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง รู้ไหมว่าคินตามหาจอมเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ"

   "จอมจำได้แค่ว่าวันนั้นที่จอมรอคินไปซื้อน้ำ จอมเดินมาแถวหลังวัดที่มีบึงน้ำและเต็มไปด้วยดอกบัว จอมเดินเข้าไปถ่ายรูปแต่พลาดลื่นตกน้ำ จอมจำได้ว่าตอนนั้นจอมจมน้ำเพราะว่ายน้ำไม่เป็น"

   จอมขวัญกำมือเล็กน้อยด้วยความหวาดกลัวเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้น

   "จอมดิ้นจนหมดแรงคิดว่าจะจมน้ำตายซะแล้ว แต่ทว่ากลับตื่นขึ้นมากลางป่าแล้วได้เจอกับท่านเจ้าคุณนั่นแหละ"

   "บึงน้ำอย่างนั้นหรือ"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นด้วยสีหน้าเป็นกังวล

   "แต่ที่คินไปเจอกล้องของจอมน่ะบริเวณแถวนั้นไม่มีบึงน้ำเลยนะ"

   "คินแกล้งจอมรึเปล่าเนี่ย"

   จอมขวัญหัวเราะในลำคอพร้อมกับมองด้วยสายตาสงสัย

   "มาคุยเรื่องของคินกันดีกว่าไหนบอกจอมมาซิว่าคินมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"

   "คินมาได้เพราะ..."

   คินตาชะงักรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันขาดหายไปพร้อมกับยกมือขึ้นมากุมตรงหัวของตัวเองที่เริ่มปวดอย่างทรมาน

   "คิน...คินจำไม่ได้"

   "ห๊ะ!"

   จอมขวัญทำท่าทางตกใจรวมถึงหวานที่นั่งฟังอยู่บนพื้นแต่พอเห็นท่าทางทรมาณของเพื่อนก็ไม่อยากรบเร้าอะไรมากมาย ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบแผ่นหลังของเพื่อนสนิทอย่างอ่อนโยน

   "ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดแล้วนะคิน"

   "แต่คินดีใจมากนะที่ได้พบจอมอีกครั้ง"

   คินตาเอื้อมมือมาจับมือของคนตัวเล็กมากุมเอาไว้แน่นพร้อมรอยยิ้มและแววตาที่แพรวพราวระยิบระยับ

   "บางทีโชคชะตาอาจกำหนดให้เราต้องมาพบกันกันก็ได้เนอะ จอมเห็นด้วยไหม"

   "คินพูดอะไรเนี่ย"

   จอมขวัญหัวเราะเล็กน้อยพร้อมหลบสายตาไปทางอื่นด้วยความเขินอาย

   "เชื่อในเรื่องพวกนี้ด้วยรึไงเมื่อก่อนไม่เคยสนใจนี่หน่า"

   "คินเชื่อเรื่องพวกนี้ก็ตอนที่จอมหายไปนี่แหละ"

   คินตายกมือขึ้นมาผมตัวเองอย่างเก้อเขินก่อนจะทำหน้าตาบึ้งตึงเมื่อนึกถึงใครบางคนที่เดินโอบไหล่เพื่อนสนิทเขาเมื่อตอนหัวค่ำ

   "ยังมีอีกเรื่องที่คินสงสัย"

   "เรื่องอะไรหรอคิน"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นอกฝ่ายทำท่าทางจริงจัง

   "ผู้ชายคนนั้นคือใคร"

   "คุณหลวงแทนกานต์น่ะหรอ"

   จอมขวัญทำท่าทางคิดก่อนจะตอบออกไปตามความจริง

   "คนสนิทของคุณพ่อในกรมพระคลังหลวงน่ะ"

   "แล้วจอมกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกัน"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นแต่จอมขวัญกลับยักไหล่แล้วตอบอย่างสบาย

   "แทนกานต์เป็นคู่หมั้นของพาขวัญ"

   "แล้วทำไมต้องมาทำท่าทางใกล้ชิดกับจอมด้วย"

   คินตาทำหน้าตาบึ้งตึงทำให้จอมขวัญต้องหันมามองคนเริ่มหงุดหงิดด้วยสายตาที่สงสัย

   "คนเป็นคู่หมั้นกันก็ต้องใกล้ชิดกันเป็นธรรมดา อย่าลืมซิว่าจอมกำลังปลอมตัวเป็นพาขวัญอยู่นะ"

   "แล้วอีกนานเท่าไหร่ที่จอมจะเลิกปลอมตัว"

   คินตาเริ่มทำตัวงี่เง่าจนจอมขวัญแอบลอบถอนหายใจ

   "จนกว่าจะหาพาขวัญเจอไง"

   "แต่คินไม่ชอบ!"

   คินตากระแทกเสียงดังอย่างลืมตัวก่อนจะทำเสียงอ่อนลงเมื่อเพื่อนสนิทมองมาด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ

   "ไม่ชอบ...ตอนที่หมอนั่นเข้าใกล้จอม"

   "ไม่งี่เง่าซิคิน"

   จอมขวัญอมยิ้มพร้อมยื่นมือไปลูบผมเพื่อนสนิทอย่างอ่อนโยน

   "ยังไงซะคินก็มาอันดับหนึ่งเสมอ ไม่ต้องน้อยใจนะ"

   "จริงนะ"

   คินตาเลิกทำหน้าหงอยพร้อมจ้องมองใบหน้าน่ารักของเพื่อนสนิทที่แอบรักอยู่นานสองนานด้วยสายตาที่หลงใหลซึ่งจอมขวัญก็ยิ้มหวานแล้วเอียงคอหลบสายตาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย 

   ก่อนที่จะถูกหวานที่นั่งฟังเรื่องราวของทั้งสองคนนั้นขัดจังหวะขึ้นมาเมื่อเห็นว่าถึงเวลาอันควรที่ต้องแยกย้ายกัน

   "ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว หากบ่าวไพร่คนไหนมาเห็นจะเอาไปนินทาได้ที่ชายหญิงอยู่ในห้องสองต่อสองเกือบค่อนคืนขนาดนี้"

   "หวานพูดก็มีเหตุผล"

   จอมขวัญพยักหน้าอย่างเห็นด้วยก่อนจะหันไปไล่เพื่อนสนิทที่นั่งนิ่งยังไม่ยอมลุกไปไหน

   "คินกลับไปพักที่ห้องก่อนเถอะ"

   "เอาอย่างนั้นก็ได้"

   คินตากัดฟันด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยก่อนจะเดินออกมาจากห้องแต่ยังไม่วายหันไปลาเพื่อนสนิทด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

   "ฝันดีนะจอม"

   "ฝันดีจ้ะคิน"

    จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนที่หวานจะรีบปิดประตูห้องแล้วลงกลอนทันทีทำให้คินตาขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่พอใจก่อนจะยอมเดินกลับไปที่ห้องของตนเอง




**********************


มาแล้วจ้าาา


พ่อแทนคนขี้หึง2019


เชียร์ใครระหว่าง

แทนกานต์ VS คินตา

แต่จะได้เกิดศึกชิงนายกันรึเปล่าอันนี้ก็ไม่รู้นะคะ  :laugh:



 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 07-10-2019 22:13:57
โอ้ กลับมาแล้ว

ขอเชียร์คุณหลวงเหมือนเดิม
แต่ก็อยากให้คินตามีคู่ด้วย
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 08-10-2019 05:12:43
คินตา จะเจอคู่ไหมนะ  o18
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 10-10-2019 14:01:45
โห มาแบบแพ็คคู่  จะเลือกยังไงล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: JokerGirl ที่ 14-10-2019 11:51:09
คินตามมาช่วยได้ทันเวลาเลย o13 อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน55555
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: night-nnc ที่ 14-10-2019 13:42:47
 จะเป็นยังไงต่อเนี้ย
รอลุ้นเลย
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 14-10-2019 22:33:08
 :katai2-1: รอตอนต่อไปนะคับ
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 07-11-2019 23:56:07
 :ruready คนแต่งหายอ่ะ 1 เดือนแล้วน๊าาา :hao4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 11 / เรือนหลังที่ 12}}} [UP 07/10/19]
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 09-11-2019 10:41:05
สนุกมากค่ะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-11-2019 22:00:14



เรือนหลังที่ 13


   เวลาเช้ามืดในช่วงที่ฟ้ายังไม่สว่างดีนักบ่าวไพร่ในเรือนของท่านเจ้าคุณจักรกฤษณ์ต่างพากันจัดเตรียมอาหารคาวหวานและของอื่นอีกมากมายสำหรับใส่บาตรในตอนเช้า

   โดยที่คุณหญิงเพชรรัตนานั้นกำลังนั่งคัดดอกไม้มาร้อยพวงมาลัยหลายพวงเพื่อที่จะถวายพระ ซึ่งระหว่างที่กำลังนั่งร้อยพวงมาลัยอย่างจริงจังจึงทำให้ไม่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังย่องเข้ามาด้านหลังก่อนจะจู่โจมเข้ามากอดแน่นจนคนถูกกอดสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจ

   หมับ!

   "ว๊าย! ตายแล้ว!!!"

   เพชรรัตนาร้องเสียงดังลั่นก่อนจะหันมามองก็พบลูกชายคนโตของตัวเองกำลังหัวเราะพร้อมกับกอดตัวเองแน่นขึ้นกว่าเดิม

   "พ่อจักร!"

   "ตกใจอะไรหรือขอรับคุณแม่"

   จักรกวินยิ้มกว้างก่อนจะจับมือเพชรรัตนาที่ฟาดลงมาตรงแขนตนเองอย่างหมั่นไส้

   "เล่นอะไรไม่รู้เรื่องหากแม่ตกใจจนตายไปใครจะรับผิดชอบ"

   "โธ่! ไม่พูดเรื่องตายซิขอรับคุณแม่"

   จักรกวินทำหน้าตาออดอ้อนก่อนจะมองหาน้องชายที่ตนเองได้ยินเสียงให้บ่าวเตรียมเรือตั้งแต่เช้า

   "แล้วพ่อกริชรีบไปไหนแต่เช้าขอรับ"

   "ไปเที่ยวเล่นตามประสา" 

   เพชรรัตนาถอนหายใจออกมาอย่างสงสารพร้อมพูดให้ท้ายลูกชายคนเล็กเต็มที่ 

   "ปล่อยน้องไปเถิด พ่อกริชน่ะพึ่งกลับมาจากเมืองเพชรคงอยากจะเล่นสนุกก่อนรับราชการ"

   "ขอรับ" จักรกวินตอบรับก่อนจะยิ้มออกมาอย่างน้อยใจนิดหน่อย "ลูกก็ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยนะขอรับ แค่ถามหาเท่านั้นเอง"

   "ทำไมวันนี้พ่อจักรลูกแม่ถึงตื่นแต่เช้าได้ล่ะจ๊ะ"

   เพชรรัตนาเปลี่ยนเรื่องอย่างแนบเนียนพร้อมขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัยเพราะลูกชายคนโตของตัวเองตื่นเช้าเป็นกับเขาด้วย ซึ่งพอได้ยินแบบนั้นจักรกวินก็โอบกอดแม่ตนเองอย่างออดอ้อน

   "ลูกอยากช่วยคุณแม่เตรียมของใส่บาตรน่ะขอรับ"

   "พ่อจักรของแม่น่ารักที่สุด"

   เพชรรัตนาจับใบหน้าลูกชายโยกไปโยกมาย่างหมั่นเขี้ยว ก่อนที่จะทำหน้าตาเคร่งเครียดกับข่าวที่พึงได้ยินจากนังอิ่มเมื่อคืน

   "พ่อจักรรู้เรื่องหนูพาขวัญรึยังลูก"

   "น้องพาขวัญทำไมหรือขอรับคุณแม่"

   จักรกวินชะงักก่อนจะมองแม่ตัวเองอย่างสงสัย

   "นังอิ่มนำข่าวจากบ่าวเรือนนู้นมาบอกแม่เมื่อคืนนี้เอง เรื่องที่หนูพาขวัญโดนพ่อแสงหล้าฉุดเมื่อวานนี้น่ะจ้ะ"

   เพชรรัตนาตอบด้วยสีหน้าและท่าทางที่เป็นห่วง

   "โชคดีนะที่พ่อแทนกานต์ไปช่วยเอาไว้ทัน ไม่อย่างนั้นนะแม่ไม่อยากจะคิดเลย"

   "จริงหรือขอรับคุณแม่ ไม่ได้การละ!"

   จักรกวินกำมือแน่นก่อนจะหันไปสั่งบ่าวรับใช้คนสนิทที่หมอบอยู่แถวหน้าประตูเรือน

   "อ้ายไม้ไปเตรียมเรือเร็ว"

   "ให้เตรียมเรือ?" ไม้ขมวดคิ้วแน่นด้วยความงุนงง "จะไปไหนหรือขอรับท่านออกขุน"

   "ไปเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพน่ะซิ" จักรกวินขึ้นเสียงใส่อย่างขัดใจ "ข้าจะไปเยี่ยมอาการน้องพาขวัญ"

   "ขอรับ"

   ไม้รับคำก่อนจะรีบวิ่งลงไปจากเรือนเพื่อเตรียมเรือก่อนที่จักรกวินจะหันไปลาผู้เป็นแม่

   "จะไปตอนนี้เลยหรือจ๊ะพ่อจักร"

   เพชรรัตนาเงยหน้าดูท้องฟ้าที่ยังไม่ค่อยสว่างมากนัก

   "ยังเช้ามืดอยู่เลยนะ"

   "ต้องรีบไปขอรับ"

   จักรกวินตอบพร้อมกับกำมือแน่นด้วยความหงุดหงิดเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่จ้องจะแย่งพาขวัญไปจากตัวเอง

   "ไม่อย่างนั้นอ้ายแทนกานต์มีโอกาสกับน้องพาขวัญน่ะซิ"

   "ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเถอะจ้ะพ่อจักรลูกแม่" เพชรรัตนนาเอื้อมมือมาลูบหลังลูกชายตัวเองอย่างปลื้มอกปลื้มใจ "เอาใจน้องเขาให้มากเหมือนที่แม่สอนไว้เข้าใจไหม"

   "ขอรับคุณแม่"

   จักรกวินตอบรับก่อนจะรีบเดินลงไปจากเรือนท่ามกลางความสงสัยของจักรกฤษณ์ที่พึ่งเดินออกมาจากห้องหนังสือ

   "นั่นพ่อจักรจะรีบไปไหนรึแม่เพชร"

   "ไปหาแม่พาขวัญเจ้าค่ะ" 

   เพชรรัตนาหันมายิ้มหวานแล้วตอบคำถามอย่างถูกอกถูกใจจนจักรกฤษณ์เลิกคิ้วแล้วถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่สงสัย

   "มีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องรีบไปขนาดนั้นล่ะ"

   "พ่อจักรเป็นห่วงแม่พาขวัญในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานเลยรีบไปหาที่เรือนน่ะเจ้าค่ะคุณพี่"

    เพชรรัตนาตอบด้วยรอยยิ้มทำให้จักรกฤษณ์พยักหน้าพร้อมนั่งลงข้างภรรยาตนเองด้วยสีหน้าที่หนักใจเล็กน้อย

   "ดูพ่อจักรจะห่วงแม่พาขวัญมากทั้งที่อีกฝ่ายเองก็มีคู่หมั้นคู่หมายอยู่แล้ว"

   "พ่อจักรนั้นรักมาตั้งแต่แรกพบนี่เจ้าคะ อย่าขัดขวางลูกเลยเจ้าค่ะ"

   พัณณิตายิ้มหวานก่อนจะรินน้ำชาใส่ถ้วยแล้วยื่นไปให้อีกฝ่ายอย่าเอาใจ

   "น้ำชาเจ้าค่ะ"

   "เอาเถอะ ถ้าลูกชอบก็ตามใจข้าไม่ขัดขวางอะไรหรอก"

   จักรกฤษณ์หยิบถ้วยน้ำชาขึ้นมาดื่มพรางสายตาคมที่มองหาใครบางคนที่หายไปจากเรือนตั้งแต่เช้ามืดด้วยความหงุดหงิด

   "แล้วนี่แม่เพชรเห็นเจ้ากริชบ้างไหม หายไปไหนแต่เช้ามืด"

   "คงจะอออกไปเที่ยวเล่นแถวนี้แหละเจ้าค่ะคุณพี่"

   เพชรรัตนายิ้มหวานพร้อมกับรินน้ำชาให้อีกครั้งอย่างเอาอกเอาใจมากกว่าเดิมแล้วพยายามเปลี่ยนเรื่อง

   "น้ำชารสชาติดีไหมเจ้าคะคุณพี่ น้องให้พวกบ่าวไพร่ไปซื้อมาให้จากเรือสำเภาพ่อค้าชาวจีนที่ตลาดเลยนะเจ้าคะ"

   "อร่อย"

   จักรกฤษณ์ตอบแค่นั้นก่อนจะยกชาขึ้นมาดื่มอีกรอบด้วยอาการหงุดหงิด

   "ตั้งแต่พ่อกริชกลับมาจากเมืองเพชรก็ไม่เคยอยู่ติดบ้านเลยซักวัน หวังว่าจะไม่ไปพังตลาดแบบคราวนั้นอีกนะ"

   "พ่อจักรกริชไม่เด็กแล้วนะเจ้าคะคุณพี่!" เพชรรัตนาเริ่มขึ้นเสียงอย่างไม่ชอบใจ "คุณพี่ก็ชอบเอาเรื่องเก่ามาพูดอยู่เรื่อย"

   "แม่เพชรก็ชอบให้ท้ายลูก"

   จักรกฤษณ์ยังไม่หยุดจนเพชรรัตนาเอื้อมมือมาจับถ้วยน้ำชาไว้พร้อมทำหน้าตาข่มขู่

   "คุณพี่จะดื่มน้ำชาไหมเจ้าคะ"

   "ดื่ม!"

    จักรกฤษณ์ดื่มน้ำชาเข้าไปอีกอึกใหญ่จนหมดแก้วก่อนจะยื่นไปให้อีกครั้งแต่อีกฝ่ายกลับนิ่งเฉย

   "ขอน้ำชาเพิ่มหน่อยซิแม่เพชร"

   "ไม่ให้แล้วเจ้าค่ะ!"

   เพชรรัตนาเชิดหน้าขึ้นและไม่ยอมเติมน้ำชาให้อย่างแง่งอนก่อนจะหันไปสั่งบ่าวคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างหลังตัวเองเสียงดังลั่น

   "นังอิ่ม"

   "เจ้าคะคุณหญิง"

   อิ่มตอบกลับไปทั้งที่ยังนั่งก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้นเพื่อรอฟังคำสั่งเจ้านายตนเองที่เริ่มจะโมโห

   "รีบเก็บสำรับแล้วเตรียมของไปใส่บาตรตรงท่าน้ำด้วย"

   "เจ้าค่ะนายหญิง"

    อิ่มหันไปสั่งพวกบ่าวไพร่ให้ไปเก็บสำรับน้ำชาแล้วเดินลงไปจากเรือนเพื่อเตรียมของรอใส่บาตรโดยมีเพชรรัตนาเดินน้ำลงไปด้วยอาการแง่งอน จนจักรกฤษณ์ต้องถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด



   'ตามใจลูกจนเคยตัว ใครว่าจะตามใจพ่อจักรเพียงคนเดียวซักที่ไหน ยิ่งเป็นเจ้ากริชยิ่งแตะไม่ได้'






   ไม่นานนักไม้ก็พายเรือมาถึงบริเวณท่าน้ำของเรือนท่านเจ้าคุณจอมทัพก็ต้องชะงักเมื่อด้านข้างไม่ไกลออกไปเจอเรือของหลวงแทนกานต์จอดผูกเอาไว้ ซึ่งไม้นั้นจำได้อย่างแม่นยำ

   "นั่นเรือของหลวงแทนกานต์นี่ขอรับท่านออกขุน"

   "รีบไปเร็วอ้ายไม้"

   จักรกวินเร่งบ่าวรับใช้ซึ่งพอเรือจอดสนิทเจ้าตัวจึงเร่งฝีเท้าเดินขึ้นเรือนมาอย่างรีบร้อนก่อนจะชะงักเมื่อเห็นแทนกานต์กำลังนั่งรออยู่กับพัณณิตาที่ออกมาต้อนรับตั้งแต่เช้า 

   ซึ่งเสียงเดินนั้นทำให้พัณณิตาที่นั่งอยู่ตรงห้องโถงเงยหน้ามองคนที่พึ่งขึ้นเรือนมาด้วยสีหน้าและท่าทางที่ตกอกตกใจ

   "อ้าว! พ่อจักร"

   "สวัสดีขอรับคุณป้า"

   จักรกวินยกมือขึ้นไหว้พัณณิตาอย่างนอบน้อมก่อนจะทำใบหน้าบึ้งตึงเมื่อเห็นใครบางคนที่มาตั้งแต่เช้า

   "สวัสดีหลวงแทนกานต์"

   "สวัสดีออกขุนจักรกวิน"

    แทนกานต์ตอบรับตามมารยาทก่อนจะทำเป็นไม่สนใจยกชาขึ้นมาดื่ม ทำให้พัณณิตาต้องยิ้มกว้างแล้วมองมาด้วยท่าทางแปลกใจ

   "พ่อจักรมาทำอะไรที่เรือนแต่เช้าหรือจ๊ะ"

   "ข้ามาหาพาขวัญขอรับ" จักรกวินตอบกลับไปทันทีด้วยท่าทางร้อนใจ "ได้ข่าวว่าเมื่อวานถูกทำร้ายจึงรีบมาหาด้วยความเป็นห่วง"

   "เหมือนพ่อแทนเลย"

   พัณณิตามองไปยังคู่หมั้นคู่หมายของลูกตนเองอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "มาตั้งแต่เข้ามืดขนาดนี้ไม่รู้ว่าเมื่อคืนได้นอนรึเปล่า"

   "นอนขอรับ" แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปาก "แต่เป็นห่วงอาการเมื่อวานนี้เลยรีบมาแต่เช้า"

   "พ่อแทนนี่รู้ใจแม่พาขวัญเสียจริง"

    พัณณิตาเอ่ยชมออกมาอย่างเอ็นดูก่อนจะหันไปเรียกหวานที่กำลังถือขันใส่น้ำเพื่อเอาไปให้เจ้านายตัวเองล้างหน้าตอนตื่นนอน

   "นังหวาน"

   "เจ้าคะคุณหญิง"

   หวานชะงักพร้อมนั่งก้มหน้าลงตรงนั้นด้วยท่าทางหวาดกลัวเล็กน้อยพร้อมรับคำสั่งของเจ้านาย

   "ไปปลุกแม่พาขวัญมาอาบน้ำอาบท่าเสียให้เรียบร้อย"

    พัณณิตายกพัดขึ้นมาพัดด้วยท่าทางพออกพอใจ

   "คุณหลวงกับออกขุนมาเยี่ยมน่ะ"

   "เจ้าค่ะคุณหญิง"

   หวานตอบรับก่อนจะเดินเลี่ยงไปทางห้องนอนของเจ้านายตนเองที่อยู่ด้านในอีกฟากหนึ่ง ก่อนที่พัณณิตาจะหันมายิ้มหวานให้กับสองหนุ่มด้วยท่าทางเป็นมิตร

   "ถ้าเช่นนั้นก็รอคุยกันไปก่อนนะเดี๋ยวป้าไปปลุกคุณลุงเขาก่อน เห็นว่ามีงานราชการที่จะต้องทำ"

   "ขอรับคุณป้า"

   สองหนุ่มตอบรับพร้อมกันทำให้พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องกับบ่าวรับใช้คนสนิทปล่อยให้ทั้งสองคนนั่งกันอยู่สองคนด้วยกัน

    จักรกวินมองแทนกานต์ด้วยท่าทางหงุดหงิดส่วนทางกานต์เองก็เงียบเฉยพร้อมกับดื่มน้ำชาอย่างไม่แสดงท่าทางอะไรทั้งที่รู้สึกไม่พอใจไม่ต่างกัน




    ซึ่งท่าทางแบบนั้นอยู่ในสายตาของฝ้ายที่แอบเกาะขอบประตูก่อนจะรีบวิ่งแจ้นกลับเข้าห้องไปจัดการปลุกคุณหนูของตนเองที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงด้วยท่าทางและน้ำเสียงที่เร่งรีบ

   "คุณหนูเจ้าคะ"

   ออกแรงเขย่าเพิ่มอีกนิดเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังนอนนิ่งไม่ขยับไปไหน

   "รีบตื่นเถิดเจ้าค่ะ!"

   "มีอะไรหะนังฝ้าย!"

   พลอยปภัสโวยวายเสียงดังลั่นก่อนจะสะบัดคนที่กล้ารบกวนตัวเองด้วยความหงุดหงิด

   "เองมาปลุกข้าทำไมแต่เช้า"

   "คือ..."

   ยังไม่ทันจะตอบอะไรเจ้านายตนเองก็พูดดักขึ้นมาอย่างข่มขู่

   "ถ้าไม่มีเรื่องด่วนอะไรข้าจะถีบเองไปอยู่เรือนครัว"

   "เรื่องด่วนเรื่องสำคัญแน่เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบอย่างมั่นอกมั่นใจพร้อมเขยิบเข้ามาใกล้ทำให้พลอยปภัสเอียงคอเล็กน้อยอย่างเริ่มจะสนใจ

   "เรื่องอะไร"

   "ท่านออกขุนจักรมาที่เรือนเจ้าคะ"

   พอได้ยินแบบนั้นพลอยปภัสก็ลุกขึ้นมานั่งตัวตรงด้วยความตื่นเต้น

   "ห๊ะ! พี่จักรน่ะหรือ"

   "ออกขุนจักรตัวจริงเสียงจริงเลยเจ้าค่ะ"

   ฝ้ายยิ้มกว้างพร้อมเอามือมาเกาะแขนเจ้านายตัวเองอย่างเอาใจ ทำให้พลอยปภัสยิ้มกว้างออกมาอย่างพึงพอใจ

   "มาตั้งแต่เมื่อไหร่"

   "มาตั้งแต่เช้ามืดเจ้าค่ะ"  ฝ้ายตอบก่อนจะกระซิบกระซาบในสิ่งที่ตนเองแอบได้ยินมา "เห็นว่าจะมาดูอาการคุณหนูพาขวัญน่ะเจ้าค่ะ"

   "นังฝ้าย! เองรีบเตรียมเสื้อผ้าให้ข้าเร็ว เอาลายผ้าที่สวยที่สุดนะ"

    พลอยปภัสออกคำสั่งพร้อมลุกขึ้นมาดูเงาตัวเองในกระจกด้วยสีหน้าและแววตาที่เต็มไปด้วยแผนการมากมาย

   "ข้าจะออกไปต้อนรับพี่จักร"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

   ฝ้ายตอบรับพร้อมกับเปิดหีบที่ใส่เสื้อผ้าแล้วรื้อออกมาเลือกหลากหลายผืนจนเต็มห้องไปหมด




    "เสร็จเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ"

   ทางด้านของหวานจัดการแต่งตัวให้เจ้านายตนเองอย่างเร่งรีบจนเสร็จเรียบร้อยก็หันมาเก็บผ้าหลากหลายสีที่รื้อออกมามากพอสมควร

   "คุณหนูรีบออกไปก่อนเลยนะเจ้าคะเดี๋ยวหวานเก็บของนิดหนึ่ง"

   "ได้"

   จอมขวัญรับคำก่อนจะเดินมาเปิดประตูไม้บานใหญ่เพื่อจะออกไปจากห้อง

   แอ๊ด~

   "อ๊ะ! คิน"

   จอมขวัญตกใจเมื่อเห็นคินตายืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าห้องด้วยชุดอยู่บ้านของท่านเจ้าคุณจอมทัพที่ดูใหญ่ไปหน่อยจนอดที่จะแอบขำไม่ได้

   "ชุดนี้ดูเหมาะกับคินดีนะ"

   "ใช่ไหมล่ะ คินใส่อะไรก็ดูหล่อไปหมด"

   คินตาเชินหน้าขึ้นแล้วเอ่ยชมตัวเองอย่างภูมิอกภูมิใจจนคนฟังเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้

   "จ้ะพ่อคนหล่อ"

   "แล้วนี่ทำไมจอมตื่นแต่เช้าจัง คินตั้งใจจะมาปลุกซักหน่อย"

   คินตาบ่นอุบอิบออกมาอย่างเสียดายทำให้หวานหมวดคิ้วแน่นอย่างไม่ชอบใจ

   "จะเข้าห้องคุณหนูสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะพ่อคินตา"

   "ข้ารู้แล้วน่ะ"

   คินตาทำปากยื่นออกมาอย่างหงุดหงิดทำให้เพื่อนสนิทที่ยืนดูอยู่นั้นหัวเราะออกมาเล็กน้อยด้วยท่าทางขบขัน

   "จอมจะไปคุยกับคุณหลวงและท่านออกขุนน่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะเอ่ยชวนอีกฝ่ายอย่างเอาใจ

   "คินจะไปคุยด้วยกันไหม"

   "คุณหลวงเมื่อวานน่ะหรอ"

   คินตาเลิกคิ้วก่อนจะกระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์

   "เอาซิ! คินไปด้วย"

   "งั้นไปกันเถอะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะคล้องแขนเพื่อนสนิทพาเดินออกไปพร้อมกัน ท่ามกลางความตกใจของหวานที่มองท่าทางของทั้งสองคนที่ใกล้ชิดกันมากเกินไป

   "คุณหนูไปกอดแขนอย่างนั้นได้อย่างไรเจ้าคะ หากคุณหญิงมาเห็นเข้าหวานต้องโดนลงโทษแน่"

   "ยืนบ่นอะไรอยู่คนเดียวน่ะ มาเร็วซิหวาน"

   จอมขวัญหันมาเร่งด้วยรอยยิ้มขบขันเพราะแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินอีกฝ่ายบ่นทำให้หวานหน้ามุ่ยลงก่อนจะเดินมาเอามือบางเนียนนุ่มนั้นออกจากแขนแกร่งอย่างรวดเร็ว

   "ปล่อยได้แล้วเจ้าค่ะ พวกบ่าวไพร่มองกันอยู่นะเจ้าคะ"

   "แต่คินเป็นญาตินะ"

   จอมขวัญอมยิ้มกับสีหน้ากังวลของคนรับใช้คนสนิทที่ดูเคร่งเครียดมากกว่าเดิมแถมยังตอบกลับมาอย่างเข้มงวด

   "ชายหญิงถึงจะเป็นญาติก็ไม่ควรใกล้กันเจ้าค่ะ!"

   "ข้าแค่แกล้งเจ้าเล่นเท่านั้นเอง"

   จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมยื่นมือไปจับแก้มของอีกฝ่ายยืดออกมาอย่างหมั่นเขี้ยว

   "อย่างทำหน้าแบบนั้นซิ"

   "คุณหนูขี้แกล้งตั้งแต่เมื่อไหร่เจ้าคะ"

   หวานสะบัดหน้าหนีเล็กน้อยอย่างแง่งอนก่อนจะหันมาอมยิ้มแล้วดึงจอมขวัญให้เดินมาพร้อมกัน

   "รีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ ตอนนี้คุณหลวงกำลังรอคุณหนูอยู่นะเจ้าคะ"

   "อื้ม!"

   จอมขวัญตอบรับก่อนจะหันมาชวนเพื่อนสนิทให้รีบเดินตามมา

   "ไปกันเถอะคิน"

   "อืม"

   คินตาเดินตามหลังไปด้วยหน้าตาที่บึ้งตึงและสายตาที่ไม่พอใจก่อนจะกำมือแน่นเมื่อหวานหันหน้ากลับมามองแล้วแลบลิ้นใส่ด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้ปนเยาะเย้ย

    พอเดินมาถึงห้องโถงใหญ่ก็พบกับสองหนุ่มที่นั่งดื่มชากันคนละฝั่งด้วยบรรยากาศอึมครึมทำให้จอมขวัญแสร้งยิ้มหวานแล้วเข้าไปทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทางนอบน้อม

   "สวัสดีเจ้าค่ะคุณหลวง ท่านออกขุน"

   "สวัสดี"

   ทั้งสองตอบรับพร้อมกันก่อนที่จอมขวัญจะนั่งลงตรงด้านข้างแทนกานต์พร้อมกับคินตาที่รีบเดินมานั่งข้างตัวเองแทรกกลางระหว่างจักรกวินอย่างรวดเร็ว ทำให้จักรกวินมองอย่างไม่ชอบใจผิดกับแทนกานต์ที่ทำท่าทางสนใจกับน้ำชาในถ้วยแต่แอบลอบมองแล้วกระตุกยิ้มตรงมุมปากอย่างขบขัน

   ซึ่งจอมขวัญไม่รู้สึกถึงอาการเหล่านั้นเพราะกำลังขมวดคิ้วแล้วจ้องมองมายังคนที่ไม่ค่อยโผล่มาเรือนตนเองซักเท่าไหร่ด้วยอาการและท่าทางที่สงสัย

   "ออกขุนจักรมาทำอะไรที่เรือนนี้ตั้งแต่เช้าหรือเจ้าคะ"

   "พี่ตังใจจะมาเยี่ยมน้องพาขวัญน่ะ"

   จักรกวินยิ้มกว้างซึ่งคำตอบนั้นทำให้จอมขวัญเอียงคอมองอย่างแปลกใจ

   "มาเยี่ยมหรือเจ้าคะ?"

   "น้องพาขวัญสบายดีหรือไม่"

  จักรกวินพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มและสายตาที่หลงใหล

   "สบายดีเจ้าค่ะ" จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมจ้องมองด้วยความสงสัย "มีเรื่องอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ"

   "เมื่อเช้าพี่ได้ข่าวจากคุณแม่ว่าน้องพาขวัญนั้นโดนอ้ายแสงหล้าฉุด"  จักรกวินจ้องมองมาด้วนสายตาเป็นห่วงเป็นใย "แล้วน้องพาขวัญบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่"

   "ไม่เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญส่ายหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนหวาน

   "ขอบคุณที่ออกขุนเป็นห่วงข้านะเจ้าคะ"

   "ถ้าเป็นเช่นนั้นพี่ก็โล่งใจ"

   จักรกวินยิ้มกว้างก่อนจะเหลือบไปมองยังคินตาที่นั่งอยู่ข้างกับพาขวัญด้วยความสงสัยไม่หาย

   "แล้วผู้ชายคนนี้เป็นลูกเต้าเหล่าใครกันทำไมถึงมาอยู่บนเรือนน้องได้"

   "คินตาเจ้าค่ะ ลูกชายคนเดียวของคุณน้ากิ่งแก้วซึ่งเป็นน้องสาวของคุณพ่อ พึ่งเดินทางมาจากลพบุรีเมื่อวานนี้เจ้าค่ะ"

  จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะหันไปทางเพื่อนสนิทที่กำลังทำใบหน้าบึ้งตึง

   "ส่วนคนนั้นคือ ออกขุนจักรกวิน ลูกชายของท่านเจ้าคุณจักรกฤษณ์ฝ่ายกรมเสบียงกับคุณหญิงเพชรรัตนาน่ะ"

   "อ๋อ สวัสดีขอรับท่านออกขุน"

   คินตายกมือไหว้ด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยตามมารยาทซึ่งจักรกวินเองก็ยกมือขึ้นมารับไหว้เช่นเดียวกัน

   "ไม่ต้องไหว้หรอก ดูเหมือนเจ้าจะอายุน้อยกว่าข้าไม่เท่าไหร่ใช่ไหม"

   "ข้าอายุมากกว่าพาขวัญไม่ถึงครึ่งปีนะขอรับ"

   คินตากระตุกยิ้มตรงมุมปากพร้อมกับแสร้งทำสีหน้าลำบากใจ

   "หรือหน้าข้าดูล่วงเลยไปจะแก่เท่าท่านออกขุนอย่างนั้นหรือขอรับ"

   "เอ่อ...คือ..."

   จักรกวินทำหน้าเหวอไม่รู้ว่าควรจะปลอบหรือเจ็บใจก่อนดี

   "ข้าไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าแก่หรอกหนา"

   "ถ้าไม่ได้หน้าแก่แล้วยังไงล่ะครับท่านออกขุน"

   คินตากระตุกยิ้มตรงมุมปากด้วยความสนุกสนาน

   "หรือข้าแต่งตัวดูแก่มากเกินไป"

   "ไม่ใช่นะ"

   จักรกวินยกมือขึ้นมาโบกปัดไปมายิ่งทำให้คินตาแกล้งทำท่าคิดหนัก

   "หรือข้าเสียงแก่รึเปล่านะ ต้องใช่แน่เลย"

   "คิกคิก"

   จอมขวัญยกมือขึ้นมาปิดกั้นเสียงหัวเราะก่อนจะเอื้อมมือไปหยิกหลังเพื่อนสนิทที่กำลังกลั่นแกล้งจักรกวินอยู่นั้นอย่างหมั่นไส้

   "เลิกแกล้งท่านออกขุนได้แล้วน่ะคิน"

   "ข้าไม่ได้แกล้งอะไรเลยนะพาขวัญ"

   คินตาตอบอย่างลอยหน้าลอยตาทำให้จอมขวัญกลั้นหัวเราะ ก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงกระแอมไอขัดขึ้นมาจากคนที่นั่งเงียบอยู่นาน

   "อะแฮ่ม!"

   "มีอะไรติดคอหรือเจ้าคะคุณหลวง"

   จอมขวัญแสร้งถามด้วยความหมั่นไส้ทำให้แทนกานต์แอบอมยิ้มเล็กน้อย

   "ข้ามาถึงที่เรือนแล้วนอกจากบ่าวไพร่ที่เอาน้ำเอาท่ามาให้ดื่มแล้วนั้น ข้าก็ยังไม่ได้กินอะไรมาเลย แถมอากาศเช้านี้มันช่างร้อนนัก"

   มือหนายกขึ้นมาพัดเล็กน้อยพร้อมจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว

   "หากวันนี้เจ้าจะเป็นผู้ลงมือทำสำรับคาวหวานด้วยตนเองได้หรือไม่ เพราะข้าเคยชิมรสมือการทำอาหารของเจ้าแล้วช่างอร่อยมาก"

   "หืม?"

   จอมขวัญทำหน้าตาประหลาดใจเมื่อวันนี้คุณหลวงตรงหน้านั้นมาแปลกแถมอยากให้ทำอาหารอีกต่างหาก ซึ่งคินตาที่พอจะรู้ว่าแทนกานต์จะทำอะไรจึงพูดเสริมขึ้นมาบ้างด้วยท่าทางที่อวดเล็กน้อย

   "ข้าเองก็คิดถึงขนมหวานของเจ้าเหมือนกันนะพาขวัญ"

   "ถ้าอยากกินกันมากขนาดนั้น ข้าก็คงจะขัดอะไรไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญถอนหายใจเมื่อเพื่อนสนิทก็เล่นอะไรแปลกประหลาดไปกับเขาด้วย

   "ถ้าเช่นนั้นนั่งรอกันซักพักหนึ่งนะเจ้าคะ ข้าขอตัวก่อน"

   "รีบไปรีบมานะ"

   แทนกานต์เสริมขึ้นมาทำให้จอมขวัญหันมาแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะเดินลงไปยังเรือนครัวพร้อมกับหวานซึ่งเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทปล่อยให้บรรยากาศตรงห้องโถงนั้นเริ่มมีความอึมครึมมากกว่าเดิม ก่อนที่จักรกวินจะเอ่ยถามคินตาด้วยท่าทางสนอกสนใจ

   "น้องคินตาสนิทกับน้องพาขวัญมากหรือไม่"

   "สนิทซิ"

   คิตตาจ้องใบหน้าคมของออกขุนตรงหน้านั้นอย่างเหนือกว่า

   "สนิทมากด้วย"

   "สนิทขนาดไหนรึ"

   จักรกวินหลุดปากถามออกมาอย่างร้อนใจทำให้คินตาแสยะยิ้มตรงมุมปาก

   "มากกว่าท่านออกขุนแน่นอน"

   "ข้าเองก็เห็นพาขวัญมาตั้งแต่เด็ก" แทนกานต์พูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่นั่งเงียบไปนานด้วยสายตาจับผิด "เหตุใดจึงไม่เห็นเจ้ามาที่เรือนท่านเจ้าคุณเลยล่ะ"

   "ข้าต้องอยู่กับแม่ข้าที่ลพบุรีน่ะซิ"

   คินตาตอบคำถามนี้อย่างคล่องแคล่วเพราะถูกจอมทัพสอนมาเมื่อคืน ซึ่งจักรกวินที่ได้ยินคำตอบนั้นก็เผลอขมวดคิ้วแล้วถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัย

   "แล้วมาคราวนี้น้องคินตาอยู่กี่วันเล่า"

   "ไม่มีกำหนด"

   คินตาตอบแค่นั้นพร้อมกับยกน้ำชาขึ้นมาดื่มก่อนจะแอบกระซิบกับตัวเองอย่างแผ่วเบา

   "จนกว่าจะหาทางกลับบ้านได้"

   "น้องคินตาพูดว่าอะไรนะ"

   จักรกวินถามอย่างสงสัยพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพราะเห็นอีกฝ่ายแอบบ่นอะไรอยู่คนเดียวทำให้คินตารีบผลักหน้าอีกฝ่ายออกไปด้วยความรังเกียจ

   "ไม่มีอะไร อย่ายื่นหน้ามาแบบนี้ซิท่านออกขุน"

   บ่นแบบนั้นพร้อมกับยกมือขึ้นมาลูบแขนตัวเองอย่างขนลุก

   "ขนลุกขนพองไปหมด"

   "โธ่!"

   จักรกวินมีสีหน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่าย

   "อย่าทำท่าทางแบบนั้นใส่ข้าซิน้องคินตา"

   "แล้วไม่ต้องเรียกข้าว่าน้องด้วย"

   คินตาทำตาโตใส่แล้วสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ชอบใจ

   "ฟังแล้วสยดสยอง"

   "น้อง..."

   ยังไม่ทันที่จักรกวินจะได้ง้ออีกฝ่ายเพิ่มเติมก็มีเสียงเรียกร้องมาจากทางด้านหลังของของเรือนพร้อมใครบางคนที่คุ้นเคยกำลังเดินตรงเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว

   "พี่จักร~"



******************มีต่อค่ะ*******************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-11-2019 22:06:12



   หมับ!

   "พี่จักรมาที่เรือนเพราะคิดถึงพลอยใช่ไหมเจ้าคะ"

   พลอยปภัสเดินเข้ามากอดแขนจักรกวินด้วยน้ำเสียงและท่าทางที่ออดอ้อนทำให้จักรกวินทำสีหน้าหนักใจ

   "แม่พลอย พี่ว่าปล่อยแขนพี่ก่อนดีกว่าไหม"

   "ไม่เอาเจ้าค่ะ พลอยไม่ปล่อย"

   พลอยปภัสตอบอย่างดื้อดึงพร้อมเชิดหน้าใส่คู่หมั้นคู่หมายของน้องสาวก่อนจะสะดุดตากับคนแปลกหน้าที่แม้จะหน้าตาหล่อแต่มาอยู่ที่เรือนของตนได้ยังไง

   "ใครกันเจ้าคะ เพื่อนพี่จักรกับคุณหลวงหรือเจ้าคะ"

   "อ้าว! เจ้าไม่รู้จักคินตาหรอกหรือ"

   จักรกวินทำหน้าตาเหวอพร้อมกับมองหน้าคนที่เกาะแขนตัวเองอยู่อย่างสงสัยซึ่งพลอยปภัสก็รีบส่ายหน้าทันที

   "พลอยจะไปรู้จักได้ยังไงเจ้าคะ"

   "คนนี้คือคืนตาหลานชายท่านเจ้าคุณจอมทัพ พ่อของเจ้าไง"

   แทนกานต์ตอบเสียงเรียบพร้อมจ้องมองไปยังคินตาที่พยายามทำสีหน้าปกติแต่คำตอบนั้นทำให้พลอยปภัสขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "หลานชายคุณพ่ออย่างนั้นหรอ ทำไมข้าถึงไม่เคยเห็นมาก่อน"

   "เจ้าอาจจะลืมรึเปล่า"

   คินตาตอบกลับด้วยน้ำเสียงปกติทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำให้พลอยปภัสขมวดคิ้วอย่างขัดใจ

   "แต่ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้า!"

   "แม่พลอยอาจจะลืมไปแล้วก็ได้นะ"

   จักรกวินช่วยไกล่เกลี่ยทำให้พลอยปภัสใจเย็นลงพร้อมมองไปยังคนที่อายุน้อยกว่าอย่างไม่พอใจ

   "ข้าอายุมากกว่าเจ้านะ ทำไมถึงพูดจาห้วนแบบนั้น"

   "ข้าขอโทษขอรับพี่พลอย"

   คินตาตีเนียนตามน้ำไปอย่างไหลลื่นก่อนจะเหลือบไปเห็นจอมทัพและพัณณิตาที่เดินออกมาจากห้องพอดี

   "ถ้าไม่เชื่อพี่พลอยก็ลองถามคุณลุงดูซิขอรับ"

   "มีอะไรกันรึพ่อคินตา ทำไมเสียงดังไปทั้งเรือน"

   พัณณิตาถามอย่างสงสัยก่อนที่คินตาจะส่ายหน้าแล้วเดินเข้ามากอดอย่างเอาใจ

   "ไม่มีอะไรหรอกขอรับคุณป้า แค่พี่พลอยเข้าใจหลานผิดไปหน่อย"

   "มีอะไรสงสัยรึแม่พลอย"

   จอมทัพมองลูงสาวคนโตของตนเองด้วยสายตาสงสัยทำให้พลอยปภัสรีบแสร้งยิ้มหวานมาให้อย่างเอาใจทันที

   "พลอยแค่ไม่แน่ใจว่าเคยรู้จักคินตาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   "คินตาคือลูกของแม่กิ่งแก้วน้องสาวของพ่อที่ลพบุรีและยังไม่เคยมาที่นี่เลย ไม่แปลกที่เจ้าจะไม่เคยเห็น"

   จอมทัพอธิบายอย่างรวดรัดซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่แพรวพรรณรายเดินขึ้นมาบนบ้านพอดี

   "แม่กิ่งแก้วมีลูกด้วยหรือเจ้าคะคุณพี่ ทำไมน้องถึงไม่รู้ล่ะ"

   "เจ้าไม่ได้ไปเจอตั้งนานอาจจะไม่รู้ อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับพาขวัญเลยล่ะ"

   จอมทัพหันมาอธิบายก่อนจะทำเนียนเปลี่ยนเรื่องทันที

   "แล้วแม่แพรวไปไหนมารึ ทำไมถึงออกจากเรือนไปตั้งแต่เช้า"

   "น้องไปทำธุระมาน่ะเจ้าค่ะคุณพี่"

    แพรวพรรณรายตอบพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นจ้องมองคินตาที่ยกมือไหว้ด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร

   "ทำไมไม่เห็นเหมือนแม่กิ่งแก้วเลย"

   "คือ..."

    คินตาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาด้วยสีหน้าท่าทางปกติ

    "ข้าหน้าตาเหมือนพ่อน่ะขอรับคุณป้า"

   "ใครเป็นป้า!" แพรวพรรณรายขมวดคิ้วแล้วขึ้นเสียงอย่างหงุดหงิด "ฉันอายุเท่ากับแม่กิ่งแก้ว เพราะฉะนั้นเรียกน้าพอ"

   "ขอรับคุณน้า"

    คินตาตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างทั้งที่อยากจะหัวเราะออกมาที่แกล้งอีกฝ่ายได้สำเร็จก่อนจะเดินไปนั่งข้างพัณณิตาแล้วคอยนวดแขนให้อย่างเอาใจ

   "หลานนวดให้คุณป้านะขอรับ"

    "ดีเลย ป้ากำลังปวดเมื่อยพอดี"

   พัณณิตายิ้มกว้างก่อนจะเอามือมาลูบผมของคินตาอย่างเอ็นดู ท่ามกลางสายตาของแพรวพรรณรายมองมาตลอดเวลาอย่างจับผิด ซึ่งจอมทัพเห็นว่าไม่เป็นการดีจึงชวนเปลี่ยนเรื่อง

   "แล้วนี่แม่พาขวัญหายไปไหนเสียล่ะ ข้านึกว่าจะนั่งคุยกับพวกเจ้าเสียอีก"

   "ข้าขอให้พาขวัญทำอาหารให้ทานน่ะขอรับ ตอนนี้คงจะอยู่ที่เรือนครัว"

   แทนกานต์ที่นั่งเงียบมานานตอบคำถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบซึ่งนั่นทำให้พัณณิตาอมยิ้มออกมาอย่างถูกอกถูกใจ

   "พ่อแทนอยากกินรสมือน้องขนาดนั้นเลยหรอจ๊ะ"

   "ขอรับ"

   แทนกานต์ตอบคำถามแค่นั้นก่อนที่จักรกวินจะพูดแทรกขึ้นมา

   "ข้าก็อยากกินเหมือนกันขอรับคุณป้า"

   "พี่จักรอยากจะกินอะไรเจ้าคะ เดี๋ยวพลอยลงมือทำให้พี่จักรกินทุกอย่างเลย"

   พลอยปภัสกอดแขนเกร่งนั่นอย่างเอาอกเอาใจจนจักรกวินหน้าซีดลงเมื่อนึกถึงฝีมือการทำอาหารของอีกฝ่ายที่เผลอกินเข้าไปอย่างไม่ได้ตั้งใจเมื่อตอนปีกลายที่แล้ว

   "พี่ว่าอย่าทำดีกว่านะ"

   "ทำไมล่ะเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสมุ่ยหน้าลงอย่างแง่งอนทำให้จักรกวินยิ้มแห้งท่ามกลางเสียงหัวเราะของพวกบ่าวไพร่ที่พากันกลั้นขำทั้งเรือน

   "เจ้าเหมาะจะนั่งเฉยที่สุดแล้วล่ะแม่พลอย"

   "จริงหรือเจ้าคะ"

   พลอยปภัสยิ้มกว้างพร้อมกระชับแขนที่กอดไว้ให้แน่นกว่าเดิม

   "ถ้าอย่างนั้นพลอยขอนั่งข้างพี่จักรนะเจ้าคะ"

   "เอ่อ...คือ..."

    จักรกวินอึกอักพร้อมเหลือบมองจอมทัพอย่างเกรงใจ

   "ปล่อยก่อนเถอะแม่พลอย คุณลุงมองอยู่นะ"

   "พี่จักร..."

   พลอยปภัสกำลังจะแย้งแต่เสียงของจอมทัพขัดขึ้นมาซะก่อน

   "แม่พลอย! ปล่อยพ่อจักรแล้วมานั่งข้างพ่อนี่มา"

   "เจ้าค่ะ!"

   พลอยปภัสปล่อยแขนแล้วเดินมานั่งข้างผู้เป็นพ่อด้วยใบหน้าบึ้งตึง ท่ามกลางความโล่งใจของจักรกวินที่เอามือขึ้นมาลูบอกอย่างลืมตัว






    ทางด้านของจอมขวัญก็เดินดูข้าวของเครื่องปรุงในเรือนครัวมากมายเต็มไปหมดจนไม่รู้จะทำอาหารอะไรไว้ให้พวกกลุ่มคนที่รออยู่บนเรือนนั้นกินดี ซึ่งหวานเองก็ช่วยเจ้านายตัวเองคิดตลอดเวลาจนเริ่มเป็นกังวล

   "คุณหนูจะทำอะไรดีเจ้าคะ หวานคิดจนปวดหัวไปหมดแล้วนะเจ้าคะ"

   "นั่นซิ อาหารอะไรนะที่เหมาะกับจะกินในวันที่อากาศร้อน"

    จอมขวัญเดินออกมานั่งลงบนแคร่พรางคิดอย่างหนักก่อนจะเหลือบไปเห็นพวกบ่าวไพร่กำลังซาวข้าวจากกระชอนกันอยู่จึงยิ้มหวานออกมาเมื่อนึกถึงอาหารที่คุณย่าชอบทำให้ตอนหน้าร้อน




...


   '...ฤดูร้อนก่อนเก่าทำข้าวแช่

   น่าชมแต่เครื่องกับสำรับฉัน

   ช่างทำเป็นดอกจอกและดอกจันทน์

   งามจนชั้นกระชายทำเหมือนจำปา

   มะม่วงดิบหยิบดูจึงรู้จัก

   ช่างน่ารักทำเป็นเช่นมัจฉา...'



   "กลอนอะไรครับคุณยาย เพราะจังเลย"

   จอมขวัญวัยห้าขวบเกาะขอบของห้องครัวที่เอาเก้าอี้มาต่อขาเพื่อจะมองดูคุณย่าที่อมยิ้มแล้วทำอาหารตรงหน้าอย่างบรรจงแต่ก็ตอบคำถามหลานชายตัวน้อยด้วยความเอ็นดู

   "กลอนนี้มาจากบทกวีรำพันพิลาปของท่านสุนทรภู่จ้ะ"

   "คุณยายกำลังทำอะไรอ่ะครับ หอมจัง"

   จอมขวัญถามขึ้นมาอย่างสนอกสนใจทำให้ผู้เป็นย่ายิ้มออกมาอย่างเอ็นดู

   "ข้าวแช่น่ะลูก คนสมัยก่อนนิยมกินในหน้าร้อน อร่อยชื่นใจแถมคลายร้อนได้อีกนะ"

   "ว๊าว~"

   จอมขวัญทำตาเปล่งประกายก่อนจะเอียงตัวมากอดเอวย่าตัวเองอย่างออดอ้อน

   "จอมอยากกินจังเลยครับคุณย่า"

   "ถ้าอยากกินจอมต้องมาช่วยย่าทำนะครับ เข้าใจไหม"

    มือที่เหี่ยวย่นไปตามวัยเอื้อมมือมาหยิกแก้มป่องของหลานชายอย่างหมั่นเขี้ยวซึ่งจอมขวัญก็รีบตอบรับอย่างกระตือรือร้น

   "ได้เลยครับผม"


...




   "หวาน"

   จอมขวัญหันมายิ้มให้กับคนรับใช้คนสนิทจนตาหยี

   "ข้าคิดออกแล้วว่าจะทำอะไรดี"

   "อะไรหรือเจ้าคะ"

   หวานเอียงคอถามด้วยความอยากรู้ทำให้จอมขวัญอมยิ้มพร้อมกับตอบออกมาด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "ข้าวแช่"

   "ข้าวแช่หรือเจ้าคะ!" หวานยกมือขึ้นมาทาบตรงหน้าอกอย่างตกอกตกใจ "คุณหนูทำเป็นด้วยหรือเจ้าคะ"

   "จอมขวัญหลานย่าจอมจันทร์ซะอย่าง"

   จอมขวัญยิ้มกว้างออกมาอย่างสนุกสนานด้วยแววตาที่เปล่งประกายไปด้วยความตื่นเต้นเพราะไม่ได้ทำมานาน

   "แถมอร่อยมากด้วยนะ"

   "ดีงามเจ้าค่ะ"

   หวานอมยิ้มตรงมุมปากอย่างเห็นดีเห็นงามก่อนจะถามเจ้านายของตัวเองอย่างเอาใจ

   "ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวหวานไปจัดการกับพวกบ่าวไพร่ให้นะเจ้าคะ"

   "ขอบใจนะจ๊ะหวาน"

   จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะเดินตามหวานเข้าไปในเรือนครัวอีกครั้งพร้อมแบ่งงานพวกบ่าวไพร่   ก่อนจะเดินไปคัดเมล็ดข้าวที่บ่าวคนหนึ่งกำลังซาวจนได้มาพอประมาณซึ่งจอมขวัญนำข้าวที่คัดแล้วนั้นใส่ลงไปในน้ำที่เดือดจัด ต้มจนข้าวข้างนอกพอสุกจึงบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยเพื่อขจัดกลิ่น รอจนเม็ดข้าวขาวจึงให้บ่าวนำข้าวในหม้อนั้นมาเทใส่กระชอนจนสะเด็ดน้ำแล้วนำไปแช่ในน้ำฝนที่โรยไปด้วยดอกมะลิ และนำไปนึ่งบนผ้าขาวบางในหม้อดินเผาที่จุดควันเทียนเอาไว้ที่ก้นหม้อ

   ก่อนที่จะเดินไปตักน้ำฝนที่ใส่ไว้ในคนโทดินเผานั้นลงไปในหม้อดินเผาจนพอประมาณตามด้วยดอกมะลิโลยลงไปในน้ำ ดอกกุหลาบ และปิดท้ายด้วยดอกชมนาด จากนั้นนำควั่นเทียนอบมาวางไว้ในกะลาขนาดเล็กก่อนจะจุดไฟแล้วนำไปลอยน้ำในหม้อนั้นก่อนจะปิดฝาเพื่อเป็นการอบควันเทียน

   หลังจากจัดการเรื่องข้าวเสร็จแล้วจึงหันมาสนใจเครื่องเคียงที่มีหลากหลายทั้งลูกกะปิที่ด้านนั้นมีปลาช่อนย่าง ตะไคร้ กระชายบด หัวหอม กะปิ ผสมคลุกเคล้าไปกับหัวกะทิแล้วนำมาปั้นเป็นลูกกลมขนาดพอดีคำก่อนจะชุบไข่และนำไปทอดจนสีเหลืองทอง  พริกหยวกสอดไส้ปลาเค็มที่ห่อด้วยไข่ที่โรยเป็นตาข่ายในกระทะอย่างสวยงาม   หัวหอมทอดที่นำหอมมาปอกและผ่ากลางสอดไส้กะปิและปลาแห้งชุบแป้งทอดให้เหลืองกรอบ   นอกจากนี้ยังมีปลายี่สนผัดหวานและปลาหวานฝอยมาเป็นเครื่องเคียงอีกด้วย

   หลังจากทำเครื่องเคียงเสร็จแล้วก็หันมาจัดจานด้วยกระชายที่แกะสลักเป็นรูปดอกจำปา ต้นหอมจัดรวมกันเป็นรูปคล้ายดอกไม้ มะม่วงเขียวเสวยดิบรสชาติเปรี้ยวแกะสลักเป็นรูปกลีบใบไม้ พริกชี้ฟ้าแดงนำมาแกะสลักไว้อย่างสวยงามจนพวกบ่าวไพร่ต่างพากันนั่งมองอย่างชื่นชม

    พอเตรียมของเสร็จเรียบร้อยก็นำอาหารทุกอย่างใส่ลงในจานกระเบื้องเคลือบที่มีลวดลายและสีสันที่สวยแปลกตาจนอดที่จะแปลกใจไม่ได้

   "เรือนเรามีจานกระเบื้องเคลือบลายแบบนี้ด้วยหรอ แถมครบชุดอีกต่างหาก"

   "คุณหลวงซื้อให้คุณหญิงตอนมาขอแต่งงานเจ้าค่ะ"

    บ่าวคนหนึ่งที่อยู่ในเรือนครัวมานานตอบคำถามด้วยรอยยิ้ม

   "เห็นว่าซื้อมาจากพ่อค้าชาวจีนด้วยนะเจ้าคะ"

   "คุณพ่อนี่โรแมนติกดีจัง"

   จอมขวัญพึมพัมในลำคอพร้อมกับยิ้มหวานออกมาอย่างน่ารักทำให้พวกบ่าวไพร่พากันอมยิ้มด้วยความเอ็นดู

   ก่อนจะตักข้าวที่นึ่งจนหอมแล้วใส่จานตามมาด้วยน้ำที่นำมาปรุงด้วยกลิ่นของดอกไม้ที่อบด้วยควันเทียนจนส่งกลิ่นหอมไปทั้งเรือนครัวและปิดท้ายด้วยการโรยด้วยดอกมะลิ กลีบดอกกุหลาบ และกลีบดอกบัวเพื่อเพิ่มสีสันสดใสอีกครั้ง ทำให้บ่าวไพร่พากันกลืนน้ำลายด้วยความหิวกับกลิ่นหอมแบบนั้น

    หลังจากเตรียมของคาวเสร็จแล้วก็ต้องมานั่งคิดถึงของหวานซึ่งเป็นคนรับใช้คนสนิทและบ่าวรับใช้ต่างนั่งรอคำสั่งจากคุณหนูคนเล็กของเรือนที่กำลังนั่งคิดอย่างเคร่งเครียดอีกรอบ

   "ขนมหวานจะทำเป็นอะไรดีเจ้าคะคุณหนู"

   "นั่นซิ ขนมหวานจะทำเป็นอะไรดีนะ"

    จอมขวัญขมวดคิ้วร้อมกับนึกถึงขนมหวานที่ไม่หนักพวกน้ำกะทิจนเกินไปก่อนจะเหลือบไปเห็นต้นโสนที่มีดอกสีเหลืองบานเต็มต้นไปหมด

   "นึกออกแล้ว ข้าจะทำขนมดอกโสน"

   "ดอกโสนมาทำเป็นขนมได้ด้วยหรือเจ้าคะ"

    พวกบ่าวไพร่ต่างหันมามองด้วยสายตางุนงงทำให้จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างร่าเริง

   "แน่นอน แถมอร่อยด้วยนะ"

   "พวกเองอย่างพึ่งงงเลย รีบไปเก็บดอกโสนมาเถอะ ป่านนี้พวกคุณบนเรือนรอนานแล้วกระมั้ง"

   หวานเร่งบ่าวไพร่ไปเก็บดอกโสนซึ่งไม่นานนักก็ได้กลับมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งจอมขวัญนั้นจัดการร่อนแป้งในกระชอนเสร็จพอดีจึงนำดอกโสนมาพรมน้ำฝนจนพอชื้นแล้าคลุกเคล้าเข้ากับแป้งที่ผสมน้ำตาลปีบ  แล้วนำหัวกระทิที่บ่าวไพร่คนเรียบร้อยมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน  หลังจากนั้นจึงเทไปบนผ้าขาวบางที่ชุบน้ำพอหมาดก่อนจะนำไปนึ่งในหม้อดินเผา เมื่อสุกแล้วจึงนำขนมมาใส่ชามกระเบื้องพร้อมโรยหน้าด้วยน้ำตาลทรายและมะพร้าวที่ขูดจนเป็นเส้นเล็กที่นำไปคลุกเคล้ากับเกลือซึ่งหน้าตาและสีสันของขนมชนิดนี้น่ารับประทานมากจนพวกบ่าวไพร่ต่างมองกันตาเป็นมัน






    เมื่อเตรียมสำรับอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วจอมขวัญจึงเดินมาพร้อมกับพวกบ่าวไพร่ถือสำรับอาหารเดินตามมากันมาหลายคน ก่อนจะนำมาวางตรงโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถอยไปนั่งก้มหน้าอยู่แถวมุมหนึ่งของเรือนอย่างเรียบร้อย

   ซึ่งทุกคนก็พากันสนใจอาหารตรงหน้าที่ไม่ค่อยจะได้ทำกินกันบ่อยนัก ทำให้พัณณิตามองอาหารตรงหน้าอย่างปลื้มอกปลื้มใจ

   "ลูกแม่ทำข้าวแช่อย่างนั้นหรือ หน้าตาน่ากินเชียว"

   "เจ้าค่ะคุณแม่ เห็นคุณหลวงบ่นว่าร้อนเลยลองทำข้าวแช่ดูน่ะเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตอบก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้กับแทนกานต์ที่ก้มลงไปสูดดมกลิ่นหอมของอาหารตรงหน้า

   "ทานให้อร่อยนะเจ้าคะคุณหลวง"

   "หอม"

   แทนกานต์เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับตักน้ำข้าวแช่เข้าปากทำให้รับรู้ถึงความหอมหวานที่คลุ้งจนมองมาที่คู่หมั้นคู่หมายด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "หอมมาก เจ้าใส่ดอกชมนาดด้วยรึ"

   "เจ้าค่ะ คุณหลวงรู้ด้วยหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญชะงักเล็กน้อยก่อนจะหน้าแดงเพราะคำตอบของอีกฝ่าย

   "ข้าขอบกลิ่นหอมของดอกชมนาด เจ้าเก่งมากที่นำมาทำให้น้ำของข้าวแช่มีกลิ่นที่หอมและหวานมากแตกต่างจากที่เคยได้กินมา"

   "คุณหลวงก็พูดเกินไปเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงจัดพร้อมก้บก้มหน้าทานข้าวด้วยท่าทางที่เขินอายท่ามกลางร่างสูงที่ยิ้มออกมาอย่างกรุ่มกริ่ม

   "แต่พี่น่ะชอบหัวหอมทอดของน้องพาขวัญมากเลยนะ รสชาติแสนจะนุ่มนวลหอมละมุนไม่แข็งกระด้างเลยล่ะ"

   จักรกวินไม่ยอมแพ้พูดแทรกพร้อมกับยิ้มกว้างมาให้อย่างเอาใจ ทำให้คินตาแอบเบะปากก่อนจะชมฝีมือการทำอาหารของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้กินมานาน

   "ลูกกะปิมีรสเข้มข้นและมีกลิ่นหอมมากเหมือนเดิมเลยนะ"

   "ข้าทำซะอย่างจะไม่อร่อยได้ยังไงล่ะ"

   จอมขวัญยิ้มกว้างก่อนจะตักพริกหยวกสอดใส่ไปวางในจานของพัณณิตาอย่างเอาอกเอาใจ

   "คุณแม่ทานให้หมดเลยนะเจ้าคะ"

   "ขอบใจนะลูก พาขวัญลูกแม่นี่ฝีมือการทำอาหารพัฒนาขึ้นเยอะมากเลยนะ"

   พัณณิตายกมือขึ้นมาลูบผมลูกตนเองอย่างรักใคร่พร้อมหันไปถามว่าที่คู่หมั้นลูกตัวเองอย่างเอาใจ

   "อร่อยไหมจ๊ะพ่อแทน"

   "อร่อยขอรับ"

   แทนกานต์อมยิ้มพร้อมกับหันเอ่ยชมจอมขวัญด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "ฝีมือการทำอาหารของเจ้าได้ชิมกี่ครั้งก็อร่อยเหมือนเดิม"

   "ถ้าอย่างนั้นพ่อแทนก็มาชิมฝีมือของน้องทุกมื้อเลยก็ได้นะจ๊ะ"

   พัณณิตาเอ่ยออกมาอย่างกระตือรือร้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปากอย่างถูกใจ

   "ถ้าคุณป้าไม่ว่าอะไร ข้าจะมาทานทุกมื้อเลยขอรับ"

   "ไม่ว่าหรอกจ้ะ"

   พัณณิตายิ้มกว้างพร้อมกับลูบหลังลูกสาวตัวเองอย่างตื่นเต้น

   "หรือพ่อแทนจะย้ายมานอนที่นี่ก็ได้นะ น้องจะได้มีเพื่อนคุยด้วยไง

   "อะแฮ่ม!'

   "อะไรติดคอเจ้าคะคุณพี่"

   พัณณิตาเหลือบตามองด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะมองข้าวในจานของอีกฝ่ายที่พล่องไปเกือบครึ่ง

   "แต่คุณพี่ทานเยอะแบบนี้แสดงว่าอาหารของลูกเราอร่อยใช่ไหมเจ้าคะ"

   "อร่อยมาก" จอมทัพเอ่ยชมบ้างพร้อมยกมือลูบผมสวยด้วยความเอ็นดู "ฝีมือของลูกสู้ระดับพวกนางในวังหลวงได้เลยนะ"

   "คุณพ่อก็พูดเกินไปเข้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มหวานออกมาอย่างเขินอายก่อนจะลงมือทานอาหารด้วยความดีใจที่ทุกคนนั้นถูกปาก แต่ทว่าพลอยปภัสกลับไม่แตะต้องอาหารแถมทำท่าทางพะอืดพะอมจนต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกทำให้จอมทัพหันมามองด้วยความเป็นห่วง

   "แม่พลอย ทำไมไม่กินข้าวล่ะลูก"

   "เหม็น!"

   กึก

   "เหม็นอะไรรึแม่พลอย"

   จอมทัพถามออกมาอย่างสงสัยพร้อมกับคนที่อยู่ตรงนั้นพากันชะงักมือที่กำลังตักอาหาร ทำให้พลอยปภัสที่กำลังยกมือขึ้นมาปิดปากนั้นหลบสายตาแล้วทำเป็นเลื่อนจานไปด้านหน้าด้วยท่าทางรังเกียจ

   "พลอยเหม็นกลิ่นกะปิน่ะเจ้าค่ะคุณพ่อ"

   "ข้าทำกลิ่นไม่แรงนะเจ้าคะพี่พลอย" จอมขวัญก้มหน้าดมลูกกะปิที่ตนเองทอดอีกครัง "หอมกำลังดีเลย"

   "แต่พี่เหม็น"

   พลอยปภัสทำตาขวางพร้อมทั้งกอดแขนจักรกวินอย่างออดอ้อน

   "พี่จักรกินเข้าไปได้อย่างไรเจ้าคะ เดี๋ยวท้องเสียหรอก"

   "แม่พลอย"

   จักรกวินเอ็ดพร้อมเลื้อมมือมาแกะมือบางออกพร้อมมองหน้าพวกผู้ใหญ่อย่างเกรงใจ

   "เจ้าไปพูดแบบนั้นเดี๋ยวน้องพาขวัญเสียใจนะ"

   "พลอยไม่สน"

   พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่งทำให้จอมขวัญแอบถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

   "เรื่องเท่านี้ไม่เสียใจหรอกเจ้าค่ะ เดี๋ยววันหลังน้องจะทำให้กลิ่นน้อยกว่านี้ดีไหมเจ้าคะพี่พลอย"

   "ดีจ้ะ"

    พลอยปภัสเชิดหน้าพร้อมขยับไปกอดแขนจักรกวินอย่างเอาอกเอาใจ

   "พี่จักรทานผักดีกว่านะเจ้าคะ หรือจะเอาปลายี่สนผัดหวานดีไหมเจ้าคะ"

   "พี่ชอบกินลูกกะปิมากกว่า"

    จักรกวินยิ้มแห้งพร้อมตักลูกกะปิมากินทำให้พลอยปภัสขยับตัวออกห่างพร้อมทำหน้าตาสะอิดสะเอียน ซึ่งพอรู้แบบนั้นร่างสูงจึงตักมากินอีกหลายต่อหลายคำทำให้พวกบ่าวไพร่พากันหัวเราะในลำคออย่างขบขัน



    หลังจากทานอาหารคาวกันเสร็จแล้วจอมขวัญจึงพยักหน้าให้พวกบ่าวไพร่พากันนำขนมหวานขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะจนครบซึ่งทุกคนต่างจ้องมองด้วยความแปลกใจยกเว้นแทนกานต์เลิกคิ้วพร้อมกับแอบอมยิ้มตรงมุมปากเล็กน้อย

   "ขนมดอกโสน"

   "ใช้แล้วเจ้าค่ะ ข้าทำขนมดอกโสนมาให้ซึ่งมีสรรพคุณแก้พิษร้อนถอนพิษไข้ได้"

    จอมขวัญยิ้มหวานพร้อมกับมองหน้าแทนกานต์ด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "ข้าตั้งใจทำมากเลยนะเจ้าคะ เห็นคุณหลวงบนว่าร้อนน่ะเจ้าค่ะ"

   "เจ้าช่างรู้ใจข้ายิ่งนัก จำได้ด้วยหรือว่าข้าชอบกินดอกโสน"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างกลับไปพร้อมตักขนมเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

   "ช่างอร่อยยิ่งนัก"

   "เอ่อคือ..."

   จอมขวัญอ้ำอึ้งเพราะไม่คิดว่าจะเป็นของโปรดของอีกฝ่าย จนกระทั่งพัณณิตาเอื้อมมือมาจับต้นแขนเรียกสติอย่างแผ่วเบาพร้อมคะยั้นคะยอให้ตอบอย่างถูกอกถูกใจ

   "พี่เขาเอ่ยชมขนาดนี้ ตอบอะไรไปหน่อยซิลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญชะงักเล็กน้อยก่อนจะยิ้มหวานตอบกลับไปด้วยสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

   "ข้าตั้งใจทำขนมชนิดนี้มาก เห็นคุณหลวงชื่นชอบแบบนี้ข้าก็ดีใจเจ้าค่ะ"

   "ข้าชอบมากเลยล่ะ"

    แทนกานต์ยิ้มตรงมุมปากแล้วตักขนมทานต่อด้วยสายตาแพรวพราวทำให้จอมขวัญหน้าร้อนขึ้นมาเล็กน้อย พอเห็นท่าทางแบบนั้นทำให้คินตาขมวดคิ้วก่อนจะเรียกร้องความสนใจจากเพื่อนสนิทบ้าง

   "แต่คินก็ชอบขนมดอกโสนมากเหมือนกันนะ วันหลังทำขนมคุ้กกี้ให้กินอีกบ้างซิ"

   "คุก...คุกกี้รึ"

   พัณณิตาขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "คุกกี้คือขนมใดกัน ข้าไม่เคยเห็นจะได้ยิน คุณพี่เคยได้ยินไหมเจ้าคะ"

   "ข้าไม่เคยได้ยินเช่นเดียวกัน"

   จอมทัพขมวดคิ้วมาจนแถบจะติดกันด้วยความงุนงง

   "แถมชื่อช่างประหลาดนัก"

   "คือขนมใดกันรึน้องพาขวัญ"

   จักรกวินถามขึ้นมาอย่างสนใจผิดกับแทนกานต์ที่ขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่ชอบใจนักทำให้จอมขวัญเอื้อมมือไปหยิกเอวเพื่อนสนิทก่อนจะตอบคำถามทุกคนด้วยรอยยิ้ม

   "คินตาคงจะหมายถึงขนมโสมนัสน่ะเจ้าค่ะ"

   "อ๋อ ขนมโสมนัสนี่เอง"

   ทุกคนในที่นั้นต่างพยักหน้าอย่างเข้าใจในชื่อขนมที่หากินได้ยากเพราะวิธีการทำนั้นลำบากพอสมควร พัณณิตาจึงลูบผมลูกสาวตนเองอย่างชื่นชม

   "ลูกพาขวัญของแม่ทำขนมโสมนัสเป็นด้วยรึ"

   "แค่ลองทำให้คินตาลองชิมดูน่ะเจ้าค่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานก่อนจะอึ้งไปเล็กน้อยเมื่อถูกพัณณิตาคะยั้นคะยออีกครั้ง

   "วันหลังทำให้พี่แทนกานต์เขากินด้วยซิลูก"

   "ลูกกลัวคุณหลวงจะไม่ว่างลองชิมน่ะซิเจ้าคะ"

   จอมขวัญพูดเลี่ยงแต่ท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มตรงมุมปากพร้อมพูดอวดขึ้นมาบ้าง

   "ข้าว่างพอที่จะชิมฝีมือขนมของเจ้าอยู่แล้ว แถมขนมลำเจียกที่เจ้าแอบห่อให้ข้าเมื่อวันก่อนนั้นพ่อกันต์นิษฐ์ชื่นชอบมากเลยล่ะ"

   "กันต์นิษฐ์?"

   จอมขวัญขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจทำให้จอมทัพอธิบายด้วยท่าทางที่เอ็นดู

   "กันต์นิษฐ์ น้องชายของพ่อแทนกานต์น่ะ ตอนนี้อายุได้กี่ขวบปีแล้วรึพ่อแทน"

   "ห้าขวบขอรับ"

   แทนกานต์ยิ้มกว้างพร้อมกับมองคนน่ารักที่ยังทำหน้าตางุนงงไม่หาย

   "แล้ววันหลังข้าจะพาพ่อกันต์นิษฐ์มาเล่นกับเจ้าที่เรือนบ้างก็แล้วกันนะพาขวัญ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญยิ้มแห้งเพราะยังประติดประต่อเรื่องไม่ค่อยถูกซักเท่าไหร่ ส่วนจักรกวินนั้นกำลังจะพูดแทรกขัดจังหวะก็โดนพลอยปถัสเบียดเข้ามามากกว่าเดิมพร้อมหยิบขนมดอกโสนมาจะป้อนให้อย่างเอาอกเอาใจ

   "พี่จักรทานเถิดเจ้าค่ะ เดี๋ยวน้องป้อน"

   "ไม่เป็นไรแม่พลอย"

    จักรกวินส่ายหน้าพร้อมดันมือขาวนั้นไปให้พ้นจากหน้าของตัวเอง

   "อิ่มแล้วน่ะ"

   "ขนมไม่ถูกปากหรือเจ้าคะ ทำไมพี่จักรอิ่มเร็วล่ะ"

   พลอยปภัสแกล้งพูดเสียงดังพร้อมปลายตามองไปยังน้องสาวต่างมารดาอย่างเยาะเย้ยทำให้จักรกวินรีบแก้ตัวทันที

   "ไม่ใช่ขนมน้องพาขวัญไม่อร่อยนะ แต่พอดีพี่ติดราชการพอดีน่ะ"

   "ถ้าเช่นนั้นก็รีบไปเถิดพ่อจักร"

   พัณณิตาสนับสนุนให้ลงจากเรือนทำให้จักรกวินหน้าเสียเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้ผู้ใหญ่ของเรือนอย่างนอบน้อม

   "ข้าลาแล้วขอครับคุณหลวง คุณป้าพัณ คุณป้าแพรว"

   "โชคดีนะพ่อจักร"

    จอมทัพพยักหน้ารับพร้อมตักขนมเข้าปากทำให้จักรกวินหันมายิ้มหวานให้กับจอมขวัญด้วยความเสียดาย

   "พี่ไปแล้วนะน้องพาขวัญ ไว้เดี๋ยวจะมาเยี่ยมอีก"

   "เจ้าค่ะออกขุนจักร"

   จอมขวัญยิ้มรับตามมารยาททำให้จักรกวินยิ้มกว้างเดินลงจากเรือนไปด้วยท่าทางมีความสุขทำให้พลอยปภัสกำมือแน่นด้วยความไม่พอใจก่อนที่แพรวพรรณรายจะเอื้อมมือดันหลังลูกตนเองอย่างแผ่วเบา

   "มัวทำไรอยู่ล่ะแม่พลอย ทำไมไม่ลงไปส่งท่านออกขุนเขาล่ะลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   พลอยปภัสยิ้มกว้างก่อนจะรีบเดินลงไปจากเรือนด้วยท่าทางรีบร้อน  ทุกคนจึงหันกลับมาสนใจขนมหวานตรงหน้าอีกครั้ง

   จนกระทั้งพัณณิตาเอ่ยถึงฝีมือการทำอาหารของลูกตนเองอย่างขื่นชมอีกครั้ง

   "แต่จะพูดไปฝีมือการทำอาหารและขนมหวานของแม่พาขวัญนี่พัฒนาขึ้นไปมากโขเลยนะเจ้าคะคุณพี่"

   "ถูกต้องแล้วล่ะแม่พัณ"

    จอมทัพพลอยยิ้มตามและสนับสนุนคำชมนั้นอย่างภูมิใจทำให้แพรวพรรณรายเอ่ยแรกขึ้นมาบ้าง

   "แม่พลอยก็ทำขนมอร่อยนะเจ้าคะคุณพี่"

   "แม่พลอยน่ะรึ"

    พัณณิตายิ้มเยาะพร้อมกับแกล้งพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้แพรวพรรณรายกำมือแน่น

   "ให้จุดไฟไม่ไหม้ทั้งเรือนครัวก่อนเถิดแล้วค่อยมาทำขนม"

   "อุ๊ปส์"

   พวกบ่าวไพร่ทั้งเรือนพากันกลั้นขำไม่เว้นแม้แต่จอมทัพที่ก็พลอยเห็นดีเห็นงามจนแพรวพรรณรายวางช้อนลงอย่างแรงด้วยความขัดใจ

   "น้องอิ่มแล้วเจ้าค่ะ ขอตัวก่อนนะเจ้าคะคุณพี่"

   "เดี๋ยวซิแม่แพรว"

   จอมทัพห้ามปรามไว้ไม่ทันเพราะพอพูดจบแพรวพรรณรายก็เดินสะบัดเข้าห้องไปด้วยความคับแค้นใจ ทำให้จอมทัพมองตามหลังอย่างเป็นกังวล 

   "แม่แพรวคงจะโกรธมากที่โดนแม่พัณแกล้งพูดแบบนั้น"

   "คุณพี่อย่าไปสนใจเลยเจ้าค่ะ" พัณณิตาเอื้อมมือมาแตะแขนก่อนจะเชิญชวนให้กินขนมตรงหน้าอย่างเอาอกเอาใจ "มาทานขนมกันต่อเถอะ"

   "อืม"

    จอมทัพตอบรับด้วยน้ำเสียงในลำคอก่อนจะลงมือกินขนมหวานตรงหน้าต่อทำให้พัณณิตาเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ

    ส่วนคินตาก็ยกมือขึ้นมาลูบเอวตรงแถวที่โดนหยิกด้วยความเจ็บพร้อมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบกระซาบด้วยความแง่งอน

   "จอมหยิกคินซะเต็มแรงเลยนะ"

   "คินอยากหลุดก่อนทำไหมล่ะ"

    จอมขวัญปากยื่นใส่ก่อนจะหันมาสนใจจานกระเบื้องของแทนกานต์ที่ยื่นมาเกือบชนหน้าตัวเอง

   "คุณหลวงยื่นจานมาทำไมเจ้าคะ"

   "ตักขนมให้ข้าหน่อย"

   แทนกานต์พูดน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แอบส่งสายตาออดอ้อนจนจอมขวัญถอนหายใจแล้วรับจากกระเบื้องมาถือไว้ก่อนจะตักขนมดอกโสนใส่จานคนตรงหน้าด้วยท่าทางนุ่มนวลท่ามกลางสายตาของคู่หมั้นคู่หมายและเพื่อนสนิทที่แอบลอบมองมาตลอดเวลาด้วยสายตาหลงใหล



***************มีต่อค่ะ****************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-11-2019 22:09:47



    พอตักเสร็จแล้วก็ยื่นกลับไปให้ก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเมื่อคนตรงหน้าไม่ยอมรับจานไปซักที

   "คุณหลวง...คุณหลวงเจ้าคะ!"

   "ห๊ะ!"

    แทนกานต์สะดุ้งสุดตัวก่อนจะเอื้อมมือไปรับจานโดยแอบจับมือบางนุ่มนวลนั้นอย่างแนบเนียน

   "น่ากินมาก ขอบใจเจ้ามากนะ"

   "เจ้าค่ะ"

    จอมขวัญรีบดึงมือกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำพร้อมเหลือบมามองคินตาที่ทำหน้าตาไม่พอใจ

   "คินปวดท้องหรอ ทำไมทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ"

   "หวง"

   คินตาเผลอหลุดปากออกมาทำให้ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นพากันชะงักแล้วมองมาด้วยความสงสัย สายตาที่มองมานั้นทำให้คินตายิ้มแห้งออกมาด้วยอาการเก้อเขิน

   "ข้าหวงขนมน่ะ"

   "หวงอะไรล่ะคิน"

   จอมขวัญยิ้มหวานมาให้ด้วยสีหน้าและแววตาที่ขบขัน

   "ขนมมีตั้งเยอะ"

   "ถ้าไม่พอเดี๋ยวป้าให้พวกบ่าวไพร่ทำเพิ่มก็ได้"

   พัณณิตาเสริมขึ้นมาอย่างขบขันไม่แพ้กันทำให้คินตาตอบรับด้วยน้ำเสียงที่อายเล็กน้อย

   "ขอรับคุณป้า"

   "หึ"

   แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะลงมือตักขนมเขาปากด้วยท่าทางยียวนทำให้คินตากำมือแน่นพร้อมกับตักขนมเข้าปากด้วยความไวไม่แพ้กันโดยมีจอมขวัญนั่งมองอยู่ตรงกลางด้วยความสงสัย

    ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้จอมทัพมองด้วยสายตาขัดใจและอาการหวงลูกเริ่มกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปนาน




    ทางด้านของพลอยปภัสนั้นเร่งฝีเท้าเดินตามมาจนทันจึงเอื้อมมือไปกอดอีกฝ่ายจากด้านหลังแน่นพร้อมซบหน้าลงไปถูไถอย่างออดอ้อน

   "พี่จักรจะรีบไปไหนเจ้าคะ พลอยยังไม่หายคิดถึงเลย"

   "แม่พลอย!"

   จักรกวินขึ้นเสียงพร้อมหันซ้ายขวาด้วยกลัวว่าคนอื่นที่นอกจากบ่าวไพร่นั้นจะมาเห็น

   "ปล่อยพี่ก่อนเถิด เจ้าเป็นสาวเป็นนางนะจะมากอดผู้ชายหน้าเรือนแบบนี้มันดูไม่งาม"

   "ทำไมจะไม่งามเจ้าคะ"

   พลอยปภัสเอียงคอพร้อมขมวดคิ้วแน่นด้วยความสงสัย

   "หรือพี่จักรอายพวกบ่าวไพร่"

   "สมควรจะอายนะแม่พลอย"

   จักรกวินถอนหายใจพร้อมกับพยายามถึงมือออกแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยแถมกอดแน่นมากยิ่งขึ้นจนต้องถอนหายใจออกมาอย่างรำคาญ

   "แม่พลอย..."

   "แต่พลอยไม่อายนี่เจ้าคะ"

   พลอยปภัสพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกอดอีกฝ่ายแน่นอย่างเอาแต่ใจตัวเอง

   "พลอยคิดถึงพี่จักรมากเลยนะเจ้าคะ"

   "แม่พลอยมาพูดกับผู้ชายแบบนี้ไม่สมควรนะ"

   จักรกวินห้ามปรามอีกครั้งแต่พลอยปภัสไม่สนใจแถมซบลงกับแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าด้วยท่าทางออดอ้อน

   "พี่จักรก็รู้นี่คะว่าพลอยรักพี่จักรมากแค่ไหน"

   "แต่เจ้าก็พอรู้บ้างใช่หรือไม่ว่าพี่รักน้องพาขวัญมากแค่ไหน"

   จักรกวินมองคนตรงหน้าด้วยสายตาจริงจังปนไปด้วยความลำบากใจ

   "อย่าให้พี่ต้องพูดทำร้ายจิตใจเจ้าเลยนะแม่พลอย"

   "อะไรกันเจ้าคะ" พลอยปภัสชักสีหน้าพร้อมเอามือออกจากอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ "พี่จักรเองก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าแม่พาขวัญรักคุณหลวงน่ะ"

   "เรื่องนั้น..."  จักรกวินชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะทำท่าทีไม่รู้สึกอะไร "พี่พอจะรู้มาบ้าง"

   "พี่จักรรู้แล้วจะไปทนรักแม่พาขวัญทำไมเจ้าคะ"

   พลอยปภัสกอดอกพร้อมกับชักสีหน้าอย่างไม่พอใจก่อนจะเกาะแขนแล้วยิ้มหวานให้อีกฝ่ายอย่างออดอ้อน

   "หันมาสนใจคนใกล้ตัวอย่างพลอยไม่ดีกว่าหรือเจ้าคะ"

   "แม้พี่จะรู้ว่าแทบจะไม่มีโอกาสชนะ"

   จักรกวินแกะมือที่เกาะแขนอยู่นั้นออกไปอย่างไม่ใยดีพร้อมน้ำเสียงที่เข้มมากกว่าเดิม

   "แต่พี่ก็จะไม่ออกเรือนกับแม่พลอยเช่นเดียวกัน"

   "ทำไม่ล่ะเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสชักสีหน้าไม่พอใจและแววตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง

   "ทำไมพี่จักรถึงออกเรือนกับพลอยไม่ได้"

   "เพราะพี่ไม่ได้รักแม่พลอยไงล่ะ"

   จักรกวินตอบกลับมาทำทันทีทำให้พลอยปภัสหวีดร้องเสียงดังลั่น

   "พี่จักร!"

   "อ้ายไม้"

   จักรกวินหันไปสั่งบ่าวรับใช้ที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความขัดใจ

   "จะยืนดูอยู่ทำไมรีบไปเอาเรือมาเร็ว"

   "ขอรับ"

   ไม้รีบวิ่งไปเอาเรือที่ผูกไว้ไกลจากท่าน้ำใหญ่เล็กน้อยด้วยความเร่งรีบก่อนที่จักรกวินหันไปลาพลอยปภัสที่ทำใบหน้าบึ้งตึง

   "พี่ลาก่อนนะ พอดีมีประชุมกับกลุ่มขุนนางที่เรือนใหญ่"

   "พี่จักร..."

   พลอยปภัสเห็นจักรกวินกำลังจะเดินหนีไปก็โผเข้ากอดคนตรงหน้าอีกครั้งพร้อมกระชับอ้อมกอดแน่นไม่ยอมปล่อย

   หมับ!

   "แม่พลอย!"

    จักรกวินตกใจร้องเสียงหลงก่อนจะพยายามดึงมือบางนั้นออกจากตัวของตนเอง

   "ทำอะไรน่ะ!"

   "พลอยรักพี่จักร"

    พลอยปภัสซบหน้าลงไปก้บแผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน

   "พลอยรักพี่มาตั้งแต่เด็กแล้ว รักก่อนที่พี่จะรู้จักกับแม่พาขวัญเสียอีก"

   "ปล่อยเถอะแม่พลอย"

   จักรกวินหันซ้ายหันขวากลัวว่าใครจะมาเห็นแล้วเข้าใจผิด

   "หากท่านเจ้าคุณมาเห็นเจ้าทำตัวแบบนี้จะโดนลงหวายเอานะ"

   "พลอยไม่ปล่อย"

   พลอยปภัสส่ายหน้าแถมเพิ่มแรงกอดให้มากขึ้นกว่าเดิม

   "พลอยรักพี่จักรนะเจ้าคะ"

   "แต่พี่ไม่ได้รัก"

   จักรกวินตอบกลับอย่างรวดเร็วด้วยน้ำเสียงหนักแน่นทำให้พลอยปภัสชะงักพร้อมกับทำสีหน้าเสียใจ

   "พี่จักร..."

   "ปล่อยได้แล้ว"

   จักรกวินดึงมือบางนุ่มนิ่มออกอย่างแรงด้วยความอึดอัด

   "หากพวกบ่าวไพร่คนอื่นมาเห็นมันจะดูไม่งาม"

   "พี่..."

   พลอยปภัสกำลังจะเอื้อมมือมารั้งไว้แต่จักรกวินกลับเบี่ยงตัวหลบแล้วรีบกล่าวลาทันที

   "พี่ลาล่ะนะ"

   "เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งไปซิเจ้าคะ!"

   พลอยปภัสร้องเรียกเสียงหลงแต่จักรกวินไม่หยุดฟังแถมรีบเดินหนีขึ้นไปนั่งลงบนเรือก่อนจะหันไปสั่งไม้ด้วยน้ำเสียงเร่งรีบ

   "อ้ายไม้ออกเรือเร็ว"

   "ขอครับท่านขุน"

   ไม้รับคำสั่งพร้อมกับดันเรือออกจากท่าในจังหวะเดียวกันกับที่พลอยปภัสมาถึงตรงท่าเทียบเรือพอดีทำให้ยืนกรีดร้องกระทืบเท้าด้วยความขัดใจ

   "พี่จักร!!!"

   "คุณหนูไม่ร้องโวยวายนะเจ้าคะ"

    ฝ้ายเอื้อมมือมารั้งเจ้านายตัวเองพร้อมกับหันซ้ายหันขวาด้วยความกังวล

   "เดี๋ยวพวกบ่าวไพร่มาเห็นเข้าจะเอาไปคุยกันสนุกปากนะเจ้าคะ"

   "จะไปสนใจทำไมล่ะ!"

   พลอยปภัสสะบัดตัวออกก่อนจะเดินกระทืบเท้าขึ้นมาบนเรือนด้วยความหงุดหงิด

   พอเดินขึ้นมาบนเรือนก็เห็นจอมขวัญกำลังเตรียมพานดอกมะลิสำหรับจะร้อยพวงมาลัยในช่วงบ่ายจึงเดินเข้าไปแย่งพานมาถือเอาไว้เอง

   "พาขวัญ!"

   "พี่พลอยมีอะไรหรือเจ้าคะ"

   จอมขวัญเอียงคอถามด้วยความสงสัยก่อนจะชะงักเมื่อพลอยปภัสสาดดอกมะลิทั้งถาดใส่หน้าพร้อมกับโยนพานทิ้งลงบนพื้นเสียงดังลั่นทำให้คนทั้งเรือนหันมามองด้วยความตกใจ

   ซึ่งภาพนั้นทำให้จอมทัพที่จะออกไปนอกบ้านตะโกนเสียงดังลั่นด้วยความโมโห

   "พลอยปภัส! ทำไมถึงทำแบบนั้นใส่น้องหะ!!!"

   "มันจะแย่งออกขุนจักรไปจากลูก"

   พลอยปภัสมองน้องสาวต่างแม่ด้ายสายตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา

   "อย่าคิดว่าจะแย่งออกขุนจักรไปจากข้า ไม่เช่นนั้นเราจะได้เห็นดีกัน"

   "ข้าไม่ได้จะแย่งออกขุนจักรไปจากพี่พลอยเลยนะเจ้าคะ พี่พลอยอาจจะลืมไปว่าข้าเป็นคู่หมั้นคู่หมายของคุณหลวงแทนกานต์"

   จอมขวัญกำมือแน่นพยายามข่มอารมณ์ของตัวเองก่อนจะจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาที่เริ่มหงุดหงิด

   "แล้วพี่พลอยมาปัดพานดอกไม้แบบนี้ รู้ไหมเจ้าคะว่าดอกมะลิที่ข้าเก็บมาน่ะช้ำไปหมด"

   "ข้าไม่สน!"

    พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นก่อนจะกำชับอีกครั้งด้วยสีหน้าและท่าทางที่ข่มขู่

   "ขอเตือนอีกครั้ง อย่ายุ่งกับออกขุนจักรเด็ดขาด"

   "ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอกพลอยปภัส"

   แทนกานต์เดินมาหยุดยืนข้างจอมขวัญพร้อมโอบกอดอีกฝ่ายเข้ามาหาตนเองแล้วจ้องมองพลอยปภัสด้วยสายตาไม่พอใจ

   "เพราะข้าจะดูแลพาขวัญอย่างดี ไม่ให้ไปยุ่งกับออกขุนของเจ้าเด็ดขาด"

   "ถ้าแบบนั้นก็ดีมากเลยเจ้าค่ะ!"

   พลอยปภัสสะบัดหน้าหนีพร้อมเดินหายเข้าไปในห้องพร้อมฝ้ายที่เดินตามหลังเจ้านายตัวเองอย่างรีบร้อน

     พออีกฝ่ายเข้าห้องไปแล้วพวกบ่าวไพร่จึงพากนมาช่วยเก็บดอกมะลิที่กระจายเกลื่อนเต็มพื้น โดยเฉพาะหวานที่ปัดตามเนื้อตัวของเจ้านายตัวเองที่ยังยืนจ้องตากับคุณหลวงด้วยความเป็นห่วง ซึ่งภาพเหตุการณ์นั้นทำให้จอมทัพถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ

   "แม่พลอยนี่นับวันยิ่งเอาแต่ใจมากขึ้นทุกวัน"

   "คงจะเป็นตามที่แม่แพรวสอนน่ะเจ้าค่ะ คุณพี่อย่าไปสนใจเลยนะเจ้าคะ"

   พัณณิตายกมือลูบแขนแกร่งอย่างปลอบใจก่อนจะหันไปมองจอมขวัญด้วยความสงสาร

   "สงสารก็แต่ลูกของเรา"

   "นั่นซินะ"

   จอมทัพถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะถูกพัณณิตากอดแขนแล้วพามาส่งตรงบันไดเรือน

   "คุณพี่รีบไปเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะไม่ทันนะเจ้าคะ"

   "ฝากดูแลลูกด้วยนะแม่พัณ"

   "เจ้าค่ะคุณพี่"

    พัณณิตาเดินไปส่งจอมทัพตรงบันไดหน้าเรือนก่อนจะหันมาจ้องแทนกานต์ที่เป็นห่วงลูกตนเองด้วยท่าทางปลื้มอกปลื้มใจจนอดที่จะกระซิบกับพริ้มพรายที่นั่งเก็บเศษดอกมะลิ

   "นังพริ้ม เองว่าพ่อแทนเริ่มจะรักแม่พาขวัญรึยัง"

   "บ่าวคิดว่าคุณหลวงน่ะ"

   พริ้มพรายยกมือป้องปากก่อนจะกระซิบข้างหูเจ้านายตัวเองอย่างเอาใจ

   "รักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้วเจ้าค่ะ"

   "ฮะฮะ เองพูดถูกใจข้า"

    พัณณ์ตายิ้มกว้างอย่างถูกอกถูกใจก่อนจะเหลือบมองแทนกานต์ที่ยืนโอบลูกสาวตัวเองไม่ยอมปล่อย

   "เจ็บอะไรไหมจอมขวัญ"

   แทนกานต์ถามด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เป็นห่วงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบดอกมะลิที่ติดอยู่บนหัวออกอย่างอ่อนโยนทำให้จอมขวัญยืนนิ่ง สายตาจ้องมองอีกฝ่ายไม่กระพริบแถมหัวใจเริ่มเต้นแรงจนห้ามไม่ไหว

   "ม...ไม่เจ้าค่ะ"

   "โล่งอกไปที"

   แทนกานต์ถอนหายใจก่อนจะยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งอกทำให้จอมขวัญหน้าแดงจัดก่อนจะอมยิ้มมุมปากเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

   "ขอบคุณที่มาช่วยข้าไว้นะเจ้าคะ"

   "ไม่เป็นไร"

   แทนกานต์สายหน้าพร้อมจับแก้มอีกฝ่ายด้วยความทะนุถนอม

   "อย่าลืมซิว่าเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้านะ"

   "คู่หมั้นของพาขวัญต่างหากเจ้าค่ะ"

   จอมขวัญตวัดสายตามามองค้อนก่อนจะเดินหนีมานั่งข้างพัณณิตาที่ยกมือขึ้นมาลูบผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับพวกบ่าวไพร่ที่นำพานดอกมะลิ ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง และดอกรักมาวางจัดไว้เต็มไปหมดทำให้จอมขวัญอมยิ้มก่อนจะลงมือร้อยพวงมาลัยโดยมีหวานคอยเป็นลูกมือช่วยหยิบข้าวของให้อย่างคล่องแคล่ว ท่ามกลางสายตาของแทนกานต์ที่จ้องมองตาไม่กระพริบจนคินตาที่นั่งเยื้องไปหน่อยต้องตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ

   "มองมากไปรึเปล่าคุณหลวง"

   "ไม่มากหรอก ตามประสาคู่หมั้นคู่หมาย"

   แทนกานต์เหยียดยิ้มพร้อมกับจ้องมาที่คินตาด้วยแววตาที่รู้ทัน

   "ไม่เหมือนใครบางคนที่คิดไม่ซื่อ"

   "ข้าคิดไม่ซื่อตรงไหน"

   คินตาขมวดคิ้วแน่นด้วยความหงุดหงิดทำให้แทนกานต์กระตุกยิ้มตรงมุมปาก

   "ข้ายังไม่ได้พูดอะไรถึงเจ้าเลยนะ"

   "นี่เจ้า!"

   คินตายกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่ายก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินเสียงพัณณิตาที่ถามขึ้นมาอย่างขัดจังหวะ

   "สองหนุ่มกระซิบกระซาบอะไรกันสองคนจ๊ะ"

   "ไม่มีอะไรขอรับคุณป้า"

   คินตารีบตอบกลับพร้อมเอามือลงมาวางไว้ข้างตัวเหมือนเดิมซึ่งพัณณิตาเองก็ไม่ได้ติดใจอะไรพร้อมกับหันมาคุยกับแทนกานต์ด้วยสายตาที่เอ็นดู

   "พ่อแทนสนใจเอาพวงมาลัยไปไหว้พระไหมจ๊ะ"

   "ดีเลยขอครับ"

   แทนกานอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะมองไปยังจอมขวัญด้วยแววตาเปล่งประกาย

   "จะดีกว่านั้นหากพวงมาลัยนั้นเป็นฝีมือของพาขวัญ"

   "พ่อแทนกำลังอ้อนลูกของป้าอย่างนั้นหรือ"

    พัณณิตายิ้มกว้างออกมาอย่างถูกอกถูกใจก่อนจะลูบผมลูกสาวตัวเองด้วยท่าทางรักใคร่

   "พาขวัญก็ร้อยพวงมาลัยให้พี่เขาไปไหว้พระที่เรือนหน่อยนะลูก"

   "เจ้าค่ะคุณแม่"

   จอมขวัญรับคำอย่างจำยอมเพราะขัดใจอะไรไม่ได้ทำให้พัณณิตายิ่งถูกอกถูกใจหันไปชวนหลานชายที่ชอบทำท่าทางจะขัดขวางทั้งสองคน

   "พ่อคินตาไปช่วยป้าจัดหนังสือที่ห้องตำราหน่อยได้ไหมจ๊ะ เห็นคุณพี่ไม่อยู่พอดีจึงจะเข้าไปเก็บกวาดเสียหน่อย"

    "ได้ครับคุณน้า"

    คินตาตอบรับคำของพัณณิตาอย่างไม่ค่อยเต็มใจพร้อมเอื้อมมือไปประคองให้อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนก่อนที่พัณณิตาจะหันมาพูดกับทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม

   "ถ้าอย่างนั้นก็อยู่ด้วยกันสองคนไปก่อนเนอะ พ่อแทนนั่งเป็นเพื่อนน้องไปจนกว่าพวงมาลัยจะเสร็จนะจ๊ะ"

   "ขอรับคุณป้า"

   แทนกานต์พยักหน้าพร้อมกับนั่งมองจนทั้งสองคนหายเข้าไปในห้องหนังสือ ก่อนที่จะย้ายมานั่งตรงด้านข้างของจอมขวัญที่ตวัดสายตาขึ้นมามองแล้วก้มลงไปร้อยพวงมาลัยต่ออย่างไม่สนใจ

   ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้แทนกานต์อมยิ้มแล้วจ้องมองอีกฝ่ายร้อยมาลัยตลอดเวลาอย่างเพลินตาจนจอมขวัญทนไม่ไหวตีสีหน้าบึ้งตึงใส่อย่างหงุดหงิด

   "มองอะไรเจ้าคะ"

   "มองจอมขวัญร้อยมาลัยยังไงล่ะ"

   คำตอบนั้นทำให้จอมขวัญยื่นปากออกมาอย่างขัดใจก่อนจะหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อซ่อนความเขินที่ตอนนี้หัวใจเต้นแรงขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งสองใช้เวลานั่งอยู่ด้วยกันจนถึงยามเย็นที่แดดเริ่มร่มจอมขวัญก็ร้อยพวงมาลัยเสร็จซึ่งพวงใหญ่และงดงามเป็นระเบียบมากพร้อมเหล่าดอกไม้ตัดสีสันกันเป็นลวดลายที่ดูสวยแปลกตามากซึ่งทำให้แทนกานต์มองด้วยความชื่นชม

   "เจ้าร้อยพวงมาลัยสวยมาก ใครเป็นคนสอนหรอ"

   "คุณย่าของข้าน่ะ"

    จอมขวัญยิ้มหวานเมื่อเห็นอีกฝ่ายชื่นชอบพวงมาลัยของตนเองก่อนจะมองท้องฟ้าที่เริ่มจะมืด

   "ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว คุณหลวงรีบกลับบ้านเถิดเจ้าค่ะ"

   "ถ้าอย่างนั้นข้ากลับล่ะนะ"

   แทนกานต์ยอมทำตามอีกฝ่ายอย่างว่านอนสอนง่ายเพราะตอนนี้สนใจลวดลายของพวงมาลัยที่ถืออยู่ในมือมากกว่า  ก่อนจะชะงักเมื่ออีกฝ่ายเอื้อมมือมารั้งแขนเอาไว้พร้อมกับยื่นห่อขนมมาให้ตนเองถึงสองห่อทำให้อดที่มองด้วยความสงสัยไม่ได้

    "ขนมดอกโสนเจ้าค่ะ เห็นว่าคุณหลวงมีน้องชายจึงฝากไปให้พ่อกันต์นิษฐ์ทานเล่น ส่วนอีกห่อนั้น..."

   จอมขวัญกัดปากตัวเองเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ประหม่าจนมากเกินไป

   "ข้าเห็นว่าคุณหลวงชอบทานเลยเตรียมไว้ให้เจ้าค่ะ"

   "หึ"

  แทนกานต์หัวเราะในลำคอก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองคู่หมั้นคู่หมายของตัวเองด้วยสายตาเปล่งประกาย

   "ขอบใจนะจอมขวัญ"

   "เจ้าค่ะ"

   จอมขวัญหน้าแดงขึ้นมากกว่าเดิมด้วยความเขินอายทำอะไรไม่ถูกจึงพลักอีกฝ่ายให้หันหลังและดันไปตรงแถวหน้าบันได้เรือน

   "รีบกลับได้แล้วเจ้าค่ะ"

   ฟอด!

   "แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ"

   แทนกานต์หอมแก้มอีกฝ่ายอย่างหมั่นเขี้ยวก่อนจะเดินลงจากเรือนไปด้วยรอยยิ้มกว้างแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปล่อยให้จอมขวัญจับแก้มตัวเองพร้อมมุ่ยหน้าลงด้วยความโกรธปนไปด้วยความเขินอาย

   "เจ้าเล่ห์...ฉวยโอกาส"

   "แต่ดูเหมาะกับคุณหนูจอมขวัญของหวานมากเลยนะเจ้าคะ"

   หวานยิ้มกว้างพร้อมส่งสายตามามองเจ้านายตัวเองอย่างหยอกล้อทำให้จอมขวัญก้มลงมามองอย่างขัดใจ

   "แถมทำให้คุณหนูเขินหน้าแดงไปหมด"

   "หน้าแดงอะไรล่ะ"

   จอมขวัญมุ่ยหน้าลงก่อนจะรีบเดินกลับห้องด้วยความแง่งอน

   "ข้าไม่คุยด้วยแล้ว กลับห้องดีกว่า"

   "รอด้วยซิเจ้าคะคุณหนู"

    หวานรีบเดินตามหลังเจ้านายตัวเองไปด้วยรอยยิ้มที่เอ็นดู ท่ามกลางสายตาของคินตาที่มองมาจากห้องหนังสือด้วยความไม่พอใจ






    เมื่อถึงเวลายามดึกดื่นบ่าวไพร่ในเรือนต่างดับไฟนอนยกเว้นภายในห้องของคุณหนูคนโตที่ยังจุดไฟจากตะเกียงสว่างทั่วทั้งห้อง พร้อมกับเสียงอาเจียนของพลอยปภัสที่หนักมากกว่าเดิมซึ่งเสียงและอาการที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ฝ้ายรีบลงกลอนประตูและหน้าต่างก่อนจะเดินมานั่งนวดขาเจ้านายตัวเองด้วยท่าทางกังวล

    "คุณหนูเจ้าคะ พวกบ่าวไพร่ยังอยู่เต็มเรือนไปหมดเบาเสียงลงหน่อยซิเจ้าคะ"

   "เองนั่นแหละที่ต้องเงียบไปเลยนังฝ้าย"

   พลอยปภัสเอาผ้ามาเช็ดปากตัวเองก่อนจะมองไปยังกระบุงที่ใส่ผลไม้บางอย่างเต็มไปหมด

   "เองไปเอาเม็ดมะยมให้ข้าหน่อยซิ"

   "เจ้าค่ะ"

    ฝ้ายเดินไปตักเม็ดมะยมมาเล็กน้อยก่อนจะนำมาให้เจ้านายตัวเองที่รีบยื่นมือมาแย่งไปหยิบกินอย่างรวดเร็ว ซึ่งท่าทางแบบนั้นยิ่งทำให้ฝ้ายนั้นเป็นกังวล
 
  "แต่อาการของคุณหนูน่ะ...มากขึ้นทุกวันเลยนะเจ้าคะ"

   "เอ๊ะ! พูดมากจังเลยนะนังฝ้าย"

   พลอยปภัสหันมามองตาขวางทำให้ฝ้ายรีบก้มหน้าหลบสายตาอย่างรวดเร็วด้วยความควาดกลัว

   "ฝ้ายแค่เป็นห่วง"

   ฝ้ายเอื้อมมือมาเกาะขาแล้วนวดให้อย่างเอาอกเอาใจ

   "กลัวคนอื่นจับได้น่ะเจ้าค่ะ"

   "จับไม่ได้หรอกน่ะ"

   พลอยปภัสสะบัดหน้าหนีพร้อมทั้งหยิบมะยมรสเปรี้ยวขึ้นมากัดด้วยความหิว

   "เองไปเอามะยมมาให้ข้าอีกหน่อยไป"

   "เจ้าค่ะ"

   ฝ้ายตอบรับก่อนจะหยิบจานกระเบื้องไปตรงกระบุงที่อยู่ตรงมุมห้องซึ่งใส่มะยมที่ล้างจนสะอาดแล้วมาใส่จานสองกำมือใหญ่ก่อนจะนำมาให้เจ้านายตัวเองที่รีบหยิบกินทันที ฝ้ายนั่งมองเจ้านายตนเองด้วยสายตาเป็นกังวลมากกว่าเดิม

   "แต่ซักวันหนึ่งท้องคุณหนูโตขึ้นมานะเจ้าคะ" ฝ้ายถอนหายใจก่อนจะกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยุ "หากพวกบ่าวไพร่คนอื่นรู้เรื่องเข้าจะเอาไปพูดเสียหายได้นะเจ้าคะ"

   "ข้าไม่ยอมขายหน้าแบบนั้นแน่"

   พลอยปภัสเชิดหน้าขึ้นอย่างถือเนื้อถือตัวกอนจะชะงักเมื่อฝ้ายพูดอะไรบางอย่างที่ขัดหูขัดตาตนเองมาก

   "แต่ออกขุนจักรกวินไม่มีท่าทีจะเล่นด้วยกับคุณหนูเลยนะเจ้าคะ"

   "ข้าจะไม่ง้อจักรกวินอีกต่อไปแล้ว"

    พลอยปภัสมองเงาตัวเองในกระจกด้วยสายตาที่หลงใหลและพึงพอใจในความงามของตัวเอง

   "คนสวยอย่างข้าใครเห็นก็ต้องการทั้งนั้นนั่นแหละ"

   "แล้วใครล่ะเจ้าคะ"

    ฝ้ายถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็นทำให้พลอยปภัสแสยะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย

   "เจ้าพระยาเรืองเพชร แห่งเมืองพิษณุโลก"

   "ตายแล้ว!"

   ฝ้ายทำสีหน้าตกอกตกใจพร้อมเอนไปด้านหลังราวกับจะเป็นลม

   "แต่เจ้าพระยาน่ะอายุมากกว่าท่านเจ้าคุณมากถึงขนาดเป็นรุ่นพ่อของท่านเจ้าคุณเลยนะเจ้าคะ"

   "ข้ารู้แล้วน่ะ"

   พลอยปภัสขมวดคิ้วพร้อมเชิดหน้าขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง

   "แต่ก็ร่ำรวยมากที่สุดในเมืองพิษณุโลก แถมคุณแม่บอกว่าท่านเจ้าพระยาเรืองเพชรน่ะสนใจข้ามากที่สุด"

   "แต่ท่านเจ้าคุณจอมทัพจะยอมหรือเจ้าคะ" ฝ้ายถามด้วยน้ำเสียงลำบากใจ "ยิ่งไม่ถูกกันด้วยนะเจ้าคะ"

   "จะไปสนใจอันใด ข้าแต่งนะคุณพ่อไม่ได้แต่งซักหน่อย"

   พลอยปภัสกัดผลมะยมที่เปรี้ยวจนเข็ดฟันนั้นด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยก่อนจะชะงักเมื่อได้ยินคำถามจากฝ้ายที่ยังกังวลไม่เลิก

   "แล้วจะเชื่อหรือเจ้าคะว่าเป็นลูกของตนเอง"

   "ข้ามีวิธีของข้าก็แล้วกัน" พลอยปภัสแสยะออกมาอย่างร้ายกาจ "เองเตรียมเก็บเสื้อผ้าตามข้าไปพิษณุโลกได้เลย"

   "เจ้าค่ะคุณหนู"

    ฝ้ายรับคำอย่างดีใจพร้อมไปเลือกผ้าแพรผ้าไหมพร้อมเครื่องประดับมากมายด้วยท่าทางตื่นเต้นท่ามกลางรอยยิ้มร้ายของเจ้านายตนเองซึ่งเต็มไปด้วยแผนการตลอดเวลา





    ทางด้านของเรือนท่านเจ้าคุณอาทิตย์เองก็ยังไม่มีใครได้ดับไฟในเรือนเพราะยังไม่มีเจ้านายคนไหนที่เข้านอน แถมบนเรือนนั้นยังเกิดความวุ่นวายขนาดย่อมอีกต่างหาก

   "โอ๊ยยยยยยย"

    แสงหล้าแหกปากเสียงดังลั่นพร้อมถีบเพลิงที่กดแผลมากเกินไปจนกระเด็นแทบจะหงายหลังไปชนกับแสนกล้าที่หมอบอยู่บนพื้น

   "เองทำแผลไม่เป็นรึไงหะไอ้เพลิง"

   "บ่าวเบามือแล้วนะขอรับท่านหมื่น"

    เพลิงตอบกลับก่อนจะรีบก้มหน้าลงไปแทบจะติดพื้นเมื่อแสงหล้ายกเท้าขึ้นมาจะถีบแต่ผู้เป็นแม่กลับเอื้อมมือมาจับแขนเอาไว้อย่างห้ามปราม

   "ไม่เอาซิลูก อย่าไปพาลใส่อ้ายเพลิงเลย"

   "แต่มันมือหนักนี่ขอรับคุณแม่"

   แสงหล้ายอมนั่งลงพร้อมยกมือขึ้นมาจับตามใบหน้าที่เขียวช้ำของตัวเองอย่างเจ็บใจ

   "คุณแม่ดูหน้าของลูกซิขอรับ"

   "โธ๋...พ่อแสงหล้าลูกแม่"

    พราวพิลาศยกมือขึ้นมาลูบไล้ใบหน้าของลูกชายด้วยความสงสารแต่ระหว่างที่กำลังจะปลอบโยนนั้นกลับมีเสียงทุ้มแทรกขึ้นมาอย่างเยาะเย้ยพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินเข้ามานั่งด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์

   "สมน้ำหน้า หาเรื่องใส่ตัวทั้งนั้น"

   "อย่าว่าลูกซิเจ้าคะคุณพี่"

    พราวพิลาศห้ามปรามสามีอย่างไม่ชอบใจทำให้อาทิตย์หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นด้วยความสมเพช

   "ฮะฮะ! จะไม่ให้ข้าว่าได้อย่างไรกันหะแม่พราว ในเมื่อลูกตัวดีของแม่พราวไปทำเรื่องงามหน้าให้เขาลือกันทั่วพระนคร"

   "ลือเรื่องอะไรเจ้าคะ"

    พราวพิลาศเอียงคอถามด้วยความสงสัยทำให้อาทิตย์เสยะยิ้มแล้วตวาดลูกชายตัวดีด้วยความโมโห

   "ชาวบ้านเขาลือกันทั่วพระนครว่า ลูกชายคนเดียวของท่านเจ้าคุณอาทิตย์ไปฉุดลูกสาวบ้านอื่นน่ะซิ!"

   "ตายแล้ว!"

   พราวพิลาศยกมือกุมอกด้วยความตกใจแต่นั่นไม่เท่ากับประโยคต่อมาของสามีที่เริ่มโมโหหนักกว่าเดิม

   "แถมไปฉุดใครไม่ฉุด! ดันไปฉุดแม่พาขวัญลูกสาวของไอ้จอมทัพเสียอีก!!"

   จอมทัพกำมือแน่นแถมหน้าตายังแดงก่ำไปด้วยความโกรธ

   "ถ้าเป็นหญิงอื่นข้าจะไม่อับอายขายขี้หน้าชาวบ้านขนาดนี้เลย!!!"

   "พ่อแสงหล้า!"

    พราวพิลาศหันมาทำหน้าดุใส่ลูกชายก่อนจะเลื่อนมือไปลูบผมนั้นอย่างใจอ่อน

   "ทำไมถึงต้องฉุดด้วยล่ะลูก รักแม่พาขวัญขนาดนั้นเลยหรือ"

   "ขอรับ ลูกรักพาขวัญมาก"

    แสงหล้าตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นพร้อมกอดเอวพราวพิลาศอย่างออดอ้อน

   "คุณแม่ไปสู่ขอพาขวัญให้ลูกนะขอรับ"

   "คือแม่..."

    พราวพิลาศทำสีหน้าลำบากใจแต่ยังไม่ทันพูดอะไรอาทิตย์ก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยความโมโห

   "จะไปสู่ของให้มันไล่ตะเพิดมาอย่างนั้นน่ะหรือ!"

   "อย่าตวาดใส่ลูกซิเจ้าคะคุณพี่"

    พราวพิลาศกอดแสงหล้าแน่นเพื่อกันไม่ให้ทำร้าย ซึ่งท่าทางแบบนั้นทำให้อาทิตย์โกรธจนตัวสั่น อาระวาดเสียงดังด้วยความโมโห

   "ปกป้องมันเข้าไปนะแม่พราว! พ่อขอเตือนอีกครั้งนะแสงหล้า เลิกยุ่งกับลูกสาวของไอ้จอมทัพได้แล้ว! หากมีคราวหน้าอีกเองได้เห็นดีกับพ่อแน่!"

   "คุณพี่จะทำอะไรลูกเจ้าคะ!"

   พราวพิลาศเริ่มโมโหเดินตามหลังอาทิตย์ที่กระทืบเท้าเดินหนีเข้าไปในห้องหนังสือก่อนที่จะมีเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนพราวพิลาศทนไม่ไหวปาข้าวของใส่แล้วเดินหนีเข้าไปในห้องนอนพร้อมสั่งบ่าวไพร่ล็อกประตูให้แน่นหนา



*****************ต่ออีกนิดค่ะ*************
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: tonako2yuri ที่ 10-11-2019 22:11:35



   ซึ่งเหตุการณ์นั้นไม่ได้ทำให้แสงหล้าตกใจแต่อย่างใดแถมยังนั่งจับแก้มและมุมปากของตัวเองด้วยความเคียดแค้นก่อนจะตวัดสายตาไปมองแสนกล้าอย่างหงุดหงิด

   "เรื่องที่ข้าให้ไปสืบได้ความว่าอย่างไรบ้าง"

   "คนที่ทำร้ายร่างกายท่านหมื่นคือ คินตา บุตรชายของแม่กิ่งแก้วซึ่งเป็นน้องสาวของท่านเจ้าคุณจอมทัพ พึ่งเดินทางมาจากเมืองลพบุรีเมื่อวานนี้ขอรับ"

   แสนกล้าบอกข้อมูลที่ตนแอบเข้าไปสืบกับบ่าวไพร่ในเรือนของท่านเจ้าคุณจอมทัพเกือบครึ่งค่อนวัน

  "แถมตอนนี้ยังพักอาศัยอยู่เรือนท่านเจ้าคุณด้วยนะขอครับท่านหมื่น"

   "คินตาอย่างนั้นหรือ"

   แสนหล้าพยักหน้าพร้อมลูบไล้ใบหน้าของตัวเองที่เขียวช้ำอย่างเจ็บใจ

   "กล้าทำร้ายข้าแบบนี้ได้เห็นดีกันแน่"

   "ท่านหมื่นจะส่งคนไปจัดการเลยไหมขอรับ"

   แสนกล้าถามขึ้นมาอย่างกระตือรือร้นก่อนจะหลบอยู่ด้านหลังของเพลิงเมื่อแสงหล้ากระทืบเท้าลงบนเรือนด้วยความขัดใจ

   "เองโง่หรือโง่หะไอ้กล้า!"

   แสงหล้าคว้าถุงเงินแล้วโยนให้บ่าวรับใช้อย่างแรง

    "นี่เงินค่าจ้างของเอง"

   "ขอบพระคุณขอรับท่านหมื่น"

    แสนกล้ายิ้มกว้างพร้อมทั้งคว้าถุงเงินมากุมไว้ทำให้เพลิงหันมามองด้วยความหมั่นไส้แต่ยังไม่ทันพูดอะไรแสงหล้าก็เรียกชื่อตนเองเสียงดังลั่น

   "นั่งบื้ออยู่ทำไมหะไอ้เพลิง รีบมาทำแผลให้ข้าต่อซิ"

   "คุณหลวงไม่อยากทำแล้วไม่ใช่หรือขอรับ"

   เพลิงตอบอย่างใสซื่อทำให้โดนแสงหล้าตวาดกลับมาอย่างเอาแต่ใจ

   "ข้าสั่งให้มาทำแผลก็มาทำซิ!"

   "ขอรับท่านหมื่น"

   เพลิงรีบออกห่างจากเพื่อนสนิทแล้วมานั่งคุกเข่าข้างแสงหล้าพร้อมเอื้อมมือเอาลูกประคบมาคลึงตรงแผลอย่างเบามือ แต่แค่กดไปเพียงเล็กน้อยเสียงทุ้มก็โวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

   "โอ๊ยยยย ไอ้เพลิง!"

   "บ่าวเบามือที่สุดแล้วนะขอครับท่านหมื่น"

   เพลิงตอบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นกลัวพร้อมก้มหน้าไปแทบจะติดพื้นก่อนจะจะงักเมื่อถูกมือหนาของเจ้านายตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งข้างกันบนที่นั่งยิ่งทำให้ตัวสั่นมากขึ้นไปอีก

   "ท่านหมื่น..."

   "เองนั่งแบบนี้น่าจะสะดวกกว่าไหม"

   แสงหล้าทำหน้าตาบึ้งตึงด้วยความหงุดหงิด

   "ถ้านั่งแบบนี้แล้วเองยังมือหนักอีกข้าจะถีบลงไปจนตกเรือนเลย"

   "ข...ขอรับท่านหมื่น"

   เพลิงตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือก่อนจะเอาลูกประคบมาประคบบนใบหน้าหล่อเหลานั้นอีกครั้งอย่างเบามือด้วยหัวใจที่เต้นแรงไปหมด   ท่ามกลางสายตาของแสนกล้าที่มองมายังทั้งสองคนด้วยความไม่พอใจ



***************************

 :-[

ตอนนี้มีหลายทีมให้เลือกมาก

ทั้ง ทีมแทนกานต์ ทีมคืนตา ทีมจักรกวิน หรือ ทีมแสงหล้า

ลูกสาวบ้านนี้สวยมากกกกก คุณพ่อก็หวงมากกกกก :laugh:



 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 11-11-2019 00:13:17
 :katai2-1:  รอมานาน แต่ก็มาแบบจุใจยาวๆกันไป รอตอนต่อไปนะคับ :mew3:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 27-11-2019 21:49:00
 :really2: รอตอนต่อไปน๊าาาาา  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-11-2019 20:34:36
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากเลยค่ะ คินตาจะคู่กับออกขุนจักรหรือเปล่าน้าาาา
หัวข้อ: Re: เรือนจอมขวัญ ♥️ {{{เรือนหลังที่ 13}}} [UP 10/11/19]
เริ่มหัวข้อโดย: Plakhem ที่ 08-12-2019 19:10:55
 :jul1: รออยู่น๊า