พิมพ์หน้านี้ - ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: InDefinition ที่ 06-09-2018 22:11:00

หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 06-09-2018 22:11:00
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ



ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สวัสดี : )
วันนี้ขอมาแนะนำตัวและแนะนำนิยายเรื่องใหม่
ไม่สิ อาจจะเรียกว่าเป็นเรื่องแรกเลยก็ว่าได้
งั้นขอเรียกว่า นิยายลำดับที่หนึ่งแทน
 
ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด
 
 
โดยเนื้อหาจะเป็นอยู่ในช่วงวัยมหาลัย
เป็นเรื่องสนุกๆ ไม่เครียดมาก
และจะพยายามไม่ดึงดราม่าบ่อย
หรืออาจไม่มีเลยก็ได้
 
ออกจะเป็นแนวใส หรือไสยกันนะ ฮาฮาฮา
ส่วนเรื่องตัวละครขอให้น้องๆ แนะนำกันเองใน
เรื่องเอาแล้วกันนะ เพราะถ้าบอกไปมันจะไม่ลุ้น อิอิ
 
อ้อ... เรื่องมีความเกี่ยวข้องกับคำหยาบ
เพศ ความรุนแรง และทัศนะแบบแปลกๆ ของตัวละคร
ยังไงก็ขอให้ทุกคนใช้วิจารณญาณในการอ่านนะ
 
เอาล่ะ มาเริ่มออกเดินทางไปพร้อมกันกับ ...ในนิยาม...
กับนิยายลำดับที่หนึ่ง เรื่อง
 
"ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด"
 
ไปอ่านกัน
 
 
แกล้งกันไปแกล้งกันมา ดูกันสิว่าใครจะตกหลุมที่อีกคนขุดไว้ก่อน // หลุมพรางนะไม่ใช่หลุมรัก //

หมายเหตุ
ลงไว้หลายที่ทั้ง
ธัญวลัย http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด?page=1 (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด?page=1)
readAwrite https://www.readawrite.com/a/f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc (https://www.readawrite.com/a/f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc)
ซึ่งเว็บไซต์เหล่านี้จะมีตอนพิเศษที่เปิดให้ทุกคนร่วมสนับสนุนนักเขียน
แต่ถึงแม้ไม่ได้อ่านตอนพิเศษก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อเนื้อหาหลัก
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 06-09-2018 22:14:12
ตอนที่ 1

ในนิยายเล่มโตที่กองสุมอยู่ข้างเตียงบอกกับเขาเสมอว่า การแอบรักมักสมหวังประมาณกลางเรื่อง หรือให้ง่ายขึ้นก็ต้องพยายามเข้าไปใกล้คนที่ชอบให้มากที่สุด แต่อย่าออกตัวแรง ทำตัวเป็นคนอ่อนต่อโลก พวกพระเอกจะตกหลุมรักความไม่เอาไหนของเรา ไม่ว่าจะพระเอกสายหวาน สายวิชาการ สายโหด สายเถื่อน สายฮา สายบ้าบอคอแตกก็แพ้ลุคไม่เอาไหนของนายเอกหน้าตาน่ารัก

“เอิ่มมมมมมมมมมมมมมมม”

ถ้าง่ายอย่างในนิยายวายที่วันๆ ต้องระวังไม่ให้ป๊ามาเจอแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย

เพราะในความเป็นจริงเงื่อนไขหลายอย่างมีมากกว่านั้น เริ่มจากประเด็นง่ายๆ อย่างการเปลี่ยนผู้ชายที่ชอบผู้หญิงให้มาชอบผู้ชายด้วยกันเองแบบนั้นน่ะ

“ไม่มีทาง” เขายังคงพูดกรอกหูตัวเองไปพราง ระหว่างกลิ้งไปมาบนเตียงนอน วันนี้วันหยุดคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

มาต่อกันที่เนื้อหาในนิยายส่วนใหญ่มักเปลี่ยนผู้ชายให้มาชอบเกย์หรือผู้ชายหน้าหวานด้วยเงื่อนไขที่ว่า น่ารัก เหมือนผู้หญิง ได้ลองแล้วติดใจ สงสาร หรือเห็นใจ

“พอที มันเป็นไปไม่ได้” มันเป็นไปได้ยังไงก็ในเมื่อทุกวันนี้ผู้ชายหน้าหวานมีค่าเท่ากับตุ๊ด กะเทย เกย์สาว เอามันให้แน่ว่าพระเอกในนิยายมันก็เกย์นั่นแหละ

“มันแค่แอ๊บเป็นผู้ชายแมนๆ”

ใช่ สิ่งตอแหลติดอันดับท็อปของนิยายวายก็คือพระเอกเป็นชายแท้ แหลสัดๆ ไม่มีทาง ไม่มีวัน เดือน ปี อะไรทั้งนั้น

“เอาล่ะ มาสู่โลกความเป็นจริงกันดีกว่า” เขาเงยหน้าขึ้นจากนิยายเล่มใหม่ของนักเรียนแนวเอ็นซีชื่อดัง ถึงจะบ่นๆ ว่าไม่สมจริงก็ตาม แต่ในความเป็นจริงของจริงของจริงๆ เขาก็ซื้อมันมาอยู่ดี รวมถึงไอ้หน้าหล่อตรงหน้านี้ด้วย

“ไง” เอ่ยทักว่าที่เดือนคณะวิศวะประจำมหาลัยปีนี้ ที่นั่งทำตัวไม่ถูกอยู่ที่เก้าอี้หน้าคอม มันหันมาสบตากับเขาแค่แป๊บเดียว แล้วก็เลี่ยงไปมองอย่างอื่นแทน

“อย่ามาทำตัวอินโนเซ้นท์ ไม่ใช่นิยาย มันเลี่ยนเข้าใจไหม” เอาเอ็ดมันไปอย่างเหลืออด ก็ให้ทำไงได้ จ่ายไปตั้งแพงกลับได้มาแค่ให้มันนั่งเก้าอี้เพื่อเป็นอาหารตาโดยมีหน้าหล่อๆ ฆ่าเวลาเนี่ยนะ

“พี่ ผมไม่ได้ขายตัว บอกตั้งแต่แรกแล้วว่ามาอยู่เป็นเพื่อนเฉยๆ” มันโต้กลับอย่างไม่ให้เสียเชิง

“อ้าว ก็ไหนบอกว่าจ่ายพิเศษ จะได้อะไรพิเศษไง นี่โกงกันหรอ” เขาก็ไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ในเมื่อโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีทางไปตามจีบตามจับเดือนคณะป่าเถื่อนแบบนี้มาเป็นแฟนได้อยู่แล้ว ทุกอย่างมันต้องจบด้วยเงิน แบบนี้

ไม่ใช่ ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ พร้อมเพย์ไปให้แล้วนะเฮ้ย

“ผมไม่ขายจริงๆ ถึงพี่จะไม่เชื่อก็เหอะ นี่ผมพึ่งแลกหน้าและยอมมากับพี่คนแรกนะ... ไอ้เราก็นึกว่าเป็นเด็ก” ท้ายประโยคมันเสียงแผ่วลงเหมือนพูดกับตัวเอง

“สร้างมูลค่าให้ตัวเองตลอด ปั่นราคาเก่งจริง ผมไม่เคยครับบ้างแหละ ครั้งแรกบ้างแหละ” ประชดเข้าให้พวกเด็กชาย

“ก็จริงนี่ ผมกำลังจะประกวดเดือนคณะใครจะกล้าเสี่ยงด้วยการขายตัวล่ะ เกิดเรื่องแดงขึ้นมาไม่แย่หรอกเหรอ ที่ยอมมาด้วยก็... ตอนแรกนึกว่าเด็กมอปลายคงไม่ใช่คนในมหาลัย” มันร่ายยาวมา

“ขอโทษนะที่ไม่ใช่เด็กกางเกงน้ำเงิน กูปีสามแล้ว เข้าใจนะ”

.

.

.

เด็กหนุ่มหน้าหล่อที่พอจะเป็นดาราวัยรุ่นได้สบาย หรืออาจหล่อกว่าพวกแอ๊บแมนในซีรี่ย์หลายเท่า เพรียบพร้อมด้วยดีกรีว่าที่เดือนคณะนายช่างตามที่บอกไว้ตอนต้น ด้วยกระแสในโซเชียลโถมให้แบบไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งไม่คิดมาก่อนว่าจะไปเจอเจ้าตัวในแอปพลิเคชันสีฟ้า เพราะมันดูดีเกินกว่าจะมาเป็นพวกขายน้ำ

เอาเข้าจริงตกใจระคนสงสัย ซึ่งคงไม่ได้มีแค่เขาที่คิดแบบนั้น ถ้าเดาไม่ผิดคงมีคนกดแลกรูปกับเจ้าตัวมาหลายรายแล้ว แต่ใครมันจะไปคิดว่าเป็นตัวจริง คงนึกกันไปเองว่าเอารูปเด็กหล่อมาลง มาหลอก มาอำกันเล่นแบบที่นิยมทำกันให้เกลื่อนในแอป

ถึงอย่างนั้น เขาที่พระเจ้าแห่งวายเข้าสิงดันเข้าข้างตัวเอง หลงมโนไปในภวังค์ฝันว่าอาจเป็นตัวจริงก็ได้ เลยถามเจ้าตัวไปว่า “จ่ายเท่านี้พอไหม” พร้อมแนบรูปตัวเองไปเสร็จสรรพ ก่อนนัดเจอกันในชั่วโมงให้หลัง

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณรูปร่างหน้าตามันหรอก จะคิ้วเค้ม จมูกเป็นสัน หน้าคม นิยายทุกเล่มแม่งบอกไว้หมดแล้ว แต่ไอ้ว่าที่เดือนมันหล่อจริงๆ ดูสิ ดูมันทำหน้าเข้า ขนาดหน้านิ่วคิ้วขมวดยังหล่อ

“โหหหหหหหหหหหหห โคตรหลงเลย” อุ้ยหลุดเผลอพูดความในใจออกมาอีกละ ทำเอาเจ้าตัวที่ถูกพาดพิงงงเป็นไก่ตาแตกยิ่งกว่าเดิมอีก

“แล้วนี่เป็นเกย์เหรอถึงสมัครแอปนั้น” เริ่มต้นการสัมภาษณ์ผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเดือนมหาวิทยาลัยจุดจุดจุด

“เปล่าครับ พอดีเล่นเกมกับเพื่อนแล้วแพ้มันเลยบังคับให้สมัคร บอกว่าให้เลือกใครก็ได้คนหนึ่งแล้วนัดเจอแบบแกล้งเป็นเกย์ ประมาณนั้น” อ้าว นี่หลอกหรืออำกันเล่น

“จริงหรือเปล่า มาสร้างคุณค่าให้กับตัวเองด้วยการเป็นชายแท้แบบนี้ไม่ไหวนะ เป็นก็บอกเป็นเหอะ”

ขอโทษด้วยนะไอ้หล่อ เผอิญว่าปีนี้กรรมการรอบตัดสินดันเป็นพี่ พี่รู้ พี่จับได้ มันมีกลิ่น

“เฮ้ย ไม่ใช่พี่ นี่ไม่เชื่อกันเลยใช่ไหม” มันตัดพ้อด้วยหน้าหล่อๆ ทำเอาเกือบเคลิ้ม

แล้วบทสนทนาก็เงียบลง ตอนนี้มันกำลังให้ความสนใจกับหน้าจอของตัวเองมากว่าหน้าขาวใสสเปครุกทุกคนในปฐพีแบบเขาไปได้

“นี่” จู่ๆ เจ้าตัวก็ยื่นมือถือของตัวเองมาให้เขา พร้อมคำตอบทุกอย่างที่ทำเอาหน้าชาไปเลยก็ว่าได้ หน้าแตก แหก และแบกตัวเองกลับมาจากนรกไม่ไหวแล้ว หูต้องแดงแน่ๆ เลย รู้สึกร้อนยังไงไม่รู้

ภาพบนหน้าจอ ไม่ใช่สิ ข้อความในกลุ่มส่วนตัวของไอ้หล่อที่คุยกับเพื่อนถึงบทลงโทษ และภาพแคปหน้าจอบทสนทนาระหว่างเขากับมัน กระจายเป็นหย่อมๆ ในแชทสีเขียวยอดนิยมของวัยรุ่นยันวัยชรา ยังดีที่มันไม่ส่งรูปซึ่งเห็นหน้าของเขาให้เพื่อนมันดู แม้จะถูกถามถูกเค้นก็ตามมันก็ปฏิเสธแชทเพื่อนมันตลอด ถือว่ายังมีมนุษยธรรมอยู่

“แล้วให้กูโอนเงินทำไม” นั่นสิ นั่นเป็นคำถามรอบห้าคนสุดท้าย เงินเฉียดหมื่นที่โอนไปเพราะหวังจะได้กินว่าที่เดือนวิศวะ ถ้ามันแกล้งกันโดยมีเขาเป็นตัวกลาง แล้วหลอกเอาเงินกันทำไม

“แหะๆ เผลอส่งแชทที่คุยกันให้เพื่อนทั้งหมดเลย มันจึงเห็นว่าพี่จะซื้อผม... ลองอ่านดูช่วงกลางๆ สิครับ ที่มันบอกว่าให้ตอบตกลงแล้วเสนอราคาไป” เออ... จริงของมัน

“สรุปเป็นเกม โดยมีกูเป็นหมา” เขาส่งเสียงเข้มที่ไม่ได้ทีเล่นทีจริงแบบที่แล้วมาไปให้คนหน้าหล่อ

“ขอโทษครับ เอาเบอร์พร้อมเพย์พี่มาให้ผม เดี๋ยวผมโอนคืนให้ทั้งหมดเลย” เจ้าตัวลนลาน เมื่อจับกระแสสังหารของเขาได้

.

.

.

เป็นแบบนี้นี่เอง มันเป็นแบบนี้สินะ เขาดันเผลอไผลไปกับโลกจินตนาการ ลืมคิดถึงสัจธรรมที่ค้ำจุนโลกของเกย์ซึ่งแบ่งแยกความจริงออกจากนิยายวายไปได้ ลืมนึกว่านี้คือชีวิตจริง

ไม่มีชายแท้ที่ไหนมาขายตัวให้เกย์น่ารักและมีเงินแบบเขาหรอก ไม่มีแน่ๆ พวกหล่อ บ้านจน ติดหนี้ พ่อแม่เอาไปขายให้มาเฟีย และถึงมันมีเกย์หน้าหล่อจริงๆ ก็คงไม่มาเล่นแอปลดคุณงามความดีของหนังหน้าตัวเองหรอก นู้น... พวกนั้นต้องไปหมกตัวอยู่ในยิมยืนล่อรุกหน้าคมไปเอากันลับๆ ไม่เสียเวลามาโฆษณาตัวเองในแอปนี้หรอก ไม่มี ไม่มีแน่ๆ

“ถอด” เขาสั่งเสียงเข้ม

“เฮ้ยพี่จะทำอะไร” มันถอยร่น เมื่อเขาก้าวเข้าไปใกล้มัน

“ถอดเสื้อผ้า กางเกง เหลือไว้แค่อันเดอร์แวร์พอ” ขยายความให้คนหล่อเข้าใจคำสั่ง

“ไม่มีทาง ผมบอกว่าไม่ได้ขาย เฮ้ย!” สายไปแล้ว ขายไม่ขาย แต่ตอนนี้กูซื้อมึงมาแล้ว

ฮาฮาฮา ดูมันทำหน้าสิ คงเดาความคิดของเขาผ่านสีหน้าออก และคงรู้ชตากรรมของตัวเองแล้วว่ากำลังพลาดท่าให้กับหนุ่มหน้าหวานที่น่ารักที่สุดในมหา’ลัย

แขนซ้ายของคนตัวสูงถูกยึดเอาไว้แน่นด้วยมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็ก ก่อนร่างสูงจะลอยละลิ่วเหนือหัวเจ้าของห้องไปอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ สมกับเจ้าของสายดำที่ป๊าส่งไปเรียนตั้งแต่เด็ก โดยหวังให้ลูกชายคนเล็กของแกกลายเป็นชายชาตรีอกสามศอก ไม่ใช่วันๆ เอาเวลามาจับผู้ชายแบบนี้

เสื้อยืดสีขาวไร้ลายประดับหายไปจากเรือนร่างสะท้อนแสง‘ขาวจริง’แต่หัวนมไม่ชมพูพิงค์แบบที่คิดไว้ ก็แน่ล่ะ มันจะชมพูได้ไง นี่คนเอเชียนะ

“พี่ปล่อยผม...” เขาไม่สนใจตัวโตที่ร้องโวยวาย เพราะกำลังให้ความสนใจกับการปลดเข็มขัดและร่นกางเกงยีนส์สีซีดออกจากเอวคนตัวสูง พร้อมกับรับมือการขัดขืนของมันที่รุนแรงขึ้น ค้านกับสิ่งของน้อยชิ้นที่หายไป

“อ่ะเสร็จแล้ว อยู่นิ่งๆ ได้ไหม เดี๋ยวก็ต่อยให้หรอก” ได้ผลชั่วขณะ มันนิ่งไปราวกับกลัวว่าสิ่งที่เขาพูดออกมาจะกลายเป็นจริง

ได้จังหวะ นายแบบเปลื้องผ้าฉบับจำเป็นและบังคับขู่เข็ญก็ถูกบันทึกภาพเอาไว้ โดยติดขากางเกงของเขานิดหน่อย หรืออาจติดแขนซ้ายที่พยายามดันตัวนายแบบให้อยู่นิ่งและชิดกับพื้นเตียง สีหน้าใช้ได้เลยเมื่อมันเห็นเขาถือกล้องและเก็บภาพเกือบเปลือยของตัวเองเอาไว้

“ไม่เอา ไม่ถ่าย หยุดนะพี่ ผมถีบนะ” มึงไม่ต้องบอกก็ได้ถ้ามึงถีบมาแล้วไอ้(สัด)เอ้ย

เขากลิ้ง ไม่สิ หงายหลังตกเตียงกระแทกกับพื้นปูพรมอยู่ล่างเตียง มันยังไม่หยุด เข้ามาหมายจะกระชากกล้องไปจากมือเขา แต่เสียใจ พี่สั่งให้มันโอนไปอยู่ในมือถืออัตโนมัติ

“พี่ทำแบบนี้ทำไม” เสียงแบบมีน้ำโหหลุดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อจนแล้วจนรอดก็พ่ายให้กับกระบวนท่าของเขาที่ได้มาจากนิยายวายสายเถื่อนทั้งหลาย ขอโทษนะที่ไม่ได้มีแค่กล้องเดียว แต่จริงๆ แล้วมีหกตัวอยู่รอบห้อง และกำลังอันความเคลื่อนไหวภายในห้องนี้ระดับอัลตราเอชดี (4K)

นายแบบหน้าหล่อนั่งถอนหายใจอยู่ปลายเตียงในสภาพกึ่งยอมแพ้และจำนนต่อความร้ายของเขา มันหมดหนทางสู้หลังรู้ความจริง และยังคงสภาพกึ่งเปลือยแบบนั้น พอให้เขาที่เปลี่ยนที่นั่งจากบนเตียงมาที่เก้าอี้หน้าโต๊ะคอมกระชุ่มกระชวยขึ้นหลังปวดกระบาลจากการกระแทกเมื่อครู่

จะว่าไปมันก็หุ่นดีใช้ได้นะ นึกว่าพวกสโมสรนักศึกษาวิศวะตัดหน้าผู้เข้าประกวดไปแปะกับหุ่นนายแบบเสียอีก แต่นี่หุ่นจริงไม่มีสแตนอิน แถมอันเดอร์แวร์ขาสั้นสีขาวขอบดำแบรนด์ดังก็กำลังกอบกุมน้องชายขนาดไม่น้อยของมันไว้ข้างใน ขาเนียนมีขนรำไร ‘ชักจะโลภแล้วสิ อยากกิน เค้าอยากกิน’

“ลบรูปกับคลิปเถอะ จะให้ผมทำอะไรก็บอกมา” นายแบบจำเป็นยื่นข้อเสนอมาให้นายทุนหน้าเลือด

“ไม่ลบ ไม่หลุด และไม่ให้ใครดูทั้งนั้นไม่ต้องห่วง”

แต่ดูเหมือนคนฟังจะไม่คิดแบบนั้น เหมือนเขากำลังแกล้งเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้กำลังจะร้องไห้ให้กับความพลาดที่ดันคิดว่าเขาเป็นเด็กมัธยมไร้พิษสง ว่าแต่เด็กมัธยมที่ไหนจะมีเงินไปเปย์มันเกือบหมื่น ทำไมไม่คิด

“ลบเถอะครับผมขอร้อง ผมยอมมีอะไรกับพี่รอบหนึ่งก็ได้... แต่พี่ต้องลบให้หมด ไม่สิ ผมจะเป็นคนลบเอง”

ข้อเสนอน่าสนใจ ดูเป้าตุงๆ นั้นสิ คนหล่อจะเล็กแบบที่เขาว่ากันไหมนะ หรือจะใหญ่อลังเหมือนของพระเอกในนิยาย

“งั้นถอดให้หมด”

“พี่ก็ลบก่อน” เขายื่นกล้องให้เจ้าตัว ก่อนเดินไปถอดเมมโมรี่การ์ดทั้งหกใบจากกล้องรอบห้องมาให้มัน สีหน้าดูเหมือนจะดีขึ้น

“หึหึ”

“มีอะไรครับ” เด็กหนุ่มเงยหน้าจากกล้องระหว่างกดลบรูปหวิวของตัวเอง

“เปล่า ถ้าลบเสร็จแล้วก็ถอด ส่วนเมมทั้งหมดก็เอาไปเลยก็ได้ ยกให้”

“แต่อย่าคิดหนี คงรู้สินะว่าที่หน้าบ้านมียามอยู่” เขาขู่ดักทางความคิดของมัน ไม่งั้นคงวุ่นวายกับการไล่จับกันอีกเที่ยว

“ครับ” ว่าง่ายขึ้นทันตา

.

.

.



อันเดอร์แวร์สีขาวค่อยๆ ร่นลงจากเอวสู่น่อง และลงมากองไว้ที่ปลายเท้า เผยรูปร่างไร้การปิดบังของคนหล่อซึ่งกำลังหน้าแดงลามไปถึงใบหู คงอายน่าดูที่มาแก้ผ้าให้คนแปลกหน้าแบบนี้ ‘อืมมมมม ใหญ่ใช้ได้’เป็นบุญของเขาที่ทฤษฎีความมโนไม่ถูกหักล้างและหารด้วยโลกแห่งความเป็นจริง อย่างน้อยก็เรื่องหนึ่งล่ะนะ เพราะน้องชายใต้หว่างขาของมันก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว ค่อยคุ้มกับเงินที่เสียไปหน่อย


#


หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: papapoope ที่ 06-09-2018 23:59:56
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 2 /// 070918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 07-09-2018 15:53:03
ตอนที่ 2


อันเดอร์แวร์สีขาวค่อยๆ ร่นลงจากเอวสู่น่อง และลงมากองไว้ที่ปลายเท้า เผยรูปร่างไร้การปิดบังของคนหล่อซึ่งกำลังหน้าแดงลามไปถึงใบหู คงอายน่าดูที่มาแก้ผ้าให้คนแปลกหน้าแบบนี้‘อืมมมมม ใหญ่ใช้ได้’เป็นบุญของเขาที่ทฤษฎีความมโนไม่ถูกหักล้างและหารด้วยโลกแห่งความเป็นจริง อย่างน้อยก็ เรื่องหนึ่งล่ะนะ เพราะน้องชายใต้หว่างขาของมันก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว ค่อยคุ้มกับเงินที่เสียไปหน่อย



หัวโผล่ออกมาจากหนังหุ้ม สีแดงค้ำกับลำสีเนื้อลู่ลงตามความยาวขณะยังไม่แข็งตัว เด็กหนุ่มเอามือมาจับของตัวเองตามคำสั่งของเขา จนมันขยายตั้งฉากกับลำตัว ‘คงเล่นกับหมอนข้างบ่อยสิท่า’เผยส่วนหัวที่บานกว่าที่คาด มีน้ำใส่ผุดขึ้นมาให้เจ้าตัวอายหนักยิ่งกว่าเดิม



“อมได้ไหม” เขาถาม ระหว่างเดินเข้าไปใกล้ แย่งมันมาจากมือใหญ่



“ขะ ครับ...” เสียงแผ่วหลังจากเขาครอบมันลงไปก่อนได้รับอนุญาต อืม... ไม่มีกลิ่นสมกับราคาที่จ่ายไป และคงไม่ใช่ลูกคนจนปลดหนี้ที่ไหนหรอกถ้าดูจากแบรนด์อันเดอร์แวร์ที่ตกอยู่ตรงข้อเท้า อาจเป็นคุณหนูเลยด้วยซ้ำ ดูรุ่นกางเกงสิ ราคาครึ่งหนึ่งของค่าตัวที่เขาโอนให้เลย



“ระวังฟันหน่อยครับมันเจ็บ” เขาเงยหน้าขึ้นมองคนพูดที่เหมือนจะเจ็บมากกว่าเสียว เลยหยุดแล้วตอบโต้กลับ



“กูไม่เคย ทนๆ หน่อยละกัน”



“นี่ไม่เชื่อใช่ไหม” ดูมันก้มมองเขาด้วยสีหน้าไม่เชื่อสุดฤทธิ์ เอาคืนที่โดนหาว่าเป็นเด็กขายแอ๊บแมนแน่เลย หน่อยยยยยยยยยยยยยยยยยยย



เริ่มต้นอีกรอบด้วยความพยายามจากผู้ไม่เชี่ยวชาญของจริงเช่นเขา เชื่อไม่เชื่อก็ช่าง แต่ไม่เคยซื้อใครหรือมีอะไรกับใครหรอก ถึงจะมีเงินแต่ถ้าไม่ได้หน้าตาแบบนี้มาก็ไม่มีวันยอมเสียซิงให้รุกป่าเถื่อนพวกนั้นแน่



เจ้าตัวขยับเปลี่ยนท่าและย้ายไปพิงหัวเตียงแทน บิดตัวตามความเสียวบ้าง ระหว่างนั้นก็ก้มดูเขาที่กำลังเลียของตัวเองไปพลาง



“หน้าตาก็ดี” ไอ้ห่า นินทากู รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ กัดแม่งเลย



“โอ้ย ขอโทษครับไม่พูดแล้ว” สำนึกเสียบ้าง



มือของมันที่เคยว่าง ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับกล้องตัวเดิมซึ่งเขาวางทิ้งไว้แถวนั้น เหมือนมันหางานอดิเรกระหว่างรอเขาหยอกล้อกับแท่งยาวตรงหว่างขา เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นเป็นจังหวะ แต่เขาก็ใช่จะสนใจ ยังมีความสุขกับลำยาวของว่าที่เดือนวิศวะ เพลินจนมันเกรงตัวในที่สุดด้วย แล้วมือที่จับกล้องอยู่ก็พลันปล่อยทิ้งเสีย เพราะมันย้ายมากดหัวเขาให้แนบชิดกับหัวหน่าวจนแทบหายใจไม่ออก



ความอัดอั้นที่อดกลั้นมาตลอดทางก็พ่ายให้กับความเสี่ยวในปลายกระบอก มันหลุดเสียงครางออกมาจนเสียฟอร์ม พร้อมของเหลวอุ่นซึ่งมันเลี่ยนในคอที่ถูกบังคับให้กลืนเข้าไปอย่างช่วยไม่ได้



“ไอ้ห่า พอหยุดถ่ายได้แล้ว”บาดน้ำที่ไหลออกมาตามมุมปาก ก่อนส่งสายตาพิฆาตกลับไปให้คนหล่อที่กลั้นหัวเราะอยู่หลังกล้อง หลังเสร็จกิจก็หางานอดิเรกทำต่อไม่ให้ขาดเลยนะ



“เอ็กซ์มาเลยครับ ฮาฮาฮา โอ้ยยยยย พอแล้ว ขอโทษครับ”มือขวาจัดการกับยอดอกข้างซ้าย บิดมันให้ครบรอบ



“พึ่งเคยมีคนทำแบบนี้ให้นะเนี่ย พอถ่ายรูปออกมาก็ได้อีกอารมณ์เหมือนกัน”มันพูดกับเขาหรือคุยกับตัวเอง ช่างเหอะ



และเหมือนจะให้อารมณ์แบบที่มันว่าจริงๆ เพราะหัวแดงที่แวววาวจากน้ำเมือกเมื่อกี้ผงาดขึ้นอีกครั้งหลังมันเลื่อนดูรูปฝีมือตัวเอง



“ให้ผมทำอะไรต่อครับ”คนมีอารมณ์ว่าขึ้น



“เปลี่ยนกัน คราวนี้ตามึงแล้ว”ดูเหมือนคนอารมณ์ดีจะผลัดหายไปพร้อมกับของๆ มันที่หดไปด้วยเมื่อรู้ว่าต้องทำอะไรต่อ ฮาฮาฮา



.

.

.

เขาสลับที่กับมันมาอยู่หัวเตียง มองดูไอ้หน้าหล่อซึ่งย้ายไปอยู่บริเวณหว่างขา เนื้อตัวที่เปลือยเปล่าเหมือนกัน ทว่า กล้ามเนื้อและขนาดของหลายสิ่งกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันยึดกล้องไปไว้ที่หน้าคอม ไม่ยอมให้เขาจับ คงกลัวจะกลายเป็นนายแบบจำเป็นอีกครั้ง ‘หึหึ’



“เริ่มสิ รออะไร” เขาเร่งคนที่ไม่ยอมขยับตัวไปไหน มัวแต่ยืนโป๊อยู่ปลายเตียงนั่นแหละ



“ผมไม่เคย” มันเถียง



“เมื่อกี้กูก็ไม่เคย” เขาโต้กลับ



“ผมไม่ได้เป็นเกย์นะ จะให้มาอมของคนอื่นก็ยังไงอยู่ ทีแรกไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ” มันร่ายมาอีกแล้ว



“ทำๆ ไปเถอะ เลียเหมือนเลียไอตีม ง่ายจะตาย มา!เข้ามาได้แล้ว” จนแล้วจนรอดต้องให้เขาดึงตัวแกมบังคับให้มันก้มหน้าลงไปสบตากับเจ้าตัวน้อยของเขาที่ตั้งตรงอย่างสวยงาม



กดริมฝีปากได้รูปที่ไม่ยอมเผยให้ไปชิดกับส่วนหัวสีชมพู ชมพูจริงๆ นะ มันขืนคอไว้แต่ก็ไม่รอด สุดท้ายก็ยอมครอบลงไปในที่สุด เก้ๆ กังๆ อยู่สักพักจนเริ่มลงตัว



“เก่งใช่ย่อย ไม่โดนฟันเลย”



“มันเล็กเลยอมง่ายครับ โอ้ย...” เงยขึ้นมานึกว่าจะอะไร มาล้อเขาเสียได้ โดนไปหนึ่งช็อต



ก่อนที่มันจะหันไปสนใจของหวานตรงหน้าต่อ เห็นหน้าหล่อๆ เลียไปมาบนแท่งร้อนของตัวเองแล้ว ยิ่งทำให้อารมณ์พุ่งถึงขีดสุด มากกว่าที่จินตนาการไว้เสียอีก เหมือนได้ขึ้นสวรรค์บนดินชัดๆ



ว่าที่เดือนวิศวะยังดูดเลียของเขาอยู่ จากที่กระดากอายในตอนแรก เริ่มเป็นงานขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเขาก็ปล่อยเสียงครางออกมาโดยไม่คิดจะปิดกั้น ลิ้นร้อนของมันเล่นกับน้ำใสที่ไหลเยิ้มออกมาจากส่วนหัว โอ้ยยยยยยจะทนไม่ไหวแล้ว



เขาไม่อาจกลั้นมันเอาไว้ได้นาน เมื่อใบหน้าหล่อและหุ่นของมันช่างล่อตาล่อใจ ทวีอารมณ์จากปกติให้พลุกพล่านจนไม่สามารถกักเก็บมันเอาไว้



น้ำขาวไหลย้อยเป็นทางบนหน้าของหนุ่มหล่ออย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่หวังจะแก้เผ็ดเอาคืนที่มันกดหัวเขาจนมิด แต่มันกลับขืนแรงสู้แล้วเงยหน้าขึ้น ตรงจังหวะที่เขาปลดปล่อยมันออกมาพอดิบพอดี สรุปฉากนี้น่าดูกว่าเป็นเท่าตัว



“โคตรเอ็กซ์เลยว่ะ”



“พอเถอะผมอาย” มันคงเขินจริง หูแดงจนต้องเอามือปิดไว้



“ฮาฮาฮา ได้ว่าที่เดือนวิศวะมาทำแบบนี้ให้ ถือว่าคุ้มกับที่ลงทุน” เจ้าตัวหันมาส่ายหน้าให้กับความคิดนั้น ก็คนมีความสุขให้ทำไงได้



“ต้องทำอะไรอีกไหมครับ” มันถาม พร้อมก้มมองน้องชายตัวเองที่เริ่มมีชีวิตชีวาอีกครั้ง นอกจากจะหล่อแล้ว ยังงี้!!!บ่อยด้วยเหรอเนี่ย



“พอแล้ว” เขาตอบ



“อ้าว!” ตลกตรงที่มันสลดไปหลังได้ฟังคำตอบ หดด้วยหรือเปล่านะ ไหนดูซิ ฮาฮาฮา หดจริงด้วย หงอไปตามพี่ชายมันเลย



“แค่นี่แหละ นายก็อาบน้ำกลับได้เลย” ขยายความให้มันเข้าใจเพิ่ม



“ไหนบอกว่าให้เอาไง” นี่คิดจริงหรอว่าเขาจะถวายซิงให้มัน



ไม่มีทางครับ เห็นรวยและเปย์ง่ายก็ไม่ได้หมายความว่าให้ใครเอาก็ได้นะ เขายังรอคอยรักแท้เหมือนนายเอกในนิยายอยู่ ถึงจะยอมใช้ปากให้มันไปแล้วก็ตาม ช่างเถอะแค่นี้เอง พระเอกของเขาต้องยอมเข้าใจ หรือแค่เขาไม่บอกไปก็คงไม่มีใครรู้



“ไม่!เหนื่อยแล้ว ทีเมื่อกี้โวยวายไม่ได้เป็นเกย์ คราวนี้มาเรียกร้องอะไรอีก”



“วันนี้ไม่พร้อมให้เอาและไม่มีทางได้เอากูหรอก เพราะมึงไม่ใช่แฟ... เออช่างเหอะ ไปไป๊ กลับไปได้แล้ว” คนรับความคอตกเดินหยิบผ้าเช็ดตัวที่เขายื่นให้เดินเข้าห้องน้ำไปอย่างช่วยไม่ได้



พอมองจากข้างหลังแล้วมันก็หุ่นดีจริงๆ นั่นแหละ ดูกล้ามก้นนั่นสิ ไหนจะความขาวนั่นอีก หรือจะยอมพลีกายให้มันสักครั้งดี ไหนๆ ก็หล่อระดับนี้แล้ว ที่ผ่านมาตามหาจนหมดแอปก็ยังไม่เจอ เขาควรฉวยโอกาสจากความบังเอิญนี้ดีไหม



‘ไม่ดีกว่า ยังมีคราวหน้าอีก ยังไม่รีบละกัน หึหึ’ คิดได้ดังนั้นก็รีบไปจัดการกับกล้องทั้งหกตัวรอบห้อง กล้องที่ยังทำงานอยู่แม้จะเอาเมมโมรี่การ์ดออกไปให้ตัวปัญหาในตอนต้นแล้วก็ตาม แต่เขาไม่ได้บอกหนิว่ากล้องใส่เมมได้แค่ใบเดียว



‘ขอโทษด้วยนะหนุ่มน้อย’ กล้องของพี่ใส่เมมได้สองตัว ฉะนั้น เราคงได้เจอกันอีกเมื่อชาติต้องการ ฮาฮาฮา



ทำตัวไม่สมกับการเป็นตัวเอกเลย ‘ใครจะสน’ ใช่ ใครมันจะไปสน เพราะมัวแต่รอพรหมลิขิตชาตินี้คงไม่ได้แดกแบบนี้หรอก



.

.

.

กลั้วปากล้างคาวในคอ ทั้งยังคิดไม่ตกว่าเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานั้นได้ทำอะไรลงไป ผมมัวแต่ห่วงภาพหลุดจนเผลอตัวทำสิ่งที่ไม่คิดว่าชีวิตนี้จะต้องมาก้มหัวเพื่อทำแบบนั้นให้ใคร โดยเฉพาะผู้ชายด้วยกันแล้วยิ่งไม่มีทาง

เนื้อตัวถูกขัดถูอยู่นานจนลืมเวลา เป็นนิสัยติดตัวที่แก้ไม่หายแม้ขึ้นมหาลัยแล้วก็ตาม ลืมนึกไปว่านี่ไม่ใช่คอนโดตัวเองที่จะเอ้อระเหยอย่างนี้ได้ แถมเดินเข้ามาในห้องน้ำเหมือนคนไร้วิญญาณหลังผิดหวังกับความคาดหวังเล็กๆ จนลืมหยิบชุดมาเปลี่ยนในนี้ด้วย

ต้องพันผ้าขนหนูสีขาวออกไปเปลี่ยนข้างนอกอย่างช่วยไม่ได้ รุ่นพี่ตัวเล็กหันมาสบตากับเขา พร้อมสายตาที่เพ่งสำรวจไปทั่วตัวอย่างเปิดเผย ไม่คิดจะเก็บความรู้สึกเลยหรือไงคนเรา

“ช็อตนี้ถ่ายไว้ได้ไหม” ไม่รอให้อนุญาตตามเคย พี่แกเล่นยกกล้องขึ้นมาถ่ายตามใจชอบ แต่ผมเริ่มปลงกับคนๆ นี้แล้ว อีกอย่างแค่รูปใส่ผ้าขนหนูคงไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก ใครถามก็บอกว่าเพื่อนถ่าย

“หล่อแบบนี้มีแฟนหรือยัง” คนตรงก็ยังตรงอยู่วันยังค่ำ... ถามมาได้

“ยังครับ” ผมก็ตอบออกไปตามตรงเช่นกัน

“เหหหหหหหห เป็นเกย์หรือเปล่า” วกเข้าเรื่องนี้อีกแล้ว จะโน้มน้าวให้ได้เลยใช่ไหม

“เปล่า พึ่งเลิกกันก่อนเข้ามอ ช่วงนี้มีแต่กิจกรรมยังไม่มีเวลาไปสนใจ” ผมอธิบาย ในสิ่งที่ไม่ต้องอธิบายเลยก็ได้ แค่ไม่อยากให้คนตรงหน้าคิดไปเรื่อยจนพาลไปว่าผมเป็นพวกเดียวกันอีก

“มีคนจีบเยอะไหมช่วงนี้ เห็นฮอตใช่เล่น”

“ก็มีบ้างครับ ในเฟซ ในไอจีก็มีคนทักมาอยู่เหมือนกัน หรือในคณะก็มีรุ่นเดียวกันกับพวกรุ่นพี่สลับกันมาขอเบอร์ขอไลน์ประมาณนั้น” เล่าไปตามจริง

“หืมมมมมมมม แปลว่าพี่ก็แน่นะเนี่ย ตกได้ว่าที่เดือนก่อนพวกตามจีบเสียอีก แถมไม่ต้องจีบด้วยฮาฮาฮา” เข้าโหมดมโนเป็นที่เรียบร้อย

“อ้อ ขอไลน์หน่อยสิเผื่อมีอะไรจะได้ทักไปหา” รุ่นพี่ที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะคอมว่าต่อ

“จะจีบผมเหรอ” หยอกไปทีหนึ่ง พอเห็นแกหน้ายุ่งแล้วช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น

“หลงตัวเอง ระวังเหอะจะได้แฟนเป็นเกย์เข้าจริงๆ” แก่หน้ามุ่ยตอบกลับมาอย่างมีน้ำโห โกรธแบบนี้ไม่มีใครกลัวหรอก ยกเว้นตอนยกทุ่มนะ

“ไม่มีวันนั้นหรอกครับ แต่เมื่อกี้ที่ทำให้ก็แค่เซอร์วิสฮาฮา” หัวเราะกลบเกลื่อนความผิดพลาดครั้งใหญ่หลวงในชีวิต

“ช่างเหอะ จะให้ไหมไลน์น่ะ” วกเข้าเรื่อง

ผมก็ไม่ได้หวงอะไรอยู่แล้วก็แค่แซวไปตามประสา จึงรับมือถือของคนขอมากดค้นหาไอดีตัวเอง พอแอดเสร็จก็ส่งกลับคืน

“เหงาก็ทักมาได้นะครับน้ำละหมื่น” หยอกไปอีกหนึ่งดอก เจ้าตัวตอบกลับมาด้วยปากกาด้ามหนึ่งที่เฉียดหัวไปตกอยู่หน้าประตูห้องน้ำ

ผมเลิกต่อล้อต่อเถียง จากนั้นจึงรีบเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ ทีแรกกะจะเปลี่ยนตรงนั้นเพราะเห็นกันหมดแล้วคงไม่มีอะไรต้องปิดอีก แต่พี่เขาดันถือกล้องอยู่ ซึ่งไม่หน้าไว้ใจเลยสักนิด

ออกมาอีกทีคนที่คิดว่านั่งอยู่ตรงเก้าอี้ตัวเดิมกลับอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าบิ้วอิน ร่างเปลือยเปล่าเมื่อครู่ถูกสวมทับด้วยเสื้อสีน้ำทะเล กางเกงขาสั้นสีขาว เหมือนเตรียมออกไปข้างนอก

“ไม่อาบน้ำหรอครับ” ถามไปตามความสงสัย

“หิวแล้วว่าจะออกไปหาอะไรกินก่อน กลับมาค่อยอาบก็ได้ จะออกไปด้วยกันเลยไหม ให้ไปส่งไหนล่ะ” ไม่รอคำตอบ เดินถือกุญแจรถออกไปที่หน้าประตู คุณหนูฉบับเอาแต่ใจขั้นสุดยอด รับมือยากจริง

“เลี้ยงเหรอครับ” เล่นไปตามประสา

“ก็เลี้ยงได้ หน้าหล่อแบบนี้ไม่อายหรอกตอนนั่งในร้าน” ตรงจนไปไม่ถูกเลย

“คบคนที่หน้าตาสินะครับ” ถามไปงั้น ไม่ได้หวังคำตอบจากคู่สนทนา แต่ดันลืมไปว่าคนที่คุยด้วยไม่ใช่คู่สนทนาที่จะเจอได้ตามปกติ

“แน่นอน ถ้ามึงหน้าเหี้ยกูคงไม่เฉียดเข้าไปใกล้หรอก ยินดีเสียเถอะที่เกิดมาหน้าดี” เอิ่มมมมมม คิดผิดหรือเปล่าที่ติดรถไปด้วย หวังว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้นนะ ขอเถอะ ขอให้เป็นมื้อปกติที...




หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 3 /// 080918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 08-09-2018 17:55:40
ตอนที่ 3

~ กาล ~



ตอนนี้ผมไม่ได้เป็นว่าที่เดือนตามที่ใครๆ เขาเรียกกันแล้วนะครับ เพราะพึ่งได้ตำแหน่งมาเมื่อวานสดๆ ร้อนๆ จากผู้เข้าประกวดแต่ละภาควิชาจนได้เป็นตัวแทนของคณะไปประกวดในระดับมหาวิทยาลัยต่อไป

ไม่ใช่อะไรหรอกมาอวดเฉยๆ ฮาฮาฮา

“มาแล้วเดือนของพวกกู เดือนของรุ่น เดือนของคณะ ความหวังของหมู่บ้าน” ไอ้ต้นแซวมาแต่ไกล เมื่อเดินเข้าไปถึงกลุ่ม

จะว่าไปเรียกว่ากลุ่มได้ไหมนะ เมื่อมีกันแค่สามคน ซึ่งทั้งคู่เป็นเพื่อนสมัยมอปลาย จบที่เดียวกัน ห้องเดียวกัน แล้วยังมาเป็นเพื่อนคณะเดียวกันอีก เบื่อตาย

ไว้ค่อยบรรยายสรรพคุณของพวกมันตามโอกาสที่ควรจะเป็นละกันครับ ขี้เกียจพูดมาก รู้ไว้แค่ว่าผมหล่อสุดในกลุ่ม มีตำแหน่งเดือนเป็นประกัน

“นินทาอะไรพวกกูอีก” ไอ้เจ้าเอ่ยขึ้นอย่างรู้ทัน แสดงว่าผมลืมเก็บสีหน้าและความคิดของตัวเองสิท่า

“คิดมากระวังแก่ไวนะมึง ว่าแต่พวกมึงสองคนออกมาโดยไม่เรียกกูอีกแล้วนะ”ด่ากลบเกลื่อนไป

“ขี้เกียจรอคุณชายแม่งอาบน้ำนานชิบหาย นี่มึงจะชักจนโลกแตกเลยหรือไง” โดนด่ากลับอีกกู ผมแค่อาบน้ำนานไม่ได้ทำอย่างอื่นเสียหน่อย

“เออ... ลืมถามเรื่องนั้นไปเลย เป็นไงบ้างเสียซิงให้กับตุ๊ดแก่ไปหรือยังว่ะ” ไอ้ต้นเปิดประเด็นที่ผมถูกลงโทษจากเกมปัญญาอ่อนของพวกมัน

เรื่องมีอยู่ว่า การคัดเลือกตัวแทนภาควิชาทั้งชายและหญิงเพื่อไปประกวดดาวเดือนของคณะ เพื่อนร่วมรุ่นต้องช่วยกันเสนอชื่อคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งให้รุ่นพี่ ประมาณนี้ ก็เหมือนกับที่อื่นๆ นั่นแหละ ผมก็ถูกเสนอชื่อไป แต่ในระดับภาควิชาผมขอถอนตัว ให้สิทธิ์คนอื่นได้ประกวดเพราะไม่อยากเอาเรื่องปวดหัวเข้ามาในชีวิต แต่รุ่นพี่ไม่ยอม มัดมือชกให้ผมเป็นตัวแทนรุ่นเสียเลย

กลับมาที่ไอ้เพื่อนสองคนมันเคยพนันไว้ว่าผมต้องได้เป็นตัวแทนภาคไปประกวดตั้งแต่ช่วงเสนอชื่อ แต่ผมค้านหัวชนฝา และไม่บอกพวกมันด้วยว่ามีแผนจะสละสิทธิ์ ก็นั่นแหละ พวกรุ่นพี่เล่นผมกลับอย่างที่บอกไป สุดท้ายเวรและกรรมก็มาตกที่ผม ด้วยเหตุผลว่า ‘มึงหล่อ’

ผมกับพวกมันดันไปพนันกันไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านั้น เลยต้องตกกระไดพลอยโจนไปกับเกมโง่ๆ ที่ไม่เล่นก็เสียศักดิ์ศรีชิบหาย แต่พอเล่นไป ศักดิ์ศรีกูหายไปไม่เหลือเลย นี่ผมคิดถูกหรือผิดกันแน่

“อยากฟังเหมือนกันเป็นไงบ้าง ไม่ใช่ว่าที่กลับมาประกวดเดือน แล้วตั้งใจตอบคำถามจนชนะ เป็นเพราะได้ยาดีหรอกนะ เล่าเลย” ไอ้เจ้าแม่งแต่งนิยายขายอีกแล้ว วันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่กับหนังสือ ระวังจะกลายเป็นแบบไอ้พี่คนนั้น

“ไม่มีอะไร กูก็บอกความจริงกับเขาว่าโดนแกล้ง” จะให้เล่าได้ไงว่าโดนอะไรมา จ้างกี่หมื่นก็ไม่บอกหรอก เออจะว่าไปก็นึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้คืนเงินแกเลย

“โถถถถถถถถ อะไรว่ะ แบบนี้ก็ไม่สนุกสิ มึงก็กลับมาแบบสบายๆ เลยงี้หรอ” ไอ้ต้นบ่น

“มึงไม่ได้ตั้งกฎนะว่าไม่ให้กูบอกเขา กูก็ทำตามกติกาแล้ว ให้ไปเจอกูก็เจอแล้วไง ขากลับเลี้ยงข้าวกูด้วยนะโคตรรวย” ตบหัวมันไปหนึ่งดอก โทษฐานเป็นตัวต้นคิดให้เรื่องมันวุ่นแบบนี้

“มึงเนี่ยนะบอกว่าไอ้ตุ๊ดนั้นรวย โหหหหห เช็คสถานะทางการเงินตัวเองด้วย” ไอ้ต้นยังไม่ยอมแพ้ ต่อปากต่อคำเก่งตลอด

“ก็รวยจริง อาจรวยกว่ากูด้วยซ้ำ เงินที่เข้าใจผิดโอนมาให้ก็ไม่ทวงคืนด้วย” ใช่ ไลน์ที่แอดไปไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลย ถ้าอยากได้คืนคงส่งข้อความหรือโทรมาทวงแล้ว

“โด่... มึงมีแต่ได้กับได้ พวกกูก็เสียประโยชน์สิ” เสียไปโยชน์ก็ตะกวดออกลูกเป็นเป็ดละ กูสิเสียหาย แค่ไม่เล่าให้พวกมึงเท่านั้น

“พอ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้อีก ตั้งใจเรียนให้สมกับที่แม่มึงส่งเถอะ” เจอไปอีกหนึ่งดอก คราวนี้ไม่ใช่ผม แต่เป็นไอ้เจ้าที่เข้าร่วมวงด้วย ด่าอย่างเดียวคงไม่สะใจ มือของมันเลยไปประทับบนหัวแดงของไอ้ต้น ว่าแต่ใครเข้าสิงให้มึงย้อมสีนี้กูถามหน่อย

“เป็นกูโดนทำร้ายตลอดอะ ดูไว้เถอะ กูจะไปหาแฟนโหดๆ มากระทึบพวกมึง” มันว่างอนๆ

“เอาแบบเฮดวินัยไหม เดี๋ยวกูไปคุยให้” ไอ้เจ้ายังไม่เลิกราวี

“เออว่ะ ถ้าอยากได้โหดเดี๋ยวกูถามพี่เขาให้เอาไหม เป็นเกย์เหมือนกันอาจมีเครือข่าย เอาแบบรุกหมีเลยไหมมึงฮาฮาฮา” เป็นผมสองคนที่หัวเราะมันซึ่งไม่มีอะไรมาต่อกรพวกผม ยิ่งพูดยิ่งเป็นรอง

“จำไว้เลย” มันสะบัดหน้าหนีเป็นตุ๊ดไปแล้ว ท่าจะงอนจริง

จะว่าไป ถ้าเอาไอ้ต้นไปโกนหนวด ตัดผม แล้วย้อมสีดำกลับ คงมีรุกมาจีบมันไม่น้อย เพราะความจริงแล้วแม่งหน้าโคตรเด็ก ถึงจะไม่เท่าไอ้พี่ปีสามคนนั้น แต่มันหน้าโคตรสาว วิธีกลบเกลื่อนหน้าตาของมันก็คือการไว้หนวด ย้อมสีผม แล้วใส่แว่นตาหนา รวมๆ แล้วออกมาทุเรศตามที่มันหวังไว้นั่นแหละ แต่ถ้าได้แปลงโฉมขึ้นมาละก็ งานนี้มีแฟนโหดๆ มาคุมเข้มอย่างที่มันพูดแน่

.

.

.

ขณะล้อมวงคุยสัพเพเหระไปเรือย ก็มีคนมาสะกิดที่ไหล ไม่ใช่แค่ผมที่หันไปสนใจผู้มาใหม่ ไอ้สองตัวที่เหลือก็เงียบไปด้วย ไอ้ต้นที่อ้าปากหวอจนผมสงสัยว่าใครกันแน่ที่อยู่ข้างหลัง ซึ่งพอหันกลับไปเท่านั้นแหละ

“อ้าวพี่” พึ่งพูดถึงเมื่อกี้ ตอนนี้โผล่ที่คณะเขาได้ไง

“มึงลืมไว้ กูกำลังจะทักไปบอกในไลน์ แต่เดินมาเจอก่อน” แก่บอกเล่าที่มาที่ไปของตัวเองซึ่งผมยังไม่หายสงสัย

“มากินข้าวอย่ามโน” เออ ไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้นแค่นึกไม่ออกว่ามาทำอะไรที่วิศวะ เอะอะก็ด่าๆ กันท่าเดียว

“อ้อนี่ด้วย เห็นว่าแสงมันสวยดีเลยเอาไปอัด” แกยื่นรูปเปลือยท่อนบนที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำให้ แสงมันสวยอย่างที่ว่าไว้จริงแหละ แต่...

“ที่คณะมีห้องอัดรูป ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครได้เห็นหรอกนอกจากกูกับเพื่อนคนนี้” พูดไปพร้อมหันไปมองเพื่อนของตัวเองที่ถูกอ้างถึง ชายหนุ่มตัวสูงที่ยืนบังร่างเล็กของแกเกือบมิดตัว ยืนหน้านิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใด แน่ใจนะว่าใช่เพื่อนจริงๆ ท่าทางอย่างกับบอดี้การ์ดตามดูแลลูกมาเฟีย

“ครับ” ยังไม่ทันได้ขอบคุณที่เอาของมาคืนให้ แก่ก็ปลิวไปกับลมพร้อมเสาไฟฟ้าที่เดินตามหลังไปไม่ห่าง บทจะมาก็โผล่มาไม่ทันตั้งตัว บทจะไปก็ไม่คิดจะลากันก่อน เอาแต่ใจจริงๆ

“มึงรู้จักเขาได้ไง” ไอ้ต้นเปิดประเด็นหลังจากหาทางเอาริมฝีปากบนล่างมาสบกันจนได้ ไม่คิดว่าเพื่อนจะอายบ้างหรือไง เล่นเปิดปากหวอโชว์หราต่อหน้าคนอื่นแบบนั้น โชคดีที่ไม่มีแมลงวันบินเข้าไปสำรวจถ้ำเพื่อเอาฝูงหมาป่าในปากมันออกมา

“แล้วเขาเอาอะไรมาคืนมึงว่ะ” ไม่ต้องถามก็ได้นะเพื่อน ผมยังไม่ทันได้ตอบไอ้ต้นเลย ไอ้เจ้าก็ฉวยเอาของในมือไปดู ทั้งสร้อยและรูป

“เกียร์ วันก่อนกูลืมไว้ น่าจะถอดตอนอาบน้ำ” ผมบอกไปตามจริง แต่ไม่แน่ใจว่าเกียร์ที่ติดมากับสร้อยเงินนั้นวางไว้ส่วนไหนของห้องกันแน่

“แล้วนี่ล่ะ”

ไอ้เจ้าโชว์รูปใบนั้นขึ้นมา ผมยื่นมือไปจับให้มันคว่ำลงกับโต๊ะแทบไม่ทัน ไอ้ห่าเกรงใจนายแบบจำเป็นอย่างผมบ้าง ใช่จะเต็มใจให้ถ่ายที่ไหน ยังดีนะที่รูปอย่างว่าลบไปหมดแล้ว แค่คิดว่าแกจะเอารูปที่เขาเหลือแต่กางเกงในมาให้ก็เสียวแล้ว (ไม่ได้เสียวอย่างว่าแน่นอน)

“มึงรู้จักเขาได้ไง ตอบกูมา” ไอ้ต้นจับหน้าผมหันไปจ้องตากับมันที่คาดคั้นเอาคำตอบ

“ก็คนนั้นไง...” ผมกำลังจะตอบ

“คนไหน” มันสองคนต่อประโยคอย่างพร้อมเพรียง ควรปรบมือให้ไหม นานๆ ทีจะสามัคคีกันแบบนี้

“คนที่กูไปหาเพราะเกมบ้าๆ ของพวกมึงไง” เท่านั้นแหละ มันสองคนกลับมาครุ่นคิดกับตัวเองสักพัก ก่อนจะโวยวายขึ้นอีกครั้ง จนผมต้องตบไปคนละดอก

“เสียงดังทำเหี้ยไร” ไม่ได้มีมารยาทอะไรหรอกครับ ผมอายคนอื่นเขา แค่หน้าตาดีไปวันๆ แบบนี้ก็มีคนมองจะแย่ละ พอไอ้พี่สองคนนั้นเข้ามาคุยด้วยยิ่งเป็นเป้าสายตาคนในคณะและนอกคณะที่มาวนเวียนอยู่แถววิศวะ แถมไอ้เพื่อนสองคนนี้ก็คุยกันอย่างกับเป็นเรื่องสาธารณะ

“ได้ไง” ไอ้ต้นครับ

“ยังไม่ได้” เขาไม่ให้กูเอาไอ้ห่า

“เหี้ยกาลมึงทำแบบนี้ได้ไง” ยังไม่เลิก

“กูบอกว่ายังไม่ได้ทำ” ไอ้นี่

“ไหนมึงบอกว่าเป็นรุ่นพี่ กูก็นึกว่าเป็นตุ๊ดแก่หน้าควาย” มโนไปอีก กูไม่เคยบอกมึงแบบนั้นเลย คิดเองเออเองเสร็จสรรพ

“กูก็คิดแบบไอ้ต้นมัน ไม่ถึงกับหน้าควายหรอก แต่ไม่นึกว่าจะหน้าดีแบบนี้ แล้วไม่ใช่แค่ดีธรรมดานะ” ไอ้เจ้าเสริม

“อะไร” ไม่ธรรมดายังไง หรือหมายถึงที่พี่มันสติไม่ปกติแบบนั้นเหรอ ก็น่าคิดนะฮาฮาฮา

“นั่นเซเลบของมอเลยนะมึง” มันเนี่ยนะเซเลบของมอ ถึงหน้าจะดีก็เหอะ แต่นิสัยแบบนั้นคนเขารับได้หรอ

“ทำหน้าอย่างกับเห็นผี กูพูดจริง ถ้ายังไม่เชื่อมึงดูนี่” ไอ้เจ้าไม่ว่าเปล่า เลื่อนหาอะไรในมือถือมันเนี่ยแหละ แล้วก็ยื่นมากลางวง

หน้าของไอ้พี่คนนั้นในอิริยาบถต่างๆ ตามเพจคิ้วๆ อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ คนกดไลค์เป็นหมื่น แชร์อีกเกือบพัน คอมเม้นอีกหลายร้อย ดังจริงว่ะ ถึงว่าทำไมมีแต่คนมองตอนมันเดินมา ก็คิดไปว่าตัวเองหล่อคนเลยสนใจ ที่ไหนได้ มองมันไม่ได้มองกู

“แล้วรูปนี้หมายความว่าไง ถ้าไม่ได้มีอะไรกันแล้วมึงใส่ผ้าขนหนูตัวเดียวแบบนี้ทำไม อธิบาย” ไอ้ต้นที่หลบไปช็อกกลับมาพร้อมคำถามยาวเหยียด

“เอออออออ” อะไรดีว่ะ ไม่ได้ทำก็จริง แต่ก็มีอะไรกันนิดหน่อย ซึ่งมันไม่นิดเลยถ้าเล่าออกไป

“พูดมา” มันยื่นหน้าพร้อมหัวแดงมากดดัน ออกไปไกลๆ กูเลยนะแสบตา

“ไม่มีอะไรก็ไม่มีสิ เขาแค่แลกเปลี่ยนที่โดนกูหลอกโดยการขอถ่ายรูปหุ่นกูเฉยๆ” กลบเกลื่อนไป รอดไหมว่ะ

“ขอให้จริง” มันประชดกลับมา ไอ้นี่ ง้างให้ตายกูก็ไม่ยอมบอกความจริงหรอก

“แต่รูปสวยจริง ตอนเช้าใช่ไหมดูแสงบนตัวมึงสิ” ไอ้เจ้าเอ่ยชมฝีมือการถ่ายภาพของตากล้อง ก็ตามที่มันว่านั่นแหละฝีมือดีจริง

“เปล่า น่าจะตอนเย็นแล้วนะ” ผมไปหาแกช่วงบ่าย กว่าจะทำอะไรกันเสร็จก็คงใกล้เย็นแล้วล่ะ

“ถ่ายรูปเฉยๆ ทำไมต้องอาบน้ำ” ไอ้ต้นมันยังไม่เลิกระแวง

“ก็รูปหลังอาบน้ำมันเซ็กซี่กว่าไง อะไรของมึงเนี่ย แล้วนั่นมึงทำอะไร”

มันเลิกสนใจผมแล้วหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปจากภาพในมือ ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่มันกำลังทำ สันดานมันฟ้อง

หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 4 /// 100918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 10-09-2018 16:53:13
ตอนที่ 4

~ กาล ~



สามชั่วโมงผ่านไปกับคาบเช้าที่สูบพลังงานชีวิตของผมเกือบหมด แถมต้องมาปวดกบาลกับวีรกรรมของเพื่อนหัวแดงอีก ให้มันได้แบบนี้สิ นี่แค่เปิดเทอมยังไม่ถึงสองเดือนนะต้องมาเป็นข่าวฉาวกับคนในมอจนได้ เพราะมันเลย

“มึงเห็นผลงานตัวเองหรือยัง” ผมถามไอ้หัวแดงระหว่างออกจากห้อง และมันใช่จะสนใจความผิดที่ได้ก่อไว้ ไม่สำนึกเลยนะ

“สมควรโดนแล้ว ใครใช้ให้มึงไปหาคนนี้แทนตุ๊ดหน้าควาย” เอ้าไอ้ห่า เพื่อนโชคดียังเอามาเป็นความผิดอีก เรื่องมันจะไม่เกิดเลยถ้ามึงไม่มาเดิมพันเกมปัญญาอ่อนนั่น

“ถึงไม่มีรูปมึงที่ไอ้ต้นเอาไปปล่อย ยังไงเรื่องก็แดงอยู่ดี ดูรูปที่มึงโดนถ่ายตอนที่พี่เขาเอาของมาให้สิ” อย่างที่ไอ้เจ้าว่าครับ เรื่องมันมีมูลยังไงก็ต้องแดงอยู่วันยังค่ำ แต่...

“มันคงไม่ยุ่งยากเท่ากับพวกในเน็ตโยงรูปที่พี่แก่ยื่นมากับรูปที่ไอ้ต้นเอาไปปล่อยหรอกนะ” ใช่ ถ้าไม่มีรูปห่านั้นมันก็คงไม่เป็นแบบนี้

Cute BOYYY // ได้โพสต์รูปเมื่อ 58 นาที //อะไรยังไงคะ ???

ดอกเหลืองออกทองทอง : น้องว่ามันมีกลิ่นค่ะ

เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายได้กัน : รูปที่พี่มิวยื่นไปให้กับรูปของน้องกาลจะเป็นใบเดียวกันไหมนะ

Cute BOYYY : สายแจ้งแอดมาว่าเป็นรูปเดียวกันจริงๆ

เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้ชายได้กัน : ฝังกูที กูถึงนิพพานแล้ว

ดอกทองตัวจริงไม่ต้องแอ๊บเหลือง : แล้วน้องไปทำอะไรที่ห้องพี่มิว ???

สายลับจับแกะ : รู้ได้ไงว่าเป็นห้องน้องมิว

ดอกทองตัวจริงไม่ต้องแอ๊บเหลือง : ตอบข้างบนค่ะ หนูรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพี่มิว ยกเว้นเรื่องนี้!!!

ดอกเหลืองออกทองทอง : สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนไหมแอด

Cute BOYYY : หลังจากสอบพยานปากเอก ได้ความว่าไม่ใช่คนรู้จักกันค่ะ

โลกสวยด้วยมือวาย : แสดงว่าเรื่องมันเกิดขึ้นในมอ

นายดอร์แห่งวิศวกรรมฯ : เดือนวิศวะเป็นเกย์เหรอว่ะ ฮาฮาฮา แต่ก็ยังหล่ออยู่ดี

นายโดมอมคำ : เดือนนิเทศที่ครองโสดมาสามปีกำลังจะได้เกียร์

นางสาวโคมเขียว: หยุดมโน มันอาจเป็นเรื่องเข้าใจผิด อย่าเอาผู้ชายทุกคนไปเป็นเกย์สิคะ

สายที่ว่าคงไม่ใช่คนที่นั่งภูมิใจในความผิดของตัวเองหรอกนะ ต้องเป็นมันแน่ๆ ส่งรูปไปให้เพจ แล้วยังมายืนยันความจริงห่าเหวนั่นอีก

“ฮาฮาฮา” ยังขำไม่เลิกอีก

“แล้วพวกมึงสองคนไปรู้จักพี่มันได้ไง” สงสัย เพราะเหมือนพวกมันจะรู้ว่าคนที่เข้ามาทักเป็นใครตั้งแต่แรก ทั้งที่ผมยังไม่รู้เลยว่ามันชื่อมิว

“ออกจะดัง” ดังยังไงก็ตัวผู้ พวกมึงไม่น่าจะรู้จัก

“พี่มิวผู้อยู่นอกเหนือกฎแรงโน้มถ่วง ถึงเป็นตัวผู้เหมือนกันแต่เป็นข้อยกเว้น” ไอ้ต้นพูดหน้าเคลิ้ม

“ก็จริงแหละ เหมือนจะเป็นเกย์ด้วยนะ ไม่ได้ปิดบังแต่ก็ไม่ได้เปิดเผยโจ่งแจ้งอะไร ดูเผินๆ ก็ผู้ชายธรรมดาเนี่ยแหละ เหมือนสามปีมานี้ไม่ยอมควงสาวสักคน เขาเลยพากันคิดว่าเป็นเกย์” ข้อมูลเชิงลึกจากอาจารย์เจ้า พวกมึงพึ่งเข้ามอพร้อมกูทำไมรู้เยอะจังว่ะ

“มึงแน่ใจนะว่าไม่ได้ทำอะไรพี่เขา” ไอ้ต้นหันมากัดอีกรอบ จะอะไรนักหนา

“มึงจะหวงทำไม เขาไม่ใช่สเปคมึงหรอก มึงต้องนู้นเฮดว้าก” ผมว่ามันไป ถามอยู่นั่น

“เขาคือตัวแทนของหนุ่มหน้าหวาน ผู้เอาชนะมารทุกคนในมอนี้ เขาเป็นศาสดาของกู” ไอ้คนหน้าหวานที่พรางตัวด้วยหนวดและเครากำลังสวดอ้อนวอนพระเจ้าของมันอยู่

“เป็นบ้าหรือไง” กูเห็นด้วยกับมึงเลยเจ้า

.

.

.

ก่อนประกวดเวทีใหญ่ก็ต้องเก็บตัวฝึกซ้อมทั้งเดินแบบและการแสดง ชีวิตหลังเลิกเรียนทุกเย็นเลยต้องระเห็จมาอยู่แถวสโมสรนักศึกษาแทน พวกพี่ ๆ ก็วุ่นกันน่าดู ส่วนปีหนึ่งหลายคนที่ต้องมาเป็นแบ็คสเตจก็งานหนักไม่น้อยหน้า ไหนจะฝ่ายฉาก ฝ่ายเสียง คอสตูม และอะไรต่อมิอะไรหลายอย่าง

แต่ใด ๆ ย่อมมีข้อยกเว้น เพื่อนร่วมคณะเกือบร้อยชีวิตต้องตกระกำลำบาก ส่วนเพื่อนสนิทของผมสองคนกลับหายหัวไปอยู่ไหนไม่ทราบ ไม่มารับมาส่งยังไม่พอ นี่เล่นไม่มาช่วยงานเพื่อนร่วมรุ่นเลย

“เหนื่อยไหมครับสุดหล่อ” ไอ้ต้นที่นั่งอยู่หน้าคอมถามขึ้น หลังเขาเปิดประตูห้องเข้าและมาพบกับความสุขสบายของเพื่อน ความเหนื่อยที่สะสมมากลายเป็นความโกรธแทน

“ไม่ช่วยงานเลยนะ เพื่อนอุตส่าห์ได้เป็นหน้าเป็นตาให้กับคอนโด แทนที่จะซื้อน้ำซื้อขนมไปฝากสักหน่อยไม่มี” มันใช่จะสน หยิบหูฟังเตรียมเล่นเกมต่อ

“แล้วไอ้เจ้าล่ะ” ถามหาสมาชิกอีกหนึ่งคนของห้อง มันไม่ตอบแต่ชี้ไปที่ประตูห้องนอนของพวกมัน

คอนโดนี้มีสองห้องนอนสองห้องน้ำกับห้องนั่งเล่นที่ไอ้ต้นใช้เป็นห้องนันทนาการ หลังตบตีกับไอ้เจ้ารูมเมทของมันที่ต้องการความสงบในการเขียนนิยาย ทำให้การเล่นเกมของไอ้หัวแดงไปรบกวนสมาธิของท่านเข้า จึงถูกเนรเทศออกมาข้างนอกอย่างที่เห็น ทั้งสงสารและสมน้ำหน้า

.

.

.

ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้นจากมือถือของผม ก้มมองดูรายชื่อแปลกตาที่ไม่คิดว่าจะทักมา แอดไปตั้งนานพึ่งนึกได้หรือไงว่าควรทักทายเขา

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค: อยู่ไหน

กาลเวลา: พึ่งถึงห้อง มีอะไรหรือเปล่าครับ

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค: มาหาที่บ้านหน่อย ตอนนี้เลย

 เดี๋ยวนะอะไรของเขา จู่ๆ ทักมาให้ไปหาที่บ้าน เวลานี้เนี่ยนะบ้าหรือเปล่า เขาไม่มีทางทำตามแน่ ถึงจะยังคาใจว่าให้ไปทำอะไรก็เหอะ แต่ไม่ว่าเหตุผลข้อไหนก็ไม่หนักพอกับความเหนื่อยที่เขามี ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนหรือคอขาดบาดตาย ไม่มีวันที่เขาจะออกไปจากห้องนี้จนถึงเช้า

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : ...

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : เงียบ

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : ตอบสิว่าจะมา

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : //ได้ส่งรูปภาพ//

“เฮ้ย!” เขาเผลอลั่นออกมา

“อะไรมึง” ไอ้คนบ้าเกมถึงกับสะดุ้ง

“เปล่าๆ โทษที” บอกปัดไปก่อนรีบเดินเข้าห้องตัวเอง

ภาพเปลือยของเขาที่เหลือแต่กางเกงใน ภาพที่คิดว่าลบไปแล้วแต่ดันถูกส่งมาในแชทสีเขียวยอดนิยมเสียได้

“ได้ไงว่ะ กูลบไปแล้วนี่”

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : จะมาไหม

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : //ส่งวีดีโอ//

“เหี้ย!” ทำไมถึงมีคลิปที่เขากำลังจัดการกับหนอนน้อยของมัน ก็เมมกล้องทั้งหมดอยู่ที่เขาแล้ว นี่หลอกกันใช่ไหม

“กูไปข้างนอกก่อนนะ” ผมเดินออกมาอย่างหัวเสีย ก่อนตะโกนบอกไอ้สองตัวในห้อง ไม่รู้ว่าได้ยินไหม แต่ช่างพวกมันก่อน ความชิบหายและเรื่องคอขาดบาดตายของผมมันมาจ่อที่คอหอยแล้ว

กาลเวลา : กำลังไปครับ อย่าพึ่งทำอะไรนะ

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : ให้ครึ่งชั่วโมง

มิวเฉยเฉยไม่มีสิค : ถ้าช้าดังแน่

กาลเวลา : ครับๆ



หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 4 /// 100918
เริ่มหัวข้อโดย: kong6336 ที่ 10-09-2018 23:33:43
พี่มิวร้ายกาจจริงๆ :hao6: :hao7: :laugh:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 5 /// 120918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 12-09-2018 20:38:50
ตอนที่ 5

~มิว~



ขอโทษนะไอ้หนู มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้วิธีนี้แล้วล่ะ ถ้าจะโทษก็ไปโทษตัวเองที่มาหลอกคนอย่างเขาตั้งแต่แรก โชคหล่นทับได้ปลาตัวใหญ่ทั้งทีเขาไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปหรอก



ในเมื่อสามปีมานี้ความฝันที่จะเจอพระเอกเหมือนในนิยายมันไม่เป็นจริง พวกหน้าตาดีก็มัวแต่ห่วงชื่อเสียง ส่วนพวกที่อยู่ในแอปฟ้าแอปส้มก็มีแต่พวกพอไปวัดไปวาได้ แถมเกินครึ่งก็พอไปนรกได้แบบนั้นไม่เอาหรอก ต้องคนนี้เท่านั้น



เขาจะสร้างมันขึ้นมาเอง นิยายวายฉบับของตัวเอง พระเอกไม่ต้องรักไม่ต้องหลง ขอแค่ทำตามที่สั่งก็พอ แน่นอน เขาไม่ใจร้ายถึงกระทั่งแบล็คเมล์ให้เด็กเสียอนาคตหลอก แต่เอามาขู่ให้กลัวก็พอ ขู่ให้เชื่องแล้วยอมทำตาม



“กว่าจะถึง ช้า!” เจ้าตัวหน้าตื่นหลังได้ยินเสียงของเขาที่นั่งอยู่ปลายเตียง



“พี่ทำแบบนี้ทำไม” ก่อนมันจะปรับสีหน้าแล้วเดิมย่างสามขุมเข้ามาคล้ายจะหาเรื่อง



“ถอด” เขาสั่ง ไม่สนคนว้าวุ่นใจที่เป็นกังวลกับภาพและคลิปที่ถูกส่งไปให้



“ลบนะครับ ให้ทำอะไรก็ได้ แต่ขอให้ลบจริงๆ” นี่หาว่าเขาโกหกหรอ ก็แค่มีเมมสำรองกับภาพที่ถูกส่งมาจากกล้องโดยอัตโนมัติก็เท่านั้น



“ถอด” เจ้าตัวหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง



“ไม่ ผมไม่ทำตามทั้งนั้น ลบรูปและคลิปผมเดี๋ยวนี้” แมวตัวน้อยขู่ฟ่อฟองขนให้ดูน่ากลัว แต่ขอโทษนะ นี่ถิ่นใคร



“จะถอดในนี้หรืออยากถอดในเน็ตเลือกเอา” กลายเป็นลูกไก่ไร้ขนแล้ว ดูท่าจะกลัวคำขู่ไม่ใช่น้อย



“ทำแบบนี้ยิ่งทำให้ผมไม่ชอบพวกพี่เข้าไปใหญ่นะ” พวกพี่คือใคร? เกย์งั้นหรอ ช่างสิเขาใช่จะแคร์



“แล้วแต่มึงสิ ถอดได้แล้วอย่าพูดมาก” ครั้งนี้มันไม่ตอบโต้ ยอมปลดเนคไทที่คอก่อนตามมาด้วยกระดุมเสื้อนักศึกษาไล่จากเม็ดบนลงมา เผยร่องอกและกล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวย



“กางเกงไม่ต้อง รูดซิปแล้วเอาออกมาเลย” เขาห้ามก่อนที่เจ้าตัวจะร่นกางเกงลงหลังปลดเข็มขัดเสร็จ



ลูกชายของมันซึ่งยังเหนียมอายอยู่ออกมาสูดอากาศข้างนอก ดูหน้าพ่อมันสิไม่มีอารมณ์ร่วมกับเขาเลย



“ยืนชักไปจนแตก” เขาสั่ง พร้อมหยิบกล้องขึ้นมา



“บ้าหรือเปล่า” มันเถียงกลับ คนกันเองอายอะไร มากว่านี้ก็เคยทำแล้ว



“ทำไป” เขาพูดเสียงเนือย เหนื่อยกับการรับมือคนหัวแข็งแล้ว



“อย่าถ่ายสิ” ยังอีก



“หุบปากแล้วทำไป เป็นทาสอย่ามาขึ้นเสียง” ใช่ มันคือทาสของเขา



“โรคจิต” มันตอบกลับมาพร้อมสีหน้าและแววตาที่ดูจะแค้นไม่น้อย ว่ามาเถอะเขาไม่เก็บเอามาคิดให้เปลืองสมองหรอก คนเรามันต้องมีมุมแบบนี้บ้าง โดยเฉพาะคนอย่างเขาที่ต้องเก็บกดมาถึงสามปี สามปีเลยนะไม่ใช่น้อยๆ



มันเลิกเถียงแล้วกลับไปจัดการกับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย มือขวาค่อยๆ จัดการกับของตัวเองช้าๆ แต่ดูเหมือนอารมณ์ที่คุกรุ่นของมันทำให้ไม่ยอมกลายร่างสักที



“เมื่อไหร่จะแข็ง” เขาถาม นั่งรอจนรากจะงอกแล้วยังเหมือนเดิม รู้ไหมว่ามันทำให้คนดูหมดอารมณ์ไปด้วย



“ผมไม่มีอารมณ์” มันตอบหน้าตาย



“ไม่มีอารมณ์ใช่ไหม ได้!” เขาลุกขึ้นไปลากตัวมันออกไปที่ระเบียง คนร่างสูงขืนตัวเล็กน้อยแต่ก็ยอมตามมาโดยดี



“พี่ทำอะไร” มันถามเมื่อออกมารับลมข้างนอกที่ดูจะร้อนกว่าข้างในห้อง



“มาบิ้วท์อารมณ์ให้ไง ในห้องไม่ได้ก็ตรงระเบียงเนี่ยแหละ ชักสิ” เขาบอกมัน



“บ้าไปแล้วหรือไง” มันตะคอกพร้อมผลักเขาจนเซไปชนบานเลื่อนที่อยู่ข้างหลัง



“กูบอกให้ทำ”



“ไม่”



“ทำ”



“ไม่”



“งั้นมึงอย่ามาขอร้องให้กูลบคลิปมึงนะ ออกไปจากห้องกูแล้วเตรียมดังได้เลย ไอ้ว่าที่เดือน” เขาตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้า ถึงในใจจะคิดแค่ขู่ แต่ตอนนี้เริ่มทนไม่ไหวแล้วกับความดื้อดึงของเด็กคนนี้



“สัดเอ้ย มึงมันเล่นสกปรก” มันด่าเขากลับอย่างไม่ยอมแพ้



พูดจบก็กลับไปชักของตัวเองต่อด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์ ก่อนที่น้องชายของมันจะขยายขึ้นในกำมือ



.

.

.



“เข้าไปข้างใน” เห็นแบบนี้เขาก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำ ก็แค่หยอกเล่นเท่านั้นเอง



“นอนลงไป” เขาสั่ง ซึ่งมันยอมทำตามอย่างว่าง่าย แม้ว่าเมื่อดูจากสีหน้ามันจะไม่มีอารมณ์ร่วมเลยก็ตาม



เขาขึ้นไปค้อมร่างเปลือยเปล่าของเดือนหน้าหล่อ เคลื่อนเข้าไปใกล้หน้าของอีกคนที่พอสบตาก็เบือนหน้าหนีไปอีกทาง ต้องใช้มือบังคับให้หันกลับมาจ้องตาเขา



“อย่าให้โดนฟันล่ะ” ถึงแม้จะรู้ว่าไม่มีทางโดนก็ตาม เพราะครั้งก่อนมันทำไว้ดีใช่เล่น



ลูกชายเขาถูกดันไปชนริมฝีปากได้รูปที่ยังปิดสนิทอยู่ ดุนไปจนมันแพ้พ่ายเปิดปากรับเข้าไปทั้งแท่ง จากนั้นลิ้นแข็งที่นิ่งอยู่ในตอนแรกก็ค่อยๆ ทำหน้าที่อย่างดี



ด้วยท่าที่ไม่ถนัดทำให้น้ำลายมันย้อยเป็นทางทั้งบนตัวเขาและใต้มุมปากของมัน เขาปล่อยให้เสียงครางของตนออกมาตามอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการมีมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้นไปอีก



มันถอนปากบ้วนน้ำลายทิ้งไปเที่ยวหนึ่งก่อนกับมาเลียรอบๆ คอหยักที่มันวาวด้วยฝีมือมัน เขาค่อยๆ ขยับสะโพกตามจังหวะตัวเอง แม้จะถูกค้านด้วยการดันออกทุกครั้งที่เคลื่อนเข้าไปลึก พร้อมสีหน้าที่บ่งบอกได้ว่าโคตรไม่พอใจ



ง่วนอยู่เป็นนานจนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยออกมาข้างในปากของมันเป็นครั้งแรก และบังคับด้วยการรัดหัวคนโดนรังแกไว้แน่น ให้แน่ใจว่ากลืนลงไปหมดแล้วจึงถอนออก



“เหี้ยเอ้ย” มันสบถออกมาอย่างเหลืออด น้ำคาวไหลเยิ้มตรงมุมปากได้น่าดูชิบหาย



“อร่อยไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงขบขัน



“ค _ _” หยาบคาย



“ของมึงอ่อนอีกแล้ว ทำให้แข็งสิ” เขาสั่งให้มันปั้นเด็กในปกครอง ให้กลับแข็งแกร่งอีกครั้ง



“อยากดูเดือนวิศวะช่วยตัวเองจัง” มันเข้าใจความหมาย ยอมใช้มือกับของตัวเองช้าๆ และจากที่เหี่ยวย่นอยู่ก็ค่อยๆ ชูคอขึ้นจนตึงมือ



ได้ยืนดูเดือนวิศวะช่วยตัวเองแบบนี้แค่รวยอย่างเดียวทำไม่ได้หรอกฮาฮาฮา ต้องฉลาดและเก่งแบบเขาด้วย ดูสิ ดูหน้าขัดใจแบบนั้นสิ ยิ่งเหมือนการบังคับขืนใจคนหล่อให้มาทำตามคำสั่งของเจ้านาย เหมือนนิยายทาสในเรือนเบี้ยที่เคยอ่านเลย



เรือนรางได้รูปเหมือนเทพปกรณัม ขายาวเหยียดตรงและกางออกเล็กน้อย มือแกร่งเกรงได้ที่ชักขึ้นลงจนเจ้าของมือและเรือนร่างต้องคอยอดกลั้นและกลืนเสียงในลำคอให้สิ้น ไม่ให้ถูกพัดพาด้วยอารมณ์ที่สุมให้ลืมเลือนเรื่องราวร้ายๆ ตรงหน้า ขนาดของมันเมื่อชูคอลามมาถึงสะดือที่อยู่กลางลำตัว



น้ำใสไหลย้อยออกมายากจะต้านทาน เพราะเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ส่วนของลูกแฝดที่หดเกรงจนรวมเป็นใบเดียวใต้ลำยาวซึ่งถูกปกคลุมด้วยขนอ่อนบางๆ ข้างในบรรจุทายาทนับล้านล้านตัวเอาไว้ เตรียมออกมาสู่โลกภายนอก



“อะ!” มันหลุดเสียงน่าอายออกมาในที่สุด พร้อมกองทัพสมุนนับไม่ถ้วนที่อยู่ในรูปของของเหลว ซึ่งพุ่งพรวดออกมาอย่างไม่บอกกล่าว กระฉูดไปถึงใบหน้าและลำคอ ลามมาถึงอกและหน้าท้องแกร่ง เปื้อนไปด้วยความใคร่ของตัวเอง



“จูบกู” คำสั่งใหม่เริ่มต้นขึ้น เขาเข้าไปแนบชิดร่างสูงที่เต็มไปด้วยน้ำอย่างว่า มองดูแววตาขัดใจและดวงหน้าซึ่งถูกแต่งแต้มด้วยน้ำข้น



มันไม่ขัดขืดอะไร เอื้อมมือข้างหนึ่งมากดศรีษะเขาเข้าไปจนริมฝีปากของมันและเขาบรรจบกัน ลิ้นร้อนของคนข้างล่างเล็มเลียไปบนกลีบปากของเขาแล้วบังคับให้เปิดออก มันกดหัวเขาให้แน่นขึ้นเมื่อส่งลิ้นเข้ามาข้างในโพลงปาก มืออีกข้างอ้อมไปลูบไล้แผ่นหลัง สอดเข้าไปใต้เสื้อยืด ก่อนสอดลงไปใต้กางเกงชั้นใน แล้วมันก็ส่งนิ้วเข้ามา ไอ้สัด!



“เหี้ยไรเนี่ย ตบมาได้นะ” เขาปลีกตัวออกห่างคนที่พึ่งโดนตบหน้าหันจนขึ้นสีแดงเถือกที่แก้มซ้าย



“มึงทำอะไร” เขาถามถึงสิ่งที่ทำให้ต้องลุกขึ้นมาต่อล้อต่อเถียงมันอีกครั้ง



“ก็อยากไม่ใช่เหรอ กูสนองให้ไง สุดท้ายมึงก็ให้กูเอาอยู่ดีอย่าเล่นตัว” คำหยาบมาเต็ม ไม่มีพี่น้องอีกต่อไป



“ดูถูกกูเกินไปนะมึง” เขาว่าเสียงอ่อน



“สมควรไหมล่ะ หน้าตาก็ดีแต่ความคิดและการกระทำโคตรต่ำ” มันยังไม่หยุดต่อว่าเขา



“กูเป็นพี่มึงนะให้เกียรติกูหน่อยเหอะ”



“พี่แบบมึงมันไม่สมควรได้หรอกคำว่าเกียรติน่ะ” ไอ้สัด เริ่มจะลามปามละ



“เก็บค__มึงแล้วออกไปจากห้องกู ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก” เขาเหลืออดกับไอ้หล่อคนนี้ละ แม้ส่วนหนึ่งจะโทษตัวเองที่ทำให้เรื่องมันลงเอยแบบนี้ก็เถอะ แต่...



ไม่ เขาไม่ผิด มันนั่นแหละที่ทำเกินหน้าที่



“กูก็ไม่ได้อยากมาหามึงหรอกอีตุ๊ด โอ้ย!” ตีนขวาส่งไปที่ข้างลำตัวมัน อย่ามาดูถูกกู ถ้าหนังหน้ามึงไม่ได้เท่านี้ มึงไม่ได้เฉียดเข้าใกล้ตัวกูหรอก สำนึกไว้ด้วยที่เกิดหล่อ ‘ไม่น่าเสียจูบแรกให้มันเลย’ ไอ้พระเอกกำมะลอ



“ออกไป” เขาไล่มัน ไปให้พ้นก่อนที่เขาจะบ้าไปกว่านี้



“เลิกแบล็คเมล์กูก่อนสิ” มันจัดการกับเสื้อของตัวเองก่อนหันมาโต้คำกับเขาอีกรอบ



“ออกไป” กดเสียงต่ำให้รู้ว่าความอดทนใกล้สิ้นสุด



“งั้นเอามานี่” มันว่าเสร็จก็หยิบมือถือ กล้อง และโน๊ตบุ๊คที่อยู่บนโต๊ะไปพร้อมกับเสียงประตูที่ถูกกระชากออก ก่อนปิดลงด้วยเสียงสนั่นไม่แพ้กัน



“เฮ้ยมึงจะทำอะไร” เขารีบวิ่งตามไปหมายจะแย่งของคืน



แต่มันไวกว่า เข้าไปในรถก่อนสตาร์ทแล้วออกไปเลย ไม่รอให้เขาได้ทันตั้งตัว นี่มันปล้นกันชัดๆ มันคงคิดว่ารูปกับคลิปอยู่ในเครื่องล่ะสิ



ซึ่งมันคิดถูก ทุกอย่างอยู่ในนั้นทั้งหมดเลย ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยล้านตัว กลับมาก่อน จะทำแบบนี้ไม่ได้











ถึงนักอ่าน
     ขอคุณกำลังใจจากผู้ติดตามผลงานทุกคน
     แม้ไม่มีกลุ่มแฟนคลับหรือกองทัพนักอ่านเทใจให้
     แต่ก็จะพยายามสู้ต่อไปพร้อมกับทุกคนที่แวะเวียนมา
     ฝากพี่มิว น้องกาล และกองทัพหนุ่มหล่อแห่งมหาลัยจุดจุดจุดด้วยนะ
เรื่องนี้เปิดให้อ่านฟรี จะมีก็แต่ตอนพิเศษที่อยากขอกำลังใจจากทุกคน
กระนั้นก็สามารถข้ามตอนพิเศษไปได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อเนื้อหาโดยภาพรวม
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 5 /// 120918
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 13-09-2018 07:29:28
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 6 /// 130918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 13-09-2018 20:23:34

ตอนที่ 6

~กาล~



“เป็นอะไร ทำหน้าเป็นตูดตั้งแต่เมื่อวานละ กลับมาดึกๆ ดื่นๆ แล้วยังเอะอะโวยวายอะไรไม่รู้อีก” ไอ้ต้นเปิดวงตอนเช้าที่ใต้คณะ มันพูดเหมือนจะถามเขาในประโยคแรก ก่อนกลายเป็นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ไอ้เจ้าที่เมื่อวานเจ้าเข้านั่งเขียนนิยายจนถึงเช้า เลยไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ต้องมาฟังเอาจากรูมเมทมันพร้อมกับเขาที่โดนสวดไปในตัว

“มีเรื่องนิดหน่อย ช่างแม่งเหอะ” เขาปัดไปตามเรื่อง เพราะคงเล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้

พอกลับมาคิดแล้วยังแค้นไม่หาย ทีแรกก็แค่เฉยๆ ได้ลองอะไรที่ไม่เคยทำ แต่เรื่องดันบานปลายจนพาให้เกลียดขี้หน้ามันเข้าให้ เล่นแบบนี้ก็เกินไป ผมเป็นผู้ชายนะจะให้ไปเป็นทาสเกย์แบบมันโดยที่โดนแบล็คเมล์เรื่อยๆ แบบนั้นไม่เอาหรอก ถ้าคิดจะทำตามพล็อตนิยายที่มันเอากล่อมสมองทุกวันแล้วละก็ บอกเลยว่าพลาด เพราะเขาไม่ใช่พระเอกโง่ๆ ในเรื่องแบบนั้นแน่นอน

“เอ้าไอ้นี่ คนเขาอุตสาห์เป็นห่วง” คนเปิดประเด็นตัดพ้อ ไอ้ตอแหล

“เอาความเป็นห่วงเป็นใยของมึงมาช่วยกูตอนซ้อมประกวดดีกว่า ไม่ใช่หายหัวไปทั้งคู่ ไอ้เจ้าพอเข้าใจแม่งทำงาน ส่วนมึงกลับไปก็เล่นแต่เกม ไม่ได้มีสาระอะไรขึ้นมาเลย มึงจะเป็นนักกีฬาอี-สปอร์ตหรือไง” เงียบทั้งวง

ผมเอาความอัดอั้นที่สุมกันอยู่ในใจมาลงที่มันสองตัวเสียได้ ขอโทษนะพวกมึง แต่ไม่รู้จะไประบายกับใครได้แล้ว จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังก็กระดากปาก

“มึง... มีคนมาหา” ไอ้เจ้าเรียกผมจากภวังค์

หันไปตามทางที่ไอ้เจ้าชี้ก็พบกับโจทย์ซึ่งทำให้เขาแทบเป็นบ้า มันมาทำอะไรอีก อย่าบอกนะว่าจะมาเอาคืนเรื่องเมื่อวาน มันต่างหากที่ผิด ผิดเต็มๆ แบบไม่ต้องหารใครเลย

“มีอะไร” ผมถามออกไปเสียงห้วน มองหน้าคนบูดบึ้งไม่สมกับตัวมันเลย ปกติเห็นลอยหน้าลอยตายิ้มให้คนเขาไปทั่ว ไม่ได้สังเกตหรอก ก็ตอนมันอยู่กับผมก็เป็นแบบนั้น

“มาเอาของคืน ส่วนพวกนั้นเดี๋ยวจะลบทิ้งให้”มันทวงของที่ผมเอามา มือถือ โน๊ตบุ๊ก กล้อง เรียกได้ว่าชีวิตทั้งชีวิตอยู่ในกำมือผม

“กูไม่ไว้ใจมึงหรอก” นั่นเป็นความจริงที่แฝงไปด้วยความระแวง เพราะโดนมากับตัว ไม่ยอมกลับไปซ้ำรอยอีกแน่

“กูต้องทำงานอย่ามาลีลาได้ไหม มือถือให้รีเซ็ตเครื่องเลยก็ได้ แต่โน๊ตบุ๊กต้องเอามาทำงาน เสร็จงานนี้เดี๋ยวให้มึงล้างเครื่องเลย ส่วนกล้องมึงเอาเมมไป พอใจไหม” มันร่ายยาวมา แต่ผมก็ยัง...

“ไม่” ไม่ไว้ใจมันอยู่ดี

“ฟังนะน้อง...” เป็นครั้งแรกเลยที่มันพูดเหมือนกับตัวเองเป็นผู้ใหญ่ โดยเรียกผมว่าน้อง ทั้งยังยืนค้ำหัวให้ดูเหมือนกำลังกดขี่ผู้น้อย

“รูปมันไม่ได้แบ็คอัพไปที่ไอโฟนเครื่องเดียว กูมีไอแพดอีกเครื่องหนึ่ง และรูปทั้งหมดอยู่ในนั้นด้วย ถ้ากูจะแกล้งจริงตอนนี้มึงดังไปแล้ว”

“เหี้ย!” จริงหรืออำกันเล่นว่ะเนี่ย

“จะให้เปิดตอนนี้เลยก็ได้” มันว่าพร้อมหยิบไอแพดที่ปลดล็อคหน้าจอแล้วยื่นมาตรงหน้าผม

“หยุด แล้วมากับกูที่รถ” กระชากแขนคนตัวเล็กออกมาจากวงล้อมความสงสัยของเพื่อนทั้งสองแทบไม่ทัน ผมดูถูกสกิลความร้ายกาจของมันไม่ได้จริงๆ

.

.

.

มันใส่พาสเวิร์ดในแมคบุ๊กโปรเป็นอย่างแรก เปิดเข้าไปในแฟ้มงานที่เก็บรูปและคลิปของผมไว้ ลบและล้างถังขยะต่อหน้าเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ

“รู้ได้ไงว่าจะไม่กู้ไฟล์คืน” สมัยนี้มันทำได้ทุกอย่างแล้ว ลำพังแค่ลบไปไม่ทำให้ผมสบายใจขึ้นมาเลย โดยเฉพาะกับคนตรงหน้าที่มีฝีมือในการสับขาหลอกได้ยิ่งกว่านักฟุตบอล

“ขอกูจบโปรเจคนี้ก่อนได้ไหม แล้วจะเอามาให้มึงล้างเครื่องทิ้งเลย” มันเสนอแนวทางแก้ไขแบบเฉพาะหน้าให้

“ถ้ามึงย้ายไปเก็บไว้เครื่องอื่นล่ะ” มันมีโอกาสเป็นแบบนั้นสูงมาก

“ไปอยู่กินกับกูที่คณะเลยไหม เครื่องนี้กูใช้ตอนเย็น มึงก็ไปนั่งเฝ้ากูทำงานให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย” ความคิดนี้น่าสน

“งั้นกูเก็บเครื่องมึงไว้ก่อน” มันไม่ว่าอะไร ส่งแมคบุ๊กคืนให้เขาอย่างว่าง่าย

“มือถือแค่มาเอาซิม ที่เหลือมึงจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของมึง กูปลดรหัสให้แล้ว” มันเอาถาดใส่ซิมออก จากนั้นก็คืนเครื่องให้ผม

“อ้อ เอาไอแพดไปด้วยสิ กูไม่ได้ตั้งพาสเวิร์ดไว้” แล้วมันก็ยื่นมาให้อีก

ส่วนกล้องมันยื่นเมมโมรี่การ์ดมาให้ผม หลังจากนั้นก็เปิดประตูลงไปจากรถพร้อมกล้องที่สะพายไว้บนไหล่ขวา นี่มันรวยหรือโง่กันว่ะ แถมหนีไปไม่ลากันสักคำอีกละ แต่ก็เป็นผลดีกับผมทั้งนั้น ทั้งของและความลับที่มันไม่เอาไปแพร่งพรายที่ไหน ขอให้คะแนนความประพฤติจากติดลบร้อยเป็นลบเก้าสิบเก้าละกัน

เอาเข้าจริง ถึงยังไงฝ่ายนั้นก็ถือไพ่เหลือกว่า เพราะผมไม่มีทางรู้เลยว่ามันจะไม่แอบเซฟรูปไว้ที่อื่นนอกจากอุปกรณ์สามสี่อย่างที่ผมยึดเอาไว้ คนอย่างมันต้องไม่เล่นบทง่ายแบบนี้โดยไม่มีแผนสองหรอก

.

.

.

ตกเย็นผมก็มาอยู่หน้าคณะนิเทศศาสตร์ หลังรบเร้าให้พี่สโมปล่อยก่อนเวลาซ้อม เพื่อมาเป็นพยานปากเอกให้กับโน๊ตบุ๊กของมันว่าเจ้าของจะไม่แอบทำมิดีมิร้ายกับความลับของผม เพราะเกมโง่ๆ เกมเดียวพาผมมาพัวพันกับเรื่องบ้าๆ แบบนี้อย่างเหนื่อยใจ แทนที่จะมีชีวิตปกติสุขตามแบบฉบับคนหล่อในมอดัง กลับต้องมาแบกร่างไปนั่นมานี่เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ แถมยังโดนเกย์คนหนึ่งตามรังควานไม่เลิกอีก ชีวิตพระเอกทำไมไม่เหมือนในนิยายของไอ้เจ้ามันเลย

กาลเวลาช่วงนี้อย่าทักบ่อย : อยู่หน้าคณะแล้ว ให้เข้าไปหาตรงไหน

มิวเฉยเฉยสุภาพกับกูหน่อย : เดินเข้ามาก็เห็นเอง ถ้ามีคนถามก็บอกว่ามาหากู

รอไม่นานเสียงแจ้งเตือนของคู่สนทนาผ่านแอปเขียวยอดนิยมก็ดังขึ้น คำตอบของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการปล่อยให้เขาเดินเข้าไปถามทางเอง

ใต้ตึกนิเทศอึกทึกไปด้วยเสียงจากรอบทิศ ทั้งหลีดที่ซ้อมอยู่กลางลานกว้าง กองสันที่ร้องรำทำเพลงอยู่ไม่ไกล และอีกหลายกลุ่มที่ล้อมวงจดจ่อกับหน้าจอ เกมบ้าง งานบ้างปะปนกันไป ว่าแต่มันอยู่ไหนเนี่ย

“น้องกาลหาใครอยู่เหรอ” สาวสองคนหนึ่งปลีกตัวจากกลุ่มเพื่อนที่ร้องเพลงเชียร์อยู่เข้ามาถามไถ่เขาที่กำลังชะเง้อมองหาคนอยู่บริเวณทางเดินใต้ตึก

“ไอ้มิว เฮ้ย พี่มิว” เผลอปล่อยสันดานที่ใช้กับมันกับคนอื่นแล้วไหมล่ะ

“มีอะไรหรือเปล่าถึงมาหาพี่เขา” ดูท่าความหวังดีก่อนหน้าจะโดนต่อมเสือกเข้าเล่นงาน น่าจะบอกทางให้หรือถ้าไม่รู้ก็จะได้ปลีกตัวไปที่อื่น

“ตามมา”ไม่ทันได้ตอบคำถามของเธอ มันก็เดินเข้ามาเรียกเขาให้ตามไปยังกลุ่มของตัวเองที่จับจองโต๊ะตัวยาวแถวหนึ่งไว้

สายไฟระโยงระยาง โน๊ตบุ๊กเอย จอมอนิเตอร์ และไอแมคเครื่องโตเรียงรายอยู่เต็มพื้นที่ ผมยื่นแมคบุ๊กโปรที่ถือมาให้มัน

ก่อนหาที่ว่างแล้วนั้นนั่งลงไม่ไกลจากตัวการซึ่งทำให้ผมต้องมาจมจ่อมอยู่กับคณะที่ไม่เคยเงียบเหงาแห่งนี้ แถมสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมาตั้งแต่เดินเข้าคณะจนถึงกลุ่มของมันก็ทำให้ผมหงุดหงิดไม่ใช่น้อย หลายคนเลิกสนใจงานตรงหน้าหรือหยุดเล่นเกมเพื่อมาเสือกเรื่องของผมว่า ไอ้เด็กวิศวะคนนี้มานั่งอยู่ตรงนี้ได้ยังไง

คงไม่ต้องสืบหาต้นสายปลายเหตุหากมันจะมีกระแสก่อตัวในโซเชียล ทั้งภาพ คลิป และบทบรรยายมาเต็มเฟซและทวิตแน่ แต่เรื่องนั้นคงยกยอดไปแก้ข่าวเอาทีหลังหรือคงปล่อยให้มันซาลงเอง ผมขอโฟกัสปัญหาตรงหน้านี้ก่อน เพราะมันจะต้องถูกปกป้องและคุ้มครองเป็นอันดับแรก ยุ่งแน่ถ้ามันแกล้งปล่อยภาพลับหรือคลิปอุบาทว์ของผมไปสักรูปหรือสักคลิป

“ถ้าเบื่อก็ไปเดินเล่นแถวนี้ก่อนก็ได้ ไว้ใจกูหน่อย ห่านี่” คนต้นเรื่องหันมาว่าผมที่นั่งจ้องมันไม่วางตา

“คำพูดของโจรมันไม่มีน้ำหนักหรอก” เขาว่า

“อยากหนักไหม เดี๋ยวก็ถีบหรอก หยุดจ้องได้แล้วกูไม่มีสมาธิ” มันโต้กลับ

“เขินหรือไง มีคนหล่อมาเฝ้าแบบนี้” แซวมันไปแบบไม่จริงจังมาก เพราะเขาเองก็อายไม่น้อยที่ต้องมานั่งรอมันทำงานกลางวงล้อมของคนแปลกหน้านับร้อยแบบนี้

“เห็นจนหมดไส้หมดพุงแล้วจะเขินเหี้ยอะไรอีก” ไม่ว่าเปล่า หันมาจ้องตาผมจนต้องหลบไปมองกลุ่มผู้หญิงโต๊ะข้างๆ ที่นั่งซุบซิบกันอยู่ แม้ไม่เข้าข้างตัวเองก็พอรู้ว่ากำลังคุยเรื่องผมอยู่แน่ถ้าดูจากสายตา

“เอาอะไรไหมจะออกไปซื้อของข้างนอก” ทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหวแล้ว ขอไปยืดเส้นยืดสายหน่อยละกัน ก็อย่างที่ว่ามา ถ้ามันจะคิดไม่ซื่อกับข้อตกลงก็คงทำได้ไม่ยาก เขาจะลองไว้ใจมันอีกสักครั้ง 

“ของที่แดกได้อะไรก็เอามาเหอะ”

มันว่าเสียงเหวี่ยงนิดหน่อย จู่ๆ ก็อารมณ์บูด จะให้ตามทันได้ไงเนี่ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเป็นไบโพล่าร์หรือไง

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 6 /// 130918
เริ่มหัวข้อโดย: สีหราช ที่ 14-09-2018 08:23:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 6 /// 130918
เริ่มหัวข้อโดย: สบันงา ที่ 24-09-2018 00:53:59
มาต่อเถอะค่ะ   :mew2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 6 /// 130918
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 24-09-2018 01:47:14
มารอด้วยคน หายไปนานคิดถึง  :mew2:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 7 /// 240918
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 24-09-2018 12:07:23
~ มิว ~



มันออกไปได้สักพัก แต่คำถามของพวกขี้เสือกที่โถมเข้ามายังไม่มีทีท่าจะซาลง และดูเหมือนว่าเขากำลังกลายเป็นระเบิดเวลาที่ใกล้หมดความอดทนแล้ว จะให้กูเล่าที่มาที่ไปให้หมดเปลือกเลยเอาไหม แต่กูบอกไม่ได้ไง ขืนพูดไปมีหวังความนิยมในฐานะหนุ่มหน้าหวานที่ฮอตที่สุดในมอก็มลายหายไปกับลมปากที่เขาเล่าแน่

“หยุด เงียบเลย กูจะทำงาน” เขาปรามพวกมันด้วยเสียงแข็งกร้าว ดัดมันให้น่ากลัวที่สุด ทว่าเขาดันดูถูกต่อมเสือกของคณะตัวเองไปเสียได้

“มึงไม่ได้ทำงานแน่ถ้าไม่เคลียร์กับกู รู้ไหมลูกเพจเขารอฟังคำตอบ อีกอย่างถ้ามึงไม่พูดมา กูจะลดปริมาณการลงรูปมึงเท่าตัวหนึ่ง” แอดมินเพจคิ้มบอยตั้งกล้องเตรียมอัดคลิปคำตอบของเขา พร้อมคำขู่ที่เหมือนจะปิดเส้นทางการเป็นหนุ่มหน้าหวานยอดนิยมในอนาคต

“กูไปซบอีกเพจก็ได้” ใช่จะกลัว ในมอมีเพจเป็นสิบ และเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่เรียกยอดไลก์ให้เพจมัน

“อีสัด อีคนเนรคุณ มึงไม่สำนึกเลยหรือไงว่าที่มีกินมีใช้ทุกวันนี้เพราะใคร” มึงใช่พ่อแม่กูไหม เพจมึงไม่ได้ทำเงินให้กูเลย เพราะกูเป็นคนดังที่ไม่รับงานฮาฮาฮา เพราะเสียเวลาอ่านนิยาย แค่เศษเงินไม่กี่บาทกับความเหนื่อยที่ต้องแลก สู้เอาเวลาไปดูหุ้นในตลาดสบายกว่าอีก

“ตอบมา” ยังไม่ยอมแพ้ กลายเป็นกูที่อยากยอมแพ้มึงแทนแล้วเนี่ย

“ไม่ได้เป็นอะไรกัน แค่เจอกันโดยบังเอิญเข้าใจไหม” ตอบส่งๆ ไปก่อน รำคาญเสียงนกเสียงกาและหูตาที่สอดส่องมาโดยให้อีป้าแนนแอดมินเพจดังเป็นหน่วยกล้าตายมาหาข้อมูลลับ

“อะไรอีนี่ แบบนั้นมันจะสนุกได้ยังไง มึงต้องตอบว่า ‘สถานะตอนนี้ยังไม่ชัดเจน’หรือไม่ก็ ‘น้องเขายังไม่อยากบอก’แบบนี้สิยะมันถึงจะปัง” อะไรมันยัดอยู่ในหัวมึง สมองน่ะมีไหม

“กูจะทำงาน รอมันกลับมามึงก็ไปถามเองแล้วกัน” โยนขี้ไปให้เลยแล้วกัน

“ได้ กูจะง้างปากน้องกาลด้วยปากกูเอง” ทุเรศ เคยมีบ้างไหมคำว่าศีลธรรมในใจมึง เออจะว่าไปกูก็ไม่มีเหมือนกัน ช่างแม่ง

“นั่นไงมาแล้ว” เขาหันไปตามเสียงของอีป้า มันเดินเข้ามาพร้อมของในมือที่ยิ่งกว่านิยามของคำว่าเยอะ โคตรเยอะเลย ซื้อหรือไปเหมาเซเว่นมากันว่ะ

“เห็นพี่ๆ ทำงานเหนื่อยก็เลยเอามาฝากครับ” มันวางของไว้บนเก้าอี้ตัวยาวที่เชื่อมติดกับโต๊ะ พร้อมโปรยยิ้มแจกความสดใสให้พวกนิเทศได้หลงความป๋า แหมมมมมมมซื้อพื้นที่โฆษณาเต็มคณะกูเลยนะ กลัวขายไม่ออกหรือไง

“น้องกาลใจดีจังเลย ใจดีแบบนี้คงไม่ใจร้ายหรอกนะถ้าพี่บอกว่ารัก” มันยิ้มหน้าเจื่อนให้กับฝูงแร้งที่บินโฉบเข้ามารุมถุงขนมตรงหน้า

“แต่พี่มีคำถามหนึ่งอยากถามน้องกาลมากๆ เลย พอดีว่าคนแถวนี้มันไม่ยอมตอบ” กูตอบไปแล้ว มึงไม่ให้น้ำหนักกับคำตอบกูต่างหาก

“อะไรเหรอครับ” จะเหล่มาทางกูทำไมไอ้เด็กนี่ กูไม่ใช่ต้นเรื่อง

“น้องกาลเป็นอะไรกับอีมิว” มันเกียรติกูหน่อยป้า กูคณะเดียวกันกับมึงนะ

“ไม่ได้เป็นอะไรกันครับ” ตรง ชัด แล้วจบไหมมึง กูก็บอกไปแล้ว

“สักนิดก็ไม่มีเหรอคะ” ยังไม่หยุดและไม่คิดจะยอมแพ้ กูละยอมใจ

“ไม่ครับ” มันก็ตอบไปตามจริง

“แล้วทำไมต้องซื้อของมาเยอะแยะ มาเฝ้ามาคอยกันแบบนี้ด้วย” เพราะกูทำแสบไว้เยอะไง มันต้องมาคุมความประพฤติ

“นิดหน่อยครับ” เออนิดหน่อยเอง ไม่ได้มีอะไรกันลึกซึ้งขนาดนั้น

“ยังไม่เคลียร์ค่ะ นิดหน่อยนี่ขนาดไหน” ใหญ่พอดูก็คับปากกูเลย ล้อเล่น

ส่วนอีแอดมินเพจมึงหัดมีความเกรงใจกันบ้าง นั่นเด็กปีหนึ่งเองนะ มึงจะมาสอบปากคำเขาเหมือนผู้ต้องหาไม่ได้

“ไว้มันชัดเจนกว่านี้ผมจะมาบอกนะครับ” ฉลาดตอบ ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับคนแก่ไปแบบนั้นแหละดีแล้ว อยู่เป็น อยู่เป็น เพราะไม่ว่าความจริงจะเป็นยังไงก็ไม่มีใครรู้อยู่ดี พวกสายมโนต้องมีลุ้นละว่ะ โดยเฉพาะอีป้าซึ่งต้องยอมตกลงกับการรอคอยนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้

“พี่จะรอนะ”นั่นไง

“ครับ”มาเหนือว่ะ

.

.

.

Cute BOYYY : //แนบรูป // มันมีกลิ่นค่ะท่านผู้ชม

แถมฝ่ายวิศวะตอบกับแอดว่าอะไรมันยังไม่ชัดเจน ขอเวลาหน่อย

ก็ให้เวลาเขากันหน่อยนะคะ


ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : นั่นไง #กาลมิว #ทีมกาล #ทีมมิว

เด็กหญิงม้าลายกับแมวของเธอ : เปิดตัวก่อนประกวดเดือนจะกระทบไหมนะ

นางงามมาเอง : ตอบข้างบน ส่วนตัวพี่ว่าไม่มีผลค่ะ เพราะนี่มันไทยแลนด์ 4.0 ถึงยังไม่มีเลือกตั้งก็ตาม

ประชาธิปไตยเท่านั้น : เมื่อไหร่จะได้เลือกตั้ง ใครให้สัญญาไว้ว่ะ

Cute BOYYY : แอดว่ากลับเข้าประเด็นดีกว่า ยังไม่อยากปิดเพจ

น้องแนน อยากให้ผู้ชายรักกัน : แบบนี้มันเหมือนการเปิดตัวหรือเปล่าคะ #กาลมิว#ได้กัน

ภรรยาของสามีทุกคน : ในที่สุดน้องมิวก็เป็นฝั่งเป็นฝา#ทีมมิว

แรดมาก็สวยกลับ : อีมิวมีผัวแล้วหรอ แห้งมาตั้งนาน ที่แท้ก็เลือกผู้นี่เอง#มิวแรด

สวยสวยสวย : อาจแค่สร้างกระแสก็ได้ อีกไม่กี่เดือนนิเทศจะมีงานใหญ่นี่ #มิวแรด

รวยรวยรวย : น้องกาลไม่น่าใฝ่ต่ำเลย เสียดายของ #มิวแรด

เด็กนิเทศสายหวาน : เห็นน้องกาลซื้อขนมมาให้พี่มิวเยอะเลย

น้องแก้ว สายซับ : เสียดายทั้งคู่เลย ตามพี่มิวมาตั้งสามปีเป็นเกย์เหรอเนี่ย #ทีมกาล อย่าได้กันเลย

ชาววิศวะรวมใจ : ใครจะได้กันก็เรื่องของเขาสิ มาเสือกกันทำไม

หัวหน้าสมาคมสาวโสด : น้องกาลของพี่

ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : ไม่ชอบก็ส่วนไม่ชอบสิคะ มาว่าเขาเสียๆ หายๆ ที่บ้านสอนมายังไง

รวยรวยรวย : พื้นที่ส่วนตัว

ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : เปิดพจนานุกรมเป็นไหมค่ะ เฟซบุ๊กนะไม่ใช่ห้องนอน จะส่วนตัวได้ไง

รวยรวยรวย : ฉันรวย

ดอกสีทองไม่เหลืองแล้ว : เออ กูก็รวยเหมือนกัน แน่จริงบินไปขี้ที่ปารีสกับกูไหม

Cute BOYYY : เอิ่ม... ใจเย็นๆ ทุกคน แอดว่าอย่าพึ่งไปขี้ไกลถึงปารีสเลย

.

.

.

มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ไม่ใช่สัจธรรม แต่มันเป็นธรรมดาของโลกนี้ไปแล้ว แค่นี้ไม่ทำให้เขาเป็นโรคซึมเศร้าหรอก ตั้งแต่จำความได้และรู้ตัวว่าชอบผู้ชาย ก็ทำใจมาระดับหนึ่งแล้วว่าต้องมีคนไม่เห็นด้วย นับตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงสังคมข้างนอก แต่จะให้เขามาปิดตัวเองแล้วปรับให้ไปชอบผู้หญิงตามความคาดหวังของสังคมก็ใช่เรื่อง ไม่ยอมรับก็ช่างสิ ไม่ได้ง้อใครอยู่แล้ว

“ช่างแม่ง” เขาส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่าน กลับมาสนใจงานตรงหน้าก่อน นี่ก็ดึกมากละยังไม่คืบเลย ส่วนไอ้เด็กที่มาตามเฝ้าก็นั่งสัปหงกไม่ห่วงภาพลักษณ์เลย แต่มันหล่อไง ขนาดหลับยังมีคนกรีด แถมชมว่าน่ารักอีก

“กูส่งส่วนของกูไปให้แล้วนะ” ไอ้นัทเงยหน้าจากหน้าจอตัวเองเพื่อบอกกับเขาที่พยักหน้ารับคำ ทันทีหลังเสียงแจ้งเตือนดังขึ้นยืนยันว่างานของมันส่งมาถึงแล้ว

ไอ้ตัวสูงลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วก้มมองเด็กปีหนึ่งที่กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ข้างเขาไม่วางตา มันคงจำได้เพราะว่าวันนั้นเขาขอให้มันไปส่งที่คณะวิศวะเพื่อคืนของให้ไอ้เด็กนั่น

“มีอะไรเหรอ” ผมถามมันไป เพราะไอ้นัทยังจ้องคนที่ไม่สนโลกอยู่อย่างนั้น หรือแอบไปมีเรื่องกันลับหลัง ปกติเพื่อนคนนี้ต้องไม่สนใจใครอยู่แล้วนอกจากนอนกับหนังสือปรัชญาที่มันอ่าน

“เปล่า” มันปฏิเสธพร้อมเบือนหน้าไปอีกทาง เอากับมันสิ

“แล้วไปจ้องมันทำไม” ไม่ได้คิดจะปกป้องคนที่หลับอยู่หรืออะไรเทือกนั้น แค่สงสัย

“เปล่า” เปล่าอีกละ แต่กูเห็นมึงจ้องมันตาแทบถลน

“แค่สงสัยว่ามันเล่นเกมหรือเปล่า กูเจอเด็กวิศวะในเกม พอดีมีเรื่องกันนิดหน่อย” มันว่า

“มึงเล่นเกมด้วยเหรอ แต่มีเรื่องอะไรถึงขั้นจ้องเขม็งขนาดนั้น” ว่าไอ้ตัวสูงสองคนจะไม่มีซัมติงกันหรอกนะ เอะ หรือว่ามันแอบกิ๊กกัน

“ไม่ไม่ไม่” เขาพูดกับตัวเอง ไอ้เด็กนี่เกลียดเกย์จะตาย

“เป็นอะไร” กลายเป็นเขาที่ถูกถามแทน

“คงไม่ใช่มันหรอก” มันว่าต่อ ก่อนปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้เขางุนงงอยู่คนเดียว

ใกล้เที่ยงคืนแล้วควรปลุกมันกลับหอไปพักผ่อนดีไหมว่ะ หรือปล่อยให้นอนแบบนั้นต่อไป แต่ไม่ใช่ความผิดเขานี่ มันเลือกจะมาเอง

“มึงเอาอะไรไปตกมันมาว่ะ” อีจอยที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเปิดประเด็นเป็นครั้งแรก เห็นนั่งเงียบที่แท้ก็เก็บข้อมูลอยู่ กูมองพวกมึงในแง่ดีไม่ได้เลยจริงๆ

“ซื้อมา” พูดทีเล่นทีจริงไป ทว่าในนั้นก็แอบมีความจริงอยู่ เพราะน้ำแรกของเขากับมันก็เสียไปเกือบหมื่น ถือว่าเป็นค่าทำขวัญเด็กน้อยละกัน

“ถ้ามึงซื้อจริงกูว่างานนี้คุ้ม” กูก็คิดแบบมึงเลยทุ่มไม่อั้นไปตั้งแต่ต้น

“ฮาฮาฮา ระดับกูไม่เอาหรอกพวกเกรดต่ำ”

“กระแสมาแรงมาก มึงก็เห็นแล้วใช่ไหมพวกแอนตี้มึงหลังมีข่าวกับน้องมัน” เห็นชัดเต็มสองตาเลย เหลือแค่หูที่ยังไม่ได้ยินใครนินทาให้ฟัง

“อืม”

“ตัวเต็งเดือนมหา’ลัยเลยล่ะ เท่าที่กูไปเซอร์เวย์มา มันทั้งหล่อและเพียบพร้อมกับตำแหน่งที่สุดแล้ว ไม่มีใครเทียบได้นาทีนี้” นางยังร่ายยาวต่อ ได้ข่าวว่ากูกับมึงยังทำงานไม่เสร็จ

“อืม”

“แต่ไม่รู้ว่ากระแสนี้จะโดนเอาไปต่อยอดบนเวทีไหม กลัวน้องมันโดนกดคะแนนเพราะพวกแอนตี้น่ะสิ”

“อืม”

.

.

.

แยกย้ายจากพวกที่คณะเมื่อย่างเข้าวันใหม่ เขาปลุกมันกลับเพราะเห็นว่าพรุ่งนี้มันมีเรียนเช้า ไม่ได้เสือกหรอก แค่ถามตอนมันตื่น ถ้าไม่มีเรียนก็อาจขออยู่ต่อให้งานเสร็จ แต่พอรู้แบบนั้นเลยพามันเดินมาที่ลานจอดรถแบบนี้

“พรุ่งนี้กูก็ใช้โน๊ตบุ๊กนะ แต่มึงไม่ต้องมาเฝ้าก็ได้ หลังเลิกเรียนเดี๋ยวกูไปเอาที่มึงเอง” เขายื่นโน๊ตบุ๊กของตัวเองให้มัน

“เอาไว้ที่มึงนั่นแหละ แล้วก็นี่” มันเปิดประตูรถตัวเอง หยิบไอโฟนและไอแพดของเขาคืน

“งั้นเหรอ” แสดงว่ามันเลิกสงสัยในตัวเขาแล้วสินะ ก็เห็นกันอยู่ว่าเขาดีเลิศขนาดไหน เด็กนั่นต้องรับรู้สิ ความดีงามที่แผ่ซ่านขนาดนี้

“หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว” มันว่า

“อืม ขอโทษละกันที่เล่นแรงไปหน่อย” เขาพูดจากใจ เพราะมาคิดดูแล้วก็จริงตามที่ว่ามา เขาคงเล่นแรงเกินไป สมควรแล้วที่มันจะตัดพี่ตัดน้องแล้วขึ้นกูมึงอย่างนี้

“ช่างเถอะ ไปละ” มันขึ้นรถแล้วออกตัวไป ทิ้งเขาไว้ลำพังที่ลานจอดรถ

“ก็นะ ในนิยายเขาไม่ได้บอกว่าให้เริ่มแบบนี้นี่ ดันเดินผิดตั้งแต่ต้นก็สมควรแล้วล่ะ” สำหรับเขามันสมควรได้รับสายตาเย็นชาแบบนั้น

มันไม่ใช่พระเอกและเขาก็คงไม่ใช่นายเอก มันไม่ชอบเกย์ส่วนเขาเป็นเกย์ มันคงเกลียดเขาและแน่นอน เขาไม่ได้เกลียดมันขนาดนั้น ก็เป็นคนที่ซื่อตรงต่อตัวเอง หน้าตาดี มีฐานะ เรียนวิศวะ แม้สเปคจะตรงตามพล็อตเรื่อง แต่มันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว เขาทำให้มันเป็นแบบนี้ด้วยตัวเอง โทษมันก็ไม่ได้ที่เกลียดเกย์ พื้นฐานของสังคมเกินครึ่งก็ต้องคิดแบบนั้น ชายหญิงเกิดมาควรเป็นตัวผู้และตัวเมียตามปกติของธรรมชาติ เขาแค่ปลีกตัวออกมาจากกฎเกณฑ์การเลือกสรรของธรรมชาติที่คนส่วนใหญ่กำหนดขึ้นก็เท่านั้น

โสดมาทั้งชีวิตกับแค่เด็กคนหนึ่งที่ผ่านเข้ามาไม่กี่อาทิตย์มันจะไปยากอะไร เดี๋ยวก็คงลืม ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้น พรุ่งนี้ก็ลืมละ แค่คนๆ หนึ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิตพอให้เป็นสีสัน ใช่ ต้องใช่สิ

“เอาล่ะ เริ่มต้นใหม่พรุ่งนี้”ใ นฐานะหนุ่มหน้าใสแห่งมหาวิทยาลัยจุดจุดจุด ต้องรีบกลับไปนอนเพื่อความอ่อนเยาว์ของผิวหน้า

.

.

.

ลาก่อนมึง




หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 7 /// 240918
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 24-09-2018 13:29:26
ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 7 /// 240918
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 24-09-2018 14:31:58
 :katai2-1:รอๆๆ
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 8 /// 240918 new
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 24-09-2018 21:41:59
ตอนที่ 8

งานใหญ่ต้นเทอมแรกคงไม่พ้นการประกวดดาวเดือน นอกจากจะเรียกสปอนเซอร์มาถมเวทีที่จัดเต็มทั้งแสงสีเสียง เรียกได้ว่าอลังการงานสร้าง แต่ก็ยังไม่มากเท่ากองเชียร์จากคณะต่างๆ ที่ขนกันมาจนแน่นหอประชุมใหญ่

การประกวดเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นเป็นต้นมา การแสดงหลากประเภทจากหลายผู้เข้าประกวดผ่านไปทีละคู่ ไม่ปล่อยให้เวทีเปลี่ยวเหงาแม้แต่นาทีเดียว เสียงจากคนดูก็คอยเป็นกำลังใจให้กับผู้เข้าประกวดบนเวทีที่ตื่นเต้นมากกว่าใครในงานใหญ่นี้

จากรอบการแสดงค่อยๆ ตัดเชือกเข้ามาจนเหลือผู้เข้าประกวดเพียงสิบคนจากทั้งชายหญิงอย่างละครึ่ง กองเชียร์ฝ่ายที่ยังมีตัวแทนอยู่ก็คอยส่งกำลังให้คนของตน ส่วนคณะที่ไม่มีผู้เข้าประกวดในรอบนี้ บางส่วนก็สลายตัวไปเชียร์คนที่ชอบ หรือบอกลางานใหญ่นี้ไปพักผ่อน แต่นั้นไม่ทำให้ความคับแน่นด้านล่างเวทีลดลงแม้แต่น้อย

กระทั่งรอบตอบคำถามมาถึง ทุกเสียงเงียบลงหลังสิ้นคำถามของแต่ละคน ให้ผู้เข้าประกวดได้ใช้เวลาเพียงเสี้ยวนาทีคิดและตอบคำถามออกไป ซึ่งหลายคนแสดงความเหนือกว่า พร้อมทลายอคติที่มักถูกหาว่าหน้าตาดีแต่ไร้สมอง การตอบคำถามจึงเป็นเชาว์ปัญญาอย่างหนึ่งที่เข้ามาแก้ข้อครหาดังกล่าว

“คนสุดท้ายของฝ่ายชายเชิญได้เลยค่ะ” เสียงพิธีกรเรียกตัวแทนจากคณะวิศวะมายืนกลางเวที เพื่อตอบคำถาม

“หล่อทะลุรองพื้นออกมาเลยนะคะสำหรับคนนี้” พิธีกรฝั่งซ้ายแซวเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ แต่มันหล่อจริงๆ นั้นแหละ หล่อทะลุจนเสียงกรีดกลบบรรยากาศภายในหอประชุมจนแทบไม่ได้ยินเสียงคนข้างๆ

“ยิ่งกระแสช่วงนี้กับบางคนทำให้ถูกพูดถึงอยู่บ่อยๆ ในเฟซและทวิตนะคะ” พิธีกรอีกคนชงต่อ

นั่นไง อยู่ดีๆ ก็ถูกโยงเข้าให้ ขออยู่อย่างสงบหลังเวทีไม่ได้หรือไง นี่เขาไม่ได้เจอมันร่วมสัปดาห์ ยังจะหาเรื่องให้อีก แน่นอนว่าบนเวทีนั่นมีอีป้าแนนสายเสือกร่วมอยู่ด้วย

“ไม่แซวละเดี๋ยวหลังเวทีจะว่าเอา” เอาที่พวกมึงสบายใจเลย

“งั้นซองคำถามสุดท้ายนี้เป็นของน้องกาลจากคณะวิศวะนะคะ” พิธีกรชูซองคำถามให้ผู้ชมข้างล่างและผู้เข้าประกวดที่ต้องตอบคำถาม

“คำถามมีอยู่ว่า เอิ่มมมมใครคิดคะเนี่ย” ป้าแนนถึงกับอึ้ง ดูเหมือนว่าจะแปลกใจกับเนื้อความข้างในพอสมควร ไม่งั้นคงไม่หลุดปากออกมากลางเวทีใหญ่แบบนี้แน่

“คุณคิดว่าเพศสภาพมีความสำคัญต่อตำแหน่งดาวและเดือนของมหาวิทยาลัยหรือไม่ แล้วคุณจะตอบสังคมอย่างไรหากคุณไม่ใช่หญิงหรือชายแท้ แต่ได้เป็นตัวแทนออกไปทำกิจกรรมให้กับสังคมภายนอกในฐานะดาวและเดือนมหาวิทยาลัย” ป้าแนนอ่านจบพร้อมความเงียบภายในฮอลล์

มันใช่คำถามไหมเนี่ย ดูเหยียดเพศและเหยียดหยามเพศสภาพอื่นฉิบหาย แล้วดันมาลงล็อกที่ไอ้เด็กคนนี้ที่กำลังมีประเด็นกับเขาอีกด้วย หรือคำถามนั่นมันกำลังด่าเขาที่เป็นเกย์กันนะ

คนในฮอลล์ต่างรอคำตอบจากผู้ประกวดเดือนคณะวิศวะอย่างใจจดใจจ่อผิดกับรอบที่แล้วมา รวมทั้งเขาด้วยที่ลุ้นว่ามันจะตอบอะไร

“ครับ...” แล้วก็เงียบไป อย่าเงียบสิไอ้บ้า คนเขารอกันเป็นพัน รอคำตอบจากปากมึงเนี่ย

“ขอไม่ขอบคุณคำถามแล้วกันนะครับ...” อะไรว่ะ

“เพราะผมคิดว่ามันไม่ได้สร้างสรรค์พอจะเป็นคำถามในการประกวดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้” เออ ตรงและเจ็บดี คนตั้งคำถามโดนตบหน้าไปหนึ่ง

“ในเมื่อคุณสงสัยในสิ่งที่ไม่ควรสงสัยในยุคที่เราต่างตระหนักกันถึงความเหลื่อมล้ำและความความเท่าเทียมในสังคม...” มันพูดเสียงนิ่ง ไม่ได้ใส่อารมณ์เข้าไปในคำพูดเหล่านั้น

“ผมอยากถามกลับมากกว่าว่า สิ่งสำคัญสำหรับการเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเพื่อออกไปสร้างประโยชน์แก่สังคม จำเป็นไหมที่ต้องแบ่งเพศ จำเป็นไหมที่ต้องแบ่งแยกว่าเป็นชายหรือหญิงแท้หรือไม่” ทุกคนต่างเงียบให้กับคำตอบนั้น และรอประโยคต่อไปอย่างนิ่งสงบ จนได้ยินแม้แต่เสียงหายใจของคนใกล้ตัว

“ผมแทบไม่ต้องตอบสังคมเลย หากผมเป็นเกย์แล้วได้เป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย ผมจะตอบอะไร ตอบทำไม และเพื่ออะไรครับ หากสิ่งที่ผมทำมันสร้างประโยชน์ มันช่วยเหลือ และมันได้ตอบแทนคืนสังคมที่ผมอยู่” เขาคงต้องมองมันใหม่แล้วหรือเปล่า

“ความจริงแล้วสังคมต่างหากที่ต้องตอบคำถามผม หากสังคมนั้นกำลังสงสัยในศักยภาพของมนุษย์คนหนึ่งโดยเอาเพศสภาพมาเป็นข้ออ้างในการดูถูกกันเอง...” มันทิ้งช่วงอีกครั้ง ทิ้งให้คนฟังได้ขบคิดตาม

“ผมสงสัยมาตลอดว่าการประกวดนี้จะให้อะไรกับผม...” เหมือนมันจะออกนอกประเด็นไปอีกเรื่อง หรือพยายามโยงอีกประเด็นให้เข้ามาในเรื่องนี้กันแน่

“ตอนนี้ผมรู้แล้วครับว่าผมได้อะไร...” ทุกคนก็ยังคงให้เกียรติมันโดยการไม่ส่งเสียงแทรกใดๆ

“การประกวดนี้ได้ชี้แนวทางในอนาคตกับผมว่า อย่าโตไปเป็นผู้ใหญ่เหมือนกับคนที่กำลังตั้งคำถามกับผมในขณะนี้ เพราะผมไม่มีคำตอบให้ ขอบคุณที่รับฟังครับ” สิ้นเสียง

ทั้งฮอลล์ตกอยู่กลางวงล้อมของเสียงปรบมือและเสียงกรีดจากทั้งชายหญิงและเพศอื่นๆ ซึ่งมอบให้กับการคำตอบที่มันย้ำนักย้ำหนาว่าไม่ใช่ตอบ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นยิ่งกว่าคำตอบที่ใครต่างคาดหวัง เพราะมันทำได้เกินคาดมาก เจ็บ แสบ แถมยังกินใจอีก

กว่าเสียงภายในหอประชุมใหญ่จะสงบได้ก็ใช้เวลาอีกครู่หนึ่ง และเป็นหน้าที่ของพิธีกรสองคนที่ต้องเข้ามาดูแลความเรียบร้อยจากเสียงนับพัน

“และนั่นคือคำตอบของผู้เข้าประกวดเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ค่า............................” ป้าแนนรับบทไปโดยปริยาย

“แหมมมมมม ตอนแรกก็ตกใจกับคำถามเหมือนกันนะคะ แต่น้องกาลตอบแทนความอัดอั้นของพี่ไปหมดแล้ว ในฐานะพิธีกรขอลำเอียงเข้าข้างน้องหมดตักเลยค่ะ” อีกคนตามมาสมทบ

“นั่นสิคะ ถ้ามีตำแหน่งขวัญใจพิธีกรพี่จะมอบให้เดี๋ยวนี้เลย” ทั้งสองเรียกเสียงหัวเราะกลับคืนอีกครั้ง

“เอาล่ะ หลังจากฟังคำถามและคำตอบจากทั้งสิบคนแล้ว หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของกรรมการแล้วว่าจะมอบตำแหน่งให้กับใคร ก่อนอื่นต้องขอให้ผู้ผ่านเข้ารอบทั้งหมดเดินโชว์ตัวแล้วกลับไปพักด้านหลังเวทีก่อนค่ะ แล้วมาลุ้นกันว่าตำแหน่งที่เหมาะสมจะตกเป็นของใคร และคนที่ไม่ใช่หญิงแท้หรือชายแท้จะมีสิทธิ์ในเวทีนี้ไหม เชิญผู้เข้าประกวดค่า...” ยังเหน็บแนมคนคิดคำถามไม่เลิก

.

.

.

สุดท้ายก็ไม่เกินความคาดหมายของใคร เดือนจากคณะวิศวะคว้าตำแหน่งไปครอง ด้วยคำตอบที่ตบทุกข้อครหาของคนภายในฮอลล์ หรือแม้กระทั่งคนนอกที่ค้างคาใจกับกระแสก่อนหน้า และตอนนี้มันก้าวออกมาเตรียมรับรางวัลด้านหน้าเวที

“ขอแสดงความยินดีกับเดือนมหาวิทยาลัยประจำปีนี้ด้วยค่ะ” พิธีกรคนหนึ่งซึ่งประกาศหมายเลขผู้ได้รับเลือกไปเมื่อครู่เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“นอกจากนี้ยังขอเชิญเดือนมหาวิทยาลัยชั้นปีที่สองและสามขึ้นมาเป็นผู้มอบสายสะพายและช่อดอกไม้ด้วยค่ะ” ป้าแนเรียกอดีตเดือนมหา’ ลัยทั้งสองคนขึ้นไปบนเวที

“เชิญเลยค่ะ” เสียงสต๊าฟหญิงเรียกพวกเขาที่รออยู่ด้านข้างเวที พร้อมมอบของซึ่งต้องส่งต่อให้กับเดือนคนใหม่มาไว้ในมือ

ไม่ได้ออกงานที่มีคนเยอะขนาดนี้นานแค่ไหนแล้วนะเนี่ย ครั้งล่าสุดก็ปีที่แล้วหรือเปล่านะ แต่ก็ยังเรียกเสียงกรีดของสาวแท้เทียมทั้งน้อยใหญ่ได้ไม่น้อยหน้าคนที่พึ่งได้รับตำแหน่ง ก็แน่อยู่แล้ว เขาคือหนุ่มหน้าหวานที่ฮอตที่สุดในมหา’ ลัย

“แหม แหม แหม มามอบช่อดอกไม้ให้กันแบบนี้คิดอะไรหรือเปล่าคะ” เมื่อมีไมโครโฟนมาจ่อที่ปากแบบนี้ก็ยากจะเลี่ยง เพราะมัวแต่ยักคิ้วหลิ่วตาให้กับไอ้เดือนคนใหม่ ซึ่งเหมือนจะตกใจไม่น้อยที่เห็นเขาเป็นคนมอบช่อดอกไม้ให้มัน

“แค่น้องครับ” สิ้นเสียง ก็เรียกเสียงกรีดไม่น้อย

“อย่าให้เห็นนะคะว่าหลังจากนี้ แค่น้องจะกลายเป็นผ...” ผัวะเข้าให้ ขาซ้ายยันออกไปแบบแกล้งๆ ให้เหมือนกับเขินอาย แต่จริงๆ ก็กะเตะให้โดนไข่อีป้านั่นแหละแค่พลาดเป้า จึงกลายเป็นการแก้เขินตามแบบฉบับคนน่ารักไป

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 8 /// 240918 new
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 25-09-2018 00:51:22
สมการรอคอย สมน้ำสมเนื้อกันดี o13
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 8 /// 240918 new
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 25-09-2018 01:23:06
ตอบได้แสบถึงทรวงเลยทีเดียว /standing ovation   o13
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 8 /// 240918 new
เริ่มหัวข้อโดย: mmello07 ที่ 25-09-2018 02:46:06
เพิ่งได้มาอ่าน สนุกมากค่ะ
รอลุ้นไปด้วยว่าเขาจะรักกันได้ยังไง
ติดตามค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 9 /// 250918 new
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 25-09-2018 20:51:28


ตอนที่ 9
~ กาล ~



หลังจากเหนื่อยสะสมมาแรมเดือน พร้อมการเหนื่อยขั้นสุดยอดในการประกวดเมื่อคืนที่ผ่านมา เล่นเอาผมแทบลุกไม่ขึ้น การแบกร่างมาเรียนในเช้านี้จึงเป็นอะไรที่ทรมานชีวิตสิ้นดี แค่ต้องยิ้มให้คนที่เข้ามาแสดงความยินดีกับตำแหน่งก็ฝืนแทบแย่ ไหนจะพวกพี่ๆ ที่เข้ามาเกาะแกะตั้งแต่เช้า นี่ผมควรดีใจกับตำแหน่งเดือนหรือเสียใจกันแน่ เกือบเอาชีวิตไม่รอดตั้งแต่ต้นเทอม

“คราวนี้มาพร้อมตำแหน่งเดือนมหา’ลัยว่ะ”  ไอ้ต้นเปิดประเด็น ว่าแต่พวกมึงสองคนทำไมต้องทำอย่างกับผมมาจากคนละที่แล้วพึ่งมาเจอหน้ากันตอนเช้า ทั้งที่อยู่คอนโดเดียวกัน

“เออ ดังแล้วพร้อมเลิกคบพวกมึง เย็นนี้ย้ายของออกจากห้องกูด้วยไปไกลๆ ตีนเลย”  ว่าเข้าให้ แม่งไม่เคยปลุก บทจะมาเรียนก็แอบมากันสองคน เป็นผัวเมียกันหรือไง

“มีคนน้อยใจที่เราไม่ไปเชียร์ด้วยว่ะเจ้า” มันหันไปหาพวกที่ก้มหากับหนังสือนิยายของตัวเองที่พึ่งออกจากโรงพิมพ์

“ไม่เป็นไรครับต้น พี่เจ้าพึ่งได้เงินมาเดี๋ยวเราออกไปตั้งตัวกันสองคน” เออไปให้พ้นเลย

“แบบนี้ก็มีคนเหงาสิ ห้องตั้งกว้างขนาดนั้น” ยังไม่เลิก

“ไม่หรอก อาจมีคนเข้ามาแทนที่พวกเรา ยกตัวอย่างพี่ปีสามที่เป็นคนให้ช่อดอกไม้คนนั้น” กวนตีนกูละ

“ถ้ายังไม่เลิกเตรียมไปเต็มกองนิยายมึงกับแผ่นเกมของมึงที่ใต้คอนโดได้เลย” ผมชี้หน้าด่ารายตัว ต้องเหนื่อยกับพวกนี้ทุกวันไม่เว้นให้กูพักเลยนะ

“...” เงียบทั้งคู่ เพราะรู้ว่าผมเอาจริงแน่ ของมีค่าของพวกมันซึ่งเกือบจะได้ปลิวจากระเบียงลง ไปข้างล่าง

“เมื่อวานดูไลฟ์สดเห็นมึงตกใจน่าดูที่รู้ว่าพี่เขาเป็นอดีตเดือนปีสาม” ก็ใช่อยู่ ใครจะไปรู้ว่าหน้าอย่างนั้นก็เป็นเดือนได้เหมือนกัน

“กูไม่ได้สนใจขนาดนั้นจะไปรู้ได้ไง” ก็จริง ไม่มีความจำเป็นต้องไปสืบประวัติคนแบบนั้นให้รกสมอง

“เขารู้กันทั้งมอ ที่กูไม่ได้พูดถึงก็เพราะนึกว่ามึงเองก็รู้เหมือนกันว่าเอาชีวิตไปยุ่งกับคนโคตรดังเข้าให้” ไอ้เจ้าว่า

จะว่าไปก็คงงั้นละมั้ง ผมไม่ได้สนใจความเคลื่อนไหวรอบตัวด้วย ก็นะ มาเรียนวิศวะไม่ได้เรียนนิเทศ ไม่จำเป็นต้องรู้ไปทุกเรื่องขนาดนั้น

“ไร้สาระ” ว่าเสร็จก็หยิบไอแพดของคนที่ถูกพาดพิงขึ้นมา ล็อกอินเข้าระบบไลน์เสร็จก็หารายชื่อที่ต้องการ

เรื่องมันมีอยู่ว่า อาทิตย์ก่อนที่ผมตามไปคุมความประพฤติของมันที่คณะ ซึ่งสร้างเรื่องให้วุ่นวายจนลามไปถึงเวทีประกวดเมื่อวาน มันที่เป็นคนยื่นไอแพดให้ผมพร้อมบอกด้วยว่าจะเอาไปทำอะไรก็เชิญ ซึ่งคืนนั้นเองที่ผมออกไปซื้อของในเซเว่นและตั้งใจว่าจะกลับไปลบหลักฐานทั้งหมดที่อยู่ในเครื่องโดยการรีเซ็ตให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่เผอิญ อะไรดลใจให้คลิกเข้าไปเช็คดูรูปอุบาทว์ของตัวเองแล้วดันเจอเข้ากับ...

‘รูปมันแบ็คอัพเข้าเครื่องกูอัตโนมัติ’ มันเคยว่าไว้แบบนั้น ใช่ รูปถูกแบ็คอัพเข้าไอโฟนและไอแพดมันอัตโนมัติเลยแหละ มีทั้งรูปที่ผมเหลือแค่กางเกงในตัวเดียวในครั้งที่เจอกันวันแรก รูปในผ้าขนหนูที่เป็นกระแสอยู่พักหนึ่ง รูปที่ผมยืนทำหน้าเซงและชักต่อหน้ามันซึ่งเป็นวันที่ทำให้ผมไม่ชอบขี้หน้ามัน แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น

ระหว่างรูปในผ้าเช็ดตัวกับรูปเกือบเปลือยของวันแรก ดันมีรูปที่ผมเป็นคนถ่ายเองกับมือหลงเหลือยู่ รูปตอนที่มันกำลังดูดเลียให้ผม ที่ไม่คิดว่าจะยังค้างอยู่ในเครื่อง

‘สะเพร่าเองนะ’ ผมคิดในใจก่อนเปิดประตูลงไปพร้อมของที่หอบหิ้วมาจากร้านสะดวกซื้อ

‘หลังจากนี้ก็ไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว’ ผมเคยพูดกับมันที่ลานจอดรถคืนนั้น ก็ตามที่ว่ามา ผมไม่คิดค้างอะไรมันแล้ว

เพราะกูกำลังถือไพ่เหนือว่ามึงอยู่ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน แก้แค้นเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ ผมรอให้การซ้อมและการประกวดทั้งหมดเสร็จสิ้นลงก่อน

ซึ่งมันจบแล้ว ทั้งการซ้อมทุกเย็นและการประกวดเมื่อคืนที่ผ่านมา ต่อจากนี้ไปก็ถึงเวลาของการโต้กลับ

“อยากให้กูเป็นทาสนักใช่ไหม”

“เป็นอะไรของมึงว่ะ ทำหน้าอย่างกับโรคจิต” ไอ้ต้นขัดภวังค์ ผมส่ายหน้าให้มันไปโดยไม่ตอบโต้อะไรทั้งสิ้น เพราะกูกำลังมีความสุข


กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : // แนบรูป//

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : // อ่านแล้ว...//

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : // แนบรูป//

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : หยุด ตอนนี้มึงอยู่ไหน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กำลังจะขึ้นเรียน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : แค่นี้นะ

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : เดี๋ยว

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : คุยกับกูก่อน

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : ไอ้สัด

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : ไอ้เหี้ย

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เลิกทักมา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูจะเรียน

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : กูไม่หยุด

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : งั้นกูโพสต์แน่

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : อย่า

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ยังอีก




มันเงียบไป ไม่ส่งข้อความมากวนแบบเมื่อกี้ คงกลัวผมเล่นกลับล่ะสิท่า เจอมุขเดิมของตัวเองเข้าไปมีหงาย



กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : คืนนี้กูไปหาที่ห้อง

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยากทำอะไรสนุกๆ ก็เสนอมาได้

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : แปรงฟันให้สะอาดละกัน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อะไรที่จำเป็นก็เตรียมมาให้พร้อม

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อย่าให้เสียเวลา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อ้อ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : แล้วอย่าคิดหนีล่ะ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูไม่ได้ขู่

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : แค่นี้



ถึงเวลาแก้แค้น คราวนี้จะเอาคืนให้สาสม มึงเล่นผิดคนแล้ว ไม่สิ มึงพลาดให้ผิดคนแล้ว จากที่จะจากกันด้วยดี ขอโทษด้วยละกันที่กูเจ้าคิดเจ้าแคนและกัดไม่ปล่อย อยากจะรู้เหมือนกันว่าเวลาอดีตเดือนหน้าใสกลายเป็นทาสแล้วจะเป็นยังไง

เก็บไอแพดลงกระเป๋า กลับมาตั้งใจเรียนอีกครั้ง

.

.

.

หลังเลิกเรียนผมกับไอ้สองตัวที่เหลือออกไปหาอะไรกินและเดินเที่ยวหน้ามอฆ่าเวลา เช็คกระแสจากตำแหน่งเมื่อวานเสียหน่อย ฮาฮาฮาล้อเล่นครับ แค่มาเดินชิลฆ่าเวลาไปพลาง แต่ถึงไม่ตั้งใจมาเรียกความนิยม คนก็นิยมผมไม่น้อย ไม่ได้มั่นหน้านะเพราะมันเป็นความจริงที่เลี่ยงได้ยาก

“ขอถ่ายรูปกับพี่กาลได้ไหมคะ” สาวน้อยมัธยมเข้ามาขอถ่ายรูป พร้อมเพื่อนข้างหลังอีกสามคนที่เหนียมอายไม่กล้าเข้ามาใกล้ พี่ไม่ได้ดุนะจะกลัวอะไรกัน

“ได้ครับ” พอได้รับคำตอบเธอก็กระโดดดีใจ แล้วรีบยื่นมือถือให้ผม ซึ่งต้องทำหน้าที่เซลฟีไปตามประสา จากนั้นน้องผู้หญิงข้างหลังก็ขอบ้างตามๆ กันมา จากที่อายอยู่ก็ยอมยื่นมือถือให้ผมถ่ายรูปคู่กับพวกเธอ

“ดังจริงเพื่อนกู” ไอ้ต้นเหน็บเบาๆ พอให้มันหายคันปาก

“แบบนี้เราก็หมาหัวเน่าสิ” ไอ้เจ้าก็เล่นกับเขาด้วย

“ช่วยไม่ได้นะพวกหน้าตาธรรมดาก็ต้องยอมรับชะตากรรม” เล่นมาเล่นกลับ ผมไม่โกงใครอยู่แล้ว

“จะต่อที่ไหนไหม” ไอ้เจ้าเป็นฝ่ายถาม

“กูกลับไปเล่นเกม” ชีวิตมึงก็มีเท่านี้อะนะ

“กูมีธุระนิดหน่อย คงดึกๆ กว่าจะกลับ” ผมตอบ

“ร้านเหล้าเหรอว่ะ” ยังเป็นไอ้เจ้าที่เปิดประโยชน์ต่อไป

“เปล่า งานนอก” งานแก้แค้นที่เล่าให้เพื่อนอย่างพวกมึงไม่ได้ หรือแม้แต่ใครก็ตาม

“ออ งั้นแยกกันตรงนี้ละกัน” มันว่าก่อนลากคอไอ้ต้นที่เตี้ยกว่าไปยังรถของมัน ส่วนเขาก็แยกออกมาอีกทางหนึ่ง ลานจอดรถกว้าง แต่รถก็มากพอให้พวกผมต้องหาที่จอดกันคนละมุม

จะว่าไปในกลุ่มมีแต่ผมที่กินเหล้า ส่วนไอ้สองตัวที่เหลือเป็นสายอ่อน ไอ้ต้นแพ้เหล้า ส่วนไอ้เจ้าก็ไม่ยอมกิน ชอบพูดว่าไม่เห็นมีประโยชน์ตรงไหน พอเข้ามหา’ ลัยผมที่ตัวติดพวกมันก็พลอยเป็นไปด้วย จนเพื่อนร่วมภาคคิดว่าพวกผมเป็นพวกรักษาศีลห้า บ้าบอ

แต่ก็มีบ้างที่ถูกชวน เหมือนเมื่อคืนที่รุ่นพี่สโมจะพาเขาและดาวคณะพร้อมทีมงานไปฉลองกันที่ร้านของนายช่างซึ่งจบไปแล้วหลายปี ผมก็ปฏิเสธเพราะเหนื่อยและไม่ได้แตะมันมานานแล้วด้วย พาให้คนที่คณะเชื่อสนิทใจเลยว่าผมกับเพื่อนอีกสองคนไม่กินเหล้า

เอากันเข้าไป นิยายเรื่องไหนก็ให้บทพระเอกสํามะเลเทเมาอยู่ในร้านเหล้าตลอด จนอดคิดไม่ได้ว่าหลังจบเรื่องแม่งจะโดนตับแข็งแดกเอาไหม ขนาดว่านิยายน้ำเน่าของไอ้เจ้ายังมีฉากในร้านเหล้า ทั้งที่มันแทบไม่แตะเหล้าเลยด้วยซ้ำ มโนกันเข้าไป ถ้าให้วันๆ ตัวเอกวนเวียนอยู่แต่ร้านเหล้า ตายห่ากันพอดีโลกใบนี้ ผมขอเป็นพระเอกที่ออกห่างจากของมึนเมาละกัน เป็นหนึ่งในร้อยเรื่องที่ไม่ข้องแวะกับร้านพวกนั้น ก็เท่าที่จะเป็นไปได้อะนะ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยู่ไหน

มิวเฉยเฉย ช่วงนี้ว่างมาก : กำลังกลับบ้าน


ถ้ากำลังกลับ งั้นผมออกไปตอนนี้ก็น่าจะพอดีกับเจ้าตัว ไม่รีบแล้วกันค่อยๆ ขับ เพราะคนที่ร้อนใจคงไม่ใช่ผม แต่เป็นมันที่ไม่รู้ชะตาตัวเองฮาฮาฮา

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 9 /// 250918 new
เริ่มหัวข้อโดย: blove ที่ 26-09-2018 00:25:00
เอ้ยยยย!! สนุกกกอ่ะ ไม่น่าเชื่อว่าจะถูกใจ จนอ่านรวดเดียว 5555 มันยังไงละ ก่อนหน้าก็เปิดหลายเรื่อง แต่ก็ไม่สุดสักเรื่อง พอเข้ามาอ่านเรื่องนี้จะว่าน่าสนใจก็ไม่มาก ก็แนวมหาลัยทั่วไป แต่ไงดันวางไม่ลงซะงั้น มันน่าติดตามตรงไหนว่ะ ทำไมถึงอยากอ่านต่อขนาดนี้ งงตัวเอง 5555555 อยากรู้อ่ะกาลจะเอาคืนยังไง ตายแล้วมิวสิคจะตกเป็นทาส(รัก)ก็คราวนี้ละ ทำเขาก่อนไง แต่เอาจริงก็ไม่รู้ว่าใครจะตกหลุมใครก่อนอะนะ นี้ละมั้งที่ชวนให้ติดตาม 5555 ตลกมิวสิคคนมีความมโนระดับ10 ฮ่าๆ ซ่อนความน่ารักไว้นะแต่แอบแสดงออกร้ายกาจเบาๆ แต่จริงๆก็เป็นคนซิงๆใสๆอะเนอะ (หรอ!➡จริ๊ง) 5555 จะเป็นอย่างนิยายที่อ่านไหมเนี้ยหึมิว พระเอกแมนๆเขาจะหลงเราป่าว นี้เอาใจช่วยนะ อุตส่าห์เสียจูบแรกให้เขา 555555 //โอเคเลยค่ะไรท์ มาดีๆ สนุกๆ ติดตามเลยเรื่องนี้ Fav 555
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 9 /// 250918 new
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 26-09-2018 00:28:40
 :hao6: สงสัยงานนี้มีการเสียตัวเกิดขึ้นแน่ๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 9 /// 250918 new
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 26-09-2018 00:55:58
จูบแรกก็ยังพึ่งเคยจูบ มิวจะรอดไหมลูก  :laugh:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 9 /// 250918 new
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 26-09-2018 17:50:46
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ :a2: :katai2-1: o13
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 10 /// 260918 new
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 26-09-2018 20:43:27

ตอนที่ 10
~ มิว ~​



มันจะมากไปแล้ว มันชักจะมากไปแล้ว ไอ้ลูกหมาที่ไหนกล้ามาแทงข้างหลังคนอย่างเขา แล้วดันใช้มุขเดิมที่เขาเคยทำกับมันแบบนี้ยิ่งแค้นเข้าไปใหญ่ ไอ้เด็กนั้นมันกำลังแบล็คเมล์อดีตเดือนมหา’ลัย มันกำลังใช้ประโยชน์จากความผิดพลาดของเขาเพื่อเอาคืน

ยิ่งคิดยิ่งอยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายๆ ไป เพราะดันปล่อยไก่ทำเป็นเท่ยื่นไอแพดที่เก็บภาพลับให้มันง่ายๆ โดยไม่เช็คให้รอบคอบว่ามีรูปที่ตัวเองโดนถ่ายไว้ในนั้นเหมือนกัน โถ่... หนุ่มหน้าใสแสนฉลาดและเจ้าแผนการณ์อย่างเขาดันสะดุดขาตัวเองเข้าให้ โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ทำไมชีวิตที่ควรจะสงบต้องมาเจออะไรแบบนี้เนี่ยยยยยยยยยยยยยย ใครมันเป็นคนคิดค้นระบบแบ็คอัพไฟล์ภาพจากกล้องอัตโนมัติแบบนี้ ใครกัน เขาไปฆ่าทิ้งเสีย

แทนที่จะจากกันด้วยดี อุตส่าห์รําพึงรําพันถึงมันอย่างดิบดี มันควรจะสำนึกความใจกว้างของเขาที่ยอมลดไปไปญาติดีด้วย แต่ที่ไหนได้ มันเป็นเชื้อร้ายที่ถูกปล่อยให้มีชีวิตรอดในร่างกายแสนบอบบางนี้ มันเป็นปีศาจในคราบคนหล่อ ไอ้เสือซ่อนเล็บที่รอเวลาตะครุบเหยื่อที่อ่อนแออย่างเขา คิดแล้วเศร้าฮืออออออ

นี่เขาต้องกลับไปบ้านทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้จะโดนมันทำมิดีมิร้ายอะไรก็ไม่ทราบ เขาควรหนีดีไหม หนีไปฝรั่งเศส หนีไปเยอรมัน หรือจะหนีไปอังกฤษดี ไปให้พ้นไอ้พวกหน้าเนื้อใจเสืออย่างมัน

แต่ก็ทำงั้นไม่ได้เหมือนกัน เงินมี ตั๋วหาได้ ที่บ้านปล่อยวางแบบเขา ก็ยังหนีไปไหนไม่ได้อยู่ดี เพราะมันกำเขาไว้ในกำมือแน่น เขาเป็นแค่ลูกไก่ตัวเล็กที่กำลังถูกบีบ ถ้าเขาหายไปและไม่ยอมอยู่ห้องตามนัด ต้องโดนปล่อยภาพลับที่เขากำลังมีความสุขกับท่อนนั้นของมันแน่ๆ

ไม่น่ายอมให้ถ่ายเลย เขาไม่น่าเลยจริงๆ ความสะเพร่าที่ได้แต่โทษตัวเอง และโทษมันที่กลับมาร้ายในคราบเดือนมหา’ ลัย ไอ้เดือนมันชั่วช้าสามานย์ มันไม่ใช่พระเอก มันแค่ตัวร้ายที่จ้องเล่นงานคนน่ารัก

นิยายที่ไหนเขาให้นายเอกถูกกระทำขนาดนี้ โดยเฉพาะนายเอกแบบเขาที่ทั้งแสนดี น่ารัก และเพียบพร้อมขนาดนี้ นี่นิยายโลกสวยจะกลายเป็นโลกซวยแบบนั้นไม่ได้ เขาฝันให้มันเป็นคอมเมดี้ช่วยสร้างสีสันให้ชีวิต ไม่ใช่แนวแก้แค้นหักเหลี่ยมโหดแบบนี้ มันกำลังทำเขาเป็นประสาท เขากำลังจะเป็นบ้าแล้ว เขาต้องเป็นบ้าแน่ๆ โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ทำไงดี ทำยังไงดี เขาควรทำอะไรที่จะทำให้ปัญหานี้มันมีทางแก้ที่ดีกว่าการตกเป็นเบี้ยล่างมัน แจ้งตำรวจดีไหม ไม่ ไม่ได้ ทำแบบนั้นก็เท่ากับแฉตัวเอง

หรือไปปรึกษาไอ้นัท ให้มันช่วยจะได้ไหมนะ ไม่ไม่ไม่ ทำงั้นไม่ได้เหมือนกัน ถ้ามันรู้ว่าเขาเป็นคนก่อก่อนก่อน มันต้องไม่เข้าข้างแน่ ใครอีกล่ะ ป๊าหรอ ก็ไม่ได้เหมือนกัน มีหวังถูกตัดออกจากกองมรดกชัวร์

ฟุ้งซ่านจนหัวแทบระเบิด กระทั่งขับมาจอดที่หน้าบ้านตัวเอง เป็นครั้งแรกที่รู้สึกไม่ถูกชะตะกับบ้านหลังนี้เลย ทั้งที่อยู่มาตั้งแต่เกิด ทว่าเมื่อนึกถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากนี้ พลันอยากกลับรถไปออกไปให้พ้น ไม่อยากมาเลยจริงๆ วันนี้เขาอยากอยู่ญี่ปุ่น อยากไปที่ไหนก็ได้ที่ไกลจากบ้านหลังนี้มากที่สุด









ก๊อก! ก๊อก!









เสียงเคาะกระจกจากด้านนอกของคนที่เขาไม่อยากเจอที่สุด บัดนี้มายืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว พร้อมใบหน้ายียวนกวดประสาท ทำไมถึงเร็วแบบนี้ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ยังไม่ทันได้ทำใจเลย ออกไปก่อนกูขอทำสมาธิและสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ให้เวลาสองนาที ขึ้นห้อง

นี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาสั่งเขาแบบนี้ แล้วตอนนี้เขาเป็นใครกันถึงยอมทำตามมันโดยง่าย โว้ยยยยยยยยยยยยยย อยากจะบ้าตาย

เปิดประตูลงจากรถก่อนเดินผ่านมันที่ยืนเป็นตอค้ำคออยู่ มันไม่เอ่ยอะไร เขาก็ไม่จำเป็นต้องพูด ให้เสียเวลา รีบจัดการให้จบๆ ไป ดูสิว่าวันนี้จะมีคนตายในบ้านหลังนี้ไหม ไม่เขาก็มันนั่นแหละ

ประตูห้องถูกกระชากออก เพียงครู่เดียวมันก็ตามเข้ามาโดยไม่ต้องกล่าวเชิญ สิ้นเสียงกระแทก ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มันนิ่งมองเขาราวกับของเล่นยามว่าง สายตาจากเด็กปีหนึ่งใสซื่อเชื่องๆ คนเดิมหายไปสิ้น เหลือแต่เพียงแววตามาดร้ายซึ่งไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลยให้ตายสิ

“จะเอาไงว่ามา อยากได้เท่าไหร่ก็บอก” ในเมื่อคุยกันด้วยเหตุผลคงไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา เขาขอจบมันด้วยเงินและสิ่งของที่มันต้องการแล้วกัน

“กูมีเยอะแล้ว อาจเท่าหรือเยอะกว่ามึงด้วยซ้ำ” นี่มันกำลังดูถูกฐานะครอบครัวของเขางั้นหรือ มึงรวยมาจากไหนถึงกล้าเทียบกับป๊ากู

“แล้วมึงจะเอายังไง” เขากำลังใช้ความพยายามในการอดกลั้นไม่ให้เข้าไปต่อยหน้านิ่งๆ ของมันที่มองมา ทำอย่างกับอยู่เหนือกว่ามากงั้นแหละ







“ถอดสิรออะไร” มันสั่งเสียงนิ่ง

เหี้ยยยยยยยยย นี่กำลังเอาคืนกับสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับมันใช่ไหม คำสั่งแรกที่เขาเคยพูดออกไป ตอนนี้มันกลับเป็นคนสั่งและรอเขาที่ไม่มีทางเลือกต้องทำตามมันอย่างจนแต้ม

“อย่ามาเล่นกับกู กูไม่ทำ” เขาไม่มีวันนอบน้อมยอมทำตามคำสั่งของมันแน่ ถ้าเขาอ่อนข้อให้มันก็จะยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่

“งั้นก็กดนะ” ไม่ได้กดเขา แต่มันกำลังชูมือถือตัวเองที่ปรากฏหน้าต่างแอปพลิเคชันทวิตเตอร์ซึ่งอัปโหลดรูปอุบาทว์นั้นขึ้นไปเรียบร้อย เพียงแค่มันกดทวิต คนทั้งโลกก็สามารถเข้าถึงรูปดังกล่าวและรีต่อกันไปเรื่อยอย่างไม่มีสิ้นสุด

“หยุดนะ” เสียงเขาซึ่งร้อนรนอย่างมากเมื่อนิ้วชี้ของมันกำลังเข้าไกลหน้าจอเรื่อยๆ ถ้ามึงเผลอหรือพลาดขึ้นมาจะทำยังไง ถึงจะลบทันทีแต่อาจมีพวกแคปหน้าจอจับภาพไว้ทัน

“ถอด ขอพูดรอบสุดท้าย” มันว่าเสียงนิ่งดังเดิม









หมดทางต่อกร เขาค่อยๆ ปลดกระดุมที่เรียงตัวอยู่ห้าเม็ด ทำไมวันนี้รู้สึกว่ากระดุมที่ติดอยู่มันน้อยกว่าปกติ แล้วเข็มขัดที่เคยถอดยากถอดเย็นกลับลื่นไหลออกไปจากการจับยึดอย่างง่ายดาย แล้วทำไมกางเกงถึงกองไปอยู่ที่ตาตุ่มง่ายขนาดนั้น ทั้งเนื้อตัวเขาเหลือแต่อันเดอร์แวร์ตัวเดียว ถึงจะเคยเห็นกันหมดแล้วก็เถอะ แต่ครั้งนี้มันต่างกัน

“ไม่ต้องถอดกางเกงใน ชักจากข้างนอกเนี่ยแหละ กูขี้เกียจเพ่งของเล็กๆ เสียสายตา” หนอยยยยยยยยยย ถ้าเป็นปกติเขาต้องเดินเข้าไปประจันหน้ากับมันแล้วเตะเข้าที่หวางขาไปแล้ว

ทว่าครั้งนี้กลับทำแบบนั้นไม่ได้ มือขวาต้องฝืนทนยกขึ้นไปทำตามสั่งของมันราวกับสัตว์เชื่องๆ ที่ว่าง่ายในกรง กางเกงในผิวบางเรียบรับกับมือที่เสียดสีไปมาเป็นจังหวะ จนน้ำใสที่ไม่สามารถบังคับให้หยุดซึมดันออกมาให้ได้อายกันเข้าไปใหญ่ เขากลั้นเสียงและความเสียวไว้ในลำคอ กักมันเอาไว้ไม่ให้เล็ดลอดออกมา

ส่วนมันที่ยืนมองด้วยสายตาว่างเปล่า กลับยกมือถือขึ้นมาเก็บภาพหรือวีดีโอกิจกรรมตรงหน้าเอาไว้อย่างสบายอารมณ์ เขาทำได้เพียงส่งแววตาอาฆาตกลับไป ทำได้แค่นั้น

เวลาล่วงไป มันยังไม่สั่งให้หยุดหรือเปลี่ยนท่า เขาที่ใกล้ถึงจุดนั้นแล้วก็แทบจุกคอตายเมื่อความเสียวเข้าเล่นงานประสาทสัมพันธ์ทั้งร่าง โดยเฉพาะส่วนกลางลำตัวที่ใกล้ระเบิดออกมาทุกที

“กูไม่ไหวแล้ว” จนยอมแพ้ ต้องเอ่ยออกมาเสียงกระเส่า















“พอก่อน” คำสั่งเฉียบขาด ทำเอาเขาค้างอยู่กลางอารมณ์ร้อนรุ่ม มันกำลังแกล้งเขา ดูแววตาที่เปลี่ยนเป็นขบขันนั่นสิ มึงรู้ไหมว่าทำคนอื่นค้างมันบาปแค่ไหน

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 10 /// 260918 new
เริ่มหัวข้อโดย: bun ที่ 26-09-2018 21:51:45
ช่วงเอาคืน
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 10 /// 260918 new
เริ่มหัวข้อโดย: 19th ที่ 26-09-2018 21:57:55
ขำความเพ้อ 5555 ไปถึงญี่ปุ่นเลยนะ  :m20:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 10 /// 260918 new
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 27-09-2018 03:05:59
เอาคืนโรคจิตพอกันนะ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 10 /// 260918 new
เริ่มหัวข้อโดย: สบันงา ที่ 27-09-2018 03:16:02
ค้าง มาต่อพน.ได้มั้ยคะ กราบ :ling1:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 11 /// 260918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 28-09-2018 01:37:04

ตอนที่ 11
~ กาล ~



ร่างเกือบเปลือยของชายร่างบางปรากฏตรงหน้า ไม่ใช่ที่สิ่งผมพิศวาสหรือโหยหาเลยแม้แต่น้อย มันกลับอุบาทว์เสียมากกว่า ใช่ มันทุเรศจนอยากเบือนหน้าหนี ใช่สิ มันต้องเป็นแบบนั้น ก็ความรู้สึกแรกบอกผมแบบนี้ แล้วทำไมต้องมาย้ำความคิดที่รู้กันอยู่แล้วด้วย ผมก็แค่ผู้ชายที่กำลังยืนมองเกย์ระบายความใคร่ ซึ่งมันทั้งอุจาดและขัดตาในเวลาเดียวกัน

มันเป็นแบบนั้นใช่ไหม

แต่ทำไม ทำไมลึกๆ แล้วผมกลับมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่มันกำลังทำ หรือผมแค่ต้องการปลดปล่อย ใช่ มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ผมแค่เครียดสะสมและไม่ได้ระบายมาหลายวันแล้ว ไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ มันก็แค่เรื่องธรรมชาติของผู้ชายคนหนึ่ง ไม่เกี่ยวว่าคนตรงหน้าจะเป็นหญิงหรือชาย ผมแค่มีอารมณ์

“พอก่อน” ห้ามมันซึ่งเกือบจะถึงปลายทาง

“พอแค่นี้แหละ” ผมพูดกับมัน หรือกำลังพูดกับตัวเองกันแน่ชักไม่มั่นใจ และก่อนที่จะได้คำตอบให้กับคำถาม ผมก็ก้าวออกจากห้องนั้นมาโดยที่ยังวนเวียนอยู่กับความสับสนมากมายที่พรั่งพรูเข้ามา

ผมกำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้ แก้แค้นงั้นหรือ แค่แก้แค้นจริงๆ ใช่ไหม แล้วทำไมถึงไม่รู้สึกสะใจเลยสักนิด ไม่มีความรู้สึกไหนที่บ่งบอกว่าการเอาคืนครั้งนี้ทำให้ผมพอใจกับสิ่งที่มันเคยทำไว้ก่อนหน้านี้ หรือผมแค่สงสารมัน ผมกำลังใจอ่อนกับคนหน้าอ่อนตรงนั้นงั้นหรือ ผมเป็นอะไรกันแน่

หลายสิ่งที่ยังค้างคาทำให้ผมเลือกเดินออกมาจากตัวการที่เป็นต้นเหตุของความว้าวุ่นใจ หากยืนอยู่ตรงนั้นต่อไป ผมอาจจะทำเรื่องบ้าๆ ลงไป ซึ่งอยู่เหนือการควบคุม ออกมาแบบนี้แหละดีแล้ว

“เดี๋ยวก่อนมึง” มันวิ่งตามมาก่อนผมจะก้าวถึงตัวรถ

สภาพที่ถูกปรุงแต่งด้วยเสื้อผ้าและหน้าผมที่ถูกจัดให้เรียบร้อยขึ้น ตัวมันในตอนนี้กลับเมื่อกี้ที่เปลือยเปล่าแทบจะเป็นคนละคนกัน

“มีอะไร” ถามกลับเสียงห้วน กลบความวุ่นวายภายในจิตใจไม่ให้เผยออกมา เพราะกลัวว่าคนตรงหน้าจะจับความรู้สึกนั้นได้

“มึงเป็นอะไร” นั่นสิ ตอนนี้กูเป็นอะไร ถ้ากูตอบตัวเองได้คงไม่เดินหนีมาแบบนี้หรอก แต่มันยังไม่กระจ่างน่ะสิ

“ตกลงแล้วจะเอาไงกันแน่ เอาคืนแค่นี้ใช่ไหม” นั่นเรียกว่าการเอาคืนเหรอ มันยังไม่ถึงครึ่งที่ผมคิดมาก่อนหน้าเลยด้วยซ้ำ

“งั้นต่อจากนี้ก็จบกันจริงๆ แล้วนะ ต่างคนต่างอยู่ ถือว่าไม่เคยรู้จักกันดีกว่าไหม” ไม่รู้สิ ตอนนี้ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น

“ไม่” 

‘ไม่’ ในที่นี้หมายถึงอะไรผมยังไม่แน่ใจเลย

“แล้วมึงต้องการอะไร เงิน ของ หรือตัวกู มึงบอกมาชัดๆ ให้มันเคลียร์เลยได้ไหมกูจะได้รับมือถูก” มันกระแทกเสียงโต้

“นั่นไม่ใช่เรื่องที่มึงจะเป็นคนเลือก และอย่าพึ่งถามอะไรตอนนี้” เพราะกูก็ไม่รู้เหมือนกัน

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน” ผมว่าและเตรียมเดินต่อ แต่ถูกรั้งไว้ด้วยแขนข้างหนึ่งของมันที่กระชากตัวผมกลับไปเผชิญหน้าอีกครั้ง

“กูอยากจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด มึงบอกมาว่าต้องการอะไร” มันว่าเสียงกร้าว แววตาดุดันไม่มีท่าทีขี้เล่นแบบทุกครั้ง

“แต่กูยังไม่รีบ”

“ไม่ได้ มึงต้องรีบทำให้ทุกอย่างมันจบ ไม่งั้นกูต้องติดแหง็กอยู่กับมึงจนไม่ได้ก้าวไปไหนสักที ในเมื่อมึงก็รู้ว่ากูเป็นเกย์ มึงก็ควรจะรู้ด้วยว่ากูก็มีหัวใจ ถ้าหากวันหนึ่งกูเจอคนที่ถูกใจขึ้นมา แต่ต้องมาติดพันอยู่กับมึงแบบนี้ มันจะทำให้คนของกูไม่ไว้ใจ และอาจ...” มันบ่นยาวเหยียดแทบไม่หยุดพักหายใจ

“เรื่องของมึง” ผมหยุดมันด้วยเสียงห้วน ซึ่งได้ผล

“ไอ้สัด กูว่ากูพูดดีด้วยแล้วนะ นี่มึงไม่คิดจะญาติดีกันเลยใช่ไหม” มันขึ้นของจริง คราวนี้มาทั้งเสียงและแรงกระชากจากมือคู่เล็ก ที่ยึดคอเสื้อผมไว้ด้วยท่าทางฝืนแรงเต็มทน

“มึงอยากชัดเจนใช่ไหม” ผมถาม

“เออ” มันตอบกลับมาเร็วพลัน

“งั้นกูให้มึงเป็นของเล่นฆ่าเวลาแล้วกัน ถ้าวันไหนกูเบื่อกูจะเรียกใช้มึง และพอถึงจุดที่มึงไม่จำเป็นแล้วเดี๋ยวกูจะบอกเอง วันนั้นมึงก็เป็นอิสระ”

พอได้เถียงกันไปมาแบบนี้ บางอย่างก็เริ่มชัดเจนขึ้น คำตอบที่ผมเลือกมานั้นคงเป็นสิ่งที่มันสมควรจะได้รับแล้ว และทางเลือกนี้ยังช่วยดับความว้าวุ่นใจที่ผมเป็นอยู่ให้ทุเลาลง ถึงจะยังไม่ใช่คำตอบที่ดี แต่ในขณะนี้เขาคิดว่ามันเหมาะที่สุดแล้ว

“ไอ้เหี้ย มึงนี่มันเหี้ยจริงๆ” มันฮึดฮัดแสดงความไม่พอใจจากสีหน้า แววตา ลามไปถึงการกระทำที่ยังติดอยู่กับคอเสื้อผม

แต่ผมเลือกแล้ว ฉะนั้น วันนี้ก็พักไว้ตรงนี้ก่อน ผมดึงมือบางทั้งสองข้างที่จับคอเสื้อออกไปอย่างง่ายดาย เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงรถ เปิดและขึ้น จากนั้นก็ออกรถ ไม่ให้มันที่กำลังหัวเสียได้ทันตั้งตัว ทิ้งความหงุดหงิดไว้กับมันที่แทบจะวิ่งตามผมออกมา แต่ต้องหยุดแค่นั้นเพราะกระจกมองหลังไม่เห็นเงาของคนที่เคยตามหลังมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังแล้ว

วิธีนี้แหละเหมาะกับคนอย่างมัน และทางเลือกนี้ก็เช่นกัน เพราะการได้แกล้งให้มันจนมุม ไร้ทางสู้อาจทำให้ผมเข้าใจคำตอบของคำถามที่ยังคงตกค้างอยู่ในเสี้ยวความรู้สึก

“กูจะแกล้งมึงให้หนักเลยคอยดู”

“เอาให้ไม่มีใครเข้ามาจีบเลยแล้วกัน”

ถ้าอยากได้พระเอก เดี๋ยวเขาจะอาสาเป็นให้ ทว่า ไม่ใช่พระเอกตามท้องเรื่องในนิยายวายทั่วไปที่มันอ่านเจอหรอกนะ พระเอกคนนี้จะไม่มีวันตกหลุมรักเกย์อย่างมันเด็ดขาด ไม่มีวันและไม่มีทางเป็นแบบนั้นแน่นอน   

เกมนี้พึ่งเริ่มต้นขึ้น อดทนเข้าล่ะไอ้เดือนนิเทศ มาดูกันว่าหลังจากนี้จะมีหนุ่มที่ไหนเข้ามาในชีวิตอีกไหม ในเมื่อต้องมาเป็นเบ๊ให้เดือนวิศวะอย่างกู

ในสายตาคนนอกอาจมองว่าเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ของอดีตเดือนปีสามและเดือนหน้าใหม่อย่างผม แต่จะมีแค่มันกับผมเท่านั้นที่รู้ความจริงของความสัมพันธ์จอมปลอมซึ่งกำลังก่อร่างสร้างตัวขึ้นจากการกลั่นแกล้ง

เพราะถ้ามันแกล้งมา ผมก็แค่แกล้งกลับ และคราวนี้เป็นตาของผม แน่นอนว่าต้องเอาให้คุ้มสมกับสิ่งที่ได้รับและโดนมาในครั้งที่มันเป็นคนคุมเกม


กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อาทิตย์หน้าเป็นต้นไปขอของว่างหน่อย

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เอามาให้ที่คณะก่อนแปดโมงครึ่ง

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อะไรก็ได้ที่รองท้อง

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กับนมหรือกาแฟด้วยจะดีมาก

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ห้ามปฏิเสธ

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : เออ!






ถึงนักอ่าน

ขอคุณกำลังใจจากผู้ติดตามผลงานทุกคน

แม้ไม่มีกลุ่มแฟนคลับหรือกองทัพนักอ่านเทใจให้

แต่ก็จะพยายามสู้ต่อไปพร้อมกับทุกคนที่แวะเวียนมา

ฝากพี่มิว น้องกาล และกองทัพหนุ่มหล่อแห่งมหาลัยจุดจุดจุดด้วยนะ


หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 11 /// 260918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 28-09-2018 04:00:16
 :katai1: หูย ไม่ได้ดั่งใจอะ มียืดเยื้อไปอีก เมื่อไหร่จะได้กัน  :serius2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 11 /// 260918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 28-09-2018 12:17:52
 :z1:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 11 /// 260918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: สบันงา ที่ 29-09-2018 01:09:32
คนแต่งเก่งค่ะ  อ่านละไม่มีข้อกังขาเลย ชอบ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 11 /// 260918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-09-2018 22:45:43
 o13 o13
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 30-09-2018 12:22:33

ตอนที่ 12
~ กาล ~

และแล้วมันก็เป็นจริงจนได้ เพียงแต่ผมไม่คิดว่ามันจะไวขนาดนี้ เรื่องคาดไม่ถึงเกิดขึ้นในเช้าของอีกวัน  เมื่อจู่ๆ รุ่นพี่ปีสามจากคณะนิเทศกำลังนั่งเป็นยักษ์วัดแจ้งร่วมโต๊ะกับพวกผม แต่มันเกินคาดเพราะไอ้พี่คนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับที่ผมไปมีเรื่องมาเมื่อคืน มันเป็นอีกคนที่สูงอย่างกับเสาไฟฟ้า ผมซึ่งคิดว่าตัวเองสูงแล้วก็ต้องยอมแพ้มัน

“มึงจะมาทำไม” ไม่ใช่ผมแน่นอนที่พูดประโยคนั้น เพราะเคยเห็นผ่านตาแค่ครั้งสองครั้ง เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะขึ้นมึงกูกับคนไม่รู้จัก

“กลับไปเลย กูบอกแล้วไงว่า...” ไอ้ต้นกลืนคำพูดที่จะต่อประโยชน์ลงไป เมื่อคนที่มันกำลังมีปากเสียงอยู่ยื่นกล่องแซนด์วิชมาให้

จะว่าไปพึ่งสังเกต วันนี้ไอ้ต้นปิดหน้ามาเรียน แถมยังไม่สวมแว่นตาปลอมๆ แบบทุกทีอีก มีแค่หัวแดงๆ เท่านั้นที่ไม่เปลี่ยนแปลง แสบตาเหมือนเดิม

“แค่มาเช็คว่าทำตามที่บอกไว้ไหม” แขกที่ไม่รู้ว่าใครรับเชิญพูดขึ้นกลางวง แต่ถ้าให้เดาคงไม่ได้พูดกับผมหรือไอ้เจ้าซึ่งมีเครื่องหมายคำถามบนหน้าผากแน่

“ก็เห็นกันอยู่ รีบไปคณะมึงได้แล้ว” ไอ้ต้นแว้ดใส่อย่างเหลืออด มึงจะไล่เขาทำไมก็เห็นอยู่ว่าไม่ได้คุกคามหรือสร้างความรำคาญให้ใคร



เอ๊ะ! หรือมีอะไรที่ผมพลาดไปหรือเปล่า มันแปลกตั้งแต่ไอ้ต้นตอบโต้ไปมากับคนที่มันไม่น่าจะไปข้องแวะได้แบบนี้ ไม่ใช่เพื่อน ไม่ใช่รุ่นพี่ที่รู้จัก หรือคนที่พวกผมสนิทด้วย



“รอเพื่อนอยู่” รุ่นพี่คนเดิมตอบเพื่อนผมไป



ก่อนที่คนซึ่งถูกพาดพิงจะมาถึง พร้อมความสงสัยที่ย้ายจากผมและไอ้เจ้า มาเป็นไอ้เจ้าและไอ้ต้นที่กำลังจ้องมาที่ผมแทน เมื่อมันเดินหน้าบูดพร้อมกับกล่องใส่แซนด์วิช นี่นัดกันมาหรือแค่บังเอิญ เมื่อแซนด์วิชที่มันกำลังเอามาให้เขากับที่ไอ้พี่ตัวสูงยื่นให้ไอ้ต้นเมื่อกี้คล้ายกันอย่างกับแกะ



“อ่ะ” มันยื่นให้ผม พร้อมถุงเซเว่นที่มีนมจืดกล่องหนึ่งอยู่ข้างใน



ผมรับมาโดยไม่ขอบคุณหรือตอบแทนน้ำใจของมันด้วยอะไรทั้งสิ้น เพราะเป็นหน้าที่ของเบ๊ซึ่งต้องทำอยู่แล้ว ส่วนมันที่พึ่งมาถึงกำลังยืนงงอะไรบางอย่าง



“มึงมาได้ไง” ไอ้เดือนปีสามถามเพื่อนมันที่ยังนั่งร่วมโต๊ะกับพวกผมอยู่



“มีธุระนิดหน่อย” คนถูกถามตอบกลับอย่างไร้อารมณ์



“ที่บอกว่าจะมารอนี่คือมาทำธุระที่นี้งั้นเหรอ” กลายเป็นบทสนทนาระหว่างเพื่อนร่วมคณะไปแล้ว ส่วนผมและพวกกลายเป็นส่วนเกินโดยปริยาย



“เดี๋ยวค่อยเล่า ไปเรียนก่อน” พี่มันว่าก่อนเดินออกไปพร้อมเบ๊ของผมที่ยังไม่ค่อยเข้าใจความมากนัก เออไม่ต้องงง กูที่นั่งตรงนี้ตั้งแต่ต้นยังไม่รู้เรื่องเลย



“เขาเอามาให้มึงทำไมว่ะ” ไอ้ต้นเปิดประเด็นคนแรก



“อย่าเปลี่ยนเรื่อง” ไอ้เจ้าว่าขึ้น ฝ่ากลางวงล้อมของไอ้ต้นไปอย่างไม่ไยดี



“อะไรของมึง” คนเปิดเรื่องโวยขึ้นเมื่อถูกขัดจังหวะ ส่วนผมก็นิ่งรอพวกมันรบกันให้เสร็จอย่างใจเย็น ด้วยการเปิดกล่องแซนด์วิชที่ได้จากมัน ก่อนหยิบหนึ่งในสามชิ้นขึ้นมากินระหว่างชมมหรสพของพวกมัน



“เอาเรื่องของมึงกับพี่นัทก่อน” สิ้นเสียง ไอ้ต้นหน้าเจื่อนลงทันที แสดงว่ามีเรื่องให้พวกผมเสือกแน่นอน



“ว่ามา สองสามวันนี้มึงหายไปไหนมา ไม่เล่นเกมแล้วงั้นเหรอ หรือไปเล่นที่อื่น เล่าให้หมด” ไอ้เจ้าใส่ไม่ยั้ง ซึ่งผมไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น เพราะมันถามสิ่งที่ผมสงสัยไปหมดแล้ว



“ก็เล่นอยู่ กูแค่ไปเล่นที่อื่น” มันตอบเสียงอ่อน



“ที่ไหน” ไอ้เจ้ายังรุกไม่เลิก



“ก็ที่...” เล่นตัวนะมึง แต่ก็เข้าใจมัน บางเรื่องก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องที่ไปเกี่ยวข้องกับพวกนิเทศ ซึ่งไอ้ต้นเหมือนตกอยู่ในสถานการณ์ของผมก่อนหน้า



“มันท้ากู แล้วทีนี้กูก็แพ้ แค่ไป...” ไอ้ต้นพูดงึมงำอยู่ในลำคอจนฟังไม่ได้ศัพท์



“กูไม่เข้าใจ” ใช่เพื่อน กูก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน



“ว่าแต่...” ผมพูดขึ้นมาก่อนเอื้อมมือไปกระชากผ้าปิดปากมันออกมา



“เฮ้ย!” สามเสียงประสานกันอย่างพร้อมเพรียง ไม่สิ ไม่ใช่แค่สามเสียง







ตอนนี้ชาววิศวะที่รายล้อมอยู่บริเวณนี้ จะด้วยความเสือกที่โต๊ะนี้มีผมที่เป็นเดือนคณะและเดือนมหา’ลัย หรือจะด้วยความโคตรเสือกเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมามีเดือนนิเทศมาเดินเล่นแถวนี้ หรือจะด้วยความเสือกใดๆ ก็ตาม พวกมันร้องเสียงหลงไม่ต่างจากพวกผมหลังเปิดผ้าปิดปากไอ้ต้นออก



ไอ้หนุ่มหน้าใสขวัญใจรุกทั้งหลายที่ย้อมหัวแดงกำลังนิ่งงันอยู่ตรงหน้า แม้ว่าทั้งผมและไอ้เจ้าจะไม่แปลกใจกับความ เอิ่มมมมมมม จะเรียกว่าน่ารักก็กระดากปากยังไงชอบกล แต่นิยามของไอ้เพื่อนคนนี้หลังโกนหนวดปาดเคราออกก็จะประมาณนั้นนั่นแหละ



เอาเป็นว่าตอนนี้หลบก่อนละกัน ต้องพามันขึ้นห้องเรียนโดยด่วน เพราะขณะนี้ทั้งกล้องทั้งมือถือและสายตาหลายคู่กำลังจับจ้องมันอยู่ และอีกไม่นานคงเป็นเรื่องแน่ อุตสาห์พรางตัวมาจนจะสิ้นเทอม อะไรดลใจให้มันเผยตัวตอนนี้



“รีบขึ้นเรียนกันเถอะ” ไอ้เจ้าที่คิดเหมือนกันกับผมรวบของที่อยู่บนโต๊ะ ทั้งของมันและของพวกผมเข้ากระเป๋า ก่อนลากเพื่อนหน้าใสที่งงงวยกับเหตุการณ์ตรงหน้าออกจากวงล้อมที่เริ่มแคบเข้ามาทุกที



“ไอ้กาลขอผ้าปิดปากกูคืน” ไอ้ต้นที่เริ่มเข้าใจสถานการณ์ร้องขอผ้าปิดปากมันที่ผมดึงมา



กูเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงมีรุ่นพี่ปีสามหน้าโหดมานั่งเฝ้ามึงถึงคณะ เพราะแบบนี้หรือเปล่านะ หรือมันอาจลึกซึ้งกว่าที่ผมคิดก็ได้ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ตอนนี้ต้องหนีวิศวะมุงไปให้ไกลที่สุดเป็นอันดับแรก



โชคยังเข้าข้างที่คณะนี้กว้างพอให้หาที่หลบ แต่จำนวนคนก็แปรผันตามขนาดคณะเหมือนกัน และการที่มหา’ลัยจุดจุดจุดแห่งนี้ไม่มีประเพณีพี่น้องหรือสายรหัสอะไรให้วุ่นวาย พวกเขาที่แม้จะเป็นปีหนึ่งก็ไม่ต้องไปก้มหัวให้ใคร ไม่ต้องไหว้เช้าไหว้เย็นตั้งแต่พี่รหัสยันไปถึงพี่ที่ชีวิตนี้อาจจะไม่รู้จักชื่อมันเลยด้วยซ้ำ ซึ่งกลุ่มผมก็ไม่ได้สนิทกับพี่ที่ไหน จะมีแค่ผมที่รู้จักรุ่นพี่สโมซึ่งช่วยเหลือช่วงประกวดดาวเดือนแค่นั้น ส่วนไอ้สองตัวที่เหลือไม่เคยช่วยงานสังคมเลย ก็ไร้รุ่นพี่คนใดให้พวกมันเคารพ



เคยศึกษามาเหมือนกันว่าเด็กวิศวะเมื่อจบไป พอถึงเวลาทำงานมักจะมีระบบอุปถัมภ์ของรุ่นพี่จากมหา’ลัย ที่มักรับรุ่นน้องของตัวเองเข้าทำงาน แต่ขอโทษด้วยครับ มหา’ลัยจุดจุดจุดเด่นดังพอสมควร แทบไม่ต้องมีรุ่นพี่รุ่นพ่ออยู่ในนั้น แค่จบจากที่นี่มาก็มีเครดิตดีอยู่แล้ว เรียกได้ว่าชื่อมหา’ลัยเป็นใบเบิกทางแทน แต่การสอบเข้าและการเรียนก็หินไม่น้อย ใช่จะปล่อยใครจบง่ายๆ



ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาผมกำลังจะสื่อว่า อย่าไปแคร์คนที่อายุมากกว่าเราแค่ปีสองปี เพราะมันไม่ได้วัดคุณค่าของความเป็นคนจากตัวเลขพวกนั้น ดูอย่างไอ้เดือนนิเทศเป็นต้น ถึงจะอยู่ปีสามแต่ทำตัวไม่น่านับถือแบบนั้นก็สมควรแล้วที่จะโดนผมเกลียด

















Cute BOYYY // ได้แชร์รูปจาก สายลับในดินแดนลึก เมื่อ 58 นาที //ใครกันคะเนี่ยยยยยยยยย

วิศวะสายหวาน: เพื่อนน้องกาล

Cute BOYYY: ถามเม้นบน เพื่อนคนไหนคะ ???

วิศวะสายหวาน :ตอบแอด เพื่อนคนนี่ไง //แนบรูป//

เสือกเสือกแห่งปี : ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ซ่อนรูป

Cute BOYYY:ทำไมแอดไม่เห็นความดีงามของน้อง มันแค่เส้นผมบังภูเขาเอง

เสือกเสือกแห่งปี:หนวดกับเคราต่างหากที่บัง

สายลับในดินแดนลึก: เหตุการณ์ก่อนหน้านั้น // แนบรูป //

Cute BOYYY:มันยังไงบอกแอดที นัทนิเทศไปนั่งทำไมตรงนั้น

ดอกทองค่ะ : แอดตกข่าว // แนบรูป //

Cute BOYYY: ว้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

Cute BOYYY:แอดขอปิดเพจ

ดอกทองค่ะ:ใจเย็นค่ะแอด ตอนนี้พักเรื่อง #กาลมิว ไปก่อน

ดอกทองค่ะ:ขอให้แอดไปสืบเรื่อง #นัทต้น ก่อน #ต้นหลบใน #ต้นน่ารัก #น้องต้นของพี่

Cute BOYYY:รับทราบค่ะลูก แอดจะทำทุกวิถีทาง

เด็กใหม่หน้าไสย: สู้ๆ ค่ะ #ต้นหัวแดง





- - - - - - - - - - - - - - - -

ขอบคุณสำหรับการติดตาม

สามารถติชมและให้คำแนะนำได้ในช่องคอมเม้น

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-09-2018 13:33:00
 :pig4: :pig4: :pig4:

น้องต้นไปเจอพี่นัทได้ไง?  เรื่องนี้ต้องมีเงี่ยนงำ

ส่วนพี่มิวน้องกาลเนี่ย  ศีลเสมอกันจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Dee^daY ที่ 30-09-2018 19:45:02
เริ่มเข้นข้น
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 30-09-2018 21:04:55
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-10-2018 00:34:26
 :z1:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 01-10-2018 01:54:23
 :เฮ้อ: คู่หลักยังไม่ไปไหน มีคู่ใหม่มาคั่นอีกละ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 12 /// 300918 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 01-10-2018 12:26:28
ขอบคุณครับ +1 ให้นะครับ o13
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 01-10-2018 17:09:13

ตอนที่ 13
~ มิว ~

วันแรกของการเป็นเบี้ยล่างผ่านไปโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นมากนัก เพราะเขายังมึนกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่หาย ไม่ใช่เรื่องของมันกับเขาหรอกนะ เพราะเมื่อเช้ามันก็ไม่ได้คุกคามเขาอย่างที่มโนไว้ในหัวจนถึงเช้า ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้เรื่อยๆ ก็คงดี ถึงจะอยู่ในสถานะเบ๊จำเป็น แต่แค่ส่งข้าวส่งน้ำให้พวกง่อยช่วยตัวเองไม่เป็นแบบนี้ ก็คงไม่หนักหนาสาหัสอะไรมาก



เพราะเรื่องที่ควรคิดมากมันอยู่ตรงหน้าเขานี่ต่างหาก ไอ้เพื่อนหน้านิ่งผู้ไม่เคยบ่งบอกอะไรจากสีหน้าได้เลย มันนั่นแหละที่เป็นต้นเหตุของความมึนงงในเช้านี้



“มึงไปทำอะไรที่วิศวะ” เขาถามมันรอบที่ล้านแปด ซึ่งมันยังคงยืนยันที่จะตอบกลับด้วยความเงียบเหมือนเดิมในรอบที่ล้านแปดนี้



“อย่ามาอ้างว่าไปรอกู” ถึงจะยังไม่ได้อ้างก็เหอะ ขอดักทางไว้ก่อนแล้วกัน



“ต้องมีอะไรแน่ๆ” มันมีกลิ่นโชยออกมาจากความเงียบนั้น อย่ามองเขาแบบนั้น ถึงจะบ้านิยาย แต่บางครั้งมันก็เอามาจับความผิดปกติแบบนี้ได้จริง



“เอ๋... หรือว่า” เขาว่าพอจะจับเค้ารางบางอย่างได้แล้ว เกือบลืมไปเลยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วย ก็วันนั้นไง วันนั้นนั่นน่ะ



“มึงกำลังจีบไอ้เดือนวิศวะใช่ไหม” ก็วันที่มันมาเฝ้าเขาที่คณะ แล้วจู่ๆ ไอ้เพื่อนตัวสูงก็ไปจ้องหน้าเด็กคนนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย พอถามไปก็กลบเกลื่อนเรื่องเกมบ้างล่ะ เปล่าบ้างล่ะ ปฏิเสธแบบนั้นแต่ดันไปหาถึงคณะเนี่ยนะ



“ไหนบอกว่าไม่มีอะไรว่ะ” มันเหล่มองเขา ฮั่นแน่ แสดงว่าเขาจับทางถูกแล้วแน่ๆ มันถึงได้เปลี่ยนสีหน้าแบบนั้น เออ... ถึงจะเป็นสีหน้าเอือมๆ ก็เหอะ เขาขอคิดไปว่ามันอายแล้วกันถึงทำหน้าแบบนั้นใส่ เอะ หรือว่ามันกำลังหึง



“เฮ้ย ไม่ต้องหึง กูกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ เผอิญมีเรื่องกันนิดหน่อยไว้กูจะเล่าให้ฟัง” มันอาจคิดว่าเขากำลังกิ๊กกับไอ้เดือนก็ได้ เพราะตั้งแต่ลากมันไปส่งที่วิศวะ เรื่องอัดรูปเกือบเปลือย เรื่องที่มาเฝ้าถึงคณะ และเรื่องที่เอาแชนด์วิชไปให้ตอนเช้าด้วย



“ตั้งใจเรียนดีกว่าไหม” เป็นครั้งแรกในรอบชั่วโมงที่มันยอมปริปาก แสดงว่ามันโกรธเขาจริงๆ หรือเนี่ย ดูน้ำเสียงเย็นๆ นั่นสิ ไหนจะแววตาซังกะตายนั่นอีก



“แสดงว่ามึงไม่พอใจกูใช่ไหมเนี่ย ไม่เป็นไร มึงไปถามไอ้เด็กนั่นเองแล้วกัน แต่กูไม่ได้เป็นอะไรกับมันจริงๆ นะ”



ขณะที่เขากับมันนั่งเรียนอยู่ในสโลปใหญ่ของคณะ เป็นวิชาน่าเบื่ออีกตัวหนึ่งซึ่งนักศึกษานิเทศศาสตร์ทุกคนต้องเรียน แต่ใช่ว่าจะมีเขาคนเดียวที่ไม่ตั้งใจเรียน ต้องบอกว่ามีไอ้นัทคนเดียวต่างหากที่ตั้งใจเรียนอยู่ ดูคนอื่นสิ หลับบ้าง เล่นเกมบ้าง แชทบ้าง นั่งเม้าท์กันบ้างล่ะ ไม่เห็นมีใครตั้งใจฟังอาจารย์ที่อ่านสไลด์อยู่ด้านหน้าเลย มันต้องไม่พอใจเขาแน่ๆ ถึงได้ยกเหตุผลนี้มาอ้าง เขาควรหาหลักฐานอะไรมาให้ มันถึงจะยอมเชื่อใจ นี่อยู่กันมาเกือบสามปีแล้วนะ มันควรเชื่อเขาสิ



“เอาล่ะ งั้นกู...”



“กูไม่ได้ไปหามัน” อ้าว



.

.

.



พักกลางวันคนเยอะจนต้องระเห็จไปฝากท้องกับคณะอื่น ครั้นจะลากสังขารไปข้างนอกเพื่อไปนั่งอยู่ในรถและติดแหง็กอยู่กลางถนนก็ใช่เรื่อง รวยอย่างเดียวไม่พอต้องมีสมองด้วย เช่นเขาไง ทั้งรวยและฉลาดที่สุด ถึงยอมตามไอ้เพื่อนตัวดีมากินข้าวที่วิศวะ ซึ่งวุ่นวายกว่าที่คณะเสียอีก



เหี้_ยยยยยยยยยยยยยยยยย มึงลากกูมาทำไมที่นี้ คนเยอะ ร้อน เหม็นเหงื่อ แถมยังมีคู่อริกูด้วย ไม่ถามความสมัครใจกูเลย



หรือมันลากเขามาเคลียร์ปัญหาหัวใจของมันและไอ้เดือนวิศวะ ก็บอกไปแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน นี่ถึงกับต้องมานั่งโต๊ะเดียวกันแบบนี้เลยเหรอ



“พี่มาก็ดีแล้ว” ไอ้เดือนมันว่าขึ้นหลังจากผมและไอ้นัทหย่อนตัวลงบนเก้าอี้ตัวยาว ทว่ามันไม่ได้คุยกับเขา แต่หันไปพูดกับไอ้นัทนู้น



เห็นไหมล่ะ เขาบอกแล้วว่ามันต้องมีอะไรกันแน่ๆ แต่พวกมันเอาเวลาที่ไหนไปเจอกันว่ะ ถ้าไม่ได้เข้าข้างตัวเองเกินไป เขาว่าไอ้เดือนวิศวะอยู่กับเขาบ่อยพอดูเลยล่ะ หรือแม่งไปต่อกันหลังจากแยกกับเขา



“พี่เป็นอะไรกับเพื่อนผม” คำถามต่อมาของเดือนวิศวะพาเขาเขวไปไม่เป็นท่าเลย สรุปมันยังไงกันแน่ ไอ้นัทไม่ได้มีซัมติงกับมันหรอกเหรอ



“เฮ้ย พอเลยไอ้กาล ว่าแต่มึงมาทำไมอีกล่ะ” คนที่ตกใจดันไม่ใช่เพื่อนของเขา แต่เป็นเพื่อนของไอ้เดือนที่ดูเป็นเดือดเป็นร้อนแทนคนถูกถาม



“ทำไมไม่ปิดหน้า” เป็นประโยคแรกของเที่ยงวันที่ไอ้เสาไฟฟ้ายอมให้ดอกพิกุลร่วงออกจากปากมันได้



“ก็เห็นอยู่ว่าคนเขารู้หมดแล้ว จะให้ปิดอีกทำไม มันอึดอัดนะ” เด็กผมแดงบ่นงึมงำในลำคอ



“ช่างเหอะ ออกจะดีมีแต่คนบอกว่าน่ารัก” เด็กคนเดิมพูดต่อ ก็น่ารักจริงๆ นั่นแหละ พอหน้าขาวไร้หนวดเคราถูกขับด้วยสีแดงของเส้นผม ยิ่งทำให้น้องเขาเด่นยิ่งขึ้น



อ้ออออออออออออออออ ที่แท้ก็คนนี้หรอกเหรอ



“ต้องให้มาคุมทุกวันเลยใช่ไหม” เพื่อนข้างตัวยังเอ่ยเสียงเย็นไม่เลิก และดูเหมือนว่ามันจะใส่อารมณ์เข้าไปในน้ำเสียงนั้นด้วย นี่เขาอยู่กับมันมาสามปีพึ่งเห็นมันแสดงอาการแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้วคุณผู้ชม นายมิวมิวรายงานจากที่เกิดเหตุ



“จะมาทำไมเล่า งั้นคืนนี้ถ้ามึงแพ้เลิกตามรังควานกูได้แล้ว” เขาตามจีบหนูไม่ได้รังควานรังแตนอะไรทั้งนั้น มานี่มาให้พี่สอนดีกว่า แต่เอะ หรือแบบนี้กันที่ผู้ชายมันชอบ แบบใสๆ ซื่อๆ ไม่ใช่ไสยๆ แบบที่เขาเป็น



“โอเค ชัดเจนไม่ต้องถามแล้วก็ได้” เพื่อนอีกคนของไอ้เดือนพูดขึ้น และดูเหมือนว่าไอ้เดือนวิศวะมันก็พอใจกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า



“ทำอะไรไม่ว่า ขออย่ามาแบล็คเมล์เพื่อนผมก็แล้วกัน” อ้าว! ไหงพาดพิงกูล่ะ หนอยยยยยยยยยยยยยยยย มึงไม่แบล็คเมล์กูเลยนะ ที่ต้องมาเป็นเบ๊อยู่ทุกวันนี้เพราะใครกันล่ะ เอิ่มมมมมมมมมม เพราะกูเองนั่นแหละฮาฮาฮา



“พอเลยพวกมึงแดกข้าวได้แล้ว” คนหัวแดงโวยขึ้นก่อนลุกจากโต๊ะเป็นคนแรก โดยมีไอ้เสาไฟฟ้าตามติดเป็นเงาพร้อมกินหัวทุกคนที่จะเข้ามาเต๊าะไอ้เด็กหัวแดง



“ขาหมูร้านนำชัยกับนมชมพูแก้วหนึ่ง” มันยื่นเงินมาตรงหน้า พร้อมสั่งอย่างกับกูเป็นเจ้าของร้าน



“งงอะไร ไปสิหิวแล้ว” มันเร่ง หนอยยยยยยยยยยยยยยยยยยได้ทีแล้วเอาใหญ่อีกแล้วนะ มึงมันไอ้ชั่วไอ้ดีแต่รูป ถึงเปลือกนอกมึงจะหล่อและหล่อมากกกกกกกกกกกก แต่ข้างในมึงมันตัวซวยของกูเลย ไม่น่าเอาชีวิตไปข้องแวะเลยจริงๆ



“ฝากไว้ก่อนนะ” เขาว่าให้หลังหยิบเงินบนโต๊ะขึ้นมาและเตรียมตัวออกไปซื้อข้าว



“ว่าไงนะ บอกแล้วว่า...” มันพูดเสียงเข้ม



“ครับน้องกาล” โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยกูอยากพ้นไฟ ทำไมต้องบังคับให้พูดเพราะกับมันด้วย ขาดความอบอุ่นหรือไง หรือที่บ้านมึงหยาบคายกัน เลยต้องมาลงที่กูเนี่ย



โรงอาหารวิศวะที่ว่าอบอ้าว ยังไม่เท่ากับไฟแค้นในหัวเขาที่ปะทุขึ้นอีกครั้ง ให้มันได้แบบนี้สิ ให้มันได้แบบนี้ ทำไมไอ้พวกวิศวะมันเยอะอย่างนี้ เดินแทบไม่ได้ต้องเบียดตัวเข้าไปสั่งอาหาร แล้วไหนแถว ทำไมมันคดเป็นงูแบบนั้น เข้าแถวสิ เข้าแถวตรงๆ โอ๊ยยยยยยยอะไรก็ขัดตาขัดใจไปหมด



“ข้าวขาหมูพิเศษขอมันเยอะๆ ครับป้า” เอาให้มันอ้วนตายเป็นไขมันอุดตันในเส้นเลือดไปเลยคอยดู



“นมชมพูหวานที่สุดในโลกแก้วหนึ่งครับ” มึงไม่ได้ตายดีแน่



.

.

.



“...พี่มิว...” เหมือนได้ยินเสียงคนเรียกเขา แต่อาจหูแว่วไปเอง ก็คนเป็นแสนจนไม่รู้จะเดินยังไงแล้วเนี่ย แถมต้องกลับไปกลับมาสองเที่ยว ทั้งซื้อของตัวเองและของไอ้เดือนง่อยนั่นอีก อาจมีคนชื่อมิวแบบเขาก็ได้ ไม่ใช่ชื่อลิมิเต็ดขนาดนั้น



“...พี่มิว...” อีกละ ไปเปลี่ยนชื่อดีไหมนะ





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 01-10-2018 19:01:25
 :pig4: :pig4: :pig4:

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 01-10-2018 22:13:40
 :laugh:

 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 02-10-2018 00:34:22
เพิ่งตามอ่าน
สนุกมากค่า
ตอนแรกเกลียดนิสัยมิว
ตอนนี้เกลียดกาลด้วย ผีกะสางพอกัน :hao3:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-10-2018 01:43:17
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 13 /// 011018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: palette_burgundy ที่ 02-10-2018 12:39:50
ชอบมากเลย ยิ่งอ่านช่วงสอบนะ55555 คนเขียนทำร้ายเรามาก แต่ก็ยอมให้ทำนะ สนุกจริงๆ รอตอนต่อไป ตอนนี้เราตามไปอ่าน nc ในธัญวลัยแล้ว คือจะไม่เอามาลงในนี้เลยใช่ไหม ครั้งหน้าเราอาจไปคอมเมนต์ในธัญวลัยแทนนะ
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 14 /// 021018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 02-10-2018 17:42:38
ตอนที่ 14
~ กาล ~



มื้อกลางวันควรผ่านไปด้วยดี แม้มีแขกจากนิเทศศาสตร์มาแวะเวียนให้ทั้งผมและเพื่อนปวดกบาลกันบ้างในช่วงต้น แต่มื้อนี้ก็ไม่มีอะไรที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ผมยังเป็นนายเหนือบ่าวที่มีมันเป็นเบ๊ คอยซื้อน้ำซื้อข้าวให้ตามที่ตกลงไว้ ทว่า...

“พี่มิววววววววววววว คิดถึงจัง” ทว่าคนแปลกหน้าซึ่งจู่ๆ ก็โพล่มาที่โต๊ะของพวกผม กลับกลายเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม

“เอ๊ย!” ไอ้เดือนปีสามตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้าไม่แพ้พวกผม รวมทั้งเพื่อนตัวสูงของมันด้วย ถ้าให้สรุปสถานการณ์ตอนนี้คือทุกคนไม่เข้าใจและไม่อาจทำใจได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

“มึงเป็นใคร” คนถูกคุกคามถามขึ้นก่อนเพื่อนหลังได้สติกลับคืน

“อ้าว” พวกผมต่างหากที่ต้องอุทานคำนั้นออกมา ไม่ใช่มัน

“อะไรก็แล้วแต่ปล่อยก่อนได้ไหม” เดือนนิเทศว่าขึ้นก่อนขืนแรงสู้อ้อมกอดจากคนแปลกหน้า นี่มันไม่คิดบ้างหรือไงว่าโจ่งแจ้งเกินไปที่จะทำแบบนี้ในที่สาธารณะ โดยเฉพาะกับโต๊ะที่มีคนดังรวมตัวกันอยู่นี้ ผมอาจจะหลงตัวเองไป แต่อย่างน้อยไอ้คนโดนกอดก็ดังพอตัว

“ผมไง” คนก่อเรื่องยังคงพยายามแสดงตัวตนและไม่มีทีท่าของความรู้สึกผิดหรือสำนึกใดๆ ให้เห็นเลย

“เก้าไง” ถึงจะได้คำตอบนั้นมา แต่ไอ้พี่ปีสามก็ยังไม่เข้าใจสิ่งที่คนๆ นั้น ซึ่งยิ้มหน้าบานอย่างคนบ้ากำลังจะสื่อ

มันคงไม่หนำใจ มือที่ถูกสลัดทิ้งเมื่อครู่กลับมาอยู่ที่แขนของคนตัวเล็กอีกครั้ง หน้าด้านหน้าทนจริง คนเขาก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่รู้จักและไม่เล่นด้วย คือผมอยากให้มันลองสังเกตรอบตัวสักนิด จะได้รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่แค่โต๊ะพวกผมแล้วที่กำลังให้ความสนใจคนแปลกหน้าอย่างมัน แต่คนเกินครึ่งในโรงอาหารกำลังหยุดมองและหันมาสนใจการโต้เถียงนั้น

แต่จะว่าไป ไอ้เก้าคนนี้ใช่คนที่เข้าประกวดเดือนคณะจากภาคคอมหรือเปล่านะ เพราะเขาเคยเห็นตอนมาถ่ายภาพโปรโมท แค่ไม่แน่ใจเพราะวันแข่งจริงตัวแทนเดือนจากภาคคอมกลับไม่ขึ้นประกวดเสียงั้น

อันที่จริงมันก็หน้าตาดีใช่ย่อย ขนาดผมเป็นผู้ชายยังยอมรับเลย ทั้งสูง ขาว และหน้าคม พิมพ์นิยมในตอนนี้เลยก็ว่าได้ หรือที่มันกำลังทำอยู่ตอนนี้เพราะจะเรียกร้องความสนใจงั้นหรือ

“เก้าไหนว่ะ” ไอ้เดือนร้องถามออกไป แต่เหมือนจะนึกอะไรได้ถึงยอมให้คนแปลกหน้าจับมือถือแขนระหว่างครุ่นคิดบางอย่างอยู่

“นี่จำกันไม่ได้จริงเหรอ ไอ้เราอุตสาห์ตั้งใจมาทักแท้ๆ” ทำเสียงเล็กเสียงน้อยไม่เข้ากับหน้าตาและรูปร่างมันเลย

“เอ่อ...” เดือนนิเทศทึ้งผมตัวเองอย่างใช้ความคิด โอเวอร์สมกับเรียนคณะนั้นเลย แทนที่จะยืนคิดแบบปกติที่คนอื่นเข้าทำกัน แต่ก็นะ แค่นั้นก็เรียกความนิยมจากแม่ยกและคะแนนสงสารจากคนรอบข้างที่คล้ายจะเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ ถ้าไม่ได้ประโยคหลังช่วยหยุดไว้เสียก่อน...

“น้องเก้า” มันตะโกนลั่น ทำอย่างกับอยู่กันสองคน พี่ครับช่วยดูด้วยว่าตอนนี้มีคนรอเสือกเรื่องของพวกมึงเกินสองร้อยคนเข้าแล้ว

“เย่ จำได้แล้วใช่ไหม คิดถึงจังมากอดหน่อย” คราวนี้กลายเป็นว่าจากคนที่เหมือนจะถูกคุกคาม กลับยอมจำนนให้คนแปลกหน้ากอดตัวกลมอยู่กลางโรงอาหารโดยที่ไม่สนใจใครทั้งนั้น ผมควรกลับไปกินข้าวแล้วคิดว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นงั้นใช่ไหม

“กินขาวอยู่หรอ ผมขอนั่งด้วยได้ไหม” ยังเป็นโลกของสองคนต่อไป

“เอาสิ โหตัวโตขึ้นเยอะเลย” มันก็ให้ความร่วมมือด้วย ค้านกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ฉิบหาย

“อย่างอื่นก็โตนะครับ” เกรงใจคนข้างๆ บ้าง กูกินข้าวอยู่นะ

“ไม่เชื่อหรอก ต้องพิสูจน์” เอากับพวกมันสิ

“ย้อนความหลังสักหน่อยไหมครับ อาบน้ำด้วยกันแบบเมื่อก่อนไง” เออ กลับไปอาบไปนอนกกไปเอากันที่อื่น ที่นี่โรงอาหารไม่ใช่โรงแรมห้าดาว มาจีบกันอยู่นั่นแหละ

“น้ำเปล่าขวดหนึ่ง” ผมยื่นแบงก์ร้อยไปให้มัน

“เออ” มันกระแทกเสียงกลับมาก่อนเดินออกไปตามคำสั่ง ค่อยสบายหูขึ้นหน่อย

“นี่เก้ารู้จักพี่มิวด้วยเหรอ” เป็นไอ้เจ้าที่เริ่มต้นบทสนทนากับคนแปลกหน้า ว่าแต่มึงนั่นแหละไปรู้จักมันได้ไง

“โห... กอดกันขนาดนั้นเป็นอะไรกันหรือเปล่า” และดูเหมือนจะมีเขาคนเดียวในกลุ่มที่ไม่รู้จักมัน เพราะไอ้ต้นก็เข้าร่วมวงสนทนาด้วย โดยที่มีผู้ปกครองนั่งคุมอยู่ข้างๆ

“บ้านอยู่ข้างกันน่ะ แต่ตอนมอปลายไปเรียนที่เมกาเลยไม่ได้เจอกันเลย จนเข้ามอเนี่ยแหละ” ทุกอย่างกระจ่างในคำตอบเดียว และคงสนิทกันมาก ไม่งั้นคงไม่ยอมให้กอดต่อหน้าคนเป็นร้อยแบบนี้หรอก

“มึงใช่คนที่ไม่มาประกวดเดือนหรือเปล่า” ผมกำลังจะสื่อว่ามันใช่ตัวแทนจากภาคคอมหรือเปล่า แต่ดันถามออกไปแบบนั้น

“ฮาฮา กูไม่สบายก็เลยไม่ได้ร่วมงาน มึงได้ตำแหน่งใช่ไหมดีใจด้วยนะ” มันหันมาหัวเราะแห้งๆ ก่อนแสดงความยินดีกับผม อัธยาศัยดีจังว่ะ

“ถ้ามึงเข้าประกวดไอ้กาลมันไม่ชนะหรอก” ไอ้ต้นเล่นกูอีกละ เอาเวลาไปจัดการคนข้างตัวมึงดีกว่าไหม ไม่เห็นหรือไงพี่เขาจะกินหัวมึงอยู่แล้ว

“น้อยๆ หน่อย คนที่ไม่ช่วยงานคณะอย่างพวกมึงไม่มีสิทธิ์พูดอะไรทั้งนั้น” ว่าเข้าให้ กล้ามาวิจารณ์กูงั้นเหรอ

“ไม่หรอก ผมคงไม่เหมาะกับตำแหน่งนั้นเท่ากับกาล และไม่ชอบเป็นคนดังด้วย ขอเป็นคนธรรมดาที่ทำอะไรก็ได้แบบนี้ดีกว่า ไม่ต้องมีใครมาจับผิด” ผิดแล้วครับ มันคงไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มันทำเมื่อกี้กำลังจะทำให้มันกลายเป็นคนดัง

ก่อนที่ผมจะตอบโต้อะไรกลับไป น้ำเปล่าพร้อมเงินทอนก็มาวางอยู่ตรงหน้าแล้ว แม้สี่คนที่เหลือจะสงสัยกับสิ่งที่พวกผมกำลังเป็นอยู่ก็ตาม แต่ทั้งผมและมันก็ไม่ปริปากใดๆ ปล่อยให้งงไปอะดีแล้ว เพราะในนี้ยังมีเรื่องให้งงอีกตั้งเยอะ แถมไอ้ต้นก็ดันสะดุดขาตัวเองจนกลายเป็นเป้าล่อความเสือกอีกคนหนึ่ง สรุปแล้วไม่ได้มีแค่เรื่องของเขาหรอกที่กำลังอีรุงตุงนังอยู่ตอนนี้

“กลับมาทำไมไม่ทักมาบ้างล่ะ อยู่ใกล้กันแท้ๆ แทนที่จะมาหาที่บ้าน” เดือนมหา’ลัยพูดแกมน้อยใจในโลกส่วนตัวของพวกมัน

“ก็จะไปหาอยู่แหละครับแต่ไม่ค่อยมีเวลา แต่เคยไปถามหาพี่มิวอยู่ครั้งสองครั้งนะ เห็นแม่บ้านบอกว่ามีแขกทุกทีเลย นี่แอบซกิ๊กไว้ใช่ไหม” แล้วมึงเป็นอะไรกับมันว่ะ

“บ้า... ไม่มีหรอกก็เพื่อนทั้งนั้น” สิ้นประโยค ไอ้พี่เสาไฟฟ้าหันมองหน้ามันอย่างสงสัย

ก็จะไม่ให้แปลกใจได้ไง มันไม่มีเพื่อนอะไรทั้งนั้น มีแต่ผมเนี่ยแหละที่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญอยู่หลายครั้ง

“งั้นวันหลังผมจะไปหาทุกเย็นเลย”

“มาสิ จะได้ดูว่าใหญ่จริงเหมือนที่พูดหรือเปล่าฮาฮา” สนุกกันใหญ่เลย เรื่องอย่างว่าใช่ที่เอามาพูดกันแบบนี้ไหม

ว่าแต่ผมหงุดหงิดอะไรไม่ทราบ พวกมันจะไปจ้ำจี้เหี้ยอะไรก็ช่างสิ ก็แค่คนรู้จักกัน ถึงพวกมันจะรู้ไปถึงไส้ถึงพุงกันแล้ว ไม่ได้หึงไม่ได้หวงอะไรทั้งนั้น แค่ไม่สบอารมณ์ถ้าจะมีคนมายุ่มย่ามกับเบ๊ของตัวเองก็เท่านั้น

ถ้าเป็นแบบนี้ผมจะแกล้งมันยังไง ยังไม่ได้เริ่มเอาคืนเลยด้วยซ้ำ ถ้าไอ้บ้านี้เขามาเรื่องคงวุ่นน่าดู ไหนจะสถานที่อีก ห้องมันเป็นที่เดียวซึ่งจะสั่งสอนได้ แต่วันใดวันหนึ่งเกิดไอ้หน้าคมคนนี้เคาะประตูเข้ามาก็ยุ่งน่ะสิ

งั้นผมคงต้องเร่งปฏิบัติการโต้กลับที่คิดไว้ว่าจะค่อยเป็นค่อยไปแล้วสินะ ได้ ไหนๆ มึงดันดึงดูดตัวเร่งเข้ามาใกล้ตัวแบบนี้กูก็จะสนองให้... แล้วเจอกัน





“เป็นอะไร ทำหน้าเหมือนโรคจิตอีกแล้วนะมึง”

“ยุ่ง ว่าแต่มึงเหอะระวังแพ้เกมเอานะ”

“ไอ้สัด” ไอ้ต้นฮึดฮัดไม่พอใจที่ผมไปจี้ปมของมัน อย่าเอาแต่จับผิดกูนะเพื่อน เพราะพี่เขาจะจับมึงทำเมียเมื่อไหร่ไม่รู้







Cute BOYYY // ได้โพสต์รูป เมื่อ 58 นาที //มาอีกคนแล้วค่ะ งานนี้มีคนเศร้าแน่นอน

วิศวะสายหวาน : รักสามเศร้าเหรอเนี่ยยยยย#3P

เสือกเสือกแห่งปี : น้องเก้าที่หายตัวไปกลับมาแล้วมึง @เพื่อนคนเสือก

เพื่อนคนเสือก : คนนี้กูจอง

สวัสดีวันจันทร์ค่ะ : โต๊ะนี้รวมตัวคนหน้าตาดีหรือเปล่า จะบ้าตาย

Cute BOYYY : แอดก็สงสัยเหมือนกัน อะไรดึงและดูดคนพวกนี้เข้าหากัน

Cute BOYYY : @วิศวะสายหวาน ว้ายยยยยยยยยยย #3P คืออะไร แอดงง ???

สก๊อยคอนแวนต์ฝั่งตะวันออก : อีกคนที่อยู่ข้างพี่ต้นก็หล่อนะเอาจริงๆ

Cute BOYYY : ตอบน้อง@สก๊อยคอนแวนต์ฝั่งตะวันออก คนนั้นชื่อเจ้า

เด็กคอนแวนต์ตัวจริง : พี่คนสูงๆ หนูขอ

Cute BOYYY : ตอบน้อง@เด็กคอนแวนต์ตัวจริง ส่วนคนนี้นัทนิเทศปี 3 ค่ะ

ดอกทองค่ะ : คนไหนโสดบ้าง #โต๊ะคนหล่อ

เด็กใหม่หน้าไสย : หรือเขาจะไปหมู่กัน #ล้อเล่น #โต๊ะคนหล่อ

Cute BOYYY : @ดอกทองค่ะ น่าจะใกล้สละโสดแล้วค่ะลูก

Cute BOYYY : @เด็กใหม่หน้าไสย อย่าให้เขาหมู่กันเลย ถ้าไม่ชวนแอด










- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 14 /// 021018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 02-10-2018 19:56:41
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 14 /// 021018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 02-10-2018 21:26:24
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปล่อยตัวละครใหม่ออกมาอีกแล้ว

อ่อ...ยังไม่ครบรายชื่อคู่รองนี่หว่า  หุหุ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 14 /// 021018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 02-10-2018 23:14:26
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 15 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 04-10-2018 21:13:58



ตอนที่ 15
~ มิว ~



คิดย้อนกลับไปเขาและไอ้เก้ามีอดีตที่พิเรนทร์ๆ กันพอดู จนบางทีคิดว่าไม่ควรเอามาเล่าออกสื่อด้วยซ้ำ เพราะนอกจากจะไปย้ำความดีงามซึ่งไม่มีเลยในตัวเขา ยังอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวแทนผู้เข้าประกวดเดือนภาคคอมที่หนีเวทีเนื่องจากไข้แดกวันประกวดอีกด้วย

แต่สิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายคงไม่พ้นเรื่องหน้าตาของน้องชายคนนี้ เพราะมันเข้าเกณฑ์ว่าที่เดือนไม่แพ้ไอ้เดือนจอมแบล็คเมล์เลยก็ว่าได้ (ตัวเองไม่เคยทำเลยนะ) จัดอยู่ระดับท็อปของเด็กปีหนึ่งโดยไม่ต้องพึ่งตำแหน่งก็มีคนเหลียวมองกันจนคอเคล็ด

น้องชายที่ไม่ได้เกิดจากท้องเดียวกัน ทว่าสนิทจนแทบจะตัวติดกันตลอดเวลาในสมัยนั้น แต่มาห่างไปช่วงเขาเตรียมสอบเข้ามหา’ ลัย ประจวบเหมาะกับน้องมันไปแลกเปลี่ยนที่อังกฤษสามปีเต็ม ไม่สิ น่าจะไปเรียนเลยแหละไม่ใช่แค่แลกเปลี่ยน จนแทบจำหน้ามันไม่ได้

สามปีนี่คนเราเปลี่ยนกันขนาดนั้นเลยเหรอ ก็จำได้ว่าช่วงที่เขากำลังขึ้นมอหก เรายังตัวเท่ากันอยู่เลย แอบคิดไปด้วยว่าสักวันจะกลายเป็นคู่หูหน้าหวาน เหมือนที่เคยเป็นมาตลอดหลายปีช่วงประถมจนถึงมอต้น

ที่ไหนได้ มันแดกเสาไฟฟ้าเข้าไป แถมยังขัดหน้าที่ยุโรปจนกลายเป็นไอ้หนุ่มมาดแมน แทนที่หน้าหวานในอดีตจนไม่เหลือเค้า

ส่วนความเศร้าระดับสิบเต็มสิบตอนนี้ก็เรื่องปัญหาหัวใจนั่นแหละ เพราะไม่ว่ามันจะเป็นใครหรือไปเปลี่ยนหน้ามาจากไหน ยังไงมันก็คือน้องชายคนเดิมของเขา ถึงจะสูงนำหน้าไปไกลแล้วก็ตาม ครั้นจะคิดไปไกลเกินน้องก็ไม่ได้ ไม่ใช่ผิดศีลธรรมหรือมิตรภาพห่าเหวอะไรหรอก แค่ในหัวมันฝังชิปไว้แล้วว่ามันคือน้องชาย นั่นจึงเป็นความเสียดายในหน้าตาที่มันอุตสาห์ได้รับพรจากพระเจ้ามาในตอนหนุ่ม

“น่ารักเหมือนเดิมเลยนะครับ” มันชมเขาด้วยท่าทางเขินอาย มึงอย่าทำให้กูหวั่นไหวไอ้ห่า โปรแกรมในเครื่องกูรันตำแหน่งและหน้าที่ของมึงเสร็จเรียบร้อยแล้วอย่ามาทำแบบนี้

“ปากหวาน...” ก็ไม่รู้จะว่าไง คนเขาชมไอ้เราก็แค่รับความจริงเอาไว้ไม่เห็นจะเสียหายอะไร

“โสดอยู่หรือเปล่า” ถามแบบนี้จะจีบกูเหรอน้องชาย แบบนี้ก็สายเลือดเดียวกันสิ แต่คงไม่เป็นไรเพราะไม่ได้กะจะมีลูกกันอยู่แล้ว

“โสดจนรากจะงอกอยู่แล้วเนี่ย อย่ามาจี้ปมได้ไหม” บ่นไป เจ็บไป ความจริงทั้งนั้น

“จริงดิ!” ดูเหมือนจะตกใจเอามากนะ กูโสดมันหน้าแปลกตรงไหนไม่ทราบ

“บอกว่าอย่าซ้ำ” ย้ำกูอยู่นั่นแหละ ไม่มีคือไม่มี ตอนนี้มีแต่ศัตรูคู่แค้นที่ทำกับกูอย่างกับลูกเมียน้อยของพ่อมัน

“งั้นจีบนะ” เอาสิ หน้าแบบนี้ไม่ต้องเสียเวลาจีบหรอก กูให้เลย และไม่ต้องคิดลึกด้วย ให้ก็คือให้ มึงอยากได้อะไรก็ให้หมดเลย เพราะหน้าแบบนี้พาไปเดินไหนไม่มีอาย ฮาฮาฮาล้อเล่น

“ให้ก็เหี้ย!” เฮ้ย เหี้ยแล้ว เจอหน้ากันวันแรกก็อำกูละ อย่ามา ด้วยสกิลการสั่งสมวิทยายุทธจากนิยายหลายร้อยเล่มและหลายพันเรื่อง กูไม่เชื่อมึงหรอก

“ยิงมุขตลอด อย่ามาหลอกให้กูหลงเลยไอ้น้องชาย” ใช่ แค่นี้ก็ก็สับสนจะแย่อยู่แล้ว

“ไม่ได้เล่น พูดจริงและจะจีบจริงด้วยถึงไม่อนุญาตก็เหอะ” เอาแล้วไง คราวนี้มันเอาจริงๆ ใช่ไหม กูไปไม่เป็นเลย

“บ้า เป็นพี่เป็นน้องกันมาจงมาจีบอะไรกัน หล่อแบบนี้กิ๊กเพียบล่ะสิ” กลบไป กลบให้มิด อย่าให้มันรู้ตัวว่ากูชวนเปลี่ยนเรื่อง

“อย่านอกเรื่องได้ไหม ผมอุตสาห์รวบรวมความกล้ามาสารภาพเลยนะ” สารภาพเลยเหรอ ไม่ได้พูดเล่นใช่ไหม

“เห็นมีข่าวกับเดือนเต็มเฟซเลยคิดว่าถ้ายังไม่ยอมบอกจะต้องมาเสียใจทีหลังแน่ๆ” มาแล้ว มันมาแล้ว กูไม่ไหวแล้ว กูต้องทำไงต่อ

“ทีแรกกะจะเซอร์ไพรส์หลังสอบเสร็จ แต่ก็นั่นแหละ ถ้าถึงตอนนั้นพี่ยอมไอ้กาลไปก่อนผมก็หมดสิทธิ์น่ะสิ” มันว่าต่อ ขณะที่เขายังนิ่งอยู่

“ไม่ยอมให้ใครชิมน้ำพี่หรอกนะ สัญญากันแล้วนิ” สายไปแล้ว ไอ้เดือนมันกินไปทั้งดุ้นแล้วครับ พี่ขอโทษพี่ผิดสัญญาเอง แต่ว่ามึงยังจำได้นะไอ้สัญญากับเหตุการณ์บ้าๆ นั่น (อยู่ในตอนพิเศษ)

“เอ่อ... คือว่า...” ช่วยเขาที ต้องจัดการปัญหาตรงหน้ายังไงดี นี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นน้องที่รักมาตลอดชีวิต แค่มันพูดว่าชอบคำเดียวกูก็ถวายตัวให้แล้ว ซึ่งตอนนี้ยังซิงอยู่ ที่ทำกับไอ้บ้านั่นมันก็แค่ภายนอก ใช่ มันแค่ภายนอก ท่องไว้มันแค่ภายนอกเท่านั้น

“หรือพี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว” มันยังคงรุกเร้าต่อไปในแบบฉบับหนุ่มหล่อ

ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรเขายังมองการกระทำ น้ำเสียง และท่าทางของมันว่าเป็นไอ้เก้าคนเดิม มันยังเป็นน้องชายของเขา ถึงจะไม่เหลือแม้แต่เงาเดิมให้สืบหา แต่ความรู้สึกยังบอกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ายังคงเป็นเด็กชายในวันนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“เปล่า แต่เราเป็นพี่น้องกัน” บอกเสียงอ่อนกลับไป โดยที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าคู่สนทนา กลัวใจตัวเองจะหวั่นไหวกับความเท่นั้นเข้า

“พี่น้องก็ท้องชนกันได้” มันว่าอย่างนั้น เขาควรเชื่อและคล้อยตามดีไหมเรื่องจะได้จบๆ วินวินกันทั้งคู่

“ผมล้อเล่นครับ” อ้าว! หลอกให้อยากหรอกเหรอ ทำไมเด็กสมัยนี้ชอบเอาความรู้สึกคนไปเล่น กันจัง ความรักนะเฮ้ยไม่ใช่ถั่วงอก เขี่ยเล่นกันนั่นแหละ

“ที่ล้อเล่นไม่ใช่แบบนั้นครับ” มันรีบแก้ตัว เขาคงแสดงสีหน้าอะไรออกไปอีกแล้วล่ะสิ

“ล้อเล่นเรื่องท้องชนกัน แต่ที่บอกว่าชอบนั่นเรื่องจริงร้อยเปอร์เซ็นต์” คนลนลานเร่งอธิบายต่อ อาจกลัวเขามโนไปไกลแบบเมื่อกี้ แต่ว่ามันรู้ได้ไงว่าเขาคิดอะไรอยู่

“สรุปชอบจริงใช่ไหม ไม่ได้แบบพี่น้องนะ ไม่ลองกลับไปคิดดูใหม่เหรอ” ผมว่า เพราะวัยของมันคงเป็นช่วงแห่งการอยากรู้อยากลอง อะไรก็เกิดขึ้นได้กับฮอร์โมนของเด็ก

“คิดแล้วคิดอีกและคิดมานานแล้วด้วย ตั้งแต่ก่อนไปอังกฤษจนกลับมาไทยเมื่อไม่นานมานี้ พอข้างตัวผมไม่มีพี่เหมือนแต่ก่อนมันแปลกๆ ว่ะ” มึงอาจจะกำลังโหยหาความรักความเมตตา (หิวความ ศรัทธาความมั่นใจ ไขว่คว้าความสุขความสดใส ขอเพียงมีใครเอื้ออาทร แบ่งปันร้อยยิ้ม) ไปไกลละ

“กูควรทำยังไงเนี่ย” ถามตัวเองแต่ดันคิดและพูดออกมาแบบนั้น ทำให้มันที่เป็นผู้ฟังและคู่สนทนาต้องตอบกลับอย่างช่วยไม่ได้

“รับรักผมสิ” ง่ายไปล่ะ

“เอางี้...” ไม่ใช่ผม เป็นมันที่ยังพูดต่อ

“ถ้ายังไม่แน่ใจให้ผมจีบนั่นแหละง่ายที่สุดแล้ว จะได้รู้ว่าทั้งผมและพี่ใจตรงกันไหม” และยังว่าต่อไป

“ถ้าสุดท้ายแล้วไม่ใช่อย่างที่คิด ผมก็พร้อมกลับไปเป็นน้องของพี่เหมือนเดิม”

“มึงก็เป็นน้องของกูตลอดนั่นแหละ” ผมยอมต่อประโยคหลังปล่อยมันเหงาอยู่คนเดียว

“อย่าพึ่งพูดแบบนั้น ตอนนี้เราไม่ใช่พี่น้องกัน” เอาที่มึงสบายใจ

“เพราะพี่เป็นหนุ่มหน้าหวานที่กำลังถูกหนุ่มหล่อจีบ” ก็ไม่เลวร้ายอะไรหรอกมั้ง

“ให้เวลาถึงเปิดเทอมสองไหวไหม หรือขึ้นปีสองดี” เขาไม่รู้ว่าเวลามันมีส่วนกับความรู้สึกในอนาคตที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปไหม แต่แค่อยากลองและอยากรู้ว่าภาพของเด็กหน้าหวานคนเดิมในอดีตจะหายไปด้วยความพยายามและการตามจีบของน้องชายคนนี้หรือไม่

“แค่เทอมนี้ก็พอครับ ไม่อยากทำให้พี่อึดอัดนาน” ก็เป็นเด็กดีเหมือนเดิม อย่างนี้สิถึงจะเรียกได้อยากเต็มปากว่าเป็นศิษย์เอกของเขา (ปล. พอดีว่าเคยเป็นครู??? ของมันมาก่อนฮาฮาฮา อย่ารู้เลยครับมันน่าอาย // อยู่ใน ตอนพิเศษ ~ ในอดีต (NC) )

“ว่าแต่ไม่ได้เป็นอะไรกับเดือนมหา’ ลัยจริงๆ ใช่ไหม” เป็นสิ เป็นคู่อาฆาตกันตั้งแต่ชาติที่แล้วไง ถึงได้ตามมารังควานกันไม่จบไม่สิ้นแบบนี้ อย่าให้เล่าเลยเดี๋ยวกูเสียราคาหมด แล้วมึงจะไม่อยากจีบ

“เปล่า ก็รู้จักกันตามประสาเดือน พี่ก็เดือนมหา’ลัยนะ” ได้ทีก็อวดสรรพคุณให้ลูกค้าพรีเมี่ยมเสียหน่อย เพราะยังเป็นช่วงลดแลกแจกแถมกันอยู่

“โอเค งั้นเริ่มกันเลยไหม”

“เริ่มอะไร” ดูหน้ามันสิ เจ้าเล่ห์เสียไม่มี

“รื้อฟื้นความหลังไง วันนี้ศิษย์จะมาขอขึ้นครูครับ” ขึ้นครูพ่องมึงสิ

“หักหนึ่งคะแนน โทษฐานอยากไม่เป็นเวล่ำเวลา” เพราะตอนนี้เขายังไม่อยากฮาฮาฮา เอาเป็นว่าถ้ามาถูกจังหวะก็อาจมีลุ้นที่ครูคนนี้จะขอขึ้นศิษย์อย่างเต็มใจ

“งั้นไปหาอะไรกินกันไหม” มันว่าพร้อมคว้าแขนผมลุกเดินไปพร้อมกัน ออกจากห้องแห่งความทรงจำเพื่อไปหาอะไรรองท้องก่อน เรื่องหลังจากนี้ค่อยว่า


กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยู่ไหน

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : บ้าน

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : มีไร

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูหิว มารับหน่อย


“เอ่อ... เจ้า เดี๋ยวของแวะไปที่คอนโดนี้ก่อนนะ”

“ได้ครับ”

“ว่าแต่มีธุระอะไรหรือเปล่า”

“นิดหน่อยน่ะ”





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)


หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 15 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-10-2018 02:40:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 15 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: TachibanaRain ที่ 05-10-2018 11:00:01
เพิ่งได้มาอ่าน ตอนแรกไม่ค่อยปลื้มนิสัยนายเอกเท่าไหร่ดูเป็นคนเอาแต่ใจแถมนิสัยแย่ที่มาแบล็คเมล์พระเอกอีก แต่พออ่านถึงช่วงที่นางยอมลงให้ไปตามตอแยพระเอกอีกก็ว่าดีขึ้นนะ แต่ดั๊นนนโดนพระเอกเอาคืนซะงั้นตอนนี้เลยกลายเป็นนางซินไปเลย พระเอกก็ร้ายแถมไม่รู้ใจตัวเองอีก รออ่านตอนต่อไปอยากรู้ว่าพระเอกจะซึนได้อีกนานแค่ไหน
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 15 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 05-10-2018 16:42:30
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 16 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 06-10-2018 13:21:43


ตอนที่ 16
~ กาล ~



ทำไมเบ๊ของผมถึงมีผู้ติดตามได้ล่ะ ปกติเบ๊มันต้องตกทุกข์ได้ยาก ฝ่าฟันความลำบากจากพระเอกใจหินไปให้ได้ด้วยตัวคนเดียวไม่ใช่เหรอ ถึงแม้เขาจะไม่อยากเป็นพระเอกของมันก็ตาม



“มีอะไรกันหรือเปล่าครับจ้องตากันแบบนี้เดี๋ยวท้องเอานะ” เพื่อนร่วมคณะ ผู้ติดตามเบ๊ของผม เอ่ยขึ้นอย่างเสือกๆ



“หาอะไรกินกันเถอะครับ” มันขัดขึ้นอีกครั้ง ก่อนเปิดประตูรถเข้าไปนั่งประจำที่คนขับ



ผมจนใจขึ้นรถไปกับพวกมัน จะให้ถอยตอนนี้ก็กระไรอยู่ ยอมให้มันสักวันคงไม่ส่งผลต่อภาพรวมของเกมที่ผมอยู่เหนือกว่าหรอกมั้ง



“กาลเป็นอะไรกับพี่มิวเหรอครับ” สุภาพมาแบบนี้



“ก็เปล่า” ก็สุภาพกลับ (นั่นสุภาพแล้วเหรอ?)



“ผมกำลังจีบพี่มิว นึกว่าที่กาลอยู่กับพี่เขาบ่อยๆ ... แต่ไม่เป็นอะไรกันก็ดีแล้วครับ” มันเป็นเบ๊ส่วนผมเป็นเจ้านาย แบบนี้เรียกว่าเป็นอะไรกันไหม



แล้วนี่ผมต้องมาอยู่ในวงล้อมของพวกไม้ป่าเดียวกันเสียได้ มึงจะจีบก็เรื่องของมึงสิมาบอกกูทำไม หรือมันเป็นแผนของไอ้เดือนปีสาม



มันอาจใช้ไอ้ภาคคอมมากวนผมแล้วใช้เป็นข้ออ้างไม่ทำตามคำสั่ง มันอาจจะบอกว่าติดธุระ อยู่กับแฟน เอากับผัว หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งพอจะเลี่ยงเจอหน้าขณะที่ผมต้องการตัวมัน หนอยยยยยยยยยยยยยแผนสูงนักนะ



ผมควรจัดการมันยังไงดี ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่ พวกมันสองคนอาจรวมหัวเอาคืนผมก็ได้ใครจะไปรู้ อย่างวันนี้ที่หลวมตัวมาด้วยมันอาจพาเขาไปฆ่า ไปแบล็คเมล์ หรือจับขังเดี่ยวแล้วเข้ามาทำมิดีมิร้ายกับร่างกายของผมก็ได้



ต้องเป็นแบบนั้นแน่ ดูจะสันดานและการกระทำของไอ้เดือนปีสามแล้วคงไม่พ้นเรื่องต่ำๆ แบบนั้นหรอก ต้องหาทางหนีแล้ว



เอ๊ะ ไม่สิ หรือจะเป็นแผนซ้อนแผน ที่ทำให้ผมวิตกจริตอย่างนี้แล้วยอมปล่อยตัวมันไป จะว่าไปไอ้ตัวแทนภาคคอมก็ไม่น่าจะเป็นลูกน้องของมันได้



“ก็กำลังจะจีบเหมือนกัน”



“ฮะ!” จำเป็นต้องตกใจพร้อมกันแบบนั้นไหม



นิ่งไว้ นิ่งเข้าไว้ ปล่อยให้พวกมันคิดกันไปเอง เพราะนอกจากจะทำให้ไอ้คนขับรถมันเข้าใจผิดว่าผมจะแข่งมันเรื่องจีบ ไอ้คนที่นั่งข้างหน้าคนขับก็จะได้ไม่ใช้ข้ออ้างมาบอกปัดคำสั่งของผม ยิงปืนนัดเดียวเกย์ตายสองตัวแบบนี้คุ้มโคตร



“เล่นบ้าอะไรมึง” ก็มึงเล่นบ้าๆ กับกูก่อน



“อย่างนี้ก็มีคู่แข่งสิครับ” คนขับรถอย่าพูดมาก ขับๆ ไป



“เกลียดเกย์ไม่ใช่หรือไง” มันงัดเหตุผลข้อนี้มาค้าน



“ได้ลองแล้วชักจะติดใจ” ผมก็ง้างกลับอย่างนอบน้อม



“ลองอะไรกันเหรอครับ” สงสัยเองจริงนะมึง เป็นหลานไอน์สไตน์หรือไง



“เปล่าอย่าไปฟังมัน มันบ้า” มึงสิบ้ากาม เดี๋ยวแม่งปล่อยรูปให้หลุดว่อนเน็ตเสียเลย







และแล้วมื้อกร่อยๆ ที่มีแต่ไอ้ตัวแทนภาคคอมพูดเป็นต่อยหอยอยู่คนเดียวก็ผ่านพ้นไป ผมลงจากรถที่พวกมันมาส่ง ก่อนขึ้นไปบนห้องของตัวเองซึ่งไม่พบใครเลย แม้แต่ไอ้เจ้าที่วันๆ หมกตัวอยู่แต่ในห้องยังหายหัว หรือไปแดกข้าวด้วยกันนะ



“อ้าวกลับมาแล้วเหรอมึง” ไอ้คนที่กำลังโดนผมนินทาเปิดประตูมาพร้อมถุงร้านสะดวกซื้อใบเขื่อง



“ไอ้ต้นไม่ได้อยู่กับมึงเหรอ” ปกติตัวติดกันตลอด



“เปล่า น่าจะออกไปเล่นเกมข้างนอก” อาการชักจะหนักไปละ ควรย้ายจากโยธาไปภาคคอมให้มันสิ้นเรื่อง



“แล้วเปิดหน้าแบบนั้นไม่โดนฉุดเอาหรือว่ะ” ถึงจะด่าจะตบหัวมันทั้งวันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ สมัยมอต้นก็ได้พวกผมคอยปกป้องตลอด กับไอ้หน้าหวานๆ ที่ล่อแมลงเข้ามาแบบนั้น แล้วตอนนี้ยังมีหัวแดงให้มันเด่นสะดุดตาเข้าไปอีก



“มึงคิดว่าพี่นัทจะปล่อยให้อยู่ห่างมือหรือไง” อ้อไอ้พี่เสาไฟฟ้าคนนั้น



“สรุปยังไง จีบเหรอ แล้วไอ้ต้นเล่นด้วยหรือไง” เห็นเอะอะอะไรก็ด่าตุ๊ดด่าเกย์ แล้วทำไมกลายเป็นสายนิยมธรรมชาติไปได้ล่ะ



“เห็นบ่นว่าเล่นเกมแพ้เลยถูกแกล้ง” เกมอีกแล้วสินะ พวกนิเทศนี่ขยันสร้างเกมกันเก่งจริง



หวังว่ามันคงไม่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับผมก่อนหน้า แต่จะว่าไป ไม่ใช่ว่าถูกไอ้พี่คนนั้นแบล็คเมล์จนต้องยอมทำตามหรอกนะ



“อย่าห่วงมันเลย คนนี้กูแสกนแล้วให้สามผ่าน” ไอ้เจ้าจับความกังวลของผมได้เลยพูดออกมาแบบนั้น ควรสบายใจดีไหม



“แน่ใจนะ” เพราะเป็นคณะนิเทศไงถึงไม่มั่นใจ แล้วยังเป็นเพื่อนของไอ้โรคจิตนั่นด้วยยิ่งไปกันใหญ่



“รับรองเป็นพ่อของลูกได้” กูซีเรียสอยู่นะ นั่นมันเพื่อนไม่ใช่ลูกสาว



“เหอะน่า สืบประวัติมาเรียบร้อยแล้ว เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงน่ารักมาก แต่ไม่เคยเลิกใครก่อนเลย มีแต่ฝั่งผู้หญิงที่ขอเลิก โดยใช้เหตุผลว่า...” ก็เล่ามาสิ



“ไม่ยอมเอา!” เหตุผลหรือนั่น



“ก็เป็นคนให้เกียรติฝ่ายตรงข้าม แค่จับมือพี่แกยังไม่กล้าแล้ว แถมยังหวงของสุดๆ ด้วย รับรองได้ว่าไอ้ต้นปลอดภัย แถมยังไอ้ผัวหล่อๆ มาประดับบารมี คุ้มสุดๆ” ไม่ใช่ของซื้อของขายนะมึง



“รู้เยอะจริงนะมึง” ต่อมความเสือกระดับสิบ ควรย้ายไปเรียนนิเทศให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย มาปวดหัวกับแคลคูลัสทำไม



“ก็เพื่อนจะออกเรือนทั้งทีมันต้องผ่านการคัดกรองก่อน แต่ไม่รู้ว่ามันจะยอมเล่นด้วยไหม ยิ่งตามคนไม่ทันด้วย” นั่นแหละที่น่าเป็นห่วง ว่าแต่ตอนนี้มันรู้หรือยังว่าเขาจีบ



“กูว่ายังไม่รู้ว่าพี่เขาจีบ” ผมพูดออกไป ซึ่งไอ้เจ้าพยักหน้าเห็นด้วยเต็มที่



“แล้วมึงล่ะ จะออกเรือนกับเขาด้วยเหรอ เห็นตามพี่มิวไม่ห่างเลย” วกเข้าเรื่องกูได้ไงว่ะ



“ของพวกกูไม่นับว่าออกเรือน กำลังฟ้องศาลกันต่ากหาก” โดยมีเขาเป็นศาลเตี้ยตัดสินคดีความทุกอย่างด้วยตัวเอง



“ระวังเหอะจะตกหลุมที่ตัวเองขุดไว้” ไม่มีทาง



“มึงก็หาสักคนสิ เห็นมีสาวน้อยสามใหญ่แอบมองมึงบ่อยๆ”



ผมยังไม่เคยพูดถึงไอ้หน้าตี๋คนนี้เลย ลูกจีนผสมที่หลงเหลือความเป็นจีนอย่างจับผิดได้ โชคยังเข้าข้างที่อยู่ในฝั่งตี๋หล่อ ออกแนวอบอุ่นมากกว่า แถมสูงพอๆ กับผมด้วย แต่สมัยนี้ความตี๋ลดความนิยมลงมันเลยดรอปลงหน่อย



“อยู่กับมึงไงเลยไม่มีใครเข้าหา พอจะมาทักกูก็โดนหน้ามึงบังมิดละ แถมตอนนี้มีไอ้ต้นมาหารไปอีก รีบๆ เปิดตัวกันได้แล้วพวกมึง กูจะได้มีลู่ทางของตัวเองบ้าง” มันบ่นแบบไม่ใส่ใจมาก ก่อนเดินไปที่ส่วนครัว จัดการกับอาหารกล่องที่อยู่ในถุงพลาสติกขาว



“วันหลังเอาถุงไปผ้าสิ รักษ์โลกหน่อย” แซวมันไปงั้น



“ครับ พวกอนุรักษ์ไม้ป่า เอ๊ย ป่าไม้ เอ๊ย... โอ๊ย”



“หุบปากไป” สนับสนุนเพื่อนให้ลดปริมาณประชากรอยู่นั่นแหละ นี่มันสังคมผู้สูงอายุ ต้องผลิตเด็กป้อนสังคมสิถึงจะถูก



“หาคุณหมอสักคนมาดูแลสุขภาพหน่อยก็ดี เริ่มผอมไปละ แล้วยังกินแต่ของพวกนี้เดี๋ยวก็เข้าโรงบาลหรอก” ผอมลงจริงๆ เพราะเอาแต่หมกตัวอยู่ในห้องไม่ยอมออกไปไหน เขียนแต่นิยายและนั่งจ้องคอมจนสายตาสั้นแบบนั้น



“จะหาหล่อๆ มาอวดเลยครับแม่” มันประชดกลับมา เออ! กูจะคอยดู



“ถ้าไม่หล่อเท่ากูอย่าเอามานะ กูไม่ให้ผ่าน” ฮาฮาฮายากหน่อยนะหมอสมัยนี้หล่อน้อยกว่าผมทั้งนั้น ไม่ได้หลงตัวเองเลย



“เดือนมหา’ลัยปีห้าจากคณะแพทย์คงพอไหวนะครับ” ยังเล่นไม่เลิก ระวังเหอะ



“ถ้าเดือนก็หายห่วง แม่จะได้นอนตายตาหลับ”



“แล้วแม่อยากตายตอนนี้ไหมครับ”





สัด!












#ร้ายนักใช่ไหม



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory​

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 16 /// 041018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: Nung66669 ที่ 06-10-2018 18:48:13
แต่ละคนงานดีทั้งนั้น :z1:  :จ้อบจัง1:

ไปแอบอ่านตอนพิเศษมามิวนี้มันหื่นตั้งแต่เด็กจริงๆดูจากตอนพิเศษไม่น่าจะชิงจนถึงป่านนี้นะ :laugh5:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 17 /// 071018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 07-10-2018 09:24:29
ตอนที่ 17
~ กาล ~



ล้อกูเล่นใช่ไหมเนี่ย



ผมขอย้อนกลับไปเมื่อคืน หลังจากเตือนไอ้เพื่อนหน้าตี๋เรื่องอาหารการกินไปไม่ทันไร สามชั่วโมงต่อมา หลังจากไอ้ต้นกลับถึงคอนโด ก็ต้องออกไปกับผมอีกเพื่อส่งเจ้าพ่อนิยายเข้าโรงพยาบาล ด้วยอาการ กรดไหลย้อน โชคดีที่ไม่หนักมาก แต่ต้องนอนดูอาการคืนหนึ่ง และไม่รู้ว่าไปนอนกันอีท่าไหน ถึงมีคนมาตามเฝ้าไข้ถึงคณะในเช้าวันใหม่แบบนี้


ว่าแต่เมื่อเช้าที่กลับคอนโดไม่ได้มาเองใช่ไหม เพราะมันผลักไสไอ้หัวแดงให้มาเรียนกับผมครั้งแรก ทั้งที่ก่อนหน้านั้นพวกมันต้องขับรถมาด้วยกัน และทิ้งผมที่ตื่นสายหน่อยตามหลังมา แต่วันนี้มันมาเอง ไม่ไม่ไม่ ไม่ได้มาเอง


“สวัสดีครับพี่” ไอ้ต้นเอ่ยทักแขกใหม่ประจำโต๊ะ คนอื่นๆ ที่พอจะคุ้นหน้าและอ่อนกว่าก็ยกมือไหว้กันเป็นขบวน เพราะคนตรงหน้าดูจะแก่สุดในบรรดา


ซึ่งขณะนี้โต๊ะประจำของพวกผมเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าอุปสงค์กับอุปทานมันแปรผันตรงหรืออย่างไร ทีแรกก็ไอ้พี่นัทตัวสูง ตามมาด้วยเบ๊ของผมที่ติดสอยมากับเพื่อนตัวเอง แถมไอ้ตัวแทนภาคคอมที่จีบเช้าจีบเย็นจนตามมาจีบที่โต๊ะของพวกผมอย่างช่วยไม่ได้


แล้วนี่อะไร ทำไมเดือนมหา’ลัยปีห้าถึงมาพร้อมกับไอ้ตี๋ได้ พวกมึงพึ่งเจอกันเมื่อคืนเองนะ ว่าที่หมอเขาบริการดีขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ จำเป็นไหมที่ต้องเฝ้าไข้คนป่วยถึงคณะ


“บริการดีจังเลยนะครับ” ยังเป็นไอ้ต้นที่ทำหน้าที่ทลายความอึดอัดของชุมชนขนาดย่อมตรงนี้


“ดูแลแค่คนนี้ครับ” ว่าที่หมอตอบกลับอย่างสุภาพ คือมันสุภาพจากข้างใน ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง


แต่ก่อนที่พี่จะอัธยาศัยดีกับเขาไปทั่วแบบนี้ช่วยเช็คคนที่ไม่มีอัธยาศัยข้างๆ ตัวก่อนนะครับ แล้วยังมีไอ้พี่นัทจ้องไม่วางตาอีก เมื่อคนเริ่มบทสนทนาเป็นเด็กในปกครองของตน


“กินข้าว” นั่นไง จะงาบหัวมึงแล้วไอ้หัวแดง รีบกินข้าวเถอะกูแนะนำมึงจากใจ



“ผมบอกว่าไม่เป็นไร ก็ยังตามมา” นี่ก็อีกคน ที่เปลี่ยนวิถีปกติของตัวเอง จากอาหารกล่องในร้านสะดวกซื้อ กลายเป็นข้าวจากโรงอาหารที่มีคนเดินไปซื้อให้



กูขอคารวะมึงเลย พูดเล่นกันข้ามคืนมึงได้ผัวเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ได้ไง แถมยังเป็นเดือนปีห้าเหมือนที่โม้ไว้เสียด้วย



“ไม่กินกูขอนะ” เบ๊ของผมพูดขึ้นมา เพราะผมมัวสนใจความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของกลุ่มชายโฉด ชายโสด



“ผมก็ทำมาให้พี่มิวนะครับ” ไอ้เจ้าว่าขึ้นเมื่อรุ่นพี่ของมันไม่สนใจ



สรุปแล้วมันไม่ได้เป็นลูกน้องของไอ้เดือนนิเทศ แต่เป็นคนที่กำลังจีบแบบเต็มตัวจริงๆ และดูเหมือนว่าจะมองเขาเป็นคู่แข่งไปแล้ว ทั้งๆ ที่พูดเล่นเพื่อหวังจะป้องกันตัวเองเท่านั้น กลายเป็นเรื่องเลย ต่อหน้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่นะ พอลับหลังมาก็มีปัญหากับผมตลอด เมื่อกี้ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ก็ยังเขม็งผมเลย



และที่ไม่ชอบใจที่สุดก็หนีไม่พ้นคนนอกซึ่งจับจ้องกลุ่มนี้มากกว่าเดิมนั่นแหละ ช่วงหลังประกวดเดือนมหา’ลัยจบลงก็ยังพอรับมือได้ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว ใครใช้ให้เอาเดือนปีหนึ่ง ปีสาม ปีห้าของมหา’ลัยมารวมกันไว้ที่โต๊ะเดียวแบบนี้



พวกสาวแท้สาวเทียมก็เวียนกันเอาของมาให้จนล้น ห้ามก็ไม่ฟัง สักพักก็มาอีกแล้ว นมบ้าง น้ำหวาน ขนมปัง คุกกี้ แซนด์วิช ผมแทบไม่ต้องให้เบ๊ตัวเองทำมาให้ก็ได้



“น้องกาล พี่ทำมาฝาก”



“ขอบคุณครับ” รับมาตามมารยาท



“พี่มิว หนูให้ค่ะ”



“ขอบคุณมากครับ”มันยิ้มแล้วรับมาไม่ต่างกัน



“วันนี้คุณหมอมาด้วยเหรอคะ พอดีแวะเข้าเซเว้นแล้วเห็นว่าน่ากินเลยซื้อมาฝาก”



“คราวหลังไม่ต้องก็ได้นะครับ ขอบคุณมากครับ”ส่งความหวานกลับไปให้อย่างละมุน



“น้องต้นครับ เอ่อ... งั้นฝากพี่นัทก็ได้ครับ”



“...”คนหวงของจ้องเขม็ง เมื่อมีหนุ่มเข้ามาแวะเวียนแถวไอ้หัวแดง



“เราควรย้ายที่นั่งไหม ดูของบนโต๊ะสิไม่มีที่วางแล้วเนี่ย” ไอ้ต้นพูดขึ้นกลางวง แน่นอนว่าคนอื่นก็เห็นด้วย



นี่มันนิยายวายชัดๆ นิยายที่ไอ้มิวมันเพ้อถึง แล้วไฉนเพื่อนของผมสองคนถึงถูกส่งออกไปเป็นสินค้าป่าไปได้ ไหนพวกมึงล้อเลียนกูที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้ ดูเอาเองแล้วกันว่าใครกันแน่ที่พาเรื่องวุ่นวายเข้ามา แถมฝากว่าที่ผัวมาคนละตัวอีก เชียร์ให้กูได้นักแล้วเป็นไง



ภาคเช้าผ่านไปหลังจากแยกย้ายกันไปเรียน ความวุ่นวายขนาดย่อมถูกพักไว้ก่อน แต่ไอ้ความสงบที่เขาได้รับมาตอนนี้มันคืออะไรกันแน่ ทำไมเหลือแค่ผมคนเดียวที่ต้องมานั่งกินข้าวกลางโรงอาหารคณะตัวเองแบบนี้



กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ข้าวขาหมูเหมือนเดิม นั่งรออยู่ที่โต๊ะ

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : เออ!



ทุกปัญหาจัดการด้วยการเรียกเบ๊มาใช้งาน เพราะไอ้เพื่อนสองตัวมันบอกว่าติดธุระกันทั้งคู่ ดูก็รู้ว่าถูกลากตัวไปกินข้าว แถมยอมไปกันง่ายๆ ด้วย ชักสงสัยว่าแม่งติดใจอะไรกันนักหนาว่ะ

“ข้าวมาแล้วครับเจ้านาย” มันประชด หลังส่งจานมาตรงหน้าผม พร้อมจานของมันที่วางไว้ฝั่งตรงข้าม

“กลุ่มพวกมึงนี่ดีกันจังเลยนะ ขนาดไอ้นัทจอมไร้อารมณ์ยังแพ้ให้กับน้องต้นเลย ไหนจะพี่หมออีก มีแต่มึงนั่นแหละที่นิสัยไม่ดี แกล้งกูไม่เลิก” มันใช่ความผิดของผมไหม

“มึงนิสัยเสียไง ต้องดัดสันดาน” ผมว่ากลับไป

“สัด” มันพูดแค่นั้นก่อนกลับไปสนใจจานข้าวตรงหน้า นี่มากัดเขาก่อนแล้วอารมณ์เสียอะไรอีก

“คืนนี้กูไปหาที่ห้อง” ผมบอกมัน ก่อนเริ่มจัดการจานของตัวเองเช่นกัน

“มาทำไม ไม่ต้องมา” มันหยุดกินกลางคัน และดูเหมือนจะไม่อยากให้เขาไปหาอย่างนี้ คงไม่ใช่นัดไอ้ภาคคอมไว้หรอกนะ

“ประโยคบอกเล่า ไม่ใช้ประโยคคำถาม” มันชักสีหน้ากลับ

“ไม่ได้ทำอะไรสนุกๆ กันตั้งนานแล้วนิ กลัวมึงเหงา” หยอกมันไป

“ไม่! กูไม่ได้เหงาไม่ต้องมาหรอก” ลนลานแบบนี้กูยิ่งอยากเข้าไปใหญ่ เอาเป็นว่าคืนนี้ขอไปแกล้งคนสักหน่อย เพราะดูเหมือนว่าพอไม่ได้ทำหน้าที่เจ้านายที่ดีมันเริ่มจะเหลิงเสียแล้ว

“ว่าแต่ชอบสดหรือในถุงดี” ล้อมันไปอย่างงั้นแหละ ไม่ได้คิดจะทำจริงหรอก

“เหี้ย! กูไม่ให้เอาหรอกนะ ไม่ต้องมา” มันตอบเสียเบากลับ สงสัยกลัวคนแถวนี้ได้ยินเข้า

“แปลว่าสดได้” ผมยังไม่เลิกแกล้งคน

“ไม่!”

“โอเคในถุงก็ได้”ฮาฮาฮา ดูมันทำหน้าเข้าสิ

“ไม่ให้เอาอะไรทั้งนั้น”

“หวงตัวเหรอ เห็นกันหมดแล้วจะกลัวอะไร” คิดว่าผมจะทำจริงๆ หรือไง ก็แค่อยากพูดประโยคที่เคยโดนมันดูถูกไว้












​ตอนหน้าพบกับ

~ ตอนพิเศษ ~

ของนายหน้าตี๋


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 17 /// 071018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-10-2018 10:14:31
 :pig4: :pig4: :pig4:

สุดท้ายทั้งกลุ่มกลายเป็นเกย์กันหมดเลย

แต่เป็นรุกหนึ่งรับสอง  อิอิ
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 18 /// 081018 p.2
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 08-10-2018 13:09:12
ตอนที่ 18


~ มิว ~



วันนี้เขาต้องกลับดึกพอควร เพราะต้องเคลียร์โปรเจกต์ที่เหลือให้เสร็จก่อนสี่ทุ่ม พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นทุกคนซึ่งสุมหัวรวมตัวกันอยู่ใต้คณะ เนื่องจากเป็นวิชาที่ทุกคนต้องเรียน บังคับแกมขู่เข็ญไม่งั้นไม่จบ

ทว่า การมีคนมานั่งจ้อง มาเฝ้า หรือคอยติดตามเวลาแบบนี้ เขายืนยันว่ามันไม่ใช่เรื่องดีนักหรอก ยืนยันเลยว่ามันไม่ใช่อะไรที่น่ารื่นเริงใจเลย เพราะมันทั้งน่ารำคาญใจ หงุดหงิด และพาให้อารมณ์เสียแบบนี้ไง

“น้องเขามาเฝ้ามึงเหรอ” หนึ่ง

“เป็นอะไรกัน” สอง

“เปลี่ยนคนไวจังนะ” สาม

“ทำไงให้ได้แบบนี้ บอกหน่อย” สี่

“ได้กันยัง” ห้า

กูอยากตบปากพวกที่คิดว่าตัวเองมีเวลามากพอให้มาสนใจเรื่องชาวบ้านแบบนี้ แทนที่จะเอา ไปปั่นงานให้มันเสร็จไวๆ และอยากบอกออกไปเสียงดังๆ เลยว่า

‘จะมาทำไมก็ช่างมันสิ’ หนักส่วนไหนของพวกมึง มันไม่ได้มาหาพวกมึงอยู่แล้วไม่ต้องไปสนใจ

‘มันจะเป็นอะไรกับกูแล้วจะทำไม’ เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นพ่อ เป็นผัว เป็นอะไรก็ได้ที่กูอยากให้เป็น

‘เปลี่ยนใหม่ เปลี่ยนเก่า เปลี่ยนบ่อยแค่ไหนก็ชีวิตกู’ ได้ยินชัดไหมว่าเรื่องของกู อย่าเสือก ถ้าอยากได้ก็ไปหาเอาเอง

‘กูรวยจบไหม’ กูมีเงิน กูไม่ได้อวด เพราะกูมีมันจริงๆ อย่าสงสัย

‘แล้วมันจะได้กับกูหรือไม่ จำเป็นต้องอัดคลิปมาเปิดให้ดูไหม’ เอาไหม กูยิ่งอัดเก่งเสียด้วย





โว้ย! เสียอารมณ์ งานก็ยังไม่เสร็จเห็นไหม มันยังไม่เสร็จ พวกมึงจะไปรู้อะไรว่าถ้ากูยังไม่ยอมกลับไปมันจะเกิดอะไรขึ้น

“ดึกแล้วกลับก่อนก็ได้” ไอ้นี่ก็อีกคน ตามมาเฝ้าถึงคณะเลย บอกแล้วว่าวันนี้มีงาน

“ไม่เป็นไรครับ จะได้แวะกินข้าวด้วยกันเลย” ไม่ทันแน่ กินข้าวไม่ทันแน่ๆ

“พี่อาจไม่ได้กินข้าวกับเก้าอ่ะ วันนี้ง่วงและเพลียมากอยากกลับไปหลับแล้ว” บอกมันไป แม้กูจะหิวจนไส้กิ่วแล้วก็ตาม แถมมีคนกำลังตามตัวกูอยู่ มือถือเจ้ากรรมก็สั่นไม่เลิกสักที

“ไม่เป็นไรครับ ไว้ขับไปส่งที่บ้านแล้วผมค่อยออกไปหาอะไรกิน” โอ๊ย! ไอ้เด็กคนนี้

“เก้า พี่ว่าเราจะดื้อไปแล้ว บอกว่าให้กลับก็กลับสิ นี่มันเวลาไหนแล้ว คิดถึงพ่อกับแม่เราบ้าง ถ้ารู้ว่ามาทำอะไรแบบนี้พี่จะรู้สึกผิดไปด้วยนะ” พาเข้าบทโศกไปเลย อย่าให้มันจับได้

“แต่ว่า...” ไม่มีแต่ ถ้ามึงกลับไปกับกูเท่ากับกูฆ่าตัวตาย


เขาเงียบทำเป็นไม่สนใจเด็กวิศวะข้างๆ ที่คล้ายจะพูดอะไรต่อ แต่พอถูกความเงียบ (ระหว่างเรา) เล่นงานเข้าไป เหมือนมันจะจับเค้ารางความไม่พอใจของเขาได้ ถึงจะปลอมๆ ก็เหอะ แต่ถ้าคนอื่นมาเห็นสีหน้า แววตา น้ำเสียง และท่าทางของเขาตอนนี้ก็คงทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน

“พรุ่งนี้ค่อยมารับพี่มาเรียน ตอนนี้พี่ขอ กลับไปก่อนนะ” ผ่อนน้ำเสียงลงมา เพราะสีหน้าของเด็กมันเหมือนจะร้องไห้เลยที่เขาทำทีไม่สนใจและพูดกับมันด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แบบนั้น

เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าในสายตาเขา ไอ้เก้ายังเป็นน้องชายอยู่วันยังค่ำ เขายังรักและเอ็นดู แถมเคยดูเอ็นมันมาแล้วด้วย (เรื่องนั้นช่างมัน อย่าไปสนใจ แต่ถ้าอยากรู้ก็กลับไปอ่าน ~ ตอนพิเศษ~ ในอดีต)

“ครับ” มันว่า จากนั้นไม่นานร่างสูงของหนุ่มวิศวะก็หายไปจากลานสายตา พร้อมกับเขาที่เริ่มเก็บข้าวของซึ่งกระจายแถวนั้น และตามออกไปโดยเว้นช่วงห่างเล็กน้อย ไม่ให้เจ้าจับผิดได้ว่าที่จริงแล้วงานส่วนของเขาเสร็จไปได้พักหนึ่งละ แค่ไม่อยากกลับพร้อมกันก็เท่านั้น


“กูไปละ ส่งให้ทางแชทแล้ว มีอะไรทักมาได้”

“แหมมมมมม ตามกันไปไม่ห่างเลยนะ”

“ถ้ามึงไม่เอาน้องกาลกูขอนะ”

“สวยเลือกได้เลยนะมึง”

“เสือก!” จบไหม


จากนั้นก็เชิดออกมากลางความเงียบที่เข้ามาปกคลุมใต้คณะนิเทศครู่หนึ่ง หลังเสียงที่เปล่งออกไปกระจายออกไปทั่วบริเวณ แต่มันก็คุ้มที่ได้ด่าพวกแม่งได้ทุกตัว อย่างพร้อมเพรียง



กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยู่ไหน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เงียบ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูให้เวลาสิบนาที

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : มึงอยู่ไหน

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ตอบกูมา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : อยากเจอใช่ไหม

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูอยู่หน้าบ้านมึงแล้ว

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ลงมา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : 1

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : 2

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : 3

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ลงมา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ไอ้สัดอย่าทำให้กูโกรธ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ถ้ายังเงียบอยู่กูปล่อยรูปมึงแน่

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ตอบ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ตอบ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ตอบ

         เมื่อ 1 ชั่วโมงที่แล้ว



เป็นบ้าอะไรของมัน  กูทำงานอยู่เลยไม่สนใจข้อความที่มันส่งเข้ามา แต่ตอนนี้กำลังเปิดอ่าน และไม่รู้เหมือนกันว่าคำขู่ช่วงท้ายๆ นั้นมันได้ทำไปแล้วหรือยัง





มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : กำลังกลับ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : สิบนาที

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : ไอ้เหี้ย กูอยู่คณะ

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ห้านาที

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : มึงช่วยมีเหตุผลหน่อย

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ถ้ากูไม่มีเหตุผลคงปล่อยรูปมึงให้ดังไปแล้ว

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : กำลังกลับ

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : แค่นี้นะจะขับรถ




อย่างน้อยมันก็ยังไม่ได้ทำอะไรบ้าๆ ลงไป และนั่นทำให้เขากลับมาตั้งสติกับการขับรถอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังรออยู่ที่บ้านอยู่ไหมหรืออยู่คอนโดตัวเอง เพราะจากที่เห็นข้อความต้นๆ ก็ร่วมหลายชั่วโมงมาแล้ว





มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : กินอะไรหรือยัง

มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : เอาเกี๊ยวน้ำไหมจะซื้อไปฝาก

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : เออ






นั่นคือคำตอบใช่ไหมหรือแค่เร่งให้เขากลับไปไวๆ เอาเป็นว่า มันคงหิวที่รอเขามาหลายชั่วโมงแบบนั้น ขอเข้าข้างตัวเองแบบแกล้งๆ แล้วกัน



ขณะนี้เขาจอดรถอยู่ริมฟุตบาทซึ่งมีร้านริมทางให้แสงสว่างแทนที่เสาไฟฟ้าซึ่งใช้งานไม่ได้ นานทีจะมีโอกาสแวะเวียนเข้ามาร้านแบบนี้ เลยไม่รู้ว่าควรเลือกซื้ออะไรให้กับความหิวของตัวเอง อาหารตามสั่งก็ไม่อยากให้ใส่ในกล่องโฟม ก็เลยต้องจบที่บะหมี่และเกี๊ยวซึ่งบรรจุในถุงร้อนแทน



ระหว่างยืนอยู่อยู่หน้าร้านก็เหลือบไปเห็นคนคุ้นตาที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ไอ้น้องหน้าตี๋เพื่อนของไอ้เด็กนั้นกำลังทำหน้าเป็นตูดอยู่กับว่าที่หมอซึ่งพ่วงตำแหน่งเดือนมหา’ลัย



เขาไม่ได้เข้าไปทักเพราะไม่ได้สนิทกับใครเป็นพิเศษขนาดนั้น ทั้งเด็กปีหนึ่งนั่นที่เหมือนจะถูกคนอายุเยอะกว่าจีบอย่างไม่ไว้หน้า หรือพี่หมอที่พอจะคุ้นตากว่าเพราะสมัยปีหนึ่งก็แวะเวียนมาหาที่กองประกวดบ่อยๆ แต่นั่นก็หลายปีมาแล้ว ครั้งล่าสุดที่เจอก็ที่โต๊ะของเด็กวิศวะ ซึ่งไม่ได้คุยกัน



แสดงว่าตอนนี้เพื่อนของไอ้บ้านั่นทั้งสองคนกำลังถูกส่งออก และเดินรอยตามสายธรรมชาติเหมือนกันกับเขางั้นเหรอ ใครจะไปคิดว่าคนรอบตัวมันจะเป็นแบบนี้กันหมด ก็ไอ้เดือนวิศวะท่าทางเกลียดเกย์เสียขนาดนั้นไม่คิดว่าจะยอมให้เพื่อนโดนผู้ชายจีบแบบนี้



หรือมันแค่เกลียดเขากันนะ แบบเกลียดเป็นกรณีพิเศษ เพราะวันประกวดเดือนมันก็ตอบคำถามที่ดูจะปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของเพศทางเลือกพอตัว







กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : ยังไม่ถึงอีก

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : รีบมา

กาลเวลา ถึงเวลาของกูแล้ว : กูง่วงแล้วเนี่ย






ง่วงก็กลับคอนโดไปหลับสิ จะเร่ง จะรอ แล้วจะอยู่ต่อทำไม เขาไม่ได้ชวน เชิญ หรือตอนรับมันเลยสักนิด



#ร้ายนักใช่ไหมจะแกล้งเสียให้เข็ด



ตามทันเว็บอื่นแล้ว
หลังจากนี้จะลงพร้อมกับที่อื่นๆ
ส่วนตอนพิเศษยังสงวนไว้สำหรับให้กำลังใจนักเขียนในลิงค์ข้างล่างนี้นะ

โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)







หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 18 /// 081018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 08-10-2018 18:24:28
 :z1:



 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 18 /// 081018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 08-10-2018 19:15:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 18 /// 081018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 08-10-2018 19:51:23
 :really2: หูยมีรอกินข้าวด้วยนะ เมื่อไหร่ลูกหึงจะออก จับกดสักที
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 19 /// 091018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 09-10-2018 14:43:11

ตอนที่ 19
~ กาล ~



ก่อนหน้าผมจะไปที่บ้านของมันตามนัดหมายกันไว้ ก็ต้องรับมือกับสถานการณ์ตรงหน้านี้ให้ได้ก่อน วันก่อนก็ต่อล้อต่อเถียงกับไอ้เจ้าเรื่องไร้สาระที่ทำให้ชีวิตมันมีสาระขึ้นมาในทันที แต่วันนี้มันหายหัวจากห้องไปอย่างน่าสงสัย เพราะปกติแล้ววันๆ ของไอ้เจ้าจะผูกติดไว้กับการเขียนนิยายบนหน้าจอ ไม่มีทางที่ใครจะลากมันออกไปไหนได้ถ้าไม่มีความจำเป็นถึงขั้นคอขาดบาดตาย

         

“เป็นอะไร” ผมพูดออกไปหน่ายๆ กับการกระทำที่เหมือนคนเรียกร้องความสนใจของไอ้หัวแดงตรงหน้า

         

“ไม่ต้องสนใจกูหรอก” มันว่า แต่การแสดงออกสวนทางกับคำพูดลิบลับ

         

ว่าไปพร้อมเปิดเบียร์ที่มันไม่ชอบและแทบไม่แตะเลยในรอบปี ไอ้ห่า ทำอย่างกับคนโดนหักอก แต่มึงไม่ได้ใกล้เคียงคำว่าอกหักเลย เพราะมื้อกลางวันยังตามผู้ชายไปกินข้าวนอกคณะอยู่เลย

         

“เป็นอะไร” ถามออกไปอีกครั้ง

         

“กูไม่เคยผิดสัญญาใคร” นั่นใช่คำตอบของคำถามที่กูสงสัยไหม

         

ถึงอย่างนั้นก็พอจับเค้ารางความประหลาดที่มันกำลังกัดกินเพื่อนของผมได้ แปลว่าวันนี้มีคนผิดนัดมัน และคงสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะกันไว้

         

“เขาอาจมีธุระ คิดมาก” เดินไปแย่งกระป๋องเบียร์จากมือเล็กที่ถือไว้ประกอบฉากเฉยๆ มันไม่กินหรอก แค่ทำเป็นเท่

         

“แต่กู...” แล้วก็เงียบไป เป็นเอามากนะเพื่อนกู ไหนว่าไม่ชอบพวกตุ๊ดพวกเกย์ไง ตอนนี้มึงไม่ต่างจากตุ๊ดงอนผัวเลย 

         

“พี่เขาไปไหน ทำไมผิดนัดมึง” ถามออกไปอย่างรู้ทัน ซึ่งมันมีปฏิกิริยากับคำถามนี้ไม่น้อย

         

“มึงรู้ได้ไง” ทีแรกก็ไม่รู้หรอก มึงนั่นแหละที่เผยไต๋ให้กูเอง

         

“เอาเป็นว่ารู้แล้วกัน” อย่าสงสัยมาก

         

“มันบอกว่าติดงานคณะ” เออก็เขาติดงานไง

         

“แล้วมึงจะคิดมากทำไม” แทนที่จะไปเล่นเกมหรือหาข้าวแดกรอ ดันทำเท่ไปซื้อเบียร์มาแต่กลับไม่แดกเพราะกลัวเมา ตอนนี้กูว่ามึงเมาแล้ว เมาน้ำลายตัวเองเนี่ยแหละ

         

“มันเป็นคนนัดนะ ถ้ามีธุระแล้วจะนัดทำไม” แสดงว่าไม่ไว้ใจในเหตุผลของพี่เขา

         

“คนเรามันก็มีบ้าง”

         

“อะไร”

         

“มีกิ๊กไง” ฮาฮาฮาแหย่มันไป

         

เป็นเรื่องคนอื่นนี้หัวไว แต่พอเรื่องของตัวเองกลับไปไม่ถูก นี่ไม่รู้หรือแกล้งโง่ว่าพี่เสาไฟฟ้านั่นมันชอบมึงแค่ไหน หน้าอย่างนั้นไม่มีทางไปหาเศษหาเลยที่ไหนหรอก มันรอแดกมึงอยู่ต่างหาก

         

“ใช่สิ กูมันก็แค่...” ดันเป็นจริงเป็นจังกับคำพูดผมเสียงั้น

         

“ไหนมึงไม่ชอบพวกนี้ไง” มันหันมามองหาผมอีกครั้ง หน้าตาตื่นๆ นั่นทำเอาผมตลกไม่น้อย

         

“ก็มึงเริ่มเอง” งงเลยกู ผมไปเริ่มอะไรก่อน

         

“เริ่มอะไรว่ะ” ผมไม่ได้ไปพาไอ้พี่นัทมาหามันแน่นอน เอาล่ะ ครั้งแรกที่พี่มันมาคณะอาจเป็นเพราะผมในทางอ้อม เพราะไอ้เดือนนิเทศเป็นเพื่อนของพี่เขา แต่แค่นั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะมากล่าวหาว่าผมเป็นคนเริ่มเรื่องนี้แน่นอน

         

“ก็มึงกับพี่มิวกำลังจีบกัน กูก็คิดว่ามึงยอมรับเรื่องพวกนี้ได้ ก็...” ไปกันใหญ่ละ

         

“กูกับพี่มันไม่ได้เป็นอะไรกัน” ผมปฏิเสธไปตามจริง หากนับความสัมพันธ์ในทางบวกอะนะ ไม่รวมความอาฆาตที่มีต่อกัน

         

“กูไม่รู้ว่ามึงเป็นอะไรกันหรอก แต่...” มันว่าต่อ

         

“อะไร”

         

“กลุ่มพวกเราไม่ชอบเกย์หรือพวกตุ๊ดใช่ไหม” กลายเป็นมันที่ตั้งคำถาม

         

“กูไม่ได้เกลียด เรียกว่าไงดีล่ะ ก็เฉยๆ ว่าแต่มึงพูดเรื่องนี้ทำไม” ชักจะออกนอกเรื่องไปไกลแล้ว ควรกลับมาคุยเรื่องมึงกับพี่นัทก่อนดีไหม

         

“ไม่รู้ล่ะ ก็ที่ผ่านมาเห็นพวกมึงล้อแต่พวกเกย์พวกตุ๊ดกูก็นึกว่าไม่ชอบกัน” ไม่ใช่มึงหรอกเหรอที่เกลียด กูงง ตอนนี้กูงง

         

“กูนึกว่ามึงนั่นแหละไม่ชอบ เห็นล้อบ่อยสุด” ไม่เชื่อไปถามไอ้เจ้าได้

         

“กูเปล่า กูแค่พูดไปไม่ให้พวกมึงสงสัย” สงสัยอะไรว่ะ

         

ไอ้ต้นเงียบไปพักหนึ่ง ทำให้ทั้งห้องมีแต่เสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังคลอไปอย่างเงียบๆ ผมที่รอคำอธิบายจากมันก็ไม่ได้พูดหรือเร่งเร้า รอมันรวบรวมสติให้ได้ก่อน ยังไงก็ไม่รีบอยู่แล้ว เพราะไอ้เดือนนิเทศมันยังไม่ตอบแชทผมเลยแม้แต่คำเดียว

         











“กูเป็นเกย์” จู่ๆ ไอ้ต้นก็ทำลายบรรยากาศลง คำพูดของมันทำเอาผมนิ่งงันไปชั่วขณะ

         

ไม่ได้ตกใจที่มันมาบอกความลับกับผมในตอนนี้ แค่แปลกใจที่มันยอมบอกต่างหาก เพราะการกระทำตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่บ่งบอกว่ามันเป็น หากไม่นับรวมหน้าตาของมันนะ ก็ที่แล้วมาไอ้ต้นพยายามแสดงอาการต่อต้านและไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาตลอด มันไม่ชอบให้ผู้ชายหน้าไหนจีบ มันด่า มันแช่ง และมันเกลียดพวกที่แซวมัน

         

“มึงเกลียดกูไหม” มันถามมาหลังจากผมเงียบไปไม่ยอมต่อบทสนทนาด้วย

         

“กูจะเกลียดมึงทำไม” ผมตอบและถามมันกลับ

         

“กูแค่กลัว กูไม่ชอบให้ใครมองว่ากูแปลก กูไม่ชอบให้พวกผู้ชายมาจีบ กูไม่ชอบด้วยที่พวกมันเห็นกูเป็นของเล่น กูไม่อยากให้ใครล้อว่าเป็นตุ๊ด” มันพูดพร้อมปล่อยโฮมาเลย เอาแล้วงานเข้าแล้วกู นี่มันหน้าที่เพื่อนใช่ไหมที่ต้องเดินไปลูบหลังปลอบใจ

         

“ไม่เป็นไรกูไม่ได้เกลียดมึง มึงก็ยังเป็นเพื่อนกูเหมือนเดิม อย่าร้องสิกูทำตัวไม่ถูก” ผมไปไม่เป็นจริงๆ ไอ้เจ้าอยู่ไหน กลับมาช่วยกูก่อน

         

“แล้วไอ้เจ้ารู้ไหม” มันพยักหน้าตอบ ก็สมแล้วล่ะที่กินอยู่ด้วยกันในห้องนั้น และถ้าให้เดา การที่ไอ้เจ้ายอมเปิดใจให้พี่หมอ ก็คงคิดเหมือนไอ้ต้นว่าผมเป็นคนเริ่ม

         

คนเริ่มที่จะเปิดรับเพศเดียวกันเข้ามาในชีวิตที่เกินสถานะคำว่าเพื่อน พี่ หรือน้อง แสดงว่าตลอดเวลาที่คบกันมาพวกมันเก็บความลับนี้ไว้ตลอด เพราะกลัวผมไม่ชอบ กลัวผมเกลียด และกลัวการไม่ยอมรับจากผมงั้นสินะ

         

“นี่ถ้ากูไม่ไปยุ่งกับไอ้พี่นั่นพวกมึงก็จะปิดเงียบไว้แบบนี้ใช่ไหม” มันพยักหน้าตอบโดยไร้คำพูด

         

“บ้าหรือเปล่า ทำไมไม่ยอมบอกกู” นี่กูเป็นเพื่อนพวกมึงมาตั้งนาน

         

“กูกลัวมึงเกลียด ไอ้เจ้าด้วย” บ้ากันไปใหญ่ละ

         

“มึงไม่รู้หรอกว่าทั้งมันและกูกดดันแค่ไหน กูไม่เคยมีแฟน มันด้วย แต่ไม่ใช่ไม่อยากมีหรอกนะ” มันระบายอย่างคนอัดอั้นมานาน ก็สมควรแล้วล่ะ เพราะพวกผมไม่เคยเปิดอกกันเรื่องนี้เลย

         

“เห็นมึงเป็นแฟนกับคนนั้นคนนี้กูก็อิจฉา กูก็อยากมี แต่มันมีไม่ได้ไงมึงไม่เข้าใจ ฮืออออออ” ผมไม่ตอบกลับ แต่ดึงมันเข้ามากอดแทน

         

“ตอนนี้ไง ตอนนี้ก็มีคนมาจีบแล้วไง ตรงสเปคมึงเลยไม่ใช่เหรอ โหดๆ” แหย่มันเพื่อทำลายบรรยายกาศกดดันตรงหน้า

         

“มันมีกิ๊กแล้ว” เอาแล้วไงกูดันไปขุดหลุมไว้

         

“กูพูดเล่น” แก้ไขตอนนี้คงทันนะ อารมณ์มันยิ้งแปรปรวน กูจะกลายเป็นคนทำลายความสัมพันธ์ของครอบครัวเขาไหมเนี่ย ผมขอโทษ... พี่นัท

         

“มันคงเป็นแบบนั้นแหละ” ไม่เพื่อน กูพูดเล่นจริงๆ

         

“มังคงเห็นว่ากูง่าย” นี่มึงมีอะไรกับมันแล้วเหรอ เพื่อนกู...

         

“ไม่ใช่แบบนั้นหรอก” เชื่อกูเถอะ คราวนี้มึงต้องเชื่อกูสิ

         

“กูไม่น่าเปิดใจให้มันเลย มึงเห็นไหม แค่ยอมไปกินข้าว ไปหาที่หอ มันก็ทิ้งกูแล้ว” มึงไปที่หอกันมาแล้วเหรอ ไวไฟมากเพื่อน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่มึงจะคิดว่าพี่มันหลอกแดกหรอกนะ พี่เขาแค่ติดธุระ สะกดเป็นไหม ธุ ระ น่ะธุระ

         

“มึงไม่เจ็บเหรอตอนโดนผู้ชายทำแบบนั้น” ถามมันไป เพราะสงสัยและไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ว่าไปอย่างธรรมชาติเขาสร้างมาให้เข้ากันได้ แต่พอเป็นผู้ชายแล้วชักแปลกๆ ถึงจะเข้ากันได้แต่น่าจะเข้ากันลำบากพอดู

         

“เจ็บสิ” โห... สงสารเพื่อน

         

“เจ็บที่ใจเนี่ย” มาเต็ม ความดรามาและน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล

         

“แล้วที่อื่นล่ะ” ยังอยากรู้อยู่ดี

         

“อะไร” มันถาม

         

“แบบตอนมีอะไรกัน” กูแค่อยากรู้ ไม่ต้องทำหน้าเขียวแบบนั้นก็ได้

         

“กูยังไม่ได้มีอะไรกับมัน ไอ้กาล ไอ้บ้า ไอ้เหี้ย ลามก” ทั้งมือทั้งตีนจัดเต็ม เมื่อกี้มึงยังซบกูอยู่เลยนะ

         

“อ้าวเหรอโทษๆ แต่กูว่ามึงคุยกันก่อนอย่าพึ่งคิดไปไกล พี่เขาแค่ติดธุระวันเดียวเอง” ใช่อย่าพึ่งคิดไปไกลแบบกู       

         

“ไม่หรอก มันคงเป็นแบบนั้นนั่นแหละ ถึงมึงไม่พูดกูก็คิดอยู่ดี” มึงมันพวกมโนไง

         

“มึงรู้ไหมว่ามันจีบกูด้วยการท้าเกม แต่จริงๆ มันไม่ใช่พวกบ้าเกมเลย เห็นไหมว่ามันหลอกกูตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว” เหี้ยละ นั่นเขาเรียกว่ายอมปรับตัวให้เข้ากับคนที่ชอบ ยิ่งไม่ชอบอะไรแล้วยอมอยู่ด้วยนั่นแหละคนที่รักจริงๆ รักหมดใจเลยล่ะ กู่ไม่กลับแล้วเพื่อนกู

         

“คนแบบกูคงโสดไปจนตาย แต่แบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ เกิดมาเป็นเกย์แถมยังชอบผู้ชายอีก...” เกย์ชอบผู้ชายมันผิดตรงไหนว่ะ   

         

จู่ๆ มันก็เงียบไปเมื่อมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าโซฟาที่มันนั่งอยู่สั่นเป็นเจ้าเข้า มันรับและพูดออกไปไม่กี่ประโยคแล้ววางสายไป สีหน้ายังดูแย่เหมือนเดิม มันกลับไปถูไถหน้าจอตัวเองสักพักหนึ่งก่อนทุกอย่างจะกลับคืนสภาพปกติ

         

“กูจะไปหาอะไรกินมึงเอาด้วยไหม” น้ำเสียง สีหน้า แววตา กลายเป็นไอ้ต้นคนเดิมแล้ว อะไรว่ะ

         

“ไม่ล่ะกูจะออกไปข้างนอก คงกลับมาดึกๆ” บอกไปทั้งที่ยังงงกับเพื่อนหัวแดงไม่หาย

         

“งั้นเหรอ เครๆ กูไปก่อนนะหิวละ” แล้วมันก็หายไปพร้อมเสียงเปิดและปิดประตูที่ดังขึ้นและสงบลงในที่สุด มันไปแล้ว แต่ทิ้งความสงสัยให้กับผม

         

สรุปหายโกรธหายงอนพี่นัทแล้วใช่ไหม คนที่โทรมาคือพี่นัทแน่นอน แต่ที่มันดูในจอมือถือนั่นอะไร พอจ้องอยู่ไม่กี่วิก็เปลี่ยนตัวเองจากคน (เหมือน) อกหัก กลายเป็นคนอารมณ์ดีขึ้นเสียงั้น นี่ง้อกันด้วยวิธีไหนเนี่ย

         

อีกเรื่อง ต่อจากนี้ผมคงไม่โดนล้อเรื่องไอ้เดือนนิเทศจากพวกมันสองคนแล้วสินะ ในเมื่อความรักมันไม่จำกัดเพศ พวกมันเลยหาผัวแทน...



มิวเฉยเฉย กูกำลังจะเป็นบ้า : กำลังกลับ











- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 19 /// 091018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 09-10-2018 16:27:33
 :laugh:


 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 19 /// 091018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 09-10-2018 17:34:35
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...พอเพื่อนคบผู้ชายเท่านั้นแหละ  ที่เหลือก็แกรนด์โอเพนนิ่งกันหมดเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 19 /// 091018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 09-10-2018 21:51:43
สรุปแล้วก็ยังไม่ไปไหนเลย รอๆๆ  :katai5:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 20 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 12-10-2018 21:50:21

ตอนที่ 20
~ มิว ~



พอขับมาถึงก็เจอมันจอดรออยู่ก่อนหน้าแล้ว แอบรู้สึกผิดที่ปล่อยให้คอยนานขนาดนี้ แต่พยายามปิดความรู้สึกนั้น เพราะมันก็มีส่วนในการรับผิดชอบความรู้สึกเขาเหมือนกัน ใครใช้ให้มารอกันล่ะ มันจะกลับไปก่อนแล้วค่อยนัดทีหลังก็ได้ ฝ่ายนั้นต่างหากที่ผิด

         

“รอนานหรือเปล่า” ถามบ้าๆ ออกไปเสียได้ ทั้งที่รู้คำตอบอยู่แล้ว         

“เปล่า พึ่งมาถึงไม่กี่นาทีนี้เอง” อ้าว! เล่นกูอีกแล้ว อำเฉยๆ หรือเรื่องจริง ก็ไหนมันบอกในแชทว่ารออยู่ตรงนี้ตั้งหลายชั่วโมง

         

“มึงบอกว่ามารอตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ”กูอุตส่าห์แบ่งความเป็นห่วงไปให้

         

“ช่างเหอะ ซื้ออะไรมาบ้างกูหิวแล้ว” เป็นการเปลี่ยนเรื่องที่ไม่มีศิลปะเลย ไม่มีความงามในการเปลี่ยนบทแม้แต่น้อย อันที่จริงแสร้งเป็นรอจนรากงอกให้เขารู้สึกผิดไปเลยก็ได้ ถ้าเป็นเขาก็คงทำอย่างนั้น ฮาฮาฮา

         

เดินนำไปที่ครัวมืดสนิท แสงสว่างมาเยือนมันอีกครั้งเมื่อพวกเขาไปถึง ก่อนอื่นต้องหาจานชามและช้อนส้อม เขาที่ไม่ได้คุ้นเคยกับห้องนี้เลยจึงดูเหมือนเป็นขโมยที่แอบเข้าบ้านตัวเองเสียมากกว่า เพราะไม่รู้ว่าอะไรเก็บไว้ตรงไหนบ้าง กว่าจะครบเซตก็ปาไปหลายนาที

         

“นี่บ้านมึงจริงๆ ใช่ไหม” มันถามติดตลก แต่กูไม่ตลกด้วยเพราะกำลังสงสัยตัวเองไม่ต่างจากมึงเลย เอาเป็นว่าวันหลังจะพยายามเข้าครัวให้มากกว่านี้ เอาให้ป้าๆ ตกใจไปเลย

         

“พูดมาก ซื้อมาให้กินก็กินไป” บ่นแก้เก้อไปพร้อมกับเทหมี่ เกี๊ยวน้ำ เกี๊ยวทอด และอีกหลายอย่างที่ตามมา หลังจากเดินสำรวจตามทางยาวของฟุตบาทก็เจอกับอาหารหน้ากินหลายเมนู เลยซื้อมาตามใจอยาก แต่เหมือนปากของเขาและมันคงกินไม่หมดแน่

         

“เหมามาหมดตลาดเลยใช่ไหมเนี่ย” ไม่เถียงและไม่แย้ง เพราะมันคือความจริง

         

“แล้วไปทำอะไรที่คณะ” มันเปิดประเด็นขึ้น เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่เรื่องซึ่งพวกเขาใช้คุยกันจะเป็นไปในทางบวก หรืออย่างน้อยก็ดูปกติตามธรรมดาของมนุษย์ที่มีมิตรไมตรีต่อกันพึงจะทำ

         

“ก็งานที่ต้องส่งพรุ่งนี้ไง ทำเอาไม่ได้นอนกันทั้งรุ่น ถ้ามึงได้เห็นไอ้นัทมึงจะเข้าใจเลยว่ามันอยากทำงานนี้ให้เสร็จแค่ไหน ส่งสัยเพื่อนมึงคงงอนน่าดู เพื่อนกูเลยไม่เข้าหน้ากับใครเลย เอาแต่เร่งงานจนเสร็จเป็นกลุ่มแรกเนี่ยแหละ” เล่าไปตามจริง

         

กับภาพของเพื่อนตัวดีที่หงุดหงิดตั้งแต่หัวหน้ากลุ่มบอกให้มันมาช่วยงานในส่วนของคนอื่นที่ไม่ได้รับผิดชอบ มันซึ่งทำงานส่วนของตัวเองเสร็จไปก่อนหน้านั้นหลายวันต้องจำนนกับเดดไลน์ที่มาจ่อคอ เพราะถ้าไม่ยอมเสียสละช่วยให้มันจบๆ ไป พวกเขาทั้งกลุ่มรวมทั้งมันด้วยที่จะไม่จบกัน

         

“อืม ไอ้ต้นก็งอนจนเกือบโทรไปบอกเลิกแล้ว บ่นน้อยใจเป็นชั่วโมง” มันเล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบตามปกติ ไม่คิดว่าฝั่งนั้นก็อาการหนักพอกัน

         

“แสดงว่ารู้แล้วสิว่าเพื่อนตัวเองก็เป็นแบบกู” แหย่มันไปและคอยดูว่าจะมีปฏิกิริยาแบบไหน แต่ มันก็เฉยกลับมา ดูไม่ร้อนเนื้อร้อนใจหรือแสดงอาการตามที่หวังไว้

         

นึกว่าจะหน้าเสียกว่านี้เสียอีก ที่เขาพูดจี้ใจดำออกไป มันยังนิ่งและกินต่อไม่สนใจความนัยที่เขาแฝงเอาไว้ในคำพูด 

         

“ก็ตกใจ แต่ไม่ได้อะไรขนาดนั้น” น้ำเสียงที่มึงใช้ในคำว่าตกใจมันไม่ให้ความรู้สึกว่าตามสิ่งที่มึงพูดเลยให้ตายสิ มึงควรไปเรียนแอคติ้งมาให้มากกว่านี้หน่อยนะ

         

“ทีนี้ก็ไม่เกลียดเกย์แล้วสิ” ก็มันเคยบอกหนิว่าไม่ชอบพวกผม ซึ่งก็คือคนที่เป็นเกย์ เขาเคยคิดนะว่าไอ้หมอนี้แอนตี้ทุกคนที่เป็นแบบนี้

         

“ไม่ได้เกลียดเกย์ แต่เกลียดมึง” ชัด โอเค มันชัดเจนมาก แถมน้ำเสียงเต็มไปด้วยน้ำหนักที่พอเหมาะพอควรกับความหมายในคำพูดนั้นอย่างดี มึงไม่ต้องไปเรียนแอคติ้งหรอก กูเข้าใจผิดเอง เพราะมึงได้เอไปตั้งนานละ

         

“ใครใช้ให้มึงมีนิสัยแบบนี้ล่ะ แทนที่จะได้เป็นพี่น้องกันดีๆ” มันบ่นในคอเสียงไม่ดังมาก แต่ก็เพียงพอให้เขาจับความได้ทั้งประโยค

         

“ปรับความเข้าใจกันตอนนี้ก็ยังทัน” กูพร้อมจะคืนดีกับมึงทุกเมื่อ ขอแค่ลบรูปพวกนั้นให้กูก็พอ สัญญาเลยว่าจะเป็นรุ่นพี่ดีให้ได้ แถมด้วยการเลี้ยงข้าวสิบมื้อเป็นการไถ่โทษ

         

“ไม่ล่ะ แบบนี้ก็สนุกดี” สนุกกับผีสิ กูต้องคอยวิ่งตามคำสั่งมึงแบบนี้ไม่เอาด้วยหรอก แค่เรียนกับส่งงานก็เหนื่อยแล้ว ไม่คิดจะให้พักบ้างหรือไง

         

แถมมาตามก้นมันไปนั่นมานี่ พาให้คนเขาคิดว่าเป็นอะไรกันอีก แล้วอย่างนี้จะมีใครมาจีบกูไหม เออ... ไม่นับไอ้เก้านะ นั่นถึงยังไงก็เป็นได้แค่น้อง

         

“ให้โอกาสกูหน่อย สัญญาว่าจะปรับปรุงตัว” ขอโอกาสมันอีกครั้ง ให้กูเถอะขอล่ะ

         

“ไม่ ไม่มีโอกาสของคนทำผิดซ้ำสองหรอก” ไอ้ขี้งก ขี้เหนียว บ้านก็รวยแต่ใจจืดใจดำ

         

ขอแช่งให้มึงไม่มีแฟนด้วยเหมือนกัน เพราะมัวแต่อยู่กับเขาเนี่ยแหละ มันก็คงไม่มีคนเข้ามาด้วย ใครจะกล้ามายุ่งกับคนมีเจ้าของว่าไหม โดยเฉพาะเจ้าของที่น่ารักขนาดนี้ ไม่มีทางหรอก ทั้งผู้หญิงผู้ชายนั่นแหละ มึงจงนก มึงจงนก มึงจงนก ตลอดกาล

         

“ทำไมเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนั้น เป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ ต้องเปิดกว้างสิเปิดกว้าง” มึงมันผู้ชายขี้น้อยใจ แถมยังใจแคบด้วย

         

“เฉพาะกับมึงนั่นแหละ” กูควรดีใจ หรือต้องซึ้งในความใส่ใจนี้

         

นี่จะไม่ให้โอกาสคนอย่างเขากลับตัวและออกไปสู่สังคมปกติเลยใช่ไหม มึงมันใจไม้ไส้ระกําจริงๆ ไม่คิดจะมองคุณงามความดีที่เขาสั่งสมตลอดมา แค่แกล้งนิดๆ หน่อยๆ ทำเป็นโกรธ

         

“ไม่ต้องทำหน้างั้น มึงมันไม่ใช่คนดีที่จะมาน้อยใจในเรื่องนี้” เออ กูไม่ใช่คนดี

         

“มึงก็ไม่ใช่คนดีเหมือนกันนั่นแหละ” ด่ามันไป ไม่ต้องพูดดีกันแล้ว ขอร้อง อ้อนวอน ถามหาความเห็นใจไปก็ไม่มีประโยชน์

         

“หยุดแดกเลย กูไม่ให้กิน” พาลไปทั่ว ไม่ต้องมากินของของกู เพราะกูซื้อ ฉะนั้นกูกินได้คนเดียว

         

“ถ้าอยากมากก็จ่ายมา” เพราะกูไม่ยอมให้มึงกินฟรีแน่ มึงมันไอ้คนไร้ประโยชน์ มีแต่โทษและความเลวร้าย

         

“อิ่มละ” มันวางช้อนกับส้อมทันตาที่เขาจะเริ่มเก็บเงิน หน่อยยยยยยยย

         

“อิ่มแล้วก็กลับ นี่ก็ดึกมากละ ไม่รู้จะมาทำไม”

         

ใครใช่ให้มันมาเปลี่ยนที่กินข้าวในบ้านหลังนี้ มึงควรเอาเวลาไปนอนพักผ่อนสำหรับเรียนพรุ่งนี้ ไม่ใช่มาทำเรื่องไม่มีแก่นสารโดยการแกล้งเขา

         

“ขี้เกียจขับรถ ขอนอนนี่ละกัน กูเอาชุดมาแล้วด้วย” มันว่าก่อนเดินออกไปนอกห้องครัว ผ่านห้องอาหารที่มืดสนิท และหายไปเลย

         

เฮ้ย กลับมาก่อน มาขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อน กูยังไม่ตกปากรับคำมึงเลย  นี่มันอาชญากรรมเลยนะ มากินนอนบ้านคนอื่นโดยที่ไม่ได้รับการอนุญาต กูแจ้งตำรวจมาลากคอมึงได้

         

แต่มันใช่จะสน ส่วนเขาก็ต้องจัดการกับอาหารที่ยังเหลืออยู่เต็มจานพอให้รู้สึกอิ่ม เปล่า... แน่นท้องเลยล่ะ

         

พอขึ้นมาบนห้องก็เจอมันที่กำลังเปลี่ยนชุด นี่อาบน้ำแล้วเหรอ แถมยังทำท่าจะขึ้นเตียงพร้อมนอนแบบนี้

         

“ไม่ได้ มึงกลับไปเลย นั่นเตียงกูและกูก็ไม่อนุญาตให้ใครมานอนด้วย” บอกไปอย่างหน่ายใจ

         

“เตียงตั้งกว้างจะมาหวงอะไร” ว่าเสร็จก็ล้มตัวลงนอน แถมดึงผ้าห่มที่แม่บ้านจัดไว้อย่างดีไปรวบไว้ที่ตัวมันอีก

         

“ไม่ ลุกออกไปเดี๋ยวนี้” มันไม่ยอม ขืนกายสู้แรงของเขา นี่มึงจะดูถูกอดีตนักเทควันโดสายดำคนนี้ไปแล้ว

         

“ถ้ายังไม่หยุดกูปล้ำมึงจริงๆ นะ” มันขู่ นั่นใช่คำขู่เหรอ ปล้ำสิ ปล้ำมาเลย ยิ่งเข้าทางกู

         

แต่ดูเหมือนมันจะไม่ว่าเปล่า ตอนนี้มันลุกขึ้นมาปลดกระดุมชุดนอนของตัวเองออก ยังไม่ทันปรามออกไปทั้งร่างก็เปลือยเปล่าต่อหน้าเขาแล้ว แถมไอ้นั้นยังชี้หน้าอีก

         

“กูยิ่งเหงี่ _ _ อยู่ด้วย เอาเลยไหม หรือจะอาบน้ำก่อน” นี่มันเป็นบ้าอะไร จู่ๆ ก็มีอารมณ์

         

“ไอ้เหี้ยกูไม่ให้มึงเอาหรอก รีบๆ ใส่ชุดแล้วนอนไปเลย” มันไม่ทำตามครับ มันลงจากเตียงแล้วเดินมาใกล้เข้าเรื่อยๆ พร้อมน้องชายมันที่พร้อมเต็มที่

         

“ไหนบอกไม่ได้เป็นเกย์ไง มีอารมณ์กับกูแบบนี้แสดงว่ามึงก็แอ๊บแมนน่ะสิ” ใช่ ต้องปั่นหัวมัน ดูถูกให้มันสำนึกว่าจะมาทำแบบนี้กับเขาไม่ได้ ถ้ายังอยากยืนยันความเป็นชายแท้ของตัวเองอยู่ มึงไม่ใช่เกย์ และชายแท้ที่ไหนก็ไม่อยากเอาเกย์ทั้งนั้น

         

“กูเป็นเกย์” เอาแล้วไง โดนเล่นแล้ว

         

“โกหก อย่าแกล้งกูนะออกไปไกลๆ” มันยังไม่เชื่อง เดินตามเขาไปทุกที่ จนถูกเบียดไปชิดผนังตู้เสื้อผ้า บ้าไปแล้ว มันบ้าแน่ๆ มันจะทำแบบนี้ไม่ได้ เขายังไม่อยากถวายซิงให้ใคร โดยเฉพาะกับคนตรงหน้า

         

“ใช้ปากให้หน่อย” มันยื่นหน้ามากระซิบที่ข้างหู เขาที่ไม่มีทางเลือกต้องย่อตัวลงไปจับท่อนเนื้อที่ชี้หน้าอยู่ไว้ในมือ

         

“ถ้าทำให้จะไม่ทำอะไรกูใช่ไหม” มันไม่ตอบ

         

เขาเริ่มลงมือเพราะเคยมีประสบการณ์กับของในมือมาแล้วครั้งหนึ่ง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทำให้มันพอใจในครั้งนี้ และไม่ใช่เรื่องน่าเขินอายอะไร เพราะเห็นกันถึงไหนต่อไหนแล้วด้วย แถมไม่ได้เป็นการหยามเกียรติเพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ แค่มันยอมจบลงตรงนี้ก็จะเป็นการดีมาก เนื่องจากชีวิตและความปลอดภัยในซิงขึ้นอยู่กับปากของตัวเองตอนนี้

         

มันจับหัวเขาโยกไปตามจังหวะอารมณ์...









ไหนว่าแค่ใช้ปากให้ไง โอเคมันไม่ได้บอกอย่างชัดเจน แต่น้ำที่รดไปเต็มหน้าเขาเมื่อกี้เยอะพอสมควรแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมมันต้องตามเข้ามาคุกคามต่อในห้องน้ำด้วยล่ะ ออกไป ไปไกลๆ เลยนะ ไอ้โรคจิต ไอ้มักมาก มึงมันตัณหากลับ ถึงยังไม่แก่พอจะด่าแบบนั้นก็เหอะ เอาเป็นว่าเขาควรตอบโต้ภัยที่กำลังคืบคลานเข้ามาตอนนี้ยังไงดี (พบกันใหม่ในตอนพิเศษ ซึ่งใครไม่อยากอ่านก็ข้ามไปได้นะ ไม่มีผลต่อเนื้อหาโดยภาพรวม)


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 20 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 12-10-2018 23:07:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 20 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 13-10-2018 00:20:08
พอจะมีอารมณ์ก็มาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หรือความใกล้ชิดปะทะความเงี่ยน บวกกับมีน้องเก้าเข้ามาป่วนเลยกลัวจะเสียของไป  :z1:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 21 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 20-10-2018 12:20:45
ตอนที่ 21
~ กาล ~



“ไปค่ายกันไหมพวกมึง” ไอ้ต้นคนเดิม เพิ่มเติมคือมีผัวกลับมาแล้วท่านผู้ชม หลังโศกศัลย์กับความคิดของตัวเองและน้อยใจพี่นัทไปข้างเดียว วันนี้มันหวนคืนบัลลังก์เป็นที่เรียบร้อย กลายเป็นหนุ่มผมแดงที่มีความสุขมากที่สุดในโลก เพราะมีคนมาคอยเฝ้า คอยป้อนข้าวป้อนน้ำให้เสร็จสรรพ



“ขี้เกียจ” ผมตอบ ซึ่งวันนี้ไม่ได้เรียกตัวเบ๊มาใช้งานอย่างที่ควรจะเป็น เพราะเจอหน้ากันบ่อยเกินจำเป็นนั่นแหละ เมื่อคืนก็ค้างที่ห้องมัน พอตื่นเช้ามาก็ต่างคนต่างแยกย้าย ผมตรงดิ่งมาที่คณะ ส่วนมันก็คงไม่ต่างกัน



“ไม่ได้ เพราะกูต้องตามพี่นัทไปค่าย พวกมึงก็ต้องตามกูไปด้วยเหมือนกัน” มันใช่เหตุผลที่ควรยกมาอ้างไหมถามหน่อย



“กูอาจไม่ได้ไปเหมือนกัน” ไอ้เจ้าพูดขึ้น ทำลายความหวังของเพื่อนตัวเล็กไปสิ้น คงต้องปล่อยให้แฟนมันปลอบไปละกัน



“ไม่ได้ มึงต้องไป นั่นไงมาพอดี”สลดไม่ทันถึงนาทีไอ้หัวแดงก็กระตือรือร้นอีกครั้งเมื่อเห็นเป้าหมายที่เล็งไว้



ซึ่งพอผมหันไปมองตามสายตาของมันที่จับจ้องไปที่ผู้มาเยือนอีกคน ถึงกับร้องอ๋อในใจ เพราะเหตุผลนี้สินะ ไอ้เจ้าเลยไม่มั่นใจว่าจะไปค่ายกับเพื่อนได้ไหม ตอนแรกก็นึกว่าขี้เกียจเหมือนกับผมหรือไม่ก็ติดแต่งนิยายซึ่งดองไว้ ที่ไหนได้



“พี่หมอครับ อาทิตย์หน้าพวกผมจะไปออกค่ายอาสากันพี่สนใจไปด้วยไหม ไอ้เจ้าก็ไปนะ” ตีบทแตก ไม่ถามไถ่ความสมัครใจจากเพื่อนเลย ได้ข่าวว่าเมื่อกี้เพื่อนมึงสองคนพึ่งปฏิเสธไปนะ ยังมีหน้ามาเหมารวมอีก



“กูยังไม่ได้พูดว่าจะ...”



“หยุด” ไอ้เจ้าเหมือนจะพูดอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ แต่โดนเบรกไว้เสียก่อน เพราะไอ้หัวแดงคงกลัวความแตก



“อืม ไม่รู้สิ ช่วงนี้ก็ยุ่งๆ อยู่นะ ว่าแต่ไปกันวันไหนเหรอ” เหมือนพี่แกจะร่วมด้วยเลย คงไม่ได้ไปเพราะจุดประสงค์ของค่ายหรอก แค่อยากตามใครคนหนึ่งเท่านั้น ดูจากสายตาก็รู้แล้ว



“ยังไม่แน่นอน น่าจะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ครับ ต้องถามพี่มิวอีกที เพราะพี่เขาเป็นประธาน” คนต้นเรื่องรีบตอบ



“มึงห้ามปฏิเสธนะไอ้กาล เพราะค่ายนี้พี่มิวเป็นประธาน” มันพูดกระซิบกระซาบข้างหูผม จนอดหวั่นว่าคนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างมันจะลุกขึ้นมางับหัว กลัวเข้าใจผิดว่าผมมีซัมติงกับคนของพี่มัน



งั้นหรอกเหรอ เป็นค่ายของนิเทศเองสินะ แต่นึกภาพไม่ออกเลยแฮะว่าคุณหนูอย่างไอ้เดือนมันจะเป็นประธานกับเขาด้วย โดยเฉพาะค่ายอาสาแบบนี้ ดูไม่เข้ากับบุคลิกเลยสักนิด คงไม่ใช่ประธานประเภทสั่งกราด และด่าคนที่ทำไม่ทำตามหรือทำไม่ได้ดั่งใจหรอกนะ



“นั่นไงประธานค่ายมาแล้ว” ยังเป็นไอ้ต้นที่รับบททุกช่วงของเช้านี้ไปครอง มึงจะพูดอะไรนักหนา หัดสงบปากสงบคำเสียบ้าง เมื่อคืนน่าจะถ่ายคลิปมันมาประจาน หรือเอามาขู่ให้มันหุบปาก



“อ้าวพี่หมอสวัสดีครับ มาหาใครเหรอเนี่ย” รู้อยู่แล้วยังไปแซวเขานะมึง เป็นจำพวกเดียวกับไอ้ต้นเลย ขี้เสือกและแซะเก่ง



“ก็คนแถวนี้แหละครับ ว่าแต่น้องมิวจะจัดค่ายงั้นเหรอ เห็นน้องต้นหาคนไปค่าย”อดีตเดือนเขาสนทนาพาทีกัน



“ก็พึ่งรับหน้าที่มาจากเพื่อนอีกคนครับ พอดีผมรับเป็นรองประธานแบบแกล้งๆ ไว้ แล้วทีนี้นางเข้าโรงพยาบาลกะทันหัน ค่ายก็จัดจัดอาทิตย์หน้าแล้วด้วยเลยวุ่นนิดหน่อย” ร่ายยาวเป็นขบวนให้ทั้งพี่หมอและพวกผมฟัง



ถึงว่า ไม่เห็นมันพูดถึงเรื่องนี้เลยสักครั้ง นี่แอบเคืองนะที่มันไม่บอกเขาสักคำ เมื่อวานก็อยู่ด้วยกันทั้งคืน แต่ดันไปขอร้องไอ้ต้นแทน เอ๊ะ หรือเป็นพี่นัทที่ให้ชวนพวกผมไป



ว่าแต่เป็นรองประธานแบบแกล้งๆ นี่เป็นยังไงกันเหรอ ถ้าไม่ใช่มันคงเป็นไม่ได้สินะ



“ค่ายรับคนนอกคณะด้วยเหรอ” พี่หมอถามต่อ นั่นสิ ค่ายของนิเทศก็น่าจะให้เด็กนิเทศได้มีส่วนร่วม พวกผมเป็นคนนอกเข้าไปเบียดที่นั่งของคนในคณะเองเสียเปล่า



“ปกติก็ไม่ให้ร่วมหลอกครับ” อ้าว!ไม่ใช่แค่ผมกับพี่หมอที่สงสัย ทุกคนในโต๊ะ รวมทั้งไอ้เก้าซึ่งตามมาสมทบหลังจากเห็นคนที่มันชอบเดินมา ก็งงเป็นไก่ตาแตกไปด้วยเหมือนกัน



“ตอนนี้ผมเป็นประธานแล้วไง จะทำอะไรก็ได้ฮาฮาฮา พาคนไปเยอะๆ สนุกออก อีกอย่างถ้าได้พวกวิศวะไปใช้แรงงานก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ” นั่นคือจุดประสงค์ใช่ไหม แถมยังใช้อำนาจในทางที่ผิดอีก สมกับเป็นมันจริงๆ



“หมอแรงน้อยแบบพี่คงไม่มีประโยชน์” ไม่น้อยเลยครับพี่หมอ พี่ตัวสูงกว่าไอ้ประธานค่ายจนมันต้องเงยหน้าคุยด้วยแบบนั้น เตะทีเดียวประธานแกล้งๆ คงกระเด็น



“ถ้าพี่หมอไปเป็นแพทย์ประจำค่ายก็จะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะนิเทศแจกได้แต่พาราครับ” จูงใจคนด้วยวิธีแปลกๆ นะว่าไหม



“โห... ถ้าไปกันหมดนี่ก็กลายเป็นค่ายรวมเดือนล่ะสิ งั้นฉันไปด้วย” แอดมินเพจโผล่มาจากไหนไม่ทราบ จู่ๆ ก็พรวดเข้ามาร่วมวงเสียงั้น



ไม่ใช่ล่ะ ทีแรกก็นึกว่าคิดไปเอง เพราะเคยสงสัยเรื่องคนแอบตามกลุ่มพวกมันอยู่ทุกเช้า มันจะมีอะไรแปลกๆ ที่จับจ้องมายังโต๊ะนี้ ซึ่งพ้นคาบเช้าไปก็จะมีกระแสในโลกโซเชียล ทั้งภาพ คลิป และแทบจะมีเสียงพูดประกอบฉากด้วย เป็นเจ๊คนนี้เองสินะที่ตามพวกผมอยู่ตลอด นี่มันสโตกเกอร์ชัดๆ เริ่มจะกลัวแล้วสิ



“มึงมาได้ไง” เป็นประโยคที่ผมอยากถามออกไปแต่ไอ้เดือนนิเทศช่วยสนองความอยากรู้แทนผมและพวกที่เหลือเสร็จสรรพ



“กูอยู่ตรงนี้ตลอด” นั่นไง สโตกเกอร์



“มึงชวนใครไปบ้างอีมิว อีประธานบ้าเลือด ตัดโควตาคนในคณะตัวเองมาเปย์ผู้ชาย” ความจริงถูกเผยแล้ว ยิ่งคุยยิ่งแบไต๋ สรุปมันจะกลายเป็นค่ายอาสาจริงๆ เหรอเนี่ย



“ก็ชวนพี่กรเดือนถาปัตย์ แล้วก็น้องนนท์เดือนวิทยาไปด้วย” มันตอบเสียงเรียบ ไม่มีความรู้สึกผิดหรือสำนึกไปกับสิ่งที่พี่แอดมินด่าไปเลยสักนิด



“งั้นตอนนี้กูขอยกมงกุฎประธานดีเด่นให้มึง ทำดีมาก ทำดีมาก และกูขอซื้อสิทธิ์การไปค่ายด้วยเงินทั้งหมดที่มี กูทุ่มหมดตัวเลย” เอากับเขาสิ บ้าพอกัน ไม่น่าเห็นด้วยกับคำด่าเมื่อกี้เลย อุตสาห์จะชมว่าเป็นคนตรงไปตรงมา ที่แท้ก็ไม่ต่างจากไอ้เดือน



“นี่พี่เลี้ยงรุ่นเดือนได้เลยนะเนี่ย เพราะถือเป็นเดือนมหา’ลัยอาวุโสฮาฮาฮา”พี่หมอกลับเข้ามาร่วมวง เมื่อกี้พี่ยังบอกว่างานยุ่งอยู่เลยนะ ตอนนี้กลายเป็นเห็นดีเห็นงามไปอีกคน



“ไม่ทำงานหรือไง” นั่นไง ว่าที่แฟนท้วงขึ้นแล้ว



“ถ้าเจ้าไป พี่ก็ต้องไปไม่ใช่เหรอ” มีการยื่นมือไปโยกหัวคนของตัวเองโดยไม่สนใจประชาชีแบบนี้ พวกพี่มีอะไรกันแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้ไอ้เจ้าก็ไม่ค่อยติดห้องแล้วด้วย พวกคนมีผัวนี่มันจริงๆ เลย



“ผมไปด้วยนะครับพี่มิว”ไอ้ตัวแทนภาคคอมขอร่วมด้วยอีกคน และผมคิดว่ามันคงไม่พลาดงานนี้แน่ ถึงไม่ได้รับอนุญาตมันก็คงหาวิธีไปอยู่ดี



“ค่ายนี้คัดหน้าตา โดยใช้เกณฑ์จากประธานค่ายอย่างกู และไม่รับผู้หญิงด้วย” ดูเหยียดเพศแม่ยังไงอยู่นะ และมึงก็ไม่ควรพูดเสียงดังออกสื่อขนาดนั้นก็ได้ แค่นี้คนก็เพ่งเล็งมาที่โต๊ะนี้มากพอแล้ว



“กูรักมึงอีมิว ถึงแม้กูจะเป็นผู้หญิงมาก่อน แต่พอไปค่ายกูจะกลายเป็นคุณชายให้มึงเอง ค่ายนี้เพจ Cute BOYYY ขอเป็นสปอนเซอร์” เฮ้ออออออออออ ชักจะหวั่นกับค่ายประหลาดๆ นี้แล้วสิ



“พวกมึงไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธนะ” ไอ้ต้นกลับมาแล้ว พร้อมคำสั่งประกาศิต



“ปฏิเสธอะไรเหรอครับ” พี่หมอถามขึ้นอย่างสงสัย



“เปล่าครับพี่ พวกผมสามคนไปกันอยู่แล้วเนอะพวกมึง” เนอะกับพ่อมึงสิ



“ถ้างั้นวันนี้ขอทุกคนมาประชุมที่นิเทศด้วยครับ ประมาณสองทุ่มเป็นต้นไป ว่าแต่พี่หมอว่างไหมครับช่วงนั้น” มันหันไปถามคนที่เหมือนจะงานยุ่งที่สุดในบรรดา



“เดี๋ยวพี่ทักบอกอีกที แต่ขอจองไว้หนึ่งที่นะ หรือถ้ายังพอมีที่เหลือก็จะขนทีมแพทย์ไปช่วยด้วยอีกแรง” พี่หมอที่แสนดี ไม่น่าหน้ามืดตามัวมาหลงทางกับไอ้เจ้าจอมมโนเลย พี่ควรเป็นพ่อพันธุ์ให้กับสาวๆ



“โอเคครับ งั้นจะให้สิทธิ์คณะแพทย์เพิ่มเป็นสามถึงห้าคน โดยการตัดสิทธิ์เด็กนิเทศลงไป” เอิ่ม นั่นมันเป็นเหตุเป็นผลกันใช่ไหม มึงทำเหมือนไม่ใช่เด็กนิเทศเลย ทำตัวเป็นไส้ศึกที่บังเอิญได้รับอำนาจมา และใช้ไปในทางผิดๆ ด้วย พี่หมอก็ไม่ค้านเลยสักนิด



“ตอนนี้ก็มีนิเทศ วิศวะ ถาปัตย์ วิทยา แพทย์ อ้อ... มีเดือนรัฐศาสตร์ นิติ และศิล’กรรมด้วย” ผมว่ามันไม่ใช่ค่ายอาสาแล้ว มันไม่ถูกต้องตั้งแต่ให้ไอ้เดือนนิเทศมาเป็นประธานละ ใครกันที่คิดว่ามันจะบริหารคนได้ด้วยสมอง ไม่มี... ใช้อารมณ์และความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้งทั้งนั้น



“ถ้ากูไม่มีผัว กูจะจูบมึงให้รู้แล้วรู้รอด ทำไมมึงถึงได้ดีเลิศประเสริฐศรีมณีเด้งอย่างนี้” พี่แอดมินเริ่มอาการหนักไม่แพ้คนที่กำลังพูดถึง



“ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ ไปพวกมึง” ผมทำลายบรรยากาศตรงหน้าของเด็กนิเทศลง และทำลายความหวานที่กำลังก่อตัวของไอ้สองคู่นั้น เพราะถึงเวลาเรียนแล้วน่ะสิ มัวแต่ฟังพวกเพ้อจนโดนแย่งเวลาที่ควรจะได้ใช้ในการพักผ่อนหรือทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์กว่านี้



“งั้นพี่ก็ไปเรียนแล้วเหมือนกัน เจอกันครับ ไปนะ” พี่หมอผู้ซึ่งเดินทางมาจากอีกฝากฝั่งของมอ กล่าวลาทุกคน ก่อนปิดท้ายประโยคกับคนของตัวเอง



“กูก็ไปแล้วเหมือนกัน ปะไอ้นัท อีป้ามึงด้วย” ประธานค่ายก็ลากพวกนิเทศไปพร้อมกัน ยังดีที่คณะมันไม่ไกลจากที่นี่สักเท่าไหร่ จึงไม่รีบเร่งเหมือนว่าที่หมอก่อนหน้า



“เจอกันตอนค่ำครับพี่มิว” ไอ้เก้าผู้ยังจีบไม่ติด ซึ่งต้องขึ้นเรียนวิชานี้กับพวกผมกล่าวลาอย่างอาวรณ์



“มึงกับพี่มิวไม่ทะเลาะแล้วเหรอ วันนี้ดูเข้าหน้ากันได้ดีกว่าทุกที” ช่างสังเกตนะมึง กูก็แค่เลิกทำตัวเป็นเจ้านายสายโหด เปลี่ยนมาเป็นเจ้านายใจดีคนหนึ่งก็เท่านั้น เพราะเมื่อคืนมันเป็นเด็กดี ไม่ค่อยดื้อ แถมยังน่าจับกดด้วยฮาฮาฮา



สงสัยของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานต้องกลับมาใช้งานบ่อยแล้วสิ





- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 21 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-10-2018 17:04:34
เพิ่งตามอ่านจนครบ
น้องกาลเริ่มติดใจพี่มิวแล้วใช่ไหมอิอิ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 21 /// 121018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 22-10-2018 00:10:02
 :z1:


 :L2: :pig4: :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 22 /// 231018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 23-10-2018 20:07:34



ตอนที่ 22
~ มิว ~



“ก่อนเริ่ม ขอแจ้งเรื่องวันจัดค่ายใหม่นะครับ พอดีว่าฝ่ายกิจการนักศึกษาแจ้งมา ไม่ให้จัดค่ายในช่วงที่จะมีการสอบหรือช่วงใกล้สอบ ดังนั้นค่ายจะเลื่อนไปสิ้นเดือน หรืออาทิตย์หลังสอบ ไม่ทราบว่าทุกคน สะดวกไหม โดยเฉพาะพี่หมอ” เขาแจ้งความเคลื่อไหวล่าสุดให้กับผู้ร่วมประชุม ซึ่งมากันเกือบครบ แม้กระทั่งพี่หมอที่คิดว่าจะเทการประชุมเพราะงานซึ่งรัดตัว ก็ยังมาประชุมได้

         

“สิ้นเดือนพี่ว่าง คงไปได้ทั้งพี่และเพื่อน” และนั่นคือคำตอบของว่าที่แพทย์ในอนาคต ซึ่งจะพาทีมแพทย์ไปลงชุมชนร่วมกับพวกเขา

         

“คนอื่นล่ะ” แน่นอนว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะเรื่องวันเวลาย่อมกระทบกับทุกคนที่เขาลากมาร่วมจากหลายคณะ

         

คำตอบที่ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจไม่น้อย เพราะไม่มีใครขัดข้องกับการเลื่อนวันตามที่แจ้งไป และนั่นทำให้สมาชิกของค่ายพรั่งพร้อมไปด้วยเหล่าเดือนคณะต่างๆ

         

ตำแหน่งประธานค่ายพึ่งรับมาสดๆ ร้อนๆ จากเพื่อนร่วมคณะ ไม่ถือว่าเป็นภาระหรือตราบาปใดๆ ทั้งสิ้น นั่นเพราะว่าเขากำลังเปลี่ยนความลำบากยากเย็นในการทำค่ายอาสาเป็นงานรื่นเริงใจส่วนตน แม้จะโดนเขม่นจากคนในคณะซึ่งถูกตัดสิทธิ์ไปก็ตาม แต่ว่า...

         

เรื่องนั้นให้เป็นหน้าที่ของอีป้าแอดมินเพจดัง ให้นางจัดการขี้ปากของพวกไม่มีบุญวาสนากับพวกอิจฉาตาร้อนที่ไม่ได้ไปค่ายกับเหล่าหนุ่มหล่อ

         

“พี่มิวครับ แล้วค่ายที่เราไปนี่ต้องทำอะไรบ้าง” น้องต้นผมแดงจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่กำลังโด่งดังในโลกโซเชียลเอ่ยขึ้นเมื่อเขาเปิดโอกาศให้ผู้ร่วมประชุมซักถาม

         

ถ้ายึดตามแผนเดิม พวกเขาจะเดินทางไปที่ปทุมฯ เพื่อสร้างห้องสมุดให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ทว่า จากที่เขาทำการบ้านมาและลองติดต่อไปยังโรงเรียนดังกล่าว ได้ความมาว่าพึ่งได้รับงบประมาณจากเอกชนในการสร้างห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ ทำให้ไม่มีความจำเป็นในส่วนนั้นอีก

         

อีกทั้ง ระยะเวลาที่มีคงไม่อาจสร้างอาคารหรือทำสิ่งเหล่านั้นให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่จำกัดและแรงที่จำเขียดอย่างชาวนิเทศแน่

         

เขาจึงคิดว่าควรเปลี่ยนแผนและรื้อโครงการทั้งหมดทิ้ง โดยเริ่มจากผู้เข้าร่วมที่ไม่จำเป็นต้องอยู่แค่คณะนิเทศ เขามองว่ายิ่งมีความหลากหลายก็จะช่วยให้ค่ายมีสีสันและประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน อย่างน้อยที่สุดก็มีทีมว่าที่แพทย์ซึ่งเจนสนามและมากประสบการณ์กว่าทีมพยาบาลของคณะที่ทำได้แค่แจกยาพาราฯ

         

“ยังไม่ได้คิด”

         

“อ้าว” และเสียงจากสารทิศก็ส่งกลับมาเมื่อเขาตอบออกไปอย่างนั้น ก็พึ่งประชุมครั้งแรก นี่จะให้เขาทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้ มันต้องเป็นมติจากที่ประชุม

         

เขาเปล่าปัดภาระ



จริงๆ

         





“พอดีว่าแผนเดิมมีปัญหานิดหน่อย และพี่ก็พึ่งมารับหน้าที่ไม่ถึงสัปดาห์เลยต้องขอความเห็นจากทุกคน ว่าใครพอมีความคิดดีๆ เกี่ยวกับค่ายอาสาบ้าง...” เขาจึงต้องเล่าย้อนไปถึงปัญหาและความจำเป็นของการรื้อโครงสร้างเดิม เห็นไหมว่าเขาเป็นประธานที่มีคุณภาพแค่ไหน รับฟังความเห็นจากทุกคนอย่างเป็นระบบ

         

เชื่อสิ

         

“แสดงว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้สถานที่”พี่หมอถามขึ้น

         

“ครับ”

         

“หนักอยู่นะ ดีแล้วล่ะที่เลื่อนไปสิ้นเดือน ไม่งั้นพี่ว่าคงไม่ทันแน่ๆ” ก็ตามนั้นครับพี่หมอ เขาก็ดีใจไม่น้อยที่เรื่องมันลงเอยแบบนั้น ไม่งั้นคงต้องพาทุกคนไปร่อนเร่แถวในเมืองเพื่อประยุกต์ค่ายอาสาเป็นค่ายรักสัตว์ หรือค่ายเก็บขยะตามชุมชนแทน

         

ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เขาไม่ค่อยรู้จักที่ทางชนบทเลยแม้แต่น้อย ถ้าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในต่างประเทศก็ว่าไปอย่าง นั่นค่อยพอเป็นหัวหอกเสนอแนะให้ได้อยู่ แต่นี่เขาเที่ยวในประเทศแทบจะนับครั้งได้ เปล่าอวดรวยนะ แต่รวยจริงๆ

         

“ใครพอรู้จักที่ทางตามต่างจังหวัดบ้างไหม” ที่ต้องนัดประชุมทันทีหลังจากชวนทุกคนมาร่วมค่ายก็เพราะแบบนี้นั่นแหละ

         

“งบเยอะไหม” เขาเข้าใจว่าทำไมถึงมีคนถามเรื่องเงินในเวลาแบบนี้ ทว่า มันเป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้เช่นกัน เพื่อจะได้ประมาณการในเรื่องต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ด้วยบางที่ก็ไม่อาจไปถึงได้เพราะงบนั่นเอง อาทิ ญี่ปุ่น อังกฤษ รัสเซีย

         

มันก็คงไปไม่ได้อยู่แล้ว ไม่น่ายกตัวอย่างฮาฮาฮา

         

“ก็พอไปถึงเชียงใหม่อยู่ครับ สปอนเซอร์ค่อนข้างหนา แถมคณะก็ให้เยอะพอตัว” แน่นอนว่าคณะชื่อดังและมีชื่อเสียง แค่ขยับนิดขยับหน่อยก็มีคนคอยช่วยเหลือแล้ว ถึงแม้จะมีปัญหาเรื่องงบจริงๆ เขาก็คงปรึกษาป๊าให้มาช่วยนิดหน่อยก็คงไม่มีปัญหา

         

“งั้นก็ไปเหนือจรดใต้ได้เลย” ใช่ ทุกที่ในประเทศแทบไม่เป็นปัญหาในการเดินทาง ปัญหาจริงๆ มันอยู่ที่ประธานคนนี้ไม่รู้จักที่ทางต่างหาก ถึงได้ขอความเห็นไง ไม่งั้นคงไม่ลำบากเรียกประชุมหรอก ไม่สิ ไม่สิ เขาต้องเป็นประธานที่ดี

         

“ถ้าเป็นเชียงใหม่ผมพอจะถามให้ได้อยู่นะครับ” เพื่อนหน้าตี๋ของไอ้เดือนวิศวะเสนอขึ้น

         

“มึงเคยไปเหรอ” ไอ้เดือนเป็นคนซักข้อสงสัยที่เขาและอีกหลายคนก็อยากรู้เช่นกัน หรือเด็กคนนั้นจะมาจากเชียงใหม่

         

“พอดีว่าแม่ผมเป็นคนเชียงใหม่ อาจจะพอถามให้ได้ แต่ว่าคงได้คำตอบอย่างเร็วก็ประมาณพรุ่งนี้” ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่พอให้ความหวังกับเขาที่ยังมืดแปดด้าน นี่แอบคิดเล่นๆ ว่า หากไม่ได้ที่ไหนแม่งจะพาไปญี่ปุ่นให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย เอาให้มันเป็นค่ายอาสาต่างแดนก็น่าสนุกดี แต่ว่าคณะคงไม่ให้งบประมาณแน่ และป๊าคงตบกบาลเช่นกัน

         

“พี่ก็เคยไปภาคสนามที่เชียงใหม่ครั้งหนึ่ง อาจพอช่วยได้เหมือนกัน” เยี่ยมยอดมากพี่หมอ ถ้าไม่ติดว่าแกกำลังตามจีบไอ้เด็กเชียงใหม่อยู่เขาคงลากกลับห้องแน่ คนอะไรดีและครบขนาดนั้น ไอ้เด็กหน้าตี๋นั่นทำบุญด้วยอะไร

         

“ฉันก็คนเชียงใหม่นะ ลืมแล้วหรือไง” จริงด้วย อีป้าก็มาจากเชียงใหม่เหมือนกัน ดันมองข้ามมันไปเสียสนิท คิดว่าคงโดนความไร้สาระของนางเล่นงานจนไม่นึกว่าจะเป็นประโยชน์ในรูปธรรมฮาฮาฮา ถ้านางรู้เขามีหวังโกรธ

         

“นินทาอะไรฉันรู้นะ สายตามึงฟ้อง เห็นแบบนี้ฉันก็รู้ทุกซอกทุกมุมของจังหวัดเกิดตัวเองนะ อย่ามามองด้วยสายตาดูถูกดูแคลนอย่างนั้น” ดันรู้ทันอีก

         

“ถ้าเป็นเชียงใหม่ทุกคนว่าไง ถึงยังไม่ได้สถานที่แน่ชัด แต่อยากวางตัวจังหวัดไว้ก่อน จะได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม”ทุกคนดูไม่ติดใจกับจังหวัดนี้ แถมเห็นดีเห็นงามเพราะจะได้เที่ยว เขาก็ถือว่าเป็นมติเอกฉันท์จากที่ประชุมเลยแล้วกัน

         

“อยากไปเชียงใหม่ หน้าหนาวพอดีด้วยฟิน...” เสียงของใครคนหนึ่งแว่วมา

         

ซึ่งหลายคนในที่ปนะชุมพยักหน้าตามความคิดนั้นอย่างไม่รู้ตัว ก็แน่ล่ะ ถ้าคิดจะเที่ยวในประเทศชื่อแรกที่พอจะนึกได้ก็คือจังหวัดนี้ไม่ใช่หรือไง

         

“สิ้นเดือนที่ว่านี่มันช่วงปิดเทอมไม่ใช่เหรอ” เป็นไอ้เดือนที่เอ่ยขึ้น

                                                                           

“ใช่” เขาตอบไป ก็หลังจากสอบไฟนอลก็จะเป็นช่วงหยุดยาวไปจนถึงต้นปีหน้า อากาศที่นี่อาจจะไม่เปลี่ยนมากนัก แม้เข้าหน้าหนาวแล้วก็ตาม แต่ที่เชียงใหม่น่ะไม่แน่ อย่างน้อยก็คงรู้สึกเย็นกว่าอยู่ในมหา’ลัยนี้

         

“ไอ้เจ้าบอกแม่มึงเลยว่าพวกกูจะอยู่เที่ยวเชียงใหม่ เปิดบ้านรอด่วน” น้องต้นหันไปคะยั้นคะยอเพื่อนข้างกายซึ่งมียักษ์คู่เคียงของตัวเองมองตาไม่กระพริบ

         

ไอ้เพื่อนตัวสูงแม่งก็หึงเรี่ยราด นั่นมันเพื่อนของน้องมัน มึงจะไปเขม่นตาใส่ทำไม ความรักทำให้มึงเปลี่ยนไปขนาดนั้นเชียวหรือ เอ่อ... จะว่าไปอีกคนก็อากาศหนักไม่แพ้กัน จะใครได้ล่ะ ก็พี่หมอสุดหล่อของเขาไง พวกมึงนี่มันจริงๆ

         

“เรื่องเที่ยวต่อค่อยว่ากันอีกที แต่ยังไงก็ต้องมีรถของส่วนกลางที่ขับกลับมออยู่แล้ว เอาเป็นว่าเจอกันครั้งหน้าผมจะลงหน้าที่ให้แต่ละคนอีกที วันนี้ถ้าไม่มีข้อสงสัยก็แยกย้ายได้ครับ ขอบคุณที่สละเวลามา” ถือเป็นการปิดประชุมไปในตัว

         

เหล่าหนุ่มหน้าหล่อจากคณะต่างๆ ค่อยๆ แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง มีเข้ามาทักทายถามไถ่ตามประสาคนรู้จักบ้าง ซึ่งเขาก็ตอบรับด้วยรอยยิ้มกลับไป ก็เพื่อน พี่ น้องกันทั้งนั้น

         

“ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่โลกจะจารึกไปอีกนาน ที่มึงมีความสามารถในการรวบรวมคนหล่อมาไว้ในที่เดียวขนาดนี้ นี่กูไลฟ์สดไปมีคนดูเกือบแสน” อีป้า ทำไมไม่บอกกูว่ามีไลฟ์ นี่เขาเผลอพูดอะไรไม่เข้าท่าไปหรือเปล่า ห่วงว่าภาพลักษณ์ของหนุ่มหน้าหวานจะเสียหายเพราะไลฟ์ของมึงเนี่ยแหละ       



“ทำอะไรไม่บอกกูอีกแล้ว ตัดชื่อมึงทิ้งดีไหม” ขู่มันทีเล่นทีจริง



“ไม่ต้องห่วง กูปิดเสียงไว้ มีแต่หน้าหล่อๆ ของพวกมึงลอยไปลอยมาในคลิป แต่มีคนนั่งดูจนจบประชุมเลยนะมึง” ค่อยยังชั่ว



“ว่าแต่เรื่องสถานที่ กูขอฝากมึงเลยได้ไหม” ได้ทีก็โยนภาระให้นางไป โทษฐานเป็นชายไม่แท้ที่ไม่หล่อและน่ารักเพียงหนึ่งเดียวในค่าย



“ไม่มีปัญหา ไว้ได้แล้วกูจะรีบบอกมึง” ถ้านางรับปากอย่างนั้นก็คงไม่น่าเป็นห่วงแล้วล่ะสำหรับเรื่องนี้



“ขอบใจ”



“พี่มิวสนใจไปค้างบ้านไอ้เจ้ากับพวกผมไหมครับ หลังจบค่าย พี่นัท พี่หมอก็บอกว่าจะไปด้วยนะ” เอากับพวกหวงแฟนสิ นี่พวกมึงคิดจะตามกันไปทุกที่เลยเหรอ พี่หมอแม่งก็เอากับเขาด้วย



“เดี๋ยวพี่บอกอีกทีแล้วกัน ไม่รู้ว่าจะมีธุระหลังจากนั้นไหม” อาจไปยุโรปกับป๊าหรือไปแช่ออนเซ็นเหมือนทุกทีก็ได้



“ถึงมันจะไม่ว่าง แต่พี่ว่างนะจ๊ะ ชวนพี่ได้” มึงไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยอีป้า



ทำไมถึงมีลางสังหรณ์ว่าปิดเทอมปีนี้เขาจะไม่ได้ไปต่างประเทศยังไงไม่รู้ ดูจากสายตาของไอ้เดือนวิศวะที่มองมาสิ แค่ตอบว่าไม่แน่ใจเฉยๆ ไม่ได้บอกว่าไม่ไปสักหน่อย



“ถ้าพี่มิวไป เก้าก็ไปด้วย” ไอ้นี่อีกคน หวังว่าจะไม่คิดผิดนะที่ให้ชวนพวกมันมาค่ายด้วย ตงิดใจชอบกล คงไม่ทำให้เขาต้องมาปวดหัวกับเรื่องนี้หรอกนะ









- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 22 /// 231018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 23-10-2018 22:14:30
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 22 /// 231018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 24-10-2018 13:39:42
 :pig4: :pig4: :pig4:

แหม่...แต่ละคู่

ตั้งแต่แกรนด์โอเพนนิ่งเนี่ย  ไม่มีองมีอายกันเลยนะ
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 22 /// 231018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: yunchun ที่ 24-10-2018 17:24:36
เพิ่งอ่านได้ถึงตอน 12 บันเทิงมากกก มาเม้นเป็นกำลังใจนักเขียนก่อน
ดีสนุกค่ะ กดเข้ามาอ่านเพลินๆ สรุปติดเฉยเลย 555 ชอบบๆ
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 23 /// 281018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 28-10-2018 17:42:27

ตอนที่ 23
~ กาล ~


วันสอบใกล้มาถึงแล้ว แต่ก็แค่ใกล้ ยังไม่ถึงสักหน่อย วันหยุดอย่างนี้ผมจึงเลือกกลิ้งไปกลิ้งมาอย่างเปล่าประโยชน์ในคอนโดตัวคนเดียว ใช่ครับ ฟังไม่ผิด ตัวคนเดียวเลย เพราะอีกสองคนมันออกไปไหนสักที่โดยไม่บอกกล่าว ถ้าให้เดาก็คงไปอยู่กับคนของพวกมันอีกตามเคย

         

เมื่อก่อนพวกมันที่เอาแต่อุดอู้ในห้องไม่ยอมไปไหน คนหนึ่งเล่นแต่เกม อีกคนก็เขียนนิยายวนไป มาคราวนี้ไม่มีสักคนก็เหงาเหมือนกันนะเนี่ย ครั้นจะไปหาไอ้เดือนนิเทศก็ขี้เกียจ เพราะบ้านมันอยู่นอกเมืองไปไกลเลย บ้านหลังใหญ่ที่ไม่สามารถอัดอยู่ในใจกลางเมืองแบบนี้

         

จากที่นอนเน่าอยู่บนเตียง ก็เริ่มขยับขยายย้ายไปจัดการธุระส่วนตัว ก็แสงแยงตาจนแสบแบบนี้ จะให้อืดอยู่ที่เดิม เกรงว่าคนดูจะด่าเอา พออาบน้ำเสร็จ ก็เตรียมตัวคล้ายจะไปข้างนอก ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะไปไหน แต่ขอเตรียมพร้อมไว้ก่อน

         

เปิดหนังสือนิยายเรื่องล่าสุดของไอ้เจ้าที่พึ่งมาส่งเมื่อไม่กี่วัน ซึ่งมันเอาเล่มตัวอย่างวางทิ้งไว้บนโต๊ะกระจกในห้องนั่งเล่น เปิดฆ่าเวลาไปโดยไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ค่อยๆ เปลี่ยนท่านั่ง ท่านอน ท่าอ่าน จนไม่รู้จะไปอยู่ท่าไหน

         

วันเบื่อๆ ของคนๆ หนึ่ง ถือเป็นหัวข้อในทางปรัชญาไหม ก็ในเมื่อวันนี้มันว่างและเบื่อโคตร จนอยากละลายกลายเป็นวุ่นให้สิ้นเรื่องสิ้นราว ขี้เกียจไปเสียทุกอย่าง แม้ลึกๆ แล้วจะรู้ว่าถ้าเอาเวลาบ่นบ้าๆ นี้ไปอ่านหนังสือจะเกิดประโยชน์กว่า แต่ผมก็เลือกเมินมันไป

         

มารู้ตัวเอาตอนนี้ว่าผมไม่มีงานอดิเรกหรืออะไรที่ชอบเป็นพิเศษเลย พอพ้นจากช่วงประกวดดาวเดือนก็วุ่นวายกับไอ้เดือนพักหนึ่ง พอเริ่มเบื่อขี้เกียจแกล้งมันแล้ว เลยว่างอย่างที่เห็น นั่งนึกย้อนกลับไปหาตัวเองในอดีตว่าใช้วันหยุดไปกับอะไรบ้าง

         

ภาพหนึ่งก็ลอยมา ภาพของวันว่างที่ผมใช้ไปกับใครคนหนึ่ง ใครสักคนที่เลือนหายไปชั่วขณะ  ตั้งแต่เข้ามอก็มีแต่เรื่องวุ่นจนทำให้ลืมเรื่องสำคัญไป เรื่องที่ว่าผมไม่ได้อยู่กับเขาในวันว่างแบบนี้อีกแล้ว หรือเป็นผมเองที่ทำตัวยุ่งให้ตัวเองลืมเรื่องนั้น

         

แย่แล้วสิ ว่างเกินจนพาให้นึกถึงเรื่องที่ควรลืม

         

ขอทำตัวยุ่งๆ โดยการออกไปตากแอร์ที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่คอนโด --- ผมไม่รอช้า หากุญแจรถและออกห้องไปเลย ขับไปห้างที่ใกล้ที่สุด เพราะการนั่งอยู่ในรถกับการจารจรในวันหยุด ก็ไม่ใช่เรื่องน่าพิสมัยเท่าไหร่

         

ร้านกาแฟและโต๊ะว่างด้านในสุดจึงเป็นมุดหมายที่ตั้งไว้ ผมนั่งแช่ พร้อมไถหน้าจอไปเรื่อยๆ ให้กลิ่นกาแฟกลบความทรงจำในอดีตไว้ สั่งของกินเล่นมาเพิ่ม คล้ายเป็นมื้อหลักมื้อหนึ่ง ซึ่งมันควรไปหาอะไรกินที่อื่นไม่ใช่ร้านนี้ แต่ก็ขี้เกียจ (อีกละ) เกินจะขยับตัว

         

มองออกไปนอกกระจกใสที่ใส่ลายจนเกือบเต็ม แต่ก็โปร่งพอมองออกว่าคนที่เดินผ่านไปเมื่อครู่เป็นไอ้เดือนนิเทศที่แต่งตัวจัดเต็ม --- มันไม่ได้เดินเข้ามาในนี้ และผมก็ไม่ได้ออกไปตามตัวแต่อย่างใด ก็เป็นวันว่างของมัน ปล่อยไปเถอะ

         

ผมอยู่ในอารมณ์ที่ไม่พร้อมจะแกล้งใคร แต่ดูเหมือนว่าฟ้าพร้อมที่จะแกล้งผม เพราะจู่ๆ ก็เจออีกคนที่ไม่คาดคิดว่าจะโคจรมาพบกันอีก

         

ผมสบตาเธอที่เดินเข้ามาในร้านพร้อมผู้ชายคนหนึ่ง แขนทั้งสองข้างของคนสองคนแสดงออกมาอย่างชัดเจนว่าอยู่ในสถานะไหน เขาคนนั้นเลือกที่นั่งไม่ไกลจากผมนัก โดยมีเธอที่ออกอาการคล้ายอยากเปลี่ยนที่นั่งหรือหากเป็นไปได้คงเปลี่ยนร้านไปเลย



เธอนั่งอยู่ในมุมซึ่งมองเห็นผมเต็มตา แน่นอนว่าผมก็ไม่ต่างกัน ภาพใบหน้าของคนที่เคยคุ้นเคยแจ่มชัดอีกครั้ง ไม่เพียงความรู้สึก เพราะเธอมาอยู่ตรงหน้าผมแล้ว หลังจากแยกทางกันด้วยความคลุมเครือ มันไม่ชัดเจน ทั้งตอนนั้นและตอนนี้



เธอจากผมไปตั้งแต่ตอนนั้น เราอยู่กันต่างมอ ชื่อเสียงที่พอแว่วมาตามกระแสของเธอที่สร้างไว้ในฐานะดาวมหา’ลัยของทางนั้น ก็ทำให้บางขณะที่กำลังก้าวเดินต้องสะดุดบ้าง แต่ก็นั่นแหละ เพราะผมทำเป็นว่าไม่มีเธอ ทำเป็นไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวในบทสนทนาที่มีเธออยู่ในเรื่อง จึงทำให้เดินต่อไปได้ ด้วยความปกติเท่าที่จะทำได้



ทว่า การได้เห็นเธอ ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย มันกำลังทำให้การก้าวต่อไปของผมต้องหยุดชะงัก ทำไมการหนีออกมาจากห้องกลับต้องมาเจอตัวจริง เจอเธอซึ่งเคยเป็นภาพเลือนราง ให้แจ่มชัดขึ้นด้วยสองตา ทำเอาวันหยุดที่ว่างเว้นและแสนเบื่อของผมวุ่นวายอย่างคาดไม่ถึง ถ้ารู้ก่อน ผมคงกลิ้งไปมาอยู่ในห้องเสียดีกว่า ไม่ออกมาให้ตัวเองว้าวุ่นแบบนี้แน่



ผมเลือกเดินออกจากร้านไวกว่าที่คิดเอาไว้ตอนแรก ออกมาให้ห่างและทำเป็นไม่สนใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ เดินเข้าร้านหนังสือซึ่งผิดปกติวิสัย เดินวนไปมา ไม่ได้มองหาเล่มไหนหรือเรื่องใดเป็นพิเศษ แค่ฆ่าเวลาและปล่อยให้ภาพปกละลานตาละลายภาพที่ค้างตึงอยู่ในความคิด



หยิบเล่มหนึ่งซึ่งอยู่ในหมวดวรรณกรรมขึ้นมาอ่านปกหลัง แล้วก็วางทิ้งไป เรื่อยจนครบเกือบครบแฝง ยังดีที่ไม่มีใครในบริเวณนี้ ไม่เช่นนั้นผมคงมารบกวนเวลาแห่งการท่องโลกอักษรของเขา --- ก่อนมาจบที่หนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งไม่มีคำบรรยายใดที่หลังปก เป็นแค่ภาพวาดสีน้ำฟ้าคราม กับนักวิ่งชายที่ออกท่าทางไว้



บทแรกเปิดมาด้วยการแข่งวิ่งของนักเรียนคนหนึ่ง อ่านไปจนถึงท้ายบท ก็เก็บหนังสือลง เพราะเห็นคนคุ้นตาเดินผ่านหน้าไป ผมรีบเบี่ยงออกจากโซนวรรณกรรมปกติ เข้าสู่โลกหลากสีของวรรณกรรมชายรักชาย มันกำลังเลือกเล่มที่ถูกใจอย่างสบายอารมณ์



จนอดสงสัยไม่ได้ว่า ไม่มีใครรู้เลยเหรอว่าเดือนนิเทศเป็นเกย์ ผมยังเห็นผู้หญิงตามกรี๊ดตามเกาะติดมันอยู่ หรือที่เขากรี๊ดเพราะมันเหมือนฝ่ายรับในบทชายรักชาย ซึ่งหากพวกเธอรู้ความจริงเรื่องที่มันเป็นฝ่ายรับ แถมยังซาดิสม์อีก จะยังกรี๊ดอยู่หรือเปล่า

         

แปลกที่พอเป็นเรื่องของมันทีไร ผมก็ลืมสิ่งที่วนเวียนอยู่ในหัว พึ่งรู้ตัวว่ามันมีอิทธิพลต่อความคิดและสภาพจิตใจก็วันนี้แหละ วันที่เจอกับเรื่องไม่คาดฝัน แต่พอเห็นมันที่ง่วนอยู่กับกองนิยายสีม่วง ผมก็โฟกัสและเพ่งความสนใจทั้งหมดไปที่มัน

         

ผมคงบ้าไปแล้วแน่ ที่มายืนหลบมุมแอบมองมันที่กำลังมีความสุขกับหนังสือตรงหน้า แค่ไม่อยากเข้าไปกวนให้มันขุ่นใจที่เห็นหน้าผม ซึ่งไม่มั่นใจว่ามันจะคิดอย่างนั้นไหม แต่เท่าที่เป็นมา มันก็ไม่ได้ชอบขี้หน้าผมสักเท่าไหร่

         

ในทางตรงกันข้าม ผมก็เคยมีความรู้สึกแบบนั้นกับมัน ไม่ชอบหน้า โกรธ แค้น และอยากเอาคืนกับสิ่งที่มันทำให้ชีวิตในช่วงเข้ามหา’ลัยแรกๆ ของผมวุ่นวายและแทบไม่มีชิ้นดี แต่ก็นั้นแหละ อย่างน้อย ความป่วนเล็กๆ ที่มันสร้างขึ้น ก็ทำให้ผมลืมเรื่องบางเรื่องไปได้ชั่วครั้งคราว--- เป็นความรำคาญใจที่ทำให้สบายใจ งงไหม ฮาฮาฮา

         

ไม่ต้องเข้าใจความคิดของผมทั้งหมดก็ได้ แค่รู้ไว้ว่าช่วงที่มีมันเข้ามาในชีวิต ถึงไม่ได้ดีขนาดต้องขอบคุณ แต่อย่างน้อยก็ไม่เลวร้ายขนาดนั้น นี่ผมประมวลความคิดที่ได้จากมุมมองซึ่งเปิดรับมันเข้ามาในชีวิต ไม่ใช่ใช้อคติอย่างที่ผ่านมา --- ก็นั่นผมพึ่งโดนเล่นงาน แต่ตอนนี้ความโกรธค่อยๆ จางลงแล้ว

         

อย่าคิดไปไกล ที่ว่าสบายใจไม่ได้หมายความว่าชอบหรือหลงมันในทางชู้สาว หรือทางรักใคร่แต่อย่างใด ขอย้ำอีกครั้งว่ามันก็แค่ผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีทางที่ความคิดในตอนนี้หรือตอนไหนๆ จะพาผมไปหลงเสน่ห์ของมันได้ และผมก็มั่นใจด้วยว่ามันก็คิดเหมือนกัน

         

หากความใกล้ชิดในบางขณะนำพวกผมไปสู่อารมณ์บางอย่างที่แปลกไป นั่นก็เพียงชั่ววูบของอารมณ์และความรู้สึก แค่ความต้องการปลดปล่อยตามธรรมชาติของเพศชาย สัญชาตญาณของมนุษย์ที่ทุกคนยากจะยับยั้ง เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วก็ต้องปล่อยไป และเมื่อปล่อยออกไปจนสิ้น มันก็หดหาย และเขากับมันก็กลับมาเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยกันอีกครั้ง

         

ไม่ได้สนิทใจจนเรียกได้ว่าเป็นคนพิเศษ และก็ไม่ได้แปลกใจเมื่อบางครั้งบางคราวจะร่วมทางในอารมณ์เดียวกันบ้าง เป็นความสัมพันธ์ประหลาด แต่ที่แน่นอนมีอย่างเดียวคือ ผมไม่ได้รักมัน

         

ไม่ได้ปิดใจหรืออะไรทั้งนั้น ก็แค่ไม่คิดว่าตัวเองจะรักผู้ชายคนไหนในทางนั้นได้ อย่างมากก็แค่มิตรภาพระหว่างพี่น้อง ซึ่งยังไม่เกิดขึ้น ทั้งในความรู้สึกของผมและคาดว่าจะเป็นของมันด้วย







- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 23 /// 281018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lovenut ที่ 29-10-2018 12:41:43
เอาแล้ว เมืยเก่ามาแล้ว
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 23 /// 281018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 29-10-2018 20:31:39
 :3123: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: new!!! ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 23 /// 281018 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 30-10-2018 00:29:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 06-11-2018 21:40:34



ตอนที่ 24
~ กาล ~



ฤดูกาลแห่งการสอบมาเยือนแล้ว แม้จะเคยประสบไปเมื่อคราวมิดเทอม แต่หัวเลี้ยวหัวต่อจริงๆ มันอยู่ที่ไฟนอลต่างหาก หลายวิชาไม่มีสอบกลางภาคเลยด้วยซ้ำ อาจารย์ใจดี (เหรอ?) รวบยอดมาสอบปลายภาคทีเดียว ทำเอานักศึกษาอย่างพวกผมแทบกระอักเลือดออกมาเป็นตัวเลขกับสูตร

         

ว่าแต่ทำไมคอนโดผมกลายเป็นสถานที่ฮันนีมูนของพวกข้าวใหม่ปลามันไปได้ พวกพี่ไม่มีสอบหรือไงกัน ครั้นจะไล่ก็ใช่เรื่อง แต่นิเทศกับแพทย์ก็ใช่จะมาสอนวิชาพื้นฐานวิศวะนะ ถึงแม้พี่หมอจะสอนเคมีโคตรเก่งก็เหอะ

         

พวกแม่งบทจะอยู่กันครบหน้าก็พาว่าที่สามีมาด้วย แถมไม่ใช่คนเดียวหรอกนะ ไอ้หัวแดงก็ใช่เล่น วันก่อนก็หายกันไปหมดนี่ เหลือผมไว้คนเดียว ซึ่งพวกมันคงจะหายไปตามๆ กัน ถ้าไอ้เจ้าย้ายออกคอนโดวันไหน ไอ้ต้นที่เป็นรูมเมทก็คงหนีออกไปตามผัวมันแน่

         

เอาสิ ผมไม่แคร์อยู่แล้ว เอาเลย ใช่ ไม่แคร์ ไม่แคร์อะไรทั้งนั้น ก็ดีจะได้ไม่มีตัวกวนใจ อยู่คนเดียวไม่เห็นเป็นอะไร ทุกวันนี้ก็ไม่ต่างกันเลย แม่งกลับห้องแทบนับวันได้ อย่าให้กูมีแฟนล่ะ จะไล่พวกมึงออกไปก่อนที่จะหนีกูเลยคอยดู

         

ไม่โกรธครับผมไม่โกรธเลยสักนิด

         

“ออกไปห่างๆ เลย ไม่อายพวกนั้นเหรอ” พวกมึงแทบจะกลืนกันเข้าไปแล้วไอ้เจ้า ไม่ต้องอายกูหรอก คิดว่ากูเป็นอากาศเลยก็ได้นะ   

         

ได้ข่าวช่วงนี้ไม่เขียนนิยายน้ำเน่าอีกเลยนะ มัวแต่ไปกกตัวอยู่กับพี่หมอ ซึ่งลากมันออกไปทุกเช้าเย็น ถ้าไม่ใช่ช่วงสอบที่ต้องช่วยกันติวมึงคงไม่คิดกลับมาใช่ไหมล่ะ ดูท่าแล้วคงเตรียมตัวย้ายออกไปเร็วๆ นี้ ก็ให้ทำไงได้ล่ะ หมอเขาคงมียาดี

         

จะว่าไปช่วงนี้ก็ตึงๆ กันอยู่นะ รู้สึกว่ามีแค่พี่หมอที่เข้าหาตลอด ส่วนเพื่อนผมเอาแต่ปัดป้อง ไม่ให้ว่าที่หมอได้แตะต้อง แต่ก็นั่นแหละ พอหมอจอมตื๊อเล่นบทไม่สนโลกเข้าให้มันก็ทำอะไรไม่ได้ สงสัยมีเรื่องกันมา เพราะวันนี้มันไม่ยอมออกไปไหนเลย จนกระทั่งพี่หมอต้องมารอหน้าห้อง ผมถามก็ไม่ตอบ

         

“อิจฉาเหรอ” ไม่ใช่คู่ของพวกมันหรอก เป็นไอ้คนไม่มีคู่ต่างหากที่คงเหงาไม่ต่างจากผม เมื่อเพื่อนตัวสูงของตัวเองไปนั่งเฝ้าแฟนอ่านหนังสือแบบไม่วางตา เอ่อ... พี่นัทครับ ผมว่าพี่คงไม่ได้อ่านหรอกถ้ามัวแต่จ้องไอ้ต้นแบบนั้น

         

“มึงนั่นแหละอิจฉา” มึงเลยไอ้เดือนนิเทศ เห็นบ่นนักบ่นหนาว่าอยากได้ผัวมาดูแล แถมตอนนี้ก็ยังแห้งแล้งอยู่ คงไม่มีคนเข้ามาล่ะสิท่าเพราะตัวติดกับผมทุกเช้าเย็นแบบนี้ อ๊ะ อ๊ะ อย่าโทษผมนะครับ มันแค่ตามสอยห้อยติดพี่นัทมาเฉยๆ ผมไม่ได้เรียกหรือแกล้งมันเลยสักนิด

         

“เออ กูอิจฉา ยอมเป็นแฟนเช่ากูไหมล่ะ ให้เดือนละห้าหมื่น” คนตรงก็ยังเป็นมันอยู่ดี ไม่คิดจะอ้อมค้อมหรือเก็บความต้องการไว้เลย คิดอะไรก็แสดงออกมาหมดเลยนะมึง สีหน้าฟ้องว่าจะกินกูเสียขนาดนี้

         

“กูทำได้ทุกอย่างเลยหรือเปล่า” แกล้งหยอกมันไป

         

“ไม่” นั่นไง เพราะมันไม่เคยยอมให้ผมเกินเลยจากภายนอก

         

“ถ้าแค่นั้นไม่เอาหรอก” ให้ไปอดกลั้นต่อหน้ามันอย่างนั้นไม่เอาด้วยหรอก ผมบอกแล้วไงว่าถึงเป็นผู้ชาย แต่พอถึงเวลาอยากมันก็เอาได้หมดนั่นแหละ โดยเฉพาะขาวๆ แบบนี้ด้วย

         

“แค่แฟนเช่าเข้าใจไหม” ไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่ามึงจะหวงซิงไปทำไมกัน ผมไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แค่คิดว่าที่ผมกับมันทำคงเกินเลยจากคำว่าพี่น้องไปแล้ว อีกนิดเดียวจะเป็นอะไร

         

“งั้นก็อดอยากไปเหอะ” ไม่มีใครเอามึงหรอก เขาคิดว่าเป็นแฟนกับกูเกือบทั้งมอแล้ว เอ๊ะจะว่าไป...

         

“ยอมคบกับไอ้เก้าดีไหม...” มันพึมพำๆ กับตัวเองคนเดียว ซึ่งผมดันลืมไปเสียสนิทว่ามันยังมีไอ้ตัวแทนภาคคอมอีกคนที่ยังตามจีบไม่เลิกอยู่

         

ถ้ามันยอมตกปากรับคำไอ้เก้า คนที่แย่อาจเป็นผมก็ได้ หากยังไม่มีแฟนแบบนี้แล้วถ้าอยากขึ้นมาจะไปลงกับใคร เอาแล้วสิ ชักจะไม่ดีละ

         

“คืนนี้กูนอนห้องมึง” บอกมันไปโดยไม่ฟังเสียทัดทานใดทั้งสิ้น บ่นได้ก็บ่นมาเหอะ กูไม่สน ไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ ยังไงวันนี้กูก็จะไปตามเฝ้ามึงถึงห้อง

         

“จะไปทำไม กูไม่ให้ไป” บอกแล้วว่าไม่สน เพราะมันยังคงติดสถานะทาสอยู่ ไม่มีสิทธิ์เถียงหรือปฏิเสธ

         

ไม่ต้องไปสนใจหรอกครับ ผมไม่ได้ทำอะไรมันทั้งนั้น แค่ไปนอนด้วยเฉยๆ ปล่อยให้คอนโดเหงาอยู่ลำพัง เพราะคงไม่มีใครใช้ห้องในคืนนี้ ต่างกันแค่สอนคนนั้นไปอยู่กับแฟน แต่ผมกับมันที่อยู่บนเตียงเดียวกันไม่ใช่ทั้งเพื่อน พี่ หรือแฟนกันทั้งนั้น ซึ่งถ้าหาคำนิยามยากก็ไม่ต้องนิยามมันก็สิ้นเรื่อง







ช่วงสอบแบบนี้ข้อดีที่พอจะนึกได้ก็มีแต่เวลาว่างที่ได้รับมาตลอดสัปดาห์ ซึ่งถ้าใครมีสอบน้อยตัวก็ยิ่งเป็นลาภอันประเสริฐยิ่ง ทว่า มันกลับตาลปัตรจากที่คิดไว้อย่างสิ้นเชิง เมื่อผมและเพื่อนอีกสองคนไม่ได้เข้าข่ายของคนที่มีสอบน้อย เพราะดูจากรายวิชาที่ต้องสรรหาหนังสือเพิ่มเติมมาอ่านเกือบยี่สิบเล่มแล้ว เห็นอนาคตอยู่รางๆ ว่าตายแน่ และมันกำลังจะเกิดขึ้น...

         

“อดทนหน่อยมึง วันสุดท้ายแล้ว” สภาพของไอ้ต้นใกล้เคียงกับซอมบี้เดินได้เลย แถมมีคนคอยอารักขาซอมบี้ตัวนี้ราวกับไม่มีสอบ พี่นัท พี่ควรไปอ่านหนังสือนะครับ รู้ว่าเป็นห่วง แต่ไม่คิดจะไว้ใจพวกผมเลยหรือไง เพื่อนทั้งคนยังไงก็ไม่ปล่อยมันตายอดตายอยากอยู่ข้างถนนหรอก

         

“วันสุดท้ายก็เหี้ยละ มีสอบตั้งสองตัว” ใช่ครับ วันสุดท้ายก็จริงแต่ต้องมาสอบพร้อมกันถึงสองวิชา ซึ่งพวกผมยังอ่านกันไม่จบ ที่วางแผนไว้ก็คือรีบสอบตัวแรกแล้วกลับมาอ่านวิชาสุดท้ายที่ยังค้างอยู่ครึ่งเล่ม

         

ซึ่งผมกับไอ้เจ้าเหลือไม่ถึงขนาดนั้นแล้ว มีแค่ไอ้หัวแดงนั่นแหละที่อ่านช้าและเข้าใจยาก เลยทำให้ตามเพื่อนอยู่มากโข ทำใจนะมึง ดันได้แฟนเป็นเด็กนิเทศ ที่คงทิ้งฟิสิกส์เคมีไปนานแล้ว ถึงจะจบสายวิทย์มา แต่ถ้าไม่ได้ทบทวนนานๆ เข้าก็มีลืมเหมือนกัน แน่นอนว่าพี่นัทอยู่ในข่ายนั้น

         

“เดี๋ยวกูช่วยอีกแรง” ไอ้เจ้าก็อดสงสารรูมเมทของมันที่ไม่ได้นอนด้วยกันมาร่วมเดือน

         

“มึงก็ดีสิ พี่หมอเขาเก่ง ได้ทั้งเคมี ชีวะ ฟิสิกส์” เหมือนจะมีคนถูกทำร้ายด้วยคำพูดนั้น ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะเป็นพี่ตัวสูงที่เดินตามมาข้างหลัง

         

ไอ้ต้นก็ใช่จะแคร์ พูดออกมาได้นะมึง ให้พี่นัทไปเรียนแพทย์เอาไหม หรือไม่งั้นมึงก็หาแฟนเป็นหมอสักคนสิ คอยดูนะถ้างอนกันมาพ่อจะตบบ้องหูให้แตกไปข้างเลย พูดอะไรไม่คิดถึงคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนที่จะเป็นแฟนกันน่ะ

         

“งั้นพี่ขอตัวนะ”

         

“อยู่ไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร” นั่นไง มาเต็ม ความน้อยใจนี้ชัดเจนมาก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าจบจากสอบวันนี้มีง้อกันแน่ หรือไม่ก็มีน้ำตาแตกกันไปข้าง

         

“กูไม่ได้หมายความว่างั้น” ไม่ทันแล้วเพื่อน ไปนู้นละ หวังว่ากูคงไม่ต้องเก็บศพมึงไปส่งให้พี่เขาหรอกนะ อย่าสร้างภาระให้กูอีกเลย

         

“ปากดีก็งี้แหละ ระวังเขาบอกเลิกนะมึง” มึงก็อีกคนไอ้เจ้า ปากดีไม่เข้าเรื่อง ไม่เห็นหน้ามันหรือไง จะร้องไห้แล้วนั่นน่ะ

         

“พอๆ พวกมึงช่วยโฟกัสที่สอบก่อนเหอะ หลังสอบเสร็จค่อยไปง้อไปตามไปด่าไปเหี้ยอะไรก็เชิญ แต่ถ้ามึงเอฟวิชานี้รับลองที่บ้านเอาตายแน่” ไม่ใช่แค่ขู่ แต่กูขู่ของจริงเลยล่ะ อย่าคิดนะว่าสอบตกเพราะผัว พ่อมึงจะเอาไว้

         

“กูไม่มีสมาธิแล้ว” เอาเข้าไป สร้างเรื่องขึ้นมาเองก็ต้องรับกรรมไปตามระเบียบ

         

“ไม่ทันแล้ว ถึงเวลาสอบละ” พวกผมจำต้องเดินเข้าห้องสอบ โดยลากสังขารของไอ้หัวแดงตามมา แม้มันจะไร้เรี่ยวแรงก็ตามที

         

และนอกจากจะช็อคเพราะผัวทิ้งแล้ว มันคงต้องตาค้างกับโจทย์ตรงหน้าแน่ เพราะแม้แต่ผมซึ่งคิดว่าเข้าใจบทเรียนยังมีกระอัก อาจารย์... ไม่ปราณีนักศึกษาเลยหรือไง ข้อสอบแบบนี้ถึงอ่านทั้งปีทั้งชาติก็ไม่มีวันทำได้หรอก

         

ห้องสอบที่ว่าเงียบแล้ว คงไม่เท่ากับความรู้ซึ่งนิ่งสงบไร้การตอบสนองและขยับเขยื้อนใดๆ แม้แต่น้อย ไม่มีเสียงของคำตอบออกมาให้พอชื้นใจเลย นี่มันอะไรกัน เอาเป็นว่าคงต้องทิ้งข้อนี้ไปเพื่อบริหารเวลาแสนมีค่ากับโจทย์อื่นๆ ท่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้

         

ชีวิตของผมฝากไว้กับคำตอบเหล่านั้น รอยปากที่แสนล้ำค่าซึ่งภาวนาให้อาจารย์ช่วยกรุณาเห็นอกเห็นใจนักศึกษาคนนี้ถูกหยิบไปอย่างไร้เยื้อใยเมื่อเวลาหมดลง อาจารย์ถึงกับเดินเก็บข้อสอบด้วยตัวเอง เขาแทบอดกลั้นความซาบซึ้งใจนี้ไว้ไม่อยู่ ข้อสุดท้ายยังไม่ทันได้ตรวจทานเลยครับ มันถูกหยิบติดมือแกไปแล้ว จะยื้อไว้ก็ไม่ได้ ดูสายตาที่อาจารย์จ้องมาสิครับ พวกผมแค่นักศึกษานะไม่ใช้นักโทษในเรือนจำ ไม่ต้องโหดขนาดนั้นก็ได้

         

“กูขอตัวไปคุยกับพ่อกูก่อนนะ” ไอ้ต้นเป็นคนแรกที่ปริปากหลังออกจากห้องสอบมาในสภาพไร้วิญญาณ

         

ซึ่งมันก็เดินไปคุยจริงตามที่ว่าไว้ สงสัยคงต้องมีใครสักคนในนี้ใช้เวลากับการเรียนสักห้าปีหกปีแล้วล่ะครับ เป้าหมายสี่ปีที่วางไว้เลือนรางชอบกล

         

“ท่าจะเป็นเอามาก ว่าแต่มึงทำได้ไหม” ไอ้เจ้าที่ยืนรอไอ้ต้นอยู่ข้างผมถามขึ้นมา มันที่ถนัดวิชานี้ที่สุดถึงไม่มีพี่หมอมาติวให้ก็ตาม

         

“ครึ่งๆ มึงล่ะ” อย่างที่ว่ามา คงไม่ใช่ปัญหาของมัน ส่วนผมก็ตามที่บอกครับว่าครึ่งๆ มั่นใจในข้อที่ทำได้และตรวจคำตอบแล้วว่าตรงกัน แต่ข้อที่ไม่มั่นใจกับข้อสุดท้ายที่ยังไม่ตรวจทานนั่นอย่าไปพูดถึงเลย ตอบอะไรไปผมจำไม่ค่อยจะได้ละ

         

“ก็พอกัน รอบนี้ยากจริง” มันถึงกับใช้คำว่ายาก เขาคงไม่ได้บ้าไปเองที่คิดว่าข้อสอบปลายภาคของวิชานี้โคตรยากเลยให้ตายเหอะ

         

“ไปเรียกมันมาเตรียมตัวของอีกวิชาเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน” ยังเป็นไอ้เจ้าที่เสนอความคิด ซึ่งผมเห็นด้วยกับมัน เพราะอีกวิชาพวกผมยังอ่านกันไม่จบเลย โดยเฉพาะไอ้หัวแดงที่หน้าแดงเตรียมร้องไห้แล้วนั่น

         

ถึงวิชาสุดท้ายจะไม่ได้หินเท่าที่ผ่านมา ก็ขอให้เป็นแบบนั้นล่ะนะ แต่ก็คงต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นเหมือนที่พึ่งประสบมาหมาดๆ ใครจะไปรู้ล่ะว่าวิชาที่คิดว่าผ่านไปได้สบาย เกิดอาจารย์เล่นพิเรนทร์ขึ้นมาก็ซวยกันอีกรอบสิ

         

“ไปมึง ไม่เป็นไรหรอกอย่าคิดมาก”เพราะกูคิดแทนมึงหมดแล้ว ถ้าต้องเรียนซ้ำก็อยู่เป็นเพื่อนกันนี่แหละ คะแนนคงไม่ต่างกันมากหรอก

         





และแล้วความบ้าคลั่งของช่วงสอบก็จบสิ้นเสียที มันหมดแล้ว หมดไปกับพลังชีวิตที่ถูกสูบไปกับคำถามและคำตอบ ไม่ต้องรอให้แก่หรอก แค่นี้ก็แทบไม่มีน้ำมีนวลเหลืออยู่ละ โชคยังเข้าข้างและเห็นใจพวกผม ที่วิชาล่าสุดออกตามตำราไม่มีบิดพลิ้วหรือเล่นท่ายาก

         

เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็มั่นใจว่าวิชานี้พวกผมทั้งสามคนคงไม่ต้องกลับมาลงทะเบียเรียนซ้ำอีกรอบ ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง

         

ถึงจะยังคิดมากในบางวิชาอยู่ แต่อย่างน้อยช่วงเวลาต่อจากนี้เกือบหนึ่งเดือน จะเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนที่แท้จริง ใช่พวกเราจะไปพักรบกันที่ค่ายอาสา ซึ่งหลังเสร็จค่ายก็ตะลุยกันต่อที่เชียงใหม่บ้านแม่ของไอ้เจ้า และอาจลากยาวเคาท์ดาวน์กันที่นั่นเลยก็ได้

         

อาจฟังดูแปลกๆ ที่เอาเวลาว่างไปทิ้งกับความลำบากในค่ายแบบนั้น แต่ใครจะไปรู้ บางทีอากาศเย็นๆ กับสายลมอ่อนๆ บนภูเขาจะช่วยบรรเทาความเหน็ดเหนื่อยที่ผ่านมาก็ได้ และอาจเป็นยาใจให้กับบางคู่ที่งอนกันไปก่อนสอบอย่างนั้น มันต้องมีดีบ้างล่ะ

         

ภูเขาจ๋า ก้อนเมฆ ท้องฟ้า สายลม และแสงดาว รอพี่กาลก่อนนะกำลังจะไปหา

         

เพราะตอนนี้เขาคิดถึงเขามากๆ เลย

         

ภูเขานะครับ ไม่ใช่ผู้ชายฮาฮาฮา







- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ ซึ่งสองตอนก่อนหน้านี้เป็นตอนพิเศษด้วย

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 07-11-2018 00:45:27
 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 07-11-2018 00:55:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lovenut ที่ 08-11-2018 18:04:49
มาแล้ว เย้ๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 08-11-2018 22:20:53
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 24 /// 061118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: panpang ที่ 09-11-2018 19:34:49
 :katai2-1:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 25 /// 101118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 10-11-2018 15:34:21

ตอนที่ 25
~ กาล ~


“หยุดเลยมึง” ไอ้เจ้าไหวตัวคนแรก เบรกไอ้ตัวหัวแดงที่กำลังจะเริ่มโวยวาย หลังภาระจากการสอบทั้งหมดมลายหายไปกับความรู้ที่ฝากอาจารย์ทิ้งในห้องสอบ ซึ่งเรื่องที่มันกำลังงอแงก็คงไม่ใช่คำตอบหรือคำถามในห้องสอบที่พึ่งเดินออกมา แต่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องชู้สาวที่มีมันกับพี่นัทเป็นตัวละครแค่สองคน แบบนั้นก็ไม่น่าจะเรียกว่าชู้ได้นะ ฮาฮาฮา

         

“หาอะไรกินก่อนไหมมึง กูเครียดเรื่องสอบจนหิวตาลายแล้วเนี่ย” ผมออกความเห็นบ้าง และอยากหยุดเพื่อนตัวเล็กไว้อีกคน อย่าพึ่งเป็นอะไรตอนนี้ ขอกินข้าวกินน้ำให้หายอยากเสียก่อนเถอะ ขอร้องล่ะ เมื่อกลางวันก็มีแค่ครัวซองค์สับปะรดลงท้องไปชิ้นเดียว มีหวังได้หิวตายแน่หากมันยื้อเวลาอันมีค้าของเขาไปเพื่อบ่นหรือร่ายยาวเรื่องรักๆ ใคร่ๆ

         

“พวกมึงก็แบบนี้แหละ ไม่เคยใส่ใจกูเลย” ดราม่าเริ่มขึ้นแล้ว

         

“เพราะกูเป็นห่วงมึงไงถึงให้ไปกินข้าวก่อน” ไอ้เจ้าแก้สถานการณ์

         

“ใช่ แล้วค่อยคุยเรื่องของมึงที่นั่นก็ได้” ผมสมทบอย่างออกตัว มึงต้องเชื่อพวกกู

         

สุดท้ายมันก็พ่ายให้กับสองเสียงที่ออกแรงฉุดกระชากลากถูมันเข้าร้านแถวนั้นจนสำเร็จ พอสั่งอาหารเครื่องดื่มกันเสร็จสรรพ ก็พร้อมสำหรับฟังความของคนหัวแดง ที่ตาเริ่มแดงเรื่อแล้วตอนนี้ มึงไม่อายชาวบ้านชาวช่องเลยเหรอ มาร้องห่มร้องไห้ให้ผู้ชายกลางวันแสกๆ แบบนี้

         

“มันไม่รับสายกู ทักไปก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ ไม่อะไรทั้งนั้น” เดี๋ยวครับเพื่อน ได้ข่าวว่ามึงเป็นคนไล่เขาไป ไม่ใช่พี่นัทที่หักดิบมึง

         

“มึงไล่พี่เขาก่อนไม่ใช่หรือไง” ใช่ครับเพื่อเจ้า ต้องตอกย้ำและซ้ำเติมมัน เอะอะจะมาเข้าบทโศกแบบเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้ไม่ได้ ขืนปล่อยไปมีหวังเสียนิสัยกันพอดี

         

“กูไม่ได้ไล่” โนโนโน กูเห็นเต็มสองตา ได้ยินเต็มสองหู อย่ามาหลอกหรือกลับกลอกแถวนี้มันไม่ดีนะเพื่อน

         

“มันรีบไปต่างหาก ถ้าอยู่อีกนิดกูก็จะแก้ตัวแล้ว” แหลสัดๆ แหลสดแบบสีข้างถลอกแล้วนั่นเพื่อนกู มึงเครียดเรื่องสอบแล้วเอาไปลงเขาเห็นๆ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย ก็สมควรที่จะโดนตัดหางปล่อยวัด แถมมึงยังไปว่าเขาอีกที่ไม่สามารถช่วยเรื่องสอบได้ และยังมีการตบท้ายด้วยการเอาพี่หมอมาเปรียบเทียบอีก เป็นกูกูก็งอน

         

“กูว่าเรื่องนี้มึงไม่ต้องคิดมาก ถ้าพี่มันชอบมึงจริงเดี๋ยวก็กลับมา” ยังเห็นด้วยกับเพื่อนเจ้า เพราะดูท่าพี่นัทเขาแค่น้อยใจเรื่องโดนเปรียบเทียบก็เท่านั้น ถ้าหายก็คงกลับมาในเร็ววัน

         

“แล้วถ้ามันไม่ได้ชอบกูล่ะ” อ้าว

         

“สรุปมึงชอบเขาหรือเขาชอบมึง ที่กลัวว่าเขาจะไม่กลับมาเพราะตอนนี้ชอบเขามากกว่าแล้วล่ะสิ” สงสัยจะไปจี้จุดมันเข้า เงียบกริบเลย

         

“ไม่ต้องคิดมาก กินข้าวก่อนมึง” ไอ้เจ้าเข้ามาคลายความกังวลและอารมณ์นอยด์ของคนหัวแดง และเขาก็ยังยืนยันว่าเห็นด้วยกับมัน เพราะตอนนี้หิวมาก

         

พวกผมสามคนจัดการกับอาหารตรงหน้าอยากหิวกระหาย เหมือนร้างลาจากมื้ออาหารมาเจ็ดชั่วอายุ ราวกับได้เกิดใหม่ แถมสอบเสร็จแล้วด้วย หลังจากนี้ก็คือการพักผ่อนแบบยาวๆ เป็นสวรรค์ของชีวิตมหา’ลัยเสียจริง สมัยมอปลายไม่เคยมีครั้งไหนที่ต้องหามรุ่งเพื่ออ่านหนังสือสอบ แต่พอก้าวเข้ามาในนี้ แค่โต้รุ่งยังไม่พอเลย เห็นได้จากเมื่อเช้าที่ผ่านไปอย่างกับอาจารย์พานักศึกษาไปสอบในขุมนรก มันโหดและหินมากสำหรับข้อสอบชุดนั้น อาจารย์แม่งใจร้ายจริง

         

ปกติการรวมตัวกันครบสามคน ไม่มีครั้งไหนที่เงียบเท่านี้อีกแล้ว นั่นเพราะครั้งก่อนๆ มีคนที่รับหน้าที่ชวนคุย เปิดประเด็น หรือหาเรื่องหาราวให้ได้เล่าได้ต่อประโยชน์กันไม่หยุด แม้ไม่ถึงขั้นเมาท์กันแบบกลุ่มผู้หญิง แต่ก็ไม่เงียบสนิทอย่างนี้หรอก มันเปลี่ยวเกินไป

         

ครั้งนี้อาการท่าจะหนักจริง เพราะไอ้หัวแดงดันสร้างเรื่องขึ้นเอง คราวที่แล้วยังแค่คิดมากและนอยด์ไปข้างเดียว ไม่ทันข้ามชั่วโมงฝ่ายนิเทศก็โทรมาเคลียร์กันเรียบร้อย ทว่า รอบนี้ต่างออกไปสิ้นเชิง คนทำผิดยังไม่รับผิดอย่างเต็มตัว คนที่ควรคิดมากน่าจะเป็นอีกฝั่งมากกว่า และถ้าคืนนี้เรื่องยังไม่จบ มีหวังได้เห็นศพของใครสักคนแน่ ไม่มันก็พี่นัท หรือไม่งั้นก็พวกผมเนี่ยแหละที่อาจโดนลูกหลงเข้า



ดูเหมือนว่าจะเข้าขั้นวิกฤตแล้ว เพราะเวลาบอกวันใหม่พ้นไปไม่ถึงนาที ไอ้คนที่รอสายจากปลายทางก็แทบจะเขวี้ยงโทรศัทพ์ทิ้ง ถ้าไม่ได้ไอ้เจ้ายื้อไว้ก่อน ทั้งมือถือและจอแอลอีดีมีหวังลาโลกไปพร้อมกันแน่ นี่มันโคตรของโคตรแย่แล้วสิ พี่นัทก็ไม่ยอมติดต่อกลับมาเลย ปล่อยให้เพื่อนผมคิดเองเออเองจนจะเป็นบ้าไปแล้วนั่น

         

“มันทิ้งกูแล้ว” เออ ท่าจะมีเปอร์เซ็นต์สูงอยู่ไม่น้อย เงียบหายไปแบบนั้น เป็นใครก็คงคิดแหละ ขนาดผมยังให้เวลาไม่เกินเที่ยงคืน นึกว่าพี่เขาจะโทรมาจบเรื่องนี้โดยการหามไอ้หัวแดงไปจัดการกันข้างนอก แต่ที่ไหนได้ แม่งเด็ดว่ะ ใจเด็ดเดี่ยวมากที่ทำให้ไอ้หัวแดงเป็นได้ถึงขนาดนี้ คงต้องยกตำแหน่งพ่อบ้านใจกล้าให้แก

         

“ยังไม่ถึงวันเลย มึงก็คิดมากอยู่นั่นแหละ ไอ้กาลมาเอามือถือจากมือมันสิ เดี๋ยวก็ต้องมาฟังมันบ่นหลังจบเรื่องอีกล่ะ” จริงของมัน เก็บไว้กับตัวน่าจะปลอดภัยกว่าปล่อยให้มันโยนเล่น

         

“มึงโทรหาพี่มิวได้ไหมว่าอยู่กับพี่นัทไหม พามาที่นี่ที กูไม่ไหวแล้ว” จะว่ามีมันก็มี แต่เขาไม่อยากติดต่อไปหามันน่ะสิ

         

ให้ทำไงได้ ปกติทักไปก็แค่อยากใช้งานหรือออกคำสั่งบ้าๆ แต่คราวนี้ต้องขอความช่วยเหลือ คนที่เป็นเจ้านายแบบผมก็เสียฟอร์มแย่สิ ไอ้พวกนั้นมันยังไม่รู้ความจริง ก็คงคิดว่าผมสนิทก็เบ๊อย่างไอ้นิเทศปีสาม ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่เลยสักนิด ไม่ใกล้เคียงเลย

         

“สรุปมีไหม” มันเห็นผมเงียบนานเลยกระโกนเรียกสติอีกครั้ง แถมดังทะลุห้องไปแล้วนั่น เดี๋ยวก็โดนเคาะด่ากันทั้งแถบหรอกไอ้ห่า

       

 “เออๆ จะลองดู” ถึงไม่อยากอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากมัน แต่ครั้งนี้คงไม่มีทางเลี่ยงแล้ว ถ้าอยากจบเรื่องนี้เร็วๆ ก็ต้องใช้วิธีนี้แล้วล่ะ เพื่อไอ้หัวแดงและสวัสดิภาพของพวกผม

         

กลับห้องมายังไม่ได้พักสักนาที ต้องมาฟังไอ้คนคิดมากร่ายยาวเรื่องไร้สาระ แถมไม่ปล่อยให้พวกผมไปนอนด้วย บอกให้อยู่เป็นเพื่อนอีก แม่งถ้าไม่กลัวมันคิดสั้นโดดตึกฆ่าตัวตาย คงปล่อยมันไว้แล้ว สภาพแม่งแย่จริงๆ เลยต้องยอมอยู่กันทั้งคู่ ก็ดูสิ ขนาดผมกับไอ้เจ้ายังเอาแทบไม่ไหว ถ้าผลัดเวรกันดู คงมีสักคนตายไปสักช่วงแหง

         

“ไม่รับว่ะ” โทรไปตามเบอร์ที่บันทึกเอาไว้ แต่ไม่มีการตอบรับจากปลายสาย

         

“ฉิบหายละ” กูเข้าใจความรู้สึกมึงเลยไอ้เจ้า

         

“ไม่ต้องหรอก มันไม่มา มันไม่สนใจกูแล้วจะเรียกมาทำไม” นี่มึงยังมีสติพอจะเข้าใจความเคลื่อนไหวตรงหน้าอยู่เหรอ นึกว่าหลุดไปในโลกมโนของตัวเองแล้วเสียอีก

         

“พูดมากเดี๋ยวกูก็ปล่อยให้อยู่คนเดียวหรอก” ขู่มันเล่นๆ ไม่คิดจะทำจริงหรอกครับ

         

“กูไม่ชอบแล้วก็ได้ ไอ้เสาไฟฟ้านั่น” ให้มันจริงเหอะ ปากเก่งแต่ใจกากแบบมึงนี่ไปไหนไม่รอดหรอก

         

“กูจะจีบคนอื่น” มันพูดจบก็หันมาทางผม อะไรมึง จะจีบกูหรือไง ไม่เอาหรอกนะ ถึงกูจะเปลี่ยนใจหันกลับมาชอบไม้ป่าเดียวกัน (ถ้ามีวันนั้นน่ะนะ) กูก็ไม่เอามึงหรอก เพื่อนกันให้เอากันลงได้ไงวะ เห็นไปถึงไส้ถึงพุงแล้ว

         

“มึงบอกไม่ได้เป็นอะไรกับพี่มิว งั้นกูจีบนะ” เอาไปเลย ถ้าคนนี้กูยกให้เลย ไม่ต้องมาขออนุญาตหรอก อยากได้ก็ไปหาเลย แต่กูว่า จากขนาดตัวของพวกมึงแล้วคงต้องหันตูดชนกันแล้วล่ะ ดูยังไงก็รับทั้งคู่

         

“ไอ้เจ้า...”

         

“เอาไปเลย” ไอ้ต้นยังพูดไม่ทันจบ ไอ้เจ้าก็แทรกขึ้นมาก่อน แถมสีหน้าและแววตานั่นอีก ขอล่ะอย่าให้เป็นอย่างที่กูคิดนะ อย่าเลย อย่าสร้างปัญหาให้กูอีกเลย ไอ้พวกมีความรักทำไมถึงวุ่นวายอย่างงี้

         

“มึงทะเลาะกันเหรอ” กลายเป็นคนหัวแดงสลับที่มาปลอบคนหน้าตี๋ที่ตีหน้าเศร้าจนเก็บไม่อยู่แล้วนั่น

         

พวกมึงคงไม่รู้สินะ ว่ากูโดนคนอ่านด่าแล้วว่าไม่ยอมให้เรื่องหลักเดินไปไหนสักที ก็เพราะมึงสองคนเลยสร้างปัญหาให้กูต้องกลับมาแก้ มาช่วย และมาคลี่คลายแบบนี้ หยุดเลย จะมาเศร้ามาโศกกันทีเดียวสองคนแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด

         

“หยุดทั้งคู่ ไอ้ห่า ถ้ามีความรักมันสร้างปัญหาให้พวกมึงมากก็อย่ามีเลย อยู่แบบโสดๆ อย่างกูสบายใจจะตาย” มึงดูพระเอกอย่างกู ไม่เห็นเป็นเดือดเป็นร้อนเรื่องรักเรื่องใคร่เลย เอาเป็นแบบอย่างเสียบ้าง เอาให้โดนคนอ่านด่าแบบกูนี่ ไร้วี่แววความคืบหน้า

         

“ใช่สิ มึงมันมีความรักจนเอือมแล้ว”

         

“ส่วนพวกกูที่ไม่เคยแม้กระทั่งสัมผัสคำว่ารักก็ต้องมาโดนคนอย่างมึงสั่งสอน”

         

เสียงแรกมาจากไอ้หัวแดงปากดี ส่วนเสียงต่อมาก็ไม่พ้นเจ้าพ่อนิยายตลาดแตก ที่เดี๋ยวนี้คงไม่มีเวลาลงตอนใหม่แล้ว เพราะมัวแต่วุ่นกับเรื่องรักในโลกความเป็นจริง ทิ้งตัวละครโลกเสมือนของมันจนขึ้นรา

         

พวงมึงจะมาโจมตีกูกลับทำไม คนเขาอุตส่าห์หวังดีไม่อยากให้เพื่อนปวดกบาลกับความรัก ยังมีหน้ามาด่ากูอีกนะ   

         

“แล้วจะให้กูทำไงล่ะ ให้ไปบอกพี่หมอไหมว่ามึงงอนเขาอยู่”

         

“ไม่” ก็นั่นไง

         

“หรือจะให้กูขับรถไปลากตัวพี่นัทมาตรงนี้ไหม เอางั้นดีกว่าหรือเปล่า”

         

“ไม่” ก็เป็นเสียอย่างงี้

         

“แล้วจะให้ทำไง” เงียบเลยนะไอ้พวกปากดี เจอพระเอกสั่งสอนเข้าให้ รู้เสียบ้างว่านี่เรื่องใคร พวกมึงจะมีบทเด่น บทดัง บทเรียกตังค์จากคนอ่านเกินหน้าเกินตากูไม่ได้หรอก

         

“งั้นไปหาพี่หมอให้กูที”

         

“ไปเอาตัวพี่นัทมาที่นี่ให้กูด้วย”

         

ก็เหี้ยละ นี่คิดจะกลับคำทั้งที่ยังไม่ทันพ้นนาทีไปเลยเนี่ยนะ พวกมึงมันบ้า ไอ้พวกดวงตามืดบอด พวกมึงโดนความรักเล่นงานจนไม่เห็นหัวเพื่อนแล้วใช่ไหม ไม่คิดว่าจะเป็นหนักกันขนาดนี้ ทีแรกก็แค่คนเดียว แต่อีกตัวตามมาสมทบอย่างไม่คาดหมาย ให้มันได้แบบนี้สิ เอาให้เรื่องของกูไม่ต้องเดินไปไหน ตามเก็บขี้เก็บเยี่ยวพวกมึงเนี่ยแหละ แต่...

         

“ไม่!” เป็นทีของผมบ้าง

         

“อยากทำอะไรก็เชิญกูง่วงแล้ว ไปละ” พูดจบก็เดินเข้าห้องตัวเองโดยไม่รอฟังคำทัดทานจากพวกแม่ง พอกันทีกูง่วง

         

แต่เรื่องมันไม่จบง่ายแบบนั้นน่ะสิ เพราะมีเสียงเรียกเข้าจากสายที่ผมพึ่งโทรไปเมื่อไม่นานมานี้ มึงจะโทรกลับทำไมกูไม่อยากยุ่งเรื่องนี้แล้ว











- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 25 /// 101118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 10-11-2018 15:53:19
 :pig4: :pig4: :pig4:

ตอนล่าสุดนี้  เหมือนดูตุ๊ดน้อยขี้มโน  ชะนีร้องหาผัว  555

หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 25 /// 101118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: lovenut ที่ 14-11-2018 11:50:35
 :hao5:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 26 /// 141118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 14-11-2018 18:08:43

ตอนที่ 26
~ มิว ~



“อีกสามวันไปค่าย ถ้าพวกมึงยังไม่เคลียร์กันเดี๋ยวกูจะเตะให้” หลังหมดช่วงสอบ นักศึกษาส่วนใหญ่ต่างมีเป้าหมายในชีวิต อย่างน้อยก็ช่วงเดือนที่ได้หยุดยาว กับฤดูหนาวของปีซึ่งมหา’ลัยนี้ไม่เคยหนาวเลย

         

แต่ดูเหมือนว่าการนัดเจอกันแต่ละครั้งของค่ายที่เขาเป็นประธาน จะสร้างความร้าวฉานให้กับคู่ใหม่ปลามัน ซึ่งคราวแรกคิดว่าปัญหามีแค่น้องหัวแดงกับไอ้เสาไฟฟ้าเสียอีก พอนานวันเข้า เดือนคณะแพทย์ก็เอากับเขาอีกคน

         

โชคดีที่วันนี้พี่หมอไม่มาประชุม เขาถึงกล้าด่ากราดแบบไม่ไว้หน้ารุ่นน้องและเพื่อนตัวเอง ที่พาบรรยากาศมาคุมาสู่นิเทศศาสตร์แห่งนี้

         

“ก่อนไปค่ายอยากให้ทุกคนจัดการปัญหาส่วนตัวให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มันส่งผลกระทบต่อการทำงานของเราทุกคน ยิ่งค่ายนี้มาจากหลายคณะหลายชั้นปี ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเกิดใครที่ดูเหมือนจะสร้างความวุ่นวายให้ค่าย ในฐานะประธานก็ขออนุญาตสงวนสิทธิ์การไปค่ายของคนๆ นั้น” ขู่ไปงั้นแหละ ที่มีปัญหาจริงๆ ก็เพื่อนตัวเองทั้งนั้น แค่อยากพูดปูไว้เผื่อคู่อื่นๆ ที่อาจตามมา เพราะดูแล้วเหล่าเดือนคณะอื่นที่รู้จักกันก็กระเตงครอบครัวไปค่ายนี้หลายคู่ นี่ขนาดเป็นค่ายชายล้วนยังวุ่นวายขนาดนี้นะเนี่ย

         

ดีที่อีเจ๊มาช่วยจัดการเรื่องรถ สถานที่ และปากท้องของชาวค่าย ถ้าไม่มีมันค่ายนี้ก็คงไม่ได้ไปไหนล่ะ มัวแต่พ่อแง่แม่งอนกันอยู่นั่นแหละ

         

ทำไมไม่เอาเขาเป็นตัวอย่าง โสดสนิทจนสนิมขึ้นแล้วเห็นไหม

         

“ถ้าไม่มีข้อสงสัย งั้นตั้งแต่พรุ่งนี้ไปอยากให้ทุกคนมาช่วยเช็คของ พวกอุปกรณ์ไปค่าย และอาจต้องขอแรงไปซื้อหามาเพิ่ม แค่นี้แหละครับ เจอกันพรุ่งนี้”

         

ส่วนเรื่องของพวกแม่งคู่รักวิศวกรรมศาสตร์ก็ปล่อยให้ไปเคลียร์กันเอง โตๆ กันแล้วเรื่องแค่นี้คงไม่เกินปัญญาของพวกมัน เพราะเขายังต้องวุ่นวายกับการจัดการไอ้นายทาสผีเข้าผีออกคนนี้ก่อน เพราะเมื่อวานมันไม่ยอมรับมือถือเลย เป็นฝ่ายโทรมาแท้ๆ พอเขาโทรกลับก็ตัดสายไปเฉย ไม่รู้หรือไงว่าเวลาของกูมีค่าแค่ไหน

         

“เมื่อวานโทรมาทำไม” มันแยกกับเพื่อน คนหนึ่งโดนไอ้ตัวสูงเพื่อนของเขาจะลากน้องหัวแดงไปอีกทาง ส่วนน้องหน้าตี๋ก็มีพี่หมอมารอรับถึงหน้าห้องประชุม ท่าทางจะพึ่งออกเวร

         

“ก็เรื่องเพื่อนมึงกับเพื่อนกูไง” มันว่าเสียงห้วน โกรธอะไรกู กูไม่ได้เป็นคนเริ่ม

         

“แล้วโทรกลับทำไม่รับสาย”

         

“ขี้เกียจ ง่วง เลยไม่อยากรับ” เอากับมันสิ

         

และก็อย่างทุกครั้ง เถียงกับมันไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เขาแค่อยากถามในสิ่งที่อยากรู้ มันก็ตอบกลับมาในสิ่งที่อยากบอก เอาเป็นว่าเรื่องนี้ก็จบไป ให้ไปตามอารมณ์คนอย่างมัน ก็ปล่อยให้เขานั่งคุยกับหมาน่าจะรู้เรื่องกว่า



ว่าแต่รถที่ขับตามมามันคุ้นๆ ไหมนะ ทำไมถึงขับมาจอดข้างเขา จนถึงโรงจอดแบบนี้ นึกว่ามันจะแยกกลับคอนโดไปเสียอีก นี่จะให้เขาเป็นบ้าเลยใช่ไหม ทำไมไอ้เดือนวิศวะมันเหมือนผู้หญิงเมนส์มาตลอดเวลาแบบนี้

         

“ตามมาทำไมอีก” เอาดีๆ นะมึงอย่ากวนตีน กูเหนื่อยทั้งสอบ ทั้งเพื่อน ทั้งค่าย ยังต้องมาเจอมึงอีก ฆ่ากูเหอะ

         

“ไม่อยากกลับคอนโด ขอนอนด้วย” บ้านกูไม่ใช่โรงแรม เคยบอกไปแล้วนี่

         

“ไม่ต้องพูดมาก ขึ้นไปเหอะ” รู้ได้ไงว่ากูกำลังจะด่า

         

มันดันหลังเขาให้เดินนำขึ้นไปชั้นบนที่มีห้องนอนเขาอยู่ แน่นอนว่าไอ้เดือนรู้ทางเป็นอย่างดี เพราะมาจนไม่ต้องเสียเวลานับ

         

มาถึงก็ถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก ก่อนตามด้วยเสื้อยืดตัวใน และปิดท้ายด้วยกางเกงนักศึกษา เฮ้ย! ทำไมยังไม่หมด มึงจะร่นอันเดอร์แวร์ลงทำไมอีก พอแล้ว กูไม่ได้อยากเห็นบ่อยขนาดนั้น เห็นจนไม่มีอารมณ์ร่วมแล้วรู้ไหม มันไม่รอให้ด่า ก็เดินอาดๆ เข้าห้องอาบน้ำไป

         

เป็นเขาที่ต้องตามเก็บชุดนอกและชุดในของมันไปใส่ตะกร้า ทำตัวอย่างนี้จะมีใครยอมเป็นเมียมึงเนี่ย มีดีแค่หน้าตาจริงๆ อย่างอื่นคือศูนย์ ศูนย์ ศูนย์

         

พอมันออกมา ก็ยังไม่เลิกสันดานเดิม เช็ดตัวแบบเปลือยออกมาทำอย่างกับเป็นเจ้าของห้อง ทั้งๆ ที่เจ้าของตัวจริงยังต้องนั่งรอมันอยู่ปลายเตียง เพราะยังไม่ได้อาบน้ำ

         

“เอาจริงๆ นะ มึงควรเกรงใจกูมากกว่านี้” ควรสำนึกบ้าง

         

“นึกว่ามึงชินแล้วเสียอีก” กูไม่ยอมชินกับอะไรที่มันไม่ควรแบบนี้อย่างแน่นอน อย่าคิดไปเองฝ่ายเดียวขอร้องเป็นรอบที่ล้านในใจ

         

“กูไม่ได้เอาเกงในมา ยืมบ๊อกเซอร์หน่อยได้ไหม” มันไม่ใส่ใจสายตาดูแคลนที่เขาส่งไปเลยแม้แต่น้อย ไม่มีเลย

         

“ไม่ให้ กูไม่ใช้ของร่วมกับคนอื่น” เป็นความจริงที่ไม่ได้มีอคติเจือปนเลย เพราะเขาไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัว โดยเฉพาะของบางอย่างที่เป็นของส่วนบุคคลอย่างเสื้อผ้ายิ่งแล้วใหญ่ ไม่มีทาง

         

“งั้นนอนแบบนี้ได้ไหม” มันเอาผ้าขนหนูที่พึ่งเช็ดตัว และผ้าเช็ดผมซึ่งเปียกหมาดๆ โยนลงตะกร้า ที่เกือบหลุดจากขอบและตกลงพื้นแล้ว แม่งเดินไปวางดีๆ ก็ได้ ไม่ได้ไกลหรือลำบากอะไรเลย นี่มันจะทำเขาเป็นประสาทเพราะต้องนั่งด่าในใจแบบนี้อีกนานแค่ไหน

         

มันยังคงทำเมิน แถมเดินตัวเปลือยมายังเตียงซึ่งเขานั่งอยู่ ส่วนกลางลำตัวก็แกวงไปมาไม่ได้อายเลยว่ามีคนอื่นมองอยู่

         

“อยากอมเหรอ มองทำไม” กูมองด้วยความสมเพช ไม่มีความพิศวาสของมึงเลยให้ตายสิ อย่าคิดนะว่าหน้าตาดีแล้วจะทำให้กูมีอารมณ์ตลอดเวลา มึงดูหน้ากูก่อน เช็คระดับความเอือมระอาบนใบหน้ากูด้วย

         

“ไม่อายกูเลยหรือไง” ถามมันออกไปอย่าจนใจ และก็รู้ด้วยว่ามันจะตอบกลับมาแบบไหน

         

“ไม่”นั่นไง

         

“อยู่กับเพื่อนมึงทำตัวแบบนี้หรือเปล่าเนี่ย” สงสัยว่าเพื่อนสองคนที่เหลือรับกับสันดานแบบนี้ได้ยังไง

         

“เปล่านะ ทำแค่ตอนอยู่กับมึงเท่านั้น” กูควรซึ้งใช่ไหม แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

         

“ถ้างั้นก็หยุดทำแบบนี้ตอนอยู่กับกูเถอะขอร้อง” ต้องลงไปอ้อนวอนกอดขาหรือเปล่าพ่อเดือนปีหนึ่ง

         

“ทำไม” นั่น เห็นไหมว่าบทจะเดาง่ายมันก็ง่ายเกินไป

         

“เอาแบบยาวๆ เลยนะ เพราะมึงกับกูไม่ได้เป็นอะไรกัน มึงเป็นน้อง กูเป็นพี่ ถึงเราจะมีเรื่องบาดหมางกันก็เหอะ แต่ที่ทำอยู่มันก็เกินไป อย่าอ้างว่ากูเป็นเบ๊เป็นทาสมึง...”

         

“แล้วไง” ยังพูดไม่ทันจบก็แทรกคำขึ้นมาอีกละ ต้องเอาไงกับคนอย่างมัน

         

“อยากให้กูเป็นอะไรกับมึงถึงจะทำแบบนี้ได้” มันว่าต่อ

         

กูไม่อยากเป็นอะไรกับมึงทั้งนั้น แรกๆ ก็มองว่าหล่ออยู่หรอก แต่พอนานเข้าก็เริ่มไม่ไหวกับนิสัยแล้ว เอาใจยากเป็นที่หนึ่ง แถมยังผีเข้าผีออกจนตามอารมณ์ไม่ทันแล้วเนี่ย ถึงมึงจะเป็นเกย์ตอนนี้กูก็ขอผ่านละ ไม่ไหว ไม่ไหว

         

“ไม่เป็นอะไรทั้งนั้น ขอแค่เลิกยุ่งกับกูก็พอ” จริงจังนะเนี่ย

         

ซึ่งมันไม่ตอบ ไม่สนใจเขา เดินไปที่เตียงแล้วก็ล้มตัวนอนเลย ไอ้เหี้ยนี่มันชักจะเกินไปละ ใครใช้ให้มึงมานอนแผ่ค_ย กูไม่ได้อยากดูเลย แล้วยังนอนกินที่คนอื่นเขาอีก

         

“งั้นพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปซื้อของกับกูด้วย”มันก็ยังไม่ตอบกลับอะไรมา แต่เขารู้ว่ามันได้ยินที่พูด อีกอย่างของที่จะซื้อก็พวกอุปกรณ์ไปค่ายมันก็มีส่วนที่จะต้องช่วยอยู่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้

         

เขาลุกจากเตียงเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ ก็ไม่ต่างจากมันที่ถอดเสื้อผ้าในห้องก่อนหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบพอเป็นพิธี ต่างกันตรงที่ นี่เป็นห้องของเขา เขามีสิทธิ์ที่จะทำแบบนี้ และอย่างที่สองเขาไม่ทำให้ห้องรก ด้วยการเก็บผ้าลงตะกร้าอย่างดี

         

จากห้องที่เป็นส่วนตัว ซึ่งเขาจะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องมาคิดว่าที่ทำไปถูกไหม เป็นสิทธิ์ของเขาหรือเปล่า แต่ตอนนี้ พอมีมันเข้ามาวุ่นวายก็เริ่มคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างการแก้ผ้าในห้องตัวเองซึ่งเคยเป็นความปกติในชีวิต ก็ต้องกลายเป็นประเด็นให้คิด เขาไม่น่าพามันเข้ามาในชีวิตเลยให้ตายสิ



นี่ต้องพูดให้ตายสิไปจนตายเลยไหม



“อ่อยกูอีกแล้ว” มันยังไม่ตาย



“อ่อยพ่อง” จะนอนก็นอนไป จะมาแอบมองเขาทำไม แล้วที่แข็งอยู่ตรงลำตัวนั่นมันอะไร มึงอย่าบอกนะว่ามีอารมณ์เพราะเห็นกูแก้ผ้า



“หยุด หุบไข่มึงลงเดี๋ยวนี้เลย” กูไม่มีอารมณ์และไม่อยากมีอารมณ์กับมึงแล้ว ไม่ต้องทำหน้าตาน่าสงสาร และเอามือออกจากลูกมึงด้วย



“นิดเดียวเอง” มันจะไม่นิดน่ะสิขืนปล่อยให้เรื่องบานปลายจนลงเอยแบบทุกที



“ไม่” ไม่มีทาง



“แค่ล้อเล่นเอง เดี๋ยวนี้โกรธง่ายนะมึง” ก็เพราะใครล่ะ



ว่าเสร็จก็เดินเข้าห้องน้ำ ล็อคประตูอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพราะเป็นห้องของตัวเอง แต่วันนี้ไม่ได้ วันที่มันมาอยู่ในห้อง ต้องไม่ปล่อยให้อันตรายย่างกรายเข้าใกล้



เป็นอีกวันที่เขาอยากแช่ตัวอยู่ในอ่างให้ตัวละลายไปกับน้ำ เมื่อรู้ว่าหลังออกจากห้องนี้ไปต้องเจอกับอะไร การอาบน้ำที่เคยเป็นเรื่องผ่อนคลาย ต้องมาคิดมากก็เพราะใครถ้าไม่ใช่มัน มันคนเดียวเลย



พอออกมานอกห้อง ก็ต้องปวดขมับ ภาพตรงหน้าคือมันกำลังพิงหัวเตียงแล้วชักของตัวเองไป ซึ่งเขาจะไม่ว่าอะไรเลยหากคลิปที่มันกำลังดูในไอแพด ไม่ใช่ภาพของเขาที่กำลังจัดการกับน้องชายของมัน



“ไอ้เหี้ย!”









- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 26 /// 141118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 14-11-2018 19:41:12
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 26 /// 141118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 14-11-2018 20:37:08
 :pig4: :pig4: :pig4:

ชักจะยังไง ๆ นะแล้วนะเนี่ย  นุ้งกาล

แบบนี้มันต้องมีเงี่ยนงำ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 26 /// 141118 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 15-11-2018 11:19:55
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 27 /// 191118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 19-11-2018 17:26:02

ตอนที่ 27
~ มิว ~



“ทำอะไร”

“กูชอบมึงตอนนอนมากกว่า ไม่ต้องตื่นได้ไหม”

“พูดเหี้ยอะไรของมึง”

“ปากแบบนี้ไงกูเลยอยากให้มึงนอนเฉยๆ”

“เรื่องของกู แล้วนี่ทำไมตื่นเช้าจังว่ะ”

“มึงดึงผ้าห่มไปหมดไง กูเลยตื่นมาเอาคืน แต่พอมองๆ มึงก็ไปเพลินดี”

“ประสาท ผ้าห่มของกู ห้องก็ของกู มึงนั่นแหละส่วนเกิน”

“นอนต่อสิไม่กวนแล้ว”

“แบบนี้บ้านกูเรียกว่ากวน”

“กวนอะไรล่ะ”

“แล้วมึงจะจ้องทำไม นอนไปสิ”

“เถียงกับมึงจนไม่ง่วงแล้ว”

“งั้นก็ลุกไปอาบน้ำ”

“ขี้เกียจ มึงนอนไปเหอะยังเช้าอยู่เลย”

“กูไม่ชอบให้ใครมามองตอนนอน”

“เขินหรือไง”

“ไม่เขินมึงหรอก”

“โดนคนหล่อจ้องมันต้องมีเขินบ้างแหละ”

“ยกเว้นมึง”

“กูหล่อนะ เป็นเดือนด้วย”

“กูก็เป็นเดือน ไม่ต้องมาอวด”

“เอาใจมึงนี่ยากจริง ถึงว่าทำไมยังโสด”

“ทำไม”

“ปากหมา อารมณ์ร้อน เอาแต่ใจ ทำตัวอย่างกับศูนย์กลางจักรวาล”

“มากไปละ มึงก็ใช่จะดี”

“ก็ดีกว่าคนชอบแอบถ่ายคนอื่นนั่นแหละ”

“ว่ากูเหรอ”

“อยู่กับแค่สองคนจะให้ว่าใคร”

“วอนตีน เดี๋ยวก็ไล่ออกจากบ้านหรอก”

“ไม่เถียงแล้วก็ได้ กูขอนอนต่ออีกสักงีบ”

“ไม่ต้องเลย ชวนกูคุยจนตื่นแล้วเนี่ยเห็นไหม”

“ใช่ความผิดกูที่ไหน”

“ความผิดมึงนั่นแหละ”

“นี่ไง นิสัยแบบนี้ไงถึงไม่มีผัวสักที”

“เรื่องของกู ว่าแต่มึงเหอะเพื่อนทะเลาะกับแฟนไปกี่ยกแล้ว มึงก็ไม่มีใครเอาเหมือนกันนั่นแหละ”

“ก็เพราะอยู่กับมึงนี่ไง”

“แล้วมาอยู่กับกูทำไม”

“มึงมันไม่น่าไว้ใจไง ปล่อยให้อยู่ไกลมือไกลเท้าเดี๋ยวก็พยศอีก”

“เลยต้องมาเฝ้าถึงเตียงเลยเนี่ยนะ”

“เปล่า”

“อ้าว”

“ก็พวกนั้นทะเลาะกับเพื่อนมึงไง กูขี้เกียจเป็นตัวกลาง”

“นิสัย”

“มึงก็เหมือนกัน ไม่เห็นทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย”

“ไม่ใช่เรื่องของกูไง ไม่อยากยุ่งเรื่องชาวบ้าน”

“นั่นเพื่อนมึงนะ”

“เพื่อนมึงเหมือนกัน”

“พอละไม่เถียงแล้วกูจะนอนละ”

“ระวังเหอะกูจะแบล็คเมล์มึง”

“ถ้ากล้าก็ลองดู”

“มึงมันคนเหี้ย”

“ด่าตัวเองอยู่เหรอ”

“เหี้ย”“ตื่นมาคุยกับกู”“กูไม่ให้นอน”“ตื่น”“ไอ้กาลตื่น”“ห้ามหลับ”

“ขืนยังไม่หุบปาก เดี๋ยวมึงได้อ้าขาให้กูแน่”

“ไอสัด”

“ยังอีก”

“ค_ย”



เป็นเช้าที่วุ่นวายเมื่อมีมันมานอนอยู่ข้างๆ ซึ่งก็เหมือนจะเป็นบทหวานในนิยายอยู่หรอก ถ้าสันดานมันไม่ใช่แบบนี้ คนอะไร หน้าตาก็ดี โคตรหล่อเลยแหละ แต่สันดานหมา (กับเขาคนเดียว) วันๆ ทำได้ดีแค่กวนตีนและหาเรื่องเขาไม่เลิก อยู่กับมันแทนที่จะฟิน กลายเป็นขมคอเสียมากกว่า มีอย่างที่ไหน เล่นทำตัวอย่างกับพ่อกู แต่ที่ไม่เหมือนพ่อก็เพราะมันไม่ได้หวังดี แถมยังประสงค์ร้ายในบางครั้งด้วย



เคยไหม อารมณ์ประมาณมีเพื่อนหล่อ แต่เราดันรู้สันดานมันหมดแล้ว ความหล่อนั้นเลยไม่มีผลต่อจิตใจ ยกเว้นเวลาเมากับเงี่_น --- โอเค ยอมรับว่าหวั่นไหวบ้างตอนเกิดอารมณ์ แต่ก็เท่านั้นแหละ พอน้ำแตก ความคิดที่ว่าก็แยกย้ายหายไป



ต่างกันที่ ไอ้ที่นอนหน้าหล่ออยู่ข้างเขาเนี่ย มันไม่ใช่เพื่อนไง แถมเป็นรุ่นนองที่ไร้ความเคารพยำเกรงรุ่นพี่อย่างเขา กับคนอื่นนี่ ครับอย่างนั้น ครับอย่างนี้ แต่กับเขาไม่มี มึงกูลอยมาก่อนละ



“บ่นอะไร” คนที่นอนหลับตาอยู่พูดขึ้น นึกว่านอนไปแล้วเสียอีก หลอกตากูตลอด ไหนความจริงบ้างในชีวิตมึง



“ยังไม่เลิกอีก” มึงนั่นแหละยังไม่เลิกอีก จะแกล้งหลับไปทำไม ตื่นไปอาบน้ำสิ



“รำคาญว่ะ กูไปอาบน้ำละ”ขืนอยู่กับมันอีกวินาทีหนึ่งได้เป็นบ้ารอบที่ล้านแปดแน่



เขาเลือกปลีกตัวออกมาเพื่อจัดการธุระในยามเช้า เริ่มจากตัวก่อนแล้วค่อยออกมาแปรงฟัน อยากได้น้ำเย็นดับร้อนในใจ อยู่กับมันทีไร ไม่สิ คุยกับมันที่ไรความดันจะขึ้นทุกที



ตามด้วยการแช่ตัวในช่างอุ่นๆ ต่อ หลังจบจากฝักบัวซึ่งช่วยชโลมตัวแล้ว แช่อยู่ในนั้นไปเรื่อยๆ ค่อยผ่อนคลายหน่อย หลังจากสอบเสร็จก็แทบไม่มีเวลาว่างให้กับตัวเองเลย ไหนจะค่าย ไหนจะเพื่อน และไหนจะมันอีก ทำเอาหัวหมุ่นกันไปพักใหญ่



ห้องกว้างปูด้วยกระเบื้องขาว ช่วยให้เขารู้สึกเป็นส่วนตัวขึ้นมาไม่น้อย หลังถูกแย่งชิงอิสรภาพไปในข้ามคืนที่ผ่านมา น้ำช่วยคลายความตึงเครียดจนอยากอยู่ตรงนี้ไปถึงสิ้นปีเลย ไม่อยากทำอะไรแล้ว เหนื่อย เหนื่อยมากๆ ถ้ากดข้ามไปได้ก็ดีสิ



อีกสามวันก็จะถึงวันจัดค่าย งานใหญ่ส่งท้ายปีกำลังรออยู่ แค่คิดก็เหนื่อยละ แต่เขาก็พยายามมองในแง่ดีว่ามันจะผ่านไปอย่างราบรื่น ให้มันเป็นค่ายพักผ่อนน่ะดีแล้ว อย่างได้มาเจอปัญหาหรือสิ่งที่ไม่คาดฝันเลย



“ชักอยู่หรือไง ทำไมช้าจัง” นั่นไง ตัวการที่ทำให้ชีวิตเขาเหนื่อยเป็นอันดับต้นๆ มันกลับมาแล้ว หลังปล่อยเขาอยู่กับตัวเองไม่ถึงครึ่งชั่วโมง



“ห้องน้ำกู บ้านก็บ้านของกูมึงจะทำไม” อยากออกไปด่ามากถ้าไม่ติดว่ากำลังโป๊อยู่ แต่ว่า...



“เฮ้ย” ไม่ทันละ มันเข้ามาแล้ว เขาดันลืมล็อคประตู พลาดจนอยากจมน้ำในอ่างตายไปเลย --- แล้วทำไมต้องเปลือยเข้ามาด้วยไม่เข้าใจ



“กูกำลังจะออกไป มึงอย่าเพิ่งเข้ามาได้ไหม” มันไม่ฟังอีกตามเคย เดินตัวปลิว หำปลิว หมออ้อยปลิวมาลงอ่างเดียวกับเขา



“ชักให้กูหน่อย” มันพูดออกมาหน้าด้านๆ เกินเยียวยาจริงๆ คงไม่มีใครที่ไหนทำได้แบบมันละ นี่เขาบ่นจนเหนื่อยที่จะบ่นแล้ว



“งั้นยืนขึ้นเดี๋ยวกูใช้ปากให้” ไม่ต้องถามเหตุผลจากเขา ถ้าไม่เข้าใจก็ย้อนกลับไปอ่านด้านบน



อีกอย่าง นี่มันก็ตอนเช้า อารมณ์ย่อมแปรปรวนเป็นธรรมดา แถมมีผู้ชายหน้าตาดีมายืนแกว่งไขอยู่ตรงหน้ามันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะมีปฏิกิริยากลับไป



คนที่ดูจะแปลกใจดันเป็นมันเสียมากกว่า ที่อึ้งไปหลายวิ ก่อนสติจะกลับมาแล้วยืนขึ้นตามคำสั่งของเขา ทำให้ลำเรียวยาวสีคล้ำชี้เด่นอยู่ตรงหน้า โดยมีมือข้างขวาของมันสาวไปพราง ระหว่างยืนรอเขามอบเช้าที่สดใสให้



“ไม่ได้เจอกับปากมึงนานเลยนะเนี่ย” มันว่า หลังเขาครอบลงไปที่ไข่แฝดสองใบ ซึ่งเขาเลือกที่จะไม่ตอบโต้



ลิ้นร้อนๆ จึงโลมเลียขึ้นตามแนวโคนยาว ลำสวยที่เขาอดชมมันไม่ได้ว่าดูแลดี ไม่งอหรือเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ขนที่เขาเคยเล็มให้ก็ขึ้นจนคลุมพื้นที่ดังเดิม ยังดีที่ไม่มีกลิ่นอับ เพราะเป็นเช้าที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน ไม่ค่อยเค็มแบบตอนทำให้ตอนเย็นคราวนั้นด้วย



“มึงเคยชอบกูไหม” ยังเป็นมันที่พูดอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนเขาก็ยังส่งความเงียบไปแทนคำตอบ แต่เอาเข้าจริงคือตอบไม่ได้ เพราะปากถูกแท่งร้อนของมันสวนเข้ามาในจังหวะนั้นพอดี



มันเอามือมาจับที่หัวของเขา เพื่อควบคุมจังหวะตามอารมณ์ของตัวเอง ซึ่งบางทีมันลึกเกินไปเขาก็ดันมันออกไป เขาหายใจไม่ออก



ถึงกระนั้น ลิ้นของเขาก็ทำหน้าที่ของมันไป รัวเร็วตามอารมณ์ของเจ้าของท่อนลำ ที่น้ำหล่อเลี้ยงไหลออกมาเยอะมาก จนปนเปไปกับน้ำลายของเขา ซึ่งพากันยืดออกมาตามมุมปากและราวไข่ ก่อนหยดลงไปรวมกับน้ำอุ่นข้างล่าง



เขาถอนปากที่ครอบออกก่อน เพื่อกลับมาเลียบริเวณส่วนหัวของมัน ซึ่งพอกดแรงลงไปก็ทำให้มันถอยไปเลย น่าจะเสียวมาก



“ของมึงล่ะ กูทำให้ไหม” หลังจากโดนจู่โจมส่วนหัวจนตัวงอ มันก็ถามขึ้น ซึ่งเขายังไม่ทันตอบ มันก็ย่อลงแล้วจับตัวเขาขึ้นยืนแบบเดียวกับท่าที่มันทำ



ลำขาวของเขาชี้อยู่ตรงหน้ามัน น้ำไหลเป็นแนวแยกไม่ออกว่ามาจากน้ำในอ่างหรือน้ำในตัว มันไม่รอช้าครอบลงไปดูดเลียตามถนัด อยากเริ่มจากตรงไหนก็ทำไปไม่ได้บอกกล่าว มันเอาเข้าไปทีเดียวมิดลำ ซึ่งก็ทำให้เขาเปล่งเสียงน่าอายออกมาจนได้



ดูท่าจะถูกใจคนข้างล่างน่าดู เพราะเร่งเร้าจนเขาร้องออกมาไม่เป็นภาษาด้วยความเสียวซ่าน มันทำได้ดีกว่าครั้งที่แล้ว ไม่ค่อยโดนฟันแบบคราวก่อนแล้วด้วย



เขาเริ่มทนไม่ไหว เพราะเห็นหน้าหล่อๆ มาทำแบบนั้นให้ ความอดกลั้นที่มีจึงทลายลงไปในคอของมันโดยไม่มีการแจ้งล้วงหน้า แต่ครั้งนี้มันไม่ยอมถอนปากออก มันปล่อยให้ของคาวไหลลงไป จากนั้นก็ดูดเลียต่ออย่างมีอารมณ์ จนเป็นเขาเองที่ต้องพ่ายให้กับความเสียวซึ่งเกินจะรับไหว



เข่าเริ่มอ่อนแรง จนเกือบล้มทับมันไปถ้าไม่ได้คนตัวโตกว่ารับไว้ และค่อยๆ ให้เขาลงไปนั่งพิงอกมัน โดยปล่อยตัวการที่ทำให้เขาอ่อนเพลียโอบร่างเอาไว้ มันเอาหน้ามาซุกไซร้แถวลำคอขาว ไล่ไปตามใบหู และแก้มของเขา --- ไม่หมดเท่านั้น มันยังไม่หยุด แถมเอานิ้วมาเขี่ยเล่นบริเวณทางเข้า วนเวียนอยู่ตรงนั้นเป็นนาน ทำเอาเขาเริ่มกลับมามีอารมณ์อีกครั้ง



“ลองคบกันไหม”








- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 27 /// 191118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: ommanymontra ที่ 19-11-2018 19:53:51
 :z1:


 :L2: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 27 /// 191118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 19-11-2018 21:40:54
 :pig4: :pig4: :pig4:

อารมณ์ไหนเนี่ย   นุ้งกาลขอพี่มิวคบอ่ะ
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 27 /// 191118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: FanclubPong ที่ 20-11-2018 03:40:03
เริ่มหลงเสน่ห์เข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 27 /// 191118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: lovenut ที่ 25-11-2018 18:46:49
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 28 NC /// 251118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 25-11-2018 18:55:35

ตอนที่ 28
~ กาล ~



“ไหวไหม” ผมหันไปถามคนที่นอนซบกายอยู่ข้างตัว ร่างขาวเปลือยเปล่า ไร้กำบังใดปกปิด หลังผ่านพ้นช่วงแห่งสุขไปได้ไม่นาน คนที่ไร้เรี่ยวแรงตอบกลับมาด้วยการพาดมือลงบนหน้าท้องของผม เป็นการต่อต้านที่แผ่วเบาราวกับไร้พลังต่อกร



ผมลากมือผ่านไปยังก้อนนุ่มที่รองรับแรงอารมณ์ไปเมื่อครู่ ด้วยการโหมความยาก ความต้องการ และความปรารถนาที่แฝงเร้นตลอดมาตั้งแต่ได้รู้จักคนตรงหน้า มันถูกกระแทกกระทั้นอย่างบ้าคลั่ง คล้ายกับคนอดยากที่ได้เจอกับอาหารมื้อโปรด



ส่วนฝ่ายที่ถูกกระทำก็ไม่รอช้า ปัดป้องส่วนสำคัญไม่ให้มือของผมเข้าไปรุกล้ำได้อีก เจ้าตัวเบี่ยงตัวหลบกายไม่ให้สัมผัสใดเข้าไปข้องแวะกับร่างกายที่โรยราชีวิตชีวา เพราะความเจ็บเข้าเล่นงานแทนที่ความเสียวซ่านที่ผ่านไปแล้ว



“อย่ามายุ่งได้ไหม มันเจ็บ” เสียงแข็งที่พยายามเปล่งออกมา แหบพร่าแทบไม่เป็นเสียง คนตัวขาวหลบเลี่ยงสายตาวาวของผมด้วยการดึงผ้าห่มมาคลุมกายเอาไว้

         

เพื่อไม่ให้ผมได้จ้องมองรอยแดงที่ตัวเองฝากเอาไว้ เป็นผลงานชิ้นเอกซึ่งละเลงบนผืนผ้าใบขาวที่มีชีวิต บางจุดซึ่งแดงอยู่แล้วก็เป่งขึ้นมาด้วยรอยช้ำ

         

ส่วนบนตัวของผมนั้นก็มีเหมือนกัน ทั้งรอยขีด รอยข่วน และรอยเดียวกันซึ่งคนตรงหน้าฝากเอาไว้ในช่วงที่บทบรรเลงยังคึกคะนองตามทวงทำนองของร่องอารมณ์ เป็นชั่ววูบที่คนตัวเล็กยอมปลดปล่อยไปกับผม

         

“ออกไปไกลๆ ไม่ต้องเข้ามาใกล้เลยไอ้สัด” จากเสียงกระเส่าที่เคยเรียกชื่อผมเมื่อไม่กี่นาทีก่อน กลายเป็นความก้าวร้าวตามแบบฉบับของมันอีกครั้ง ความหวานที่โรยไว้บนหน้าอาหารหายไปแล้วเมื่อถูกตักกิน

         

“พูดเพราะๆ หน่อยสิ” ผมบอกออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ไม่แข็งกระด้างอย่างที่เคยเป็นมาเหมือนเมื่อก่อน

         

“เรื่องของกู” มันเริ่มตอบโต้ด้วยวิธีเดิม ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

         

“ก็ไหนคุยกันไว้ว่าจะพูดกันดีๆ ไง” เขาใช้น้ำเย็นเข้าลูบด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อนกับตัวมันที่เริ่มออกอาการต่อต้าน

         

“มึงหลอกกู ไม่ต้องมายุ่งเลย ออกไป!” ผมที่กำลังจะเข้าไปแทรกในผ้าห่มผืนเดียวกัน ถูกมือข้างหนึ่งของมันยันเอาไว้ไม่ให้เข้าใกล้

         

แต่แรงของคนตรงหน้าก็ไม่ได้มากเกินกว่าความต้องการของผมที่อยากเข้าไปแบ่งปันความอบอุ่นจากร่างของตัวเองให้คนตรงหน้า ซึ่งพยายามต่อต้านทุกวิธีทาง

         

ร่างเปลือยเปล่าของผมสุดท้ายก็เข้าไปแนบชิดกับคนดื้อสำเร็จ แขนทั้งสองข้างโอบรัดมันเอาไว้ไม่ให้กลิ้งออกไปนอกวงล้อมหรือนอกผ้าห่มผืนโต มันเบี่ยงตัวหันหลังมาชนแผ่นอกของผม คงไม่อยากมองหน้า หรือแค่ไม่อยากให้ผมได้เห็นสีหน้าและอาการที่เจ้าตัวแสดงออกมา --- แถวบ้านเรียกว่าเขิน

         

“อย่ากอดได้ไหมมันอึดอัด” ยังมีแรงพอที่จะต่อล้อต่อเถียงกันต่อไป และยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมจำนน ---สมกับเป็นม้าพยศ

         

“อย่าดิ้นสิ เดี๋ยวก็ต้องต่ออีกรอบหรอก” ไม่ได้ขู่ แต่ก้อนนุ่มข้างหน้ากำลังบดเบียดส่วนที่ขยายหดยืดได้ ทำให้มันเปลี่ยนสภาพจากของเหลวเป็นของแข็งได้ไม่ยาก โดยเฉพาะ ขณะที่กำลังมองเสี้ยวหน้าของคนๆ นี้อยู่

         

อีกทั้ง ร่างกายที่ส่งผ่านความอบอุ่นระหว่างกัน ซึ่งผมไม่ได้สัมผัสมานาน ก็ทำให้ความตื่นตัวมีมากกว่าปกติ ผิวเนียนใต้กอดกำลังทำปฏิกิริยากับความต้องการของผม ซึ่งพร้อมตอบสนองมันทุกเมื่อ แม้จะถูกใช้ไปแล้วหลายครั้ง จากกิจกรรมที่เพิ่งพ้นผ่าน

         

“หยุดเลยนะ ถ้ามีอีกรอบกูเกลียดมึงแน่” มันขู่ เหมือนแมวที่ไร้ทางสู้ ซึ่งตกอยู่ใต้ปกครองของราชสีห์

         

“งั้นก็พูดกันดีๆ ก่อนสิ” พูดออกไปพร้อมลูบไล้บนผิวกาย ที่ให้สัมผัสผ่อนคลายอย่างแปลกๆ

         

มันไม่ตอบโต้หรือเถียงกลับมาแบบที่ควรจะเป็น ทว่า เลือกที่จะหันตัวกลับมาประชันหน้ากับผม ซึ่งเมื่อผมเห็นดวงหน้าเต็มๆ ของมัน ก็อดไม่ได้ที่จะฉวยโอกาส เอาริมฝีปากแดงมาเป็นของตัวเอง โดยการครอบมันลงไปด้วยปากของผม

         

ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าข้างใน ไม่ถูกต่อต้านจากคนตรงหน้าแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรเช่นกัน มันแค่ปล่อยให้ผมจัดการเองทุกอย่าง ทั้งน้ำลายที่ผสมปนเปจนไหลย้อยลงมาที่มุมปาก ก็ต้องเป็นหน้าที่ของผมซึ่งต้องเข้าไปเล็มเลีย ไม่ใช้มันตกลงไปบนหมอนขาว อันที่จริงก็แค่เสียดาย

         

ส่วนอ่อนกลางลำตัวของเราทั้งก็ชูชันขึ้นมาอย่างไม่ยากเย็น แม้ไม่ถูกสัมผัสจากคนใดคนหนึ่ง มันก็ขยายตัวด้วยสัญชาตญาณ ผมคว้าเอาของมันและของผมมารวบไว้ในมือเดียว ที่แทบจะล้นออกไปเมื่อต้องขยับ

         

“รู้สึกอะไรบ้าง” มันถาม เมื่อริมฝีปากได้รับอิสระเพียงชั่วคราว

         

“อะไร” ผมไม่เข้าใจที่มันเอ่ยสักเท่าไหร่ ก่อนเข้าไปกักขังปากแดงไว้อีกชั่วครู่ และปล่อยให้มันได้พูดอีกครั้ง เพื่อตอบข้อสงสัยที่ผมถาม

         

“ตอนนี้มึงรู้สึกยังไงบ้าง” มันเสริม

         

“ไม่รู้สิ มีความสุขมั้ง” ผมตอบไป

         

“ยังไง” แต่แค่นั้นคงไม่พอสำหรับความสงสัยของมัน

         

ก่อนจะตอบคำถามต่อมา มือที่ทำหน้าที่อยู่เบื้องล่างก็เร่งจังหวะขึ้น จากเดิมที่เนิบช้าและอ้อยอิ่ง ส่วนข้างบนก็ฉกปากแดงที่เตรียมท่าจะขยับอีกครั้งมาอยู่ในครอบครอง เพราะยังไม่ถึงเวลาต้องถามหรือรีดเค้น ค่อยๆ พามันไปช้าๆ

         

“ก็ไม่ได้รังเกียจ บอกแล้วไงว่าอยู่กับมึงแล้วสบายใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้มีให้ผู้ชายคนไหน” ผมร่ายยาวให้มัน หวังว่าจะพอใจในคำตอบและความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกไป

         

“มึงก็แค่เงี่_น” มันยังไม่ยอมแพ้ พยายามหาเหตุผลมางัดง้างกับคำตอบที่ผมมอบให้

         

“นั่นก็คงใช่ กูไม่ปฏิเสธ” ลมหายใจที่ถูกเร่งเร้าขึ้น ลมร้อนรดราดบนหน้าของกันและกัน

         

มันมองเขาด้วยสายตาที่เว้าวอนคำตอบ ไม่ได้แข็งทื่ออย่างที่เป็นมาตลอดช่วงที่เราไม่ลงรอยกัน ส่วนผมก็มองมันด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป เช่นกันว่าไม่ใช่สายตาที่เคยใช้มองมันแบบที่คนเกลียดขี้หน้าใช้กัน

         

ผมก้มลงไปชิมเนินแดงที่เคยฝากรอยไว้ มันขยับหนีนิดหน่อยคงเพราะยังปวดอยู่ จากความรุนแรงที่เคยได้รับมาเมื่อไม่นานมานี้ แต่เมื่อค่อยๆ สัมผัสลงไปอย่างแผ่วเบา ลากผ่านด้วยลิ้นร้อน มันก็ไม่คิดจะต่อต้านอีกต่อไป กลายเป็นความยินยอมที่ให้ผมได้ลิ้มลองผลไม้หวานทั้งสองลูก

         

“แต่กูก็ไม่เคยเงี_นกับตัวผู้คนไหน เหมือนที่รู้สึกกับมึงตอนนี้” ขยับมืออีกเพียงไม่กี่ครั้ง ความอดกั้นที่ไม่อาจกักมันเอาไว้ก็ทลายออกมาเป็นความเปียกชื้นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็แทบจะลืมเลือน ทั้งมันและผมต่างปลดปล่อยมันออกมา ทำให้เนื้อตัวบริเวณท้องเหนียวหนึบอีกครั้ง

         

ส่วนผมก็ละมือที่เปื้อนจากแก่นกายคู่นั้น ขึ้นมาโลมเลียต่อหน้ามันที่ไม่มีคำพูดใดหลุดมา เพียงโน้มกายเข้ามาช่วยผมทำความสะอาดมือขวาที่เปื้อนอยู่ ลิ้นร้อนของเราทั้งคู่สัมผัสกันระหว่างลากผ่านเรียวนิ้วและช่องว่างที่เล็มไปตามแนวฝ่ามือ

       

มันขยับเข้าใกล้มากขึ้นเพื่อให้ริมฝีปากที่ยื่นเข้ามาประกบเอาไว้ สามารถส่งลิ้นเข้ามาและกลายเป็นฝ่ายนำในครั้งนี้   

         

“ดีขึ้นแล้วใช้ไหม” ผมเอ่ยขึ้นหลังมันผละลิ้นร้อนและปากแดงออกไป

         

“อืม” มันตอบเสียงแผ่ว

         

“จะได้อาบน้ำและหายามากินด้วย เดี๋ยมมึงก็ไม่สบายหรอก”

         

“ลุกไม่ไหว” แบบนี้เรียกว่าอ้อนได้ไหม

         

“ยังไม่ได้ล้างเลย ระวังมันบูดเอานะ” เขาหมายถึงน้ำขาวที่ยังอัดตัวอยู่เต็มทางรักของมัน แม้ไหลล้นออกมาจำนวนหนึ่งแล้วก็ตาม

         

“มึงเป็นคนทำให้กูอยู่ในสภาพนี้ ก็รับผิดชอบหน่อยสิ” มันว่า แต่ยังไงผมก็คิดว่ามันกำลังอ้อนอยู่ดี

         

“ได้ครับ เดี๋ยวเดือนคนหล่อจะดูแลเดือนคนนี้เอง”

         

“ขอให้จริงเถอะ”

         

“พูดจริง ก็ตกลงกันแล้วนี่ว่าจะเป็นแฟน”

         

“ใครบอกมึงว่ากูตกลง”

         

“ไม่รู้ล่ะ”

         

“อย่ามามั่ว แค่ยอมครั้งสองครั้งไม่ได้หมายความว่าจะคบกับมึง”

         

“งั้นหลังจากนี้ก็ยอมหลายๆ ครั้งละกัน”

         

“งดมีอะไรกันสามเดือน เพราะกูเจ็บ”

         

“ได้ไง”

         

“ไม่รู้”

         

“เฮ้ยไม่เอาสิ”

         

“ชักเอาเอง”

         

“มาทำให้ติดใจแล้วทำแบบนี้ได้ไง”

         

“ช่วยไม่ได้”

         

“เดี๋ยวแฟนก็นอกใจไปขอคนอื่นช่วยเอานะ”

         

“ถ้ากล้าก็ลองสิ”

         

“ยอมรับแล้วเหรอว่าเป็นแฟน”

         

“ไม่”

         

“ปากแข็ง”



ผมว่ามันก่อนยกร่างบางในท่าอุ้มเจ้าสาวเข้าไปในห้องอาบน้ำ สถานที่เริ่มเรื่องที่ทำให้ผมกับมันตกอยู่ในสภาพนี้









ตอนหน้าพบกับตอนพิเศษ NC จัดเต็ม

กับเรื่องราวก่อนหน้าของตอนนี้



- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 28 NC /// 251118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 25-11-2018 22:11:49
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ตอนที่ 28 NC /// 251118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: MimoreQ ที่ 26-11-2018 00:10:23
รอค่าาาา จะได้กันแล้ววววว 5555
หัวข้อ: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: InDefinition ที่ 28-11-2018 18:25:00

เอามาเสริฟก่อนตอนพิเศษ NC







“ลองคบกันไหม”





บ้าไปแล้วแน่ มันต้องบ้าไปแล้ว จู่ๆ ก็มาขอคบกันในสภาพแบบนี้เนี่ยนะ ถึงมันจะหล่อแค่ไหนแต่เขาก็ยังมองว่ามันเป็นคนบ้าอยู่ดี และยิ่งบ้าเข้าไปอีกเมื่อมันที่เหมือนไม่ต้องการคำตอบใด เพราะตอนนี้มันยกตัวเขาให้อยู่ในท่ายืน ก่อนเข้าจัดการกับของร้อนของเขาที่กลับมาชูช่ออีกครั้งเมื่อได้ยินประโยคชวนฝันนั้น





ลิ้นร้อนโลมไปทั่วแท่ง ที่เปื้อนน้ำลายและน้ำของเขาจนแยกไม่ออกว่าเป็นส่วนของใคร มันจัดเขานั่งตรงขอบอ่างฝั่งติดกำแพง แล้วออกแรงเร่งให้ความเสียวซ่านเข้าเล่นงานเขาอีกครั้ง แม้เพิ่งปลดปล่อยไปได้ไม่ถึงห้านาทีก็ตาม





“พอก่อนกูไม่ไหวแล้ว” ไม่ไหวในที่นี้ ด้วยความอ่อนเพลีย ไม่ใช่ต้องการร้องเตือนหรือเป็นสัญญาณของการระเบิดออก ตามที่มันเข้าใจอยู่ตอนนี้ เพราะดูท่าจะไม่หยุดง่ายๆ หากเขาไม่ยอมไหลไปตามความต้องการของมัน แต่มันจะรู้ไหมว่าเขาไม่มีน้ำพอที่จะไหลออกมาแล้ว แค่เมื่อกี้ก็มากเกินพอดีละ





“กูทำให้ดีกว่า” เขาขืนตัวออกจากการจับกุมของมัน ยื่นมือไปจับของร้อนที่จมอยู่ในน้ำ ท่อนลำยาวที่ตั้งตรงแทบปริแตกเมื่อเขาไปสัมผัสมันเข้า





“อย่ายุ่ง” มันรีบปัดมือเขาออก ไม่ให้ยุ่มย่ามกับของของตน ราวกับแม่นกหวงไข่ที่แสนบอบบาง





“มึงยังไม่ออกมาเลย” และมันก็นานเกินไปแล้วด้วยที่พวกเขามาทำกิจกรรมอย่างว่ากันในนี้ ถ้าปล่อยให้นานกว่านี้ตัวต้องยุ่ยแน่





“ตอบกูก่อน” นึกว่าลืมไปแล้วเสียอีก เขาอุตส่าห์ทำเป็นไม่สนใจคำถามที่มันเอ่ยออกมา





มันเค้นพร้อมส่งนิ้วมาเขี่ยเล่นบริเวณก้อนนุ่มของเขา ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกรุกรานอย่างมาก เขากระเถิบหนีไปจนสุดขอบของฝั่งที่ตัวเองอยู่





“ถ้าไม่ตอบจะทำต่อเรื่อยๆ นะ” มันหมายถึงส่งนิ้วที่วนเวียนอยู่แถวปากทางเข้ามา ซึ่งเตรียมพร้อมจะรุกรานทุกเมื่อ





“อย่า...” เขาตอบเสียงอ่อน ไม่หวังให้เสียงนั้นฟังดูออดอ้อนหรือน่ารักแต่อย่างใด แค่ร่างกายมันอ่อนเพลียเกินกว่าจะออกปากด่าการกระทำของมันที่ไม่ชอบมาพากลนี้





“อะ...” มันเข้ามา จู่ๆ มันก็ส่งเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตหรือบอกล่วงหน้า โดยใช้น้ำในอ่างเป็นตัวช่วย





“อย่า... อะ” มันปิดปากเขาด้วยปากมันอีกครั้ง คราวนี้คนที่กำลังทำร้ายช่องรักของเขากลับเป็นฝ่ายนำ ลิ้นร้อนควานไปทั่วอยากกระหาย





ส่วนนิ้วที่ส่งเข้ามาก็เพิ่มจำนวนขึ้น จนเขาต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด น้ำอุ่นยังไม่เพียงพอสำหรับการหล่อลื่นให้ช่องทาง





“กูยังไม่เตรียมพร้อม” เขาเคยศึกษา หากไม่เตรียมการก่อนมันจะมีสิ่งไม่พึงประสงค์ในนั้น แน่นอนว่ามันน่าอายมาก แต่เรื่องที่คิดว่าขายขี้หน้าที่สุดก็คงไม่เท่ากับสิ่งที่มันพยายามทำอยู่ตอนนี้





ตัวเขาลอยขึ้นอีกครั้ง และถูกจับนั่งลงที่ชักโครก ซึ่งมันอยู่นอกกระจกของอ่างอาบน้ำ ทว่า มันพาเขาไปตรงจุดนั้นเร็วมาก เหมือนกำลังอดกลั้นกับบางสิ่งบางอย่าง ก่อนที่สายฉีดจะถูกนำมาปิดตรงปากทาง แล้วแรงน้ำมหาศาลสมราคาก็ถูกส่งเข้าไป





“ไอ้บ้า ทำอะไร” เขาด่าออกไปอย่างลืมตัวว่ากำลังเพลียอยู่ แต่เสียงนั้นก็ต้องหยุดลงเมื่อน้ำที่อัดตัวในนั้นทะลักออกมาอย่างยากจะต้านทาน มันกำลังทำความสะอาดให้เขา ด้วยความเร่งรีบ





“แค่นี้พอไหม” มันถาม และคงไม่รอให้ตอบกลับเช่นเคย เพราะตัวเขาลอยขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันปิดฝาชักโครก และเข้ามานั่งแทนที่ ส่วนเขาก็อยู่ถัดขึ้นไป บนตักซึ่งแท่งร้อนของมันแนบชิดอยู่ข้างหลัง





มันส่งนิ้วกลับเข้าไปอีกครั้ง เขายังตกอยู่ในภวังค์ของความเจ็บปวด แทบไม่อยากคิดเลยว่า หากนั่นไม่ใช่นิ้วมันจะทรมานแค่ไหน ซึ่งพ่อเดือนวิศวะผู้มีใบหน้าชวนหลงใหลที่สุดในมหา’ ลัยก็ช่วยคลายข้อสงสัยนั้น





“ขอนะครับ”












ปล. ตอนหน้าจัดเต็ม แต่ตอนนี้แถมให้ก่อนเพราะกลัวคนรอ


- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
เรื่องนี้มีตอนพิเศษด้วยนะ

ความสำคัญของตอนพิเศษ คือ
การทำหน้าที่เป็นภาคเสริม
เรื่องของคู่รองทั้งหมดจะอยู่ในนั้น
ตลอดจนฉาก NC ของคู่หลักหลังจากนี้ด้วย
ฝากพี่มิว น้องกาล และผองเพื่อนไว้ในอ้อมอกด้วยจ้า


โดยสามารถสนับสนุนนักเขียนผ่านตอนพิเศษได้หลายช่องทาง ทั้ง
(1) ธัญวลัย www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด (http://www.tunwalai.com/story/251096/ร้ายนักใช่ไหม-จะแกล้งเสียให้เข็ด)
(2) readAwrite www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter (http://www.readawrite.com/?action=manage_article&article_id=f5076e3d3c037deb594bcdc00f9f2abc&tab=mainManageChapter)
(3) JamPlay www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true (http://www.jamplay.world/yaoi-yuri/book5b8b71f6e3ef490010086b56?isExpandIntroduction=true)
(4) Dek-D https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892 (https://writer.dek-d.com/inDefinition/writer/view.php?id=1854892)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ติดตามข้อมูลข่าวสารและข่าวพูดคุยกันได้ที่   facebook.com/inDefinitionStory (http://facebook.com/inDefinitionStory)
หัวข้อ: Re: ร้ายนักใช่ไหม... จะแกล้งเสียให้เข็ด ของแถมก่อนตอนพิเศษ NC /// 281118 p.4
เริ่มหัวข้อโดย: DrSlump ที่ 28-11-2018 21:00:08
 :pig4: :pig4: :pig4: