พิมพ์หน้านี้ - 【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】: แผนลวงสำเร็จแล้ว ☺
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ♥MM...★ ที่ 27-04-2018 16:33:09
-
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้
18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
เจ้าของเดียวกับ
【เรื่องสั้น】: อสุรกาย (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44148.msg2854370#msg2854370) : จบแล้ว
【เรื่องสั้น】: ...แปลกใจ... (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44188.msg2857647#msg2857647) : จบแล้ว
【เรื่องสั้น】: ...บอกได้คำเดียวว่า"เสียใจ"... (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44189.msg2857655#msg2857655) : จบแล้ว
【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】: …ฝากเอาไปคืนเขาที…☺ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47615.msg3111737#msg3111737)
【เรื่องสั้นตอนเดียวจบ】: . . . ผี ห ล อ ก . . . (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=47665.msg3115487#msg3115487)
หายไปนานเลยค่ะ ในที่สุดก็คัมแบ็ค พร้อมกับเรื่องเก่า 5555 ฝากติดตามด้วยนะคะ ออกแนวแฟนตาซี เดิมมันคือฟิค ถ้าใครอ่านแล้วคล้าย ๆ คุ้น ๆ ไม่ต้องสงสัย มันเรื่องเดียวกัน ๕๕๕๕๕๕๕๕
แผนลวงสำเร็จแล้ว!!
...ร้อนเหลือเกิน...หวาดกลัว...หิวโหย...
ได้โปรด...ขอเพียงใครสักคนช่วยฉุดข้าให้หลุดพ้นจากที่แห่งนี้เสียที...
...ใครสักคน...ใครก็ได้...
โดยพลัน...ร่างที่กำลังเดินโซซัดโซเซไร้เรี่ยวแรงอยู่กลางทะเลทรายอันร้อนระอุก็ล้มลง ดวงตาสีเทาอมฟ้าของเจ้าตัวกวาดมองไปรอบๆ อย่างหมดหวัง
ถอดใจแล้ว...ถอดใจ ในเมื่อรอบๆ ตัวเต็มไปด้วยสีน้ำตาลของทะเลทรายที่ทั้งเวิ้งว้างและทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา มองหาจุดสิ้นสุดไม่เจอ เจ้าเหมียวขนสีขาวตัวน้อยที่แสนจะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ นอนหายใจพะงาบๆ เงยใบหน้ากลมมนขึ้นมองท้องฟ้า ตาสีสวยที่เคยสดใส บัดนี้กลายเป็นเพียงขีดเล็กๆ เพราะแสงแดดจ้าที่สาดส่องมา ไอความร้อนแผ่ซ่านจนทำให้ผิวเนื้อของมันแสบร้อนไปหมด เปลือกตาพลันค่อยๆ ปิดลงช้าๆ อย่างยอมรับในชะตากรรม การต้องเดินหลงวนเวียนอยู่ในทะเลทรายแห้งแล้ง ไร้น้ำ ขาดอาหารเป็นเวลาสามวัน แถมยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุดออกจากวังวนนี้ไปได้เลยก็ทำให้มันคิดแล้วว่าชีวิตคงจบลงแค่นี้
จบกัน...หมดแล้วซึ่งความหวัง ความฝัน...คำอธิษฐานไร้ผล...ข้านี่ช่างไร้สาระจริง ๆ
ขณะที่สตินึกรู้สุดท้ายกำลังจะหลุดลอยไป ก็พลันมีไอความเย็นที่แสนจะคุ้นเคยโอบอุ้มมันอย่างอ่อนโยน แม้มันจะเป็นความเย็นยะเยือก แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยน...และอะไรบางอย่างที่สัมผัสเข้าที่เส้นขนของมันอย่างทะนุถนอมก็ทำให้เจ้าเหมียวคล้ายจะไว้วางใจ แล้วซุกใบหน้ากลมมนเข้าหาไอความเย็นนั่น ร่างที่แต่เดิมสติใกล้เลือนรางเต็มทนก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
...อา...ความหนาวเย็นที่แสนจะอบอุ่นหัวใจเช่นนี้...เป็นของผู้ใดกัน...ดีเหลือเกิน แสน...จะอ่อนโยน...
เจ้าเหมียวซุกใบหน้าเข้าหาฝ่ามือที่แสนจะอ่อนโยนคู่นั้น... มือใหญ่คู่นี้สินะที่ช่วยฉุดข้าออกมาจากนรกนั่น...ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ...
.
.
.
.
สองวันแล้วที่เจ้าตาสวยฟื้นขึ้นมาโดยที่รอบข้างไม่มีใคร วันแรกที่มันฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าสภาพโดยรอบที่แต่เดิมเคยมีแต่ผืนทรายอันแห้งแล้งแปรเปลี่ยนไป มันก็ออกเดินสำรวจโดยรอบทันที ก่อนจะพบว่าตัวมันถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ที่บ้านร้างแห่งหนึ่งซึ่งใกล้กับชายแดนหุบเขาหิมะบ้านของมันเอง
เจ้าตาสวยไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานเท่าใด เพราะถึงขนาดใครสักคนพามันออกจากทะเลทราย แถมยังพามาส่งไกลจนเกือบเข้าอาณาเขตหุบเขาหิมะได้ก็คิดว่าคงนานพอดู
อดเสียดายไม่ได้ที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอกับผู้มีพระคุณซึ่งช่วยชีวิตมันไว้...ที่จำได้ก็เพียงสัมผัสอ่อนโยนของฝ่ามือใหญ่กับไอเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือนั้นเพื่อพื้นคืนพลังชีวิตให้แก่มัน...จำได้แค่นี้เอง แค่นี้จริง ๆ
อยากพบอีกสักครั้ง...คนใจดีที่ข้าไม่เคยแม้แต่พบหน้า...ข้าก็เพียงแค่อยากพูดคำว่า...ขอบคุณ...
.
.
.
.
.
.
.
“เชมส์ลูกหายไปไหนมา? รู้ไหมว่าทุกคนเขาเป็นห่วง ลูกอาจบาดเจ็บ ลูกอาจได้รับอันตราย...ถ้าเป็นอย่างนั้นลูกคิดว่าแม่จะเป็นอย่างไรหา?” ร่างโปร่งเส้นผมสีดำขลับนามว่า ‘เชมส์’ ก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด สีหน้าหงอยลงจนสงสาร ก่อนจะเดินเข้าไปกอดและคลอเคลียผู้เป็นมารดาอย่างหวังจะออดอ้อน
ผู้เป็นแม่ขืนตัวเล็กน้อยก่อนจะบอก “ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะเจ้าเด็กดื้อ! รู้หรือไม่ว่าพวกพี่ ๆ ของลูกน่ะ ออกตามหาลูกทั้งวันทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน แล้วลูกก็หายไปตั้งหลายสัปดาห์ พวกเขาเป็นห่วงลูกมากนะ จะไปไหนทำไมไม่บอกพวกเราก่อน นี่พี่ชายทั้งสามของลูกออกไปตั้งแต่เช้าแล้วก็ยังไม่กลับมาเลย ไม่ดีเลยนะทำให้คนอื่นเป็นห่วงแบบนี้น่ะ”
เชมส์เงยหน้าตากับผู้เป็นแม่อย่างอ้อนๆ นัยว่าข้าผิดไปแล้ว อภัยให้ข้าเถิด
“ทีหลังถ้าทำแบบนี้อีก แม่จะให้พวกพี่ๆ ของลูกจับขังกรงเสียให้เข็ด” ได้ฟังเจ้าตัวก็นึกขยาด เรียกแม่เสียงอ่อย
“โธ่ท่านแม่...ข้าไม่กล้าแล้ว ข้าขอโทษจริงๆ ข้ามันดื้อมันซนไม่ฟังคำของท่าน ท่านจะตีข้าก็ได้ขอเพียงอย่างเดียวอย่าเอาข้าไปขังกรงเลย” ใบหน้าของผู้เป็นแม่ที่ปั้นมาให้เคร่งขรึมดุดันก็พลันสลายลง กลายเป็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอาทร ทั้งยังเจือไปด้วยความโล่งอก
“ดูพูดเข้า แม่ไม่ตีเจ้าหรอก ครั้งนี้จะยกโทษให้ก่อนก็แล้วกัน แต่บอกไว้ว่าถ้ามีครั้งหน้า ลูกได้ไปนอนเล่นในนั้นจนหนำใจแน่ๆ” เชมส์ทำหน้ายู่
“ข้าทราบ ข้าไม่กล้าอีกแล้ว”
“ถ้าทราบก็ช่วยปฏิบัติด้วยเถอะ พ่อและบรรดาพี่ชายของเจ้าจะได้เลิกปวดหัวไม่เว้นแต่ละวันเสียที!” ง่ะ
.
.
.
.
.
หนึ่งเดือนผ่านไปกับการที่เชมส์ยังคงนอนฝันถึงสัมผัสของฝ่ามือที่ช่วยเขาไว้ กับไอเย็นที่หากใครอื่นได้สัมผัสจะต้องบอกว่าหนาวเหน็บแต่สำหรับเขามันเป็นความเย็นที่อ่อนโยน แม้ในความฝันฝ่ามือนั้นจะสัมผัสเขาอย่างอ่อนโยนทว่าอะไรบางอย่างกลับส่งผ่านความรู้สึกของอีกฝ่ายมาบอกเชมส์ว่าเขาคนนั้นเจ็บปวดและทรมานมากมายเพียงใด...
เขาเป็นอะไร? เกิดอะไรขึ้นกับเขา?...เชมส์ได้แต่ตั้งคำถามพวกนี้อยู่ในใจซ้ำๆ และเหนืออื่นใดคือ...อยากจะช่วย...เขาอยากเป็นคนฉุดอีกฝ่ายออกมาจากขุมนรกนั่นบ้าง...เหมือนกับที่ใครคนนั้นช่วยฉุดเขาขึ้นมาจากขุมนรกที่เรียกว่าทะเลทรายอย่างอ่อนโยน...
แล้วก็พลันถอนหายใจออกมาอย่างเพิ่งนึกขึ้นได้...เมื่อสติกลับมาครบถ้วนและเขาตื่นเต็มตา ว่าตัวเขาจะมีปัญญาไปช่วยอีกฝ่ายได้ยังไงกัน...ก็ในเมื่อหน้าตาอีกฝ่ายเขาก็ยังไม่เคยเห็น ที่สำคัญอีกคนไปอยู่ที่ไหนเชมส์ก็หารู้ไม่...เฮ้อ...นี่เขาจะต้องถอนหายใจแบบนี้ไปจนถึงเมื่อไหร่กัน มีเสียงในหัวดังมาว่า ก็จนกว่าจะหยุดฝันล่ะมั้ง...แล้วต้องทำยังไงจึงจะหยุดฝัน เชมส์ถามตัวเองในใจ เสียงหนึ่งดังขึ้นอีกว่า จนกว่าจะพบกัน...
นั่นสิ...จนกว่าจะพบกันนั่นแหละคนในฝันถึงจะหายไปเสียที...ทว่าตัวท่านเป็นใครข้ายังมิอาจรู้ เรื่องนี้ดูจะเลือนรางและเป็นไปได้ยากเหลือเกิน…
.
.
.
.
.
“เชมส์ให้ข้าช่วยเถอะ” เสียงแมวหนุ่มรุ่นกระทงขนสีดำเงางามนัยน์ตาสีเหลืองดังมาจากด้านหลัง เชมส์หันกลับไปมองแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย
“ขอบใจเดล แต่ไม่เป็นไรข้าช่วยตัวเองได้” ว่าแล้วก็สะบัดหางเดินออกมา ทว่าอีกฝ่ายเหมือนยังไม่รับรู้ถึงความรำคาญที่เขามีให้ ยังคงตามมาตอแยอย่างไม่ลดละ
“น่านะให้ข้าช่วยเถอะ” เชมส์หยุดเดินหันกลับไปมองอีกฝ่ายแล้วบอก “เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยไปไกล ๆ ข้าเถิด จะเป็นพระคุณอย่างมาก!”
“ไม่เอาน่า ไม่ต้องเกรงใจข้าไปหรอกเชมส์ เราคนกันเอง” เฮ้อ!
"ข้าไม่ได้เกรงใจเจ้าแม้แต่น้อย!"
"งั้นเจ้าเขินข้าเหรอ ไม่เอาน่าข้ารู้ว่าข้าหล่อ" โฮ้ยยยยยยยย! เชมส์ล่ะเพลีย!!
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
(ต่อด้านล่างค่ะ)
-
เชมส์ที่หลบหนีออกมาจากความวุ่นวายทั้งหลายแหล่ (ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าแมวดำ) ได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แค่เพียงร่างแปลงของเขาดันเป็นแมวสีขาวเหมือนหิมะท่ามกลางฝูงแมวร่างแปลงขนสีดำมันทำให้เขาฮอตได้ขนาดนี้เลยหรือ? ยิ่งคิดยิ่งไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมพวกเพศเดียวกันถึงได้เข้ามาตอแยอยากจะสานสัมพันธ์กับเขาเสียเหลือเกิน พวกนั้นจะตามืดบอดไปถึงไหน!? ถึงได้ไม่เห็นว่าร่างแมวของเขาน่ะ มันเป็นตัวผู้!? ซึ่งก็หมายความว่าความจริงแล้วเขาเป็นผู้ชายน่ะสิ! ไม่ใช่ผู้หญิง! ปัดโธ่เว้ย!
ตุ้บ!
นั่นใครเป็นอะไรน่ะ? ขณะที่กำลังกระฟัดกระเฟียด และบ่นในใจอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ก็มีใครบางคนล้มลงบนพื้นหิมะอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว เชมส์ที่กำลังหงุดหงิดในใจก็เปลี่ยนเป็นใจหายวูบทันที
เขาสาบานว่าไม่ได้ทำอะไรคนคนนี้จริง ๆ นะ! คิดอย่างตื่นตระหนก
ว่าแล้วก็เข้าไปเดินวน ๆ ใกล้ร่างที่นอนคว่ำหน้าลงบนหิมะอย่างกล้าๆ กลัวๆ จะตายหรือเปล่า? ไม่นะ! อย่ามาตายตรงหน้าข้า!!
ความคิดในใจอันแสนเผ็ดร้อนของเจ้าเหมียวขนฟูไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนอกจากการต้องเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น
ข้าจะทำยังไงดี?...กลับร่างมนุษย์แล้วช่วยเขาออกจากกองหิมะที่หนาวเหน็บนี่จะดีไหม?...ฟังดูง่ายดี แต่ทำน่ะยาก!
ทำไมน่ะเหรอ? ก็เพราะเชมส์เป็นคนตระกูลเชสส์ยังไงล่ะ! นี่แหละยากที่สุด!!
ตระกูลเชสส์แห่งหุบเขาหิมะ เป็นตระกูลผู้วิเศษซึ่งมีร่างแปลงเป็นแมว แถมยังมีกฎประหลาดอย่างเช่น ผู้ที่ยังไม่มีคู่ หรือบรรลุนิติภาวะสิบเก้าปีห้ามเผยร่างมนุษย์แก่ผู้ใดก็ตามที่มิใช่คู่ครองหรือคนในครอบครัว มิฉะนั้นจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลไป แม้จะฟังดูไร้เหตุผลสักหน่อย (จริง ๆ ก็มากอยู่) แต่ก็นั่นแหละ...ยังไงเขาก็เกิดมาในตระกูลนี้แล้วจะให้ทำยังไงได้ ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่เชมส์จะต้องยอมลงทุนทำอะไรอย่างเช่นกลับร่างมนุษย์เพื่อมาช่วยคนที่เขาไม่รู้จักเลย...
เขากลัวน่ะสิ!! กลัวเหลือเกินว่าหากตอนที่เขากำลังช่วย อีกคนดันฟื้นขึ้นมาเสียก่อน แน่นอนว่าได้ไม่คุ้มเสีย เผลอๆ อาจจะไม่ได้อะไรมีแต่จะเสียด้วยซ้ำไป! ฮึ่ม!
บางทีอาจเป็นเพราะสามัญสำนึกฝ่ายดีอันน้อยนิดที่มีอยู่ในตัวก็เป็นได้ ที่ทำให้เชมส์เดินเข้าไปใกล้ร่างนั้นอีกนิด เขาถอนหายใจก่อนที่ร่างแมวสีขาวหิมะจะเปล่งแสงเรืองรองแสบตา เพียงครู่ก็พลันปรากฏร่างโปร่งของเด็กหนุ่มผู้มีใบหน้าหวาน ริมฝีปากอิ่มสีสด เรือนผมสีดำขลับและนัยน์ตาชวนฝันเข้าแทนที่ ร่างนี้อยู่ในชุดคลุมขนสัตว์สีขาวพอดีตัว
“ถ้าท่านบังอาจตื่นขึ้นมา ข้าจะกัดจะข่วนให้สะใจไปเลย คอยดูสิ!” แม้ปากจะบ่นทว่าก็รีบเข้าไปพลิกร่างนั้นขึ้นจากหิมะอย่างรวดเร็วด้วยกลัวว่าอีกฝ่ายจะตายไปเสียก่อน
ครั้นมือบางสัมผัสเข้ากับมือหนาหยาบกร้านนั่น ความรู้สึกคุ้นเคยที่ยังตราตรึงในหัวใจผุดขึ้นมาทันที
สัมผัสนี้...ไอความเย็นที่คุ้นเคยแบบนี้...เชมส์ยิ้มกว้าง พร้อมกันกับที่ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายเต้นระรัวอย่างยินดีเจือด้วยความคิดถึงประหลาด
ในที่สุด...ข้าก็ได้พบท่าน ได้พบกันเสียที...
.
.
.
.
.
.
ไอเย็นที่ค่อยๆ จับตัวเกาะกันเป็นน้ำแข็งทำให้ก้อนขนสีขาวตื่นขึ้นมา หากแต่สิ่งที่ดึงความสนใจของเขากลับเป็นเสียงของคนที่ถูกทรมานจากความหนาวเย็นภายในจิตใจมากกว่า
พิษน้ำแข็งเหรอ?...ไอเย็นที่ฉุดข้าออกมาจากความตายคือพิษนี่งั้นหรือ...ตอนเขาช่วยก็รู้สึกดี แต่ตอนนี้กลับรู้สึกไม่ชอบใจเพราะมันทำให้เขาต้องทรมานมากนี่นา...
เชมส์ไม่ชอบเลย ไม่ชอบที่เป็นแบบนี้จริง ๆ
เชมส์ในร่างแมวขยับเข้าไปใกล้ เอาหัวถูไถที่ซอกคอและใบหน้าชื้นเหงื่อของอีกคนซึ่งกำลังนอนหลับตาขบฟันแน่นด้วยความทรมานอยู่ ด้วยหวังจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้ ทว่าก็ดูจะไร้ผล เมื่อไอความเย็นยังคงแผ่ซ่านออกมาไม่ยอมลดละ แต่อุณหภูมิเจ้าของร่างกายกลับสูงลิบลิ่วจนทำให้เจ้าเหมียวที่เข้ามาคลอเคลียใกล้ ๆ แทบจะเป็นลมตายเพราะความร้อนที่สัมผัสผ่านมาจากผิวเนื้อนั่น
ความร้อนสุดขั้ว และหนาวสุดขีดที่ขัดแย้งกันเองภายใน ยิ่งใบหน้าชื้นเหงื่อมากเท่าไหร่ สีหน้าของเขาก็ยิ่งแย่ลงเพราะความเจ็บปวดที่เกิดภายในมากขึ้นเท่านั้น
เชมส์แลบลิ้นเล็ก ๆ สีชมพูของตนเลียลงบนใบหน้าและลำคอที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อของอีกฝ่ายหวังจะปลอบโยน
ข้าไม่มีทางเลือก พิษจากความหนาวเล่นงานท่านหนักขึ้นแล้ว เช่นนั้นข้าควรช่วยเหลือท่านเพื่อเป็นการตอบแทนที่ท่านเคยได้ช่วยชีวิตข้าไว้
แมวน้อยเชมส์คิดก่อนจะกระโดดแผล็วลงจากผ้าผืนนุ่มที่ตอนนี้กลายเป็นน้ำแข็งไปแล้วและไอเย็น ๆ ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวของผู้ชายคนนี้
เกิดแสงสว่างวูบขึ้นมาในความมืด แมวตัวเล็กขนนุ่มฟูสีขาวสง่ากลับถูกแทนที่ด้วยชายหนุ่มคนเดิมกับเมื่อตอนกลางวัน
ร่างเล็กๆ ผิวขาวผ่องพาตัวเองขึ้นไปบนเตียงแล้วทาบทับร่างบางๆ ลงบนร่างของใครอีกคนที่กำลังทรมานจากพิษน้ำแข็ง
“ท่านจะต้องรู้สึกขอบคุณข้าให้มาก ๆ ล่ะ ที่ข้ายอมลงทุนช่วยท่านขนาดนี้ แต่ขออย่างเดียวตอนนี้อย่าเพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมาก็พอ” แม้จะเป็นผู้วิเศษที่แปลงร่างเป็นแมวได้หากร่างแมวไม่อาจใช้อำนาจใด ๆ (ไร้ประโยชน์เสียจริง!!) ได้นอกจากจะต้องกลับร่างจริง และเพราะต้องดูดซับไอเย็น ทั้งยังต้องปรับอุณหภูมิร่างกายจากพิษน้ำแข็งให้อีกฝ่าย เชมส์เลยต้องกลับร่างมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยที่ไม่รู้ตัว...สัญลักษณ์บางอย่างพลันประทับลงบนต้นแขนแกร่งของใครอีกคน อย่างที่ถ้าเชมส์เห็นเข้า เจ้าตัวจะต้องตกใจจนสลบเหมือดเป็นแน่แท้!
เวลาล่วงเลยมาจนใกล้รุ่งสางอุณหภูมิในกายของชายหนุ่มจึงกลับมาอยู่ในระดับที่ไม่ขัดกับไอเย็นที่ร่างกายของเขาแผ่ออกมามากนัก ร่างที่ทาบทับอยู่จึงเผลอซบหน้าลงกับอกกว้างอย่างเหนื่อยอ่อนและคล้ายจะวูบไป ยิ่งเมื่อมีอ้อมแขนคู่นั้นโอบรัดแน่น พร้อมกับฝ่ามือลูบไล้ที่แผ่นหลังให้ก็ทำให้เพลิดเพลินจนลืมไปว่าคนหลับที่ไหนจะมาลูบไล้แผ่นหลังของใครด้วยความอ่อนโยนได้...
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสัมผัสนี้ทำให้เชมส์รู้สึกดีจน...เกือบจะหลับไปจริงๆ ถ้าไม่ติดว่า...
“อืม” แย่แล้ว!! เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะตื่นขึ้นมา เชมส์เลยต้องรีบเปลี่ยนร่างเป็นแมวทั้ง ๆ ที่ตัวเองนั้นเหนื่อยแสนจะเหนื่อย ทว่าคนตัวใหญ่ไม่ได้ลืมตาตื่นขึ้นมาให้เขาต้องหนักใจนัก หากแต่การที่อ้อมแขนแข็งแกร่งซึ่งตามเข้ามารัดร่างแมวเล็กๆ ของเขาไว้แน่น ก็ทำให้ลมหายใจกับจังหวะในอกสะดุดได้อย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าตัวที่โดนกอดรัดเสียแน่นเงยหน้ามองใบหน้าคมที่หลับตาพริ้มอย่างหลงใหลชั่วครู่ก่อนจะได้สติขึ้นมา พร้อมกับขนทั้งร่างพองขึ้นเมื่อสายตาดันเหลือบไปเห็นสัญลักษณ์หนึ่งบนต้นแขนแกร่งนั่น! สัญลักษณ์ตระกูลเชสส์!!!
แย่แล้ว!! ข้าแย่แน่ๆ แล้ว!!!
แล้วเจ้าแมวตัวขาวขนฟูก็กระโดดออกจากหน้าต่างไปด้วยความตกใจทันที!
แง้วววววววว
.
.
.
.
.
.
คฤหาสน์ตระกูลเชสส์
“ท่านพี่ข้ามีเรื่องจะถาม” เจสส์เงยหน้าขึ้นจากหนังสือเล่มโปรดเพื่อให้ความสนใจกับน้องชายคนสุดท้องแทน
“ว่าไงเชมส์ของพี่” เชมส์อึกอักกัดริมฝีปากสีชมพูแน่นอย่างที่ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่พี่ชายคงมองว่ามันน่ารักปนเซ็กซี่ไปแล้ว
คนน้องยื่นหน้าเข้ามาใกล้ทำท่าทางกระซิบกระซาบอย่างกับมีเรื่องร้ายใหญ่โต “ท่านว่า...ถ้าคนเราชอบใครสักคนแต่เขาไม่ชอบเรา เราควรจะทำเช่นไรดี?” เจสส์เลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ แค่เนี้ย!?
“อะไรกันเชมส์ของพี่ไปชอบใครเข้าหรือ?” พี่ชายมีสีหน้าท่าทางจับผิด หากก็แฝงแววล้อเลียนเล็กๆ น้องชายของข้าโตแล้วสินะ!
“เปล่านะท่านพี่” ใบหน้าแดงก่ำแต่รีบปฏิเสธด้วยท่าทางร้อนรน ท่านพี่เหล่ตามองบอกเสียงดังว่าโกหก!!
“จริงๆ! เนี่ยข้ามาถามแทนพีต้า นางไปแอบชอบหนุ่มคนหนึ่งแล้วหนุ่มคนนั้นไม่ชอบนาง นางเลยมาปรึกษาข้าว่าควรทำยังไงดี อย่างที่ท่านรู้...ข้าน่ะไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาก่อน ข้าจะมีปัญญาไปให้คำแนะนำอะไรนางได้เล่า” เชมส์บอกน้ำเสียงจริงจัง ข้าขอโทษนะพีต้า แต่เรื่องนี้สำคัญจริงๆ อภัยให้ข้าด้วยเถิด!
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเชมส์ออกจะตกใจ แต่ในความตกใจแอบมีความยินดีเล็กๆ แฝงอยู่ เพราะจู่ ๆ สัญลักษณ์เนื้อคู่ของเขาดันปรากฏขึ้นที่คนคนนั้นทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายไม่ได้ตื่นขึ้นมามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ แล้วมันเกิดขึ้นได้อย่างไรนี่ยังคงเป็นปริศนา แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว ยังไงสัญลักษณ์ที่ว่าก็เอาไม่ออกอยู่ดี...ดีจัง...ไม่ใช่สิเชมส์!!! สุดท้ายหนทางที่ดีที่สุดก็คือทำให้อีกคนรักเขาให้ได้! ลำพังจะให้ไปบอกโต้งๆ ว่า นี่!!! ท่านน่ะดันมาดวงซวยกลายเป็นคู่ของข้า ในอนาคตเราจะต้องแต่งงานกัน อีกฝ่ายคงได้วิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเป็นแน่! คิดได้ดังนั้นเขาก็เลยตั้งปณิธานในใจไว้ว่าจะต้องทำให้อีกฝ่ายรักให้ได้ เพื่อที่เวลาสารภาพออกไปคู่ของเขาจะได้ไม่ต้องหนีไปไกลให้เชมส์ต้องอับอาย!
ส่วนเรื่องที่ว่าจะบอกท่านพ่อกับท่านแม่ยังไงว่าตัวเขาดันไปทำทะเล่อทะล่าได้คู่ครองที่เป็นผู้ชายมาแทน ไว้ค่อยกลับไปคิดอีกที ยังไงนาทีนี้ต้องเอาเรื่องนี้ให้รอดก่อน!!!
“งั้นเหรอ...อย่างพีต้าน่ะเหรอจะมีหนุ่มที่ไหนปฏิเสธ?” พี่ชายทำสีหน้าครุ่นคิด
“เอ๊ะ...บอกว่ามีก็มีสิท่านพี่!”
“อ้าว...พี่ก็แค่สงสัย ทำไมน้องต้องทำน้ำเสียงขุ่นเคืองใส่กันด้วยเล่า เชมส์นี่ชักประหลาดคน” พี่ชายบ่น
“ก็ท่านไม่บอกสักที ยึกยักอยู่นั่นแหละ”
“เอาล่ะๆ เท่าที่พี่เคยประสบพบเจอมาน้องก็ไปบอกพีต้าแล้วกันว่า ตามตื้อเข้าไว้ เขาไล่อย่าไป ใจต้องกล้า หน้าต้องด้าน มารยาต้องมี! โอเค้?” พี่ชายคนรองบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แถมมีประกายตาแรงกล้ายามที่เอื้อนเอ่ย
หากคนฟังกลับทำหน้ายุ่งแล้วบอก “ท่านพี่บอกข้าเป็นวิธีการมิได้หรือ?”
“แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ว่าไอ้หนุ่มที่พีต้าชอบมีนิสัยอย่างไรน่ะ จะได้แนะนำวิธีการได้ เจ้าบอกนางแค่ว่านำเอาคำพวกนี้ไปปรับใช้ตามแต่สถานการณ์เถิด”
“นี่ไม่ได้ช่วยอะไรข้าเลย” เชมส์บ่นพึมพำ เจสส์หรี่ตามองน้องชายหน้าหวานของตนอย่างจับผิด “ไหนว่าช่วยพีต้า?”
“ก็พีต้าไง” เชมส์ยิ้มตาใสใส่พี่ชายก่อนจะกลายร่างเป็นแมวกระโจนออกนอกหน้าต่างไป ให้พี่ชายต้องถอนหายใจกับความไปมาปุบปับนั่น
ชักจะนึกสงสัยว่าเดี๋ยวนี้เชมส์หายไปไหนทุกวัน กลับบ้านก็ดึก แถมบางวันก็ไม่กลับ...มันต้องมีอะไรแน่ ๆ เลย ทว่าเรื่องนี้เขาก็ยังไม่คิดจะบอกกับใครเพราะคนที่เหลือนั้น ห่วงเชมส์อย่างไม่ลืมหูลืมตา บางทีเจสส์ก็คิดว่าน้องโตแล้ว คงอยากจะออกไปหาประสบการณ์ใหม่ๆ อะไรทำนองนั้น เขาจึงคิดที่จะปล่อยไปและคอยให้คำแนะนำอยู่ห่าง ๆ เป็นพอ เชมส์ไม่ใช่คนชอบปิดบัง (แค่ไม่พูดความจริง) เขาคิดว่าถ้าน้องชายมั่นใจ หรือว่าพร้อมแล้ว น้องคงจะบอกอะไรๆ ออกมาเองนั่นแหละ
แต่แล้ว...ในวันเดียวกัน
“พีต้าเป็นยังไงวิธีของข้าได้ผลไหม?”
“วิธีอะไรท่านพี่เจสส์?” พีต้าในร่างแมวสีส้มสวยที่กำลังเดินออกไปจ่ายตลาดหันมาถาม
“หนุ่มที่เจ้าแอบชอบไง”
“ไม่มีนี่ท่าน” เพราะพีต้าที่ทำหน้างงๆ ปฏิเสธกลับมาจึงทำให้เจสส์รู้ได้ทันทีว่าน้องชายเขาทำเรื่องเข้าแล้ว ฮึ่ม! ร้ายกาจ!
.
.
.
.
.
.
มาอีกแล้ว...เหมือนเชมส์จะเห็นคำ ๆ นี้จากสายตาของร่างสูงกระแทกเข้าที่หน้าอย่างจัง ยามที่เขาโผล่หน้ามาให้อีกฝ่ายเห็นทุกวัน หลังจากที่เชมส์รู้ว่ามีสัญลักษณ์ปรากฏเขาก็เลิกคิดที่จะใช้ร่างแมวเข้าหาอีกฝ่าย ก็แหม...นี่เขาพยายามเอาความจริงใจเข้าแลกอยู่นะเนี่ย
แล้วก็อย่าได้คิดว่าเชมส์จะแคร์กับสายตาท่าทางที่บอกว่ารำคาญนั่น...เพราะเจสส์พี่ชายเขาก็บอกแล้วว่าด้านได้อายอดนั่นหมายความว่าถ้าเชมส์ยังไม่อยากอด เชมส์ต้องไม่อาย!!
“ท่านดีขึ้นบ้างไหม?” เชมส์รีบเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับ ‘เขา’ ทันที อีกฝ่ายเบือนหน้าหนีทำสีหน้าไร้อารมณ์สุดขีดใส่ แต่เชมส์กลับมองว่ามันน่ารัก จึงหัวเราะคิกคัก เอามือเท้าคางจ้องมองอีกฝ่ายอย่างเผลอไผล
“ท่านนี่น่ารักจริงๆ” ชายหนุ่มหน้านิ่งฝั่งตรงข้ามเลิกคิ้วขึ้นสูง ในใจคงคิดว่าคำชมของเชมส์น่าตบด้วยปากจริงๆ เสียล่ะมั้ง...คิดเองก็หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจเอง ให้อีกฝ่ายมองอย่างกับเห็นตัวประหลาด
เขาช่างไม่สุนทรีย์เอาเสียเลย!
“จะไม่พูดกับข้าหน่อยเหรอ” เชมส์ที่เลิกเท้าคาง ยื่นมือนุ่มทั้งคู่ไปจับใบหน้าของอีกฝ่ายไว้ให้หันมามองตน
เขาถอนหายใจ “จะให้ข้าพูดอะไร”
“แค่ตอบทุกคำถามที่ข้าถามก็พอ” เชมส์ยิ้มซุกซนที่วันนี้ง้างปากอีกคนได้
“ข้าดีขึ้นแล้วขอบคุณที่ช่วยไว้” เสียงทุ้มตอบกลับเบา ๆ
“ไม่เป็นไรข้าเต็มใจและยินดีเป็นอย่างยิ่ง” เชมส์บีบแก้มสากของเขาด้วยความมันเขี้ยว หากอีกฝ่ายกลับสะบัดหน้าหนีจากการเกาะกุมของเชมส์อย่างใจร้าย
“เช่นนั้นก็กลับไปเถิด ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” ...แถมยังออกปากไล่อย่างใจร้ายทันทีอีกด้วย ทว่าเชมส์ที่เจอประโยคนี้มานับครั้งไม่ถ้วนได้แต่ส่งยิ้มกว้างสว่างสดใสไปให้ มิได้คิดทำตามเลย
“แล้วถ้ากลางคืนพิษน้ำแข็งเล่นงานท่านอีกล่ะ ใครจะช่วย ข้าอยู่ด้วยมีประโยชน์กว่าอีก” ...ทั้งยังโฆษณาชวนเชื่อเต็มที่
“ข้าคิดว่าข้าทนกับมันมาได้ตั้งแต่เกิด ให้ทนไปอีกนิดจะเป็นไร ไม่ต้องรบกวนท่านมากไปกว่านี้หรอก” เขาบอกสีหน้าเรียบเฉย เชมส์ถอนหายใจเฮือก
“เฮ้อ...ปากแข็งเสียจริง ความจริงคือท่านใจสั่นตอนที่ข้ากำลังเยียวยาให้ แล้วท่านกลัวห้ามใจไม่ไหวล่ะสิ ในเมื่อข้าน่ารักเสียขนาดนี้” ว่าแล้วก็ยิ้มกริ่ม เห็นสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ของอีกฝ่ายก็อยากแกล้งให้มีสีหน้าเขินอายยิ่งนัก
“อย่างนั้นวันนี้ข้าจะกลับก่อนแล้วกัน แล้วพรุ่งนี้ข้าจะมาใหม่ จุ๊บ” ว่าแล้วก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อเหลาพร้อมกับประทับริมฝีปากนุ่มของตนลงบนเรียวปากสีซีดจากพิษน้ำแข็งนั่นทันที
เอ๊ะ...!
เชมส์ผละออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเผลอทำอะไรน่าอายออกไปเสียแล้ว ที่อยากแกล้งให้เขาได้เขินอายเล่นกลายเป็นว่าเข้าตัวเองหมด เชมส์ที่ใจเต้นตึกตักเอามือกุมแก้มแดงก่ำของตนแล้วเบิกตากว้างอย่างตกใจจนเผลอกัดริมฝีปากแน่น ให้มือแกร่งยืนมาสัมผัสบางเบาแล้วเกลี่ยที่ริมฝีปากบางเพื่อให้มันคลายออก
“อย่ากัดปาก” เสียงทุ้มกระซิบชิดริมหู ส่งผลให้ใบหน้าคนอยากแกล้งในทีแรกสุกก่ำขึ้นไปอีก
“อะ...เอ่อ ข้าไปล่ะนะ”
“หึหึ”
.
.
.
.
.
.
.
“เดี๋ยวนี้ไปไหนทุกวันเลย” ท่านแม่ที่นั่งอยู่ที่สวนดอกไม้จู่ๆ ก็เอ่ยถามออกมาให้เชมส์ที่อยู่ในร่างแมวขนลุกซู่เล่น
“เอ่อ...ไป ข้าไปบ้านพีต้ามา”
“แน่เหรอ?” น้ำเสียงไม่เชื่อถือทำให้เชมส์ในร่างแมวน้อยกระโดดขึ้นตักนิ่มของผู้เป็นแม่ ออดอ้อน คลอเคลียอย่างประจบ
“ถามเจสส์ได้ เจสส์ก็รู้” ขอโทษนะเจสส์
“งั้นแม่เชื่อก็ได้” ว่าแล้วก็ก้มหน้าลงฟัดลูกชายขนนุ่มในอ้อมแขนอย่างมันเขี้ยว
เชมส์ลอบถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ลำพังจะให้บอกว่าเชมส์ไปกกผู้ชายมา...เอ่อ ดูไม่ดีล่ะมั้ง
.
.
.
.
.
วันนี้ท่านแม่กักตัวเชมส์ไว้ทั้งวัน ทำให้เขาไม่สามารถออกไปหา ‘เขาคนนั้น’ ได้ ประหลาดใจตัวเองยิ่งนักที่ไม่คิดจะถามชื่ออีกฝ่าย และก็เหมือนอีกคนที่ก็คงคิดเช่นเดียวกันไม่ถามชื่อเขา หากที่เป็นเช่นนี้เชมส์คิดว่าเรื่องชื่อไม่ได้สำคัญมากไปกว่าการทำความรู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่าย เพราะชื่ออยากถามเมื่อไหร่ก็ได้ แต่การถามใจเขาว่ารู้สึกยังไงกับเราเชมส์คิดว่าสำคัญกว่า เขาอยากจะทำความรู้จักนิสัยใจคอของอีกคนไปทุกวัน เช่นนั้นเชมส์จึงไม่คิดรีรอให้เสียเวลาการทำความรู้จักกับอีกฝ่ายไป
ค่ำคืนนี้เชมส์แอบหนีออกมาจากห้องนอนที่ดับไฟเรียบร้อยแล้วของตน ร่างโปร่งที่กลายร่างเป็นแมวตาสีเทาฟ้าก็หายวับไปกับความมืดทันที
.
.
.
.
กระท่อมหลังเดิม
ร่างที่ดูทรมานบนเตียงที่กลายเป็นน้ำแข็งทำให้เชมส์ต้องเดินเข้าไปหาลูบใบหน้าอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
“ทีนี้ท่านเห็นหรือไม่ว่าหากมีข้าท่านจะไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้อีก” ว่าแล้วก็เคลื่อนกายเข้าแนบชิดร่างที่แผ่ไอเย็นออกมาทว่า อุณหภูมิร่างกายร้อนจนแทบจะเผาไหม้ได้
ร่างสูงลืมตาขึ้นสบกับนัยน์ตาคู่สวยแล้วบอก “นี่เป็นคำขู่หรือเปล่า” ได้ฟังมือนุ่มก็ลูบที่ใบหน้าชื้นเหงื่อนั่นแผ่วเบา
“นั่นก็แล้วแต่ท่านจะคิด สำหรับข้านี่เรียกว่าผลประโยชน์ของท่าน ท่านมีแต่ได้กับได้ ไม่มีเสียหายอะไรนี่ มีแต่ข้านี่แหละที่เปลืองตัวอย่างยิ่ง”
ชายหนุ่มหัวเราะหึๆ ในลำคอ “อย่างนั้นเหรอ” เขาเลื่อนสายตามองออกไปนอกหน้าต่างที่หิมะยังคงร่วงหล่นลงมาตลอดเวลา ที่แห่งนี้มีแต่ฤดูหนาวดังนั้นมันจึงเต็มไปด้วยสีขาวโพลน ผิดกับทะเลทรายบ้านเมืองของเขาที่หิมะจะโปรยปรายยามเมื่อฤดูกาลมาเยือนเท่านั้น แต่ถึงมี หากสิ่งนั้นก็ไม่ได้ตกหนักจนขาวโพลนดังเช่นที่นี่
“หิมะกับทะเลทรายสองสิ่งนี้ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน” อยู่ๆ คนที่มักจะนิ่งเงียบเสมอก็พูดออกมาด้วยประโยคที่เชมส์ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร
“ทำอย่างกับท่านไม่รู้ว่าทะเลทรายก็มีหิมะตก”
“นั่นมันตกต้องตามฤดูกาล”
“แล้วยังไง?”
“ก็หมายความว่ามันไม่ได้หนาวเย็นอยู่ตลอดเวลา”
“เลิกพูดเถอะข้าเหนื่อย อยากบอกอะไรก็พูดมาตรงๆ สิ ข้าขี้เกียจแปล ท่านไม่รู้หรือไงว่าความฉลาดของข้ามีจำกัด” ว่าแล้วเชมส์ก็ซบหน้าลงกับอกแกร่งนอนฟังเสียงหัวใจของอีกฝ่ายเต้นด้วยจังหวะหนักแน่น...ทำไมกันนะทั้งๆ ที่เจ็บปวดทรมานมากขนาดนี้ หัวใจกลับไม่เต้นผิดจังหวะเลยแม้แต่น้อย
“เจ้าคงยังเด็กมากจริงๆ นั่นแหละ” อีกฝ่ายว่า เชมส์คิ้วกระตุก
“พูดอย่างนี้ท่านหมายความว่ายังไงกัน! เห็นอย่างนี้ข้าก็ทำอะไร ๆ ได้ตั้งหลายอย่างนะ” แล้วก็แทบจะกางเล็บออกมาข่วนคนตัวโตกว่าหากไม่ติดว่ากลัวเขาจะได้รับความทรมานเพิ่มมากขึ้นล่ะก็นะ
“หึ ๆ งั้นอะไร ๆ ที่ว่าน่ะคืออะไร? ไหนยกตัวอย่างมาซิ” ทำไมเสียงหัวเราะสองหึนั่นช่างน่าโมโห เชมส์หรี่ตาคิดก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าชื้นเหงื่อของอีกฝ่าย ที่มุมปากยังคงยกยิ้มน่าหมั่นไส้อยู่ แรก ๆ ที่นิ่งเงียบเป็นเป่าสากนั่นเป็นภาพลวงตาแห่งทะเลทรายสินะ! หลอกกันใช่ไหม??
“ก็ทำแบบนี้ได้ไง” แล้วก็ทาบทับริมฝีปากบางของตนลงบนริมฝีปากร้อนจัดทันทีจากนั้นจึงผละออกมาด้วยความรวดเร็ว แม้จะอายแต่ใบหน้าหวานที่มีจุดเล็กๆ ที่แสนมีเสน่ห์ใต้ดวงตาคู่สวยกลับเชิดขึ้นอย่างถือดี ประกายตาบ่งบอกว่าไม่ยอมแพ้
เห็นหน้าแดงๆ แต่ใบหน้ากลับเชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นนั่นทำให้ชายหนุ่มยั่วยุต่อไปอีกว่า
“เช่นนี้ใครๆ ก็ทำได้ ข้าบอกแล้วว่าเจ้ายังคงเด็กมากจริงๆ”
“นี่ท่าน!” มือบางเผลอทุบหน้าอกเขาอย่างขัดใจ
“ข้าสิบแปดแล้ว ไม่เด็กแล้วนะ!” เสียงหวาน ๆ โวยวาย แต่อีกฝ่ายหัวเราะหึบอกว่า “เทียบกับข้าแล้ว...เจ้าก็ยังเด็กกว่าอยู่ดี” เชมส์มีสีหน้าขัดเคืองใจมองอีกฝ่ายที่ยกยิ้มมุมปากอย่างเอาเรื่อง อย่างท่านเรียกแก่น่ะสิ!
ยังไม่ทันจะให้เชมส์ได้เตรียมตัวเตรียมใจ...คนด้านล่างก็ทำบางสิ่งที่ทำให้เชมส์ต้องตกใจ “มันต้องสัมผัสแบบนี้ต่างหาก” ว่าแล้วมือแกร่งก็รั้งใบหน้าหวานลงมาแนบจุมพิตลึกซึ้งทันที ฝ่ายที่โดนกระทำอย่างไม่ทันตั้งตัวเบิกตากว้าง ก้อนเนื้อในอกซ้ายเต้นระรัว ลมหายใจติดขัดคล้ายจะเป็นลม เจ้าต้องหลับตา พลันได้ยินเสียงกระซิบของอีกฝ่ายบอกมาขณะที่ทั้งสองกำลังแลกเปลี่ยนไอร้อนกันอยู่...
เวลาเหมือนจะผ่านไปเนิ่นนานยิ่งนักกว่าริมฝีปากที่แนบชิดเคล้าคลอหยอกล้อแลกสัมผัสหวานจะผละออกจากกันได้สำเร็จ
ชายหนุ่มใช้นิ้วเกลี่ยที่ริมฝีปากบวมฉ่ำของอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน ทว่ามืออีกข้างก็ฉวยโอกาสโอบรัดคนด้านบนที่ซบหน้าหลบเขาด้วยความเขินอายไว้แน่น
“ใจของเจ้ามันจะระเบิดออกมาจากอกหรือเปล่าเนี่ย” เสียงทุ้มหยอกล้อให้เชมส์ได้อายขึ้นไปอีก
“หยุดพูดเลยนะท่าน ตอนนี้ข้าไม่อนุญาต” เชมส์ที่หน้าซับสีเลือดซ่อนใบหน้าของตนไว้กับอกกว้าง มือนุ่มก็เลื่อนขึ้นไปปิดริมฝีปากที่มอบสัมผัสวาบหวามแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยรู้จัก ส่งผลให้ริมฝีปากหยักเข้ามาหาเศษหาเลยด้วยความยินดีกับฝ่ามือนุ่มนิ่มนั่น
“นี่ท่าน!” ใบหน้าร้อนยังคงซุกอยู่กับอกกว้าง แม้ว่าจะเอามือหลบหนีจากการรุกรานของคนฉวยโอกาสนี่แล้วก็ตาม
มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางเบาๆ
“เขินหรือไง? วันหลังถ้าอยากจะจูบข้าอีกให้ทำแบบนี้นะ แบบที่ปากแตะปากเฉยๆ น่ะเลิกไปได้เลย”
“...” ให้ตาย...สาบานว่าเชมส์จะไม่ทำมันอีก! เขาจะไม่ขอยื่นหน้าไปใกล้กับอีกฝ่ายอีกเลย!!
เช้าแล้วชายหนุ่มก็ยังคงนอนมองดูหิมะสีขาวที่ร่วงหล่นจากฟากฟ้าที่ด้านนอกหน้าต่าง มือใหญ่ลูบไล้แผ่นหลังบางหวังให้ความเพลิดเพลิน คนข้างๆ เพิ่งจะหลับไปเมื่อใกล้รุ่งสางนี่เอง คาดว่าคงจะเหนื่อยมากเพราะทันทีที่สัมผัสได้ว่าอุณหภูมิในกายของเขาไม่ขัดแย้งกันแล้ว ร่างขาวๆ นี่ก็ฟุบหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนทันที
‘เขา’ ดึงอีกคนเข้ามาในอ้อมแขน กอดแน่น ๆ แล้วยิ้มอ่อนโยนออกมาเมื่อคนที่ดูจะชอบความเย็นซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับแผ่นอกของเขาอย่างถูกใจ ตาคมเหลือบมองสัญลักษณ์ของร่างบางในอ้อมแขนที่ประทับอยู่ตรงต้นแขนซ้ายของเขาก็ยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ออกมา พึมพำมนตร์สักบทแล้วเป่าไปที่ซอกคอขาวของอีกคนพลันก็ปรากฏตราราชวงศ์ของเขาขึ้นทันที ชายหนุ่มประทับจุมพิตลงบนตรานั้นเพียงแผ่วเบาก่อนมันจะหายไปราวไม่เคยมีสิ่งใด
อีกฝ่ายคงยังไม่รู้ว่ามันมีมาตั้งนานแล้ว...มีมาก่อนที่สัญลักษณ์ของเจ้าตัวจะปรากฏขึ้นบนร่างกายเขาเสียอีก
สำหรับเหตุการณ์ที่เจอกันทั้งหมดล้วนมิใช่พรหมลิขิตหากแต่เป็นเขาต่างหากที่ลิขิตเอง...ร่างขาว ๆ นี่คงไม่รู้และเขาก็ไม่คิดที่จะบอก การนั่งดูอีกฝ่ายเพียรหาวิธีมาเกี้ยวเขาในแต่ละวันก็สนุกดี ซึ่งเขาก็เล่นตัวไปแต่พองาม ชายหนุ่มคิดว่าอะไรอะไรที่ได้มาอย่างง่ายดายมักจะหมดคุณค่าโดยเร็ว หากการที่ต้องใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มันมา สิ่งนั้นก็จะมีคุณค่ามากอย่างไม่น่าเชื่อ...ที่ต้องทำแบบนี้ ก็แค่อยากทำให้อีกคนต้องการเขามากขึ้น มากขึ้น...จนสุดท้ายก็ขาดเขาไปไม่ได้เท่านั้น มีแผนการร้ายเหรอ?...เปล่าเลย ที่ทำไปทั้งหมดเขาไม่ได้มีแผนการร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น ก็เพียงแค่อยากจะยืนยันว่า ไม่ใช่อีกฝ่ายเท่านั้นที่เป็นของเขา หากเขาก็ด้วยที่เป็นของอีกฝ่าย...รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนเมื่อลูกแมวในอ้อมกอดกระแซะเข้ามาแนบชิดคลอเคลียอีกครั้ง จมูกโด่งกดลงที่แก้มเนียนใสที่มักจะแดงก่ำเสมอยามเมื่อคนขี้อายทำเป็นใจกล้าถึงเนื้อถึงตัวกับเขาเบา ๆ
แมวน้อยตัวนี้ช่างไร้เดียงสานัก...ตกหลุมพรางเขาแล้วก็ยังไม่รู้ตัวอีก...หรือบางทีอาจจะเป็นเขากันนะที่ตกหลุมของอีกฝ่ายเข้าไปก่อนเต็มรัก แต่ก็นั่นแหละ...ในเมื่อน่ารักแบบนี้ใครจะไปอดใจไม่ให้ตีตราประทับความเป็นเจ้าของได้ไหว จริงไหม? ☺
เอาล่ะ...เท่านี้ก็ แผนลวงสำเร็จแล้ว
จบ
-
น่ารัก..อยากอ่านอีก :ling1: :ling1: :ling1:
-
:L2: :pig4:
-
ขอเพิ่มอีกสักตอนเถอะพลีสสสสสสสส มันดีมันเขินไปหมด
-
ขอตอนพิเศษที :mew6:
-
:mew1: ชอบบบบ สนุกมากเลยค่า ตอนแรกงงๆว่าเอ๊ะ อะไรยังไง พอทุกอน่างเฉลยคือกรี๊ดมาก ขอบคุณนะคะ
-
อยากอ่านอีก :katai5: :katai5:
-
ยังไม่จุใจเลยอ่ะ ขออีกๆๆ 555 น่ารักมากเลยอยากได้มาเลี้ยงสักตัวจัง ส่วนพระเอกนี่ร้ายกาจมากๆเลย :-[ :-[
-
น่ารักจัง ขอตอนพิเศษด้วยค่ะ :pig4:
-
หืมมม ร้ายกาจจจ
-
จะเรียกว่าทันกันก็ไม่ได้เพราะเจ้าแมวน้อยเดินไปตามเกมเขาทุกอย่างเลย ><
น่ารักจังเลยค่ะ
-
น่ารักกก
-
น่ารักค่ะ
อยากอ่านอีก
ขอเป็นตอนพิเศษก็ได้
-
น่าร้ากกกกก :-[
-
มันดีค่ะละมุนอบอุ่นน่ารักขอตอนรู้ความจริงต่อด้วยแต่งงานอีกสักตอนนะคะ
-
จบแล้วหรอ เสียดายจังกำลังสนุกเลย ต่ออีกสักตอนได้ไหมคะคนเขียน
-
ขออีกได้มั้ยคะ มันน่ารักมากกกกกก :ling1: :ling1:
-
นั่นน แอบหลอกเด็ก อิอิ
-
โห้ยยยน่ารักมากกกก เจ้าเล่ห์อ่ะ เชมส์ตกหลุมพลางถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว เจ้าแมวน่าเอ็นดูจริงๆ ภาษาดี อ่านลื่นไหล ตลกดีด้วย แต่ถ้าต่ออีกจะดีมากค่ะ 5555