***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0)
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com (http://www.thaiboyslove.com) ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17
เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
ผลงานเรื่องอื่น
►เรื่องยาว ◄
✱ เ คี ย ง ✱ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70893.0) on-going
- - ร้ายนะครับหัวหน้า - - (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70094.0) completed
▥Business Districts Project▥
- - Lost at Sathorn : หลงมาที่สาทร - - (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70647.msg3988246#msg3988246) completed
- - Thonglot My Love : ทองหล่อที่รัก - - (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=70647.msg3991378#msg3991378) completed
ตอนที่ 2
ผมไปหาจอห์นที่ห้องสี่ครั้ง แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งที่ไม่มีคนเปิดประตูห้อง อาจเป็นเพราะเขาทำงานหนัก หรือผมมาในตอนที่เขาไม่อยู่ โทรไปตามเบอร์ก็ได้ยินแค่ข้อความเสียงของเขาที่ให้ฝากเอาไว้ และผมไม่เคยฝากสักครั้ง
“ผมจอห์น คิม เองนะครับ ตอนนี้ผมอาจกำลังยุ่งอยู่ ฝากข้อความไว้แล้วจะรีบโทรหาทันทีเลยครับ”
“จอห์น นี่ผมเองแอนโทนี่...คนที่หาเรื่องคุณในวันนั้นแหละ ฟังนะ มันอาจจะดูแปลกแต่ผมอยากเลี้ยงข้าวเป็นการชดเชย ถ้าไม่รังเกียจ โทรหาผมด้วย” ในที่สุดผมไม่อาจฝืนอดทนไหว ต้องฝากข้อความไว้ตอนที่ยืนอยู่หน้าห้องของเขา เดินคอตกกลับห้องตัวเอง ทั้งที่ผมควรจะดีใจที่เขาไม่ได้มานั่งดึงดูดความสนใจยามที่ออกมานั่งทำงาน แต่ทำไมตลอดทั้งอาทิตย์ผมกลับคิดถึงเขาเสียอย่างนั้น คุณรู้ไหมเพราะอะไร?
RRRRRRRRRRRRR
“สวัสดีครับ” ผมกดรับมือถือด้วยความงัวเงีย โดยไม่ได้ทันดูชื่อปลายสาย
“เห็นทีว่าคุณคงต้องทำอย่างอื่นชดเชยแทนการเลี้ยงข้าวแล้วล่ะ”
“จอห์น! คุณหายไปไหนมา แล้วนี่คุณอยู่ไหน” ผมไม่ทันนึกอะไรเลยในตอนนี้ เหลือบดูนาฬิกาเป็นเวลาตีสาม ไม่น่าถามอะไรแบบนั้นออกไปเลย เขาต้องอยู่ที่ห้องสิ
“เปิดประตูให้ผมหน่อย”
“อะไรนะ?”
“ประตู...” เสียงปลายสายแผ่วมากจนผมแทบไม่ได้ยิน
ก๊อก ก๊อก
ผมหันขวับไปที่ประตูแล้วเข้าใจในทันที ไม่ลืมที่จะมองช่องตาแมว เมื่อเห็นว่าเป็นจอห์นก็รีบปลดล็อคแล้วเปิดประตู ร่างนั้นล้มเซเข้ามาจนมือถือของเราทั้งคู่หล่น เคราะห์ดีที่ผมรับตัวเขาไว้ได้ทัน
“เฮ้ จอห์น คุณโอเคไหม จอห์น...จอห์น” ผมประคองร่างเขาเข้ามาที่โซฟารับแขก จับตามเนื้อตัวดูจากอุณหภูมิที่ขึ้นสูงจนตัวร้อนก็รู้ทันทีว่าเขาไม่โอเคแน่ ผมรีบวิ่งไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาชุบน้ำพอหมาด กลับมาที่โซฟาอีกครั้ง ประคองคนที่ตัวใหญ่กว่าแล้วบรรจงเช็ดที่ใบหน้า เขาหลับตาแน่น พ่นลมหายใจร้อนออกมาทางปากจนผมรู้สึกได้
“น้ำ...ขอน้ำหน่อยได้ไหม” เขาเสียงแผ่ว ผมกุลีกุจอรีบไปหยิบน้ำเปล่า วิ่งมาจนจะถึงโซฟาแล้วก็นึกได้ว่าควรหยิบยาลดไข้มาด้วย ต้องวิ่งกลับเข้าไปใหม่แล้วรีบออกมา แกะยาป้อนให้เขาแล้วประคองแก้วน้ำให้เขาดื่ม
“กินยาหน่อย ไข้จะได้บรรเทา” เขาพยักหน้าช้าๆ หลังจากรับน้ำแล้วเขาก็แทบจะทิ้งตัวลงอีก ตัวเขาหนักเป็นบ้า ผมประคองจะไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ก็สงสารเขาเหลือเกิน ไม่สบายหนักมากขนาดนี้ผมไม่รู้เลยว่าเขาลากสังขารตัวเองขึ้นมาที่นี่ไหวได้อย่างไร แต่ก็เช็ดตัวให้จนถึงเช้า กว่าไข้จะลดจนตัวเย็นลงก็เป็นเวลาเจ็ดโมงแล้ว
ผมตื่นเพราะการสั่นที่แรงมากของโทรศัพท์บนโต๊ะ มันเป็นของจอห์น อาจจะเป็นการเสียมารยาทนิดหน่อย แต่ผมต้องกดรับเพราะหากเป็นเรื่องด่วนจะได้จัดการทัน
“เฮ้ จอห์น...วันนี้มาทำงานหรือเปล่า ไหนว่าลาพักสองวันไง” เสียงปลายสายเจือความไม่พอใจเล็กน้อย แต่ผมพยายามตอบด้วยเสียงปกติ
“เอ่อ...ผมเป็นเพื่อนของจอห์น ตอนนี้เขาป่วยหนักมากจนลุกไม่ไหว ผมดูแลเขาอยู่”
“อ้าวเหรอ ขอโทษครับ ว่าแต่ไปโรงพยาบาลหรือยัง”
“ยังครับ ตอนนี้เขาดีขึ้นนิดหน่อย ถ้าอาการไม่โอเคผมอาจพาเขาไปหาหมอ ยังไงช่วยให้เขาลาพักอีกสักหน่อยได้ไหมครับ”
“ได้ เดี๋ยวผมจะรายงานหัวหน้า ฝากดูแลจอห์นด้วยนะครับ”
“ขอบคุณครับ” ผมกดตัดสายแล้ววางมือถือของจอห์นไว้ข้างๆออปติมัส ตอนนี้เขานอนขดตัวอยู่บนตักของผมราวกับว่าเป็นลูกแมวเปอร์เซีย เพียงแต่เป็นเจ้าแมวที่ตัวใหญ่เท่าสุนัขเซนต์เบอร์นาดได้ ผมวูบหลับไปตอนเจ็ดโมงเช้า และตอนนี้สิบเอ็ดโมงแล้ว ร่างกายของคนไม่สบายเริ่มกลับมาอุ่นอีกครั้ง ผมจะต้องหาอะไรให้เขากินเพื่อที่จะได้กินยาแล้วล่ะ
“บิสกิต...?” จอห์นปรือตาขึ้น ไม่แน่ใจว่าเขาละเมอหรือเรียกผมจริงๆ
“ไง คุณไม่สบายมากเลย” ผมลุกขึ้นประคองให้เขานอนบนหมอนอิง ใช้หลังมืออังหน้าผากและแก้มสลับกัน จอห์นยิ้มบางให้ผม
"ขอโทษที่ต้องมารบกวนกลางดึก...”
“ไม่เป็นไร ไม่ใช่ปัญหาเลย นอนพักตรงนี้ก่อน ผมจะไปหาอะไรให้กิน คุณจะได้กินยา” ผมลูบหัวเขาเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายหลับตาลงจึงรีบลุกออกไป
ดูเหมือนว่าจอห์นจะฟื้นจากไข้ได้เร็วกว่าที่คิด เขานั่งพิงโซฟา พูดและขยับร่างกายเหมือนว่าเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าไม่สัมผัสร่างกายที่อุ่นจัดก็คงไม่รู้เลยว่าเขาไม่สบาย
“เช็ดตัวเสียหน่อย คุณตัวอุ่นอีกแล้ว” ผมวางถ้วยที่มีผ้าชุบน้ำ ยังไม่ทันได้บิดผ้าเขาก็ยื่นท่อนแขนที่ขนาดใหญ่กว่าของผมมาให้แล้ว แถมยังส่งยิ้มกวนมาให้อีก
ผมบรรจงเช็ดที่ใบหน้า กดผ้าทาบไว้ที่ลำคออยู่นานเพื่อให้ความร้อนบนร่างกายลงลด แต่พอบิดผ้าเพื่อจะเช็ดตัวให้เขาผมกลับหน้าร้อนขึ้นมาเฉยๆเมื่อคิดถึงตอนที่ต้องล้วงเข้าไปใต้เสื้อเขา ทั้งที่เมื่อคืนเป็นคนถอดเสื้อและเช็ดตัวให้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย บ้าที่สุด
“ผมเช็ดเองก็ได้นะ” เขาจะคว้าผ้าไปจากมือแต่ผมห้ามไว้ ไม่เป็นไรหรอก ผมติดหนี้เขาตั้งสี่ครั้ง ของแค่นี้สบายมาก
“ไม่เป็นไร ยกเสื้อขึ้นหน่อย” เขาทำตาม แล้วก็ไม่รู้ว่าผมเป็นบ้าอะไรที่จินตนาการว่ากำลังเช็ดส่วนไหนของเขาอยู่ จอห์นใช้มือข้างเดียวจับเสื้อไว้แล้วมือข้างที่ว่างก็วางทาบบนมือของผม กลายเป็นว่าเขาจับมือผมเช็ดตัวของเขาเอง และแขนผมก็ล้วงเข้าไปลึกกว่าเดิม ลมหายใจอุ่นๆเป่ามาถึงใบหน้าของผมเสียด้วย
“เสร็จแล้ว ช่วยเช็ดหลังให้ผมที” หน้าผมยังไม่ทันหายร้อน จอห์นหันหลังแล้วเลิกเสื้อขึ้น ดีหน่อยที่เราไม่ต้องจ้องหน้ากันตรงๆแบบเมื่อครู่ ผมบิดผ้าจนน้ำในถ้วยเริ่มอุ่น ค่อยๆเช็ดหลังกว้างนั้นเพราะมือสั่นเทา
“คุณไม่สบายมานานแค่ไหนแล้ว ทำไมไม่ไปหาหมอ”
“เห็นว่ามันไม่หนักมากก็เลยไม่ไป แต่ไม่คิดว่าไข้จะเล่นงานหนักขนาดนี้”
“แล้วหายไปไหนมาทั้งอาทิตย์” ผมวางทาบผ้าเอาไว้นานๆเพื่อให้ผ้าดูดซับความร้อน แต่ไม่ทันไรเขากลับปล่อยเสื้อลงแล้วหันมาจ้องกันตรงๆ
“คิดถึงผมหรอครับ” ผมชะงัก ดวงตาของเราประสานกัน ลูกกลมสีเขียวสองข้างจ้องมาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นอีกแล้ว
“หูคุณแดงไปหมดแล้ว”
“อะ...อ๋อ สงสัยผมติดไข้คุณแล้วมั้ง” ผมแกล้งบิดผ้าแล้วเดินหายเข้ามาในครัวเพื่อเปลี่ยนน้ำ แอนโทนี่เกลียดคนตายิ้มที่สุดเลย มันทำให้หัวใจเต้นโครมคราม พอก้อนเนื้อในอกเต้นเป็นปกติแล้วผมถึงได้เดินออกมา จอห์นกุมขมับแล้วนั่งพิงโซฟา
“ปวดหัวเหรอ ไปโรงพยาบาลกันเถอะ”
“ไม่เป็นไร ผมโอเคแล้ว” เขายกมือห้าม “เมื่อเช้าใครโทรมาหาผมเหรอ?”
“เดาว่าน่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานคุณน่ะ ผมบอกว่าคุณไม่สบาย เขาบอกว่าจะรายงานหัวหน้าของคุณให้”
“ผมต้องรีบหายให้เร็วที่สุด งานของผมหยุดนานไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แบบว่ามีคนพร้อมจะเข้ามาแทนที่ตลอดเวลา เราต้องรักษามาตรฐานตัวเองเอาไว้” ผมนั่งท้าวคางมองตอนเขาอธิบาย ไม่รู้เลยว่าตัวเองเผลอยิ้มออกไปหรือเปล่า เขาถึงได้ชะงักไป
“คุณเป็นคนแบบไหนกันแน่ บางครั้งดูสบายๆ บางทีก็ดูจริงจัง ผม...เดาไม่ออกเลย”
“แล้ว...อยากรู้ไหมล่ะ” จอห์นลดระดับเสียงลงจนเกือบจะเป็นการกระซิบ ผมพยักหน้าน้อยๆ เดาว่าเขาอาจจะเล่าเรื่องอะไรให้ฟังสักหน่อยเหมือนตอนที่ผมบอกว่าตัวเองเป็นนักแปล แต่เปล่า เขารั้งตัวผมเข้าไปจูบ รู้ตัวอีกทีผมไปนั่งอยู่บนตักเขาที่โซฟาแล้ว ผมบอกไม่ได้ว่าร่างกายตัวเองควรทำอย่างไรนอกจากการตอบสนองในสิ่งที่เขาให้มา ริมฝีปากร้อนรุ่มแทบบดให้ร่างกายของผมละลาย ลมหายใจร้อนเป่ารดใบหน้าหลายครั้ง จอห์นถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งแล้วจ้องเข้ามาในดวงตาของผม นี่หรือคำตอบ ทำไมสมองผมถึงโล่งเช่นนี้
จอห์นยังคงกอดผมเอาไว้ เขาซุกกอดที่คอผมแล้วบ่นพึมพำอะไรที่ฟังไม่ถนัด ไม่นานเขาก็ปล่อยให้ผมนั่งอิสระที่ข้างกายโดยที่เอนหัวมาซบที่ไหล่
“สิ่งแรกที่ผมอยากจะบอกก็คือ...คุณทำให้หัวใจผมเต้นอีกครั้ง”
ผมตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อจะพบว่าจอห์นไม่ได้อยู่ในห้องอีกแล้ว แม้ว่าเขาจะดีขึ้นจากการที่ผมคอยดูแลช่วยเหลือ เช็ดตัว หายาให้กิน แต่คิดว่าเขาน่าจะยังไม่หายดี ว่าแต่ทำไมผมต้องห่วงเขาด้วยทั้งที่เพิ่งรู้จักได้ไม่กี่วัน
เหตุการณ์เมื่อช่วงสายยังทำให้ผมแคลงใจไม่หายว่าเป็นความฝันหรือเรื่องจริงกันแน่ ที่จอห์นจูบผมแล้วบอกว่าผมทำให้หัวใจเขากลับมาเต้นอีกครั้ง ทำไมล่ะ เขาไม่ใช่คนเหรอ เป็นหุ่นแบบไอออนแมน คนเหล็ก หรือแวมไพร์ ดูจากหุ่นแล้วเขาน่าจะเหมาะกับคนเหล็กอยู่นะ
นี่ผมคิดอะไรพิลึกพิลั่นอีกแล้วใช่ไหม
กลับเข้าเรื่องก่อน ผมทบทวนตัวเองว่าตั้งแต่พบกันในใจตำหนิเขาไปนับครั้งไม่ถ้วน แต่จากวันนั้นที่ผมไปโวยวาย ทำไมถึงรู้สึกว่าเขาไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด ตรงกันข้ามแล้วผมยังเกิดความรู้สึกใหม่อีกด้วย หรือว่าผมจะชอบจอห์นเข้าแล้วจริงๆ การที่หัวใจเต้นแรงมันไม่ได้แปลว่าเหนื่อยอย่างเดียวสินะครับ
...
ก๊อก ก๊อก
ชั่วอึดใจเจ้าของห้องก็เปิดประตูออกมา แรกพบเขาก็ยิ้มให้ผมแบบที่เคยยิ้ม พร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่งไปด้วย เชิญให้ผมเข้าห้องโดยไม่ถามด้วยซ้ำว่าผมมาเพราะอะไร
"คิดถึงผมหรอครับ”
"ไม่...ผมแค่จะมาถามว่าคุณทำงานกี่โมง เลิกงานเวลาไหนบ้าง จะได้ไม่ต้องมารบกวนตอนค่ำๆแบบนี้"
"ทำไมผมต้องบอกด้วยล่ะ" อ้าว ถามดีๆก็ต้องกวนด้วยเหรอนี่
"แค่อยากเลี้ยงข้าวขอโทษเรื่องวันนั้น แต่มาทีไรไม่เคยเจอคุณเลย" ผมถอนหายใจ "ช่วยเลิกกวนสักวันจะได้ไหม"
เขาหัวเราะแล้วคายหมากฝรั่งทิ้งในถังขยะข้างๆโซฟา ผมเพิ่งสังเกตว่าสีหน้าจอห์นดีขึ้นมากหลังจากไม่สบายหนักเมื่อสองวันก่อน
"คุณไม่จำเป็นต้องเลี้ยงหรอก แค่ดูแลผมที่ไม่สบายจนหายดีเราก็หายกันแล้ว"
"อ้อ หายดีแล้วสินะ ถ้าอย่างนั้นผมไม่รบกวนแล้ว" ผมลุกขึ้นเตรียมจะกลับห้อง อยู่ๆก็ไอโขลกและรู้สึกปวดหัวขึ้นมาจนต้องนั่งลงอีกครั้ง จอห์นรีบเดินเข้ามาประชิดแล้วใช้หลังมืออังที่หน้าผากของผม
"คุณป่วย?"
"นิดหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรมาก" ผมดันมือเขาออก ลุกขึ้นอีกครั้ง แต่จอห์นก็ดันให้ผมนั่งลงแล้วใช้มือสัมผัสที่รอบคอ สีหน้าของเขาจริงจังขึ้นมาแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน และแน่นอนว่าผมสู้แรงเขาไม่ได้หรอก
"ตัวร้อน ถ้าปล่อยไว้ไข้จะสูง เดี๋ยวจะไม่ไหวแบบผม มื้อเย็นมีอะไรกินหรือยัง"
ผมส่ายหน้า แล้วเขาก็ส่ายหน้าตามแบบหน่ายใจ ตกลงว่าผมทำอะไรผิดล่ะ วันนั้นเขาทั้งไอทั้งจามใส่ผมหลายครั้ง ไม่ติดไข้สิแปลก อย่าเพิ่งคิดว่าผมติดไข้เพราะจูบเดียวของเขาหรอกนะ
"อาหารแถวนี้มันไม่ได้อร่อยไปหมดทุกอย่างหรอก ซื้อทุกร้านแล้วหรือยังล่ะ"
ผมเดาว่าเขาประชดผมอยู่แน่ และมันทำผมไม่พอใจนิดๆ
"ก็คนมันทำเองไม่เป็น..."
"ก็ต้องหัดทำสิ อย่าบอกนะว่าคุณกินแต่เบอร์เกอร์ มิน่าล่ะหน้ากลมจนจะเป็นเบอร์เกอร์อยู่แล้ว" เขาพูดติดตลกตอนกำลังเปิดตู้เย็นหาอะไรสักอย่าง นี่เขาหาว่าผมหน้ากลมอย่างนั้นเหรอ?!
"อะไรนะ นี่คุณว่า..." ผมพูดได้ไม่กี่คำก็แสบคอจนไออีก ขัดใจร่างกายจริงๆที่เถียงไม่ทัน พอตั้งตัวได้เขาก็เดินหายเข้าโซนครัวไปแล้ว
ผมไม่อยากเชื่อว่าภายนอกดูดิบแต่ความจริงจอห์นเป็นคนค่อนข้างละเอียดอ่อน เขาทำอาหารที่มีแต่สิ่งจำพวกผักๆต้มๆมาให้ผม พร้อมกับนั่งประกบข้างกึ่งบังคับว่าผมต้องกินมันให้หมดนะ แก้วยาที่วางข้างๆก็เหมือนจะเอามาวางเพื่อกดดันผมอีกเช่นกัน ถ้าไม่กินเขาจะหักแขนผมไปทำราวตากผ้าหรือเปล่า
"กินเสียจะได้กินยา"
ผมเบะปากใส่เขา ไม่อยากกินเพราะไม่ชอบกินยา แต่เขากลับดันชามอาหารให้เข้ามาใกล้อีก
"ถ้าคุณไม่กิน ผมจูบ" ไม่พูดเปล่า จอห์นยื่นหน้าเข้ามาใกล้จนผมเอี้ยวตัวหนี แค่พูดก็แย่แล้ว นี่ต้องทำท่าทางประกอบด้วยหรือไง ผมลืมเสียสนิทว่าเขาทำอะไรไปเมื่อวันนั้น
"ก็ได้ๆๆ..." ผมตัดสินใจไม่สู้รบกับเขา เห็นแบบนี้เพราะป่วยอยู่หรอกนะ บางทีเขาอาจจะหักคอผมไปทำโมบายประดับห้องก็ได้
เมื่อผมกลั้นใจกลืนยาเม็ดโตลงไปก็รีบดื่มน้ำจนหมดแก้ว จอห์นหัวเราะแล้วเก็บชามไปล้างทำความสะอาด นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมต้องรบกวนเขา แต่ก็รู้สึกดีแปลกๆเวลามองแผ่นหลังจากตรงนี้ และผมเพิ่งสังเกตด้วยว่าที่สะโพกขวาเหนือขอบกางเกงเหมือนจะเป็นรอยสักรูปตัวอักษรอะไรสักอย่าง
"สักด้วยเหรอ ใช่ตัวเอหรือเปล่า" เขาส่งเสียงในลำคอตอบรับ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เดินมาสัมผัสที่ใบหน้าและเนื้อตัวผมอีกครั้ง
"กลับไปที่ห้องอย่าลืมห่มผ้าหนาๆ ดื่มน้ำอุ่นให้มากๆล่ะ เดี๋ยวผมจะให้ยาไปสักแผง ตัวนี้จะออกฤทธิ์แรงกว่ายาทั่วไป คุณจะได้หายไวขึ้น"
"ทำอย่างกับเป็นหมอ" ผมหัวเราะ เขาระบายยิ้มขณะค้นหายาในกล่องปฐมพยาบาล
"ตอนไปรบที่อัฟกานิสถานเราต้องแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ แล้วก็ต้องบอกหมอที่ค่ายได้ว่าเป็นอะไร ไม่อย่างนั้นไม่รอด"
"คุณไปรบที่นั้นด้วยเหรอเนี่ย สุดยอดไปเลย" ผมเกยคางกับโต๊ะเพราะเริ่มรู้สึกหนักไปทั้งตัว แต่ก็ยังฝืนมองเขาอยู่ พอมองจากมุมข้างแล้วตอนที่จอห์นยิ้มยิ่งเน้นแผลเป็นมุมปากของเขาจนชัด ผมบอกคุณไปหรือยังว่าเขาสวยจริงๆนะ สันกรามนั่นคมมาก ผมอยากจะมีแบบนี้บ้าง
"เป็นที่มาของรอยสักนั่นด้วย"
สีหน้าเขาไม่สู้ดีนักตอนพูดถึงรอยสัก แต่ผมไม่ได้เค้นถามเขาต่อ ผมไอหนักอีกหลายครั้งจนจอห์นทนดูไม่ไหวต้องเดินไปกดน้ำร้อนจากกระติกมาให้ ไม่อยากเป็นภาระให้เขาเลย
"กลับห้องไหวไหมโทนี่ ผมไปส่ง"
ผมไม่ได้ต้องการจะมาอ่อยหรืออะไรทั้งสิ้น แต่ต้องจำใจส่ายหน้า เพราะตอนนี้คิดว่าแค่ยืนคงยังทำไม่ได้เลย ผมปวดหัว ปวดเนื้อตัวไปหมด รู้สึกร้อนหนาววูบวาบไปมา
"สงสัยคืนนี้คงต้องนอนที่นี่ไปก่อน เดี๋ยวผมเช็ดตัวแล้วจะเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้ ตัวเล็กแบบนี้น่าจะใส่ได้" ประโยคหลังเหมือนเขาพูดกับตัวเองมากกว่า แต่ตอนนี้สายตาผมไม่โฟกัสอะไรทั้งสิ้นแล้ว ในหัวมีเสียงวิ้งๆเป็นครั้งคราว ผมเข้าใจอาการที่จอห์นเป็นแล้วล่ะว่ามันรู้สึกแย่แค่ไหน
[John]
หลังจากที่ผมเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมชุดเสื้อผ้าตัวเล็กที่ใส่ไม่ได้ โทนี่ก็ฟุบหลับอยู่ที่โต๊ะเสียแล้ว ผมถอนหายใจแล้ววางเสื้อผ้าลงเพื่ออุ้มเขาไปนอนที่เตียงดีๆ จัดแจงไปหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ โทนี่ส่งเสียงครางอือตลอดเวลาจนผมมือสั่น เวลาที่ต้องยกแขนบางนั้นผมพยายามทะนุถนอมมากที่สุดเพราะกลัวมันจะหักเอาได้ถ้าทำแรง ยามที่เขารู้สึกไม่สบายตัวจะขมวดคิ้วน้อยๆแล้วพยายามพลิกร่างกายไปมา แต่ผมก็ต้องจับเอาไว้เพราะยังไม่เสร็จการเช็ดตัวให้เลย ไม่รู้ว่าตอนผมไม่สบาย โทนี่จะลำบากหรือเปล่าที่คอยดูแล
ผมแค่แหย่ให้เขาหงุดหงิดใจเล่นเรื่องที่เขาหน้ากลมอย่างกับแฮมเบอร์เกอร์ ความจริงแล้วโทนี่มีหน้าตาหวานกว่าผู้ชายปกติ แก้มกลมสองข้างนั้นน่ารักจนผมอยากบีบอยากหอมทั้งวัน ยามที่คิ้วน้อยๆขมวดเข้าหากันตอนถูกผมกวน โทนี่จะหน้ายุ่งเป็นพิเศษซึ่งมันทำให้ผมใจเต้นแรงอยู่เหมือนกัน ก็เพราะมันน่ารักกว่าปกติสองสามเท่าเห็นจะได้ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนสดใสก็เหมือนจะใครรู้ใคร่สงสัยตลอดเวลา ริมฝีปากชมพูสดที่เมื่อยิ้มแล้วโลกจะสว่างขึ้นทันตา (และผมได้ชิมรสมันไปแล้วครั้งหนึ่ง) ไหนจะการที่มีใบหน้าแบบเอเชียผสมกับความเป็นตะวันตกอย่างลงตัว ดังนั้นเมื่อทุกสิ่งประกอบรวมกันแล้วมันก็เลยมีแค่คำๆเดียวที่สามารถใช้เป็นสิ่งจำกัดความของแอนโทนี่ สำหรับผม
Perfect
คนตรงหน้าผมยังคงหายใจเอาลมร้อนๆออกมาเป่ารดหน้าของผมโดยไม่รู้ตัว บัดนี้ใบหน้าหวานๆนั่นซีดลงเห็นได้ชัดแม้กระทั่งริมฝีปาก ผมยังคงเช็ดตัวให้เขาสลับกับการเดินไปเปลี่ยนน้ำอุ่น ร่างกายใต้เสื้อผ้าบอบบางกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก
"ทำไม..."
เขาก็พูดขึ้นเสียงเบา ผมหยุดเช็ดตัวแล้วเงี่ยหูฟัง
"ทำไมถึงบอกว่าผมทำให้หัวใจของคุณเต้น..." โทนี่เหมือนจะเพ้อเพราะพิษไข้หรือเปล่าไม่แน่ใจเพราะเสียงขาดหาย ผมยังคงเช็ดตัวให้เขา ถ้าพูดอะไรไปตอนนี้เขาน่าจะยังไม่มีสติพอจะเข้าใจหรอก ดังนั้นผมจะพูดเพื่อให้เขารู้สึกว่าไม่เหงาและหลับไปเองก็แล้วกัน
"เพราะว่า...เพราะว่าคุณน่ารักล่ะมั้ง" ผมหัวเราะ "ผมไม่ได้ตกหลุมรักใครมานานมากแล้วตั้งแต่ตอนไปรบที่นั่น...พักผ่อนเถอะนะ" ผมปัดเส้นผมเล็กๆสีน้ำตาลที่ปรกหน้าผากออกให้แล้วจูบแผ่วเบาหลังจากเปลี่ยนชุดให้ ไม่ลืมที่จะห่มผ้าให้แน่ใจว่าอุ่นมากพอจะไม่ต้องกอดเอง...นี่ผมคิดอะไรอยู่วะ
กลายเป็นว่าผมต้องลงมาปูผ้านอนที่พื้นเสียเองทั้งที่เตียงก็ไม่ได้แคบอะไร ถ้านอนบนเตียงด้วยตื่นเช้ามาคงดูไม่ดีสักเท่าไหร่ อีกอย่างผมเพิ่งจะฟื้นจากไข้ด้วย ถ้าเป็นอีกมีหวังถูกไล่ออกแน่
คุณรู้ไหม ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเขาเวลามองจากตรงนี้ มันรู้สึกว่าใช่ ใช่อย่างไม่มีเหตุผลอะไรจะมาแย้งได้เลย ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าจะต้องทำความรู้จักเขาให้ได้ แต่ก็กลัวว่าจะเป็นอย่างในอดีตอีก ดังนั้นผมเลยทำได้เพียงมองจากมุมนี้ ที่หน้าต่างตรงนี้ เวลาที่เราสบตากันพอดี หัวใจของผมทำงานหนักมาก แต่เขากลับไม่ยิ้มให้ผมแล้วเดินเข้าห้องไปเลยนี่สิ ผมเลยไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้โทนี่โกรธเอาหรือเปล่า
จนวันหนึ่งอาจจะเรียกว่าพระเจ้าเห็นใจ เขามาเคาะประตูห้องและผมยังไม่ทันได้เตรียมตัวอะไรทั้งสิ้น ถึงเสียงหวานๆนั่นจะแหวใส่เพราะเขาหาว่าผมทำงานเขาพัง ไปนั่งยั่วหรืออะไรก็แล้วแต่ ผมแทบจะฝืนยิ้มไม่อยู่เลยทีเดียว ชื่อของเขา แอนโทนี่ ผมจำขึ้นใจ
ที่ผมนั่งทำงานให้เขา ที่ผมทำมื้อเย็นให้เราดินเนอร์กัน คุณพอจะรู้แล้วใช่ไหมว่าเพราะอะไร แม้ว่าหลังจากวันนั้นผมพยายามไม่ติดต่อเขาอีกด้วยเหตุผลบางประการ แต่เพราะดันมาป่วยไข้ และเบอร์สุดท้ายที่โทรเข้าคือเบอร์ของโทนี่ เลยมีความจำเป็นจะต้องขอความช่วยเหลือจากคนน่ารักคนนี้ และแน่นอนว่าความพยายามที่ผมจะตีตัวออกห่างจากเขาเป็นศูนย์ในทันที ผมตกหลุมรักแอนโทนี่เต็มๆ
"จริงหรือเปล่า..."
ผมลุกขึ้นมาดูอาการเขาอีกครั้ง อันที่จริงเรียกว่าตื่นมาเช็ดตัวให้ทุกชั่วโมงจะดีกว่า
"อะไรคือจริงหรือเปล่า" ผมกระซิบพลางเช็ดหน้าและเช็ดจมูกโด่งๆอย่างเบามือ
"ฉันชอบเขาจริงหรือเปล่า..." ดูเหมือนโทนี่จะละเมอ และผมก็อดยิ้มไม่ได้ที่มือเล็กนั่นกอดแขนผมเหมือนเป็นหมอนข้าง
"ผมไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าหมายถึงผมล่ะก็ น่าจะจริงมั้งครับ"
"อา..." คุณดูสิ แอนโทนี่ละเมอยิ้มเฉยเลย แม้จะเป็นยิ้มแบบซีดเซียวอย่างคนป่วยแต่ผมกลับมองว่ามันน่ารักอยู่ดีจนต้องก้มลงไปจูบหน้าผากอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ว่าตลอดทั้งคืนผมจูบเขาตรงไหนบ้าง
ถ้าเขาก็รู้สึกแบบที่ผมรู้สึก มันพอจะมีทางไหนบ้างไหมที่ผมจะรักษาเขาเอาไว้นานๆ
[John]
____________________
:hao7: ต่อตอนที่ 3 ด้านล่างเลยค้าบ :hao7: