เรื่องจริง
https://www.youtube.com/watch?v=qnGTC8EUUes (https://www.youtube.com/watch?v=qnGTC8EUUes)
ฟังเพลงร่วมเพื่ออรรถรสในการอ่านค่ะ
มีใครหลายคนตั้งคำถาม...ว่าทั้งหมดที่ทำนั้นเพื่ออะไร
มีใครหลายคนบอกกับผม...ว่าสิ่งที่ทำอยู่มันเปล่าประโยชน์
มีใครหลายคนสั่งให้ผม...เลือกชีวิตใหม่ดีกว่าต้องมาจมปลัก
ความรักของคนอื่น...นับหนึ่งไปถึงร้อย
สวนทางกับความรักของเรา...ที่นับร้อยจนถึงศูนย์
เขา...ที่คอยแต่ผลักผมออกจากชีวิต
เขา...ที่คอยโทษตัวเองว่าเป็นภาระ
เขา...ที่ยิ้มสวยมากกว่าใคร
เขา...ที่เป็นเจ้าของหัวใจของผม
และก็เป็น ‘เขา’ ...ที่ผมจะรัก ตลอดไป...
21/01/1998 เช้า
อพาร์ทเม้นท์ ; บนเตียง
แทนไท , ธาวิน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เรื่องราวความรักของเจ้าหญิงและเด็กหนุ่มสามัญชน เป็นที่กล่าวขานล่ำลือกันทั่วพระราชสำนัก ความรักของพวกเขาโดนกีดขวางจากทุกคนที่รับรู้ อับอายขายขี้หน้าเจ้าชายต่างเมืองที่ถูกวางตัวไว้เป็นคู่หมั้น บิดายื่นคำขาดให้เลือก หากเจ้าเลือกมัน ก็จงออกไปใช้ชีวิตดั่งสามัญชน และอย่ากลับมาเหยียบที่ราชวังอีกเป็นอันขาด เพราะคิดว่าอย่างไรก็ไม่มีใครกล้าขัดคำของตน แต่พระราชาคิดผิด องค์หญิงก้มลงกราบแทบเท้าพร้อมน้ำตาอย่างสำนึกบุญคุณ เครื่องอิสริยยศบ่งบอกถึงยศถาบรรดาศักดิ์ถูกเปลื้องออกทีละชิ้น ก่อนจะก้าวออกไปจากราชวังอย่างเด็ดเดี่ยวพร้อมกับเด็กหนุ่มผู้นั้น ท่ามกลางคำสาปแช่งจากผู้เป็นบิดา
กลายเป็นลูกอกตัญญู องค์หญิงทรยศแผ่นดิน ละทิ้งหน้าที่ของตนเพื่อความสุขส่วนตัว การถูกเลี้ยงดูอย่างไข่ในหิน ไม่
สามารถบ่มเพาะให้หล่อนกลายเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินผู้สูงศักดิ์ เพราะสุดท้ายก็ใฝ่ต่ำ คว้าชายไร้ยศมาทำสามี แต่ใครเล่าจะรู้ว่าชายไร้เกียรติผู้นี้ เป็นความสุขเพียงหนึ่งเดียวที่หล่อนได้สัมผัสนับแต่เกิดมา คำนำหน้าชื่อที่ไพเราะและสูงส่ง ใช้ชีวิตวิเศษเหนือใคร เงินทองล้นฟ้า เพชรพลอยล้ำค่า ไม่ได้ทำให้เจ้าหล่อนยิ้มได้ ภาระหน้าที่ที่ไม่เคยต้องการ ครอบครัวที่หน้าตา ชื่อเสียงเป็นเรื่องใหญ่...นกที่อยู่ในกรงทอง ไม่มีวันมีความสุขได้
หากแต่เขาผู้นั้น เป็นกุญแจสำคัญเพื่อปลดปล่อยนกน้อยผู้น่าสงสารให้เป็นอิสระ
“นิทานเรื่องนี้อีกแล้ว...พี่โตแล้วนะแทน”
“ยังไม่จบเลยนะครับ ทำไมชอบขัดอยู่เรื่อย” หนังสือนิทานโบราณถูกพับเก็บก่อนจะวางไว้ที่ข้างตัว
“สุดท้ายเจ้าหญิงก็มีความสุขมาก ๆ กับเด็กหนุ่มธรรมดาของเขา..พี่ฟังจบไปตั้งร้อยครั้งแล้วมั้ง” ศีรษะที่วางทาบทับบน
แผ่นอกเงยหน้าขึ้นมองอย่างล้อเลียน
“เด็กหนุ่มคนนั้นก็มีความสุขกับเจ้าหญิงที่เป็นของเขาคนเดียว..มีความสุขมากจริง ๆ นะครับ” เขายิ้ม มีใครเคยบอกพี่วิ
นไหมนะว่าเวลาได้มองจากมุมสูงเช่นนี้ คนรักของแทนช่างน่ารักจนอยากจะเก็บเอาไว้มองแค่คนเดียว
“แต่ถ้าเด็กหนุ่มรู้ว่าเวลาของเจ้าหญิงเหลือไม่มาก...เขาอาจจะไม่เลือกแบบนี้ก็ได้”
ใช่..ในบทสุดท้ายของนิทานเรื่องนั้น ไม่ได้มีตอนต่อไปว่ามีความสุขตลอดไปนั้นมันยาวนานแค่ไหน แล้วชีวิตของเขาทั้ง
สองต้องลำบากเพียงใด มันก็เป็นเพียงแค่นิทาน ไม่ใช่เรื่องจริง..
“เลือกครับ..ต่อให้มันเป็นแค่วันเดียว หรือชั่วโมงเดียว เด็กหนุ่มก็จะเลือกที่จะได้อยู่กับเจ้าหญิงของเขา”
เพราะอะไรที่ทำให้ แทนไท มั่นใจถึงเพียงนี้งั้นเหรอ อาจเป็นเพราะเขาคือเด็กหนุ่มในนิทานผู้นั้นอย่างไรเล่า
“เหนื่อยมั้ย...ที่ต้องทำเพื่อพี่ขนาดนี้ เหนื่อยแย่เลยใช่มั้ย...ขอโทษนะ” รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่พูดแบบนี้ รูปประโยคเดิม ๆ พร้อมกับหยดน้ำตา
คำขอโทษหนที่ล้านหลุดออกมาจากปากพร้อมเม็ดน้ำที่คลอหน่วย มือเย็นเฉียบสัมผัสทบนโครงหน้าคมคาย ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่น้องผอมจนสันกรามนูนโป่ง ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผิวของน้องคล้ำลงขนาดนี้...ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่กลายเป็นตัวถ่วงฉุดชีวิตของเด็ก
ชายให้ตกต่ำ
ถ้าเจ้าหญิงรู้ว่าตัวเองจะกลายมาเป็นภาระ เชื่อเถอะว่าต่อให้ต้องทรมานอยู่ในกรงทองจนตาย เขาก็จะไม่มีวันก้าวเท้าออก
มาอย่างเด็ดขาด...
“ผมไม่เคยพูดสักคำว่าเหนื่อย พี่ต่างหากที่ชอบพูดเองเออเอง”
โดนงอนเข้าให้แล้วสิน่า..
“ถ้าไม่มีพี่ แทนก็คงจะได้เรียนสูง ๆ มีอนาคตที่ดี...ถ้าไม่ต้องเอาเงินมารักษาพี่ แทนก็จะมีเงินเอาไว้เรียนต่อ..แทน พี่ไม่
อยากรักษาแล้ว” เจ้าหญิงเอ่ยขอร้องอีกครั้ง อาการที่เป็นนับวันจะยิ่งแย่ ไม่มีทางรักษาหาย ที่ทำได้คือยื้อเวลา ใคร ๆ ก็รู้ ตัวเขา
เองก็รู้ น้องก็รู้ แต่เราสองคนก็แค่ไม่พูด เพียงอยู่รอดให้ผ่านไปในแต่ละวันเพื่อกันและกันงั้นหรือ น้องเอาแต่บอกว่าเขาคือความ
สุข ให้อยู่ต่อไปเพื่อน้อง แต่เท่าที่ดูถ้าหากเขาจากไป น้องอาจจะมีความสุขมากกว่านี้ก็ได้
“...”
“...เลือกอนาคตเถอะนะ อนาคตที่ดีกว่านี้” ดีกว่าต้องเอาเงินทองทั้งหมดมาถมลงกับเขาที่อย่างไรเสียก็ต้องจากไป
“อนาคตที่ดีมันเป็นยังไงเหรอครับ...อนาคตที่ไม่มีพี่...มันดียังไงเหรอครับ”
แทนไท เป็นคนเข้มแข็ง สู้กับอุปสรรคทุกอย่างที่มาขวางหน้า แต่พอได้พูดถึงเรื่องจากลาเมื่อไหร่ นัยน์ตาของน้องก็จะถูกเคลือบไปด้วยน้ำสีใส เชื่อเถอะว่าเด็กหนุ่มไร้เกียรติผู้นี้ยอมแลกทุกอย่าง เพื่อให้ได้อยู่เคียงข้างกับเจ้าหญิงอันเป็นที่รัก
“..แทน” ฝ่ามือเรียวเล็กยกขึ้นประทับไปที่สองข้างแก้มของคนรัก วิงวอนขอให้เชื่อเขาสักครั้ง ทำเพื่อตัวเองบ้าง อย่าให้
เรื่องของเราต้องเป็นหินคอยถ่วงอยู่ร่ำไป
“ผมต้องไปทำงานแล้ว นอนพักนะครับ..แล้วเดี๋ยวจะรีบกลับมา..พรุ่งนี้หลังจากหาหมอเราไปเลี้ยงฉลองที่ผมได้งานใหม่กันนะ” เจ้าเด็กหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองแรง ๆ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม
แบบนี้ทุกที ไม่เถียง แต่ก็ไม่เคยทำตาม
“งานใหม่?”
“ครับ งานสบาย แค่เดินเอกสารง่าย ๆ น่ะครับทำเสร็จก็เข้ากะที่ร้านมินิมาร์ทพอดี แต่หลังจากส่งหนังสือพิมพ์ตอนเช้าผม
คงไม่ได้กลับห้องมาหาพี่นะครับ”
“แทน..”
“ผมไม่เหนื่อยครับ แค่นี้สบายมาก อย่าลืมทานข้าวทานยาล่ะ..ไปก่อนนะ”
วิน โบกมือตอบ ก่อนจะอวยพรขอให้พบเจอแต่เรื่องดี ๆ ตลอดทั้งวัน และจะรอกลับมาทานข้าวเย็นด้วยกัน แต่เพียงแค่
บานประตูปิดลง หยาดน้ำตามากมายก็พรั่งพรูลงมาระรอกใหญ่ สงสารน้องปานจะขาดใจ น้องเหนื่อย แทน เหนื่อยมากทำไมเขาจะไม่รู้ ค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้งไม่ใช่ถูก ๆ ยาบางชนิดก็ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ น้องไม่เคยเอาบิลค่ารักษาทั้งหมดให้ดูเพราะกลัวว่าเขาจะต้องกังวล แต่แล้วยังไง คนที่อยู่กับบ้านทุกวันจะซ่อนให้ดีอย่างไรก็คงต้องเจอเข้าสักวัน
ตอนแรกที่ตัดสินใจว่าจะออกมาอยู่ด้วยกัน ทุกอย่างมันดีกว่านี้ อาชีพการงานของวิน ไม่ได้แย่ เงินเดือนในแต่ละเดือนพอที่จะเลี้ยงปากท้องของทั้งสองคนได้อย่างสบาย แทนไท สอบได้ทุนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดัง อนาคตของทั้งเขาและน้องกำลังเดินหน้าไปได้สวย แต่จู่ ๆ ทุกอย่างก็พังเละเทะหลังจากงานเลี้ยงฉลองให้กับนิสิตใหม่ไฟแรง เสียงข้าวของหล่นแตกกระจายในครัว และตัวของวินที่ล้มหมดสติ
ทั้งสามโรงพยาบาลวินิจฉัยออกมาในทิศทางเดียวกัน มะเร็งสมองระยะที่สี่ ต้องรักษาโดยการฉายแสง และให้เคมีบำบัด เพราะก้อนเนื้ออยู่ใกล้กับก้านสมองอย่างมาก จนไม่สามารถทำการผ่าตัดได้ ตั้งแต่วันนั้นอาการก็แย่ลงเรื่อย ๆ หน้ามืดหมดสติกลางที่ทำงานบ้าง กลางถนนบ้าง ถูกพลเมืองดีพาส่งโรงพยาบาลไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ในที่สุดก็ต้องลาออก เงินเก็บที่มีถูกใช้จ่ายไปกับค่ารักษาจนหมดสิ้น นิสิตใหม่ป้ายแดงสละทุนปริญญา ลาออกมาหางานทำ วันที่วินรู้ เขาทั้งโกรธ และโมโห ที่น้องทิ้งโอกาสดี ๆ แบบนี้ไป และเป็นครั้งแรกที่คิดว่าตัวเองเป็นภาระ
ต่อด้านล่าง
โดย..นรี