พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องสั้น] อย่าหลอกผม {ตอนเดียวจบ} 9 ก.ย 60
CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE
Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Foggy Time ที่ 09-09-2017 23:46:22
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0 ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่ 1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่ 2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ 3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้ ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ 4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ 5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้ มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว 6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน 7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง 7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ 7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ 8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง). 9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ 10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป 11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป 12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด 13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ 14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ 15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด ควรจะให้เครดิตกับ... (1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ (2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง ....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ - ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง) - ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ - ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ - ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส - ถ้าเป็น FW mail ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail 16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข 17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ) เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ admin thaiboyslove.com....................................... วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7 วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม Share This Topic To FaceBook Share This Topic To FaceBook Share This Topic To FaceBook Share This Topic To FaceBook
ถ้าหากพื้นที่ด้านหน้าของคุณเป็นหน้าผา แล้วด้านหลังคุณเป็นสิงโตตัวเขื่องหิวโซที่สามารถขย้ำคุณภายในคำเดียว คุณจะทำยังไงระหว่างกระโดดลงหน้าผาเพื่อหนีลงแม่น้ำหรือคว้ามีดที่เอวเพื่อสู้กับมัน? ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกอย่างหลัง เสียงกรีดร้องดังลั่นเมื่อมีแขกไม่ได้รับเชิญโผล่เข้ามาในงานแต่งงานด้วยชุดสูทดำเรียบร้อยหากแต่ในมือถือปืนพกและเล็งไปที่เจ้าบ่าวในงานที่ควรจะเป็นผู้ที่มีความสุขมากที่สุดในวันนี้ คนเป็นเจ้าบ่าวกลืนน้ำลายเอือกยกสองมือขึ้นเหนือหัว ใบหน้าคมคายที่มักจะเยือกเย็นและเจ้าแผนการอยู่เสมอซีดลงถนัดตา ความตื่นตระหนกที่มีอยู่นั้นมากจนคิดอะไรไม่ออกเพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าคนๆ นี้จะกล้าถึงขนาดนี้ ร่างโปร่งที่ซูบผอมลงไปมากแสยะยิ้มย่างสามขุมเข้าไปหาเจ้าบ่าวอย่างดุดันผิดวิสัยที่ปรกติแล้วจะเป็นคนที่รักสงบใจเย็นไม่ค่อยยุ่งกับใคร นัยน์ตาที่สุมไปด้วยไฟแห่งความเกลียดชังตวัดมองเจ้าสาวข้างๆ จนแทบจะเผาหล่อนทั้งเป็น มีหลายคนที่พยายามถลันตัวเข้ามาแย่งปืนแต่ก็ถูกปืนพกเล็งเข้าที่ศีรษะซะก่อนจึงทำได้แค่หยุดฝีเท้าไว้ตรงนั้น จังหวะฝีเท้าของเขานั้นหนักแน่นและสม่ำเสมอ มันดังก้องอยู่ในหูของคนที่มีชนักแผ่นใหญ่ติดอยู่บนหลัง ชุดสูทขาวตัดเข้ารูปอย่างดีดูจะทำให้เจ้าของชุดรู้สึกอึดอัดมากกว่ามั่นใจในตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลาพยายามฉีกยิ้มบางๆ ให้กับคนที่แทบจะกลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกันไปแล้ว ใบหน้าที่มีเค้าของชาติยุโรปนิ่งสงบทั้งๆ ที่เลือดในกายร้อนระอุ ความโกรธ ความอาฆาตแทบจะปะทุออกมาพร้อมๆ กัน เมื่อมองรอบๆ แล้วพบว่างานแต่งงานบัดซบนี่หรูหราเอาการ "มีความสุขดีเนอะ" เสียงที่พูดออกไปนั้นเสียดสีและเกลียดชัง ก่อนที่ยกปลายกระบอกไปจ่อที่อกของเจ้าบ่าวของงานมงคลนี้ "...ซิน" "ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วว่ะ" เจ้าของชื่อหัวเราะจนตัวโยนหากแต่มือที่ถือปืนนั้นมั่นคงราวกับว่ารอเวลานี้มานาน "มึงทำลายชีวิตกู มึงก็ต้องพังไปกับกูว่ะ" ปัง!! 'ราคาประมูลภาพของฌอง เลอเนสขึ้นไปที่ยี่สิบล้านแล้วครับ มีใครจะให้มากกว่านี้ไหมครับ!" 'คุณไมครอฟให้ราคาที่สามสิบครับ!" ภาพที่กำลังถูกประมูลนั้นคือภาพของศิลปินชาวต่างประเทศชื่อดัง มันเป็นภาพเก่าที่เป็นของจริงโดยถูกเก็บอย่างดีภายใต้การดูแลของตระกูลสิงหนาทที่มีเชื้อสายไทย-ฝรั่งเศส ซึ่งภาพนั้นก็ได้มาจากปู่ทวดของตระกูลสิงหนาทซื้อภาพนั้นเก็บไว้พอดีไว้ด้วยความสงสารในตัวศิลปินและถูกดูแลรักษาอย่างดีมาตลอดนับจากรุ่นสู่รุ่น ส่งผ่านมือต่อมือโดยที่ไม่มีความคิดเรื่องการค้าขายเข้ามาเกี่ยวสักนิดเพราะเจตนารมณ์ของปู่ทวดที่ต้องการจะให้มันกลายเป็นภาพประจำตระกูล ทุกอย่างยังคงเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ต่อให้ราคาภาพในท้องตลาดของศิลปินคนนั้นดีดตัวสูงขึ้นจนน่าตกตะลึงแต่ตระกูลสิงหนาทก็ไม่คิดจะขายมันอยู่ดีแต่ให้จะแร้นแค้นขนาดไหนก็ตาม มันคงจะเป็นเช่นนั้นถ้า.. "เฮ้ย ซิน.. มึงร้องไห้ทำไมวะ!!!" เพื่อนร่วมสตูดิโอผมร้องลั่นเมื่อเห็นพ่อเสือยิ้มยากไร้อารมณ์อย่างผมนั่งน้ำตาไหลหลังจากขอดูคลิปประมูลภาพชื่อดังที่กำลังเป็นข่าวในทุกสำนัก ความเค็มประแล่มจุกในลำคอผมจนผมพูดอะไรไม่ออก ผมกระพริบตาถี่ๆ แต่น้ำตากลับไหลออกมามากกว่าเดิม ทั้งๆ ที่ผมนั้นไม่ได้อยากร้องไห้เลยแท้ๆ แต่ในใจมันกลับเจ็บจนพูดอะไรไม่ออก ความเจ็บปวดที่ผมเพิ่งรู้จักเร็วๆ นี้กัดกินผมอย่างตะกละตะกลาม จนน้ำตาที่ไหลเฉยๆ กลายเป็นการสะอื้น ผมพยายามหยุดอาการบ้าๆ นี้แต่ทำไม่ได้ มันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนทั้งสตูดิโอและคนอื่นๆ มามุงถามไถ่ผมอย่างเป็นห่วง ผมรับรู้ว่าพวกเขาอยู่ตรงนั้นแต่ในใจของผมมันกลับแตกร้าวเกินกว่าที่จะรับใครเข้ามาเพิ่ม ผมวางมือถือของเพื่อนร่วมงานลงแล้วขอตัวเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ทุกคนดูอยากจะรั้งผมแต่ก็ไม่กล้าทำเพราะกำแพงที่ผมกั้นพวกเขาไว้นั้นแน่นหนาเกินไป นอกจากยิ้มทักทายให้ตอนเช้าผมกับพวกเขาก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์ที่มากกว่านั้น ผมมองหน้าตัวเองในกระจก จากที่หน้าตาเฉยชาดูน่าเบื่ออยู่แล้วตอนนี้ตาของผมกลายเป็นสีแดงก่ำ ผมเหยียดยิ้มให้ตัวเองในกระจกเพราะน้ำตามันยังไหลออกมาจากดวงตาไม่หยุด "มึงมันโง่" ผมหัวเราะเบาๆ แล้วก้มมองมือตัวเองที่จิกลงกับข้อมืออีกข้างจนเลือดออกโดยไม่รู้ตัว มันไม่เจ็บเลยสักนิด ผมลูบบาดแผลนั่นแล้วสะอื้นหนักกว่าเดิม "..โง่" ผมกัดปากพยายามกลั้นสะอื่นแต่สุดท้ายผมก็กลั้นไม่อยู่ ปล่อยโฮออกมา ถ้ารู้ว่ามันเจ็บขนาดนี้ ผมคงจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น "โง่อะไรของคุณ? หืม" ผมสะดุ้งเฮือกสุดตัวเมื่อไอ้คนที่ผมเพิ่งนินทาหันขวับมามองผมพร้อมเลิกคิ้วน้อยๆ แต่โชคดีที่ใบหน้าผมมันไม่เปลี่ยนสีหน้าสักนิด ผมเลยสามารถแถเรื่อยเปื่อยได้อย่างง่ายดายเหมือนที่เคยทำทุกคนเพื่อตัดปัญหากับคนอื่นๆ "เปล่า ผมไม่ได้ด่าคุณ" ผมมั่นใจสีหน้าของตัวเองไร้อารมณ์มากพอ เขาถึงได้กระพริบตาเหมือนทบทวนกับตัวเองอีกครั้งว่า ผมด่าเขาจริงๆ รึเปล่า ซึ่งผมก็ด่าเขาจริงเพราะผมไม่เคยเห็นใครทำอะไรบ้างๆ อย่างการเผลอทิ้งหมูปิ้งข้าวเหนียวที่เพิ่งสั่งมาลงในถังขยะแทนที่จะแก้วก้าแฟแก้วเปล่าที่เขาตั้งใจจะทิ้งตั้งแต่แรก ผมรู้เขาอาจจะเผลอ แต่ช่วยไม่ได้ที่ปากผมมันเป็นซะแบบนี้ ปกติผมก็ควบคุมตัวเองให้คิดในหัวได้นะ แต่ไม่รู้ทำไมวันนี้มันถึงหลุดออกมาได้ดังซะขนาดนั้น แต่จะว่าไปหมูปิ้งเจ้าหน้าสตูดิโอผมนี่ก็ถือว่าโครตอร่อย เสียดายเหมือนกันที่อาหารดีๆ อย่างนี้ต้องลงไปรวมในถังขยะ เห็นไหมคิดดูอีกที เขาก็โง่และเซ่อจริงๆ นั่นแหละ ไม่เข้ากับใบหน้าคมคายที่ดูภูมิฐานเลยสักนิด ดูจากเค้าโครงแล้วคงจะอายุมากกว่าผมไม่น้อย สักประมาณสามสิบได้ และถ้าให้ผมทายอีกก็คงจะเป็นพนักงานตำแหน่งสูงในบริษัทสักบริษัทเพราะเขาสวมชุดสูทดำและมีออร่าแบบผู้บริหารๆ อะไรทำนองนั้น "อ่า งั้นผมก็ต้องขอโทษด้วยที่เข้าใจผิดครับ" เขาก้มหัวเล็กๆ ให้ผมซึ่งผมก็ไม่ได้อะไรไปมากกว่าการไหวไหล่รับและเดินอ้อมเขาเพื่อเข้าร้านกาแฟร้านประจำของผม ระหว่างที่ผมนั่งรอกาแฟที่สั่ง ผมก็เล่นโทรศัพท์อะไรเรื่อยเปื่อย เหมือนจะไม่มีอะไรใช่ไหม? ไม่อ่ะ มันมี ผมรู้สึกว่าตัวเองถูกมองมาได้สักพักแล้ว ผมพยายามมองซ้ายมองขวาเหมือนดูวิวเรื่อยเปื่อยแต่ก็เพื่อที่จะหาต้นเหตุความรู้สึกแปลกๆ นี่ต่างหาก แต่หาไปหามาสักพัก ผมก็เริ่มเบื่อและปล่อยเลยตามเลยเพราะผมอาจจะคิดไปเองก็ได้ ไม่แน่ใจว่าบังเอิญหรือเพราะอะไร ผมถึงเจอคนที่ผมด่าไปที่ร้านกาแฟร้านโปรดผมเป็นประจำมาเกือบเดือนแล้ว ผมไม่ได้คิดไปเองจริงๆ นะ ผมเจอเขาทุกครั้งที่ผมเข้ามาในร้าน เห็นเขานั่งเล่นโน้ตบุ๊คด้วยสีหน้าเคร่งขรึม บางครั้งที่เขาเห็นผมเขาก็จะยิ้มบางๆ ให้ผม และแน่นอนว่าผมไม่ยิ้มกลับ ช่วยไม่ได้การยิ้มของผมมันไม่ใช่ของสาธารณะและผมก็ไม่รู้สึกว่าการยิ้มช่วยทำให้อะไรดีขึ้นมาด้วย มันก็แค่มารยาททางสังคมที่คนส่วนใหญ่ยอมรับแต่ไม่ใช่กับผมแน่ๆ ผมเลือกที่จะมองเมินท่าทีเป็นมิตรนั้นแล้วเดินเอื่อยๆ จิบช็อกโกแลตปั่นที่ผมนับมันเป็นมื้อเช้ากลับสตูดิโอ "ลองทานดูไหมครับ?" ผมกลอกตามองบราวน์นี่ในมือเขาสลับกับใบหน้าเขาที่ดูดีเสมอต้นเสมอปลาย "ขอบคุณ" ผมตอบแต่ไม่ได้รับมา "แต่ผมไม่กินข้าวเช้า" เขายิ้มมุมปากทำให้ดูเด็กลงมาหลายระดับ "ผู้ใหญ่ให้ของก็รับไปเถอะครับ คุณผอมมากเลยนะ เดี๋ยวตากแดดตากลมจะเป็นลมซะเปล่าๆ" คิดดูขนาดคำพูดยังแก่เลยอ่ะ สามสิบขึ้นแน่ๆ "คุณไม่ใช่พ่อผม" ผมดูดช็อกปั่นต่ออย่างไม่ยี่หระ สำหรับผมไม่ก็คือไม่ และเขาก็ไม่ใช่คนที่ผมรู้จักด้วย ก็แค่คนที่เคยเห็นหน้ากันเท่านั้นไม่มีความสัมพันธ์อะไรใดๆ ต่อกัน แม้แต่ชื่อผมเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำ "กินเถอะ" ไม่รอคำตอบของผม เขาก็ยัดใส่มือผม ผมเริ่มฮึดฮัดในใจแต่สีหน้าที่แสดงออกไปคือนิ่งเฉย ผมไม่ชอบการถูกคุกคาม ตั้งแต่สมัยเรียนแล้วที่ผมมักจะถูกตั้งแง่จากพวกครูบ่อยๆ ว่าเป็นพวกเด็กชอบชักสีหน้า ทั้งๆ ที่ไอ้หน้าที่เขาว่าผม ก็คือหน้านิ่งๆ ของผมนั่นแหละ "ไม่" ผมยัดกลับแล้วสาวเท้าเดินหนีและเปลี่ยนแผนซื้อกาแฟที่นี้ไปซื้อที่อื่นแทน ผมไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปเองรึเปล่าว่าเขามานั่งรอผมทุกวัน ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผมก็คงต้องอุดหนุนที่อื่นไปพลางๆ คนอื่นอาจจะมองว่าผมไร้มนุษย์สัมพันธ์ แต่ขอโทษเถอะ ผมเป็นแบบนี้มานานแล้ว ผมทิ้งช่วงร้านกาแฟเจ้าเดิมไปพักใหญ่ๆ แล้วกลับมาอีกครั้ง ก็พบว่าคนเดิมก็ยังอยู่ที่เดิม ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมามองผมพอดีตอนที่ผมแอบมองเขา เขาฉีกยิ้มแล้วเดินเร็วๆ เข้ามาประชิดตัวจนผมหนีไม่ทัน "หายไปนานเลยนะครับ" "ครับ" ผมตอบตัดบททำท่าจะเดินหนีแต่เขาก็เอาตัวมาขวางทางอยู่ดี น่ารำคาญชะมัด ผมคิดอย่างหงุดหงิด พยายามเดินไปเคาน์เตอร์แต่เขาก็ยื้อตัวไปมาไม่ให้ผมไป "คุณต้องการอะไร" ผมถามเสียงกระด้าง ไม่เป็นมิตร "ผมอยากรู้จักคุณ" "แต่ผมไม่" นี่ถ้าผมไม่อยากกินช็อกโกแลตปั่นมากๆ ผมไม่ทนต่อล้อต่อเถียงด้วยหรอก เสียเวลา "ทำไมล่ะ" ผมกำลังจะอ้าปากด่าเพราะเริ่มทนไม่ไหวแต่พอเห็นใบหน้าคมคายนั่นซึมกระทือเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากในชีวิตก็ชะงัก ด่าไม่ออก นี่ผมจะบาปไหมวะ ทำคนแก่หัวใจเปราะบางอย่างเขาร้องไห้ "..ผมไม่ชอบคนแปลกหน้า" "ผมเจอคุณบ่อยนะ ไม่นับไม่ได้เหรอครับ?" เป็นครั้งที่สองที่ผมชะงักพูดอะไรไม่ออก นี่มันสถานการณ์อะไรวะเนี่ย ผมขมวดคิ้ว เริ่มรักษาสีหน้านิ่งสงบไม่อยู่ "พูดบ้าอะไรของคุณ" เขาหัวเราะเบาๆ กับตัวเองเหมือนดีใจที่สามารถทำให้ผมเปลี่ยนสีหน้าได้ "ผมก็แค่อยากคุยกับคุณเท่านั้นเอง" แปลกที่ผมรู้สึกว่านัยน์ตาสีดำของเขาดูมีสเน่ห์ชะมัด มันเป็นสีดำด้านดูลึกลับน่าสนใจดี ยิ่งเจ้าของดวงตานั้นกำลังอารมณ์ดี ทำให้ดวงตาของเขาดูพราวระยับจนผมรู้สึกแปลกๆ ถามว่าอยากรู้จักไหม ก็แค่จะสนใจนิดๆ มั้ง ผมถอนหายใจเนือยๆ "ซิน" เขากระพริบตาปริบเหมือนงง ว่าผมพล่ามอะไร ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ถอนหายใจแรงๆ "ผมชื่อซิน" และเขาก็ยิ้มกว้างจนผมอดตกใจไม่ได้ ผมไม่คิดว่าเขาจะดีใจถึงขนาดนั้นเพียงเพราะผมยอมคุยด้วยเล็กๆ น้อยๆ "ผมชื่อเกล้า" "อ้อ" ผมพยักหน้าส่งๆ แล้วฉวยจังหวะที่เขาเผลอหลบไปสั่งช็อกปั่นสุดที่รัก ผมว่าถ้าผมไม่ได้กินมันวันนี้คงจะลงแดงตายแน่ๆ "พรุ่งนี้ผมขอเบอร์คุณได้ไหม?" ประโยคแปลกๆ ที่หลุดจากปากชายวัยเท่าเขาทำเอาผมชะงัก ผมหันไปมองเขาแล้วไหวไหล่ไม่ได้ตอบคำถาม ไม่รู้สิ ถ้าพรุ่งนี้ผมอารมณ์ดี เขาก็อาจจะโชคดีได้มันไปล่ะมั้ง สิงโตตัวเขื่องกำลังจับจ้องผมอย่างหิวกระหาย น้ำลายที่ไหลยืดแสดงให้เห็นว่ามันพร้อมจะกินผมในคำเดียวจริงๆ อย่างที่ผมเปรียบเปรยเอาไว้ ผมมองมันกลับและกระชับมีดในมือ แปลกที่มือที่ถือมือของผมสั่นเทาอย่างที่ไม่ควรเป็น และแปลกกว่าเดิมอีกที่ผมสะอื้น มันขู่ฮื่อก่อนที่จะกระโจนใส่ผม "บ้านคุณสวยจัง" เขาชมเมื่อนั่งลงบนโซฟาห้องรับแขก ผมยิ้มจางๆ รับคำชมที่โดนชมเป็นรอบที่ร้อย "หิวรึเปล่า? ในตู้เย็นผมพอจะมีของสดอยู่" "หิวสิ" ไม่ว่าเปล่าเขายังทำหน้าน่าสงสารให้ผม "หิวมากด้วยครับ" ผมพยายามกลั้นยิ้มกลั้นหัวเราะแต่สุดท้ายก็หลุดขำออกมา "เดี๋ยวทำให้" แปลกดีเหมือนกันที่ผมรู้สึกดีกับเขา ความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่วันนั้น เขามักจะชอบสรรหาของมาให้ผมกินบ่อยๆ จน ผมที่ไม่เอาโลกยังเริ่มรู้สึกเกรงใจพอเขามาที่บ้านบ่อยๆ เพื่อเลี้ยงข้าวนู่นนี่นั่นตามอารมณ์ เขาเป็นคนแรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยก็ยังมีคนที่ดีหลงเหลืออยู่ในสังคมบ้าง ช่วยไม่ได้ผมโตมากับถูกเสียดสี จากที่ไม่เคยชินก็ต้องชินและเฉยชากับมันจนกลายเป็นคนตายด้านแบบนี้แหละ แล้วอีกอย่าง ช่วงนี้ผมเริ่มรู้สึกเหมือนคนบ้าไปทุกวัน ผมไปเผลอยิ้มที่ทำงานจนถูกคนอื่นทักเพราะคิดเรื่องเขา ผมชักจะบ้าขึ้นทุกวันแล้ว ผมส่ายหัวให้กับอาการแปลกๆ ของตัวเองแล้วหันไปบรรจงทำอาหารให้คนที่นอนรอในห้องรับแขกอย่างสุดฝีมือ ใช้เวลาครู่ใหญ่ผมก็เตรียมสำรับอาหารฉบับซินๆ เสร็จ ผมเดินเข้าห้องรับแขกเพื่อที่จะเรียกให้คนหิวโซไปกินข้าวอย่างทุกที "เกล้า" ผมขมวดคิ้วเมื่อคนที่ผมต้องการกลับไม่อยู่ทั้งในห้องน้ำและห้องรับแขกซะอย่างงั้น ผมเลยกลับไปห้องนอนเพื่อเอาโทรศัพท์โทรหาอีกฝ่าย ช่วยไม่ได้พอมีคนกินข้าวด้วยบ่อยๆ ผมก็เริ่มไม่ชินกับการกินข้าวคนเดียวแล้ว มันเป็นเรื่องที่แย่สำหรับนะแต่ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกมีความสุขชะมัด "...เกล้า?" ผมครางชื่อเกล้างงๆ เพราะมาเจอเจ้าตัวในห้องนอนผมซะอย่างนั้น สายตาของเกล้าจับจ้องไปยังรูปภาพที่ถูกแขวนไว้บนผนังไม่วางตา ใบหน้าคมคายนั้นคล้ายกับตกอยู่ในภวังก์อะไรสักอย่างที่ผมไม่รู้จัก "เกล้า!" ผมแกล้งตะโกนเรียกและได้ผล เกล้าสะดุ้งเฮือกแล้วหันมามองผมแบบตกใจ ผมหัวเราะเมื่อแกล้งได้สำเร็จ "ภาพสวยใช่ไหมล่ะ" ผมจ้องรูปที่แขวนไว้บนผนังด้วยรอยยิ้มจาง ไม่ว่ามองครั้งไหนผมก็รู้สึกว่าผมหลงรักมันทุกที มันเป็นภาพดอกทานตะวันที่ถูกเขียนด้วยสีน้ำมัน ดูล้ำค่าทั้งๆ ที่ผ่านกาลเวลามาหลายทศวรรษ สีของมันก็ยังคงสดใหม่อยู่ ซึ่งปรกติแล้วผมไม่อนุญาตให้ใครเขาห้องตัวเองหรอก แต่ถ้าเป็นเขาผมก็ไม่ว่าอะไร "...สวยมาก" เขาพูดแบบเหม่อๆ จนผมหลุดขำอีกรอบแล้วดุนหลังเขาออกไปกินข้าว ความหิวโหยของมันทำให้ผมกลัวแต่ผมก็ยังรักชีวิตของตัวเอง ผมพยายามต่อสู้กับมันด้วยการแทงมีดกลับ แน่นอนว่ามันหลบได้อย่างง่ายดายและกระโจนใส่ผมจนผมล้มหลังกระแทกไปบนพื้น ผมครางฮืออย่างเจ็บปวด อาการเจ็บเสียดกัดกินร่างกายอย่างตะกละตะกลาม ผมพยายามมองหน้ามันที่พ่นลมหายใจดุดันใส่ใบหน้าผม นัยน์ตาของมันยังคงเป็นสีดำมันวาวเช่นเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันจดจ้องผมนิ่งไปสักพักก่อนที่จะอ้าปากกว้างโชว์เขี้ยวอันแหลมคม ในใจวูบนึงของผมรู้สึกเบาโหวงและหวาดกลัว "ฮื่อ" ผมครางฮือรับเมื่อถูกมือซุกซนรุกรานสะโพก "ผอมเกินไปแล้วนะ" เขาเอ็ดเสียงดุแต่ผมหลุดยิ้ม "เพิ่งรู้เหรอ ลุง-- โอ๊ย!" ดูเหมือนผมจะจี้ใจดำไปหน่อยเลยโดนกัดคอจนน่าจะเป็นรอย ถ้าเป็นคนอื่นทำผมโกรธมากแน่ๆ "ลุง" ผมล้อต่อและยิ้มจนตาหยีเมื่อสามารถทำให้อีกฝ่ายหน้าตาบูดบึ้งได้ "เรียกอีก พรุ่งนี้ไม่ได้ไปทำงาน" "กลัวจังครับ ลุง" ผมหยอกอีกและโดนลงโทษอย่างรุนแรน เขาแทบจะทึ้งผมทั้งเป็นเหมือนกับสัตว์ป่าที่ขย้ำเหยื่อยังไงยังงั้น แต่เพราะมันไม่เจ็บอะไรมากมายผมก็เลยปล่อยเลยตามเลย ช่วยไม่ได้ผมกับเขาตอนนี้เลื่อนสถานะจากคนคุยเป็นแฟนกันได้สักพักแล้ว ซึ่งผมก็ค่อนข้างที่จะโอเคกับมัน ผมนั่งฟุ้งซ่านได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกกระชากกลับมาที่เดิมส่งเสียงครวญออกมาอย่างหน้าไม่อาย แต่ก็นะ ผมคงไม่เหลืออะไรให้อายแล้วล่ะ กรรซ!! เสียงคำรามดังลั่นเน้นย้ำถึงสิ่งที่ผมควรตระหนัก ผมควรรู้สึกตัวสักทีว่าสิงโตตรงหน้าของผมนั้นมันอันตรายขนาดไหน ผมฟื้นขึ้นมาอีกครั้งด้วยร่างกายที่พังไปแล้วห้าสิบสองเปอร์เซ็นจากการออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง ผมหาวหวอดง่วงๆ มองข้างๆ พบว่าคนที่อยู่ด้วยทั้งคืนหายไปแล้วซึ่งมันก็ทำให้ผมใจหายนิดๆ แต่ก็ไม่ได้มากอะไร ผมพาตัวเองเดินลงจากเตียงลากเท้าไปเปิดไฟเพื่อเตรียมตัวไปทำงานอย่างที่ควรเป็น ผมหลุดหาวรอบที่สามแล้วจึงพาสารร่างเดินต่อและสะดุดเข้ากับมือถือตัวเองบนพื้นซะก่อน ผมขมวดคิ้วงงๆ เพราะก่อนที่จะมีอะไรๆ เกิดขึ้น ผมวางมันไว้บนโต๊ะ แต่เอาเถอะ คงจะไม่มีอะไรมั้ง ผมหยิบมันขึ้นมาเล่นและชะงักกลับภาพและคลิปวีดีโอที่เกล้าส่งมา ทุกอย่างในนั้นเป็นภาพเปลือยที่เห็นหน้าผมได้อย่างชัดเจน รวมถึงคลิปตอนที่กำลังถูกขย้ำด้วยมีเพียงผมที่ถูกเห็นหน้าชัดๆ นี่มันไม่ตลกเลยสักนิด ผมแทบควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเองไม่ได้ นี่มันอะไรกัน SIIN : คืออะไร? และยิ่งโกรธกว่าเดิมเมื่อขึ้นว่าอ่านแล้วแต่เขาไม่คิดจะตอบกลับมา ผมกดโทรออกแล้วเงยหน้ามองรูปที่ตัวเองหลงใหลเพื่อบรรเทาความโกรธ ผมรู้การใช้อารมณ์ทำให้ทุกอย่างแย่ลง ผมเคยลองมาแล้ว กึก โทรศัพท์ของผมหลุดจากมือ "ไอ้สัตว์!!!" ผมหลุดอุทานเสียงดังลั่นขยี้ตาตัวเองซ้ำอย่างไม่เชื่อสายตา มันหายไปแล้ว! รูปที่ผมมีหน้าที่ดูแลต่อหายไปแล้ว! 'ฮัลโหล' 'นี่หมายความว่ายังไงวะ!!!' ความโกรธที่พุ่งทะลุปรอททำเอาผมแทบบ้า ผมโกรธผมโมโหจนตัวสั่น 'ก็ตามที่เห็น' น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นติดเสียงเย้ยหยันยิ่งแช่แข็งผมให้ค้างอยู่ท่าเดิม 'เป็นหกเดือนที่โครตเสียเวลาเลยว่าไหม' เลือดอุ่นในกายเย็นเฉียบ ผมหลับตาลงพูดอะไรไม่ออก '...' 'ถ้าจะทวงภาพคืนก็ตามสบาย' 'ก็แค่แลกกับการโด่งดังชั่วข้ามคืนเท่านั้น' ผมมองผนังที่ว่างเปล่าและหัวเราะเสียงแผ่ว ท้ายที่สุดแล้ว สัญชาตญาณของผมมันก็เชื่อถือได้เสมอ ผมโดนหลอกอีกตามเคย มันกัดไหล่ผมจนจมเขี้ยวและพยายามสะบัดตัวผมเหมือนจะทำให้แขนของผมหลุดตามเขี้ยวของมัน ซึ่งมันก็ทำได้สำเร็จ เลือดจำนวนมากไหลบ่าออกมาจากบาดแผลจนตัวผมชุ่มไปด้วยเลือด ผมแทบแยกไม่ออกแล้วระหว่างความ เจ็บปวดกับความหวาดกลัว ผมสะอื้นฮักนึกอยากตายๆ ไปซะแต่หัวใจในอกที่ยังคงเต้นอยู่ "...ซิน" เกล้ามองร่างผอมอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อลูกกระสุนที่ควรจะฝังอยู่ในอกกลับถูกยิงลงบนพื้นแทน ซินโยนปืนออกจากตัว ขาค่อยๆ ทรุดลงบนพื้นตัวสะอื้นตัวสั่นเทา "ยินดีด้วย" ซินแค่นพูดเสียงแผ่ว ความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวที่สั่งสมมานับปีหายไปแทบจะทันทีเมื่อสบตากับเจ้าของดวงตาสีดำด้านที่เขาเคยหลงใหลมันมาก่อน เพียงเวลาเสี้ยววินาทีที่ความทรงจำนับไม่ถ้วนหลั่งไหลเข้ามาในหัวทำให้เขาเบนกระบอกปืนลงพื้นแทนคนที่เขาหมายจะเอาชีวิตมาตั้งแต่วันนั้น ซินยอมรับว่า ตอนนั้นเขามีความสุขจริงๆ ราวกับว่าโลกทั้งใบนั้นสดใสไม่ใช่โลกหม่นหมองที่เขาอาศัยอยู่มาตลอด หากแต่เมื่อสิ่งเหล่านั้นถูกยึดคืนก็ทำให้โลกทั้งใบเขาถล่มลงมาจนอยู่แทบไม่ได้ "ยินดีด้วย" มันไม่ใช่คำอวยพรหากแต่เป็นสิ่งที่เป็นความจริง เขาแพ้แล้ว... ทุกคำที่มันบดเขี้ยวลงมาสร้างความเจ็บปวดเหนือคณานับให้กับผม ผมมองมีดในมือตัวเองอีกข้างก่อนที่จะตัดสินใจปล่อยให้มาหลุดไปจากมือ ผมหลับตาลง ยอมจำนนต่อเจ้าป่าแห่งพงไพร ซินหัวเราะเสียงแผ่วเมื่อถูกล็อกด้วยกุญแจมือจากตำรวจ บรรดาไทยมุงที่เป็นแขกเหรื่อพากันวิจารณ์ถึงเขากับเกล้าอย่างสนุกปาก แต่เรื่องแปลกนิดหน่อยคือตำรวจมาไวมากเหมือนสำนักงานอยู่ข้างแต่งเนี่ยแหละ เขาฮัมเพลงเบาๆ ในลำคอขณะที่มองไปเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมาย อย่างไรก็ตามชีวิตของเขามันจบแล้วล่ะ มันคงจะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว หน้าที่การงาน ครอบครัว ตระกูล ความรัก ร่างกาย ซินหัวเราะจนตำรวจที่พาเดินออกกระแอมดุๆ เชิงเตือน "...หึ" สุดท้ายซินก็ยังหลุดขำอยู่ดี ไม่มีแล้วคนหน้าตาย ไม่มีแล้วซินฝ่ายอาร์ตในสตูดิโอ ไม่มีแล้วไอ้โง่ที่เสพติดช็อกโกแลตปั่น ไม่มีอีกแล้วคนที่ยึดติดกับคนๆ นึงจนตัวเองต้องตาย "ซิน" ซินชะงักฝีเท้าเมื่อเหมือนได้ยินเสียงแว่วๆ ที่แสนจะคุ้นเคยข้างหู หากแต่เมื่อหันไปมองกลับเป็นภาพที่ชวนให้หัวเราะหนักกว่าเดิม ภาพที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวกำลังกอดกันแน่นโดยที่ฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นเป็นคนคอยปลอบประโลมอย่างเป็นห่วง โดยไม่มีแม้แต่สักวินาทีที่คนเป็นเจ้าบ่าวจะหันมาต้นเหตุของเรื่องของทั้งหมด "หึ" ร่างกายที่มีอยู่คล้ายกับจะหนักอึ้งขึ้นทุกที ซินหลับตาแน่นปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจากดวงตา เขาพ่ายแพ้อย่างหมดรูป.. อันที่จริงก่อนที่จะเกิดเรื่องนั้นขึ้น เขาตั้งใจจะบอกเกล้าเรื่องที่ว่าเขาเริ่มเป็นที่รู้จักในสังคมเรื่องงานอาร์ตเส้นคมชัดอันเป็นเอกลักษณ์ ทุกอย่างไปได้ด้วยดีแน่ๆ ถ้าเรื่องพวกนี้ไม่เกิดขึ้นมาซะก่อน ซึ่งเขาไม่อยากจะคิดเลยถ้าเปิดโปงเรื่องขโมยภาพแล้วเกล้าเอารูปพวกนั้นมาสู้ หรือต่อให้เขาหน้าด้านปล่อยให้รูปพวกนั้นหลุดออกไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะไม่มีอะไรสักอย่างที่สามารถยืนยันความเป็นเจ้าของของรูปฌอง เลอเนสได้เลย แต่เกล้ากลับทำได้ สามารถทำเอกสารปลอมๆ ขึ้นมาเนียนจนไปปล่อยในประมูลได้อย่างแนบเนียน หรือต่อให้ญาติๆ รักเขาหรือรักเงินของเขา เอาพวกรูปที่ถ่ายคู่กับภาพนั่นก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะหญิงสาวที่คนๆ นั้นแต่งงานด้วยนั้นเป็นถึงผู้ช่วยพิพากษาในชั้นศาล แน่นอนว่าระหว่างลมปากของชาวบ้านกับผู้มีความรู้ทางด้านกฎหมาย แม้แต่เด็กก็ยังสามารถรู้ได้ว่าตัวเองควรเชื่อใคร ซินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เงยหน้ามองท้องฟ้าซึ่งเป็นวันเดือนเพ็ญพอดี "อย่ามัวแต่มอง รีบๆ ขึ้นรถสักที!" เจ้าหน้าที่ตำรวจตะคอกใส่ผู้ต้องหาที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม 'พระจันทร์สวยเนอะ' 'สวยตรงไหน ก็เหมือนเดิม' 'สวยเพราะมีคนข้างๆ ยืนอยู่ด้วยไง' แล้วคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อผู้ต้องหาปล่อยโฮออกมา สิงโตตัวเขื่องนอนเลียขนที่เลอะเลือดอย่างสบายใจ โดยที่โครงกระดูกมนุษย์นอนเคียงกาย ------------------------- ไม่ได้ลงนิยายนานมาก แอบคิดถึงเบาๆ 55555 ตอนเขียนตอนนี้รู้สึกตึงๆ มือมากไม่ค่อยได้เขียนบ่อยเหมือนเมื่อก่อน ฝากเพจด้วยค่า :impress2: : https://www.facebook.com/FoggyTime/ ปล. ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ :กอด1:
เศร้า....#คิดถึงเหมือนกัน
:z3: :z3: :z3: :z3: โคตเศร้าเลยอะ จะร้อง :katai1: :katai1: :katai1:
ช่างเลือดเย็นเสียจริง ทำเป็นขบวนการเลยสินะ หึ
สงสารซิน :hao5:
เป็นเราเรายิงนะ ยิงให้หมดแม็กเลย ทำกันได้
ซินเอ้ยยยย ไม่น่าทำลายอนาคตตัวเองเพื่อผู้ชายเลวๆเลย :m15::
เหยื่อ คนล่าคนกันเอง เดรัจฉาน
อยากให้ทวงทุกอย่างคืนมาได้ ผู้ชายแบบนี้อย่าไปเสียใจให้มันเลยค่ะ :fire:
:hao5:
โกรธอ่ะ !!!! ทำไมทำแบบนี้ สงสารซินที่โดนหลอก
Sad end
โคตรเลว อยากให้เกล้ามันเจ็บหนักกว่าซิน ขออีกสักตอน เอาคืนให้หน่อยค่ะ :katai1:
เกล้าเลวมาก!!!! หักหลังซินในวันที่ซินยกทุกอย่างไปให้หมดแล้ว ทั้งๆที่เดิมทีโลกของซินก็หม่นอยู่แล้ว :katai1:
น่าจะยิงทิ้งแม่งทั้งคู่ เลวมาก สงสารซิน น่าจะได้ใช้ชีวิตมีความสุขเยาะเย้ยพวกมัน หัวร้อนนน
โกธรเเทนซินอ่ะ ทำไมมันเลวจังวะ :fire:
:pig4: :pig4: :pig4: