พิมพ์หน้านี้ - Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: TanyaPuech ที่ 20-06-2018 02:53:52

หัวข้อ: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-06-2018 02:53:52
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม






*****************************************************************

Partner of life   คู่ชีวิต  (Mpreg)
[/size]


คู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งที่รักกันมานาน  ใช่ชีวิตอยู่ด้วยกัน

เขาทั้งคู่มั่นใจว่ารักกันและจะจับมือกันไป

แต่เมื่อวันหนึ่งมีชีวิตน้อยๆเกิดขึ้นมา

พร้อมคำถามที่เกิดขึ้นในใจของฝ่ายหนึ่ง

แค่คำว่ารักมันมากพอเหรอ

มากพอไหมสำหรับการเป็น “คู่ชีวิต”



***********************************************************

ฝากผลงานคนเขียนด้วยครับ

กับดักพิศวาส
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=56326.0

ข่ม ขืน ฝืน รัก
https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=45467.0

พี่ครับ...ได้สักครั้งผมจะตั้งใจเรียน
https://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42897.0

วังสวาท
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=42097.0

จบแล้วทุกเรื่อง

หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 20-06-2018 02:56:45
Partner of life  คู่ชีวิต

ตอนที่1
[/size]



“ชาจ๋า คืนนี้เค้าคงไม่ว่างละนะ ”

ขาหันไปมองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักของตนด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่าย

“เล่นเกมส์อีกละสิ”

“ตัวเองรู้ใจเค้าที่สุด” ร่างหนาเข้ามากอดเขาจากด้านหลังพร้อมวางคางบนไหล่อย่างออดอ้อน

“พอเถอะพีท จะเล่นก็เล่นเถอะ ชาไม่ว่าหรอก”

ฟอด !!

“ชาของเค้าน่ารักที่สุด”

ชายิ้มให้อีกฝ่ายน้อยๆ เขาหันไปมองหน้าผู้ชายตรงหน้า ผู้ชายที่เป็นคนรักของเขาอย่างเต็มตา ผู้ชายตรงหน้าคือพีท เป็นผู้ชายทีเจอในมหาลัย และอีกฝ่ายก็เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อนตอนรับน้องรวมของมหาลัย

“อย่าเล่นเกมส์ดึกละกัน เดี๋ยวชาหาไรดูไปเรื่อย”

“ครับผม”

อีกฝ่ายยิ้มหน้าระรื่นพร้อมกับรีบดิ่งตัวไปที่คอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่ที่อีกฝ่ายหวงนักหวงหนาทันที

ชานั่งลงบนเจียงมองอีกฝ่ายที่เริ่มเข้าสู่โลกของเกมส์  เขามองแผ่นหลังกว้างอย่างคนออกกำลังกาย มองมุมข้างจมูกโด่งสวย ดวงตาคมดุที่ใครๆก็บอกว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัว แต่กับเขาอีกฝ่ายไม่ต่างจากลูกหมาตัวโตขี้อ้อนคนนึง

ชามองไปรอบๆคอนโดหรูใกล้มหาวิทยาลัย ขาย้ายมาอยู่กับอีกฝ่ายตั้งแต่คบกันได้สามเดือน โดยที่เขาก็ยังเข่าคอนโดอีกที่ไว้เพื่อไม่ให้ที่บ้านรู้  เขาคบกับพีทมาสามปีแล้วตั้งแต่ปีหนึ่ง จนตอนนี้ปี4 ใกล้เรียนจบเต็มที แต่ความรักของเขาทั้งคู่ก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอุปสรรคใดใดมาทำให้สั่นคลอน

จริงๆแล้วันนี้เราทั้งสองนัดกันไว้จะไปดูหนังกัน แต่เมื่ออีกฝ่ายนัดกับเพื่อนเล่นเกมส์ที่กำลังฮิตตอนนี้กับเพื่อนไว้ เขาก็ไม่อยากขัดความสุขอีกฝ่าย อีกอย่างคือเขาชิน  ชินกับพฤติกรรมของอีกฝ่ายที่เป็นแบบนี้เสมอต้นเสมอปลาย

ชาหันหน้ามองแม๊คบุ๊คบนเตียงพร้อมเปิดเพื่อเข้าสู่โลกยูทูป  ต่างคนต่างทำในสิ่งที่ตนรัก แต่ก็มีกันและกันอยู่ในห้องด้วยเสมอ

“ขาว่าพีทนอนได้แล้วมั้ย จะตี2ละนะ”

“ขออีกตานึงครับ พีทต้องชนะให้ได้ตานี้” อีกฝ่ายตอบเขาทั้งๆที่สายตายังจ้องอยู่กับคอมพิวเอตร์ไม่เลิก

“แล้วแต่ละกัน งั้นชานอนก่อนนะ” เขาบอกอีกฝ่ายเพราะเขาง่วงเต็มที

“ครับๆ ” อีกฝ่ายรับคำแต่สายตาไม่หันมามองสักนิด

ชาหัวเราะเบาๆพร้อมมองผู้ชายตรงหน้าที่หน้าจริงจังกับเกมส์จนอดขำไม่ได้

ขาล้มตัวลงนอนพร้อมปิดตา  ถามว่าทำไมเขานอนทั้งๆที่เปิดไฟสว่างขนาดนี้ได้เหรอ

บอกได้คำเดียวว่า  ชิน



“แม่งเอ้ย!!” พีทสบถออกมาเสียงดัง แต่รู้ตัวว่าคนรักของตนนอนแล้วเลยลดเสียงพร้อมหันไปมองอีกฝ่ายที่หลับปุ๋ยแล้ว

“อีกสักตาเปล่าไอ้พีท  แก้มือ” เสียงเพื่อนของเขาดังเข้ามาจากหูฟัง

“พอละ  กูง่วง” พีทหันไปมองนาฬิกาเรือนโตที่มองเวลาตี3แล้ว เขาเลทมาสักพักแล้ว

“รีบกลับไปนอนกกเมียละสิไม่ว่า” เพื่อนเขาอีกคนพูดเสียงยียวนตามมา

“เออ คนมันมีเมียอะ” พีทตอบอย่างไม่ยอมแพ้

“เออ อิจฉาจริงๆ รักกันเหลือเกิน”

“ใช่ เมียกูนี่บ่นตายห่าเรื่องเล่นเกมส์”

“อย่าอิจฉาไปเลยไอ้น้อง” พีทหัวเราะเบาๆ เขาล่ำลาเพื่อนไม่นานก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมา เขาปิดไฟพร้อมเดินเข้าไปสอดตัวนอนคนข้างๆ แสงไฟจากระเบียงทำให้เห็นใบหน้าของคนที่นอนอยู่ ใบหน้าเรียวขาว ทุกอย่างบนใบหน้าดูดีแบบที่ใครๆมองก็ชอบ ไม่ดูสวยเกินไป แต่ก็น่ารักจนละสายตาไม่ได้ เขาเกลี่ยผมที่ตกลงบนหร้าผากให้อีกฝ่ายพร้อมกดจมูกลงบนหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ

จุ๊บ

“ฝันดีนะครับที่รัก”

พีทล้มตัววนอนพร้อมสอดแขนกอดเอวอีกฝ่ายหลวมๆ เขายิ้มน้อยๆอดคิดถึงวันแรกที่เขาเจออีกฝ่ายไม่ได้ คนตัวขาวที่ยืนหัวเราะกับเพื่อนมนกลุ่มของตัวเองในวันรับน้องรวมของมหาลัย วันแรกพบของเด็กปีหนึ่งทุกคน สายตาเขาละไม่ได้จากเด็กคณะตรงข้ามเลย เมื่องานจบเขาตัดสินใจเขาตัดสินใจเข้าไปทำความรู้จักอีกฝ่ายทันที

ถ้าวันนั้นเขาไม่กล้าพอ คงไม่ได้อีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมกอดเหมือนอย่างในวันนี้



“พีทๆ ตื่นได้แล้ว วันนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ”

ชาส่ายหน้าเบาๆมองอีกฝ่ายที่ขี้เซายังไม่ยอมลุกสักที

“แปปนึงนะชา” พีทกดหน้าลงกับหมอนต่อ

“เมื่อคืนนอนดึกใช่มั้ยเนี้ย ขี้เซาแบบนี้”

“...”

อีกฝ่ายเงียบใส่ ชาส่ายหน้าเบาๆ เขาต้องใช้ไม้เด็ดตลอด ไม่งั้นอีกฝ่ายคงไม่ลุกจากเตียงซะที

“งั้นชาไปเรียนเองนะ  จะตื่นตอนไหนก็เชิญ!” ชาหันหลังพร้อมจะใส่รองเท้า

“เดี๋ยวชา เค้าตื่นแล้ว เดี๋ยวเค้าไปส่ง” อีกฝ่ายลุกขึ้นทันที พร้อมรีบร้อนเข้าห้องน้ำ

ชาหัวเราะออกมาเบาๆเมื่อเก็นท่าทีอีกฝ่าย

พีทรีบตื่นเพราะรู้ว่าถ้าไปเรียนคนเดียว เขาต้อนั่งแท็กซี่ไป ซึ่งอีกฝ่ายไม่ชอบให้เขานั่ง เพราะมองว่ามันอันตราย

เอาจริงๆก็เวอร์ไปหน่อย  แต่เขาว่าก็น่ารักดี



“ชาเลิกบ่าย3ใช่มั้ย” พีทพูดขึ้นเมื่อมาถึงหน้าคณะอีกฝ่าย

“ใช่ แต่พีทเลิกเที่ยงนี่ กลับก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวชาติดรถขนุนไป” ขาหันไปบอกอีกฝ่ายพร้อมจัดแจงกระเป๋า

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้ารอ”

“พีทจะรอชาที่ไหนละ”

“เดี๋ยวรอร้านเกมส์หน้ามอ  เสร็จแล้วโทรมา เดี๋ยวเค้าไปรับ”

“เกมส์อีกละ” ชาบ่นเบาๆ

“หาไรทำรอที่รักไงครับ” พีททำสีหน้าออดอ้อนแบบทุกวัน  แบบที่คิดว่าเขาจะใจอ่อน ซึ่งอีกฝ่ายก็คิดถูก

“เอาเถอะ เรียนเสร็จเดี๋ยวชาโทรหา”

“ครับผม”

ชามองอีกฝ่ายที่ขับรถออกไป  กิจวัตรของพวกเขาก็ไม่มีอะไรมาก ทุกวันก็เป็นแบนี้วนลูปไป



“อีเอ๋ย มึงตัดใจซะเถอะ ถ้ามันไม่เห็นค่ามึง” ขนุน เพื่อนสาวในกลุ่มเขาพูดขึ้น ขนุนเป็นคนน่ารักมากสำหรับเขา  อีกฝ่ายตลกและมีมุกฮาๆมาให้เพื่อนขำตลอด แจ่เมื่อจริงจัง อีกฝ่ายก็เป็นที่ปรึกษาด้านความรักให้เพื่อนได้ดีที่สุด ทั้งๆที่ตัวเองไม่เคยมีแฟน

“แต่กูรักมันนะมึง” เอ๋ยตอบ เอ๋บเพื่อนเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม เอ็ยเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่งเลย สวย เพรียบพร้อม แต่อีกฝ่ายมักโขคร้าย เจอแต่ความรักแย่ๆ การหน้าตาดีไม่ได้หมายความว่าจะเจอคนดีดีเลย

“รักแล้วไงวะมึง มันไม่ได้มีมึงคนเดียวนะ คนเหี้ยๆแบบนั้นปล่อยไปเถอะวะ” กล้า เพื่อนผู้ชายพูดขึ้นอย่างอารมณ์เสีย กล้าผู้มีฝีปากกล้าไว้ลับกับขนุนเสมอ

“กูเห็นด้วยกับไอ้กล้า มึงตัดใจเถอะเอ๋ย” ขนุนสมทบ

“กูควรทำไงดีชา” เอ๋ยหันมาหาเขาอย่างขอความช่วยเหลือ

“กูว่ามึงKพอเถอะเอ๋ย  ไม่ว่ามึงจะรักมันขนาดไหน มึงควรรักตัวเองก่อน”

“ก็จริงนะ” เอ๋ยปาดน้ำตาพร้อมยิ้มน้อยๆก่อนพูดต่อ “กูอิจฉามึงจังเลยชาที่มึงเจอคนดีดีแบบพีท ตอนปีหนึ่งใครๆก็เป็นห่วงมึงเพราะพีทดูแบดบอยจะตาย ใครจะคิดละว่าพีทจะดีกับมึงไม่เคยทำให้มึงเสียใจ”

“ไม่ต้องอิจฉากูหรอก  ใครจะรู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอะไร มีความสุขกับวันนี้ก็พอ” เขายิ้มน้อยๆให้เพื่อน

พีทไม่เคยทำให้เขาเสียใจเลยเรื่องใหญ่ๆ สำคัญๆ แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆงอนๆอาจจะมีบ้างจามประสาคนรักกัน

ถือว่าเขาโชคดีนะเนี่ยที่ไม่ตัดสินพีทที่ภายนอกแบบใครๆเขาว่ากัน



“”ไอ้พีท เลิกเรียนแล้วไปไหนวะ” ต้นถามขึ้น

พีทหันไปมองเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่มอปลายจนตอนนี้

“ไปดล่นเกมส์หน้ามอ”

“ทำไมไม่ไปเล่นที่ห้องวะ”

“ไอ้ต้นรอแฟนมันไง ชายังไม่เลิกอะดิ” เจมส์เพือนอีกคนสอดขึ้นมา

“เออใช่”

“คนดีจริงโว้ย ไปรับไปส่งตลอด” ต้นอดแซวไม่ได้ เขาเป็นเพื่อนกับพีทมานาน ไม่เคยเห็นมันรักใครขนาดนี้มาก่อน มันจริงจังและคบนานสุดแล้ว ใครจะคิดว่าไอ้เสืออย่างไอ้พีทจะคบกับชามาสามปีแล้ว

“แน่นอน” พีทรับคำนิ่งๆก่อนจะเลิกคิ้วกวนๆ

“ชาไม่น่ามาตกหลุมคนอย่างมึงเลย” เฟรมเพื่อนอีกคนพูดขึ้น

“คนอย่างกูทำไมไอ้เฟรม!!” พีททฃมองเฟรมอย่างหาเรื่อง แต่เพื่อนรู้กันดีว่าแกฝ่ายล้อกัน

“ก็อย่างมึงอะเหรอ ขี้เกียจ ติดเกมส์ ติดเหล้า ไม่มีอะไรดี มีดีแค่หน้าตากับบ้านรวยเนี้ยนะ เดี๋ยวนี้ๆใครก็เป็น”

“สัส กูก็เล่นเกมส์กับมึงมั้ย เหล้ากูก็กินกับมึงมั้ย มีเพื่อนเหี้ยแบบพวกมึงไงเลยเหี้ยตาม”

“สัส!!”  เพื่อนทั้งสามสรรเสริญเขาทันที



“ชาจ๋าเย็นนี้กินไรดี เค้าเริ่มหวละ” พีทพูดพร้อมลูบหน้าท้องที่เต็มไปด้วยลอนกล้ามของอีกฝ่าย พีทเป็นคนขี้ร้อนชอบถอดเสื้อ ใส่กางเกงบ็อกเซอร์อยู่ในห้อง ซึ่งต่างจากเขา เขาเป็นคนขี้หนาว

“สั่งข้าวใต้คอนโดละกัน ชาขี้เกียจออกไปข้างนอก” ขาตอบพร้อมกดรีโมทเลื่อนดูทีวีไปเรื่อย

“ชาอยากกินไรเดี๋ยวเค้าโทรไปสั่งให้”

“เอาเหมือนเดิม คิดไม่ออกอะ” ชาเบื่อมากกับคำถามว่าจะกินอะไรดี เป็นปัญหาโลกแตกในระดับหนึ่ง

“โอเค งั้นเขาสั่งเป็นกับข้าวนะ”

“ครับ”

พีทเดินไปโทรศัพท์สั่งข้าวได้ไม่นาน เขาก็มานั่งข้างๆชาที่เอนตัวดูทีวี

“ดูไรอะชา”

“ขาวอะ”

พีทหันไปมองข่าวที่ชาดูอยู๋  ข่าวเกี่ยวกับเด็กคนนึงที่ท้องก่อนวันอันควร และสังคมกำลังมีคำถามเกี่ยวกับการทำแท้งถูกกฎหมาย

“ทำแท้งถูกกฎหมายเหรอ”

“ชาว่าดีนะ เหมาะสำหรับพ่อแม่ที่ไม่พร้อม ทำแท้งตั้งแต่ตอนท้องดีกว่าปล่อยให้เด็กเกิดมาตอนไม่พร้อม จะลำบากเปล่าๆ”

“แต่พีทว่ายังไงก็ไม่ควรทำปะ ทำให้เกิดกันมาแล้วก็ควรจะรับผิดชอบ ถ้าไม่อยากมีทำไมไม่คุมตั้งแต่แรก”

“คนบางคนอาจจะพลาดไงพีท”

“อย่างนั้นก็เถอะ เลี้ยงดีกว่า ให้พ่อแม่เลี้ยงไง”

“ไม่ใช่ว่าทุกครอบครัวจะมีเงินพร้อมเหมือนเรานะพีท” ขาพูดขึ้นพร้อมมองหน้าอีกฝ่าย

“เอาเถอะ แล้วแต่ชาละกัน” พีทขี้เกียจเถียง อะไรยอมได้เขาก็ยอม ไม่อยากทะเลาะ

“ถ้าวันนึงชาม้องขึ้นมาละ” ชาถามพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างติดตลก

พีทขมวดคิ้วนิดหน่อยพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ

“ถึงเดี๋ยวนี้ผู้ชายจะท้องได้บ้าง แต่ก็ยังไม่เยอะนะชา  ชาจะท้องได้ไง”

“ใครจะไปรู้ละ วันนึงชาอาจจะป่องขึ้นมาก็ได้”

“โหยชา ถ้าชาท้องได้ชาท้องไปนานละ ถุงยางเราก็ไม่ได้ใส่กันมานานแล้ว ยาคุมมชาก็ไม่กิน” พีทหยุดเว้นวรรคพร้อมจ้องอีกฝ่ายอย่างเจ้าเล่ห์ “พีทแตกในใส่ชาออกบ่อย คงไม่รอดมาถึงทุกวันนี้หรอก”

“พีท!!”  ชาเอาหมอนฟาดหน้าอีกฝ่ายทันที

“โอ้ย ชา พีทเจ็บ!  ฮ่าๆ” พัทแกล้งโอดโอย

“พูดไปเถอะ  หึ พีทไม่มี่น้ำยาเองมากกว่ามั้ง” ชาลุกขึ้นพร้อมเลิกคิ้วกวนๆ

“หื้ม  พูดงี้นี่ขึ้นเลย ขึ้นเลย” พีทพูดพร้อมลุกขึ้นตบอกตัวเอง

“อะไรขึ้นหรา” ชาพูดพร้อมกวาดสายตาลงไปมามองอีกฝ่าย

“กวนแบบนี้ระวังจะได้กินอย่างอื่นก่อนกินข้าว” พีทพูดพร้อมเดินเข้าใกล้อีกฝ่ายมากขึ้น

“กินจะไม่กลัว  กลัวไม่อิ่ม” ชาเชิดหน้าท้าทายอีกฝ่าย

เขารู้จักพีทดี  พีทไม่ชอบให้ใครมาท้า

“อิ่มแน่ที่รัก”

พีทกดอีกฝ่ายลงบนโซฟาพร้อมบดจูบทันที

“อื้อออ  พีทท เบาๆ”





**************************************************************

ฝากนิยายอีกเรื่องด้วยนะครับ เรื่องนี้ไม่หนักหน่วงเท่าเรื่องอื่นๆ  ออกจะโรแมนติกด้วยซ้ำ

ยังไงก็ติชมกันได้นะครับ ฝากคอเม้นต์เล่นกดหัวใจด้วยนะครับถ้าชอบกัน

เรามาลุ้นกันดีกว่าว่าน้ำยาพีทจะดีจริงรึเปล่ ดีตอนไหน

และอะไรจะมาเป็นบททดสอบให้คู่นี้

ชื่อตอน เพราะใจ มาจากเพลง https://www.youtube.com/watch?v=HNmfn8yCcSY

ฝาก #พีทชา ในทวิตเตอร์ด้วยนะครับ คนเขียนจะเข้าไปอ่าน พูดคุยกันได้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ   :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: W2P5 ที่ 20-06-2018 07:29:06
หวังว่าความรักเขาสองคนจะไปได้ดีนะคะ  :hao4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: กาแฟมั้ยฮะจ้าว ที่ 20-06-2018 09:25:30
 :pig2:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 20-06-2018 10:04:45
ถ้าท้องจริงๆอย่าไปโทษใครเลยนะ ไม่ป้องกันเองแท้ๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 20-06-2018 11:31:19
ติดตามจ้าาาาาาาาาาาาา ชอบบบ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1 20.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: fanhy ที่ 20-06-2018 12:23:07
ชอยเรื่องแบบนี้ ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่1 20.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 20-06-2018 14:31:11
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่2 21.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 21-06-2018 22:49:02
Partner of life  คู่ชีวิต

ตอนที่2



“พีทจะไปไหนอะ”  ชาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนรักของตัวเองกำลังลุดขึ้นแต่งตัว

“พวกไอ้ต้นชวนกินเหล้าอะ  ไอ้เฟรมมันเลิกกับเมียแล้ว” พีทตอบโดยไม่หันมามองเขา แต่กลับใส่ก่งเกงยีนส์แทน

“ทำไมถึงเลิกกันได้ละ เห็นรักกันดี”

“ไม่รู้เหมือนกัน” พีทตอบพร้อมเดินไปที่โต๊ะกระจกเช็คตัวเอง

“แต่ใกล้จะสอบกลางภาคแล้วนะพีท”

“เค้ารู้ครับ แต่ไอ้เฟรมมันเสียใจอะ จะให้เค้าทำไง” พีทตอบพร้อมจ้องตาเขาผ่านกระจก

“ไม่คิดจะอ่านหนังสือบ้างเหรอนอกจากกินเหล้าอะ” ชาเริ่มอารมณ์เสียเมื่ออีกฝ่ายดูไม่สนใจคำพูดของเขา

“เทอมสุดท้ายแล้ว วิชาเรียนไม่ยากมาก ไม่เป็นไรหรอก” พีทตอบพร้อมฉีดน้ำหอมกลิ่นประจำตัวใส่ตนเอง

“คือจะไปให้ได้ใช่มั้ย” ชาถอนหายใจเล็กน้อยก็หันไปมองทางอื่น

“เอาหน่าชา  เค้าไปกลับไม่ดึกมาก  เค้าขอนะ สงสารไอ้เฟรมมัน” พีทพูดพร้อมกอดเขาจากด้านหลัง

“ชาไม่ได้จะงี่เง่านะ  แต่พีทเคยบอกกับชาแล้วไงว่าจะหยุดเหล้าบ้าง ใกล้สอบแล้ว ใกล้เรียนจบแล้ว”

“พีทจำได้ครับ  แต่วันนี้มันสุดวิสัยจริงๆ” พีทวางคางบนไหล่ชาอย่างอ้อนๆ

“ก็ได้  แต่อย่าดป็นหมากลับมาละ ถ้าไม่ไหวก็นอนห้องต้น ค่อยกลับตอนเช้า”

ฟอด!

“ชาน่ารักที่สุดเลย”
ชายิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่าย

ชานั่งมองพีทเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี  เขารู้ว่าพีทรักเพื่อน ถึงไหนถึงกัน เป็นหนุ่มเข้าสังคม แต่บางทีเขาก็เป็นห่วงสุขภาพอีกฝ่าย ยิ่งใกล้สอบแล้วควรพักๆบ้าง

ครืน ครืน

เสียงโทรศัพท์เขาสั่น  ชาหันไปมองจ้องมองหน้าจออย่างตกใจ  ตายละ! ไม่ได้โทรหาแม่มาเป็นอาทิตย์วันแล้ว โดนดุแน่ๆ

“ครับแม่” ชาตอบเสียงอ้อน

“น้องชาคะ หายไปเลยนะคะ” เสียงหวานตามสายพูดออกมา ทำเขาอดคิดถึงอีกฝ่ายไม่ได้

“ชาใกล้สอบแล้วนะครับ ยุ่งๆเลยไม่ได้โทรหาคุณแม่”

“ยุ่งยังไงก็น่าจะโทรหาแม่บ้างนะคะ แม่เป็นห่วง”

“ขอโทษครับคุณแม่” ชาตอบเสียงอ่อย

“เอาเถอะ คุณแม่ไม่ว่าอะไรหรอก แต่ยังไงเสาร์นี้กลับบ้านด้วยนะคะ พี่ๆจะกลับกัน แม่อยากทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา”

“ได้ครับแม่”

เขาคุยกับแม่อีกสักพักก็วางสาย  ชาเป็นลูกชายคนเล็กของที่บ้าน มีพี่ชายสองคน ด้วยความที่เขาเป็นคนตัวเล็กกว่าใครในบ้าน แม่จึงค่อนข้างเป็นห่วง ด้วยความเป็นน้องเล็กก็มีแต่คนตามใจ แต่เขาไม่ใช่คนเอาแต่ใจหรอกนะ รึเปล่า ฮ่าๆ

ชานั่งอ่านหนังสือไปเรื่อยๆระหว่างรอพีทกลับมา เขาอ่านอย่างไม่เร่งรีบเพราะเทอมสุดท้ายแล้วสอบไม่เยอะ เน้นทำโปรเจ็คจบมากกว่า ชาเหลือบมองนาฬิกาติดผนัง จะตี1แล้ว พีทก็ยังไม่กลับมา เขายกโทรศัพท์มองแชทล่าสุดที่คุยกันเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เขาไม่อยากจะจิกอีกฝ่ายมาก อยากให้อีกฝ่ายสนุกกับเพื่อน แต่นี่ก็ตี1แล้ว ไหนบอกจะกลับไม่ดึกไง

ชานวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้า เก็นหนังสือตรงหน้า เขานอนลงบนเตียงเหม่อมองเพดาน ใกล้เรียนจบแล้ว อนาคตจะไปทางไหนนะ เขาจะทำงานอะไรดี หรือเรียนต่อเขายังไม่รู้เลย เป็นผู้ใหญ่นี่น่ากลัวเหมือนกันนะ ความรับผิดชอบเยอะแยะไปหมด

อ๊ะ!

ครืน ครืน

ชาสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ เขามองเบอร์ที่โทรเข้าก็พอจะเข้าใจว่าโทรมาทำไม

“ว่าไงต้น”

“ลงมารับทีชา ไอ้พีทเมาเละ”

ชาถอนหายใจเบาๆ  คาดไว้แล้วไม่มีผิด!

“เดี๋ยวเราลงไป”

ชาลงมาล่างคอนโดมองต้นและเจมส์ที่หิ้วปีกพีทไว้ก่อนจะยิ้มให้ทั้งสองคน

“เข้ามาเลย” ชากดคีย์การ์ดให้ทั้งสองคนล่กพีทเข้ามา

“เฟรมละ” ชาถามขึ้นขณะกดลิฟต์

“นอนตายอยู่ในรถ” ต้นเป็นฝ่ายตอบ

“ทำไมเอาพีทไปนอนด้วยละ เราบอกไว้แล้วเชียวว่าถ้าเมาก็ไม่ต้องฝืนกลับมา”

“ก็ไอ้พีทไม่ยอม โวยวายลูกเดียว เพิ่งสงบไปตอนถึงคอนโดเนี้ย”

ชาหันไปมองพีท  พีทก็เป็นแบบนี้เสมอ ต่อให้ไปกินเหล้าเมาหรือดึกขนาดไหนก็ไม่ยอมค้างที่อื่น ต้องกลับมานอนกะเชา

อั่ก !!  ต้นและเจมส์ทิ้งพีทบนเตียง

“หนักฉิบหาย” เจมส์บ้นพร้อมนวดแขน

“เออจริง จากเมาๆกูสร่างเลย” ต้นหันไปตอบเพื่อนร

“หลับกันเถอะ ดึกแล้ว เดี๋ยวเราดูแลพีทเอง” ชาเอ่ยขึ้น

“งั้นพวกเรากลับละ”

ขาเดินลงไปส่งเพื่อนทั้งสองก่อนจะขึ้นมาดูพีทที่นอนแผ่หลาอย่างไม่สนอะไร

“ไหนบอกจะไม่เมาไง” ขาพูดพร้อมตีหน้าอีกฝ่ายเบาๆอย่างหมั่นไส้

“อื้อออ”  คนเมาครางออกมาเบาๆก่อนจะหันหน้าหนี

ชาลุกขึ้นไปเตรียมผ้าขนหนูเพื่อนเช็ดตัวอีกฝ่าย  เขาลูบหน้าอีกฝ่าย ถอดเสื้อพร้อมเช็ดตัวให้เพื่อฝห้อีกฝ่ายนอนหลับสบาย

“อึก อึก อ้วกกก!”

ชาเม้มปากแน่นอยากจะตะโกนออกมาเสียงดัง  พีทอ้วกใส่ตักเขา

“พีท!!  สกปรกที่สุด!!” ชาตะโกนลั่น พร้อมมองคนที่นอนหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข แม้ว่ายังมีคราบอ้วกติดที่ปาก

ชามองพีทอย่างหัวเสียพร้อมถีบออกฝ่ายลงจากเตียงทันที

ผลั๊ก!!

“นอนข้างล่างไปเลย  โถ่เว้ย! เตียงก็เปื้อน คืนนี้จะนอนไงเนี้ย!”

ชาลุกขึ้นอย่างหัวเสียเขาพยายามประคองตัวเองเข้าห้องน้ำเพื่อให้อ้วกเลอะไปมากกว่านี้  เขายืนมองตัวเงอในกระจกพร้อมถอดชุดเลอะอ้วก  เขาเกลียดอ้วกที่สุด มันทั้งเหม็นและสกปรก คนแรกที่อ้วกใส่เขาก็คือพีท และคนแรกที่เขาต้องมาเช็ดอ้วกก็คือพีท!

ชาอาบน้ำใหม่อีกรอบเขายืนมองคนที่นอนเปลือยท่อนบนปากเลอะอ้วกอย่างเหนื่อยใจ  อยากจะทิ้งให้นอนจมกองอ้วกไว้แบบนี้ก็ดูจะใจร้ายไป  เขาตัดสินใจเช็ดตัวหอีกฝ่ายต่อพร้อมหาหมอนให้นอนบนพื้น ห่มผ้าให้เรียนร้อย

“คืนนี้จะได้นอนกี่โมงเนี่ย!” ชามองเตียงเลอะอ้วกอย่างหัวเสีย เขาต้องเปลี่ยนไม่งั้นเขาจะนอนไหนละ!!



ชาตื่นเช้าด้วยความมึน เราพเพิ่งจะนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นมาเรียนเช้า  เขาโทรบอกขนุนให้แวะรับเรียบร้อยเพราะมั่นใจว่าคนที่นอนอยู่คงไม่มีทางตื่นไปส่งแน่นอน

“พีท ตื่น+  มีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ” เขาอดที่จะปลุกอีกฝ่ายไม่ได้ ไม่อยากให้ขาดเรียนช่วงใกล้สอบแบบี้

“อื้อออ ”  อีกฝ่ายครางออกมาพร้อมหันหน้าหนีเขา

“บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ากินเยอะ” ชาหมั่นไส้ลุกขึ้นเตะตูดอีกฝ่ายอย่างระบายอารมณ์

“อื้อ  อ๊ะ” อีกฝ่ายครางออกมาแต่กลับไม่ลืมตา

ชาเบื่อจะปลุกปล่อยให้อีกฝ่ายนอนไป เขาเดินลงมารอเพื่อที่จะแวะมารับ



“คุณชายชา ข้าน้อยมารับแล้วขอรับ” ขนุนพูดแซวขึ้นทันทีที่เขาขึ้นรถ

“ขอโทษที่ต้องรบกวนนะขนุน”

“เอ้ย ไม่ต้องซีเรียส แซวเล่น”

“ยังไงเราก็เกรงใจ” ชาตอบพร้อมหันไปมองอีกฝ่ายที่กำลังขับรถ เขาเกรงใจที่ต้องให้อีกฝ่ายมารับ เพราะถ้าพีทรู้ว่านั่งแท็กซี่ไปเรียนเองกันก็จะทะเลาะกันห้องแตกอีก

“ไม่ต้องเกรงใจ ว่าแต่ทำไมพีทถึงไม่ไปส่ง”

“พีทเมาค้าง ยังไม่ตื่นเลย”

“โหยอะไรอะ รู้ว่าเรียนเช้าก็ยังไปเมาอีก” ขนุนบ่นออกมาตามประสา

“เราก็พูดละ แต่จะไปก็ห้ามไม่ได้”

ขนุนหันมามองเพื่อนที่ดูหน้าจ๋อยลงก็เลยเปลี่ยนเรื่อง

“พรุ่งนี้วันเสาร์ ไปไหนปะ”

“คงกลับบ้าน คุณแม่เรียกตัว” ขนุนพยักหน้ารับคำไม่พูดอะไรต่อ




“ชาจ๋าอยู่ไหน เดี๋ยวเค้าไปรับ” เสียงลอดสายออกมาทันทีที่เขารับสายจากอีกฝ่ายในตอนบ่าย เขาเลิกเรียนตั้งแต่เที่ยง เลยไปกินข้าวกับเพื่อนๆและเดินเล่นต่อที่ห้าง

“อยู่ห้างS อะ ตื่นละเหรอ”

“ตื่นแล้ว แต่ปวดหัวนิดหน่อย ปวดหลังด้วย”

ชายกยิ้มทันที ก็นอนพื้นทั้งคืนจะไม่ปวดหลังได้ไง

“ไม่ต้องมารับหรอก เดี๋ยวกลับกับขนุน”

“ไม่เป็นไร รอเค้าแปป เค้าอาบน้ำแปปเดียว เดี๋ยวไปหาที่ห้าง”

ชานิ่งไปแปปนึง มาก็ดี เขาไม่ได้เดินเล่นกะพีทมาสักพักละ อยากดูหนังด้วย

“เอาสิ”

“เคครับ  เจอกัน”

“พีทโทรมาเหรอวะ” กล้าถามขึ้นขณะเดินดูเสื้อผ้ากัน

ชาพยักหน้าให้อีกฝ่าย

“ไอ้พีทนี่นอกจากรักมึงคนเดียว หล่อ รวยก็ไม่มีอะไรดีเลย” กล้าพูดขึ้นทำเอาโนเอ๋ยฟาดบนแขน

เพี๊ยะ!

“พูดอะไรของมึง ไอ้กล้า!” เอ๋ยหันมามองเขา

“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรหรอกเอ๋ย กูเข้าใจ” ชาตอบ เขาไม่คิดมากหรอก เพราะบางทีที่กล้าพูดมาก็เรื่องจริง

“เอาหน่า อย่างน้อยมันก็รักมึงจริง มีมึงคนเดียวไม่เหมือนของกู” เอ๋ยพูดปลอบเพื่อน

“ใช่ และไอ้พีทก็รวยมากๆ มึงสบายไปตลอดชีวิตแน่นอน” ขนุนสมทบ

“เออ กูไม่สู้เรื่องความรวย บ้านแม่งเปิดผับนิ พ่อเป็นมาเฟียปะวะ” กล้าถามขึ้น

“ไม่รู้เหมือนกัน  รู้แค่เปิดผับ กับมีร้านอาหาร” ชาตอบ เขาไม่ค่อยถามเรื่องที่บ้านอีกฝ่ายนัก อีกฝ่ายก็เหมือนกัน

“กูได้ยินคนเค้าพูดกันตั้งแต่ปีหนึ่งละ ว่าพ่อแม่งเป็นมาเฟียย่อมๆนะมึง ระวังไว้” กล้ายังไม่เลิกพูด

“ไอ้กล้ามึงหุบปากเถอะ” ขนุนขัดขึ้นเมื่อมองหน้าชาที่เริ่มคิดหนัก

ชายิ้มออกมาน้อยๆก่อนเดินดูเสื้อผ้าต่อไป  เขาไม่ค่อยยุ่งเรื่องที่บ้านอีกฝ่ายเท่าไหร่ถ้าอีกฝ่ายไม่เล่า รู้แค่นั้น รู้แค่บ้านพีทมีเงิน ดูได้จากคอนโดที่อยู่ รถที่ขับ บางเขาถึงมีเงินในระดับหนึ่งแต่ก็ยังไม่ให้ลูกใช้เงินเยอะเหมือนบ้านอีกฝ่ายเลยด้วยซ้ำ

“กูไปหาพีทก่อนนะ” ชาเอ่ยลาเพื่อนที่เริ่มแยกย้ายกัน

“เออๆ” ทุกคนหันมาตอบพร้อมโบกมือ

ยืนรอไม่นานพีทก็เดินมาหา อีกฝ่ายมาในชุดเสื้อยืด กางเกงยีนส์ แต่ดูดีมากเมื่อยู่บนตัวอีกฝ่าย หน้าที่โทรมนิดหน่อยเพราะดื่มหนักไป แต่ก็ยังแจนใครหลายๆคนมอง

“ปะชา อยากได้ไรไหม เดี๋ยวเค้าซื้อให้” พีทยิ้มอ้อนให้เขา  เขารู้ทันทีว่าอีกฝ่ายต้องการไถ่โทษเรื่องเมาและปล่อยให้เขาไปเรียนเอง

“คิดว่าแค่นี้ชาจะหายโกรธเหรอ” ชาแกล่งทำหน้าตึงใส่อีกฝ่าย

“ชา  เค้าขอโทษ เมื่อคืนมันไปกินกันที่ร้านพ่อเค้า ละไปเจอพี่พลอะ พี่พลแม่งมอมเค้ายับเลย สภาพเลยเป็นอย่างที่เห็น”

“เหอะ ไหนบอกจะไม่เมา กลับไม่ดึก” ชาแกล้งสะบัดหน้าหนี

“เค้าขอโทษ  ไปๆ อยากได้อะไรวันนี้เขายอมตัวเองหมดเลย ช้อปให้บัตรเครดิตเต็มวงเกินเลย!” พีทพูดเสียงดังจนเขาต้องส่ายหน้า

“ก็ดี!” ชาพูดจบเริ่มเดินเข้าร้านเสื้อผ้าทันที  เขาก็พูดไปงั้นแหล่ะ ได้เสื้อมาตัวเดียวกับรองเท้าใหม่อีกหนึ่งคู่ นอกจากนั้นก็เลือกเสื้อกับกางเกงให้อีกฝ่าย

“มา เค้าถือเอง” พีทรับถุงเสื้อผ้าไปถือเอง ชาก็ไม่ขัด

ระหว่างเดินเขาผ่านร้านเครื่องเพขรชื่อดัง เขายืนมองเล็กน้อยแต่ก็ไม่เข้าไปดู

“เข้าไปดูไหม” พีทถามขึ้น

“ไม่อะ  ชาอยากดูหนังมากกว่า”

“เรื่องไรครับ”

“เรื่องที่พีทเบี้ยวชาวันนั้นไง” ชายอ้มหวานให้อีกฝ่าย เขายังไม่ลืมเรื่องหนังหรอกนะ

พีททำหน้านึกขึ้นได้ และเดินตามอีกฝ่ายไปอย่างไม่บ่น










********************************************************

มาต่อแล้วครับ  ตอนนี้ยังไม่มีอะไรมากมายแค่เล่าในสิ่งที่ชาเจอ และบ้าพีทเล็กน่อย

ตอนหน้าไปรู้จักบ้านชากัน

ยังไงก็ติชมกันได้นะครับ   ฝาก #พีทชา ด้วยนะครับ ไปพูดคุยกันได้ในทวิตเตอร์

ฝากแฟนเพจคนเขียนด้วยครับ ไปพูดคุยกันได้
https://www.facebook.com/Tanyapuech-1448764075422477/?ref=bookmarks

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่2 21.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: azure ที่ 21-06-2018 23:15:30
ชาดูเป็นแฟนที่น่ารัก ไม่งี่เง่า  :mew1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่2 21.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 22-06-2018 01:00:17
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่2 21.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 22-06-2018 11:36:22
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่2 21.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 23-06-2018 15:17:38
 :-[
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่3 23.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 23-06-2018 23:18:48
Partner of life  คู่ชีวิต


ตอนที่3



“พรุ่งนี้ชากลับบ้านนะ” ชาพูดขณะเดินออกจากห้องน้ำพลางเช็ดผม

“กลับทำไม  แล้วพีทจะอยู่กับใคร” พีทมีอาการงอแงทันที และก็เป็นแบบนี้บ่อยเวลาเชาต้องกลับบ้าน กลับไปค้างที่บ้าน

“พีทก็กลับบ้านบ้างสิ” ชาพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายนอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียง

“เบื่ออะ ขี้เกียจกลับไปตีกับพี่พล เมื่อคืนยังเล่นพีทหนัก ยังแค้นไม่หาย”

“เอาหน่า ถ้าไม่อยากนอนคอนโดคนเดียวก็กลับไปบ้านเถอะ” ชาตอบพร้อมนั่งเป่าผมให้แห้ง

“ก็ได้ เดี๋ยวพีทบอกอีกทีละกัน” พีทเงียบไปแปปนึงก่อนถามต่อ “แล้วชาจะกลับยังไง”

“เดี๋ยวไปลงบีทีเอสละให้พี่เชนมารับที่บีทีเอส”

“พูดถึงพี่เชน ไม่ค่อยได้เจอเลยตั้งแต่เรียนจบ” พีทถามถึงพี่ชายคนกลางของอีกฝ่าย พี่เชนเป็นคนที่ยอมไฟเขียวให้เขาคบกับชา เขาเคารพพี่เชนมาก นอกจากเป็นพี่ชายของคนรักแล้วยังเป็นพี่ในคณะที่สนิท

“ไปต่อโทที่อังกฤษมา เพิ่งกลับมาอะ”

“โห เจ๋ง  ปบบนี้พี่เชนมีเมียฝรั่งไปยัง”

“เหอะ พาเมียฝรั่งเข้าบ้านแม่ฉีกอกเอาแน่นอน” ชาพูดพร้อมส่ายหน้าวสงไดร์เป่าผมลง คิดถึงแม่เขาละนึกถึงระเบิดลงบ้านแน่นอน

“ฮ่าๆ จะว่าไปยังไม่รู้จักครอบคัรวชาเลยนอกจากพี่เชน”

“เราก็ไม่เคยรู้จักครอบครัวพีทเหมือนกัน” ขาตอบพร้อมหันมามองหน้าอีกฝ่าย บรรยากาศเงียบลงทันที  เหมือนมหมอกอะไรบางอย่างมากั้นเขาสองคนไว้

ที่ผ่านมาเขารักกันมาก แต่มันก็รักกันอยู่สองคน ถ้าจะเดินด้วยกันต่อไป

ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายก็เป็นสิ่งสำคัญ

“เอ่อ แล้วพรุ่งนี้ชาจะออกกี่โมง” พีทเปลี่ยนเรื่องเมื่อรับรู้ได้ถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป

“ออกเช้าเลย” ชาตอบพร้อมเดินไปนอนข้างๆอีกฝ่าย  ชาสอดตัวเข้าไปกอดอีกฝ่ายพร้อมซบลงบนอกแกร่ง

“อ้อนแบบนี้จะเอาอะไร” พีทตอบพร้อมลูบหัวคนรัก  เขาชอบเวลาชาอ้อนที่สุด น่ารักที่สุด

“เปล่า แค่อยากกอดไม่ได้เหรอ” ชาตอบพร้อมเงยหน้ามองอีกฝ่าย

ทั้งสองคนสบตากับพร้อมใบหน้าที่โน้มเข้าหากัน ริมฝีปากทั้งสองแตะกันจากค่อยๆจูบกลายเป็นร้อนแรงจนชาต้องยึดไหล่อีกฝ่ายไว้

“ขอตุนหน่อยสิ จะไม่ได้กอดตั้งสองวัน” พีทกระซฺบเสียงแหบพร่าเต็มไปด้วยอารมณ์

ชายิ้มยั่วพร้อมขึ้นคร่อมอีกฝ่ายใช่บั้นท้านสวยเสียดสีส่วนกลางของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ริมฝีปากค่อยๆจูบไล่ไปตามลำคอแกร่ง

“อื้อออ  ยั่วกันใช่มั้ย”

พีทเหวี่ยงอีกฝ่ายลงพร้อมขึ้นคร่อม เขาบดจูบอรกฝ่ายอย่างร้อนแรงก่อนจะรีบกระชากเสื้อผ้าทุกชิ้นที่กั้นเขาทั้งสองคนไว้

“อ๊ะ  พีท  อื้ออออ” ชาเด้งอกขึ้นทันทีที่อีกฝ่ายชิมยอดอีกสีสวยพร้อมทำรอยรักไว้บนอกขาว

“อื้ออออ  ลึกๆเลยที่รัก  อ๊ะ  แรงอีก  แรงอีก”

“ได้เลยที่รัก  อ๊ะ  รัดเค้าไปแล้ว”

“อื้ออ ไม่ไหสปล้ว อ๊ะ”

“พร้อมกันนะที่รัก อื้ออออออ”

พีทซบลงบนอกขาวอย่างเหนื่อยหอบเขามองหน้าคนรักของตัวเองก่อนจะยิ้มให้อีกฝ่ายพร้อมจูบหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆ

“พีทรักชานะครับ”

“ชาก็รักพีท” ชาตอบพร้อมจูบริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน






“ว่าไงเราเป็นไงบ้างไม่เจอกันนาน” พี่ชายคนกลางเขาทักขึ้นทันทีที่นั่งบนรถ

“ก็ดีพี่เชน  พี่เชนละตั้งแต่เรียนจบเที่ยวจะหมดประเทศยัง” เขาหันไปแซวพี่ชายที่หลังเรียนจบขอแม่เที่ยวพักผ่อนก่อนเริ่มทำงาน

“เกือบครบ77จังหวัดละ ฮ่าๆ” เขาตอบพร้อมมองสีหน้าอันสดใสของน้องชาย  ชาเป็นเด็กน่ารัก เหมาะกับรอยยิ้มสดใสที่สุดแล้ว “เรากับไอ้พีทเป็นไงบ้าง”

“ก็ดีพี่”

“จะเรียนจบกันแล้ววางแผนยังจะเอาไงกันต่อ” เชนถามขึ้นอย่างเป็นห่วง

ชานิ่งไปทันที   เรียนจบจะเอาไงต่อเหรอ เขาแอบคิดไว้บ้างว่าอาจเรียนต่อ แต่อีกฝ่ายเขาก็ไม่รู้เลยว่าคิดอะไรอยู่

เราไม่เคยคุยกัน

“ไม่รู้เหมือนกันพี่” ชาตอบพร้อมนิ่งลงไปอย่างเห็นได้ชัด

“คิดกันได้แล้วนะ  เรียนจบกันแล้ว เริ่มเป็นผู้ใหญ่แล้ว มันไม่ง่ายเหมือนเด็กๆคบกันแล้วนะ”

“ชารู้”

“เอาหน่า อย่าเพิ่งคิดมาก เดี๋ยวถึงเวลาเราก็รู้กันเอง” เชนตอบพร้อมลูบหัวน้องชายเบาๆ

ชาเหม่อมมองข้างทาง  เขาคิดว่าบางทีอาจจะถึงเวลาที่เขาต้องคุยเรื่องอนาคตกับพีทบ้างสักที



“น้องชา คุณแม่คิดถึงจังเลย” แม่ของเขาเข้ามากอดเขาเต็มแรง ชากอดตอบผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้ม

“ชาก็คิดถึงคุณแม่ครับ” ชาตอบด้วยรอยยิ้มหวาน

“คิดถึงคุณแม่แล้วทำไมไม่ค่อยโทรหาคุณแม่เลยละ”

“เอ่อ ชาไม่ค่อยว่างนะคัรบ ใกล้จบละเรียนหนัก” ชาฉีกยิ้มอ้อนให้แม่

“คุณก็จะไปคาดคั้นลูกทำไม” มล.องอาจพูดขึ้น ชายิ้มหวานให้พ่อพร้อมยกมือไหว้

“สวัสดีครับพ่อ”

ผู้เป็นพ่อยิ้มรับพร้อมลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

“ไปกินข้าวกันเถอะ แม่ให้จิตรเตรียมโต๊ะไว้ให้เรียนร้อยแล้ว” มล.นภา ตอบพร้อมจูงมือลูกชายเดินเข้าไปในห้องอาหาร ซึ่งมีพี่ชายคนโตเขานั่งอยู่

“พอน้องชามาทุกคนก็ไปโอ๋น้องชาหมดเลยนะ” ชัช พี่ชายคนโตทักขึ้นทพเอาน้องชายรีบเข้าไปอ้อน

“พี่ชัชไม่งอนนะ น้องชาคิดถึงพี่ชัชจังเลย”

“พี่ก็คิดถึงเรา” ชัชตอบพร้อมลูบหัวน้องชายคนเล็กอย่างเอ็นดู “แต่เราเงียบหายไปเลยนะ วันนั้นพี่ผ่านคอนโดจะเข้าไปหา ข้างล่างก็บอกว่าเราไม่อยู่เลยไม่ได้โทรหา”

ชาชะงักทันที เขาหันไปสบตากับพี่ชายคนรอง “เอ่อ ชาคงออกไปข้างนอกกับเพื่อนนะครับ”

“ติดเพื่อนเหรอเรา  แต่ติดเพื่อนก็ดีแล้ว ดีกว่าไปติดอย่างอื่น” ชัชพูดขึ้นพร้อมจ้องมองเขา เขารีบยิ้มหวานกลบเกลื่อนไปนั่งที่ของตน

“น้องชาจะไปติดใครได้ละตาชัช น้องยังเด็ก ยังไม่คิดเรื่องแบบนั้นหรอกใช่มั้ยลูก” มลนภาถามขึ้น

“เอ่อ ครับ”

“กินข้าวกันดีกว่า เชนหิวละ” เชนพูดขึ้นช่วยน้องชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มไปไม่ถูก

อาหารตรงหน้าล้วนเป็นอาหารตำรับชาววัง ใช่ บ้านเขาเป็นวังเก่า และตระกูลเขาก็สืบเชื้อสายกษัตริย์  เขามีแม่และพ่อเป็นหม่อมหลวง มียายเป็นหม่อมราชวงศ์ ซึ่งหม่อมยายอยู่ในวังใหญ่  เป็นรุ่นหลานจึงไม่มีคำนำหน้า แค่มี ณ อยุธยา ห้อยหลังนามสกุล ซึ่งเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องที่บ้านให้ใครฟังเท่าไหร่ ทุกคนรับรู้แค่ว่าพ่อเขามีกิจการส่วนตัว และแม่เป็นผู้ดีเก่า ปต่ไม่มีใครรู้ว่าเชื้อสายเขาจะใกล้กว่าที่คิด

“ของชอบน้องชาทั้งนั้นเลย กินเยอะๆนะ” มล.นภาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขามองลูกชายคนเล็กด้วยความรักใคร่ ในบรรดาลูกเขาเป็นห่วงลูกคนเล็กมากที่สุด ชาเป็นคนน่ารัก สดใสเหมือนผ้าขาว เธออยากจะกป้องลูกถึงที่สุด ไม่อยากให้มีรอยเปื้อน  ชาคือคนที่มีความเป็นราชนิกุลสุดแล้วในบรรดาลูกเขา  ชีชคนโตก็เหมือนกัน โดนอบรมมาอย่างพี่คนโต ผู้ดีทุกระเบียบนิ้ว เรียนรู้งานจากพ่อ และสานต่อได้อย่างชำนาญ  ส่วนคนกลาง ตาเชนดูผ่าเหล่าสุด ใจร้อน ห่าม แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่เธอรับได้ เชนจึงดูเป็นปถุชนสุด

“หม่อมลงครัวมาทำอาหารให้คุณหนูเองเลยนะคะ” จิตร สาวใช้ในบ้านที่อยู่มาตั้งแต่รุ่นยายพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“จริงเหรอครับ กินที่ไหนก็ไม่อร่อยเท่าที่วังสวัสดิกรแล้ว” ชาตอบด้วยรอยยิ้ม

“โอ๋น้องชากันเข้าไป  ผมเป็นหมาหัวเน่าแล้ววมั้ง” เขนพูดขึ้นอย่างอดหมั่นไส้ไม่ได้  ทุกคนโอ๋น้องชาเสมอ น้องชาคือน้องน้อยของบ้าน เด็กน้อยที่โตมาท่ามกลางความรัก รอยยิ้มหวานที่ทำให้ทุกคนต้องยิ้มตาม

ถ้าคุณแม่รู้ว่าอยู่มหาลัยน้องมีแฟนเป็นใครละก๊อกแตกตายแน่ๆ

“อย่ามาทำเป็นงอนเลยตาเชน เราละเรียนจบมาสักพักละเมื่อไหร่จะเข้ามาช่วยงานพี่เขา” มล.นภาพูดขึ้น

“นี่ไงครับ กลับมาแล้ว พร้อมลุยงานแล้ว”

“ดี งั้นวันจันทร์ก็เข้าไปหาพี่เขาเลยแล้วกัน” มล.องอาจพูดขึ้น

“โห ได้ทีสั่งเลยนะคุณพ่อ”

“ฮ่าๆ”  ทั้งโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

กินข้าวเสร็จเขานั่งดูโทรทัศน์กับที่บ้านซึ่งตั้งแต่โตก็นานกว่าจะมีเวลาอยู่ร่วมกัน

“ข่าวสมัยนี้แม่ดูแล้วกลัวจริงๆ ทั้งฆ่าข่มขืน ยิงกัน สังคมมันโหดร้ายจริงๆ” มล.นภาพูดขึ้น

“หม่อมแม่ก็อย่าไปดูสิครับ” เขนพูดแซวขึ้น แม่เขาไม่ชอบให้เรียกว่าหม่อมแม่ตั้งแต่เด็ก เพราะแม่มองว่ามันห่างเหินไป

“อย่ามาเรียกแม่อย่างนั้นนะตาเชน” มล.นภาหันไปมองลูกชายคนกลางตาเขียว

“เชน เราก็อย่าไปแกล้งคุณแม่สิ” ชัชห้ามทัพทันทีเขารู้ว่าสองคนนี้มักจะมีปากเสียงกันเสมอ เพราะน้องชายก็ชอบแหย่ ส่วนแม่เขาก็เถรตรง

พวกเขานั่งดูโทรทัศน์ไปจนมาถึงข่าวเกี่ยวกับคนที่มีเรื่องกันในผับ สถานที่กลางคืน มล.นภาจึงพูดขึ้นอีก

“ชาอย่าไปเที่ยวที่แบบนะครับ แม่ละเป็นห่วงจริงๆ”

“เอ่อ ชาไม่ไปหรอกครับ” ชาตอบพร้อมยิ้มแหยๆ เขาไม่อยากโกหกแต่ถ้าบอกความจริงแม่ไปต้องโดนสอบยาวแน่ๆ แต่เขาไปไม่บ่อย นานๆที

พวกที่ทำธุรกิจแบบนี้แม่ไม่ชอบเลย  มอมเมาคนอื่น ธุรกิจมีตั้งเยอะแยะแต่กลับไปขายเหล้า ขายเบียร์”

คำพูดของแม่ทำเอาเขาชะงัก  เอ่อ บ้านพีทเปิดผับซะด้วย

“ละยิ่งพวกมาเฟยหัวไม้นะ แม่ละไม่ชอบเลย  ชาอย่าไปอยู่ใกล้พวกนี้นะลูก” มล.นภพูดพร้อมหันมามองลูกชาย

“เอ่ ครับ” ชาตอบอย่าอดไม่ได้ เขาหันไปสบตาพี่เชนทันที

“มันก็ธุรกิจแบบนึงหน่าคุณแม่ เขาเปิดเพราะให้คนเรามาผ่อนคลายสังรรค์  ถูกกฎหมายก็ไม่ผิดอะไรนิ” เชนพูดช่วยน้องชายเมื่อเห็นว่าชาเริ่มมีสีหน้าไม่ดี

“ต่อให้ถูกกฎหมายแม่ก็ไม่ชอบหรอก น่ากลัวจะตารยพวกนี้”

จบคำพูดของแม่ทำเอาชาคิดไม่ตก ความคิดที่คิดว่าจะพาพีทมาทำความรู้จักที่บ้านทำเอาเขาเริ่มคิดหนัก  เขารู้จักแม่ตัวเองดี แม่เป็นที่โดนอบรมมาแบบในวังจนเถรตรงเกินไป ไม่ชอบอะไรก็ไม่ชอบตรงๆ  ถ้าแม่รู้ว่าที่บ้านพีททำงานอะไรละก็ ตายแน่ๆ!!

“เออ เดี๋ยวตอนเย็นๆต้องเข้าไปหาหม่อมแม่ของคุณในวีงใหญ่ใช่มั้ย” มล.องอาจพูดขึ้น

“ใช่ คุณแม่ลืมบอกพวกเราเลย เดี๋ยวตอนเย็นไปกินข้าวกันที่วังใหญ่หม่อมย่านะ หม่อมย่าอยากเจอหลานๆ”

“ได้ครับ”  ทั้งสามคนพยักหน้ารับคำ


“คิดมากที่คุณแม่พูดไหม”

ชาสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงพี่ชายคนกลาง เขาหันไปมงอพร้อมรอยยิ้ม

“นิดหน่อยครับ”  ชาตอบพร้อมทอดสายตามองดอกไม้ในสวน เขามานั่งเล่นรับลมในสวนดอกไม้ เพื่อระงับความคิดที่เริ่มตีรวนขึ้นมาในใจ

“อย่าคิดมากไปเลย เมื่อถึงเวลาคุณแม่คงไม่ว่าอะไรหรอก” เขนพูดปลอบน้องชาย แม้ว่าลึกๆเขาจะรุ้จักแม่ตัวเองดี

“ชาก็หวังให้เป็นอย่างนั้นครับ”

“เอาหน่า อย่าทำหน้าเป็นหมาหงอยแบบนี้สิ ไม่น่ารักเลย” เชนพูดพร้อมยิ้มมอย่างอ่อนโยนให้น้องชาย

“เห้อ  ยังดีที่มีพี่เขนที่รู้เรื่องและรับฟัง ไม่งั้นชาคงอกแตกตายแน่ๆ”

“มีอะไรเราก็พูดกับพี่ได้”

ชาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนหันไปมองพี่ชายตัวเองพร้อมถามคำถามที่อยู่ในใจมาตลอดหลายวัน

“ชาเคยคิดนะพี่เชนว่าคนเราเป็นแฟนกัน แค่รักกัน แค่นั้นมันไม่พอเหรอ ชาคบกับพีทตั้งแต่ปีหนึ่ง นี่ก็สามปีกหว่าแล้ว เรามั่นใจในกันและกัน ไม่มีใครทำอะไรเราสองคนได้ มีคนเข้ามาทั้งคู่แต่เราก็จับมือกันแน่นพอ” ชาเว้นวรรคก่อนพูดต่อ “แต่พอโตขึ้น ใกล้เรียนจบ เริ่มเป็นผู้ใหญ่ ทำไมชายิ่งรู่สึกว่าคำว่ารักคำเดียวมันไม่พอ ไหนจะครอบครัว สังคม อะไรต่างๆมากมายและที่สำคัญ อนาคต มันเป็นไง ความมั่นคงอีก  โอ๊ย ปวดหัวเลย”

ชากุมขมับตัวเองทันที

“พี่ก็พูดไรมากไม่ได้หรอกเพราะพี่โสด ฮ่าๆ” เชนพยายามไม่ให้น้องเครียดเกินไป “เอาจริงๆเราอย่าเพิ่งคิดมากไปเลย อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด”

“ชาก็ว่างั้น”

“ยังไงเราก็กลับคอนบ้าง อย่าอยู่แต่ห้องไอ้พีท  พี่ชัชไม่ใช่คนโง่และจะปิดได้ง่ายๆ  กันไว้ดีกว่า” เขนบอกในสิ่งที่เขากังวล  ถ้าพี่ชายคนโตเขารู้ ไม่มีทางที่แม่จะไม่รู้

“ครับ  ชาจะกลับไปนอนคอนบ้าง” ถ้าพีทรู้ต้องไม่ยอมแน่ๆ

ถ้าวันนั้นมาถึง วันที่ทุกอย่างไม่ใช่ความลับอีกต่อไป  เขาก็แค่ภาวนาให้เขาทั้งสองจะจับมือกันแน่นพอเหมือนที่ผ่านๆมา

เขาไม่กังวลแค่พีทจะปล่อยมือ เขากังวลตัวเองด้วยว่าจะรับแรงกดดันมากมายได้หรือเปล่า

ดีนะที่ไม่มีอะไรให้คิดมากเพิ่มไปอีก










*****************************************************************

มาต่อแล้วครับ บ้านน้องชาไม่ธรรมดาซะด้วย

พีทถ้าได้เจอแม่ยายจะเป็นไง ควสนุกแน่ๆ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ  :กอด1: :pig4:

ฝาก #พีทชา ในมทวิตเตอร์ด้วยครับไป พูดคุย ติ ชม กันได้



หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่3 23.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-06-2018 00:38:20
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 27-06-2018 01:06:26
Partner of life คู่ชีวิต


ตอนที่4



ตอนเย็นพวกเขาเข้ามาในวังใหญ่ของหม่อมยาย วังหลังใหญ่กว่าบ้านเขาที่ตกแต่งไม่ต่างจากหนังพีเรียดสมัยก่อน ทุกอย่างผู้ดีทุกระเบียบนิ้วถ้าเป็นคนอื่นมาคงเกร็ง แต่เขามาตั้งแต่เด็กเลยชิน  หลังทานอาหารเย็นเสร็จ อยู่ดีดีหม่อมยายก็เรียกเขาและแม่เข้าไปคุยในห้องอ่านหนังสือ

“นั่งสิชา” หม่อมยายพูดขึ้น

“ครับหม่อมย่า”

“มีอะไรค่ะหม่อมแม่ ถึงเรียกภาและลูกมาคุยเป็นการส่วนตัว” เธอแอบตกใจไม่น้อย

“ปีนี้ชาอายุเท่าไหร่แล้ว” หม่อมยายถามขึ้น

“เอ่อ 22ปีแล้วครับ”

“ก็โตพอจะออกเรือนแล้ว” หม่อมยายพูดพร้อมกวาดสายตามองหลายชาย ใบหน้า ดวงตา ผิวพรรณ ถอดแบบฉบับนภาออกมาหมด เป็นผู้ดีทุกระเบียบ สืบเชื้อสายของเธอมาอย่างเต็มเปี่ยม

“หม่อมแม่พูดอะไรคะ ชายังเด็กอยู่เลย” มล.นภาแย้งทันที

“เธอเลิกโอ๋ลูกซะทีนภา” หม่อมยายดุลูก นภาก็เป็นแบบนี้เสมอ โอ๋ลูกเกินไป

ชายิ้มน้อยๆมองแม่ที่หน้ามุ่ยเมื่อโดนดุ หม่อมยายของเขายังสวยและดูดีอยู่มาก กิริยา ท่าทาง ทุกอย่างคือคนที่ได้รับการฝึกฝนและรู้จักวางตัว


“เธอได้บอกลูกบ้างมั้ยเรื่องตระกูลของเรา” หม่อมยายเข้าเรื่อง

“เอ่อ เรื่องอะไรเหรอคะ”

“นภา!  เธอลืมเรื่องสำคัญได้ไง”

“ก็หนู เอ่อ....” แม่ยังไม่ทันจะพูดจบหม่อมยายก็ยกมือห้ามพร้อมพูดแทน

“ชารู้ไหม  ว่าตระกูลเรามีเรื่องนึงที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคนแล้ว”

“เอ่อ ชา ไม่รู้ครับ” เขาหันไปมองแม่งงๆ ในขณะที่แม่เขานั้นกำลังนั่งคิดแต่ไม่นานก็ตาโตออกมา

“งั้นยายจะบอกให้   ลูกชายคนเล็กของตระกูลเรามักจะท้องได้” หม่อมยายพูดพร้อมจ้องมองเขา

คำพูดหม่อมยายทำเอาชาอึ้ง  ที่อึ้งกว่าคือคุณแม่ที่รีบแทรกขึ้นมาทันที

“แต่ชาไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นหรอกค่ะหม่อมแม่”

“ใครจะไปรู้ละ เด็กวัยรุ่นเดี๋ยวนี้ โลกมันหมุนไปขนาดไหนแล้วนภา ยายไม่เคยจะไปยุ่งเกี่ยวหรอกนะ แต่ที่ยายพูดเพื่อเตือน ถ้ายังไม่พร้อมก็ควรที่จะป้องกัน” หม่อมยายพูดพร้อมสำรวจร่างกายเขาพร้อมพูดต่อ “ถึงเดี๋ยวนี้ผู้ชายที่ท้องได้จะน้อยลงมาก แต่ตระกูลเรายังมีมาตลอด แล้วอีกอย่างแบบชา ก็คงไม่คิดรักชอบกับผู้หญิงหรอกใช่มั้ย”

“ครับ หม่อมยาย” ชารับคำพร้อมก้มหน้าเล็กน้อย สายตายายเหมือนกำลังสแกนเขาอยู่ ชากำมือแน่น เขาไม่รู้มาก่อน เพราะมองว่าที่ผ่านมาไม่มีเหตุอะไรเกิดขึ้นจึงปล่อยปะละเลย ไม่คิดสนใจเรื่องนี้

“ชามีแฟนหรือเปล่าตอนนี้” หม่อมยายถามต่อ

“เอ่อ คือ” ชาหันไปมองแม่ที่มองมาที่เขาอย่างต้องการคำตอบ

“ตอบยายมาตรงๆ”

“ไม่มีครับ” ชาตอบพร้อมบีบมือเข้าหากันแน่นกว่าเดิม เขาไม่อยากจะโกหก แต่สายตาแม่ที่มองมา ถ้าเขาบอกว่ามีแฟนต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ

“ชา! เห้อ ลูกทำแม่เกือบใจหายใจคว่ำ” มล.นภาเสียงดังขึ้นอย่างตกใจ เธอรู้ว่าวัยรุ่นคงห้ามกันไม่ได้ แต่เธอก็อดจะเป็นห่วงไม่ได้

“นภาเธอจะเสียงดังทำไม” หม่อมยายเอ็ดพร้อมหันมาพูดกับหลานชายของตน “แต่ยังไงก็ชาต้องระวังเรื่องนี้นะ ถ้าพลาดขึ้นมาตอนไม่พร้อม มันจะเป็นเรื่องใหญ่”

“ครับ หม่อมยาย” ชายังบีบมือเข้าหากันแน่นไม่ปล่อย เขารู้สึกแน่นอกไปหมด เขาไม่ชอบการโกหกเลย แต่เขากำลังทำมัน

หม่อมยายมองหลานตัวเองที่ไม่ยอมสบตา คนผ่านโลกมาก่อนจึงมองเห็น หลานชายเธอกำลังโกหก ไม่ได้ตั้งใจโกหกเธอ แต่ตั้งใจโกหกนภามากกว่า ถ้านภารู้ คงเป็นเรื่องใหญ่ตามนิสัยที่เป็นห่วงลูกคนเล็กเกินไปของอีกฝ่าย

“ยายก็ไม่มีอะไรแล้วละ แค่อยากบอกให้รู้  และรู้จักป้องกัน เพราะตอนนี้ร่างกายเราคงเจริญวัยเต็มที่ตามสิ่งสืบทอดของตระกูลของเราแล้ว ถ้าเกิดอะไรขึ้น จะพลาดเอาได้”

“ครับยาย” ชายกมือไหว้อีกฝ่ายโดยที่เขาไม่กล้าสบตาสักนิด



เช้าวันต่อมาเขารีบกลับมาที่คอนโดทันที เขาบอกแม่ว่ามีงานส่งด่วน แต่ความจริงเปล่าเลย เขากำลังกังวลใจกับเรื่องที่ยายพูดมากกว่า

ระหว่างที่เขากำลังไขกุญแจเขาไปนั้น เขาเปิดประตูออกมาก็เจอซากของเหล้า เบียร์เต็มพื้นหน้าทีวี ไหนจะกับแกล้มที่เป็นซากจานเต็มไปหมด บนโซฟาและข้างๆก็เจอผู้ชายตัวใหญ่ๆสี่คนนอนเรียงรายไปมา

“พีท!!”  ชาเรียกเสียงดังอย่างเหลืออด

“เสียงใครวะ  เอ้ย   ชา!” พีทงัวเงียตื่น เมื่อเห็นชาเขาเบิกตากว้างทันที

“ไหนบอกว่าเมื่อคืนเล่นเกมส์กันเฉยๆไง!” ชาเริ่มขึ้นเสียง  เขารีบกลับมาเพื่อจะปรึกษาหารือกับอีกฝ่ายในสิ่งที่กำลังเครียด แต่ดูอีกฝ่ายทำตัวสิ!

“พอดี  เอ่อ พอเล่นเกมส์กันเบื่อๆก็ดื่มกันนิดหน่อย” พีทก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เขารีบวิ่งมาจับมือชาไว้ทันที “เมื่อคืนพีทจะไลน์บอกชาแล้ว แต่เห็นว่าชานอนไว้เลยไม่กวน ชาไม่ได้บอกพีทนิว่าจะกลับวันนี้เลย”

ชาสะบัดมืออกจากอีกฝ่ายทันที ชาจ้องหน้าพีทอย่างเหลืออด เขาเครียด ปวดหัวไปหมด แล้วสิ่งที่เขากลับมาเจอทำให้เครียดกว่าเดิม

“เมื่อไหร่พีทจะเลิกกินเหล้าสักที สอบก็จะสอบ เรียนก็ใกล้จะจบ เคยคิดจะทำอย่างอื่นบ้างมั้ยนอกจากกินเหล้าและเล่นเกมส์อะห้ะ!”

พีทตกใจทันทีที่เห็นท่าทีของชา  เขาสองคนทะเลาะกันขนาดไหนชาก็ไม่เคยดูโมโหขนาดนี้มาก่อน

เพื่อนๆชาเริ่มรู้สึกตัวมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วหันมามองหน้ากันเอง ต้นเลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากขึ้นเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี

“เอ่อ เราผิดเองชา เราเป็นคนชวนไอ้พีทดื่มเอง”

“ไม่ต้องพูดเลยต้น  แต่นี่มันห้องพีท ถ้าพีทไม่ยอมก็คือจบ ชอบดื่มอยู่แล้วนิ พอได้จังหวะก็คงสมใจ”  ชารู้สึกอารมณ์เสียไปหมด  เขากวาดสายตามองไปรอบๆห้องแล้วยิ่งโมโห เขาไม่อยู่แค่วันเดียว ทำไมห้องรกได้ขนาดนี้

“ไอ้ต้นมึงไม่ต้องพูดหรอก พูดไปยังไงตอนนี้กูก็ผิด” พีทเริ่มไม่เข้าใจอีกฝ่ายเหมือนกัน จะโมโหอะไรนักหนา ใช่ว่าเขาจะไม่เคยพาเพื่อนมาปาร์ตี้ที่ห้อง

“รู้ตัวว่าผิดก็ดีพีท” ชาถอนหายใจพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่าย “ยังไงก็ได้โปรดเก็บห้องด้วยก่อนจะเละไปมากกว่านี้ ชาเบื่อที่ต้องมาตามเก็บตามเช็ดแล้ว”

ขาพูดจบสะบัดหน้าเข้าห้องนอนไปทันที

พีทยืนอึ้งกับคำพูดของอีกฝ่าย เขาไม่ชอบคำว่าเบื่อ และอีกฝ่ายก็พูดมันออกมา

“ไอ้พีทมึงใจเย็นๆนะ” เฟรมที่อยู่ใกล้เห็นสีหน้าเพื่อนแล้วต้องรีบพูดขึ้น

“อยู่กับกูมันเบื่อขนาดนั้นเหรอวะ” พีทเริ่มนิ่งและโกรธอีกฝ่ายขึ้นมาด้วย  เขารีบเดินไปเก็บซากเมื่อคืนเสียงดังอย่างอารมณ์เสีย  เพื่อนทั้งสามคนมองหน้ากันแต่ไม่มีใครกล้าพูดได้แต่ช่วยเก็บของจนห้องสะอาดเหมือนเดิม

“พวกกูกลับละนะมึง ใจเย็นๆนะ ค่อยๆคุยกัน” เจมส์พูดขึ้น นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เขาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันเสียงดัง

“เออ กลับดีๆมึง” พีทที่เริ่มเย็นลงแล้วพูดพร้อมพยักหน้าให้เพื่อน



พีทเดินเข้ามาในห้องเขาเห็นชานั่งกดมือถืออยู่บนเตียงพอเขาเข้ามาอีกฝ่ายก็วางทันที

“เข้าไปอาบน้ำได้ละพีท เหม็นกลิ่นเหล้า” ชาพูดพร้อมมองพีทที่เปลือยท่อนบน หัวฟู ตาโรย คงได้นอนไม่กี่ชั่วโมงสินะ

“มาถึงก็สั่ง สั่ง สั่งเก่ง” พีทพูดพร้อมหยิบผ้าขนหนู

ปัง!

เสียงปิดประตูห้องน้ำเสียงดังลั่นทำเอาชาสะดุ้ง  ชาเม้มปากแน่น เขารู้ว่าพีทไม่พอใจ และเขาก็ไม่พอใจเหมือนกันกับการกระทำของอีกฝ่าย

ชานั่งมองพีทที่นั่งเป่าผมอยู่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมา เงียบใส่กัน จนบรรยากาศอึดอัด เหมือนกำลังเล่นสงครามประสาทกัน

“ทำไมถึงกลับไวล่ะ” พีทถอนหายใจพร้อมเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน เขายอมแพ้ก็ได้

“ทำไมล่ะ ถ้าไม่กลับไวจะได้มาเห็นว่าพีทแอบกินเหล้าเหรอ” ชาเริ่มควบคุตัวเองไม่ได้ ทำไมเขาถึงประชดเก่งขึ้น

“พีทไม่ได้แอบ แต่ไม่ได้บอกเพราะชานอนแล้ว” พีทหันมาจ้องหน้าอีกฝ่าย ชาไปเจออะไรที่บ้านมาถึงกลับมายังกับกินรังแตนมา

“ไม่ได้บอกก็คือแอบ” ชาจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้ ชาถอนหายใจเล็กน้อยอย่างระงับอารมณ์ เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเริ่มงี่เง่า

“เอาเป็นว่าเรื่องนี้พีทขอโทษละกัน” พีทพูดขึ้นพร้อมมองหน้าคนรักที่มีแววเครียดจากอะไรบางอย่าง

“อื้ม” ชารับคำ พีทเลยเดินเข้าไปหาพร้อมนั่งจ้องหน้าจับมืออีกฝ่ายไว้

“ชาเป็นอะไร เครียดอะไรหรือเปล่า” พีทพูดขึ้น

“เห้อ  พีทชารู้สึกสับสน”

“สับสนอะไร”

“เราสองคนคบกันมาสามปีแล้วใช่มั้ย แต่เรายังไม่รู้จักครอบครัวของพีทเลย และพีทก็ไม่เคยรู้จักครอบครัวของเรา” ชาสบตาอีกฝ่ายเริ่มพูดอย่างจริงจัง

“รู้จักสิ ชารู้ว่าครอบครัวเราทำอาชีพอะไร เราก็รู้ว่าบ้านชาทำธุรกิจ เรารู้จักพี่เชนพี่ชายชา”

“ก็ใช่ แต่มันควรถึงเวลาแล้วมั้ยที่จะรู้จักกันอย่างจริงจัง ไปพบเจอหน้ากัน”

คำพูดของชาทำเอาพีทนิ่งไป

“ชาไม่ได้จะเร่งรัดอะไรนะพีท แต่นี่เราจะเรียนจบกันแล้วไหม เรียนจบจะเอาไงต่อ คิดจะแค่คบกันไปเรื่อยๆแบบนี้ หรือคิดจะจริงจัง” ชาพูดจบจ้องหน้าอีกฝ่าย เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยจนเจอเหตุการณ์ต่างๆ หรือที่ผ่านมาเขาคิดน้อยไป

“เอางี้ เรียนจบเดี๋ยวพีทพาชาไปรู้จักกับที่บ้าน และชาก็พาพีทไปรู้จักกับที่บ้านดีมั้ย” พีทพูดพร้อมลูบมืออีกฝ่ายเบาๆอย่างปลอบโยน เขารับรู้ได้ถึงความเครียดของชาผ่านแววตา

“ก็ดีนะ” ฃามีท่าทีอ่อนลง  เขาคิดในใจว่าอีกเดือนกว่าๆที่จะเรียนจบ  หวังว่าจะไม่ช้าไปใช่มั้ยที่จะไปรู้จักครอบครัวของกันและกัน

“ไม่เครียดแล้วนะครับ  ไปเจอไรมานี่ ใครพูดอะไรมา” พีทพูดเสียงนุ่มอย่างเอ็นดูอีกฝ่าย ชาเหวี่ยงๆ แบบนี้ก็น่ารักดี แต่เป็นแบบปกติดีกว่า

“เปล่า ชาแค่ไปเจอคำถามมาว่าเรียนจบจะทำอะไรต่อ และจะเอายังไงกับความรัก ชารู้สึกอึดอัดที่ตอบไม่ได้เลย เพราะเราสองคนไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย”

“เรียนจบเราสองคนก็ยังอยู่ด้วยกันแบบนี้ไง แค่เราสองคนรักกันก็พอแล้ว จะไปสนใจอะไรความคิดของคนอื่นว่าต้องเป็นนู้นนี้นั้น”

“แต่อนาคตความมั่นคงก็สำคัญนะพีท”

“ไม่ต้องห่วงหน่าชา พีทมีเงิน บ้านพีทรวย เลี้ยงชาได้ทั้งชีวิตแน่นอน” พีทยิ้มทะเล้น ทำเอาชายิ้มออกมาน้อยๆ แม้ว่าในใจกลับหนักอึ้งกับคำพูอีกฝ่าย

พีทไม่เคยวางแผนว่าจะทำอะไรนอกจากขอเงินที่บ้าน

“พีทไม่คิดจะทำงานบ้างเหรอ” ชาอดถามขึ้นมาไม่ได้

“อาจจะไปช่วยงานที่ผับมั้ง แต่ไม่รีบหรอก เรียนจบพีทขออยู่กับชาก่อน” พูดจบกอดชาแน่น เขาไม่เคยคิดอะไรมากมาย เพราะรู้ดีว่ายังไงเรียนจบก็ต้องไปช่วยงานที่บ้าน ไม่เห็นต้องคิดมาก ไปหางาน ยังไงเขาก็มีที่บ้านช่วยตลอด

ชากอดตอบพีท แม้ว่าในใจจะเริ่มคิดหนัก

งานที่บ้านพีท  งานที่แม่ของเขาเกลียดนักหนา

“ไม่คิดมากนะครับ ยังไงพีทก็ไม่ปล่อยให้ชาลำบากหรอก” พีทพูดพร้อมลูบหัวอีกฝ่าย

มันไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่เป็นเรื่องของความมั่นคง และการก้าวเป็นผู้ใหญ่

ซึ่งเขาไม่มั่นใจเลยว่าพีทมีมันบ้างหรือเปล่า

“อื้อออ  พีทจะทำอะไร”

พีทเริ่มซุกไซร้ซอกคออีกฝ่าย

“พีทคิดถึงชา ไม่เจอกันวันเดียวก็ใจจะขาด” พีทยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมจูบชาเบาๆแล้วค่อยๆรุนแรงขึ้น

ชาเริ่มปรับโหมดไม่ทันแต่เขาก็ยอมแต่โดยดี

“อะไรอะชา” พีทชะงักทันทีที่ชาขัดจังหวะด้วยการยื่นอะไรบางอย่างออกมาจากหัวเตียงของเขา  เป็นสิ่งที่ไม่ได้ใช้มานานมาก

“ถุงยางไง”

“ไม่เอาจะใส่ทำไม  เราไม่ได้ใส่กันมานานแล้วนะ” พีทเริ่มอ้อนเขา

“วันนี้ หลังจากนี้ถือว่าชาขอ ใส่เถอะ”

“ไม่เอา เค้าไม่ใส่มานานแล้ว ไม่ชิน”

“ก็ทำให้ชินซะสิ” ชาพูดจริงจังจนพีทรับรู้ได้เลยยอมๆ

“ก็ได้” พีทรับมาฉีกซองก่อนจะแกล้งดึงจนถุงขาด “อ้าว ถุงขาด!”

“พีท! แกล้งใช่มั้ย” ชามองพีทอย่างรู้ทัน

“เปล่านะ” พีทยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ชาถอนหายใจ นั้นเป็นถุงชิ้นสุดท้ายที่มีจะเอาไงดีล่ะ

“รอบนี้ไม่ใส่ก่อน รอบหน้าเค้าจะซื้อมาตุนไว้นะครับ” พีทพูดเสียงอ้อนพร้อมเล้าโลมอีกฝ่ายจนต้องเอนเอียงยอมแพ้

ชาปล่อยไปตามความรู้สึกแม้ว่าลึกๆจะมีอะไรมาถ่วงความคิดไว้

ถ้าพลาดขึ้นมาตายแน่!!
















*************************************************************************************
มาต่อแล้วครับ  เริ่มเข้มข้นแล้ว  ชีวิตคู่มันไม่ง่าย

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ

ติชมกันได้  #พีทชา

// เข้ามาแก้คำผิดให้แล้วนะครับ  ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ตรวจทานให้ดี ตอนต่อไปจะพยายามรอบคอบกว่านี้  :3123:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 27-06-2018 01:21:20
 :hao7: :hao7: :เฮ้อ: :เฮ้อ::
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 27-06-2018 12:17:58
ติดตามมมมจ้าาาา

แต่ฝากเรื่องคำผิดหน่อยน้าาา เจอหลายจุดเลย
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 27-06-2018 14:48:33
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 27-06-2018 16:11:50
ใกล้ถึงจุดพีคแล้วสินะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 29-06-2018 02:16:01
Partner of life คู่ชีวิต


ตอนที่5



“สอบเสร็จสักที ไปไหนกันดี” ขนุนพูดขึ้นพร้อมมองเพื่อนๆที่เพิ่งเดินออกจากห้องสอบมา

“อะไรของมึง  นี่แค่มิดเทอม ไม่ใช่ไฟนอล” กล้าขัดขึ้นทันที

“ถ้าไฟนอลรอบนี้ต้องบอกว่าเรียนจบแล้วโว้ย ฮ่าๆ” ขนุนพูดขึ้นพร้อมทำหน้าทะเล้น

“จะเรียนจบแล้วแต่มึงก็ยังไม่มีแฟนเลยนะขนุน” เอ๋ยแซวขึ้นทันที

“โอ้ย  เจ็บเลยๆ” ขนุนบ่นพร้อมกุมหน้าอกข้างซ้ายตัวเองไว้

“แต่มึงก็ดูโสดแล้วมีความสุขดีนะขนุน” ชาพูดขึ้นพร้อมยิ้มน้อยๆ บางทีเขาก็อิจฉาขนุนที่โสด จะไปไหนมาไหนก็ได้ ทำไรได้ตามใจ ไม่ต้องเอาตัวเองไปผูกไว้กับใคร

“เอาจริงๆก็กูมีความสุขกับความโสด ชักหวงความโสด”

“ระวังหวงจนขึ้นคานนะมึงอะ” กล้าแซวเพื่อนทันที

“ก็ดีกว่าได้แฟนปากหมาแบบมึงอะกล้า กูละสงสารแฟนมึงจริงๆ” ขนุนพูดถึงแฟนสาวของกล้าที่อยู่ต่างคณะ

“เวลากูอยู่กับแฟนกูก็เป็นคนดีสิ” กล้าสวนอย่างภูมิใจ

“พอเลยพวกมึง จะตีกันอีกละ ไปหาไรกินกันดีกว่า ชาบูมั้ย” เอ๋ยเป็นคนเสนอ

“โอเค ไปโลด!” ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย



ระหว่างนั่งทานชาบูในร้านดังที่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนักก็มีเสียงโทรศัพท์ชาดังขึ้น

“ว่าไงพีท”

“ชาอยู่ไหนครับ” เสียงพีทดังตามสายมา

“ชามากินชาบูกับเพื่อน”

“โหยยย  เค้าอยากกินอ่า”

“รีบอ่านหนังสือสิ พรุ่งนี้สอบตัวสุดท้ายแล้ว ตั้งใจนะ” ชาพูดพร้อมคิดถึงอีกฝ่ายที่บอกว่าไปอ่านหนังสือห้องต้น

“ครับผม สอบเสร็จไปกินกับพีทอีกรอบนะ”

“ได้เลย”  ชาพูดอีกไม่นานก็วางสายลง

“ถ้ากูจะมีแฟนสักคนขอแบบพีทละกัน เสมอต้นเสมอปลายมาก น่าอิจฉา” ขนุนพูดขึ้นพร้อมกัดตะเกียบมองเขาอย่างอิจฉา

“ไม่ต้องอิจฉาไปหรอกมึง บางทีอาจจะไม่น่าอิจฉาอย่างที่มึงคิดก็ได้นะ” ชาพูดพร้อมก้มลงจิ้มกุ้งในจาน

“ทำไมวะ ทะเลาะกันเหรอ” กล้าถามขึ้น

“เปล่าหรอก” ชาตัดบททันที

เพื่อนทั้งสามมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครซักไซ้อะไรให้ชาอึดอัดใจ

“เอานี่ชา ปลาดิบของโปรดมึง” เอ๋ยยื่นปลาดิบให้ชา

“ไม่เอาอะเหม็น” ชาพูดพร้อมปัดไปมา

“เหม็นตรงไหน ไม่เห็นเหม็นเลย” เอ๋ยหยิบจานขึ้นมาดม ก็ดูไม่เหม็นหนิ

“เอาเถอะ วันนี้ไม่อยากกินอะ” ชาพูดปัด  เขารู้สึกช่วงนี้อารมณ์สวิงอย่างบอกไม่ถูก  เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

เมื่อก่อนเขาเป็นคนใจเย็นและอดทนอะไรได้มากกว่านี้  แต่ตอนนี้กลับน้อยลง



“เดี๋ยวขนุนส่งเราคอนโดต้นก็ได้นะ ทางผ่านอยู่แล้ว” ชาพูดขึ้นบนรถระหว่างกำลังกลับ

“ไม่เป็นไร  เราไปส่งคอนโดก็ได้” ขนุนกลัวว่าเพื่อนจะเกรงใจที่เขาต้องวนรถ

“พอดีพีทอยู่นั่นอะ ซื้อขนมมา จะเอาไปฝากพวกนั้นด้วย” ชาพูดพร้อมมองถุงขนมเยอะแยะบนตัก  พีทอ่านหนังสือหนัก คงหิวน่าดู

“โอเคได้”

ระหว่างที่ขนุนกำลังจอดรถหน้าคอนโดต้น เขาบังเอิญเห็นเจมส์เพื่อนในกลุ่มอีกฝ่ายจึงรีบเรียกทันที

“เจมส์รอด้วย เราไปด้วย” ชาตะโกนเสียงดังพร้อมหันมาโบกมือให้ขนุน

“อ้าวชา มาหาไอ้พีทเหรอ” เจมส์มีทีท่าตกใจเล็กน้อย

“ใช่ ซื้อขนมมาให้กันด้วยอะ” ชาตอบด้วยรอยยิ้มพร้อมมองเจมส์

“เจมส์ลงมาซื้อไรอะ” ชามองถุงร้านสะดวกซื้อใบเล็กที่อีกฝ่ายถืออยู่

“บุหรี่อะ” เจมส์ตอบพร้อมยิ้มเจื่อนๆ

ชาเดินตามเจมส์เข้าคอนโดไม่พูดอะไร เจมส์มีท่าทีเป็นกังวลจนเขาสงสัย

“เอ่อ ชา บอกไอ้พีทยังอะว่าจะมา โทรหามันยัง”

“ยังเลย เจอเจมส์พอดีเลยกะว่าจะขึ้นไปเซอร์ไพร์ส”

เจมส์ยิ้มไม่ออกทันที  ได้เซอร์ไพร์สแน่ๆ ไม่ชาก็ไอ้พีท!

ติ๊ด !!

เสียงคีย์การ์ดดังขึ้นพร้อมกับชาที่เปิดประตูเข้าไป

“ไอ้เจมส์ทำไมไปนานจังวะ ไหนละบุหรี่กู” เสียงพีทดังขึ้น

“ไอ้เหี้ยๆ เร็วๆหน่อย ไอ้สัสตายจนได้” เสียงตะโกนโหวกเหวกดังขึ้น

“อะ จะ เจมส์” เสียงต้นอ่อยลงทันทีที่เห็นชา

ชามองพีทที่นั่งเล่นเกมส์อยู่กลางห้อง ข้างๆมีเฟรมกับคอมอีกเครื่องที่กำลังรวมทีมกันอยู่

“พีท!”

พีทหันมามองเขาอย่างตกใจพร้อมวางมือจากเกมส์ทันที

“ชา!  มาได้ไง”

“มาได้ไงไม่สำคัญ  ไหนบอกว่าอ่านหนังสือไง!  ทำไมมานั่งเล่นเกมส์แบบนี้!!” ชาเม้มปากอย่างโมโหจ้องหน้าพีทที่เริ่มซีด

“เราแค่พักสมองกันอะชา” ต้นพยายามช่วย

ชาไม่ฟัง เขาหันไปหาเจมส์พร้อมหยิบถุงบุหรี่มาปาใส่พีททันที

“ไหนบอกว่าเลิกบุหรี่แล้วไงพีท!”

“เค้าเลิกแล้วจริงๆ เขาแค่สูบเวลาเครียด” พีทพยายามแก้ตัว อีกฝ่ายขอให้เลิกบุหรี่ เขาก็พยายามเลิกให้ แต่แอบสูบบ้างเวลาเครียดและกินเหล้า

“เครียดอะไร เล่นเกมส์จนเครียดเหรอ”  ชาเดินเข้าไปกลางห้อง กวาดสายตาไปทั่งห้อง“ชีทสักแผ่นก็ไม่มี ติวกันไปได้กี่บทแล้วล่ะ” ชาพูดพร้อมจ้องพีทด้วยความโกรธ อีกฝ่ายโกหกเขาอีกแล้ว

“เพิ่งเก็บไปอะ” พีทพูดเสียงอ่อยลง เขาพยายามเดินเข้าไปหาชา แต่ชากลับถอยหลัง

“พอเถอะพีท หยุดพูดเถอะ” ชาเบื้อนหน้าหนีเขาพยายามสะกดอารมณ์เสียใจ น้อยใจที่ตีรวนขึ้นมา  ทำไมพีทต้องโกหก ทำไมไม่อ่านหนังสือทั้งๆที่จะสอบพรุ่งนี้

“ถ้าไม่ฟังแล้วชาจะถามพีททำไม  ในเมื่อพีทพูดอะไรไปชาก็ไม่เชื่ออะ!!” พีทเริ่มเสียงดัง

“แล้วจะให้ชาเชื่ออะไร ในเมื่อหลักฐานมันก็เห็นอยู่ตำตา!”

“เอ่อ เราว่าใจเย็นกันก่อนดีมั้ย  ค่อยๆคุยกัน” เฟรมที่นั่งอยู่ลุกขึ้นห้ามปราม

“เราไม่มีอะไรจะพูดแล้วเฟรม” ชาพูดพร้อมวางถุงขนมลงบนพื้นพร้อมจ้องหน้าพีท เขาพยายามสะกดอารมณ์ที่กำลังอ่อนไหว กระบอกตาเริ่มร้อนเมื่ออีกฝ่ายเสียงดังใส่ “เราก็เป็นห่วงซื้อขนมมาฝากกลัวจะหิวกัน คงติวกันเหนื่อย แต่ก็ลืมไปขนมมันจะไปอร่อยเท่าบุหรี่ได้ไง”

ชาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น

“ชา” พีทเรียกชาเสียงอ่อนลง เขารู้สึกผิดทันทีที่เห็นอีกฝ่ายกำลังจะร้องไห้

ชาไม่พูดะไรต่อ เขาเดินจะออกจากห้องแต่กลับโดนพีทจับมือรั้งไว้  ขาไม่สนใจพีทกลับหันไปพูดกับต้น “ขอโทษด้วยนะต้นที่มาเสียงดังรบกวน”

ชาสะบัดมือพีทแรงจนหลุด เขารีบเดินออกจากห้องทันที

“ชา ชา !! ” พีทพยายามวิ่งตาม แต่ไม่ทันเพราะมีคนเรียกลิฟต์และอีกฝ่ายก็เข้าไปพอดี

พีทมองชาที่เข้าไปในลิฟต์ทั้งสองสบตากัน ดวงตาชาแดงกล่ำจวนจะร้องไห้เต็มทีจนเขารู้สึกผิด

“ไอ้พีท ใจเย็นๆนะมึง” ต้นตบบ่าเพื่อนไว้

“กูขอโทษว่ะที่ไม่ได้ห้ามชา กูลืมเอาโทรศัพท์ไปเลยไม่ได้ไลน์มาบอก” เจมส์พูดอย่างรู้สึกผิด

“ไม่เป็นไร” พีทตอบเสียงแผ่วเบา  เขาคิดได้จึงรีบเข้าห้องไปเอาโทรศัพท์ กุญแจรถพร้อมรีบกลับคอนโดทันที

เพื่อนทั้งสามมองหน้ากันแต่ไม่มีใครพูดอะไร  ช่วงนี้ไอ้พีทมันซวยจริงๆ ทะเลาะกับชาบ่อย



“ชากลับมาห้องได้ไง” ทันทีที่พีทเปิดประตูเข้ามาเขาก็ถามขึ้นทันที

“แท็กซี่ไง” ชานั่งบนโซฟา เขานั่งกุมมือไว้ด้วยกันแน่น เขาต้องไม่ร้องไห้ เขาต้องเข้มแข็ง

“พีทบอกแล้วไงว่าห้ามนั่งแท็กซี่!!” พีทเดือดทันที  เขาไม่ชอบให้อีกฝ่ายนั่งแท็กซี่

“ทำไมจะนั่งไม่ได้ ทีพีทยังสูบบุหรี่ได้เลย ทั้งๆที่บอกชาว่าเลิกแล้ว!” ชาจ้องหน้าพีทอย่างไม่ยอมแพ้

“นี่ประชดกันเหรอชา” พีทจ้องชาไม่แพ้กัน

“ไม่ได้ประชด แต่ชาคิดว่าชาต้องหัดพึ่งตัวเองได้แล้ว เลิกพึ่งคนอื่นสักที” ชามองพีทก่อนจะถอนหายใจแล้วพูดต่อ “ชาคงติดกับการอยู่กับพีท ไปไหนมาไหนกับพีท พีทไปรับไปส่ง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียว ชาก็ต้องนั่งแท็กซี่  ชาขับรถไม่เป็น ชาจะหัด พีทก็บอกไม่จำเป็น แต่ตอนนี้ชาคิดว่ามันจำเป็น ชาต้องพึ่งตัวเอง”

“ชาทำแบบนี้ทำไม” พีทเสียงเริ่มอ่อนลง

“ชาแค่อยากขับรถเป็น พึ่งตัวเองบ้าง ชาผิดเหรอ”

“ชาพูดเหมือนจะไม่มีพีทในชีวิตแล้ว” พีทเสียงเริ่มเข้มขึ้น

“ไม่ใช่พีท!  ชาแค่อยากโต!”

“จะรีบโตไปถึงไหนห้ะชา! ทุกวันนี้พีทดูแลชาไม่ดีพอรึไง ชาพูดเหมือนพีทดีไม่พอจนชาต้องดูแลตัวเอง”

“พีทเข้าใจผิดประเด็นละ แค่อยากโต ก้าวข้ามเป็นผู้ใหญ่ ดูแลชีวิตตัวเองมันผิดด้วยเหรอ!” ชาจขึ้นเสียงบ้าง เขารู้สึกปวดหัวตุบๆเหมือนอีกฝ่ายจะพูดไม่รู้เรื่อง

“พีทไงจะดูแลชีวิตชาเอง!”

“ฮ่าๆ  พีทอะเหรอจะดูแลชีวิตชา” ชาพูดขึ้นพร้อมลุกขึ้นกอดอกจ้องมองพีท “คนที่ไม่รู้ว่าอนาคตตัวเองอยู่ตรงไหน วันๆเอาแต่เล่นเกมส์ กินเหล้า สูบบุหรี่ คนแบบนี้อะเหรอที่จะดูแลชีวิตคนอื่น  ละเลิกพูดเรื่องเงินเถอะ ถ้าพูดถึงเรื่องเงิน ชาดูแลตัวเองได้”

คำพูดของชาเหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจพีท ชาบอกว่าเขาไม่มีอนาคต พีทเบิกตากว้างจ้องอีกฝ่ายด้วยความโกรธ

“ชาว่าพีทไม่มีอนาคตเหรอ”

“แล้วอนาคตของพีทคืออะไร เงินที่บ้านเหรอ เงินที่บ้านชาก็มีปะ” ชาพูดอย่างยียวน ยั่วโมโกอีกฝ่ายได้ไม่น้อย

“.....” พีทอึ้งพูดอะไรไม่ออก เขาทั้งโกรธ และเสียใจกับคำพูดอีกฝ่าย ตาแดงกล่ำมองคนรักที่จ้องมองเขาเหมือนเหยียดกัน

ชาที่เริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฟางเส้นสุดท้ายขาดลง เขาก็ต้องระงับอารมณ์ตัวเอง เขาตัดสินใจหันหลังจะเดินเข้าห้อง  แต่ไม่ทันจะเข้าห้องก็ได้ยินเสียงพีทตามมา

“ถ้าพีทมันไม่มีอนาคตขนาดนั้นจะเลิกกันไปก็ได้นะ”

คำพูดของพีททำเอาชาชะงัก เขาเม้มปากแน่น อารมณ์เสียใจตีรวนขึ้นมาทันที กระบอกตาเริ่มร้อน  ต่อให้ทะเลาะหนักขนาดไหน เสียใจ โกรธผิดหวังขนาดไหนเขายังไม่เคยพูดคำว่าเลิกออกมา แต่อีกฝ่ายกลับพูดออกมาได้ง่ายดาย

ชาเดินเข้าห้องต่อ  เขานั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง ความเข้มแข็ง อดทนที่พยายามมาตลอดที่จะไม่ร้องไห้หมดลง

“อึก อึก ฮือออ”  ชาปิดปากตัวเอง เขาไม่อยากให้พีทได้ยินเสียงเขา

พอกันทีกับความเข้มแข็ง  เขาปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด


พีททิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างหมดแรง สายตาจ้องไปยังอีกฝั่งที่มีแค่ผนังห้องกั้นเขาสองคนเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นมองเพดานปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาเงียบๆ

แค่คิดว่าวันหนึ่งจะไม่มีชาในชีวิต เขาก็ทรมานแล้ว




พีทเดินเข้ามาในห้องมองชาที่นอนบนเตียงหันหลังให้เขาอยู่ พีทเดินเข้าไปสอดตัวกอดอีกฝ่ายไว้จากด้านหลัง

“พีทขอโทษนะครับ” พีทกระซิบข้างหูอีกฝ่ายเบาๆ  สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้  เขาไม่สามารถไม่มีอีกฝ่ายในชีวิตได้

“อย่าพูดอีก อึก ” ชาสะอื้นเบาๆ

“พูดอะไรครับ” พีทพูดพร้อมหอมแก้มอีกฝ่ายเบาๆ เขาชอบกลิ่นตัวชาที่สุด

“อย่าพูดว่าเลิกอีก”

“ครับ จะไม่พูดแล้ว” พีทตอบพร้อมกอดอีกฝ่ายแน่น  เขาจะไม่ยอมเสียคนในอ้อมกอดไป

ชาหลับตาก่อนจะยอมซบลงบนอกอีกฝ่ายแต่โดยดี  เขาเป็นคนไม่บอกเลิกใครพร่ำเพื่อ  ถ้าเขาบอกเมื่อไหร่ แปลว่าเขาคิดดีแล้ว

และเขาจะไม่มีวันกลับมาอีก








********************************************************
มาต่อแล้วครับ  เข้าสู่ช่วงเข้มข้น  คู่ชีวิตต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง

ขอบคุณทุกคนที่่อ่านและคอมเม้นต์ครับ  :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 29-06-2018 07:22:38
โอ้ยยยยยย
น่าติดตามมมมมมมมมากกก
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 29-06-2018 13:35:32
กำลังสนุกเลย ชอบค่ะ  o13 o13
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-06-2018 14:05:38
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: NiNiNiNi ที่ 01-07-2018 00:59:28
 :katai1: :hao7: ฮรือออิ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: aurusma ที่ 01-07-2018 10:32:59
 :katai1: ใจเย็นๆน๊าาาาาา อารมณ์ชาขึ้นๆลงๆยังพอคิดว่าอาจจะเครียดรึเปล่า แต่แอบมีเหม็นกลิ่มปลาด้วยนี่เริ่มไม่ใช่ละ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 01-07-2018 11:24:09
ลงรัวๆๆเลยครับโผ้มมม ท้องแล้วแน่นวล
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่5 29.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Leenboy ที่ 02-07-2018 15:23:49
มันคืออาการคนท้องใช่ไหมอ่ะ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่6 5.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 05-07-2018 22:24:26
Partner of life  คู่ชีวิต

ตอนที่6




ตั้งแต่วันที่ทะเลาะกันหนักวันนั้น ดูเหมือนสถานการณ์ทุกอย่างกำลังดีขึ้น  พีทเริ่มเที่ยวน้อยลง เล่นเกมส์น้อยลง สนใจการเรียนมากขึ้น อาจจะเพราะใกล้ส่งโปรเจ็คจบแล้วก็เป็นไปได้ ทำให้อีกฝ่ายต้องงดเที่ยวมาสนใจเรื่องเรียนจบเพราะไม่งั้นอาจจะส่งงานไม่ทัน

“พีทหิวมั้ย” ชาถามขึ้นเมื่อมองคนรักที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ทำงานส่งอาจารย์ตั้งแต่เช้ายังไม่ลุกไปไหน เขามองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบบ่ายสามแล้ว อีกฝ่ายทานไปแค่ขนมปังกับนมเอง

“เค้ายังไม่หิวอะ  งานเร่งแล้วด้วย” พีทตอบโดยไม่หันมามองหน้าเขาด้วยซ้ำ

“ไม่เชื่อชาว่าอย่าดองงาน เป็นไงต้องมาเร่งตอนใกล้ส่ง” ชาอดที่จะบ่นไม่ได้ ก็เขาเป็นห่วงอีกฝ่ายที่หามรุ่งหามค่ำทำงานอย่างหักโหม

“เอาหน่าชา ไฟมันยังไม่มาอะตอนนั้น”

ชาสะบัดหน้าน้อยๆกับอีกฝ่าย เขาไม่บ่นให้อีกฝ่ายเสียสมาธิอีกแต่เลือกที่จะถามอย่างอื่นแทน “จะกินข้าวอะไร เดี๋ยวชาลงไปซื้อให้”

“เดี๋ยวเค้าไปด้วย” พีทตอบทั้งๆที่กดพิมพ์งานต่อ

“ไม่ต้องหรอกพีท ชาไปเองได้ พีททำงานเถอะ” ชาตอบอย่างเป็นห่วง เขารู้งานอีกฝ่ายใกล้ส่งเข้ามาทุกที ไม่อยากให้อีกฝ่ายเสียเวลา

พีทหันมามองชาเล็กน้อยก่อนจะนิ่งจนชาต้องพูดต่อ “ไม่เป็นไร ชาไปคนเดียวได้ ข้างล่างคอนโดเอง”

“ก็ได้  เค้าเอาเหมือนเดิมนะ ชาจะกินอะไรก็ซื้อมาเลย เอากระเป๋าตังค์เค้าไป” พีทตอบพร้อมหันไปทำงานต่อ

ชาไม่พูดอะไรต่อ เขาหยิบกระเป๋าตังค์ตัวเองพร้อมคีย์การ์ดลงไปข้างล่างคอนโด

ซอยข้างคอนโดมีของกินมากมาย ยิ่งใกล้เย็นแบบนี้พ่อค้าแม่ค้าเริ่มมาตั้งร้านมากขึ้นมีของให้เลือกมากมาย  ชาเดินซื้อของไปเรื่อย เขามาหยุดหน้าร้านขนมหวาน เขามองบัวลอยไข่หวานอย่างรู้สึกกระหาย อยากกินเหลือเกิน

“ป้าครับเอาบัวลอยไข่หวานถุงนึง” ชาสั่งแม่ค้า เขามองบรรดาถุงอาหารหลากหลายที่ตัวเองซื้ออย่างตกใจเล็กน้อย จะกินหมดมั้ยนี่ แต่ก็ช่วยไม่ได้ อะไรก็ดูน่ากินไปหมด

ชารับถุงบัวลอยไข่หวานมาถือไว้ เขารู้สึกหนักนิดหน่อยแต่ก็พอไหวอยู่

“ชา” เสียงเรียกดังพอสมควรทำให้เขาหันหลังกลับไปมอง 

ชามองบุคคลตรงหน้าด้วยความตกใจไม่น้อย พี่ชัช!! มาทำอะไรแถวนี้

“เอ่อ พี่ชัช มาทำไรแถวนี้ครับ” ชาพยายามยิ้มแม้ว่าหัวใจกำลังเต้นแรง

“พี่มาหาลูกค้าที่โรงแรมตรงข้ามอะ เลยเดินมาหาไรกินแถวนี้” ชัชตอบพร้อมมองน้องชายตัวเองที่ไม่ค่อยกลับบ้านแต่ได้คุยกันในโปรแกรมแชทเป็นประจำ

“อ๋อ แล้วจะกลับแล้วเหรอครับ”

“ใช่ แล้วชาหละมาทำอะไรแถวนี้” ชัชถามพร้อมมองน้องชายที่ถือของพะรุงพะรัง

“เอ่อ ชามาทำงานห้องเพื่อนอะครับ เพื่อนไม่ว่างกันเลยลงมาซื้อของกินให้” ชาตอบด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าเหงื่อจะเริ่มออก เขาเป็นคนไม่ชอบโกหก และโกหกไม่เก่ง

“ชาแต่งตัวแบบนี้มาห้องเพื่อนเหรอ” ชัชยังถามต่อพร้อมมองชุดน้องชายที่เหมือนกับเพิ่งตื่นและเดินลงมา เสื้อยืดตัวโคร่งที่ดูยังไงก็ไม่ใช่ไซต์ชา กางเกงขาสั้นที่ดูไม่น่าจะใส่ไปเที่ยวได้

“ชิวๆอะครับ ไม่ไกลจากมอ”

ชีชถอนหายใจเบาๆไม่ซักอะไรน้องชายต่อ ถ้ายังไม่ถึงเวลา เขาก็ไม่อยากจะบีบคั้นอะไรน้องชายมากมาย

“คอนโดเพื่อนข้างๆนี่เหรอ  พี่ไปส่งมั้ย”

“ไม่เป็นไรครับ ชาไปเองได้” ชาตอบพร้อมหลบสายตาและพูดต่อ “ชาขอตัวก่อนนะครับ เพื่อนรอหิวแย่แล้ว”

ชัชไม่ตอบอะไรพยักหน้าให้น้องชาย เขามองตามน้องชายไปจนลับสายตา  ชาเป็นน้องที่เขาหวงมากที่สุด ชาเหมือนน้องน้อยของเขา เป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่ใสและบริสุทธิ์ เขาไม่อยากให้อะไรมาทำให้น้องเขาแปดเปื้อน

ชาเดินหิ้วของเข้าห้องมาด้วยความเร่งรีบเขาพยายามมองหลังว่าพี่ชัชไมได้ตามมา ชาวางของบนโต๊ะพร้อมถอนหายใจ

“เป็นอะไรชา เหงื่อแตกเต็มเชียว”  พีทอดที่จะถามไม่ได้เหมือนเห็นหน้าตาตื่นของอีกฝ่าย

“อากาศร้อนอะ” ชาตอบพร้อมพัดลมตัวเอง เพื่อให้ร่างกายเย็นลง และใจเย็นลง

“ไหน ซื้ออะไรมาบ้าง” พีทเห็นท่าทางรีบร้อนของอีกฝ่ายแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ แต่คิดว่าอีกฝ่ายคงร้อนจริงๆ

“เยอะแยะ พีทมากินเลย” ชายิ้มกว้างบอกคนรัก

พีทเดินมามองอาหารที่คนรักซื้อมาแล้วอดแปลกใจไม่น้อยซื้อมาเยอะ แถมเป็นของหวานกินเล่นซะส่วนมาก  พีทนั่งทานอาหารที่เขาสั่งพร้อมทานขนมที่อีกฝ่ายซื้อมาเล็กน้อยก็อิ่ม  เขาไม่ชอบทานของหวานเท่าไหร่นัก พีทนั่งมองชาที่นั่งทานอาหารตรงหน้าอย่างมีความสุข เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกินหมด แต่สุดท้าย ชาก็กินของหวานที่ซื้อมาจนหมด

“โห หิวมาจากไหนเนี่ย กินหมดเลย” พีทอดที่จะแซวไม่ได้

“ก็มันอร่อยนิพีท” ชาตอบพร้อมมองซากขนมตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจ

“กินเยอะขนาดนี้ระวังอ้วน” พีทพูดพร้อมยืดแก้มคนรักเล่น “เห็นมั้ยแก้มย้วยแล้ว”

“โอ๊ย เจ็บนะพีท!” ชาตีมืออีกฝ่ายเบาๆ แต่พีทก็ไม่ยอมปล่อย

“แต่อ้วนๆก็น่ารักดีนะ พีทชอบ” พีทพูดด้วยรอยยิ้ม เขามองคนรักหน้าอย่างเอ็นดู สำหรับชาไม่ว่าเป็นยังไงเขาก็มองว่าน่ารักหมด

“พอเลยพีท อย่ามาแซวชานะ แค่ชอบกินผิดตรงไหน”ชาตอบอย่างงอนๆ เขาไม่เห็นจะอ้วนเลย ชาก้มลงมองพุงตัวเอง  ป่องนิดเดียวเอง ไม่เห็นเป็นไร

“โอเค ไม่แซวครับ งั้นพีทไปทำงานต่อนะ ชานอนเล่นไปพลางๆ” พีทตอบพร้อมเดินกลับไปทำงาน

“เดี๋ยวชาว่าจะเริ่มอ่านไฟนอลแล้ว”

“โห ขยันไปไหน”

“ขยันตรงไหนละ อีกไม่ถึงเดือนก็จะสอบละนี่ เดี๋ยวทำโปรเจ็คอีก เดี๋ยวอ่านไม่ทัน” ชาตอบพร้อมเดินไปหยิบหนังสือมาอ่าน

“ครับๆ แฟนพีทนี่น่ารักจริงๆ ทั้งเก่งและขยัน” พีทแซวเสียงดังตามมา

ชาหัวเราะออกมาเบาๆ เขาคิดในใจว่า ใครจะไปขี้เกียจแบบพีทละ!!



ชาเดินออกจากห้องพรีเซนต์ด้วยรอยยิ้ม เขาพรีเซนต์โปรเจ็คจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือแค่สอบไฟนอลก็จบแล้ว

“ยิ้มมาเลยนะมึง สบายๆชิวๆใช่ปะ” กล้าถามขึ้น  กล้าทำคู่กับขนุน ส่วนเขาคู่เอ๋ย

“ใช่ อาจารย์ไม่โหดอย่างที่คิด”

“ก็ดีวะ กูตื่นเต้น หลังกลุ่มนี้ก็กลุ่มกูล่ะ” กล้าพูดพร้อมถูมือตัวเองอย่างตื่นเต้น

“4ปีนี่ไวเนอะ แปปๆจะเรียนจบละ อีกไม่กี่อาทิตย์” เอ๋ยพูดขึ้น

“มึงจะมาดราม่าอะไรเอ๋ย” ขนุนแซวเพื่อน

“กูไม่ได้ดราม่า แต่แค่คิดว่าเรียนจบคงต้องแยกย้ายไปทำงาน ไม่ได้เจอพวกมึงทุกวันคงเหงาแย่” เอ๋ยพูดพร้อมยิ้มน้อยๆ แม้ว่าตาจะเศร้า

ชายิ้มหวานให้เพื่อน เขาก็รู้สึกเหมือนเอ๋ย คนเคยเจอกันทุกวัน พอไม่เจอก็รู้ใจหาย แต่ก็ทำใจ เพราะต้องก้าวไปเป็นผู้ใหญ่กัน

“อย่าเพิ่งดราม่า กูไปพรีเซนต์ก่อน แล้วเจอกัน!” กล้าพูดขึ้น เอ๋ยและชาชูสองนิ้วเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ

ครืน ครืน !!

โทรศัพท์ชาสั่น ชาหยิบมาดูแอบตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นว่าใครโทรมา

“ว่าไงครับคุณแม่”

“ชาพรีเซนต์เสร็จแล้วใช่มั้ยลูก” มล.นภาพูดขึ้น เมื่อคืนเขาแค่พิมพ์ไปบอกในไลน์กรุ๊ปครอบครัวว่าวันนี้มีพรีเซนต์จบ ทุกคนก็ให้กำลังใจกันใหญ่

“ใช่ครับแม่”

“กลับรึยัง ตอนนี้แม่ใกล้ถึงคอนโดลูกแล้ว  เจอกันที่คอนโดนะจ้ะ”

ยังไม่ทันที่ชาจะพูดอะไรต่ออีกฝ่ายก็ตัดสายไปทันที ชาลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจทันที

“เป็นอะไรชา” เอ๋ยถามขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนมีสีหน้าตกใจ

“กูกลับก่อนนะเอ๋ย  ฝากบอกพวกนั้นด้วย ไว้เจอกัน”

ชาไม่รอฟังเอ๋ย เขารีบวิ่งออกจากคณะทันที ชาหันซ้ายขวาอย่างไม่รู้จะเอาไงต่อ และเขาก็เจอพีทที่ขับรถมาพอดี

“ชาเสร็จแล้วเหรอ เค้ากะเวลาเป๊ะมั้ยล่ะ” พีทยิ้มด้วยความภูมิใจก่อนจะนิ่งลงเมื่อเห็นว่าชาหน้าตาตื่น

“พีทไปส่งชาที่คอนโดหน่อย ด่วนเลย!” ชาสั่งพร้อมขึ้นรถทันที

พีทออกรถทันที เขาอยากจะถามอะไรต่อ แต่เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายแล้วก็ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน

“เอ่อ มีอะไรรึเปล่า” พีทถามขึ้น

“แม่ชากำลังไปหาชาที่คอนโด!”

“โห แค่นั้นเอง ตกใจไปได้ พีทก็ตกใจหมดคิดว่ามีอะไรร้ายแรง”

“ไม่ร้ายแรงได้ไงละ คอนโดเหมือนคอนโดเปล่า แทบจะไม่มีของใช้อะไร เสื้อผ้าก็น้อย ถ้าแม่ไป ต้องรู้แน่นอนว่าชาไม่อยู่ห้อง!” ชาตอบน้ำเสียงสั่น

“อ้าว จะเป็นไรไปละ ก็บอกว่านอนกะพีท”

“ไม่ได้!!  บอกไม่ได้”  ชาเสียงดังจนพีทต้องเงียบ  เขาแปลกใจทำไมอีกฝ่ายต้องตกใจขนาดนั้น แล้วมีท่าทีเหมือนไม่อยากให้แม่รู้เรื่องของเรา

พีทไม่ถามอะไรต่อได้แต่สงสัย  วันนี้อาจจะเป็นวันที่เขาได้แนะนำตัวกับพ่อแม่ชาอย่างเป็นทางการ

ชาประสามมือเข้าหากันแน่น  เขาไม่อยากคิดเลยถ้าแม่จับได้จะเป็นไง



พีทจอดรถใต้คอนโดชา ชารีบเดินเข้าไปทันที  เขาถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อไม่เห็นพ่อแม่ที่ล็อบบี้ด้านล่าง โล่งอกไป ดีที่มาทันก่อนพ่อแม่

“พีทกลับก่อนก็ได้ เดี๋ยวชาขึ้นไปจัดห้องก่อน”

“ทำไมไม่ให้พีทขึ้นไปด้วยละ” พีทถามอย่างสงสัย

“ไว้วันหลังละกัน” ชาตอบแค่นั้นพร้อมรีบเดินเข้าคอนโดไป  พีทขมวดคิ้วอย่างงงกับท่าทีอีกฝ่าย เขารีบเดินตามไปพร้อมเข้าลิฟต์ด้วย

“ตามมาทำไมพีท” ชาหันไปถามอย่างตกใจ

“ชากลัวอะไร” พีทถามพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่าย

“ชาไม่ได้กลัว แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมไว้วันหลัง”

“ชาอยากไปรู้จักพ่อแม่พีทไม่ใช่เหรอ พีทก็อยากรู้จักพ่อแม่ชาบ้าง พ่อแม่ชามาแบบนี้ พีทไปแนะนำตัวไม่ดีกว่าเหรอ” พีทถามอย่างสงสัย

“แต่ไม่ใช่วันนี้  พ่อแม่จะรู้ไม่ได้ว่าเราอยู่ด้วยกัน!!”  ชาพูดจบลิฟต์เปิดประตูทันที

ติ๊ง!!

“อ้าว น้องชามาพอดีเลย คุณแม่กำลังจะเข้าห้องน้องชา”

ชาเบิกตากว้างมองแม่ที่ยืนหน้าห้องกับพ่อ และไม่ใช่แค่นั้นรวมถึงพี่ชายทั้งสองคนของเขาด้วย

เชนมองหน้าน้องชายด้วยความเป็นห่วงทันที  เขาพยายามห้ามแล้ว แต่เหมือนว่าแม่เตรียมพร้อมทุกอย่างมาครบ แม้แต่กระทั่งคีย์การ์ดห้องชา

“คุณแม่!!”  ชาเดินออกจากลิฟต์หน้าซีด  เขารีบเดินไปหาแม่ทันที

มล.นภามองลูกชายกับผู้ชายตรงหน้าไปมา ผู้ชายตรงหน้าที่หน้าตาหล่อเหลา เติมตามลูกชายเธอมาและเสียงดังที่ลอดมาจากลิฟต์เหมือนกำลังทะเลาะกัน

“นี่ใครอะชา” คนเอ่ยถามขึ้นเป็นชัชพี่ชายคนโตแทนที่ผู้เป็นแม่ที่กำลังสำรวจผู้ชายแปลกหน้า

“เอ่อ...” ชาหันไปมองพี่เชนอย่างขอความช่วยเหลือ

“เพื่....” เชนกำลังจะพูดแต่ไม่ทันพูดจบก็

“ผมเป็นแฟนชาครับ  ชื่อพีท”  พีทตอบแทนชาที่อ้ำอึ้ง

คำตอบของพีททำเอาทุกคนตาโตอย่างตกใจ แต่มีชากำลังหน้าซีดเหมือนจะเป็นลม!










**********************************************
หายไปหลายวัน คนเขียนติดสอบซัมเมอร์

มาต่อให้แล้วคับ  หลังจากนี้สนุกแน่ๆ

มาดูบททดอบของคู่นี้กัน

ฝาก #พีทชา  ไปพูดคุยกันได้

ของคุณทุกคนที่อ่านและคอมเมนต์ครับ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่6 5.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 05-07-2018 22:52:38
 :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่6 5.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 06-07-2018 00:17:50
ติดตามๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่6 5.07.61
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 06-07-2018 07:58:07
เอาเเล้วววว ยังไงต่อออ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่7 10.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 10-07-2018 02:34:26
Partner of life คู่ชีวิต


ตอนที่7



“แฟน หมายความไงน้องชา !” มล.นภา พูดเสียงดังลั่นจนผู้เป็นสามีต้องแตะแขนปราม

“ใจเย็นคุณ เข้าไปคุยกันในห้องดีกว่า” คำพูดของมล.องอาจทำให้ทุกคนได้สติและพยักหน้าให้

ชาเดินเข้าไปแตะคีย์การ์ดและเปิดประตูเข้าห้องด้วยหัวใจที่เต้นรัว ชาเหลือบมองพี่ชายคนกลางที่แตะไหล่พีทที่ยังงงกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างให้กำลังใจ

“น้องชามีอะไรจะบอกแม่มั้ยคะ” มล.นภานั่งลงบนโซฟามองลูกชายคนเล็กที่ยืนนิ่งตรงข้ามเธอ ข้างๆมีผู้ชายที่บอกตัวเองว่าเป็นคนรักของลูกชายเธออยู่ ผู้ชายคนนั้นมองเธอเขม็ง

“เอ่อ คือ ชา...” ชาน้ำตาคลอก้มมองมือที่บีบเข้าหากันแน่น เขาไม่ได้เสียใจที่แม่รู้ว่ามีแฟน แต่เสียใจที่ตัวเองเคยโกหกมากกว่า

“ผมเป็นแฟนชาครับ เราคบกันมาได้สามปีแล้ว” พีทเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นมาเอง เมื่อเห็นว่าคนรักกำลังอ้ำอึ้ง และกำลังจะร้องไห้

ร้องไห้ทำไม เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน  ไหนบอกว่าอยากให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรู้จักกันไง

“สามปี!!  นี่น้องชาปิดแม่มาสามปีแล้วเหรอ” มล.นภามองลูกชายคนเล็กอย่างไม่เข้าใจ “แล้วทำไมชาต้องโกหกแม่และคุณยายว่าไม่มีแฟน!” สิ่งที่เธอเสียใจที่สุดคือลูกชายโกหกเธอ!

“ชาไม่ได้ตั้งใจครับ ” ชาพูดเสียงแผ่วเบา เขาจ้องมองแม่น้ำตาคลอ ชาหันไปมองพีทที่มองเขาอย่างผิดหวัง

“ทำไมชาต้องบอกแม่ว่าไม่มีแฟน ทั้งๆที่เราเป็นแฟนกัน” พีทถามอย่างอ่อนแรง เขามึนไปหมดกับคำพูดของแม่อีกฝ่าย ชาโกหกเขาทำไม ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเป็นแฟนเหรอ แล้วจะอยากแนะนำตัวกันและกันทำไม

“พีทเข้าใจชานะ คือชาไม่รู้จะพูดยังไงเพราะ...” ชาพยายามจับมืออีกฝ่ายพร้อมอธิบายแต่กลับมีเสียงแทรกขึ้นมา

“น้องชาคุยกับคุณแม่ก่อน!” มล.นภาพูดเสียงดุ ยิ่งเห็นแววตาลูกชายที่กำลังขอร้องอ้อนวอนเธอยิ่งเข้าใจในความสัมพันธ์

“แต่แม่ครับ..”

“ไม่มีแต่!” มล.นภาหันไปดุลูกชายคนเล็กพร้อมหันไปมองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนลูกเธอ “เธอกลับไปก่อนได้มั้ย  ฉันอยากคุยกับลูกชายฉันเป็นการส่วนตัว”

“คุณแม่ครับ ผมว่าใจเย็นๆดีกว่า” เชนพยายามช่วยน้องทั้งสอง

“ตาเชน เชนรู้เรื่องนี้ใช่ไหม” มล.นภาหันไปมองลูกชายคนกลางตาเขียว

“ใช่ครับ ผมรู้”

“รู้และปกปิดจนเลยเถิด” ชัชพี่ชายคนโตแทรกขึ้นมาทันที เขามองน้องชายคนกลางอย่างไม่พอใจก่อนจะพูดต่อ “พี่รู้เรื่องของเรามาสักพักแล้ว และพี่ก็เห็นว่ามันเลยเถิดถึงขนาดไปอยู่กินด้วยกัน ไม่กลับบ้าน กลับห้องตัวเอง”

ชัชพูดด้วยน้ำเสียงเย็น เขาเป็นลูกชายคนโต อยู่ในระเบียน แบบแผน และไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวัง และต้องเป็นตัวอย่างที่ดีต่อน้อง และรักษาชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

“เลยเถิดตรงไหนเหรอครับ ผมและชาเป็นแฟนกัน เราก็แค่อยู่ด้วยกัน!” พีทเถียงขึ้น เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมชาถึงกลัวที่จะบอก เพราะดูจากท่าทางพี่ชายและแม่แล้วไม่น่าจะธรรมดา

“อยู่ด้วยกันงั้นเหรอ ทั้งๆที่ยังเป็นแค่นักศึกษา ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตอยู่ไหน นายคิดว่านายจะดูแลน้องชายฉันได้ดีกว่าที่พวกเราดูแลมาเหรอ!” ชัชเริ่มเสียงแข็งเพราะเห็นท่าทีอีกฝ่าย

“พี่ชัช ผมว่าให้เป็นเรื่องของคนสองคนดีกว่า” เชนปราม

“ก็พี่ปล่อยให้เป็นเรืองของคนสองคนมานานแล้วไง จึงไม่เข้าไปยุ่ง”

“แล้วตอนนี้เข้ามายุ่งทำไมล่ะ!” พีทเริ่มขึ้นเสียงแข็งเหมือนกัน

“พีทใจเย็น ชาขอ” ชาจับแขนอีกฝ่ายน้ำตาไหล เขามือไม้สั่นไปหมด เขารู้จักพีทดี พีทไม่ใช่คนยอมคนเหมือนกัน พีทไม่ยอมให้พี่ชัชมาขึ้นเสียงใส่

 พีทหันมามองชาแล้วใจอ่อน เขาลูบหัวอีกฝ่ายอย่างปลอบโยน

“ไม่ต้องร้อง เราไม่ได้ผิดเลยชา”

“ไม่ผิดเหรอ...” ชัชยังไม่ยอมแต่ผู้เป็นแม่ปรามขึ้นก่อน

“พอก่อนชัช แม่คุยเอง” มล.นภา ยกมือปรามก่อนหันมามองลูกชายคนเล็ก “ชาโกหกแม่ทำไม นี่คือที่แม่อยากรู้”

“ชาก็ อึก  ไม่อยากจะโกหกหรอกครับ แต่ อึก เพราะบอกไปก็เป็นแบบนี้ไง” ชาปาดน้ำตาพร้อมมองแม่ของตน “ชาไม่อยากให้ทุกคนมาเป็นห่วงชาเกินไป ชาโตแล้ว ชามีสิทธิจะมีแฟนไม่ใช่เหรอครับ”

“ใช่ ชามีแฟนไม่ผิด แต่ถึงขนาดที่ต้องหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่ด้วยกันเลยแม่ว่ามันเกินไปไหมชา  ชากำลังทำตัวเหมือนเด็กใจแตก!” คำพูดของผู้เป็นแม่พูดขึ้นทำเอาชาตาโตด้วยความตกใจ

“ทำไมแม่มองอย่างนั้นล่ะ ชาแค่ไปอยู่กับแฟนชาเอง!” ชาเริ่มไม่พอใจบ้าง

“ชาจะปฏิเสธแม่เหรอว่าชาไม่ได้เลยเถิดกับเค้า” มล.นภาพูดเสียงดุ ลูกชายที่น่ารักขึ้นเสียงใส่เธอเป็นครั้งแรก เพราะผู้ชายคนนั้น!!

“....” ชาอึ้งพูดไม่ออก เขาเม้มปากแน่น หันไปมองหน้าคนรักที่กำลังมองเขาอย่างเป็นห่วง พีทบีบมือให้กำลังใจเขา

“แต่เราก็ไม่ได้ทำให้มีปัญหาตามหลังมานะครับ เรื่องอย่างว่ามันก็แค่ธรรมชาติของคนเป็นแฟนกัน ผมไม่ได้มองว่ามันจะเสียหายตรงไหน” พีทเป็นฝ่ายตอบแทน

“บ้านเธอจะมองยังไงฉันไม่รู้  แต่บ้านฉันรับไม่ได้กับเรื่องแบบนี้!” มล.นภาพูดพร้อมมองเหยียด “เธอรู้จักชามากพอหรือเปล่า รู้หรือเปล่าชาสืบเชื้อสายอะไร มีขนบธรรมเนียมยังไง พ่อแม่เป็นคนยังไง”

“ผมไม่สนใจว่าชาจะเป็นใครมาจากไหน แต่ผมรู้ว่าชาเป็นคนที่ผมรัก” พีทตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขากำลังบีบมือชาแน่น

มล.องอาจที่นั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นานเขามองผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าแฟนของลูกชายเขาแล้วเข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายรักลูกชายเขามาก แต่มันไม่ง่ายสำหรับนภา

“รัก  เหอะ  คำว่ารักของวัยรุ่น รักกัน แต่ไม่รู้จักแม้กระทั่งแฟนตัวเองสืบเชื้อสายผู้ดีในวัง มีขนมธรรมเนียมยังไง  ถ้าเธอรักลูกชายฉันจริง ทำไมเธอไม่คิดจะเข้าหา ทำทุกอย่างให้มันถูกต้องล่ะ!” มล.นภาพูดพร้อมจ้องหน้าพีท ทำไมเธอจะรู้จักความรักของวัยรุ่น ร้อนแรง หวาบหวาม รวดเร็ว ไม่สนโลก คิดแต่ว่าคำว่ารักกันนั้นประเสริฐที่สุดแล้ว ทำไมเธอจะไม่เคยผ่านมา

“ผม...” พีทพูดไม่ออก เขาไม่รู้เรื่องบ้านชาจริงๆ เขาแค่มองว่าเขาสองคนรักกันมันไม่พอเหรอ

“แม่ครับ พอเถอะ พีทไม่ผิด ชารักพีท ชาก็ยอมจะไปอยู่กับพีท เราสองคนรักกัน และมีความสุขด้วยกัน  ชาก็ไม่ได้ทำอะไรหน้าเกลียดนิครับ เราแค่อยู่ด้วยกัน ช่วยกันเรียน จนคบกันมาสามปี จะเรียนจบแล้ว” ชาพยายามพูดให้แม่เห็นใจ

“ให้ ชาจะเรียนจบแล้วซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดี  ชาจะได้กลับบ้าน”

“แม่ครับ!!” ชารีบเถียงทันที  เขารู้ว่าแม่กำลังจะทำอะไร

“พอก่อนทุกคน” มล.องอาจพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเรื่องเริ่มไปกันใหญ่ “เราอะ เป็นลูกเต้าเหล่าใคร” เขาหันไปถามคนรักของลูกชาย

“พ่อแม่ผมทำธุรกิจส่วนตัวครับ” พีทตอบ

“ธุรกิจผับ เหล้าบาร์ ตระกูลมาเฟียเก่า ลูกเสี้ยวอิตาลี” ชัชแทรกขึ้นมาทันที  เขาสืบมาทุกอย่าง และรู้หมดว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ยิ่งทำให้เขาไม่พอใจที่จะมาคบกับน้องชายตน ไม่เหมาะสมสักนิด

พีทจ้องหน้าชัชเขม็ง ถ้าไม่ติดว่าชากำลังจับแขนเขาไว้ เขาจะต่อยไอ้ผู้ชายหน้านิ่งตรงหน้าให้คว่ำ!

“ชา!!  นี่เหรอผู้ชายที่ลูกเลือก”มล.นภาตกใจทันทีเมื่อรู้ว่าคนรักของลูกชายมีปูมหลังที่บ้านทำงานอะไร

“แต่ไม่เห็นเกี่ยวนิครับว่าที่บ้านพีทจะเป็นไง ในเมื่อพีทดีกับชา และเราก็รักกัน พีทดูแลชาดีมาก”

“ชาจะให้ตระกูลเราไปเกี่ยวดองกับพวกแบบนี้เหรอ” มล.นภาเม้มปากแน่น

“พวกแบบไหนเหรอครับ!” พีทเริ่มไม่พอใจ ทั้งพี่ชายนี่มาคนเป็นแม่อีก

“พวกที่ทำงานกลางคืน ผิดกฎหมาย ไร้เกียรติ ป่าเถื่อน!” มล.นภาตอกกลับอย่างไม่พอใจ

“คุณใจเย็น” มล.องอาจห้ามปราม

เชนมองทั้งสองฝ่ายไปมาอย่างหนักใจ สงสารก็แต่น้องชายคนเล็กที่น้ำตาเริ่มคลออีกแล้ว

“คุณแม่เลิกดูถูกคนอื่นสักทีเถอะครับ ยังไงก็คนเหมือนกัน!”

“นี่ชาว่าแม่เหรอ” เธอหันมาดุลูกชาย “ชาไม่เคยเถียงแม่ ขึ้นเสียงใส่แม่ ว่าแม่ แต่ชากำลังทุกอย่างเพราะผู้ชายคนนั้น!” มล.นภาชี้หน้าคนรักของลูก

“ชาไม่ได้ว่าแม่ แต่ชาก็ไม่อยากให้แม่มาว่าคนรักของชา”

“หึ รักกันมากเหรอ คิดว่าความรักอย่างเดียวมันพอเหรอ!”

“เอ่อ ผมว่าพอก่อนดีกว่า เถียงกันไปก็ไม่จบ ” เชนพูดแทรกขึ้น เขามองน้องชายที่จ้องผู้เป็นแม่อย่างไม่ยอม

“คุณแม่จะให้ผมทำยังไงคุณแม่ถึงจะยอมรับ” พีทกล่าวตัดบท

“อย่ามาเรียกฉันว่าแม่!” มล.นภาเชิดหน้าพร้อมกับพูดต่อ “ฉันจะทำเป็นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูกชายฉันและเธอก็ออกไปจากชีวิตลูกชายฉันซะ!”

“ไม่นะคุณแม่!!” ชาพูดเสียงดังออกมา “ผมไม่ยอม ผมโตแล้วไม่ยอมให้แม่มาบงการหรอก”

“โตเหรอชา ชากล้าพูดว่าโตเหรอ ชายังไม่22เต็มด้วยซ้ำ ชารู้แล้วเหรอเรียนจบไปจะทำอะไร รู้เหรอการเป็นผู้ใหญ่เป็นยังไง ชามั่นใจเหรอจะฝากชีวิตไว้กับผู้ชายตรงหน้าที่ที่บ้านอาจจะมีตังค์ แต่ตัวของเขาเองยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำอะไรในอนาคต!”

ชานิ่งไปทันทีเมื่อแม่พูดถึงสิ่งที่ตกค้างอยู่ในใจเขามาตลอดหลายวัน

มล.นภาเห็นท่าทีลูกชายแล้วกระตุกยิ้ม “งั้นนายบอกฉันได้ไหมละว่าเธอวางแผนอนาคตไว้ยังไงบ้าง” เธอหันไปพูดกับคนรักของลูก

“คือผมกะว่าเราจะอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆแล้ว...” พีทตอบกระท่อนกระแท่น ความมั่นใจที่เคยมีหายหมด

“พอเถอะ” มล.นภาแทรก “แค่นี้ก็รู้แล้วว่านายไม่เคยวางแผนอนาคตที่จะใช้ชีวิตกับลูกชายฉัน!”

คำพูดของมล.นภาทำเอาชาและพีทนิ่งไป  ชาเม้มปากแน่นอย่างไม่มั่นใจ ส่วนพีทแววตากำลังเต็มไปด้วยความสับสน

“กลับไปซะ  นายผิดตั้งแต่แรก นายจะรักลูกฉันมันไม่ผิด แต่นายผิดที่รู้จักลูกชายฉันไม่มากพอ นายไม่คิดจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง ถ้านายรู้จักวิถีทาง เรื่องมันคงไม่เป็นแบบนี้ และอีกอย่างนายมันก็แค่วันรุ่นคลั่งรัก ที่คิดว่ารักคำเดียวมันมากพอแล้วสำหรับโลกใบนี้ แต่เปล่าเลย ถ้านายลองมองให้กว้างกว่านี้แล้วนายจะเข้าใจที่ฉันพูดไป ว่ารักคำเดียวมันไม่พอ” มล.นภามองคนรักของลูกด้วยสายตาผู้ใหญ่สอนเด็ก มองอย่างคนที่เคยผ่านมาก่อน พร้อมพูดต่อ

“และฉันคงไม่เอาลูกชายของฉันไปเสี่ยงกับผู้ชายที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอนาคตตัวเองอยู่ที่ไหนแบบนาย!”

มล.นภาพูดจบพีทมือไม้เย็นตัวแข็งทื่อไปหมด เป็นครั้งแรกที่เขาเถียงไม่ออก

ส่วนชาปาดน้ำตาที่ไหลลงมาเขาเม้มปากมองอาการคนรักอย่างผิดหวังเล็กน้อย ที่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ตอบเรื่องอนาคตกับแม่เขาไม่ได้  ถ้าพีทไม่ดื้อดึงจะมา และมีการเตรียมไปเจอพ่อแม่เขา อะไรๆคงดีกว่านี้



พีทเดินออกจากห้องของชาอย่างหมดแรง เขาสมองตื้อไปหมด ไม่ได้ยินเสียงอะไรรอบข้าง เขานั่งบนรถพร้อมบีบพวงมาลัยแน่น นึกถึงสีหน้าคนรักที่มองก่อนหน้านี้ นึกถึงคนรักที่ปล่อยมือจากกันและเขาก็ยอมเดินออกมาเงียบๆ พีทพิงหัวกับพนักเก้าอี้เงยหน้าเพื่อไม่ให้น้ำตาไหลออกมา  เขาไม่อยากอ่อนแอ ไม่อยากร้องไห้ แต่เขาก็เข้มแข็งไม่ไหวแล้ว

ชายืนมองคนรักเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้น่ำตาไหลออกมาเงียบๆ ไม่มีเสียงสะอื้นอะไรทั้งนั้น ทั้งห้องเต็มไปด้วยความเงียบ

เชนเดินเข้าไปกอดน้องชายแน่น เขาอยากช่วยทั้งสอง แต่ไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ เมื่อแม่เขางัดหมัดเด็ดออกมา และดูเหมือนจะตรงจุด

“เอาล่ะชา แม่ว่าเราเอาหนังสือไปอ่านที่บ้านดีกว่า เดี่ยวแม่จะให้คนรถมารับมาส่งตอนสอบ” มล.นภาพูดเสียงนิ่ง

“ของชาอยู่ที่ห้องพีท” ชาตอบเสียงแผ่ว

“หึ  เดี๋ยวพี่ให้คนเข้าไปเอาให้” ชัชตอบขึ้น  ชาผละออกจากพี่ชายคนกลางพร้อมเดินไปจ้องหน้าพี่ชายคนโตไว้

“พี่ชัชคงรู้ทุกอย่างดีแล้ว อยากทำอะไรก็ทำ คงรอจังหวะนี้มานานแล้วสินะ” ชาพูดเสียงนิ่งเย็นชาอย่างที่ไม่เคยพูดกับคนในบ้านมาก่อน ปกติชาคือน้องน้อยที่แสนสดใสของทุกคน

“พี่เป็นห่วงชานะ คนนั้นไม่มีอะไรเหมาะกับชาสักนิด” ชัชสะอึกเป็นเล็กน้อยเมื่อเห็นท่าทีของน้อง

“คนที่จะตัดสินว่าอะไรเหมาะสมกับตัวชา คือตัวชาเอง ไม่ใช่พี่ชัช!” ชาสวนกลับไป

“พ่อว่าเรากลับบ้านกันเถอะ ค่อยกลับไปคุยกันต่อที่บ้าน” มล.องอาจปรามและเปลี่ยนเรื่อง

“กลับกันเถอะชา”ผู้เป็นแม่จะเดินมาจับมือลูกชายคนเล็กแต่กลับโดนเบี่ยงหนี

ชาเกาะแขนพี่ชายคนกลางแน่นก่อนจะเดินออกจากห้องเขาหันไปมองพี่ชายคนโตที่หน้าสลดเดินตามหลังมา

“พี่ชัชคงไม่เข้าใจหรอก เพราะพี่ชัชคือหุ่นยนต์ ไม่มีหัวใจ!”

ชาหันมามองผู้เป็นแม่ที่มองเขานิ่งๆ

“แล้วคุณแม่ล่ะครับเป็นหุ่นยนต์ด้วยหรือเปล่า”

ชาพูดจบควงแขนพี่ชายคนกลางเดินออกมาทันที 

เชนมองน้องชายคนเล็กที่นานๆจะแผลงฤทธิ์อย่างประหลาดใจ ใครคิดว่าชาเรียบร้อยคงคิดผิด

ชัชมองน้องชายคนเล็กอย่างอึ้ง!

มล.องอาจนิ่งสนิททั้งสีหน้าและแววตาเมื่อได้ยินลูกชายคนเล็กพูด

ส่วนผู้เป็นแม่ได้แต่กำมือตัวเองแน่น มล.นภามองแผ่นหลังลูกชายที่เดินออกไป

ทำไมแม่จะไม่มีหัวใจล่ะชา  ทำไมแม่จะไม่รู้จักกับคำว่ารัก  รักของวัยรุ่นที่หอมหวาน ร้อนแรงแต่เมื่อพลาดขึ้นมาไฟอันร้อนแรงนั้นแหล่ะที่แผดเผาให้หัวใจไหม้เป็นจุล  จนไม่อยากมีหัวใจอีก!



*************************************************
มาต่อแล้วครับ

ต่างคนต่างความคิด ต่างเหตุผล

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ  :กอด1: :pig4:



หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่7 10.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 10-07-2018 03:30:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่7 10.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-07-2018 05:30:46
โอ้ยยยยย
เข้มข้นมากกกกกกกก
อยากอ่านตอนต่อไปแล่ววววว
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่4 27.06.61
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-07-2018 07:15:03
อย่าม่ามากนะคะ ใจเราบอบบาง  :m15: หรือจะแบดเอนยังไง

แง้มๆให้เราเตรียมใจด้วยนะคะ พลีส ไม่ใช่อะไรนะ คือเคยอ่าน

วังสวาทมาก่อน แต่หนักสุดละคือ ข่ม ขืน ฝืน รัก อ่ะล่ะมันระแวง

ตลอดค่ะ 5555 กลัวบอกตงๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่7 10.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 10-07-2018 07:42:33
 :เฮ้อ: ปวดหัวเลย เรื่องก็กำลังเข้มข้น  :katai1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่7 10.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-07-2018 10:23:59
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 12-07-2018 02:03:36
Partner of life  คู่ชีวิต


ตอนที่8




“ชาเป็นไงบ้าง” เขาถามอีกฝ่ายลอดสาย มือถือโทรศัพท์สั่นเล็กน้อย เขานั่งมองข้าวของในห้องที่บางส่วนโดนเก็บออกไปแล้ว ของที่เป็นของสำคัญของอีกฝ่าย

“ชาคิดถึงพีท” ชาตอบเสียงอ่อน

พีทยิ่งได้ยินแบบนั้นเขายิ่งอยากจะขับรถไปหาอีกฝ่ายที่บ้านซะเดี๋ยวนี้

“พีทก็คิดถึงชา” พีทตอบพร้อมกับเม้มปากแน่นความคิดถึงเอ่อล้นในใจ “ให้พีทไปรับมั้ย แล้วเราสองคนมาอยู่ด้วยกัน”

ชาได้ยินแบบนั้นความคิดแว่บนึงก็อยากทำ แต่สำนึกดีก็ห้ามไว้

“อย่าเลยพีท  ชาไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่ไปมากกว่านี้”

“ทำไมล่ะ ชาไม่รักพีทแล้วเหรอ” พีทรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

“ชารักพีทสิ  แต่พีทลองคิดดูนะ ถ้าเราสองคนลอบเจอกันอีก ถ้าโดนจับได้ ชาอาจจะโดนแม่คุมชาหนักกว่าเดิม เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลยนะ” ชาพยายามพูดอย่างใจเย็น

“แต่พีทอยากเจอชา  พีทกลัว..”  พีทพูดประโยคหลังเสียงแผ่วเบา เขากลัว กลัวเหลือเกินว่าจะไม่ได้เจออีกฝ่ายอีก

“พีทต้องใจเย็นนะ  เราต้องค่อยๆคิด”

“แต่พีทกลัวว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก!” เขาเริ่มใจร้อน คิดมากไปหมด ทำไมชายังใจเย็นได้นะ

“แต่ถ้าเราลอบเจอกันมันอาจจะหนักกว่าเดิมนะ”

“งั้นก็หนีตามกันไปเลยดีมั้ย ไหนๆก็เรียนจบแล้ว!”

คำพูดของพีททำเอาชาสะอึกไม่น้อย ทำไมอีกฝ่ายไม่มองอะไรที่มันกว้างกว่านี้ กลับเอาแต่อารมณ์

“พีทคิดง่ายไปไหม”

“แล้วจะคิดอะไรให้มากมายล่ะ พีทกลัว กลัวพ่อแม่ชาจะไม่ให้เราเจอกันอีก กลัวเราต้องเลิกกัน!” พีทกำหมัดแน่น ความกลัวเอ่อล้น ภาพของแม่ชาที่พูดกับเขายังติดตา คำว่าพูดที่บอกให้ออกจากชีวิตชาซะยังก้องอยู่ในหัว

 “พีทต้องโตเป็นผู้ใหญ่ได้แล้วนะ!” ชาพูดเสียงแข็งบ้าง

“เลิกพูดเรื่องผู้ใหญ่สักที! ทำไมต้องทำอะไรให้มันยุ่งยาก หนีไปกับพีททเถอะ พีทจะดูแลชาเอง!” พีทพูดพร้อมเดินไปมาอย่างหนูติดจั่น เขาทำอะไรไม่ถูกเลย

“พีท...” ชาเรียกคนรักเสียงแผ่วเบา เขารู้สึกอ่อนแรงไปหมด พีทไม่เคยจะคิดได้

“หนีมากับพีทนะ เดี๋ยวพีทจะดูแลชาเอง” พีทพูดพร้อมเดินไปหยิบกุญแจรถ

“พอเถอะพีท  ใจเย็นก่อน”

“ไม่เย็นแล้ว  ออกมานะชา” พีทพูดเสียงอ้อนแกมขอร้อง

ชากำโทรศัพท์แน่น  เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เขารักพีทมาก แต่สุดท้ายเขาก็รักครอบครัวตัวเองเหมือนกัน

“ชาว่าพีทอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนี้เลย เอาเวลาไปอ่านหนังสือสอบไฟนอลก่อน สอบเสร็จเราจะมาหาทางออกกันอีกที” ชาพยายามพูดอย่างใจเย็น ไม่ให้อีกฝ่ายร้อนไปมากกว่านี้

“พีทจะไปอ่านหนังสือรู้เรื่องได้ไง เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้!” พีทหมุนกุญแจรถในมือไปมา เขาควรทำยังไงดี

“ชาขอนะ อ่านหนังสือก่อน สอบเสร็จเราจะมาหาทางออกเรื่องนี้ด้วยกัน”

“สรุปคือชาจะไม่หนีไปกับพีทใช่มั้ย!” พีทพูดเสียงแข็ง

“สนใจเรื่องสอบก่อนนะ อีกไม่กี่วันก็สอบแล้ว”

“ได้!!” พีทตอบเสียงประชดพร้อมวางสายอย่างโมโห

“โถ่เว้ย!!”

“ปัง!!” เสียงโทรศัพท์กระทบประตูห้องเสียงดัง เขารู้สึกโมโห เสียใจ ผิดหวังไปหมด

ทำไมชาถึงไม่ออกมาด้วยกัน

หรือชาจะไม่รักเขาแล้ว  ต้องการให้เขาเป็นผู้ใหญ่แต่ทำไมชาไม่เคยคิดจะออกมาเริ่มด้วยกันล่ะ!



“ไอ้พีทมึงใจเย็นๆ” ต้นมองหน้าเฟรมที่มีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก  ตั้งแต่เขามา ไอ้พีทก็กระดกเหล้าไม่หยุด

“มันเป็นไรวะ” เจมส์พูดขึ้น

“กูก็ไม่รู้ถามไรก็ไม่ตอบ โทรจิกให้กูมา พอมาถึงก็กระดกเหล้าไม่หยุด” เฟรมตอบ เขามาถึงคนแรก พีทโทรตามให้เขามาที่ผับของที่บ้านมันโดยบอกว่ามีปัญหา แต่ก็ไม่บอกอะไร

“มึงมีไรเล่าให้พวกกูฟังได้นะ” ต้นหันไปตบบ่าเพื่อน

พีทนั่งนิ่งเสียงเพลงดังสนั่นในผับไม่เข้าโสตประสาทเขาสักนิด มุมที่เขานั่งคือวีไอพี คนจึงไม่พลุกพล่านนัก

“พ่อแม่ชาจับได้ว่ากูกับชาอยู่ด้วยกัน” พีทเอ่ยปากพูดออกมาเป็นประโยคแรกตั้งแต่นั่ง

“เฮ้ย!!” เพื่อนทั้งสามคนตะโกนออกมาเสียงดัง

“แล้วเขาว่าไงบ้างวะ” เฟรมถามขึ้น

“หึ แม่ชาก็ด่ากูปาวๆ แถมยังไล่ให้กูออกจากชีวิตลูกเขา” พีทตอบพร้อมยิ้มกระดกเหล้าต่ออย่างสมเพชตัวเอง

“ทำไมร้ายแรงขนาดนั้นวะ” เจมส์ถามอีกคน

“พ่อแม่ชาเป็นผู้ดีในวัง มีขนบธรรมเนียม แล้วกูคงไปทำลูกเขาออกจากกรอบเลยไม่พอใจ”พีทตอบพร้อมยิ้มเหยียด

เพื่อนทั้งสามมองหน้ากัน พวกเขาพอจะรู้เรื่องที่บ้านชามาบ้างแต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้

“และที่สำคัญเขาด่าว่ากูไม่มีอนาคต!” พีทบีบแก้วเหล้าในมือจนแก้วสั่น  เขาเจ็บใจ แค้นใจในสิ่งที่แม่ชาพูด และเขาก็เถียงไม่ไดสักนิด เหมือนว่าเงินที่เขามีจะไม่พอสำหรับอีกฝ่าย

“ใจเย็นๆนะมึง  ทำไมเขาถึงพูดอย่างนั้นวะ” ต้นถามขึ้นพร้อมตบบ่าเพื่อนอย่างปลอบใจ  คู่นี้ไม่เคยเจออุปสรรค และไม่ค่อยจะทะเลาะกันร้ายแรง แต่เมื่อเจอก็เจออุปสรรคใหญ่เลยทีเดียว

“เขาถามว่าวางแผนอนาคตไรไว้บ้าง กูตอบไม่ได้ เพราะกูยังไม่คิด แม่ง! ต้องคิดอะไรมากวะ สุดท้ายกูก็ต้องมาช่วยกิจการที่บ้าน”  พีทกำหมัดแน่นยิ้มเยาะตัวเองก่อนจะพูดต่อ “พอกูบอกว่าที่บ้านทำธุรกิจอะไรก็เหยียดกูซะ บอกว่าธุรกิจที่บ้านกูป่าเถื่อน น่ากลัว ไม่เหมาะกับผู้ดีแบบเขา!”

พีทพูดจบเพื่อนทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ  ปัญหาใหญ่เลยนะนี่

“แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ” เฟรมถามขึ้น

“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่บ้านเขากีดกันกูกับชา  แต่พอกูบอกชาให้หนีไปด้วยกัน เขาก็ไม่ยอม!”

คำพูดของพีททำเอาเพื่อนทั้งสามตกใจ

“เฮ้ย!  ทำไมมึงถึงพูดงั้นวะ” เจมส์ปรามเพื่อน

“ใช่ มึงไม่ควรทำงั้น ทำเป็นเด็กๆไปได้ มันไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะมาหนีตามกันปะ”เฟรมพูดต่อ

“แล้วกูต้องทำไงละสัส ใครๆก็บอกว่าให้กูเป็นผู้ใหญ่ แล้วผู้ใหญ่ต้องเป็นไงล่ะ แค่รักกันอยากอยู่ด้วยกันมันไม่พอเหรอวะ!”พีทพูดขึ้นเสียงดังมองเพื่อนอย่างไม่พอใจ  เพื่อนทั้งสามคนเลยต้องนิ่งลง

“เอะอะไรเสียงดังวะ” เสียงทุ้มดังขั้น ร่างสูงในเสื้อเชิร์ตปลดกระดุมสามเม็ดเดินเข้ามาหาน้องชายที่แหกปากเสียงดังลั่น

“พี่พลสวัสดีครับ” ทั้งสามคนยกมือไหว้ ยกเว้นผู้เป็นน้องชาย พลพยักหน้าให้เพื่อนน้องชายก่อนจะนั่งตรงข้ามน้องชายแล้วมองหน้า

“มึงเป็นไรไอ้พีท”ตาคมดุแบบเดียวกับน้องชาย หน้าตาที่ละม้ายคล้ายกันจ้องหน้าคนตรงหน้า

“....” พีทไม่ตอบแต่จ้องหน้าพี่ชายของตน

“เอ่อ มันมีปัญหากับแฟนนิดหน่อยอะครับ” ต้นเป็นฝ่ายตอบแทน

“น้องชาแสนน่ารักอะเหรอ  ทำไมวะ เค้าทิ้งมึงแล้วเหรอ” พลพูดพร้อมกระตุกยิ้มอย่างยียวน

“เฮ้ย!!”  เพื่อนทั้งสามลุกขึ้นห้ามทันทีเมื่อเห็นพีทลุกขึ้นจะเอาเรื่องพี่ชายของตน

“ฮ่าๆๆ  มึงมันหมาบ้าชัดๆไอ้พีท” พลหัวเราะเสียงดังลั่นเมื่อเห็นท่าทีน้องชาย

“มึงหุบปากเดี๋ยวนี้เลย!” พีทพูดเสียงเข้มใส่พี่ชายพร้อมยอมนั่งลงแต่โดยดี

“ไหน มึงมีอะไร พูดกับกูดิ” พลพูดเสียงจริงจัง จ้องหน้าน้องชาย ลึกๆเขาเป็นห่วงไม่น้อย แต่กวนไปงั้น เพราะตีกันมาตั้งแต่เด็กเลยชิน

“ที่บ้านชาเขาขอให้ผมเลิกยุ่งกับชา” พีทพูดขึ้น เขาไม่อยากเล่าเรื่องเดิมๆซ้ำๆ มันเจ็บใจ

“เพราะไรวะ เพราะมึงเป็นแบบนี้เหรอ ใจร้อน เอาแต่ใจ ปากหมา พาลูกเขาไปกกโดยไม่เข้าตามตรอกออกตามประตู”

คำพูดของพลทำเอาพีทชะงัก อีกฝ่ายรู้ได้ไง


พลเห็นท่าทีของน้องชายละนึกขำที่เขาบังเอิญพูดถูก

“มึงคิดดีๆนะพีท ถ้าวันนึงมึงมีลูก แล้วลูกมึงโดนผู้ชายที่ไหนไม่รู้ที่หน้าตาเลวๆ บ้านมีอิทธิพล พาลูกเขาไปกกไว้โดยมาสนใจอะไร มึงจะรู้สึกไงวะ”

พีทนั่งนิ่ง ถ้าเป็นเขา เขาก็คงไม่ยอม

“ใครก็ไม่ยอมทั้งนั้นถูกปะวะ”

“แต่ผมรักชา ไม่ได้มีเจตนาไม่ดี เราแค่อยู่ด้วยกัน ดูแลกัน” พีทพยายามพูด

“ใช่ แค่พ่อแม่เขารู้เหรอ อยู่ดีดีมาเจอมึงกับลูกเขาแบบนั้นคงช็อก”

พีทขมวดคิ้วแน่น มันรู้ได้ไง “มึงรู้ได้ไงพล”

“กูแอบฟัง” พลกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนพูดต่อ “พ่อแม่ชาผู้ดีเก่าขนาดนั้นคงยิ่งแล้วใหญ่ เขาหัวโบราณจะให้มาไม่คิดมากเหมือนบ้านเราไม่ได้”

พลสอนน้องอย่างคนผ่านโลกมาก่อน ทำไมเขาจะไม่รู้จักน้องชายดี ลูกชายคนเล็ก ที่บ้านโอ๋สุดๆ อยากได้ไรก็ได้ ไม่เคยมีใครขัดใจ พ่อแม่ตามใจทุกอย่าง ตอนมอปลายพาแฟนผู้ชายไปเอาในบ้าน พ่อเจอยังไม่ด่าแม่งเลย

“แล้วผมต้องทำไง”

“เขาต้องการอะไรจากมึงละ เขาด่าอะไรมึงเยอะสุด”

“เขาบอกผมไม่มีอนาคต” พีทตอบพร้อมเม้มปากแน่น

“งั้นมึงทำให้เขาเห็นสิว่ามึงมีอนาคต!  ไม่ใช่ไปชวนลูกเขาหนีตามแบบนี้!” พลพูดพร้อมส่ายหน้าสมกับเป็นไอ้พีทจริงๆ เอาแต่ใจ!

“ก็ผมกลัว กลัวว่าจะไม่ได้เจอชาอีก” พีทพูดเสียงแผ่ว ความคิดในสมองตีกันไปหมด

“ถ้ามึงยังรั้น ระวังมึงจะไม่ได้เจอเขาอีกตลอดชีวิต!” พลเตือนน้องชายที่หน้าเริ่มนิ่ง

พลพูดจบพีทไม่ตอบอะไรได้แต่ยกแก้วเหล้ากระดกไม่หยุด

“เออๆ ซดไป กูให้มึงวันนึง เดี๋ยวกูเปิดวิสกี้ให้” พลพูดพร้อมจะยกมือสั่ง

“ไม่ต้อง เหม็น!”พีทกระแทกเสียงใส่ เขาเหม็นเลยเลือกที่จะกินเหล้าที่ไม่แพงมากแทน ทั้งที่ปกติแทบไม่กิน

“เอ้า ไอ้นี่ปกติแดกแต่เหล้าแพง วันนี้เสือกอย่างแดกถูกๆ ก็ตามใจไม่เปลือง” พลไม่พูดอะไรต่อได้แต่มองน้องชายนิ่งๆ

เพื่อนทั้งสามมองหน้ากันก่อนจะถอนหายใจ ดีนะที่เฮียพลมา ไม่งั้นพวกเขาคงหยุดหมาบ้าอย่างไอ้พีทไม่ได้



พลหิ้วปีกน้องชายที่เมาเละขึ้นรถพร้อมหันไปถามเพื่อนน้องชาย

“มันสอบอีกทีวันไหน”

“อีกสองวันพี่” เจมส์เป็นฝ่ายตอบ

“จะสอบแล้วหนังสือก็ยังไม่อ่าน เอาแต่มาเมาหัวราน้ำ” พลบ่นพร้อมมองน้องชายแล้วส่ายหน้า ถ้าพ่อแม่ชามาเห็นสภาพนี้รับรอง ไมได้เกิดแน่!

“เดี๋ยวกูพามันกลับบ้านเอง  พวกมึงกลับเถอะ”

เพื่อนทั้งสามพยักหน้าเข้าใจ

ครืน ครืน เสียงโทรศัพท์พีทสั่น พลหยิบมาดู เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วก็คิดหนักไม่น้อย

“โหล”

“พีท หายโกรธชายัง” ชาถามเสียงอ่อย เขานอนไม่หลับเลยกับท่าทางล่าสุดของอีกฝ่ายที่คุยกัน ไลน์ไปก็ไม่ตอบ

“เอ่อ ไอ้พีทมันเมา นี่พี่พล พี่ไอ้พีท” พลเป็นฝ่ายตอบ

“อ้าวเหรอ ชาขอโทษครับ แล้วพีทเป็นไงบ้าง” ชาปวดหนึบในใจไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายเมาอีกแล้ว

จะสอบแล้วยังกินเหล้าอีกเหรอ  เขารู้ว่าเสียใจ เขาก็เสียใจ แต่เขายังไม่เห็นต้องกินเหล้าเลย

“มันเมามากอะ” พลตอบแค่นั้นไม่อยากพูดมากให้อีกฝ่ายคิดมาก ฟังจากเสียงก็น่าคิดมากไม่น้อยแล้ว

“งั้นฝากพี่พลดูแลพีทด้วยนะครับ ยังไงเดี๋ยวชาโทรหาพีทพรุ่งนี้”

“โอเคๆ”

ชาวางสายเสร็จเขานั่งนิ่งมอบรูปที่ถ่ายกับพีทบนหน้าจอโทรศัพท์ไม่หยุด แววตาสับสนไปหมด เมื่อไหร่จะเลิกแก้ปัญหาด้วยการกินเหล้าซะที  ดีใจก็กินเหล้า เสียใจก็กินเหล้า

เมื่อไหร่จะโตสักที!



เช้าวันต่อมา พีทตื่นขึ้นมาในตอนสาย เขาปวดหัวไปหมด เมื่อคืนกินหนักแถมกินเหล้ายี่ห้อที่นานๆจะกินก็แฮงค์ไปเลย

“พีทเป็นไงบ้างลูก” เขามองผู้หญิงที่ถือแก้วกาแฟดำมาให้เขา ผู้หญิงที่น่ารักที่สุดในชีวิตเขา

“แม่ครับ” พีทยิ้มน้อยๆ “ผมปวดหัว”

“เมื่อคืนเมาเละซะขนาดนั้นก็ไม่แปลกหรอก พี่พลแบกเรามาแม่เห็นละตกใจเลย”ดาราพูดกับลูกชาย เขามองใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู ไม่ว่าพีทจะโตขนาดไหนก็ยังดูเป็นเด็กเสมอสำหรับเธอ

“ไปเจออะไรมาละไอ้เสือ ถึงปล่อยให้เมาหัวราน้ำขนาดนั้น” พัฒน์ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาอีกคนพร้อมมองสภาพลูกชายที่น่าตลกไม่น้อย

พีทนั่งนิ่งไม่ตอบอะไรเขามึนหัวไปหมด

“เอานี่ กาแฟกำกินซะ จะได้หายแฮงค์” ดารายื่นแก้วให้ลูก

“หื้ม เหม็นอะแม่ กาแฟไรเนี้ย” พีทปิดจมูกพร้อมรู้สึกคลื่นไส้ทันที

เขารีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ

“อ้วกกกกก !!” ผู้เป็นแม่ตกใจรีบเข้าไปดู

พัฒน์ส่ายหน้าเล็กน้อย  สงสัยลูกยังค้างจากเมื่อคืนเลยอ้วกไม่หยุด







**********************************************************

มาต่อแล้วครับ  พีทเหม็นเก่ง อ้วกเก่งนะช่วงนี้ อิอิ

อ่านคอมเมนต์มีคนกลัวแบดเอนดิ้ง บอกเลยเรื่องนี้ไม่แบดเอนดิ้งนะครับ  แฮปปี้ดีฮ่าๆ

ขอบคุณทุกคนที่แ่านและคอมเม้นต์ครับ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-07-2018 03:04:42
หวังว่าจะคิดได้เร็วๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 12-07-2018 07:34:51
คำผิดค่อนข้างเยอะ

แรกๆยังเฉยๆ ตอนหลังเริ่มสนุก
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 12-07-2018 07:36:51
ท้องแน่เลยหนูชา
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 12-07-2018 08:51:29
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 12-07-2018 12:10:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 12-07-2018 13:12:49
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: zoiesty ที่ 12-07-2018 21:52:07
สนุกมากเลยค่ะ ชอบบบบ o13 o13 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: donut4top ที่ 13-07-2018 02:54:45
ตาพีท โตได้แล้วนะ จะเป็นพ่อคนแล้วความมั่นคงทางอารมณ์ยังไม่มีเลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่8 12.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 13-07-2018 13:27:38
 :เฮ้อ: ฟังๆที่พี่พลเขาบอกมั่งนะพีทเอ้ย เห้อม นี่ก็ท้องแล้วด้วยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 14-07-2018 21:39:03
Partner of life  คู่ชีวิต

ตอนที่9





“ไปหาหมอมั้ยลูก” ดาราถามลูกชายคนเล็กที่นั่งดมยาดมอยู่บนโต๊ะอาหาร

“ไม่เป็นไรครับแม่ เดี๋ยวหายแฮงค์คงดีขึ้น” พีทตอบแม่ที่มองเขาอย่างเป็นห่วง พีทได้แต่ยิ้มน้อยๆให้แม่สบายใจ

เขาก็แปลกใจกับร่างกายตัวเอง  ปกติดื่มเหล้าหนักขนาดไหนก็ไม่เคยแฮงค์อ้วกหนักขนาดนี้

สงสัยไม่ถูกกับเหล้ายี่ห้อนี้แน่ๆ

“อ้วกหมดไส้หมดพุงล่ะ เดี๋ยวกินข้าวกัน” ผู้เป็นพ่อพูดขึ้น

อาหารเช้าเข้ามาเสิร์ฟเยอะแยะมากมาย ทั้งหมดล้วนเป้นของโปรดของพีททั้งนั้น ตั้งแต่เมื่อคืนที่ดารารู้ว่าลูกชายคนเล็กกลับบ้านก็สั่งแม่บ้านจะลงมือทำอาหารให้ลูกเอง

“มีแต่ของโปรดไอ้พีททั้งนั้นเลย แบบนี้ผมงอนได้มั้ยเนี้ย” พลพูดขึ้นอย่างหมั่นไส้

“ก็นานๆน้องจะกลับบ้าน แม่ก็ต้องทำของโปรดน้อง” ดาราพูดขึ้นพร้อมมองลูกชายคนโต เธอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่งอนจริงหรอก

“แม่ต้องให้รางวัลผมสิที่ลากมันกลับบ้านมาได้”

“ฮ่าๆ แม้ว่าจะลากกลับบ้านด้วยสภาพคนเมาอะนะ” ผู้เป็นพ่อแทรกขึ้นอย่างอารมณ์ดี นานๆจะได้ทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตา

“โหพ่อ ยังไงผมก็พามันกลับบ้านได้แล้วกัน”

“ถ้าไม่เมาคิดจะกลับบ้านบ้างมั้ย” พัฒน์หันไปถามลูกชายที่ยังดมยาดมไม่หยุด

“กลับสิพ่อ” พีทตอบหน้ามุ่ย

“คิดว่าติดแฟนจนไม่คิดจะกลับบ้านล่ะ” พัฒน์ถามลูกชายด้วยรอยยิ้ม เขารู้แค่ลูกมีแฟน แต่ก็ไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายอะไร เขาให้อิสระลูกในการเลือกเสมอ

“...” พีทไม่ตอบอะไร สมองพลันกลับไปคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเมาก็ทำเจ็บหัวใจไม่น้อย

“ทานข้าวกันดีกว่า มาครบละ” ผู้เป็นแม่ตัดบทเมื่อเห็นว่าลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเปลี่ยนไป

“ทำไมวันนี้ปลาสามรสเหม็นจังครับ” พีทพูดขึ้นพร้อมดันจานปลาสามรสออกไปไกลๆ

“ก็ปกตินี่หว่า หอมน่ากินด้วยซ้ำ” พลยกจานขึ้นดมพร้อมแย้งน้องชาย

“เหม็น จะอ้วก!” พีทพูดได้แค่นั้น เขารีบวิ่งเข้าห้องน้ำ โก่งคออ้วกอีกรอบ

ทั้งสามคนบนโต๊ะอาหารมองอาการพีทด้วยสายตามึนงง โดยมีผู้เป็นแม่ที่กลับมีแววตากังวลถึงบางอย่าง

หลังจากพยายามทานอาหารจนอิ่ม พีทกลับสั่งให้แม่บ้านนำมะม่วงเปรี้ยวที่ตัวเองเห็นในห้องครัวมาให้ทาน

เขาเห็นล่ะรู้สึกเปรี้ยวปากไม่น้อย

พลยืนมองน้องชายที่นั่งทานมะม่วงเปรี้ยวแล้วรู้สึกเข็ดฟันแทน เขาอดที่แซวไม่ได้

“มึงอาการยังกับคนแพ้ท้อง” พลพูดพร้อมนั่งข้างน้องชาย

“แพ้ท้องไรล่ะพี่  ผมไม่เคยโดนใครจิ้ม” พลแย้งพี่ชายทันที

ดาราที่เดินเข้ามาได้ยินทุกประโยคจึงพูดขึ้นอีกคน

“พีทไปทำใครท้องแล้วแพ้ท้องแทนรึเปล่า” ผู้เป็นแม่พูดขึ้นทำเอาพีทชะงัก

“เป็นไปไม่ได้หรอกแม่  ผมว่าผมคงยังไม่หมดอาการแฮงค์ พอกินของเปรี้ยวแล้วก็รู้สึกดีขึ้น” พีทตอบไปแบบนั้นอย่างปัดความรู้สึกที่เกิดขึ้น

แพ้ท้องแทนเหรอ แทนชาเหรอ  บ้าเปล่าชาจะท้องได้ไง

ถ้าท้อง ชาท้องไปนานแล้ว!!



ทางด้านชาที่นอนนิ่งเปื่อยอู่บนเตียง เขารู้สึกขี้เกียจจะขยับไปไหน อยากนอนเฉยๆ ง่วงบ่อย เลยได้แต่นอนอ่านหนังสือบนเตียง

“ชาสอบอีกทีวันไหนลูก” มล.นภาพูดขึ้นขณะมองลูกชายที่เอาแต่หมกตัวอยู่บนห้องไม่ลงไปไหน  ขนาดจะกินข้าวยังให้ยกมากินบนห้อง

“มะรืนครับ” ชาตอบพร้อมอ่านหนังสือโดยไม่สนใจผู้เป็นแม่

“ชาไม่ลงไปอ่านหนังสือข้างล่างบ้างล่ะ ในสวนก็ดีนะ อากาศดี” เธอพยายามชวนลูกชายคุย

“ไม่อะครับ ชาเพลียๆ อยากอยู่บนห้องมากกว่า”

“งั้นตอนเย็นลงไปทานข้าวด้วยกันนะ” ผู้เป็นแม่ยังพูดต่อมองลูกชายด้วยความเป็นห่วง  เธอรู้เธอใจร้าย แต่เธอก็ยังให้อิสระลูกพอควร ยังไม่ได้ให้ทั้งสองตัดขาดขนาดนั้น แต่แค่ให้ชาพิจารณาเองว่าควรพอ ผู้ชายคนนั้นไม่มีอนาคตอะไรที่จะดูแลลูกชายเธอได้

ชานิ่งไปหันไปมองแม่  เขารู้สึกเหมือนเด็กใจแตกจริงๆอย่างที่แม่ว่า กำลังทำตัวประชดประชัน  ไหนบอกอยากจะเป็นผู้ใหญ่ไงชา

“ก็ได้ครับแม่ ตอนเย็นชาจะลงไป”

ผู้เป็นแม่ยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เดี๋ยวันสอบแม่จะให้พี่ชัชไปส่ง พร้อมรอรับ” มล.นภาพูดต่อ ทำเอาชาที่เริ่มสงบลงกลับตึงขึ้น

“แม่จะทำเหมือนชาเป็นนักโทษไม่ได้นะครับ” ชาลุกขึ้นมองหน้าผู้เป็นแม่

“ถ้าแม่ไม่ทำแบบนี้ ชาคงลอบไปเจอกันอีก”

“แล้วทำไมชาจะเจอแฟนชาไม่ได้”

“ชาเลิกเรียกผู้ชายไม่มีอนาคตคนนั้นว่าแฟนซะที!  แม่ไม่ยอมรับ!” ผู้เป็นแม่เสียงแข็งขึ้นทันที เธอพยายามควบคุมอารมณ์ ไม่ทะเลาะกับลูกชาย

“ยังไงชาก็ไม่เลิก!” ชาเสียงแข็งบ้าง

“ก็เรื่องของชา แต่แม่ไม่ยอมรับ ถ้าชายังดื้อ อย่าหาว่าแม่ใจร้ายก็แล้วกัน!”มล.นภาพูดทิ้งท้ายก่อนจะออกจากห้องไป  ชาล้มตัวนั่งบนเตียงอย่างเหนื่อยแรง ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย!

อาหารมื้อเย็นวันนั้นคนในบ้านนั่งกินอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาแต่บรรยากาศกลับอึดอัด ไม่มีใครพูดอะไรกันมากมาย โยเฉพาะชาที่ใครชวนคุยก็นิ่งเงียบ ตอบแค่เชนเท่านั้น

“ชาดูกินได้เยอะนะ” เขนถามขึ้น ดูเหมือนน้องชายช่วงนี้จะกินเก่งมากขึ้น กินทั้งวัน

“ชาหิว ช่วงนี้อ่านหนังสือหนัก ต้องใช้สมองเยอะ” ชาก็รู้สึกว่าตัวเองกินเยอะขึ้น กินบ่อย โดยเฉพาะขนมหวานเขายิ่งชอบ

“เหลือสอบกี่ตัว” เชนถามต่อ เขาเป็นคนเดียวที่ชายอมคุยด้วย

“อีกสามครับ สอบพรุ่งนี้ก็เหลือสอง” ชาตอบโดยที่ยังไม่หยุดกินกับข้าวตรงหน้าจนหมด แม้ว่าจะไม่ตักข้าวแล้วก็ตาม

“สอบเสร็จอยากไปเที่ยวไหนมั้ย”

“หึ ก็คงอยู่บ้านให้คุณแม่สบายใจดีกว่าครับ ชาจะไปไหนได้” ชาตอบออกมาพร้อมมองหน้าผู้เป็นเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ากินต่อ เขาหันไปถามป้าแม่บ้าน

“ป้าครับวันนี้มีของหวานอะไรมั้ย”

“เอ่อ มีกล้วยบวชชีเหลือจากตอนเที่ยงค่ะ พอดีมื้อเย็นไม่ค่อยจะทำของหวานหนักๆไว้”

“งั้นตักกล้วยบวชชีให้ชาหน่อยครับ” ชาตอบพร้อมก้มลงไปกินต่อย่างไม่สนใจ

เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ภายใต้สายตาผู้เป็นแม่ที่จ้องมองไม่หยุด

ขอให้กินเยอะเพราะอ่านหนังสือจริงๆแล้วกัน  ไม่ใช่อย่างอื่น!



ชานั่งบนรถไม่พุดอะไรกับพี่ชายคนโตที่ขับรถมาส่งที่มหาวิทยาลัย

“เดี๋ยวพี่รออยู่ที่ร้านกาแฟแถวนี้ เสร็จแล้วโทรมานะชา”ชัชพูดจบชาถอนหายใจพร้อมจ้องหน้าพี่ชาย

“พี่ชัชไม่มีงานการทำเหรอ ถึงต้องมาคุมชาอย่างกับนักโทษแบบนี้”

“แค่ไม่กี่วันไม่เป็นไรหรอก”

“ทำเพราะคุณแม่สั่งเหรอ” ชายังถามไม่ไหยุด

“พี่เต็มใจ” ชัชตอบพร้อมมองหน้าน้องชาย เขารู้น้องชายไม่พอใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้น้องชายไปยุ่งกับผู้ชายคนนั้น ไม่เหมาะสมสักนิด

“เหอะ!” ชากระแทกเสียงใส่พร้อมรีบลงจากรถทันที

ชาเดินไปที่ห้องสอบ ยังมีเวลาเล็กน้อย เขาส่งข้อความทางไลน์ส่งให้พีท

‘ชาสอบตึกคณะ เจอกันหลังตึกหลังสอบเสร็จนะ’

‘ได้ครับ เดี๋ยวพีทไปหา พีทสอบเสร็จพร้อมชา’

ชาอ่านข้อความด้วยรอยยิ้ม เขาไม่เจอพีทหลายวันแล้ว คิดถึงเหลือเกิน

“รีบไปไหนวะชา” ขนุนพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าชาออกจากห้องสอบก็รีบเก็บกระเป๋าทันที

“ไปหาพีท” ชาตอบพร้อมจะเดินลงบันได

“เดี๋ยวดิ คุยกันก่อน” เอ๋ยรั้งไว้

“มึงมีปัญหากับพีทจริงเปล่าวะ กูได้ข่าวมาว่ามันเมาเละเลย”กล้าถามขึ้น

“ใช่ มีปัญหานิดหน่อย แต่ยังไม่เลิกกัน” ชาหันไปตอบเพื่อน

“เออๆ ยังไงก็ค่อยๆเคลียร์นะ”กล้าตอบพร้อมให้กำลังใจ

“ขอบใจนะพวกมึง แต่กูรีบ ไว้คุยกันวันหลัง”

เพื่อนทั้งสามมองชาที่เร่งรีบลงบันไดไปได้แต่มองอย่างเป็นห่วง

“ชา!” พีทเรียกเสียงดัง เมื่อเห็นชาเดินมาที่จุดนัดพบ  เขารีบเข้าไปกอดอีกฝ่ายไว้แน่น

“ชาคิดถึงพีท” ชากอดพีทตอบแน่น เขาคิดถึงอ้อมกอดนี้ กลิ่นแบบนี้

“พีทก็คิดถึงชา” พีทลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ

ทั้งสองผละออกจากกันมองหน้ากันอย่างโหยหา พีทลูบใบหน้าชาอย่างเบามือด้วยความถะนุถนอม

“ชาคงอยู่ด้วยได้ไม่นานนะ เดี๋ยวพี่ชัชสงสัย” ชาพูดขึ้นทำเอาพีทหน้าตึงทันที

“ถึงขนาดคุมเลยเหรอ เกินไปมั้ย”

“ชาก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน”

“พีทบอกแล้วไง ให้หนีตามกันก็ไม่เชื่อ!” พีทพูดออกมาอย่างหัวเสียไม่น้อย ตอนแรกเขาว่าจะใจเย็นอย่างที่พลพูดแต่เมื่อมาเจอแบบนี้เขาก็ชักจะฟิวส์ขาดอีก

“ใจเย็นนะพีท เรื่องนั้นไว้ก่อน  เราเหลือสอบอีกสองวันกันแล้ว แปลว่าเราจะได้เจอกันอีกสองวันเท่านั้น”

ชาพูดจบพีทนิ่งไปทันที เขาจะไม่ยอมอยู่แบบนี้แน่ๆ เขาจะไม่ยอมเสียชาไป

“ถ้าสอบเสร็จเราอาจจะไม่ได้เจอกันอย่างนั้นเหรอ”

พีทพูดจบชาก้มหน้านิ่งทันที  นี่คือสิ่งที่เขากลัวมากที่สุด!

“พีทไม่มีวันยอมเด็ดขาด ถ้าต้องบุกถึงบ้านก็คงต้องบุก!”พีทพูดขึ้น

“อย่าทำอย่างนั้นเลยพีท เราต้องค่อยๆหาทางออก ชากำลังคิดอยู่”

“ชาจะทำไงล่ะ”พีทถามขึ้น

“ชาคิดไม่ออก ชามืดแปดด้านไปหมด” ชาตอบพร้อมจ้องมองหน้าพีท “แล้วพีทล่ะคิดอะไรได้บ้างมั้ย”

“พีทคิดได้อย่างเดียวคือหนีไปด้วยกัน  ยังไงพีทก็เลี้ยงชารอดไม่ต้องห่วง”

ชาชะงักไป เขาแอบผิดหวังเล็กน้อยที่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ยังไม่ได้คิดอะไรนอกจากความคิดเดิมๆ

จริงๆแล้วเขาแอบคิดทางออกไว้แล้ว แต่แค่ลองใจพีทว่าจะคิดได้บ้างมั้ย  แต่เปล่าเลย อีกฝ่ายยังไม่คิดอะไรทั้งนั้น ยังไม่คิดจะแก้ปัญหาให้ตรงจุด

“พอเรื่องนี้เถอะพีท เราต้องแก้ปัญหาให้ตรงจุดนะ” ชาพยายามใบ้

“จุดอะไรล่ะ  พีทไม่เข้าใจ” เขาขมวดคิ้วมองหน้าชา นึกถึงคำพลที่พูดด้วย เรื่องเขาไม่มีอนาคตอะเหรอ

“ถ้าพีทไม่รู้ชาก็ไม่รู้เหมือนกัน” ชาอดที่น้อยใจไม่ได้ อีกฝ่ายไม่เคยที่จะคิดเลย มัวแต่คิดอะไรตื้นๆ

“ถ้าเรื่องอนาคต  พีทก็ยังไม่รู้เลยว่าต้องทำไง” พีทพูดเสียงแผ่วเบา

แต่คำพูดของพีททำเอาชายิ่งเหมือนมีอะไรมาถ่วงในใจให้หนักอึ้ง  พีทก็รู้นิว่าปัญหาคืออะไร แต่ทำไมไม่หาทางแก้ล่ะ!

“ถ้าพีทไม่รู้ ชาก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ชาตอบด้วยรอยยิ้มที่ดูจะฝืนยิ้ม  เขารู้สึกผิดหวังและเสียใจไม่น้อย เขาเบื่อที่จะต้องมาคิดแทนอีกฝ่ายทุกอย่าง ถึงเวลาที่พีทต้องเป็นผู้ใหญ่ได้แล้ว ถ้าวันนึงในอนาคตอยู่ด้วยกันไป ถ้าเกิดปัญหาเขาจะฝากอะไรกับอีกฝ่ายได้บ้างมั้ยถ้ายังเป็นแบบนี้

ตอนนี้เขาต้องการมากกว่าคนรัก

เขาต้องการคู่ชีวิต  อีกฝ่ายจะให้เขาได้หรือเปล่า

ครืน ครืน 

เสียงโทรศัพท์ชาสั่น  เขาผละออกจากพีทมองดูโทรศัพท์ตัวเอง

“ชาไปก่อนนะพีท เดี๋ยวพี่ชัชสงสัย”

“เดี๋ยวสิชา พีทยังไม่หายคิดถึงเลย”

“ถ้าพีทอยากอยู่กับชาเหมือนเดิม พีทก็ต้องหาทางออกที่ดีกว่าหนีตามกันให้ได้” ชาพูดพร้อมจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างจริงจัง

“ไม่งั้นพีทอาจจะไม่ได้เจอชาอีกตลอดชีวิต”









****************************************************
มาต่อแล้วครับ  จะเปลี่ยนนิสัยใครสักคนคงไม่ง่าย

อาจจะต้องมีเหตุการณ์อะไรมากระตุ้น

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์นะครับ  :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 14-07-2018 22:31:57
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: oki ที่ 14-07-2018 23:05:42
ติดตามนะคะ สนุกมากๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 15-07-2018 04:53:00
 :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 15-07-2018 06:52:23
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: MiaHiaKris ที่ 15-07-2018 10:45:47
สนุกมากจาาาาาาาาา รอน้องชารู้ตัวว่ามีน้อง555555
โดยรวมเนื้อเรื่องน่าติดตาม แต่คำผิดยังค่อนข้างเยอะ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 18-07-2018 00:34:16
Partner of life  คู่ชีวิต

ตอนที่10



วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเขา ชีวิตมหาลัยกำลังจะจบลง และมันก็หมายถึงนี่อาจจะเป็นวันสุดท้ายที่เขาจะได้เจอพีท  สองวันก่อนที่เขาเจอพีทที่มอ เขาไม่ได้ถามถึงสิ่งที่เขาพูดค้างไว้ เขาพยายามใช้เวลาที่เหลือให้มีความสุข ไม่อยากกดดันอีกฝ่ายมากนัก แต่เมื่อวันนี้มาถึง เขาอาจจะต้องถามอีกครั้ง

“สอบเสร็จไปหาอะไรกินฉลองกันมั้ยมึง” เอ๋ยพูดขึ้น

“เอาสิ กินไรดีวะ” กล้าเป็นฝ่ายตอบ

“กูอยากกินปิ้งย่าง ไปกินกัน” ขนุนเป็นฝ่ายตอบ

ชายืนนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร เพื่อนทั้งสามหันมามองหน้าเขาพร้อมกัน ชาได้แต่ยิ้มน้อยๆให้เพื่อนทั้งสาม  เพื่อนทั้งสามรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นของเขาแล้ว ทั้งสามได้แต่ให้กำลังใจเขา บอกแค่ว่ามีอะไรให้ช่วยให้รีบบอก

“พี่ชัชสวัสดีครับ” เพื่อนทั้งสามเขายกมือไหว้พี่ชายคนโตที่มารอเขา แต่วันนี้กลับต่างออกไป อีกฝ่ายไม่รอที่ร้านกาแฟ แต่กลับมารอเขาที่ใต้ตึกเลย


“วันนี้พี่ชัชกลับก่อนเลย เดี๋ยวชาจะไปกินเลี้ยงกับเพื่อนต่อ” ชาเป็นฝ่ายพูดขึ้น

“แต่พี่ว่า...”

“ไม่มีแต่!  ชาขอเหอะ วันสอบเสร็จชาก็อยากออกไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนบ้าง พี่ชัชจะบังคับชามากเกินไปมั้ย เดี๋ยวชาเรียนจบก็คงไม่ได้ออกไปไหน สมความตั้งใจพี่ชัชแล้ว” ชาพูดออกมาเสียยืดยาวทำเอาพี่ชายคนโตแอบถอนหายใจเล็กน้อย เขาเข้าใจน้องชายดี แต่เขาแค่กลัวน้องชายจะแอบไปเจอไอ้นั้นอีก

“งั้นพี่ขอไปด้วยได้มั้ย  เราจะไปไหนกันพี่ไม่ห้าม เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

“พอเลยพี่ชัช  ชาขออิสระบ้างได้มั้ย!” ชาพูดอย่างอารมณ์เสีย ช่วงนี้อารมณ์เขาขึ้นๆลงๆ ยากจะควบคุม

“เอ่อ ชา มึง...” ขนุนพยายามจะช่วยพูด

“พอเถอะขนุน ยังไงวันนี้กูต้องได้ไป  กูเป็นน้อง ไม่ใช่นักโทษ!” ชากระแทกเสียงใส่พี่ชัช

“ก็ได้ชา” ชัชตอบอย่างจำยอม “ชาเสร็จกี่โมงก็โทรมานะ เดี๋ยวพี่ไปรับ”

“ครับ ขอบคุณครับพี่ชัช” ชายิ้มออกมาน้อยๆพร้อมเดินออกมาทันที

เพื่อนทั้งสามรีบเดินตามชาไป ทั้งสี่คนเดินไปที่รถขนุน เมื่อขึ้นรถเสร็จ กล้าก็พูดขึ้นมาทันที

“มึงโคตรโหดอะชา พูดซะพี่ชัชหน้าเสียเลย”

“เขาทำเกินไป กูเบื่อที่ต้องโดนคุมเหมือนนักโทษ” ชาตอบพร้อมถอนหายใจ

“แล้วมึงจะเอาไงต่อเรื่องมึงกับพีท” ขนุนเป็นฝ่ายถามขึ้น

“กูจะถามพีทวันนี้นี่แหล่ะ” ชาตอบพร้อมบีบมือตัวเองแน่น เขากำลังกลัว กลัวอะไรบางอย่าง



ทั้งสี่คนนั่งทานปิ้งย่างกันไป ไม่นานนักคนที่ชารอคอยก็มา

“พีท!” ชาตะโกนเรียกอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม

“ชา” พีทรีบเดินเข้ามากอดชาไว้

“ชาสั่งชอโปรดพีทรอพีทแล้วนะ  หิวมั้ย” ชาถามด้วยรอยยิ้ม

“ช่วงนี้พีทไม่ค่อยหิวอะ แต่กินก็ได้นะ”พีทตอบพร้อมลูบหัวชา

ขนุนมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม เขารับรู้ได้ถึงความรักของทั้งสองฝ่าย แค่คิดว่าวันหนึ่งสองคนนี้ต้องเลิกกันเขาก็รู้สึกใจหายแทน

“พีทไม่กินล่ะ เนื้อของโปรดพีทเลย” ระหว่างทั้งทานกันชาก็ถามขึ้นเมื่อเห็นพีทนั่งกินแต่ของกินเล่น

“เอ่อ พีทเหม็นๆอะช่วงนี้ ทานอะไรไม่ค่อยได้”

“ไปหาหมอรึยัง” ชาถามอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็ดีขึ้น” พีทตอบด้วยรอยยิ้ม “แต่ช่วงนี้ชาดูกินเก่งขึ้นนะ ดูมีน้ำมีนวลขึ้น” พีทพูดพร้อมลูบแก้มอีกฝ่ายไปมา

“พีทจะบอกว่าชาอ้วนเหรอ!” ชาแกล้งสะบัดเสียงใส่อีกฝ่ายทำเอาพีทยิ้มขึ้นมา

“เปล่า แค่บอกมีน้ำมีนวลขึ้นไง”

“ก็เหมือนกันแหล่ะ”

เอ๋ยที่นั่งมองชาและพีทเถียงกันไปมาแทรกขึ้นอย่างมีความเห็น

“ช่วงนี้ชาอาการยังกะคนท้อง”

คำพูดของเอ๋ยทำเอาทุกคนชะงัก  ชาตะเกียบแทบหล่อนดีที่มีสติซะก่อน

“พูดอะไรของมึงเอ๋ย” ขนุนแทรกขึ้นเมื่อเห็นหน้าชาและพีท

“ก็มึงดูสิ ชาอารมณ์แปรปรวน เหวี่ยงเก่งกว่าเมื่อก่อนขนาดไหน แล้วแถมกินเก่งอีก เหมือนตอนพี่สาวกูท้องเลย” เอ๋ยพูดพร้อมมองชาอย่างพิจารณา ชาดูมีน้ำมีนวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“คิดมากนะเอ๋ย กูแค่กินเก่งช่วงนี้เลยอ้วนขึ้นไม่เห็นจะแปลก” ชาพยายามแย้ง แม้ลึกๆในใจกลับกังวล

“ใช่ มึงคิดมากรนะเอ๋ย แค่ชามันกินเก่งขึ้น” กล้าสมทบ

“ถ้ากูท้องก็ต้องแพ้ท้องบ้างสิ นี่กูไม่อ้วก ไม่แพ้อะไรเลย มึงอะคิดมาก” ชาพยายามปลอบตัวเองลึกในใจ

คำพูดของชากลับทำพีทเงียบ แพ้ท้องเหรอ?

หลังจากทานอาหารเสร็จทั้งหมดแยกย้ายกันโดยที่ชาเลือกที่จะเดินต่อกับพีท

“เราไปดูหนังกันมั้ย” ชาพูดขึ้น

“แต่พีทอยากกอดชา”พีทพูดอย่างมีความนัยพร้อมมองชาด้วยสายตารักใคร่ เขาคิดถึงชาเหลือเกิน เมื่อก่อนอยู่ด้วยกันกอดจูบกันแทบทุกวัน แต่พอห่างกันก็ไม่ได้มีอะไรกันเลย

“จะทำไงละพีท  เดี๋ยวชาต้องให้พี่ชัชมารับที่ห้าง ไม่งั้นพี่ชัชจับได้พอดี”  ชาตอบพร้อมขมวดคิ้วเล็กน้อย ลึกๆเขาก็อยากถูกกอด

“เปิดโรงแรมแถวนี้กันมั้ย ถ้าไปคอนโดพีทไม่ได้” เขารู้ว่าชากลัวพี่ชายจะไปแอบจับผิดที่คอนโดเขา

“จะดีเหรอ”

“ดีสิ นะชา” พีทจับมือคนรักพร้อมมองอีกฝ่ายอ้อนๆ

ชายิ้มออกมาน้อยๆ  สายตาพีทแบบนี้ที่เขามักจะใจอ่อนเสมอ

“ก็ได้”



ทันทีที่เปิดประตูเข้าโรงแรมชื่อดังใกล้ห้างใจกลางเมือง ทั้งสองก็กอดรัดจูบกันอย่างโหยหาและคิดถึง ริมฝีปากทั้งสองประกบจูบกันอย่างเร่าร้อน อ่อนหวานและลึกซึ้ง

“อะ พีท ใจเย็นๆนะ” ชาพูดเมื่อล้มตัวลงบนเตียงให้อีกฝ่ายซุกไซร้ไปตามร่างกายที่ค่อยๆปลดกระดุม

“พีทเย็นไม่ไหวแล้วชา พีทคิดถึงชา อยากเข้าไปในตัวชา” พีทจ้องชาอย่างเร่าร้อมก่อนจะก้มลงไปหยอกล้อกับยอดอกสีสวยที่กำลังชูชันอย่างเรียกร้อง

“อ๊ะ อ่า พีท”

เกมส์รักค่อยๆดำเนินอย่างเร่าร้อนสมกับที่ทั้งสองคนไม่ได้กอดกันมานาน ชาถอดเสื้อผ้าอีกฝ่ายบ้างออกจนหมด ทั้งสองร่างเปลือยเปล่าจูบกันอีกครั้งและร่างเปลือยที่กำลังเสียดสีกันไปมา

ชาผลักพีทให้นอนลงเขาค่อยๆเล้าโลมอีกฝ่ายให้สมกับความคิดถึงเขาดูดความเป็นชายของอีกฝ่ายเข้าไป หยอกล้อกับส่วนหัวจนพีทต้องเกร็งหน้าท้องจนขึ้นเป็นลูกๆ พีทลูบหัวชาไปมาอย่างรักใคร่

“อ๊ะ ชา พีทเสียว อ่า”

ชายิ่งเร่งความเร็วและรัวลิ้นมากขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกำลังมีความสุข พีทกระชากชาขึ้นมาก่อนที่เขาจะถึงฝั่งฝัน เขาบดจูบอีกฝ่ายอย่างเร่าร้อน ลิ้นทั้งสองคนพัวพันกันกันไปมา พีทก้มลงไปซุกบั้นท้ายสวย เขารัวลิ้นใส่ปากทางสีสวยอย่างเร่าร้อนเพื่อให้อีกฝ่ายมีความสุขบ้าง

“พีท ซี๊ดดดดดด อ่า”

พีทมองอีกฝ่ายที่ขยี้หัวเขาแรงๆแล้วรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังต้องการอะไร พีทสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปในตัวของอีกฝ่าย เขาค่อยๆเข้าเพราะช่องทางที่ไม่ได้ใช้งานมานานบีบรัดเขาจนเขารู้สึกเสียวไปหมด เมื่อสุดแล้วเขาก้มลงไปจูบคนรักอย่างอ่อนโยนและค่อยๆรุนแรงขึ้นทั้งริมฝีปากและบั้นเอว  เขาเร่วจังหวะเร็วขึ้นเมื่อรู้สึกว่าจะทนไม่ไหว 

ชาบีบรัดเขาเกินไป

“ซี๊ดดด  พีทไม่ไหวแล้วชา ”

“ชาก็เหมือนกัน อ่าห์”

ทั้งสองคนปลดปล่อยอารมณ์ออกมาทั้งคู่ พีทกอดจูบอีกฝ่ายอย่างรักใคร เขาจูบหน้าผากอีกฝ่ายเบาๆโดยที่ไม่ได้นำส่วนที่เชื่อมกันไว้ออก

“อีกรอบนะที่รัก” พีทกระซิบข้างหูชาเสียงแหบพร่าไปด้วยอารมณ์

ชาจับหน้าพีทมาจูบต่อเป็นคำตอบ และเกมส์กามก็เริ่มขึ้นอีกครั้ง



ครืน ครืน  เสียงโทรศัพท์ชาสั่น แต่ทั้งสองคนกลับไม่ได้ยินมัน และไม่สนใจด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ทั้งโลกมีแค่เขาสองคน

หลังจากไปอารมณ์สงบลง ชานอนกอดพีทพร้อมซบลงบนแกแกร่งของอีกฝ่ายพีทที่นอนมองคนรักพร้อมลูบหัวไปมา

“พีทคิดได้ยังว่าจะเอาไงต่อ” ชาถามขึ้น

“เรื่องของเราอะเหรอ” พีทขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาเครียดเรื่องนี้มานหลายวันจนแทบอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง เขาได้คุยกับพลอีกครั้ง อีกฝ่ายก็แนะนำให้เขาลองหาอะไรที่เป็นหลักประกันให้พ่อแม่ชาเห็นว่าเขามีอนาคต แต่หลักประกันนั้นอะไรล่ะ

“ใช่ พีทคิดไว้หรือยัง”

“พีทคงขอพักผ่อนหลังเรียนจบสักพักแล้วคงไปช่วยงานที่บ้าน”

“พีทจะไปดูแลผับเหรอ” ชาถามพร้อมเงยหน้าขึ้นถามอีกฝ่าย

“คงไปดูแลร้านอาหารอีกร้านแทน ส่วนผับให้พลมันดูไป”

“ร้านอาหารธรรมดาเหรอ”

“ก็กึ่งบาร์อะ” พีทตอบ เขารู้ว่าบ้านชาไม่ชอบอะไรแบบนี้ แต่เขาก็ต้องช่วยงานที่บ้าน

ชานิ่งเงียบไปแปปนึง อย่างน้อยก็ไม่ใช่ผับเต็มตัว

“แล้วเรื่องบ้านพีทเป็นมาเฟียนี่จริงมั้ย”

“เอ่อ มันก็ไม่ขนาดนั้นหรอก เดี๋ยวนี้พ่อปล่อยมือลงมาเยอะแล้ว เป็นลุงมากกว่าที่ทำด้านนั้น” พีทตอบด้วยความกลัวเล็กน้อย กลัวว่าอีกฝ่ายจะกลัวเขา

“พีทมีเชื้อสายอิตาลีเหรอ” ชาจ้องหน้าอีกฝ่ายที่ดูมรเค้าโครงเล็กน้อย แต่ก็ไม่ชัดขนาดนั้นถ้าไม่สังเกต

“ใช่ พีทมีทวดเป็นคนอิตาลีแท้ๆอะ เป็นมาเฟียที่นู้นมารักคนไทยเลยมีปู่ ซึ่งปู่เป็นลูกครึ่ง และพ่อพีทก็เป็นลูกเสี้ยว”

“แบบนี้จะมีเชื้อเหลือถึงพีทมั้ยเนี้ย” ชาพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมเล่นจมูกพีทไปมา พีทจมูกโด่งสวยมากไม่แปลกเลยถ้าจะมีเชื้อสายทางนั้น

“มีสิ พีทถึงหล่อแบบนี้ไง!” พีทพูดพร้อมเก็กหล่อจนชาต้องหัวเราะออกมา

“ฮ่าๆ ” ชาลูบหน้าพีทไปมา มองพีทอย่างรักใคร “ถ้าเรามีลูกด้วยกัน ลูกจะหน้าตายังไงนะ”

คำถามของชาทำเอาพีทจ้องอีกฝ่ายกลับก่อนจะยิ้มกว้างออกมา

“ต้องหล่อเหมือนพ่อสิ”

ทั้งสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน ชาเหลือบมองนาฬิกา สามทุ่มกว่าแล้ว เวลาแห่งความสุขผ่านไปไวจริงๆ

“แต่งตัวกันเถอะ เดี๋ยวพี่ชัชสงสัย”

“คืนนี้อยู่ด้วยกันไม่ได้เหรอ” พีทถามอ้อนๆ

“ไม่ได้หรอกพีท ถ้าโดนจับได้ เราอาจไม่ได้ติดต่อกันเลยนะ” ชาพูดเสียงนิ่งจนพีทพยักหน้าเข้าใจ

ทั้งสองแต่งตัวกันเสร็จเดินจับมือกันลงมาล่างโรงแรมทั้งสองมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม โดยไม่เห็นเลยว่ามีใครอีกคนยืนมองด้วยสายตาผิดหวังและจ้องเขม็ง

“ชา!”  ชาตัวกระตุกทันทีมองคนตรงหน้าที่จ้องมองเขาอย่างผิดหวัง

“พี่ชัช!” ชามือสั่นไปหมด จะปล่อยมือที่พีทกุมไว้แต่พีทกลับกุมแน่นขึ้น

“หึ พี่ไม่คิดเลยว่าการที่พี่ยอมใจอ่อนให้ชาแล้วชาจะทำแบบนี้” ชัชกอดอกมองน้องชายที่กุมมือกับผู้ชายคนนั้นแน่น “บอกพี่ว่าจะไปกินฉลองกับเพื่อนเรียนจบแต่กลับมานอนกกกับผู้ชายที่โรงแรม!”

คำพูดของชัชกระแทกใจชาจนเริ่มหัวใจเต้นแรง

“ชาไม่ได้โกหก ชาไปกินกับเพื่อนมาจริงๆ...”

“กินกับเพื่อนเสร็จแล้วมากินกันต่อที่โรงแรมเหรอชา” ชัชมองน้องชายด้วยความผิดหวัง ชาเป็นน้องที่เขารักมาก เชื่อใจอีกฝ่ายแต่อีกฝ่ายกลับทำลายความเชื่อใจของเขา  เขาสูงกว่าชาเล็กน้อยมองหน้าน้องชายที่เริ่มตาแดง

“พี่ชัชกำลังดูถูกชา!” ชามองใบหน้าพี่ชายที่ละม้ายคล้ายเขา แต่พี่ชัชจะนิ่งกว่า หน้าสวยแต่กลับดูเย็นชาเพราะสายตาที่ดุและใบหน้านิ่งๆของอีกฝ่าย

“เปล่าเลยชา ชากำลังดูถูกตัวเอง มานอนกกกับผู้ชายที่โรงแรม! ไม่ต่างจากที่คุณแม่พูดจริงๆว่าชาทำตัวเหมือนเด็กใจแตก!” ชัชพูดจบกระชากแขนน้องชายอย่างแรงจนทั้งสองหลุดออกจากกัน

“คุณปล่อยชานะ!” พีทพยายามดึงอีกฝ่ายกลับมาแต่โดนชัชบังไว้  ชัชมองผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเขา แต่เชากลับไม่กลัวสักนิด ผู้ชายคนนี้ไม่มีอะไรดีสักอย่าง มีแต่ย่ำยีศักดิ์ศรีน้องชายเขา

“นายกลับไปซะ แล้วเลิกยุ่งกับน้องชายฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก!”

“ไม่มีทาง!!” พี่จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้

“แล้วนายจะได้เห็นดีกัน!” ชัชพูดจบหันไปกระชากแขนชา “กลับชา!”

“ชา ไปกับพีท  พีทไม่สนใจล่ะ ไปกับพีทเถอะ พีทจะดูแลชาเอง!” พีทจับมืออีกข้างชาไว้พร้อมอ้อนวอน

ผลั๊ก!!  ชัชผลักพีทออกจากน้องชายอย่างแรง

“อย่าพีท!!” พีทกำหมัดจะต่อยหน้าชัชแต่ชากลับห้ามไว้

“ปล่อยชา!!   พี่จะต่อยมัน!”

“ต่อยฉันสิ ป่าเถื่อนจริงๆ ไม่แปลกเลยที่โตมาในสังคมแบบนั้น ผู้ชายแบบนี้นะเหรอจะดูแลน้องชายฉันได้  ไม่เหมาะสักนิด!” ชัชพูดพร้อมมองเหยียดอีกฝ่าย

“พอเถอะพี่ชัช  กลับกัน!” ชาเป็นฝ่ายกระชากพี่ชายออกจากพีทที่กำลังยืนจ้องอย่างเอาเรื่อง  เขาไม่อยากให้มีเรื่องกัน งั้นเรื่องจะบานปลายกว่าเดิมแน่ๆ

“ชา ไปกับพีทเถอะ”

“ใจเย็นนะพีท ไว้ค่อยคุยกัน” ชารีบดึงพี่ชายออกมาพร้อมมองพีที่จะเดินตามมา แต่เขามองอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอนให้กลับไป

พีทยืนนิ่งมองอีกฝ่ายเดินจากไปด้วยความรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก

เขามองพี่ชายชาที่กระตุกยิ้มมองเขาอย่างสะใจแล้วอยากจะซัดสักหมัดจริงๆ!






*****************************************************

มาต่อแล้วครับ  ขอบคุณทุกคนที่คอมเม้นต์นะครับ ติชมกันได้
เป็นกำลังใจที่ดีให้คนเขียนเลย   :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 18-07-2018 01:28:44
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 18-07-2018 11:30:12
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 18-07-2018 11:55:00
ติดตามต่อออออกำลังเข้มข้น
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 18-07-2018 18:32:32
คือเป็นพี่ชายแต่สะใจในเรื่องที่น้องทุกข์? คือะไร
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 18-07-2018 23:17:55
พีท  ดูไม่โต ไม่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ
เพราะรู้ว่าต้องมาช่วยงานทางบ้าน
ไม่ได้กลัวไม่มีงานทำ เลยใช้ชีวิตสบายๆ
วันๆเล่นเกมส์ กินเหล้า สูบบุหรี่
ขนาดชาห้ามยังทำตลอด ทำตัวไม่น่าเชื่อถือเลย ไม่รับผิดชอบตัวเอง

ส่วนชา ครอบครัวผู้ดี ไม่ชอบกิจการอาชีพบันเทิง มาเฟีย
แถมมีความลับประจำตระกูลอีก
ลูกชายคนสุดท้องท้องได้ซะอีก  o22 o22 o22
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 24-07-2018 01:04:14
Partner of life  คู่ชีวิต


ตอนที่11





“ชา พูดกับพี่ก่อน!” เสียงชัชตวาดเสียงดังกลางบ้านทำเอาคนในบ้านทุกคนสนใจ  มล.นภาที่กำลังจะเดินมาหาลูกคนเล็กที่กลับบ้านดึกถึงกับชะงัก

“ชาไม่มีอะไรจะพูดกับพี่ชัช” ชายอมเปิดปากพูดเป็นครั้งแรกตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงบ้าน

“แต่พี่มีเรื่องจะคุยกับชา” ชัชพูดเสียงแข็งมองหน้าน้องชายคนเล็ก

“พี่ชัชจะพูดอะไรอีก ในเมื่อชาเลือกอะไรไม่ได้ ชาต้องอยู่ภายใต้คววามต้องการของพี่ชัช!” ชาพูดเสียงแข็งบ้าง

“ทะเลาะอะไรกันสองคนพี่น้อง” มล.นภาทนไม่ไหวเดินลงมาดูลูกชายสองคนที่กำลังเถียงกัน

“ไม่มีอะไรหรอกครับ” ชัชพยายามนิ่ง ใจเย็น

“บอกแม่มา!” มล.นภาเสียงแข็งบ้าง “เกี่ยวกับที่วันนี้ชากลับบ้านดึกใช่มั้ย”

ชาเม้มปากแน่นเขาไม่พูดอะไร  พูดไปก็มีแต่ผิด

“ทำไมชาถึงกลับบ้านช้า วันนี้สอบวันสุดท้ายไม่ใช่เหรอ” เธอหันไปคาดคั้นลูกชายคนเล็กแทนเมื่อเห็นว่าลูกชายคนโตไม่ยอมพูด

“ชาไปกินฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนมา” ชาตอบนิ่งๆก่อนจะพยายามจะเดินหนีขึ้นห้อง แต่กลับโดนผู้เป็นแม่ดักไว้

“แค่ไปหาเพื่อนมาใช่มั้ย” มล.นภาคาดคั้น เธอรู้จักลูกชายคนเล็กดี ชาเป็นคนฉลาด ทำอะไรระวังตัว เธอพยายามมองข้ามเวลาเห็นลูกชายคุยแชทหรือแอบโทรคุยกับใคร แต่ถ้ามากไป เธอก็ต้องจัดการ

“ใช่ครับ  แม่จะให้ชาไปหาใครด้วยเหรอ” ชาตอบอย่างยียวน พร้อมรีบเดินขึ้นห้องอย่างไม่สนใจพี่ชายและแม่ที่กำลังเรียกตามหลังมา

ปัง!!

ชาปิดประตูเสียงดังไปด้วยอารมณ์ไม่พอใจ  ถ้าแม่รู้ว่าเขาไปเจอพีทมา รู้ว่าพี่ชัชไปเจอเขาและพีทที่หน้าโรงแรม ชาจะต้องโดนแม่กักตัวหนักแน่ๆ

แอ๊ด!

เสียงประตูห้องเปิดขึ้นมา เขาหันไปมองเจอพี่ชัชที่ยังตามมาไม่เลิกซะที

“พี่ชัชมีอะไรอีก” ชากระแทกเสียงใส่

“พี่ขอห้ามหลังจากนี้ชาห้ามไปเจอมันอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าพี่ใจร้าย” ชัชพูดเข้าประเด็นทันที

“พี่ชัชไม่มีสิทธิมาห้ามชา”

“ทำไมพี่จะไม่มีสิทธิ สิทธิของพี่ชายที่เป็นห่วงน้องไง ไม่ได้รึไง”

“นี่เรียกว่าเป็นห่วงเหรอ  หรือกักขังกันแน่ ถ้าพี่ชัชเป็นห่วงชาจริง พี่ชัชต้องเข้าใจชาสิ” ชาพูดเสียงสั่น เขารู้สึกน้อยใจพี่ชายคนโต เมื่อก่อนพี่ชัชตามใจเขาเสมอ แต่ทำไมตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้น

“ชาจะพูดอะไรก็พูดเถอะ สักวันชาจะเข้าใจพี่  เรื่องวันนี้พี่จะลืมๆไปแล้วกันว่าชาทำอะไรไว้” ชัชมองหน้าน้องชายแล้วเริ่มใจอ่อน ยังไงเขาก็ทำร้ายน้องชายไม่ลง

“แค่ชาไปนอนกับแฟนชามา มันผิดมากรึไง!” ชาพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจ  เขาผิดขนาดนั้นเลยเหรอ

“ชาพูดว่าไงนะ!!” มล.นภาเปิดประตูเข้ามาทันที  เธอแอบฟังอยู่นานแล้ว เธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วตอนนี้เธอก็ได้รู้

“มีอะไรครับคุณแม่”  เชนได้ยินเสียงทะเลาะกันเสียงดังจึงเปิดมาดู เจอแม่กำลังยืนอึ้งอยู่หน้าห้องน้องชายคนเล็ก

“ชาพูดว่าไงนะ บอกแม่สิ!” มล.นภาไม่สนใจอะไรนอกจากคำพูดที่ได้ยินเมื่อกี้

“เอ่อ คุณแม่ครับ คือ...” ชัชพยายามช่วยน้อง

“หุบปากชัช!  แม่ถามชา” มล.นภาเดินเช้าไปใกล้ลูกชายคนเล็กพร้อมจ้องหน้าลูกชายคนเล็กที่ไม่กล้าสบตาเธอ

“ชาไปเจอพีทมาครับ” ชาตอบออกมาเสียงแผ่วเบา

เชนกัดฟันตัวเองแน่น ชิบหายแล้ว!!

“ไปเจอหรือไปนอนกับมันมา!!” มล.นภาตวาดเสียงดังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอไม่เคยโกรธลูกชายคนเล็กขนาดนี้มาก่อน

“ใช่ ชาไปนอนกับพีทมา” ชาจ้องหน้าแม่กลับอย่างไม่ยอมแพ้ เขาไม่อยากโกหกอีกต่อไปแล้ว

เพี๊ยะ!!  เสียงตบหน้าดังลั่น ชัชและเชนเบิกจากว้าง เชนรีบเข้าไปกอดน้องชายคนเล็กไว้ทันที

ชาจับซีกหน้าที่โดนตบไว้พร้อมเม้มปากน้ำตาคลอ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นยังไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่ใจ

“แม่ตบชา..” ชาพูดเสียงสั่น

“ชาเป็นไงบ้าง” เชนถามน้องชายเสียงอ่อนโยนแต่เหมือนชาจะไม่ได้ยินสักนิด

“แม่ตบชา...” ชายังพูดไม่หยุด เขาปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาทั้งๆที่ตากลับจ้องกับผู้เป็นแม่ไม่วางตา

มล.นภามือสั่นไปหมด เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะทำร้ายลูกชายได้ลงคอ แต่ชาดูถูกตัวเองเกินไป ทำตัวเหมือนเด็กใจแตก!

“ชาเลิกกิริยาต่ำๆแบบนั้น เลิกทำตัวเป็นเด็กใจแตกซะที!”

“มันต่ำมากเลยเหรอ ก็แค่เซ็กซ์ ชามีอะไรกับคนที่ชารัก มันผิดเหรอ!” ชาเถียงทั้งน้ำตา

“เลิกพูดเรื่องแบบนั้นซะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอย่าหวังว่าจะได้เจอกันอีก!”

“แม่ห้ามชาไม่ได้หรอก!”

“แม่ห้ามชาไม่ได้ แต่แม่ขังชาได้!!” คำพูดของมล.นภาทำเอาทุกคนตกใจ

“คุณแม่ครับใจเย็นๆก่อน” ชัชพยายามห้าม

“พอทีชัช เราตามใจน้องจนเป็นไงล่ะ แม่อุส่าห์ไว้ใจให้ดูน้อง สุดท้ายก็แอบดอดไปนอนกับไอ้นั้นอีกจนได้ หึ” มล.นภาหันไปเอ็ดลูกชายคนโต

“คนรักกันจะเจอกันมันไม่ผิด เดี๋ยวนี้เรื่องเซ็กซ์ใครๆก็มีกัน เรามีเพราะเรารักกัน!!”

“ใครๆก็มีกัน แล้วชาต้องไปทำตัวแบบนั้นเหมือนคนอื่นเหรอ หึ ถ้าพลาดขึ้นมาล่ะชา รู้แล้วนิว่าตัวเองท้องได้ ลืมไปแล้วรึไง!!”

ชานิ่งไปทันทีมองแม่น้ำตาคลอก็จะยิ้มเหยียดพร้อมพูดประชด “ท้องก็ดีสิ ชาจะได้หอบลูกไปอยู่กับพีท”

“ฃา!!” มล.นภาจะเข้ามาหาชาอีกแต่โดนชัชห้ามไว้ และเชนกอดบังน้องไว้

“ชาหยุดความคิดแบบนั้นซะ  ก่อนที่แม่จะทนไม่ไหวไปมากกว่านี้” มล.นภามองลูกชายคนเล็กอย่างผิดหวัง ไม่คิดเลยว่าชาจะเป็นไปได้ขนาดนี้ “ชัชไปเอาโทรศัพท์น้องมา!” เธอสั่ง

“ไม่ ชาไม่ให้!!” ชาพยายามดิ้น แต่เชนก็ช่วยอะไรไม่ได้  ชัชแย่งโทรศัพท์มาจนได้

“หลังจากนี้อย่าหวังจะได้ติดต่อกันอีก  ลืมไอ้นั้นไปซะ!”

“ไม่!!!!!!!!!!!!!!!  ปล่อยชา!!!!!”

ชากรีดร้องออกมาเสียงดังดิ้นแรงไม่สนใจพี่ชายที่กอดเขาเอาไว้ ชาน้ำตาไหลพรากมองแม่ที่เดินออกไป เขาเม้มปากแน่นพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดของพี่ชาย
“ปล่อยชา!!!!!! ”

ระหว่างนั้นเองอยู่ดีดีก็เขารู้สึกหายใจไม่ทัน หอบตัวโยนและตาพร่ามัว

“แม่!!   น้องสลบ!!”  เชนตะโกนเสียงดังทำให้ผู้เป็นแม่เข้ามาดูพร้อมกับพี่ชายคนโต

เธอมองลูกชายคนเล็กที่สลบไปอย่างตกใจ มือไม้สั่นไปหมด

“เชนอุ้มน้องลงไป เดี๋ยวพี่เตรียมรถ ไปโรงพยาบาล” ชัชที่ดูเหมือนจะมีสติสุดสั่งทันที

ระหว่างที่ทุกคนตกใจ เชนอุ้มชาลงมาข้างล่างเดินสวนกับผู้เป็นพ่อ

“เกิดอะไรขึ้นเชน” มล.องอาจตกใจทันทีที่เห็นลูกชายคนเล็ก

“น้องสลบครับ” เชนหน้าตาตื่นรีบวิ่งอุ้มน้องไปขึ้นรถพี่ชายทันที

“คุณ” ผู้เป็นภรรยาเรียกเขา ทำให้ผู้เป็นสามีรีบเดินเข้าไปหาร่างที่ดูอ่อนแรงจะเป็นลมไปอีกคน

“ใจเย็นๆนะคุณ  เกิดอะไรขึ้น”

“ไปโรงพยาบาลกันเถอะ เดี๋ยวฉันเล่าให้ฟัง” มล.นภาตอบอย่างอ่อนแรง



เชนและชัชที่มาถึงก่อนยืนรอหมอหน้าห้องฉุกเฉิน โดยมีแม่และพ่อกำลังเดินตามมา  ทั้งสี่คนนั่งนิ่งไม่ได้เดินไปมาอย่างกับหนูติดจั่น

“ทำไมช้า” มล.นภาพูดออกมา

“นั้นสิ ถ้าเป็นลมธรรมดาน่าจะออกมาได้แล้ว” มล.องอาจพูดขึ้นอีกคน

ทั้งสี่คนรอไปอีกสักพักประตูก็เปิดขึ้น

“เป็นไงบ้างครับหมอ” เชนพุ่งไปคนแรก

“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ ความดันขึ้นสูงเนื่องจากเครียดเลยสลบไป”

ทั้งสี่คนถอนหายใจออกมาพร้อมกัน หมอจึงพูดต่อ “แต่พยายามอย่าให้คนไข้เครียดอีกนะครับ เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อเด็กในครรภ์ได้”

คำพูดของหมอเหมือนฟ้าผ่ากลางใจทั้งสี่คน โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ที่ถึงกับล้มทั้งยืน

สิ่งที่เธอกลัวที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว!!

“เอ่อ  นี่ยังไม่รู้เหรอครับ คนไข้ท้องได้เกือบสี่เดือนแล้วนะครับ 15สัปดาห์แล้ว”

ชัชกำหมัดแน่นพร้อมตอบคุณหมอแทนคนอื่นที่กำลังอึ้ง

“ครับ แล้วต้องนอนโรงพยาบาลมั้ย”

“หมอยากให้นอน อยากดูอาการต่อ และรอให้คนไข้ตื่น หมออยากตรวจครรภ์อย่างละเอียดอีกครั้ง”

“ได้ครับ”

ชัชเดินตามพยาบาลไปเพื่อจัดการเรื่องเอกสาร

“แม่ไหวมั้ยครับ” เชนถามแม่ที่นั่งบนเก้าอี้โดยมีพ่อกำลังปลอบ

“สุดท้ายชาก็ทำให้แม่ผิดหวังจริงๆ ชาท้องกับไอ้นัน้ได้ไง”

เชนผละออกมาปล่อยให้พ่อปลอบแม่ไป เขาคิดอะไรไม่ออกว่าควรทำไงต่อดี จะบอกไอ้พีทดีมั้ย

“แกห้ามโทรบอกไอ้นั้นเด็ดขาดนะเชน ไม่งั้นแกกับแม่ขาดกัน!!”

มล.นภาพูดเสียงเด็ดขาดมองลูกชายคนกลางที่ลังเล

เชนเม้มปากแน่นได้แต่พยักหน้าไม่ตอบอะไร




ชาลืมตาขึ้นมาเขาปวดหัวไปหมด มองไปรอบๆนี่ไม่ใช่ห้องเขา นึกถึงภาพเมื่อคืน เขากำลังทะเลาะกับแม่นี่

“ชาตื่นแล้วเหรอลูก” มล.นภาเดินเข้ามาหาลูกชายคนเล็ก ถึงเธอจะโกรธ ผิดหวังแค่ไหน แต่ความรัก ความเป็นห่วงยังมีมากกว่า

“ชาอยู่โรงพยาบาลเหรอครับ”

“ใช่ เมื่อคืนชาเป็นลม”

“ชาเป็นไงบ้าง เดี๋ยวพี่เรียกหมอให้” เชนรีบกดเรียกหมอทันที

ชาได้แต่จับหัวไม่พูดอะไร รู้สึกปวดตุบๆไปหมด

ชานอนให้คุณหมอตรวจไปจนเสร็จคุณหมอจึงถามขึ้น

“คนไข้ท้องได้จะสี่เดือนแล้ว รู้แล้วใช่มั้ยครับ”

คำพูดของหมอทำเอาชาตาเบิกกว้าง

“หมอว่าไงนะ!!  ท้องเหรอ!!” ชามือสั่นไปหมด เขาลูบหน้าท้อตัวเองทันที

“ใช่ครับ คุณกำลังท้อง”

“ชาไม่รุ้มาก่อนเหรอ” ผู้เป็นแม่ถามขึ้น

“ชาไม่รู้..” ชาพูดเสียงแผ่วเบา

“ตอนนี้ก็รู้แล้วสินะว่าทำอะไรลงไป” มล.นภาอดที่จะประชดออกมาไม่ได้

ชามองแม่ที่มองเขาด้วยสายตาผิดหวัง ชาน้ำตาคลอ เขากำลังท้อง กำลังเป็นแม่คน และตอนนี้ทำให้แม่ตัวเองผิดหวังสุดๆ

ท้องก่อนแต่ง  ท้องทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบดีด้วยซ้ำ!!








*************************************************
มาต่อแล้งครับ  กำลังเข้มข้น  มกล้เข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญแล้ว

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์เป็นกำลังใจให้กันครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: iceman555 ที่ 24-07-2018 01:37:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 24-07-2018 02:39:11
 :hao7: :hao7: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Freja ที่ 24-07-2018 03:52:54
นภา - นี่คือการกระทำของผู้ดีอ่ะนะ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 24-07-2018 05:26:42
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 24-07-2018 06:43:21
คือคุณแม่ชอบที่จะซำเติมมากมาย
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 24-07-2018 07:45:15
เหอะๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: ่jum ที่ 24-07-2018 07:59:44
ในละครมันก็มีเยอะอ่ะนะ แต่คนเป็นแม่แบบนภาแทนที่จะเข้าใจลูกกลับประชดลูกซะงั้น วัยวุฒิคุณเธอหายไปไหน???
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: SM_day ที่ 24-07-2018 08:09:09
โอ้ยยย แม่นี่คือหน้าผู้ดี กริยาสลัมสุด ชอบความละครช่อง7สุด
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 24-07-2018 08:31:25
ติดตามต่อออออออ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 26-07-2018 23:03:03
 :katai1: :katai1:l :katai1:หงุดหงิดโว้ยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: weedear ที่ 10-08-2018 20:04:17
หายเงียบไปเลยยยย
นออ่านอยู่น้าาา
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 17-08-2018 01:26:49
 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่9 14.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-08-2018 02:24:44
 :เฮ้อ: พีชเอ้ย ปวดจิตกับแกจริงๆ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่10 18.07.61 หน้า2
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-08-2018 02:31:19
พีชชชชชช โว้ยย คิดสิคิด หาทางเอาชนะคำดูถูกให้ได้สิ

เปลี่ยนตัวเองหน่อยนึงแกเอ้ย ไม่ใช่เอะอะก็จะชวนชาหนี
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 17-08-2018 02:41:31
“แกห้ามโทรบอกไอ้นั้นเด็ดขาดนะเชน ไม่งั้นแกกับแม่ขาดกัน!!”

คำนี้น่าจะเป็น ไอ้นั่น ไหมคะ ส่วน ไอ้นั้น

มันเหมือนจะใช้แบบยังไงล่ะ เราก็อธิบายบอกไม่ถูก

เราเห็นผิดหลายที่เลยค่ะในตอนที่ 11
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 27-08-2018 08:02:33
มาต่อเถอะนะ  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 10-10-2018 00:42:04
 :call:  :call: :call: มาต่อเถอะนะคะ
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 10-10-2018 01:51:31
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: su40747 ที่ 10-10-2018 03:54:36
 :katai1: :katai1: :katai1:

ต่อเถอะค่ะ plssssssss

 :call: :call: :call:  :hao5:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 27-10-2018 00:56:17
 :ling1: :ling1: :ling2: :z13: :z10: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: 98NooNid0831 ที่ 06-02-2019 11:27:47
ต่อเถอะนะคนดี :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: zoiesty ที่ 31-01-2020 20:45:35
อยากให้มาต่อมากกกกๆค่า :ling1: :hao5:
หัวข้อ: Re: Partner of life คู่ชีวิต (Mpreg) ตอนที่11 24.07.61 หน้า3
เริ่มหัวข้อโดย: Chompoo reangkarn ที่ 05-08-2021 08:21:07
 :call: :call: :call: :call: :call: