ต้องถึงกับหนีบขาอ่านกันเลยทีเดียว อีพี่เอบ้า :oo1 :haun4: :pighaun:
[ ต่อ ]
เข็มที่ 20
อีกแค่ 4 เข็ม ก็จบการรักษา จากการตรวจไวรัส 2 ครั้งล่าสุด ผมไม่มีเชื้อเหลือแล้ว หมอบอกว่า หลังจากสิ้นสุดการรักษา จะตรวจอีกหนึ่งครั้ง ถ้าไม่มีไวรัสคงเหลือ ผมก็หายขาด เคสของผมนี่โชคดีมาก ที่ตับยังไม่แข็ง กระนั้น อย่าประมาท ถ้าเลิกแอลกอฮอล์ได้ คุณหมอก็อยากให้เลิก แล้วก็พยายามไม่เสี่ยงที่จะรับเชื้อเข้ามาอีก รวมไปถึง ขยันออกกำลังกาย กินแต่อาหารที่มีประโยชน์ และส่งต่อความรู้เรื่องโรคนี้ไปยังคนอื่น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
ผมยกคอร์ส พัฒนาบุคลิกภาพส่วนที่เหลือ ให้กับการ์ตูน ได้ไปใช้บริการ เพื่อตอบแทนในส่วนของงานวิชาการและการเรียนซึ่งตูนช่วยเหลือผมเป็นอย่างดี อาจารย์ทั้งหลายที่คอยให้กำลังใจแก่ผม ทุกครั้งที่เดินผ่านโรงอาหาร จะมีเสียงนินทาล่องลอยมาให้เข้าหู แต่ผมเองก็ไม่ได้เอามันมาใส่ใจเท่าไหร่นัก ลือกันว่า ผมเป็นโรคนั่นโรคนี่ แต่ก็เอาเถิด ไม่ใช่คนที่ผมแคร์ ผมก็เรียนรู้ที่จะปล่อยวาง ความสามารถพิเศษนี้ ผมคงได้ทางพ่อมาเยอะ
พ่อเองตอนนี้ ก็ออกไปทานข้าวกับพี่นุดีมากขึ้น จนถึงขั้นซื้อแพ็คเกจไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน อันที่จริงผมเป็นฝ่ายรบเร้านะครับ ผมอ้างว่า ผมจะได้ใช้เวลากับพี่ไผ่มากขึ้นในบ้านโดยไม่ต้องเกรงใจใคร พ่อกับพี่นุดีก็ไปเที่ยวกัน จะนอนห้องเดียวกันหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้สิครับ
ครบคอร์ส 24 เข็ม
ร่างกายที่เริ่มฟื้นตัว เนื้อหนังที่กลับมาเข้าที่ ผิวพรรณก็กลับมาผ่องใส แม้จะไม่ได้วิ้งเหมือนเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเผ้าก็งอกกลับขึ้นมา กล้ามเนื้อที่หายไป ถูกแทนกลับมาด้วยรูปร่างที่คล้ายก่อนไปฟิตเนส ไม่อ้วน ไม่ผอม แต่ไม่ค่อยมีกล้าม พี่ไผ่บอกว่าชอบแบบนี้มากกว่า จับแล้วมีเนื้อมีหนัง แต่ก็อยากให้ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพบ้าง ผมก็สัญญากับตัวเองว่าจะว่ายน้ำ วิ่ง แล้วก็เล่นแทมโพลีนเอา เป็นการออกกำลังกายแบบไม่หักโหม
การเรียนที่เข้าสู่โค้งสุดท้าย หลิวกับตูน ที่ฝึกงานไปล่วงหน้า โดนบริษัทจองตัวให้ทำงานต่อกันทั้งคู่ หลิวอยู่กับรายการทีวีชื่อดังในตำแหน่งพนักงานประชาสัมพันธ์ ที่บ้านก็อยากให้ลองไปเป็นลูกน้องคนอื่นดูก่อน ยามว่าง ก็เข้ามาประชุมที่บริษัทของตัวเอง เพราะหลิวต้องวางการตลาดให้กับฟิตเนส ซึ่งพี่ไผ่ยกให้ดูแล ส่วนตูนที่เข้าไปช่วยงานของพ่อหลิว ได้รับคำชมจากคณะกรรมการเป็นอย่างมาก ทั้งที่ทุกคนไม่รู้มาก่อนว่าคบหาอยู่กับลูกสาวเจ้าของบริษัท การ์ตูนจึงได้รับการยอมรับจากพ่อของหลิวมากขึ้น แถมยังทำให้หลิวกลายเป็นคนไม่ฟุ่มเฟือย ใช้เงินอยู่บนพื้นฐานความจำเป็น อันนี้ถูกใจแม่หลิวมาก ตูนสอบผ่านครอบครัวของหลิวด้วยตัวของเขาเอง เป็นความภาคภูมิใจในฐานะของเพื่อนรักคนหนึ่งของตูน และดีใจเป็นสองเท่าเมื่อมองในฐานะเพื่อนรักของหลิวอีกด้วย
กระเช้านองปิง : Nhong Ping 360 องศา ฮ่องกง
จากวันที่เราคบหากันจนถึงวันนี้ ผมกับพี่ไผ่ยังไม่ได้มีเซ็กซ์กันเลยครับ หลายคนรอบตัวเราก็ไม่มีใครเชื่อ ขืนไปเล่าให้ไอ้เอ หรือ ผู้กองจิมมี่ฟัง เขาคงคิดว่า เป็นนายนทีตัวปลอมแน่นอน
ตอนรักษาโรค ผมไม่มีอารมณ์ทางเพศ ส่วนพี่ไผ่น่ะเหรอ ก็ยังคึกของเขาอยู่ พี่ไผ่นึกว่าผมหลับ เตียงนี่สั่นทุกวัน กระพืออยู่สองรอบตอนดึก กับตอนเช้ามืด ทิชชู่ที่ถูกโยนลงพื้น อ้างว่าเป็นการเช็ดน้ำมูกบ้าง คัดจมูกบ้าง ผมเอามาดมตอนหยิบไปทิ้งให้นี่แบบ กลิ่นคาวชัดเจน พี่ไผ่จัดการตัวเองวันละสองรอบ ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไปตามประสาคนที่เคยหมกมุ่นทางเพศมาตั้งแต่วัยรุ่น ผมจะไม่ว่าเขาได้อย่างไร ผมมันไม่ดีเอง ช่วยเหลือเขาไม่ได้ ผมยังไม่มั่นใจว่าตัวเองสะอาดพอ เอาเข้าจริงให้พี่ไผ่ใส่ถุงยางอนามัยแล้วก็มารุกผม ก็ย่อมจะทำได้ แต่ผมก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สะอาด ไม่คู่ควร พี่ไผ่นอนกอดผม หอมจูบ ขลุกไปมาทั้งคืนราวกับว่าผมจะหนีเขาไปไหน ผมก็ชอบให้เขาแสดงความเป็นเจ้าของอยู่อย่างนั้น
ผมแค่กลัวว่าเขาจะหมดรักคนสกปรกอย่างผม..
กว่าจะผ่านความรู้สึกนี้ไปได้จนกล้าหันไปจูบกับเขา ใช้มือให้เขาบ่อย บรรเลงโอษฐ์กามให้ ก็ได้มุมมองจาก พี่กร และ ผู้กองจิมมี่ แบ่งปันแนวคิดมา ผมเยียวยาตัวเองขึ้นเรื่อยๆ เพื่อแค่หวังว่า วันหนึ่ง ผมพร้อมจะเป็นของเขาอย่างเต็มใจ
พี่ไผ่ จองทริปฮ่องกงเล็กๆ ในวันหยุดสั้นๆ ซึ่งผมเองแม้จะมาเป็นร้อยครั้ง แต่ก็มักจะเป็นการมาช็อปปิ้ง ทานอาหาร แล้วก็บินกลับ แต่คราวนี้ พี่ไผ่ชวนมาไหว้พระ ผมก็คิดว่า มันดีเหมือนกัน พอผ่านเรื่องร้าย ๆไป ก็ขอมาตั้งต้นใหม่ เมื่อลงเครื่องเมื่อวาน เขาก็พาผมไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่ชายหาด วันนี้มาไหว้พระที่เกาะลันเตา พรุ่งนี้เราจะไปดิสนีย์แลนด์ แล้วก็ว่าจะกลับไปทำงานกันอย่างตั้งใจ ผมเองก็มีสอบไฟนอลทิ้งทวน ก่อนจะลามหาวิทยาลัยไปสู่ โลกแห่งการทำงานโดยสมบูรณ์
2,900 ดอลล่าร์ฮ่องกง เสียไปกับค่านั่งกระเช้าลอยฟ้า ไต่ข้ามภูเขา
ทำไมมันแพง ก็นายต้นไผ่ตัวดีจองแบบ เคบินส่วนตัว กระเช้านี้มีแต่เราสอง แถมตรงพื้นก็เป็นคริสตัลกระจกใส โชว์ความโปร่งโล่งในทุกมุมมอง เรามองเห็นยอดขุนเขา จากพื้นที่เรานั่ง พอเข้ามานั่งกันสองคนแบบนี้ ความเสียวจากที่สูง มันกลายเป็นความเสียวแบบอื่นแทน
ไอ้พี่ไผ่ มึงนี่มันร้าย !!
ผมตื่นตัวเป็นอย่างมาก ผมนึกไปว่าผมจะไม่มีอารมณ์ทางเพศได้อีกแล้วในช่วงที่รักษาตับ เหงื่อผมซึมเต็มหน้าผากเลย แต่คนที่นั่งตรงหน้านี่สิ ทำเป็นทางไม่รู้ร้อน เอาเข้าจริง พี่มันเลือกกระจกคริสตัล นี่มันคงรู้ว่า ต้องมีคนเห็นบ้างล่ะ ชาวประมงที่ทะเล คนหาเห็ดบนยอดเขา คือก็ต้องกระตุ้นอารมณ์มันบ้าง เป้านี่ปูดพองขึ้นมาเชียว หนาวแบบนี้ ใครเขาใส่ขาสั้น คือ เตรียมพร้อมใช่ไหม คิดได้ยังไง เอา outdoor มารวมกับ mile high club ผมต้องตอบแทนมันใช่ไหม
ผมลงไปคุกเข่าที่พื้นกระจกใสนั้น คลานเข่าโน้มตัวไปที่หน้าขาพี่ไผ่ที่นั่งอ้ารออยู่อีกฝั่งที่นั่ง เขาก้มลงมาจูบปากกับผม ยิ้มให้อย่างผู้ชนะ ผมก็ยิ้มตอบอย่างผู้แพ้ที่ศิโรราบ ผมดึงกางเกงของเขาออกมา มันชูชันทักทายผมแบบอารมณ์ดี กระเช้าถูกดึงไต่ขึ้นไปอีกฐานหนึ่ง มันกระตุกเล็กน้อยพอจะทำให้อารมณ์ของผมครุกรุ่นขึ้นมา ผมมองไปที่ด้านข้างเห็นปลายยอดเขาอยู่แค่เอื้อม ลืมลมผมฉีดพล่านไปหมด
มือที่ค่อยๆเอื้อมไปกำของแข็งที่อยู่ตรงหน้า ผมก้มลงไปจูบมันหนึ่งที เอามือไปแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นของเขาช้าๆ ไม่ถอดหมด พอให้เห็นกล้ามท้อง ผมบรรจบจูบไปทั่วเนื้อทั่วตัวของเขา สูดในกลิ่นความเป็นชายที่หอมหวน ผมตวัดลิ้นไปที่หน้าอกของเขาทั้งสองข้าง พี่ไผ่ก้มลงมาหอมหน้าผากของผม ผมกลืนกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างกระหาย
“เรามีเวลาแค่ ยี่สิบห้านาทีนะครับน้องน้ำ”
ผมเลยเปลี่ยนเป็นหงายนอนตัวลงบนพื้นกระจกใส ที่มีขุนเขาอยู่เบื้องล่าง ผมรอที่จะเป็นของเขาบนที่สูงนี้ พี่ไผ่รู้งานรีบตามลงมาประกบ เราดูดปากกันอย่างเผ็ดร้อน พี่ไผ่ถลกกางเกงวอร์มสามส่วนของผมออก เขาแทรกตัวเข้ามา คว้าเจลที่เตรียมพร้อมมาทาที่ซอกร่อง แล้วชโลมมันไปที่ไผ่น้อยแสนแกร่งนั้น
เราสองคนอยู่ด้วยกันทุกวันตั้งแต่ฟังผลเลือดคราวก่อน ไม่ใช่ผมที่ต้องมากังวลเรื่องผลเลือดของเขา
แต่เขากำลังแสดงให้ผมเห็นว่า เขาเชื่อมั่นในตัวผม ส่วนผมก็เชื่อมั่นว่า ผมไม่รอดเนื้อมือของเขาแล้ว..
มันผ่านเข้ามาอย่างช้า อึดใจเดียวแต่ดึงลากความเสียวซ่านไปชั่วกัปกัลป์
มันหน่วง ลึก แน่น แล้วก็เจ็บจนต้องลืมหายใจ แต่น้ำตาผมไหลออกมาด้วยความสุข กระเช้าที่เขย่าสั่นตามแรงสะโพกของพี่ไผ่ที่ขโยกใส่ผม ผมเป็นเมียเขาโดยสมบูรณ์แล้ว เขาเร่งจังหวะจากช้าแต่ลึก ไปเป็นเร็วและรัว เหงื่อของเขาหยดลงบนแก้มผม ใกล้มุมปาก ผมตวัดลิ้นไปเลียมัน พี่ไผ่ส่งยิ้ม หูเขาแดง เขาสั่นเทาไปทั้งตัว เป็นผู้ชายที่ร่วมรักและโปรยเสน่ห์ไปในตัวได้อย่างน่าทึ่ง ผู้ชายที่ใส่ความเป็นชายมาในตัวของผม คนที่เอาหน้าท้องแกร่งมาเบียดบี้ท้องน้อยของผม ต้นขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเสียดสีไปมากับแก้มก้นของผม ผิวของเราสำผัสกัน เนื้ออุ่นของเขามันช่างเร่าร้อน เขาพยายามมองว่ากระเช้าอื่นเห็นเราไหม แต่ชายที่เดินอยู่บนยอดเขามีตะกร้าสะพายหลังไว้มองขึ้นมาแล้วเอามีชี้ พี่ไผ่ยิ้มร่าคล้ายคนถูกหวยสามตัวล่าง เขาเพิ่มกำลังขโยกรัวสะโพกใส่ผมแบบไม่ถนอมจนผมครางสุดเสียง เขาเอามือมาปาดเหงื่อที่ใบหน้าของผม ก่อนจะเอื้อมมือไปกำของผมขยับตามไปด้วย กระเช้าเลยจุดฐานพักอีกแห่งผ่านใต้อาคารเล็กๆ เงาเพดานปกคลุมเราจนมืด
เราไม่ได้สนใจแล้วว่ามีใครมองไหม พี่ไผ่อดอยากมานาน แต่ผมต่างหากที่ต้องการมากกว่า การรักษาตัวที่ยาวนาน ความเป็นชายที่ไม่ได้ใช้และคล้ายจะถูกพรากไปตลอดกาล มันกลับมาอย่างแข็งแกร่ง และตอนนี้ มันอยู่ในกำมือชายที่ผมรัก
กระเช้าลอยผ่านฝ้าเพดานจากมุมที่ผมเห็น แสงสาดเข้ามา กระเช้าค่อยๆไต่สูงขึ้นไปอีกครั้ง อารมณ์ของผมพุ่งขึ้นสูงไปอีกระดับ แก่นกายของผมพร้อมจะระเบิด พี่ไผ่กำมันแน่นพร้อมขยับมันแรงขึ้น พร้อมกับซอยสะโพกเร็วและถี่ขึ้น เราทั้งคู่หายใจหอบแบบที่กำลังจะเข้าเส้นชัย แล้วในที่สุด ผมก็ปล่อยออกตอนที่กระเช้าทะยานถึงจุดสูงสุดของวัน
“อ๊ากกกกกก” ผมครางเปล่งเสียงลั่น น้ำตาไหลด้วยความสุข
พี่ไผ่ กำของผมแล้วลูบน้ำขาวขุ่นทั้งหมดนั้น มาป้ายใส่ไผ่น้อย ที่เขาเพิ่งถอนออกมาจากกายผม แล้วเอาของเหลวที่เหลือในมือ ป้ายกลับมาที่ร่องของผมจนคราบในมือแห้ง แล้วใส่แท่งใหญ่นั้นมาอีกครั้ง
“โอ๊ยยยยยยยย” ผมน้ำตาไหลอีกรอบด้วยความเสียวถึงขีดสุด
พี่ไผ่รัวสะโพกถี่เร็วจนผมตัวสั่นไปหมด เขาลงมาจูบปากผม แล้วสอดลิ้นเข้ามาให้ผมดูดอม ลิ้นของเขาหวาน ผมตอดแล้วเลียมันไปทั่ว ก่อนจะสอดลิ้นของผมไปให้เขาดูดแลกกัน
ขาของผมถูกยกสูงขึ้นอีก เขาเอามือเท้ากับแผ่นกระจกใสที่พื้นคล้ายกับท่าเตรียมวิดพื้น สะโพกของผมลอยแอ่นขึ้นมา รอยยิ้มที่ไม่จางหาย ส่งสัญญาณว่า เขาเองก็ใกล้แล้ว
เขารัวกดสะโพกลงมาเป็นจังหวะ มันเหมือนหนังเอ็กซ์ในท่ามิชชันนารีที่ผมโปรดปราน โอ๊ยยยย ไอ้บ้า คนอะไรทำผมคลั่ง เขาใส่ผมไม่ยั้งอย่างกับคนที่โหยหา คล้ายชูชกที่ได้โต๊ะจีน ปากก็ก้มลงมาดูดซอกคอ และเนื้อผมไปทุกส่วน เขาทิ้งสะโพกหนักขึ้น หนักขึ้น ลมหายใจถี่หอบ เหงื่อไหลร่วงใส่หน้าผมเต็มไปหมด ผมผงกหัวขึ้นไปดูดปากเขา แล้วเอื้อมมือไปคล้องคอ
ก่อนเขาจะกระตุกเกร็งแล้วพ่นน้ำรักมาในตัวผม มันอุ่นร้อนแล้วก็ซาบซ่านกว่าของใครคนไหน ผมก่อนร่างที่ท่วมเหงื่อของเขา เรากอดกันอย่างนั้น พี่ไผ่.. คนกาม ของผม
Flashback : นที คนใต้ถุน
“เร็วสิธนู เดี๋ยวผัวฉันกลับมา” แม่ถอดเสื้อคลุมลงไปกองกับพื้น เผยให้เห็นปทุมถันที่ยังเต่งสาว น้าธนูโจมตีที่คู่อวบตูมนั้นอย่างดูดดื่ม ก่อนจะเปลื้องตัวเองเช่นกัน ผมที่เข้ามานอนเล่นอยู่ใต้เตียงของแม่ ไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงเพราะกลัวถูกจับได้ มุมระยะไกล ทำเอาผมเห็นร่างของน้าธนูอย่างชัดเจน กล้ามเนื้อของเขาแกร่งแน่น สีผิวเข้ม แก่นกายใหญ่โต เขื่องยาว จนกังวลแทนแม่ ได้แต่นอนกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ลงคออย่างแผ่วเบา
น้าธนูลากแม่มาที่เตียงแล้วบรรเลงกามกิจไม่ยั้ง เตียงที่กระแทกอยู่บนตัวผม สั่นลงมาจนรู้สึกได้ ฟูกมันบี้กับหน้าท้อง ใกล้ทิศทางลมหายใจของผม เสียงแม่กรีดร้องอย่างเร่าร้อนคู่ไปกับเสียงหายใจหอบของน้าธนู แล้วความทรงจำก็ดำมืดไป
“ไอ้เด็กไม่มีแม่ไปไหนวะ กูจะได้ไถตังมันซะหน่อย” เสียงของเด็กข้างบ้านที่ชอบแกล้งผมเป็นประจำลอยมา เขาคงไม่รู้ว่าผมแอบอยู่ในท่อระบายน้ำเก่า ที่ไม่มีน้ำแล้ว ผมเปิดฝา แล้วแอบลงไปเพื่อไม่ให้ใครเห็น โดยเฉพาะเด็กในโครงการหมู่บ้าน ที่ชอบล้อเรื่องที่แม่ผมหนีไปกับผู้ชาย
มีคนเดียวที่มักตามหาผมเจอ แล้วก็ดึงผมขึ้นมา คือเด็กรุ่นพี่บ้านติดกัน ที่แสนจะเข้าอกเข้าใจผมอยู่เสมอ
“ไอ้ลูกไม่มีแม่ไปไหนวะ เห็นแว๊บๆ กูจะเตะมันหน่อย คันตีน” เด็กกลุ่มเดิมที่นั่งบนศาลาเรือนไทย ซึ่งโครงการหมู่บ้านทำไว้ให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน พวกมันนั่งกันอยู่อย่างนั้นจนนานแสนนานไม่มีทีท่าว่าจะกลับ
ผมที่เห็นพวกมันเดินมาแต่ไกล ก็ได้แต่มานั่งหลบที่ใต้ถุนเป็นประจำ ยุงก็เยอะ น้ำขังแสนเหม็น พงหญ้าแสนคัน ไม่รวมถึงความกลัวงู กลัวกิ้งกือที่ฝังในใจ เด็กกลุ่มเดิมที่ฉี่ใส่พื้นแล้วทะลุกระเซ็นลงมาโดนหัวผมบ้าง ไหนจะน้ำลายที่พวกมันบ้วน ไม่รวมถึงขยะที่มันปาทิ้งลงมา ผมก็ยังคงหลบพวกมันอยู่ตรงนี้
แล้วเขาคนเดิม เด็กรุ่นพี่คนดี ที่มาไล่พวกมันไป พอเด็กกลุ่มนั้นจากไป เขาก็เอื้อมตัวลงมายังที่ซ่อนของผมอย่างรู้ใจ
พี่ไผ่ ส่งมือมาด้านล่าง ให้ผมคว้าไว้
“อยู่มัวแต่อยู่ข้างล่างเลยนะน้ำ มาอยู่ในที่สูง จงอยู่เหนือทุกคน”
Wishdom Path : ทางเดินแห่งปรัชญา
ผมซึ่งขาแทบลาก ไม่ใช่เพราะแค่จากการเดินลงจากกระเช้ามาขึ้นบรรไดที่สูงลิบเพื่อไหว้พระใหญ่ เทียนถาน [ Tian Tan ] แต่เพราะมันถูกยกละอ้ากว่ายี่สิบนาที คนอะไรอึดชิบหาย เราใส่เสื้อผ้ากันแทบไม่ทันตอนกระเช้าจอด เจ้าหน้าที่มองหาร่องรอยพิรุธหรือเปล่า มีกล้องวงจรปิดหรือเปล่านะ เราลืมคิดไปเลย อารมณ์มันพาไป คนหนึ่งก็กำลังตื่นเต้นที่สูง อีกคนก็กำลังเริงร่ากับกระจกใสโล่ง มันช่างเป็นยี่สิบห้านาทีที่ไม่รู้ลืม
ผมต้องเดินขมิบไม่ให้ของเหลวที่อยู่ในตัวซึ่งพี่ไผ่ฝากไว้ไหลออกมา ก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อชำระความโสมมของเราสอง ดีนะที่คนฮ่องกงใช้ฝักบัวชำระเหมือนคนไทย ทุกอย่างเลยง่ายขึ้น นี่ผมก็ทำความสะอาดพอประมาณ แต่พี่ไผ่ไม่แคร์ เดินกอดเดินหอมผมไปอย่างนั้น “เห่อเมีย” เขาบอก
หลังจากไหว้พระ เราก็เดินมาที่ป้าย Wishdom Path เดินไปทางนี้ จะเป็นทางเดินแห่งปรัชญา ผมไม่เคยไป แต่อ่านจากคู่มือท่องเที่ยว ห่างจากพระใหญ่ไปสิบห้านาทีเอง เราสองคนเลยลองเดินไปชม ข้างทางมีบ้านผู้คนโบราณอาศัย เป็นเหมือนร้านค้าที่เคยเจริญแล้วร้างลาไป คิดว่านักท่องเที่ยวเฉยเมยกับงานศิลปะ เลยมีจุดหมายสิ้นสุดที่พระใหญ่ลันเตา แต่ไม่เดินมาถึงตรงนี้ จนผมพบกับซุ้มประตูใหญ่ โอ้โห ก็สวยงามไม่น้อย มีวัวสามสี่ตัวกำลังกินหญ้า มีแม่ชีชุดเทาแบบหลวงจีนโบราณกำลังนั่งสมาธิบนเก้าอี้ไม้ไกลออกไป ตรงหน้า เป็นเสาไม้ทรงแบน ตั้งปักเรียงห่างกันเป็นรูป เลขแปด มีอักษรจีนปักไว้ มีเท่านี้จริงๆ กับ สิบห้านาทีที่เดินมา
เราจึงเดินถ่ายรูปแล้วก็สำรวจงานศิลปะนี้อยู่สักพัก มองลงไปที่เวิ้งหุบเขาเบื้องล่างก็พบว่า เราขึ้นมาสูงเหลือเกิน
สูงแค่ไหนน่ะเหรอ สูงพอที่จะทำอารมณ์ของผมครุกรุ่นอีกครั้ง
เอ๊ะ.. ตับผมคงหายดีแล้ว
ไอ้พี่ไผ่ไม่ต้องพูดถึง เหลือบไปมองแม่ชีที่นั่งสมาธิซึ่งอยู่ห่างไปสองร้อยเมตรได้ หันมายักคิ้ว ไอ้ห่า.. นี่เขตวัดนะโว้ย
แต่ผมเองก็เลวพอที่จะไม่ปฏิเสธ ผมเลยส่งสัญญาณให้เขาเดินไปที่เสาไม้สุดท้าย ที่อยู่ตรงเชิงหน้าผา วิวมันดีเหลือเกิน สูงแล้วก็เขย่าผมจนเสียวซ่าน พี่ไผ่ดันตัวผมให้หลังชิดกับแผ่นไม้นั้น เขี่ยกางเกงผมลงพื้น ยกขาข้างหนึ่งผมขึ้นมา เราดูดปากกันครู่เดียว ผมรู้สึกตัวอีกที เขาก็ยัดของเขาเข้ามาแล้ว แม่น และตรงเข้ามาอย่างหนักหน่วง เขาเร่งจังหวะสลับกับหันไปทางแม่ชีที่กำลังนั่งสมาธิเข้าระดับฌานเลยกระมัง ถึงได้ไม่ลืมตามมาดูคู่เรา โอยย.. พี่ไผ่ ทำไมมึงเร่าร้อนขนาดนี้
ผมเองก็ต้องถึงกับโอบมือไปด้านหลังเพื่อเกาะยึดแผ่นไม้นั้น แรงกระแทกจากสะโพกทำเอาผมยืนแทบไม่อยู่ แต่เพราะพี่ไผ่มีมัดกล้ามมากพอ อานิสงส์ของการเปิดฟิตเนส เขาแบกขาผมไว้ด้วยมัดกล้ามนั้น สะโพกที่ถูกถลกกางเกงลงไป มันเบียดใส่หน้าขาผมเป็นจังหวะ แล้วเขาก็ถอนออกมาระเบิดข้างนอกเพราะกลัวผมเลอะ น้ำขาวขุ่นปริมาณไม่น้อยพ่นไปใส่แผ่นปฏิมากรรมศิลปะที่ผมพิงเมื่อสักครู่ จะว่าเป็นการลบหลู่หรือเปล่า ตายล่ะสิ..
วันรุ่งขึ้นเราไปดิสนีย์แลนด์ เพื่อปลดปล่อยความอิสระในใจ แต่แล้วก็พบว่าไม่ใช่กิจกรรมที่เหมาะกับเรา
อาจจะเพลียด้วย เพราะพี่ไผ่ถล่มผมทั้งคืน ผมก็ไม่ได้ปฏิเสธ เอาเป็นว่าค่อนข้างชอบ
มันก็ไม่ได้ถึงกับหนักหน่วง แต่ก็มีระบม เพราะของพี่ไผ่มันใหญ่อยู่ เขาแม้จะคล้ายว่าถนอม แต่ก็ย่ำยีอยู่ทั้งคืน
ผมเองก็พยายามกินให้เยอะเพื่อโด๊ปเข้าไว้ เพราะไม่รู้ว่าต้องเจออะไรอีกตลอดทริปที่เหลือ
ดิสนีย์แลนด์แสนใสจึงไม่เหมาะกับเราเท่าไหร่ เพราะเราไม่ได้ผุดผ่องแบบนั้น
วัดยังไม่ร้อนเท่านี้ เสียงหัวเราะของเด็กน้อย กับรอยยิ้มต่างหาก ไม่เหมาะกับเราเลย
เราเลือกที่จะปิดทริปด้วย The Peak Tower แทนในค่ำนี้
The Peak Tower
จุดชมวิวยอดเขาระดับโลก มีระเบียง Sky Terrace 428 อยู่ และตรงนี้เอง วิวพาโนรามาอันเลื่องชื่อ
มันยากนะ ที่จะขึ้นมามีอะไรบนนี้ ก็ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้สำเร็จ เลยคิดว่า ขึ้นมาจูบกัน แล้วใช้เวลาบนนี้สักพัก ก็พอแล้ว คงเป็นทริปแห่งความทรงจำ
ระหว่างทางขึ้น ด้วยรถราง Peak Tram คนแน่นมากจนตัวเราที่หันหน้าเข้าหากันต้องเบียดซะหน้าแทบจะจูบกันเลยก็ว่าได้ แล้วเป้าพี่ไผ่ที่อยู่ดีๆ ก็แข็งโป๊กขึ้นมา เสียดสีกับเป้าของผม ผมทำหน้าแบบว่า ทำไมมึงถึงได้หื่นแบบนี้ เขาก็เหมือนเด็กที่โดนดุ แล้วก็พยายามข่มใจไว้
เรากะว่าจะทู้อยู่จนใกล้ 5 ทุ่มเพื่อที่จะรอให้คนกลับให้หมดก่อน แต่ปรากฏว่า อยู่ดีๆ ฝนก็ตกหนักคล้ายพายุจะเข้า เล่นเอาคนทุกคนหลบเข้าที่พัก และเตรียมลงรถรางกลับลงไป ทัวร์มีรถบัสมารับ บ้างก็เรียกแท็กซี่ พอคนบางตา เราก็มองตากันเหมือนกับว่าพระเจ้าเต็มใจสินะ
ระเบียง สกาย เทอเรซ 428
เวิ้งพาโนรามาแสนโด่งดังที่ไม่มีคน เป็นไปได้อย่างไรกัน แม้จะมีฝนฟ้ากระหน่ำก็เถิด แต่ละอองฝนไม่ได้ทำให้วิวของเมืองฮ่องกงสวยน้อยลงไปเลย วิวทะเล กับตึกที่เปิดไฟสวยงาม อ่าววิคตอเรีย ไหนจะเรือที่ล่องไปมา ผมคึกคักถึงขีดสุด ไม่ต้องพูดถึงพี่ไผ่ที่ยิ้มหวานมีเลศนัยแบบไม่ต้องเดาได้ มันคงเกิดปีกระต่ายที่พร้อมจะซอยได้ไม่หยุดหย่อน
เรามองซ้ายมองขวา แล้วพากันไปมุมที่ลับตาที่สุด ผมเอามือทั้งสองข้างจับราวระเบียงแน่น พี่ไผ่ถลกกางเกงผมลงไป แล้วรีบมาประกบ คนอะไร ตื่นตัวได้รวดเร็วดั่งใจนึก เขาส่งมันเข้ามา ผมยิ้มร่าหลับตาปี๋ สูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะลืมตามาอีกที เพื่อเสพวิวที่อยู่ตรงหน้า
ผมที่ขึ้นมาในที่สูงกว่าใคร กับชายที่ตัวเองรัก มองลงไปเบื้องล่างที่บรรจุเรื่องราวของผมไว้มากมาย ลมโชยมาตีหน้า กับน้ำฝนกระหน่ำ ฟ้าที่ร้องคำราม พี่ไผ่เอื้อมมีผมกำของผมแล้วสาวมือเป็นจังหวะ เราหมายจะเสร็จพร้อมกันในค่ำคืนที่สมบูรณ์ของคนใจซกมกคู่นี้
ประตูระเบียงถูกเปิดออก ฝรั่งในชุดยามเดินเข้ามา พี่ไผ่ยังไม่ถอนมือ และถอดแก่นกายของเขาออกจากตัวผม ฝรั่งคนนั้นหันซ้ายหันขวามองว่าไม่มีใคร หันมาขยิบตาให้คนที่ยังฝังเอ็นแข็งอยู่ในตัวของผม ก่อนที่เขาจะพูดภาษาอังกฤษ ซึ่งพี่ไผ่แปลให้ผมฟังทีหลังว่า
“คุณต้องรีบนะ มร.ต้นไผ่ ผมจะดูต้นทางให้.. ว่าแต่คุณยังเด็ดเหมือนเดิมเลย ผมเป็นแฟนคลับของคุณ”
เจ้าหน้าที่ผมทองในเอเชียตะวันออก เดินจากไปประจำที่ประตูทางเข้าเผื่อเฝ้ายามให้เรา
พี่ไผ่เหวี่ยงผมไปเกาะที่ระเบียงเหมือนเดิม ก่อนเราทั้งคู่จะระเบิดอารมณ์แบบไม่เกรงกลัวใครทั้งนั้น
ผมเก็บภาพเบื้องหน้าใส่ความทรงจำเอาไว้ เอื้อมมือโอบกอดตัวเองอย่างเร่าร้อนแล้วนึกถึงขวบปีที่ผ่านมา
ดวงตาก็มองไปที่ท้องนภาตรงหน้า สลับกับตึกรามบ้านช่องที่อยู่เบื้องล่าง
ทั้งความโง่เขลา และความบ้า ซึ่งไม่ได้น้อยไปกว่าสิ่งที่ทำอยู่นี่
น้องกันต์ ผู้กอง พี่กร พี่อำนาจ ไอ้เอ.. แล้วก็ยังมี เพื่อนพ้องและครอบครัวที่ผ่านอะไรมาด้วยกัน
ผมได้น้องต่างบิดามาเพิ่ม แล้วก็กำลังจะได้แม่ใหม่
มีเรื่องร้าย มีความหวังใหม่ แล้วก็ได้รับกำลังใจ
เหนือสิ่งอื่นใด ผมต้องขอบคุณออกัส เขาคือ กามเทพของผม
เขานำพาให้ผมมาเจอทุกคน ได้ใช้เวลากับเพื่อนพ้องและครอบครัว
สำคัญที่สุด เขาทำให้ผมมีคนนี้ คนที่กำลังสอดใส่และทะลวงผมอย่างบ้าคลั่ง แล้วผมก็หลงใหลเขาจะแย่
สัญญาว่ากลับไทย เราคงไม่ทำอะไรห่ามกันแบบนี้ ก็คนมีงานมีการทำกันนะโว้ย
แต่ก็ขอบคุณ ขอบคุณเหลือเกิน
For the good time..
For the bad time...
ขอบคุณพี่ที่อยู่กับผมเสมอนะพี่ไผ่..
ไม่สิ.. พี่กำลังอยู่ในตัวผม.. โอ๊ยยยย เมื่อไหร่จะเสร็จ
END -
ในตอนแรกบอกเอาไว้ว่าแม่รวยมาก อย่างนี้
แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
ในตอนแรกบอกเอาไว้ว่าแม่รวยมาก อย่างนี้
แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง พ่อก็พร้อมที่จะปล่อยทุกอย่างไป เงินก้อนหนึ่งถูกมอบให้ทั้งคู่ได้ดูแลกันและกัน
"พ่อของผมไม่ใช่มาเฟีย แต่ว่าท่านเป็นนายทหารใหญ่ เรียกได้ว่าใหญ่มาก จนนักการเมืองต้องมายืมเงินกันบ่อยตอนเลือกตั้ง ถามว่า ท่านรวยมาจากไหน รวยมาจากบ้านฝั่งคุณแม่ผมครับ เพียงแต่ แม่ไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว"
ตกลงแม่จนหรือแม่รวยอ่ะ