#ผมว่าการอกหักยังไม่เจ็บเท่าหลงรักคนมีแฟน
by fridaynight
16.25
ห้องกิจกรรม ชมรมกีฬาฟุตบอล
ผมไม่ได้ตั้งใจจะมา
แต่แค่กลุ่มแชทในไลน์มันเด้ง แล้วเห็นชื่อมันพิมว่า…
กำลังจะมา
ผมเลยพาตัวเองมาอยู่ตรงนี้
16.47
“อ่ะ พวกมึงมาครบกันทุกคนหรือยังคร้าบบบบบบ”
“ครบแล้วจ้า”
ปัง!
“ครบแล้วพ่อมึง ขาดกูไอ้สัด!!”
ไอ้อุ้ยที่แม่งวิ่งหอบมาแต่ไกลตะโกนเสียงดังหลังจากที่มันรีบเปิดประตูเข้าห้องของชมรม
ทุกคนหัวเราะไปกับการปรากฎตัวของมัน ไอ้ห่านี่อยู่ที่ไหนแม่งก็มีฮาตลอด
“อ่ะครับๆ ในเมื่อพี่มาแล้วพี่ก็นั่งเร็ว”
“มาถึงก็สั่งกูไอ้น้องเวร”
“จ้าาาา และตอนนี้เราก็มากันครบแล้ว ขอยินดีต้อนรับทุกคนเข้าสู่งานฉลองวันปีใหม่ ชมรมฟุตบอลลลล”
“ไอ้สัดนุ กูรู้แล้วว่ามึงเป็นพระธานชมรมปีสอง มึงไม่ต้องเสียงดังอลังการก็ได้ป่ะ”
หลังจากที่ไอ้นุมันพูดเปิดงาน เสียงจ้อกแจ้กจอแจก็เริ่มดังขึ้น
ผมยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่ริมห้อง ไม่ได้ลุกไปไหน
ในห้องเล็กๆของชมรมเราตอนนี้มีสมาชิกอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันประมาณยี่สิบกว่าคน มีทั้งปีหนึ่ง สอง และ สาม
อาหารเริ่มทยอยถูกน้องปีสองนำขึ้นมาวางรอบห้อง ผมนั่งอยู่ข้างๆเพื่อนปีสามของผม ค่อยๆทอดสายตามองบรรยากาศรอบๆห้องที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ปกติงานนี้จะถูกจัดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว
มันดี ไม่ใช่แค่เพราะว่าเราจะได้ฉลองปีใหม่ร่วมกัน
แต่มันดี ตรงที่มันเป็นการรวมตัวพวกเราให้ได้มาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตา หลังจากที่ไม่ค่อยได้เจอกันเลยตั้งแต่ช่วงเทอม1
อย่างว่าแหละครับ กีฬามหาลัยมันมีแข่งกันบ่อยๆซะที่ไหน
ผมกวาดตามองไปรอบๆ ก่อนจะเลือกหยุดพักสายตาไว้ที่มุมหนึ่งของห้อง
มุมที่ไม่ว่ากี่ทีก็สามารถหยุดสายตาของผมได้เสมอ
16.53
ผมสะดุ้ง เมื่อบุคคลที่ผมนั่งมองอยู่หันหน้ามากะทันหัน ผมรีบหันหน้าไปทางซ้ายเพื่อแกล้งทำเป็นคุยกับเพื่อน แต่ไม่ทันแล้ว
มันเดินเข้ามาหาซะแล้ว
“ไงพี่” ไอ้คนตัวสูงข้างหน้าที่ยืนค้ำหัวผมอยู่เอ่ยปากทัก นั่นทำให้ผมต้องค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปคุยกับมัน
“…หวัดดีมึง”
“พี่เอมมาด้วยหรอวะ”
“ถ้ากูไม่มาแล้วมึงจะเห็นกูปะล่ะ”
“ไม่เจอนานยังกวนตีนเหมือนเดิมนะพี่อะ”
“ไม่เท่ามึงหรอก”
ผมยักไหล่ ไอ้คินมันนั่งลงตรงที่ว่างข้างๆผม “ปีสามเรียนเป็นไงบ้างวะพี่”
“ก็ดีมั้ง เรื่อยๆ”
“เชร้ดเข้ สายโหดเอช้วนอย่างพี่ก็พูดได้ดิเนอะ ผมนี่ ล่าสุดล่อเกรดอย่างดี”
“เกรดดีมากเลยหรอวะ”
“ดีบวกเนี่ยดิ! แอ่แฮ่ ก็ส่งมาได้นะพี่อะ โห่” มันบอก พร้อมทำหน้าบูดเบี้ยวใส่
ผมขำกับท่าทางเอ๋อๆของมัน โตแต่ตัวจริงๆ “แล้วมึงเป็นไง? เรียน?”
“ก็อย่างที่บอก เกรดเทอมก่อนแม่งอย่างเหี้ยว่ะพี่ แต่เทอมนี้ก็โอเคนะ เรียนไปเล่นไป”
“เออ ก็ดีแล้ว อย่าไปเครียดมาก”
“พี่เหอะ ทำหน้าตาอย่างกับอมขี้”
“อมทุกข์พอไอ้สัด”
“เออออ เป็นอะไรปะเนี่ย”
“กูก็เป็นคนที่หล่อมากๆไง”
”โอ้ยยย อย่างพี่เนี่ยนะหล่อ พี่น่ะ…”
“พอ มึงไม่ต้องด่ากู”
“อย่างพี่น่ะเค้าเรียกว่าน่ารัก …… เอ้า นิ่งอีก นี่ๆ อย่าทำหน้าเข้าใจผิด ผมไม่ได้ชม เพื่อนผมต่างหากที่ชม”
“กูทำหน้าอะไร”
“ก็พี่ทำหน้าเขินๆใส่ผม เดี๋ยวแม่งเข้าใจผมผิดอีก”
ก็รู้นี่ แล้วมึงยังจะมาแหย่กูอีกนะ
“กูไม่ได้เขิน ไอ้สัด มึงไปหาไรแดกไป”
“เออ ไปละ แต่ผมพูดจริงนะ เพื่อนผมแม่งปลื้มพี่โคตรเยอะ”
“โม้เก่งมึงอะ ไปนู่นไป”
ผมออกปากไล่ ไอ้คินลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปแจมกับอีกกลุ่มที่มุมหนึ่งของห้อง ผมหันมาคุยกับเพื่อนข้างๆแทน ตั้งใจอีกครั้งว่าจะไม่หันกลับไปมอง
แต่สุดท้ายก็เหมือนทุกครั้ง สายตาของผมมันหมุนกลับไปหาไอ้คนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงมุมนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
รู้แค่ตอนนี้มุมปากของผมนั้นยกยิ้มขึ้นเบาๆ
ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ที่แค่การได้แอบมองมัน ก็ทำให้ผมมีความสุขขนาดนี้แล้ว
18.11
“และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยแล้วนะจ๊า นั่นก็คือช่วงง จับฉลากกกก”
“…”
“ไอ้สัดพวกมึงช่วยทำเป็นตื่นเต้นกับกูหน่อยได้ปะ”
“โอ้ยยยยอตื่นเต้นๆๆๆ กูติ่นเต้นไม่ไหวแล้ววว ขี้จะราด อยากจับฉลากๆๆๆ”
“ไอ้พวกเหี้ย กวนส้นตีนกูจัง … อ่ะๆต่อ และของชิ้นแรกที่เราจะหยิบออกมานั่นก็คืออออ ของมุกนั่นเองงงง”
”วี้ดวิ้ววววววว” เสียงโห่แซวจากพวกฝูงหมาบ้าทั้งหลายดังขึ้นเมื่อผู้จัดการทีมสาวสวยอย่างมุก ปีสาม ลุกขึ้นเดินไปยังหน้าห้อง
“อ่ะ พอๆๆพวกมึงงง แหม พอเป็นมุกทีอารมณ์ขึ้นกันเลยนะ”
“อารมณ์อะไรวะ” มีเสียงตะโกนมา
“อารมณ์…มีความสุขไงคร้าบ แหม่!! พวกมึงนี่ก็นะ ส่งแต่ละอย่างมาให้กู อ่ะมุกๆ ล้วงจับได้เลย”
“เห้ยยย! ล้วงเลยหรอวะ”
“ล้วงกระเป๋าจับฉลากไอ้เหี้ย!! พอ!! กูสงสารมุก ไอ้พวกเวร”
เสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วห้อง มุกพยักหน้าแบบเขินๆ ก่อนจะล้วงมือลงจับฉลากขึ้นมาให้ไอ้นุ
“อะแฮ่ม ละคนที่ได้ของจากมุก ได้แก่……………”
“กูๆๆ กูแน่ๆ ต้องกูละล่ะ” เสียงจ้อกแจ้จอแจดังขึ้นแย่งกัน
“แก่………”
“ไอ้เหี้ยกูว่ากูแน่ๆ เมื่อคืนมุกเข้าฝันกู”
“แก่…………………”
“………”
“แก่………………………”
“โว้ยยยยยย ไอ้สัด!!! มึงไม่บอกมึงก็ออกจากห้องไป!”
“เออไอ้เหี้ย ลากเสียงยาวหาพ่อมึงเหรอ”
“เอ้าท่ดๆ กูแหย่พวกมึงเล่นอย่าเพิ่งด่าพ่อกู อ่ะ กูบอกเลยแล้วกัน คนที่ได้คืออออ ไอ้คิน!! ไอ้เหี้ย!! กูเกลียดมึง!!!!”
“โห่วววววว ไอ้สัดนี่อีกแล้วววว”
ไอ้คินยืนยิ้มๆเกาหัวแกรกๆก่อนจะเดินไปหน้าห้องแล้วถ่ายรูปรับมอบของจากมุก
“อ่ะยิ้มมม ยิ้มมม ไอ้เหี้ยคินมึงจะยิ้มกว้างเบอร์นั้นเพื่อ”
“กูถ่ายรูปมั้ยไอ้สัด”
“แล้วนั่นมึงให้กล่องอะไรกับมุก”
“คุกกี้”
“เอ๊าไอ้เหี้ยมีการให้ของนอกรอบไปอีก”
“กูตั้งใจจะเอามาให้คนที่กูจับฉลากได้อยู่แล้วมั้ย”
“กูไม่รู้แหละ เรื่องนี้ต้องถึงหูกีกี้แน่” ไอ้นุพูด
“เกี่ยวอะไรกับกี้”
“ไม่รู้แหละ กูจาฟ้องเมียมึงงงงงงง” ไอ้คินหันไปด่าและพวกมันก็พูดอะไรกันต่อนอกไมค์ก็ไม่รู้ ซึ่งผมไม่ได้ยิน
และแล้วก็เริ่มจับฉลากใบต่อไป
ผมมองมุกที่เดินกลับเข้ามานั่งที่พร้อมกับกล่องคุกกี้ในมือ
เออ ไอ้คินแม่งก็เป็นคนแบบนี้เนี่ยแหละ
ดูเป็นคนกวนๆ ไม่มีห่าอะไร
แต่จริงๆแล้วโคตรน่ารัก โคตรใจดี โคตรแคร์
เอาใจใส่ทุกคนไปทั่ว แบบไม่คิดอะไร ก็ไม่แปลกที่จะมีคนชอบมันเยอะแยะ
ทำให้คนอื่นตกหลุมเก่ง…
ทั้งที่มันก็มีแฟนที่รักกันมานานสี่ปี แถมยังรักกันมากด้วย
มึงจะรู้ไหมเนี่ยว่าความใจดีพร่ำเพรื่อของมึงแม่งโคตรเหี้ย
กูถอนตัวไม่ขึ้นสักที
19.01
หลังจากที่การจับฉลากที่โคตรจะวุ่นวายนั้นจบลง พวกเราก็มานั่งล้อมวงกันเล่นไพ่
กติกามีง่ายๆ แค่จับคนละใบ คนที่ได้เลขลำดับสูงสุดจะได้ออกคำสั่งอะไรก็ได้
ตอนแรกผมก็ว่าจะเนียนกลับอยู่หรอก แต่ต้องล้มเลิกความคิดนั้นทันทีที่หันไปเห็นไอ้คินจับแก้วเหล้า
ถ้าเหล้าเข้าปากมันเมื่อไหร่นี่ชิบหายแน่ๆ เมาอย่างหมา
คิดอย่างนั้นก็เลยนั่งอยู่ต่ออีกสักพัก
ยอมรับก้ได้ว่าเป็นห่วงมันนิดหน่อย…
นิดหน่อยจริงๆ
“อ่ะ มึงสับไพ่ แจก”
ไพ่ทั้งหมด 26 ใบถูกวางลง และลำดับที่สูงสุดนั้นคือ คิง
ตาแรกผ่านไป ผลปรากฏเป็นไอ้โจ้ปีสองได้เป็นคิง
“กูขอสั่งให้ … เลข 2 หอมแก้มเลข 7!!”
“ใครสองกับเจ็ด มึงโผล่หัวมา”
“กูเบอร์สอง”
“ไอ้เหี้ยยยยย ไอ้มั่น มึงสองจริงป่ะ”
“กูจะโกหกทำไมล่ะไอ้ควาย …อย่าบอกนะว่ามึง…”
“กูเบอร์เจ็ด!!”
“ไอ้เหี๊ยยยยยยยยยยยยย”
เสียงโหยหวนดังขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะจากไอ้โจ้ที่ยืนขำอย่างบ้าคลั่งด้วยความสะใจ
ไอ้มั่นมองหน้าไอ้เสกที่ยืนทำหน้าแบบเดียวกันอย่างพะอืดพะอม
ไอ้เหี้ย กูสงสารพวกมัน
หลังจากช็อตสยองได้ผ่านไปพร้อมกับตากล้องที่แม่งโผล่มาจากที่ไหนก็ไม่รู้ตั้งเยอะแยะ พวกเราก็นั่งเล่นไปแดกเหล้าไปกันอีกหลายตา
“ตานี้กูได้” ไอ้นุพูด
“อ่ะมึงจะสั่งอะไร”
“กูขอสั่งให้แจ็คหอมแก้มกู!”
“ดะ…เดี๋ยว …ไอ้นุ นี่มึงจะให้กูหอมแก้มมึงเหรอ”
“ไอ้สัด มึงอย่า!! กูหมายถึงแจ็คที่เป็นตำแหน่งโว้ย ไม่ใช่ชื่อมึงงงง”
ทุกคนขำพรืดพร้อมกันเมื่อไอ้แจ็คทำท่าจะโผเข้าใส่ ไอ้นุเหมือนจะร้องไห้ ทำหน้าผวาหาแม่
“แล้วใครหมายเลขสี่วะ” หนึ่งในวงพูดขึ้น
“…เราเอง” เสียงเล็กๆจากมุกดังขึ้น เรียกสายตาทุกคนให้หันไปมองอย่างตกใจ
“มุกเลขสี่จริงดิ”
“อื้ม”
“ไอ้เหี้ยกูว่ามันไม่ใช่ละ”
“เรื่องนี้แม่งต้องมีเงื่อนงำ”
“ไอ้สัดนุมึงบอกกูมาว่ามึงตุกติกอะไร”
“กะ…กูเปล่า ทำไมกูเลือกเลขสี่แล้วได้มุกมึงต้องมองว่ากูตุกติกด้วยวะ!”
“มึงแม่งเชื่อไม่ได้”
“ไอ้สัดกูอาจจะแค่ดวงดี”
ผมนั่งมองไอ้เด็กปีสองมันรุมเถียงกันไปมา
“มึงบอกกูมา”
ต้อนไปต้อนมา ในที่สุดไอ้นุก็เปิดปากพูด “คือ…กูดูเงาที่สะท้อนบนแว่นของมุกเอาอะ”
“ไอ้เหี๊ยยยยย มึงมันคนเหี้ยสองพันสิบเก้า”
จากนั้นไอ้นุก็โดนรุมตีนและเป็นอันว่าตานั้นถือเป็นโมฆะไป ผมนั่งดูพวกมันเล่นกันไปเรื่อยๆ
ไม่มีใครออกคำสั่งโดนเลขของผมจนกระทั่ง…
19.34
“กูเป็นคิง”
ไอ้เต้ย มนุษย์เดือนปีสามที่นั่งข้างผมยืนขึ้นพร้อมไพ่รูปกษัตริย์ในมือ
”เอาแรงๆ เอาแรงๆ” เด็กปีหนึ่งปีสองแม่งส่งเสียงเชียร์กันจ้าละหวั่น บางคนมันคึกเกินเพราะฤทธิ์เหล้าที่ถืออยู่ในมือ
”กูขอสั่งให้…”
ทุกคนเงียบ รอฟังอย่างตื่นเต้น
“เบอร์ 3 มาเต้นรูดกูตอนนี้เลย!”
“เหี๊ยยยยยย รูดอะไรของมึงวะ!”
“รูดเสาไง เดี๋ยวกูเป็นเสาให้”
“อ๋ออออออ”
แล้วไป
“แล้วใครเบอร์สามวะ”
“กูเอง”
ผมลุกขึ้นยืน ทุกคนเบิกตากว้างพร้อมส่งเสียงแซว
“พี่เต้ยแม่งเลือกถูกคนจริงว่ะ”
“กูเตรียมอัดคลิปรอ”
ผมไม่รอช้ารีบเต้นๆเหี้ยไรก็ได้ไป ลุกๆนั่งๆรูดมันขึ้นลงเนี่ยแหละ
หมายถึงท่าเต้นน่ะ
โดยพื้นฐานผมก็ไม่ใช่คนขี้อายอะไรอยู่แล้ว แค่ไม่ได้พูดมากเฉยๆ เต้นๆเอาฮาตามประสาผู้ชายเกรียนๆแม่งกระจอก
“สาดดดด พี่เอม ลงอีก ลงอีกพี่”
“เข่ากูจะเสื่อมแล้วไอ้สัด” ผมตะโกนด่ามันไป แต่ก็ไม่วายย่อให้มันต่ำกว่าเดิม
ไอ้พวกที่นั่งดูอ้าปากขำกันแทน
“กูละเสียดายหน้าสวยๆของพี่มัน ไม่น่าเกรียนแตกเลย โธ่”
กูจะบอกอีกทีว่ากูไม่สวย แต่กูหล่อมาก
ผมเต้นบ้าๆบอๆไปจนจบ ไอ้เต้ยเองก็เต้นไปกับผมด้วย เสาเหี้ยอะไรเต้นได้วะ
แต่ยังไม่ทันที่จะเดินกลับไปถึงที่ ไอ้คินที่เดินถือแก้วเหล้าอยู่ก็เดินดุ่มๆมาหยุดยืนตรงหน้าผมพร้อมกับหน้าแดงๆ
ผมหลบไปอีกทางเพื่อจะเดินแต่มันไม่ให้ไป
“อะไรของมึงเนี่ยคิน”
“ผมไม่ให้พี่เดิน”
”มึงเมาแล้วถูกป่ะ เลิกแดกแล้วกลับบ้านมั้ย”
”ผมยังกลับไม่ได้”
“อ้าว ไมวะ”
“รอรับกี้”
“อ่อ…” กูลืมไป
“เออ งั้นมึงก็ไปนั่งที่ไป”
“เดี๋ยวพี่”
“ว่าไง” ผมหันไปมองหน้าแดงๆของมัน ผมว่ามันเริ่มเมาละ
“ไปซื้อไอติมเป็นเพื่อนหน่อยดิ”
“อารมณ์ไหนของมึงวะเนี่ย”
“อารมณ์อยากแดก”
ผมหลุดขำทันทีเมื่อได้ยินส่งที่มันพูด
วุ่นวายจริงมึงเนี่ย
(ต่อด้านล่าง)