ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0
ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ
เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ
5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).
9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ
10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป
11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว
บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป
12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด
13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ
14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ
15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
(กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail
16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข
17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................
วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
*****************************************************************************************
The memory of love ความทรงจำแห่งรัก [Yaoi]
By : Fuji_Sakura
ความสับสนในใจเริ่มเกิดขึ้นกับต้น เมื่อรู้สึกว่าก้อนเนื้อใต้อกข้างซ้ายที่่เรียกว่าหัวใจของเขา มันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะทุกครั้งที่เจอกับพี่เต้ รุ่นพี่ชั้น ม.6
สิ่งแรกที่เต้ควรจะทำและทำมาตั้งแต่แรกแล้ว คือการสาระภาพกับรุ่นน้องไปตรงๆว่า เขาชอบรุ่นน้องมากแค่ไหน
บทนำ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3772422#msg3772422)
ตอนที่1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3772999#msg3772999)
ตอนที่2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3774076#msg3774076)
ตอนที่3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3776809#msg3776809)
ตอนที่4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3781976#msg3781976)
ตอนที่4.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3787576#msg3787576)
ตอนที่5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3787579#msg3787579)
ตอนที่5.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3787580#msg3787580)
ตอนที่6 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3801684#msg3801684)
ตอนที่6.1 (https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=65386.msg3801688#msg3801688)
นักเขียนสมัครเล่น ฝากผลงานไว้ในอ้อมอกอ้อมใจคุณนักอ่านด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
ฝากติด #Thememoryoflove #ครอบครัวตัวต่อ ด้วยนะคะ
พูดคุยติดตามอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายของฟูจิได้ที่
Fanpage (https://www.facebook.com/Fuji_Sakura-178593126049417/) และ Twitter (https://twitter.com/Fuji_Sakura15)
บทนำ
ประกาศนะคะ จิขออนุญาตคุณนักอ่านทุกท่านเริ่มอัฟนิยายใหม่ตั้งแต่ตอนแรกนะคะ หลังจากแก้ไข้คำผิดและเรียบเรียงใหม่เพิ่มรายละเอียดเพื่ออรรถรสมากขึ้น จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
**********
ภายในห้องสี่เหลี่ยมตกแต่งสไตส์โมเดิลบนตึกสูงชั้น15 ใจกลางเมืองหลวง
“ครับ โอเคครับ ผมจะรีบแก้แล้วส่งไฟล์ให้ใหม่ไม่เกินคืนนี้ห้าทุ่มครับ”
ร่างบางกดตัดสายโทรศัพท์พร้อมกับถอนหายใจรากยาว หลังจากจบการสนทนารายละเอียดงานตัดต่อวีดีโอเวดดิ้งพรีเซ็นเทชั่นกับลูกค้าเป็นรอบที่สี่ นั่งก้มหน้ากุมขมับอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนจะฟุบลงไปกับโต๊ะทำงานด้วยความเหนื่อยล้า หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย ภาสกรได้เข้าทำงานกับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ รับงานตัดต่อวีดีโอและงานออกแบบกราฟิกทั่วไปตามที่เขาถนัดเป็นอาชีพเสริม นานๆทีจะมีโอกาสกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดสักครั้ง
นาฬิกาบนผนัง บอกเวลา 20.30 น. ร่วม 12 ชั่วโมงแล้วที่เขาใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่กับโต๊ะทำงานไม่ลุกไปไหน กระเพาะเริ่มส่งเสียงร้องประท้วงถามหาอาหาร ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักอย่าง ภาสกรลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นในครัว มีแค่น้ำเปล่าหนึ่งขวด เครื่องดื่มวิตามินบำรุงสมองสองขวด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกสองกระป๋องกับเศษอาหารที่แห้งติดจาน ใบหน้าเรียวรูปไข่ครุ่นคิด นี่เขายุ่งจนไม่มีเวลาซื้อของติดตู้เย็นขนาดนี้เลยหรือ ก่อนจะหยิบน้ำเปล่าที่มีขึ้นมาเปิดฝากระดกดื่มประทังความหิว จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้ซิ่ง โชคดีที่ยังเหลือบะหมี่กึ่งสําเร็จรูปอยู่หนึ่งซอง เขาจัดการแกะบะหมี่ใส่ชามพร้อมกับเครื่องปรุง เทน้ำเปล่าตามลงไปแล้วนำเข้าไมโคเวฟหมุนสวิตซ์ตั้งเวลาให้เครื่องทำงาน
ในระหว่างที่รอเวลาให้บะหมี่สุก ก็มีเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง ภาสกรเกาหัวแกรกแกรกอย่างไม่สบอารมณ์ ต้องเป็นลูกค้าคนเดิมโทรกลับมาเป็นครั้งที่ห้าอีกแน่ๆ เขาเดินมาที่โต๊ะทำงานอย่างหงุดหงิด ทันทีที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองดูเบอร์รายชื่อผู้ติดต่อที่ปรากฏบนหน้าจอ ลมหายใจฟืดฟาดเมื่อครู่นั้นก็พลางหายไปฉับพลัน วรวิทย์เพื่อนสนิทสมัยเรียนมัธยมโทรวีดีโอคอลเข้ามา ภาสกรใช้นิ้วเกลี่ยหัวคิ้วที่ขมวดย่นให้คลายออกปั้นสีหน้าใหม่ให้ดูสดใส ก่อนจะกดสไลด์ที่หน้าจอโทรศัพท์ตอบรับพร้อมกับยกขึ้นมาขนาดกับใบของหน้าตัวเอง
“ว่าไงวิทย์” ภาสกรประหลาดใจเล็กน้อย ทันทีที่เห็นการแต่งตัวของเพื่อนปรากฏผ่านกล้อง “นี่มึงแต่งตัวอะไรของมึงเนี่ย”
“อันยองฮาเซโย” วรวิทย์กล่าวทักทายเป็นภาษาเกาหลี โบกมือผ่านกล้องไปมา เขาสวมเสื้อโค้ชตัวหนา พันผ้าพันคอ ใส่ถุงมือและใส่หมวกไหมพรม บรรยากาศรอบข้างมีหิมะตกโปรยปราย
“กระแดะแล้วมึงอะ นั่นดรีมเวิลด์ยังไม่ปิดอีกหรอวะ”
“ดรีมเวิลด์พ่องมึงสิ มึงแหกตาดูใหม่ซะก่อน กูอยู่เกาหลีโว้ย” วรวิทย์กดสลับใช้กล้องหลัง หมุนโทรศัพท์ไปรอบๆ ก่อนจะกดกลับมาใช้กล้องหน้าอีกครั้ง
“เออเกาหลีก็เกาหลี ว่าแต่มึงไปทำไรที่นั่นวะ”
“กูก็มาเที่ยวสิวะถามได้ แม่มึงเขาอยากมาตามรอยซีรี่ย์เกาหลี” วรวิทย์หันโทรศัพท์ไปยังสองสาวที่แต่งกายด้วยเสื้อผ้าชุดกันหนาวไม่ต่างจากเขา สนทยากับมุกดาเพื่อนร่วมห้องกลุ่มเดียวกันสมัยเรียนมัธยม กำลังนั่งถ่ายรูปเซลฟี่กับอาหารเกาหลีอยู่ในร้านข้างทาง “สน มุก ทักทายไอ้ต้นมันหน่อย”
“อันยองต้น” สนทยากล่าวทักทายโบกมือผ่านกล้อง
“วัสดีสน” ภาสกรยิ้มสดใส
“อันยองสุดหล่อ นี่น่ากินไหม” มุกดากล่าวทักทายเช่นกัน พร้อมกับโชว์อาหารเกาหลีที่ถือไว้ในมือให้ดู
“วัสดีมุก โห น่าอร่อยอ่ะ กำลังหิวอยู่พอดีเลย ว่าแต่เป็นไงมาไง ไอ้วิทย์ถึงได้ติดวงโคจรไปกับพวกแกได้”
“ตอนแรกฉันก็กะว่าจะมากับสนแค่สองคนนั่นแหละ พอดีวันนั้นวิทย์มันโทรมาชวนไปกินข้าว ฉันก็เลยเอยปากชวนไปเป็นพิธี ไม่คิดว่ามันจะมาด้วยจริงๆ บวกกับเจอตั๋วไฟไหม้พอดี ก็เลยได้มาด้วยกันนี่แหละ”
“น้อยๆหน่อย แกนั่นแหละที่ล่อซื้อฉันมา” วรวิทย์พูดแทรกขึ้น
“น่าเสียดายนะที่ต้นกับดินทร์ไม่ได้มาด้วยกัน ไว้โอกาสหน้าเรามาเที่ยวด้วยกันครบทุกคนเลยเนาะ มิสยูน๊า ม๊วฟๆ” สนทยาส่งจูบให้
“จ้า” ภาสกรตอบรับส่งๆ ไม่รู้ว่าโอกาสนั้นจะมีเมื่อไร
“เฮ้ย มึงอย่าไปฟังพวกแม่งมาก” วรวิทย์หันกล้องกลับมาที่ตัวเองอีกครั้ง “แม่งล่อซื้อกูมาไง บอกว่าที่นี่มีดิสนี่ย์แลน์ กูก็เลยรีบให้แม่งจองตั๋วให้เลยน่ะสิ”
“มึงก็เลยติดกับดิสนี่ย์แลนด์อยู่เกาหลีที่ไหนล่ะ”
“ก็เออดิ เสียรู้จนได้ จะทิ้งตั๋วไม่มาก็เสียดาย เซงอยู่เนี่ย” วรวิทย์หน้าจ๋อย
“แถวบ้านกูเรียกว่าโง่เว้ย” ภาสกรหัวเราะเบาอย่างพอใจ “ไม่ยอมศึกษาให้ดีซะก่อน”
“เออ ไม่ต้องย้ำมาก” วรวิทย์คีบกิมจิเข้าปากอย่างเซงๆ “เบื่อจะตายอยู่แล้วเนี่ย ไปไหนก็เจอแต่กิมจิทุกมื้อ”
ติ๊ง... เสียงเตือนจากไมโคเวฟ
ภาสกรนึกขึ้นได้ว่าทำบะหมี่ทิ้งไว้ เขาเดินเข้าครัวไปจัดการนำชามบะหมี่ใส่จานรอง พร้อมกับหยิบตะเกียบ ไม่ลืมคว้าขวดน้ำเปล่าที่เหลืออยู่ออกมานั่งกินที่โต๊ะทำงาน
“นั่นมึงทำอะไรน่ะ” วรวิทย์ถามขณะเห็นควันไอร้อนผ่านกล้อง
“กูกำลังจะกินมาม่า” ภาสกรตั้งโทรศัพท์พิงกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตามด้วยคีบเส้นบะหมีขึ้นมาเป่าลดความร้อนก่อนจะนำเข้าปาก “และเดี๋ยวเร่งตัดงานให้ลูกค้าต่อ”
“ขยันจังนะมึง นี่มึงชอบกินมาม่าตั้งแต่เมื่อไรวะ สมัยเรียนมึงชอบด่ากูจังว่ากินแต่ของไม่มีประโยนช์”
“กูก็ไม่ได้ชอบ แต่มันหิว แม่งไม่มีอะไรให้กินไง”
“นี่มึงกำลังจะบอกกูว่า มึงยุ่งจนไม่มีเวลาซื้อของติดตู้เย็นไว้เลย”
ภาสกรพยักหน้า “ก็อะไรทำนองนั้นแหละ
“มึงนี่มัน...จริงๆเลย”
ภาสกรตั้งหน้าตั้งตากินบะหมี่ โดยไม่สนใจเพื่อนที่กำลังตั้งท่าจะบ่น
“เออไอ้ต้น สรุปแล้วตกลงงานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่าที่โรงเรียนอาทิตย์หน้ามึงจะมาหรือเปล่าวะ” วรวิทย์กลับเข้าเรื่องที่ตั้งใจติดต่อมาในวันนี้
“กูยังไม่แน่ใจว่ะ” ภาสกรตอบทันทีแบบไม่คิด “งานกูท่วมหัวท่วมหางไปหมด”
“มึงเบี้ยวพวกกูมาสองครั้งแล้วนะเว้ย”
“โห ต้น มาเถอะนะนะ” สนทยาส่งเสียงอ่อดอ้อน
“เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วนะ มาเถอะ” มุกดาช่วยสมทบ
“นั่นดิ งานนี้จัดแค่สองปีครั้งนะเว้ย ไอ้ดินทร์มันยังยอมแรกเวรเพื่อมางานนี้เลย มึงจะสละเวลาจากงานสักวันมาเจอเพื่อนหน่อยไม่ได้หรอวะ”
งานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่าเป็นอีกงานที่ทำเพื่อนฝูง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ได้มีโอกาสหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ซึ่งโรงเรียนที่พวกเขาจบมา จะจัดงานนี้ขึ้นทุกๆสองปีเท่านั้น
“ไม่แน่งานนี้มึงอาจได้เจอกับคนที่มึงอยากเจอก็ได้นะเว้ย”
“...” ภาสกรหยุดการเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ คีบเส้นบะหมี่ค้างอมไว้ในปากอยู่อย่างนั้น เมื่อวรวิทย์เผลอพูดเข้าตรงจุดอะไรบ้างอย่าง
คนที่เขาอยากเจอ...
ตั้งแต่เรียนจบมัธยม เขาและเพื่อนๆในกลุ่มก็ต่างแยกย้ายไปเรียนต่อตามเส้นทางของตัวเอง ได้พบเจอกันบ้างบางโอกาส หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยต่างคนก็ต่างมีหน้าที่การงานของตัวเอง เลยมีโอกาสได้พบเจอกันน้อยลง โชคดีที่ในยุคปัจจุบันมีสื่อโซเชียลมิเดียต่างๆ ให้ได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของกันและกันอยู่บ้าง คงจะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่เขาไม่สามารถติดต่อรับรู้ข่าวความเคลื่อนไหวของคนคนนั้นได้เลย ไม่ว่าจะหนทางไหนก็ตาม แต่เขาก็ยังเฝ้ารออยู่ทุกวันอย่างมีความหวัง
“ไอ้ต้น” วรวิทย์เรียกเพื่อนที่สนทนากันอยู่ดีๆก็แน่นิ่งไปเฉยๆ
“เออๆ” ภาสกรมีสติกลับคืนมา “กูไม่รับปากนะ แต่กูจะพยายามไปให้ได้ละกัน” ว่าเสร็จก็ยกขวดน้ำขึ้นกระดกดื่ม เหมือนจะอิ่มขึ้นมาทันที ทั้งที่พึ่งกินได้แค่ไม่กี่คำ “งั้นแค่นี้ก่อนนะ”
“นั่นไง มึงจะรีบไหนกูยังคุยไม่หายคิดถึงเลย”
“กูจะรีบเคลียงานให้เสร็จ แล้วจะได้ไปเจอพวกมึงไง แค่นี้นะ” ภาสกรกดตัดสายวีดีโอคอลทันที โดยไม่รอการตอบรับจากคู่สายสนทนา
คำพูดของวรวิทย์ยังคงดังแว่วอยู่ในหูตลอดเวลา ภาสกรละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ พาตัวเองออกมาผ่อนคลายสูบอากาศอยู่นอกระเบียงห้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองแสงไฟนับล้านดวงที่ส่องสว่างไสวแทนดวงดาวในยามราตรีสุดลูกหูลูกตา สายลมในเดือนธันวาคมพัดผ่านต้องผิวกายขาวละเอียดจนรู้สึกเย็นไปทั่วร่าง ความเหงาทวีกับความเงียบสงัดทำให้เขาหวนคิดถึงคนที่เพื่อนกว่าถึงขึ้นมาอย่างจับใจ
ภากรกลับเข้ามาในห้องทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนอย่างหมดเรี่ยวแรง คว้ากรอบรูปคู่ที่ตั้งอยู่ข้างเตียงขึ้นมาเพ้งมองร่างสูงโปร่งใบหน้ายิ้มยาก นานเท่าไรแล้วที่เขายังเฝ้ารอด้วยความหวังว่าคนในรูปจะกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง ก่อนจะกอดกรอบรูปไว้แน่น อยู่ๆหยดน้ำตาแห่งความโหยหาก็ทะลักออกมาอย่างไม่มีเหตุผล
... ผมคิดถึงพี่เหลือเกิน
ตอนที่4.1
เนื่องจากไม่สามารอัพตอนที่4ได้หมดในทีเดียว จิเลยขอเพิ่มตอนที่4.1 นะคะ
แสงอาทิตย์กำลังจะลาขอบฟ้า ภาสกรเดินทอดเท้าบนทางฟุตบาทเพียงลำพัง ขณะที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังป้ายรอรถโดยสารประจำทางฝั่งประตูทิศเหนือของโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน เจ้าลูกกลมๆสีส้มก็กลิ้งมาหยุดอยู่ที่เท้าของเขาเข้าพอดี ภาสกรก้มลงเก็บลูกบาสขึ้นมา หันซ้ายแลขวามองหาที่มาของลูกกลมๆสีส้มนี่ หวังส่งคืนผู้เป็นเจ้าของ แต่ก็ไร้วี่แววไม่เห็นมีใครสักคน ก่อนจะหันไปสบเข้ากับร่างสูงโปร่งในชุดนักกีฬาบาสเกตบอล วิ่งเหยาะๆมาจากสนามบาสเกตบอลที่อยู่ไม่ไกล มุ่งหน้ามาทางที่เขายืนอยู่อย่างหืดหอบ เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นทั่วร่างจนเปียกชุ่ม และใบหน้าคมเข้มที่เปลี่ยนเป็นสีเลือดฝาด
ตึก...ตึก!!! ตึก...ตึก!!! ตึก...ตึก!!! เสียงหัวใจของเขาเต้นรัวแรงอีกแล้ว กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ บวกกับกลิ่นกายความเป็นชายของคนตรงหน้าแตะเขาปลายจมูกอย่างหน้าหลงไหน จนต้องยืนนิ่งไปอัมพาตไปชั่วขณะ
“ขอลูกบาสคืนด้วยครับ” บูรภัทรกล่าวน้ำเสียงนิ่ง พร้อมกับยื่นมือไปรับลูกบาสเกตบอล ทว่ากับไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนที่ครองลูกบาสเกตบอลอยู่
“น้องครับ” น้ำเสียงดังขึ้นอย่างสุภาพ
“เออ..ครับ” คนครองลูกบาสเกตบอลมีสติกลับคืนมา
“ขอลูกบาสคืนด้วยครับ”
“...” ภาสกรส่งลูกบาสเกตบอลคือให้กับเขาทันที
เพราะไม่ทันได้ระวัง บูรภัทรเลยคว้าโดนที่ปลายนิ้วเรียวของรุ่นน้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ อยู่ๆใบหน้าหวานของคนตรงหน้าก็เปลี่ยนสีแดงขึ้นมาฉับพลันโดนไม่ทราบสาเหตุ ก้อนเนื้อใต้อกข้างซ้ายเต้นรัวซ้ำๆ คล้ายจะกระเด็นออกมาก็ไม่ปาน บูรภัทรไม่ลืมกล่าวขอบคุณ ก่อนจะหันหลังให้แอบจุดยิ้มมุมปากอย่างไม่มีที่มาที่ไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีไม่น้อย แล้ววิ่งกลับไปยังสนามบาสเกตบอลตามเดิม
“ไงไอ้ต้น มึงยังไม่กลับบ้านอีกหรอวะ หรือว่ารอกู” เสียงคุ้นหูจากทางด้านหลัง เรียกสติให้เขาหลุดออกจากภวังค์แล้วหันไปมอง เพื่อนสนิทในชุดนักบอล
“เปล่า พึ่งจัดพานเสร็จ กำลังจะกับนี่แหละ”
“โธ่ กูก็คิดว่ามึงรอกลับพร้อมกู แล้วเพื่อนคนอื่นล่ะ”
“กลับไปหมดแล้ว”
“เออ ป่ะกลับบ้านกันเดี๋ยวรถหมด” วรวิทย์เดินมาคว้าคอเพื่อนอย่างสนิทสนม แล้วเดินออกนอกรัวโรงเรียนไปพร้อมๆกัน
“ปกติมึงเลิกค่ำขนาดนี้เลยหรอวะ”
“วันนี้เลิกไวสุดแล้ว มึงดูพวกนักบาสดิยังไม่เลิกเลย”
ภาสกรหันมองไปยังสนามบาสเกตบอลที่เพื่อนบอก เห็นร่างสูงโปร่งกำลังเดาะลูกบอลเกตบอลไปมา แต่ก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรต่อ ปล่อยให้เพื่อนสนิทเดินกอดคออยู่อย่างนั้นจนออกนอกโรงเรียน
“กลิ่นไอ้วิทย์ ไม่หอมเหมือนกลิ่น...”
**********
“ต้นอาบน้ำอาบท่า แล้วลงมากินข้าวนะลูก” ผู้เป็นแม่ส่งเสียงร้องเรียงลูกชายคนโตของบ้านจากข้างล่าง วันนี้เธอทำกับข้าวหลายอย่างถูกปากคนในครอบครัว
“ครับแม่ เดี๋ยวต้นลงไป” ลูกชายขานรับ ขณะกำลังจัดตารางเรียนในวันพรุ่งนี้ใส่กระเป๋า
ภาสกรยืนหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกทีละเม็ด เขากำลังจะอาบน้ำและลงไปร่วมโต๊ะอาหารเย็นกับครอบครัว ขณะที่กำลังปลดกระดุมเม็ดสุดท้าย นัยน์ตาสีน้ำตาอ่อนก็สะดุดเข้ากับแผ่นกระดาษอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อนักเรียน เขาหยิบพลาสเตอร์ยาขึ้นมาพลางจุดยิ้มกว้างอย่างไม่มีเหตุผล มันเป็นเพียงแค่พลาสเตอร์ยาธรรมดาๆแผ่นหนึ่ง ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่าชิ้นอื่น ถ้าด้านหลังไม่มีลายมือบรรจงของใครบางคนเขียนว่า...
“ทำอะไรระวังหน่อยสิ”
**********
โอ้ย พี่เต้มีความเป็นห่วงน้อง
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์นะคะ 1 คอมเมนต์ = ล้านๆกำลังใจ
ฝากติด #Thememoryoflove #ครอบครัวตัวต่อ ด้วยนะคะ
พูดคุยติดตามอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายของฟูจิได้ที่
Fanpage (https://www.facebook.com/Fuji_Sakura-178593126049417/) และ Twitter (https://twitter.com/Fuji_Sakura15)
ตอนที่5.1
เนื่องจากไม่สามารอัพตอนที่5ได้หมดในทีเดียว จิเลยขอเพิ่มตอนที่5.1 นะคะ
“เสียงมะ มะ แมว” วรวิทย์กระโดดเกาะแขนเพื่อนเอาไว้แน่น ความรู้สึกปวดหนึบๆที่บั้นท้ายหายไปซะดื้อๆ
เหมี๊ยว!!! เหมี๊ยววว...
ภาสกรกวาดสายตามองหาที่มาของเสียงนั่น แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของเสียงนั้นจะปรากฏตัว “เหมี๊ยวววว เหมี๊ยวววว” เขาทำเสียงเรียนแบบเพื่อเรียกเจ้าของเสียงที่ซ่อนตัวอยู่ที่ไหนสักแห่งให้ออกมา “เหมี๊ยว” ทำเอารุ่นพี่ที่ช่วยกวาดสายตามองหาอีกแรง แอบหัวเราะเบาอย่างเอ็นดูในท่าทางความน่ารักของเขาไม่น้อย
“ไปเถอะมึง อย่าไปสนใจเลย” วรวิทย์เร่งเร้า เพราะเขาเคยมีอดีตฝั่งใจเกี่ยวกับแมวเป็นทุนเดิม
“เสียงเล็กขนาดนี้ ลูกแมวชัวส์มึงจะกลัวอะไรวะ”
“กูไม่ได้กลัว แต่กูแค่ไม่อยากเจอ” วรวิทย์คะยั้นคะยอให้เพื่อนไปจากตรงนี้ให้ได้ แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล
“เหมี๊ยว เหมี๊ยว” เขาส่งเสียงร้องอย่างต่อเนื่อง “เหมี๊ยว เหมี๊ยว ออกมาเร็ว”
“นั่นไง มันอยู่บนนั้น” ภัครชัยน้ำเสียงตื่นเต้น ชี้ไปที่เจ้าลูกแมวสีสวาดตัวน้อย ที่กำลังยืนสั่นอยู่บนกิ่งต้นจามจุรีเพราะหาทางลงไม่ได้
เหมี๊ยววว...
“หนีแม่มาเที่ยวไกลขนาดนี้เลยหรอ ไอ้ดื้อ” ภาสกรเงยหน้าคุยกับเจ้าลูกแมวตัวจ้อยพลางส่ายหัวอย่างระอา มันเป็นตัวเดียวกันกับที่เขาส่งคืนอ้อมอกของแม่เมื่อวานนี้ เขาจำมันได้เพราะห่วงเชือกที่คอของมัน เขาเป็นคนหามาผูกให้มันกับมือ ตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะซื้อปอกคอมาเปลี่ยนให้มัน
เหมี๊ยววว... เจ้าลูกแมวตัวน้อย ส่งสายตาอ้อนวนของความช่วยเหลือ ให้ช่วยพามันลงไปจากบนนี้ที
ภาสกรกวาดสายตามองหาสิ่งที่น่าจะเป็นตัวช่วยในการนำเจ้าลูกแมวตัวดื้อนี้ลงมาได้ เพราะกิ่งไม้ที่มันเกาะอยู่ก็สูงเกินกว่าที่ความสูงของคนจะเอื้อมถึง รอบบริเวรไม่มีอะไรที่จะเป็นตัวช่วยได้เลย นอกจากโต๊ะม้าหินอ่อนที่หนักเกินไป เขาแกะมือเพื่อนที่เกาะแขนเขาเอาไว้แน่นเหนียวหนึบราวกับตีนตุ๊กแกออก เดินไปที่ต้นจามจุรี หวังจะปีนไปช่วยเจ้าลูกแมวตัวน้อยลงมา เพราะนี่น่าจะเป็นหนทางเดียวที่พอจะทำได้ในตอนนี้ “ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวฉันจะช่วยแกลงมาเอง” ท่ามกลางการจับตามองของใครอีกคน ที่ปราบปลื้มในความอ่อนโยนที่แข็งแรงของเขาไม่น้อย
“ให้พี่ช่วยดีกว่า” ภัครชัยเดินตามหลังมาติดๆ อาสาปีนขึ้นไปพาเจ้าลูกแมวลงมาแทนรุ่นน้อง เขาตัวสูงกว่าคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เขาเองก็เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลกที่ตกทุกข์ได้ยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ภาสกรหันมองคนตัวสูงอย่างประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของคนตรงหน้า “ระวังด้วยนะครับพี่” ก่อนจะถอยให้ทางกับรุ่นพี่ ยืนค่อยให้กำลังใจอยู่ไม่ไกล
เหมี๊ยววว...
ในที่สุดรุ่นพี่ก็พาเจ้าลูกแมวตัวดื้อลงมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างปลอดภัย ภาสกรลูบหัวปลอบประโลมให้มันหายจากอาการหวาดกลัว “ขอบคุณครับ ถ้าไม่ได้พี่เจ้าเหมี๊ยวนี่คงแย่ ดูสิตัวมันยังสั่นไม่หายเลย”
“ไม่เป็นไร พี่ยินดี” ภัครชัยยิ้มเขินๆพลางลูบหัวเจ้าลูกแมวตัวดื้อไปด้วยอย่างเอ็นดู ทว่าสายตากลับจับจ้องที่แพขนตายาวของคนตรงหน้าไม่กระพริบ “แล้วเจ้าลูกแมวนี่มีชื่อหรือยัง”
“...” ภาสกรทำหน้าฉงนพลางส่ายหน้าเบาๆ
“พี่ขอตั้งชื่อให้มันได้ไหม?” คนที่อุ้มลูกแมวพยักหน้าย้ำๆ ยิ้มยินดี “ว่าแต่มันเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายล่ะ”
ภาสกรจับมันหงายท้อง “น่าจะผู้ชายนะครับ มันมีไข่ด้วย”
“เป็นผู้ชาย ชื่ออะไรดีน๊า...” คนตัวสูงนึกคิดอยู่ชั่วครู่ก็นึกออก “ซนแบบนี้ ชื่อ...เทอร์โบดีไหม”
“เทอร์โบ” ภาสกรประหลาดใจกับชื่อ แต่ก็ไม่ได้ขัดอะไร “ชื่อเท่ห์ไม่เบาเลย ชอบชื่อนี้ไหมเจ้าเหมี๊ยว”
เหมี๊ยววว... มันขานรับราวกับฟังภาษาคนออก สร้างเสียงหัวเราะให้กับทั้งคู่ได้ไม่น้อย
“แล้วจะเอาเจ้าเทอร์โบไปคืนแม่ของมันที่ไหนล่ะ”
“แม่และพี่น้องของมันอยู่ใต้บันใดอาคารสอง สงใสคราวนี้ต้องเอาโซ่มาล่ามไว้ซะแล้วล่ะ จะได้ไม่หนีออกมาเที่ยวอีก ครั้งก่อนก็ทีหนึ่งแล้ว” เขาค้อนเจ้าลูกแมวในอ้อมแขนตัวเอง “ยังไงผมขอตัวเอามันไปคืนให้แม่มันก่อนนะครับ จะได้รีบไปเรียนต่อด้วย” รุ่นพี่เพียงแต่พยักหน้าเป็นคำตอบ “ป่ะไอ้วิทย์” เขาหันไปหาเพื่อน ที่เมื่อครู่ยังยืนอยู่แถวนี้อยู่เลย ตอนนี้หายไปไหนซะแล้ว
“กูอยู่นี่”
ภาสกรแทบจะกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ รุ่นพี่ก็เช่นกัน เมื่อหันไปสบเข้ากับคนที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ใต้โต๊ะม้าหินอ่อน
“เฮ้ย มึงเข้าไปทำอะไรตรงนั้น” เขาหลุดหัวเราะออกมาจนได้ พาลให้รุ่นพี่ต้องหัวเราะตามไปด้วย
“หัวเราะอะไรกัน” วรวิทย์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้ดีเท่าไรนัก คลานออกมาจากใต้โต๊ะมาหินอ่อนอย่างทุลักทุเล เพราะอาหารปวดที่บั้นท้ายยังไม่หายดี “เฮ้ย!!! อย่าเข้ามานะเว้ย” เขายกมือขึ้นเป็นปางค์ห้ามญาติ ไม่ให้คนที่อุ้มลูกแมวเข้ามาใกล้
“อะไรของมึงเนี่ย กูยังไม่ได้ขยับอะไรเลย”
“เออ มึงอยู่ตรงนั้นแหละ” วรวิทย์ก้าวขยับอย่างระเวง “กูไม่ได้กลัว กูแค่ไม่อยากอยู่ใกล้ เข้าใจให้ตรงกันด้วย” พอรู้สึกว่าทางปลอดภัย ก็วิ่งแจ้นหายไปอย่างรวดเร็วลืมอาการปวดไปเลย ทิ้งให้เพื่อนกันรุ่นพี่มองหน้ากันอย่างงุนงง
“ไอ้วิทย์ นั่นมึง...”
“...”
“สงสัยมันจะกลัวแมวเข้าเส้นจริงๆ” ภาสกรหัวเราะเบาไหวหัวเล็กน้อย ก่อนจะหันไปคุยกับรุ่นพี่ “ยังไงผมขอตัวก่อนนะครับ”
“เออะ...เอ่อ เออ เดี๋ยวต้น” ภัครชัยส่งเสียงดัง เรียกรุ่นน้องที่กำลังเดินจากไป จนเจ้าของชื่อหยุดชะงักแล้วหันกลับมาอย่างกะทันหัน
“อะไรครับ” ภาสกรทำหน้าสงสัย
“กะ กะ กลางวันนี้ พี่ขอไปนั่งร่วมโต๊ะกินข้าวด้วยได้ไหม” ภัครชัยสีหน้ากังวลกับคำตอบไม่น้อย เขาขอมากเกินไปหรือเปล่า
ภาสกรครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ มองใบหน้าละห้อยของรุ่นพี่ ก่อนจะพยักหน้าแล้วเผยรอยยิ้มหวานส่งให้เป็นการตอบรับ ทำเอาโลกสีหมองของรุ่นพี่กลายเป็นสีสดใสขึ้นมาชับพลับ คล้ายกับตกอยู่ในภวังค์
“แล้วเจอกัน” ภัครชัยยิ้มกว้างไม่หุบ
รอยยิ้มหวานเมื่อครู่แทบจะหุบไม่ทันเมื่อหันมาสบเข้ากับร่างสูงโปร่งของใครบางคน ที่มีอิทธิพลต่อจังหวะการเต้นของหัวใจของเขา
เหมี๊ยววว... เจ้าเทอร์โบในอ้อมแขนส่งเสียงร้องที่ไม่ปราถนา อ้อนเรียกความสนใจให้คนที่มาใหม่หันมองที่มัน ตึก...ตึก!!! ตึก...ตึก!!! ตึก...ตึก!!! พาลให้เสียงหัวใจของเขาทำงานผิดจังหวะไปด้วย อยากจะทุ่มเจ้าลูกแมวตัวดื้อนี้ทิ้งเสียซะตรงนี้จริงๆ
“มาทำอะไรตรงนี้ ทำไมยังไม่ขึ้นเรียน” น้ำเสียงแข็งบวกกับใบหน้านิ่ง ทำให้คนที่อายุน้อยที่สุดต้องรีบหลุบตาลงต่ำในทันที นัยน์ตาคู่คมมองผ่านผมเส้นเล็กสีน้ำตาลเข้มของคนตรงหน้า ไปอย่างไม่สนใจเจ้าลูกแม่ขี้อ่อนในอ้อมแขนของรุ่นน้องตัวขาว ทั้งที่จริงแล้วเขาเองก็เอ็นดูในความหน้ารักของมันไม่น้อย ร่วมทั้งคนที่อุ้มมันด้วย อยากเอ่ยถามว่ามันมาจากไหนแล้วเข้าไปลูบหัวมันเบาๆ แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมต้องตีหน้ายักษ์ขนาดนี้
“เรียนสิ” คนด้านหลังตอบ “พอดีแวะมาเข้าห้องน้ำ”
ภาสกรเลิกลัก รีบก้าวเท้าออกจากตรงนี้อย่างรวดเร็ว เมื่อไม่มีบทของตัวเอง พาเจ้าเทอร์โบไปคืนแม่ของมันก่อนจะขึ้นเรียนในชั่วโมงต่อไป
“อืม” บูรภัทรเพียงแต่พยักหน้า หันมองตามแผ่นหลังบ้างงของรุ่นน้องด้วยสายตาที่นิ่งเฉย ยากที่จะอ่านออกอีกเช่นเคยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ “ตั้งใจเรียนและกัน” เขาหันกลับมาส่งเสียงดังให้กับน้องชายตัวเอง หวังว่ารุ่นน้องจะได้ยินไม่มากก็น้อย
“อืม งั้นผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ยังไม่ได้เข้าเลย”
บูรภัทรเพียงแต่พยักหน้าตอบกลับเท่านั้น ไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่ม แล้วเดินตามหลังน้องชายไปทำธุระส่วนตัวเช่นกัน
**********
ทำไมจิรู้สึกว่าพี่เต้ยดูน่ารักจัง ส่วนเจ้าวิทย์ก็ตลกมาก อมยิ้ม
ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์นะคะ 1 คอมเมนต์ = ล้านๆกำลังใจ
ขอบคุณนะคะ คุณ areenart1984 ที่ไม่ทิ้งจิเลย :mew1:
ฝากติด #Thememoryoflove #ครอบครัวตัวต่อ ด้วยนะคะ
พูดคุยติดตามอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายของฟูจิได้ที่
Fanpage (https://www.facebook.com/Fuji_Sakura-178593126049417/) และ Twitter (https://twitter.com/Fuji_Sakura15)