ZOMBIE PLANET
‘โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!’
มีใครสักคนตะโกนคำนี้ออกมาและผมโคตรจะเห็นด้วยกับมัน
สวัสดี.
ตอนนี้คุณกำลังอยู่กับ
มิสเตอร์มาร์ส (MARS)
ชื่อของผมในตอนนี้ไม่ใช่นามแฝงวงการเกย์แต่อย่างใด
แต่จะใช้คำว่าสวัสดีก็คงไม่ได้เพราะถ้าคุณมาอยู่กับพวกผมตอนนี้ก็อยากจะตายจากโลกปั่นป่วนนี้เป็นบ้า แน่นอนว่าแม่ผมและคนอื่นๆ ในครอบครัวผมก็คิดแบบนั้นเลยชิงตายตั้งแต่ทุกอย่างเกิดขึ้นแรกๆ เหลือแค่ผมที่ยังนั่งกินป็อปคอร์นดูหนังเรื่องโปรดในห้องพอลงมาก็เจอทุกคนเป็นศพแบบงงๆ พอเปิดทีวีก็เห็นข่าวซอมบี้บุกโลกเหมือนในหนังซอมบี้ทั่วไป
‘พระเจ้าช่วย’
ผมในตอนนั้นยกมือทาบอกร้องออกมาด้วยสีหน้านิ่งสนิท
โลกนี้แม่งบ้าไปแล้ว ถ้าผมมัวแต่ร้องไห้โวยวายผมก็คงจะเป็นบ้าตามโลกไปจริงๆ
ผมจัดการลากศพทุกคนในบ้านไปฝังหลังบ้านแล้วสวดมนต์บทเท่าที่ผมพอจะจำได้ (ช่วยไม่ได้ผมมันพวกไร้ศาสนา ถึงตอนเด็กผมจะถือคริสต์ก็เถอะ แต่พอโตมาก็รู้สึกอยากเป็นแบบนี้มากกว่า)
“เฮ้ย! สวย ช่วยด้วย!”
เสียงตะโกนร้อนรนดังลั่นด้านหลังผมทำให้ผมที่กำลังหาวหวอดหันไปมองเหนื่อยๆ ในมือยังถือจอบสำหรับถมดินใส่บรรดาครอบครัวของผมที่ตายไปแล้ว
“มีอะไร”
ผมเคี้ยวหมากฝรั่งเป่ามันจนเป็นลูกโป่งใหญ่และแตกโผละ
“นี่แกไม่ตกใจอะไรเลยรึไงวะ!”
ไอ้อ้วนเพื่อนสมัยเด็กที่เป็นเพื่อนบ้านผมมานานนมตะโกนใส่ผม มันพยายามชี้แขนอ้วนๆ ของมันไปด้านหลังที่มีซอมบี้เดินอาดๆ ตามมาเป็นฝูง
ผมกระตุกยิ้มและไหวไหล่
“โทษทีว่ะ ซอมบี้ไม่กินกระต่าย”
ว่าอย่างงั้นก่อนที่จะกลบดินให้กับครอบครัวผมต่อ
“มันไม่กินแก แต่มันจะกินฉัน!!”
ไอ้อ้วนร้องว้ากแล้วบุกเข้ามาในรั้วก่อนจะวิ่งปรู๊ดไปหลบในบ้านผม
“เฮ้อ”
ผมมองตามแล้วส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจ ไอ้เวรนี้มันอ้วนเป็นบ้า เปลืองอาหารมากถ้าจะอยู่กับผม แต่เอาเถอะ เพื่อนมนุษย์ก็ต้องช่วยเหลือกัน
ฮื่อ
“โทษที ไอ้อ้วนมันหนีไปแล้ว พวกนายก็ไปกินคนบ้านอื่นแล้วกัน”
ผมพยักเพยิดไปด้านนึงที่มีฝูงชนส่งเสียงร้องโหยหวนหนีซอมบี้ มีบางคนโดนกัดก็ร้องดังลั่น เสียงบีบแตรดังสนั่นลั่นถนนไปหมดเมื่อคันข้างหน้าไม่กล้าขยับรถเพราะมีคนกำลังโดนซอมบี้รุมทึ้งกินเหมือนแร้งที่กำลังรุมทึ้งศพ
ฮื่อ ฮื่อ
พวกซอมบี้ไม่สนใจผมเพราะมันฟังผมไม่รู้เรื่องและด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างอีก ที่มันไม่กินผม ทำเหมือนผมเป็นธาตุอากาศอะไรบางอย่างซะอย่างงั้น พวกมันส่งเสียงฮื่อๆ ทำจมูกฟุดฟิดแล้วลากเท้าไปทางอื่นต่อ
หลังจากนั้นประมาณครึ่งปีผมก็สร้างอาณานิคมของตัวเองขึ้นมา รวบรวมคนเป็นที่ยังอยู่มารวมกันในบ้านของผมโดยที่รอบบ้านผมนั้นเต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางแน่นหนาทั้งบานประตูกระถางต้นไม้รถยนต์ อะไรก็ตามแต่ที่ผมสามารถหามาได้ ผมเอามันกั้นจนมันเป็นรั้วที่แข็งแรงประมาณนึง นับว่าปลอดภัยจากซอมบี้ระดับนึง ส่วนทางเข้าออกก็คือต้นไม้ต้นใหญ่ที่ติดกับบ้านผม
ทุกคนแต่งตั้งผมเป็นควีน (ทั้งๆ ที่ผมบอกว่าให้เรียกคิง)
แต่อย่าคิดว่าจะมีคิงเพราะไม่มีใครกล้าและพิเศษมากพอที่จะออกไปข้างนอกอาณานิคมเหมือนผม เอาเข้าจริงผมก็สามารถดำรงชีวิตในโลกบ้าๆ นี่ได้อย่างสบายๆ ถือสิทธิพิเศษเหนือใครนะ คิดดูสิ จะมีสักกี่คนที่สามารถนอนหลับกรนคร่อกๆ ท่ามกลางดงซอมบี้แล้วไม่โดนกิน นอกจากผม ผมยังไม่เคยเจอใครเลยนะ
ส่วนไอ้อ้วนตอนนี้กลายเป็นไนท์ของผม มันผอมแล้วเนื่องจากผมจำกัดอาหารของมันและบังคับให้มันออกกำลังกาย จนตอนนี้มันกลายเป็นผู้ชายล่ำเหมือนกัปตันอเมริกา เหมาะสำหรับการใช้แรงงานอย่างมาก ระหว่างที่ผมออกไปลาดตะเวนข้างนอก ผมก็ให้ไอ้อ้วนที่กลายเป็นไอ้ผอม ทำสวนครัวไปพลางๆ นับว่าผมและคนใต้อาณัติของผมโชคดีมาก ที่แม่ผมชอบปลูกนู่นนี่นั่นเลยมีเมล็ดผักผลไม้สำหรับปลูกเหลือเฟือ ไหนจะบ่อน้ำอีก ถ้าจัดการบริหารกันดีๆ ไม่ผลิตประชากรกันเพิ่ม ก็อยู่กันได้สบายๆ กันได้อีกหลายปี
ประชากรในอาณานิคมกระต่ายของผมมีอยู่ยี่สิบห้าคนรวมผมและอ้วน มีทั้งเด็กคนแก่ผู้ใหญ่ ทุกคนที่หนีซอมบี้ไม่ทันแล้วยังรอดอยู่และคนที่ไม่ใช่พวกทางการเลือก หรือที่ผมเรียกเองว่าพวกมีตั๋วทอง
พวกทางการมันรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเลยสร้างอาณานิคมขึ้นมาแบบผมแต่ดีกว่าผมเยอะ ในนั้นประกอบไปด้วยอาคารที่อยู่ หอบังคับการ โรงครัว โรงผลิต บ่อน้ำ ทุกอย่างที่ใช้สำหรับการดำรงชีพ
แต่ก็นะมันก็ไม่ได้มีเพียงพอสำหรับทุกคน แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น พวกผมไม่เคยรู้และคาดคิดว่าโลกแบบในหนังมันจะเกิดขึ้นจริงๆ
แต่ก็นะ มันเกิดขึ้นแล้ว ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากความโลภ ความโกรธ ความเกลียด อะไรก็แล้วแต่ มันก็ทำให้ผมเกลียดทางการอยู่ดี พวกเขาทำให้ผมอดดูซีรีย์ที่ผมกำลังติดงอมแงมและมันก็จะถึงตอนจบแล้วในอาทิตย์หน้า
เห็นไหมล่ะ ทุกอย่างตอนนี้มันบัดซบสิ้นดี
และผมก็รู้ด้วยว่าตัวเองมีสิ่งที่พวกทางการตามหาอยู่ พวกมันกำลังวิจัยวิเคราะห์หาทางสู้หรือต่อต้านซอมบี้ ถ้าเกิดได้อะไรสักอย่างในตัวผมไป คงจะทำประโยขน์ได้มหาศาล
แน่นอนว่าผมไม่มีวันบอกพวกมัน
ต่อให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ล่มสลายมันก็ไม่ใช่ความผิดผมและผมก็ไม่คิดจะสนใจด้วย พ่อแม่น้องสาวน้องชาย ผมตายหมดแล้วตั้งแต่วันนั้น ตอนนี้ผมก็ตัวคนเดียวไม่เหลืออะไรอยู่อีก
ผมคิดอย่างนั้นจนกระทั่งวันนึงที่คนนึงในการปกครองของผมป่วย
เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กอายุเท่าน้องผมและนิสัยเหมือนน้องผมมาก ผมมักจะเผลอแทนภาพน้องของผมแทนเธอเสมอ
“ฮึก พี่มาร์ส ช่วยหนูด้วย หนูปวดท้อง ฮือออ”
“ฮึบไว้ อย่าร้อง พี่จะช่วยหนูเอง”
ผมกอดเธอแน่นขณะที่อุ้มเธอไปหยุดที่หน้าปราการแกร่ง
สีเงินของโลหะเป็นประกายระยับสะท้อนแสงอาทิตย์ให้ความรู้สึกหวั่นเกรง พลทหารที่อยู่ในชุดเกราะเหล็กและอาวุธครบมือเล็งปืนมาที่ผม นับๆ ดูแล้วจากด้านบนปราการก็มีประมาณสี่กระบอก
ตัวพรุนแน่
ผมคิด
“น้องผมป่วย!”
ผมตะโกนออกไปแม้ว่าตัวเองจะไม่คาดหวังความเมตตานัก
“แล้วไง!”
เสียงนึงตะโกนลงมาติดจะเย้ยหยันจนน้องผมที่สะอื้นอยู่แล้วสะอื้นหนักกว่าเดิมอย่างสิ้นหวัง คราบน้ำตาที่เปียกชื้นบนบ่ากัดกร่อนหัวใจผม ราวกับกรดที่มีค่าพีเอชต่ำ
“ให้เธอเข้าไปได้ไหม! ผมคิดว่าเธอต้องผ่าตัดหรือตรวจอย่างละเอียด เพราะยาแก้ปวดท้องไม่ได้ผล!”
“พวกแกเคยโดนกัดไหม!”
เสียงแปร่งอีกฝั่งตะโกนถามคล้ายกับใจดี ทำให้น้องผมมีความหวังขึ้นมานิดๆ เห็นได้ชัดจากการยอมผละจากบ่าผมหันมามองไปทางปราการที่เบื้องหลังคือสวรรค์ของมนุษย์ในปัจจุบัน
ผมมั่นใจว่าอย่างน้อยๆ ข้างในนั้นมันก็ต้องดีกว่าที่ผมอยู่กับตอนนี้แน่ๆ
“ไม่เคย!!!” ผมตะโกนตอบ
ปัง
ผมเบิกตาโพลงมองร่างในมือตัวอย่างไม่เชื่อสายตา
ใบหน้าที่ละม้ายกับน้องผมเปรอะไปด้วยเลือด บริเวณศีรษะเยื้องไปทางซ้ายเป็นรูกระสุน มีเลือดไหลบ่าและเศษสมองกระเด็นมาเลอะหน้าผม
“…ฝีมือยังดีอยู่ว่ะ!”
เสียงที่ห้าที่ผมไม่ได้สังเกตเห็นตั้งแต่แรกตะโกนขึ้น ในมือชูปืนสไนเปอร์ร้องเฮอย่างลำพอง
“ตัดหน้ากันว่ะ ฉันกะจะยิงเองสักหน่อย!”
“ไม่โดนกัดห่าไร รอยแหว่งบนหน้าแม่งรอยนอนทับมั้ง”
เสียงที่พวกมันตะโกนคุยกันดังลอยเข้าหูผมแต่ผมกลับไม่รับรู้เท่าที่ควร
เรี่ยวแรงที่เกาะบ่าผมหายไปน้องค่อยๆ ร่วงหลุดจากมือของผมอย่างช้าๆ ก่อนจะตกลงบนพื้นเพราะผมประคองไม่ไหว
นัยน์ตาของผมเบิกค้างอย่างควบคุมไม่ได้น้ำตาไหลบ่าออกมาโดยไร้เสียงสะอื้น
น้องตายโดยที่ตัวเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ…
ผมเอื้อมมือไปปิดตาน้องกล้ำกลืนความโกรธของตัวเองลง
“แล้วแกล่ะ จะเอาไง! ยังอยากเข้ามาในนี้อยู่ไหม!”
ผมลุกขึ้นยืนหันหลังกลับเดินออกมาอย่างมั่นคง ราวกับเมื่อกี้ไม่ได้เกิดเหตุสะเทือนใจขึ้น
ถ้ามันคิดจะยิงผมก็ปล่อยให้มันยิง
แต่ถ้ามันยิงผมไม่ตาย
ผมจะกลับมาฆ่าพวกมันทุกคน