พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: ฟูจิซัน ที่ 05-01-2018 00:52:40

หัวข้อ: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 05-01-2018 00:52:40
***************************************************************************************
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทู้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็บแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็บ http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสต์จนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสต์ในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสต์หรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฎการซื้อขายของเล้าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสต์เรื่องสั้นให้มาโพสต์ที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสต์แรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*****************************************************************************************





I'm So Sorry
พี่ผมเป็นเฮดว๊าก





ไอ้เด็กนั่นน่ะหรอ? ลูกเมียน้อยพ่อกูเอง

ขอบคุณที่มาให้กูขยี้

มันจะทนได้ซักเท่าไหร่


"แม่ของมันทำให้แม่ของกูเจ็บปวด กูจะส่งคืนความเจ็บปวดไปกับมันด้วยมือของกูเอง"



:L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน1 Game On Up.05/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 05-01-2018 00:54:41


- ตอนที่.1 : Game On -



...วันแรกของการเปิดเทอม ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านชานเมือง หลังจากเสร็จสิ้นการเรียนในช่วงเช้าและบ่าย กิจกรรมต่อไปของเด็กปีหนึ่งทุกๆคนนั่นก็คือ "การเข้าเชียร์" และที่คณะเทคโนโลยีการเกษตรนี้ก็เช่นกัน กิจกรรมการเข้าเชียร์ได้เริ่มขึ้นเป็นวันแรก ในขณะที่เด็กปีหนึ่งกำลังโดนพี่ๆปีสองต้อนเข้าแถวเพื่อเตรียมตัวมาเข้ากิจกรรมเชียร์ ภายในห้องประชุมลับที่ลานเชียร์ก็มีบรรดาพี่ว๊ากมาเตรียมตัวเพื่อต้อนรับน้องๆของพวกเขาเช่นกัน


ธนวิน พิสุทธิไพศาลสกุล หรือ วิน นักศึกษาชั้นปีที่สาม ผู้ดำรงตำแหน่ง สต๊าฟปกครอง ซึ่งถือเป็นตำแหน่งสูงสุดบนลานเชียร์ เดินเข้ามาในห้องด้วยมาดนิ่งขรึม ตามสไตล์ ร่างสูงชะลูด185เซนติเมตร อยู่ในชุดเสื้อนักศึกษาแขนสั้นนุ่งทับในกับกางเกงยีนส์สีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว พร้อมกับทรงผมหวีข้างที่ถูกใส่เจลและหวีจนเรียบร้อยอันเป็นระเบียบการแต่งกายของสต๊าฟว๊ากทุกๆคนของคณะเทคโนโลยีการเกษตร ผิวขาว หน้าตาหล่อสะอาด สายตาคมกริบรับกับจมูกโด่งๆนั้นได้เป็นอย่างดี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้ชายที่สาวๆทั้งมหาวิทยาลัยใฝ่ฝันอยากจะควงเป็นแฟน ชายหนุ่มหยุดยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าบรรดาสต๊าฟว๊ากทุกๆคนพร้อมกับไล่สายตามองทีมสต๊าฟว๊ากของตัวเอง เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย

"สต๊าฟ แถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งแยกชั้นปีมาหาข้าพเจ้า" เขาออกปากสั่งสต๊าฟทุกๆคนด้วยน้ำเสียงดังและหนักแน่น สิ้นเสียงคำสั่ง บรรดาสต๊าฟที่อยู่ตรงหน้า ต่างก็รีบมาเข้าแถวหน้ากระดานแยกชั้นปีตามคำสั่งของสต๊าฟปกครอง

หลังจากนั้นเขาก็อธิบายกฏและหลักการทำงานในวันแรกของการเปิดกิจกรรมเชียร์ในวันนี้ให้ทุกคนได้รับทราบและเข้าใจทั่วกัน อีกไม่กี่นาที หน้าที่อันทรงเกียรติที่เขาได้รับ ก็จะเริ่มขึ้นแล้ว "สต๊าฟปกครอง"


"สู้ๆนะเว้ย ไอ้วิน พี่เชื่อว่ามึงทำได้" ไหล่หนาของวินถูกตบเบาๆจากพี่ต้น ผู้เป็นสต๊าฟปกครองเมื่อปีที่แล้ว และยังเป็นพี่รหัสของวินอีกด้วย


"ครับพี่ต้น ปีนี้สนุกแน่" ชายหนุ่มตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆที่มุมปากและสายตาแข็งกร้าวเมื่อเขานึกถึงคนคนนึงขึ้นมา




อีกด้านหนึ่งที่ลานกิจกรรมหน้าคณะ บรรดารุ่นพี่ปีสองก็จัดการพาน้องๆปีหนึ่งในภาควิชาของตัวเองมานั่งเข้าแถว เพื่อเตรียมตัวเข้าไปรับ "สมุดเชียร์" ซึ่งเป็นกิจกรรมแรกของการเข้าเชียร์ในปีนี้ รุ่นพี่ต่างก็สอนน้องๆในการรายงานตัวเพื่อเข้ารับสมุดเชียร์จากสต๊าฟว๊าก

"ทุกๆคนคงจำการรายงานตัวที่พี่ๆสอนได้แล้วนะคะ เดี๋ยวพี่จะให้เพื่อนออกมารายงานตัวให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ โอเคค่ะ น้องคนนั้นออกมารายงานตัวให้เพื่อนๆดูเป็นตัวอย่างหน่อยค่ะ"

รุ่นพี่ชี้มือมาที่วิก ธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล หรือ วิก เขาลุกจากแถวแล้วเดินไปอยู่ด้านหน้าเพื่อนๆ

ร่างสูง180ในชุดนักศึกษาถูกระเบียบ ผิวขาว ดวงตากลมโต คิ้วเข้ม จมูกโด่งรับกับปากบางได้รูปที่มีไรหนวดขึ้นอ่อนๆ ใบหน้าหล่อเหลานั้นสะกดสายตาทุกคนเมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้า


เสียงฮือฮาดังขึ้นมาจากในแถวที่เพื่อนๆนั่งอยู่ เพราะหน้าตาที่หลอเหลาของวิก


"ขออนุญาตรายงานตัวครับ" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับยกแขนขวาขึ้นแนบหู


"ผม นายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช  ชั้นปีที่หนึ่ง ชื่อเล่นวิก ครับ"

เขากล่าวคำรายงานตัวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นตามแบบที่รุ่นพี่สอนมา


"น้องคนนี้โคตรหล่ออ่ะ"


"เออ หล่อวายวอดจริงๆ เอ๊ะ..แต่เราว่า นามสกุลน้องเค้าคุ้นๆนะว่ามะ พิสุทธิไพศาลสกุล"


รุ่นพี่สองคนพูดกันถึงนามสกุลของวิก


"นามสกุลเดียวกับพี่วิน สต๊าฟปกครองไง มึงดูดิ หน้าตาก็คล้ายๆกันด้วย หรือว่าจะเป็นน้องชายพี่วิน"


"เออ มีเค้าๆ น่าจะใช่ หล่อทั้งพี่ทั้งน้องเลยเนอะบ้านนี้"


วิกเองตอนนี้เขาก็รู้สึกประหม่าเมื่อยืนต่อหน้าคนเยอะๆ เขารอว่าเมื่อไหร่รุ่นพี่จะสั่งให้กลับไปนั่งที่


"โอเคค่ะ น้องวิกทำดีมาก เพื่อนๆทุกคนดูเป็นตัวอย่างแล้วพูดรายงานตัวให้ได้อย่างน้องวิกนะคะ ปรบมือให้น้องวิกหน่อยค่ะ เข้าไปนั่งที่ได้ค่ะน้องวิก"

เขายกมือไหว้ขอบคุณรุ่นพี่แล้วก็กลับเข้าไปนั่งที่


"เฮ่ย กูมะกอกนะ ยินดีที่ได้รู้จัก" เพื่อนที่นั่งข้างๆหันมาทำความรู้จักกับวิก เขาส่งยิ้มให้เพราะรู้สึกตลกกับชื่อ มะกอก ของเพื่อน

"เออ กู วิกนะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน มึงนี่ชื่อตลกดีนะ ไอ้กอก"

"เชี่ย เรียกมะกอกเถอะ เรียกกอกเฉยๆ ยังกะลูกกรอก กูแสลงใจ ฮ่าๆ" เพื่อนใหม่พูดบอกเขาพร้อมกับหัวเราะร่วนกับชื่อของตัวเอง


หลังจากนั้นก็มีตัวแทนสต๊าฟว๊ากเดินออกมาสองคน มายืนต่อหน้านักศึกษาใหม่ทุกๆคน ทุกคนพากันเงียบ พร้อมๆกับกลุ่มของรุ่นพี่ที่พาพวกเขามาก็ถอยร่นออกไปยืนข้างๆ ทิ้งน้องๆปีหนึ่งอย่างพวกเขาไว้กับสต๊าฟว๊ากสองคนตรงหน้า


"เอาหล่ะครับ กิจกรรมแรกของการเข้าเชียร์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ผมจะมาบอกกติกากับพวกคุณ"


"สมุดเชียร์ คือสิ่งแรกที่พวกคุณจะได้รับ แต่ก่อนที่จะได้รับสมุดเชียร์ ผมจะปล่อยพวกคุณเดินไปทีละแถว เพื่อไปดูรายชื่อของตัวเองที่ติดอยู่ตรงกระดานดำ ดูว่าตัวเองอยู่กลุ่มที่เท่าไหร่ แล้วรีบวิ่งเข้าไปในลานเชียร์ ที่นั่นจะมีสต๊าฟแยกตามกลุ่มรอพวกคุณอยู่"


"ทุกคนฟังให้ดีนะครับ เพราะผมจะพูดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น"


"หลังจากรู้ว่าตัวเองอยู่กลุ่มที่เท่าไหร่ คุณก็วิ่งไปที่ลานเชียร์ มองหาป้ายกลุ่มของตัวเองแล้วก็เข้าไปรายงานตัวกับสต๊าฟที่กลุ่มของคุณ ผมหวังว่าพวกคุณคงจะกล่าวรายงานตัวกันเป็นหมดทุกคนแล้วใช่มั้ยครับ"


"ใช่ครับ/ใช่ค่ะ"


"หลังจากคุณกล่าวรายงานตัวสต๊าฟก็จะให้สมุดเชียร์แก่พวกคุณ นักศึกษาผู้ชายให้นำสมุดเชียร์เสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อด้านหน้า ส่วนนักศึกษาผู้หญิงให้ถือสมุดเชียร์ด้วยมือขวา แล้วรีบวิ่งออกมา หลังจากนั้นก็เชิญกลับบ้านหรือกลับหอได้เลยครับ"


"กิจกรรมในวันนี้ก็มีเพียงเท่านี้ ทุกคนรับทราบ"


"รับทราบครับ/รับทราบค่ะ"


"เชี่ย ทำไมสต๊าฟดุจังวะ" มะกอกพูดขึ้นมาเบาๆ แต่ก็ทำให้วิก ที่นั่งข้างๆได้ยิน


"เอาน่า อดทนหน่อยมึง อย่ากลัวดิ" เขาพูดพร้อมกับตบไหล่ปลอบใจเพื่อนใหม่


"กูขอให้ได้อยู่กลุ่มเดียวกับมึงนะไอ้วิก"


"เออๆ" เขาพยักหน้า ส่งยิ้มให้กำลังใจเพื่อน


เพื่อนๆทยอยลุกเดินไปดูรายชื่อ แล้วก็รับสมุดเชียร์ แถวของวิกอยู่เกือบท้ายๆก็รอนานหน่อย จนมาถึงคิวของแถววิก สต๊าฟเดินมาบอกให้พวกเขาลุกขึ้น แล้วก็เดินไปดูรายชื่อที่กระดานดำ ต่างคนก็ต่างเบียดกันเข้าไปเพื่อจะหารายชื่อของตัวเอง อากาศช่วงบ่ายที่ร้อนอบอ้าว ทำให้วิกมีเหงื่อซึมนิดๆ หน้าแดงระเรื่อเพราะอากาศที่ร้อน


"ไอ้วิก มึงกับกูอยู่กลุ่มเดียวกันว่ะ บังเอิญชิบ นี่ไง ชื่อมึง ธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล กลุ่ม11 เหมือนกูเลย ป่ะไปเอาสมุดเชียร์กัน" นายมะกอกหันมาพูดกับวิกด้วยความดีใจ พร้อมกับจับมือลากวิกออกมาจากตรงนั้น พากันวิ่งไปยังลานเชียร์


เสียงเอะอ่ะโวยวายดังออกมาจากลานเชียร์ เพื่อนๆที่ได้รับสมุดเชียร์ต่างก็เดินสวนเขาออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก แต่วิกก็คิดในแง่ดีอาจจะเพราะอากาศที่ร้อนก็เป็นได้ถึงได้ทำให้เพื่อนๆหน้ามุ่ยออกมาเช่นนั้น

เมื่อใกล้ถึงลานเชียร์วิกกับมะกอกก็พากันวิ่งขึ้นไปบนลานเชียร์พร้อมกับมองหาป้ายกลุ่มที่11 และแล้วเขาก็เจอกลุ่มที่11 ที่ตรงนั้นมีสต๊าฟยืนอยู่สามคน วิกสูดหายใจลึกๆเพื่อตั้งสติก่อนที่จะเดินไปต่อแถว ในขณะที่นายมะกอกนั้นไปยืนต่อแถวอยู่ก่อนหน้าเขาแล้ว หลังจากมะกอกรายงานตัวจนได้รับสมุดเชียร์ ก็ถึงคิวของวิก โดยที่มะกอกก็ยืนรอเขาอยู่


"ยืนรออะไรครับคุณ ได้สมุดเชียร์แล้วก็กลับไปซะ" สต๊าฟคนนึงหันไปตะเบงเสียงใส่มะกอก ทำเอาเจ้าตัวตกใจจนต้องวิ่งออกไปจากลานเชียร์


"อ่าวคุณ จะยืนเงียบอีกนานมั้ยครับ จะเอามั้ยสมุดเชียร์อ่ะ" สต๊าฟอีกคนหันมาตะโกนเสียงดุใส่วิก เขาจึงรีบก้าวเท้าออกไปยืนต่อหน้าสต๊าฟแล้วทำการกล่าวรายงานตัวตามที่ได้ซ้อมมา


หลังจากรายงานตัวเสร็จ สต๊าฟก็ยื่นสมุดเชียร์ให้กับวิก ยังไม่ทันที่สมุดเชียร์จะถึงมือของเขาก็มีคนมาคว้าไปซะก่อน


 ร่างสูงปรากฏตัวต่อหน้าวิก พร้อมกับสมุดเชียร์ในมือ "กลับไปตรงทางเข้าแล้ววิ่งเข้ามาต่อแถวใหม่" เสียงเข้มทุ้มจากคนที่มาใหม่ออกคำสั่งเขา วิกก็เลยต้องวิ่งออกจากลานเชียร์เพื่อกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง

เจ้าของคำสั่งมองตามร่างสูงที่วิ่งออกไปจากลานเชียร์พร้อมกับรอยยิ้มเยาะ เขาเปิดสมุดเชียร์ในมือดูชื่อเจ้าของ "ธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล"


"ขอบคุณนะที่มาให้กูขยี้ถึงที่ ไอ้วิก" วินพูดออกมาเบาๆก่อนที่จะปิดสมุดเชียร์เล่มนั้นพร้อมกับรอยยิ้มนิดๆที่มุมปาก

.
.
.
.

Game On !!
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน1 Game On Up.05/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 05-01-2018 08:43:47
หืม เรื่องนี้มันก็จะแนว incest หน่อยๆ
เอาใจช่วยน้องวิก พี่วินอย่าร้ายกับน้อง  :hao5:
ติดตามน้า  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน1 Game On Up.05/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 05-01-2018 09:37:45
น้องวิก...ขุ่นพี่จะปราณีน้องไหม??? แลดูจะหนักหน่วง  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน1 Game On Up.05/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 05-01-2018 14:45:37
ยังไงๆ มีปมอะไรระหว่างวิน วิก  :hao3:
พี่น้องคนละแม่ใช่ไหม
 
วิน ขยี้วิก เดี๋ยวตัวเองก็ถูกขยี้ด้วยนะ แค่เป็นถูกขยี้ที่ใจ
ไฟของการเจ็บแค้นพยาบาทที่สุมอยากแก้แค้น
มันก็ทำให้ตัวเองไม่มีความสุขไปด้วย   :mew2:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re:++[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน1 Game On Up.05/Jan/18++
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 06-01-2018 01:17:24



- ตอนที่.2 : รุ่นพี่ปริศนา -




"ขออนุญาตรายงานตัวครับ ผมนายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ชั้นปีที่1 ชื่อเล่นวิก ครับ"


รอบที่3
.
.
.

"ขออนุญาตรายงานตัวครับ ผมนายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ชั้นปีที่1 ชื่อเล่นวิก ครับ"


รอบที่4
.
.
.
"ขออนุญาตรายงานตัวครับ ผมนายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ชั้นปีที่1 ชื่อเล่นวิก ครับ"


รอบที่5
.
.
.
"ขออนุญาตรายงานตัวครับ ผมนายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ชั้นปีที่1 ชื่อเล่นวิก ครับ"
.
.
.
.
.
รอบที่10

"ขออนุญาตรายงานตัวครับ ผมนายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ภาควิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช ชั้นปีที่1 ชื่อเล่นวิก ครับ"


วิก โดนสั่งให้วิ่งมารายงานตัวเป็นรอบที่สิบ เขาหวังว่ารอบนี้คงจะได้รับสมุดเชียร์ซักที เพราะตอนนี้บนลานเชียร์นั้นไม่เหลือเพื่อนๆซักคนแล้ว มีเพียงเด็กหนุ่มคนเดียวเท่านั้นที่ยังคงวิ่งเข้าออก มารายงานตัวเพื่อรับสมุดเชียร์ตามคำสั่งของรุ่นพี่คนนึงที่จู่ๆก็มายึดสมุดเชียร์ของเขาไป


บนลานเชียร์สตาฟจากกลุ่มอื่นๆต่างก็มายืนรวมตัวกันอยู่ตรงกลุ่ม11 เพื่อดูการรายงานตัวของวิก ทำให้เขารู้สึกประหม่าและกลัว หัวใจเริ่มเต้นแรงเพราะความเหนื่อยจากการที่ต้องวิ่งเข้าออกหลายๆรอบ และเริ่มเจ็บคอจากการที่ต้องตะโกนรายงานตัวให้เสียงดังตามคำสั่งของรุ่นพี่ปริศนาคนนั้น


"มึงเสียงดังได้แค่นี้หรอ จะเอามั้ย สมุดเชียร์เนี่ย"


"เห่ย พูดกับน้องดีๆ" เพื่อนคนนึงออกปากปรามรุ่นพี่ปริศนาคนนั้นที่ตอนนี้มีท่าทีเกรี้ยวกราด จนเขารู้สึกกลัวแทบไม่ได้มองหน้ารุ่นพี่คนนั้นเลย


"ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ กลับไปวิ่งเข้ามาใหม่ ผมจะนับหนึ่งถึงสิบ ถ้าคุณวิ่งเข้ามาไม่ทัน ก็กลับไปมือเปล่าไม่ต้องเอาสมุดเชียร์" รุ่นพี่ปริศนาคนนั้นปรับน้ำเสียงให้ทุ้มลง แต่นั่นก็ยังทำให้วิกกลัวอยู่ดี


"หนึ่ง"


"สอง"


ไม่ต้องรอให้ถึงสาม วิก หันหลังวิ่งกลับออกไปยังทางเข้าลานเชียร์ตามคำสั่งของรุ่นพี่ปริศนาผู้เกรี้ยวกราดคนนั้น



วูบบบบบบบบบบบบบบบบบบ......!!!!!!



"ไอ้วิน มึงเล่นน้องมันหนักไปเปล่าวะ ปล่อยมันกลับไปเถอะ"


"ผมก็ว่างั้นอ่ะครับพี่วิน น้องมันจะไม่ไหวเอานะพี่ วันแรกก็โดนซะขนาดนี้"


"พวกมึงเงียบไปเลย กูรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ อย่าขัดความสนุกของกู อ่ะฝากเอาสมุดเชียร์ให้มันด้วย" วินบอกเพื่อนและรุ่นน้องก่อนที่จะวางสมุดเชียร์ของวิกลงบนโต๊ะ แล้วก็เดินกลับเข้าไปในห้องประชุมสตาฟ



"สตาฟคะ มีน้องเป็นลมอยู่ตรงทางเข้าค่ะ ช่วยมาอุ้มน้องหน่อยค่ะ"


"เหี้ยแล้วววว....!!" สตาฟกลุ่ม11 รู้ในทันทีว่าน้องที่เป็นลม ต้องเป็นไอ้เด็กหน้าหล่ออย่างวิกแน่ๆ ต่างก็พากันวิ่งกรูออกมา สตาฟคนนึงช้อนร่างสูงของวิกที่นอนไม่ได้สติอยู่ขึ้นมาแล้วก็พาเข้ามาบนลานเชียร์ ก่อนที่จะวางร่างของวิกลง หลังจากนั้นก็เป็นหน้าที่ของพี่ๆสตาฟพยาบาลที่เข้ามาดูแลวิก


ส่วนวิน หลังจากเปิดเกมส์สนุกของเขากับน้องชายต่างมารดาแล้ว เขาก็เข้ามานั่งเงียบๆอยู่ในห้องประชุมลับของสต๊าฟ ชายหนุ่มหวนคิดถึงในวันหนึ่ง วันนั้นเป็นวันฉลองอายุครบ10ขวบของเขา ในขณะที่เขากำลังมีความสุขอยู่กับแม่ พี่ชายและพี่สาว จู่ๆพ่อของเขาก็พาเด็กผู้ชายคนนึงเข้ามาในบ้าน และร่วมเป่าเทียนวันเกิดพร้อมกับวิน เด็กคนนั้นก็คือ วิก  ลูกชายอีกคนของพ่อที่เกิดจากภรรยาน้อย ในวันและเดือนเดียวกันกับวินแต่เกิดหลังวินสองปีนั่นเอง จากงานวันเกิดที่มีความสุขกลายเป็นงานที่ทำให้พ่อกับแม่ต้องทะเลาะกัน เขายังจำได้ถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้ดี เพราะไอ้เด็กเหี้ยคนนั้นทำให้แม่ของวินแอบกินยาฆ่าตัวตาย และก็จากวินไปตั้งแต่เขาอายุ10ขวบ แต่เพราะพ่อรักและเกรงใจแม่ ก็เลยไม่ได้พาเมียน้อยกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน อย่างไรก็ตามวินก็รู้ว่าพ่อก็ยังส่งเสียเมียน้อยและลูกชายคนนั้นมาโดยตลอด จนเขาโตขึ้นก็เริ่มสืบหาว่าเมียน้อยและลูกชายอีกคนของพ่อนั้นอยู่ที่ไหน จนได้รู้ว่า วิก กำลังจะมาเข้าเรียนที่คณะเดียวกับเขา การแก้แค้นในวันที่ทำให้แม่ของเขาเจ็บปวดและจากไปจึงเริ่มขึ้น เขาคิดว่ามันช่างเป็นโอกาสที่ดีที่วิกเข้ามาหาถึงที่และทำให้การแก้แค้นนั้นง่ายขึ้นไปอีก โดยการใช้กิจกรรมเข้าเชียร์เป็นเครื่องมือนั่นเอง


"หึ เกมส์ของกูกับมึงมันเริ่มขึ้นแล้วไอ้วิก" วินพูดกับตัวเองพร้อมกับกำมือทั้งสองข้างจนแน่น


"พี่วินครับ ไอ้น้องคนเมื่อกี้เป็นลมอยู่ข้างนอกครับพี่"


"ก็ให้สตาฟพยาบาลดูแลสิวะ แค่นี้มันไม่ตายหรอก" เขาหันมาตวาดรุ่นน้องที่วิ่งเข้ามาบอก ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นยิ้มเยาะน้อยๆด้วยความสะใจ


แค่เริ่มต้นมึงก็จะตายแล้วหรอวะ อยู่ให้กูเล่นนานๆสิไอ้วิก  วินคิดในใจ



"ถ้าน้องเป็นหนักจะส่งโรงพยาบาลไหมครับพี่"


"ไม่ต้องถึงโรงพยาบาลหรอก แค่นี้มันไม่ตายหรอกน่า ปล่อยให้สตาฟพยาบาลดูแลไป ส่วนมึงไปเรียกสตาฟมารวมในห้องจะได้ประชุมสรุปงานกัน"



"ครับๆพี่"



สตาฟพากันเข้าไปในห้องประชุมลับ บนลานเชียร์ในตอนนี้เหลือแต่สตาฟพยาบาลผู้หญิงกับผู้ชายคอยเฝ้าดูแลวิกอยู่ ร่างสูงของเด็กหนุ่มยังคงนอนหลับ กระดุมเสื้อและเนกไทถูกปลดออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทและหายใจสะดวกขึ้น



"เธอๆ เธอว่ามะ น้องคนนี้หน้าตาคล้ายๆพี่วินเลยเนอะ" สตาฟพยาบาลผู้หญิงพูดขึ้นพร้อมกับจับยาดมจ่อตรงจมูกของวิก


"อือ เห็นแว้บแรกเรานึกว่าน้องชายพี่วินซะอีก แต่ก็น่าจะใช่นะ ดูดินามสกุลเดียวกันเลย" สตาฟพยาบาลผู้ชายพูดพร้อมกับเปิดสมุดเชียร์ให้เพื่อนดูชื่อและนามสกุลของวิก



"แล้วทำไมพี่วินแกถึงแกล้งน้องตัวเองแบบนี้อ่ะ"


"อืมมม...อันนี้ก็ไม่รู้สินะ อาจจะเป็นแค่ญาติๆกันก็ได้มั้ง หรืออาจจะไม่ใช่ญาติเลยก็ได้ คนนามสกุลเหมือนกันแต่ไม่เคยรู้จักกันมีเยอะไปนะเธอ"


"แต่ชื่อก็คล้ายๆกันด้วยนะเธอ พี่วินชื่อ ธนวิน ส่วนน้องคนนี้ชื่อ ธนวิก ยังกับพี่น้องกันเลย"


"พี่ครับ ผมหิวน้ำ" วิกค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับส่งเสียงแหบพร่า ขอน้ำดื่มจากรุ่นพี่


"อุ้ย..!! น้องฟื้นแล้ว หิวน้ำหรอครับ รอเดี๋ยวนะเดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะครับ"



"ไม่ต้อง...!!"


"ฟื้นแล้วก็ออกไปจากลานเชียร์ได้แล้ว" วินเดินออกมายืนมองร่างที่ยังคงนอนหงายอยู่ตรงหน้าแล้วก็ออกปากไล่ให้ออกไปจากลานเชียร์


เด็กหนุ่มพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งแล้วก็เงยหน้ามองรุ่นพี่ปริศนาตรงหน้า ที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาแข็งกร้าวเช่นกัน เขาได้เห็นหน้าของรุ่นพี่ปริศนาคนนั้นชัดๆก็ตอนนี้เอง และรู้สึกว่าตัวเขาเองกับรุ่นพี่ปริศนาคนนี้มีใบหน้าที่คล้ายกันมากจนเขาเองก็แปลกใจ


"มองหน้าผมทำไมครับ จะเอาเรื่องผมหรอ เชิญเลย ไปแจ้งตำรวจก็ได้นะ"


วิกก้มหน้าหลุบตาลงกับพื้น เขาตั้งสติ แต่หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นมา


"ผมบอกให้คุณกลับไปได้แล้วไงครับ" เสียงจากคนที่ยืนควบคุมเขาอยู่ดังขึ้นอีกครั้ง


"ครับพี่" วิกพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแล้วก็พาตัวเองลุกขึ้น ค่อยๆเดินออกมาจากลานเชียร์


วินมองตามร่างสูงนั้นพร้อมกับรอยยิ้มเยาะที่มุมปาก


เด็กหนุ่มก้มมองสมุดเชียร์เล่มสีเขียวที่เสียบอยู่ในกระเป๋าเสื้อตรงหน้าอก เขาหยิบมันออกมาแล้วก็ยิ้มอย่างภูมิใจ อย่างน้อยเขาก็ได้รับสมุดเชียร์เหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆแล้วในตอนนี้



"น้องครับๆ นี่น้ำครับ อ่ะค่อยๆกินนะ" พี่สตาฟพยาบาลวิ่งตามวิกมาแล้วก็ยื่นน้ำเปล่าขวดเล็กๆให้กับเขา


"ขอบคุณครับพี่" เด็กหนุ่มพูดขอบคุณพี่สตาฟพยาบาลแล้วก็รับขวดน้ำมาเปิดกิน


"กลับไหวหรือเปล่าครับ น้องอยู่หอไหน ให้พี่ไปส่งไหมครับ" พี่สตาฟพยาบาลถามวิกด้วยความเป็นห่วง


"ไหวครับพี่ ผมกลับเองได้ครับ ขอบคุณนะครับ" เด็กหนุ่มพูดแล้วก็ผละออกมาจากตรงนั้น เขาเดินมาเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบเพราะรู้ตัวเองว่าเพิ่งฟื้นจากอาการเป็นลม



"ไอ้วิก ทำไมมึงช้าจังวะ" เสียงหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับร่างของมะกอกที่โผล่ออกมายืนอยู่ตรงหน้าเขา


"แล้วนี่ทำไมสภาพมึงถึงได้เป็นแบบนี้วะ ใส่กระดุมดีๆก่อน เนกไทก็หลุดลุ่ย ใครทำอะไรมึงวะเนี่ย" มะกอกเข้ามาติดกระดุมเสื้อให้กับวิกพร้อมกับจัดเนกไทให้เพื่อนใหม่ของเขา


"ไม่มีไรหรอก"


"ไอ้วิก มึงมีอะไรก็บอกกูได้นะ มึงเป็นเพื่อนในคณะคนแรกของกูเลยนะเนี่ย"


"เออ กูไหว ไม่มีไรหรอก แล้วนี่ทำไมมึงยังไม่กลับบ้านอ่ะเนี่ย ออกมาตั้งนานละ"


"ก็รอมึงไง นี่ถ้ากูไม่โดนสตาฟบ้านั่นไล่ออกมาก็คงรอมึงอยู่ในลานเชียร์นั่นแหล่ะ แม่ง ทำไมต้องตะคอกด้วยก็ไม่รู้ ตกใจหมด" มะกอกบ่นสตาฟให้เพื่อนฟัง วิกก็หัวเราะกับคำพูดของมะกอก


"อืม ขอบใจนะมึงที่อุตส่าห์อยู่รอกู"


"เออ ไอ้วิก"


"อืม มีไร"


"มึงอยู่หอหรืออยู่บ้านวะ"


"หอ"


"หอไหนอ่ะ"


" วี อพาร์ทเม้นต์ ตึก บี"


"โห...ไฮโซชิบ"


"ทำไมวะ" วิกหันไปถามเพื่อนด้วยความสงสัย


"ก็หอนั้นอ่ะแพงชิบ มึงอยู่คนเดียวหรอ"


"อือ"


"เชรดดดด รวยนี่หว่า"


"ไม่รวยหรอกน่า แม่กูหาให้อ่ะก็เลยต้องอยู่ แต่มันก็โอเคนะ แล้วมึงอ่ะอยู่ไหน"


"อยู่บ้านใกล้ๆคณะเรานี่แหล่ะ บ้านกูเป็นร้านข้าว มึงไปกินข้าวบ้านกูก่อนไหมหล่ะ มื้อนี้กูเลี้ยงเองในฐานะที่มึงเป็นเพื่อนคนแรกของกูในคณะ แล้วเดี๋ยวกูขี่มอไซค์ไปส่งมึงที่หอ โอเคมะ" มะกอกเสนอความคิดเห็น


"อือ ก็ดีเหมือนกัน" วิกบอกมะกอก หลังจากนั้นมะกอกก็พาวิกเดินไปยังบ้านของเขาซึ่งรั้วติดกับคณะที่ทั้งสองคนเรียนอยู่ ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึง


เข้าไปในรั้วบ้านของมะกอก มีต้นมะขามใหญ่ดูร่มรื่นมาก บ้านเป็นบ้านสองชั้นชั้นล่างเป็นปูนชั้นบนเป็นไม้ทาสีขาวสะอาดตา ที่ชายคาด้านหน้าของบ้านต่อหลังคายื่นออกมาเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง แต่ก็มีครบทั้งก๋วยเตี๋ยวและข้าว ซึ่งพ่อและแม่ของมะกอกเป็นทั้งพ่อครัวและแม่ครัวช่วยกันขาย อีกทั้งเป็นร้านที่อยู่ใกล้คณะเทคโนโลยีการเกษตรที่สุด จึงมีนักศึกษาจากคณะนี้แวะเวียนมากินข้าวกันทุกวัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาที่ร้านนี้ เพราะถึงแม้จะอยู่ใกล้กับคณะแต่ก็ยังถือว่าอยู่ในที่ไม่ค่อยมีคนอื่นรู้ว่ามีร้านข้าวอร่อยๆอยู่ตรงนี้ คนที่มากินก็คือเด็กๆที่ทำกิจกรรมของคณะบอกต่อๆกันมาเท่านั้น มะกอกเองก็พอจะคุ้นเคยกับรุ่นพี่ที่คณะอยู่บ้างเพราะบางวันเขาก็มาช่วยเสิร์ฟอาหารดูแลลูกค้า


"พ่อครับ แม่ครับ สวัสดีครับ" มะกอกเดินเข้าไปสวัสดีพ่อกับแม่ที่ง่วนอยู่กับการทำอาหารให้ลูกค้า


"นี่ไอ้วิก เพื่อนใหม่ของผมเองครับ" เขาแนะนำวิกให้พ่อกับแม่รู้จัก วิกก็ยกมือไหว้พ่อกับแม่ของมะกอก


"สวัสดีจ่ะลูก มาๆกินข้าวกันก่อน จะกินอะไรเขียนมาเลยเดี๋ยวแม่ทำให้นะ" แม่ของมะกอกหันมาบอกทั้งสองคน



"ไอ้วิกมึงจะนั่งข้างในหรือข้างนอก"


"ข้างนอกก็ได้ ลมพัดเย็นดี" วิกพูดแล้วมองไปยังโต๊ะกินข้าวที่ตั้งอยู่บริเวณใต้ร่มเงาต้นมะขามใหญ่


"เออๆ โอเค งั้นรอกูแป้บ เดี๋ยวกูเอาข้าวไปเสิร์ฟให้ลูกค้าโต๊ะนู้นก่อน" มะกอกพูดแล้วก็เดินหยิบถาดที่พ่อวางข้าวเอาไว้ข้างในไปส่งให้ลูกค้าที่โต๊ะด้านนอก



"เห้ย ไอ้วิก กูว่ามึงเข้าไปกินข้างในบ้านกับกูดีกว่า" มะกอกพูดพร้อมกับเอามือมาดันตัววิกให้เข้าไปในบ้าน


"ทำไมวะ" เด็กหนุ่มหันไปถามเพื่อนด้วยอาการ งงๆ


"เออน่า เชื่อกู กินข้างในแหล่ะ"


มะกอกพูดจบ วิกก็เห็นนักศึกษากลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา คุ้นตาว่าเป็นพวกสตาฟว๊ากของคณะนั่นเอง


"นั่นไง มากันแล้ว ไปเข้าไปข้างในกูไม่อยากนั่งกินข้าวกับพวกสตาฟว่ะ" มะกอกพูดพร้อมกับดันตัววิกเข้าไปในบ้าน


เด็กหนุ่มเข้ามาในบ้าน แต่ก็ยังแอบมองออกไปข้างนอก เห็นกลุ่มสตาฟกำลังเดินเข้ามาสั่งอาหาร


รุ่นพี่ปริศนาคนนั้นก็เดินมาในกลุ่มนั้นด้วย มาดที่นิ่งขรึม หน้าตานิ่งๆเหมือนกับไร้วิญญานเดินเข้ามาที่หน้าร้าน


"ไอ้....." เพื่อนคนนึงหันมาถามรุ่นพี่ปริศนาของวิก


"เห่ย"   ยังไม่ทันที่เพื่อนจะเอ่ยชื่อ เสียงทุ้มต่ำของรุ่นพี่ปริศนาคนนั้นก็หันไปดุเพื่อน


"เออๆ โทษทีว่ะ ของมึงไข่เจียวเหมือนเดิมใช่มะ" เพื่อนคนนั้นถามรุ่นพี่ปริศนา คนโดนถามก็พยักหน้าให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย


"ทำไมต้องห้ามเรียกชื่อด้วยอ่ะ" เด็กหนุ่มพูดขึ้นมาเบาๆด้วยความสงสัย แล้วก็มองไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ที่หน้าร้าน เขาเห็นรุ่นพี่ปริศนาคนนั้นเดินออกไป ก่อนที่ร่างสูงนั้นจะย่อตัวลงไปอุ้มแมวตัวนึงที่เดินผ่านมา แล้วก็ลูบหัวเจ้าแมวตัวนั้นที่อยู่ในอ้อมกอด


ทำไมอ่อนโยน ผิดกับที่ลานเชียร์เลยวะ    วิกพูดในใจ ที่เห็นภาพตรงหน้า


"มึงจะกินไร กูจะออกไปบอกแม่ให้ทำให้" มะกอกเดินมาถามวิกหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว


"ข้าวไข่เจียว"


"ไข่เจียวหมูสับหรอ"


"ไม่ๆ ไข่เจียวอย่างเดียวไม่ต้องใส่อะไรเลย"


"เอ้อ..มึงนี่เนอะ กินง่ายดี" มะกอกบอกวิกแล้วก็หัวเราะชอบใจ


"เออ กูชอบแบบนี้แหล่ะ ของโปรดกูเลย"


"ดีๆเลี้ยงง่ายแบบนี้พี่ชอบ รอแป้บเดี๋ยวกูเจียวไข่ให้มึงกินเองเลย รับรองอร่อยจนลืมไม่ลง" มะกอกบอกเพื่อนแล้วออกไปนอกร้านด้วยท่าทีหวาดระแวง เพราะกลัวเจอสตาฟ วิกก็ขำกับท่าทีของเพื่อนที่กลัวสตาฟ เขาเดินเข้าไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่


ตั้งแต่จำความได้ วิกก็รู้ว่าเขาอยู่กับแม่เพียงสองคนที่คอนโดหรูขนาดสองห้องนอนใจกลางกรุงเทพฯ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน เขาเรียนในโรงเรียนเอกชนที่ค่าเทอมแพงและมีชีวิตค่อนข้างจะดี แม่ของเขาก็ทำงานในบริษัทใหญ่โตใกล้ๆคอนโดที่เขาอยู่มีรถขับไปรับ-ส่งเขาที่โรงเรียน จะมีนานๆครั้งที่ผู้ชายคนนึงจะมาหาและพาวิกกับแม่ออกไปกินข้าว ไปเดินห้าง ซื้อของเล่นให้ พาไปเที่ยวสวนสนุก แต่นั้นก็เป็นช่วงวัยเด็กที่วิกจำความได้ และแม่ก็ไม่ได้บอกว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใครจนวิกโตผู้ชายคนนั้นก็ไม่ค่อยได้มาหาอีก เด็กหนุ่มเคยถามแม่ แต่แม่ก็ไม่ยอมพูดอะไรจนเขาเลิกถามไปเอง และคิดว่าชีวิตนี้แค่มีแม่ก็พอแล้ว ส่วนเรื่องนามสกุลที่ไม่เหมือนกับนามสกุลของแม่ แม่บอกแค่ว่าเขาใช้นามสกุลของคุณปู่ โดยที่ไม่ได้พูดถึงพ่อเลย


วิกคุยโทรศัพท์กับแม่เสร็จ ข้าวไข่เจียวฝีมือของมะกอกก็วางลงตรงหน้าของเขาพอดี เขาไม่ได้เล่าให้แม่ฟังถึงเรื่องเหตุการณ์รับสมุดเชียร์ในวันนี้เพราะกลัวว่าแม่จะเป็นห่วง


"ไงมึง หอมอ่ะดิ กินเลย จะได้รู้ว่าฝีมือกูอร่อยแค่ไหน" มะกอกบอกกับวิกพร้อมกับนั่งลงตรงข้ามกับเขา แล้วลงมือกินข้าวในจานของตัวเอง


"อื้ม อร่อยว่ะ ฝีมือใช้ได้นะเนี่ยมึงอ่ะ ทำให้กูกินบ่อยๆนะ" วิกเงยหน้ามาพูดชมมะกอกแล้วก็ก้มหน้ากินข้าวต่อ ทำเอาคนเจียวไข่ยิ้มแกล้มปริ ที่ได้รับคำชมจากเพื่อน


ทั้งสองคนนั่งกินข้าวด้วยกันพร้อมกับแลกเบอร์โทร ไลน์ เฟซบุ๊คกันไว้เรียบร้อย


หลังจากกินข้าวเสร็จ มะกอกก็ออกไปสำรวจที่หน้าบ้านแล้วก็เข้ามาหาวิก


"พวกสตาฟไปกันหมดแล้ว เดี๋ยวกูไปส่งมึงที่หอนะ" มะกอกบอกวิกแล้วก็พาเขาออกมาข้างนอก วิกเดินไปสวัสดีพ่อกับแม่ของมะกอกแล้วก็ซ้อนมอเตอร์ไซค์ของมะกอกเพื่อกลับหอ


ที่หน้าทางเข้า วี อพาร์ทเม้นต์ วิกลงจากรถแล้วก็ขอบคุณมะกอกที่มาส่ง


"ขึ้นไปดูห้องกูก่อนป่าวไอ้กอก"


"เชี่ย กูบอกให้เรียกมะกอก"


"เออๆ มะกอกก็มะกอก ฮ่าๆ" วิกหัวเราะออกมาที่เห็นมะกอกทำหน้ามุ่ยใส่เขา


"กูต้องกลับไปช่วยพ่อแม่เก็บร้านว่ะ ไว้วันหลังจะมานอนกับมึงนะ ได้ใช่ป้ะ"


"ได้เสมอ" วิกบอกมะกอกพร้อมกับพยักหน้าแล้วก็ยิ้มให้


"งั้นกูกลับก่อนนะ เจอกันที่คณะพรุ่งนี้ เออ แล้วมึงไปคณะไงวะ ที่นี่ไกลจากคณะเราอยู่นะ" มะกอกถามเพื่อนเรื่องการเดินทางไปคณะ


"จริงๆก็เดินไปได้นะ เรื่อยๆ แต่หน้าหอก็มีรถสองแถวผ่าน สบายๆ"


"ซื้อจักรยานซักคันดิวะ"


"เออ คิดอยู่เหมือนกัน มึงกลับเถอะ ขับรถดีๆนะมึง พรุ่งนี้เจอกัน"


มะกอกพยักหน้าให้วิก แล้วก็ขับมอเตอร์ไซค์กลับไป วิกยืนดูมะกอกจนลับตา แล้วเขาก็หันหลังเดินกลับเข้าหอ


-------------------------------------









หัวข้อ: Re: ++[เรื่องสั้น] I'mSoSorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.2 รุ่นพี่ปริศนา Up.06/Jan/18++
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 06-01-2018 09:40:36
พี่วินอ่อนโยนกะน้องเหมียวอย่างเดียวว่างั้น  :catrun:
หัวข้อ: Re: ++[เรื่องสั้น] I'mSoSorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.2 รุ่นพี่ปริศนา Up.06/Jan/18++
เริ่มหัวข้อโดย: yunnutjae ที่ 06-01-2018 10:17:50
คือเข้าใจว่าแค้นนะ แต่แบบก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาปะปนกับกิจกรรมอะไรอย่างนี้ไหมอะ ในเมื่อตัวเองมีศักดิ์เป็นพี่ว๊าก ที่สั่งให้น้องทำอะไรก็ได้  :z6: ทำไมอิน...สงสารวิกล่วงหน้าเลย  :เฮ้อ: ดราม่าหนักแน่  :hao5: อิพี่วินทำไรไม่อ่อนโยนนนนน  :katai1:
หัวข้อ: Re: +[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.2 รุ่นพี่ปริศนา Up.06/Jan/18+
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 08-01-2018 11:40:23



- ตอนที่.3 : กิจกรรมพิเศษ -



ตึ้งตึ่ง...ตึ้งตึ่ง...ตึ้งตึ่ง


เช้าวันนี้วิกถูกปลุกด้วยเสียงไลน์จากเพื่อนใหม่อย่างมะกอก ที่ส่งข้อความไลน์มาปลุกเขาแต่เช้า ก่อนที่นาฬิกาของวิกที่ตั้งปลุกไว้ตอน 6.30 นาฬิกาจะส่งเสียงเตือนซะอีก เด็กหนุ่มงัวเงียยื่นแขนออกมาจากใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วก็ควานหาโทรศัพท์มือที่วางไว้บนโต๊ะข้างๆหัวเตียงนอน


"ใครวะ ไลน์มาแต่เช้า" เขาพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้นมาดูข้อความไลน์บนหน้าจอโทรศัพท์


Line Makok : ไอ้คุณวิกครับ ตื่นหรือยังครับ

Line Makok : ให้กูไปรับมากินข้าวที่บ้านไหมครับ

Line Makok : อ่าว เงียบบบบ...??


เด็กหนุ่มอ่านข้อความไลน์แล้วก็ยิ้มออกมา


Line Vicc : เออ ตื่นแล้ว ตื่นเพราะเสียงไลน์มึงนี่แหล่ะ

Line Makok : โถ่ กูคงปลุกมึงเช้าไป ขอโทษคร้าบ

Line makok : ไง ให้กูไปรับมากินข้าวมั้ย?

Line Vicc : ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูกินที่ร้านใต้หอกูเนี่ย เจอกันที่ห้องเรียนละกัน ขอบใจนะ

Line Makok : เออๆ อย่าสายหล่ะมึง แล้วอย่าลืมสมุดเชียร์ด้วยหล่ะ

Line Vicc : คร้าบบบ ไม่ลืมครับผม^^


หลังจากจบการสนทนากับมะกอก วิกก็บิดขี้เกียจแล้วลุกลงจากเตียงไปอาบน้ำ ทั้งๆที่ยังเหลือเวลานอนได้อีก แต่เขาก็นอนไม่หลับแล้วเพราะโดนมะกอกปลุกแต่เช้า เด็กหนุ่มอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินลงมากินข้าวที่ร้านใต้หอที่เขาพักอยู่ ถึงแม้ว่าที่พักของเขาจะเรียกว่าเป็นอพาร์ทเม้นต์ แต่เขาก็ชอบที่จะเรียกว่าหอมากกว่า เพราะให้ความรู้สึกว่าเป็นเด็กหอ ดีกว่า เด็กอพาร์ทเม้นต์ วิกสังเกตว่า นักศึกษาหลายๆคนที่อยู่ที่นี่มักจะมีรถยนต์ขับหรือไม่ก็มอเตอร์ไซค์ แต่เขาไม่มี ไม่ใช่ว่าขับไม่เป็น เพียงแต่คิดว่าที่นี่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะตอนที่แม่พามาหาที่พัก เขาเห็นว่าที่นี่มีรถสองแถวผ่าน แถมมีวินมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าซอยทางเข้าหอด้วย การเดินทางสะดวกสบาย เลยไม่จำเป็นต้องเอารถยนต์หรือมอเตอร์ไซค์มาใช้ ส่วนเรื่องจักรยานที่มะกอกแนะนำเมื่อวาน เขาเองก็กำลังคิดอยู่ว่าน่าจะมีไว้ใช้ซักคัน


"ข้าวไข่เจียวจานนึงครับ"


"ไข่เจียวหมูสับหรอคะ"


"ไม่ใส่หมูสับครับ ไข่เจียวอย่างเดียว"


"อ๋อ โอเคคะ กินง่ายจังเลยเนอะเราเนี่ย นั่งรอที่โต๊ะนะคะเดี๋ยวพี่เอาไปให้ค่ะ"


วิกยิ้มให้พี่สาวที่รับออร์เดออยู่หน้าร้านแล้วก็เดินมานั่งที่โต๊ะรอข้าวไข่เจียวของโปรดของเขา





ในครัวของร้านข้าว มีบทสนทนาถึงข้าวไข่เจียวของวิก


"เจ้าวินกลับมาแล้วหรอเนี่ย"


"ยังไม่กลับมานะพ่อ หนูไม่เห็นน้องวินมากินข้าวเลยนะพักนี้"


"อ้าว แล้วนี่ข้าวไข่เจียวของใครหล่ะ ไข่เจียวเปล่าๆเหมือนที่เจ้าวินชอบกินเลย"


"ของน้องที่มาอยู่ใหม่อ่ะพ่อ แต่ดูๆไปหน้าตาคล้ายๆน้องวินเลยนะพ่อ"


"หรอ ไหนๆคนไหน"


"นั่นไง นั่งอยู่โต๊ะ2"


"เอ้า โต๊ะประจำเจ้าวินเค้าเลย เห็นโต๊ะ2 ทีไรก็นึกถึงเจ้าวินทุกที โต๊ะอื่นก็ไม่นั่งด้วยนะเจ้านั่นน่ะ"


"นี่ก็เปิดเทอมมาตั้งหลายวันละ ไม่เห็นมากินข้าวเลย"


"เปิดเทอมแรกๆกิจกรรมก็เยอะแบบนี้แหล่ะพ่อ เดี๋ยวหมดกิจกรรมก็กลับมาแหล่ะ ลูกค้าคนโปรดของพ่อน่ะ"


"ใครบอกคนโปรดของพ่อ คนโปรดของแม่แกมากกว่าหล่ะไม่ว่า ลูกวินอย่างโน้น ลูกวินอย่างนี้ หึหึ"


"อะไร ใครเจอเจ้าวินละหรอ อยู่ไหนหล่ะ"


"นั่นไง พูดถึงก็มาเลย ไปๆเอาข้าวไปให้น้องเค้า หิวแย่ละมั้ง"


"ไหนหล่ะเจ้าวินน่ะพ่อ"


"ไม่มีหรอกเจ้าวินของแม่น่ะ มีแต่น้องเจ้าวิน แม่ออกไปดูสิ พ่อว่าหน้าคล้ายๆกันอยู่นา แถมนั่งโต๊ะ2 สั่งข้าวไข่เจียวเปล่าๆเหมือนเจ้าวินเปี๊ยบเลย"


"เอ้อ เหมือนกันแฮะ เหมือนมาก"




วิก หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เดินออกไปรอขึ้นรถสองแถวที่หน้าหอ รถสองแถวจอดส่งที่ทางเข้าคณะ หลังจากนั้นเขาก็เดินเข้าคณะไปที่ห้องเรียน


"ไอ้วิก มาๆคุยกับเพื่อนใหม่กันหน่อย" มะกอกผละจากกลุ่มเพื่อนที่ตัวเองยืนคุยอยู่ มากอดคอลากวิกเข้าไปในกลุ่มนั้นด้วย


"นี่ไอ้วิก เพื่อนคนแรกของเราเอง เข้าเชียร์กลุ่มเดียวกัน" มะกอกจัดการแนะนำวิกให้เพื่อนๆได้รู้จัก ทำเอาเด็กหนุ่มวางตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มแหยๆ


"สวัสดีครับ เราชื่อวิกนะครับ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ"


"นี่ไงวิก เจอตัวแล้ว วันที่รับสมุดเชียร์อ่ะเราเห็นเธอวิ่งเข้าวิ่งออกตั้งหลายรอบ เกิดอะไรขึ้นหรอ" เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเอ่ยปากถามวิกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน


"อ๋อ เมื่อวานนี้หรอ เราก็ไม่รู้อ่ะครับ อยู่ๆก็มีพี่สตาฟคนนึงมาเอาสมุดเชียร์ของเราไปแล้วสั่งให้เราวิ่งรายงานตัวสิบรอบ"


"ห้ะ สิบรอบ!!" เพื่อนๆที่อยู่ในกลุ่มพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน วิกเองก็ได้แต่พยักหน้า


"ใช่ครับ สิบรอบ เหนื่อยมาก"


"เราดิ ยืนรอมันตั้งนาน ตอนแรกรอบนลานเชียร์ โดนสตาฟไล่ออกมา ก็เลยมารอข้างนอก พอไอ้วิกออกมาสภาพแม่งเละเทะ กระดุมหลุดลุ่ย" มะกอกบอกเพื่อนๆ


"โห....สตาฟจะโหดไปไหนเนี่ย แล้วทำไมถึงโดนมึงแค่คนเดียววะไอ้วิก" เพื่อนผู้ชายถามวิก


"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ" วิกตอบเพื่อน เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงโดนสตาฟสั่งให้ทำอย่างนั้นอยู่คนเดียว


"อาจารย์มาแล้ว ป่ะเข้าเรียนกัน" เสียงเพื่อนคนนึงพูดขึ้น


หลังจากการเรียนในภาคเช้าเสร็จสิ้น วิกและเพื่อนๆก็พากันมากินข้าวที่โรงอาหาร


"มึง มีสตาฟนั่งกินข้าวอยู่ด้วยว่ะ" มะกอกหยุดเดินแล้วก็พูดกับวิก


"ก็ช่างสตาฟดิ เราก็ไปกินของเรา มึงกลัวไรเนี่ย" วิกถามมะกอก เมื่อหันไปเห็นสีหน้าของเพื่อนที่ทำเหมือนไม่อยากเข้าไปกินข้าวในโรงอาหาร


"ไปกินข้าวบ้านกูมั้ย เดินแป้บเดียวเอง" มะกอกเอ่ยปากชวนวิกไปกินข้าวที่บ้าน


"กินที่นี่แหล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา เพื่อนๆก็เข้าไปกินกันทั้งนั้น ป่ะๆ" วิกพูดแล้วก็กอดคอมะกอกเข้าไปในโรงอาหาร


ที่โรงอาหารนี้เป็นโรงอาหารขนาดเล็กเพราะตึกที่วิกไปเรียนไม่ใช่ตึกใหญ่ของคณะ มีร้านข้าวสองร้านกับร้านก๋วยเตี๋ยวหนึ่งร้านแล้วก็ร้านขายน้ำ เพียงเท่านั้น แต่ก็มีคนมากินเยอะเพราะอยู่ในคณะ ไม่ต้องเดินไกล


"ร้านข้าวมีแค่นี้เอง จะมีไข่เจียวให้มึงกินหรอวะ" มะกอกหันมาถามวิก


"ไม่มีกูก็กินอย่างอื่นได้ ไม่ต้องห่วงกูหรอก" วิกบอกมะกอกแล้วก็เดินไปที่ร้านข้าว เขามองอาหารที่เรียงรายอยู่ในถาดตรงหน้า ไม่มีไข่เจียวอยากที่มะกอกพูดจริงๆ แต่ก็มีกุนเชียงทอดที่เขาพอจะกินได้


"เอากุนเชียงทอดอย่างเดียวครับ" วิกบอกกับคนที่ตักข้าว คนตักข้าวเงยหน้าขึ้นมามองหน้าวิกแล้วก็มองที่สมุดเชียร์สีเขียวที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของวิก ก่อนจะหันไปหลังร้านหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมาดู แล้วก็หันมาตักข้าวให้คนอื่นโดยที่ไม่สนใจวิกเลย


"อะไรวะ ทำไมไม่ตักข้าวให้เนี่ย" วิกบ่นออกมาเบาๆ แล้วก็เดินไปร้านข้างๆที่เป็นข้าวมันไก่ข้าวหมูแดง


"ข้าวหมูแดงจานนึงครับ" วิกออกปากสั่งข้าวหมูแดง คนที่ขายข้าวก็ทำแบบเดียวกันกับเมื่อกี้ ไม่สนใจสิ่งที่วิกสั่ง


"เอาข้าวหมูแดงจานนึงครับ" วิกสงบอารมณ์แล้วก็สั่งข้าวอีกรอบ เผื่อเมื่อกี้คนขายอาจจะไม่ได้ยินที่เขาพูด แต่ก็ยังโดนเมินเฉยเช่นเดิม เขาเดินออกมาจากร้านนั้น เหลือแต่ร้านก๋วยเตี๋ยวแล้วในตอนนี้ ไม่มีทางเลือกเขาเดินไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งคนเยอะมาก มะกอกเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวออกมาจากร้านพอดี


"อ่าว ไอ้วิก ยังเลือกไม่ได้หรอว่าจะกินอะไร"


"อือ มึงไปหาโต๊ะนั่งรอกูก่อนเลยเดี๋ยวตามไป" วิกบอกมะกอก โดยที่ไม่ได้เล่าเรื่องที่สองร้านนั้นไม่ขายข้าวให้ ให้มะกอกฟัง


เด็กหนุ่มยืนต่อคิวที่ร้านก๋วยเตี๋ยว ในระหว่างนั้นเขาเห็นว่าคนขายข้าวหมูแดงเดินมาคุยกับคนทำก๋วยเตี๋ยวแล้วก็หันมามองทางวิก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไร จนถึงคิวเขาก็สั่งก๋วยเตี๋ยว


"เส้นใหญ่ต้มยำครับ"


"ใหญ่ยำหมดครับ"


"งั้นเอา...."


"คนต่อไปสั่งเลยครับ" เสียงคนขายพูดแทรกขึ้นมา โดยที่ไม่สนใจวิก เด็กหนุ่มก็เหวอไปเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ เขาถอนหายใจแล้วก็เดินออกมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว พลางคิดในใจว่าทำไมคนขายไม่ยอมขายก๋วยเตี๋ยวให้เขา รวมถึงร้านข้าวด้วย เหลือร้านน้ำแล้วในตอนนี้ ถ้าร้านน้ำไม่ขายให้ คงต้องมีอะไรซักอย่างที่ไม่ชอบมาพากลแน่ๆ


วิกเดินกลับไปหามะกอกพร้อมกับน้ำอัดลมหนึ่งขวด


"อ่าว ข้าวมึงอ่ะไอ้วิก" มะกอกเงยหน้ามาถามวิกด้วยสีหน้าสงสัย


"ร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ยอมขายให้วิก" เพื่อนผู้หญิงที่ตามมาทีหลังพร้อมกับชามก๋วยเตี๋ยวบอกกับเพื่อนๆที่โต๊ะ ว่าเธอเห็นเหตุการณ์ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวทั้งหมด


"อ้าว ยังงี้ก็ได้หรอ"


"แล้วทำไมไม่ขายให้วิกคนเดียวหล่ะ"


"ไอ้วิกมึงจะกินไรเดี๋ยวกูไปซื้อมาให้" มะกอกพูดด้วยน้ำเสียงโมโห


"นี่แสดงว่าร้านข้าวสองร้านนั้นก็ไม่ยอมขายให้มึงใช่ป้ะ เดี๋ยวกูลุยเอง"


"เห่ยๆ มะกอกใจเย็นๆก่อน" เพื่อนๆช่วยกันห้ามปรามมะกอกที่ตอนนี้ออกอาการโมโหแทนวิกมากๆ


"ไม่เป็นไรเดี๋ยวกินตอนเย็นทีเดียวก็ได้ กว่าจะไปซื้อเสียเวลา"


"ไม่กินข้าวแล้วจะเอาแรงที่ไหนไปเข้าเชียร์หล่ะวิก"


"รอแป้บ เดี๋ยวกูจัดการให้" มะกอกพูดแล้วก็เดินไปที่ร้านข้าว


วิกหันไปมองตามมะกอก กลัวว่าเพื่อนจะไปโวยวายใส่ร้านข้าว มะกอกกลับมาพร้อมกับข้าวราดกะเพราหมูสับพร้อมไข่ดาว


"อ่ะ ไม่มีไข่เจียวกินไข่ดาวแทนไปก่อนนะมึง" มะกอกวางจานข้าวตรงหน้าวิก เขาขอบคุณมะกอกแล้วก็จ่ายเงินค่าข้าวให้มะกอก

วิกนั่งกินข้าวไป ในใจก็คิดว่าทำไมคนขายข้าวถึงได้เฉยเมยและไม่ขายข้าวให้กับเขา ตัวเองจะโวยวายก็ไม่ใช่นิสัยของเขา อีกทั้งยังเป็นแค่เด็กปีหนึ่งก็เลยไม่กล้าทำอะไรมาก


"พรุ่งนี้ไม่ต้องมากินข้าวที่นี่ ไปกินที่บ้านกู เขาไม่ขายให้ก็ไม่ต้องมากิน" มะกอกบอกกับวิก เขาก็พยักหน้าเข้าใจ


"มะกอกใจดีเนอะชวนวิกไปกินข้าวที่บ้านด้วย"


"บ้านมะกอกเป็นร้านขายข้าว ก๋วยเตี๋ยวก็มี พวกเธอไปกินด้วยกันไหมหล่ะครับ ใกล้ๆคณะนี่เอง" วิกเอ่ยปากชวนเพื่อนๆ


"อร่อยด้วยนะ เดี๋ยวเราให้พ่อกับแม่คิดราคาพิเศษเลยสำหรับเพื่อนๆ" มะกอกบอกเพื่อนๆ


"เออ ดีๆ พรุ่งนี้ไปกินข้าวกลางวันที่บ้านไอ้กอกกัน" เพื่อนผู้ชายพูดขึ้น


"พูดชื่อเต็มเถอะครับ มะกอก เรียกไอ้กอก มันแสลงหู ฮ่าๆ" มะกอกบอกเพื่อนแล้วก็หัวเราะ


"มะกอก นี่ถือว่าชื่อแปลกนะ บอกได้ป่าวว่าทำไมชื่อมะกอก" เพื่อนคนนึงถามขึ้นมา


"อ๋อ เรามีพี่น้องสามคน คนโตพี่ชายเราชื่อมะขาม คนที่สองพี่สาวเราชื่อมะนาว ส่วนเราคนสุดท้อง แม่บอกว่าตอนแพ้ท้องชอบกินมะกอก เลยตั้งชื่อว่ามะกอก เรื่องราวก็เป็นมาอย่างนี้แล ฮ่าๆ" มะกอกเล่าถึงที่มาของชื่อเล่นตัวเองให้เพื่อนๆฟังแล้วก็หัวเราะ


วิกนั่งคุยกับเพื่อนๆในช่วงพักเที่ยง ก็ทำให้เขาลืมเรื่องตอนที่ซื้อข้าวไป กับเพื่อนๆตอนนี้ก็เริ่มรู้จักกัน สนิทกันบ้างแล้ว โดยเฉพาะกับมะกอก เพื่อนคนแรกของเขา หลังจากเรียนเสร็จในช่วงบ่าย ตอนสี่โมงครึ่งก็เป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นอีกครั้ง เพราะรุ่นพี่ปีสองมารอรับพวกเขาเพื่อเตรียมตัวเข้ากิจกรรมเชียร์ วันนี้เป็นวันแรกที่กิจกรรมเชียร์เริ่มอย่างเป็นทางการ ในสมุดเชียร์มีเพลงประจำคณะ ให้น้องๆปีหนึ่งร้อง ซึ่งก็จะมีสตาฟร้องเพลงมาร้องให้ดูเป็นตัวอย่าง บรรยากาศบนลานเชียร์นั้นเสียงดังอึกทึก จากเสียงของสตาฟว๊าก ที่มายืนล้อมพวกเขา หลังจากสตาฟร้องเพลงลงจากเวทีไป


"สตาฟร้องเพลงสอนเพลงแรกให้พวกคุณแล้ว ผมจะดูว่าพวกคุณจะจำและร้องตามได้หรือเปล่า" เสียงทุ้มดังมาจากบนเวทีตรงหน้า วิกเงยหน้าขึ้นไปมอง ปรากฏว่าคนที่พูดก็คือคนคนเดียวกับรุ่นพี่ปริศนาที่สั่งให้เขาวิ่งรับสมุดเชียร์สิบรอบเมื่อวานนี้


"ทุกคนหยิบสมุดเชียร์ขึ้นมาครับ ผมอนุญาตให้พวกคุณดูเนื้อเพลงแล้วร้องตามได้ แต่ต่อไปคุณจะต้องร้องโดยที่ไม่ต้องดูตามสมุดเชียร์นะครับ"


"เพลงเกษตรรำพัน หนึ่ง สอง สาม"


หลังจากที่รุ่นพี่ปริศนาของวิกพูดจบ น้องๆที่นั่งอยู่กลางลานเชียร์ก็ร้องเพลงพร้อมกัน แต่ก็ยังร้องได้ไม่ดีนัก ทำให้สตาฟที่ยืนรอบๆต้องเข้ามากดดันอีกครั้ง



"อะไรกัน เพลงง่ายๆแค่นี้กลับจำกันไม่ได้"


"จะต้องให้สตาฟร้องเพลงออกมาสอนอีกกี่รอบครับ"


"สมองไม่มีกันเลยหรือไง เพลงแค่นี้ยังจำไม่ได้"


"จะต้องให้ไปกินหญ้าแทนวัวแทนควายมั้ยครับ ถึงจะจำกันได้"


เสียงรุมด่าจากสตาฟว๊าก ทำเอาเพื่อนๆหลายๆคนตกใจกลัว วิกเองก็เช่น กิจกรรมเชียร์ที่เขากำลังเจออยู่ในตอนนี้มันคนละแบบกับในความคิดของเขาเลย


ถึงเวลาพักครึ่งแรกของกิจกรรมเชียร์ สตาฟสวัสดิการก็ให้น้องๆปีหนึ่งลุกเดินเป็นแถวไปเข้าห้องน้ำ และดื่มน้ำที่ทางสตาฟสวัสดิการเตรียมไว้ให้ ส่วนสตาฟว๊ากในตอนนี้หายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้


ในห้องประชุมลับของสตาฟ


"พี่วินครับ วันนี้ให้เรียกนักศึกษากิจกรรมพิเศษเลยหรอครับ"


"อืม ใช่"


"เฮ้ย ไอ้วิน กิจกรรมพิเศษมันต้องหลังเชียร์สองสามวันนี่หว่า ทำไมมาเรียกตั้งแต่วันแรกเลยวะ"


"เรียกเร็วก็จบเร็ว หรือพวกมึงไม่พร้อม"


"พร้อมดิวะ พร้อมเล่นมานานแล้ว"


"เออ ดีมาก"


"เออ ไอ้น้องที่มึงให้เพิ่มชื่อเข้ามานี่คือ...?" เพื่อนสตาฟถามวินที่นั่งครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่


"สเปเชี่ยล"


"เชี่ย สเปเชี่ยลต้องหลังเชียร์หนึ่งอาทิตย์ถึงจะคัดรุ่นน้องที่ประพฤติตัวไม่ดีออกมาเข้าสเปเชี่ยลได้ แต่นี่ทำไมให้เข้าตั้งแต่วันแรกเลยวะ"


"ไม่ต้องถามอะไรมาก ทำตามที่กูบอกก็แล้วกัน"


"ธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ใครวะ นามสกุลเหมือนมึงเลยไอ้วิน น้องชายมึงหรอ กูไม่เคยรู้ว่ามึงมีน้องชาย" เพื่อนของวินที่ดูเหมือนจะเป็นเฮดหลักของทีมสตาฟสเปเชี่ยลอ่านรายชื่อที่เพิ่มเข้ามา แล้วก็ถามวิน


"หึ ลูกเมียน้อยพ่อกูเองอ่ะ กูฝากด้วยละกัน เล่นแม่งให้หนัก" วินบอกเพื่อนแล้วก็เดินออกไปพร้อมกำมือแน่น เขาแอบมองจากหน้าต่างห้องประชุมด้านบนลงไปยังลานเชียร์เห็นน้องๆปีหนึ่งกำลังนั่งพักกันอยู่ และเขาก็เห็นวิกที่กำลังนั่งก้มหน้าท่องเนื้อเพลงในสมุดเชียร์ แล้วก็ยิ้มเยาะที่มุมปาก


"กูจะรอดูว่ามึงจะทนได้ซักเท่าไหร่ ไอ้วิก" เขาพูดออกมาเบาๆ



เริ่มกิจกรรมเชียร์ในช่วงที่สอง สตาฟพากันเดินออกมาล้อมน้องๆปีหนึ่งเอาไว้ เสียงคุยเงียบลง ทุกคนกลับมาอยู่ในความสงบเมื่อเห็นสตาฟเดินออกมา


"นักศึกษากิจกรรมพิเศษที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้ให้ลุกออกจากแถวแล้วเดินมาด้านหลังนะครับ" เสียงสตาฟตะโกนบอกน้องปีหนึ่งทุกๆคน ต่างก็ระทึกใจว่าจะมีชื่อตัวเองหรือเปล่า แล้วจะโดนเรียกออกไปทำอะไร วิกเองก็ลุ้นเช่นกัน สตาฟเริ่มเรียกชื่อเพื่อนออกไปทีละคนๆ จนสุดท้ายเขาก็ได้ยินชื่อของตัวเอง


"นายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล"


ทำเอาวิกถึงกับตัวเย็นวาบ หัวใจเต้นแรง เมื่อรู้ว่าตัวเองเป็นหนึ่งในนักศึกษากิจกรรมพิเศษ เขาลุกออกจากแถวแล้วเดินอ้อมไปด้านหลัง โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองอยู่จากด้านบนห้องประชุมลับสตาฟ


"ขอให้สนุกกับกิจกรรมพิเศษนะ ไอ้วิก หึหึ" วินพูดออกมาเบาๆแล้วก็เดินผิวปากอย่างอารมณ์ดีเข้าไปนั่งรอในห้องประชุมลับนั้น







หัวข้อ: Re: +[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.3 กิจกรรมพิเศษ Up.08/Jan/18+
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 08-01-2018 21:23:02
โหย..ยยยยยยย สงสารวิกอ่ะ  :m8: :m8: :m8:
หัวข้อ: Re: +[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.3 กิจกรรมพิเศษ Up.08/Jan/18+
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 11-01-2018 10:05:11


- ตอนที่.4 : ตุ๊กตาของวิน -


 วิก เดินเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มเพื่อนที่มีรายชื่อในกิจกรรมพิเศษที่มีแต่ผู้ชาย ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก เพราะไม่รู้ว่าสตาฟจะพาไปไหน ไปทำอะไร วิกเองก็วิตกเช่นกัน เพราะในกลุ่มกิจกรรมพิเศษนี้ไม่มี มะกอก เพื่อนของเขารวมอยู่ด้วย


"นักศึกษากิจกรรมพิเศษฟังเรียกแถว แถวตอนสามแถวมาหาข้าพเจ้า" เสียงสตาฟออกคำสั่ง วิกและเพื่อนๆก็วิ่งไปยืนจัดแถวตามลำดับความสูงสามแถวตามคำสั่งนั้น


"เร็วๆดิครับ ไม่คล่องแคล่วเลย ทุกคนหมอบไป" เนื่องจากเป็นการโดนคำสั่งครั้งแรก หลายคนจึงทำตัวไม่ถูก ทำให้ไม่เป็นที่พอใจของสตาฟ ทุกคนเลยโดนสั่งให้หมอบ วิกล้มตัวลงนอนคว่ำหมอบไปกับพื้นสนามหญ้า


"ผมจะเรียกแถวพวกคุณอีกครั้งนะครับ ถ้ายังทำได้ไม่ดี คงจะต้องออกกำลังกายกันซะหน่อย" สตาฟพูดขึ้นแล้วก็เรียกแถวอีกครั้ง


"นักศึกษากิจกรรมพิเศษฟังเรียกแถว แถวตอนสามแถวมาหาข้าพเจ้า" สิ้นเสียงคำสั่งสตาฟ พวกเขาก็ลุกขึ้นมาแล้วก็ไปเข้าแถวต่อหน้าสตาฟ ครั้งนี้เป็นที่พอใจ สตาฟพาพวกเขาเดินเข้าไปยังตึกแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงข้ามกับลานเชียร์ เท่าที่วิกดูตึกนี้น่าจะเป็นตึกที่ไม่ได้ใช้ทำการเรียนการสอนแล้ว เพราะสภาพค่อนข้างรกร้าง


สตาฟพาพวกเขาไปนั่งร่วมในห้องห้องนึง เป็นห้องว่าง รู้สึกถึงความเก่า เพราะหยากไย้และฝุ่นเต็มไปหมด พวกเขานั่งลงกับพื้นที่เปื้อนๆนั้น เพื่อนบางคนจามออกมาเพราะฝุ่นที่คลุ้งอยู่ในห้อง สตาฟสองสามคนช่วยกันปิดหน้าต่างทำให้ห้องดูมืดลงไป


"นักศึกษากิจกรรมพิเศษ ก้มหน้าหลับตาลงไปครับ" พวกเขาโดนสั่งให้ก้มหน้าหลับตา วิกก็ทำตามคำสั่ง ตอนนี้เขารู้สึกคัดจมูกจะแย่ เพราะฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นมา ยิ่งห้องมืดก็ยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง


"สวัสดีครับนักศึกษากิจกรรมพิเศษทุกคน ผมแปลกใจที่เราเจอกันเร็วมากในกิจกรรมเชียร์ปีนี้ ก็ขอให้ทุกคนเก็บเกี่ยวประสบการณ์และตั้งใจรับการฝึกฝนจากสตาฟให้ได้มากที่สุด ผมเป็นกำลังใจให้คับ" เสียงใครคนนึงพูดขึ้นมา พอเสียงนั้นเงียบลง วิกกับเพื่อนๆก็เงียบเช่นกันเพราะโดนสั่งให้ก้มหน้าหลับตาอยู่


"อ่าว รุ่นพี่อุตส่าห์มาพูดให้กำลังใจ คำขอบคุณไม่มีเลยหรือไง ต้องให้บอกทุกอย่างเลยใช่ไหมครับ" เสียงสตาฟตะโกนขึ้นมา ทำเอาพวกวิกต่างก็ตกใจ


"ผมผิดเองที่สอนพวกคุณไม่หมด ต่อไปนี้ เวลาสตาฟสอนหรือบอกอะไร ให้คุณขอบคุณทุกครั้ง จะทำอะไรก็ยกมือขออนุญาตทุกครั้ง ทุกคนรับทราบ"


"รับทราบครับ"


"ขอบคุณครับ" วิกและเพื่อนๆกล่าวขอบคุณสตาฟพร้อมกัน


"เอาหล่ะ ผมในฐานะเฮดสตาฟกิจกรรมพิเศษ ขอบอกพวกคุณไว้ก่อนว่า นักศึกษากิจกรรมพิเศษจะมีบทบาทมากในวันสุดท้ายของกิจกรรมเชียร์ ก็ขอให้พวกคุณอดทนและอยู่ในครบทุกคนจนถึงวันนั้น แล้วคุณจะได้รู้ว่าสิ่งที่พวกผมสอนมันมีประโยชน์ต่อตัวพวกคุณมากขนาดไหน พวกคุณต้องเป็นผู้นำ คอยดูแลเพื่อนๆ ให้ผ่านกิจกรรมเชียร์ไปด้วยกัน ทุกคนรับทราบ"


"รับทราบครับ"

หลังจากนั้น สตาฟก็สั่งให้พวกเขาเงยหน้าขึ้น ไฟในห้องถูกเปิดขึ้น แล้วสตาฟก็พาสตาฟร้องเพลงเข้ามาในห้อง ปล่อยให้สตาฟร้องเพลงทำการสอนเพลงเชียร์เพลงแรกอีกครั้ง หลังจากสตาฟร้องเพลงสอนร้องเพลงเพียงหนึ่งรอบ ก็เดินออกไปจากห้อง ปล่อยให้พวกวิกสอนและทบทวนบทเพลงกันเอง วิกกับเพื่อนๆต่างก็ฝึกร้องเพลงแรกนั้นจนจำได้และร้องได้อย่างถูกต้องตามที่สตาฟร้องเพลงสอนมา แรกๆตอนร้องผิดก็โดนสั่งทำโทษ โดยการวิดพื้น ก็ทำเอาเหนื่อยเหมือนกัน

อยู่ๆไฟก็ถูกดับลงอีกครั้ง พร้อมกับมีคนคนนึงเอาผ้ามาผูกปิดตาของวิก แล้วดึงตัววิกให้ลุกขึ้น พร้อมกับจูงมือวิกออกไปจากห้อง


"ตามผมมาเงียบๆ" เสียงสตาฟพูดเบาๆกับวิก


วิกรู้สึกว่าถูกพามาอีกห้องนึง สตาฟที่พาเขามาสั่งให้เขานั่ง วิกก็นั่งตามคำสั่ง ตาก็ยังโดนผ้าผูกปิดเอาไว้ทำให้มองไม่เห็นอะไร ซักพักเขาก็รู้สึกว่ามีคนคนนึงเดินเข้ามายืนตรงหน้าเขา


"คุณ หมอบลงไปครับ" เสียงทุ้มต่ำสั่งให้เขาหมอบ

วิกลังเลที่จะทำ เพราะถ้าเขานอนคว่ำหมอบลงไปกับพื้น เสื้อผ้าคงเปื้อนหมดแน่ๆ


"ผมบอกให้คุณหมอบไงครับ ไม่ได้ยินหรอครับ" คนตรงหน้าพูดขึ้นอีกครั้ง

วิกก็เลยนอนราบหมอบไปกับพื้น รู้สึกว่าฝุ่นฟุ้งขึ้นมา หายใจอึดอัดและเขาก็จามออกมา


"หึ อ่อนแอชิบ" วินนั่งยองๆลงต่อหน้าร่างของวิกที่นอนหมอบอยู่ตามคำสั่งของเขา


"มึง ชื่ออะไร"


"วิกครับ"


"กูหมายถึงชื่อจริงกับนามสกุล" วินเอ่ยปากถามไปตามเกมส์ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่า คนตรงหน้าของเขาคือวิก น้องชายคนละแม่ของเขานั่นเอง


"นายธนวิก พิสุทธิไพศาลสกุล ครับ"


"อยู่หอหรืออยู่บ้าน"


"อยู่หอครับ"


"หออะไร"


"วี อพาร์ทเม้นต์ครับ"


"ห้ะ...ตึกไหน" วินเอ่ยปากถามคนที่นอนหมอบอยู่


"ตึกบีครับ" เมื่อได้คำตอบทำเอาวินเงียบไปพักนึง เพราะวิกนั้นอยู่หอเดียวกับเขารวมทั้งตึกก็ตึกเดียวกันด้วย วินอยากจะถามว่าอยู่ห้องไหน แต่เขาก็ตัดสินใจที่จะไม่ถามออกไป


"นอนคว่ำคงเมื่อยแล้ว อ่ะ นอนหงาย" วินสั่งให้วิกนอนหงาย เพื่อที่จะได้เปื้อนให้หมดทั้งตัว


วิกก็นอนหงายขึ้นมาตามคำสั่ง ทั้งๆที่ยังถูกปิดตาอยู่อย่างนั้น เขาเริ่มมีอาการหายใจติดขัด และคัดจมูก เนื่องจากหายใจเอาฝุ่นที่ฟุ้งขึ้นมาเข้าไป


"พี่ครับ ผมหายใจไม่ออก"


"ใครพี่มึง"


"เอ่อ สตาฟครับ ผมหายใจไม่ออก"


"หายใจไม่ออกหรอ โอเค งั้นกางมุ้งหน่อย ยกแขนยกขาขึ้น"


วิกถูกสั่งให้ทำการกางมุ้ง โดยการนอนหงายแล้วยกสองแขนสองขาให้ชี้ขึ้นไป


แล้วทุกอย่างก็เงียบลงไป วิกเริ่มรู้สึกเมื่อยทั้งแขนและขา


"สตาฟครับผมเมื่อย"


"เมื่อยหรอ งั้นเลิกทำได้ มึงไม่ต้องกลัวกูมีท่ากายบริหารให้มึงทำเยอะ ร่างกายจะได้แข็งแรง" เสียงพูดแบบเหยียดๆอยู่ในที ทำเอาวิกเกิดความกลัวขึ้นมา แม้ว่าระหว่างเขากับสตาฟปริศนาจะไม่มีการพูดคุยกันมาก แต่ความเงียบนั้นก็ทำให้วิกรู้สึกหวั่นหวาดอยู่ในใจ

วินปล่อยให้ร่างของวิกนอนหงายอยู่แบบนั้น เมื่อสายตาชินกับความมืด เขาก็ยืนมองร่างที่นอนอยู่ตรงหน้าด้วยความสะใจก่อนที่จะเดินออกไปจากห้อง


สตาฟสองคนที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง เป่าปากด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นวินเดินออกมาจากห้อง


"เข้าไปปล่อยมันกลับได้" วินบอกกับสตาฟสองคนนั้น แล้วก็เดินออกไปจากตึกสเปเชี่ยล


สตาฟสองคนนั้นเข้าไปในห้อง สะกิดวิกให้ลุกแล้วเดินออกมาจากห้อง พร้อมกับถอดผ้าปิดตาให้วิก เมื่อผ้าปิดตาถูกถอดออก วิกก็มองไปรอบๆตัว พบว่าตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ที่เขาโดนพาไปอยู่ในห้องมืดนั้นกับสตาฟปริศนา


"คุณกลับไปได้ครับ" สตาฟสั่งให้วิกกลับออกไป


วิกก็เดินออกมา จนรู้ว่าในตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว เพื่อนที่โดนกิจกรรมพิเศษคนอื่นๆนั้นได้กลับกันหมดแล้ว



"สงสารว่ะ ไอ้นี่แม่งซวยชิบ โดนพี่วินเล่นเองเลย" สตาฟสองคนยืนคุยกันถึงวิกที่โดนพี่วินลงมาจัดการเอง


"เออ กูอยากรู้ว่ะ ว่าทำไมพี่วินจ้องเล่นงานไอ้คนนี้"


"ญาติกันป่าว หน้าตาคล้ายกันอยู่นะมึง นามสกุลเดียวกันด้วย"


"พวกมึงสองคนมัวคุยไรกันวะ ไปเข้าประชุมได้แล้ว เดี๋ยวพี่วินรอนานมึงจะซวย"



วิกเดินกลับออกมาด้วยสภาพเนื้อตัว เสื้อผ้ามอมแมม


"ไอ้วิก เชี่ย นี่ใครทำอะไรมึงวะ" มะกอกรีบวิ่งมาหาวิกทันทีที่เห็นเพื่อนเดินออกมาในสภาพที่มอมแมม เปื้อนไปหมดทั้งเสื้อและกางเกง


"กิจกรรมพิเศษนั่นแหล่ะ แล้วนี่มึงทำไมยังไม่กลับเนี่ย" วิกตอบเพื่อนแล้วถามกลับคนตรงหน้า


"กูกลับบ้านไปรอบนึงแล้ว แล้วก็มารอมึงเนี่ย"


"รู้ได้ไงว่ากูยังอยู่ข้างใน"


"ก็ถามเพื่อนที่เดินออกมาอ่ะ มันบอกว่ามึงโดนแยกไปอีกห้อง ทำไมโดนแยกวะ"


"ไม่รู้เหมือนกันว่ะ"


"เออๆ กูไม่ถามละ ป่ะ ไปกินข้าวกัน แม่กูทำไว้รอแล้ว" มะกอกบอกวิกแล้วก็พาวิกเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ วิกก็ยอมตามไป เพราะรู้ตัวว่าวันนี้ร่างกายไม่ไหวจริงๆ ขืนดื้อกับมะกอกคงกลับเองไม่ไหวแน่ สภาพแบบนี้


"ฮัดเช้ย" วิกจามออกมา มะกอกหันมาดูสภาพเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้า เขารู้สึกสงสารเพื่อนแต่ก็ไม่รู้จะช่วยอะไรได้มากกว่านี้


มะกอกขับมอเตอร์ไซค์พาวิกออกมาจากคณะ เขาหยุดที่หน้าร้านขายยา


"หยุดทำไมวะ" วิกถามมะกอกที่กำลังลงจากรถ


"ไปซื้อยาให้มึงไง เห็นสภาพแล้วสงสารว่ะ" มะกอกบอกวิกแล้วก็เดินเข้าไปในร้านยา ซักพักก็ออกมาพร้อมกับยาแก้แพ้แล้วก็ยานวดคลายกล้ามเนื้อ


"อ่ะ ยาแก้แพ้อากาศ เอาไว้กิน ส่วนยานวดนี่ก็เอาติดตัวไว้ กูว่ามึงระบมไปจนจบเชียร์แน่ๆ" มะกอกพูดพร้อมกับส่งถุงยาให้วิก วิกก็รับมาแล้วพูดขอบคุณมะกอก


มะกอกพาวิกมาที่บ้าน ทั้งสองคนเห็นกลุ่มสตาฟกำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่โต๊ะใต้ต้นมะขาม ก็รีบพากันเข้าบ้าน แต่ก็ไม่รอดสายตาของใครคนนึงอยู่ดี


"นั่น ไอ้น้องสเปเชี่ยลนี่หว่า เป็นเพื่อนกับไอ้น้องมะกอกหรอวะเนี่ย" สตาฟคนนึงในกลุ่มนั้นพูดขึ้น


"สภาพแม่ง โคตรมอมอ่ะ พี่จัดหนักเลยหรอครับพี่" รุ่นน้องสตาฟพูดแล้วก็หันไปถามวินที่นั่งกินข้าวไข่เจียวในจานอย่างสบายใจ


"หึ วันนี้แค่เบาๆ ไอ้นั่นมันตุ๊กตาของกู อยากเก็บเอาไว้เล่นนานๆ" วินตอบรุ่นน้องแล้วก็ยิ้มนิดๆที่มุมปากด้วยความสะใจ


มะกอกพาวิกเข้าไปในบ้าน แม่ของมะกอกพอเห็นสภาพของวิกก็ถึงกับตกใจ


"ว้าย วิก ทำไมเลอะเทอะขนาดนี้หล่ะลูก ไปคลุกฝุ่นที่ไหนมาเนี่ย อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไหม ใส่เสื้อผ้าเจ้ามะกอกก่อนก็ได้"


"ไม่เป็นไรครับแม่ ขอบคุณครับ"


"เฮ้อ กิจกรรมไรเนี่ยเลอะเทอะขนาดนี้ นี่ถ้าเจ้ามะกอกโดนแบบนี้มา แม่เข้าถึงคณะแน่ๆ ไม่ไหวๆ" แม่บ่นพร้อมกับเดินออกไปข้างนอก


"ไงหล่ะ แม่กูอ่ะของจริง ถ้าเป็นกูโดนแบบมึงนะ แม่กูเล่นสตาฟเละแน่" มะกอกพูดแล้วก็คดข้าวใส่จานส่งให้วิก


สองคนนั่งกินข้าวด้วยกัน วิกถามถึงค่าอาหาร มะกอกก็บอกว่าไม่เก็บ ให้วิกกินตามสบาย แต่วิกก็ไม่ยอม จะจ่ายตังค์ท่าเดียวเพราะเกรงใจ


"ได้ไง ไอ้กอก กูมากินข้าวบ้านมึงก็ต้องจ่ายตังค์ดิ เพราะบ้านมึงขายข้าว จะมากินฟรีได้ไง"


"กูบอกว่าไม่ต้องจ่ายก็ไม่ต้องดิวะ มึงมากินข้าวบ้านกูได้ตลอดแหล่ะ เราเพื่อนกัน คิดไรมาก"


"มันเปลือง"


"ให้เพื่อนกินอ่ะไม่เปลืองหรอก มึงอย่าคิดมาก กูให้กินก็กินไป จะมาจ่ายตังค์ทำไม"


วิกขอบคุณมะกอกสำหรับข้าว แล้วก็นั่งเล่นอยู่ในบ้านรอจนกลุ่มสตาฟกลับไป มะกอกถึงพาวิกไปส่งที่หอ


"พ่อครับแม่ครับ ขอบคุณมากนะครับสำหรับอาหาร" วิกขอบคุณพ่อกับแม่ของมะกอกที่กำลังเก็บร้านอยู่หน้าบ้าน


"ไม่เป็นไรเลยลูก มากินข้าวได้ตลอดเลยนะวิก มากินกับมะกอกที่บ้านนี่ กับข้าวเยอะแยะอยากกินอะไรบอกเลย พ่อกับแม่จะทำให้กิน" พ่อของมะกอกหันมาพูดกับวิก


"ครับพ่อ ขอบคุณนะครับ"


มะกอกพาวิกซ้อนมอเตอร์ไซค์มาส่งที่หอ

เขาขอบคุณมะกอกที่มาส่ง แล้วก็เดินกลับเข้าหอ ก้มหน้าดูกลุ่มไลน์เพื่อนๆภาควิชาที่เพิ่งตั้งแล้วลากวิกเข้าไปในกลุ่ม


"อุ้ย...!!" วิกมัวแต่ก้มหน้าดูไลน์จนเดินไปชนเข้ากับใครคนนึง เขาเงยหน้าขึ้นไปมอง คนที่ตัวสูงกว่าอยู่ในชุดนักศึกษาเหมือนกัน


"ขอโทษครับ" วิกกล่าวขอโทษคนตรงหน้า แล้วรีบผละออกมา


คนที่โดนชนหันหลังกลับมามองวิก แล้วก็เผยรอยยิ้มออกมา








หัวข้อ: Re: +[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.4 ตุ๊กตาของวิน Up.11/Jan/18+
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 11-01-2018 11:59:20
ใจร้าย..ยยยยย
หัวข้อ: Re: +[เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.4 ตุ๊กตาของวิน Up.11/Jan/18+
เริ่มหัวข้อโดย: ฟูจิซัน ที่ 16-01-2018 22:44:49


- ตอนที่.5 : ผมไม่ชอบสับปะรด -




 กิจกรรมเข้าเชียร์ดำเนินมาเป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้ว วิก โดนแยกไปทำกิจกรรมพิเศษกับเพื่อนๆทุกวันที่เข้าเชียร์ และเลิกกิจกรรมช้ากว่าทุกคนตลอด โดยมีมะกอก มารอรับวิกไปกินข้าวที่บ้านและไปส่งวิกที่หอทุกวัน ทุกครั้งที่โดนเรียกไปทำกิจกรรมพิเศษหลังจากที่สตาฟร้องเพลงมาสอนเพลงแล้ว วิกก็จะฝึกร้องเพลงและทบทวนบทเพลงกับเพื่อนๆ แต่ที่ไม่เหมือนกันเพื่อนที่อยู่ในลานเชียร์ก็คือ ทุกคนที่โดนมากิจกรรมพิเศษถ้าร้องเพลงผิดก็จะโดนทำโทษ ด้วยการให้วิดพื้นหรือกอดคอกันแล้วก็ลุกนั่ง ซึ่งทำให้เหนื่อยและท้อมาก เพราะบรรยากาศห้องมืดในห้องกิจกรรมพิเศษเต็มไปด้วยความกดดันจากพี่สตาฟว้าก

และทุกครั้งหลังจากฝึกร้องเพลงเสร็จแล้ว วิกก็จะโดนสตาฟว้ากเอาผ้ามาปิดตา แล้วพาเขาเดินไปอีกห้องหนึ่ง แล้วก็จะมีสตาฟคนนึงมาคุยด้วยทุกครั้งพร้อมกับให้เขานอนเกลิือกกลิ้งไปกับพื้นห้องบางทีก็วิดพื้น บางทีก็ลุกนั่ง จนเสื้อผ้าเปลื้อนเปลอะกลับหอทุกวัน และทุกครั้งที่มะกอกมารอรับ เมื่อเห็นสภาพของวิกมะกอกก็จะโวยวายทุกครั้ง เขาสงสารเพื่อนที่ต้องมีสภาพแบบนี้ ส่วนวิกก็มีอาการท้อและเหนื่อยบ้าง แต่ในใจเขาก็อดทน พยายามไม่คิดอะไรมาก ถึงจะโดนแกล้งยังไงก็ต้องอดทน


วันนี้เป็นวันศุกร์ หลังจากเลิกเรียนเสร็จ รุ่นพี่ปีสองก็เข้ามาในห้องเพื่อทำการประชุมภาควิชา โดยรุ่นพี่แจกกระดาษให้น้องๆปีหนึ่งเขียนข้อมูลส่วนตัวลงไป วัน เดือน ปี เกิด อาหารที่ชอบ ผลไม่ที่ชอบและไม่ชอบ กิจกรรมยามว่างที่ชอบทำ โรคประจำตัว แพ้อาหารอะไรหรือไม่ โดยรุ่นพี่บอกว่าจะนำข้อมูลไปสำรวจเพื่อพาน้องๆไปทำกิจกรรมรับน้องของภาควิชาที่ทะเลหลังจากจบเชียร์หลักของคณะ

"เห้ย ไอ้วิก มึงไม่ชอบกินสับปะรดหรอวะ" มะกอกหันมาถามวิกเมื่อเห็นสิ่งที่วิกเขียนในกระดาษ วิกก็หันไปพยักหน้าให้


"ดีเลย กูโคตรชอบ มึงจะได้ไม่ต้องแย่งกูกิน" มะกอกบอกวิกพร้อมรอยยิ้ม


"อือ อะไรที่เป็นสับปะรดกูยกให้มึงหมดเลย" วิกบอกมะกอก


"น้องๆคะ ใครเขียนเสร็จแล้วก็เอามาส่งให้พี่ เขียนข้อมูลตามความจริงนะคะเพื่อความปลอดภัยของน้องๆเองนะ"


"เขียนเสร็จแล้วก็ไปรอเตรียมเข้าเชียร์ได้เลยนะคะ"


เสียงรุ่นพี่บอกพวกน้องๆปีหนึ่ง


วิกกับมะกอกเขียนเสร็จก็เอากระดาษไปส่งรุ่นพี่


"น้องวิก เหนื่อยไหมคะ อดทนหน่อยนะ จะจบเชียร์แล้ว" พี่ผู้หญิงคนนึงเอ่ยปากถามวิก เขาเห็นก็จำได้ว่าพี่คนนี้เป็นสตาฟพยาบาล


"ก็เหนื่อยครับพี่ แต่ก็ยังไหว สบายๆครับ" วิกตอบรุ่นพี่พร้อมกับยิ้มให้


หลังจากนั้นวิกกับมะกอกก็พากันออกมาจากห้อง


"อ่าว นี่ไงน้องวิก"


"มีอะไรหรอครับพี่"


"มีผู้ปกครองมารอที่ห้องรับรองของคณะค่ะ"


"แม่" วิกพูดออกมาเบาๆ


"มะกอก แม่กูมาหาอ่ะ มึงไปกับกูนะ"


"จะเข้าเชียร์แล้วกูไปไม่ได้หรอก งั้นมึงรีบไปเถอะ เดี๋ยวแม่รอ" มะกอกบอกวิก


"เออๆ งั้นมึงไปเตรียมเข้าเชียร์เถอะ เดี๋ยวกูตามไป" วิกบอกมะกอก แล้วก็เดินไปหาแม่ พร้อมกับรุ่นพี่ที่มารับวิกไปหาแม่


ที่ห้องรับรอง แม่นั่งอยู่กับผู้ชายคนนึง วิกเห็นทั้งสองคนก็ยกมือไหว้สวัสดี เขาเข้าใจดีว่าผู้ชายที่นั่งอยู่นั่นคงจะเป็นพ่อของเขา


"วิก เดี๋ยวแม่ต้องไปดูงานที่ต่างประเทศเดือนนึง วิกอยู่คนเดียวได้นะลูก"


"ได้ครับแม่ ไม่ต้องห่วงนะครับ"


"นี่ พ่อของวิก"


"ครับ" วิกพูดแล้วก็มองผู้ชายตรงหน้าที่นั่งยิ้มให้เขา


"พี่ชายของลูกก็เรียนที่นี่ เดี๋ยวก็คงจะมา พ่อให้คนไปตามมาแล้ว"


"พี่ชายผมหรอครับ"


"ใช่ พี่ของวิก ชื่อวิน จำชื่อไว้นะลูก เดี๋ยวเจอกันก็จะได้รู้จักกัน"


"ครับพ่อ"


วิก นั่งคุยกับพ่อแม่อยู่ซักพัก ก็ไม่มีวี่แววว่าพี่ชายของวิกจะมาซักที วิกเลยขอตัวกลับออกมาร่วมกิจกรรมเชียร์ ส่วนพ่อกับแม่อยู่คุยต่อกับคณะบดีที่เป็นเพื่อนกับพ่อของเขา ในขณะที่เขาออกมาจากห้อง เขาเห็นสตาฟปริศนาคนนั้น คนที่เคยยึดสมุดเชียร์ของเขา เดินเข้ามาจากอีกทางนึง แต่ไม่รู้ว่าไปไหน


วิกเอาสัมภาระไปวาง แล้วก็รีบวิ่งเข้าไปที่ลานเชียร์ แต่เขาโดนสตาฟกักตัวไว้ตรงทางเข้า ที่บ่อน้ำ เพื่อนๆที่อยู่ในกิจกรรมพิเศษโดนสั่งให้ลงไปในบ่อน้ำแล้วกอดคอกันเป็นวงกลม ลุกนั่งอยู่ในน้ำ วิกเห็นสภาพของเพื่อนๆที่โดนสั่งทำโทษอยู่ก็ตกใจ


"คุณ ทำไมเพิ่งมาครับ ดูสิ เพื่อนๆโดนทำโทษเพราะรอคุณแค่คนเดียว" สตาฟกิจกรรมพิเศษเดินเข้ามาตะโกนใส่วิก


"คุณจะยืนดูเพื่อนๆโดนทำโทษแบบนี้หรอครับ"


หนึ่งครับ


สองครับ


สามครับ
.
.
.

เสียงเพื่อนๆนับพร้อมกับกอดคอกันลุกนั่งในน้ำ ทำให้วิกรู้สึกเสียใจ ที่เป็นต้นเหตุทำให้เพื่อนๆโดนทำโทษ

เขาเดินไปที่ขอบบ่อเพื่อจะลงไปช่วยเพื่อนๆ


"คุณไม่ต้องลงไป มาช้าแล้วยังเสนอหน้าอีก" สตาฟดึงแขนวิกเอาไว้ไม่ให้เขาลงไปในบ่อ


วิกโดนสั่งให้นอนหมอบกับพื้นสนามหญ้า มองดูเพื่อนๆโดนทำโทษ


"คนมาช้า แล้วทำให้คนอื่นลำบาก ผมมีรางวัลให้" สตาฟที่เป็นหัวหน้ากิจกรรมพิเศษพูดขึ้น พร้อมกับสั่งวิกให้ลุกขึ้นมานั่ง แล้วก็ยื่นสับปะรดที่ถูกปอกเปลือกเรียบร้อยแล้วมาให้วิก


วิกมองสับปะรดทั้งหัวที่อยู่ในมือแล้วก็ทำหน้าหวาดๆ เพราะเขาไม่ชอบกินสับปะรด


"กินเข้าไปครับ กินให้หมด ถ้าคุณกินหมดเมื่อไหร่ เพื่อนๆก็ได้ขึ้นจากน้ำเมื่อนั้น" เสียงสตาฟบอกกับวิก


"ผมไม่กินสับปะรดครับ"


"เรื่องของคุณถ้าคุณไม่กิน เพื่อนก็โดนทำโทษอยู่อย่างนั้น ก็เลือกเอา"


วิกมองหน้าสตาฟแล้วก็มองเพื่อนๆที่กำลังกอดคอกันลุกนั่งอยู่ในบ่อ เขาก้มมองสับปะรดที่อยู่ในมือ


"อ่ะ กินสดๆเดี๋ยวมันจะเปรี้ยวไป ผมเอาเกลือโรยให้ก็แล้วกันนะครับ" สตาฟคนนึงพูดขึ้นแล้วเอาเกลือป่นมาโรยลงบนสับปะรดให้วิก


"กินสิครับ กินให้หมด กินแล้วก็นั่งดูเพื่อนคุณไปด้วย พวกเขาต้องโดนทำโทษเพราะคุณที่มาช้า"



วิกนั่งทำใจ แล้วก็กัดกินสับปะรดที่อยู่ในมือของเขา


อึ่บ....!!


เขามีอาการพะอืดพะอมทันทีที่กลืนเนื้อสับปะรดเข้าปาก แต่เพราะเห็นเพื่อนๆที่โดนทำโทษอยู่ตรงหน้า วิกก็กลั้นใจฝืนกินสับปะรดไปได้จนครึ่งลูก


อ้วกกกกกกกกกกกกกกกกกก...........!!


วิกอาเจียนออกมาต่อหน้าสตาฟ


"สตาฟพยาบาลครับ เข้ามาดูหน่อยครับ" เสียงสตาฟกิจกรรมพิเศษเรียกสตาฟพยาบาลเข้ามา


"ไม่ต้องมาครับ  คุณ กินต่อไปให้หมด" เสียงหนึ่งดังขึ้น วิกได้ยินก็คุ้นๆว่านี่แหล่ะ เสียงที่คุยกับเขาทุกวันในห้องมืดกิจกรรมพิเศษ เขาอยากหันไปมองเจ้าของเสียง แต่ก็ทำไม่ได้


"กินไปดิ ถ้าไม่หมด เพื่อนคุณก็ไม่ได้ขึ้นจากบ่อ"


วิกกัดฟันกินสับปะรดเข้าไปอีก แต่กินได้สองสามคำเขาก็อาเจียนออกมาอีก


"กินเข้าไป ไม่ไหวก็อ้วกออกมา" เสียงสตาฟสั่งวิก



"เชี่ยวิน น้องมันดูท่าไม่ไหวแล้วนะมึง" เพื่อนลากแขนวินออกมาจากตรงนั้นแล้วก็บอกกับวินด้วยสีหน้ากังวลเมื่อเห็นสภาพของวิก


"มันไม่เป็นไรหรอก แดกสับปะรดแค่นี้ไม่ตายหรอก" วินพูดออกมาแล้วก็มองไปที่วิกด้วยความสะใจ


วิกฝืนกินสับปะรดจนหมด แต่เขาก็อาเจียนออกมาจนหมดเช่นกัน เพื่อนๆโดนสั่งให้ขึ้นมาจากบ่อ ทุกคนวิ่งตรงมาที่วิก


"เชี่ยวิก เป็นไงบ้างมึง ไหวป่าว มากูลูบหลังให้"


สตาฟว้ากก็ปล่อยและยืนดูพวกเพื่อนๆวิกให้ช่วยเหลือกันเอง บางคนก็ไปขอน้ำจากสตาฟพยาบาลมาให้วิกบ้วนปาก บางคนก็มาลูบหลังให้วิก


"กูขอโทษพวกมึงด้วยนะที่มาช้า พอดีพ่อกับแม่กูมาหา กูเลยมาไม่ทันทำให้พวกมึงต้องโดนลงน้ำ" วิกบอกกับเพื่อนๆ


"ไม่เป็นไรไอ้วิก พวกกูไหว เราจะสู้ไปด้วยกัน"


"มึงไม่ผิด ไม่มีใครผิด ไม่มีใครโกรธมึง"


"มึงฟังกูนะไอ้วิก เราจะสู้ไปด้วยกัน พวกกูรู้ว่ามึงโดนเยอะกว่าพวกกู อดทนไปด้วยกันนะ" เพื่อนคนนึงเอาสองมือประคองใบหน้าของวิกขึ้นมา วิกเงยหน้าขึ้นไปมองเพื่อนคนนั้น น้ำตาเขาก็ไหลออกมา


"อย่าร้อง" เพื่อนคนนั้นดึงตัววิกเข้าไปกอดจนแน่น


วิกไม่รู้ว่าเพื่อนคนนี้เป็นใคร เขารู้แค่ว่า คำพูดกับอ้อมกอดนี้ทำให้เขารู้สึกมีพลังและกำลังใจขึ้นมา
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 16-01-2018 23:06:37
หวังว่าวินจะไม่ใช่พระเอก....เคือง  :m16: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 18-01-2018 02:13:59
สงสารวิก
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 14-02-2018 09:22:12
ไอ้เหี้ยเอ้ยมึงมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้ ขอให้แม่งโดนเอาคืนหนัก ถ้าน้องช็อคจนเกือบตายแล้วมึงจะรับผิดชอบยังไงไอ้เฮงซวย หน้าผีอีดอก รู้ว่าแค้นแต่น้องเกิดมารู้เรื่องห่าอะไรบ้างล่ะ หน้าส้นตีน อยากกระทืบบักว้ากนี่สักที รออยู่นะคนเขียน  ก่อนที่คนอ่านจะลงแดง
หัวข้อ: Re: [เรื่องสั้น] I'm So Sorry (พี่ผมเป็นเฮดว๊าก):ตอน.5 ผมไม่กินสับปะรด Up.16/Jan/18
เริ่มหัวข้อโดย: tawanna ที่ 14-02-2018 09:43:02
 :z6:นี่แนะอีพี่วิน