ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
[color=red]1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม[/color]
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
สารบัญ
บทที่1
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3784992#msg3784992 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3784992#msg3784992)
บทที่2 (1/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3785509#msg3785509 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3785509#msg3785509)
บทที่2 (2/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3786300#msg3786300 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3786300#msg3786300)
บทที่3 (1/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3787344#msg3787344 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3787344#msg3787344)
บทที่3 (2/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3787918#msg3787918 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3787918#msg3787918)
บทที่4 (1/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3789142#msg3789142 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3789142#msg3789142)
บทที่4 (2/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3790848#msg3790848 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3790848#msg3790848)
บทที่5(1/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3792071#msg3792071 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3792071#msg3792071)
บทที่5 (2/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3794179#msg3794179 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3794179#msg3794179)
บทที่ 6 (1/2)
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3796164#msg3796164 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3796164#msg3796164)
บทที่7 (1/2)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3800517#msg3800517 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3800517#msg3800517)
บทที่7 (2/2)
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3801167#msg3801167 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3801167#msg3801167)
บทที่8
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3802688#msg3802688 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3802688#msg3802688)
บทที่9
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3817528#msg3817528 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=66108.msg3817528#msg3817528)
ติดตามข่าวสาร+ให้กำลังใจผู้เขียนได้ที่
https://www.facebook.com/apaphaty/ (https://www.facebook.com/apaphaty/)
01
“โคตรขาว”
“หูย…มึงดู ๆ! เสื้อเปิด”
“กูจะตายแล้ว แพ้ความขาวของน้อง”
“น้องมิลค์คือความน่ารักของโลกใบนี้”
“น่ารัก น่ารัก ฮือ…อยากได้” เสียงพูดคุยข้างสนามของเหล่าบุรุษทั้งหลายดังเซ็งแซ่เป็นระยะ ๆ หลังช่วงบ่ายของวัน น้องมิลค์ คนน่ารักแห่งคณะวิทยาศาสตร์ มหาลัยสีชมพูกำลังลงล่นบาสกับกลุ่มเพื่อน
ความดังที่มาแบบไม่ได้ตั้งตัวทำเอามิลค์รู้สึกรำคาญอยู่ไม่น้อย มิลค์ไม่ใช่คนดังหรือดารา เขาเป็นแค่เด็กวิดยาธรรมดาที่เผอิญถูกแอบถ่ายรูปลงเพจดังแล้วเป็นกระแสภายในข้ามคืน มิลค์ไม่อยากเป็นที่รู้จักของใคร เขาชอบอยู่เงียบ ๆ แต่ไม่มีใครเห็นด้วย
……ในที่สุดมิลค์ก็เป็นคนดังของมหาลัยแบบงง ๆ
“น้องมิลค์น่ารักจังค้าบบบบ” เสียงตะโกนจากข้างสนาม ทำเอาคนตัวเล็กถึงหันขวับเพื่อพบสายตากระลิ้มกระเหลี่ยงของรุ่นพี่ มิลค์จึงยื้มตอบตามมารยาท
“ขอบคุณครับ” จริง ๆ เขาชอบถูกชมว่าหล่อมากกว่าคำว่าน่ารัก ผู้ชายก็อยากถูกชมว่าหล่อกันทั้งนั้น แต่ในเมื่อรุ่นพี่ยัดเยียดคำว่าน่ารักมาให้ มิลค์จะไม่ปฏิเสธก็ได้
“มึ้งงงงง น้องยิ้มให้กู กูจะตายแล้ว”
“ไอ้ห่า! อย่าเพิ่งตายดิ อยู่ดูความน่ารักของเขาก่อน” ทำเฉยเดี๋ยวจะหาว่าหยิ่ง พอส่งยิ้มตอบก็กลายเป็นความวุ่นวาย ความดังของมิลค์ทำเอาเจ้าตัวรู้สึกปวดหัวจริง ๆ
หลังเล่นบาสกับเพื่อนจนสะใจแล้ว มิลค์ก็ขอตัวออกไปก่อน หลังจากที่เป็นคนรู้จักมากมายคนก็เริ่มจ้างงาน บ่อยครั้งที่มิลค์ได้ถ่ายแบบ เขาไม่ปฏิเสธหรอกเพราะมันได้ค่าขนม
“มีงานต่อเหรอ” ก้องเพื่อนสนิทของมิลค์ถาม หลังเห็นคนตัวเล็กขอตัวกลับก่อน
“อือ มีงาน” มิลค์ว่าด้วยน้ำเสียงสุดอึน ถ้าให้ทำงานเขาไม่เกี่ยงหรอก แต่พอรู้ว่าต้องไปเจอกับใคร เขาก็อยากเบี้ยวงานซะงั้น
“คราวนี้กับใครล่ะ ไอ้แทนอีกเหรอ” ก้องแสร้งถาม ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่เต็มอกว่ากระแส #พี่แทนน้องมิลค์ มาแรงแค่ไหน ปกติทั้งแทนไทและมิลค์ก็ดังพลุแตกกันทั้งคู่แล้ว แต่พอมีครั้งหนึ่งที่ทั้งสองได้ร่วมงานกัน แล้วเจ้าบ้านั่นดันแกล้งมิลค์กลางเวที แฟนคลับจับภาพได้จึงเกิดเป็นกระแสคู่จิ้นเพียงข้ามคืน
“เออ ตอนนี้เราเบื่อหน้าแทนมาก” มิลค์พูดอย่างสุดเซ็ง คนตัวเล็กได้แต่ทำสีหน้าอย่างเบื่อหน่าย เมื่อไรเขาจะหลุดพ้นจากเจ้าแทนไท คนดังแห่งมหา’ลัยสีเหลือง-แดงเสียที
เราเรียนอยู่คนละมหา'ลัยกัน เราไม่ควรจะรู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เพราะเรากำลังที่เป็นสนใจในโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้หลายครั้งมิลค์ได้รับการติดต่อให้ร่วมงานกับแทนไท เขาจึงต้องเจอและร่วมงานกับคนนิสัยขี้แกล้งอย่างเลี่ยงไม่ได้
ตอนแรกมิลค์ไม่ได้อคติใส่อีกฝ่าย เขายินดีที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนต่างสถาบัน แต่ทว่าพอได้รู้จักกันจริง ๆ มิลค์ก็รู้ได้เลยว่าเขากับแทนไท เราเป็นเพื่อนกันได้ยาก
แค่ร่วมงานยังพอทน งานจบก็ไม่อยากสุงสิง จากที่คุยไม่ถูกคอเฉย ๆ ก็กลายเป็นไม่ชอบหน้ากัน ต่อหน้ากล้องเรายิ้ม เรายืนข้างกัน แต่หลังกล้องขออย่าได้พบเจอกันอีกเลย
เพราะรถติดทำให้มิลค์ไปถึงสตูดิโอสาย คนตัวเล็กรีบขอโทษขอโพยพี่ ๆ ทีมงานยกใหญ่ ข้อหาไม่เผื่อเวลาให้ดีจนทำให้ทุกคนรอ พี่ ๆ ที่น่ารักก็ไม่ได้อะไร แต่ให้มิลค์รีบแต่งตัวน่าจะดีกว่า คนตัวเล็กจึงไม่อิดออดรีบรับเสื้อผ้าแล้วเข้าไปเปลี่ยนชุดทันที
ทันทีที่เข้ามาในห้องแต่งตัว มิลค์ก็เจอแทนไทกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ คนตัวเล็กชะงักกึก พอ ๆ กับคนตัวสูงที่หันมามองพอดี แทนไทที่กำลังเปลือยท่อนบน เตรียมจะใส่เสื้อส่งยิ้มกวนประสาทให้มิลค์ เพียงเท่านั้นดวงตาเรียวฉายความไม่เป็นมิตรทันที หน้ากล้องเราอาจจะยิ้ม บีบแก้มกัน แต่หลังกล้องเรากัดกันสุดฤทธิ์
คนตัวเล็กสะบัดหน้าหนีไปอยู่อีกมุม รีบจัดการธุระของตนเองแล้วรีบออกไปอีกกว่า อยู่ด้วยกันนาน ๆ ชักจะเหม็นหน้าตงิด
“ไม่มีมารยาท” จู่ ๆ เจ้าแทนไทก็พูดลอย ๆ ทำท่าทางจัดปกเสื้อ เช็กความเรียบร้อยของตนเอง แต่ชำเลืองมองมิลค์ผ่านกระจกเงา ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับหันขวับ
“นี่ว่าเราเหรอ”
“ก็เปล๊า....” แทนไทพูดเสียงสูง
“มีกันในห้องแค่สองคน ถ้าไม่ได้ว่าเราแล้วใคร” มิลค์ว่าด้วยน้ำเสียงสุดแสนจะหาเรื่องโดยแทบไม่เช็กขนาดตัวของตนเองกลับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ มิลค์ก็ว่ามิลค์สูงนะ เขาชอบกินนม เล่นบาส แต่ก็ยังสูงไม่เท่าแทนไทอยู่ดี อีกฝ่ายสูงกว่าเขาตั้งสิบเซนฯ
“ว่าลูกหมามั้ง....” แทนไทชอบว่ามิลค์เหมือนลูกหมาคอร์กี้ เพราะตัวสั้น ๆ ป้อม ๆเหมือนกัน ส่วนมิลค์ก็ชอบว่าแทนไทว่าปากหมา เพราะเห่าไม่หยุดเสียที
“จะบอกให้นะ ถ้ารู้ว่ามีคนในนี้ เราไม่เข้ามาหรอก แล้วไม่อยากเห็นอะไรด้วย เสียลูกตา”
“อยากดูคนอื่นแก้ผ้าก็บอก”
“จะอยากดูทำไม เราก็มี” มิลค์เถียง กลีบปากบางเริ่มงองุ้มเข้า เมื่อทำท่าจะเถียงเขาไม่ได้ ตั้งแต่รู้จักกับแทนไท มิลค์รู้สึกว่าตัวเองปากจัดมากขึ้น ทุกครั้งที่รู้ว่าได้ร่วมงานกับแทนไท มิลค์มักจะแอบลับฝีปากมาก่อน เพราะเดี๋ยวจะเถียงอีกฝ่ายไม่ทัน
“มีจริงเหรอ ไหน...ขอดูหน่อย” ตอนแรกมิลค์เข้าใจว่าอีกฝ่ายแค่หยอกเล่น แต่พอเห็นแทนไทเดินอาด ๆ เข้ามาหาคนตัวเล็กก็ถึงกับถอยกรู ติดกำแพง จ้องหน้าแทนไทด้วยความหวาดระแวง
“จะทำอะไร ออกไป!”
“ก็อยากพิสูจน์ว่ามีจริงเหรอเปล่า” แทนว่าอย่างไม่ทุกข์ร้อน ก่อนมือหนาจะถือวิสาสะบีบหน้าท้องมิลค์เบา ๆ แบบอาศัยทีเผลอ แล้วพูดประโยคที่ทำให้คนฟังรู้สึกหน้าร้อนผ่าว “หึ มีแต่พุง”
“ไอ้บ้า เราออกกำลังกายอยู่นะ” จู่ ๆ มิลค์ก็รู้สึกโมโหขึ้นมา อีกฝ่ายจะบอกว่าเขามีพุงได้ไง ในเมื่อมิลค์ออกกำลังกาย กินของมีประโยชน์แทบทุกวัน
“งั้นแสดงว่าเป็นหมูแข็งแรง”
“ฮึ่ย! ตัวเองมีดีมากงั้นสิ” มิลค์ว่า หวังจะให้แทนไทรู้สึกเจ็บช้ำบ้าง ทว่าอีกฝ่ายกลับรือเสื้อขึ้น โชว์ซิกแพ็กให้มิลค์ได้เห็นเป็นขวัญตา
“พิสูจน์ได้ตลอดเวลา อยากลองจับดูไหมล่ะ” แทนไทไม่พูดเปล่า แต่ดึงมือมิลค์หมายจะให้ไปจับหน้าท้องตัวเองด้วย แต่คนตัวเล็กยั้งมือสุดฤทธิ์
“ไอ้โรคจิต!!” มิลค์เกลียด มิลค์เกลียดแทนไทมาก ๆ ฮึ่ย! มิลค์ไม่อยากร่วมงานกับไอ้บ้าแทนไทแล้ว มิลค์อยากกลับบ้าน
เพราะมิลค์ต้องทำงาน เขาเลยกลับบ้านไม่ได้ อุตส่าห์เตรียมรับมือมาจากบ้าน แต่ก็ยังแพ้แทนไทอย่างราบคาบอยู่ดี คนตัวเล็กได้แต่แอบส่งสายตาไม่เป็นมิตรให้แทนไท ระหว่างที่เรากำลังให้พี่ ๆ แต่งหน้าให้ แม้มิลค์จะทำหน้าไม่เป็นมิตร แต่รายนั้นก็ยังคงยิ้มระรื่นเพราแกล้งมิลค์ได้
“สองคนนี้อย่าหยอกกันซีคะ” เสียงของพี่ทีมงานเอ่ยขึ้น เมื่อมิลค์ยังขยุกขยักไม่หยุด ตัวการที่ทำให้มิลค์เป็นแบบนี้ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแทนไท
“มิลค์ไม่ได้หยอกนะครับ” มิลค์แย้ง เขาไม่อยากจะยุ่งกับแทนไทนักหรอก คนนิสัยไม่ดีอย่างอีกฝ่ายใครจะอยากหยอกด้วยกัน
“ไม่ได้หยอกงั้นก็นั่งดี ๆ ค่ะ เดี๋ยวกลับบ้านช้านะ” พี่ทีมงานขู่พร้อมกับจับหน้าให้คนตัวเล็กเชิดขึ้น เพื่อจะได้ลงลิปมันได้อย่างสะดวก ทำไมกลายเป็นว่ามิลค์ดื้อ ทั้ง ๆ มิลค์ไม่ได้เริ่มก่อน เขาไม่ได้ดื้อแต่แทนไทนั่นแหละที่แอบลูบมือมิลค์ไม่ยอมหยุด!
“ใกล้กันอีกนิดครับ”
แชะ!
“ยิ้มแบบนั้นแหละครับ กอดคอกันด้วย”
แชะ!
“คราวนี้แทนบีบแก้มมิลค์หน่อยครับ ขอแบบน่ารัก ๆนะ” พอสิ้นเสียงของพี่ช่างกล้อง แทนไทก็หันมายิ้มให้มิลค์อย่างตัววายร้าย ต่างจากคนตัวเล็กที่ถึงกับสะดุ้งโหยงราวกับเห็นผี
ตอนแรกโหยหาอยากกลับบ้านยังไง ตอนนี้มิลค์ก็ยังรู้สึกเช่นนั้น คำสั่งของพี่ช่างกล้องไม่ต่างจากใบเปิดทางให้เจ้าแทนไทแกล้งมิลค์ด้วยซ้ำ
“มันเป็นงานนะ ไม่ได้แกล้ง” แทนไทพูดเสียงแผ่ว ให้เราได้ยินกันสองคน ก่อนจะควับหมับที่แก้มมิลค์แล้วบีบตามคำสั่งของพี่ช่างภาพ คนตัวเล็กได้แต่ฝืนยิ้ม ถ้าเป็นปกติมิลค์คงปัดมืออีกฝ่ายโดยไม่ต้องคิด แต่นี่มันคืองาน เขาเลยเลี่ยงไม่ได้
“บีบแก้มเรานานเกินไปแล้ว” หลังจากพี่ช่างกล้องหันหน้าไป มิลค์ปัดมือแทนไทออกอย่างไม่ใยดี แม้มิลค์จะยังชักสีหน้าด้วยความไม่ชอบใจ แต่แทนไทก็ยังคงยิ้มระรื่น
“โรคจิต”
“ก็มันนิ่ม”
“แล้วมันใช่เรื่องไหม”
“เหอะ ไม่ได้อยากบีบหรอก คนอะไรแก้มนิ่มเหมือนโมจิ”
“นี่ว่าแล้วเหรอ?” มิลค์ถึงกับเลิกคิ้ว ถ้าแทนว่าเขาอ้วน เป็นหมูแข็งแรงอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกตั้งแต่ในตอนแรก ๆ เขาจะไม่แปลกใจเลย แต่การที่บอกว่าแก้มนิ่มเหมือนโมจิ ทำไมมิลค์รู้สึกว่านั่นคือคำชม
“ใช่”
“งั้นเราไม่ว่ากลับหรอก เพราะไม่เจ็บ” มิลค์ว่าพร้อมกับส่งรอยยิ้มยียวนเหมือนที่แทนไทเคยทำ แต่ทว่าคนมองกลับไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนแต่อย่างใด มิหนำซ้ำแทนไทยังเผลอยิ้มตามมิลค์อีกด้วย
“นี่เรากำลังกวนประสาทแทนอยู่นะ เพราะฉะนั้นห้ามยิ้ม!” มิลค์ว่าอย่างเผด็จการ ก่อนจะเดินไปหาพี่ ๆ ทีมงาน ทิ้งให้แทนไทยืนอยู่หน้ากล้องเพียงลำพัง
“แบบนั้นเขาไม่เรียกกวนประสาทหรอก ไอ้ขาสั้น”
ในที่สุดงานถ่ายแบบของเราก็ผ่านพ้นไปด้วยดี มิลค์ดีใจจนอดยิ้มไม่ได้ เพราะเขาจะได้แยกกับแทนไทเสียที จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เกลียดแทนไท เราไม่ได้เกลียดกัน แต่มิลค์ไม่ชอบนิสัยอีกฝ่าย เพราะแทนไทชอบแกล้งมิลค์ คนอื่นแทนไทไม่แกล้ง แกล้งแค่เขาคนเดียว มิหนำซ้ำยังแผลงฤทธิ์ใส่กัน ตั้งแต่ตอนเราร่วมงานกันครั้งแรกด้วยซ้ำ
นั่นจึงทำให้มิลค์เข็ดขยาดกับอีกฝ่าย แต่ถึงแม้ว่าเราไม่ถูกกันแต่ยังร่วมงานกันได้ ถึงแทนไทจะคอยแกล้งแมิลค์อยู่เสมอ แต่มิลค์ก็พยายามอย่างไม่ย่อท้อ เขาลับฝีปากมาตั้งแต่บ้าน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่จะสู้แทนไทได้สักที พูดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย พาลจนนึกสงสัยว่าอีกฝ่ายคงมีหมาเป็นคอกอยู่ในปาก
นอกจากกระแสคู่จิ้นที่ทำให้เราได้ร่วมงานกันบ่อยครั้งแล้ว ความโลกกลมยังส่งผลให้เรามีเพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วย แม้แทนไทจะอยู่คนละมหา’ลัย แต่เพื่อนส่วนใหญ่ของเจ้าตัวกลับอยู่มหา’ลัยเดียวกับมิลค์ กลุ่มเดียวกับเขา
บ่อยครั้งที่เราต้องเจอกันเพราะกลุ่มเพื่อน ตอนแรกเราก็รู้จักกันเพียงห่าง ๆ แทนไทก็มีเพื่อนในมหา’ลัยตัวเองเช่นกันจึงไม่ค่อยมาสุงสิงเท่าไรนัก แต่พอเราประกาศศึกกันอย่างเป็นทางการ แทนไทก็เริ่มไปมาหาสู่กับกลุ่มมิลค์มากขึ้น จนเขารู้สึกว่าหมอนี่จงใจกวนประสาท
“กลับยังไง ให้พี่ไปส่งไหมจ๊ะ” น้ำเสียงจีบปากจีบคอของแทนไท ทำเอาถึงมิลค์ถึงกับกรอกตา รู้ทั้งรู้ว่าเราไม่ถูกกัน ยิ่งชอบมายุแหย่ให้โมโหอีก
“เหอะ อยากกลับด้วยมากมั้ง”
“งั้นไปรอที่รถเลย” คนตัวสูงว่าอย่างกระตือรือร้น
“เราประชดเถอะ”
“เราก็ประชดเหมือนกัน” แทนไทว่า ยิ่งเห็นมิลค์ทำท่าทาง ย่นจมูกใส่เขา คนตัวสูงก็นึกอยากบีบจมูกเล็ก ๆ อีกฝ่ายขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ทุกคนได้รับชมความน่ารักของมิลค์กันทั้งนั้น แต่เขากลับได้ละเว้นเป็นกรณีพิเศษ เจอหน้ากันที่ไหน ถ้าไม่มีต่อล้อต่อเถียงวันนั้นคงได้พายุเข้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าแบบนี้มันไม่ดี แทนไทว่ามันไม่ได้แย่ เพราะเขาได้รับในสิ่งที่มิลค์ไม่เคยทำให้ใคร....
พูดแล้วก็นึกว่าตัวเองเป็นโรคจิต เหมือนที่ไอ้ลูกหมาบอก...
“งั้นกลับบ้านดี ๆ นะ ไอ้ลูกหมา” เมื่อมิลค์ว่าเช่นนั้นแทนก็เอ่ยลา
“เช่นกันไอ้ปากหมา” แต่ดูเหมือนมิลค์จะไม่เต็มใจรับคำเอ่ยลานั้นเท่าไร
“เดี๋ยวโดน” แทนไทพูดแบบไม่ออกเสียง พร้อมกับยกยิ้มอันตรายให้กับมิลค์ มิหนำซ้ำยังท่าทางส่งจูบผ่านอากาศให้อีก ทำเอาคนมองได้แต่หลุบตาลงด้วยใจเต้นแปลก ๆ “ไอ้บ้า”
อารมณ์ขุ่นเคืองของมิลค์ทลายหายไปเมื่อถึงบ้าน คนตัวเล็กถึงกับคลี่ยิ้มกว้างเมื่อแม่เตรียมของโปรดไว้ให้เขา ปลาแซลมอนเป็นอาหารที่มิลค์ชอบที่สุด!
ไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบ แต่มิลค์รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขมากที่ได้กินมัน จริง ๆ มิลค์ก็มีของโปรดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด ทับทิมกรอบ นมกล้วย อาหารเทียบทุกอย่างมิลค์ชอบกินหมด แต่เขารู้สึกชอบแซลมอนเป็นพิเศษ หลังจากทำงานกลับมาเหนื่อย ๆ พอได้เห็นมื้ออาหาร ความเหนื่อยของเขาก็หายเป็นปลิดทิ้ง
จังหวะที่มิลค์ตรียมจัดการอาหารตรงหน้า มือเรียวก็ชะงักไปก่อน เมื่อนึกถึงแทนไทที่ชอบอะไร คล้าย ๆ กัน...
จริง ๆ มิลค์ก็ไม่อยากจะยุ่งกับแทนไทเท่าไร แต่เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายก็ชอบกินแซลมอนเหมือนกัน จึงตั้งใจจะถ่ายรูปส่งไปยั่วน้ำลายสอเสียหน่อย ถึงต่อหน้ามิลค์จะแกล้งไม่ได้ เถียงก็ไม่ค่อยทัน แต่เรื่องเย้าแหย่เขาไม่เป็นสองรองใคร และเมื่อคิดได้เช่นนั้นคนตัวเล็กก็ไม่รอช้า เขารีบคว้าโทรศัพท์มาเตรียมมื้ออาหารของตนเองให้แทนไทได้ดูทันที
‘มีอะไรจะอวด’
*ส่งรูปแซลมอน*
พอมิลค์กดส่งปุ๊บเพียงไม่ถึงนาที อีกฝ่ายก็กดอ่านในทันที คนตัวเล็กถึงกับยิ้มกริ่ม เมื่อเห็นแทนไทเงียบไปอยู่นานสองนาน แสดงว่าการส่งรูปแซลมอนไปยั่วน้ำลายอีกคน มันได้ผลเพราะอีกฝ่ายไม่ตอบกลับเลย ทว่าพอมิลค์ดีใจได้ไม่ถึงห้านาที แทนไทก็ส่งรูปตอบกลับมา คำพูดคำจาของอีกฝ่าย ทำเอาคนตัวเล็กถึงกับคิ้วขมวด
*ส่งรูปซิกแพ็คตัวเอง*
‘อยากกินไหม?’
“ฮึ่ย! โรคจิต” ถ้าเรายังต้องโคจรเจอกันเกือบทุกวันเช่นนี้ สาบานได้เลยว่าคำว่าโรคจิตจะหลุดออกมาจากปากมิลค์หลายพันครั้ง “โอ้ย! เจ็บใจทำไมแกล้งกลับไม่ได้สักที”
________________
สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์
พี่แทนนี่ชอบแกล้งน้อง สงสารน้องสู้ไม่ได้สักที
สู้เขาไม่ได้ อยากกลับบ้านอย่างเดียวเลย
ยัยหมูแข็งแรง
03
มิลค์ไม่เคยรู้ตัวเลยว่าความน่ารักของตนเองเป็นอาวุธทำร้ายล้างขนาดไหน....
เสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์เรียกความสนใจของแทนให้เงยหน้าขึ้นจากงาน ดวงตาคมเหลือบมองหน้าโทรศัพท์ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เจ้าตัวก็ผละออกจากงานแล้วมาเปิดดูทันที
รูปภาพของมิลค์ทำเอาแทนไทถึงกับขมวดคิ้ว คนตัวเล็กอยู่สภาพใบหน้าโล้นเหมือนลูกเจ้าของร้านน้ำเต้าหู้ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับนึกขัน แต่สงสัยเพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ สังเกตได้จากชุดนอนสีฟ้าอ่อนและผมเผ้าเปียก ๆ
การที่มิลค์ส่งรูปหน้ามาแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องปกติแน่ ๆ ต้องมีใครคนหนึ่งชี้ช่องทางให้เจ้าตัว จึงได้กล้าถ่ายรูปตัวเองส่งมา ถ้าถามว่ามันสามารถทำอะไรแทนได้ไหม เขาก็จะตอบว่าได้....
คิดว่าน่ารักมากหรือไง....
....ใช่ น่ารักมาก
จะน่ารักแค่ไหนไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ แทนไทได้กดบันทึกรูปนั้นไว้เรียบร้อย มันเป็นความเคยชินไปแล้ว เพราะเขาทำทุกครั้งที่เห็นรูปมิลค์ หากจะถามว่าแทนชอบมิลค์ไหม เขาก็จะตอบตรงนี้เลยว่าไม่...
มันเป็นความเอ็นดูเล็ก ๆ ที่มีต่ออีกฝ่ายก็เท่านั้น แทนเป็นคนนิสัยกวน ชอบแกล้งแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร มิลค์เป็นคนซื่อ ทำให้ถูกแกล้งได้ง่าย พอเรามาเจอกันเราเลยทะเลาะกันบ่อย มิลค์ชอบอารมณ์เสียตอนถูกแกล้ง ส่วนเขาก็มีความสุข กลายเป็นว่ามีคนส่วนหนึ่งจับตามองเรา จนได้เป็นคู่จิ้นกันแบบงง ๆ
กลีบปากหยักเผยรอยยิ้ม เมื่อเห็นหน้าตาคนถ่ายรูปตัวเองส่งมา แทนไทเลือกที่จะไม่ตอบกลับอะไรไป หากมิลค์คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชนะ เขาก็จะบอกว่าคิดผิด
....เพราะแทนสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ยิ่งแพ้ลูกหมาคอร์กี้แบบมิลค์ ยิ่งไม่มีทาง!
“ควรหุบยิ้มได้ล่ะมั้ง”
“คิก...”
“แน่ะ หัวเราะอีก ยิ่งดูยิ่งเหมือนคนบ้า”
“ก้องอย่าขัดอารมณ์เราได้ไหม” พอได้ยินก้องพูดเช่นนั้น มิลค์ก็ชักสีหน้าใส่อีกฝ่ายทันที คนอุตส่าห์อารมณ์ดีตั้งแต่เช้า ยังหาเรื่องมาเบรกกันอีก เขาอุตส่าห์ชนะเจ้าแทนไทได้ทั้งทีนะ ขอดีใจหน่อยก็ไม่ได้ มันน่านักจริง ๆ
“เป็นไง วิธีที่บอกมันได้ผลใช่ไหมล่ะ” บอยที่กำลังเล่นเกมส์อยู่เงยหน้าขึ้นถามพลางยกยิ้มมุมปากอย่างเหลือร้าย ดูเหมือนวิธีการเอาชนะแทนไทของเขาจะถูกใจเจ้าตัวเล็กอยู่ไม่น้อย ถึงได้อารมณ์ดีตั้งแต่เช้าเช่นนี้
“จนถึงตอนนี้แทนไทยังไม่ตอบเราอ่ะ สงสัยพ่ายแพ้ นอนร้องไห้ไปล่ะ” มิลค์พูดอวด ทำไมเขาไม่เคยคิดนะ วิธีที่บอยบอกมันก็แสนจะง่ายดาย แต่ทำไมมิลค์ไม่เคยใส่ใจ
“มันหลอกให้ตายใจหรือเปล่า..” ก้องว่า
“นี่ก้องอยู่ทีมไหน เราเป็นเพื่อนกันนะ ก้องจะอยู่ทีมแทนงั้นเหรอ” เพราะเห็นยังเข้าข้างแทนไทไม่ยอมหยุด คนตัวเล็กจึงถามอย่างหาเรื่อง “จะบอกให้นะ ถ้าก้องอยู่ทีมแทนไท บอกไว้เลยว่าอย่ามาขอสรุปวิชาจากเรา”
“ไอ้แทนก็เพื่อนเราไหมล่ะ” ชายหนุ่มถามกลับ
“ก—ก็ใช่ไง”
“เฮ้อ..เอาน่า ยังไงเราก็อยู่ข้างมิลค์นั่นแหละ ถ้ามั่นใจว่าชนะจะกลัวทำไม จริงไหม?”
“.....”
ความน่ารักของมิลค์ทำให้ใครหลาย ๆ คนต่างให้ความเอ็นดู ไม่ใช่แค่หน้าตา แต่รวมไปถึงนิสัยเจ้าตัวด้วย แม้มิลค์จะชอบเอาชนะแทนไทเป็นที่หนึ่ง แต่คนตัวเล็กก็ไม่เคยคิดร้ายกับใคร
นอกจากจะฮอตในสื่อโซเชียลแล้ว แต่ในมหา’ลัย พวกตัวท็อปทั้งหลายก็ยังเล็งมิลค์อีกด้วย ด้วยความที่หน้าจิ้มลิ้ม มีนิสัยขี้อายและซื่อมาก ทำให้หลายครั้งมีคนเข้ามาจีบอย่างชัดเจน แข่งกันว่าใครจะได้ครอบครองคิวท์ บอยตัวเล็ก ของดีของมหา’ลัย
แต่ถึงจะหล่อ จะสวยแค่ไหน มิลค์ก็ไม่เคยให้ความสำคัญ สิ่งที่มิลค์ให้ความสำคัญมากที่สุดก็คือเรื่องกิน รองลงมาก็คือแทนไท คู่กัดต่างสถาบันตลอดกาล ถ้าคิดว่าแน่ มั่นใจในตัวเองก็ลอง ไม่มีใครขัดขวางสักคน หากหน้าตาดีน้อยกว่าบอย ก้องก็อย่าได้หวัง เพราะลำพังเพื่อนสนิททั้งสองคนก็ฮอตใช่ย่อย
....หน้าตาดีแค่ไหน โปรไฟล์ดีแค่ไหนก็เป็นได้แค่พี่น้องกับมิลค์เท่านั้นแหละ
“แล้วคืนนี้จะนอนไหนอ่ะ บ้านหรือหอ” บอยถาม
“เราว่าจะนอนหอ กลับบ้านบ่อยจนแม่บ่นแล้วว่าเป็นลูกแหง่” มิลค์ว่าพลางตักขนมหวานเข้าปากอย่างสบายอารมณ์
นอกจากจะมีบ้านในกรุงเทพแล้ว พ่อแม่มิลค์ยังเช่าหอไว้ให้เขาอีกด้วย เพราะแม้ความจริงบ้านมิลค์จะอยู่กรุงเทพเช่นเดียวกับที่ตั้งมหา’ลัย แต่มันค่อนข้างไหนไกลกันพอสมควร จากบ้านมิลค์มาถึงที่เรียน ใช้เวลาเกือบชั่วโมง แม่มิลค์เลยหาเช่าหอให้เพื่อตัดปัญหา ไม่ให้ลูกหัวแก้วหัวแหวนเหนื่อยโดยใช่เหตุ ถ้าคิดถึงก็ค่อยกลับบ้านเอา
“งั้นก็ดีเลย คืนนี้ว่าจะไปดื่มสักหน่อย ไปด้วยกันไหม?”
“ไม่ไปหรอก ไม่ค่อยชอบดื่มเท่าไร มันน่าเบื่อ” มิลค์เคยลองเที่ยวเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่ตอนเข้ามหา’ลัย ใหม่ ๆ แต่เขาพบว่าตนเองไม่ค่อยชอบเท่าไร
มิลค์ชอบอยู่กับเพื่อนก็จริง แต่เขาไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ มิลค์ฟังเพลงบ่อยแต่ไม่ได้ชอบถึงขนาดต้องไปนั่งฟัง หากจะให้เลือก เขาขอนอนในห้องเล่นเกม เปิดแอร์เย็นฉ่ำน่าจะสบายกว่า แต่ถ้ามีสายรหัสชวนมิลค์ก็ไม่เคยปฏิเสธ
“งั้นจะเป็นไรไหม ถ้าเที่ยวเสร็จจะมาขอค้างหอด้วย”
“ได้เลย ไม่มีปัญหา” มิลค์พยักหน้าหงึก ๆ เขายินดีหากเพื่อนจะมาค้างหอตัวเอง บอกตรง ๆ หลังพวกนี้เที่ยวเสร็จ เขาก็ไม่ค่อยอยากให้พวกนี้ขับรถเท่าไร เพรามันอันตราย สู้มาค้างหอมิลค์น่าจะดีกว่า มิลค์จะได้ไม่เป็นห่วงเพื่อนด้วย
“โอเค งั้นตามนี้นะ”
เนื่องด้วยพรุ่งนี้คือวันหยุด มิลค์จึงนอนดึกกว่าปกติ คนตัวเล็กมีเวลาว่างมากพอที่จะเล่นทวิตทักทายแฟนคลับ หรือตอบข้อความชวนสงสัย ดวงตาเรียวเหลือบมองนาฬิกาที่ติดอยู่ฝาผนัง อีกไม่นานเจ้าพวกนั้นคงมาถึงหอเขาแล้ว เพราะบอยเพิ่งโทรมาว่ากำลังมา
ร้านนั่งชิลไม่ค่อยไกลจากหอมิลค์เท่าไรนัก มันใกล้กว่าบ้านของเจ้าพวกนี้ จึงทำให้บ่อยครั้งที่บอยกับก้อง
จะมาขอค้างก่อน เสียงสายเข้าเรียกความสนใจของมิลค์ออกจากเกม เมื่อเห็นว่าเพื่อนโทรมา คนตัวเล็กก็รีบกดรับทันที
“ฮัลโหล...”
[ลงมารับหน่อยดิ ถึงหน้าหอแล้ว]
“เราเล่นเกมอยู่นะ เดี๋ยวเดินมาตรงหน้าต่างห้องเรานะ จะโยนลงไปให้” ว่าจบคนตัวเล็กก็เดินไปหยิบคีย์การ์ด แล้วเปิดหน้าต่างโยนมันลงไปให้บอยที่เดินมารออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว
เพราะรู้ว่าเพื่อนจะมาค้าง มิลค์จึงเตรียมเสบียงไว้ตั้งหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นขนม นม เนยและที่นอนอีกด้วย เอาเป็นว่าเพื่อนที่แสนดีกว่ามิลค์ไม่มีอีกแล้ว
ก๊อก! ก็อก!
เสียงเคาะประตูห้องทำให้มิลค์ละความสนใจจากเกมโดยถาวร คนตัวเล็กรีบกดออกแล้วเดินไปเปิดประตูให้พวกวุ่นวายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ทว่าทันทีที่เปิดประตูออก มิลค์ก็เปิดตากว้างด้วยความตกใจ
“ไม่นะ! เราไม่ให้แทนเข้า!!” เมื่อเห็นเพื่อนของตนกำลังประคองใครอยู่ มิลค์ก็รีบยืนขวางประตูทันที ดวงตาเรียวมองคนคอพับด้วยความไม่เป็นมิตร แม้แทนจะเมาแอ๋ไปแล้ว แต่อย่าหวังว่ามิลค์จะยอมสงบศึก
“มันเมาเนี่ย ไม่สงสารมันเหรอ?” บอยว่า พร้อมกับพยุงไอ้แทนไทไปด้วย “อย่าใจร้ายกับมันเลย ตอนกินข้าวมันก็เทคแคร์ให้ตลอดอ่ะ จะใจดำกับมันเหรอ”
“ฮึ่ย....ก็ได้” เพราะเห็นว่าเคยทำดีด้วยเฉย ๆ หรอก มิลค์จึงยอมให้ทั้งคู่พยุงแทนไทเข้าไป ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเมาหนักใช่ย่อย ถึงได้เป็นภาระเพื่อนเช่นนี้
ดื่มไม่รู้จักลิมิต สมควรนอนข้างถนน!
“มันไม่เคยเมาหนักแบบนี้เลยนะ” บอยว่าพร้อมกับโยนไอ้แทนลงเตียงเพื่อน
“สงสัยอกหัก” ก้องพูด
“คงงั้น... มิลค์เดี๋ยวช่วยเช็ดตัวให้ไอ้แทนก่อนได้ไหม พวกฉันจะลงไปซื้อยาแก้แฮงค์ไว้หน่อย” บอยหันมาถามเพื่อนตัวเล็ก
“ได้ไงอ่ะ!” เมื่อได้ยินเช่นนั้นมิลค์ก็ถึงกับโวยวายทันที ให้เข้ามาในห้องแล้วเขายังจะต้องเช็ดตัวให้แทนไทอีกหรือ
“สงสารมัน ครั้งก่อนมันก็อุตส่าห์ย่างเนื้อให้เลยนะ”
“.....” จู่ ๆ มิลค์ก็รู้สึกกลายเป็นคนใจดำเสียอย่างนั้น ดูเหมือนแทนจะช่วยเหลือเขาทุกอย่างเลย แต่มิลค์ใม่เคยให้ความสนใจเพราะอคติบังตา “เฮ้อ...ก็ได้”
สุดท้ายมิลค์ก็ต้องรับหน้าที่เช็ดตัวให้แทนอย่างไม่มีข้อยกเว้น ใบหน้าเล็กงองุ้มอย่างไม่สบตาอารมณ์ มือเรียวบีบผ้าให้เปียกพอหมาด ๆ ก่อนที่ค่อย ๆเช็ดหน้าเช็ดตัวให้แทนอย่างไม่แผ่วเบา ไม่ใช่เพราะมิลค์เป็นคนอ่อนโยนหรอก แต่เพราะเขาไม่อยากให้เจ้าตัวตื่นมากกว่า
ดวงตาเรียวพยายามไม่จดจ้องร่างกายของคู่กัดมากเกินความจำเป็น จะให้พูดแบบไร้อคติ มิลค์ก็บอกว่าแทนเป็นผู้ชายที่หุ่นดีมาก ทุกส่วนมีกล้ามโตไปหมดต่างจากเขาที่มีแต่ความนุ่มนิ่ม จับส่วนไหนก็ย้วยไปหมด จนมิลค์รู้สึกอายตงิด ๆ
หลังจากมิลค์เช็ดตัวให้แทนเสร็จแล้ว สองคนนั้นก็ขึ้นมาราวกับรู้เวลา ในค่ำคืนนี้สรุปได้ว่ามิลค์และแทนนอนบนเตียง ส่วนบอยและก้องจะเสียสละนอนฟูกหนาแทน ตอนแรกมิลค์จะโวยวาย เรื่องอะไรจะยอมให้แทนนอนด้วยกัน แต่เพราะมันดึกแล้ว เขาจึงไม่อยากเรื่องมาก เพราะอยากให้พวกเพื่อน ๆ ได้พักผ่อน
สุดท้ายคู่กัดอย่างเราก็นอนเตียงเดียวกัน....
ในช่วงกลางดึก....เปลือกตาบางปิดแน่น พยายามไม่สนใจมือยุบยิบที่กำลังลูบไล้สะโพกของตนเองอยู่ จู่ ๆ มิลค์ก็รู้สึกหายใจติดขัดมาเสียอย่างงั้น ครั้นจะพลิกตัวไปพิสูจน์ความจริง ก็กลัวว่าจะหันไปเจอแทนมองอยู่ เลยจำใจต้องนอนปล่อยให้บั้นท้ายตัวเองถูกขย้ำแทน
หรือว่าแทนยังมีอาการเมาอยู่?
“รู้นะ ว่ายังไม่หลับ” เสียงกระซิบข้างหู ทำเอามิลค์ถึงกับขนลุกซู่....
__________________
สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์
สรุปมิลค์คบเพื่อนผิด ไปคบฝูงหมาป่า555555
รักน้า, พาพา
05
จากที่จีบมิลค์แบบปกติ โอกาสก็แทบไม่มีอยู่แล้ว
ถ้าแทนไทร่วมลงสนามรักอีกคน โอกาสจะกลายเป็น0%ทันที....
“คือแบบตอนนี้ฉันหลงรอยยิ้มพี่น้องมิลค์มาก พี่น้องมิลค์แบบน่ารักอะ น่ารักจนจะร้องไห้” สาวจ๋าเจ้าของเพจชื่อดัง สมาคมคนรักพี่น้องมิลค์พูดอย่างพกเพ้อพร้อมกับมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วยิ้มไปด้วย หลังเธอตกหลุมรักรอยยิ้มพี่น้องมิลค์เข้าอย่างจัง
ทั้งมหา’ลัยไม่ได้มีแต่พี่น้องมิลค์คนเดียวที่น่ารัก แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงชอบคนนี้มากกว่าใคร อาจเพราะความเป็นกันเอง ท่าทางซื่อ ๆ ไม่พยายามดันตัวเองสู่หน้ากล้องของอีกฝ่ายก็ได้ ถึงกลายเป็นเสน่ห์ให้เธอหลงมาถึงทุกวันนี้
และอีกเหตุผลหนึ่งที่สาวจ๋าคิดว่ามีคือเสน่ห์ที่ใครหลายคนต่างมองข้าม ก็คือความแมน ๆ ตามประสาผู้ชายที่แทรกอยู่ในความน่ารักนั่นด้วย อาทิการเล่นบาสกับเพื่อน ไม่ได้หน้าเป๊ะตลอดเวลา ทำให้พี่น้องมิลค์ดูไม่สาวจนเกินไป จนทำให้ใคร ๆ ก็ต่างเทใจให้พี่น้องมิลค์กันทั้งนั้น
“พี่แกดูใส ๆ ดี ไปทำฟันมาปะเนี่ย ยิ้มทีนี่ฟันสวยมาก” น้ำเพื่อนของจ๋าพูดขณะนั่งอ่านสรุปไปด้วย “แกจำวันก่อนได้ปะ พี่แทนไทหอบดอกไม้มาง้อถึงที่นี่เลยอะ สงสัยกำลังทะเลาะกันอยู่”
“วันนั้นใครไม่รู้ก็บ้าแล้วจ้า มีคนถ่ายลงเพจด้วย คู่จิ้นแห่งปีที่สุด!”
“จะว่าไป พี่เขาเป็นคู่จิ้นเหรอวะ”
“ใครจะว่าไงไม่รู้ ส่วนฉันคิดว่าเขาคบกันแล้วจ้ะ” ใครคิดบ้างไม่รู้ แต่สาวจ๋าคิดไปแล้วว่าสองคนนี้คบกัน!
“ไง ดีแล้วกับแทนยัง” นั่นคือประโยคแรกของบอยหลังเราเจอกันอีกครั้ง จริง ๆ มันก็ไม่มีอะไรหรอก แต่แค่มิลค์ไม่อยากบอกอีกฝ่ายว่าเราดีกันแล้วก็เท่านั้น... จะว่ายังไงล่ะ เมื่อวานเขาเล่นใหญ่ไว้มาก ตั้งท่าจะไม่คืนดีกับแทนง่าย ๆ แต่สุดท้ายก็แพ้ราบคาบ คนตัวสูงง้อเขาสำเร็จภายในวันเดียว อุตส่าห์เล่นใหญ่ไว้ตั้งเยอะ แค่ถูกเขาง้อด้วยกันดั้มตัวใหม่ก็อาการงอนก็หายเป็นปลิดทิ้ง
รู้ถึงไหนอายถึงนั่น...
“ก—ก็นิดนึง”
“อะไรนิดนึง?” บอยไล่จี้ถาม
“ก็หายโกรธไปนิดนึงอะ”
“ไหนไอ้แทนบอกมิลค์ยอมหายโกรธแล้ว”
อ้าว ไอ้นี่!
“อ้าว บอกแล้วเหรอ” มิลค์ถามอย่างงง ๆ อุตส่าห์วางลุกส์คนยังงอนอยู่ไว้ตั้งนาน แต่ที่ไหนได้แทนกลับเอาไปบอกเพื่อนหมดแล้ว มันน่านักจริง ๆ ฮึ่ม!
“คืนดีกันได้แล้วดีแล้วล่ะ งอนกันนานเดี๋ยวเสียเวลารักกันนะ”
“อะไรบอย พูดมั่ว!” มิลค์ยู่ปากใส่อีกคน บอยก็รู้ว่าเรากัดกันแค่ไหน เจอกันทีไรมีอันต้องลับฝีปากกันตลอด ยังจะมาเชียร์ให้ได้กันอีก
ดูเหมือนทุกคนเชียร์ให้เขาคู่กับแทนเหลือเกิน ทุกคนชอบบอกว่ามิลค์สมควรถูกแทนปกป้อง แต่ทว่าเขากลับแอบขัดใจนิด ๆ ในเมื่อเราเป็นผู้ชายแมน ๆ เหมือนกัน ทำไมจะต้องให้ใครปกป้องใครด้วย และไม่ว่าจะยังไงก็ตามมิลค์บอกเลยว่าเขาไม่สนใจเด็ดขาด แต่เปลี่ยนเป็น #พี่มิลค์น้องแทน เดี๋ยวเขาจะพิจารณาอีกที
แค่คิดว่าถ้ามีกระแสนั้นจริง ๆ มิลค์เป็นฝ่ายปกป้องแทน แล้วอีกฝ่ายก็ชักสีหน้าด้วยความไม่ชอบใจอย่างที่ชอบทำบ่อย ๆ แค่คิดเขาก็ถึงกับหัวเราะรอแล้ว ถ้าเกิดมีจริง ๆ มิลค์คนหนึ่งแหละที่จะแฮปปี้!
“คิดอะไรอยู่ ทำหน้าชั่วร้ายอีกแล้ว” บอยว่าพลางเอานิ้วจิ้มแก้มนิ่ม ๆ ของมิลค์หนึ่งที นอกจากเพื่อนตัวเล็กของเขาจะเป็นคนซื่อ ๆ แล้ว เวลาที่มิลค์คิดอะไรอยู่ก็มักจะฟ้องด้วยสีหน้าด้วย มันจึงเดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไร
“ไม่ได้ชั่วร้ายสักหน่อย แค่กำลังคิดเรื่องขำ ๆ เอง” มิลค์ว่า เพื่อนเขาก็ชอบเป็นเสียแบบนี้ พอคิดอะไรเพลิน ๆ เข้าหน่อยก็มักจะดักฝันไว้ก่อนเสมอ
นับตั้งแต่เหตุการณ์นั้นมิลค์ก็รู้สึกว่าตนเองเหนือกว่าแทนไทยังไงไม่รู้ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเกรงใจไม่กล้าเถียงเขา นั่นทำให้มิลค์ได้ใจแปลก ๆ พอกลายเป็นแบบนี้เราก็ค่อยพูดค่อยจากันดีหน่อย นี่มิลค์แอบอดคิดไม่ได้ว่าหากได้แทนไทมาเป็นลูกน้อง คอยมารับมาส่ง พาไปกินข้าวก็คงจะดีไม่น้อย
ถึงแม้ช่วงนี้เขาจะเริ่มไปไหนมาไหนกับแทนไทเพียงสองคน จนทำให้พวกเพื่อนเริ่มแซ็ว แต่คิวท์ บอยตัวเล็กหาได้สนใจไม่ เพราะเวลามิลค์อยากกินอะไรแล้วมีแค่แทนว่างคนเดียว พวกเขาเลยต้องไปกันสองคนจะให้เขาทำยังไง ครั้นจะไปกินคนเดียวก็ไม่ได้อีกเดี๋ยวกลัวโดนพวกน้อง ๆ นักเรียนรุมเหมือนเหตุการณ์เมื่อนานมาแล้วอีก
“วันนี้จะกินอะไรล่ะ ไปร้านไหน” แทนไทถามด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ หลังเป็นอีกครั้งที่คนตัวสูงขับรถมารับมิลค์ถึงหน้าคณะ
“วันนี้เราอยากกินไข่ตุ๋นนมสดอะ แต่ว่าอยากทำเอง เราไปซื้อที่ซุปเปอร์กันดีกว่า” มิลค์พูดขณะที่เปิดโทรศัพท์ค้นหาสูตรทำไข่ตุ๋นนมสดไปด้วย
ใช้เวลาจากมหา’ลัยเพียงไม่นาน เราทั้งคู่ก็มาถึงซุปเปอร์ที่อยู่ใกล้ ๆ กับหอมิลค์ วันนี้คนตัวเล็กจะสวมบทเป็นพ่อครัวเอง จริง ๆ มิลค์ก็ทำอาหารได้บ้าง บางอย่างก็อร่อยบางอย่างก็ไม่ เขาถึงสถาปนาตนเองเป็นผู้กินมากกว่าผู้ทำ นาน ๆ ทีถึงลงมือทำอาหารกิน
คนที่สวมบทเป็นพ่อครัวพึมพำอ่านวัตถุดิบบนหน้าจอโทรศัพท์ เช็กว่าต้องซื้ออะไรบ้าง โดยที่มีแทนไทสวมบทเป็นคนใช้ถือตะกร้าตามมาติด ๆ
“ในห้องมีไข่เหลือปะ”
“อืม...น่าจะเหลืออยู่แพ็คหนึ่งนะ เดี๋ยวต้องไปซื้อกุ้ง นมสดแล้วก็ต้นหอม” มิลค์ตอบ ก่อนที่เราทั้งคู่จะเดินมายังแผนกของสด
การทำอาหารครั้งนี้เรียกได้ว่ามิลค์ตั้งใจมาก เพราะเขาอยากกินมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว หลังนิ้วลั่นไปเปิดเจอคลิปทำไข่ตุ๋นนมสดตอนเที่ยงคืนพอดี นั่นทำให้วันนี้คนตัวเล็กมุ่งมั่นที่จะกินมันให้ได้ เราเลือกซื้อของอย่างอื่นกันอีกสักพักหนึ่ง ก่อนที่จะออกจากซุปเปอร์กันโดยได้ของมาตั้งสามสี่ถุงใหญ่
หลังลงจากรถมิลค์ก็ตั้งท่าจะแบกของทุกอย่างขึ้นห้องเพียงคนเดียว ทั้ง ๆ นอกจากจะมีสัมภาระที่แบกไปมหา’ลัยแล้ว ยังมีพวกของที่เพิ่งซื้อมาอีก ทำเอาคนมองถึงกับสงสารขึ้นมาตงิด ๆ
“ถือกระเป๋าโน้ตบุ๊กก็หนักแล้ว เดี๋ยวเราถือขึ้นไปให้เองดีกว่า” แทนอาสา หลังเห็นเพื่อนตัวเล็กหิ้วของอีนุงตุงนังจนเขานึกสงสารขึ้นมา ตัวก็เตี้ยยังนึกทำซ่าถือของคนเดียวอีก
“เอางั้นเหรอ....” มิลค์ชั่งใจครู่หนึ่ง ไม่ใช่เขาไม่อยากให้แทนช่วยนะ แต่อาการไม่ไว้ใจมันก็ยังแอบมีอยู่ แต่พอคิดในแง่ดีว่าแทนไทอาจเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้ว คนตัวเล็กก็ตอบรับความหวังดีนั้นอย่างไม่ลังเล
“.....”
“งั้นก็ตามมา”แทนไทแอบยิ้มมุมปากเบา ๆ เพราะนับครั้งที่สองแล้วที่เขาจะได้เข้าถ้ำลูกแกะ...
เขาจะบอกไว้ตรงนี้ว่า ว่าครั้งนี้...ไม่มีพลาด
________________________
#พี่แทนน้องมิลค์
เนี่ยแทนแกก็เป็นคนแบบเนี้ย ลูกแกะกับหมาป่าสุดๆ
ไม่ใช่บอยจ๋านะคะ แต่บอยxเอย นะคะ เอยเป็นใครก็ฝากติดตามเอา เอาคู่รองมาพอกรุบกริบๆค่ะ
ไม่ออกมาเยอะ
ฝากไลก์เพจด้วยนะคะ
https://www.facebook.com/apaphaty/ (https://www.facebook.com/apaphaty/)
09
คำพูดของแทนทำเอามิลค์ถึงกับนอนไม่หลับ... คนตัวเล็กได้แต่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียง เพราะแค่ประโยคเดียวเท่านั้น แทนชอบพูดก้ำกวม จะชัดเจนเลยก็ไม่ใช่ ทำให้มิลค์ไม่มั่นใจว่าคู่จริงที่อีกฝ่ายว่าพูดจริงหรือว่าล้อเล่น
นับตั้งแต่วันนั้นมิลค์ก็คิดว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคประหลาด... เพราะแค่เห็นหน้าแทน เขาก็รู้สึกหน้าเห่อร้อนขึ้นมาแปลก ๆ มันไม่เหมือนกับบอยและก้อง เขามองแทนบ่อยขึ้น แต่มองได้ไม่นานนัก แค่ถูกแทนจับได้ว่าแอบมองอยู่ มิลค์ก็แทบอยากกลับหอทันที
“อย่าคิดว่าไม่รู้นะว่าแอบมองเราอะ” จู่ ๆ แทนก็พูดขึ้นมา พร้อมกับหันมาสบตามิลค์กึ่งล้อเลียน ทำเอาคนมองถึงกับรีบโวยวายทันควัน
“บ้า แทนมั่ว!” มิลค์เบิกตากว้างรีบปฏิเสธทันที
“แน่ะ หูแดงด้วย” พอได้ยินอีกฝ่ายท้วงเข้าหน่อย คิวท์ บอยตัวเล็กรีบจับหูทันควัน ท่าทางเงอะงะของมิลค์ ทำเอาคนมองถึงกับอมยิ้ม “ทำเป็นสาวน้อยขี้อายไปได้ ชอบกันบอกกันดิ คนกันเอง”
“แทนอย่าพูดมั่ว” คนอย่างมิลค์น่ะเหรอ จะตกหลุมรักแทนก่อน ไม่มีทางและถึงแม้จะมีวันใดที่เขาพลาดตกหลุมรักแทนก่อน มิลค์ก็จะไม่มีวันเป็นฝ่ายยอมพูดความในใจก่อนเป็นอันขาด
วันนี้ช่วงบ่ายเราต้องออกงานคู่กัน เป็นงานเปิดตัวร้านค้าที่เปิดสาขาใหม่ในห้างดัง ดารา คนดังมากมายต่างมาร่วมงานนี้ มิลค์และแทนไทก็ถูกเชิญเช่นกัน เพราะคนค่อนข้างให้ความสนใจกระแสคู่จิ้นเรา ชุดที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้ เป็นชุดคู่กันสีขาวและดำ มิลค์ได้ชุดสีขาว แต่เขาอยากได้สีดำเลยงอแงยกใหญ่ ทำไมแทนถึงได้สีดำไป
จริง ๆ ชุดสีขาวมิลค์ก็ไม่ได้มีปัญหาเท่าไร แต่ชุดสีดำที่ว่ามันเท่กว่ามาก เขาก็อยากใส่แบบเท่ ๆ เช่นอีกฝ่าย แต่เหมือนทีมงานไม่เห็นด้วย สุดท้ายแทนก็ยกยิ้มอย่างผู้ชนะ ไม่ต้องพูดอะไรทุกคนก็พูดแทนความในใจเขาไปหมดแล้ว ของเท่ ๆ จะไปเหมาะกับคนน่ารักอย่างมิลค์ได้ยังไง
“พี่น้องมิลค์ยิ้มหน่อยค่า”
“มองกล้องนี้หน่อยครับ”
“พี่แทนพี่น้องมิลค์ชิดกันกว่านี้หน่อยนะคะ”
“กรี๊ด เขินพี่แทน”
“พี่น้องมิลค์น่ารักมากค่า” อีกหลายประโยคมากมายถูกพูดออกมา ซึ่งมิลค์ก็ฟังทันบ้าง ไม่ทันบ้างเช่นกัน ก่อนถึงเวลาเปิดงาน เราทั้งคู่จึงตัดสินใจมาหากลุ่มน้อง ๆ ที่แวะมาหาก่อน เป็นไปตามคาดเราถูกจับให้ถ่ายรูปคู่กัน บ้างก็ขอให้แทนบิดแก้มมิลค์ แต่เขาไม่ยอม เพราะนั่นไม่ต่างจากการเปิดช่องทางให้แทนได้แกล้ง
“วันนี้พี่น้องมิลค์น่ารักมากค่ะ พี่น้องมิลค์เหมาะกับสีขาวมาก ๆ เลย”
“ขอบคุณครับ แต่เมื่อกี้พี่เพิ่งงอแงอยากได้ชุดดำของแทนอะ มันเท่กว่าเยอะ” หลังจากถ่ายรูปคู่แทนพอเป็นพิธีเสร็จ มิลค์ก็เดินมาหากลุ่มแฟนคลับของตนเอง ซึ่งแทนก็แยกออกไปเช่นกัน
“ชุดนี้เหมาะแล้วค่ะพี่ พี่น้องมิลค์มองกล้องนี้หน่อยนะคะ”
“ครับบบ” คนตัวเล็กขานรับเสียงยืด พร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจไปให้กับกล้องที่น้องคนหนึ่งบอก บางคนเคยบอกว่ามิลค์หยิ่ง มิลค์ไม่รู้ว่าเขาเคยทำเช่นนั้นหรือเปล่า บางทีก็อาจจะใช่ แต่บางครั้งเขาก็ไม่ได้เดินเข้ามาเล่นกับกลุ่มแฟนคลับเช่นนี้ เพราะเพื่อความปลอดภัยของตนเอง
“พี่น้องมิลค์ช่วงนี้ไปกับพี่แทนบ่อยไหมคะ” น้องคนหนึ่งถามขึ้นมา มิลค์ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบตามความเป็นจริง
“ช่วงนี้ก็ไปไหนด้วยกันบ่อยนะ เพื่อนกลุ่มเดียวกันอะ” มิลค์ว่าตามความจริง ทำเอาน้อง ๆ ถึงกับอมยิ้มกันหมด
“แล้วพี่น้องมิลค์ว่า พี่แทนไทหล่อไหมคะ”
“หืม....” คราวนี้คิวท์ บอยตัวเล็กถึงกับลากเสียงยาว จะให้มิลค์เอ่ยชมแทนงั้นเหรอ “ก—ก็ดีครับ หล่อดี” คนตัวเล็กว่าเสียงแผ่ว พูดดังมากไม่ได้เดี๋ยวแทนรู้ว่ากำลังชมอยู่
“เพิ่งเคยได้ยินจากปาก เขินจัง”
“....!!” มิลค์ถึงกับหันขวับมองไปตามเสียงทันที แทนไทที่บอกว่าจะเดินออกไปคุยกับแฟนคลับกำลังยืนยิ้มละมุน มองเขาด้วยสายตาแพรวพราว
“ไหนบอกจะไปคุยกับแฟนคลับตัวเอง ฝั่งนู้นอะ” มิลค์ถามหน้านิ่ว พยายามเบี่ยงประเด็นออก แต่ดูเหมือนจะหลอกอีกคนไม่ได้ หน้าเขาเริ่มเห่อร้อนอีกครั้ง อาการใจเต้นแรง หูแดงกลับมาอีกแล้ว
“คิดถึงคนฝั่งนี้เลยเดินมาหา”
“กรี๊ด เขินแทนพี่น้องมิลค์”
“หูยยย”
“.....” แค่แทนพูดเช่นนั้น กลุ่มน้อง ๆ แฟนคลับก็ถึงกับหวีดวายทันที มิลค์ถึงกับพูดไม่ออกเหมือนน้ำท่วมปากไปแล้ว
ยิ่งแทนส่งยิ้มมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ทำให้เขารู้สึกหน้าเห่อร้อนแปลก ๆ มิลค์ก็ไม่ได้รับรู้อะไรอีกแล้ว หูอื้ออึงไปหมด
“จะคิดถึงทำไม ก็เจอกันอยู่แล้ว” มิลค์ก้มหน้าลง พูดเสียงแผ่วเกาหลังคอแก้เก้อ พักหลัง ๆ ทำไมอีกคนถึงชอบพูดจาแปลกพิลึก หรือเพราะรู้ว่ามิลค์เริ่มคุยกับพี่ไบรต์ แทนที่กลัวถูกแย่งเพื่อนเลยพูดจาเช่นนี้ มิลค์ยอมรับว่าเขาไม่ชินจริง ๆ ปกติเรากัดกันทุกที พอแทนมาพูดเช่นนี้ทำเอาเขารู้สึกแปลก ๆ มันคล้าย ๆ ว่าเขิน
“เข้างานเถอะ น้อง ๆ เจอกันงานหน้านะครับ อย่าลืมมาหาพวกพี่ด้วย ไม่ก็เจอกันเลิกงานวันนี้” แทนเป็นฝ่ายพูดคุยกับแฟนคลับก่อน เพราะมิลค์กลายเป็นใบ้ไปแล้ว อาการหน้าเห่อร้อนเล่นงานเข้าอย่างจัง ทำเอามิลค์ถึงกับพูดไม่ออก วางตัวไม่ถูก
“ทำไมชอบพูดจาแบบนี้ ทีหลังห้ามพูดแล้วนะ” หลังจากที่เราเดินเข้ามาโซนจัดงานแล้ว มิลค์ก็พูดกับแทนทันที เขาไม่ชอบจริง ๆ ที่แทนพูดแบบนี้ สู้ไปพูดกัดกันเหมือนเดิมดีกว่า ถ้าจะทำให้เขาสูญเสียความเป็นตัวเองบ่อยเช่นนี้
“อ้าว ไม่ชอบเหรอ” แทนไทถามหน้ายิ้ม
“ไม่ชอบ... นี่เพราะเราไปคุยกับพี่ไบรต์ใช่ไหม แทนเลยเปลี่ยนไปน่ะ กลัวถูกแย่งเพื่อน? เพื่อนตั้งเยอะแยะจะหวงทำไม ทีพวกบอยก้องไปจีบสาวทำไมไม่หวงบ้าง” มิลค์ถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย มันต้องใช่แน่ ๆ
“เปล่า เราหวงมิลค์ต่างหาก”
ในเวลางานมิลค์แทบไม่สนใจแทนเลย คนตัวเล็กหันไปมองกล้องตรงนั้นตรงนี้ หันไปยิ้มให้กับแฟนคลับ แต่ไม่คิดจะหันมาพูดกับเพื่อนคู่จิ้นสักประโยค ฝั่งแทนเองก็ไม่ได้กระเซ้าเย้าแหย่อะไร เราไม่ค่อยหยอกล้อกันในเวลางาน จะมีบ้างที่แทนแอบเป่าลมร้อนใส่หูมิลค์ ให้อีกคนสะดุ้งเล่น
ประโยคหวงมิลค์ของแทน อย่าคิดว่าคิวท์ บอยตัวเล็กไม่รู้สึกอะไรเชียว เพราะเขารู้สึกมากจนไม่กล้าหันกลับไปมองต่างหาก แทนต่างจากเมื่อก่อน สังเกตได้จากคำพูดจาที่มักจะทำให้มิลค์เกิดอาการหน้าแดงได้เสมอ หากเป็นปกติคงได้แยกเขี้ยวใส่กันอยู่ร่ำไป
“แน่ะ... ไม่หันมองกันเลย เขินเหรอ” ระหว่างที่กำลังนั่งดูโชว์จากศิลปินในงาน แทนไทก็กระซิบถามให้เราได้ยินกันแค่สองคน ใบหน้าหล่อผุดยิ้มขึ้นมา แม้มิลค์จะทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้ยิน ไม่สนใจ แต่ใบหูของคนตัวเล็กกำลังอมชมพูระเรื่อ
“.....”
“หรือต้องพูดอีกทีว่าหวงจริง ๆ”
“หยุดเลยแทน นี่เวลางาน” ในที่สุดมิลค์ก็หันกลับไปมองค้อนคนขี้แกล้งอย่างแทน อุตส่าห์จะไม่สนใจ แต่แทนกลับเย้าแหย่ไม่เลิกจนน่าโมโห
หลังจากงานจบเราก็ออกมาพูดคุยกับคนที่มารอเราอีกเกือบสิบนาที มิลค์อยากจะขอบคุณทุกคนจริง ๆ เขาคิดไม่ถึงว่าจะมีคนทุ่มเท รอพวกเขาจนถึงเวลาเลิกงานเช่นนี้ หลังร่ำลาแฟนคลับ ขอให้ทุกคนเดินทางถึงบ้านอย่างปลอดภัย ก็เป็นอีกครั้งที่แทนอาสามาส่งมิลค์ที่หอ
ระหว่างทางกลับหอ แทนก็เป็นสารถีขับรถให้มิลค์นั่งตามเคย คนตัวเล็กก็นั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน ขณะที่แทนก็ขับรถไปเรื่อย ๆ
“นี่ไม่คิดจะชวนคุยหน่อยเหรอ เราเหมือนคนขับรถให้เลยอะ” แทนพูดขึ้นขณะที่มองถนนข้างหน้าด้วย หลังเห็นมิลค์นิ่งก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์อย่างเดียว
“อ้าว ก็ไม่ใช่เหรอ” มิลค์ถามเสียงซื่อพลางจอหน้าจอโทรศัพท์ไม่กะพริบ
“เดี๋ยวเหอะ ขอมือหน่อยดิ”
“จะเอาไปทำไรอะ โว้ย! มันดูไหมเนี่ย วิ่งเข้าไปตายเหรอ!” ขณะที่ถามแทนไป มิลค์ก็บ่นให้คนร่วมทีมไปด้วย เล่นเกมนี้ทีไรเขามักจะอารมณ์เสียทุกครั้งไป
“เอามาช่วยตัวเองมั้ง”
“อี๋! แทนทุเรศ” สาบานว่าหากมิลค์ไม่ติดว่ากำลังเล่นเกมอยู่ตอนนี้ เขาจะตบกบาลแทนเข้าให้ ข้อหาพูดจาลามก
“เร็ว....ขอมือหน่อย” แทนไทเร่งเร้าให้อีกคนรีบส่งมือมือมา ชายหนุ่มแบมือข้างหนึ่งออกคล้ายจะขอมือมิลค์
“แป๊บนะ จะจบเกมแล้ว” ช่วงโค้งสุดท้ายของเกม มิลค์ก็เร่งสปีดอย่างเต็มที่ ดวงตาเรียวจ้องหน้าจอโทรศัพท์อย่างขมักเขม่น ก่อนจะทิ้งตัวเอนลงเบาะเมื่อเกมสิ้นสุดลง คนตัวเล็กเหลือบมองมือที่ยื่นมาของแทนครู่หนึ่ง เกิดความลังเลว่าควรจะให้ดีไหม แต่สุดท้ายมิลค์ก็ส่งมือข้างหนึ่งให้ เพราะอยากรู้ว่าอีกคนจะทำอะไร
“แทน!” มิลค์ถลึงตาใส่อีกฝ่าย ทันทีที่แทนได้มือมิลค์ไป อีกฝ่ายก็ทำท่าจะดึงมือคิวท์ บอยตัวเล็กไปลูบคล้ำบริเวณเป้ากางเกง ฝั่งแทนไทก็ถึงกับหัวเราะออกมา ชอบใจที่ได้แกล้งมิลค์ได้สำเร็จ
“ล้อเล่น”
“เดี๋ยวเถอะ” คนตัวเล็กมองอีกฝ่ายอย่างคาดโทษ ก่อนจะหลุบมองมือของตนเองที่ถูกอีกฝ่ายจับไว้ข้างหนึ่งตลอดเส้นทางกลับหอ...
อาการใจเต้นแรงของมิลค์มันเกิดขึ้นถี่จนน่ากลัวและมันเกิดขึ้นแค่กับแทนเท่านั้น จากที่ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไร ตอนนี้เรากลับตัวติดกัน ไปกินข้าว ซื้อของก็เริ่มไปกันสองคนจนกลายเป็นว่าเพื่อนไม่ใช่สื่อชักนำอีกต่อไป
“มิลค์...” แทนไทเรียกรั้งคนตัวเล็กไว้ มิลค์หันมองพร้อมกับทำหน้างง คนตัวเล็กสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายมีท่าทีลังเล เหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ไม่กล้า
“มีอะไร?” มิลค์ถามหน้างง เห็นแทนอ้ำอึ้งไม่ยอมพูดเสียที เมื่อได้ยินเช่นนั้นฝั่งแทนไทสูดลมหายใจเข้าหนึ่งทีเพื่อตั้งหลัก ก่อนจะชูมือข้างหนึ่งขึ้นเอานิ้วหัวแม่มือมาจรดข้อแรกของนิ้วชี้ จนกลายเป็นการจีบมือคล้ายรำไทย
“จีบได้ปะ”
“.....” ฝั่งมิลค์เมื่อเห็นถามแบบโต้ง ๆ ของแทนก็ถึงกับไปไม่ถูก ดวงตาเรียวจ้องหน้าแทนอย่างอึ้ง ๆ คิดไม่ถึงว่าแทนจะกล้าพูดออกมา ฝั่งแทนไทเองเห็นมิลค์เงียบไปก็เริ่มใจไม่ดี คงไปว่ามิลค์คงไม่โอเค
“ก็รีบลงมือสักทีดิ”
“.....”
“รอนานแล้ว”
มิลค์ - แทน
1 - 0
พอแทนไทได้ยินเช่นนั้นเขาถึงกับอมยิ้มทั้งคืน ในที่สุดก็มีความกล้าพูดมันออกไปเสียที หลังลังเลมานานว่าจะพูดไปดีหรือเปล่า หรือจะปล่อยให้มิลค์งง ๆ แบบนั้นตลอดไป
จากตอนแรกที่คิดว่าจะไม่จีบเพราะคิดว่าตนเองแค่เอ็นดูเพื่อนต่างมหา’ลัยเท่านั้นก็แปลกไป ตั้งแต่ได้ยินว่ามีคนเข้าหามิลค์ เขาก็เริ่มใจไม่ดี แอบหยอดมาตั้งนาน ถูกใครไม่รู้มาแสดงความเจ้าข้าวเจ้าของ มิหนำซ้ำเพื่อนเวรยังเชียร์ออกหน้าออกตา ใครจะไปยอม
นับตั้งแต่วันนั้นมามิลค์ก็ตั้งท่าหลบหน้าหลบตาแทนตลอด คืนวันนั้นคนตัวเล็กถึงกับนอนไม่หลับ เขาได้แต่ถามตัวเองในใจว่ามันดีแล้วหรือยังที่ยอมเปิดทางให้แทนจีบขนาดนั้น
เขาคิดไปต่าง ๆ นานาหากวันหนึ่งความสัมพันธ์เราพัฒนาไปถึงคนรักแล้วมันต้องจบลง เราจะมองหน้ากันติดไหม? เพื่อน ๆ จะเป็นยังไง เพราะความรักไม่ได้มีแค่เรา
นานมากแล้วที่มิลค์ไม่ได้เปิดโอกาสให้ใครเข้ามา มีคนแวะเวียนเข้ามาในชีวิตมิลค์อยู่บ่อยครั้ง แต่เขาไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครจริงจังเสียที ด้วยทั้งเวลาและความไม่พร้อมด้วย
มิลค์ไม่ได้อ่อนหัด เขาเคยมีความรัก เคยมีแฟนสมัยมัธยม แต่ก็ไม่ได้มากมายเพราะตัวมิลค์เองไม่ชอบความรักแบบฉาบฉวยหรือการแข่งขันจีบกัน
หลายคนที่เข้ามาเพราะอยากอวดเพื่อนว่าได้คุยกับมิลค์ เอาไว้ประดับโปรไฟล์ตัวเอง บ้างก็แข่งจีบกัน ดังนั้นมิลค์จึงไม่ค่อยอยากเปิดใจกับใคร เพราะบางคนก็เข้ามาเล่น ๆ ไม่ได้คิดจริงจัง ต่างจากมิลค์..เพราะบางทีมิลค์ก็เผื่อจริงจังไปกับความสัมพันธ์จอมปลอมแบบนั้นด้วย จนสุดท้ายเขาก็เจ็บคนเดียว
เมื่อมิลค์เติบโตขึ้น เขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างว่าอยู่คนเดียวมันก็ดี มิลค์มีเพื่อน มีแฟนคลับที่คอยดูแลกันตลอด ทำให้เขาไม่เหงาเท่าไรนัก ความรักมันจะดีจริงก็ต่อเมื่อมันทำให้ชีวิตพัฒนาขึ้น แต่หากการมีความรักแล้วไม่ช่วยอะไร หนำซ้ำยังบั่นทอนจิตใจกันอีก มิลค์ว่าเขาขออยู่คนเดียวดีกว่า
การที่มิลค์เปิดทางให้แทนไทจีบใช่ว่าอีกฝ่ายจะมีโอกาสมากกว่าใคร ที่มิลค์เปิดทางจีบแบบนั้นก็เพื่อให้แทนเลิกคลุมเครือการเป็นเพื่อนหรือคนจีบเสียที ทุกครั้งที่แทนจีบ แทนหยอดใช่ว่าเขาไม่รู้ มิลค์รู้มาตลอด เขาอายุยี่สิบปีแล้ว ทำไมจะรู้ว่าคนไหนอยากเป็นเพื่อน คนไหนคิดจะจีบ เขาก็แค่ทำเป็นตามไม่ทัน เพื่อบังคับให้อีกคนชัดเจน และพูดมันออกมาว่าจะเอายังไงก็เท่านั้น
“หลบหน้าแทนอีกละเหรอ ทะเลาะกัน?”
“เปล่า ไม่ได้ทะเลาะ”
“แน่นะ?” บอยหรี่ตามองอย่างจับผิด หลังสังเกตเห็นว่าสองคนนี้มักมีอาการแปลก ๆ ยามเจอกัน จึงอดคิดไปทางนั้นไม่ได้สองคนนี้ชอบตีกัน พอมิลค์บอกว่าไม่ได้ทะเลาะมันเลยดูแปลกไปหน่อย
“อืม ไม่ได้ทะเลาะจริง ๆ” มิลค์ยืนยันอย่างไม่คิดอะไร พลางดูดน้ำดับร้อน เป็นแบบนี้ทุกที พอเข้าหน้าร้อนทีไหน ต้องหาน้ำติดตัวไม่ตลก ถ้าไม่ติดว่าที่นี่คือเมืองไทย มิลค์คงคิดว่าเป็นนรกแน่ ๆ
แม้มิลค์จะบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกับแทน แต่บอยก็ยังหรี่ตามองอย่างจับผิดอยู่ดี จนเขาต้องหันไปสบตาเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ทะเลาะกันจริง ๆ บอยจึงก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ
“งั้นก็ดีแล้ว นี่คุยกับพวกเพื่อน เราว่าจะจัดทริปไปเที่ยวทะเล”
“เที่ยวทะเลเหรอ” มิลค์ถามอย่างสนใจ
“อืม เราว่าพวกเราไม่ค่อยได้ไปไหนกันอะเลยว่าช่วงหยุดยาวไปเที่ยวกันตามต่างจังหวัดน่าจะดี มิลค์ว่าไง ที่บ้านจะติดไรปะ?”
“อืม...น่าจะไม่มีนะ ว่าแต่จะไปเที่ยวทะเลไหน”
“ไม่ระยองก็ภูเก็ตแหละ”
“แหม...ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยน้า”
“เสือก”
“......” ตอนแรกจ็อบก็ตั้งใจจะแซวแทนไทเล่น แต่ไม่ทันได้อ้าปากเจอเพื่อนรักสวนกลับาก่อน ทำเอาชายหนุ่มถึงกับหุบปากฉับ ฝั่งแทนก็มองเพื่อนตาขวาง ก่อนจะก้มมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กำลังสนทนากับใครบางคนค้างไว้ต่อ
“แทน”
“ไร”
“มึงคุยกันใครอะ”
“คนรู้จัก”
“ใครวะ”
“กูว่ากูด่ามึงไปแล้วนะ ไม่สะทกสะท้านเลยหรือไง” แทนไทเงยหน้าขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเรื่องของเขา เพื่อนถึงได้ชอบสนใจนัก
“ก็กูอยากรู้ สรุปมึงคุยกับใคร ยิ้มเขินแบบนี้คุยกับมิลค์หราจ๊ะ” จ็อบทำเสียงล้อเลียน คนที่ทำให้แทนเขินได้ พิมพ์ไปยิ้มไปก็คงมีอยู่ไม่กี่คนหรอก
“ไม่ใช่เรื่องของมึง” ทว่าแทนไทก็ยังคงรักษาคาแร็กเตอร์ผู้ชายปากแข็งอย่างต่อเนื่อง เขาจะไม่มีวันบอกเด็ดขาดว่าตอนนี้กำลังคุยกับใครอยู่ เพราะขืนหลุดปากออกไป เจ้าพวกนี้คงแซวไม่หยุดแน่ ขนาดไม่ได้ทำอะไร ยังหาเรื่องแซวได้ทุกวี่ทุกวัน
ว่าแล้วก็นึกเสียดาย หากเขาเลือกที่พูดคุยกับมิลค์ในเรื่องนี้เป็นจริงเป็นจังตั้งแต่แรก คงไม่ต้องเสียเวลาทำคะแนนถึงขนาดนี้ ถ้ารู้ว่ามันจะดีแบบนี้เขาก็คงพูดไปตั้งแต่แรก เราจะได้เข้าใจตรงกันว่าแทนไม่อยากเป็นเพื่อนมิลค์
ยอมรับว่าช่วงแรก ๆ แทนก็เกิดความลังเลเหมือนกัน เขาไม่แน่ใจว่าตนเองแค่เอ็นดูมิลค์หรือมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันแน่ จนกระทั่งรู้ข่าวว่ามีคนมาจีบมิลค์ เป็นรุ่นพี่ต่างคณะที่คงฮอตน่าดู หนำซ้ำเพื่อนของเขายังเล่นด้วยนี่แหละถึงได้รู้ใจตัวเองว่าหวงมิลค์มากกว่าเพื่อน
พอได้รู้ว่าตัวเองรู้สึกดีกับมิลค์มากแค่ไหน แทนก็ยิ่งหลง เขายังยืนยันว่ามิลค์เป็นคนน่ารักทั้งหน้าตาและนิสัย อีกฝ่ายสามารถทำมันออกมาได้โดยไม่ต้องเติมแต่ง แค่มิลค์แสดงความมีน้ำใจ เป็นห่วงเพื่อนก็ถือว่าน่ารักมาก ๆ แล้ว
พอรู้จากกลุ่มเพื่อนมาบ้างว่ากลุ่มเรากำลังจะมีทริปเที่ยวด้วยกัน เห็นบอกว่าจะไปทะเล ตอนแรกแทนก็ว่าจะปฏิเสธ เพราะเขาไปบ่อยแล้ว แต่พอบอยบอกว่ามิลค์ไปด้วย มิหนำซ้ำยังสนใจทริปเที่ยวนี้มาก ๆ แทนจึงไม่ปฏิเสธคำชวน
ปกติเจอกันก็ทะเลาะกันทุกที เถียงกันจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะ พอถูกเปลี่ยนเป็นสถานะไป การกระทำและอารมณ์ก็เปลี่ยนตาม แทนไม่สามารถปล่อยให้ความน่ารักของมิลค์ ไร้เจ้าของได้อีกต่อไป เขาก็ได้แต่หวังว่าทริปนั้นจะเป็นทริปทำคะแนนของเขา กระชับของเขา
....เผื่อความสัมพันธ์จะเลื่อนไปมากกว่าเพื่อน
มิลค์อ่านข้อความแทนแล้วเผลอยิ้มมุมปากอย่างผู้เหนือกว่า คนตัวเล็กอ่านประโยคคำถามของแทนสองครั้ง ก่อนจะตอบกลับไป แม้ต่อหน้าเราจะไม่ค่อยได้พูดคุยกัน ต่างฝ่ายต่างทำตัวไม่ถูก แต่เราก็ยังคุยไลน์กันอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่มีแต่แทนทักมาก่อนทั้งนั้น ชนิดที่ว่าได้ทีแล้วเอาใหญ่
แก้มเนียนถึงกับร้อนฉ่า เมื่ออีกฝ่ายพิมพ์ตอบกลับมาว่า ‘เย็นนี้ไปกินข้าวกันไหม ไม่ได้เห็นหน้าหลายวัน อยากเจอหน้า’ ดวงตาเรียวอ่านประโยคนั้นซ้ำหลาย ๆ ครั้ง ไม่อยากจะเข้าข้างตัวเองหรอก แต่มิลค์คิดว่านี่ประโยคบอกคิดถึงกัน
คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่ง คิดว่าจะต่อบทสนทนายังไงดี มิลค์เองก็อยากเจอหน้าแทนเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากตกลงง่าย ๆ
‘เหมือนจะมีเรียนถึงเย็นอะ ขอดูก่อน’
[/i]
‘ไหนก้องบอก มิลค์ไม่มีเรียนตลอดบ่ายนี้’
อ้าว...ก้อง
เมื่อเห็นแทนตอบกลับมาเช่นนั้น มิลค์ก็ถึงกับหน้าเหวอไปชั่วขณะ แสดงว่าอีกฝ่ายศึกษามาดีแล้วว่าเขาว่างถึงได้ชวนกินข้าวแบบนี้
‘เหรอ’
‘ก็คงงั้นมั้ง เรารู้แค่ว่าไม่ค่อยว่างอะ’ มิลค์พิมพ์ตอบกลับไป แม้จะถูกก้องหักหน้าแล้ว แต่ไม่เป็นไร เขายังสามารถไปต่อได้
‘งั้นก็ไม่เป็นไร ไว้ไปกินวันอื่นก็ได้’
‘ไม่เป็นไร ถ้าแทนอยากกินข้าวกับเรามาก...’
‘เดี๋ยวเรายอมไปด้วยก็ได้’
_________________
#พี่แทนน้องมิลค์
ตอนแรกว่าจะมีอีกฉาก แต่ขอยกไปบทอื่นแล้วกัน
ฮือออ
11
เมื่อได้ยินเสียงมิลค์ถึงกับถอยกรูไปชิดกำแพงห้อง ดวงตาเรียวมองประตูห้องอย่างหวาดหวั่น ขอบตาร้อนผ่าวเพราะความกลัวจับใจ พยายามตั้งสติแล้วคว้าโทรศัพท์มือถือที่เผลอปล่อยไปเมื่อครู่มาพูดคุยกับแทนต่อ เพราะอีกฝ่ายยังถือสายเขาไว้
[มิลค์! มิลค์เป็นไรหรือเปล่า!] ฝั่งคนที่อยู่ในสาย ตะโกนเรียกชื่อมิลค์ด้วยความเป็นห่วง หลังเห็นว่าคนปลายสายเงียบไปยิ่งกังวล ประกอบกับเห็นความผิดปกติมาตั้งแต่วันก่อน ทำให้แทนเลือกที่จะออกจากผับ ตรงดิ่งไปยังรถ เพื่อไปหามิลค์ทันที
“ท—แทน รีบมานะ ๆ” มิลค์ละล่ำละลักบอกปลายสาย พยายามควบคุมสติตัวเองให้มากที่สุด แต่มันน่ากลัวกว่าที่มิลค์เคยคิดไว้ เมื่อโรคจิตที่ว่ารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของมิลค์มากเกินไป จนกลายเป็นว่าเขาหาความปลอดภัยในชีวิตแทบไม่ได้
[แทนกำลังไปนะ อย่าเพิ่งวางสายจนกว่าแทนจะไปถึง]
“อ—อือ รีบมา” คิวท์ บอยตัวเล็กพูดกับปลายสาย ขณะที่จ้องประตูห้องไปด้วย
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“อื้อ แทน!” มิลค์ตะโกนเรียกชื่อแทนไทอีกหน เมื่อเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นอีกแล้ว คราวนี้ไม่ใช่แค่เสียงเคาะธรรมดา แต่รวมไปถึงการเขย่าประตูห้องอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้มิลค์ประสาทเสียยิ่งกว่าเดิม
‘เปิดประตูสิ น้องมิลค์ของพี่’
‘พี่บอกแล้วไงว่าจะมาหา เล่นตัวไปได้’
มิลค์เปิดอ่านข้อความแล้วแทบเป็นลม ใช่มันแน่ ๆ! ไอ้โรคจิตนั่นอยู่หน้าห้องเขาตอนนี้แน่ ๆ มิลค์กลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้ว
ตอนนี้มิลค์อยากเจอแทนให้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่อยากเร่งอีกฝ่าย เนื่องจากเป็นห่วงความปลอดภัยด้วย คนตัวเล็กพยายามเค้นหาทางออกอีกครั้ง เขาควรจะทำอะไรได้บ้าง นอกจากขอความช่วยเหลือจากแทนเพียงฝ่ายเดียว ก่อนจะควานหาสมุดเล็ก ๆ ที่จดเบอร์ผู้ดูแลหอ หมายจะแจ้งให้อีกฝ่ายขึ้นมาจัดการ
[มิลค์ แทนอยู่หน้าหอแล้วนะ] ไวอย่างใจอยาก รอเพียงไม่นาน คนที่มิลค์อยากเจอตัวมากที่สุดก็มาถึงหน้าหอแล้ว คนตัวเล็กรีบเปิดประตูหน้าต่าง โยนคีย์การ์ดอย่างที่เคยทำไปให้แทนทั้งน้ำตา
เสียงเคาะประตูนั่นเงียบไปแล้ว มิลค์รวบรวมความกล้าลุกขึ้นไปส่องตาแมวดู เผื่อจะได้รู้ว่าไอโรคจิตนั่นเป็นใคร จะได้แจ้งความได้ถูกคน ทว่าเขาพบกับความว่างเปล่า ไม่มีใครรอเขาอยู่หน้าห้องเหมือนที่กลัว รอเพียงไม่นานแทนไทก็มาถึงห้องพร้อมกับป้าเจ้าของหอ
“มิลค์!” แทนไทกระชากประตูห้องออก สวมกอดเพื่อนตัวเล็กเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง แค่เห็นว่ามิลค์ปลอดภัยเขาก็โล่งอกแล้ว รอยน้ำตา จมูกแดง ๆ คงบอกได้เป็นอย่างดีว่ามิลค์กลัวแค่ไหน
“เกิดอะไรขึ้น” ชายหนุ่มกระซิบถามคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในอาการสั่นอยู่
“เหมือนมีโรคจิตตามเราอยู่ มันรู้จักห้องเรา เมื่อกี้...เหมือนมันมาเคาะห้องเรา เขย่าประตูเหมือนจะบุกเข้ามา” มิลค์ว่าตามที่เจอ ให้ทั้งแทนและคนดูแลหอได้ยินพร้อม ๆ กัน
“โรคจิตที่ว่า....คือคนที่ชอบโทรเข้ามา แล้วมิลค์ไม่รับสายใช่ไหม” แทนตั้งข้อสันนิษฐาน มันต้องเป็นคนเดียวกันแน่ ๆ
“อือ...” มิลค์ขานรับไม่เต็มเสียงนัก ยอมจำนนแต่โดยดี หากตอนนี้มิลค์มีหูบนหัวเหมือนลูกหมา คงได้เห็นมันลู่ลงเป็นหมาหงอยแน่
“แฟนผมโดนรุกล้ำความเป็นส่วนตัว หอไม่มีความปลอดภัยเลยเหรอครับ” แทนยังไม่เล่นงานมิลค์ แต่หันไปคุยกับคนดูแลหอแทน
“อ—เอ่อ ทางหอเราจะมีกล้องวงจรปิดนะคะ แต่มีแค่หน้าประตูหอ เวลาเข้ามาในหอ ถ้าไม่มีคีย์การ์ดก็เข้ามาไม่ได้” คนดูแลหอพูดเสียงแผ่ว ทั้งยังมึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะเข้ามาในหอ หน้าหอก็มียามรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว
“แสดงว่าเป็นคนในหอ?” แทนว่า ก่อนจะหันหน้ามาถามคนข้างตัว “มีคนในหอที่มิลค์รู้จักไหม?”
ฝั่งมิลค์เองก็นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่มีหรอก เราไม่ได้สุงสิงไปใครด้วย มาถึงหอก็เข้าห้องอย่างเดียวเลย” คราวนี้ถึงกับงานหยาบ หากคนนอกเข้ามาไม่ได้ ก็ชัดเจนว่าเป็นคนในแล้วจะหาคนร้ายได้ยังไง
“งั้นเอางี้... พรุ่งนี้ต้องไปแจ้งความก่อน เก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ อย่าเพิ่งลบเอาไปแจ้งตำรวจ” มันเป็นสิ่งเดียวที่แทนพอจะคิดออกในตอนนี้ นี่ก็เที่ยงคืนกว่าแล้วจะปลุกคนทั้งหอ เพื่อตามหาไอ้โรคจิตนั่นก็ใช่เรื่อง “แล้วป้าครับ ช่วงเวลาไม่นานมานี้ มีคนเพิ่งย้ายเข้ามาไหมครับ”
“ช่วงสองสามเดือนมานี้ ไม่มีคนเข้ามาพักใหม่ค่ะ ตอนนี้หอเราก็เต็มด้วย”
สุดท้ายทุกคนก็ต้องแยกย้ายกันก่อน เพราะมันดึกแล้ว พรุ่งนี้เช้าแทนจะพามิลค์ไปแจ้งตำรวจไว้ก่อน หากเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยเหลือกันทัน คนตัวสูงเดินเข้าห้องพร้อมกับมิลค์ เพราะคิวท์ บอยตัวเล็กอ้อนขอให้ค้างด้วยสักคืน เนื่องจากยังขวัญผวาไม่หาย
หากเป็นปกติมิลค์คงอิดออดไม่ยอมให้แทนค้างที่หอแน่ แต่ตอนนี้คนตัวเล็กกลับพยักหน้ารับ กวักมือให้แทนเข้ามาในห้อง นอนเป็นเพื่อนซะงั้น
“มิลค์ผิดสัญญานะ ไหนบอกว่ามีอะไรจะบอกคนแรกไง”
“.....”
“ต้องให้เกิดเรื่อง จนมันจะบุกเข้าห้องก่อนใช่ไหม ถึงยอมบอก” หลังเข้าห้องเรียบร้อย แทนก็จัดการสอบสวนมิลค์ทันที เพื่อนตัวเล็กได้แต่ก้มหน้าสำนึกผิด ไม่คิดจะเถียงอีกฝ่ายแต่อย่างใด เพราะมิลค์ผิดคำสัญญาจริง ๆ
“ก็ไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่แล้วมันจะรู้เรื่องเราเยอะขนาดนี้”
“.....”
“เราแค่คิดว่าเราจัดการเองได้ ไม่อยากให้ทุกคนเป็นห่วงก็เท่านั้นเอง”
“แล้วเป็นไง จัดการได้ไหมล่ะ” แทนยืนกอดอก ย้อนถามเสียงเข้ม ทั้งห่วงและโมโหมิลค์ในเวลาเดียวกัน
“...ไม่ได้” คิวท์ บอยตัวเล็กว่าเสียงแผ่ว เพราะเหมือนจะร้องไห้อีกรอบ จึงก้มหน้าลงมองพื้นสำนึกผิดแต่โดยดี พยายามอย่างคิดที่จะกลั้นน้ำตา ผู้ชายที่เข้มแข็งต้องไม่ร้องไห้ “ทำอะไรเอง ไม่เคยได้สักอย่าง”
ทันทีที่พูดจบประโยค น้ำตาหยดแรกหลังเพิ่งร้องไห้เสร็จ ก็ไหลหยดลงพื้นอย่างห้ามไม่ไหว ก่อนหยดที่สอง สามจะตามลงมาติด ๆ มิลค์เม้มปากแน่น ตัวเริ่มสั่นหลังร้องไห้ออกมาอีกครั้ง บางทีมิลค์เองก็รู้สึกเกลียดตัวเอง จัดการอะไรเองไม่เคยได้ ต้องให้คนอื่นเข้ามาช่วยจัดการ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นชีวิตของเขาเอง
เหมือนมิลค์ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง....
“ไม่ต้องร้อง ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย” ตอนแรกก็อยากดุมากกว่านี้เหมือนกัน แต่พอเห็นน้ำตาอีกคน แทนไทกลับดุไม่ลง สุดท้ายก็ดึงตัวมิลค์เข้ามากอดแล้วลูบหัวปลอบเหมือนเด็กน้อย “ก็แค่เป็นห่วง ที่หลังมีอะไรต้องพูดออกมาเข้าใจไหม”
“.....”
“อย่าคิดทำอะไรคนเดียว เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่ ไม่ใช่มีแค่มิลค์ที่ควบคุมมันไม่ได้ ทุกคนก็เหมือนกัน มันอันตรายเกินกว่าที่จะจัดการเรื่องนี้เพียงลำพัง เข้าใจไหม” แทนอธิบายเหตุผลให้ฟัง หากเป็นสัตว์เราอาจรู้วิธีรับมือ แต่กับใจมนุษย์เราไม่มีทางรู้ว่าอันตรายมากสุดได้เท่าไหน โดยเฉพาะกับคนที่จิตใจไม่ปกติ
“ถ้าไม่เป็นห่วง คงไม่โมโหแบบนี้หรอกนะ มิลค์มีแค่คนเดียวในโลกนะ” แทนว่าต่อ “อยากเป็นฮีโร่หรือไง จับโจรโรคจิตคนเดียว” เขาว่าติดตลก เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กคิดมาก
“ก็เปล่าสักหน่อย แค่คิดว่าจัดการได้”
“ตัวกระเปี๊ยกเท่านี้ ยังอยากจับโจรโรคจิตด้วยตัวเองอีก”
“ฮือ เราแค่สูงน้อยเอง แต่เราขอโทษที่ทำให้เป็นห่วงนะ” มิลค์เงยหน้าขึ้นสบตาอีกคน ปล่อยให้แทนเช็ดคราบน้ำตาออกแต่โดยดี “ต่อไปนี้จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว จะบอกแทนทุกเรื่องเลย”
“เชื่อคำได้ไหมเนี่ย”
“ได้ดิ คืนนี้เรานอนกอดกันนะ ๆ ขอโทษที่ทำให้โมโห”
“พูดแล้วนะ ห้ามคืนคำและก็เลิกขอโทษได้แล้วไอ้ตัวเปี๊ยก พรุ่งนี้ก่อนไปเรียน เดี๋ยวจะพาไปแจ้งความ”
“พอเห็นว่าโมโหแล้วอ้อนใหญ่เลยนะ” แทนว่าพร้อมกับยีหัวมิลค์ด้วยความเอ็นดู อ้อนที่ว่าไม่ใช่เอาหัวมาถูไถเหมือนลูกแมวเหมียว แต่เป็นการว่านอนสอนง่าย พูดเพราะไม่เถียง ไม่ดื้อ มองแล้วก็น่ารักไปอีกแบบ
ยิ่งมิลค์เสนอตัวให้เรานอนกอดกัน ยิ่งน่ารัก...
“เปล่าสักหน่อย” มิลค์ปฏิเสธ
“รู้งี้น่าจะโมโหทุกวัน จะได้อ้อนบ่อย ๆ”
“ให้อ้อนบ่อย ๆ ก็ไม่ตื่นเต้นดิ” คิวท์ บอยตัวเล็กอมยิ้ม นาน ๆ ทีถึงได้อ้อนหนหนึ่ง ถ้าอ้อนทุกวันคงไม่ตื่นเต้นแน่ มิลค์สามารถอ้อนได้ทุกคน ไม่ใช่แค่กับแทน แต่บอย ก้องเขาก็ชอบอ้อน เวลาอยากให้พวกนั้นตามใจ
ความหวาดกลัวโรคจิตเริ่มทุเลาลง เมื่อมิลค์รู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยแล้ว เสียงเคาะประตู ข้อความคุกคามทางเพศไม่ได้ส่งเข้ามาอีกแล้ว จริง ๆ แทนสามารถกลับที่พักเลยก็ได้ แต่มิลค์ก็อยากให้อีกคนอยู่ เพราะหากไอ้โรคจิตบุกรุกยามวิกาล อีกฝ่ายจะได้ช่วยเหลือเขาทัน
กลีบปากเล็กเม้มแน่น เมื่อนึกถึงประโยคที่แทนพูดกับคนดูแลหอ แทนนี่เนียนได้โล่ อย่าคิดว่ามิลค์ไม่ได้ยิน เขาได้ยินเต็มสองรูหู อีกฝ่ายเรียกเขาว่าแฟน ฟังเผิน ๆ แล้วจั๊กจี้ยังไงไม่รู้ ถือว่าหยวน ๆ ยอมให้ไป เพราะอย่างน้อยอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ละออกจากความสนุก มาหาเขา
“รีบไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มานอนกอดกันสักที” แทนว่าด้วยสายตาแพรวพราวทำเอาคนมองถึงกับขนลุกซู่ ก่อนที่มิลค์จะพยักหน้ารัก ก้มหน้างุดเดินเข้าห้องด้วยใบหน้าแดงซ่าน
เราเคยนอนกอดกันมาแล้ว แม้มันไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่ไม่รู้ทำไมมิลค์ถึงใจเต้นแรง แทนนอนรอเขาเหมือนครั้งก่อน มองดูแล้วเหมือนเสี่ยนอนรอเด็กอย่างไงอย่างงั้น
พักหลัง ๆ มานี้ ความเขินของมิลค์เกิดขึ้นบ่อยเหลือเกิน ตัวการเป็นคนเดียว คนเดียวเท่านั้นที่มิลค์คุยอยู่ จริง ๆ ก็ไม่เรียกว่าคุยเท่าไร เหมือนเพื่อนกัน แค่เรารู้กันว่ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งคิดมากกว่าเพื่อนแล้ว
“เสร็จยัง” คิดไปไม่นานเท่าไร แทนไทก็ตบที่ว่างข้าง ๆ ตัว เรียกมิลค์ถึงมานอน เป็นตุ๊กตานุ่มนิ่มให้ตัวเองได้กอด ฝั่งมิลค์เองก็เพิ่งอ่านเลกเชอร์จบ คิวท์ บอยตัวเล็กอยู่ชุดนอนของตัวเอง กางเกงขาสั้นกับเสื้อบอลตัวโปรด ทำเอาคนมองอย่างแทนถึงกับใจกระตุกวูบ อยากสวมบทเป็นหมาป่ากระครุบกระต่าย แต่ก็กลัวจะถูกงอนเข้า
มิลค์รู้สึกว่าตัวเองกำลังหน้าเห่อร้อน เพราะถูกย่างก้าวที่เดินไปยังเตียง แทนก็จ้องตาไม่กะพริบ ไอ้ตัวเปี๊ยกของแทนเริ่มขบริมฝีปากยามรู้สึกประหม่า มิลค์จัดแจงที่นอนเสร็จสรรพ เรานอนแบบเดิมเหมือนครั้งก่อน หลังจัดแจงที่ได้แล้ว เจ้าของห้องก็เอื้อมมือไปปิดไฟ แล้วพลิกตัวไปกอดแทนไทเหมือนที่เคยทำ
กลิ่นหอมอ่อน ๆ ในแบบผู้ชายของแทน ทำเอาคิวท์ บอยตัวเล็กแอบใจเต้นแรง กลิ่นกายคล้าย ๆ กับพ่อมิลค์ มันอบอุ่นและรู้สึกปลอดภัย ท่อนแขนเล็กโอบเอวหนาเอาไว้ ก่อนจะบอกราตรีสวัสดิ์คนตัวโตเสียงแผ่ว พรุ่งนี้จะเอาไงค่อยว่ากันอีกที
“งือ...มือ” ในช่วงที่ต่างคนต่างเผลอหลับไปแล้ว มิลค์ก็บ่นงึมงำ เมื่อสัมผัสได้ถึงฝ่ามือร้อนที่กำลังสัมผัสหน้าท้องของเขา
“นุ่มดี ขอจับพุงหน่อย” แทนพูดเสียงแผ่ว มิลค์ปล่อยให้อีกคนกอดตัวเองจากด้านหลัง นอนจับพุงเขาเล่น ก่อนที่คนตัวเล็กหันไปกอดแทนเอาไว้ ใบหน้าเล็กแนบชิดกับแผ่นอกอุ่น ท่อนแขนกอดเอวแทนเอาไว้หลวม ๆ ขณะเดียวกัน คนตัวสูงก็กักร่างมิลค์เอาไว้ในอ้อมกอด พร้อมกับดมกลุ่มผมนุ่มไปด้วย
ไป ๆ มา ๆ เหมือนมิลค์ชอบสัมผัสจากแทน ได้นอนกอดแทนก็สบายไปอีกแบบ เพนสะตัวแทนใหญ่ เป็นหมอนข้างที่ดี เสียอย่างเดียวมือไว้ไปหน่อย แต่ก็พอต่อกรได้
เช้าวันต่อมาแทนก็พามิลค์ไปแจ้งความตามที่พูดคุยกันไว้ มิลค์ได้ยื่นหลักฐานต่าง ๆ ให้กับทางตำรวจ ซึ่งทางตำรวจก็ให้ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน พอเข้ามาถึงมอ มิลค์ก็โดนก้องกับบอยบ่นจนแทบไม่อยากฟัง เขารู้ดีว่าเพื่อนทั้งสองเป็นห่วงแค่ไหน จึงได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด จนพวกนั้นเลิกบ่น
“เนี่ย ดูละครเยอะไป จะจับโจรคนเดียว?”
“ถ้าเรื่องไม่แดงขึ้นมาก่อนจะไม่บอกกันใช่ไหม”
“คิดว่าเพื่อนช่วยเหลือไรไม่ได้เหรอ”
“เปล่าน้า” มิลค์รีบส่ายหน้าปฏิเสธ เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองเริ่มน้อยใจแล้ว “เราก็แค่ไม่อยากให้เป็นห่วงกัน ไม่คิดว่ามันจะเล่นแรงแบบนี้อะ”
“แล้วเป็นไงล่ะ นี่ถ้าไอ้แทนไม่ไปหา ไม่ใช่ป่านนี้มันบุกห้องได้เหรอ” บอยถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ไม่อยากให้มิลค์คิดมากหรอก แต่ก็อดโมโหไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเล็กคิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมใครทั้ง ๆ ที่ปัญหามันไม่ใช่เล็ก ๆ
“อย่าว่ามิลค์เลย นะ ๆ” มิลค์เกาะแขนเพื่อนสนิท พยายามอ้อนให้เพื่อนเลิกบ่น “ตอนนี้แทนก็พาเราไปแจ้งความแล้ว ทีหลังจะบอกทุกอย่างเลย”
“เออ เดี๋ยวนี้อะไร ๆ ก็ไอ้แทน”
“อ้าว” แทนที่จะหายโมโห กลับกลายเป็นว่าบอยน้อยใจที่มิลค์ให้ความสำคัญกับแทนไทมากกว่าซะงั้น บอยยีผมเพื่อนสนิทด้วยความหมั่นเขี้ยว ถ้ามีเรื่องแล้วไม่ยอมบอกกันอีก เห็นทีอาจต้องใช้ไม้แข็งกับมิลค์
“แล้วนี่แจ้งตำรวจไปแล้ว เราสามารถทำอะไรได้อีก”
“เขาบอกว่า ถ้ามันโทรมาอีกลองข่มขู่ไปดู มันใช้หลายเบอร์โทรมาก่อกวนและดูเหมือนไม่ใช่คนเดียวกันด้วยอะ” มิลค์ว่าพลางขมวดคิ้ว
“ยังไง?”
“ไม่รู้สิ เรารู้สึกเหมือนเบอร์ตัวเองหลุดอะ จริง ๆ เบอร์เราก็หาง่ายนะ เพราะใช้ติดต่องาน แต่ทำไมพวกโรคจิตถึงหาง่ายขนาดนั้น” ถ้าเป็นคน ๆ เดียวโทรมา เขาจะไม่สงสัยเท่าไร แต่มิลค์รู้สึกว่าเบอร์ตัวเองหลุดไปในกลุ่มโรคจิต
“หรือว่ามีคนเอาไปให้พวกมัน” ก้องตั้งข้อสันนิษฐาน ซึ่งมิลค์ก็คิดว่าอาจมีส่วน “แล้วมันจะทำไปเพื่ออะไรวะ ?”
“.....”
“มิลค์เคยทำให้ใครไม่พอใจหรือเปล่า”
หลังจากเรียนเสร็จ มิลค์และพวกเพื่อน ๆ ก็ออกมาหาอะไรกินนอกมอ วันนี้เราเข้าร้านอาหารไทยกัน พอเป็นเรื่องของกิน คิวท์ บอยตัวเล็กก็เกิดอาหารดี๊ด๊าเป็นพิเศษ มีเพียงแค่ของกินเท่านั้นที่ช่วยให้มิลค์คลายความกังวลลงได้ คนตัวเล็กกินผัดไทร้านโปรดอย่างเงียบ ๆ พวกเพื่อนก็สั่งหอยทอด ก๋วยเตี๋ยวเรือคละกันไป
ในขณะที่กินข้าวกันอยู่ แทนไทก็โทรมาพอดี ได้ความว่าอีกฝ่ายไม่มีเรียน ออกดูหนังกับจ็อบ พวกเราเลยนัดเจอกันอีกครั้ง พักหลัง ๆ มานี้เราแทบเจอกันทุกวัน หากเป็นแต่ก่อนมิลค์แทนเจอหน้ากันทีไร เพื่อนทั้งกลุ่มเตรียมปวดหัวกันได้เลย แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นอีกแล้ว...
“แหม.... สายตาหวานเยิ้มเลยนะมึง”
“ถ้ากินมิลค์ทางสายตาได้ คงกินนานไปล่ะ มึงกับโรคจิตนี่ใครอันตรายต่อตัวมิลค์มากกว่ากันวะ”
“ปากหาเรื่องนะ ไอ้ก้อง” แทนหันไปมองค้อนเพื่อนปากมอม ก่อนจะหันไปมองมิลค์ต่อ แก้มนุ่มนิ่มพองเพราะกำลังเคี้ยวอาหาร มองแล้วดูน่ารักดีเลยอดใจไม่ไหวที่จะมองนาน ๆ
ฝั่งเพื่อนก็มองสบตากันแล้วพยักหน้าอย่างรู้ ๆ กัน แต่ก่อนจับแยกแทบไม่ทัน ไอ้แทนไทแซะมิลค์ทุก ๆ สิบนาที จนคนดังประจำกลุ่มประกาศกร้าวว่าเกลียดแทนไทเข้าไส้ เวลาไหนนัดแทนไปกินข้าวด้วย มิลค์จะไม่ไปจนต้องขอร้องแกมบังคับถึงยอม แต่ตอนนี้อะไร ๆ ก็เปลี่ยนไปแล้ว แตะนิดแตะหน่อยปกป้องกันออกสื่อ มิหนำซ้ำยังแอบนัดเจอกันนอกรอบอีก
มันน่านัก....
“นี่ถ้ามึงจับโจรโรคจิตได้นะ คงได้ใจมิลค์ไปเต็ม ๆ” บอยอมยิ้ม รับรู้มาได้สักพักแล้วว่าสองคนนี้กำลังคุยกันอยู่ ในตอนแรกเห็นหลบหน้าหลบตาก็นึกว่าทะเลาะกัน ถามมิลค์ว่ามีอะไรหรือเปล่า เพื่อนตัวเล็กก็ปากแข็งไม่ยอมแพร่งพรายอะไรออกมา จนกระทั่งได้ถามฝั่งแทนไทถึงได้รู้ความจริง
“ถามคนให้คะแนนกูโน้น” แทนโบ้ยมาทางมิลค์ ทำเอาคนถูกพาดพิงถึงกับห่อไหล่ หลังเพื่อนทั้งกลุ่มมองมิลค์ด้วยสายตาล้อเลียนจนเขาอาย
เป็นอีกครั้งที่แทนไทอาสามาส่งมิลค์ พวกเขาและกลุ่มเพื่อนแยกย้ายกันตอนทุ่มกว่า ไปที่นั่นที่นี่ เล่นเกมร้านเน็ตกันจนเพลิน
“อ้าว นี่จะมาค้างหอด้วยเหรอ” มิลค์เอ่ยถามอย่างงุนงง เมื่อเห็นภายในรถของอีกฝ่าย มีสัมภาระเหมือนจะไปค้างที่ไหนสักแห่ง ซึ่งมิลค์ก็เดาเอาว่าอาจเป็นหอตัวเองแล้วมันก็ใช่จริง ๆ ด้วย
“ก็มิลค์กำลังไม่ปลอดภัยไง”
“.....”
“ถ้าไม่ยอมไปค้างที่อื่น เดี๋ยวเรามานอนเป็นเพื่อน ช่วงนี้มันอันตราย” แทนว่าเสร็จสรรพ ชายหนุ่มหยิบสัมภาระ พวกเสื้อผ้า ชุดนักศึกษาลงจากรถ หลังตัดสินใจแล้วว่าจะมานอนค้างกับมิลค์สักระยะ จนแน่ใจว่าพวกโรคจิตเลิกรำควานแล้ว
จริง ๆ ชายหนุ่มได้ทำการชักชวนมิลค์ให้ไปพักที่คอนโดของตนเอง ตราบใดที่ยังหาโรคจิตหรือข้อยุติไม่ได้ และถ้ามิลค์ไม่สบายใจไปค้างคอนโดเขาชั่วคราว จะไปค้างหอบอยกับก้องก็ได้ แต่มิลค์กลับยืนยันว่าจะพักอยู่หอเดิม ป้าดูแลหอก็บอกว่าจะติดกล้องเพิ่มให้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ มิลค์จึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ถ้ามันยังไม่เลิก เขาคงต้องย้ายออก
แต่ถึงอย่างนั้นแทนก็ไม่สบายใจ จนตัดสินใจย้ายมานอนกับมิลค์เอง
“งั้นก็ตามสบายนะ เราไปอาบน้ำก่อน เหนียวตัว” เมื่อขึ้นมาถึงห้อง มิลค์แทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำในทันที ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแล้วยังต้องไปเรียน ไปนั่นที่อีก ทำให้เขาเหนียวตัวไปหมด ดีหน่อยที่ห้องมิลค์ เป็นห้องแอร์ เลยไม่ต้องลำบากอะไร แค่ไปต่อสู้กับอากาศข้างนอกเอา
“อือ ให้อาบน้ำช่วยปะ”
“ไม่ต้อง อาบเองได้!” มิลค์ว่าเสียงเขียว หันไปมองค้อนใส่อีกคน ก่อนจะคว้าเอาผ้าเช็ดตัว ชุดนอนเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้แทนไทนั่งรออยู่ในห้อง คนตัวสูงไม่รู้จะทำอะไร เห็นโทรศัพท์ของมิลค์วางไว้ จึงเอ่ยขออนุญาตเล่นโทรศัพท์ ซึ่งเจ้าตัวก็อนุญาต
อันดับแรกแทนไทเข้าไปเช็กไลน์มิลค์ เห็นบอกว่าไอ้โรคจิต นอกจากจะคอยโทรหาแล้ว ยังชอบแอดไลน์ส่งรูปของลับ พร้อมข้อความเชิงล่วงละเมิดทางเพศมาอีกด้วย เขาอยากรู้ว่าวันนี้มันส่งมาอีกไหม
และก็เป็นอย่างที่คิดไว้ ไอ้โรคจิตนั่นส่งมาอีกครั้ง มันส่งมาหามิลค์ตั้งแต่บ่าย แต่คนตัวเล็กไม่ได้เปิดอ่านมัน มันไม่ได้ใช้รูปโปร์ไฟล์ตัวเอง เป็นแค่สีดำเท่านั้น แค่ได้เห็นรูปอวัยวะเพศของมัน แทนไทก็ถึงกับฉุนกึก ทำไมน้องมิลค์ของทุกคนต้องมาต่อกรกับพวกนี้ด้วย มันไม่ควรเลยสักนิด
‘น้องมิลค์ของพี่ ช่วยหน่อย’
‘ใช้ตีนกูแทนไหม?’
‘เล็กขนาดนี้ มึงอย่าเทียวส่งให้ใครอีกนะ’
‘กูว่านิ้วก้อยกูยังใหญ่กว่าของมึงอีก’
‘ ไอ้เวร เลิกยุ่งกับเมียชาวบ้านได้แล้ว เอาตีนกูไปช่วยก่อนแล้วกัน’
หลังพิมพ์เสร็จ แทนไทก็ถ่ายรูปเท้าเป็นภาพประกอบ เท้าเขาใหญ่มิลค์ คงช่วยมันได้ถึงใจแน่ หลังจากที่แทนส่งไป ฝั่งนั้นก็เปิดอ่านทันที ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัว ทำไมมิลค์ต้องโชคร้าย มาเจอกับพวกแบบนี้ด้วย เมื่อคิดว่าอันไหนเลี่ยงได้ ไม่ให้อีกคนได้เห็น แทนไทจึงจัดการบล็อกผู้ใช้รายนั้นไปและลบข้อความสนทนาออกทั้งหมด
______________
สกรีมแท็ก #พี่แทนน้องมิลค์
อย่าลืมไปเล่นแฮชแท็กกันนะคะ
พี่แทนจัดการมันค่ะ