พิมพ์หน้านี้ - ((เรื่องสั้น)) ความรักครั้งสุดท้าย ตอนเดียวจบ
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: thanatcha ที่ 20-11-2018 18:53:53
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง 7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ 7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ... (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ (2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง) - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์ - ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข 17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ) ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้ 18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com....................................... วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17 เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม *****************************************************************************************
คุณเคยทำอะไรโดยที่ไม่ได้คิดอะไรซับซ้อนมั้ย อย่างเช่นถ้าเราไม่ชอบใครเราก็แค่พูดไปตรงๆ หรือเราไม่อยากทำอะไรเราก็ปฏิเสธไป เพราะเราคิดว่านั่นคือการสื่อสารที่ตรงที่สุดแล้ว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเกลียดชังจากใครก็ไม่รู้ มีทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก มันไม่มีอะไรเจ็บเท่ากับการที่คนรู้จักของเราก็เป็นฝ่ายเตะลูกบอลอารมณ์สาดใส่เราไม่ยั้ง ทั้งๆที่บอกกับผมคุยกับผมตรงๆผมก็รับฟังได้ แต่เขาอาศัยโซเชียลเป็นแส้ที่ฟาดแสกลงมาที่กลางหน้าของผมกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ผมรู้สึกว่าตัวเองไม่มีเหตุผลที่จะอยู่อีกต่อไปแล้ว การเล่นโซเชียลเป็นเรื่องที่ผ่อนคลายความเหงาของผมมากที่สุด บนโลกใบนี้ผมไม่เหลือใคร ทั้งพ่อแม่ญาติพี่น้อง และเช่นกันเพราะผมเป็นคนเก็บตัว ผมจึงไม่ค่อยมีเพื่อนที่มีอยู่ก็ไม่ใช่เพื่อนที่พอจะเล่าอะไรให้ฟังอย่างลึกซึ้งได้ เลิกงานผมก็กลับบ้านใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวไปวันๆ อาจจะดูเว่อร์เพราะในโลกโซเชียลผมคือเกมเมอร์ที่มียอดคนติดตามหลักหมื่นแต่ในชีวิตจริงของผมกลับไม่มีใครเลย ในแต่ละวันผมทำเพียงตื่นขึ้นมา ไปทำงานเสร็จเลิกงานก็กลับห้องมาเล่นเกมส์ กินข้าวไม่เคยตรงเวลาและป่วยบ่อย มันก็เป็นสัญญาณเตือนหลายครั้งแล้วว่าถ้าผมยังใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆผมคงต้องตายในซักวันหนึ่ง แล้วทำไมล่ะ อย่างไรเสียซักวันเราก็ต้องตายกันอยู่แล้ว มันไม่ดีกว่าเหรอที่เราสามารถเลือกวันและวิธีตายให้ตัวเองมากกว่าจะรอให้ใครก็ไม่รู้มากำหนดหรือมาทำให้เราตาย ผมใช้ปลายนิ้วเลื่อนดูหน้าทวิตเตอร์ไปเรื่อยๆด้วยสายตานิ่งสงบ หัวใจของผมกำลังตกตะกอน คำพูดร้ายๆและคำด่ามากมายสาดซัดใส่ผมราวทะเลที่อยู่ท่ามกลางพายุคลั่ง ผมก็แค่ก้อนหินเล็กๆที่แสร้งทำเป็นเข้มแข็งหยัดยืนต้านคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่สาดซัด ผมทำผิดพลาดในเรื่องที่ไม่ทันคิดจนคนเอาไปตีความในแง่ร้าย คำด่ามากมายถูกสาดเข้ามาทับถมจนใจของผมหนัก คงจะดีถ้าผมไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรอีกต่อไปแล้ว รวมทั้งลมหายใจด้วย ผมฮัมเพลงโปรดเบาๆก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดตู้เสื้อผ้าค่อยๆบรรจงเลือกเสื้อยืดสีดำตัวโปรดที่มีลายกราฟฟิคเล็กๆตรงอกเสื้อมาวางลงบนเตียง เสื้อตัวนอกเป็นสีดำเช่นกัน กางเกงยีนต์สีดำแต่งขาดตามแฟชั่นที่ซื้อมาในราคาค่อนข้างแพงถูกนำมาทาบกับเสื้อทั้งสองตัวนั่น ผมว่าผมในชุดดำนั้นแสนจะเท่ห์ ผมแช่น้ำอุ่นในอ่างอย่างผ่อนคลายก่อนจะออกมาแต่งตัวด้วยชุดที่เตรียมไว้ อากาศข้างนอกเย็นยะเยือกผมเดินฝ่าความหนาวเหน็บไปตามทางที่มีแสงสลัวจากโคมไฟไปจนถึงสะพานเล็กๆ หลายคนกลัวความตาย แน่นอนก่อนหน้านี้ผมเองก็กลัว แต่ในตอนนี้จิตใจของผมกลับสงบอย่างไม่น่าเชื่อ ผมยิ้มให้กับไอสีขาวที่พรั่งพรูออกจากปากและจมูกของผม ลมหายใจช่างเป็นสิ่งสวยงามเสียเหลือเกิน น่าเสียดายที่ผมกลับไม่มีความรู้สึกที่จะรักษามันไว้ ผมค่อยๆปีนขึ้นไปยืนอยู่บนราวสะพาน ในตอนนี้เมื่อมองลงสู่ผิวน้ำเบื้องล่างความรู้สึกกลัวก็เกิดขึ้นมาหน่อยๆแล้วล่ะ วูบหนึ่งผมอยากจะเปลี่ยนใจ แต่เปลี่ยนใจแล้วได้อะไร ต้องกลับไปใช้ชีวิตแบบเหงาๆและเป็นเหยื่ออารมณ์ของคนรอบข้างอีกอย่างนั้นน่ะเหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นสู้ผมตายให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวไปเสียดีกว่า อาจจะทรมานชั่วไม่กี่นาทีจากนั้นผมก็ไม่ต้องรู้สึกอะไรแล้ว ผมแตะมือลงบนผิวหน้าของตัวเอง หยาดน้ำตาอุ่นๆไหลลงสองข้างแก้ม ผมไม่รู้ว่าน้ำตาของผมไหลออกมาทำไม ผมอาจจะสงสารตัวเองหรืออาจจะกำลังสมเพชตัวเองอยู่ผมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ นี่คงเป็นการหายใจเต็มปอดครั้งสุดท้ายของผมแล้ว ผมหลับตาลงเตรียมทิ้งกายลงพื้นน้ำเบื้องล่างอย่างผ่อนคลาย “มีแฟนมั้ย?”อยู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังอยู่ไม่ไกล ผมสะดุ้งเล็กน้อยเกือบจะหล่นลงไปดีที่ว่าร่างกายทรงตัวได้ทันโดยอัตโนมัติ เมื่อมองหาน้ำเสียงที่ถามมาก็พบว่าคนๆนั้นนั่งเตะขาเล่นไปมาเบาๆบนราวสะพานที่อยู่ในเงามืดห่างจากผมไปพอสมควร เขาอาจจะเพิ่งเดินเข้ามาผมจึงไม่สังเกตเห็น หรือเขาอาจจะนั่งอยู่ก่อนแล้ว “ว่าไง มีแฟนมั้ย?”เขาถามย้ำกลับมาอีกครั้ง น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามราวกับรู้จักกันมาก่อนทำให้ผมผ่อนคลาย “ไม่มี”การคุยกับใครซักคนก่อนตายมันก็ดีเหมือนกัน “นั่งคุยกันก่อนมั้ย?”เขาว่า แสงสีแดงอมส้มสว่างวาบในความมืด ผมยักไหล่ก่อนจะนั่งตามที่เขาบอก “ทำไมถึงจะฆ่าตัวตายล่ะแฟนก็ยังไม่เคยมี” “แล้วทำไมต้องมีแฟนล่ะถึงจะตายได้”ผมถามอย่างสงสัย “ก็ถ้ามีแฟนก็จะมีปัญหาไง อาจจะทำให้เราน้อยใจหรือทะเลาะกันจนหาทางออกไม่ได้เลยคิดสั้น” “มันไม่ใช่ความคิดสั้นหรอก”ผมตอบเขาพลางยักไหล่น้อยๆ “แสดงว่าคิดมาดีแล้ว?” “ใช่ คิดมาซักพักแล้ว” “อืม...ผมก็เหมือนกัน”เขาพูดกลั้วหัวเราะ เขาในตอนนี้ที่ผมเห็นจากการพูดจาก็เหมือนคนปกติไม่ได้ดูมีความทุกข์ร้อนอะไรเลย ดูไม่น่าจะเป็นคนที่มาฆ่าตัวตายได้เลยซักนิด “คุณก็จะมาฆ่าตัวตายเหมือนกันเหรอ”ผมถามเขาอย่างสงสัย เขายกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มแล้วอัดบุหรี่ตามอีกครั้ง เสียงเขาผ่อนลมหายใจอย่างเชื่องช้าดูน่าค้นหา “ใช่” “ทำไม?”ผมไม่รู้ว่าผมจะถามเขากลับไปทำไม อาจจะเป็นเพราะชีวิตปกติของผมไม่ค่อยได้พูดกับผู้คนมากนัก เขาเป็นคนแรกในรอบวันนี้ด้วยซ้ำที่ผมยอดเปิดปากพูดด้วย “ไม่มีเหตุผลที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ ทุกอย่างบนโลกมันว่างเปล่า”เขาตอบประโยคที่โดนใจผมจนจุก เราสองคนต่างไม่มีเหตุผลอะไรที่จะดึงรั้งให้ดำเนินชีวิตต่อไปเลยซักอย่าง “อยากลองมีแฟนก่อนตายมั้ย? อยากทำกิจกรรมแบบคนมีคู่เขาทำกันหรือเปล่า?”เขาถามผมด้วยน้ำเสียงจริงจัง ผมไม่ได้มองเขากลับไป หูของผมได้ยินเสียงเขาทิ้งน้ำหนักตัวลงบนพื้น เสียงฝีเท้าของเขาก้าวเข้ามาใกล้ผมมากขึ้นทุกที “ผมไม่เคยมีแฟนไม่รู้หรอกว่ากิจกรรมพวกนั้นมีอะไรบ้าง” “ก็กินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยว จับมือกัน จูบกัน มีเซ็กส์กัน”ผมถูกดึงตัวให้ลงมาจากราวสะพาน ความอุ่นร้อนทาบทับลงมาบนกลีบปากบดขยี้อย่างเร่าร้อนสอดแทรกเข้ามาค้นหาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเอาแต่ได้ แต่น่าแปลกที่ผมกลับเคลิบเคลิ้มไปกับรสชาติขมปนเฝื่อนด้วยรสของเบียร์ที่ติดปลายลิ้นและบุหรี่ที่มีความเย็นนิดๆ ผมกำลังจะตายถ้าหากเขายังไม่เลิกจูบผมอยู่อย่างนี้ “ลองคบกันมั้ยแล้วค่อยกำหนดวันตายกันใหม่ อย่างน้อยอยู่ใช้ชีวิตให้มันครบทุกอย่างที่มนุษย์พึงจะมีกันก่อน ตอนตายจะได้ไม่เสียดาย”เขาเกลี่ยริมฝีปากของผมเบาๆ เมื่อได้เห็นหน้าของเขาชัดๆแล้วใจของผมที่เคยสงบมาตลอดก็เต้นผิดจังหวะไปชั่วขณะ ผิวของเขาขาวมากจริงๆ ทุกส่วนที่โผล่พ้นเนื้อผ้านั้นขาวสว่าง ริมฝีปากอวบอิ่มของเขาแดงเรื่อไม่เหมือนคนสูบบุหรี่จัดเลยซักนิด ลักยิ้มที่แก้มซ้ายของเขาบุ๋มจนเห็นได้ชัดยามที่เขายิ้มให้ผม เราจ้องตากันราวกับกำลังประเมินซึ่งกันและกันก่อนที่ผมจะยิ้มตอบเขา ก็ลองดูซักครั้งไม่ได้เสียหายอะไร ผมไม่เคยต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับใคร เอ็ดเวิร์ดเป็นคนแรกที่ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกของผม ผมชอบกลิ่นบุหรี่ของเขา ผมชอบหยาดเหงื่อที่ค่อยๆไหลจากไรผมที่ไหลหยดลงบนตัวของผมในขณะที่เขาขยับร่างกายเป็นจังหวะแสนร้อนแรง บ้างเชื่องช้า บ้างรุนแรงโยกคลอนให้หัวใจของผมเหวี่ยงไปมาอย่างไม่รู้จบ “อะ..อา...”ผมร้องออกมาเบาๆยามตัวตนของเขาโดนจุดไวต่อความรู้สึกในร่างกายของผม ผมใช้ปลายเท้าเกี่ยวเอวสอบที่ขยับเร้าเร่งจังหวะไม่หยุดด้วยขีดอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น “ชื่ออะไร”เขาเอ่ยถามผมเสียงพร่าในยามที่สติของผมไม่เต็มร้อยเพราะแรงอารมณ์ที่ใกล้แตะขอบเต็มที “อ..อีริค”น้ำเสียงของผมขาดช่วงตะกุกตะกัก “ผมชื่อเอ็ดเวิร์ดนะ เรียกชื่อผม เอ็ดเวิร์ด” “อะ...อื้อ..เอ็ดเวิร์ด...แรงอีก พลีส” “ได้ ตามที่คุณต้องการ” เป็นครั้งแรกที่เราได้ทำความรู้จักซึ่งกันและกันอย่างเป็นทางการก่อนผมจะปลดปล่อยหยาดหยดแห่งความสุขออกมาจนล้นปรี่ ผมชอบความมีอารมณ์ศิลปินของเขา เอ็ดเวิร์ดร้องเพลงและเล่นดนตรีเก่งเขาเป็นนักแต่งเพลงที่มีเพลงดังผ่านหูหลายต่อหลายเพลง เพียงแต่ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาว่าเจ้าของเนื้อเพลงสุดเซ็กซี่นั้นจริงๆเป็นเด็กหนุ่มวัย 19 ปี แต่ผมน่ะอายุ 26 เข้าไปแล้ว เขากดดันจากความคาดหวังของคนอื่น ทั้งพ่อแม่และโปรดิวเซอร์ที่ต่างก็บีบคั้นเขาในเรื่องงาน “ตอนแรกก็เขียนเพลงเพราะความรักและชอบในเสียงดนตรี”เขาสูบบุหรี่อัดเข้าปอดอีกครั้งในขณะที่เรานอนคุยกันหลังเซ็กส์ครั้งแรกจบลง “แต่พอเริ่มมีชื่อเสียงเพลงที่เขียนหลายเพลงเริ่มดังพวกเขาก็เริ่มเรียกร้องจากผมมากขึ้น จากความรักความชอบพอมีความคาดหวังพ่วงเข้ามากลายเป็นความกดดัน พอถึงวันหนึ่งที่เครียดมากๆผมก็เขียนเพลงไม่ได้ เขาก็ด่าผมว่าผมไม่เอาไหน”อีกครั้งที่เขาอัดบุหรี่เข้าปาก เด็กน้อยผู้น่าสงสารของผมสูบบุหรี่ดุมาก เขาถูกคาดหวัง ส่วนผมถูกเกลียดชังผมค่อยๆไล้ปลายนิ้วจนประสานกับมือของเขา ไม่มีใครจะเข้าใจเราเหมือนที่เราเข้าใจกันหรอก เขาสูบบุหรี่อีกครั้งก่อนจะพลิกตัวผมลงบนเตียงนอนหลังแคบๆที่ผมใช้นอนคนเดียวมาหลายปี พ่นควันสีขาวอมเทาปัดเป่าไปทั่วตัวจนผมขนลุก ริมฝีปากอุ่นกดจูบและดูดดึงตามส่วนต่างๆบนร่างกายจนขึ้นสี ลากไล้สัมผัสหวามจากปลายเท้าจนกระทั่งเราประสานสายตาซึ่งกันและกัน เขาลูบข้างแก้มของผมอย่างแผ่วเบาราวกับผมเป็นของล้ำค่าที่เปราะบางแล้วใช้ปลายนิ้วสอดเข้าไปในเส้นผมของผมคลึงมันไปมาจนเคลิบเคลิ้ม เขาในวัย 19 ปี ช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน “คุณเป็นคนแรกที่ตามใจผม เป็นคนแรกในรอบ 4 ปี ที่ทำให้ผมมีความสุข”ผมยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัวหลังจากฟังคำพูดแสนหวานของเขาจบ เราจูบกันอย่างไม่รู้เบื่อ เสียงเฉอะแฉะแสนน่าอายในตอนแรกกลายเป็นเสียงที่เพราะจนอยากทำให้มันเกิดซ้ำๆ เช้าวันต่อมาเสียงโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น ผมขยับตัวที่นอนซบอกของเขาเพื่อเปิดทางให้เขาได้ลุกขึ้นไปรับโทรศัพท์ คว้าเอาผ้าขนหนูที่ตกอยู่ข้างเตียงมาพันกายไว้ ยังไงซะผมก็ไม่ชินกับการแก้ผ้าต่อหน้าใคร เอ็ดเวิร์ดมองชื่อที่โชว์หน้าจอแล้วกดปิดเครื่องจากนั้นก็ดึงซิมการ์ดออกมาหักทิ้งแล้วโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะอย่างไม่นึกเสียดาย เขาลุกขึ้นด้วยร่างกายเปลือยเปล่ามาสวมกอดพลางกดจูบลงบนแก้มของผมหนักๆหนึ่งครั้ง “อรุณสวัสดิ์ครับ”เขาเอ่ยทักทายพลางสอดมือเข้ามาในผ้าขนหนูที่ผมใช้พันกายฝ่ามือซุกซนลูบคลำไปแทบจะทั่วร่างปลุกปั่นอารมณ์ของผมตั้งแต่เช้าจนผมต้องเชิดหน้าเปิดช่องทางให้เขาได้ซุกไซร้ปลายจมูกโด่งลงบนลำคอของผมอย่างซุกซน “ไม่ไหวแล้วนะ”ผมร้องท้วงเมื่อเขาเริ่มขยับข้อมือจนร่างของผมเริ่มสนองตอบ “แค่มือก็ได้”แม้จะได้ใช้ชีวิตร่วมกันยังไม่ถึงวัน ผมก็รู้ดีว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นคนเอาแต่ใจ ส่วนผมเองก็เป็นคนชอบที่จะตามใจ เราสองคนตัดขาดโลกภายนอก เกมที่ผมชอบเล่น คอมเม้นท์ที่ผมชอบอ่านกลายเป็นสิ่งที่ผมไม่แตะต้องมันเลยนับตั้งแต่วันนั้น เรามานั่งวางแผนการตายของแต่ละคน เอ็ดเวิร์ดเขาทำท่านึกในบ่ายของวันเสาร์ที่อากาศภายนอกยังคงหนาวเหน็บจนเราเกียจคร้านที่จะออกไปเดินเล่น “อืม...”เขาส่งเสียงร้องในลำคอตอนที่กำลังคุยกันว่าเราจะเลือกตายวิธีไหน “ตอนแรกผมกะจะไปโดดน้ำแต่มาคิดๆดูแล้วกว่าจะตายคงทรมานน่าดู ถ้าใช้ปืนน่าจะไม่ต้องทรมานนาน ผมทรมานมามากพอแล้ว”เขาว่าพลางทำหน้าคิด วิธีของเขาก็ไม่เลว “ถ้าผมไม่ตายทันที ในปืนผมจะบรรจุลูกกระสุนสองนัด คุณช่วยผมทีนะผมกลัวเจ็บ”เขาขอความช่วยเหลือจากผม ซึ่งผมก็รับปาก “แล้วคุณล่ะ?เลือกวิธีไหน” “ตอนแรกก็อยากจะโดดน้ำแต่มันล้มเหลว”ผมตวัดสายตาขึ้นมองเขาอย่างกล่าวโทษ เอ็ดเวิร์ดหัวเราะคิกออกมาทันทีเพราะรู้ตัวดีว่าตัวเองเป็นคนทำให้แผนของผมพังไม่เป็นท่า “ผมไม่ชอบการผูกคอตาย ศพคงจะออกมาทุเรศน่าดูลิ้นจุกปากไม่ใช่สไตล์ผม”ผมนิ่งคิดชั่วขณะก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา “อยากจะสร้างศิลปะครั้งสุดท้าย”เอ็ดเวิร์ดกระตุกยิ้มออกมาอย่างรู้ทัน “อาจจะเจ็บนานหน่อยนะ”เขาแสร้งขู่ผม “ไม่เป็นไรหรอก เจ็บซักหน่อยอยากจะรู้ว่าครั้งสุดท้ายของชีวิตจะเจ็บได้นานซักแค่ไหนกี่นาทีถึงจะตาย” “ซาดิตส์เหมือนกันนะครับคนเก่งของผม”เขาคลานเข้ามาแทรกตัวกลางหว่างขาของผมพลางกดจูบลงมาเนิบหนัก เราตกลงกันว่าสองเดือนหลังจากนี้เราจะทำให้ทุกวันของเรามีความสุข ตารางการไปเที่ยวต่างประเทศถูกจัดลงไป ผมกับเขาอยากออกไปเที่ยวที่ไกลๆซักที่ก่อนกลับมาตายที่ห้องของผม เอ็ดเวิร์ดไม่อยากกลับไปที่คอนโดของเขาเพราะที่นั่นอาจจะมีพ่อแม่หรือผู้จัดการมาขัดขวางเขาได้ เขามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้ว เงินของเรามีมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายๆอีกหลายเดือนแต่เราเลือกที่จะมีลมหายใจอีกเพียงแค่สองเดือนเท่านั้น เขาบอกว่าคนเราถ้าเป็นแฟนกันช่วงเวลาดีๆจะมีระยะเวลาหอมหวานแค่สามเดือนเท่านั้น หลังจากนั้นตัวตนของแต่ละฝ่ายก็จะค่อยๆเผยออกมาทีละนิดเขาอยากให้เราจดจำแค่ด้านดีๆก่อนจะจากโลกนี้ไป และแน่นอนผมเห็นด้วย เราใช้ชีวิตร่วมกันอย่างราบรื่น เขาพาผมไปเที่ยวปล่อยร่างกายให้โยกย้ายไปตามเสียงเพลง เหล้าและบุหรี่ที่ผมไม่เคยแตะต้องมาก่อนถูกรับเข้ามาในกาย ผมชอบความร้อนรุ่ม ชอบความมัวเมาที่เขากำลังมอมเมาผมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ผมชอบคำหวานของเขา ผมชอบรอยยิ้ม ชอบเสียงหัวเราะ ชอบน้ำเสียงทุ้มของเขา ชอบลักยิ้มยามยิ้มที่กดลึกจนแก้มด้านซ้ายบุ๋มลงไป ที่สำคัญผมชอบเซ็กส์ของเขา ใครจะไปคิดว่าเด็กอายุแค่ 19 อย่างเขาจะโชกโชนได้ขนาดนี้ เขาช่ำชองหรือผมอ่อนหัดกันนะ ผมเคยอ่านบทความชิ้นหนึ่งที่เขาบอกว่าคนที่สูบบุหรี่หลังมีเซ็กส์คือคนที่ไม่จริงจังกับความสัมพันธ์ แต่สำหรับเอ็ดเวิร์ดมันไม่ใช่ เขาแค่ติดมันเขาสูบมันเพื่อผ่อนคลายความเครียดเท่านั้นไม่มีอะไรที่จะทำให้เราคบกันอย่างฉาบฉวย เราต่างเป็นคนสุดท้ายซึ่งกันและกัน ทุกอย่างระหว่างเรามันดี ดีจนผมรู้สึกอยากจะมีเวลาเหลือเพิ่มอีกหน่อย เมื่อก่อนผมไม่เคยเชื่อเลยว่าความสุขมักจะผ่านไปเร็วเพราะทุกวันในชีวิตของผมที่ผ่านมามันเชื่องช้าจนน่าเบื่อหน่าย แต่ตั้งแต่มีเอ็ดเวิร์ดเข้ามาในชีวิตทุกอย่างมันดีจนผมภาวนาให้เวลาช่วยมากขึ้นอีกซักหน่อย แต่ก็อีกนั่นแหละสิ่งที่เที่ยงตรงและไม่เคยหยุดคือเวลา เผลอแป๊บเดียวหลังจากเรากลับจากไปเที่ยวยุโรปก็เหลือเวลาอีกเพียงอาทิตย์เดียว ผมไม่เคยเชื่อว่าเราจะตกหลุมรักใครได้เพียงเพราะความใกล้ชิดแต่ตอนนี้ทุกครั้งที่เขาหายไปผมกลับชะเง้อหาแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานผมก็คิดถึงเขาแล้ว แล้วแบบนี้ผมจะให้เขาไปก่อนแล้วทิ้งผมไว้ข้างหลังได้ยังไง “เอ็ดเวิร์ด”ผมเรียกเขาตอนที่เขาเขี่ยปลายนิ้วกับไหล่เปลือยของผมเล่นอย่างเพลินมือ “ขอฉันไปก่อนได้มั้ย?”ผมเอ่ยขอจากเขา “ทำไมล่ะ?”เขาไม่ได้ตอบรับเพียงแต่ถามกลับมา ผมปล่อยให้ความเงียบโอบล้อมเราชั่วครู่ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปคร่อมทับร่างของเขาไว้ กดจูบลงบินริมฝีปากอุ่นที่มีกลิ่นบุหรี่ติดอยู่จางๆ สอดลิ้นเข้าไปเกี่ยวพันความหอมปนเฝื่อนอย่างเอาแต่ใจถอนจูบออกอย่างเชื่องช้าจนเกิดเสียง เอ็ดเวิร์ดยื่นหน้าตามมาอย่างเว้าวอนแต่ผมใช้ปลายนิ้วกดอกของเขาไว้ “ฉันไม่อยากเห็นคนที่รักตายไปต่อหน้าต่อตา มันคงเศร้า” “ผมก็ไม่อยากเห็นคนที่ผมรักตายไปต่อหน้าเหมือนกัน”ไม่รู้ทำไมเพียงแค่คำพูดธรรมดาๆกลับทำให้ใจของผมสั่นอย่างน่ากลัว อีกครั้งที่เขาประคองแก้มของผมไว้อย่างอ่อนโยน ผมแนบแก้มลงไปถูกับฝ่ามือของเขาอย่างออดอ้อน “อีกอย่างถ้าอีริคตายก่อนใครจะช่วยผมตอนที่นัดแรกมันไม่สำเร็จล่ะ อย่างน้อยอยู่เพื่อช่วยผมซัก 2-3 นาที นะครับ” แล้วผมจะปฏิเสธอะไรได้ก็ในเมื่อผมตามใจเขามาตลอด สองวันก่อนวันสุดท้ายของเรา เราออกไปข้างนอกอากาศเริ่มจะอุ่นขึ้นนิดหน่อยแล้ว หิมะที่เคยตกหนักบางลงไปอีกไม่กี่วันฤดูกาลใหม่ก็จะมาเยือน น่าเสียดายที่เราไม่มีโอกาสได้อยู่ชื่นชมออกไปเดินเล่นสูดอากาศที่สดชื่นนั้นอีกแล้ว เอ็ดเวิร์ดพาผมเดินเข้าไปในตรอกเก่าๆแล้วเข้าไปในห้องเช่าโกโรโกโสห้องหนึ่ง เขาไม่ได้พูดอะไรมากทำเพียงบอกว่ามารับของที่สั่งไว้ ซองสีน้ำตาลก็ถูกยื่นมาให้แลกกับเงินปึกหนึ่ง ผมรู้ว่าของด้านในคือสิ่งที่จะพรากเอ็ดเวิร์ดไปจากผมชั่วนิรันดร์ ความทรมานบีบรัดผมจนหายใจแทบไม่ออก ผมไม่อยากให้เขาตายเลย เขายังเด็กเกินไป ถ้าเขาผ่านตรงนี้ไปได้เขาน่าจะมีชีวิตที่สดใสมีอนาคตที่ดีรออยู่ เพียงแค่เขาอดทนอีกหน่อย “ไม่ตายไม่ได้เหรอเอ็ดเวิร์ด ช่วยพยายามอยู่ต่ออีกนิดได้มั้ย”ผมลูบหน้าของเขาเบาๆหลังเซ็กส์ของเราจบลง เอ็ดเวิร์ดพรูลมหายใจที่มีควันบุหรี่พุ่งตามออกมาจนสุดก่อนจะจิ้มก้นกรองลงในที่เขี่ยบุหรี่ “เคยพยายามลองแล้วแต่มันไม่มีอะไรดีขึ้น” “ฉันไม่อยากให้เธอตายเลย เธอยังเด็กเกินไป”ผมบอกเขาตามตรง “อายุเท่าไหร่ก็ตายได้เหมือนกันแหละ สำหรับผมคุณเองก็ยังไม่แก่พอที่จะตายทำไมคุณยังเลือกที่จะฆ่าตัวตายล่ะ?”เขาย้อนถามผมกลับ และแน่นอนคำตอบก็ยังคงเดิม เพราะโลกนี้ไม่มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมอยากอยู่ต่อ เราต่างใช้ความเงียบเป็นคำตอบซึ่งกันและกัน ผมกอดเขาไว้ซุกกายกับอกแกร่งของเขา โลกนี้มันหนาวเกินไปที่จะอยู่เพียงลำพังและผมอ่อนแอเหลือเกิน “เอ็ดเวิร์ด อย่างน้อยถ้าฉันจะเปลี่ยนใจนั่นเป็นเพราะโลกของฉันมีนายเข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปนะ”ผมบอกกับเขาเพราะคิดว่าบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจ “แต่เราเจอกันช้าไป ถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ซักครึ่งปีผมอาจจะเปลี่ยนใจ”คำตอบของเขาทำให้ผมร้องไห้ ร้องอย่างไม่มีสาเหตุ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเสียดาย โชคชะตาเล่นตลกกับเรามากเกินไป ทิ้งให้เราอ้างว้างเพียงลำพังมาได้ตั้งเนิ่นนาน พอส่งใครมาซักคนกลับส่งมาช้าจนจิตใจของเราต่างบอบช้ำเกินเยียวยา พระเจ้าเฮงซวย เวลาวันสุดท้ายของเรามาถึง เอ็ดเวิร์ดเลือกเวลาตายของเขาเป็นเวลา 3 ทุ่ม 23 นาที เป็นเพราะนั่นตรงกับวันและเดือนเกิดของเขา เขาช่างมีอารมณ์ขันเสียเหลือเกิน วันนี้เราออกไปกินข้าวและดูหนังรอบบ่ายก่อนจะกลับเข้าห้องตอนหกโมงกว่า เราใช้เวลาครั้งสุดท้ายด้วยเซ็กส์ที่มอบให้กันอย่างประทับใจ ผมร้องเรียกชื่อเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า อยากให้เขาจำน้ำเสียงของผมไว้เผื่อเจอกันโลกหน้าเขาจะได้จำได้ว่าผมคืออีริคของเขาเอ็ดเวิร์ดอาบน้ำแต่งตัวเสร็จตอนสองทุ่ม เขาเอาปืนขึ้นมาบรรจุกระสุนอย่างใจเย็น เราเปิดเพลงเสียงดังอย่างไม่สนว่าข้างห้องจะได้ยินมั้ย เราเต้นรำท่ามกลางแสงเทียนมากมายที่ผมบรรจงจุดไว้ทั่วห้อง ผมบอกรักเขา และเขาบอกรักผม ผมดีใจเหลือเกินที่ในชีวิตนี้ผมก็มีใครซักคนที่รักผมจริงๆ ผมเชื่อความรู้สึกของตัวเองว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับเรานั้นมันจริง ในที่สุดเข็มนาฬิกาก็เดินมาจนถึง 2 ทุ่ม 21 นาที เอ็ดเวิร์ดจูบลาผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลงไปนั่งพิงพนักเตียง ผมร้องไห้เพราะรู้ว่าอีกไม่ถึงสองนาทีหลังจากนี้เขาจะทิ้งผมไป มันเจ็บยิ่งกว่าการถูกบอกเลิกเสียอีกเพราะเราจะไม่ได้เจอกันแล้วชั่วนิรันดร์ “หลับตาลงเถอะครับ ผมไม่อยากให้คุณเห็นผมตอนยิง แล้วก็ช่วยลืมตาหลังจากได้ยินเสียงปืนไปซักระยะนะครับให้มั่นใจว่าผมตายแล้วค่อยลืมตา”เขาเอ่ยคำอ้อนวอนในแบบที่ไม่ค่อยพูดบ่อยนัก ผมสะอื้นจนตัวโยนก่อนจะปิดเปลือกตาลงมือของผมกำเข้าหากันแน่อย่างกดดันยามได้ยินเสียงเขาปลดเซฟปืน ทุกอย่างหลังจากนั้นมันย้อนกลับไม่ได้ เสียงปืนดังขึ้น ใจของผมมันเจ็บจนแทบขาดใจ ผมยังคงหลับตาอยู่อย่างนั้น นับหนึ่งถึงร้อยในใจทั้งๆที่นับผิดบ้างถูกบ้างก่อนจะลืมตาขึ้น เขาทิ้งผมไปแล้ว... ปืนตกอยู่ข้างลำตัวมือของเขาอ่อนปวกเปียก เลือดสีแดงไหลจากขมับลงมาเปรอะเปื้อนชุดสูทสีขาวที่ผมชมว่าเขาใส่แล้วหล่อ ผมเดินขึ้นไปนั่งข้างๆศพของเขา ผมร้องไห้อย่างไม่อายใครก่อนจะค่อยๆเอนกายลงนอนหนุนตักของเขา ใบมีดโกนหนวดที่ซื้อวางไว้หัวเตียงถูกหยิบขึ้นมา ผมถอดเสื้อตัวนอกออกเหลือเพียงเสื้อยืดดำตัวเก่ง “ฉันรักเธอนะเอ็ดเวิร์ด รอฉันแป๊บหนึ่งอย่าเพิ่งหนีไปไกล ฉันกำลังจะตามไป”ผมบอกกับเขาอย่างอ้อนวอนก่อนจะกดใบมีดลงบนท่อนแขนสลักตัว L และตัว Y ที่เป็นตัวย่อนามสกุลของเราสองคนไว้คู่กัน ก่อนจะกดคมมีดลงบนข้อมืออย่างแรง เลือดของผมไหลออกมาดวงตาของผมที่จ้องมองหน้าของเอ็ดเวิร์ดค่อยๆพร่าเลือนไปอย่างช้าๆ ผมง่วงนอนจังเลย ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลงเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างเป็นนิรันดร์ ลาก่อนเอ็ดเวิร์ดคนที่เป็นดังรักแรกและรักครั้งสุดท้ายของผม ขอให้การหลับใหลของเราครั้งนี้มีแต่ความสุขอย่างที่โหยหามาตลอดนะ ฝันดีตลอดกาล.... ................................................. แด่หัวใจทุกดวงที่ถูกทำร้าย
:m15: :m15: :m15:
เราชอบมาก เข้าใจการตัดสินใจ แต่ก็เศร้าจัง
หน่วงมาก :sad11: :m15:
ชอบมากค่ะ :sad4:
อ่านจบแล้วน้ำตาไหลไม่หยุดเลยย ฮือ เคารพการตัดสินใจของทั้งสองคนนะ แต่ก็อดเศร้าไม่ได้ แงงง :monkeysad:
บางครั้งก็ปฏิเสธไม่ได้ ว่าการจากโลกนี้ไปมีความสุขกว่าการดิ้นรนอยู่ เคารพการตัดสินใจของหัวใจทุกดวงที่จากไป