พิมพ์หน้านี้ - Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ ตอนต้น

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: ebonyz ที่ 15-03-2019 19:41:27

หัวข้อ: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ ตอนต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-03-2019 19:41:27
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฎจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฎ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฎข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฎข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

สารบัญ

บทนำ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3955352#msg3955352)
ตอนที่ 1 welcome (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3955358#msg3955358)
ตอนที่ 2 เสียงครวญครางยามค่ำคืน (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3955361#msg3955361)
ตอนที่ 3 รับน้อง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957039#msg3957039)
ตอนที่ 4 ห้องพักครู (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957104#msg3957104)
ตอนที่ 5 การรับน้องที่น่าอับอาย (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957207#msg3957207)
ตอนที่ 6 การรับน้องที่น่าอับอาย (ตอนต่อ) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957309#msg3957309)
ตอนที่ 7 การรับน้องที่น่าอับอาย (ตอนจบ) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957338#msg3957338)
ตอนที่ 8 ชุมนุมลับในความมืด (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957462#msg3957462)
ตอนที่ 9 ความอับอายของน้ำฝน (1) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3957947#msg3957947)
ตอนที่ 10 เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3958652#msg3958652)
ตอนที่ 11 ความอับอายของน้ำฝน (จบ) และ เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค (2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3958865#msg3958865)
ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิเตอร์เค (จบ) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3958996#msg3958996)
ตอนที่ 13 เกม 7 วันอันตราย (1) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3959250#msg3959250)
ตอนที่ 14 เกม 7 วันอันตราย (2) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3959951#msg3959951)
ตอนที่ 15 การใส่เลกกิ้งสุดอันตรายของต้น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3960079#msg3960079)
ตอนที่ 16 เกม 7 วันอันตราย (3) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3960814#msg3960814)
ตอนที่ 17 สน และ โอลีฟ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3961085#msg3961085)
ตอนที่ 18 เกม 7 วัน อันตราย (4) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3961514#msg3961514)
ตอนที่ 19 โดนแป้งอีกครั้ง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3961868#msg3961868)
ตอนที่ 20 องครักษ์ของต้น (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3961964#msg3961964)
ตอนที่ 21 ความรู้สึกที่ยากจะปฏิเสธ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3963230#msg3963230)
ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ) (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3963762#msg3963762)
ตอนที่ 23 สน กับ ต้น และ ชุดว่ายน้ำเจ้าปัญหา (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3964774#msg3964774)
ตอนที่ 24 การแสดงละครของเด็กใหม่ (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3964775#msg3964775)
ตอนที่ 25 การแบ่งบทการแสดง (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=69838.msg3965030#msg3965030)
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-03-2019 19:47:43
บทนำ

          เมื่อต้นต้องย้ายเข้ามาอยู่ในโรงเรียนชายล้วนที่มีวัฒนธรรมแปลกๆ ให้นักเรียนชายสามารถแต่งหญิงได้ มีพิธีกรรมแปลกประหลาดทุกสัปดาห์ เสียงครวญครางที่น่าสงสัยทุกค่ำคืน การรับน้องของสมาคมลับที่สุดแสนจะโรคจิตและความลึกลับดำมืดของครูหลายๆคนกับผู้อำนวยการโรงเรียน หลุมพรางแห่งความหฤหรรษ์อันแสนสุขล้น แต่แสนจะบีบคั้นและน่าอับอายจะจบลงอย่างไร เมื่อที่สุดแล้วต้นได้กลายมาเป็นของเล่นของเพื่อนๆในห้อง​ และสิ้นสุดอิสรภาพจากการตกเป็นทาสของทายาทเศรษฐีผู้มีอารมณ์รุนแรงและเอาแต่ใจ ที่สุดแล้วต้นจะค้นพบตัวเองหรือไม่ และความรุนแรงก้าวร้าวจะถูกเปลี่ยนเป็นความพูกพันระหว่างกันได้หรือเปล่า ร่วมมาหาคำตอบด้วยกันนะครับ

           ในบทนี้ไรท์จะนำเสนอเฟติชที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในทุกแขนงนั่นคือ ความเลอะเทอะไม่ว่าจะเป็นแป้งฝุ่น,พาย อาหาร,และชิบาริหรือว่าการมัดเงื่อน,การเล่น age play (เล่นเป็นเด็กเบบี๋),ชายแต่งหญิง,การใส่ชุดเซนไท(ชุดสแปนเดกรัดรูปแบบที่พวกขบวนการ 5 สีใส่)และความอับอายในที่สาธาณะต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันจะนำไปสู่ความรักที่บิดเบี้ยวของคนสองคน ยังไงก็ลองติดตามติชม เผื่อที่ว่าเราจะได้เปิดมิติใหม่ไปพร้อมกันนะครับ(ฮา)

           พี่สาวที่ผู้เขียนนับถือเคยบอกไว้ว่า คนเรายังไงมันก็ต้องมีสักเรื่องที่เฟติชนั่นแหละ จะจริงไหมผู้อ่านต้องลองตัดสินดูเอาละนะครับ

           ปล.มาถึงตรงนี้บอกไว้ก่อนว่านิยายมันไม่เหมาะกับเยาวชนที่อายุต่ำว่า 18 ปี เพราะในเรื่องราวมันจะเป็นเรื่องของความชอบ ความคลั่งไคล้ การเติมเต็มอะไรบางอย่างในจิตใจ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในสังคม เพียงแต่ผู้เขียนได้นำมาร้อยเรียงจนเป้นนิยายเรื่องนี้ เกินจริงบ้าง สมจริงบ้างตามแต่จินตนาการ ทั้งนี้ในเรื่องอาจมีพฤติกรรม หรือการกระทำหลายๆอย่างที่อาจดูไม่เป็นไปตามจารีต หรือขนบธรรมเนียมประเพณี หากว่ามันร้ายแรงผู้เขียนก็ขอความอนุเคราะห์ให้ผู้ดูแลจัดการลบได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งนะครับ
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-03-2019 19:55:03
บทที่ 1 ผู้ชายผู้ต้องใส่ชุดเซนไทสีชมพูในโรงเรียนชายล้วน ตอนที่ 1 welcome

​     ในโรงเรียนชายล้วนประจำ มักมีเรื่องราวลับๆที่อยู่ภายในโรงเรียนเสมอ ในบางครั้งความลับดำมืดเหล่านั้น อาจกลืนกินผู้ที่ได้ล่วงรู้ จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งจนไม่อาจแยกกันได้ไปตลอดกาล

     มันเป็นวันที่อากาศร้อนอบอ้าวในช่วงกลางฤดูร้อน พ่อกับแม่ของต้นกำลังเจรจาอย่างเคร่งเครียดกับชายอาวุโสที่อยู่หลังป้ายชื่อ ผอ. แอร์ภายในห้องเย็นฉ่ำจนกระจกรอบห้องเกิดฝ้าน้ำขึ้นเป็นจุดๆ

      "ผมเข้าใจว่าคุณมีความจำเป็นเร่งด่วนแต่อย่างที่บอกไปตอนแรก คือโรงเรียนเรามีนักเรียนเต็มจำนวนแล้ว"

      "อย่างนั้นผมพอจะมีทางทำอะไรได้บ้างครับ"

      "จริงๆแล้ว มันค่อนข้างที่จะพูดลำบาก แต่โดยทั่วไปแล้ว โรงเรียนไม่ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือผู้ปกครองของนักเรียนที่มีอุปการัคุณแก่โรงเรียนหรอกครับ" ผอ พูดพร้อมกับดูท่าที แม่ของต้นมีสีหน้ากังวลใจ เพราะสาเหตุหลักๆที่ต้องย้ายโรงเรียนกลางคันของลูกชายคนเดียวในครอบคัวส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาทางด้านการเงินภายในบ้านด้วยเช่นกัน

     "ผอ ต้องการเท่าไหร่" ฝ่ายพ่อพูดขึ้นหลังจาก ทิ้งให้ความเงียบกัดกินมาเนิ่นนาน

     "โรงเรียนของเรามีแผนว่าจะทำห้องเรียนพิเศษ อาจต้องการแอร์ศักยภาพสูงๆสักสี่ถึงห้าตัวครับ"

     "โอเค ผมจะหามาให้" น้ำเสียงของพ่อเจือไปด้วยความเครียด



     "เป็นยังไงบ้างครับพ่อ" ต้นถามพ่อระหว่างที่พวกเขาขับรถกลับที่พัก

     "ไม่มีปัญหาลูก วันพรุ่งนี้ลูกเก็บของเพื่อเตรียมย้ายเข้าโรงเรียนได้เลย เห็นว่า นักเรียนชั้น ม.4 ที่ย้ายเข้าไปใหม่จะต้องเข้าไปอยู่ก่อนช่่วงซัมเมอร์เพื่อที่จะได้ปรับตัวเข้าสู่โรงเรียน เห็นว่า ม.5 หรือ ม.6 ที่จะย้ายเข้ากลางคันก็ต้องเข้าด้วย"

     "ว่าแต่ลูกไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม"

     "ไม่มีปัญหาครับ ผมเข้าใจ"




     พ่อกับแม่ ขึ้นเครื่องบินเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศก่อนที่ต้นจะเดินทางด้วยรถประจำทางถึงโรงเรียนเสียอีก ชายหนุ่มรู้สึกหวิวๆเล็กน้อย แต่วันนี้เขาจะต้องเตรียมตัวรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของเขา

     "เฮ้ย เด็กใหม่ว่ะ" เสียดังลงมาจากชั้นสามของตึกนอน ในขณะที่ต้นกำลังขนของลงจากรถ เขาเงยหน้าขึ้นไป ผิดคาดเล็กน้อย เพราะตอนแรกคิดว่าจะพบกับเด็กสุดเฮ้ว ชีวิตมีปัญหาอย่างที่เคยได้ยินมา กลับพบว่าด้านบน มีแต่เหล่าชายหนุ่มหน้าตาดี ใส่เครื่องแบบโรงเรียนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยกลุ่มหนึ่งกำลังมองลงมาพร้อมกับหัวร่อต่อกระซิกต่อกัน

     "เจอกันนะ" ชายหนุ่มเหล่านั้นโบกมือให้พร้อมกับหายเข้าไปในตึก

     "มาทางนี้ครับ" เสียงนุ่มเอ่ยเรียกเขา เมื่อต้นมองไปทางต้นเสียงก็พบครูหนุ่มร่างสูงโปร่ง ในชุดลำลองยืนกวักมืออยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล

     "ชื่อ ติณวัฒน์ ใช่ไหม"

     "คะ..ครับ" ต้นตอบด้วยความประหม่า เพราะครูหนุ่มคนนี้ก็หน้าตาดีกว่ามาตรฐาน

     "สวัสดีครับ ครูชื่อ เค ไอ้พวกม.5 ชอบเรียก มิสเตอร์เค เป็นหัวหน้าระดับ ม.5 มีอะไรก็ปรึกษาครูได้นะครับ" ครูพูดพร้อมยิ้มอ่อน

     "ตามมาทางนี้" ครูหนุ่มพาต้นเดินเข้าไปยังบริเวณ หอประชุม ต้นได้ยินเสียงดักอึกทึกออกมาจากด้านใน

     "สวัสดีค่ะ นักเรียนใหม่ลงทะเบียนด้านนี้ค่ะ" เสียงผู้หญิงแหบเล็กน้อยเรียกให้ต้นไปลงทะเบียน ซึ่งบริเวณโต๊ะลงทะเบียน มีกลุ่มชายหนุ่มต่อแถวกันอยู่พอสมควร เพราะส่วนหนึ่งทยอยเข้าสู่หอประชุมไปแล้ว บริเวณโต๊ะลงทะเบียนมีเหล่าหญิงสาวหน้าตาสะสวย อยู่ในชุดกี่เพ้านั่งรับลงทะเบียนอยู่ซึ่งหลังจากที่ต้นตั้งสติและความประหมาลดลงแล้ว เขาจึงเพ่งมองดีๆอีกครั้งและพบว่าเหล่าหญิงสาวที่นั่งอยู่นั้นเป็นผู้ชายเกือบทั้งหมด

     "เอ้า ไม่ต้องแปลกใจหรอก เธออย่าลืมว่านี่โรงเรียนชายล้วนนะ" มิสเตอร์เคหัวเราะพร้อมเอามือตบหลังต้นเบาๆ

     "ลงทะเบียนแล้วก็เข้าไปด้านในล่ะ" แล้วมิสเตอร์เคก็เดินหายเข้าไปในหอประชุม ต้นมาต่อแถวลงทะเบียนนักเรียน ม.5 ซ่งแถวมีขนาดที่สั้นกว่าจึงได้พบว่า หนุ่มๆหลายคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าแบรนชั้นนำของประเทศไทย หน้าตาและผิวพรรณ บ่งบอกถึงการดูแลมาอย่างดี เขายิ่งประหม่าเพิ่มขึ้นไปอีก

     "เฮ้ นายชื่ออะไรน่ะ" หนุ่มหน้าหวานที่อยู่ด้านหลังของต้นทักขึ้น

     "เราชื่อต้นน่ะ นายล่ะ"

     "เราชื่อกริช ยินดีที่ได้รู้จักนะ ว่าแต่นายย้ายมาจากที่ไหนล่ะ"

     "โรงเรียนประจำจังหวัดน่ะ คือพ่อกับแม่ต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ ท่านเลยให้เรามาเรียนโรงเรียนประจำแทน ว่าแต่นายล่ะ"

     "เฮ้ย แสดงว่านายมาจากโรงเรียน สหสิเนี่ย โอโห้อย่างเยี่ยม! ฉันน่ะตั้งแต่เข้าโรงเรียนมาก็อยู่แต่ชายล้วนมาตลอดเลย อยากเรียนกับผู้หญิงมั่งจังเลยน้าาาา"

     "น้องทั้งสองคนนั้นรีบๆมาลงชื่อสิ"เสียงที่กึ่งหวานกึ่งแหบ ดังมาจากสาวชุดกี่เพ้าสีชมพูในตอนนี้เธอทำตาดุเล็กน้อย ต้นรีบลนลานมาลงชื่อพร้อมๆกับเพื่อนใหม่ก่อนที่ทั้งสองจะเดินตามกันเข้าไปในหอประชุม สาว(หนุ่ม)ในชุดกี่เพ้าทั้งหมดหันมามองหน้ากัน

    "ได้ไหม" เสียงจากคนใส่ชุดกี่เพ้าสีน้ำเงิน

     "ของดีเลยนะ"

     "คนนี้ของฉันนะ"ผู้ที่สวมกี่เพ้าสีส้มตัดบทก่อนที่ที่เหลือจะหันกลับไปปั้นหน้ายิ้มทำงานต่อ เพราะตอนนี้หัวหน้าของเหล่าสาวงามได้หมายตานักเรียนใหม่ไว้แล้ว ซึ่งที่สุดแล้วชะตากรรมของคนที่โดนเล็งไว้ก็จบไม่ต่างกัน เมื่อปีหน้ามาถึงคนๆนั้นก็จะต้องมานั่งแทนเธอเหมือนอย่างวันนี้แน่นอน

     วืดดด วืดดดด......



     เสียงบางอย่างดังขึ้นส่งผลให้ผู้ที่สวมชุดกี่เพ้าทั้งหมดนั่งเกร็งขึ้นมาทันที หน้าที่ปั้นยิ้มเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยว จากความเสียวซ่านในด้านหลัง

     "คุยกันเสียงดังเชียวนะ น้ำฝน"

     "ขอโทษค่ะ มิสเตอร์เค" โดยไม่ต้องหันไปดู ทั้งหมดก็รู้ว่าคนที่อยู่ข้างหลังเป็นใคร

     "ครูคิดว่า เราต้องมีเรื่องที่ต้องโฟกัสเพิ่มขึ้นหน่อยล่ะ ในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้าการที่ชวนลูกน้องคุยในเวลางานนี่ มันไม่ดีมากๆเลยนะ" มิสเตอร์เคยิ้มอ่อนๆ

     "ฝนผิดไปแล้วค่ะ มิสเตอร์เค"น้ำฝนรีบลุกจากเก้าอี้พร้อมลงไปคุกเข่าขอโทษแทบเท้ามิสเตอร์เค สร้างความตกตะลึงให้กับน้องใหม่ที่มาลงทะเบียนทั้งหมด

     "ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก" มิสเตอร์เคดึงตัวเธอขึ้นมา

     "น้ำเริ่มเยิ้มแล้วสิ"ครูหนุ่มกระซิบ

     "ค่ะ"

     "คนใหม่เป็นไงบ้าง"

     "คิดว่าน่าจะตอบสนองได้ดี เป็นของชั้นเยี่ยมเลยค่ะ"

     "ครูก็คิดว่าอย่างนั้น แต่ยังไงเธอก็ต้องโดนลงโทษอยู่ดี"

     "ค่ะ หนูยอมแต่โดยดี" เธอพูดพร้อมหน้าอันแดงกำ เพราะเหมือนเขาจงใจให้สิ่งที่มันอยู่ในด้านหลังของเธอมันสั่นอย่างเต็มกำลัง

     "ดีมาก บทลงโทษของเธอและพรรคพวกคือ เธอต้องรวบรวมไข่สั่นทั้งหมดที่อยู่กับเพื่อนเธอที่แผนกต้อนรับมาไว้ที่ตัวเธอทั้งหมด รวมไปถึงกางเกงในของทุกคน ห้ามใครบิดบังของสงวนของตัวเอง หากเกิดอารมณ์จนน้องหนูตั้งขึ้นมา ก็ต้องยอมให้มันโชว์อยู่อย่างนั้น ส่วนเธอใส่กางเกงใน 5 ชั้นก็น่าจะดีอยู่ แต่ต้องรับมือกับไข่ส่ั่นหน่อยแล้วกันนะ"

     "ค่ะ ขอบคุณค่ะมิสเตอร์เค" เธอตอบด้วยเสียงสั่นเครือ ก่อนที่จะพาพรรคพวกเดินเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้กลุ่มที่มารอลงทะเบียนยืนรอด้วยความงุนงง

     "เอ้าพวกเธอ รออะไรอยู่ล่ะ รีบๆลงชื่อสิ ผอ. กำลังจะมาแล้ว" มิสเตอร์เคนั่งลงแทนที่พร้อมกับยิ้มอ่อน ปีนี้น่าจะสนุกกว่าปีที่แล้ว เขานึกในใจ พลางคิดไปถึงปีที่แล้ว เมื่อตอนที่น้ำฝน หรือว่าชื่อเดิมคือ ภูผา เข้ามาลงทะเบียนยังหอประชุมแห่งนี้ ตอนนั้น เขาเป็นคนพาเธอมาลงทะเบียนเช่นเดียวกัน



     ภายในหอประชุม ต้นได้พบกับเพื่อนใหม่ข้างๆอีกคน เขาชื่อว่าเมฆย้ายตามพ่อที่เป็นตำรวจมายังจังหวัดนี้ โรงเรียนชายล้วนแห่งนี้หากนับในเรื่องวิชาการ จัดอยู่ในระดับดี แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเครือข่ายของผู้ปกครอง อาจติด 1 ใน 3 ของประเทศ เพราะเหล่านักเรียนในโรงเรียนล้วนแล้วมาจากบ้านที่มีชื่อเสียง เงินทอง มากด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ แม้แต่เมฆเอง เขาก็ยังบอกเลยว่าพ่อของเขายศระดับผู้พัน

     เสียงในห้องประชุมค่อยๆเงียบลง เมื่อผู้อำนวยการโรงเรียนเดินเข้ามาถึง พร้อมๆกับเหล่าครูในโรงเรียนแห่งนี้กว่าสี่สิบชีวิตเดินตามเข้ามา ครูเคหรือมิสเตอร์เคเดินปิดท้าย แวบหนึ่งต้นมองเห็นเขามองมาทางต้น พร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น มิสเตอร์เคก็พาร่างกำยำเดินอย่างปราดเปรียวตามกลุ่มของคณะครูไปยังหน้าเวที

     "ยินดีต้อนรับนักเรียนใหม่ทุกคนของโรงเรียนคุณาปกรณ์ โรงเรียนชายล้วนที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของจังหวัด"ผอ.พูดด้วยเสียงอันดังก้อง ก่อนจะหันไปไอแคกๆ ส่งผลให้หอประชุมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ

     "ฮ่าๆๆๆ ครูแกล้งทำเพื่อไม่ให้พวกเธอเครียดหรอก"

     "ในวันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราได้เจอกัน ในฐานะนักเรียนใหม่ เหล่าครูจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดแคมป์ฤดูร้อนเพื่อที่จะได้ให้พวกเธอทุกคนได้ทำความรู้จักกับพี่ๆ กับเพื่อนๆ ตลอดจนทำความคุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆในโรงเรียน หวังว่าทุกคนจะทำตัวเป็นนักเรียนที่ดี น้องที่น่ารัก เพื่อนที่น่าคบหาต่อกัน" ผอ.กระแอมไอเล็กน้อย

     "เข้าเรื่องสำคัญ พูดถึงข้อห้ามสำคัญในโรงเรียนนี้คือ เรื่องอาวุธ การทะเลาะวิวาท ของมึนเมา และชู้หนุ่ม"
     "เอ้ย..ชู้สาว" เสียงหัวเราะดังครืนขึ้นมาอีกครั้ง

     "เป็นสิ่งที่ต้องห้ามอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นโรงเรียนมีบทลงโทษที่เธอจะต้องหลาบจำไปตลอดชีวิตเลยทีเดียว" บรรยากาศในหอประชุมกลับมาเงียบกริบอีกครับ

     "อ้อ สำหรับเพศทางเลือก ที่นี่ไม่ได้บังคับว่าจะต้องใส่แต่เครื่องแบบนักเรียนชาย หากใครต้องการใส่เครื่องแบบนักเรียนหญิง ทางโรงเรียนเราก็ไม่ได้ห้ามสามารถซื้อใส่ได้ เพียงแต่ต้องทำหนังสือขออนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรขอไปที่ฝ่ายกิจการนักเรียนเสียก่อน"

     จบประโยคเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในหอประชุม ต้นรู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อหันไปหาเพื่อนทั้งสองก็พบว่าทั้งคู่ก็ร่วมเป่าปาก วี้ดวิ้วแสดงความดีใจไปกับเขาด้วย

     "เอาล่ะ จบการปฐมนิเทศจากผูอำนวยการแต่เพียงเท่านี้ล่ะ" ผู้อำนวยการยิ้มอย่างอบอุ่นส่งให้กับนักเรียนทั้งหมด ก่อนที่จะเดินออกจากหอประชุมไป มิสเตอร์เคเข้ามาจับไมค์แทน

    "ทุกคน...เงียบ!"

     เขาพูดอย่างเฉียบขาด

     "เดี๋ยวให้ทุกคนแยกย้ายกันเข้าที่พัก ในวันนี้กิจกรรมจบลงแต่เพียงเท่านี้ ขอให้ทุกคนใช้เวลาว่างตามอัธยาศัย แต่ก่อนหน้านั้น ครูได้จัดพวกเธอเข้าที่พักตามเห็นสมควรแล้ว ให้ไปรับกุญแจจากพี่พลอยผู้ดูแลหอพักชาย และเก็บสัมภาระเข้าห้องให้เรียบร้อย หากมีปัญหาสามารถพบครูได้ที่อาคารเรียนวิทยาศาสตร์ ได้ในทุกเวลา"

     "นัดหมายพรุ่งนี้ ตีห้าครึ่ง ให้ออกมารอยังหน้าหอพักของตัวเอง เราจะออกกำลังกายตอนเช้ากันก่อนที่จะเข้าพิธีรับน้อง"

     "ทุกคนทราบ"

     "ทราบ" นักเรียนใหม่ตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-03-2019 20:03:08
​ตอนที่ 2 เสียงครวญครางยามค่ำคืน

      ต้น กับเมฆ และกริชเดินออกมาพร้อมกัน

     "ว่าแต่ เราต้องไป ตึกของ ม.5 นี่เนอะ จะว่าไปก็อยากเป็นเพื่อนร่วมห้องของเธอสองคนจริงๆ"กริชพูด

     "เราก็เหมือนกัน" ต้นพูด เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยแล้วในตอนนี้

     "พวกแก ฉันขอแยกไปเก็บของก่อนนะ วางไว้ไกลเลย ยังไงเจอกันหน้าหอพักเพื่อน" เมฆเดินแยกตัวออกไป


     ระหว่างทาง เขาก็พบคนที่คุ้นหน้าคุ้นตา สาวที่โต๊ะลงทะเบียน ใบหน้ายังคงความสวยจากเครื่องสำอางในตอนเช้า แม้ว่าจะจางลงไปบ้าง แต่ก็ยังขับวงหน้าของเธอให้ออกมาสวยอยู่ดี ซึ่งเธอไม่ได้อยู่ในชุดกี่เพ้าเหมือนเมื่อเช้า แต่ใส่กางเกงแอโรบิครัดรูปเหมือนสาวในวิดีโอยุค 90 สีแดงสด แม้ว่าเสื้อยืดตัวใหญ่จะลงมาปิดถึงสะโพก แต่หากสังเกตดีๆก็จะเห็นความนูนที่ระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ

     "สวัสดีครับ พี่.."

     "น้ำฝนค่ะ"เธอพูดพร้อมกับขยับตัวเล็กน้อย เหมือนคนขยับตัวไม่ค่อยสะดวก

     "พี่กำลังจะไปไหนครับ"

     เธอยิ้มเจือไปด้วยความอึดอัดให้ก่อนที่จะตอบว่า

     "พี่มีซ้อมเชียร์ลีดเดอน์เย็นค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ" เธอพูดตัดบทก่อนที่จะจัดสายหูฟังใส่หูก่อนที่จะเดินออกไปแบบไม่ค่อยถนัดนัก

     "พี่เขาดูไม่ค่อยเป็นมิตรเนอะ"

     "เมนมามั้ง"กริชพูดติดตลก ทั้งสองคนมองหน้ากันแล้วหัวเราะ ก่อนที่จะเดินมุ่งหน้างไปยังหอพัก

     ทั้งหมดอยู่ในสายตาของมิสเตอร์เค เขาส่องกล้องดูจากชั้นเจ็ดของอาคารเรียนวิทยาศาสตร์

     "ดูอะไรวะเพื่อน"

     "นักเรียนใหม่ ปีนี้มีแต่นักเรียนเกรดเยี่ยม"

     "เยี่ยมในความหมายไหนวะ"

     "ทุกความหมาย"

     "อ้าว อย่าบอกว่าลืมไอ้ฝนไปแล้วนะ คนนั้นกว่าจะเป็นนักเรียนดีเด่นได้นี่ แกต้องลงแรงไปเยอะเลย ดื้อน่าดู ตอนแรกมาอย่างเฮี้ยว ที่ไหนได้ ขึ้น ม.6 มาเป็นตุ๊ดซะงั้น เห็นติดแกใหญ่เลยนี่หว่า มาหาทุกเที่ยง"

     "มันก็หน้าที่ของครูอย่างเราไม่ใช่เหรอ สอนสั่งให้นักเรียนได้พบกับหนทางสว่าง" มิสเตอร์เค ลดกล้องลง ก่อนที่ละหันมาคุยกับเพื่อน

     "ปะไปหาอะไรกันกันสักหน่อย พรุ่งนี้ตื่นเช้า"

     ที่หอพักชายของ ม.5 ต้นกำลังดีใจที่ตัวเองได้อยู่ห้องเดียวกับกริชอยู่
 
     “แหมโชคดีจริงๆเลยนะต้น แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกคนจะเป็นยังไงมั่ง”

     “พี่พลอยครับ รูมเมทอีกคนเขามาแล้วหรือยังครับ”

     “เอ่อ.. มาแล้วค่า มาถึงก็ไม่พูดไม่จารีบเดินขึ้นห้องไปเลย พี่เลยไม่ทันได้ถามว่าเค้าชื่ออะไร”

     “อ่า..โอเคครับ ยังไงเดี๋ยวพวกผมขึ้นไปก่อน” ว่าแล้วต้นก็เดินไปกดลิฟท์ เพื่อที่จะขึ้นไปยังชั้น 5

     ประตูหน้าห้องไม่ได้ล๊อคเอาไว้ ต้นเคาะห้องก่อนที่จะเปิดเข้าห้องไป ภายในห้องถูกจัดไว้อย่างเป็นสัดส่วน มีเตียงสองชั้นอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านเป็นเตียงนอนเดี่ยวซึ่งตอนนี้ถูกจับจองไปโดยเพื่อร่วมห้องอีกคนหนึ่งไปแล้วเรียบร้อย ชายหนุ่มนอนเอามือหนุนหัว ไขว้ห้างกระดิกเท้าโดยไม่สนใจคนทั้งสอง

       “เฮ้..นาย”

       “เฮ้”

       “เฮ้ยย” สิ้งเสียงเรียกครั้งที่สามของกริช เขาลุกขึ้นดึงหูฟังออกจากหู

       “มีอะไร” เขาพูดด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

       “พวกเราเป็นเพื่อร่วมห้องของนาย” กริชพูดด้วยอารมณ์ตึงๆ

       “เอ่อ รู้แล้ว” เขาพูดพร้อมล้มตัวลงนอนเหมือนเดิม

       “เฮ้ย เดี๋ยวนะ ไม่คิดจะแนะนำตัวสักหน่อยเหรอ”

       “แล้วแกล่ะไม่เห็นแนะนำตัวเองก่อน”

       “ใจเย็นๆนะกริช” ต้นเอามือมาจับไหล่ของเพื่อนชาย

       “เราชื่อต้นนะ นี่กริช” ต้นเริ่มแนะนำตัวก่อน

       “ชื่อต่อ”

       “ที่จริงมันต้องตกลงกันก่อนไม่ใช่หรือไงว่าใครจะได้นอนเตียงเดี่ยว” กริชยังไม่หยุดที่จะเปิดประเด็นต่อ

       “พวกแกก็ตกลงกันเองสิ แต่ฉันจะนอนเตียงนี้ จะนอนด้วยกันก็ไม่ว่านะ กลางคืนระวังโดนถีบก็แล้วกัน” เขาพูดโดยไม่หันมามองทั้งสองด้วยซ้ำ

       “เอ้า..ไอ้เวรนี่”

       “กริช พอก่อนนะ” ต้นจับไหล่แรงขึ้น

       “นายเลือกเตียงไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวเราจะนอนที่เหลือเอง”

       “น่า...นะ” ต้นเข้ามาขวางเพื่อน

       “เอ่อ ก็ได้ ทำไมวันแรกต้องมาเจอกับคนเฮงซวยด้วยก็ไม่รู้”

       “เอ่อ ทำไมต้องมาเจอกับพวกเฮงซวยก็ไม่รู้ โคตรเสียอารมณ์เลย” อีกฝ่ายก็ตอบโต้ด้วยความแรงไม่แพ้กัน

       “แล้วยังไงวะ” กริชพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม

       “เอ่อ แล้วมันยังไง แกจะทำไมวะ” ทั้งสองพุ่งเข้าใส่กันพร้อมทั้งกระชากคอเสื้อของกันและกัน

       ต้นรีบพุ่งเข้าไปหยุดการทะเลาะของคนทั้งสอง ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามปานปลายไปมากกว่านี้

       “กริช อย่าเลย เราขอ”

       “ต่อ เราขอโทษ อย่ามีเรื่องกันเลยนะ ผอ. เพิ่งพูดเมื่อเช้าเองว่าอย่ามีเรื่อง”

       ทั้งสองจึงพละออกจากกันด้วยอารมณ์ที่ยังคงครุกรุ่น

       “ไม่ต้องมาสะเออะมาบอกฉัน” ต่อพลักต้นจนเซไปเล็กน้อย กริชเห็นดังนั้นจึงเตรียมจะปรี่กลับเข้าไปอีกรอบ แต่ต้นยกมือห้ามไว้

       “พอเถอะๆ เราไม่ได้เจ็บเท่าไหร่”

      ทั้งสองจัดของเข้าที่ โดยที่ต่อนอนตะแคงเข้าฝาผนังและทำเป็นไม่สนใจคนทั้งสอง

      “เราไปเดินดูรอบๆหน่อยไหม” ต้นยกนาฬิกาขึ้นดู เป็นเวลาหกโมง ตอนนี้ทั้งพ่อและแม่ของเขาน่าจะถึงที่หมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้นพิมพ์ข้อความส่งไปตั้งแต่ตอนบ่าย แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ส่งข้อความตอบกลับมา

       “โอเค เริ่มหิวนิดๆแล้วเหมือนกัน”

       “ต่อไปด้วยกันไหม”

      คนบนเตียง ไม่มีการขยับหรือเคลื่อนไหวใดๆ

        “โอเค งั้นเราไปก่อนนะ”

------------------------------------

      หลังทั้งคู่ออกไป คนบนเตียงลุกขึ้นมานั่งชันเข้า พลางมองรูปในโทรศัพท์ เขาน้ำตารื้นขึ้นมานิดหน่อย หน้าจอโทรศัพ์รุ่นใหม่มีรอยแตกร้าวไปทั่วหน้าจอ

       “ห่วยแตก ห่วยแตกที่สุด” น้ำหยดเล็กๆ ตกลงข้างๆโทรศัพท์ โดยไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาจากเจ้าของหยดน้ำนั้น

------------------------------------

       “เมื่อเช้าผอ.พูดว่าแต่งหญิงได้ เกิดมาเพิ่งเคยได้ยิน”

       “เอ้า นายไม่รู้เหรอต้น เรื่องนี้ดังมากเลยนะ โรงเรียนเอกชนในประเทศนี้น่าจะมีที่เดียวมั้งที่อนุญาตให้นักเรียนแต่งเครื่องแบบข้ามเพศได้ แถมยังให้แต่งไปรเวทได้ทุกวันศุกร์อีกนะ”

       “จริงเหรอ” เขาพูดพลางครุ่นคิด ที่ไม่รู้เลยเพราะช่วงก่อนเขามัวแต่ช่วยงานทางบ้าน เพราะธุรกิจของพ่อ เริ่มขาดทุนอย่างต่อเนื่องโดยที่พ่อก็ยังไม่บอกสาเหตุกับเขา

       “เมื่อเช้านายก็เห็นเหล่า พี่สาวไปแล้วนี่ สวยๆกันทั้งนั้น ทำให้ใจกระชุ่มกระชวยได้เลยนะเนี่ย”

       “อื้อ พี่ที่เราเจอเมื่อเช้าก็สวยจริงๆนั่นแหละ”ต้นพูดถึงพี่น้ำฝนที่เขาเจอ

       ทั้งคู่เดินเข้าโรงอาหารและพบว่า เมฆก็กำลังนั่งซดก๋วยเตี๋ยวเช่นเดียวกัน

       “เอ้า เจอกันพอดี มาๆ ซื้อมานั่งกินด้วยกัน”

      ทั้งสองแยกกันไปหาซื้ออาหารเย็น ซึ่งที่โรงอาหารนี้ก็มีให้เลือกกินหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกงหรือก๋วยเตี๋ยว ก็ดีหรูหราน่ากิน ส่งกลิ่นเย้ายวน และราคาม่ได้แพงมาก ต้นคำนวณเงินในกระเป๋า แล้วพบว่า ยังมีพอซื้อกินไปได้อีกเป็นอาทิตย์ ก่อนที่เงินเก็บเขาจะหมด เพราะเป็นโรงเรียนประจำเขาจึงไม่มีโอกาสได้ไปทำงานพิเศษอีก พ่อกับแม่จะส่งเงินให้ได้หรือเปล่ายังเป็นเรื่องที่เขากังวลใจ

       “เล็งนานเหลือเกินนะเด็กใหม่” เสียงนุ่มดังขึ้น มิสเตอร์เคนั่นเอง

       “เลือกยากครับ น่ากินไปหมดทุกอย่าง”

       “กินหลายๆอย่างก็ได้นะ”

       “ซื้อเยอะไม่มีเงิน โรงเรียนก็มีงานพิเศษให้ทำ แจกค่าขนมเล็กๆน้อยๆด้วย ผอ.เขาชอบคนมีความพยายาม” มิสเตอร์เคพูดจบก็ถือจานข้าวเดินไปนั่งที่โต๊ะ

      ต้นคิดในใจว่าครูคนนี้มีพลังอ่านใจหรือเปล่า ก่อนที่เขาจะเลือกเมนูก๋วยเตี๋ยวน้ำตกที่หน้าตาน่ากินที่สุด แล้วยกไปนั่งกินที่โต๊ะเมฆ

      ขณะกิน ต้นมองเห็นกลุ่มคนไกลๆ อยู่บริเวณโดม ขยับกันอย่างเป็นจังหวะ เหมือนกำลังเต้นแอโรบิคตอนเย็นอยู่ แต่แม้ว่าจะอยู่ไกล ต้นก็มองเห็นว่าแต่ละคนแต่งตัวกันด้วยสีสันที่สดใสราวกับงานวัด มองไปละม้าย วิดีโอออกกำลังกายของสาวๆยุค 90 เหมือนชุดของพี่น้ำฝนตอนเช้าเหมือนกัน

       “นายเป็นไงมั่งอ่ะ เมทดีป่ะ” กริชเปิดประเด็น

       “ก็ดีนะ ดูนุ่มนิ่มๆ ลูกคุณหนูดี ฉันเลยได้นอนเตียงเดี่ยว สองคนนั้นดูจะสนิทกันมากกว่า”

       “เรอะ ฝั่งนี้แย่ว่ะ เจอคนนิสัยแย่ๆ”

       “มันขนาดนั้นเหรอเหรอ”

       “เอ่อ แทบจะฟาดปากกันไปทีนึง ดีที่ต้นห้ามไว้”

       “เอาน่าๆ เพิ่งเข้าใหม่ เราก็ต้องเริ่มปรับตัวกันหน่อย” ต้นละสายตาจากกลุ่มสีสันสดใสไกลๆ บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าเขารู้สึกบางสิ่งบางอย่างแปลกๆภายในใจ

       “เห็นว่า สามทุ่มปิดไฟหอ ห้ามออกมานอกห้องนี่”

       “เฮ้ย เข้มขนาดนั้นเลยเชียว เราต้องอุดอู้อยู่กับไอ้หน้าบูดนั่นไปตลอดคืนเหรอเนี่ยต้น”

       “เอาน่า อย่างน้อยก็ได้พักผ่อน พรุ่งนี้ตื่นเช้า”

      ทั้งสามแยกย้ายกัน ก็เกือบถึงเวลาปิดหอ เมื่อเดินผ่านห้องพี่พลอยก็โผล่หน้าออกมาบอก

       “สามทุ่มแล้วล็อกประตูให้เรียบร้อยนะ แล้วก็อย่าเปิดออกมาหลังจากนั้นล่ะ ผิดกฎโรงเรียน เข้าห้องเย็นไม่รู้นา”

       “ครับพี่พลอย”

      เมื่อกลับเข้าห้องต่อก็ไม่อยู่ในห้องเสียแล้ว ทั้งคู่ผลัดกันอาบน้ำพร้อมตกลงกันว่า ช่างหัวรูมเมทอีกคนหนึ่ง และปิดไฟนอนก่อนเวลา ทั้งคู่ผล็อยหลับไปในเวลาอันรวดเร็ว

      กลางคืน ต้นฝันอย่างมากมาย เข้าได้กลิ่นหอมอ่อนๆ พร้อมๆกับกลุ่มหญิงสาวมากหน้าหลายตา  ซึ่งในฝันที่สับสนวุ่นวาย เขาได้ยินเสียงกรีดร้องครวญคราง สลับกับเสียงคราง ที่ผสมกันหลายโทนเสียงทั้งแหบพร่า เล็กแหลม ไปจนกระทั่งยามรุ่งสางมาถึง

------------------------------------

      ครูพละยืนรออยู่แล้วตอนต้น กับกริชลงมาด้านล่างตามเสียงนกหวีด

        “วันนี้เรามีออกกำลังกายตอนเช้านะครับ เริ่มจากจ๊อกกิ้งสั้นๆ เพื่อปรับตัว และมีเต้นแอโรบิค ก่อนที่จะเข้าพิธีรับน้องตอน 8 โมงครึ่ง”

      หลังจากวิ่งจ๊อกกิ้งไปยี่สิบนาที ครูพละก็นำพวกเขามาใต้โดม ที่มีเวทีอยู่ตรงกลาง ที่นี่มีผู้นำออกกำลังกายอยู่แล้วบนเวที เป็นพี่สาว?หนึ่งคนกำลังเซทไมค์ ที่ติดกับตัวอยู่ แต่สิ่งที่น่าสนใจกลับเป็นชุดที่เธอใส่ มันเหมือนเป็นผ้ายืดที่ตัดเย็บเป็นชุดเดียวกันตลอดทั้งตัวสีม่วง สวมทับด้วยชุดที่เหมือนชุดว่ายน้ำแต่เป็นสีส้มสะท้อเสียงด้านนอก ใบหน้าเธอแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางๆ

       “สวัสดีค่า พี่ชื่อกิ่งนะคะ วันนี้จะมานำออกกำลังกายให้กับน้องใหม่ทุกคนค่ะ”

       “พี่มีเรื่องจะมาแจ้งน้องๆนะคะ วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปพวกน้องๆเองจะต้องส่งตัวแทนออกมานำออกกำลังกายเองนะคะ”เธอพูดพร้อมยิ้มหวาน

       “เอ้ามาเริ่มออกกำลังกายกันเลย”

      หญิงสาวในชุดรัดรูปนำออกกำลังกาย ซึ่งในบางท่ามันก็น่าอายที่จะต้องทำตาม แต่เหล่าน้องใหม่ทุกคนก็ทำตามกันจนจบการออกกำลังกาย ก่อนจะแยกย้ายครูพละได้กำชับอีกครั้ง

        “แปดโมงครึ่งชุดนักเรียนะครับทุกคน รักษาเวลาด้วย”
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 3 รับน้อง 20/03/62
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 20-03-2019 07:09:32
บทที่ 1 เซนไทในโรงเรียนชายล้วน ตอนที่ 3 รับน้อง
ต้น กับกริชในชุดนักเรียน เข้ามารอพิธีรับน้องในหอสมุด นักเรียนร่วม 200 ชีวิต ต่างอยู่ในชุดนักเรียน เสื้อเชิ้ตสีขาวนวลเป็นเอกลักษณ์ของโรงเรียน ปักอักษรย่อ พร้อมชื่อ ทับด้วยหัวเข็มขัดแวววาว และกางเกงขาสั้นสีดำ เป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนกันทุกคน

เมื่อเริ่มพิธี ครูผู้ชายอีกคนหนึ่ง ขึ้นมากล่าวต้อนรับนักเรียนใหม่ ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการ รับขวัญนักเรียนใหม่ พิธีเป็นไปอย่างเงียบเชียบ และชวนง่วงสำหรับต้น เพราะเมื่อคืน เขาฝันมากมายเสียจนพักผ่อนไม่พอ

ผ่านกิจกรรมรับขวัญ ครูคนเดิมขึ้นมาพูดแนะนำสถานที่ต่างๆในโรงเรียน อาคารเรียนวิชาต่างๆ รวมไปถึงการใช้ชีวิตทั่วไป

“หลังจากนี้จะเป็นกิจกรรมรับน้องที่จัดขึ้นโดยรุ่นพี่ในโรงเรียน โดยกิจกรรมจะเริ่มขึ้นตอน 11 โมง และเสร็จสิ้นตอน 4 โมงของวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางโรงเรียนได้กำชับรุ่นพี่ให้จัดกิจกรรมอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งครูรับรองกับพวกเธอเลยว่า จะไม่มีการเล่นพิเรนท์กับน้องอย่างแน่นอน หากพบว่ารุ่นพี่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถแจ้งกับครูทุกคนได้ตลอดเวลา”

“และขอให้นักเรียนรีบไปเปลี่ยนชุดเป็นชุดลำลอง เพราะกิจกรรมอาจทำให้ชุดนักเรียนเกิดการเลอะเทอะได้”

พูดจบครูก็เดินลงเวที พร้อมๆกับมีกลุ่มรุ่นพี่หลายๆคนเริ่มเข้ามาจัดแถวน้องๆ

“น้องๆครับ จัดเป็นสองแถวแล้วเดินตามพี่มาเลย อย่าแตกแถวนะน้อง”เสียงของรุ่นพี่คนหนึ่งที่มีปลอกแขนเขียนว่ากรรมการนักเรียน ตะโกนบอกน้องๆ และยังมีกลุ่มของนักเรียนที่มีปลอกแขนแบบเดียวกันหลายๆคนเริ่มเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้น้องใหม่เดินเป็นแถว

กลิ่นแป้งหลากหลายยี่ห้อไหลทะลักมาจากทางเข้าหอประชุมตามประตูที่เปิด เหล่ารุ่นพี่ทั้งหลายน่าจะกำลังตั้งซุ้มละเลงปะแป้งใส่น้องๆด้านนอกแน่ๆ ต้นหันไปมองหน้ากริช ซึ้งก็ทำหน้าเจื่อนๆเช่นเดียวกันเนื่องจากไม่อยากเลอะเทอะ

“ติณวัฒน์ มานี่เดี๋ยวสิ” ครูเคที่ไม่รู้ว่าเดินตามมาตั้งแต่ตอนไหนเรียนต้น

“ครับ” ต้นบอกให้กริชเดินออกไปก่อน พร้อมกับผละออกแถวเดินไปหามิสเตอร์เค ที่เดินไปนั่งรออยู่ที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง
“เอ้า นั่งก่อนสิ”

“ครูมีเรื่องอะไรเหรอครับ” ต้นนั่งลงพร้อมถามด้วยความสงสัย แต่ในใจคาดเดาได้ลางๆว่าน่าจะเป็นเรื่องอะไร
“เมื่อวานครูได้ยินว่าห้องเธอมีคนทะเลาะกัน เล่าให้ครูฟังหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น”

“มีปัญหานิดหน่อยครับครู แบบว่าเหมือนแบ่งเตียงไม่ลงตัว แต่ก็ตกลงกันได้แล้วนะครับ ถึงจะเสียงดังนิดหน่อยแต่ตอนนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว” ต้นพูดพลางคิดไปถึงรูมเมทอีกคน ตั้งแต่ช่วงเย็นวาน เขายังไม่เจอต่อเลย คิดแล้วเขาเริ่มหวั่นๆ เพราะที่ครูมาถามเขาแบบนี้ อาจมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาก็เป็นได้

“อ่า ฮะ คิดว่าแบบนั้นแหละ เพราะมีคนมาบอกกับครูว่าเมื่อวานมีเสียงดังนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีการทะเลาะวิวาท ไม่เป็นปัญหา แต่ก็ฝากดูแลเพื่อนด้วยแล้วกันนะ พยายามอย่าให้เกิดปัญหาอีก”

“โอเคครับ”

“อ่า รีบออกไปได้แล้ว ขบวนน้องใหม่ออกไปจนจะหมดแล้ว เดี๋ยวไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้า” ครูเค เตือนต้น เพราะตอนนี้ ไม่เห็นขบวนน้องใหม่ที่ต่อแถวกันยาวเหยียดเมื่อสักครู่แล้ว

“ครับ ครู” ต้นรีบเดินออกมาทางด้านหน้าหอประชุม แล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้น

“คนนี้ไง มาแล้วๆ”

รุ่นพี่คนหนึ่งดึงแขนต้นจนเซถลา และมือหนึ่งที่มีแป้งอยู่พูนมือก็โปะลงปนหน้าต้นอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ยินดีต้อนรับนะน้อง” คนพูดพูดไปพร้อมกับคลึงมือไปจนทั่วไปหน้าของต้น

“เฮ้ย แกจะไม่ให้คนอื่นทาแป้งน้องเลยหรือไงวะ” อีกเสียงหนึ่ง พูดแทรกขึ้นมา และมืออีกหลายมือก็เข้ามาละเลงทั้งหัวและหน้าของต้น จนเขาแทบสำลัก ทั้งใบหน้าและผมรองทรงสูงเต็มไปด้วยแป้งฝุ่นหนาเตอะ

ก่อนที่ต้นจะหายใจไม่ออกตาย มือที่ละเลงก็หยุดเหมือนให้ต้นได้พักหายใจ ท่ามกลางความสับสนโกลาหล ต้นเหมือนจะรู้สึกว่ามีบางคนเอื้อมลงมาจับเป้ากางเกงของเขาด้วย เมื่อก้มลงมองดูก็พบว่า กางเกงสีดำ บริเวณเป้าของต้นเต็มไปด้วยรอยแป้งขาวเป็นวง

แต่เมื่อมองไปข้างหน้า ยิ่งทำให้ต้นรู้สึกเสียววาบยิ่งกว่า เพราะรุ่นพี่ที่ตั้งแถวสองข้าง ยังอยู่อีกยาวไกล ต้นค่อยๆลุกเดินไปข้างหน้า และมือขาวโพลนอีกเป็นสิบๆข้างก็เข้ามากระหน่ำละเลงแป้งลงบนหน้า และตัวของต้น

“ยินดีต้อนรับนะน้อง”

“ยินดีต้อนรับนะเพื่อน”

เมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง ตัวของต้นก็เต็มไปด้วยแป้ง ราวกับว่า เหมือนรุ่นพี่เก็บแป้งทุกขวด ไว้รอกระหน่ำมาที่เขาคนเดียวอย่างนั้น
“เอ้า ขาวไปทั้งตัวแล้ว ทำยังไงดีเนี่ย” เหล่ากลุ่มพี่ที่แต่งตัวด้วยเครื่องแบบนักเรียนหญิงพูดเมื่อต้นกำลังจะเดินผ่านพวกเธอไป

“ฮ่าๆ ใส่มาเลยครับพี่ มันคงไม่เลอะไปกว่านี้แล้ว” ต้นพูดติดตลก ก่อนที่จะยืนหลับตารอการกระหน่ำโปะแป้งจากเหล่าพี่สาวทั้งหลายที่แต่ละคน ถือแป้งขวดใหญ่ที่สุดที่มีขายตามท้องตลาดอยู่ในมือ

แต่ผิดคาด สาวๆเหล่านั้นกับพุ่งเข้ามาประชิดตัวต้นจนเขาขยับแทบไม่ได้

“ใครบอกว่าหมด ยังมีตรงนี้ไงที่ไม่โดนแป้ง”

เข็มขัดของต้นโดนปลด จากฝีมือใครไม่รู้ และกางเกงในของต้นก็ถูกดึงออกมา

“ไม่นะ พวกพี่กำลังทำบ้าอะไร...” ต้นร้องด้วยความตกใจ แต่ก้ไม่สามารถป้องกันตัวได้ เพราะ แขนใครก็ไม่รู้มากมายมาจับยึดตัวของเขาไว้เยอะแยะไปหมด

มือที่เต็มไปด้วยแป้งพุ่งขึ้นมาปิดปากต้นจนเขาแทบสำลัก กลิ่นหอมตลบอบอวนเต็มใบหน้า ความแห้งผากและขมปี๋เกิดขึ้นภายในปากต้นทันที ส่วนด้านล่าง แป้งหลายกระป๋อง ก็ถูกกระหน่ำเทเข้าไปในกางเกงในของต้น มากมายจนนับไม่ถ้วย ต้นสัมผัสได้ว่า น้องหนู หรือแม้กระทั่งร่องก้นถูกถมไปด้วยแป้งฝุ่นมหาศาล และเข็มขัดก็กลับมารัดกางเกงเหมือนเดิม

“เดี๋ยวน้องจะชอบ เพราะพี่ก็เคยโดนมาแล้ว” พี่สาวคนหนึ่งพูดด้วยใบหน้าที่สุดแสนจะโรคจิต ก่อนที่มือทั้งหลายที่บีบคลึงด้านนอกกางเกงของต้นจะหยุดลง และเหล่าพี่ๆก็ผละออกไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เสียงนกหวีดเรียกรวมก็ดังขึ้นที่โรงอาหาร หัวใจของต้นเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นทันที เพราะเขาไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่ทัน และต้องไปกินข้าวด้วยสภาพนี้

เขาก้าวขาด้วยความยากลำบาก แม้ว่าแป้งปริมาณมหาศาลภายในกางเกงใน จะนุ่มราวกับผ้าไหม  และบดเบียดอยู่กับน้องชายของต้นอย่างอ่อนโยน แต่การโดนบดคลึงเมื่อสักครู ทำให้แป้งบางส่วนถูกถูกดันเข้าไปในส่วนที่อ่อนนุ่มบอบบาง ทำให้ความเสียวสะท้านเกิดขึ้นกับต้นทุกอย่างก้าว  เพราะแป้งมันเข้าไปเสียดสี

“เอ้า ไม่ทันจนได้”

“ครู” ต้นหันไปหามิสเตอร์เค เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ เพราะพฤติกรรมของรุ่นพี่ที่เกิดขึ้นมันดูสุดแสนจะโรคจิต เหลือเกิน ในขณะที่ต้นกำลังจะอ้าปากเล่าเรื่อง เพราะคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิด ครูน่าจะพอมองเห็นอยู่แล้ว ชายหนุ่มร่างโปร่งก็พูดตัดบทขึ้นมาเสียก่อน

“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันเดี๋ยวครูไปส่ง เขาจะได้รู้ว่าที่เธอช้าเพราะคุยธุระกับครูอยู่” มือกำยำก็คว้าเข้าไปที่ข้อมือขอต้น และออกแรงกึ่งจากกึงจูงต้นไปตามถนน

ต้นที่ไม่ทันตั้งตัว ไม่มีโอกาสได้เล่าหรือฟ้องสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย เพราะการที่มิสเตอร์เค ลากต้นให้เดินตามทำให้สิ่งที่มันอัดแน่นในกางเกงในยิ่งเสียดสีมากขึ้นไปอีกเวลาต้นเดิน และเหมือนกับว่า ครูจงใจที่จะลากให้ต้นเดินอ้อมไกลกว่าปกติ
ทุกๆย่างก้าวสร้างความจั๊กจี้ และเสียววูบวาบให้เกิดขึ้นบริเวณช่วงล่างท้องน้อยของต้นเป็นอย่างมาก เสียงแห่งความอั้นอั้นครางลอดออกมาจากลำคอของชายหนุ่มเป็นระยะ

“เป็นอะไรหรือเปล่า ดุท่าทางไม่ค่อยดีเลย”

“ปะ..เปล่าครับ” ต้นขยับขาสองข้างเพื่อที่จะเบียดให้ของที่อยู่ในกางเกงมันกลับเข้าที่เพื่อลดความเสียวแปลบที่มันเกิดขึ้น มนตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนตุ๊กตาหิมะ มากๆเพราะมีเกล็ดสีขาวหล่นมาตามทางที่เขาเดินตลอดทาง เพียงแต่ว่าตุ๊กตะหิมะคงไม่ตัวหอมเหมือนเขาแน่นอน

ต้นฝืนอดทนความปั่นป่วนมาจนถึงโรงอาหาร และสิ่งที่เขาคิดก็เป็นจริง กลุ่มของเพื่อน และน้องได้ไปล้างหน้าล้างตา และเปลี่ยนชุดกันมาเรียบร้อยแล้ว

ความอับอายเริ่มก่อตัวขึ้นภายในใจต้น เพราะเหมือนสายตาทุกคนจับจ้องมาที่ตัวของเขา ที่ขาวโพลนไปทุกส่วน ใบหน้าที่ขาวโพลนเริ่มมีสีแดงเรื่อๆจากความอับอายของต้น

“พอดีเขาติดคุยธุระกับครู ช่วยหาชุดมาให้น้องยืมใส่ทำกิจกรรมไปก่อนได้ไหม เดี๋ยวไม่ทัน” คนที่พาต้นมาตะโกนบอกกับรุ่นพี่ที่ดูแลกิจกรรมอยู่

“ได้ครับครู”

“น้องมานั่งทางนี้ก่อนนะ พี่แบ่งกลุ่มเอาไว้แล้ว เดี๋ยวพี่ไปหาชุดมาเปลี่ยนให้” รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งเดินมาจับแขนต้นพาไปนั่ง
บอกไม่ถูกว่าความรู้สึกอย่างไหนที่มากกว่ากัน ต้นอยากฉี่มาก ยิ่งเดินยิ่งเสียดสีก็เหมือนฉี่จะแตกมากขึ้นไปเรื่อยๆ และความอับอายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยก็ยิ่งกระตุ้นให้ฉี่เหมือนไหลออกมาตลอดเวลา

ต้นถูกจับมานั่งที่โต๊ะของรุ่นน้องม.4กลุ่มหนึ่ง ที่มีอยู่ 7 คนด้วยกัน และตามคาด ทุกคนมองต้นเป็นตาเดียว และไกลๆก็มีหลายโต๊ะที่เหมือนกับกำลังซุบซิบๆเขาอยู่

“ตัวของเธอหอมดีเนาะ” คนที่นั่งข้างๆต้นแซวเขาขึ้นมาซึ่งต้นก็ได้แต่ยิ้มแห้งรับด้วยความอับอาย และด้านล่างของต้นที่น้ำเยิ้มออกมาตลอดเวลาก็สร้างความกังวลใจให้เขาไม่แพ้กัน

“เฮ้ย ฝ่ายกิจการบอกว่ามีชุดเหลือจากการแสดงคราวก่อน ให้น้องใส่ไปก่อนได้ไหม” พี่คนหนึ่งตะโกนถาม

“ชุดอะไรวะ”

“ชุดพละ แต่ตัวเล็กหน่อยนะ”

“ไม่เป็นไรน้องก็ไม่ได้ตัวใหญ่มาก”

“โอเค”

“เป็นชุดพละนะ น้องใส่ได้ใช่ไหม” รุ่นพี่หันมาถามต้นที่ตัวหอมฉุยอยู่

“ใส่ได้ครับ” ต้นตอบพี่ พลางคิดไปว่า หากมันเลอะมากจนซักคืนไม่ได้ อย่างน้อยก็อาจไปหาซื้อคืนเอาแล้วกัน
และสิ่งที่ทำให้ต้นถึงกับฉี่เล็ดออกมาก็ได้มาถึงชุดพละนักเรียนญี่ปุ่นในไม้แขวนถูกส่งมาให้ต้นตรงหน้า ด้านบนเป็นผ้ายืดสีขาว มีขอบยืดที่คอและแขนสีแดง ตรงกลางหน้าอกปักชื่อว่า “วรรณ” แต่ด้านล่างดูเป็นปัญหามากกว่า เพราะเป็นบลูมเมอร์สีแดง ที่แม้ว่าจะไม่ได้เว้าขาสูง แต่ก็มีรูปทรงดูเหมือนกางเกงในกลายๆอยู่ดี บรรยากาศรอบข้างดูอบอ้าวขึ้นมาทันที เพราะไม่ใช่แค่ต้นเท่านั้นที่อับอาย คนรอบๆก็แสดงอาการเขินอายออกมาเช่นเดียวกัน แต่ก็เท่านั้นล่ะ เพราะคนที่จะต้องรับความอับอายจากการใส่ชุดนี้คือต้นเท่านั้น

“ไม่ใส่ได้ไหมพี่” ต้นหันไปถามรุ่นพี่ด้วยหน้าที่แดงก่ำ
----------------------------------------
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 20-03-2019 07:40:58
น้องต้นเริ่มแล้ว​ ค่อยๆโดนไป​ ไม่รู้​ว่ากริชกับเมฆจะโดนด้วยมั้นแล้วใครพระเอก​ ครูเครึป่าววคะ
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 20-03-2019 12:08:28
พระเอกคือน้องต่อครับ มิสเตอร์เคเป็นกึ่งๆตัวร้ายกับตัวเอกแทบจะเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ตอนนี้ผู้เขียนยังสนุกอยู่กับการแกล้งน้องต้นเลยไม่ได้พูดถึงพระเอกของเราสักเท่าไหร่ ขอบคุณที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนอย่างมหาศาลเลย  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 20-03-2019 12:32:15
ตอนที่ 4 ห้องพักครู

ไข่สั่นทั้งห้า ถูกดึงออกจากร่างกาย แล้ววางไว้บนโต๊ะ การที่ไม่มีคราบใดๆ หลงเหลือติดออกมาด้วยแสดงถึงการที่ช่องทางทางด้านหลังถูกทำความสะอาดมาอย่างดี

น้ำฝน ในสภาพเปลือยเปล่านั่งอยู่ในท่าคุกเข่ากางขา ข้อศอกทั้งสองข้างยกขึ้นและเอามือวางไว้ที่ท้ายทอย เป็นท่าที่ครูสอนให้เธอนั่งท่าแรกๆ ในตอนที่รู้จักกันใหม่ๆ ใต้วงแขนเริ่มปรากฏขนขึ้นหนาตา เพราะขาดการโกน แต่เบื้องล่างกลับโกนและบำรุงผิวอย่างดีจึงทำให้มองเห็นของลับที่ห้อยย้อยได้อย่างถนัดตา

“วันนี้ทำไมตื่นตัวจังเลยล่ะ” ครูเจ้าของห้อง พูดขณะที่นั่งไขว้ห้างอยู่ข้างๆ เธอพูด

“หนูไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”

“ตื่นเต้นเพราะน้องใหม่หรือเปล่า” เขาถามในขณะที่เป้ากางเกงของเขาก็ตุงขึ้นมาเช่นเดียวกัน

“เป็นยังไงบ้าง เริ่มมีคนสังเกตเห็นขนจั๊กกะแร้บ้างหรือยัง” เขาพูดพร้อมเอื้อมมือมาสางขนใต้วงแขนเบาๆ ขนเริ่มหนาตา แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร

คำถามส่งผลให้คนที่ถูกถามหน้าระเรื่อขึ้นเล็กน้อยด้วยความเขินอาย

“อืม น่าสนใจเหมือนกันนะ เมื่อตอนเข้ามาแรกๆ ขนรกรุงรังกว่านี้ครูยังเห็นเธอ ถอดเสื้อเตะฟุตบอลอยู่ในโดมได้เลยไม่เห็นอาย”

“แล้วทำไมตอนนี้อายซะล่ะ” เขาถามคนที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ

“ตอนนี้หนูเป็นผู้หญิงค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ เล็กน้อย เหมือนคนที่พยายามฝืนพูดเรื่องที่น่าอับอายของตัวเองออกมา

“รู้ไหม เรื่องแบบนี้มันน่าหลงใหลตรงไหน”

มือของครูลูบไล้อยู่บริเวณหน้าอกของน้ำฝน ซึ่งจากการเทคยาหลายขนานมาตลอดทั้งปีทำให้เธอมีหน้าอดขนาดคัพ B การสัมผัสอย่างแผ่วเบาก็ทำให้ปลายยอดทั้งสองข้างชูชันขึ้นมา ปลายยอดทั้งสองข้างถูกเจาะแล้วติดจิวเล็กๆ ไว้ทั้งสองข้าง

“เมื่อกี้เธอบอกครูว่าเธอเป็นผู้หญิง”

“แต่จากน้ำเสียง ครูมั่นใจเลยว่า ข้างในนี้ มันยังคงมีความเป็นผู้ชายหลงเหลือและหลบซ่อนอยู่ซักที่หนึ่ง” เขาเอานิ้วจิ้มบริเวณหน้าอกของเธอ

“เคยสงสัยไหมว่าทำไมครูถึงไม่ค่อยสนใจ เหล่าสาวๆ ที่เป็นเพื่อนของเธอ ทั้งๆ ที่การฝึกสอนสาวประเภทสองน่าจะง่ายกว่าจับผู้ชายแท้ๆ มาฝึก”

“เอ อาจไม่แท้หรือเปล่า” เขาพูดเพราะขยี้ยอดหน้าอก ส่งผลให้ผู้ถูกกระทำถึงกับส่งเสียงซี้ดออกมา

“ก่อนหน้านั้นหนูเป็นผู้ชายค่ะ” เธอตอบโดยยังคงมองไปด้านหน้า

“การมีแฟนเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้การันตีว่าเธอเป็นผู้ชายซะหน่อย แต่ก็นั่นแหละเธอก็มาไกลมากแล้วอยู่ดี”

“ที่สำคัญตอนแฟนของเธอเห็นรูปเธอแต่งหญิงในวันงานสถาปนาโรงเรียน วันรุ่งขึ้นถึงกับรีบบอกเลิกเลยไม่ใช่หรือไง”

“ครูเป็นคนส่งให้เธอเองไม่ใช่เหรอคะ”

“ใช่”

“โอ๊ะโอ แข็งขึ้นมาแล้ว” เขาเริ่มสังเกตเห็นอวัยวะบางอย่างขยับ

“เอาล่ะ เรามาดูกันว่าวันนี้ น้ำฝนคนสวยจะโดนอะไรบ้าง” เขาเปิดสมุดบันทึกบนโต๊ะ

“เธอพนันกับครูไว้ 4 อย่าง อย่างแรกคือการให้น้องโดนบอมบ์แป้ง โดยแผนของเธอ ที่ให้ครูถ่วงเวลา แล้วส่งสาวๆ ไปบอมบ์แป้งน้อง ถือว่าผ่าน ตอนนี้น้องกำลังนั่งอับอายอยู่ในโรงอาหาร เพราะฉะนั้น พรุ่งนี้เธอก็รอดจากการโดนบึ้มแป้งก่อนไปพูดหน้าเสาธงตอนเช้า" เมื่อจบประโยคได้ยินเสียงของคนที่คุกเข่าถอนหายใจเบาๆ

"ดูไม่ออกเลยว่า นี่กำลังโล่งใจหรือว่าเสียดาย” เขาพูดโดยที่หน้ามีรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

“ยังจำได้ไหมว่าตอนตัวเองโดนรู้สึกยังไง”

“จำได้ว่าตอนนั้นโมโหมาก แทบอยากจะต่อยกับคนทำเลยล่ะค่ะ”

“แล้วยังไงต่อ”

“แต่พอมันอยู่กับตัวนานๆ เพราะไม่มีโอกาสเอามันออกจากกางเกงใน หนูก็รู้สึกว่าข้างล่างมันสบายดีแปลกๆ มันมีความนุ่มละมุน แต่ตรงหัวที่มันแข็งเป็นก้อนๆ เพราะโดนน้ำฉี่มันก็บดเบียดสร้างความเสียวให้หนูเหมือนกัน”

“วันนั้นก็เลยไม่ได้ถอดกางเกงในในเอาแป้งออก ปล่อยให้มันอยู่อย่างนั้นทั้งวันสินะ”

“หนูรู้ว่ามันเป็นแผนของครู”

“ก็ใช่” “แต่เธอก็ดูสนุกไปกับมันไม่ใช่หรือไง” อวัยวะที่ตอนแรกเริ่มขยับตั้งชูชันขึ้นมาทันทีที่จบประโยค

“ฮ่าๆ ๆ ๆ โดนฝึกจนโรคจิต หรือว่าจริงๆ แล้วตัวเธอโรคจิตอยู่แล้วกันแน่นะ” ครูหนูุมหัวเราะออกมาอย่างเสียมิได้

ครูหนุ่มมองไปด้านนอกห้องพักครู ตรงนี้มองเห็นกิจกรรมที่กำลังดำเนินอยู่ข้างนอก ในตอนนี้เขาเห็นรุ่นพี่กำลังเอาชุดพละที่เขาเตรียมไว้ไปส่งให้ต้น ชื่อวรรณที่นำมาติดกลางเสื้อ เป็นชื่อที่เขาจะตั้งให้ต้นใช้เมื่อหลังจากการฝึกสอนเสร็จสมบูรณ์

“ดูขั้นต่อไป ถ้าน้องยอมใส่ชุดพละของเด็กผู้หญิงไปทำกิจกรรม เธอก็รอด แต่ถ้าไม่ยอมใส่ พรุ่งนี้คนใส่ก็ต้องเป็นเธอ”

“ค่ะ”

“ว่าแต่ลืมอะไรไปหรือเปล่า” เขาพูดเหมือนนึกอะไรขึ้นได้บางอย่าง

“ลืมอะไรคะ”

“เมื่อสามวันที่แล้วเธอโดนลงโทษ จากการที่แอบไปช่วยตัวเองตอนพักเที่ยง ลืมไปแล้วเหรอ”

“ขอโทษค่ะ หนูจะรีบทำเดี๋ยวนี้” เธอรีบเอามือขวาเข้าประจำที่ และกำส่วนที่อ่อนนุ่มอย่างถนัดมือ

“น้ำฝนขออนุญาตลงโทษตัวเองเดี๋ยวนี้ค่ะ”

“ปฏิบัติได้” สิ้นคำอนุญาตของครูหนุ่ม หลังจากนั้นสาวสวยเริ่มสาวมืออย่างรวดเร็วและไม่นานเธอก็เริ่มที่จะทนไม่ไหว

“ครูขา หนูขอเสร็จนะคะ” ปากเรียวได้รูปที่เคลือบลิปกลอสไว้บางๆ ร้องขอด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ บ่งบอกว่ามาถึงขีดสุดที่จะรับไหว

“ไม่ แต่ขยับมือต่อไป”

เธอสาวมือด้วยความเร็วเท่าเดิม แต่มีทีท่าที่ทรมานกว่าเดิม เสียงครางอย่างทรมานและปนไปด้วยอารมณ์สมเปล่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

“ครูขาหนูไม่ไหว แล้วค่ะ ได้โปรด หนูขอ.. หนูขอนะคะ”

“ไม่” ครูหนุ่มเอาเท้าเกี่ยวแขนเธอออกทันทีทันใด เจ้าของมือส่งเสียงร้องครางอย่างเสียดาย

“อ๊าง อ๊า”

“เอ้า เริ่มใหม่ได้แล้ว”

“ค่ะ” เธอเริ่มทำกิจกรรมใหม่อีกครั้ง ด้วยมือที่สั่นเทา

“ไม่ได้เสร็จมากี่วันแล้วนะ” เขาถามในขณะที่เธอกำลังทำแบบเดิมซ้ำ และกำลังจะถึงจุดสูงสุดในอีกไม่ช้า

“สะสาม วันค่ะ” เธอพูดด้วยเสียงสั่นเครือก่อนที่จะโดนสั่งให้หยุดกิจกรรมก่อนถึงจุดสุดยอกในอีกแค่หนึ่งอึดใจ บริเวณพื้นกลางระหว่างขา มีคราบน้ำใสเหนียวหยดเป้นกองๆ แสดงถึงความอยากที่สะสมมาเป็นเวลานาน

“ยังน่าจะไม่ได้ที่ ทำต่ออีกหน่อยแล้วกัน”

กิจกรรมแบบเดิมยังคงวนมาอีกแปดรอบจนอวัยวะของเธอแดงก่ำ ก่อนที่ครูหนุ่มจะสั่งให้เธอหยุด แล้วดึงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากใต้โต๊ะ

“ครูกลัวว่าเธอจะแอบไปเอาน้ำออก เลยกันไว้ดีกว่าแก้”

“ครูโหดร้ายกับหนูมาก”

“เอ้า มานอนบนโต๊ะนี้” เขาสั่งพร้อมกับตบลงบนโต๊ะ

น้ำฝนค่อยๆ เยื้องย่างขึ้นมานอนบนโต๊ะ หลังจากรอให้หดตัวลง ครูหนุ่มก็ได้บรรจงใส่กางเกงในกันชู้สำหรับผู้ชาย ให้กับเธอ

คลิ๊ก! เสียงล็อกกุญแจทำให้หน้าของสาวสวยดูมีหลากหลายอารมณ์เกิดขึ้นในนั้น ทั้งผิดหวัง สุขสม ขื่นขม ไปพร้อมๆ กัน

“ใส่กางเกงในตัวนี้ละกันนะน่ารักดี” เขายื่นกางเกงในผ้าฝ้ายสีขาว มีลายดอกไม้เล็กๆ จุดอยู่รอบตัวส่งให้เธอ

“วันนี้ไม่ต้องไปซ้อมเชียร์นะ ไปเจอครูที่เดิม เผื่อความงุ่นง่านของเธอลดลง ครูก็จะเติมให้มันเต็มจนปริ่มล้นตลอดเวลา”

“ค่ะ”

“มันไม่เคยมี แต่ครูก็อยากจะเห็นคนขาดใจตายเพราะความเงี่ยนเหมือนกัน” เขาพูดพร้อมกับแสยะยิ้มที่สุดแสนจะโรคจิตออกมา

----------------------------------------

หลังจากต้นปฏิเสธ รุ่นพี่ก็หันกลับไปคุยกัน

“ว่าแล้วไง น้องไม่ใส่หรอก นี่มันชุดของผู้หญิง ใครใส่ก็บ้าแล้ว” รุ่นพี่ที่ถือชุดหันไปคุยกับคนที่วิ่งเอาชุดมาให้

“แล้วจะทำยังไงดีล่ะเนี่ย”

“พี่ไปส่งผมเปลี่ยนชุดที่ห้องพักก็ได้ครับ คิดว่าคงใช้เวลาไม่นานหรอก” ต้นบอกกับรุ่นพี่ เพราะตอนนี้เขาอยากหนีจากสภาพนี้เต็มแก่แล้ว

“พี่อยากไปส่งน้องอยู่นะ แต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจห้อง เพื่อค้นหาสารเสพ”

เพี๊ยะ เสียงดังสนั่นจากการโดนตบกะโหลกศีรษะด้วยมุม 45 องศา

“โอ้วว”

“แล้วแกจะพูดหาง้าว หาหอก หรือไง เขาให้ปิดเป็นความลับ” คนที่ตบหัวเอ็ดเพื่อนด้วยเสียงอันดัง

“เอาเป็นว่าตอนนี้ยังขึ้นตึกนอนไม่ได้ครับน้อง”

แล้วรุ่นพี่คนที่บอกก็เข้ามากระซิบใกล้ๆ กับหูต้น

“ถ้าน้องไม่เปลี่ยนก็ได้นะ แต่ว่ากิจกรรมมันอาจเลอะได้ไง คือแป้งที่โดนตอนเช้าถ้าเอาไปซักมันก็ออก แต่ถ้าเป็นโคลน เป็นสีตอนบ่าย พี่ว่ามันจะซักไม่ออก เสียดายเสื้อนักเรียนด้วย”

“อีกอย่างพี่บอกใบ้ไว้ก่อนนะ ช่วงบ่ายมีทั้งกิจกรรมที่ให้ใส่กางเกงในหญิง ชุดว่ายน้ำ กระโปรง ชุดสารพัดที่พวกพี่จะหามาแกล้ง แค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก”

เมื่อได้ฟังเหตุผลดังนี้ต้นเริ่มสองจิตสองใจ เพราะตอนนี้เขามีชุดนักเรียนเหลืออยู่สองชุดรวมชุดที่ใส่ ถ้าหากตัวนี้เปื้อน เขาคงใช้ชีวิตต่อไปลำบาก เพราะด้วยสถานะทางการเงิน เก็บเงินไว้กินน่าจะดีกว่าซื้อชุดนักเรียนที่มีราคาแพง

“โอเคครับ ผมใส่ชุดนี้ไปก่อนก็ได้” คำตอบของต้นเรียกให้สายตาคนที่ได้ยินจ้องมาที่ต้นเป็นตาเดียว ความอายที่เหมือนจะหายไป กลับมาก่อตัวอีกครั้ง ต้นมวลท้องและเหมือนกับมีฉี่เหนียวๆ ไหลออกมาตลอดเวลา

“เอาชุดไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำเลยน้อง” รุ่นพี่บอกพร้อมชี้ไปที่ห้องน้ำ

ต้นรีบเดินไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะรู้สึกเสียววูบวาบทุกครั้งที่เดิน เขาต้องรีบไปล้างหน้าล้างตัวก่อน เพราะหากต้องใส่ชุดแบบนี้ ในสภาพที่ตัวเต็มไปด้วยแป้ง แถมกางเกงในยังอัดแน่นไปด้วยแป้งแบบนี้ ต้นคงอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนี

“อย่าทำห้องน้ำสกปรกนะหนู” เสียงแม่บ้านตวาดออกมาก่อนที่ต้นจะเข้าไปด้านใน

“ครับ” ต้นรีบเผ่นเข้าด้านในอย่างรวดเร็ว

ข้างในห้องน้ำ ต้นค่อยๆ ดันกางเกงลงอย่างช้าๆ แป้งร่วงออกมาตามแข้งขาเป็นกองๆ

“บอกว่าอย่าทำห้องน้ำสกปรกไง!!! ” เสียงของป้าคนเดิมเพิ่มเติมคือเข้ามาทุบประตูห้องน้ำทำให้ต้นตกใจจนดึงกางเกงกลับที่เดิม

“พื้นสกปรกหมดแล้ว รีบๆ ออกมาเลยนะ” ป้าพูดพร้อมทุบประตูโครมคราม

งั้นผมขอเปลี่ยนชุดแป๊บนึงนะครับ ต้นรีบถอดชุดนักเรียนออกส่งผลให้แป้งที่ค้างในตัวตกลงบนพื้นมากมายกว่าเดิม เขารีบใส่เสื้อพละเข้าทางด้านหัว ก่อนที่จะปลดกางเกงนักเรียนและใส่กางเกงพละเข้าแทนที่ให้ความรู้สึกเหมือนใส่กางเกงในสองชั้น

ต้นรีบเปิดประตูออกมาด้านนอก โดยมีป้าหน้าดุยืนกอดอกรออยู่

“โอ้ยย” ป้าดึงหูของต้นออกมาจากห้องน้ำ

“นี่มันอะไรกันนี่ ไม่เคยพบไม่เคยเจอ เล่นอะไรแผลงๆ แบบนี้ ดูซิห้องน้ำเละเทะหมดเลย”

“ป้าครับ ผมไม่ได้”

“ไม่ต้องมาพูด เธอต้องมาทำความสะอาดห้องน้ำตอนเย็นชดใช้ในสิ่งที่ทำไป”

“ครับ” ต้นตอบโดยมีน้ำตาซึมนิดๆ เพราะเจ็บที่หูยังคงโดนดึงอยู่

“เอ้าไปได้แล้ว แล้วตอนเย็นมาทำความสะอาดด้วยฉันจะรอเธอที่นี่”

“เดี๋ยวถ่ายรูปเก็บไว้ก่อน”

“ป้าครับ อย่าถ่ายนะครับ”

“ยืนนิ่งๆ”

แช๊ะ

“เอ้ารีบไปได้แล้ว ตอนเย็นก็รีบมา”

ต้นหอบเสื้อผ้าออกมาจากห้องน้ำโดยที่ยังไม่ได้ล้างหน้าล้างตัว เดินกลับไปที่โรงอาหารด้วยความอายเป็นเท่าทวีคูณ ความหน่วงใต้ท้องน้อยทำให้ต้นอยากจะฉี่ออกมาตอนนี้ซะจริงๆ
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 20-03-2019 20:47:45
ตอนที่ 5 การรับน้องที่น่าอับอาย

อากาศในยามบ่ายร้อนอบอ้าว จนทำให้ตัวเหนียวเหนอะหน่ะจากเหงื่อกาฬที่ไหลเยิ้ม กลิ่นแห่งนักเรียนชายที่มีเอกลักษณ์เริ่มสำแดง เว้นไว้แต่เพียงหนึ่งคนที่ตอนนี้เหงื่อยังไม่ออกมาสักหยด เพราะแป้งปริมาณมหาศาลที่เกาะอยู่บนตัวเขา วันนี้ทั้งวัน ต้นน่าจะทาแป้งไปมากกว่า ผู้หญิงหนึ่งคนใช้ทั้งชีวิตเสียอีก

หลังจากกินข้าวมื้อที่ไม่ค่อยอร่อยมื้อหนึ่งในชีวิต เพราะความเขินอายที่ต้องเป็นมนุษย์แป้งและใส่ชุดพละของนักเรียนหญิงญี่ปุ่น ทั้งยังต้องต่อสู้กับสายตาของเพื่อนประจำกลุ่มอีกเจ็ดคน แม้ว่าตอนนี้ต้นจะทำใจให้ชินจนรู้สึกอายน้อยลงไปบ้างแล้ว แต่เขาก็ยังรู้สึกเกร็งๆ ทุกครั้งเมื่อถูกเพื่อนจากกลุ่มอื่นมองอยู่ดี

และที่เป็นปัญหาที่สุดคือช่วงล่างที่ทำให้ต้นเดินไม่สะดวกเอาเสียเลย อาการปวดฉี่แบบหน่วงๆ ยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง

“เดี๋ยวน้องๆ เข้าแถวตามกลุ่มนะครับ เราจะจับคู่กันสองกลุ่ม ตะลุยฐานกัน ขอให้ทำความรู้จักกันไว้นะครับ เพราะหลายๆ กิจกรรมต้องอาศัยความสามัคคีมากเลยทีเดียว” รุ่นพี่ที่หน้าตาดีที่สุดในกลุ่มกระโดดขึ้นไปประกาศบนโต๊ะ

“พี่ชื่ออะไรครับ” น้องม.4 คนหนึ่ง

“ต้นครับ น้องล่ะ” ต้นที่เริ่มชินแล้วนิดหน่อยสามารถคุยกับน้องได้ แต่ก็เฉพาะกับบางคนที่คุยกับเขาก่อนเท่านั้น

“ผมชื่อเอกครับ ว่าแต่เสียงพี่ไม่ได้ดัดใช่ไหมครับ”

“ไม่ครับ เป็นแบบนี้ตั้งแต่เกิดเลย” ต้นตอบคำถามน้อง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้นถูกถามแบบนี้ ด้วยเสียงที่เล็กแหลมทำให้ต้นถูก
เข้าใจผิดว่าดัดเสียงบ่อยๆ

“อ่อ เสียงเล็กดีนะครับ”

“เอกครับ ไม่คิดว่าพี่จะยอมใส่ชุดนี้เลยครับ เป็นผมคงไม่กล้า” รุ่นน้องอีกคนถาม พร้อมมองแปบบกล้าๆ กลัวๆ

“คือมันจำเป็นน่ะ เดี๋ยวันอื่นไม่มีชุดนักเรียนใส่” ต้นยิ้มแหยๆ

เสียงนกหวีดดังขั้นมาจากนอกโรงอาหาร รุ่นพี่ประจำกลุ่มยืนทำสัญญาณมือที่แต่ละกลุ่มตั้งขึ้นมาเอง ต้นเดินออกมาอย่างลำบาก เพราะจังหวะที่ลุกขึ้นมาแป้งก็ร่วงกราวลงมาจากตัวด้วย แต่ที่หนักไปกว่านั้นคือความเสียวแปร๊บที่เกิดขึ้นบริเวณใต้กางเกงในตอนลุก ทำให้ต้นอดส่งเสียงออกมาไม่ได้

“เป็นอะไรหรือเปล่าพี่ต้น เอกเข้ามาถามใกล้ๆ

“ไม่เป็นไรน้องพี่ลุกผิดท่านิดหน่อยน่ะ”

“ตามพี่มาครับน้อง” รุ่นพี่ตะโกนบอก พร้อมทั้งพาน้องออกเดินเพื่อที่จะไปเข้าฐานต่างๆ ที่กระจายอยู่ตามแต่ละมุมของโรงเรียน

“ฐานแรกนะครับน้องๆ” รุ่นพี่ประจำกลุ่มของต้นพาสองกลุ่มที่ถูกจับคู่กัน มายังบริเวณลานใต้ต้นโพธิ์ขนาดใหญ่สองต้น กลุ่มคนทั้งสิบแปด ตั้งแถวและนั่งลงบริเวณใต้ร่มไม้
ที่นี่มีรุ่นพี่ยืนรออยู่แล้วประมาณสามสี่คน คนที่ตัวสูงปานกลางออกมาพูดก่อน

“สวัสดีครับน้องๆ ทุกคนทั้ง ม.4 ม.5 และเพื่อนๆ ม.6 ที่เข้าใหม่ทุกคน ฐานนี้เป็นฐานแรก ชื่อว่าฐาน แต่งองค์ ทรงเครื่องงงงง” อีกสองหน่อส่งเสียงโห่ฮิ้วพร้อมทั้งปรบมือเป็นจังหวะ พร้อมไปกับเสียงกลองที่รัวขึ้นมา

ตอนนี้ต้นรู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้แทบจะไม่มีใครสังเกตเรื่องชุดของต้นแล้ว ในหัวเขาคิดถึงจังหวะที่จะขอไปเข้าห้องน้ำ เพื่อจะเอาแป้งเจ้ากรรมนายเวรที่ออกจากตัวเสียที ครั้งนี้เขาจะเลี่ยงไปใช้ห้องน้ำอีกที่หนึ่ง และหวังว่าจะไม่เจอป้ามหาภัยอีก

รุ่นพี่ผู้ชายอีกคนที่ตัวสูงกว่าออกมาอธิบายต่อ

“ในฐานนี้เป็นฐานแรก น้องๆ ต้องเลือก ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมา 1 คน โดยคนหนึ่งจะเป็นคิง อีกคนจะเป็นควีน เมื่อเลือกแล้ว น้องๆ จะต้องหยิบชุดที่พี่มีเตรียมให้ทั้งหลาย นำไปแต่งให้คิงกับควีนด้วย”

“นอกจากนี้ อย่าลืมแต่งหน้า ทาปากให้คนที่ถูกเลือกด้วยนะคร้าบบบ”
ต้นมองไปยังของที่รุ่นพี่เตรียมไว้เห็นกล่องที่น่าจะเป็นกล่องใส่ชุด แต่ข้างๆ นั่นเป็นแพ็คแป้งขวกใหญ่เรียงกันเป็นตับ

“แป้งอีกแล้ว” ต้นพึมพำเบาๆ เขาไม่อยากโดนเพิ่มไปมากกว่าเดิมเพราะตอนนี้แป้งที่ตัวของเขาก็มีเยอะพอแล้ว

“หลังจากแต่งตัวเสร็จ ก็จะเปลี่ยนฐานเลยนะครับ แต่เราจะต้องไม่ลืมว่าเมื่อเรามีคิง กับ ควีนแล้ว หลังจากนี้เราจะต้องผูกแขนคิงกับควีนไว้แล้วให้สองคนนำขบวน หากมีกลุ่มใดกลุ่มอื่นมาแย่งคิง หรือควีนไปเป็นตัวประกันได้ กลุ่มของน้องจะเสียคะแนนอย่างมหาศาล และอาจทำให้กลุ่มน้องโดนลงโทษตอนท้ายก็ได้นะครับ”

“ตอนนี้เราจะให้เวลาโหวตคิงกับควีนครับ”
ทั้งสองกลุ่มที่ต้องรวมกันเป็นหนึ่งล้อมวงเข้าหากัน

“ใครเป็นควีนดีล่ะ” หนึ่งคนในกลุ่มเริ่มเปิดประเด็นด้วยตำแหน่งที่ทุกคนไม่อยากเป็นมากที่สุด ให้เป้นควีนในโรงเรียนชายล้วนเป็นการแกล้งของรุ่นพี่ที่เจ็บแสบไม่เบา

“เรา เป่า ยิ้ง ฉุบ กันดีไหมให้คนชนะ หรือแพ้เป็นก็ได้” ต้นรีบเสนอความคิดเห็น เพราะเขาไม่อยากเป็นตัวอะไรที่ทำให้เขาโดดเด่นไปมากกว่านี้ ที่สำคัญเขาจะได้มีเพื่อนเสียที

“ดีเหมือนกัน ผมเห็นด้วย”

“จริงๆ แล้วพี่ก็โดนแป้งอยู่แล้ว จะเสียสละโดยอีกหน่อยให้น้องได้ไหมครับ” รุ่นน้องคนหนึ่งเปิดประเด็นใส่ต้น เพราะกลายเป็นว่าเมื่อต้นพูดทำให้ทุกคนเริ่มสังเกตมาที่ตัวเขาอย่างจริงจัง

“แต่งหญิงอยู่แล้วด้วย เติมอีกหน่อยไม่เป็นไรหรอกมั้ง” สมาชิกอีกคนสำทับ

“ผมโหวตพี่คนนี้”

“ผมด้วย”

ต้นได้รับเลือกโหวตอย่างเร็วด้วยเสียงที่แทบจะเป็นเอกฉันท์ รวมถึงน้องเอกด้วย แม้ว่าตอนโหวต เขาจะหันมาหาต้นแล้วพูดว่า ขอโทษนะพี่ ก็ตาม

เมื่อเปิดกล่องออกมายิ่งทำให้ต้นเครียด เพราะชุดของควีนนั้น เป็นควีนจริงๆ ในกล่องมียกทรงสีชมพูลูกไม้หวานแหวว พร้อมกางเกงในสีเหมือนกันอยู่ในกล่อง ทั้งยังมีมงกุฎ สายสะพาย ถุงมือที่ยาวถึงข้อศอกสีชมพู และถุงเท้าที่ยาวสูงกว่าหัวเข่า
น้องคนหนึ่งหยิบยกทรงออกมาอย่างเร็วและสวมทับลงบนตัวของต้น

“ใจเย็นๆ นะน้อง” ต้นยกมือห้ามน้องๆ ที่เข้ามารุม แป้งในกางเกงในก็เหมือนจะไหลออกมาตามข้างขา จนต้นมัวพะวงและไม่สามารถปัดป้องยกทรงได้

ยกทรงถูกสวมลงบนตัวของต้นและถูกติดตะขอทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว

“พี่ยกขาหน่อย” สมาชิกลุ่มอีกคนเข้ามายกขาต้นส่งผลให้มีแป้งจำนวนหนึ่ง ร่วงลงมา

“โอะ”

ระหว่างที่ต้นกำลังอายกางเกงในก็ถูกสวมเข้าที่ขาทั้งสองข้าง กางเกงในถูกสวมทับกางเกงบลูมเมอร์ จากการดึงของหลายๆ คน ต้นต้องเบะขาออกเล็กน้อยเพื่อที่กางเกงในจะได้เข้าที่ตามความเคยชิน ส่งผลให้เกิดท่าที่น่าอายขึ้นมาครู่หนึ่งทำให้ทุกคนในวงเขินไปตามๆ กัน รวมทั้งต้นด้วย

กางเกงในตัวล่าสุดมีขนาดเล็ก จึงทำให้ต้นรู้สึกกระชับและอึดอัดไปในทีเดียว อวัยวะภายในที่อยู่อย่างไม่เป็นระเบียบอยู่แล้วยิ่งอยู่ลำบากขึ้นไปกว่าเดิม ต้นรู้สึกได้ว่าหัวมันเปิดขึ้นมาเล็กน้อย และแป้งเข้าไปเยอะมาก
เพื่อนในกลุ่มอีกสองสามคนถือแป้งขวดสีม่วงมาพร้อมกับกำลังแกะสติกเกอร์ที่ปิดปากขวดอยู่ ต้นต้องรีบร้องห้ามเป็นพัลวัน

“ไม่เอาแล้วขาวแล้ว”

แต่ไม่ทันแล้ว เพราะตอนนี้มีคนที่กำลังแบมือสองข้างรองแป้งจากคนถือขวดอยู่ ปริมาณแป้งที่ลงมาจากการถูกบีบแบบไม่บันยะบันยังพูนมือจนร่วงออกมาข้างๆ

“ขาวกว่านี้ได้อีก พี่กลั้นหายใจหน่อย”

ต้นพยายามจะถอยออก แต่กลับมีมือมาจับด้านหลังหัวทำให้ขยับหน้าหนีไม่ได้ ต้นหลับตารับแป้งด้วยความจำยอม รอบนี้คนทาบรรจงทาอย่างเต็มที่ กดเข้ามาเต้มแรงเหมือนต้องการจะอัดแป้งให้ฝังเข้ามาที่หน้าของต้นเลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้นมือที่เต็มไปด้วยแป้งยังคลึงไปทั่วใบหน้าของต้นรอบแล้วรอบเล่า

เหมือนบางอย่างในใจต้นรู้สึกแปลกๆ เขาจึงไม่ขัดขืนและยังยื่นหน้าสู้ไปตามมือที่คลึงหน้าเขาอยู่

“เติมลิปหน่อยนะครับ” ต้นก็ยื่นปากให้รุ่นน้องทาลิปเช่นเดียวกัน ตอนนี้ต้นยอมทุกอย่างแล้ว

“เติมแป้งอีกนิดนะครับ กลั้นหายใจอีกรอบคับพี่” ถึงจะบอกว่าอีกรอบ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ต้นก็โดนทาแป้งอีกครั้งไม่ถ้วน จนแป้งขวดใหญ่สามสี่ขวดที่เพื่อนๆ ถือมาเบาโหวงเพราะไม่มีแป้งเหลือข้างในแล้ว

ภาพที่เห็นคือต้นยืนอยู่กางวงสีขาวบนพื้นที่เกิดจากแป้งหนาเป็นนิ้ว

ท้ายที่สุดสายสะพาย วิกกับมงกุฎก็ถูกสวมลงบนตัวและหัวของต้น และน้องก็เอาขนนกมาพันคอต้นเป็นอย่างสุดท้าย
เมื่อมองไปทางสมาชิกอีกคนที่ได้เป็นคิง ผลปรากฏว่า คิงได้ใส่แค่สายสะพายกับมงกุฎ และมีดาบกับโล่ให้

“เฮ้ย มันไม่แฟร์อ่ะ” ต้นชี้ไปที่คนที่ได้รับบทบาทคิง

“ทำไมคนนี้ถึงไม่โดนแป้งล่ะ”

เหมือนรุ่นพี่คนหนึ่งจะรู้ เขาถือขวดแป้งมาสองขวดหน้าต้น ยกขวดขึ้นหน้าต้นวนๆ ต้นจึงงแบมือทั้งสองข้างหรุ่นพี่บีบแป้งให้ รุ่นพี่บีบแป้งให้ต้นจนล้นมือ

เมื่อได้แป้งเต็มมือ ต้นเดินไปหาคิงของกลุ่มเพื่อที่จะละเลงแป้งให้เต็มที่

“เดี่ยวน้อง พี่ไม่ได้ให้ไปทาเขา พี่นึกว่าน้องจะบึ้มแป้งตัวเอง”

“หา อะไรนะ” ต้นสับสน

“ก็เห็นมองมานึกว่าจะเอาแป้งเพิ่ม”

“ไม่ใช่พี่ ผมจะให้ทาแป้งคนนี้” ต้นบอกเหตุผล

“ไม่ๆ แต่พี่เทแป้งให้เราบึ้มตัวเองไง บึ้มเลย บึ้มเลย”

“บึ้มเลย บึ้มเลย” เพื่อนๆ ในกลุ่มเชียร์ตามพี่ขึ้นมาซะอย่างนั้น

ต้นไม่รู้ว่าตอนนั้นต้นทำหน้าแบบไหน เขารู้แต่ว่าเขาอยากร้องไห้ แต่เมื่อทุกคนในกลุ่มนับ สาม สอง หนึ่ง ต้นก็ยกสองมือขึ้นบึ้มแป้งใส่หน้าตัวเอง และฉี่ต้นก็ไหลออกมา

ต้นตัวกระตุกเล็กน้อยพร้อมกับอาการเกร็งที่ช่องท้อง และความหวิวๆ ในใจก็เข้ามาแทนที่ ส่วนน้ำที่เหมือนฉี่ด้านล่างก็พุ่งออกมาเป็นจังหวะ แต่ไม่มีใครสังเกตเห็นตัวต้นที่กระตุกเกร็งเพราะตอนนั้นฝุ่นแป้งค่อนข้างฟุ้ง

รับน้องวันแรก ต้นก็ถูกแกล้งเสียจนถึงจุดสุดยอดอย่างไม่ตั้งในเสียแล้ว
________________________________

คนในห้องพักครูทั้งสองได้ย้ายที่ออกมาข้างนอกและเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง

“เกินกว่าที่คิดไว้มากโข”

“หนูไม่คิดว่าเขาจะถึงขนาดเสร็จเลยนะคะ”

“ครูว่าเหล่าสาวๆ น่าจะทำเกินไปหน่อย ดูจากท่าเดินแล้วน่าจะมีคนไปเปิดหนังหุ้มของน้องจนหัวมันโผล่ออกมาเยอะ น้องมันถึงได้เสียวขนาดนั้น”

“ครูขา หนูชนะพนันทุกข้อเลยค่ะ”

“ใช่ ตามสัญญาเธอจะขออะไร ครูจะให้หนึ่งอย่าง”

“มีช้อยส์ให้เลือกไหมคะ” คำถามของเธอส่งผลให้ครูยิ้มออกมาเล็กน้อย

“รางวัลมีสองอย่าง อย่างแรกครูจะให้เธอช่วยตัวเองจนเสร็จได้ อย่างที่สอง เธอจะต้องโดนแบบที่น้องโดนและครูจะยังไม่ให้เธอจัดการตัวเอง”

น้ำฝนหายใจแรงขึ้นมาเล็กน้อย

“ใครจะเลือกอย่างที่ 2 คะ แล้วหนูจะชนะพนันมาทำไมล่ะอย่างนั้น”

“ฮ่าๆ ๆ ๆ แล้วเธอจะเลือกอะไร อย่างแรกใช่ไหม”

หญิงสาว (? ) เม้มปากเล็กน้อย

“หนูเลือกอย่างที่สองค่ะ” เธอกัดปากขณะที่พูดไปด้วย น้ำเป็นดวงปรากฏขึ้นบริเวณกระโปรง

“เธอนี่มันโรคจิต จริงๆ” เขาหันไปพูดกับเธอส่งผลให้หน้าเธอแดงก่ำขึ้นมาทันที

“ครูต้องรับผิดชอบที่ทำให้หนูเป็นแบบนี้ค่ะ” เธอหันไปพูดด้วยเสียงเข้ม

“ฮ่าๆ ๆ ๆ”

“เอ้อ ครูคิดอะไรดีๆ ออกละ เอางี้ดีกว่า พอตอนเย็นน้องถอดชุดออกแล้ว เธอเข้าไปสวมต่อเลยละกัน ใส่นอนยาวไปจนถึงตอนเช้าแล้วใส่ชุดนักเรียนทับมา”

“โอเคค่ะ” เธอพูดพร้อมยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มที่แปลกสุดบรรยาย
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 5 การรับน้องที่น่าอับอาย(ตอนต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 20-03-2019 22:25:21
 o13
 :3123:
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 5 การรับน้องที่น่าอับอาย(ตอนต้น)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 20-03-2019 23:19:22
ตอนที่ 6 การรับน้องที่น่าอับอาย (ตอนต่อ)

กุญแจมือเด็กเล่นถูกสวมเข้าที่ข้อมือของต้น กับคนที่เป็นคิง ทั้งคู่ยืนเขินๆ ต่อกัน ก่อนที่คนที่เป็นคิงจะเอ่ยขึ้นก่อน

“สวัสดีนะ เราอยู่ ม.5 เหมือนกัน ชื่อ เก่ง”

“สวัสดีครับชื่อต้นครับ” แป้งบนตัวต้นร่วงโปรยปรายทั้งตอนที่เขาพูดและขยับตัว เขาจึงไม่ค่อยอยากขยับตัวเท่าไหร่ ภายใต้กางเกงในต้นรู้สึกได้ถึงน้ำเหนียวๆ และแป้งบางส่วนที่เริ่มแข็งตัว

ขบวนของน้องใหม่ตั้งขึ้นอีกครั้ง โดยมีคิงและควีนนำขบวน เป็นภาพที่แปลกตา เพราะเมื่อมองไกลๆ จะเห็นเป็นคนที่สวมมงกุฎใส่ผ้าคลุมสีแดง มีข้อมือเชื่อมกับอีกคนที่ตัวขาวโพลน ยกทรงและกางเกงในสีชมพูสะท้อนแสงเห็นเด่นไปไกล

“ขอ ทหาร ป้องกันขบวนสี่คน และนี่คือกุญแจที่ใช้ไขกุญแจมือได้ กติกาในการเล่นเกมของวันนี้ คือ เหล่าทหารต้องคุ้มกันกลุ่มของตนเอง เพราะทหารจะไม่สามารถถูกจับได้ จึงมีหน้าที่ในการป้องกันกลุ่มโดยเฉพาะ คิง และควีน”

“กุญแจที่ให้ไปสามารถไขกุญแจมือได้ทุกอัน เมื่อได้โอกาสให้คนที่ถือกุญแจ แอบลอบเข้าไปไขกุญแจมือ หรือ จับคนในกลุ่มอื่นเอามาเป็นเชลยในกลุ่มของตัวเองได้ ซึ่งจะได้คะแนนเพิ่ม ยิ่งจับคิงหรือควีนได้ จะยิ่งได้คะแนนเพิ่มเป็นสองเท่า”

“หากเราจะเชลยมาได้ นอกจากจะได้คะแนนแล้ว ทุกๆ ฐานที่มีบทลงโทษ เราสามารถให้เชลยเป็นคนโดนลงโทษแทนได้ เพราะฉะนั้น น้องๆ ต้องรักษาตัวเอง จนทำกิจกรรมครบทั้ง 6 ฐานในตอนบ่ายนี้นะครับ”

“แล้วเจอกันตอนรวมคะแนนตอนเย็น ขอให้ทุกคนโชคดี”

สมาชิกในกลุ่มคนที่ได้เป็นทหาร รับหมวกจากรุ่นพี่มาใส่เพื่อแสดงตัว ส่วนรุ่นน้องที่ชื่อเอกรับอาสาเป็นคนดูแลกุญแจ พร้อมกับบอกให้เชื่อใจเขาได้ เพราะเขามีความรวดเร็ว และแข็งแรงเนื่องจากว่าเป็นนักเรียนทุนกีฬา

“เราวางแผนกันสักหน่อยไหม พอมีเวลาอยู่” เก่งหันมาคุยกับสมาชิกอีก 16 คน

“รุ่นพี่บอกว่า ตัวของคิงจะมีดาบ ที่เอาไว้ตีให้หยุดได้ คนที่โดนดาบเตะต้องหยุดตามกติกา ส่วนทหาร สามารถจับให้คนหยุดได้สองคน เท่ากับว่า ตอนที่เราเจอะกลุ่มของศัตรู ถ้าคิงไม่ลงไปทุบเอง ทหารของกลุ่มเราจะหยุดคนกลุ่มอื่นได้แปดคน ที่เหลือก็ต้องป้องกันกันเอง”

“เพราะฉะนั้น สำคัญที่สุดคือคุ้มกันต้น เพราะเรายังสามารถหยุดได้ แต่ต้นที่เป็นควีนไม่มีอาวุธป้องกันตัว แถมยังให้แต้มเป็นสองเท่าด้วย” เพื่อนหลายๆ คนพยักหน้าตาม

“แต่คนอื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น คนที่เป็นทหาร ต้องพยายามหยุดทหารฝ่ายศัตรูไว้ให้ได้ ส่วนเราจะเข้าไปหยุดคนที่สำคัญของอีกกลุ่มหนึ่ง และคุ้มกันต้นไปในตัว”

“ลืมบอกไปว่าผมฟันดาบเป็นอยู่นะครับ” เขาพูดพร้อมกับยิ้ม

“ตกลงตามนี้นะทุกคน” ทุกคนในกลุ่มพยักหน้าโดยพร้อมเพรียง

รุ่นพี่ให้แผนที่มา เพื่อที่จะบอกถึงเส้นทางที่จะมุ่งไปยังฐานต่อไป หลังจากลงความเห็นกันแล้วทั้งกลุ่มเห็นว่า เดินเส้นทางที่อ้อมหน่อยแต่ไม่น่าจะเจอใครปลอดภัยที่สุด

กลุ่มของต้นเดินอ้อมไปทางด้านหลังของอาคารแห่งหนึ่ง ที่นี่ไม่ค่อยมีคน ซึ่งทำให้ต้นค่อนข้างรู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง เพราะตอนนี้เขาเริ่มชินกับกลุ่มนี้แล้ว เพราะแต่ละคนก็ไม่ได้แสดงออกว่าต้นแปลกเหมือนในช่วงแรกๆ และเหมือนกับว่าหลังจากที่ฉี่เหนียวๆ ทะลักออกมา ต้นก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ แม้จะเสียวเท่าเดิม แต่ต้นก็เคลื่อนตัวได้อย่างกระฉับกระเฉงมากขึ้น

เสียงอึกทึกดังมาจากหน้าตึกหลังเดียวกัน คาดว่าน่าจะมีสองกลุ่มที่บังเอิญมาเจอกันระหว่างทางแล้ว

“เราจะพยายาม เลี่ยงไม่เจอใครให้มากที่สุด รีบจบภารกิจในแต่ละฐานให้เร็ว ต้นจะได้ไปเปลี่ยนชุดนี้ออก” เก่งหันมาคุยกับต้นด้วยเสียงค่อยระหว่างที่เดินไปด้วย

“ขอบคุณนะเก่ง แต่ว่าไม่ต้องรีบมากก็ได้ ตามกิจกรรมไปเถอะ เราโอเคอยู่” จบประโยคต้นเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ จากสีหน้าของเก่งที่เปลี่ยนไป

“อะ..เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าเราโอเคที่จะอยู่ในสภาพนี้หรอกนะ แต่โอเคหมายถึงว่ายังทนได้ ไม่อยากเป็นภาระของทีมน่ะ” ต้นรีบละล่ำละลักแก้ต่าง

เสียงเอะอะโวยวายเงียบลงไปแล้ว กลุ่มของต้นเคลื่อนขบวนไปจนถึง ฐานต่อไปโดยยังไม่พบเจอกลุ่มอื่น

ที่นี่มีรุ่นพี่กำลังรออยู่เช่นเดียวกัน โดยที่รุ่นพี่ประจำฐานนี้ มีอยู่ถึง 6 คน และมีหนึ่งในนั้นแต่งเครื่องแบบนักเรียนหญิง แต่พอดูออกว่ารูปร่างยังมีความเป็นชายอยู่บ้างด้วยหัวไหล่ที่กว้างแต่เมคอัพบางๆ ก็ทำให้เขาดูกลมกลืนไปกับชุดที่ใส่

“สวัสดีครับน้องๆ ฐานนี้ชื่อว่าฐาน วิ่งเปี้ยวซูเปอร์แมน กติกาในการชนะฐานมีดังนี้ครับ เราจะมีธงห่างกัน 70 เมตร น้องจะต้องแบ่งกันออกเป็นสองทีม เพื่อแข่งกันเอง โดยเมื่อพูดถึงซูเปอร์แมนน้องนึกถึงอะไรครับ”

“กางเกงในสีแดง”

“ถูกต้องนะคร้าบบ” รุ่นพี่หยิบกางเกงในผู้หญิงเต็มตัวสีแดงออกมาสองตัว

“กติกาคือ เมื่อนกหวีดดังขึ้น คนแรกของแถวจะต้องหยิบกางเกงในไปใส่ ใส่แล้วไปวิ่งอ้อมธง กลับมาเอากางเกงในส่งต่อให้เพื่อน ใครวิ่งเข้าเส้นชัยครบทุกคนก่อน ทีมนั้นชนะไปเลย เมื่อทำสำเร็จก็จะผ่านฐานนี้ไปได้ แต่เนื่องจากแข่งกันเองก็จะไม่มีการเสียคะแนนแต่อย่างใด แต่จะมีการลงโทษกันในกลุ่มเฉพาะกลุ่มที่แพ้เท่านั้นนะครับ”

“ซึ่งบทลงโทษง่ายมาก คนที่วิ่งช้าที่สุดของทีมแพ้ จะต้องใส่กางเกงในสองตัวนี้ทับไว้ด้านนอกชุดจนกว่าจะจบกิจกรรมนั่นเองครับ” บทลงโทษเรียกเสียงอื้ออึงให้เกิดขึ้นในกลุ่มทันที เพราะเป็นการลงโทษที่สุดแสนจะน่าอาย ยกเว้นแต่ต้นซึ่งก็ไม่ได้รู้สึกอับอายไปมากกว่าที่เป็นอยู่เท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้ใส่เพิ่มอีกสองตัวต้นก็ไม่อยากเหมือนกัน แต่เขาจะวิ่งไหวไหมนะ เมื่อคิดได้ดังนี้ช่วงล่างที่สงบไปแล้วของต้นกลับแข็งขึ้นมาอีกครั้ง สร้างความตกใจให้กับต้นมาก ทำไมเขาถึงมีอารมณ์กับเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้

ทั้งกลุ่มแบ่งตามกลุ่มเดิมของตัวเอง แปดคนเหมือนเดิม กุญแจมือถูกไขออกเพราะต้นกับเก่งอยู่คนละกลุ่มตั้งแต่แรก และทั้งสองคนเป็นคนสุดท้ายของทั้งสองแถว

เก่ง หันมาขยับปากให้ต้นเห็นเป็นคำพูดว่า “เดี๋ยวจะอ่อนให้นะ” กับต้น ก่อนที่สัญญาณนกหวีดจะดังขึ้นและคนแรกของแถวหยิบกางเกงในมาใส่และวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว เอกเป็นคนแรกและเขาได้พิสูจน์ทักษะทางด้านร่างกาย เขาวิ่งนำคู่แข่งถึงสามช่วงตัวและวิ่งกลับมาเปลี่ยนเพื่อนอย่างรวดเร็ว

แม้ว่าคนแรกจะทำเวลาเร็วมาก แต่คนต่อมากลับช้าลงอย่างเห็นได้ชัด กลุ่มของเก่งค่อยๆ ลดจำนวนลงห่างจากกลุ่มต้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงคิวของเก่ง ก็ยังมีคนอยู่ด้านหน้าต้นอีกตั้งสองคน แม้จะดูคับขัน แต่ต้นก็รู้สึกได้ว่าเขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และน้องน้อยด้านล่างก็แข็งขันขึ้นมาเบียดกับเม็ดแป้งและแรงกดจากกางเกงเช่นเดียวกัน ความหน่วงเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย

แม้ว่าเก่งจะจงใจวิ่งให้ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด จนแทบจะเรียกว่าเดิน ฝั่งต้นก็ยังช้ากว่า จนมาถึงคิวของต้น ต้นรับกางเกงในสีแดงสดมาใส่ ขณะกำลังจะออกวิ่งความเสียวก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ต้นต้องพยายามหนีบขา และตอนที่เขาวิ่งไปได้ครึ่งทาง เก่งก็เข้าเส้นชัยไปเรียบร้อย

แน่นอนว่ากางเกงในทั้งสองตัว ก็ขึ้นมาสวมอยู่บนตัวของต้นอีกครั้ง หลังจากต้นเข้าเส้นชัย อาการหน่วงและเสียวก็กลับมาด้วยเช่นกัน

รุ่นพี่สรุปกิจกรรมเล็กน้อย ก่อนที่จะให้คะแนนและปล่อยให้เคลื่อนขบวนไปฐานต่อไป

“ขอโทษนะ” เก่งหันมาพูดกับต้นขณะเดินคู่กัน

“มะ..ไม่เป็นไรหรอก” ต้นรู้สึกยากที่จะบรรยาย เพราะการเป็นห่วงของเพื่อนทำให้เขารู้สึกแปลกๆ เหมือนกัน

“มีศัตรู” เสียงตะโกนดังขึ้นมาจากด้านหลัง และทั้งกลุ่มก็พบว่า มีขบวนอีกขบวนหนึ่งมาจากทางด้านหลัง ทั้งคิงและควีนของอีกกลุ่ม วิ่งนำขบวนเข้ามาประชิดอย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นควีน แต่ชุดของอีกกลุ่มกลับเป็นเสื้อยืดสีหวานแหวว กับกระโปรงสั้นเต่อเพียงเท่านั้น ทั้งสองกลุ่มเข้าปะทะกันอย่างรวดเร็ว

การทำงานของคิงและควีนอีกกลุ่มเข้าขากันอย่างน่ากลัว เพียงชั่วครู่ คิงก็ไล่ฟาดดาบใส่คนในกลุ่มไปหลายคน คนที่โดนตีก็ต้องยืนนิ่งตามกติกา ส่วนทหารทั้งสี่ ก็ต่างจับกันแบบตัวต่อตัวทำให้ไม่สามารถขยับได้ สถานการณ์ในตอนนี้ จึงเป็นต้นกับเก่ง ถูกล้อมไปด้วยสมาชิกของอีกกลุ่มนับสิบ พร้อมประจันหน้ากับคิงและควีนของอีกฝั่ง

ต้นเห็นเอก แวบๆ เขาอยู่ห่างๆ รอทีท่าที่จะปลดกุญแจและจับควีนของอีกฝั่งเป็นตัวประกัน

เก่งเริ่มโชว์ทักษะนักดาบ โดยการใช้แขนอย่างคล่องแคล่ว แม้จะใช้ได้แต่แขนซ้าย แต่เขาก็ยังปัดป้องได้เป็นอย่างดี ต้นถูกลากไปรอบๆ ด้วย เมื่อประเมินจากจำนวนคน ต้นคิดว่าไม่น่าจะชนะได้ เพราะคนที่เหลือหากเข้ามารุม ต่อให้เก่งเทพแค่ไหนก็คงดิ้นไม่ออก

“นายคงไม่ชนะหรอก เรายื่นข้อเสนอ ไม่เอาเชลยคนอื่น ขอแค่ควีนคนเดียวละกัน”

“ถึงจะเอาเฉลย แต่ฉันไปถามรุ่นพี่มาแล้ว ว่าเอาเชลยเต็มที่ได้ไม่เกินสามคน แต่ควีนเป็นคะแนนสองเท่า ฉันว่าฉันเก็บควีนไว้ดีกว่า”

“งั้นก็มาลองสักตั้ง”

ทั้งสองผลัดกันสะบัดดาบ และต่างคนต่างหลบโดยไม่มีคนเพลี่ยงพล้ำ ฝ่ายเอกเมื่อได้จังหวะ เขาก็วิ่งพุ่งเข้าหาควีนของอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เอกจะรวบตัวควีนของอีกฝั่ง ดาบของคิงก็ฟาดเข้าที่กกหูของเอกเสียก่อนส่งผให้ตัวคนพุ่งล้มกลิ้งไม่เป็นท่า

“โอย วิ้งเลยเชียว” เอกครางบนพื้น

“พอแล้วๆ” ต้นดึงแขนให้เก่งหยุด

“เดี๋ยวผมยอมเป็นเชลยเอง เดี๋ยวมันจะเจ็บตัวกันไปมากกว่านี้” ต้นพูดขึ้น เพราะคำนึงถึงความอันตรายที่จะเกิด จะจากสภาพของเก่งและเอก ที่ตอนนี้เอกกำลังนอนนับดาว และทั้งแขนของต้นกับเก่ง มีรอยขีดข่วนจากกุญแจมือเต็มไปหมด

เมื่อเก่งเห็นดังนั้นจึงหยุดแต่โดยดี

“เอาล่ะต้องทำยังไงต่อ”

กุญแจมือถูกไขออกจากแขนเอก และใส่ลงไปบนแขนที่เหลือของต้น กลายเป็นว่าต้นมีสภาพคล้ายกับนักโทษที่โดนล็อกกุญแจมือ

“ทีมที่แพ้ต้องอยู่รอ 10 นาที ก่อนที่จะออกเดินทางได้อีกครั้ง”

“เราขอควีนกับคะแนนไปก่อนละนะ” คิงของอีกฝั่งหันมาบอกกับกลุ่มเก่ง

“รออีกแป๊บเดี๋ยวพวกเราจะตามพวกแกให้ทัน” เอกที่ลุกขึ้นมาได้ พูดขึ้นมา ก่อนที่จะคลำไปที่กกหูเบาๆ เพราะอาการเจ็บยังไม่หาย

ควีนของอีกฝั่งถอดชุดที่เป็นเสื้อกับกระโปรงสีหวานแหววของมา และยื่นให้ต้น

“อะไรน่ะ”

“เธอเป็นเชลยไง เราสามารถลงโทษเชลย หรือให้เชลยรับการลงโทษแทนได้ ตอนนี้เธอก็ใส่ชุดควีนของกลุ่มนี้แทนไปก่อน” ควีนของอีกฝั่งบอก

ต้นรับชุดมาใส่ด้วยความอับอายเป็นสองเท่าจากของเดิม เพราะคราวนี้เขาต้องเดินไปกับกลุ่มใหม่ เขาสวมชุดด้วยมือที่สั่นเทา เมื่อใส่เสร็จทหารของอีกฝั่งก็เข้ามาจูงกุญแจมือของต้น

“เอาล่ะออกเดินทางกันได้”

กลุ่มที่ชนะก็ออกเดินต่อ ปล่อยให้ทีมที่แพ้นั่งรอเวลาจนกว่าจะครบกำหนด ไปพร้อมๆ กับเชลยคนล่าสุดในกระโปรงสีชมพูที่เดินบิดซ้ายบิดขวาด้วยความเขินอาย ซึ่งไม่มีใครรู้เลยว่า ภายในของต้นที่ตั้งชูชันมีน้ำไหลซึมออกมาอีกครั้งแล้ว
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 6 การรับน้องที่น่าอับอาย(ตอนต่อ)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 21-03-2019 00:19:57
ตอนที่ 7 การรับน้องที่น่าอับอาย (ตอนจบ)

ต้นนั่งเชียร์ทีมศัตรูด้วยใจตุ้มๆ ต่อมๆ ให้ทำภารกิจสำเร็จลุล่วง เพราะฐานนี้เป็นฐานช่วยตัวประกันซึ่งแน่นอนว่าต้นที่เป็นเชลยถูกส่งออกมาเป็นตัวประกันแทนคนอื่น

“ภารกิจคือหาตัวอักษรตามที่ต่างๆ ตามคำใบ้ที่พี่ๆ ให้ตามเวลาที่กำหนด หากหาได้ไม่ครบตัวประกันจะโดนลงโทษ และเพิ่มตัวประกันอีกหนึ่งคน ต่อเวลาได้อีกครึ่งหนึ่งของเวลาเดิม ตัวประกันก็จะโดนลงโทษอีกรอบ”

“เริ่มภารกิจได้”

ต้นถูกล็อกด้วยกุญแจมืออันเดิมแต่ครั้งนี้มือทั้งสองข้างถูกล็อกไว้ด้านหลัง และเพิ่มเติมด้วยการมัดเชือกรอบหน้าอกและแขนทั้งสองข้าง สองชั้นต้นจึงขยับแขนทั้งสองข้างไม่ได้อีก

“อย่าส่งเสียงนะคะน้อง” รุ่นพี่ในชุดนักเรียนหญิงที่ยืนเฝ้าตัวประกันนำเทปกาวสีดำมาปิดปากต้น แต่ด้วยความที่ต้นยังมีแป้งอยู่บนหน้าอย่างทั่วถึง จึงทำให้เทปกาวไม่ติด รุ่นพี่จึงใช้การพันไปรอบๆ แทน

ความปวดฉี่กลับมาอีกครั้งในขณะที่ต้นนั่งอยู่ เมื่อขยับขาเพียงเล็กน้อยก็เป็นการบดเบียดอะไรหลายๆ อย่างในกางเกงในที่ทำให้ต้นรู้สึกดีแปลกๆ เกิดขึ้นมา

เวลานับถอยหลังไปเรื่อยๆ จนเมื่อเวลาใกล้จะหมด รุ่นพี่ประจำฐานทุกคนก็พร้อมใจกันหยิบขวดแป้งขึ้นมาเล็งใส่ตัวของต้น
แป้งอีกแล้วเหรอ ต้นคิดในใจ

“เวลาจะหมดใน ห้า สี่ สาม สอง”

ต้นหลับตาเตรียมกลั้นหายใจ

“หนึ่ง”

ฝนแป้งกระหน่ำพุ่งใส่ตัวของต้นจนมองแทบไม่เห็นตัว ต้นสะบัดตัวพร้อมขยับขาขึ้นลง ทำให้เกิดความรู้สึกดีแปลกๆ ขึ้นเป็นเท่าทวี แต่เขาก็ต้องหยุดในช่วงเวลาหนึ่งที่ใจหวิวๆ เหมือนจะขาดใจเกิดขึ้น เพราะรุ่นพี่หยุดเทแป้งใส่เขาเสียก่อน

หลังจากต่อเวลาไปอีกหน่อย กลุ่มนี้ก็ทำภารกิจจนสำเร็จ และมีเพียงต้นที่โดนลงโทษคนเดียวอีกครั้งหนึ่ง
นอกจากความรู้สึกในกางเกงแล้ว ต้นกลับรู้สึกพอใจแบบแปลกๆ ที่ตัวเองโดนจับมาเป็นเชลย ทั้งยังมีความหวังในใจเล็กๆ ว่าฐานต่อไป อยากให้กลุ่มนี้ทำภารกิจไม่สำเร็จอีกสักครั้ง

ในฐานต่อๆ มากลุ่มนี้กลับมีฟอร์มที่ดีขึ้น ต้นจึงไม่โดนลงโทษไปจนถึงฐานสุดท้าย

เสียงนกหวีดเป็นสัญญาณสิ้นสุดดังขึ้น ทุกกลุ่มกลับเข้าไปรวมยังใต้โดมเอนกประสงค์ หลายกลุ่มมีร่อยรอยของการเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ต้นสังเกตเห็นว่าบางคนก็มีสภาพคล้ายๆ เข้าคือมีชุดผู้หญิงใส่เหมือนกัน เลอะเทอะเช่นเดียวกัน แต่ตัวเขาเหมือนจะโดนหนักที่สุดกว่าทุกคน ยิ่งตอกย้ำความหน่วงๆ ในใจให้เพิ่มมากขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

กลุ่มของต้นกลับมาพร้อมกับเชลยอีกหลายคนที่แสดงให้เห็นถึงว่าหลังจากนั้นกลุ่มนี้แทบไม่แพ้ และมาด้วยคะแนนสูงลิ่ว
แต่กลับกันกลุ่มที่ต้นเป็นเชลยกลับได้คะแนนต่ำมากๆ จนกลายเป็นกลุ่มสุดท้ายไปเสียอย่างนั้น

เมื่อรวมคะแนนเสร็จสิ้น รุ่นพี่ได้แบกขนมปี๊บออกมาแจกเพื่อเป็นรางวัลแก่ผู้ชนะ เอกและเก่งออกไปเป็นตัวแทนรับรางวัลและยกขึ้นส่งเสียงแสดงความดีใจ ต้นสังเกตเห็นว่าเก่งมองมาและยิ้มให้เขาด้วย ต้นได้ส่งยิ้มกลับไปเพราะยังต้องนั่งท้ายแถวในฐานะเชลยอยู่

“บทลงโทษของกลุ่มที่แพ้คือ ต้องออกมาเต้นเพลงชุด รับน้องนั่นเองคร้าบบ” รุ่นพี่ที่เป็นพิธีกรประกาศ พร้อมชี้มือไปทางกลุ่มที่แพ้

“ขอเชิญกลุ่มที่แพ้ออกมาด้านหน้าเลย” เสียงกลองรัวขึ้นมาอย่างอึกทึก

“เรายังใช้เชลยรับโทษแทนได้หรือเปล่าครับ” คิงของกลุ่มถามขึ้น

“ยังใช้ได้ครับ ถ้าอีกฝ่ายยังไม่ได้มาชิงตัวคืน”

“งั้นผมขอใช้สิทธินั้นครับ”

ต้นใจหายวาบเมื่อเสียงปรบมือดังกึกก้อง ทุกสายตามองมาที่ต้นเป็นจุดเดียว เขาจำใจยืนขึ้นด้วยความอายสุดขีด

“ออกมาด้านหน้าเลยน้อง”

ต้นเดินออกไปด้านหน้าด้วยใบหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อ

“ขอเชิญรุ่นพี่ออกมาสาธิตท่าด้วยครับ”

รุ่นพี่ในชุดนักเรียนหญิงสองคนเดินออกมาอยู่ข้างๆ ต้น

“ต้องเต้นให้แรงกว่าหรือเท่ากับเท่านั้นนะครับ ถึงจะผ่านกลับเข้าไปนั่งที่ได้”

“เพลงชุดมี สามเพลง นั่นคือเพลงไก่ย่าง เพลงมะหมี่ และสุดท้ายท่าแมงมุมครับ” จบคำพูดเสียงอื้ออึงดังขึ้นทันทีเมื่อท่าในตำนานได้โผล่ออกมา

เมื่อเพลงรอบสาธิตดังขั้นรุ่นพี่ท้องสองก็เริ่มเต้นมาท่าของเพลง แต่ท่าที่รุ่นพี่เต้นออกมานั้นมีการใส่จริตลงไปเยอะมาก ในตอนเพลงไก่ย่าง ท่อนมันจะถูกไม้เสียบ รุ่นพี่ทั้งสองย่อขาทั้งสองข้าง และแบะขาออกจากกัน หลังจากนั้นเอามือทั้งสองข้างประสานไว้ที่ท้ายทอย กระดกก้นขึ้นและเหวี่ยงไปด้านหน้าอย่างแรง

“อ๊างงง” ทั้งสองร้องออกมาด้วยเสียงครางที่น่าอายพร้อมๆ กัน เรียกเสียงฮือฮาจากรุ่นน้องได้เป็นอย่างดี

และในท่อนสุดท้ายที่ร้องว่าร้อนจริงๆ ซ้ำกันสามรอบรุ่นพี่ก็ยังอยู่ในที่คล้ายๆ ท่าเดิม แต่เป็นการส่ายเอวเป็นวงรีอย่างยั่วยวนแทน เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อท่าจบลง รุ่นพี่ปล่อยให้เสียงเซ็งแซ่ค่อยๆ ซาลง ก่อนที่จะผายมือมาทางต้น

“ต่อไปตาน้องครับ”

ต้นยืนเก้ๆ กังๆ ใบหน้าร้อนผ่าว

“เอ้าเต้นตามพี่นะ” รุ่นพี่ทั้งสองค่อยค่อยๆ ทำท่าอย่างช้าๆ ต้นทำตามอย่างเคอะเขิน เมื่อถึงท่ากระดกก้น ทั้งสองคนก็ทำและส่งเสียงร้องกระเส่าออกมา ต้นก็ทำท่าตามนั้น

“ไม่เอา ต้องทำท่าแรงกว่านี้”

ต้นทำท่าเดิมแต่สะบัดก้นแรงขึ้นนิดหน่อย

“แรงกว่านี้อีก” ต้นก็ทำตามโดยการขยับก้นเร็วขึ้น

“ดีมาก แต่น้องต้องส่งเสียงด้วยนะคะ”

“อะ..เอ่อ ไม่ทำได้ไหมครับ” ต้นรู้สึกว่าตัวเองร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า

“ไม่ได้ๆ ต้องทำด้วยไม่งั้นไม่ผ่าน”

“มาๆ ทำพร้อมกัน”

ทั้งสามก็ตั้งท่าเตรียมเต้นเมื่อกลองดังขึ้น ทั้งสามก็ได้เต้นไปพร้อมกัน ต้นรู้สึกอายมากแต่ก็ยังเต้นด้วยความแรงเท่าพี่ เมื่อถึงท่อน เสียบตูดซ้าย ทั้งสามก็กระดกก้นพร้อมกันและส่งเสียง

“อ๊าห์” ผิดคาดเป็นต้นที่ส่งเสียงออกมาคนเดียวเพราะพี่ทั้งสองไม่ได้ทำด้วย ส่งผลให้เสียงอื้ออึงจากกลุ่มรุ่นน้องดังขึ้นอีกครั้ง
“ต่อเป็นเพลงมะหมี่ครับ”

รุ่นพี่ทั้งสองสอนท่าอีกครั้งหนึ่งซึ่งก็เป็นท่าที่ยั่วยวนกว่าเวอร์ชั่นปกติเช่นเดียวกัน เพราะในท่อนของเพลงที่ว่า เอาไม้แหย่รูถูๆ ไถๆ พี่ทั้งสองหมุนก้นจนชายกระโปรงสะบัดเลยทีเดียว

ณ ตอนนี้ต้นทำตามท่าที่ทั้งสองสอนได้หมดแล้วเพราะเขาต้องการที่จะให้มันจบเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้หลุดพ้นจากความอับอายนี่เสียที

“สุดท้ายไฮไลท์เลยครับ ท่าแมงมุม”

“ตั้งท่าเลยครับ” ภาพที่ปรากฏคือทั้งสามอยู่ในท่าแมงมุมตัวเมียที่ขยับก้นขึ้นลงไปตามจังหวะเพลง

“ต่อไปจะเป็นการเต้นคนเดียวครับ” เมื่อจบประโยครุ่นพี่ทั้งสองคนก็เดินออกไป

“น้องชื่ออะไร น้องชื่ออะไร” รุ่นพี่เริ่มเพลงสันทนาการ
“น้องชื่อ..”

“ต้นครับ”

“ชอบทำท่าอย่างนี้ อย่างนี้” ต้นก็ทำท่าขยับเล็กน้อยด้วยความเขินอาย และเพลงไก่ย่างก็ขึ้นมา

ต้นจำต้องเต้นท่าที่รุ่นพี่สอนมาเมื่อครูอย่างเสียไม่ได้ ทั้งเต้นและส่งเสียงได้เป๊ะด้วยความอับอาย แต่เหมือนรุ่นพี่จะแกล้งเพราะรุ่นพี่ร้องเพลงให้เขาเต้นถึงสองรอบ ทั้งไก่ย่างและมะหมี่ และเมื่อเพลงแมงมุมขึ้น ต้นก็ลงไปทำท่าแมงมุมขยับเอวขึ้นลง
โดยท่านี้ระหว่างที่ทำความเสียวซ่านก็กลับมาอีกครั้ง ต้นขยับเอวขึ้นลงโดยมีความเสียวซ่านประกอบและจังหวะเพลงก็เร็วขึ้นเรื่อยๆ ต้นจึงขยับเอวเร็วขึ้นและแรงขึ้นตามจังหวะเพลง เหมือนฉี่ในตัวของต้นมันไม่สามารถควบคุมได้อีกแล้วฉี่ของเขากำลังจะแตกอีกครั้งต้นเร่งความเร็วของการส่ายก้น และเพลงก็หยุดลง ทำให้ต้นต้นหยุดขยับก้นตาม

สิ่งที่กำลังจะทะลักหยุดทันควัน แม้ว่าทั้งหมดจะปรบมือแล้วให้ต้นกลับเข้าที่เดิมแต่เขาตอนนี้กลับรู้สึกอยากกลับไปเต้นต่ออีกนิดเสียเหลือเกิน

รุ่นพี่ได้นัดหมายรวมตัวกันตอนพรุ่งนี้เช้า เพื่อที่จะทำกิจกรรมรับน้องต่อ แต่ต้นไม่ได้ฟังอย่างละเอียดเท่าไหร่ เพราะความรู้สึกค้างคาแปลกๆ ยังคงติดแน่นอยู่ภายใต้กางเกงในที่อัดแน่นไปด้วยแป้ง และซ้อนทับกันอยู่หลายชั้น

เมื่อทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก ต้นเดินแยกออกมาโดยยังไม่ถอดชุด เขาต้องการที่จะไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำตอนเช้าเพราะต้องไปทำความสะอาด ตามที่ป้ามหาโหดได้คาดโทษไว้

ต้นมาถึงห้องน้ำโดยมีป้ามหาภัยยืนรออยู่ในมือของป้ามีถังน้ำที่ใส่แปรงน้ำยาล้างห้องน้ำ เอาไว้

“เอานี่ชุดใส่ทำความสะอาด” ป้าเดินมาจัดแจงสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง ผ้ากันเปื้อน และหมวกของพนักงานทำความสะอาดให้

“ทำความสะอาดให้เสร็จล่ะ เดี๋ยวจะกลับมาดู”

ต้นเดินเข้าไปในห้องน้ำเมื่อเขาเดินผ่านกระจกเขาก็มองเห็นตัวเองได้ชัดเจน ผมที่ยาวกว่ารองทรงเล็กน้อยภายใต้หมวกทำความสะอาดขาวโพลนไปด้วยแป้ง รวมไปถึงใบหน้าและลำคอ แม้ว่าต้นจะมีผิวที่ค่อนข้างขาว แต่ปริมาณแป้งที่เยอะก็ทำให้ต้นขาวโพลนราวกับตุ๊กตาหิมะ ลงมาข้างล่างเป็นผ้ากันเปื้อนที่ทับอยู่บนเสื้อสายเดี่ยวสีชมพู โดยด้านในมียกทรงที่อยู่ภายนอกชุดพละของนักเรียนญี่ปุ่นอีกทีหนึ่ง ซึ่งภายในก็ยังมีแป้งตกค้างจากฐานตัวประกันที่ต้นโดนฝนแป้งกระหน่ำใส่อยู่ กลิ่นตัวของเขาตอนนี้จึงเหมือนโรงงานแป้งฝุ่นเลยทีเดียว

ด้านล่างดูจะน่าตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อภายใต้กางเกงในของต้นมีแป้งปริมาณมหาศาลอยู่ข้างใน ทับด้วยกางเกงพละและกางเกงในสีแดงสองตัว ซึ่งมีกระโปรงสั้นๆ ที่แทบไม่ปิดแก้มก้นอยู่ด้านบนอีกที ส่งผลให้เห็นกางเกงในด้านล่างได้ถนัดตา ทั้งถุงเท้าที่ยาวขึ้นมาถึงขาอ่อนยิ่งส่งเสริมให้ชุดกลมกลืนไปด้วยกัน

ต้นนั่งยองๆ บริเวณด้านในห้องน้ำที่ไม่มีใคร กางขาทั้งสองข้างออกจากกัน และเข้าอยู่ในท่าแมงมุมตัวเมีย ก้นของต้นค่อยๆ ส่ายอย่างควบคุมไม่ได้ แรงขึ้นและเร็วขึ้น ก้นส่ายอย่างรุนแรงและไร้ทิศทาง ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นในใจพร้อมๆ กับบางอย่างที่ค่อยๆ เอ่อล้น

และเขื่อนแห่งความปรารถนาของต้นก็พังทลายลงพร้อมๆ กับการปลดปล่อยความหนักหน่วงที่แบกอยู่ใต้ท้องน้อยมาทั้งวัน ต้นชักกระตุกทิ้งตัวลงบนพื้นห้องน้ำหนีบขาทั้งสองข้างเข้าหากันและนอนหมดแรงอยู่อย่างนั้น
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 7 การรับน้องที่น่าอับอาย(ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 21-03-2019 14:44:54
ตอนที่ 8 ชุมนุมลับในความมืด

“เอ้าครูเค รายชื่อชุมนุมของปีนี้” ครูชัย ครูฝ่ายปกครองนำรายชื่อชุมนุมทั้งหมดที่รวบรวมมาจากครูทั้งโรงเรียนส่งให้ เขาเพื่อที่จะได้กรอกลงระบบ เขารับแฟลชไดรฟ์มาเสียบลงคอมพิวเตอร์ส่วนตัว และเรียกรายชื่อขึ้นมาดู

เขามองดูรายชื่อชุมนุมต่างๆ ที่คุ้นเคย เพราะมันเหมือนกับชุมนุมที่เปิดในปีที่แล้วอย่างกับแกะ

“ครูที่นี่ไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนแปลงอะไรสักหน่อยเลยจริง” เขาหัวเราะกับตัวเอง

รายชื่อชุมนุมทั้งหกสิบชุมนุมนั้นมีชุมนุมที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเปิดในโรงเรียนชายล้วนอยู่ด้วย เช่น ชุมนุมแต่งหน้า เย็บปักถักร้อย แต่ก็ไม่แปลก เพราะในโรงเรียนนั้นมีกลุ่มเพศทางเลือกอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

ชายหนุ่มกด select all ข้อความทั้งหมด แล้วเปลี่ยนสีข้อความทั้งหมดเป็นสีดำ เมื่อนั้นความลับดำมืดของแต่ละชุมนุมก็ปรากฏขึ้นมา เหล่าครูผู้มีหน้าฉากต่างจากนิสัยจริง จะมีชื่อชุมนุมที่แท้จริงต่อท้ายชุมนุมเสมอ นั่นรวมไปถึงตัวของเขาเองด้วย

เขามองไปที่ชื่อของชุมนุมที่ปรากฏขึ้นมาใหม่ คือ ชุมนุมเทคโนโลยีและอุปกรณ์เพื่ออนาคต (ชุมนุมสร้างความสัมพันธ์ของเชียร์ลีดเดอร์พี่สาวและน้องสาว)

“พี่ชัย ชุมนุมเทคโนโลยีและอุปกรณ์เพื่ออนาคต นี่ใครเป็นเจ้าของชุมนุมครับ ชื่อไม่คุ้นเลย ครูวิรัตน์เนี่ย”

“อ่อน้องวิรัตน์ เป็นครูใหม่ไง มาได้สองเดือนแล้ว ตอนเราไปค่ายลูกเสือพอดี”

“ผมเคยเห็นป่ะพี่”

“คิดว่าไม่หรอก ถ้าเห็นคงไม่ถาม เขาหน้าตาดีอยู่นะ สูง ขาว เทยน้อยกรี๊ดกันตรึม”

“อ่ออ โอเค”

ครูชัย จัดเอกสารส่วนตัวเสร็จก็ออกนอกห้องไป เขาจึงเปิดไฟล์วิดีโอในมือถือของตัวเองขึ้นมาดู พร้อมๆ กับอาวุธของชายหนุ่มที่ตื่นขึ้นแทบจะทันทีที่นึกถึง ความไร้เดียงสาของเหยื่อรายล่าสุดนี่มันสร้างความตื่นเต้นให้เขามากมายทีเดียว

แม้ว่าส่วนตัวแล้ว เขาจะชอบแบบที่มีความกบฏอยู่ในตัวมากๆ เขาชอบแววตาที่ขัดขืนมากกว่า เพราะตอนที่แปรเปลี่ยนเป็นสยบยอม มันทำให้เขากลายเป็นผู้ชนะ แต่เมื่อกำหราบเจ้าภูผาลงได้แล้ว ความรู้สึกเหล่านั้นมันกลับหายไปเลย จนช่วงหนึ่งเขาคิดว่าตัวเองคงจะต้องไปหาหมอเพื่อบำบัดเสียแล้ว แต่เมื่อเห็นประวัติและรูปถ่ายของเหยื่อคนใหม่ เพียงแค่นั้นสิ่งที่ปลุกยากกลับกลายเป็นปลุกง่ายไปเสียอย่างนั้น

ภาพในโทรศัพท์ถ่ายคลิปวิดีโอของต้นไว้อย่างชัดเจน มีหลายคลิปและหลายมุม รวมไปถึงในกิจกรรมต่างๆ ที่ต้นโดนแกล้งตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเด็กหนุ่มมาเต้นท่าแมงมุมในห้องน้ำจนสำลักความสุข นอนหมดแรงในห้องน้ำ แต่มีคลิปเจ้าปัญหาอยู่หนึ่งอันที่สร้างความขุ่นเคืองให้เขาจนแทบจะทำให้คลิปทั้งหมดแทบจะไร้ความหมายไปเลยทีเดียว

ยิ่งคิดยิ่งขัดใจ

ความไม่พอใจก่อตัวในใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ วันนี้นังน้ำฝนต้องรับกรรมแทนเสียแล้ว



ตอนที่เขาเข้าไปในห้องน้ำ ต้นยังคงนอนหนีบขาแน่น เขาจงใจเข้าไปตอนที่ต้นยังไม่เสร็จดี เพราะมันน่าตื่นเต้นกว่า ตอนที่เห็นใบหน้าตกใจของต้น เด็กหนุ่มตื่นตระหนกละล่ำละลักพูดออกมาโดยที่เขายังไม่ได้ถามด้วยซ้ำ

“ผมลื่นล้มครับครู”

เขายังคงยืนมองเด็กหนุ่มโดยมีความรู้สึกที่เอ่อล้นจนแทบจะระเบิด เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่ผจญความอับอายมาทั้งวัน และเพิ่งช่วยตัวเองเสร็จไป ในชุดที่สุดแสนน่าอับอาย มันทำให้เขาอยากฉีกกระชาก และมอบตราบาปให้เสียตอนนี้จริงๆ ความรู้สึกอยากครอบครองเอ่อล้นไปทั่วร่างกาย และพลังจินตนาการยิ่งล้ำขอบเขตไปมากยิ่งกว่า เมื่อคิดไปถึงว่าท้ายที่สุดเขาจะมีสมบัติที่ล้ำค่าถึงสองชิ้น ชิ้นแรกคือน้ำฝนประธานนักเรียนที่เขาสร้างขึ้นมากับมือ ส่วนชิ้นที่สองคือ ต้น หรือชื่อที่เขาเตรียมจะตั้งให้ว่า วรรณ

ครั้งนี้เขามีความตั้งใจที่ต่างออกไป น้ำฝนเขาสร้างและผลักดันให้เธอสว่างไสว โดดเด่น และมองความอับอายจากการโดนดูถูก เหยียดหยามจากความล้มเหลวเป็นครั้งๆ แต่สำหรับวรรณ เธอจะต้องเป็นตัวตลก เป็นเบื้องล่าง โดนดูถูกและเหยียดหยาม กลายเป็นสิ่งของ และชนชั้นที่ต่ำที่สุด ตรงข้ามกับน้ำฝน

แต่ยังก่อนตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่สุกงอม ต้นเพิ่งผ่านบทเรียนแรก และเขารู้ว่าเด็กคนนี้ สามารถมีความสุขสมบนความอับอายได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะแผนทั้งหมดได้ถูกวางเอาไว้แล้ว

ในเบื้องหลังใบหน้าอันเคร่งขรึมด้านหน้า ด้านหลังกับเป็นรอยยิ้มที่กว้างสุดบรรยาย และเขาเก็บไว้อย่างแนบเนียน

“ครูเข้าใจ” เขาพูดออกมาเพื่อลดความเหินห่างลง

“เดี๋ยวครูจะเอาชุดมาให้เธอเปลี่ยนนะ อยู่ในชุดนี้คงไม่ดีเท่าไหร่”

“ขอบคุณครับครู” ต้นลุกขึ้นมานั่งในท่าพับเพียบแบบคนหมดแรง ในเวลานี้เขามองเห็นอารมณ์บางอย่างในการแสดงออกของเด็กหนุ่มได้ เป็นแววตาเดียวกับน้ำฝนในปีที่แล้วนั่นเอง ภายหลังเจ้าตัวได้มาเฉลยความรู้สึกกับเขาว่า จริงๆ แล้วตอนนั้นเธอไม่ได้มีความรู้สึกอยากถอดชุดออกเลย กลับมีแต่ความรู้สึกติดแน่นและอยากใส่ชุดนั้นมากขึ้น และยิ่งคนเห็นมากขึ้นยิ่งสะใจ

“เอ่อ อีกเรื่องหนึ่ง ครูได้คาดโทษเหล่าสาวๆ ที่แกล้งเธอไว้แล้วนะ ขออภัยด้วย พวกนี้คุมตัวเองไม่ค่อยอยู่”

“หวังว่าเธอคงไม่โกรธนะ เพราะครูรับมือกับผู้ปกครองไม่เก่ง”

“ผมไม่มีปัญหาหรอกครับ”

“งั้นรออยู่นี่แป๊บนึงแล้วกัน ครูะไปเอาชุดมาให้” เขาเดินออกห้องน้ำไป ปล่อยให้ต้นค่อยๆ ลุกมาทำหน้าที่ในการล้างห้องน้ำต่อ แต่ทุกอย่างมันก็เป็นแผนของเขาอีกเช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเขาออกมาพ้นประตู เหล่ามือสังหารของเขาก็เดินสวนเข้าไป



ต้นตกใจมากเมื่อมีคนเดินเข้าห้องน้ำมาและ เขาคุ้นหน้าคุ้นตาของทุกคนมาก รุ่นพี่ทั้งหลายไม่ได้อยู่ในชุดนักเรียน แต่อยู่ในชุดที่คล้ายกับชุดว่ายน้ำ แต่เนื้อผ้าไม่ใช่ มีทั้งสีเขียว สีแดง และสีน้ำเงิน ซึ่งทั้งหมดใส่ถุงน่องเนื้อหนาสีดำ มองเผินๆ เหมือนผู้หญิงจริงๆ เพราะมีทรวดทรงและหน้าอกหน้าใจประมาณหนึ่ง

ทั้งสามไม่ได้มามือเปล่าเพราะในมือของพวกเธอมีของที่ต้นคุ้นตา ขวดแป้งสีม่วงนั่นเอง

“รีบไปฟ้องครูเชียวนะน้องใหม่”

“รู้ไหมพวกพี่โดนอะไรกันไปบ้าง”

“นั่งลงไปเดี๋ยวนี้!”

ทั้งสามพูดต่อกัน และหนึ่งในนั้นก็สั่งให้ต้นนั่งลง ต้นนั่งลงกับพื้นด้วยความตกใจ

“ไม่ใช่ ท่านั้นนั่งคุกเข่าสิ!” คนในชุดสีเขียวสะท้อนแสงสั่ง ต้นรีบนั่งตามสั่งอย่างรวดเร็ว

“ไหนๆ ก็โดนลงโทษอยู่แล้ว พวกพี่ๆ เลยคิดว่าจะมาสอนอะไรน้องสักหน่อย” รุ่นพี่สองสอนเดินเข้ามาเบียดตัวต้น เขาสัมผัสได้ถึงถุงน่องในต้นขาที่เข้ามาเบียด

“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะครับ” เขาหันไปบอกรุ่นพี่

“หุบปาก”

ต้นตกใจ จนไม่กล้าพูดอะไรต่อ

“ต่อไปเธอควรจะรู้นะว่า ควรจะอยู่ในโรงเรียนยังไง” รุ่นพี่ในชุดสีเขียวพูด ใบหน้ามีเครื่องสำอางบางๆ ฉาบเอาไว้ ดูสวยแต่ก็น่ากลัวด้วยอารมณ์ที่ดูดุดันของรุ่นพี่เอง

“ถ่ายวิดีโอมันไว้ด้วยนะ” เธอหันไปบอกเพื่อน

รุ่นพี่ในชุดสีแดงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวิดีโอ ต้นจะยกมือขึ้นมาห้าม แต่ถูกรุ่นพี่ตวาดอีกครั้ง ต้นจึงนั่งนิ่งด้วยความตกตะลึง

“พี่ๆ จะไม่เผยแพร่วิดีโอหรอก ถ้าน้องทำตัวเป็นน้องที่น่ารักสำหรับพวกพี่ จะว่าแบล็คเมล์ก็ได้ แต่พี่ๆ อยากให้น้องทำตัวดีๆ วิดีโอยังคงถ่ายอยู่ ขณะที่คนพูดเข้ามาลูบแก้มต้นเบา

“อย่างแรกของการทำตัวเป็นรุ่นน้องที่ดี คือต่อไป ถ้าเจอรุ่นพี่ที่ไหน น้องต้องทักทายพวกพี่ๆ”

“เข้าใจไหม”

“เข้าใจครับ”

เพี๊ยะ!

รุ่นพี่คนหนึ่งตบหน้าต้นเข้าอย่างจัง แป้งฟุ้งออกจากตัวต้นทันที

“รุ่นพี่เป็นผู้หญิง เธอเป็นรุ่นน้องต้องใช้คำให้ถูก”

“พูดคะ พูดขาทุกคำ เข้าใจไหม”

“ขะ เข้าใจแล้วค่ะ” ต้นมีน้ำตาซึมเล็กน้อย เพราะเจ็บแก้มจริงจัง

“เอ้า พูดหน่อยว่า สวัสดีค่ะรุ่นพี่”

“สวัสดีค่ะรุ่นพี่” ต้นใจสั่นด้วยความอายและความกลัว

“ดีมาก”

“ต่อมา สิ่งที่น้องโดนไปมันมีชื่อเรียกว่า กางเกงในดอกไม้”

“หึ ชื่อดอกมาก จริงๆ ชื่อเล่นของมันคือ กางเกงในฉีหอม เพราะใครใส่นี่หอมไปถึงร่องก้นนู่น” อีกคนที่ใส่ชุดสีแดงเข้ามาพูดเสริม

“ตอนเช้าพี่บอกแล้วว่ามันสนุก พี่เลยจะมาเพิ่มปริมาณความหอมให้เสียหน่อย น้องจะได้สนุกมากขึ้น” พูดจบ คนใส่ชุดสีเขียวก็ดึงขอบกางเกงของต้นออกและดันหัวของขวดแป้งลงไป พร้อมที่จะบีบแป้งใส่ลงไปในกางเกงเพิ่มเติม

ต้นตกใจแต่ไม่กล้าร้องห้ามรุ่นพี่



“นี่มันห้องน้ำชายไม่ใช่เหรอ” เสียงห้าวๆ แต่มีความนุ่มละมุมอย่างเป็นเอกลักษณ์ดังขึ้น ต้นคุ้นเสียงนี้อย่างประหลาด และเสียงนั้นก็ทำให้คนทั้งสามหยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ทันที

“ห้องน้ำผู้หญิงก็อยู่ข้างๆ เข้าก็สร้างให้เพศทางเลือกแล้วไม่ใช่หรือไง หรือผมเข้าใจอะไรผิด” เจ้าของเสียงโผล่เข้ามาในห้องน้ำ ต่อ รูมเมทของต้นนั่นเอง ใบหน้าของเขายังคงเคร่งขรึมเหมือนเดิม จมูกเชิดเหมือนคนเอาแต่ใจขยับไปมาเหมือนขัดใจ แต่มีใบหน้าหวานขัดกับการแสดงออก โผล่เข้ามาในห้องน้ำและมีท่าทีเอาเรื่องเช่นเดิม

รุ่นพี่มีท่าทีตกตะลึง และกระวีกระวาด รีบออกห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว

ต่อ ยืนนิ่งขวางประตูปล่อยให้รุ่นพี่ในชุดแปลกประหลาด ค่อยแทรกตัวออกไปทีละคน เขาเดินเข้ามาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วเดินเข้าไปฉี่ที่โถฉี่

“ขอบคุณมากนะต่อ” ต้นเอ่ยขอบคุณรูมเมท เพราะเขาเข้ามาได้ถูกจังหวะเหลือเกิน ต้นรู้สึกโล่งใจไม่น้อย เพราะรุ่นพี่ยังไม่ได้คลิปที่น่าอับอายไปมากเท่าไหร่

“ขอบคุณอะไรของแก” เขาหันหลังให้โถ หลังฉี่เสร็จ

“แล้วนี่มันอะไร ทุเรศชะมัด แกมีรสนิยมแบบนี้เหรอ” เขามองหัวจรดเท้า พร้อมทำหน้าเหยเก จากสภาพของต้น

“ไม่ใช่ วันนี้รับน้องแล้วโดนลงโทษแบบนี้น่ะ”

“เธอไม่ได้เข้ารับน้องเหรอ”

“ห้องน้ำนี่เหม็นชะมัด” เขาพูดกับตัวเอง แต่ไม่ตอบอะไรในคำถามของต้นแล้วเดินออกห้องน้ำไป



มิสเตอร์เคกลับเข้ามาในห้องน้ำอีกครั้งพร้อมชุดพละศึกษาของโรงเรียน ท่าทางของเขาเหมือนโมโห และหัวเสียเป็นอย่างมาก

“นี่ชุดเปลี่ยน เธอเปลี่ยนไปใส่ชุดนี้ ส่วนชุดที่เธอใส่อยู่เธอถอดออกมาดีๆ อย่าให้แป้งร่วงเยอะ แล้วใส่เข้ามาในถุงนี้นะ” เขาพูดด้วยเสียงห้วนๆ ต่างจากเมื่อครู่

ต้นเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำอย่างระวัง เขาถอดออกมาทั้งหมดรวมทั้งกางเกงในของเขาด้วย เพราะไม่สามารถใส่ต่อไปได้ และทิ้งกางเกงในลงไปในถังขยะ ก่อนที่จะใส่ชุดและอุปกรณ์ทั้งหมดลงในถุง และออกเอาไปให้มิสเตอร์เคด้านนอก

“ขอบคุณครับครู”

ครูเคคว้าถุงและเดินออกไปอย่างเร็ว ด้วยความโมโหที่สามารถสัมผัสได้

ต้นในชุดพละรู้สึกรู้และสบายอย่างประหลาด แต่เขาก็รู้สึกโหวงๆ หวิวๆ และเสียดายไม่น้อย แม้ว่าจะโล่งใจที่ไม่โดนรังแก แต่มันกลับมีความรู้สึกประหลาดอีกอย่างลึกๆ ในใจ หรือว่าจริงๆ แล้วเขายังไม่อยากถอดชุดตอนนี้ และส่วนที่ลึกที่สุดในใจมันกลับร่ำร้องว่าอยากให้รุ่นพี่ทั้งสามนั้นกลับมาทำสิ่งที่จะทำให้สำเร็จเหลือเกิน

ต้นกลับเข้าไปล้างห้องน้ำต่อ ด้วยหลากหลายความรู้สึก ทั้งโล่งใจ เสียใจ สับสน และเสียดายอย่างประหลาด

หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 8 ชุมนุมลับในความมืด
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 21-03-2019 22:03:02
 o13
 :pig4:
หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 8 ชุมนุมลับในความมืด
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 23-03-2019 01:37:01
ตอนที่ 9 ความอับอายของน้ำฝน (1)

ทุกๆ ครั้งที่เขาขัดใจ เธอมันจะกลายเป็นเครื่องมือในการระบายอารมณ์อยู่เสมอ จิวที่หน้าอกทั้งสองข้างก็เช่นกัน ครั้งหนึ่งที่เขาไม่สบอารมณ์จากการที่บางอย่างไม่เป็นไปตามแผนก็ทำให้เธอต้องเจาะหน้าอก โดยที่เขาเป็นคนลงมือเอง เธอยังจำความเจ็บปวดในครั้งนั้นได้ดี

แต่หลังจากวันนั้น เขาก็ดูแลเธออย่างอ่อนโยนเป็นเวลาหลายวันจนกระทั่งแผลหายดี ราวกับว่านั่นเป็นการไถ่โทษที่ทำรุนแรงลงไปอย่างนั้น แต่เธอไม่ได้โกรธเขาเลย เพราะเธอเกิดมาเพื่อรองรับเขาเพียงคนเดียว เป็นทาสผู้น่ารัก และภักดี

เขาค่อยๆ คลี่ถุงออกมา ข้างในเป็นชุดที่ต้นเพิ่งถอดออกมาให้ และข้างๆ เป็นกางเกงในชายของต้นที่เต็มไปด้วยแป้ง
"เอาล่ะเราจะเริ่มยังไงดี" เขาพูดด้วยเสียงที่เรียบเฉย

"ครูอารมณ์ไม่ค่อยดีหรือเปล่าคะ" น้ำฝนเอ่ยถาม เพราะวันนี้เขาดูแปลกไปกว่าที่เคย และด้านหลังเก้าอี้ที่เขานั่ง มีเหล่าเพื่อนๆ ของเธอสามคนในชุดออกกำลังกายสีสะท้อนแสงกำลังนั่งคุกเข่าอยู่

"ใช่" เขาตอบเสียงเรียบๆ

"ค่ะ หนูจะช่วยให้ครูอารมณ์ดีขึ้น" เธอคุกเข่าเตรียมคลานเข้าไปเพื่อทำบางอย่างให้เขาอารมณ์กลับมาดีเหมือนเดิม

"ไม่ต้อง" เขาพูดกลับมาเสียงเรียบ

"พวกเธอ มันเกิดอะไรขึ้น" น้ำฝนหันไปถามสาวๆ ด้านหลัง

"ตอนที่พวกเรากำลังจะถ่ายคลิปรังแกน้อง มีคนเข้ามาขวาง ทำให้แผนเสียหมด"

"ไอ้เตชนภัสไงที่มันเป็นข่าวซิ่งรถไปชนคนตายบนทางด่วนไง" ครูหนุ่มพูดด้วยอารมณ์ เพราะตั้งแต่วันแรกที่เขาเห็นหน้าไอ้เด็กคนนั้น เขาก็รู้สึกไม่ชอบขี้หน้ามันขึ้นมาเสียอย่างนั้น แม้ว่ามันจะดูหน้าตาดี หากนำมาฝึกและแต่งเติมอีกหน่อย อาจดีเทียบเท่าหรือดีกว่าน้ำฝนด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกบางอย่างของเขาบอกว่า คนนี้ยังไม่ใช่

"ไม่รู้อะไรดลใจ ให้มันมาที่นี่"

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ และนิ่งไป ทั้งสี่คนในห้องมองหน้ากัน และเขาก็ยิ้มออกมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เอาล่ะ คิดไปก็เท่านั้น เรามาดูดีกว่าว่าวันนี้น้ำฝนจะโดนอะไร"

"และพวกเธอด้วย ที่ทำงานไม่สำเร็จ"

"กิ่ง ช่อ ใบเตย"

"คะ" ทั้งสามขานรับพร้อมกัน

"ครูมอบหมายหน้าที่ของพวกเธอคือแกล้งน้ำฝน แกล้งยังไงก็ได้ ให้ครูพอใจ โทษฐานที่ทำงานไม่สำเร็จ ถ้าครูพอใจก็ดีไป หากครูไม่พอใจ ค่ายฤดูหนาวปีนี้พวกเธอจะไม่ได้อยู่ในฐานะรุ่นพี่ แต่ต้องไปรับน้องนอกสถานที่ใหม่"

ทั้งสามมองหน้ากันเลิกลั่ก การเข้าค่ายครั้งก่อนพวกเธอยังคงจำได้ดี

"ขอโทษด้วยนะน้ำฝน รับน้องค่ายฤดูหนาวเราขอแค่ครั้งเดียวพอ"

"ฮ่ะๆ ไม่ว่าอะไรหรอกพวกเธอ เต็มที่เลย" น้ำฝนพูดอย่างมั่นใจ เพราะการฝึกสอนที่ผ่านมาก็ทำให้เธอทนทานในระดับหนึ่ง
ครูเคนั่งดู โดยมีข้างล่างอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น

"ครูขา พวกหนูอยากถ่ายทำโฟโต้เซทชุดพิเศษของคุณหนูน้ำฝนค่ะ" หนึ่งในสามคนเสนอไอเดียขึ้นมา
"ยังไง" เขาถาม อย่างมีความสนใจขึ้นนิดๆ

“ตอนเย็นครูไม่ได้คลิปของน้อง หนูก็เลยจะทำคลิปของน้ำฝนแทนค่ะ แต่จะทำแบบกลับด้านกัน น้องโดนใส่ชุดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ให้ฝนใส่ชุดทั้งหมดนี่ออกไปก่อน แล้วไปถ่ายทำกันตรงที่น้องไปมาทั้งหมดในวันนี้ โดยแต่ละจุดก็จะมีคำสั่งสุดน่าอับอายรอไว้ และพวกหนุจะตามถ่ายรูปกับอัดคลิปค่ะ”

“โอเค” เขาพูดด้วยเป้าที่แข็งตุงออกมา

“ไอเดียนี้ผ่าน”

“แต่ว่าน้ำฝนอยู่ในช่วงห้ามเสร็จ และตอนนี้ก็กำลังงุ่นง่านได้ที่เสียด้วย” เขามองไปที่น้ำฝนที่เริ่มมีอาการหื่นนิดๆ

“เอาเป็นว่าอนุญาตให้เสร็จได้เฉพาะช่วงนี้แล้วกัน แลกกับอาทิตย์หน้าห้ามเสร็จทั้งอาทิตย์ แล้วต้องมาให้ครูกระตุ้น ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น”

“ตกลงค่ะ”

ครูหนุ่มยิ้ม และกดพิมพ์เข้าไปในกลุ่มลับเฉพาะที่มีเขาเป็นผู้ดูแลกลุ่ม


กลุ่มลับ 001 (สมาชิก 25 คน)
KKK : วันนี้คุณหนูน้ำฝนจะไลฟ์ เจอกันเที่ยงคืน
KKK : หัวข้อรายงานในวันนี้คือ “โฟโต้เซท ที่น่าอับอายของคุณหนูน้ำฝน” (อ่านแล้ว 25)


เวลาเที่ยงคืน แม้ว่าโรงเรียนจะมีหอพักในโรงเรียน และจำกัดเวลาเข้าออกชัดเจน แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถขึ้นลงหอพักในตอนกลางคืนได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลต่างๆ ซึ่งการลงมาหาของกินที่โรงอาหารก็สามารถทำได้ แต่ต้องไปรายงานตัวกับผู้ดูแลหอทุกครั้ง

สามสาว กับน้ำฝน ถูกขอให้ออกมาทำงานข้างนอกจากอิทธิพลของมิสเตอร์เค และตอนนี้ทั้งสามยืนอยู่หน้าห้องพักครู ความตื่นเต้นทำให้น้ำฝนหายใจแรงอย่างผิดปกติ

น้ำฝนในชุดพละนักเรียนญี่ปุ่น ที่สวมยกทรงและกางเกงในทับไว้ด้านนอก มีมงกุฎ ถุงมือ ถุงเท้า ยืนเตรียมพร้อมอยู่แล้วด้วยใจที่เต้นแรง เธอยังไม่โดนทาแป้งในตอนนี้ เพราะมันคือภารกิจที่เธอจะต้องไปทำ เพื่อโฟโต้เซทสุดวิปริตที่กำลังจะถูกถ่ายทำขึ้น
กลุ่มสาวๆ ที่เปลี่ยนมาใส่ชุกลำลองตามปกติ ถืออุปกรณ์เตรียมถ่ายภาพ โดยมีทั้งกล้อง และมือถือไลฟ์สดไปยังกลุ่มลับเฉพาะอีกด้วย


กลุ่มลับ 001 (สมาชิก 25 คน)
KKK : เอาล่ะเริ่มทำภารกิจ ภารกิจแรกของใครดีล่ะ
นงนุช : เดี๋ยวๆ ไม่คิดจะให้นางแบบแนะนำตัวสักหน่อยหรือไง
เด็กหลังเขา : ใช่ๆ
KKK : โอเคจัดไป


“น้ำฝนแนะนำตัวหน่อย” คนที่ถือมือถือบอกน้ำฝน
“สวัสดีค่ะ น้ำฝน ประธานนักเรียนค่ะ” เธอพูดแนะนำตัวเองหน้ากล้องอย่างสดใส
“วันนี้ น้ำฝนจะไปถ่ายทำโฟโต้เซท สุดน่าอับอายของน้ำฝนค่ะ ทุกๆ คนเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ”


กลุ่มลับ 001 (สมาชิก 25 คน)
V อ่านว่า วี : ออกคำสั่งเร็วๆ สิวะคนได้ลำดับแรก กุรอดูแย่แล้ว
KKK : เอ้า ท่านเท้าทองกีบม้า ออเดอร์มาเร็วๆ
ทองกีบม้า : คำสั่งแรกของผม เอาตามนี้ก็แล้วกัน ให้คุณหนูน้ำฝนเปลือยกาย โรยแป้งทั้งตัวให้ขาวโพลน แล้วไปยืนแทนรูปปั้นคิวปิดยืนฉี่ที่มันเพิ่งพังไปหน่อย ให้ดี ฉี่ออกมาด้วยนะ
นงนุช : ปรบมือ
เด็กหลังเขา : ปรบมือ
V อ่านว่า วี : เฮ้ย ไอ้ท้าวทอง มาถึงก็ขาวเลยคนที่เหลือจะไปสนุกอะไรวะ
ทองกีบม้า : คืนนี้ ให้น้ำฝนใส่กางเกงในดอกไม้นอนด้วยนะ พรุ่งนี้พี่จะไปพิสูจน์กลิ่นว่ามันหอมจริงไหม
เด็กหลังเขา : สั่งอย่างเดียวก็พอแล้วไหม ไอ้เวร!!
KKK : สุภาพกันหน่อย!


“คำสั่งตามนี้นะน้ำฝน”

“โอเค ไปกัน” น้ำฝนตัวสั่นระริก เป็นคำสั่งที่โรคจิตชะมัด

ลานน้ำพุหน้าโรงเรียน ถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงาม น้ำพุขนาดใหญ่ มีถึงสามชั้นโดยที่ความสูงกว่าสองเมตร ชั้นแรกเป็นเพียงขอบกระเบื้องที่เรียงรายอย่างสวยงาม และมีรูปปั้นกามเทพที่สุดแสนน่ารักอยู่ชั้นที่สอง ถัดเข้าไปเป็นรูปนางเงือกขนาดเท่าตัวคนจริงๆ อยู่ตรงกลางน้ำพุพอดี

บริเวณน้ำพุ เป็นลานกว้าง นั่นหมายความว่าถ้าน้ำฝนขึ้นไปยืนบนนั้นจะสามารถถูกมองเห็นได้จากคนที่บังเอิญมองมาทางด้านหน้าโรงเรียนอย่างแน่นอน

“เอ้าน้ำฝนรับไป” หนึ่งในนั้นส่งแป้งขวดใหญ่มาให้เธอ

“เอ้า ให้ทาเองลยเหรอ” น้ำฝนหันไปถามเพื่อน และได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้าให้

“ได้ๆ ขอถอดเสื้อผ้าก่อน” ว่าแล้วน้ำฝนก็ถอดเสื้อผ้าทั้งหมดออกด้วยใจระทึก เธอเคยผ่านความอับอายมาแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งมันก็คตื่นเต้นจนส่วนที่ควรอ่อนนุ่มกลับแข็งผงาดขึ้นมา

ร่างสูงโปร่ง ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด เผยรูปร่างที่ปราดเปรียวแบบนักกีฬา หน้าอกคัพบีทั้งสองข้างเต่งตึงสวยได้รูปทรง จิวทั้งสองถูกถอดออกเปิดเผยให้เห็นปลายยอดสีชมพูสวย เอวคอดทรงนาฬิกาทรายและสะโพกโค้งได้รูปที่ใช้เวลาปั้นมาตลอดทั้งปี บิดไปมาด้วยความเขินอาย เพราะเครื่องเพศที่ตรงข้ามกับรูปร่างกลับผงาดชูชันออกมาด้วยความตื่นเต้น
เธอหันมาคุยกับกล้องด้วยความตื่นเต้น เม้มปากเป็นระยะ

“น้ำฝนจะทาแป้งแล้วนะคะ”

เริ่มจากการที่เพื่อนบีบแป้งใส่ฝ่ามือทั้งสองของน้ำฝนจนเต็มก่อน เพื่อที่เธอจะได้บึ้มเข้าที่ใบหน้าที่ยังพอมีเครื่องสำอางหลงเหลืออยู่บ้างก่อน ใบหน้าที่สวยสดที่กำลังจะถูกทำให้ดูน่าขันราวกับเป็นตัวตลก จะช่วยปลุกความกำหนัดของใครหลายๆ คนในกลุ่มลับได้อย่างแน่นอน เพราะมีหลายๆ ครั้งที่เธอมักจะถูกสั่งให้บึ้มแป้งใส่หน้าจนขาว แล้วเดินไปที่ต่างๆ ในโรงเรียน ทั้งส่งงานให้กับครูบางคน ไปซื้ออาหารที่โรงอาหาร หรือแม้แต่เดินไปทางโรงพละขณะมีการเรียนการสอนมาแล้ว

“โอ้ย อายจัง” น้ำฝนพูดพร้อมมองแป้งในมือ และหลังจากที่ชั่งใจครู่หนึ่งเธอก็ นับ หนึ่ง สอง สาม และเหวี่ยงมือที่เต็มไปด้วยแป้งเข้าอัดกับใบหน้าตัวเอง และกดมันเข้ากับใบหน้าหมุนวนจนทั่วทั้งหน้า และหันมายิ้มให้กล้อง ช่องแชทในกลุ่มลับพิมพ์ส่ง เลข 5 และเสียงหัวเราะกันอย่างถล่มทลาย

น้ำฝนงัดฝาขวดแป้งออก ยกมันขึ้นสูงเหนือหัวและเทมันลงบนตัวเองและถุไปจนทั่วร่างกายคล้ายอาบน้ำ แต่เปลี่ยนเป็นอาบแป้งแทน เมื่อขาวจนหมดจดทั้งตัวแล้ว เธอก็เตรียมตัวที่ปีนขึ้นไปยืนฉี่ด้านบนเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้

“ฝนๆ มีคนขอให้บึ้มแป้งอีกรอบ และครูเคอนุมติด้วย”

“หา อะไรนะ! ” น้ำเสียงที่ตกใจและอับอายสั่นเครือ

น้ำฝนจำต้องทำแบบเดิมซ้ำอีกรอบ ด้วยปริมาณแป้งที่มากกว่าเดิมเพื่อสร้างความสาแกใจให้ผู้สั่งก่อนที่จะปีนขึ้นไปบนน้ำพุ

“น้ำฝน ขยับมือด้วย” เพื่อนผู้ถ่ายทำ สั่งขณะที่น้ำฝนขึ้นไปโพสท่ากามเทพยืนฉี่ และเก็บภาพเอาไว้หลายช็อต

“อะไรนะ”

“เหมือนที่เธออยากทำไง เขาสั่งให้เธอเอาน้ำออกสองรอบถึงจะลงมาได้” เพื่อนอีกคนที่ถืออุปกรณ์ พูดพร้อมกับทำมือกำและยกขึ้นลง

“บ้าไปแล้วแก” น้ำฝนเสียงสั่น ด้วยความกลัวว่าจะมีใครมาเห็นสภาพที่น่าอับอายนี้และตื่นเต้นจนแทบจะขาดใจ

เธอต้องเร่งมืออย่างเร็ว เพื่อที่จะได้ทำให้เสร็จรอบแรกก่อนที่จะต้องพักฟื้นเพื่อทำรอบต่อไป และต้องเร็วพอก่อนที่จะมีใครมาเห็น ไม่เช่นนั้นเธออาจอยู่ในโรงเรียนนี้ต่อไปไม่ได้หากคนอื่นรู้เรื่องนี้

ร่างสูงระหง เปลือยเปล่าท้าแสงจันทร์ ดูขาวโพลนเนื่องจากมีแป้งพอกอยู่ทั่วทั้งตัว มือทั้งสองข้างสั่นเทาจนแทบทำอะไรไม่ถูก และเธอก็เริ่มดำเนินการทำตามคำสั่งทันที


กลุ่มลับ 001 (สมาชิก 25 คน)
V อ่านว่า วี : เป็นคนอื่นโดนแป้งขนาดนี้ดูไม่ได้แล้ว แต่เป็นน้ำฝนยังคงรอดอยู่ สวยทะลุแป้งไปอีก
ทองกีบม้า : สมกับเป็นคนที่ผมพาเข้าวงการมา ตาถึงจริงๆ
KKK : อย่ามาเคลม ไอ้หอก!
ทองกีบม้า : สุภาพกันหน่อย!
เด็กหลังเขา : 55555555555555555
นงนุช : 555555555555555555555555
V อ่านว่า วี : 555555555555555555555555555555

ที่ไกลๆ เธอเห็นยาม กำลังจะเปลี่ยนเวร และได้เวลาออกเดินตรวจ ยิ่งทำให้เธอขยับมือเร็วขึ้นและแรงขึ้น ใจเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอก ความเสียวสะท้านเริ่มไล่มาตังแต่ปลายเท้าส่งผลให้ไม่สามารถยืนตัวตรงได้ น้ำฝนจึงต้องแบะขาออกทั้งสองข้างเกิดเป็นภาพที่น่าดูชม

“อ่า อะ อึก ฮือ” เธอพยายามสะกดกลั้นเสียงเอาไว้ เพราะความเสียวมันปะทุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เธอเอื้อมมือมาปิดปากขณะที่ทำนบของเขื่อนใกล้แตก และเมื่อมันมาถึง เธอเกร็งสุดตัว ปลดปล่อยสิ่งที่คั่งค้างมาหลายวันให้ทะลักออกมา อย่างควบคุมไม่อยู่ เธอรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของการเสร็จในครั้งนี้มากมายกว่าทุกครั้ง ร่างกายของเธอกระตุกสามสี่ครั้ง และนั่งพับอย่างหมดแรง

“เหลืออีกครั้งหนึ่งนะคะ”

เธอรวบรวมแรงขึ้นยืนอีกครั้งและเริ่มทำรอบที่สอง แต่สิ่งที่ได้ปลดปล่อยออกไปแล้ว ทำให้สิ่งที่เมื่อครู่แข็งตัวได้ง่าย กลับไม่ยอมเชื่อฟัง
เธอใช้เวลาอยู่หลายอึดใจ แต่มันก็ยังไม่ยอมที่จะฟื้นขึ้นมา เธอเริ่มลนลาน โดยที่มือก็ยังไม่หยุดทำหน้าที่ และขยับมือให้เร็วขึ้น เสียงหอบหายใจเธอดังขึ้นเรื่อยๆ

ยิ่งยามเดินเข้าใกล้มากขึ้น น้ำฝนยิ่งหายใจแรง เหล่าเพื่อนๆ ด้านล่างแม้จะเตรียมพร้อมอยู่ แต่ก็ไม่น่าช่วยอะไรได้ เพราะแค่ยามเดินเข้ามาและสังเกตเล็กน้อย ก็จะมองเห็นว่ามีคนโรคจิตมายืนตัวขาวโพลน ทำร้ายตัวเองอยู่บนน้ำพุชั้นสอง

น้องน้อยยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น และยามที่เดินตรวจก็เหมือนว่าจะเดินตรงเข้ามาทางนี้ ยิ่งทำให้น้ำฝนตื่นเต้นอย่างสุดบรรยาย ถ้าเธอโดนเจอตัวเธอจะอธิบายกับเขายังไง กับสภาพสุดวิปริตที่เธอกำลังเป็นอยู่ เขาต้องมองเห็นว่าเธอกำลังเปลือย และมีแป้งอยู่เต็มตัว ทั้งยังหน้าอกทั้งสองข้าง และอาวุธลับที่กำลังเริ่มตื่นขึ้นมาแล้ว

“ฮืออ” เธอไม่สามารถสะกดกลั้นความเสียวไว้ได้อีกต่อไป

ยามที่เหมือนได้ยินเสียง เหมือนจะเร่งเดินเข้ามาเร็วกว่าเดิม

“น้ำฝน ยามเดินมา รีบลงมาก่อนเร็ว” เพื่อนที่อยู่ข้างล่างร้องเตือน

“อีกนิดนึง”

“เขาใกล้เข้ามาแล้ว”

น้ำฝนยังไม่หยุดขยับมือ ตัวเธอสั่นเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดมือเธอได้ ราวกับว่าเธอเสียสติไปเสียแล้ว

“น้ำฝน”

"น้ำฝนลงมาเร็ว"

"เร็วฝน"

“พวกเธอมาทำอะไรกันตรงนั้นน่ะ” เสียงยามตะโกนดังขึ้นมา พร้อมมุ่งตรงมายังน้ำพุ ในขณะที่น้ำฝนยังไม่หยุดมือ
เพื่อนทั้งสามคนเหมือนจะรีบหลบออกจากตรงนั้นไปแล้วเมื่อมองลงไปน้ำฝนก็ไม่เห็นใคร และตอนนี้จะเหลือแค่เธอในสภาพน่าอายเผชิญหน้ากับยามเพียงผู้เดียว

ยิ่งกดดันเธอยิ่งเร่งมือ และในที่สุดมันก็มาอีกครั้งน้ำฝนตัดสินใจกระโดดลงมาจากน้ำพุ ในขณะที่ตัวเองกำลังจะเสร็จเต็มที่ ส่งผลให้ระหว่างที่เธอกระโดดหลบ และวิ่งหนี น้ำเธอก็พุ่งออกจากตัวเป็นสาย กระจายไปทั่วบริเวณ เธอได้ยินเสียงยามวิ่งตามมาจากด้านหลังเธอจึงรีบวิ่งอย่างสุดชีวิตออกไปจากลานน้ำพุ เพราะยังมีภารกิจต่อไปรออยู่



หัวข้อ: Re: mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 9 ความอับอายของน้ำฝน(1)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 25-03-2019 02:18:25
ตอนที่ 10 เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค

เวลา 21.00 น. ที่ห้องอาหารครู (เหตุเกิดก่อนที่น้ำฝนจะไลฟ์)

“เป็นไงบ้างล่ะวันนี้ ฝ่ายดำเนินกิจกรรมรับน้อง”

“ไม่มีปัญหาอะไรครับพี่ชัย พวกรุ่นพี่ตัวแสบๆ มันโดนสั่งห้ามไม่ให้มาร่วมกิจกรรม เลยควบคุมง่ายหน่อย” เคพูดพร้อมจิ้มเสต็กเนื้อเข้าปาก ในมือเขาก็นัดหมายกลุ่มลับไปด้วย

“พูดถึงเด็กใหม่ ปีนี้มีใครดูดีบ้างล่ะ” ครูวิชัย ถือแก้วกาแฟมานั่งด้านตรงข้ามกับครูหนุ่ม

“ดีด้านไหนล่ะพี่” เขาพูดพร้อมยิ้ม

เขาจะครูวิชัย ทำงานด้วยกันมาร่วมๆ 5 ปี ตอนที่เขาเข้ามาใหม่ๆ ครูวิชัยก็ทำงานที่นี่มาได้ 10 ปีแล้ว แต่ด้วยระยะเวลา 5 ปี มันก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองคนสนิทกันไปมากเท่าใดนัก ไม่มากเท่าเมื่อเขาได้รู้รสนิยมลับๆ ของครูวิชัย

“ถ้าเอาสไตล์พี่ มีอยู่คนหนึ่ง”

“แต่”

“แต่อะไร” ครูวัยสี่สิบฉายแววตาบางอย่างออกมาจากแว่นที่หนาเตอะ

“มันต้องสอนต้องฝึกฝนเยอะหน่อย”

“ก็แบบนี้แหละ หน้าที่ของครูอย่างเราคือสอนให้เด็กได้เรียนรู้ และค้นพบหนทางสว่าง”

“ว่าแต่มีข้อมูลแง้มๆ สักหน่อยไหม”

“ได้ยิน เพื่อนเรียกว่าชื่อ กริช นะครับ ตามที่พี่ชอบเป๊ะเลย ไว้เดี๋ยวเห็นพี่จะอ๋อเอง เป็นลูกคนเล็กขอ สส. เขตนี้น่ะพี่”

“อืมมม น่าสนใจ” เขาพูดและลุกขึ้นไป ปล่อยกาแฟที่ควันยังกรุ่นทิ้งเอาไว้



ครูเคนั่งนึกในใจย้อนไปถึงครั้งแรกที่เขาได้รู้ความลับของครูวิชัยครั้งแรก เมื่อเขาไปพบนักเรียนชายม.ปลาย คนหนึ่งใส่ชุดนักเรียนหญิง ม.ต้น นั่งพับเพียบเรียบร้อยอยู่ในห้องกิจการนักเรียน ขณะที่ครูวิชัยกำลังนั่งสอนมรรยาทเบื้องต้นของนักเรียนหญิงให้นักเรียนชายคนนั้นฟังอยู่

แวบแรกที่เขาเปิดประตูเข้าไป แววตาตื่นตกใจปรากฏขึ้นในแววตาของครูอาวุโสแค่แวบเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะแปรเปลี่ยนเป็นเรียบเฉย

“มีอะไรหรือ ครูทศพล” ครูผู้สูงวัยกว่าเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบ

“ผมเข้ามาเอาของครับ ว่าแต่นักเรียนคนนี้เป็นอะไรเหรอครับ” เขามองไปที่นักเรียนชายที่นั่งพับเพียบอยู่ที่พื้นด้วยหน้าแดงก่ำ

“อ่อ เป็นสาวประเภทสอง เพิ่งเข้ามาทำเรื่องขอใส่ชุดนักเรียนหญิง แต่ว่าดูไม่ค่อยมีมารยาทเท่าไหร่ เลยโดนอบรมอยู่น่ะ ใช่ไหม” เขาหันลงไปถามนักเรียน

“ช่ะ ใช่ ครับ” นักเรียนชายคนนั้นตอนอย่างเขินอาย

มิสเตอร์เค คิดในใจ ว่าไม่เนียนเลยลุง แล้วเขาก็นั่งที่เก้าอี้ตัวที่เยื้องมาข้างๆ

“จริงๆ มันมีกลุ่มที่เรียกว่า ชายแต่งหญิง หรือว่า ครอสเดรส อยู่นะครับ กลุ่มนี้ภายในเป็นผู้ชายไม่ใช่กะเทย เพียงแต่ว่ามีรสนิยมชอบแต่งหญิง ผมว่ากรณีนี้ เค้าดูไม่ค่อยเหมือนสาวประเภทสองอย่างที่ครูว่าเท่าไหร่” ครูหนุ่มพูด

“ว่าแต่เธอชอบ แต่งชุดนักเรียนหญิงเหรอ”

ฝ่ายนักเรียนที่นั่งอยู่ด้านล่างนั่งนิ่งไม่ตอบ อาจด้วยเหตุผลที่ว่ายังไม่รู้ว่าครูที่เข้ามาใหม่นี้เป็นอย่างไร

“ไม่ใช่หรอก มันเป็นนั่นแหละ ไม่งั้นมันไม่มาขอใส่ชุดผู้หญิงหรอก จะดูคำร้องไหม”

“ไม่เอาล่ะครับ” ครูหนุ่มพูดพร้อมลุกขึ้นยืน และเดินออกจากห้อง แต่ก่อนที่เขาจะพ้นประตู เขาได้พูดทิ้งท้ายไว้ว่า

“เหมือนว่าพี่จะยังฝึก คนของพี่ไม่ได้ดีเท่าไหร่นะครับ โทรหาผมก็ได้ถ้าต้องการวิธีเพิ่มเติม”



หลังจากนั้นไม่นานโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น ครูวิชัยโทรมาเล่าทุกอย่างให้ฟังอย่างหมดเปลือก เรื่องรสนิยม ความชอบให้เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักใส่ชุดนักเรียนหญิง ม.ต้น มันทำให้เค้าตื่นเต้น และสร้างความพึงพอใจให้เป็นอย่างมาก

เค กับ ครูวิชัยคุยกันกว่าสามชั่วโมง และหลังจากนั้นเขาก็เห็นนักเรียนคนนั้น แต่งหญิงมาโรงเรียนทุกวันและกลายมาเป็นหนึ่งในสภานักเรียน ในตอนที่นักเรียนคนนั้นยังไม่จบ เคก็ได้เรียกมา “ใช้งาน” บ่อยครั้งเช่นเดียวกัน

ซึ่งกลุ่มลับ ก็ตั้งขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน โดยมีเขาและครูวิชัยเป็นผู้บุกเบิก



ครูวิชัยกลับมาหลังจากนั้นไม่นาน พร้อมประวัติของ นักเรียนคนหนึ่งในมือ

“จริงจังว่ะพี่”

“ไม่ได้หรอก จั่วหัวน่าสนใจมาขนาดนี้” เขาวางเอกสารบนโต๊ะ ก่อนที่จะเดินไปชงกาแฟอีกแก้ว เคสังเกตเห็นได้เลยว่าครูวิชัยดูตื่นเต้นมาก

ครูวิชัยชงกาแฟเสร็จและกลับมานั่งอีกครั้ง

“อืมมม น่าสนใจดังว่า”

“เห็นป่ะ” เคพูดพร้อมตักมันบดเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ

“แต่ก็ยังไม่เท่าคนนั้น ของดีจริง”

“ใครพี่ ติณวัฒน์น่ะเหรอ”

“ใช่”

“อื้ม ดีจริง ผมเห็นตอนพ่อเขามาคุยกับ ผอ ละ ตอนนั่งรอด้านนอก ผมแทบจะเข้าไปหาตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเลี้ยงมายังไง เนียนตาดีจริงๆ”

“เห็นว่าโดน แกล้งเยอะเลยวันนี้ เป็นไงบ้างล่ะ”



บทสนทนาหยุดลง เมื่อมีครูเดินเข้ามาที่ห้องอาหารครูสามคน ทั้งสามเดินคุยกันมา และหยุดคุยกันทันทีเมื่อเห็นครูสองคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว

“พี่วิชัย เค นี่ครูใหม่สองคนค่ะ” ครูผู้หญิงที่แต่งตัวด้วยสไตล์โฉบเฉี่ยวพาเข้ามาแนะนำตัว

“นี่ครูวิชัยค่ะ นี่พี่เค”

“สวัสดีครับ” ครูหนุ่มทั้งสองยกมือขึ้นสวัสดีพร้อมกัน

“ผมวิรัตน์ครับ สอนวิชาภาษาอังกฤษ” ครูผู้ชายที่ตัวสูงน้อยกว่าแนะนำตัวก่อน เขามีตัวหนากว่าเล็กน้อย แต่มีเสียงที่นุ่มละมุนน่าฟัง แต่เมื่ออีกคนแนะนำตัว ก็ทำให้ครูทั้งสองคนที่นั่งอยู่ถึงกับต้องตั้งใจฟัง

“ผมจิรายุ ครับ เรียกว่าสนก็ได้ครับ สอนภาษาอังกฤษเหมือนกันครับ” เสียงที่ออกมาใสกังวานน่าฟัง และรูปร่างที่สูงโปร่ง พร้อมกับผิวที่ขาวนวล ทำให้เขากลายเป็นคนที่น่าดูไม่น้อย ใบหน้าใต้แว่น ดูเรียบเนียน และใสราวกับดูแลอย่างดี เขาแสดงอาการเขินอายออกมาเล็กน้อยเมื่อโดนจ้อง

“จริงๆ ก็มาตั้งนานแล้ว แต่เพิ่งได้มาเจอกันเนี่ยแหละ” ครูสาวพูดก่อนที่จะพาทั้งสองเอาของมาวางที่โต๊ะ และเดินออกไปซื้ออาหาร ด้วยกัน



“ไม่คิดจะพูดอะไรสักหน่อยเหรอ เค” ครูวิชัยพูดกลั้วหัวเราะ

“เป็นแบบที่ชอบซะด้วย” ครูอาวุโสยังไม่หยุดกระเซ้า

“ฮ่าๆ ๆ” เคหัวเราะขั้นมาเบาๆ พร้อมกับร่างแผนอันชั่วร้ายและแยบยลขึ้นมาในหัวสมอง ทั้งต้นและสน เขาจะต้องจัดการให้ทั้งคู่กลายมาเป็นของเขาให้ได้

“คิดสภาพสิพี่ เอาตามที่พี่ชอบเลยก็ได้ ให้เจ้าน้องสนนั่น ใส่ชุดนักเรียนหญิง ม.ต้น คงน่าตื่นเต้นน่าดู เป็นครูแท้ๆ แต่กลับต้องมาใส่ชุดนักเรียน แถมไม่ตรงเพศอีกต่างหาก แค่คิดก็ตื่นแล้ว”

“ใช่ ตื่นจริง”

“แล้วจะยังไงต่อละเค นี่มันครูนะไม่ใช่นักเรียน ดูฉลาดเสียด้วย น่าจะหลงกลยาก”

“ใช่พี่ ดูฉลาดมาก แต่คนแบบนี้แหละตอนกลายเป็นของเล่นล่ะสนุกนัก”

“แสดงว่ามีแผนแล้ว”

“น่าจะคืนนี้เลยพี่ ว่าแต่ เขาพักอยู่ที่ห้องที่ว่างอยู่ใช่ไหมครับ”

“เดี๋ยวพี่โทรถามให้” ว่าแล้วครูวิชัยก็ยกหูโทรศัพท์ แคครู่เดียวก็ได้คำตอบ

“อยู่ห้องว่างนั่นแหละ อยู่คนเดียว เพราะเพื่อนอีกคนไปกลับ ไม่ได้นอนที่โรงเรียนด้วย”

เค ดีดนิ้วดังเป๊าะ

“เป็นใจเหลือออ เกิน”

ทั้งสองมองหน้า และหัวเราะออกมาพร้อมกัน

มิสเตอร์เค ก้มหน้าพิมพ์โทรศัพท์เพื่อถ่ายทอดคำสั่งด่วนทันที แม้ว่าต้นจะเป็นสิ่งที่เขามุ่งมาดปรารถนา แต่ในระหว่างทาง หากเจอสิ่งที่น่าสนใจกว่า เขาก็ยินดีที่จะแวะเชยชม



น้ำฝนโทรกลับเข้ามาในเวลาไม่นานนัก

“ครูขา จะทำแบบนั้นจริงๆ เหรอคะ” เสียงปลายสายมีความกังวลเจืออยู่ในนั้น

“ถ้าครูเขาไม่เล่นด้วยหนูตายแน่ๆ”

“ไม่ต้องกลัวหรอก เขาเล่นด้วยแน่ๆ แต่เธอแค่ยอมอายนิดหน่อย มีคนรอจัดการต่ออยู่แล้ว”

“ถ้ารอบนี้สำเร็จเธอจะมีน้องสาวที่เป็นครูภาษาอังกฤษเชียวนะ ไม่ดีรึ”

“ดีก็ได้ค่ะ” เสียงปลายสายตอบแบบจำยอม

“โอเค เตรียมตัวให้พร้อม เพราะยังไงเธอก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จลุล่วงไปก่อน แล้วค่อยไปทำงานที่ครูมอบหมายให้ทำ

“โอเคค่ะ” แล้วสายก็ตัดไป



ทั้งสามเดินกลับเข้ามาพร้อมจานอาหาร พร้อมกับคุยกันอย่างออกรสออกชาติ

“เป็นยังไงบ้างเริ่มคุ้นกับโรงเรียนบ้างหรือยังครับ” เคถามขึ้นเมื่อทั้งสามเริ่มกินข้าวไปได้บางส่วน

“อื้มม อยู่มาสามปีแล้วก็เริ่มชินแล้วล่ะนะ” ครูผู้หญิงชิงตอบก่อน

“ไม่ได้ถามแก ยัยเอ้”

“อ่อ ก็เริ่มปรับตัวได้แล้วบ้างครับ แต่ช่วงเข้ามาจะปิดเทอมพอดีเลยยังไม่ได้สอน” ครูวิรัตน์ตอบ

“ใช่ครับ แต่ผมเห็นเด็กแวบๆ ที่นี่เขาให้ใส่ชุดนักเรียนหญิงได้ด้วยเหรอครับ” ครูจิรายุพูดต่อ

“อื้ม เป็นนโยบายโรงเรียนน่ะ ไม่เป็นการปิดกั้นเสรีภาพ พี่มองว่ามันก็เป็นสีสันแบบหนึ่งน่ะแหละ เอ้อ ครูก็ไม่ห้ามแต่งนะ สนสนใจป่ะล่ะ” เคได้โอกาสกระทุ้ง

“บ้าเหรอพี่ ผมเป็นผู้ชายนะครับ” เขาพูดพร้อมหัวเราะ มีความเขินอายเล็กน้อย

“แกแต่งหญิงสิวิรัตน์”

“ไอ้บ้า”

ทั้งสองหัวเราะและนั่งกินข้าวต่อ



ไม่ว่าวันนี้จะเต็มใจหรือไม่เต็มใจ เธอก็จะได้ใส่ชุดผู้หญิงจนหนำใจไปเลยนั่นแหละ เคคิดในใจ และเผลอยกแก้วกาแฟขึ้นมาซด ก่อนที่จะมองไปเห็นสายตาของผู้อาวุโสมองมาที่เขา พร้อมชี้นิ้วมาที่แก้วกาแฟ



___________________________________________



ต้นอาบน้ำเสร็จ ก่อนที่จะแต่งตัวและออกนอกห้องน้ำมา

“อาบนานชะมัด”

ที่ต้นอาบน้ำนาน เพราะเขาต้องล้างแป้งที่อยู่ตามร่างกายหลายๆ จุดออกไป โดยเฉพาะส่วนที่บอบบาง เพราะมันเข้าไปอยู่หลายจุดเหลือเกิน ก่อนมันจะออกมาหมด ทำเอาต้นเสียวสะท้านจนแทบหมดแรง วันนี้เป็นวันที่เขาโฟกัสกับส่วนนั้นมากที่สุด เพราะเขาก็ช่วยตัวเองมาหลายครั้งตามวิสัยวัยรุ่นชาย แต่วันนี้มันแปลกออกไป ความรู้สึกมันมากกว่าเดิม แถมเมื่อนึกถึง ก็พาลที่จะตื่นตัวขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ขอโทษทีนะ” ต้นพูดพร้อมยิ้มให้ เพราะไม่อยากให้เพื่อนร่วมห้องอารมณ์เสีย

ต่อเดินเบียดต้น เข้าไปอาบน้ำต่อ เสียงฝักบัวดังขึ้นในเวลาไม่นาน หลังจากที่ต้นเข้ามาที่ห้องด้วยสภาพเละเทะ ก็พบว่าทั้งสองปรับความเข้าใจกันแล้ว แม้ว่าต่อจะดูตึงๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ดุเดือดเท่าเมื่อวาน

“ไปกินข้าวด้วยกันไหมต่อ” กริชตะโกนถามต่อที่อยู่ในห้องน้ำ

“ไม่อ่ะ ไปกันเลย”

“เอาอะไรไหมล่ะแก” กริชถามก่อนที่จะเปิดประตูห้อง

“ไม่เอา”

ทั้งสองจึงเดินออกห้องมา



“เราเห็นต้นด้วยนะ เป็นควีนของอีกกลุ่มหนึ่งใช่ป่ะ” กริชถามขณะที่สองคนกำลังเดินมุ่งหน้าไปที่โรงอาหาร

“โหย กริช อย่าไปพูดถึงเลยน่าอาย ให้ใส่ชุดอะไรก็ไม่รู้” ต้นรู้สึกเชินอายขึ้นมาที่เพื่อนไปเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น

“ก็ไม่น่ะ น่ารักออก”

“อะไรนะ”

“เปล่าๆ ก็แบบนี้แหละเกมรับน้องใหม่น่ะ ฮ่าๆ ๆ”

“ตอนแรกในทีมเราก็จะโหวตให้เราเป็นอ่ะแหละ แต่มีคนยอมเป็นก่อน เลยสบายไป”

“เหอ ดีจริง ของเรานี่โดนหลายอย่างเลย ตั้งแต่ออกนอกหอประชุมเลย” ต้นเล่าเรื่องทุกอย่างให้กริชฟังยกเว้นเรื่องอาการเสร็จ และเรื่องรุ่นพี่ที่เข้ามาทำมิดีมิร้าย

“โหว จะว่าไงดีล่ะ น่าตื่นเต้นมั้ง” กริชเหมือนจะหน้าแดงหน่อยๆ

“บ้าไปแล้วน่าอายจะตาย ปะไปซื้อข้าวกัน” ทั้งสองแยกย้ายไปซื้อข้าวเย็น และกลับมาเจอกันที่โต๊ะ



“ว่าแต่ไปญาติดีกันตอนไหนเหรอ”

“โหย ตอนเข้ามานะ ไอ้นั่นมันก็นอนบนเตียงอยู่แบบนั้นแหละ เราไม่ได้สนใจหรอก แต่อยู่ดีๆ มันก็ยอมคุยด้วยขึ้นมาซะอย่างนั้น เห็นว่าไม่ได้มีอะไรก็เลยคุยๆ ไปบ้าง ก็ไม่ได้กวนตีนเหมือนเมื่อวาน”

“อื้อ ดีแล้วล่ะ เมื่อวานตกใจแทบแย่”

“พรุ่งนี้ ต้องตื่นกี่โมงนะ” ต้นถามเพราะไม่ได้ฟังนัดหมายตอนเย็น

“เวลาเดิมแหละต้น ชุดออกกำลังกาย เสร็จแล้วก็ใส่ชุดลำลอง ทำกิจกรรมวันที่สอง น่าจะเป็นแนะนำโรงเรียนมั้ง ไม่น่าจะมีเกมเหมือนเมื่อวานแล้ว”

“เอ้าเหรอ ไม่มีเกมแล้วเหรอ” ต้นเผลอถามออกมาโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโล่งใจ หรือเสียดาย เพราะถ้าหากเจอรุ่นพี่เหล่านั้นอีกครั้งแล้วโดนบังคับให้ใส่ชุดแบบเดิม เขาก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่า เขาจะใส่แต่โดยดี หรือขัดขืนกันแน่ เพราะตอนนี้ราวกับว่าบางสิ่งบางอย่างในตัวเขามันได้เปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อยแล้ว



*ที่ตัดมาเขียนตอนนี้ก่อน เพราะว่าเหตุการณ์มันจะต่อกันนะครับ ยังไงขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้ ไม่ว่าจะชอบในส่วนไหนก็แล้วแต่ หากชอบยังไงอยากให้ปรับปรุงตอนไหน เข้ามาคุยกันเยอะๆ นะครับ จะเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนอย่างมากเลย
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 10 เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 25-03-2019 09:24:58
 :pig4:
 :3123:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 10 เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 25-03-2019 22:56:15
ตอนที่ 11 ความอับอายของน้ำฝน (2) และ เป้าหมายที่สองของมิสเตอร์เค (2)

น้ำฝนหอบหายใจอย่างแรงเป็นระยะเวลานาน เพราะต้องวิ่งหนียามเป็นระยะทางไกลมาก กว่าที่จะสลัดยามพ้น เธอหลบอยู่ข้างๆ ห้องน้ำที่ต้นมาเสร็จที่นี่ สภาพในตอนนี้ เธอเปลือยเปล่า และเนื้อตัวเต็มไปด้วยแป้ง แม้จะวิ่งมาเหนื่อย แต่ตัวเธอก็ยังไม่มีเหงื่อออกสักหยด แม้จะในสภาพที่น่าอับอาย และสถานการณ์ที่คับขันแบบนี้ ข้างล่างของเธอก็ยังคงตั้งชัน แม้ว่าจะทำหน้าที่ติดกันไปถึงสองรอบก็ตาม

เพื่อนทั้งสาม ตามมาในระยะเวลาที่ไม่นานนัก เนื่องจากว่าต้องแวะไปเตรียมของและสถานที่ ในที่ต่อไป

“โคตรตื่นเต้นเลยอ่ะแก” น้ำฝนพูดกับเพื่อนๆ

“เกือบไปแล้วไงล่ะ บอกให้รีบลงก็ไม่ลง ถ้าโดนจับได้ไม่มีใครช่วยแน่ๆ”

“แหม ก็ตอนนั้นมันตื่นเต้นนี่นา หยุดไม่ได้ด้วย”

“เราจะเริ่มไลฟ์ต่อแล้วนะ ช่องแชทเดือดกันละ”

“อ่ะ อืม ต่อไปทำอะไรต่อล่ะ”

“อ่ะเอานี่ไป เพื่อนยื่นกล้องโทรศัพท์ มือถือให้”

“อะไร”

“ต่อไปเธอต้องถ่ายตัวเองไปด้วย เพราะเราต้องไปประจำแต่ละจุด เริ่มจากจุดแรก ใต้ลานโพธิ์ หลังจากนั้นเธอจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จ และผู้คุมภารกิจนั้นๆ จะบอกทางไปต่อให้”

น้ำฝนกลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น

“นี่ชุดสำหรับภารกิจต่อไป “เพื่อยื่นชุดสำหรับใส่ทำภารกิจต่อไปให้น้ำฝน

“นี่มันไม่น้อยเกินไปหน่อยเหรอ” น้ำฝนรับชุดมาจากเพื่อน ซึ่งจะเรียกว่าชุดก็ไม่เต็มปากนัก เนื่องจาก มีเพียงแค่ที่คาดผมหูกระต่าย บัทปลั๊กที่มีหางกระต่ายติดอยู่ และถุงน่องสีขาวที่เว้นตรงเป้าเพียงเท่านั้น

น้ำฝนใส่ชุดที่เพื่อนให้มาด้วยความตื่นเต้น ลำบากเล็กน้อยตอนใส่ถุงน่องเพราะติดส่วนที่มันเด้งขึ้นมาขวาง น้ำฝนใส่ที่คาดผม และหางเป็นลำดับสุดท้าย เธอเอาเข้าปากมาอมเพื่อเพิ่มความลื่นก่อน โลหะที่มันวับเคลือบไปด้วยน้ำลาย และเธอค่อยๆ ดันเข้าไปในช่องทางทางด้านหลัง

“อ่ะ อืมมม” เธออดที่จะส่งเสียงออกมาไม่ได้เพราะอันนี้เป็นอันที่ใหญ่กว่าอันปกติของเธอพอสมควร เมื่อเข้าจนสุด น้ำฝนมีท่ายืนที่แปลกไปเล็กน้อย

“มาพร้อมล่ะ”

“สวัสดีค่ะ น้ำฝนพร้อมจะทำภารกิจต่อไปด้วยค่ะ”

“ตอนเดิน เธอกำแล้วขยับมือได้ด้วยนะ อย่าให้มันอ่อนตัว”

“โอ้ย แค่นี้ยังอายไม่พอเหรอเนี่ย! ”

“มีกว่านี้อีก ไปละนะโชคดีจ้า”

น้ำฝนเริ่มถ่ายทอดสดต่อ โดยมีมือหนึ่งถือกล้องถ่ายตัวเอง และอีกมือหนึ่งทำภารกิจไปด้วย เมื่อโดนกระตุ้นทั้งสองทาง ทำให้ความรู้สึกปริ่มๆ กลับมาหาน้ำฝนอีกครั้งอย่างเร็ว ร่างขาวโพลนเต็มไปด้วยแป้ง เดินไปตามทางที่มืดมิด

น้ำฝนไม่สามารถเดินได้อย่างสะดวกนัก เพราะอีกมือต้องทำหน้าที่ไปด้วย

“ขอบคุณคำสั่งสุดสร้างสรรค์ค่ะ” เธอพูดใส่กล้องด้วยเสียงสั่นเครือ

น้ำฝนเดินมาอย่างยากลำบาก ด้วยตื่นตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา แค่เสียงใบไม้กรอบแกรบ ก็ทำให้เธอหวาดระแวงจนต้องงหันไปดู ว่ามีคนอยู่แถวนี้หรือเปล่า

ที่สุดเธอก็เดินมาถึงจุดแรก ที่นี่เพื่อนคนหนึ่งยืนอยู่ พร้อมกับมีกลุ่มนักเรียนชายใส่หน้ากาก ใส่กางเกงในสีดำยืนอยู่ถึงสี่คน

“ภารกิจที่ 2 ชื่อ หนึ่งมือติ้ว หนึ่งปากอม กติกาคือ ต้องใส่กางเกงในผ้าฝ้ายนี้ช่วยตัวเอง โดยห้ามใช้วิธีปกติ จะต้องใช้นิ้วคลึงจากด้านนอกเท่านั้น ห้ามใช้การรูดเหมือนปกติ เงื่อนไขในการผ่านด่านคือตัวเองต้องเสร็จพร้อมกับอาสาสมัครเท่านั้น หากเสร็จไม่พร้อมกันต้องเริ่มทำภารกิจใหม่อีกครั้ง หากไม่จบภายใน 10 นาทีจะเพิ่มอุปกรณ์ที่สร้างความลำบากทีละชั้น”

“ยากจัง” น้ำฝนรับกางเกงในมาใส่ พร้อมทั้งจัดตำแหน่งให้เข้าที่ เตรียมพร้อมสำหรับการนวดคลึง

“เอาละเตรียมเข้าประจำที่ได้”

น้ำฝนนั่งยองโดยมีอาวุธดำทะมึนของนักเรียนชาย อยู่ตรงหน้าพอดี

“อ้าขาด้วยสิหล่อน”

“ได้ค่า” เธอกางขาออกอย่างเสียมิได้

“หวังว่าเกมนี้คงจะไม่มีแป้งอีกนะ” เธอจับอาวุธพร้อมนำเข้าปาก

“เสียใจมีค่ะ”

“โอ้ยยย จนทุกวันนี้ไม่อยากทาแป้งแล้วเนี่ยจะเยอะไปไหน”

“ไม่ได้มีแต่แป้งอย่างเดียวหรอก มีทั้งน้ำ ครีมสด สี แล้วแต่จะสุ่มได้อะไร รับรองว่าถ้าช้าตัวเละแน่นอน” เพื่อนเธอพูดพร้อมทั้งผายมือไปยังของที่เตรียมไว้

“สนุกจริงนะหล่อน” เธอพูดพร้อมมองค้อน

“ใครได้แกล้งเธอก็สนุกทั้งนั้นแหละคุณประธานนักเรียน”

“เอ้า เลียหน่อยสิ” เพื่อนยังกระเซ้าเธอไม่หยุด

น้ำฝน เอาลิ้นแตะอย่างกล้าๆ กลัวๆ รสชาติปะแล่มๆ แต่มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

“กลิ่นมันต้องติดจมูกไปหลายวันแน่ๆ” เธอเริ่มดำเนินการดูดไอติมช้าๆ อย่างละเมียดละไม ใช้ริมฝีปากทั้งบนและอย่างบดคลึงอย่างเป็นระบบ ดูดกลืนทุกหยาดหยดราวกับว่าเอร็ดอร่อยไปพร้อมกับการโยกหัวย่างเป็นจังหวะ

“โอ๊ะ อะ อ่าห์”

“อึก” หนุ่มน้อยตัวเกร็งก่อนที่น้ำฝนจะทันได้ตั้งตัว และ เขื่อนก็พังทลาย ส่งน้ำหวานเข้าไปเต็มปากน้ำฝน

“เอ้า ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ฟรุบ” เสียงสุดท้ายมาจากการสูดน้ำหวานกลับเข้าไปในปาก เพราะกระฉอกออกมา

เพื่อนสาวแจกขวดแป้งไปให้เหล่าชายหนุ่ม

“ไม่เสร็จพร้อมกัน ต้องโดนลงโทษโดยการให้อมน้ำหวานั่นไว้จนจบภารกิจ และโดนคลุกแป้งค่ะ” เธอพูดขณะถ่ายวิดีโอไปด้วย

“โอ้ยไม่นะ” น้ำฝนพูดอย่างไม่เต็มปาก

และหนุ่มทั้งสี่ก็อุ้มตัวเธอในสภาพกางแขนกางขาไปยังผ้าสีขาวทีปูไว้ และมหกรรมละเลงแป้งก็เริ่มขึ้น แป้งถูกกระหน่ำเทลงมาราวกับว่าเธอเป็นเนื้อที่เตรียมรอทอด มีหนึ่งเข้ามาขยำผมคลุกกับแป้งไป ขณะที่ข้างล่างก็ซอกซอนเข้าไปทาทุกจุด น้ำฝนแทบจะสำลักแป้ง ในขณะที่เธอโดนพลิกตัวกลับไปกลับมาและลงเอยด้วยการหลับตาพริ้มในขณะที่ทั้งสี่วางขวดแป้งไว้ที่เป้าราวกับเป็นอาวุธลับ และบีบพุ่งใส่หน้าเธอราวกับว่าเป็นภาพจำลองการพังทลายของเขื่อน

น้ำฝนสะบัดแป้งออกจากตัวก่อนที่จะชี้ไปที่ปากและที่เป้าของผู้ชายอีกคน

“เริ่มรอบที่สองได้จ้า”

ครั้งนี้น้ำฝนรู้ทันเกมแล้ว เธอเตรียมบิ้วท์ตัวเองไว้ก่อนแต่กลับพบว่า

“ใครเอาแป้งมาอัดไว้เต็มกางเกงในเลยเนี่ย”

“ฮ่าๆ ๆ ก็แบบที่น้องโดนเมื่อเช้าไงเธอ รู้สึกยังไงบ้างล่ะ”

"ฉันโดนบ่อยแล้วย่ะ"น้ำฝนมองค้อนไปทางเพื่อนสาว และงับเข้าที่แท่งภารกิจก่อนที่จะเริ่มจัดการตัวเองไปพร้อมกัน แต่แทนที่จะช้าลง การมีแป้งอัดอยู่ตรงนั้นกลับทำให้เธอเร่งตัวเองได้เร็วขึ้น เธอโยกหัวอย่างชำนาญ จนหนุ่มน้อยเริ่มแสดงอาการ และเธอจัดการเร่งความเร็วของนิ้วมือไปพร้อมๆ กับการขยับปากส่งแรงดูด และไม่นาน

“พะ พะพี่ครับ” ชายหนุ่มตัวเกร็งตาเหลือก ไปพร้อมๆ กับน้ำฝนที่ตัวกระตุกตีขาเข้าออกเป็นแม่ไก่ และทั้งสองหยุดเกร็งในเวลาที่แทบจะพร้อมกัน

“เก็บให้หมดนะเธอ”

น้ำฝนดูดและเก็บทุกอย่างไว้ในปากของเธอ มันค่อนข้างเยอะจนแทบจะล้นออกจากปาก

“อย่าเพิ่งกินนะ”

เธอชี้ไปที่ปากพร้อมมองหน้าเพื่อนเป็นทำนองว่า เธอจะให้ฉันกินด้วยเหรอ?

“อ้าปากโชว์ให้ท่าผู้ชมหน่อยสิ” เพื่อนเธอสั่ง

น้ำฝนอ้าปากเผยให้เห็นน้ำหวานเหนียวไหลนองอยู่เต็มช่องปาก บางส่วนยังยืดติดอยู่ที่เพดานปาก กลิ่นเฉพาะตัวคลุ้งอยู่ในปากน้ำฝน

“ต่อไป เล่นอมเหมือนเด็กหน่อยน้ำฝน แบบเด็กที่อมน้ำหวาน อมแล้วดันให้มันออกมาตาไรฟันน่ะ”
เธอมองเพื่อนด้วยตาโต ก่อนที่จะทำตามคำสั่ง เสียงฟี้ดดด ดังออกมาจากปากของเธอ
“กลั้วคอด้วย”

คร๊อกๆ ๆ ๆ

เพื่อนสาวหัวเราะ

“พอแล้วๆ เอ้าพูดหน่อย จะกินแล้วนะคะ”

“จะกินแล้วนะคะ” เธอพูดอย่างยากลำบาก

น้ำฝนกลั้นใจ นับ หนึ่ง สอง สาม แล้วกลืนน้ำหวานลงคอไป เสียงดังเอื้อกจนคนได้ยิน

“พูดสิ อร่อยมากเลยค่ะ”

“อร่อยมากๆ เลยค่า” เธอพูดพร้อมยิ้มให้กล้อง

“โอเค ผ่าแล้ว ไปฐานต่อไปได้ค่ะ”

น้ำฝนรับกล้องมาและเดินต่อไปยังฐานต่อไป


ฐานต่อมาอยู่ไม่ไกลจากฐานเดิมเท่าไหร่นัก เพื่อนเธอยืนคอยเหมือนเดิม แต่ที่นี่มีโต๊ะตัวใหญ่ตั้งอยู่

“ภารกิจที่ 3 เต้นให้เพลีย เชียร์ลีดแดนซ์ กติกาคือ เต้นท่าเชียร์ลีดเดอร์ ให้ยั่วยวนและลามกที่สุด จนกว่าคนดูจะพอใจ หากเต้นน่าเบื่อ จะถูกสั่งลงโทษเรื่อยๆ”

“ไปยืนบนโต๊ะเลยค่ะ” เพื่อนสั่งพร้อมเดินเข้ามาหยิบกล้องในมือไป

“ท่าที่ 1 ร่อนเอว ก้ามปู” เพื่อนเธอสั่งด้วยท่าที่น้ำฝนรู้จักแต่ไม่อยากทำ

“โอ้ยเกลียดท่านี้จัง”

“ปากบอกว่าเกลียด แต่ข้างล่างฟูเลยนะ” เพื่อนเธอพูดสร้างความหน้าแดงให้แก่น้ำฝน ว่าแล้วน้ำฝนก็หันไปยิ้มหวานกับกล้อง เธอแบะขาออกทั้งสองข้างให้คล้ายขาปู วงขาเรียวขาวมีความอวบเล็กน้อยดูนิ่มนวล แบะออกส่งผลให้มองเห็นซอกขาที่ขาวเนียนเพราะดูแลเป็นอย่างดี และน้องน้อยห้อยอยู่

เธองอข้อศอกและชูสองนิ้ว

“จะเริ่มละนะคะ” ว่าแล้วเธอก็แลบลิ้นออกมาพร้อมตำตาเหลือกขึ้นไปด้านบนพร้อมส่ายเอวเป็นวงกลม เกิดเป็นท่าสุดน่าอับอาย ที่ทำให้เธออายจนหน้าแดง แต่ก็ต้องทำต่อจนกว่าผู้ชมจะพอใจ

“พอแล้ว ท่าที่ 2 เฮลิคอปเตอร์ ค่ะ”

“โอ้ย อายว่ะ” เธอบ่นกับตัวเอง

น้ำฝนยังอยู่ในท่าเดิม แต่ลดมือสองข้างมาจับที่สะโพก พร้อมส่ายเอวเป็นวงกลมแนวตั้งแทน

“ท่าที่ 3 แมงมุม” เพื่อนสั่งต่ออย่างไม่ใยดี

น้ำฝนลงไปตั้งท่าแมงมุมตัวแต่ แต่เพื่อนผู้แสนดี กลับเอามือเข้ามาขยุ้มตรงจุดบอบบางเอาไว้ด้วย

“จับแมงมุมดได้แล้ว”

“เอ้า เต้นสิ”

น้ำฝนจำใจขยับเอวโดยมีเพื่อคอยบีบขยำแกล้งไปด้วย เธอส่งเสียงออกมาเป็นพักๆ สร้างความสนุกให้เพื่อนและช่องแชทเป็นอย่างมาก เมื่อหนำใจแล้ว เพื่อนเธอจึงสั่งท่าต่อไป

“ท่าที่ 4 ทำความสะอาดระหว่างขา” เพื่อนเธอยื่นผ้ากำมะหยี่สีแดงให้

น้ำฝนรับมาสอดผ่านระหว่างขา และดึงให้แน่กระชับจุด และเริ่มดึงไปดึงมา แม้จะเสียดสีไม่มาก แต่ก็ทำให้เธอรู้สึกจนขาเริ่มสั่น
“อะ อูววว” เธอระบายความรู้สึกในขณะที่ก็ไม่หยุดถูไถ จนที่สุดตัวเธอก็ระตุก เกร็ง แต่ยังไม่สามารถหยุดได้ เนื่องจากต้องรอคำสั่ง

“เอาล่ะ พอได้แล้ว ไปด่านต่อไปได้เลยค่ะ”

น้ำฝนเดินออกจากฐานที่ 3 ด้วยแข้งขาที่อ่อนแรง มุ่งหน้าไปยังฐานที่สี่

เมื่อน้ำฝนเข้าสู่ฐานที่สี่ เพื่อนก็เข้ามาแนะนำภารกิจ และเหมือนเดิมที่นี่มี ชายหนุ่มใส่หน้ากากยืนอยู่ถึง 8 คนด้วยกัน


“ภารกิจที่ 4 สาวน้อยร้อยดุ้น กติกาคือ ใช้มือ หรือปาก หรือด้านหลังก็ได้ รีดเร้นจักระของอาสาสมัครหนุ่มๆ ออกมาให้ได้มากที่สุด โดยรีดออกมาแล้วจะต้องนำไปรดชุดนักเรียนที่เตรียมไว้ให้ชุ่ม เพื่อที่จะได้ทำภารกิจต่อไป โดยน้ำฝนจะต้องโดนมัดแขนทั้งสองข้างติดกับหน้าอกและมัดมือสองข้างไว้ด้านหลังละใช้ความสามารถของตนเองโดยไม่ใช้แขนทั้งสองข้าง” (ขอยกไปใส่ในตอนพิเศษที่จะนำมาคั่นนะครับคิดว่าน่าจะแรงอยู่ ผมลงไว้หลายที่เวลาบินจะได้ไม่บินหมดครับลบออกเป็นตอนๆไป)


น้ำฝนเสร็จสิ้นทุกภารกิจ และได้ของครบสำหรับที่จะทำตามแผนต่อไป รวมถึงคลิปกับรูปอีกนับไม่ถ้วน ที่จะทำให้เหล่าช่องแชทใช้ในการจัดการตัวเองได้ไปอีกหลายวัน

“ภารกิจส่งท้าย ส่งไม้ต่อ ให้ทำตามที่ได้นัดแนะกันไว้ตอนต้น” เพื่อนเธอบอกหลังจากอ่านในช่องแชท

“อันนี้แหละยาก” น้ำฝนพูดพร้อมถอนหายใจ สภาพแบบนี้ ถ้าให้คนอื่นเห็นเธอคงอายจนต้องเอาหน้ามุดแผ่นดินหนี เธอเอาผ้ามาพันหน้าอก ที่รู้สึกถึงความระบมจากการใช้งาน นำชุดนักเรียนหญิงที่เปื้อนไปด้วยคราบน้ำจนทั่วมาใส่ ชุดที่เต็มไปด้วยน้ำจนเกือบชุ่ม มีกลิ่นที่เฉพาะตัว ที่เมื่อก่อนเธอไม่เคยชอบ แต่ตอนนี้เมื่อชินกับกลิ่นของมันไปแล้วมันกลับกลายเป็นกลิ่นที่หอม ดมแล้วติดอย่างน่าประหลาด น้ำฝนม้วนผมให้ดูเหมือนผู้ชายมากที่สุด พร้อมสวมกางเกงในและกระโปรงที่ชุ่มไปด้วยน้ำ เมื่อกางเกงในสัมผัสกับตัว สัมผัสนั้นทำเอาน้ำฝนขนลุก เธอรู้สึกดีไม่น้อย

เธอเดินนำไปยังบ้านพักครูที่ตอนนี้มีไฟเปิดอยู่เพียงดวงเดียว พร้อมพรรคพวกที่ตามมาด้านหลัง เมื่อถึงจุดที่นัดหมายไว้ เธอสูดหายใจลึกๆ และวิ่งพร้อมร้องตะโกนไปด้วย

“ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยด้วยครับ” เธอวิ่งออกไป

“ใครก็ได้ช่วยผมด้วย” เธอวิ่งไปเคาะประตูห้องที่ยังเปิดไฟอยู่

“ช่วยด้วย” เธอเคาะประตูดังขึ้น

เสียงเท้าตึงๆ เดินออกมาพร้อมเปิดประตู เป็นผู้ชายท่าทางเรียบร้อยคนหนึ่ง ที่อยู่ในชุดนอน เขายังไม่นอน และทำตาหรี่เหมือนคนสายตาสั้น

“เฮ้ย นี่มันอะไรกันเนี่ย” เขาตกใจกับสภาพที่เห็น

“ผมโดนข่มขืนครับครู พวกมันบังคับให้ผมใส่ชุดนี้ ครูช่วยผมด้วย”

“หะ หา”

เสียงฝีเท้านับสิบคู่วิ่งตามมาจากที่ไกลๆ

“ครู พวกมันมาแล้ว รีบหนีเร็วครับ” น้ำฝนจับข้อมือของครูหนุ่ม เมือกที่ติดมือทำครูหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อย

“เดี๋ยวนักเรียน เดี๋ยว” แต่ไม่ทันแล้วเพราะน้ำฝนออกแรงกระชากครูหนุ่มให้ออกวิ่งไปด้วยกัน โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

“พอก่อนเธอ ครูเหนื่อย มันคงตามมาไม่ทันแล้ว” ครูหนุ่มหอบ เขาไม่ได้ใส่รองเท้า แถมยังไม่ได้เอาแว่นมาด้วย จึงมองอะไรไม่ชัดแถมยังเจ็บเท้าเป็นอย่างมาก

เมื่อพักจนหายเหนื่อยแล้ว เขาจึงเอ่ยถามนักเรียนปริศนา

“เล่าให้ครูฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น” เขาคลำหาโทรศัพท์ และพบว่าไม่ได้หยิบมาด้วย

“ผมโดน ดักระหว่างทางที่จะเดินกลับหอพักครับ และมันก็รุมผม” น้ำฝนพูดไปตามบทพร้อมทำหน้าตื่นกลัว

“เอ้ย บ้าบอ นี่มันในโรงเรียนนะ! ทำไมมันอุกอาจอย่างนี้” เขาพูดอย่างตื่นตะลึง เพราะเคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาบ้าง แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นต่อหน้าแบบนี้

“แถมยังบังคับให้ผมใส่ชุดแบบนี้ด้วยครับครู” น้ำฝนพูดพร้อมทำหน้าเบ้ ชี้ไปที่ชุดของตัวเอง

“ใจเย็นก่อนเธอ เดี๋ยวครูจะช่วยเธอเอง แต่ก่อนอื่นเราต้องแอบกลับไปเอาโทรศัพท์ก่อน จะได้โทรแจ้งคนอื่นๆได้”

“ว่าแต่เธอจำพวกมันได้ใช่ไหม” เขาพูดพร้อมออกเดิน แต่นักเรียนรั้งเขาเอาไว้

“ครูครับ ผมอาย”

“อะไรนะ”

“ผมอายมาก ผมไปไหนไม่ได้หรอกครับในสภาพนี้”

“ครูช่วยผมหน่อยได้ไหม”

“ให้ครูช่วยอะไรล่ะ” เขาพูดพร้อมมองไปที่นักเรียนที่ตัวเลอะเทอะไปด้วยแป้ง และชุดเปียกคราบน้ำเป็นดวงๆ

“ครูแลกชุดกันกับผม”

“อะไรนะ! ”

“แลกชุดกับผมหน่อยนะครับครู ผมไม่กล้าสู้หน้าใครแล้ว”

ครูหนุ่มคิดอย่างชั่งใจ เพราะยากเหลือเกิดกับการตัดสินใจครั้งนี้ เขาไม่เคยต้องใสชุดผู้หญิงมาก่อนในชีวิต แม้แต่งานรื่นเริงต่างๆ ที่มีคนมาขอความร่วมมือในการแสดง เขาก็หลบเลี่ยงมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป

“โอเค” เขาพูดอย่างติดๆ ขัดๆ

“ขอบคุณมากครับครู” นักเรียนยิ้มอย่างดีใจ และท่าทางผิดกับเมื่อครู่ โดยที่สนไม่ทันสังเกต

“หาที่เปลี่ยนชุดกันเถอะ” ครูหนุ่มพูดเสียงแข็งๆ

“ตรงนี้เลยครับครู จะได้ไม่เสียเวลา ไม่มีใครเห็นหรอกครับมันไกลคน”

น้ำฝนไม่รอให้ครูพูดอะไรต่อไป เธอถอดเสื้อ และกระโปรง และรวมไปถึงกางเกงในออกทันที ปลดปล่อยช่วงล่างและเรือนร่างที่เปลือยเปล่า ขาวโพลน เพราะแป้งฝุ่นที่มีอยู่ทั่วทั้งตัว

“นี่ครับอาจารย์”

“กางเกงในด้วยเหรอ”

ครูหนุ่มรับมาด้วยใจเต้นระทึก คราบน้ำเหนียวๆ ทำให้เขารู้สึกแขยงมือ

“เฮ้อ”

เขาถอนหายใจพร้อมกับเริ่มถอดชุด และสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเขาไปตลอดกาลก็เกิดขึ้น ทุกอย่างไปเป็นไปตามแผนของมิสเตอร์เคอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอน

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 11 ความอับอายของน้ำฝน (2) และ...
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 26-03-2019 14:17:53
ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิเตอร์เค (3)

   น้ำฝนได้ชุดนอนของครูมาแล้ว เธอยังไม่ได้ใส่เสียทีเดียว เพราะการมองดูคุณครูที่ดูลังเล และเขินอาย กำลังจะใส่ชุดนักเรียนหญิงที่เปรอะเปื้อนเป็นภาพที่น่าดู และชวนให้ใจเต้นมากกว่า ชวนให้นึกถึงวันแรกที่เธอได้ใส่ชุดของผู้หญิงยิ่งนัก เพียงแต่ครั้งนั้นเธอไม่ได้ใส่ในที่มืดๆ แบบนี้ เธอใส่ต่อหน้าคนทั้งห้อง

ครูหนุ่มในสภาพเปลือยเปล่า เพราะถอดชุดของตัวเองให้น้ำฝนไปแล้ว เขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสวมเสื้อนักเรียนหญิงลงไปบนตัว สัมผัสเหนียวๆ ลื่นๆ บนชุดน่าขยะแขยงยิ่งนัก แต่เขาคิดในใจว่าเพื่อนักเรียน และกลั้นใจสวมเสื้อจนเสร็จ เหมือนตัวของเขาก็จะเลอะเทอะไปด้วยแล้วตอนนี้

เขากางกางเกงในออก และสวมเข้าไปบนตัว เช่นเดียวกันกับเสื้อ คราบอะไรต่อมิอะไรแนบชิดลงไปบนตัวของเขา สำผัสที่ทั้งเปียกและเหนียวเหนอะแนบลงไปบนตัวเขา ขยะแขยงจนขนลุก และเขาก็ใส่กระโปรงเสร็จในเวลาต่อมา

“รองเท้าด้วยครับ ครู” น้ำฝนยื่นรองเท้าให้
เขารับมาใส่ พลางคิดในใจว่า ดีเหมือนกัน เพราะเหมือนเท้าที่มีแผลจะเริ่มเจ็บจนเดินยาก และเมื่อตอนก้มใส่รองเท้านั่นเอง

“ตรงนั้นทำอะไรกันน่ะ” ครูเค และครูวิชัยนั่นเองที่เดินเข้ามา

“ครู” และน้ำฝนก็วิ่งเข้าไปซบมิสเตอร์เค

“น้ำฝน แล้วทำไมสภาพเธอเป็นแบบนี้ เขามองน้ำฝนในสภาพเปลือยเปล่า และเนื้อตัวมอมแมมเต็มไปด้วยคราบน้ำ และแป้งทั่วตัว

“ครูคนนี้ เขาบังคับให้หนูทำแบบนี้ค่ะ” น้ำฝนชี้ไปที่ครูหนุ่มในสภาพที่ชุดนักเรียนหญิงเต็มที่

“เอ้า ครูจิรายุ แล้วสภาพนี้มันอะไรกัน”

จิรายุ ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทำไมนักเรียนคนนี้ จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปและกล่าวหาเขาแบบนี้

“ผะ..ผม อธิบายได้ครับ”

ท่าทีของมิเตอร์เคเหมือนมีความโกรธแอบแฝงอยู่

“ทำแบบนี้ไม่ถูกนะครับ แถมผิดกฎหมายอีกต่างหาก ไว้ไปอธิบายกับตำรวจก็ได้ครับ พี่วิชัยถ่ายรูปหน่อยครับ” เขาพูดพร้อมกับยกโทรศัพท์ ขึ้นมากดเบอร์

“ผมอธิบายได้พี่ พี่กำลังเข้าใจผิด” เขาจะวิ่งเข้ามาห้าม

“มันไม่มีอะไรต้องอธิบายทั้งนั้นแหละ สภาพมันชัดเจนอยู่แล้ว ว่าคุณน่ะเป็นพวกชอบตุ๋ยเด็ก แล้วยังสภาพสุดโรคจิตนั่นอีก ชอบแต่งหญิงด้วยเหรอ” มิสเตอร์พูดเสียงดัง

ครูวิชัยเดินไปถ่ายรูปใกล้ๆ

“อย่าถ่ายนะครับ ได้โปรด พี่ๆ กำลังเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว” เขายกมือห้าม

“อย่างนั้นก็ไปคุยกันหน่อยแล้วกัน” เคเก็บมือถือ และเดินนำออกไป

ครูจิรายุ เดินตามด้วยสภาพ ใส่ชุดนักเรียนหญิงเปื้อน ไปตามทางเดินตึก ซึ่งดีว่าดึกมาแล้ว เลยไม่มีคนมากเท่าไหร่นัก เขาอยากจะถอดชุดเจ้าปัญหานี้ทิ้งไป เดินแบบไม่ใส่อะไรอาจดีกว่านี้

ทั้งสาม เข้าไปคุยกันในห้องโดยปล่อยน้ำฝนรออยู่ด้านนอก

มิสเตอร์เคเข้าไปนั่งที่โต๊ะ โดยเชิญให้จิรายุนั่งตรงเก้าอี้กลางห้อง โดยมีครูวิชัย ยืนดูอยู่ใกล้ๆ

“ไหนเล่ามาให้ผมฟังหน่อยครับ” เขาพูดด้วยท่าทีที่ผ่อนคลายมากขึ้น

“นักเรียนคนนั้น เขาวิ่งเข้ามาเคาะห้อง บอกว่าโดนข่มขืน และโดนบังคับใส่ชุดนักเรียนหญิง ผมจึงจะช่วย แต่เขาก็พาเขาวิ่งออกมา แล้วขอแลกชุดกันกับผมครับ”

“ฟังดูน่าเหลือเชื่อมาก”

“ดูน่าเหลือเชื่อ แต่มันเป็นเรื่องจริงครับ”

“แล้วคุณก็ยอมแลกชุดใส่กับเด็กคนนั้นเนี่ยนะ”
ครูหนุ่มอึ้ง ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก

“แล้วคุณว่าผมเชื่อคุณไหมล่ะ”

“..” ไม่มีคำตอบออกจากปากคนที่ใส่ชุดนักเรียนหญิงอยู่

“ผมเชื่อนะครับ”

คำตอบของเค สร้างความแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขาให้แก่ครูหนุ่มอยากมาก เพราะเมื่อครู่เขาไม่ได้มีท่าทีแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย

“รู้ไหมทำไมถึงเชื่อ”

“น้ำฝนเข้ามานี่” เขาเรียกน้ำฝนเข้ามา เธอเดินมาในสภาพเปลือยเปล่า และเลอะเทอะเช่นเคย
เขาแกะผ้าพันหน้าอกของน้ำฝนออก ปล่อยเต้าเต่งตึงออกสู่สายตาคนทั้งสอง น้ำฝนมีท่าทีเขินอายเล็กน้อยก่อนที่จะยืนแอ่นทำหน้าเชิดแบบไม่สะทกสะท้าน

“นะ..นี่ มันอะไรกันครับ” ครูหนุ่มตกตะลึงพร้อมเริ่มปะติดปะต่ออะไรได้

“ใช่ ผมเชื่อ เพราะแผนนี้ผมคิดขึ้นมาเองไง ฮ่าๆ ๆ ๆ” เขาหัวเราะอย่างชั่วร้าย

“สารเลว”

“อะไรนะ” เขาเดินเข้าใกล้ครูหนุ่ม ที่นั่งอยู่

เพี๊ยะ เขาตบหน้าครูหนุ่มอย่างจัง ใบหน้าขาวใสสะบัดไปตามแรงตบ สร้างความเดือดดาลให้เขาไม่น้อย

“กล้าดียังไงวะ แก” เขาลุกขึ้นมาเตรียมประจันหน้า แต่ครูวิชัย ยกโทรศัพท์ขึ้นมาให้เขาดูเสียก่อน ทำให้ท่าทีเขาอ่อนลงอย่างฉับพลัน

“ครูมีภาพคุณหมดแล้ว ครูจิรายุ มันฟังดูเหมือนมุขเก่าๆเรื่องการแบล็กเมล์ แต่ว่ามันก็ใช้ได้อยู่นะ ฟังที่ครูเค เขาพูดก่อนดีกว่า เผื่อว่าเราจะได้หาข้อตกลงร่วมกันแล้วจะได้จบเรื่องนี้” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนโยน แต่สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้แต่โดยดี

“ว่ามาว่าคุณต้องการอะไร” เขาพูดด้วยเสียงแข็งกร้าวด้วยอารมณ์โกรธที่ปะทุอยู่ภายใน

“อย่าโกรธผมเลยคุณ”

“คุณมันน่ารังเกียจ”

เขายิ้ม

“พูดไปเถอะ เพราะที่สุดแล้วคุณก็จะกลายเป็นแบบนี้” เขาเดินไปด้านหลังน้ำฝน และเอื้อมมือสองข้างมาขยี้ สองเต้าขนาดพอดีมือ น้ำฝนตอบรับโดยการขยับไปตามแรง และแสดงสีหน้าอันเปี่ยมสุขออกมา

“เอาละ มาดูข้อตกลงเราดีกว่า” เขาพูดและยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว

_____________________________________________

เวลาเช้าตรู่ ครู พละออกมาเป่านกหวีดเรียก ทุกคนออกมารวมกันเพื่อที่จะได้ไปออกกำลังกายตอนเช้า

ต้นและรูมเมททั้งสองออกมา รวมกับกลุ่มในหอพักของตนเอง เข้าแถวอย่างเป็นระเบียบ และเริ่มออกวิ่งในเวลาไม่นาน ซึ่งเมื่อวิ่งและยืดเส้นเสร็จเรียบร้อย ทั้งหมดก็เขาไปใต้โดมที่เดิม กับเมื่อวาน และวันนี้เป็นรุ่นพี่คนใหม่ ใส่ชุดคล้ายๆ คนเก่า เธอใส่กางเกงผ้ายืดรัดรูป และใส่ชุดว่ายน้ำขาเว้าสูงไว้ด้านนอก เป็นผ้าแบบเดียวกันแต่คนละสี ตรงเป้าสามารถมองเห็นความนูนได้บ้าง แต่ก็ยังมีความเนียนและดูดี ซึ่งเป็นที่ดึงดูดสายตาของรุ่นน้องไม่น้อย

“ก่อนที่เราจะเริ่มเต้นแอโรบิค พี่ขอทวงงานเมื่อวานก่อนนะคะ”

“เมื่อวานนี้เพื่อนพี่ได้ขอ อาสาสมัครที่จะออกมานำออกกำลังกายหลังจากนี้ มีใครจะออกมาเป็นอาสาสมัครบ้างคะ” ความเงียบงันเกิดขึ้นทันทีเมื่อมีคำถาม

“ขอไม่เยอะ สี่ถึงห้าคนเท่านั้นเองจ้า”

ทุกคนยังคงนิ่ง มีท่าทีที่เกี่ยงกันอยู่ในหมู่ฝูงชน

“ไม่มีใครเลยเหรอคะ พี่จะเริ่มกิจกรรมไม่ได้นะ”

“ผมครับพี่” เสียงดังขึ้นมาจากด้านหลังของต้น กริชนั่นเอง

“มาแล้วหนึ่ง ขออีกสี่ค่ะ” เธอพูดพร้อมมองหาคนต่อไป “มีอีกไหมเอ่ย”

“ไปด้วยกันต้น” กริชกระซิบมาด้านหลัง แต่ต้นยังชั่งใจอยู่ เพราะของแบบนี้เขาไม่ค่อยถนัด ยิ่งต่อหน้าคนอื่นแล้ว เขารู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

“ไม่ไหวหรอก กริช”

“คนนี้ด้วยครับ” กริชยกมือแล้วชี้มาที่ต้น

“เอ้า กริชทำไมทำแบบนี้”

“โอเคค่ะ มาสองคนแล้ว”

และอีกไม่นานก็มีคนทยอยยกมือจนเต็มจำนวน

“อย่างนั้นพี่ขอนัดคนที่จะเป็นคนนำออกกำลังกายนะคะ หลังเสร็จกิจกรรมแล้ว สักประมาณห้าโมง พี่ขอให้น้องๆ มาซ้อมท่าเพื่อที่จะได้ใช้ในการนำออกกำลังกายนะคะ ทุกคนปรบมือให้อาสาสมัครของพวกเราหน่อยค่ะ”
เสียงปรบมือดังขึ้น และเข้าสู่ช่วงแอโรบิค

รุ่นพี่ที่นำเต้นในวันนี้ดูมีชีวิตชีวากว่าเมื่อวาน เมื่อมีการออกแอคชั่น หรือท่าที่แรงๆ เธอจะมีการส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด สร้างความสนุกสนานให้แก่คนที่เต้นตาม แต่ก็สร้างความหนักใจให้กับต้นด้วยเช่นกัน เพราะถ้าต้องเป็นแบบนี้ เขาทำไม่ได้แน่ๆ

เมื่อการออกกำลังกายเสร็จสิ้นลง ครูก็ขึ้นมาแจ้งนัดหมาย

“วันนี้ใส่ชุดพละนะครับทุกคน วันนี้จะเป็นการทำความรู้จักสถานที่ต่างๆ ในโรงเรียน ให้เวลา ชั่วโมงครึ่ง รีบไปอาบน้ำแต่งตัว รับประทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยและเจอกันที่ใต้โดมที่เดิมนะครับ”

เขาเป่านกหวีดหนึ่งปรี๊ดและทุกคนก็แยกย้าย

________________________________________

ครูหนุ่มกำลังชั่งใจกับสิ่งที่เขาต้องใส่ตลอดทั้งวัน สิ่งของที่น่าอายเกินกว่าผู้ชายจะใส่วางอยู่ตรงหน้า เพราะเขาเพิ่งดึงออกมาจากถุงกระดาษ เขาถอนหายใจอย่างจำยอมเมื่อนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

“เอาล่ะ ผมมีเงื่อนไขที่ให้คุณครูปฏิบัติตามสี่ข้อด้วยกัน ถ้าทำได้สำเร็จทั้งหมด ผมจลบรูปทั้งหมด และจะทำเป็นว่ามันไม่เคยมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”

“ว่ามาเลย”

“ข้อแรกภายใน 7 วันนี้ ผมจะเลือกชุดให้คุณใส่ แต่อย่าเพิ่งโวยวาย” เขาพูดเพราะอีกฝ่ายตั้งท่าเหมือนจะโวยวาย

“ในสี่วันแรก ผมให้คุณใส่ชุดอะไรก็ได้ข้างนอกทับไว้ แต่ขอเฉพาะสามวันท้ายเท่านั้นที่จะต้องใส่ชุดที่ผมจัดให้”

“โอเคไหมครับ”

ครูหนุ่ม มีสีหน้าท่าทางที่อึดอัด

“ผมปฏิเสธได้ที่ไหนล่ะ”

“ดี”

“ต่อมา เราต้องมาเจอกันวันละสามเวลา ทั้งเช้า กลางวัน และเย็น ทุกวัน และผมสามารถที่จะแตะต้องตัวคุณได้โดยที่คุณไม่ต้องอนุญาติ”

เขาชั่งใจเล็กน้อยก่อนที่จะตอบตกลง “ได้”

“เราจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น เงื่อนไขข้อที่สามคือ เมื่อใครถาม คุณต้องบอกว่าคุณเป็นแฟนผม และเราเพิ่งคบกัน”

“ไอ้บ้า” เขาพูดพร้อมลุกขึ้นโดยแฝงนัยยะที่ไม่พร้อมจะรับข้อเสนออะไรไปมากกว่านี้

“อ๊ะๆ คุณจะตกลงรับหรือเปล่าคิดดีๆ นะครับ เพราะคุณจะอยู่โดยหวาดระแวง ว่าผมจะแอบเอารูปคุณไปเผยแพร่ตลอดชีวิตหรือเปล่า”

อีกฝ่ายไม่ตอบพร้อมเม้มปากแน่น

“เอาเป็นว่าตกลง”

“และข้อสุดท้าย จะบอกเมื่อครบเจ็ดวันไปแล้ว ทำได้ครบหมดเราก็ไม่มีอะไรต่อกัน ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตนะคุณ”

“แล้วจะมีอะไรรับประกันว่าคุณจะทำอย่างที่พูด เพราะในเมื่อตอนนี้คุณก็ใช้วิธีสกปรกในการบีบบังคับผม ผมจะเชื่อใจอะไรคนอย่างคุณได้” เขาพูดด้วยอารมณ์

อีกฝ่ายไม่พูด พร้อมเดินไปเปิดโต๊ะ และหยิบวัตถุสีดำสนิทออกมา มันดูมีน้ำหนักมากเลยทีเดียว

เขายัดมันลงในมือคนใส่ชุดนักเรียนหญิง และปลดเซฟปืน

“เอาไปได้เลย ผมให้” เขาพูดด้วยแววตาจริงจัง

สองมือจับมือคนที่ถือปืนสอดเข้าโกร่งไก และยกกระบอกปืนหันเข้าหากลางหน้าอกของตัวเอง

“ผมเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ ถ้าผมไม่ทำตาม คุณเอาปืนนี้มายิงผมได้เลย ผมไม่หนี” แววตาอันมุ่งมั่น แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นในขณะเดียวกัน ราวกับดาบรูปร่างเรียวสวย แหลมคมดูอันตราย แต่ก็น่าหลงใหลจนยากที่จะถอนสายตา

“บะ บ้าไปแล้ว ผมก็โดนข้อหาฆ่าคนตายสิ” เขาลดปืนลง

“ดีมาก เอาเป็นว่าคุณยอมรับข้อเสนอ” เขาไม่พูดเปล่า เพราะเดินอ้อมมาด้านหลัง มือหนึ่งสอดเข้าไปใต้กระโปรง และรุกล้ำเข้าไปในจุดสงวน พร้อมทั้งลูบคลำ วนไปรอบๆ และสำรวจไปทุซอกทุกมุม ไม่นาน สิ่งที่นอนอ่อนตัวก็ค่อยๆ ตื่นขึ้นมา

จิรายุยอมให้เขาลูบเล่นอยู่อย่างนั้น

“ตั้งแต่วันนี้ไปฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคุณแฟน” มิสเตอร์เคกระซิบข้างหู ในขณะที่อีกมือก็ทำการสำรวจเนื้อตัวของเป้าหมายไปด้วยพร้อมกัน อย่างไม่หยุดมือ เมื่ออีกฝ่ายเริ่มแสดงอาการจากสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป เริ่มหายใจแรงขึ้น เขาก็หยุดมือ และเดินกลับไปที่โต๊ะ หยิบถุงกระดาษส่งให้เขา

“พรุ่งนี้ใส่ชุดนี้แล้วมาให้ผมเชคตอนเช้าด้วยนะครับ” เขาเว้นไปหนึ่งจังหวะ

“ที่รัก”
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: Carmelita ที่ 26-03-2019 17:38:13
อ่านแล้วสนุกดีครับเขียนแล้วอ่านเพลินดี
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 27-03-2019 08:16:39
คุณ​ครู​มาแรงกว่าน้องต้นค่อยตามมานะ​ มีเพจเฟซบุ๊ค​ให้ติดตามข่าวสารอัพเดต​นิยาย​มั้ยคะ
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 27-03-2019 10:41:49
Carmelita : ขอบคุณมากๆครับ เป็นกำลังใจให้ผมมากเลยว่าอย่างน้อยก็มีคนอ่าน T^T

naruxiah : ผมกำลังนอยด์ๆเพราะอันที่เอาไปฝากไว้ที่แอปหนึ่งเพิ่งโดนแบนไปครับ นอนน้ำตาตกอยู่เลย T^T พอมาอ่านเจอคอมเมนต์นี้ มีกำลังใจแต่งต่ออีกโขเลย ขอบคุณมากๆเลยครับ ผมเลยตัดสินใจเปิดเพจขึ้นมาเป็นเพจที่เอาไว้อัพเดตนิยาย และรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับ เฟติชขึ้น ตามได้ที่ https://www.facebook.com/Mask-of-Fetish-453166918756841/ ได้เลยครับ

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาตอบครับ ทุกเสียงมีความหมายจริงๆ T^T
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 12 เป้าหมายที่ 2 ของมิสเตอร์เค
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 27-03-2019 14:13:34
ตอนที่ 13 เกม 7 วันอันตราย (1)

กางเกงในผ้าฝ้ายสีชมพูหวานแหวว ถุงน่องเนื้อหนาสีเนื้อ และชุดว่ายน้ำแบบวันพีชสีส้มสะท้อนแสง วางอยู่บนเตียง พร้อมกับคนใส่ที่ยังคิดไม่ตก ยืนมองอยู่ นี่เขาจะต้องใส่มันจริงๆ เหรอเนี่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ใส่ของเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะเกิดจากการบังคับก็ตาม

ดังนั้น ครูหนุ่มจึงตัดสินใจว่าจะเข้าไปอาบน้ำก่อน เผื่อว่าการตัดสินใจจะง่ายขึ้น ว่าแล้วเขาก็ถอดชุดที่ใส่อยู่ออก และเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ เขาปล่อยให้น้ำจากฝักบัวไหลรดร่างกายพร้อมกับครุ่นคิดเรื่องราวที่เกิด ในวันสองวันนี้

ไม่นานเสียงฝักบัวก็หยุดลง ชายหนุ่มเปิดประตูห้องน้ำออกมา และก็พบว่า มีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ นั่งอยู่บนเตียง

“เฮ้ย เข้ามาได้ยังไงกันคุณ” เขาร้องด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้บุกรุก เข้ามานั่งอยู่บนเตียงของเขา

“เปิดประตูเข้ามาไง คุณไม่ได้ล็อกประตูห้อง”

เขาโกหกแน่นอนเพราะ สนเชคประตูห้องทุกครั้งไม่ว่าเขาจะทำอะไร มันติดเป็นนิสัยมาตั้งแต่เขายังเด็ก

“มีอะไร” คนในผ้าเช็ดตัวพูดด้วยเสียงแข็ง

“เมื่อวานเราตกลงกันว่ายังไง”

“ก็ใส่ชุดที่คุณให้ แล้วไปเจอกันที่ห้องพักคุณไง”

“ใช่ เพียงแต่ว่ามันจะสายเดินไปหน่อยผมเลยแวะมาดูที่นี่ เผื่อว่าจะได้ช่วยอะไรบ้าง” เขาลุกขึ้นจากเตียง

“ไม่ต้องเลย”

ร่างบางถอยกรูด

“โอ๊ย”

อีกฝ่ายเข้ามากระชากผ้าเช็ดตัวสีขาวออกอย่างแรง สองมือที่ผ้าเช็ดตัวหลุดลอยออกไปวกกลับเข้ามาห่อตัวไว้ตามสัญชาตญาณ
เคมองดูคนที่กำลังปิดบังร่างกายไว้อย่างเขินอาย เป็นภาพที่น่าชมสำหรับเขา ความพึงพอใจค่อยๆ เกิดขึ้นทีละน้อย

เขาแกะแขนสองข้างออกด้วยแรงที่มากกว่า และยกขึ้นส่งผลให้อีกฝ่ายอยู่ในสภาพถูกกางแขนออก ฝ่ายที่สู้แรงไม่ได้เบือนหน้าออกอย่างอับอายและไร้ทางสู้

“ยอมแล้ว เจ็บแขน” เขาพูดออกมาเบาๆ

เมื่ออีกฝ่ายได้ยิน ก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า เขาปล่อยมือทั้งสองข้างออก และเดินไปนั่งบนเตียงที่เดิม

“เอ้า มาใส่ชุดสิ” เขาพูดพร้อมตบลงบนเตียง

“เอ้อ ผมมีข่าวดีและข่าวร้ายจะมาบอกคุณนะ”

อีกฝ่ายเม้มปากแน่น

“โอเค เริ่มจากข่าวร้ายก่อน แต่มันอาจเป็นข่าวดีของคุณ ซึ่งข่าวร้ายคือกางเกงในที่ผมมีเก็บตัวนี้น่าจะเป็นตัวสุดท้ายที่ยังสะอาดดีอยู่ เพราะฉะนั้นนี่เป็นตัวสุดท้ายแล้ว” และเขาก็เผยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิมขึ้น

“ส่วนข่าวดีคือ พรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปซื้อชุดชั้นในและเสื้อผ้าใหม่”

“ดีไหม”

อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ฉายแววตาแข็งกร้าว และเดินไปหยิบกางเกงในสีชมพูมาเตรียมใส่

“ผมถามทำไมคุณไม่ตอบ”

เค พุ่งตัวออกจากเตียงด้วยความเร็ว และจับอีกฝ่ายหมุนตัวพร้อมกับเหวี่ยงลงบนเตียง ส่งผลให้อีกฝ่ายร้องออกมาอย่างตกใจและเสียหลักล้มลงบนเตียงของตัวเอง

คนที่เป็นคนเหวี่ยง ขึ้นคร่อมร่างคนที่ยังเปลือยเปล่า หน้าของทั้งสองห่างกันเพียงคืบเดียว

“เวลาผมถาม คุณต้องตอบผมด้วย ไม่งั้นจะเจอแบบนี้”

หน้าของอีกฝ่ายเลื่อนลงไปด้านล่าง สนสัมผัสได้ถึงปลายลิ้นของเขาที่ลากผ่านช่วงลำคอเรื่อยไปจนถึงหน้าอก เขาเอียงซ้ายส่งลิ้นตวัดไปบนพื้นที่ที่นูนออกมา และสีเข้มกว่า ส่งผลให้ร่างบางเกิดการสั่นไหว เสียงร้องหลุดออกจากปากอีกฝ่ายอย่างควบคุมไม่ได้

“อะ อืออ”

ลิ้นยังคงไม่หยุดทำงาน เขาแวบไปด้านซ้ายที ขวาที และลากลิ้นต่ำลงไปเรื่อยๆ

“วันนี้เป็นบทเรียนที่หนึ่ง ที่คุณต้องเรียนรู้ว่าถ้าเกิดยังคงดื้อ มันจะเกิดเหตุการณ์นี้กับคุณ” ลิ้นที่กำลังลากผ่านร่างกาย ตวัดเข้าไปเกี่ยวกับส่วนที่บอบบางที่สุดในร่างกาย และถูกดูดเข้าไปในปากของอีกฝ่ายอย่างไม่ทันตั้งตัว

“ไม่นะ ไม่ อ๊า”

ความรู้สึกอุ่นวาบและรัดแน่นเกิดขึ้นอย่างทันทีทันอีก เขาขยับปากอย่างชำนาญ และส่งแรงดูดเป็นละลอก ส่งผลให้อีกฝ่ายถึงกับสติแทบหลุดลอย ครูหนุ่มยกมือทั้งสองข้างขึ้นไปจับที่หัว ราวกับว่าความรู้สึกด้านล่างส่งขึ้นไปยังสมองโดยตรง ขาทั้งสองชี้ออกอย่างไร้ทิศทาง และเกร็งแข็ง

เขาเกร็งเพื่อสะกดความรู้สึกอันยากที่จะต้านทานเอาไว้ ไม่ให้มันควบคุมไปทั้งร่าง แต่เมื่อมันมาจนถึงขีดสุด เขาก็หยุดการเกร็งเพื่อที่จะได้รวบรวมพละกำลังขึ้นมาใหม่ และจังหวะนั้น อีกฝ่ายก็เร่งการตวัดลิ้น และแรงดูดเป็นระลอกที่ถี่และแรงกว่าเดิมขึ้น ทำให้การต้านทานถูกทำลายลงอย่างราบคาบ

ร่างบางนอนอย่างไม่ขัดขืน และเจ้าของร่างส่งเสียงครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อได้โอกาสดังนี้ มิสเตอร์เครู้ว่าเกมนี้เขากลายเป็นผู้ชนะแล้ว เขาจึงเริ่มทำการบรรเลงบทเรียนให้ครูหนุ่มคนนี้ได้รู้เสียที เขาเริ่มส่งกำลังดูดให้มากขึ้นเป็นระลอก เพิ่มความเร็วและแรง จนอีกฝ่ายร้องดังมากขึ้น ตัวเกร็งไปจนทุกส่วน เมื่อจังหวะการชักกระตุกเข้ามาถึงเขากลับผ่อนจังหวะ ให้กลายมาเป็นเนิบนาบและต่อเนื่องแทน

มิสเตอร์เคใช้วิธีการนี้วนไปเรื่อยๆ จากหนึ่งรอบ เป็นสองรอบ สามรอบ และเมื่อเข้ารอบที่ห้า ในตอนที่เขาเร่งเครื่องจนจะถึงเส้นชัยนั้นเอง เขาเตรียมที่จะผ่อนเครื่องอีกครั้ง แต่อีกฝ่ายชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ได้โปรดล่ะครับ ขอเถอะ ยอมแล้วยอมทุกอย่างเลย”

“ได้โปรดทนไม่ไหวแล้ว”

“อา อ๊ะ”

แต่เขายิ้ม และกลับหยุด ถอนปากออกมาเสียดื้อๆ เสียงครางหยุดลงทันที

ภายใต้หน้าที่เด็กก่ำ และเสียงหอบหายใจ เจ้าของร่างมีทั้งแววตาอับอาย เสียดาย และอารมณ์ค้างค้าเกิดขึ้นผสมกันไปหมด เพราะถึงขนาดร้องขอขนาดนี้ แต่อีกฝ่ายกลับจงใจปล่อยเขาทิ้งไว้กลางทาง

มิสเตอร์เค ยิ้มอย่างภาคภูมิใจในผลงาน พร้อมทั้งหยิบกางเกงในขึ้นมา

“มา เดียวผมจะแต่งตัวให้ที่รักเอง”

เขาสอดขาใส่ช่องขาทั้งสองข้างของกางเกงใน และดึงมันขึ้นจนสุด เนื้อผ้าฝ้ายสีชมพูบดเบียดอยู่กับอาวุธลับที่ยังตื่นตัวอยู่ มิสเตอร์เคจุ๊บเข้าไปเบาๆ บริเวณนี้

“นี่สิซื่อตรงกว่าเจ้าของอีก” เขาพูดพร้อมยิ้ม ส่งผลให้คนที่โดนว่าหน้าแดงขึ้นไปอีก

“ขนาดนี้ ผมว่าต้องแอบไปจัดการตัวเองก่อนแน่นอน เพราะฉะนั้น”

เขาหยิบที่ล็อกออกมา และดึงกางเกงในลง

“นั่นมันอะไรน่ะ”

“เป็นของที่จะทำให้คุณกลายเป็นเด็กดี”

“ยะ อย่า” อีกฝ่ายร้องห้ามพร้อมจะขยับหนี แต่คนที่ไวกว่ากลับเป็นคนคุมเกมไว้อย่างเบ็ดเสร็จ เขาจับติ่งเนื้ออย่างชำนาญ และยัดมันลงไปในวงพลาสติกสุดโคน สร้างความจุกเสียดให้เกิดขึ้น

“เมื่อวานผมวัดขนาดไว้แล้ว กำลังดีเลยอันนี้”

เขายัดส่วนติ่งเนื้อลงในกรอบพลาสติกที่เป็นรูปร่างคล้ายกันและประกบพลาสติกทั้งสองอันเข้าประกบกัน และเอาแม่กุญแจขนาดเล็กขึ้นมาล็อกทันทีทันใด

คลิ๊ก! เสียงแห่งการสิ้นอิสรภาพดังขึ้น

เขาดึงกางเกงในขึ้นไว้ที่เดิม ส่วนอีกฝ่ายเหมือนจะนิ่งไปแล้ว มิสเตอร์เคนำถุงน่องมาสวมให้อีกฝ่ายอย่างง่ายดาย เพราะเจ้าของร่างนั้นแทบไม่มีอาการขัดขืนปรากฏให้เห็น

“เอ้า แยกขาออกหน่อย”

อีกฝ่ายทำตาม มิสเตอร์เคจึงดึงถุงน่องขึ้น อย่างแนบสนิทพอดี

“สุดท้ายแล้ว”

เขาหยิบชุดว่ายน้ำขึ้นมาและสวมลงไปบนตัวของอีกฝ่าย ชุดว่ายน้ำที่ไม่เคยผ่านการใช้งานมีความยืดหยุ่นเล็กน้อย แต่ด้วยความใหม่ของชุดจึงทำให้มันรัดแนบแน่นติดไปกับร่างกาย

“น่ารักมาก” เขาพูดชมเพราะตบมือเปาะแปะ อีกฝ่ายนั่งเม้มปากด้วยความอับอาย และไม่ได้มองมาทางเขาแม้แต่น้อย

“ไหน ยืนขึ้นหน่อย หมุนตัวให้ผมดูชัดๆ หน่อยสิครับ”

สนลุกขึ้นยืนแต่โดยดี และหมุนหนึ่งรอบอย่างไร้วิญญาณ

“ดีมากๆ ทีนี้คุณจะใส่ชุดอะไรทับด้านนอกก็แล้วแต่ แต่อย่าบางมากเกินไปล่ะครับ สีสันสดใสของมันจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว”

“ผมรอวันที่จะได้เห็นคุณใส่ชุดนี้ไปสอนนักเรียนเสียจริง”

“ไม่มีทาง” คนพูดทำตาโตด้วยความแข็งกร้าว แสดงทีท่าไม่ยอม

มิสเตอร์เคหัวเราะออกมา

“แน่นอน ถ้าคุณชนะในเกมนี้ ยังมีเวลาอีกทั้งวัน และอีก หกวันข้างหน้า ถ้าคุณชนะ คุณก็กลับไปใช้ชีวิตตามปกติสุข แต่ถ้าคุณแพ้ หรือยอมแพ้เอง ปลายทางของอนาคตมันก็จะเป็นแบบนั้นนั่นแหละ คุณก็จะกลายเป็นของผมอย่างสมบูรณ์แม้กระทั่งความสุขในชีวิต ถ้าผมไม่อนุญาตคุณก็ไม่สามารถมีมันได้”

“เช่นตอนนี้ ต่อให้คุณอยากเสร็จขนาดไหน แต่ถ้าผมไม่ให้คุณก็ต้องอดทน เข้าห้องน้ำไปยืนฉี่ก็ไม่ได้ด้วย เพราะระหว่างที่ผมยังกุมอำนาจในตัวคุณ สิ่งที่คุณทำได้ก็คือ ต้องนั่งฉี่แบบผู้หญิงไปจนกว่าผมจะปลดปล่อยคุณ”

“เข้าใจนะ”

เขายกกุญแจขึ้นมาโชว์

“เหลืออีก 6 วัน สู้ๆ นะครับที่รัก” เขาหอมแก้มอีกฝ่ายไปหนึ่งฟอด และเดินออกห้องไป

สน ลูบรอยเปียกบนแก้มออกอย่างขยะแขยง ไม่แม้แต่จะสำรวจตัวเอง เขาไม่อยากจะมองเห็นตัวเองในสภาพนี้ จึงรีบไปคว้าเสื้อกล้ามมาสวม ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว และถุงเท้า

โทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เป็นรูปภาพของผู้หญิงหน้าตาน่ารักที่ยืนคู่อยู่กับเขา เขาได้แต่มองมันส่งเสียงร้องอยู่แบบนั้น จนกระทั่งมันเงียบหายไปเอง

มันดังขึ้นมาอีกสองหรือสามครั้งซึ่งเขาก็ไม่ได้สนใจที่จะรับ และตัดสินใจทิ้งมันเอาไว้ที่ห้อง พร้อมเดินออกมา

ชุดว่ายน้ำที่รัดติดลำตัวและสัมผัสของถุงน่องที่เสียดสีกับชุดที่สวมทับ คอยย้ำเตือนเขาเสมอถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เขาตัดพ้อในใจน้อยๆ ก่อนที่จะล็อกประตูห้องจากด้านนอก

เหลือเวลาอีก 6 วัน แต่เขาจะผ่านวันนี้ไปได้อย่างไรกันนะ

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 13 เกม 7 วันอันตราย (1)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 29-03-2019 20:34:36
ตอนที่ 14 เกม 7 วันอันตราย (2)

ต้นยังคงอยู่ในกลุ่มเดิม เขาเจอทั้งเอกและเก่ง ทั้งสองคนทักทายเขาในตอนเช้าไปแล้ว แต่ด้วยกิจกรรมที่ต้องเดินเป็นแถวทำให้ส่วนใหญ่แล้ว ต้นมักจะเดินคู่ไปกับหนุ่มคมเข้มกล้ามโตที่ชื่อเก่งเสมอ

“เมื่อวานเป็นไงมั่งโทษทีนะ” เขาพูดขณะที่กำลังเดินเปลี่ยนฐาน

“อย่าไปคิดมากเลยเก่ง มันเป็นเกมเฉยๆ”

“เฮ้ย เราจริงจังนะต้น เรื่องแพ้เกมก็เรื่องหนึ่งแต่ที่ยอมไม่ได้นี่มันก็” แล้วเขาก็หยุดพูดไป

“ก็อะไรเหรอ”

“ก็ยอมไม่ได้ที่พวกนั้นมาเยาะเย้ยไง” แล้วเขาก็หัวเราะกลบเกลื่อน

“แต่ว่าต้นเต้นเก่งดีนะ”

“ไม่เอาอย่าพูดถึงเรื่องนี้ เราอายน่ะ” ต้นหน้าแดงขึ้นมาจริงๆ

“โห ไม่เห็นจะน่าอายเลยต้น น่ารักดีออก” เขาพูดพร้อมหัวเราะ

“อย่ามาแซวกันน่า”

“พูดจริง” เขาทำหน้าซีเรียสขึ้นมาทันที

“แหม คุยอะไรกัน น่าสนุกจริงครับ” หนุ่มขาวตี๋เดินเร่งความเร็วขึ้นมาจากด้านหลัง แทรกระหว่างตรงกลางสองคนพอดิบพอดี เก่งไม่ตอบและออกเดินต่อไป

“ก็ไม่มีอะไรหรอก พูดถึงเองเมื่อวาน”

“อ่อ ที่เมื่อวานพี่ต้นออกไปเต้นเหรอ อูววหูววว เซ็กซี่”

“นี่ก็อีกคนแล้ว อย่าแซวกันได้ไหมเล่า” ต้นหน้าแดง พร้อมๆ กับที่สองคนนั้นหัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน



____________________________________

ครูหนุ่มพักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ เขาไม่ได้อยู่ในฝ่ายกิจกรรมรับน้องเลยขึ้นมาเตรียมงานและแผนการสอนสำหรับเปิดเทอมใหม่ ในห้องนั้นมีเขากับครูผู้ใหญ่อีกสองคนนั่งอยู่ และมีเอ้ที่กำลังวุ่นวายกับการหาแบบประเมินอะไรสักอย่าง

“สน แกเห็นแบบประเมินของพี่ไหม แบบประเมินแผนของปีที่แล้วน่ะ”

“สน”

“คะ ครับ” เขาละล่ำละลักตอบ เพราะกำลังใจลอยอยู่

“เดี๋ยวผมไปช่วยหาพี่” เขาลุกขึ้นส่งผลให้สิ่งที่ใส่ทั้งสองชั้นเกิดการเสียดสีกันขึ้น และมาพร้อมๆ กับความอึดอัดที่เกิดขึ้นด้านล่าง เขามักจะระแวงทุกครั้งที่เดินผ่านหรืออยู่ใกล้ใคร เพราะกลัวว่าจะสังเกตสิ่งที่เขาใส่มาวันนี้

สน ออกไปช่วยหาของอย่างระมัดระวังและหวาดระแวง

“สวัสดีครับ ครูจิรายุอยู่ไหมครับ” เสียงนุ่มมีความหวานแฝงในความทุ้มของเสียงพูดขึ้นหลังจากที่ประตูเปิด

“เอ้า ครูเค ครูจิรายุอยู่นี่” เอ้ บอกพร้อมกับชี้ไปที่สนที่กำลังหาของให้อยู่

“ผมมารับไปกินข้าวครับ” เขาเดินเข้าไปหา

“เอ้าไปสนิทกันตอนไหนล่ะเนี่ยสองคนนี้” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ

“เมื่อวานนี้แหละ” หนุ่มร่างสูง เดินเข้าประชิดตัวหนุ่มอีกคนที่สูงน้อยกว่า และโดยที่ไม่มีใครคาดคิด เขาแบมือออกไปข้างหน้า

“ป่ะ ไปกินข้าว”

ไม่มีคำพูดออกมาจากอีกฝ่าย แต่ครูหนุ่มก็ยื่นมือให้เขา ร่างที่สุงกว่าก็คว้ามือนั้นเอาไว้ และสอดนิ้วทั้งห้าเข้าร่องนิ้วของอีกฝ่าย

“ไปก่อนนะครับ” เขาพูดพร้อมจูงมือครูสนออกไปนอกห้อง ทิ้งไว้แต่เสียงกระซิบที่ดังขึ้นมาหลังจากนั้นเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่



“ดีมากที่รัก เล่นบทบาทแฟนได้ดี”

อีกฝ่ายไม่พูด แต่สะบัดมือที่กุมออก เมื่อมือหยุด แขนกำยำตวัดไปที่มือที่พึงสลัดจบหลุดออกทันที เขายกมันขึ้นแล้วกดเข้ากับกำแพง

“ขัดขืนได้ดีเลยทีเดียว เรามาเล่นเกมข่มขืนกันดีกว่า”

เขาพูดพร้อมเอาอีกมือมาจับแขนข้างที่เหลือกดเข้ากับกำแพงเช่นเดียวกัน อีกฝ่ายอยู่ในสภาพ ชูแขนขึ้นทั้งสองข้าง และตรึงติดกับกำแพง

“อย่านะ” ร่างที่โดนกดพูดขึ้น เมื่ออีกฝ่ายกำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้

“เริ่มเกมได้ดี” เขาพูดพร้อมบดริมฝีปากเข้าไปปากของอีกฝั่ง อีกฝ่ายเม้มปากแน่น เขาจึงทำได้แต่ใช้ริมฝีปากแตะแค่นั้น และหยุดการกระทำทุกอย่างลง อีกฝ่ายเบือนหน้าหนี

“ขอโทษนะ” เขามีทีท่าที่ดูสำนึกผิด

แต่เปล่าเลย

“แต่ผมหักห้ามใจยากจริงๆ” มิสเตอร์เครุกต่อ โดยการหมุนตัวเข้าซ้อนด้านหลังและใช้แขนทั้งสองข้างรัดตัวของจิรายุเอาไว้ มือหนึ่งเริ่มชอนไชไปที่หน้าอก เขี่ยคลึงและหมุนวนอย่างช้าๆ บริเวณรอบๆ เนื้อนูนนั้น จมูกและปากทำหน้าที่ซอกซอนบริเวณใบหูและแก้ม เมื่อโดนกระตุ้นแบบนี้ อีกฝ่ายก็เริ่มที่จะทานทนไม่ไหว

“อ่ะ อืมมม” เสียงเล็กๆ รอดผ่านลำคอออกมา

มือข้างหนึ่งค่อยๆ เอื้อมมาปลดเข็มขัด และมืออีกข้างปลดกระดุมเสื้ออย่างชำนาญไปพร้อมๆ กับการกระตุ้น และเมื่ออีกฝ่ายกำลังเคลิ้ม เขาก็ดึงเสื้อและกางเกงออกจากตัวอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว

“ไม่นะ” ร่างขาวในชุดว่ายน้ำสีส้มขดตัวเพื่อดึงเสื้อและกางเกงกลับ แต่ไม่ทันอีกฝ่ายที่ไวและแข็งแรงกว่า ยกตัวลอยขึ้นจากพื้น และทั้งกางเกง เสื้อกล้าม และเสื้อเชิ้ต ถูกกระชากออกจากตัวไปเรียบร้อย

“อย่านะ”

“ขอคืนเถอะ”

ชายในชุดว่ายน้ำและถุงน่องสีเนื้อพยายามจะยื้อยุด เพื่อแย่งเสื้อผ้าคืน แต่อีกฝ่ายก็ยกเสื้อผ้าหลบ เกิดเป็นภาพที่เหมือนผู้ใหญ่กำลังหลอกล่อเด็กอยู่

“ชู่วว เบาเสียงหน่อยอยากให้คนอื่นมาเห็นในสภาพนี้เหรอ”

สนต้องจำยอมอีกฝ่าย เขายืนอยู่นิ่งๆ สองมือยกขึ้นมาปิดด้านบน และขาทั้งสองหนีบชิดติดกัน ตัวงอลงมาเพื่ออำพรางบริเวณที่นูนผิดปกติจากตัวล็อก

มิสเตอร์เค เดินไปแหวกชุดว่ายน้ำเบื้องล่างออก และถลกถุงน่องลงมาด้านล่าง เผยให้เห็นตัวล็อกพลาสติกที่มีก้อนเนื้ออัดแน่นอยู่ข้างใน

“ถ้าคุณยังตื่นตัวอยู่แบบนี้ มันจะแกะออกลำบากนะ หายใจเข้าลึกๆ”

สนสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด เพื่อสงบใจของตัวเองตามที่เขาพูด

เสียงดังแกร็กเกิดขึ้น พร้อมกับการแกะส่วนที่ประกบกันอยู่ออกอย่างชำนาญ ความจุกเสียดเกิดขึ้นบริเวณแก่นกายเมื่อเขาดึงห่วงบริเวณโคนออก ปล่อยก้อนเนื้อที่ห้อยย้อยให้เป็นอิสระอีกครั้ง

“ไม่ต้องดีใจไปหรอก ผมจะถอดให้เฉพาะตอนที่เราอยู่ด้วยกันเท่านั้น” เขาพูดพร้อมดึงถุงน่องกลับ และจัดชุดให้เข้าที่

“เอาล่ะคุณพริตตี้มอร์เตอร์โชว์ เราไปเดินโชว์ตัวกันหน่อยไหม ชั้นสี่ไม่มีคนอยู่ คุณเดินขึ้นบันไดไป และผมจะไปรอรับพร้อมเสื้อผ้าของคุณอีกฝั่งหนึ่ง”

“ไม่ ไม่นะ” เขาร้องด้วยความอับอายรู้สึกถึงเลือดที่ฉีดพล่านไปทั่วตัวและใบหน้า

“จะไปเดินที่ชั้นสี่ หรือจะใส่ชุดนี้เดินไปโรงอาหารล่ะ”

“ไปได้แล้ว” เขาพูดแกมบังคับ พร้อมกับตีเข้าที่ก้นไปหนึ่งที

สนค่อยๆ เดินขึ้นบันไดอย่างช้าๆ ด้วยหัวใจที่เต้นแรง เขาไม่อยากเจอใครทั้งนั้นในเวลานี้ ตอนที่เขาใส่ชุดว่ายน้ำและถุงน่องราวกับพริตตี้ที่ขาดแค่รองเท้าส้นสูง

ที่ชั้นล่างมิสเตอร์เคยืนส่งยิ้มมาให้เป็นกำลังใจ

เขากลั้นใจเดินขึ้นบันได ไปยังชั้นบน

ที่ชั้นสี่ เป็นโถงทางเดินยาวประมาณ 50 เมตร มองเห็นประตูห้องที่ปิดอยู่เรียงราย เดิมทีชั้นนี้เป็นชั้นสำหรับห้องเรียนวิชาสังคม แต่เนื่องจากยังปิดเทอม จึงไม่มีคนมาใช้ห้อง แน่นอนว่าไม่มีคน แต่ในทางกลับกันก็หมายความว่า ตลอดทั้งความยาวของทางเดิน เขาจะไม่มีที่ให้หลบหรือซ่อนตัว

ความอัดอั้นด้านล่างดันจนชุดว่ายน้ำที่รัดแน่นเกิดความนูนออกมาบดเบียดกับช่วงขาทั้งสอง

เขาทรุดตัวลงกุมหน้าด้วยความอับอาย ใบหน้าร้อนผ่าว เขาใช้เวลาทำใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสูดหายใจเข้าลึกๆ และเดินจ้ำไปตามความยาวของทางเดิน ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เหมือนเด็กที่เดินผ่านป่าช้าวัดในตอนกลางคืนที่ต้องเร่งให้ผ่านไปได้โดยเร็ว แต่ความต่างกันมีแค่ตอนนั้นเร่งเดินเพราะกลัวผี แต่ครั้งนี้เร่งเดินเพราะกลัวคนอื่นมาเจอ แม้จะตื่นเต้นและหวาดระแวงด้วยสถานการณ์คับขัน แต่ด้านล่างกลับไม่ได้เป็นใจ ผงาดตัวขึ้นมาทำให้การเดินยากขึ้นไปอีก



เสียงของนักเรียนที่ทำกิจกรรมด้านล่างยังคงดังขึ้นมา แต่เขาคิดว่าคงไม่มีใครสังเกตและมองขึ้นมาด้านบน แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังเดินชิดกับฝั่งห้อง เพื่อหลบเลี่ยงสายตาคนด้านล่าง

ความรัดรูปและแนบชิดกับลำตัวทำให้เขารู้สึกแปลกๆ ในตอนแรก แต่ในตอนนี้เมื่อชินแล้ว สัมผัสเหล่านั้นก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว ซ้ำยังเกิดความรู้สึกที่สบายและกระชับเสียด้วยซ้ำ

ร่างบางในชุดว่ายน้ำสีส้มสะท้อนแสงเดินด้วยความเร็ว จนจะถึงหัวมุมที่เป็นบันได ตรงที่คนที่บังคับให้เขาเดินนัดหมายว่าจะมารออยู่ เขาเร่งเดินโดยไม่หันไปมองด้านหลัง เพราะในใจกลัวว่าจะมีคนที่เดินผ่านไปผ่านมาผ่านมาเจอเข้า

เขาแทบจะกระโดดเข้ามุม เพื่อลงบันได

แต่คนที่ควรจะอยู่ตรงนั้น กลับไม่อยู่ มิสเตอร์เคไม่ได้มารอเขาอยู่ที่ตรงนั้นตามที่บอก ใจที่ระทึกเป็นทุนเดิมยิ่งมากขึ้นไปอีก เขาไม่กล้าที่จะลงบันไดไปข้างล่างเพื่อที่จะเสี่ยงดูว่าเขาอยู่แถวนั้นหรือไม่ เพราะมันเสี่ยงที่จะเจอคนอื่นมากกว่า



เสียงฝีเท้าคนดังขึ้น และเหมือนจะเดินมาตรงบันได

สนนั่งลงต่ำเพื่อที่จะใช้ราวบันไดที่ทึบปิดบังตัว เสียงฝีเท้าดังขึ้นมาเรื่อยๆ พร้อมกับความตื่นเต้นที่ทวีคูณ ในใจเขาภาวนาให้คนที่เดินมาเป็นมิสเตอร์เค แต่ความรู้สึกไม่คุ้นเสียงของการเดินทำให้เขาไม่แน่ใจ

ใจของสนตกไปที่ตาตุ่มเมื่อคนที่เดินพ้นแนวลับตาออกมาไม่ใช่เขา แต่คือวิรัตน์ เพื่อนครูที่มาพร้อมกันนั่นเอง เขาก้มต่ำทันทีเพื่อหลบเพื่อนครู แต่ไม่ทันเสียแล้ว

“ใครน่ะ! ขึ้นไปทำอะไรข้างบน” วิรัตน์เห็นเข้าเสียแล้ว

สนรีบหลบฉากออกมาทันที หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมาจากตัว เขาหันหลังกลับทางเดิน การวิ่งกลับไปที่เก่า เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ เขาออกวิ่ง โดนที่มีเสียงไล่หลังตามมา

“เธอ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” เสียงดังมาพร้อมกับเสียงวิ่ง



สนวิ่งมาได้ครึ่งทาง ตอนที่ครูวิรัตน์โผล่ตัวขึ้นมาบนชั้นสี่พอดี

“หยุด! ” เสียงดังไปทั้งชั้น สนหยุดนิ่งกับที่หายใจแรงด้วยความตื่นเต้น แต่ไม่ยอมหันหลังกลับไป

“ทำไมเธออยู่ในสภาพนี้เนี่ย เล่นอะไรแผลงๆ” ครูวิรัตน์เดินเข้ามาใกล้ๆ

สนยืนตัวแข็งไม่กล้าหันกลับไปมองเพื่อน เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ สนตื่นเต้นและกลัวจนแทบจะหยุดหายใจ

“เธอ หันหน้ามาทางนี้” สนไม่ทำตามคำสั่ง

“เอ้าไม่ได้ยินเหรอ ครูบอกให้หันหน้ามา”

สนกลั้นใจหันหน้ากลับไป เผชิญหน้ากับเพื่อน

“เอ้า สน! ” สีหน้าของครูวิรัตน์มีทั้งแปลกใจ ตกใจ และตกตะลึง แต่ก็แค่แวบเดียวเท่านั้น สีหน้าของครูวิรัตน์ก็เปลี่ยนไปเป็นอีกแบบ เป็นคลางแคลงใจและสงสัย

“ทำไมแกใส่ชุดอะไรแบบนี้วะเนี่ย มีรสนิยมแบบนี้เหรอ” เขามองหัวจรดเท้า

สนอายและอยากเอามือขึ้นมาปิดหน้ามาก คิดว่าตอนนี้ตัวเองน่าจะหน้าแดงไปจนถึงหู ใบหน้าร้อนผ่าว และใจเต้นแรงจนพูดอะไรไม่ออก



“ครูสนเขาเพิ่งมาพูดกับผมเมื่อวานน่ะ ว่าจริงๆ แล้วเขาจะลงประกวดอะไรสักอย่างที่จะมีการแต่งหญิงด้วย ผมจำชื่อไม่ได้แฮะ” เสียงนุ่มอันคุ้นเคยดังขึ้น มิสเตอร์เคนั่นเอง

“เขาเลยให้ผมดูชุดให้น่ะครับ ครูวิรัตน์”

“อ่อ” ครูวิรัตน์ ร้องอ๋อ และทำหน้าเหมือนเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง

“จริงๆ แล้ว ครูสนเขาเอ่อ.... เขาเป็น”

“เป็นอย่างว่าใช่ไหมครับ” ครูวิรัตน์ต่อให้

“ใช่ๆ ๆ เขาเป็น”

“ใช่ไหม” มิสเตอร์เคหันมาขยิบตาให้สน เขารู้ทันที แม้จะอายแต่เขาก็ต้องเอาตัวรอด อย่างน้อยมีข่าวลือแปลกๆ ว่าเป็นกะเทยก็ดีกว่าเป็นโรคจิตใส่ชุดว่ายน้ำผู้หญิง

“อ่อ.. ชะใช่ค่า”

“ขอบคุณครูเคมากเลยนะคะที่มาดูชุดให้” สนแอ๊บท่าทางให้ใกล้เคียงที่สุด แม้มันจะดูไม่ใกล้เคียง น่าอายและดูกระอักกระอ่วนมาก หน้าเขาแดงขึ้นยิ่งกว่าเดิม



มิสเคอร์เค และวิรัตน์มองหน้ากัน และทั้งสองก็หัวเราออกมาประสานกันอย่างดัง

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ผมบอกคุณแล้ว”

“ผมเชื่อพี่แล้วพี่เค สุดยอดจริงๆ”

ท่าทีของทั้งสองสร้างความสับสนและความไม่เข้าใจให้กับสนยิ่งนัก

“ฉันรู้ว่าแกไม่ได้เป็นหรอกสน แต่เมื่อกี้เล่นได้น่าดูดีว่ะ น่ารักใช้ได้”

“นี่มันอะไรกัน” สนยิ่งสับสนหนักขึ้นไปกว่าเดิม

“ฉันกับพี่เค อยู่ในกลุ่มลับเดียวกันตั้งแต่ฉันเข้ามาที่นี่แล้ว และเมื่อกี้ก็เป็นแผนการแกล้งของพี่เค ให้แกตื่นเต้นเล็กๆ น้อยๆ ไงล่ะสน”

สนรู้สึกช็อกจนพูดอะไรไม่ออก

“เอ้า รีบใส่ชุด” มิสเตอร์เคส่งชุดคืนให้สน

“เดี๋ยวถ้าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วพาเพื่อนเราไปที่รถนะ พี่ไปเอาของที่ห้องก่อน”

สนรับเสื้อผ้ามาใส่ เขาอับอายเพื่อนจนพูดอะไรไม่ออก ใบหน้ายังคงแดงระเรื่อ เขาไม่เข้าใจอย่างมากว่ามันเกิดอะไรขึ้น และอยู่ๆ ดีๆ ก็เหมือนว่าเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันกลับกลายไปเป็นอีกคนหนึ่งไปเสียแล้ว

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 14 เกม 7 วันอันตราย (2)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 30-03-2019 01:27:12
ตอนที่ 15 การใส่เลกกิ้งสุดอันตรายของต้น

ที่โรงยิมรุ่นพี่ที่เคยนำออกกำลังกายวันแรกกำลังนัดหมายอาสาสมัครที่นัดหมายไว้ตอนเช้า ซึ่งพอตกเย็นกลับมาน้อยกว่าที่ตกลงกันไว้ มีเพียง 5 คนเท่านั้นซึ่งสองในห้า คือ ต้นและ กริช

“พี่ขอบคุณเหล่าน้องๆ มากนะคะที่มีจิตอาสา เสียสละทั้งแรงและเวลา”

“พี่ไม่อยากจะรบกวนเวลาของพวกน้องๆ หรอกนะคะ แต่ว่าพวกเราต้องมีการซักซ้อมและเตรียมตัวก่อน วันนี้พี่จะสอนท่าที่เอาไว้สำหรับใช้พรุ่งนี้และวันต่อๆ ไปนะคะ”

รุ่นพี่ผู้ชายสองคนแบกชุดเข้ามา วางไว้ด้านหลัง

“ก่อนอื่น ไปเปลี่ยนชุดสำหรับออกกำลังกายก่อนนะคะ ในแต่ละแพ็คก็จะมีทั้งชุดที่ให้ใส่วันนี้และชุดสำหรับพรุ่งนี้ เอาไปเปลี่ยนได้ที่ห้องน้ำโรงยิมเลยค่ะ”

แต่ละคนต่างเดินไปหยิบชุดที่แพ็คไว้ในถุงพลาสติก ซึ่งต้นที่ไปหยิบช้าได้ถุงที่สีค่อนข้างแปลก เพราะคนอื่นจะเป็นสีทึมๆ สีกำบ้างขาวบ้าง แต่ของเขากลับมีสีฟ้า และสีชมพูแบบพาสเทล

“มันมีตัวอื่นอีกไหมครับพี่” เขาถามรุ่นพี่เพราะไม่ค่อยถูกใจสีของมันเท่าไหร่ สีฟ้ายังพอรับได้แต่สีชมพูนี่เขาทำใจวส่ยากจริงๆ

“เอ พี่ไม่แน่ใจนะ” แล้วเธอก็หันไปถามคนที่เอาชุดเข้ามา เมื่อได้คำตอบแล้วจึงหันมาบอกต้น

“อ่อ มันต้องไปเบิกกับทางกลุ่มพัสดุน่ะน้อง ได้ตามจำนวนน้องที่มาพอดีเลย เบิกเพิ่มไม่ได้ด้วย”

“อ่อ โอเคครับ” ต้นเดินไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับกริช



ที่ในห้องน้ำ เพื่อนๆ อีกสามคนเปลี่ยนชุดกันเสร็จไปแล้ว ต้นกับกริชจึงแยกเข้าคนละห้องเพราะห้องน้ำโล่งมาก

“นายไม่น่าบอกชื่อเราเลยกริช”

“น่าน่า มาเป็นเพื่อนกันต้น”

แล้วต้นก็เงียบไป เพราะสิ่งที่เขาได้มันเลวร้ายกว่าที่เขาคิด เหมือนว่ารุ่นพี่จะเบิกชุดผิดมาให้เขา เพราะแทนที่จะเป็นชุดกีฬาของผู้ชายทั่วไป คือเสื้อแขนกุด กับกางเกงผ้าร่มขายาวแบบที่เขาเห็นเพื่อนใส่ออกไป มันกลับกลายเป็นเสื้อกล้ามตัวจิ๋วที่มีความยาวเพียงคืบเดียวใกล้เคียงกับสปอร์ตบราของผู้หญิงมากกว่า และกางเกงมันคือกางเกงเลกกิ้งเนื้อหนา ซึ่งทั้งสองชุดที่ต้นได้มีสีเหมือนกันคือ เลกกิ้งสีฟ้าหม่น และเสื้อสีชมพู เขาควานหาในถุงเพิ่มเผื่อว่าจะมีชุดอื่นๆ อีก แต่ก็พบเพิ่มเติมคือถุงเท้าลายการ์ตูนน่ารักสีเข้าคู่ และกางเกงในฝ้าฝ้ายสีขาวที่มีโบว์เล็กๆ ติดอยู่เท่านั้น

เสียงของหล่นดังออกมาจากถุง เมื่อต้นก้มดูก็พบว่ามีมีดโกนหล่นออกมาด้วย

“ต้นเสร็จหรือยัง” กริชตะโกนถามมาจากห้องข้างๆ

“ยังเลย เหมือนจะมีปัญหาซะแล้วล่ะกริช”

“อื้อมีเหมือนกันต้น ชุดมันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่”

“เอายังไงดีกริช”

“ใส่ๆ ไปเถอะเนาะ แป๊บเดียวเอง เดี๋ยวเราโกนขนรักแร้หน่อยดีกว่าเขาให้มีดโกนมาแล้ว” เสียงแต่งชุดและโกนขนก็ดังขึ้น

เมื่อเห็นว่าเพื่อนก็น่าจะโดนไม่ต่างกันต้นก็เริ่มเปลี่ยนชุดบ้าง เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้ใส่คนเดียวอยู่แล้ว เขาเริ่มที่จะโกนขนใต้วงแขนก่อน

“ต้น เราเสร็จแล้วนะ เดี๋ยวจะออกไปดูก่อนว่าตอนนี้เขาทำอะไรกันอยู่ ยังไงเดี๋ยวกลับมานะ”

“โอเค” และเสียงประตูเปิดก็ดังขึ้นพร้อมฝีเท้าของกริชเดินออกไป

ต้นโกนขนเสร็จเรียบร้อย ก็ถอดชุดของตัวเองออกรวมไปถึงกางเกงใน เพราะไหนๆ ก็ให้มาแล้วต้นก็คิดว่าเปลี่ยนให้หมดไปเลยก็น่าจะดีกว่า เขาสวมกางเกงในลงบนตัว สัมผัสที่นุ่มสบายและอ่อนละมุมกว่ากางเกงในชายทำให้รู้สึกดีไม่น้อย เขาใส่กางเกงต่อมา เลกกิ้งที่ยังไม่เคยถูกใช้งานมีแรงรัดที่กำลังพอดี ทำให้กระชับเข้ารูป และรัดกำลังดี ซึ่งมันก็ส่งผลให้เห็นความนูนบริเวณใต้สะดือชัดเจนด้วย เพราะกางเกงในที่ใส่มันไม่ได้อำพรางรูปร่างเท่าไหร่

ต้นหยิบเสื้อมาสวมหัว และใส่มันลงบนตัว มันรัดพอดีตัวอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถึงแม้ว่าจะใส่พอดีตัว แต่ช่วงใต้หน้าอกลงไปกลับไม่มีอะไรปิดบังเผยให้เห็นท้องที่ขาวเนียนเพราะไม่ค่อยได้โดนแดด

ต้นเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กลับเข้าไปในถุง และเปิดประตูออกมา

เขารู้สึกอายเล็กน้อย และหวิวๆ ตรงท้องเพราะไม่มีอะไรปิด เมื่อพ้นประตูห้องน้ำออกมาพบว่าทุกคนกำลัง ตั้งแถวกันแล้ว ต้นรีบวิ่งตามมาเข้าแถวอย่างเร็ว เพราะกลัวว่าจะทำให้เพื่อช้า เขาเข้ามาต่อแถวจึงได้เห็นว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ใส่ชุดแบบเดียวกันหมดคือ เสื้อแขนกุดและกางเกงขายาว มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ใส่ชุดแปลกออกไป

“ต้นทำไมชุดเป็นแบบนั้น” กริชถามเมื่อต้นเข้าแถวมาแล้ว

“ไหนชุดกริชมีปัญหาไง”

“ก็มีปัญหาแหละ มันโชว์แขนนี่ไงเลยต้องโกนขนออก” เขาพูดพร้อมยกแขนให้ดู ต้นหันไปดูพร้อมหน้าที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นนิดๆ

“เรากลับไปเปลี่ยนใส่ชุดเราดีกว่า” ต้นรู้สึกอายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนตัดสินใจที่จะไปเปลี่ยนกลับชุดเดิมของตัวเอง

“น้องคะ พี่กำลังจะเริ่มสอนท่าแล้วค่ะ อย่าเพิ่งออกไป” รุ่นพี่สาวประเภทสองตะโกนขึ้นมา ต้นจังต้องกลับเข้ามาอยู่ที่เดิม กลายเป็นว่าคนมองมากกว่าเดิม เพื่อนๆ ที่ไม่ได้ทันสังเกตก็เริ่มเห็นแล้วว่าต้นใส่ชุดของผู้หญิงอยู่

ต้นกลับมายืนข้างกริชและมองไปที่พื้น อายจนไม่อยากมองหน้าใคร ยิ่งถ้าทุกคนรู้ว่าเขาใส่แม้กระทั่งกางเกงในผู้หญิง ความอับอายจะยิ่งมากกว่านี้เป็นทวีคูณ

รุ่นพี่เริ่มสอนท่าที่ไว้ใช้ออกกำลังตอนเช้า ซึ่งต้นและเพื่อนก็ทำตาม และจดจำได้เรื่อยๆ แม้ว่าต้นจะอายแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าชุดแบบนี้ใส่สบายกว่าที่คิด โดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีสายตาจับจ้องมาที่ตัวเขามากขึ้นเรื่อยๆ

ทั้งห้าเต้นและออกกำลังตามรุ่นพี่จนเหงื่อที่ซึมๆ ในตอนแรก เริ่มออกมาหนาตามากยิ่งขึ้น จนเริ่มเปียกชุดให้เห็นเป็นวงน้ำแล้ว แม้ว่าจะมีบางท่าที่ดูผู้หญิงจ๋า แต่พอเต้นออกมาแล้วก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอย่างที่คิด ต้นเริ่มสุกกับมันไปทีละน้อย

และเมื่อผ่านช่วงออกกำลังกายหนักไปแล้วก็มาสู่ช่วงคูลดาวน์ ยืดเส้น ก่อนที่จะสิ้นสุด โดยรุ่นพี่นัดหมายว่าให้ใส่ชุดที่ได้ไปในวันนี้มาทั้งห้าคน เพราะพรุ่งนี้จะให้ห้าคนออกไปนำพร้อมกัน ซึ่งต้นยังชั่งใจอยู่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ดี เพราะแม้ว่ามันจะใส่สบายจนต้นเริ่มชินกับมันและไม่ได้เขินอายกับเพื่อนๆ และคนในโรงยิมบางส่วนแล้ว แต่ถ้าใส่ต่อหน้าคนเป็นร้อยๆ ต้นคงอายจนอยู่ไม่ได้



ต้นบอกกริชให้เดินไปที่โรงอาหารก่อน เพราะเขาจะขอแยกมาเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับชุดเดิม เพราะใส่ชุดนี้ไปกินข้าวไม่ได้ กริชพยักหน้า และต้นแยกตัวออกมาเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ ที่โรงยิมแม้จะเย็นจนใกล้มืดแล้วก็ยังมีรุ่นพี่หลายคนที่เล่นกีฬากันอยู่ จึงไม่ได้น่ากลัวเท่าใดนัก ต้นรีบเดินจ้ำเข้าห้องน้ำ เพราะอายที่รุ่นพี่หลายคนมองมาทางเขา

ขณะที่ต้นกำลัง เดินผ่านประตูเข้าไปนั้นเอง มีมือปริศนาผลักจากด้านหลัง ต้นถูกผลักเข้าไปในห้องน้ำและเหตุการณ์ต่อมาก็เกิดขึ้นเร็วมาก มีรุ่นพี่ สี่คนเดินตามเข้ามาในห้องน้ำ หนึ่งคนล็อกประตู และคนตัวโตที่สุดก็พุ่งเข้ามารวบตัวต้นไว้ในอ้อมแขน

“นี่มันอะไรกันครับพี่! ” ต้นร้องด้วยความตกใจระคนประหลาดใจ

“กลิ่นตัวน้องแรงมากเลย” เขาพูดพร้อมดมฟุดฟิดไปบนตัวคนในอ้อมแขน

“ขอโทษด้วยครับ” ต้นพูดเพราะไม่อยากให้เขาอารมณ์เสีย เพราะกลัวจะโดนทำร้าย

“แต่ไม่ได้ว่ามันเหม็นนะ หอมมากเลย ตรงนั้นจะหอมขนาดไหน อยากจะดมดูแล้วสิ” เขาพูดพร้อมซุกหน้าเข้ามาหาต้น แต่ต้นหลบและเบี่ยงหน้าออก

รุ่นพี่ตัวใหญ่สองคนดึงแขนต้นขึ้นทั้งสองข้าง และล็อกมันเอาไว้

“ไม่เอานะครับรุ่นพี่ ได้โปรด” ต้นขอร้อง

“ไหนขอลองชิมดูหน่อยซิ ตรงนี้น่าจะหอมที่สุด” รุ่นพี่ที่ดูท่าทางเป็นหัวหน้าเลียไปที่จั๊กกะแร้ที่เพิ่งโกนขนออกของต้น ทั้งสองข้าง โดยสลับเลียซ้ายและขวา

“รสชาติใช้ได้”

เขายังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น เขาจับแก้มของต้นสองข้างและประกบปากข้ามาทันที รุ่นพี่ใช้ริมฝีปากดุลรอบๆ ปากของต้น ส่งลิ้นแหย่เข้าไประหว่างปาก เพื่อที่จะรุกล้ำเข้าไปยังด้านใน ต้นได้แต่กัดฟันแน่น

กางเกงเลกกิ้งรัดรูปทำให้เห็น รูปร่างของต้นชัดเจนรวมไปถึงอาวุธน้อยๆ ด้านล่าง มือของคนที่จับขา เลื่อนขึ้นมาประกบบริเวณที่นูนออก และค่อยคลึงมือย่างแผ่วเบา

“อย่านะพี่ อุ๊บ” ต้นที่จะเปิดปากร้องห้ามถูกลิ้นที่รออยู่แล้วเข้าจู่โจมทันที อีกฝ่ายส่งลิ้นเข้าบุกรุกในช่องปาก ลิ้นหนาแต่ยาว พุ่งเข้าไปในปากอย่างหิวกระหาย มันซอกซอนสำรวจจนทั่วและเจอเข้ากับลิ้นของต้น รุ่นพี่ตวัดลิ้นเข้าเกี่ยวทันที

“โอะ”

ลิ้นของต้นหลุดออกมานอกปาก และโดนงับจากริมฝีปากของอีกฝ่าย เขาดูดกินอย่างเอร็ดอร่อย จนต้นไม่สามารถดึงลิ้นกลับเข้าปากของตนเองได้

พร้อมๆ กับด้านล่างที่โดนบดคลึงจนได้ที่ ความฟูจึงค่อยๆ เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังมีมือของสองคนที่ป้วนเปี้ยนอยู่ระหว่างหน้าอกที่คอยกระตุ้นทั้งเขี่ย สลับกับลูบวนเบาๆ

“โจ น้องเขาใส่กางเกงในของผู้หญิงด้วยว่ะ” คนที่ป้วนเปี้ยนอยู่ด้านล่างของต้นพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นขอบกางเกงใน ยิ่งทำให้ต้นรู้สึกอับอายและไร้ทางสู้มากยิ่งขึ้น

“ไหนขอดูด้านล่างหน่อยซิ” คนที่กำลังสู้รบด้วยปากอย่างเมามัน สอดมือเขาไปตรงขอบกางเกงและคว้าเข้าที่ก้อนเนื้ออย่างแม่นยำ

ต้นได้แต่หลับตาปี๋อย่างจำยอม ไม่สามารถดึงมือลงมากันได้ ขาสองข้างก็โดนจับกางเอาไว้ มือที่รุกล้ำเข้าไปทำให้ต้นรู้สึกแปลก และแตกสลายไปพร้อมกัน เพราะเป็นครั้งแรกที่คนอื่นบุกรุกเข้ามายังพื้นที่ต้องห้ามได้

มือที่คว้าบีบอย่างแรงจนร่างกายต้นสะดุ้ง และค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความอ่อนโยน เริ่มจากการลูบไล้บริเวณโคน และขยับมาเรื่อยๆ จนถึงส่วนยอด เขารูดมือเพื่อเปิดให้ส่วนที่เซ้นซิทีฟเข้ามาอยู่ในมือของเขา

“เรียบร้อย ทีนี้น้องก็อยู่ในกำมือของพี่แล้ว” เขายืนยันคำพูดโดยขยับนิ้วก้อยและนิ้วนางเป็นระลอก แวบแรกต้นเกร็งสู้ แต่เขากดนิ้วและขยับแรงขึ้น และถี่ขึ้นความเสียววิ่งจี๊ดขึ้นสมองจนต้นยืนแทบไม่ไหว

“อย่าขัดขืนพี่ดีกว่าน้อง” เขาขยับนิ้วพี่เป็นการย้ำ

“ครับ ซี๊ดดดดด” ต้นงับปากแทบไม่ทันเพราะเขาขยับนิ้วอีกครั้ง

“เอ้าพูดตามพี่นะ น้องอยู่ในกำมือพี่แล้วครับ”

“น้องยะ ยู้วว ในกำมือพี่แล้วครับ ซี้ดดด” ต้นพูดได้อย่างไม่เต้มประโยคดีนัก เพราะโดนแรงเขี่ยกวนเป็นระยะ

“เอาละเรามาทำความรู้จักกันหน่อยดีกว่า พี่เห็นว่าน้องน่ารักเลยอยากรู้จัก พี่ชื่อโจนะ น้องชื่ออะไรครับ”

“ชื่อ โต้นนนน โอ้ววว” ต้นตอบไม่เป็นภาษา เพราะตอนที่เขาพูดอีกฝ่ายกลับชยี้แรงขึ้นมา ขาทั้งสองข้างเกร็งแทบไม่ติดพื้น น้ำเหนียวๆ ลื่นๆ ไหลออกมายิ่งทำให้นิ้วขยับได้เร็วและรัวมากยิ่งขึ้น

“ชื่ออะไรนะฟังไม่ชัด” เขาขยับนิ้วอีกครั้ง

“อ๊างงงง ชื่อต้นครับ” เข้าเร่งในตอนแรกและผ่อนให้ต้นได้ตอบ

“โอเค ชื่อน้องต้นนี่เอง รู้ไหมว่าตัวเองน่ารัก” เขาพูแล้วยิ้มให้

“โอ้วววววว ฮ้า โอ้ยยยยยยยย” ต้นดิ้นพราดๆ เพราะโดนกลั่นแกล้งอีกครั้ง

“พี่ถามก็ตอบพี่ซี”

ต้นส่ายหน้าแทนคำตอบ กัดฟันแน่นเพื่อข่มความรู้สึก

“หน้าแบบนี้ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่เลย” เขาไม่พูดเปล่าครั้งนี้เขากำมือแน่นและสไลด์ไปข้างหน้าและกลับมาข้างหลังโดยเริ่มจากเนิบๆ ก่อนในตอนนี้

“มาเป็นแฟนพี่หรือเปล่า” เขาถาม สร้างเสียงฮือฮาให้กับกลุ่มตนอีกสามคนที่ทั้งจับต้นล็อกไว้ และคนที่กระตุ้นต้นอยู่

“มะ ไม่ ไม่ ม้ายยยยย อ๊า” เขาเร่งจังหวะขึ้น ต้นเกร็งจนปวดท้องน้อยไปหมดในเวลานี้

“อย่าปฏิเสธพี่สิ”

“โอยยย อื้อออออ มะ ไม่เอา โอ้ยยย โอ้วว” เขาสลับไปมาทั้งเขี่ยทั้งเกา ทั้งรูดไปมา ทำเอาต้นแทบคลั่งด้วยความกำซาบในรสชาติความเสียว

“อืมม เสียดายจัง”

“แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะเราเพิ่งรู้จักกัน ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนก็ได้เนาะ”

“เนาะ” เขาพูดพร้อมเพิ่มแรงบีบ และขยับมือแรงขึ้น

“ครับ” ต้นตอบด้วยใบหน้าเหยเก

“เนาะ” มือขยับเร็วขึ้นจนเริ่นยินเสียงน้ำเฉอะแฉะ

“ครับ โอ้ววว”

มือยังคงเร่งความเร็วอย่างไม่หยุด ต้นแทบจะตายจากความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นด้านล่าง หัวเขาขาวโพลนพร้อมกับความเสียดเสียวที่พุ่งจื๊ดขึ้นมาจนตัวเกร็ง และเมื่อจุดนั้นมาถึงต้องถึงกับร้องออกมา

“มาแล้วๆ จะถึงแล้วว จะถึงแล้วว”

มือหยุดลงทันที ในห้องน้ำเงียบลง เหลือแต่เพียงเสียงหอบหายใจของต้นที่ถี่

“อย่าพึ่งใจร้อนไปน้องต้น” อีกฝั่งดึงมืออกมาจากกางเกงยางยืด และดีดมันเข้าที่เอวของต้นดังแป๊ะ

“เจอกันครั้งแรกอย่าเพิ่งรีบสิ” เขาพูดพร้อมเลียนิ้วด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

“ไว้เจอกันใหม่นะ” เหล่ารุ่นพี่พากันเดินออกห้องน้ำไป ปล่อยให้ต้นที่หมดแรงนับพับลงไปกับพื้นห้องน้ำแบบนั้น ลมหายใจหอบที่ออกมามีทั้งความเหนื่อยอ่อน ปนไปกับความค้างคาและเสียดาย ต้นดึงกางเกงในและเลกกิ้งขึ้น รุ่นพี่เหล่านั้นเอาเสื้อผ้าของต้นไปด้วย เท่ากับว่าตอนนี้ชุดออกกำลังกายของต้นเหลือเพียงสองชุดเท่านั้น นั่นคือเสื้อกล้ามตัวเล็ก กับเลกกิ้งที่ได้จากวันนี้ทั้งสองชุด นั่นหมายความว่า เขาต้องใส่ชุดนี้ต่อหน้าคนเป็นร้อยในวันพรุ่งนี้เสียแล้ว


*น่าๆต้น อย่างน้อยต้นก็ได้เลือกใส่กางเกงในเองนะพรุ่งนี้ ว่าแต่ต้นจะเลือกใส่อะไรระหว่างกางเกงในของผู้ชายและผู้หญิง ถ้าเป็นคุณผู้อ่านจะเลือกอะไรครับ

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 15 การใส่เลกกิ้งสุดอันตรายของต้น
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 31-03-2019 10:19:28
น้องต้นต้องเลือกกกน.ผู้หญิง​แน่นอนเลยค่ะสเน่ห์​แรงใช่เล่นนะเนี่ย​ ใครเป็นพระเอกของน้องต้นน้อ​ มีทั้งครูสนมีทางน้องต้นแต่แอบเทใจให้น้องต้น​ ดูไร้เดียงสา​กึ่งๆสมยอม​ เราก็ตามที่ธัญ​ ถึงว่าไม่ขึ้นแจ้งเตือนอัพนิยาย​ แต่ปกติอ่านสองเว็บนี้แหละค่ะ​ นิยายคุณน่าสนใจมากเลยติดหนึบ
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 15 การใส่เลกกิ้งสุดอันตรายของต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 31-03-2019 15:01:37
ขอบคุณ คุณ naruxiah มากครับที่นิยมชมชอบนิยายกัน คือผมเขียนด้วยความหวั่นใจมาตลอดเลยว่า มันจะเป็นยังไงหว่านิยายแบบนี้ มันไม่ได้เป็นแนวที่คนอ่านกันทั่วไปด้วยซ้ำครับ ที่ไม่ลงที่ธัญวลัยต่อ เพราะผมเพิ่งโดนสอยมา ต้องปรับเนื้อหาเพียบเลยครับ เพื่อที่จะลงทะเบียนนักเขียนสนับสนุนเดี๋ยวถ้าเขาอนุมัติแล้วก็จะลงตามปกติครับ ยังไงก็ตามอ่านที่นี่หรือสามารถไปตามที่เพจ facebook ก็ได้ครับ ที่นั่นจะรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับเฟติชด้วยเนื้อหาเหมือนกันและไม่ติดเซนเชอร์บางฉากด้วยนะครับ o13 ขอบคุณที่เข้ามาคุยกันครับ :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 15 การใส่เลกกิ้งสุดอันตรายของต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 01-04-2019 17:16:58
ตอนที่ 16 เกม 7 วันอันตราย (3)

ภายในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ สนกำลังสูญเสียอิสรภาพจากการกลั่นแกล้งของเพื่อนและยัยนักเรียนนกต่อที่นั่งขนาบข้างเขา มิสเตอร์เคขับรถออกมาจากโรงเรียน และขับออกไปตามทางสายหลักเพื่อที่จะเข้าไปในเมือง

รถติดฟิล์มดำ ยากการมองจากด้านนอกเข้ามาด้านใน ซึ่งนั่นก็พอที่จะทำให้สนหายใจสะดวกบ้าง เพราะตอนนี้เขาไม่ได้ใส่ชุดข้างนอกอีกแล้ว เหลือเพียงแต่ ชุดว่ายน้ำ ถุงน่อง และกางเกงในที่ใส่อยู่เท่านั้น

“อืมม” สนส่งเสียงออกมาเมื่อเพื่อนชายจี้เข้าจุดที่อ่อนไหว เขาอยู่ในสภาพนั่งอ้าขา โดยมีมือของเพื่อนโอบจากด้านหลังมาเล่นบริเวณตรงหน้าอก และมือหนึ่งวนเวียนตรงบริเวณระหว่างขาทั้งสองข้าง เขาเล่นแบบนี้ตั้งแต่รถออกพ้นบริเวณโรงเรียนมา และทำราวกับเขาเป็นของเล่น ส่วนอีกคนที่อยู่ในชุดนักเรียนหญิงก็ทำอีกอย่างที่ทำให้สนอยู่ไม่สบายไม่แพ้กัน เพราะเธอเอามือข้างหนึ่งเขี่ยที่หน้าอก และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ และใช้ลิ้นเลียไปที่ริมฝีปากเขาบ้าง ใบหูบ้าง

“เรากำลังจะไปที่ไหนกันเหรอ” เขาถามขณะที่โดนกระตุ้นไปด้วย

“เรากำลังจะพาสนไปซื้อของ ของพิเศษซะด้วย” เพื่อนยังไม่บอกว่าจุดหมายปลายทางคือที่ใด

“ไหนบอกจะไปซื้อพรุ่งนี้ไง” สนข้ามไปถามคนขับรถ

“กางเกงในไปซื้อวันพรุ่งนี้ถูกแล้ว แต่วันนี้เราจะไปซื้ออย่างอื่นกัน”

บทสนทนาหยุดลงตรงนั้น เหลือแต่เพียงเสียงครางของสนเป็นระยะตามการแกล้งของคนทั้งสอง ซึ่งได้ผลค่อนข้างมาก เพราะขณะนี้เกิดวงน้ำขึ้นมาบริเวณเป้าของชุดว่ายน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ครูคะ ครูสนไม่ใช่ฟูอย่างเดียวแล้วค่ะ เยิ้มด้วย” น้ำฝนพูดให้มิสเตอร์เคที่ขับรถอยู่ได้ยิน เขายิ้มออกมาเล็กน้อย

“ไม่ต้องเรียกครูหรอก เพราะตอนนี้เขาอยู่ในสภาพรุ่นน้องเธอด้วยซ้ำ”

“หา อะไรนะ” สนเกิดความสับสน

“ก็น้ำฝนถูกฝึกมาก่อนไง ก็ต้องเป็นรุ่นพี่ คุณเพิ่งจะเริ่มวันแรกก็ต้องเป็นรุ่นน้องถูกแล้วไง”

สนไม่พูดอะไรต่อ

“น้ำฝน สอนรุ่นน้องกินไอติมหน่อย เพราะเขาต้องเอาทักษะนี้ไปใช้ในอนาคต”

“ที่นี่เลยเหรอคะครู”

“ที่นี่แหละ คุณวีช่วยน้ำฝนหน่อยครับ” เขาบอกวิรัตน์ หรือว่าชื่อในสมาคมลับก็คือวีนั่นเอง

“ได้ครับพี่”

เขารูดชุดว่ายน้ำของเพื่อออก สนมีท่าทีเชินอายเล็กน้อยแต่ก็จำยอมให้เพื่อนจัดการ เมื่อชุดว่ายน้ำถูกถอดออกไปแล้วก็คงเหลือแต่เพียงถุงน่องกับกางเกงในเท่านั้น

น้ำฝนรั้งทั้งคู่ลง เปิดเผยแท่งเนื้อที่กระเด้งออกมา ขนาดมาตรฐานเมื่อเทียบกับของเธอเอง

น้ำฝนงับทันที สนหลับตาปี๋เนื่องจากสัมผัสได้ถึงความรัดความอุ่น และความเปียกที่เกิดขึ้นตรงส่วนหัวของอาวุธตัวเอง

“อื้ม หอมดีนะคะ” น้ำฝนพูดขณะที่แท่งเนื้อยังเต็มปาก

เธอถอนปากออกมา

“รสชาติดีเลยค่ะครู”

“อย่าไปกินเพลินล่ะ เอาแค่พอปริ่มๆ แต่เธอก็ชอบแกล้งคนอยู่แล้วครูคงไม่ต้องบอกหรอก”

“โอเคค่ะ” น้ำฝนรับคำ

น้ำฝนอมเข้าไปจนสุดความยาวแล้วโยกหัวขึ้นลง เป็นจังหวะอย่างช้าๆ จากที่สนนั่งเฉยๆ ในตอนนี้เริ่มมีอาการขึ้นมาบ้างจากการหายใจแรง และขาทั้งสองข้างเริ่มเกร็ง

น้ำฝนโยกหัวช้าบ้างเร็วบ้าง และทุกครั้งที่น้ำฝนโยกหัวเร็วขึ้นแรงขึ้น สนจะหลับตาเชิดหน้าขึ้นราวกับว่าจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ ความเสียวซ่านส่งต่อขึ้นไปสะสมบริเวณใต้ท้องน้อยมากขึ้นขึ้นเรื่อยๆ

“เป็นยังไงบ้างเพื่อน” วีก้มลงมาถามเพื่อนที่นอนหลับตาส่งเสียงซี้ดออกมาทางปากเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้คำตอบ เขาจึงใช้นิ้วมือคลึงบริเวณใบหูของเพื่อนเพื่อกระตุ้นเร้าอารมณ์ไปอีกทางหนึ่ง

รถยังเคลื่อนที่ไปด้วยความคล่องตัวของถนน คนในรถไม่ได้สนทนากันต่อไปอีกระยะใหญ่ๆ โดยมีเสียงครางที่หวานใสคลอไปตลอดทาง มีบางจังหวะที่น้ำฝนเร่งเร้า ก็จะเปลี่ยนเป็นเสียงร้องด้วยความ

“ไม่พกโทรศัพท์มาแล้วคนที่ชื่อ โอลีฟ เขาจะไม่เป็นห่วงเหรอ”

ประโยคดังกล่าวทำให้คนฟังถึงกับตาโตลุกพรวดขึ้นมา

“นี่คุณรู้ได้ยังไง อ๊า อืมม” แต่ดันตัวขึ้นมาได้เพียงครู่เดียวก็ถูกปากที่งับอยู่ที่ของสำคัญกระหน่ำส่งแรงดูดจนเจ้าตัวต้องร้องครางขึ้นมาอีกครั้ง

“ชื่อก็น่ารัก หน้าตาก็น่ารัก ก็ดูเหมาะสมกันดี” เขาพูดต่อขณะที่สนยังไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ เพราะต้องเกร็งรอความเสียวสะท้านที่น้ำฝนมอบให้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซ๊วบบ แพล่บบ เสียงดูดเปลี่ยนกลายมาเป็นเสียงกระหน่ำเลียแทน ความรู้สึกท่วมท้นจนคนที่นอนอยู่แทบจะนอนนิ่งๆ ไม่ได้

“อาห์ อืมมมม”

“พอแล้วน้ำฝน”

น้ำฝนหยุดการกินทันที และเลื้อยตัวเองขึ้นไปประจันหน้ากับเจ้าของอาวุธ ริมฝีปากสวยประกบเข้ากับปากของสน พร้อมกับถ่ายทอดของเหลวในปากทั้งหมดเข้าไปในปากอีกฝ่าย สนส่ายหน้าอย่างรุนแรงพร้อมทั้งอ้าปากเพื่อคายสิ่งที่อยู่ในปากออก แต่มือที่ไวกว่าของน้ำฝนคว้าหมับเข้าไปที่ก้อนเนื้อด้านล่างเสียก่อน

“ห้ามคายนะคะ”

“โอ้วว” เสียงเกิดจากความจุกที่เกิดอย่างท่วงที

“กลืนเข้าไปให้หมดเดี๋ยวนี้” เธอพูดพร้อมใช้มือหนึ่งปิดปาก และอีกมือหนึ่งเพิ่มแรงบีบเข้าไปที่ก้อนเนื้อด้านล่าง

สนนับเลขในใจพร้อมกลั้นใจกลืนน้ำในปากเข้าไปในลำคออย่างยากลำบากและไม่มีทางเลือก เสียงดังเอื้อก สร้างความขยะแขยงและขนลุกชูชันให้กับสนเป็นอย่างมาก

น้ำฝนมองดูระดับลูกกระเดือกที่ขยับขึ้นลงอย่างพอใจ

“ไหนอ้าปากให้ดูหน่อยสิคะ”

สนอ้าปากอย่างว่าง่ายเพราะยังถูกควบคุมอยู่

“เก่งมากค่ะ” เธอพูดพร้อมเอามือขึ้นมาลูบหัว ทำราวกับเขาเป็นเด็กเล็กๆ สนไม่ได้ตอบอะไรออกไปมากไปกว่าแววตาที่แข็งกร้าว

“ครูไม่ต้องดุใส่หนูขนาดนั้นก็ได้ค่ะ แฮ่ๆ” น้ำฝนพูดเมื่อสบตากับคนที่เธอเพิ่งแกล้งไป

“วันแรกก็แบบนี้แหละ” มิสเตอร์เคพูดขณะที่เลี้ยวรถเข้าสู่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง

“เอ้า จะถึงแล้ว แต่งตัวเร็ว”



สนกลับมาใส่ชุดนอกอีกครั้ง แต่ภายในก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แม้ว่าระหว่างทางที่เดินมาตามทางเข้าของพนักงานจะไม่ได้พบเจอใคร แต่เขาก็รู้สึกขอบคุณคนเหล่านี้ที่ไม่ได้บังคับให้เขาใส่ชุดว่ายน้ำเดินเข้าห้าง

ทั้งสี่เดินมายังร้านขนาดใหญ่ ที่มีชื่อว่า Mask of Fetish ตรงป้ายชื่อเป็นหน้ากากขนนกสีดำสนิทราวกับว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของร้าน หน้าประตู พบเห็นห้องโชว์ที่มีหุ่นตั้งเรียงรายหลายตัว ทั้งหุ่นผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งอยู่ในชุดต่างๆ ที่เขาเคยเห็นบ้างไม่เคยเห็นบ้าง ทั้งจากโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ บางชุดเป็นหนัง บางชุดเป็นผ้ายืด บางชุดเป็นดีไชน์แปลกตาที่ปกปิดทุกส่วนของร่างกายแต่เปิดเฉพาะจุดซ่อนเร้น

ทั้งสี่เดินผ่านประตูร้านเข้าไปพบ พนักงานประจำเคาน์เตอร์แรก เป็นผู้หญิงร่างท้วม ที่แต่งตัวสไตล์อีโม และแต่งหน้าเข้มจัด

“สวัสดีค่ะคุณเค”

“สวัสดีพี่แหม่ม ผมขอเปิดห้องด้านในนะครับ และที่ผมให้ตามพี่จิตรนี่ว่าอย่างไร”

“พี่จิตรเข้ามาจะถึงแล้วค่ะ” เธอพูดพร้อมมองไปที่สนที่ทำหน้าแตกตื่นราวกับเจอในสิ่งที่อธิบายไม่ได้

“คนใหม่ครับคนนี้” มิสเตอร์เคพูด และทั้งสองคนก็ยิ้มขึ้นมาพร้อมกัน

“งั้นผมไปด้านในก่อนนะครับ” เขาพูดทิ้งท้ายและส่งสัญญาณมือให้ทั้งหมดตามเข้าไป โดยมีสนตามเข้าไปท้ายสุด

ภายในห้องตกแต่งด้วยหนังสีดำที่หุ้มโฟมไว้ทั่วทั้งห้อง สนมองเห็นอุปกรณ์หลายๆ อย่างที่ไม่รู้ว่ามันเอาไว้ทำอะไร ทั้งแท่นที่เป็นรูปตัวเอ็กซ์ตั้งอยู่ โต๊ะที่เป็นรูปสามเหลี่ยม และเตียงนอนที่มีรูปร่างแปลกๆ ทั้งสามแยกย้ายกันไปหยิบเก้าอี้หนังในห้อง สนกำลังจะไปหยิบตามแต่มิสเตอร์เคเข้ามาจับตัวไว้ก่อน

“ถอดชุดข้างนอกเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง

สนถอดชุดออกด้วยมือที่เริ่มสั่นเทาโดยมีทั้งสามนั่งดู

ชุดว่ายน้ำสีส้มปรากฏต่อหน้าคนทั้งสามอีกครั้ง

“เอ้า มานั่งตรงนี้” มิสเตอร์เคที่นั่งบนเก้าอี้ ชี้ที่นั่งของสนให้ เขาชี้มาบริเวณพื้นข้างๆ เขา

สนเดินเข้าไป และนั่งขัดสมาธิบริเวณพื้นด้านขวาของมิสเตอร์เค เขามองหน้าแล้วยิ้ม ก่อนที่จะพูดว่า

“ครั้งนี้ผมจะอภัยให้นะครับ นั่งแบบนี้ไม่น่ารักเลย ไหนลองเปลี่ยนท่าหน่อย”

สนไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อ แต่เขาก็หันไปเจอน้ำฝนที่ทำปากขมุบขมิบอ่านปากได้ว่า คุกเข่าท่าเทพธิดา สนจึงปรับนั่งท่าตามนั้น โดยนั่งทับส้นเท้าของตัวเองละหัวเข่าชิดกัน

“อืมม น่ารักมาก” มิสเตอร์เคพูดพร้อมกับลุกขึ้น และอ้อมมาด้านหลัง

“แต่ว่ามันยังดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ต้องแบบนี้” เขาใช้มือแยกเข่าทั้งสองข้างออกจากกัน เปลี่ยนเป็นท่าทุกเข่ากางขาแทน

“รู้ไหมว่าทำไมต้องนั่งท่านี้” เขาถามโดยเอาหน้ามาแนบข้างๆ แก้มสน ซึ่งสนไม่ได้ตอบอะไรแต่มองไปข้างหน้าแทน

“เพราะท่านี้ผมจะได้เล่นตรงนี้ง่ายๆ ไงล่ะ” เขาไม่พูดเปล่าแต่เอื้อมมือลงมาคลึงบริเวณที่นูนออกมาด้วย เขาวนเป็นเลขแปดอย่างนุ่มนวล คนที่โดนรู้สึกได้และส่ายก้นอย่างช้าๆ ไปตามสัมผัส



“ครูขา คนนี้จะชื่ออะไรดีคะ” น้ำฝนถามขึ้นขณะที่สนกำลังถูกแกล้งอยู่

“เธอก็น่าจะรู้มั้ง ก็ไม่ต่างกันนี่”

“ค่ะ ครูคนนี้ต้องได้ชื่อว่าโอลีฟแน่นอน”

“หาอะไรนะ” สนพูดด้วยความงง

“นักเรียนคนนี้” มิสเตอร์เคพูดพร้อมชี้มือไปที่น้ำฝน “ต่อนก่อนหน้านี้เธอชื่อว่าภูผา ตอนเข้ามาใหม่ๆ แต่เมื่อกลายมาเป็นแบบนี้ก็เลยต้องใช้ชื่อใหม่ เพราะภูผามันดูแมนเกินไปไม่น่ารักสำหรับผู้หญิง”

“ค่ะ ครูเคเลยตั้งชื่อให้หนูใหม่ ซึ่งชื่อนี้ก็คือชื่อเล่นของอดีตแฟนหนูเอง” น้ำฝนพูดออกมาอย่างช้าๆ

“ใช่แล้ว คุณก็จะได้ชื่อเช่นเดียวกัน ต่อไป ผมจะเรียกคุณว่า โอลีฟ นั่นคือชื่อที่ผมจะเรียกคุณต่อไปนับจากนี้”

ประโยคนี้ทำเอาสนรู้สึกแปลกๆ และไม่สบายใจเอามากๆ



เสียงเคาะประตูดังขึ้น และประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างชายวัยกลางคนที่เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องเครื่องมือ

“สวัสดีครับพี่จิตร”

“สวัสดีคุณหนู คนไหนล่ะ” เขาพูดพร้อมกับมองหา

“คนนี้ๆ” เขาชี้มาที่สนที่กำลังหน้าแดงขึ้นอีกครั้งจากการมาของคนที่ไม่รู้จัก

ชายวัยกลางคนวางกล่องเครื่องมือลง และเดินไปยกเก้าอี้แปลกๆ ในห้องนั้นมาตั้ง

“เอ้ามานั่งที่นี่หนู” เขากวักมือเรียกสน ด้วยคำเรียกทำให้สนอายมากขึ้นกว่าเดิม เขาลุกขึ้นและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวนั้น และพบว่าไม่ใช่แค่รูปร่างของมันเท่านั้นที่แปลกอย่างเดียว ที่นั่งมันยังมีรูโหว่ตรงกลางเก้าอี้อีกด้วย

เขานั่งลงพร้อมกับความเขินอายที่ยังไม่หายไป พร้อมๆ กับที่ลุงจิตรเริ่มแกะกล่องเครื่องมือออก และหยิบเครื่องมือออกมา ได้แก่สายวัด เวอร์เนีย และดินสอ และเริ่มลงมือวัดตัวสน

“ก็ไม่ได้แตกต่างจากตัวอีหนูน้ำฝนนั่นเท่าไหร่นะคุณหนู”

“ไม่หรอกพี่จิตร น้ำฝนช่วงนี้ก็กินเยอะไปหน่อยน้ำหนักเริ่มขึ้นแล้ว เดี๋ยวคงต้องพาไปออกกำลังกาย” เขาพูดไปพร้อมๆ กับที่น้ำฝนยิ้มอย่างทะเล้น

“เอ้อ ของที่คุณวิรัตน์สั่ง ทำเสร็จแล้วนะครับ อยู่ข้างนอก”

“โอเคครับ เดี๋ยวผมออกไปดูก่อน เดี๋ยวจะเอามาให้น้ำฝนลองใส่ดูว่ามันโอเคไหม”

“เอ้า ทำไมต้องเป็นหนูล่ะค๊า” น้ำฝนถามกลับก่อนที่จะทำหน้าจ๋อยๆ จากการโดนมิสเตอร์เคจ้อง

สนมองทั้งสามและคนที่กำลังวัดรอบแขนรอบตัวตัวเองอย่างงงงวยในความสัมพันธ์ของคนทั้งหมดทีอยู่ที่นี่ ทั้งมิสเตอร์เคกับลุงจิตรที่เรียกเขาว่าคุณหนู นักเรียนชื่อภูผาที่ใช้ชื่อว่าน้ำฝน แม้ว่ายังไม่พ้นวันแรก เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างในตัวเสียแล้ว การใส่ชุดแบบนี้ก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นัก ทั้งความรู้สึกแปลกๆ ใจเต้นรัวจากการโดนชมว่าน่ารักก็เหมือนกัน เขาสลัดความคิดในหัวทิ้ง อย่างไรก็ตามเขาจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เขาบอกกับตัวเองในใจ


*มีข่าวไม่ค่อยสู้ดีงับ เหมือนอาจารย์เริ่มขยับเรื่องวิทยานิพนธ์แล้ว ความต่อเนื่องอาจหายไปนะครับ หายไปเมื่อไหร่ขอให้คิดไว้ก่อนว่าลาไปศึกษาต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 16 เกม 7 วันอันตราย (3)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 02-04-2019 12:23:39
ตอนที่ 17 สน และ โอลีฟ

เป็นที่รู้กันว่าก่อนจะเข้าเรียนระดับที่สูงขึ้น จะต้องเรียนปรับพื้นฐาน ซึ่งจากการที่แต่ละโรงเรียนมีการสอนในแต่ละวิชาที่แตกต่างกัน ก่อนที่ทุกคนจะเข้าเรียนก็จำเป็นที่จะต้องเรียนปรับพื้นฐานก่อนไม่ว่าจะเป็นชั้นใด

พรุ่งนี้เป็นวันเรียนปรับพื้นฐานวันแรก ซึ่งก็ยังไม่พ้นช่วงการปรับตัว ยังคงต้องมีการออกกำลังกายในตอนเช้าอยู่ดี ต้นกำลังคิดอยู่ว่าในวันพรุ่งนี้ต้องทำอย่างไรดี เขามองถุงเสื้อผ้าในมือ และชุดที่ตัวเองใส่อยู่ ข้างล่างที่โดนเล่นไปเมื่อครู่หลังจากอ่อนตัวลงแล้วครั้งหนึ่ง มันก็แข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ ทั้งจากความรู้สึกที่ค้างคา และจากสัมผัสที่รัดรึงจากกางเกง

เขาสองจิตสองใจว่าจะตามกริชไปโรงอาหารดีไหม หรือจะกลับห้องไปก่อนดี เพราะถ้าไปโรงอาหารตอนนี้เพื่อนทุกคนก็จะได้เห็นเขาในสภาพที่ใส่ชุดออกกำลังกายของผู้หญิง แม้ว่าคนที่ออกกำลังกายด้วยกันจะเห็นมาแล้ว แต่คนอื่นๆ ในโรงอาหารต่างหากที่ต้นกังวล

เป้ากางเกงตุงขึ้นอีกครั้ง

เสียงโทรศัพท์ของต้นดังขึ้น

“ฮัลโหลครับ พ่อ”

“เป็นยังไงบ้างต้น โรงเรียนโอเคดีไหม”

“ดีครับพ่อ สนุกใช้ได้เลย” ต้นรู้สึกจุกอกอย่างบอกไม่ถูก

“แม่ล่ะครับพ่อ” ต้นถามถึงแม่ เขาสัมผัสได้ว่า ตาเขาร้อนๆ

“แม่ไปอาบน้ำน่ะ สนุกก็ดีแล้วล่ะต้น แค่นี้ก่อนละกันนะ ไว้พ่อจะส่งข้อความหา ค่าโทรข้ามประเทศนี่แพงน่าดู แม่ต้องบ่นพ่อแน่ๆ” ทั้งสองพ่อลูกก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน แต่ต้นรู้ได้ว่าเขามีน้ำไหลออกมาจากหางตาเล็กน้อย

“ไว้เดี๋ยวซื้ออินเทอร์เน็ต แล้วจะโทรไปนะ”

“ครับ รักพ่อนะครับ”

“เหมือนกันลูก”

เขาวางสายและสูดหายใจเข้ายาวๆ เก็บความรู้สึกทั้งหมดให้ซึมซาบเข้าไป และตัดสินใจว่าจะไปกินข้าวกับกริช



ที่โรงอาหารมีความเซอร์ไพรส์เล็กๆ เกิดขึ้น เพราะนอกจากเพื่อนๆ ที่เป็นกลุ่มอาสาสมัครด้วยกันแล้ว ที่โต๊ะยังมีต่อมานั่งอยู่ด้วย เขามองมาทางต้นด้วยแววตาดุๆ ผสมประหลาดใจ

“พอดีว่าต่ออยู่ห้องพอดี เลยโทรชวนออกมากินด้วยกันทีเดียวเลยน่ะต้น”

“อ่าฮะ”

“ไปซื้อข้าวก่อนนะ”

ต้นไปซื้อข้าวด้วยความรุ้สึกเขินๆ เพราะนอกจากคนในโรงอาหารหลายคนจะมองมาทางเขาแล้ว ต่อยังไม่เคยเห็นเขาในสภาพแบบนี้ จึงทำให้เขารู้สึกเขินไม่น้อย ซึ่งมันก็ส่งผลให้ข้างล่างนูนออกมามากขึ้น

“ต้น แกชอบใส่ชุดแบบนี้เหรอ” ต่อถามขึ้นขณะที่ต้นกำลังกินก๋วยเตี๋ยว คำถามทำเอาต้นแทบสำลัก

“บ้าเหรอ ไม่ใช่หรอก พี่เขาหยิบชุดมาผิดน่ะ” ต้นตอบด้วยความเขินอายเล็กน้อย

“แล้วทำไมไม่เปลี่ยนชุดกลับ แกเป็นป่ะเนี่ย” ต้นเห็นความรู้สึกบางอย่างบนใบหน้าของต่อ เขาจึงไม่พูดอะไรต่อ ทิ้งบทสนทนาไว้แบบนั้น

กริชที่เห็นวงสนทนาเริ่มอึมครึมจึงเข้ามาเปลี่ยนเรื่อง

“เอ้อ วันพรุ่งนี้เริ่มเรียนปรับพื้นฐานใช่ป่ะ เราเรียนวิชาอะไรมั่งนะ”

“เอ จำไม่ค่อยได้แฮะ น่าจะมีคณิตมั้ง” ต้นนั่งใช้ความคิด เพราะเห็นตารางเรียนแค่แวบๆ

“คณิต เคมี ฟิสิกส์ ภาษาไทย สังคม สี่วิชา” ต่อพูดวิชาออกมาราวกับว่าท่องจำมาเป็นอย่างดี

“ความจำดีจังเลยวะต่อ ไม่น่าเชื่อ” กริชพูดอย่างตกตะลึง ซึ่งต้นก็ตกใจไม่แพ้กัน

“ไม่รู้ว่ะมันจำได้เอง” เขาพูดพร้อมตักข้าวเข้าปาก



ทั้งสามเดินกลับพร้อมกัน โดยมีต้นเดินรั้งท้ายเพราะไม่อยากเดินใกล้ต่อเท่าไรนัก เพราะท่าทีที่ต่อแสดงออก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นอย่างที่ต่อพูดก็ตามที

ในขณะที่เดิน ต้นไม่ทันสังเกตว่าต่อเดินช้าลง จนเข้าใกล้เขาขึ้นเรื่อยๆ และที่สุดก็มาเดินข้างกัน

“ขอโทษนะ” ต่อพูดออกมาเบาๆ

“ขอโทษอะไร” ต้นถามกลับ

“ไม่ได้ตั้งใจจะว่าน่ะ”

“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก แต่เราไม่ได้เป็นนะต่อ เรื่องมันยาวเลยไม่ได้เล่า”

“อ่าฮะ” เขาพยักหน้าเหมือนเข้าใจ

ทั้งสามไขประตูห้องเข้าไป และวางข้าววางของเข้าที่ตนเอง

“เอ่อ..พวกนายพอจะมีชุดพละให้ยืมใส่ออกกำลังกายตอนเช้าไหม” ต้นถามรูมเมท

“ชุดเหลืออยู่ชุดเดียวแล้วล่ะต้น พรุ่งนี้ว่าจะเอาไปซัก”

“ทั้งตัวมีแค่ชุดเดียวเท่านั้นแหละ” ต่อพูดขึ้นมา เพราะตั้งแต่มาที่นี่ ต่อยังไม่ได้ใส่ชุดอื่นเลยนอกจากชุดนักเรียนของโรงเรียนเดิม

“อะไรนะ แกอยู่มาจนป่านนี้ได้ไงวะต่อ”

“เอ้า ก็ที่บ้านมันไม่ยอมเอาชุดมาให้นี่หว่าให้ทำไงวะ”

“จะว่าไปเริ่มเหม็นกลิ่นออกจากชุดแกแล้วเนี่ย อี๋”

“ไอ้เชี่ย...ตอแหล”

ต้นมองดูทั้งสองหยอกล้อกันด้วยความสนิทสนมที่เริ่มก่อตัว และเก็บถุงเสื้อผ้าของตัวเองใส่เข้าไปในตู้เสื้อผ้า เพราะพรุ่งนี้คงไม่มีทางเลือกแล้ว เป้ากางเกงของต้นตุงขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงวันพรุ่งนี้

__________________________________________

สนกลับมาถึงห้องด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่นอกจากการถูกวัดตัวก็ไม่ได้โดนทำอย่างอื่นไปนอกจากการกลั่นแกล้งของน้ำฝนและเพื่อนของเขาเอง

คำพูดของน้ำฝนบางคำพูดในตอนเช้ายังติดอยู่ในใจเขา

“ถ้าครูอยากจะผ่านไปได้ ครูต้องอย่าปล่อยให้ครูเคเขารุกล้ำเข้าไปในตัวได้นะคะ ไม่อย่างนั้นครูจะแพ้ทั้งกายและใจ และที่สุดแล้วครูก็จะกลายเป็นแบบเดียวกับหนู”

ครั้งนี้เขาขับรถมาส่งถึงหน้าห้องพัก และที่สำคัญคือ สนคิดว่าจะถูกจับล็อกแบบครั้งก่อนเสียแล้ว แต่ผิดคาด เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรไปมากมาย

“วันนี้ผมจะปล่อยให้คุณเป็นอิสระนะ”

สนตั้งท่าเหมือนจะพูดอะไร สักอย่างออกไปแต่เขาชิงพูดขึ้นเสียก่อน

“แต่ไม่ได้แปลว่า ผมจะอยากให้คุณทำอะไรตามใจนะครับ” เขาพูดพร้อมยื่นนิ้วก้อยออกมา

“อะไร”

“มาสัญญากัน ว่าในระหว่างวันที่เหลือคุณจะไม่ช่วยตัวเองแม้แต่ครั้งเดียว และเมื่อผมบอกอะไรคุณก็จะทำ” เขายื่นนิ้วก้อยเข้ามาใกล้มากขึ้น

สนคิดอย่างชั่ง ขณะที่อีกฝ่ายยื่นนิ้วเข้ามากดดัน ทั้งยังคนติดตามอีกสองคนที่ยืนมองอยู่ห่างๆ

“ผมจะไม่รับก็ได้ใช่ไหม”

“แน่นอน”

สนสูดหายใจเข้า แล้วทำในสิ่งที่เขาเองก็ไม่คิดว่าจะทำ เขายื่นมือออกไปเพื่อที่จะเกี่ยวก้อยสัญญา แต่เมื่อนิ้วจะสัมผัสกัน อีกฝ่ายกลับชักมือหนี

“อ๊ะๆ พูดก่อนสิว่าจะรักษาสัญญา” เขาพูดในขณะที่อีกคนเหวอเพราะเกี่ยวก้อยกับอากาศ

สนหน้าแดงระเรื่อ พร้อมกับพูดออกมา

“โอเค ผมจะรักษาสัญญา”

“ไม่ ไม่ใช่”

“ผมไม่ได้พูดกับคุณ ผมพูดกับโอลีฟ”

“หา” สนร้องออกมาด้วยความไม่เข้าใจ



“เอาแล้วค่า หนูชอบแบบนี้จริงๆ” น้ำฝนพูด เพราะลุ้นอย่างตื่นเต้นกับฉากที่เห็น พร้อมกับกระโปรงที่นูนขึ้นเล็กน้อย

“โอโห หื่นจริงๆ เธอ” ครูวิรัตน์พูดเมื่อเห็นสิ่งที่พองขึ้นมา



“ผมไม่ได้พูดกับคุณไง ผมพูดกับโอลีฟ” เขาพูดพร้อมกับจิ้มไปที่หน้าอกของอีกฝ่าย

“อ่ะ เอาละไหนพูดสิโอลีฟ” เขายื่นนิ้วก้อยมาอีกครั้ง

สนร้อนผ่าวขึ้นมาที่ใบหน้า ความอายขึ้นมาจุกตัวที่ลำคอ จนหายใจไม่เป็นจังหวะ หัวใจของสนเต้นแรงจนคนข้างๆ แทบจะได้ยิน

“อะ...อะ..โอ..ลีฟจะรักษาสัญญา” ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างยากลำบาก

“ค่ะ! ” อีกฝ่ายเน้นด้วยเสียงเข้ม

“คะ..ค่ะ” สนอายจนแทบทนไม่ได้ ร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า

“เมื่อกี้ไม่นับ เอาใหม่” เขายื่นนิ้วมาอีกครั้ง

สนมองนิ้วด้วยตาโต เพราะผู้ชายคนนี้เหมือนจะฆ่าเขาให้ตายด้วยความอับอาย

“โอลีฟจะรักษาสัญญาค่ะ” สนกลั้นใจพูดออกมารวดเดียวด้วยเสียงสั่นเครือ และเกี่ยวนิ้วของอีกฝ่ายเอาไว้

เขาดึงนิ้วของสนที่เกี่ยวไว้ให้กระชับแน่นยิ่งขึ้น

“ด้วยความเต็มใจ” มิสเตอร์เคพูดพร้อมมองเข้าไปในดวงตาจนสนเกิดความประหม่า

“ด้วยความเต็มใจค่ะ”

“ปล่อยได้แล้ว” สนสะบัดมือไปมาเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมปล่อย ใบหน้าที่แดงเต็มไปด้วยความอับอาย หลบตาอีกฝ่ายที่จ้องมา

อีกฝ่ายปล่อยมือ และยื่นถุงกระดาษให้

“นี่ชุดสำหรับพรุ่งนี้”

สนรับมาและไม่ได้พูดอะไรออกมา พร้อมกับมองทั้งสามเดินขึ้นรถไปพร้อมๆ กัน โดยมีมิสเตอร์เคเดินนำไป และเพื่อนเขากำลังจูงหางหน้าของน้ำฝนเดินตามไปพร้อมกับเสียงครางของน้ำฝนเป็นระยะ

สนจิตนาการภาพของตัวเองอยู่ในสภาพเดียวกับน้ำฝนแล้วรู้สึกขนลุก เขาสลัดภาพออกจากหัว และถือถุงกระดาษเดินเข้าห้องพัก

ที่ห้องพัก โทรศัพท์ของเขามีสายเข้าถึง 25 สายวึ่งมาจากโอลีฟทั้งหมด เขาหยิบขึ้นมาแลกดโทรออก

“ฮัลโหล สน ทำไมไม่รับโทรศัพท์เลยวันนี้” ปลายสายรับและพูดอย่างเร็ว

“ลืมเอาโทรศํพท์ไปน่ะ”

“หา ปกติไม่เคยลืมนี่ สนก็รู้ว่าโอลีฟจะโทรหา ทำไมถึงลืมล่ะ”

“ขอโทษทีนะ” สนถอนหายใจออกมาเบาๆ

“อ่า เสียงไม่ค่อยดีเลยไม่สบายหรือเปล่า”

“อื้ม เพลียๆ นิดหน่อยน่ะ แต่นอนเดี๋ยวก็คงหาย”

“ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะ เป็นห่วง คิดถึงด้วย”

“ขอบคุณครับ”

“เอ๊า ไม่คิดถึงเราเหรอ”

“คิดถึงเช่นกันครับ”

สายถูกวางไป แต่ความรู้สึกหนักอึ้งที่อธิบายไม่ได้ยังคงอยู่ สนตอบตัวเองไม่ได้ว่า เขารู้สึกอย่างไร ทำไมผู้ชายอย่างมิสเตอร์เค ถึงทำอะไรที่ทำให้เขารู้สึกแปลกๆ อยู่ตลอดเวลา เป็นความรู้สึกที่อธิบายได้ยาก

เขาตัดสินใจทิ้งเรื่องราวต่างๆ ในวันนี้เอาไว้ และถอดเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ เขาถอดชุดด้านนอก ถุงน่อง ชุดว่ายน้ำออก รวมไปถึงกางเกงในที่อยู่บนตัวเขาตลอดทั้งวันออก เมื่อถอดทั้งหมดออกแล้วความรู้สึกโล่งสบายเกิดขึ้นกับตัวเขาอย่างท่วมท้น แต่มันกลับมาพร้อมกับความรู้สึกเบาโหวง และโล่งแบบแปลกๆ เขาไม่รู้ว่าระหว่างถอดกับใส่ อะไรมันจะทำให้เขารู้สึกดีมากกว่ากัน

สนใส่เสื้อผ้าทั้งหมดลงในตะกร้า และเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าของเขา

“เฮ้ย อะไรเนี่ย”

สนพูดอย่างตกใจเมื่อในตู้เสื้อผ้าของเขามีบางอย่างเปลี่ยนไป กางเกงในของเขาหายไปทั้งหมด และถูกแทนที่ด้วยกางเกงในผ้าฝ้าย สองตัว และบราของเด็กเล็ก ด้านบนมีโน้ตเล็กๆ ทิ้งไว้ เขียนว่า “เป็นเด็กดีนะโอลีฟ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะพาไปซื้อกางเกงในเพิ่มนะ”

เขาหยิบโน้ตขึ้นมาอ่านด้วยมือที่สั่นเทา พร้อมกับขยำมันทิ้งลงขยะก่อนที่จะเข้าไปอาบน้ำ



สนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะท้ายที่สุดแล้วเขาก็ยอมใส่กางเกงในของผู้หญิงนอนจนได้ เพราะการนอนแบบไม่ใส่กางเกงในมันแย่กว่าเยอะ สัมผัสของกางเกงในที่เปลี่ยนไปทำเอาสนรู้สึกแปลกๆ มันมีความกระชับมากกว่าเดิม ทั้งยังสัมผัสนุ่มละมุนจนด้านล่างรู้สึกดีขึ้นมา พร้อมกับตื่นขึ้นจนสนแทบนอนไม่ได้

สนใช้มือลงไปจับด้านล่าง จากความอัดอั้นที่สะสมมาตลอดทั้งวัน ทำให้อาวุธของเขามาตื่นขึ้นสู้กับมือทันที มันพร้อมมากจนสนรู้สึกได้เลยว่าน้ำที่มันกักเก็บไว้ เยอะจนแทบทะลัก มันคายน้ำเหนียวๆ ออกมาเป็นระยะ เขาเริ่มขยับมือ

มือที่ขยับส่งความรู้สึกอันมากมายให้เจ้าของ มันมาถึงเร็วมากเพราะความรู้สึกมันมากมายเกินกว่าจะกักเก็บ ความรู้สึกใกล้จะถึงเส้นชัยพุ่งเข้าจู่โจมสนไวจนเขาตั้งตัวไม่ทัน เขาตัวเกร็ง เพราะความรู้สึกเหมือนน้ำที่ปริ่มแก้วมันพร้อมจะล้นออกมาตลอดเวลา เหมือนเขื่อนที่ใกล้จะพังทลาย ขณะที่สนกำลังจะตัวกระตุกนั่นเอง เขาพลันนึกถึงสิ่งที่พูดไว้เมื่อสักครู่ขึ้นมา

“โอลีฟจะรักษาสัญญาค่ะ” เขาเหมือนจะได้ยินเสียงของตัวเองพูดขึ้นมาจริงๆ ด้วยซ้ำ

สนหยุดมือและอารมณ์ที่ท่วมท้นก็หยุดลงพร้อมกัน เขาหอบหายใจเล็กน้อย เขากัดฟันแน่นเพื่อข่มความรู้สึกที่มันมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่เข้าใจตัวเอง ถึงต่อให้เขาจะทำจนเสร็จก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี ความรู้สึกในใจเหมือนกำลังโต้เถียงกัน ด้วยอารมณ์ที่ค้างคา

แต่ไม่หรอก เขาจะไม่ผิดคำพูด

สนหลับไปในที่สุดในสภาพที่อาวุธตื่นอย่างเต็มที่ภายใต้กางเกงในสุดน่ารัก

*ลดความหื่นลงนิดหน่อยนะครับ กันเรื่องมันจะแฟนตาซีเกินอยากจะให้ผู้อ่านได้เข้าใจหัวอกหัวใจตัวนายเอกและนายรองบ้างครับ ชอบไม่ชอบแนะนำได้ครับ อันนี้อยากจะปูพื้นฐานตัวละครหลักจากกระหน่ำการกลั่นแกล้งไปแล้ว
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 17 สน และ โอลีฟ
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-04-2019 09:46:31
 :katai2-1:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 17 สน และ โอลีฟ
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 03-04-2019 22:41:33
ตอนที่ 18 เกม 7 วัน อันตราย (4)

ภายในถุงนั้น มี กางเกงยีน กางเกงในลูกไม้ และเสื้อเอวลอยแขนยาวสีส้มอ่อนๆ สนคิดในใจว่า มันก็ไม่ได้เท่าไหร่สำหรับวันนี้ เขาจึงหยิบมันมาใส่ แต่แล้วเขาก็รู้แล้วว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นมันผิดไปไกล

ด้านบนไม่มีปัญหา เพราะสนสามารถใส่ได้พอดีตัว ด้านบนเป็นเสื้อแขนยาว เปิดช่วงท้องเนียนขาว และสะดือที่บุ๋มเป็นรูปทรงสวยงาม แต่ด้านล่างนั้นเกิดปัญหาขึ้นเสียแล้ว เพราะกางเกงในลูกไม้นั้นเป็นแบบเต็มตัวและเอวสูงขึ้นมาจนถึงใต้สะดือ แต่กางเกงยีนรัดรูปที่เขาให้มานั้นเป็นแบบเอวต่ำมาก ซึ่งพอใส่ออกมาแล้วสนอายจนต้องเอามือปิดหน้า เพราะกลายเป็นว่าแม้ข้างบนสุดและล่างสุดจะปิดมิดชิดดี แต่ตรงกลางลำตัวกลับเปลือยเปล่าไม่มีอะไรปิด และโชว์ให้คนทุกเห็นชัดเจนเลยว่า เขาใส่กางเกงในผู้หญิง

เขานั่งอยู่ในห้องเพราะไม่กล้าออกไปให้ใครเห็นในสภาพนี้ จนกระทั่งรถคันเดิมกับเมื่อวาน เข้ามาจอดนิ่งหน้าห้องพัก เขาจึงลุกขึ้นจากเตียง

“เหมาะกว่าที่คิดนะเนี่ย” คนที่มารับพูดเมื่อเห็นสภาพของเขา

“ไหนหมุนตัวหน่อย”

สนหมุนไปพร้อมกับความอายที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น

“ขึ้นรถได้หรือยัง” เขาถามด้วยใบหน้าที่เริ่มมีเลือดฝาดเล็กน้อย

“อายเหรอ”

“ใช่” สนตอบด้วยความเขินอาย

อีกฝ่ายยืนนิ่งไม่ไหวติง และถามกลับมาแบบเดิม

“อายเหรอ? ” เขาถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“อะ..อายค่ะ” สนรู้ด้วยทีท่าว่าเขาต้องการคำตอบแบบไหน แต่สำหรับเขามันทำได้ยาก เขาจึงตอบออกมาอย่างฝืนตัวเอง

“ดีมาก ขึ้นรถได้ครับ” เขาแสดงความพอใจจากสีหน้าอย่างชัดเจน

ในรถมีน้ำฝนนั่งรออยู่ในรถภายใต้ชุดออกกำลังกาย สนขึ้นไปนั่งข้างๆ น้ำฝน

“สวัสดีจ้ะ โอลีฟจัง” เธอทักอย่างสดใส แต่สนไม่เล่นด้วย เขาไม่ได้ทักทายเธอกลับพร้อมแสดงสีหน้าเรียบเฉยกลับไป ทำให้อีกฝ่ายเปลี่ยนไปทำหน้าจ๋อย

“ให้เวลาเขาหน่อยสิ” มิสเตอร์เคเปิดขึ้นมานั่งที่คนขับและสตาร์ทรถ



รถออกพ้นบริเวณโรงเรียน มิสเตอร์เคถามน้ำฝน

“น้องเป็นยังไงมั่งล่ะ”

“เหมือนว่าไม่ได้มีแต่เราคนเดียวนะคะครู เมื่อวานเหมือนมีคนเข้าไปยุ่งกับน้องแล้ว และเหมือนกับว่าตัวน้องเองมีเอฟซีเกิดขึ้นอย่างลับๆ แต่ว่าเมื่อเช้าหนูลองไปส่องดูเขายอมใส่ชุดที่ครูจัดให้จริงๆ ด้วยค่ะ แถมยังใส่กางเกงในของผู้หญิงอีกด้วย”

“อืมม” เขาส่งเสียงด้วยความพึงพอใจ

“เอาจริงๆ นะ หนูว่าน้องชอบน่ะแหละ แต่ชีแกล้งแบบขัดขืนเล็กๆ น้อยๆ” น้ำฝนพูดพร้อมหัวเราะ

มิสเตอร์เค ถามคำถามต่อด้วยเสียงจริงจัง

“แล้วเด็กนั่นล่ะเป็นยังไง”

“คนนั้นเหรอ หน้าตาดีค่ะ”

“ไอ้ฝนน” คนขับรถใช้เสียงเข้ม ทำให้คนที่โดนดุถึงกับหัวเราะออกมา

“หยอกค่ะ เหมือนเขาจะเริ่มสนิทสนมกันแล้วค่ะ แต่อีตาผู้ชายนี่มีท่าทีแปลกๆ หนูว่าเขาเกลียดกะเทย ขนาดสวยอย่างหนูเข้าไปตีสนิท เขายังแสดงท่าทีอย่างชัดเจนเลยว่าไม่ชอบหนู”

“เข้าใจล่ะ”



“ว่าแต่คุณล่ะ เมื่อวานแอบทำร้ายตัวเองหรือเปล่า”

เมื่อถูกถามสนเกิดความรู้สึกเขินอายขึ้นทันที เพราะเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ควรเอามาถามกันเป็นเรื่องปกติ

“บ้าเหรอคุณ ใครเขาถามกัน”

“อื้ม ไม่บอกก็ไม่บอก แต่ผมว่าคุณจะต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผมแน่นอน” เขาพูดด้วยเสียงหนักแน่น ส่งความรู้สึกอุ่นวาบให้เกิดขึ้นในใจของสนอย่างทันที ความรู้สึกแปลกๆ ทำให้ใจของเขาเต้นรัวขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ

“อื้อ” เขาส่งเสียงผ่านลำคอเพื่อขจัดความรู้สึกไม่ชอบมาพากลนั้นทิ้งไป

“แล้วนี่เรากำลังจะไปที่ไหน”

“เป็นคำถามที่ดี ผมจะพาไปซื้อกางเกงในสองที่ ที่แรกคือตลาดนัด ที่ที่สองคือร้านในห้าง”

“ห๊า ตลาดนัด ไม่เอานะ” เขาร้องขึ้นอย่างตกใจ

“ผมขอร้องเถอะครับ ผมไม่ไหว ให้คนอื่นเห็นผมในสภาพนี้ไม่ได้แน่”

น้ำฝนเหมือนรู้คิวงานของตนเอง เธอพุ่งเข้ารวบตัวคนที่กำลังแตกตื่นอยู่ทันที เธอสอดมือเข้าไปกระตุ้นบริเวณหน้าอกของเขาอย่างชำนาญ ส่วนด้านล่างก็ปลดกระดุมกางเกงยีนอย่างรวดเร็วพอๆ กัน

“เธอ..ไม่นะ อย่า ไม่เล่น ไม่เอา” สนขัดขืนและดันตัวน้ำฝนออก

แต่น้ำฝนนั้นชำนาญและรู้จุดอ่อนของร่างกายของสนเป็นอย่างดีแล้ว เธอดึงกางเกงลงและจัดการจุดอ่อนด้วยปากทันที

“ไม่ๆ ๆ ๆ อย่าน้า โอวววว อืมมมมมมมม” เสียงร้องห้ามเปลี่ยนกลายเป็นอีกเสียงหนึ่ง ที่เหมือนยเจ็บปวดและมีความสุขพร้อมๆ กันผ่านลำคอออกมา ท่าทีที่แข็งขืนกลายเป็นสิ้นเรี่ยวแรง

“นิ่งฉะนิด” น้ำฝนพูดขึ้นขณะกินไอติมอยู่เต็มปาก

“ยิ่งคุณกลั้นความรู้สึกไว้มากเท่าไหร่ มันจะยิ่งปลุกง่ายขึ้นเท่านั้น แต่พูดไปตอนนี้ก็คงฟังไม่รู้เรื่องอยู่ดี อยู่กับน้ำฝนไปก่อนแล้วกันนะ”

“ไม่เอา ไม่ไปตลาดนัด นะ อืมมม”

สนนอนครางอย่างสิ้นเรี่ยวแรง แม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกอยากจะหนีไปจากตอนนี้เสียเดี๋ยวนี้ แต่ข้างล่างกลับโหยหาความรู้สึกที่มันเกิดขึ้น อยากให้มันเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่แม้แต่จะอยากบอกให้คนที่กำลงัทำอยู่หยุดลง ท่าทีที่ขัดขืนเปลี่ยนเป็นสยบยอม

ฝ่ายน้ำฝนไม่ได้ใช้ท่าทีที่เร่งเร้าแบบเมื่อวาน แต่เปลี่ยนไปใช้เป็นจังหวะเนิบนาบ เพราะเธอมีจุดประสงค์เพื่อทำให้คนที่โดนตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุขสม ส่งความเสียวซ่านเป็นระยะให้คนโดนคลั่งตายด้วยความสุข และเสียวซ่านจนแทบขาดใจ มากกว่าจะตั้งใจเร่งเร้าให้บรรลุความสุขสม

เธอเร่งจังหวะเป็นบางครั้งเมื่อสนมีทีท่าว่าจะตั้งตัวและเกร็งจนสามารถต้านทานความเสียวได้ เพื่อที่จะทำลายการขัดขืนเหล่านั้นไปให้สิ้น ซึ่งมันก็ได้ผลดี เพราะหลังจากที่เธอทำแบบนี้ไปราวๆ สี่ถึงห้าครั้ง เขาก็รู้ตัวและยอมศิโรราบ ให้เธอควบคุมและบงการความเสียวซ่านให้เป็นไปตามใจของเธอ น้ำฝนได้ที ก็เร่งแกล้งบ้างช้าบ้างเพื่อที่จะบ่งบอกถึงชัยชนะที่เธอมีต่อเขา



รถจอดเข้าช่องจอดรถ เขาดึงเบรกมือและหันไปบอกคนด้านหลังที่นอนหลับตาพริ้มครางออกมาอย่างเสียวซ่านถึงขีดสุด

“พอได้แล้วมาถึงแล้ว”

เขารอจนทั้งสองจัดการเสื้อผ้าให้เรียบร้อย และสติของสนก็เริ่มกลับมาเมื่อเขามองเห็นสภาพรอบๆ ความกลัว ความอาย และความตื่นเต้นก็กลับมาหาสนอีกครั้ง

“มะ ไม่เอาอ่ะ ไม่ลงไปได้ไหม” เขาเริ่มร้องขอ

“ถ้าไม่ซื้อกางเกงในคุณก็ไม่มีใส่ แล้วคิดดูว่าถ้าวันที่เหลืออยู่คุณไม่ได้ใส่กางเกงในแล้วอยู่ในชุดแบบอื่น ไอ้หนูที่ตั้งโด่มันก็จะอยู่อย่างอิสระ แบบนั้นเอาไหม”

สนนิ่งไปสักพัก และสูดหายใจเข้าไปลึกๆ

เมื่อเห็นอีกฝ่ายพร้อมแล้วเขาจึงออกคำสั่ง

“วันนี้คุณต้องเป็นกะเทยหัวโปก”

“อะไรนะ! ”

“ก็เล่นแบบที่เล่นให้เพื่อนคุณดูวันนั้นไง ก็จะไปซื้อกางเกงในผู้หญิงก็เล่นให้เนียน”

เขาพูดต่อ

“สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ ไปที่หน้าแผงขายกางเกงใน เลือกกางเกงใน เลือกมาสักสิบตัวที่คิดว่าใส่ได้ หรือจะถามจากคนขายก็ได้ โดยผมจะให้น้ำฝนไปเป็นเพื่อน”

“คำสั่งที่หนึ่ง คือ ในสิบตัวนั้น ให้เลือกมาสามตัว เอามาทาบบริเวณเป้าของคุณเอง แล้วถามน้ำฝนว่า ตัวนี้สวยไหมคะ ตัวนี้เหมาะกับเราไหม”

“มะ ไม่ไหว ผมทำไม่ได้”

“คำสั่งที่สอง ตัวที่เหลือ ให้เอามาทาบที่ตัวเอง แล้วถามคนขายว่าสวยไหมคะ”

“ไม่เอา”

“สามให้ทาบที่ตัวเอง แล้วถามลูกค้าคนข้างๆ ถ้าเขาไม่ตอบ ให้ถามคนใหม่ที่เข้ามา เมื่อทำภารกิจครบหมดแล้วถึงจะจ่ายเงินแล้วซื้อกลับมาที่รถได้ ส่วนยกทรงผมจะให้น้ำฝนเลือกให้ อย่าลืม ซื้อกางเกงแอโรบิคลายการ์ตูนของเด็กมาด้วยนะ จะได้ใส่ออกกำลังกาย” เขาไม่ได้สนใจคำทัดทานของสนแม้แต่น้อย

“เอาล่ะ ไปได้แล้ว” เขาหันมาสั่งอย่างเฉียบขาด”

น้ำฝนที่สวมชุดลำลองไว้ด้านนอก เปิดประตูออกไป

“มาได้แล้วค่ะ”



สนลงรถมาด้วยความไม่มั่นใจคูณสิบ เพราะคนที่เดินผ่านไปผ่านมาสังเกตเห็นแน่นอนว่าเขาใส่กางเกงในคุณป้าที่เนื้อหาและมีขอบลูกไม้ บรรยากาศตลาดสดร้อนอบอ้าว มีแผงของสดอยู่เรียงราย ซึ่งทุกคนก็จับจ่ายใช้สอยตามปกติ มีบ้างที่หันมองมาทางน้ำฝนและเขา แต่ด้วยความอายและไม่มั่นใจทำให้สนรู้สึกว่ามีคนหลายคนที่มองมาทางเขา ความร้อนผ่านบนใบหน้ากลับมาอีกครั้ง พร้อมๆ กับด้านล่างที่ตื่นขึ้น

เขากักเก็บความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้และออกเดิน น้ำฝนเดินเข้ามาจับมือเขาซึ่งนั่นยิ่งทำให้กลายเป็นจุดเด่นมากกว่าเดิม

ทั้งสองเดินหาแผงกางเกงในอยู่พักใหญ่ๆ มีหลายคนมองมาทางสน และเหมือนกับบางคนก็มีการซุบซิบให้เห็นด้วย ทั้งสองเจอสามถึงสี่แผน และน้ำฝนก็พาสนไปที่แผงที่ใหญ่ที่สุดในตลาดซึ่งคนขายเป็นผู้หญิงสองคน

แวบแรกทั้งคู่จ้องมาที่สน แต่ก็แค่แวบเดียว

สนสวมใจกล้า เข้าไปยังบริเวณกางเกงในที่วางเรียงรายเอาไว้มีทั้งของผู้ชายและของผู้หญิง เขามองไปที่กางเกงในของผู้หญิงไซซ์เอ็ม เพราะน่าจะใส่ได้พอดี มีทั้งแบบบิกินี่ แบบครึ่งก้น และแบบเต็มก้น สัมผัสที่อ่อนนุ่ม และสีสันสบายตาของกางเกงในเรียงรายเป็นทิวแถว

เขาเลือกกางเกงในแบบต่างได้จนครบสิบตัว เนื่อจากรู้ว่าหลังจากนี้เขาจะต้องโดนบังคับให้ใส่แน่ๆ เขาจึงเลือกตัวที่น่าจะใส่สบายที่สุด ซึ่งเมื่อถึงถึงว่าจะได้ใส่ขึ้นมา ข้างล่างก็แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง

และก็มาถึงส่วนที่ยากที่สุด สนเรื่มมือสั่นจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่ ความตื่นเต้นที่มีเป็นทุนเดิมเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง ใจเต้นแรงจนเขาเองได้ยินเสียงของหัวใจเต้น เขาหันซ้ายหันขวาจนคนขายทั้งสอง สังเกตเห็น

“ถามได้ค่า” หนึ่งในสองคนถามสน

สนมือสั่นเทาเขากลั่นใจหยิบกางเกงในหนึ่งในนับเข้ามาทาบกับตัวเองเอง

“สะ..สวยไหมคะ เหมาะกับเราหรือเปล่า” นอกจากน้ำเสียงที่สั่นเทาแล้ว เขาก็มีท่ทีที่แสดงความเขินออกมาอย่างที่สุด สนอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี

“น่ารักดีค่ะ” คนขายตอบกลับมาตามปกติ

“แต่ถ้าเราแนะนำนะ อย่างตัวต้องใส่ประมาณนี้” คนขายเดินออกมานอกแผงแล้วหยิบกางในอีกแบบหนึ่งที่เป็นผ้าเนื้อหนากว่าออกมาจากแถว

คนขายเอามาทางกับตัวสนเอง

“นี่ๆ เหมาะกว่าอีกน่ารักใส่สบายกว่าด้วยนะ”

“คะ..ค่ะ” สนตอบรับด้วยความเขินที่ยังคงมีอยู่ ด้านล่างของเขาแข็งตัวอย่างที่สุดด้วยความตื่นเต้น น้ำเหนียวๆ ค่อยๆ ไหลออกมาจนเขารู้สึก

“เอาไหมค่ะ” คนขายยังคงทาบอยู่ที่ตัว

“เอาค่ะ”

หลังจากผ่านความอายระลอกแรกไป สนก็เริ่มปรับตัวได้มากขึ้น แม้ว่าจะข้ามคำสั่งแรกไป แต่เขาก็กลับย้อนไปทำคำสั่งที่หนึ่งอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แม้ว่าจะตื่นเต้นและตื่นตัวอยู่บ้างแต่เขาก็ทำได้อย่างไม่ลำบากเท่าใดนัก

และเหมือนกับความรู้สึกที่มันจะเริ่มชาชิน กลับกระเตื้องขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อต้องทำตามคำสั่งที่สาม

สนต้องทำเป็นเลือกกางเกงในอีกพักใหญ่ ความขวยเขิน และความอายก็เพิ่มมากขึ้น เมื่อมีลูกค้าคนอื่นเข้ามาเลือกซื้อของ  เขาทำใจอยู่พักใหญ่ เพราะเขาทำแบบนี้มาหลายครั้งจนคนเริ่มจับสังเกตได้

“สวยไหมคะ” เขาหันไปถามลูกค้าคนข้างๆ และเป็นไปตามคาด สีหน้าของลูกค้าคนนี้มีความตกใจ และความรู้สึกเหมือนถูกคุกคาม เธอวางกางเกงในลงและหันหลังเดินออกจากร้านไป

“โรคจิต” สนเหมือนจะได้ยินเธอพึมพำก่อนออกจากร้าน

เขาหน้าชาและร้อนผ่าว รีบวางกางเกงในทั้งหมดให้คนขาย พร้อมกับจ่ายเงิน และเดินออกมาจากตลาดโดยไม่หันกลับไปมองใครอีก

ต่อไปคงมาที่ตลาดนี้ไม่ได้แล้ว เขาคิดในใจขณะที่เดินพ้นออกมาข้างนอก และเปิดประตูขึ้นรถ

“เป็นไงสนุกไหม” คนขับรถถามเมื่อสนขึ้นมานั่งหายใจบนรถ

“สนุกมากค่ะ แรดกว่าที่คิดนะเนี่ย” น้ำฝนรายงาน

“เอาล่ะได้เวลาไปที่ต่อไป” เขาสตาร์ทรถยนต์ และขับออกจากตลาดสด

“ผมอยากเห็นว่าเวลาคุณใส่กางเกงในแล้วไปยังไง เดี๋ยวไปลองใส่ให้ผมดูหน่อยนะ! ขอหาร้านที่มีห้องลองเสื้อผ้าหน่อย”
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 18 เกม 7 วัน อันตราย (4)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 03-04-2019 23:10:21
 :3123:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 18 เกม 7 วัน อันตราย (4)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 05-04-2019 00:45:35
ตอนที่ 19 โดนแป้งอีกครั้ง

วันนี้จะเป็นวันแรกที่จะเริ่มเรียนปรับพื้นฐาน แต่ตอนเช้านั้น ก่อนที่จะไปเรียน เหล่าเด็กใหม่ก็จำเป็นที่จะออกกำลังกายในตอนเช้าอยู่ดี ต่อและกริชออกไปก่อนแล้ว เหลือแต่ต้นที่ยังชั่งใจว่าตัวเองจะเอายังไงดี

ชุดทั้งหมดที่มีเขาตัดสินเอาเอาไปส่งร้านซักรีดทั้งหมดเมื่อวาน นั่นหมายความว่าชุดที่เขามีทั้งหมดในตอนนี้คือชุดนอน และชุดออกกำลังกายสุดหวานแหวว เขาจึงต้องชั่งใจว่าจะใส่ชุดนอนหรือชุดของผู้หญิง เขาดมชุดนอนดู

“อี๋ เหม็น”

เขาจึงถอดชุดออกและเปลี่ยนเสื้อออกเป็นเสื้อรัดรูปเอวสูง หลังจากนั้นก็มาถึงการตัดสินใจครั้งใหญ่ เพราะด้านล่างมีทั้งกางเกงออกกำลังกาย และกางเกงใน เขาต้องรีบตัดสินใจแล้ว เพราะข้างล่างเป่านกหวีดเรียกเป็นครั้งสุดท้าย

ต้นเดินออกจากห้องมาด้วยความไม่มั่นใจสุดขีด เขาเลือกใส่กางเกงในผู้หญิงจนได้ แต่ด้วยเหตุผลอะไรเขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน เพราะมันสบาย มันนิ่มกว่า หรือแท้จริงแล้วต้นอาจอยากได้ความตื่นเต้น เขาก็ไม่เข้าใจตัวเอง แต่ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ทำให้เป้าของเขาตุงออกมาจนเห็นได้ชัด

กิจกรรมยังคงดำเนินไปเช่นเดียวกับทุกวัน เพียงแต่ที่แปลกไปเล็กน้อยคงจะเป็นชุดของต้น เขาสัมผัสได้ว่ามีคนไม่น้อยที่มองมาทางเขา แต่ก็แค่ช่วงแรกเท่านั้น เพราะเมื่อเข้ากิจกรรมจริงๆ ก็ไม่ได้มีใครสนใจเขาอีก จนถึงเวลาที่จะต้องออกไปนำออกกำลังกาย

“วันนี้นำพร้อมกันทั้งห้าคนเลยแล้วกันเนาะ” เพื่อนหนึ่งในอาสาสมัครเสนอขึ้น

วิวเปลี่ยนไปจากเดิม ต้นเขินจนหน้าแดงเพราะต้องเปลี่ยนมายืนเผชิญหน้ากับฝูงชนแทน แต่เขาก็สวมความกล้านำออกกำลังกายพร้อมเพื่อน จนสำเร็จลุล่วงไปได้ แม้จะอายและข้างล่างนั้นก็แข็งขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

การแต่งแบบนี้ก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทีเดียว แถมยังกระชับและสบายด้วย คามคิดนี้แวบเข้ามาในหัวต้นจนเขาตกใจในตัวเอง

ต้นมองเห็น พี่คนเมื่อวานยืนดูอยู่ห่างๆ เขาเหมือนทำสัญลักษณ์มือบางอย่างมาให้ต้น แต่เขาไม่เข้าใจ

เมื่อจบการออกกำลังกายในช่วงเช้า เขาจึงแยกตัวออกมาแล้วไปหาพี่โจที่ยืนรออยู่ด้วยความสงสัย

ความรู้สึกแย่เมื่อวางยังคงหลงเหลือในใจต้นแม้ว่าจะเหลือน้องลงแล้ว แต่เขาก็ยังเกรงๆ คนที่กำลังพูดด้วยไม่น้อย

“พี่มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“พี่คิดถึงน้องต้นน่ะเลยมาหา” เขาพูดออกมาทำต้นรู้สึกแปลกๆ

“ขอบคุณครับพี่ งั้นผมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะครับ”

“ไม่กินข้าวเช้าเหรอ” เขารั้งตัวต้นไว้

“กินครับแต่ผมอยากไปอาบน้ำก่อน” ต้นตอบปฏิเสธเตรียมชิ่งหนี

“ว้า เสียดายจังเลย พี่อยากจะชวนน้องต้นไปกินข้าวกับพี่หน่อย ไปกินข้าวเช้ากับพี่ก่อนได้ไหมล่ะครับ” เขาเบียดเข้าประชิดตัว พร้อมทำจมูกฟุดฟิดใกล้ๆ หน้าต้น

“เอ่อ...”

“ก็ได้ครับ”

ชายตัวสูงเปิดบางอย่างในโทรศัพท์ให้ต้นดู ซึ่งทำให้เขาหน้าแดงขึ้นมาด้วยความอาย เพราะเป็นวิดีโอของต้นที่หน้าขาวโพลน และกำลังเต้นเพลงไก่ย่างอยู่นั่นเอง

“พี่ไปได้มาจากไหนเนี่ย” ต้นทั้งอายและหวั่นใจขึ้นพร้อมๆ กัน

“พี่ก็ยืนถ่ายตรงนั้นไง มีคนถ่ายหลายคนเลย”

“โอ้ย อายจังพี่ลบได้ไหมครับ”

“ถ้าน้องต้นต้องการแบบนั้นพี่ก็จะลบออกนะครับ น้องต้นจะได้สบายใจโอเคไหม” เขากดลบให้ต้นเห็น แต่ก่อนที่จะลบมันออกไปจากเครื่อง เขาก็เสนอเงื่อนไขที่ยากลำบากให้กับต้น

“พี่จะบอกให้เพื่อนพี่ทุกคนลบออกให้ด้วย แต่พี่ขอน้องต้นอย่างหนึ่งได้ไหม”

“ขออะไรครับ”

“ในเมื่อพี่ลบคลิปเดิมไปแล้ว พี่ก็อยากจะได้คลิปใหม่ตอบแทน น้องต้นจะให้พี่ถ่ายคลิปพี่แกล้งน้องต้นใหม่ได้ไหม” เขาพูดพร้อมยิ้มและเดินเข้ามาใกล้

“มะ..ไม่ดีมั้งครับพี่โจ ผมไม่ค่อยโอเค” ตันตัดสินใจไม่ต่อรองต่อ เพราะคิดว่าของมันเกิดไปแล้วคงไม่เป็นไรแต่ว่าช้าเกินไป

“แต่ว่าช้าไปหน่อยนะ พี่ลบไปแล้ว” เขาโชว์โทรศัพท์ที่ลบคลิปไปแล้วให้ต้นดู

“มะไม่เอานะครับ ไม่เอานะพี่”

อีกฝ่ายเอื้อมมาดึงแขนต้นและออกแรงให้ดึงตาม

“มาๆ เพื่อนพี่รออยู่”

ต้นถูกลากมายังข้างๆ โรงยิม ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงอาหารเท่าใดนัก ยามเช้าตอนโรงเรียนยังไม่เปิดเรียนมีผู้คนค่อนข้างบางตา ที่บริเวณนั้นต้นเห็นคนกลุ่มเดิม แต่เพิ่มจำนวนมาอีกหนึ่งคน ซึ่งคนนี้ตัวใหญ่ๆ พอๆ กับคนชื่อโจ แต่กล้ามใหญ่และหน้าตาดูดุร้ายกว่ามาก

“สวัสดีครับน้องต้น นึกว่าจะไม่ยอมมาเสียแล้ว”

“น้องเขาตกลงให้พวกเราถ่ายใหม่แล้วว่ะ” โจพูดในสิ่งซึ่งทำให้ต้นตกใจไม่ได้

“ผมยังไม่ได้ตกลงนะครับพี่ โอ๊ย” ต้นพูดไม่จบประโยคเพราะโดนมือที่บีบแขนออกแรงบีบแรงขึ้นจนปวดหนึบ

“เราตกลงกันแล้วนี่ ใช่ไหมน้องต้น” เขาพูดพร้อมส่งแรงบีบแขนเพิ่มทีละน้อยเพื่อบีบให้ต้นไม่มีทางเลือก

“คะ..ครับพี่” ต้นตอบอย่างไม่มีทางเลือก



ทั้งห้าคนเคลียร์พื้นที่รอบๆ และมีหนึ่งคนที่ยืนถ่านคลิปต้น

“ต้องบอกน้องต้นก่อนว่า พี่วินเพิ่งเห็นคลิปของน้องต้นเมื่อวาน เขาแทบคลั่งที่ไม่ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง เห็นอีกทีน้องต้นก็โดนไปแป้งไปแล้ว เขาอยากเห็นตอนนั้นน่ะ น้องต้นช่วยพี่เขาหน่อยนะ”

คนกล้ามโตที่ชื่อวิน ยืนรอฟังคำตอบจากต้น แต่ด้วยท่าทีที่ไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นัก

“ได้ครับ” ต้นตอบอย่างมีทางเลือก และเหมือนมันจะสร้างความพอใจให้คนชื่อวินเล็กน้อย



ต้นไม่ค่อยเข้าใจสถานการณ์เท่าไหร่ คนเหล่านี้ตื่นมารอเขาตอนเช้าเพื่อที่จะดูเขาเลอะเทอะไปด้วยแป้ง แบบนั้นเหรอ แต่การทำตามสิ่งที่คนเหล่านี้ต้องการอาจดีกว่าการโดนทำร้ายร่างกายก็เป็นได้ เพราะเขาคงสู้แรงใครไม่ได้

ต้นมองเห็นแป้งที่ยังไม่ได้แกะออกมาจากแพ็คซึ่งเหมือนกับที่ต้นโดนในวันแรก การได้มาของแป้งแพ็คนี้ ต้นยังสงสัยว่าเขาได้มาจากการซื้อมาเอง หรือแอบเอาของโรงเรียนมาใช้ แต่นั่นก็ไม่สำคัญ เพราะพี่ๆ เหล่านั้น แกะแป้งออกมาแล้ว

“เอ้าให้น้องทาแป้งตัวเองก่อนนะ แล้วเดี๋ยวพวกเราค่อยทาให้ วินจะเอาด้วยป่ะ” โจถามเพื่อนของเขาซึ่งเพื่อนของเขาก็พยักหน้ารับ

“กล้องพร้อมนะ” โจหันไปถามเพื่อนคนที่ถือกล้องถ่าย

“พร้อมแล้ว”

“น้องต้นพร้อมหรือยัง”

ต้นที่อยู่ในสภาพใส่ชุดออกกำลังกายของผู้หญิง และมือสองข้างรองแป้งขึ้นมาจนพูนมือตื่นเต้นและกดดันจนมือสองข้างสั่นเทา รวมไปถึงปากก็สั่นจนควบคุมคำพูดแทบไม่ได้

“พะ พะ พร้อมแล้วครับ”

“เอ้า แนะนำตัวกับกล้องด้วย ตามที่คุยกันไว้เมื่อกี้”

ต้นหันไปมองกล้องแล้วฝืนยิ้ม

“ผะ..ผมชื่อติณวัฒน์ครับ วันนี้ผมจะมาโชว์การบึ้มแป้ง”

“สาม สอง..” ต้นสูดหายใจเข้าลึกและหลับตา “หนึ่ง”

ต้นดันแป้งที่ฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าอย่างแรง เสียงดังฟึ่ม แป้งร่วงกราวลงมาตามตัวของต้น จนขาวโพลนไปทั้งหน้าและชุดด้านหน้า สร้างความสะใจและขบขันให้กับเหล่ารุ่นพี่

“เอ้า ไปทาแป้งให้น้องกัน”

มือนับสิบข้าง บางมือมีแป้งบ้างไม่มีแป้งบ้าง พุ่งเข้าลูบปะ ตบเข้าตามจุดต่างๆ บนตัวของต้น ฝุ่นแป้งฟุ้งหอมไปทั่วบริเวณ ส่วนต้อนแทบจะสำลักตายเพราะแป้งที่ฟุ้งขึ้นมา

ต้นรู้สึกตัวหนักอึ้งเมื่อการลูบไล้ร่างกายหยุดลง เขามองเห็นตัวเองขาวไปทุกสัดส่วน

“เรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” ต้นหันไปพูดและยิ้มกับพี่ เขาต้องรีบชิ่งไปอาบน้ำก่อนแล้ว

ต้นเตรียมจะหมุนตัวเดินออกมา แต่มีมือหนึ่งรั้งตัวเขาเอาไว้

“เดี๋ยวก่อนน้อง ยังทาไม่ทั่วเลย”

ต้นหันไปยิ้มให้พี่พลางคิดในใจว่าซวยแล้ว ขอให้เป็นอย่างที่คิดเลย



“ใส่กางเกงในผู้หญิงอีกแล้ววันนี้” โจพูดขณะที่เพื่อจับต้นยืนและขึงเอาไว้ทั้งแขนและขา ต้นที่โดนถลกกางเกงออกมา โชว์ก้อนเนื้อที่เริ่มตื่นตัวขึ้นมาบ้างแล้วเด่นหรา กับทุกคน เขาหลับตาด้วยความอับอายที่สุดในชีวิต เพราะไม่มีใครเคยเห็นมันมาก่อน

โจเอานิ้วมาจิ้มๆ และเขี่ยวนบริเวณหัว ซึ่งทำให้ต้นรู้สึกตรงนั้นไม่น้อย นิ้วที่ขยับรัวๆ ส่งผลให้ต้นร้องซี้ดออกมา

คนที่ชื่อวินคว้าไปที่บริเวณด้านหลังบริเวณที่เป็นถุงเนื้อและลองบีบดู

“โอ้ววว อูววว” ความจุกเกิดขึ้นจนต้องร้องออกมา

ทั้งคู่ผลัดกันจับ เขี่ย และขยับเล่น และสิ่งที่ทำให้ต้นรู้สึกแปลกๆ ก็เกิดขึ้น โจเปิดบริเวณที่มีการห่อหุ้มออก เปิดเผยเนื้อสีชมพูเรียบสวยออกมาโชว์หราต่อหน้าทุกคน ต้นอายจนอยากจะเบือกหน้าที่ และพฤติกรรมสุดแปลกประหลาดก็ตามมา โจบีบแป้งใส่มือขวาจนเต็มมือ ต้นรู้ชะตากรรมในทันที

“อย่านะพี่ โอ้วววว โหวววว อืมมมมมมม” มือที่แป้งพูนโปะลงไปบนเนื้ออ่อนนุ่มและขยำคลึงลงไปสร้างความแห้งเหือดให้เกิดกับเนื้อบริเวณตรงนั้น ความกระดากแห้ง เสียดเสียวและยากจะบรรยายเกิดขึ้นกัยต้นทันที จนถึงกับร้องไม่เป็นภาษา

“ไม่นะพี่ ไม่เอาแล้ว อ้า อึ๊ยยยยยยยย” โจทำแบบนั้นอีกรอบจนแท่งเนื้อขาวโพลนจนมองแทบไม่เห็น

“อ๊างง อืมมมม “ต้นร้องเพราะความเสียวจี๊ดที่มาเป็นระยะ

โจม้วนติ่งเนื้อกลับเข้าไปกางเกงในโดยไม่เก็บให้เรียบร้อยเหมือนเดิม แล้วเขาก็เอาแป้งในกระป๋องเทเข้าไปในกางเกงใน

ต้นไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้าแบบไหนในตอนนั้น แม้ว่าเขามาได้เห็นในภายหลังว่ารูปที่ถูกถ่ายในตอนนี้ เขายังยิ้ม ทำปากเหยเก และทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน

แป้ง ทั้งหมดถูกบรรจุเข้าไปในกางเกงของต้นจนหมด บริเวณกางเกงตรงกลางระหว่างขานูนขึ้นเป็นก้อนจากแป้งปริมาณมหาศาลที่อัดลงไปตรงนั้น

ต้นยืนอย่างยากลำบาก เพราะทุกครั้งที่เขาเกร็งตัวจากความเสียวที่เกิดขึ้นก็จะทำให้แท่งเนื้อกระตุก และเนื้ออ่อนที่โดนเปิดออกมาก็จะเสียดสีและแหวกว่ายไปในทะเลแป้งในกางเกงยิ่งจะทำให้ความรู้สึกมันมากขึ้นจนเกิดกว่าจะบรรยาย เดินได้สองก้าวต้นก็ขาสั่นจนแทบจะล้มพับลงไป

“ฮ้า อืออ” ต้นยังพูดออกมาไม่ได้ ทั้งหมดมองดูต้นที่พยายามจะเดิน ด้วยความสุขสมและสาแก่ใจ

คนชื่อวินเดินเข้ามาจับมือต้นแล้วเตรียมตัวจะออกแรงลาก

คนชื่อโจออกเดินนำ

“ป่ะ ไปกินข้าวกัน น้องต้นจะเลี้ยงข้าวพวกพี่ใช่ไหมครับ”

ต้นจะตอบปฏิเสธเพราะเงินเขามีจำกัด แล้วรุ่นพี่พวกนี้กำลังจะรีดไถเขาชัด

“มะ...ไม่เอานะ...โอ้วววว....ยอมแล้ว ผมยอมแล้วววววโห้วววววววว” ต้องร้องออกมาอีกครั้งเพราะคนชื่อวินเปลี่ยนจากจับมือมาเป็นจับเอวต้นร่อนแทน ทั้งร่อนซ้ายร่อนขวา หรือจับโยกเป็นท่ากระเด้าลม

“พอเถอะครับ พอก่อนนน อ๊ากกก”

ก้นต้องต้นยังถูกจับส่ายไปพักใหญ่เพื่อเป็นการตอกย้ำว่าห้ามดื้อ

ต้นหอบหายใจเมื่อทุกอย่างหยุดลง

“ก่อนจะไปกินข้าว เต้นไก่แบบเมื่อวานให้พี่ดูหน่อยสิน้องต้น”

“ดะได้ครับพี่ ได้ครับ” ต้นรีบตอบเพราะมือที่จับเอวเตรียมจะขยับอีกครั้ง

ต้นเริ่มตั้งท่าจะเต้นด้วยความยากลำบาก เพราะเมื่อครู่ต้นก็รู้สึกหน่วงๆ และปวดฉี่ขึ้นมาตุ๊บๆ

เขาถูกสั่งให้ร้องเพลงเองด้วย

เขาร้องเพลงไก่ย่างและเต้นไปตามสเตปเป็นภาพที่น่าอาย และต้นก็อายจนหายใจแรง พร้อมๆ กับความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นด้านล่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่ง

“เสียบตูด ขวา อ๊าววว” ต้นร้องอ๊าวเพราะรู้สึกเสียวจิ๊ดขึ้นมา

“ร้อนจริงๆ ร้อนจริงๆ ร้อนจริง จริ๊งงงง ฮั๊ก” ต้นตัวกระตุกและทรุดลงกับพื้น เพราะอยู่ดีๆ ความทะลักทลายก็เกิดขึ้น ขาทั้งสองของต้นเกร็ง ตัวเขากระตุกเกร็งไปพร้อมๆ กัน ภายในหัวของต้นขาวโพลนไปหมด

“แค่ให้เต้น ถึงขนาดเสร็จเลยเหรอน้องต้น น้องนี่ลามกจริงๆ”

โจเข้ามาประคองต้น เพื่อที่จะพาไปโรงอาหาร โดยมุดประสงค์คือพาต้นไปโชว์ตัวมากกว่าที่จะพาไปกินข้าว ร่างที่กระตุกถูกพาเดินไปอย่างว่าง่าย และความเสียวด้านล่างก็ทำให้ต้นน้อยตื่นขึ้นอีกครั้ง ต้อนร้องซี้ดซ๊าด ไปตลอดทาง
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 19 โดนแป้งอีกครั้ง
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 05-04-2019 12:27:15
ตอนที่ 20 องครักษ์ของต้น

“อือ อง๊างง อืมมม” ต้นร้องไม่เป็นภาษาระหว่างถูกฉุดกระชากไปโรงอาหาร เขาเดินหนีบขาแน่น แต่นั่นไม่ช่วยอะไรเพราะแทนที่มันจะดีขึ้นมันกลับเสียวมากขึ้นเพราะเหมือนกับเอาขาไปเบียดให้มันเสียดสีกัน

“ไม่เอา ไม่ไป ฮือออ” ต้นพยายามจะดึงมือกลับและฝืนตัวเอาไว้ เขาจะไม่ยอมไปกินข้าวทั้งสภาพนี้แน่

คนชื่อวินสอดมือผ่านระหว่างขาจากด้านหลัง และคว้าเข้าไปตรงเป้ากางเกง ต้นสะดุ้งเฮือก ตัวลอยทันที

“ไม่นะ”

“อ๊ากกกก ซี้ดดด” มือนั้นออกแรงทั้งบีบ และบดคลึง ส่งผลให้สิ่งที่อยู่ด้านในถูกบดเบียดเสียดสี

ต้นเสียวจนต้องเอามือทั้งสองข้างกุมหัว เขาครางจนน้ำลายไหลออกจากปาก ร้องอย่างไม่เป็นภาษา

“ไม่เอา อย่านะครับ”

“ไม่เอา โอ้ยยย จะเสร็จแล้ว จะเสร็จแล้วววววว”

“อย่า อ่ะ อา ฮีกกก” ต้นตัวกระตุกอีกครั้ง และถูกจูงมือไปโรงอาหารอย่างง่ายดาย

ทั้งห้าเดินมาจนถึงโรงอาหาร ต้นถูกจูงแขนมาอย่างว่าง่าย เพราะทั้งเหนื่อยและอ่อนเพลียจากการเสียน้ำสองรอบ เขาเห็นหลายๆ คนที่โรงอาหารมองมาทางเขา ต้นทั้งเสียวและอับอายเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกับเขา เพราะไร้แรงที่จะต้านทาน ยิ่งเสียวมากเท่าไหร่ ยิ่งอายมากเท่าไหร่ เหมือนกับความสุขและสาแก่ใจมันก็เกิดขึ้นมากเช่นเดียวกัน

ทั้งหมดมานั่งอยู่ตรงกลางโรงอาหาร โดยที่ต้นโดนนั่งขนาบข้างโดย วินและโจ

“ไปๆ ซื้อข้าวมา ไหนน้องต้นเอากระเป๋าเงินออกมาหน่อยสิ”

“โอ้ววว ดะ ได้ครับ”

มือของวินเข้ามาขยำขยี้ตรงเป้ากางเกงอีกครั้ง เป็นการบีบบังคับไปในตัว เขาต้องรีบเอากระเป๋าขึ้นมาส่งให้ด้วยมือที่สั่นเทา

“โอโห มีอยู่สามร้อย น่าจะได้คนละสองอย่างพอดี”

“ขอบคุณน้องต้องมากนะครับ”

ต้นจะร้องห้ามเพราะเงินนั้น เขายังต้องใช้ไปอีกสามวัน แต่มือด้านล่างก็ขยับขึ้นมาอีกครั้ง

“มะไม่เป็นไรครับ ซี้ดดด” ต้นหน้าเหยเก เพราะมือด้านล่างมันกลับไม่หยุดเคล้นคลึง ส่งความรู้สึกให้ต้นอย่างต่อเนื่อง

“พะ พอ ก่อนได้ไหมพี่ ผมจะ อึ๊ยยยย”

มือเร่งและแรงขึ้น

“พี่จะทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ ต้นห้ามพูด” คนชื่อวินกระซิบพร้อมทำต่อโดยไม่สนว่าต้นจะทำหน้าแบบไหน

“เอาไปซื้อข้าวมาได้แล้ว”

“แต่ว่าพี่ ผมจะไม่มีเงินใช้แล้วนะ อึ้ยยยย”

“ผมจะไม่มีเงิน อึ๊กกก”

ต้นพูดได้ไม่จบประโยค มือที่ขยำขยี้อย่างมันมือ กลับมีมือมาเพิ่มอีกหนึ่งมือ เขาพยายามที่จะส่งเสียงให้เบามากที่สุด เพราะมีหลายคนที่เริ่มจะสังเกตความผิดปกติของต้นได้บ้าง ทั้งชุดผู้หญิง แป้งเต็มทั้งตัว เสียงแปลกๆ และการบิดไปบิดมาของต้น

“ก็น้องต้นให้พี่แล้วนี่ใช่ไหม เงินของน้องต้นก็เหมือนเงินของพี่”

“ตรงนี้ของน้องต้น ก็เป็นของพี่”

ทั้งสองบรรเลงการขยับมือทั้งสองกับไส้กรอกชุบแป้งทอดของต้นอย่างไม่ยั้ง ต้นเอามือสองข้างขึ้นมาปิดปาก เพื่อไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมา และมองคนที่เหลือเอาเงินของเขาไปซื้อข้าว เขาอยากจะร้องห้ามใจแทบขาด แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้ เพราะข้างล่างความเสียวซ่านก็แทบจะทำให้สติของเขาขาดผึ่ง

“ไม่ๆ ไม่นะ” อาการเสียดเกร็งมาถึงต้นอีกครั้ง ซึ่งเป็นครั้งที่สามแล้ว ต้นกำลังจะเสร็จต่อหน้าคนหลายๆ คนในโรงอาหารตอนเช้า

ทั้งสองคนไม่ปราณีปราศรัยอีกต่อไป เร่งมือจนตัวต้นสั่นไหวไปตามการขยับของมือ

“ไม่นะพี่อย่านะครับ ผมไม่ไหวแล้ว อึ๊กกกกกก”

ต้นตัวกระตุกไม่หยุดอย่างรุนแรง ความอับอายและความเสียวมาจนถึงขีดสุด มันถูกส่งผ่านออกไปจากด้านล่าง หัวเขาขาวโพลน และพับลงไปกับโจที่นั่งอยู่ด้านข้าง และน้ำตาต้นเริ่มไหลออกมา

เสียงสะอื้นดังขึ้นเบาๆ จากการโดนกดดันและอับอายจนถึงขีดสุดที่จะรับไหว

“ฮึก ฮือ” น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากตาทั้งสองข้างของต้น

ทั้งสองปล่อยให้ต้นร้องไห้ออกมาเบา โดยที่มือก็ยังไม่หยุดให้ความเสียวแก่ด้านล่างของต้นไปด้วยเรื่อยๆ ราวกับว่าต้องการจะฝังความรู้สึกแบบนี้ให้กับต้นไปจนกว่าเขาจะชาชินไปกับมัน และโหยหามันอีกในอนาคต



มีนักเรียนสองคนเดินมานั่งตรงข้ามกับคนทั้งสาม ต้นที่ตาพร่ามัวจากน้ำตา มองไม่ชัดว่าเป็นใคร แวบแรกเขาคิดว่าเป็นคนที่แยกย้ายไปซื้อข้าว แต่แล้วเขาก็พบว่าไม่ใช่

“เหมือนเพื่อนของผมจะไม่ค่อยสบายนะครับพี่” เสียงนุ่มและทุ้มต่ำ เสียงของเก่งนั่นเอง

“ใช่ครับรุ่นพี่ แม้ว่าพี่ต้นจะน่ารักตอนโดนทาแป้ง แต่การทาแป้งเยอะขนาดนี้ ผมว่าพี่ต้นคงไม่ทำเองแน่ๆ” เสียงของเอกก็มาเช่นกัน

“ยังไงเดี๋ยวผมจะพาเพื่อนผมไปห้องพยาบาลเองนะครับ”

ทั้งคู่ลุกขึ้นมา และพยายามจะเข้ามาแกะตัวต้นออก

“เฮ้ยเดี๋ยวน้องต้นพี่ดูแลได้ ให้น้องได้กินข้าวก่อน เดี๋ยวพี่จัดการเองพวกแกไม่ต้องยุ่ง”

มือด้านล่างพยายามจะบีบบังคับต้นอีกครั้ง

“ใช่ไหมน้องต้น” เขาขยับมือเร็วขึ้น

แต่ไม่ไวเท่าเก่ง เขาดึงแขนทั้งสองคนออกจากตัวต้น สอดแขนทั้งสองข้างโอบรอบตัวของต้น และดึงรวบออกมาจากเก้าอี้โรงอาหาร แต่ต้นอ่อนแรงจนยืนแทบไม่อยู่ เก่งจึงเข้ามาโอบเอวประคองเอาไว้

“เดี๋ยวพากลับห้องนะต้น”

“อืม” ต้นพูดอย่างอ่อนแรง แต่ไม่เท่านั้น ตอนนี้เขาขยับตัวลำบาก เพราะแป้งที่อัดอยู่ช่วงล่างทำให่เขารู้สึกเสียวแปร๊บขึ้นมา

“แต่กระเป๋าตังเราอยู่ที่พี่” ต้นกัดฟันข่มความรู้สึก พูดออกมา

เอก หันไปประจันหน้ากับคนทั้งสอง ความเร่าร้อนของวัยหนุ่มทะลักออกมาจากตัวของเอก

“ทำแบบนี้ไม่ดีมั้งพี่ รีดไถเงินน้องเหรอ เรื่องนี้ครูต้องรู้แล้วล่ะ”

“ไอ้สองคนนี้ขี้เสือกจัง เราไปคุยกันที่อื่น ตามมานี่” ทั้งคู่ลุกขึ้น และเอกก็เดินตามสองคนนั้นไป

“ต้นรอเราตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวไอ้เอกจะตายเอา” เก่งให้ต้นนั่งรอบนเก้าอี้ แต่ตอนที่นั่งนั้น ความรู้สึกของสิ่งที่ถูกกดทับมันดันสวนขึ้นไปโดนส่วนที่อ่อนนุ่มทำให้ต้นสะดุ้งเฮือกขึ้นมา

“อ๊ะ”

“เป็นอะไรต้น” เก่งถาม

“มะ มะ ไม่มีอะไรเก่งรีบไปเถอะ” ต้นรีบแก้ตัวเพราะบอกไม่ได้





เก่งเดินตามมาที่ด้านหลังห้องน้ำ บริเวณนี้ไม่มีคน เขาเห็นน้องเอกกำลังเผชิญหน้ากับสองคนนั้นอยู่ ทั้งสามกำลังจดๆ จ้อง พร้อมที่จะพุ่งเข้าใส่กันทุกเมื่อ

เก่งแทรกตัวเข้าไป ร่างสูงและหนาพอประมาณ เขามาปรากฏตัวโดยที่สามคนนั้นไม่รู้สึกตัว เอกถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นรุ่นพี่โผล่เข้ามา

“ผมเห็นทุกอย่างว่ารุ่นพี่ทำอะไรบ้าง ผมไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ และผมจะไม่ฟ้องครูด้วย” เก่งพูด

เก่งย่อตัวโดยที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัว กำปั้นที่ถูกดึงขึ้นมาจากด้านล่างเต็มกำลังแขน ถูกส่งตรงเข้ายังปลายคางของคนที่ตัวหนากว่าทันที คนกล้ามโตล้มทั้งยืน

ผ๊วะ!

ตึง!!

คนร่างใหญ่ร่วงลงเข่ากระแทกพื้น และหมดสติไปในทันที

“ดะเดี๋ยวน้อง เราคุยกันได้” เมื่อเห็นว่าน้องเป็นมวย โจ จึงเปลี่ยนท่าที เพราะคนที่ตัวโตกว่าอย่างเพื่อเขายังกินแค่หมัดเดียวนอน

เก่งลดการตั้งแขนลงทันที

“เชรดด โหดสาดเลยพี่เก่ง เก่งสมชื่อจริงๆ” เอกตบมือแปะๆ

“เลิกยุ่งกับเพื่อนผม และวคืนเงินเพื่อนผมซะ” เก่งพูด และหันหลังเดินออกมา โดยมีเอกเดินตามมาด้วย



“เจ็บมือชะมัด” เก่งเดินลูบกำปั้นไปด้วย

“โอโห เป็นนักมวยด้วยเหรอพี่ โหดเกิ๊น”

“นิดหน่อยน่ะ รีบไปหาต้นก่อนละกัน”



ต้นยังนั่งอยู่ที่เดิม เขาเริ่มอายอีกครั้ง เพราะคนที่มากินข้าวเริ่มหนาตามากขึ้น หลายๆ คนมองมาทางเขาเหมือนเป็นตัวประหลาด ซึ่งมันก็ไม่ได้แย่มาก เพราะมันทำให้ต้นแข็งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เป็นยังไงบ้างต้น” เก่งถามขึ้น เมื่อเดินมาถึง

“ไม่เป็นอะไรแล้วเก่ง เอก ขอบคุณนะ”

“นี่ๆ เงินพี่ต้น รุ่นพี่พวกนั้นคืนมาหมดแล้ว ครบทุกบาท” เอกส่งกระเป๋าให้ต้น

เมื่อเห็นกระเป๋ากับเงินของตัวเองกลับมาต้นมีน้ำตารื้นเล็กน้อย

“ขอบคุณทั้งสองคนมากนะ” ต้นพูดไปพร้อมๆ กับเสียงที่เหมือนกับตัวเองจะร้องไห้

“ไม่เป็นไรหรอกต้น เพื่อนกัน”

เอกเข้ามานั่งข้างต้น

“เราไม่ชอบให้ใครมารังแกใคร เพราะงั้นเรื่องแบบนี้เลยยอมไม่ค่อยได้น่ะ ยิ่งเห็นมีคนมาแกล้งต้นยิ่งทนไม่ได้”

ต้นหันไปมองเก่งที่ทำแววตาและหน้าจริงจัง

“ต่อไปเราจะปกป้องต้นเอง ไม่ให้ใครมารังแกต้น”

“หา” ต้นร้องออกมาอย่างแปลกใจ

“หา” อีกเสียงออกจากปากเอก

“เราจะปกป้องต้นเอง” เขาจับมือต้นไว้หนึ่งข้าง

“ขะ ขอบคุณนะเก่ง” ต้นหันไปขอบคุณแต่ภายในใจนั้นยุ่งเหยิงเสียเหลือเกิน ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 20 องครักษ์ของต้น
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 09-04-2019 18:10:01
ตอนที่ 21 ความรู้สึกที่ยากจะปฏิเสธ

สนกำลังนั่งดูวิดีโอการเปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพของน้ำฝน ซึ่งตอนนี้ดำเนินมาได้เกือบครึ่งทาง โดยมีน้ำฝนที่อยู่ในชุดกระต่ายคอยบรรยายเพิ่มเติม ซึ่งดูเธอจะอับอายไม่น้อยที่ต้องมาบรรยายเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเองไปพร้อมๆ กับวิดีโอสุดน่าอับอายแบบนี้

“วันนี้เป็นวันแรกที่หนูยอมรับที่จะกลายมาเป็นของเล่นส่วนตัวของครูเคค่ะ เลยโดนพาไปฉีดฮอร์โมนเพศหญิง” เธอพูดด้วยหน้าแดงระเรื่อ

“ซี้ดด” สนร้องออกมาเพราะมือด้านล่างเข้ามาเล่นตรงจุดที่อ่อนไหวด้วยความแรงที่พอเหมาะ

“ถ้าคุณแพ้ผมคุณก็ต้องโดนแบบนั้นเหมือนกันนั่นแหละ”

สนที่อยู่ภายใต้ชุดนอนไม่ได้นอนสุดเซกซี่ กำลังนั่งกางขาโดยมีมิสเตอร์เคนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง และเล่นอวัยวะกลางขาของเขาไปด้วย

“ผะ...ผม ไม่แพ้หรอก เหลืออีกสี่วัน” เขาพูดด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว

“เอ เธอยอมแพ้วันไหนนะน้ำฝน”

“วันสุดท้ายเลยค่ะ โดนไปหลายอย่างแต่สุดท้ายโดนครูจัดการด้วยน้องเคน้อย สามสี่นาทีก็ยอมแพ้แล้ว”

“ครูสนก็ต้องระวังไว้ดีๆ นะคะ ถ้ามันเข้าไปอยู่ในตัวเมื่อไหร่ครูทนไม่ไหวแน่ๆ”

สนยังเป่าลมออกจากปาก เพราะต้องระงับความรู้สึกจากการโดนเล่น

“ตอนนี้แตะติดแตะหน่อยก็ตื่นแล้วนี่”

จากการโดนนัดมาเล่นด้านล่างทั้งเช้า กลางวัน และเย็น เข้าสู่วันที่สามทำให้สนกลายเป็นคนที่ไวต่อสัมผัสขึ้นมากจนตัวเองแปลกใจ

“ดูต่อนะคะ หลังจากนั้นหนูก็เริ่มแต่งหญิงมาโรงเรียนทุกวัน อีกเกือบเดือนกว่าจะเริ่มมีหน้าอกค่ะ ถึงเปลี่ยนมาใส่บราแบบผู้ใหญ่ได้”

“อืมมม โอ้วว”

“ลืมตาดูสิคะ หลับตาแบบนั้นจะเห็นอะไรล่ะครู” น้ำฝนเรียกสติของคนดูเพราะตอนนี้หลับตาเคลิ้มไปไกล

“ครูเคคะ จริงๆ หนูว่าจัดการวันนี้ไปเลยก็ได้ค่ะ สภาพไม่ไหวแล้วเนี่ย”

มิสเตอร์เคยังคงสนุกอยู่กับการเล่น

“ยังหรอก ยังไม่ถึงขีดสุดเดี๋ยวจะมาใจแตกทีหลังเอา”

“น้องต้นเป็นไงมั่งล่ะน้ำฝน”

เขาถามไปพร้อมๆ กับเร่งเร้าคนที่อยู่ระหว่างขาของตนเองไปด้วย เมื่อเขาเริ่มส่งเสียงร้องบอกไม่ไหวมิสเตอร์เคก็หยุดมือ และเริ่มเล่นใหม่

“จากที่ไปสืบๆ ดูกลุ่มไอ้โจที่มากวนๆ น้องอยู่ดีๆ ก็หยุดตามค่ะไม่รู้ว่าทำไม ส่วนน้องต้นก็เหมือนจะได้เพื่อนใหม่ที่ชื่อว่าเก่ง”

“อืมม ดีๆ ระหว่างที่ครูยุ่งอยู่ก็ไม่อยากให้ใครมากวนหรอก”

“หลังจากที่จัดการกับเด็กดื้อแล้ว เราจะจัดการน้องต้นอย่างเด็ดขาดเสียที” เขาพูดพร้อมขยี้ตรงหัว ทำให้คนที่โดนขยี้ต้องร้องระบายอารมณ์ออกมา



น้ำฝนเลื่อนสไลด์ ต่อไปและบรรยายต่อโดยที่สนฟังบ้างไม่ฟังบ้างเพราะมิสเตอร์เคเร่งมือขึ้นเรื่อยๆ

“พอก่อนได้ไหมครับ ปวดท้องไปหมดแล้ว” สนพูดออกมาในขณะที่เกร็งตัวตอนโดนเล่น เขาดูท่าทางไม่ไหวแล้วจริงๆ จากการโดนเล่นตรงนั้นมตลอดวัน ปลายอวัยวะกลายเป็นสีแดงช้ำ

มิสเตอร์ เคหยุดเล่น และปล่อยมือออกจากด้านล่าง

สนหายใจอย่างโล่งสบาย เพราะการเกร็งมาตลอดทำเอาเขาเกือบแย่

แต่มิสเตอร์เคกลับไม่ได้ปล่อยอย่างเดียว เขาสอดมือทั้งสองข้างอ้อมผ่านหน้าหน้าของสน และสวมกอดสนเอาไว้ในอ้อมแขน

“นี่ๆ ได้ยินเสียงหัวใจไหม” อยู่ดีๆ เขาก็ถามในสิ่งที่ไม่น่าเชื่ออกมา

“ดะ..ได้ยินสิ” สนพูดพร้อมจะขยับตัวออกห่างแต่กลายเป็นว่าเขายิ่งแนบชิดเข้ามามากกว่าเดิม และเขาสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจของอีกฝ่าย มันเหมือนเต้นแรงและเร็วกว่าปกติ

“อะ...อาห์”

“ไม่นะ”

มือที่กอดหนึ่งข้างเลื้อยลงไปด้านล่าง ทางด้านประตูหลังและส่งแรงนวดคลึงเบาๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้สนเกิดความแตกตื่นขึ้นมา และพยายามจะขืนตัวออก

“ชู่วววว” เขากระซิบเสียงบอกให้เงียบที่ข้างหูเบาๆ ของสน ซึ่งนั่นยิ่งทำให้สนขนลุกขึ้นมา ไม่ได้เป็นความรู้สึกที่น่าขยะแขยง แต่มันแปลกอย่างบอกไม่ถูก

“อืมม โอะ อืมมม”

สนรู้สึกแปลกเล็กน้อยเมื่อถูกรุกล้ำเข้าพื้นที่สำคัญ ความรู้สึกมันคล้ายกับการขับถ่ายหนัก แต่ครั้งนี้มันไม่ได้มีอะไรออกไป แต่มันมีอย่างอื่นเข้ามาแทน

“อย่าเกร็ง สิ”

“มะ..ไม่เอาแล้ว ไม่ไหว มันสกปรก”

“อย่าดื้อสิคนดี” เขาขยับอย่างแผ่ววเบาและสนก็สงบลงอีกครั้งปล่อยให้อีกฝ่ายสำรวจแต่โดยดี โดยที่ความรู้สึกแปลกๆ ยังยังคงอยู่ในช่องทางทางด้านหลัง

“อึ๊กกกก โอวววววว”

สนเชิดหน้าขึ้นเมื่อความรู้สึกที่อึดอัดเปลี่ยนเป็นอีกความรู้สึกอย่างรวดเร็ว ความเสียวที่จี๊ดกว่าการเล่นด้านหน้าถาโถมขึ้นมาจากช่องทางด้านหลัง

สนคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไปเขาตาเหลือกค้างขึ้นไปด้านบน ครางอย่างไม่เป็นภาษา

“คุณ อืมม ทำ อา ไร กับ ฮืมมมมมมม”

สนเหมือนถูกควบคุมโดยสมบูรณ์จากนิ้วที่คืบคลานทางด้านหลัง เขาไร้แรงต้านทางได้แต่ยอมให้เขาเล่นจนพอใจ น้ำใสๆ ไหลออกมาจากด้านหน้าเป็นคราบเหนียวติดโซฟา สนนอนนิ่งไร้แรงต้านทานใดๆ ได้แต่ส่งเสียงร้องอย่างทรมานปนกับมีความสุขอย่างเป็นจังหวะออกมาเท่านั้น

เขาเล่นจนหนำใจ และค่อยๆ ถอนนิ้วออกมาจากช่องทาง นิ้วของเขายังสะอาดอยู่ เพราะคำนวณเวลาการกินอาหารเอาไว้เป็นอย่างดี

สนนอนหอบหายใจ

“เป็นยังไงบ้าง” เขาถามโดยมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่บนใบหน้า เป็นรอยยิ้มของผู้ชนะ

“เมื่อกี้คุณทำอะไรกับผม” สนฮึดสู้ถามทั้งๆ ที่ยังไม่มีแรงยันตัวขึ้นมา

“ผมก็แค่เปิดโลกใหม่ของคุณขึ้นมาก็แค่นั้นเอง”

“เป็นยังไงบ้างล่ะ”

สนไม่ได้ตอบแต่กัดฟันแน่น ความรู้สึกที่ยากจะต้านทานเมื่อครู่ แค่นึกถึงเขาก็กลัวจนตัวสั่น เพราะถ้ามันมาอีกครั้งโดยที่คนทำไม่ปรานีอีกต่อไป สนคงต้องคลั่งตายด้วยอารมณ์ที่ปะทุออกมาอย่างแน่นอน

เหมือนอีกฝ่ายจะรู้ทันความคิด

“ถ้ายอมแพ้ แล้วกลายเป็นของผม ผมยินดีจะมอบความรู้สึกแบบเมื่อกี้ให้คุณทุกเวลาที่คุณต้องการเลยล่ะ “

“ไม่มีทางหรอก” สนกัดฟันลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่แขนและขาไม่มีแรง

“ผมจะไม่ยอมแพ้”

“แบบนี้สิมันถึงจะสนุก” อีกฝ่ายยิ่งยิ้มอย่างมีความสุขมากกว่าเดิม

__________________________________



การเรียนปรับพื้นฐานในวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าต้นจะไม่เข้าใจในบางวิชา โดยเฉพาะเคมีครูเค ที่ดูยากเหลือเกิน และยังมีเงื่อนไขแปลกๆ อย่างให้แบ่งกลุ่มช่วยกันเรียน และเมื่อเรียนจบ กลุ่มที่แพ้ คนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดจะโดนลงโทษนั่นอีก ที่เขากังวลน่าจะเป็นเพราะทุกคนดูเก่งอย่างไม่น่าเชื่อ

หนุ่มกล้ามอย่างเก่ง เก่งฟิสิกส์มาก ส่วนกริช ก็ดูจะเรียนเข้าใจในทุกวิชา และไม่ต้องพูดถึงรูมเมทอย่างต่อ ผู้เป็นพหูสูต เก่งไปเสียทุกวิชา แม้แต่วิชาเคมีที่ครูผู้สอนดูจะไม่ค่อยถูกใจ แต่กระนั้นต่อยังตอบคำถามจนเป็นที่ยอมรับ ต้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ตั้งใจเรียนอย่างเขา ถึงไม่เข้าใจเลยสักวิชา

“เป็นอะไรต้น หลังจากเรียนเสร็จแล้วดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย” กริชถามขณะที่ทั้งสามคนเดินไปกินข้าวด้วยกัน ความสัมพันธ์ของต้นกับกริชดูจะเพิ่มมากขึ้นทุกวัน เรียกว่าแทบจะเป็นเพื่อสนิทกัน ซึ่งแตกต่างกับต่อมาก เพราะนับวันกริชกับต่อก็เหมือนจะสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่กับต้น

“อืม ไม่รู้อ่ะกริช เราเรียนไม่ค่อยเข้าใจเลย”

“วิชาไหนล่ะตัน”

“ทุกวิชาเลย”

“บ้าน่า” กริชพูดออกมาอย่างตกตะลึง

“จริงๆ” ต้นพูดด้วยหน้าจ๋อยๆ

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้เอาใหม่ ถ้าไม่เข้าใจเดี๋ยวเราช่วย” กริชอาสา

“ขอบคุณนะกริช”

ต่อเดินตามทั้งสองคนมาห่างๆ ตั้งแต่ช่วงเย็นต่อยังไม่พูดอะไรกับทั้งสองคน เขายังง่วนอยู่กับโทรศัพท์ที่หน้าจอแตกของเขา ซึ่งอารมณ์ต่อที่ดูดีๆ มาตลอดทั้งวัน เหมือนจะคุกรุ่นขึ้นจากการดูโทรศัพท์ของเขา



“ต่อ! ”

“ต่อ! ”

“ห๊ะ อะไร” ต่อหลุดจากภวังค์เมื่อเพื่อนทั้งสองเรียก

“แกจะกินอะไร” กริชถามเพราะเดินมาถึงโรงอาหารแล้ว

“ไม่อ่ะ ไม่อยากกินแล้ว เดี๋ยวกลับห้องก่อนนะ”

“ห๊ะ อะไรของแกวะ” กริชหันไปถามเพราะเพื่อนแสดงอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ และตอนนี้ก็ทำตัวแปลกๆ เดินมาจนถึงโรงอาหารและก็บอกไม่หิว

“เอ่อ พวกแกกินกันไปเลย กลับก่อนนะ” และต่อก็หันหลังเดินกลับไป

“เอ่อ แปลกคนดีวุ้ย”

“เดี๋ยวมานะกริช” เหมือนต้นเห็นอะไรบางอย่างและเดินแยกตัวออกไป



ต้นมองเห็นโจแว๊บๆ เขาจึงแยกตัวออกมาจากกริช เพื่อที่จะไปถามในสิ่งที่สำคัญสำหรับเขา

“พี่โจ” เขาเรียกคนตัวสูง

“ว่า” คนตัวสูงค่อยๆ หันมาช้าๆ แววตาของพี่คนนี้ยังดูเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม

“น้องต้นมีอะไรครับ” เขาพูดจาสุภาพนุ่มนิ่มขัดกับรูปลักษณ์

“เอ่ออ... ผมจะขอให้พี่โจ ลบคลิปของผมได้ไหมครับ”

“คลิปไหน”

“คลิปเมื่อวันก่อนน่ะครับ ที่ผม...”

“ที่น้องอะไรครับ น้องต้องพูดให้ชัด พี่จำไม่ได้” แน่นอนว่าโจรู้ว่าต้นต้องการอะไร แต่เขาแกล้งไม่รู้เพื่อให้ต้นต้องพูดเรื่องที่น่าอายเกี่ยวกับตัวเองออกมา

“ที่พี่ให้ผมทาแป้งตัวเองน่ะครับ ผมไม่สบายใจเท่าไหร่ พี่ลบได้ไหมครับ”

“เอ ไม่แน่ใจนะ อันนี้ไหม”

เขาหันหน้าจอโทรศัพท์ที่คลิปกำลังเล่นให้ต้นดู ทำให้ต้นเห็นสภาพตัวเองที่สุดแสนจะน่าอับอายเกินที่เขาจะรับไหว ในโทรศัพท์ ร่างที่ขาวโพลนเต็มไปด้วยแป้งทั้งตัวกำลังเต้นท่าที่น่าอายและกำลังจะตัวกระตุกเป็นจังหวะ เมื่อตัวเองน้ำทะลักออกมา

“อันนี้หรือเปล่าครับ” โจยิ้มอย่างพึงพอใจ เพราะคนที่เห็นตัวเองกำลังทำท่าน่าอาย เขินจนหน้าแดงไปหมด

“อันนี้แหละครับพี่ ได้โปรดลบให้ผมด้วยนะครับ” ต้นอายจนหน้าแดง แต่เขาต้องขอให้รุ่นพี่คนนี้ลบออกไปให้ได้ เพราะมันทำให้เขาไม่สบายใจเอามากๆ

ภาพเด็กหนุ่มที่กำลังเขินอายดูน่ารักจนโจแทบทนไม่ไหว เขาต้องการที่จะครอบครองรุ่นน้องคนนี้เหลือเกิน ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม

“ก็ได้นะ”

“จริงเหรอครับพี่ ขอบคุณมากเลยครับ” ต้นพูดอย่างดีใจผสมความโล่งอก

“จริงสิ แต่ก็นะ คลิปนี้พี่ชอบมันมาก จนไม่อยากลบมันออกจากโทรศัพท์เลย เพราะงั้นพี่จะลบมันให้น้องเพราะว่าน้องต้องการ แต่น้องต้องทำอะไรให้พี่สักอย่างหนึ่งก่อน” เขายื่นเงื่อนไขอีกครั้ง

“ได้ครับ ผมจะทำให้พี่ แต่ครั้งนี้จะไม่มีการถ่ายคลิปนะครับ”

“ไม่มีแน่นอนพี่รับรอง”

“โอเคครับ”

โจยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 21 ความรู้สึกที่ยากจะปฏิเสธ
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 11-04-2019 16:07:40
ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)

สนนอนไม่ค่อยหลับ ด้วยความรู้สึกที่ยังค้างคาอยู่ภายใน วันนี้วันที่ 6 แล้วตามที่สัญญากับมิสเตอร์เคเอาไว้ ผ่านวันพรุ่งนี้ไปได้เขาก็จะเป็นอิสระจากเรื่องบ้าบอเหล่านี้

แต่ถึงงอย่างนั้นความรู้สึกที่ไม่ปกติก็ก่อกวนภายในจิตใจเขาเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อช่วงค่ำ ก่อนที่มิสเตอร์เคจะปล่อยให้เขากลับที่พัก

“พรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายแล้วรู้สึกยังไงบ้างล่ะ”

สนไม่ได้ตอบอะไรออกไป

“คุณกำลังคิดว่าคุณจะชนะ ซึ่งก็ไม่ผิด เพราะคุณเก่งมากที่อดทนมาได้จนถึงทุกวันนี้ เอางี้ เพื่อเป็นการให้รางวัล ผมอนุญาตให้คุณช่วยตัวเองจนเสร็จได้ เป็นไงดีใจไหม”

เขายังคงไม่ตอบโต้อะไรออกไปเช่นเดิม

“โอะโอ ใจแข็งน่าดู เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาเจอกันพรุ่งนี้ครับ เรามาดูกันว่าเราจะได้เจอกันแบบนี้เป็นครั้งสุดท้ายหรือเปล่า”

สนรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เขาโดนแกล้งมาตลอด 6 วันเพื่อให้ความรู้สึกสะสมมาจนถึงขีดสุด อยู่ดีๆ เขาคนนั้นกลับยอมให้สนจัดการตัวเองได้ง่ายๆ มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย



สนตั้งหน้าตั้งตาจัดการตัวเองมาพักใหญ่ๆ ในห้องน้ำ ไม่ว่าจะใช้คลิปช่วยก่อนหน้านี้ หรือแม้แต่เรื่องที่ชอบที่ทำให้เขาเสร็จเร็วที่สุดก็ไม่อาจที่จะทำให้เขาจัดการตนเองจนเสร็จได้เลย

สนไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้การคุยกันแบบมึนตึงกับโอลีฟก็มีส่วนที่ทำให้อารมณ์หดหายเช่นเดียวกัน เพราะเขากับโอลีฟ ดูจะมีระยะห่างที่เพิ่มมากขึ้น เพราะอารมณ์ที่แปรปรวนง่ายของสนในช่วงเวลานี้ทำให้มีปากเสียงกันแทบทุกครั้งที่โอลีฟโทรมาหา

แต่นั่นอาจไม่ใช่สาเหตุหลัก เพราะเจ้าหนูสนน้อยมันกลับไม่ให้ความร่วมมือเลยในวันนี้ ได้แต่ทำคอตกอยู่อย่างนั้นไม่ว่าเขาจะปลุกเท่าไหร่มันก็ไม่ตอบสนอง

ชายหนุ่มตัดสินใจยุติภารกิจการช่วยเหลือตัวเองไว้เท่านั้น และอาบน้ำต่อจนเสร็จเรียบร้อย

เขาเปิดตู้ที่ใส่ชุดชั้นในของตัวเองและพบกับกางเกงในสีหวานแหววเรียงรายอยู่ด้านใน และหยิบตัวสีชมพูขึ้นมา วันพรุ่งนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะต้องใส่มันแล้ว

เขาหยิบกางเกงในหยิบชุดนอน และเดินมาที่โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกๆ ครั้งที่อาบน้ำเสร็จเขาจะต้องทาแป้งที่หน้ากระจกทุกครั้ง เพื่อลดความอับชื้น

สนหยิบแป้งขึ้นมาบีบใส่มือ พลันนึกไปถึงวิดีโอที่ได้ดูเมื่อช่วงเย็น น้ำฝนในสภาพขาวโพลนยืนช่วยตัวเองที่น้ำพุ สนตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด และเมื่อรู้สึกตัวเขาก็พบว่าตัวเองบีบแป้งใส่มือจนพูนมือเกินความต้องการไปแล้ว

เขายกแป้งขึ้นมาดูและเกิดความคิดบางสิ่งบางอย่างขึ้นในหัว ภาพของน้ำฝนยังติดในความคิด หากเขาชโลมทั้งหมดในมือลงบนตัวเขาจะคล้ายน้ำฝนหรือเปล่านะ

สนดึงสติตัวเองก่อนจะทำอะไรไปมากกว่านั้นเขาเทแป้งทั้งหมดในมือลงขยะ และตัดสินใจว่าจะไม่ทาแป้ง และเมื่อเขาจะหยิบกางเกงในขึ้นมาใส่เขาก็พบว่า สนน้อยลุกขึ้นมาตั้งท่าอย่างแข็งขันเสียอย่างนั้น

ชายหนุ่มนอนหลับไปอย่างค้างคาในความรู้สึก และแม้แต่ในฝัน เขาก็ยังคงถูกแกล้งอยู่เช่นเดิม



_____________________________________________

“ทำไมมันยากแบบนี้ล่ะเนี่ย” ต้นถามกริช ขณะที่ทั้งสองนั่งติววิชาเคมีด้วยกัน

“ไม่เข้าใจเลยง่า”

“เราว่าต้นดูไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่เลย”

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

“มะ..ไม่นี่” ต้นหน้าเจื่อนๆ เพราะเป็นความจริงที่เขาไม่ได้มีสมาธิเท่าไหร่

“มาๆ ขออีกรอบ”

 สนตั้งใจมองหนังสือพลางนึกไปถึงบทสนทนาระหว่างเขากับโจ เมื่อสองวันก่อน

“พี่จะลบคลิปนี้ออกให้น้องต้น ถ้าน้องต้นยอมไปเที่ยวกับพี่ ขอแค่วันเดียวเท่านั้นแหละ” ข้อเสนอถูกยื่นออกมาด้วยใบหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์ของโจ

ต้นทำหน้าอึกอัก เพราะรู้ว่าจะตอบยังไง

“ไม่มีปัญหาหรอก ไปแค่ช่วงกลางวัน เอาวันเสาร์หรืออาทิตย์ก็ได้”

ไม่ใช่เพียงแต่ว่าต้นไม่เชื่อถือพฤติกรรมของโจเท่านั้น แต่กำลังทรัพย์ของเขาก็คงมีไม่พอที่จะไปเที่ยวอีกด้วย เพราะต้นรุ้สึกเกรงใจที่จะต้องขอเงินพ่อแม่ที่กำลังทำงานหนักอยู่ต่างแดน

“ผม ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ครับ”

“เป็นอย่างอื่นได้ไหมพี่”

“อย่าไปคิดมากน่าน้อง เอางี้ เดี๋ยวพี่เลี้ยงน้องเองทั้งหมดเลย น้องจะได้ไม่ลำบากใจ”

“จริงเหรอครับ” ต้นรู้สึกสนใจมากขึ้น

“ใช่ แต่ว่ามีข้อแม้นะ”

ต้นเงียบรอฟังข้อแม้ที่ดูไม่น่าไว้วางใจ

“ข้อแม้คือ พี่ซื้ออะไรให้น้องต้น น้องต้นก็ต้องใช้ไม่งั้นพี่เสียใจแย่”

“ตกลงครับ” ต้นรับปาก ซึ่งนั่นก็สร้างความพึงพอใจให้โจเป็นอย่างมาก ซึ่งรอยยิ้มที่น่าสงสัยของโจ ก็ทำให้ต้นรู้สึกติดค้างในใจ รวมไปถึงคลิปที่อยู่ในโทรศัพท์นั้นด้วย เลยทำให้ต้นไม่มีสมาธิเลยในสองสามวันมานี้ ซึ่งส่งผลให้เขาเรียนไม่เข้าใจในหลายๆวิชาด้วย



“ต้น! ”

“ต้น! ”

“หะ หา เอ้า เก่ง”

เสียงของเพื่อนที่ปลุกต้นออกจากภวังค์ คือเก่งที่เดินมาพร้อมกับน้ำในมือสองแก้ว

“อ่ะนี่ เราให้” เก่งยื่นน้ำให้ต้น ต้นก็รับมาดื่มอย่างชื่นใจ

“โกโก้ร้านนี้อร่อยดีแฮะ เข้มข้นได้ใจ”

“อื้ม แต่มันแพงใช้ได้เลยนะ”

“นี่ๆ เข้ามากวนไม่ได้ดูเวลาเลยนะ ต้นไม่สนใจหนังสือแล้วเนี่ย” กริชที่นั่งดูทั้งสองคนคุยกันเข้ามาแทรก

“แล้วทำไมซื้อให้ต้นคนเดียวล่ะเก่ง”

“อ่อ ซอรี่พอดีถือได้สองแก้วน่ะ ฮ่ะฮ่ะ”

“ว่าแต่ถึงไหนแล้ว”

กริชเบ้ปากยกมือขึ้นทั้งสองข้างแสดงถึงความหมายที่ว่าไม่ได้อะไรเลย

“เอ มันก็ไม่น่ายากเท่าไหร่นะ ไหนลองดูใหม่อีกที”

ที่ต้นต้องมานั่งติววิชานี้ เพราะมิสเตอร์เคเฉลยบทลงโทษออกมาแล้วว่า คนที่ได้คะแนนน้อยที่สุดของทีมที่แพ้จะต้องไปทำความสะอาดสระว่ายน้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น สร้างความสยองขวัญให้กับเหล่านักเรียนปรับพื้นฐานเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันหยุดแทบจะหายไปทั้งวัน

__________________________

“เป็นยังไงบ้างวันนี้รู้สึกสบายขึ้นไหมที่ไม่โดนแกล้งมาตลอดทั้งวัน”

สนยังคงไม่ตอบอะไร เพราะเขาเองก็ตอบไม่ได้เช่นเดียวกันว่ารู้สึกดีที่ไม่โดนแกล้งเหมือนทุกวัน หรือความรู้สึกมันแย่เพราะอยากโดนแกล้งตามความเคยชินมากกว่า

“ตอนนี้เวลาสองทุ่ม ผ่านเที่ยงคืนนี้ไป ถ้าคุณยังไม่พูดว่ายอมแพ้ คุณก็ชนะ”

สนกัดริมฝีปาก

“ถ้าผมยอมแพ้ ผมจะเป็นยังไงบ้าง”

คำถามของเขาเรียกรอยยิ้มของคนที่ถูกถามออกมาเล็กน้อย

“ก็ไม่มีอะไรต่างจากเดิมหรอก ก็เป็นของเล่นของผมเหมือนกับน้ำฝน เมื่อคุณยินยอมพร้อมใจ ผมก็จะยัดเยียดความอับอาย ความทรมานและความสุขสมอย่างที่ส่วนลึกในใจคุณต้องการให้คุณซ้ำแล้วซ้ำอีกจนคุณสาแก่ใจ”

“ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น” เขาแสดงแววตาแข็งกร้าว

“ผมพร้อมแล้วมาเลย”

น้ำฝนที่รออยู่ข้างๆ ก็รุกเข้าหาคนทันทีตามคำสั่งของมิสเตอร์เค เริ่มจากกอดเข้าด้านหน้าตรงๆ ใบหน้าสวยของน้ำฝนเข้าประจันหน้ากับสน และเริ่มละเลงลิ้นลงบนริมฝีปาก สนขยับหน้าหนี แต่น้ำฝนก็รุกต่อโดยในระหว่างที่ปากโจมตีอยู่นั้น ด้านล่างเธอก็ปลดกางเกงด้านนอกออกไปด้วย กางเกงขายาวหลุดไปกองกับพื้น เปิดเผยให้เห็นกางเกงในเนื้อนิ่มสีชมพู สิ่งที่อยู่ด้านในเริ่มแขงขึ้นมาบ้างพอให้เห็นเป็นลำ

ลิ้นของน้ำฝนบุกทะลวงเข้าไปเล่นในปากได้สำเร็จเธอชอนไชลิ้นแลกเปลี่ยนของเหลวอย่างหิวกระหาย และปลดเปลื้องเสื้อของสนออกอย่างรวดเร็ว

เมื่อสนเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว น้ำฝนก็เลื้อยลงมาด้านล่าง ดึงกางเกงในลง และสูดดมบริเวณก้อนเนื้อด้านล่าง

“เอ๊ะ วันนี้ไม่ได้กลิ่นแป้งเหมือนเดิมนะคะ”

สนไม่ตอบอะไร

“เอ ชักแปลกๆ”

น้ำฝนใช้ลิ้นตวัดงวงน้อยของสนเข้าไปในปาก ใช้ลิ้นดุนด้านล่างและใช้ช่องปากดูดแท่งเนื้อเข้าออกตามความยาวของแท่ง

“อืมมมมม” สนหลับตาพริ้ม ตลอดเจ็ดวันมานี้ปากของน้ำฝนเป็นสิ่งที่เขาได้รับมาตลอดเจ็ดวัน น้ำฝนรู้ดีว่าตรงไหนคือส่วนที่อ่อนไหวที่สุดในร่างกายเขา ทุกครั้งที่เธอเอาเข้าปาก สนก็สูญเสียการควบคุมตัวเองให้กับน้ำฝนไปอย่างสมบูรณ์ เขากลายเป็นของเล่นของเธอไปในทันที เมื่อไหร่ที่เธออยากทำให้เขากรีดร้องเธอก็จะเร่งจังหวะด้วยเทคนิคที่แพรวพราว หรือในบางครั้งเธอแค่อยากแกล้งให้เขาอึดอัดเธอก็จะใช้จังหวะเนิบนาบเพื่อส่งความรู้สึกอยากเสร็จให้เขาจนแทบคลั่ง

“อ๊า อูววว” น้ำฝนเร่งจังหวะจนสนตัวแอ่น

และน้ำฝนก็หยุดและถอนปากออกไปเสียดื้อๆ ทิ้งให้สนยืนหอบหายใจอยู่อย่างนั้น โดยที่สนยังไม่รู้ตัวว่าร่างของมิสเตอร์ที่ถอดเสื้อฝ้าออกจนหมดแล้ว มายืนรออยู่ทางด้านหลัง และเข้ารวบตัวของสนไว้ในอ้อมแขน เขาพลิกตัวสนราวกับจับตัวเด็กยก และขาทั้งสองข้างสนลอยขึ้นจากพื้น

สนโดนยกตัวพลิก และหลังจากนั้นมิสเตอร์เคจึงส่งมือไปยังปากทางเข้าทางด้านหลังและนวดบริเวณปากทางเข้าด้านหลังส่งผลให้คนโดนนวดถึงกับสั่นสะท้าน สนต้องกัดฟันเพื่อไม่ให้เสียงของตัวเองเล็ดรอดออกมา เขาตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

น้ำฝนได้โอกาสสอดตัวเข้ามาจากด้านล่างและเข้ามางับด้านหน้าอย่างคุ้นเคย เธออมแล้วรูดจนสุดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสน

“อา อืมมมมม” สนส่งเสียงออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว

“โอวว อย่านะครับ”

นิ้วถูกส่งทะลวงประตูด้านหลังเข้าไป และหมุนควงส่งความรู้สึกให้กับเจ้าของที่โดนปากสร้างความเพลิดเพลินอยู่อย่างต่อเนื่อง

สนเคลิ้มจนลืมตาแทบไม่ขึ้น การใช้ปากและลิ้นของน้ำฝนจู่โจมจนสนไม่สามารถต้านทานได้ เหมือนว่าทุกครั้งเธอแค่เล่นกับเขา แต่วันนี้น้ำฝนจัดเต็ม ขาของสนสั่นจนยืนไม่ไหว

มิสเตอร์เคอาศัยช่วงที่สนเคลิ้มๆ เพิ่มนิ้วเป็นสองนิ้ว ร่างของสนสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่ทันนิ้วที่สองของมิสเตอร์เคที่ทะลวงเข้าไป

“เอ ทำไมวันนี้หายากนะ” มิสเตอร์เคพูดขณะที่ควาญหาบางอย่างโดยนิ้วทั้งสอง

“สองนิ้วมันเจ็บนะ โอวววววววว อึก” สนหายใจขาดห้วงทันทีเมื่อความรู้สึกที่ยากจะต้านทานกลับมาอีกครั้ง

“เอ้า เจอแล้วนี่นา”

มิสเตอร์เรขยับจี้จุดอ่อนของสนซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยที่สนได้แต่ส่งเสียงร้องออกมาตามจังหวะนิ้วของเขา มิสเตอร์เคมีความสุขจากการที่ได้กล่นแกล้งให้สนแทบจะลำลักความสุขเสียวตาย

เขาดึงนิ้วออกเมื่อเล่นอย่างพอใจ สนมีแอ่นก้นตามเล็กน้อยจากความเสียดายในความรุ้สึกนั้น

มิสเตอน์เคจ่ออาวุธคู่กายเข้าไปยังปากทางเข้าทางด้านหลัง

“เฮ้ย คุณ ไม่เอา อย่านะ”

“ไม่ อย่า โอ๊ยยย”

อาวุธของมิสเตอร์เคค่อยๆ จมหายเข้าไปในช่องทางด้านหลัง แม้ว่าจะมีการหล่อลื่นมาก่อนหน้านี้พอสมควรแต่ช่องทางที่คับแคบก็ทำให้มันเข้าไปด้วยความยากลำบาก

“น้ำฝนหยุดก่อน”

น้ำฝนหยุดตามคำสั่ง มิสเตอร์เคแนบตัวเข้ามายืนประกบด้านหลังของสนเอี้ยวและเอาหน้ามาทาบด้านข้างๆ หน้าเขา

“รู้สึกยังไงบ้าง”

“ไม่ เอามันออกไปเดี๋ยว..อึก..อ๊า อย่า” สนพูดไม่จบประโยคคนที่อยู่ด้านหลังก็เริ่มขยับเอวเข้าออกเป็นจังหวะ

“เสียงแบบนี้แสดงว่าก็ไม่ได้ขัดขืนเท่าไหร่ ถือว่าผมไม่ได้ข่มขืนคุณแล้วนะ”

“มะ ไม่ เอา ไม่ อ๊า”

มิสเตอร์เคเร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อยร่างของคนที่รับแรงกระแทก เกร็งเป็นจังหวะสอดรับกับเอวของเขา

“เหลืออีกสิบห้านาที คุณจะชนะแล้วดีใจไหม”

มิสเตอร์เคไม่รอคำตอบ เขาเล็งอาวุธไปบริเวณจุดที่สร้างความเสียวอย่างรุนแรงของสนทันที แล้วทำการจู่โจมอย่างไม่ปรานี

สนคุมสติไม่อยู่อีกต่อไป เสียงจากการระบายความรู้สึกดังออกจากปากเขาดังขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกที่เอ่อล้นจากด้านหลังส่งผลมายังด้านหน้าด้วยเช่นกัน เหมือนว่ายิ่งมีแรงกระแทกมาจากด้านหลังมากเท่าไหร่ สนก็ยิ่งใกล้ถึงจุดหมายมากขึ้นเท่านั้น

เสียงเนิ้อกระแทกอย่างเป็นจังหวะ ดังอย่างเป็นเอกลักษณ์ สนเข้าใกล้การถึงจุดสุดยอดไปทีละเล็กทะน้อย จนในที่สุดความรู้สึกปริ่มเปี่ยมก็มาถึง สนรู้สึกราวกับใจจะขาดเมื่อความรู้สึกนั้นพวยพุ่งออกมา

“อ๊า จะถึงแล้ววว จะถึงง”

มิสเตอร์เคหยุดเอวทันที ความรู้สึกปริ่มสุขเมื่อสักครู่สะดุดกึก

เขารอจนสนเย็นลงเล็กน้อย และเริ่มขยับเอวใหม่ ความเสียวซ่านเกิดขึ้นอีกครั้งและสนเหมือนถูกบังคับให้ต้องเริ่มเล่นเกมเดิมใหม่อีกครั้ง น้ำใสๆ ไหลออกจากทางด้านหน้าอย่างควบคุมไม่อยู่ เขาได้แต่เกร็งรอรับแรงกระแทก และรับความรู้สึกที่ได้จากการมอบให้ช้าๆ อย่างต้านทานไม่ได้

“อีกสิบนาที”

มิสเตอร์เคบอกเวลาพร้อมๆ กับเร่งเครื่องอีกครั้ง ร่างกายที่ออกกำลังกายเป็นประจำส่งแรงกระแทกอย่างไม่มีตก จนคนที่รับแรงกระแทกอยู่ทนไม่ไหวอีกครั้ง

“จะ จะ ถึง แล้วววววววว อึ๊ก”

รอบที่สองแล้วที่สนเหมือนร่วงลงจากสวรรค์ เขาพยายามจะขยับเอวของตัวเองออกและเข้าเมื่ออีกฝ่ายหยุดเพื่อที่จะได้ส่งตัวเองข้ามเส้นนี้ไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่อีกฝ่ายรู้ทันและจับเอวเขาไว้แน่น

“อย่าโกงสิคุณ สามนาทีต่อหนึ่งรอบ มาดูว่าจะทนไหวไหม” เขาเริ่มซอยก้นเข้าและออกอีกครั้ง

“ไม่นะ โอวว”

เอวคนด้านหลังขยับอีกครั้ง ความรู้สึกแบบเดิมเกิดขึ้นอีกรอบ แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะแค่ไม่กี่ครั้งเขาก็แทบจะถึงจุดหมายแล้ว รอบนี้สนกัดฟันไม่ส่งเสียง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถูกแกล้งอีก แต่คนด้านหลังกลับรู้ทัน เพราะเมื่อร่างกายของเขากระตุกเกร็งก่อนที่จะถึงจุดสุดยอด มิสเตอร์เคก็หยุดเอวลงเช่นเดิม

เสียงโอดครวญดังออกมาเบาๆ จากคนด้านหน้า เหมือนว่าความอยากของเขามาถึงขีดสุดแล้ว

มิสเตอร์เคเริ่มขยับเอวอีกครั้ง

“อีกห้านาที”

มิสเตอร์เคกระหน่ำขยับเอวทั้งเร็วและแรง ร่างที่อยู่ด้านหน้าร้องดังจนคอเหมือนจะแตก สั่นไหวด้วยแรงกระแทก

“จะ จะ สะ สะ สะ เสร็จ อีก แล้วว ฮึ๊ยยยย”

เอวหยุดลงก่อนที่สนจะถึงอีกครั้ง ร่างของสนยังคงไม่หยุดสั่นสะท้านจากการรับแรงกระแทกและพิษจากความรู้สึกที่ถาโถม

“อีกสามนาที”

เสียงปั๊บๆ ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อคนด้านหลังส่งแรงกระแทกไปให้ยังคนด้านหน้า เขากระแทกถี่ขึ้นกว่าครั้งก่อน อาการเหนื่อยและเสียงหอบแสดงให้เห็นเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อความถี่ในการกระแทก ร่างของสนกระตุกอีกครั้ง

“ฮือออ จะเสร็จแล้ว โอ้ววว”

“ยอมแล้ว ยอมแล้วครับ ยอมแล้วให้ผมเสร็จเถอะ” สนพูดออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจต้านทานไหวอีกแล้ว เขาต้องการเพียงสิ่งเดียวที่เขาไม่ได้รับมาลอดเจ็ดวัน

“ไม่ใช่แบบนี้” มิสเตอร์เคเปลี่ยนมาเป็นจังหวะเนิบๆ แต่ก็ยังส่งความรู้สึกเสียดเสียวให้เกิดอย่างต่อเนื่อง

“พูดใหม่”

“โอลีฟยะ ยอมแล้วค่ะ ขะ ขะ ขอ ให้หนูเสร็จนะคะ โอ้ววววว” เขาพูดยังไม่ทันจบประโยค คนที่อยู่ด้านหลังก็เร่งเครื่องขึ้นมาทันที

“จะเสร็จแล้ว จะ จะ เสร็จแล้วววว”

ร่างของสนกระตุกชักเป็นจังหวะ แต่มิสเตอร์เคก็ยังคงไม่หยุดขยับเอวราวกับจะขยี้ความรู้สึกของสนให้สุด น้ำขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจากอาวุธของสนอย่างทะลักทะลายเป็นสาย มันมีปริมาณมากพอดู สนยังไม่หยุดเกร็งตัวส่งน้ำออกมาอย่างมากมายเป็นการระเบิดความอยากที่สะสมมาตลอดหลายวัน และยังตัวกระตุกอีกเป็นนาที

“เอ้าเสร็จแล้ว ต้องพูดว่ายังไง” มิสเตอร์เคยังไม่หยุดซอย ส่งแรงกระแทกให้คนข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง

“ขะ..ขอบคุณค่ะ” สนทั้งอ่อนล้าสิ้นเรี่ยวแรงจากการสำเร็จความใคร่อย่างล้นทะลัก ไม่มีแม้แต่แรงประคองตัว

มิสเตอร์เคค่อยๆ หยุดเอวของตัวเองลง และถอนอาวุธของตนเองออกมาอย่างช้าๆ เขาโอบร่างของสนอุ้มขึ้น และนำไปวางที่เตียงอย่างแผ่วเบา

สนพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ เขาปล่อยตัวลงบนเตียงไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว

“เป็นยังไงบ้างความรู้สึกนี้” เขายิ้มราวกับผู้ชนะซึ่งนั่นก็เพราะว่าเขาเป็นผู้ชนะจริงๆ

“คุณชนะแล้วจะทำอะไรกับผมก็เชิญ” สนหันหน้าออกไปอีกทางไม่อยากจะมองหน้าของคนที่ทำลายให้เขาแพ้อย่างราบคาบ ทั้งกายและใจ

“แน่นอน”

มิสเตอร์เคช้อนหัวของสนขึ้นจับหน้าของเขาหันมาเผชิญหน้า และประกอบปากเข้ากับปากของสน สนเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึงก่อนที่จะโดนลิ้นอุ่นๆ บุกทะลวงเข้าไปในปาก แต่ครั้งนี้สนไม่ขัดขืน ยอมให้ลิ้นของเขารุกเข้ามาอย่างง่ายดายและกลืนกินทุกหยาดหยดที่เขาคนนั้นมอบให้

“อื้ม เป็นเด็กดีก็ได้นี่”

“มาต่อยกที่สองกัน”

คืนนั้นสนต้องเล่นเกมกบมิสเตอร์เคอีกครั้ง และเสียงครวญครางของสนก็ดังระงมไปทั้งคืนและเงียบหายไปในช่วงรุ่งสาง
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-04-2019 18:17:31
 :hao6:
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 13-04-2019 03:51:57
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-04-2019 02:02:31
ตอนที่ 23 สน กับ ต้น และ ชุดว่ายน้ำเจ้าปัญหา

เมื่อถึงรอบที่สี่ สนก็ต้องขอร้องให้คนที่ดูเหมือนพลังงานไม่มีวันหมดหยุดกิจกรรมไปก่อน น้ำฝนกลับไปแล้วตอนที่จบรอบที่สองเพราะพรุ่งนี้เธอยังมีเรื่องที่ต้องไปทำ ตอนนี้จึงเหลือแค่เขากับมิสเตอร์เคยนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียง ในห้องของมิสเตอร์เค แค่เพียงสองคนเท่านั้น

“พอก่อนได้ไหมครับ เหมือนจะรับไม่ไหวแล้ว”

“เอ้ย ต้องบอกว่า พอก่อนได้ไหมคะ หนูไม่ไหวแล้วค่ะสินะครับ”สนแก้ไขคำพูดเพื่อทำให้เขาพอใจ

อีกฝ่ายยิ้มและหยุดทำกิจกรรมทันที

“อื้ม เรียนรู้ไวดีนี่”

เขาถอนอาวุธออกจากตัวของสนเพียงเท่านั้น แต่ก็ยังคงกอดสนแน่นเหมือนเดิม

และสิ่งที่เขาทำหลังจากนั้นก็ทำให้สนอุ่นวาบเข้าไปถึงหัวใจ เขาเอื้อมมือข้างที่ไม่ได้กอดขึ้นมาลูบหัวของสนอย่างเบามือและอ่อนละมุน

“นี่คุณ...”

แม้ว่าจะทำท่าเหมือนไม่ยอมแต่สนก็ไม่ได้ขัดขืนหรือฝืนตัวออก เขานอนร่างกายเปลือยเปล่าโดยมีไออุ่นจากคนที่อยู่ด้านหลังคอยส่งมาให้ลดทอนความหนาวเย็นจากเครื่องปรับอากาศ

อีกฝ่ายยังไม่หยุดแค่นั้นเขาขยับตัวเข้ามาแนบชิดมากกว่าเดินและเอาคางเกยหัวไว้จากด้านหลัง

น้ำตาค่อยๆ ไหลรินออกจากดวงตาคู่สวยของสนอย่างช้าๆ น้ำอุ่นๆ ไหลรดลงแขนที่เขาหนุนอยู่

เหมือนอีกฝ่ายรู้แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกมาได้แต่ลูบหัวอย่างเบามืออยู่อย่างนั้น

“ใจร้ายที่สุด”

“ทำไมคุณถึงทำกับผมแบบนี้ คุณทำลายชีวิตของผม คุณทำให้ผมต้อง...”

ต่างฝ่ายต่างไม่พูดอะไร

“ผมสับสนเหลือเกิน”

“ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่เรื่องที่เป็นปกติมันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง แต่ทำไมมันถึงทำให้ผมรู้สึกดี ทั้งๆ ที่ผมควรรู้สึกแย่ รู้สึกรังเกียจมัน ทำไมกัน” เสียงสะอื้นดังขึ้นมากกว่าเดิมพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมามากกว่าเดิม

วันพรุ่งนี้ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

“ผมเป็นของคุณแล้ว”

“จริงๆ เหรอ” เขาถามย้ำเหมือนไม่แน่ใจ

“ใช่” เสียงจากคนที่อยู่ด้านหลังพูดขึ้น

“และคุณก็จะเป็นของผมทั้งตัวและหัวใจ”

สนนอนร้องไห้ต่อเงียบและผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน

เขาตื่นขึ้นอีกครั้งตอนรุ่งสางภายใต้อ้อมแขนของคนที่จะเป็นเจ้าของเขา ตลอดไป



“อรุณสวัสดิ์” เจ้าของอ้อมแขนพูดขึ้น

“วันนี้ผมมีเรื่องให้คุณทำด้วยที่รัก ใส่ชุดที่ผมเตรียมให้ และเดี๋ยวหลังจากสอนเสร็จให้ไปเจอกันที่สระน้ำนะ” เขาพูดพร้อมเอามือหมุนวนไปที่ช่องท้องของสนเบาๆ

“โอเคครับ” สนตอบพร้อมค่อยๆ ลุกขึ้น แต่ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเขาโน้มตัวลง และจูบไปที่ปากของมิสเตอร์เคเบาๆ

“ไปอาบน้ำก่อนนะครับ” และสนก็เดินออกไป





_______________________

การสอบดูจะเป็นงานที่หนักสำหรับต้น เพราะมาถึงตอนนี้เขายังจำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

“อย่าเครียดไปต้น ก็แค่สอบท้ายบทเรียนเฉยๆ ไม่ได้คอขาดบาดตายขนาดนั้น” เก่งเดินเข้ามาตบไหล่ต้นเบาๆ เมื่อเห็นว่าเพื่อนของเขานั้นทำหน้าเครียดตอนทบทวนก่อนจะเข้าห้องสอบ

“ต้นทำได้อยู่แล้วน่า เราอ่านกันมาตั้งเยอะ” กริชหันมาให้กำลังใจ เพราะต้นจำได้เยอะมากแล้วจริงๆ

“ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นน่ะ” ต้นยิ้มแหยๆ เพราะเขาจำไม่ได้จริงๆ

“ว่าแต่ต่อไม่อ่านหนังสือเหรอ” ต้นถามไปที่รูมเมทที่นั่งฮัมเพลงเบาๆ ระหว่างรอมิสเตอร์เคมาถึง

“ไม่จำเป็นเท่าไหร่หรอก ก็เขาไม่ได้สอนยากเท่าไหร่ จำได้ตั้งแต่ที่สอนเลยมั้ง ก็เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องอ่านน่ะ”

“จ๊ะ พ่อคนเก่ง” ทั้งสามประสานเสียงกันด้วยความหมั่นไส้

 _________________________________________________

และก็เป็นไปตามคาด ตอนบ่ายโมงตรง ต้นมายืนอยู่บริเวณหน้าทางเข้าสระว่ายน้ำของโรงเรียน เขาเดินเข้าไปด้วยความเซ็งสุดขีด เพราะเขาคืนคนที่ได้คะแนนน้อยที่สุด แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่บ้างที่ไม่ต้องไปล้างวันหยุดทั้งวัน ทำแค่ช่วงบ่ายสำหรับวันนี้ที่เลิกเร็วเท่านั้น

ต้นเดินเข้าไปด้านใน สระใหญ่ถูกสูบน้ำออกจนหมดในช่วงเช้า มองลงไปเห็นกระเบื้องสีฟ้า ในสระที่ทอดยาวนั้นเป็นเนินที่เอาไว้กำหนดความลึกในแต่ละช่วง ซึ่งส่วนปลายสุดของสระ มีความสูงแทบจะเป็นสองเท่าของต้น

“สวัสดีครับ มาทำความสะอาดสระหรือเปล่าเอ่ย”

“ชะ ใช่ครับ เอ้า ครูจิรายุ” ต้นเห็นครูหนุ่มหน้าตาดียืนรอทักทายเขาด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

“พอดีเลยวันนี้ครูเป็นเวรดูแลสระน้ำพอดี จะได้มีคนช่วย”

“คะ..ครับ” ต้นรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย เพราะคิดว่าจะได้ทำความสะอาดคนเดียว

“มีอุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ด้านในนะ เธอไปหยิบออกมาหน่อยสิ เดี๋ยวครูจะไปเอาชุดสำหรับทำความสะอาดกับน้ำยาทำความสะอาดมาให้”

“โอเคครับ”

“ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ” ครับหนุ่มถามพร้อมรอยยิ้ม ที่ดูอบอุ่นอาจเพราะหน้าตาที่น่ารักช่วยส่งเสริม

“ผม ติณวัฒน์ครับ หรือครูเรียกผมว่าต้นก็ได้”

ต้นเดินเข้าไปด้านในห้องเก็บของตามที่ครูบอกและพบกับถังทำความสะอาด เขาหิ้วออกมาสองถัง และพบว่าครูที่เดินมาจากอีกฝั่งถือชุดมาสองชุด



“เอ่อ ครูครับนี่มันชุดอะไรน่ะครับ” ต้นถามขึ้นเมื่อรับชุดมาพลิกดูแล้ว

“เอ้าก็ชุดสำหรับใส่ทำความสะอาดไง ครูไปขอมาจากคนดูแลสระเลยนะ”

“ผมว่ามันแปลกๆ นะครับ” ต้นคลี่ชุดออกให้ครูสนดู และพบว่ามันเป็นชุดว่ายน้ำแบบวันพีชของผู้หญิง โดยชุดของต้นเป็นชุดว่ายน้ำนักเรียนหญิงเนื้อหนาสีกรมท่า

“อืม จริงเหรอ” สนก็กางชุดของตัวเองดูเช่นกัน ของสนเป็นชุดว่ายน้ำวันพีชสีดำ แต่แตกต่างตรงของเขามีกระโปรงสั้นๆ ติดมาด้วยพร้อมแถบสีชมพูบนชุดเล็กน้อย

“หรือว่าเป็นยูนิฟอร์มของเขานะ แต่ช่างมันเถอะ รีบทำรีบกลับ” สนพูดพร้อมเดินเข้าไปยังห้องน้ำ

“อ่า. ครูครับ” ต้นจะเรียกแต่ไม่ทันเสียแล้วเมื่อครูเดินหายไปในห้องน้ำเสียก่อน

ต้นจำใจต้องเข้ามาเปลี่ยนชุดในห้องน้ำเช่นเดียวกัน เพราะในเมื่อครูใส่ชุดไปแล้ว ก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ถ้าเขาจะใส่บ้าง เพราะคงจะดีกว่าถ้าชุดที่เขาใส่มาจะไม่เปียกน้ำ

กลิ่นของผ้ายืดที่เป็นเอกลักษณ์เตะจมูกของต้นขณะที่เขาสวมชุดลงบนตัว ชุดว่ายน้ำแนบกระชับตัวของต้นพอดี และเปิดเผยรูปร่างที่เป็นชายรวมไปถึงส่วนที่นูนทางด้านล่างด้วย

ต้นรู้สึกอายเมื่อมองตัวเองในกระจก ชุดว่ายน้ำที่รัดไปทุกสัดส่วนแนบชิดกับตัวพอดี แม้จะขัดๆ แต่ก็ยังพอดูได้ เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาพบกับครูสนกำลังจัดชุดตัวเองหน้ากระจกใหญ่

“เอ้าเสร็จแล้วเหรอ” ร่างสูงของชายหนุ่มที่บัดนี้ถูกปคลุมด้วยชุดว่ายน้ำติดกระโปรงแต่ด้วยใบหน้าที่ดูน่ารักก็ทำให้ดูกลมกลืนไปกับชุด ราวกับว่าเป็นการแต่งตัวรูปแบบหนึ่งของแฟชั่น เลยทีเดียว

“เสร็จแล้วครับ” ต้นตอบอย่างประหม่า รู้สึกเขินอายเมื่อมีคนอื่นเห็นเขาในสภาพนี้

หน้าของสนก็แดงระเรื่อไม่แพ้กัน เพราะเมื่อฟังคำสั่งจากมิสเตอร์เคแล้ว เขาก็ทำใจที่เตรียมจะเจอกับความอายในระดับหนึ่ง แต่เทียบไม่ได้เลยกับการที่ต้องได้มาแต่งชุดว่ายน้ำหญิงต่อหน้านักเรียนจริงๆ แม้ว่านักเรียนจะยอมใส่ชุดว่ายน้ำหญิงเหมือนกันก็ตาม

“ปะ รีบไปทำใหเสร็จกัน” สนรีบตัดบทก่อนที่เขาจะรู้สึกเขินอายจากการจ้องของต้นไปมากกว่านี้ เขาเดินนำออกมา โชคดีที่ของเขามีกระโปรง ไม่อย่างนั้นต้นจะต้องเห็นแน่นอนว่าแท่งเนื้อของเขามันนูนเด่นขึ้นมาอย่างชัดเจน



“ครูว่าเราราดน้ำยากันตรงที่ด้านบน แล้วปล่อยให้มันไหลงไปตามทางลาดดีไหม “

“ได้ครับ” ต้นเปิดปากขวดน้ำยาขัดพื้น ซึ่งเขาไม่เคยใช้มาก่อน

“เป็นน้ำยาพิเศษน่ะ ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะถ้าใช้น้ำยาทั่วไปมันก็จะกัดเป็นอันตรายต่อผิวเราอีก” สนชี้แจงเพราะเห็นนักเรียนดูแปลกใจกับความเหนียวข้อของน้ำยาทำความสะอาด

น้ำยาถูกเทออกมาจนหมดทั้งสี่ขวด เมื่อเห็นว่ามันค่อยๆ ไหลไปจนทั่วบริเวณแล้ว ทั้งสองจึงเริ่มเอาแปรงออกมาขัด

เมื่อใส่ชุดไปได้สักพักความเขินอายที่มีต่อกันก็หมดลงไป ทั้งคู่ช่วยกันขัด จนได้ถึงครึ่งสระ

“โอ้ย ปวดหลังจัง” สนพูดขึ้นและลุกขึ้นบิดเอวเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่ามีอาการปวดจริงๆ

“ครูพักก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมขัดต่อเอง” นักเรียนในชุดว่ายน้ำสีกรมท่าพูดขณะนั่งยองๆ ขัดขอบข้างๆ เมื่ออยู่ในชุดว่ายน้ำ สนก็มองว่าบั้นท้ายของต้นที่นั่งยองๆ อ้าขาก็ดูดีไม่น้อย

“อืม จะว่าอะไรไหมถ้าครูขอแรงต้นหน่อยน่ะ ปวดแบบไม่ไหวจริงๆ”

“ได้ครับครู ให้ผมช่วยอะไรครับ”

สนนอนราบคว่ำหน้าลงกับพื้น

“ช่วยเอาเท้าเหยียบหลังให้ครูหน่อย เหยียบเบาๆ ระวังลื่นนะ”

“อะ โอเคครับครู”

ต้นเอามือพิงขอบสระ แล้วขึ้นเหยียบลงไปบนช่วงเอวและหลังตามคำขอของสนส่งผลให้เขาครางออกมาอย่างสุขสมในการแก้ความเมื่อยขบของเขา

“อืออ อืมมม ดีๆ” สนนอนหลับตาบนพื้น ชุดว่ายน้ำเปียกจากน้ำที่เหลือมาจนถึงครึ่งตัวของชุดว่ายน้ำ

“เหวอ”

“โอ้ยย”

ต้นเสียการทรงตัวล้มลงบนพื้น อย่างจัง

“ไหลๆ ครูพื้นมันลื่นนน” ต้นล้มและไหลไปตามความลาดชันของสระ และไปหยุดอยู่ที่ท้ายสระ

“อูยยยย”

“เป็นอะไรมากไหมต้น” สนลุกขึ้นและถามด้วยเสียงที่ดังเพราะความเป็นห่วง

“ไม่ค่อยเยอะครับ เจ็บที่ล้มนิดหน่อย แต่ครูระวังนะครับพื้นลื่นมากเลย”

สนค่อยๆ เดินไปจนถึงบริเวณที่ต้นอยู่

“ขอโทษทีนะ ก็ว่าระวังดีแล้ว มาๆ” สนยื่นมือให้ต้น ขณะที่สนกำลังออกแรงดึงต้นให้ลุกขึ้นนั่นเอง

“เฮ้ย ลื่นๆ”

“โอ้ยย” ทั้งสองล้มลงทับกันโดยมีสนอยู่ด้านบนตัวของต้น

“อูยยยย”

“ขอโทษนะต้น เดี๋ยวครูลุกก่อน เอ๊ะ อะไรมันเกี่ยวกันล่ะเนี่ย” สนขยับไปขยับมาบนตัวของต้น

“เหมือนชุดมันเกี่ยวกันเลย”

“คะ ครับครู อูยยย” เสียงของต้นแปลกไป เพราะตอนนี้ทั้งสองคนนอนประกอบกันอยู่ ท่ามกลางความลื่นและฟองจากน้ำยา ซึ่งนั่นยังไม่เท่าด้านล่าง ที่แท่งเนื้อของเขากำลังโดนบดเบียดจากครูที่ทับอยู่

“อ๊างง อ๊า คะ ครู ครับ ครูอย่าขยับเยอะ” ต้นร้องบอกสนเมื่อสนพยายามขยับตัวอยู่บนด้านบนตัวของเขา

“เธอเจ็บเหรอต้น ครูขอโทษนะ”

“มะ ไม่ได้เจ็บเท่าไหร่ครับ อือ อึ๊อ” สนขยับตัวอีกแล้ว

“ขอโทษนะต้น ครูไม่น่าเลยทำเธอเจ็บอีกแล้ว”

“ผมไม่ได้เจ็บครับครู เอางี้ครูพยายามแกะออกได้เลยครับ ไม่ต้องสนใจผม ผมไม่เป็นอะไร”

“แน่ใจนะต้น ครูกลัวเธอเจ็บจังเลย”

“เอาเลยครับครู” ต้นรู้สึกได้ถึงด้านล่างของเขากับครูสนที่ชนกันอยู่ แม้จะอยู่ภายใต้ชุดว่ายน้ำทั้งคู่ แต่ด้วยความรัดรูป มันก็ทำให้เหมือนกับว่า อวัยวะของทั้งคู่สัมผัสกันโดยตรง

“อ๊า อืออออออออ คะ ครู ครับ ใกล้จะออกหรือยัง” ต้นถามขณะที่สนยังคงขยับอยู่บนตัวเขา และทุกๆ การขยับเขยื้อน มันจะส่งความรู้สึกเสียวสะท้านให้เกิดขึ้นกับต้นเสมอ

“ใกล้แล้วๆ” เขาพูดพร้อมขยับตัวเร็วขึ้น

“อาห์ อูวววว อืมมมมมมม”

“ออกแล้วต้น”

สนสไลด์ตัวออกจากตัวของต้นได้สำเร็จ โดยที่ต้นยังคงนอนอยู่ที่เดิมด้วยการหอบหายใจที่รุนแรง

“ว่าแต่ไหลไปไหลมาบนพื้นที่มีฟองแบบนี้ก็สนุกดีเนอะ คิดถึงตอนเด็กๆ ขึ้นมาเลย”

“ฮ่ะๆ ๆ ผมไม่เคยเล่นหรอกครับครู แต่จะว่าไปก็น่าสนุกดี”

“ฮะ เฮ้ย ครู จะทำอะไรครับ” สนลุกขึ้นมายืนคร่อมร่างของต้น

“เอ้า ก็จะให้ลองดูว่าเล่นแบบนี้มันสุกยังไงไงล่ะ”

สนที่ตัวเต็มไปด้วยฟองก็นอนทาบลงไปบนตัวของต้น และเริ่มสไลด์ตัวขึ้นไปด้านบน จนเป้าของเขาแทบจะชนหน้าของต้น

“อุ้ยโทษทีลื่นไปหน่อย”

หลังจากนั้นเขาก็ไถลตัวกลับที่ที่เดิม เมื่อก้อนเนื้อทั้งสองไหลมาเสียดสีกันก็สร้างความรู้สึกให้เกิดขึ้นกับคนทั้งสอง

“ฮ๊ะ ฮู้ววว” ต้นพ่นลมหายใจออกมา

“เป็นไง ดีไหม”

“ดะ ดี ครัย ฮ๊า อูวว โอววว”

สนขยับก้นไถลขึ้นลง โดยจะเน้นขยี้เป็นพิเศษ เมื่อบริเวณความนูนของทั้งสองสัมผัสกัน และค่อยๆ เปลี่ยนจากการไถลขึ้นลงเป็นการบดคลึงโดยที่ต้นไม่รู้ตัว และสนทำมันเร็วขึ้นเรื่อยๆ

“โอวว คะ ครู ครับ พะ พอ ก่อน”

“คะ ครู อึ๊กกก” ต้นตัวกระตุก โดยที่สนยังคงร่อนเอวอยู่ด้านบน เขาขยี้ตามอีกสามสี่ครั้ง จนตัวของต้นหายกระตุก

“เป็นอะไรหรือเปล่าต้น” สนแกล้งถามเมื่อเห็นต้นหยุดกระตุก

“เปล่า ครับครู มะ เมื่อกี้ผมเจ็บนิดหน่อย” ต้นแกล้งตบเป็นอย่างอื่น

“อืม เดี๋ยวจะเจ็บตัวกันเปล่าๆ เอาเป็นว่าเราพอแค่นี้ก่อนก็ได้ ก็ขัดกันไปเยอะแล้วล่ะเนาะ”

“แบบนั้นก็ได้ครับ”

ทั้งสองช่วยกันพยุงตัวลุกขึ้น โดยที่ต้นมีท่าทางอิดโรยเล็กน้อย ขาอ่อนแรงอันเกิดมาจากการเสร็จสมอย่างไม่ตั้งใจเมื่อครู่

“ไหวไหมต้น”

“ได้อยู่ครับครู”

ต้นเดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ โดยที่สนยังไม่ได้ตามเข้าไป เพราะบอกว่าจะเก็บอุปกรณ์ให้

“ทำงานได้ดีนี่นา” คนที่เดินเข้ามาพูดชมเชยจนสนหน้าแดงเรื่อด้วยความอาย

“รู้ไหมว่าเรื่องนี้ถ้าคนอื่นรู้ นี่เรื่องใหญ่แน่ๆ”

“ใช่ แต่ไม่มีใครรู้หรอก” มิสเตอร์เคเดินเข้ามาประชิด

“ว่าแต่เสร็จไหม”

“เสร็จสิเสร็จแรงด้วยนะ หน้าเขาตอนเสร็จก็น่ารักอย่างที่คุณว่าจริงๆ” สนตอบโดยที่ไม่ได้หันไปมองด้านหลัง

“ไม่ใช่ ผมถามว่าคุณน่ะเสร็จหรือเปล่า”

“ไม่นะ ก็เกือบๆ” มือของมิสเตอร์เคลูบไปที่ใต้กระโปรงของชุดว่ายน้ำของสน

“อยากเสร็จในชุดว่ายน้ำหญิงไหม” มิสเตอร์เคถามพร้อมรอยยิ้ม

สนกัดริมฝีปาก และเดินนำเข้าไปในห้องน้ำ


หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 22 เกม 7 วัน อันตราย (จบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-04-2019 02:03:37
ตอนที่ 24 การแสดงละครของเด็กใหม่

“อืมม วันนี้ทำไมดูร้อนแรงผิดปกติ” มิสเตอร์เคถามคนที่อยู่ด้านหน้า

ร่างบางสูงที่อยู่ภายใต้ชุดว่ายน้ำผู้หญิง กำลังขยับเอวเข้าและออกด้วยตัวเองเพื่อสนองความรู้สึกส่วนลึกภายใน

“อา อืมม กะ ก็ เด็กคนนั้นเสร็จแต่หนูยังไม่เสร็จนี่ อะ อ๊าวว” แรงกระแทกมากขึ้นเหมือนต้องการจะแกล้งเขา

“เดี๋ยวนี้พูดได้คล่องปากแล้วนี่” ร่างด้านหลังที่โน้มตัวลงมาแนบชิดให้อีกฝ่ายและเอาแขนสองข้างโอบให้แนบกระชิดมากขึ้นกว่าเดิม เขาลูบไล้ผ่านสัมผัสของชุดว่ายน้ำ ส่งกระแสความรู้สึกให้แก่คนด้านหน้า เพราะรู้อยู่แล้วว่าสน

“อึ๋ยยย อี้อออ” คนด้านหน้าร่างอ่อนระทวยทรงตัวแทบไม่อยู่ คนด้านหลังได้จังหวะจึงเร่งกระแทกด้วยความเร็วและแรง โดยหวังให้คนด้านหน้าได้เสร็จสมตามอารมณ์

“โอววว อะ โอววว ปะ แปบนึง เดี๋ยวก่อน อ๊า อ๊า อ๊า” ร่างบางพยายามจะร้องห้าม แต่ต้านทานแรงที่ส่งมาไม่ไหวอีกต่อไป อาการเกร็งมาถึงขีดสุด ร่างบางกระตุก กึก กึก แท่งเนื้อเกร็งพร้อมพ่นน้ำออกมาอย่างมหาศาล

มิสเตอร์เครอให้สนหยุดเกร็งและสงบลง ร่างบางหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน

“นี่คุณยังไม่พอใช่ไหม”

“ก็ยังไม่เสร็จนี่”

“พอก่อนไหมเดี๋ยวต้นได้ยิน”

“เมื่อกี้ผมเห็นเขาเดินกลับออกไปแล้ว แต่ก็นั่นแหละ เห็นแล้วจะทำไมเหรอ” เขากระเซ้าด้วยการขยับก้นส่งแรงกระแทกไปสามสี่ครั้ง

“อึ๋ยยยย อย่าลึก จุกก” เสียงขอร้องของสนทำให้มิสเตอร์เคหัวเราะออกมาเบาๆ

มิสเตอร์เคกอดร่างของสนเอาไว้ และอุ้มตัวลอยออกมาโดยที่อวัยวะยังไม่หลุดออกจากตัวสน

“เดี๋ยวๆ นี่จะ ทำอะไร อย่านะ อย่า”

“เมื่อเช้าอารมณ์ค้างไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวจะพาออกไปเล่นน้ำข้างนอกไง” เขาพาสนออกมาจนถึงบริเวณสระ แม้ว่าอีกฝ่ายจะดูเหมือนขัดขืนแต่ก็ไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าเพราะจุก หรือเพราะชอบโชว์กันแน่

“ไม่เอา อายเค้า อย่าน้า ไม่อาว โอววว โอย จุก” ไม่แค่อุ้มออกมาอย่างเดียว คนที่แข็งแรงกว่าก็ขยับเอวเป็นจังหวะส่งอวัยวะที่มีความยาวพอประมาณ เข้าไปจนลึกสุดความยาว

“ฮ๊า ไม่นะ อย่าทำแบบนี้ อายไม่ไหวแล้ววว” สนถูกอ้มมาจนถึงกลางสระที่แห้งขอด ขาสองข้างถูกจับแยกออกจากกัน โดยมีมิสเตอร์เคนอนรองอยู่ด้านล่าง ชุดว่ายน้ำที่แหวกออกเปิดเผยให้เห็นสนน้อยที่ผงาดชูชันแม้ว่าจะผ่านการเสร็จอย่างหนักหน่วงมาก่อนหน้านี้แล้ว น้ำจากการเสร็จสม เคลือบอวัยวะจนเห็นมันเป็นเงางาม ส่วนด้านล่างเป็นช่องทางที่ตอนนี้ขยายและมีแท่งเนื้ออีกแท่งอัดเข้าไปอยู่เต็มช่องทางนั้น

สนถูกจับอ้าขา และสองมือที่ว่างอยู่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปปิดตรงส่วนไหน ระหว่างหน้ากับด้านล่าง เขาอายมากกว่าครั้งไหนๆ เพราะไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสภาพที่ใส่ชุดว่ายน้ำหญิง และโชว์ของลับไปพร้อมๆ กับการถูกทะลวงด้านหลังเช่นนี้

“ไม่ชอบเหรอแบบนี้” เขาพูดโดยเริ่มขยับก้นขึ้นลงอีกครั้งโดยที่สนที่ถูกจับให้อยู่ในสภาพนี้ไม่สามารถขัดขืนได้

สนไม่ได้ตอบอะไรนอกจากการระบายความอึดอัดและความเสียวซ่านโดยการครางออกมา หงิงๆ เพราะแม้จะอับอาย แต่เขาก็รู้สึกสุขสมและสะใจไปพร้อมๆ กันที่โดนทำแบบนี้กลางแจ้ง

“ไม่น่าจะใช่ เพราะแข็งขนาดนี้แสดงว่าก็ชอบไม่น้อยเหมือนกันนั่นแหละ” เขาหอบออกมาเล็กน้อย เพราะต้องเร่งจังหวะไปด้วย

“โอววว อูยยย จะถึงอีกแล้ว ฮ๊า จะถึง จะถึง อึ๊กกกกก” สนตัวกระตุกอีกครั้งในสภาพขากางน้ำจากตรงนั้นพุ่งสูงออกมาเป็นสาย บางส่วนเคลือบลงมาอาบลำเจิ่งนองลงไปด้านล่าง

ฝ่ายมิสเตอร์เคเร่งแรงอีกสี่ห้าครั้งก็คำรามออกมาเบาๆ เสร็จสมตามไปในเวลาไม่นาน ปลดปล่อยของเหลวอุ่นๆ เข้าไปในตัวของสน

ทั้งสองนอนหอบหายใจอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีแรงที่จะลุกขึ้น

“รู้สึกดีหรือเปล่า”

“คนบ้า อายจะตายอยู่แล้ว”

ภาพทั้งหมดถูกเห็นโดยต้นที่ยังไม่ได้ไปไหนไกลจากบริเวณนั้น หลังจากที่เขาไปเปลี่ยนชุดและซักชุดว่ายน้ำเพื่อคืนสระว่ายน้ำแล้ว เขาได้ยินเสียงแปลกๆ จากในห้องน้ำ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาทำอะไรกันในบริเวณโรงเรียนอย่างนี้ ราวกับละครรักวัยรุ่นหลายๆ เรื่อง

การแอบดูภาพที่เกิดขึ้นสดๆ ด้วยความระทึกใจทำให้ต้นถึงกับใจสั่น หน้าแดง และตื่นเต้นจนขนลุก เขาไม่คิดว่าครูทั้งสองจะแอบมาทำอะไรกันในที่อย่างนี้ เขาหอบหายใจจากความตื่นเต้น และด้านล่างของเขามันแข็งตัวจนแทบจะยืนตัวตรงไม่ได้ เขาแอบดูจนคนทั้งสองนั้น ช่วยกันประคองกันลุกขึ้น ครูสนเขย่งตัวขึ้นไปจูบคนตัวสูง และทั้งสองก็เดินเข้าไปในอาคาร ต้นเดินกลับหอด้วยความรู้สึกหลายอย่างภายในจิตใจ



______________________________________

การเปิดเทอมอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นแล้ว

ผ่านจากการกล่าวต้อนรับจาก ผอ. ในช่วงเช้าแล้ว วันนี้จะว่าไปก็แทบจะไม่มีเรียนเลยในแต่ละวิชา เพราะยังต้องเป็นการแนะนำกระบวนวิชาต่างๆ เสียก่อน คนที่คุ้นเคยจากการเรียนปรับพื้นฐานก็ทยอยเข้ามาตามตารางของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าที่ต้นรู้จักเป็นอย่างดีที่สุด น่าจะเป็น ครูเคที่สอนเคมี และครูสนสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งวันนี้ต้นรู้สึกได้ว่าครูสนมีอาการแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก เพราะในบางครั้งครูก็เกิดอาการชะงักและพูดติดๆ ขัดราวกับประหม่านักเรียน

เนื่องจากต้องจัดห้องตามสายการเรียน เพราะฉะนั้น กลุ่มที่ค่อนข้างสนิทกันอยู่แล้วจากการเรียนปรับพื้นฐาน จึงได้อยู่ในห้องเดียวกันทั้งหมด ทั้ง ต้น ต่อ กริช เก่ง รวมไปถึงเพื่อนๆ อีกสามสี่คนที่ต้นยังไม่ได้ไปทำความรู้จัก ซึ่งทั้งหมดได้เข้ามาอยู่ด้วยกันที่ห้อง 5/4

ตลอดครึ่งเช้า ก็เป็นการทักทายกันตามประสาเพื่อนใหม่ ต้นพบว่าในห้องค่อนข้างอยู่กันเป็นกลุ่มก้อนพอสมควร มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่อยุ่อย่างอิสระ ไม่ได้ไปไหนมาไหนกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดเขาได้มาจากโอ้ หนุ่มแว่นตี้ผู้พูดเป็นต่อยหอยไม่หยุดตั้งแต่เจอกัน และพยายามจะเข้ามาตีสนิทกับต้น

“พวกนายเพิ่งเข้ามาใหม่คงไม่รู้เรื่องนี้สินะ”

“เรื่องอะไรเหรอ” ต้นถามตาโตด้วยความสนใจ

“มันน่ากลัวนะ จะเล่าดีไหม” โอ้ทำท่ายียวน

“ไม่เล่าแล้วจะพูดหาหอกอะไรเล่า” กริชแทรกขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ ทั้งเขา ต้น เก่ง เริ่มทำความรู้จักกับคนทั้งห้องได้ประมาณหนึ่งแล้ว เว้นไว้แต่ต่อที่ไม่ค่อยจะสุงสิงกับใครเท่าไหร่ ได้แต่นั่งหน้าบูดมาทั้งเช้า

“เล่าก็เล่า ทุกๆ เทอม เราจะสามารถย้ายหอนอนได้ ซึ่งมีหอหนึ่งที่ค่อนข้างน่ากลัว และไม่ควรที่จะย้ายเข้าไปอย่างเด็ดขาด ไม่สิ แค่เดินผ่านยังยากเลย”

“เว่อร์ไปมั้ง” เก่งพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ

“นั่นไง ทุกคนเขาก็พูดแบบนี้”

“แล้วมันมีอะไรเหรอ” ต้นยังคงถามต่อเป็นเจ้าหนูจำไม

“ที่นั่นน่ะเป็นศูนย์รวมของเหล่าพี่สาวทั้งหลายในโรงเรียนยังไงล่ะ”

“พี่สาวเหรอ”

“เอ่อสิ คนที่ใส่ชุดนักเรียนหญิงทั้งหลายนั่นแหละ เห็นว่าเพื่อไม่ให้อยู่ปนกันตัดปัญหาการใช้ชีวิตลำบาก กับการแอบไปมีอะไรกันในห้อง”

“แล้วมันน่ากลัวยังไง” เก่งถามขึ้น

“ความน่ากลัวของมันคือ มันจะมีกลุ่มเพื่อนรักนักขุดทองแอบซุ่มอยู่แถวนั้น ใครเดินไปเดี่ยวๆ คนเดียวถูกลากขึ้นห้องไประเบิดถ้ำทองนะเว้ย”

“น่ากลัวไหมล่า” คนเล่าทำเสียงเยือกเย็น

“โวะ ไร้สาระ” กริชทำหน้าเอือมระอา

“มันผิดกฎหมายนะนั่น ไม่โดนไล่ออกกันเหรอ” เก่งถามด้วยสีหน้าที่ไม่เชื่อ

“เรื่องเล่าตลกดีเนอะ” ต้นหัวเราะออกมาเบาๆ

“เอ่อๆ ไม่เชื่อก็แล้วไป ขอให้เจอกับตัวเถอะ”

วงสนทนายังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งม.6 ในชุดนักเรียนหญิงและชายกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง เสียงสนทนาในห้องหยุดชะงักลงในทันที

“สวัสดีน้องๆ นะคะ พี่มาจากสภานักเรียน จะมาแจ้งเรื่อง ละครน้องใหม่ เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่นักเรียนเข้าใหม่โดยเฉพาะม.ปลาย จะต้องแสดงละครเพื่อแสดงถึงความสามัคคีกันในหมู่คณะ” รุ่นพี่คนหนึ่งพูดขึ้น

“หือ ละครอะไรเหรอพี่” กริชที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ถามขึ้น

“จะหัวข้ออะไรก็ได้ ซึ่งจะต้องเป็นเด็กใหม่ทั้งหมด จริงๆ แล้วเป็นของ ม.4 แต่ม.5 ที่เข้ามาใหม่ก็ต้องแสดงด้วยค่ะ”

“เนื่องจากน้องๆ ม.5 ปีนี้เข้ามาเยอะ ละครจึงแบ่งเป็น 11 เรื่อง โดยเป็น ม.4 10 ห้อง และม.5 รวมกันเป็น 1 เรื่องนะคะ”

“ค่ำคืนแห่งการแสดงจะเริ่มในอีก 3 สัปดาห์ต่อจากนี้ขอให้น้องๆ เตรียมตัวกันให้พร้อม” รุ่นพี่ผู้ชายอีกคนพูดเสริม คนนี้ทั้งขาวสูงและดูบุคลิกภาพดีมาก

“อีกอย่างขอให้ร่างบทละครให้เสร็จกันในอาทิตย์แรกและนำไปส่งที่สภานะคะ เพื่อที่ทางสภาจะได้หาชุดที่ใช้ในการแสดง และอุปกรณ์ประกอบฉากให้ได้ทัน”

“หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อได้ที่ห้องสภาค่ะ”

และรุ่นพี่ทั้งหมดก็ทยอยเดินออกไป



เสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในห้องอีกครั้ง

“อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องลำบากแล้วไงล่ะ” กริชเปิดประเด็น

“ปีที่แล้วเป็นไงมั่งล่ะแก” เก่งถามโจ้ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“เหอๆ เละเป็นโจ๊ก หัวหน้าห้องแกจะทำสโนว์ไวท์ แล้วแกเล่นเองด้วยนะ โคตรดูไม่จืด แต่ก็ดีที่ตลก”

“ใครว่าตลก! ” คิงหัวหน้าห้องที่เป็นสาวประเภทสองร่างถึกบึกบึนร้องขัดขึ้นมา

“อึ๋ย ไม่ได้ว่าอะไรเจ๊แหม่มเลยคร้าบบบ แอ๊ก ค่อกก” คิงหรือที่เพื่อนๆ เรียกว่าเจ๊แหม่มเดินเข้ามารัดคอเพื่อนด้วยกำลังมหาศาล

“ไม่มีอะไรหรอกพวกเธอ ทำกันขำๆ ว่าแต่สนใจไหมล่ะชุดยังมีอยู่ กริชหรือต้น แต่งเป็นสโนว์ไวท์ ก็น่าจะเหมาะอยู่นะ เดี๋ยวเจ๊ช่วย”

ทั้งสองรีบส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธเป็นพลันวัน และพากันชี้ไปที่โอ้ที่กำหน้าหน้าเขียวจากการโดนรัดคอ



กลุ่มของม.5 เฉพาะน้องใหม่ มารวมตัวกันใต้ตึก เพื่อที่จะหารือกันในเรื่องการแสดงละคร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด เพราะ ทั้ง 17 คนต่างมีแนวคิดที่แตกต่างกัน เหล่าชายหนุ่มที่เข้ามาทั้งหมดไม่มีใครที่เป็นเพศทางเลือกเลยแม้แต่คนเดียว การเลือกเรื่องละครที่มีตัวเอกหญิง จึงไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้โดยง่าย แต่ก็มีคนหัวใส คิดแนวเรื่องที่ใช้ผู้ชายหมดขึ้นมาได้

“เฮ้ย พาวเวอร์เรนเจอร์ไปสิพวกเรา ขบวนการห้าสีน่ะ แล้วก็ทำฉากแอ๊กชั่นมันส์ๆ ไปเลย”

“เอาเรื่องง่ายๆ อย่างสโนว์ไวท์ก็ได้นะ คนแคระเจ็ดคนด้วย แต่งหญิงแค่สองคนเองคือ นางเอกกับแม่มด” กริชพูดขึ้นเพราะได้ไอเดียจากหัวหน้าห้องมา

“งั้นแกกับเพื่อนแต่งหญิงนะเว้ย ความคิดแก” เด็กจากห้องจีนคนหนึ่งพูดแย้ง

“จับสลากเอาสิ ไม่งั้นก็ไม่แฟร์” เก่งเข้ามาแทรกเพราะบรรยากาศเริ่มดุเดือด

“อย่าเถียงกันเลยนะกริช เก่ง เดี๋ยวเราเป็นก็ได้ จะได้จบ” ต้นสายสันติเข้ามาห้าม

“ไม่เอาเหอะ แบบนี้ไม่แฟร์”

“งั้นโหวตกันเลย อันไหนชนะก็ค่อยว่ากัน” เพื่อยุติความบาดหมางการใช้เสียงส่วนมากจึงเข้ามาแก้ปัญหา แต่มีร่างหนึ่งลุกขึ้นยืนกลางวงสนทนา และตั้งท่าจะเดินออกจากกลุ่มไป

“นั่นแกจะไปไหน”

“ไปไหนก็ได้ไหมล่ะ ขี้เกียจฟังเรื่องไร้สาระ” คนที่โดนถามหันมาตอบอย่างเอาเรื่อง ส่งผลให้คนทั้งวงสะดุ้งโหยง

“จะไปก็ได้ แต่แกได้บทไหนก็ต้องเล่นนะเว้ย”

“เอ่อ ถ้าแกกล้าก็จัดมา” คำพูดที่เต็มไปด้วยรังสีอำมหิตอย่างรุนแรงถูกทิ้งไว้กลางวง และร่างสูงก็เดินหันหลังออกไป การแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งสร้างความตกตะลึงให้กับรูมเมททั้งสองเช่นกัน ต้นกับกริชหันมามองหน้ากัน

การลงคะแนนเสียงเริ่มขึ้น โดยมีหัวข้อคือ เรื่อง พาวเวอร์เรนเจอร์ กับ สโนวไวท์ เรื่องไหนกันแน่ที่จะได้ใช้ในการแสดง ทุกคนหลับตาโดย มีหนึ่งคนเป็นคนยืนจดคะแนนเพราะเมื่อต่อออกไปคนกลายเป็นจำนวนคู่ เพื่อไม่ให้มีการเสมอจึงให้หนึ่งคนกลายเป็นคนจดคะแนน

“ใครโหวตสโนว์ไวท์ “

“ใครโหวตพาวเวอร์เรนเจอร์ยกมือขึ้น”

“ทุกคนลืมตา”

“เรื่องที่ชนะ คือ..........”





ปล.1 เอ๊ะ! อยากให้เรื่องไหนชนะกันนะ

ปล.2 ใกล้จะจบบทที่ 1 แล้วนะครับ อีกไม่เกิน 8 ตอน ซึ่งผมเองอาจต้องไปทำวิทยานิพนธ์ ป.โทให้จบก่อน ถึงจะได้กลับมาต่ออีกที เพราะงั้นเลยจะรีบจบบทที่ 1 ก่อน จะได้ไม่ค้างคากันครับ เข้ามาพูดคุยได้นะครับ ทุกรีวิว ทุกกำลังใจเป็นแรงผลักดันให้แต่งต่อได้เร็วมากๆ เลย

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามให้กำลังใจกันครับ เข้ามาพูดคุยกันบ่อยๆนะ กิกิ






หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 24 การแสดงละครของเด็กใหม่
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 15-04-2019 23:39:55
ตอนที่ 25 การแบ่งบทการแสดง

“เรื่องที่ชนะ คือ..........”

“พาวเวอร์เรนเจอร์ หรือขบวนการ 5 สี ด้วยคะแนน 12 ต่อ 3 จ้า”

สิ้นเสียงประกาศทุกคนก็คุยกันเสียงเซ็งแซ่ กริชหันหน้ามาถามพรรคพวก

“พวกนายเลือกอะไรกันเนี่ย”

“เราก็เลือกสโนวไวท์ไง” เก่งตอบเสียงเรียบๆ

“แต่เราเลือก 5 สี ไปน่ะแฮ่ๆ” ต้นยิ้มเจื่อนๆ

“เอ๊า ทำไมไม่ช่วยกันโหวตเลยเล่า”

“ก็ไม่อยากแต่งหญิงง่ะ มันน่าอาย” กริชไม่ได้ว่าอะไรเพราะเมื่อเห็นหน้าต้นแล้วก็โกรธไม่ลง

คนที่เป็นคนนับคะแนนพูดขึ้นอีกครั้ง

“เอ้า เรามาแบ่งงานกันดีกว่า เริ่มจากใครจะเป็นคนเขียนบท”

มีหนึ่งคนในนั้นยกมือขึ้นอาสา

“ดีมาก ต่อไปก็คือรอบทเสร็จในวันพรุ่งนี้เราจึงจะมาแบ่งหน้าที่กัน แต่ว่าบทหลักๆ เราก็ยังสามารถแบ่งกันได้ นั่นคือ ตัวเอก ห้าตัวคือ สีแดง ฟ้า ดำ เหลือง ชมพู ซึ่งบทเหลืองกับชมพูเป็นผู้หญิง”

“แล้วทำไมไม่เป็นผู้ชายห้าไปเลยล่ะ”

“ไม่งั้นมันดูไม่สนุกไง มันต้องมีสีหวานๆ บ้าง” คนที่เขียนบทแย้งขึ้น

“โอเค มีใครจะอาสาเล่นบทไหนบ้าง”

มีคนยกมือขึ้นห้า คน

“ฉันเอาสีแดง”

“เราสีแดง”

“เราฟ้า”

“เราสีดำ”

เสียงอาสาดังขึ้นอื้ออึง เมื่อการตกลงสิ้นสุดก็ได้บทครบทั้งสามสี คือ แดง ดำ ฟ้า และคนที่เล่นเป็นตัวร้ายเหลืออยู่สองบทที่ไม่มีใครอาสา

“เหลืออยู่สองบทแล้ว มีใครจะอาสาไหม จะได้แยกย้ายกัน”

ทุกคนที่คุยกันอยู่เงียบลงทันที ได้แต่ส่งสายตาไปมาหากัน ความอึดอัดเริ่มเข้ามาเยือนเหล่าชายหนุ่มทั้งหลาย จนต้องมีผู้ที่ขึ้นมาทำลายความเงียบ

“เหลือ ห้องวิทย์คณิตยังไม่มีใครได้แสดงเลยนะ”

“คนนี้ไหมล่ะ เมื่อกี้เขายังอาสาแต่งเป็นสโนไวท์ได้เลย” มีหนึ่งคนชี้มาทางต้น

“มะ..ไม่เอาหรอก เมื่อกี้มันในเงื่อนไขที่ว่าเป็นเรื่องสโนว์ไวท์นี่ อันนี้ไม่เกี่ยว” ต้นปฏิเสธพัลวัน

“แล้วยังไงต่อทีนี้”

“ก็เหลือแต่ห้องวิทย์นี่แหละ ที่ยังไม่ให้ความร่วมมือ คนก็เยอะกว่าด้วย”

ทันใดนั้นร่างสูงร่างหนึ่งก็ยืนขึ้น ต่อนั่นเอง เขาทำหน้าไม่สบอารมณ์มาได้พักใหญ่ๆแล้ว และเขาก็หันหลังและเดินออกไป

“เฮ้ยนาย จะไปไหนล่ะ ประชุมยังไม่เสร็จเลย”

“แล้วยังไงต่อ พวกแกก็ประชุมกันต่อไปสิ ขี้เกียจจะฟัง เรื่องไร้สาระนี่เต็มแก่แล้ว”

“ถ้าออกไปก่อนเราเอาบทอะไรให้นายก็ต้องเอานะเว้ย”

“ก็เอามาดิ” ต่อพูดอย่างเอาเรื่องและหันหลังออกไปอย่างไม่สนใจไยดี

วงสนทนาหยุดลงชั่วครู่ แต่ยังไม่มีใครอาสาตัวเช่นเดิม

“ไม่รู้ล่ะ ยังไงห้องวิทย์ก็ต้องรับไป เสียสละหน่อย! ”

“เฮ้ยมันไม่แฟร์นะ พวกนายเลือกกันก่อนหมดแล้ว แล้วจะมาบอกให้ฝั่งนี้รับผิดชอบเนี่ยนะ” กริชเริ่มมีอารมณ์

“เอ้า ก็แล้วพวกนายทำไมไม่รีบยกมือก่อนล่ะ จริงๆ ก็กะว่าจะปล่อยให้คนอื่นเลือกไปให้หมดใช่ไหมล่ะ พวกห้องวิทย์ก็งี้แหละ มีแต่สมองแต่ไม่มีความเสียสละ”

“ว่างี้ก็ไม่ถูกนะ” เพื่อนในห้องวิทย์อีกคนเข้ามาเสริม

“งั้นก็รับไปนั่นแหละ”

“ให้คนที่เดินออกไปนั่นบทหนึ่ง เพราะเขาก็บอกเองว่า เอาไปได้เลย” เสียงคนที่เหลือก็สนับสนุนแนวคิดนี้เซ็งแซ่ อาจเป้นเพราะตัวเองไม่อยากเป็นหรือว่าต้องการกลับห้องเร็วๆ ก็เป็นได้

“เอ่อดี งั้นตามนั้นแหละหาอีกคนก็พอ” เด็กที่อยู่ฝั่งห้องศิลป์เข้ามาเสริมอย่างเร็ว

“เอ่อ ทุกคนเดี๋ยวเรารับเองก็ได้” ต้นทะลุกลางปล้อง ทำให้ทุกคนที่กำลังเถียงอยู่เงียบลง

ต้นพูดต่อ

“สำหรับต่อ เดี๋ยวเรารับผิดชอบให้ก็แล้วกันนะ”

“อื้อ ก็ตามนั้น พวกนายก็หาอีกคนมาก็แล้วกัน”

“เดี๋ยวฉันเอง” กริชอาสาขึ้นมาเป็นเพื่อนต้น

“แค่นี้ก็จบ”

วงสนทนายุติลงและทุกคนแยกย้ายกันกลับที่พัก เพื่อที่จะได้พักผ่อนกันก่อนที่จะไปเรียนต่อในวันพรุ่งนี้



“โอ้ย หงุดหงิดจริงๆ” กริชระบาบอารมณ์ตอนที่เขากินข้าวอยู่กับเพื่อน

“น่าๆ ไม่เป็นไรหรอกกริช แค่นี้เอง” ต้นพยายามจะช่วยให้เพื่อนหายจากอาการหัวร้อน

“เห้อ ไอ้ต่อแม่งไม่น่าเลย”

“อื้อ ช่างเขาเถอะ”

“จริง ต้นก็ไม่น่าไปรับให้ต่อเลยนะ เขาควรจะรู้การอยู่ในสังคมบ้าง” เก่งพูดเสริมเพราะไม่เห้นด้วยในพฤติกรรมของต่อเช่นเดียวกัน

“ไม่รู้สิ เห็นช่วงนี้เขาเครียดๆ น่ะ เลยคิดว่าน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจ”

“อะไรช่วยได้ก็ช่วยกันเนาะ เพื่อนกันนี่”

“จ้าๆ พ่อคนดี พ่อพ่อพระ” กริชและเก่งพูดพร้อมกันอย่างเอือมระอาในความละเลงลาเวนเดอร์ของต้น

_________________

“นี่มันชุดอะไรเนี่ย” สนถามเมื่ออีกฝ่ายยื่นชุดมาให้ มันเป็นกางเกงสีกรมท่าตัวเล็กๆ และชุดว่ายน้ำสีเดียวกัน

“แล้วน้ำฝนเธอใส่ชุดอะไรเนี่ย” สนหันไปถามน้ำฝนที่ตอนนี้ใส่ชุดผ้ายืดสีฟ้าที่ปกคลุมไปทั้งตัวยกเว้นส่วนหัว เมื่อสังเกตดีๆ จะเห็นว่าทั้งชุดเป็นผ้ายืดชนิดเดียวกัน ต่อกันเป็นชิ้นเดียว ผ้ายืดนั้นรัดรึงไปทั่วร่างกายของน้ำฝนจนดูคล้ายกับร่างที่เปลือยเปล่า เพียงแต่ว่าผิวนั้นเป็นผ้าเท่านั้น ชุดนั้นโชว์ส่วนเว้าส่วนโค้งของน้ำฝนได้เป็นอย่างดี สามารถมองเห็นหัวของหน้าอกคัพบีได้อย่างชัดเจน

“อันนี้เรียกว่าผ้ายืดสแปนเดก คล้ายๆ ชุดว่ายน้ำที่คุณใส่เมื่อวานนั่นแหละ” มิสเตอร์เคที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดกับสน

“ลองใส่ดูสิ”

สนถอดชุดทำงานออก เปิดเผยด้านล่างที่เป็นกางเกงในผู้หญิงกับถุงน่องเอาที่ใส่เอาไว้ตั้งแต่ตอนเช้า หากมองดีๆ จะเห็นเส้นเอ็นเล็กๆ ลอดออกมาจากขอบกางเกงในเป็นสายที่เอาไว้ดึงไข่สั่นไร้สายออกตาช่องทางด้านหลังนั่นเอง โดยมิสเตอร์เคนั้นให้เหตุผลว่าควรใส่ถุงน่องเพื่อความเรียบร้อย ซึ่งเขาก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เขาถอดถุงน่องและใส่กางเกงผ้ายืดขายาวเข้าไปก่อน

กางเกงมันยืดรักขาของสนพอดิบพอดี ความยืดและแรงรัดพอดีทำให้สนรู้สึกแปลกๆ เขาขยับขาเหวี่ยงไปมาและจบด้วยการยืนขาชิด เมื่อเนื้อผ้าเสียดสีกันมันทำให้เขารู้สึกแปลกๆ แต่ก็รู้สึกดีอย่างประหลาด

“เป็นไงบ้าง”

“มัน แปลกๆ” สนพูดพร้อมทำขาดุ๊กดิ๊กๆ

“ฮ่าๆ ๆ ๆ”

สนใส่ชุดว่ายน้ำต่อ เขาเริ่มชินกับการใส่แบบนี้แล้ว ชุดว่ายน้ำแนบกระชับไปกับเรือนร่าง ดูเหมาะสมไม่น้อยเพียงแต่สนไม่มีส่วนที่เป็นหน้าอก กับด้านล่างที่นูนออกมาจากเครื่องเพศชาย

“ต่อไป จะต้องใส่กางเกงแบบนี้ทุกวันนะให้ใส่แทนกางเกงปกติไปเลย”

“ไม่ค่อยสบายเลยอ่ะไม่เอาได้หรือเปล่า”

อีกฝ่ายเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉยทันที

“กะ..ก็ได้” หลังจากที่กางเกงในทั้งหมดถูกเปลี่ยนไปแล้ว ต่อไปกางเกงทั้งหมดในตู้ที่เอาไว้ใส่ไปทำกิจกรรมต่างๆ ก็คงจะถูกเปลี่ยนไปด้วย ซึ่งสนได้แต่คิดในใจว่า ก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่จะเหลือชุดดีๆ ใส่ต่อหน้าคนอื่นหรือเปล่านี่สิ

“กำลังคิดว่าจะเหลือชุดปกติใส่อยู่ไหมล่ะสิ” เขาพูดราวกับรู้ความในใจ

“ไม่ต้องแปลกใจหรอก เพราะจะอยากหรือไม่อยากคุณก็ไม่ใช่ผู้เลือกอยู่แล้ว” เขาพูดพร้อมหัวเราะเบาๆ อย่างพึงพอใจ

“ใช่สิ และยิ่งฝืนใจมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งชอบใช่ไหมล่ะ”

“โอ้ เก่งมาก เรียนรู้ได้ไว” น้ำฝนที่ยืนอยู่ข้างๆ ปรบมือแปะๆ

“แล้ววันนี้จะให้ผมทำอะไรล่ะ” สนเตรียมพร้อมเข้ารับการถูกกลั่นแกล้งแล้ว เขาเริ่มชินชากับมัน แม้ไม่ได้ชอบ แต่ก็รู้สึกเหมือนกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปเสียแล้ว

“อึ๊อ อ๊า อืมมมมม”

“แล้วไม่อยากให้ผมถอดที่อยู่ด้านหลังออกก่อนเหรอ” แรงสั่นสะเทือนทางด้านหลังสร้างความสั่นสะท้าน และเสียวเสียดแทงไปจนถึงแท่งเนื้อทางด้านหน้าจนสนแทบยืนไม่อยู่จนต้องระบายความอัดอั้นออกมาทางเสียงคราง

“แค่นี้ สบายยย โอววววว อูววววว” สนตั้งใจจะทำหน้าท้าทายแต่กลับกลายเป็นหน้าที่บิดเบี้ยวจากการเร่งความแรงจนสุดของไข่สั่นไร้สายที่อยู่ด้านในช่องทางด้านหลัง

มิสเตอร์เคยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ และบอกให้น้ำฝนเข้าไปช่วยเหลือครูที่นอนกลิ้งอยู่กับพื้น

“สัมผัสตอนใส่ว่าดีแล้วนะคะ เดี๋ยวพอโดนสัมผัสจากตัวหนูเข้าไปด้วยครูจะไม่อยากถอดชุดนี้เลยล่ะ”

น้ำฝนเตรียมเลื้อยลงไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงแล้ว

“ก็มาสิ” สนที่พลิกตัวขึ้นมาได้ส่ายก้นเป็นการท้าทาย

“ฮ่าๆ ๆ ๆ” มิสเตอร์เคหัวเราะชอบใจ ก่อนที่น้ำฝนจะเข้ามานัวเนียกับสน ฝ่ายชายหนุ่มหลับตาพริ้มเพื่อรอรับการปลุกอารมณ์จากน้ำฝนอย่างเต็มที่ ความรัดและแนบเนื้อของชุดที่ใส่ มันรู้สึกแปลกในครั้งแรกเท่านั้นเมื่อชินกับมันแล้ว แค่สัมผัสแรกจากน้ำฝนก็สร้างสัมผัสที่ดีให้กับสนเสียแล้ว อารมณ์ของเขาตื่นขึ้นอย่างรวดเร็ว

“รู้สึกดีแล้วใช่ไหมล่ะคะ”

สนกัดริมฝีปากเล็กน้อย ความรู้สึกของเขาตื่นขึ้นอย่างเต็มที่




หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 25 การแบ่งบทการแสดง
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 17-04-2019 13:34:31
ตอนที่ 26 ใส่ชุดเซนไทครั้งแรก

มาวันนี้ต่อดูอารมณ์ดีกว่าเมื่อวานมาก แต่เขาก็ยังไม่สุงสิงกับใครเช่นเดิม แทบจะเป็นบุคลิกของเขาไปแล้ว

“ไปกินข้าวกันต่อ” ต้นชวนเพื่อนเมื่อถึงเวลาพักเที่ยง

“ไปเลย ไม่หิว” แม้จะดูอารมณ์ดีขึ้นแต่คำตอบที่เขาให้ก็ดูสั้นห้วนและดูรุนแรงเช่นเดิม

“ทำไมแกชอบพูดรุนแรงกับต้นจังวะต่อ” กริชที่ยืนอยู่ข้างๆ ถามขึ้น

“เปล่านี่” เขาพูดพร้อมหันออกไปนอกหน้าต่าง

“อืม งั้นเราก็ไปกินกันก่อนเถอะ ป่ะ โอ้ ปะต้น”



“เอ่อแล้วเมื่อวานเป็นยังไงมั่ง หมายถึงว่ามันให้บทเราป่ะ” ต่อหันมาถาม ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินออกไปจากห้อง

“เอ่อ ว่าจะบอกอยู่ว่าต้นรับบท...”

“เรารับบทที่เหลือเองแหละ อยากแสดงน่ะ” ต้นชิงพูดขึ้นก่อนที่กริชจะพูดจบประโยค

“อื้ม ก็นายชอบแต่งเป็นผู้หญิงอยู่แล้วนี่” ต่อพูดประโยคที่ไม่น่าฟังออกมาซึ่งทำให้ทั้งกริช และเก่งที่รู้เหตุการณ์ทั้งหมดถึงกับของขึ้น

“เฮ้ยไอ้ต่อ ไม่รู้อะไรก็อย่าพูดเหอะ” เก่งหันกลับมาด้วยอารมณ์

“หยุดนะเก่ง” ต้นหันไปบอกเพื่อนด้วยเสียงที่ดังขึ้น

“ใช่ เรารับบทนั้นก็เพราะเราชอบแต่งเป็นผู้หญิงนั่นแหละ พอใจแล้วใช่ไหม” ต้นพูดด้วยเสียงดังโดยน้ำเสียงเจือไปด้วยความสั่นเครือจนสังเกตได้

ต้นหันหลังเดินออกไปโดยไม่รอเพื่อน เพราะไม่อยากให้ใครเห็นหน้า ต้นรู้ว่าตอนนี้ขอบตาของเขาทั้งสองข้างบวมแดงขึ้นมา น้ำตารื้นจนแทบจะกลายเป็นหยดไหลลงมา

ทั้งหมดที่เหลือไม่มีใครพูดอะไรกันอีกต่อไป ต่อหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างเช่นเดิม ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินตามต้นที่เดินออกไปอย่างเร็วเมื่อครู่



“อย่าไปคิดมากเลยนะต้น” กริชพูดปลอบเพื่อนขณะนั่งกินอาหารด้วยกัน

“ไม่เอาอย่าปลอบ”

“ใช่ ไอ้ต่อมันก็เป็นแบบนั้นแต่แรก ถือว่าทำเพื่อห้องไปก็แล้วกันเนาะ” เก่งเอื้อมมือมาตบไหล่ต้นเบาๆ

“ไม่เอาจะร้องอย่าปลอบ”

“ฮืออ” และต้นก็ร้องไห้ออกมาจริงๆ น้ำตาไหลพรั่งพรูออกจากตาทั้งสองข้าง เป็นภาพที่ทั้งน่ารักและน่าสงสารไปพร้อมกัน

“เอ้า รับผิดชอบกันเลยพวกแก” โอ้ที่นั่งซดก๋วยเตี๋ยวอยู่พูดแหย่ขึ้นมา

“ฮือ ถ้าปลอบแล้วมันจะกลั้นไว้ไม่อยู่ง่า” ยิ่งพูดน้ำตาของต้นก็ยิ่งไหลออกมา

ทั้งสามจึงไม่พูดอะไรต่อ เพื่อที่ต้นจะได้หยุดร้องไห้

“เอ่อว่าแต่พวกนายเห็นบทที่ห้องสิบเขียนหรือยัง” เก่งถามขึ้นมา

“ยังเลย”

“เราก็ยัง” เสียงตอบยังสั่นเครือเนื่องจากเจ้าของยังร้องไห้ไม่หยุด

“บทโคตรประหลาด พวกมันบอกว่าแอคชั่นมันส์ๆ แต่บทพูดคือเยอะมาก แล้วคนที่เล่นเป็น 5 สี คือต้องเล่นบทแอคชั่นด้วย คิดว่าน่าจะเละเทะน่าดู”

“แล้วเก่งไปได้มาจากไหน” กริชถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัยคิ้วเริ่มผูกเป็นปม

“ไปแอบดูมาจากเพื่อนที่รู้จักน่ะ แต่ก็ไม่ได้อ่านทั้งหมดหรอกรูแต่ว่าเยอะไม่เข้าใจว่าพวกมันจะกั๊กเอาไว้ทำไม ไม่ยอมแจกบทเสียที”

“เป็นแบบนี้แหละ พวกนั้นคงอิจฉาล่ะสิ เรียนไม่เก่งก็แบบนี้แหละ”

“อย่าไปว่าเขาแบบนั้นสิกริช คนเรามันเก่งคนละแบบกัน เรียนวิทย์ก็โง่ได้แบบเรานี่ไง” ต้นที่น้ำตาหยุดไหลแล้วพูดแทรกขึ้นมา”

“ขะ..ขอโทษ”

“ฮ่าๆ ไอ้กริชเจอเทศน์อีกแล้ว”

“พวกนายไม่กินข้าวกันเรอะ จะอยู่กันให้หมดพักเที่ยงเลยหรือไง” โอ้ที่กินก๋วยเตี๋ยวซดน้ำถึงหยดสุดท้าย

“ไอ้ก๋วยเตี๋ยวที่นี่เขาลือว่าใส่กัญชา น่าจะจริงแล้วว่ะ” โอ้พูดเมื่อซดน้ำจนหมด ส่งผลให้เพื่อนที่อยู่รอบๆ อดขำขึ้นมาไม่ได้



 __________________________________________________________

ชุดจากสภานักเรียนอยู่ในกล่องเรียงตั้งเอาไว้ ซึ่งกลุ่มห้องอื่นๆ ได้มารอกันอยู่แล้วก่อนที่กลุ่มของต้นจะมาถึง

“กรรมการนักเรียนทำงานไวมาก พอเราส่งบทไปปุ๊บเขาก็รีบจัดหาชุดมาให้พร้อมเลย”

“เขาบอกว่าบทอันนี้ปีก่อนๆ ก็เคยมีแสดง เขาเลยมีชุดเก็บไว้ แต่ไม่รู้ว่าจะพอดีไหมพวกนายไปลองใส่ชุดมาก่อนก็ได้นะ”

คนที่รับบทสำคัญก็เดินออกไปเอากล่องที่เขียนบทกำกับเอาไว้ จนเหลือแค่กล่องที่เป็นชุดรวมกับกล่องที่เป็นชุดของเรนเจอร์พิงค์ กับ เรนเจอร์เยลโล่ ที่เหลืออยู่

“เอ้า พวกนายรีบๆ ไปลองชุดสิ จะได้ไปปรับแก้ถ้าใส่ไม่ได้”

กริชและต้น จำใจต้องไปรับชุดมาลอง ทั้งสองถือกล่องไปที่ห้องน้ำที่ใกล้ที่สุด

ภายในกล่องบรรจุชุดไว้หลายแบบทั้งอุปกรณ์เสริมเยอะแยะ ต้นไม่รู้ว่าจะเลือกใส่อะไรก่อนจึงเรียกกริชที่เปลี่ยนชุดอยู่ห้องข้างๆ

“กริช มันคืออะไรบ้างอ่ะ งงไปหมดเลย”

“มันเยอะไปหน่อยแต่พอเข้าใจได้นะเคยดูอยู่ ต้นไม่เคยดูเหรอ”

“เห็นผ่านๆ ตาบ้างแต่ไม่ได้ดูจริงจังหรอก เคยดูแต่โดเรม่อน”

“เอางี้ ใส่ชุดชั้นในก่อนแล้วเดี๋ยวออกไปใส่ด้านนอกด้วยกัน”

“โอเค”

ในนั้นมียกทรง เสื้อซับ กางเกงในและกางเกงซับยางยืดสีขาวอยู่ ต้นถอดชุดออกทั้งหมดและสวมกางgกงในผ้าฝ้ายสีขาวบริสุทธิ์แทนความรู้สึกและสัมผัสนุ่มละมุนที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง เขาสวมยกทรงแบบสวมทางด้านหัว และสวมเสื้อซับกับกางเกงซับอย่างรวดเร็ว กางเกงซับรัดรูปแนบกระชับไปตามต้นขาและมองเห็นเนื้อที่นูนออกมาตามธรรมชาติ

เขาเปิดประตูห้องน้ำออกมาและพบกริชยืนรออยู่แล้ว กริชใส่เสื้อซับและกางเกงซับสีดำยืนรออยู่ เขาดูท่าทางประหม่าและดูเขินอายไม่น้อย ต้นก็อายเช่นเดียวกัน ทั้งสองยิ้มให้กันแบบเขินๆ

“กริชใส่ยกทรงออกมาป่ะ”

“อะ...อืม ก็เขาให้มาน่ะ”

ทั้งสองมองหน้ากันแบบอายๆ

“มันต้องใส่อะไรก่อนล่ะ” ต้นถามเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

“น่าจะชุดนี้ก่อนล่ะมั้ง ดูเป็นพื้นฐานที่สุด” กริชชี้ไปที่ชุดยาวๆ ที่เป็นชิ้นเดียวใส่ทั้งตัว ตรงถุงมือแยกเป็นนิ้ว ของกริชเป็นสีดำแต่ของต้นเป็นสีขาวทั้งตัว

ทั้งคู่จัดแจงใส่ชุดแนบเนื้อนั้นด้วยความยางลำบาก เพราะต่างคนต่างไม่รู้วิธีใส่ ซึ่งแม้จะผ่านไปด้วยความทุลักทุเล แต่ทั้งสองก็เอาตัวเข้าไปอยู่ในชุดเซนไทได้สำเร็จ

“เดี๋ยวจะรูดซิปให้นะ” กริชรูดซิปด้านหลังของชุดต้น เมื่อรูดซิปจนสุดชุดที่แนบเนื้ออยู่แล้วก็กลายเป็นรัดแนบมากกว่าเดิม ชุดแนบเนื้อจนเห็นเป็นรูปร่างของต้นที่ไม่ได้อ้วน แต่ก็ไม่ได้ผอมจนเหลือแต่เนื้อติดกระดูก ประหนึ่งตัวเปล่าแล้วมีผิวหนังชั้นที่สองเป็นสีขาว ซึ่งบริเวณหน้าอกมีความนูนเล็กน้อยจากบราที่ใส่ และด้านล่างเห็นความนูนไม่มากเนื่องจากมีกางเกงในและกางเกงซับช่วยอำพรางไว้อยู่

“ต่อไปก็น่าจะเป็นตัวที่เหมือนชุดบัลเลต์อันนั้น” กริชชี้ไปที่ชุดที่ดูเหมือนชุดว่ายน้ำที่มีแขนยาวสีชมพูของต้น มันมีเนื้อหนา และมีส่วนที่เป็นพลาสติก เพื่อทำให้ดูเหมือนเกราะ

ต้นรับมาสวมโดยการสอดขาลงช่องด้านล่าง และกริชรูดซิปให้จากด้านหลังเช่นเคย ความรูสึกรัดแน่นยิ่งมากกว่าเดิม เพราะตอนนี้เหมือนต้นใส่ชั้นที่สามเข้าไปแล้ว

ต้นลองขยับนิ้วและตัวดู มันให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาด เหมือนมีอะไรมาห่อหุ้มตัวอย่าตลอดเวลา เขาขยับแขนขาทำให้เนื้อเกิดการเสียดสีกับผ้าเป็นความรู้สึกแปลกๆ ที่น่าอภิรมย์ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

“ทีนี้ก็เหลือกระโปรงและรองเท้า เอ๊ะ ทำไมกระโปรงมันสั้นจังเลย” กริชหยิบกระโปรงสีชมพูสั้นเต่อขึ้นมาดู มั้นสั้นมากจนแทบจะปิดช่วงล่างไม่มิด

“ไม่เป็นไรมั้งกริช นี่ก็ใส่หลายชั้นแล้ว”

“ว่าแต่อันนี้เอาไว้ทำอะไรเหรอ” ต้นหยิบสิ่งที่ดูเหมือนหมวกไหมพรมที่มีรูขนาดใหญ่ขึ้นมา

“เห็นว่าอันนี้เอาไว้สวมหัวนะ มันเอาไว้ใส่ก่อนใส่หมวกที่เป็นเกราะหัวน่ะ”

“อ่อ โอเค เดี๋ยวเราช่วยกริชใส่ก่อนแล้วกันนะ” ว่าแล้วต้นก็จัดแจง เดินอ้อมไปด้านหลังของกริชเพื่อจะรูดซิปชุดเซนไทสีดำ

“เอะ ทำไมกางเกงของกริชไหลลงมา เดี๋ยวเราดึงขึ้นให้นะ”

“เดี๋วต้นอย่างเพิ่งดึงขึ้นน อุ้วว” กางเกงที่ต้นดึงมันรั้งก้อนเนื้อของกริชเข้าอย่างจัง

“ขอโทษนะกริชเป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ ทำต่อเลย”

ต้นรูดซิปด้านหลังและหยิบชุดว่ายน้ำสีเหลืองสดขึ้นมาเตรียมให้กริชใส่ กริชขยับอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะส่วนที่ตื่นขึ้นเมื่อครู่ทำให้เขาขยับลำบากขึ้นไม่น้อย ต้นดึงรั้งชุดนั้นขึ้นมาจนมันแนบไปกับตัว และรูดซิปด้านหลังอย่างชำนาญ ชุดแนบกระชับกับลำตัวของกริชพอดี

ต้นหยิบกระโปรงขึ้นมาสวมให้กริช และชุดที่ใส่ก็เสร็จสมบูรณ์ กริชอยู่ภายใต้ชุดแนบเนื้อสีดำทั้งตัวด้านบนเป็นชุดว่ายน้ำสีเหลืองซึ่งมีส่วนประกอบที่ทำให้ดูเหมือนมีเกราะหน้าอก และเกราะแขน ส่วนด้านล่างเป้นกระโปรงสีเหลืองสั้นที่แค่เดินก็จะมองเห็นส่วนด้านล่างชองชุดว่ายน้ำคล้ายกางเกงในสีเหลืองขาดแต่รองเท้าด้านล่าง

กริชเริ่มหน้าแดงด้วยความอาย ถึงจะรู้ว่าเป็นการทำให้ห้อง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้ใส่ชุดอะไรแปลกๆ แบบนี้ซ้ำยังเป็นชุดของผู้หญิงอีกด้วย

“รู้สึกแปลกๆ เนาะ”

“อืม ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันน่ะแหละ แต่พอชินแล้วมันก็ไม่เท่าไหร่นะ”

“แล้วเราต้องใส่ชุดพวกนี้ออกไปให้พวกนั้นดูไหม” กริชถามด้วยหน้าที่แดง เพราะนึกสภาพการแต่งชุดแบบนี้ออกไปให้เพื่อนเห็นมันคงน่าอายกว่านี้มากมาย

“คงไม่หรอก เขาให้ลองว่าพอดีไหมเฉยๆ น่ะ แต่ลองแล้วพอดีเลย จะได้ไม่ต้องแก้อีก”

ต้นทำท่าว่าเหมือนจะแกะชุดออก แต่โทรศัพท์ของเขาก็มีสายเข้าเสียก่อน เก่งนั่นเองที่โทรมา

“ว่า”

“ต้น อยู่กับกริชไหม รีบมาเลยนะ พวกห้องสิบมันโวยวายแล้วว่าทำไมช้าจังมันจะเริ่มประชุมกับแจกบทแล้ว”

“อะ..โอเคแต่ขอเวลาเปลี่ยนชุดแป๊บนึงได้ไหม”

“มันจะไม่ทันน่ะสิ แต่ไอ้คนที่เหลือมันก็ใส่ชุดของมันมาประชุมด้วยนะไม่เห็นจะเปลี่ยนกลับ”

“อ่า งั้นก็ตามนั้น” เก่งวางสายไป

ต้นหันมาหากริช

“อย่าบอกนะว่า”

“อื้อ เราว่าคงเปลี่ยนชุดกลับไม่ทันน่ะ พวกนั้นเริ่มโวยวายแล้ว”

“ตะ..แต่จะแต่งชุดนี้ออกไปมันก็นะ” กริชหน้าแดงใจเต้นแรงหายใจไม่ทั่วท้อง

ต้นที่หน้าเริ่มแดงไม่แพ้กัน เพราะเขาต้องเก็บความรู้สึกเอาไว้ไม่ให้ตัวเองแสดงความเขินอายต่อหน้าเพื่อน เพราะตอนนี้ใจของต้นก็เต้นแรงและเร็วมากเช่นเดียวกัน เมื่อคิดถึงความอายเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเพื่อนในสภาพแบบนี้

“แต่ว่าเก่งก็บอกว่าคนที่แสดงมันก็ยังไม่ได้เปลี่ยนชุดกลับนะ คงไม่ได้มีแต่เราหรอก” ต้นยิ้มแบบเขินๆ

“อื้องั้นก็ไปกัน”

ต้นสวมกระโปรงและรองเท้าเพื่อเตรียมพร้อม ความหน่วงในช่องท้องและอาการปวดฉี่เล็กๆ แบบหน่วงๆ กลับมาเยือนอีกครั้ง ด้านล่างของต้นพองจนแทบระเบิด กับหัวใจที่เต้นแรงและเลือดที่สูบฉีดไปทั่วใบหน้า ต้นส่งมือให้กริช และกริชก็รับเอาไว้ เมื่อมือทั้งสองประสานกันก็เกิดเป็นความรู้สึกจั๊กจี้เสียวูบในใจอย่างน่าประหลาด

ทั้งสองสูดหายใจและเดินออกไปนอกห้องน้ำด้วยการแปลงร่างแบบเต็มยศ



หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 26 ใส่ชุดเซนไทครั้งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 07-06-2019 17:51:49
ตอนที่ 27 ชุดที่ใส่แล้วถอดยาก

สองเรนเจอร์ทั้งชมพูและเหลือง เดินออกห้องน้ำไปด้วยความเร่งรีบ เขาทั้งคู่ไม่ได้ถือถุงที่ใส่ชุดของตัวเองออกไปด้วย ระหว่างเดินกระโปรงพลิ้วไปยังที่ประชุมไม่วายที่กริชจะหันมาคุยกับต้น

“ชุดมันรัดมากเลยนะเนี่ย”

“ของเราไม่ค่อยเท่าไหร่นะ แต่ก็เพิ่งเคยใส่นี่แหละ”

“รีบไปกันเถอะ”

ทั้งคู่เข้าไปยังใต้ถุนอาคารที่เพื่อนๆ กำลังประชุมกันอยู่ การมาของคนที่ใส่ชุดแปลกตาทำให้กลุ่มที่คุยกันอยู่เงียบลงทันที

ทั้งสองเริ่มรู้สึกเขินอายเมื่อเพื่อนๆ มองมาที่เขาทั้งสองเป็นตาเดียว

แต่ที่ทั้งสองดูตกใจมากกว่าคือทั้งหมดในกลุ่มไม่มีใครใส่ชุดแบบทั้งคู่เลยแม้แต่คนเดียว แต่มีคนใส่ชุดสำหรับที่จะไปแสดงมาประชุมเช่นเดียวกัน แต่เป็นชุดเข้าแกปกติไม่ใช่ฉากแปลงร่าง นั่นหมายความว่ามีแต่สองคนนี้เท่านั้นที่ใส่ชุดเซนไท

“เอ้า สาวๆ มานั่งทางนี้สิจ๊ะ”

“กวนตีนไอ้บ้า” กริชเขินแต่ก็ยังสามารถทำใจแข็งพูดสวนกลับไป

ทั้งคู่เข้าไปนั่งโต๊ะเดียวกับเก่งที่จองที่ไว้ให้ และการประชุมก็ดำเนินต่อ

“ไม่คิดว่าชุดมันจะจัดเต็มขนาดนี้” เก่งกระซิบกับเพื่อนทั้งสอง

“อื้อ อายมากเลยว่ะเก่ง ไหนนายบอกว่ามีคนใส่ชุดแสดงมาไง” กริชหันไปกระซิบกระซาบ

“ก็สองคนนั้นไง ชุดนั่นน่ะใส่เข้าแสดงเลยนะน่ะ แต่มันไม่ใช่ชุดแปลงร่างแบบพวกนายไง”

ผู้ที่เขียนบทออกมาชี้แจงลำดับงานกับนัดทำงานในวันต่อไป

“หลังจากนี้ จะต้องแบ่งหน้าที่กันไป ทำฉาก ทำอุปกรณ์ และซ้อมการแสดงนะ เดี๋ยวเราจะแจกบทให้ ให้คนที่จะแสดงอ่านเฉพาะบทของตัวเองก็พอ เพราะมันมีบทของทุกคนอยู่ในเล่ม” คนที่พูดยกปึกกระดาษขึ้นมามันมีอยู่หลายชุดด้วยกัน

“เดี๋ยววันนี้จะลองให้จัดกลุ่มดูกันก่อนคร่าวๆ ลองดูว่าใครทำอะไรอย่างไร แล้วค่อยแยกย้าย”

ต้นกับกริชหันมามองหน้ากัน เพราะรู้แล้วว่าน่าจะยาว

“เราปลีกตัวไปเปลี่ยนชุดกันก่อนไหม”

“ดีเหมือนกัน”

“เอ้าคนแสดงแยกออกไปเลย เดี๋ยวจะหาตัวประกอบกับคนทำงานอื่น”

“นักแสดงมาทางนี้” คนที่เหมือนเป็นผู้รับผิดชอบฝ่ายการแสดงกวักมือเรียกทุกคนไปรวมกัน

กริชที่มองหน้าต้นอยู่ พยักหน้าให้คนเรียก

“น่าจะไม่ทันแล้วต้น รอเสร็จก่อนก็แล้วกันเนาะ”

“อะ..โอเค”

สายตาหลายคู่ยังคงมองไปที่ต้นกับกริช กริชมองเห็นได้ชัดว่าพยายามเก็บซ่อนความอายไว้ภายใน เขาทำหน้าเหมือนไม่สะทกสะท้านอะไร แต่ต้นมองเห็นว่าหน้าของกริชเริ่มแดงระเรื่อมาได้สักพักแล้ว ส่วนต้นนั้นทั้งอึดอัด ทั้งรู้สึกดีไปพร้อมๆ กัน เพราะชุดที่เหมือนจะรัดอึดอัดแนบเนื้อในตอนนี้มันกลายเป็นความรู้สึกชินไปเสียแล้ว แต่ความเขินอายนั้นยังมีอยู่ไม่น้อย ต้นรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา

นักแสดงทั้งหมดมารวมตัวกัน ผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมจึงชี้แจงงาน

“พวกเราคือนักแสดงหลัก รับบทไปก่อนนะทุกคน”

“เราชื่อเติ้ลนะ จะรับหน้าที่เป็นผู้กำกับเรื่องนี้ ยังไงก็ทำให้เต็มที่นะทุกคนจะได้ไม่อายน้อง”

“เดี๋ยวเราจะบอกเนื้อเรื่องคร่าวๆ ให้ฟังก่อน เราจะเป็นฉากสั้นๆ ในตอนที่กองทัพวายร้ายบุกโลก เหล่าพาวเวอร์เรนเจอร์เลยต้องออกมาปราบเหล่าร้าย ซึ่งตัวร้ายก็จะมีนายพล กับสมุนอีก 8 คนรวมเป็น 9 ในช่วงแรกก็จะเป็นการโชว์แอคชั่น ซึ่งสีชมพูกับสีเหลืองไม่ต้องออกท่าเยอะก็ได้เพราะดูชุดแล้วไม่ถนัด”

“ดะ..ดะ..ได้” กริชตอบอย่างเขินอายเพราะตอนนี้นักแสดงทั้งหมดพากันมองมาที่เขากับต้นแล้ว กริชรู้สึกหน่วงๆ มาได้สักพัก ยิ่งอายมันยิ่งหน่วง และความรู้สึกแปลกๆ ของไอ้ชุดที่ใส่อยู่ทำเอากริชรู้สึกแปลกมาก

“ทีนี้ครึ่งหลังมันก็จะมีดราม่านิดหน่อย เพราะเหล่า 5 สีก้จะสู้แพ้และสีชมพูโดนจับตัวไป เหล่าฮีโร่จึงต้องรวมพลังกันและใช้แรงใจและความรักเพื่อนพ้องต่อสู้จนชนะในที่สุด”

“เรื่องก็จะมีตามนี้”

“เดี๋ยวเราจะลองซ้อมคร่าวๆ ดูก่อนนะ”

“ถามได้ไหม” กริชที่อ่านบทไปบางส่วนถามขึ้น

“เราสองคนนี่ต้องพูดคะ ค่ะ ตามบทไหม ตัดออกได้หรือเปล่า เป็นพูดธรรมดาไม่ต้องลงท้ายด้วยคะ”

“แต่บทมันเป็นผู้หญิงไงใส่ชุดเป็นผู้หญิงมันก็ต้องพูดไปตามสคริปต์นั่นแหละ อย่าไปคิดมากคิดว่าเป็นการแสดงก็พอ”

กริชถึงกับเอามือกุมขมับ เพราะรู้สึกทำตัวไม่ถูกที่จะต้องพูดคะ ขา ที่เขาไม่เคยพูดมาก่อน ส่วนต้องหน้าแดงร้อนผ่าว อายจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว

กริชกลั้นใจขอผู้กำกับ

“เราขอแยกไปซ้อมกันเองก่อนได้ไหม คือตอนนี้มันยังเขินอยู่น่ะ”

“อ๋อ ได้สิ”

“ปะต้นไปกัน” กริชคว้าแขนของต้นและพาเดินออกไปจากบริเวณนั้น ฟ้ายามเย็นค่อยๆ มืดลงทีละน้อยซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งสองที่ต้องการหลบเลี่ยงสายตาคนอื่น



ต้นกับกริชเลือกมายืนที่บริเวณไกลออกไปจากที่ผู้คนพลุกพล่านเล็กน้อย เนื่องจากพื้นที่ของโรงเรียนกว้าง จึงมีหลายพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไหร่นัก และยิ่งเป็นช่วงเย็นที่อิสระเช่นนี้ หลายๆ คนจึงอยู่ที่โรงอาหาร กับสนามกีฬามากกว่า

“โอยตายๆ อายจริง” กริชพูดกับต้นเมื่อหาที่นั่งได้แล้ว”

“เราแอบไปเปลี่ยนกันก่อนไหม” ต้นเสนอ

“อยากไปอยู่ แต่มันต้องเดินย้อนกลับทางเก่า เดี๋ยวพวกนั้นก็คิดว่าเราซ้อมกันเสร็จแล้วซะนี่”

“อ่า งั้นดูบทคร่าวๆ ก่อนนะว่ามันทำอะไรบ้าง”

ต้นอ่านบทในมือตัวเอง สักครู่หน้าของต้นก็ค่อยๆ แดงขึ้น

“บทเป็นยังไงบ้างต้น ไหนดูบ้าง” เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ตอบกริชก็อ่านบทของในมือตัวเองดู และผลลัพธ์ของการอ่านบทก็เกิดขึ้นคล้ายๆ กับต้น กริชก็หน้าแดงด้วยความเขินอายเช่นเดียวกัน

“มันจำเป็นต้องมีบทแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”

“อื้อ ไม่ไหวแน่ๆ ให้ปีศาจปล้ำด้วย ก่อนที่สีแดงจะเข้ามาช่วย และตอนสุดท้ายมีจูบกันอีก โอ้ยนี่มันขบวนการ 5 สีแบบไหนกันแน่เนี่ย” กริชโวยวาย

“ดีที่ของเรามีไม่มาก แต่ต้นจะเล่นไหวเหรอ ไปขอพวกมันแก้บทกันดีไหม”

ต้นส่ายหน้าเป็นเชิญปราม

“ไม่เป็นไรหรอก ไหวอยู่น่า คิดว่ามันเป็นการแสดงก็จบ” แม้ปากจะพูดว่าไม่เป็นไรแต่ใจของต้นเต้นแรงมาก เพราะบทที่ได้มันดูน่าอายเกินกว่าที่เขาจะเล่น นี่ยังไม่รวมถึงชุดบ้าบอที่เขากำลังใส่อยู่ตอนนี้ แต่ถึงกระนั้น ต้นน้อยก็ยังกลับเริงร่าตื่นเต้นมากกว่าทุกวัน จนต้องขอบคุณกระโปรงที่ช่วยปิดบังความนูนด้านล่าง

“แต่บทพูดของเราไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่นะ สบายไป” ต้นพูดเมื่อดูบทของตัวเองเสร็จแล้ว

“อื้อ ไม่เยอะเท่าไหร่จริงๆ ด้วย แต่ติดตรงนี้นิดนึง มันจะมีอยู่ฉากหนึ่งที่เราต้องรวมพลังกันสู้เหล่าร้ายสองคน ก่อนที่จะแพ้ และต้นโดนจับไป เขาวงเล็บไว้ว่าให้ออกแบบท่าเอง โดยให้เอาสองมือประกบกัน และตั้งชื่อท่า ........บีม”

“โอโห”

“เอาไงดีล่ะทีนี้”

“มา ลองทำกันดูเลย” ต้นเสนอ

ทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากัน ต้นเดินเข้าชิดกับกริช แต่ด้วยความประหม่าทำให้หน้าอกที่นูนขึ้นนมาเล็กน้อยชนกัน

“อุ้ย ขอโทษ”

“ไม่เป็นไรต้น”

ยิ่งมองใกล้ๆ ก็ยิ่งเห็นว่าใบหน้าที่ขาวผ่องของต้นแทบไม่มีริ้วรอยเลย เรียบเนียนไปทุกส่วน และยังแก้มที่อมชมพูเล็กๆ แบบคนมีสุขภาพดีนั่นอีก ตรงข้ามกับประโยคที่ต้นเคยบอกเล่าให้เขาฟังว่าทำงานหนักตั้งแต่เล็ก แม้ว่าจะมีผมที่สั้น แต่ด้วยรูปร่างที่ผอมบางภายใต้ชุดแบบนี้ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ว่ามันดูเข้ากับต้นเป็นอย่างมาก ซึ่งนั่นก็ทำให้กริชรู้สึกประหม่าขึ้นมาจนพูดแทบไม่ถูก

หนุ่มหน้าหวานทั้งสองต่างประหม่าซึ่งกันและกันเพราะยืนอยู่ใกล้กันเกินไป แต่ก็ยังไม่ได้มีใครขยับออกจากกัน

“ขยับยังไงดีล่ะนี่”

ต้นขยับอย่างเก้ๆ กัง กระโปรงที่แม้ว่ามันจะสั้น แต่ด้วยความคับของตัวมันเองก็ทำให้คนที่ไม่เคยใส่มาก่อนขยับได้ลำบากพอสมควร ซึ่งมันก็ยังเสียงสีบริเวณด้านล่าง ซึ่งทำให้ทั้งคู่แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจแต่น้องน้อยทั้งสองก็พยายามที่จะผงาดขึ้นมาอยู่ดี แต่เพราะว่ามันถูกกดไว้ด้วยกางเกงซับและชุดรัดรูปกับชุดว่ายน้ำอีกที มันจึงทำได้แค่ขยายขนาดขึ้นมา ภายใต้ร่มผ้าเท่านั้น

“ลองท่านี้ดูนะ”

ต้นขยับตัวเข้ามาชิดกว่าเดิม และดันมือข้างขวาออกไปข้างตัวพร้อมกับขยับมืออีกข้างมาเป็นโอบเอวแทน

“นี่ๆ เหมือนยิงลำแสงขึ้นมาแล้ว ท่านี้ดีกว่าเนอะ”

ด้านพูดพร้อมขยับไปมาโดยไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้เพื่อนเกิดความรู้สึกแปลกๆ จากการเสียดสีของตัวเขาเอง กริชในตอนนี้หัวใจเต้นแรงและหน้าแดงขึ้นมาทีละน้อย แต่นั่นก็ไม่เท่ากับที่กริชน้อยกำลังถูกบดเบียดอยู่ด้านล่าง

“อ่ะ..เอ่อ ก็ดีนะ” การเสียดสีภายใต้ชุดที่รัดรูปทำให้กริชรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย มันเป็นความรู้สึกแบบแปลกๆ ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน

“ทีนี้เอาขายังไงดี ไขว้แบบนี้ดีไหม”

“ดะ...เดี๋ยวต้น” กริชจะห้ามเพื่อนแต่ไม่ทันเสียแล้ว

ต้นเสียหลักล้มลงแต่มือที่จับกันอยู่นั้นไม่ได้ปล่อยออกจากกันจึงกลายเป็นว่าต้นดึงให้กริชล้มลงมาด้วยกัน ทั้งสองนอนทับกันโดยมีกริชทับอบู่ด้านบน

“โอยย ขอโทษนะกริช”

“ไม่เป็นไรต้นว่าแต่ต้นเถอะเป็นอะไรหรือเปล่าโดนทับอยู่ เดี๋ยวจะลุกขึ้นให้นะ”

ขาของทั้งสองสลับฟันปลาและบดเบียดกันโดยมีขาขวาของต้นอยู่ระหว่างขาของกริช และขาขวาของกริชก็บนอยู่กับต้นน้อยจนมันเริ่มแข็งขึ้นมาแล้ว

ต้นหน้าแดงเมื่อคิดว่ากริชต้องรู้สึกได้แน่ๆ ว่าข้างล่างของต้นแข็งตัว แต่เขามัวแต่เกร็งเพื่อนมากเกินไปจนไม่รู้สึกถึงของกริชที่ก็แข็งตัวดีดขึ้นมาผงาดไม่แพ้กัน

“อ่าห์ อืมมม”

“โอ๊ย”

“เป็นอะไรต้น”

กริชถามขึ้นมาต้นร้องขึ้นมาแล้วหลับตาปี๋

“มะ..มะ..ไม่เป็นอะไรกริช เหมือนโดนกริชกระแทกนิดหน่อยเมื่อกี้” ต้นตอบไปแบบนั้น เพราะไม่สามารถบอกความจริงได้ เพราะจากประสบการณ์บดเบียดกับครูสนที่สระว่ายน้ำ ทำให้เมื่อครู่ที่กริชพยายามจะขยับตัวและเลื่อนขาขึ้นต้นเผลอตัวอ้าขารับแรงเบียดนั้นเข้าไปเต็มๆ ทำให้เกิดสองความรู้สึกพร้อมๆ กันคือเสียวจากการโดนเบียดตรงส่วนหัวและจุกจากการโดยเบียดบริเวณก้อนเนื้อ

กริชลุกขึ้นมาและส่งมือให้ต้นจับเพื่อที่จะพยุงต้นลุกขึ้น เมื่อกี้เกิดความรู้สึกเสียววูบวาบที่บริเวณ ตรงนั้นอย่างแรงขึ้นมาแวบหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย ขาของเขายังสั่นไม่หายจากความรู้สึก ใจที่เต้นแรงทำให้เขาเผลอหอบหายใจอย่างไม่รู้สึกตัว กริชคิดในใจอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ว่า ถ้าได้เบียดกับต้นอีกครั้งมันจะยังรู้สึกดีแบบเดิมอยู่อีกหรือไม่

ก็ไม่ได้เลวร้ายเท่าไหร่นะ เขาคิดในใจ

ความรู้สึกอยากเปลี่ยนชุดเร็วๆ ค่อยๆ จางหายไปจากหัวของกริชอย่างช้าๆ ความรู้สึกอึดอัดในตอนแรกได้แปรเปลี่ยนมาเป็นความรู้สึกดีและเขาเสพติดความรู้สึกและสัมผัสที่แนบกับลำตัวแบบนี้ไปเสียแล้ว ความคิดในใจลำดับถัดมาคือ การไปนั่งอายในชุดแบบนี้ตอนประชุมก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ เขาคิดพร้อมกับที่ท่อนเนื้อด้านล่างตื่นตัวสุดขีด และความรู้สึกหน่วงๆ ในช่องท้องเกิดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“เราใส่ชุดนี้ไปกินข้าวเย็นกันไหมต้น”

“ห๊ะ อะไรนะกริช!! ”


หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 26 ใส่ชุดเซนไทครั้งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 07-06-2019 17:53:53
ตอนที่ 28 กริช x ต้น

คำพูดที่ออกมาจากกริชทำให้ต้นถึงกับตกใจ ซึ่งแม้แต่กริชเองก็ดูตกใจในสิ่งที่ตนเองพูดเช่นเดียวกัน

“อะ..เอ่อ..คือจะบอกว่าถ้าเราไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวมันจะนานไปน่ะ มันจะมืดเสียก่อน” กริชรีบแก้ตัวเป็นพัลวัน

“โอเค”

“ห๊ะ”

“ก็ไปกันทั้งชุดนี้ไง มันใส่ยาก ไว้ค่อยไปถอดที่ห้องก็ได้” ต้นตอบโดยที่ไม่มีความเขินอายแม้แต่น้อย

กริชหัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มันจริงอยู่ที่เขาเสนอไปด้วยความพลั้งปาก แต่ตอนนี้เขากลับคิดได้ว่าหากไปกินข้าวชุดนี้ คนอีกมากมายก็จะเห็น แต่อีกใจหนึ่งกลับอยากลองอะไรแบบนี้ขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“เดี๋ยวเราลองพูดตามบทที่เขาให้มาดูไหม”

“ดะ..ดะ...ดะ..ได้ๆ” กริชลนลานรับคำ เพราะเพิ่งหลุดจากภวังค์ความสับสนในใจ

แม้ว่าจะดูนิ่งๆ แต่ในใจต้นกลับตื่นเต้นไม่แพ้กัน แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์น่าอายหลายอย่างตอนรับน้อง แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดซ้ำบ่อยๆ แล้วจะชินง่ายๆ การตอบตกลงคำชวนของกริชทำให้ต้นทั้งรู้สึกตื่นเต้นและตื่นตัวไม่น้อย ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ต้นรู้สึกชอบความรู้สึกที่เกิดขึ้นแบบนี้ ตื่นเต้น หน่วง กังวล และอายในเวลาเดียวกัน

ทั้งสองผลัดกันพูดบทด้วยความเขินอาย เพราะทั้งสองไม่เคยใช้คำพูดแบบนี้มาก่อน เมื่อถึงช่วงที่มีเสียงกรีดร้องจากการโดนกระแทกก็ทำเอาทั้งต้นและกริชหน้าแดงขึ้นมาพูดต่อไม่ได้

ทั้งสองนั่งมองหน้ากันอยู่สักพัก

“มันนานแล้วเรากลับไปต่อกับพวกนั้นกันไหม”

“ไปกัน” ต้นรับคำและลุกขึ้น”

อากาศยามเย็นไม่ได้ร้อนอบอ้าวเท่าตอนกลางวัน แต่ด้วยความที่ชุดมันทับซ้อนกันหลายชั้น ก็ทำให้ทั้งสองรู้สึกร้อนขึ้นมาบ้าง และอึดอัดเล็กน้อย เพราะเหงื่อที่ซึมกับความรัดรูปของชุดที่ใส่ แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ทั้งสองก็ชินและลืมความรู้สึกนั้นไป

แม้ว่าจะอยู่มานานสักพักแล้ว แต่การกลับมาเจอผู้คนอีกรอบก็ทำให้ต้นและกริชบังเกิดความรู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกครั้ง บริเวณที่นักแสดงยืนอยู่ มีเก่งเข้ามายืนคุยด้วย

“เอ่อ พวกนายทั้งสอง ระหว่างที่พวกนายไปซ้อมกันอยู่มีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยนะ” คนที่เป็นผู้กำกับเข้ามาคุยด้วยเมื่อต้นและกริชเดินเข้ามาถึง

“อ่ะ หา อะไรเหรอ”

“บทของสีแดงมีการเปลี่ยนตัวนิดหน่อย เพราะเราขาดคนตัดเสียงคนที่เล่นบทนี้จึงอาสาไปตัดเสียงให้”

“เราเลยได้ เก่งจากห้องพวกนายมาเล่นให้”

เก่งหันมาโบกมือยิ้มให้ทั้งสอง

“เดี๋ยวเราลองมาต่อบทกันเลยนะ เอาคร่าวๆ พอ”

ก่อนที่การต่อบทจะเริ่มขึ้น ต้นสังเกตว่าชุดของกริชมันไม่เข้าที่เนื่องจากการล้มลงไปเมื่อครู่นี้

“กริช แป๊บนะ ชุดมันไม่เข้าที่”

ต้นเดินเข้าไปที่ด้านหลังของกริชและขยับบริเวณเข็มขัดของกระโปรงจากด้านหลัง ซึ่งต้นเผลอเกี่ยวชุดว่ายน้ำทางด้านหลังไปด้วย จึงทำให้แทนที่กระโปรงจะถูกเลื่อนอย่างเดียว กลับกลายเป็นชุดว่ายน้ำถูกขยับและดึงจากด้านหลังไปด้วยพร้อมกัน

“อึ๋ย อึ๊บ” ตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ที่หัวของกริชค่อยๆ เปิดออกมา และตอนนี้ด้วยความบังเอิญที่ต้นขยับชุดของกริช ก็ทำให้ตอนนี้หัวที่เปิดออกมาเล็กน้อยได้สัมผัสกับเนื้อกางเกงในไปแล้วเรียบร้อย

“เป็นอะไรหรือเปล่ากริช ต้นถามเมื่อได้ยินเพื่อนส่งเสียงแปลกๆ”

“ปะ.เปล่าต้น อึ๊ก” จังหวะจัดครั้งสุดท้ายพอดี แม้ทำให้ชุดเข้าที่แต่ก็สร้างความรู้สึกเสียวแว๊บให้เกิดกับด้านล่างของกริชอย่างรุนแรง และตอนนี้กริชตกที่นั่งลำบากเสียแล้ว เพราะทุกๆ การขยับการเสียดสีกับผ้าก็จะเกิดขึ้น และมันสร้างความรู้สึกเสียวแปลบปลาบให้เกิดขึ้นเป็นระยะ และต้องขอบคุณชุดแนบเนื้อที่ปิดไปหมดทุกสัดส่วน จนทำให้กริชไม่สามารถที่จะหาเวลานอกไปจัดตรงนั้นให้เข้าที่

กริชคิดในใจว่าซวยแล้วไง เพราะเมื่อครู่แค่ขยับหลบเพื่อนแค่ก้าวเดียวเขากลับรู้สึกเสียวจนแทบยืนไม่อยู่ แล้วถ้าต้องเดินไปไหนมาไหนแบบนี้เขาต้องทนความรู้สึกนี้ไม่ไหวอย่างแน่นอน

การต่อบทอย่างคร่าวๆ เริ่มขึ้น ซึ่งกริชต้องเรียกสติทั้งหมดขึ้นมาเพื่อโฟกัสกับการต่อบทอย่างเดียวเท่านั้น เพราะความรู้สึกที่พลุ่งพล่านจากด้านล่างคอยก่อกวนเขาเป็นระยะ แต่การยืนนิ่งก็ยังสามารถประคับประคองสถานการณ์คับขันแบบนี้ไปได้บ้าง

การต่อบทเสร็จสิ้นในที่สุด ทั้งหมดตัดสินใจแยกย้ายไม่ไปรวมกับกลุ่มที่แบ่งงานแล้ว

กริชยังคงยืนอยู่ที่เดินตอนทุกคนแยกไป ต้นและเก่งที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็หันหน้ามาถามกริชในหัวข้อที่ว่าจะไปโรงอาหารที่ 1 2 หรือ 3 ดี

“เอ้อ เราไปเอาชุดที่ห้องน้ำก่อนไหมกริชลืมไปเลย”

“อะ เอ่อ ปะ ไป กัน”

“งั้นเดี๋ยวรอที่นี่นะ” เก่งไม่ได้เปลี่ยนชุดอะไรเลย เลยตัดสินใจว่าไม่ไปด้วย

ต้นเดินนำออกไป โดยที่มีกริชค่อยๆ เดินตามไปทีละก้าวด้วยความยากลำบาก เพราะทุกๆ ก้าวย่างมันทำให้เขาเสียวจี๊ดขึ้นมาจับใจ แต่เขาต้องอดทนเพื่อที่จะได้เข้าไปจัดระเบียบให้เรียบร้อยในห้องน้ำ

“เอ้า กริชทำไมเดินช้าจัง”

ต้นที่ล่วงหน้าไปหันกลับมา เมื่อเห็นเพื่อนอยู่ห่างออกไปหลายก้าวเลยทีเดียว

“ป๊ะๆ รีบไป” และต้นก็เดินตัวปลิวกลับมา อ้อมไปที่ด้านหลังของกริช

“ตะ ต้น ต้นอย่านะต้น”

สองมือในชุดรัดรูปของต้นจับเข้าที่บ่าทั้งสองของกริช

“ไปกันเล้ย”

ต้นออกแรงดันให้กริชเดินไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว การถูกผลักจากด้านหลังทำให้กริชต้องขยับขาไปด้านหน้าทั้งซ้ายและขวา กลายๆ เป็นคล้ายๆ กึ่งออกวิ่งโดยมีต้นผลักอยู่ด้านหลัง

“ซี๊ดดดด โอวว ต้นๆ ต้นพอก่อนนน”

“โอววว ซี๊ดด” ความเสียวจี๊ดที่ยากจะบรรยาย เกิดขึ้นทุกย่างก้าวของกริช และมันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่คนด้านหลังยังไม่รู้สึกตัวยังคงดันเล่นด้วยความสนุกสนาน

“ต้น โต้นนนน หยุ๊ดดดดด”

“ห๊ะ อะไรเหรอกริช”

กริช บังคับไม่ให้ขาของตัวเองสั่นเมื่อความเสียวซ่านจบลงจากการหยุดเดินของต้น ลมหายใจของกริชขาดห้วงเล็กน้อย เพราะการเดินด้วยความรู้สึกที่ถาโถมเมื่อครู่ทำเอาเหนื่อยไม่น้อย

“รู้สึกปวดขานิดหน่อยน่ะ”

“เอ๊า ขอโทษนะ”

ต้นทำหน้าจ๋อยๆ และทั้งคู่ก็เดินมาด้วยจังหวะที่ช้ากว่าปกติ จนมาถึงห้องน้ำ กริชเดินมาด้วยท่าทางที่แปลกๆ เพื่อที่จะลดการเสียดสีให้มากที่สุด การอ้างว่าปวดขาจึงทำให้กริชเดินแปลกๆ ได้อย่างสบายใจมากขึ้น แต่นั่นก็ยังเดินลำบากอยู่ดี

ทั้งสองเข้ามาในห้องน้ำ กริช เดินเข้าไปภายในห้องน้ำห้องหนึ่งเพื่อที่จะจัดระเบียบร่างกายตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าปวดฉี่ ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนี้เขาไม่รู้ว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันเป็นอะไรกันแน่ระหว่างปวดฉี่ ปวดท้อง เสียว หรืออะไร ในตอนนี้เขารู้สึกชาๆ ด้านล่าง

กริชพยายามจะปลดซิปด้านหลังชุดว่ายน้ำที่คลุมอยู่นอกสุดออกก่อน เขาจับซิปและดึงลง มันไหลลงมาเกิดเสียงดังครืดๆ และมันก็หยุดลง ซิปของชุดกริชติดจนขยับไม่ได้ ประกอบกับการเอื้อมมือมาด้านหลังทำให้เขารู้สึกเมื่อยแขน จนไม่สามารถเอื้อมไปด้านหลังได้นานๆ

เวลาผ่านไปครู่หนึ่งที่กริชพยายามจะปลดซิป ตอนนี้เขาปวดฉี่ขึ้นมาจริงๆ แล้ว

“กริช เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เปล่าๆ แต่ซิปมันติดอะไรไม่รู้ แกะไม่ได้น่ะ”

“ออกมาสิ เดี๋ยวเราแกะออกให้”

กริชเปิดประตูให้ แต่ยังไม่ทันได้ออกมาต้นก็เข้าไปเสียก่อน

“ไหนๆ เดี๋ยวดูให้”

“เหมือนว่ากริชจะไม่ดึงลงมาตรงๆ มันเลยกินเนื้อผ้าเข้าไปซิบมันก็เลยติดน่ะ”

เนื่องจากห้องน้ำค่อนข้างแคบ ต้นเลยต้องแทรกตัวเข้าผ่านประตูไป แล้วจึงปิดประตู เพื่อไม่ให้เกะกะ จนตอนนี้กลายเป็นว่า ต้นและกริชอัดกันอยู่ในห้องน้ำสองคน อากาศที่ธรรมดากลายเป็นอบอ้าวขึ้นมาแทบจะทันที

“เดี๋ยวนะ จะออกละ” ต้นยังมุ่งมั่นในการดึงซิปลงทั้งๆ ที่ตัวยังเบียดกับกริชอยู่

“อึ๊อ”

“เป็นอะไรหรือเปล่ากริช”

“.....” กริชไม่ได้ตอบอะไรออกมา ต้นจึงตั้งหน้าตั้งตาแกะต่อ ด้วยแรงเขย่าจากซิปมันสามารถส่งไปถึงด้านล่างเช่นกัน แม้ว่าจะเล็กน้อย แต่มันก็ทำให้กริชรู้สึกจนด้านล่างแข็งตัว

“ออกหรือยังต้น”

“ไม่เลยมันติดแน่นมาก เหมือนว่าต้องใช้ที่กว้างกว่านี้น่ะ ออกไปข้างนอกดีกว่า ไม่รู้จะมาอัดกันในนี้ทำไมเนอะ”

“เดี๋ยวๆ กริช อย่าเพิ่งหันมา โอ๊ย”

“ขอโทษต้นเป็นอะไรไหม”

กลายเป็นว่าพอกริชหันตัวในห้องน้ำแคบที่คนเดียวเข้าไปก็แทบจะเต็มแล้วทำให้ทั้งสองประจันหน้ากัน ลำตัวส่วนบนและส่วนล่างอยู่ใกล้กันจนแทบจะชิด

“กะ..กริช อะ..เอ่อ อย่าเพิ่งขยับขานะ โอ้ววว”

หลังจากกริชพลิกตัวกลับมาต้นที่พยายามจะหลบทำให้กลายเป็นว่าต้นกางขาจนกระโปรงร่นขึ้นไปด้านบนและตัวของกริชเข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างขอของต้นพอดี ทุกการขยับเลยส่งแรงกระแทกสู่ต้นน้อยอย่างเต็มที่

“ปะ แป๊บ อ๊า อย่าเพิ่งขยับ อูววว”

ในห้องน้ำที่คับแคบและชุดแนบเนื้อที่ปกคลุมทั้งสองเอาไว้ทำให้ร่างกายร้อนรุ่ม ความชื้นและเหนียวเหนอะหนะตัวกลายเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งสองไม่เคยได้รับ และกระตุ้นอารมณ์ของทั้งคู่ให้แตกพล่านอย่างรวดเร็วและรุนแรง

กริชและต้นหน้าแดง หายใจไม่เป็นจังหวะหัวใจของทั้งสองเต้นแรงจนสัมผัสได้ถึงความแรงของหัวใจอีกฝ่าย ลำตัวแนบลำตัว และด้านล่างบดเบียดกัน

“เอางี้ดีกว่าต้น”

กริชไขว้ขากับต้นซึ่งแวบแรกทำให้ต้นถึงกับสะดุ้งเฮือกจากแรงเบียด และเมื่อทำสำเร็จทำให้ทั้งสองยืนเบียดกันในสภาวะที่ต้นขาซ้ายของกริชอยู่บนเป้าของต้นและขาของต้นก็อยู่บนเนื้อที่ไวสัมผัสของเขาเช่นเดียวกัน

ต้นหอบหายใจ ความรู้สึกที่คุ้นเคยหวนกลับมาอีกครั้ง ครั้งก่อนเป็นกับครูสน แต่ครั้งนี้กับเพื่อนของเขาเอง ต้นอยากจะหนีออกไปจากตรงนี้ เพราะถ้ามันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นซ้ำอีกครั้ง เขากับเพื่อนอาจมองหน้ากันไม่ติดก็เป็นได้

“กะ..กริช เปิดประตูหน่อยสิ เรามองไม่เห็น”

กริชที่อารมณ์เตลิดไปแล้ว จะเอื้อมมือไปเปิดประตูด้านหลังของต้น เขาโอบมือไปเพื่อจะควานหาตัวล็อกที่มันสับลงตอนปิดห้องน้ำ แต่กลายเป็นว่าไปเร่งให้ต้นขยับจนตัวเองต้องร้องออกมาเพื่อระบายอารมณ์ จากนั้นเขาเลยขยับขาซ้ายสวนคืนเพื่อที่จะแกล้งเพื่อนบ้าง

“นี่แนะ”

“โอะ โอ้ววว กริช ยะ อย่าทำ บะ แบบ ฮ๊า” ต้นถูกดุลเข้าไปที่ต้นน้อยทำให้รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเช่นเดียวกัน และอารมณ์ของต้นก้พุ่งขึ้นมาแล้ว

“ทำแบบนี้ใช่ไหมได้ อึ๊อ โอ๊ะ โอ้ววว”

“อ๊า ต้น จะเอาใช่ไหมล่ะ” กริชรวบมือโอบร่างต้นเข้ามาประชิด สอดขาเข้าไปตรงระหว่างขาโดนบริเวณแท่งเนื้อที่แข็งเป็นก้อนอย่างชัดเจน จากนั้นจึงเริ่มส่งท่อนขาเข้าไปเสียดสีอย่างต่อเนื่อง แต่ตัวของเขาเองก็โดนต้นหมุนวนขาบริเวณเดิมที่โดนเสียดสีมาแล้วเช่นเดียวกัน ความหน่วงใต้ท้องน้อยยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เกมือนกริชแบกบางสิ่งบางอย่างไว้ในท้องน้อย และทุกๆ การบดคลึงมันจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนต้นจะรู้เพราะจังหวะของเขาถี่ขึ้นและขยี้มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นการโยกก้นเพื่อให้ด้านหน้าไปบดกับขาของอีฝั่งแทน ตอนนี้ภาพที่เห็นจึงกลายเป็นต่างคนต่างร่อนเอวเพื่อให้ระหว่างขาของตัวเองไปเบียดกับขาของอีกฝั่ง

“โอ้วว มะ มัน รู้สึกแปลกๆ ซี๊ดดดด” ใจของกริชเต้นแรงและเร็ว ความเสียวแล่นจี๊ดขึ้นมาจากตรงนั้น

“คะ ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกัน”

“ฮึ๊กกก อึ๋ยย ต้น เหมือนมีอะไรสักอย่างจะออก โอ๊ยย จะออกแล้ว อื๊ออ โต้นนน จะออกแล้ว จะออกแล้วววว” และกริชก็ตัวกระตุกไปหนึ่งครั้งตามมาด้วยอาการเกร็งจนสั่นไปทั้งตัวอยู่ชั่วครู่

ทั้งคู่ยืนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่เหนือกว่าสิ่งใดนั้นเมื่อกริชได้สติกลับมา ความรู้สึกผิดกลับเข้ามาเกาะกุมในจิตใจทันที

“ขอโทษนะต้น”

เขามองไปที่หน้าต้นที่ตอนนี้ไม่อาจเดาความรู้สึกใดๆ ได้ ต้นหายใจแรงออกทางจมูกเพราะความเหนื่อยจากกิจกรรมเมื่อสักครู่

ต้นนั้นรู้สึกสับสนไม่น้อย เพราะเหตุการณ์นั้นคล้ายกับของครูสนเพียงแต่ว่าครั้งนี้มันต่างออกไปเล็กน้อย

“เราขอโทษนะต้น”

“ขอโทษนะ” เมื่อเห็นเพื่อนนิ่งไม่ตอบกริชยิ่งใจหาย หัวใจของเขาหล่นวูบ เขารู้สึกกลัวที่จะเสียเพื่อนคนนี้ไปอย่างจับใจ แต่สิ่งที่เขาทำมันก็ดูช่างน่าละอายจริงๆ

“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก”

ต้นเอื้อมมือไปปลดล๊อกด้านหลังประตูและเดินออกไป

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 26 ใส่ชุดเซนไทครั้งแรก
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 07-06-2019 17:54:51
ตอนที่ 29 มากินไอติมกันเถอะ

กริชเดินตามต้นออกมา การแสดงออกของต้นมันทำให้กริชรู้สึกแย่มาก

“ต้นเราขอโทษจริง”

ต้นหันมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย

“อื้ม อย่าไปคิดมากเลยไม่เป็นไร” ต้นพูดพร้อมส่งยิ้มให้อย่างไม่เต็มปาก

กริชยิ่งรู้สึกผิดไปมากกว่าเดิม

“เรารู้ว่าต้นโกรธ ให้เราทำอะไรก็ได้นะ แต่ต้นยกโทษให้เราเถอะ” กริชพูดด้วยใบหน้าเศร้าหมอง จากความรู้สึกภายใน

“ไม่ ไม่ได้โกรธ”

“แค่ รู้สึกสับสนนิดหน่อยน่ะ มันบอกไม่ถูก”

“สับสนเรื่อง? ”

ต้นเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ยาว กริชเดินตามไปนั่งข้างๆ ทั้งสองเหมือนจะลืมไปแล้วว่าตัวเองอยู่ในชุดแบบไหน

“ไม่รู้สิ.....” ต้นสูดหายใจลึก

“แต่ช่างมันเถอะ เราไม่ได้โกรธจริงๆ นะ” ต้นหันมายิ้มให้กริช

“ไม่ต้องคิดมาก สบายใจได้เลย” เขาเอื้อมมือไปตบไหล่กริชเบาๆเพราะไม่อยากให้เพื่อนคิดมาก

“จริงนะ”

“อื้อ เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ไปกินข้าวกันเถอะ”

“โอเค” กริชรู้สึกดีใจปนโล่งใจไม่น้อย

“เอ่อ ว่าแต่”

“ว่าอะไรกริช”

“เราจะไปกินข้าวกันชุดนี้จริงๆ เหรอ” กริชพูดเหมือนนึกขึ้นได้

ต้นหน้าแดงขึ้นมาทันที

“อะ..อือก็คุยกันไว้แบบนั้นไม่ใช่เหรอ” ต้นตอบพร้อมก้มมองลงพื้น เขาเขินไม่น้อยเหมือนกัน

“อื้อ โอเคไปกันเถอะ” การที่เพื่อนหายโกรธทำให้กริชรู้สึกดีจนเรื่องอื่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

“รีบเก็บของเร็ว”

ทั้งสองเก็บของและเดินออกมาหน้าห้องน้ำ ต้นออกมายืนรอก่อน เพราะเก็บของเสร็จก่อนแล้ว กริชเดินตามออกมา

“ปะไปกันเถอะ”

แต่ต้นยังไม่ออกเดิน เขายกมือขึ้นมาเล็กน้อยด้วยท่าทีที่เขินอาย กริชรู้ทันทีว่าหมายถึงอะไร เขาเอื้อมมือไปคว้ามือของต้นไว้ และทั้งสองก็เดินจับมือกันเดินไปหาเก่งที่รออยู่



___________________________________________



“ดูท่าจะชอบชุดไม่เบานะ”

“ก็ไม่ยอมถอดเลยทั้งคู่ค่ะ สงสัยจะชอบจริง”

“แล้วคุณล่ะชอบหรือเปล่า”

“มะ..ไม่รู้สิ อ๊าววว ตรงนั้นเสียวมาก อ๊างงงง”

สนยังถูกนัวเนียจากน้ำฝนขณะทั้งสามนั้นยืนมองเหล่านักเรียนที่มาประชุมกันจากบนอาคารที่ไม่ได้เปิดไฟ ในตอนนี้นั้นทั้งชั้นมืดสนิท มีแต่เพียงแสงไฟจากอาคารอื่นที่สาดส่องมาให้เห็นเป็นภาพจางๆเท่านั้น

น้ำฝนที่ยังวุ่นอยู่กับการแกล้งสนก็หาจุดที่เป็นหัวเจอ และลงมือเขี่ยอยู่พักใหญ่จนสนเสียวแทบยืนไม่ติดพื้น ตั้งแต่มาถึงตอนนี้สนยังไม่ได้รับอนุญาตให้ถอดชุดรัดรูปชุดนี้ออกจนถึงตอนนี้

“ว่าแต่ครูคะ”

“ว่า”

“หนูเหมือนว่า จะอยากได้ของเล่นใหม่ขึ้นมาแล้วค่ะ”

“เด็กคนนั้นน่ะเหรอ” เขาพูดเหมือนรู้วัตถุประสงค์ของเธอ

“ใช่ค่ะ ดูแล้วหน้าตาก็ตรงสเปกอยู่ จับมาฝึกอีกนิด ก็เข้าที่แล้ว”

“มีแผนไหม”

“ไม่มีค่ะ”

“ครูมี”

และทั้งสองคนก็หันมายิ้มให้กันด้วยรอยยิ้มที่สุดบรรยาย และมีเพียงแต่คนยิ้มเท่านั้นที่จะรู้ความนัยของมัน



สนซี๊ดปากออกมาเมื่ออารมณ์ใกล้มาถึงจุดระเบิด น้ำฝนหยุดมือทันที เสียงครางอย่างสุดเสียดายลอดออกมาจากลำคอของสน

“ไม่ต้องเสียดายหรอกค่ะ วันนี้มีบทเรียนที่โอลีฟจะต้องเรียน”

น้ำฝนจิกหัวสนขึ้นมาและเลียไปที่ใบหู พร้อมกระซิบเบาๆด้วยเสียงกระเส่า

“เข้าใจไหมคะน้องโอลีฟ”

เมื่อสนโดนคนที่เด็กกว่ากระทำแบบนี้ แทนที่เขาจะรู้สึกโกรธเกรี้ยวตามปกติธรรมดา แต่ความรู้สึกที่พวยพุ่งขึ้นมามันกลับกลายเป็นความรู้สึกอย่างอื่น ทั้งสะใจ ยินยอม และมีความสุข

“ขะ..เข้าใจค่ะ” หัวใจของสนเริ่มเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง

“วันนี้เดี๋ยวพี่น้ำฝนจะสอนกินไอติมนะคะ น้องโอลีฟชอบกินไหม”

“ชะ..ชอบค่ะ”

“ตอบให้มั่นใจหน่อยสิคะ! ” น้ำฝนจิกหัวสนแรงขึ้น

“ชอบค่ะ”

“เอาล่ะมากินไอติมกัน” น้ำฝนปล่อยมือ และรูดซิปที่อยู่ตรงกลางระหว่างขาออก

“ว้าว ไอติมโตขึ้นแล้ว” น้ำฝนพูดพร้อมกับช้อนแท่งเนื้อขึ้นมา มันมีสำคล้ำกว่าผิดขาวๆ ของน้ำฝนเล็กน้อย แต่ความยาวของมันน่ากลัว ซึ่งก็ยะงไม่เท่าปริมาณเส้นเลือดที่ปูดโปนออกมารอบๆ บริเวณโคนไม่มีขนแม้แต่เส้นเดียวเพราะน้ำฝนดูแลทำความสะอาดอย่างดี ไม่มีแม้แต่รอยแห้งแตก ราวกับดูแลบำรุงผิวบริเวณนี้เป็นอย่างดี

“ทะ..ที่นี่เลยเหรอคะ”

สนเกิดความประหม่าขึ้นมาทันที เพราะทั้งสามยืนอยู่บนระเบียงตึก มิสเตอร์เค กับน้ำฝนพาสนออกมาไกลจากที่พักเกินไป ถ้าเกิดมีคนมาเห็นตอนนี้ชุดที่แปลกประหลาดของน้ำฝนและสนคือสิ่งที่จะไม่สามารถแก้ตัวได้เลย

“ใช่สิคะ ก็เค้าพร้อมแล้วเนี่ย เห็นไหม” น้ำฝนกระดกแท่งเนื้อขึ้นลง ตรงบริเวณปลายมีน้ำซึมออกมาเล็กน้อย น้ำฝนทิ่มแท่งเนื้อเข้ามาตรงหน้าของสนพอดิบพอดี

“เดี๋ยวก่อน” เสียงมิสเตอร์เคพูดขัดขึ้น ทำเอาน้ำฝนต้องหยุดทิ่มเอ็น และสนรู้สึกโล่งใจขึ้นมาว่าอย่างน้อยครูเคก็ยังใจดีไม่ให้เขากินไอติมแบบเอ้าท์ดอร์แบบนี้

“เธอลืมอะไรไปหรือเปล่าน้ำฝน”

“อ๋ออ ใช่ค่ะ หนูหยิบมาด้วยนี่นา”

น้ำฝนหันกลับไปหยิบกระโปรงทูทู่ (กระโปรงบานแบบนักบัลเลต์) สีรุ้งสดใส พร้อมกับยกทรงสีแดงสด ที่ถือมาด้วยเอามายื่นให้สน

“เอ้าใส่สิ”

สนรับกระโปรงและยกทรงมาจากมือน้ำฝนและสวมมันลงไปบนตัวที่ตอนนี้มีชุดว่ายน้ำกับกางเกงรัดรูปอยู่แล้ว กระโปรงพองบานสีรุ้งดูเข้ากันกับชุดที่ใส่อยู่แล้วอย่างน่าประหลาด อารมณ์อับอายของสนยิ่งกระเจิงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาสวมยกทรงตามไปในเวลาต่อมา แม้ว่าลึกเขาก็ยังตกใจตัวเองว่าเขาที่โตมาแบบผู้ชายทั้งชีวิตกลับมาใส่ยกทรงของผู้หญิงอย่างคล่องแคล่วว่องไว

“น้องโอลีฟขา ชุดของน้องดูแรดจังเลยค่ะ” น้ำฝนพูดชมทำเอาสนทำหน้าไม่ถูก

เพี๊ยะ! เสียงตบหน้าดังขึ้น ไม่ได้แรงมากแต่ทำเอาคนโดนตบถึงกับตกใจ

“ชมแล้วต้องยังไงคะ สอนแล้ว”

สนพนมมือทั้งสองข้างไว้กลางอก ละไหว้ย่อให้น้ำฝน

“ขอบคุณค่ะ”

สนทั้งเขินและอายเกินบรรยาย น้ำฝนยิ้มด้วยความพึงพอใจ ส่วนมิสเตอร์เคยืนมองผลงานล่าสุดด้วยความพึงพอใจ อวัยวะภายในกางเกงตุงจนดันซิปโป่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“เอ้า คุกเข่า”

สนทำตามอย่างว่าง่าย และแท่งเอ็นปูนโปนไปด้วยเส้นเลือดก็จ่อมาตรงปากของเขาอีกครั้ง

“ค่อยๆ งับเข้าไปนะคะ พยายามอย่าให้ฟันโดน”

สนอ้าปากกว้าง และงับเข้าไปที่ส่วนหัวของแท่งนั้น กลิ่นหวานเลี่ยนปนออกมากับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้สนถึงกับหน้ายู่ แต่เมื่อผ่านไปสักพักเขาก็ปรับสภาพได้

“อืมมม อู้ววว ดีมากค่ะ ต่อไปค่อยๆ ดูดนะคะ อมให้เหมือนกินไอติมแท่งที่อร่อย ค่อยๆ ดูดมันเข้าไป อย่างนั้น ซี๊ดดดด”

สนอมและดันหัวเข้า จากนั้นค่อยๆ ดึงหัวออกช้าๆ โดยที่ปากก็เพิ่มแรงดูดเข้าไปด้วย จังหวะค่อยๆ ถูกเร่งขึ้นเรื่อยๆ จนดูเหมือนว่าสนกำลังโยกหัวดูดไอติมแท่งเล็กๆ ดด้วยความเอร็ดอร่อย เสียง ซร๊วบ จ๊วบ จ๊าบ ดังขึ้นตามจังหวะของการโยกของสน

จังหวะถูกเร่งเร็วขึ้นเรื่องๆ พร้อมๆ กับเสียงครางของน้ำฝนที่ดังขึ้น ดังขึ้น สนยิ่งได้ใจเร่งโยกหัวและเพิ่มแรงดดให้มากขึ้น หวังให้น้ำฝนเสร็จโดยเร็ว เพราะจะได้ไม่มีใครมาเห็นสภาพที่น่าอับอายของเขาในตอนนี้ แต่งชุดประหลาดน่าขายหน้า และกำลังดูดุ้นให้นักเรียนอยู่

มือทั้งสองของน้ำฝนจับเข้าที่หัวของสนเพื่อหยุดการกระหน่ำดูดไอติมในทันที

“แหม่ ได้ใจเอาใหญ่เลยนะคะ”

“แป๊บๆ ก็ดูดได้ชำนาญแล้ว แสดงว่าน้องโอลีฟก็เจนไม่เบานี่นา เป็นกะ-รี่ได้เลยนะเนี่ย” คำพูดที่รุนแรงที่แทงจี๊ดเข้าไปที่กลางใจสน จนตัวของเขาแทบอ่อนระทวย

“เมื่อดูดเป็นแล้วต่อไปก็จะเป็นเกมให้น้องเล่นนะคะ”

น้ำฝนหยิบกรรไกรขึ้นมา และก้มลงไปตัดบริเวณเป้าชุดว่ายน้ำของสน สนรู้สึกเสียวแว๊บๆ เมื่อน้ำฝนเกี่ยวโดนแท่งเนื้อของเขาและควักมันออกมา

“ฟังกติกานะคะ เกมนี้น้องจะต้องจัดการดูดไอติมของครูเคให้เสร็จ แต่ระหว่างนั้นก็ต้องทนรับการกลั่นแกล้งของพี่น้ำฝนไว้ให้ดีๆ ด้วย”

“ถ้าชนะโดยครูเคเสร็จก่อนโอลีฟก็จะได้กินน้ำของพี่น้ำฝนและของครูเคเป็นรางวัลในคืนนี้ แต่ถ้าแพ้โอลีฟโดนแกล้งจนเสร็จก่อนจะถูกลงโทษโดยการให้ใส่กางเกงดอกไม้และห้ามเสร็จเป็นเวลาห้าวัน”

“ห๊ะ ห้าวันเลยเหรอ อุ๊ฟ” แท่งเอ็นขนาดมหึมาถูกดันพรวดเข้าไปช่องปากสวยได้รูป มันแทบจะพอดีกับปากของสนเลยทีเดียว

น้ำฝนกำเข้าไปบริเวณส่วนหัวของสน และส่งแรงของการขยับนิ้วเข้าไปกระตุ้นยังส่วนอ่อนไหว สนแทบจะระทวยกองลงมาบนพื้น

“ปกติชอบครางเสียงดัง ก็มีของอุดปากแล้วนะคะ กินไอติมให้อร่อยนะคะ เกมสตาร์ท”

แค่นี้สนก็แทบจะปล่อยให้น้ำพุแห่งความหฤหรรษ์ให้พุ่งออกจากตัวเสียแล้ว ตอนนี้มัไม่ใช่การแข่งเกมอีกต่อไป เพราะเขาถูกน้ำฝนควบคุมโดยสมบูรณ์ ตอนนี้เธอแค่อยากแกล้งเขาให้ปริ่มจนแทบจะสำลักความเสียว แต่ถ้าหากเธอต้องการ เธอก็สามารถจี้จุดให้เขาเสร็จในเวลาไม่นาน เกมนี้เขาไม่มีทางชนะเลยแม้แต่น้อย

แต่แบบนั้นแหละสิ่งที่โอลีฟชอบที่สุดล่ะ

สนตั้งหน้าตั้งตาดูดไอติมแท่งนั้นพร้อมกับส่งเสียงแห่งความเสียวซ่านผ่านลำคอออกมาเป็นระยะ แม้ว่าจะอมจนเต็มปาก แต่ถ้าทั้งสองคนสังเกตสักนิดก็จะเห็นว่านั่นคือการอมที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความกำหนัดแห่งอารมณ์ นั่นเอง
หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 29 มากินไอติมกันเถอะ
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 08-06-2019 12:45:29
ตอนที่ 30 กินไอติมแล้วต้องกินน้ำด้วยนะ

สนตั้งหน้าตั้งตาดูดท่อนเนื้ออย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะในตอนนี้น้ำฝนเร่งได้ตัดชุดด้านล่างของสนออกเปิดเผยแท่งเนื้อของเขาออกมาแล้ว ขณะที่ปากบนของสนยังทำงานอยู่ อีกหนึ่งปากก็กำลังทำงานกับด้านล่างของสนเช่นเดียวกัน เขาแทบทรุดลงไปกองกับพื้นเพราะความเสียวซ่าน

“ถ้าแตกก่อนโอลีฟจะต้องกินน้ำตัวเองด้วยนะ พี่จะเอาไปป้อนให้ถึงปากเลย จ๊วบบ” เสียงหลังสุดเกิดจากการสูดปากเอาท่อนเนื้อเข้าไป ด้วยทักษะที่ต่างกันทำให้สนตกอยู่ในที่นั่งลำบาก เพราะไม่ว่าเขาจะพยายามส่งแรงไปอมและดูดแท่งไอติมมากเพียงในก็ดูเหมือนกับว่ามิสเตอร์เคไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แตกต่างจากเขาที่ส่งเสียงครางออกมาจากลำคอเป็นระยะ แม้ว่าจะมีสิ่งอุดปากอยู่ก็ไม่สามารถสกัดกั้นเสียงแห่งความรู้สึกของเขาได้

“โอ๊ยย อย่านะตรงนั้นมัน สะ สะ เสียววว อ๊ายยย”

สนเสียวจนต้องหนีบขาแต่ก็โดนดันให้กางออกใหม่เพราะน้ำฝนอยู่ตรงนั้น

คนที่อยู่ด้านล่างเปลี่ยนวิธีการไปใช้มือแทน น้ำฝนกำแท่งเอ็นนั้นไว้อย่างถนัดมือและใช้ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งคลึงลงไปบริเวณส่วนหัวที่มีสีชมพูอย่างแผ่วเบา ความมวนๆ เสียวซ่านค่อยเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และน้ำฝนก็ค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงกดของฝ่ามือขึ้นเรื่อยๆ

สนถึงกับต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเสียวสะท้านเกินทานทน

“อ๊า เสียวสุดๆ ไปเลย พอก่อน พอก่อนเถอะนะ จะขาดใจตายแล้ววว ไม่ไหวแล้ววว” สนทรุดลงกับพื้น

“แหม่ อย่าเพิ่งรีบสิความสนุกเพิ่งจะเริ่มเอง” มิสเตอร์เคช้อนร่างที่อ่อนระทวยของสนขึ้นมา น้ำฝนยังไม่ยอมหยุดการคลึงของมือ จนสนในตอนนี้ได้แต่ส่งเสียงร้องหงิงๆ ออกมาจากลำคอ

เขาสำรวจปากทางเข้าด้านหลังของสน เมื่อเย็นเขาได้สั่งให้สนดีท๊อกซ์ตัวเองไว้แล้ว ตอนนี้ช่องทางของสนน่าจะสะอาดดี เขาส่งนิ้วเข้าไปทะลวงช่องทางนำร่องทันที

“โอ้วววว ฮือออ แบบนี้มันเกินไปแล้ว อื้อ จะแตกแล้วว จะแต..” น้ำฝนหยุดมือก่อนที่อารมณ์ของสนจะเตลิดจนฉุนไม่อยู่

“ฮื้อออ” สนร้องออกมาด้วยความเสียดายที่พลาดตกจากสวรรค์เพียงแค่เอื้อม การไม่ยอมให้เขาเสร็จเป็นวิธีการที่ทั้งสองคนใช้กับเขาบ่อยๆ ซึ่งมันก็ได้ผลมากๆ เพราะเมื่อถึงที่สุดแล้วเขาก็จะทนไม่ไหวจนยอมทำทุกอย่างตามที่เขาสั่ง

การที่สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองได้อย่างอิสระเหมือนเมื่อก่อนเป็นดังภาพที่รางเลือน เพราะทุกวันนี้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ อย่างการช่วยตัวเองกลับกลายเป็นของที่หายาก เพราะเขาต้องร้องขอขอนุญาตด้วยความอับอายและอัปยศ เพื่อที่จะได้รับอนุญาตให้ถึงจุดสุดยอดในแต่ละครั้ง

“ขอหนูเสร็จนะคะ ขอหนูเสร็จเถอะค่ะ ขอหนูเสร็จ” สนพูดร้องขอด้วยอารมณ์ที่แตกซ่าน น้ำเสียงปนไปด้วยความอยากสุดขีดผสมไปกับความอับอายด้วยสัดส่วนที่เท่ากัน

“อ๊างงง โอ้วววววววว” สนหยุดร้องขอทันทีเมื่อท่อนเอ็นขนาดมหึมาค่อยเคลื่อนตัวเข้าไปในช่องทางทางด้านหลัง

สนตาเหลือกค้างเมื่อมันครูดผ่านบริเวณที่ก่อให้เกิดความกำหนัด เขารู้ว่านี่คือจุดอ่อน ท่องเอ็นถูกถอดออกอย่างช้าๆ และเสียดสีบริเวณเดิมอีกครั้ง

“หงิงง จะ ขะ ขะขาดใจตาย แล้วโอววววว” น้ำลายไหลย้อยออกมาจากมุมปากอย่างควบคุมไม่ได้

“ฮื้อออออ ซ็ดดด อย่าทำ บะ แบบ นั้น อ๊ากกก” นำฝนเข้ามาบดหัวของแท่งเอ็นน้อยของสนอีกครั้งพร้อมๆ กับที่คนด้านหลังดันแท่งเอ็นสวนกลับเข้าไปในร่างของสนอีกครั้ง นำมาซึ่งความรู้สึกอันยากที่จะบรรยาย ราวกับความร้อนแรงของด้านหน้าและด้านหลังมันปะทุจนถึงจุดเดือดและผ่านไปที่สมองของเขาจนแทบจะทำให้สมองระเหยกลายเป็นไอ

“ฮัก อึ๊ก โฮ้วววววววว เสียวมากค่ะ โอลีฟ เสียวมากค่ะ ไม่ไหวแล้ววว” สนปลดปล่อยทุกอย่างออกมาอย่างอดกลั้น เพราะโดนจู่โจมทั้งด้านหน้าด้านหลัง

เขาเหมือนนักแข่งรถผู้โชคร้ายที่ไม่ได้เป็นผู้บังคับรถเอง มันทั้งฉวัดเฉวียน บ้าคลั่ง และหยุดไม่อยู่ ความรู้สึกเมื่อมาถึงปลายทางดั่งรถที่พุ่งทะยานเข้าหากำแพง และสิ่งที่เขาทำได้คือการมองดูกำแพงและยินยอมให้รถแข่งแห่งความรู้สึกนั้นพุ่งเข้าใส่กำแพงให้ย่อยยับไปพร้อมกัน

“จะถึงแล้วว จะถึงแล้วค่ะ”

“ขออนุญาตเสร็จนะคะ ให้หนูเสร็จเถอะค่ะ ได้โปรด ได้โปรดดดดดด”

มิสเตอร์เคกระหน่ำโยกเอวจนตัวของสนสั่นไปทั้งตัว สนเกร็งจนตัวเองชักกระตุกอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่น้ำฝนที่ไวมากก็อ้าปากและงับปลายแท่งเอ็นได้ทันจังหวะที่น้ำสีขาวพวยพุ่งออกมาได้อย่างพอดิบพอดี เธอดูดทุกหยาดหยดเข้ามาเก็บไว้ในปาก

มิสเตอร์เคกระแทกต่ออีกสีห้าครั้งก่อนที่จะครางฮึมขึ้นมาเบาๆ และนิ่งไปสักพัก ก่อนที่จะค่อยๆ ถอดแท่งเอ็นออกมาจากช่องทางพร้อมทั้งน้ำเหนียวข้นไหลตามออกมาเป็นทาง

“ขอบคุณค่ะที่ให้หนูเสร็จ” สนต้องขอบคุณตามมรรยาท เพราะถูกน้ำฝนฝึกสอนมาอย่างเข้มข้น

น้ำฝนจับใบหน้าของสนตรึงไว้และบีบปากของเขาให้อ้าออก น้ำขาวข้นผสมกับน้ำลายในปากน้ำฝนถูกปล่อยให้ไหลยืดยาวเป็นเส้นเข้าไปในปากที่ถูกอ้าออกของสน น้ำฝนปล่อยทุกหยาดหยดของน้ำนั้นเข้าปากของสนจนหมด

“อย่างเพิ่งกลืนนะคะ ของอร่อยต้องค่อยๆ กิน” น้ำฝนเอามือมาปิดปากของสน ซึ่งสนก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใดได้แต่ยอมทำตามแต่โดยดี

“เคี้ยวหน่อยค่ะเคี้ยว”

เขาเคี้ยวของเหลวในปากตามที่บอกแม้จะไม่มีอะไรให้เคี้ยว

“กลั้วคอนิดนึง”

คนกลั้วคอและทำท่าราวกับว่าดื่มด่ำในรสชาติของน้ำตัวเองที่อยู่ในปากนั้น

“ทีนี้ของดุลให้น้ำมันไหลออกจากไรฟันค่ะ แบบนั้นแหละดีมากกก” น้ำฝนชม เมื่อเห็นสนทำตามที่เธอสั่งอย่างโดยดี แม้จะแสดงออกว่าขยะแขยง ซึ่งความตรงข้ามของอารมณ์ในตัวสนนี่เอง ปลุกอารมณ์ของน้ำฝนไม่น้อยเช่นกัน

“ทีนี้พูดตามค่ะ จะกินแล้วนะคะ”

“จะ...กะ กินแล้วนะคะ”

“ไม่เอาเสียงแข็งแบบนั้นค่ะ ต้องเป็นเสียงแบบสาวน้อยกำลังจะกินของอร่อย เอาใหม่อีกครั้งค่ะ”

“จะกินแล้วนะค้า” สนกลั้นใจฝืนพูดให้ร่าเริงทั้งๆ ที่น้ำของเขายังอยู่เต็มปาก

“กลืนลงไปค่ะ”

สนหลับตาปี๋รวบรวมแรงฮึด แล้วกลืนน้ำของเขาเข้าไปดังเอื๊อก เป็นเรื่องที่ยากและน่าพะอืดพะอมที่สุดที่เขาเคยทำแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก

“อร่อยมากค่ะ” สนพูดพร้อมยิ้ม นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกฝึกมาเช่นเดียวกัน ทำแล้วสนรู้สึกตกต่ำและอับอาย แต่กลับสะใจจนขนลุก

“ร่านมากค่ะ หนูโอลีฟ พรุ่งนี้เช้าพี่น้ำฝนจะไปหาที่ห้องนะคะ หนูต้องไม่ลืมว่าหนูแพ้เกมพรุ่งนี้พี่จะไปใส่กางเกงในดอกไม้ให้ค่ะ” เธอก้มลงพูดข้างๆ หู

“ค่ะ” สนรับคำอย่างอ่อนแรง

สนลุกขึ้น ในขณะที่มิสเตอร์เคแต่งตัวเรียบร้อยยืนรอเขาอยู่แล้ว เขาเดินเข้าไป และวางตำแหน่งของดุ้นเนื้อน้อยไว้ใกล้ๆ มือของมิสเตอร์เค โดยที่ไม่ต้องให้อีกฝ่ายบอก

มิสเตอร์เคจับแท่งเอ็นนั้น และจูงสนออกเดินราวกับว่านั่นคือสายจูงสุนัข ทั้งสามเดินไปตามทางเดินของตึกและเมื่อไปได้ครึ่งทาง ของสนที่อ่อนตัวก็ค่อยๆ แข็งขึ้นสู้มืออีกครั้ง

____________________



ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจ้าในวันหยุด กลุ่มของเด็กใหม่ ระดับม.5 ได้นัดกันมาเพื่อซ้อมบทละครที่ตัวเองจะแสดงในอีกสามวันข้างหน้า กลุ่มที่เป็นนักแสดงหลักก็แยกมาซ้อมเช่นเคย

“เก่งๆ”

“ว่าไงต้น”

“เก่งดูตรงนี้สิ”

ต้นเปิดบทให้เก่งดู ช่วงการแสดงตรงนี้บทของต้นและเก่งที่จะเล่นด้วยกันมีเยอะพอสมควร แต่สิ่งที่ทำให้ต้นเป็นกังวลคือในนั้นมีบทที่ต้องจูบกันด้วย ต้นเขินจนหน้าแดงเมื่อเอาให้เก่งดู

“เอ่อ เพิ่งเห็นเหมือนกัน มันต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เดี๋ยวลองไปถามดูว่าจะแก้ได้ไหม”

“ไม่ต้องๆ เก่ง อย่าเลย” ต้นร้องห้าม เพราะไม่อยากทำตัวมีปัญหา ในครั้งก่อนเขาและกริชก็มีปัญหาในทำนองนี้มาก่อน และอีกฝ่ายก็ดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่หากจะต้องมีการแก้บท

“เอ้า แต่ต้นไหวเหรอ”

“ได้อยู่หรอก เป็นเก่งเล่นใช่ม้า เพราะงั้นไม่มีปัญหาหรอก เพื่อนกันนี่นา เป็นคนอื่นนี่เขินตายเลย” และต้นก็หัวเราะออกมาแบบเขินๆ ซึ่งทำให้เก่งเสียอาการไม่น้อย

“อะ อะ เอ่อ อะ เอ่อ เนาะ ฮ่าๆ ๆ ๆ” เก่งถึงกับพูดอะไรต่อไม่ได้

“คุยอะไรกันน่ะทั้งสองคน” กริชที่แยกออกไปซื้อน้ำ เดินกลับเข้ามาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง

“เปล่าซะหน่อย” เก่งยังไม่หายจากที่เสียอาการเมื่อครู่

กริชส่งน้ำที่ฝากซื้อให้ต้น ต้นรับมา ซึ่งจากมุมมองของเพื่อนอย่างเก่ง เขารู้สึกว่าสองคนนี้มีบางอย่างที่เปลี่ยนไป เหมือนสนิทกันมากขึ้น รู้ใจกันมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่ต้องเล่นละครด้วยกัน และบทคล้ายกันก็เป็นได้

“เอ้อ เหมือนว่าวันจันทร์ พวกนี้จะให้เรามาซ้อมกันช่วงคาบแรกคาบสอง เพราะตอนนั้นเหมือนจะว่างตรงกัน” เก่งบอกกับทั้งสองในเรื่องที่เขาเพิ่งรู้

“โอ้ย จะซ้อมอะไรกันเยอะกันแยะนะ คาบว่างหายไปอีกแล้ว” กริชโวยวายตามประสา

“เห็นว่าซ้อมแบบรันจริง คือใส่ชุดให้พร้อมเลย”

“โอ้โห จริงจังกันขนาดนั้นเลยเชียว”

“ใช่ๆ เอ้อ แล้วต้นกับกริช อย่าลืมไปคุยกับช่างแต่งหน้าด้วยนะ ไอ้ผู้กำกับมันบอกมา”

“ห๊ะ ต้องแต่งหน้าด้วยเหรอ” กริชตกใจจนแก้วน้ำแทบจะหลุดออกจากมือ

“เอ้อ นั่นสิ ต้องแต่งหน้าด้วยเหรอเนี่ย มันจะจริงจังเกินไปแล้ว” ต้นมีเรื่องทำให้ใจเต้นแรงอีกจนได้ เพราะในชีวิตเขานั้นไม่เคยแต่งหน้ามาก่อนเลยในชีวิต

“แต่จะว่าไปดุจากชุดที่แจกมาแล้วมันก็ไม่ธรรมดาจริงๆ นั่นแหละ” ต้นพูดพลางนึกไปถึงชุดที่เขากับกริชได้ ที่ตอนนี้อยู่ที่ร้านซักรีด เพราะเขาไม่รู้ว่าจะจัดการกับมันยังไง เมื่อทั้งสองคนทำชุดเลอะทั้งคู่

ต้นไม่รู้ว่ากริชทำชุดเลอะไปกี่ครั้ง แต่สำหรับต้น เขาทนสายตาที่คนอื่นๆ มองเขาในโรงอาหารได้ไม่นานเท่าไหร่ก็แทบจะละลายด้วยความอับอายอยู่ตรงนั้น ยิ่งมีกริชมาใส่ชุดเป็นคู่ยิ่งเป็นเป้าสายตาทวีความตื่นเต้นจนน้ำใสๆ ไหลออกจากตรงนั้นมาเนืองนองโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว

แล้วนี่ไม่อยากจะคิดเลยว่าเขาจะมีสมาธิแสดงได้จนจบเรื่องหรือเปล่ากับสถานการณ์อย่างนี้



ขณะที่ต้นกำลังคิดอยู่นั่นเอง เขาก็มองไปเห็นเงาที่ตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ตลอดเวลา โจนั่นเอง เขามาแอบๆ มองและส่งสัญญาณบางอย่างให้ต้นเห็น

ต้นบอกกับเพื่อนว่าเขาจะขอไปเข้าห้องน้ำและเดินหลบออกมา



“มีอะไรเหรอครับพี่โจ” ต้นถามโดยพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกไม่อยากเจอหน้าเอาไว้

“เรื่องที่เราตกลงกัน ขอเป็นวันพรุ่งนี้ได้ไหม”

“อะ เอ่อ” ต้นตกใจเพราะไม่มีเวลาเตรียมตัว

“ไปแค่ห้างใกล้ๆ นี่เอง”

“กะ ก็ได้ครับ เจอกันที่ห้างเลยใช่ไหมครับ”

“ใช่ๆ พอต้นถึงห้างแล้วก็โทรหาพี่นะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายด้วย เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองถ้าอยากจะดูหนังก็ได้นะ พี่พร้อมเลี้ยงน้องต้นเหมือนกัน” เขาเสนออย่างใจป้ำ

“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ”

“เอ่อ.. พี่โจครับ”

“ว่าไงน้องต้น”

“มีเรื่องสำคัญจะถามครับ คือที่ให้ผมไปห้างด้วยเนี่ย... ผมใส่ชุดปกติไปใช่ไหมครับ”

หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 30 กินไอติมแล้วต้องกินน้ำด้วยนะ
เริ่มหัวข้อโดย: ebonyz ที่ 11-06-2019 09:00:23
ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ  ตอนต้น

แน่นอนว่าการที่โจให้ต้นแต่งชุดตามปกติ นี่จะทำให้ต้นรู้สึกเบาใจไปได้มาก แต่วัดจากการกระทำของโจตลอดเวลาที่ผ่านมาแล้วนั้นทำให้ต้นไม่ได้รู้สึกไว้วางใจในตัวรุ่นพี่คนนี้เลยแม้แต่น้อง แต่อย่างไรซะ ในห้างตอนกลางวันย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายหากโจคิดจะทำอะไรที่เขาอยากจะทำ

ต้นไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร ทั้งกริชและต่อ เพราะไม่อยากให้กริชลำบาก และจากวันนั้นตนก็ไม่ได้คุยกับต่ออีกเลย ได้แต่ส่งสายตาแบบเย็นชืดให้กันก็เท่านั้น

เมื่อนึกถึงต่อ ก็ทำให้ต้นลำบากใจไม่แพ้กัน เพราะจริงๆ แล้วต้นก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนมันต้องมากลายเป็นแบบนี้ น่าอึดอัดมาก แต่ว่าต่อเองก็เถอะ ไม่เคยจะเข้าใจความหวังดี หรืออะไรต่างๆ สักอย่างเดียว เป็นคนที่น่าโมโหจริงๆ

เขาคิดเรื่อยเปื่อย จนรถโดยสารมาส่งยังทางเข้าห้าง

แดดช่วงเที่ยงร้อนจนแสบผิว ต้นรีบเข้าไปในห้าง เขาเริ่มหิวข้าวขึ้นมาบ้างแล้ว

ต้นกดโทรหาโจทันทีเมื่อเข้ามาภายในห้าง

“มาถึงแล้วเหรอน้องต้น”

“มาถึงแล้วครับให้ผมรอที่ไหนครับ”

“ไม่ๆ น้องต้น ขึ้นมาที่ชั้นห้าเลยนะ จากหน้าลิฟต์ เดินตรงมาเรื่อยๆ จะเจอร้านอาหาร ร้านที่สองเลย คิดว่าน่าจะหิวแล้วพี่ก็เลยขึ้นมาร้านอาหารรอ เผื่อจะได้สั่งเลย จะกินอะไรหรือเปล่าล่ะพี่จะได้สั่งไว้ก่อน”

ต้นถามเมนูอาหารจากโจ และสั่งอาหารที่อยากจะกินเสร็จเรียบร้อย จึงได้วางสายและเดินไปหาลิฟต์ตัวที่ว่า ดูจากเสียงแล้ว ต้นจับไม่ได้ว่ารอบๆ นั้นมีคนอยู่กี่คน เพราะเสียงมันดูอึกทึกและวุ่นวาย เขาอาจมาคนเดียว หรือพากลุ่มเพื่อนมาด้วยอย่างเช่นทุกครั้งก็เป็นได้



ต้นเดินจนมาถึงร้านที่ว่า มันมีชื่อร้านว่า maid miracle ต้นถึงกลับแปลกใจว่า นี่มันใช่ร้านที่โจนัดมาจริงๆ หรือเปล่า เพราะหน้าร้านเป็นหญิงสาวสองคนที่ใส่ชุดเมดหน้าตาสุดน่ารัก กำลังเชื้อเชิญคนให้เข้าไปนั่งในร้านด้วยท่าทางสุดน่ารัก และเสียงที่ดัดจนโมเอะ และรูปประโยคแปลกๆ ซึ่งต้นเพิ่งเคยเจอ

“เชิญนายท่าน และนายหญิงเข้ามาทดลองใช้บริการที่เมดคาเฟ่ได้นะคะ วันนี้มีโปรโมชั่น สั่งครบ 400 บาทเช่าชุดเมดและถ่ายรูปคู่กับเมดฟรีด้วยนะคะ” เธอพูดเชื้อเชิญคู่รักคู่หนึ่งที่เดินผ่าน ดูท่าทางผู้ชายจะสนใจไม่น้อย เพราะคงอยากเห็นแฟนตัวเองใส่ชุดเมด แต่แฟนสาวคงไม่เอาด้วย เพราะที่สุดแล้วทั้งสองก็เดินผ่านไป

เหมือนเมดทั้งสองมองเห็นต้นที่ยืนลังเลอยู่หน้าร้านจึงพุ่งตรงเข้ามาหาทันที

“นายท่าน สนใจลองเข้าเมดคาเฟ่ดูไหมคะ”

“หน้าตาน่ารักแบบนายท่านเหมาะแก่การใช้บริการที่นี่มากเลยค่า เหล่าเพื่อนๆ เมดจะต้องยินดีรับใช้นายท่านอย่างแน่นอน”

“หรือนายท่านอยากจะลองใส่ชุดเมดดูก็ได้นะคะ เพราะมันต้องเหมาะสมและเข้ากับนายท่านเป็นที่สุด เพียงสั่งอาหารให้ครบ 400 บาท ก็จะสามารถเช่าชุดฟรี 2 ชั่วโมงด้วยนะคะ”

“อะ เอ่อ คือผมไม่ได้จะมากินที่นี่ครับ และก็ไม่ได้อยากจะแต่งชุดเมดด้วย” ต้นปฏิเสธด้วยความขวยเขิน เพราะทั้งสองรุกเข้าประชิดไวมาก

“แหม่ ไม่น่าใจร้ายนะคะนายท่าน เข้าไปหาอะไรเย็นๆ กินรอแฟนก็ได้ค่า”



“เอ้า น้องต้น มาถึงแล้วก็ไม่โทรหาพี่” เสียงของโจพูดขึ้นทำลายความกระอักกระอ่วนที่ต้นกำลังเจอพอดิบพอดี

“น้องๆ ครับ พี่คนนั้นเขามีโต๊ะนั่งแล้วครับ”

“ป่ะ ต้นตามพี่มา”

แล้วโจก็เดินเข้าไปในร้าน พร้อมๆ กับเมดสาวทั้งสองคนก็ผละออกจากต้น เพื่อไปหาลูกค้าคนอื่นต่อ

ต้นเดินตามเข้าไปในร้าน ซึ่งในร้านนั้นตกแต่งออกมาได้น่ารักลงตัวสไตล์ญี่ปุ่น และก็สะอาด เพราะเป็นร้านอาหาร ภายในร้านมีโต๊ะอยู่หลายตัวตามสัดส่วนของร้าน โดยมีตรงกลางร้านเป็นเวทีวงกลมยกพื้นสูงกว่าปกติ คนในร้านค่อนข้างหนาตา เพราะมีหลายโต๊ะที่มีคนนั่งอยู่แล้ว สาวเสิร์ฟในชุดเมดกระจายอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ออกท่าทางและเสิร์ฟอาหารด้วยความน่ารักตามคอนเซปของร้าน

ต้นเห็นโจนั่งอยู่ที่มุมของร้าน และตามคาด เขาไม่ได้มาคนเดียวที่โต๊ะมีคน นั่งอยู่ถึงสามคนนอกเหนือจากโจ และเป็นคนที่ต้นคุ้นหน้าทั้งนั้น

“มาๆ น้องต้น อาหารใกล้จะมาแล้ว”

“เอ่อ ให้ผมนั่งตรงไหนครับพี่”

ที่ต้นถามแบบนั้นเพราะต้นเห็นว่าโต๊ะที่โจเลือกเป็นโต๊ะสำหรับสี่คน และตอนนี้ทุกคนนั่งประจำที่ของตัวเองเต็มไปหมดแล้ว

“งั้นเดี๋ยวผมขอเก้าอี้เสริมนะครับ” ต้นหันไปจะเรียกเมดเพื่อขอเก้าอี้ แต่โจหยุดไว้ก่อน

“ไม่ต้องๆ น้องต้นมานั่งตรงนี้” โจลุกขึ้นสละที่ให้ต้นนั่ง

“ขอบคุณครับพี่โจ แต่เดี๋ยวผมนั่งเก้าอี้เสริมก็ได้ครับ” ต้นพูดพร้อมเข้าไปนั่งแทนที่โจ บริเวณเก้าอี้ยาวยังอุ่นจากเจ้าของเดิมอยู่ แล้วโจก็ทำให้ต้นรู้สึกตกใจ ปนประหลาดใจ

เขาดันตัวเองต่อจากต้นทันทีและเบียดต้นจนเข้าไปติดกับเพื่อนอีกคน จนกลายเป็นว่าต้นถูกอัดแน่นอยู่ตรงกลางระหว่างชายร่างใหญ่สองคน

“เห็นไหม นั่งได้แล้ว”

“เอ่อ คือว่า ผมเกรงใจพี่เขาน่ะครับ อึดอัดแย่” ต้นพูดกับโจ โดยหมายถึงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กับตัวเขาและผนังร้าน

“พี่ไม่มีปัญหาครับ น้องต้นตามสบายเลย” พี่คนที่อยู่ในสุดพูดพร้อมยิ้มมาให้

“งั้นก็ไม่มีปัญหาล่ะเนาะ”

ต้นไม่รู้จะพูดอะไรเลยเงียบไว้ สถานการณ์ยิ่งน่าอึดอัด ต้นอยากจะให้วันนี้มันจบลงไปเร็วๆ ที่สำคัญคือ คนที่อยู่ด้านในสุดนั้น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือบังเอิญ แต่มือของเขาวางอยู่บนเป้าของต้นมาได้สักครู่แล้ว

“ว่าแต่แนะนำตัวกันก่อนไหม น้องต้นจะได้รู้จัก เพราะน้องต้นรู้จักกูกับไอ้วินแล้วพวกมึงแนะนำตัวกันเลย”

“พี่ชื่อโชตินะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก” คนตัวอวบๆ ที่นั่งเบียดกับต้นเริ่มแนะนำตัวก่อน แต่มือของเขาก็ขยับบีบๆ เป็นจังหวะเช่นเดียวกัน ต้นเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเสียแล้ว เพราะร้านมีคนเดินไปเดินมาตลอดเวลา การที่ผู้ชายสามคนมานั่งเบียดกันแบบนี้มันดูเป็นจุดเด่นพอควร

ขณะที่คนด้านตรงข้ามที่นั่งข้างคนชื่อวินกำลังจะแนะนำตัวอาหารก็เข้ามาเสิร์ฟพอดี

“อาหารมาแล้วค่านายท่าน”

“ก่อนที่จะเริ่มรับประทานอาหาร จำเป็นที่จะต้องร่ายมนตร์ใส่อาหารเพื่อเพิ่มความอร่อยก่อนนะคะ” เธอพูดพร้อมหยิบ หูแมวขึ้นมาห้าอัน

“น้องๆ ไม่ต้อง อันเดียวก็พอแล้ว” โจพูดขัดก่อน และหยิบหูแมวจากพนักงานมา และสวมลงบนหัวของต้นโดยที่ไม่ทันตั้งตัว

“นี่ไงน่ารักมาก ต่อเลยน้อง”

“เดี๋ยวขอให้เหล่านายท่านวาดรูปหัวใจ พร้อมพูดตามนะคะ ว่าจงอร่อยขึ้น”

“เอ่อ แปบนึงนะน้อง โปรโมชั่นที่ว่ายังอยู่ไหม” โจขัดขึ้นก่อนที่จะพูดจบประโยค

“อ่อ ยังอยู่ค่า ว่าแต่นายท่านคนใดจะเป็นคนรับโปรโมชั่นคะ” เหมือนคนพูดจะรู้อยู่แล้วแค่ถามให้แน่ใจเท่านั้น

ทุกคนบนโต๊ะชี้มาที่ต้นโดยพร้อมเพรียง

“เอ่อ อะไรกันครับทุกคน” ต้นถึงกับเหวอเพราะงงในสิ่งที่ทุกคนกำลังคุยและทำกันอยู่

“ขอเชิญนายท่านตามมาเลยค่ะ เอ หรือต้องเรียกนายหญิงดีล่ะคะ” เธอพูดพร้อมยิ้ม ยิ่งทำให้ต้นสับสนยิ่งกว่าเดิม

“เอ้าน้องต้น ตามน้องเค้าไปเลย” โจลุกให้ต้นสามารถออกได้

“นี่มันอะไรครับพี่ ผมงงไปหมดแล้ว”

“เดี๋ยวน้องเข้าก็บอกเองล่ะน่า เอานี่ไปด้วยนะ” โจยื่นถุงบางอย่างเล็กๆ ให้ต้นถือไปด้วย

เมดสาวเดินนำทางต้นเข้าไปยังอีกด้านหนึ่งของร้าน ที่นี่มีฉากกั้นและมีห้องที่กั้นขึ้นมาคล้ายๆ ห้องลองชุดสองห้อง และนอกเหนือจากนั้น ยังมีชุดสาวใช้หรือว่าชุดเมด แขวนเรียงหลายอยู่หลายชุด ซึ่งบางชุดก็ดูคล้ายกับชุดที่พนักงานใส่ และบางชุดก็ดูแปลกตาเพราะมีส่วนเว้าที่เยอะกว่า และความสั้นยาวที่แตกต่างกัน

“โปรโมชั่นของทางร้านค่ะ ถ้าสั่งอาหารครบสี่ร้อยบาท จะสามารถเช่าชุดเมดใส่ได้ฟรี 1 ชั่วโมง”

“อะ เอ่อ แล้ว” ต้นถึงกับพูดไม่ออกเพราะเข้าใจแล้วว่าตัวเองต้นทำอะไร

“นายหญิงเลือกชุดที่จะใส่ได้เลยค่ะ พนักงานเปลี่ยนคำเรียกทำเอาต้นถึงกับหน้าแดงด้วยความอาย

เขาเลือกชุดด้วยมือที่สั่นเทา ไม่เคยเห็นชุดแบบนี้มาก่อน บางตัวก็ดูรุ่มร่ามและมีผ้าพันไปมาดูน่างุนงง เขาตัดใจเลือกมาหนึ่งดูที่ดูเรียบที่สุด

“เชิญนายหญิงเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องลองได้เลยค่ะ” เธอพูดพร้อมผายมือ

ต้นเดินตามที่บอกอย่างเสียมิได้ เพราะมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาได้แต่ยอมให้มันจบๆ ไป จะได้ไม่มีอะไรค้างคากันเสียที ต้นถือชุดเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า ก่อนที่จะแขวนชุดไว้ และเปิดดูถุงที่โจให้มา

ด้านในเป็นกางเกงในผ้าฝ้ายสีขาว และกางเกงซับในที่มีรูปร่างคล้ายๆ กางเกงในสีขาวมีระบายเช่นเดียวกัน พร้อมทั้งถุงน่องและสปอร์ตบราสีขาวทั้งคู่

ในนั้นมีจดหมายเล็กๆ แนบมาด้วย

“ใส่ให้หมดนะน้องต้น”

เขาสถอนหายใจและค่อยๆ ถอดชุดออก ใจค่อยๆ เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เป็นครั้งที่สองแล้วตั้งแต่มาที่นี่ที่ต้นได้ใส่ชุดของผู้หญิงอีกครั้ง มันช่างน่าอับอาย ตื่นเต้น และแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน

ต้นถอดกางเกงในออกและสวมกางเกงในของผู้หญิงเข้าไปแทนที่ความตื่นเต้นดันจนกางเกงในผ้าฝ้ายนั่นโป่งพองออกมา



หัวข้อ: Re: Mask of fetish : หน้ากากแห่งความใคร่ 18+ ตอนที่ 31 การออกเดตกับโจ ตอนต้น
เริ่มหัวข้อโดย: AkuaPink ที่ 11-06-2019 11:38:30
 :pig4:
o13